You are on page 1of 4

1

บทที่ 1
บทนา

ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
ภาษาอั ง กฤษถื อ ว่ า มี ค วามส าคั ญ อย่ า งมากซึ่ ง ประเทศไทยได้ จั ด ให้ มี ก ารเรี ย นการสอนวิ ช า
ภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา คิดเป็นระยะเวลายาวนานในการเรียนรวมอย่างน้อย
14 ปี หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมุ่งหวังให้ผู้เรียน
มีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศและสามารถใช้ภาษาต่างประเทศสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ แสวงหาความรู้
ประกอบอาชีพและศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นรวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลาย
ของประชาคมโลกและสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสั งคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่ง
ประกอบด้วยสาระสาคัญดังนี้ ภาษาเพื่อการสื่อสาร, ภาษาและวัฒนธรรม, ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่นและ ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก ผู้วิจัยได้หยิบยกสาระสาคัญว่าด้วยเรื่องภาษาเพื่อ
การสื่อสารเนื่องจากสาระสาคัญนี้ได้สอดคล้องกับงานวิจัยที่ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาค้นคว้าซึ่งในสาระสาคัญนี้
ทางหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) ได้กล่าวเกี่ยวกับภาษาเพื่อ
การสื่อสารไว้ว่า “การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารแสดงความรู้สึก
และความคิ ด เห็ น ตี ค วาม น าเสนอข้ อ มู ล ความคิ ด รวบยอดและความคิ ด เห็ น ในเรื่ อ งต่ า งๆ และสร้ า ง
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม” โดยในปัจจุบันพบว่าปัญหาพื้นฐานของการเรียนภาษาอังกฤษทั้ง
สี่ทักษะคือ ปัญหาคาศัพท์ เนื่องจากความรู้ด้านคาศัพท์ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุส าคัญประการหนึ่งที่ทาให้
นักเรียนไม่ประสบความสาเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นทักษะ การฟัง พูด อ่าน และ
เขียน ซึ่งเป็นทักษะที่สาคัญและจาเป็นที่นักเรียนจะต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับคาศัพท์ จึงจะสามารถเรียนภาษาได้ ดี
จึงเป็นที่ยอมรับว่า “คาศัพท์” เป็นหัวใจสาคัญในการศึกษาภาษาอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การสอนคาศัพท์ในประเทศไทยนั้น ยังได้รับความสนใจน้อยและการละเลยในด้านการ
สอน จึ งได้ก่อให้เกิดปั ญหาแก่นั กเรียนไทยในการสอนหลายด้าน ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเป็นส่ว นหนึ่งของ
หลายๆกิจกรรมในชีวิตประจาวัน และในการที่จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีนั้น ผู้เรียนต้องฝึกฝนทั้งทักษะการพูด
การฟัง การอ่าน และการเขียนโดยเชื่อมโยงกับการนาไปใช้ได้จริงและในทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษทั้งหมด
ทักษะการเขียนเป็นทักษะที่สาคัญอย่างหนึ่งต่อการเรียนภาษาเพราะ การเขียนเป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝน
อย่างมีระบบ ต้องหมั่นอดทนฝึกซ้อม ซึ่งการเขียนที่ดีนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสาหรับผู้ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็น
ภาษาต่างประเทศ เพราะแม้แต่ตัวของเจ้าของภาษาเองนั้นก็พบว่าการเขียนยาก เนื่องมาจากสะกดคาศัพท์
นั้นๆไม่ถูกต้อง รู้ตัวอักษรแต่ประสมเป็นคาไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามการฝึกความสามารถด้านการเขียนก็ช่วยให้
ตัวผู้เรียนพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในด้านการอ่าน ด้านการฟัง และด้านการพูดได้ด้วยจากปัญหา
ข้างต้นได้มีผู้ให้ความสนใจศึกษาปัญหาและหาวิธีแก้ไข เช่น นิตยา ดวงเงิน (2547) ซึ่งได้ทาการวิจัยพบว่าเกม
2

ช่วยให้นักเรียนเขียนตัวอักษรถูกต้องตามหลัก เขียนสะกดคาศัพท์ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ


ปารมี นกสวน (2547) ซึ่งได้ทาการวิจัยเกี่ยวกับการใช้เกมแฮงแมนเป็นกิจกรรมเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่ม
ความตระหนักในเรื่องแบบแผนการสะกดบอกว่า เกมช่วยให้นักเรียนเข้าใจแบบแผนการสะกดคาภาษาอังกฤษ
สามารถจาคาศัพท์ได้แม่นยาและถูกต้อง ทั้งยังสามารถเดาคาศัพท์ที่สะกดคล้ายคลึงกันได้อีกด้วย
และเมื่อศึกษาถึงสาเหตุของปัญหาดังกล่าวพบว่า นักเรียนมีปัญหาอยู่หลายด้านด้วยกัน แต่ที่ชัดเจน
ที่สุดคือ การเขีย นสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ได้ของนักเรียน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการการนาตัว อักษรมา
ประสมเป็นคาไม่เป็นและไม่มีสื่อที่สามารถดึงดูดความสนใจให้นักเรียนเขียนได้ ทาให้นักเรียนส่วนหนึ่งขาด
ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ และยังไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร เพราะเวลาการเรียนการสอนนั้นมีจากัด และ
นักเรียนก็มีจานวนมากจึงทาให้ไม่เพียงพอต่อการให้นักเรียนฝึกฝนได้ครบทุกคน
จากการที่ผู้วิจัยได้ปฏิบัติการสอนในรายวิชา อ21102 ภาษาอังกฤษพื้นฐานของชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1/1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม 1 ปรากฏว่ามีนักเรียนจานวนหนึ่งประสบปัญหา
การเขียนสะกดคาศัพท์ไม่ได้ ทาให้ทราบว่านักเรียนขาดทักษะทางด้านการเขียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อ
ผู้วิจัยให้นักเรียนเขียนคาศัพท์ภาษาอังกฤษ นักเรียนไม่สามารถนาตัวอักษรต่างๆมาประสมเป็นคานั้นๆได้
ดังนั้นจากการศึกษาข้างต้นทาให้ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะนาเกมต่างๆมาเพื่อพั ฒนาทักษะการเขียนคาศัพท์
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โดยคุณครูจะนากิจกรรมเกมต่างๆมาใช้ใน
การเรียนการสอน คือหลังจากสอนคาศัพท์ให้นักเรียนไปแล้ว ผู้วิจัยจะนาคาศัพท์นั้นๆมาให้นักเรียนประยุกต์ใช้
กับโครงสร้างทางภาษาง่ายๆ โดยใช้เกม ซึ่งเกมที่ผู้วิจัยได้ใช้นั้น มีทั้งหมด 4 เกม คือ เกม Bingo, เกมTic-Tac-
Toe, เกม Pictionary และเกม Hangman

