You are on page 1of 20

แนวคิ

ดหลัก รัฐเป็
นชุ
มชนทางการเมื
องที

มี
อาํ
นาจในการปกครองตนเองอย่
างเป็
นอิ
สระ ทํ
าให้
แต่
ละรัฐสามารถเลื
อกระบอบการ
ปกครอง แบบต่
างๆ มาใช้
เพื

อประโยชน์
ในการปกครองรัฐตนได้
ทํ
าให้
เกิ
ดความคล้
ายคลึ
งและความแตกต่
างกันของรัฐต่
างๆ อันจะ
นํ ่
าไปสู
ความขัดแย้
งหรื
อการร่
วมมื
อระหว่
างประเทศ

ความหมายของรัฐ ชาติ
และประเทศ

รัฐ หมายถึ
ง ชุ
มชนทางการเมืองของมนุษย์ที
㥳 ร่
อาศัยอยู่
วมกัน โดยมีอาํนาจอธิปไตยเป็
นของตนเองมี
อาณาเขตของดิ
นแดงที

แน่
นอน
ภ่
และอยู ายใต้
การบริหารงานของรัฐบาลเดี
ยวกันจากความหมายข้างต้น "รัฐ" เป็
นศัพท์
ที

เน้
นทางด้
านการเมื
องการปกครอง
ชาติ
หมายถึ
ง ชุ
มชนของมนุ
ษย์
ที
㥳 ร่
อาศัยอยู่
วมกัน โดยมี
ความเป็
นมาทางประวัติ
ศาสตร์
และมี กพันในทางวัฒนธรรม
ความผู
ร่
วมกัน จากความหมายข้ างต้
น "ชาติ" เป็นศัพท์ที

เน้นทางด้
านวิถี
ชีวติ
ประเทศ หมายถึ ง ดิ
นแดนที บ่
㥳 งชีให้
꺞蹭 เห็นถึ
งสภาพทางภู มิ
ศาสตร์ ต่
างๆ เช่น ทะเลทราย เกาะ ความแห้งแล้
ง ดิ
นฟ้
าอากาศ แม่
น꺞蹭
าํ
ภู
เขา
ทะเล ป่
าไม้ เป็นต้ น จากความหมายข้ างต้น "ประเทศ" เป็นศัพท์
ที
㥳เน้นทางด้านภูมิ
ศาสตร์
ศัพท์ ขา้งต้น สามารถนํ ามาผสมกันเพื 㥳
อให้
เกิ
ดความหมายใหม่ ข꺞蹭

นมาได้ เช่

รัฐชาติ เป็นการผสมผสานความหมายของ "รัฐ กับ "ชาติ " ให้
เข้
ามารวมกัน โดยจะหมายถึ ง ชุ
มชนของมนุษย์
ที㥳
ประกอบไปด้วย
ลักษณะสําคัญ ดังนี 꺞蹭
1. มีความผูกพันกันในทางวัฒนธรรม
2. มีความเป็นมาทางประวัติ ศาสตร์ ร่
วมกัน
3. มีอาํนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง
4. มีอาณาเขตของดิ นแดนที 㥳
แน่นอน
5. มีรัฐบาลชุดเดี
ยวกันทํ าหน้าที㥳
ในการบริหารงาน
จากความหมายของรัฐข้
างต้
น มี
องค์
ประกอบหลักที

ประกอบเข้
าเป็
นรัฐ ดังนี
꺞蹭
1. ประชากร หมายถึ
ง ประชาชนทุ
กคนที

มี
สิ
ทธิ
เสรี
ภาพและหน้
าที

ตามกฎหมายในฐานะพลเมื
องของรัฐหนึ

งๆ ข้
อสังเกต

เกี
ยวกับประชากร คื

1.1 ขนาดของประชากร รัฐแต่ละแห่
งจะมี
ประชากรจํ
านวนเท่าใดนั꺞蹭
น ไม่
มี
การกําหนดไว้
ชดั เจนตายตัว บางรัฐอาจมี
ประชากรจํานวนมาก เช่น จี
นและอินเดี
ย แต่
บางรัฐอาจมี
ประชากรจํ
านวนน้
อย เช่ กนั เป็
น นครรัฐวาติ นต้

1.2 ลักษณะของประชากร ในแต่
ละรัฐจะมี ่
กลุ
มชนที
㥳 นพลเมื
เป็ อง ของรัฐนั꺞蹭 บ่
น มารวมตัวกันอยูนพื
นฐานของความ
꺞蹭

กพันทางวัฒนธรรม
ผู [1] เช่
น ภาษา ศาสนา ของตนเองอย่
างหลากหลาย นอกจากนี
อาจมี
꺞蹭 ่
กลุ
มชนที

ไม่
ได้
เป็
นพลเมื
องของรัฐนั꺞蹭

ด้
วย เช่
น ผู
ล้

ภัยสงคราม คนต่
꺞蹭 างด้
าวที

เข้
ามาทํ
างาน เป็
นต้

1.3 คุ
ณภาพของประชากร รัฐแต่
ละแห่
งจะมี
บุ
คคลที

มี
การศึ
กษา สุ
ขภาพ ฐานทางเศรษฐกิ
จ ความเชื
㥳 านิ
อและค่ ยม
ด้
านต่
างๆ มารวมตัวกันอยู อ่ย่างหลากหลาย
2. ดิ
นแดน หมายถึ ง พืนที
꺞蹭 㥳
ที㥳 ภ่
อยู ายใต้ การครอบครองของรัฐหนึ 㥳
งๆ ที㥳
มี ความหมายครอบคลุ มพืนดิ
꺞蹭 น น่ านนํา น่
꺞蹭 านฟ้
า เกาะ บริ
เวณ
ใต้
พ꺞蹭

นดิน พืนนํ
꺞蹭 า และพื
꺞蹭 นทะเล ข้
꺞蹭 อสังเกตเกี 㥳
ยวกับดินแดง มี ดงั นี
꺞蹭
2.1 พื
นที
꺞蹭 㥳
ไม่จาํ
เป็นต้
องติ ดกันเป็นผืนเดี
ยว โดยอาจเป็ นหมู ่
เกาะจํานวนมาก เช่ น สาธารณรัฐอิ นโดนี เซี
ยและสาธารณรัฐ
ฟิ
ลิ
ปปินส์ หรือมี พ꺞蹭

นที 㥳
ของประเทศอื 㥳
นคัน㥳ไว้ เช่
น มลรัฐอะแลสกาของประเทศสหรัฐอเมริ กา ซึ

งมีพ꺞蹭

นที㥳
ของประเทศแคนาดาคัน㥳 ไว้เป็
นต้น
2.2 พืนที
꺞蹭 㥳
ตอ้งมีพรมแดนที 㥳
ชดั เจน โดยมากใช้ ธรรมชาติ เช่
น แม่
น꺞蹭าํสันเขา เป็นต้น เป็นเส้นแบ่งเขตแดน
2.3 ขนาดของดิ นแดน รัฐแต่ ละแห่ งมีขนาดของพื นที
꺞蹭㥳
แตกต่ างกันไป บางรัฐมี พ꺞蹭

นที㥳
ขนาดใหญ่ เช่
น สาธารณรัฐประชาชนจี น
และประเทศสหรัฐอเมริ กา บางรัฐมี พ꺞蹭

นที 㥳
ขนาดเล็ ก เช่
น สาธารณรัฐมัลดี ฟส์และสาธารณรัฐสิ งคโปร์ เป็นต้น
3. รัฐบาล คื อ สถาบันที 㥳
ทาํหน้ าที 㥳
ในการกํ าหนดนโยบายทั꺞蹭 งภายในและภายนอกรัฐ โดยมี เป้าหมายเพื 㥳
อรักษาความมัน㥳 คงปลอดภัย
และให้
บริการสาธารณะแก่ ประชาชนของรัฐหนึ 㥳
งๆ รวมทั꺞蹭
งการปฏิ บตั ิ
ตามพันธะที 㥳
ให้ กบั รัฐอื
ไว้ 㥳
นและองค์ การระหว่ างประเทศต่ างๆ
4. อํ
านาจอธิ
ปไตย คื
อ อํ
านาจสู
งสุ
ดที

ใช้
ในการปกครองประเทศ อํ
านาจอธิ
ปไตยมี
2 ประเภท ได้
แก่
อํ
านาจอธิ
ปไตยภายใน
หมายถึ
ง อํานาจที㥳
ใช้
ในการบริหารกิ
จการทั꺞蹭
งปวง รวมทั꺞蹭
งการควบคุมพฤติ
กรรมของพลเมืองที

เกิ
ดขึ
นในดิ
꺞蹭 นแดนของตนเอง และอํ านาจ
อธิ
ปไตยภายนอก หมายถึง การเป็
นเอกราชหรือการมี
อิ
สระในการดําเนิ
นการใดๆ โดยปราศจากการควบคุ
มจากรัฐอื


รัฐทุ
กรัฐต้
องมี
องค์
ประกอบครบทั꺞蹭
ง 4 ประการข้
างต้
น ถ้
าขาดข้
อใดข้
อหนึ㥳
งไป จะถื
อว่
าขาดคุ
ณสมบัติ
ของความเป็
นรัฐโดยสิ
นเชิ
꺞蹭 ง
รู
ปแบบของรัฐ
รัฐ จํ
าแนกออกได้
เป็
น 3 ประเภท คื

1. รัฐเดี
ย魣
ว [2] หมายถึ
ง รัฐที

เป็
นเอกภาพ มี
เพี
ยงรัฐบาลเดี
ยวที

มี
อาํ
นาจในการบริ
หารกิ
จการต่
างๆ ทั꺞蹭
งที㥳
เกิ
ดขึ
นภายในและ
꺞蹭
ภายนอกดินแดนทั꺞蹭
งหมดโดยเด็
ดขาด ตัวอย่
างของ "รัฐเดี

ยว" เช่
น ราชอาณาจักรไทย สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ญี㥳
ปุ่
น สาธารณรัฐฝรั㥳
งเศส
ราชอาณาจักรสวี
เดน และสาธารณรัฐอิ
ตาลีเป็
นต้น
สํ
าหรับการบริ
หารราชการแผ่นดินของประเทศต่ างๆ ซึ㥳
งมี
การปกครองในรูป "รัฐเดี

ยว" นั꺞蹭
น มี
รายละเอี
ยดแตกต่างกันไป เช่

การบริ
หารราชการแผ่
นดิ
นของไทย [3] แบ่
งออกเป็
น 3 ส่
วน คื

1. การบริ หารราชการส่ วนกลาง ประกอบด้ วยสํานักนายกรัฐมนตรีกระทรวง หรื
อทบวง ซึ㥳
งมีฐานะเที
ยบเท่
ากระทรวงและกรม
หรื
อส่
วนราชการที 㥳
เรี
ยกชื㥳
ออย่
างอื㥳
นโดยมี ฐานะเป็นกรม
2. การบริ หารราชการส่ วนภูมิ ภาค ได้แก่ จังหวัดและอํ
าเภอ การบริ
หารราชการแบบนีเป็
꺞蹭นการบริ หารแบบแบ่งอํ
านาจทางการ
บริ
หารบางส่ วนจากส่ วนกลางไปให้ แก่
จงั หวัดและอําเภอ
3. การบริ หารราชการส่ วนท้ องถิ น มี
㥳 5 รู
ปแบบ ได้ แก่กรุ
งเทพมหานคร เมื
องพัทยา เทศบาล องค์การบริ
หารส่
วนจังหวัด (อบจ.)
และองค์
การส่ วนตํ าบล (อบต.) การบริ หารราชการส่ วนท้
องถินเป็
㥳 นการกระจายอํ
านาจทางการเมืองและการบริหารไปให้
แก่ องค์
กร
ปกครองท้องถิ น โดยมี
㥳 เป้
าหมายเพื㥳

3.1 แบ่งเบาภาระหน้ าที㥳
และความรับผิ ดชอบของรัฐบาล
3.2 ส่
งเสริ
มให้
ประชาชนในท้
องถิ ส่
นมี
㥳 วนร่ ปไตย
วมในการปกครองตนเองตามระบอบประชาธิ
3.3 ให้
สามารถจัดหาบริ
การสาธารณะที

ตอบสนองต่
อความต้
องการของประชาชนได้
อย่
างแท้
จริ
ง ครอบคลุ
ม ทัว㥳
ถึ
ง และ
รวดเร็

ประเทศไทยได้
ให้
ความสํ
าคัญต่
อการบริ
หารราชการส่
วนท้
องถิ
นเป็
㥳 นอย่
างมาก ดังเห็ จากรัฐธรรมนู
นได้ ญ [4] แห่

ราชอาณาจักรไทย พุ ทธศักราช 2550 มาตรา 281 ภายใต้ บงั คับมาตรา 1 ทีวา่
㥳 "รัฐจะต้องให้ ความเป็ นอิสระแก่องค์
กรปกครองส่ วนท้
องถิน

ตามหลักแห่ งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ ของประชาชนในท้ องถิ
น และส่
㥳 งเสริมให้ องค์ กรปกครองส่ วนท้องถินเป็
㥳 นหน่ วยงานหลัก
ในการจัดทํ าบริการสาธารณะ และมี ส่วนร่วมในการตัดสินใจแก้ ปัญหาในพื นที
꺞蹭 㥳ท้องถินใดมี
㥳 ลกั ษณะที㥳
จะปกครองตนเองได้ ย่
อมมีสิ
ทธิจดั
ตั꺞蹭
งเป็
นองค์กรปกครองส่ วนท้ องถิ น ทั꺞蹭
㥳 งนี ตามที
꺞蹭 㥳กฎหมายบัญญัติ " และได้ ให้ความเป็ นอิ สระแก่ องค์กรปกครองส่ วนท้องถิ
นเพิ
㥳 มขึ
㥳 นตาม
꺞蹭
รัฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทย พุ ทธศักราช 2550 มาตรา 283 วรรคแรกที วา่

"องค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน魣ย่
อมมีอาํ
นาจหน้ าทีโ魣
ดยทัว魣ไปในการดู แลและจัดทํ าบริ
การสาธารณะเพื อ魣ประโยชน์ของประชาชนใน
ท้องถิ
น魣และย่ อมมีความเป็นอิ สระไม่ ได้
หมายถึงความเป็นเอกราช ทัꎶ งนีꎶเพราะรัฐธรรมนู ญแห่ งราชอาณาจักรไทย พุ ทธศักราช 2550
มาตรา 1 กําหนดไว้ ว่า "ประเทศไทยเป็ นราชอาณาจักรอันหนึ 魣
งอันเดี
ยว จะแบ่ งแยกมิ ได้ "
นอกจากรัฐไทยแล้ ว "รัฐเดี㥳
ยว" อื㥳
นๆ ก็
จาํ
แนกการบริ หารราชการแผ่ นดิ นต่ างกันออกไป เช่ น
สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) จํ าแนกการบริ หารราชการแผ่นดิ นออกเป็ น 3 ส่ วน คื อ การบริ หารราชการส่ วนกลาง การบริหารราชการส่ วน
ท้องถิ
㥳น และการบริ หารแบบกระจายอํ านาจในสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์ เหนือ
สาธารณรัฐฝรั㥳 งเศส จําแนกการบริ หารราชการแผ่ นดินออกเป็ น 2 ส่ วน คือ การบริ หารราชการส่ วนกลางและการบริ หารราชการ
ส่วนท้องถิน สํ
㥳 าหรับการบริ หารราชการส่ วนท้องถิ
นนั꺞蹭
㥳 นแบ่ งออกเป็ น 3 ระดับ ได้ แก่ภาค (region) องค์ การบริหารส่วนจังหวัด
(department) และเทศบาล (commune)
ราชอาณาจักรสวี เดน จํ าแนกการบริ หารราชการแผ่ นดินออกเป็ น 3 ระดับ ได้ แก่ การบริ หารราชการส่ วนกลาง การบริหารราชการ
ส่วนภูมิ
ภาคมี ชื㥳
อเฉพาะว่า การบริ หารเคาน์ ตี(county) และการบริ หารราชการส่ วนท้ องถิ นมี
㥳 ชื

