Professional Documents
Culture Documents
เฉ จ
พา ก
สร้างอนาคตเด็กไทย ะค ฟ
รูผ
ู้สอ ร
น ี
ด้วยนวัตกรรมการเรียนรูร
้ ะดับโลก
คูมือครู
คู่มือครู
คูม
่ อ
ื ครู อจท.
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÊØ¢ÈÖ¡ÉÒ Á. ๒
ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน
วิธีการสอนเพื่อยกผลสัมฤทธิ์
เพิ่ม ผ่านกระบวนการเรียนรู้ 5Es
ข้อสอบเน้นการคิดเพื่อพัฒนา
เพิ่ม การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมสร้างเสริมทักษะ
เพิ่ม การเรียนรู้ตามศักยภาพผู้เรียน
กิจกรรมบูรณาการทักษะชีวิต
ใหม่ และการทำงานตามแนวคิด
เศรษฐกิจพอเพียง
กิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์
พร้อม การเรียนรู้สอ
ู่ าเซียน
>> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสัง
่ ซือ
้ ของ อจท. ภาพปกนีม
้ ข
ี นาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
คู่มือครู บร. สุขศึกษา ม.2
สุขศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 สําหรับครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate Engage Explore Explain Expand Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
สมรรถนะของผูเรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า หน า
โซน 1 หนั ง สื อ เรี ย น หนั ง สื อ เรี ย น โซน 1
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
ขอสอบ O-NET
นักเรียนควรรู
บูรณาการเชื่อมสาระ
โซน 2 โซน 3 โซน 3 โซน 2
กิจกรรมสรางเสริม บูรณาการ
เศรษฐกิจพอเพียง
กิจกรรมทาทาย
บูรณาการอาเซียน
มุม IT
2. สัญลักษณ
สัญลักษณ วัตถุประสงค สัญลักษณ วัตถุประสงค
คูม อื ครู
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es
ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ
วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย
ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้
ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ (Engage)
เสร�ม
เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของผูเรียนดวยเรื่องราวหรือเหตุการณที่นาสนใจโดยใชเทคนิควิธีการ
และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ 3
สรุปความสําคัญหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสราง
แรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
คูม อื ครู
คําอธิบายรายวิชา
รายวิชา สุขศึกษา กลุมสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 ภาคเรียนที่ 1-2
รหัสวิชา พ………………………………… เวลา 40 ชั่วโมง/ป
ตัวชี้วัด
พ 1.1 ม.2/1 ม.2/2
พ 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
พ 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7
พ 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
รวม 16 ตัวชี้วัด
คูม อื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
สุขศึกษา ม.๒
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒
กลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเรียบเรียง
รศ. ดร. พรสุข หุนนิรันดร
รศ. ดร. ประภาเพ็ญ สุวรรณ
ผศ. ดร. สุรียพันธุ วรพงศธร
ดร. อนันต มาลารัตน
ผูตรวจ
ผศ. ดร. ทรงพล ตอนี
ผศ. รัตนา เจริญสาธิต
นางสาวกัญจนณัฏฐ ตะเภาพงษ
บรรณาธิการ
รศ. ดร. จุฬาภรณ โสตะ
นายสมเกียรติ ภูระหงษ
รหัสสินคา ๒๒๑๔๐๙๘
¾ÔÁ¾¤ÃÑ駷Õè 6 คณะผูจัดทําคูมือครู
ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 2244042 เบญจพร ทองมาก
ธงชัย หวลถึง
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาเลมนี้ ใชประกอบการเรียนการสอนรายวิชาพื้นฐาน กลุม
สาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒
เนื้อหาตรงตามสาระการเรียนรูแกนกลางขั้นพื้นฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทั้งความรูและ
ชวยพัฒนาผูเรียนตามหลักสูตรและตัวชี้วัด เนื้อหาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรูตามโครงสรางรายวิชา
สะดวกแกการจัดการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอื่นๆ ที่จะชวยทําให
ผูเรียนไดรับความรูอยางมีประสิทธิภาพ
à¹×éÍËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§ àÊÃÔÁÊÒÃШҡà¹×Íé Ëҹ͡à˹×ͨҡ
¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ
Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ ãËŒºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳР·ÕÁè ãÕ ¹ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§ à¾×Íè
Íѹ¾Ö§»ÃÐʧ¤ à¾ÔèÁ¾Ù¹áÅТÂÒ¾ÃÁá´¹¤ÇÒÁÃÙŒãËŒ
à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ ¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÍÍ¡ä»
ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹
สขุ ภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามไปด้วย
กายและจิตมีความสัมพันธ์ทเี่ กีย่ วข้องกัน ถ้าบุคคลมี
อกของพฤติกรรม ซึง่ ถ้าจิตดีและมีความสุข
โดยภาวะสขุ ภาพกายและจิตนัน้ จะมีผลต่อการแสดงอ
มีการแสดงออกที่ดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เสริมสาระ
กายก็จะแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลให้
สามารถด�าเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
๑. ความหมายของสุขภาพกายและสุขภาพจิต
หลักการปรับตัวที่เหมาะสม
การวางตัวหรือปรับตัวที่เหมาะสม
ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทาง จะทำาให้เราสามารถอยู่ร่วมกับ
สุขภาพ หมายความว่า ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ ขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓)
บุคคลอื่นได้อย่างเป็นสุข ซึ่งมีหลั
กปฏิบัติดังนี้
ญั ญัตสิ 1. มีความรับผิดชอบ ผู้ที่มีค
สังคม เชือ่ มโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล (พระราชบ หน้าที่ของตนเองอยู่เสมอ จะสามาร
วามรับผิดชอบในบทบาท
โดยสุขภาพมีองค์ประกอบ ๔ ส่ ว น ด้ ว ยกั น คื อ ได้ ง่ า ยและผู้ อื่ น ก็ มั ก จะยอมรั บ
ถปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น
บุ ค คลที่ มี ลั ก ษณะนี้ ไ ด้ ง่ า ย
เช่นกัน
องคประกอบของสุขภาพ ลักษณะของผูที่มีสุขภาพดี
๒. รูจักปรับปรุงตนเอง เมื่อ
แล้วต้องรูจ้ กั ปรับปรุงแก้ไขตนเอง โด
รู้ว่าตนเองมีข้อเสียอะไร
ยเฉพาะทางด้านบุคลิกภาพ
ผู้ที่มีบุคลิกภาพดีย่อมเข้ากับผู้อ
๑
ื่นได้ง่าย ทั้งนี้เรื่องบุคลิกภาพ
มีการเจริญเติบโตที่สมวัย มิใช่แต่รูปร่างภายนอกเท่านั้น
●
ยังรวมถึงอุปนิสัยใจคอ มีความ
สุขภาพกาย ● ปราศจากโรคภัยไขเจ็บตางๆ อ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำาใจต่อผู้อื่น
ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นตัวของ
่ดี
สภาพที่ดีของรางกาย กลาวคือ อวัยวะตางๆ อยูในสภาพที อวัยวะตางๆ ทั้งภายในและ ตัวเอง เสนอแนะความคิดเห็น
●
ต่อเพื่อนในเชิงสร้างสรรค์ด้วย อารมณ์ขนั ถือ
างกาย เป็นเสน่หอ์ ย่างหนึง่ ในการเสรมิ สร้
มีความแข็งแรงสมบูรณ ปราศจากโรคภัยไขเจ็บ รทุกสวน ภายนอก สามารถทํางานได เช่นกัน ไม่คล้อยตามในสิ่งที่เห็น าง
ว่าไม่ถูกต้อง มนุษยสัมพันธ์และสร้างความประ
สามารถทํางานไดตามปกติ และมีความสัมพันธกับงาน ตามปกติ ๓. ยอมรับความแตกตางระหว ทับใจต่อผู้อื่น
างบุคคล บุคคลแต่ละคนย่อมมี
เปนอยางดี และกอใหเกิดประสิทธิภาพที่ดีในการทํา จึงต้องเปดใจยอมรับในเรื่องความแต ลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน
๑ ๒
กต่างดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นเรื่องร่า ดังนั้น
ราเริง แจมใส ไมเครียด ทางสังคม และไม่ควรถือเอาข้อบกพร่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สติปญญา รวมถ
●
องของคนอื่นมาเป็นประเด็นในการสร้ ึงสถานภาพ
สุขภาพจิต ● มีการแสดงออกทางอารมณ 4. มีมนุษยสัมพันธทดี่ ี บุคคลที างสัมพันธภาพ
ม่ มี นุษยสัมพันธ์ทดี่ ี ย่อมจะสามาร
หน่วยที่ สภาพของจิตใจทีส่ ามารถควบคุมอารมณได มีจติ ใจเบิ
กบาน อยางเหมาะสม
มีอารมณมั่นคง สามารถ
อันดีอาจเริ่มจากการปฏิบัติตนให้
เป็นผู้ที่มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
ถปรับตัวเข้ากับผูอ้ นื่ ได้งา่ ย การมีม
นุษยสัมพันธ์
แจมใส มิใหเกิดความคับของใจหรือขัดแยงในจิตใจ สามารถ
● ของผู้อื่น ไม่ติฉินนินทา มีน้ำาใจ มีอารมณ์ขัน รู้จักทักทายผู้อื่นก่
รู้จักให้กำาลังใจผู้อื่น ฯลฯ ซึ่งหากปฏิ อนชื่นชมในสิ่ง
บัติเป็นประจำาแล้ว จะช่วยให้เราสามารถ ดี
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ วามสุ ข
ปรั บ ตั ว เข า กั บ สั ง คมและสิ่ ง แวดล อ มได อ ย า งมี ค างๆ ควบคุมอารมณไดอยาง บุคคลอื่นได้ง่ายขึ้น
เข้ากับ
่น สามารถควบคุมอารมณไดเหมาะสมกับสถานการณต เหมาะสม
๓
5. มีความจริงใจและปรารถนาดี
รับฟงความคิดเห็นของผูอื่น ตอผูอื่น เพราะเมื่อเรามีความจริ
ตัวชี้วัด ● ย่อมจะเป็นไปอย่างมีความปรารถ งใจ การแสดงออกของเราต่อบุค
นาดี ไม่มีการเสแสร้ง ซึ่งบุคคลที คลต่างๆ
สุขภาพสังคม ปรับตัวเขากับสังคมและ
■ อธิบายการเปลีย่ นแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์
สังคม วั ยรุน เปนวัยทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงทัง้ ดาน สขุ
●
สิ่งแวดลอมไดดี
เราที่ปฏิบัติต่อเขาว่า มีความจริง
ใจเพียงใด
่เข้ามาสัมผัสกับเรา เขาย่อมรับรู้ไ
ด้จากการกระทำาของ
และสติปัญญาในวัยรุ่น (พ ๑.๑ ม.๒/๑)
ระบุปจั จัยทีม่ ผี ลกระทบต่อการเจริญเติบโต และพั รางกาย อารมณ สังคม และสติปญญา มีความเปนอยูห รือการดําเนินชีวติ อยูใ นสังคมไดอยางปกติ
นธและ กลาเผชิญกับปญหา และ
ไมทําใหผูอื่นหรือสังคมเดือดรอน สามารถมีปฏิสัมพั
■
ฒนาการ ●
ที่มา : สำานักงานกองทุนสนับสนุ
ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญ โดยร า งกายจะมี พั ฒ นาการอย า งรวดเร็ สามารถแกปญหาไดอยาง นการสร้างเสริมสุขภาพ
ว ปรับตัวใหอยูในสังคมไดเปนอยางดีและมีความสุข
ญาในวัยรุ่น
(พ ๑.๑ ม.๒/๒) ขณะทีอ่ ารมณจะรุนแรงและเปลยี่ นแปลงง
าย รวดเร็ว
ความเสมอภาคทางเพศเปนเรือ่ งทีเ่ พศชายและเพศหญิงมี
๔
สาระการเรียนรู้แกนกลาง และจะใหความสําคัญกับเพื่อนอยางมาก
การเปลี่ยนแปลงดังกลาวเกิดจากปจจัย
โดย ● มองโลกในแงดี บทบาททางเพศของตนเองต สทิ ธิและเสรีภาพในการแสดง
■ การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์
และสติปัญญาในวัยรุ่น
สังคม
พันธุกรรม สิง่ แวดลอม และการอบรมเลีย้
ดาน สุขภาพปญญา ● แสดงความยินดีตอผูอื่น
กรอบที่สังคมและวัฒนธรรมไ
อสังคมไดอยางเทาเทียมกัน
แตตองมีความเหมาะสมอยูภ
งดูของ ใน อยางจริงใจ ทยไดกําหนดเอาไว รวมทั้งตอ ายใน
■ ปัจจัยที่ม
ีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ผูปกครอง ซึ่งการเรียนรูเกี่ยวกับการเจริญ
เติบโต สภาวะที่ดีของปญญาที่มีความรู รูเทาทันและเขาใจได กลาตัดสินใจกระทําทุกอยาง ของตนเองดวย และมีพฤติกรรมเหม งรูจักการวางตัวใหเหมาะสมกั
บเพศ
ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญ
เหตุผลแหงความดี ความชั่ว ความมีประโยชนและความมี าะสมตามเพศของตนเอง โดยจะต
●
ญา และพัฒนาการของวัยรุน จะทําใหเรามีความเข แสดงออ กทางเพ ศอย า งเหมาะ องรูจักการปรับตัวในการ
