You are on page 1of 241

Ac

M;S*LYO_EWD;ETDIV-T@Yh;2T; tiv
ระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem)
eL

ɬɻΥɽʐʘʒɽʋΰ
ea
ดวยนโยบายการจัดการเร�ยนการสอนแบบ Active Learning ใหผูเร�ยนไดเร�ยนรูผานการคิด
rni
การสำรวจคนหา การมีปฏิสัมพันธกับผูอื่น และไดลงมือปฏิบัติจร�ง
อักษรฯ จ�งออกแบบสรางสรรคสื่อฯ แบบครบวงจร หร�อเปนระบบนิเวศการเร�ยนรู
ng
เพื่อชวยใหครูนำสื่อฯ ไปใชจัดการเร�ยนการสอนแบบ Active Learning ไดงาย สะดวก มีประสิทธ�ภาพ
สอดคลองกับบร�บทของสถานศึกษา รวมถึงบรรลุตัวช�้วัดปลายทางของหลักสูตร
-Sh;=ER8CJX$KT=9Wg _GC 1 1

คู่มือครู
หนังสือเรียน ตามหลักสูตร
เนื้อหาปรับปรุงใหม่ ทันเหตุการณ์
7TCCT7E2T;$TE_EWD;E[`GR7SI-WhIS6

˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¤³ÔµÈÒʵÏ ».1 Å.1


อ่านเข้าใจง่าย ครบทุกตัวชีว
้ ด

ใช้งบเรียนฟรี ตามบัญชีกำหนดสื่อ
ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้
$GZC LTER$TE_EWD;E[' 5V7JTL7E ¤,<S<=ES<=EZ*@ªJª 2560 )
Active Learning
สื่อ Digital ปรับใหม่ เพิ่มเติม
7TCMGS$L[7E`$;$GT*$TEJX$KT%Sh;@Yh;2T;@Z9:JS$ET-®±±­
สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
เข้าถึงง่ายผ่าน QR Code
มีหลากหลายให้เลือกใช้งาน
PowerPoint, Simulation,

แผนการจัดการเรียนรู้
ออกแบบแนว Active Learning
Interactive 3D, Smart Infographic ฯลฯ
ตัวอย่าง
อย่างละเอียดทุกแผน มีใบงาน
ใบกิจกรรม ข้อสอบ
เครื่องมือวัดและประเมินผล
คูม
่ อ
ื ครู
อจท.
ครูสามารถนำไปปรับแก้ไขได้
แบบฝึกหัด ปรับใหม่ ทันสมัย
กิจกรรมหลากหลาย
เน้น Active Learning
ตรงตามตัวชี้วัดระหว่างทาง ใชประกอบการสอนคูกับหนังสือเร�ยน
ตัวชี้วัดปลายทาง
สร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
คู่มือครู ช่วยให้ครูเห็นไอเดีย
การสอนอย่างง่ายๆ ส่งเสริมการเรียนรู้ Active Learning
ตรงตามหนังสือเรียน เพือ
่ พัฒนาสมรรถนะ
พร้อมความรู้เสริม เกร็ดแนะครู
คลังข้อสอบ คลังสื่อ Digital ใช้วธ
ิ ส
ี อนหลากหลาย

ป.1
ตามธรรมชาติวชิ า

หน
ังส เนื้อ
มีคำอธิบายรายวิชา

ือเล หา
โครงสร้างรายวิชา

มน อาจ
ี้อย มีก
เล่ม 1
มีแนวทาง และเครือ
่ งมือวัดและ

ู ในร าร
ประเมินผลทีห
่ ลากหลาย

ะหว ปรับ
างส ปร
แบ่งโซนสำหรับครูผส ู้ อน

งต ุงแก
สามารถสอบถามรายละเอียดและขอมูลของสื่อการเร�ยนการสอนแตละประเภท

รว  ไข
สำหรับนักเรียน

จพ
ิจาร
ไดจากเจาหนาที่ประสานงานการตลาดประจำพื้นที่ เพิม
่ คลังสือ
่ Digital : PowerPoint,


Interactive 3D,00 Simulation


หร�อจาก www.aksorn.com/ProductLists พรอมใบสั่งซ�้อใหดาวนโหลด c@JTG+EEDT 6Eª-VETGU6I;MOC .-
และอืน่ ๆ ให้การสอน ง่าย สนุก
ได้ผลสัมฤทธิ์
ภาพปกนีม
้ ข
ี นาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
รหัสสินค้า 1106010
ตย. คู่มือครู นร.คณิตศาสตร์ ป.1 ล.1
บริษท
ั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด
142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คูส
่ าย)
ดาวน์โหลด แผนการจัดการเรียนรู้
ID Line : @aksornkruprathom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท.
ผู้เรียบเรียงคู่มือครู สายงานวิชาการ อจท. www.aksorn.com/download
คู่มือครู

คณิ ตศาสตร์ ป. 1
เล่ม 1
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
ัด
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้ว
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา

ผู้เรียบเรียงคู่มือครู
สายงานวิช้าการ อจที่.

บรรณาธิการคู่มือครู

นายยุที่ธ์คมิ ภมิรสุพัรวิช้ิต
นางสาวประที่ิพัย์ บุญต่อ
นางสาววรรณที่ัศน์ เลิศอภิสิที่ธ์ิ
นายปรัช้ญา เปรมิมิะ

พิมพครั้งที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
รหัสสินคา 1106010

Teacher Script
คําแนะนํ าการใช้
ค่้่มือค่ร้รายวิชี้าพื�นฐาน ค่ณ์ิตัศาสตัร์ ป.1 เล่ม 1 จัดที่ำาขึ�นสำาหรับให้คร้ผู้้สอนใช้้เป็นแนวที่างวางแผู้นการจัด
การเร่ยนการสอน เพั่อ� พััฒนาผู้ลสัมิฤที่ธ์ิที่์ างการเร่ยนและการประกันคุณภาพัผู้้เ้ ร่ยนตามินโยบายของสำานักงานคณะกรรมิการ
การศึกษาขั�นพั่�นฐาน (สพัฐ.)

องค์ประกอบการจัดการเรียน
การสอน เพื่ออํานวยความสะดวกครูผู้สอน โครงสร้างการจัดการเรียนรู้รายวิชา
ระบุตว
ั ชีว
้ ด
ั ระหว่างทางและตัวชีว
้ ด
ั ปลายทาง ช่วยให้เห็นภาพรวม
ของการจัดการเรียนการสอนของรายวิชาก่อนทีจ
่ ะลงมือสอนจริง
การจัดการเรียนรู้ Active Learning เพื่อพัฒนา
สมรรถนะผู้เรียน ช่วยสร้างความเข้าใจในกระบวนการ โครงสร้างการจัดการเรียนรูร้ ายหน่วยการเรียนรู้
ออกแบบการจัดการเรียนการสอน Active Learning เพื่อ ช่วยสร้างความเข้าใจและเห็นภาพรวมในการออกแบบแผน
พัฒนาสมรรถนะผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการเรียนรูแ
้ ต่ละหน่วยการเรียนรู้

คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบข่ายเนือ้ หาสาระของรายวิชา สาระสําคัญสําหรับครู ช่วยให้เห็นภาพรวมคอนเซปต และ


เนื้อหาสำาคัญของหน่วยการเรียนรู้
ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดตามที่หลักสูตร
กำาหนด
คลังข้อสอบ ช่วยอำานวยความสะดวกในการวัดและประเมิน
ผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย นด้ ว ยข้ อ สอบกลางภาคและข้ อ สอบ
ปลายภาคที่ตรงตามตัวชี้วัด

คู่มือครูมองค์
ีองค์ประกอบที่ง่ายต่อการใช้งาน

โซน
โซน 1
1
นํ
นํ าา

สําหรับครูผู้สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Brain-Based Learning

1
หนวยการเรียนรูที่
ขั�นนํ า

แนวที่างการจั ด กิ จ กรรมิการเร่ ย นการสอนโดยแนะนำา เตรียมความพร้อมของสมอง จํานวนนั บ 1 ถึง 10 และ 0


1. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียน
ขั�นตอนการสอน และการจัดกิจกรรมิอย่างละเอ่ยดเพั่�อให้ผู้้เร่ยน 2. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น ร อ งเพลงและเต น
ประกอบเพลง หากพวกเรากำลังสบาย
เตรียมพรอมกอนเรียน

บรรลุผู้ลสัมิฤที่ธ์ิ์ตามิตัวช้่�วัด เพลง หากพวกเรากำลังสบาย


หากพวกเรากำลังสบาย (จงตบมือ) พลัน
หากพวกเรากำลังสบาย (จงตบมือ) พลัน

นํ า สอน
หากพวกเรากำลังมีสุข หมดความทุกขไปแลว

สรุ ป ประเมิน ทุกสิ่ง มัวประวิงอะไรกันเลา (จงตบมือ) พลัน


(กระทืบเทา ผงกหัว สงเสียงดัง)
3. ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับจำนวนสิ่งตางๆ ที่อยู
รอบตัว เชน กระดานดำ ประตู หนาตาง
4. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย นโดยให
นักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวถามนักเรียนวา

ระหวางทาง
ตััวชี้้�วัดระหว่างทาง ปลายทาง
ตััวชี้้�วัดปลายทาง “สัตวชนิดใดมีจำนวนมากที่สุด สัตวชนิดใด
มีจำนวนนอยที่สุด เรารูไดอยางไร”
หมายเหตุ : ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น เฉลย
ระบุกิจกรรมิสะที่้อนตัวช้่�วัดระหว่างที่างและตัวช้่�วัดปลายที่าง คำถามประจำหนวยการเรียนรูห ลังเรียนหนวย
การเรียนรูที่ 1 ÊѵǏª¹Ô´ã´ÁÕ¨íҹǹÁÒ¡·ÕèÊØ´
ÊѵǏª¹Ô´ã´ÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍ·ÕèÊØ´

Active Learning เพื่อนํ าไปสูส่ มรรถนะ àÃÒÃٌ䴌Í‹ҧäÃ


?
µÑǪÕéÇÑ´ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ

แนวที่างการจัดการเร่ยนร้้ Active Learning ที่่�เน้นให้ • บอกจํานวนของสิ�งตาง ๆ แสดงสิ�งตาง ๆ ตามจํานวนที่กําหนด


อานและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจํานวนนับ
ไมเกิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/1)
• การบอกจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
• การอานและการเขียนตัวเลขแสดงจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
• การแสดงจํานวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธของจํานวน

ผู้้้เร่ยนได้เร่ยนร้้ผู้่านการคิด การสำารวจค้นหา การมิ่ • เปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 100 และ 0 โดยใชเครื่องหมาย แบบสวนยอยและสวนรวม


• การเปรียบเทียบจํานวน
หน

= > < (มฐ. ค 1.1 ป.1/2)


ังส เน
ือเล ื้อห

• เรียงลําดับจํานวนนับไมเกิน 100 และ 0 ตั้งแต 3 ถึง 5 จํานวน • การเรียงลําดับจํานวน


มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

(มฐ. ค 1.1 ป.1/3) • การบอกอันดับที่


ะหว รปร

ปฏิสัมิพัันธ์์ร่วมิกัน และการลงมิ่อที่ำา เพั่�อนำาผู้้้เร่ยนไปส้่สมิรรถนะ


าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

เกร็ดแนะครู
รู แนวตอบ คําถามประจําหนวยการเร�ยนรูที่ 1 หนา 1
แกะมีจำนวนมากที่สุด และมามีจำนวนนอยที่สุด หาคำตอบโดยการนับ
เป้าหมาย การเรียนรู้
จำนวนสัตวแตละชนิดแลวนำมาเปรียบเทียบกัน การจั ด การเรี ย นการสอนในหน ว ยการเรี ย นรู นี้ มุ ง เน น ให ผู เ รี ย น
ความิร้้เสริมิสำาหรับคร้ ข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต แนวที่างการ เรียงลำดับจำนวนนับไมเกิน 10 ไดอยางถูกตอง เพื่อใหผูเรียนนำความรู
ไปใชในสถานการณชีวิตประจำวันได

จัดกิจกรรมิ และอ่�น ๆ เพั่�อประโยช้น์ในการจัดการเร่ยนการสอน


ใบกิจกรรมและใบงาน
ช้่วยอำานวยความิสะดวกในการจัดการเร่ยนการสอน ด้วยการจัดที่ำา
ใบกิจกรรมิและใบงานให้เข้าถึงง่ายผู้่านการสแกน QR Code T9

(B)
โดยใช้้หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร ป.1 เลม 1 และแบบฝกหัดรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร ป.1 เลม 1
ของบริษัที่ อักษรเจริญที่ัศน์ อจที่. จำากัด เป็นส่�อหลัก (Core Materials) ประกอบการสอนและการจัดกิจกรรมิ
การเร่ยนร้้ เพั่�อให้สอดคล้องตามิมิาตรฐานการเร่ยนร้้และตัวช้่�วัดกลุ่มิสาระการเร่ยนร้้คณิตศาสตร์
(ฉับับปรับปรุง พั.ศ. 2560) ตามิหลักส้ตรแกนกลางการศึกษาขั�นพั่�นฐาน พัุที่ธ์ศักราช้ 2551

โซน
2 สําหรับผู้เรียน ประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่่�เป็นประโยช้น์สำาหรับคร้ เพั่�อนำาไปประยุกต์ ใช้้
จัดกิจกรรมิการเร่ยนร้้ให้ผู้้เร่ยน

เป้าหมาย การเรียนรู้ กิจกรรม 21s� Cen���y S���l�


ช้่�แจงเปาหมิายให้ที่ราบว่า หน่วยการเร่ยนร้้น่�ต้องการเน้นให้ผู้้เร่ยน กิจกรรมิที่่ใ� ห้ผู้เ้ ร่ยนได้ประยุกต์ใช้้ความิร้้ สร้างผู้ลงาน หร่อที่ำากิจกรรมิ
บรรลุอะไร ที่ำาอะไรได้ หร่อผู้ลลัพัธ์์ที่ค่� าดหวังว่าจะเกิดขึน� กับผู้้เ้ ร่ยน รวบยอด เพั่อ� ให้เกิดที่ักษะที่่จ� าำ เป็นในศตวรรษที่่� 21

นักเรียนควรรู้ กิจกรรม ท้าทาย


ความิร้้เพัิ�มิเติมิจากเน่�อหา สำาหรับอธ์ิบายเสริมิให้กับผู้้้เร่ยน เสนอแนะแนวที่างการจัดกิจกรรมิ เพั่อ� ต่อยอดสำาหรับผู้้เ้ ร่ยนที่่เ� ร่ยนร้้
ได้อย่างรวดเร็ว และต้องการที่้าที่ายความิสามิารถในระดับที่่�ส้งขึ�น
ข้อสอบเน้น การคิด กิจกรรม สร้างเสริม
ตัวอย่างข้อสอบที่่�มิุ่งเน้นการคิด มิ่ที่ั�งปรนัย-อัตนัย พัร้อมิเฉัลย เสนอแนะแนวที่างการจัดกิจกรรมิซื้่อมิเสริมิสำาหรับผู้้้เร่ยนที่่�ควร
อย่างละเอ่ยด ได้รับการพััฒนาการเร่ยนร้้

สื่อ Dig����
เสริมิพัลังการจัดการเร่ยนร้ด้ ว้ ยส่อ� ดิจที่ิ ลั ที่่ห� ลากหลาย เข้าถึงง่าย
โซน 1 นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน
ด้วยการสแกน QR Code
ขั�นนํ า
คลิปอักษรเร่ยนสรุป
1 การบอกจํานวนนั บ 1 ถึง 10
ทำอยางไรจึงจะรูวาในกลองดินสอ
เตรียมความพร้อมของสมอง

5. ครู ต รวจสอบความรู พื้ นฐานก อ นเรี ย นของ


คลิปส่�อประกอบการสอน
ของเรามีดินสอกี่แทง
และ 0
การนับจํานวนของสิ�งตาง ๆ เราเริ�มนับ
นั ก เรี ย น โดยครู ส แกน QR Code ใน
หนั ง สื อ เรี ย น หน า 1 แล ว ให นั ก เรี ย นทำ
PowerPoint
จากหนึ�งและนับเพิ่มทีละหนึ่ง เตรียมพรอมกอนเรียน
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยเตรียมพรอม
กอนเรียนไดโดยสแกน QR Code
Smart Infographic
เฉลยเตร�ยมพรอมกอนเร�ยน

ตัวอยาง : คลิปสื่อประกอบการสอน
ก่่อนเรีีย

เฉลย
เตรีียมพรี้อม
หน่่วยการเรียน่ร้�ที่ี� 1

แตงโม หนึ่ง ผล สมโอ สอง ผล มะละกอ สาม ผล


นับจำ�นวนรูป แล้วระบ�ยสีลงใน ต�มจำ�นวนรูปที่นับได้
1)

2)

3)

4)

5)

6)

7)

8)

9)

10)

สับปะรด สี่ ผล ฝรั่ง หา ผล ชมพู หก ผล


ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือเรียน หนา 2 แลวให


นักเรียนชวยกันสังเกตวา มีผลไมชนิดใดบาง
(แนวตอบ แตงโม สมโอ ...)
2. ครูตั้งคำถาม แลวใหนักเรียนชวยกันตอบวา
มะมวง เจ็ด ผล มังคุด แปด ผล สม เกา ผล ผลไมแตละชนิดมีกี่ผล และรูไดอยางไร
(แนวตอบ มีจำนวน 1 ถึง 10 ตามลำดับ โดย
ศูนย หมายถึง ไมมี การนับจำนวนจากรูปภาพ)
สิ่งใดเลย ใชแสดง 3. ครูแสดงวิธีการนับจำนวนจากหนึ่งถึงสิบโดย
จํานวนของสิ่งของใน การหยิบลูกปงปองวางลงในตะกราทีละลูก
กลุมที่ไมมีสิ่งใดอยู
แอปเปล สิบ ผล ผลไม ศูนย ผล

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

2
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ มน
ือเล
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสรุป


ขอใดมีจำนวน 5 ชิ้น ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 จากคลิปอักษร
เรียนสรุป เรื่อง การบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
1.
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11001
2.

3.
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะขอ 1. มีโดนัต 4 ชิ้น
ขอ 2. มีคัปเคก 5 ชิ้น และขอ 3. มีเคก 6 ชิ้น)

โซน 2 T10

(C)
คลังข้อสอบ
วิชาคณิ ตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1

ข้อสอบ กลางภาค

ข้อสอบ ปลายภาค

https://www.aksorn.com/qrcode/TMEXMTP11

(D)
Ac�i�� L�ar���g
การจัดการเรียนรู้
่ พัฒนาสมรรถนะผู
เพือ ผูเ้ รียน
การจำัดการเร้ยนร้้ Ac�i�� L�ar���g เป็นการออกแบบการจัดการเร่ยนร้้ให้ผู้้เร่ยนได้นำาความิร้้ ที่ักษะ เจตคติ
และคุณค่า มิาลงมิ่อปฏิบตั ผู้ิ า่ นกิจกรรมิหลากหลายร้ปแบบ เพั่อ� สร้างความิร้ข้ องตนเองและส่อ� สารได้ดว้ ยความิเข้าใจ จนบรรลุ
เปาหมิายการเร่ยนร้้และเกิดสมิรรถนะ (Competency) ซื้ึ�งการจัดการเร่ยนร้้ Ac�i�� L�ar���g มิ่องค์ประกอบที่่�สำาคัญ
ค่อ การเร้ยนร้้ผ่านการค่ิด การเร้ยนร้้จำากการสำารวจำและค่้นหา การเร้ยนร้้จำากการม้ปฏิสัมพันธ์์ร่วมกัน และการเร้ยนร้้ผ่าน
การลงมือทำา โดยการจัดการเร่ยนร้้ Ac�i�� L�ar���g ต้องเล่อกใช้้ให้เหมิาะสมิกับตัวช้่�วัด จุดเน้นของสาระ และ
ธ์รรมิช้าติของวิช้า เพั่�อที่ำาให้การจัดการเร่ยนร้้เกิดประสิที่ธ์ิภาพัที่่�จะที่ำาให้ผู้้เร่ยนเกิดสมิรรถนะตามิเปาหมิายที่่�กำาหนดไว้
ซื้ึ�งวิธ์่การจัดการเร่ยนร้้ Ac�i�� L�ar���g ที่่�มิ่ประสิที่ธ์ิภาพัและนำาผู้้้เร่ยนไปส้่สมิรรถนะมิ่หลากหลายวิธ์่

องค์ประกอบของการจัดการเรียนรู้ ตัวอย่าง วิธก


ี ารจัดการเรียนรู้ Ac�i�� L�ar���g
Ac�i�� L�ar���g
• กระบ่วนการปฏิบ่ัตัิ (Practice Teaching)
การเร้ยนร้ร้้ผ่านการคิด • วิธ์้สอนแบ่บ่ใชี้้กรณ์้ตััวอย่าง (Case)
เน้นวิธ์่การเร่ยนร้้ของผู้้้เร่ยน โดยผู้้้เร่ยนจะมิ่ส่วนสำาคัญ • กระบ่วนการทางภ้มิศาสตัร์ (Geo Literacy)
ในกระบวนการคิด เพั่�อต่อยอดการเร่ยนร้้ของตนเอง • วิธ์้สอนโดยใชี้้สถานการณ์์จำำาลอง (Simulation)
การเร้ยนร้ร้้จำากการสํารวจและค้นหา • วิธ์้สอนแบ่บ่แก้ปัญหา (Problem Solving Method)
เน้ น กระตุ้ น ให้ ผู้้ เ ร่ ย นได้ สาำ รวจค้ น หา โดยเช้่� อ มิโยง • วิธ์้สอนโดยการอภิปรายกลุ่มย่อย
ความิสนใจและประสบการณ์ โดยตรงระหว่างเร่�องที่่�สอนกับ (Small Group Discussion)
ความิสนใจของตนเอง • การจำัดการเร้ยนร้้โดยใชี้้สมองเปนฐาน
(Brain-Based Learning)
การเร้ยนร้ร้้จำากการม้ปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน • การเร้ยนร้้ด้วยกระบ่วนการสืบ่สอบ่
เน้ น การมิ่ ป ฏิ สั มิ พัั น ธ์์ ร ะหว่ า งผู้้้ ส อนกั บ ผู้้้ เ ร่ ย น และ (Inquiry-Based Learning)
ผู้้้เร่ยนกับผู้้้เร่ยน โดยผู้้้เร่ยนสามิารถเข้าถึงความิร้้ได้ภายใต้ • การเร้ยนร้้โดยใชี้้โค่รงงานเปนฐาน
การแนะนำาของผู้้้สอน หร่อการที่ำางานร่วมิกับเพั่�อน รวมิถึง (Project-Based Learning)
มิ่การส่�อสารและนำาเสนอผู้ลงานให้ผู้้อ่�นได้รับร้้ • ร้ปแบ่บ่การจำัดการเร้ยนการสอนแบ่บ่สืบ่สอบ่ค่วามร้้
(5Es Instructional Model)
การเร้ยนร้ร้้ผ่านการลงมือทํา
• การเร้ยนการสอนเน้นมโนทัศน์
เน้ น ให้ ผู้้ เ ร่ ย นมิ่ โ อกาส (Concept Based Teaching and Learning)
ลงมิ่อปฏิบตั ผู้ิ า่ นการร่วมิมิ่อกัน • ร้ปแบ่บ่การสอน PPP Model
วางแผู้น วิเคราะห์ สังเคราะห์ • วิธ์้สอน Task-Based Language Teaching
สร้างช้ิ�นงานหร่อนวัตกรรมิ

ค่้่มือค่ร้รายวิชี้าพื�นฐาน ค่ณ์ิตัศาสตัร์ ป.1 เล่ม 1 รวมิถึงส่�อการเร่ยนร้้รายวิช้าพั่�นฐาน คณิตศาสตร์ ช้ั�นประถมิศึกษา


ปีที่่� 1 ผู้้้จัดที่ำาได้ออกแบบการสอน (Instruction Design) ตามิแนวคิด Ac�i�� L�ar���g โดยใช้้การจัดการเร่ยนร้้
แบบค้นพับ (Discovery Method) เป็นร้ปแบบหลัก เน่�องจากเป็นร้ปแบบการจัดการเร่ยนการสอนที่่�สอดคล้องกับเปาหมิาย
จุดเน้นของสาระ และธ์รรมิช้าติวิช้า อ่กที่ั�งยังใช้้ร้ปแบบการจัดการเร่ยนการสอนอ่�น ๆ และเที่คนิคต่าง ๆ มิาใช้้ร่วมิในการ
ออกแบบจัดการเร่ยนการสอน เพั่�อให้คร้สามิารถนำาไปใช้้จัดการเร่ยนร้้ในช้ั�นเร่ยนได้อย่างมิ่ประสิที่ธ์ิภาพั และที่ำาให้ผู้้เร่ยน
สามิารถบรรลุผู้ลสัมิฤที่ธ์ิ์ตามิมิาตรฐานการเร่ยนร้้และตัวช้่�วัด อ่กที่ั�งยังบรรลุสมิรรถนะสำาคัญของผู้้้เร่ยนและคุณลักษณะ
อันพัึงประสงค์ตามิที่่�หลักส้ตรได้กำาหนดไว้

(E)
คําอธิบายรายวิชา

คณิ ตศาสตร์ กลุ่มสาระการเร้ยนร้้ค่ณ์ิตัศาสตัร์


ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เวลาเร้ยน 200 ชี้ั�วโมง / ป
ศึกษาการอ่านและการเข่ยนตัวเลขฮิินด้อารบิก ตัวเลขไที่ย และตัวหนังส่อแสดงจำานวนนับ 1 ถึง 100 และ 0
การแสดงจำานวนไมิ่เกิน 20 ในร้ปความิสัมิพัันธ์์ของจำานวนแบบส่วนย่อย-ส่วนรวมิ การบอกอันดับที่่� หลัก ค่าประจำาหลัก
และค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก การเข่ยนตัวเลขแสดงจำานวนในร้ปกระจาย การเปร่ยบเที่่ยบจำานวนนับ 1 ถึง 100 และ 0
โดยใช้้เคร่�องหมิาย = ≠ > < การเร่ยงลำาดับจำานวนนับ 1 ถึง 100 และ 0 ตั�งแต่ 3 ถึง 5 จำานวน ความิหมิายของการบวก
ความิหมิายของการลบ การหาผู้ลบวก การหาผู้ลลบ การหาตัวไมิ่ที่ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ โจที่ย์ปัญหาการบวก
โจที่ย์ปัญหาการลบ การสร้างโจที่ย์ปัญหา ร้ปเรขาคณิตสองมิิติ และร้ปเรขาคณิตสามิมิิติ แบบร้ปของจำานวนที่่�เพัิ�มิขึ�นหร่อ
ลดลงที่่ละ 1 ที่่ละ 10 แบบร้ปซื้ำ�าของจำานวน ร้ปเรขาคณิตและร้ปอ่�น ๆ การวัดความิยาวโดยใช้้หน่วยที่่�ไมิ่ใช้่หน่วยมิาตรฐาน
การวัดและเปร่ยบเที่่ยบความิยาวเป็นเซื้นติเมิตร เป็นเมิตร โจที่ย์ปญั หาเก่ย� วกับความิยาวที่่มิ� ห่ น่วยเป็นเซื้นติเมิตร เป็นเมิตร
การวัดนำ�าหนักโดยใช้้หน่วยที่่ไ� มิ่ใช้่หน่วยมิาตรฐาน การวัดและเปร่ยบเที่่ยบนำ�าหนักเป็นกิโลกรัมิ เป็นข่ด โจที่ย์ปัญหาเก่ย� วกับ
นำ�าหนักที่่�มิ่หน่วยเป็นกิโลกรัมิ เป็นข่ด และการอ่านแผู้นภ้มิิร้ปภาพั
โดยการจัดประสบการณ์หร่อสร้างสถานการณ์ที่่�ใกล้ตัวผู้้้เร่ยนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึึกที่ักษะ โดยการปฏิบัติจริง ที่ดลอง
สรุป รายงาน เพั่อ� พััฒนาที่ักษะ กระบวนการในการคิดคำานวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผู้ล การส่อ� ความิหมิาย ที่างคณิตศาสตร์
และนำาประสบการณ์ด้านความิร้้ ความิคิด ที่ักษะและกระบวนการที่่�ได้ไปใช้้ในการเร่ยนร้้สิ�งต่าง ๆ และใช้้ในช้่วิตประจำาวัน
อย่างสร้างสรรค์
เพั่�อให้เห็นคุณค่าและมิ่เจตคติที่่�ด่ต่อคณิตศาสตร์ สามิารถที่ำางานได้อย่างเป็นระบบ มิ่ระเบ่ยบ รอบคอบ มิ่ความิ
รับผู้ิดช้อบ มิ่วิจารณญาณ มิ่ความิคิดริเริ�มิสร้างสรรค์และมิ่ความิเช้่�อมิั�นในตนเอง

ตัวชี้วัด
มาตัรฐาน ตััวชี้้�วัดระหว่างทาง ตััวชี้้�วัดปลายทาง
มฐ. ค่ 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/4 ป.1/3, ป.1/5
มฐ. ค่ 1.2 ป.1/1
มฐ. ค่ 2.1 ป.1/1, ป.1/2
มฐ. ค่ 2.2 ป.1/1
มฐ. ค่ 3.1 ป.1/1
3 ตััวชี้้�วัด 7 ตััวชี้้�วัด
รวม 10 ตััวชี้้�วัด

(F)
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้รายวิชา

คณิ ตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หน่วย สมรรถนะสำาคัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน

1 ตััวชี้้�วัดระหว่างทาง
1. บอกจำานวนของสิ�งต่าง ๆ แสดงสิ�งต่าง ๆ
1) สมรรถนะท้� 1
ความิสามิารถในการส่�อสาร
- ตรวจแบบที่ดสอบ
ก่อนเร่ยน
- แบบที่ดสอบก่อนเร่ยน
- หนังส่อเร่ยนรายวิช้า
จำานวนนับ ตามิจำานวนที่่�กำาหนด อ่านและเข่ยนตัวเลข - ตรวจใบงาน เร่�อง พั่�นฐาน คณิตศาสตร์
ตััวชี้้�วัดท้� 1
1 ถึง 10 ฮิินด้อารบิก ตัวเลขไที่ย แสดงจำานวนนับ การบอกจำานวนนับ ป.1 เล่มิ 1
ใช้้ภาษาถ่ายที่อดความิร้้ ความิ
และ 0 ไมิ่เกิน 100 และ 0 (มิฐ. ค 1.1 ป.1/1) เข้าใจ ความิคิด ความิร้้สึกและที่ัศนะ 1 ถึง 10 และ 0 - แบบฝึึกหัดรายวิช้า
2. เปร่ยบเที่่ยบจำานวนนับไมิ่เกิน 100 และ 0 ของตนเองด้วยการพั้ดและการเข่ยน - ตรวจใบงาน เร่�อง พั่�นฐาน คณิตศาสตร์
11 โดยใช้้เคร่�องหมิาย =, ≠, >, < พฤตัิกรรมบ่่งชี้้� การเข่ยนตัวเลขแสดง ป.1 เล่มิ 1
ชั่วโมง (มิฐ. ค 1.1 ป.1/2) 1. พั้ดถ่ายที่อดความิร้้ ความิเข้าใจ จำานวน 1 ถึง 10 - ใบงาน เร่�อง การบอก
ตััวชี้้�วัดปลายทาง จากสารที่่�อ่าน ฟััง หร่อด้ และ 0 จำานวนนับ 1 ถึง 10
1. เร่ยงลำาดับจำานวนนับไมิ่เกิน 100 และ 0 ตามิที่่�กำาหนดได้ - ตรวจใบงาน เร่�อง และ 0
ตั�งแต่ 3 ถึง 5 จำานวน (มิฐ. ค 1.1 ป.1/3) 3. เข่ยนถ่ายที่อดความิร้้ ความิเข้าใจ การเร่ยงลำาดับจำานวน - ใบงาน เร่�อง การเข่ยน
จากสารที่่�อ่าน ฟััง หร่อด้ 1 ถึง 10 และ 0 ตัวเลขแสดงจำานวน
ตามิที่่�กำาหนดได้ - ตรวจใบงาน เร่�อง 1 ถึง 10 และ 0
การเร่ยงลำาดับจำานวน - ใบงาน เร่�อง การเร่ยง
2) สมรรถนะท้� 2 - ตรวจใบงาน เร่�อง ลำาดับจำานวน 1 ถึง 10
ความิสามิารถในการคิด การบอกอันดับที่่� และ 0
ตััวชี้้�วัดท้� 1 - ตรวจกิจกรรมิฝึึกที่ักษะ - ใบงาน เร่�อง
คิดพั่�นฐาน (การคิดวิเคราะห์) - ตรวจแบบฝึึกหัด การเร่ยงลำาดับจำานวน
พฤตัิกรรมบ่่งชี้้� - ประเมิินการนำาเสนอ - ใบงาน เร่�อง การบอก
3. ระบุรายละเอ่ยด คุณลักษณะ และ ผู้ลงาน อันดับที่่�
ความิคิดรวบยอดของข้อมิ้ลต่าง ๆ - สังเกตพัฤติกรรมิ - ใบกิจกรรมิ เร่�อง
ที่่�พับเห็นในบริบที่ที่่�เป็นสิ�งใกล้ตัว การที่ำางานรายบุคคล บ้านในฝึันของฉััน
- สังเกตพัฤติกรรมิ - ใบกิจกรรมิ เร่�อง
การที่ำางานกลุ่มิ ขนมิที่่�ฉัันเล่อกซื้่�อ
- ประเมิินคุณลักษณะ - คลิปส่�อประกอบ
อันพัึงประสงค์ การสอน เร่�อง
- สังเกตความิสามิารถ ความิสัมิพัันธ์์ของ
ในการส่�อสาร จำานวนแบบส่วนย่อย
และการคิด และส่วนรวมิ
- ประเมิินความิสามิารถ - คลิปส่�อประกอบ
ในการส่�อสาร จาก การสอน เร่�อง
ใบกิจกรรมิ เร่�อง มิากกว่าหร่อน้อยกว่า
บ้านในฝึันของฉััน - คลิปอักษรเร่ยนสรุป
โดยใช้้เกณฑ์์การ เร่�อง การบอก
ประเมิินจากแบบ จำานวนนับ 1 ถึง 10
ประเมิินสมิรรถนะ และ 0
สำาคัญของผู้้้เร่ยน - คลิปอักษรเร่ยนสรุป
เร่�อง การอ่านและ
การเข่ยนตัวเลขแสดง
จำานวนนับ 1 ถึง 10
และ 0 (1/2)

(G)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
- ประเมิินความสามารถ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ในการสื่่�อสารและ เรื่่�อง การแสดง
การคิิดจากกิิจกรรม จำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 10
Active Learning ในรููปความสััมพัันธ์์ของ
หรืือใบกิิจกรรม เรื่่�อง จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย
ขนมที่่�ฉัันเลืือกซื้้�อ และส่่วนรวม (1/2)
โดยใช้้เกณฑ์์การ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ประเมิินจากแบบ เรื่่�อง การเปรีียบเทีียบ
ประเมิินสมรรถนะ จำำ�นวน (1/2)
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
- ตรวจแบบทดสอบ เรื่่�อง การเรีียงลำำ�ดัับ
หลัังเรีียน จำำ�นวน
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การบอกอัันดัับที่่�
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10
และ 0
- ลููกปิิงปอง
- ตะกร้้าใส่่ลููกปิิงปอง
- ดิินสอ
- ปากกา
- บััตรภาพ
- บััตรตััวเลข
- กล่่องสำำ�หรัับ
ใส่่ลููกปิิงปอง
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

2 ตััวชี้้�วััดระหว่่างทาง
1. หาค่่าของตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์
1) สมรรถนะที่่� 1
ความสามารถในการสื่่�อสาร
- ตรวจแบบทดสอบ
ก่่อนเรีียน
- แบบทดสอบก่่อนเรีียน
- หนัังสืือเรีียนรายวิิชา
การบวก แสดงการบวกและประโยคสััญลัักษณ์์แสดง - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ตััวชี้้�วััดที่่� 1
จำ�นวนสอง การลบของจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 การบวกจำำ�นวนสอง ป.1 เล่่ม 1
 ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความ
จำ�นวน (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) เข้้าใจ ความคิิด ความรู้้�สึึกและทััศนะ จำำ�นวนที่่�มีีผลบวก - แบบฝึึกหััดรายวิิชา
ที่มีผลบวก ตััวชี้้�วััดปลายทาง ของตนเองด้้วยการพููดและการเขีียน ไม่่เกิิน 9 พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ไม่เกิน 9 1. แสดงวิิธีีหาคำำ�ตอบของโจทย์์ปััญหาการบวก พฤติิกรรมบ่่งชี้้� - ตรวจใบงาน เรื่่�อง ป.1 เล่่ม 1
และโจทย์์ปััญหาการลบของจำำ�นวนนัับ 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ การสร้้างโจทย์์ปััญหา - ใบงาน เรื่่�อง
20 ไม่่เกิิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/5) จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู การบวกที่่�มีีผลบวก
ไม่่เกิิน 9
โจทย์์ปััญหาการบวก
ที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 9
ชั่วโมง ตามที่่�กำำ�หนดได้้
3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - ใบงาน เรื่่�อง การสร้้าง
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ตรวจแบบฝึึกหััด โจทย์์ปััญหาการบวก
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ - สัังเกตพฤติิกรรม ที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 9
การทำำ�งานรายบุุคคล - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
- สัังเกตพฤติิกรรม เตรีียมขนมสำำ�หรัับ
การทำำ�งานกลุ่่�ม งานเลี้้�ยง
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
อัันพึึงประสงค์์

(H)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
2) สมรรถนะที่่� 2 - สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ความสามารถในการคิิด ในการสื่่�อสาร เรื่่�อง ความหมาย
ตััวชี้้�วััดที่่� 1 และการคิิด ของการบวกและ
 คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) - ประเมิินความสามารถ ประโยคสััญลัักษณ์์
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� ในการสื่่�อสารและ แสดงการบวก
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ การคิิด จากกิิจกรรม - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ Active Learning เรื่่�อง การบวกโดยการ
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว หรืือใบกิิจกรรม เรื่�อ่ ง นัับต่่อ (1/2)
เตรีียมขนมสำำ�หรัับ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
งานเลี้้�ยง โดยใช้้ เรื่่�อง การบวกจำำ�นวน
เกณฑ์์การประเมิินจาก โดยใช้้ความสััมพัันธ์์
แบบประเมิินสมรรถนะ ของจำำ�นวนแบบ
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน ส่่วนย่่อยและส่่วนรวม
- ตรวจแบบทดสอบ (1/2)
หลัังเรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การบวกจำำ�นวน
ตามแนวนอนและ
ตามแนวตั้้�ง (1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสลัับที่่�ของ
การบวกและการบวก
ด้้วยศููนย์์
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง โจทย์์ปััญหา
การบวกที่่�มีีผลบวก
ไม่่เกิิน 9 (1/3)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสร้้างโจทย์์
ปััญหาการบวกที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 9 (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่มีีผ
� ลบวก
ไม่่เกิิน 9
- ดิินสอและยางลบ
- บััตรภาพ
- บััตรประโยคสััญลัักษณ์์
- แก้้วเปล่่า
- ปากกา
- จาน
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

(I)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน

3 ตััวชี้้�วััดระหว่่างทาง
1. หาค่่าของตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์
1) สมรรถนะที่่� 1
ความสามารถในการสื่่�อสาร
- ตรวจแบบทดสอบ
ก่่อนเรีียน
- แบบทดสอบก่่อนเรีียน
- หนัังสืือเรีียนรายวิิชา
การลบ แสดงการบวกและประโยคสััญลัักษณ์์แสดง - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ตััวชี้้วั� ัดที่่� 1
จำ�นวนสอง การลบของจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 การหาตััวไม่่ทราบค่่า ป.1 เล่่ม 1
 ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความ
จำ�นวน (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) เข้้าใจ ความคิิด ความรู้้�สึึกและทััศนะ ในประโยคสััญลัักษณ์์ - แบบฝึึกหััดรายวิิชา
ที่มีตัวตั้ง ตััวชี้้�วััดปลายทาง ของตนเองด้้วยการพููดและการเขีียน - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ไม่เกิน 9 1. แสดงวิิธีีหาคำำ�ตอบของโจทย์์ปััญหาการบวก พฤติิกรรมบ่่งชี้้� โจทย์์ปััญหาการลบ ป.1 เล่่ม 1
และโจทย์์ปััญหาการลบของจำำ�นวนนัับ 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ ที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9 - ใบงาน เรื่่�อง การหา
17 ไม่่ เกิิ น 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/5) จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ
- ตรวจแบบฝึึกหััด
ตััวไม่่ทราบค่่า
ในประโยคสััญลัักษณ์์
ชั่วโมง ตามที่่�กำำ�หนดได้้
3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ - สัังเกตพฤติิกรรม - ใบงาน เรื่่�อง
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู การทำำ�งานรายบุุคคล โจทย์์ปััญหาการลบ
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ - สัังเกตพฤติิกรรม ที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9
การทำำ�งานกลุ่่�ม - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
2) สมรรถนะที่่� 2 - ประเมิินคุุณลัักษณะ วางแผนห่่อกล่่อง
ความสามารถในการคิิด อัันพึึงประสงค์์ ของขวััญ
ตััวชี้้�วััดที่่� 1 - สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) ในการสื่่�อสาร เรื่่�อง ความหมายของ
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� และการคิิด การลบและประโยค
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ - ประเมิินความสามารถ สััญลัักษณ์์แสดงการลบ
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ ในการสื่่�อสารและ (1/2)
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว การคิิด จากกิิจกรรม - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
Active Learning เรื่่�อง ความหมายของ
หรืือใบกิิจกรรม เรื่่�อง การลบและประโยค
วางแผนห่่อกล่่อง สััญลัักษณ์์แสดงการลบ
ของขวััญ โดยใช้้เกณฑ์์ (2/2)
การประเมิินจากแบบ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ประเมิินสมรรถนะ เรื่่�อง การลบจำำ�นวน
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน โดยการเอาออก หรืือ
- ตรวจแบบทดสอบ หยิิบออก (1/2)
หลัังเรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การลบจำำ�นวน
โดยการนัับย้้อนกลัับ
(1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การลบจำำ�นวน
โดยการนัับย้้อนกลัับ
(2/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การลบจำำ�นวน
โดยใช้้ความสััมพัันธ์์
ของจำำ�นวนแบบ
ส่่วนย่่อยและส่่วนรวม
(1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การลบจำำ�นวน
ตามแนวนอนและ
ตามแนวตั้้�ง (1/2)

(  J  )
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การลบด้้วยศููนย์์
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง ความสััมพัันธ์์
ของการบวกและ
การลบ
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การหา
ตััวไม่่ทราบค่่า
ในประโยคสััญลัักษณ์์
(1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง โจทย์์ปััญหา
การลบที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9 (1/3)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสร้้างโจทย์์
ปััญหาการลบที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9 (1/3)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่มีีตั
� ัวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9
- บััตรภาพ
- บััตรประโยคสััญลัักษณ์์
- บััตรตััวเลข
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

4 ตััวชี้้�วััดระหว่่างทาง
1. บอกจำำ�นวนของสิ่่�งต่่าง ๆ แสดงสิ่่�งต่่าง ๆ
1) สมรรถนะที่่� 1
ความสามารถในการสื่่�อสาร
- ตรวจแบบทดสอบ
ก่่อนเรีียน
- แบบทดสอบก่่อนเรีียน
- หนัังสืือเรีียนรายวิิชา
จำ�นวนนับ ตามจำำ�นวนที่่�กำำ�หนด อ่่านและเขีียนตััวเลข - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ตััวชี้้�วััดที่่� 1
11 ถึง 20 ฮิินดููอารบิิก ตััวเลขไทย แสดงจำำ�นวนนัับ การแสดงจำำ�นวนนัับ ป.1 เล่่ม 1
 ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความ
ไม่่เกิิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/1) เข้้าใจ ความคิิด ความรู้้�สึึกและทััศนะ 11 ถึึง 20 ในรููป - แบบฝึึกหััดรายวิิชา
12 2. เปรีียบเทีียบจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 ของตนเองด้้วยการพููดและการเขีียน ความสััมพัันธ์์ของ พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง โดยใช้้เครื่่�องหมาย =, ≠, >, < พฤติิกรรมบ่่งชี้้� จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย ป.1 เล่่ม 1
(มฐ. ค 1.1 ป.1/2) 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ และส่่วนรวม - ใบงาน เรื่่�อง การแสดง
ตััวชี้้�วััดปลายทาง จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ตรวจใบงาน เรื่่�อง จำำ�นวนนัับ 11 ถึึง 20
1. เรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 ตามที่่�กำำ�หนดได้้ การเขีียนจำำ�นวนนัับ ในรููปความสััมพัันธ์์ของ
ตั้้�งแต่่ 3 ถึึง 5 จำำ�นวน (มฐ. ค 1.1 ป.1/3) 3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ 11 ถึึง 20 ในรููป จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู กระจาย และส่่วนรวม
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - ใบงาน เรื่่�อง การเขีียน
การเปรีียบเทีียบ จำำ�นวนนัับ 11 ถึึง 20
จำำ�นวน ในรููปกระจาย
- ตรวจใบงาน เรื่่�อง - ใบงาน เรื่่�อง
การเรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวน การเปรีียบเทีียบ
- ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ จำำ�นวน
- ตรวจแบบฝึึกหััด

(K)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
2) สมรรถนะที่่� 2 - สัังเกตพฤติิกรรม - ใบงาน เรื่่�อง
ความสามารถในการคิิด การทำำ�งานรายบุุคคล การเรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวน
ตััวชี้้�วััดที่่� 1 - สัังเกตพฤติิกรรม - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การทำำ�งานกลุ่่�ม การเดิินทาง
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� - ประเมิินคุุณลัักษณะ มาโรงเรีียน
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ อัันพึึงประสงค์์ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - สัังเกตความสามารถ เรื่่�อง การบอก
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว ในการสื่่�อสาร การอ่่าน และการเขีียน
และการคิิด ตััวเลขแสดงจำำ�นวนนัับ
- ประเมิินความสามารถ 11 ถึึง 20
ในการสื่่�อสารและ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
การคิิด จากกิิจกรรม เรื่่�อง การแสดง
Active Learning จำำ�นวนนัับ 11 ถึึง 20
หรืือใบกิิจกรรม เรื่่�อง ในรููปความสััมพัันธ์์ของ
การเดิินทาง จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย
มาโรงเรีียน โดยใช้้ และส่่วนรวม (2/3)
เกณฑ์์การประเมิินจาก - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
แบบประเมิินสมรรถนะ เรื่่�อง หลัักและค่่าของ
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน เลขโดดในหลัักหน่่วย
- ตรวจแบบทดสอบ และหลัักสิิบ
หลัังเรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การเขีียน
จำำ�นวนนัับ 11 ถึึง 20
ในรููปกระจาย (1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การเปรีียบเทีียบ
จำำ�นวน (1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การเรีียงลำำ�ดัับ
จำำ�นวน (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 11 ถึึง 20
- บััตรตััวเลขฮิินดููอารบิิก
บััตรตััวเลขไทย และ
บััตรตััวหนัังสืือ
- บััตรตััวเลข
- บััตรภาพ
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

(L)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน

5 ตััวชี้้�วััดระหว่่างทาง
1. หาค่่าของตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์
1) สมรรถนะที่่� 1
ความสามารถในการสื่่�อสาร
- ตรวจแบบทดสอบ
ก่่อนเรีียน
- แบบทดสอบก่่อนเรีียน
- หนัังสืือเรีียนรายวิิชา
การบวก แสดงการบวกและประโยคสััญลัักษณ์์แสดง - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ตััวชี้้�วััดที่่� 1
จำ�นวน การลบของจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 การบวกจำำ�นวนที่่�มีี ป.1 เล่่ม 1
 ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความ
ที่มีผลบวก (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) เข้้าใจ ความคิิด ความรู้้�สึึกและทััศนะ หนึ่่�งหลัักสองจำำ�นวน - แบบฝึึกหััดรายวิิชา
ไม่เกิน 20 ตััวชี้้�วััดปลายทาง ของตนเองด้้วยการพููดและการเขีียน - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
1. แสดงวิิธีีหาคำำ�ตอบของโจทย์์ปััญหาการบวก พฤติิกรรมบ่่งชี้้� การบวกจำำ�นวนที่่�มีี ป.1 เล่่ม 1
16 และโจทย์์ปััญหาการลบของจำำ�นวนนัับ 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ สองหลัักกัับหนึ่่�งหลััก - ใบงาน เรื่่�อง การบวก
ชั่วโมง ไม่่เกิิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/5) จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ตรวจใบงาน เรื่่�อง จำำ�นวนที่่มีี� หนึ่่�งหลััก
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ การหาตััวไม่่ทราบค่่า สองจำำ�นวน
3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ ในประโยคสััญลัักษณ์์ - ใบงาน เรื่่�อง การบวก
จากสารที่่อ่� ่าน ฟััง หรืือดูู - ตรวจใบงาน เรื่่�อง จำำ�นวนที่่มีี� สองหลััก
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ โจทย์์ปััญหาการบวก กัับหนึ่่�งหลััก
ที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 20 - ใบงาน เรื่่�อง การหา
2) สมรรถนะที่่� 2 - ตรวจใบงาน เรื่่�อง ตััวไม่่ทราบค่่า
ความสามารถในการคิิด การสร้้างโจทย์์ปััญหา ในประโยคสััญลัักษณ์์
ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การบวกที่่�มีีผลบวก - ใบงาน เรื่่�อง
คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) ไม่่เกิิน 20 โจทย์์ปััญหาการบวก
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 20
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ - ตรวจแบบฝึึกหััด - ใบงาน เรื่่�อง
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - สัังเกตพฤติิกรรม การสร้้างโจทย์์ปััญหา
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว การทำำ�งานรายบุุคคล การบวกที่่�มีีผลบวก
- สัังเกตพฤติิกรรม ไม่่เกิิน 20
การทำำ�งานกลุ่่�ม - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
- ประเมิินคุุณลัักษณะ จัับสลากของขวััญ
อัันพึึงประสงค์์ ปีีใหม่่
- สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ในการสื่่�อสาร เรื่่�อง การบวกโดยการ
และการคิิด นัับต่่อ
- ประเมิินความสามารถ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ในการสื่่�อสารและ เรื่่�อง การบวกโดยใช้้
การคิิด จากกิิจกรรม การนัับต่่อและ
Active Learning ใช้้ความสััมพัันธ์์แบบ
หรืือใบกิิจกรรม เรื่่�อง ส่่วนย่่อย-ส่่วนรวม
จัับสลากของขวััญ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ปีีใหม่่ โดยใช้้เกณฑ์์ เรื่่�อง การบวกตาม
การประเมิินจากแบบ แนวตั้้�ง (1/2)
ประเมิินสมรรถนะ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน เรื่่�อง การบวกตาม
- ตรวจแบบทดสอบ แนวนอน (1/2)
หลัังเรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสลัับที่่�ของ
การบวก (1/2)

(M)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การบวกจำำ�นวน
สามจำำ�นวน (1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การบวกจำำ�นวน
สามจำำ�นวน (2/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การหา
ตััวไม่่ทราบค่่า
ในประโยคสััญลัักษณ์์
(1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง โจทย์์ปััญหา
การบวกที่่�มีีผลบวก
ไม่่เกิิน 20 (1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสร้้างโจทย์์
ปััญหาการบวกที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 20
(1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวนที่่มีี�
ผลบวกไม่่เกิิน 20
- บััตรภาพ
- บััตรประโยคสััญลัักษณ์์
- บััตรตััวเลข
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

6 ตััวชี้้�วััดระหว่่างทาง
1. หาค่่าของตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์
1) สมรรถนะที่่� 1
ความสามารถในการสื่่�อสาร
- ตรวจแบบทดสอบ
ก่่อนเรีียน
- แบบทดสอบก่่อนเรีียน
- หนัังสืือเรีียนรายวิิชา
การลบ แสดงการบวกและประโยคสััญลัักษณ์์แสดง - ตรวจใบงาน เรื่่�อง พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
ตััวชี้้�วััดที่่� 1
จำ�นวน การลบของจำำ�นวนนัับไม่่เกิิน 100 และ 0 การลบตามแนวตั้้�ง ป.1 เล่่ม 1
 ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความ
ที่มีตัวตั้ง (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) เข้้าใจ ความคิิด ความรู้้�สึึกและทััศนะ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - แบบฝึึกหััดรายวิิชา
ไม่เกิน 20 ตััวชี้้�วััดปลายทาง ของตนเองด้้วยการพููดและการเขีียน การลบตามแนวนอน พื้้�นฐาน คณิิตศาสตร์์
1. แสดงวิิธีีหาคำำ�ตอบของโจทย์์ปััญหาการบวก พฤติิกรรมบ่่งชี้้� - ตรวจใบงาน เรื่่�อง ป.1 เล่่ม 1
18 และโจทย์์ปััญหาการลบของจำำ�นวนนัับ 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ โจทย์์ปััญหาการลบ - ใบงาน เรื่่�อง การลบ
ชั่วโมง ไม่่เกิิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/5) จากสารที่่อ่� ่าน ฟััง หรืือดูู ที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20 ตามแนวตั้้�ง
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - ใบงาน เรื่่�อง การลบ
3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ การสร้้างโจทย์์ปััญหา ตามแนวนอน
จากสารที่่อ่� ่าน ฟััง หรืือดูู การลบที่่�มีีตััวตั้้�ง - ใบงาน เรื่่�อง
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ ไม่่เกิิน 20 โจทย์์ปััญหาการลบ
- ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20
- ตรวจแบบฝึึกหััด - ใบงาน เรื่่�อง
- สัังเกตพฤติิกรรม การสร้้างโจทย์์ปััญหา
การทำำ�งานรายบุุคคล การลบที่่�มีีตััวตั้้�ง
- สัังเกตพฤติิกรรม ไม่่เกิิน 20
การทำำ�งานกลุ่่�ม

(N)
หน่วย สมรรถนะสำ�คัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน
2) สมรรถนะที่่� 2 - ประเมิินคุุณลัักษณะ - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
ความสามารถในการคิิด อัันพึึงประสงค์์ ออมเงิินที่่�เหลืือ
ตััวชี้้�วััดที่่� 1 - สัังเกตความสามารถ หลัังเลืือกซื้้�อสิินค้้า
คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) ในการสื่่�อสาร - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� และการคิิด เรื่่�อง การลบโดยการ
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ - ประเมิินความสามารถ นัับย้้อนกลัับและ
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ ในการสื่่�อสารและ นัับต่่อ
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว การคิิด จากกิิจกรรม - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
Active Learning เรื่่�อง การลบโดยใช้้
หรืือใบกิิจกรรม เรื่่�อง ความสััมพัันธ์์ของ
ออมเงิินที่่�เหลืือ จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย
หลัังเลืือกซื้้�อสิินค้้า และส่่วนรวม (1/2)
โดยใช้้เกณฑ์์การ - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
ประเมิินจากแบบ เรื่่�อง การลบตาม
ประเมิินสมรรถนะ แนวตั้้�ง (1/2)
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน - คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
- ตรวจแบบทดสอบ เรื่่�อง การลบตาม
หลัังเรีียน แนวนอน
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง ความสััมพัันธ์์
ของการบวกและ
การลบ
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การหา
ตััวไม่่ทราบค่่า
ในประโยคสััญลัักษณ์์
(1/2)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง โจทย์์ปััญหา
การลบที่่มีีตั � ัวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 20 (1/3)
- คลิิปอัักษรเรีียนสรุุป
เรื่่�อง การสร้้างโจทย์์
ปััญหาการลบที่่�มีี
ตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20 (1/3)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนที่่�มีี
ตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20
- แบบทดสอบหลัังเรีียน

(O)
หน่วย สมรรถนะสำาคัญ
ตัวชี้วัด การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ ของผู้เรียน

7 ตััวชี้้�วัดระหว่างทาง
-
1) สมรรถนะท้� 1
ความิสามิารถในการส่�อสาร
- ตรวจแบบที่ดสอบ
ก่อนเร่ยน
- แบบที่ดสอบก่อนเร่ยน
- หนังส่อเร่ยนรายวิช้า
รูปเรขาคณิต - ตรวจกิจกรรมิฝึึกที่ักษะ พั่�นฐาน คณิตศาสตร์
ตััวชี้้�วัดปลายทาง ตััวชี้้�วัดท้� 1
ใช้้ภาษาถ่ายที่อดความิร้้ ความิ - ตรวจแบบฝึึกหัด ป.1 เล่มิ 1
6 1. จำาแนกร้ปสามิเหล่�ยมิ ร้ปส่�เหล่�ยมิ วงกลมิ
วงร่ ที่รงส่�เหล่�ยมิมิุมิฉัาก ที่รงกลมิ เข้าใจ ความิคิด ความิร้้สึกและที่ัศนะ - สังเกตพัฤติกรรมิ - แบบฝึึกหัดรายวิช้า
ชั่วโมง ที่รงกระบอก และกรวย (มิฐ. ค 2.2 ป.1/1) ของตนเองด้วยการพั้ดและการเข่ยน การที่ำางานรายบุคคล พั่�นฐาน คณิตศาสตร์
พฤตัิกรรมบ่่งชี้้� - สังเกตพัฤติกรรมิ ป.1 เล่มิ 1
1. พั้ดถ่ายที่อดความิร้้ ความิเข้าใจ การที่ำางานกลุ่มิ - ใบกิจกรรมิ เร่�อง
จากสารที่่�อ่าน ฟััง หร่อด้ - ประเมิินคุณลักษณะ การ์ดอวยพัรวันเกิด
ตามิที่่�กำาหนดได้ อันพัึงประสงค์ แด่คุณคร้
3. เข่ยนถ่ายที่อดความิร้้ ความิเข้าใจ - สังเกตความิสามิารถ - คลิปอักษรเร่ยนสรุป
จากสารที่่�อ่าน ฟััง หร่อด้ ในการส่�อสาร เร่�อง ร้ปเรขาคณิต
ตามิที่่�กำาหนดได้ และการคิด สองมิิติ (1/2)
- ประเมิินความิสามิารถ - คลิปอักษรเร่ยนสรุป
2) สมรรถนะท้� 2 ในการส่�อสารและ เร่�อง ร้ปเรขาคณิต
ความิสามิารถในการคิด การคิด จากกิจกรรมิ สามิมิิติ (1/2)
ตััวชี้้�วัดท้� 2 Active Learning - PowerPoint เร่�อง
คิดขั�นส้ง (การคิดสังเคราะห์ หร่อใบกิจกรรมิ เร่�อง ร้ปเรขาคณิต
คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมิ่วิจารณญาณ) การ์ดอวยพัรวันเกิด - กระดาษส่ตัดเป็น
พฤตัิกรรมบ่่งชี้้� แด่คุณคร้ โดยใช้้ ร้ปสามิเหล่�ยมิ
2. คิดอย่างสร้างสรรค์ เพั่�อนำาไปส้่ เกณฑ์์การประเมิินจาก ร้ปส่�เหล่�ยมิ วงกลมิ
การสร้างองค์ความิร้้ใหมิ่หร่อ แบบประเมิินสมิรรถนะ และวงร่
สารสนเที่ศประกอบการตัดสินใจ สำาคัญของผู้้้เร่ยน - กล่องส่�เหล่�ยมิมิุมิฉัาก
เก่�ยวกับตนเองและสังคมิได้อย่าง - ตรวจแบบที่ดสอบ - แกนกระดาษช้ำาระ
เหมิาะสมิ หลังเร่ยน - ล้กปิงปอง
- แก้วที่รงกรวย
- สิ�งของต่าง ๆ ที่่�อย้่
ในห้องเร่ยน
- แบบที่ดสอบหลังเร่ยน

(P)
สารบัญ

โครงสร้าง แนวทาง
สาระสำาคัญ
หน่วยการเรียนรู้ การจััดการเรียนรู้
สำาหรับครู
การจััด
รายหน่วยการเรียนรู้ การเรียนรู้

