You are on page 1of 9

หมู่บ้านพุกชนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

พุกชนฮันอกมาอึล เป็ นหมู่บา้ นดั้งเดิมของเกาหลี ที่มีประวัติยาวนานที่เรี ยกว่า ฮันอก ตั้งอยูร่ ะหว่าง


พระราชวังเคียงบก พระราชวังชางด็อก และศาลเจ้าชงมโย ในกรุ งโซล (Seoul) ซึ่ งเป็ นเมืองในพื้นที่ ของจัง
หวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ในประเทศเกาหลีใต้ คำว่า พุกชน (Bukchon, 북촌) มีความหมาย
ว่า “หมู่บา้ นทางเหนือ” ตามตำแหน่งที่ต้ งั ของหมู่บา้ นที่อยูท่ างทิศเหนือของคลองชองกเยชอน
(Cheonggyecheon Stream) และย่านชุงโน (Jongno) หมู่บา้ นแห่งนี้ มีลกั ษณะเป็ นตรอกซอกซอย อันเป็ นที่
ตั้งของ บ้านแบบดั้งเดิมกว่าร้อยหลัง และเป็ นที่เก็บรักษา สภาพแวดล้อมของเมืองไว้ เพื่อเป็ นการบอกเล่า
ประวัติศาสตร์ และเป็ นมรดกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ที่มีอายุกว่า 600 ปี
ถือเป็ นชุมชนเก่าซึ่ งเคยเป็ นพื้นที่ ที่อยูอ่ าศัยสำหรับสมาชิกราชวงศ์ และครอบครัวของเจ้าหน้าที่ระดับสู ง ใน
สมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) ในบริ เวณนี้ บา้ นเรื อนเกาหลี หลายแบบที่แตกต่างกัน บ้านส่ วนใหญ่
สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1910 ถึงปี ค.ศ. 1920 รวมไปถึงบ้านที่มีรูปแบบสถาปั ตยกรรมสไตล์เมือง ตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1930 นอกเหนือไปจากการเดินเล่นโดยรอบของหมู่บา้ น ซึ่ งมีจุดสวยงามให้ถ่ายรู ปหลายแห่งแล้ว ยังมี
สถานที่โดยรอบของหมู่บา้ น เพื่อเป็ นการเรี ยนรู ้และดื่มด่ำไปกับ วัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม ได้เป็ นอย่างดี
เช่น ศูนย์วฒั นธรรมประเพณี พกุ ชน (Bukchon Traditional Culture Center) และบรรดาร้านค้าหลากหลาย
ได้แก่ ร้านอาหาร, ร้านชา เป็ นต้น

โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower)


เป็ นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโซล เปิ ดให้บริ การมาตั้งแต่ปี 1980 ตั้งอยูบ่ นยอดเขานัมซัง สู ง
236 เมตร ให้วิวเมืองโซลและบริ เวณรอบๆแบบ พาโนราม่า นับว่าเป็ นหนึ่งในทาวเวอร์ที่ให้วิวสวยที่สุดใน
เอเชีย โซลทาวเวอร์ ได้รับการ renovate ใหม่ปี 2005 จึงได้ชื่อใหม่เป็ น N Seoul Tower โดย N ที่เพิ่มขึ้นมา
นั้นย่อมาจาก new look หรื อ รู ปแบบใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการต่างๆ ทั้งการให้แสงไฟที่
หลากหลายและสวยงามขึ้น รวมถึงภายในที่ตกแต่งใหม่ โดยมีร้านอาหารบนหอคอยที่จะหมุนครบรอบทุกๆ
48 นาที ชื่อว่า N Grill และห้องน้ำตกแต่งสไตล์อวกาศ จุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยว Seoul Tower
นัน่ ก็คือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่จะมีความรัก
ที่ยนื ยาวไปตลอดกาล โดยที่จะเขียนข้อความหรื อชื่อของคู่รักไว้บนแม่กญ ุ แจ แล้วนำไปคล้องไว้กบั ราว
เหล็กบริ เวณฐานของ N Seoul Tower นัน่ เอง สามารถจองตัว๋ เข้าชมหอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ (N Seoul
Tower) ได้กบั Traveloka เพราะตอนนี้มีเปิ ดบริ การใหม่ให้สามารถจองที่เที่ยวเกาหลีได้ล่วงหน้า ไม่ตอ้ งเสี ย
เวลาต่อคิว สามารถจองที่เที่ยวแล้วแพลนทริ ปได้เลย ง่าย สะดวก และรวดเร็ วแบบนี้ ทำให้การเที่ยวเกาหลี
ของคุณง่ายขึ้นเยอะ

