Professional Documents
Culture Documents
Solubility
Solubility
(Solubility Equilibria))
ค่าการละลาย
ปริมาณการละลายของเกลือที่ละลายน้าได้น้อย จะบอกเป็นค่าการละลาย (solubility, s) มี
หน่ว ยคือ g/L ค่าการละลายเป็ นค่าใช้ เปรีย บเทีย บค่าการละลายของเกลือ ประเภทเดีย วกัน แต่ไม่
สามารถบอกการละลายที่แท้จริงได้ ดังนันการที่จะบอกสภาพการละลายที่แท้จริง ต้องบอกได้ในรูปของ
สภาพการละลายเป็นโมลาร์ (molar solubility) มีหน่วยคือ mol/L หรือที่เรียกว่า สภาพการละลาย (s) ซึ่ง
บอกปริมาณจ้านวนโมลของตัวถูกละลายในสารละลายอิ่มตัว 1 L สารอนินทรีย์แต่ละชนิดมีสภาพการ
ละลายในน้าได้มากน้อยแตกต่างกัน อาจจ้าแนกความสามารถในการละลายน้าได้ 4 ประเภทคือ
1) สารที่ละลายได้ดี (highly soluble) คือสารที่สามารถละลายน้าได้ดี (สูง) มีสภาพการละลาย
มากกว่า 1.0 mol/L
2) สารที่ละลายได้ (soluble) คือสารที่สามารถละลายน้าได้ที่มีสภาพการละลายอยู่ระหว่ าง
0.10-1.0 mol/L
3) สารที่ละลายได้ปานกลาง (moderately soluble) คือสารที่สามารถละลายน้าได้ที่มีสภาพการ
ละลายอยู่ระหว่าง 0.01-1.0 mol/L
4) สารที่ไม่ละลาย (insoluble) คือสารที่ละลายน้าได้น้อยมากจนแทบถือว่าไม่ละลาย มีสภาพ
การละลายน้อยกว่า 0.001 mol/L
4 | เคมีวิเคราะห์
ตั ว อย่ าง 1.4 จงเปรีย บเทีย บการละลายของเกลือ AgCl กับ AgSCN (ก้าหนด Ksp AgCl=1.8x10-10,
AgSCN=1.1x10-12)
วิธีคิด AgCl(s) Ag+(aq) + Cl-(aq)
Ksp = [Ag+][Cl-]
1.8x10-10 = s2
s = 1.8x10-10 = 1.34x10-5 mol/L
ตั ว อย่ าง 1.5 จงเปรีย บเทีย บการละลายของเกลือ CaF2 กับ BaCrO4 (ก้าหนด Ksp CaF2=3.9x10-11,
BaCrO4=1.2x10-10)
วิธีคิด CaF2(s) Ca2+(aq) + 2F-(aq)
Ksp = [Ca2+][F-]2
= (s)(2s)2
= 4s3
3
K sp 3 3.9x10-11
s= =
4 4
= 2.14x10-4 mol/L
ตัวอย่าง 1.8 การละลายของ CaSO4 ที่ 25C เท่ากับ 0.56 g/L จงค้านวณค่า Ksp
วิธคี ิด CaSO4(s) Ca2+(aq) + SO42–(aq)
s s
Ksp = [Ca2+][SO42–]
ค้านวณสภาพการละลายของ CaSO4
0.56 g CaSO4 1 mol CaSO4
s(CaSO4 ) = = 4.1x10-3 mol/L
1 L soln. 136.2 g CaSO4
ดังนัน [Ca2+] = [SO42–] = 4.1x10-3 mol/L
Ksp = [Ca2+][SO42–]
= (4.1x10-3)( 4.1x10-3)
= 1.7x10-5
ตั ว อย่ า ง 1.9 การละลายของเงิ น คลอไรด์ (AgCl) ที่ 25C มี ค่ า เท่ า กั บ 0.000190 g/100 mL จง
ค้านวณหาค่า Ksp (MM ของ AgCl = 143 g/mol)
วิธคี ิด AgCl(s) Ag+(aq) + Cl–(aq)
