You are on page 1of 16

เฉลยแบบ

ฝึกหัดเคมี

Name:
Class:
Division:
แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
1. เมื่อบรรจุแก๊ส A B C โดยที่ A มีความดันที่ 3 atm และ A มีปริมาตร 5
ลูกบาศก์เมตร B มีความดันที่ 5 atm B มีปริมาตร 3 ลูกบาศก์เมตร C มีความดัน
ที่ 2 atm C มีปริมาตร 8 ลูกบาศก์เมตร
เมื่อเปิดก็อกให้แก๊สทั้งสามผสมกัน จงหาความดันใหม่ที่เกิดขึ้นของแก๊ส B และจง
หาความดันรวมที่เกิดขึ้น
เราสามารถใช้กฎ Boyle's Law ในการแก้ปัญหานี้ได้ โดยกฎ Boyle's Law กล่าวว่า ปริมาตรของแก๊สมีความ
สัมพันธ์กับความดันในรูปแบบที่เป็นสัดส่วนกันแบบตรงทาง (inverse proportion) กล่าวคือ ถ้าความดันเพิ่ม
ขึ้น ปริมาตรจะลดลง และถ้าความดันลดลง ปริมาตรจะเพิ่มขึ้น
ในที่นี้เราจะเริ่มจากการหาค่าความดันใหม่ของแก๊ส B โดยใช้กฎ Boyle's Law:
เริ่มจากความดันแรกของแก๊ส B ที่เท่ากับ 5 atm และปริมาตรแรกของแก๊ส B ที่เท่ากับ 3 ลูกบาศก์เมตร
เมื่อผสมกับแก๊ส A ที่มีความดัน 3 atm และปริมาตร 5 ลูกบาศก์เมตร จะได้ความดันใหม่ของแก๊ส B ดังนี้:
(P1 * V1) = (P2 * V2)
(5 atm * 3 ลูกบาศก์เมตร) = (P2 * 3 ลูกบาศก์เมตร)
P2 = (5 atm * 3 ลูกบาศก์เมตร) / (3 ลูกบาศก์เมตร)
= 15 atm / 3 ลูกบาศก์เมตร
= 5 atm/ลูกบาศก์เมตร
ดังนั้นความดันใหม่ของแก๊ส B เมื่อผสมกับแก๊ส A จะเป็น 5 atm/ลูกบาศก์เมตร
ต่อไปเราจะหาความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อเปิดก็อกให้แก๊สทั้งสามผสมกัน:
ในกรณีนี้ เราสามารถใช้กฎ Dalton's Law ในการหาความดันรวมของแก๊สทั้งสาม
ในกรณีของเรา เราต้องใช้กฎ Dalton's Law ซึ่งกล่าวว่าความดันรวมของแก๊สทั้งสามจะเท่ากับผลรวมของ
ความดันของแก๊สแต่ละชนิด
ในที่นี้เรามีแก๊ส A, B, C ซึ่งมีความดันตามลำดับคือ 3 atm, 5 atm, 2 atm
เราสามารถหาความดันรวมได้โดยการบวกความดันของแก๊สแต่ละชนิด:
ความดันรวม = ความดัน A + ความดัน B + ความดัน C
= 3 atm + 5 atm + 2 atm
= 10 atm
ดังนั้นความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อเปิดก็อกให้แก๊สทั้งสามผสมกันจะเท่ากับ 10 atm
สรุปคำตอบ:
- ความดันใหม่ของแก๊ส B เมื่อผสมกับแก๊ส A คือ 5 atm/ลูกบาศก์เมตร
- ความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อเปิดก็อกให้แก๊สทั้งสามผสมกันคือ 10 atm
แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex 2. เมื่อบรรจุแก๊ส A ซึ่งมีความต้น 5 atm ลงในภาชนะ 10 ลิตร ส่วนภาชนะที่
2 เป็นสุญญากาศมีปริมาตร 3 ลิตร เมื่อปล่อยให้แก๊ส A แพร่ไปในภาชนะที่ 2 จง
หาความดันรวมที่เกิดขึ้น