ลอตเต้ เวิลด์ (롯데월드; Lotte World)


ล็อตเต้เวิลด์ต้ งั อยูท่ างตะวันออกเฉียงใต้ของกรุ งโซลในย่านซงพา ภายในโครงการขนาดใหญ่น้ ีประกอบไป
ด้วย ล็อตเต้เวิลด์แอดเวนเจอร์ (Lotte World Adventure) ซึ่ งเป็ นสวนสนุกในร่ มขนาดใหญ่อนั ดับต้นๆ ของ
โลก นอกจากนี้ยงั มีส่วนของห้างล็อตเต้เวิลด์มอลล์ (Lotte World Mall), พิพิธภัณฑ์สตั ว์น ้ำล็อตเต้เวิลด์
(Lotte World Aquarium) และอาคารล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ (Lotte World Tower) ที่สามารถขึ้นไปชมวิวมุม
สู งได้อีกด้วย
ล็อตเต้เวิลด์แอดเวนเจอร์เปิ ดในปี ค.ศ.1989 ไฮไลท์ของสวนสนุกแห่งนี้คือเครื่ องเล่นที่ล ้ำสมัยและ
เป็ นสวนสนุกในร่ มจึงสามารถเล่นได้แทบทุกสภาพอากาศ โดยมีเครื่ องเล่นถึง 50 ชนิดให้นกั ท่องเที่ยวได้
เลือกเล่นตามใจชอบ โดยมีท้ งั แบบตื่นเต้นเร้าใจอย่างรถไฟเหาะตีลงั กา ไปจนถึงเครื่ องเล่นสบายๆ อย่างม้า
หมุน โดยเครื่ องเล่นที่เป็ นที่นิยมที่สุดคือ World Monorail กับ Hot Air Balloon Ride เพราะสามารถมองเห็น
วิวสวนสนุกได้จากมุมสูง
นอกจากนี้จากบริ เวณสวนสนุกยังสามารถเดินทะลุไปถึงห้างล็อตเต้เวิลด์มอลล์ ห้างนี้ เปิ ดทำการใน
ปี ค.ศ.2014 เป็ นอีกหนึ่งแหล่งชอปปิ งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยมีท้ งั สิ นค้าแบรนด์เนมและ
สิ นค้าทัว่ ไปหลากหลายชนิด รวมทั้งมีลอ็ ตเต้มาร์ทให้เดินเลือกชมสิ นค้า ขนม และของฝากในราคามิตรภาพ
อีกด้วย ใกล้กบั ห้างล็อตเต้เวิลด์มอลล์เป็ นที่ต้ งั ของล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ซ่ ึ งเป็ นตึกที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้
โดยมีความสู ง 555 เมตร มีท้ งั หมด 123 ชั้น มีไฮไลท์อยูท่ ี่ช้ นั โซลสกาย (Seoul Sky) ซึ่ งเป็ นจุดชมวิวบนชั้น
123 ที่สามารถมองเห็นวิวของกรุ งโซลจากด้านบนได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Busan Gamcheon Culture Village)


