Johann Sebastian Bach

โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค

เกิดวันที่ 21 มีนา 1685 เมืองไอเซนาค
ประเทศเยอรมณี
เป็นบุตรของ โยฮันน์ แอมโบรซิอุส บาค (Johann
Ambrosius Bach) ซึ่งเป็นนักไวโอลิน
ส่วนมารดาชื่อ เอลิซาเบธ แลมเมอร์เฮิร์ท บาค
 ← ไวโอลิน และ วิโอล่า

ครอบครัวของบาคมีอาชีพทางด้านดนตรีอยู่แล้ว บาคจึงได้เริ่มเล่นดนตรี ซึ่งก็

คือไวโอลินและวิโอล่าโดยศึกษาจากโรงเรียนประจําท้องถิ่น เมื่ออายุ 9 ขวบ
มารดาก็ถึงแก่กรรม และต่อมาไม่นานบิดาก็เสียไปอีกในเวลาไม่ถึงปี
บาคจึงจําเป็นต้องพึ่งพี่ชายและขอเรียนดนตรีด้วย
บาคเป็นคนที่เรียนรู้ได้เร็ว พี่ชายที่เห็นว่าบาคเก่ง
ก็อิจฉา พยายามทําให้น้องไม่ฝึกซ้อมเพลงต่างๆ
ถึงขนาดเอาโน้ตไปซ่อน แต่บาคก็ดั้นด้นคัดลอก
โน้ตเพลงต่างๆที่พี่ชายซ่อน โดยใช้เวลาถึง6
เดือน และมีวันหนึ่งก็ได้เอาโน้ตที่คัดลอกมา6
เดือนไปเล่นกับคลาเวียร์ แต่พี่ชายก็มาเห็น พี่ชาย คลาเวียร์
เลยนําโน้ตที่บาคคัดลอกโยนลงเตาไฟ
ทําให้ไม่มีโน้ตซ้อมอีกต่อไป
 เนื่องจากบาคเล่นดนตรีเก่งและ
ร้องเพลงเก่ง ครูสอนดนตรีจาก
โบสถ์เซนต์ไมเคิลแห่งเมืองลูนเบิร์ก
ก็เห็นพรสวรรค์ จึงชวนไปเป็นนัก
ร้องหมู่ของโบสถ์

แต่พออายุ16 ก็เสียงแตก ทําให้

เสียงเปลี่ยนไป จึงไม่สามารถทํา
หน้าที่เป็นนักร้องได้แล้ว เลยปลี่
ยนหน้าที่ไปเล่นไวโอลิน/วิโอล่าแทน
และยังหัดเล่นออร์แกน หัดแต่ง
เพลงแบบจริงจังมากขึ้น

โบสถ์เซนต์ไมเคิล
 ออร์แกน →

วันหนึ่งไปดูนักออร์แกนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ชื่อ แจน อดัมส์ ไรน์แคน ซึ่งมีอายุ78ปี ซึ่งเดินทาง

ไปเปิดการแสดงหลายๆที่ บาคตั้งใจที่จะฟังดู จนวันหนึ่งเขาไปแสดงที่เมืองฮัมบูร์ก ซึ่งมีระยะทาง
ไกลถึง 30 ไมล์ บาคก็ยังดั้นด้นไปดู แจน อดัมส์ ไรน์แคน เล่นออร์แกน
 ต่อมาบาคลาออกจาก
โบสถ์เซนต์ไมเคิล และทํางานในเมือง
ต่างๆ เจอสาวคนหนึ่งชื่อมาเรีย บาร์
บาร่า และก็แต่งงานกันในค.ศ.1707
ซึ่งบาคมีอายุ22ปี เจ้าสาวอายุ23ปี
(ห่างกัน1ปี)

เจ้าชายเลโอโปลด์

หลังจากนั้นก็มีการทําพวกเพลง
โบสถ์ต่างๆ และมีการทาบทามจาก
ราชสํานักของเจ้าชายเลโอโปลด์ ให้
ไปประจําสํานักงาน บาคก็ไปอยู่ และ
ก็ได้แต่งเพลงหลายๆอย่างสําหรับ
มาเรีย บาร์บาร่า
คลาเวียร์และดนตรีแชมเบอร์
 ในปีค.ศ.1720 ภรรยาของบาค มาร์เรีย บาร์บาร่าถึงแก่กรรม ทําให้บาคประสบปัญหา
มากมายเพราะมีลูกด้วยกันถึง7คน บาคก็เดินทางเร่ร่อนนู่นนี่นั่นแต่ก็ยังอยู่กับราชสํานักของเจ้า
ชายเลโอโปลด์ ซึ่งอยู่ด้วยได้เพราะเจ้าชายก็รักใคร่บาคและนับถือ แต่พระชายาไม่พอใจ บาคจึงได้
ลาออกเพื่อไปหางานใหม่ แต่ก็หางานทําไม่ได้ ก็เลยต้องกลับไปที่เดิม และในระหว่างหางานใหม่
บาคก็ได้แต่งเพลงคอนแชร์โตอยู6 ่ เพลง ชื่อ Brandenburg Concerto