ในกรณีนี้ เราสามารถใช้กฎ Boyle's Law ซึ่งกล่าวว่าความดันและปริมาตรของแก๊สมีความสัมพันธ์กันแบบกลับ


กัน คือ เมื่อปริมาตรเพิ่มขึ้น ความดันลดลง และเมื่อปริมาตรลดลง ความดันเพิ่มขึ้น

ในที่นี้ เรามีแก๊ส A ซึ่งมีความดันต้นเท่ากับ 5 atm และมีปริมาตร 10 ลิตร


และเรามีภาชนะที่ 2 ที่เป็นสุญญากาศมีปริมาตร 3 ลิตร

เมื่อปล่อยแก๊ส A ไปยังภาชนะที่ 2 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของภาชนะที่ 2 และอุณหภูมิคงที่ ซึ่งทำให้


เกิดการปรับความดันของแก๊ส A

สามารถหาความดันรวมที่เกิดขึ้นได้โดยใช้กฎ Boyle's Law:


ความดันรวม = (ความดันเริ่มต้น * ปริมาตรเริ่มต้น) / ปริมาตรหลังปรับเปลี่ยน

ความดันรวม = (5 atm * 10 ลิตร) / 3 ลิตร


= 50/3 atm
≈ 16.67 atm

ดังนั้นความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อแก๊ส A แพร่ไปในภาชนะที่ 2 คือประมาณ 16.67 atm


แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex.3 ขวดใบที่ 1 จุ 5 ลิตร ใบที่สองจุ 3 ลิตร มีท่อต่อถึงกันได้ ขวดใบที่ 1 มีความ
ดัน 2 atm ขวดใบที่ 2 มีความดัน 8 atm เมื่อเปิดให้แก๊สทั้งสองผสมกันจง
หาความดันรวมที่เกิดขึ้น

การคำนวณความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อแก๊สทั้งสองผสมกันในท่อสามารถทำได้โดยใช้กฎ Boyle's Law ซึ่งกล่าว


ว่าปริมาตรของแก๊สเป็นค่าที่ตรงกันสัมพันธ์กับความดันที่มีอยู่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง โดยเมื่อปริมาตรเพิ่มขึ้นความ
ดันจะลดลง และเมื่อปริมาตรลดลงความดันจะเพิ่มขึ้น ในสูตรที่ใช้ในการคำนวณคือ P1V1 = P2V2 โดยที่ P1
และ V1 คือความดันและปริมาตรของขวดใบที่ 1 ตามลำดับ และ P2 และ V2 คือความดันและปริมาตรของขวด
ใบที่ 2 ตามลำดับ

ในที่นี้ เรามีข้อมูลดังนี้:
- P1 = 2 atm (ความดันในขวดใบที่ 1)
- V1 = 5 ลิตร (ปริมาตรขวดใบที่ 1)
- P2 = 8 atm (ความดันในขวดใบที่ 2)
- V2 = 3 ลิตร (ปริมาตรขวดใบที่ 2)

เราต้องการหาความดันรวมที่เกิดขึ้น (P_total) เมื่อแก๊สทั้งสองผสมกัน ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้ในสูตร


ดังนี้:
P1V1 = P_totalV_total
และเราต้องหาค่า V_total (ปริมาตรรวม) ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยใช้สูตร:
V_total = V1 + V2
เมื่อเราแทนค่าที่รู้ลงในสูตรจะได้:
(2 atm)(5 ลิตร) = P_total(5 ลิตร + 3 ลิตร)
จากสมการ (2 atm)(5 ลิตร) = P_total(5 ลิตร + 3 ลิตร) ที่เราได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้
เราสามารถแก้สมการนี้ได้ดังนี้:
10 atm * ลิตร = P_total * 8 ลิตร
และเมื่อแก้สมการนี้เราจะได้:
P_total = (10 atm * ลิตร) / 8 ลิตร
เราสามารถคำนวณค่า P_total ได้ดังนี้:
P_total = (10 atm * ลิตร) / 8 ลิตร
P_total = 1.25 atm
ดังนั้น ความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อแก๊สทั้งสองผสมกันในท่อคือ 1.25 atm
แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex.4 แก๊ส SO2 บรรจุในภาชนะ 2 ลิตร ในความดัน 0.5 atm ส่วนแก๊ส O2
บรรจุในภาชนะ 1 ลิตร ความดัน 0.2 atm เมื่อเปิดก็อกให้แก๊สผสมกัน จงหาความ
ดันรวมที่เกิดขึ้น

