Professional Documents
Culture Documents
เทคโนโลยีการลดความชื้น
เทคโนโลยีการลดความชื้น
2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
เทคโนโลยีการลดความชื้น
ระวิน สืบค้า1
1
อาจารย์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก โทรศัพท์ 08-0498-8144
อีเมล: rawin2272@hotmail.com
รับเมื่อ 23 พฤษภาคม 2554 ตอบรับเมื่อ 6 มิถุนายน 2555
500
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
Dehydration Technology
Rawin Surbkar1
1
Lecturer, Faculty of Science and Technology, Rajamangala University of Technology Tawan-ok,
Tel. 08-0498-8144, E-mail: rawin2272@hotmail.com
501
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
1. บทนำ�
การลดความชื้น (Dehydration or Drying) เกิดขึ้น
ในศตวรรษที่ 18 เพื่อลดความชื้นผักและผลไม้ให้ทหาร
ใช้เป็นเสบียงในสงครามต่างๆ เช่น สงคราม Crimea ในปี
ค.ศ. 1854-1856 สงคราม Boer ในปี ค.ศ. 1899-1902 และ
สงครามโลกครัง้ ทีห่ นึง่ ในปี ค.ศ. 1914-1918 [1] คำ�จำ�กัดความ
ของการลดความชืน้ คือกระบวนการทีค่ วามร้อนถูกถ่ายเท รูปที่ 1 กลไกในการถ่ายเทความร้อนและความชืน้ ในการ
ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งไปยังวัสดุที่มีความชื้นเพื่อนำ�ความชื้น ลดความชื้นแบบลมร้อน [4]
ออกโดยการระเหย ทำ�ให้ลดการเจริญเติบโตของจุลนิ ทรีย์
และปฏิกริ ยิ าทางเคมีตา่ งๆ โดยใช้ความร้อนแฝงของการ ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ซึ่งไม่เหมาะ
ระเหยเป็นการทำ�ให้วสั ดุแห้ง คำ�ว่า “ความชืน้ (Moisture)” สำ�หรับการลดความชื้นในระดับอุตสาหกรรม มีปัญหา
ประกอบไปด้วยน้�ำ (Water) น้�ำ มันหอมระเหย (Volatile Oils) การปนเปือ้ นจากฝุน่ ละออง แมลง และเชือ้ รา นอกจากนี้
ไขมัน (Greases) แอลกอฮอล์ (Alcohols) ตัวทำ�ละลายอินทรีย์ ยังมีปัญหาฝนตกซึ่งเป็นอุปสรรคสำ�คัญต่อการผลิต จึงมี
(Organic Solvents) และกลิ่นรส (Flavors) ในจำ�นวนนี้ การนำ�เทคโนโลยีการลดความชืน้ มาใช้ โดยอาจมีการรวม
น้ำ�มีปริมาณมากที่สุด วิธกี ารลดความชืน้ ตัง้ แต่หนึง่ วิธขี นึ้ ไปเข้าด้วยกันก็ได้เพือ่
คำ�ว่า “Dried” และ “Dehydrated” ไม่ใช่คำ�ที่มี เพิม่ อัตราการลดความชืน้ ให้เร็วขึน้ เช่น การลดความชืน้
ความหมายเหมือนกัน โดย “Dried” เป็นการนำ�ความชืน้ แบบลมร้อนร่วมกับรังสีอนิ ฟราเรดหรือคลืน่ ไมโครเวฟ [2]
ให้ออกจากวัสดุจำ�นวนหนึง่ จนกระทัง่ ความชืน้ ทีม่ อี ยูใ่ น และอาจมีการลดความชืน้ ทัง้ ภายใต้สภาวะบรรยากาศและ
วัสดุนนั้ มีคา่ สมดุลกับความชืน้ ในบรรยากาศปกติ หรือจน สภาวะสุญญากาศ [3] วิวฒ ั นาการของวิธกี ารลดความชืน้
กระทัง่ ความชืน้ ทีม่ อี ยูใ่ นวัสดุอยูใ่ นระดับทีไ่ ม่เป็นประโยชน์ สามารถแบ่งออกได้ 4 ยุคด้วยกันคือ [1]
ต่อการเจริญเติบโตของเชือ้ รา การทำ�งานของเอ็นไซม์ และ
แมลงต่างๆ โดยทั่วไปความชื้นดังกล่าวจะมีค่าประมาณ 2.1 ยุคที่หนึ่ง (First Generation)
12 ถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในสภาพเปียก (% Wet Basis, การลดความชื้ นในยุ ค นี้ เ ป็ น การใช้ ล มร้ อ นเป่ า
