Professional Documents
Culture Documents
1 TPhO2020 Theory Solution
1 TPhO2020 Theory Solution
a.) SOLUTION
หยดถัดไปเคลื่อนที่เขาไปแทนที่หยดกอนหนา ที่ตําแหนงเดียวกัน ในจังหวะที่ไฟสวางพอดีเนื่องจากคาบเทากัน จึงทําใหเห็น
เสมือนกับวาหยดน้ําอยูที่เดิม
หรือ
เปนตําแหนงปรากฏแบบเดียวกับการมองผาน stroboscope ที่คาบเทากัน
การแขงขันฟสิกสโอลิมปกระดับชาติ ครั้งที่ 19 ขอสอบภาคทฤษฎี ขอ 1
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เวลาสอบรวม 4 ชั่วโมง
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 หนา 2/8
b.) SOLUTION
เมื่อ Δ𝑡𝑡 ≠ 0 หยดน้ําจะไมปรากฏที่ตําแหนงเดิม แตจะมีการเหลื่อมไปเล็กนอย
⋮
⋮
⋮
ℎ
𝑠𝑠1 𝑠𝑠2
แบบที่ 2: สมมติใหเคลื่อนที่แบบความเรงปรากฏคงตัว
ใหความเร็วปรากฏเปน 𝑢𝑢′ และ ความเรงปรากฏเปน 𝑎𝑎′ จะไดวา
1 1
𝑠𝑠1 = 𝑢𝑢ℎ Δ𝑡𝑡 + 𝑔𝑔Δ𝑡𝑡 2 = 𝑢𝑢′ (𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡) + 𝑎𝑎′ (𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡)2 และ
2 2
1 1
𝑠𝑠2 = 𝑢𝑢ℎ (2Δ𝑡𝑡) + 𝑔𝑔(2Δ𝑡𝑡)2 = 𝑢𝑢′ (2𝑇𝑇0 + 2Δ𝑡𝑡) + 𝑎𝑎′ (2𝑇𝑇0 + 2Δ𝑡𝑡)2
2 2
เมื่อแกสมการจะได
Δ𝑡𝑡 �2𝑔𝑔ℎΔ𝑡𝑡
𝑢𝑢′ = 𝑢𝑢ℎ =
𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡 𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡
และ
2
Δ𝑡𝑡
𝑎𝑎′ = 𝑔𝑔 � �
𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡
การแขงขันฟสิกสโอลิมปกระดับชาติ ครั้งที่ 19 ขอสอบภาคทฤษฎี ขอ 1
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เวลาสอบรวม 4 ชั่วโมง
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 หนา 4/8
c.) SOLUTION
การคิดแอมพลิจูด
คาแอมพลิจูดหาจากระยะเคลื่อนที่ปรากฏจากเวลา 𝑡𝑡 = 0 ถึง 𝑡𝑡 = 𝜋𝜋⁄2𝜔𝜔 หรือ คิดจากครึ่งหนึ่งของระยะปรากฏจาก 𝑡𝑡 = 0 ถึง
𝑡𝑡 = 𝜋𝜋⁄𝜔𝜔 (หยุดนิ่ง หยุดนิ่ง)
ระยะทางปรากฏที่เคลื่อนที่ เมื่อความเรงเปนศูนย
แบบ 1. ใชประโยชนจากความเร็วปรากฏในขอ b.
ระยะปรากฏ Δ𝑠𝑠 = ∫ 𝑢𝑢′𝑑𝑑𝑑𝑑 เมื่อความเร็วปรากฏ 𝑢𝑢′ = 𝑢𝑢0 Δ𝑡𝑡⁄(𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡) โดยการเลียนแบบจากขอ b. เมื่อ Δ𝑡𝑡 = 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔𝜔𝜔
ดังนั้น
𝑡𝑡 𝑡𝑡
Δ𝑡𝑡 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔𝜔𝜔
Δ𝑠𝑠 = � 𝑢𝑢0 𝑑𝑑𝑑𝑑 ≈ � 𝑢𝑢0 𝑑𝑑𝑑𝑑
𝑡𝑡=0 𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡 𝑡𝑡=0 𝑇𝑇0
ซึ่งได
𝑢𝑢0 𝜏𝜏 𝑢𝑢0 𝜏𝜏
Δ𝑠𝑠 = − cos 𝜔𝜔𝜔𝜔
𝜔𝜔𝑇𝑇0 𝜔𝜔𝑇𝑇0
แสดงวาแอมพลิจูด
𝑢𝑢0 𝜏𝜏
𝐴𝐴 =
𝜔𝜔𝑇𝑇0
หรือคิดจาก
𝜋𝜋 𝜋𝜋
2𝜔𝜔 Δ𝑡𝑡 2𝜔𝜔 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔𝜔𝜔
𝐴𝐴 = � 𝑢𝑢0 𝑑𝑑𝑑𝑑 ≈ � 𝑢𝑢0 𝑑𝑑𝑑𝑑
𝑡𝑡=0 𝑇𝑇0 + Δ𝑡𝑡 𝑡𝑡=0 𝑇𝑇0
แบบ 2. คํานวณโดยตรง
เวลาที่เกินมาของการกระพริบครั้งที่ 1 เทากับ Δ𝑡𝑡1 ≈ 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔(𝑇𝑇0 )
เวลาที่เกินมาของการกระพริบครั้งที่ 2 เทากับ Δ𝑡𝑡2 ≈ 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔(2𝑇𝑇0 )
เวลาที่เกินมาของการกระพริบครั้งที่ 3 เทากับ Δ𝑡𝑡3 ≈ 𝜏𝜏 sin 𝜔𝜔(3𝑇𝑇0 )
...ตามลําดับ...
