1

2
3
4
5
6
7
8
9
10
 11

มารยาทในการรับประทานอาหาร
มารยาททั่วไปในการรับประทานอาหารตามหลักสากล
มารยาทในการรับประทานอาหาร เป็ นสิ่ งที่ท ำให้ผทู ้ ี่พบเห็นเกิดความเลื่อมใส หรื อ
อาจตำหนิ ดังนั้น เราควรฝึ กมารยาทในการรับประทานอาหารให้ถูกต้องเป็ นที่ยอมรับของสังคม
โดยปฏิบตั ิให้เป็ นนิสยั เพราะนอกจากจะรับประทานอาหารตามปกติในครอบครัวแล้ว เรายังใช้
อาหารเป็ นสื่ อในการพบปะสังสรรค์ ดำเนินงานทางธุรกิจ หรื อเข้าสังคมกับผูอ้ ื่น การมีความรู ้เกีย่ ว
กับมารยาทในการรับประทานอาหารตามหลักสากล จะช่วยให้ปฏิบตั ติ วั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

โต๊ะอาหารแบบสากล

โต๊ะอาหารแบบสากล

การเข้ านั่งโต๊ ะ
 12

 ไม่คุยเสี ยงดัง หรื อคุยข้ามโต๊ะ โดยเฉพาะระหว่างหัวโต๊ะและท้ายโต๊ะควรจะคุยระหว่าง

คนข้างเคียง ห้ามลุกขึ้นยืนในโต๊ะอาหาร เช่น ยืนสัง่ การหรื อยืนช่วยตักอาหาร
 ห้ามขากถ่มน้ำลายในผ้าเช็ดหน้า
 เรื่องทีน่ ำมาคุย ควรจะเป็ นเรื่องทีผ่ ทู้ ค่ี ยุ ด้วยรูเ้ รื่อง ไม่ควรคุยสิ่งหยาบคายไร้สาระต่อหน้าแขก
โดยเฉพาะต่อหน้าผูห้ ญิงอย่าคุยอวดตัวเป็ นอันขาด
 ห้ามเอื้อมหยิบเกลือหรื อพริ กไทยหรื อถ้วยน้ำตาลข้ามหน้าผูอ้ ื่น ควรใช้วิธีขอให้ส่งผ่านให้
 เวลาผ่านให้บุคคลอื่น ควรผ่านทั้งเกลือและพริ กไทยพร้อมกัน
 ไม่ควรตักอาหารจากจานส่วนกลางมาใส่ปากโดยตรง ควรตักอาหารมาไว้ในจานของเราเสีย
ก่อน แล้วจึงเริ่ มรับประทานจากจานของเรา
 การใช้มีดส้อมอย่ากางศอก หรื ออิงขอบโต๊ะอาหาร
 ไม่ควรเคี้ยวเสี ยงดัง หรื ออ้าปากเคี้ยว
 เมื่อส่ งอาหารเข้าปากแล้ว ควรวางส้อมมีดบนจาน อย่าถือค้าง หรื ออย่าถือมีด-ส้อม
แล้วออกท่าทางเมือ่ คุย รับประทานเสร็จรวบมีดส้อมเข้าหากันวางให้เรี ยบร้อย เป็ นการแสดงว่า
รับประทานเสร็ จแล้ว
 ไม่ควรวางผ้าเช็ดมือบนโต๊ะ จนกว่าจะลุกจากบนโต๊ะ เมื่อจะลุกจากโต๊ะพับไว้สี่ตลบแล้ว
วางบนโต๊ะถือว่าสิ้ นสุ ดการรับประทานอาหารถ้าวางผ้าเช็ดมือแบบรวบแล้วตัวเองไม่อยู่
ที่โต๊ะแสดงว่าจะกลับมานัง่ โต๊ะอีก ห้ามใช้นิ้วมือหยิบเศษอาหารที่ติดฟันเป็ นอันขาด หรื อ
อย่าแคะฟันด้วยไม้จิ้มฟันบนโต๊ะอาหาร ถ้าจำเป็ นจริ งๆ ต้องเอามือปิ ดปาก
 ไม่ควรนำเครื่ องดื่มจากการเลี้ยงก่อนอาหารเข้ามาบนโต๊ะอาหาร
 ไม่ควรนำขวดเหล้า โซดา เบียร์ น้ำหวาน หรื อเหล้า มาวางบนโต๊ะอาหาร
 ควรจะหาข่าวว่าผูท้ ี่นงั่ ขวาคือใคร แล้วคอยระวังเมื่อถึงเวลาที่นงั่ โต๊ะ แล้วถ้าเป็ นสุ ภาพ
สตรี จะต้องนำสุ ภาพสตรี ผนู้ ้ นั เข้าไปนัง่ โต๊ะ
 ถ้ามีเหตุจ ำเป็ น สุ ภาพสตรี ผนู ้ ้ นั ต้องลุกออกจากโต๊ะ จะต้องลุกขึ้นทันทีและเลื่อนเก้าอี้ให้
 ไม่ควรจับเครื่ องเงิน (ช้อน, ส้อม, มีด ) เล่นก่อนหรื อระหว่างการเสิ ร์ฟอาหาร
 การใช้ผา้ เช็ดมือให้หยิบผ้าเช็ดมือที่วางไว้ทางด้านซ้ายและปูไว้บนตักไม่ควรเหน็บที่เอว
และควรจะหยิบเมื่อนัง่ โต๊ะแล้ว
 เวลานัง่ โต๊ะ ต้องเลื่อนเก้าอี้ให้ชิดกับโต๊ะเพื่อจะได้ไม่ตอ้ งก้มหรื อเอาแขนยันโต๊ะ หรื อ
ถ้าติดฉากรอบโต๊ะ หรื อเลื่อนจานให้ใกล้ตวั เล็กน้อย
 ควรผ่านเกลือ, พริกไทย ให้สุภาพสตรีทน่ ี ง่ั ทางขวามือหรือผ่านให้ผอู้ น่ ื เมือ่ เราหมดความจำเป็ น
 พริ กป่ น, น้ำปลาส่ วนตัว ไม่ควรพกติดตัวไปในงานเลี้ยง
 ถ้าเราเป็ นเจ้าภาพ คนทีน่ ง่ั ทางด้านขวามือคือแขกคนสำคัญจะต้องดูแลเป็ นหลัก ส่วนทางด้าน
ซ้ายมือควรดูแลเป็ นอันดับรอง
 13

 ใช้ขนมปังที่วางอยูท่ างด้านซ้ายมือเสมอ
 จานขนมปังก็เช่นกันให้หยิบขนมปั งมาวางในจานข้างซ้ายมือเสมอ ตัดเนยจากจานกลางมา
ไว้บนจานขนมปังของตนก่อน แล้วจึงทาเนยในชิ้นขนมปั งแต่ละชิ้นที่จะรับประทาน (
อย่ายกขึ้นมากัดทั้งก้อนหรื อทั้งแผ่น)

ที่มา : ทิพย์วลั ย์ สมุทรักษ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.กรุ งเทพฯ “มารยาทในการรับประทาน

อาหารแบบสากล.” [ระบบออนไลน์]. แหล่ง
ที่มา http://www.dusitplace.com/file/Europien_dinner_pattern.files/frame.htm ( 2 เมษายน 2554).