เพื่อหาความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อแก๊ส SO2 และแก๊ส O2 ผสมกันในภาชนะเดียวกัน สามารถใช้สมการความ


สมดุลของแก๊สได้:

(ความดันของแก๊ส SO2)(ปริมาตรของแก๊ส SO2) + (ความดันของแก๊ส O2)(ปริมาตรของแก๊ส O2) = (ความ


ดันรวม)(ปริมาตรของแก๊สผสม)

ให้ประกอบด้วยสมการที่รู้:

(0.5 atm)(2 ลิตร) + (0.2 atm)(1 ลิตร) = (ความดันรวม)(2 ลิตร + 1 ลิตร)

คำนวณค่าความดันรวม:

(1 atm * ลิตร + 0.2 atm * ลิตร) = (ความดันรวม)(3 ลิตร)

ดังนั้น ความดันรวมที่เกิดขึ้นเมื่อแก๊ส SO2 และแก๊ส O2 ผสมกันคือ 0.2667 atm.


แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex.5 ที่อุณหภูมิคงที่แก๊ส A บรรจุในถัง 1 ลิตร มีความดันค่าหนึ่ง แก๊ส B บรรจุใน
ถังขนาด 3 ลิตร ความดัน 4 atm ถ้าต่อถังทั้งสองให้แก๊ส A และแก๊ส B ผสมกัน
พบว่ามีความดัน 3.5 atm
จงหาความดันของแก๊ส A ก่อนผสมกับ B และจงหาความดันของแก๊ส A หลังต่อ
ท่อผสมกับแก๊ส B
เราสามารถใช้นิยามของความสมดุลของแก๊สในการแก้โจทย์นี้ได้:

ในกรณีที่แก๊ส A และแก๊ส B ผสมกันในถังเดียวกัน ความสมดุลของแก๊สจะถูกสร้างขึ้น ซึ่งเราสามารถใช้สมการ


ความสมดุลของแก๊สได้:

(ความดันของแก๊ส A)(ปริมาตรของแก๊ส A) + (ความดันของแก๊ส B)(ปริมาตรของแก๊ส B) = (ความดันรวม)


(ปริมาตรของแก๊สผสม)

ให้ประกอบด้วยข้อมูลที่รู้:

(ความดันของแก๊ส A)(1 ลิตร) + (ความดันของแก๊ส B)(3 ลิตร) = (3.5 atm)(1 ลิตร + 3 ลิตร)

เราต้องการหาความดันของแก๊ส A ก่อนผสมกับแก๊ส B ดังนั้น เราจะแก้สมการนี้:

(ความดันของแก๊ส A)(1 ลิตร) + (4 atm)(3 ลิตร) = (3.5 atm)(4 ลิตร)

คำนวณค่าความดันของแก๊ส A:

(ความดันของแก๊ส A) = [(3.5 atm)(4 ลิตร) - (4 atm)(3 ลิตร)] / (1 ลิตร)

ดังนั้น ความดันของแก๊ส A ก่อนผสมกับแก๊ส B คือ 10.5 atm.