พูซานคัมชอนมุนฮวามาอึล (Busan gamcheonmunhwama-eul, 부산 감천문화마을) เป็ น
หมู่บา้ นที่เกิดจากการตั้งรกราก ย้ายถิ่นฐานของชาวเกาหลี ซึ่ งหนีภยั จากสงครามเกาหลี ในระหว่างปี ค.ศ.
1950 -1953 และอาศัยอยูจ่ นถึงปัจจุบนั อยูท่ ี่เมืองปูซาน (Busan) ซึ่ งเป็ นเมืองในพื้นที่ของจังหวัดคยองซังใต้
(คยองซังนัมโด, Gyeongsangnam-do), ประเทศเกาหลีใต้ หมู่บา้ นแห่งนี้ นับเป็ นสถานที่ที่เก็บรักษา และ
ดำรงไว้ซ่ ึ งประวัติความเป็ นมา ของเมืองปูซาน (Busan) และเป็ นส่ วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ของ
ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยลักษณะการสร้างบ้านเรื อนผ่านถนนทุกสาย ที่เรี ยงรายไปตามแนวภูเขา จนเป็ นขั้น
บันไดที่เป็ นระเบียบ และดูสวยงามแปลกตา ไปกับสี สนั ที่สลับไปมาของตัวบ้านและหลังคา จึงกลายเป็ น
เอกลักษณ์สำคัญของหมู่บา้ นแห่งนี้ จนได้รับฉายาว่า “มาชูปิกชูแห่งปูซาน” (Machu Picchu of Busan) ในปี
ค.ศ. 2015 ศิลปิ นท้องถิ่นและชาวบ้านในหมู่บา้ น ได้รวมตัวกันในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมฝาผนัง
และผลงานประติมากรรมต่างๆ เพื่อฟื้ นฟูคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และลักษณะอันเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะของ
หมู่บา้ นโดยจัดทำโครงการศิลปะหมู่บา้ น (Village Art Project) โดยมีแนวคิดพื้นฐาน 3 ประการ คือ “ชาว
บ้านอาศัยอยูใ่ นเมืองที่ดี, นักท่องเที่ยวที่เป็ นมิตรมาเยือน และเป็ นหมู่บา้ นที่ยงั่ ยืนอยูไ่ ด้ดว้ ยตัวเอง” ซึ่ ง
โครงการดังกล่าวกลายเป็ น ก้าวสำคัญก้าวแรกของหมู่บา้ น ซึ่ งทำให้สถานที่แห่งนี้ กลายเป็ นจุดหมายปลาย
ทางยอดนิยม และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 1.4 ล้านคนในแต่ละปี นอกเหนือไปจากความสวยงามแปลก
ตา ของหมู่บา้ นแห่งนี้แล้ว ภายในหมู่บา้ นยังมีสถานที่ และสิ่ งอำนวยความสะดวก ซึ่ งทำให้คุณเพลิดเพลิน
ไปกับการเดินท่องเที่ยวภายในหมู่บา้ น ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก, ร้านศิลปะ, ร้านขายของที่ระลึก, คาเฟ่ ,
ร้านกาแฟ, ร้านอาหารหลากหลายประเภท และอื่นๆ อีกมากมาย
เปิ ดตลอดทั้งปี ไม่มีวนั หยุด ค่าเข้าชม ฟรี

ถนนตลาดเมียงดง (Myeongdong Street Market)


มยองดง (Myeongdong, 명동) เป็ นหนึ่งในย่านช้อปปิ้ ง ที่เต็มไปด้วยร้านรวงขายสิ นค้านานาชนิด รวมไป
ถึงร้านอาหารหลากหลายประเภท ทั้งอาหารเกาหลี และอาหารจานด่วนนานาชาติ และเป็ นถนนช้อปปิ้ งที่
มีชื่อเสี ยง ของกรุ งโซล (Seoul) ซึ่ งเป็ นเมืองในพื้นที่ ของจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ใน
ประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารรถเข็นแนว Street Food และมีหา้ งสรรพสิ นค้าขนาดใหญ่อีก
หลายแห่ง ตั้งอยูบ่ นถนนและตรอกซอกซอย จึงเป็ นสถานที่ซ่ ึ งคุณ สามารถเลือกซื้ อเลือกหา สิ นค้านานา
ประเภทได้ตามใจชอบ ได้แก่ เสื้ อผ้าแฟชัน่ , รองเท้า, เครื่ องสำอาง และอื่นๆ อีกมากมาย ย่านมยองดงใน
สมัยราชวงศ์โชซอน เคยเป็ นย่านที่อยูอ่ าศัยที่เรี ยกว่า มยองรเยบัง (Myeongryebang,) ต่อมาในช่วงยุค
อาณานิคมของญี่ปุ่น ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็ น มยองชิจอง (Myeongchijeong,) และเริ่ มเข้าสู่ การเป็ นย่านการค้า
หลังจากได้รับอิสระภาพในปี ค.ศ. 1946 บริ เวณนี้ ได้ถูกกำหนดให้เป็ น เขตการปกครองอย่างเป็ นทางการ
ของมยองดง (Myeongdong) เศรษฐกิจทางการค้าในย่านนี้ เริ่ มเจริ ญเติบโตนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เป็ นย่านที่
มีอาคารสู ง, ห้างสรรพสิ นค้า, ภัตตาคาร และร้านค้าหรู หรา และอื่นๆ จนกลายเป็ นย่านแห่งความทันสมัย
สำหรับหนุ่มสาวในยุค 70 และยังเป็ นสถานที่หลัก ในการประท้วงทางการเมืองอีกด้วย นอกเหนือไปจาก
การเป็ นย่านสำหรับการจับจ่ายใช้สอยแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ โรงละครมยองดง
(Myeongdong Theater) ซึ่ งเป็ นโรงละครที่มีความจุ 588 ที่นงั่ และเป็ นสถานที่ยอดนิยม สำหรับการจัดแสดง
และจัดกิจกรรมหลากหลายประเภท เช่น การแสดง, การประกวด และงานเทศกาลต่างๆ อีกด้วย สำหรับ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่นๆ ในย่านนี้ ได้แก่ โบสถ์มยองดง (Myeongdong Catholic Cathedral Seoul),
ห้างสรรพสิ นค้าชินเซแก (Shinsegae Department Store), ห้างสรรพสิ นค้าล็อตเต้ดิวตี้ฟรี (LOTTE Duty Free
Shop), พิพิธภัณฑ์แสตมป์ เกาหลี (Korea Postage Stamp Museum) และพิพิธภัณฑ์ธนาคารเกาหลี (Bank of
Korea Museum) เป็ นต้น