การรับประทานอาหารแบบยุโรป
 14

อาหารแบบยุโรป

อาหารแบบยุโรป
       โดยทัว่ ไปการรับประทานอาหารแบบยุโรป มี ๒ แบบ คือ แบบอเมริ กนั ซึ่ งจะรับ
ประทานอาหารจากส้อมด้วยมือขวา โดยยกปลายส้อมขึ้นข้างบน ใช้ส้อมตักอาหาร และวางมีดไว้
ริ มจาน เมื่อไม่ใช้ ส่ วนแบบยุโรป จะรับประทานอาหารจากส้อมด้วยมือซ้าย ปลายส้อมคว่ำลง
และถือมีดไว้ดว้ ยมือขวา แต่ในที่น้ ีจะขอเน้นที่อาหารยุโรป

       
การรับประทานอาหารแบบยุโรป จะมีอุปกรณ์ ต่าง ๆ วางอยู่บนโต๊ ะอาหาร ควรหยิบใช้ ให้
ถูกต้ องดังนี้
1. การใช้ ผ้าเช็ดปาก ควรปฏิบัติดงั นี้
1.1 หยิบผ้าเช็ดปากคลี่แล้ววางบนตัก 
   1.2 ใช้เพื่อซับอาหารที่ติดปาก ไม่ควรใช้เช็ดลิปสติกออก
 15

1.3 ถ้าผ้าตกระหว่างรับประทานอาหาร ให้พยายามหยิบโดยไม่รบกวนผูอ้ ื่น

    1.4 ถ้าไม่จ ำเป็ นต้องลุกออกไปไหนชัว่ ขณะ ให้วางไว้ที่เก้าอี้
1.5 ผ้าที่ใช้แล้วไม่ตอ้ งพับ ถ้าเลิกรับประทานให้วางผ้าไว้บนโต๊ะด้านซ้ายมือ

2. การใช้ ช้อน  ส้ อม มีด และแก้ วน้ำ ควรปฏิบัติดงั นี้

     2.1 ใช้ชอ้ น มีด ด้วยมือขวา ส้อมใช้มือซ้าย
   2.2 ใช้ชอ้ นตักซุปออกจากตัวและรับประทานด้านข้างช้อน
    2.3 ไม่ใช้มีดตักหรื อจิ้มอาหารเข้าปาก
   2.4 แก้วน้ำให้หยิบด้านขวามือ
   2.5 ช้อน ส้อม มีด เมื่อเลิกใช้แล้วอย่าวางบนโต๊ะให้วางบนจานรองหรื อบนจาน
อาคารคาวแทน

ที่มา : ทิพย์วลั ย์ สมุทรักษ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.กรุ งเทพฯ “มารยาทในการรับประทาน

อาหารแบบสากล.” [ระบบออนไลน์]. แหล่ง
ที่มา http://www.dusitplace.com/file/Europien_dinner_pattern.files/frame.htm ( 2 เมษายน 2554).

การรับประทานอาหารแบบตะวันตก
 16

อาหารแบบตะวันตก

อาหารแบบตะวันตก
 17

การจัดวางอุปกรณ์ ต่าง ๆ บนโต๊ ะอาหาร

มารยาทในการรับประทานอาหารแบบตะวันตก

1. เมื่อเข้าไปที่โต๊ะอาหาร สุ ภาพบุรุษควรดึงเก้าอี้ให้สุภาพสตรี แล้วคลี่ผา้ เช็ดปากบนโต๊ะ

ให้สุภาพสตรีดว้ ย การคลีผ่ า้ เช็ดปากให้วางบนตัก โดยพับเป็ นสองท่อน เอาชายผ้าเข้าหาตัว และเมือ่ ต้องลุก
 18

จากโต๊ะระหว่างรับประทานอาหาร ผ้าเช็ดปากนั้นให้วางลงบนเก้าอี้หรื อพนักวางแขน เมื่อ

รับประทานเสร็ จแล้ว ให้เอาผ้าวางบนโต๊ะด้านขวา
  2. ควรนัง่ อย่างสบาย ตัวตรง ไม่กม้ หน้า ให้ดงึ เก้าอี้เข้าหาโต๊ะ และไม่นง่ ั ไขว่หา้ ง ไม่นง่ ั เท้าแขน เอามือ
วางบนตัก และไม่ควรประแป้ งหรื อทาลิปสติกบนโต๊ะอาหาร
3. โทรศัพท์มือถือไม่ควรเปิ ดเสี ยง และห้ามวางไว้บนโต๊ะอาหาร ผิดมารยาทเพราะถือว่า
ไม่ให้ความสำคัญกับคนที่นงั่ ร่ วมโต๊ะด้วย
  4. ไม่ควรถอดรองเท้าใต้โต๊ะ (อย่าทำเด็ดขาด) และไม่ควรใส่รองเท้าแตะหรื อรองเท้าส้นเปิ ด
(เหมาะกับค็อกเทลมากกว่า และถ้าสวมรองเท้าส้นเปิ ด ก็ไม่ควรใส่ ถุงน่อง)
  5. เอาใจใส่ ดูแลทรงผม ต้องทำ ต้องเก็บให้เรี ยบร้อย
  6. เสื้ อผ้าผูห้ ญิงให้ระวัง อย่าใส่คอลึก เวลาก้มจะไม่งาม ถ้าสวมกระโปรง ไม่นยิ มนุง่ กระโปรงสั้น
7. จำไว้วา่ จานขนมปังอยูท่ างซ้ายมือเสมอ (หากหยิบผิด ให้กล่าวคำขอโทษ แล้วเปลี่ยน
จานขนมปังได้)
  8. ขนมปังหยิบรับประทานได้เลย ไม่ตอ้ งรอให้เจ้าภาพบอก หากหมดแล้วขอใหม่ได้
วิธีรับประทานที่ถูกต้องคือ บิขนมปั งด้วยมือ แล้วทาเนยตรงชิ ้นที่เข้าปาก และเมื่อใช้มีดป้ ายขนมปั ง
เสร็ จแล้ว ต้องวางคืนไว้ที่จานขนมปั ง (ขนมปั งรับประทานได้เรื่ อยๆ จนกระทัง่ จบเมนคอร์ส
ถือเป็ นอันสิ้ นสุ ด)
  9. แก้วน้ำอยูท่ างขวามือ อย่าใช้ผดิ จะผิดทั้งโต๊ะ
  10. ท่องเอาไว้วา่ ใช้ชอ้ น ส้อม มีด จากด้านนอกสุ ดเข้าหาด้านในสุ ด
  11. การรับประทานซุปด้วยช้อนซุป ควรตักซุปออกจากตัว และรับประทานซุปทางด้านข้าง ของ
ช้อน ถ้าเป็ นซุปใสใส่ถว้ ยทีม่ หี ู สามารถยกถ้วยดืม่ ได้เลย (ซุปข้นไม่ได้) และไม่ควรมีเสียงดังขณะดืม่ และไม่
ควรเอาขนมปังจิ้มซุป อย่าทำเด็ดขาด
  12. ควรสนทนากับผูน้ งั่ ข้างเคียงบ้าง แต่อย่าให้เสี ยงดัง เวลาสนทนาควรวางมีดกับส้อม
บนจานเสี ยก่อน อย่าถือมีดหรื อส้อมชี้ประกอบท่าทาง ควรหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาเรื่ องการเมือง
และศาสนา ส่ วนหัวข้ออื่นๆ พูดได้ เช่น เรื่ องดินฟ้ าอากาศ รถติด เป็ นต้น
  13. เวลารับประทานเนื้ อ นิยมตัดรับประทานทีละชิ้นแบบอังกฤษ แต่แบบอเมริ กนั จะหัน่
เนื้อจนหมด แล้ววางมีดไว้ดา้ นบนของจาน แล้วเปลี่ยนถือส้อมด้วยมือขวาส่ งอาหารเข้าปาก สำหรับ
ในประเทศไทยนิยมแบบอังกฤษ
  14. เวลาหัน่ อาหาร เมื่อหยิบส้อมขึ้นมา ให้คว่ำส้อม แล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้ งจับไว้ที่คอมีด
เพื่อจะได้ออกแรงหัน่ ได้ดี
  15. ถ้าอาหารมีลกั ษณะเป็ นเส้น เช่น เส้นสปาเกตตี ให้ใช้ส้อมม้วนเส้น แล้วค่อยนำใส่ ปาก
รับประทาน
  16. อาหารจะเซตเมนูมาให้อยูแ่ ล้ว ขอเพิม่ ไม่ได้ จบแล้วจบเลย งานเลี้ยงอย่างเป็ นทางการ
จะไม่มีการเสิ ร์ฟอาหารเพิ่มเติม
  17. เสิ ร์ฟอาหารอะไรมาก็ตอ้ งรับประทานแบบนั้น (เพราะเจ้าภาพงานจะทราบอยูแ่ ล้วว่า
แขกที่เชิญจะรับประทานอะไรได้หรื อไม่ได้ ซึ่ งจะหลีกเลี่ยงเมนูน้ นั อยูแ่ ล้ว)
 19