AgCl สามารถละลายได้เท่ากับ 0.000190 g/100 mL หรือ 0.00190 g/L
0.00190 g AgCl 1 mol AgCl
s(AgCl) = = 1.33x10-5 mol/L
1L 143 g AgCl
นันคือ [Ag+] = 1.33x10-5 mol/L
[Cl-] = 1.33x10-5 mol/L
Ksp = [Ag+][Cl–]
ดังนัน Ksp = (1.33x10–5)(1.33x10–5) = 1.8x10–10
8 | เคมีวิเคราะห์
ตัวอย่าง 1.10 เกลือ Ag2SO4 มีสภาพการละลายเท่ากับ 1.5x10-2 mol/L ที่ 25C จงค้านวณค่า Ksp
วิธีคิด Ag2SO4(s) 2Ag+(aq) + SO42-(aq)
2s s
จากสมการจะเห็นได้ว่า 1 mol ของ Ag2SO4 จะให้ Ag+ 2 mol และ SO42- 1 mol
ดังนันถ้า Ag2SO4 1.5x10-2 mol/L ความเข้มข้นของแต่ละไอออนเป็น
[Ag+] = 2(1.5x10-2) = 3.0x10-2 mol/L
[SO42-] = 1.5x10-2 mol/L
Ksp = [Ag+]2[SO42-]
= (3.0x10-2)2(1.5x10-2)
= 1.4x10-5
ตัวอย่าง 1.11 เกลือ CaSO4 มีค่า Ksp=9.1x10-6 จงค้านวณ [Ca2+] และ [SO42-]
วิธีคิด CaSO4(s) Ca2+(aq) + SO42-(aq)
s s
Ksp = [Ca2+][SO42-]
9.1x10-6 = s2
s = 3.02x10-3
ดังนัน [Ca2+] และ [SO42-] = 3.02x10-3 mol/L
ผลคูณของความเข้มข้นไอออน
ผลคูณของความเข้มข้ นไอออน (ion concentration product, ICP หรือ Q) คือผลคูณระหว่ าง
ความเข้ ม ข้ นของไอออนที่เกิดจากการแตกตัว ณ ภาวะสมดุล การค้านวณผลคูณของความเข้ ม ข้ น
ไอออนเพื่อพิจารณาว่าความเข้มข้นของแต่ละไอออนในระบบสารละลาย ณ ภาวะสมดุลนัน จะเกิดเป็น
ตะกอนหรือยังคงเป็นไอออนในสารละลาย ผลคูณของความเข้มข้นไอออนเปรียบเทียบกับค่า Ksp ดังนี
1) ถ้า Q น้อยกว่าค่า Ksp ระบบยังไม่ถึงจุดสมดุล เรียกว่า under-saturated solution
2) ถ้า Q มากกว่าค่า Ksp เรียกว่า super-saturated solution
ตั ว อย่ า ง 1.14 เมื่ อ ผสม BaCl2 เข้ ม ข้ น 0.0040 mol/L ปริ ม าตร 200 mL กั บ K2SO4 เข้ ม ข้ น 0.0080
mol/L ปริมาตร 600 mL ตะกอน BaSO4 จะเกิดขึนหรือไม่ (ก้าหนด Ksp ของ BaSO4=1.1x10-10)
วิธีคิด จะตอบค้าถามนีได้ เราต้องค้านวณ Q เพื่อพิสูจน์ว่า Q มากกว่าหรือน้อยกว่า Ksp
ขันแรก เขียนสมการเคมี
ปฏิกิริยาตกตะกอน Ba2+(aq) + SO42-(aq) → BaSO4(s)
ปฏิกิริยาการละลาย BaSO4(s) Ba2+(aq) + SO42-(aq)
ตะกอน BaSO4 จะเกิดขึนได้ก็ต่อเมื่อ Q > Ksp
Q = [Ba2+][SO42-] > 1.1x10-10
ขันที่สอง หาความเข้มข้นเป็นโมลาร์ของแต่ละไอออนที่เกิดจาการผสมกันในสารละลายปริมาตรรวมเป็น
800 mL
(200 mL)(0.0040 mol/L)
[Ba 2+] = = 1.0×10-3 mol/L
800 mL
(600 mL)(0.0080 mol/L)