ย่า

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จัำานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 T2–T6 T7–T8 T9–T36



ตัว
่วย
หน

1 การบ่อกจำำานวนนับ่ 1 ถึง 10 และ 0 T10–T13

2 การอ่านและการเข้ยนตััวเลขแสดงจำำานวนนับ่ 1 ถึง 10 T14–T16


และ 0
3 การแสดงจำำานวนนับ่ไม่เกิน 10 ในร้ปค่วามสัมพันธ์์ T17–T21
ของจำำานวนแบ่บ่ส่วนย่อยและส่วนรวม
4 การเปร้ยบ่เท้ยบ่จำำานวน T22–T29

5 การเร้ยงลำาดับ่ T30–T32

6 การบ่อกอันดับ่ท้� T33–T34

ท้ายหน่วยการเร้ยนร้้ท้� 1 T35–T36

2 การบวกจัำานวนสองจัำานวน T37–T40 T41–T42 T43–T66


่าง

หน่วยการเรียนรู้ที่
อย
ตัว

ที่มีผลบวกไม่เกิน 9
่วย
หน

1 ค่วามหมายของการบ่วก T44–T45

2 ประโยค่สัญลักษณ์์แสดงการบ่วก T46–T49

3 การบ่วกจำำานวนสองจำำานวนท้�ม้ผลบ่วกไม่เกิน 9 T50–T55

4 การสลับ่ท้�ของการบ่วก T56

5 การบ่วกด้วยศ้นย์ T57–T58

6 โจำทย์ปัญหาการบ่วกท้�ม้ผลบ่วกไม่เกิน 9 T59–T61

7 การสร้างโจำทย์ปัญหาการบ่วกท้�ม้ผลบ่วกไม่เกิน 9 T62–T64

ท้ายหน่วยการเร้ยนร้้ท้� 2 T65–T66

(Q)
โครงสร้าง แนวทาง
สาระสำาคัญ
หน่วยการเรียนรู้ การจััดการเรียนรู้
สำาหรับครู
การจััด
รายหน่วยการเรียนรู้ การเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การลบจัำานวนสองจัำานวน T67–T72 T74–T74 T75–T102



ย่า

ตัว

ที่มีตัวตั้งไม่เกิน 9
่วย
หน

1 ค่วามหมายของการลบ่ T76–T77

2 ประโยค่สัญลักษณ์์แสดงการลบ่ T78–T80

3 การลบ่จำำานวนสองจำำานวนท้�ม้ตััวตัั�งไม่เกิน 9 T81–T85

4 การลบ่ด้วยศ้นย์ T86–T90

5 ค่วามสัมพันธ์์ของการบ่วกและการลบ่ T91–T92

6 การหาตััวไม่ทราบ่ค่่าในประโยค่สัญลักษณ์์ T93–T94

7 โจำทย์ปัญหาการลบ่ท้�ม้ตััวตัั�งไม่เกิน 9 T95–T97

8 การสร้างโจำทย์ปัญหาการลบ่ท้�ม้ตััวตัั�งไม่เกิน 9 T98–T100

ท้ายหน่วยการเร้ยนร้้ท้� 3 T101–T102
่าง

4 จัำานวนนับ 11 ถึง 20 T103–T106 T107–T108 T109–T134


อย

หน่วยการเรียนรู้ที่
ตัว
่วย
หน

1 จำำานวนนับ่ 11 ถึง 20 T110–T113

2 การแสดงจำำานวนนับ่ 11 ถึง 20 ในร้ปค่วามสัมพันธ์์ T114–T118


ของจำำานวนแบ่บ่ส่วนย่อยและส่วนรวม
3 การเข้ยนตััวเลขแสดงจำำานวนในร้ปกระจำาย T119–T123

4 การเปร้ยบ่เท้ยบ่จำำานวน T124–T128

5 การเร้ยงลำาดับ่จำำานวน T129–T132

ท้ายหน่วยการเร้ยนร้้ท้� 4 T133–T134

(R)
โครงสร้้าง แนวทาง
สาระสำ�คัญ
หน่วยการเรียนรู้ การจััดการเรีียนรู้้�
สำ�หรับครู
การจัด
รายหน่่วยการเรีียนรู้้� การเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การบวกจำ�นวนที่มีผลบวก T135–T138 T139–T140 T141–T164


ไม่เกิน 20

1 การบวกจำำ�นวนที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 20 T142–T149

2 การสลัับที่่�ของการบวก T150

3 การบวกจำำ�นวนสามจำำ�นวน T151–T153

4 การหาตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์ T154–T156

5 โจทย์์ปััญหาการบวกที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 20 T157–T159

6 การสร้้างโจทย์์ปััญหาการบวกที่่�มีีผลบวกไม่่เกิิน 20 T160–T162

ท้้ายหน่่วยการเรีียนรู้้�ที่่� 5 T163–T164

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การลบจำ�นวนที่มีตัวตั้ง T165–T168 T169–T170 T171–T196


ไม่เกิน 20

1 การลบจำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20 T172–T183

2 ความสััมพัันธ์์ของการบวกและการลบ T184–T185

3 การหาตััวไม่่ทราบค่่าในประโยคสััญลัักษณ์์ T186–T187

4 โจทย์์ปััญหาการลบที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20 T188–T191

5 การสร้้างโจทย์์ปััญหาการลบที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 20 T192–T194

ท้้ายหน่่วยการเรีียนรู้้�ที่่� 6 T195–T196

หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 รูปเรขาคณิต T197–T199 T200 T201–T214

1 รููปเรขาคณิิตสองมิิติิ T202–T207

2 รููปเรขาคณิิตสามมิิติิ T208–T212
ท้้ายหน่่วยการเรีียนรู้้�ที่่� 7 T213–T214

(S)
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้หน่ วยที่ 1

แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 1 1. อธิิบายวิธิีการนับ สมรรถนะที่่� 1 การจำัด้การ - ต้รวจำแบบทด้สัอบก่อนเรียน - แบบทด้สัอบ
การบอก จำำานวนนับ 1 ถูึง 10 ความสัามารถูในการสั่�อสัาร เรียนรู้ - ต้รวจำใบงาน เร่�อง การบอก ก่อนเรียน
การอ่านและ และ 0 ได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้่�วัดที่่� 1 โด้ยใช้้สัมอง จำำานวนนับ 1 ถูึง 10 และ 0 - หนังสั่อเรียน
การเขีย่น 2. บอกปริมาณของสัิง� ต้่าง ๆ ใช้้ภาษาถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ เป็นฐาน - ต้รวจำใบงาน เร่�อง การเขียน รายวิช้าพั่�นฐาน
ตัวเลข โด้ยใช้้จำาำ นวนได้้ถูกู ต้้อง ความคิด้ ความรู้สัึก และทัศนะของต้นเอง (Brain- ต้ัวเลขแสัด้งจำำานวน คณิต้ศาสัต้ร์
ฮินดูอารบิก (K, A) ด้้วยการพัูด้และการเขียน Based - ต้รวจำกิจำกรรมฝึึกทักษะ ป.1 เล่ม 1
3. อธิิบายวิธิีการเขียนต้ัวเลข พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� Learning) - ต้รวจำแบบฝึึกหัด้ - แบบฝึึกหัด้
ตัวเลขไทีย่
ฮินดู้อารบิก ต้ัวเลขไทย 1. พัูด้ถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ - ประเมินการนำาเสันอผู้ลงาน รายวิช้าพั่�นฐาน
ตัวหนังสือ
ต้ัวหนังสั่อแสัด้งจำำานวนนับ จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม คณิต้ศาสัต้ร์
แสดง 1 ถูึง 10 และ 0 ได้้ถููกต้้อง การทำางานรายบุคคล ป.1 เล่ม 1
จำำานวนนับ 1 ต้ามที�กำาหนด้ได้้
(K, A) 3. เขียนถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม - ใบงาน เร่�อง
ถึง 10 และ 0 4. เขียนและอ่านต้ัวเลข การทำางานกลุ่ม การบอกจำำานวนนับ
จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้
ฮินดู้อารบิก ต้ัวเลขไทย - ประเมินคุณลักษณะ 1 ถูึง 10 และ 0
3 และต้ัวหนังสั่อแสัด้ง
ต้ามที�กำาหนด้ได้้
อันพัึงประสังค์ - ใบงาน เร่�อง
ชั่วโมง จำำานวนนับ 1 ถูึง 10 - สัังเกต้ความสัามารถู การเขียนต้ัวเลข
และ 0 ได้้ถููกต้้อง (S, A) ในการสั่�อสัาร แสัด้งจำำานวน
1 ถูึง 10 และ 0
- ลูกปิงปอง
- ต้ะกร้าใสั่ลกู ปิงปอง
- ด้ินสัอ
- คลิปอักษร
เรียนสัรุป เร่�อง
การบอกจำำานวนนับ
1 ถูึง 10 และ 0
- คลิปอักษร
เรียนสัรุป เร่�อง
การอ่านและ
การเขียนต้ัวเลข
แสัด้งจำำานวนนับ
1 ถูึง 10 และ 0
(1/2)
- PowerPoint เร่�อง
จำำานวนนับ 1 ถูึง 10
และ 0

T2
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 2 1. อธิิบายความสััมพัันธ์์ของ สมรรถนะที่่� 1 การจััดการ - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การแสดง จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อยและ ความสามารถในการสื่่�อสาร เรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
จำำ�นวนนัับ ส่่วนรวมได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 โดยใช้้สมอง - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
ไม่่เกิิน 10 2. เขีียนแสดงจำำ�นวนนัับ ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ เป็็นฐาน การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
ในรููปความ ไม่่เกิิน 10 ในรููปความ ความคิิด ความรู้้�สึึก และทััศนะของตนเอง (Brain- - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
สััมพัันธ์์ของ สััมพัันธ์์ของจำำ�นวนแบบ ด้้วยการพููดและการเขีียน Based การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
ส่่วนย่่อยและส่่วนรวม พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Learning) - ประเมิินคุุณลัักษณะ คณิิตศาสตร์์
จำำ�นวนแบบ
ได้้ถููกต้้อง (S, A) 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
ส่่วนย่่อย
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ประเมิินความสามารถ - ใบกิิจกรรม เรื่่�อง
และส่่วนรวม ในการสื่่อ� สารจากใบกิิจกรรม บ้้านในฝัันของฉััน
ตามที่่�กำำ�หนดได้้
เรื่่�อง บ้้านในฝัันของฉััน - บััตรภาพ
2 3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู โดยใช้้เกณฑ์์การประเมิิน - ลููกปิิงปอง
ชั่วโมง จากแบบประเมิินสมรรถนะ - กล่่องสำำ�หรัับ
ตามที่่�กำำ�หนดได้้
สำำ�คััญของผู้้�เรีียน ใส่่ลููกปิิงปอง
- คลิิปสื่่�อประกอบ
การสอน เรื่่�อง
ความสััมพัันธ์์
ของจำำ�นวน
แบบส่่วนย่่อย
และส่่วนรวม
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การแสดง
จำำ�นวนนัับไม่่เกิิน
10 ในรููปความ
สััมพัันธ์์ของจำำ�นวน
แบบส่่วนย่่อยและ
ส่่วนรวม (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10
และ 0

T3
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 3 1. อธิิบายวิิธีกี ารเปรีียบเทีียบ สมรรถนะที่่� 2 การเรีียน - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การ จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10 และ ความสามารถในการคิิด การสอนเน้้น - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
เปรีียบเทีียบ 0 ว่่ามีีค่า่ เท่่ากััน ไม่่เท่่ากััน ตััวชี้้�วััดที่่� 1 มโนทััศน์์ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
จำำ�นวน มากกว่่า หรืือน้้อยกว่่า คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Concept การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
โดยใช้้เครื่่�องหมาย =, ≠ พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Based - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
2 > หรืือ < ได้้ถููกต้้อง
(K, A)
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ Teaching
and
การทำำ�งานกลุ่่�ม
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
รายวิิชาพื้้�นฐาน
คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ
2. เปรีียบเทีียบจำำ�นวนนัับ ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว Learning) อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
1 ถึึง 10 และ 0 ว่่ามีีค่่า - สัังเกตความสามารถ - ดิินสอ
เท่่ากััน ไม่่เท่่ากััน ในการคิิด - ปากกา
มากกว่่าหรืือน้้อยกว่่า - บััตรภาพ
โดยใช้้เครื่่�องหมาย =, ≠ - คลิิปอัักษร
> หรืือ < ได้้ถููกต้้อง เรีียนสรุุป เรื่่�อง
(S, A) การเปรีียบเทีียบ
จำำ�นวน (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10
และ 0

T4
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 4 1. อธิิบายวิิธีีการเรีียงลำำ�ดัับ สมรรถนะที่่� 2 รููปแบบ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - หนัังสืือเรีียน
การ จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10 และ ความสามารถในการคิิด การจััด การเรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวน 1 รายวิิชาพื้้�นฐาน
เรีียงลำำ�ดัับ 0 ได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน ถึึง 10 และ 0 คณิิตศาสตร์์
จำำ�นวน 2. เรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวนนัับ 1 คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การสอน - ตรวจใบงาน เรื่่�อง ป.1 เล่่ม 1
ถึึง 10 และ 0 จาก พฤติิกรรมบ่่งชี้้� แบบสืืบสอบ การเรีียงลำำ�ดัับจำำ�นวน - แบบฝึึกหััด
2 น้้อยไปมากและจาก
มากไปน้้อยได้้ถููกต้้อง
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ ความรู้้�
(5Es
- ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ
- ตรวจแบบฝึึกหััด
รายวิิชาพื้้�นฐาน
คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ
(S, A) ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว Instructional - สัังเกตพฤติิกรรม ป.1 เล่่ม 1
Model) การทำำ�งานรายบุุคคล - ใบงาน เรื่่�อง
- สัังเกตพฤติิกรรม การเรีียงลำำ�ดัับ
การทำำ�งานกลุ่่�ม จำำ�นวน 1 ถึึง 10
- ประเมิินคุุณลัักษณะ และ 0
อัันพึึงประสงค์์ - ใบงาน เรื่่�อง
- สัังเกตความสามารถ การเรีียงลำำ�ดัับ
ในการคิิด จำำ�นวน
- บััตรภาพ
- บััตรตััวเลข
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การเรีียงลำำ�ดัับ
จำำ�นวน
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 1 ถึึง 10
และ 0

T5
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 5 1. อธิิบายอันด้ับที� 1) สมรรถนะที่่� 1 การจำัด้ - แบบทด้สัอบหลังเรียน - แบบทด้สัอบ
การบอก หร่อต้ำาแหน่งของสัิ�งต้่าง ๆ ความสัามารถูในการสั่�อสัาร การเรียนรู้ - ต้รวจำใบงาน เร่�อง หลังเรียน
อันดับทีี่ ได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นพับ การบอกอันด้ับที� - หนังสั่อเรียน
2. เขียนต้ัวเลขบอกอันด้ับที� ใช้้ภาษาถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ (Discovery - ต้รวจำกิจำกรรมฝึึกทักษะ รายวิช้าพั่�นฐาน
2 หร่อต้ำาแหน่งของสัิ�งต้่าง ๆ ความคิด้ ความรู้สัึก และทัศนะของ
ได้้ถููกต้้อง (S, A)
Method) - ต้รวจำแบบฝึึกหัด้
- สัังเกต้พัฤต้ิกรรม
คณิต้ศาสัต้ร์
ป.1 เล่ม 1
ชั่วโมง ต้นเองด้้วยการพัูด้และการเขียน
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� การทำางานรายบุคคล - แบบฝึึกหัด้
1. พัูด้ถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม รายวิช้าพั่�นฐาน
จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ การทำางานกลุ่ม คณิต้ศาสัต้ร์
ต้ามที�กำาหนด้ได้้ - ประเมินคุณลักษณะ ป.1 เล่ม 1
3. เขียนถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ อันพัึงประสังค์ - ใบงาน เร่�อง
จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ - ประเมินความสัามารถู การบอกอันด้ับที�
ต้ามที�กำาหนด้ได้้ ในการสั่�อสัารและการคิด้ - ใบกิจำกรรม เร่�อง
จำากกิจำกรรม Active ขนมที�ฉัันเล่อกซ่�อ
2) สมรรถนะที่่� 2 Learning หร่อใบกิจำกรรม - บัต้รต้ัวเลข
ความสัามารถูในการคิด้ เร่�อง ขนมที�ฉัันเล่อกซ่�อ - บัต้รภาพั
ตััวชี้่�วัดที่่� 1 โด้ยใช้้เกณฑ์์การประเมิน - คลิปอักษร
คิด้พั่�นฐาน (การคิด้วิเคราะห์) จำากแบบประเมินสัมรรถูนะ เรียนสัรุป เร่�อง
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� สัำาคัญของผูู้้เรียน การบอกอันด้ับที�
3. ระบุรายละเอียด้ คุณลักษณะ และ - PowerPoint เร่�อง
ความคิด้รวบยอด้ของข้อมูลต้่าง ๆ จำำานวนนับ 1 ถูึง 10
ที�พับเห็นในบริบทที�เป็นสัิ�งใกล้ต้ัว และ 0

T6
สาระสําคัญสําหรับครู
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 จํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0

การบอกจำานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 การอานและการเขียนตัวเลข


แสดงจำานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0

ตััวเลข ตััวเลขไที่ย ตััวหนังสือ


ฮินดูอารบ่ิก
1
2 1
2
หนึ�ง
1
2 3 1
2 สอง
1
2
2
1
3 สาม
1
2
2 1 ส่�
1 3
2 2
3
1 หา
1
2 1
2
หก
1
2 1 2 เจ็ด
1
2
3
2
3
1 แปด
1
2 1
3
2 เกา
1
1
2 2
1
2 1
2 สิบ่
1
2
1
2 ศูนย

T7
การแสดงจำานวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธ์ของจำานวนแบบสวนยอยและสวนรวม

สั่วนย่อย
2

สัต้รอว์เบอร์รี 2 ผู้ล
5 สั่วนรวม

3
มีผู้ลไม้ 5 ผู้ล
สั่วนย่อย

สั้ม 3 ผู้ล

2 รวมกับ 3 ได้้ 5 เรียกวงกลมวงด้้านซ้ายว่า ส่วนย่อย และเรียกวงกลมวงด้้านขวาว่า ส่วนรวม

การเปรียบเทียบจำานวน
สัต้รอว์เบอร์รี 3 ผู้ล สัต้รอว์เบอร์รี 2 ผู้ล
จำับคู่ไม่พัอด้ี
จำับคู่ได้้พัอด้ี
เหล่อสั้ม 1 ผู้ล

3=3 2≠3
สั้ม 3 ผู้ล สั้ม 3 ผู้ล

การเรียงลำาดับจำานวน
เร่ยงลําดับ่จํานวนจากนอยไปมาก เร่ยงลําดับ่จํานวนจากมากไปนอย
3 2 4 1 3 5

2 <3 <4 5 >3 >1


เรียงลำาด้ับจำำานวนจำากน้อยไปมากได้้ ด้ังนี� 2 3 4 เรียงลำาด้ับจำำานวนจำากมากไปน้อยได้้ ด้ังนี� 5 3 1

การบอกอันดับที่
แมว อยู่ในอันด้ับที� 1
สัุนัข อยู่ในอันด้ับที� 2
เป็ด้ อยู่ในอันด้ับที� 3
ไก่ อยู่ในอันด้ับที� 4
แกะ อยู่ในอันด้ับที� 5

T8
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

Brain-Based Learning

1
หนวยการเรียนรูที่
ขั�นนํ า
จาํ นวนนั ���������������� เตรียมความพร้อมของสมอง

1. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียน
เตรียมพรอมกอนเรียน 2. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น ร อ งเพลงและเต น
ประกอบเพลง หากพวกเรากำลังสบาย
เพลง หากพวกเรากำลังสบาย
หากพวกเรากำลังสบาย (จงตบมือ) พลัน
หากพวกเรากำลังสบาย (จงตบมือ) พลัน
หากพวกเรากำลังมีสุข หมดความทุกขไปแลว
ทุกสิ่ง มัวประวิงอะไรกันเลา (จงตบมือ) พลัน
(กระทืบเทา ผงกหัว สงเสียงดัง)
3. ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับจำนวนสิ่งตางๆ ที่อยู
รอบตัว เชน กระดานดำ ประตู หนาตาง
4. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย นโดยให
นักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวถามนักเรียนวา
“สัตวชนิดใดมีจำนวนมากที่สุด สัตวชนิดใด
มีจำนวนนอยที่สุด เรารูไดอยางไร”
หมายเหตุ : ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น เฉลย
คำถามประจำหนวยการเรียนรูห ลังเรียนหนวย
¬³—©qŒ›¶–Å–£·ŠÏ´›©›£´ƒ™·Ê¬º– การเรียนรูที่ 1
¬³—©qŒ›¶–Å–£·ŠÏ´›©››n¯¤™·Ê¬º–
Â¥´¥»nƖn¯¤m´‰Æ¥
?
µÑǪÕéÇÑ´ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
• บอกจํานวนของสิ�งตาง � แสดงสิ�งตาง � ตามจํานวนที่กําหนด • การบอกจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
อานและเขียนตัวเลข�ินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจํานวนนับ • การอานและการเขียนตัวเลขแสดงจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
ไมเกิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/1) • การแสดงจํานวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธของจํานวน
• เปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 100 และ 0 โดยใชเครื่องหมาย แบบสวนยอยและสวนรวม

 ไข ารณ

= > < (มฐ. ค 1.1 ป.1/2) • การเปรียบเทียบจํานวน


ุงแก พิจ
ปร วจ

• เรียงลำ • การเรียงลําดับจํานวน
รับ ตร

งลําด้ัดับจํจำำานวนนับไม่
ไมเกิน 100 และ 00 ต้ัตั�ง้งแต้่
แต 33 ถูึถึงง55จำำจําานวน
นวน
รป สง
ีกา าง

• การบอกอันดับที่
จม ะหว

(มฐ. ค 1.1 ป.1/3)


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ คำาถามประจำาหนวยการเรียนรู้ที่ 1 หนา 1


เป้าหมาย การเรียนรู้
แกะมีจำนวนมากที่สุด และมามีจำนวนนอยที่สุด หาคำตอบโดยการนับ
การจั ด การเรี ย นการสอนในหน ว ยการเรี ย นรู นี้ มุ ง เน น ให ผู เ รี ย น จำนวนสัตวแตละชนิดแลวนำมาเปรียบเทียบกัน
เรียงลำดับจำนวนนับไมเกิน 10 ไดอยางถูกตอง เพื่อใหผูเรียนนำความรู
ไปใชในสถานการณชีวิตประจำวันได

T9
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นนํ า
เตรียมความพร้อมของสมอง

5. ครู ต รวจสอบความรู พื้ นฐานก อ นเรี ย นของ � การบอกจํานวนนั บ����������


ทำอยางไรจึงจะรูวาในกลองดินสอ
ของเรามีดินสอกี่แทง
นั ก เรี ย น โดยครู ส แกน QR Code ใน � � �����
หนั ง สื อ เรี ย น หน า 1 แล ว ให นั ก เรี ย นทำ
เตรียมพรอมกอนเรียน
การนับจํานวนของสิ�งตาง � เราเริ�มนับ
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยเตรียมพรอม จากหนึ�งและนับเพิ่มทีละหนึ่ง
กอนเรียนไดโดยสแกน QR Code
เฉลยเตรียมพร้อมกอนเรียน
ก่่อนเรีีย

เฉลย
เตรีียมพรี้อม
หน่่วยการเรียน่ร้�ที่ี� 1
นับจำ�นวนรูป แล้วระบ�ยสีลงใน ต�มจำ�นวนรูปที่นับได้
1)

2) แตงโม ห��่ง ผล สมโอ สอง ผล มะละกอ สาม ผล


3)

4)

5)

6)

7)

8)

9)

10)

สับปะรด สี่ ผล �รั่ง หา ผล ชมพู หก ผล


ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือเรียน หนา 2 แลวให


นักเรียนชวยกันสังเกตวา มีผลไมชนิดใดบาง
(แนวตอบ แตงโม สมโอ ...)
2. ครูตั้งคำถาม แลวใหนักเรียนชวยกันตอบวา
ผลไมแตละชนิดมีกี่ผล และรูไดอยางไร
มะมวง เ��ด ผล มังคุด แปด ผล สม เกา ผล
(แนวตอบ มีจำนวน 1 ถึง 10 ตามลำดับ โดย
การนับจำนวนจากรูปภาพ) ����� หมายถึง ไมมี
3. ครูแสดงวิธีการนับจำนวนจากหนึ่งถึงสิบโดย สิ่งใดเลย ใชแสดง
การหยิบลูกปงปองวางลงในตะกราทีละลูก จํานวนของสิ่งของใน
กลุมที่ไมมีสิ่งใดอยู
แอปเปล สิบ ผล ผลไม ����� ผล
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

2
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 จากคลิปอักษร ขอใดมีจำนวน 5 ชิ้น
เรียนสรุป เรื่อง การบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
1.
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11001
2.

3.
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะขอ 1. มีโดนัต 4 ชิ้น
ขอ 2. มีคัปเคก 5 ชิ้น และขอ 3. มีเคก 6 ชิ้น)

T10
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

� ��า�����บ��������������� 4. ครูสุมใหนักเรียนออกมาหยิบลูกปงปองวางลง
1 ตะกราตามจำนวนทีค่ รูกำหนด เวียนไปจนครบ
ตัวเลข
�ินด�อา�บิ� 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 จำนวนสิ บ โดยเพื่ อ นในชั้ น เรี ย นช ว ยกั น
ตรวจสอบความถูกตอง
5. ครูถามนักเรียนวา จำนวนศูนยเราจะตองหยิบ
ลูกปงปองใสลงในตะกรากี่ลูก เพราะเหตุใด
(แนวตอบ ไมหยิบ เพราะ 0 แสดงจำนวนที่ไมมี
ลูกปงปองอยูเลย)
6. ครูอธิบายวา ศูนย หมายถึง ไมมีสิ่งใดอยูเลย
พร อ มทั้ ง แสดงให เห็ น ว า ไม มี ลู ก ป ง ปองใน
ตะกรา

ตัวหนังสือ ����� ����� ส�� สา� ส�� �า �ก เ��� ��� เกา สิบ เกร็ดแนะครู
รู

ตัวเลขไทย ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ครูอาจจัดกิจกรรมเพิ่มเติม ดังนี้


• ครูแจกลูกแกวใหแตละกลุม กลุมละ 10 ลูก
จากนั้นครูสุมหยิบบัตรตัวเลขที่เตรียมไวให
1� �� 3� �� �� �� �� �� � กับนักเรียนแตละกลุม โดยคว่ำดานที่เขียน
และ 10 เปนจํานวนนับ ตัวเลขไว
ที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 ตามลําดับ • ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม หงายบั ต รตั ว เลขที่
ไดรับขึ้นและวางลูกแกวบนบัตรใหจำนวน
ลูกแกวเทากับคาของตัวเลขที่แสดงบนบัตร

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

กลุมที่วางเรียบรอยและถูกตองเปนกลุมแรก
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

3 จะได 1 คะแนน ทำอยางนี้จนครบ 10 ครั้ง


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ

กลุมไหนไดคะแนนมากที่สุดจะเปนผูชนะ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด นักเรียนควรรู้


อวัยวะใดของคนเรามีจำนวนเทากับสิบ 1 ตัวเลข (Number) หมายถึง สัญลักษณใชแทนจำนวน
1. จมูก
2. นิ้วมือ
3. ฟน
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะคนเรามีนิ้วมือทั้งสองขางรวมกันได
10 นิ้ว)

T11
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

7. ครู ถ ามนั ก เรี ย นจากการทำกิ จ กรรมนั บ กิจกรรมฝึ กทักษะ


จำนวนลูกปงปอง ดังนี้
• เราจะเริ่มตนนับจากจำนวนใด 1 ���������������������� ������������������������ � ����������������
(แนวตอบ เริ่มนับจาก 1)
• นับเพิ่มขึ้นทีละเทาไร
(แนวตอบ นับเพิ่มขึ้นทีละ 1)
8. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวา การนับจำนวน
ของสิ่งตางๆ เราจะเริ่มนับจาก 1 แลวนับ
เพิ่มขึ้นทีละ 1
9. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุม ละ 5-6 คน
ระหวางทาง
จากนั้นติดภาพหรือวาดภาพสัตวชนิดตางๆ
แลวครูถามวาสัตวแตละชนิดมีจำนวนเทาใด
และนักเรียนมีวิธีการเขียนแสดงจำนวนสัตว
เหลานั้นไดอยางไร
10. ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม นั บ จำนวนของสั ต ว
แตละชนิด พรอมทั้งรวมกันคิดและออกแบบ
รู ป แบบการนำเสนอ เมื่ อ ทำเสร็ จ แล ว ส ง
ตัวแทนออกมานำเสนอหนาชั้นเรียน
ฝ�กใช้ข้อมูลและข้อคิดเห็นฯ

11. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมฝ ก ทั ก ษะ ใน มีจํานวนกี่ตัว มีจํานวนกี่ตัว


หนังสือเรียน หนา 4 จากนั้นครูและนักเรียน
รวมกันเฉลยกิจกรรม มีจํานวนกี่ตัว มีจํานวนกี่ดวง
มีจํานวนกี่ดอก มีจํานวนกี่ดอก
เกร็ดแนะครู
รู
ครูอาจจัดกิจกรรมเพิ่มเติม โดยใหนักเรียน มีจํานวนกี่ตัว มีจํานวนกี่ดอก
วาดภาพสิ่งตางๆ ที่อยูรอบๆ ตัวของนักเรียน
หน
ังส เน

โดยมีจำนวน 1 ถึง 10 แลวระบายสีใหสวยงาม


ือเล ื้อห

มีจํานวนกี่ตัว มีจํานวนกี่ตัว
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

จากนั้ น ออกมานำเสนอผลงานหน า ชั้ น เรี ย น


ะหว รปร

4
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

พรอมทั้งบอกจำนวนสิ่งตางๆ ที่อยูในภาพ
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 โดยใชสื่อ ขอใดมีจำนวนผลไมแปดผล
PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 https://www.aksorn.com/
1.
qrcode/TMPPMTP11
2.

3.
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะขอ 1. มีชมพู 10 ผล
ขอ 2. มีสตรอวเบอรรี 9 ผล และขอ 3. มีแอปเปล 8 ผล)

T12
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สรุ รู ้
รุ ปองค์ความรู

2 จ���ู�รูปก��ต�ว���หร��ต�วหน�����ที่��ด�จํานวน�ดี�วก�น 12. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ


การบอกจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 วา
1. ๓ การนับจำนวนของสิง่ ตางๆ เราจะเริม่ นับจาก
1 แลวนับเพิ่มขึ้นทีละ 1 และศูนย หมายถึง
ไมมีสิ่งใดอยูเลย
2. 5 นํ าไปใช้

13. ครูใหนักเรียนจับคูรวมกันทำใบงาน เรื่อง


ระหวางทาง
การบอกจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 โดยครู
3. เจ็ด สแกน QR Code เมื่ อ ทุ ก คู ท ำเสร็ จ แล ว
ครูใหแตละคูออกมานำเสนอผลงาน
ใบงาน
4. สอง ใบงาน เรื่อง การบอกจานวน 1 ถึง 10 และ 0
คาชี้แจง : พิจารณารูปที่กาหนดให้ แล้วนับจานวนของสัตว์แต่ละชนิด และเขียนบันทึกจานวนของสัตว์
โดยใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ลงในตาราง
ใบงาน เรื่อง การบอกจานวน 1 ถึง 10 และ 0 เฉลย

คาชี้แจง : พิจารณารูปที่กาหนดให้ แล้วนับจานวนของสัตว์แต่ละชนิด และเขียนบันทึกจานวนของสัตว์


โดยใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ลงในตาราง

5. 8
1 3

14. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การบอก


6. ๖ จำนวน 1 ถึง 10 และ 0 ในแบบฝกหัด
คณิตศาสตร เปนการบาน

3 วาดรูปตามจํานวนที่กําหนด
1. ดอกไมหนึ่งดอก 2. ยางลบสี่กอน
3. มะมวงหาผล 4. ปลาเกาตัว เกร็ดแนะครู
รู
ครูอาจใหนักเรียนทำกิจกรรม “นักสำรวจ
ตัวนอย” โดยใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

แล ว ร ว มกั น สำรวจสิ่ ง ต า งๆ ที่ อ ยู ใ นบริ เวณ


ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
5 โรงเรียนที่มีจำนวน 1 ถึง 10 เมื่อทุกกลุมสำรวจ
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

เสร็จแลวใหออกมานำเสนอผลงานหนาชัน้ เรียน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดมีจำนวนตางจากพวก
1.
2.
3.
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ ขอ 1. มีรูปชาง 3 รูป
ขอ 2. มีรูปหอยทาก 4 รูป และขอ 3. มีรูปดอกไม 3 รูป
ดังนั้น ขอ 2. จึงมีจำนวนตางจากพวก)

T13
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

2
นักเรียนคิดวา เราสามารถใช
15. ครูหยิบดินสอ 5 แทง แสดงใหนักเรียนดู การอ่านและการเขี �น�ัวเลข สัญลักษณ ใดแสดงจำนวน
ของสิ่งของไดบาง
แล ว ร ว มกั นนั บ จำนวนดิ น สอ จากนั้ นครู แสดงจํานวนนั � � ��ง ��
กล า วว า เมื่ อ นั ก เรี ย นนั บ จำนวนสิ่ ง ต า งๆ และ �
ไดแลว นักเรียนจะตองใชสัญลักษณแสดง ���เ���ิ�ด�อา�บิก ���เ����� ���ห��งส�อ
จำนวนของสิ่งตางๆ 1 2
16. ครู ให นั ก เรี ย นสั ง เกตการเขี ย นตั ว เลขฮิ นดู
อารบิ ก ตั ว เลขไทย และตั ว หนั ง สื อ ใน
2 1
ห��่ง
หนังสือเรียน หนา 6
17. ครูอธิบายวา เราสามารถใชตวั เลขฮินดูอารบิก
1
2 3 1
2 สอง
ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ เปนสัญลักษณ
แสดงจำนวนของสิง่ ตางๆ เพือ่ ใหทกุ คนเขาใจ
1
2
2
1
3
สาม
ตรงกัน
18. ครูหยิบบัตรตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
1-10 และ 0 ติดบนกระดาน จากนั้นครูสาธิต
1
1
2

3
2
1 สี่
3
การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทยให
นักเรียนดูอยางชาๆ เมือ่ เสร็จแลวใหนกั เรียน
2
2 1 หา
1
รวมกันอานออกเสียงพรอมกัน
19. ครู ให นั ก เรี ย นฝ ก เขี ย นตั ว เลขฮิ นดู อ ารบิ ก 1
2 1
2
หก
เ��ด
ระหวางทาง
และตัวเลขไทยแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10 1 2
และ 0 ลงในสมุด โดยครูคอยใหคำแนะนำ 2
1

2
1
3
2
3
1 แปด
3

1
2 1
2
เกา
2
1
2
1
2 1
1
2 สิบ
1
�����
หน

2
ังส เน
ือเล ื้อห

2
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

6
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการอานและการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10 จำนวนในขอใดอยูติดกับ 5
และ 0 จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การอานและการเขียนตัวเลขแสดง 1. 3, 6
จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 (1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/ 2. 4, 6
TMAOLMTP11002 3. 4, 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะจากเสนจำนวน
1 2 3 4 5 6
จะเห็นวา จำนวนที่อยูติดกับ 5 มีสองจำนวน คือ 4 กับ 6)

T14
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ฝ�กใช้ข้อมูลและข้อคิดเห็นฯ

กิจกรรมฝึ กทักษะ 20. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมฝ ก ทั ก ษะ ใน


หนังสือเรียน หนา 7 ลงในสมุด จากนั้น
1 ���������������������� ��������� ����������������������� ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยคำตอบ
����������� � �������� สรุ รู ้
รุ ปองค์ความรู

21. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ
1. การอานและการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ
2. 1 ถึง 10 และ 0 วา เมือ่ นับจำนวนสิง่ ตางๆ แลว
เราเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ
ตัวหนังสือเพือ่ แสดงจำนวนสิง่ ตางๆ ทีน่ บั ได
3.
นํ าไปใช้

4. 22. ครูใหนกั เรียนทำใบงาน เรือ่ ง การเขียนตัวเลข


ระหวางทาง
แสดงจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 โดยครูสแกน
QR Code จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมา
5. นำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
ใบงาน
6. ใบงาน เรื่อง การเขียนตัวเลขแสดงจานวน 1 ถึง 10 และ 0 ใบงาน เรื่อง การเขียนตัวเลขแสดงจานวน 1 ถึง 10 และ 0
เฉลย

คาชี้แจง : เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวน 1 ถึง 10 และ 0 คาชี้แจง : เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวน 1 ถึง 10 และ 0
อย่างละ 5 ตัว อย่างละ 5 ตัว

1 1 1 1 1 1 1
๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑
7. หนึ่ง
2
หนึ่ง
2
หนึ่ง
2
หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง
2 2 2 2
๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒
สอง สอง สอง สอง สอง สอง สอง

8. ๓
3

3 3

3 3 3 3
๓ ๓ ๓ ๓
สาม สาม สาม สาม สาม สาม สาม
1 5

9. 23. ใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การอานและ


การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10
10. และ 0 ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร จากนั้น
ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยคำตอบ
11.

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

7
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดเปนตัวเลขไทยทั้งหมด อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการอานและการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10
1. ๑, ๒, ๓, 4, 5, 6 และ 0 โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
2. 6, 7, ๘, ๙, 10 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. ๔, ๕, ๖, ๙, ๑๐
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
ตัวเลขฮินดูอารบิก ไดแก 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ตัวเลขไทย ไดแก ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐)

T15
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
การบอกจำนวนนับ การอานและการเขียนตัวเลข 2 ����������ท����������� แล�ว���ว��ข���ว��ต��ไ�������ต�������ไ��
แสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 ���ไ�����ต������แ��ไข������ต��� ��ยเข�ย�เ���ตัวเลข�����������
ขั�นประเมิน และตัวเลขไทย
1. ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรียน
2. ครูตรวจใบงาน
3. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
4. ครูตรวจแบบฝกหัด
5. ครูประเมินการนำเสนอผลงาน
6. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
8. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
9. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
แบบประเมิน
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการทากิจกรรม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับ
ระดับคะแนน

ลาดับ ระดับคะแนน
รายการประเมิน
ที่ 3 2 1
1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน
2 ความถูกต้องของเนื้อหา
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ
5 วิธีการนาเสนอผลงาน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน

1. มี จํานวนเจ็ดหอ
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

2. มี จํานวนหาหอ
3. มี จํานวนหกขวด
�. มี จํานวน��ดก����อ�
�. มี จํานวนเกาก����อ�
�. มี จํานวนเจ็ดก����อ�
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
8
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดแสดงจำนวนเดียวกับภาพ

1. ลูกบอล ๗ ลูก
2. ลูกบอล ๘ ลูก
3. ลูกบอล ๙ ลูก
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะจากภาพมีลูกบอลทั้งหมด ๘ ลูก)

T16
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Brain-Based Learning
ขั�นนํ า

3
?
การแสดงจํานวนนั บไม่เกิน �� เตรียมความพร้อมของสมอง
จากรูป เราจะตองนับชมพู
�นร� ��วามสั ม�ัน�์ของจํานวน ตอไปอีกกี่ผลจึงจะได ครูทบทวนความรูเกี่ยวกับการอาน
แบบส่ วนย่อยและส่ วนรวม
ชมพูท ั้งหมด 3 ผล และการเขียนแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
โดยใหนักเรียนปฏิบัติตามกิจกรรม ดังนี้
มี อยู 2 กระปอง 1) ครู ติ ด บั ต รภาพแสดงจำนวนผลไม ช นิ ด
ตางๆ ที่มีจำนวน 1 ถึง 10 บนกระดาน
มี อยู 4 กระปอง
2) ให นั ก เรี ย นชู นิ้ ว ตามจำนวนผลไม บ น
แลวมีสิ่งของอะไรอีกบางนะ
รวมเปน 6 กระปอง ที่ รวมกันแลวไดจํานวน 6 พอดี บัตรภาพ พรอมทั้งบอกจำนวนผลไม โดย
ครูคอยตรวจสอบความถูกตอง
ตัวอยางบัตรภาพ

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ
การแสดงความสัมพันธของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวมของ 6 1. ใหนกั เรียนดูคลิปวิดโี อ เรือ่ ง ความสัมพันธแบบ
ทําได ดังนี้ สวนยอยและสวนรวม โดยครูสแกน QR Code
4 ในหนังสือเรียน หนา 9

เปนนํ้าสม 4 กระป�อง สวนยอย


6
สวนรวม
มีนํ้าอัดลม 6 กระป�อง 2
สวนยอย
เปนนํ้าแดง 2 กระป�อง
6 แบงออกเปน 4 กับ 2
เรียก วงกลมดานซายวา สวนรวม เรียก วงกลมสองวงดานขวาวา สวนยอย

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง

ความสัมพันธแบบ
ีกา าง
จม ะหว

9
อา นร

สวนยอยและสวนรวม
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปสื่อประกอบการสอน


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม จากคลิป
สื่อประกอบการสอน เรื่อง ความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม
https://www.aksorn.com/qrcode/1311103

ขอใดแสดงจำนวนในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม
ไดถูกตอง
4 5 6
1. 8 2. 8 3. 8
4 3 2
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะมีสัตวทั้งหมด 8 ตัว แบงออกเปน
สุนัข 4 ตัว และแมว 4 ตัว)

T17
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 5 คน
จากนั้นครูแจกอุปกรณใหนักเรียนแตละกลุม 3
ดังนี้ มีแอปเปลสีเขียว 3 ผล สวนยอย
1) ลูกปงปอง 5 ลูก 6
2) กลองสำหรับใสลูกปงปอง 2 กลอง สวนรวม
3. ใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมดังตอไปนี้ มีแอปเปลทั้งหมด 6 ผล
3
1) แตละกลุมหยิบลูกปงปองทั้งหมดใสกลอง มีแอปเปลสีแดง 3 ผล สวนยอย
ใบที่ 1 จากนั้นครูถามนักเรียนวา กลอง
แตละใบมีลูกปงปองกี่ลูก
(แนวตอบ กลองใบที่ 1 มีลูกปงปอง 5 ลูก 3 กับ 3 รวมกันได 6
และกลองใบที่ 2 มีลูกปงปอง 0 ลูก) เรียก วงกลมสองวงดานซายวา สวนยอย เรียก วงกลมดานขวาวา สวนรวม
2) ใหนักเรียนแตละกลุมหยิบลูกปงปองจาก
กลองใบที่ 1 ใสกลองใบที่ 2 จำนวน 1 ลูก
4 กับ 2 และ 3 กับ 3
จากนั้นครูถามนักเรียนวา กลองแตละใบ
รวมกันได 6 เทากัน เพื่อน ๆ คิดวา
มีลูกปงปองกี่ลูก มีจํานวนใดอีกบางที่ จั บคูแลว
(แนวตอบ กลองใบที่ 1 มีลูกปงปอง 4 ลูก รวมกันไดเทากับ 6
และกลองใบที่ 2 มีลูกปงปอง 1 ลูก)
3) ทำเชนนี้ไปเรื่อยๆ จนกวาจะไมเหลือ
ลูกปงปองในกลองใบที่ 1 ตัวอยางที่ 1
แสดงความสัมพันธของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม
3
สวนยอย
5
สวนรวม
2
สวนยอย
5 แบงออกเปน 3 กับ 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

10
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการแสดงจำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธของ 4
จำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การแสดง 7 จำนวนที่หายไปคือจำนวนใด
จำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม ?
(1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11003
1. 5 2. 4 3. 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 7 แบงออกเปน 4 กับ 3
ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 3)

T18
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
� มโยงความรู
เชือ รู เ้ ดิมกับความรู ้ หม่
รู ใ

ตัวอยางที่ 2 4. จากกิจกรรมขางตน ครูนำจำนวนลูกปงปอง


ในแตละกรณีมาเขียนในรูปความสัมพันธของ
เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงใน ? 4 จำนวนแบบสวนยอยและสวนรวมใหนกั เรียนดู
สวนยอย บนกระดาน
? 5. ครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา จากแผนภาพบน
สวนรวม กระดาน เราเรียกวงกลมดานซายวา สวนรวม
4 รวมกับ 1 ไดเทากับ 5 1 และเรียกวงกลมสองวงดานขวาวา สวนยอย
ดังนั้น ตัวเลขแสดงจํานวนใน ? คือ 5 สวนยอย 6. ครู ให แต ล ะกลุ ม ร ว มกั น ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ การ
แสดงจำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธ
ของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม
4 1 ในหนังสือเรียน หนา 9-11
5 กับ 5 มีคาเทากันหรือไมคะ ฝ�กใช้ข้อมูลและข้อคิดเห็นฯ
1 4 7. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมฝ ก ทั ก ษะ ใน
หนังสือเรียน หนา 12-13 ลงในสมุด จากนั้น
ตัวอยางที่ 3 ครูขออาสาสมัครออกมาเฉลยคำตอบ โดยครู
และนักเรียนที่เหลือรวมกันตรวจสอบความ
เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงใน ? 5 ถูกตอง
8. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การแสดง
สวนยอย จำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธของ
7 จำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม
7 แบงออกเปน 5 กับ 2 สวนรวม ? ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
ดังนั้น ตัวเลขแสดงจํานวนใน ? คือ 2 สวนยอย

การเขียนแสดงความสัมพันธของจํานวนใด ๆ ในรูปของ 2 จํานวนขึ้นไป


โดยที่ผลรวมของจํานวนเหลานั้นเทากับจํานวนเดิม เรียกวา ความสัมพันธ
แบบสวนยอยและสวนรวม ของจํานวนนั้น

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

11
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


? อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงจำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความสัมพันธ
จำนวนที่หายไปคือจำนวนใด ของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ
5 0 1 ถึง 10 และ 0 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
1. 4 2. 5 3. 6
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 5 รวมกับ 0 จะไดเทากับ 5
ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 5)

T19
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สรุ รู ้
รุ ปองค์ความรู

9. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ กิจกรรมฝึ กทักษะ
การแสดงจำนวนนับไมเกิน 10 ในรูปความ
สัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม 1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
วา การเขียนแสดงความสัมพันธของจำนวน
ใดๆ ในรูปของ 2 จำนวนขึ้นไป โดยที่ผลรวม 1. 8
ของจำนวนเหลานัน้ เทากับจำนวนเดิม เรียกวา
ความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวมของ
จำนวนนั้น
3
นํ าไปใช้ 2. 7
1. ครูใหนักเรียนทำใบกิจกรรม เรื่อง บานในฝน
ของฉัน โดยครูสแกน QR Code 3
ใบกิจกรรม
เฉลย
3.
ใบกิจกรรม เรื่อง บ้านในฝันของฉัน ใบกิจกรรม เรื่อง บ้านในฝันของฉัน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ที่กาหนดให้ แล้วตอบคาถาม คาชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ที่กาหนดให้ แล้วตอบคาถาม

บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่ให้ความอบอุ่น เป็นศูนย์รวม บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่ให้ความอบอุ่น เป็นศูนย์รวม

3 1
ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่าง ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่าง
มีความสุข และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้านักเรียนมี มีความสุข และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้านักเรียนมี
โอกาสได้ออกแบบและสร้างบ้านของตนเอง นักเรียน โอกาสได้ออกแบบและสร้างบ้านของตนเอง นักเรียน
อยากสร้างบ้านออกมาเป็นแบบใด อยากสร้างบ้านออกมาเป็นแบบใด

1. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนเพื่อใช้ในการสร้างบ้านในฝัน ดังนี้ 1. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนเพื่อใช้ในการสร้างบ้านในฝัน ดังนี้


กระดาษรูปสามเหลี่ยม กระดาษรูปสามเหลี่ยม

4.
ขนาดใหญ่ 5 แผ่น ขนาดเล็ก 5 แผ่น ขนาดใหญ่ 5 แผ่น ขนาดเล็ก 5 แผ่น
กระดาษรูปสี่เหลี่ยม กระดาษรูปสี่เหลี่ยม

ขนาดใหญ่ 5 แผ่น
กระดาษรูปวงกลม
ขนาดเล็ก 5 แผ่น ขนาดใหญ่ 5 แผ่น
กระดาษรูปวงกลม
ขนาดเล็ก 5 แผ่น 8
ขนาดใหญ่ 5 แผ่น ขนาดเล็ก 5 แผ่น ขนาดใหญ่ 5 แผ่น ขนาดเล็ก 5 แผ่น

1 5

2. ครูใหนักเรียนศึกษาสถานการณและปฏิบัติ
ตามขั้นตอนในใบกิจกรรม เรื่อง บานในฝน 5.
ของฉัน
3. ครู ให นั ก เรี ย นออกมานำเสนอผลงานหน า 6
ชัน้ เรียนเกีย่ วกับขนาดและจำนวนของกระดาษ
แตละรูปที่ใชเปนสวนประกอบในการสรางรูป 6.
บานในฝน พรอมทั้งอธิบายความสัมพันธแบบ
ส ว นย อ ยและส ว นรวมของจำนวนกระดาษ 2
หน

แตละรูป
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

12
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
จำนวนที่หายไปคือจำนวนใด
6 6 6

0 6 1 5 2 ?
1. 2 2. 3 3. 4
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 6 แบงออกเปน 2 กับ 4
ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 4)

T20
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับการ
2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง เขียนตัวเลขแสดงจำนวนกระดาษรูปสามเหลี่ยม
กระดาษรูปสีเ่ หลีย่ มและกระดาษรูปวงกลมในการ
1. 2. สรางบานในฝนในรูปความสัมพันธแบบสวนยอย
และสวนรวมจากสถานการณในใบกิจกรรม และ
เปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย
2 2 0 6
ขั�นประเมิน
3. 4. 8 1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7 2 4 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
5. 9 6. 8 6. ครูประเมินความสามารถในการสื่อสารจาก
ใบกิจกรรม เรื่อง บานในฝนของฉัน โดยใช
เกณฑการประเมินจากแบบประเมินสมรรถนะ
1 6 สำคัญของผูเรียน

3 พิจารณารูปที่กําหนดใหวา ความสัมพันธของจํานวนตอไปนี้ แบบประเมิน

ถูกตอง หร�อ ไมถูกตอง ถาไมถูกตองใหแกไขใหถูกตอง


ระดับคุณภำพ
แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ใส่ตัวเลขลงในช่องระดับคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด
สมรรถนะที่ 1 เขียนตัวเลขฮินดู เขียนตัวเลขฮินดู เขียนตัวเลขฮินดู เขียนตัวเลขฮินดู
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ ความสามารถ อารบิก ตัวเลขไทย อารบิก ตัวเลขไทย อารบิก ตัวเลขไทย อารบิก ตัวเลขไทย
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร ในการสื่อสาร และตัวหนังสือ และตัวหนังสือ และตัวหนังสือ และตัวหนังสือ
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ตัวชี้วัดที่ 1 แสดงจานวน แสดงจานวน แสดงจานวน แสดงจานวน
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ กระดาษ กระดาษ กระดาษ กระดาษ
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร
เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ รูปสามเหลี่ยม รูปสามเหลี่ยม รูปสามเหลี่ยม รูปสามเหลี่ยม

1.
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.
ทัศนะของตนเองด้วยการพูด รูปสี่เหลี่ยม และ รูปสี่เหลี่ยม หรือ รูปสี่เหลี่ยม หรือ รูปสี่เหลี่ยม และ
หมำยเหตุ : หากนักเรียนมีระดับคุณภาพไม่ถึงระดับดี (2) ในแต่ละสมรรถนะสาคัญ ครูควรพัฒนานักเรียนให้ถึงเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนมี
ความพร้อมก่อนทากิจกรรมต่อไป และการเขียน รูปวงกลมได้ รูปวงกลมได้ รูปวงกลม รูปวงกลม
พฤติกรรมบ่งชี้ ถูกต้อง ถูกต้อง ได้ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง
เกณฑ์กำรประเมิน 3. เขียนถ่ายทอดความรู้ ทั้ง 3 ชนิด ทาให้ ทั้ง 3 ชนิด แต่ 1-2 ชนิด ทาให้ ทาให้เขียนแสดง
ระดับคุณภำพ ความเข้าใจจากสารที่อา่ น เขียนแสดง เขียนแสดง เขียนแสดง ความสัมพันธ์
ฟัง หรือดู ตามที่กาหนดได้ ความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์แบบ ความสัมพันธ์ แบบส่วนย่อย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบส่วนย่อย ส่วนย่อย แบบส่วนย่อย และส่วนรวมของ
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
และส่วนรวมของ และส่วนรวมของ และส่วนรวมของ จานวนกระดาษ
สมรรถนะที่ 1 พูดนาเสนอขนาด พูดนาเสนอขนาด พูดนาเสนอขนาด ไม่สามารถพูด จานวนกระดาษ จานวนกระดาษ จานวนกระดาษ ไม่ถูกต้อง
ความสามารถ และจานวนของ และจานวนของ และจานวนของ นาเสนอขนาด ได้ถูกต้องทั้ง ชนิดเดียวกับที่ ชนิดเดียวกับที่
ในการสื่อสาร กระดาษแต่ละรูป กระดาษแต่ละรูป กระดาษแต่ละรูป และจานวนของ 3 ความสัมพันธ์ เขียนได้ถูกต้อง เขียนได้ถูกต้อง
ตัวชี้วัดที่ 1 ที่ใช้เป็น ที่ใช้เป็น ที่ใช้เป็น กระดาษแต่ละรูป ข้างต้น ข้างต้น
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ ส่วนประกอบ ส่วนประกอบ ส่วนประกอบ ที่ใช้เป็น 1-2 ความสัมพันธ์ 1-2 ความสัมพันธ์
เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ ในการสร้างรูป ในการสร้างรูป ในการสร้างรูป ส่วนประกอบ
ทัศนะของตนเองด้วยการพูด บ้านในฝัน บ้านในฝัน บ้านในฝัน ในการสร้างรูป
และการเขียน พร้อมทั้งอธิบาย พร้อมทั้งอธิบาย พร้อมทั้งอธิบาย บ้านในฝันได้
พฤติกรรมบ่งชี้ ความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ และไม่สามารถ
1. พูดถ่ายทอดความรู้ ความ แบบส่วนย่อย แบบส่วนย่อย แบบส่วนย่อย พูดอธิบาย
เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง และส่วนรวมของ และส่วนรวมของ และส่วนรวมของ ความสัมพันธ์แบบ
หรือดู ตามที่กาหนดได้ จานวนกระดาษ จานวนกระดาษ จานวนกระดาษ ส่วนย่อยและ
แต่ละรูปได้อย่าง แต่ละรูปได้อย่าง แต่ละรูปได้อย่าง ส่วนรวมของ
ถูกต้อง ครบถ้วน ถูกต้อง ครบถ้วน ถูกต้อง ครบถ้วน จานวนกระดาษ
ชัดเจน และมั่นใจ และชัดเจน แต่ไม่ชัดเจน แต่ละรูปได้

1 2

2.