  18. ไม่ควรแชร์อาหารกับคนข้างๆ ห้ามทำเด็ดขาด

19. การเสิ ร์ฟ ซอร์เบท (Sorbet) หรื อไอศกรี มที่ไม่ใส่ นม ไม่ใส่ ครี ม มีรสเปรี้ ยวนำ ก็เพื่อ
ล้างปากก่อนเสิ ร์ฟอาหารจานต่อไป นิยมเสิ ร์ฟในงานพิธีการใหญ่ๆ ถ้าเป็ นงานปกติจะไม่เสิ ร์ฟ
  20. การใช้เครื่องมือรับประทานอาหารแบบพิเศษ ถ้าไม่ทราบวิธีการใช้ ให้สงั เกตคนรอบข้าง
  21. การรับประทานผลไม้ ใช้ส้อมหยิบผลไม้แล้วปอกด้วยมีด ซึ่ งแล้วแต่ชนิดของผลไม้
มีวิธีต่างๆ กัน
  22. ไม่ควรเอื้อมหยิบของข้ามหน้าแขกท่านอื่นๆ ควรเรี ยกพนักงานบริ การหยิบให้
ถ้าจำเป็ นให้ขอร้องผูน้ งั่ ร่ วมโต๊ะที่นงั่ อยูถ่ ดั ไปด้วยความสุ ภาพ พร้อมกล่าวคำขอบคุณ
  23. ในกรณี ที่ท ำของหรื ออุปกรณ์รับประทานอาหารตกจากโต๊ะ อย่าตกใจ ควรขอโทษคน
ข้างเคียงเบาๆ และไม่ควรหยิบขึ้นมาจากพื้นเอง ขอใหม่ได้จากบริ กร
  24. การรวบมีดกับส้อม หรื อช้อนส้อม อังกฤษนิยมรวบไว้ตรงกลาง ตรงหน้า และหงายส้อม
แต่อเมริ กนั นิยมรวบไว้หวั จานเฉียงๆ
  25. ควรซับริ มฝี ปากด้วยผ้าเช็ดปากเสี ยก่อนการดื่มเครื่ องดื่มต่างๆ
  26. อาหารที่เป็ นจาน 'ของหวาน' ให้ใช้ชอ้ น-ส้อมที่อยูด่ า้ นหน้า
  27. ถ้าเสิ ร์ฟชาหรื อกาแฟ เมือ่ ผสมใช้ชอ้ นคนเสร็จเรี ยบร้อยแล้ว ให้เอาช้อนวางไว้ อย่าใช้ชอ้ น
ตักชิมเด็ดขาด
  28. และอย่าเผลอเอามีดจิ้มอาหารใส่ ปากเด็ดขาด
  29. หากรับประทานอาหารที่มีกระดูก ให้ใช้ทิชชูปิดปากแล้วค่อยๆ คายกระดูกออกจาก
ปาก หรื อหากรับประทานอาหารที่มีกา้ งหรื อกระดูกไก่ ซึ่ งเมื่อใช้ชอ้ น-ส้อมแทะเนื้อหมดแล้ว
สามารถนำกระดูกวางไว้ขา้ งๆ จานได้
30. การเสิ ร์ฟเครื่ องดื่มนั้นจะเสิ ร์ฟตามชนิดของอาหาร เช่น เสิ ร์ฟปลาและอาหารทะเลกับ
ไวน์ขาว อาหารประเภทเนื้ อหรื อไก่กจ็ ะเสิ ร์ฟพร้อมไวน์แดง หรื อไวน์โรเซ่ ส่ วน 'แชมเปญ' จะเสิ ร์ฟ
ตอนท้ายสำหรับการดื่มอวยพร ถ้ามีการดื่มแชมเปญ และได้รับเชิญ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด ถือว่าเสี ย
มารยาทมาก แต่ถา้ ใครไม่ดื่มช่วงที่มีการดื่มอวยพร ให้ยกแก้วขึ้นจรดภายนอกริ มฝี ปาก โดยไม่ตอ้ ง
เอาเข้าปาก
  31. ถ้าเสิ ร์ฟไวน์ สามารถดื่มได้ตลอดจนจบงาน
  32. ในกรณี ที่มีการเสิ ร์ฟผลไม้สด เจ้าภาพจะเตรี ยมมีดสำหรับผลไม้ไว้ให้ พร้อมจัดถ้วยใส่
น้ำลอยด้วยดอกกุหลาบหรื อกลีบกุหลาบไว้ให้สำหรับล้างปลายนิ้ว และต้องล้างมือทีละข้าง อย่าล้าง
ทั้งสองมือ (ไม่สุภาพ) ควรระมัดระวังการล้างมือ อย่าให้น ้ำหกเลอะเทอะ ใช้ผา้ เช็ดมือเช็ดมือให้
เรี ยบร้อย พึงระวังว่าไม่ใช่น้ำดื่มเพราะอาจพลาดหยิบขึ้นมาดื่มได้ ในกรณี ที่ผลไม้ได้รับการปอก
เปลือกเรี ยบร้อยแล้ว ทางเจ้าภาพจะเสิ ร์ฟส้อมผลไม้แทน
  33. Menu Card แสดงรายการอาหาร นิยมใช้กระดาษทองขอบทองขนาด 4x6 นิ้ว โดยมาก
มักจะพิมพ์เป็ นภาษาฝรั่งเศส (ถ้าเป็ นไทยล้วนก็ควรใช้ภาษาไทย) หลังจบงานเลี้ยงแล้ว ถ้าต้องการ
เก็บเป็ นที่ระลึก สามารถนำกลับได้
  34. ควรคำนึงถึงความสุ ภาพ นิ่มนวล และไม่รีบร้อนลุกลี้ลุกลน
 20

ที่มา : ณัฐพล แคล่วคล่อง, 2554.