- พันธุกรรม าใจ บนพื้นฐานความดีงาม
- สิ่งแวดล้อม สามารถยอมรับ และปรับตัวใหเขากับการเปลี
ย่ นแปลง โทษ ซึ่งนําไปสูความมีจิตอันดีงามและเอื้อเฟอเผื่อแผ ตามบทบาททางเพศของตนเอง
สม ซึ่ ง จะทํ า ให เ ราสามา รถดํ
า เนิ น ชี วิ ต ได อ ย า งเป น ปกติ ส
- การอบรมเลี้ยงดู ดังกลาวไดอยางถูกตองเหมาะสม ุข
76 5๓
9๕
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
ÊÒúÑÞ
˹‹Ç·Õè ñ ¡ÒÃà¨ÃÔÞàµÔºâµáÅоѲ¹Ò¡ÒâͧÇÑÂÃØ‹¹
● ÇÑÂÃØ‹¹áÅСÒÃà»ÅÕè¹á»Å§
ñ - ñø
ò
● »˜¨¨Ñ·ÕèÁռŵ‹Í¡ÒÃà¨ÃÔÞàµÔºâµáÅоѲ¹Ò¡ÒâͧÇÑÂÃØ‹¹ ñò
˹‹Ç·Õè ò à¾È¡ÑºÇÑÂÃع‹
● ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃáÅСÒûÃѺµÑÇ·Ò§à¾È¢Í§ÇÑÂÃØ‹¹
ñù - ôò
òð
● ÇÑÂÃØ‹¹¡Ñºà¨µ¤µÔ·Ò§à¾È òò
● »˜ÞËÒáÅмšÃзº¨Ò¡¡ÒÃÁÕà¾ÈÊÑÁ¾Ñ¹¸ã¹ÇÑÂàÃÕ¹ òö
● ·Ñ¡ÉЪÕÇԵ㹡Òû‡Í§¡Ñ¹µ¹àͧàÃ×èͧà¾È òù
● ¡Òû‡Í§¡Ñ¹µ¹àͧ¨Ò¡»˜ÞËÒ¡ÒÃÁÕà¾ÈÊÑÁ¾Ñ¹¸ã¹ÇÑÂàÃÕ¹ ó÷
● ¡ÒÃËÅÕ¡àÅÕè§áÅл‡Í§¡Ñ¹µ¹àͧ¨Ò¡¾ÄµÔ¡ÃÃÁ·ÕèàÊÕ觵‹Í ôð
¡ÒõÑ駤ÃÃÀäÁ‹¾Ö§»ÃÐʧ¤
˹‹Ç·Õè ó ¤ÇÒÁàÊÁÍÀÒ¤·Ò§à¾È
● ¤ÇÒÁÊíÒ¤Ñޢͧ¤ÇÒÁàÊÁÍÀÒ¤·Ò§à¾È
ôó - õô
ôô
● ¡ÒÃÇÒ§µÑǵ‹Íà¾ÈµÃ§¢ŒÒÁ ôö
● »˜ÞËÒ¤ÇÒÁàÊÁÍÀÒ¤·Ò§à¾ÈáÅСÒÃÇÒ§µÑÇ ô÷
µ‹Íà¾ÈµÃ§¢ŒÒÁ·ÕèÁÕÍÂÙ‹ã¹Êѧ¤Á
● á¹Ç·Ò§¡ÒÃᡌ䢻˜ÞËÒ¤ÇÒÁàÊÁÍÀÒ¤·Ò§à¾ÈáÅСÒÃÇÒ§µÑÇ õñ
µ‹Íà¾ÈµÃ§¢ŒÒÁ·ÕèÁÕÍÂÙ‹ã¹Êѧ¤Á
˹‹Ç·Õè ô ¡ÒþѲ¹ÒÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡ÒÂ
● ¤ÇÒÁËÁÒ ¤Ø³¤‹Ò áÅФÇÒÁÊíÒ¤ÑޢͧÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡ÒÂ
õõ - ÷ô
õö
● ࡳ±ÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡Ò õø
● ¡ÒþѲ¹ÒÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡Ò ö÷
˹‹Ç·Õè õ ÊØ¢ÀÒ¾¡ÒÂáÅÐÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ
● ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧÊØ¢ÀÒ¾¡ÒÂáÅÐÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ
÷õ - øö
÷ö
● ¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸ÃÐËÇ‹Ò§ÊØ¢ÀÒ¾¡ÒÂáÅÐÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ ÷÷
● ¤ÇÒÁÊÁ´ØÅÃÐËÇ‹Ò§ÊØ¢ÀÒ¾¡ÒÂáÅÐÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ ÷ø
● ÊØ¢ºÑÞÞѵÔáË‹§ªÒµÔà¾×èÍ¡ÒÃÊÌҧàÊÃÔÁÊØ¢ÀÒ¾¡ÒÂáÅÐÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ øò
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
˹‹Ç·Õè ø à·¤â¹âÅÂÕ·Ò§ÊØ¢ÀÒ¾áÅФÇÒÁà¨ÃÔÞ¡ŒÒÇ˹ŒÒ
·Ò§¡ÒÃá¾·Â ñòõ - ñôö
● à·¤â¹âÅÂÕ·Ò§ÊØ¢ÀҾ㹪ÕÇÔµ»ÃШíÒÇѹ ñòö
● µÑÇÍ‹ҧ¢Í§à·¤â¹âÅÂÕ·Õè໚¹»ÃÐà´ç¹·Ò§ÊØ¢ÀÒ¾ ñóð
● ¼Å¡Ãзº¢Í§à·¤â¹âÅÂÕ·ÕèÁÕµ‹ÍÊØ¢ÀÒ¾ ñóô
● ¡ÒõѴÊÔ¹ã¨àÅ×Í¡ÃѺáÅÐ㪌෤â¹âÅÂÕ·Ò§ÊØ¢ÀÒ¾ ñóø
● ¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ¡ŒÒÇ˹ŒÒ·Ò§¡ÒÃᾷ·ÕèÁռŵ‹ÍÊØ¢ÀÒ¾ ñóù
˹‹Ç·Õè ñð ¡ÒÃËÅÕ¡àÅÕ觾ĵԡÃÃÁàÊÕè§áÅÐʶҹ¡ÒóàÊÕè§
µ‹ÍÍѹµÃÒ ñö÷ - ñøö
● ¡ÒÃËÅÕ¡àÅÕ觾ĵԡÃÃÁàÊÕè§áÅÐʶҹ¡ÒóàÊÕ觵‹ÍÍѹµÃÒ ñöø
● á¹Ç·Ò§¡ÒÃËÅÕ¡àÅÕ觾ĵԡÃÃÁàÊÕè§áÅÐʶҹ¡ÒóàÊÕ觵‹ÍÍѹµÃÒ ñ÷ö
● ·Ñ¡ÉЪÕÇԵ㹡Òû‡Í§¡Ñ¹µ¹àͧáÅÐËÅÕ¡àÅÕè§ʶҹ¡Òó¤Ñº¢Ñ¹ ñ÷ù
·ÕèÍÒ¨¹íÒä»ÊÙ‹ÍѹµÃÒÂ
ºÃóҹءÃÁ ñø÷
กระตุน ความสนใจ
กระตุEngage
นความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
1. อธิบายการเปลี่ยนแปลงดานรางกาย จิตใจ
อารมณ สังคม และสติปญญาในวัยรุนได
2. ระบุปจจัยที่มีผลกระทบตอการเจริญเติบโต
และพัฒนาการดานรางกาย จิตใจ อารมณ
สังคม และสติปญญาในวัยรุนได
สมรรถนะของผูเรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกปญหา
3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค
1. มีวินัย
2. ใฝเรียนรู
3. อยูอยางพอเพียง
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น ครูนําภาพเด็กและวัยรุนมาใหนักเรียนดู
จากนั้นครูตั้งคําถามเพื่อกระตุนความสนใจของ
ตัวชี้วัด นักเรียน โดยนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น
■ อธิบายการเปลีย่ นแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม วั ยรุน เปนวัยทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงทัง้ ดาน ไดอยางอิสระ
และสติปัญญาในวัยรุ่น (พ ๑.๑ ม.๒/๑) รางกาย อารมณ สังคม และสติปญญา
■ ระบุปจั จัยทีม่ ผี ลกระทบต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการ โดยร า งกายจะมี พั ฒ นาการอย า งรวดเร็ ว
• จากภาพนักเรียนคิดวา บุคคลดังกลาวอยูใน
ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาในวัยรุ่น
ขณะทีอ่ ารมณจะรุนแรงและเปลีย่ นแปลงงาย ชวงวัยใด และเพราะเหตุใดจึงทราบ
(พ ๑.๑ ม.๒/๒)
และจะใหความสําคัญกับเพื่อนอยางมาก โดย • นักเรียนคิดวา 2 ภาพนี้มีความแตกตางกัน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง การเปลี่ยนแปลงดังกลาวเกิดจากปจจัยดาน อยางไร
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม พันธุกรรม สิง่ แวดลอม และการอบรมเลีย้ งดูของ • ถาใหนักเรียนเลือกได นักเรียนอยากจะอยู
■
และสติปัญญาในวัยรุ่น
■ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ผูปกครอง ซึ่งการเรียนรูเกี่ยวกับการเจริญเติบโต ในชวงวัยใดมากที่สุด เพราะเหตุใด
ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และพัฒนาการของวัยรุน จะทําใหเรามีความเขาใจ
- พันธุกรรม สามารถยอมรับ และปรับตัวใหเขากับการเปลีย่ นแปลง
- สิ่งแวดล้อม
- การอบรมเลี้ยงดู
ดังกลาวไดอยางถูกตองเหมาะสม
เกร็ดแนะครู
เนื่องจากในหนวยการเรียนรูนี้ เปนเรื่องเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ของวัยรุน ซึง่ ถือเปนเรือ่ งใกลตวั ทีว่ ยั รุน ทุกคนยังคงไมเขาใจตอการเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้
มากนัก ดังนั้นครูอาจใชวิธีการใหนักเรียนดูภาพครูสมัยที่ยังเปนวัยรุนอยู พรอมกับ
เลาประสบการณเมื่อครั้งยังเปนวัยรุนใหนักเรียนฟง โดยใหนักเรียนไดมีโอกาสแสดง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของตนเอง เพื่อใหนักเรียนมีความรู
ความเขาใจ รูจักยอมรับ และปรับตัวตอการเปลี่ยนแปลงตางๆ ไดเปนอยางดี อีกทั้ง
ยังสามารถนําความรูที่ไดไปประยุกตใชในชีวิตประจําวันไดอีกดวย
คูมือครู 1
กระตุน ความสนใจ
กระตุEngage
นความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
กระตุน ความสนใจ Engage
ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใหนักเรียนสํารวจ
การเปลี่ยนแปลงทางดานตางๆ ของตนเอง จากนั้น วัยรุ่น เป็นช่วงวัยที่ส�าคัญในชีวิตของมนุษย์ เนื่องจากเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการเป็นเด็ก
ครูตั้งคําถามเพื่อกระตุนความสนใจของนักเรียน กับผู้ใหญ่ วัยรุ่นจึงเป็นช่วงระยะของการเปลี่ยนแปลง อันเป็นผลเนื่องมาจากการเจริญเติบโต
• นักเรียนคิดวา ตนเองมีการเปลี่ยนแปลงอะไร และพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
เกิดขึ้นบาง
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดย ๑. วัยรุ่นและการเปลี่ยนแปลง
ที่เห็นไดอยางชัดเจน คือ การเปลี่ยนแปลง วัยรุ่น (Adolescence) แปลว่า กำรเจริญเติบโตไปสูวุฒิภำวะ ดังนั้น วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่นับ
ทางดานรางกาย) จากการมีวุฒิภาวะทางเพศ คือ สามารถที่จะมีบุตรได้ ซึ่งข้อก�าหนดนี้จะแตกต่างกันออกไปตาม
• นักเรียนรูสึกอยางไรตอการเปลี่ยนแปลง แต่ละชนชาติ โดยจะขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของร่างกาย สภาพภูมิอากาศ ประเพณี และ
ที่เกิดขึ้น วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว ส่วนใหญ่จะถือว่าวัยรุ่นอยู่ในช่วงอายุ ๑๐-๒๐ ปี
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดย ซึ่งสามารถแบ่งช่วงวัยของวัยรุ่นออกได้เป็น ๓ ช่วง ดังนี้
อาจตอบวา รูสึกไมคอยสบายตัวเหมือนตอน ๑) วัยแรกรุ่น (Puberty) เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทุกระบบ โดย
เปนเด็ก หรือบางคนอาจตอบวา รูสึกชอบที่มี จะอยู่ในช่วงอายุ ๑๐-๑๓ ปี เด็กในวัยนี้มักคิดหมกมุ่นกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
รูปรางสมสวนมากขึ้น) ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังจิตใจ ท�าให้อารมณ์หงุดหงิดและแปรปรวนง่าย
• นักเรียนมีการเตรียมความพรอมที่จะรับมือ ๒) วัยรุน่ ตอนกลาง (Middle Adolescent) เป็นช่วงทีว่ ยั รุน่ จะยอมรับสภาพร่างกาย
ตอการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยางไร ที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นหนุ่มเป็นสาวได้แล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงอายุประมาณ ๑๔-๑๖ ปี เด็กในวัยนี้
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน 1
จะเริ่มมีความคิดที่ลึกซึ้ง จึงหันมาใฝอุดมการณ์ หาเอกลักษณ์ของตนเองเพื่อความเป็นตัวของ
แตสวนใหญจะไมคอยมีการเตรียมตัวอะไร 2
ตัวเอง และพยายามเอาชนะความรู้สึกแบบเด็กๆ ที่ผูกพันพึ่งพาพ่อแม่
เนื่องจากเปนการเปลี่ยนแปลงที่คนสวนใหญ
มักจะไมคอยรูตัว)
๓) วัยรุน่ ตอนปลาย (Late Adolescent) จะอยูใ่ นช่วงอายุ ๑๗-๒๐ ปี เป็นช่วงเวลา
ของการฝกฝนอาชีพ รวมทัง้ ตัดสินใจทีจ่ ะเลือกอาชีพทีเ่ หมาะสมกับตนเองในอนาคต มีความผูกพัน
กับเพือ่ นต่างเพศ3สภาพทางร่างกายเติบโตเต็มที่
และบรรลุนิติภาวะในทางกฎหมาย
ทัง้ นีว้ ยั รุน่ แต่ละคนจะมีการเจริญเติบโตและ
การเปลีย่ นแปลงทีเ่ ป็นแบบเฉพาะของตนเอง ซึง่
จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไป
แล้ววัยรุน่ จะมีการเจริญเติบโตและเปลีย่ นแปลง
มากขึ้นในทุกด้าน รวมทั้งเริ่มมีความต้องการที่
แตกต่างออกไปจากตอนเป็นเด็ก การเปลีย่ นแปลง
ส�าคัญที่เป็นลักษณะเฉพาะในวัยรุ่น คือ การ
วั ย รุ ่ น เพศชายและเพศหญิ ง มี ก ารเจริ ญ เติ บ โตและ เปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
พัฒนาการที่แตกต่างกัน
และสติปัญญา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
๒
ขอสอบเนน การคิด
นักเรียนควรรู แนว NT O-NE T
1 เอกลักษณ วัยรุนจะเริ่มแสดงถึงสิ่งที่ตนเองชอบ สิ่งที่ตนเองถนัด ซึ่งจะ การเปลี่ยนแปลงของวัยรุนมีผลมาจากสิ่งใด
แสดงถึงความเปนตัวตนที่โดดเดนออกมา เชน เอกลักษณทางเพศ การแตงกาย 1. ฮอรโมนเพศ
กลุมเพื่อน เปาหมายในการดําเนินชีวิต เปนตน 2. การเจริญเติบโตของวัยรุน
3. สภาพแวดลอมที่เปลี่ยนแปลง
2 ความเปนตัวของตัวเอง วัยรุนจะรักอิสระ ไมชอบอยูในกฎเกณฑกติกาใดๆ 4. พัฒนาการในดานตางๆ ของวัยรุน
เชื่อความคิดของตนเอง มีความอยากรูอยากลอง ทําใหอาจเกิดพฤติกรรมเสี่ยง
ไดงายถาหากวัยรุนขาดการยั้งคิด วิเคราะหคําตอบ วัยรุนเปนวัยชวงตอระหวางวัยเด็กกับวัยผูใหญที่นับวา
มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด อันเปนผลมาจากการเจริญเติบโต และ
3 เพื่อนตางเพศ หลายกรณีที่วัยรุนตองประสบกับปญหาจากการคบเพื่อน
พัฒนาการดานตางๆ ทัง้ ทางรางกาย จิตใจ อารมณ สังคม และสติปญ ญา
ตางเพศที่มีผลกระทบตอตนเองซึ่งตัววัยรุนเองไมไดคาดคิดไวกอนลวงหนา เชน
ปญหาความขัดแยงที่เกิดจากความไมเขาใจกัน ปญหาการมีเพศสัมพันธกอนวัย รวมทั้งพัฒนาการทางเพศที่มีความแตกตางกันออกไป ถึงแมวาจะมีอายุ
อันควร เปนตน ซึ่งปญหาดังกลาวนั้นอาจเกิดขึ้นโดยไมตั้งใจ อีกทั้งวัยรุนเองก็ยัง เทากันก็ตาม ตอบขอ 4.
