You are on page 1of 4

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ฝ่ ายมัธยม

แผนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ วิทยาศาสตร์


ช่ วงชัน้ ที่ 4 ชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 6
รหัสวิชา ว 33225 รายวิชา เคมี 5
จำนวนหน่ วยเรียน 1.5 จำนวนคาบ 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
สาระที่ 3 ส า ร แ ล ะ ส ม บ ัต ขิ อ ง ส า ร
มาตรฐาน 3.1 เข้ าใจสมบัตขิ องสาร ความสัมพันธ์ ระหว่ างสมบัตขิ องสารกับโครงสร้ างและ
แรงยึดเหนี่ยวระหว่ างอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยา
ศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรี ยนรู้ และนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์
หน่ วยที่ 13 สารชีวโมเลกุล จำนวนคาบ 18 คาบเรี ยน

1. ผ ล ก า ร เ ร ีย น ร ู้
1. อธิบายโครงสร้ างของโปรตีน คาร์ โบไฮเดรต ลิพิด และกรดนิวคลีอิกได้
2. บอกสมบัติ และวิธีทดสอบไขมัน โปรตีนและคาร์ โบไฮเดรตได้
3. บอกประโยชน์ของโปรตีน คาร์ โบไฮเดรต ลิพิด และกรดนิวคลีอิกได้
4. ทำการทดลอง รวบรวมข้ อมูล แปลความหมายข้ อมูล และสรุปผลการทดลองในเรื่ องต่อไปนี ้
4.1 ก า ร ท ด ส อ บ โ ป ร ต ีน ใ น อ า ห า ร
4.2 ก า ร แ ป ล ง ส ภ า พ โ ป ร ต ีน
4.3 ส ม บ ตั ิข อ ง เ อ น ไ ซ ม ์
4.4 ส ม บ ตั ิบ า ง ป ร ะ ก า ร ข อ ง ค า ร ์ โ บ ไ ฮ เ ด ร ต
4.5 ก า ร ล ะ ล า ย ข อ ง ไ ข ม นั แ ล ะ น ้ำ ม นั ใ น ต วั ท ำ ล ะ ล า ย บ า ง ช น ิด
4.6 ป ฏ ิก ิร ิย า ไ ฮ โ ด ร ล ิซ ิส น ้ำ ม นั พ ืช ด ้ ว ย โ ซ เ ด ีย ม ไ ฮ ด ร อ ก ไ ซ ด ์

2. สาระการเรียนรู้
1. อาหารประกอบด้ ว ยสารต่าง ๆ อาหารต่างชนิด กัน จะประกอบด้ วยสารอาหารที่ร่า งกาย
น ำ ไ ป ใ ช ้ ป ร ะ โ ย ช น ์ไ ด ้ แ ต ก ต า่ ง ก นั
2. สารอาหารประเภทโปรตีน คาร์ โ บไฮเดรต ลิพ ิด และกรดนิว คลีอ ิก จัด เป็ น สารชีว โมเลกุล
3. โปรตีนเป็ นสารประกอบอินทรี ย์ที่พบมากที่สดุ ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต มีธาตุคาร์ บอน ไฮโดรเจน
อ อ ก ซ ิเ จ น แ ล ะ ไ น โ ต ร เ จ น เ ป ็ น อ ง ค ์ป ร ะ ก อ บ ห ล กั
4. โปรตีนเป็ นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีมวลโมเลกุลสูง เมื่อถูกไฮโดรไลส์อย่างสมบูรณ์ จะได้
สารที่มีโ มเลกุล ขนาดเล็ก เรี ย กว่า กรดอะมิโ น ซึง่ มีท งชนิ ั ้ ด ที่ร่า งกายสัง เคราะห์ไ ด้ เ องและ
ส งั เ ค ร า ะ ห ์เ อ ง ไ ม ไ่ ด ้
5. ก ร ด อ ะ ม ิโ น ท ี่ส ิ่ง ม ีช ีว ิต ส งั เ ค ร า ะ ห ์เ อ ง ไ ม ไ่ ด ้ เ ร ี ย ก ว า่ ก ร ด อ ะ ม ิโ น จ ำ เ ป็ น
6. กรดอะมิโนประกอบด้ วยไฮโดรเจน หมูอ่ ะมิโนอย่างน้ อย 1 หมู่ และกรดคาร์ บอกซิลิก อย่างน้ อย
1 ห ม ู่ ต อ่ อ ย กู่ บั ค า ร ์ บ อ น ใ น ต ำ แ ห น ่ง แ อ ล ฟ า
7. โปรตีนแต่ละชนิดมีล ำดับการเรี ยงตัวของกรดอะมิโ นที่จ ำเพาะและมีการจัดโมเลกุลให้ เกิด
โ ค ร ง ส ร ้ า ง ส า ม ม ิต ิท ี่เ ห ม า ะ ส ม ก บั ก า ร ท ำ ห น ้ า ท ี่ต า่ ง ๆ
2