อเรี
ยกเฉพาะว่า การบริ หารเทศบาล
(municipality)
2. สหพันธรัฐ หมายถึ
ง รัฐที

เกิ
ดจากการรวมตัวกันของรัฐตั꺞蹭
งแต่2 รัฐขึ
นไป โดยรัฐแต่
꺞蹭 ละแห่
งยังคงสภาพของความเป็
นรัฐ
เดิม เพี ยงแต่ การใช้ อาํนาจของรัฐจะถู กจํ
ากัดขอบเขตไปตามพันธสัญญาที 㥳
ตราขึนเป็
꺞蹭 นกฎหมายร่ วมกัน ซึ 㥳งตามสัญญานี 꺞蹭จะมีการกํ าหนด
อํานาจของ "รัฐบาลกลาง" และ "รัฐบาลของแต่ ละรัฐ" ไว้อย่ างชัดเจน โดยรัฐแต่ ละรัฐจะมอบอํ านาจในส่ วนที 㥳 㥳
เกี
ยวกับผลประโยชน์ อนั เป็น
ส่วนรวมของรัฐทั꺞蹭 งหมดให้ แก่ "รัฐบาลกลาง" เช่ น การทหาร ความสัมพันธ์ ระหว่ างประเทศ ศาลสู ง การเงินและการคลัง เป็ นต้น ขณะที 㥳รัฐ
แต่ละรัฐจะมี อาํนาจในการควบคุ มดู แลผลประโยชน์
ในรัฐของตน ตัวอย่ างของสหพันธรัฐ เช่ น ประเทศสหรัฐอเมริ กา สาธารณรัฐอิ นเดี ย แคนาดา และมาเลเซี ย เป็
นต้ น
สหพันธรัฐจะช่ วยป้องกันมิ ให้มี
การรวมศู นย์อาํนาจไว้ ที㥳
รัฐใดรัฐหนึ 㥳
งมากเกิ นไป และขณะเดี ยวกันยังช่ วยไม่ ให้เกิ
ดระบบเผด็ จการ
ของรัฐบาลกลางขึ นมาอี
꺞蹭 กด้วย อย่ างไรก็ตาม ปั ญหาสํ าคัญของสหพันธรัฐก็ คื
อประสิ ทธิภาพในการบริ หารงาน เพราะอาจเกิ ดการทํ างานที 㥳
ซําซ้
꺞蹭 อนกันระหว่ างรัฐบาลกลางกับรัฐของแต่ ละรัฐได้โดยแต่ ละฝ่ ายต่างอ้างว่
า งานดังกล่ าวเป็นของตนและทํ าไปเพื 㥳
อประโยชน์ ของ
ประชาชน และสิ 㥳งนีจะนํ
꺞蹭 าไปสู ่
ความขัดแย้ งขึนมา อนึ
꺞蹭 㥳
ง ปั ญหาที 㥳
สร้างความวิ ตกให้ แก่รัฐแต่ละรัฐมากกว่ าการทํ างานที 㥳
ซ꺞蹭
าซอนก็
ํ คื อ การ
ขยายบทบาทของรัฐบาลกลางให้ เพิ มมากขึ
㥳 น โดยเฉพาะในช่
꺞蹭 วงเกิ
ดวิ กฤติการณ์ เช่น สงคราม โรคระบาด เป็ นต้ น โดยอ้ างว่า จําเป็นต้ อง
เพิมอํ
㥳 านาจเพื 㥳
อให้ ได้ ดุ
ลกับความรับผิ ดชอบ และหลังจากวิ กฤติ การณ์ น꺞蹭
นผ่
ั านพ้ นไปแล้ ว รัฐบาลกลางพยายามจะคงอํ านาจดังกล่ าวไว้ ต่อไป
โครงสร้ างปกติ ของสหพันธรัฐประกอบด้ วยรัฐบาลของแต่ ละรัฐ และรัฐบาลท้ องถิน ซึ
㥳 㥳
งแต่ ละรัฐบาลจะมี โครงสร้ าง บทบาท
หน้ าที㥳
และความรับผิ ดชอบแตกต่ างกันไป
ตัวอย่ างประเทศที 㥳
มีโครงสร้ างการปกครองแบบสหพันธรัฐ เช่ น ประเทศสหรัฐอเมริ กา ซึ㥳
งมีโครงสร้ างโดยสรุ ปดังนี꺞蹭
รัฐบาลกลาง ฝ่ ายนิติบญั ญัติเรี
ยกว่า "รัฐสภาหรื อสภาคองเกรส" ฝ่ ายบริหารหรื อฝ่ายรัฐบาลคื อ "ประธานาธิ บดีและคณะรัฐมนตรี "
รัฐบาลของแต่ ละรัฐ ฝ่ ายนิ ติ
บญั ญัติ
เรี
ยกว่า "รัฐสภาหรื อสภารัฐ" ฝ่ ายบริ หารของแต่ ละมลรัฐ คื อ "ผูว้า่
การรัฐ (Governor) และคณะ
ฝ่ายบริหาร (Commissioner)"
รัฐบาลท้ องถิน ในสหรัฐอเมริ
㥳 กามีรัฐบาลท้ องถิ㥳น 2 ประเภท คื อ ระดับเมื อง (country) และระดับเทศบาล (municipal) ในระดับ
เมือง ฝ่ายนิ ติ
บญั ญัติ เรี
ยกว่า "คณะกรรมการฝ่ ายนิติ
บญั ญัติ" ฝ่ายบริ หารเรียกว่า "ผูบ้
ริหารเรียกว่า "นายกเทศมนตรี "
3. สมาพันธรัฐ เป็ นการรวมตัวของรัฐเพื 㥳
อกระทํ าภารกิ จบางประการเป็ นการเฉพาะโดยไม่ มีรัฐธรรมนู ญหรื อรัฐบาลกลางร่ วมกัน
และจะสลายตัวไปหลังบรรลุ ผลตามเป้ าหมายที 㥳
ตอ้งการแล้ ว เช่ น การรวมตัวของรัฐในรู ปของการเป็ นพันธมิ ตรเพื 㥳
อทํ าสงครามร่ วมกัน
เป็นต้น ในปั จจุ บนั นี รู
ปแบบของรัฐแบบสมาพันธรัฐไม่
꺞蹭 มี
ปรากฏให้ เห็
นอีกแล้ ว

หน้
าที
ข魣
องรัฐ

หน้ าที

ของรัฐจะแตกต่
างกันไประหว่
างสหพันธรัฐกับรัฐเดี

ยวโดย สหพันธรัฐมี
การแบ่
งหน้าที㥳
ระหว่ กบั รัฐบาล
างรัฐบาลสหพันธ์
ของแต่
ละรัฐออกจากกัน โดยรัฐบาลสหพันธ์จะทํ
าหน้าที

ที㥳
จาํ
เป็
นเพื㥳
อประกันความมัน㥳คงปลอดภัยทางเศรษฐกิ
จ สังคมและการเมื องของ
รัฐธรรมนู
สหพันธรัฐ ตามที
㥳 ญ กาํ
ของสหพันธรัฐได้ หนดไว้
เท่
านั꺞蹭
นซึ

งจะได้
แก่
ระบบเงิ
นตรา การรักษาความมัน㥳
คง การต่
าง
ประเทศ และการศาลของสหพันธ์ ในส่
วนของรัฐแต่ละรัฐจะมี
อิสระในการปกครองตนเอง มี
ธรรมนู
ญและกฎหมายของรัฐออกมาควบคุ ม
การดํ
าเนิ
นการต่ างๆ ของแต่ ละรัฐ อย่ างไรก็
ตาม ธรรมนู ญของรัฐและกฎหมายทั꺞蹭
งหมดจะต้องไม่
ขดั กับธรรมนู
ญและกฎหมายของ
สหพันธรัฐ สําหรับหน้าที

ของรัฐแต่
ละรัฐ ได้
แก่การรักษาความสงบเรี
ยบร้
อยและความมัน㥳
คงภายในของรัฐ การให้บริ
การและสวัสดิ
การ
ทางสังคมแก่พลเมือง และการพัฒนาความเจริญเติ
บโตของรัฐ
1. ด้
านเศรษฐกิ จ
1.1 รักษาเสถี
ยรภาพทางเศรษฐกิ
จ โดยการจัดทํ
านโยบายการเงิ
นการคลังที

เหมาะสม เช่ มเงิ
น การควบคุ นเฟ้

[5] การกํ
าหนดอัตราแลกเปลี
㥳 จ่
ยน การใช้ายงบประมาณ การจัดเก็
บภาษี
อากร การก่
อหนี
สาธารณะ เป็
꺞蹭 นต้

1.2 วางระเบี
ยบกฎเกณฑ์
การดํ
าเนิ
นการทางเศรษฐกิ
จเพื

อป้
องกันไม่
ให้
มี
การเอารัดเอาเปรี
ยบกัน และป้
องกันไม่
ให้
เกิ
ดความ
ผันผวนทางเศรษฐกิ จ
1.3 สร้างความเจริ
ญเติ
บโตทางเศรษฐกิจ โดยการส่
งเสริ
มการส่
งออกสิ
นค้
าและบริการ และการปรับปรุ
งโครงสร้
างสิ
นค้า
และบริการนํ
าเข้

1.4 สร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิ
จ เพื

อมิให้
รายได้
และทรัพย์
สิ
นกระจุ ท่
กตัวอยู㥳

บุ
คคลหรือกลุ่
มบุ
คคลใดบุคคลหนึ㥳
ง เช่

การจัดเก็
บภาษี
ในอัตราก้
าวหน้
า การจัดเก็
บภาษี
ทรัพย์
สิ มรดก
นและภาษี เป็
นต้

2. ด้านสั งคม
2.1 กระจายการพัฒนาให้ มี
ความเป็นธรรมแก่ ระบบสังคมส่ วนรวม เช่ น การก่ อสร้ างการคมนาคมขนส่ งเพื㥳
อให้การติดต่อกับ
พืนที
꺞蹭 㥳
ทีห่
㥳างไกลความเจริ ญเป็นไปโดยสะดวก การเพิ มรายได้
㥳 ของเกษตรกร การขยายโอกาสของประชาชนทั꺞蹭 งที㥳
อยูใ่นเขตทุ รกันดารและคน
ยากจนที 㥳
อยูใ่นเขตเมื อง ให้ สามารถเข้ าถึ
งบริการทางการศึ กษาและการสาธารณสุ ข เป็นต้ น 2.2 สร้างสันติสุ
ขระหว่ าง
ประชากรที 㥳
แตกต่ างกันในด้ านเชือชาติ
꺞蹭 ศาสนา และวัฒนธรรม การจัดระเบี ยบสังคม และพัฒนาศี ลธรรม จริยธรรมอันดี งามของประชาชน
เช่
น ตรวจตราและกวดขันให้ สถานบริ การต่
างๆ ปฏิบตั ิ
ตามกฎหมายอย่ างเคร่ งครัด ควบคุ มไม่ ให้มีการกระทํ าความผิ 㥳
ดเกี
ยวกับสารเสพติ ด
ควบคุ มไม่ให้มีการแสดงลามกอนาจารหรื อการแสดงที 㥳
ไม่
เหมาะสม รวมทั꺞蹭 งควบคุ มไม่ ให้ มี
การจําหน่ ายสื㥳
อลามกที 㥳
ผลิตขึนในรู
꺞蹭 ปแบบต่ างๆ
การส่งเสริมการประกอบกิ จกรรมทางศาสนา การรณรงค์ ให้มีการลด ละ เลิ ก อบายมุ ข การส่ งเสริมงานประเพณี ทอ้งถิน และการรักษา

มรดกทางประวัติ ศาสตร์ และวัฒนธรรม เป็ นต้น
2.3 สร้างงานสํ าหรับประชาชนที 㥳
ถึ
งวัยทํ างาน ทั꺞蹭
งนีเพื
꺞蹭 㥳
อป้ องกันปั ญหาการว่ างงาน ซึ 㥳
งจะเป็นอันตรายต่ อเศรษฐกิ จ สังคม
และการเมื องของประเทศ เช่ น การส่งเสริ
มอาชีพ การให้ ทุ
นเพื 㥳
อผลิตและจํ าหน่ ายสินค้ า เป็นต้น
2.4 รักษาความสงบเรี ยบร้อยในสังคม เพื 㥳
อให้ประชาชนอยู ก่นั อย่
างมี ความสุ ข ซึ

งทํ าได้
โดย
1) สร้างความปลอดภัยในชี วติและทรัพย์ สิ
นของประชาชน เช่ น การตรวจตราและกวดขันการพกพาอาวุ ธเข้
าไปในที 㥳
สาธารณะ เป็ นต้ น
2) การป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่ น การมี
รถและเครื 㥳
องมื อดับเพลิ ง การป้ องกันภัยแล้ง การป้องกันและบรรเทา
ภัยจากแผ่ นดินไหวและนํ าท่
꺞蹭 วม เป็
นต้น
2.5 บริ การด้ านสังคมอื 㥳
นๆ เช่

1) การรักษาความสะอาดและความเป็
นระเบี
ยบเรี
ยบร้
อยของบ้
านเมื น การกํ
อง เช่ าจัดขยะมู
ลฝอย และสิ
งปฏิ
㥳 กลู
เป็
นต้

2) การแพทย์ และสาธารณสุ ข เช่

- การส่งเสริ
มให้ประชาชนมี สุ
ขภาพที 㥳
ดี
ทั꺞蹭
งสุ
ขภาพกายและสุ ขภาพจิ
ต - การควบคุมและการป้องกันโรค เช่
น การฉี

วัคซี
น การทํ าลายแหล่ งพาหะของเชื อโรค เป็
꺞蹭 นต้ น
- การกระจายบริ การด้านการป้ องกัน ส่งเสริ
ม และฟื นฟู
꺞蹭 สุขภาพควบคู่
ไปกับการรักษาพยาบาล เช่
น การรณรงค์ ให้
มี
การ
ออกกําลังกาย การส่ งเสริมการรับประทานอาหารให้ ครบ 5 หมู่เป็
นต้น
3) การสวัสดิ การสังคม เช่

- การพัฒนาสภาพความเป็ นอยู ข่องประชาชนให้ ดีข꺞蹭

น โดยเฉพาะคนยากจนทั꺞蹭
งในเขตเมื
องและชนบท เช่ น การเพิ
มรายได้

การสร้างที 㥳 อ่
อยูาศัยสํ าหรับคนยากจน เป็ นต้น
- การส่ งเสริมนันทนาการให้ แก่ประชาชน เช่ น การสร้างสวนสาธารณะ การสร้ างสนามกีฬา เป็
นต้

- การสังคมสงเคราะห์ เช่
น เด็กกําพร้า คนพิการ ผู
สู้
งอายุ
เป็
นต้น
3. ด้
านการเมื องการปกครอง
3.1 การส่ งเสริมและพัฒนาการมี ส่วนร่วมของประชาชน
3.2 การกระจายอํ านาจให้แก่ทอ้งถิน

3.3 การสร้ างระบบการตรวจสอบและการบริ หารที㥳
ดี
4. ด้
านความมัน㥳 คง
4.1 การรักษาผลประโยชน์ แห่ งชาติ เช่น
1) การดํ ารงไว้ ซ㥳ึ
งเอกราช อธิ ปไตย และบู รณภาพแห่ งดินแดน
2) ให้ความคุ ม้ครองและรักษาผลประโยชน์ ทางเศรษฐกิ จและทรัพยากรของชาติ และเสริ
มสร้างความมัน㥳คงปลอดภัย
ทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติ
3) การให้ ความร่ วมมือกับนานาชาติ และองค์ การระหว่ างประเทศบนพื นฐานของผลประโยชน์
꺞蹭 แห่งชาติ
4) ความมี เกียรติและศักดิ슦ⲏ
ศรีในประชาคมระหว่ างประเทศ
4.2 การป้ องกันประเทศ เช่ น
1) ปรับปรุ งและพัฒนากองทัพให้ มีประสิ ทธิภาพและสมรรถนะในการรบ
2) ปรับปรุ งและพัฒนาระบบกํ าลังสํารอง ระบบการระดมสรรพกํ าลัง ระบบการเรี ยกเกณฑ์ทหาร ระบบการอาสาสมัคร
เข้
ากองประจําการ และการเตรี ยมการอื 㥳
นๆ ให้ เป็นรูปธรรม และสอดคล้ องซึ㥳
งกันและกัน เพื 㥳
อให้มี
ความพร้ อมในการป้องกันประเทศ
3) การพัฒนาอาวุ ธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ทางการทหารในด้ านต่ างๆ เพื

