Professional Documents
Culture Documents
สำหรับ Marimba
นายสมประสงค์ ทวนทอง
รหัสนิสิต 58012010159
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
หลักสูตรปริญญาดุริยางคศาสตร์บัณฑิต
คำนำ
การวิเคราะห์บทเพลง Lotus สำหรับ Marimba ประพันธ์โดย
Adam Tan เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชาการแสดงเดี่ยว รหัสวิชา 2000404
จัดทำขึน
้ เพื่อศึกษาประวัติความเป็ นมาของบทเพลง ประวัติผู้ประพันธ์
สังคีตลักษณ์ของบทเพลง ลักษณะบันไดเสียงของบทเพลง และเทคนิค
ต่าง ๆ ที่ใช้ในการประพันธ์บทเพลงนี ้ เพื่อให้เข้าใจถึงบทเพลง Lotus
สำหรับ 4.3 octave Marimba
สมประสงค์ ทวนทอง
สารบัญ
แนวการวิเคราะห์ส่วนประกอบหลักของเพลง 1
การวิเคราะห์ประโยคเพลง 1
การวิเคราะห์สังคีตลักษณ์ 1
วิเคราะห์ภาพรวมโดยทั่วไปของบทเพลง 2
ประวัติผู้ประพันธ์ 3
ประวัติความเป็ นมาของบทเพลง 5
วิเคราะห์บทเพลง 6
ปั จจัยในการการวิเคราะห์เพลง Lotus 6
1.การวิเคราะห์โครงสร้างของบทเพลงและเทคนิคการเคลื่อนที่ของ
ทำนอง 6
2. การวิเคราะห์จังหวะ (Rhythm) 18
3. การพักประโยค (Cadence) 20
บรรณานุกรม
1
แนวการวิเคราะห์ส่วนประกอบหลักของเพลง
เมื่อได้ภาพรวมภายนอกของเพลงแล้ว จึงจะวิเคราะห์ในแง่ทฤษฎีต่อ
ไป ในขัน
้ แรกควรวิเคราะห์ส่วนประกอบหลักของเพลง ซึ่งประกอบด้วย
ทำนอง จังหวะ เสียงประสาน และสีสันเสียง
การวิเคราะห์ประโยคเพลง
บทเพลงทุกบทต้องประกอบด้วยประโยคเพลง และประโยคเพลงเหล่า
นีก
้ ็จะถูกนำมาผูกร้อยเรียงกันเข้าจนเป็ นเพลงที่สมบูรณ์ แต่ละประโยคเพลง
มักมีส่วนย่อย ๆ ออกไปอีกเรียกว่า หน่วยทำนองย่อยเอก ซึ่งมีความสำคัญ
ในการผูกเพลงทัง้ หมดเข้าเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนีย
้ ังต้องคำนึงถึง
เทคนิคทางการประพันธ์เพลงที่ใช้ เช่น เทคนิคการซ้ำ การเลียน เป็ นต้น
และท้ายที่สุด ควรวิเคราะห์โครงหลักของประโยคเพลงเพราะเป็ นตัวบอก
ทิศทางการเคลื่อนไหวของประโยคเพลง
การวิเคราะห์สังคีตลักษณ์
สังคีตลักษณ์เปรียบเหมือนฉันท์ลักษณ์ในวรรณคดี ฉันท์ลักษณ์ใน
วรรณคดีเป็ นโครงสร้างทางร้อยกรองที่แยกแยะ โครง ฉันท์ กาพย์ กลอน ให้
มีความแตกต่างกัน สังคีตลักษณ์ในดนตรีก็เช่นกัน มีโครงสร้างที่ยึดถือได้เป็ น
แบบอย่าง โดยมีทำนองแลกุญแจเสียงเป็ นตัวแปรสำคัญในการกำหนด
โครงสร้างของสังคีตลักษณ์เหล่านี ้ เช่น สังคีตลักษณ์สองตอน สังคีตลักษณ์
สามตอน สังคีตลักษณ์รอนโด สังคีตลักษณ์โซนาตา นอกเหนือจากสังคีต
ลักษณ์ดงั กล่าวแล้ว ยังมีกระบวนการทางการประพันธ์แบบอื่น ๆ ที่อนุโลม
เรียกว่า สังคีตลักษณ์ เช่น สังคีตลักษณ์ทำนองหลักและการแปร และรูป
2
แบบที่ไม้จัดอยู่ในกลุ่มทีเรียกว่าสังคีตลักษณ์แต่ก็มีกระบวนการประพันธ์ ที่
ถือเป็ นบรรทัดฐานได้ เช่น บทประพันธ์เพลงประเภทฟิ วก์ แต่บางเพลงก็