% w.b.) ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ได้แก่ ธัญพืช ลำ�ไย ผ่านผลผลิตทีก่ �ำ ลังอบแห้งเพือ่ เคลือ่ นย้ายความชืน้ ออกไป
ลิน้ จี่ เป็นต้น แต่ค�ำ ว่า “Dehydrated” เป็นการระเหยความชืน้ จากผลผลิตที่ต้องการลดความชื้น เช่น การลดความชื้น
ออกจากผลผลิตจนเหลือความชื้นในผลิตภัณฑ์น้อยมาก แบบตูห้ รือแบบอยูก่ บั ที่ วิธกี ารลดความชืน้ แบบนีส้ ว่ นมาก
หรือแทบไม่มเี ลย (ต่�ำ กว่า 2.5% w.b.) [1] จึงต้องเก็บรักษา เหมาะกับผลผลิตที่เป็นของแข็ง เช่น เมล็ดธัญพืช ผัก
ผลิตภัณฑ์ไว้ในภาชนะปิดสนิท เช่น กาแฟพร้อมดื่ม ชา และผลไม้หั่นชิ้นหรือขึ้นรูปเป็นก้อน เป็นต้น กลไกการ
อบแห้ง ครีมเทียม เป็นต้น ถ่ายเทความร้อนและมวลในระบบการลดความชื้นแบบนี้
บทความเรื่องนี้นำ�เสนอเทคโนโลยีการลดความชื้น แสดงในรูปที่ 1 โดยอากาศร้อนจะถูกใช้เป็นตัวกลางใน
ผลผลิตเกษตรและอาหาร เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปสำ�หรับ การถ่ายเทความร้อนจากอากาศไปยังผลผลิตที่กำ�ลัง
นักวิจัย นักศึกษา หรือผู้ที่สนใจที่จะศึกษาเทคโนโลยี อบแห้ง และรับการถ่ายเทมวลจากผลผลิตนัน้ ๆ โดยการ
ชนิดใดชนิดหนึ่งในเชิงลึกต่อไป ถ่ายเทความร้อนและมวลนีจ้ ะเกิดขึน้ พร้อมๆ กัน ขัน้ แรก
ความชื้นที่ผิวของวัสดุจะระเหยก่อน โดยอุณหภูมิของ
2. เทคโนโลยีการลดความชื้น วัสดุจะยังไม่เพิม่ ขึน้ จนเมือ่ ความชืน้ ทีผ่ วิ ของวัสดุระเหย
เทคโนโลยีการลดความชื้นเริ่มต้นจากวิธีการง่ายๆ หมดแล้วอุณหภูมวิ สั ดุจะค่อยๆ เพิม่ ขึน้ ทำ�ให้น�้ำ ในผลผลิต
502
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
503
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
504
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
505
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
506
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
รูปที่ 11 หลักการการเกิดความร้อนแบบโอห์มมิคและ
วงจรสมมูล
รูปที่ 10 สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความ
ร้อนจากการแผ่รังสี [18] หลักการของโอห์มมิคสามารถอธิบายได้ดงั รูปที่ 11 โดยการ
ปล่อยกระแสไฟฟ้าสลับไหลผ่านตัวอย่างอาหารทีม่ คี ณ ุ สมบัติ
ทางฟิสิกส์ของผลผลิตที่ต้องการลดความชื้น ขนาดและ นำ�ไฟฟ้า (Electrical Conductivity) ซึง่ พลังงานความร้อน
รูปทรงเรขาคณิตของผลิตภัณฑ์ทตี่ อ้ งการ และกลไกหรือ ทีเ่ กิดขึน้ เป็นผลเนือ่ งจากการต้านทานการไหลของกระแส
รูปแบบของการถ่ายเทพลังงานจากคลืน่ แม่เหล็กไปสูผ่ ลผลิต ไฟฟ้าทีไ่ หลผ่านตัวอย่างอาหาร ดังนัน้ ยิง่ ตัวอย่างอาหารมี
ที่กำ�ลังอบแห้ง คุณสมบัตใิ นการนำ�ไฟฟ้าได้ดเี ท่าใด (มีปริมาณความชืน้ สูง)
หลักการโดยรวมของการลดความชืน้ ด้วยคลืน่ แม่เหล็ก ก็สามารถเกิดความร้อนด้วยวิธโี อห์มมิคได้ดเี ท่านัน้ การศึกษา
ไฟฟ้าเริม่ จากจากการส่งคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุน้ โมเลกุล การเกิดความร้อนด้วยวิธโี อห์มมิคจำ�เป็นต้องเข้าใจคุณสมบัติ
ในตัวอาหาร เพือ่ ให้เกิดการเหนีย่ วนำ�และเปลีย่ นเป็นพลังงาน การนำ�ไฟฟ้าของอาหาร ซึง่ เป็นปัจจัยทีส่ �ำ คัญในการกำ�หนด