[SO4 2-] = = 6.0×10-3 mol/L
800 mL
Q = [Ba ][SO42-] = (1.0x10-3)(6.0x10-3) = 6.0x10-6
2+
Q > Ksp
ดังนัน เกิดตะกอนของ BaSO4
ตัวอย่าง 1.16 ถ้าเติม Na2CrO4 1.00 mg ลงในบีกเกอร์ที่มีสารละลาย AgNO3 เข้มข้น 1.50x10-4 mol/L
ปริมาตร 225 mL จะเกิดตะกอน Ag2CrO4 ขึนหรือไม่ (Ksp ของ Ag2CrO4=1.1x10-12)
วิธีคิด ประเด็นการพิจารณาคือ ตะกอน Ag2CrO4 จะเกิดขึนได้ก็ต่อเมื่อ Q > Ksp
ปฏิกิริยาตกตะกอน 2Ag+(aq) + CrO42-(aq) → Ag2CrO4(s)
ปฏิกิริยาการละลาย Ag2CrO4(s) 2Ag+(aq) + CrO42-(aq)
2s s
Q = [Ag+]2[CrO42-]
ค้านวณ [Ag+] และ [CrO42-] จากโจทย์
[Ag+] จาก AgNO3 = 1.50x10-4 mol/L
ส่วน [CrO42-] จาก Na2CrO4 ที่หนัก 1 mg เมื่อละลายในสารละลาย 225 mL ดังนัน
1.00x10-3 g 1 mol Na 2CrO4
[CrO42-] = x = 2.74x10-8 mol/L
0.225 L 161.97 g Na 2CrO4
Q = (2x1.50x10-4)2(2.74x10-8) = 2.47x10-15
Q < Ksp แสดงว่าที่สภาวะดังกล่าวไม่เกิดตะกอน Ag2CrO4 ขึน
ตัวอย่าง 1.17 ผสมสารละลาย 0.0030 mol/L Pb(NO3)2 ปริมาตร 100 mL กับ สารละลาย 0.040 mol/L
Na2SO4 ปริมาตร 400 mL จะเกิดตะกอนของ PbSO4 หรือไม่ (Ksp ของ PbSO4=2.0x10-8)
วิธีคิด จะตอบค้าถามนีได้ เราต้องค้านวณ Q เพื่อพิสูจน์ว่า Q มากกว่าหรือน้อยกว่า Ksp
ขันแรก เขียนสมการเคมี
ปฏิกิริยาตกตะกอน Pb2+(aq) + SO42-(aq) → PbSO4(s)
ปฏิกิริยาการละลาย PbSO4(s) Pb2+(aq) + SO42-(aq)
ตะกอน PbSO4 จะเกิดขึนได้ก็ต่อเมื่อ Q > Ksp
Q = [Ba2+][SO42-] > 2.0x10-8
ขันที่สอง หาความเข้มข้นเป็นโมลาร์ของแต่ละไอออนที่เกิดจาการผสมกันในสารละลายปริมาตรรวมเป็น
500 mL
0.0030 mol/L
[Pb2+]= 100 mL = 6.0×10 mol/L
-4
500 mL
0.0040 mol/L
[SO4 2-]= 400 mL = 3.2×10-2 mol/L
500 mL
Q = [Pb2+][SO42-] = (6.0x10-4)(3.2x10-2) = 1.9x10-5
Q > Ksp
ดังนัน เกิดตะกอนของ PbSO4
12 | เคมีวิเคราะห์
ปัจจัยที่มีผลต่อการละลายของตะกอน
1) อุณหภูมิ
โดยส่ ว นใหญ่ ค่ า การละลายของเกลื อ มั กจะ
เพิ่ ม ขึ นเมื่ อ อุ ณ หภู มิ เ พิ่ ม ขึ น ดั ง ภาพที่ 1.1 เมื่ อ
อุณหภูมิสูงขึน แนวโน้มของการละลายของสารในน้า
100 กรัม จะเพิ่มสูงขึน เราสามารถบอกความสามารถ
ในการละลายได้จากความชันของกราฟ โดยสารที่มี
ความชันมาก เมื่อเพิ่มอุณหภูมิ แนวโน้มการดูดความ
ร้อนสูง ดังนัน การละลายจะสูง เช่น KNO3, NaClO3,
Cs2SO4 เป็นต้น ในทางกลับกัน สารที่มีความชันน้อย
เมื่อเพิ่มอุณหภูมิ แนวโน้มการดูดความร้อนจะน้อย