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
13
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
จำนวนที่หายไปคือจำนวนใด
5 6

4 ? 5
1. 1 2. 2 3. 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ 5 แบงออกเปน 4 กับ 1 และ 6
แบงออกเปน 5 กับ 1 ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 1)

T21
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Concept Based Teaching


and Learning

ขั�นนํ า
4 การเปรียบเทียบจํานวน แสดงจำนวนเดียวกัน
รู เ้ ดิมฯ
ทบทวนความรู 1 2 หรือไมครับ
1. ครูทบทวนความรูโ ดยสุม นักเรียนออกมา 1 คน
4.1 เทากันและไมเทากัน
จากนั้นใหหยิบสิ่งของมาจำนวนหนึ่ง (จำนวน
1-10) แลวใหนักเรียนที่เหลือนับจำนวนของ ตนแอปเปลทั้ งสองตน
สิ่งของนั้นในใจ แลวเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก มีผลแอปเปลจํานวนเทากัน
หรือไมครับ
ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนั้น
ลงในสมุด
2. ครูเขียนตัวเลขบนกระดาน แลวใหนักเรียน ตนที่ 2
หยิบสิง่ ของของตัวเองใหมจี ำนวนเทากับตัวเลข
ทีค่ รูเขียน ครูทำกิจกรรมจนครบทัง้ สิบจำนวน ตนที่ 1
แลวเราจะรูไดอยางไรคะ
3. ครูแสดงดินสอ 7 แทง และปากกา 6 ดาม ให วาเทากันหรือไมเทากัน
นักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา นักเรียน
คิดวา ดินสอกับปากกามีจำนวนเทากันหรือไม
(ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น โดยครู
ยังไมเฉลยคำตอบ) แสดงการเปรียบเทียบจํานวนผลแอปเปลจากทั้งสองตนได ดังนี้
ขั�นสอน ตนที่ 1 ตนที่ 2 จับคูผลแอปเปลจากทั้งสองตน
้ ละเข้าใจ
รู แ ไดพอดี จะไดวา ผลแอปเปล
1. ครู ข ออาสาสมั ค รนั ก เรี ย นออกมายื น หน า ทั้งสองตนมีจํานวน
ชั้ น เรี ย นโดยเป นนั ก เรี ย นหญิ ง 7 คน และ เทากัน
นักเรียนชาย 7 คน แลวใหนักเรียนหญิงและ
นักเรียนชายจับคูกัน

ถาจับคูส งิ่ ของในกลุม สองกลุม ไดพอดี แสดงวาสิง่ ของทัง้ สองกลุม มีจาํ นวน
เทากัน แตถาจับคูแลวมีสิ่งของในกลุมใดกลุมหนึ่งเหลืออยู แสดงวาสิ่งของ
นวนไมเทากัน
ทัง้ สองกลุม มีจาํ นวน
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

14
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

นักเรียนควรรู้ ข้อสอบเน้น การคิด


1 เทากัน (equal to) หมายถึง จำนวนที่เทากับอีกจำนวนหนึ่ง มีปลาอยู 10 ตัว มีปูอยู 7 ตัว ถานำมาจับคูกันจะจับคูไดพอดี
2 ไมเทากัน (not equal to) หมายถึง จำนวนที่ไมเทากับอีกจำนวนหนึ่ง หรือไม ถาไมพอดีเหลือปลาหรือปูกี่ตัว
1. จับคูกันไดพอดี
2. จับคูกันไมพอดี เหลือปลา 3 ตัว
3. จับคูกันไมพอดี เหลือปู 3 ตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะมีปลามากกวาปู เมื่อนำมาจับคูกัน
จะเหลือปลาอยู 3 ตัว)

T22
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ

พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวาเทากันหรือไม 2. ครูถามนักเรียนวา นักเรียนหญิงและ


นักเรียนชายมีจำนวนเทากันหรือไม
รูไดอยางไร
เด�ก 3 คน ( แนวตอบ เท า กั น เพราะนั ก เรี ย นหญิ ง และ
นักเรียนชายจับคูกันไดพอดี)
3. ครูใหนักเรียนหญิง 2 คน และนักเรียนชาย
จักรยาน 3 คัน 1 คน ที่อยูหนาชั้นเรียนกลับเขาไปนั่งที่ของ
ตนเองแลวใหนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย
มีเด็ก 3 คน และจักรยาน 3 คัน จับคูกัน
จะไดวา จับคูเด็กกับจักรยานไดพอดี 4. ครูถามนักเรียนอีกครั้งวา นักเรียนหญิงและ
นักเรียนชายมีจำนวนเทากันหรือไม
ดังนั้น จํานวนเด็กเทากับจํานวนจักรยาน รูไดอยางไร
(แนวตอบ ไมเทากัน เพราะนักเรียนหญิงและ
เครื่องหมาย = แทนคําวา เทากับ ใชแสดงการ เทากัน นักเรียนชายจับคูก นั ไมพอดี เหลือนักเรียนหญิง
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 3 = 3 1 คน)
5. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการเปรียบเทียบ

ตัวอยางที่ 4 จำนวนที่เทากันและไมเทากัน ในหนังสือเรียน


หนา 14-16
พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวาเทากันหรือไม
ด�นส� � แทง

ยางลบ � ก�น
มีดินสอ 7 แทง และยางลบ 7 กอน
จะไดวา จับคูดินสอกับยางลบไดพอดี
ดังนั้น จํานวนดินสอเทากับจํานวนยางลบ
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ � = �

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

15
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

กิจกรรม ท้าทาย สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (เทากันและไมเทากัน) จาก
คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวน (1/2)
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11004

ใหนักเรียนพิจารณารูป แลวชวยกันบอกวาบนโตะมีหนังสือจำนวน
เทาใด จากนั้นใหนักเรียนแตละคนเขียนจำนวนที่นอยกวาจำนวนของ
หนังสือเปนตัวเลขฮินดูอารบิกลงในสมุด

T23
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ

6. ครูยกตัวอยางการเปรียบเทียบจำนวน โดยใช พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวาเทากันหรือไม


เครื่ อ งหมาย = และ ≠ ≠ โดยติ ด บั ต รภาพ
บนกระดานที ล ะคู แล ว สุ ม นั ก เรี ย นออกมา เด�ก 4 �น
เปรียบเทียบจำนวนของสิง่ ของบนบัตรภาพโดย
เขียนเครื่องหมาย = หรือ ≠≠ ระหวางบัตรภาพ
ลงมือทํา
ดอกกุหลาบ 3 ดอก
7. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง
การเปรียบเทียบจำนวน ขอ 1 ในแบบฝกหัด มีเด็ก 4 คน และดอกกุหลาบ 3 ดอก
คณิตศาสตร จะไดวา จับคูเด็กกับดอกกุหลาบแลวเหลือเด็กอยู 1 คน
ดังนั้น จํานวนเด็กไมเทากับจํานวนดอกกุหลาบ
เครื่องหมาย แทนคําวา ไมเทากับ ใชแสดงการ ไมเทากัน
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 4 3
ตัวอยางที่ 5
พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวาเทากันหรือไม
ไก � ตัว

กระตาย 5 ตัว
มีไก 7 ตัว และกระตาย 5 ตัว
จะไดวา จับคูไกกับกระตายแลวเหลือไกอยู 2 ตัว
ดังนั้น จํานวนไกไมเทากับจํานวนกระตาย
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ � 5
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

16
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (เทากันและไมเทากัน) การเปรียบเทียบจำนวนในขอใดตอไปนี้ถูกตองทั้งหมด
โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 1. 6 = 6, 4 ≠ 4
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 7 ≠ 6, 9 = 9
3. 5 ≠ 5, 7 = 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 7 ≠ 6 และ 9 = 9)

T24
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ

4.2 มากกวาและนอยกวา ระหวางทาง


8. ครู ข ออาสาสมั ค รนั ก เรี ย นออกมายื น หน า
ชั้นเรียน 2 กลุม โดยกลุมที่ 1 มีนักเรียน 5 คน
ตนแอปเปลตนใด กลุมที่ 2 มีนักเรียน 6 คน แลวใหนักเรียน
ที่ มีผลแอปเปล ทั้งสองกลุมจับคูกัน จากนั้นครูถามนักเรียน
มากกวาครับ
ดังนี้
เพื่อน ๆ คิดวา • นักเรียนกลุมใดมีจำนวนมากกวา
เราจะหาคําตอบ
ไดอยางไรคะ เพราะเหตุใด
(แนวตอบ กลุมที่ 2 เพราะเมื่อจับคูกันแลว
มีนักเรียนเหลืออยู 1 คน)
ตนที่ 1 ตนที่ 2
• นักเรียนกลุมใดมีจำนวนนอยกวา
เพราะเหตุใด
(แนวตอบ กลุมที่ 1 เพราะเมื่อจับคูกันแลว
ไมมีนักเรียนเหลืออยู)
9. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอ เรื่อง มากกวา
แสดงการเปรียบเทียบจํานวนผลแอปเปลทั้งสองตนได ดังนี้ หรือนอยกวา โดยครูสแกน QR Code
ในหนังสือเรียน หนา 17
ตนที่ 1 มีแอปเปล 5 ผล
ตนที่ 1 ตนที่ 2 ตนที่ 2 มีแอปเปล 6 ผล
จับคูกันแลวตนที่ 2 เหลือ
แอปเปลอยู 1 ผล จะไดวา
ตนที่ 2 มีผลแอปเปล
มากกวาตนที่ 1 หรือ
ตนที่ 1 มีผลแอปเปล
นอยกวาตนที่ 2

ในการเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวนที่มีคาไมเทากัน จํานวนทั้งสองจะ
มีคามากกวาหรือนอยกวาเพียงอยางใดอยางหนึ่งเทานั้น

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

17
อา นร

มากกวาหรือนอยกวา
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปสื่อประกอบการสอน


ขอใดมีคานอยกวา 8 ทั้งหมด ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวนโดยใชเครื่องหมายมากกวา
1. 3 5 7 หรือนอยกวา จากคลิปสื่อประกอบการสอน เรื่อง มากกวาหรือนอยกวา
2. 9 7 2 https://www.aksorn.com/qrcode/1311101
3. 10 9 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากการนับเลข 0 1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 เปนจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 แสดงใหเห็นวา
3 5 7 มีคานอยกวา 8)

T25
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ
1 2
10. ครูหยิบดินสอขึ้นมา 7 แทง และหยิบสมุดขึ้น พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวามากกวาหรือนอยกวา
มา 6 เลม แลวถามนักเรียนวา สิง่ ใดมีจำนวน
มากกวา สิง่ ใดมีจำนวนนอยกวา และนักเรียนรู
ไดอยางไร ตอม
11. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 5 คน
แล ว ให แ ต ล ะกลุ ม ร ว มกั น ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ
มากกวาและนอยกวา ในหนังสือเรียน หนา
17-19 แ��ง
12. ครูอธิบายวา จำนวนสองจำนวนที่ไมเทากัน
จะมี จ ำนวนใดจำนวนหนึ่ ง มากกว า หรื อ
ตอมมีคัปเคก 5 ชิ้น แปงมีคัปเคก 3 ชิ้น
นอยกวาอีกจำนวนหนึ่งเสมอ เชน 4 ≠≠ 5 จะไดวา จับคูคัปเคกแลวตอมเหลือคัปเคกอยู 2 ชิ้น
ซึ่ง 4 นอยกวา 5 หรือ 5 มากกวา 4 ดังนั้น ตอมมีคัปเคกมากกวาแปง หรือ แปงมีคัปเคกนอยกวาตอม
13. ครูยกตัวอยางการเปรียบเทียบจำนวนโดยใช
คำวา “มากกวา” และ “นอยกวา” โดยติด เครื่องหมาย > แทนคําวา มากกวา ใชแสดงการ มากกวา
บัตรภาพบนกระดานทีละคู แลวสุมนักเรียน
ออกมาเปรียบเทียบจำนวนของสิ่งของบน เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 5 > 3
บัตรภาพโดยติดบัตรคำ “มากกวา” หรือ
“นอยกวา” ระหวางบัตรภาพ เครื่องหมาย < แทนคําวา นอยกวา ใชแสดงการ นอยกวา
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 3 < 5

รูไว ใชถูกตอง
ฉันจะอาปาก 3<7
ไปทางจํานวนที่ มีคา
มากกวาเสมอ 8>4
มาก นอย
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

18
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

นักเรียนควรรู้ ข้อสอบเน้น การคิด


1 มากกวา (greater than) หมายถึง จำนวนที่มากกวาอีกจำนวนหนึ่ง จำนวนทั้งหมดในขอใดมีคามากกวา 4 แตนอยกวา 9
2 นอยกวา (less than) หมายถึง จำนวนที่นอยกวาอีกจำนวนหนึ่ง 1. 5 6 7 8
2. 1 2 3 5
3. 3 5 7 9
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เปนจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 ดังนั้น 5 6 7 8 จึงมากกวา 4
แตนอยกวา 9)

T26
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ

ตัวอยางที่ 6 14. ครูกลาววา นักเรียนสามารถใชเครื่องหมาย


> แทนคำวา มากกวา และเครื่องหมาย <
พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกวามากกวาหรือนอยกวา แทนคำวา นอยกวา
ปู 5 ตัว 15. ครูยกตัวอยางการเปรียบเทียบจำนวนโดย
ใชเครื่องหมาย > และ < โดยติดบัตรภาพ
ปลา 6 ตัว บนกระดานทีละคู แลวสุมนักเรียนออกมา
เปรียบเทียบจำนวนของสิ่งของบนบัตรภาพ
มีปู 5 ตัว และปลา 6 ตัว โดยติดบัตรเครื่องหมาย > หรือ < ระหวาง
จะไดวา จับคูปูกับปลาแลวเหลือปลาอยู 1 ตัว บัตรภาพ
ลงมือทํา
ดังนั้น จํานวนปูนอ ยกวาจํานวนปลา หรือ จํานวนปลามากกวาจํานวนปู
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 5 < 6 ���อ 6 > 5 16. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมทำกิจกรรมฝกทักษะ
ระหวางทาง
ในหนังสือเรียน หนา 19-21 จากนั้นครูสุม
นั ก เรี ย นออกมาเฉลยคำตอบหน า ชั้ น เรี ย น
โดยครู แ ละนั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย นร ว มกั น
กิจกรรมฝึ กทักษะ
ตรวจสอบความถูกตอง
1 ตอบคําถามดวยวาจา
1. แจ็คมีลูกโปง 8 ลูก เจนมี
ลูกโปง 6 ลูก ใครมีจํานวน แจ็ค เจน
ลูกโปง นอยกวา

2. โจมีไอศกรีม 4 ถวย ดามี


ไอศกรีม 5 ถวย ใครมี โจ ดา
จํานวนไอศกรีม มากกวา

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

19
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดไมถูกตอง อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (มากกวาและนอยกวา)
1. 4 มีคามากกวา 3 แตนอยกวา 6 โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
2. 6 มีคามากกวา 7 แตนอยกวา 2 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. 8 มีคามากกวา 5 แตนอยกวา 9
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เปนจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 ดังนั้น 6 มีคานอยกวา 7
แตมากกวา 2)

T27
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ลงมือทํา

17. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การ 2 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวตอบคําถามดวยวาจา


เปรียบเทียบจำนวน ขอ 2-7 ในแบบฝกหัด
คณิตศาสตร จากนั้นครูและนักเรียนรวมกัน
1.
เฉลยคำตอบ
ขั�นสรุ
รุ ป
มีจํานวน มากกวา หรือ นอยกวา
1. ครูใชคำถามกระตุนใหนักเรียนรวมกันแสดง
ความคิดเห็นวา นักเรียนสามารถสรุปวิธีการ 2.
เปรียบเทียบจำนวนทีม่ คี า มากกวาหรือนอยกวา
ไดโดยใชวิธีใดบาง
(แนวตอบ การนับจำนวน การจับคู) มีจํานวน มากกวา หรือ นอยกวา

3 �ติม�คร�่องหมาย >, < หร�อ = ใน ใหถูกตอง


1.
1 4

2.
6 6
เกร็ดแนะครู
รู 3.
ครูอาจนำเสนจำนวนมาใชสอนเกี่ยวกับการ 5 7
เปรียบเทียบจำนวนได ดังนี้
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 4. 4 2
จากเสนจำนวน จำนวนทีอ่ ยูท างขวามือจะมี
หน
ังส เน

ค า มากกว า จำนวนที่ อ ยู ท างซ า ยเสมอ เช น


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

พิจารณาจำนวน 3 กับ 5 จะเห็นวา 5 อยูท างขวา


ะหว รปร

20
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

ของ 3 ดังนั้น 5 มากกวา 3 หรือ 3 นอยกวา 5


พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป กิจกรรม สร้างเสริม


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (มากกวาและนอยกวา) ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุม ละ 3-4 คน จากนัน้ ใหแตละกลุม
จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวน (1/2) ชวยกันคนควาขอมูลจากแหลงขอมูลนอกหองเรียนวา สัตวชนิดใดบาง
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11004 ที่มี 2 ขา และมี 4 ขา โดยใหเขียนชื่อสัตวใหมากที่สุด แลวนำชื่อสัตว
ทั้งสองประเภทมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นครูสุมออกมานำเสนอหนา
ชั้นเรียน 2-3 กลุม

T28
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
2. ครู ใ ห นั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
5. การเปรี ยบเที ย บจำนวนที่ มีค ามากกวา หรือ
8 7 นอยกวาตามประเด็น ดังนี้
• การเปรียบเทียบจำนวนที่มากกวาและ
นอยกวาโดยการจับคู
6. • การเปรียบเทียบจำนวนโดยใชเครื่องหมาย
8 5 > และ <
จากนั้นครูยกตัวอยางการเปรียบเทียบจำนวน
2-3 ตัวอยาง บนกระดาน แลวใชวิธีการถาม-
4 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน เ����ใ���า�เ�����เ����จํานวน���ต��ง ตอบกับนักเรียน
ขั�นประเมิน
1. = 8 1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
2. 5 3. ครูประเมินการนำเสนอผลงาน
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
3. 7 = 5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
4. 4 7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด

5. 9 >
แบบประเมิน
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

มีการวางแผน มีการแสดง มีการปฏิบัติ สามารถ


มีการรับฟัง
ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม

1
ลาดับ ชื่อ-สกุล ร่วมกัน ความคิดเห็น
ความคิดเห็น
ที่ ของผู้รับการประเมิน ทางาน ของสมาชิก ที่วางไว้ กลุม่ อืน่ ได้ 15
คะแนน

<
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

6.
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

5
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

7. >
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

8. < 2

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
21
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
จำนวนทั้งหมดในขอใดมีคานอยกวา 7 แตมากกวา 2
1. 4 5 6 7
2. 3 4 5 6
3. 0 1 2 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เปนจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 ดังนั้น 3 4 5 6 จึงนอยกวา 7
แตมากกวา 2)

T29
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า

5
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
กระตุ
ตุน้ ความสนใจ การเรียงลําดับจํานวน และ 10 เปนจำนวนนับที่
เพิ่มขึ้นทีละเทาใดครับ
1. ครูใหนักเรียนดูบัตรภาพหรือภาพวาดแสดง จํานวน สามารถเรียงลําดับได 2 ลักษณะ
จำนวนสิง่ ตางๆ ทีละคู แลวใหเปรียบเทียบวา
ภาพใดแสดงจำนวนสิ่งตางๆ มากกวาหรือ
คือ
นอยกวา 1. การเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก
2. ครู เ ขี ย นตั ว เลขที ล ะคู บ นกระดาน แล ว ให
นักเรียนชวยกันเปรียบเทียบวา จำนวนใดมีคา
มากกวาหรือนอยกวา โดยใชเครื่องหมาย >
หรือ <
3. ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า เราสามารถเรี ย งลำดั บ
จำนวนจาก 0 ถึง 10 ไดหรือไม และเราจะมี 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
วิธใี ดบางในการเรียงลำดับจำนวนเหลานี้
การเรียงลําดับจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 จากนอยไปมาก เปนการเรียงจํานวน
ขั�นสอน โดยนับเพิ่มขึ้นทีละ 1 จากซายไปขวา
สํ ารวจค้นหา
2. การเรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
1. ครู น ำบั ต รตั ว เลข 0-10 ขึ้ น มา และถาม
นักเรียนวา ถาเรียงลำดับบัตรตัวเลขเหลานี้
จะเรียงลำดับไดในลักษณะใดบาง
2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4-5 คน
ปลายทาง
จากนั้ น ให แต ล ะกลุ ม ทำใบงาน เรื่ อ ง การ
เรียงลำดับจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 โดย 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0
ครู ส แกน QR Code เมื่ อ ทำเสร็ จ แล ว ให
แตละกลุมสงตัวแทนออกมานำเสนอผลงาน การเรียงลําดับจํานวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 จากมากไปนอย เปนการเรียงจํานวน
หนาชั้นเรียน โดยนับลดลงทีละ 1 จากซายไปขวา
ใบงาน
ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน 1 ถึง 10 และ 0 (1) ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน 1 ถึง 10 และ 0 (1)
เฉลย
เราสามารถนําเสนจํานวนมาใชในการเรียงลําดับจํานวนได ดังนี้
เสนจํานวน
คาชี้แจง : ให้แต่ละกลุ่มเรียงลาดับบัตรตัวเลข 0 - 10 ตามแนวคิดของกลุ่ม โดยให้เขียนอธิบายวิธีคิด คาชี้แจง : ให้แต่ละกลุ่มเรียงลาดับบัตรตัวเลข 0 - 10 ตามแนวคิดของกลุ่ม โดยให้เขียนอธิบายวิธีคิด
ลงในกระดาษคาตอบ ลงในกระดาษคาตอบ

เรียงลำดับบัตร 0 – 10 จำกน้อยไปมำก ได้ดังนี้ เรียงลำดับบัตร 0 – 10 จำกน้อยไปมำก ได้ดังนี้

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
หน

เรียงลำดับบัตร 0 – 10 จำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้ เรียงลำดับบัตร 0 – 10 จำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้


ังส เน

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

22
วิธีคิด ใช้วิธีกำรนับเพิ่มทีละ 1 นับลดทีละ 1 และวิธีอื่นๆ ที่นักเรียนคิดไ วิธีคิด ใช้วิธีกำรนับเพิ่มทีละ 1 นับลดทีละ 1 และวิธีอื่นๆ ที่นักเรียนคิดได้
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

1 2

ข้อสอบเน้น การคิด
10 7 5 2 ควรเติมตัวเลขใดในชองวาง ถาเรียงลำดับ
จำนวนจากมากไปนอย
1. 8
2. 6
3. 4
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะตัวเลข 6 นอยกวา 7 แตมากกวา 5)

T30
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

ตัวอยางที่ 7 3. ครูวาดภาพหรือนำภาพแสดงจำนวน 4, 5,
6, 7 และ 8 ใหนักเรียนดูแลวใหสังเกตวา
เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก จำนวนที่อยูติดกันมากกวาหรือนอยกวากัน
5 6 1 3 อยูเทาใด จากนั้นอธิบายวา จำนวนดังกลาว
เปนจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1
4. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมทำใบงาน เรื่อง การ
ปลายทาง
เรียงลำดับจำนวน โดยครูสแกน QR Code
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 5. ครูใหแตละกลุมออกมานำเสนอผลงานหนา
จากเสนจํานวน เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมากได ดังนี้ 1 3 5 6 ชั้นเรียน โดยครูคอยอธิบายเพิ่มเติมในสวน
ที่นักเรียนยังไมเขาใจ
ตัวอยางที่ 8 ใบงาน
เฉลย

เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน


คาชี้แจง : ให้นักเรียนเรียงลำดับจำนวนตำมที่กำหนดต่อไปนี้
1. นับรูปภาพต่อไปนี้จากนั้นเรียงลาดับจานวน
ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเรียงลาดับจานวนตามที่กาหนดต่อไปนี้
1. นับรูปภาพต่อไปนี้จากนั้นเรียงลาดับจานวน

7 5 8

8 6 9 4 เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก

เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก
เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก 5 7 8

3 2

เรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย 5 4 3 2
4

___________________________________________________________
5

___________________________________________________________

เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก เรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย 9 8 6 5 1

2. เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก 2. เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก
1) 3 0 7 3 0 7 0 3 7
1)___________________________________________________________
2)___________________________________________________________
6 10 9 8 2) 6 10 9 8 6 8 9 10
3. เรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย 3. เรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย
1) 2 8 5 1) 2 8 5 8 5 2
2) 6 5 4 9 2) 6 5 4 9 9 5 4 1

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ___________________________________________________________
1 2

รู ้
อธิบายความรู
จากเสนจํานวน เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอยได ดังนี้ 9 8 6 4
6. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือเรียน หนา 22-23
จากนั้นใหนักเรียนศึกษาและรวมกันสรุปวา
กิจกรรมฝึ กทักษะ จำนวนสามารถเรียงลำดับไดกี่ลักษณะ
7. ครูเขียนเสนจำนวน 0-10 แลวยกตัวอยาง
1 เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก การหาจำนวนที่อยูกอนหนาและจำนวนถัดไป
โดยใชเสนจำนวน 4-5 ตัวอยาง
1. 10 2. 7 2
6 4 1 9

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

23
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดเรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับจำนวน โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง
1. 1 2 4 3 7 จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
2. 5 7 8 9 10
3. 0 3 8 7 10
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เปนจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 ซึ่งเราสามารถใชการนับจำนวนได
ดังนัน้ 5 7 8 9 10 จึงเปนการเรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก)

T31
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ

8. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมฝ ก ทั ก ษะ ใน 3. 7 4. 5


หนังสือเรียน หนา 23-24 แลวใหนักเรียน 4 9 8 7
ช ว ยกั น ศึ ก ษาการเรี ย งลำดั บ จำนวนจาก
นอยไปมากและจากมากไปนอย จากนั้นครู 5 0 4 6
ยกตัวอยางการเรียงลำดับจำนวนเพิ่มเติมอีก
2-3 ตัวอยาง เพื่อใหนักเรียนเกิดความเขาใจ
2 เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
9. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การเรียง 1. 9 2. 8 0
ลำดั บ จำนวน ในแบบฝ ก หั ด คณิ ต ศาสตร
เปนการบาน 7 8 5 9
ขั�นสรุ
รุ ป 3. 8 4. 6
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับการ 1 0 4 3
เรียงลำดับจำนวนวา การเปรียบเทียบจำนวนแลว
นำมาจัดเรียงจากนอยไปมากหรือจากมากไปนอย 3 10 2 5
ขั�นประเมิน 3 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวนับจํานวนของสัตวแตละชนิดที่กําหนด
1. ครูตรวจใบงาน จากนั้นเรียงลําดับชนิดของสัตวจากจํานวนนอยไปมาก
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ แกะ วัว ไก หอยทาก มา
3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
แบบประเมิน
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

มีการวางแผน มีการแสดง มีการปฏิบัติ สามารถ


มีการรับฟัง
ลาดับ ชื่อ-สกุล ร่วมกัน ความคิดเห็น ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม
ความคิดเห็น
ที่ ของผู้รับการประเมิน ทางาน ของสมาชิก ที่วางไว้ กลุ่มอืน่ ได้ 15
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
หน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน


ังส เน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน


ือเล ื้อห

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน


มน าอา

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ี้อย จม

14-15 ดีมาก
ู ในร ีกา

11-13 ดี
8-10 พอใช้
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

24
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป กิจกรรม 21s� Cen���y S���l�


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับจำนวน จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน จากนั้นครูมอบหมาย
การเรียงลำดับจำนวน https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11005 ใหแตละกลุมสำรวจจำนวนสมาชิกในครอบครัวของเพื่อนรวม
ชั้นเรียนมา 5 ครอบครัว แลวนำมาเปรียบเทียบกันทีละคู
2. กอนทำการสำรวจใหนกั เรียนแตละกลุม ประชุม เพือ่ แบงหนาทีก่ นั
ในการทำงาน
3. นักเรียนแตละกลุมลงมือสำรวจและบันทึกขอมูล โดยสมาชิก
ในกลุมทำหนาที่ตามที่ประชุมกันไว
4. นักเรียนแตละกลุมนำขอมูลที่สำรวจไดมาออกแบบ เพื่อเตรียม
นำเสนอผลงาน โดยสมาชิกกลุม ชวยกันคิดรูปแบบในการนำเสนอ
เชน ตาราง รูปภาพ

T32
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า

6
8 3 4 9 เรียงลำดับจาก
การบอกอันดับที่ มากไปนอยไดอยางไร นํ าเข้าสู่บทเรียน

การบอกอันดับที่เปนการใชตัวเลขบอก ครู ท บทวนความรู เ ดิ ม โดยครู สุ ม หยิ บ บั ต ร


ต�าแหนง อันดับที่ของสิ�งตาง � เชน การเขาแถว อันดับการแขงขัน หร�อ ตัวเลขแสดงจำนวน 1 ถึง 10 และ 0 มา 4 ใบ
แลวติดบนกระดาน จากนั้นครูใหนักเรียนรวมกัน
วันที่ในป�ิทิน เรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมากและจากมาก
ไปนอย ครูทำเชนนี้อีก 2-3 รอบ
ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

1. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 5 คน ออกมายืน
เขาแถว จากนั้นครูถามคำถาม เชน
นุน หวาน
• ใครยืนอยูเปนคนแรกของแถว
บอย ตน แปง หมาก โบ เจน • ใครยืนอยูเปนอันดับที่ 2
บอย เขาแถวเปนอันดับที่ 1 แปง เขาแถวเปนอันดับที่ 5 • ใครยืนอยูเปนอันดับที่ 3
นุน เขาแถวเปนอันดับที่ 2 หมาก เขาแถวเปนอันดับที่ 6 • ใครยืนอยูเปนอันดับที่ 4
ตน เขาแถวเปนอันดับที่ 3 โบ เขาแถวเปนอันดับที่ � • ใครยืนอยูเปนคนสุดทายของแถว
หวาน เขาแถวเปนอันดับที่ 4 เจน เขาแถวเปนอันดับที่ 8 2. ครู ติ ด บั ต รภาพดิ น สอ ปากกา ไม บ รรทั ด
ยางลบ กบเหลาดินสอ ตามลำดับ จากนั้น
ตัวอยางที่ 9 ครูถามนักเรียนวา สิ่งใดอยูในอันดับที่ 1 และ
สิ่งใดอยูในอันดับที่ 4
สัตวชนิดใดอยูในอันดับที่ 3 (แนวตอบ อันดับที่ 1 ดินสอ อันดับที่ 4 ยางลบ)
3. ครูใหนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการบอกอันดับที่
อันดับที่ 1 ในหนังสือเรียน หนา 25-26 จากนั้นครูและ
นักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอ สรุปถึงวิธกี าร
บอกอันดับที่
จากจุดเริ่มตน จะเห็นวา เปดอยูในอันดับที่ 3
ตอบ เปด

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

25
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


A>C กำหนดให A B C และ D อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกอันดับที่ โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง
B<C แทนจำนวนนับใดๆ (1-10 และ 0) จำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
D<B
จากขอมูลที่กำหนด ขอใดเรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอยได
ถูกตอง
1. A > B > C > D
2. A > C > D > B
3. A > C > B > D
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะจากขอกำหนด A > C และ C > B
และ B > D ดังนั้น A > C > B > D)

T33
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

4. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมฝ ก ทั ก ษะ ใน กิจกรรมฝึ กทักษะ


หนังสือเรียน หนา 26 จากนั้นครูและนักเรียน
รวมกันเฉลยคำตอบ 1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้
5. ครูใหนกั เรียนทำใบงาน เรือ่ ง การบอกอันดับที่
โดยครูสแกน QR Code เมือ่ ทำเสร็จแลวครูสมุ หวาน นุน เจน แปง โบ บอย
นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
ใบงาน
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การบอกอันดับที่ ใบงาน เรื่อง การบอกอันดับที่
คาชี้แจง : อ่านสถานการณ์ที่กาหนด แล้วตอบคาถาม คาชี้แจง : อ่านสถานการณ์ที่กาหนด แล้วตอบคาถาม

ฉันได้บัตรคิวที่ 2 ฉันได้บัตรคิวที่ 5 ฉันได้บัตรคิวที่ 2 ฉันได้บัตรคิวที่ 5


ฉันได้บัตรคิวที่ 4 ฉันได้บัตรคิวที่ 1 ฉันได้บัตรคิวที่ 4 ฉันได้บัตรคิวที่ 1
ฉันได้บัตรคิวที่ 3 ฉันได้บัตรคิวที่ 3

โป้ แป้ง ปุย้ ปลา ปุม้ โป้ แป้ง ปุย้ ปลา ปุม้
ง ง

1 2 3 4 5 1 2 3 4 5

1. ใครยืนอยูหางจากปายรถประจําทางเปนอันดับที่สอง
โป้ง แป้ง ปุ้ย ปลา และปุ้มไปเที่ยวสวนสนุก โดยทั้งห้าคนได้รับบัตรคิวเพื่อขึ้นรถ ให้หาว่า โป้ง แป้ง ปุ้ย ปลา และปุ้มไปเที่ยวสวนสนุก โดยทั้งห้าคนได้รับบัตรคิวเพื่อขึ้นรถ ให้หาว่า
ใครได้ขึ้นรถเป็นคนที่เท่าใดและแต่ละคนจะได้นั่งรถคันใด ใครได้ขึ้นรถเป็นคนที่เท่าใดและแต่ละคนจะได้นั่งรถคันใด

โป้ง ขึ้นรถอันดับที่ 4 ขึ้นรถคันที่ 4 โป้ง ขึ้นรถอันดับที่ 4 ขึ้นรถคันที่ 4


เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 4 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 4 เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 4 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 4
แป้ง ขึ้นรถอันดับที่ 1 ขึ้นรถคันที่ 1 แป้ง ขึ้นรถอันดับที่ 1 ขึ้นรถคันที่ 1
เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 1 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 1 เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 1 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 1

ใครยืนอยูหางจากปายรถประจําทางเปนอันดับที่สาม
ปุ้ย ขึ้นรถอันดับที่ 2 ขึ้นรถคันที่ 2 ปุ้ย ขึ้นรถอันดับที่ 2 ขึ้นรถคันที่ 2

2.
เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 2 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 2 เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 2 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 2
ปลา ขึ้นรถอันดับที่ 5 ขึ้นรถคันที่ 5 ปลา ขึ้นรถอันดับที่ 5 ขึ้นรถคันที่ 5
เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 5 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 5 เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 5 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 5
ปุ้ม ขึ้นรถอันดับที่ 3 ขึ้นรถคันที่ 3 ปุ้ม ขึ้นรถอันดับที่ 3 ขึ้นรถคันที่ 3
เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 3 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 3 เพราะเหตุใด ได้บัตรคิวที่ 3 จึงต้องขึ้นรถคันที่มีหมายเลข 3
เรียงลาดับชื่อคนที่ได้ขึ้นรถจากอันดับแรกจนถึงอันดับสุดท้าย เรียงลาดับชื่อคนที่ได้ขึ้นรถจากอันดับแรกจนถึงอันดับสุดท้าย
แป้ง ปุ้ย ปุ้ม โป้ง ปลา แป้ง ปุ้ย ปุ้ม โป้ง ปลา

1 2

3. ใครยืนอยูหางจากปายรถประจําทางเปนอันดับที่สี่
6. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมเชื่ อ มโยงสู ชี วิ ต 4. นุนยืนหางจากปายรถประจําทางเปนอันดับที่เทาใด
ประจำวัน ในหนังสือเรียน หนา 27 จากนั้น
ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมานำเสนอคำตอบหน า 2 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ดวยวาจา
ชัน้ เรียน โดยครูและนักเรียนในชัน้ เรียนรวมกัน
ตรวจสอบความถูกตอง 1. ผลไมชนิดใดวางอยูในอันดับที่ 4

1
2. ลูกบอลสีใดวางอยูในอันดับที่ 3 1
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
26
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบอกอันดับที่ จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง มีนักเรียน 7 คน ยืนเขาแถวเพื่อซื้ออาหาร โดยมีนอย แนน และ
การบอกอันดับที่ https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11006 นิดรวมอยูดวย โดยตำแหนงที่นอย แนน และนิดยืน เปนดังนี้
- นอยยืนอยูอันดับที่ 3 นับจากหัวแถว
- แนนยืนอยูอันดับที่ 6 นับจากทายแถว
- นิดยืนอยูตรงกลางเมื่อนับจากหัวแถวและทายแถว
นอย แนน และนิด ใครจะไดซื้ออาหารกอนกัน
1. นอย
2. แนน นอย
3. นิด 1 2 3 4 5 6 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. หั ว แถว
7 6 5 4 3 2 1
เพราะจากสถานการณ
สรางเปนแผนภาพได ดังนี้ แนน นิด

T34
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้
เชื่อมโยง สู่ชีวิตประจําวัน 7. ครู ใ ห นั ก เรี ย นจั บ คู แ ล ว ร ว มกั น ทำกิ จ กรรม
ปลายทาง
Active Learning ในหนังสือเรียน หนา 27
จากรูป ถาพิจารณาจํานวนคนในแถว ตาควรเลือกตอแถวซื้ออาหาร หรือใบกิจกรรม เรื่อง ขนมที่ฉันเลือกซื้อ ดังนี้
รานใด จึงจะซื้ออาหารไดเร็วที่สุด 1) แตละคูสำรวจราคาขนมจำนวน 4 ชนิด
รานที่ 1 รานที่ 2 รานที่ 3 รานที่ 4 รานที่ 5 ที่มีราคาไมเกิน 10 บาท แลวนำราคามา
เปรียบเทียบกัน
2) นำราคาขนมทั้ง 4 ชนิด มาเรียงลำดับจาก
มากไปนอย
3) ให นั ก เรี ย นเลื อ กซื้ อ ขนมคนละ 1 ชนิ ด
รวมกันสองคนแลวไมเกิน 10 ชิ้น จะซื้อ
ขนมอะไรบางอยางละกี่ชิ้น ใหเขียนแสดง
จำนวนโดยใชความสัมพันธแบบสวนยอย
และสวนรวม
4) แตละคูอ อกมานำเสนอผลงานหนาชัน้ เรียน
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยกิจกรรม Active
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน Learning หรือเฉลยใบกิจกรรมไดโดยสแกน
ก รร ม
กจ

Active L earning
ความสามารถดาน ✓ การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา
QR Code
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี ใบกิจกรรม Active Learning
ใหนักเรียนจับคู แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปน�้ ใบกิจกรรม เรื่อง ขนมที่ฉันเลือกซื้อ
คำชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้
ใบกิจกรรม เรื่อง บ้ำนในฝันของฉัน
คำชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้
เฉลย

1. แตละคูสํารวจราคาขนมจํานวน 4 ชนิด ที่มีราคาไมเกิน 10 บาท แลวนํา


1. แต่ละคูส่ ำรวจรำคำขนมจำนวน 4 ชนิด ที่มีรำคำไม่เกิน 10 บำท แล้วนำรำคำมำเปรียบเทียบกัน 1. แต่ละคูส่ ำรวจรำคำขนมจำนวน 4 ชนิด ที่มีรำคำไม่เกิน 10 บำท แล้วนำรำคำมำเปรียบเทียบกัน
1) เขียนชื่อขนมทั้ง 4 ชนิด พร้อมทั้งระบุรำคำ 1) เขียนชื่อขนมทั้ง 4 ชนิด พร้อมทั้งระบุรำคำ
1. คุกกี้เนยสด รำคำ 8 บำท 1. คุกกี้เนยสด รำคำ 8 บำท
2. แพนเค้ก รำคำ 5 บำท 2. แพนเค้ก รำคำ 5 บำท
3. แยมโรล รำคำ 9 บำท 3. แยมโรล รำคำ 9 บำท
4. เยลลีผลไม้ รำคำ 6 บำท 4. เยลลีผลไม้ รำคำ 6 บำท
2) เขียนรำคำขนมและเปรียบเทียบรำคำขนม ลงในช่องว่ำง 2) เขียนรำคำขนมและเปรียบเทียบรำคำขนม ลงในช่องว่ำง

ราคามาเปรียบเทียบกัน
8 8 > 5 5 < 9
ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 3
8 < 9 5 < 6
ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 4 ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 4
8 > 6 9 > 6

2. นําราคาขนมทั้ง 4 ชนิด มาเรียงลําดับจากมากไปนอย


ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 4 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 4 ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 4 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 4
2. นำรำคำขนมทั้ง 4 ชนิด มำเรียงลำดับจำกมำกไปน้อย 2. นำรำคำขนมทั้ง 4 ชนิด มำเรียงลำดับจำกมำกไปน้อย
9 8 6 5 9 8 6 5
3. ให้นักเรียนเลือกซื้อขนมคนละ 1 ชนิด รวมกันสองคนแล้วไม่เกิน 10 ชิ้น จะซื้อขนมอะไรบ้ำงอย่ำงละกี่ชิ้น 3. ให้นักเรียนเลือกซื้อขนมคนละ 1 ชนิด รวมกันสองคนแล้วไม่เกิน 10 ชิ้น จะซื้อขนมอะไรบ้ำงอย่ำงละกี่ชิ้น
ให้เขียนแสดงจำนวนโดยใช้ควำมสัมพันธ์แบบส่วนย่อยและส่วนรวม ให้เขียนแสดงจำนวนโดยใช้ควำมสัมพันธ์แบบส่วนย่อยและส่วนรวม
1) เจน ซือ้ แพนเค้ก จำนวน 2 ชิ้น 1) เจน ซือ้ แพนเค้ก จำนวน 2 ชิ้น 59
2) พรำว ซือ้ เยลลี่ผลไม้ จำนวน 3 ชิ้น 2) พรำว ซือ้ เยลลีผลไม้ จำนวน 3 ชิ้น

3. ใหนักเรียนเลือกซื้อขนมคนละ 1 ชนิด รวมกันสองคนแลวไมเกิน 10 ชิ้น


4. แต่ละคู่ออกมำนำเสนอผลงำนหน้ำชั้นเรียน 4. แต่ละคู่ออกมำนำเสนอผลงำนหน้ำชั้นเรียน 3 2

จะซื้อขนมอะไรบางอยางละกี่ชิ้น ใหเขียนแสดงจํานวนโดยใชความสัมพันธ
1 2

แบบสวนยอยและสวนรวม 8. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การบอก


อันดับที่ ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร
4. แตละคูออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
เปนการบาน

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

27
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ กิจกรรมเช�่อมโยงสูชีว�ตประจำาวัน หนา 27


ข้อสอบเน้น การคิด
ตาควรเลือกตอแถวซื้ออาหารรานที่ 2 จึงจะซื้ออาหารไดเร็วที่สุด
ในหองเรียนคณิตศาสตรนักเรียนนั่งเรียนเปนแถวตอนเรียงหนึ่ง
โดยที่เอฟนั่งคนแรก ถัดจากเอฟไปอีก 2 คน คือ ออฟ แมวนั่งหนา
ออฟ และมายดนั่งหลังแมว แตนั่งหนาออฟ ใหนักเรียนเรียงลำดับ
คนที่อยูหนาสุดไปหาคนที่อยูทายสุด
1. เอฟ แมว ออฟ มายด
2. เอฟ แมว มายด ออฟ
3. แมว มายด ออฟ เอฟ
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะเอฟนั่งคนแรก มายดนั่งหลังแมว
และหนาออฟ)

T35
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูใหนักเรียนทบทวนความรูทั้งหมดที่เรียน
มาในหนวยนี้ โดยศึกษาจากสรุปสาระสำคัญ
ประจำหนวยการเรียนรูที่ 1 ในหนังสือเรียน สรุป สาระสําคัญ ประจําหน่วยการเรียนรู้ท 1

หนา 28 การเปรียบเทียบจำนวน
2. ครูใหนกั เรียนตรวจสอบความรูค วามเขาใจดวย
ตนเอง โดยสแกน QR Code ตรวจสอบ จำนวนนับ เท่ากับ 5 5

ตนเอง ในหนังสือเรียน หนา 28 ถาผลประเมิน


ของนักเรียนต่ำกวาระดับพอใช ครูควรอธิบาย
ถึง ไม่เท่ากับ 4 6

และยกตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม ในหั ว ข อ นั้ น แล ว และ


ให นั ก เรี ย นกลั บ ไปทบทวนเนื้ อ หาและทำ
มากกว่า 9 7
แบบฝกหัดอีกครั้งตามหัวขอที่กำหนด การบอกและเขียนตัวเลข
3. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน และตัวหนังสือแสดงจำนวน
8
ขั�นประเมิน ตัวเลขฮินดูอารบิก น้อยกว่า 5
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
ตัวเลขไทย
2. ครูตรวจใบงาน ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐
3. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ การเรียงลำดับจำนวน
4. ครูตรวจแบบฝกหัด ตัวหนังสือ น้อยไปมาก
ศูนย์ หน‘ง สอง สาม ส ห้า หก เจ็ด แปด 8
3 4
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล เก้า สิบ
6. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
7. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค การแสดงจำนวนนับไมเกิน 10
ในรูปความสัมพันธของจำนวน มากไปน้อย
8. ครูประเมินความสามารถในการสื่อสารและ
แบบสวนยอยและสวนรวม 7 5 3
การคิด จากกิจกรรม Active Learning หรือ
ใบกิจกรรม เรือ่ ง ขนมทีฉ่ นั เลือกซือ้ โดยใชเกณฑ เป•นการเขียนแสดงความสัมพันธ์ของจํานวน
ใด ๆ ในรูปของจํานวน 2 จํานวนขœนไป โดยท
การประเมินจากแบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ผลรวมของจํานวนเหล่าน¢นเท่ากับจํานวนเดิม
ของผูเรียน 4 การบอกอันดับที่
ส่วนย่อย การบอกอันดับท เป•นการบอกตําแหน่งของคน สัตว์
แบบประเมิน 6 หรือส£งของ เช่น
ส่วนรวม
ระดับคุณภำพ
แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

2 นุ่น บอย เจน


สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ใส่ตัวเลขลงในช่องระดับคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด
สมรรถนะที่ 1 เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ ความสามารถ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร ในการสื่อสาร จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ตัวชี้วัดที่ 1 ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ กาหนดได้อย่าง กาหนดได้ และ กาหนดไม่ได้

ส่วนย่อย
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร กาหนดได้
เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ อย่างถูกต้อง ถูกต้องครบถ้วน มีข้อบกพร่องใน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.
ทัศนะของตนเองด้วยการพูด ครบถ้วน มีข้อบกพร่อง การใช้ภาษา
สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคิด และการเขียน ในการใช้ภาษา วรรคตอน
มีข้อบกพร่อง
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3. พฤติกรรมบ่งชี้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน และการเขียนคา
หน

หมำยเหตุ : หากนักเรียนมีระดับคุณภาพไม่ถึงระดับดี (2) ในแต่ละสมรรถนะสาคัญ ครูควรพัฒนานักเรียนให้ถึงเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนมี และการเขียนคา ตั้งแต่ 6 แห่งขึ้นไป


3. เขียนถ่ายทอดความรู้ วรรคตอนและการ
ความพร้อมก่อนทากิจกรรมต่อไป
ังส เน

ความเข้าใจจากสารที่อา่ น เขียนคา ตั้งแต่ 3 แห่ง


เกณฑ์กำรประเมิน ฟัง หรือดู ตามที่กาหนดได้ ไม่เกิน 2 แห่ง แต่ไม่เกิน 5 แห่ง
ือเล ื้อห

ระดับคุณภำพ สมรรถนะที่ 2 ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด


มน าอา

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ


ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
ในการคิด และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ
ี้อย จม

(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)


ตัวชี้วัดที่ 1 ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล
สมรรถนะที่ 1
ู ในร ีกา

พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ คิดพื้นฐาน ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น
ความสามารถ ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก (การคิดวิเคราะห์) ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน
ะหว รปร

อันดับท 3 อันดับท 2 อันดับท 1


ในการสื่อสาร สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ พฤติกรรมบ่งชี้ ได้ถูกต้องและ ได้ถูกต้อง ได้ถูกต้องเป็น ไม่ได้

28
ตัวชี้วัดที่ 1 ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนด

ตรวจสอบตนเอง
3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ ครบถ้วน แต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและ
าง ับป

ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง ไม่ชัดเจน ไม่ได้ และความคิดรวบยอดของ ไม่ครบถ้วน


สง รุง

เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ ครบถ้วน ครบถ้วน ชัดเจน


ข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นใน
ทัศนะของตนเองด้วยการพูด ชัดเจน และมัน่ ใจ
ตร แก

บริบทที่เป็นสิ่งใกล้ตวั
และการเขียน
วจ  ไข

พฤติกรรมบ่งชี้
พิจ

1. พูดถ่ายทอดความรู้ ความ
เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง
าร

หรือดู ตามที่กาหนดได้

1 2

ข้อสอบเน้น การคิด
หากนักเรียนเขาแถวซื้อขนมอยูเปนอันดับที่ 4 แตมีคนแซงคิว
นักเรียน 2 คน และคนที่อยูกอนหนานักเรียนออกจากแถวไป 1 คน
นักเรียนจะอยูอันดับที่เทาใด
1. อันดับที่ 4
2. อันดับที่ 5
3. อันดับที่ 6
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะเดิมอยูอันดับที่ 4 แตมีคนแซงคิว
2 คน ทำใหอยูอันดับที่ 6 และคนกอนหนาออกจากแถวไป 1 คน
ทำใหอยูอันดับที่ 5)

T36
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้หน่ วยที่ 2

แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 1 1. อธิิบายควิามหมายของ สมรรถนะที่่� 1 การเรียนั - ต่รวิจัแบบที่ดสอบก่อนัเรียนั - แบบที่ดสอบ
ความหมาย การบวิกได้ถููกต่้อง (K, A) ควิามสามารถูในัการส้�อสาร การสอนัเนั้นั - ต่รวิจัแบบฝึึกหัด ก่อนัเรียนั
ของการบวก 2. ยกต่ัวิอย่างเพื้้อ� แสดง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 มโนัที่ัศนั์ - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม - หนัังส้อเรียนั
สถูานัการณ์การบวิกได้ ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั (Concept การที่ำางานัรายบุคคล รายวิิชาพื้้�นัฐานั
2 ถููกต่้อง (S, A) ควิามคิด ควิามรู้สึก และที่ัศนัะของต่นัเอง Based
Teaching
- สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม
การที่ำางานักลุ่ม
คณิต่ศาสต่ร์
ป็.1 เล่ม 1
ชั่วโมง ด้วิยการพืู้ดและการเขียนั
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� and - ป็ระเมินัคุณลักษณะ - แบบฝึึกหัด
1. พืู้ดถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั Learning) อันัพื้ึงป็ระสงค์ รายวิิชาพื้้�นัฐานั
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หร้อดู - สังเกต่ควิามสามารถู คณิต่ศาสต่ร์
ต่ามที่ี�กำาหนัดได้ ในัการส้�อสาร ป็.1 เล่ม 1
- ดินัสอและยางลบ
- บัต่รภาพื้
- คลิป็อักษร
เรียนัสรุป็ เร้�อง
ควิามหมาย
ของการบวิกและ
ป็ระโยคสัญลักษณ์
แสดงการบวิก
- PowerPoint เร้�อง
การบวิกจัำานัวินั
สองจัำานัวินัที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9
แผนฯ ที่ 2 1. อธิิบายวิิธิีการเขียนั สมรรถนะที่่� 1 การเรียนั - ต่รวิจักิจักรรมฝึึกที่ักษะ - หนัังส้อเรียนั
ประโยค ป็ระโยคสัญลักษณ์แสดง ควิามสามารถูในัการส้�อสาร การสอนัเนั้นั - ต่รวิจัแบบฝึึกหัด รายวิิชาพื้้�นัฐานั
สััญลักษณ์ การบวิกได้ถููกต่้อง (K, A) ตััวชี้่�วัดที่่� 1 มโนัที่ัศนั์ - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม คณิต่ศาสต่ร์
แสัดง 2. เขียนัป็ระโยคสัญลักษณ์ ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั (Concept การที่ำางานัรายบุคคล ป็.1 เล่ม 1
การบวก แสดงการบวิกได้ ควิามคิด ควิามรู้สึก และที่ัศนัะของต่นัเอง Based - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม - แบบฝึึกหัด
ถููกต่้อง (S, A) ด้วิยการพืู้ดและการเขียนั Teaching การที่ำางานักลุ่ม รายวิิชาพื้้�นัฐานั
2 พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� and
Learning)
- ป็ระเมินัคุณลักษณะ
อันัพื้ึงป็ระสงค์
คณิต่ศาสต่ร์
ป็.1 เล่ม 1
ชั่วโมง 3. เขียนัถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หร้อดู - สังเกต่ควิามสามารถู - บัต่รภาพื้
ต่ามที่ี�กำาหนัดได้ ในัการส้�อสาร - คลิป็อักษร
เรียนัสรุป็ เร้�อง
ควิามหมาย
ของการบวิกและ
ป็ระโยคสัญลักษณ์
แสดงการบวิก
- PowerPoint เร้�อง
การบวิกจัำานัวินั
สองจัำานัวินัที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9

T37
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 3 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลบวก สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การบวก โดยการนัับต่่อได้้ถููกต้้อง ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
โดยการ (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
นัับต่่อ 2. หาผลบวกโดยการนัับต่่อ คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
ได้้ถููกต้้อง (S, A) พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
2 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ การทำำ�งานกลุ่่�ม
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
รายวิิชาพื้้�นฐาน
คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
- สัังเกตความสามารถ - บััตรภาพ
ในการคิิด - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การบวกโดยการ
นัับต่่อ (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
สองจำำ�นวนที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 9
แผนฯ ที่่� 4 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลบวก สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การบวก โดยใช้้ความสััมพัันธ์์ ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
จำำ�นวนโดยใช้้ ของจำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
ความสััมพัันธ์์ และส่่วนรวมได้้ถููกต้้อง คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
ของจำำ�นวน (K, A) พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
แบบส่่วนย่่อย 2. หาผลบวกโดยใช้้ความ 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
สััมพัันธ์์ของจำำ�นวนแบบ ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - ประเมิินคุุณลัักษณะ คณิิตศาสตร์์
และส่่วนรวม
ส่่วนย่่อยและส่่วนรวมได้้ ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
2 ถููกต้้อง (S, A) - สัังเกตความสามารถ
ในการคิิด
- บััตรภาพ
- คลิิปอัักษร
ชั่วโมง เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
โดยใช้้ความ
สััมพัันธ์์ของ
จำำ�นวนแบบ
ส่่วนย่่อยและ
ส่่วนรวม (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
สองจำำ�นวนที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 9

T38
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 5 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลบวก สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจใบงาน เรื่่�อง การบวก - หนัังสืือเรีียน
การบวก ตามแนวนอนและตาม ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� จำำ�นวนสองจำำ�นวนที่่�มีี รายวิิชาพื้้�นฐาน
จำำ�นวนตาม แนวตั้้�งได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ ผลบวกไม่่เกิิน 9 คณิิตศาสตร์์
แนวนอน 2. เขีียนแสดงวิิธีีการหา คิิดพื้้น� ฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ป.1 เล่่ม 1
และการบวก ผลบวกตามแนวนอน พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - ตรวจแบบฝึึกหััด - แบบฝึึกหััด
จำำ�นวนตาม และตามแนวตั้้�งได้้ถููกต้้อง 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ - สัังเกตพฤติิกรรม รายวิิชาพื้้�นฐาน
(S, A) ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ การทำำ�งานรายบุุคคล คณิิตศาสตร์์
แนวตั้้�ง
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว - สัังเกตพฤติิกรรม ป.1 เล่่ม 1
3 การทำำ�งานกลุ่่�ม
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
- ใบงาน เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
ชั่วโมง อัันพึึงประสงค์์ สองจำำ�นวนที่่�มีี
- สัังเกตความสามารถ ผลบวกไม่่เกิิน 9
ในการคิิด - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
ตามแนวนอนและ
ตามแนวตั้้�ง (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
สองจำำ�นวนที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 9
แผนฯ ที่่� 6 1. อธิิบายเกี่่�ยวกัับการสลัับที่่� สมรรถนะที่่� 2 รููปแบบ - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การสลัับที่่� ของการบวกได้้ถููกต้้อง ความสามารถในการคิิด การจััด - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
ของการบวก (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
และการบวก 2. อ
 ธิิ บ ายเกี่่ย
� วกัั บ การบวก คิิดพื้้น� ฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การสอน การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
ด้้วยศููนย์์ จำำ �นวนด้ ว
้ ยศูู นย์ไ
์ ด้้ ถู ก
ู ต้้ อ ง พฤติิกรรมบ่่งชี้้� แบบสืืบสอบ - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
(K, A) 3. ร ะบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ ความรู้้� การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
2 3. หาผลบวกโดยใช้้การ
สลัับที่่�ของการบวกได้้
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ (5Es
Instructional
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
อัันพึึงประสงค์์
คณิิตศาสตร์์
ป.1 เล่่ม 1
ชั่วโมง ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว
ถููกต้้อง (S, A) Model) - สัังเกตความสามารถ - แก้้วเปล่่า
4. หาผลบวกของจำำ�นวน ในการคิิด - ปากกา
ที่่�บวกด้้วยศููนย์์ได้้ - จาน
ถููกต้้อง (S, A) - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การสลัับที่่�ของ
การบวกและ
การบวกด้้วยศููนย์์
- PowerPoint เรื่่�อง
การบวกจำำ�นวน
สองจำำ�นวนที่่�มีี
ผลบวกไม่่เกิิน 9

T39
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 7 1. อธิิบายวิิธิีแก้โจัที่ย์ป็ัญหา สมรรถนะที่่� 2 รูป็แบบ - ต่รวิจัแบบฝึึกที่ักษะ - หนัังส้อเรียนั
โจำที่ย์ปญหา การบวิกที่ี�มีผลบวิก ควิามสามารถูในัการคิด การจััด - ต่รวิจัแบบฝึึกหัด รายวิิชาพื้้�นัฐานั
การบวกที่่�ม่ ไม่เกินั 9 ได้ถููกต่้อง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 การเรียนั - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม คณิต่ศาสต่ร์
ผลบวก (K, A) คิดพื้้�นัฐานั (การคิดวิิเคราะห์) การสอนั การที่ำางานัรายบุคคล ป็.1 เล่ม 1
ไม่เกินั 9 2. แก้โจัที่ย์ป็ัญหาการบวิก พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� แบบส้บสอบ - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม - แบบฝึึกหัด
ที่ี�มีผลบวิกไม่เกินั 9 3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และ ควิามรู้ การที่ำางานักลุ่ม รายวิิชาพื้้�นัฐานั
3 ได้ถููกต่้อง (S, A) ควิามคิดรวิบยอดของข้อมูลต่่าง ๆ (5Es
Instructional
- ป็ระเมินัคุณลักษณะ
อันัพื้ึงป็ระสงค์
คณิต่ศาสต่ร์
ป็.1 เล่ม 1
ชั่วโมง ที่ี�พื้บเห็นัในับริบที่ที่ี�เป็็นัสิ�งใกล้ต่ัวิ
Model) - สังเกต่ควิามสามารถู - คลิป็อักษร
ในัการคิด เรียนัสรุป็ เร้�อง
โจัที่ย์ป็ัญหา
การบวิกที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9
(1/3)
- PowerPoint เร้�อง
การบวิกจัำานัวินั
สองจัำานัวินัที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9
แผนฯ ที่ 8 1. อธิิบายวิิธิีสร้างโจัที่ย์ 1) สมรรถนะที่่� 1 รูป็แบบ - ต่รวิจัแบบที่ดสอบหลังเรียนั - หนัังส้อเรียนั
การสัร้าง ป็ัญหาการบวิกที่ี�มีผลบวิก ควิามสามารถูในัการส้�อสาร การจััด - ต่รวิจัใบงานั เร้�อง รายวิิชาพื้้�นัฐานั
โจำที่ย์ปญหา ไม่เกินั 9 ได้ถููกต่้อง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 การเรียนั การสร้างโจัที่ย์ป็ัญหา คณิต่ศาสต่ร์
การบวกที่่�ม่ (K, A) ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั การสอนั การบวิกที่ี�มีผลบวิกไม่เกินั 9 ป็.1 เล่ม 1
ผลบวก 2. สร้างโจัที่ย์ป็ัญหาการบวิก ควิามคิด ควิามรู้สึก และที่ัศนัะของ แบบส้บสอบ - ต่รวิจัแบบฝึึกที่ักษะ - แบบฝึึกหัด
ไม่เกินั 9 ที่ี�มีผลบวิกไม่เกินั 9 ต่นัเองด้วิยการพืู้ดและการเขียนั ควิามรู้ - ต่รวิจัแบบฝึึกหัด รายวิิชาพื้้�นัฐานั
จัากสิ�งที่ี�กำาหนัดให้ พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� (5Es - สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม คณิต่ศาสต่ร์
3 และหาคำาต่อบได้ถููกต่้อง
(S, A)
1. พืู้ดถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั Instructional
Model)
การที่ำางานัรายบุคคล
- สังเกต่พื้ฤต่ิกรรม
ป็.1 เล่ม 1
- ใบงานั เร้�อง
ชั่วโมง จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หร้อดู
ต่ามที่ี�กำาหนัดได้ การที่ำางานักลุ่ม การสร้างโจัที่ย์
3. เขียนัถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั - ป็ระเมินัคุณลักษณะ ป็ัญหาการบวิกที่ี�มี
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หร้อดู อันัพื้ึงป็ระสงค์ ผลบวิกไม่เกินั 9
ต่ามที่ี�กำาหนัดได้ - ป็ระเมินัควิามสามารถู - ใบกิจักรรม เร้�อง
ในัการส้�อสารและการคิด เต่รียมขนัมสำาหรับ
2) สมรรถนะที่่� 2 จัากกิจักรรม Active งานัเลี�ยง
ควิามสามารถูในัการคิด Learning หร้อใบกิจักรรม - บัต่รภาพื้
ตััวชี้่�วัดที่่� 1 เร้�อง เต่รียมขนัมสำาหรับ - บัต่รป็ระโยค
คิดพื้้�นัฐานั (การคิดวิิเคราะห์) งานัเลี�ยง โดยใช้เกณฑ์การ สัญลักษณ์
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� ป็ระเมินัจัากแบบป็ระเมินั - คลิป็อักษร
3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และ สมรรถูนัะสำาคัญของผู้เรียนั เรียนัสรุป็ เร้�อง
ควิามคิดรวิบยอดของข้อมูลต่่าง ๆ การสร้างโจัที่ย์
ที่ี�พื้บเห็นัในับริบที่ที่ี�เป็็นัสิ�งใกล้ต่ัวิ ป็ัญหาการบวิกที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9
(1/2)
- PowerPoint เร้�อง
การบวิกจัำานัวินั
สองจัำานัวินัที่ี�มี
ผลบวิกไม่เกินั 9

T40
สาระสําคัญสําหรับครู
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกจํานวนสองจํานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9

ความหมายของการบวก
การนัำาจัำานัวินัสองจัำานัวินัมารวิมกันั
ผลรวิมที่ี�ได้ เรียกวิ่า ผลบ่วก สับป็ะรด 5 ผล มะม่วิง 2 ผล มีผลไม้ 7 ผล
5 รวิมกับ 2 ได้เที่่ากับ 7 เรียก 7 วิ่า ผลบวิกของ 5 กับ 2
จัะได้วิ่า มีผลไม้ที่ั�งหมด 7 ผล

ประโยคสัญลัักษณ์แสดงการบวก

รวมกับ่ เที่่ากับ่

เขียนัป็ระโยคสัญลักษณ์แสดงการบวิกได้ ดังนัี� 4 + 3 = 7 อ่านัวิ่า สี�บวิกสามเที่่ากับเจั็ด


ตััวตัั�ง ตััวบ่วก ผลบ่วก

4 + 3 = 7
เคร้�องหมาย บ่วก เคร้�องหมาย เที่่ากับ่
ใช้เขียนัคั�นัระหวิ่างจัำานัวินัสอง ใช้แสดงการเที่่ากันั
จัำานัวินัที่ี�ต่้องการนัำามารวิมกันั ในัป็ระโยคสัญลักษณ์

การบวกจำานวนสองจำานวนที่มีผลับวกไมเกิน 9

โดย่ใชี้การนับ่ตั่อ โดย่ใชี้ความสัมพันธ์ของจํานวนแบ่บ่ส่วนย่่อย่และส่วนรวม
6+3= 9
เริ�มนัับต่่อจัาก 6 ไป็อีก 3 6
6 + 3 = 9 9
6 7 8 9
3
1 2 3
6 รวิมกับ 3 เที่่ากับ 9
โดย่วิธ่การบ่วกตัามแนวนอน โดย่วิธ่การบ่วกตัามแนวตัั�ง
6 + 3 = 9 6 ต่ัวิต่ั�ง
+
3 ต่ัวิบวิก
ต่ัวิต่ั�ง ต่ัวิบวิก ผลบวิก 9 ผลบวิก