ความร้อน ปัจจุบนั วิธกี ารให้ความร้อนด้วยคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า ค่าความร้อนด้วยวิธีโอห์มมิค และเป็นคุณสมบัติเฉพาะ
ในกระบวนการทีใ่ ห้ความร้อนทีอ่ ณ ุ หภูมไิ ม่เกิน 45 องศา ของอาหารอีกด้วย
เซลเซียส ได้แก่ การใช้คลื่นเสียง (Ultrasonic Wave) 2.4.2 การให้ความร้อนด้วยสัญญาณวิทยุ (Radio
ส่วนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบวนการที่ให้ความร้อนที่ Frequency Heating)
อุณหภูมเิ กิน 45 องศาเซลเซียส แบ่งได้เป็น 4 ระดับความถี่ คลื่นสัญญาณวิทยุ (Radio Frequency, RF) เป็น
ได้แก่ การให้ความร้อนแบบโอห์มมิค (Ohmic Heating) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นประมาณ 10–11.2
การให้ความร้อนด้วยคลืน่ วิทยุ (Radio Frequency Heating) เมตร ช่วงความถี่ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารมี 3
การลดความชืน้ ด้วยคลืน่ ไมโครเวฟ (Microwave Drying) ช่วงคือ 13.65, 27.12 และ 40.68 MHz สองแบบหลังใช้
และการลดความชืน้ ด้วยรังสีอนิ ฟราเรด (Infrared Drying) ในวงการอาหารสูงถึงร้อยละ 95 เพราะช่วยแก้ไขปัญหา
2.4.1 การให้ความร้อนด้วยวิธีโอห์มมิค (Ohmic อุณหภูมิสูงที่ผิวภายนอกของอาหารได้ เรียกอีกชื่อหนึ่ง
Heating) ว่าการเกิดความร้อนด้วยคลืน่ ความถีส่ งู (High Frequency,
วิธนี เี้ ป็นการให้ความร้อนด้วยคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าที่ HF) เป็นเทคโนโลยีการสร้างความร้อนทีเ่ ป็นผลพลอยได้
ระดับความถีต่ �่ำ (50-60 Hz) มีขอ้ ดีคอื สามารถเกิดความร้อน จากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในช่วงนั้นใช้เพื่อการหลอม
จากภายในตัวอย่างอาหารได้อย่างรวดเร็ว มีอตั ราการเกิด กระสุนและหล่ออาวุธสงครามเพราะเกิดความร้อนได้รวดเร็ว
ความร้อนประมาณ 1 องศาเซลเซียสต่อวินาที ทำ�ให้ไม่มี ให้ความร้อนสูงกว่า 200-1,000 องศาเซลเซียส คลื่น
ผลกระทบจากการถ่ายเทความร้อนระหว่างแหล่งพลังงาน สัญญาณวิทยุสามารถแทรกซึมเข้าไปเหนีย่ วนำ�ในตัวโลหะ
และวัสดุที่กำ�ลังอบแห้ง นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพสูง อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถเข้าไปเหนี่ยวนำ�ให้เกิด
ในการเปลีย่ นแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน ความร้อนในตัวโลหะ ในขณะทีค่ ลืน่ ไมโครเวฟจะถูกสะท้อน
507
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
508
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
509
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
510
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
511
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 23 ฉบับที่ 2 พ.ค. - ส.ค. 2556
The Journal of KMUTNB., Vol. 23, No. 2, May. - Aug. 2013
S.K. Choub,” Effect of osmotic pre-treatment [26] N. Sakai and T. Hanzawa, “Applications and
and infrared radiation on drying rate and color advances in far-infrared heating in Japan,”
changes during drying of potato and pineapple, Trends in Food Sci. & Tech, vol. 5, pp. 357-362, 1994.
