Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป - Digital
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป - Digital
6 ฟลิปฟลอป
6.1 วงจรแลตช์
S-R แลตช์
ส่ วนใหญ่พ้ืนฐานวงจรแลตช์หรื อฟลิปฟลอปสามารถสร้างได้จากเกตแบบนอร์
(NOR) จํานวน 2 ตัว หรื อเกตแบบแนนด์ (NAND) จํานวน 2 ตัว ดังแสดงในรู ปที่ 6.1
และรู ปที่ 6.2 ตามลําดับ จากวงจรจะมีการต่อป้ อนกลับของเอาต์พุตมาเป็ นอินพุตของ
วงจร มีเอาต์พุต 2 สภาวะคือ Q และ Q และมี 2 อินพุต คือเซต (Set: S) และรี เซต
(Reset: R) วงจรที่กล่าวมานี้มีชื่อว่า Direct-coupled S-R ฟลิปฟลอป หรื อ S-R แลตช์
6-1
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
S (Set) Q S Q
อินพุต เอาต์พตุ
R (Reset) Q’ R Q’
อินพุต เอาต์พตุ
S R Q Q สภาวะการทํางาน
0 0 Q Q คงค่าเดิม (No change)
1 0 1 0 เซต
0 1 0 1 รี เซต
1 1 0 0 สภาวะที่ไม่ใช้งาน
(ค) ตารางความจริ ง
Q = (R + Q )
Q = (1 + Q ) = 1 =0
Q = (S + Q)
Q = ( 1 + Q) = 1 =0
6-2
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
S’ S Q
อินพุต เอาต์พตุ
R’ R Q’
อินพุต เอาต์พตุ
S R Q Q สภาวะการทํางาน
0 0 1 1 สภาวะที่ไม่ใช้งาน
1 0 1 0 เซต
0 1 0 1 รี เซต
1 1 Q Q คงค่าเดิม
(ค) ตารางความจริ ง
6-3
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
(ก) วงจรการต่อ
+5 V Q Q’
14 13 12 11 10 9 8
Vcc
GND
1 2 3 4 5 6 7
R’
S’
S R
6-4
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
(ก) ลอจิกไดอะแกรม
อินพุต เอาต์พตุ
C S R Qn+1
0 X X คงค่าเดิม
1 0 0 คงค่าเดิม
1 0 1 Q = 0; รี เซต
1 1 0 Q = 1; เซต
1 1 1 สภาวะที่ไม่ใช้งาน
D แลตช์
วงจร D แลตช์ ได้ถูกพัฒนามาจาก S-R แลตช์ โดยได้ปรับปรุ งให้อินพุตไม่เป็ น
1 ทั้งคู่ (จากวงจร S-R แลตช์ ในรู ปที่ 6.4) แสดงวงจรดังรู ปที่ 6.5 ในรู ปจะนําอินพุต D
ต่อตรงเข้าที่ขา S และต่อผ่านอินเวอร์เตอร์เป็ น D เพื่อต่อเข้าที่ขา R
6-5
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
(ก) ลอจิกไดอะแกรม
D Q อินพุต เอาต์พตุ
C D Qn+1
อินZfพุต เอาต์พ\8ตุ _K 0 X คงค่าเดิม
1 0 Q = 0; รี เซต
C Q’ 1 1 Q = 1; เซต
วิธีทาํ
6-6
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
1
S
0
1
R
0
1
Q เซต รี เซต เซต คงค่าเดิม รี เซต
0
Q’ 1
0 เวลา
ตอบ
ตอบ
6-7
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6.2 ฟลิปฟลอป
วงจรแลตช์ตามที่ได้กล่าวมา จะทํางานตามระดับของสัญญาณอินพุตที่ป้อนเข้า
มาโดยตรง แต่สําหรั บฟลิ ปฟลอป (Flip-Flop) นั้นจะใช้พลั ส์ สัญญาณนาฬิ กา (Clock
Pulse) ในการเปลี่ยนสถานะ โดยเฉพาะในกรณี ที่ใช้ฟลิปฟลอปต่อร่ วมกันหลายๆ ตัว จะ
ทําให้ฟลิปฟลอปสามารถเปลี่ยนสภาวะพร้อมๆ กันได้เป็ นอย่างดี
พัลส์บวก
1
ขอบขาบวก ขอบขาลบ
หรื อขอบขาขึ้น หรื อขอบขาลง
6-8
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
สัญญาณนาฬิกาตามที่ได้กล่าวมานี้ ได้ถูกนํามาใช้ในการเปลี่ยนสถานะเอาต์พุต
Q ของฟลิปฟลอป ทั้งนี้ ฟลิปฟลอปสามารถสร้างได้จากทรานซิสเตอร์ (Transistor) หรื อ
วงจรเกต (Gate) โดยในบทนี้ จะกล่าวเฉพาะฟลิปฟลอปที่สร้างจากวงจรเกตเท่านั้นซึ่งมี
4 ประเภท ได้แก่
S-R ฟลิปฟลอป (S-R flip-flop)
T ฟลิปฟลอป (T flip-flop)
