Professional Documents
Culture Documents
วัตถุประสงค์
สามารถเข้าใจความหมาย และอธิบายประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สามารถอธิบายองค์ประกอบและรูปแบบของเครือข่าย
สามารถอธิบายหน้าทีแ่ ละรูปแบบของเครือข่ายแบบเพียร์ทเู พียร์
สามารถอธิบายหน้าทีแ่ ละรูปแบบของเครือข่ายแบบเซิรฟ์ เวอร์เบส
สามารถอธิบายหน้าทีแ่ ละรูปแบบของเครือข่ายแบบไคลเอนต์ และเซิรฟ์ เวอร์
สามารถเข้าใจและอธิบายโครงรูปเครือข่ายแบบต่าง ๆ
สามารถอธิบายเครือข่ายประเภทต่าง ๆ รวมทัง้ ข้อดีและข้อเสีย
2
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
3
Client Client
Client
Server
รูปที่ 1.2 ตัวแบบเซิ รฟ์ เวอร์เบส (Server-Base Model)
ที่ มา: ดัดแปลงจาก Elahi, Ata, Network Communications Technology, (Singapore: Thomson
Learning, 2001), p.3
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
5
Client Client
Server
รูปที่ 1.3 ตัวแบบไคลเอนต์เซิ รฟ์ เวอร์ (Client /Server Model)
ที่ มา: ดัดแปลงจาก Elahi, Ata, Network Communications Technology, (Singapore: Thomson
Learning, 2001), p.3
Station 1 Station 2
Hub
dig it al
Station 4 Station 3
ข้อดีของโครงรูปแบบดาว
- การติดตัง้ เครือข่ายง่ายและสะดวก
- ราคาในการติดตัง้ และดูแลรักษาค่อนข้างต่า
- ถ้าเส้นทางเชือ่ มโยงตัวใดตัวหนึ่งเสีย จะมีเพียงคอมพิวเตอร์ทใ่ี ช้เส้นทางทีเ่ สียเท่านัน้ ที่ได้รบั
ผลกระทบ
ข้อเสียของโครงรูปแบบดาว
- การทางานในเครือข่ายจะขึน้ อยูก่ บั อุปกรณ์ควบคุมทีศ่ นู ย์กลางหรือฮับ ถ้าอุปกรณ์ควบคุมที่
ศูนย์กลางหรือฮับเสียมีผลให้เครือข่ายไม่สามารถถูกใช้ตดิ ต่อสือ่ สารกันได้
1.4.2 โครงรูปแบบวงแหวน (Ring Topology)
บริษทั ไอบีเอ็ม (IBM) ประดิษฐ์โครงรูปแบบวงแหวนหรือเรียกว่า วงแหวนโทเค็นไอบีเอ็ม
(IBM Token Ring) โดยโครงรูปแบบวงแหวนนี้คอมพิวเตอร์ทกุ เครือ่ งจะเชือ่ มต่อกันในลักษณะ ของวง
แหวน ดังรูปที่ 1.5 การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายแบบนี้เริม่ จากคอมพิวเตอร์ตน้ ทางส่งข้อมูลไปยัง
คอมพิวเตอร์เครือ่ งถัดไปทีอ่ ยู่ในวงแหวน คอมพิวเตอร์ทร่ี บั ข้อมูลเข้ามา จะทาการตรวจสอบเลขทีอ่ ยู่
(Address) ปลายทางของข้อมูลว่าตรงกับเลขทีอ่ ยูข่ องคอมพิวเตอร์ทร่ี บั เข้ามาหรือไม่ ถ้าหมายเลขทีอ่ ยู่
ปลายทางของข้อมูลไม่ตรงกับเลขทีอ่ ยูข่ องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครือ่ งนัน้ จะทาการส่งผ่านไปยัง
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
7
Station 1 Station 2
Station 4 Station 3
ข้อดีของโครงรูปแบบวงแหวน
- การติดตัง้ สะดวก
- ราคาในการติดตัง้ ค่อนข้างต่า
- สามารถประยุกต์ใช้ได้กบั สือ่ ประเภทเคเบิลเส้นใยนาแสง
ข้อเสียของโครงรูปแบบวงแหวน
- เส้นทางการเชือ่ มต่อหรือคอมพิวเตอร์เครือ่ งใดเครือ่ งหนึ่งในวงแหวนเสีย เครือข่ายจะไม่
สามารถติดต่อกันได้
- โครงรูปแบบนี้มคี วามต้องการอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ทีซ่ บั ซ้อน เช่น แผ่นวงจรต่อ
ประสานแบบเครือข่ายวงแหวน ซึง่ มีราคาค่อนข้างแพง
- การเพิม่ ไคลเอนต์เข้าไปใหม่ในเครือข่ายแบบนี้จะกระทบต่อการเชือ่ มต่อของคอมพิวเตอร์
ในเครือข่าย
1.4.3 โครงรูปแบบบัส (Bus Topology)
โครงรูปแบบบัสเมือ่ นามาใช้งานกับเครือข่ายจะมีลกั ษณะของการเชือ่ มต่อเป็ นแบบมัลติพอยต์
