You are on page 1of 15

4 น่ ยการเรียนรู้ที่

การดารงชี ติ ของพืช

ตั ชี้ ัด

• ทด อบและบอกชนิดของ ารอา ารที่พืช ังเคราะ ์ได้


• ืบค้นข้อมูล อภิปราย และยกตั อย่างเกี่ย กับการใช้ประโยชน์จาก ารต่างๆ ที่พืชบางชนิด ร้างขึ้น
• ออกแบบการทดลอง ทดลองและอธิบายเกี่ย กับปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
• ืบค้นข้อมูลเกี่ย กับ ารค บคุมการเจริญเติบโตของพืชที่มนุ ย์ ร้างขึ้น และยกตั อย่างการนามาประยุกต์ใช้ทางด้านการเก ตรของพืช
• ังเกตและอธิบายการตอบ นองของพืชต่อ ิ่งเร้าในรูปแบบต่างๆ ที่มีผลต่อการดารงชี ิต
เซลล์พชื
2
เยื่อหุม้ เซลล์ ผนังเซลล์
ไรโบโซม
คลอโรพลาสต์
แวคิวโอล

ไมโทคอนเดรีย
ไซโทพลาซึม

นิ วเคลียส
กระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง
ปัจจัยในการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง ปฏิกิริยาการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง
ของพืช
แก๊ ออกซิเจน
แง
ตัว เร่ ง ปฏิ กิริยา

1 แ ง เป็ น พลั ง งาน ทาใ ้ เกิ ด ปฏิ กิ ริย า


เคมี ร ะ ่ า งแก๊ คาร์ บ อนไดออกไซด์
และน้า
2 แก๊ ส คาร์ บ อนไดออกไซด์ (CO2 ) ที่ แก๊ คาร์บอนไดออกไซด์
ผลผลิตจาก
เกิดจากการ ายใจของพืชและ ัตว์ จะ น้าตาลกลูโค กระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง
ใ ้ธาตุคาร์บอน (C) แก่พืช เพื่อนาไปใช้
ร้าง ารประกอบคาร์โบไฮเดรต น้าตาลกลูโค 1 น้าตาลกลูโ ค (C6 H12 O6 ) จากกระบ นการ
ังเคราะ ์ด้ ยแ ง
3 น้า (H2 O) จากการดูดซึมจากดิน ฝน • ถู ก น า ไ ป ใ ช้ ใ น ก ร ะ บ น ก า ร า ย ใ จ เ พื่ อ
รือไอน้าในอากา จะใ ้ธาตุไฮโดรเจน เปลี่ยนเป็นพลังงาน
(H) และธาตุออกซิเจน (O) แก่พืช และ • ถูกเปลี่ยนเป็นแป้งและเก็บ ะ มไ ้ที่ ใบ ลาต้น
น้า
เมื่ อ ร มกั บ ธาตุ ค าร์ บ อน จากแก๊ และรากของพืช
ค า ร์ บ อ น ไ ด อ อ ก ไ ซ ด์ จ ะ ไ ด้ เ ป็ น • ถูกนาไป ร้างเซลลูโล ซึ่งเป็น ่ นประกอบของ
ารประกอบคาร์โบไฮเดรต น้า ผนังเซลล์ของพืช
4 คลอโรฟิลล์ (chlorophyll) เป็นรงค • ถูกเปลี่ยนเป็น ารประกอบต่าง ๆ เช่น โปรตีน
ัตถุที่พบในคลอโรพลา ต์ของเซลล์พืช ไขมัน
ท า น้ า ที่ ดู ด กลื น พลั ง งานแ ง ี จ าก 2 แก๊ ออกซิเจน (O2 ) ถูกนาไปใช้ในกระบ นการ
ายใจของพืช และคายออกทางปากใบเพื่อใช้ใน
แ งแดด การ ายใจของ ัต ์ต่าง ๆ
าร ังเคราะ ์จากพืช
ารประกอบปฐมภูมิ (primary metabolite)
ารที่ได้มาจากกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง ร มทั้ง ารอื่น ๆ ที่เกี่ย ข้องในกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ ง

คาร์โบไฮเดรต
ารที่ได้จากกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ งของพืช อยู่ในรูปน้าตาลโมเลกุลเดี่ย และ ารประกอบพอลิแซ็กคาไรด์ เช่น แป้ง เซลลูโล ซึ่ง
ถูกใช้เป็น ัตถุดิบเพื่อแปรรูปในอุต า กรรมอา าร อุต า กรรม ิ่งทอและเครื่องนุ่ม ่ม

