Professional Documents
Culture Documents
TIAT Newsletter Vol.3 - 2023
TIAT Newsletter Vol.3 - 2023
3 ห น้ า ที่ 1
จดหมายข่าว
สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย
กษัตริย์นักแปล
เนื่องในวันนวมินทรมหาราชา 13 ตุลาคม 2566 และวาระสัตตมวรรษ สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย
ขอร่วมรำลึกและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่แห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูปการใหญ่หลวง
ต่อแผ่นดิน พระเกียรติคุณเป็ นที่แซ่ซ้องก้องประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคต
จะล่วงเลยมาถึง 7 ปี แล้วก็ตาม พสกนิกรทุกหมู่เหล่าก็ยังคงหวนไห้อาลัยถึง
ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมือง
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลาก
หลายด้านตามประจักษ์ หนึ่งในนั้นคือพระอัจฉริยภาพด้านภาษาและวรรณกรรม แม้ทรงเจริญพระชันษาในต่างแดน
และทรงใช้ภาษาต่างประเทศในการศึกษาเล่าเรียน แต่ยังทรงมีพระอัจฉริยภาพในการใช้ภาษาไทยยอดเยี่ยม และทรง
มีพระราชหฤทัยห่วงใยในการใช้และการอนุรักษ์ภาษาไทยของเหล่าพสกนิกรของพระองค์ โดยทรงแสดงออกผ่าน
พระราชนิพนธ์ทรงแต่ง พระราชนิพนธ์ทรงแปล และพระบรมราโชวาทในวโรกาสต่าง ๆ ดังจะขอยกตัวอย่าง
พระราชนิพนธ์ทรงแปลอันโดดเด่นต่อไปนี้ ติโต พระราชนิพนธ์ทรงแปลเรื่องแรกจากหนังสือ Tito ของ
Phyllis Auty ในปี พ.ศ. 2519 เพื่อสื่อสะท้อนเรื่องความสามัคคี การมีผู้นำที่ดี มีความยุติธรรม ติโต คือผู้นำที่ฝ่ าฟั น
อุปสรรคในทุกวิถีทางเพื่อความเป็ นไทของประเทศ เขาทำให้ประเทศยูโกสลาเวียซึ่งมีประชากรหลากหลายชนเผ่า
แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ มารวมตัวกันเป็ นปึ กแผ่นยามประเทศเผชิญวิกฤติ
เพื่อร่วมกันรักษาความอุดมสมบูรณ์และความเจริญของประเทศไว้
ข้อสังเกตในการแปลเรื่องนี้คือ ทรงเลือกใช้ภาษาที่สามัญชนเข้าใจง่าย รวมทั้งการใช้โวหารเปรียบเทียบที่คมคาย
หนังสือ ติโต ได้จัดพิมพ์เป็ นเล่มและจำหน่ายในปี พ.ศ. 2537
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 2
งานพระราชนิพนธ์ที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านวรรณกรรมที่เป็ นที่รู้จักในวงกว้างคือ
พระมหาชนก ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษจาก มหาชนกชาดก ในพระไตรปิ ฎก ทรงตั้ง
พระราชหฤทัยให้เป็ นเครื่องเตือนใจผู้อ่าน ให้มีสิ่งยึดเหนี่ยวใจ เชื่อมั่นในความเพียรที่บริสุทธิ์ ปั ญญาที่เฉียบแหลม
กำลังกายที่สมบูรณ์ เพื่อฝ่ าฟั นอุปสรรค และก่อให้เกิดสัมมาทัศนะในการดำเนินชีวิตและนำพาประเทศให้พัฒนา
ยั่งยืน พระราชนิพนธ์ฉบับนี้ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2539 โดยมีภาพจากฝี พระหัตถ์ประกอบร่วมกับภาพวาด
จากศิลปิ นที่มีชื่อเสียงหลายท่าน
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 3