การหยด
𝑇𝑇0 𝑇𝑇0 𝑇𝑇0
ระยะปรากฏ 𝑠𝑠 = 𝑢𝑢0 ∑Δ𝑡𝑡𝑛𝑛 เมื่อ 𝑢𝑢0 เปนความเร็ว terminal velocity (ความเร็วจริง) และ ∑Δ𝑡𝑡𝑛𝑛 เปนเวลาสวนเกินที่ทําใหเกิด
การเคลื่อนที่ปรากฏ (เหมือนกับขอ b.)
หมายเหตุ
การหามุมเบี่ยงเบนทําไดจากการพิจารณาผลรวมของมุมเบี่ยงเบนที่เกิดจากการหักเหแตละครั้ง โดยที่มุมเบี่ยงเบนที่เกิดจาก
การหักเหที่ผิวลางและบนนั้นมีคาเทากันคือ
𝑛𝑛 − 1
𝛿𝛿1 = 𝜃𝜃 − 𝛼𝛼 = � � 𝜃𝜃
𝑛𝑛
ดังนั้นมุมเบี่ยงเบนรวมทั้งหมดคือ
𝑛𝑛 − 1
𝛿𝛿 = 2𝛿𝛿1 = 2 � � 𝜃𝜃
𝑛𝑛
จากรูปดานบนจะไดวา
𝑎𝑎 − 𝑥𝑥
𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠 𝜃𝜃 = ≈ 𝜃𝜃
𝑅𝑅
เมื่อนําคา 𝜃𝜃 ไปแทนในมุมเบี่ยงเบนจะได
𝑛𝑛 − 1 𝑎𝑎 − 𝑥𝑥
𝛿𝛿 = 2𝛿𝛿1 = 2 � �� �
𝑛𝑛 𝑅𝑅
การแขงขันฟสิกสโอลิมปกระดับชาติ ครั้งที่ 19 ขอสอบภาคทฤษฎี ขอ 1
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เวลาสอบรวม 4 ชั่วโมง
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 หนา 7/8
d) หาแรงที่ลําแสง A ทํากับลูกแกว
อันดับแรกเราพิจารณาแรงที่ลูกแกวกระทํากับลําแสง ซึ่งสามารถหาไดจากอัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมของแสงจากกอนวิ่งเขา
สูลูกแกวและหลังจากวิ่งออกจากลูกแกว
สําหรับในแนวแกน y ในชวงเวลา 𝛥𝛥𝛥𝛥
𝑦𝑦 𝑃𝑃𝑃𝑃𝑡𝑡
โมเมนตัมของแสงที่วิ่งเขาสูลูกแกวคือ 𝛥𝛥𝑝𝑝𝑖𝑖𝑖𝑖 =
𝑐𝑐
𝑦𝑦 𝑃𝑃𝑃𝑃𝑃𝑃
โมเมนตัมของแสงที่วิ่งออกจากลูกแกวคือ 𝛥𝛥𝑝𝑝𝑜𝑜𝑜𝑜𝑜𝑜 = 𝑐𝑐 𝑐𝑐𝑐𝑐𝑐𝑐 𝛿𝛿
ดังนั้นโมเมนตัมที่ไปเปลี่ยนไปของแสงในแนวแกน y ในชวงเวลา 𝛥𝛥𝛥𝛥 คือ
𝑦𝑦 𝑃𝑃
𝛥𝛥𝑝𝑝𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙 = (𝑐𝑐𝑐𝑐𝑐𝑐 𝛿𝛿 − 1) 𝛥𝛥𝛥𝛥 ≈ 0
𝑐𝑐
สําหรับในแนวแกน x ในชวงเวลา 𝛥𝛥𝛥𝛥
𝑥𝑥
โมเมนตัมของแสงที่วิ่งเขาสูลูกแกวคือ 𝛥𝛥𝑝𝑝𝑖𝑖𝑖𝑖 =0
𝑥𝑥 𝑃𝑃𝑃𝑃𝑃𝑃
โมเมนตัมของแสงที่วิ่งออกจากลูกแกวคือ 𝛥𝛥𝑝𝑝𝑜𝑜𝑜𝑜𝑜𝑜 =−
𝑐𝑐
𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠 𝛿𝛿
ดังนั้นโมเมนตัมที่ไปเปลี่ยนไปของแสงในแนวแกน y ในชวงเวลา 𝛥𝛥𝛥𝛥 คือ
𝑥𝑥