ไมพรอมที่จะสามารถรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นได
2 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจค
Exploreนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
สํารวจคนหา Explore
หลังจากที่นักเรียนสํารวจการเปลี่ยนแปลง
เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วัยรุ่น การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและพัฒนาการของวัยรุ่นจะเป็นไป ในดานตางๆ ของตนเองแลว ใหนกั เรียนศึกษาเรือ่ ง
ตามธรรมชาติ ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญเติบโต และการเปลี่ยนแปลงที่ การเปลีย่ นแปลงทางดานรางกาย จากหนังสือเรียน
ผลิตโดยต่อมไร้ท่อ หรือแหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม
จากนั้นใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 2 กลุม
๑.๑ การเปลี่ยนแปลงทางด้านรางกาย
แยกชาย-หญิง โตวาทีกันในญัตติ “ผูหญิงหรือ
ในช่วงอายุ ๑๐-๑๓ ปี วัยรุน่ จะมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการทางด้านร่างกายทีเ่ ปลีย่ นแปลง ผูชายใครตัวโตกวากัน” โดยนักเรียนแตละกลุม
ไปอย่างรวดเร็ว และจะลดอัตราการเจริญเติบโตเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนกลาง ในช่วงวัยรุ่น สามารถทําสื่อหรือเอกสารเพิ่มเติมเพื่อใชประกอบ
ตอนปลายจะมีการเปลีย่ นแปลงทางด้านร่างกาย การโตวาทีได
น้อยลงอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางด้าน
ร่างกายที่ส�าคัญ คือ
อธิบายความรู Explain
๑) ขนาดของร่างกายและความสูง
เมื่อเข้าสู่วัยแรกรุ่น วัยรุ่นชายจะมีอัตราการ ใหนกั เรียนทัง้ 2 กลุม ออกมาโตวาทีกนั โดยครู
เจริญเติบโตของไหล่มากที่สุด วัยรุ่นชายจะมี กําหนดใหแตละกลุมมีเวลาในการโตวาทีกลุมละ
ไหล่กว้างกว่าวัยรุ่นหญิง แต่การเจริญเติบโต ไมเกิน 5 นาที หลังจากโตวาทีเสร็จสิ้น ครูสรุป
ของสะโพก วัยรุ่นหญิงมีอัตราการเจริญเติบโต และอธิบายเพิ่มเติม พรอมกับตั้งคําถาม เพื่อใหได
เร็วกว่าวัยรุน่ ชายในระยะเริม่ แรก แต่เมือ่ ร่างกาย ขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
โตเต็มที่แล้ว พบว่าสะโพกของทั้งวัยรุ่นหญิง • จากการโตวาที นักเรียนคิดวา ผูช ายและ
และวัยรุ่นชายมีขนาดใกล้เคียงกัน ส่วนการ ผูห ญิงในวัยเดียวกันใครตัวโตกวากัน
เจริญเติบโตทางด้านความสูงนั้น ในช่วงวัยเด็ก ช่วงวัยรุ่น เพศชายจะมีส่วนสูงและกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น (แนวตอบ เมื่อเขาสูวัยรุนชวงอายุ 10-14 ป
วัยรุน่ ชายจะสูงกว่าวัยรุน่ หญิงมาตลอด จนเข้าสู่ รวมถึงมีไหล่ขยายกว้าง จึงท�าให้มีพละก�าลังมาก ผูหญิงจะมีรูปรางที่โตกวาผูชาย แตเมื่ออายุ
วัยแรกรุ่น วัยรุ่นหญิงจะมีอัตราเร็วในการเจริญเติบโตทางด้านความสูงในระยะแรกจนเมื่ออายุ ไดประมาณ 14 ป ผูชายจะเริ่มมีรูปรางที่
๑๑ ปี ก็จะสูงพอๆ กับวัยรุ่นชายและจะสูงน�าไปก่อน จนเข้าสู่อายุ ๑๕ ปี วัยรุ่นชายจะเริ่มสูงทัน โตกวาผูหญิง)
วัยรุน่ หญิงในวัยเดียวกัน และจะเริม่ สูงกว่า จนอายุ ๑๘ ปี ก็จะสูงกว่าวัยรุน่ หญิง และยังจะสามารถ
เพิ่มความสูงต่อไปได้อีกในขณะที่วัยรุ่นหญิงปกติจะหยุดสูงแล้ว
๒) การเปลี่ยนแปลงของกระดูก เมื่อมีอายุประมาณ ๑๓-๑๔ ปี กระดูกจะ
แข็งแรงขึ้น การเจริญเติบโตของกระดูกในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับการ
เจริญเติบโตด้านอื่นๆ ของร่างกาย วัยรุ่นชายที่มีอายุ ๑๔ ปีไปแล้ว จะมีกระดูกข้อมือที่ใหญ่กว่า
วัยรุ่นหญิง แต่มีความหนาแน่นของมวลกระดูก1น้อยกว่า และเมื่อถึงขั้นที่มีวุฒิภาวะทางเพศ2
กระดูกข้อมือจะมีพฒ ั นาการเท่ากันทัง้ ในด้านความหนาแน่นและความแข็งของกระดูก อวัยวะต่างๆ
สามารถเคลื่อนไหวและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขอสอบ O-NET
ขอสอบป ’ 52 ออกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของวัยรุนชาย เกร็ดแนะครู
ขอใดเปนลักษณะของวัยรุนชาย
1. ไหลจะกวางขึ้น วัยรุน มักจะมีความวิตกกังวลกับการเปลีย่ นแปลงทางดานรางกายของตนเองมาก
2. สะสมไขมันเพิ่มขึ้น ดังนั้น ครูจึงควรระมัดระวังในการใชคําพูดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดาน
3. สะโพกจะขยายออก รางกาย ซึ่งอาจสงผลกระทบตอจิตใจของนักเรียนบางคนได
4. เสียงจะแหลมหรือสูงขึ้น
วิเคราะหคําตอบ วัยรุนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายทั้งชายและ
หญิงอยางเห็นไดชัด ซึ่งมีลักษณะที่แตกตางกันออกไป คือ วัยรุนหญิงจะมี นักเรียนควรรู
การสะสมของไขมันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะไขมันที่เตานม และสะโพก ทําใหมี 1 ความหนาแนนของมวลกระดูก เปนคาที่ใชในการวินิจฉัยภาวะเสี่ยงตอโรค
เตานมที่ขยาย และมีสะโพกผายออก มีเสียงเล็กแหลมหรือสูงกวาผูชาย ที่เกิดจากความผิดปกติของกระดูก เชน โรคกระดูกพรุน โรคกระดูกผุ เปนตน
สวนวัยรุนชายจะมีการเจริญเติบโตตรงชวงไหลมากที่สุด ทําใหเห็นไดวา
วัยรุนชายจะมีไหลที่กวางขึ้น และมีกลามเนื้อเปนมัดที่เห็นไดอยางชัดเจน 2 วุฒิภาวะทางเพศ คือ การที่เพศชายมีการหลั่งนํ้าอสุจิครั้งแรก และการที่
ตอบขอ 1. เพศหญิงมีประจําเดือนเปนครั้งแรก
คูมือครู 3
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ครูตงั้ คําถามเพือ่ กระตุน การเรียนรูข องนักเรียนตอ
• วัยรุนชายและวัยรุนหญิงมีการเปลี่ยนแปลง ๓) การเปลี่ยนแปลงของไขมันและกล้ามเนื้อ ในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น เด็กผู้ชายจะมี
ทางรางกายที่แตกตางกันอยางไร ไขมันใต้ผิวหนังบางลง พร้อมๆ กับมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้นและแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะท�าให้วัยรุ่นชาย
(แนวตอบ วัยรุนชายจะมีนํ้าเสียงที่แหบหาว ผอมลงในระยะแรกโดยเฉพาะที่แขน ขา น่อง ส่วนวัยรุ่นหญิงแม้จะมีการเพิ่มของกล้ามเนื้อ
มีหนวดเคราขึ้นบริเวณใบหนา มีขนขึ้นที่ แต่ก็จะมีการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น
หนาแขง ชวงไหลกวาง ผิวหนังหยาบกราน ต่อไปอีก ซึ่งน�้าหนักอาจเพิ่มได้ถึงร้อยละ ๒๕
สวนวัยรุนหญิง จะมีนํ้าเสียงทุม นุมนวล ของน�้าหนักตัว โดยเฉพาะไขมันจะไปสะสมที่
มีหนาอกขยายใหญขึ้น สะโพกผาย เอวคอด เต้านมและสะโพก ซึ่งโดยภาพรวมอาจสรุป
ผิวหนังนุมละเอียด เปนตน) ได้ว่า วัยรุ่นชายจะมีความแน่นของร่างกาย
จากนั้นครูใหนักเรียนศึกษาเรื่อง เคล็ดลับเพิ่ม ในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อมากกว่าในวัยรุ่นหญิง
ความสูง จากเกร็ดนารู แลวนําผลการศึกษาที่ได ในวัยเดียวกัน และเป็นสาเหตุที่ท�าให้วัยรุ่นชาย
มาอภิปรายรวมกันในชั้นเรียน โดยครูตั้งคําถามวา มีพละก�าลังเหนือกว่า
• หากตองการเพิ่มความสูง นักเรียนควร ๔) การเปลีย่ นแปลงของโครงสร้าง
บริโภคอาหารประเภทใด ใบหน้า ช่วงวัยรุ่นนี้ กระดูกของจมูกจะโตขึ้น
วัยรุ่นหญิงมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สะโพกผาย และหน้าอก
(แนวตอบ เชน นม กุงแหง ปลาเล็กปลานอย ขยายใหญ่ เนื่องจากมีการสะสมของไขมันที่ใต้ผิวหนัง
ท�าให้ดงั้ จมูกเป็นสันขึน้ กระดูกขากรรไกรบนและ
เพราะเปนแหลงที่มีแคลเซียมสูง) ขากรรไกรล่างเติบโตเร็วมากเช่นเดียวกับกล่องเสียงและล�าคอ วัยรุน่ ชายกล่องเสียงจะเจริญเติบโต
เร็วกว่าวัยรุ่นหญิงอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้วัยรุ่นชายมีเสียงแตกห้าว
เกร็ดน่ารู้
เคล็ดลับเพิ่มความสูง
ปัจจุบันรูปร่างสูงสง่าได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นทั้งชายและหญิง เพราะความสูงช่วยให้ดูดี
สมาร์ท (Smart) หล่อ หรือสวย เคล็ดลับง่ายๆ ต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มความสูงให้วัยรุ่นได้
๑. รับประทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่เป็นประจ�า โดยเน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง (High Calcium) เช่น
1
นม กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อยที่รับประทานได้ทั้งตัว เป็นต้น
๒. ออกก�าลังกายอย่างสม่�าเสมอ เพราะจะไปช่วยกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth
Hormone) ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ท�าให้สูง และควรออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ช่วงเช้าและเย็น เพราะจะ
ท�าให้มีการสร้างวิตามินดี (Vitamin D) ในร่างกาย ซึ่งจะช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
๓. นอนหลับพักผ่อนให้สนิทและเพียงพอวันละ ๘ ชัว่ โมง เพราะโกรทฮอร์โมนจะหลัง่ ออกมาเต็มทีข่ ณะ
หลับสนิท
๔. หมั่นดูแลสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วยและอย่าเคร่งเครียด เพราะการเจ็บป่วยและความเครียดจะท�าให้
ร่างกายท�างานผิดปกติและท�าให้การเจริญเติบโตหยุดชะงัก
๕. หลีกเลีย่ งอาหารรสเค็มจัด อาหารฟาสต์ฟดู (Fast Food) ขนมกรุบกรอบ และน้า� อัดลม เพราะอาหาร
เหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีผลท�าให้ร่างกายขาดสารอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตได้อีกด้วย
ที่มา : เว็บไซต์ Frynn.com/ วิธีเพิ่มความสูง
๔
ขอสอบเนน การคิด
เกร็ดแนะครู แนว NT O-NE T
เด็กผูชายและเด็กผูหญิงจะเขาสูวัยรุนเร็วหรือชาตางกันหรือไม
ครูควรอธิบายเพิ่มเติมถึงความสําคัญของอาหารหลัก 5 หมู วามีผลตอ
1. ไมตางกัน
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการทางดานตางๆ ของวัยรุน โดยนักเรียนควร
2. ไมแนนอน
รับประทานอาหารใหครบทั้ง 5 หมู แตละหมูใหหลากหลายเพื่อการมีสุขภาพที่ดี
3. ชายเร็วกวา
และการเจริญเติบโตที่สมวัย จากนั้นครูอาจใหนักเรียนเลนเกมจับคูพีระมิดอาหาร
4. หญิงเร็วกวา
5 หมู ซึ่งครูสามารถคนหาสื่อการสอนเพิ่มเติมไดที่ http://www.nutrition.anamai.
moph.go.th เว็บไซตสํานักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วิเคราะหคําตอบ เด็กผูชายและเด็กผูหญิงจะเขาสูวัยรุนเร็วหรือชาตางกัน
เนื่องจากเด็กผูหญิงจะเขาสูการเปลี่ยนแปลงทางรางกายกอนเด็กผูชาย
ประมาณ 2 ป ซึ่งจะสังเกตเห็นไดจากในชั้นประถมศึกษาตอนปลาย หรือชั้น
นักเรียนควรรู มัธยมศึกษาตอนตนวาเด็กผูหญิงจะมีรางกายที่สูงใหญ เปนสาวนอยแรกรุน
ในขณะที่เด็กผูชายยังดูเปนเด็กชายตัวเล็กๆ อยู ตอบขอ 4.
1 ปลาเล็กปลานอย คือ ปลาตัวเล็กๆ ทีน่ าํ มาทอดกรอบจนสามารถรับประทาน
ไดทั้งตัวและกาง โดยปลาเล็กปลานอยปริมาณ 100 กรัม จะมีแคลเซียมมากกวา
2,500 มิลลิกรัม ซึ่งมากกวานมวัวถึง 21 เทาในปริมาณที่เทากัน
4 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ครูสุมนักเรียน 2-3 คน ออกมาสรุป
๕) การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ในวัยรุ่นพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับ สาระสําคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดาน
ฮอร์โมนต่างๆ เช่น โกรทฮอร์โมน1(Growth Hormone) ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ รวมทัง้ ฮอร์โมน รางกาย จากนั้นใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัด
ทางเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนจะไปกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังและต่อมเหงื่อให้ท�างานเพิ่มมากขึ้น และบันทึกผลการเรียนรู กิจกรรมที่ 1.1
อันเป็นสาเหตุส�าคัญอย่างหนึ่งที่ท�าให้เกิดปัญหาเรื่อง “สิว” และ “กลิ่นตัว” ของวัยรุ่นตามมา ใบงาน ✓ แบบวัดฯ แบบฝกฯ
นอกจากระดับฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและอวัยวะเพศในวัยรุ่นแล้ว สุขศึกษา ม.2 กิจกรรมที่ 1.1
ยังส่งผลถึงอารมณ์และความรู้สึกทางจิตใจอีกด้วย หนวยที่ 1 การเจร�ญเติบโตและการพัฒนา
ของวัยรนุ
๖) การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะเพศ เมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่น อวัยวะเพศของชายและ
หญิงจะเริ่มผลิตเซลล์สืบพันธุ์ โดยอวัยวะเพศชายจะผลิตตัวอสุจิและอวัยวะเพศหญิงจะผลิตไข่ กิจกรรมตามตัวชี้วัด คะแนนเต็ม คะแนนที่ได
ñõ
วัยรุ่นหญิงจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ ๑ ปี ก่อนที่จะมีประจ�าเดือน เต้านม กิจกรรมที่ ๑.๑ ใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามคําแนะนํา (พ ๑.๑ ม.๒/๑)
๑. ใหนักเรียนบอกลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายชวงเขาสูวัยรุนชายและวัยรุนหญิง
เริ่มขยายขนาดขึ้นเมื่ออายุประมาณ ๘-๑๓ ปี และใช้เวลา ๒ ปี-๒ ปีครึ่ง จึงจะเจริญเติบโต
เต็มที่ในช่วงอายุ ๑๑-๑๓ ปี วัยรุ่นหญิงส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นสาวเต็มตัว
ดังนั้น ในชั้นประถมศึกษาตอนปลายหรือมัธยมศึกษาตอนต้น จะเห็นว่าวัยรุ่นหญิง
มีรูปร่างสูงใหญ่เป็นสาวน้อยแรกรุ่น ในขณะที่วัยรุ่นชายยังเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ซึ่งอาจท�าให้
เด็กบางคนสับสนและเป็นกังวลกับสภาพร่างกายของตนเอง วัยรุนชาย วัยรุนหญิง
ส�าหรับหญิงวัยแรกรุน่ นัน้ รอบเดือนครัง้ แรกส่วนใหญ่จะมีเมือ่ อายุประมาณ ๑๒-๑๓ ปี ฉบับ มีขนบริเวณหัวหนาว รักแร
เฉลย ๑. ………………………………………………………………………………. มีขนบริเวณหัวหนาว รักแร
๑. ……………………………………………………………………………….