รายชื่อบทความที่ทรงแปลและเรียบเรียง
พระอัจฉริยภาพด้านการแปลของพระองค์ประจักษ์ชัดเมื่อได้อ่านพระราชนิพนธ์ประเภทต่าง ๆ ที่ทรงแปล
ด้วยทรงใช้ภาษาและสำนวนที่เหมาะสมกับเรื่องที่ทรงแปล และยังทรงพิถีพิถันในการเลือกใช้ศัพท์ บ่อยครัั้งพบว่า
ทรงใช้ศัพท์ แปลก ๆ ในการแปลไทยเป็ นอังกฤษเพิ่มสีสันและสร้างความแตกต่างจากภาษาทั่ว ๆ ไป แต่ต้อง
สอดคล้องกับเนื้อหา นับเป็ นลีลาการใช้คำที่มีคุณสมบัติเฉพาะพระองค์เอง
พระราชนิพนธ์ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็ นพระราชนิพนธ์ทรงแต่ง หรือทรงแปล นอกจากจะแสดงให้เห็นถึง
พระปรีชาสามารถด้านวรรณกรรมแล้ว ยังแฝงแง่คิดทรงคุณค่าและมีประโยชน์สูงสุดแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดมา
พบกับเราได้ที่บูท
K 27
เนื้อหาจดหมายข่าว CONTACT US
สารจากสาราณียกร
ด้วยความนับถือ
วิชรา เกษมทรัพย์
wicharak@gmail.com
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 6
เทคโนโลยีการแปลในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19
โดย WK
เบื้องหลังการจัดงานเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 คือหลากหลายเทคโนโลยีและปั ญญาประดิษฐ์จาก Alibaba Cloud
สองในนั้นคือแอพปลิเคชัน DingTalk for Asian Games และ “เสี่ยวโม่” อวตาร์ปั ญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่
ล่ามภาษามือ
งานแปลในกระบวนการยุติธรรม
ภาคจบ
“ทำอย่างไรจึงจะเป็ นนักแปลขึ้นทะเบียนของสำนักงานศาลยุติธรรม”
โดยนายนพสิทธิ์ มีสินปนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญสำนักงานศาลยุติธรรม สาขาการแปลเอกสารภาษาไทย
เป็ นภาษาอังกฤษและจากภาษาอังกฤษเป็ นภาษาไทย หมายเลขทะเบียน 24/2564
หัวข้อที่ 1. ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลล่ามของศาลยุติธรรมคือใคร
สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมนั้น ได้มีการเปิ ดรับผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาไว้เพื่อเปิ ดโอกาสให้
สหวิชาชีพเหล่านั้นได้ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้เป็ นประโยชน์ต่อกิจการงานด้านการพิจารณาอรรถ
คดีศาลและงานยุติธรรมของประเทศไทย โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้ขึ้นทะเบียนกับศาลนั้นก็จะมีอาทิ ผู้เชี่ยวชาญการ
ตรวจสอบลายนิ้วมือ การปลอมลายมือชื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิควิศวกรรมยานยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ท่านที่สนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับสาขาสหวิชาชีพทั้งหลายที่ศาลรับขึ้นทะเบียนเป็ นผู้เชี่ยวชาญนั้น สามารถเข้าดู
ข้อมูลในเพจของสำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม (Office of Judiciary and Legal Affairs)ได้
https://jla.coj.go.th/th/content/category/articles/id/8/cid/1597
