Professional Documents
Culture Documents
ั นาการทางอาชีพและการเลือกอาชีพ
วิชาชีพ
สัมมาชีพ มิจฉาชีพ
จากพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
ทฤษฎีวิเคราะห์ลกั ษณะและองค์ประกอบของบุคคล
(Traits and Factors Theory)
ทฤษฎีภาพเลือกอาชีพของ Ginzberg
ทฤษฏีการเลือกอาชีพของ Roe
ทฤษฏีการเลือกอาชีพของ Super
ทฤษฏีการเลือกอาชีพของ Hoppock
ทฤษฎีวิเคราะห์ลกั ษณะและองค์ประกอบของบุคคล
(Traits and Factors Theory)
"อาชีพของบุคคลมิใช่การลองผิดลองถูก
แต่ตอ้ งใช้ความคิดในการพินิจพิเคราะห์อย่างดี"
ทฤษฎี TF : มีหลักการเหมือนของ Frank Parson
กระบวนการตัดสินใจเลือกอาชีพนั้น จะเกิดควบคู่ไปกับ
ชีวิตการทางานของบุคคล
และถ้าการเลือกอาชีพในช่วงต้นของชีวิตไม่นาไปสูค่ วาม
พึงพอใจในการทางาน บุคคลอาจเลือกอาชีพใหม่ได้
ในชีวิตการทางานนั้น บุคคลต้องมีการเปลื่ยนแปลง
ปรับปรุงตัวเองอยูเ่ สมอตามพัฒนาการของชีวิต หากความ
ต้องการเปลี่ยนไป อาจมีผลต่อการปรับตัวของบุคคลให้ตรงกับ
ความต้องการของตนเองมากที่สุด
Ginzberg แบ่งขั้นตอนของการเลือกอาชีพเป็ น 3 ระยะ คือ
ทัศนคติพ้ ืนฐานของบิดา-มารดานี้เองเป็ น
สิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อความคิด ความสนใจ
ความคาดหวังบุตร นอกจากนี้ฐานะ ทางเศรษฐกิจ
ของครอบครัวก็เป็ นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อโอกาส และ
การเลือกอาชีพของบุตร
ทฤษฎีการเลือกอาชีพของโรว์ (Roe’s Theory)
23
และความต้องการ ที่มีผลต่อการเลือกทิศทางอาชีพของบุคคล
หลักการใหญ่ๆ ของโรว์ มีดงั นี้
พื้นฐานทางทฤษฎี
1. มนุษย์มีความแตกต่างกันในด้านความสามารถ
ความสนใจ และบุคลิกภาพ
2. ความแตกต่างของบุคคลแต่ละคน ทาให้เขาเหมาะสม
กับอาชีพแตกต่างกันออกไป
3. ในงานแต่ละอาชีพ แม้ตอ้ งการบุคคลที่มีคณ ุ ลักษณะ
บางอย่างเข้าไปทาก็ตาม
แต่ก็กว้างขวางมากพอที่จะให้บุคคลที่มีบุคลิกภาพ
ใกล้เคียงอื่นๆ สามารถประกอบงานอาชีพนั้นได้เช่นกัน
4. ความพึงพอใจของบุคคล ความสามารถ สถานการณ์ที่เขา
ดารงชีวิตอยู่ รวมทั้งความคิดรวบยอดที่มีตอ่ ตนเอง
จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและประสบการณ์
ทาให้การตัดสินใจเลือกอาชีพของบุคคลมีการเปลื่ยน
แปลงได้เสมอ
5. ชีวิตเป็ นกระบวนการที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง
6.1 ระดับสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของพ่อแม่
6.2 ความสามารถทางสติปัญญา
6.3 บุคลิกภาพ
6.4 โอกาสที่จะมีประสบการณ์ทางอาชีพต่างๆ
7. การแนะแนวอาชีพ มีอิทธิพลต่อการเลือกอาชีพของเด็ก
36
8. พัฒนาการทางอาชีพ คือพัฒนาการทางจิตใจและร่างกาย
ประกอบกับการแสดงออกของความคิดรวบยอดของบุคคล
9. การเข้าสูอ่ าชีพของบุคคล มักถูกกาหนดโดยกระบวนการ
ประนีประนอมระหว่างตัวบุคคลกับตัวแปรทางสังคม เช่น
ระหว่างภาพพจน์ที่ตนมีอยูก่ บั สภาพความเป็ นจริง
10. ความพึงพอใจในการทางานในชิวิตขึ้นอยูก่ บั
10.1 ความสามารถ ความสนใจ บุคลิกภาพ และ
ค่านิยมของบุคคล มีโอกาสได้แสดงออกมามากน้อย
เพียงใดในงานที่ทา
10.2 ประสบการณ์ของบุคคลทีได้รบั จากการทางาน
สอดคล้องกับภาพพจน์ของตัวเขาเองมากเพียงใด
Super แบ่งระยะพัฒนาการด้านอาชีพไว้ 4 ขั้น ดังนี้
งานหลังเลิกเรียน (Part-Time)
2. Establishment อายุระหว่าง 25-44 ปี
เริ่มต้นแบบงานและอาชีพที่ตนเองถนัด และเหมาะสมกับตนเอง
3. Maintenance อายุระหว่าง 45-64 ปี
เป็ นการค้นพบโลกของงานอย่างแท้จริง เป็ นพฤติกรรมที่รก
ั ษา
ความมั ่นคงในการทางานไว้ ไม่ตอ้ งการเปลี่ยนแปลง
4. Decline อายุ 65 ปี ขึ้นไป
ไม่สนใจในการทางานหนักเนื่ องจากสุขภาพไม่เอื้ออานวย อาจ
Super เชื่อว่า
ในทุกระยะของพัฒนาการของบุคคล จะต้องมีภาระกิจทางด้าน
อาชีพเกิดขึ้นควบคู่กนั ด้วย
เช่น ในช่วงวัยรุน่ ก็มีภาระกิจที่ยงั ต้องแสวงหา ค้นคว้าอาชีพ
ต่างๆ ที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
เมื่อเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ ภาระกิจทางอาชีพคือการสร้างความมั ่นคง
และความก้าวหน้าให้กบั ชีวิตการทางานของตนเอง
1. คนเราเลือกอาชีพเพื่อ
สนองความต้องการ
2. อาชีพที่เราเลือกสามารถตอบสนองความต้องการที่สูงสุด
ของเราได้
3. ความต้องการที่เกิดขึ้นนี้ อาจชัดเจนในบุคคลบาง
คน แต่อาจคลุมเครือในคนบางคน แต่มนั จะมี
อิทธิพลต่อการเลือกอาชีพของเราทั้งสิ้น
4. พัฒนาการทางอาชีพเริ่มจากจุดที่บุคคลเริ่มตระหนักว่า
มีอาชีพบางชนิดที่จะทาให้เขาได้รบั ความพึงพอใจ และ
สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้
5. สิ่งที่จะเป็ นเครื่องแสดงว่า เรามีการพัฒนาทางการเลือก
อาชีพมากขึ้นหรือไม่น้นั ขึ้นอยูก่ บั ว่า เราเข้าใจว่าการ
เลือกอาชีพของเราได้ตอบสนองความต้องการของตนเอง
เพียงใด
49