อให้กองทัพมีความทันสมัยอยูเ่
สมอ
4) การสร้ างความสัมพันธ์ ทางทหารกับนานาประเทศ บนพื นฐานของความเท่
꺞蹭 าเที
ยมและให้เกี
ยรติซ㥳

งกันและกัน ซึ

งจะ
นํ ่
าไปสู
ความเข้าใจอันดี ระหว่ างกัน ไม่ระแวงซึ 㥳
งกันและกัน อันจะนํ าไปสู่
ความสันติ สุ
ขและหลี กเลี㥳
ยงสงคราม
5. ด้
านการศึ กษา
รัฐต้
องพัฒนาบุ คคลในประเทศให้ เป็นมนุ ษย์ ที

สมบู รณ์ในมิติต่
างๆ ได้แก่ร่
างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้คุ
ณธรรม จริ ยธรรม และ
วัฒนธรรมในการดํ ารงชี วติสามารถอยู ร่

วมกับผู อ้㥳

นได้ อย่างมีความสุข รวมทั꺞蹭
งต้
องให้มีการพัฒนาการเรี ยนรู้
ของประชาชนตลอดชี วติ

แนวนโยบายพื
นฐานแห่
ꎶ งรัฐ

รัฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทย พุ กาํ


ทธศักราช 2550 ได้ หนดแนวนโยบายพื
นฐานแห่
꺞蹭 งรัฐไว้
ในหมวด 5 แนวนโยบายพื
นฐาน
꺞蹭
แห่
งรัฐ ดังนี
꺞蹭
ส่ วนที
魣1 บททัว魣
ไป

มาตรา 75 บทบัญญัติในหมวดนี เป็


꺞蹭นเจตจํ
านงให้ รัฐดํ
าเนิ
นการตรากฎหมาย และกํ าหนดนโยบายในการบริ หารราชการแผ่ นดิ
น ใน
การแถลงนโยบายต่ อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ที

จะเข้
าบริหารราชการแผ่ นดินต้องชี
แจงต่
꺞蹭 อรัฐสภาให้ชดั แจ้
งว่าจะดําเนิ
นการใด ในระยะเวลา
ใด เพื

อบริหารราชการแผ่ นดิ
นให้เป็นไปตามแนวนโยบายพื นฐานแห่
꺞蹭 งรัฐ และต้
องจัดทํ
ารายงานแสดงผลการดํ าเนินการ รวมทั꺞蹭
งปั ญหาและ
อุ
ปสรรค เสนอต่ อรัฐสภาปีละหนึ㥳
งครั꺞蹭

มาตรา 76 คณะรัฐมนตรี ตอ้งจัดทําแผนการบริ หารราชการแผ่ นดิน เพื

อแสดงมาตรการและรายละเอี ยดของแนวทางในการปฏิ บตั ิ
ราชการในแต่ละปีของการบริ หารราชการแผ่ นดิน ซึ

งจะต้ องสอดคล้องกับแนวนโยบายพื นฐานแห่
꺞蹭 งรัฐ
ในการบริหารราชการแผ่ นดิ น คณะรัฐมนตรี ตอ้งจัดให้มี
แผนการตรากฎหมายที 㥳
จาํ เป็
นต่
อการดํ าเนิ
นการตามนโยบายและแผนการ
บริหารราชการแผ่นดิน

ส่
วนที

2 แนวนโยบายด้
านความมัน魣
คงของรัฐ

มาตรา 77 รัฐต้
องพิ
ทกั ษ์
รักษาไว้งสถาบันพระมหากษัตริ
ซ㥳
ึ ย์ [6] เอกราช อธิ
ปไตย และบู
รณภาพแห่
งเขตอํ
านาจรัฐ และต้
องจัดให้
กาํ
มี ลังทหาร อาวุ
ธยุ
ทโธปกรณ์และเทคโนโลยี
ที㥳
ทนั สมัย จํ
าเป็
นและเพี
ยงพอ เพื

อพิ
ทกั ษ์
รักษาเอกราช อธิ
ปไตย ความมัน㥳
คงของรัฐ
สถาบันพระมหากษัตริ
ย์ผลประโยชน์
แห่
งชาติและการปกครองระบบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์
รงเป็
นประมุ
ข และเพื

อการ
พัฒนาประเทศ
ส่
วนที

3 แนวนโยบายด้
านการบริ
หารราชการแผ่
นดิ

มาตรา 78 รัฐต้องดํ าเนิ


นการตามนโยบายด้ านการบริหารราชการแผ่นดิน สรุ
ปได้ดงั นี
꺞蹭
บริหารราชการแผ่ นดินให้
เป็นไปเพื㥳
อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และความมัน㥳 คงของประเทสอย่างยัง㥳
ยืน โดยต้องส่ งเสริ
มการ
ดําเนิ
นการตามปรัชญาเศรษฐกิ จพอเพี
ยง จัดระบบการบริหารราชการส่ วนกลาง ส่วนภู
มิภาค และส่ วนท้องถิ
น ให้
㥳 มี
ขอบเขต อํ านาจหน้ าที

และความรับผิดชอบที 㥳
ชดั เจนเหมาะสมแก่ การพัฒนาประเทศ กระจายอํ านาจให้
องค์
กรปกครองส่ วนท้องถิ
㥳นพึ㥳
งตนเองและตัดสิ นใจใน
กิจการของท้องถินได้
㥳 เอง ส่ งเสริ
มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ
นมี
㥳 ส่วนร่
วมในการดําเนิ นการตามแนวนโยบายพื นฐานแห่
꺞蹭 งรัฐ พัฒนา
เศรษฐกิจของท้องถิ นและระบบสาธารณู
㥳 ปโภคและสาธารณู ปการ ตลอดทั꺞蹭
งโครงสร้างพื
นฐานสารสนเทศในท้
꺞蹭 องถิ นให้
㥳 ทวั㥳
ถึ
งและเท่ าเที
ยม
กันทัว㥳
ประเทศ พัฒนาระบบงานภาครัฐ โดยมุ ่
งเน้
นการพัฒนาคุณภาพ คุณธรรม และจริ ยธรรม ของเจ้
าหน้าที㥳
ของรัฐ ควบคู ่
ไปกับการ
ปรับปรุงรู
ปแบบและวิ ธี
การทํ างาน

ส่
วนที

4 แนวนโยบายด้
านศาสนา สั งคม การสาธารณสุ
ข การศึ
กษา และวัฒนธรรม

มาตรา 79 รัฐต้องให้ ความอุปถัมภ์


และคุ
ม้
ครองพระพุทธศาสนาซึ 㥳
งเป็
นศาสนาที㥳
ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่
นบั ถื
อมาช้านานและ
ศาสนาอื

น ทั꺞蹭
งต้
องส่ งเสริ
มความเข้ าใจอันดี
และความสมานฉันท์ระหว่
างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั꺞蹭
งสนับสนุ
นการนําหลักธรรมของ
ศาสนามาใช้
เพื

อเสริ มสร้างคุณธรรมและพัฒนาคุ ณภาพชีวติ
มาตรา 80 รัฐต้องดําเนิ
นการตามแนวนโยบายด้ านสังคม การสาธารณสุข การศึ
กษา และวัฒนธรรม

ส่
วนที

5 แนวนโยบายด้
านกฎหมายและการยุ
ตธิ
รรม

มาตรา 81 รัฐต้
องดําเนิ
นการตามแนวนโยบายด้ านกฎหมายและการยุ ติ
ธรรม ดังต่อไปนี꺞蹭
ดู
แลให้มีการปฏิบตั ิ
และบังคับการให้
เป็
นไปตามกฎหมายอย่ างถู
กต้
อง รวดเร็
ว เป็นธรรม และทัว㥳
ถึ
ง ส่
งเสริ
มการให้
ความช่ วยเหลื

และให้ความรู

ทางกฎหมายแก่ ประชาชน คุ ม้
ครองสิ
ทธิและเสรี
ภาพของบุคคลให้พน้จากการล่ วงละเมิ
ด จัดให้
มีกฎหมายเพื

อจัดตั꺞蹭
งองค์กร
เพื

อการปฏิรู
ปกฎหมายและกระบวนการยุ ติ
ธรรมที

ดาํ
เนิ
นการเป็
นอิสระ เพื 㥳
อปรับปรุ งและพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุ ติธรรมของ
ประเทศ สนับสนุนการดํ าเนินการขององค์กรภาคเอกชนที㥳
ให้
ความช่วยเหลื
อทางกฎหมายแก่ ประชาชน

ส่
วนที

6 แนวนโยบายด้
านการต่
างประเทศ

มาตรา 82 รัฐต้
องส่ งเสริ
มสัมพันธไมตรี
และความร่วมมื
อกับนานาประเทศ และพึงถื
อหลักในการปฏิ ต่
บตั ิ อกันอย่
างเสมอภาค
ตลอดจนต้ องปฏิบตั ิ
ตามสนธิ
สญั ญาด้านสิทธิมนุ
ษยชนที㥳
ประเทศไทยเป็นภาคีรวมทั꺞蹭
งตามพันธกรณีที㥳
ได้
กระทํ
าไว้ กบั นานาประเทศและ
องค์
การระหว่ างประเทศ
รัฐต้องส่งเสริ
มการค้
า การลงทุน และการท่องเที

ยวกับนานาประเทศ ตลอดจนต้องให้
ความคุม้ครองและดู
แลผลประโยชน์ ของคน
ไทยในต่างประเทศ

ส่
วนที

7 แนวนโยบายด้
านเศรษฐกิ

มาตรา 83 รัฐต้
องส่
งเสริ
มและสนับสนุ
นให้
มีการดําเนิ
นการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยง
มาตรา 84 รัฐต้
องดํ
าเนิ
นการตามแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ

ส่
วนที

8 แนวนโยบายด้
านที
ด魣
นิทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ

งแวดล้
อม
มาตรา 85 รัฐต้
องดํ
าเนิ
นการตามแนวนโยบายด้ านที㥳
ดิ
น ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ㥳งแวดล้อม ดังต่
อไปนี
꺞蹭
กํ
าหนดหลักเกณฑ์ การใช้
ที

ดินให้ครอบคลุ มทัว㥳
ประเทศ กระจายการถือครองที 㥳
ดิ
นอย่างเป็
นธรรมและดํ าเนิ
นการให้เกษตรกรมี
กรรมสิ 슦ⲏหรื
ทธิ อสิ ทธิ
ในที㥳
ดิ
นเพื

อประกอบเกษตรกรรมอย่ างทัว㥳
ถึ
ง จัดให้
มี
การวางผังเมื
อง พัฒนา และดํ าเนิ
นการตามผังเมืองอย่
างมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ จัดให้ มี
แผนการบริหารจัดการทรัพยากรนําและทรัพยากรธรรมชาติ
꺞蹭 อื

นอย่ างเป็
นระบบ ตลอดจนส่ งเสริ
ม บํ
ารุ
งรักษา และ
คุ
ม้
ครองคุ
ณภาพสิ งแวดล้
㥳 อมตามหลักการพัฒนาที 㥳
ยงั㥳
ยื

ส่
วนที

9 แนวนโยบายด้
านวิ
ทยาศาสตร์
และพลังงาน

มาตรา 80 รัฐต้องดํ
าเนิ
นการตามแนวนโยบาย ด้ านวิ
ทยาศาสตร์ทรัพย์
สินทางปั ญญาและพลังงานดังต่
อไปนีส่
꺞蹭 งเสริมให้
มี
การ
พัฒนาด้านวิ
ทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านต่
างๆ โดยจัดให้
มี
กฎหมายเฉพาะเพื

อการนี ส่
งเสริ
꺞蹭 มการประดิษฐ์
หรือการค้ นคิ
ดเพื


ให้เกิ
ดความรู

ใหม่รักษาและพัฒนาภู มิปัญญาท้
องถินและภู
㥳 มิ
ปัญญาไทย ให้ ความคุ
ม้
ครองทรัพย์สินทางปั ญญา รวมทั꺞蹭
งส่งเสริ
มและ
สนับสนุนการวิจยั พัฒนา และใช้
ประโยชน์จากพลังงานทดแทน

ส่
วนที

10 แนวนโยบายด้
านการมี
ส่
วนร่
วมของประชาชน

มาตรา 87 รัฐต้
องดํ
าเนินการตามแนวนโยบายด้ ส่
านการมีวนร่วมของประชาชน ดังต่ อไปนี꺞蹭
ส่งเสริ
มให้ประชาชนมี ส่
วนร่วมในการกําหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาเศรษฐกิ จ และสังคมทั꺞蹭
งในระดับชาติ
และระดับท้องถิ


ส่
มี วนร่
วมในการตัดสิ นใจทางการเมือง การตรวจสอบการใช้อาํ
นาจรัฐ มี
ความเข็มแข็งในทางการเมื อง และจัดให้
มี
กฎหมายจัดตั꺞蹭
งกองทุน
พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองเพื㥳
อช่
วยเหลือการดํ
าเนิ
นกิ
จกรรมสาธารณะของชุ มชน รวมทั꺞蹭 งสนับสนุ นการดําเนิ ่
นการของกลุ
มประชาชนที 㥳
ร่
วมตัวกันในลักษณะเครือข่ายทุ
กรู
ปแบบ ให้ การศึ
กษาแก่ประชาชนเกี㥳
ยวกับการพัฒนาการเมื องและการปกครอง ระบบประชาธิ ปไตยอัน
มี
พระมหากษัตริ ยท์รงเป็
นประมุข รวมทั꺞蹭
งส่
งเสริ
มให้
ประชาชนได้ใช้
สิ ทธิ
เลื
อกตั꺞蹭
ง โดยสุจริ
ตและเที㥳
ยงธรรม

รู
ปแบบการปกครองในอดี
ต ในสมัยอดี
ตการการที

จะวิ วา่
เคราะห์ บ้
านเมื
องใดมี
การปกครองแบบใด เราสามารถพิ
จารณาได้
จาก
องค์
ประกอบ 2 องค์
ประกอบคื

การปกครองนัꎶ
นเป็
นไปเพื
อ魣
ผลประโยชน์
ร่
วมกันของส่
วนรวม

การปกครองนัꎶ
นรับใช้
ผลประโยชน์
ของคนๆ เดี
ยว กลุ

มคนหรื
อพรรค

ทั꺞蹭
งนี
꺞蹭อาจแบ่
งแยกรู
ปแบบการปกครองตามลักษณะของผู
ร้
ับผลประโยชน์
และจํ
านวนผู
ท้

ี อริ
ปกครองตามที
㥳 สโตเติ
ลꎶ

[7] แบ่
งเอาไว้
ได้
6 รู
ปแบบ ดังนี
꺞蹭

ปกครองโดย เพื

อประโยชน์
/ผู
ร้
ับประโยชน์ ชื

อรู
ปแบบ

คนเดี
ยว ส่
วนรวม ราชาธิ
ปไตย

คนเดี
ยว ส่
วนตน ทรราช


กลุ
ม/คณะบุ
คคล ส่
วนรวม อภิ
ชนาธิ
ปไตย


กลุ
ม/คณะบุ
คคล ส่
วนตน คณาธิ
ปไตย

ประชาชน ส่
วนรวม ระบอบรัฐธรรมนู

ประชาชน พรรค ประชาธิ


ปไตย

การปกครองแบบรัฐสภา การปกครองแบบนี
เริ
꺞蹭มเกิ
㥳 ดขึ
นในประเทศอังกฤษและได้
꺞蹭 แพร่
หลายในทวี
ปยุ
โรป เอเซี
ยและ
แอฟริ
กา หลักการสํ
าคัญก็
คื
อ ให้
รัฐสภากับคณะรัฐมนตรี
มี กนั อย่
ความสัมพันธ์ างใกล้
ชิ
ด ทั꺞蹭
งนี
꺞蹭โดยกํ
าหนดให้
รัฐสภามี
ฐานะอํ
านาจและ
ความสํ
าคัญเหนื
อกว่
าคณะรัฐมนตรี
คื
อ คณะรัฐมนตรี
จะเข้
าดํ
ารงตํ
าแหน่ ต่
งได้อเมื