สาขาวิชาชีพนักแปลและล่ามก็เป็ นอีกสาขาหนึ่งที่ศาลได้เปิ ดรับขึ้นทะเบียนบุคคลทั่วไปที่มีความรู้ความสามารถ
ทางภาษาศาสตร์ด้านการแปลเอกสารกฎหมาย และเอกสารประกอบกระบวนการพิจารณาคดี เอกสารสำคัญใน
ทางกฎหมายทั้งหลาย รวมถึงผู้มีความสามารถด้านการล่ามไว้ช่วยเหลืองานราชการศาล ในการดำเนินกระบวน
พิจารณาคดีที่โจทก์หรือจำเลยหรือพยานจำเป็ นต้องมีล่ามไว้คอยแปลข้อความเพื่อให้เกิดความเข้าใจและขจัด
ปั ญหาด้านอุปสรรคทางภาษาให้กับคู่ความทุกฝ่ ายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งในปั จจุบันในส่วนงานล่ามนั้น เข้าใจว่าทางสำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรมได้มอบหมายให้
ส่วนล่ามและการแปล สำนักการต่างประเทศ สำนักงานศาลยุติธรรมเป็ นผู้ดูแลจัดหาล่ามแทน (Interpreter and
Translation Section, office of International Affairs, Office of the Judiciary: OIA)
https://www.facebook.com/oiaintrans
ซึ่งในส่วนนี้ ทางศาลมุ่งเน้นอบรมและรับขึ้นทะเบียนล่ามสำหรับปฏิบัติหน้าที่ในการพิจารณาคดีอาญา และคดี
สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เช่นคดีค้ามนุษย์ ยาเสพติด คดีเกี่ยวกับองค์กร
อาชญากรรมข้ามชาติ การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน การขึ้นทะเบียนล่ามประเภทนี้อาศัยความในประมวลวิธีพิจารณา
ความอาญามาตรา 13 ซึ่งแตกต่างจากล่ามที่ขึ้นทะเบียนโดยสำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรมสมัยก่อนหน้า
ซึ่งเข้าใจว่าเป็ นผู้เชี่ยวชาญด้านการล่าม (พยานที่จะมาเบิกความยืนยันชี้ขาดในกรณีที่มีล่ามซึ่งคู่ความจ้างมาแปล
ความคลุมเครือ คลาดเคลื่อนไปจากที่ควรจะเป็ นหรือไม่ จึงต้องให้ล่ามผู้เชี่ยวชาญเบิกความสนับสนุนชี้ชัด) นั้นมี
บทบาทหน้าที่ในทางกฎหมายตามความในมาตรา 46 ของประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง การขึ้นทะเบียนเป็ นผู้
เชี่ยวชาญด้านการแปลของสำนักงานศาลยุติธรรมนั้นใช้เวลาและใช้ผลงานแปลที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็ นผู้แปลด้วย
ตนเอง โดยกำหนดว่าให้แปลงานภาษาไทยเป็ นอังกฤษ และอังกฤษเป็ นไทยตามจำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนด (ในปี
2554 ที่ผู้เขียนขอขึ้นทะเบียนใช้ทั้งหมด 7 ชิ้น: ไทยเป็ นอังกฤษ 4 อังกฤษเป็ นไทย 3 แยกทำเป็ น 7 ชุด รวม 64 ชุด
ผลงาน)
หัวข้อที่ 2. หน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญสำนักงานศาลยุติธรรมเมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยสำนักกฎหมายและวิชาการซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 อาคารศาลอาญา ถนน
รัชดาภิเษกนั้น เป็ นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกของผู้ทรงคุณวุฒิในด้านนั้น ๆ ของศาลที่ขึ้นทะเบียนมาก่อนหน้าแล้ว
ดังนั้น ในการเบิกความเพื่อสนับสนุน หรือชี้ขาดในประเด็นที่ถกเถียงจึงทำให้ศาลมีข้อมูลอันเป็ นประโยชน์ยิ่งในการ