8. เ อ น ไ ซ ม ์เ ป็ น โ ป ร ต ีน ท ี่ท ำ ห น ้ า ท ี่เ ร ่ง ป ฏ ิก ิร ิ ย า เ ค ม ีใ น เ ซ ล ล ์ส ิ่ง ม ีช ีว ิต


9. เอนไซม์จะทำหน้ าที่ได้ ดีเมื่ออยูใ่ นสภาพที่เหมาะสม แต่ถ้าสภาพเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีอณ ุ หภูมิ
ส งู ม า ก pH เ ป ล ี่ย น แ ป ล ง เ อ น ไ ซ ม ์จ ะ ไ ม ส่ า ม า ร ถ ท ำ ห น ้ า ท ี่ไ ด ้
10. การทำลายพันธะเพปไทด์ พันธะไฮโดรเจนหรื อการเปลี่ยนแปลงลำดับกรดอะมิโนในโปรตีนจะ
ท ำ ใ ห้ โ ค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง โ ป ร ต ีน เ ป ล ี่ย น ไ ป เ ร ี ย ก ว า่ ก า ร แ ป ล ง ส ภ า พ โ ป ร ต ีน
11. คาร์ โบไฮเดรตเป็ นสารอาหารที่ให้ พลังงานแก่สิ่งมีชีวิต เมื่อจำแนกตามจำนวนหน่วยย่อยที่เป็ น
อ ง ค ์ป ร ะ ก อ บ จ ะ ไ ด้ ม อ น อ แ ซ ก็ ค า ไ ร ด ์ ไ ด แ ซ ก็ ค า ไ ร ด ์แ ล ะ พ อ ล ิแ ซ ก็ ค า ไ ร ด ์
12. มอนอแซ็กคาไรด์เป็ นหน่วยย่อยที่เล็กที่สดุ ของคาร์ โบไฮเดรต ไดแซ็กคาไรด์เกิดจากการรวมตัว
ของมอนอแซ็กคาไรด์ 2 โมเลกุล ส่วนพอลิแซ็กคาไรด์ประกอบด้ วยมอนอแซ็กคาไรด์หลาย ๆ
โ ม เ ล ก ลุ เ ช ื่อ ม ต อ่ ก นั
13. การไฮโดรไลส์ไ ดแซ็ก คาไรด์แ ละพอลิแ ซ็ก คาไรด์อ ย่า งสมบูร ณ์จ ะได้ ม อนอแซ็ก คาไรด์
14. ลิพดิ เป็ นสารชีวโมเลกุลที่ประกอบด้ วยธาตุหลักคือคาร์ บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน นอกจากนี ้
อาจประกอบด้ ว ยธาตุไ นโตรเจนและฟอสฟอรัส ตัว อย่า งของลิพ ิด เช่น ไขมัน และน้ำมัน
15. ไขมัน และน้ำมัน เป็ น เอสเทอร์ ท ี่เ กิด จากปฏิก ิร ิ ย าระหว่า งกลีเ ซอรอลกับ กรดไขมัน
16. กรดไขมัน มีท งชนิั ้ ด อิ่ม ตัว และไม่อ ิ่ม ตัว ส่ว นใหญ่มีจ ำนวนอะตอมของคาร์ บ อนเป็ น เลขคู่
17. ก ร ด ไ ข ม นั อ ิ่ม ต วั ม ีจ ดุ ห ล อ ม เ ห ล ว ส งู ก ว า่ ก ร ด ไ ข ม นั ไ ม อ่ ิ่ม ต วั
18. ไขมันหรื อน้ำมันที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็ นกรดไขมันอิ่มตัวจะมีสถานะเป็ นของแข็งแต่ถ้า