อได้ วางใจจากรัฐสภา
รับความไว้ [8] และจะอยู

ในตําแหน่งเท่
าที㥳
สภายังให้
ความไว้วางใจ ถ้
ารัฐสภาไม่
ให้
ความไว้วางใจคณะรัฐมนตรีจะต้
องลาออกจากตํ
าแหน่ง รัฐสภามี
อาํนาจควบคุม
การบริหารราชการแผ่นดิ นขอคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีจะต้
องรับผิดชอบร่
วมกันต่
อรัฐสภา และคณะรัฐมนตรีจะต้องนํ
าเอากฎหมายที㥳
รัฐสภาได้
บญั ญัติ
ข꺞蹭

นไว้ไปปฏิบตั ิ
อย่
างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีอาจจะยุบสภาได้ในบางกรณี กล่
าวโดยสรุ
ป การปกครองแบบนี รัฐสภาอยู
꺞蹭 ่
ในฐานะพิ เศษ คื
อ เป็นทั꺞蹭
งฝ่
ายที 㥳
ให้
ความยิ นยอมในการจัดตั꺞蹭
งคณะรัฐมนตรี ด้
วย ดังนั꺞蹭
น จึ
งถื
อว่
าเป็นรู
ปแบบการปกครองที 㥳
ไม่
มีการแบ่
งแยก
อํานาจกันระหว่างฝ่ายนิ
ติ กบั ฝ่
บญั ญัติ ายบริหาร แต่ ท꺞蹭
งสองฝ่
ั าย ซึ㥳
งรวมเป็
นคณะรัฐมนตรี จะมี กนั อย่
ความสัมพันธ์ างใกล้
ชิ
ด ประเทศที 㥳
เป็นต้
นแบบการปกครองแบบรัฐสภา คื อ ประเทศอังกฤษ ตัวอย่
างของประเทศที㥳
ปกครองแบบนี ได้
꺞蹭 แก่อังกฤษ นอร์ เวย์
สวี
เดน เดนมาร์

ไอร์แลนด์ อิ
ตาลีอินเดี
ย ออสเตรเลี ย นิ
วซีแลนด์เป็
นต้น
การปกครองแบบประธานาธิ
บดี เป็
นการปกครองที

มี
การแยกอํ
านาจบริ
หารและนิ
ติ
บญั ญัติ
ออกจากกัน โดยให้
ประธานาธิ บดีได้ รับการเลื อกตั꺞蹭
งจากประชาชนและมี อาํ
นาจบริหารให้ สภานิ ติ
บญั ญัติได้
รับการเลือกตั꺞蹭
งจากประชาชนเช่ นกันและมี อาํ
นาจ
นิติ
บญั ญัติ
โดยทฤษฏี แล้ วทั꺞蹭
งสองฝ่ายสามารถคนอํ านาจกันได้
กล่ าวคือ การปกครองแบบประธานาธิ บดีจะมีการแบ่งแยกอํ านาจปกครองออกจากกันอย่ างอิ
สระ คือ อํานาจบริหาร อํานาจ
ตุ
ลาการ และอํ านาจนิ ติบญั ญัติ มี
ประธานาธิบดีเป็
นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และประชาชนเป็ นผูเ้
ลื
อกตั꺞蹭
งประธานาธิ บดีโดยตรงโดยมี รัฐสภา
อันประกอบด้ วย วุ ฒิ
สภาและสภาผู แ้ทนราษฎร ซึ 㥳งมี
อาํ
นาจทางด้ านนิติบญั ญัติ ทาํ
หน้
าที㥳 㥳
เกี
ยวกับการออกกฎหมายต่ างๆ ทั꺞蹭
งวุ
ฒิสภาและ
สภาผู แ้
ทนราษฎร ได้ รับการเลือกตั꺞蹭
งโดยตรงจากประชาชนเช่ นกัน สํ าหรับอํ านาจตุ
ลาการมี ศาลซึ

งประกอบด้ วยผูพ้ิ
พากษา ทํ าหน้าที

ตี
ความตารัฐธรรมนู ญ ของประเทศและกํ ากับดู
แล การใช้อาํนาจยุ
ติธรรมตามกฏหมาย ทั꺞蹭 งนีผู
พ้
꺞蹭 ิ
พากษามิ ได้
มาจากการเลือกตั꺞蹭
งโดยตรงของ
ประชาชน แต่ ได้รับการแต่ งตั꺞蹭
งจากประธานาธิ บดี โดยความยินยอมเห็ นชอบของวุ ฒิ
สภาประเทศที 㥳
มีการปกครองแบบประธานาธิ บดี คื

สหรัฐอเมริกา
การปกครองแบบกึ
ง魣
ประธานาธิ
บดี
กงึ

รัฐสภา หลักการปกครองที

สาํ
คัญ คื
อให้
ประธานาธิ
บดี
เป็
นทั꺞蹭
งประมุ
ขของชาติ
และ

เป็
นประมุ
ขของฝ่
ายบริ
หาร ขณะเดี
ยวกันก็
มี กบั คณะรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี ร่
วมใช้
อาํ
นาจบริ
หารด้
วยส่ ง นายกรัฐมนตรี
วนหนึ
㥳 [9]
และคณะรัฐมนตรีตอ้
งรับผิ
ดชอบต่อรัฐสภา รัฐสภามี
อาํ
นาจในการออกกฎหมายและควบคุมคณะรัฐบาล ถ้
าสภาลงมติ
ไม่
ไว้
วางใจคณะ
รัฐบาลต้
องลาออก แต่ ประธานาธิ
บดีไม่
ตอ้
งลาออก ประเทศที 㥳 กาํ
ให้ เนิ
ดรู
ปแบบการปกครองแบบนี꺞蹭คื
อ ประเทศฝรั㥳
งเศสภายหลัง
สงครามโลกครัꎶ
งที

2 [10] ประเทศที

ใช้
ระบอบการปกครองแบบนี
ได้
꺞蹭แก่
ประเทศฝรั㥳
งเศสในปั จจุ
บนั และบางประเทศในยุ
โรป เช่

กรี
ซ เป็
นต้

เผด็
จการแบบทหารมี อาํ นาจปกครอง โดยทหารดํ ารงตํ
าแหน่งเป็
นประมุ ขของประเทศ ทหารเป็ นผู
ใ้
ช้
อาํ
นาจในการบริหารประเทศทุก
ด้
าน รวมทั꺞蹭
งใช้
อาํ
นาจนิ ติ
บญั ญัติโดยการออกกฎหมายต่ างๆ รวมทั꺞蹭
งแต่
งตั꺞蹭
งรัฐบาล ซึ 㥳
งส่วนใหญ่เป็
นนายทหารหรือผู
ใ้
กล้
ชิ
ด และอาจมีการ
ตั꺞蹭
งสภาทหารหรื อสภาปฏิ วตั ิ
ซ㥳

งมีอาํนาจสู
งสุดในการปกครองประเทศ เช่ น พม่ า อิ
รัก และปากี
สถาน เป็
นต้

เผด็
จการแบบประธานาธิ บดี ประเทศที㥳
มี
การปกครองในรู ปแบบเผด็ จการแบบมี ประธานาธิ
บดีมี
การจัดระบบการปกครองแบบนี 꺞蹭
ให้ประธานาธิบดีซึ㥳
งเป็
นหัวหน้ าฝ่ายบริ
หารมีอาํ
นาจสูงสุ
ดและสามารถดํ ารงตํ าแหน่ ไ่
งอยูด้
ตลอดชีวติหรื
อจนกว่าจะสละอํ
านาจแก่
ทายาท
ทางการเมืองที㥳
ตนเป็
นผูเ้
ลื
อก ประเทศที 㥳
มี
การปกครองแบบนี ส่
꺞蹭วนใหญ่เป็
นประเทศในโลกที 㥳
สามหรือประเทศยากจนในแถบแอฟริ กา และ
บางประเทศในเอเซี ย
เผด็ รณาญาสิ
จการแบบสมบู ทธิ
ราชย์ [11] เป็
นการปกครองที

พระมหากษัตริ
ยห์
รื
อเจ้
าผู
ค้
รองแคว้
น มี
พระราช
อํ
านาจเด็
ดขาดในการปกครองประเทศ โดยพระมหากษัตริ
ย์
เป็
นประมุขประเทศ และควบคุมอํ
านาจทางการบริ
หารตุลาการและนิ
ติ
บญั ญัติ
ตลอดจนเป็นผู าํ
ก้หนดนโยบายของประเทศ รวมถึ
งแบบแผนการดําเนิ
นชี
วติ
ของประชาชน ตัวอย่
างประเทศที㥳
มี
การปกครองแบบนี ได้
꺞蹭 แก่
ประเทศสวาซีแลนด์ในแอฟริ
กา รวมทั꺞蹭
งไทยและลาวในอดี
ตก็มี
การปกครองแบบนีเช่
꺞蹭นกัน
เผด็
จการแบบพรรคการเมื
องพรรคเดี
ยวมี
อาํ
นาจปกครองสู
งสุ
ด ประเทศที

มี
การปกครองแบบนี พรรคการเมื
มักมี
꺞蹭 อง [12] ที

ยึ
ดอุ
ดมการณ์
แบบสังคมนิ วนิ
ยมคอมมิ สต์ [13] เป็
นหลักในการปกครองประเทศ โดยมี
พรรคการเมื
องที

มี
อาํ
นาจสู
งสุ
ด คื
อ พรรค
คอมมิ วนิ สต์ ตัวอย่ างประเทศที 㥳
มีการปกครองแบบนี ได้
꺞蹭 แก่ จี
น เกาหลี เหนื อ ลาว เวียดนาม และสหภาพโซเวี ยต(ก่อนล่ มสลาย) เป็ นต้น
ประเทศไทยได้ เปลี㥳
ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิ ปไตย หรื อระบอบ ปรมิ ตตาญา
สิทธิราชย์ มีกฎหมายสู งสุด คือรัฐธรรมนู ญ โดยมี พระมหากษัตริ ยเ์
ป็นองค์ พระประมุ ขของประเทศ เมื 㥳
อวันที 㥳
24 มิถุนายน 2475
แต่ ตลอดระยะเวลาที ผา่
㥳 นมา ประเทศไทยยังเป็ นประชาธิ ปไตยที 㥳
ไม่ เป็
นไปตามหลักการ มี การปฏิ วตั ิ
รัฐประหารยึ ด อํานาจ ตั꺞蹭
งคณะ
รัฐบาลและกํ าหนดบทบัญญัติ ข꺞蹭

นเอง ประชาชนไม่ มี
สิทธิ เสรีภาพดังที 㥳
ควรจะเป็ น ดังนั꺞蹭
น จึงเกิ
ดเหตุ การณ์ ใหญ่ ข꺞蹭

นถึง 3 ครั꺞蹭
ง คือ
ในวันที 㥳14 ตุลาคม 2516 มี กลุ่
มเรี
ยกร้องประชาธิ ปไตยและต่ อต้ านอํานาจเผด็ จการ อันประกอบไปด้ วยประชาชน จากทุ กสาขา
อาชี พ ภายใต้ การนํ าของนิ สิต นักศึกษาจากทุ กสถาบัน เป็ นเหตุการณ์ ที

บนั ทึกไว้ในประวัติ ศาสตร์ การเมืองการ ปกครองของไทย เพื 㥳
อให้
เยาวชนรุ ่นหลังได้ รับรู้เกิดความหวงแหนและร่ วมกันธํารงไว้ซ㥳ึ
งการปกครองในระบอบ ประชาธิ ปไตยที 㥳
ตอ้ งแลกมาด้ วยชีวติและความ
ยากลํ าบากของเพื 㥳
อนร่ วมชาติ
เหตุ การณ์ ครั꺞蹭
งที㥳
สอง เกิ ดขึนในวันที
꺞蹭 㥳6 ตุ
ลาคม 2519 ได้ มีนิสิตนักศึ กษาและประชาชนร่ วมกันปกป้ องประชาธิ ปไตย ต่ อต้
านการก
ลับมาของกลุ ่
มอํานาจเก่ า ทําให้ประเทศไทยต้ องสูญเสียทรัพยากรบุ คคลอันมี ค่
ายิ
ง㥳ไปเป็ นจํานวนมาก
และครั꺞蹭 งล่าสุดเกิดขึนวันที
꺞蹭 㥳
17 พฤษภาคม 2535 มี กลุ่
มต่อต้านอํานาจเผด็ จการและเรี ยกร้องประชาธิ ปไตยขึ นอี
꺞蹭 ก ผลจากการเรี ยก
ร้องในครั꺞蹭งนี꺞蹭นํ าไปสู ่การแก้ ไขกฎหมายรัฐธรรมนู ญ ซึ 㥳
งต่อมาได้ มีการประกาศใช้ รัฐธรรมนู ญ คื อ รัฐธรรมนู ญแห่ งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2540 แล้ วต่อมาเมื 㥳
อวันที
㥳19 กันยายน พ.ศ. 2549 เกิ ดการรัฐประหาร โดยคณะมนตรี ความมัน㥳 คงชาติ (คมช.) ที 㥳
เห็นว่ามีความ
จําเป็
นต้ องกํ าหนดกลไกการปกครองที 㥳
เหมาะสมตามระบอบประชาธิ ปไตย อันมี พระมหากษัตริ ยไ์ ทยทรงเป็ นประมุ ข เพื㥳
อการฟื นฟู
꺞蹭 ความรู้
รักสามัคคี ระบบเศรษฐกิ จ และความสงบเรี ยบร้อยของบ้ านเมื
อง การเสริ มสร้ างระบบการตรวจสอบที 㥳
เข็
มแข็ งและระบบจริ ยธรรมที 㥳
ดี
งาม
และการส่ งเสริ มการดํ ารงชีวติ ตามหลักเศรษฐกิ จพอเพี ยง รวมทั꺞蹭งเพื㥳
อให้เหมาะสมแก่ สภาวการณ์ ของบ้ านเมื องและกาลสมัยที 㥳
เปลี㥳
ยนแปลง
ไป จึ งมีการยกร่ างรัฐธรรมนู ญแห่ งราชอาณาจักรไทย พุ ทธศักราช 2550 เป็ นรัฐธรรมนู ญฉับที 㥳 18 แห่ งราชอาณาจักรไทย และมี การ
ประกาศใช้ เมื
㥳อวันที 㥳24 สิ งหาคม พ.ศ. 2550 และมี การแก้ ไขต่ออีกสองครั꺞蹭 ง ฉบับที 㥳
ใช้
ในปั จจุ
บนั เป็
นรัฐธรรมนู ญแห่ งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 แก้ ไขครั꺞蹭
งที㥳(พุ ทธศักราช 2554)
1. ฝ่ายบริหาร คื อ คณะรัฐมนตรี หรื
อรัฐบาล
2. ฝ่
ายนิติบญั ญัติคือ รัฐสภา ประกอบด้ วยสมาชิก 2 ส่วน คื
อ สมาชิ
กสภาผูแ้
ทนราษฎร (ส.ส.) ซึ㥳
งประชาชนเลื
อกตั꺞蹭
งเข้
ามาทั꺞蹭
งหมด
และวุฒิ
สมาชิ ก ซึ

งได้ รับการแต่ งตั꺞蹭
งจากพระมหากษัตริ ยต์
ามการเสนอ ขึ นโปรดเกล้
꺞蹭 าฯ ของนายกรัฐมนตรี
3. ฝ่ายตุ
ลาการ คื อ ศาล มีหน้าที

พิจารณาคดีต่
าง ๆ ให้เป็
นไปตามบัญญัติของกฎหมาย เพื㥳
อให้เกิ
ดความยุ
ติ
ธรรมแก่ประชาชน ทั꺞蹭
งนี꺞蹭
ในรัฐธรรมนู ญมีบทบัญญัติ ให้ศาลเป็
นสถาบันอิ สระจากรัฐสภาและรัฐบาล มี คณะกรรมการตุ ลาการ (ก.ต.) ทํ
าหน้าที