๓. การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน สงผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดานจิตใจและ
ในช่วงปีแรกอาจจะมาไม่สม�า่ เสมอหรือขาดหาย อารมณอยางไร
วัยรุนเปนวัยที่มีอารมณเปลี่ยนแปลงงาย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลในหลายๆ ดาน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ส�าหรับชายวัยแรกรุ่นนั้น รูปร่าง ๒
ภายนอกมีการเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงช้ากว่า
เด็กผู้หญิงประมาณ ๒ ปี เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ
๑๐-๑๓ ปี อั ณ ฑะจะเริ่ ม มี ก ารเจริ ญ เติ บ โต
แต่ก็ยังไม่เต็มที่ จนเมื่อมีการเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น
ตอนกลาง ในช่วงวัย ๑๔-๑๖ ปี อัณฑะจึงจะ
เจริญเติบโตและท�าหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และ ช่วงวัยรุ่น ทั้งเพศชายและเพศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลง
เกิดภาวะฝันเปียกบ่ 3 อยๆ ได้ ด้านร่างกายอย่างรวดเร็ว
กิจกรรมสรางเสริม
นักเรียนควรรู
ใหนักเรียนสํารวจการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายของตนเอง แลวให 1 โกรทฮอรโมน เปนฮอรโมนที่ผลิตจากตอมใตสมอง ทําหนาที่ควบคุม
เปรียบเทียบกับวัยเด็กวาแตกตางกันอยางไร การเจริญเติบโตของรางกายใหเปนไปอยางปกติ หากมีการผลิตฮอรโมนนี้
มากเกินไป รางกายจะสูงใหญ หัวใจโต ความดันโลหิตสูง แตถาผลิตนอยเกินไป
รางกายจะเตี้ยแคระ การเจริญเติบโตของอวัยวะตางๆ หยุดชะงัก
กิจกรรมทาทาย 2 มดลูก เปนอวัยวะที่เปนรูปกลวง ประกอบดวยกลามเนื้อซึ่งมีลักษณะคลาย
ผลชมพู มีผนังหนาประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ตั้งอยู
ในชองเชิงกรานระหวางกระเพาะปสสาวะและทวารหนัก ตัวมดลูกอยูดานบน
ใหนกั เรียนวิเคราะหถงึ ผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบทีเ่ กิดขึน้ สวนปากมดลูกจะอยูดานลางติดกับชองคลอด
จากการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายของตนเอง
3 ภาวะฝนเปยก คือ ภาวะที่วัยรุนชายมีการหลั่งนํ้าอสุจิออกมาในขณะหลับ
ซึ่งสวนใหญเกิดขึ้นจากการฝนเกี่ยวกับเรื่องเพศ
คูมือครู 5
กระตุน ความสนใจ
กระตุEngage
นความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
กระตุน ความสนใจ Engage
ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียน
โดยนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นไดอยาง ในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย อายุ ๑๗-๒๐ ปี วัยรุ่นชายจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
อิสระ อย่างเต็มที่ ส่งผลให้มอี ารมณ์ทางเพศสูงและรุนแรง อวัยวะเพศจะตื่นตัวได้ง่ายแม้ไม่มีสิ่งปลุกเร้า
• นักเรียนเคยสังเกตอารมณของตนเองบาง และอาจจะเกิดในบางสถานการณ์ทไี่ ม่สมควร จนท�าให้วยั รุน่ ชายบางคนอาจเกิดความรูส้ กึ ละอายใจ
หรือไม ถาเคย นักเรียนคิดวา ตนเองมี ทีค่ วบคุมร่างกายตนเองไม่ได้ ส่งผลให้ขาดความมัน่ ใจในตนเองตามมา ส่วนวัยรุน่ ชายบางรายทีม่ ี
อารมณที่แสดงออกในแตละวันเปนอยางไร ความคิดหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศ อาจแสดงพฤติกรรมทางเพศที่เบี่ยงเบนไปจากปกติจนอาจก่อ
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน) ให้เกิดปัญหาได้
• ทําไมผูชายถึงอารมณรอน ผูหญิงถึงแสนงอน
โดยสรุปแล้ว ลักษณะทางเพศที่แบ่งแยกความเป็นชายหนุ่มและความเป็นหญิงสาว
(แนวตอบ เพราะวัยรุน มักมีอารมณแปรปรวนงาย
ที่เพิ่งเริ่มเจริญเติบโตเต็มที่ในวัยแรกรุ่นจนถึงวัยรุ่นตอนปลายนั้น จะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน
ซึ่งเปนผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางรางกาย
ในแต่ละเพศ ดังนี้
ที่เกิดขึ้นอยางรวดเร็ว ทําใหวัยรุน
เกิดความกังวลและปรับตัวตอการเปลีย่ นแปลง
ที่เกิดขึ้นไมได) เพศหญิง เพศชาย
• นักเรียนเคยสงสัยหรือไมวา ทําไมวัยรุนทั่วไป ■ มีขนบริเวณหัวหน่าว รักแร้ ■ มีขนบริเวณหัวหน่าว รักแร้
จึงตองพยายามสรางความโดดเดนใหกับ ■ มีการเจริญเติบโตของเต้านม ■ มีหนวด เครา
ตนเอง
■ สะโพกผาย เอวคอด ■ ไหล่กว้างขึ้น 1
■ เสียงทุ้ม นุ่มนวล ■ เสียงห้าว แตกพร่า
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน ■ ผิวหนังเรียบ ละเอียดอ่อน ■ ผิวหนังหยาบขึ้น
โดยอาจตอบวา เพื่อตองการใหเปนที่ยอมรับ
ของเพื่อน และใหดูนาสนใจในสายตาของ ๑.๒ การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์
เพศตรงขาม)
วัยรุ่นมักมีจิตใจและอารมณ์เปลี่ยนไปจากวัยเด็กมาก มีความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ
ของตนหรือเพศตรงข้ามมากขึ้น ชอบความเป็นอิสระ มีความภาคภูมิใจในความเป็นชายและ
เป็นหญิงของตนเอง
ส่วนวัยรุ่นบางคนที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายรวดเร็วกว่าคนอื่น เช่น สูงมาก
ตัวใหญ่ อ้วน มีหน้าอกโต อาจท�าให้เกิดความวิตกกังวลหรือคิดว่าเป็นปมด้อยไม่เหมือนเพื่อน
อาจท�าให้ความเชือ่ มัน่ ในตนเองลดลงไป ซึง่ การเปลีย่ นแปลงและการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย
ของวัยรุ่นทั้งภายในและภายนอกนี้ จะมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่ออารมณ์และจิตใจของวัยรุ่น
เด็กในวัยนี้จึงมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย สับสน อ่อนไหว และไม่มั่นคง
ทั้งนี้อารมณ์ที่เกิดขึ้นมักจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รุนแรง และเข้าใจได้ยาก รวมทั้ง
มีความวิตกกังวล หงุดหงิด หมกมุ่นในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับตนเอง โดยจะมีความวิตกกังวล
ในการเปลี่ยนแปลง และต้องการเรียกร้องความสนใจหลายอย่าง ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
ขอสอบ O-NET
นักเรียนควรรู ขอสอบป ’ 52 ออกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดานจิตใจและอารมณ
ชวงวัยใดของมนุษยที่มีอารมณเปลี่ยนแปลงมากที่สุด
1 เสียงหาว แตกพรา หรือที่เรียกกันวา “เสียงแตกหนุม” เกิดจากโครงสราง
1. วัยเด็กกอนเขาเรียน
ของกลองเสียง เมื่อยังเด็กจะมีสายเสียงสั้น ทําใหเสียงมีความถี่สูง แตเมื่อยางเขาสู
2. วัยเด็กเขาเรียน
วัยรุน กลองเสียงจะขยายใหญขนึ้ สายเสียงจะยาว หนา และกวางขึน้ เสียงทีเ่ ปลง
3. วัยทารก
ออกมาจึงมีความถี่ตํ่าลง ซึ่งจะเกิดกับวัยรุนชายเปนหลัก
4. วัยรุน
วิเคราะหคําตอบ วัยรุนเปนวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอรโมนและ
มุม IT รางกายเพื่อเขาสูการเปนผูใหญ เปนวัยที่อารมณแปรปรวนงาย ไมมั่นคง
นําไปสูการเปลี่ยนแปลงทางอารมณมากที่สุด ตอบขอ 4.
สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับธรรมชาติจิตใจของวัยรุน…แตกตางจากวัยเด็ก
ไดจาก http://www.bs.ac.th/2548/e_bs/G5/Nook/content1.html
6 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจค
Exploreนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
สํารวจคนหา Explore
ใหนักเรียนสํารวจอารมณของตนเองที่ผานมา
๑) วิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เด็กผู้ชายที่เข้าสู่วัยรุ่นช้า แลววิเคราะหวาอารมณของตนเองในวัยเด็กกับ
จะมีความวิตกกังวลมากเกี่ยวกับความแข็งแรงของร่างกาย จนอาจจะไม่มั่นใจในความเป็นชาย ปจจุบันที่เปนวัยรุนนั้นมีความแตกตางกันหรือไม
รู้สึกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์ กลัวการถูกล้อเลียนหรือการกลั่นแกล้งจากเพื่อนๆ ที่มีรูปร่างใหญ่โตกว่า แลวใหนักเรียนจับคูกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความ
อาจมี ค วามภาคภู มิ ใ จในตนเองลดน้ อ ยลง คิดเห็นในเรื่องลักษณะอารมณของตนเอง จากนั้น
และรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย ส่วนวัยรุ่นหญิงที่ ใหนักเรียนศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางดาน
โตเร็วกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน มักจะรู้สึกอึดอัด จิตใจและอารมณ จากหนังสือเรียน หรือแหลง
เคอะเขิน ประหม่า รูส้ กึ อายต่อสายตาและค�าพูด การเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม
ของเพศตรงข้าม เพราะร่างกายเริ่มโตเป็นสาว
ในขณะที่สภาพอารมณ์จิตใจยังเป็นเด็ก
๒) วิตกกังวลกับอารมณ์ทางเพศ อธิบายความรู Explain
ทีส่ งู ขึน้ การเปลีย่ นแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ การใช้เวลาว่างไปท�ากิจกรรมที่ตนชื่นชอบ จะช่วยให้ ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเรื่อง การ
ส่งผลท�าให้วัยรุ่นเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา วัยรุ่นคลายความเครียดและความหมกมุ่นเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงทางดานจิตใจและอารมณ โดยครู
ได้บอ่ ย วัยรุน่ บางคนมีความเครียดเพราะรูส้ กึ ว่า เปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของตนเอง ตั้งคําถามเพื่อนําไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
เป็นสิง่ ไม่ดี ส�าหรับพฤติกรรมในช่วงนี้ เมือ่ มีความสนใจอยากรูอ้ ยากเห็นเป็นทุนเดิมบวกกับการมี • วัยรุน จะมีการเปลีย่ นแปลงทางดานจิตใจและ
ระดับฮอร์โมนเพศที่สูง วัยรุ่นจึงมีความต้องการส�าเร็จความใคร่ด้วยตนเอง บางคนก็อยากเรียนรู้ อารมณทแี่ ตกตางไปจากวัยเด็กอยางไร
1
เกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์ทางเพศ และมักปรึกษาขอค�าแนะน�าจากเพื่อนวัยเดียวกันหรือดูสื่อ (แนวตอบ เริม่ มีอารมณรนุ แรง เปลีย่ นแปลงงาย
ที่ไม่เหมาะสม หลายคนหมกหมุ่นในเรื่องเพศมากจนมีผลกระทบต่อการเรียนและการด�าเนินชีวิต สับสน ออนไหว ไมมั่นคง ซึ่งตางจากวัยเด็ก
แต่วัยรุ่นที่มีความเข้าใจธรรมชาติก็จะเลือกท�ากิจกรรมอย่างอื่นที่เป็นคุณประโยชน์ เพื่อเบี่ยงเบน ที่สามารถปรับเปลี่ยนหรือควบคุมอารมณ
ความสนใจไม่ให้หมกมุ่นในเรื่องเพศมากเกินไป ของตนเองได มีความสุข สนุกสนาน ราเริง)
๓) วิตกกังวลกลัวการเป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่นเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงร่างกายของตน
บางคนก็จะเกิดความวิตกกังวลมาก ไม่รู้ว่าจะวางตัวให้ถูกอย่างไร กลัวจะไม่เป็นที่ยอมรับจาก
คนรอบข้าง กลัวจะต้องรับผิดชอบอะไรๆ หลายอย่างทั้งที่ตัวเองยังไม่พร้อม บางครั้งจึงอยากจะ
เป็นเด็ก อยากแสดงอารมณ์สนุกสนาน ร่าเริง เบิกบาน ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก
๔) วิตกกังวลในความงดงามของร่างกาย ไม่วา่ วัยรุน่ หญิงหรือชายก็จะมีความรูส้ กึ
ต้องการให้คนรอบข้างชื่นชมเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของตน และมีความส�านึกว่าความ
สวยงามทางกายเป็นแรงจูงใจส�าคัญ ท�าให้ผู้อื่นเห็นคุณค่า ท�าให้เพื่อนยอมรับเข้ากลุ่มได้ง่าย
เป็นวิถีทางหนึ่งที่จะเข้าสู่สังคมและดึงดูดใจเพศตรงข้าม จะเห็นว่าเด็กในช่วงวัยนี้จะสนอกสนใจ
พิถีพิถันในการเลือกเสื้อผ้า การหวีผม เอาใจใส่ต่อการออกก�าลังกาย สนใจคุณค่าทางอาหาร
2
เครือ่ งประดับ สุขภาพอนามัย การวางตัวในสังคม แต่ความสนใจในแต่ละเรือ่ งอาจมีระยะเวลาไม่นาน
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
เพราะเหตุใดวัยรุนจึงมักถูกเรียกวา เปนวัยพายุบุแคม
1 ปรึกษาขอคําแนะนํา เมื่อวัยรุนเกิดความเครียด หรือวิตกกังวลในเรื่องตางๆ
แนวตอบ เนื่องจากวัยรุนเปนวัยที่มีอารมณเปลี่ยนแปลงงาย สับสน สามารถปรึกษาขอคําแนะนําไดที่ “สายดวนวัยรุน” 1417 ซึ่งเปดใหบริการตั้งแต
ออนไหว เขาใจยาก มีอารมณอยูเหนือเหตุผล อยากไดสิ่งใดหรือจะทํา วันจันทร-วันเสาร เวลา 12.00-24.00 น. โดยไมเสียคาบริการใดๆ ทั้งสิ้น
อะไรตองใหไดดั่งใจ บางครั้งขาดสติ ขาดความยั้งคิด บางคนแสดงออก 2 สุขภาพอนามัย วัยรุนจําเปนตองรักษาสุขภาพอนามัยของตนเองอยูเสมอ
ทางอารมณอยางรุนแรงดุจดังพายุจนมีการเปรียบเทียบวาอารมณของ เนื่องจากเปนวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว การรักษาสุขภาพอนามัยที่ดี
วัยรุนเหมือนพายุบุแคม จะทําใหสามารถดํารงชีวิตประจําวันไดอยางมีความสุข ไมเจ็บปวย หรือเกิด
ความผิดปกติใดๆ ตอรางกาย
คูมือครู 7
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายตอเรื่อง การ
เปลี่ยนแปลงทางดานจิตใจและอารมณ โดยครู ๕) ต้องการความรักความห่วงใย ช่วงวัยรุ่นนี้เป็นวัยที่มีความรู้สึกอยากที่จะถูกรัก
ตั้งคําถามเพื่อนําไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน อยากได้รบั ความเอาใจใส่หว่ งใยจากบุคคลทีม่ คี วามส�าคัญต่อตนเอง ไม่วา่ จะเป็นพ่อแม่ ครูอาจารย์
• วัยรุนตองการเปนอิสระ ตองการเปนตัวของ และเพื่อน1แต่มักจะมีข้อแม้ว่า ต้องไม่ใช่การแสดงออกที่มีความรู้สึกว่าเขายังเป็นเด็ก ไม่ต้องการ
ตัวเอง โดยที่ไมตองการความรักความหวงใย ให้แสดงความห่วงใยอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่
จากบุคคลรอบขางใชหรือไม เพราะเหตุใด ต้องการให้เหินห่าง
(แนวตอบ ไมใช เพราะวัยรุนยังเปนวัยที่มี ๖) ต้องการเป็นอิสระทําอะไร
ความรูสึกอยากที่จะถูกรัก อยากไดรับความ ด้วยตนเอง วันรุ่นต้องการท�าในสิ่งที่ตัวเอง
เอาใจใสหวงใยจากบุคคลที่มีความสําคัญตอ คิดแล้วว่าดี อยากจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ตนเอง เชน พอแม ครูอาจารย เพื่อน เปนตน อยากท�าตัวห่างจากพ่อแม่ ห่างจากค�าสั่งของ
แตวัยรุนเองก็ไมตองการใหแสดงความหวงใย ครอบครัวทุกรูปแบบ ซึ่งบางครั้งจะท�าให้วัยรุ่น
อยูตลอดเวลา แตก็ไมตองการใหเหินหางมาก เกิดความรู้สึกสับสน สองจิตสองใจ คือ อยากได้
จนเกินไป) ความเป็นอิสระอย่างมีขอบเขตแต่ก็กลัวสูญเสีย
• หากวัยรุนไมสามารถปรับตัวและยอมรับตอ ความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่ แต่ถ้าตนเอง
การเปลีย่ นแปลงทางดานจิตใจและอารมณได ยอมรั บ การดู แ ลหรื อ ยอมท� า ตามค� า สั่ ง ของ
จะสงผลอยางไร พ่อแม่ ก็จะไปขัดกับความต้องการลึกๆ ที่อยาก