T41
การสลัับที่่�ของการบวก
เมื่่�อสลัับที่่�ตััวตั้้�งและตััวบวกผลบวกยัังคงเท่่าเดิิม

6 + 3 = 9 3 + 6 = 9

ดัังนั้้�น 6 + 3 = 3 + 6

การบวกด้้วยศููนย์์
เมื่่�อนำำ�ศููนย์์ไปบวกกัับจำำ�นวนใด ๆ จะได้้ผลบวกเท่่ากัับจำำ�นวนนั้้�นเสมอ

0 + 3 = 3

โจทย์์ปััญหาการบวก
ขั้้�นตอนการแก้้โจทย์์ปััญหา
1. การวิิเคราะห์์ 2. การวางแผน 3. 4. การตรวจสอบ
การแก้้ปััญหา ความสมเหตุุสมผล
โจทย์์ปััญหา แก้้โจทย์์ปััญหา
ของคำำ�ตอบ

การสร้้างโจทย์์ปััญหาการบวก
ขั้้�นตอนการสร้้างโจทย์์ปััญหา
2.
1. พิิจารณาสิ่่�งที่่� กำำ�หนดคำำ�สำำ�คััญที่่�แสดงถึึง 3. สร้้างโจทย์์ปััญหา
โจทย์์กำำ�หนดให้้ การบวก เช่่น รวม ทั้้�งหมด การบวก
มากกว่่า น้้อยกว่่า

ตััวอย่่างโจทย์์ปััญหาการบวก
- ต้้ามีีคุุกกี้้� 5 ชิ้้�น ซื้้�อมาเพิ่่�ม 2 ชิ้้�น ต้้ามีีคุุกกี้้�กี่่�ชิ้้�น
- แพรวมีีดิินสอ 4 แท่่ง พลอยมีีดิินสอมากกว่่าแพรว 4 แท่่ง พลอยมีีดิินสอกี่่�แท่่ง

T42
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

Concept Based Teaching

2
การบวกจาํ นวนสองจาํ นวน
หนวยการเรียนรูที่ and Learning

ขั�นนํ า
่ี ผ
ทม ิ 9
ี ลบวกไม่เกน รู เ้ ดิมฯ
ทบทวนความรู

1. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียน
เตรียมพรอมกอนเรียน
2. ครูหยิบดินสอ 4 แทง ยางลบ 2 กอน แสดง
ให นั ก เรี ย นดู จากนั้ นครู ให นั ก เรี ย นร ว มกั น
บอกจำนวนของดินสอและยางลบ พรอมทั้ง
ขออาสาสมั ค ร 2 คน ออกมาเขี ย นแสดง
จำนวนเป นตั ว เลขฮิ นดู อ ารบิ ก ตั ว เลขไทย
และตัวหนังสือ
3. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย นโดยให
นักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวถามนักเรียนวา
“ทำอยางไรจึงจะรูวามีเด็กในสวนสาธารณะ
ทั้งหมดกี่คน เรารูไดอยางไร”
หมายเหตุ : ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น เฉลย
คำถามประจำหนวยการเรียนรูห ลังเรียนหนวย
การเรียนรูที่ 2
4. ครู ต รวจสอบความรู พื้ นฐานก อ นเรี ย นของ
นั ก เรี ย น โดยครู ส แกน QR Code ใน
หนั ง สื อ เรี ย น หน า 29 แล ว ให นั ก เรี ย นทำ
·íÒÍ‹ҧäè֧¨ÐÃÙŒÇ‹Ò เตรียมพรอมกอนเรียน
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยเตรียมพรอม
ÁÕà´ç¡ã¹ÊǹÊÒ¸ÒóÐ
?
กอนเรียนไดโดยสแกน QR Code
·Ñé§ËÁ´¡Õ褹
เฉลัยเตรียมพร้อมกอนเรียน
ก่อนเรีย

เฉลย
เตรียมพร้อม
หนวยการเรียนรูที่ 2
นับจํานวนของสิง่ ตาง ๆ จากรูปทีก่ าํ หนด แลวเขียนแสดงจํานวนดวยตัวเลขฮินดูอารบิก

µÑǪÕéÇÑ´ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ 1)

• หาคาของตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณแสดงการบวก • ความหมายของการบวก 2 ชิ้น


มีโดนัต ……………. 2 ชิ้น มีโดนัตทั้งหมด …………….
ไดรับโดนัตเพิ�ม ……………. 4 ชิ้น

และประโยคสัญลักษณแสดงการลบของจํานวนนับไมเกิน 100 • ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 2)

และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) • การบวกจํานวนสองจํานวนที่มีผลบวกไมเกิน 9


• แสดงวิธีหาคําตอบของโจทยปญหาการบวกและโจทยปญหา • การสลับที่ของการบวก 3)
6 ผล
มีสม ……………. 1 ผล มีสม ทัง้ หมด …………….
ใสลงในตะกราเพิ�ม ……………. 7 ผล

 ไข ารณ

การลบของจํานวนนับไมเกิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/5) • การบวกดวยศูนย


ุงแก พิจ
ปร วจ

• แสดงวิิธิีหาคำาต่อบของโจัที่ย์ป็ัญหาการบวิกและโจัที่ย์ป็ัญหา •
รับ ตร

โจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9
รป สง

4 ชิ้น
มีคัปเคก ……………. 5 ชิ้น
อบเพิ�มอีก ……………. 9 ชิ้น
มีคัปเคกทั้งหมด …………….
ีกา าง


จม ะหว

การลบของจัำานัวินันัับไม่เกินั 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ปั.1/5) การสรางโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ คำาถามประจำาหนวยการเรียนรู้ที่ 2 หนั้า 29


เป้าหมาย การเรียนรู้
นับจำนวนเด็กผูหญิงได 4 คน และเด็กผูชายได 4 คน แลวนำมารวมกัน
การจั ด การเรี ย นการสอนในหน ว ยการเรี ย นรู นี้ มุ ง เน น ให ผู เ รี ย น จะไดวามีเด็กในสวนสาธารณะทั้งหมด 8 คน
แกโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 ไดอยางถูกตอง เพื่อให
ผูเรียนนำความรูไปใชในสถานการณชีวิตประจำวันได

T43
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ เรานำความสัมพันธของจำนวน
1. ครูใหนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับความหมายของ 1 ความหมายของการบวก
แบบสวนยอยและสวนรวมมาใช
ในการหาจำนวนของเปด
การบวกในหนังสือเรียน หนา 30 ทั้งหมดไดหรือไม
2. ครูติดบัตรภาพตอไปนี้บนกระดาน มีลูกเปดทั้ งหมดกี่ตัว
และเราจะหาจํานวน
ของลูกเปดทั้ งหมด
ไดอยางไรคะ

3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4 คน แลว


ถามนักเรียนวา จากภาพบนกระดาน มีผลไม
ในจานทั้ ง หมดกี่ ผ ล โดยให ส มาชิ ก ในกลุ ม
รวมกันอภิปรายและออกมานำเสนอวิธีการ
หาคำตอบของกลุมตนเองหนาชั้นเรียน
4. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปกิจกรรมวา มีผลไม
ในจานทั้งหมดกี่ผล และมีวิธีคิดอยางไร

ลูกเปดอยูบนหญา ลูกเปดลอยในนํ้า
3 ตัว 2 ตัว มีลูกเปดทั้งหมด 5 ตัว

3 รวมกับ 2 ไดเทากับ 5 เรียก 5 วา ผลบวกของ 3 กับ 2


จะไดวา มีลูกเปดทั้งหมด 5 ตัว
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

30
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับความหมายของการบวก จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง
ความหมายของการบวกและประโยคสัญลักษณแสดงการบวก
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11007

จากรูป มีไกรวมกันทั้งหมดกี่ตัว
1. ๔ ตัว 2. 6 ตัว 3. เจ็ดตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะมีไกอยู 4 ตัว มีไกมาเพิ่มอีก 3 ตัว
เริ่มนับตอจากสี่ไปอีกสามจำนวนเปน หา หก เจ็ด จะไดคำตอบวา
มีไกทั้งหมด 7 ตัว หรือ ๗ ตัว หรือเจ็ดตัว)

T44
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
ลงมือทํา

5. ครู น ำบั ต รภาพสั ต ว 2 ชนิ ด ติ ด ไว ร อบๆ


หองเรียน โดยที่สัตว 2 ชนิด มีจำนวนรวมกัน
ไมเกิน 9 จากนั้นใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม
ตอไปนี้
1) สำรวจและนับจำนวนสัตวแตละชนิด
2) บันทึกชื่อสัตวและจำนวนสัตวลงในสมุด
3) บอกจำนวนสัตวทั้งหมดที่สำรวจได
มีนกเกาะบนกิ่งไม 1 ตัว บินมาเกาะเพิ่มอีก 5 ตัว 4) ออกมานำเสนอหนาชั้นเรียน
6. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง ความหมาย
ของการบวก ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร

ขั�นสรุ
รุ ป
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
ความหมายของการบวกวา การบวกเปนการนำ
จำนวนสองจำนวนมารวมกัน ผลรวมทีไ่ ดเรียกวา
ผลบวก
ขั�นประเมิน
มีนกเกาะบนกิ่งไมทั้งหมด 6 ตัว 1. ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรียน
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
1 รวมกับ 5 ไดเทากับ 6 จะไดวา เรียก 6 วา ผลบวกของ 1 กับ 5 3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
มีนกเกาะบนกิ่งไมทั้งหมด 6 ตัว
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
6. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
การบวก เปนการนําจํานวนสองจํานวนมารวมกัน ผลรวมที่ไดเรียกวา แบบประเมิน
ผลบวก แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

มีการวางแผน มีการแสดง
มีการรับฟัง
มีการปฏิบัติ สามารถ
ลาดับ ชื่อ-สกุล ร่วมกัน ความคิดเห็น ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม
ความคิดเห็น
ที่ ของผู้รับการประเมิน ทางาน ของสมาชิก ที่วางไว้ กลุ่มอืน่ ได้ 15
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
รับ ตร

……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
รป สง

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน


ีกา าง

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน


จม ะหว

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

31
อา นร

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
หา ี้อยู ใ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
เนื้อ ลมน

11-13 ดี
8-10 พอใช้
ือเ

ต่ากว่า 8 ปรับปรุง
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดเมื่อนับจำนวนทั้งหมดแลวเทากับ 6 อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของการบวก โดยใชสื่อ PowerPoint
เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9
1. https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11

2.

3.

(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ ขอ 1. มีปลา 7 ตัว


ขอ 2. มีเตา 6 ตัว
ขอ 3. มีมด 5 ตัว)

T45
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Concept Based Teaching


and Learning

ขั�นนํ า
2
นิดมีดินสอ 3 แทง ครูใหอีก
ประโยคสั ญลักษณ์ 2 แทง นิดมีดินสอทั้งหมด
รู เ้ ดิมฯ
ทบทวนความรู กี่แทง
แสดงการบวก
1. ครูทบทวนเรื่อง ความหมายของการบวกวา
การบวกเป นการนำจำนวนสองจำนวนมา
รวมกัน ผลรวมที่ไดเรียกวา ผลบวก
2. ครูถามนักเรียนวา นิดมีดินสอ 3 แทง ครูให
อีก 2 แทง นิดมีดินสอทั้งหมดกี่แทง
(แนวตอบ นำจำนวนดินสอที่นิดมีและจำนวน มีมะมวง 4 ผล มีมังคุด 2 ผล มีผลไมทั้งหมด 6 ผล
ดินสอที่ครูใหเพิ่มมารวมกัน เปน 3 รวมกับ 2
เทากับ 5 จะไดวา นิดมีดินสอทั้งหมด 5 แทง) รวมกับ เทากับ
จากนั้ นครู บ อกนั ก เรี ย นว า เราสามารถใช
สัญลักษณ + เปนเครื่องหมายแสดงการบวก
และใชเครื่องหมาย = แสดงการเทากัน เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกได ดังนี้ 4 + 2 = 6
อานวา สี่บวกสองเทากับหก
ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ
ตัวตั้ง ตัวบวก ผลบวก
1. ครูติดบัตรภาพหรือวาดภาพ ในหนังสือเรียน
หนา 32 บนกระดาน และถามนักเรียนวา
• มีมะมวงกี่ผล 4 + 2 = 6
(แนวตอบ 4 ผล)
• มีมังคุดกี่ผล
(แนวตอบ 2 ผล) เครื่องหมาย บวก ใชเขียน เครื่องหมาย เทากับ ใชแสดง
• มีผลไมทั้งหมดกี่ผล คั่นระหวางจํานวนสอง การเทากันในประโยคสัญลักษณ
(แนวตอบ 6 ผล) จํานวนที่ตองการนํามารวมกัน
• เขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการบวก
ไดอยางไร
(แนวตอบ 4 + 2 = 6)
จากนัน้ ครูเขียนประโยคสัญลักษณบนกระดาน
หน
ังส เน

และใหนักเรียนอานพรอมกัน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

32
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวก จากคลิป ขอใดเมื่อนับจำนวนทั้งหมดแลวนอยกวา 4
อักษรเรียนสรุป เรื่อง ความหมายของการบวกและประโยคสัญลักษณแสดง
การบวก https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11007 1.

2.

3.

(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ ขอ 1. มีมังคุด 6 ผล


ขอ 2. มีมะมวง 5 ผล
ขอ 3. มีแอปเปล 3 ผล)

T46
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
้ ละเข้าใจ
รู แ

2. ครูอธิบายกับนักเรียนวา การเขียน 4 + 2 = 6
เรี ย กว า การเขี ย นประโยคสั ญ ลั ก ษณ จ ะมี
เครื่ อ งหมายบวกใช คั่ น ระหว า งจำนวนสอง
จำนวนทีต่ อ งการนำมารวมกัน และเครือ่ งหมาย
เทากับ ใชแสดงการเทากันในประโยคสัญลักษณ
3. ครูใหนกั เรียนรวมกันศึกษาความรู เรือ่ ง ประโยค
สัญลักษณแสดงการบวกในหนังสือเรียน หนา 33
แล ว ผลั ด กั น อภิ ป รายเกี่ ย วกั บ การบวกและ
ประโยคสัญลักษณแสดงการบวกจนเกิดความ
เขาใจตรงกัน
บัวมีลูกโปง 2 ลูก ลุงใหอีก 4 ลูก บัวมีลูกโปง 6 ลูก 4. ครูยกตัวอยางการบวกจำนวนสองจำนวนที่มี
ผลบวกไมเกิน 9 แลวใหนักเรียนออกมาเขียน
รวมกับ เทากับ แสดงโดยใชประโยคสัญลักษณ และใหนกั เรียน
อานประโยคสัญลักษณพรอมกัน
เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกได ดังนี้ 2 + 4 = 6
อานวา สองบวกสี่เทากับหก
ตัวตั้ง ตัวบวก ผลบวก

2 + 4 = 6

2 + 4 กับ 4 + 2 เกร็ดแนะครู
รู
มีผลบวกเทากันหรือไมคะ ครู ค วรยกตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม 2-3 ตั ว อย า ง
ให นั ก เรี ย นอ า นเพื่ อ ความมั่ น ใจว า นั ก เรี ย น
สามารถอานไดถูกตอง และสังเกตทั่วทั้งหอง
เพราะอาจมีนักเรียนที่ไมอานเนื่องจากไมมั่นใจ

 ไข ารณ

วาตนเองนั้นอานถูกตองหรือไม ครูควรใหการ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

เสริมแรงกับนักเรียนเพื่อใหนักเรียนทุกคนสนใจ
จม ะหว

33
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

ในการอาน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


อธิ บ ายเพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ ประโยคสั ญ ลั ก ษณ แ สดงการบวก โดยใช สื่ อ
รวมกับ PowerPoint เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
จากรูป เขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกและหาผลบวก
ไดตรงกับขอใด
1. ประโยคสัญลักษณ 3 + 4 = 7
2. ประโยคสัญลักษณ 3 + 5 = 8
3. ประโยคสัญลักษณ 4 + 3 = 9
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะมีมะเขือเทศ 3 ผล รวมกับมะเขือเทศ
อีก 4 ผล นับมะเขือเทศทั้งหมดได หนึ่ง สอง สาม สี่ หา หก เจ็ด
เขียนแสดงโดยใชประโยคสัญลักษณ 3 + 4 = 7)

T47
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ลงมือทํา

5. นักเรียนทุกคนชวยกันตอบคำถามกิจกรรม กิจกรรมฝึ กทักษะ


ฝกทักษะ ขอ 1 ในหนังสือเรียน หนา 34 ดวย
วาจา 1 ตอบดวยวาจาวาจํานวนใดเปนตัวตั้ง ตัวบวก และผลบวก
6. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 2 ใน
หนังสือเรียน หนา 34 ลงในสมุด เสร็จแลวครูขอ 1. รวมกับ เทากับ
ตัวแทน 2-3 คน ออกมานำเสนอคำตอบหนา
ชั้นเรียน จากนั้นครูคอยชี้แนะวิธีคิดเพิ่มเติม 2. รวมกับ เทากับ
3. รวมกับ เทากับ
4. รวมกับ เทากับ
5. 3 + 5 = 8
6. 8 + 1 = 9
2 เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกและคําอานจากรูปที่กําหนด
1.
รวมกับ เทากับ

2.
รวมกับ เทากับ
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

34
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
ผลบวกในขอใดเทากับ 5 + 3
1. 4 + 2 =
2. 7 + 1 =
3. 8 + 1 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะผลบวกของ 5 + 3 คือ 8
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 4 + 2 = 6
ขอ 2. 7 + 1 = 8
ขอ 3. 8 + 1 = 9
ดังนั้น ขอ 2. ถูกตอง)

T48
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูใหนกั เรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับประโยค
3. สั ญ ลั ก ษณ แ สดงการบวกว า ประกอบด ว ย
ตัวตัง้ เครือ่ งหมายบวก (+) ตัวบวก เครือ่ งหมาย
รวมกับ เทากับ เทากับ (=) และผลบวก โดยเครือ่ งหมายบวกใช
เขียนคั่นระหวางจำนวนสองจำนวนที่ตองการ
มารวมกัน และเครื่องหมายเทากับใชแสดง
การเทากันในประโยคสัญลักษณ
4. 2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง ประโยค
รวมกับ เทากับ สั ญ ลั ก ษณ แ สดงการบวก ในแบบฝ ก หั ด
คณิตศาสตร เปนการบาน
ขั�นประเมิน

5. 1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
รวมกับ เทากับ 3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
6. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
6.
แบบประเมิน
รวมกับ เทากับ แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน

ความมีน้าใจ การร่วมมือ
ความ การแสดง การรับฟัง รวม
ลาดับ ชื่อ-สกุล เอื้อเฟื้อ ทางาน
มีวินัย ความคิดเห็น ความคิดเห็น 15
ที่ ของผู้รับการประเมิน เสียสละ ส่วนรวม
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน

3
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกจากขอความที่กําหนด
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

1. มีชมพู 2 ผล เก็บจากสวนเพิ่มอีก 7 ผล มีชมพูทั้งหมด 9 ผล


2. แพรวมีขนม 3 หอ เพื่อนใหขนมมา 2 หอ แพรวมีขนมทั้งหมด
5 หอ

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
35
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

กิจกรรม สร้างเสริม
ใหนักเรียนวาดรูปแสดงการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 และเขียนเปน
ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก โดยครูกำหนดจำนวนใหคนละ 1 ชุด

T49
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า

3
รวมกับ
นํ าเข้าสู่บทเรียน การบวกจํานวนสองจํานวน
มีขนมทั้งหมดกี่ชิ้นครับ
1. ครูทบทวนเกี่ยวกับความหมายของการบวก ที่มีผลบวกไม่เกิน 9
และการเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 3.1 การบวกโดยการนับตอ
2. ครูติดบัตรภาพบนกระดาน
มี ไขอยู ในตะกรา 5 ฟอง
และอยู ในถาด 3 ฟอง

แลวขออาสาสมัครออกมาเขียนประโยค
สัญลักษณ
(แนวตอบ 4 + 4 =  ) จากรูป มีไขทั้งหมดกี่ฟอง
จากนั้นครูถามนักเรียนวาสามารถหาผลบวก
ไดโดยใชวิธีใดบาง เขียนเปนประโยคสัญลักษณได 5 + 3 =
(แนวตอบ นับจำนวนคุกกี้ทั้งสองกลุมรวมกัน) หาผลบวกโดยการนับตอได ดังนี้
ขั�นสอน
เริ่มนับตอจาก 5 ไปอีก 3 ได ดังนี้
รู ้
เรียนรู

1. ครูติดบัตรภาพหรือวาดภาพ ในหนังสือเรียน
หนา 36 บนกระดาน และถามนักเรียนวา มีไข
ในตะกรากี่ฟอง และมีไขในถาดกี่ฟอง
(แนวตอบ 5 ฟอง และ 3 ฟอง ตามลำดับ)
จากนัน้ ครูขออาสาสมัครออกมาเขียนประโยค 5 6 7 8
สัญลักษณแสดงการบวกบนกระดาน 1 2 3
(แนวตอบ 5 + 3 =  )
ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า จากประโยคสั ญ ลั ก ษณ จะไดวา 5 + 3 = 8
นักเรียนจะหาผลบวกโดยใชวิธีการนับตอจะ ดังนั้น มีไขทั้งหมด 8 ฟอง
สามารถนับไดแบบใดบาง
(แนวตอบ เริ่มนับจากหาไปอีกสามครั้ง หรือ การบวกโดยการนับตอ เปนการหาผลบวกโดยเริ่มนับตอจากตัวตั้งไป
นับจากสามไปอีกหาครั้ง) ขางหนาทีละหนึ่งเทากับจํานวนของตัวบวก
หน
ังส เน

2. ครูบอกนักเรียนวา วิธีการหาผลบวกแบบนี้
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

เป นการหาผลบวกโดยการนั บ ต อ จากนั้ น


ะหว รปร

36
าง ับป
สง รุง
ตร แก

ครูยกตัวอยางการหาผลบวกโดยการนับตอ
วจ  ไข
พิจ
าร

อีก 2-3 ตัวอยาง

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกโดยการนับตอ โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง ขอใดมีผลบวกเทากับ 5
การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9 https://www.aksorn.com/ 1. 1 + 2 =
qrcode/TMPPMTP11 2. 2 + 2 =
3. 2 + 3 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะจำนวนที่นับตอจาก 2 ไปอีก 3
จะได 3 4 และ 5 ตามลำดับ ดังนั้น 2 + 3 = 5)

T50
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

ตัวอยางที่ 1 3. ครูใหนักเรียนศึกษาการบวกโดยการนับตอ
ในหนังสือเรียน หนา 36-37 จากนั้นครูเขียน
มีดอกไมปกในแจกัน 1 ดอก นํามาปกเพิ่มอีก 4 ดอก มีดอกไม ประโยคสัญลักษณแสดงการบวกบนกระดาน
ทั้งหมดกี่ดอก แลวขออาสาสมัครออกมาแสดงวิธีหาผลบวก
เขียนเปนประโยคสัญลักษณได 1 + 4 = โดยการนับตอหนาชั้นเรียน
หาผลบวกโดยการนับตอได ดังนี้ นํ าไปใช้

เริ่มนับตอจาก 1 ไปอีก 4 ได ดังนี้ 4. ครูใหนกั เรียนจับคูร ว มกันทำกิจกรรมฝกทักษะ


ขอ 1 ในหนังสือเรียน หนา 40 จากนั้นครูสุม
นักเรียน 1 คู ออกมาเฉลยคำตอบหนาชัน้ เรียน
5. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การบวก
จำนวนสองจำนวนทีม่ ผี ลบวกไมเกิน 9 ขอ 1-3
1 2 3 4 5 ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
1 2 3 4
ขั�นสรุ
รุ ป
จะไดวา 1 + 4 = 5 ดังนั้น มีดอกไมทั้งหมด 5 ดอก ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
การบวกโดยการนั บ ต อ ว า เป นการหาผลบวก
ตัวอยางที่ 2 โดยเริ่ ม นั บ ต อ จากตั ว ตั้ ง ไปข า งหน า ที ล ะหนึ่ ง
เทากับจำนวนของตัวบวก
ขั�นประเมิน
จากรูป มีบล็อกทั้งหมดกี่ชิ้น 1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
เขียนเปนประโยคสัญลักษณได 6 + 3 = 2. ครูตรวจแบบฝกหัด
1 2 3 3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
เริ่มนับตอจาก 6 ไปอีก 3 ได ดังนี้ 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
7 8 9 5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
6 6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
จะไดวา 6 + 3 = 9
ดังนั้น มีบล็อกทั้งหมด 9 ชิ้น

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

37
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป


ขอใดตอไปนี้มีความหมายตรงกับเสนจำนวนที่กำหนดให ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกโดยการนับตอ จากคลิปอักษรเรียนสรุป
เรื่อง การบวกโดยการนับตอ (1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/
1 2 3 4 5 6 7 TMAOLMTP11008
1 2 3 4
1. 2 + 4 =
2. 2 + 6 =
3. 4 + 6 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากเสนจำนวนเปนการเริ่มนับตอ
จาก 2 ไปอีก 4 ครั้ง สามารถเขียนเปนประโยคสัญลักษณได
2+4= )

T51
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า
นํ าเข้าสู่บทเรียน 3.2 การบวกจํานวนโดยใชความสัมพันธของจํานวนแบบสวนยอย
ครูทบทวนเกี่ยวกับการบวกจำนวนโดยการ และสวนรวม
นั บ ต อ และการเขี ย นแสดงความสั ม พั นธ ข อง หาผลบวกของ 3 + 1 =
จำนวนในรู ป ความสั ม พั นธ แ บบส ว นย อ ยและ
สวนรวม โดยใชวิธีการถาม-ตอบกับนักเรียน 3
ขั�นสอน
สวนยอย
4
รู ้
เรียนรู สวนรวม
1
1. ครูติดบัตรภาพตอไปนี้บนกระดาน 3 รวมกับ 1 เทากับ 4 สวนยอย
ดังนั้น 3 + 1 = 4
ตัวอยางที่ 3
หาผลบวกของ 4 + 3 =
แลวถามนักเรียน ดังนี้
• จากภาพสม 3 ผล รวมกับแอปเปล 1 ผล 4 4 4 รวมกับ 3 เทากับ 7
เทากับผลไมกี่ผล ? 7 ดังนั้น 4 + 3 = 7
(แนวตอบ 4 ผล)
• สวนยอยและสวนรวมคือจำนวนใด 3 3 ตอบ ๗
(แนวตอบ 3 และ 1 เปนสวนยอย

2.
4 เปนสวนรวม)
ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 3-4 คน
ตัวอยางที่ 4
ใหสมาชิกแตละกลุม ศึกษาการบวกจำนวนโดย เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงใน 9=5+
ใชความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและ
สวนรวม ในหนังสือเรียน หนา 38
5 5 9 เทากับ 5 รวมกับ 4
3. แตละกลุม รวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับการบวก 9 9 ดังนั้น 9 = 5 + 4
จำนวนโดยใชความสัมพันธแบบสวนยอยและ ตอบ ๔
สวนรวม พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบ ? 4
4. ครูสุมนักเรียน 2-3 กลุม ออกมานำเสนอ
ขอสรุปของกลุมตนเอง โดยครูคอยตรวจสอบ ผลบวก ตัวตั้ง และตัวบวกมีความสัมพันธกัน ถาเรารูจํานวนสองจํานวน
ความถูกตอง เราจะสามารถหาจํานวนที่สามได
หน
ังส เน
ือเล ื้อห

5. ครู ย กตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม และอธิ บ ายการบวก


มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

จำนวนโดยใชความสัมพันธของจำนวนแบบ 38
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ

สวนยอยและสวนรวม เพื่อใหนักเรียนเขาใจ
าร

มากยิ่งขึ้น

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกจำนวนโดยใชความสัมพันธของจำนวนแบบ จำนวนที่หายไปตรงกับขอใด
สวนยอยและสวนรวม จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การบวกจำนวนโดยใช 1 1. 5
ความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม (1/2) ? 2. 6
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11009
4 3. 7

(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ


1 1
? 5
4 4
1 รวมกับ 4 เทากับ 5 ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 5)

T52
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

3.3 การบวกจํานวนตามแนวนอน 6. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 2 ใน


หนังสือเรียน หนา 40-41 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
ตัวอยางที่ 5 ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
7. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การบวก
หาผลบวกของ 4 + 2 = จำนวนสองจำนวนทีม่ ผี ลบวกไมเกิน 9 ขอ 4-5
หาผลบวกได ดังนี้ ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
4 + 2 = 6 การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ ขั�นสรุ
รุ ป
ตัวตั้ง ตัวบวก ผลบวก 6 มากกวา 4 และ 2 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูวา ผลบวก
6 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล ตัวตัง้ และตัวบวก มีความสัมพันธกนั ถาเรารูจ ำนวน
ตอบ ๖
สองจำนวน เราจะสามารถหาจำนวนที่สามได

3.4 การบวกจํานวนตามแนวตั้ง ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
ตัวอยางที่ 6 2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
หาผลบวกของ 2 + 2 = 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
หาผลบวกได ดังนี้ 5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
2 + ตัวตั้ง 6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
2 ตัวบวก การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
4 มากกวา 2 Discovery Method
4 ผลบวก
4 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล ขั�นนํ า
ตอบ ๔
นํ าเข้าสู่บทเรียน

ครูเขียนประโยคสัญลักษณ 5 + 3 = บน
ผลบวกของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ ตองเปนจํานวนที่มากกวาตัวตั้ง กระดาน จากนั้นใหนักเรียนแสดงวิธีหาผลบวก
และตัวบวกเสมอ โดยการนับตอและใชความสัมพันธของจำนวน
แบบสวนยอยและสวนรวมลงในสมุด

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

39
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
2 + 7 = มีผลบวกเทากับขอใด
1. 7
2. 8
3. 9
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 2 + 7 = หาผลบวกได ดังนี้
2+
7
9
ดังนั้น 2 + 7 = มีผลบวกเทากับ 9)

T53
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

1. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมรวมกันศึกษาตัวอยาง กิจกรรมฝึ กทักษะ


การบวกตามแนวนอนและการบวกตามแนวตัง้
ในหนังสือเรียน หนา 39 1 หาผลบวกตอไปนี้โดยการนับตอ
2. แต ล ะกลุ ม ร ว มกั น สรุ ป เป นข อ สรุ ป เกี่ ย วกั บ
การบวกตามแนวนอนและการบวกตามแนวตัง้
1.
3. ครูสุมนักเรียน 2-3 กลุม ออกมาอธิบายวา
การเขียนแสดงการหาผลบวกตามแนวนอน
3
และตามแนวตั้งมีวิธีเขียนอยางไร
2.
4. ครูสาธิตการเขียนแสดงการหาผลบวกตาม 2
แนวนอนและแนวตัง้ พรอมอธิบายทีละขัน้ ตอน 3.
อยางละเอียด
5. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะคนเขี ย นแสดงการหา 5
ผลบวกตามแนวนอนและตามแนวตั้ ง จาก
ประโยคสัญลักษณ 2 + 2 = โดยสมาชิก 2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงในชองวางใหถูกตอง โดยใชความสัมพันธของ
ในกลุมรวมกันตรวจสอบความถูกตอง จํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม
นํ าไปใช้ 2
1. 1 2.
6. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 3-4
ระหวางทาง
ในหนังสือเรียน หนา 41 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน 3 7
7. ครูใหนักเรียนจับคูทำใบงาน เรื่อง การบวก
จำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9 โดย 1+3= 2+7=
ครูสแกน QR Code จากนั้นครูสุมนักเรียน
ออกมานำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
3. 2 4. 8
ใบงาน

1
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การบวกจานวนสองจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเติมตัวเลขแสดงจำนวนลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง

1.
ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเติมตัวเลขแสดงจำนวนลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง

1. 5
5 5 6 7
5+2=
จำนวนที่เป็น ตัวตั้ง คือ
จำนวนที่เป็น ตัวบวก คือ
5+2= 7
จำนวนที่เป็น ตัวตั้ง คือ
จำนวนที่เป็น ตัวบวก คือ
5
2 2+5= 8+1=
หน

เริ่มนับต่อจำก ไปอีก ได้ผลบวกเท่ำกับ เริ่มนับต่อจำก 5 ไปอีก 2 ได้ผลบวกเท่ำกับ 7


ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา

2. 2.
ี้อย จม
ู ในร ีกา

6 6 7 8
ะหว รปร

40
6+2= 6+2= 8
าง ับป

จำนวนที่เป็น ตัวตั้ง คือ จำนวนที่เป็น ตัวตั้ง คือ 6


สง รุง
ตร แก

จำนวนที่เป็น ตัวบวก คือ จำนวนที่เป็น ตัวบวก คือ 2


วจ  ไข

เริ่มนับต่อจำก ไปอีก ได้ผลบวกเท่ำกับ เริ่มนับต่อจำก 6 ไปอีก 2 ได้ผลบวกเท่ำกับ 8


พิจ
าร

1 3

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการบวกตามแนวนอนและการบวกตามแนวตัง้ โดยใช ก. 4 + 4 ข. 6 + 3 ค. 7 + 1
สื่อ PowerPoint เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9 ง. 1 + 6 จ. 8 + 0 ฉ. 5 + 2
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
ผลบวกของจำนวนในขอใดมีคาเทากับ 3 + 5
1. ขอ ก., ค., ง.
2. ขอ ก., ข., ฉ.
3. ขอ ก., ค., จ.
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 3 + 5 = 8
ก. 4 + 4 = 8 ง. 1 + 6 = 7
ข. 6 + 3 = 9 จ. 8 + 0 = 8
ค. 7 + 1 = 8 ฉ. 5 + 2 = 7
ดังนั้น ผลบวกในขอ ก., ค., จ. มีคาเทากับ 3 + 5)

T54
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
5. 4 6. 2 วิธีการเขียนแสดงการหาผลบวกตอไปนี้
- การบวกโดยการนับตอ
7 3 - การบวกจำนวนโดยใช ค วามสั ม พั นธ ข อง
จำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม
- การบวกจำนวนตามแนวนอน
7=4+ 3=2+ - การบวกจำนวนตามแนวตั้ง
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การบวก
3 หาผลบวกตอไปนี้ จำนวนสองจำนวนทีม่ ผี ลบวกไมเกิน 9 ขอ 6-7
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
1. 1 + 4 = 2. 2 + 2 =
3. 7 + 1 = 4. 4 + 4 = ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจใบงาน
5. 6 + 2 = 6. 1 + 8 = 2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
4 ระบายสีบัตรตัวเลขที่มีผลบวกเทากับจํานวนที่อยูในวงกลม 3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
1. 8 8+1 7+2 6+2 6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
2. 4 1+5 2+2 3+5 แบบประเมิน
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการทากิจกรรม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับ
ระดับคะแนน

6
ลาดับ ระดับคะแนน

3. 3+2 5+1 7+1 4+2


รายการประเมิน
ที่ 3 2 1
1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน
2 ความถูกต้องของเนื้อหา
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ
5 วิธีการนาเสนอผลงาน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน

4. 9
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

3+5 6+3 4+4 7+1


ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

5. 5 2+1 3+2 6+2 4+1



 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
41
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป


ผลบวกของขอใดตอไปนี้มีคามากที่สุด ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกจำนวนตามแนวนอนและการบวกจำนวน
1. 6 + 1 = ตามแนวตั้ง จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การบวกจำนวนตามแนวนอนและ
2. 4 + 3 = ตามแนวตั้ง (1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11010
3. 3 + 5 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
ขอ 1. 6 + 1 = 7
ขอ 2. 4 + 3 = 7
ขอ 3. 3 + 5 = 8
ดังนั้น ขอ 3. มีคามากที่สุด)

T55
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า

4
? จำนวนสองจำนวนใดบาง
กระตุ
ตุน้ ความสนใจ การสลับที่ของการบวก 6 ที่รวมกันแลว
? ไดเทากับ 6
1. ครู ท บทวนเกี่ ย วกั บ การบวกจำนวนโดยวิ ธี
ตางๆ ครูยกตัวอยางการหาผลบวกโดยเขียน
พิจารณารูปและหาผลบวก แลวสรุป
ประโยคสั ญ ลั ก ษณ ใ ห นั ก เรี ย นหาผลบวก
รวมกัน 2-3 ตัวอยาง
2. ครูเขียนโจทยการบวกจำนวนบนกระดานให
นักเรียนคิดเลขเร็วจากโจทยทคี่ รูกำหนด ดังนี้
1) 3 + 5 (แนวตอบ 8) 2) 0 + 4 (แนวตอบ 4)
3) 4 + 0 (แนวตอบ 4) 4) 1 + 8 (แนวตอบ 9) 4 + 2 2 + 4
5) 5 + 3 (แนวตอบ 8) 6) 8 + 1 (แนวตอบ 9)
3. ครูใหนักเรียนที่ทำเสร็จกอนเพื่อนมาอธิบาย
คำตอบ โดยครูและนักเรียนในชัน้ เรียนรวมกัน
ตรวจสอบความถูกตอง

ขั�นสอน
4+2=6 2+4=6
สํ ารวจค้นหา

1. ครูจัดกิจกรรมโดยนำสิ่งของสองกลุมมาวาง
สรุปไดวา 4 + 2 = 2 + 4
โดยสิ่งของกลุมแรกมี 4 ชิ้น และกลุมที่สองมี
3 ชิน้ และถามนักเรียนวา ผลบวกของสิง่ ของสอง
ตัวอยางที่ 7
กลุม นีเ้ ปนเทาใด และเขียนประโยคสัญลักษณ พิจารณารูปและหาผลบวก แลวสรุป
ไดอยางไร
(แนวตอบ 7 ชิ้น, 4 + 3 = 7)
จากนัน้ ครูนำสิง่ ของสองกลุม เดิมวางสลับทีก่ นั
และถามนั ก เรี ย นว า ผลบวกของสิ่ ง ของสอง 3+1=4 1+3=4
กลุมนี้เปนเทาใด สรุปไดวา 3 + 1 = 1 + 3
(แนวตอบ 7 ชิ้น, 3 + 4 = 7)
และให นั ก เรี ย นช ว ยกั น วิ เ คราะห เ กี่ ย วกั บ การบวกจํานวนนับสองจํานวน เมื่อสลับที่ตัวตั้งและตัวบวก ผลบวก
ประโยคสัญลักษณทั้งสองประโยความีความ จะเทาเดิมเสมอ
หน
ังส เน
ือเล ื้อห

สัมพันธกันอยางไร
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

42
าง ับป

( แนวตอบ เมื่ อ สลั บ ที่ ตั ว ตั้ ง และตั ว บวกแล ว


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ

ผลบวกยังคงเทาเดิม)
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการสลับทีข่ องการบวก จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง ผลบวกในขอใดเทากับ 2 + 7
การสลับที่ของการบวกและการบวกดวยศูนย https://www.aksorn.com/ 1. 7 + 2
qrcode/TMAOLMTP11011 2. 3 + 5
3. 2 + 6
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากการสลับที่ของการบวก จะไดวา
2 + 7 = 7 + 2)

T56
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

5
? จำนวนนับตัวใด
การบวกด้วยศูนย์ 4 ที่รวมกับ 4 แลว 2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 3-4 คน
ไดเทากับ 4
4 จากนั้ น จั ด กิ จ กรรมโดยให แ ต ล ะกลุ ม เขี ย น
มีขนมทั้ งหมดกี่ชิ้น
ประโยคสั ญ ลั ก ษณ แ สดงการบวกจาก
สถานการณ เชน
1) นำแกวมา 2 ใบ แกวใบแรกมีปากกา 2 ดาม
แกวใบที่สองไมมีปากกา ถานำปากกาใน
มีขนมอยูบนจานใบแรก 3 ชิ้น แกวทัง้ สองใบมารวมกันจะไดปากกา 2 ดาม
สวนจานใบที่ สองไมมีขนมอยูเลย เทาเดิม
(แนวตอบ 2 + 0 = 2)
2) นำจานเปลามา 2 ใบ ใหนักเรียนดูเมื่อนำ
ของในจานทีไ่ มมอี ะไรเลยมารวมกัน จะได
ผลบวกเทากับ 0
(แนวตอบ 0 + 0 = 0)
จากรูป เขียนประโยคสัญลักษณได 3 + 0 = 3. ครูใหนักเรียนสงตัวแทนกลุมออกมานำเสนอ
ผลงานหนาชั้นเรียน
รู ้
อธิบายความรู

4. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม ศึกษา เรือ่ ง การสลับที่


3 + 0 = 3
ของการบวกและการบวกดวยศูนย
ดังนั้น มีขนมทั้งหมด 3 ชิ้น ในหนังสือเรียน หนา 42-43
5. ครูสุมนักเรียน 2-3 กลุม ออกมาบอกสิ่งที่ได
ตัวอยางที่ 8 จากการศึกษา เรื่อง การสลับที่ของการบวก
และการบวกด ว ยศู น ย โดยครู ค อยอธิ บ าย
หาผลบวกของ 0 + 1 = ศูนย หมายถึง “ไมมี” เพิ่มเติมในสวนที่นักเรียนยังไมเขาใจ
0 ดังนั้น เมื่อนําศูนย ไปบวก 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การสลับที่ของการบวก
กับจํานวนใด ๆ จะได เมื่ อ จำนวนสองจำนวนบวกกั น หากสลั บ ที่
1 ผลบวกเทากับ ระหวางตัวตั้งกับตัวบวก ผลบวกยังคงเทาเดิม
1 จํานวนนั้นเสมอ และการบวกดวยศูนย เมื่อจำนวนใดบวกกับ
ดังนั้น 0 + 1 = 1 ตอบ ๑

ศูนยจะไดผลบวกเทากับจำนวนนั้น ศูนยบวก
 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร

กับจำนวนใดจะไดผลบวกเทากับจำนวนนั้น
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

43
อา นร
หา ี้อยู ใ

และศูนยบวกกับศูนยจะไดผลบวกเทากับศูนย
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป


0 + 9 = ควรเติมตัวเลขใดลงใน ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกดวยศูนย จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การ
1. 5 สลับทีข่ องการบวกและการบวกดวยศูนย https://www.aksorn.com/qrcode/
2. 8 TMAOLMTP11011
3. 9
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะเมื่อศูนย (0) บวกกับจำนวนใดๆ
จะไดผลบวกเทากับจำนวนนั้นเสมอ)

T57
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ

7. ครูยกตัวอยางเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสลับที่ของ กิจกรรมฝึ กทักษะ


การบวกและการบวกดวยศูนย 2-3 ตัวอยาง
8. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 1-2 1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
ในหนังสือเรียน หนา 44 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
1. 4 + 3 = + 4 2. 2 + = 0 + 2
3. +1=1+5 4. +0=0+4
ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับการ
สลับทีข่ องการบวกและการบวกดวยศูนยจนได
2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนในชองวางใหถูกตอง
ขอสรุปวา จำนวนสองจำนวนบวกกันเมือ่ สลับที่ 1. 6 + 0 = 2. 0 + 9 =
ระหวางตัวตั้งกับตัวบวก ผลบวกยังคงเทาเดิม
และเมื่อจำนวนใดบวกกับศูนยจะไดผลบวก 6 0
เทากับจำนวนนัน้ ศูนยบวกกับจำนวนใดจะได
ผลบวกเทากับจำนวนนัน้ และศูนยบวกกับศูนย 0 9
จะไดผลบวกเทากับศูนย
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การสลับที่
ของการบวกและการบวกดวยศูนย
3 พิจารณาสถานการณ แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนลงในชองวางใหถูกตอง
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน 1. ตะกราใบแรกมีสม 8 ผล ตะกราใบที่สองไมมีสมอยูเลย
ขั�นประเมิน
ตรวจสอบผล

1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ + =
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 2. ชั้นวางของชั้นลางไมมีกระปุกออมสินวางอยูเลย สวนชั้นบน
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม มีกระปุกออมสินวางอยู 2 ใบ
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
+ =
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
44
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการสลับทีข่ องการบวกและการบวกดวยศูนย โดยใช 4 + เทากับ + 4 ควรเติมจำนวนใดลงใน
สื่อ PowerPoint เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9 1. 4, 2
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 4, 6
3. 6, 6
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
ขอ 1. 4 + 4 = 8 และ 2 + 4 = 6
ขอ 2. 4 + 4 = 8 และ 6 + 4 = 10
ขอ 3. 4 + 6 = 10 และ 6 + 4 = 10)

T58
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า
6
ยกตัวอยางสถานการณ
โจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวก ในชีว ิตประจำวันที่ กระตุ
ตุน้ ความสนใจ
เกี่ยวกับการบวก
ไม่เกิน 9 1. ครูทบทวนเรื่องการสลับที่ของการบวกและ
การบวกดวยศูนย พรอมทัง้ ยกตัวอยางประกอบ
นิดมีกลวย 3 ผล มีมังคุด 2 ผล นิดมีกลวยและมังคุดรวมกี่ผล 2. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟง ดังนี้ พลอยใสมี
ขนม 5 หอ ซือ้ มาเพิม่ อีก 4 หอ พลอยใสมีขนม
รวมทัง้ หมดกีห่ อ จากนัน้ ครูถามนักเรียนวา เรา
จะมีวิธีหาจำนวนขนมของพลอยใสไดอยางไร
การวิเคราะหโจทยปญหา (แนวตอบ ใชวิธีการบวก)
สิ่งที่โจทยกําหนด นิดมีกลวย 3 ผล ขั�นสอน
มีมังคุด 2 ผล สํ ารวจค้นหา
สิ่งที่โจทยถาม นิดมีกลวยและมังคุดรวมกี่ผล
1. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมรวมกันศึกษาเกี่ยวกับ
การวางแผนแกโจทยปญหา โจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 ใน
หนังสือเรียน หนา 45-46
?
2. ครูตดิ หรือเขียนโจทยปญ  หาทีเ่ ลาใหนกั เรียนฟง
บนกระดาน จากนั้นครูถามนักเรียน ดังนี้
นิดมีกลวย 3 ผล มีมังคุด 2 ผล • สิง่ ทีโ่ จทยกำหนดคืออะไร และสิง่ ทีโ่ จทยถาม
คืออะไร
การแกปญหา
(แนวตอบ สิ่งที่โจทยกำหนด คือ พลอยใสมี
ประโยคสัญลักษณ 3 + 2 = ขนม 5 หอ ซือ้ มาเพิม่ อีก 4 หอ สิง่ ทีโ่ จทยถาม
วิธีทํา นิดมีกลวย 3 ผล คือ พลอยใสมีขนมรวมทั้งหมดกี่หอ)
+
มีมังคุด 2 ผล • เราสามารถหาจำนวนขนมที่ พ ลอยใสมี
มีกลวยและมังคุด 5 ผล ทั้งหมด โดยใชวิธีใด และเขียนเปนประโยค
ตอบ นิดมีกลวยและมังคุดรวม ๕ ผล สัญลักษณไดอยางไร
(แนวตอบ ใชวิธีการบวก และ 5 + 4 =  )
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
จากนัน้ ครูเขียนแผนภาพบารโมเดลใหนกั เรียน
5 มากกวา 3 และ 2 ดูบนกระดาน
5 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล ?

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

45
อา นร

มีขนม 5 หอ ซื้อมาเพิ่ม 4 หอ


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป


กอลฟมีแมวอยู 2 ตัว แมวออกลูกมาอีก 5 ตัว กอลฟมีแมว ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 จากคลิป
ทั้งหมดกี่ตัว อักษรเรียนสรุป เรื่อง โจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 (1/3)
1. 5 ตัว https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11012
2. 6 ตัว
3. 7 ตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 3.
กอลฟมีแมว 2 ตัว
+
แมวออกลูกมาอีก 5 ตัว
ดังนั้น กอลฟมีแมวทั้งหมด 7 ตัว)

T59
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
อธิบายความรู

3. ครูและนักเรียนรวมกันแสดงวิธหี าคำตอบและ ตัวอยางที่ 9


ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบที่ได
4. ครูเขียนโจทยปญ  หาการบวกบนกระดาน ดังนี้ ปองมีดินสอ 5 แทง โปงมีดินสอมากกวาปอง 2 แทง โปงมีดินสอ
นุนมีดินสอ 6 แทง นนทมีดินสอมากกวานุน กี่แทง
2 แทง นนทมีดินสอกี่แทง แลวถามนักเรียน
ดังนี้ การวิเคราะหโจทยปญหา
• สิง่ ทีโ่ จทยกำหนดคืออะไร และสิง่ ทีโ่ จทยถาม
สิ่งที่โจทยกําหนด ปองมีดินสอ 5 แทง
คืออะไร
โปงมีดินสอมากกวาปอง 2 แทง
(แนวตอบ สิ่งที่โจทยกำหนด คือ นุนมีดินสอ สิ่งที่โจทยถาม โปงมีดินสอกี่แทง
6 แทง นนทมีดินสอมากกวานุน 2 แทง
และสิ่งที่โจทยถาม คือ นนทมีดินสอกี่แทง) การวางแผนแกโจทยปญหา
• เราสามารถหาจำนวนดินสอที่นนทมีโดยใช
วิธีใด และเขียนเปนประโยคสัญลักษณได 5 แทง
อยางไร ปองมีดินสอ 2 แทง
(แนวตอบ ใชวิธีการบวก และ 6 + 2 =  ) โปงมีดินสอ
5. ครู ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม แสดงวิ ธีแ ก โ จทย
ปลายทาง ?
ปญหาตามขั้นตอนในหนังสือเรียน จากนั้นครู
สุม 1 กลุม ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน การแกปญหา
โดยครูคอยตรวจสอบความถูกตองและอธิบาย
เพิ่มเติมในสวนที่นักเรียนยังไมเขาใจ
ประโยคสัญลักษณ 5 + 2 =
6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสำคัญของโจทย
วิธีทํา ปองมีดินสอ 5
+
แทง
โปงมีดินสอมากกวาปอง 2 แทง
ปญหาการบวกมี 2 ลักษณะ ไดแก
โปงมีดินสอ 7 แทง
1) โจทยปญหาที่มีคำสำคัญ เชน รวมทั้งหมด ตอบ โปงมีดินสอ ๗ แทง
เดิมมีอยูซื้อมาเพิ่ม หรือเปนโจทยปญหาที่
นำสิ่งที่กำหนดใหรวมกัน การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
2) โจทยปญหาที่มีคำสำคัญ เชน มากกวา
นอยกวา ถูกกวา แพงกวา หรือเปนโจทย 7 มากกวา 5 และ 2
ปญหาทีม่ สี งิ่ กำหนดใหสองอยาง แลวนำมา 7 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
หน
ังส เน

เปรียบเทียบกัน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

46
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 โดยใชส่ือ เจนมีเงิน 5 บาท จูนมีเงินมากกวาเจน 4 บาท จูนมีเงินกี่บาท
PowerPoint เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9 1. 1 บาท
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 4 บาท
3. 9 บาท
(เฉลยคำตอบ ขอ 3.
เจนมีเงิน 5 บาท
+
จูนมีเงินมากกวาเจน 4 บาท
ดังนั้น จูนมีเงิน 9 บาท)

T60
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ

กิจกรรมฝึ กทักษะ 7. ครูยกตัวอยางเกีย่ วกับโจทยปญ


 หาการบวกทีม่ ี
ผลบวกไมเกิน 9 เพิ่มเติม 2-3 ตัวอยาง
1 เขียนประโยคสัญลักษณและหาผลบวกจากโจทยปญหาตอไปนี้ ปลายทาง
8. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 1-2
ในหนังสือเรียน หนา 47 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
1. แปงมีหนังสือ 4 เลม แมซื้อใหอีก 2 เลม แปงมีหนังสือทั้งหมด ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
กี่เลม
ขั�นสรุ
รุ ป
ประโยคสัญลักษณ + = 1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
ตอบ เลม ขั้นตอนการแกโจทยปญหา มี 4 ขั้นตอน ดังนี้
1) การวิเคราะหโจทยปญหา
2. นุชมีสับปะรด 5 ผล นํามาเพิ่มอีก 1 ผล นุชมีสับปะรดทั้งหมด 2) การวางแผนแกโจทยปญหา
กี่ผล 3) การแกปญหา
4) การตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ของคำตอบ
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง โจทยปญหา
ประโยคสัญลักษณ + = การบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 ในแบบฝกหัด
ตอบ ผล คณิตศาสตร เปนการบาน
2 วิเคราะหโจทยปญ หา พรอมทัง้ แสดงวิธที าํ และตรวจสอบความสมเหตุสมผล ขั�นประเมิน
ของคําตอบ ตรวจสอบผล
1. แมมีไขไก 6 ฟอง มีไขเปด 3 ฟอง แมมีไขทั้งหมดกี่ฟอง 1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. บัวบริจาคดินสอ 2 กลอง ตอมาบริจาคเพิ่มอีก 2 กลอง 2. ครูตรวจแบบฝกหัด
บัวบริจาคดินสอทั้งหมดกี่กลอง 3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
3. อุมออมเงินได 7 บาท นุนออมเงินไดมากกวาอุม 2 บาท 5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
นุนออมเงินไดกี่บาท 6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
4. เจนมีดอกไม 4 ดอก ใหมมีดอกไมมากกวาเจน 5 ดอก ใหมมี
ดอกไมกี่ดอก

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
47
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
แจนมีเสื้อยืดอยู 6 ตัว แมซื้อใหอีก 3 ตัว แจนมีเสื้อยืดทั้งหมดกี่ตัว
1. 8 ตัว
2. 9 ตัว
3. 10 ตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 2.
แจนมีเสื้อยืดอยู 6 ตัว
+
แมซื้อใหอีก 3 ตัว
ดังนั้น แจนมีเสื้อยืดทั้งหมด 9 ตัว)

T61
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า

7
นุนมีขนม 4 หอ พี่ ใหอีก 2 หอ
กระตุ
ตุน้ ความสนใจ การสร้างโจทย์ปัญหาการบวก นุนมีขนมทั้งหมดกี่หอ
ที่มีผลบวกไม่เกิน 9
สิ่งที่ โจทยถามคืออะไรครับ
1. ครูทบทวนขัน้ ตอนการแกโจทยปญ  หาการบวก
พรอมทั้งทบทวนการวางแผนแกโจทยปญหา
โดยใช Bar Model จากนั้นครูและนักเรียน จากรูป จานใบแรกมีแอปเปล
รวมกันอภิปรายเกี่ยวกับโจทยปญหาการบวก
วามีลักษณะอยางไร จนไดขอสรุปวา โจทย 4 ผล จานใบที่ 2 มีสม 4 ผล
ปญหาประกอบดวย สวนที่โจทยกำหนดและ สรางโจทยปญหาการบวกได ดังนี้
สวนทีโ่ จทยถาม
2. ครูตดิ บัตรภาพบนกระดานแลวถามนักเรียนวา โจทยปญหา
นั ก เรี ย นคิ ด ว า สามารถสร า งโจทย ป ญ หา
การบวกจากภาพนีไ้ ดหรือไม จงยกตัวอยาง แกวมีแอปเปล 4 ผล มีสม 4 ผล แกวมีผลไมทั้งหมดกี่ผล
การวางแผนแกโจทยปญหา
?
(แนวตอบ ได เชน มีแอปเปลสีเขียว 3 ผล และ
แอปเปลสีแดง 5 ผล มีแอปเปลทั้งหมดกี่ผล) แกวมีแอปเปล 4 ผล มีสม 4 ผล
ขั�นสอน
การแกปญหา
สํ ารวจค้นหา

1. ครู ให นั ก เรี ย นศึ ก ษาการสร า งโจทย ป ญ หา ประโยคสัญลักษณ 4 + 4 =


การบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 ในหนังสือเรียน วิธีทํา แกวมีแอปเปล 4
+
ผล
หนา 48-49
มีสม 4 ผล
แกวมีผลไมทั้งหมด 8 ผล
ตอบ แกวมีผลไมทั้งหมด ๘ ผล
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
เกร็ดแนะครู
รู 8 มากกวา 4
ครู อ าจหาสิ่ ง ของที่ อ ยู ร อบๆ ตั ว มาให 8 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
หน
ังส เน

นักเรียนดู และใหนักเรียนสรางโจทยปญหา
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

การบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 ลงในกระดาษ A4
ะหว รปร

48
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

เมื่อเสร็จแลวสงครูตรวจ
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนัสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรางโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 แพรวมีไอศกรีมอยู 4 แทง เอิรทใหมาอีก 2 แทง แพรวมีไอศกรีม
จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง การสรางโจทยปญ
 หาการบวกทีม่ ผี ลบวกไมเกิน 9 ทั้งหมดกี่แทง
(1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11013 1. 2 แทง
2. 4 แทง
3. 6 แทง
(เฉลยคำตอบ ขอ 3.
แพรวมีไอศกรีม 4 แทง
+
เอิรทใหมาอีก 2 แทง
ดังนั้น แพรวมีไอศกรีมทั้งหมด 6 แทง)

T62
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

ตัวอยางที่ 10 2. ครูใหนักเรียนชวยกันเขียนประโยคสัญลักษณ
จากรูปภาพบนกระดาน
3+6= สรางโจทยปญหาการบวกจาก (แนวตอบ 3 + 5 =  หรือ 5 + 3 =  )
ประโยคสัญลักษณที่กําหนดให จากนั้นใหนักเรียนชวยกันสรางโจทยปญหา
การบวกจากรูปภาพบนกระดาน พรอมทั้งหา
จากประโยคสัญลักษณที่กําหนดให สรางโจทยปญหาการบวกได คำตอบ
ดังนี้ (แนวตอบ คำตอบมีหลากหลาย เชน แมมี
แอปเปลสีเขียว 3 ผล มีแอปเปลสีแดง 5 ผล
โจทยปญหา
แมมีแอปเปลทั้งหมดกี่ผล คำตอบ คือ 8 ผล)
บอยมีปลาทอง 3 ตัว ซื้อมาเพิ่มอีก 6 ตัว บอยมีปลาทอง 3. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมออกมาจับบัตรประโยค
สัญลักษณแสดงการบวกกลุมละ 2 ประโยค
ทั้งหมดกี่ตัว สัญลักษณ
การวางแผนแกโจทยปญหา 4. แตละกลุม รวมกันสรางโจทยปญ
 หาการบวกทีม่ ี
ผลบวกไมเกิน 9 จากบัตรประโยคสัญลักษณ
บอยมีปลาทอง 3 ตัว ซื้อมาเพิ่มอีก 6 ตัว ที่จับได
5. แตละกลุมออกมานำเสนอผลงาน โดยครูและ
กลุมอื่นๆ รวมกันตรวจสอบความถูกตอง
? 6. ครูใหนักเรียนทำใบงาน เรื่อง การสรางโจทย
การแกปญหา ปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 โดยครู
ประโยคสัญลักษณ 3 + 6 = สแกน QR Code
วิธีทํา บอยมีปลาทอง 3
+
ตัว ใบงาน
ซื้อมาเพิ่มอีก 6 ตัว ใบงาน เรื่อง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 9 ใบงาน เรื่อง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 9
เฉลย

บอยมีปลาทองทั้งหมด 9 ตัว คาชี้แจง : ให้นักเรียนสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9 จากประโยคสัญลักษณ์ที่

1.
กาหนดให้ พร้อมทั้งหาคาตอบ
คาชี้แจง : ให้นักเรียนสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9 จากประโยคสัญลักษณ์ที่

1.
กาหนดให้ พร้อมทั้งหาคาตอบ

ตอบ บอยมีปลาทองทั้งหมด ๙ ตัว สร้างโจทย์ปัญหาการบวกได้ ดังนี้


แม่ซื้อแอปเปิล 4 ผล ซื้อมะม่วง 2 ผล แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมดกี่ผล
สร้างโจทย์ปัญหาการบวกได้ ดังนี้
แม่ซื้อแอปเปิล 4 ผล ซื้อมะม่วง 2 ผล แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมดกี่ผล