โปรตีน
ประกอบด้ ยกรดอะมิ โ น เอนไซม์ และ ารอนุพั น ธ์ของกรดอะมิโ น ถูกน ามาใช้ ในทางการแพทย์ ในการยั บ ยั้ งการ ร้า ง ารตั้ งต้น ของ
คอเล เตอรอล ยับยั้งการตกตะกอนของเกล็ดเลือด ลดอาการท้องอืด ลดค ามดันโล ิต และยับยั้งการทางานของเชื้อราบางชนิด

ไขมัน
ในน้ามันพืชบางชนิด จะพบ ารเบต้าซิโท เตอรอล (β-sitosterol) ซึ่งเป็น ารตั้งต้นในการผลิตยา เตียรอยด์ และ ารกลุ่มอะซีโทเจนิน
(acetogenins) ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย และใช้เป็น ารกาจัดแมลง
าร ังเคราะ ์จากพืช
ารประกอบทุติยภูมิ (secondary metabolites)
ารประกอบที่เกิดจากการนา ารประกอบปฐมภูมิต่าง ๆ ที่ได้มาจากกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ยแ งมาผ่านกระบ นการชี ังเคราะ ์ของพืช

อัลคาลอยด์
• มอร์ฟีน (morphine) จากยางของผลฝิ่น ใช้รัก าอาการเจ็บป ดจากบาดแผลที่มีขนาดใ ญ่
• โคลชิซีน (colchicine) ใช้รัก าโรคเก๊าท์
• ค ินิน (quinine) ใช้รัก าโรคมาลาเรีย

ารกลุ่มฟินอลิก
• านิลลิน (vanillin) เป็น ารตั้งต้นผลิต านิลลาที่ใช้ในอุต า กรรมอา ารและเครื่องดื่ม
• แทนนิน (tannins) ใช้ในอุต า กรรมการฟอก นัง ัต ์ ใช้ทาลายเชื้อราและแบคทีเรีย ยับยั้งอาการของโรคมะเร็ง
• แอนโทไซยานิน (anthocyanin) เป็น าร ีที่ละลายน้าได้ ใช้ในอุต า กรรมอา ารและเครื่องดื่ม
• ฟลาโ นอยด์ (flavonoid) ใช้เป็นยารัก าอาการท้องร่ ง อาการฟกช้า

เทอร์พีนอยด์และ เตียรอยด์
• แคโรทีนอยด์ (carotenoid) ใช้ในอุต า กรรมเครื่อง าอาง
• เบต้าแคโรทีน (β-carotene) ใช้ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง
• แทกซอล (taxol) ใช้เป็นยารัก าโรคมะเร็ง
• ตี ิโ อไซด์ (stevioside) ใช้เป็น ารใ ้ค าม านแทนน้าตาล และถูก
นามาใช้ใน อุต า กรรมอา ารและเครื่องดื่ม
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
ปัจจัยภายนอก ภาพแ ดล้อมต่างๆ ในบริเ ณที่พืชเจริญเติบโต ซึ่งปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช มีดังนี้

น้า H2 O แง เป็นปัจจัยในกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ย


แ งเพื่อ ร้างอา ารของพืช
เป็นปัจจัย ในกระบ นการ ั งเคราะ ์ด้ ยแ งเพื่ อ
ร้างอา ารของพืช เกี่ย ข้องกับปฏิกิริยาต่าง ๆ ใน
พืช ช่ ยเคลื่อนที่ของ ารในเซลล์พืช รัก าอุณ ภูมิ
ภายในพืช
CO2
O2 แก๊ คาร์บอนไดออกไซด์
แก๊ ออกซิเจน
จาเป็นต่อกระบ นการ ายใจระดับเซลล์ และ เป็นปัจจัยในกระบ นการ ังเคราะ ์ด้ ย
กระบ นการ ลาย ารอา าร แ งเพื่อ ร้างอา ารของพืช

ธาตุอา าร ลัก ธาตุอา ารรอง


แร่ธาตุ
จาเป็นต่อการเจริญเติบโต และการดารงชี ิตของพืช
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ธาตุอา าร ลัก และธาตุอา ารรอง
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายในที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช คือ ฮอร์โมนพืช (plant hormone) ซึ่งเป็น ารอินทรีย์ในกลุ่มของโปรตีนที่พืช
ังเคราะ ์ขึ้นจากบริเ ณเนื้อเยื่อ ่ นใด ่ น นึง่ ของพืช และลาเลียงไปยังเนื้อเยื่อเป้า มายเพื่อค บคุมการเจริญเติบโตของพืช
แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใ ญ่ ดังนี้
เอทิลีน (ethylene) ออกซิน (auxin)
แ ล่ง ร้าง : ผลไม้ (ช่ งใกล้ ุก) แ ล่ง ร้าง : เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด ใบอ่อน
บทบาท : กระตุ้นการ ุกของผลไม้ การ ลุดล่ งของใบ การ บทบาท : กระตุ้นการขนาดของเซลล์ การเจริญของลาต้น
ผลัดใบตามฤดูกาล การเกิดรากฝอยและรากแขนง และราก การออกดอกและการเจริญ ของผล ยั บ ยั้ ง การ
เจริญของตาข้าง ชะลอการ ลุดร่ งของใบ ดอก และผล

