Professional Documents
Culture Documents
Aterials Characterization
Aterials Characterization
วิศิษฏพงศ์ ยอดศรี
ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เชิงฟิสิกส์
หน่วยวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของวัสดุ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
e-mail: visittay@mtec.or.th
การทำ�งานของ
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
แบบทรานสมิสชัน
กล้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบทรานสมิสชัน (Transmission Electron
Microscope, TEM) เป็นกล้องจุลทรรศน์แบบหนึ่งที่ใช้ในการศึกษาสิ่งเล็กๆ ใน
ระดับนาโนเมตร โดยอาศัยการยิงลำ�อิเล็กตรอนทะลุผ่านชิ้นงานตัวอย่างที่มี
ความบางมากๆ (น้อยกว่า 100 นาโนเมตร) ซึ่งลำ�อิเล็กตรอนที่ทะลุและเลี้ยวเบน
ผ่านตัวอย่างจะถูกนำ�มาสร้างเป็นภาพด้วยการโฟกัสและขยายด้วยเลนส์แม่เหล็ก
และฉายลงบนฉากรับภาพ
ส่วนประกอบสำ�คัญของกล้อง TEM
กล้อง TEM ประกอบด้วยส่วนสำ�คัญต่างๆ เช่น แหล่งกำ�เนิดอิเล็กตรอน ระบบเลนส์เม่เหล็ก ระบบสุญญากาศ
และระบบหล่อเย็น เป็นต้น แต่ในทีน่ จี้ ะกล่าวถึงส่วนประกอบหลักทีเ่ กีย่ วข้องกับการถ่ายภาพ และการวิเคราะห์ผลเท่านัน้
• แหล่งกำ�เนิดอิเล็กตรอน
ส่วนบนสุดของเครือ่ ง TEM ประกอบด้วยแหล่งกำ�เนิดอิเล็กตรอน หรือฟิลาเมนต์ (filament) ทีม่ ลี กั ษณะปลาย
แหลมเพือ่ ทำ�ให้อเิ ล็กตรอนหลุดออกมาได้งา่ ย ฟิลาเมนต์อาจทำ�จาก LaB6 (lanthanum hexaboride) โดยในขณะใช้งาน
จะให้ความร้อนที่ปลายฟิลาเมนต์ เพื่อกระตุ้นให้อิเล็กตรอนหลุดออกมา (thermionic emission) จากนั้นใช้สนามไฟฟ้า
ดึงดูดเพื่อเร่งอิเล็กตรอนให้พุ่งไปยังตัวอย่างที่อยู่ด้านล่าง
หลักการสร้างภาพของ TEM
ภาพที่ได้จาก TEM โดยทั่วไปมักเป็นภาพไบรต์ฟิลด์ (bright field) ซึ่งเป็นภาพถ่ายกำ�ลังขยายสูงที่เกิดจากลำ�
อิเล็กตรอนทะลุผ่านชิ้นงานและเลี้ยวเบน โดยลำ�อิเล็กตรอนที่ทะลุผ่านตัวอย่างลงมาจะถูกโฟกัสและขยายด้วยเลนส์
แม่เหล็ก และฉายลงบนฉากรับเพื่อแสดงภาพบนจอ
ในเบื้องต้นควรทำ�ความเข้าใจถึงความสำ�คัญของระนาบ 2 ระนาบที่ทำ�ให้เกิดภาพ ดังนี้
• ระนาบภาพแรก (First Image Plane): เป็นระนาบแรกที่เกิดการสร้างภาพหลังจากลำ�อิเล็กตรอนวิ่งทะลุ
ผ่านชิ้นงาน ซึ่งภาพแรกนี้จะถูกนำ�ไปเพิ่มกำ�ลังขยายให้มากขึ้นด้วยชุดเลนส์แม่เหล็กถัดไปด้านล่างตาม
ความเหมาะสม และฉายเป็นภาพไบรต์ฟิลด์ลงบนฉาก
• ระนาบแบกโฟคัล (Back Focal Plane): เป็นระนาบทีเ่ กิดการรวมกันของลำ�อิเล็กตรอนทีเ่ ลีย้ วเบนหลังจาก
ทะลุผ่านชิ้นงานและฉายลงบนฉาก ภาพที่ได้จากระนาบนี้คือ รูปแบบการเลี้ยวเบนอิเล็กตรอน (diffraction
pattern) ซึ่งบ่งถึงโครงสร้างผลึกของตัวอย่าง ณ บริเวณที่ลำ�อิเล็กตรอนตกกระทบ
ภาพที่ 8 ภาพเปรียบเทียบการเพิ่มดิฟแฟรกชันคอนทราสต์โดยใช้ออปเจกทีฟแอพเพอร์เจอร์
โดยภาพซ้ายไม่ใช้ออปเจกทีฟแอพเพอร์เจอร์ ส่วนภาพขวาใช้ออปเจกทีฟแอพเพอร์เจอร์
2 ผลึกเดีย่ ว (single crystal) คือ สสารทีม่ โี ครงสร้างเป็นผลึกทัง้ ชิน้ ไม่มขี อบเกรน (ทีม่ า: พจนานุกรมวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี)
3 พหุผลึก (polycrystalline) คือ วัสดุที่มีโครงสร้างประกอบด้วยผลึกหลายผลึกซึ่งเรียงตัวในทิศทางต่างๆ กัน (ที่มา: พจนานุกรม
วัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี)
4 ออปเจกทีฟแอพเพอร์เจอร์ (objective aperture) มีลักษณะเป็นแผ่นโลหะเจาะรูขนาดเล็ก