องค์ป ระกอบส่ว นใหญ่เ ป็ น กรดไขมัน ไม่อ ิ่ม ตัว จะมีส ถานะเป็ น ของเหลวที่อ ณ ุ หภูม ิห้ อ ง
19. ไขมันหรื อน้ำมันที่เก็บไว้ เป็ นเวลานานจะเหม็นหืนได้ เนื่องจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน หรื อ
ป ฏ ิก ิร ิย า ไ ฮ โ ด ร ล ิซ ิส
20. โมเลกุล ของไขมันและน้ำมันไม่ล ะลายในน้ำแต่ล ะลายได้ ด ีในตัวทำละลายอินทรี ย์ จึง เป็ น
โ ม เ ล ก ลุ ไ ม ม่ ีข วั ้
21. ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสไขมันหรื อน้ำมันด้ วยเบส ได้ เกลือโซเดียมของกรดไขมันหรื อสบูเ่ รี ยกว่า
ป ฏ ิก ิร ิย า ส ะ ป อ น น ิฟ ิ เ ค ช นั
22. โมเลกุลของสบูม่ ีทงส่ ั ้ วนที่มีขวและส่
ั้ วนที่ไม่มีขวั ้ จึงละลายได้ ทงในน้ำและน้ำมั
ั้ น ทำให้ มีสมบัติ
ใ น ก า ร ล ้ า ง ไ ข ม นั แ ล ะ ส ิ่ง ส ก ป ร ก จ า ก เ ส ื ้อ ผ ้ า แ ล ะ ร ่า ง ก า ย ไ ด ้
23. เมื่อใช้ สบูใ่ นน้ำกระด้ าง แคลเซียมไอออนและแมกนีเซียมไอออนในน้ำกระด้ างจะทำปฏิกิริยา
ก บั ส บ เู่ ก ิด ต ะ ก อ น ท ี่ไ ม ล่ ะ ล า ย น ้ำ
24. โมเลกุลของสารซักฟอกประกอบด้ วยส่วนที่มีขวและส่ ั้ วนที่ไม่มีขวเช่
ั ้ นเดียวกับสบู่ แต่ไม่เกิด
ต ะ ก อ น ก บั ไ อ อ อ น ข อ ง แ ค ล เ ซ ีย ม แ ล ะ แ ม ก น ีเ ซ ีย ม ใ น น ้ำ ก ร ะ ด ้ า ง
25. นอกจากไขมันและน้ำมันแล้ วยังมีลิพิดอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้ แก่ ฟอสโฟลิพิด ไข และสเตรอยด์
26. ฟอสโฟลิพิด เป็ นเอสเทอร์ ของกลีเซรอลที่เกิดจากการรวมตัวของกลีเซอรอล 1 โมเลกุลกับกรด
ไ ข ม นั 2 โ ม เ ล ก ลุ แ ล ะ ห ม ฟู่ อ ส เ ฟ ต 1 ห ม ู่
27. ฟอสโฟลิพดิ จะมีสมบัติหรื อพฤติกรรมคล้ ายกับไอออนลบของกรดไขมันคือมีโครงสร้ างส่วนหัวที่
ม ีข วั ้ แ ล ะ ส ว่ น ห า ง ไ ม ม่ ีข วั ้
28. ไขเป็ น เอสเทอร์ ข องกรดไขมัน กับ แอลกอฮอล์ ณ อุณ หภูม ิห้ อ ง มีส ถานะเป็ น ของแข็ง ที่มี
จ ดุ ห ล อ ม เ ห ล ว ต ่ำ
3