ซุป

ซุปมันฝรั่งอบ
 21

ซุปข้าวโพด

 เมื่อเสิ ร์ฟอาหารแล้ว อย่ายกส่ งต่อๆ กันไป (เป็ นหน้าที่ของคนบริ การ)

 เมื่อเสิ ร์ฟซุปแล้วจะต้องรับประทาน อย่ามัวแต่คุยกันจนเหลือเราเป็ นคนสุ ดท้าย เพราะ
เมื่อรับประทานซุปเสร็ จครบแล้วทุกคน ผูบ้ ริ การจึงจะยกซุปเหล่านั้นออกพร้อมกัน
ทั้งหมด จึงจะสามารถเสิ ร์ฟอาหารจานต่อไป
 ไม่ควรบิดขนมปังใส่ ในซุป ไม่ควรซดจนเสี ยงดัง
 การใช้ชอ้ นรับประทานซุป ให้ใช้ชอ้ นที่วางอยูท่ างขวามือตักซุปเข้าปาก โดยการตักออก
จากตัวอย่าตักเข้าหาตัว ใช้ขอ้ มือค่อยๆ เอียงช้อนด้านซ้ายเทน้ำซุปเข้าปาก ผ่านริ มฝี ปาก
เท่านั้น อย่าอ้าปากกว้าง
 เมื่อน้ำซุปใกล้จะหมดถ้วยแล้ว ให้ใช้มือซ้ายจับที่หูถว้ ย หรื อที่ขอบถ้วยซุปแล้วเอียงถ้วย
ซุปออกไปจากตัวเพื่อที่จะได้ตกั น้ำซุปที่เหลือให้หมดถ้วยด้วยการตักออกอย่าตักเข้า
 เมื่อรับประทานหมดแล้ว อย่าทิ้งช้อนคาไว้บนถ้วยซุป ให้วางไว้บนจานรองถ้วย

ที่มา : พรพิมล วงศ์สุข. 2553. การพัฒนาบุคลิกภาพ.เชียงใหม่: คณะวิทยาการจัดการ

สถาบัน

ราชภัฏเชียงใหม่.
 22

อาหารจานหลัก
( Main Course หรือ Entree )

อาหารจานหลัก
 23

อาหารจานหลัก

 การใช้ชอ้ น มีด ส้อม ควรจะสังเกตโดยใช้จากชุดนอกเข้ามายังชุดในตามลำดับ

 ถ้าอาหารเป็ นปลา ให้ใช้มีดที่ใช้เฉพาะ ซึ่ งมีรูปร่ างปลายมน ไม่มีคม คล้ายมีดตัด
เนยแต่มีขนาดใหญ่กว่า
 อย่าตัดอาหารล่วงหน้าไว้หลายๆ ชิ้น โดยรับประทานชิ้นใดก็ได้หนั่ ทีละคำและไม่
ควรรับประทานอาหารคำใหญ่เกินไป

 ไม่ควรหัน่ อาหารหลายชนิด เช่น แฮม และไข่ดาว จนละเอียดแล้วมาคลุกเข้าด้วย

กันทำให้ดูน่าเกลียด
 การจับมีดและส้อม ควรจับคว่ำมือ ไม่ควรจับแบบดินสอ ปากกา ไม่ควรถือส้อม
หรื อมีดประกอบการสนทนา และเมื่อส่ งอาหารเข้าปากแล้วควรวางมีดส้อมในจาน

ที่มา :ณัฐพล แคล่วคล่อง, 2554.

 24

การดืม่ ไวน์ / สุ รา

ไวน์
 25

ไวน์ / สุ รา
 คนเสิ ร์ฟไวน์ จะเสิ ร์ฟให้เจ้าภาพจิบชิมก่อนเมื่อชิมแล้วคนเสิ ร์ฟจะเสิ ร์ฟรอบโต๊ะ
แล้วจึงมาเสิ ร์ฟส่ วนที่เหลือให้เจ้าภาพเป็ นคนสุ ดท้าย เมื่อคนเสิ ร์ฟไวน์ ริ นให้เจ้าภาพ
แล้วเจ้าภาพต้องรี บชิมอย่ามัวคุย และเมื่อชิมแล้วจึงอนุญาตให้เสิ ร์ฟต่อโดยการกล่าว
“ขอบคุณ” กับคนเสิ ร์ฟด้วย
 ในการรับประทาน Dinner โดยทัว่ ไปจะมีแก้ววางอยูท่ างด้านขวามือเรา 3-4 ใบ ใบแรกจะ
ใช้กบั ไวน์ขาว ใบถัดไปใช้กบั ไวน์แดง ใบข้างในสุ ดคือแก้วน้ำเย็นและหรื อใบที่สี่อาจ
เป็ นแก้วแชมเปญ ไวน์ขาวมักจะดื่มกับอาหารที่เป็ นปลา หรื อไก่ ไวน์แดงดื่มกับ
อาหารจำพวกเนื้อ
 แขกจะต้องรอให้เจ้าภาพเชิญชวนดื่มก่อนที่จะจับแก้วไวน์ดื่มเสี ยเอง ห้ามดื่มก่อนเจ้า
ภาพเชิญชวนเป็ นอันขาด วิธีจบั แก้วไวน์ ใช้นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วหัวแม่มือจับที่
ก้านแก้วเพื่อให้เห็นความสวยงามของสี ไวน์ การดื่มไวน์ที่ดี ควรดื่มทีละน้อยร่ วมกับ
การรับประทานอาหารชนิดนั้น ๆ
 เมื่ออาหารจานใหม่มา ควรดื่มไวน์ชนิดใหม่
 ไม่เอานิ้วคนเครื่ องดื่มที่มีน ้ำแข็งในแก้ว
 ไม่ควรเอานิ้วมือล้วงน้ำแข็งในแก้วเหล้ามาขบเคี้ยว

ที่มา : ที่มา : ณัฐพล แคล่วคล่อง, 2554.

กาแฟหรือชา
 26

กาแฟ / ชา

 อย่าใช้ชอ้ นตักชิมกาแฟ/ชา
 อย่าคาช้อนไว้ในถ้วยกาแฟ ให้วางช้อนในจานรอง
 อย่าเอาขนมปังมาจิ้มในถ้วยกาแฟ
 เวลาดื่มกาแฟให้จบั ที่ถว้ ยและดื่มให้หมด
 อย่าซดกาแฟเสี ยงดัง หากกาแฟร้อนเกินไปให้คอย อย่าเป่ า
 อย่านำนมสดเป็ นกระป๋ องที่เจาะรู แล้วมาตั้ง ต้องริ นนมลงในภาชนะใส่ นม
 อย่าใช้มือหยิบน้ำตาลก้อนมาใส่ ในถ้วยกาแฟให้ใช้ที่คีบ
 อย่านำน้ำตาลเป็ นกล่องมาตั้งเสิ ร์ฟ ควรใส่ ภาชนะน้ำตาล
 เครื่ องเงินสำหรับเสิ ร์ฟกาแฟต้องเป็ นเงาดูสะอาด

ที่มา : พรพิมล วงศ์สุข. 2553. การพัฒนาบุคลิกภาพ.เชียงใหม่: คณะวิทยาการจัดการ สถาบัน

ราชภัฏเชียงใหม่.

การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ ต์
 27

อาหารแบบบุปเฟ่ ต์

อาหารแบบบุปเฟ่ ต์
การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ ต์ เป็ นการรับประทานอาหารโดยให้ผรู ้ ับประทานช่วย
เหลือตนเอง มีการนำอาหารหลากหลายชนิดมาจัดวางเป็ นจุด ๆ เพือ่ ให้ผรู้ บั ประทานเลือกตักอาหารตาม
ความพอใจ ขณะที่รับประทานอาหารอาจมีการสังสรรค์ เพื่อทำให้ประหยัดเวลาก็ได้

  ในการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ ต์ ควรปฏิบัติดงั นี้

1. ควรลุกไปตักอาหารเอง  โดยยืนต่อแถวและอย่าให้เป็ นภาระของผูอ้ ื่น

2. ไม่พดู คุยขณะที่ตกั อาหาร รี บตักอาหารเพื่อให้ผอู ้ ื่นได้ตกั อาหารบ้าง
3. อย่าตักอาหารให้ลน้ จาน
4. ตักอาหารเป็ นอย่าง ๆ อย่าวางสุ มทับกัน ถ้าของเป็ นชิ้นควรหยิบเพียงหนึ่งชิ้น
5. อาหารที่ตกั มาต้องรับประทานให้หมด ถ้าไม่พอสามารถลุกเติมได้
 28

6. เมื่อรับประทานเสร็ จต้องเขี่ยเศษอาหารในจาน และรวบช้อนส้อมให้เรี ยบร้อย

7. กระดาษเช็ดมือไม่ควรใส่ในจานอาหาร  เพราะจะทำให้ปลิว เก็บลำบาก ควรใช้จานวางทับไว้
8. ถ้ามีการกำหนดให้เอาจานอาหารวางไว้ที่ใด เมื่อรับประทานเสร็ จแล้วควรปฏิบตั ิตาม
9. อย่าตักอาหารเผือ่ ผูอ้ ื่น
10. อาหารหวาน ควรตักเมื่อรับประทานอาคารคาวเสร็ จแล้ว
11. ไม่เบียดหรื อแซงผูอ้ ื่น ไม่ยนื่ มือไปตักอาหารข้ามมือหรื อแขนควรคอยจังหวะให้ผอู ้ ื่น
ตักเสร็ จเสี ยก่อน

ที่มา : ทิพย์วลั ย์ สมุทรักษ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.กรุ งเทพฯ “มารยาทในการรับประทาน

อาหารแบบสากล.” [ระบบออนไลน์]. แหล่ง
ที่มา http://www.dusitplace.com/file/Europien_dinner_pattern.files/frame.htm ( 2 เมษายน 2554).

งานเลีย้ งแบบค็อกเทล (Cocktail)

งานเลี้ยงแบบค๊อกเทลจะเป็ นงานสร้างสรรค์ เดินคุยกัน มีเครื่ องดื่ม เช่น เหล้า น้ำหวาน

เสิ ร์ฟกับออเดิฟชิ้นเล็กๆ ให้รับประทานเป็ นของแกล้ม งานนี้ เริ่ มประมาณ 18.00 - 20.30 น. หรื อ
21.00 น.เป็ นอย่างดึก ถ้าแขกไม่รับประทานอาหารเย็นไปก่อน ก็ตอ้ งบอกที่บา้ นให้เตรี ยมไว้
เพราะงานค็อกเทลไม่ตอ้ งรับประทานจนอิ่ม
ปัจจุบนั โรงแรมขนาดใหญ่มีการจัดเพิ่มซุม้ บริ การอาหารที่มีผปู ้ รุ ง และตักใส่ ถว้ ยหรื อจาน
ขนาดเล็ก ให้แขกร่วมงานตามมุมต่าง ๆ ของงาน และเจ้าภาพยังให้โรงแรมจัดโต๊ะว่างจำนวนไม่มาก ให้
แขกสำคัญนัง่ รับประทานได้
 29

บรรยากาศงานแบบค๊ อกเทล

ออกเดิฟงานค๊ อกเทล

ค๊ อกเทล
 30

ค๊ อกเทล

อาหารงานแบบค๊ อกเทล
 31

บรรยากาศงานแต่ งงานแบบค๊ อกเทล

มารยาทในการไปงานค็อกเทล

1.  ไม่ควรไปตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารจนอิม่ ปักหลักอยูท่ โ่ี ต๊ะอาหารจนคนอืน่ เข้าไม่ถงึ

2. ไม่ควรหยิบอาหารมาถือไว้ในมือครั้งละหลายๆชิน้ ในขณะทีค่ ยุ อยูก่ บั คนอืน่
3. ไม่ผกู ขาดคุยกับคนใดคนหนึ่ง แต่ควรจะคุยให้ทวั่ ๆ นอกเสี ยจากเราไม่รู้จกั ใครเลยและ
เพิ่งจะเคยออกงานเป็ นครั้งแรก อาจจะเกาะใครที่รู้จกั ไว้สกั คน
4.  งานค็อกเทลเช่นนี้ ไม่เป็ นการเสียหายทีเ่ ราจะแนะนำตัวเองให้กบั คนอืน่ ทีไ่ ม่รูจ้ กั มาก่อน
5.  ไม่จำเป็ นต้องอยูจ่ นงานเลิก

ทีม่ า :ทิพย์วลั ย์ สมุทรักษ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.กรุ งเทพฯ “มารยาทในการรับประทาน

อาหารแบบสากล.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา
http://www.dusitplace.com/file/Europien_dinner_pattern.files/frame.htm ( 2 เมษายน 2554).
 32

งานเลีย้ งแบบโต๊ ะจีน (Chinese Table)

บรรยากาศห้องอาหารจีน
 33

อาหารแบบโต๊ะจีน

รับประทานอาหารแบบโต๊ะจีน

มารยาทในการรับประทานอาหารโต๊ ะจีน
1. นัง่ ให้พร้อมหน้า
2. เชิญให้ผใู้ หญ่ทานก่อน
3. ห้ามเคาะช้อน หรื อตะเกียบ ส่ งเสี ยงรบกวนผูอ้ ื่น
4. เวลาตักอาหาร ห้ามตักหรื อคีบอาหารกลางชามกับข้าว ควรตักที่ใกล้ตวั หรื อด้านข้าง เพื่อว่า
อาหารจะดูดีสำหรับคนที่ตกั ทีหลังและป้ องกันอาหารบูดเร็ ว
 34

5. รู ้จกั ตักอาหารให้ผใู้ หญ่ หรื อเด็กที่ไม่สามารถตักอาหารได้ถึง

6. ขณะรับประทานอาหารไม่ควร ร้องเพลง (อันนี้เหมือนคนไทย)
7. อย่าตักกินแต่อาหารที่ตนชอบอย่างเดียว ควรทานทุกอย่าง มากหรื อน้อยไม่เป็ นไร

ที่มา : ณัชชา มหาภาคมงคล. 2554.

อาหารญี่ปุ่น

  
 35

ิ รือข้าวปัน
ซูชห ้ มีหน้า

มารยาทของการใช้ ตะเกียบของคนญี่ปนุ่
1. จับตะเกียบที่ตรงปลายห้ามจับตรงกลาง   
2. เมื่อไม่ใช้ตะเกียบ หรือรับประทานอิม่ แล้ว ให้วางตะเกียบลง โดยให้ปลายชี้ไปทางซ้าย  

3. ห้ามเอาตะเกียบเสี ยบอาหารแทนการคีบอาหารโดยเฉพาะข้าว  จะทำอย่างนั้นเมื่อเป็ น
อาหารของคนตาย

4. ห้ามให้อีกคนเอาตะเกียบมาคีบอาหาร โดยคีบต่อจากตะเกียบของเรา จะทำอย่างนั้น
เมื่อมีการคีบเถ้ากระดูกของคนตาย

5. หากต้องการแยกอาหารออกจากกัน ห้ามใช้มือจับตะเกียบข้างละอันแล้วดกแยกอาหาร
ออก  แต่ให้จบั ตามปรกติ กดตะเกียบลงอาหารแล้วแยกอาหารชิ้นนั้นออกด้วยตะเกียบ
ในมือข้างเดียวกัน 
 36

6. เมื่อเริ่ มใช้ตะเกียบไปแล้ว และต้องการแบ่งอาหารหรื อคีบอาหารให้คนอื่น ห้ามใช้

ห้ามใช้ปลายที่ใช้ไปแล้วนั้นคีบอาหารแต่ให้ใช้ปลายอีกด้านหนึ่งคีบแทน  
**ถ้าทานไม่ได้กใ็ ห้ใช้ชอ้ นได้**

ที่มา : ณัชชา มหาภาคมงคล. 2554.