พิจารณาพิพากษาคดี
หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เชี่ยวชาญสำนักงานศาลยุติธรรมนั้นก็มีบัญญัติไว้ในประมวลจริยธรรม
ผู้เชี่ยวชาญสำนักงานศาลยุติธรรมเช่นเดียวกับวิชาชีพกฎหมาย ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ หรือแม้แต่
ใบประกอบโรคศิลป์ ของวิชาชีพแพทย์เช่นกัน ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องใช้ความเชี่ยวชาญไปเพื่อประโยชน์
สาธารณะตรงตามเจตนาที่ตนได้รับการขึ้นทะเบียน อย่างไรก็ดี ผู้แปลเอกสารที่ได้รับขึ้นทะเบียนจะมีความ
เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยส่วนมากเป็ นด้านกฎหมาย ดังนั้น เมื่อศาลเห็นเอกสารหลักฐานที่แปลและ/หรือจัดทำโดยมี
ผู้เชี่ยวชาญของศาลลงลายมือชื่อรับรอง ก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือและน้ำหนักพยาน เมื่อได้รับความเชื่อมั่น
ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดและถือหลักของความถูกต้องชัดเจนและตรงไปตรงมาตามเอกสาร
เป็ นหลักสำคัญ
อีกหน้าที่คือการถูกหมายเรียกขึ้นเบิกความในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลเพราะด้วยมีข้อพิพาทเรื่องความถูก
ต้องเหมาะสมของคำแปลอันส่งผลอันเป็ นสาระสำคัญต่อรูปคดี
ในประเด็นนี้ขอเน้นย้ำว่าทุกถ้อยคำที่แปลไป หากไม่เข้าใจจะต้องสืบค้น จะต้องสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านนั้น ๆ
เช่น มีคดีหนึ่ง ข้าพเจ้าแปลเกี่ยวกับเรือที่ถูกโจรกรรม เอกสารเทคนิคเกี่ยวกับเรือ
มีความยากและซับซ้อน ข้าพเจ้าจึงจำต้องสืบหาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นมาให้ความกระจ่าง
และใช้วิธีใส่คำเฉพาะนั้นไว้ในวงเล็บ การทำงานที่ข้าพเจ้ายึดมั่นมาเสมอก็คือ อำนวยความยุติธรรมในทางภาษา
สิ่งที่แปลจึงเน้นให้ถูกต้องตรงตามเจตนา ไม่ละเลยแม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ สิ่งที่จะแนะนำก็คือ การแปลเอกสาร
ที่มีเดิมพันทางคดีหรือมีทุนทรัพย์ที่ฟ้ องสูง ๆ จะต้องยิ่งให้ความสำคัญอีกหลายระดับ ไม่ว่าจะเรื่องการสะกดคำ
การปรับตัวเลขปี ค.ศ. กับ พ.ศ. การแปลเรื่องเฉพาะ การแปลคำสบถ คำหยาบ ฯลฯ
แต่ถ้าหากเป็ นการล่ามในคดีที่มีความซับซ้อนของคำศัพท์ เช่นคดีก่อสร้าง คดีทางการเงิน หรือคดีเกี่ยวกับการ
รักษาทางการแพทย์ ในวงการวิชาชีพ จะมีคำศัพท์เฉพาะ แนะนำให้แถลงต่อศาลก่อนที่จะทำหน้าที่ว่า สิ่งที่
เชี่ยวชาญคือคำกฎหมาย แต่หากการเบิกความในระหว่างพิจารณามีคำอื่นที่ใช้กันเป็ นการภายใน
หรือคำไหนที่ไม่ชัด จะต้องขออนุญาตถามคู่ความเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องตรงกัน วิธีนี้ทำให้ข้าพเจ้า
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 0
ทำงานได้โดยไม่กดดันมากเพราะเราไม่ได้รู้ทุกคำและเราไม่ได้เชี่ยวชาญในทุกเรื่อง การทำงานอย่างมืออาชีพเราจึง