เพื่อหาความดันของแก๊ส A หลังต่อท่อผสมกับแก๊ส B เราสามารถใช้นิยามของความสมดุลของแก๊สอีกครั้ง:

(ความดันของแก๊ส A)(ปริมาตรของแก๊ส A) = (ความดันรวม)(ปริมาตรของแก๊สผสม)

ให้ประกอบด้วยข้อม
แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex.5 ที่อุณหภูมิคงที่แก๊ส A บรรจุในถัง 1 ลิตร มีความดันค่าหนึ่ง แก๊ส B บรรจุใน
ถังขนาด 3 ลิตร ความดัน 4 atm ถ้าต่อถังทั้งสองให้แก๊ส A และแก๊ส B ผสมกัน
พบว่ามีความดัน 3.5 atm
จงหาความดันของแก๊ส A ก่อนผสมกับ B และจงหาความดันของแก๊ส A หลังต่อ
ท่อผสมกับแก๊ส B
ให้ประกอบด้วยข้อมูลที่รู้:

(ความดันของแก๊ส A)(1 ลิตร) = (3.5 atm)(4 ลิตร)

เราต้องการหาความดันของแก๊ส A หลังต่อท่อผสมกับแก๊ส B ดังนั้น เราจะแก้สมการนี้:

(ความดันของแก๊ส A) = [(3.5 atm)(4 ลิตร)] / (1 ลิตร)

ดังนั้น ความดันของแก๊ส A หลังต่อท่อผสมกับแก๊ส B คือ 14 atm.

ดังนั้น คำตอบที่ถูกต้องคือ:

- ความดันของแก๊ส A ก่อนผสมกับแก๊ส B: 10.5 atm


- ความดันของแก๊ส A หลังต่อท่อผสมกับแก๊ส B: 14 atm
แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex 1. ให้เปรียบเทียบอัตราการแพร่ของแก๊สต่อไปนี้จากเร็วไปช้า
1.1.) CO2,N2,CH4,Cl2,NO2,C2H4
1.2.) Ne2, N2, O2, NO2, Ar
1.3.) ธาตุ X ที่มีเลขมวล 19 เลขอะตอม 9, ธาตุ Y ที่มีเลขมวล 14 เลขอะตอม
7,ธาตุ Z ที่มีเลขมวล 20 เลขอะตอม 10
1.1) เรียงลำดับอัตราการแพร่ของแก๊สตามลำดับจากเร็วไปช้าจะเป็นดังนี้:
Cl2 > NO2 > CO2 > C2H4 > CH4 > N2

1.2) เรียงลำดับอัตราการแพร่ของแก๊สตามลำดับจากเร็วไปช้าจะเป็นดังนี้:
NO2 > O2 > N2 > Ar > Ne2

1.3) เรียงลำดับอัตราการแพร่ของแก๊สตามลำดับจากเร็วไปช้าจะเป็นดังนี้:
Z>Y>X

โปรดทราบว่าอัตราการแพร่ของแก๊สที่เร็วที่สุดจะอยู่ด้านหน้าและอัตราการแพร่ของแก๊สที่ช้าที่สุดจะอยู่ด้านหลังใน
ลำดับที่กำหนด
แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.2 แก๊สสมบูรณ์ 1 2 และ 3
มีน้ำหนักตามลำดับดังนี้ต่อไปนี้ 2.73 กรัม 0.14 กรัม และ 2.73 กรัม
มีความดันตามลำดับดังต่อไปนี้ 0.51 atm, 0.112 atm และ 0.70 atm
มีปริมาตรตามลำดับดังต่อไปนี้ 3 ลูกบาศก์เมตร 1 ลูกบาศก์เมตร และ 3.2
ลูกบาศก์เมตร
มีอุณหภูมิต่มลำดับดังต่อไปนี้ 27 องศาเซลเซียส 0 องศาเซลเซียส และ 47 องศา
เซลเซียส
จากข้อมูลข้างต้นจงเรียงลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สทั้งสามชนิดจากมากไป
น้อย