(แนวตอบ อาจเกิดปญหาสับสนทางใจ ซึง่ สงผล เป็นอิสระ ต้องการพึง่ พาตนเอง ทัง้ นี้ หากวัยรุน่
ทําใหสุขภาพจิตเสียได) รู้จักยอมรับและท�าความเข้าใจตนเองและผู้อื่น
รวมถึ ง การมี ก รอบของความเป็ น อิ ส ระก็ จ ะ
วัยรุ่นจะมีความสนใจในตัวเองมาก รักสวยรักงามเพื่อให้ ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกขัดแย้งในเรื่องต่างๆ
บุคลิกภาพดูดีอยู่เสมอ
ของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี
๗) ต้องการเป็นตัวของตัวเอง วัยรุ่นจะยอมรับในสิ่งที่มาจากตัวของเขาเอง
ไม่ต้องการให้ใครมาออกค�าสั่งหรือบังคับ หลายคนจะใช้วิธีดื้อเงียบเมื่อถูกสั่งให้ท�าในสิ่งที่ตัวเอง
ไม่ชอบ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในความคิดหรือการกระท�าของตน ยังต้องการค�าชี้แนะ
อยู่บ้าง ดังนั้น วัยรุ่นจึงควรมั่นใจในตัวเอง รู้จักช่วยเหลือตนเองและครอบครัวตนเองให้มากที่สุด
เท่าที่จะท�าได้ตามสมควรแก่วัย
๘) ต้องการความถูกต้อง ยุติธรรม เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นตอนกลาง วัยรุ่นจะจริงจัง
เป็นอย่างมากกับความถูกต้องยุติธรรมตามทัศนคติของตนเอง อยากจะท�าอะไรหลายๆ อย่างเพื่อ
เรียกร้องความยุติธรรม วัยรุ่นจึงมักแสดงความคิดเห็นถกเถียงกันในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวโดย
ต่างคนต่างใช้เหตุผลของตนเอง
ขอสอบเนน การคิด
เกร็ดแนะครู แนว NT O-NE T
นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติตนอยางไร เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดาน
วัยรุนเปนวัยที่บางครั้งอาจทําความเขาใจไดยาก ดังนั้น ครูอาจใหนักเรียน
จิตใจและอารมณ
แตละคนเขียนเรียงความในหัวขอ “อยากใหครอบครัวเขาใจ” เพื่ออธิบายสิ่งที่
ตองการจะสื่อสารวาอยากใหสมาชิกในครอบครัวเขาใจตนเองในเรื่องใดบาง แนวตอบ 1. ยอมรับสภาพความเปนจริงของตนเอง โดยรูจักปลอยวาง
เพื่อละลายพฤติกรรมและสงเสริมใหนักเรียนไดถายทอดมุมมองของตนเองออกมา ในบางเรื่อง
ซึ่งครูจะไดทําความเขาใจและสามารถเรียนรูถึงลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออก 2. พยายามสรางความเชื่อมั่นใหกับตนเอง กลาที่จะเผชิญกับ
ของนักเรียนแตละคนได ปญหา และพรอมที่จะแกปญหาตางๆ
3. รูจักปรับตัวใหสามารถเขากับผูอื่นได
4. ทําจิตใจใหราเริงแจมใสอยูเสมอ
นักเรียนควรรู 5. มีวุฒิภาวะทางอารมณที่ดี
6. ฝกทําจิตใจใหสงบ มีสมาธิ
1 เพื่อน เปนที่พึ่งพาชวยเหลือใหแกวัยรุน ทําใหวัยรุนพัฒนาไปสูความเปน 7. หลีกเลี่ยงจากสิ่งไมดีทั้งหลายที่มีผลตอจิตใจและอารมณ
อิสระและเปนตัวของตัวเอง จึงทําใหวัยรุนอยากพูดคุยกับเพื่อนมากกวาพอแม และ
มักจะเลือกคบเพื่อนที่มีลักษณะคลายตนเองเพราะจะมีความเขาใจกันมากที่สุด
8 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจค
Exploreนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
สํารวจคนหา Explore
ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน โดยครู
๙) ต้องการความตื่นเต้นท้าทาย ความแปลกใหม่ วัยรุ่นบางส่วนโดยเฉพาะ เปนผูแบงกลุมใหกับนักเรียน แลวใหรวมกันพูดคุย
วัยรุ่นชายอาจเรียกร้องความสนใจด้วยการกระท�าที่ฝาฝนต่อกฎเกณฑ์ต่างๆ ของทางบ้านและ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางดานสังคมและดาน
ระเบียบของสังคม เพราะรู้สึกว่าเป็นความตื่นเต้นและความท้าทาย หรือเข้าใจผิดว่าจะท�าให้ตน สติปญญา จากนั้นใหนักเรียนแตละคนวิเคราะหวา
ดู โ ดดเด่ น ขึ้ น มา ซึ่ ง การกระท� า ในบางสิ่ ง ก็ ตนเองมีสัมพันธภาพที่ดีตอเพื่อนในกลุมมากนอย
อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต วัยรุ่นในช่วงวัยนี้จึง เพียงใด สามารถปรับตัวเมื่ออยูรวมกับเพื่อนที่ไม
ควรหาโอกาสท� า งานหรื อ กิ จ กรรมที่ ท ้ า ทาย สนิทสนมไดหรือไม
ความสามารถอยู่ตลอดเวลา ตลอดจนการใช้ จากนัน้ ใหนกั เรียนศึกษาเรือ่ ง การเปลีย่ นแปลง
พลังงานและความคิดสร้างสรรค์ของตนในทาง ทางดานสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางดาน
ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ สติปญญา จากหนังสือเรียน หรือแหลงการเรียนรู
๑๐) มีความอยากรู้ อยากเห็น อื่นๆ เพิ่มเติม
อยากลองสูง วัยรุ่นบางส่วนจะใช้ความอยากรู้
อยากเห็นของตนไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ท�าให้ อธิบายความรู Explain
เกิดผลงานขึ้นมา เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายเรือ่ ง การเปลีย่ นแปลง
1
การท�าธุรกิจขนาดเล็ก เป็นต้น ทางดานสังคม โดยครูเสนอแนะเพิ่มเติมและ
ส�าหรับเด็กบางคนจะมีความอยากรู้ วัยรุ่นบางส่วนจะใช้ความอยากรู้ อยากเห็นของตนไป ตั้งคําถามเพื่อนําไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
อยากเห็น หรืออยากลองสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ท�าให้เกิดผลงานขึ้นมา • เพราะเหตุใด วัยรุนจึงไมชอบคลุกคลีกับ
ตนเองทราบว่าเป็นสิง่ ไม่ดี แต่บางครัง้ ก็อยากรูด้ ว้ ยตนเองว่าท�าแล้วจะเป็นผลอย่างไร มีผลอย่างไร ครอบครัวเหมือนในชวงวัยเด็ก
จึงท�าให้การกระท�าหลายอย่างมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเอง ซึ่งหากวัยรุ่นได้ (แนวตอบ เนื่องจากตองการความเปนอิสระ
ทดลองท�าในสิ่งที่ดีมีประโยชน์และถูกต้อง ก็จะช่วยท�าให้ได้ความรู้ ทักษะประสบการณ์ ซึ่งบางสิ่ง โดยจะพยายามปลีกตัวออกหางจากพอแม
จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในภายหน้า เพื่อหัดดูแลและรับผิดชอบตนเอง แตจะให
๑.๓ การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม ความสําคัญกับเพื่อนรวมวัยคอนขางมาก
วัยรุ่นจะเริ่มท�าตัวห่างเหินจากทางบ้าน ไม่ค่อยคลุกคลีกับครอบครัวเหมือนในช่วงวัยเด็ก เริ่มมีความสนใจเพศตรงขาม สนใจสังคม
แต่จะสนใจเพื่อนมากกว่า จะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนนานๆ อยากท�ากิจกรรมนอกบ้านมาก ไม่อยาก และสิ่งแวดลอมมากขึ้น)
ไปไหนกับทางบ้าน เริม่ มีความสนใจเพศตรงข้าม สนใจสังคมสิง่ แวดล้อม รูจ้ กั ปรับตัวเองให้เข้ากับ
กฎเกณฑ์ กติกาของกลุ่มและสังคมได้ดีขึ้น ส่วนใหญ่จะมีความสามารถทางด้านทักษะสังคม
การสื่อสารเจรจาการแก้ปัญหา การประนีประนอม การยืดหยุ่น และการท�างานร่วมกับผู้อื่น
พัฒนาการทางสังคมทีด่ ขี องวัยรุน่ จะเป็นพืน้ ฐานส�าคัญของมนุษยสัมพันธ์2และการมีบคุ ลิกภาพทีด่ ี
การเรียนรู้สังคมจะช่วยให้วัยรุ่นหาแนวทางการด�าเนินชีวิตที่เหมาะกับตนเองได้ดีขึ้น
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
เพราะเหตุใด การเปลี่ยนแปลงทางดานอารมณและจิตใจของวัยรุน
จึงสงผลใหเกิดความขัดแยงกับพอแมหรือผูปกครอง 1 การทําธุรกิจขนาดเล็ก คือ การทําธุรกิจ SMEs ซึ่งมาจากคําวา Small and
Medium Enterprise หรือภาษาไทยใชคําวา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม
แนวตอบ เนื่องจากวัยรุนเปนวัยที่มีอารมณแปรปรวน เปลี่ยนแปลงงาย โดยประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวของกับ SMEs ไดแก พระราชบัญญัติสงเสริม
สับสน ออนไหว และเขาใจยาก ไมสามารถทีจ่ ะควบคุมอารมณของตนเองได วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม พ.ศ. 2543
ประกอบกับการมีชองวางระหวางวัยของวัยรุนกับพอแมหรือผูปกครอง 2 มนุษยสัมพันธ หลักการสรางมนุษยสัมพันธ มีหลายแนวทาง เชน ยิ้มแยม
ซึ่งกอใหเกิดความไมเขาใจกันทางดานความคิดหรือการกระทําตางๆ จึง แจมใส ทักทายผูอื่น มีนํ้าใจเอื้อเฟอเผื่อแผ สุภาพ ออนนอมถอมตน มีความจริงใจ
สงผลใหมักจะมีปญหาความขัดแยงกับบุคคลรอบขาง รวมไปถึงบุคคลใน ใหความรวมมือในการทําประโยชนเพื่อสวนรวม เปนตน
ครอบครัวดวย
คูมือครู 9
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายเรือ่ ง การเปลีย่ นแปลง
ทางดานสังคมตอโดยครูเสนอแนะและตัง้ คําถาม วัยนี้ต้องการการยอมรับว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ของกลุ่มเพื่อน พื้นฐานการเลี้ยงดู
เพือ่ นําไปสูข อ สรุปทีถ่ กู ตองรวมกัน ทีส่ นับสนุน ให้กา� ลังใจ มีความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ ผูป้ กครองกับเด็ก ย่อมมีผลท�าให้วยั รุน่
• การรวมกลุมของวัยรุน จะสงผลใหวัยรุนมีการ เกิดความรู้สึกที่ดีต่อสังคมสิ่งแวดล้อมของตน วัยรุ่นจึงควรได้มีส่วนในการตัดสินใจ ลงมือกระท�า
ปรับตัวอยางเหมาะสม เมื่ออยูกับผูอื่นในสังคม หรือการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ จึงจะ
อยางไร ท�าให้มีความรู้สึกว่าตนเป็นที่ยอมรับจากบุคคล
(แนวตอบ ทําใหวัยรุนเปนที่ยอมรับของเพื่อน ภายในครอบครัว เป็นคนที่มีคุณค่า และย่อมจะ
ของครู และคนอื่นๆ กลาแสดงความคิดเห็น ไม่กระท�าการที่ไม่ดีมีความเสี่ยง ส่งผลให้วัยรุ่น
และกลาตัดสินใจในสิ่งที่ถูกตอง) อยากเป็นทีย่ อมรับของเพือ่ น ของครู และคนอืน่ ๆ
• ยกตัวอยางพฤติกรรมทางสังคมของวัยรุน ต่อไป ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้วยั รุ่นกระท�าความดี
(แนวตอบ เชน คบคาสมาคมกับเพื่อนตางเพศ มากขึ้นเรื่อยๆ
และเพศเดียวกัน มีการทํากิจกรรมรวมกันเปน ส�าหรับวัยรุน่ ทีเ่ ข้ารวมกลุม่ กัน ก็จะมีความ
หมูคณะ มากกวาการไปลําพัง การเลียนแบบ
วัยรุน่ จะมีความสามารถด้านทักษะสังคม การได้อยูร่ ว่ มกัน จริงใจต่อกลุม่ ยอมรับค่านิยม1 ทัศนคติ ความเชือ่
พฤติกรรมตามบุคคลที่สนใจ เปนตน) และปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย จะเป็นพื้นฐานที่ดีในการ และความสนใจภายในกลุ ่ ม เข้ า มาเป็ น ของ
ด�ารงชีวิตต่อไปภายภาคหน้า
ตนเองอย่างเต็มใจ การรวมกลุ่มกันจะท�าให้มี
ความรูส้ กึ อุน่ ใจ กล้าแสดงความคิดเห็น หรือมีการกระท�าในเชิงต่อต้านในสิง่ ทีเ่ ขาเห็นว่าไม่ยตุ ธิ รรม
ภาพรวมพฤติกรรมทางสังคมของวัยรุ่น สรุปได้ ดังนี้
๑. มีการคบค้าสมาคมกับเพื่อนต่างเพศและเพศเดียวกัน
๒. มีการท�ากิจกรรม เพื่อแสวงหา
ความรู้ ความบันเทิงใจ โดยพบว่าเด็กในวัยนี้จะ
ชอบไปกันเป็นหมูค่ ณะมากกว่าการไปตามล�าพัง
เพียงคนเดียว
๓. การแต่งกายของวัยรุ่น เป็นไป
2
ตามสมัยนิยม เนื่องจากมีความต้องการที่จะให้
เหมือนกับเพื่อนๆ เพื่อต้องการให้เป็นที่ยอมรับ
จากกลุ่ม
๔. พยายามแสวงหาเอกลั ก ษณ์
ของการเป็นคนเก่ง การเป็นวีรบุรษุ เด็กวัยรุน่ จะ
วัยรุ่นจะชอบท�ากิจกรรมเป็นหมู่คณะ บางคนก็พยายาม ยอมรับและนับถือบุคคลตามเจตคติของตนและ
ท�าตัวเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจ
เลียนแบบพฤติกรรมตาม
๑๐
กิจกรรมสรางเสริม
นักเรียนควรรู
1 คานิยม การปลูกฝงคานิยมในสังคมไทยนับเปนสวนหนึ่งของวัฒนธรรม ซึ่ง ใหนักเรียนเขียนอธิบายการเปลี่ยนแปลงทางดานสังคมของวัยรุน
เปนตัวกําหนดพฤติกรรมของบุคคลในการดําเนินชีวิตระหวางสมาชิกในสังคมใหมี ในรูปแบบของผังความคิด แลวนําสงครูผูสอน
ความสอดคลองสัมพันธกัน และชวยเสริมสรางความเปนปกแผนใหแกสังคม เมื่อมี
การรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเขามาทําใหมีผลกระทบตอการดําเนินชีวิต ดังนั้นจึง
จําเปนที่จะตองปลูกฝงคานิยมไทย ใหเยาวชนไดรับรูและสืบทอดปฏิบัติตอไป
2 สมัยนิยม เปนสิ่งที่ปฏิบัติหรือกระทําตามกันอยางตอเนื่องในชวงเวลาหนึ่งๆ
หรือยุคหนึ่งๆ ซึ่งสวนมากจัดอยูในพฤติกรรมการเลียนแบบ กิจกรรมทาทาย
10 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเข
Expand าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายตอเรื่อง การ
๑.๔ การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา เปลี่ยนแปลงทางดานสติปญญา โดยครูตั้งคําถาม
วัยนี้สติปัญญาจะพัฒนาสูงขึ้นจนมีความคิดเป็นแบบรูปธรรม (หมายถึง ความสามารถ เพื่อนําไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
เรียนรู้เข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ได้ลึกซึ้งขึ้น) มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และสังเคราะห์ • ชวงวัยรุนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางดาน
สติปญญาเปนอยางไร
สิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น จนเมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นแล้ว
จะมีความสามารถทางสติปัญญาเหมือนผู้ใหญ่ (แนวตอบ สติปญญาจะพัฒนาสูงขึ้น จนมี
การเจริญเติบโตในการท�างานของสมอง ท�าให้ ความคิดเปนแบบนามธรรม มีความสามารถ
เด็กวัยนีเ้ ริม่ มีความคิดความอ่านเป็นของตนเอง ในการคิด วิเคราะห และสังเคราะหสิ่งตางๆ
1 ไดมากขึ้น
เริม่ มีความคิดแบบนามธรรม รูจ้ กั ควบคุมตนเอง
เรียนรู้ที่จะควบคุมความคิด รู้จักยั้งคิด คิดให้ ขยายความเขาใจ Expand
เป็นระบบ เพื่อให้สามารถใช้ความคิดได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึกผล
บางครั้งในช่วงระหว่างวัยรุ่น ก็ยังพบว่า การเรียนรู กิจกรรมที่ 1.2
มีบางขณะที่มีการกระท�าที่อาจขาดความยั้งคิด การเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้แสดงออกทางความคิดและ ✓ แบบวัดฯ
ใบงาน แบบฝกฯ
มีความหุนหันพลันแล่นสูง ขาดการไตร่ตรองให้ เชาวน์ปัญญาตามความชอบของตน จะช่วยพัฒนาความ สุขศึกษา ม.2 กิจกรรมที่ 1.2
สามารถด้านสติปัญญาได้
รอบคอบได้ หนวยที่ 1 การเจร�ญเติบโตและการพัฒนา
พัฒนาการทางด้านความคิดและสติปัญญาของวัยรุ่นนั้น พบว่าสามารถที่จะคิดได้ในลักษณะ ของวัยรนุ
ดังต่อไปนี้
๑. รู้จักคิดเป็นเหตุเป็นผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ กิจกรรมที่ ๑.๒ ใหนักเรียนอธิบายถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงของวัยรุน
คะแนนเต็ม คะแนนที่ได
òð
ในดานตางๆ (พ ๑.๑ ม.๒/๑)
๒. รู้จักคิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คิดอย่างมีระเบียบ ดานรางกาย ดานจิตใจและอารมณ
แบบแผน ต้องพยายามนึกคิดด้วยตนเอง มีขนาดของรางกายและสวนสูงเพิ่มขึ้น
๑. ……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
มีความรูสึกนึกคิดและวิตกกังวลเกี่ยวกับ
๑. ……………………………………………………………………………….