จำต้องรับฟั ง สอบถามจากมืออาชีพอื่น ๆ ร่วมด้วยจึงจะทำให้ผลงานออกมาได้เป็ นที่พอใจแก่ทุกฝ่ ายและได้อำนวย
การยุติธรรมอันเป็ นเป้ าหมายสูงสุดในการทำงานทุกครั้งอย่างเต็มประสิทธิภาพ
3.4 ตัวอย่างหนังสือรับรองคำแปลของนักแปลที่ใช้ยื่นหน่วยราชการ
ผมขอขอบคุณทนายสาธิต มณี ผู้ร่างหนังสือรับรองคำแปลฉบับข้างล่างนี้ขึ้น โดยผมนำมาเพิ่มเติมในส่วนข้อมูล
ส่วนบุคคล เช่น คุณวุฒิการศึกษา
หนังสือรับรองคำแปลของผู้แปล
เรียน ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง
(นาย AAAAAA)
บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 1111111111
องค์กรที่รับรองคุณวุ ฒิวิชาชีพนักแปล
ในประเทศไทยมีองค์กรที่จัดสอบวัดระดับวิชาชีพต่าง ๆ แต่องค์กรดังกล่าวก็ยังไม่ใช่องค์กรที่ออกใบอนุญาตแก่นัก
แปลในประเทศไทยแต่อย่างใด ผู้สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบวัดระดับผู้มีวิชาชีพ
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 1
- การจัดทำคำแปลที่ผู้แปลไม่ต้องรับรองคำแปล
เป็ นเอกสารที่ใช้ในบริษัทหรือองค์กร หน่วยงานของตน เป็ นการภายใน มักไม่ต้องลงนามรับรองคำแปล
บริษัทจ้างนักแปลจัดทำข้อบังคับการทำงานของตนหรือประกาศที่ใช้ในบริษัท เป็ นต้น
5. ผมได้รับความอนุเคราะห์จากท่านเจริญชัย อัศวพิริยอนันต์ รองเลขานุการศาลฎีกา ผู้บรรยายกฎหมายแห่งเนติ
บัณฑิตยสภา ที่ให้ความเห็นข้อมูลเกี่ยวกับความรับผิดทางกฎหมายของนักแปลและล่ามในศาล
จึงขอนำข้อเขียนของผู้พิพาษามาเผยแพร่ดังต่อไปนี้
ความสำคัญของล่ามหรือผู้แปลในคดีอาญา ความรับผิดทางกฎหมายของนักแปลหรือล่ามตามประมวลกฎหมาย
อาญา
ความสำคัญของล่ามหรือผู้แปลในคดีอาญา
ผู้ที่เป็ นล่ามแปลไม่ว่าจะเป็ นภาษาต่างประเทศเป็ นภาษาไทยหรือภาษาไทยเป็ นภาษาต่างประเทศและมีหน้าที่ต้องเป็ น
ล่ามในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีไม่ว่าจะเป็ นในชั้นศาล หรือในชั้นพนักงานสอบสวน หากแปลข้อความผิดไป
ในข้อสาระสำคัญ อาจต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 178 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดซึ่งเป็ นเจ้าพนักงานใน
ตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวนให้แปลข้อความหรือความหมายใด แปลข้อความ
หรือความหมายนั้นให้ผิดไปในข้อสำคัญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้ง
ปรับ”
ในการแปลข้อความของล่ามไม่ว่าในชั้นศาลหรือในชั้นพนักงานสอบสวนนั้น ล่ามหรือผู้แปลมีหน้าที่ต้องแปลให้ได้
ความครบถ้วนและถูกต้องตามหลักของเจ้าของภาษานั้น ๆ และการแปลดังกล่าวก็มิได้ถูกจำกัดว่าต้องเป็ นการ
แปลคำพูดเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการแปลเอกสารด้วย เพราะหากพิจารณาคำว่า “ข้อความ” ในมาตรา 178 ดัง
กล่าวจะเห็นได้ว่ากฎหมายมิได้จำกัดลักษณะเฉพาะของการแปลไว้ นอกจากนี้การแปลดังกล่าวก็หาใช่ว่าจะต้อง
แปลทุกตัวอักษรหรือคำพูดครบถ้วนถูกต้องไปเสียทุกคำทั้งหมด เพราะโดยธรรมชาติไม่มีทางที่การแปลจะกระทำ