สวนสาธารณะฮานึล (Haneul Park)


ฮานึลกงวอน (Haneul Park) ซึ่ งหมายถึงสวนสาธารณะท้องฟ้ า (Sky Park) และเป็ นหนึ่งในสวนห้าแห่งของ
เวิลด์คพั พาร์ค (World Cup Park) ซึ่ งเป็ นสวนระบบนิเวศขนาดใหญ่ ของกรุ งโซล (Seoul) ซึ่ งเป็ นเมืองใน
พื้นที่ ของจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ในประเทศเกาหลีใต้
ฮานึลเวิลด์คพั พาร์ค (Haneul World Cup Park) เป็ นสวนสาธารณะแห่งที่สอง ซึ่ งถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ฝัง
กลบขยะ ของเกาะ ตั้งอยูท่ ี่ระดับความสูง 98 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีชื่อเสี ยงทางด้านภูมิทศั น์ที่
งดงาม ของเส้นทางผ่านทุ่งหญ้า ไปยังยอดเขาที่มีทิวทัศน์อนั กว้างไกล รวมถึงเป็ นที่อยูอ่ าศัย ของผีเสื้ อหลาก
สี สนั สวยงามกว่า 30,000 ตัว สวนแห่งนี้ยงั เป็ นสวนที่มีความสู งที่สุด ในบรรดาสวนทั้งหมดของเวิลด์คพั
พาร์ค (World Cup Park) ซึ่ งคุณสามารถเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ของกรุ งโซล (Seoul) ได้แก่ ภูเขาบุกฮันซาน
(Bukhansan Mountain), ภูเขานัมซาน (Namsan Mountain) และแม่น ้ำฮัน (Han River) เป็ นต้น
ไร่ ชาเขียวโอซุลลอค O'Sulloc เกาะเชจูเกาหลีใต้
พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อค (O’Sulloc Green Tea Farm And Museum) เปิ ดครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี ค.ศ.
2001 ตั้งอยูท่ างตอนใต้ของภูเขาฮัลลาซาน เป็ นบริ เวณที่มีการปลูกทุ่งชาเขียวที่ยาวสุ ดลูกหูลูกตา
โครงสร้างของสถาปัตยกรรมพิพิธภัณฑ์น้ ี มองดูคล้ายๆ กับถ้วยชา วางอยูต่ รงกลางโดยมีทุ่งชาเขียวโอบล้อม
เอาไว้ ซึ่ งพิพิธภัณฑ์แห่ งนี้จดั แสดงและบอกเล่าประวัติความเป็ นมา และวัฒนธรรมการชงชาของเกาหลี
มีชาหลากหลายชนิดที่จดั แสดงไว้ รวมไปถึงอุปกรณ์และเครื่ องมือที่ใช้ในการชงชา นอกจากท่านจะได้
สัมผัสกับความเป็ นมาของชาแล้ว ท่านจะยังได้ลิ้มรสอันหอมหวานของผลิตภัณฑ์ที่ท ำจากชาเขียว เช่น
ไอศกรี มชาเขียว ชาเย็น คุกกี้ และขนมเค้ก ซึ่ งจะมีให้ท่านได้เลือกชิมหรื อเลือกซื้ อผลิตภัณฑ์และของที่ระลึก
เหล่านี้ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นอิสระท่านได้ถ่ายรู ปท่ามกลางทุ่งชาเขียวกับถ้วยชาขนาดยักษ์ที่ต้ งั อยูก่ ลางทุ่ง
ชาอันกว้างใหญ่ ร้าน O'Sulloc ชาเขียวของที่นี่เป็ นชาจากไร่ osullo บนเกาะเชจู เครื่ องดื่ม ขนม และ
ไอศกรี มทำจากชาเขียวแท้ๆ น่าทานมากๆ โดยไร่ ชาที่เกาะเซจูน้ นั จะมีพิพิธภัณฑ์ชา ที่บอกเราวัฒนธรรมที่