(Multipoint) กล่าวคือคอมพิวเตอร์แต่ละเครือ่ งจะเชือ่ มต่อกับสายเคเบิลเส้นเดียวกันทีเ่ รียกว่าบัส (Bus)
โครงรูปแบบบัส เชือ่ มต่อกันดังรูปที1่ .6 โครงรูปแบบบัสนัน้ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ทงั ้ หมดจะมีสอ่ื ทีใ่ ช้งาน
Station 1 Station 2
Station 3 Station 4
ข้อดีของโครงรูปแบบบัส
- การติดตัง้ สะดวก
- ราคาการติดตัง้ ค่อนข้างต่า
- สามารถทีจ่ ะทาการขยายเครือข่ายได้งา่ ย
ข้อเสียของโครงรูปแบบบัส คือ
- ถ้าสายเคเบิลแบบบัส (Bus Cable) เสีย จะทาให้ทงั ้ เครือข่ายไม่สามารถใช้งานได้
1.4.4 โครงรูปแบบตาข่าย (Mesh Topology)
โครงรูปแบบตาข่าย เป็ นรูปแบบของการเชือ่ มต่อทีค่ อมพิวเตอร์แต่ละเครือ่ งจะเชือ่ มต่อ
โดยตรงเข้ากับคอมพิวเตอร์ทุกเครือ่ งในเครือข่าย ดังรูปที่ 1.7
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
9
Station 1 Station 2
Station 3 Station 4
ข้อดีของโครงรูปแบบตาข่าย
- คอมพิวเตอร์แต่ละเครือ่ งจะเชือ่ มต่อกับคอมพิวเตอร์เครือ่ งอืน่ ๆ โดยตรง โครงรูปลักษณะนี้
จึงทาให้เกิดความน่าเชือ่ ถือและความปลอดภัยทีส่ งู มาก ถ้าช่องทางการสือ่ สารตัวหนึ่งเสีย เครือข่ายยัง
สามารถทางานต่อได้
ข้อเสียของโครงรูปแบบตาข่าย
- ถ้ามีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อมากจะมีผลให้ตอ้ งใช้สายเคเบิลและอุปกรณ์ เพิม่ ขึน้ ด้วย ตัวอย่าง
เช่น เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะต้องการเส้นทางการ
เชื่อ มต่ อ ถึง 99 เส้น ทาง ดังนั น้ จ านวนของเส้น ทางการเชื่อ มต่ อ สามารถที่จ ะค านวณได้จ ากสูต ร
N(N-1)/2 โดยที N คือ จ านวนคอมพิว เตอร์ ท่ีเชื่อ มต่ อ ภายในเครือ ข่า ย และโครงรูป ประเภทนี้ ม ี
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงทัง้ การติดตัง้ และดูแลรักษาเมือ่ เทียบกับโครงรูปแบบต่าง ๆ
1.4.5 โครงรูปแบบต้นไม้ (Tree Topology)
โดยทัวไปโครงรู
่ ปแบบต้นไม้ เมือ่ นามาใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะใช้อปุ กรณ์ทเ่ี รียกว่า
แอกทีฟฮับ (Active Hub) หรือ เครือ่ งทวนสัญญาณ (Repeater) เพือ่ ทาการเชือ่ มต่อคอมพิวเตอร์ใน
เครือข่าย กล่าวได้ว่าฮับเป็ นส่วนประกอบหนึ่งทีส่ าคัญของเครือข่ายแบบนี้ เพราะฮับจะเชือ่ มต่อกับ
คอมพิวเตอร์ทุกเครือ่ งทีอ่ ยูใ่ นเครือข่ายเข้าด้วยกัน โดยทัวไปหน้
่ าทีก่ ารทางานของฮับจะทาการรับ
ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครือ่ งหนึ่งและทาการสร้างข้อมูลนัน้ ซ้าและจัดส่งไปยังคอมพิวเตอร์หรือฮับตัว
อืน่ ในเครือข่าย ดังรูปที่ 1.8
Ethernet
C
7 8 9101112
Station 1 Station 2
A 12 34 56 1x 2x 3x 4x 5x 6x 1x 2x 3x 4x 5x 6x
A B
Active Hub
Ethernet
C
7 8 9101112
A 12 34 56 1x 2x 3x 4x 5x 6x 1x 2x 3x 4x 5x 6x
A B
Hub
Station 3 Station 4 Station 5
ข้อดีของโครงรูปแบบต้นไม้
- เมือ่ ฮับเสีย คอมพิวเตอร์ทเ่ี ชือ่ มต่อกับฮับทีเ่ สียเท่านัน้ ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบ ส่วนคอมพิวเตอร์
เครือ่ งอืน่ ๆ สามารถทางานได้ตามปกติ ฮับทีใ่ ช้อยูใ่ นปั จจุบนั มีหลายชนิดซึง่ สามารถจาแนก ได้ดงั นี้
ฮับแบบมีการจัดการ (Manageable Hub) คือฮับทีส่ ามารถจัดการการทางานแต่
ละพอร์ต (Port) บนฮับได้ ซึง่ สามารถกาหนดการทางานโดยผูด้ แู ลเครือข่ายผ่านทางซอฟต์แวร์
สแตนอโลนฮับ (Stand-AloneHub)คือฮับทีใ่ ช้สาหรับกลุ่มร่วมงาน (Workgroup)