อาศัยสังคีตลักษณ์ 2 แบบมาผสมผสานกัน เช่น สังคีตลักษณ์โซนาตารอนโด
สังคีตลักษณ์สามตอนแบบผสม เป็ นต้น และก็มีเพลงบางประเภทต้องใช้
สังคีตลักษณ์มาผสมผสานกับรูปแบบการจัดวงดนตรี เช่น คอนแชร์โต
เป็ นต้น ผู้วิเคราะห์ต้องใช้วิจารณญาณประกอบกับความรู้ด้านทฤษฎีดนตรี
และประวัติดนตรีในการที่จะวินิจฉัยว่า บทเพลงนัน
้ ๆ มีแง่มุมใดที่น่าสนใจ
แก่การวิเคราะห์ในแง่มุมอื่น ๆ ฉะนัน
้ ก่อนที่จะเริ่มวิเคราะห์เพลง สิ่งที่
สำคัญที่สุด คือต้องรู้ว่า เพลงนัน
้ มีจุดสนใจอยู่ที่ไหน ควรให้ความสำคัญกับ
อะไรในการวิเคราะห์ ควรกล่าวเน้นถึงเรื่องอะไรมากน้อยเพียงไร ควรลงลึก
ถึงรายละเอียดในเรื่องใดบ้าง บทวิเคราะห์และข้อคิดต่าง ๆ ต้องมีเหตุผล
และหลักการทฤษฎีรองรับ เพื่อแสดงถึงคุณค่าเชิงวิชาการของบทเพลงนัน
้ ๆ
อย่างแท้จริง
วิเคราะห์ภาพรวมโดยทั่วไปของบทเพลง
3.1 ชื่อบทเพลง Lotus
3.2 ชื่อผู้แต่ง Adam Tan
3.3 ปี ที่แต่ง 2018
3
ประวัติผู้ประพันธ์
ประวัติความเป็ นมาของบทเพลง
Lotus เริ่มต้นขึน
้ มาด้วยทำนองธีมหลักของเพลง โดยเขาให้ช่ อ
ื ว่า
floating (ลอยตัว) หมายความถึงความเงียบสงบ โดยในส่วนนีไ้ ด้แรงบันดาล
ใจมาจากเพลง Arabesque No. 1 ของ Debussy ด้วย ซึ่งจะพบและได้ยิน
ทำนองธีมหลักนีห
้ ลายท่อนในเพลงและทำนองธีมรองมักจะแสดงถึงการ
สะท้อนและความไม่แน่นอนไม่มั่นคง
และในท่อนของบทเพลงจะมีทำนองธีมหลักและทำนองธีมรองสลับกัน
ไปในแต่ละท่อน โดย Adam Tan ได้เปรียบไว้ว่า ทำนองธีมหลักความสงบ
แสดงถึงช่วงเวลาแห่งสันติภาพ ทำนองธีมรองการสะท้อนและความไม่
แน่นอนไม่มั่นคง แสดงถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของเรา หลังจากนัน
้
เพลงจะมีการพัฒนานำทำนองธีมหลักและทำนองธีมรองมาผสมกันและจบ
ลงด้วยแนวคิดที่ว่า ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข ซึ่งเป็ นแนวคิดจากทำนองธีม
หลัก
9
วิเคราะห์บทเพลง
Lotus สำหรับ Marimba ประพันธ์โดย Adam Tan ซึง่ บทเพลงนี ้ อยู่
ในบันไดเสียง A Major และ A minor ในอัตราจังหวะ 2/4, 3/4, 4/4,
7/16, 9/16, 19/16 สำหรับบทเพลงนีเ้ ป็ นบทเพลงประเภท Solo โดยมี
การแบ่งท่อนได้เป็ นท่อน A ท่อน B ท่อน A ซึ่งบทเพลงนีอ
้ ยู่ในสังคีตลักษณ์
Ternary Form และมีปัจจัยในการวิเคราะห์บทเพลง ดังนี ้
ปั จจัยในการการวิเคราะห์เพลง Lotus
1. การวิเคราะห์โครงสร้างของบทเพลงและเทคนิคการเคลื่อนที่ของ
ทำนอง
2. การวิเคราะห์จังหวะ (Rhythm)
3. การพักประโยค (Cadence)
4. บันไดเสียง หรือ คีย์ของเพลง (Key Signature)
1. การวิเคราะห์โครงสร้างของบทเพลงและเทคนิคการเคลื่อนที่ของ
ทำนอง
ท่อน A
ท่อน a
Repetit
ion
ประโยค Motive
เพลงที่ 1 ที่ 1
Sequen
ce
ที่ 1
Sequen
ce 11
Repetit
ion
ต่อมาในห้องที่ 9 ท่อนนีพ
้ บเทคนิคการเคลื่อนที่ของทำนอง เทคนิค