ดังนัน การละลายจะน้อย เช่น K2CrO4, KClO3 เป็น
ต้น
อย่างไรก็ตาม ค่าการละลายของเกลือบางชนิด
กลั บ ละลายได้ น้ อ ยลงเมื่ อ อุ ณ หภู มิ เ พิ่ ม ขึ น เช่ น
MgNH4PO4
ภาพที่ 1.1 ปัจจัยอุณหภูมมิ ีผลต่อสภาพการละลายของสารอนินทรีย์บางชนิด
ที่มา : http://www.chem1.com/acad/webtext/solut/solut-6a.html
2) ตัวท้าละลาย
โดยทั่วไป น้าเป็นตัวท้าละลายที่สามารถละลายเกลือได้ดี แต่มีเกลือบางชนิดพวกเกลืออินทรีย์
หรือพวกโคเวเลนซ์จะละลายได้ดีขึนในตัวท้าละลายอินทรีย์ เช่น Ni-DMG แต่โดยทั่วไปเกลืออนินทรีย์จะ
ละลายได้ดีในน้า เช่น CaSO4 ละลายได้ 0.208 g ในน้า 100 g แต่ถ้าเติมแอลกอฮอล์ 6.2% w/w การ
ละลายของ CaSO4 ลดลงเหลือ 0.1 g และถ้าเพิ่มแอลกอฮอล์เป็น 13.6% w/w การละลายจะลดลงเหลือ
เพียง 0.044 g
3) ไอออนร่วม
ในกรณีที่มีไอออนที่เหมือ นกับ ไอออนใดไอออนหนึ่ งที่เกิดมาจากเกลือ เรีย กว่า ไอออนร่วม
(common ion) ตัว อย่า งเช่น เมื ่อ เติม NaCl ลงในสารละลาย AgCl ไอออนร่ว มคือ Cl- สมดุล ของ
AgCl เป็นดังนี
AgCl(s) Ag+ aq) + Cl-(aq) Ksp = [Ag+][Cl-]
เพิ ่ม ขึ น ผลคือ ท้า ให้เ กิด การละลายน้อ ยลงเมื ่อ เติม ไอออนร่ว ม ปรากฏการณ์นี เรีย กว่า ผล ของ
ไอออนร่วม (common ion effect) ในท้านองเดียวกัน ถ้าเติม Ag+ ลงไปท้าให้ปริมาณ Ag+ เพิ่มขึน ผล
คือท้าให้ AgCl ตกตะกอนมากขึน ดังนันการเติมไอออนชนิดเดียวกันกับไอออนของเกลื อนันลงไปทัง
แคตไอออนหรือแอนไอออน จะท้าให้ตะกอนมีการละลายลดลงได้ จากประโยชน์ดังกล่าว จึงน้าไปใช้ใน
การตกตะกอนสาร โดยการตกตะกอนไอออนใดก็ตาม จะต้องเติมสารตกตะกอนลงไปในไอออนนันๆ
ให้มากเกินพอเล็กน้อย เพื่อให้ตกตะกอนไอออนได้หมด และเพื่อให้เกิดไอออนร่วมซึ่งจะท้าให้ตะกอนที่
เกิดขึนนันมีการละลายลดลง ดังนันการสูญเสียตะกอนเนื่องจากการละลายจะลดลง
ตัวอย่าง 1.19 จงค้า นวณหาค่า การละลาย (s) ของ CaF2 ในน้า ที่ 25C และเมื่อ เติม 0.10 mol/L
CaCl2 ลงไปน้าไปละลาย จงค้านวณค่าการละลายของเกลือ CaF2 ใหม่ (Ksp ของ CaF2=3.9x10-11)
วิธคี ิด CaF2(s) Ca2+(aq) + 2F-(aq)
Ksp = [Ca2+][F-]2 = (s)(2s)2
= 4s3
3
K sp 3 3.9x10-11
s= =
4 4
= 2.14x10-4 mol/L
เมื่อเติม 0.10 mol/L CaCl 2 ลงไป ท้าให้ [Ca2+] = s+0.10
Ksp = (s+0.10)(2s)2
ให้ s มีค่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับ 0.10 ดังนัน
14 | เคมีวิเคราะห์