เรื่องเพศของตนและเพศตรงขาม
……………………………………………………………………………….
กระดูกมีความแข็งแรงขึ้น
๒. ………………………………………………………………………………. ตองการความตื่นเตนทาทาย
๒. ……………………………………………………………………………….
๓. มีความคิดในเชิงนามธรรมมากขึ้น กล่าวคือ ไม่จ�าเป็นต้องเห็นของจริงก็สามารถ ……………………………………………………………………………….
วัยรุนชายมีกลามเนื้อแข็งแรงขึ้น
๓. ……………………………………………………………………………….
และความแปลกใหม
……………………………………………………………………………….
มีความภาคภูมิใจในความเปนเพศชายและ
๓. ……………………………………………………………………………….
ทีจ่ ะจินตนาการเพือ่ สร้างภาพในใจให้เกิดขึน้ ตลอดจนสามารถน�าภาพในใจเหล่านัน้ มาผสมผสาน สวนวัยรุนหญิงจะมีไขมันสะสมบริเวณ
……………………………………………………………………………….
เตานมและสะโพกมากขึ้น
……………………………………………………………………………….
เพศหญิงของตน
……………………………………………………………………………….
มีความวิตกกังวลในความงดงามของรางกาย
๔. ……………………………………………………………………………….
กับกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ได้มากขึ้น ท�าให้เกิดกระบวนการคิดในเชิงเหตุผล โครงสรางบนใบหนาเจริญเติบโตขึ้น เชน
๔. ……………………………………………………………………………….
สันจมูก ขากรรไกร
……………………………………………………………………………….
มีอารมณแปรปรวน หงุดหงิดไดงาย
๕. ……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
มากขึ้น ดานสังคม
มีความสนใจเพศตรงขาม
๑. ……………………………………………………………………………….
ดานสติปญญา
มีความคิดเปนเหตุเปนผล ไมเชื่ออะไรงายๆ
๑. ……………………………………………………………………………….
๕. รู้จักที่จะตัดสินใจในเรื่องยากๆ มีการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการ ……………………………………………………………………………….
รูจ กั การปรับตัวใหเขากับกฎเกณฑกติกาของ
๒. ……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
มีแนวคิดแบบนามธรรมมากขึ้น
๒. ……………………………………………………………………………….
กลุมและสังคม
ตัดสินใจของตนเองมากขึ้น 2
……………………………………………………………………………….
มีการทํางานรวมกับผูอื่น
๓. ……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
มีความสามารถในการคิดวิเคราะหและ
๓. ……………………………………………………………………………….
สังเคราะหสิ่งตางๆ ไดมากขึ้น
……………………………………………………………………………….
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
ขอใดคือการเปลี่ยนแปลงทางดานสติปญญาของวัยรุน
1 ความคิดแบบนามธรรม ความคิดที่เปนขอกลาวอางถึงปรากฏการณตางๆ
1. มีความคิดเปนแบบนามธรรมและมีเหตุผลมากขึ้น
ที่ไมมีรูปรางหรือสรางใหเกิดขึ้นมาเอง โดยหมายความถึงไมสามารถจับตองหรือ
2. มีสติปญญาสูงขึ้นและมีความคิดเปนแบบรูปธรรม
บอกรูปรางได
3. สามารถตัดสินใจในเรื่องงายๆ ได โดยปรึกษาเพื่อนอยูเสมอ
4. สามารถเรียนรูสิ่งตางๆ ไดอยางรวดเร็วหากไดรับการสงเสริมการเรียนรู 2 ทํางานรวมกับผูอื่นได แนวทางในการทํางานรวมกับผูอื่น มีดังนี้
วิเคราะหคําตอบ เมื่อเขาสูวัยรุนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดานสติปญญา • มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ซึ่งจะมีสติปญญาที่สูงขึ้น มีความคิดในเชิงนามธรรม รูจักคิดเปนเหตุเปนผล • มีสวนรวมเทาเทียมกัน
คิดอยางเปนระบบ มีแบบแผน และสามารถตัดสินใจในเรื่องยากๆ ได • มีปฏิสัมพันธไปพรอมๆ กัน
ตอบขอ 1. • มีกระบวนการในการทํางาน
• มีทักษะการฟง-พูด
คูมือครู 11
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุEngage
นความสนใจ สํารวจค
Exploreนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
กระตุน ความสนใจ Engage
ครูกระตุนความสนใจของนักเรียน โดยการให
นักเรียนสํารวจตนเองวา มีลักษณะสวนใดบางที่ ๒. ปจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น
คลายคลึงกับพอแม และญาติพี่นอง จากนั้นครู
ถ้านักเรียนสังเกตเพื่อนๆ ที่อยู่ในช่วงวัยแรกรุ่นเหมือนกับเรา จะเห็นว่าเพื่อนๆ แต่ละคน
เชื่อมโยงเพื่อเขาสูบทเรียน และตั้งคําถามให
มีลกั ษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการไม่เท่ากัน บางคนแรกๆ มีระดับความสูงทีใ่ กล้เคียงกับเรา
นักเรียนแสดงความคิดเห็นไดอยางอิสระ แต่พอผ่านพ้นไปช่วงหนึ่ง บางคนกลับสูงกว่า
• นักเรียนคิดวา การเจริญเติบโตและพัฒนาการ หรือเตีย้ กว่าเรา ซึง่ เป็นผลมาจากปัจจัยต่อไปนี้
ในดานตางๆ นั้น สวนหนึ่งมาจากพอแม ๒.๑ พันธุกรรม
(แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น พันธุกรรม หมายถึง ปรากฏการณ์ที่สิ่ง
ไดอยางอิสระ โดยอาจตอบวา การเจริญเติบโต มีชีวิตถ่ายทอดลักษณะต่างๆ จากรุ่นหนึ่งไปสู่
และพัฒนาการในดานตางๆ มีสวนหนึ่ง อีกรุ่นหนึ่ง หรือเป็นลักษณะทางร่างกายและ
มาจากพอแม เชน พันธุกรรม การเลี้ยงดู พฤติกรรมของบุคคลทีไ่ ด้รบั การถ่ายทอดมาจาก
เปนตน) บรรพบุรุษโดยการสืบสายเลือด เช่น จากพ่อแม่
ไปสู่ลูก จากปูย่า ตายาย ไปสู่ลูกหลาน เป็นต้น
สํารวจคนหา Explore การถ่ายทอดทางพันธุกรรมจะสืบทอดจากบรรพบุรุษสู่
ลักษณะใดทีส่ ามารถถ่ายทอดจากบรรพบุรษุ ไปสู่
ลูกหลาน ท�าให้บุคคลในครอบครัวเดียวกัน มีรูปร่าง
ใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 3 กลุม จากนั้น หน้าตา ผิวพรรณ คล้ายคลึงกัน ลูกหลานได้ จะเรียกลักษณะนัน้ ว่าเป็นพันธุกรรม
สงตัวแทนออกมาจับสลากเลือกหัวขอในการศึกษา ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจะมีอยู่ในเซลล์สืบพันธุ์ของพ่อแม่ เมื่อเซลล์สืบพันธุ์ของพ่อแม่
เรือ่ ง ปจจัยทีม่ ผี ลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการ คือ ตัวอสุจิกับไข่มาผสมกันเป็นเซลล์เดียวแล้วก็จะเจริญเป็นชีวิตใหม่
ของวัยรุน โดยมีประเด็น ดังตอไปนี้ จะเห็นได้ว่า ลูกที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน มักจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกัน ลูกบางคน
• พันธุกรรม หน้าเหมือนพ่อ บางคนหน้าเหมือนแม่ และอาจมีบางคนที่หน้าไม่เหมือนพ่อและแม่ แต่กลับไป
• สิ่งแวดลอม คล้ายญาติพี่น้อง หรือบรรพบุรุษ
• การอบรมเลี้ยงดู พันธุกรรมท�าให้คนเรามีลกั ษณะทีแ่ ตกต่างกัน เช่น รูปร่าง หน้าตา สีของเส้นผม และลักษณะ
ของเส้นผม สีของนัยน์ตา สีของผิวหนัง ความสูง ความเตี้ย กลุ่มเลือด โรคบางอย่าง ความพิการ
อธิบายความรู Explain บางอย่างของร่างกาย เชาวน์ปัญญา เป็นต้น เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ลักษณะต่างๆ ของร่างกายซึ่งได้รับ
การถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากพ่อแม่และบรรพบุรุษจะปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น เช่น ความสูง
ใหนักเรียนกลุมที่จับสลากไดประเด็นเรื่อง ความเตี้ย สีของผิวหนัง เป็นต้น
พันธุกรรม ออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน จากนั้นครู ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ปรากฏเด่นชัด ได้แก่
เสนอแนะเพิ่มเติมเเละตั้งคําถามเพื่อนําไปสูขอสรุป • ลักษณะทางกาย เช่น รูปร่าง สีผวิ สีตา ความถนัดของมือ เป็นต้น
ที่ถูกตองรวมกัน • ลักษณะทางจิตใจและสติปญ ั ญา เช่น อารมณ์ สติปญั ญา เป็นต้น1
• ยกตัวอยางลักษณะที่ถายทอดทางพันธุกรรม • โรคทางกายบางอย่ าง เช่น เบาหวาน ตาบอดสี เลือดไหลไม่หยุด เป็นต้น
ที่เห็นไดอยางชัดเจนเมื่อเขาสูวัยรุน • โรคทางจิตบางอย่าง เช่น โรคจิตเภท เป็นต้น
(แนวตอบ เชน รูปราง ความสูง ความเตี้ย • ชนิดของหมูเ่ ลือด ได้แก่ หมูเ่ ลือด A B O และ AB
สีผิว อารมณ สติปญญา โรคทางพันธุกรรม
เปนตน) ๑๒
ขอสอบเนน การคิด
เกร็ดแนะครู แนว NT O-NE T
ขอใดกลาวถึงปจจัยที่มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของ
ครูอาจแนะนํานักเรียนกลุมที่นําเสนอเรื่องพันธุกรรมในการเตรียมสื่อประกอบ
วัยรุนไดถูกตองที่สุด
การนําเสนอวา นักเรียนอาจนํารูปถายของบิดามารดา และรูปถายของตนเองมา
1. เปนผลกระทบที่เกิดจากการอบรมเลี้ยงดู
เปรียบเทียบกันใหเห็นถึงความเหมือนหรือความแตกตางทางพันธุกรรมซึ่งเปนปจจัย
2. เปนผลกระทบที่เกิดมาจากภาวะดานสุขภาพ
ที่มีผลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน
3. เปนปจจัยที่เกิดจากสภาพทางธรรมชาติของคนเรา
4. เปนปจจัยที่สงผลกระทบมาจากอิทธิพลของสิ่งแวดลอม
นักเรียนควรรู วิเคราะหคําตอบ เปนทีท่ ราบกันดีอยูแ ลววาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ของวัยรุน แตละคนนัน้ มีความแตกตางกันออกไป ทัง้ นีข้ นึ้ อยูก บั ปจจัยสําคัญ
1 เลือดไหลไมหยุด เรียกอีกชื่อหนึ่งวา โรคฮีโมฟเลีย (Hemophilia) เปนอาการ ตางๆ เชน พันธุกรรม สิ่งแวดลอม การเลี้ยงดู เปนตน แตแทที่จริงแลว
ของโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุซึ่งอาจจะมีพอหรือแม ปจจัยทีม่ อี ทิ ธิพลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน นัน้ เปนปจจัย
ปวยเปนโรคนี้อยู ลักษณะอาการของโรค คือ เมื่อเกิดแผลและมีเลือดออก เลือดมัก ที่เกิดจากสภาพทางธรรมชาติของคนเรา ซึ่งวัยรุนควรยอมรับและปรับตัว
จะหยุดไหลไดยาก ดังนั้น ผูปวยจะตองระมัดระวังไมใหเกิดบาดแผล เพราะอาจ ใหไดวาทุกสิ่งทุกอยางที่เกิดขึ้นนั้นลวนเปนธรรมชาติ ตอบขอ 3.