Drying Tech, vol. 19(9): pp. 2193–2207, 2001. [27] S. Dondee, M. Nachaisin, N. Meeso, S.
[18] N. Vatanasuchart, “How UV radiation reacts Siriamornpun, and S. Soponronnarit, “Cracking
to food technology,” Food Journal, vol. 33(1), and breakage models of soybean kernels
pp. 15-22, 2003 (in Thai). under combined NIR and fluidized-bed drying,”
[19] R. Assawarachan and A. Noomhorm, “Effect Agricultural Sci. J. vol. 42 3(Suppl.):, pp. 529-
of operating condition on the kinetic of color 532, 2011 (in Thai).
change of concentrated pineapple juice by [28] M. Dagerskog, “Infra-red radiation for food
microwave vacuum evaporation,” International processing: II,” Calculation of heat peneltration
J. Food, Agriculture and Environment, vol. during infra-red frying of meat products. LWT
6(3-4), pp. 47-53, 2008. 12, pp. 252-257, 1979.
[20] S. Mongpraneet, “Drying characteristics of a [29] H.U. Hebbar and N. K. Rastogi, “Mass
far infrared heater combined vacuum operation,” transfer during infrared drying of cashew
Unpub. Ph.D. dissertation. Ehime University, kernel,” J. Food Eng, vol. 47, pp. 1-5, 2001.
Matsuyama, Japan. pp. 106, 2003. [30] U.Teeboonma and T. Suwannakoo, “Comparative
[21] A.Farhat,S.Kooli,A.Fadhel,Ch.Kerkeni,M.Maalej, study of drying using hot air and hot air-infrared
and A. Belghith, “Drying agricultural products radiation,” KKU Engineering ournal, vol. 34(2),
by radiation and convection” Proc. Mediterranean pp.189-201, 2007 (in Thai).
Conf. Environ. Solar, pp.189 – 194, 2000. [31] S. Surbkar, T. Abe, and T. Kiatsiriroat, “Full
[22] M. Adonis, and M.T.E. Khan, “Combined research report in drying of longan using infrared
convective and infrared drying model for radiation,” Submitted to Thailand Research Fund
food applications,” IEEE AFRICON 2004, (TRF). Faculty of Engineering andAgro-industry,
pp.1049-1052, 2004. Maejo University. 2011 (in Thai).
[23] K. Krishnamurthy, H.K. Khurana, S. Jun, J. [32] G.P. Sharma, R.C. Verma, and P. Pathare,
Irudayaraj, and A. Demirci, “Infrared heating in “Mathematical modeling of infrared radiation
food processing: an overview,” Comprehensive thin layer drying of onion slices,” J. Food Eng,
Reviews in Food Science and Food Safety, vol. vol. 71, pp. 282-286, 2005.
7(1), pp. 2-13, 2008. [33] S. Soponrornaritee Soponronnarit, Drying of
[24] U. Teeboonma, T. Suwanakoot, and S. some grains and foods, 7th ed, King Mongkut’s
Soponronnarit. “Beef drying using infrared University of Technology Thonburi, Bangmod,
radiation,” KKU Engineering Journal, vol. Bangkok, 1997, pp. 388 (in Thai).
33(2), pp. 169-180, 2006, (in Thai). [34] S. Soponronnari and S. Prachayawarakorn,
[25] C.W. Hall, “Theory of infrared drying,” Trans. “Optimum strategy for fluidized bed paddy drying,”
ASAE. 5, pp. 14-16, 1962. Drying Tech, vol. 12(7), pp.1667-1686, 1994.
512