ประโยคสัญลักษณ์ 4+2=▢ ประโยคสัญลักษณ์ 4+2=▢

การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
วิธีทา แม่ซื้อแอปเปิล 4 ผล วิธีทา แม่ซื้อแอปเปิล 4 ผล
+
ซื้อมะม่วง 2 ผล ซื้อมะม่วง 2 ผล
แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมด 6 ผล แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมด 6 ผล
ตอบ แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมด 6 ผล ตอบ แม่ซื้อผลไม้ทั้งหมด 6 ผล
ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
6 มากกว่า 4 และ 2 6 มากกว่า 4 และ 2

9 มากกวา 3 และ 6
6 จึงเป็นคาตอบที่สมเหตุสมผล 6 จึงเป็นคาตอบที่สมเหตุสมผล

9 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล 1 3

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

49
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดตรงกับประโยคสัญลักษณ 2 + 5 = อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรางโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9
1. เกมีสม 5 ผล แมใหเพิ่ม 2 ผล เกมีสมทั้งหมดกี่ผล โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเกิน 9
2. ปานมียางลบ 2 กอน อยากไดอีก 5 กอน ปานตองทำอยางไร https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. หนิงมีสมุด 2 เลม ซื้อมาเพิ่มอีก 5 เลม หนิงมีสมุดทั้งหมด
กี่เลม
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะประโยคสัญลักษณ 2 + 5 =
แสดงวา 2 เปนตัวตั้ง และ 5 เปนตัวบวก ซึ่งตรงกับขอ 3.
สามารถแสดงวิธีทำได ดังนี้
วิธีทำ หนิงมีสมุด 2 เลม
+
ซื้อมาเพิ่มอีก 5 เลม
ดังนั้น หนิงมีสมุดทั้งหมด 7 เลม)

T63
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
อธิบายความรู

7. ครูใหแตละกลุม เลือกผลงานของสมาชิก 1 คน กิจกรรมฝึ กทักษะ


ออกมานำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยครู
และนั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย นร ว มกั นตรวจสอบ 1 สรางโจทยปญหาการบวกที่มีผลบวกไมเกิน 9 จากรูปที่กําหนด
ความถูกตอง พรอมทั้งหาคําตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
8. ครูอธิบายใหนกั เรียนเขาใจตรงกันวาคำใดบาง
ทีแ่ สดงถึงการบวกในโจทยปญ  หา เชน รวมกัน 1. 2. 3.
รวมทั้ ง หมด เพิ่ ม ทั้ ง หมด มากกว า และ
น อ ยกว า ซึ่ ง การสร า งโจทย ป ญ หาต อ งให นม นม นม
มีความสอดคลองกับสิ่งที่กำหนดให และ นม นม
มี ค วามสมเหตุ ส มผลและเหมาะสมกั บ
สถานการณในชีวิตจริง
ขยายความเข้าใจ

9. ครูหยิบสิง่ ของรอบๆ ตัวมาแสดงใหนกั เรียนดู นม


จากนั้นใหนักเรียนสรางโจทยปญหาการบวก
โดยครูคอยใหคำแนะนำและตรวจสอบความ
ถูกตอง
10. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 1-2
ในหนังสือเรียน หนา 50 ลงในสมุด จากนั้น
2 สรางโจทยปญหาการบวกจากสิ่งที่กําหนด พรอมทั้งหาคําตอบ
ครูขออาสาสมัครออกมาเฉลยคำตอบหนา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
ชั้นเรียน 1. 1 + 6 = 2. 2 + 2 =
11. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การสราง
โจทย ป ญ หาการบวกที่ มี ผ ลบวกไม เ กิ น 9 3. 4 + 3 = 4. 8 + 1 =
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
5. 1 2 6. 4 5
เกร็ดแนะครู
รู 7. 0 7 8. 7 1
ครูสมุ ตัวแทนนักเรียนออกมาวาดภาพสิง่ ของ
หน
ังส เน

ในชีวิตประจำวัน 2 ชนิด บนกระดาน จากนั้น


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

ใหนักเรียนจับคูและสรางโจทยปญหาจากภาพ
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
50
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

ที่วาดบนกระดาน
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
โบมีขนม 3 ชิ้น เนมมีขนมมากกวาโบ 2 ชิ้น เนมมีขนมเทาใด
1. 3 ชิ้น
2. 5 ชิ้น
3. 8 ชิ้น
(เฉลยคำตอบ ขอ 2.
โบมีขนม 3 ชิ้น
+
เนมมีขนมมากกวาโบ 2 ชิ้น
ดังนั้น เนมมีขนม 5 ชิ้น)

T64
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ
เชื่อมโยง สู่ชีวิตประจําวัน 12. ครู ให นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมเชื่ อ มโยงสู ชี วิ ต
ปลายทาง
แมใหขนมเพื่อนบาน 5 หอ ยังเหลือขนมอีก 3 หอ ประจำวัน ในหนังสือเรียน หนา 51 จากนั้น
ครูสุมนักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหนา
เดิมแมมีขนมกี่หอ
ชั้นเรียน ครูและนักเรียนในชั้นเรียนรวมกัน
ตรวจสอบความถูกตอง
13. ครูใหนักเรียนจับคูแลวรวมกันทำกิจกรรม
ปลายทาง
Active Learning ในหนังสือเรียน หนา 51
หรือใบกิจกรรม เรื่อง เตรียมขนมสำหรับ
งานเลี้ยง ดังนี้
1) ถากลุม ของนักเรียนตองการจัดเลีย้ ง โดย
มีเงื่อนไขวา แตละคนตองเตรียมขนมมา
คนละ 2 ชนิด และผลรวมของจำนวนขนม
ที่แตละคนนำมาตองไมเกิน 9 นักเรียน
จะเตรียมขนมอะไรบาง อยางละเทาใด
2) บั น ทึ ก ข อ มู ล รายการขนมที่ ส มาชิ ก
แตละคนนำมา พรอมทั้งแสดงการหา
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ผลรวมของจำนวนขนมที่แตละคนนำมา
ิ ก รร ม
กจ
Active L earning
ความสามารถดาน ✓ การสื่อสาร ลงในสมุด
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี 3) แตละกลุมออกมานำเสนอผลงานหนา
ชั้นเรียน
ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปน�้
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยของกิจกรรม
1. ถากลุมของนักเรียนตองการจัดเลี้ยง โดยมีเงื่อนไขวา แตละคนตองเตรียม Active Learning หรือเฉลยใบกิจกรรมได
ขนมมาคนละ 2 ชนิด และผลรวมของจํานวนขนมที่แตละคนนํามาตอง โดยสแกน QR Code
ไมเกิน 9 ชิ้น นักเรียนจะเตรียมขนมอะไรบาง อยางละเทาใด ใบกิจกรรม Active Learning
2. บันทึกขอมูลรายการขนมที่สมาชิกแตละคนนํามา พรอมทั้งแสดงการหา ใบกิจกรรม เรื่อง เตรียมขนมสำหรับจัดงำนเลี้ยง ใบกิจกรรม เรื่อง เตรียมขนมสำหรับจัดงำนเลี้ยง
เฉลย

ผลรวมของจํานวนขนมที่แตละคนนํามาลงในสมุด คำชี้แจง : ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้

1. ถ้าแต่ละคนต้องเตรียมขนมมาคนละ 2 ชนิด สาหรับจัดงานเลี้ยง โดยมีเงื่อนไขว่าผลรวมของจานวนขนม


ของแต่ละคนต้องไม่เกิน 9 ชิ้น ให้เขียนรายการขนมและจานวนขนม พร้อมทั้งแสดงการหาผลรวมของ
จานวนขนมของแต่ละคนตามวิธีที่ตนเองถนัด
คนที่ 1 แพรพลอย
คำชี้แจง : ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้

1. ถ้าแต่ละคนต้องเตรียมขนมมาคนละ 2 ชนิด สาหรับจัดงานเลี้ยง โดยมีเงื่อนไขว่าผลรวมของจานวนขนม


ของแต่ละคนต้องไม่เกิน 9 ชิ้น ให้เขียนรายการขนมและจานวนขนม พร้อมทั้งแสดงการหาผลรวมของ
จานวนขนมของแต่ละคนตามวิธีที่ตนเองถนัด
คนที่ 1 แพรพลอย

3. แตละกลุมออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด
ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้ ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้
5
1) แพนเค้ก 2 ชิ้น 1) แพนเค้ก 2 ชิ้น
2) โดนัต 4 ชิ้น 2) โดนัต 4 ชิ้น 3 2
รวมทั้งหมด ชิ้น รวมทั้งหมด 6 ชิ้น
คนที่ 2 มะเขือ แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด คนที่ 2 มะเขือ แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด

ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้ ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้


 ไข ารณ

1) พิซซา 3 ชิ้น 1) พิซซา 3 ชิ้น


ุงแก พิจ

2) ขนมปังเนยสด 4 ชิ้น 2) ขนมปังเนยสด 4 ชิ้น 3 1


4 2
5 3
6 4
7
ปร วจ

รวมทั้งหมด ชิ้น รวมทั้งหมด 7 ชิ้น


รับ ตร

คนที่ 3 แตงโม แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด คนที่ 3 แตงโม แสดงวิธีหาจานวนทั้งหมด


รป สง

ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้ ขนมที่เตรียมมา มีดังนี้


ีกา าง
จม ะหว

1) ขนมชั้น 5 ชิ้น 1) ขนมชั้น 5 ชิ้น

51
2) ขนมเข่ง 4 ชิ้น 2) ขนมเข่ง 4 ชิ้น
อา นร

9
หา ี้อยู ใ

รวมทั้งหมด ชิ้น รวมทั้งหมด ชิ้น


2. แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 2. แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส

1 2
หน

แนวตอบ กิจกรรมเช�่อมโยงสูชีว�ตประจำาวัน หนั้า 51


ข้อสอบเน้น การคิด
วิธีทำ แมใหขนมเพื่อนบาน 5 หอ
เปยกเลี้ยงสุนัขสีขาว 3 ตัว สีดำ 1 ตัว เปยกเลี้ยงสุนัขทั้งหมด +
ยังเหลือขนมอีก 3 หอ
กี่ตัว ขอความขางตนมีประโยคสัญลักษณตรงกับขอใด ดังนั้น เดิมแมมีขนม 8 หอ)
1. 3 + 1 =
2. 1 + = 3
3. +1=3
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. โดยนำจำนวนสุนัขสีขาวและสีดำมารวมกัน
แลวนับจำนวนสุนขั ทัง้ หมด สามารถเขียนประโยคสัญลักษณได ดังนี้
3+1= )

T65
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูใหนกั เรียนอานสรุปสาระสำคัญ ประจำหนวย
การเรียนรูที่ 2 ในหนังสือเรียน หนา 52
2. ครูใหนกั เรียนตรวจสอบความรูค วามเขาใจดวย สรุป สาระสําคัญ ประจําหน่วยการเรียนรู้ท 2

ตนเอง โดยสแกน QR Code ตรวจสอบ


ตนเอง ในหนังสือเรียน หนา 52 ถาผลประเมิน
การบวก
ของนักเรียนต่ำกวาระดับพอใช ครูควรอธิบาย จำนวนสองจำนวนที่มี�ลบวก�ม��ก�น��
และยกตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม ในหั ว ข อ นั้ น แล ว ความหมายของการบวก เปนการนําจํานวนสองจํานวนมารวมกัน ผลรวมทได้ เรียกว่า ผลบวก
ให นั ก เรี ย นกลั บ ไปทบทวนเนื้ อ หาและทำ
แบบฝกหัดอีกครั้งตามหัวขอที่กำหนด �ร��ยคสั�ลัก���แสดงการบวก การบวกจำนวนสองจำนวนที่มี
�ลบวก�ม��ก�น��
3. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน รวมกับ
ผลบวกของสองจํานวนใด ๆ ต้องเปนจํานวน
เท่ากับ ทมากกว่าตัวตงและตัวบวกเสมอ
ขั�นประเมิน เขียนเปนประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้ • การบวกโดยการนับต่อ 2+2=4
3 + 2 = 5 อ่านว่า สามบวกสองเท่ากับห้า
ตรวจสอบผล เร‰มนับต่อจาก
ตัวตง ตัวบวก ผลบวก 2 3 4
2 ไปอีก 2 1 2
1. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 3 + 2 = 5
• การบวกจํานวนโดยใช้ความสัมพันธ์ 1+2=3
2. ครูตรวจใบงาน เคร’องหมาย บวก เคร’องหมาย เท่ากับ
ของจํานวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม
ใช้เขียนค“นระหว่าง ใช้แสดงการเท่ากัน
3. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ จํานวนสองจํานวน ในประโยคสัญลักษณ์
1 รวมกับ 2 เท่ากับ 3
3
ทต้องการนํามารวมกัน 1 2
4. ครูตรวจแบบฝกหัด
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล • การบวกจํานวน • การบวกจํานวน
การบวกด�วย��นย� ตามแนวนอน ตามแนวตง
6. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม เม’อนําศูนย์ไปบวกกับจํานวนใด ๆ จะได้ 2 + 1 = 3 2 ตัวตง
ผลบวกเท่ากับจํานวนนนเสมอ +
7. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตัวตง ตัวบวก ผลบวก
1 ตัวบวก
0+2=2 3 ผลบวก
8. ครูประเมินความสามารถในการสื่อสารและ
การคิด จากกิจกรรม Active Learning หรือ �จทย����หาการบวกที่มี�ลบวก�ม��ก�น��
ใบกิจกรรม เรื่อง เตรียมขนมสำหรับงานเลี้ยง
1. การวิเคราะห์ 2. การวางแผน 3. 4. การตรวจสอบ
โดยใช เ กณฑ ก ารประเมิ นจากแบบประเมิ น การแก้ป˜ญหา
แก้โจทย์ป˜ญหา ความสมเหตุสมผล
โจทย์ป˜ญหา
สมรรถนะสำคัญของผูเรียน ของคําตอบ

การสร�าง�จทย����หาการบวก
แบบประเมิน การสลับที่ของการบวก
1. พิจารณาส‰งท 2. คิดคําสําคัญ 3. สร้างโจทย์
เม’อสลับทตัวตงและตัวบวก
ระดับคุณภำพ
แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง

ทแสดงถึงการบวก ป˜ญหาการบวก
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ใส่ตัวเลขลงในช่องระดับคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด

โจทย์กําหนดให้
สมรรถนะที่ 1 เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด

ผลบวกยังคงเท่าเดิม
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ ความสามารถ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร ในการสื่อสาร จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารทีอ่ ่าน

เช่น รวม ทงหมด


ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ตัวชี้วัดที่ 1 ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ กาหนดได้ กาหนดได้อย่าง กาหนดได้ และ กาหนดไม่ได้
สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร
เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ อย่างถูกต้อง ถูกต้องครบถ้วน มีข้อบกพร่องใน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.
ทัศนะของตนเองด้วยการพูด ครบถ้วน มีข้อบกพร่อง การใช้ภาษา
สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคิด และการเขียน ในการใช้ภาษา วรรคตอน

มากกว่า น้อยกว่า
มีข้อบกพร่อง
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3. พฤติกรรมบ่งชี้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน และการเขียนคา
หมำยเหตุ : หากนักเรียนมีระดับคุณภาพไม่ถึงระดับดี (2) ในแต่ละสมรรถนะสาคัญ ครูควรพัฒนานักเรียนให้ถึงเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนมี และการเขียนคา ตั้งแต่ 6 แห่งขึ้นไป
3. เขียนถ่ายทอดความรู้ วรรคตอนและการ
หน

ความพร้อมก่อนทากิจกรรมต่อไป ตั้งแต่ 3 แห่ง


ความเข้าใจจากสารที่อา่ น เขียนคา
แต่ไม่เกิน 5 แห่ง
ังส เน

เกณฑ์กำรประเมิน ฟัง หรือดู ตามที่กาหนดได้ ไม่เกิน 2 แห่ง


สมรรถนะที่ 2 ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด
ือเล ื้อห

ระดับคุณภำพ
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ
ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
มน าอา

ในการคิด และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ

2+1=3 1+2=3
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
ตัวชี้วัดที่ 1 ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล
ี้อย จม

สมรรถนะที่ 1 พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ คิดพื้นฐาน ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น
ความสามารถ ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก
ู ในร ีกา

(การคิดวิเคราะห์) ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน


ในการสื่อสาร สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ พฤติกรรมบ่งชี้ ได้ถูกต้องและ ได้ถูกต้อง ได้ถูกต้องเป็น ไม่ได้
ตัวชี้วัดที่ 1 ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนด
ะหว รปร

3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ ครบถ้วน แต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและ

ดังนน 2 + 1 = 1 + 2
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง ไม่ชัดเจน ไม่ได้

52
และความคิดรวบยอดของ ไม่ครบถ้วน

ตรวจสอบตนเอง
าง ับป

เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ ครบถ้วน ครบถ้วน ชัดเจน


ข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นใน
ชัดเจน และมัน่ ใจ
สง รุง

ทัศนะของตนเองด้วยการพูด บริบทที่เป็นสิ่งใกล้ตวั
และการเขียน
ตร แก

พฤติกรรมบ่งชี้
วจ  ไข

1. พูดถ่ายทอดความรู้ ความ
เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง
พิจ

หรือดู ตามที่กาหนดได้
าร

1 2

กิจกรรม 21s� Cen���y S���l�


1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน จากนั้นครูมอบหมายให
นักเรียนแตละกลุมสรางโจทยปญหาการบวก โดยเขียนประโยค
สัญลักษณแสดงการบวก และแสดงการหาคำตอบอยางเหมาะสม
2. กอนทำงานที่ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละกลุมประชุมเพื่อแบง
หนาที่กันในการทำงาน
3. นักเรียนแตละกลุม ลงมือทำงานทีค่ รูมอบหมาย โดยทำหนาทีต่ าม
ที่ประชุมกันไว
4. นักเรียนแตละกลุมนำเสนองานที่ไดรับมอบหมายหนาชั้นเรียน
โดยจะต อ งอ า นประโยคสั ญ ลั ก ษณ ข องกลุ ม ตนเองเป น ภาษา
อังกฤษ

T66
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้หน่ วยที่ 3

แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 1 1. อธิิบายควิามหมายของ สมรรถนะที่่� 1 การจััด - ต้รวิจัแบบที่ดสอบก่อนัเรียนั - หนัังสือเรียนั
ความหมาย การลบได้ถููกต้้อง (K, A) ควิามสามารถูในัการสื�อสาร การเรียนัรู้ - ต้รวิจัแบบฝึึกหัด รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
ของการลบ 2. ยกต้ัวิอย่างเพื้ื�อแสดง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นัพื้บ - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม คณิต้ศาสต้ร์
สถูานัการณ์การลบ ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั (Discovery การที่ำางานัรายบุคคล ป็.1 เล่ม 1
1 ได้ถููกต้้อง (S, A) ควิามคิด ควิามรูส้ ึก และที่ัศนัะของต้นัเอง Method) - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม
การที่ำางานักลุ่ม
- แบบฝึึกหัด
รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
ชั่วโมง ด้วิยการพืู้ดและการเขียนั
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� - ป็ระเมินัคุณลักษณะ คณิต้ศาสต้ร์
1. พืู้ดถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั อันัพื้ึงป็ระสงค์ ป็.1 เล่ม 1
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หรือดู - สังเกต้ควิามสามารถู - คลิป็อักษร
ต้ามที่ี�กำาหนัดได้ ในัการสื�อสาร เรียนัสรุป็ เรื�อง
ควิามหมาย
ของการลบและ
ป็ระโยคสัญลักษณ์
แสดงการลบ (1/2)
- PowerPoint เรื�อง
การลบจัำานัวินัสอง
จัำานัวินัที่ี�มีต้ัวิต้ั�ง
ไม่เกินั 9
แผนฯ ที่ 2 1. อธิิบายวิิธิีการเขียนั สมรรถนะที่่� 1 การจััด - ต้รวิจักิจักรรมฝึึกที่ักษะ - หนัังสือเรียนั
ประโยค ป็ระโยคสัญลักษณ์แสดง ควิามสามารถูในัการสื�อสาร การเรียนัรู้ - ต้รวิจัแบบฝึึกหัด รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
สััญลักษณ์์ การลบได้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นัพื้บ - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม คณิต้ศาสต้ร์
แสัดง 2. เขียนัป็ระโยคสัญลักษณ์ ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั (Discovery การที่ำางานัรายบุคคล ป็.1 เล่ม 1
การลบ แสดงการลบได้ถููกต้้อง ควิามคิด ควิามรู้สึก และที่ัศนัะของต้นัเอง Method) - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม - แบบฝึึกหัด
(S, A) ด้วิยการพืู้ดและการเขียนั การที่ำางานักลุ่ม รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
1 พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� - ป็ระเมินัคุณลักษณะ
อันัพื้ึงป็ระสงค์
คณิต้ศาสต้ร์
ป็.1 เล่ม 1
ชั่วโมง 3. เขียนัถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หรือดู - สังเกต้ควิามสามารถู - คลิป็อักษร
ต้ามที่ี�กำาหนัดได้ ในัการสื�อสาร เรียนัสรุป็ เรื�อง
ควิามหมาย
ของการลบและ
ป็ระโยคสัญลักษณ์
แสดงการลบ (2/2)
- PowerPoint เรื�อง
การลบจัำานัวินัสอง
จัำานัวินัที่ี�มีต้ัวิต้ั�ง
ไม่เกินั 9

T67
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 3 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การลบจำำ�นวน โดยการเอาออกหรืือ ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
โดยการ หยิิบออกได้้ถููกต้้อง ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
เอาออกหรืือ (K, A) คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
หยิิบออก และ อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ
2. พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
การลบจำำ�นวน โดยการนัับย้้อนกลัับ 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
ได้้ถููกต้้อง (K, A) ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - ประเมิินคุุณลัักษณะ คณิิตศาสตร์์
โดยการนัับ
3. หาผลลบโดยการเอาออก ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
ย้้อนกลัับ
หรืือหยิิบออกได้้ถููกต้้อง - สัังเกตความสามารถ - บััตรภาพ
(S, A) ในการคิิด - คลิิปอัักษร
3 4. หาผลลบโดยการนัับ เรีียนสรุุป เรื่่�อง
ชั่วโมง ย้้อนกลัับได้้ถููกต้้อง การลบจำำ�นวน
(S, A) โดยการเอาออก
หรืือหยิิบออก (1/2)
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การลบจำำ�นวน
โดยการนัับ
ย้้อนกลัับ (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9
แผนฯ ที่่� 4 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การลบ โดยการนัับต่่อได้้ถููกต้้อง ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
โดยการ (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
นัับต่่อและ 2. อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
การลบ โดยใช้้ความสััมพัันธ์์ของ พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
จำำ�นวนโดยใช้้ จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
และส่่วนรวมได้้ถููกต้้อง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - ประเมิินคุุณลัักษณะ คณิิตศาสตร์์
ความสััมพัันธ์์
(K, A) ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
ของจำำ�นวน
3. หาผลลบโดยการนัับต่่อ - สัังเกตความสามารถ - บััตรประโยค
แบบส่่วนย่่อย ได้้ถููกต้้อง (S, A) ในการคิิด สััญลัักษณ์์
และส่่วนรวม 4. หาผลลบโดยใช้้ความ - คลิิปอัักษร
สััมพัันธ์์ของจำำ�นวนแบบ เรีียนสรุุป เรื่่�อง
3 ส่่วนย่่อยและส่่วนรวม การลบจำำ�นวน
ชั่วโมง ได้้ถููกต้้อง (S, A) โดยการนัับ
ย้้อนกลัับ (2/2)
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การลบจำำ�นวน
โดยใช้้ความ
สััมพัันธ์ข์ องจำำ�นวน
แบบส่่วนย่่อย
และส่่วนรวม (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9

T68
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 5 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจแบบฝึึกหััด - หนัังสืือเรีียน
การลบตาม ตามแนวนอนและตาม ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - สัังเกตพฤติิกรรม รายวิิชาพื้้�นฐาน
แนวนอนและ แนวตั้้�งได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ การทำำ�งานรายบุุคคล คณิิตศาสตร์์
การลบตาม 2. หาผลลบตามแนวนอน คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery - สัังเกตพฤติิกรรม ป.1 เล่่ม 1
แนวตั้้�ง และตามแนวตั้้�งได้้ถููกต้้อง พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) การทำำ�งานกลุ่่�ม - แบบฝึึกหััด
(S, A) 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ - ประเมิินคุุณลัักษณะ รายวิิชาพื้้�นฐาน
2 ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ อัันพึึงประสงค์์
- สัังเกตความสามารถ
คณิิตศาสตร์์
ป.1 เล่่ม 1
ชั่วโมง ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว
ในการคิิด - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การลบจำำ�นวน
ตามแนวนอนและ
ตามแนวตั้้�ง (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9
แผนฯ ที่่� 6 1. อธิิบายเกี่่�ยวกัับการลบ สมรรถนะที่่� 2 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
การลบด้้วย ด้้วยศููนย์์ได้้ถููกต้้อง ความสามารถในการคิิด การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
ศููนย์์ (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
2. หาผลลบของจำำ�นวน คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
1 ที่่�ลบด้้วยศููนย์์ได้้ถููกต้้อง
(S, A)
พฤติิกรรมบ่่งชี้้� Method) - สัังเกตพฤติิกรรม
การทำำ�งานกลุ่่�ม
- แบบฝึึกหััด
รายวิิชาพื้้�นฐาน
ชั่วโมง 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ
ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ - ประเมิินคุุณลัักษณะ คณิิตศาสตร์์
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
- สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษร
ในการคิิด เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การลบด้้วยศููนย์์
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9

T69
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 7 1. อธิิบายวิิธีีการหาผลลบ สมรรถนะที่่� 2 รููปแบบ - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
ความสััมพัันธ์์ โดยใช้้ความสััมพัันธ์์ของ ความสามารถในการคิิด การจััด - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
ของการบวก การบวกและการลบได้้ ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
และการลบ ถููกต้้อง (K, A) คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การสอน การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
2. หาผลลบโดยใช้้ความ พฤติิกรรมบ่่งชี้้� แบบสืืบสอบ - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
2 สััมพัันธ์์ของการบวก
และการลบได้้ถููกต้้อง
3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ ความรู้้�
(5Es
การทำำ�งานกลุ่่�ม
- ประเมิินคุุณลัักษณะ
รายวิิชาพื้้�นฐาน
คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ
(S, A) ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว Instructional อัันพึึงประสงค์์ ป.1 เล่่ม 1
Model) - สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษร
ในการคิิด เรีียนสรุุป เรื่่�อง
ความสััมพัันธ์์
ของการบวก
และการลบ
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9
แผนฯ ที่่� 8 1. อธิิบายวิิธีีการหา สมรรถนะที่่� 2 รููปแบบ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - หนัังสืือเรีียน
การหา ตััวไม่่ทราบค่่า ความสามารถในการคิิด การจััด การหาตััวไม่่ทราบค่่า รายวิิชาพื้้�นฐาน
ตััวไม่่ทราบค่่า ในประโยคสััญลัักษณ์์ ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน ในประโยคสััญลัักษณ์์ คณิิตศาสตร์์
ในประโยค ได้้ถููกต้้อง (K, A) คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การสอน - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ป.1 เล่่ม 1
สััญลัักษณ์์ 2. หาตััวไม่่ทราบค่่า พฤติิกรรมบ่่งชี้้� แบบสืืบสอบ - ตรวจแบบฝึึกหััด - แบบฝึึกหััด
ในประโยคสััญลัักษณ์์ 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ ความรู้้� - สัังเกตพฤติิกรรม รายวิิชาพื้้�นฐาน
2 ได้้ถููกต้้อง (S, A) ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ (5Es
Instructional
การทำำ�งานรายบุุคคล
- สัังเกตพฤติิกรรม
คณิิตศาสตร์์
ป.1 เล่่ม 1
ชั่วโมง ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว
Model) การทำำ�งานกลุ่่�ม - ใบงาน เรื่่�อง
- ประเมิินคุุณลัักษณะ การหาตััว
อัันพึึงประสงค์์ ไม่่ทราบค่่าใน
- สัังเกตความสามารถ ประโยคสััญลัักษณ์์
ในการคิิด - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การหาตััว
ไม่่ทราบค่่าใน
ประโยคสััญลัักษณ์์
(1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9

T70
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 9 1. อธิิบายวิิธีีแก้้โจทย์์ปััญหา สมรรถนะที่่� 2 รููปแบบ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - หนัังสืือเรีียน
โจทย์์ปััญหา การลบที่่�มีีตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9 ความสามารถในการคิิด การจััด โจทย์์ปััญหาการลบที่่�มีี รายวิิชาพื้้�นฐาน
การลบที่่�มีี ได้้ถููกต้้อง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน ตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9 คณิิตศาสตร์์
ตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9 2. แ
 ก้้ โ จทย์์ ปัญ
ั หาการลบที่่ มี
� ี คิิดพื้้�นฐาน (การคิิดวิิเคราะห์์) การสอน - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ป.1 เล่่ม 1
ตััวตั้้�งไม่่เกิิน 9 ได้้ถููกต้้อง พฤติิกรรมบ่่งชี้้� แบบสืืบสอบ - ตรวจแบบฝึึกหััด - แบบฝึึกหััด
3 (S, A) 3. ระบุุรายละเอีียด คุุณลัักษณะ และ ความรู้้�
(5Es
- สัังเกตพฤติิกรรม
การทำำ�งานรายบุุคคล
รายวิิชาพื้้�นฐาน
คณิิตศาสตร์์
ชั่วโมง ความคิิดรวบยอดของข้้อมููลต่่าง ๆ
ที่่�พบเห็็นในบริิบทที่่�เป็็นสิ่่�งใกล้้ตััว Instructional - สัังเกตพฤติิกรรม ป.1 เล่่ม 1
Model) การทำำ�งานกลุ่่�ม - ใบงาน เรื่่�อง
- ประเมิินคุุณลัักษณะ โจทย์์ปััญหา
อัันพึึงประสงค์์ การลบที่่�มีีตััวตั้้�ง
- สัังเกตความสามารถ ไม่่เกิิน 9
ในการคิิด - คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
โจทย์์ปััญหา
การลบที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9 (1/3)
- PowerPoint เรื่่�อง
การลบจำำ�นวนสอง
จำำ�นวนที่่�มีีตััวตั้้�ง
ไม่่เกิิน 9

T71
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 10 1. อธิิบายวิิธิีสร้างโจัที่ย์ 1) สมรรถนะที่่� 1 รูป็แบบ - ต้รวิจัแบบที่ดสอบหลังเรียนั - หนัังสือเรียนั
การสัร้าง ป็ัญหาการลบที่ี�มีต้ัวิต้ั�ง ควิามสามารถูในัการสื�อสาร การจััด - ต้รวิจักิจักรรมฝึึกที่ักษะ รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
โจำทย์ปัญหา ไม่เกินั 9 ได้ถููกต้้อง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 การเรียนั - ต้รวิจัแบบฝึึกหัด คณิต้ศาสต้ร์
การลบท่�ม่ (K, A) ใช้ภาษาถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั การสอนั - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม ป็.1 เล่ม 1
ต่ัวต่ั�งไม่เกิน 9 2. สร้ า งโจัที่ย์ ป็ ญ
ั หาการลบ ควิามคิด ควิามรู้สึก และที่ัศนัะของ แบบสืบสอบ การที่ำางานัรายบุคคล - แบบฝึึกหัด
ที่ี�มีต้ัวิต้ั�งไม่เกินั 9 ต้นัเองด้วิยการพืู้ดและการเขียนั ควิามรู้ - สังเกต้พื้ฤต้ิกรรม รายวิิชาพื้ื�นัฐานั
3 จัากสิ�งที่ี�กำาหนัดให้
และหาคำาต้อบได้ถููกต้้อง
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� (5Es
Instructional
การที่ำางานักลุ่ม
- ป็ระเมินัคุณลักษณะ
คณิต้ศาสต้ร์
ป็.1 เล่ม 1
ชั่วโมง 1. พืู้ดถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั
(S, A) จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หรือดู Model) อันัพื้ึงป็ระสงค์ - ใบกิจักรรม เรื�อง
ต้ามที่ี�กำาหนัดได้ - ป็ระเมินัควิามสามารถู วิางแผนัห่อ
3. เขียนัถู่ายที่อดควิามรู้ ควิามเข้าใจั ในัการสื�อสารและการคิด กล่องของขวิัญ
จัากสารที่ี�อ่านั ฟัง หรือดู จัากกิจักรรม Active - บัต้รต้ัวิเลข
ต้ามที่ี�กำาหนัดได้ Learning หรือใบกิจักรรม - บัต้รป็ระโยค
เรื�อง วิางแผนัห่อกล่อง สัญลักษณ์
2) สมรรถนะที่่� 2 ของขวิัญ โดยใช้เกณฑ์การ - คลิป็อักษร
ควิามสามารถูในัการคิด ป็ระเมินัจัากแบบป็ระเมินั เรียนัสรุป็ เรื�อง
ตััวชี้่�วัดที่่� 1 สมรรถูนัะสำาคัญของผู้เรียนั การสร้างโจัที่ย์
คิดพื้ื�นัฐานั (การคิดวิิเคราะห์) ป็ัญหาการลบ
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� ที่ี�มีต้ัวิต้ั�งไม่เกินั 9
3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และ (1/3)
ควิามคิดรวิบยอดของข้อมูลต้่าง ๆ - PowerPoint เรื�อง
ที่ี�พื้บเห็นัในับริบที่ที่ี�เป็็นัสิ�งใกล้ต้ัวิ การลบจัำานัวินัสอง
จัำานัวินัที่ี�มีต้ัวิต้ั�ง
ไม่เกินั 9

T72
สาระสําคัญสําหรับครู
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 การลบจํานวนสองจํานวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 9

ความหมายของการลบ
การนัำาจัำานัวินัหนัึ�งออกจัากอีกจัำานัวินัหนัึ�ง
แล้วิหาจัำานัวินัที่ี�เหลือ เรียกจัำานัวินัที่ี�เหลือ มีมะม่วิง 4 ผล รับป็ระที่านัไป็ 2 ผล เหลือมะม่วิง 2 ผล
วิ่า ผลลบ่ 4 เอาออกไป็ 2 เหลืออยู่ 2 เรียก 2 วิ่า ผลลบของ 4 กับ 2
จัะได้วิ่า เหลือมะม่วิง 2 ผล

ประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ

เที่่ากับ่

เขียนัเป็็นัป็ระโยคสัญลักษณ์แสดงการลบได้ ดังนัี� 5 - 2 = 3 อ่านัวิ่า ห้าลบด้วิยสองเที่่ากับสาม


ตััวตัั�ง ตััวลบ่ ผลลบ่

5 - 2 = 3
เครื�องหมาย ลบ่ ใช้เขียนัคั�นั เครื�องหมาย เที่่ากับ่
ระหวิ่างจัำานัวินัสองจัำานัวินั ใช้แสดงการเที่่ากันั
ที่ี�ต้้องการนัำามาหักออกจัากกันั ในัป็ระโยคสัญลักษณ์

การลบจำานวนสองจำานวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9

โดยการเอาออก หรือหยิบ่ออก โดยการนับ่ยอนกลับ่

เที่่ากับ่
1 2 3 3 4 2 5 1 6
6-3= 3 6-3= 3

เริ�มนัับต้่อจัาก 3
โดยการนับ่ตั่อ ไป็จันัถูึง 6 ได้ ดังนัี� โดยใชี้ความสัมพันธของจํานวนแบ่บ่ส่วนย่อยและส่วนรวม
3 3
6 6
1 2 3 4 5 6 ? 3
1 2 3 6 ลบด้วิย 3 เหลืออยู่ 3
6-3= 3 6-3= 3

T73
โดยวิธ่การลบ่ตัามแนวนอน โดยวิธ่การลบ่ตัามแนวตัั�ง
6 - 3 = 3 6 ต้ัวิต้ั�ง
-
3 ต้ัวิลบ
ต้ัวิต้ั�ง ต้ัวิลบ ผลลบ 3 ผลลบ

การลบด้วยศูนย์ ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ
เมื�อนัำาจัำานัวินัใด ๆ ลบด้วิยศูนัย์ จัะได้ผลลบเที่่ากับ ผลบวิกของสองจัำานัวินัใด ๆ เมื�อลบจัำานัวินัใดจัำานัวินัหนัึ�ง
จัำานัวินันัั�นัเสมอ ในัสองจัำานัวินันัั�นั จัะได้ผลลบเที่่ากับอีกจัำานัวินัหนัึ�ง
8-0=8 4+5=9 5+4=9

9-5=4 9-4=5

การหาตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ์

5- = 3 -2= 7 เรียก วิ่า


เนัื�องจัาก 5 - 3 = 2 เนัื�องจัาก 7 + 2 = 9 ต้ัวิไม่ที่ราบค่า
ดังนัั�นั = 2 ดังนัั�นั = 9 ในัป็ระโยคสัญลักษณ์

โจทย์ปญหาการลบ
ขั�นัต้อนัการแก้โจัที่ย์ป็ัญหา
1. การวิิเคราะห์ 2. การวิางแผนั 3. 4. การต้รวิจัสอบ
การแก้ป็ัญหา ควิามสมเหตุ้สมผล
โจัที่ย์ป็ัญหา แก้โจัที่ย์ป็ัญหา
ของคำาต้อบ

การสร้างโจทย์ปญหาการลบ
ขั�นัต้อนัการสร้างโจัที่ย์ป็ัญหา
2.
1. พื้ิจัารณาสิ�งที่ี� กำาหนัดคำาสำาคัญที่ี�แสดงถูึง 3. สร้างโจัที่ย์ป็ัญหา
โจัที่ย์กำาหนัดให้ การลบ เช่นั เหลืออยู่ การลบ
มากกวิ่า นั้อยกวิ่า

ตััวอย่างโจที่ยปญหาการลบ่
- พื้ลมีขนัมป็ัง 5 ชิ�นั รับป็ระที่านัไป็ 2 ชิ�นั พื้บเหลือขนัมป็ังกี�ชิ�นั
- โต้้งมีสมุด 7 เล่ม ต้้ามีสมุดนั้อยกวิ่าโต้้ง 3 เล่ม ต้้ามีสมุดกี�เล่ม

T74
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method

3
การลบจาํ นวนสองจาํ นวน
หนวยการเรียนรูที่
ขั�นนํ า

่ี �
ทม ั �ัง
ี ว ิ 9
� ไม่เกน
นํ าเข้าสู่บทเรียน

1. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียน
เตรียมพรอมกอนเรียน 2. ครูทบทวน เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวน
ที่ มี ผ ลบวกไม เ กิ น 9 โดยครู เขี ย นประโยค
สัญลักษณแสดงการบวกบนกระดาน จากนั้น
ครูสุมนักเรียนออกมาแสดงวิธีการหาผลบวก
คนละ 1 วิธี
3. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย นโดยให
นักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวถามนักเรียน
วา “เด็กผูชายและเด็กผูหญิงมีจำนวนตางกัน
เทาใด เรารูไดอยางไร”
หมายเหตุ : ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น เฉลย
คำถามประจำหนวยการเรียนรูห ลังเรียนหนวย
การเรียนรูที่ 3
4. ครู ต รวจสอบความรู พื้ นฐานก อ นเรี ย นของ
นั ก เรี ย น โดยครู ส แกน QR Code ใน
หนั ง สื อ เรี ย น หน า 53 แล ว ให นั ก เรี ย นทำ
เตรียมพรอมกอนเรียน
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยเตรียมพรอม
à´ç¡¼ÙŒªÒÂáÅÐà´ç¡¼ÙŒËÞÔ§ กอนเรียนไดโดยสแกน QR Code
ÁÕ¨íҹǹµ‹Ò§¡Ñ¹à·‹Òã´
?
เฉลยเตรียมพร้อมกอนเรียน
àÃÒÃٌ䴌Í‹ҧäÃ
ก่อนเรีย

เฉลย
เตรียมพร้อม
หนวยการเรียนรูที่ 3
นับจํานวนผลไมตามที่กําหนด แลวเขียนแสดงจํานวนดวยตัวเลขฮินดูอารบิก
ลงในชองวาง
1)

มีมังคุดในจาน …………6……….. ผล
หยิบออก …………2……….. ผล
เหลือมังคุดในจาน …………4……….. ผล

µÑǪÕéÇÑ´ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ 2)

มีแอปเปลในจาน …………8……….. ผล
หยิบออก …………1……….. ผล

• หาคาของตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณแสดงการบวก • ความหมายของการลบ เหลือแอปเปลในจาน …………7……….. ผล

และประโยคสัญลักษณแสดงการลบของจํานวนนับไมเกิน 100 • ประโยคสัญลักษณแสดงการลบ 3)

มีสตรอวเบอรรีในจาน …………9……….. ผล

และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/4) • การลบจํานวนสองจํานวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 หยิบออก …………3……….. ผล


เหลือสตรอวเบอรรใี นจาน …………6……….. ผล

• แสดงวิิ
แสดงวิธิธีหาคำ
าคําต้อบของโจัที่ย์
ตอบของโจทยป็ปัญ หาการบวิกและโจัที่ย์
หาการบวกและโจทยป็ปัญ หา • การลบดวยศูนย

 ไข ารณ

การลบของจํานัวินันัั
การลบของจัำ นวนนับไม่
ไมเกินัน 100
100 และ (มฐ.คค1.1
และ 00 (มฐ. 1.1ป.1/5)
ป.1/5) • ความสัมพันธของการบวกและการลบ
ุงแก พิจ
ปร วจ


รับ ตร

การหาตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ
รป สง
ีกา าง


จม ะหว

โจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9
อา นร
หา ี้อยู ใ

• การสรางโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ คำาถามประจำาหนวยการเรียนรู้ที่ 3 หน้า 53


เป้าหมาย การเรียนรู้
จำนวนเด็กผูชายกับจำนวนเด็กผูหญิงตางกันสองคน หาไดโดยนำจำนวน
การจั ด การเรี ย นการสอนในหน ว ยการเรี ย นรู นี้ มุ ง เน น ให ผู เรี ย น เด็กผูชายกับจำนวนเด็กผูหญิงมาลบกัน
แกโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 ไดอยางถูกตอง เพื่อใหผูเรียน
นำความรูไปใชในสถานการณชีวิตประจำวันได

T75
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู เรานำความสัมพันธของจำนวน
1. ครูใหนักเรียนศึกษาความหมายของการลบ 1 ความหมายของการลบ
แบบสวนยอยและสวนรวม มาใช
ในการหาจำนวนขนม
ในหนังสือเรียน หนา 54-55 ที่เหลือไดหรือไม
2. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟงวา ครูมคี ปั เคก
6 ชิ้น รับประทานไป 3 ชิ้น ครูจะเหลือคัปเคก มีขนมอยู 6 ชิ้น
กี่ชิ้น รับ ประทานไป 2 ชิ้น
เหลือขนมอยูกี่ชิ้นคะ
3. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน
จากนัน้ ครูถามนักเรียนวา จากสถานการณทคี่ รู
เลาใหฟง นักเรียนคิดวาจะหาคำตอบไดดวย
วิธีใด
4. สมาชิกแตละคนในกลุมรวมกันตอบคำถาม
แลวรวมกันสรุปเปนคำตอบของกลุมตนเอง
5. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม ออกมาตอบคำถาม
โดยครูคอยตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย
เพิ่มเติมในสวนที่นักเรียนยังไมเขาใจ
6. ครูยกตัวอยางเพิ่มเติม 2-3 ตัวอยาง เพื่อให
นักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
นํ าไปใช้

7. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง ความหมาย


ของการลบ ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปน มีขนมอยู รับประทานไป เหลือขนมอยู 4 ชิ้น
การบาน 6 ชิ้น 2 ชิ้น
เราสามารถหาผลลบ
6 เอาออกไป 2 เหลืออยู 4 ของ 6 กับ 2 จากการ
จะไดวา เหลือขนมอยู 4 ชิ้น นับจํานวนที่ เหลือ
เรียก 4 วา ผลลบของ 6 กับ 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

54
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับความหมายของการลบ จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง
ความหมายของการลบและประโยคสัญลักษณแสดงการลบ (1/2)
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11014

มีมะมวงอยู 6 ผล รับประทานไป 2 ผล จะเหลือมะมวงกี่ผล


1. 3 ผล
2. 4 ผล
3. 5 ผล
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะมีมะมวงอยู 6 ผล รับประทานไป 2 ผล
ก็เริ่มนับตอจาก สอง ไปจนถึง หก ดังนี้ สาม สี่ หา หก จะเห็นวา
ตองนับ 4 ครั้ง จะไดคำตอบวา เหลือมะมวงอยู 4 ผล)

T76
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
ตัวอยางที่ 1 ความหมายของการลบว า การลบเป นการนำ
จำนวนหนึ่ ง ออกจากอี ก จำนวนหนึ่ ง แล ว หา
มีเคก 5 ชิ้น รับประทานไป 2 ชิ้น เหลือเคกที่ไมไดรับประทานกี่ชิ้น จำนวนที่เหลือ เรียกจำนวนที่เหลือนี้วา ผลลบ

ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรียน
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
เหลือเคกที่ไมได 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
เรียก 3 วา ผลลบของ 5 กับ 2 รับประทาน 3 ชิ้น 6. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
แบบประเมิน

ตัวอยางที่ 2 ลาดับ
ที่
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

ชื่อ-สกุล
ของผู้รับการประเมิน
มีการวางแผน มีการแสดง
ร่วมกัน ความคิดเห็น
ทางาน ของสมาชิก
มีการรับฟัง
ความคิดเห็น

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1
มีการปฏิบัติ สามารถ
ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม
ที่วางไว้ กลุม่ อืน่ ได้ 15
คะแนน

มีหนังสือ 8 เลม หยิบออกไป 3 เลม เหลือหนังสือกี่เลม เกณฑ์การให้คะแนน


ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

เหลือหนังสือ 5 เลม
เรียก 5 วา ผลลบของ 8 กับ 3

การลบ เปนการนําจํานวนหนึ่งออกจากอีกจํานวนหนึ่ง แลวหาจํานวน


ที่เหลือ เรียกจํานวนที่เหลือวา ผลลบ

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

55
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของการลบ โดยใชสื่อ PowerPoint
เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 https://www.aksorn.com/
qrcode/TMPPMTP11

ไกมีเงินอยู 5 บาท ทำหายไป 2 บาท ไกเหลือเงินกี่บาท


1. 2 บาท
2. 3 บาท
3. 4 บาท
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะไกมีเงินอยู 5 บาท ทำหายไป 2 บาท
จะเริ่มนับตอจาก สอง ไปจนถึง หา ดังนี้ สาม สี่ หา จะเห็นวา
ตองนับ 3 ครั้ง จะไดคำตอบวา ไกเหลือเงินอยู 3 บาท)

T77
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า มีกลวย 3 ผล รับ ประทานไป
นํ าเข้าสู่บทเรียน 2 ประโยคสั ญลักษณ์ แสดงการลบ
2 ผล เหลือกลวยกี่ผล
เราเรียกจำนวนกลวย
1. ครูทบทวนความหมายของการลบวา เปนการ มีแอปเปล 9 ผล แบงใหนอง 4 ผล ที่เหลือวาอะไร
นำจำนวนหนึง่ ออกจากอีกจำนวนหนึง่ แลวหา
จำนวนทีเ่ หลือ เรียกจำนวนทีเ่ หลือนีว้ า ผลลบ
เหลือแอปเปลกี่ผล
จากนั้นครูยกตัวอยางเพิ่มเติม 1-2 ตัวอยาง
2. ครูบอกนักเรียนวา เราสามารถใชสัญลักษณ
“-” เปนเครื่องหมายแสดงการลบ และ “=”
เปนเครื่องหมายแสดงการเทากัน

ขั�นสอน เหลือแอปเปลอยู 5 ผล
รู ้
เรียนรู

1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือเรียน หนา 56 และ เหลือ


ใหนักเรียนสังเกตภาพ จากนั้นถามคำถาม
นักเรียน ดังนี้ เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบได ดังนี้ ����������
• มีแอปเปลกี่ผล อานวา เกาลบดวยสี่เทากับหา
(แนวตอบ 9 ผล)
• เอาออกไปกี่ผล ตัวตั้ง ตัวลบ ผลลบ
(แนวตอบ 4 ผล)
• เหลือแอปเปลอยูกี่ผล 9 - 4 = 5
(แนวตอบ 5 ผล)
• เขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการลบได
อยางไร เครื่องหมาย ลบ ใชเขียนคั่น เครื่องหมาย เทากับ ใชแสดง
(แนวตอบ 9 - 4 = 5) ระหวางจํานวนสองจํานวน การเทากันในประโยคสัญลักษณ
จากนั้ น ครู เ ขี ย นประโยคสั ญ ลั ก ษณ แ สดง ที่ตองการนํามาหักออกจากกัน
การลบบนกระดาน และให นั ก เรี ย นอ า น
พรอมกัน แลวครูถามนักเรียนวา รูปแอปเปล
ด า นบนกั บ รู ป บล็ อ กด า นล า งความหมาย
ตัวตั้ง คือ จํานวนแรก ตัวลบ คือ จํานวนที่ 2 และ ผลลบ คือ คําตอบ
เหมือนกันหรือไม
ที่ได
หน
ังส เน
ือเล ื้อห

(แนวตอบ เหมือนกัน)
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

56
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบ จากคลิป ขอใดมีความหมายตรงกับประโยคสัญลักษณ 7 - 2 =
อักษรเรียนสรุป เรือ่ ง ความหมายของการลบและประโยคสัญลักษณแสดงการลบ
(2/2) https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11015 1.

2.

3.

(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะมีรูปสุนัขอยู 7 ตัว เอาออก 2 ตัว


สามารถเขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการลบได คือ
7-2= )

T78
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

2. ครูอธิบายกับนักเรียนวา การเขียน 9 - 4 = 5
เรียกวา การเขียนแสดงการลบโดยใชประโยค
สัญลักษณ เรียก 9 วา ตัวตั้ง เรียก 4 วา
ตัวลบ และเรียก 5 วา ผลลบ โดยเครื่องหมาย
ลบ (-) ใชเขียนคัน่ ระหวางจำนวนสองจำนวนที่
ตองการนำมาหักออกจากกัน และเครือ่ งหมาย
เทากับ (=) ใชแสดงการเทากันในประโยค
สัญลักษณ
มีกบบนใบบัว 6 ตัว 3. ครู ใ ห นั ก เรี ย นร ว มกั น ศึ ก ษาความรู เรื่ อ ง
กระโดดลงนํ้า 2 ตัว ประโยคสัญลักษณแสดงการลบ ในหนังสือเรียน
หนา 56-57 แลวผลัดกันอภิปรายเกี่ยวกับ
การลบและประโยคสัญลักษณแสดงการลบ
เหลือกบอยูบนใบบัว 4 ตัว จนเกิดความเขาใจตรงกัน
4. ครูยกตัวอยางการลบจำนวนสองจำนวนที่มี
เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบได ดังนี้ ���������� ตัวตั้งไมเกิน 9 แลวใหนักเรียนออกมาเขียน
อานวา หกลบดวยสองเทากับสี่ แสดงการลบโดยใชประโยคสัญลักษณแสดง
การลบและใหนักเรียนอานประโยคสัญลักษณ
ตัวตั้ง ตัวลบ ผลลบ พรอมกัน
นํ าไปใช้

6 - 2 = 4 5. ครูใหนักเรียนจับคูทำกิจกรรมฝกทักษะ ใน
หนังสือเรียน หนา 58 จากนั้นครูสุมนักเรียน
ออกมานำเสนอหน า ชั้ น เรี ย น โดยครู แ ละ
การลบจํานวนสองจํานวน ตัวตั้ง นักเรียนทีเ่ หลือชวยกันตรวจสอบความถูกตอง
ตองมากกวาหรือเทากับตัวลบ 6. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง ประโยค
และผลลบตองนอยกวาหรือ สัญลักษณแสดงการลบ ในแบบฝกหัด
เทากับตัวตั้ง
คณิตศาสตร เปนการบาน

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

57
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับประโยคสัญลักษณแสดงการลบ โดยใชสอื่ PowerPoint
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 https://www.aksorn.com/
qrcode/TMPPMTP11
จากรูป เขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการลบไดตรงกับขอใด
1. ประโยคสัญลักษณ 4 - 2 =
2. ประโยคสัญลักษณ 6 - 4 =
3. ประโยคสัญลักษณ 6 - 2 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะมีรูปดอกไมอยู 6 ดอก เอาออก
2 ดอก สามารถเขียนเปนประโยคสัญลักษณแสดงการลบได คือ
6-2= )

T79
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครู ใ ห นั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
ประโยคสัญลักษณแสดงการลบวา ในประโยค กิจกรรมฝึ กทักษะ
สั ญ ลั ก ษณ แ สดงการลบประกอบด ว ยตั ว ตั้ ง
เครื่องหมายลบ (-) ตัวลบ เครื่องหมายเทากับ 1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกจํานวนที่เปนตัวตั้ง ตัวลบ และผลลบ
(=) และผลลบ โดยเครื่องหมายลบ ใชเขียนคั่น ดวยวาจา
ระหวางจำนวนสองจำนวนที่ตองการลบกัน และ
เครือ่ งหมายเทากับ ใชแสดงการเทากันในประโยค 1. เหลือ
สัญลักษณ

ขั�นประเมิน
2. เหลือ
1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ 3. เหลือ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3.
4.
ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
4. 9 - 5 = 4
5.
6.
ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
5. 7 - 2 = 5
แบบประเมิน 2 เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบและคําอานจากรูปที่กําหนด
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน

ความมีน้าใจ การร่วมมือ
ความ การแสดง การรับฟัง รวม
เอื้อเฟื้อ ทางาน

1. เหลือ
ลาดับ ชื่อ-สกุล มีวินัย ความคิดเห็น ความคิดเห็น
เสียสละ ส่วนรวม 15
ที่ ของผู้รับการประเมิน
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

2. เหลือ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

3. เหลือ

4. เหลือ
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
58
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
“4 เอาออก 1 เหลือเทาใด” ตรงกับประโยคสัญลักษณขอใด
1. 4 - 1 =
2. 1 - 4 =
3. 4 + 1 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ “เอาออก” คือ คำที่แสดงการลบ
โดย 4 เปนตัวตั้ง และ 1 เปนตัวลบ)

T80
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า
3 การลบจํานวนสองจํานวน
เหลือ
นํ าเข้าสู่บทเรียน

ที่มี�ว
ั �ัง
� ไม่เกิน 9 จากรูป จำนวนใด คือ ตัวตั้ง 1. ครู ท บทวนเกี่ ย วกั บ ความหมายของการลบ
ตัวลบ และผลลบ
3.1 การลบจํานวนโดยการเอาออก และการเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบ
โดยติดบัตรภาพตอไปนี้บนกระดาน
� � � � �ร�อ�ย�บออก
มีมังคุด 8 ผล
หยิบออกไป 2 ผล จากนั้นขออาสาสมัครออกมาเขียนประโยค
จะเหลือมังคุดกี่ผล สัญลักษณแสดงการลบบนกระดาน
(แนวตอบ 6 - 2 = 4)
เขียนประโยคสั�ลัก���แสดงการลบได ดังนี� 8 � 2 � 2. ครูใหนักเรียนตอบคำถามทบทวนความรูเดิม
ในหนังสือเรียน หนา 59
เราสามารถหาจํานวนมังคุดที่เหลืออยู โดยการกากบาท (แนวตอบ 7 เปนตัวตั้ง 3 เปนตัวลบ และ 4 เปน
ทับรูปมังคุดที่หยิบออก แลวนับจํานวนมังคุดที่เหลือ ผลลบ)
ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

1. ครู ให นั ก เรี ย นศึ ก ษาการลบจำนวนโดยการ


จะไดวา เหลือมังคุด เอาออกหรือหยิบออก ในหนังสือเรียน หนา 59
2. ครูเลาสถานการณใหนักเรียนฟงวา ในจานมี
คุกกี้ 7 ชิ้น หยิบออกไป 3 ชิ้น ครูจะเหลือคุกกี้
กี่ชิ้น
นั่นคือ 8 � 2 � � ดังนั�น เหลือมังคุดอยู � ผล 3. ครูอธิบายใหนกั เรียนฟงวา เราสามารถหาผลลบ
ไดโดยวิธีการเอาออกหรือหยิบออก แลวแสดง
วิธกี ารลบจำนวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก
การลบจํานวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก ทําไดโดยหยิบสิ่งของออก ใหนักเรียนดูทีละขั้นตอน
แลวนับจํานวนสิ่งของที่เหลือ 4. ครูเลาสถานการณเพิม่ เติมวา ถาครูมคี กุ กี้ 8 ชิน้
หยิบออกไป 4 ชิ้น ครูจะเหลือคุกกี้กี่ชิ้น

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร

(แนวตอบ 4 ชิ้น)
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

59
อา นร
หา ี้อยู ใ

จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมาหาผลลบโดยวิธี
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

การเอาออกหรือหยิบออก

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการลบจำนวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก จากคลิป
อักษรเรียนสรุป เรื่อง การลบจำนวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก (1/2)
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11016

ขอใดแสดงประโยคสัญลักษณที่สัมพันธกับภาพที่กำหนดให
1. 6 - 2 =
2. 6 - 4 =
3. 4 - 2 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะสมมี 6 ผล กากบาท 2 ผล
เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบไดเปน 6 - 2 = )

T81
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

5. ครูใหนกั เรียนศึกษาการลบจำนวนโดยการนับ 3.2 การลบจํานวนโดยการนับยอนกลับ


ยอนกลับ ในหนังสือเรียน หนา 60
6. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟงวา ครูมคี กุ กี้
9 ชิ้น รับประทานไป 2 ชิ้น ครูจะเหลือคุกกี้
กี่ชิ้น มีโดนัต 8 ชิ้น รับประทานไป 5 ชิ้น เหลือโดนัตกี่ชิ้น
7. ครูแสดงวิธีการลบจำนวนโดยการนับ เ�ียนเปนประโยค�ั�ลัก���ได ดังนี้ 8 � 5 �
ยอนกลับใหนักเรียนดูทีละขั้นตอน หาผลลบโดยการนับยอนกลับได ดังนี้
8. ครูเลาสถานการณเพิ่มเติมอีก 2-3 ตัวอยาง
แลวใหนักเรียนทุกคนหาผลลบโดยการนับ เริ่มนับจาก 8 ยอนกลับไปอีก 5 ได ดังนี้
ยอนกลับ
9. ครูใหนกั เรียนจับคูท ำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 1-2
ในหนังสือเรียน หนา 65-66 จากนั้นครูสุม
นักเรียนออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
1 2 3 5 4 4 5 3 6 2 7 1 8
นํ าไปใช้ จะได 8 � 5 � 3 ดังนั้น เหลือโดนัต 3 ชิ้น
10. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การลบ
จำนวนสองจำนวนทีม่ ตี วั ตัง้ ไมเกิน 9 ขอ 1-2 ตัวอยางที่ 3
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน หาผลลบ�อง 6 � 2 �
ขั�นสรุ
รุ ป หาผลลบโดยการนับยอนกลับได ดังนี้
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ เริ่มนับจาก 6 ยอนกลับไปอีก 2 ได ดังนี้
การลบจำนวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก และ
การนับยอนกลับ 1 2 3 4 2 5 1 6
ขั�นประเมิน จะไดวา 6 � 2 � 4
1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ ตอบ ๔
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การลบจํานวนโดยการนับยอนกลับ เปนการหาผลลบโดยเริ่มนับลดลง
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม ทีละ 1 จากตัวตั้งยอนกลับเปนจํานวนครั้งเทากับตัวลบ
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา

5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

60
าง ับป

6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบจำนวนโดยการนับยอนกลับ จากคลิปอักษร ญาญามีลูกอมอยู 9 เม็ด ใหเพื่อนไป 2 เม็ด ญาญาเหลือลูกอม
เรียนสรุป เรื่อง การลบจำนวนโดยการนับยอนกลับ (1/2) กี่เม็ด
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11017 1. 2 เม็ด
2. 7 เม็ด
3. 9 เม็ด
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะจากโจทยเปนการลบ สามารถเขียน
เปนประโยคสัญลักษณได คือ 9 - 2 = และสามารถหาผลลบ
ไดโดยการนับยอนกลับจาก 9 ไป 2 ครั้ง จะได 8 และ 7 ตามลำดับ
จะไดวา 9 - 2 = 7 ดังนั้น ญาญาเหลือลูกอม 7 เม็ด)

T82
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า
3.3 การลบจํานวนโดยการนับตอ นํ าเข้าสู่บทเรียน

ครูเขียนประโยคสัญลักษณ 8 - 5 = บน
มีลูกบอลสีแดงและสีเขียวรวมทั้งหมด 9 ลูก กระดาน จากนั้นครูและนักเรียนรวมกันหาผลลบ
มีลูกบอลสีแดง 6 ลูก ที่เหลือเปนลูกบอลสีเขียวกี่ลูก โดยวิธีการเอาออกหรือหยิบออก และวิธีการนับ
ยอนกลับ
เขียนเปนประโยคสั�ลัก���ได ดังนี้ 9 � 6 �
ขั�นสอน
หาผลลบโดยการนับตอได ดังนี้
รู ้
เรียนรู
เริ่มนับตอจาก 6 ไปจนถึง 9 ได ดังนี้ 1. ครู ให นั ก เรี ย นศึ ก ษาการลบจำนวนโดยการ
นับตอ ในหนังสือเรียน หนา 61
2. ครูเลาสถานการณใหนักเรียนฟงวา มีดอกบัว
1 2 3 4 5 6 7 8 9 6 ดอก นำไปใสแจกัน 3 ดอก เหลือดอกบัว
กี่ดอก
1 2 3 3. ครูแสดงวิธีการลบจำนวนโดยการนับตอให
จะได 9 � 6 � 3 ดังนั้น ที่เหลือเปนลูกบอลสีเขียว 3 ลูก นักเรียนดูทีละขั้นตอน
4. ครู ติ ด บั ต รประโยคสั ญ ลั ก ษณ แ สดงการลบ
ตัวอยางที่ 4 บนกระดาน จากนั้นครูขออาสาสมัครออกมา
หาผลลบโดยการนับตอหนาชั้นเรียน
หาผลลบของ 7 � 5 � 5. ครูใหนักเรียนจับคูทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 3
หาผลลบโดยการนับตอได ดังนี้ ระหวางทาง
ในหนังสือเรียน หนา 66 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
เริ่มนับตอจาก 5 ไปจนถึง 7 ได ดังนี้ ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
6. ครูใหนกั เรียนศึกษาการลบจำนวนโดยใชความ
สัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม
1 2 3 4 5 6 7 ในหนังสือเรียน หนา 62
จะไดวา 7 � 5 � � 1 2 7. ครูเลาสถานการณใหนักเรียนฟงวา แมคามี
ไอศกรีม 9 แทง ขายไป 7 แทง เหลือไอศกรีม
ตอบ � กี่แทง จากนั้นครูแสดงวิธีการลบจำนวนโดย
ใชความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและ
การลบจํานวนโดยการนับตอ เปนการหาผลลบโดยเริ่มนับตอเพิ่มทีละ 1 สวนรวมใหนักเรียนดูทีละขั้นตอน

จากตัวลบไปขางหนาจนถึงตัวตั้ง ซึ่งจํานวนครั้งที่นับ คือ ผลลบ นั่นเอง


 ไข ารณ

8. ครูสุมนักเรียนออกมาเลาสถานการณการลบ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง

จากนั้นครูสุมนักเรียนอีก 1 คน ออกมาหา
ีกา าง
จม ะหว

61
อา นร
หา ี้อยู ใ

ผลลบโดยใช ค วามสั ม พั นธ ข องจำนวนแบบ


เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

สวนยอยและสวนรวม

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


ขอใดไมถูกตอง ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการลบจำนวนโดยการนับตอ จากคลิปอักษรเรียนสรุป
1. 9 - 3 = 5 เรื่อง การลบจำนวนโดยการนับยอนกลับ (2/2) https://www.aksorn.com/
2. 6 - 2 = 4 qrcode/TMAOLMTP11018
3. 7 - 4 = 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 9 - 3 = 6 ซึ่ง 6 5
ขอ 2. 6 - 2 = 4 ซึ่ง 4 = 4
ขอ 3. 7 - 4 = 3 ซึ่ง 3 = 3
ดังนั้น ขอ 1. ไมถูกตอง)

T83
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

9. ครูใหนกั เรียนจับคูท ำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 4 3.4 การลบจํ


การลบจานวนโดยใชความสัมพันธของจํานวนแบบสวนยอย
ในหนังสือเรียน หนา 67 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน และสวนรวม
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน หาผลลบ�อง 5 � � �
นํ าไปใช้
2
10. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การลบ สวนยอย
จำนวนสองจำนวนทีม่ ตี วั ตัง้ ไมเกิน 9 ขอ 3-5 5
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน สวนรวม 3
ขั�นสรุ
รุ ป สวนยอย
5 ลบดวย � เหลืออยู � ดังนั้น 5 � � � �
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
การลบจำนวนโดยการนับตอและการลบจำนวน
ตัวอยางที่ 5
โดยใช ค วามสั ม พั นธ ข องจำนวนแบบส ว นย อ ย หาผลลบ�อง 6 � 5 �
และสวนรวม 5 5 6 ลบดวย 5 เหลืออยู 1
ขั�นประเมิน 6 6 ดังนั้น 6 � 5 � 1
1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ ? 1 ตอบ ๑
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม ตัวอยางที่ 6
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค หาผลลบ�อง 7 � 1 �
6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
1 1 7 ลบดวย 1 เหลืออยู 6
ขั�นนํ า
7 7 ดังนั้น 7 � 1 � 6
นํ าเข้าสู่บทเรียน
? 6 ตอบ ๖
ครูเขียนประโยคสัญลักษณ 9 - 4 = บน
กระดาน จากนั้นครูและนักเรียนรวมกันหาผลลบ
โดยการนั บ ต อ และการลบจำนวนโดยใช ค วาม ผลลบ ตัวตั้ง และตัวลบ มีความสัมพันธกัน ถาเรารูจํานวนสองจํานวน
สัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม เราจะสามารถหาจํานวนที่สามได
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

62
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบจำนวนโดยใชความสัมพันธของจำนวนแบบ โปมีแอปเปลและกลวยรวมกัน 7 ผล
สวนยอยและสวนรวม จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง การลบจำนวนโดยใชความ เปนแอปเปล 4 ผล อยากทราบวาโปมี
สัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม (1/2) https://www.aksorn.com/ กลวยกี่ผล
qrcode/TMAOLMTP11019 1. 3 ผล
2. 4 ผล
? 3. 5 ผล

(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากรูปสามารถเขียนแสดงความ


สัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวมได ดังนี้
4 4
7 ลบดวย 4 เหลือ 3
7 7
ดังนั้น 7 - 4 = 3)
? 3

T84
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

3.5 การลบตามแนวนอน 1. ครูใหนักเรียนศึกษาการลบตามแนวนอนและ


การลบตามแนวตั้ง ในหนังสือเรียน หนา 63
ตัวอยางที่ 7 2. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟงวา ครูมหี นังสือ
7 เลม นำไปวางบนตู 5 เลม ครูเหลือหนังสือ
หาผลลบของ 8 � 3 � กี่เลม
หาผลลบได ดังนี้ 3. ครูแสดงวิธีการลบตามแนวนอนและการลบ
8 � 3 � 5 ตามแนวตั้งใหนักเรียนดูทีละขั้นตอน
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ 4. ครูเลาสถานการณอีก 2-3 ตัวอยาง แลวสุม
ตัวตั้ง ตัวลบ ผลลบ 5 นอยกวา 8 นั ก เรี ย นออกมาหาผลลบโดยการลบตาม
5 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล แนวนอนและการลบตามแนวตั้ง
ตอบ ๕
นํ าไปใช้

5. ครู ให นั ก เรี ย นทำแบบฝ ก หั ด เรื่ อ ง การลบ


3.6 การลบตามแนวตั้ง จำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 ขอ 6-8

ตัวอยางที่ 8 ในแบบฝ ก หั ด คณิ ต ศาสตร จากนั้ น ครู สุ ม


นักเรียนออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
หาผลลบของ 7 � 4 � ขั�นสรุ
รุ ป
หาผลลบได ดังนี้ ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
7 � ตัวตั้ง การลบตามแนวนอนและการลบตามแนวตั้ง
4 ตัวลบ การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
ขั�นประเมิน
3 ผลลบ 3 นอยกวา 7
3 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล 1. ครูตรวจแบบฝกหัด
ตอบ � 2. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
ผลลบของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ ตองเปนจํานวนทีน่ อ ยกวาหรือเทากับ 4. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
ตัวตั้งเสมอ 5. ครูสังเกตความสามารถในการคิด

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

63
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


ขอใดถูกตอง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบตามแนวนอนและการลบตามแนวตั้ง จาก
1. 8 - 6 = 4 คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การลบจำนวนตามแนวนอนและตามแนวตั้ง (1/2)
2. 8 - 4 = 4 https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11020
3. 9 - 8 = 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 8 - 6 = 2 ซึ่ง 2 4
ขอ 2. 8 - 4 = 4 ซึ่ง 4 = 4
ขอ 3. 9 - 8 = 1 ซึ่ง 1 7
ดังนั้น ขอ 2. ถูกตอง)

T85
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า

4
? 9 ลบดวยจำนวนใด
นํ าเข้าสู่บทเรียน การลบด้วยศูนย์ 9 จึงจะไดผลลบ
ครูเขียนประโยคสัญลักษณ 8 - 6 = บน 9 เทาเดิมครับ
กระดาน จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมาหาผลลบ
โดยใชวธิ ตี า งๆ ทีน่ กั เรียนเรียนไปแลว โดยครูและ
นักเรียนที่เหลือรวมกันตรวจสอบความถูกตอง

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู เจนีซ่ ื้อแอปเปล 5 ผล แตไมไดแบงให ใครเลย
เจนีจ่ ะเหลือแอปเปลกี่ผล
1. ครูใหนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการลบดวยศูนย
ในหนังสือเรียน หนา 64
2. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟงวา มีขนม 5 หอ มีแอปเปล 5 ผล แตไมไดแบงให ใครเลย
แสดงวา แบงใหคนอื่ นไป 0 ผล
แตยังไมมีใครรับประทานเลย เหลือขนมกี่หอ
3. ครู แ สดงวิ ธีก ารหาผลลบให นั ก เรี ย นดู ที ล ะ
ขั้นตอน เขียนเป�นประ�ยคสั�ลัก��ได ดังนี้ � � � �
4. ครูเลาสถานการณอีก 2-3 ตัวอยาง แลวขอ จะไดวา � � � � � ดังนั้น เจนี่เหลือแอปเป�ล � ผล
อาสาสมั ค รออกมาหาผลลบ โดยครู ค อย
ตรวจสอบความถูกตอง ตัวอยางที่ 9
5. ครูกลาวกับนักเรียนวา เมื่อนำจำนวนใดๆ ลบ
ดวยศูนย จะไดผลลบเทากับจำนวนนั้นเสมอ มีขนมปงอยูในตะกรา 3 ชิ้น แตไมมีใครรับประทานเลย มีขนมปง
และศูนยลบดวยศูนย จะไดผลลบเทากับศูนย เหลือกี่ชิ้น
เสมอ
ประ�ยคสั�ลัก�� 3 � � �
จะไดวา 3 � � � 3
ตอบ � ชิ้น

เมื่อนําจํานวนใด ๆ ลบดวยศูนย จะไดผลลบเทากับจํานวนนั้นเสมอ


หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

64
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับการลบดวยศูนย จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง การลบ จำนวนที่หายไปตรงกับขอใด
ดวยศูนย https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11021 5 1. 0
5 2. 1
? 3. 2

(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากความสัมพันธของจำนวนแบบ


สวนยอยและสวนรวม หาจำนวนที่หายไปได ดังนี้
5 5
5 ลบดวย 5 เหลืออยู 0
5 5
ดังนั้น 5 - 5 = 0)
? 0

T86
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

กิจกรรมฝึ กทักษะ 6. ครูใหนักเรียนจับคูทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ


5-6 ในหนังสือเรียน หนา 68 จากนั้นครูขอ
1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวบอกผลลบดวยวาจา อาสาสมัครออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน

1.
9 เอาออก 7 เหลือ
2.
6 เอาออก 3 เหลือ
3.
5 เอาออก 2 เหลือ

4.

8 เอาออก 2 เหลือ
เกร็ดแนะครู
รู
5. ครูควรใหนกั เรียนสังเกตและบันทึกลงสมุดวา
จำนวนคูใดบางที่นำมาลบกัน แลวผลลบที่ได
มีคาเปน 0 เชน
4 เอาออก 4 เหลือ 0-0=0 5-5=0
1-1=0 6-6=0

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

2-2=0 7-7=0
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

65 3-3=0 8-8=0
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ

4-4=0 9-9=0
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดมีผลลบมากกวา 7 - 5 = อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบจำนวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก โดยใช
1. 6 - 4 = สื่อ PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9
2. 9 - 7 = https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. 4 - 1 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 7 - 5 = 2
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 6 - 4 = 2 ซึ่ง 2 = 2
ขอ 2. 9 - 7 = 2 ซึ่ง 2 = 2
ขอ 3. 4 - 1 = 3 ซึ่ง 3 ≠> 2
ดังนั้น 4 - 1 = มีผลลบมากกวา 7 - 5 = )

T87
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

7. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การลบดวย 6.


ศูนย ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร จากนัน้ ครูสมุ
นักเรียนออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน 5 เอาออก 4 เหลือ

2 แสดงวิธีหาผลลบตอไปนี้โดยการนับยอนกลับ
1.
มีคุกกี้ 6 ชิ้น แบงใหนองไป 5 ชิ้น เหลือคุกกี้กี่ชิ้น
2.
มีไอศกรีม 8 แทง ไอศกรีมละลายไป 2 แทง เหลือไอศกรีมกี่แทง
�. 5 � 1 � 4. 7 � 4 �
5. 8 � 8 � 6. � � � �
3 แสดงวิธีหาผลลบตอไปนี้โดยการนับตอ
1.

คุณครูมีขนม 7 หอ แบงใหนักเรียน 6 หอ คุณครูเหลือขนมกี่หอ


เกร็ดแนะครู
รู
2.
ครูอธิบายเพิม่ เติมวา การลบตามแนวตัง้ ตอง
ตั้งหลักใหตรงกันเสมอ โดยตัวตั้งจะอยูบรรทัด นุ�กมียางลบ 8 กอน ใชไป 1 กอน นุ�กเหลือยางลบกี่กอน
บนสุด ตัวลบจะอยูบรรทัดตอมา และบรรทัดที่
สามจะเปนผลลบ เชน 9 - 5 = จะสามารถ �. 4 � 2 � 4. 6 � 4 �
หาผลลบตามแนวตั้งได ดังนี้ 5. � � 6 � 6. 5 � � �
หน
ังส เน

9 ตัวตั้ง
ือเล ื้อห
มน าอา

-
ี้อย จม
ู ในร ีกา

5 ตัวลบ
ะหว รปร

66
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

4 ผลลบ
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบจำนวนโดยการนับยอนกลับและการนับตอ จำนวนที่หายไปตรงกับขอใด
โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 8-
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 5

1. 1
2. 2
3. 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะจากโจทยสามารถเขียนเปนประโยค
สัญลักษณได คือ 8 - 5 = และสามารถหาผลลบไดโดยการ
นับยอนกลับจาก 8 ไป 5 ครั้ง จะได 7 6 5 4 และ 3 ตามลำดับ
จะไดวา 8 - 5 = 3 ดังนั้น จำนวนที่หายไป คือ 3)

T88
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเกีย่ วกับการลบดวย
4 เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงในชองวางใหถูกตอง โดยใชความสัมพันธ ศูนยวา เมือ่ นำจำนวนใดๆ ลบดวยศูนย จะไดผลลบ
ของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม เทากับจำนวนนัน้ เสมอ และศูนยลบดวยศูนย จะได
ผลลบเทากับศูนยเสมอ
��� � � � � ��� � � � �

2 5
6 7

��� 9 � � � ��� 8 � � �

5
เกร็ดแนะครู
รู
9 8 ครูอาจจัดการแขงขันคิดเลขเร็ว โดยครูติด
บัตรประโยคสัญลักษณแสดงการลบบนกระดาน
ดังนี้
8-3= 6-5=
��� � � � � ��� 9 � 8 � 9-7= 7-0=
6-1= 7-4=
9-8= 5-0=
5 9
8-8= 3-1=
จากนั้ น ให นั ก เรี ย นหาผลลบจากประโยค

 ไข ารณ

สัญลักษณขางตน ภายในระยะเวลา 5 นาที


ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

นักเรียนที่หาคำตอบไดถูกตองจำนวนมากที่สุด
จม ะหว

67
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

จะเปนผูชนะ
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ผลลบขอใดมีคานอยที่สุด อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบจำนวนโดยใชความสัมพันธของจำนวนแบบ
1. 7 - 4 = สวนยอยและสวนรวม โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวน
2. 6 - 2 = ที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. 8 - 3 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 7 - 4 = 3
ขอ 2. 6 - 2 = 4
ขอ 3. 8 - 3 = 5
ดังนั้น ผลลบของขอ 1. มีคานอยที่สุด)

T89
นํ า สอน สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด 5 หาผลลบตอไปนี้
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม 1. 4�3� 2. ����
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 3. 5�5� 4. 3���
6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
5. 6��� 6. 8�6�
แบบประเมิน
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน
�. 5�3� 8. ��2�
�. 4��� 1�. ����
ความมีน้าใจ การร่วมมือ
ความ การแสดง การรับฟัง รวม
ลาดับ ชื่อ-สกุล เอื้อเฟื้อ ทางาน
มีวินัย ความคิดเห็น ความคิดเห็น 15
ที่ ของผู้รับการประเมิน เสียสละ ส่วนรวม
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง

ช่วงคะแนน
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
……….……/………………….……/………………….

ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

ระดับคุณภาพ
6 ระบายสีบัตรตัวเลขที่มีผลลบเทากับจํานวนที่อยูในวงกลม
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

1. 0 1�1 ��� 1��

2. 3 ��6 3�3 ��4

3. 6 1�� 8�2 ��1 5�4

4. 7 ��2 8�4 6�4 ���

5. 5 8�3 2�� 6�5 ��4

6. 8 ��2 8�8 8�� ��1


หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
68
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการลบตามแนวนอน การลบตามแนวตัง้ และการลบ ขอใดไมถูกตอง
ดวยศูนย โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้ง 1. 3 - 0 = 5 - 3
ไมเกิน 9 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 9 - 2 = 7 + 0
3. 6 - 2 = 7 - 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. ไมถูกตอง เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 3 - 0 = 3 และ 5 - 3 = 2 จะไดวา 3 2
ขอ 2. 9 - 2 = 7 และ 7 + 0 = 7 จะไดวา 7 = 7
ขอ 3. 6 - 2 = 4 และ 7 - 3 = 4 จะไดวา 4 = 4)

T90
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า
5
จากรูป
ความสั ม�ั��์ของการบวก มีลูกบอลสีช มพูกี่ลูก มีลูกบอล กระตุ
ตุน้ ความสนใจ

และการลบ สีเขียวกี่ลูก 1. ครูทบทวนเกี่ยวกับการลบดวยศูนย โดยครู


ถามนักเรียนวา มีคุกกี้ 9 ชิ้น แตยังไมมีใคร
รับประทานเลย จะเหลือคุกกี้กี่ชิ้น
(แนวตอบ 9 ชิ้น)
2. จากสถานการณขางตน เขียนเปนประโยค
มีกลวย 3 ผล มีผลไม 7 ผล สัญลักษณไดอยางไร
มีแอปเปล 4 ผล มีแอปเปล 4 ผล (แนวตอบ 9 - 0 = 9)
มีผลไม 7 ผล มีกลวย 3 ผล ขั�นสอน
3 + 4 = 7 7 - 4 = 3 สํ ารวจค้นหา
ตัวตั้ง ตัวบวก ผลบวก ตัวตั้ง ตัวลบ ผลลบ 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 3-4 คน
จากนั้ น ติ ด หรื อ วาดภาพประกอบการสอน
บนกระดาน ใหแตละกลุมรวมกันสังเกตและ
พิจารณาวา ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก
มีผลไม 7 ผล และการลบมีความสัมพันธกันอยางไร
มีกลวย 3 ผล (แนวตอบ มีจำนวนผลไมทั้งหมดเทากัน คือ
มีแอปเปล 4 ผล 7 ผล หรือเปนตัวเลขแบบเดียวกัน คือ 3, 4
7 - 3 = 4 และ 7)
ตัวตั้ง ตัวลบ ผลลบ โดยครูยังไมเฉลยคำตอบที่ถูกตอง
2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู
การบวกและการลบมีความสัมพันธกัน คือ ผลบวกของสองจํานวน เรื่อง ความสัมพันธของการบวกและการลบ
ใด ๆ เมือ่ ลบดวยจํานวนใดจํานวนหนึง่ ในสองจํานวนนัน้ จะไดผลลบเทากับ ในหนังสือเรียน หนา 69-70 เพื่อหาคำตอบวา
อีกจํานวนหนึ่ง ประโยคสัญลักษณการบวกและการลบทีค่ รูตดิ
บนกระดานมีความสัมพันธกันอยางไร
4 + 3 = 7 3 + 4 = 7 รู ้
อธิบายความรู

7 - 3 = 4 7 - 4 = 3 3. ครูสุมตัวแทนกลุม 2 กลุม ออกมานำเสนอผล



 ไข ารณ

การพิจารณาถึงความสัมพันธของการบวกและ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

การลบหนาชั้นเรียน โดยครูอธิบายเพิ่มเติม
จม ะหว

69
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

ในสวนที่ยังมีขอบกพรอง
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


5 - = 2 และ 2 + = 5 ควรเติมตัวเลขแสดงจำนวนใด ศึกษาเพิม่ เติมเกีย่ วกับความสัมพันธของการบวกและการลบ จากคลิปอักษร
ลงใน เรียนสรุป เรือ่ ง ความสัมพันธของการบวกและการลบ https://www.aksorn.com/
1. 3 qrcode/TMAOLMTP11022
2. 1
3. 0
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะการบวกและการลบมีความสัมพันธกัน
คือ ผลบวกของสองจำนวนใดๆ เมื่อลบดวยจำนวนใดจำนวนหนึ่ง
ในสองจำนวนนั้น จะไดผลลบเทากับอีกจำนวนหนึ่ง
นั่นคือ 5 - 2 = 3
ดังนั้น 5 - 3 = 2 และ 2 + 3 = 5)

T91
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ

4. ครู ใ ห นั ก เรี ย นตอบคำถามเกี่ ย วกั บ ความ สรุปความสัมพันธของการบวกและการลบ


สัมพันธของการบวกและการลบ เพื่อขยาย
ความเขาใจของนักเรียน เชน ถา 6 + 2 = 8
5+3 =8
นักเรียนจะสามารถหาคำตอบของ 8 - 2 = 8�3 =5
โดยไมตองคิดคำนวณไดหรือไมอยางไร 8�5 =3
(แนวตอบ ได เพราะใชความสัมพันธการบวก
และการลบในการหาคำตอบ จะไดวา 8 - 2 = 6)
5. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ
กิจกรรมฝึ กทักษะ
ในหนังสือเรียน หนา 70 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงใน ใหถูกตอง
ขั�นสรุ
รุ ป
1. =
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูวา ความ
สัมพันธของการบวกและการลบ คือ ผลบวก
3 + 2 =
ของจำนวนใดๆ เมื่อลบดวยจำนวนใดจำนวน � 3 = 2
หนึ่งในสองจำนวนนั้น จะไดผลลบเทากับอีก 5 � = 3
จำนวนหนึ่ง
2. ครูใหนกั เรียนทำแบบฝกหัด เรือ่ ง ความสัมพันธ 2. =
ของการบวกและการลบ ในแบบฝกหัด
คณิตศาสตร เปนการบาน
5 + 4 =
ขั�นประเมิน
� 5 = 4
� � = 5
ตรวจสอบผล

1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ 3. =
2. ครูตรวจแบบฝกหัด 1 + 6 =
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม � 1 = 6
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 7 � = 1
หน
ังส เน

6. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
70
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint กิจกรรม สร้างเสริม


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธของการบวกและการลบ โดยใชสื่อ ใหนักเรียนเขียนแสดงความสัมพันธของการบวกและการลบจาก
PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 ประโยคสัญลักษณที่กำหนด
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 1) 7 - 5 =
2) 9 - 6 =
3) 8 - 0 =
4) 6 - 1 =

T92
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า
6
9 - 5 = 4 และ 5 + 4 = 9
การ�า�ัวไม่ทราบค่า 6 - 4 = 2 และ 4 + 2 = 6 กระตุ
ตุน้ ความสนใจ
มีความสัมพันธกัน
� � ���ร���ค�ั ญลักษณ์ อยางไร ครูทบทวนเรือ่ ง ความสัมพันธของการบวกและ
การลบวา ผลบวกของสองจำนวนใดๆ เมื่อลบ
ดวยจำนวนใดจำนวนหนึง่ ในสองจำนวนนัน้ จะได
ผลลบเทากับอีกจำนวนหนึ่ง พรอมทั้งยกตัวอยาง
เพิ่มเติม 2-3 ตัวอยาง
นิดมีสม 9 ผล แบงใหนอง
ไปจํานวนหนึ่ง ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา
เหลือสมอยู 5 ผล
แสดงวา นิดแบงสมใหนองกี่ผลคะ 1. ครูเลาสถานการณใหนกั เรียนฟงวา ครูมดี นิ สอ
7 แทง ถาครูแบงใหนักเรียนไปจำนวนหนึ่ง
เหลือดินสออยู 4 แทง แสดงวา ครูแบงดินสอ
ใหนักเรียนกี่แทง (ครูยังไมเฉลยคำตอบให
นักเรียนทราบ)
2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน
เขียนเปนประโยคสัญลักษณได ดังนี้ 9 � = 5 รวมกันศึกษาการหาตัวไมทราบคาในประโยค
จะไดวา คือ จํานวนสมที่แบงใหนอง สัญลักษณ ในหนังสือเรียน หนา 71-72
3. ครูสุมนักเรียนออกมาบอกคำตอบของ
หาคาของ โดยใชความสัมพันธของการบวกและการลบได ดังนี้ สถานการณที่ครูเลาใหฟง โดยครูคอย
ตรวจสอบความถูกตอง
จาก 9 � = 5 และ 5 + 4 = 9 4. ครู ใ ห แ ต ล ะกลุ ม ทำใบงาน เรื่ อ ง การหา
ระหวางทาง
จะไดวา มีคาเปน 4 เราเรียก วาเปน ตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ โดยครู
“ตัวไมทราบคา” สแกน QR Code
ดังนั้น นิดแบงสมใหนอง 4 ผล ในประโยคสัญลักษณ ใบงาน
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ใบงาน เรื่อง การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
คาชี้แจง : : ให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์จากสถานการณ์ต่อไปนี้ พร้อมทั้งแสดงวิธีหาคาตอบ คาชี้แจง : : ให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์จากสถานการณ์ต่อไปนี้ พร้อมทั้งแสดงวิธีหาคาตอบ

1. ครูมีดินสอ 7 แท่ง 1. ครูมีดินสอ 7 แท่ง


เหลือดินสอ 2 แท่ง เหลือดินสอ 2 แท่ง
ให้ดินสอนักเรียนไปจานวนหนึ่ง แสดงว่า ครูให้ดินสอนักเรียนกี่แท่ง ให้ดินสอนักเรียนไปจานวนหนึ่ง แสดงว่า ครูให้ดินสอนักเรียนกี่แท่ง

 ไข ารณ

เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้ ดังนี้ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้ ดังนี้


7 - ▢= 2
ุงแก พิจ
ปร วจ

วิธีคิด
รับ ตร

วิธีคิด
จากประโยคสัญลักษณ์ จะได้ว่า ▢ คือ จานวนดินสอที่ให้นักเรียน จากประโยคสัญลักษณ์ จะได้ว่า ▢ คือ จานวนดินสอที่ให้นักเรียน
รป สง

หาค่าของ ▢ โดยใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบได้ ดังนี้ หาค่าของ ▢ โดยใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบได้ ดังนี้


ีกา าง

จาก 7 - ▢ = 2 จาก 7 - ▢ = 2
จม ะหว

7 - 2 = 5 7 - 2 = 5
7 - 5 = 2 7 - 5 = 2

71
อา นร

จะได้ว่า ▢ มีค่าเท่ากับ 5 จะได้ว่า ▢ มีค่าเท่ากับ 5


หา ี้อยู ใ

ตอบ ครูให้ดินสอนักเรียน แท่ง ตอบ ครูให้ดินสอนักเรียน 5 แท่ง


เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

1 3

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


8 - = 2 + 2 ตัวเลขใน คือขอใด ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหาตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ จากคลิป
1. 2 อักษรเรียนสรุป เรื่อง การหาตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ (1/2)
2. 3 https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11023
3. 4
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 2 + 2 = 4
จะไดวา 8 - = 4
และ 4+4=8
ดังนั้น มีคาเทากับ 4)

T93
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสอน
รู ้
อธิบายความรู

5. ครูสมุ ตัวแทนกลุม ออกมานำเสนอผลงานหนา ตัวอยางที่ 10


ชั้นเรียน โดยครูคอยอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่
ยังมีขอบกพรอง - 5 = 2 มีคาเทาใด
6. ครูอธิบายเพิ่มวา เปนตัวไมทราบคาใน
ประโยคสัญลักษณ พรอมทั้งอธิบายวา เรา หาคาของ โดยใชความสัมพันธของการบวกและการลบได ดังนี้
สามารถใชสญ ั ลักษณอนื่ ๆ แทนตัวไมทราบคา จาก �5= 2
ในประโยคได และ 5 + 2 = 7
ขยายความเข้าใจ
จะไดวา มีคาเปน 7
7. ครู ให นั ก เรี ย นกลุ ม เดิ ม ร ว มกั นทำกิ จ กรรม
ระหวางทาง ตอบ ๗
ฝกทักษะ ในหนังสือเรียน หนา 72 จากนั้น
ครูขออาสาสมัครตัวแทนแตละกลุมออกมา
เฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
กิจกรรมฝึ กทักษะ
ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูวา การหา หาคาของตัวไมทราบคาตอไปนี้
ตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ สามารถ
หาตัวไมทราบคาไดโดยใชความสัมพันธของ
1. �0 = 1 2. 8� =0
การบวกและการลบ 3. 6 � = 2 4. �1= 3
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การหา
ตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ 5. � 5 = 4 6. 7� =5
ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
7. 7 � = 6 8. �2 = 7
ขั�นประเมิน
ตรวจสอบผล
9. �0 = 8 10. 9� =9
1. ครูตรวจใบงาน 11. �5 = 3 12. 8� =4
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
3. ครูตรวจแบบฝกหัด 13. 7 � =2 14. �3 = 4
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม

5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
72
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง

6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการหาตัวไมทราบคาในประโยคสัญลักษณ โดยใชสอื่ - 4 = 3 คาของตัวไมทราบคาตรงกับขอใด
PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 1. 6
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 7
3. 8
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
จาก - 4 = 3 และ 3 + 4 = 7 จะไดวา มีคาเปน 7)

T94
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า
7
ยกตัวอยางสถานการณ
โจทย์ปัญหาการลบที่มี��
ั �ัง
� ในชีว ิตประจำวัน กระตุ
ตุน้ ความสนใจ
ที่เกี่ยวกับการลบ
ไม่เกิน 9 1. ครู ท บทวน เรื่ อ ง การหาตั ว ไม ท ราบค า ใน
ประโยคสัญลักษณ พรอมยกตัวอยางเพิ่มเติม
มีแครรอต 6 หัว กระตายกินไป 1 หัว เหลือแครรอตกี่หัว 2-3 ตัวอยาง
2. ครูเลาสถานการณใหนักเรียนฟง ดังนี้
พี่มีตุกตา 5 ตัว แบงตุกตาใหนองไป 3 ตัว
พี่เหลือตุกตากี่ตัว
การวิเคราะหโจทยปญหา จากนัน้ ครูถามนักเรียนวา เราจะมีวธิ หี าจำนวน
ตุกตาที่พี่เหลืออยูไดอยางไร
สิ่งที่โจทยกําหนด มีแครรอต 6 หัว (แนวตอบ ใชวิธีการลบ)
กระตายกินไป 1 หัว
สิ่งที่โจทยถาม เหลือแครรอตกี่หัว ขั�นสอน

การวางแผนแกโจทยปญหา สํ ารวจค้นหา

มีแครรอต 6 หัว 1. ครูเขียนโจทยปญหาที่เลาใหนักเรียนฟงบน


กระดาน แลวใหนักเรียนชวยกันตอบคำถาม
ดังนี้
กระตายกินไป 1 หัว ? • สิ่งที่โจทยกำหนดคืออะไร
(แนวตอบ พี่มีตุกตา 5 ตัว แบงตุกตาใหนอง
การแกปญหา
ไป 3 ตัว)
���โย�ส����ก�� � � � � • สิ่งที่โจทยถามคืออะไร
วิธีทํา มีแครรอต 6
-
หัว (แนวตอบ พี่เหลือตุกตากี่ตัว)
กระตายกินไป 1 หัว จากนั้นครูขออาสาสมัคร 1 คน ออกมาเขียน
เหลือแครรอต 5 หัว ประโยคสัญลักษณบนกระดาน
ตอบ เหลือแครรอต ๕ หัว 2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 3-4 คน
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ ร ว มกั น ศึ ก ษาขั้ น ตอนการแก โ จทย ป ญ หา
การลบที่ มี ตั ว ตั้ ง ไม เ กิ น 9 ในหนั ง สื อ เรี ย น
5 นอยกวา 6 หนา 73-74
5 เปนคําตอบที่สมเหตุสมผล 3. ครูใหแตละกลุม เขียนแสดงการแกโจทยปญ  หา

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ

ทีค่ รูเขียนบนกระดานลงในกระดาษ A4 จากนัน้


รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

73
อา นร

ครูใหแตละกลุมออกมานำเสนอหนาชั้นเรียน
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป


แมซื้อดินสอมา 9 แทง ใหลูกไป 3 แทง แมเหลือดินสอกี่แทง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 จากคลิปอักษร
จากโจทยปญหาเขียนเปนประโยคสัญลักษณไดอยางไร เรียนสรุป เรื่อง โจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 (1/3)
1. ประโยคสัญลักษณ 9 - 3 = https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11024
2. ประโยคสัญลักษณ 3 - 9 =
3. ประโยคสัญลักษณ 9 + 3 =
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะแมซื้อดินสอมา 9 แทง ใหลูกไป 3 แทง
ตองเหลือดินสอนอยกวาเดิม จึงหาคำตอบโดยใชวธิ กี ารลบ สามารถ
เขียนเปนประโยคสัญลักษณได ดังนี้ 9 - 3 = )

T95
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

4. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ทำใบงาน เรื่ อ ง


ปลายทาง
ตัวอยางที่ 11
โจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 โดย
ครูสแกน QR Code เมื่อทำเสร็จแลวออกมา
แตมมีไขไก 8 ฟอง มีไขเปด 5 ฟอง แตมมีไขไกมากกวาไขเปด
นำเสนอผลงานหน า ชั้ น เรี ย น โดยครู แ ละ กี่ฟอง
นั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย นร ว มกั นตรวจสอบความ การวิเคราะหโจทยปญหา
ถูกตอง
ใบงาน สิ่งที่โจทยกําหนด แตมมีไขไก 8 ฟอง
ใบงาน เรื่อง โจทย์ปัญหาการลบที่มีตัวตั้งไม่เกิน 9 ใบงาน เรื่อง โจทย์ปัญหาการลบที่มีตัวตั้งไม่เกิน 9
เฉลย
มีไขเปด 5 ฟอง
คาชี้แจง : ให้นักเรียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหาที่กาหนด พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผล

1. โตมีส้ม 6 ผล ให้พไี่ ป 3 ผล โตเหลือส้มกี่ผล


สิ่งที่โจทย์กาหนดให้ โตมีส้ม 6 ผล
คาชี้แจง : : : ให้นักเรียนแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหาที่กาหนด พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผล

1. โตมีส้ม 6 ผล ให้พไี่ ป 3 ผล โตเหลือส้มกี่ผล


สิ่งที่โจทย์กาหนดให้ โตมีส้ม 6 ผล
สิ่งที่โจทยถาม แตมมีไขไกมากกวาไขเปดกี่ฟอง
ให้พี่ไป 3 ผล ให้พี่ไป 3 ผล
สิ่งที่โจทย์ถาม โตเหลือส้มกี่ผล สิ่งที่โจทย์ถาม โตเหลือส้มกี่ผล
ประโยคสัญลักษณ์ 6–3=▢ ประโยคสัญลักษณ์ 6–3=▢

การวางแผนแกโจทยปญหา
วางแผนแก้ปัญหา วางแผนแก้ปัญหา

โตมีส้ม 6 ผล โตมีส้ม 6 ผล

ให้พี่ไป 3 ผล โตเหลือส้มกี่ผล ให้พี่ไป 3 ผล โตเหลือส้มกี่ผล

วิธีทา โตมีส้ม 6 ผล วิธีทา โตมีส้ม 6 ผล


-
ให้พี่ไป 3 ผล ให้พี่ไป 3 ผล

8 ฟอง
โตเหลือส้ม 3 ผล โตเหลือส้ม 3 ผล
ตอบ โตเหลือส้ม 3 ผล ตอบ โตเหลือส้ม 3 ผล

ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
3 น้อยกว่า 6 3 น้อยกว่า 6
3 จึงเป็นคาตอบที่สมเหตุสมผล 3 จึงเป็นคาตอบที่สมเหตุสมผล

1 3 แตมมีไขไก
รู ้
อธิบายความรู แตมมีไขเปด ?
5. ครูสุมตัวแทนกลุม 2-3 กลุม ออกมาอธิบาย 5 ฟอง
ขัน้ ตอนการแกโจทยปญ  หา โดยครูคอยอธิบาย การแกปญหา
เพิ่ ม เติ ม ในส ว นที่ ยั ง มี ข อ บกพร อ ง และยก
ตั ว อย า งการวางแผนแก โ จทย ป ญ หาโดยใช ���โย�ส����ก�� � � � �
Bar model วิธีทํา แตมมีไขไก 8
-
ฟอง
ขยายความเข้าใจ
มีไขเปด 5 ฟอง
แตมมีไขไกมากกวาไขเปด 3 ฟอง
6. ครูยกตัวอยางการแกโจทยปญหาการลบให ตอบ แตมมีไขไกมากกวาไขเปด � ฟอง
นักเรียนดูอีก 2-3 ตัวอยาง โดยเปนโจทยที่ใช
การวางแผนแกโจทยปญ  หาโดยใช Bar Model การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
ทั้ง 2 แบบ
3 นอยกวา 8
7. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ
ปลายทาง 3 เปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
ในหนังสือเรียน หนา 75
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

74
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 โดยใชสื่อ มีแกวน้ำอยู 9 ใบ แบงใหเพื่อนไป 4 ใบ เหลือแกวน้ำอยูกี่ใบ
PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 1. 7 ใบ
https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 2. 6 ใบ
3. 5 ใบ
(เฉลยคำตอบ ขอ 3.
มีแกวน้ำอยู 9 ใบ
-
แบงใหเพื่อนไป 4 ใบ
ดังนั้น เหลือแกวน้ำอยู 5 ใบ)

T96
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูวา การแก
กิจกรรมฝึ กทักษะ โจทยปญหาการลบมี 4 ขั้นตอน ไดแก
1. การวิเคราะหโจทยปญหา
1 เขียนประโยคสัญลักษณจากโจทยปญหาที่กําหนด 2. การวางแผนแกโจทยปญหา
3. การแกปญหา
1. มีสมอยูในจาน 8 ผล มีชมพูอยูในจาน 1 ผล 4. การตรวจสอบความสมเหตุสมผล
มีชมพูนอยกวาสมกี่ผล ของคำตอบ
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง โจทยปญหา
การลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 ในแบบฝกหัด
2. มีตั�กแตนอยูในสนาม � ตัว กระ�ดดออกไปจากสนาม 2 ตัว คณิตศาสตร เปนการบาน
เหลือตั�กแตนในสนามกี่ตัว ขั�นประเมิน
ตรวจสอบผล
3. มีนกอยูในกรง 5 ตัว บินออกจากกรงไป 3 ตัว 1. ครูตรวจใบงาน
เหลือนกในกรงกี่ตัว 2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. มีเด็กผูหญิงและเด็กผูชายในสนามเด็กเลน 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
9 คน เปนเด็กผูหญิง 5 คน ที่เหลือเปนเด็กผูชายกี่คน 5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
2 แสดงวิธีแกโจทยปญหาที่กําหนด พรอมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผล 7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด
1. สุดามีแมว 2 ตัว ขวัญมีแมว 4 ตัว ขวัญมีแมวมากกวาสุดากี่ตัว
2. ยายมีขนม 9 หอ นําไปทําบุญ 5 หอ ยายเหลือขนมกี่หอ
3. เคนมีหนังสือ 6 เลม บริจาคไป 3 เลม เคนเหลือหนังสือกี่เลม
4. �นามีบัตร�าพ 9 ใบ แจกใหเพื่อน � ไป 4 ใบ �นาเหลือบัตร�าพ
กี่ใบ
5. นุช�ื�อแอปเปลและ�รั่งรวม � ผล เปน�รั่ง 3 ผล ที่เหลือเปน
แอปเปลกี่ผล

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
75
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
แหมมเลี้ยงสุนัขและแมวไวที่บานทั้งหมด 8 ตัว เปนสุนัข 3 ตัว
ที่เหลือเปนแมวกี่ตัว
1. 6 ตัว
2. 5 ตัว
3. 4 ตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 2.
แหมมเลี้ยงสัตวทั้งหมด 8 ตัว
-
เปนสุนัข 3 ตัว
ดังนั้น เปนแมว 5 ตัว)

T97
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า

8
มีดอกมะลิ 9 ดอก ดอกบัว 4 ดอก
กระตุ
ตุน้ ความสนใจ การสร้างโจทย์ปัญหาการลบ มีดอกบัวนอยกวาดอกมะลิกี่ดอก
สิ่งที่ โจทยถามคืออะไร
1. ครูทบทวนขั้นตอนการแกโจทยปญหาการลบ ที่มี��
ั �ัง
� ไม่เกิน 9
พรอมทั้งทบทวนการวางแผนแกโจทยปญหา
โดยใช Bar Model จากรูป มีเด็กยืนตอแถว 7 คน
2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับโจทย
ปญหาวามีลักษณะอยางไร จนไดขอสรุปวา
มีเด็กไดรับของขวัญ 1 คน
โจทยปญหาประกอบดวยสวนที่โจทยกำหนด สรางโจทยปญหาการลบได ดังนี้
สวนที่โจทยถาม และใชคำที่แสดงถึงการลบ
โจทยปญหา
3. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจำนวน 5 และ 1 บน
กระดาน จากนัน้ ครูถามวา สามารถสรางโจทย มีเด็กยืนตอแถวรับของขวัญทั้งหมด 8 คน ไดรับของขวัญ
ปญหาการลบจากจำนวนนี้ไดหรือไม จงยก ไปแลว 1 คน เหลือเด็กที่ยังไมไดรับของขวัญกี่คน
ตัวอยาง
การวางแผนแกโจทยปญหา
(แนวตอบ ได เชน มีแกวน้ำทั้งหมด 5 ใบ
ตกลงพื้นแตกไป 1 ใบ จะเหลือแกวน้ำกี่ใบ) เด็กทั้งหมด 8 คน

ไดรับของขวัญ 1 คน ?
การแกปญหา
��������������� � � � �
วิธีทํา มีเด็กยืนตอแถวรับของขวัญทั้งหมด 8 - คน
ไดรับของขวัญไปแลว 1 คน
เหลือเด็กที่ยังไมไดรับของขวัญ 7 คน
ตอบ เหลือเด็กที่ยังไมไดรับของขวัญ ๗ คน
เกร็ดแนะครู
รู
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การสรางโจทยปญหา
ควรเนนการสรางโจทยปญหาเชิงบวกที่สงเสริม 7 นอยกวา 8
คุณธรรม จริยธรรม และเหมาะสมกับสถานการณ 7 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
หน
ังส เน

ในชี วิ ต จริ ง รวมทั้ ง มี ค วามถู ก ต อ งตามหลั ก


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

คณิตศาสตร เชน นิ่มมีเงิน 9 บาท ทำบุญไป


ะหว รปร

76
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

4 บาท นิ่มเหลือเงินกี่บาท
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเร�ยนสัรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรางโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 จาก ยายทำขนมชั้น 8 ถาด ขายไปได 6 ถาด ยายเหลือขนมชั้นกี่ถาด
คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การสรางโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 (1/3) 1. 2 ถาด
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11025 2. 3 ถาด
3. 4 ถาด
(เฉลยคำตอบ ขอ 1.
ยายทำขนมชั้น 8 ถาด
-
ขายไปได 6 ถาด
ดังนั้น ยายเหลือขนมชั้น 2 ถาด)

T98
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

ตัวอยางที่ 12 1. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจำนวน 5 และ 7 บน


กระดาน จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมาเขียน
9 6 ประโยคสัญลักษณแสดงการลบบนกระดาน
(แนวตอบ 7 - 5 =  )
2. ครู ให นั ก เรี ย นสร า งโจทย ป ญ หาการลบจาก
จากจํานวนที่กําหนดใหสรางโจทยปญหาการลบได ดังนี้ ประโยคสัญลักษณบนกระดาน พรอมทั้งหา
คำตอบ
โจทยปญหา
3. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน
พอปลูกตนกลวย 9 ตน ปลูกตนมะมวง 6 ตน พอปลูกตนมะมวง แลวใหตัวแทนแตละกลุมออกมาจับฉลากเพื่อ
นอยกวาตนกลวยกี่ตน เลื อ กบั ต รประโยคสั ญ ลั ก ษณ แ สดงการลบ
จากนั้ น ให แต ล ะกลุ ม สร า งโจทย ป ญ หาการ
การวางแผนแกโจทยปญหา ลบที่เกี่ยวของในชีวิตประจำวันตามประโยค
9 ตน สัญลักษณที่จับไดลงในกระดาษ A4 เมื่อทำ
พอปลูกตนกลวย เสร็จแลวแตละกลุม สงตัวแทนออกมานำเสนอ
? ผลงานหนาชัน้ เรียน และใหกลุม ทีเ่ หลือชวยกัน
พอปลูกตนมะมวง ตรวจสอบความถูกตอง
6 ตน
การแกปญหา
��������������� � � � �
วิธีทํา พอปลูกตนกลวย 9 ตน
-
ปลูกตนมะมวง 6 ตน
พอปลูกตนมะมวงนอยกวาตนกลวย 3 ตน
ตอบ พอปลูกตนมะมวงนอยกวาตนกลวย � ตน
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
3 นอยกวา 9
3 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

77
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


กองมีสุนัข 5 ตัว แตงมีสุนัข 3 ตัว แตงมีสุนัขนอยกวากองกี่ตัว อธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการสรางโจทยปญ
 หาการลบทีม่ ตี วั ตัง้ ไมเกิน 9 โดยใช
1. 4 ตัว สื่อ PowerPoint เรื่อง การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 9
2. 3 ตัว https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
3. 2 ตัว
(เฉลยคำตอบ ขอ 3.
กองมีสุนัข 5 ตัว
-
แตงมีสุนัข 3 ตัว
ดังนั้น แตงมีสุนัขนอยกวากอง 2 ตัว)

T99
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
อธิบายความรู

4. ครู ให แต ล ะกลุ ม ออกมาอธิ บ ายวิ ธีก ารสร า ง กิจกรรมฝึ กทักษะ
โจทยปญ  หาของกลุม ตนเอง โดยครูคอยอธิบาย
เพิ่มเติมในสวนที่ยังมีขอบกพรอง 1 สรางโจทยปญหาการลบจากร�ป�าพที่กําหนด�หจํานวน 2 �อ
ขยายความเข้าใจ พรอมทั้งแสดงวิธีหาคําตอบ
5. ครูยกตัวอยางเกี่ยวกับการสรางโจทยปญหา
การลบทีม่ ตี วั ตัง้ ไมเกิน 9 เพิม่ เติม 2-3 ตัวอยาง
6. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ
ในหนังสือเรียน หนา 78 จากนัน้ ครูสมุ นักเรียน
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน

2 สรางโจทยปญหาการลบจากสิ่งที่กําหนด พรอมทั้งแสดงวิธีหาคําตอบ
1. 2.

8-2= 9-3=

เกร็ดแนะครู
รู
ครูอาจจัดกิจกรรมเพิ่มเติม โดยสุมนักเรียน
3. 7 4 4. 5 1
หน
ังส เน

ออกมาวาดภาพสถานการณ จากนัน้ ใหนกั เรียน


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

ทุ ก คนช ว ยกั น สร า งโจทย ป ญ หาและประโยค


ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
78
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

สัญลักษณ แลวสุม ตัวแทนออกมาแกโจทยปญ  หา


พิจ
าร

กิจกรรม 21s� Cen���y S���l�


1. ครูใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3-4 คน และมอบหมายใหนกั เรียน
คิดสถานการณที่แสดงถึงการลบในชีวิตประจำวัน
2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผน และลงมือทำงานที่ไดรับ
มอบหมาย
3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมออกมานำเสนอผลงาน โดยใหนักเรียน
จำลองสถานการณตามสถานการณที่กลุมตนเองคิด และแสดง
วิธีการหาผลลบ โดยวิธีการตางๆ 1 วิธี

T100
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ
เชื่อมโยง สู่ชีวิตประจําวัน 7. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมเชื่ อ มโยงสู ชี วิ ต
คุณแมไปซื้อของที่รานคาแหงหนึ่ง โดยมี ประจำวัน ในหนังสือเรียน หนา 79 จากนั้น
ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมานำเสนอคำตอบหน า
รายการสินคาที่จะตองซื้อ ดังนี้ ชัน้ เรียน โดยครูและนักเรียนในชัน้ เรียนรวมกัน
นมกลอง 2 กลอง ตรวจสอบความถูกตอง
นํ้าผลไม 3 กลอง 8. ครู ให นั ก เรี ย นจั บ คู แ ล ว ร ว มกั นทำกิ จ กรรม
กะทิ 1 กลอง Active Learning ในหนังสือเรียน หนา 79 หรือ
ใบกิจกรรม เรื่อง วางแผนหอกลองของขวัญ
ถาคุณแมตองการซื้อนํ้าผลไมเพิ่มเพื่อใหไดสินคารวมทั้งหมด 9 กลอง ดังนี้
คุณแมตองซื้อนํ้าผลไมเพิ่มอีกกี่กลอง 1) นักเรียนจะเลือกซื้อกระดาษหอของขวัญ
เพื่อใชหอของขวัญใหเพื่อนอยางไร พรอม
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ก รร ม บอกเหตุผล
กจ

Active L earning
ความสามารถดาน การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา 2) แตละคูร ว มกันคำนวณหาจำนวนเงินทีใ่ ชซอื้
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี
กระดาษหอของขวัญและจำนวนเงินทีเ่ หลือ
ใหนักเรียนจับคู��ก�าสถานการ���ี�ก�าหนดให�จากนั�น���บั��ก�จกรรม����น�� ลงในสมุด
ถานักเรียนมีเงิน 9 บาท ตองการซื้อกระดาษหอของขวัญเพื่อมอบใหกับ 3) แตละคูอ อกมานำเสนอผลงานหนาชัน้ เรียน
เพื่อนผูหญิง 2 คน และเพื่อนผูชาย 2 คน โดยมีเงื่อนไข ดังน�้ หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยของกิจกรรม
� กลองของขวัญที่มอบใหเพื่อนแตละคนตองมีขนาดเทากัน Active Learning หรือเฉลยใบกิจกรรมได
� กระดาษสีชมพู 2 แผน โดยสแกน QR Code
หอกลองของขวัญได 1 กลองพอดี ใบกิจกรรม Active Learning
� กระดาษสี��า 1 แผน ใบกิจกรรม เรื่อง วางแผนห่อกล่องของขวัญ
คาชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ศึกษาสถานการณ์ที่กาหนดให้ จากนั้นปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้
ใบกิจกรรม เรื่อง วางแผนห่อกล่องของขวัญ
คาชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ศึกษาสถานการณ์ที่กาหนดให้ จากนั้นปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้

หอกลองของขวัญได 1 กลองพอดี
ถ้านักเรียนต้องการซื้อกระดาษห่อของขวัญ เพื่อมอบให้กับเพื่อนผู้หญิง 2 คน และเพื่อนผู้ชาย 2 คน ถ้านักเรียนต้องการซื้อกระดาษห่อของขวัญ เพื่อมอบให้กับเพื่อนผู้หญิง 2 คน และเพื่อนผู้ชาย 2 คน
โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- กล่องของขวัญของแต่ละคนมีขนาดเท่ากัน - กล่องของขวัญของแต่ละคนมีขนาดเท่ากัน
- กระดาษสีชมพู 2 แผ่น ห่อได้ 1 กล่องพอดี - กระดาษสีชมพู 2 แผ่น ห่อได้ 1 กล่องพอดี
- กระดาษสีฟ้า 1 แผ่น ห่อได้ 1 กล่องพอดี - กระดาษสีฟ้า 1 แผ่น ห่อได้ 1 กล่องพอดี
- กระดาษห่อของขวัญทั้ง 2 สี ราคาแผ่นละ 1 บาท - กระดาษห่อของขวัญทั้ง 2 สี ราคาแผ่นละ 1 บาท

� กระดาษหอของขวัญทั้ง 2 สี ราคาแผนละ 1 บาท


1. ถ้านักเรียนมีเงิน 9 บาท จะเลือกซื้อกระดาษห่อของขวัญอย่างไร พร้อมบอกเหตุผล 1. ถ้านักเรียนมีเงิน 9 บาท จะเลือกซื้อกระดาษห่อของขวัญอย่างไร พร้อมบอกเหตุผล
จะซื้อกระดาษสีฟ้า 4 แผ่น เพราะใช้กระดาษน้อยกว่าสีชมพู ทาให้ประหยัดเงินมากกว่า จะซื้อกระดาษสีฟ้า 4 แผ่น เพราะใช้กระดาษน้อยกว่าสีชมพู ทาให้ประหยัดเงินมากกว่า

2. แสดงวิธีหาจานวนเงินทั้งหมดที่ใช้ซื้อกระดาษห่อของขวัญ 2. แสดงวิธีหาจานวนเงินทั้งหมดที่ใช้ซื้อกระดาษห่อของขวัญ

กล่องที่ 1 กล่องที่ 2 กล่องที่ 3 กล่องที่ 4

1. นักเรียนจะเลือกซือ้ กระดาษหอของขวัญเพือ่ ใชหอ ของขวัญใหเพือ่ นอยางไร 1

ดังนั้น ซื้อกระดาษห่อของขวัญทั้งหมด
2

บาท
3 4

3. แสดงวิธีหาจานวนเงินที่เหลือหลังจากซื้อกระดาษห่อของขวัญ แล้วออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
9–4=▢
1

ดังนั้น ซื้อกระดาษห่อของขวัญทั้งหมด
2

4 บาท
3 4

3. แสดงวิธีหาจานวนเงินที่เหลือหลังจากซื้อกระดาษห่อของขวัญ แล้วออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
9–4=▢

พรอมบอกเหตุผล
ประโยคสัญลักษณ์ ประโยคสัญลักษณ์
9

4 5
ดังนั้น เหลือเงิน บาท ดังนั้น เหลือเงิน 5 บาท

2. แตละคูรวมกันคํานวณหาจํานวนเงินที่ใชซื้อกระดาษหอของขวัญและ 1 2

จํานวนเงินที่เหลือลงในสมุด

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ

3. แตละคูออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

79
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ กิจกรรมเช�่อมโยงสูชีว�ตประจำาวัน หน้า 79


ข้อสอบเน้น การคิด
ตามรายการสินคาที่คุณแมจะตองซื้อ ไดแก นมกลอง 2 กลอง น้ำผลไม
3 กลอง และกะทิ 1 กลอง
รวมมีสินคาทั้งหมด 6 กลอง
ถาคุณแมตองการซื้อน้ำผลไมเพิ่มเพื่อใหไดสินคารวมทั้งหมด 9 กลอง
โจทยปญหาในขอใดตอไปนี้ตรงกับภาพที่กำหนดให คุณแมตองซื้อน้ำผลไมเพิ่มอีก 9 - 6 = 3 กลอง
1. นิวมีอมยิ้ม 5 อัน แบงใหเพื่อนไป 2 อัน นิวจะเหลืออมยิ้มกี่อัน
2. นิ ด มี อ มยิ้ ม 3 อั น เพื่ อ นให อี ก 2 อั น นิ ด มี อ มยิ้ ม กี่ อั น
3. นิกมีอมยิ้ม 7 อัน ทำหลนไป 2 อัน นิกเหลืออมยิ้มกี่อัน
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะจากภาพมีอมยิ้ม 5 อัน ถูกกากบาท
ออกไป 2 อัน เหลืออมยิ้ม 3 อัน จะสามารถสรางโจทยปญหาไดเปน
นิวมีอมยิ้ม 5 อัน แบงใหเพื่อนไป 2 อัน นิวจะเหลืออมยิ้มกี่อัน)

T101
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครูใหนักเรียนทบทวนความรูทั้งหมดที่เรียน
มาในหนวยนี้ โดยศึกษาจากสรุปสาระสำคัญ
ประจำหนวยการเรียนรูที่ 3 ในหนังสือเรียน สรุป สาระสําคัญ ประจําหน่วยการเรียนรู้ท 3

หนา 80 ความหมายของการลบ เหลือ


2. ครูใหนกั เรียนตรวจสอบความรูค วามเขาใจดวย การลบเปƒนการนําจํานวนหน˜ง
�ระ�ยค เขียนเปƒนประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบได้
ตนเอง โดยสแกน QR Code ตรวจสอบ หักออกจากอีกจํานวนหน˜ง
5 - 2 = 3 อ่านว่า ห้าลบด้วยสองเท่ากับสาม
แล้วหาจํานวนทเหลือ สั�ลัก��
ตนเอง ในหนังสือเรียน หนา 80 ถาผลประเมิน แสดงการลบ
ตัวตŒง ตัวลบ ผลลบ

ของนักเรียนต่ำกวาระดับพอใช ครูควรอธิบาย การลบ 5 - 2 = 3

และยกตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม ในหั ว ข อ นั้ น แล ว


จำนวนสองจำนวน เคร‘องหมาย ลบ ใช้เขียน
ค’นระหว่างจํานวน
เคร‘องหมาย เท่ากับ
ให นั ก เรี ย นกลั บ ไปทบทวนเนื้ อ หาและทำ ใช้แสดงการเท่ากัน

ที่มีตัวตั�งไม�ก�น��
สองจํานวนทต้องการ
ในประโยคสัญลักษณ์
แบบฝกหัดอีกครั้งตามหัวขอที่กำหนด นํามาหักออกจากกัน

3. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
การลบด�วย��นย การลบจำนวนสองจำนวนที่ตัวตั�งไม�ก�น��

ขั�นประเมิน • การลบจํานวนโดยการเอาออกหรือหยิบออก

ตรวจสอบผล 5-0=5

การหาตัวไมทราบคา
1. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรียน • การลบจํานวนโดยการนับย้อนกลับ
�น�ระ�ยคสั�ลัก��
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ 5-2=3 2 1
1. วิเคราะห์โจทย์ว่าตัวไม่ทราบค่าอยู่ส่วนใด
3. ครูตรวจแบบฝกหัด ของประโยคสัญลักษณ์ 1 2 3 4 5

4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 2. แสดงวิธีหาคําตอบ • การลบจํานวนโดยการนับต่อ