ควบคุ
มการแต่งตั꺞蹭

ข้
าราชการตุ ลาการ เพื 㥳
อให้ ศาลเป็นสถาบันที㥳ธํ
ารงไว้
ซ㥳

งความบริ สุ 슦ⲏ
ทธิยุ
ติ
ธรรมอย่
างแท้จริ

อํ
านาจอธิ
ปไตย
อธิปไตย ตามความหมายจาก พจนานุ กรม ฉบับราชบัณฑิ ตยสถาน พุ ทธศักราช 2542 หมายถึ ง อํ านาจสูงสุ ดของรัฐที㥳
จะใช้ บงั คับ
บัญชาภายในอาณาเขตของตน
เดชชาติ วงศ์ โกมลเชษฐ์ กล่ าวไว้ในหลักรัฐศาสตร์ วา่ อํ
านาจอธิ ปไตย มี องค์ ประกอบสํ าคัญ 4 ประการ คื อ ความครอบคลุ ม ความ
ถาวร และการแบ่ งแยกไม่ ได้
1. ความสู งสุด (Absolutensee) หมายความว่ า อํ
านาจอธิ ปไตยเป็ นอํานาจสู งสุดในรัฐแต่ ละรัฐ อํานาจอื㥳
นๆ ในรัฐ เช่ น อํานาจของ
บุคคล อํ านาจของกลุ ่
มบุ คคล อํ านาจของหน่ วยงาน ฯลฯ ล้ วนอยู ภ่ ายใต้อาํนาจอธิ ปไตยทั꺞蹭
งสิ น
꺞蹭
2. ความครอบคลุ ม (Universality) หมายความว่ า อํานาจอธิ ปไตยจะบังคับครอบคลุ มทัว㥳 ไปภายในอาณาเขตของรัฐแต่ ละรัฐ บุ คคล
หรือหน่ วยงานใดก็ ตามต้ องปฏิ บตั ิตามกฎเกณฑ์ และข้ อบังคับที 㥳
อาํ นาจอธิ ปไตยได้ กาํหนดขึ น
꺞蹭
3. ความถาวร (Permanence) หมายความว่ า ตราบใดที 㥳
รัฐนั꺞蹭นยังคงเป็นเอกราชหรื อมี สภาพของความเป็ นรัฐโดยไม่ ตกอยู ภ่ายใต้ การ
ปกครองของรัฐอื 㥳นแล้ ว อํ านาจอธิ ปไตยจะคงอยู ค่่
กบั รัฐนั꺞蹭
ู นเสมอ กล่ าวได้ วา่ความมัน㥳 คงถาวรแห่ งรัฐจะขึ นอยู
꺞蹭 ก่
บั ความสามารถในการ
รักษาอํานาจอธิ ปไตยเอาไว้ ไม่ มี
รัฐใดสามารถเป็ นเอกราชได้ โดยปราศจากอํ านาจอธิ ปไตย
4. การแบ่งแยกไม่ ได้ (Indivisibility) หมายความว่ า รัฐแต่ ละรัฐจะมี อาํนาจอธิ ปไตยที 㥳
เป็ นหนึ 㥳
งเดียวไม่ สามารถแบ่ งแยกออกได้ การ
แบ่งอํานาจอธิ ปไตยเท่ ากับเป็ นการแบ่ งแยกรัฐ เช่ น สหภาพโซเวี ยต (Soviet Union) ซึ 㥳งกําเนิ ดขึ นมาจากการรวมตัวกันของรัฐต่
꺞蹭 างๆ เมื 㥳

ค.ศ. 1922 และต่ อมาเมื 㥳
อวันที 㥳26 ธันวาคม ค.ศ. 1991 ได้ แยกออกเป็ นประเทศต่ างๆ 15 ประเทศ ซึ 㥳
งผลจากการแยกประเทศดังกล่ าว ทํ าให้
อํานาจอธิ ปไตยที 㥳
เป็นหนึ 㥳
งเดียวเมื 㥳
อครั꺞蹭
งยังเป็
นสหภาพโซเวี ยตได้ แบ่ งออกเป็ น 15 อํานาจอธิ ปไตยตามประเทศที 㥳
ต꺞蹭
งขึ
ั 꺞蹭
นมาใหม่ หรื อประเทศ
สิงคโปร์ ที㥳
แยกออกมาจากประเทศมาเลเซี ย ก็
มี
อาํนาจอธิ ปไตยใหม่ ที㥳
เป็
นของตนเองโดยไม่ เกี㥳
ยวข้ องกับอํ านาจอธิ ปไตยเดิ มในช่ วงที㥳
ยงั เป็

ส่วนหนึ 㥳งของประเทศมาเลเซี ยแต่ ประการใด
การปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย อํานาจอธิ ปไตยใช้ ใน 3 ลักษณะ คื อ
1. อํานาจนิ ตบิัญญัติ คื อ อํ านาจหน้ าที

ในการตรากฎหมายเพื 㥳
อใช้เป็
นแนวทางในการดํ าเนิ นกิจการต่ างๆ ของรัฐ
2. อํ
านาจบริ หาร คื อ อํานาจในการดํ าเนินกิ จการเพื 㥳
อพัฒนาประเทศ รวมทั꺞蹭 งการปฏิ บตั ิการต่างๆ เพื 㥳
อให้เป็
นไปตามกฎหมายที 㥳
ได้
บัญญัติไว้
3. อํานาจตุลาการ คื อ อํ านาจในการพิ จารณาและตัดสิ นพิ พากษาคดี ต่
างๆ ให้ เป็นไปด้ วยความบริ สุ 슦ⲏ
ทธิยุ
ติ
ธรรม
สํ
าหรับประเทศไทย มีการปกครองตามระบอบประชาธิ
ปไตยอันมีพระมหากษัตริ
ยท์รงเป็
นประมุข รัฐธรรมนู
ญแห่
งราชอาณาจักร
ไทยกําหนดให้ อาํ
นาจอธิปไตยเป็
นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริยท์รงใช้
อาํ
นาจอธิปไตยผ่านองค์
กรทั꺞蹭
ง 3 คือ ทรงใช้อาํ
นาจ
นิ
ติ
บญั ญัติ
ทางรัฐสภา ทางใช้
อาํ
นาจบริ
หารทางคณะรัฐมนตรี
และทรงใช้
อาํนาจตุ
ลาการทางศาล

ในประเทศที 㥳
มีการปกครองตามระบบประชาธิ ปไตย ผู ท้㥳

เป็นเจ้าของอํ านาจอธิ ปไตยคื อ ประชาชน และมี การมอบอํ านาจอธิ ปไตย
ให้ แก่ 3 องค์ กรหลักเป็ นผูใ้
ช้
อาํนาจแทน โดยมอบให้ รัฐสภาทํ าหน้ าที㥳
นิติบญั ญัติ รัฐบาลทํ าหน้ าที㥳
ทางการบริ หาร และศาลทํ าหน้าที㥳
ดา้น
ตุลาการ
เหตุ ผลสํ าคัญที 㥳
ทาํให้มีการแยกอํ านาจอธิ ปไตยออกเป็ น 3 อํานาจ ก็ เพื 㥳
อการถ่ วงดุลอํ านาจ ถ้ าอํานาจไปรวมศู นย์ อยู ท่ 㥳
ีฝ่
ายใดฝ่ ายหนึ 㥳

แต่ เพียงฝ่ายเดี ยว โดยไม่ มี
บุคคลหรื อองค์ กรอื㥳
นๆ มาตรวจสอบและถ่ วงดุ ลอํ านาจแล้ ว โอกาสที 㥳
จะเกิ ดการใช้ อาํนาจไปในทางที 㥳
ผดิย่
อมมี
ได้ สูงขึน เมื
꺞蹭 㥳
อเป็นเช่นนี สิ
꺞蹭 ทธิและเสรี ภาพในชี วติและทรัพย์ สินของประชาชนก็ จะถูกคุ กคามได้ ง่
าย ดังนั꺞蹭
น เพื 㥳
อหลี กเลี 㥳
ยงการผู กขาดการใช้
อํานาจในทางมิ ชอบ จึ งได้มีการแบ่ งแยกอํ านาจออกเป็ น 3 ประเภท คื อ อํ านาจนิ ติ
บญั ญัติ อํานาจบริ หาร และอํ านาจตุ ลาการ เพี 㥳
อให้เกิด
การถ่ วงดุลอํ านาจระหว่ างกัน ด้ วยการกํ าหนดการใช้ อาํ นาจให้ แก่บุคคลหรื อองค์ กรที 㥳
แตกต่ างกันนี꺞蹭จะเป็ นการป้ องกันมิ ให้ บุ
คคลหรื อ
องค์ กรนั꺞蹭นมี อาํนาจมากเกิ นไป อันจะนํ าไปสู ่
การหลงอํ านาจและใช้ อาํนาจในทางที 㥳ผดิ จนกระทบต่ อสิทธิและเสรี ภาพของประชาชนได้
เช่น ถ้ าให้รัฐบาลมี อาํนาจออกกฎหมายและตัดสิ นคดี แต่เพี ยงองค์ กรเดียว จะนํ าไปสู ่
การปกครองแบบเผด็ จการ และไม่ มี หลักประกันการ
คุม้ครองสิ ทธิ เสรีภาพและผลประโยชน์ ของประชาชน ซึ 㥳งเมื㥳
อเป็นเช่ นนี ประชาธิ
꺞蹭 ปไตยในสังคมนั꺞蹭 นก็ ไม่สามารถจะคงอยู ไ่ด้
ผูท้㥳

เป็นเจ้าของอํ านาจอธิ ปไตยคื อ ประชาชน เนื 㥳
องจากการใช้ อาํนาจอธิ ปไตยจะส่ งผลกระทบต่ อสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค
ของประชาชน ผู ท้㥳

จะใช้ อาํ
นาจนี จึ
งต้
꺞蹭 องได้ รับความยิ นยอมจากประชาชน ดังนั꺞蹭 น ถ้าผูใ้ช้อาํนาจอธิ ปไตยไม่ ประกันสิ ทธิ เสรี ภาพและความ
เสมอภาคให้ แก่ ประชาชนแล้ ว ประชาชนก็ สามารถเปลี 㥳
ยนแปลงได้ โดยผ่ านกระบวนการประชาธิ ปไตย เช่ น การเลื อกตั꺞蹭ง การถอดถอน
เป็ นต้น
การปกครองระบอบประชาธิ ปไตย มี สาระเบื องต้
ꎶ นที 㥳
จะต้องศึ กษา ดังนี 꺞蹭
1. ความหมายของประชาธิ ปไตย
ประชาธิ ปไตยจํ าแนกความหมายออกได้ เป็
น 3 นัยคื อ วิ ถี
ชีวติการเมื องการปกครอง และอุ ดมการณ์ ทางการเมื อง โดยสามารถ
จําแนกรายละเอี ยด ดังนี꺞蹭
1.1 วิถชีี
วติ
ในระบอบประชาธิ ปไตยถื อว่ า สังคมจะมี ความมัน㥳 คงและปลอดภัย ถ้ าสมาชิ กของสังคมปฏิ บตั ิ
ตนตามวิ ถี
ชี
วติแบบ
ประชาธิ ปไตย ดังนั꺞蹭 น การปลู กฝังวิ
ถีชีวติแบบประชาธิ ปไตยให้ แก่ ประชาชนในสังคม จึ งมีความจํ าเป็น วิถีชีวติดังกล่ าวมี ลกั ษณะดังต่ อไป
นี꺞蹭
1) การมองโลกในแง่ ดี บุ
คคลในสังคมต้ องมี ใจเปิดกว้ าง ไม่ มีอคติ ต่อผู อ้㥳

นไม่ หวาดระแวงผู อ้㥳
ืน บุคคลที 㥳
มองโลกในแง่ ร้าย
จะมี แต่ ความทุ กข์ ไม่แจ่มใสร่าเริ
ง และจะมี ความเครี ยดสู ง
2) การมีน꺞蹭
าใจเป็
ํ นนักกี ฬา บุคคลในสังคมต้ องรู ้
แพ้รู

ชนะ รู ้
จกั ให้อภัยกันและกัน ไม่ อาฆาตมาดร้ าย ไม่ จองเวรซึ 㥳
งกันและ
กัน ถ้ าหากบุ คคลไม่ มีน꺞蹭
าใจเป็
ํ นนักกี ฬา จะทํ าให้สงั คมมีแต่ การแข่ งขันและแก่ งแย่ งชิงดีกนั สังคมจะเต็ มไปด้ วยการเป็ นศัตรู กนั
3) ความซื 㥳
อสัตย์และจริ งใจต่อกัน คุ ณสมบัติ ประการนี ทํ
꺞蹭าให้ การกระทํ ากิ
จกรรมต่ างๆ เป็นไปด้ วยความไว้ วางใจและมี
ไมตรี จิ
ตต่ อกัน ถ้ าคนในสังคมขาดความซื 㥳
อสัตย์และไม่ จริ งใจต่ อกัน สิ งที
㥳 㥳
จะเกิ ดขึน คื
꺞蹭 อ ความหวาดระแวงแคลงใจกัน เมื 㥳
อเป็นดังนี การ
꺞蹭
ทํ างานหรื อการติ ดต่อกันในเรื 㥳
องต่างๆ จะประสบแต่ อุ
ปสรรคไม่ ราบรื 㥳
น เนื㥳
องจากแต่ ละฝ่ ายไม่ไว้วางใจกัน
4) การควบคุ มอารมณ์ หรื อการข่ มใจ คุ ณสมบัติ ประการนี เป็
꺞蹭 นเรื
㥳องของวุ ฒิ
ภาวะ บุ คคลที 㥳
ใจร้ อนหรื อเอาแต่ ใจตนเอง จะ
ทํ าให้เกิดความขัดแย้ งกับบุ คคลอื㥳
นได้ สูง และกลายไปเป็ นเหตุ ของการขาดความสามัคคี โดยเฉพาะบุ คคลที 㥳
มีหน้ าที㥳
การงาน ที 㥳 㥳
เกี
ยวข้องกับ
ประชาชนอาจจะทํ าให้ เกิ
ดความรุ นแรงขึ นได้
꺞蹭 ดังนั꺞蹭
น การฝึ กฝนจิ ตใจ การปรับนิ สยั ใจคอ การคํ านึ งถึ งเกตุ ผลและผลก่ อนการกระทํ า จะ
ช่วยให้ สงั คมสงบสุ ข
5) ความอดทนและอดกลั꺞蹭 น เนื㥳
องจากบุ คคลในสังคมมี ภมู ิ
หลังของครอบครัวและการอบรมที 㥳
แตกต่ างกัน ดังนั꺞蹭น ความขัด
แย้งระหว่ างบุ คคลอันเนื 㥳
องมาจากการแสดงออกจากฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ 㥳ง ซึ㥳
งอาจเป็ นถ้ อยคํ าหรือการกระทํ า ไม่ วา่จะโดยตั꺞蹭 งใจหรื อไม่ กต็าม จึ
งมี
โอกาสที 㥳
จะเกิ ดขึ นได้
꺞蹭 ตลอดเวลา เมื 㥳
อมีเหตุ การณ์ เช่นนีเกิ
꺞蹭 ดขึ นอี
꺞蹭 กฝ่ ายหนึ 㥳
งต้ องรู้
จกั อดกลั꺞蹭 น ไม่ โต้ตอบเพื 㥳
อไม่ ให้เรื㥳
องลุกลามบานปลายออก
ไป เช่ น กรณี ของการตี กนั ระหว่ างนักเรี ยน 2 สถาบันจนได้ รับบาดเจ็ บทั꺞蹭
งสองฝ่ าย หากทั꺞蹭งสองฝ่ ายรู ้
จกั อดทนและอดกลั꺞蹭 น เหตุ การณ์ดงั
กล่าวก็ จะไม่ เกิ ดขึน
꺞蹭
6) ความเสี ยสละ ชี วติของบุ คคลที 㥳
มีความสุ ขจะต้ องรู้
จกั การเป็ น "ผู ใ้ห้
" มิ
ใช่ เป็น "ผู ร้ับ" แต่ เพียงฝ่ ายเดียว ความเสี ยสละมี
ทั꺞蹭
งในแง่ ของการแบ่ งปั นสิ งของให้
㥳 แก่ บุคคลและในแง่ ของการมี น꺞蹭
าใจต่
ํ อกัน ชี วติ ครอบครัวที 㥳
ไม่
มี การเสี ยสละ สมาชิ กแต่ ละคนจะมี แต่
ความเห็ นแก่ ตวั ไม่ เอือเฟื
꺞蹭 อเผื
꺞蹭 อ㥳แผ่จิ ตใจคับแคบและยึ ดเอาแต่ ผลประโยชน์ ของตนเอง ส่ งผลให้ ชีวติ ของแต่ ละคนไม่ มีความสุ ข ถ้ าทุ