4) ผลของ pH
ค่า pH ของตัวท้าละลายจะมีผลต่อการละลายของเกลือบางชนิด กรณีที่แคตไอออนเป็นกรด
อ่อนหรือแอนไอออนเป็นเบสอ่อน ค่า pH ของสารละลายจึงมีผลต่อการละลาย เช่น เกลือ AB
AB(s) A+(aq) + B-(aq)
เมื่อ B- เป็นอนุมูลเบสอ่อน
B- + H3O+ HB + H2O
ดังนัน เมื่อกรดเพิ่มขึน B- จะเข้าท้าปฏิกิริยาได้มากขึน AB ก็ละลายได้มากขึน
ถ้ากรณีที่เป็นอนุมูลกรดอ่อน
A+ + OH- AOH
เมื่อความเป็นกรดเพิ่มขึน (pH ลดลง) ก็จะถูกดึงมาท้าปฏิกิริยากับ OH- ท้าให้ H3O+ เพิ่มขึน
A+ ก็จะรวมกับ B- ได้ตะกอนเพิ่มขึนจึงท้าให้การละลายลดลง
พิจารณาการละลายของสารประกอบไฮดรอกไซด์ของโลหะ
Mg(OH)2(s) Mg2+(aq) + 2OH-(aq)
ถ้าเติมเบสลงไป (OH-) จะท้าให้สมดุลเสีย โดย OH- ถูกรบกวน (เพิ่มขึน) ดังนันปฏิกิริยาจะ
ด้าเนินไปทางซ้ายมากขึนตามหลักของเลอชาเตอร์ ลิเอร์ ค่าการละลายจะลดลง แต่ถ้าเติมกรดลงไป H+
จะสะเทิน OH- ได้เป็น H2O โดย OH- ถูกรบกวน (ลดลง) ปฏิกิริยาจะด้าเนินไปทางขวามากขึน ค่าการ
ละลายเพิ่มขึน
ตัวอย่าง 1.20 ที่สมดุล 25C การละลายของ Mg(OH)2 จะมี pH เท่าใด (Ksp ของ Mg(OH)2=1.2x10-11)
วิธีคิด Mg(OH)2(s) Mg2+(aq) + 2OH-(aq)
[ ]เริ่มต้น 0 0
[ ]เปลี่ยน s 2s
[ ]สมดุล s 2s
Ksp = [Mg2+][OH-]2
1.2x10-11 = s(2s)2 = 4s3
สมดุลของการละลาย | 15
s = 1.4x10-4 mol/L
ดังนัน [OH-] = 2(1.4x10-4) = 2.8x10-4 mol/L
pOH = -log(2.8x10-4) = 3.55
pH = 14.00 - 3.55 = 10.45
ตั ว อย่ า ง 1.21 ค้ า นวณค่ า การละลายของ Mg(OH)2 ในบั พ เฟอร์ pH 12.0 และ 9.0 (Ksp ของ
Mg(OH)2=1.2x10-11)
วิธีคิด Mg(OH)2(s) Mg2+(aq) + 2OH-(aq)
s 2s
ก) ที่บัพเฟอร์ pH 12.0
pOH = 14.0-12.0 = 2.0
[OH-] = 1.0x10-2 mol/L
Ksp = [Mg2+][OH-]2
= s(1.0x10-2)2
1.2x10-11
s= = 1.2x10-7 mol/L
(1.0x10 )
-2 2
ข) ที่บัพเฟอร์ pH 9.0
pOH = 14.0 - 9.0 = 5.0
[OH-] = 1.0x10-5 mol/L
Ksp = [Mg2+][OH-]2
= s(1.0x10-5)2
1.2x10-11
s= = 0.12 mol/L
(1.0x10 )
-5 2
5) ผลของการเกิดไอออนเชิงซ้อน
ในสารละลายที่มีไอออนที่สามารถท้าปฏิกิริยากับแคตไอออนหรือแอนไอออนของตะกอนเกิด
เป็นไอออนเชิงซ้อนที่ละลายได้ จะท้าให้ตะกอนมีการละลายเพิ่มขึน เช่นการตกตะกอน Al3+ ด้วยเบส
ในสารละลายที่มี F- อยู่ด้วย การตกตะกอนจะไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก Al3+ จะเกิดไอออนเชิงซ้อนที่คงตัว
กับ F-
Al(OH)3(s) Al3+ + 3OH-
+
6F- AlF63-