29. ไขมีหลายชนิดขึ ้นอยูก่ บั ชนิดของธาตุและแอลกอฮอล์ที่เป็ นองค์ประกอบ ไขทุกชนิดไม่ละลาย


น ้ำ ท ำ ห น ้ า ท ี่ห ล อ่ ล ื่น แ ล ะ ป้ อ ง ก นั ก า ร ส ญ ู เ ส ีย น ้ำ ไ ด ้ ด ีม า ก
30. สเตรอยด์เป็ นลิพิดที่มีโครงสร้ างเฉพาะ ประกอบด้ วยวงคาร์ บอนที่เชื่อมต่อกัน เรี ยกโครงสร้ าง
พ ื ้น ฐ า น ข อ ง ส เ ต ร อ ย ด ์ว า่ เ ป อ ร ์ ไ ฮ โ ด ร ไ ซ โ ค ล เ พ น ท า โ น ฟ ี แ น น ท ร ี น
31. สเตรอยด์ไม่ละลายน้ำ แต่ละลายได้ ในไขมันหรื อตัวทำละลายอินทรี ย์ สารสเตรอยด์มีหลาย
ประเภทอาจแบ่งเป็ นกลุม่ ใหญ่ ๆ ได้ เป็ นคอเลสเทอรอล ฮอร์ โมนอะดรี โนคอร์ ติคอยด์ ฮอร์ โมน
เ พ ศ แ ล ะ ก ร ด น ้ำ ด ี
32. คอเลสเทอรอลที่สงั เคราะห์ขึ ้นในร่างกาย ทำหน้ าที่เป็ นสารตังต้ ้ นสำหรับการสังเคราะห์ สเตรอย
ด ์อ ื่น ใ น ร ่า ง ก า ย
33. คอเลสเทอรอลมีความจำเป็ นสำหรับการดำรงชีวติ แต่ถ้ามีจำนวนมากจะถูกสะสมและทำให้
เ ก ิด ก า ร อ ดุ ต นั ข อ ง เ ส ้ น เ ล ือ ด
34. ฮอร์ โมนอะดรี โนคอร์ ติคอยด์เป็ นสเตรอยด์ที่ถกู สังเคราะห์ขึ ้นที่ตอ่ มอะดีนลั ทำหน้ าที่เกี่ยวกับ
กระบวนการควบคุม สมดุล ของน้ำและอิเ ล็ก โทรไลต์ รวมทังการเผาผลาญโปรตี ้ น และ
ค า ร ์โ บ ไ ฮ เ ด ร ต
35. ก ร ด น ้ำ ด ีถ กู ส งั เ ค ร า ะ ห ์จ า ก ค อ เ ล ส เ ท อ ร อ ล ท ี่ต บั แ ล ะ ถ กู ส ะ ส ม ไ ว้ ใ น ถ งุ น ้ำ ด ี
36. กรดนิว คลีอิก เป็ น สารที่มีโ มเลกุล ใหญ่ค ล้ า ยโปรตีน ประกอบด้ ว ยธาตุคาร์ บอน ไฮโดรเจน
อ อ ก ซ ิเ จ น ไ น โ ต ร เ จ น แ ล ะ ฟ อ ส ฟ อ ร ัส
37. ร่า งกายสามารถส งั เคราะห์ก รดนิว คลีอ ิก ได้ จ ากกรดอะมิโ นและคาร์ โ บไฮเดรต
38. กรดนิวคลีอิกมีหน้ าที่เก็บและถ่ายทอดข้ อมูลทางพันธุกรรมรวมทังควบคุ ้ มการสังเคราะห์โปรตีน
เ พ ื่อ ไ ป ท ำ ห น ้ า ท ี่ต า่ ง ๆ ใ น เ ซ ล ล ์
39. กรดนิวคลีอิกที่พบในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตมี 2 ชนิด คือ กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิกหรื อ DNA และ
ก ร ด ไ ร โ บ น ิว ค ล ีอ ิก ห ร ื อ RNA
40. DNA มีโ ครงสร้ า งเป็ น แบบเกลีย วคู่ ส่ว น RNA เป็ น แบบสายเดี่ย วทัง้ DNA และ RNA ล้ วน
ป ร ะ ก อ บ ด ้ ว ย ห น ว่ ย ย อ่ ย ๆ ซ งึ่ เ ร ี ย ก ว า่ น ิว ค ล ีโ อ ไ ท ด ์
41. นิวคลีโอไทด์ประกอบด้ วยหน่วยย่อย 3 ส่วนคือ น้ำตาลเพนโทส เบสที่มีไนโตรเจนในโมเลกุล
แ ล ะ ฟ อ ส เ ฟ ต
42. นิวคลีโอไทด์ของ DNA และ RNA ประกอบด้ วยหน่วยย่อยที่เหมือนกัน แต่ตา่ งกันที่ชนิดของน้ำ
ต า ล เ พ น โ ท ส แ ล ะ ช น ิด ข อ ง เ บ ส
43. นิวคลีโอไทด์ของ DNA ประกอบด้ วยน้ำตาลดีออกซีไรโบสและเบสไซโตซีน ไทมีน อะดีนีน
กวานีน ส่วนนิวคลีโอไทด์ของ RNA ประกอบด้ วยน้ำตาลไรโบสและเบสยูราซิล ไซโตซิน อะดีนีน
แ ล ะ ก ว า น ีน

3. กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับสารอินทรี ย์โมเลกุลใหญ่เพื่อนำไปสูข่ ้ อสรุปเรื่ อง สารชีวโมเลกุล
ซ งึ่ แ บ ง่ เ ป็ น 4 ก ล มุ่ ค ือ โ ป ร ต ีน ค า ร ์ โ บ ไ ฮ เ ด ร ต ล ิพ ิด แ ล ะ ก ร ด น ิว ค ล ีอ ิก
2. ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับสารประเภทโปรตีนเกี่ยวกับลักษณะของสาร โครงสร้ าง องค์
ประกอบ ก า ร ท ด ส อ บ ช น ิด ข อ ง โ ป ร ต ีน แ ล ะ ป ฏ ิก ิร ิ ย า ท ี่เ ก ี่ย ว ข ้ อ ง
3. ครูให้ นกั เรี ยนทำการทดลองเกี่ยวกับการทดสอบโปรตีนในอาหาร โดยใช้ สารละลาย
4

ไ บ ย เู ร ต
4. ครูอ ธิบ ายโครงสร้ า งของโปรตีน ในรูป ต่า ง ๆ 4 ระดับ (ปฐมภูม ิ ทุต ิย ภูม ิ ตติย ภูม ิ
จต รุ ภ มู ิ) และอธิบ า ย ห น้ า ท ี่ข อ งโ ปร ต ีน แต ล่ ะ ชน ิด (โ ปรต ีน เส้ น ใย โ ปร ต ีน ก้ อ น ก ล ม )
5. ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับเอนไซม์ซงึ่ เป็ นโปรตีนชนิดหนึง่ นอกจากนี ้ยังทำการทดลองเกี่ยว
ก บั ส ม บ ตั ิข อ ง เ อ น ไ ซ ม ์แ ล ะ ป ั จ จ ยั ท ี่ม ีผ ล ต อ่ ก า ร ท ำ ง า น ข อ ง เ อ น ไ ซ ม ์
6. ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับการแปลงสภาพของโปรตีน และให้ นกั เรี ยนทำการทดลองเพื่อให้
ได้ ข้อสรุปที่วา่ ความร้ อน กรด เบส เอทานอลและพวกโลหะหนัก จะมีผลต่อการแปลงสภาพของ
โ ป ร ต ีน
7. ครูอธิบายเกี่ยวกับคาร์ โบไฮเดรตประเภทต่าง ๆ (น้ำตาลและแป้ง) โดยระบุถึงชนิดและ
โครงสร้ าง สมบัติ ปฏิกิริยา การทดสอบ และให้ นกั เรี ยนทำการทดลอง เพื่อให้ ได้ ข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติ
ข อ ง ค า ร ์โ บ โ ฮ เ ด ร ต