คนในสังคมล้ วนแต่ ไม่ มีความเสี ยสละ สังคมย่ อมไม่ สามารถดํ ารงอยู ไ่ด้
7) ความมี เหตุ ผล ในสังคมมี ปัญหาและความขัดแย้ งเกิดขึ นอยู
꺞蹭 เ่
สมอ ปั ญหาและความขัดแย้ งนีอาจเกิ
꺞蹭 ดมาจากบุ คคล กลุ่

บุคคลหรื อองค์ กร ดังนั꺞蹭 น การแก้ ไขจึ งจํ
าเป็นต้ องใช้ เหตุผลมากกว่ าการใช้ อารมณ์ทั꺞蹭 งนี 꺞蹭เพราะการแสดงออกที 㥳
มีเหตุ ผลจะทํ าให้
สถานการณ์ สงบลงได้ โดยไม่ มีความรุ นแรงหรื อความแตกแยกเกิ ดขึน
꺞蹭
8) การเข้ าไปมี ส่ วนร่ วมในกิ จการบ้ านเมื อง ในสังคมหนึ 㥳งจะมี กิ จกรรมมากมายที 㥳
ตอ้ งอาศัยความร่ วมมือกันของสมาชิ กใน
สังคม เช่ น การรักษาความสะอาดของบ้ านเมื องด้ วยการไม่ ทิงขยะหรื
꺞蹭 อสิ㥳งปฏิ กลู ลงบนถนนหรื อแม่ น꺞蹭
าลํ
ําคลอง การไปใช้ สิ ทธิ เลือกตั꺞蹭
งใน
ระดับชาติ และระดับท้ องถิ น การอนุ
㥳 รักษ์ ประเพณี และวัฒนธรรม เป็ นต้ น ถ้ าประชาชนไม่ ช่วยกันรักษาความสะอาดของบ้ านเมื
อง
นอกจากจะทํ าให้สิงแวดล้
㥳 อมเกิ ดความสกปรกและมี กลินเหม็
㥳 นแล้ ว ยังทํ าให้เกิดโรคระบาดขึ นได้
꺞蹭 ง่ายอี กด้ วย หรื อถ้
าประชาชนไม่ ไปใช้
สิทธิออกเสี ยงเลื อกตั꺞蹭ง ก็ จะทํ าให้ คนไม่ ดีมีโอกาสเข้ าไป บริ หารบ้ านเมื องได้ ง่ ายขึ น หรื
꺞蹭 อถ้ าประชาชนไม่ ช่วยกันอนุ รักษ์ ประเพณี และ
วัฒนธรรม ประเทศไทยก็ จะไม่ มีเอกลักษณ์ ของความเป็ นไทยอี กต่ อไป
การดํ าเนิ นชี วติ ตามวิ ถีประชาธิ ปไตยดังกล่ าวข้ างต้ น จะทํ าให้ ชีวติ ครอบครัวของตนเองมี ความสุ ขและทํ าให้ สงั คมมี ความ
สงบร่ มเย็ น ไม่ ่
มุ
งร้ายกัน
1.2 การเมื องการปกครอง
ประชาธิ ปไตย หมายถึ ง ระบบการเมื องการปกครองที 㥳
ประชาชนเข้ ามามีส่ วนร่ วมในการตัดสิ นใจและการควบคุ มตรวจ
สอบ และประชาชนเป็ นผู เ้
ลื อกผู แ้ทนของตนให้ เข้
าไปทํ าหน้ าที 㥳
ในการกระทํ ากิ จกรรมต่ างๆ แทนตนเองโดยผ่ านกระบวนการเลื อกตั꺞蹭

และผู แ้ทนที ผา่
㥳 นการเลื อกสรรจากประชาชนแล้ ว จะต้ องเข้าไปทํ าหน้ าที 㥳
รักษาผลประโยชน์ ของส่ วนรวม
จากความหมายข้ างต้ น ประชาธิ ปไตยแบ่ งออกได้ เป็น 2 ประการ ดังนี 꺞蹭
1) ประชาธิ ปไตยของประชาชน ได้ แก่ ความเป็ นเจ้าของ ซึ 㥳งมีความหมายอยู ่2 ประการ คื อ
- ประชาชนสามารถดํ าเนิ นการเพื 㥳
อให้ มีรัฐบาลที 㥳
เป็นไปตามเจตจํ านงของตนได้ หรื อสามารถทํ าให้รัฐบาลกระทํ าตามข้อ
เรี
ยกร้ องของตนได้ โดยใช้ วธิี
การต่ างๆ เช่ น การผลักดันให้ พรรคการเมื องมี นโยบายที 㥳
สอดคล้ องกับความต้ องการของประชาชนส่ วนใหญ่
การเลื อกตั꺞蹭ง การทํ าประชามติ การทํ าประชาพิ จารณ์ การแสดงออกผ่ านการสํ ารวจความคิ ดเห็ น (poll) เป็ นต้น ด้ วยวิธีการเหล่ านี จะทํ
꺞蹭 าให้
ประชาชนสามารถเปลี 㥳
ยนแปลงรัฐบาลให้ เป็นไปตามที 㥳
ตนต้ องการได้
- ความหวงแหนในการปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย ซึ 㥳งจะแสดงออกได้ โดยการปฏิ บตั ิ
ตนตามกฎหมาย และเอาใจ
ใส่ในกิ จการบ้ านเมื องโดยถื อว่ าเป็ น "ธุ ระของตน" และไม่ ผลักสิ 㥳งนีให้
꺞蹭 ไปเป็ น "หน้ าที 㥳
ของรัฐบาล"
2) ประชาธิ ปไตยโดยประชาชน ได้ แก่ กระบวนการ กล่ าวคื อ ประชาชนมี สิทธิ เข้
าไปมี ส่ วนร่ วมในการบริ หารประเทศ ซึ 㥳

อาจเป็ นได้ ท꺞蹭
งโดยตรงหรื
ั อโดยอ้ อม ดังนี 꺞蹭
- การเข้ าไปมี ส่ วนร่ วมโดยตรง ได้ แก่ การที 㥳
ประชาชนเข้ าไปชุ มนุ มโดยพร้ อมเพรี ยงกัน เพื 㥳
อตัดสิ นใจในกิ จการบ้ านเมื
อง
ที㥳
มี
ความสํ าคัญ โดยปกติ ประชาธิ ปไตยแบบโดยตรงจะใช้ ได้ผลในกรณี ของรัฐที 㥳
มีประชาชนเป็ นจํ านวนน้ อย ซึ 㥳งจะพบได้ กบั การปกครอง
ของรัฐในอดี ต เช่น รับเอเธนส์ เป็นต้ น ในสมัยปั จจุ บนั ที㥳
ยงั คงมี ประชาธิ ปไตยที 㥳
ประชาชนเข้ าไปมี ส่ วนร่ วมโดยตรงจะพบได้ ในองค์ กร
ปกครองส่ วนท้ องถิ นที
㥳 㥳
เรี
ยกว่ า นิ วอิ งแลนด์ ทาวน์ (New England Town) หรื อทาวน์ (Town) ในบางรัฐของสหรัฐอเมริ กา เช่ น รัฐเมน รัฐ
เวอร์มอนต์ เป็ นต้ น
- การเข้ าไปมี ส่วนร่ วมโดยอ้ อม กรณี น꺞蹭

เรียกอี กนัยหนึ 㥳งได้วา่เป็นประชาธิ ปไตยแบบผู แ้ทน ซึ㥳งหมายถึ งการที 㥳
ประชาชน
เลื
อกผู แ้ทนเข้ ามาทํ าหน้ าที㥳
ปกครองประเทศแทนตนเอง ประชาธิ ปไตยแบบนี จะมี
꺞蹭 ลกั ษณะสํ าคัญ คือ
(1) มี พรรคการเมื องเข้ามาแข่ งขันกันเพื 㥳
อทํ าหน้ าที㥳
ในการบริ หารประเทศ
(2) มี การเลื อกตั꺞蹭งตามระยะเวลาที กาํ
㥳 หนด
(3) ประชาชนมี สิทธิออกเสี ยงตามที 㥳
กฎหมายกํ าหนด
(4) รัฐบาลมาจากเสี ยงส่วนใหญ่ ของสมาชิ กสภาผู แ้ทนราษฎรในสภาผู แ้ทนราษฎร และมี พรรคฝ่ ายค้ านทําหน้ าที㥳
ตรวจ
สอบการทํ างานของรัฐบาล
1.3 อุ ดมการณ์ ทางการเมื อง
อุดมการณ์ ทางการเมื องจึ งเปรียบเสมื อนการกํ าหนดเป้ าหมาย และแนวทางของประชาธิ ปไตยที 㥳
สมบู รณ์ ให้แก่
มนุ ษย์เพื㥳
อจะ
ได้กระทํ าให้เป็ นจริ งต่ อไป สํ าหรับประชาธิ ปไตยในนัยของอุ ดมการณ์ ทางการเมื อง มี ดงั นี꺞蹭
1) อุ ดมการณ์ วา่ด้วยสิทธิ และเสรี ภาพ หมายถึ ง ประชาชนทุ กคนมี สิ ทธิ และเสรี ภาพอันชอบธรรมตามกฎหมาย ซึ 㥳งรัฐหรื อ
บุคคลอื 㥳
นจะละเมิ ดมิ ได้ โดยธรรมชาติ มนุ ษย์มีสิทธิ และเสรี ภาพในชี วติ และทรัพย์ สิ น การที 㥳
มนุ ษย์เข้ ามารวมตัวกันเป็ นสังคมนั꺞蹭นอาจมี การ
ละเมิดสิ ทธิ กนั เกิดขึ น ดังนั꺞蹭
꺞蹭 น เพื 㥳
อให้ พน้ จากการบี บบังคับหรื อการทํ าร้ ายโดยบุ คคลอื 㥳
น หรื อเพื㥳
อป้ องกันความขัดแย้ งที㥳
จะเกิดขึน ดังนั꺞蹭
꺞蹭 น
เพื㥳
อให้ พน้ จากการบี บบังคับหรื อการทํ าร้ายโดยบุ คคลอื 㥳
น หรื อเพื 㥳
อป้ องกันความขัดแย้ งที 㥳
จะเกิ ดขึ น รวมทั꺞蹭
꺞蹭 งเพื

อสร้ างหลักประกันแห่ ง
สันติภาพและความมัน㥳 คงในชี วติและทรัพย์ สิ
นมนุ ษย์ตอ้งถูกจํ ากัดพฤติ กรรมโดยการทํ าสัญญาประชาชน เพราะถ้ าไม่ มี
การทํ าสัญญา
ประชาคมกันแล้ ว มนุ ษย์กจ็ะใช้ เสรีภาพอย่ างไม่ มีขอบเขตจนอาจเป็ นอันตรายต่ อบุ คคลอื 㥳
นในประชาคมนั꺞蹭 นได้
นอกจากการทํ าสัญญาประชาคมแล้ ว ประเด็ นสํ าคัญอี กประการหนึ 㥳ง คื อ การใช้ อาํ
นาจ ทั꺞蹭 งนีเพราะอํ
꺞蹭 านาจมี แนวโน้ มที 㥳
จะนํ า
ไปสู ่
การใช้ ในทางที 㥳
ผดิ ได้ ดังนั꺞蹭
น ถ้ าอํานาจรวมศู นย์ กลางอยู ท่ 㥳

บุคคลหรื อองค์ กรเพี ยงหนึ 㥳
งเดี ยวอย่ างเบ็ ดเสร็จ โดยไม่ มีบุ
คคลหรื อองค์ กร
อื㥳
นๆมาตรวจสอบและมาถ่ วงดุ ลอํานาจแล้ ว โอกาสที 㥳
จะเกิดการใช้ อาํนาจไปในทางที 㥳
ผดิ ย่อมมี ได้สู
งขึ น เมื
꺞蹭 㥳
อเป็นเช่นนี สิ
꺞蹭 ทธิและเสรี ภาพใน
ชีวติ
และทรัพย์ สินของประชาชนก็ จะถูกคุ กคามได้ ง่
าย ดังนั꺞蹭 น เพื 㥳
อเป็ นการหลี กเลี 㥳
ยงการผู กขาดการใช้ อาํ
นาจในทางมิ ชอบ จึ งได้ เกิด
แนวคิ ดการใช้ อาํนาจออกเป็ น 3 ทาง คื อ อํ านาจนิ ติ
บญั ญัติ อํานาจบริ หาร และอํ านาจตุ ลาการ เพื 㥳
อให้ เกิดการถ่ วงดุลอํานาจระหว่ างกัน ด้ วย
การกําหนดการใช้ อาํ นาจให้ แก่ บุคคลหรื อองค์ กรที 㥳
แตกต่ างกันนี 꺞蹭จะเป็ นการป้ องกันมิ ให้ บุคคลหรื อองค์ กรนั꺞蹭
นมี อาํ
นาจมากเกิ นไป อาจเกิ ด
ผลกระทบต่ อสิ ทธิ และเสรี ภาพของประชาชนได้
2) อุ ดมการณ์ วา่ด้วยความเสมอภาค หมายถึ ง ประชาชนทุ กคนมี ความเท่ าเที ยมกัน ไม่ มี การเลือกปฏิ บตั ิ
อนั เนื㥳
องมาจากความ
แตกต่ าง เช่ น เพศ อายุ รายได้ สีผวิความเสมอภาคนี ได้
꺞蹭 แก่
- ความเสมอภาคทางการเมื อง หมายถึ ง ประชาชนทุ กคนมี สิทธิ ที 㥳จะเข้ าไปมี ส่
วนร่ วมในทางการเมื อง เช่น การออกเสี ยง
เลื
อกตั꺞蹭
งสมาชิ กสภาผู แ้ทนราษฎร ประชาชนที 㥳
มี
สิทธิ สามารถออกเสี ยง 1 เสี ยงต่ อคน ไม่ วา่รวยหรื อจนก็ สามารถเลื อกสมาชิ กสภาผู แ้ทน
ราษฎรได้ เพียง 1 คนเท่ ากัน ไม่ มีประชาชนคนใดคนหนึ 㥳
งสามารถออกเสี ยงเลือกตั꺞蹭 งได้ มากกว่ า 1 เสี ยง หรื อออกเสี ยง 1 เสียงแต่ เลือก
สมาชิ ก สภาผู แ้ทนราษฎร์ ได้ มากกว่ า 1 คน
- ความเสมอภาคทางเศรษฐกิ จ หมายถึ งการลดช่ องว่างระหว่ างคนจนกับคนรวยให้ นอ้ ยลง ไม่ให้รายได้ ไปกระจุ กตัวอยู ท่㥳

คนรวยเท่ านั꺞蹭
น นอกจากนี 꺞蹭รัฐจะต้ องช่วยเหลื อให้ คนจนในชนบทและคนจนในเมื องได้ มีชีวติ ที㥳
ดีข꺞蹭

น เช่ น รัฐต้องมีมาตรการทางเศรษฐกิ จ
เพื㥳
อช่
วยสังคมคนที 㥳
ดอ้ ยโอกาสหรื อคนจนให้ สามารถแข่ งขันกับผู ท้㥳