เกี่ยวกับชาเกาหลีไม่วา่ จะเป็ นการปลูกชา หรื อการชงชา ที่นี่เมนูจะทำจากชาหลากหลายไม่วา่ จะเป็ น เครื่ อง
ดื่มทั้งชาร้อน ทั้งเย็น เบเกอรี่ เมนูสุดฮิตอีกเช่นกันไม่วา่ เค้ก แยมโรล และ ไอศกรี ม เมนูที่นี่ท ำจากชาเขียว
ระดับพรี เมี่ยมทำให้รสชาติของขนมกลมกล่อมมากๆ สำหรับคนที่รักชาเขียวร้านนี้ ถือเป็ นสวรรค์เลยก็วา่
ได้ เมนูที่นี่ท ำจากชาเขียวระดับพรี เมี่ยมทำให้รสชาติของขนมกลมกล่อมมากๆ สำหรับคนที่รักชาเขียวร้านนี้
ถือเป็ นสวรรค์เลยก็วา่ ได้ นอกจากเมนูอร่ อยๆแล้วในร้านยังมีเครื่ องสำอางที่มีส่วนประกอบจากชาเขียวแท้ๆ
อีกมากมายให้เลือกซื้ อ รวมถึงชา,อุปกรณ์ชงชา
วัดแฮดง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple)
Haedong Yonggungsa Temple ตั้งอยูบ่ นชายฝั่งตะวันออกเฉี ยงเหนือ ของเมืองปูซาน (Busan) ซึ่ งเป็ นเมือง
ในพื้นที่ของ จังหวัดคยองซังใต้ (คยองซังนัมโด) เป็ นวัดที่สร้างบนเหล่าโขดหินริ มชายหาด ที่แตกต่างไป
จากวัดส่ วนใหญ่ ซึ่ งมักจะสร้างอยูต่ ามเชิงเขา ในประเทศเกาหลีใต้ วัดแห่งนี้ก่อตั้งโดย พระผูย้ ิง่ ใหญ่ซ่ ึ งมี
นามว่า พระนาองซูโดซา (Monk Naong) ซึ่ งเป็ นที่ปรึ กษาของกษัตริ ยค์ งมินวังแห่งโครยอ (King Gongmin
of Goryeo; ค.ศ. 1351 – ค.ศ. 1374)ในขณะที่เขาฝึ กบำเพ็ญตน อยูท่ ี่วดั พุนฮวังซา (Bunhwangsa,) ในเมือง ค
ยองจู (Gyeongju) ของจังหวัดคยองซังเหนือ (คยองซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do) ซึ่ งในขณะนั้นเกิด
เหตุการณ์ภยั แล้ง ทำให้ยากลำบากต่อการเพาะปลูก และทำให้ผคู ้ นต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก
และรู ้สึกไม่พอใจต่อสิ่ งศักดิ์สิทธิ์ อยูม่ าวันหนึ่ง เทพแห่งท้องทะเลปรากฏในนิมิตร ของพระนาองซูโดซา
(Monk Naong) และกล่าวว่าหากพวกเขาสร้างวัดที่ขอบของ ภูเขาพงแรซาน (Bongrae Mountain,) และ
อธิ ษฐานที่นนั่ ความยากลำบากเหล่านี้ท้ งั หมดก็จะหายไป และจะได้รับความสุ ขกลับมา หลังจากนั้น พระนา
องซูโดซา (Monk Naong) ได้ไปเยีย่ มชมบริ เวณ ซึ่ งเป็ นที่อยูข่ องวัดในปั จจุบนั โดยเล็งเห็นว่ามีภูเขาอยูด่ า้ น
หน้า และทะเลอยูด่ า้ นหลัง ซึ่ งหมายความว่า ถ้าพวกเขากล่าวคำอธิษฐานในตอนเช้า พวกเขาจะได้รับคำตอบ
ในตอนเย็น เขาสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ และตั้งชื่อวัดเป็ นชื่อเดียวกับภูเขาว่า วัดพงแรซา (Bongraesa Temple)
โดยคำว่า “พงแร (Bongrae)” หมายถึง บางสิ่ งที่ลึกลับและบริ สุทธิ์ ซึ่ งเป็ นคำที่มาจากคำว่า “โพมุน