D ฟลิปฟลอป (D flip-flop)
J-K ฟลิปฟลอป (J-K flip-flop)
S-R ฟลิปฟลอป
ฟั งก์ชนั ของ S-R ฟลิปฟลอปจะเหมือนกับ S-R แลตช์ ต่างกันที่ S-R ฟลิปฟลอป
จะมีสญั ญาณนาฬิกาแทนด้วย CK จากภายนอกเพื่อควบคุมสเตตถัดไป (Next state) ของ
เอาต์พุตด้วย ในรู ปที่ 6.7 แสดงสัญลักษณ์ของ S-R ฟลิปฟลอป 2 ประเภท คือ S-R ฟลิป
ฟลอปแบบ Active high ที่มีการกระตุน้ ด้วยขอบขาบวกหรื อขอบขาขึ้น (Positive edge-
triggered) และฟลิปฟลอปแบบ Active low คือเป็ นฟลิปฟลอปที่มีการกระตุน้ ด้วยขอบ
ขาลบหรื อขอบขาลง (Negative edge-triggered) ตามลําดับ ในรู ปที่ 6.8(ก) แสดงวงจร
การต่อ S-R ฟลิปฟลอป ที่สร้างมาจากเกตแบบนอร์ ร่วมกับเกตแบบแอนด์พร้อมทั้ง
สัญญาณนาฬิกา โดยมีตารางความจริ งแสดงในตารางที่ 6.1
6-9
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
S CLR Q
CK
R PR Q’
6-10
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
อินพุต เอาต์พตุ
CK S R Q Qn+1 สภาวะการทํางาน
0 0
↑ 0 0
1 1
คงค่าเดิม
0 1
↑ 1 0
1 1
เซต
0 0
↑ 0 1
1 0
รี เซต
0 0 สภาวะนี้ตอ้ งหลีกเลี่ยง
↑ 1 1 1 0 เพราะ Qn+1 = 0 ด้วย
0 0 คงค่าเดิม
X X เพราะ CK = 0
1 1
6-11
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
วิธีทาํ (ก)
1
S
0
1
R
0
1
CK
0
1
Q
0 เวลา
รี เซต เซต รี เซต เซต คงค่าเดิม
วิธีทํา
(ข)
ตอบ
6-12
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
Clear (CLR)
J Q
CK
K Q’
Preset (PR)
(ก) วงจร J-K ฟลิปฟลอปพร้อมขาเคลียร์และพรี เซต
J CLR Q
CK
K PR Q’
J-K ฟลิปฟลอป
J-K ฟลิปฟลอปมีลกั ษณะการทํางานคล้ายกับ S-R ฟลิปฟลอปแต่มีคุณลักษณะ
เพิ่มเติมจาก S-R ฟลิปฟลอป คือสามารถป้ อนค่าอินพุต J และ K ที่เป็ นลอจิก 0 พร้อมกัน
ได้ ซึ่ งจะทําหน้าที่เป็ นท็อกเกิล (Toggle) หรื อก็คือเป็ นการสลับค่าเอาต์พุต จากเดิมเป็ น
ลอจิก 1 สลับให้เป็ นลอจิก 0 หรื อจากเดิมเป็ นลอจิก 0 สลับให้เป็ นลอจิก 1 ทั้งนี้ เรา
6-13
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
อินพุต เอาต์พตุ
CK J K Qn+1 สภาวะการทํางาน
↑ 0 0 Qn คงค่าเดิม
↑ 1 0 1 เซต
↑ 0 1 0 รี เซต
↑ 1 1 Qn+1 ท็อกเกิล
X X Qn คงค่าเดิม
+5 V PR’
J PR Q
CK’ CK
K CLR Q’
CLR’
6-14
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
ตอบ
6-15
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-16
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-17
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
วิธีทาํ
1
J
0
1
K
0
1
CK
0
1
Q
0
Q’ 1
0
เวลา
ตอบ
D ฟลิปฟลอป
เป็ นฟลิปฟลอปที่มี 2 อินพุตคือ สัญญาณข้อมูล (Data) กับสัญญาณนาฬิกา โดย
เอาต์พุตที่ได้จะเหมือนกับอินพุต จึงเรี ยกเป็ นดาต้าฟลิปฟลอฟ (Data flip-flop หรื อ D
ฟลิปฟลอป) ซึ่ งมีท้ งั D ฟลิปฟลอปแบบกระตุน้ ด้วยขอบขาขึ้นและ D ฟลิปฟลอปแบบ
กระตุน้ ด้วยขอบขาลง วิธีการสร้าง D ฟลิปฟลอปสามารถทําได้ง่าย ด้วยการเพิ่มเกต
แบบน็อตจํานวน 1 ตัว ต่อเพิ่มเข้าไปในวงจร S-R ฟลิปฟลอป แสดงการต่อวงจรในรู ปที่
6.11(ก) ซึ่ งการต่อวงจรในลักษณะดังกล่าวทําให้อินพุต S และ R มีสภาวะลอจิกที่
ตรงกันข้ามตลอด นอกจากนี้ แล้วยังสามารถสร้างได้จาก J-K ฟลิปฟลอปด้วย แสดงใน