5-2=3
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม �จทย��
� หาการลบทีต
่ ว
ั ตัง� ไม�ก�น�� 1 2 3

6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 1. การวิเคราะห์ 2. การวางแผน 1 2 3 4 5

7. ครูประเมินความสามารถในการสื่อสารและ โจทย์ป—ญหา แก้โจทย์ป—ญหา ส่วนรวม


• การลบจํานวนโดยใช้ 5
การคิด จากกิจกรรม Active Learning หรือ ความสัมพันธ์ของจํานวน
ใบกิจกรรม เรื่อง วางแผนหอกลองของขวัญ 4. การตรวจสอบ 3. แบบส่วนย่อยและส่วนรวม 2 3
ความสมเหตุสมผล การแก้ป—ญหา ส่วนย่อย ส่วนย่อย
โดยใช เ กณฑ ก ารประเมิ นจากแบบประเมิ น ของคําตอบ
• การลบจํานวนตามแนวนอน • การลบจํานวน
สมรรถนะสำคัญของผูเรียน 8 - 3 = 5 ตามแนวตŒง
การสร�าง�จทย���หาการลบ
7 ตัวตŒง
แบบประเมิน -
1. พิจารณาส–งทโจทย์กําหนดให้ ตัวตŒง ตัวลบ ผลลบ 4 ตัวลบ
แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ 2. คิดคําสําคัญทแสดงการลบ 3 ผลลบ
เช่น เหลืออยู่ มากกว่า น้อยกว่า
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง

ความสัมพันธของการบวกและการลบ
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ใส่ตัวเลขลงในช่องระดับคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด
สมรรถนะที่ 1 เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ ความสามารถในการสื่อสาร ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ
ตัวชี้วัดที่ 1 จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน

3. สร้างโจทย์ป—ญหาการลบ
สมรรถนะที่ 1 ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่
ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก กาหนดได้ กาหนดได้อย่าง กาหนดได้ และ กาหนดไม่ได้
สมรรถนะที่ 1 ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
และทัศนะของตนเองด้วยการ อย่างถูกต้อง ถูกต้องครบถ้วน มีข้อบกพร่องใน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.
พูดและการเขียน ครบถ้วน มีข้อบกพร่อง การใช้ภาษา
สมรรถนะที่ 2 ควำมสำมำรถในกำรคิด พฤติกรรมบ่งชี้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน
มีข้อบกพร่อง
หน

ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3. 3. เขียนถ่ายทอดความรู้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน และการเขียนคา

3+2=5 2+3=5
หมำยเหตุ : หากนักเรียนมีระดับคุณภาพไม่ถึงระดับดี (2) ในแต่ละสมรรถนะสาคัญ ครูควรพัฒนานักเรียนให้ถึงเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนมี และการเขียนคา ตั้งแต่ 6 แห่งขึ้นไป
ังส เน

ความเข้าใจจากสารที่อา่ น วรรคตอนและการ
ความพร้อมก่อนทากิจกรรมต่อไป ตั้งแต่ 3 แห่ง
ฟัง หรือดู ตามที่กาหนดได้ เขียนคา
ือเล ื้อห

เกณฑ์กำรประเมิน ไม่เกิน 2 แห่ง แต่ไม่เกิน 5 แห่ง


มน าอา

ระดับคุณภำพ สมรรถนะที่ 2 ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด


สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ
ี้อย จม

ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง


ตัวชี้วัดที่ 1 และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
ู ในร ีกา

คิดพื้นฐาน (การคิดวิเคราะห์) ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล


สมรรถนะที่ 1 พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้

5-3=2 5-2=3
พฤติกรรมบ่งชี้ ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น
ความสามารถในการสื่อสาร
ะหว รปร

ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก 3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน
ตัวชี้วัดที่ 1 สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ

80
และความคิดรวบยอดของ ได้ถูกต้องและ ได้ถูกต้อง ได้ถูกต้องเป็น ไม่ได้

ตรวจสอบตนเอง
าง ับป

ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนด ข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นใน ครบถ้วน แต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและ
ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง ไม่ชัดเจน ไม่ได้
สง รุง

บริบทที่เป็นสิ่งใกล้ตวั ไม่ครบถ้วน
และทัศนะของตนเองด้วยการ ครบถ้วน ครบถ้วน ชัดเจน
ตร แก

พูดและการเขียน ชัดเจน และมัน่ ใจ


วจ  ไข

พฤติกรรมบ่งชี้
1. พูดถ่ายทอดความรู้ ความ
พิจ

เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง
าร

หรือดู ตามที่กาหนดได้

1 2

กิจกรรม สร้างเสริม
ครูวาดภาพสถานการณตา งๆ บนกระดานอยางนอย 5 สถานการณ
จากนั้นใหนักเรียนสรางโจทยปญหาการลบที่มีตัวตั้งไมเกิน 9 และ
เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบจากภาพทีค่ รูวาดลงสมุด เสร็จแลว
ครูสุมตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน

T102
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้หน่ วยที่ 4

แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 1 1. อธิิบายวิธิีการอ่านต้ัวเลข สมรรถนะที่่� 1 การจำัด้ - ต้รวจำแบบทด้สัอบก่อนเรียน - แบบทด้สัอบ
จำำานวนนับ ฮินดู้อารบิก ต้ัวเลขไทย ความสัามารถูในการสั่�อสัาร การเรียนรู้ - ต้รวจำกิจำกรรมฝึึกทักษะ ก่อนเรียน
11 ถึึง 20 และต้ัวหนังสั่อแสัด้ง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นพับ - ต้รวจำแบบฝึึกหัด้ - หนังสั่อเรียน
จำำานวนนับ 11 ถูึง 20 ใช้้ภาษาถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ (Discovery - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม รายวิช้าพั่�นฐาน
2 ได้้ถููกต้้อง (K, A)
2. อธิิบายวิธิีการเขียนต้ัวเลข
ความคิด้ ความรู้สัึก และทัศนะของต้นเอง Method) การทำางานรายบุคคล
- สัังเกต้พัฤต้ิกรรม
คณิต้ศาสัต้ร์
ป.1 เล่ม 1
ชั่วโมง ด้้วยการพัูด้และการเขียน
ฮินดู้อารบิก ต้ัวเลขไทย พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� การทำางานกลุ่ม - แบบฝึึกหัด้
และต้ัวหนังสั่อแสัด้ง 1. พัูด้ถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ - ประเมินคุณลักษณะ รายวิช้าพั่�นฐาน
จำำานวนนับ 11 ถูึง 20 จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ อันพัึงประสังค์ คณิต้ศาสัต้ร์
ได้้ถููกต้้อง (K, A) ต้ามที�กำาหนด้ได้้ - สัังเกต้ความสัามารถู ป.1 เล่ม 1
3. บอกปริมาณของสัิ�งต้่าง ๆ 3. เขียนถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ ในการสั่�อสัาร - บัต้รต้ัวเลข
โด้ยใช้้จำำานวนได้้ถููกต้้อง จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ ฮินดู้อารบิก
(S, A) ต้ามที�กำาหนด้ได้้ บัต้รต้ัวเลขไทย
4. เขียนและอ่านต้ัวเลข และบัต้รต้ัวหนังสั่อ
ฮินดู้อารบิก ต้ัวเลขไทย - บัต้รภาพั
และต้ัวหนังสั่อแสัด้ง - คลิปอักษร
จำำานวนนับ 11 ถูึง 20 ได้้ เรียนสัรุป เร่�อง
ถููกต้้อง (S, A) การบอก การอ่าน
และการเขียน
ต้ัวเลขแสัด้ง
จำำานวนนับ 11
ถูึง 20
- PowerPoint เร่�อง
จำำานวนนับ 11
ถูึง 20

T103
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 2 1. อธิิบายความสััมพัันธ์์ สมรรถนะที่่� 1 รููปแบบ - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - หนัังสืือเรีียน
การแสดง ของจำำ�นวนแบบส่่วนย่่อย ความสามารถในการสื่่�อสาร การจััด การแสดงจำำ�นวนนัับ 11 ถึึง รายวิิชาพื้้�นฐาน
จำำ�นวนนัับ และส่่วนรวมได้้ถููกต้้อง ตััวชี้้�วััดที่่� 1 การเรีียน 20 ในรููปความสััมพัันธ์์ของ คณิิตศาสตร์์
11 ถึึง 20 (K, A) ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ การสอน จำำ�นวนแบบส่่วนย่่อยและ ป.1 เล่่ม 1
ในรููปความ 2. เขีียนแสดงจำำ�นวนนัับ ความคิิด ความรู้้�สึึก และทััศนะของตนเอง แบบสืืบสอบ ส่่วนรวม - แบบฝึึกหััด
สััมพัันธ์์ของ 11 ถึึง 20 ในรููปความ ด้้วยการพููดและการเขีียน ความรู้้� - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ รายวิิชาพื้้�นฐาน
สััมพัันธ์์ของจำำ�นวนแบบ พฤติิกรรมบ่่งชี้้� (5Es - ตรวจแบบฝึึกหััด คณิิตศาสตร์์
จำำ�นวน
ส่่วนย่่อยและส่่วนรวมได้้ 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ Instructional - สัังเกตพฤติิกรรม ป.1 เล่่ม 1
แบบส่่วนย่่อย
ถููกต้้อง (S, A) จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู Model) การทำำ�งานรายบุุคคล - ใบงาน เรื่่�อง การ
และส่่วนรวม - สัังเกตพฤติิกรรม แสดงจำำ�นวนนัับ
ตามที่่�กำำ�หนดได้้
การทำำ�งานกลุ่่�ม 11 ถึึง 20 ในรููป
2 3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - ประเมิินคุุณลัักษณะ ความสััมพัันธ์์
ชั่วโมง อัันพึึงประสงค์์ ของจำำ�นวน
ตามที่่�กำำ�หนดได้้
- สัังเกตความสามารถ แบบส่่วนย่่อย
ในการสื่่�อสาร และส่่วนรวม
- บััตรภาพ
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การแสดจำำ�นวนนัับ
11 ถึึง 20 ในรููป
ความสััมพัันธ์์
ของจำำ�นวน
แบบส่่วนย่่อย
และส่่วนรวม (2/3)
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 11
ถึึง 20

T104
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่่� 3 1. อธิิบายความหมายของ สมรรถนะที่่� 1 การจััด - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ - หนัังสืือเรีียน
หลัักและค่่า หลัักและค่่าของเลขโดด ความสามารถในการสื่่�อสาร การเรีียนรู้้� - ตรวจแบบฝึึกหััด รายวิิชาพื้้�นฐาน
ของเลขโดด ในหลัักหน่่วยและหลัักสิิบ ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ - สัังเกตพฤติิกรรม คณิิตศาสตร์์
ในหลัักหน่่วย ได้้ถููกต้้อง (K, A) ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ (Discovery การทำำ�งานรายบุุคคล ป.1 เล่่ม 1
และหลัักสิิบ 2. บ
 อกค่่ า ของเลขโดด ความคิิด ความรู้้�สึกึ และทััศนะของตนเอง Method) - สัังเกตพฤติิกรรม - แบบฝึึกหััด
ในหลัักหน่่วยและหลัักสิิบ ด้้วยการพููดและการเขีียน การทำำ�งานกลุ่่�ม รายวิิชาพื้้�นฐาน
2 ได้้ถููกต้้อง (S, A) พฤติิกรรมบ่่งชี้้� - ประเมิินคุุณลัักษณะ
อัันพึึงประสงค์์
คณิิตศาสตร์์
ป.1 เล่่ม 1
ชั่วโมง 1. พููดถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู - สัังเกตความสามารถ - คลิิปอัักษร
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ ในการสื่่�อสาร เรีียนสรุุป เรื่่�อง
หลัักและค่่า
ของเลขโดด
ในหลัักหน่่วย
และหลัักสิิบ
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 11
ถึึง 20
แผนฯ ที่่� 4 1. อธิิบายวิิธีีการเขีียน สมรรถนะที่่� 1 การจััด - ตรวจใบงาน เรื่่�อง - หนัังสืือเรีียน
การเขีียน ตััวเลขแสดงจำำ�นวนในรููป ความสามารถในการสื่่�อสาร การเรีียนรู้้� การเขีียนจำำ�นวนนัับ 11 รายวิิชาพื้้�นฐาน
จำำ�นวนนัับ กระจายได้้ ถู ก
ู ต้้ อ ง (K, A) ตััวชี้้�วััดที่่� 1 แบบค้้นพบ ถึึง 20 ในรููปกระจาย คณิิตศาสตร์์
11 ถึึง 20 2. เ
 ขีี ย นแสดงจำำ � นวนนัั บ ใช้้ภาษาถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ (Discovery - ตรวจกิิจกรรมฝึึกทัักษะ ป.1 เล่่ม 1
ในรููปกระจาย 11 ถึึ ง 20 ในรูู ป กระจาย ความคิิด ความรู้้�สึกึ และทััศนะของตนเอง Method) - ตรวจแบบฝึึกหััด - แบบฝึึกหััด
ได้้ถููกต้้อง (S, A) ด้้วยการพููดและการเขีียน - สัังเกตพฤติิกรรม รายวิิชาพื้้�นฐาน
2 พฤติิกรรมบ่่งชี้้� การทำำ�งานรายบุุคคล
- สัังเกตพฤติิกรรม
คณิิตศาสตร์์
ป.1 เล่่ม 1
ชั่วโมง 3. เขีียนถ่่ายทอดความรู้้� ความเข้้าใจ
จากสารที่่�อ่่าน ฟััง หรืือดูู การทำำ�งานกลุ่่�ม - ใบงาน เรื่่�อง
ตามที่่�กำำ�หนดได้้ - ประเมิินคุุณลัักษณะ การเขีียน
อัันพึึงประสงค์์ จำำ�นวนนัับ 11
- สัังเกตความสามารถ ถึึง 20 ในรููป
ในการสื่่�อสาร กระจาย
- คลิิปอัักษร
เรีียนสรุุป เรื่่�อง
การเขีียน
จำำ�นวนนัับ 11
ถึึง 20 ในรููป
กระจาย (1/2)
- PowerPoint เรื่่�อง
จำำ�นวนนัับ 11
ถึึง 20

T105
แผนการจัด กระบวนการ
จุดประสงค์ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้ เรียนรู้
แผนฯ ที่ 5 1. อธิิบายวิธิีการ สมรรถนะที่่� 2 การจำัด้ - ต้รวจำใบงาน เร่�อง - หนังสั่อเรียน
การ เปรียบเทียบจำำานวนนับ ความสัามารถูในการคิด้ การเรียนรู้ การเปรียบเทียบจำำานวน รายวิช้าพั่�นฐาน
เปรีย่บเทีย่บ 11 ถูึง 20 ว่ามีค่าเท่ากัน ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นพับ - ต้รวจำกิจำกรรมฝึึกทักษะ คณิต้ศาสัต้ร์
จำำานวน ไม่เท่ากัน มากกว่า คิด้พั่�นฐาน (การคิด้วิเคราะห์) (Discovery - ต้รวจำแบบฝึึกหัด้ ป.1 เล่ม 1
หร่อน้อยกว่า โด้ยใช้้ พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� Method) - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม - แบบฝึึกหัด้
2 เคร่�องหมาย = > <
ได้้ถููกต้้อง (K, A)
3. ระบุรายละเอียด้ คุณลักษณะ และ การทำางานรายบุคคล
- สัังเกต้พัฤต้ิกรรม
รายวิช้าพั่�นฐาน
คณิต้ศาสัต้ร์
ชั่วโมง ความคิด้รวบยอด้ของข้อมูลต้่าง ๆ
2. เปรียบเทียบจำำานวนนับ ที�พับเห็นในบริบทที�เปนสัิ�งใกล้ต้ัว การทำางานกลุ่ม ป.1 เล่ม 1
11 ถูึง 20 ว่ามีค่าเท่ากัน - ประเมินคุณลักษณะ - ใบงาน เร่�อง
ไม่เท่ากัน มากกว่า อันพัึงประสังค์ การเปรียบเทียบ
หร่อน้อยกว่า โด้ยใช้้ - สัังเกต้ความสัามารถู จำำานวน
เคร่�องหมาย = > < ในการคิด้ - คลิปอักษร
ได้้ถููกต้้อง (S, A) เรียนสัรุป เร่�อง
การเปรียบเทียบ
จำำานวน (1/2)
- PowerPoint เร่�อง
จำำานวนนับ 11
ถูึง 20
แผนฯ ที่ 6 เรียงลำาด้ับจำำานวนนับ 11 1) สมรรถนะที่่� 1 การจำัด้ - ต้รวจำแบบทด้สัอบหลังเรียน - หนังสั่อเรียน
การเรีย่ง ถูึ ง 20 จำากน้ อ ยไปมากและ ความสัามารถูในการสั่�อสัาร การเรียนรู้ - ต้รวจำใบงาน เร่�อง รายวิช้าพั่�นฐาน
ลำาดับจำำานวน จำากมากไปน้อยได้้ถููกต้้อง ตััวชี้่�วัดที่่� 1 แบบค้นพับ การเรียงลำาด้ับจำำานวน คณิต้ศาสัต้ร์
(K, S, A) ใช้้ภาษาถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ (Discovery - ต้รวจำกิจำกรรมฝึึกทักษะ ป.1 เล่ม 1
2 ความคิด้ ความรู้สัึก และทัศนะของ Method) - ต้รวจำแบบฝึึกหัด้
- สัังเกต้พัฤต้ิกรรม
- แบบฝึึกหัด้
รายวิช้าพั่�นฐาน
ชั่วโมง ต้นเองด้้วยการพัูด้และการเขียน
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� การทำางานรายบุคคล คณิต้ศาสัต้ร์
1. พัูด้ถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ - สัังเกต้พัฤต้ิกรรม ป.1 เล่ม 1
จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ การทำางานกลุ่ม - ใบงาน เร่�อง
ต้ามที�กำาหนด้ได้้ - ประเมินคุณลักษณะ การเรียงลำาด้ับ
3. เขียนถู่ายทอด้ความรู้ ความเข้าใจำ อันพัึงประสังค์ จำำานวน
จำากสัารที�อ่าน ฟััง หร่อดู้ - ประเมินความสัามารถู - ใบกิจำกรรม เร่�อง
ต้ามที�กำาหนด้ได้้ ในการสั่�อสัารและการคิด้ การเด้ินทาง
จำากกิจำกรรม Active มาโรงเรียน
2) สมรรถนะที่่� 2 Learning หร่อใบกิจำกรรม - บัต้รภาพั
ความสัามารถูในการคิด้ เร่�อง การเด้ินทาง - คลิปอักษร
ตััวชี้่�วัดที่่� 1 มาโรงเรียน โด้ยใช้้เกณฑ์ เรียนสัรุป เร่�อง
คิด้พั่�นฐาน (การคิด้วิเคราะห์) การประเมินจำากแบบ การเรียงลำาด้ับ
พฤตัิกรรมบ่่งชี้่� ประเมินสัมรรถูนะสัำาคัญ จำำานวน (1/2)
3. ระบุรายละเอียด้ คุณลักษณะ และ ของผู้เรียน - PowerPoint เร่�อง
ความคิด้รวบยอด้ของข้อมูลต้่าง ๆ จำำานวนนับ 11
ที�พับเห็นในบริบทที�เปนสัิ�งใกล้ต้ัว ถูึง 20

T106
สาระสําคัญสําหรับครู
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 4 จํานวนนับ 11 ถึง 20

จำานวนนับ 11 ถึง 20
ตััวเลข
ฮินดูอารบ่ิก 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ตััวเลขไที่ย ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐
ตััวหนังสือ สัิบเอ็ด้ สัิบสัอง สัิบสัาม สัิบสัี� สัิบห้า สัิบหก สัิบเจำ็ด้ สัิบแปด้ สัิบเก้า ยี�สัิบ

การแสดงจำานวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ์ของจำานวนแบบสวนยอยและสวนรวม

สัต้รอว์เบอร์รี 6 ผล

ผลไม้ทั�งหมด้ 12 ผล

สั้ม 6 ผล

เขียนในรูปความสััมพัันธิ์ของจำำานวนแบบสั่วนย่อยและสั่วนรวมได้้ ด้ังนี�

6
สั่วนย่อย
12 สั่วนรวม

6
สั่วนย่อย

12 แบ่งออกเปน 6 กับ 6 หร่อ 6 รวมกับ 6 ได้้เท่ากับ 12

T107
การเขียนจำานวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย
เปนการเขียนจำำานวนในรูปการบวกของหลักสัิบกับหลักหน่วย

หลักและค่าของเลขโดดในหลักหน่วยและหลักสิบ่
ค่าของเลขโด้ด้ในแต้่ละหลัก
1 อยู่ในหลักสัิบ มีค่า 10 จำะมีค่าเท่าใด้ขึ�นอยู่กับว่า
16 6 อยู่ในหลักหน่วย มีค่า 6
เลขโด้ด้นั�นอยู่ในหลักใด้

การเข่ยนจํานวนนับ่ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย


16 ค่อ 1 สัิบ กับ 6 หน่วย
ด้ังนั�น 16 เขียนในรูปกระจำายเปน 10 + 6

การเปรียบเทียบจำานวน

เที่่ากับ่ 11 = 11 จำับคู่ได้้พัอด้ี ไม่เที่่ากับ่ 12 ≠ 11 จำับคู่ไม่พัอด้ี

มากกว่า นอยกว่า
17 > 15 14 < 18

เลขโด้ด้ในหลักสัิบมีค่าเท่ากัน จำึงพัิจำารณาเลขโด้ด้ในหลักหน่วย เลขโด้ด้ในหลักสัิบมีค่าเท่ากัน จำึงพัิจำารณาเลขโด้ด้ในหลักหน่วย


7 มากกว่า 5 4 น้อยกว่า 8
ด้ังนั�น 17 มากกว่า 15 หร่อ 17 > 15 ด้ังนั�น 14 น้อยกว่า 18 หร่อ 14 < 18

การเรียงลำาดับจำานวน
เร่ยงลําดับ่จํานวนจากนอยไปมาก เร่ยงลําดับ่จํานวนจากมากไปนอย
12 16 15 19 18 20 11 14

12 < 15 < 16 < 19 20 > 18 > 14 > 11


11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เรียงลำาด้ับจำำานวนจำากน้อยไปมากได้้ ด้ังนี� 12 15 16 19 เรียงลำาด้ับจำำานวนจำากมากไปน้อยได้้ ด้ังนี� 20 18 14 11

T108
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method

4
หนวยการเรียนรูที่
ขั�นนํ า

จาํ นวนนั ����������� นํ าเข้าสู่บทเรียน

1. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียน
เตรียมพรอมกอนเรียน 2. ครูทบทวนเกี่ยวกับจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0
โดยใชวิธีถาม-ตอบกับนักเรียน
3. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย นโดยให
นักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวถามนักเรียนวา
“ปลาชนิดใดมีจำนวนมากที่สุด ปลาชนิดใดมี
จำนวนนอยที่สุด เรารูไดอยางไร”
หมายเหตุ : ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น เฉลย
คำถามประจำหนวยการเรียนรูห ลังเรียนหนวย
การเรียนรูที่ 4
4. ครู ต รวจสอบความรู พื้ นฐานก อ นเรี ย นของ
นั ก เรี ย น โดยครู ส แกน QR Code ใน
หนั ง สื อ เรี ย น หน า 81 แล ว ให นั ก เรี ย นทำ
เตรียมพรอมกอนเรียน
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยเตรียมพรอม
กอนเรียนไดโดยสแกน QR Code
เฉลยเตรียมพร้อมกอนเรียน
ก่่อนเรีย

เฉลย
เตรียมพร้อม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

»ÅÒª¹Ô´ã´ÁÕ¨íҹǹÁÒ¡·ÕèÊØ´
1. เขีียนตััวเลขีฮิินดููอารบิิก ตััวเลขีไทย และตััวหนังสืือแสืดูงจำำานวนขีองผลไม้้
ตั่อไปนี�
1) 6 ๖ หก
2) 7 ๗ เจ็ด
3) 10 ๑๐ สิบ

»ÅÒª¹Ô´ã´ÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍ·ÕèÊØ´
2. เตัิม้ตััวเลขีแสืดูงจำำานวนลงใน ให้ถููกตั้อง
1) 5 2) 8

?
7 9
2 1
3.

àÃÒÃٌ䴌Í‹ҧäÃ
เปรียบิเทียบิจำำานวนตั่อไปนี� โดูยใช้้เครื�องหม้าย >, < หรือ =
1) 8 > 6
2) 2 + 2 < 5
3) 6 + 3 = 1+8
4. เรียงลำาดูับิจำำานวนจำากน้อยไปม้าก และจำากม้ากไปน้อย
1) เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กน้อยไปม�กได้ ดังนี้ 6 7 8
เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กม�กไปน้อยได้ ดังนี้ 8 7 6
2) เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กน้อยไปม�กได้ ดังนี้ 3 4 9 10
เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กม�กไปน้อยได้ ดังนี้ 10 9 4 3
3) เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กน้อยไปม�กได้ ดังนี้ 1 2 4 5 8
เรียงลำ�ดับจำ�นวนจ�กม�กไปน้อยได้ ดังนี้ 8 5 4 2 1

µÑǪÕéÇÑ´ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
• บอกจํานวนของสิ�งตาง � แสดงสิ�งตาง � ตามจํานวนที่กําหนด • จํานวนนับ 11 ถึง 20
อานและเขียนตัวเลข�ินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจํานวนนับ • การแสดงจํานวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ
ไมเกิน 100 และ 0 (มฐ. ค 1.1 ป.1/1) ของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม
• เปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 100 และ 0 โดยใชเครื่องหมาย • การเขียนตัวเลขแสดงจํานวนในรูปกระจาย

 ไข ารณ

= > < (มฐ. ค 1.1 ป.1/2) • การเปรียบเทียบจํานวน


ุงแก พิจ
ปร วจ

• เรียงลํ • การเรียงลําดับจํานวน
รับ ตร

งลำาดัด้ับจํจำำานวนนับไม
ไม่เกิน 100 และ 00 ต้ัตั�ง้งแต้่
แต 33 ถูึถึงง55จำำจําานวน
นวน
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

(มฐ. ค 1.1 ป.1/3)


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ คำาถามประจำาหนวยการเรียนรู้ที่ 4 หนา 81


เป้าหมาย การเรียนรู้
มีจำนวนมากที่สุด และ มีจำนวนนอยที่สุด หาคำตอบโดย
การจัดการเรียนการสอนในหนวยการเรียนรูนี้ มุงเนนใหผูเรียนเรียง
การนับจำนวนปลาแตละชนิดแลวนำมาเปรียบเทียบกัน
ลำดับจำนวนนับ 11 ถึง 20 ที่มี 3-5 จำนวน ไดอยางถูกตอง เพื่อใหผูเรียน
นำความรูเ กีย่ วกับการเรียงลำดับจำนวนนับ 11 ถึง 20 ไปใชในสถานการณ
ชีวิตประจำวันได

T109
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

1. ครูนำสิ่งของที่มีจำนวน 10 ชิ้น มาใหนักเรียน � จํานวนนั �����������


ยกตัวอยางสัญลักษณที่ ใชแสดง
จำนวนวามีอะไรบาง
นับพรอมกัน แลวบอกจำนวน ครูเพิ่มจำนวน ทบทวนจํานวนนับ 1 ถึง 10
สิง่ ของอีก 1 ชิน้ และชีแ้ จงเพิม่ เติมวา มีสงิ่ ของ
อยู 1 สิบ กับ 1 หนวย เรียกวา สิบเอ็ด จากนั้น ตัวเลข
ครูนำบัตรภาพแสดงจำนวนสิบเอ็ด พรอมทั้ง �ิ���อ��บิ� 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
นำบัตรตัวเลขฮินดูอารบิก บัตรตัวเลขไทย
และบัตรตัวหนังสือติดบนกระดานใหนกั เรียนดู
ตัวเลขไทย ń Ņ ņ Ň ň ʼn Ŋ ŋ Ō ńŃ
2. ครูนำสิ่งของที่มีจำนวน 10 ชิ้น มาแสดงให
นักเรียนดู แลวเพิ่มสิ่งของอีก 2 ชิ้น จากนั้นครู
ตัว��ังส�อ หนึ่ง สอง สาม สี่ หา หก เจ็ด แปด เกา สิบ
ชี้แจงเพิ่มเติมวามีสิ่งของ 1 สิบ กับ 2 หนวย
เรียกวา สิบสอง จากนั้นครูนำบัตรภาพแสดง
เราเรียกตัวเลข 10 ตัว คือ 0 1 2 3 4 5 6 7 81 9
จำนวนสิบสอง พรอมทั้งนำบัตรตัวเลขฮินดู
หรือ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ วา เลขโดด
อารบิก บัตรตัวเลขไทย และบัตรตัวหนังสือ
ติดบนกระดานใหนักเรียนดู (ครูจัดกิจกรรม
ในลักษณะนี้จนครบจำนวนยี่สิบ)

����ว��ับ������ง���

11 ńń สิบเอ��
10
เกร็ดแนะครู
รู
ครูควรใหนกั เรียนสังเกตวา จำนวน 11 อานวา
สิบเอ็ด ไมใชสิบหนึ่ง ซึ่งคำวา สิบเอ็ด จะมีเสียง
ใกลเคียงกับคำอานของจำนวน 17 ซึ่งอานวา
12 ńŅ สิบสอง
หน
ังส เน

สิบเจ็ด ดังนั้น ในการอานออกเสียง 11 หรือ 17


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

จึงควรออกเสียงใหชัดเจน เพื่อไมใหเกิดความ
ะหว รปร

82
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

ผิดพลาด
พิจ
าร

นักเรียนควรรู้ ข้อสอบเน้น การคิด


1 เลขโดด (digit) เปนสัญลักษณพื้นฐานชนิดหนึ่งที่ใชเขียนตัวเลขแสดง
จำนวน

จำนวนที่นับตอจากจำนวนลูกอมคือขอใด
1. 14 2. 15 3. 16
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะนับจำนวนลูกอมทั้งหมดไดสิบหาเม็ด
และ 16 เปนจำนวนที่นับตอจาก 15)

T110
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

3. ครูสมุ นักเรียนออกมาหยิบสิง่ ของตามจำนวนที่


ครูกำหนด โดยเวียนไปจนครบจำนวนยีส่ บิ และ
เพื่อนรวมชั้นชวยกันตรวจสอบความถูกตอง
13 ńņ สิบสาม
4. ครู จั ด กิ จ กรรมโดยหยิ บ บั ต รตั ว เลข 11-20
ระหวางทาง
ขึ้นมาครั้งละหนึ่งใบ แลวสุมนักเรียนออกมา
เขี ย นตั ว เลขฮิ นดู อ ารบิ ก ตั ว เลขไทย และ
ตัวหนังสือบนกระดาน โดยเวียนไปจนครบ
จำนวนยีส่ บิ และเพือ่ นรวมชัน้ ชวยกันตรวจสอบ
14 ńŇ สิบสี่ ความถูกตอง
5. ครูถามนักเรียนวา จากทีท่ ำกิจกรรมนับสิง่ ของ
ที่ครูหยิบขึ้นมาจากจำนวน 11 ถึง 20 โดย
เริ่มจาก 11 ไปเรื่อยๆ จนถึง 20 เปนการนับ
เพิ่มขึ้นทีละเทาใด
(แนวตอบ นับเพิ่มขึ้นทีละ 1)
15 ńň สิบหา

16 ńʼn สิบหก

17 ńŊ สิบ����

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

83
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป


ขอใดตอไปนี้อานไมถูกตอง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนนับ 11 ถึง 20 จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง
1. ๑๑ อานวา สิบหนึ่ง การบอก การอาน และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ 11 ถึง 20
2. ๑๗ อานวา สิบเจ็ด https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11026
3. ๑๙ อานวา สิบเกา
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ ๑๑ อานวา สิบเอ็ด)

T111
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

6. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ
ในหนังสือเรียน หนา 84 จากนั้นครูขอ
อาสาสมัครออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน 18 ńŋ สิบแปด
7. ครูแบงนักเรียนเปนกลุม กลุมละ 4 คน แลว
ใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง จำนวนนับ 11
ถึง 20 ในแบบฝกหัดคณิตศาสตร เมื่อเสร็จ
เรียบรอยแลวใหจับคูกับเพื่อนในกลุมผลัดกัน
อธิบายคำตอบของตนเอง จากนั้นนักเรียน
แตละคูผ ลัดกันอธิบายคำตอบของตนใหเพือ่ น 19 ńŌ สิบเกา
อีกคูห นึง่ ในกลุม ฟง แลวใหสรุปคำตอบเปนมติ
ของกลุม
8. ครูสุมตัวแทนกลุมออกมานำเสนอ 3-5 กลุม
โดยครูเปนผูต รวจสอบความถูกตอง และชมเชย
กลุม ทีน่ ำเสนอไดถกู ตอง พรอมทัง้ แนะนำกลุม
ที่ยังมีขอบกพรองอยู 20 ŅŃ ยี่สิบ

จํานวนนับ 10 ถึง 20 เปนจํานวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 และเปนจํานวนที่มี


สองหลัก เลขโดดทางขวาอยูในหลักหนวยและเลขโดดทางซายอยูในหลักสิบ

จํานวน หลักสิบ หลักหนวย

11 1 1
เกร็ดแนะครู
รู
การเรียนการสอนในหัวขอนี้ครูอาจนำผลไม
จำลองหรือผลไมจริงมาใชประกอบการเรียน 20 2 0
การสอน เพื่อใหนักเรียนไดเห็นภาพจริง เปน
หน
ังส เน

รูปธรรม และสามารถนำไปใชในชีวิตจริงได
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

อีกทัง้ ครูอาจเสนอแนะใหนกั เรียนฝกนับจำนวน


ะหว รปร

84
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

สิ่งของที่อยูภายในบานของนักเรียน
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนนับ 11 ถึง 20 โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง
จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 1. 11 มีหลักสิบเปน 1 และมีหลักหนวยเปน 1
2. 12 มีหลักสิบเปน 2 และมีหลักหนวยเปน 1
3. 13 มีหลักสิบเปน 1 และมีหลักหนวยเปน 3
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 12 มีหลักสิบเปน 1 และมีหลักหนวย
เปน 2)

T112
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู เ กี่ ย วกั บ
กิจกรรมฝึ กทักษะ การบอกจำนวนนับ 11 ถึง 20 การอานและ
เขี ย นตั ว เลขฮิ นดู อ ารบิ ก ตั ว เลขไทย และ
¾„¶£š–²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ–²¨¾¦„˜£¿¦±–²¨¬š²‰«¸®¿«•‰ŠË³š¨š ตัวหนังสือแสดงจำนวน 11 ถึง 20
2. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา จำนวนนับ 11 ถึง 20
1. เปนจำนวนนับที่นับเพิ่มขึ้นทีละ 1
ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรียน
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. 3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
3. 7. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
แบบประเมิน
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน

ความมีน้าใจ การร่วมมือ
ความ การแสดง การรับฟัง รวม
ลาดับ ชื่อ-สกุล เอื้อเฟื้อ ทางาน
มีวินัย ความคิดเห็น ความคิดเห็น 15
ที่ ของผู้รับการประเมิน เสียสละ ส่วนรวม
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

4. เกณฑ์การให้คะแนน
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน


ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

5.
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

6.

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
85
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดกลาวถูกตอง
1. 11 อานวา สิบหนึ่ง เปนจำนวนที่นับตอจาก 10
2. 17 อานวา สิบเจ็ด เปนจำนวนที่มากกวา 6
3. 19 อานวา สิบเกา เปนจำนวนที่นอยกวา 8
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 11 อานวา สิบเอ็ด เปนจำนวนที่นับตอจาก 10
ขอ 2. 17 อานวา สิบเจ็ด เปนจำนวนที่มากกวา 6
ขอ 3. 19 อานวา สิบเกา เปนจำนวนที่มากกวา 8
ดังนั้น ขอ 2. จึงเปนคำตอบที่ถูกตอง)

T113
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

5Es Instructional Model


ขั�นนํ า


3 ควรเติมตัวเลข
กระตุ
ตุน้ ความสนใจ การแสดงจํานวนนั บ �� ��ง �� แสดงจำนวนใด
1. ครูทบทวนจำนวนนับ 11 ถึง 20 โดยสุม นักเรียน �นร� ��วามสั ม�ัน�์ของจํานวน 4 ลงใน
ออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย แบบส่ วนย่อยและส่ วนรวม
และตั ว หนั ง สื อ แสดงจำนวนที่ ค รู ก ำหนด
บนกระดาน
2. ครูถามคำถามทบทวนความรูเ ดิมทีม่ มุ บนขวา
การแสดงจํานวนในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม
เปนการเขียนแสดงจํานวนนั้นในรูป 2 จํานวนขึ้นไป
ของหนังสือเรียน หนา 86 โดยที่ผลรวมของจํานวนเหลานั้นเทากับจํานวนเดิม
(แนวตอบ 7)
3. ครูถามนักเรียนวา นักเรียนคิดวาสามารถเขียน
จำนวนนับ 11-20 ในรูปความสัมพันธของ
จำนวนแบบสวนยอยและสวนรวมไดหรือไม
(แนวตอบ ได)
7
สวนยอย
15
สวนรวม
8
สวนยอย

15 แบงออกเปน 7 กับ 8 หรือ 7 รวมกับ 8 เทากับ 15

เราสามารถเขียนแสดงจำนวน
ในรูปความสัมพันธแบบสวนยอย
เกร็ดแนะครู
รู
และสวนรวมของ 15 ไดอยางไรอีกคะ

ครูอาจใชไมแขวนผากับตัวหนีบผา เปนสือ่ ใน
การอธิบายทบทวนความรู เรื่อง การเขียนแสดง
หน
ังส เน

จำนวนนับ 1-10 ในรูปความสัมพันธของจำนวน


ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

แบบสวนยอยและสวนรวม เพือ่ ใหนกั เรียนเขาใจ


ะหว รปร

86
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

ไดงายขึ้น
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ ขอใดตอไปนี้คือสวนรวมของ 6 และ 12
ของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง การแสดง 6 1. 18
จำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม ? 2. 13
(2/3) https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11027
12 3. 16

(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ


6 6
? 18
12 12
6 รวมกับ 12 ไดเทากับ 18)

T114
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
สํ ารวจค้นหา

ตัวอยางที่ 1 1. ครูติดบัตรภาพตอไปนี้ แลวถามนักเรียนวา


จำนวนในบัตรภาพคือจำนวนใด
แสดงจํานวนในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม
16
5
สวนยอย
11 (แนวตอบ 16)
สวนรวม จากนั้นถามตอวาจำนวนที่กำหนดใหนักเรียน
6 จะสามารถเขี ย นแสดงในรู ป ความสั ม พั นธ
สวนยอย ของจำนวนแบบส ว นย อ ยและส ว นรวมได
อยางไรบาง
(แนวตอบ 0 กับ 16, 1 กับ 15, …, 16 กับ 0)
11 แบงออกเปน 5 กับ 6 หรือ 5 รวมกับ 6 เทากับ 11 2. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน
แลวใหแตละกลุมทำใบงาน เรื่อง การแสดง
จำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ
ตัวอยางที่ 2 ของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม โดยครู
สแกน QR Code
เติมตัวเลขแสดงจํานวนลงใน ? ใบงาน
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การแสดงจานวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ์ ใบงาน เรื่อง การแสดงจานวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ์

9
ของจานวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม ของจานวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม
คาชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณารูปที่กาหนดให้ แล้วเติมตัวเลขแสดงจานวนใน ให้ถูกต้อง คาชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณารูปที่กาหนดให้ แล้วเติมตัวเลขแสดงจานวนใน ให้ถูกต้อง

1. 1.
11

6 5 6 5

สวนยอย
2. 2.

17
18 18

9 9 9

สวนรวม 17 แบงออกเปน 9 กับ 8 3. 3.


16

?
6 6 10

4. 4.

จะไดวา 9 รวมกับ 8 เทากับ 17


20

9 11

สวนยอย
1 2

ดังนั้น ตัวเลขแสดงจํานวนใน ? คือ 8


เกร็ดแนะครู
รู
ครูอาจสุมตัวแทนนักเรียนออกมาเขียนแสดง

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

ในรูปความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

87 สวนรวม ที่มีสวนรวมเปน 16 จนครบทุกรูปแบบ


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดตอไปนี้มีสวนรวมตางจากขออื่น อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ
ของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวม โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ
4 7 5
11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11
1. ? 2. ? 3. ?
10 7 8

(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะจากขอ 1. 4 รวมกับ 10 และ


ขอ 2. 7 รวมกับ 7 มีสวนรวม คือ 14 แตขอ 3. 5 รวมกับ 8
มีสวนรวม คือ 13)

T115
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
อธิบายความรู

3. ครู ให แต ล ะกลุ ม ส ง ตั ว แทนออกมานำเสนอ ตัวอยางที่ 3


หนาชั้นเรียน โดยครูคอยอธิบายเพิ่มเติมใน
สวนที่ยังมีขอบกพรอง เขียนแสดงจํานวนในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม
4. ครูใหนักเรียนทุกกลุมศึกษาการแสดงจำนวน ของ 12 ได ดังนี้
ในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและสวนรวม
ในหนังสือเรียน หนา 86-88 จากนั้นครูอธิบาย 1 4
เพิม่ เติมวา จำนวนหนึง่ จำนวนจะสามารถเขียน
แสดงในรูปความสัมพันธแบบสวนยอยและ 12 12
สวนรวมไดหลายแบบ เชน จำนวน 12 เขียนได 11 8
ดังนี้ 0 กับ 12, 1 กับ 11, 2 กับ 10, 3 กับ 9, ...
และ 12 กับ 0
1 รวมกับ 11 เทากับ 12 4 รวมกับ 8 เทากับ 12

2 5
12 12
10 7
2 รวมกับ 10 เทากับ 12 5 รวมกับ 7 เทากับ 12
เราสามารถเขียนแสดงจำนวนในรูป
3 ความสัมพันธแบบสวนยอยและ
สวนรวมของ 12 ไดอยางไรอีกคะ
12
9
3 รวมกับ 9 เทากับ 12
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

88
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดตอไปนี้คือสวนยอยของ 15
1. 4 และ 13
2. 7 และ 8
3. 1 และ 5
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 4 ขอ 2. 7 ขอ 3. 1
17 15 6
13 8 5

ดังนั้น 7 และ 8 เปนสวนยอยของ 15)

T116
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
ขยายความเข้าใจ

กิจกรรมฝึ กทักษะ 5. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ


ในหนังสือเรียน หนา 89-90 เสร็จแลวครูและ
1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง นักเรียนรวมกันเฉลยคำตอบที่ถูกตอง
6. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การแสดง
1. จำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปความสัมพันธ
ของจำนวนแบบส ว นย อ ยและส ว นรวม ใน
แบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน
7 6 ขั�นสรุ
รุ ป
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูว า การแสดง
2. จำนวนในรู ป ความสั ม พั นธ แ บบส ว นย อ ยและ
16 ส ว นรวม เป นการเขี ย นแสดงจำนวนนั้ น ในรู ป
2 จำนวนขึ้นไป โดยที่ผลรวมของจำนวนเหลานั้น
เทากับจำนวนเดิม
6

3.
18

4.
19

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

89
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
9
19
?
ขอใดตอไปนี้คือตัวเลขที่หายไป
1. 1
2. 10
3. 7
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 19 แบงออกเปน 9 กับ 10 จะไดวา
9 รวมกับ 10 เทากับ 19 ดังนั้น ตัวเลขที่หายไป คือ 10)

T117
นํ า สอน สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นประเมิน
ตรวจสอบผล

1. ครูตรวจใบงาน 5.
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
7. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร 6.
แบบประเมิน
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

มีการวางแผน มีการแสดง มีการปฏิบัติ สามารถ


มีการรับฟัง
ลาดับ ชื่อ-สกุล ร่วมกัน ความคิดเห็น ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม
ความคิดเห็น
ที่ ของผู้รับการประเมิน ทางาน ของสมาชิก ที่วางไว้ กลุม่ อืน่ ได้ 15
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

2
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

1. 7 2.
14 18
12
3. 1 4. 9

10 3

3 หาจํานวนสองจํานวนทั้งหมดที่รวมกันแลวเทากับ 11 โดยใชความสัมพันธ
ของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
90
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

กิจกรรม 21s� Cen���y S���l�


1. ครูแบงนักเรียนเปนกลุม กลุมละ 4 คน จากนั้นแจกกระดาษให
แตละกลุม และมอบหมายใหนกั เรียนเขียนแสดงจำนวน 15 ในรูป
ความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอยและสวนรวมทุกรูปแบบ
ลงในกระดาษที่ครูแจกให
2. เมื่อนักเรียนทำงานที่ไดรับมอบหมายเสร็จแลว ครูใหนักเรียน
รวมกันวิเคราะห และพิจารณาวา สวนยอยตัวที่ 1 และสวนยอย
ตัวที่ 2 มีความสัมพันธกันอยางไร
3. นักเรียนแตละกลุมนำเสนอผลงาน และแนวคิดหนาชั้นเรียน

T118
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า

3 การเขี �น�ัวเลขแสดงจํานวน เลขโดดมีก่ีตัว อะไรบาง นํ าเข้าสู่บทเรียน

� � �นร� �กร�จา� 1. ครูทบทวนเรือ่ ง การแสดงจำนวนนับ 11 ถึง 20


ในรูปความสัมพันธของจำนวนแบบสวนยอย
3.1 หลักและคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบ และสวนรวม
มีอมยิ้มอยู 11 อัน 2. ครูถามนักเรียนวา เลขโดดมีกี่ตัว และมีเลข
อะไรบาง
แบงเปน 10 อัน กับ 1 อัน (แนวตอบ มี 10 ตัว ไดแก 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6,
11 คือ 1 สิบ กับ 1 หนวย 7, 8 และ 9)
1 อยูในหลักสิบ มีคา 10 ขั�นสอน
1 อยูในหลักหนวย มีคา 1 รู ้
เรียนรู

1. ครูถามนักเรียนวา จำนวนนับ 9 กับจำนวนนับ


11 แตกตางกันอยางไร
(แนวตอบ 9 เปนจำนวนทีม่ หี นึง่ หลัก แต 11 เปน
มีปลา 12 ตัว จำนวนที่มีสองหลัก)
แบงเปน 10 ตัว กับ 2 ตัว 2. ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา จำนวนนับ 11
12 คือ 1 สิบ กับ 2 หนวย ถึง 20 เปนจำนวนที่มีสองหลัก คือ หลักหนวย
กับหลักสิบ โดยคาของเลขโดดในแตละหลักจะ
ตางกัน จากนัน้ ครูใหนกั เรียนเปดหนังสือเรียน
1 อยูในหลักสิบ มีคา 10 หนา 91 และครูอธิบายประกอบวา เลขโดด 1
2 อยูในหลักหนวย มีคา 2 ตัวแรกอยูในหลักใด มีคาเทาใด และเลขโดด
1 ตัวที่สองอยูในหลักใด มีคาเทาใด
นํ าไปใช้
คาของเลขโดดในแตละหลัก
3. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 1-3
จะมีคาเทาใดขึ้นอยูกับวา
ในหนังสือเรียน หนา 94-95 จากนั้นครูสุม
เลขโดดนั้นอยูในหลักใด
นักเรียนออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน
4. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การเขียน

 ไข ารณ

ตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย ขอ 1-2 ใน


ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

แบบฝกหัดคณิตศาสตร
จม ะหว

91
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป


13 17 20 คาของเลขโดดที่ขีดเสนใตตรงกับขอใด ตามลำดับ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักและคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบ
1. 30, 1, 0 จากคลิปอักษรเรียนสรุป เรือ่ ง หลักและคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบ
2. 3, 10, 0 https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11028
3. 3, 1, 0
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
13 เลขโดดที่ขีดเสนใตมีคา 3
17 เลขโดดที่ขีดเสนใตมีคา 10
20 เลขโดดที่ขีดเสนใตมีคา 0)

T119
นํ
นํ าา สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับหลัก
และคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบของ 3.2 �������������������������2�������������
จำนวน 11 ถึง 20
ขั�นประเมิน การเขี ยนจํานวนใหอยู ในรูปกระจาย
เปนการเขี ยนจํานวนในรูปการบวกของหลักสิบกับหลักหนวย
1. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
2. ครูตรวจแบบฝกหัด
3. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม 11 คือ 1 สิบ กับ 1 หนวย
5. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 11 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 1
6. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
�����������
แบบประเมิน

12 คือ 1 สิบ กับ 2 หนวย


แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน

ความมีน้าใจ การร่วมมือ
ความ การแสดง การรับฟัง รวม
ลาดับ ชื่อ-สกุล เอื้อเฟื้อ ทางาน
มีวินัย ความคิดเห็น ความคิดเห็น 15

12 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 2
ที่ ของผู้รับการประเมิน เสียสละ ส่วนรวม
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
�2��������2
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้

13 คือ 1 สิบ กับ 3 หนวย


ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

13 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 3
�3��������3
Discovery Method
ขั�นนํ า 14 คือ 1 สิบ กับ 4 หนวย
นํ าเข้าสู่บทเรียน 14 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 4
1. ครูทบทวน เรื่อง คาของเลขโดดในหลักหนวย �����������
และหลักสิบของจำนวนนับ 11 ถึง 20 วาเปน
จำนวนที่มีสองหลัก 15 คือ 1 สิบ กับ 5 หนวย
2. ครูบอกกับนักเรียนวา เมื่อรูจักหลักและคา 15 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 5
ของเลขโดดในหลั ก หน ว ยและหลั ก สิ บ ของ �����������
หน

จำนวนนั บ 11 ถึ ง 20 แล ว ต อ ไปจะเรี ย น


ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

เกี่ยวกับการเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ใน
ะหว รปร

92
าง ับป
สง รุง
ตร แก

รูปกระจาย
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย จาก คาของเลขโดดที่ขีดเสนใตในขอใดตอไปนี้มีคามากที่สุด
คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย (1/2) 1. 19
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11029 2. 9
3. 11
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 19 ตัวเลขที่ขีดเสนใตมีคาเปน 9
ขอ 2. 9 ตัวเลขที่ขีดเสนใตมีคาเปน 9
ขอ 3. 11 ตัวเลขที่ขีดเสนใตมีคาเปน 10)

T120
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

16 คือ 1 สิบ กับ 6 หนวย 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน


16 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 6 แลวรวมกันศึกษาเรื่อง การเขียนจำนวนนับ
  11 ถึง 20 ในรูปกระจาย ในหนังสือเรียน หนา
92-93 และรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเขียน
17 คือ 1 สิบ กับ 7 หนวย จำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย
2. ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า จำนวนนั บ 11 ถึ ง 20
17 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 7
จำนวนใดมีเลขโดดในหลักสิบเหมือนกันและ
  จำนวนใดมีเลขโดดในหลักสิบตางจากจำนวน
อื่นๆ
18 คือ 1 สิบ กับ 8 หนวย (แนวตอบ 11, 12, …, 18 และ 19 มีเลขโดด
18 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 8 ในหลักสิบเหมือนกัน แต 20 มีเลขโดดใน
  หลักสิบตางจากจำนวนอื่น)
3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา 20 = 10 + 10 ไมใช
19 คือ 1 สิบ กับ 9 หนวย การเขียนจำนวนในรูปกระจาย ซึ่ง 20 เขียน
19 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 9 ในรูปกระจายเปน 20 = 20 + 0 เพราะมี 2
เปนเลขโดดในหลักสิบ มีคาเทากับ 20 นั่นเอง
 

20 คือ 2 สิบ กับ 0 หนวย


20 เขียนในรูปกระจายเปน 20 + 0
 

รูไว ใชถูกตอง
20 เขียนในรูปกระจายเปน 20 = 20 + 0
แต 20 = 10 + 10 ไมใชการเขียนจํานวนในรูปกระจาย
เกร็ดแนะครู
รู

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

ครูใหนักเรียนที่มีวันเกิดตั้งแต 11 ถึง 19
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

93 ออกมาหน า ชั้ น จากนั้ นครู ให นั ก เรี ย นเขี ย น


อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน

จำนวนทีต่ รงกับวันเกิดของตนเองในรูปกระจาย
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


ขอใดตอไปนี้ไมใชการเขียนจำนวนในรูปกระจาย อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย โดย
1. 10 + 0 ใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/
2. 10 + 5 qrcode/TMPPMTP11
3. 10 + 10
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ 20 คือ 2 สิบ กับ 0 หนวย
ดังนั้น สามารถเขียนในรูปกระจายได 20 + 0)

T121
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

4. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ร ว มกั น ทำใบงาน กิจกรรมฝึ กทักษะ


เรื่อง การเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูป
กระจาย โดยครูสแกน QR Code จากนั้น 1 บอกคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบ
ครูสมุ ตัวแทนกลุม ออกมานำเสนอผลงานหนา 1.
ชั้นเรียน 2-3 กลุม
ใบงาน
ใบงาน เรื่อง การเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย
คำชี้แจง : ใหนักเรียนเขียนจำนวนตอไปนี้ในรูปกระจาย

จำนวน ความหมาย เขียนในรูปกระจาย


ใบงาน เรื่อง การเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย
คำชี้แจง : ใหนักเรียนเขียนจำนวนตอไปนี้ในรูปกระจาย

จำนวน ความหมาย เขียนในรูปกระจาย


เฉลย

1 อยูในหลักสิบ มีคา
4 อยูในหลักหนวย มีคา
ตัวอยาง 10 1 สิบ กับ 0 หนวย 10 = 10 + 0 ตัวอยาง 10 1 สิบ กับ 0 หนวย 10 = 10 + 0

1. 11 1. 11 1 สิบ กับ 1 หนวย 10 = 10 + 1

2. 16 2. 16 1 สิบ กับ 6 หนวย 16 = 10 + 6

3. 13 3. 13 1 สิบ กับ 3 หนวย 13 = 10 + 3

4. 17 4. 17 1 สิบ กับ 7 หนวย 17 = 10 + 7

5. 18 5. 18 1 สิบ กับ 8 หนวย 18 = 10 + 8

6. 15

7. 20

8. 19

9. 14
6. 15

7. 20

8. 19
1 สิบ กับ 5 หนวย

2 สิบ กับ 0 หนวย

1 สิบ กับ 9 หนวย


15 = 10 + 5

20 = 20 + 0

19 = 10 + 9
2.
9. 14 1 สิบ กับ 4 หนวย 14 = 10 + 4

10. 12 10. 12 1 สิบ กับ 2 หนวย 12 = 10 + 2

1 2

นํ าไปใช้ 1 อยูในหลักสิบ มีคา


5. ครูใหนกั เรียนจับคูท ำกิจกรรมฝกทักษะ ขอ 4-5 6 อยูในหลักหนวย มีคา
ในหนังสือเรียน หนา 95 จากนัน้ ครูขออาสาสมัคร
ออกมาเฉลยคำตอบหนาชั้นเรียน 3.
6. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การเขียน
ตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย ขอ 3-5 ใน
แบบฝกหัดคณิตศาสตร เปนการบาน 1 อยูในหลักสิบ มีคา
� อยูในหลักหนวย มีคา
2 เลขโดดที่ขีดเสนใตตอไปนี้ อยูในหลักใดและมีคาเทาใด
1. 15 2. 10
3. 19 4. 20
5. 14 6. 17
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา

7. 13 8. 16
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

94
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักและคาของเลขโดดในหลักหนวยและหลักสิบ ขอใดตอไปนี้เปนรูปกระจายของ 17
โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/ 1. 10 + 7
qrcode/TMPPMTP11 2. 12 + 5
3. 17 + 0
(เฉลยคำตอบ ขอ 1. เพราะ 17 คือ 1 สิบ กับ 7 หนวย
ดังนั้น สามารถเขียนในรูปกระจายได 10 + 7)

T122
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นสรุ
รุ ป
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเ กีย่ วกับเรือ่ ง
3 จํานวนตอไปนี้มีเลขโดดอยูในหลักใดและมีคาเทาใด การเขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจายวา
การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูป
1. 20 2. 18 กระจาย เปนการเขียนในรูปการบวกคาของเลขโดด
3. 15 4. 16 ในหลักสิบกับหลักหนวย
5. 14 6. 11 ขั�นประเมิน
7. 17 8. 19 1. ครูตรวจใบงาน
4 เขียนตัวเลขแสดงจํานวนที่กําหนดในรูปกระจาย 2.
3.
ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ
ครูตรวจแบบฝกหัด
1. 15 2. 18 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
3. 20 4. 14 5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
5. 11 6. 13 7. ครูสังเกตความสามารถในการสื่อสาร
7. 17 8. 16 แบบประเมิน
9. 12 10. 19 แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่ม แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน

มีการวางแผน มีการแสดง
ร่วมกัน ความคิดเห็น
มีการรับฟัง
มีการปฏิบัติ สามารถ
ตามขั้นตอน ให้คาแนะนา รวม
ลาดับ ชื่อ-สกุล ความคิดเห็น
ที่ ของผู้รับการประเมิน ทางาน ของสมาชิก ที่วางไว้ กลุม่ อืน่ ได้ 15

5
คะแนน
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

เขียนตัวเลขแสดงจํานวนจากรูปกระจายที่กําหนด
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

1. 10 + 2 2. 10 + 9
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้

3. 10 + 5 4. 20 + 0
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

5. 10 + 8 6. 10 + 4
7. 10 + 6 8. 10 + 7
9. 10 + 0 10. 10 + 1

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

ฝึกทําต่อใน
95
อา นร

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
เลขโดด 3 ในขอใดมีคาเทากับ 30
1. 43
2. 13
3. 36
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 43 4 อยูในหลักสิบ มีคา 40
3 อยูในหลักหนวย มีคา 3
ขอ 2. 13 1 อยูในหลักสิบ มีคา 10
3 อยูในหลักหนวย มีคา 3
ขอ 3. 36 3 อยูในหลักสิบ มีคา 30
6 อยูในหลักหนวย มีคา 6)

T123
นํ
นํ าา สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
ขั�นนํ า
นํ าเข้าสู่บทเรียน 4 การเปรียบเทียบจํานวน
จำนวนที่มากกวา 4 แตนอยกวา 7
มีจำนวนใดบางครับ
1. ครูทบทวนเรื่อง คาของเลขโดดในหลักหนวย 4.1 เทากันและไมเทากัน
และหลักสิบของจำนวนนับ 11 ถึง 20 และการ
เขียนจำนวนนับ 11 ถึง 20 ในรูปกระจาย พิจารณารูปตอไปนี้
2. ครูทบทวนการเปรียบเทียบจำนวนนับ 1 ถึง 10
และ 0 โดยใชเครื่องหมาย = ≠ ≠> < วีณา
3. ครูถามคำถามทบทวนความรูเ ดิมทีม่ มุ บนขวา
ของหนังสือเรียน หนา 96 วา จำนวนทีม่ ากกวา สินี
4 แตนอยกวา 7 คือจำนวนใดบาง
(แนวตอบ 5 และ 6) วีณามีต�กตา 11 ตัว และ�ินีมีต�กตา 11 ตัว
ขั�นสอน จะไดวา จับคูต�กตา�องวีณาและ�ินีไดพอดี
รู ้
เรียนรู ดังนั้น วีณาและ�ินีมีจํานวนต��กตาเทากัน
1. ครูใหนักเรียนศึกษาการเปรียบเทียบจำนวน เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 11 = 11
(เทากันและไมเทากัน) ในหนังสือเรียน หนา 96
2. ครูขออาสาสมัครนักเรียนชาย 11 คน นักเรียน พิจารณารูปตอไปนี้
หญิง 11 คน ออกมาหนาชั้นเรียน จากนั้นให
นักเรียนชายจับคูก บั นักเรียนหญิง แลวครูถาม
นักเรียนวา นักเรียนชายและนักเรียนหญิงมี
เตา 12 ตัว
จำนวนเทากันหรือไม รูไดอยางไร
(แนวตอบ มีจำนวนเทากัน เพราะนักเรียนชาย กระตาย 11 ตัว
จับคูกับนักเรียนหญิงไดพอดี)
3. ครูวาดรูปดินสอ 13 แทง ยางลบ 12 กอน ให มีเตา 12 ตัว และกระตาย 11 ตัว
นักเรียนดูบนกระดาน แลวถามนักเรียนวา จะไดวา จับคูเตากับกระตายแลวเหลือเตาอยู 1 ตัว
ดินสอกับยางลบมีจำนวนเทากันหรือไม รูได
อยางไร ดังนั้น จํานวนเตาไมเทากับจํานวนกระตาย
(แนวตอบ มีจำนวนไมเทากัน เพราะจับคูด นิ สอ เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 12 11
กับยางลบแลวเหลือดินสออยู 1 แทง)
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

96
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป ข้อสอบเน้น การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (เทากันและไมเทากัน) จาก ขอใดถูกตอง
คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวน (1/2) 1. 14 = 13
https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11030 2. 14 = 14
3. 15 ≠ 15
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 14 = 13 ซึ่ง 14 13
ขอ 2. 14 = 14 ซึ่ง 14 = 14
ขอ 3. 15 15 ซึ่ง 15 = 15
ดังนั้น ขอ 2. ถูกตอง)

T124
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

4.2 มากกวาและนอยกวา 4. ครูใหนักเรียนศึกษาการเปรียบเทียบจำนวน


(มากกวาและนอยกวา) ในหนังสือเรียน หนา 97
ตะวันมีที่หนีบกระดาษ 14 ตัว และกิตติมีที่หนีบกระดาษ 16 ตัว 5. ครูเลาสถานการณใหนักเรียนฟงวา ตุกมีสมุด
พิจารณารูปตอไปนี้ 12 เลม แตวมีสมุด 14 เลม จากนั้นครูถามวา
ใครมีสมุดมากกวากัน
ตะวัน (แนวตอบ แตวมีสมุดมากกวาตุก)
6. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา เนื่องจาก
กิตติ เลขโดดในหลักสิบมีคาเทากัน จึงพิจารณา
เลขโดดในหลักหนวย จะไดวา 2 นอยกวา 4
เนื่องจาก เลขโดดในหลักสิบมีคาเทากัน จึงพิจารณาเลขโดด ดังนั้น 12 นอยกวา 14 นั่นคือ แตวมีสมุด
ในหลักหนวย มากกวาตุก
7. ครูยกตัวอยางเพิม่ เติมอีก 2-3 ตัวอยาง เพือ่ ให
4 นอยกวา 6 หรือ 6 มากกวา 4 นักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น 14 นอยกวา 16 หรือ 16 มากกวา 14
นั่นคือ ตะวันมีที่หนีบกระดาษ นอยกวา กิตติ หรือ
กิตติมีที่หนีบกระดาษ มากกวา ตะวัน
เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 14 < 1� ���อ 1� > 14
พิจารณาจํานวนตอไปนี้
15 กับ 12
เนื่องจาก เลขโดดในหลักสิบมีคาเทากัน จึงพิจารณาเลขโดด
ในหลักหนวย
5 มากกวา 2 หรือ 2 นอยกวา 5
ดังนั้น 15 มากกวา 12 หรือ 12 นอยกวา 15

 ไข ารณ
ุงแก พิจ

เขียนแสดงโดยใชสัญลักษณ ดังนี้ 15 > 12 ���อ 12 < 15


ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

97
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป


ขอใดถูกตอง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (มากกวาและนอยกวา) จาก
1. 12 นอยกวา 10 คลิปอักษรเรียนสรุป เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวน (1/2)
2. 14 มากกวา 16 https://www.aksorn.com/qrcode/TMAOLMTP11030
3. 15 นอยกวา 18
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 12 มากกวา 10
ขอ 2. 14 นอยกวา 16
ขอ 3. 15 นอยกวา 18
ดังนั้น 15 นอยกวา 18 จึงเปนคำตอบที่ถูกตอง)

T125
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

8. ครูใหนกั เรียนทำใบงาน เรือ่ ง การเปรียบเทียบ


ระหวางทาง
กิจกรรมฝึ กทักษะ
จำนวน โดยครูสแกน QR Code เมื่อทำเสร็จ
แลว ครูสมุ นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหนา 1 นับจํานวนรูป แลวเขียนตัวเลขแสดงจํานวนลงในชองวาง พรอมทั้ง
ชั้นเรียน โดยครูและนักเรียนที่เหลือรวมกัน เปรียบเทียบจํานวน�ดยใชเ�ร��อง�มาย >, < �ร�อ =
ตรวจสอบความถูกตอง
ใบงาน 1.
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบจานวน ใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบจานวน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนนับจำนวนรูป และเขียนตัวเลขแสดงจำนวนลงในช่องว่ำง พร้อมทั้งเปรียบเทียบ คาชี้แจง : ให้นักเรียนนับจำนวนรูป และเขียนตัวเลขแสดงจำนวนลงในช่องว่ำง พร้อมทั้งเปรียบเทียบ
โดยใช้เครื่องหมำย > < หรือ = โดยใช้เครื่องหมำย > < หรือ =
1. 1.