← Brandenburg Concerto
 หลังจากมาเรีย บาร์บาร่าเสียชีวิได้2ปี
ก็พบรักใหม่ชื่อ แอนนา แมกดาเลนา ริลเคน

บาคอายุ36 เจ้าสาวอายุ20ปี (ห่างกัน16ปี)

ดีอย่างหนึ่งที่แอนนาเรียนดนตรีอยู่แล้ว
จึงช่วยบาคในเรื่องของดนตรีต่างๆได้ ยกตัวอย่าง
เช่น ลอกโน้ตเพลง แต่งเพลง
หลังจากเข้ารับตําแหน่งแคนเตอร์ประจําโบสถ์เซนต์โทมัส ก็ได้ลาออกจากราชสํานัก
ของเจ้าชายเลโอโปลด์ ก่อนรับตําแหน่ง บาคได้แต่งเพลง St. John’s Passion
เพื่อพิสูจน์ให้โบสถ์ได้เห็นว่าบาคมีความสามารถขนาดไหน ในช่วงนี้บาคครํ่าเคร่งใน
เรื่องงานมากขึ้น ทําให้มีเวลาดูแลครอบครัวน้อยลง แต่ครอบครัวก็เข้าใจ ลูกๆก็มี
พรสวรรค์ทางด้านดนตรี แต่ช่วงหลังๆมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ ของโบสถ์
เซนต์โทมัส เพราะบาคพยายามปฏิรูปเพลงให้เป็นแนวอื่น แต่ในสมัยนั้นการแต่ง
เพลงสักแนวหนึ่งก็ต้องไปตามลัทธินิยม แต่สุดท้ายก็ประนีประนอมกันได้

←St. John’s Passion

 ค.ศ.1740 ตาเริ่มพร่ามัว

ค.ศ.1747 คาร์ล ฟิลลิป เอมาดูเอล บุตรชายคนที่ 2 ของบาค

มีชื่อเสียง คือได้ไปแสดงราชสํานักของพระเจ้าเฟรเดริคมหาราช
บาคได้แต่งเพลง Musical Offering ให้กับพระเจ้าเฟรเดริคมหาราช

ค.ศ.1748 สุขภาพเริ่มเสื่อมโทรมจนตาบอด ทําให้โบสถ์เซนต์โท

มัสต้องปลดออกจากงาน บาคก็ทรมาน และบาคก็ยังพยายามแต่งเพลง
ไปเรื่อยๆ โดยให้คนอื่นช่วยจดโน้ตตาม และถึงขนาดไปผ่าตัดนัยน์ตาสดๆ
ไปมา ทําให้เสียชีวิตลงในที่สุด ในวันที่ 28 กรกฎา 1750
(สมัยก่อนยังไม่การแพทย์ที่ดี ทําให้ต้องทนเจ็บปวด)

บาคมีภรรยาเก่า7คน ภรรยาใหม่13คน รวมมีบุตร20คน

 หลังจากที่เสียชีวิต ผลงานบาคก็ถูกลืมเลือนไปเรื่อยๆ แต่โด่งดัง
กลับมาในช่วง ค.ศ.1792 เพราะเบโธเฟนได้นําเพลงของบาคชื่อ
The Well – Tempered Clavier แสดงที่กรุงเวียนนา(ออสเตรเลีย)
บาคจึงกลับมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก

บาคมักแต่งเพลงเน้นไปทางศาสนา
หลักๆในสมัยก่อนดนตรีจะอยู่ที่โบสถ์

←The Well – Tempered Clavier

 Member 5/4
นางสาวณัฐณิชา แสนสุข เลขที่ 4
นางสาวธรรมพร เริงโกมุท เลขที่ 5
นางสาวสุพิชชา ลอยแกว เลขที่ 6
นางสาวนํ้าทิพย สางทร เลขที่ 13
นางสาวณัฐชามญฑ สถิตยมั่น เลขที่ 24
นางสาวพรทิพย โชติวิไรวรรณ เลขที่ 30
นางสาวสโรชา เปรมผล เลขที่ 38