รู ปที่ 6.11(ข) ทั้งนี้ สัญลักษณ์และตารางความจริ งของ D ฟลิปฟลอปแสดงในรู ปที่
6.11(ค) และ 6.11(ง) ตามลําดับ
6-18
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
D Q อินพุต เอาต์พตุ
CK D Qn+1
CK ↑ 0 0
↑ 1 1
Q’ 0 X คงค่าเดิม
6-19
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
1
Q
0
Q’ 1
0
เวลา
ตอบ
ตอบ
6-20
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
D QA QA = X*
CK
X QA’
วงจรลอจิก Y QB = Y*
คอมไบเนชัน D QB
Z
CK
QB’
D QC QC = Z*
1
0 CK
สัญญาณนาฬิกา QC’
6-21
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
T ฟลิปฟลอป
เป็ นฟลิปฟลอปที่มีการทํางานเป็ นแบบท็อกเกิล (Toggle หรื อ T ฟลิปฟลอป)
การทํางานของ T ฟลิปฟลอป คือจะเปลี่ยนสภาวะทุกครั้งที่มีสัญญาณนาฬิกาเข้ามาที่ขา
T เช่น สภาวะปั จจุบนั ของเอาต์พุต Qn เป็ น 0 เมื่อมีพลั ส์สัญญาณนาฬิกาเข้ามา จะทําให้
เอาต์พตุ Qn+1 เปลี่ยนสภาวะจาก 0 เป็ น 1 และถ้ามีพลั ส์สญ ั ญาณนาฬิกาเข้ามาอีก เอาต์พุต
ก็จะเปลี่ยนสภาวะจาก 1 เป็ น 0 หรื อกล่าวได้ว่าเมื่อมีพลั ส์สัญญาณนาฬิกาเข้ามาที่ขา T
จะทําให้เอาต์พุต Q เปลี่ยนสภาวะเป็ นตรงกันข้ามทุกครั้ง T ฟลิปฟลอปสามารถแบ่งได้
เป็ น T ฟลิปฟลอปแบบกระตุน้ ด้วยขอบขาขึ้น และ T ฟลิปฟลอปแบบกระตุน้ ด้วยขอบ
ขาลง สัญลักษณ์และตารางความจริ งของ T ฟลิปฟลอปแสดงในรู ปที่ 6.13
R Q
CK
S Q’
อินพุต เอาต์พตุ
CK Qn+1
↑ หรื อ ↓ Qn ตรงข้าม
Qn คงค่าเดิม
(ค) ตารางความจริ งของ T ฟลิปฟลอป
6-22
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
1
CK
0
1
QC
0
1
QB 0
1
QA
0
เวลา
(ข) ไดอะแกรมเวลาของผลการหาร
6-23
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
QC = สัญญาณนาฬิกา 2
QB = สัญญาณนาฬิกา 4
QA = สัญญาณนาฬิกา 8
T J
Q
CK
K Q’
(ข) สัญลักษณ์
6-24
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-25
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-26
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
J Q
CK M/S
K Q’
6-27
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
สภาวะเดิมใหม่หรื อที่เวลาครบ 1 รอบ (Cycle) นัน่ เอง ซึ่ งต่างกับ J-K ฟลิปฟลอปแบบ
ธรรมดาตรงที่ว่า J-K ฟลิปฟลอปนั้นสนใจเฉพาะขอบของพัลส์สัญญาณนาฬิกาเท่านั้น
แต่ J-K ฟลิปฟลอปแบบมาสเตอร์ /สเลฟ ต้องรอจนกว่าจะครบเต็ม 1 รอบก่อนจึงจะมี
การเปลี่ยนสภาวะ รู ปที่ 6.18 แสดงโครงสร้างวงจรของ J-K ฟลิปฟลอปแบบมาสเตอร์/
สเลฟ และเพื่อความเข้าใจยิง่ ขึ้นให้ดูตวั อย่างที่ 6.9 และผลการจําลองในรู ปที่ 6.19
1
J
0
1
K
0
1
CK
0
1
Q
0 เวลา
เซต รี เซต เซต เซต รี เซต
ตอบ
6-28
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-29
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6.4 ฟลิปฟลอปประเภทอืน่ ๆ
6-30
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
6-31
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
D = JQ + K Q
D = T Q = TQ + T Q
6-32
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
1
CK
0
J Q
1
J CK
0
1 K Q’
K
0
+Vcc
R1 (4)(8)
(7) RESET Vcc
DISCH (3) 1 . 44
(6) 555 OUT f
R1 2 R 2 C1
R2 THRESH
(2) TRIG CONT (5)
C1 GND C2
(1) 0.01 F
6-33
บทที่ 6 ฟลิปฟลอป
CK
6-34