Professional Documents
Culture Documents
2553
1. ตราขึ้นโดยคาแนะนาและยินยอมของรัฐสภา
2. ให้ไว้ 3 ธ.ค. 2553
ประกาศ 7 ธ.ค. 2553
มีผล 8 ธ.ค. 2553 (ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ)
3. มี 3 หมวด 31 มาตรา (ยกเลิก พ.ร.บ. 5 ฉบับ)
4. “ก.อ.” หมายความว่า คณะกรรมการอัยการ ตามระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
(15 คน = ปธ. 1 คน รอง ปธ. 1 คน กรรมการโดยตาแหน่ง 5 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 8 คน)
5. “ข้าราชการฝ่ายอัยการ” หมายความว่า ข้าราชการฝ่ายอัยการ ตามระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
(พนง.อัยการ + ขรก.ธุรการ)
6. “พนักงานอัยการ” หมายความว่า ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งพนักงานอัยการ ตาม พ.ร.บ. นี้
7. “ภาค” หมายความว่า เขตท้องที่ ของสานักงานอัยการสูงสุด ที่ ก.อ. กาหนด (มี 9 ภาค)
8. “อัยการสูงสุด” เป็นผู้รักษาการ ตาม พ.ร.บ.
9. “หน่วยงานของรัฐ”
1. องค์กรตาม ร.ธ.น.
2. ส่วนกลาง
3. ส่วนภูมิภาค
4. ส่วนท้องถิ่น
หน่วยงานของรัฐ 5. รัฐวิสาหกิจ
6. องค์กรมหาชน
7. หน่วยงานอื่นของรัฐ
8. หน่วยงานอื่นที่ดาเนินกิจการของรัฐ
10. “เจ้าหน้าที่ของรัฐ”
1. ข้าราชการ
2. เจ้าพนักงาน
เจ้าหน้าที่ของรัฐ 3. พนักงาน
4. ลูกจ้าง
5. ผู้ปฏิบัติงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานของรัฐ
ไม่ว่าจะได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง
11. “องค์กรอัยการ”
1. ก.อ. (คณะกรรมการอัยการ)
องค์กรอัยการ 2. อัยการสูงสุด (อสส.)
3. พนักงานอัยการอื่น
สานักงานอัยการสูงสุด (อส.) เป็นหน่วยธุรการ
-2-
15. การแต่งตั้งและการให้อัยการสูงสุดพ้นจากตาแหน่ง
(ตามมติ ก.อ. โดย สว. เห็นชอบ และ ปธ.สว. ลงนามรับสนอง)
การแต่งตั้ง การพ้น
โอน/ทหาร/
ตาย/พ้น/
ตาแหน่ง ผู้เสนอ เสนอต่อ ผู้เห็นชอบ ผู้แต่งตั้ง สั่งให้ออก/
ลาออก
ไล่ออก/ปลดออก
K. แต่งตั้ง นาความกราบฯ
นาความกราบฯ
อัยการสูงสุด ประธาน ก.อ. ก.อ. สว. ปธ.สว. เพื่อมีพระบรม
เพือ่ ทรงทราบ
ลงนามรับสนอง ราชโองการ
22. อานาจในการดาเนินคดี
1) อัยการสูงสุด และ รองอัยการสูงสุดมีอานาจดาเนินคดีได้ทุกศาล
2) อธิบดีอัยการภาค มีอานาจดาเนินคดีได้ทุกศาลภายในภาค
3) พนักงานอัยการ ผู้อื่นมีอานาจดาเนินคดีได้เฉพาะศาลแห่งท้องที่ที่ผู้นั้นรับราชการประจา
เว้นแต่
- คาสั่งอัยการสูงสุดให้พนักงานอัยการซึ่งรับราชการประจาในท้องที่หนึ่งไปช่วยราชการในอีกท้องที่หนึ่งชั่วคราว
หรือไปดาเนินคดีเฉพาะเรื่อง มีอานาจดาเนินคดีได้จนถึงศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา หรือศาลปกครองสูงสุด
- คาสั่งอธิบดีอัยการภาคให้พนักงานอัยการซึง่ รับราชการประจาในท้องที่หนึ่งภายในภาคไปช่วยราชการในอีก
ท้องที่หนึ่งชั่วคราวภายในภาคหรือไปดาเนินคดีเฉพาะเรื่อง มีอานาจดาเนินคดีได้จนถึงศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา
หรือศาลปกครองสูงสุด
- คาสั่งอธิบดีอัยการภาคให้พนักงานอัยการซึ่งรับราชการประจาภายในภาคให้ดาเนินคดีได้ทุกศาลภายในภาค
มีอานาจดาเนินคดีได้จนถึงศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา หรือศาลปกครองสูงสุด
- คดี ที่พ นักงานอัยการได้ ด าเนิน การไว้ในศาลชั้น ต้น ขึ้น มาสู่การพิ จารณาของศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา
พนั กงานอัย การผู้ด าเนิ น คดี นั้ น หรือพนักงานอัยการผู้ อื่น ประจ าศาลชั้ น ต้ น นั้ น หรือได้รั บ แต่งตั้ ง หรือ
ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด มีอานาจในการดาเนินคดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาได้
- คดีที่ศาลส่งประเด็นไปสืบพยานหรือโอนคดีไปพิจารณายังศาลอื่น พนักงานอัยการผู้ดาเนินคดีมาแต่ต้น หรือ
พนักงานอัยการประจาศาลอื่นนั้น หรือพนักงานอัยการประจาศาลที่ดาเนินคดีมาแต่ต้น มีอานาจดาเนินคดี
ในศาลที่สืบพยานตามประเด็น หรือศาลที่รับโอนคดีนั้นได้
23. การปฏิบั ติการตามอ านาจหน้ าที่เฉพาะในคดี ที่ ต้องตั้งต้น ที่พ นัก งานอัยการ หรือการตรวจสอบข้อเท็จ จริ ง
เพื่อดาเนินการตาม รธน. หรือตามกฎหมายอื่น ให้พนักงานอัยการมีอานาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวม
พยานหลักฐาน เอกสารหรือวัตถุ สอบปากคาพยานบุคคล ออกคาสั่งเรียกบุคคลมาให้การต่อหน้า ออกคาสั่ง
ให้ส่งพยานหลักฐาน และดาเนินการอื่นตามที่เห็นสมควร รวมทั้งอาจแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดาเนินการตามทีเ่ ห็นสมควร
แต่ทั้งนี้ ถ้าผู้ได้รับคาสั่งเป็น คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งหรือเป็น ผู้ถูกกล่าวหา บุคคลดังกล่าวจะไม่มาหรือไม่ให้ถ้อยคา
หรือไม่ส่งพยานหลักฐาน เอกสารหรือวัตถุตามที่เรียกก็ได้
32. กรณี มีการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี การยกเว้น หรือการผ่อนผัน ให้ส านักงานอัยการสูงสุด ได้รับการยกเว้น หรือ
ผ่อนผันในเรื่องนั้นด้วย