งานเลีย้ งแบบขันโตกดินเนอร์

อาหารแบบขันโตก
 37

อาหารแบบขันโตก

ขันโตกดินเนอร์ เป็ นรู ปแบบงานเลี้ยงรับรองแขกเหรื่ อในสังคม โดยประยุกต์ข้ ึนจากวิถี

การกินอาหารแบบล้านนา ซึ่ งตอบสนองต่อวัฒนธรรมการเลี้ยงต้อนรับแบบวัฒนธรรมสากล โดย
ใช้ขนั โตกในการวางสำรับอาหารแทนโต๊ะ นัง่ ล้อมวงกับพื้นรับขันโตก รับประทานข้าวเหนียว
และอาหารพื้นบ้านล้านนา ได้แก่ น้ำพริ กหนุ่ม น้ำพริ กอ่อง แคบหมู ไส้อวั่ แกงฮังเล ลาบชิ้น
แกงอ่อม ยำชิ้นไก่ และอาจมีอาหารกินเล่น เช่น เข้าแตน ถัว่ ลิสงทอด ในระหว่างรับ
ประทานอาหารอาจมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมล้านนาไปด้วยช่วงเวลาสำหรับงานเลี้ยงแบบนี้
มักจะจัดในตอนเย็นโดยเฉพาะในช่วงฟ้ าปลอดฝน อย่างต้นฤดูหนาว เป็ นต้น
การแต่งกายในงานขันโตกดินเนอร์ มี กำหนดไว้ในครั้งนั้นว่า ให้ผชู ้ ายใส่ เสื้ อหม้อฮ่อม
หรื อที่ท ำด้วยผ้าพื้นเมืองสวมมาลัยดอกมะลิ กางเกงจะใส่ กางเกงแบบสากลนิยมทัว่ ไปก็ได้ หรื อ
จะใส่ กางเกงแบบล้านนาที่เรี ยกว่า เตี่ยวสะดอ ก็ได้ และมีผา้ ขาวม้าคาดเอว ส่ วนผูห้ ญิงจะใส่
ผ้าถุงเสื้ อแขนกระบอกหรื อเสื้ อที่ตดั ด้วยผ้าพื้นเมือง อาจมีการเกล้าผมแต่งด้วยดอกเอื้อง ทั้งนี้การ
แต่งกายดังกล่าวก็กลายเป็ นที่ยอมรับว่าเป็ นแบบฉบับทัว่ ไป
 38

บรรยากาศโดยรอบบริ เวณงาน จะมีการตกแต่งด้วยประทีปโคมไฟ ที่ประตูเข้างานอาจ

ทำเป็ น ซุม้ ประตูป่า คือตกแต่งด้วยต้นอ้อย ต้นกล้วย ทางมะพร้าว มีการแสดงต่าง ๆ เช่น ฟ้ อน
เล็บ ฟ้ อนเทียน ฟ้ อนดาบ ฟ้ อนสาวไหม ฟ้ อนเซิ้ง และมีดนตรี วง สะล้อ-ซึ ง บรรเลงตลอดงาน

ทีม่ า :ทิพย์วลั ย์ สมุทรักษ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.กรุ งเทพฯ “มารยาทในการรับประทาน

อาหารแบบสากล.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา
http://www.dusitplace.com/file/Europien_dinner_pattern.files/frame.htm ( 2 เมษายน 2554).
39
40
 41

การวางอุปกรณ์ บนโต๊ะอาหาร
 42

มารยาทการใช ้ 'ตะเกียบ'
เห็นอาหารญีป ่ ่ นกำล
ุ ังเป็นทีน ิ ม ว ันนีเ้ ราเลยนำเกร็ดความรูเ้ ล็กๆน้อยๆ
่ ย
เรือ ่ ง ข้อห้ามการใช ้ 'ตะเกียบ' มาฝากก ัน
        แม้ว ัฒนธรรมการกินของไทยเราจะใชช ้ อ
้ นสอ
้ มในการต ัก
อาหาร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้วา่ การใช ้ 'ตะเกียบ' ซงึ่ เป็นว ัฒนธรรม
การกินของชาติเอเชย ี หลายๆชาติ ไม่วา่ จะเป็น จีน ญีป ่ ่น
ุ เกาหลีและ
เวียดนามนนมี
ั้ บทบาทต่อคนไทยอยูไ่ ม่นอ
้ ย
         ตะเกียบเข้ามาในเมืองไทยเป็นระยะเวลานานกว่าชอ ้ นสอ ้ ม
ซงึ่ เป็นว ัฒนธรรมการกินของชาวยุโรปทีไ่ ด้ร ับความนิยมในไทย
มากกว่า อย่างไรก็ตาม ตะเกียบมีความสำค ัญเชน ่ ก ันเพราะ
อาหารจีนได้เข้ามาแทรกอยูใ่ นวิถช ี วี ติ คนไทย ทีเ่ ห็นได้ชด ั คือ
การใชต ้ ะเกียบกินก๋วยเตีย ๋ ว บะหมี่ สว่ นในปัจจุบ ันคนไทยก็ใช ้
ตะเกียบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเมือ ่ อาหารญีป ่ ่ นกำล
ุ ังได้ร ับ
ความนิยม ว ันนีเ้ ราจึงนำข้อห้าม การใชต ้ ะเกียบมาฝากก ัน
ซงึ่ จริงๆแล้วมีอยูห ่ ลายข้อ แต่ขอ ้ ห้ามทีส ่ ำค ัญมีด ังนี้
1.ห้ามปักตะเกียบแบบเสย ี บให้ตงบนถ้ั้ วยข้าว เพราะการทำแบบ
นีจ้ ะถือเป็นข้าวสำหร ับคนทีเ่ สย ี ชวี ต ิ แล้ว
2.ห้ามถือตะเกียบสา่ ยไปมาบนอาหารหลายชนิด โดยไม่ต ัดสน ิ
ใจเสย ี ที ว่าจะเลือกอาหารชนิดใด
3.ห้ามนำตะเกียบแทงของกินหรือใชต ้ ะเกียบชค ี้ น
4.ห้ามใชต ้ ะเกียบคุย ้ หาอาหารชน ิ้ ทีต ่ อ ้ งการในถ้วยอาหาร
5.ห้ามใชต ้ ะเกียบเพือ ่ ดึงหรือขนย้ายภาชนะอาหาร
6.ห้ามใชป ้ ากดูดตะเกียบ
          นอกจากนีย ้ ังถือว่า สงิ่ ทีห ่ ยิบและสง ่ ต่อร ับด้วยตะเกียบได้
ก็คอ ื กระดูกของศพทีเ่ ผาแล้วในพิธงี านศพเท่านน ั้ ด ังนนจึ
ั้ งห้าม
ทำเชน ่ นีบ ้ น โต๊ะอาหาร
         ทงนี ั้ ้ เทคนิคในการใชต ้ ะเกียบถือเป็นสงิ่ ทีช ่ าวต่างชาติให้
ความสนใจมาก โดยในประเทศตะว ันตกมีศน ู ย์ฝึกอบรมการใช ้
ตะเกียบโดยเฉพาะ และในประเทศเยอรมนีมพ ี พ ิ ธ ิ ภ ัณฑ์ตะเกียบ
แห่งแรกของโลกทีจ ่ ัดแสดงตะเกียบจาก ทองคำ เงิน หยก และ
กระดูกสตว์ ั รวมกว่าหมืน ่ คู่ โดยตะเกียบเหล่านีน ้ ำมาจาก
 43