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการเขียนคาศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนและหลังการใช้เกมในการเรียน
การสอน

ความสาคัญของงานวิจัย
1. นักเรียนสามารถเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษได้และนาไปใช้ในสื่อสารได้อย่างถูกต้อง
2. เกิดแนวการสอนที่พัฒนาทั้งความรู้ด้านการเขียนสะกดคาศัพท์และสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนให้
ไม่น่าเบื่อ
3. ท าให้ ไ ด้ ข้ อ มู ล ที่ ช่ ว ยให้ ค รู ผู้ ส อนได้ ค้ น พบวิ ธี ก ารสอนเพื่ อ พั ฒ นาการเขี ย นสะกดค าศั พ ท์
ภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับผู้เรียน ซึ่งข้อค้นพบดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะทางภาษา
4. ได้ชุดเกมพัฒนาการเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง In
all weathers ซึ่งจะเป็นแนวทางให้ผู้สนใจได้ศึกษาค้นคว้า
3

5. ทาให้ได้ข้อมูลที่ช่วยให้ครูผู้สอนทราบความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษระหว่างการสอนโดย
ใช้ชุดเกมพัฒนาการเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษกับการสอนแบบบรรยาย ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการปรับปรุง
การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพต่อไป

ขอบเขตการวิจัย
1. ขอบเขตด้านประชากร คือ นักเรียนกลุ่มเป้าหมายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จานวน 28 คน
2. ขอบเขตด้านเนื้อหา สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง In all weathers
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Year after year
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Dress right!
3. ขอบเขตด้านเวลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระหว่างเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม
ระยะเวลา 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์รวมทั้งสิ้น 4 สัปดาห์
4. ตัวแปรการศึกษา
ตัวแปรต้น คือ เกมพัฒนาการเขียนคาศัพท์ภาษาอังกฤษ
ตัวแปรตาม คือ ความสามารถในการเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียน

กรอบแนวคิดในการวิจัย
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาการเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 1 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม 1 ผู้วิจัยได้กาหนดตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ดังกรอบแนวคิดในการวิจัย
ดังต่อไปนี้

ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
เกมที่ใช้ในการพัฒนาการ ความสามารถในการเขียน
เขียนคาศัพท์ภาษาอังกฤษ สะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษของ
ของนักเรียนชั้น ม.1 นักเรียนชั้น ม.1

คาถามการวิจัย
การใช้เกมสามารถทาให้ความสามารถด้านการเขียนสะกดคาศัพท์ของนักเรียนชั้นระดับมัธยมศึกษาปี
ที่ 1 สูงขึ้นหรือไม่ อย่างไร
4

สมมติฐานการวิจัย
1. นักเรียนที่เรียนโดยใช้เกมมีความสามารถในการเขียนคาศัพท์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

นิยามศัพท์เฉพาะ
1. ความสามารถในการเขียนคาศัพท์ภาษาอังกฤษ หมายถึง การเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษได้
อย่ า งถู ก ต้ อ ง สามารถก าหนดตั ว อัก ษรหรื อ สั ญ ลั ก ษณ์ แ ทนเสี ย ง สามารถถ่ า ยทอดความคิ ด ออกมาเป็ น
ตัวหนังสือและผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ สามารถเขียนเรียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ตัวสะกดเรียบเรียงเป็น คา
ได้ถูกต้อง
2. เกม หมายถึง กิจกรรมที่จัดอยู่ในรูปของการเล่นหรือแข่งขันอย่างมีกฎเกณฑ์ในแต่ละเกมกาหนดจุ
มุ่งหมาย จานวนผู้เล่น อุปกรณ์ วิธีการเล่น กติกา เวลา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคาศัพท์ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีด้วยกันทั้งหมด 4 เกม ดังนี้ เกม Bingo, เกมสร้างคาศัพท์, เกม Pictionary และเกม
Hangman ซึ่งเป็นเกมเกี่ยวกับการสะกดคาศัพท์ทั้งสิ้น โดยผู้วิจัยจะนามาใช้ในการเรียนการสอนควบคู่ไปกับ
โครงสร้างทางภาษาง่ายๆ
3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเขียนสะกดคาศัพท์ หมายถึง ข้อสอบที่ใช้วัดทักษะในการเขียนสะกด
คาศัพท์ภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นปรนัย 20 ข้อและอัตนัย 10 ข้อ
4. นักเรียน หมายถึง ประชากรที่ได้จากการสุ่มอย่างง่ายจากนักเรียนทั้งหมด 3 ห้อง สุ่มมา 1 ห้อง ซึ่ง
ก็คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จานวน 28 คน

You might also like