เช่นนั้นได้โดยเฉพาะแปลคำพูดซึ่งต้องกระทำในขณะนั้น ดังนั้น การแปลที่จะต้องรับผิดในทางอาญากฎหมายจึง
กำหนดว่าต้องเป็ นการแปลโดยมีเจตนาให้ผิดไปในข้อสำคัญ กล่าวคือ
(1) ผู้แปลมีเจตนาแปลให้ผิด และ
(2) ข้อที่ผิดนั้นเป็ นข้อสำคัญ ซึ่งอธิบายได้ว่า ถึงแม้จะมีเจตนาแปลให้ผิดก็ตามแต่ข้อความที่แปลมิได้เป็ นข้อสำคัญ
ผู้แปลก็ยังไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 178 นี้
สำหรับเจตนาแปลให้ผิดนั้น ผู้แปลต้องรู้ว่าคำแปลของตนผิดไปจากภาษาที่ตนแปลตามหลักวิชาการแล้วตนยัง
แปลให้ผิดทั้งที่รู้ข้อความจริงดังกล่าว แต่ถ้าแปลผิดไปเพราะความรู้ทางภาษาไม่ดีพอ ก็อาจถือว่าไม่มีเจตนาแปล
ให้ผิดไปจากความจริงก็ได้
ส่วนข้อสำคัญตามมาตรานี้หมายถึงข้อสำคัญอันเป็ นข้อแพ้ชนะกันในคดี ดังนั้น หากข้อความที่แปลมิได้เป็ นข้อที่มี
ผลต่อการแพ้ชนะในคดีแล้ว ผู้แปลถึงแม้มีเจตนาจะแปลให้ผิดก็ไม่ผิดตามมาตรานี้ เช่น พยานเบิกความว่า IT WAS
CLEARLY THE DEFENDANT STABBED THE VICTIM. แต่ล่ามแปลว่า IT WAS LIKELY THE DEFENDANT
STABBED THE VICTIM. ซึ่งคำว่า CLEARLY กับ LIKELY อาจมีผลให้
ผู้พิพากษายังไม่อาจปั กใจเชื่อว่าเป็ นจำเลยที่เป็ นคนร้ายแทงเหยื่อผู้นั้น
อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่ล่ามหรือผู้แปลที่มีหน้าที่ต้องไปแปลข้อความของพยานหรือเอกสารที่มีการนำสืบในชั้นศาลก็ดี
หรือในชั้นพนักงานสอบสวนก็ดี มีความจำเป็ นต้องระมัดระวังในการแปลของตนเพราะมีผลต่อ
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 2
กระบวนการยุติธรรมซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของคู่ความในคดีได้ ความสำคัญของล่ามหรือผู้แปลที่ต้องเข้าไป
เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมดังกล่าวจึงสมควรได้รับการพิจารณามิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า
บุคคลากรอื่นในหน่วยงานยุติธรรม
บ ท ส รุ ป
1. เอกสารราชการหรือเอกสารอะไรบ้างที่ต้องการแปล และสำหรับยื่นให้หน่วยงานใด?
เอกสารที่จะต้องแปลนั้น ผมเห็นว่าได้แก่เอกสารที่ใช้ในศาล เช่น เอกสารภาษาอังกฤษที่ต้องแปลเป็ นภาษา
ไทยเพื่อยื่นต่อศาลเพื่อใช้นำสืบประกอบการต่อสู้คดีในศาล เป็ นต้น หรือเอกสารที่ต้องนำไปใช้ในต่าง
ประเทศ เช่น เอกสารที่ต้องยื่นเพื่อขอวีซ่าเดินทางไปต่างประเทศ เป็ นต้น
ส่วนคำแปลต้องนำไปยื่นหน่วยงานใดก็ขึ้นอยู่กับว่าคำแปลดังกล่าวต้องนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด
ตัวอย่างหน่วยงานที่เจ้าของคำแปลนำคำแปลไปยื่น เช่น ศาลยุติธรรม กระทรวงต่าง ๆ สถานทูต เป็ นต้น
นับทีละ 7 สู้ขาดใจ!
7 สิ่ ง ม หั ศ จ ร ร ย์ บั น ด า ล ใ จ
COUNTING BY 7S
เราต่างมีพรสวรรค์+พรแสวง
อย่ายอมให้ใครบอกว่า ทำไม่ได้
ถ้าหลงทาง คงต้องทวนกระแส
ต้นไม้ให้ชีวิต(ชีวา)+มากกว่านั้น
ความใส่ใจของเราคือพรวิเศษ
ความสามารถพิเศษของเราเป็น