ไซโทไคนิน (cytokinins)
แ ล่ง ร้าง : เนื้อเยื่อเจริญปลายราก
บทบาท : กระตุ้นการแบ่งเซลล์ การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
ของเซลล์ การเจริญของตาข้าง ยับยั้งการพักตั ของเมล็ด กรดแอบไซซิก (abscisic acid)
ค บคุมการเปิด-ปิดของปากใบในที่ไม่มีแ ง แ ล่ง ร้าง : เมล็ด ใบ ราก
บทบาท : ยับยั้งการเจริญและการยืดตั ของเซลล์ ค บคุม
จิบเบอเรลลิน (gibberellin) การปิดของปากใบในช่ งที่พืชขาดน้าเพื่อ ลดการคายน้า
แ ล่ง ร้าง : เมล็ดขณะกาลังพัฒนา ปลายยอด กระตุ้นการ ลุดล่ งของใบ ยับยั้งการเจริญของตาข้าง
ปลายราก อับเรณู ผล
บทบาท : กระตุ้ นเซลล์ บริเ ณล าต้น ใ ้ ยื ด ตั และแบ่ ง
เซลล์ กระตุ้นการงอกของเมล็ดและตาข้าง เพิ่มการออก
ดอกและติดตา
การตอบ นองต่อ ิ่งเร้าของพืช
การตอบ นองต่อ ิ่งเร้าของพืชทาใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง รีร ิทยาของพืช และ ่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยแ ดงออกในลัก ณะการเคลื่อนไ
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
ทรอปิกมูฟเมนต์ (tropic movement) เป็นการเคลื่อนไ ของพืชที่มีทิ ทาง ัมพันธ์กับ ิ่งเร้าภายนอก

1 การเคลื่อนไ ที่ตอบ นองต่อแ ง (phototropism) 3 การเคลื่อนไ ที่ตอบ นองต่อแรงโน้มถ่ งของโลก (geotropism)


• การตอบ นองของพืชโดยการเจริญเข้า า รือ นี • การตอบ นองของพืชโดยการเจริญเข้า า รือ นีจากแรง
จากแ ง เช่น การโค้ งล าต้ นเข้ า าแ งของพื ช โน้มถ่ งของโลก เช่น การเจริญของรากพืชเข้า าแรงโน้มถ่ ง
การ ันเข้า าแ งของดอก ของโลกเพื่อรับน้าและแร่ธาตุจากดิน การเจริญของยอดต้าน
แรงโน้มถ่ งของโลกเพื่อชูใบรับแ ง

4 การเคลื่อนไ ที่ตอบ นองต่อ ารเคมี (chemotropism)


2 การ ัมผั ิ่งเร้า (thigmotropism) • การตอบ นองของพืชโดยการเจริญเข้า า รือ นีจาก ารเคมี เช่น การงอกของ
• การตอบ นองของพืชโดยมีการ ัมผั เป็น ิ่งเร้า ทา ลอดเรณูไปยังรังไข่ของพืชเพื่อการปฏิ นธิ ซึ่งมี ารเคมีจากรังไข่เป็น ิ่งเร้า
ใ ้เกิดการเคลื่อนไ ของพืช เช่น การเกี่ย พันของ
มือเกาะของตาลึง แตงก า กระทกรก
5 การเคลื่อนไ ที่ตอบ นองต่อน้า (hydrotropism)
• การตอบ นองของพืชโดยเจริญเข้า า รือ นีจากน้า เช่น การเจริญของรากพืชเข้า
าน้า รือค ามชื้น เพื่อดูดซึมน้าเข้า ู่ลาต้น
การตอบ นองต่อ ิ่งเร้าของพืช
แน ติกมูฟเมนต์ (nastic movement) การเคลื่อนไ ของพืชที่ตอบ นองแบบไม่มีทิ ทางที่ ัมพันธ์กับ ิ่งเร้า
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณน้าในเซลล์ การเปลี่ยนแปลงแรงดันเต่งภายในเซลล์ รือการเจริญเติบโตของ ่ นต่างๆ ไม่เท่ากัน

การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของใบเพื่อจับแมลงของต้นกาบ อยแครง เมื่อมีแมลงมา ัมผั ใบที่มี


ลัก ณะเป็นกระเปาะจะ ุบทันที

การบานของดอกบั ในเ ลากลาง ัน และ ุบในเ ลากลางคืน

การ ุบใบของต้นไมยราบอย่างร ดเร็ เมื่อถูก ัมผั

You might also like