Repetition
Repetit
ion
12
ประโยค Motive
เพลงที่ 1 ที่ 1
Sequen
ce
Motive
ที่ 1
Sequen
ce
Repetiti
on
13
Repetiti
on
Repetition
ท่อน b
14
Sequence
ประโยค
Sequenc
Motive ที่ 3 ถูกพัฒนา เพลงที่ 2
e
และขยายความ
Sequenc Repetiti
e on
ท่อน B
ท่อนนีส
้ ามารถแบบท่อนย่อยออกได้เป็ น 3 ท่อน โดยแบ่งท่อนได้เป็ นท่อน a
้ ยู่ในสังคีตลักษณ์ Ternary Form
ท่อน b ท่อน a′ ซึ่งท่อนนีอ
ท่อน a
Sequence
Sequence
Transiti
17
ท่อน b
Sequen
ce Sequen
ce
Repetiti
on
Sequen
ce Sequen
18
Repetiti Repetiti
on on
19
ท่อน a′
Repetiti
on
Sequen
ce
Repetiti
Sequen on
ce
Repetiti
on
20
ท่อน A
ท่อน a
Motive
ที่ 2
Inversio Sequen
n ce
Imitatio
n
Sequen Sequen
ต่อมาในห้องที่ 55-58
ce พบการนำประโยคเพลงที
ce
่ 2 มาพัฒนาใหม่ ซึ่ง
พบเทคนิคการเคลื่อนที่ของทำนองเทคนิค Sequence ที่ห้อง 55-58
22
ประโยคเพลงทีSequenc
่2
พัฒนาใหม่ e
Repetiti
on
Sequence ขยายความทำนองประโยคเพลง
ที่ 2 พัฒนาใหม่
Repetiti Repetiti
on on
ท่อน b
ประโยคเพลงที่
Motive ที่ 1
3
พัฒนาทำนอง
Sequenc
e
Repetiti
on
Motive ที่ 1
พัฒนาทำนอง
Sequenc
e
ประโยคเพลงที่
3
Sequenc
e
24
nce Sequenc
Motive ที่ 1
e
พัฒนาทำนอง
Sequenc
e
25
2. การวิเคราะห์จังหวะ (Rhythm)
ความเร็วจังหวะ (Tempo) หมายถึงความช้าหรือความเร็วของ
บทเพลงนัน
้ โดยผู้ประพันธ์เพลงเป็ นผู้กำหนดขึน
้ การกำหนดอัตราความเร็ว
ของจังหวะ มีการกำหนดศัพท์ขน
ึ ้ มาใช้โดยเฉพาะ โดยจะเขียนอยู่บนและ
ตอนต้นของบทเพลง ตัวอย่างคำศัพท์ที่กำหนดอารมณ์ในบทเพลง Lotus
เช่น Gently,freely = ช้าตามสบาย, Lamenting,reflective = คร่ำครวญ
และสะท้อน, With energy = ให้มพ
ี ลัง, Relaxed = ผ่อนคลาย,
Triumphant = ชัยชนะ, Wistful = โหยหา
โดยทั่วไปในทางดนตรีสามารถจำแนกอัตราจังหวะได้ 2 ประเภทคือ
อัตราจังหวะธรรมดา (Simple Time Signatures) และอัตราจังหวะผสม
(Compound Time Signatures)
27
3. การพักประโยค (Cadence)
การพักประโยค (Cadence) คือ ท่อนจบของประโยคเพลงในแต่ละ
ท่อน ซึ่งสิ่งที่บ่งบอกชนิดของเคเดนซ์คือ คอร์ด 2 คอร์ดสุดท้าย ถ้าทราบว่า
2 คอร์ดสุดท้ายคือคอร์ดอะไรบ้าง ก็จะทำให้ทราบชนิดของเคเดนซ์ น้ำหนัก
ของการดำเนินคอร์ดจากคอร์ดแรกไปเป็ นตัวกำหนดน้ำหนักของเคเดนซ์ นัก
แต่งเพลงในยุคโรแมนติก นิยมเคเดนซ์ที่มีน้ำหนักเบาลง ต่างจากนักแต่ง
เพลงในยุคบาโรก และคลาสสิกที่ชอบใช้เคเดนซ์ที่มีความหนักแน่นในการจบ
ประโยค จบตอน จบท่อน หรือจบเพลงเคเดนซ์ชนิดต่างๆจะมีน้ำหนักลด
หลั่นตามลำดับจาก
กิตติคณ
ุ จันทร์เกษ . (2562). เทคนิคการเคลื่อนที่ของทำนอง.
เอกสารประกอบการสอนวิชา Forms and Analysis of Western Music,
มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.