เพื่อเรียงลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สทั้งสามชนิดจากมากไปน้อย สามารถใช้สูตรหรือสังเกตการณ์ที่
เกี่ยวข้องกับการแพร่ของแก๊สได้ อัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สขึ้นอยู่กับความเร็วเฉลี่ยของโมเลกุลในแก๊ส ซึ่ง
สัมพันธ์กับอุณหภูมิและมวลของโมเลกุล
เราสามารถใช้สูตรความเร็วเฉลี่ยของแก๊สดังนี้:
v = √(3RT/M)
เมื่อ
v = ความเร็วเฉลี่ยของแก๊ส
R = ค่าคงที่แม่นยำ (8.314 J/(mol·K))
T = อุณหภูมิในหน่วยเคลวิน (K)
M = มวลโมเลกุลของแก๊สในหน่วยเมคะกรัม/มอลล์
เราจะคำนวณอัตราเร็วเฉลี่ยของแก๊สสามชนิดตามข้อมูลที่ให้มา และเรียงลำดับตามค่าความเร็วเฉลี่ยของแก๊ส
จากมากไปน้อย:
สำหรับแก๊สที่ 1:
M₁ = 2.73 g/mol
T₁ = 27 + 273 = 300 K
v₁ = √(3 * 8.314 * 300 / 2.73) = 365.9 m/s
สำหรับแก๊สที่ 2:
M₂ = 0.14 g/mol
T₂ = 0 + 273 = 273 K
v₂ = √(3 * 8.314 * 273 / 0.14) = 641.6 m/s
สำหรับแก๊สที่ 3:
M₃ = 2.73 g/mol
T₃ = 47 + 273 = 320 K
v₃ = √(3 * 8.314 * 320 / 2.73) = 406.6 m/s
ดังนั้น ลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สจากมากไปน้อยคือ:
แก๊สที่
แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.2 แก๊สสมบูรณ์ 1 2 และ 3
มีน้ำหนักตามลำดับดังนี้ต่อไปนี้ 2.73 กรัม 0.14 กรัม และ 2.73 กรัม
มีความดันตามลำดับดังต่อไปนี้ 0.51 atm, 0.112 atm และ 0.70 atm
มีปริมาตรตามลำดับดังต่อไปนี้ 3 ลูกบาศก์เมตร 1 ลูกบาศก์เมตร และ 3.2
ลูกบาศก์เมตร
มีอุณหภูมิต่มลำดับดังต่อไปนี้ 27 องศาเซลเซียส 0 องศาเซลเซียส และ 47 องศา
เซลเซียส
จากข้อมูลข้างต้นจงเรียงลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สทั้งสามชนิดจากมากไป
น้อย

ต่อ...

จากการคำนวณอัตราเร็วเฉลี่ยของแก๊สสามชนิดที่กำหนดในข้อมูล:

1. แก๊สที่ 2:
- อัตราเร็วเฉลี่ย (v₂) = 641.6 m/s

2. แก๊สที่ 3:
- อัตราเร็วเฉลี่ย (v₃) = 406.6 m/s

3. แก๊สที่ 1:
- อัตราเร็วเฉลี่ย (v₁) = 365.9 m/s

ดังนั้น ลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สทั้งสามชนิดจากมากไปน้อยคือ:
แก๊สที่ 2 (v₂) > แก๊สที่ 3 (v₃) > แก๊สที่ 1 (v₁)

ดังนั้น เรียงลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สจากมากไปน้อยได้ว่า: แก๊สที่ 2, แก๊สที่ 3, แก๊สที่ 1


แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex 3. ถ้าอัตราการแพร่ของแก๊สชนิดหนึ่งเป็น 1 ใน 4 ของแก๊ส C2H2 ภายใต้
ภาวะเดียวกัน มวลโมเลกุลของแก๊สนี้มีค่าเป็นเท่าใด

ในกรณีนี้ เราสามารถใช้ข้อมูลส่วนของอัตราการแพร่ของแก๊สเพื่อหาค่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้ได้

เราทราบว่าอัตราการแพร่ของแก๊สนี้เป็น 1 ใน 4 ของแก๊ส C2H2 ที่อยู่ในภาวะเดียวกัน

ภาวะเดียวกันในที่นี้หมายถึง ตัวอย่างเดียวกันของแก๊สทั้งสองที่มีอุณหภูมิและความดันเท่ากัน

ในกรณีที่อัตราการแพร่เป็น 1 ใน 4 หมายถึงว่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้จะเป็น 1/4 ของมวลโมเลกุลของแก๊ส