ประเทศและเขตแคว้นต่างๆทวโลก
่ั

R.S.V.P. ร ับแล้ว ตอบหน่อยเถอะ โดย

: ดร.วรภัทร โตธนะเกษม

่ น
นอกจากงานประจำว ัน อ ันเป็นภารกิจหล ักของเราทุกคนแล้ว อีกส ว
หนึง่ ของชวี ต
ิ คนทำงาน ก็คอ
ื
 44

การได ้รับเช ญิ ให ้ไปร่วมเป็ นเกียรติในงานต่างๆ ซ งึ่ มีล ก

ั ษณะหลากหลาย
่ การเปิ ดตัวสน
เชน ิ ค ้าใหม่ การเปิ ดอาคารทีท
่ ำการใหม่ หรือการเฉลิมฉลอง
ในโอกาสทีบ ่ ริษัท ดำเนินงานครบรอบ 10 ปี เป็ นต ้น
ิ ก็คอ
ปั ญหาของ คนได ้รับบัตรเช ญ ื จะต ้องพิจารณาว่าในเวลานัน ้ ตาราง
เวลานัดหมายของตนเอง ยังว่างอยูห ่ รือ เปล่า ถ ้ายังว่า งอยู่ ก็อ าจจะต ้อง
ิ นัน
พิจารณาว่า บัตรเชญ ้ มีความหมายมากน ้อยเพียงใด ทัง้ ต่อตนเอง และ
ต่อเจ ้าภาพ และสมควรไปร่วมงานดังกล่าวหรือไม่
สว่ นปั ญหาของ คนเชญ ิ ก็คอื ทำอย่างไรจึงจะมีผู ้มีเกียรติ หรือบุคคลส ำคัญ
มาร่วมงานมากๆ เพราะนั่นหมายถึงความส ำเร็จ และความภาคภูมใิ จของคน
ทีเ่ ป็ นเจ ้าภาพเลยทีเดียว และเพือ ่ ให ้การจัดงานดำเนินไปได ้อย่างราบรืน ่
ใน การ์ดเชญ ิ ก็มักจะมีอก
ั ษรย่อภาษาอังกฤษ ว่า “R.S.V.P” ต่อท ้าย ซงึ่ ผู ้ที่
ได ้รับเชญ ิ จำนวนไม่น ้อย อาจจะไม่ได ้ใส ใ่ จกับอักษรย่อสน ั ้ ๆ นีเ้ ลย ทัง้ ๆ ที่
เป็ นเรือ่ งทีส่ ำคัญมากต่อเจ ้าภาพ
“R.S.V.P” เป็ นภาษาฝรั่งเศส ซงึ่ ย่อมาจากวลีวา่ “Re’pondez s’il vous plait” และ
แปลเป็ นภาษาอัง กฤษง่า ยๆ ว่า “ Please Respond” และโดยมารยาทของ
วัฒ นธรรมตะวัน ตกนัน ้ หมายความว่า ผู ้รับ บัต รเช ญิ ควรจะต ้องตอบกลับ
โดยเร็ว (ถ ้าเป็ นไปได ้ก็ค วรตอบกลับ ภายในวัน เดีย วกัน ) เพราะเจ ้าภาพ
อยากทราบจริงๆ ว่าผู ้รับเชญ ิ จะไปร่วมงานได ้หรือไม่ ในบางครัง้ เราอาจจะ
ไม่ไ ด ้เห็น “R.S.V.P” แต่เห็น คำว่า “Regrets Only” ซงึ่ หมายความว่า “ถ ้า
หากท่านไม่ตอบปฏิเสธ เจ ้าภาพก็จะถือว่าท่านยินดีไปร่วมงาน (นะ!)”
ความเหน็ ดเหนือ ่ ยของการจัดงานนัน ้ มีหลายเรือ ่ งก็พอจะใช ้ วิตามิ
่ ง บางเรือ
นเอ็ม แก ้ปั ญหาได ้ ด ้วยการว่าจ ้าง บริษัทออร์กาไนเซอร์ ให ้ดำเนินการด ้าน
ต่างๆ แทนเราทำเอง แต่เรือ ่ งหนึง่ ซงึ่ เจ ้าภาพยังจะต ้องตัดสน ิ ใจดำเนินการ
เอง ก็คอื จะต ้องเป็ นผู ้ทีก
่ ำหนดว่าจะเชญ ิ ผู ้ใดบ ้าง และจะให ้การรับรองแขก
รับเชญิ ทีม
่ าแต่ละคนอย่างไร จึงจะสมเกียรติ ซ งึ่ ฟั งดูเป็ นเรือ ่ งทีไ่ ม่น่าจะยุง่
ยากอะไรนัก แต่จากการสนทนากับเพือ ่ นฝูงในวงการทีเ่ คยจัดงานใหญ่ๆ มา
แล ้ว พบว่าไม่ใชเ่ รือ
่ งง่ายเลย
เพราะส งั คมไทยมีพ น ื้ ฐานมาจากการให ้ความเคารพผู ้อาวุโ ส และขณะ
เดียวกัน ส งั คมสมัยปั จจุบน ั ก็ยัง   ยกย่องผู ้ประสบความส ำ เร็จในช วี ต ิ นัก
บริหารบางคนเล่าให ้ผมฟั งว่า กว่าจะจัดรายช อ ื่ แขกรับเชญ
ิ ได ้ลงตัว ว่าใคร
จะนั่งรับประทานอาหารโต๊ะใด และร่วมกับใครบ ้าง  ก็เป็ นเรือ ่ งทีป ่ วดเศ ย ี ร
เวียนเกล ้าไม่น ้อย เพราะจะต ้องพิจารณากันให ้รอบด ้าน ไม่เช น ่ นัน ้ แขกรับ
เชญิ บางคนอาจรู ้สก ึ น ้อยใจได ้ ว่าทำไมเขาไม่ได ้รับการจัดสรรทีน ่ ั่งให ้ดีกว่า
น ัน
้ เ ป ็น ต ้น
 แต่ปัญหาทีท ่ ำให ้ผู ้จัดลำบากใจมากขึน ้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ ้าเป็ นการจัด
งานอย่างเป็ นทางการ ทีจ ่ ะต ้องกำหนดทีน ่ ั่งไว ้แน่นอน ก็คอ
ื แขกรับเช ญ ิ ที่
 45