เปนอันตรายจนถึงแกชีวิตได
12 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนกลุมที่จับสลากไดประเด็นเรื่อง
ลักษณะทางร่างกายและจิตใจที่ปรากฏในรุ่นลูกหลาน จะต้องได้รับการถ่ายทอดมาจาก สิ่งแวดลอม ออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน จากนั้น
รุน่ บรรพบุรษุ เท่านัน้ จึงจะถือว่าเป็นลักษณะทีถ่ า่ ยทอดทางพันธุกรรม ส่วนความผิดปกติบางอย่าง ครูเสนอแนะเพิ่มเติมและตั้งคําถามเพื่อนําไปสู
ที่เกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิ เช่น ตาบอด โรคลิ้นหัวใจรั่ว โรคหูหนวกมาแต่ก�าเนิด อวัยวะ ขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
บางส่วนพิการ เป็นต้น ลักษณะผิดปกติเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากระหว่างที่ทารกเจริญเติบโต • การอยูในสิ่งแวดลอมที่ไมเหมาะสม พอแม
1 ใชสารเสพติด เลนการพนัน และทะเลาะ
อยู่ในครรภ์ มารดาอาจเป็นโรคร้ายแรงหรือรับประทานยาบางชนิดซึ่งเป็นอันตรายต่อทารก
ท�าให้ทารกมีลักษณะผิดปกติ ซึ่งจะไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติจากสาเหตุทางพันธุกรรม วิวาทกันสงผลตอวัยรุนอยางไร
(แนวตอบ อาจทําใหวัยรุนมีจิตใจที่แข็ง
นอกจากนี้ ก็ยังมีข้อก�าหนดอีกประการหนึ่ง คือ พันธุกรรมเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่ก�าเนิด
กระดาง มีพฤติกรรมกาวราว และขาด
จึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่เหมือนกับสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมหรือการปฏิบัติ ซึ่งคนเราสามารถ
ความอบอุน)
ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้เสมอ
• สถานเริงรมย ถือเปนสิ่งแวดลอมที่มีผลตอ
๒.๒ สิ่งแวดล้อม การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนใน
สิ่งแวดล้อมต่างๆ จะเริ่มมีอิทธิพลต่อตัวเด็กนับตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดา จนกระทั่ง ปจจุบันหรือไม อยางไร
คลอดออกมาเป็นทารก เจริญเติบโตและพัฒนาผ่านวัยต่างๆ สิ่งแวดล้อมเป็นองค์ประกอบที่มี (แนวตอบ สถานเริงรมยมีผลตอการเจริญ-
อิทธิพลต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพันธุกรรม และในบางกรณีกลับมี เติบโตและพัฒนาการของวัยรุน เพราะ
ความส�าคัญยิง่ กว่าองค์ประกอบอืน่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้าสิง่ แวดล้อมนัน้ ๆ เป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ ในสถานเริงรมยนั้นจะมีสิ่งยั่วยุตางๆ ที่
ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตัวเด็ก อาจทําใหวัยรุนหลงผิด เชน เครื่องดื่มที่มี
สภาพสังคมปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่เป็นอันตรายต่อวัยรุ่น เช่น สถานเริงรมย์ แอลกอฮอล สารเสพติดตางๆ เปนตน ซึ่ง
ต่างๆ ที่ยอมให้วัยรุ่นอายุต�่ากว่า ๒๐ ปี เข้าไปใช้บริการได้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ สิ่งเหลานี้จะมีผลกระทบตอสุขภาพ ทําให
แอลกอฮอล์ การเสพสารเสพติด ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ร่างกายเสื่อมโทรม รางกายเสื่อมโทรม หรือขาดสติจนกอเหตุ
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร การทะเลาะวิวาท เป็นต้น นอกจากนี้ วัยรุ่นบางคนที่อยู่ใน อาชญากรรมตางๆ ได)
สิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ใกล้สถานเริงรมย์
พ่อแม่เสพสารเสพติด เล่นการพนันหรือทะเลาะ-
วิวาทกัน เมือ่ วัยรุน่ ได้พบเห็นเป็นประจ�า จะท�าให้
มีจติ ใจแข็งกระด้าง ก้าวร้าว พูดจาหยาบคาย ว้าเหว่
ขาดความอบอุ่น
สิ่งแวดล้อมอีกอย่างหนึ่งที่มีบทบาทต่อ
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่นก็คือ
อาหาร เนื่องจากวัยรุ่นมีการเจริญเติบโตอย่าง
รวดเร็ว และร่างกายต้องใช้พลังงานมาก จึงต้อง หากวัยรุ่นอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม จะท�าให้การ
เพิ่มอาหารให้มากขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ เจริญเติบโตและพัฒนาการเป็นไปอย่างสมบูรณ์
๑๓
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
เพราะเหตุใดการตรวจ DNA จึงทําใหทราบไดวาใครเปนพอแมลูกกัน
1 รับประทานยาบางชนิด มารดาที่ตั้งครรภไมควรรับประทานยาบางชนิด เชน
แนวตอบ เนื่องจากดีเอ็นเอซึ่งเปนสารพันธุกรรมของลูก ครึ่งหนึ่งจะมา • ยาแกไอ ยานอนหลับ ซึ่งอาจมีผลทําใหทารกปากแหวง เพดานโหว และมี
จากพอ และอีกครึ่งหนึ่งมาจากแม ดังนั้นในการตรวจ DNA จึงทําให กลามเนื้อที่ออนแรง
สามารถทราบไดวาเปนพอแมลูกกันหรือไม • ยากันชัก Hydantoin ซึ่งอาจมีผลทําใหทารกมีหนาตาที่ผิดปกติ
ปญญาออน และตัวเล็กเกินกวามาตรฐาน
• ยาฆาเชื้อ Tetracycline และ Metronidazole ยารักษาสิว Roacutane
บูรณาการเชื่อมสาระ ซึ่งอาจมีผลทําใหทารกพิการได
ดังนั้นกอนการรับประทานยา มารดาควรปรึกษาแพทยเพื่อปองกันอันตราย
สามารถนําเนื้อหาเรื่องพันธุกรรมไปบูรณาการเชื่อมโยงกับกลุมสาระ ที่อาจเกิดขึ้นทั้งตอตัวมารดา และทารกในครรภ
การเรียนรูวิทยาศาสตร วิชาวิทยาศาสตร เรื่องพันธุกรรม เพื่อใหนักเรียน
ไดเกิดความรูความเขาใจในกระบวนการของพันธุกรรมมากยิ่งขึ้น
คูมือครู 13
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนกลุมที่จับสลากไดประเด็นเรื่อง
สิ่งแวดลอม ออกมานําเสนอตอหนาชั้นเรียน จะเห็นได้วา่ วัยรุน่ จะรับประทานอาหารจุ นอนเก่ง วัยรุน่ หลายคนนอนตืน่ สาย บางครัง้ พ่อแม่
จากนั้นครูเสนอแนะเพิ่มเติมและตั้งคําถามเพื่อนํา ต้องปลุกหลายครั้งกว่าจะยอมตื่น จึงมักเรียกวัยนี้อีกอย่างหนึ่งว่า “วัยก�ำลังกินก�ำลังนอน”
ไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน ขณะเดียวกันวัยรุ่นหญิงที่ก�าลังเป็นสาวก็กลัวอ้วนเกินไป จึงมักวิตกกังวลเกี่ยวกับความอ้วน
• อาหารมีผลตอการเจริญเติบโต และ ถ้ามีปัญหาเช่นนี้ ควรรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ให้มากขึ้น รับประทานข้าว
พัฒนาการของวัยรุนอยางไร แป้ง เนื้อสัตว์ ไขมันให้น้อยลง และต้องหมั่นออกก�าลังกายควบคู่กันไปด้วย วัยรุ่นบางคน
(แนวตอบ เนื่องจากวัยรุนเปนวัยที่มีการเจริญ- แก้ปัญหานี้อย่างผิดๆ เช่น งดรับประทานอาหารมื้อเช้า ลดปริมาณอาหารลงอย่างมากต่อมื้อ
เติบโตอยางรวดเร็ว และรางกายตองใช กินยาลดความอ้วน ไปดูดไขมัน เป็นต้น ซึ่งการกระท�าเช่นนี้ล้วนมีผลเสียต่อสุขภาพตามมา
พลังงานมากสําหรับใชในการทํากิจกรรม จึงไม่ควรกระท�า
ตางๆ ในแตละวัน ดังนั้น อาหารจึงมีผลตอ วัยรุ่นบางคนอาจขาดสารอาหารมาตั้งแต่เมือ่ ตนเองยังอยูใ่ นครรภ์ หรืออาจขาดสารอาหาร
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนเปน ในวัยเด็ก ก็จะส่งผลให้เจริญเติบโตช้า เมื่อเป็นวัยรุ่นก็จะมีรูปร่างเล็ก เตี้ย ผอม ในทางตรงข้าม
อยางมาก ซึ่งวัยรุนจะตองไดรับอาหารที่มี ถ้าวัยรุน่ ได้รบั อาหารทีด่ มี คี ณ
ุ ภาพก็จะเจริญเติบโตเร็ว และถ้ายิง่ ดืม่ นมมากๆ ด้วยแล้ว กระดูกก็จะ
ปริมาณและคุณภาพที่เพียงพอและเหมาะสม เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ท�าให้มีรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าอิทธิพลของอาหารการกินที่ดีท�าให้
กับวัย) วัยรุน่ ในปัจจุบนั โดยภาพรวมจะตัวโตสูงใหญ่กว่าวัยรุน่ ในอดีต ในทางกลับกันก็มวี ยั รุน่ อ้วนมากขึน้
• นักเรียนคิดวา ยังมีปจจัยอื่นๆ อีกหรือไม ทั้งนี้เพราะรับประทานอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป ชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟูด
ที่นักเรียนคิดวา มีผลตอการเจริญเติบโตและ รับประทานจุบจิบ ออกก�าลังกายน้อยจึงท�าให้อ้วนได้ง่าย
พัฒนาการของวัยรุน
(แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน เกร็ดน่ารู้
โดยอาจตอบวา มี เชน การออกกําลังกาย โรคบูลิเมีย (Bulimia Nervosa)
การนอนหลับพักผอนที่เพียงพอ การอยูในที่ เด็กผู้หญิงจ�านวนมาก เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจะเริ่มมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของตนเอง กลัวว่า
ที่มีอากาศบริสุทธิ์ เปนตน) จะอ้วนเกินไปดูไม่สวย หลายคนจึงพยายามควบคุมไม่ให้น้�าหนักตัวเพิ่มขึ้น ความวิตกกังวลเช่นนี้ถ้าเพียง
เล็กน้อยก็ถือเป็นเรื่องปกติส�าหรับวัยรุ่นทั่วไป แต่ถ้ามีความวิตกกังวลมาก อาจน�าไปสู่การกลัวความอ้วนจน
เกิดอาการของโรคบูลิเมียได้
ผู้ป่วยโรคบูลิเมียมักมีอาการซึมเศร้า เครียด หรือรู้สึกกังวลกับน้�าหนักตัวหรือรูปร่างของตนเอง
จนเกินขอบเขต ส่วนใหญ่จะมีรปู ร่างผอมมาก แต่ยงั คิดว่าตัวเองอ้วนหรือมีไขมันส่วนเกินมากอยู่ จนทนตัวเอง
พยายามก�าจัดอาหาร
ไม่ได้ ผูป้ ว่ ยจะรับประทานอาหารครัง้ ละมากๆ เมื1อ่ รับประทานเข้าไปแล้วก็จะรูส้ กึ ผิด จึงพยายามก
ทีร่ บั ประทานเข้าไปออกมา เช่น ล้วงคอให้อาเจียน ใช้ยาระบาย นอกจากนัน้ ยังอาจมีการอดอาหารในมือ้ ถัดไป
และมีการออกก�าลังกายอย่างหักโหมด้วย เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากร่างกายจะขาด
สารอาหาร น้�า และเกลือแร่อย่างรุนแรง
การรักษาโรคบูลิเมีย สามารถท�าได้ด้วยการใช้ยาระงับอาการซึมเศร้า และการบ�าบัดทางจิตวิทยา
พยายามให้ผู้ป่วยปรับมุมมองของตนเองว่า ความสวยงามอยู่ที่การมีรูปร่างที่ได้สัดส่วนเหมาะสม ไม่ผอมแห้ง
จนเกินไป และให้มีความรู้สึกเชื่อมั่นในร่างกายของตน
ทีม่ า : http://www.sl.ac.th/html_edu/cgi-bin/sl/main_php/print_informed.php?id_count_inform=121
๑๔
ขอสอบเนน การคิด
เกร็ดแนะครู แนว NT O-NE T
ปจจัยที่มีผลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษยมากที่สุด
ครูควรอธิบายถึงความสําคัญของอาหาร และพลังงานทีว่ ยั รุน ควรไดรบั ในแตละวัน
คือปจจัยใด
ซึ่งถือเปนปจจัยสําคัญที่มีผลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน โดยครู
1. อาหาร
สามารถคนควาสื่อการสอนเพิ่มเติมไดที่ http://www.nutrition.anamai.moph.
2. พันธุกรรม
go.th/
3. สภาพแวดลอมทางสังคม
4. การอบรมเลี้ยงดูของผูปกครอง
นักเรียนควรรู วิเคราะหคําตอบ อาหารนับเปนสิ่งแวดลอมหนึ่งที่มีผลตอการเจริญเติบโต
มากทีส่ ดุ เพราะหากไดรบั อาหารไมเพียงพอหรือไมมปี ระโยชน รางกายก็จะ
1 ลวงคอใหอาเจียน การลวงคอใหอาเจียนบอยๆ จะทําใหระบบทางเดินอาหาร
มีการเจริญเติบโตชาหรือผิดปกติไป ตอบขอ 1.
ผิดปกติ เชน หลอดอาหารฉีกขาด เยื่อบุลําคอฉีก บางรายอาจฟนผุทั่วทั้งปาก
เนื่องจากกรดที่ไหลยอนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารจะทําใหอวัยวะที่เกี่ยวของกับ
ระบบทางเดินอาหารเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้อาจไตวายเฉียบพลันได เพราะ
สูญเสียนํ้าในรางกายที่อาเจียนออกมามากเกินไป
14 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนกลุมที่จับสลากไดประเด็นเรื่อง
1 การอบรมเลี้ยงดู ออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน
การออกก�าลังกาย นับเป็นปัจจัยส�าคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ของวัยรุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ท�าให้มีสุขภาพดี ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ จากนั้นครูเสนอแนะเพิ่มเติมและตั้งคําถาม
ในวัยรุ่น และยังส่งเสริมการท�างานของระบบต่างๆ ในร่างกายให้ท�างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนําไปสูขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน
ส�าหรับวัยรุ่นที่ขาดการออกก�าลังกาย จะท�าให้เกิดผลเสียต่อรูปร่างทรวดทรง ท�าให้เกิดโรคอ้วน • ครอบครัวลักษณะใดที่สงผลใหวัยรุนมีการ
สมรรถภาพทางกายต�่า ท�าให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย และอาจท�าให้การเจริญเติบโตหรือพัฒนาการ เจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี
ทางกายเป็นไปอย่างช้าๆ (แนวตอบ ครอบครัวที่มีการอบรมเลี้ยงดูที่ดี
มีความรัก ความเอาใจใส และความเขาใจ
๒.๓ การอบรมเลี้ยงดู
ซึ่งกันและกัน)
การอบรมเลี้ยงดูมีความส�าคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น ดังนี้ • หากครอบครัวขาดการอบรมเลี้ยงดูที่ดี
๑) ทัศนคติของพ่อแม่ ครอบครัวที่มีการอบรมเลี้ยงดู2ที่ดี มีความรัก ความเอาใจใส่ จะสงผลใหวัยรุนเกิดปญหาตามมาอยางไร
และความเข้าใจ จะท�าให้เด็กเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความพร้อมทั้งวุฒิภาวะทางด้านร่างกาย (แนวตอบ มีพฤติกรรมที่ไมเหมาะสม เชน
จิตใจ อารมณ์ และสังคม รวมถึงการมีบุคลิกภาพที่ดี ตลอดจนมีพัฒนาการที่สมวัย สามารถใช้ กาวราว ไมสามารถปรับตัวเมื่ออยูกับ
ชีวติ อยูร่ ว่ มกับผูอ้ นื่ ได้อย่างมีความสุข แต่ถา้ หากครอบครัวขาดการอบรมเลีย้ งดูและมีสมั พันธภาพ ผูอื่นได ขาดทักษะในการดําเนินชีวิต
ที่ไม่ดีแล้ว ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การมั่วสุมของวัยรุ่น การเสพสารเสพติด กอเหตุอาชญากรรมตางๆ เปนตน)
หรือการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เป็นต้น
3
ส�าหรับเด็กทีพ่ อ่ แม่รกั และตามใจเกินไป จะไม่รจู้ กั โต เวลาอยากได้อะไรก็ตอ้ งเอาให้ได้
ดั่งใจ จึงมีความรู้สึกว่า ตนต้องได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร เมื่อ
มาอยู่โรงเรียนจึงเป็นเด็กที่พึ่งตนเองไม่ได้ เข้ากับกลุ่มเพื่อนได้ยาก
ความรักและความอบอุ่นในครอบครัว จะท�าให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพและลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ
๑๕
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
ถาตองการใหวัยรุนเจริญเติบโตขึ้นมามีนิสัยที่ไมกาวราว มีกิริยามารยาท
ที่ดี ควรเลี้ยงดูแบบใด 1 การออกกําลังกาย วัยรุนควรออกกําลังกายใหมีความหลากหลาย เพื่อ
พัฒนากลามเนื้อสวนตางๆ ของรางกายใหครบทุกสวน โดยเนนสมรรถภาพของ
แนวตอบ การอบรมเลี้ยงดูเปนปจจัยหนึ่งที่มีความสําคัญตอการเจริญเติบโต รางกาย และพัฒนาทักษะทางกลไกใหมีการทํางานที่สัมพันธกัน เชน วิ่ง
และพัฒนาการของวัยรุนเปนอยางยิ่ง เนื่องจากไดรับการซึมซับสิ่งตางๆ ที่ได ถีบจักรยาน วายนํ้า เลนบาสเกตบอล วอลเลยบอล แบดมินตัน เปนตน
จากการอบรมเลี้ยงดูจากพอแมมาผสมผสานเขากับความคิดและความเขาใจ 2 การอบรมเลี้ยงดู หลักการในการเลี้ยงดูเด็กอยางมีคุณภาพ มีดังนี้