C2H2

เราจะต้องทราบค่ามวลโมเลกุลของแก๊ส C2H2 เพื่อหาค่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้ ซึ่งมวลโมเลกุลของแก๊ส


C2H2 เท่ากับ 26 g/mol

ดังนั้น มวลโมเลกุลของแก๊สนี้คือ 1/4 ของ 26 g/mol


= 26/4 g/mol
= 6.5 g/mol

ดังนั้น มวลโมเลกุลของแก๊สนี้มีค่าเป็น 6.5 g/mol


แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.4 จงเปรียบเทียบอัตราในการเคลื่อนที่แก๊ส CH4 และ SO2 ที่ใช้ในเวลาเท่ากัน
ความเร็วของ CH4 เป็นกี่เท่าของ SO2

เพื่อเปรียบเทียบอัตราในการเคลื่อนที่ของแก๊ส CH4 และ SO2 ที่ใช้ในเวลาเท่ากัน เราสามารถใช้สูตรความ


สัมพันธ์ระหว่างความเร็วและมวลของแก๊สในสภาวะเดียวกันได้
สูตรที่ใช้คือ:
ความเร็วของแก๊ส = √(3RT/M)
เมื่อ R คือ ค่าคงที่ของแก๊ส (ค่าเฉลี่ยของสัมประสิทธิ์ของแก๊ส) ซึ่งมีค่าประมาณ 8.314 J/(mol·K)
และ M คือ มวลโมเลกุลของแก๊ส (ในหน่วย kg/mol)
เราจะใช้ข้อมูลดังนี้:
CH4:
M(CH4) = 16.04 g/mol = 0.01604 kg/mol

SO2:
M(SO2) = 64.06 g/mol = 0.06406 kg/mol

ในกรณีนี้ เราจะสมมติว่าแก๊สทั้งสองอยู่ในสภาวะเดียวกัน (เช่น อุณหภูมิและความดันเท่ากัน) เพื่อให้สามารถ


เปรียบเทียบความเร็วของแก๊สได้

ดังนั้น เมื่อเราคำนวณตามสูตรดังกล่าว จะได้ผลลัพธ์ดังนี้:

ความเร็วของ CH4 = √(3RT/M(CH4))


= √[(3 * 8.314 J/(mol·K) * 298 K) / (0.01604 kg/mol)]
= √(746.578 / 0.01604)
= √46499.75
≈ 215.59 m/s

ความเร็วของ SO2 = √(3RT/M(SO2))


= √[(3 * 8.314 J/(mol·K) * 298 K) / (0.06406 kg/mol)]
= √(746.578 / 0.06406)
= √11645.94
≈ 107.92 m/s

ดังนั้น ความเร็วของ CH4 เท่ากับประมาณ 215.59 m/s หรือ 216 เท่าของความเร็ว SO2
แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.5 ถ้า x มีมวลโมเลกุล 81 เคลื่อนที่ในภาชนะหนึ่งได้ระนะทาง 30 เซนติเมตร ใน
เวลา 2 วินาที ภ้าแก๊ส y มวลโมเลกุล 25 จะเคลื่อนที่ได้ระยะทางกี่เซนติเมตรใน 4
วินาที

ในข้อมูลที่กำหนดให้:

สำหรับแก๊ส x:
มวลโมเลกุล = 81 g/mol
เคลื่อนที่ = 30 เซนติเมตร
เวลา = 2 วินาที

เราสามารถคำนวณความเร็วของแก๊ส x ได้โดยใช้สูตร:

ความเร็ว = ระยะทาง / เวลา

ดังนั้น:
ความเร็วของแก๊ส x = 30 เซนติเมตร / 2 วินาที
= 15 เซนติเมตร/วินาที

ต่อไปเราจะคำนวณระยะทางที่แก๊ส y เคลื่อนที่ได้ในเวลา 4 วินาที โดยใช้สูตร:

ระยะทาง = ความเร็ว x เวลา

ดังนั้น:
ระยะทางของแก๊ส y = (15 เซนติเมตร/วินาที) x 4 วินาที
= 60 เซนติเมตร

ดังนั้น แก๊ส y เคลื่อนที่ได้ระยะทาง 60 เซนติเมตร ในเวลา 4 วินาที


แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.6แก๊สต่อไปนี้แก๊สใดมีอัตราการแพร่เป็น 3 เท่าของการแพร่ของไอน้ำ
1.He
2.H2
3.HC4
4.CO2
เพื่อที่จะเปรียบเทียบอัตราการแพร่ระหว่างแก๊ส He และไอน้ำ (H2O) ให้เราพิจารณาอัตราส่วนของความเร็ว
ของโมเลกุลที่เคลื่อนที่ในสภาวะที่เหมือนกัน โมเลกุลของแก๊ส He ประกอบด้วยอะตอมเดียวเท่านั้น ในขณะที่
โมเลกุลของไอน้ำประกอบด้วยอะตอมของธาตุไฮโดรเจน (H) 2 ตัวและอะตอมของธาตุออกซิเจน (O) 1 ตัว
ดังนั้น เมื่อเทียบกัน โมเลกุลของแก๊ส He จะมีอัตราส่วนเท่ากับ 1 เท่า ในขณะที่โมเลกุลของไอน้ำจะมีอัตราส่วน
เป็น 3 เท่า (เนื่องจากประกอบด้วยอะตอม H 2 ตัว)
ดังนั้น อัตราการแพร่ของแก๊ส He จะเป็น 1 เท่าของอัตราการแพร่ของไอน้ำ (H2O)

H2 (ไฮโดรเจน) มีอัตราการแพร่เป็น 1 เท่าของ H2O (ไอน้ำ)


เราสามารถอธิบายอัตราการแพร่ของแก๊ส H2 (ไฮโดรเจน) เป็นกี่เท่าของแก๊ส H2O (ไอน้ำ) ได้โดยใช้พื้นฐาน
เกี่ยวกับสมการชีวะของแก๊ส (Gas Stoichiometry) และสัดส่วนมวลโมเลกุล (Molecular Mass) ของแก๊ส
ทั้งสอง

ถ้าเราสมมุติว่า HC4 มีอัตราการแพร่แล้ว เราสามารถเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของ HC4 ต่อ H2O ได้โดยใช้


สัดส่วนและข้อมูลที่มีอยู่เพื่อคำนวณ
เพื่อความง่ายในการเปรียบเทียบ ให้เราสมมุติว่าอัตราการแพร่ของ HC4 เทียบกับ H2O เป็นเท่ากับ x เท่า
นั่นคือ อัตราการแพร่ของ HC4 ต่อ H2O = x : 1
จากนั้นเราสามารถเทียบสัดส่วนปริมาณโมเลกุลระหว่าง HC4 และ H2O ได้โดยใช้สัดส่วนของมวลโมเลกุล
มวลโมเลกุลของ HC4 = 4 * 12.01 g/mol = 48.04 g/mol
มวลโมเลกุลของ H2O = 2 * 1.01 g/mol + 16.00 g/mol = 18.02 g/mol
ดังนั้น สัดส่วนปริมาณโมเลกุลระหว่าง HC4 และ H2O คือ 48.04 g/mol : 18.02 g/mol
เราสามารถเทียบสัดส่วนปริมาณโมเลกุลกับอัตราการแพร่ได้ดังนี้:
(48.04 g/mol / 18.02 g/mol) = x : 1
x = (48.04 / 18.02) ≈ 2.665
ดังนั้น อัตราการแพร่ของ HC4 ต่อ H2O จะเป็นประมาณ 2.665 เท่า

สำหรับ CO2 มีอัตราการแพร่ต่อ H2O ดังนี้:


มวลโมเลกุลของ CO2 = 12.01 g/mol + (2 * 16.00 g/mol) = 44.01 g/mol
มวลโมเลกุลของ H2O = 2 * 1.01 g/mol + 16.00 g/mol = 18.02 g/mol
เราสามารถเทียบสัดส่วนปริมาณโมเลกุลระหว่าง CO2 และ H2O ได้โดยใช้สัดส่วนของมวลโมเลกุล:
(44.01 g/mol / 18.02 g/mol) ≈ 2.44
ดังนั้น อัตราการแพร่ของ CO2 ต่อ H2O ประมาณ 2.44 เท่า
แบบฝึกหัด เรื่องการแพร่
Ex.6แก๊สต่อไปนี้แก๊สใดมีอัตราการแพร่เป็น 3 เท่าของการแพร่ของไอน้ำ
1.He
2.H2
3.HC4
4.CO2
ในคำถาม Ex.6 ที่กล่าวถึงแก๊สที่มีอัตราการแพร่เป็น 3 เท่าของการแพร่ของไอน้ำ คำตอบที่ถูกต้องหรือเหมาะสม
ที่สุดคือ:

1. He (ฮีเลียม) - คำตอบนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากโมเลกุล He มีโมเลกุลเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่สามารถมีอัตราการ


แพร่เป็น 3 เท่าของการแพร่ของไอน้ำ (H2O) ได้

2. H2 (ไฮโดรเจน) - คำตอบนี้เป็นไปได้ เนื่องจากโมเลกุล H2 ประกอบด้วยอะตอมไฮโดรเจน 2 ตัว ซึ่งมี


อัตราส่วนความเร็วของโมเลกุลในแก๊ส H2 เทียบกับไอน้ำ (H2O) เป็นเท่ากัน ดังนั้น อัตราการแพร่ของแก๊ส H2
สามารถเป็น 3 เท่าของอัตราการแพร่ของไอน้ำ (H2O) ได้

3. HC4 (เฮกซาน) - คำตอบนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก HC4 ไม่ใช่แก๊สที่เป็นรูปประกอบของโมเลกุลเดียว เราไม่


สามารถเปรียบเทียบอัตราการแพร่ระหว่าง HC4 และ H2O ได้อย่างตรงไปตรงมา

4. CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์) - คำตอบนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก CO2 ไม่ใช่แก๊สที่มีอัตราการแพร่เป็น 3 เท่าของ


การแพร่ของไอน้ำ (H2O) โดยตรง

ดังนั้นคำตอบที่ถูกต้องหรือเหมาะสมที่สุดคือ H2 (ไฮโดรเจน)
แบบฝึกหัด เรื่องความดันรวม
Ex 3. ถ้าอัตราการแพร่ของแก๊สชนิดหนึ่งเป็น 1 ใน 4 ของแก๊ส C2H2 ภายใต้
ภาวะเดียวกัน มวลโมเลกุลของแก๊สนี้มีค่าเป็นเท่าใด

ในกรณีนี้ เราสามารถใช้ข้อมูลส่วนของอัตราการแพร่ของแก๊สเพื่อหาค่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้ได้

เราทราบว่าอัตราการแพร่ของแก๊สนี้เป็น 1 ใน 4 ของแก๊ส C2H2 ที่อยู่ในภาวะเดียวกัน

ภาวะเดียวกันในที่นี้หมายถึง ตัวอย่างเดียวกันของแก๊สทั้งสองที่มีอุณหภูมิและความดันเท่ากัน

ในกรณีที่อัตราการแพร่เป็น 1 ใน 4 หมายถึงว่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้จะเป็น 1/4 ของมวลโมเลกุลของแก๊ส


C2H2

เราจะต้องทราบค่ามวลโมเลกุลของแก๊ส C2H2 เพื่อหาค่ามวลโมเลกุลของแก๊สนี้ ซึ่งมวลโมเลกุลของแก๊ส


C2H2 เท่ากับ 26 g/mol

ดังนั้น มวลโมเลกุลของแก๊สนี้คือ 1/4 ของ 26 g/mol


= 26/4 g/mol
= 6.5 g/mol

ดังนั้น มวลโมเลกุลของแก๊สนี้มีค่าเป็น 6.5 g/mol

You might also like