ไม่ตอบ RSVP แต่พอถึงวันจริง กลับมาร่วมงาน ในขณะทีแ ่ ขกที่ ตอบว่าจะ

มา กลับ ไม่ม า พอเป็ นอย่า งนี้ เจ ้าภาพก็ต ้องแก ้ปั ญ หาหน ้างานกัน ให ้
โกลาหลเหมือนกัน ซงึ่ สว่ นใหญ่ ก็แก ้ปั ญหาไปได ้ “แบบไทยๆ” คือบางทีก็
ต ้องยกมือไหว ้ ขอโทษแขกบางคนทีอ ่ าจจะต ้องถูกย ้ายทีท ่ างกันบ ้าง เพือ ่
ความเหมาะสม
พ ว ก เ ร า ก ็อ ย ก ู่ ัน ม า อ ย า่ ง น แ ี้ ห ล ะ ค ร ับ
 แต่ผ ู ้บริหารท่านหนึง่ เล่าให ้ผมฟั งว่า บริษัท ของเขาเคยเหมาบล็อ กทีน ่ ั่ง
สว่ นหนึง่ ของการแสดงอะไรส ก ั อย่าง (ซงึ่ ผมจำไม่ได ้ว่าเป็ นเรือ ่ งอะไร รู ้แต่
ว่าต ้องเสย ี เงินแพงมาก เฉลีย ่ ค่าบัตรต่อทีน ่ ั่งราคาสูงถึงหนึง่ หมืน ่ บาท) เขา
ต ้องการขอบคุณลูกค ้าสำคัญๆ และได ้โทรศพ ั ท์สอบถามลูกค ้าทีไ่ ด ้รับเช ญ ิ
เพือ ่ เป็ นการยืน ยัน ว่าจะมาชมการแสดงได ้หรือไม่ เมือ ่ ตอบว่ามาได ้  ก็ไ ด ้
แจกบัตร (ซงึ่ ราคาแพงเหลือเกิน ) ให ้ไปตามจำนวนทีแ ่ จ ้งว่าจะมา และก่อน
ถึงวัน แสดง เพียงวัน เดียว ก็ย ังโทรศ พ ั ท์ย น ื ยัน กัน เป็ นมั่น เป็ นเหมาะ เพือ ่
เตรียมการให ้พนักงานของบริษัทคอยให ้การต ้อนรับอย่างดีทส ี่ ดุ ปรากฏว่า
พอถ งึ วัน จริง หลายท่า นก็ห ายไปเฉยๆ ปล่อ ยทีน ่ ั่ง ว่า งเปล่า เป็ นหย่อ มๆ
ทำให ้เสย ี ความรู ้สก ึ ของเจ ้าภาพอย่างมาก เจ ้าภาพรายนัน ้ ยังจำความรู ้ส ก ึ
นัน ้ ได ้ และรุกเร ้าผมมาหลายครัง้ แล ้วว่า ช ว่ ยเขียนเรือ ่ งอย่างนีใ้ ห ้ส ก ั ทีได ้
ไ ห ม
 ผมเห็นว่าถึงเวลาแล ้วครับ ทีเ่ ราคนไทยจะต ้องให ้ความสำคัญกับเรือ ่ งอย่าง
นี้ เพราะการกระทำในลักษณะทีเ่ ล่ามานี้ นอกจากจะทำให ้เจ ้าภาพรู ้สก ึ ผิด
หวัง และเสย ี ความรู ้สก ึ แล ้ว บางกรณียังทำให ้เกิดความสูญเส ย ี ทรัพยากร
อย่างไม่จำเป็ นอีกด ้วย เชน ่ ผมเคยไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์แห่งหนึง่ ซงึ่ มีผู ้
ไปร่วมงานต่ำกว่าทีแ ่ จ ้งไว ้จำนวนมาก นอกจากบรรยากาศจะ “โหรงเหรง”
แล ้ว ผมยังรู ้สก ึ เสย
ี ดายอาหารราคาแพงทีเ่ ตรียมไว ้จำนวนมากอีกด ้วย
พวกเราอาจจะมีทรัพยากรมาก ก็เลย ติดนิส ย ั ใชทรั
้ พยากรกัน ฟุ่ มเฟื อยไป
สก ั หน่อย ครัง้ หนึง่ ผมเคยไปดูงานตลาดตราสารหนีท ้ ไี่ ต ้หวัน เกาหลี และ
ญีป ่ น ุ่ โดยไปกัน 15 คน ปรากฏว่าไต ้หวัน และเกาหลีจัดรถบัส 40 ทีน ่ ั่งมา
ต ้อนรับเรา เรียกว่านั่งกันคนละทีโ่ ดยไม่ต ้องมีใครเบียดใคร (ยกเว ้นอยากจะ
เดิน ไปนั่ง คุย กับ ใคร) ซงึ่ พวกเราก็ช อบเพราะสะดวกสบายดี แต่พ อไปถึง
ญีป ่ น ุ่ รถทีม ่ ารับเรานัน ้ เป็ นรถขนาดเล็ก บรรจุผู ้โดยสารได ้พอดีๆ เขาบอกว่า
มีจำนวนเท่านี้ ก็จัดรถขนาดนีใ้ ห ้ (เถียงเขาไม่ได ้เลย ใชไ่ หมล่ะ)
ครับ ญีป่ นเขาไม่
ุ่ มท ี รัพยากรธรรมชาติมากนัก เขาก็เลยใช อย่ ้ างระมัดระวัง
และความทีเ่ ขามีพน ื้ ทีจ ้ างระมัดระวังเพือ
่ ำกัด เขาก็ใช อย่ ่ ให ้เกิดประโยชน์
สูงสุด จนกลายเป็ นชาติท ี่ ออกแบบการใชพื ้ น
้ ที่ รวมทัง้ ออกแบบสน ิ ค ้า และ
บรรจุภณั ฑ์ ได ้อย่างยอดเยีย ่ ม ไปแล ้ว ในขณะทีเ่ รายังคงฟุ่ มเฟื อยกับการ
้ พยากรอย่างเกินควร
ใชทรั
การจัดงานเฉลิมฉลองความส ำเร็จต่างๆ หรืองานเปิ ดตัวส น ิ ค ้า ยังจะต ้องมี
ต่อไป แต่ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล ้วละครับ ทีแ ิ ทัง้ หลาย ควรจะต ้อง
่ ขกรับเช ญ
 46

ให ้ความส ำ คัญ กับ การตอบเจ ้าภาพ ทีเ่ ขาอุต ส า่ ห ใ์ ส ่ “R.S.V.P” มา ว่า

สามารถไปร่วมงานได ้หรือไม่ ถึงแม ้จะไปไม่ไ ด ้ ก็ควรแจ ้ง และเจ ้าภาพก็
ย่อมเข ้าใจ ว่าแต่ละคนมีภาระอืน ่ ทีต่ ้องทำ เพียงแต่จะเป็ นการให ้ข ้อมูลที่
เป็ นประโยชน์แก่เจ ้าภาพ เพือ
่ ให ้เขาวางแผนการจัดงานได ้ดีขน ึ้
ไม่เชน่ นัน
้ เราก็จะยังใชวิ้ ธเี ดิมๆ ของเราต่อไป คือเจ ้าภาพจะต ้องคาดการณ์
เอาเอง ว่าน่าจะมีแขกมาร่วมงานจำนวนเท่าใด ซงึ่ วิธก ่ นี้ เจ ้าภาพมัก
ี ารเชน
จะต ้องประมาณการเผือ ่ ในทางสูง ไว ้ก่อ น ด ้วยเกรงว่า อาหารหรือ ทีน ่ ั่ง ที่
เตรียมไว ้อาจไม่เพียงพอ ผลก็คอ ี ทรัพยากรโดยใชเ่ หตุ
ื เป็ นการสูญเสย
เจ ้าภาพเขาอุตส า่ ห์ให ้ความส ำ คัญกับ เรา เราจะให ้ความส ำ คัญกับ เขาส ก
ั
หน่อยมิได ้หรือครับ