เข้มแข็ งกว่าในทางเศรษฐกิ จ
- ความเสมอภาคทางโอกาส หมายถึ ง ปะชาชนมี โอกาสที 㥳
จะพัฒนาตนเองได้ เช่
น โอกาสทางการศึ กษา ประชาชนไม่ วา่
รวยหริ จน ไม่ วา่อยู ใ่นชนบทหรื อในเมื อง รัฐต้ องเปิ ดโอกาสให้ แก่ บุคคลเหล่ านี อย่
꺞蹭 างเท่ าเที ยมกัน หรื อโอกาสในการทํ างานก็เช่
นเดี ยวกัน
ประชาชนทุ กหมู ่
เหล่ าต้ องมี โอกาสที 㥳
จะได้ ทาํงานและมี โอกาสที 㥳
จะก้ าวหน้ าในอาชี พการงานโดยเท่ าเทียมเหมื อนกัน

2) รู
ปแบบการปกครองตามระบอบประชาธิ
ปไตย
ระบอบประชาธิ ปไตยจํ าแนกรู ปแบบการปกครองออกได้ เป็ น 2 รูปแบบ คื อ
2.1 จํ าแนกตามประมุ ขของประเทศ
1) รู ปแบบที 㥳
มีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็นประมุ ข โดยพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็นกลางทางการเมื องและทรงดํ ารงอยู ใ่ นฐานะ
สูงสุด ผูใ้ดจะละเมิ ดมิ ได้
ในทางการใช้ อาํนาจอธิ ปไตยนั꺞蹭 น พระองค์ จะทรงใช้ อาํ นาจนิ ติบญั ญัติ ผา่ นทางรัฐสภา ใช้ อาํนาจบริ หารผ่ านทางคณะรัฐมนตรี
และใช้ อาํนาจตุ ลาการผ่ านทางศาล ตัวอย่ างของประเทศที 㥳
มี
การปกครองตามรู ปแบบนี เช่
꺞蹭 น ราชอาณาจักรไทย สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
และญี 㥳
ปุ่
น เป็ นต้ น
2) รู
ปแบบที 㥳
มีประธานาธิ บดี เป็นประมุ ข รูปแบบนี จํ
꺞蹭าแนกออกเป็ น 2 ประเภท คื อ ประธานาธิ บดีมีฐานะเป็ นประมุ ขของรัฐ
เพียงตําแหน่ งเดี ยว เช่ น สาธารณรัฐอิ นเดีย สาธารณรัฐสิ งคโปร์ เป็นต้ น และประธานาธิ บดี มี
ฐานะเป็ นผู บ้ริหารด้วย เช่ น สหรัฐอเมริ กา
สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์ เป็นต้ น ประธานาธิ บดี ที㥳
มาจากการเลื อกตั꺞蹭
งของประชาชน มี อาํ นาจหน้ าที

เป็นผู บ้ ริ
หารประเทศ
2.2 จํ าแนกตามสถาบันการปกครอง
1) การปกครองแบบรัฐสภา การปกครองในรู ปแบบนี ฝ่
꺞蹭 ายนิ ติบญั ญัติ (รัฐสภา) กับฝ่ ายบริ หาร (คณะรัฐมนตรี ) มี ความ
สัมพันธ์ กนั อย่ างใกล้ ชิ
ด กล่ าวคื อ รัฐสภาจะให้ การรับรองหรื อให้ ความเห็ นชอบในการจัดตั꺞蹭 งคณะรัฐมนตรี และรัฐสภา มี อาํนาจควบคุ ม
การบริ หารราชการแผ่ นดิ นของคณะรัฐมนตรี ดว้ ยวิธีการหลายประการ เช่ น การไม่ รับรองนโยบายของรัฐบาล การตั꺞蹭 งกระทู ้หรือการลงมติ
ไม่ไว้วางใจ ในการบริ หารงานของรัฐบาล ในขณะเดี ยวกัน รัฐบาลก็ อาจยุ บสภาได้ เช่นเดียวกัน เช่ น ในกรณี ที

รัฐบาลแพ้ คะแนนเสี ยงใน
การลงมติ รับรองร่ างพระราชบัญญัติ สาํคัญที 㥳
เสนอโดยตรง หรื อเมื 㥳
อเห็ นว่
าตนเองได้ เปรียบในทางการเมื องในช่ วงใกล้ จะสิ นสุ
꺞蹭 ดวาระการ
เป็นรัฐบาล
2) การปกครองแบบประธานาธิ บดี เป็นการใช้ ระบบการแยกอํ านาจระหว่ างฝ่ายนิ ติบญั ญัติ (รัฐสภา) กับฝ่ ายบริ หาร
(ประธานาธิ บดี ) ออกจากกัน ทั꺞蹭 งรัฐสภาและประธานาธิ บดี มาจากการเลื อกตั꺞蹭งโดยตรงของประชาชน โดยแต่ ละฝ่ ายต่างมี อาํนาจและความ
เป็นอิสระในการปฏิ บตั ิหน้าที 㥳
ของตน สํ าหรับอํ านาจการแต่ งตั꺞蹭
งคณะรัฐมนตรี จะเป็ นของประธานาธิ บดีรัฐสภาสามารถลงมติ ถอดถอน
ประธานาธิ บดี ได้ ขณะเดี ยวกัน ถึ งแม้วา่รัฐสภาเป็ นผู อ้
อกกฎหมาย แต่ การนํ าไปบังคับใช้ จะกระทํ าได้ กต็ ่
อเมื 㥳
อประธานาธิ บดี เป็นผู ล้ งนาม
3) การปกครองแบบกึ 㥳
งประธานาธิ บดี ก㥳ึ
งรัฐสภา กรณี น꺞蹭ี
ประธานาธิ บดีเป็ นทั꺞蹭
งประมุ ของรัฐ และบริ หารราชการแผ่ นดินร่ วมกับ
นายกรัฐมนตรี อย่ างไรก็ ตาม ถึ งแม้ วา่คณะรัฐมนตรี จะเป็นผู ใ้ช้
อาํ นาจในการบริ หารประเทศ แต่ รัฐธรรมนู ญก็ให้ อาํนาจพิ เศษแก่
ประธานาธิ บดี ในการดํ าเนินการได้ รวมทั꺞蹭 งอํานาจในการยุ บสภาในกรณี ที 㥳
ความเป็ นเอกราชของชาติ หรื อการปฏิ บตั ิ
ตามพันธะกรณี
ระหว่ างประเทศถู กคุ กคามอย่ างร้ายแรงและปั จจุ บนั ทันด่ วน จนเป็ นเหตุ ให้
การดํ าเนินการตามปกติ ของสถาบันการเมื องแห่ งรัฐตาม
รัฐธรรมนู ญหยุ ดชะงักลง ประธานาธิ บดี มีอาํนาจดํ าเนินมาตรการที 㥳
จาํเป็นสํ าหรับจัดการกับสถานการณ์ ดงั กล่ าว โดยจะต้ องปรึ กษาหารื อ
อย่างเป็นทางการกับนายกรัฐมนตรี และรัฐสภากับคณะตุ ลาการศาลรัฐธรรมนู ญ และประธานาธิ บดี ตอ้ ง แถลงการณ์ ใช้
มาตรการฉุ กเฉิ นดัง
กล่าวให้ ประชาชนทราบ และในระหว่ างที㥳
มีการใช้ อาํ นาจฉุ กเฉิ
นดังกล่ าว จะมี การยุ บสภาผู แ้ทนราษฎรมิ ได้ ส่วนรัฐสภานอกจากทํ าหน้ าที 㥳
ออกกฎหมายแล้ ว ยังสามารถเปิ ดสมัยประชุ มได้ เอง สํ าหรับประเทศที 㥳
ให้ กาํเนิ ดรู
ปแบบการปกครองแบบนี คื
꺞蹭 อ สาธารณรัฐฝรั㥳 งเศส
3. หลักการสํ าคัญของการปกครองในระบอบประชาธิ ปไตย
เนื㥳
องจากการปกครองในระบอบประชาธิ ปไตยนั꺞蹭น ประชาชนเป็ นผู ม้ี
อาํ
นาจสู งสุดในการปกครองประเทศ ดังนั꺞蹭 น หลักการสํ าคัญ
ของการปกครองในระบอบประชาธิ ปไตย จึ งมีมติ ต่อไปนี 꺞蹭
3.1 อํานาจอธิ ปไตยซึ 㥳
งเป็นอํานาจสู งสุดในการปกครองประเทศเป็ นของประชาชน และบุ คคลที 㥳
จะได้ อาํนาจนี ต้
꺞蹭 องได้ รับความ
เห็นชอบจากประชาชน
3.2 มี การเลื อกตั꺞蹭งสมาชิ กสภาผู แ้ทนราษฎรให้ เข้ามาทํ าหน้ าที 㥳
ฝ่
ายบริ หารและฝ่ ายนิ ติ
บญั ญัติ ตามระยะเวลาและวิ ธีการที กาํ
㥳 หนด
ไว้ โดยสมาชิ กสภาผู แ้ทนราษฎรต้ องรับผิ ดชอบต่ อประชาชน และประชาชนสามารถตรวจสอบการทํ างานได้
3.3 รัฐบาลที 㥳
เข้ามาบริ หารประเทศ ต้ องเคารพสิ ทธิ และเสรี ภาพของประชาชน สิ ทธิ เป็
นเรื㥳
องของอํ านาจหรื อประโยชน์ ของบุ คคล
ซึ㥳
งกฎหมายรับรองและคุ ม้ครองให้ แก่สมาชิ กของสังคม เช่ น สิทธิ ในการศึ กษา สิ ทธิ ในการรักษาพยาบาล เป็ นต้ น ส่ วนเสรี ภาพ เป็ นเรื
㥳อง
ของความเป็ นอิ สระของประชาชนที 㥳
จะทํ ากิจกรรมต่ างๆ ตามที 㥳
ตนเองต้ องการภายใต้ กรอบของกฎหมาย เช่ น การแสดงความคิ ดเห็ น การ
พิมพ์ การโฆษณา การนับถื อศาสนา โดยรัฐบาลต้ องไม่ ละเมิ ดสิทธิ และเสรี ภาพเหล่ านี เว้
꺞蹭 นแต่ จะกระทํ าไปเพื 㥳
อรักษาความมัน㥳 คง และความ
สงบสุ ขแห่
งชาติหรือเพื

อสร้
างความเป็
นธรรมให้แก่
สงั คม หรื
อเพื

อรักษาไว้
ซ㥳

งวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม
3.4 ประชาชนทุกคนมีความเสมอภาคกันในการที 㥳
จะได้
รับบริ
การสาธารณะจากรัฐ เช่
น การศึ
กษา การสาธารณสุ
ข การสวัสดิ
การ
สังคม
3.5 รัฐบาลต้ หารประเทศตามหลักนิ
องบริ ตธิ
รรม หมายถึ
ง การนํ
ากฎหมายมาใช้
เป็
นหลักในการบริ
หารประเทศเพื


ปกป้ องสิทธิและเสรี ภาพของประชาชน กฎหมายทุ กฉบับต้ องให้ ความคุ ม้ครองบุ คคลทุ กคนเท่ าเทียมกัน ผู ท้ 㥳

กระทําผิ
ดต้ องได้รับการ
ลงโทษตามความผิ ดที㥳
ได้ กระทําลงไป กล่ าวได้ วา่ รัฐบาลต้องใช้ กฎหมายเป็ นบรรทัดฐานในการบริ หารประเทศเพื 㥳
อความผาสุ กของสังคม
3.6 การยอมรับเสี ยงส่วนใหญ่ และเคารพเสี ยงส่วนน้ อย หมายถึ ง การตัดสิ นใจในเรื 㥳
องใดๆ ก็ ตาม สมาชิ กของสังคมจะต้ อง
ยอมรับมติ ของเสี ยงข้างมากเพื 㥳
อนํ าไปปฏิบตั ิ แต่ ขณะเดี ยวกันก็ ไม่กระทํ าการใดๆ เพื 㥳
อละเมิ ดสิทธิของสมาชิ กเสียงส่
วนน้ อย หลักเกณฑ์

เกี
ยวกับการยอมรับเสี ยงส่ วนใหญ่ และเคารพเสี ยงส่ วนน้อย มีดงั นี꺞蹭
1) ความเท่ าเทียมกันของการออกเสี ยง หมายถึ ง การนับเสี ยงข้างมากนั꺞蹭นมีพ꺞蹭

นฐานมาจากการที 㥳
บุคคลทุกคนมี เสี
ยงคนละ 1
เสียงเท่
ากัน มิ
ใช่คนใดคนหนึ 㥳งมีเสียงมากกว่ า 1 เสียง
2) การยอมรับผลลัพธ์ ของการออกเสี ยง ถึ
งแม้ทุกคนไม่ เห็นพ้องกันในเรื 㥳
องลงความเห็ น แต่เมื

อเสี
ยงข้างมากเป็นอย่ างไร ทุก
คนต้ องยอมรับผลลัพธ์ ที㥳
เกิ
ดขึน
꺞蹭
3) การใช้ เหตุผลในการตัดสิ นใจเกี 㥳
ยวกับประเด็ นต่ างๆ การออกเสี ยงที
㥳เกิดขึ
นอยู
꺞蹭 บ่นพื นฐานของเหตุ
꺞蹭 ผล มิใช่อารมณ์
4) การไม่ ลิ
ดรอนสิ ทธิการใช้ เสียงข้างมากต้องไม่ มี
เป้าหมายเพื 㥳
อการ "ปิ ดปาก" ฝ่ ายเสี
ยงข้างน้
อย หรือเป็นการกระทํ าใน
ลักษณะของ "พวกมากลากไป" โดยไม่ คาํนึ
งถึงความถู กต้
องหรื อความเป็ นธรรม กล่ าวได้วา่การใช้เสี
ยงข้างมากต้องไม่ใช้ไปลักษณะการ
เป็นเผด็จการของเสี ยงข้างมาก
5) การเปิ ดโอกาส ก่ อนการตัดสิ นใจใดๆ จะต้ องยิ นยอมให้ ฝ่ายเสียงข้างน้อยได้ แสดงความคิ ดเห็
นตามทัศนะหรื อความเชื 㥳

ของตนได้
3.7 มนุษย์ ทุกคนมี คุณค่ าและเสมอภาคกัน รวมทั꺞蹭 งเป็นผู ม้

เหตุ ผลและสามารถใช้ เหตุ ผลที㥳
ถกู ต้
องในการบริ หารบ้ านเมือง

4. ปัจจัยที
จ魣
าํ
เป็
นต่
อการปกครองตามระบอบประชาธิ
ปไตย

ปั จจัยที 㥳
จาํเป็นต่อการปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย มี ดงั นี꺞蹭
4.1 การศึ กษา เป็ นปั จจัยที

จาํเป็นซึ㥳งก่อให้เกิ
ดประโยชน์ 2 ประการ คื อ
1) ทําให้ ประชาชนมี ความรู ้
ที㥳
เพียงพอต่ อการตัดสิ นใจในประเด็ นสาธารณะ การควบคุ มและตรวจสอบการทํ างานของรัฐบาลใน
เรื

องต่างๆ เช่ น การสร้ างเขื

อน การสร้ างท่ อส่งแก๊ส การฉ้ อราษฎร์ บงั หลวง เป็ นต้น
2) ทํ าให้ประชาชนสนใจและติ ดตามข่ าวสารบ้ านเมื องในเรื
㥳องต่างๆ อย่ างมี
เหตุผลและมี วจิารณญาณ ไม่ใช้อารมณ์ในการ
วิพากษ์ วจิ ารณ์ ไม่ หลงเชื㥳
อการโฆษณาหรื อตกเป็ นเครื㥳
องมือของคนใดคนหนึ 㥳ง กลุ่
มใดกลุ ่
มหนึ㥳

4.2 การพัฒนาเศรษฐกิ จ ประเทศที 㥳
มี
ความเจริ ญเติบโตทางเศรษฐกิ จสูง แสดงให้ เห็
นถึ งมาตรฐานการครองชี พที㥳
ดี
ของประชาชน
สิงเหล่
㥳 านี จะช่
꺞蹭 วยทํ าให้ประชาชนเข้ าไปมี ส่วนร่วมในกิ จการบ้ านเมืองในรู ปแบบต่ างๆ ได้ มากขึ น เช่
꺞蹭 น การรวมกลุ ่
มเพื㥳
ออนุ
รักษ์สิ