ของตนเอง ซึ่งการอยูในครอบครัวที่มีการอบรมเลี้ยงดูที่ดี มีความรัก • ใหความรักความอบอุนอยางเหมาะสม • ไมตามใจหรือยอมมากเกินไป
ความเอาใจใส และความเขาใจ จะทําใหวัยรุนเจริญเติบโตเปนผูใหญที่มี • ไมปกปองจนเด็กทําอะไรไมเปน • ไมปรนเปรอดวยวัตถุสิ่งของ
ความพรอมทั้งวุฒิภาวะทางดานรางกาย จิตใจ อารมณ และสังคม รวมถึง • พูดจาสื่อสารอยางชัดเจน • ไมเพิกเฉยทอดทิ้งใหอยูลําพัง
การมีบุคลิกภาพที่ดี ตลอดจนมีพัฒนาการที่สมวัย สามารถใชชีวิตอยูรวมกับ
ผูอื่นไดอยางมีความสุข 3 เด็กที่พอแมรักและตามใจเกินไป ภาษาอังกฤษใชคําวา Spoil หมายถึง
การเลี้ยงลูกแบบตามใจจนกลายเปนเด็กเสียนิสัย เชน กาวราว เอาแตใจตนเอง
เปนตน
คูมือครู 15
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบExplain
ายความรู ขยายความเข
Expand าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
อธิบายความรู Explain
ใหนักเรียนกลุมที่จับสลากไดประเด็นเรื่อง การ
อบรมเลีย้ งดู ออกมานําเสนอตอหนาชัน้ เรียน จากนัน้ ๒) ลักษณะการอบรมเลี้ยงดู การอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่เป็นการอบรมเลี้ยงดู
ครูเสนอแนะเพิ่มเติมและตั้งคําถามเพื่อนําไปสู ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาตามวุฒิภาวะของเด็ก เนื่องจากพ่อแม่จะอนุญาตให้เด็กมีอิสระตาม
ขอสรุปที่ถูกตองรวมกัน วุฒิภาวะของเด็ก แต่ในขณะเดียวกันพ่อแม่จะก�าหนดขอบเขตพฤติกรรมของเด็กและก�าหนดให้
• การสรางความสัมพันธภายในครอบครัว เด็กเชือ่ ฟังและปฏิบตั ติ ามแนวทางทีพ่ อ่ แม่กา� หนดไว้ จึงส่งผลให้เด็กสามารถเจริญเติบโตเป็นผูใ้ หญ่
เพื่อใหวัยรุนมีพัฒนาการทางดานจิตใจและ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการปรับตัว และมีพฤติกรรมทางสังคมที่เหมาะสม
อารมณที่ดีนั้น สมาชิกทุกคนในครอบครัว ๓) ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ตลอดจน
ควรปฏิบัติตนตอกันอยางไร 1
สัมพันธภาพภายในบ้าน ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ภายในบ้านนั้นสามารถท�าได้หลายวิธี เช่น
(แนวตอบ สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะตองมี สมาชิกในครอบครัวจะต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เคารพในสิทธิและหน้าที่ของกันและกัน
ความเขาใจ เอาใจใสซึ่งกันและกัน เคารพใน ยอมรับความแตกต่าง รวมทัง้ หลีกเลีย่ งความขัดแย้ง เป็นต้น ดังนัน้ การเข้าใจลูกทีก่ า� ลังเป็นวัยรุน่
สิทธิและหนาที่ของกันและกัน และหลีกเลี่ยง การให้อภัย การให้ก�าลังใจ และการให้ค�าแนะน�าอย่างมีเหตุผล จึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรกระท�า เพื่อ
ความขัดแยง การทะเลาะเบาะแวง) ส่งเสริมพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ของวัยรุ่น
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก โดยพ่อแม่ควรปฏิบัติต่อลูก ดังนี้
ขยายความเขาใจ Expand ๑. ท�าหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ เช่น เลี้ยงดูลูกให้เจริญเติบโต แข็งแรง และให้
การศึกษาตามก�าลังความสามารถของตน
จากที่ไดกลาวมาแลววา มีปจจัยหลายอยางที่มี
๒. สนองความต้องการให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนาของลูก เช่น ถ้าลูกยังเล็กอยู่
ผลตอการเจริญเติบโต และพัฒนาการของวัยรุน
ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเติบโตขึ้นก็ควรให้ลูกได้รับอิสระมากขึ้น
เชน พันธุกรรม สิ่งแวดลอม การอบรมเลี้ยงดู
๓. ให้ความรัก ความเมตตา ด้วยการพูดจาสุภาพอ่อนโยน ไม่ใช้วาจาหยาบคาย
เปนตน ดังนั้น ครูจึงใหนักเรียนเขียนสรุปถึงปจจัย
๔. เมื่อลูกท�าผิดพลาดควรใช้เหตุผลในการลงโทษ และควรให้อภัยหากว่าความ
ที่มีผลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน
ผิดพลาดนั้นไม่ร้ายแรง
ในรูปแบบของผังความคิด แลวนําสงครูผูสอน
๕. ให้ความยุติธรรมในการเลี้ยงดูลูก ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ว่าในเรื่องเพศ ผิว หรือ
ล�าดับการเกิด
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ โดยลูกควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ ดังนี้
๑. แสดงความเคารพเชื่อฟัง ซึ่งถึงแม้บ างครั้งท่านจะห้ามไม่ให้เราท� าในสิ่งที่
เราต้องการก็ตาม
๒. ตัง้ ใจศึกษาเล่าเรียนเพือ่ ให้ความปรารถนาของท่านสัมฤทธิผล เพราะพ่อแม่ทกุ คน
อยากให้ลูกมีการศึกษาขั้นสูงสุด
๓. ไม่สรุ ยุ่ สุรา่ ย รูจ้ กั ประหยัด และเก็บออมทัง้ เงินของพ่อแม่และเงินทีห่ ามาได้ เพือ่ จะ
ได้มีฐานะมั่นคงในอนาคต
๔. ช่วยเหลืองานในบ้านเท่าที่จะท�าได้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
๕. มีความเกรงใจต่อพ่อแม่ และรักษาความดี เกียรติยศชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
๑6
กิจกรรมสรางเสริม
นักเรียนควรรู
1 สัมพันธภาพ ความสําคัญของการสรางสัมพันธภาพที่ดี คือ ใหนักเรียนสํารวจตนเองวามีการเปลี่ยนแปลงในดานใดบาง และ
• เกิดความรูสึกที่ดีตอตนเองและผูอื่น เพราะรูสึกวาตนเองมีคุณคา ปจจัยใดที่ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยสรุปเปนรายงานสงครูผูสอน
• รูสึกอบอุน มีชีวิตชีวา ไมเดียวดาย
• เมื่อเกิดปญหาหรือเรื่องทุกขใจ ก็มีคนใหคําปรึกษา หรือใหความชวยเหลือ
กิจกรรมทาทาย
มุม IT
ใหนักเรียนจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของ
สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันครอบครัว ไดจาก เว็บไซตสํานักกิจการ
วัยรุน แลวนําไปแสดงที่บริเวณโรงอาหารของโรงเรียนเปนเวลา 1 เดือน
สตรีและสถาบันครอบครัว จากบทความเรื่องเวลากับครอบครัว : คุณคาการใชเวลา
รวมกับครอบครัว
16 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเข
Expand าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
ขยายความเขาใจ Expand
ใหนักเรียนศึกษาจากเสริมสาระเรื่อง กลิ่นตัว
เสริมสาระ เปนเรื่องธรรมชาติ จากนั้นใหนักเรียนรวมกัน
วิเคราะหวา กลิ่นตัวนั้นมาจากสาเหตุอะไร และมี
กลิ่นตัวเปนเรื่องธรรมชาติ วิธีกําจัดกลิ่นตัวนั้นอยางไรบาง โดยครูเสนอแนะ
กลิ่นตัว (Body Odor) เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในวัยรุน่ ทุกคน
เพิ่มเติม และตั้งคําถามเพื่อขยายความเขาใจของ
เกิดจากต่อมเหงื่อ อโพรคริน (Aprocrine) ซึ่งจะมีเฉพาะบางบริเวณ นักเรียน
ของร่างกาย เช่น ศีรษะ รักแร้ ทีล่ บั กลิน่ ตัวคนเราจะแรงขึน้ เมือ่ เข้าสูว่ ยั รุน่ • เพราะเหตุใดกลิ่นตัวคนเราจะแรงขึ้น
เนื่ อ งจากอิ ท ธิ พ ลของฮอร์ โ มนเพศไปกระตุ้ น ให้ ต่ อ มอโพรคริ น เมื่อเขาสูวัยรุน
เริ่มท�างาน โปรตีนกับไขมันรวมทั้งเหงื่อจะถูกขับออกมาตามรูขุมขน
เกิดความชื้นบนผิวหนัง ส่งผลให้เกิดการเปอยยุ่ยและลอกออกของ (แนวตอบ เพราะเปนผลมาจากอิทธิพลของ
ผิวหนังก�าพร้า จากนั้นเชื้อแบคทีเรียก็จะไปย่อยสลายเซลล์ผิวหนัง ฮอรโมนเพศที่ไปกระตุนตอมอโพรคริน
ที่ตายแล้วพร้อมกับขับกรดออกมาท�าให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น ใหเริ่มทํางาน)
กลิน่ ตัวนอกจากจะมีสาเหตุจากปัจจัยทางธรรมชาติของร่างกายแล้ว • วิธีการกําจัดกลิ่นตัว สามารถทําไดดวยวิธี
ยังมีสาเหตุจากปัจจัยอื่นด้วย เช่น สภาพอากาศในฤดูร้อน เชื้อจุลินทรีย์ มะนาว มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นกายได้
บนผิวหนังจะเพิ่มจ�านวนอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าที่หนาหรือผ้าใยสังเคราะห์ โดยน�ามะนาวมาผ่าซีกแล้วทาบริเวณรักแร้
ใดบาง
จะท�าให้เหงื่อระบายออกได้ช้า ผิวหนังจึงมีความอับชื้นสูง นอกจากนี้ ขณะอาบน�้า แล้วล้างออกด้วยน�้าสะอาด (แนวตอบ ไดแก อาบนํ้าทําความสะอาด
อาหารบางชนิด เช่น ไขมันจากสัตว์ เนื้อสัตว์ สะตอ กระเทียม หอม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ตลอดจน
1 รางกายอยางนอยวันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยง
ยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน อาทิ การใช้ยารักษาสิวที่มีสารเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง และใช
(Benzoyl Peroxide) ผสมอยู่ เป็นต้น
การแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวของวัยรุ่น อาจปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้
สมุนไพรหรือลูกกลิ้งที่มีสารยับยั้งการหลั่ง
■ อาบน้�าท�าความสะอาดร่างกายบ่อยครั้ง โดยอาบให้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุมของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณ เหงื่อทาบริเวณหลังอาบนํ้า)
ที่อับชื้นหรือข้อพับต่างๆ
ใช้สมุนไพร เช่น พิมเสน ใบพลู ใบฝรั่ง เป็นต้น น�ามาขยี้หรือโขลกให้ละเอียด แล้วทารักแร้ หรือจะใช้
ลูกกลิ้ง2ที่มีสารยับยั้งการหลั่งเหงื่อทาบริเวณรักแร้หลังอาบน้�า
■
■ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือยาที่ท�าให้เกิดกลิ่นตัว รวมทั้งพยายามอย่าให้ท้องผูก
หากแก้ไขหลายวิ ธี แล้ ว คิ ด ว่ า ยั ง ไม่ ไ ด้ ผล อาจไปขอค� า แนะน�า หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ทั้ง นี้ยัง ไม่มียาที่
รับประทานแล้วสามารถระงับกลิ่นตัวได้
ที่มา : เว็บไซต์ เกร็ดความรู้.com
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนนั้น จะเปนแบบฉบับเฉพาะของตนเองซึ่งจะ
แตกตางกันออกไปในแตละบุคคล โดยการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญคือการเปลี่ยนแปลงดานรางกาย
จิตใจ อารมณ สังคม และสติปญญา ซึ่งปจจัยสําคัญที่กอใหเกิดการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ตางๆ มาจากสาเหตุหลายประการ ที่สําคัญ คือ พันธุกรรม ซึ่งเปนปจจัยภายในที่มีความสําคัญ
ตอลักษณะทางกาย สิ่งแวดลอม และการอบรมเลี้ยงดู อันเปนปจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลตอการ
เจริญเติบโตในทุกๆ ดาน
๑7
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T นักเรียนควรรู
ปญหาของการเกิดสิวและกลิ่นตัว มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในขอใด
1 เบนโซอิล เปอรออกไซด เปนยาที่ชวยละลายเซลลที่อุดตันตอมไขมัน และ
1. การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอรโมน
ชวยฆาเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium Acnes (P. Acnes) ซึ่งเปนสาเหตุของ
2. การเปลี่ยนแปลงของโครงสรางใบหนา
การเกิดสิว ยานี้อาจทําใหผิวแหงและระคายเคืองได จึงควรเริ่มตนใชที่ระดับ
3. การเปลี่ยนแปลงของไขมันและกลามเนื้อ
ความเขมขนตํ่ากอน โดยทาวันละ 2 ครั้ง เชาและกอนนอน นาน 5-7 วัน ถาไมมี
4. การเปลี่ยนแปลงของรางกายและความสูง
อาการแพยา ก็สามารถเพิ่มระดับความเขมขนของตัวยาได
วิเคราะหคําตอบ การเกิดสิวและกลิ่นตัวมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลง 2 ลูกกลิ้ง นักวิทยาศาสตรทางการแพทยไดทําการวิจัยพบวา การใชลูกกลิ้ง
ของระดับฮอรโมน ซึ่งมักเกิดขึ้นในวัยรุน ตอบขอ 1. ระงับกลิ่นกายติดตอกันเปนระยะเวลานาน บางชนิดอาจทําใหเกิดสารตกคาง
ใตวงแขน ซึ่งเปนสาเหตุที่กอใหเกิดโรคมะเร็งได
คูมือครู 17
ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Evaluate
Engage Explore Explain Expand Evaluate
ตรวจสอบผล Evaluate
1. การทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึกผล
การเรียนรู กิจกรรมที่ 1.2
2. การเขียนสรุปผังความคิด เรื่องปจจัยที่มีผลตอ
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน
ค�าถาม ประจ�าหน่วยการเรียนรู้
กิจกรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้
กิจกรรมที่ ๑ นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม แยกชาย-หญิง โต้วาทีกันในญัตติ “ผู้หญิง
หรือผู้ชายใครโตเร็วกว่ากัน” โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถท�าสื่อหรือค้นคว้าข้อมูล
เพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบในการโต้วาทีได้
กิจกรรมที่ ๒ นักเรียนคัดเลือกเยาวชนทีม่ ผี ลงานดีเด่นต่อสังคม ประเทศชาติ หรือเป็นแบบอย่างทีด่ ี
ที่ควรประพฤติตามมา ๑ คน ให้นักเรียนหาภาพประกอบ สรุปประวัติและผลงานของ
เยาวชนดังกล่าว พร้อมอธิบายถึงเหตุผลทีน่ กั เรียนยึดถือเป็นแบบอย่างเนือ่ งจากอะไร
แล้วน�ามาเสนอหน้าชั้นเรียน
กิจกรรมที่ ๓ นักเรียนในชัน้ ช่วยกันจัดนิทรรศการเกีย่ วกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน่
โดยมีภาพประกอบและข้อมูลทางด้านสุขภาพ น�าไปแสดงเป็นเวลา ๑ เดือน ในบริเวณ
ที่จัดไว้ โดยแต่ละสัปดาห์สามารถปรับเปลี่ยนภาพและข้อมูลให้น่าสนใจได้ตามความ
เหมาะสม
๑8
แนวตอบ คําถามประจําหนวยการเรียนรู
1. ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับวัยรุนนั้นเปนเรื่องที่ดี เนื่องจากวัยรุนเปนวัยที่มีพัฒนาการการเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว
และมีความรูสึกตองการเปนผูใหญ โดยสังเกตไดจากมีความคิดที่เปนผูใหญมากขึ้น ชอบความเปนอิสระ แตสําหรับวัยรุนบางคนอาจจะถือวาการเปลี่ยนแปลงนั้นเปน
เรื่องที่ไมดี ไมสามารถปรับตัวตอการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได
2. ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดยนักเรียนชายอาจตอบวา เชน มีเสียงแหบหาว มีหนวดเครา ไหลกวางขึ้น สวนสูงเพิ่มขึ้น เปนตน สําหรับนักเรียนหญิงอาจตอบวา เชน
มีเสียงเล็กแหลม เริ่มมีหนาอก สะโพกผาย เปนตน (สําหรับในเรื่องของความรูสึกนั้นขึ้นอยูกับความรูสึกที่แทจริงของนักเรียนแตละคน)
3. ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พยายามปรับตัวใหเหมาะสม และไมเกิดความวิตกกังวลหรือความเครียดตางๆ
ที่จะนําไปสูผลกระทบตอสุขภาพของตนเอง
4. ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา ใหเพื่อนพยายามปรับตัวตอการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และใหเขาใจวาเพื่อนๆ ทุกคนที่อยูในวัยเดียวกันจะตองเกิดการ
เปลี่ยนแปลงเหมือนกับตนเอง ดังนั้น อยาวิตกกังวลกับสิ่งตางๆ ที่จะทําใหเราเกิดความกลัว และเกิดความสับสนได
5. ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา เลี้ยงดูดวยความรัก ความเอาใจใสซึ่งกันและกัน สรางความสัมพันธที่ดีกับสมาชิกในครอบครัวดวยการทํากิจกรรมตางๆ
รวมกัน
18 คูมือครู