ประโยชน์ต่อผู้อื่ น
ไอติม คือเคล็ดลับในการเปิดใจ
เราเลือกแปลเล่มนี้เพราะชื่อเรื่อง แล้วก็ได้'เรื่อง'จริงๆ
ตัวเอกชื่อวิลโลว์ เป็ นเด็กหญิงกำพร้า อายุ 12 ขวบ ชอบตัวเลข
ชอบต้นไม้ ช่างสังเกต มุ่งมั่น ไม่จำนนต่อโชคชะตา
#ภัค*นี้หลงลักษณ์หนังสือเด็ก
ขอขอบคุณ:
อาจารย์นฤเบศ สมฤทธิ์ ผู้จุ ดประกายการตั้งชื่อหนังสือ
อาจารย์ผ่องศรี ลือพร้อมชัย ผู้แนะนำโครงการ
คุณนฤมล อิทธิวิวัฒน์ บรรณาธิการตรวจแก้ต้นฉบับแปล
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 5
พื้นที่ทำงานวิถีฟรีแลนซ์
รีวิวสถานที่นั่งทำงานนอกบ้าน โดย ป้ าวิ
ฉบับนี้ขอพาชาวฟรีแลนซ์เปลี่ยนบรรยากาศ ออกมารับอากาศ
สดชื่นอาบไอทะเลพร้อมจิบกาแฟคุณภาพขณะทำงานไปด้วย
Inthanin CU Co-Study Space Angsila เป็นบูทีกคาเฟ
ริมทะเลอ่างศิลา ชลบุรี อยู่ในพื้นที่ใกล้ตึกแดงและตึกขาว และ
“อ่างหิน” ที่ต่อมาเรียกว่า “อ่างศิลา” ก็อยู่ด้านหลังตัวคาเฟ
สามารถเดินขึ้นไปชมได้แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจาก
รอบอ่างเป็นหินต่างระดับและพื้นผิวไม่เรียบ
ที่มา: www.museumthailand.com/th/museum/084-850-581
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 6
พื้นที่การทำงานมีทั้งในห้องแอร์ซึ่งมีหลายโซนให้เลือก รวมทั้งมีมุมโต๊ะยาว
สำหรับประชุมกลุ่มย่อย ๆ และพื้นที่ภายนอกซึ่งมีการจัดโต๊ะเก้าอี้หลากหลาย
แบบกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ที่ร่มรื่นภายใต้แมกไม้ใหญ่คลุมทั่วบริเวณ
หากอยากยืดเส้นยืดสายพักสายตา ที่นี่เขาก็มีทางเดินเลียบทะลปลอดภัยให้
ไปเดินสูดโอโซนผ่อนคลายความตึงเครียดด้วย
สัมภาษณ์อุปนายกฯ คนที่ 2
โดย WK
สวัสดีค่ะคุณเจี๊ยบช่วยแนะนำตัวให้พวกเรารู้จักหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ พรธีรา ศรีพัฒนธาดากุล ชื่อเล่น เจี๊ยบ ค่ะ
เป็ นคนจังหวัดราชบุรีโดยกำเนิด
จบปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (ทับแก้ว)
วิชาเอกภาษาอังกฤษ วิชาโทภาษาฝรั่งเศส หลังเรียนจบปริญญาตรี
เริ่มทำงานประจำครั้งแรกด้วยการเป็ นครูสอนหนังสือในโรงเรียน
ประถมและมัธยมอยู่ 2-3 ปี ก่อนลาออกเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญา
โทที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาภาษาศาสตร์
(linguistics) หลังเรียนจบปริญญาโท ได้ทำงานเป็ นนักภาษาศาสตร์
ในบริษัทพัฒนาโปรแกรมแปล ผู้จัดการหลักสูตรนานานาชาติ
นักแปลในองค์กร และทำงานเป็ นอาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัย
ของรัฐ ระหว่างนั้นก็ได้ทำงานแปลและงานล่ามควบคู่ไปด้วย
ก่อนลาออกมาเป็ นนักแปลและล่ามอิสระเต็มตัวในปั จจุบัน
ครั้งแรกที่รู้จักสมาคมฯคือเมื่อไหร่และมาร่วมงานกับที่นี่ได้อย่างไร
รู้จักสมาคมนักแปลและล่ามฯ เมื่อราว 20 ปี ที่แล้ว ช่วงทำงานเป็ นพนักงาน
แปลเอกสารในบริษัทที่ปรึกษาทางวิศวกรรมแห่งหนึ่ง จำได้ว่า หลักสูตรแรก