𝑃𝑃 𝑃𝑃 𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1 𝑎𝑎 − 𝑥𝑥
𝛥𝛥𝑝𝑝𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙 = − 𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠 𝛿𝛿 𝛥𝛥𝛥𝛥 ≈ − 𝛿𝛿 𝛥𝛥𝛥𝛥 = −2 � �� � 𝛥𝛥𝛥𝛥
𝑐𝑐 𝑐𝑐 𝑐𝑐 𝑛𝑛 𝑅𝑅
จากกฎขอที่สามของนิวตัน เราจะไดวาแรงที่แสงทําตอลูกแกวนั้นมีขนาดเทากันแตทิศตรงขาม ซึ่งคือ
𝑥𝑥
𝛥𝛥𝑝𝑝𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙𝑙 𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1 𝑎𝑎 − 𝑥𝑥
𝐹𝐹⃗𝐴𝐴 = − 𝑥𝑥� = 2 � �� � 𝑥𝑥�
𝛥𝛥𝛥𝛥 𝑐𝑐 𝑛𝑛 𝑅𝑅
การแขงขันฟสิกสโอลิมปกระดับชาติ ครั้งที่ 19 ขอสอบภาคทฤษฎี ขอ 1
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เวลาสอบรวม 4 ชั่วโมง
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 หนา 8/8
e) หาความถี่ของการสั่นของลูกแกว
สําหรับลําแสง B คามุมเบี่ยงเบนนั้นจะสามารถเขียนไดอยูในรูปเดียวกับลําแสง A นั่นคือ
𝑛𝑛 − 1
𝛿𝛿𝐵𝐵 = 2 � � 𝜃𝜃𝐵𝐵
𝑛𝑛
𝑎𝑎+𝑥𝑥
โดยที่มุมตกกระทบ 𝜃𝜃𝐵𝐵 มีคาเปน 𝜃𝜃𝐵𝐵 = 𝑅𝑅
ดังนั้นมุมเบี่ยงเบนคือ
𝑛𝑛 − 1 𝑎𝑎 + 𝑥𝑥
𝛿𝛿𝐵𝐵 = 2 � �� �
𝑛𝑛 𝑅𝑅
ดังนั้นแรงที่ลําแสง B กระทําตอลูกแกวคือ
𝑃𝑃 𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1 𝑎𝑎 + 𝑥𝑥
𝐹𝐹⃗𝐵𝐵 = 𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠𝑠 𝛿𝛿𝐵𝐵 (−𝑥𝑥�) = 2 � �� � (−𝑥𝑥�)
𝑐𝑐 𝑐𝑐 𝑛𝑛 𝑅𝑅
จะเห็นวาทิศที่ไดของแรงจะตรงขามกับแรงจากลําแสง A เนื่องจากแสงเบี่ยงเบนในทิศตรงกันขาม
แรงลัพธที่กระทําตอลูกแกวเนื่องจากลําแสงทั้งสองคือ
𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1 𝑥𝑥
𝐹𝐹⃗𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡𝑡 = 𝐹𝐹⃗𝐵𝐵 + 𝐹𝐹⃗𝐴𝐴 = −4 � � � � 𝑥𝑥�
𝑐𝑐 𝑛𝑛 𝑅𝑅
𝑑𝑑 2 𝑥𝑥
จาก 𝐹𝐹 = 𝑚𝑚 𝑑𝑑𝑡𝑡 2 เราไดวา
𝑑𝑑 2 𝑥𝑥 4𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1
= − � � 𝑥𝑥 = − 𝜔𝜔2 𝑥𝑥
𝑑𝑑𝑡𝑡 2 𝑚𝑚𝑚𝑚𝑚𝑚 𝑛𝑛
แสดงวา
4𝑃𝑃 𝑛𝑛 − 1
𝜔𝜔2 = � �
𝑚𝑚𝑚𝑚𝑚𝑚 𝑛𝑛