แวดล้ อม เป็ นต้ น การที 㥳
ประชาชนมี การอยู ด่กิ
ีนดีจะทํ าให้ประชาชนเข้ าไปมี ส่วนร่วมทางการเมื องด้ วยความสมัครใจ ไม่ ตกอยูภ่ายใต้
อิทธิพลของบุ คคลหรื อกลุ ่
มบุคคลใดที 㥳
มาบังคับหรื อชักจูงให้ประชาชนเข้ าไปเกี 㥳
ยวข้องกับการซื อสิ
꺞蹭 ทธิ ขายเสี ยง
4.3 ปั จจัยทางประวัติ ศาสตร์ สิ
㥳งนีแสดงให้
꺞蹭 เห็นถึงความมัน㥳 คงของประชาธิ ปไตยที 㥳
สื
บต่อกันมาเป็ นระยะเวลายาวนาน โดยประเทศ
ที㥳
มีการปฏิ วตั ิ
หรื อรัฐประหารอยู บ่่
อยครั꺞蹭
ง ประเทศที 㥳
ไม่สนับสนุ นการเข้ าไปมี ส่วนร่วมทางการเมื องของประชาชน และประเทศที 㥳
มี
พรรคการเมื องที 㥳มาจากการรวมตัวกันของบุ คคลที 㥳
ไม่มีอุ
ดมการณ์ ประชาธิ ปไตยของประเทศเหล่ านีมักจะอ่
꺞蹭 อนแอ
4.4 ศรัทธาของประชาชน ประชาธิ ปไตยในประเทศหนึ 㥳
ง ๆ จะเข้ มแข็งหรือไม่ ขึ
นอยู
꺞蹭 ก่บั ว่าประชาชนของประเทศนั꺞蹭นมีความ
ต้องการที 㥳
จะปกครองตนเองมากน้ อยเพี ยงใด ความศรัทธาของประชาชนจะพิ จารณาได้ จากการติ ดตามข่ าวสารบ้านเมื
อง การอุ ทิ
ศตนให้
เป็นประโยชน์ ต่อบ้ านเมือง และการมี ความเชื 㥳
อทีวา่
㥳 บ้านเมืองเป็นของประชาชนทุ กคนที 㥳
จะต้
องเข้าไปช่ วยกันพัฒนา
4.5 การยอมรับหลักการประชาธิ ปไตย เช่ น สิทธิ เสรี
ภาพ ความเสมอภาค การยึ ดหลักนิติธรรม การเคารพเสี ยงส่วนใหญ่โดยไม่
ลิดรอนสิทธิ เสี
ยงส่วนน้ อย และการใช้ หลักเหตุผล เป็นต้น ประเทศที 㥳
ประชาชนยอมรับในหลักการประชาธิ ปไตย จะทํ าให้การพัฒนา
ประเทศมี ความเจริ ญเติบโตสู

4.6 วัฒนธรรมแบบประชาธิ ปไตย เช่
น ความเคารพในคุ ณค่าของบุคคล ความสํานึกของการเป็
นพลเมืองดีความตระหนักในหน้ าที

และความรับผิ ดชอบของตน การตัดสิ นใจร่วมกัน การให้ ความสําคัญต่
อผลประโยชน์ ส่
วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ ส่วนตัว เป็นต้ น
วัฒนธรรมต่ างๆ เหล่
านี เป็
꺞蹭 นปั จจัยเกื
อหนุ
꺞蹭 นให้ ความเป็
นประชาธิ ปไตยเข้มแข็
งยิง㥳
ขึ

꺞蹭
4.7 คุณลักษณะของนักประชาธิ ปไตย เช่น การใช้หลักเหตุ
ผลในการแสดงออก การรับฟังความคิ ดเห็นของบุ
คคลอื 㥳
น การมีน꺞蹭
าใจ

เป็นนักกี
ฬา การยึ ดมัน㥳
ในขนบธรรมเนี ยมประเพณี ที㥳
ดี
งามของสังคม การปฏิบตั ิ
ตามระเบี
ยบกฎเกณฑ์ ของสังคม และการเคารพสิ ทธิ
มนุ ษย
ชน เป็นต้น ประเทศที 㥳
ประชาชนมี คุ
ณลักษณะเช่ นนีจะทํ
꺞蹭 าให้
การปกครองแบบประชาธิ ปไตยมีความเข้
มแข็

5. คุ ณค่ าของการปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย


การปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตยมี คุณค่า 2 กรณี คือ คุณค่าต่อบุคคลและคุ ณค่ าต่อสังคม
5.1 คุ
ณค่ าต่อบุ คคล สิ งที
㥳 㥳
บุ
คคลในสังคมประชาธิ ปไตยถื อเป็
นหลักปฏิ บตั ิคือ การให้ ความเคารพในสถานภาพของบุ คคลในสังคม
ประชาธิ ปไตย บุ คคลย่ อมเสมอภาคในกฎหมายและได้ รับความคุ ม้ครองตามกฎหมายเท่ าเทียมกัน การเลื อกปฏิ บตั ิ
โดยไม่ เป็นธรรมต่ อ
บุ คคลเพราะเหตุ แห่งความแตกต่ างในเรื 㥳
องถิ นกํ
㥳 าเนิด เชือชาติ
꺞蹭 ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรื อสุขภาพ สถานะของบุ คคล ฐานะทาง
เศรษฐกิ จหรื อ สังคม ความเชื 㥳
อทางศาสนา การศึ กษาอบรม หรื อความคิ ดเห็นทางการเมื อง จะกระทํ ามิได้
นอกจากนี ในสังคมประชาธิ
꺞蹭 ปไตยจะมี การประกันการใช้ เสรีภาพของบุ คคลในเรื 㥳
องต่ างๆ เช่น เสรี ภาพในการนับถื อศาสนา
เสรี ภาพในการเดิ นทาง และมี เสรีภาพในการเลื อกถินที
㥳 㥳 ภ่
อยู ายในประเทศ เสรี ภาพในการสื 㥳
อสารถึ งกันโดยทางที 㥳
ชอบด้ วยกฎหมาย
เสรี ภาพในทางวิ ชาการและการศึ กษาอบรม เสรี ภาพในการชุ มนุ มโดยสงบและปราศจากอาวุ ธ เสรี ภาพในการประกอบกิ จการหรื อการ
ประกอบอาชี พ และการแข่ งขันโดยเสรี อย่างเป็นธรรม เสรี ภาพในการเข้ าไปมีส่วนร่ วมในกระบวนการพิ จารณาของเจ้ าหน้ าที㥳
ของรัฐที㥳
จะ
มี ผลหรื ออาจมี ผลกระทบต่ อสิ ทธิ และเสรี ภาพของประชาชน เสรี ภาพในการแสดงความคิ ดเห็ น การพู ด การเขี ยน การพิ มพ์ และการ
โฆษณา รวมทั꺞蹭 งเสรีภาพในการรวมกันเป็ นสมาคม สหภาพ สหพันธ์ สหกรณ์ กลุ ่
มเกษตรกร องค์ การเอกชน หรื อกลุ ่
มผลประโยชน์ ต่
างๆ
ที 㥳
สาํ คัญคื อ ในการปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย การลงโทษบุ คคลใดบุ คคลหนึ 㥳
งจะทํ าได้กต็่
อเมื㥳
อบุ คคลนั꺞蹭 นได้ กระทํ าผิดในเวลาที 㥳
กฎหมายนั꺞蹭 นบัญญัติ วา่เป็นความผิ ดและกํ าหนดโทษไว้ เท่านั꺞蹭
น และการลงโทษแก่ บุคคลนั꺞蹭
นจะหนักกว่ าโทษที กาํ
㥳 หนดไว้ ในกฎหมายที 㥳
ใช้
อยู ใ่นเวลาที 㥳
กระทํ าความผิ ดไม่ ได้ และเจ้ าหน้ าทีกไ็
㥳 ม่สามารถลงโทษบุ คคลได้ ตามอํ าเภอใจของตน เช่ น การตอกเล็ บ การบี บขมับ เป็ นต้น
กล่ าวได้ วา่เจ้
าหน้ าที㥳
จะใช้ การทรมาน ทารุ ณกรรม หรื อการลงทาด้ วยวิธีการโหดร้ ายหรื อไร้ มนุ ษยธรรมไม่ ได้ นอกจากนี ในกรณี
꺞蹭 สงสัยว่

เจ้าหน้ าที 㥳
จะใช้ อาํนาจเข้ าไปค้ นหรื อจับบุ คคลในบ้ านเรือนของประชาชนโดยไม่ ได้ รับความยิ นยอม หรื อไม่ มี หมายค้ นหรื อหมายจับจาก
ศาล ก็ ไม่ สามารถกระทํ าได้เช่ นกัน
ในส่ วนของบุ คคลผู ด้อ้ยโอกาส ในการปกครองตามระบอบประชาธิ ปไตย บุ คคลเหล่ านี มี
꺞蹭สิ
ทธิ ที

จะได้ รับความคุ ม้ครองจากรัฐ เช่ น
เด็ก คนชรา คนพิ การ การละเมิ ดโดยใช้ วธิ
ีการต่างๆ เช่ น การทอดทิ ง การใช้
꺞蹭 ความรุ นแรง การบังคับให้ ทาํ งานเยี ย㥳งทาส การค้ ามนุ ษย์ถื

เป็ นสิ งผิ
㥳 ดกฎหมาย ผู ก้ระทํ าผิ ดต้องได้ รับโทษ
อย่
างไรก็ ตาม ถึ งแม้ บุคคลมี เสรีภาพที 㥳
จะกระทํ าสิงต่
㥳 างๆ ได้ ตามความต้ องการของตน แต่ การใช้เสรี ภาพนั꺞蹭นจะต้ องไม่ ละเมิดต่

เสรี ภาพของบุ คคลอื 㥳
น รวมทั꺞蹭 งจะต้ องไม่ เป็นปฏิ ปักษ์ต่อหน้ าที㥳
ของพลเมื อง และไม่ เป็นการขัดต่ อความสงบเรี ยบร้ อยหรื อศีลธรรมอันดี ของ
ประชาชน
บุ
คคลย่ อมมี สิทธิ ได้รับทราบข้ อมูลหรื อข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่ วยราชการ หน่ วยงานของรัฐ รัฐวิ สาหกิ จ หรื

ราชการส่ วนท้ องถิ น

นอกจากนี 꺞蹭สังคมมี สิทธิในคลื 㥳
นความถี 㥳
ที

ใช้ในการส่ งวิทยุ
กระจายเสี ยง วิ ทยุโทรทัศน์ และวิทยุ โทรคมนาคม ทั꺞蹭 งนีเพราะคลื
꺞蹭 㥳

ความถี 㥳
เป็นทรัพยากรสื 㥳
อสารของชาติการใช้ ประโยชน์ ใดๆ จะต้ องเป็นไปเพื 㥳
อประโยชน์ ต่อสังคมโดยรวม และสังคมจะได้ รับความ
คุม้ ครองด้ านสาธารณู ปโภค การรักษาความสงบเรี ยบร้อย ศี ลธรรมอันดี งาม การประกอบอาชี พ การบริ โภค สิ งแวดล้
㥳 อม สวัสดิ ภาพ และ
ความเป็ นธรรมในการแข่ งขันภายใต้ ระบบเศรษฐกิ จแบบเสรี
ที㥳
สาํคัญคื อ ชุ มชนท้ องถิ นสามารถตัดสิ
㥳 นใจในกิ จการของท้ องถิ นได้
㥳 ดว้ยตนเอง รวมทั꺞蹭 งสามารถอนุ รักษ์หรื อฟื นฟู
꺞蹭 จารีตประเพณี
ภู
มิ
ปัญญาท้
องถิ
น ศิ
㥳 ลปะหรื
อวัฒนธรรมอันดี
ของท้ องถิ
นและของชาติ
㥳 เพื

อการถ่
ายทอดสื
บต่ ่
อไปยังคนรุ
นหลังของสังคม การดํ
าเนิ
นการ
ใดๆ ที

มี
ผลกระทบต่
อขนบธรรมเนี
ยมประเพณีอนั ดี
งามของชุ
มชน ต้
องมี
การทํ
าประชาพิ
จารณ์และต้องได้
รับการยิ
นยอมจากชุ
มชนก่อน
6. ประชาธิ
ปไตยกับการเลื
อกตัꎶ

หัวใจสําคัญของประชาธิ
ปไตยคื อ การเข้ ส่
าไปมีวนร่วมในการบริ
หารประเทศของประชาชน วิ ธี
การแสดงเจตนารมณ์ของ
ประชาชนอาจกระทํ าได้
หลายประการ เช่น การติ
ดตามดูแลและตรวจสอบการให้ บริ
การสาธารณะ การคัดค้
านและต่
อต้
านการทํางานของ
หน่ 㥳
วยงานของรัฐเกี
ยวกับการให้
บริ
การต่างๆ ที

ไม่โปร่
งใส และไม่
เป็
นธรรม การร่
วมกันลงรายชื

อเพื

อเสนอร่
างกฎหมายหรือเพื

อถอดถอน
นักการเมื
องเมื

อเห็
นว่
าบุ
คคลนั꺞蹭
นไม่
สมควรดํ
ารงตํ
าแหน่
งอี
กต่
อไป และการไปใช้
สิ เลื
ทธิ อกตัꎶ
ง [14] เป็
นต้

การไปใช้สิ
ทธิ
เลือกตั꺞蹭
งนั꺞蹭
นถื
อเป็นปั จจัยสํ
าคัญประการหนึ 㥳
งของการปกครองในระบอบประชาธิ ปไตย เพราะการไปใช้ สิ
ทธิเลื
อกตั꺞蹭

เป็นการคัดเลื
อกบุ
คคลไปใช้อาํนาจอธิปไตยแทนประชาชน เพื

อทํ
าหน้
าที㥳
ออกกฎหมายและกํ าหนดนโยบายบริ หารราชการแผ่ นดิน
ประเทศจะพัฒนาและเจริ ญเติ
บโตไปได้ รวดเร็ ว และประเทศจะปราศจากการโกงกิ นหรื
อการฉ้
อราษฎร์ บงั หลวงหรือไม่ ท่
อยู㥳

การไปเลื อก
ตั꺞蹭
งของประชาชน ถ้าประชาชนไปเลื อกคนดี ให้เข้
าไปทํางานประเทศจะเจริ
ญก้าวหน้า แต่
ถา้
ประชาชนเลื อกคนไม่ ดี
เข้
าไปบริหารประเทศ
ก็จะทํ
าให้ประเทศล้
าหลังและด้อยพัฒนา ดังนั꺞蹭น หน้ าที

ที㥳
สาํ
คัญยิ
ง㥳
ของประชาชนในการไปเลือกตั꺞蹭
งคือการส่ งเสริ
มคนดี ให้
เข้
ามาทบริ หาร
บ้านเมื
อง

[1] http://www.youtube.com/watch?v=M6q4adUP-xQ
[2] http://www.youtube.com/watch?v=Jv0bSN1GU9I
[3] http://www.youtube.com/watch?v=ERn6AC4UWC0
[4] http://www.youtube.com/watch?v=CcuLVtIh_Q4
[5] http://www.youtube.com/watch?v=yN4w0u3X49g
[6] http://www.youtube.com/watch?v=_r6iirrPuHE
[7] http://www.youtube.com/watch?v=a7RRzjvcy0E
[8] http://www.youtube.com/watch?v=5bHxuHq6GFI
[9] http://www.youtube.com/watch?v=hq8QvZXlRXo
[10] http://www.youtube.com/watch?v=n6kUC-kenu0
[11] http://www.youtube.com/watch?v=kjsGYtFq2e8
[12] http://www.youtube.com/watch?v=7JtlHzLh6qU
[13] http://www.youtube.com/watch?v=wM8fUtvSJ0I
[14] http://www.youtube.com/watch?v=reJ3GkFgEtA

You might also like