ที่เรียนคือการแปลเชิงธุรกิจ หลังจากนั้น ได้สมัครเข้าเรียนทุกหลักสูตร
ของสมาคมฯ (ปั จจุบันหยุดเรียนมาเกือบ 10 ปี ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา)
เมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้รับการเสนอจากอาจารย์จงจิต อรรถยุกติ ซึ่งเป็ น
อดีตนายกสมาคมฯ ให้มาช่วยงานสมาคมฯ ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการ
กระทั่งอาจารย์จงจิตหมดวาระ ก็ยังคงทำหน้าที่ต่อมาในตำแหน่งรอง/
ผู้ช่วยเลขาธิการตลอดช่วงที่ ดร. ถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล เป็ นนายก
สมาคมฯ ในช่วงที่ ม.ล.วีรอร วรวุฒิ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ สมัยที่ 1
ก็ได้ทำงานเป็ นผู้ช่วยเลขาธิการ ส่วนสมัยที่ 2 ไปรับหน้าที่เป็ นอุปนายกคนที่ 3
และวาระปั จจุบันซึ่งมี คุณปกรณ์ กฤษประจันต์ เป็ นนายกสมาคมฯ ได้ช่วยงาน
สมาคมฯ ในฐานะอุปนายกคนที่ 2 ฝ่ ายสมาชิกสัมพันธ์ ทว่า งานที่รับผิดชอบ
ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ด้านสมาชิกสัมพันธ์ ตัวอย่างงานที่ทำ เช่นงานทะเบียนสมาชิก
ดูแลช่องทางสื่อสารต่าง ๆ เช่นเฟซบุ๊ก ไลน์ และอีเมล จัดกิจกรรมเสวนาชื่อ
ล้อมวงคุย ฯลฯ บางงานดำเนินการด้วยตัวเองและบางงานต้องอาศัยการ
สนับสนุนจากกรรมการที่มีจิตอาสาท่านอื่น ๆ
ตุ ล า ค ม - ธั น ว า ค ม 2 5 6 6 V O L . 3 ห น้ า ที่ 1 8
ทุกวันนี้ทำอะไรบ้างคะ นอกจากงานสมาคมฯ
ปั จจุบันมีอาชีพหลักเป็ นนักแปลและล่ามอิสระ งานแปลส่วนใหญ่
เป็ นงานแปลเอกสาร งานแปลที่มีชื่อระบุไว้มีอยู่น้อยชิ้น หนึ่งใน
จำนวนนั้นที่อยากอ้างถึงคือ “หน้าต่างสู่โลกกว้าง: ศรีลังกา”
ซึ่งอาจารย์สถาพร ฉันท์ประสูติ (ครูหนอนฯ) เป็ นผู้ชักชวนให้แปล
และทำหน้าที่บรรณาธิการให้ ส่วนงานล่าม ซึ่งปั จจุบันทำมากกว่า
งานแปลนั้น อาจารย์จงจิต อรรถยุกติ เป็ นผู้ชักนำเข้าสู่สายงานนี้
ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อตอกย้ำให้เห็นบทบาทของ “สมาคมนักแปลและ
ล่ามแห่งประเทศไทย” ในฐานะตัวกลางหรือสะพานเชื่อมที่นำพาเรา
ไปสู่การพัฒนาตัวเองและโอกาสต่าง ๆ ในอาชีพการงาน
คิดอย่างไรกับวลีที่ว่า AI จะมาแย่งงานนักแปล
ตระหนักเรื่องนี้มานานแล้ว เมื่อประมาณ 20 กว่าปี ที่แล้ว ได้ทำงานแปลในบริษัทแปลสิทธิบัตรแห่งหนึ่ง
บริษัทใช้โปรแกรมที่ตนพัฒนาขึ้นเพื่อแปลคำขอสิทธิบัตรก่อนจะให้นักแปลตรวจทาน พบว่าผลงานที่ใช้
โปรแกรมดังกล่าวแปลใช้ได้ถึงร้อยละ 80 ตอนนี้ทุกคนต่างรับรู้ว่า Machine Translation ฉลาดขึ้น
เรื่อย ๆ ด้วยข้อมูลป้ อนเข้าระบบที่มากขึ้น
ในส่วนของคู่ภาษาอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษ ส่วนตัวยังเชื่อว่างานเกือบร้อยทั้งร้อย
ก็ยังต้องอาศัยeditor/reviewer ที่เป็ นมนุษย์อยู่
ข้อคิดที่อยากฝากถึงมือใหม่และคนที่กำลังอยากเข้าวงการ
ที่มาภาพและเนื้อหาบางส่วน: https://www.youtube.com/watch?v=pwOxlpGYJAY