8. ครูอธิบายเกี่ยวกับสารที่เรี ยกว่า ลิพิด (ไขมันและน้ำมัน ฟอสโฟลิพิด ไข สเตรอยด์) ซึง่
ม ีค ว า ม แ ต ก ต า่ ง ก นั ใ น เ ร ื่ อ ง ข อ ง โ ค ร ง ส ร ้ า ง ส ม บ ตั ิ แ ล ะ ป ฏ ิก ิร ิ ย า
9. ครูนำอภิปรายในเรื่ องของไขมันและน้ำมัน เพื่อให้ ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับ สมบัติ โครงสร้ าง
ปฏิกิริยา และให้ นกั เรี ยนทำการทดลอง การละลายของไขมันและน้ำมัน ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของไขมัน
แ ล ะ น ้ำ ม นั เ พ ื่อ น ำ ข ้ อ ส ร ุป ไ ป ใ ช ้ บ อ ก ค ว า ม แ ต ก ต า่ ง ข อ ง ส า ร เ ห ล า่ น ี ้
10. ครูนำอภิปรายในเรื่ องของฟอสโฟลิพิด ไขและสเตรอยด์ เกี่ยวกับโครงสร้ าง ชนิดและ
ส ม บ ตั ิข อ ง ส า ร แ ต ล่ ะ ป ร ะ เ ภ ท
11. ครูอธิบายสารเกี่ยวกับโครงสร้ างของนิวคลีโอไทด์ DNA และ RNA ที่เรี ยกว่ากรดนิว
ค ล ีอ ิก ท ี่พ บ ใ น ส ิ่ง ม ีช ีว ิต

4. ก า ร ว ัด แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ ม ิน ผ ล
1. ส งั เ ก ต พ ฤ ต ิก ร ร ม น กั เ ร ี ย น ข ณ ะ ท ำ ก า ร ท ด ล อ ง แ ล ะ ก า ร ร ่ว ม อ ภ ิป ร า ย
2. ประเมิน จา กงาน ที่ไ ด้ ร ับ มอบห มา ยท งในส ั้ ว่ นรา ย ง าน เพ ิ่ม เต ิม แล ะแบบฝึ ก ห ดั
3. ป ร ะ เ ม ิน จ า ก แ บ บ ท ด ส อ บ ย อ่ ย แ ล ะ แ บ บ ท ด ส อ บ ท ้ า ย บ ท เ ร ี ย น

5. สื่อการเรียนรู้ /แหล่ งการเรียนรู้


1. แ บ บ เ รี ย น เ ค ม ี เ ล ม่ 5 ส า ร ะ พ ื ้น ฐ า น แ ล ะ เ พ ิ่ม เ ต ิม ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง ศ กึ ษ า ธิก า ร
2. ห น งั ส ือ ค มู่ ือ เ ต ร ี ย ม ส อ บ ข อ ง ส ำ น กั พ ิม พ ์ต า่ ง ๆ
3. เว็บไซต์ตา่ ง ๆ เกี่ยวกับเรื่ องเคมีอินทรี ย์

You might also like