(Bomun)” อันหมายถึง พลังที่แท้จริ งและไร้ขีดจำกัด ของพระโพธิ สตั ว์แห่งความเมตตา หรื อในภาษาเกาหลี
เรี ยกว่า ควานเซอึมโพซัล (Gwanseumbosal) ต่อมาในภายหลังวัดแห่งนี้ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็ น วัดโพมุน
(Bomunsa Temple) น่าเสี ยดายที่วดั ถูกทำลายบางส่ วนด้วยไฟ ในระหว่างการรุ กรานของประเทศญี่ปุ่น ซึ่ ง
ต่อมาในช่วงต้นปี ค.ศ. 1930 พระอุนกังซูโดซา แห่งวัดทงโดซาได้ท ำการบูรณะและสร้างวัดขึ้นมาใหม่ และ
ผ่านการบูรณะหลายต่อหลายครั้ง โดยพระภิกษุอีกจำนวนหลายรู ป ซึ่ งได้ท ำการฟื้ นฟู และปรับปรุ งด้วย
ความพิถีพิถนั เพื่อให้คงไว้ซ่ ึ งเอกลักษณ์ และความงดงามแบบดั้งเดิม จนกระทัง่ พระชุงอัมซูโดซา (ได้
ภาวนาว่าขอให้วดั แห่งนี้ เป็ นสถานที่ทางพระธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ยิง่ ใหญ่ ด้วยการการอธิ ษฐาน 100
วัน และเขาได้นิมิตรเห็น พระพุทธรู ปองค์ใหญ่ในชุดคลุมสี ขาว ที่ดา้ นหลังขององค์พระมีมงั กรที่แผ่ล ำแสง
ห้าสี โดยหลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อของวัด ซึ่ งเป็ นชื่อของวัดที่ใช้อยูใ่ นปัจจุบนั คือ วัดแฮดงยงกุงซา
เมื่อคุณเดินเท้าเข้าสู่ วดั แห่งนี้ จากประตูซุม้ มังกรสี ทองอร่ าม เดินผ่านอุโมงค์ขนาดเล็ก ไปสู่ บนั ไดหิ น 108
ขั้นและโคมไฟหิน ซึ่ งเป็ นจุดสำหรับชมวิว และความงดงามของท้องทะเลสี ฟ้าคราม
ก่อนจะเดินต่อลงไปสูบริ เวณซึ่ งเป็ นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรู ปศักดิ์ สิทธิ์ องค์สีด ำ ซึ่ งตั้งตระหง่านอยูบ่ น
โขดหิ น และมีทอ้ งทะเลกว้างเป็ นฉากหลังและเมื่อคุณเดินไปตามสะพานที่ทอดยาว และนำพาคุณเข้าสู่
บริ เวณภายในของวัด ซึ่ งประกอบไปด้วยวิหารและศาลา ที่เรี ยงรายลดหลัน่ กันไปตามโขดหิ น โดยบริ เวณ
ด้านหน้าของวิหารหลัก มีเจดียห์ ินสูง 3 ชั้น และสิ งโต 4 ตัว เป็ นสัญลักษณ์ของความสนุก, ความโกรธ,
ความเศร้า และความสุ ข นอกจากนี้ ภายในวัด ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิม, พระสังกัจจายน์องค์สีทองอร่ าม, ศาล
เจ้า และพุทธสถานอื่นๆ อีกหลายแห่ง วัดแห่งนี้เป็ นสถานที่ศกั ดิ์สิทธิ์ และสวยงาม เหมาะสำหรับการมาชม
พระอาทิตย์ข้ ึนในยามเช้า และมักเป็ นสถานที่ ซึ่ งเหล่าพุทธศาสนิกชนในเกาหลี พากันมาอธิ ษฐานขอพรใน
วาระต่างๆ รวมไปถึงในวันขึ้นปี ใหม่ ตามคำขวัญของวัดแห่งนี้ที่วา่ “อย่างน้อยหนึ่งในความปรารถนาของ
คุณ จะได้รับการตอบรับ ผ่านการสวดอ้อนวอนที่จริ งใจของคุณ”

ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) ปูซาน


ปูซานเป็ นเมืองชายทะเล และมีตลาดปลาที่สำคัญประจำเมืองคือ ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) เป็ น
ตลาดปลาและอาหารทะเล ทั้งแบบสด และแบบตากแห้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี อีกหนึ่งแลนมาร์คของเมือง
ปูซาน ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) อยูต่ รงข้ามกับ BIFF Square : ถนนอาหาร แห่ง ปูซาน สตรี ทฟู้ ด
สถานี Jagalchi ทางออก 10
ในส่ วนที่เป็ นตลาดกลางแจ้ง มีบรรดาพ่อค้าแม่คา้ นำอาหารทะเลสดๆ มาวางขาย ทั้งแบบซี้ อกลับบ้าน และ
แบบเปิ ดเป็ นร้าน พร้อมบริ การปรุ งอาหาร ในหลากหลายรู ปแบบทั้งทอด, ต้ม, ย่าง และอื่นๆ อีกหลาย
รายการอาหาร สำหรับแม่คา้ ขายปลาในตลาดแห่งนี้ มักถูกเรี ยกว่า ชากัลชี่อาจุมม่า (Jagalchi Ajumma) ซึ่ งคำ
ว่า “อาจุมม่า” ใช้เป็ นคำเรี ยกแทนหญิงวัยกลางคน หรื อผูห้ ญิงที่แต่งงานแล้วนัน่ เองบริ เวณด้านหลังของ
ตลาดกลางแจ้ง ซึ่ งติดกับท่าเรื อ เราจะมีโอกาสได้สมั ผัส กับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองปูซาน จากลานประมูล
อาหารทะเล ที่เพิ่งขนถ่ายลงมาจากเรื อประมง ไปจนถึงการบรรจุลงกล่อง และขนถ่ายขึ้นไปยังรถ หรื อร้าน
ค้า ของผูท้ ี่ชนะการประมูลกันเลยทีเดียว ในส่ วนที่เป็ นอาคาร ซึ่ งเป็ นอีกหนึ่งสัญลักษณ์เด่น ในแผนที่ท่อง
เที่ยวของเมืองปูซานนั้น ภายในบริ เวณชั้นล่างของอาคาร เป็ นส่ วนของร้านขายของทะเลสดๆ ที่เราสามารถ
เลือกซื้ อ และสัง่ ปรุ งเป็ นซาชิมิ พร้อมน้ำจิ้ม แล้วเดินไปนัง่ ที่บริ เวณด้านหลังของอาคาร ซึ่ งติดกับท่าเรื อ นัง่
ชิมลิ้มลองอาหารทะเลสด พร้อมกับชมวิวของท่าเรื อ โดยมีนกนางนวลบินว่อนเป็ นเพื่อน ก็ท ำให้รู้สึกผ่อน
คลายและสนุกไปอีกแบบ สำหรับที่ช้ นั สองของอาคาร เป็ นบริ เวณสำหรับนัง่ รับประทาน โดยคุณสามารถ
นำอาหารทะเลสดๆ ที่เลือกซื้ อมาจากด้านล่าง แล้วนำมาให้ร้านอาหารที่ช้ นั สอง ปรุ งรสแบบสดใหม่ได้ตาม
ต้องการ ซึ่ งต้องจ่ายค่าปรุ งอาหารในราคาที่แตกต่างไปตามแต่ละเมนู

งานเทศกาลปูซานจากัลชิ Busan Jagalchi Festival (부산 자갈치축제) เป็ นงานเทศกาลซึ่ งถูกจัด


ขึ้น ในเดือนตุลาคมของทุกๆ ปี ที่ตลาดแห่งนี้ยงั เป็ นเจ้าภาพ ในการจัดงานเทศกาลอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุด
ของประเทศเกาหลีใต้

You might also like