ของคอมพิวเตอร์ ซึง่ แยกจากเครือข่ายทีไ่ ม่สามารถต่อเชือ่ มกับเครือข่ายอืน่
มอดุลาร์ฮบั (Modular Hub) คือมอดูลทีม่ อี ยูใ่ นฮับ หรือการ์ดเคจ (Card Cage)
เป็ นการเพิม่ จานวนของพอร์ตโดยสามารถใส่โมดูลเพิม่ หรืออาจเรียกว่าเป็ นการเพิม่ การ์ดพิเศษ (Extra
card) ให้กบั ฮับ
สแตกฮับ (Stack Hub) คือฮับทีม่ ลี กั ษณะคล้ายกับสแตนอโลนฮับ แต่สามารถ
นาฮับมาต่อกันเป็ นสแตกเพือ่ เพิม่ จานวนพอร์ตของเครือข่ายได้
1.4.6 โครงรูปแบบลูกผสม (Hybrid Topology)
โครงรูปแบบลูกผสมประกอบด้วยโครงรูปลักษณะต่าง ๆ นามาเชือ่ มต่อกันโดยใช้สายเคเบิล
แกนหลัก (Backbone Cable) ดังรูปที่ 1.9 แต่ละเครือข่ายเชือ่ มต่อกับสายเคเบิลแกนหลัก โดยมี
อุปกรณ์ทใ่ี ช้เชือ่ มต่อระหว่างเครือข่ายคือบริดจ์ (Bridge)
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
11
Bridge
Backbone
Bridge Bridge
Ethernet
C
7 8 9 101112
A 12 34 56 1x 2x 3x 4x 5x 6x 1x 2x 3x 4x 5x 6x
A B
Ethernet
C
7 8 9 101112
A 12 34 56 1x 2x 3x 4x 5x 6x 1x 2x 3x 4x 5x 6x
A B
โดยทัวไปผู
่ ใ้ ห้บริการเครือข่ายแบบนี้จะเป็ นเจ้าของเครือข่ายในการติดต่อสือ่ สารภายในเมืองอยูแ่ ล้ว
เช่น บริษทั ทีไ่ ด้รบั สัมปทานโทรศัพท์พน้ื ฐานในนครหลวง การแพร่ขอ้ มูลภาพด้วยระบบเคเบิลทีวี การ
ส่งข้อมูลด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ3 หรือ ไวแมกซ์ (Wi-MAX) เป็ นต้น รูปที่ 1.10 แสดงข่ายงานบริเวณ
นครหลวง
Metropolitan
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
13
G G
G
G G
G : Gateway G
สรุป
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็ นเครือข่ายทีเ่ ป็ นพืน้ ฐานของอินเทอร์เน็ต ซึง่ มีรปู แบบของ
เครือข่ายประเภทต่าง ๆ และโครงรูปสาหรับออกแบบเครือข่าย โดยแต่ละเครือข่ายอาจใช้โครงรูปทีม่ ี
รูปแบบแตกต่างกันทางานร่วมกัน และประเภทของเครือข่ายสามารถแบ่งได้ตามระยะทางหรือขอบเขต
ของการให้บริการได้เป็ นเครือข่าย แลน แมน แวน และอินเทอร์เน็ต ซึง่ ยังใช้อยูใ่ นปั จจุบนั
แบบฝึ กหัด
1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คืออะไร
2. ยกตัวอย่าง โปรแกรมประยุกต์ (Application) ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
3. อธิบายเครือข่ายแบบไคลเอนต์เซิรฟ์ เวอร์ (Client/Server)
4. จงบอกถึงส่วนประกอบของเครือข่ายได้แก่ แผ่นวงจรต่อประสานเครือข่าย (Network Interface
Card: NIC) ระบบปฏิบตั กิ ารเครือข่าย (Network Operation System : NOS) และตัวกลางส่ง
สัญญาณ (Transmission Media)
5. อธิบายโครงรูปแบบดาว (Star Topology) แบบวงแหวน (Ring Topology) แบบบัส (Bus
Topology) แบบตาข่าย (Mesh Topology) แบบต้นไม้ (Tree Topology) และแบบผสม
(Hybrid Topology)
6. อธิบายประเภทของเครือข่าย แลน (LAN) แมน (MAN) แวน (WAN) และ อินเทอร์เน็ต (Internet)
ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
15
อ้างอิง
1
Elahi, Ata, Network Communications Technology, (Singapore: Thomson Learning,
2001),p.1-10.
2
พิพฒ ั ย์วณิชชากร, ระบบการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิ วเตอร์, (กรุงเทพฯ:
ั น์ หิรณ
ซีเอ็ดยูเคชัน,่ 2542), หน้า 31.
3
เรือ่ งเดียวกัน, หน้า 41.
4
วาทิต เบญจพลกุล. การสื่อสารข้อมูล. (กรุงเทพฯ: SOPHIA PUBLIAHING, 2541), หน้า 8.