15 > 13

2. 2.

10 < 14

3. 3.

4. 4.
12 = 12

2.
17 > 15

1 2

3.

เกร็ดแนะครู
รู
ครูควรอธิบายและใหนักเรียนบันทึกลงสมุด
เพิ่มเติมวา จำนวน 1-9 จะมีคาของหลักสิบเปน 4.
0 ดังนั้น ถาเปรียบเทียบจำนวนที่มีสองหลักกับ
จำนวนที่มีหลักเดียว จำนวนที่มีสองหลักยอม
มากกวาจำนวนที่มีหลักเดียวเสมอ เชน
9 < 10
หน
ังส เน

13 > 5
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา

7 < 16
ะหว รปร

98
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข

2 < 11
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint ข้อสอบเน้น การคิด


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (เทากันและไมเทากัน) โดย ขอใดไมถูกตอง
ใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/ 1. 9 < 12
qrcode/TMPPMTP11 2. 14 = 10 + 4
3. 16 > 20
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 9 < 12
ขอ 2. 14 = 10 + 4
ขอ 3. 16 < 20
ดังนั้น ขอ 3. ไมถูกตอง)

T126
นํ า สอน
สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

2 บอกวาจํานวนใดมากกวาดวยวาจา 9. ครูใหนักเรียนทำกิจกรรมฝกทักษะ
1. 8 กับ 11 ในหนังสือเรียน หนา 98-100 จากนั้นครูสุม
2. 14 กับ 15 นักเรียนออกมาเฉลยคำตอบหนาชัน้ เรียน โดย
3. 13 กับ 5 4. 19 กับ 18 ครูและนักเรียนที่เหลือรวมกันตรวจสอบความ
ถูกตอง
5. 9 กับ 13 6. 16 กับ 10
7. 14 กับ 19 ขั�นสรุ
รุ ป
8. 11 กับ 14
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป ความรู ว า การ
9. 17 กับ 12 10. 10 กับ 16 เปรี ย บเที ย บจำนวนให พิ จ ารณาที่ เ ลขโดด
11. 16 กับ 10 + 2 12. 15 กับ 10 + 8 ในหลั ก สิ บ ก อ น ถ า เลขโดดในหลั ก สิ บ ของ
จำนวนใดมากกวาจำนวนนั้นจะมีคามากกวา
13. 11 กับ 10 + 9 14. 14 กับ 10 + 3 ดวย และถาเลขโดดในหลักสิบทั้งสองจำนวน
มีคาเทากัน ใหพิจารณาเลขโดดในหลักหนวย
3 บอกวาจํานวนใดนอยกวาดวยวาจา ซึง่ เลขโดดในหลักหนวยของจำนวนใดมากกวา
จำนวนนั้นจะมีคามากกวาดวย
1. 18 กับ 11 2. 11 กับ 10 2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง
3. 15 กับ 17 4. 13 กับ 14 การเปรียบเทียบจำนวน ในแบบฝกหัด
คณิตศาสตร
5. 17 กับ 16 6. 14 กับ 12
7. 19 กับ 20 8. 16 กับ 13
9. 20 กับ 10 10. 12 กับ 10
11. 19 กับ 10 + 8 12. 17 กับ 10 + 9
13. 15 กับ 10 + 6 14. 18 กับ 10 + 4

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

99
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� PowerPoint


จำนวนในขอใดมีคามากที่สุด อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวน (มากกวาและนอยกวา)
1. 18 โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/
2. 19 qrcode/TMPPMTP11
3. 12
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 12 < 18 และ 18 < 19
ดังนั้น 19 เปนจำนวนที่มีคามากที่สุด)

T127
นํ า สอน สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจใบงาน
2. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ 4 �ต�ม�ค���อ��มา� >, < ���อ = ใน
3. ครูตรวจแบบฝกหัด
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 1. 13 18 2. 17 20
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม 3. 18 10 + 9 4. 11 10
6. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
7. ครูสังเกตความสามารถในการคิด 5. 15 10 + 3 6. 10 + 7 12
แบบประเมิน 7. 14 11 8. 16 10 + 6
ลาดับ
ที่
แบบประเมิน พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานรายบุคคล แล้วขีด  ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ
คะแนน

ชื่อ-สกุล
ของผู้รับการประเมิน
ความ
มีวินัย
ความมีน้าใจ
เอื้อเฟื้อ
เสียสละ
การแสดง การรับฟัง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น
การร่วมมือ
ทางาน
ส่วนรวม
รวม
15
คะแนน
9. 11 10 + 3 10. 14 10 + 1
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง
ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน
……….……/………………….……/………………….

ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
5 ตอบคําถามตอไปนี้
1.
จํานวนใดมากกวา 15 อยู 1
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

2.
จํานวนใดนอยกวา 18 อยู 1
3.
จํานวนใดมากกวา 14 อยู 1
4.
จํานวนใดนอยกวา 19 อยู 1
5.
จํานวนใดบางที่มากกวา 10 แตนอยกวา 13
6.
จํานวนใดบางที่นอยกวา 17 แตมากกวา 14
7.
จํานวนใดบางที่มากกวา 16 แตนอยกวา 20
8.
จํานวนใดบางที่นอยกวา 15 แตมากกวา 11
9.
เจนมีดินสอสี 14 แทง นุนมีดินสอสี 12 แทง ใครมีดินสอสี
มากกวากัน
10. บอยมีลูกแกว 17 ลูก มอสมีลูกแกว 11 ลูก ใครมีลูกแกว
นอยกวากัน
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
100
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดตอไปนี้มีคาตางจากขออื่น
1. จำนวนที่มีคามากกวา 12 อยู 3
2. จำนวนที่มีคานอยกวา 19 อยู 4
3. จำนวนที่มีคามากกวา 15 อยู 1
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตตัวเลือก
ขอ 1. จำนวนที่มีคามากกวา 12 อยู 3 คือ 15
ขอ 2. จำนวนที่มีคานอยกวา 19 อยู 4 คือ 15
ขอ 3. จำนวนที่มีคามากกวา 15 อยู 1 คือ 16)

T128
นํ
นํ าา สอน สรุ ป ประเมิน

Discovery Method
เรียงลำดับจำนวน ขั�นนํ า

5
7
จากนอยไปมาก
การเรียงลําดับจํานวน
3 6 นํ าเข้าสู่บทเรียน
และจากมากไปนอย
4 9 ไดอยางไร
การเรี ย งลํา ดั บ จํา นวน นอกจากใช 1. ครูทบทวนเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจำนวนนับ
11 ถึง 20 และการเรียงลำดับจำนวนนับ 1 ถึง
การนับมาเรียงลําดับจํานวนแลว เราสามารถ 10 และ 0
ใชการเปรียบเทียบมาเรียงลําดับจํานวนได การเรียงลําดับจํานวน สามารถ 2. ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า เราสามารถเรี ย งลำดั บ
ทําได 2 ลักษณะ คือ จำนวนนับ 11 ถึง 20 ไดหรือไม และทำได
กี่ลักษณะ
1. การเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมากโดยใชการนับ (แนวตอบ ได ทำได 2 ลักษณะ คือ การเรียง
ลำดับจำนวนจากนอยไปมาก และการเรียง
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลำดับจำนวนจากมากไปนอย)

การเรียงลําดับจํานวนนับ 11 ถึง 20 จากนอยไปมาก เปนการเรียงจํานวน


โดยนับเพิ่มขึ้นทีละ 1 จากซายไปขวา

2. การเรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอยโดยใชการนับ
20 19 18 17 16 15 14 13 12 11

การเรียงลําดับจํานวนนับ 11 ถึง 20 จากมากไปนอย เปนการเรียงจํานวน


โดยนับลดลงทีละ 1 จากซายไปขวา

เราสามารถนําเสนจํานวนมาใชในการเรียงลําดับจํานวนได ดังนี้
เสนจํานวน
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

101
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด สื่อ Dig���� คลิปอักษรเรีย่นสรุป


ขอใดตอไปนี้เรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอย ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับจำนวน จากคลิปอักษรเรียนสรุป
1. 12 15 13 เรื่อง การเรียงลำดับจำนวน (1/2) https://www.aksorn.com/qrcode/
2. 17 18 20 TMAOLMTP11031
3. 20 16 11
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 12 15 13 ไมไดเรียงลำดับจำนวน
ขอ 2. 17 18 20 เรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก
ขอ 3. 20 16 11 เรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอย)

T129
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

1. ครูติดบัตรภาพตอไปนี้บนกระดาน ตัวอยางที่ 4
เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก
–¹oƒ–³«¶ i³–²¨
แลวถามวา ภาพใดมีจำนวนมากที่สุด ภาพใด
มีจำนวนนอยทีส่ ดุ และเรียงลำดับจำนวนสัตว
–¹oƒ–³«¶•Ë³–²¨
ในภาพจากนอยไปมากไดอยางไร
( แนวตอบ เมื่ อ นั บ จำนวนสั ต ว ใ นแต ล ะภาพ –¹oƒ–³«¶šËdz–³¦ –²¨
จะไดวา มีนก 14 ตัว มีปลา 11 ตัว และมีเตา
19 ตัว ดังนั้น เตามีจำนวนมากที่สุด ปลามี 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
จำนวนนอยที่สุด และสามารถเรียงลำดับจาก
นอยไปมากได คือ ปลา นก เตา) จากเสนจํานวน เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมากได ดังนี้ 12 14 17
2. ครูใหนกั เรียนศึกษาความรู เรือ่ ง การเรียงลำดับ
จำนวนจากน อ ยไปมากและการเรี ย งลำดั บ
จำนวนจากมากไปนอยโดยใชการนับและใช ตัวอยางที่ 5
เสนจำนวน ในหนังสือเรียน หนา 101-102
จากนั้ นครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายว า เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
การเรี ย งลำดั บ จำนวนจากน อ ยไปมากและ
การเรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอยโดยใช
การนับและการใชเสนจำนวนมีวิธีการอยางไร
18 11 15 17

11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
จากเสนจํานวน เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอยได ดังนี้
18 17 15 11
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

102
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

สื่อ Dig���� PowerPoint กิจกรรม สร้างเสริม


อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับจำนวน โดยใชสื่อ PowerPoint เรื่อง ครูสมุ ตัวเลข 0-20 ทัง้ หมด 5 จำนวน จากนัน้ ใหนกั เรียนเรียงลำดับ
จำนวนนับ 11 ถึง 20 https://www.aksorn.com/qrcode/TMPPMTP11 จำนวนจากนอยไปมาก แลวสุมตัวเลขอีก 1 ครั้ง และใหนักเรียน
เรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอยลงในสมุด

T130
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
รู ้
เรียนรู

ตัวอยางที่ 6 3. ครูอธิบายเกี่ยวกับการเรียงลำดับจำนวนจาก
นอยไปมากและจากมากไปนอยโดยใชการนับ
เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก โดยการเปรียบเทียบ และใชเสนจำนวน พรอมยกตัวอยางเพิ่มเติม
18 12 16 14 2-3 ตัวอยาง
4. ครูใหนกั เรียนศึกษาความรู เรือ่ ง การเรียงลำดับ
ทุกจํานวนมีเลขโดดในหลักสิบเทากัน จึงเปรียบเทียบเลขโดดในหลักหนวย จำนวนจากน อ ยไปมากและการเรี ย งลำดั บ
จำนวนจากมากไปนอยโดยใชการเปรียบเทียบ
เนื่องจาก 8 > 2 8 > 6 และ 8 > 4
ในหนังสือเรียน หนา 103 จากนั้นครูและ
แสดงวา 8 มากที่สุด นักเรียนรวมกันอภิปรายวา การเรียงลำดับ
จาก 6 > 4 และ 4 > 2 จำนวนจากน อ ยไปมากและการเรี ย งลำดั บ
จำนวนจากมากไปนอย โดยการเปรียบเทียบ
แสดงวา 2 นอยที่สุด มีวิธีการอยางไร
ดังนั้น เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมากได ดังนี้ 12 14 16 18 5. ครูอธิบายการเรียงลำดับจำนวนจากนอยไป
มากและการเรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอย
ตัวอยางที่ 7 โดยการเปรียบเทียบ พรอมยกตัวอยางเพิม่ เติม
2-3 ตัวอยาง
เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย โดยการเปรียบเทียบ นํ าไปใช้

12 15 11 17 19 6. ครูใหนักเรียนทำใบงาน เรื่อง การเรียงลำดับ


ปลายทาง
จำนวน โดยครูสแกน QR Code จากนัน้ ครูสมุ
ทุกจํานวนมีเลขโดดในหลักสิบเทากัน จึงเปรียบเทียบเลขโดดในหลักหนวย นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
เนื่องจาก 2 < 9 5 < 9 1 < 9 และ 7 < 9 ใบงาน

แสดงวา 9 มากที่สุด
เฉลย
ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน ใบงาน เรื่อง การเรียงลาดับจานวน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเรียงลำดับจำนวนตำมที่กำหนด คาชี้แจง : ให้นักเรียนเรียงลำดับจำนวนตำมที่กำหนด

1. เรียงลำดับจำนวนของสิ่งของต่อไปนี้จำกมำกไปน้อย 1. เรียงลำดับจำนวนของสิ่งของต่อไปนี้จำกมำกไปน้อย

จาก 1 < 2 2 < 5 และ 5 < 7


เรียงลำดับจำนวนจำกมำกไปน้อยได้ ดังนี้ เรียงลำดับจำนวนจำกมำกไปน้อยได้ ดังนี้ 17 15 12

แสดงวา 1 นอยที่สุด 2. เรียงลำดับจำนวนที่กำหนดให้จำกน้อยไปมำก

17 16 19 14
2. เรียงจำนวนลำดับที่กำหนดให้จำกน้อยไปมำก

17 16 19 14

ดังนั้น เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอยได ดังนี้ 19 17 15 12 11 เรียงลำดับจำนวนจำกน้อยไปมำกได้ ดังนี้ เรียงจำนวนลำดับจำกน้อยไปมำกได้ ดังนี้

14 16 17
9
19

 ไข ารณ

1 3
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

103
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

ข้อสอบเน้น การคิด
ขอใดเรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก
1. 14 16 12 18
2. 12 14 16 18
3. 18 16 14 12
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 14 16 12 18 ไมไดเรียงลำดับจำนวน
ขอ 2. 12 14 16 18 เปนการเรียงลำดับจำนวน
จากนอยไปมาก
ขอ 3. 18 16 14 12 เปนการเรียงลำดับจำนวน
จากมากไปนอย)

T131
นํ า สอน
สอน สรุ ป ประเมิน

ขั�นสอน
นํ าไปใช้

7. ครูใหนักเรียนจับคูทำกิจกรรมฝกทักษะ กิจกรรมฝึ กทักษะ


ในหนังสือเรียน หนา 104 ลงในสมุด
8. ครู ใ ห นั ก เรี ย นทำกิ จ กรรมเชื่ อ มโยงสู ชี วิ ต 1 เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก
ประจำวัน ในหนังสือเรียน หนา 105 จากนั้น
ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมานำเสนอคำตอบหน า
1. 2 16 11
ชั้ น เรี ย น และนั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย นร ว มกั น 2. 12 17 9 15
ตรวจสอบความถูกตอง 3. 20 9 12 16
9. ครู ใ ห นั ก เรี ย นจั บ คู แ ล ว ร ว มกั น ทำกิ จ กรรม
ปลายทาง
Active Learning ในหนังสือเรียน หนา 105 4. 15 7 11 18 13
หรือในใบกิจกรรม เรือ่ ง การเดินทางมาโรงเรียน 5. 11 15 14 20 18
ดังนี้
1) แตละคูรวมกันสำรวจเพื่อนในหองเรียน 2 เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
จำนวน 20 คน วามีวิธีเดินทางมาโรงเรียน
แบบใดบาง โดย 1 คน สามารถตอบได 1. 15 7 10
เพียง 1 วิธี และแตละวิธีมีจำนวนกี่คน 2. 13 19 20 17
2) นำจำนวนเพื่อนที่เดินทางในแตละวิธีมา
เรียงลำดับจากมากไปนอย
3. 12 15 19 16 10
3) แตละคูออกมานำเสนอขอมูลหนาชั้นเรียน 4. 11 13 15 17 19
หมายเหตุ : ครูสามารถดูเฉลยของกิจกรรม
Active Learning หรือเฉลยใบกิจกรรมได
5. 12 14 16 18 20
โดยสแกน QR Code 3 ตอบคําถามตอไปนี้
ใบกิจกรรม Active Learning
เฉลย
1. แนนมีนมจืด 11 กลอง นัทมีนมจืด 15 กลอง และนุชมีนมจืด
13 กลอง เรียงลําดับคนที่มีจํานวนนมจืดจากนอยไปมาก
ใบกิจกรรม เรื่อง การเดินทางมาโรงเรียน ใบกิจกรรม เรื่อง การเดินทางมาโรงเรียน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้ คาชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ แล้วปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้

1. แต่ละคู่ร่วมกันสำรวจเพื่อนในห้องเรียนจำนวน 20 คน ว่ำ เพื่อนแต่ละคนเดินทำงมำโรงเรียนด้วยวิธีใดบ้ำง 1. แต่ละคู่ร่วมกันสำรวจเพื่อนในห้องเรียนจำนวน 20 คน ว่ำ เพื่อนแต่ละคนเดินทำงมำโรงเรียนด้วยวิธีใดบ้ำง


โดย 1 คน สำมำรถตอบได้เพียง 1 แล้วเขียนบันทึกผลลงในกรอบด้ำนล่ำง โดย 1 คน สำมำรถตอบได้เพียง 1 แล้วเขียนบันทึกผลลงในกรอบด้ำนล่ำง

รายชื่อนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยวิธีต่าง ๆ รายชื่อนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยวิธีต่าง ๆ

ไดอยางไร
วิธีที่ 1 รถยนต์ ได้แก่ ออม เอม โอบ แวว และนำใส วิธีที่ 1 รถยนต์ ได้แก่ ออม เอม โอบ แวว และนำใส

วิธีที่ 2 รถโรงเรียน ได้แก่ เคน มะนำว พรำว โก้ โบว์ และจิ๋ว วิธีที่ 2 รถโรงเรียน ได้แก่ เคน มะนำว พรำว โก้ โบว์ และจิ๋ว

วิธีที่ 3 เดิน ได้แก่ แตงกวำ โจ้ และเรน วิธีที่ 3 เดิน ได้แก่ แตงกวำ โจ้ และเรน

วิธีที่ 4 รถจักรยำนยนต์ ได้แก่ เอมและบอย วิธีที่ 4 รถจักรยำนยนต์ ได้แก่ เอมและบอย

วิธีที่ 5 รถไฟฟ้ำ ได้แก่ เปรม เจน สำยรุ้ง และต่ำย วิธีที่ 5 รถไฟฟ้ำ ได้แก่ เปรม เจน สำยรุ้ง และต่ำย

วิธีที่ 6 เรือด่วน ได้แก่ - วิธีที่ 6 เรือด่วน ได้แก่ -

2. เกงมีเคก 10 ชิ้น กลามีเคก 16 ชิ้น พลมีเคก 20 ชิ้น และโตง


เขียนจำนวนเพื่อนที่เดินทำงมำโรงเรียนด้วยวิธีต่ำง ๆ ได้ ดังนี เขียนจำนวนเพื่อนที่เดินทำงมำโรงเรียนด้วยวิธีต่ำง ๆ ได้ ดังนี
วิธีที่ 1 วิธีที่ 2 วิธีที่ 3 วิธีที่ 4 วิธีที่ 5 วิธีที่ 6 วิธีที่ 1 วิธีที่ 2 วิธีที่ 3 วิธีที่ 4 วิธีที่ 5 วิธีที่ 6
จานวนคน 5 6 3 2 4 0 จานวนคน 5 6 3 2 4 0

2. นำจำนวนเพื่อนที่เดินทำงแต่ละวิธี มำเรียงลำดับจำกมำกไปน้อย 2. นำจำนวนเพื่อนที่เดินทำงแต่ละวิธี มำเรียงลำดับจำกมำกไปน้อย


6 5 4 3 2 0 6 5 4 3 2 0

3. แต่ละคู่ออกมำนำเสนอข้อมูลหน้ำชันเรียน 3. แต่ละคู่ออกมำนำเสนอข้อมูลหน้ำชันเรียน

มีเคก 14 ชิ้น เรียงลําดับคนที่มีจํานวนเคกจากมากไปนอย


หน
ังส เน

ไดอยางไร
ือเล ื้อห

1 2
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

ฝึกทําต่อใน
104
าง ับป

บฝ.คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1


สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

ข้อสอบเน้น การคิด
20 15 16 19 11
ขอใดเรียงลำดับจำนวนขางตนจากนอยไปมากไดถูกตอง
1. 20 19 16 15 11
2. 15 11 16 19 20
3. 11 15 16 19 20
(เฉลยคำตอบ ขอ 3. เพราะ
พิจารณาแตตัวเลือก
ขอ 1. 20 19 16 15 11 เปนการเรียงลำดับจำนวน
จากมากไปนอย
ขอ 2. 15 11 16 19 20 ไมไดเรียงลำดับจำนวน
ขอ 3. 11 15 16 19 20 เปนการเรียงลำดับจำนวน
จากนอยไปมาก)

T132
นํ า สอน สรุ ป
สรุ ป ประเมิน

ขั�นสรุ
รุ ป
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เกี่ ย วกั บ การ
เชื่อมโยง สู่ชีวิตประจําวัน เรียงลำดับจำนวนวา สามารถทำไดสองแบบ
คือ เรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก และ
จากรูป ใหนักเรียนจัดหนังสือใสชั้นโดยแยกตามสี ���งมีเงื่อนไข ดังน�้ เรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอย เราสามารถ
1. จัดหนังสือใสชั้น ชั้นละหน��งสี เรียงลำดับจำนวนโดยใชวิธีนับ ใชเสนจำนวน
2. หนังสือสีใดที่มีจํานวนนอยที่สุดใหจัดไวชั้นบนสุด และใชวิธีการเปรียบเทียบ โดยถาจำนวนที่
3. หนังสือสีใดที่มีจํานวนมากที่สุดใหจัดไวชั้นลางสุด เรี ย งลำดั บ มี ห ลั ก สิ บ เท า กั น จะพิ จ ารณา
4. เรียงลําดับจํานวนหนังสือจากนอยไปมาก เปรียบเทียบเลขโดดในหลักหนวย จากนั้นจึง
นำจำนวนเหลานั้นมาเรียงลำดับจำนวนจาก
นอยไปมาก หรือเรียงลำดับจำนวนจากมาก
ไปนอย
2. ครูใหนักเรียนทำแบบฝกหัด เรื่อง การเรียง
ลำดั บ จำนวน ในแบบฝ ก หั ด คณิ ต ศาสตร
เปนการบาน
3. ครูใหนักเรียนทบทวนความรูทั้งหมดที่เรียน
มาในหนวยนี้ โดยศึกษาจากสรุปสาระสำคัญ
ประจำหนวยการเรียนรูที่ 4 ในหนังสือเรียน
หนา 106
4. ครูใหนักเรียนตรวจสอบความรูความเขาใจ
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ดวยตนเอง โดยสแกน QR Code ตรวจสอบ
ก รร ม
กจ

Active L earning
ความสามารถดาน ✓ การสื่อสาร ตนเอง ในหนังสือเรียน หนา 106 ถาผลประเมิน
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี ของนักเรียนต่ำกวาระดับพอใช ครูควรอธิบาย
และยกตั ว อย า งเพิ่ ม เติ ม ในหั ว ข อ นั้ น แล ว
ใหนักเรียนจับคู แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปน�้ ให นั ก เรี ย นกลั บ ไปทบทวนเนื้ อ หาและทำ
1. แตละคูรวมกันสํารวจเพื่อนในหองเรียนจํานวน 20 คน วามีวิธีเดินทางมา แบบฝกหัดอีกครั้งตามหัวขอที่กำหนด
โรงเรียนแบบใดบาง โดย 1 คน สามารถตอบไดเพียง 1 วิธี และแตละวิธี 5. ครูใหนักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
มีจํานวนกี่คน
2. นําจํานวนเพื่อนที่เดินทางในแตละวิธีมาเรียงลําดับจากมากไปนอย
3. แตละคูออกมานําเสนอขอมูลหนาชั้นเรียน

 ไข ารณ
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว

105
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

แนวตอบ กิจกรรมเช�่อมโยงสูชีว�ตประจำาวัน หนา 105


ข้อสอบเน้น การคิด
หนังสือเลมสีชมพูอยูชั้นบนสุด หนังสือเลมสีเทาอยูชั้นลางสุด และหนังสือ
ขอใดตอไปนี้เรียงลำดับจำนวนตางจากขออื่น เลมสีฟาอยูชั้นกลาง
1. 3 7 19 2. 16 12 0 3. 15 18 20 เรียงลำดับจำนวนหนังสือจากนอยไปมากได ดังนี้
(เฉลยคำตอบ ขอ 2. เพราะ 13 16 18
พิจารณาแตละตัวเลือก
ขอ 1. 3 7 19 เรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก
ขอ 2. 16 12 0 เรียงลำดับจำนวนจากมากไปนอย
ขอ 3. 15 18 20 เรียงลำดับจำนวนจากนอยไปมาก
ดังนั้น ขอ 2. เรียงลำดับจำนวนตางจากขออื่น)

T133
นํ า สอน สรุ ป ประเมิ
ประเมินน

ขั�นประเมิน

1. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
2. ครูตรวจใบงาน
3. ครูตรวจกิจกรรมฝกทักษะ สรุป สาระสําคัญ ประจําหน่วยการเรียนรู้ท 4

4.
5.
ครูตรวจแบบฝกหัด
ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล จำนวนนับ
6. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม ถึง
7. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
8. ครูประเมินความสามารถในการสื่อสารและ การบอกและเขียน ตัวเลขฮินดู 8
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
การคิด จากกิจกรรม Active Learning หรือ ตัวเลขและ
อารบิก

ใบกิจกรรม เรื่อง สำรวจวิธีการเดินทางมา ตัวหนังสือ ตัวเลขไทย �� �� �� �� �� �� �� �� �� ��


โรงเรียน โดยใชเกณฑการประเมินจากแบบ แสดงจำนวน ตัวหนังสือ สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบส สิบห้า สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด สิบเก้า ยสิบ

ประเมินสมรรถนะสำคัญของผูเรียน
การแสดงจำนวนนับ����ถึง��� การเปรียบเทียบจำนวน
แบบประเมิน ในรูปความสัมพันธของจำนวน เท่ากับ 11 11
แบบสวนยอยและสวนรวม
ระดับคุณภำพ
แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ใส่ตัวเลขลงในช่องระดับคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด
สมรรถนะที่ 1 เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอด
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับคุณภำพ ความสามารถในการสื่อสาร ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ ความเข้าใจ
สมรรถนะที่ 1 ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร ตัวชี้วัดที่ 1 จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน จากสารที่อ่าน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่ ฟังหรือดู ตามที่
ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก กาหนดได้ กาหนดได้อย่าง กาหนดได้ และ กาหนดไม่ได้
สมรรถนะที่ 1 ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
และทัศนะของตนเองด้วยการ อย่างถูกต้อง ถูกต้องครบถ้วน มีข้อบกพร่องใน
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.
พูดและการเขียน ครบถ้วน มีข้อบกพร่อง การใช้ภาษา

9 15
สมรรถนะที่ 2 ควำมสำมำรถในกำรคิด พฤติกรรมบ่งชี้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน
มีข้อบกพร่อง
ตัวชี้วัดที่ 1 พฤติกรรมบ่งชี้ 3. 3. เขียนถ่ายทอดความรู้ ในการใช้ภาษา วรรคตอน และการเขียนคา
หมำยเหตุ : หากนักเรียนมีระดับคุณภาพไม่ถึงระดับดี (2) ในแต่ละสมรรถนะสาคัญ ครูควรพัฒนานักเรียนให้ถึงเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนมี และการเขียนคา ตั้งแต่ 6 แห่งขึ้นไป
ความเข้าใจจากสารที่อา่ น วรรคตอนและการ
ความพร้อมก่อนทากิจกรรมต่อไป ตั้งแต่ 3 แห่ง
ฟัง หรือดู ตามที่กาหนดได้ เขียนคา
เกณฑ์กำรประเมิน ไม่เกิน 2 แห่ง แต่ไม่เกิน 5 แห่ง

12 13
ระดับคุณภำพ สมรรถนะที่ 2 ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด

ส่วนย่อย ส่วนย่อย ไม่เท่ากับ


สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ คุณลักษณะ
ดีมำก ดี พอใช้ ปรับปรุง

19 20
ตัวชี้วัดที่ 1 และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ และความคิดรวบ
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
คิดพื้นฐาน (การคิดวิเคราะห์) ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล ยอดของข้อมูล
สมรรถนะที่ 1 พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอดความรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น ต่าง ๆ ที่พบเห็น
ความสามารถในการสื่อสาร ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก ความเข้าใจจาก 3. ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน ในชีวิตประจาวัน
ตัวชี้วัดที่ 1 สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ สารที่อ่าน ฟัง หรือ และความคิดรวบยอดของ ได้ถูกต้องและ ได้ถูกต้อง ได้ถูกต้องเป็น ไม่ได้
ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนดได้ ดู ตามที่กาหนด ข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นใน ครบถ้วน แต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและ
ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง ไม่ชัดเจน ไม่ได้

ส่วนรวม ส่วนรวม
บริบทที่เป็นสิ่งใกล้ตวั ไม่ครบถ้วน

10 5
และทัศนะของตนเองด้วยการ ครบถ้วน ครบถ้วน ชัดเจน
พูดและการเขียน ชัดเจน และมัน่ ใจ
พฤติกรรมบ่งชี้
1. พูดถ่ายทอดความรู้ ความ
เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง
หรือดู ตามที่กาหนดได้

ส่วนย่อย ส่วนย่อย
1 2

มากกว่า 14 12

การเขียนจำนวนนับ����ถึง����
ในรูปกระจาย
เปนการเขียนจํานวนในรูปการบวกของ น้อยกว่า 11 13
หลักสิบกับหลักหน่วย

13
1 เปนเลขโดดในหลักสิบ มีค่า 10

การเรียงลำดับจำนวน
3 เปนเลขโดดในหลักหน่วย มีค่า 3
เรียงลําดับจํานวนจากน้อยไปมาก
ดังนน 13 เขียนในรูปกระจายเปน 10 + 3 12 14 19 20
เรียงลําดับจํานวนจากมากไปน้อย
หน
ังส เน
ือเล ื้อห

19 14 12 11
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

106 ตรวจสอบตนเอง
าง ับป
สง รุง
ตร แก
วจ  ไข
พิจ
าร

T134
บันทึก

...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................................
แบบฝึกหัด
รายวิชาพื้นฐาน

คณิ ตศาสตร์ ป.1


ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ตัวอย่าง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ตัวอย่างในเล่ม เป็นแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1

แบบฝกหัดรายวิชาพื้นฐาน แบบฝกหัดรายวิชาพื้นฐาน

คณิ
ต ศาสตร์ คณต
ิ ศาสตร์
ละตัวชี้วัด ตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้ว
ตามมาตรฐานการเรียนรูแ 2560 ) ัด
ศาส ตร (ฉบ บ
ั ปร ับปรุง พ.ศ. กลุม สาระการเรียนรูค ณิตศาสตร
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 )
กลุม สาระการเรียนรูค ณิต น
้ ั พื น
้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั
้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ารศึกษาข
ตามหลักสูตรแกนกลางก
1 1
ป.1
ชั้นประถมศึกษาปที่ เล
ม ชั้นประถมศึกษาปที่ เลม 1 2
ป.1
่ 1
เลม ่ 2
เลม

ไพศาล จรรยา ดร.ชิรา ลำด


วนหอม 54 .-
ลำดวนหอม
ไพศาล จรรยา ดร.ชิรา

พัฒนา พัฒนา เพิม



ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ทักษะการคิดขั้นสูง กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
และทักษะในศตวรรษที่ 21 และนําไปประยุกต์ใช้ Ac�i�� L�ar���g
ด้วยกิจกรรมทีห
่ ลากหลาย ในชีวิตประจําวัน เพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน

แบบฝกหัดเลมจริงอาจมีขนาดตางไปจากตัวอยางที่เสนอในเลมน�้
แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน

ɬɻΥɽʐʘʒɽʋΰ
ั้ ประถมศึกษาปีท่ี
ชน 1 ʃ˺ 1
ตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด ʚʍγʉ 1
กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§ ¼ÙŒµÃǨ ºÃóҸԡÒÃ


¹ÒÂä¾ÈÒÅ ¨ÃÃÂÒ ´Ã.¡ÔµÔâ蹏 »˜³±Ã¹¹·¡Ð ¹Ò§ÇѪÃÒÇÅÕ ¡ÃÍØɳ¡ØÅ ฉบับ
´Ã.ªÔÃÒ ÅíҴǹËÍÁ ¹Ò§¸ÑÞÅѡɳ ¨ÔµÇÔ¢ÒÁ ¹Ò§ÃØ‹§ÍÃس ÅÕÂÐdzԪ เฉลย
¹Ò§ÊÒÇÍÃÉÒ à¨ÃÔÞÂÔè§

ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸Ôµì ÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔ
»‚·Õè¾ÔÁ¾ 2565
¾ÔÁ¾¤ÃÑ駷Õè 8
¨íҹǹ¾ÔÁ¾ 15,000 àÅ‹Á
¾ÔÁ¾¤ÃÑ駷Õè 5 ISBN : 885-86491-3722-7
ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1146041 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1136090


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T137
��า�� า

Ẻ½ƒ¡ËÑ´ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ��� ��า������������������า��ที่��������� จัดทำขึ้น


สำหรับใชประกอบการเรียนการสอนชัน้ ประถมศึกษาปที่ 1 โดยดำเนินการจัดทำใหสอดคลองตามมาตรฐานการเรียนรู
และตัวชีว้ ดั กลุม สาระการเรียนรูค ณิตศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
พุทธศักราช 2551 ทุกประการ แบบฝกหัดในระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 1 นี้ คณะผูเรียบเรียงไดจัดแบงออกเปน
2 เลม ดังนี้

แบบฝึกหัด คณิ ตศาสตร์ เล่ม 1 ��� หนั งสื อเรียน

� ่ี
��่ ��ก��เ�ี���� ท 1-7
��บ��ก่ บ
� คณิ ตศาสตร์ เล่ม 1

แบบฝึกหัด คณิ ตศาสตร์ เล่ม 2 ��� หนั งสื อเรียน

� ่ี
��่ ��ก��เ�ี���� ท 8 - 14
��บ��ก่ บ
� คณิ ตศาสตร์ เล่ม 2

ฉบับ บริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จำกัด ไดจัดทำ ¿››žeƒ¬²•¤³£¨µŒ³Ÿ¸Çš‘³š†”µ–©³«–¤q Œ²Çšœ¤±—¢©·ƒª³


เฉลย
œd˜¶Æ¾¦m¢ ขึ้นสำหรับใชในการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปที่ 1 เพื่อพัฒนาความรูและปูพื้นฐานทางการเรียน
คณิตศาสตร ใหผูเรียนมีความรูความเขาใจในเนื้อหาสาระคณิตศาสตรตามมาตรฐานการเรียนรูมากขึ้น และสงเสริม
ทักษะที่จำเปนสำหรับการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ทั้งทักษะดานการคิดวิเคราะห การคิดอยางมีวิจารณญาณ
การแกปญ หา การคิดสรางสรรค การใชเทคโนโลยี การสือ่ สาร และการรวมมือ เพือ่ ใหผเู รียนรูเ ทาทันการเปลีย่ นแปลง
ของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดลอม สามารถแขงขันและอยูรวมกับประชาคมโลกได
¿››žeƒ¬²•¤³£¨µŒ³Ÿ¸Çš‘³š †”µ–©³«–¤q Œ²Çšœ¤±—¢©·ƒª³œd˜¶Æ  ¾¦m¢ เลมนี้ไดนำเสนอแบบฝกหัด
ที่เหมาะสมกับวัยของผูเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปท่ี 1 เพื่อใชประกอบการเรียนการสอนและเปนเครื่องมือ
เสริมสรางคุณภาพของผูเรียนใหบรรลุผลตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
¤³Ð¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T138
แบบฝึ����
��� �������
���บ�� ����������������ท่ี 1
���� 1
� ่ี
��่ �������ี����ท � ่ี
��่ �������ี����ท

1 จํานวนนั บ � ��ง �� �ล� � 2 4 จํานวนนั บ �� ��ง �� 63


1. การบอกจํานวนนับ 1 ��ง 1� และ � 2 1. จํานวนนับ 11 ��ง 2� �3
2. การอานและการเขียนตัวเลขแสดงจํานวนนับ 2. การแสดงจํานวนนับ 11 ��ง 2� �นรูปความสัม�ัน�
1 ��ง 1� และ � � ของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม ��
3. การแสดงจํานวนนับ�มเกิน 1� �นรูปความสัม�ัน� 3. การเขียนตัวเลขแสดงจํานวน�นรูปกระจาย ��
ของจํานวนแบบสวนยอยและสวนรวม � �. การเปรียบเทียบจํานวน �3
�. การเปรียบเทียบจํานวน 1� �. การเรียงลําดับจํานวน ��
�. การเรียงลําดับจํานวน 1� Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 4 ��
�. การบอกอันดับที่ 1� � ่ี
��่ �������ี����ท

การบวกจํานวนที่มีผลบวก
5
Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 1 1�
83
ไม่เกิน ��
� ่ี
��่ �������ี����ท 1. การบวกจํานวนที่มี�ลบวก�มเกิน 2� �3
2
การบวกจํานวนสองจํานวน 2. การสลับที่ของการบวก �1
ที่มีผลบวกไม่เกิน 9
21
3. การบวกจํานวนสามจํานวน �2
1. ความหมายของการบวก 21 �. การหาตัว�มทราบคา�นประโยคสัญลักษณ �� ฉบับ
2. ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 22 �. โจทยป�ญหาการบวกที่มี�ลบวก�มเกิน 2� �� เฉลย
3. การบวกจํานวนสองจํานวนที่มี�ลบวก�มเกิน � 2� �. การสร�างโจทยปญ� หาการบวกทีม่ �ี ลบวก�มเกิน 2� 1��
�. การสลับที่ของการบวก 2� Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 5 1�2
�. การบวกด�วย�ูนย 31 � ่ี
��่ �������ี����ท

การลบจํานวนที่มีตว ้
6
�. โจทยป�ญหาการบวกที่มี�ลบวก�มเกิน � 32 ั ตัง
105
�. การสร�างโจทยป�ญหาการบวกที่มี�ลบวก�มเกิน � 3� ไม่เกิน ��
Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 2 38 1. การลบจํานวนที่มีตัวตั�ง�มเกิน 2� 1��
2. ความสัม�ัน�ของการบวกและการลบ 11�
� ่ี
��่ �������ี����ท 3. การหาตัว�มทราบคา�นประโยคสัญลักษณ 11�
3
การลบจํานวนสองจํานวน �. โจทยป�ญหาการลบที่มีตัวตั�ง�มเกิน 2� 11�
ที่มีตว ้ 41
ั ตังไม่ เกิน 9 �. การสร�างโจทยป�ญหาการลบที่มีตัวตั�ง�มเกิน 2� 12�
1. ความหมายของการลบ �1 Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 6 12�
2. ประโยคสัญลักษณแสดงการลบ �2 � ่ี
��่ �������ี����ท

7
3. การลบจํานวนสองจํานวนที่มีตัวตั�ง�มเกิน � ��
�. การลบด�วย�ูนย �� รู ปเรขาคณิ ต 129
�. ความสัม�ัน�ของการบวกและการลบ �1 1. รูปเรขาคณิตสองมิติ 12�
�. การหาตัว�มทราบคา�นประโยคสัญลักษณ �3 2. รูปเรขาคณิตสามมิติ 13�


 ไข าร
ุงแก พิจ

�. โจทยป�ญหาการลบที่มีตัวตั�ง�มเกิน � �� Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 7
ปร วจ

13�
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

�. การสร�างโจทยป�ญหาการลบที่มีตัวตั�ง�มเกิน � ��
จม ะหว
อา นร

บรรณานุกรม
หา ี้อยู ใ

Ẻ½ƒ¡·º·Ç¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 3 �� 1�2
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T139
3
หน่ วยการเรียนรู้ท่ี
8 4 2

1 จาํ นวนน� ������


� ���������

1 การบอกจํานวนนั บ���������������
1 ระบายสีรูปตามจํานวนที่กําหนด
1.
��� �
หา

2.
��� �
แปด
ฉบับ
เฉลย

3. ��� �
สาม

4.
��� �
เกา

5.
��� �
สอง
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

2
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T140
2 เขียน ���มร��ต�วเ�ข��นดู�าร��ก ต�วเ�ข�ทย ���ต�วหน�����ที่��ด�
จํานวนรูปตามที่กําหนด

รานของเลน

ฉบับ
เฉลย

ิ ดูอารบิก
ตัวเลข�น ตัวเลขไทย ตัวหนั งส� อ

1. มีจํานวน 6 3 � � หก สาม
2. มีจํานวน 4 7 � � สี่ เจ็ด
3. มีจํานวน 2 1 � � หน�่ง สอง
4. มีจํานวน 9 4 � � สี่ เกา
5. มีจํานวน 8 10 �� � แปด สิบ


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

3
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T141
2 การอ่านและการเขี ยนตัวเลขแสดงจํานวนนั � � ��ง ��
และ �
1� ��ี�������������อา���������������������ห��งส�อ�ส�ง��า���
1
2 0 0 0 0 0
1
2 � � � � �
����� ��น�� ��น�� ��น�� ��น�� ��น��
1
2
1 1 1 1 1
1
2
� � � � �
ห��่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง
1
2 2 2 2 2 2
ฉบับ
เฉลย
3 1
2 � � � � �
สอง สอง สอง สอง สอง สอง
1
3 3 3 3 3
๓ ๓ ๓ ๓ ๓
2
2
3
1

สาม สาม สาม สาม สาม สาม


1
2
4 4 4 4 4
2
1 � � � � �
สี่ สี่ สี่ สี่ สี่ สี่
5 5 5 5 5
1 3

2
3
1 ๕ ๕ ๕ ๕ ๕
หา หา หา หา หา หา
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

4
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T142
1

2 6 6 6 6 6
1
2
๖ ๖ ๖ ๖ ๖
หก หก หก หก หก หก
7 7 7 7 7
1
2

1 2 ๗ ๗ ๗ ๗ ๗
เ��ด เจ็ด เจ็ด เจ็ด เจ็ด เจ็ด
8 8 8 8 8
1
3
2

2
3
1 ๘ ๘ ๘ ๘ ๘
แปด แปด แปด แปด แปด แปด ฉบับ
เฉลย

9 9 9 9 9
1

1
3
2 ๙ ๙ ๙ ๙ ๙
เกา เกา เกา เกา เกา เกา
10 10 10 10 10
1 1

2 2

1
2 1
2 �� �� �� �� ��
สิบ สิบ สิบ สิบ สิบ สิบ


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

5
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T143
2 �����ต���������ูอ����ก ���ต�����������ง��
����� �����ู�ใ�
ใหถูกตอง
1. 2.

� � � �

3. 4.

ฉบับ
เฉลย
� � � �

5. 6.

�� �� � �

7. 8.

7 ๗ � �
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

6
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T144
3 การแสดงจํานวนนั บไม่เกิน �� �นร� ��วามสัม�ัน�์
ของจํานวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม

1 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง


1. 4
8
4

2. 3
6 ฉบับ
3 เฉลย

3. 3
7
4

4. 3
5
2


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

7
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T145
2 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1. 2
4
2

2. 5
9
4

ฉบับ 3. 1
เฉลย
2
1

4. 2
3
1

5. 5
7
2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

8
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T146
3 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน
นว เพื่อแสดงความสัมพันธแบบสวนยอยและ
สวนรวมของจํานวนตอไปน�้
6 3
1. 7 2. 3
1 0
4 5
3. 4 4. 6
0 1
1 6
5. 5 6. 8
4 2 ฉบับ
เฉลย

4 ปฏิบัติตามเงื่อนไขตอไปน�้
• ระบายสี ลงบนดอกไมสองดอก ที่มีตัวเลขรวมกันเปน 2
• ระบายสี ลงบนดอกไมสองดอก ที่มีตัวเลขรวมกันเปน �
• ระบายสี ลงบนดอกไมสองดอก ที่มีตัวเลขรวมกันเปน �

5 3 2 1
6 0


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

9
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T147
4 การเปรียบเทียบจํานวน

1 โยงเสนจับคูรูป แลวเติมคําวา เทากัน หรือ ไมเทากัน


1.
เทากัน

2.
ไมเทากัน

ฉบับ
เฉลย 3.
ไมเทากัน

4.
ไมเทากัน

5.
เทากัน
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

10
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T148
2 ขีด ✓ ใน ที่ตรงกับรูปที่มีจํานวนมากกวา
1.

2. ✓

3.

ฉบับ
เฉลย
3 ขีด ✓ ใน ที่ตรงกับรูปที่มีจํานวนนอยกวา
1.

2.

3. ✓


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

11
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T149
4 เขียนตัวเลขแสดงจํานวนรูปที่กําหนดใน แลวเติมเครื่องหมาย >, <
หรือ � ใน
1. 2.

3 = 3 6 < 8

3. 4.

5 < 6 10 > 7
ฉบับ
เฉลย

5. 6.

3 < 4 9 > 6

7. 8.

8 > 5 2 = 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

12
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T150
5 เขียนเครื่องหมาย
งหมา >, < หรือ � ใน และโยงเสนจับคูขอความกับรูป
ใหตรงกัน
1. 5 < 7 • •

2. 8 > 6 • •

3. 4 > 3 • •
ฉบับ
เฉลย

4. 6 = 6 • •

5. 3 = 3 • •

6. 0 < 8 • •


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

13
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T151
6 เขียนตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง (ตัวอยางคำตอบ)

1. 7 = 7

2. 3 > 2

3. 4 < 6

4. 9 > 8
ฉบับ (ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน)
เฉลย
� เขียนเครื่องหมาย >, < หรือ � ใน และวาดรูปตามจํานวนที่กําหนด
ลงในชองวาง
1. 2.

4 = 4 5 < 6

3. 4.

3 > 2 1 < 3
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

14
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T152
5 การเรียงลําดับจํานวน
1 เรียงลําดับจํานวนจากน
นวนจาก อยไปมาก
1. 7
5 4 4 5 7
2. 9 1
0 3 0 1 3 9
3. 5 4
8 6
4 5 6 8
4. 6
2 3 2 3 4 5 6
5 4 ฉบับ
เฉลย
2 เรียงลําดับจํานวนจาก
นวนจากมากไปนอย
1. 3
6 9 9 6 3
2. 2 6
8 4 8 6 4 2
3. 1 4
7 10 10 7 4 1
4. 0
9 8 9 8 6 3 0
6 3


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

15
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T153
3 นับจํานวนสิ�งมีชีวิตชนิ�ตาง � แล�เ�ี�นตัวเล�แส�งจํานวนใน
แลวเติมคําตอบลงในชองวาง

ฉบับ
เฉลย

���ง 10 ตัว ล�กเจี�ยบ 5 ตัว ดอกไม 9 ดอก


ดอกบัว 8 ดอก นก 3 ตัว
�. ���งมีจํานวน มากกวา ดอกบัว
2. นกมีจํานวน นอยกวา ล�กเจี�ยบ
�. ���งมีจํานวน มากกวา ดอกไม
4. เรียงลําดับสิ�งมีชีวิตจากจํานวนนอยไปมาก
นก ��ก����ย� �อก��ว �อก�ม ����
5. เรียงลําดับสิ�งมีชีวิตจากจํานวนมากไปนอย
���� �อก�ม �อก��ว ��ก����ย� นก
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

16
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T154
6 การบอกอันดับท่ี
1 เขียน ลอมรอบรูปที่ถูกตอง
1. แมวตัวใดที่อยูในอันดับที่ 3
่ี 1
อันดับท

2. สุนัขตัวใดที่อยูในอันดับที่ 4
อันดับท
ี่ 1

3. ไกตัวใดที่อยูในอันดับที่ 2
ี่ 1
อันดับท
ฉบับ
เฉลย

2 �ร����� ข��ป��น กอ��


กอ� � และ��ค�นแข�งขันกันตอบค��ถ�ม ���งแต�ละคน�ด
คะแนน ดังน�้
5 คะแนน 7 คะแนน 4 คะแนน 8 คะแนน

พราวฟา ขาวป��น กอหญา �าคิน


เติมคําตอบลงในชองวาง
1. คนที่ไดคะแนนเปนอันดับที่ 1 คือ �า���
2. คนที่ไดคะแนนเปนอันดับที่ 3 คือ พราวฟา


 ไข าร
ุงแก พิจ

2
ปร วจ

3. ขาวป��นไดคะแนนอยูอันดับที่
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

17
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T155
แบบฝึ กทบทวน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
กา ✗ ทับตัวอักษร ก. ข. หรือ ค. หนาคําตอบที่ถูกตอง
1 ขอใดมีรูปผีเสื้อ 6 ตัว
ก.
ข.
✗ค.
2 จากรูป มีมะมวงกี่ผล

ฉบับ
✗ก. 7 ผล
ข. 8 ผล ค. 10 ผล
เฉลย
3 �า เขี�นเป�นตัวเลข��นดูอารบ�ก �ละตัวเลขไท�ไดตรงกับขอใด
ก. 6 � ข. 4 �
✗ค. 5 �
7
4 10 จํานวนใน ตรงกับขอใด

ก. 2 ✗ข. 3 ค. 1
5 จํานวนในขอใดที่รวมกันไดเทากับ 5
✗ก. 4 กับ 1 ข. 3 กับ 3
หน
ังส เน

ค. 2 กับ 2
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

18
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T156
6 ควรเติมคําใดใน
ก. นอยกวา
✗ข. เทากับ
ค. มากกวา
 9 10 ควรเติมเครื่องหมายใดใน
ก. = ข. > ✗ค. <
 ขอใดเรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
ก. 9 0 5 2 8
✗ข. 9 8 5 2 0
ค. 0 5 8 2 9 ฉบับ
เฉลย

9 ขอใดเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก
✗ก. 1 3 4 6 7
ข. 6 4 1 3 7
ค. 7 1 3 6 4
10 บัววิ�งเขาเสนชัยเปนคนที่แปด เจนวิ�งเขาเสนชัยเปนคนที่หก และ
โกวิ�งเขาเสนชัยเปนคนที่สอง ใครวิ�งเร็วที่สุด
ก. บัว
ข. เจน
✗ค. โก


 ไข าร

คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม
ุงแก พิจ

ǰǯ 19
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T157
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ิ ก รร ม

Active L earning
ก ความสามารถดาน ✓ การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี

ใหนักเรียนจับคู แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปน�้
1. แตละคูสํารวจราคาขนมจํานวน 4 ชนิด ที่มีราคาไมเกิน 10 บาท แลวนําราคา
มาเปรียบเทียบกัน
1� เขียนชื่อขนมทั้ง 4 ชนิด พรอมทั้งระบ�ราคา
1. คุกกี้เนยสด ราคา 8 บาท
2. แพนเคก ราคา 5 บาท
3. แยมโรล ราคา 9 บาท
4. เยลลีผลไม ราคา 6 บาท
2� เขียนราคาขนมและเปรียบเทียบราคาขนม ลงในชองวาง
ฉบับ 8 > 5 5 < 9
เฉลย ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 3
8 < 9 5 < 6
ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 2 ขนมชนิดที่ 4
8 > 6 9 > 6
ขนมชนิดที่ 1 ขนมชนิดที่ 4 ขนมชนิดที่ 3 ขนมชนิดที่ 4

2. นําราคาขนมทั้ง 4 ชนิด มาเรียงลําดับจากมากไปนอย 9 8 6 5


3. ใหนักเรียนเลือกซื้อขนมคนละ 1 ชนิด รวมกันสองคนแลวไมเกิน 10 ชิ้น
จะซื้อขนมอะไรบางอยางละกี่ชิ้น ใหเขียนแสดงจํานวนโดยใชความสัมพันธ
แบบสวนยอยและสวนรวม
5
1) เจน ซื้อ แพนเคก จํานวน 2 ชิ้น
2) พราว ซื้อ เยลลีผลไม จํานวน 3 ชิ้น 3 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห

4. แตละคูออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

20
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T158
3
หน่ วยการเรียนรู้ท่ี
8 4 2

2 การบวกจาํ นวนสองจาํ นวนทม


ไม่เกิน 9
่ี ผ
ี ลบวก

1 ความหมายของการบวก

เขียนตัวเลขแสดงจํานวนรูปทั้งหมดใน
1.
รวมกับ เทากับ 6

2.
รวมกับ เทากับ 3
ฉบับ
เฉลย
3.
รวมกับ เทากับ 9

4.
รวมกับ เทากับ 7

5.
รวมกับ เทากับ 4


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

21
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T159
2 ประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก

1 เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกตอไปน�้
1. รวมกับ เทากับ

ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 2 + 3 = 5
อานวา สองบวกสามเทากับหา
2.
รวมกับ เทากับ
ฉบับ
เฉลย ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 4 + 4 = 8
อานวา สี่บวกสี่เทากับแปด
2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนในชองวางใหถูกตอง
1. 7 + 2 = 9 2. 3 + 1 = 4

ตัวตั้ง 7 ตัวตั้ง 3
ตัวบวก 2 ตัวบวก 1
ผลบวก 9 ผลบวก 4
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

22
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T160
3 วาดรูปแสดงจํานวนสองจํานวนใหมีผลบวกตามที่กําหนดลงในชองวาง
จากนั้นเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวก (ตัวอยางคำตอบ)
1.
รวมกับ เทากับ

ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 3 + 4 = 7
2.
รวมกับ เทากับ

ประโยคสัญลักษณแสดงการบวก 6 + 2 = 8
4 วาดรูปแสดงการหาผลบวก แลวเติมคําตอบลงในชองวางใหถูกตอง
1. มีฝรั�ง 5 ผล เก็บมาเพิ�มอีก 3 ผล มีฝรั�งทั้งหมดกี่ผล ฉบับ
เฉลย

5 + 3 = 8
มีฝรั�งทั้งหมด 8 ผล
2. พอซื้อแอปเปลแดง มา 2 ผล และซื้อแอปเปลเขียว มา
4 ผล พอซื้อแอปเปลทั้งหมดกี่ผล

+ 4 = 6

2

 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง

มีแอปเปลทั้งหมด 6 ผล
จม ะหว
อา นร

23
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T161
3 การบวกจํานวนสองจํานวนท่ม
ี ีผลบวกไม่เกิน 9

1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1.
6 7 8
6+2= 8

2.
4 5 6
ฉบับ
เฉลย 4 + 2 = 6

3.
5 6 7 8 9
5 + 4 = 9

4.
3 4
3 + 1 = 4
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

24
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T162
2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1.

3 4 5

3+2= 5

2.
5 6 7 8
ฉบับ
เฉลย
5+ 3 = 8

3 เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการบวกจากเสนจํานวนที่กําหนด

1. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
4 + 1 = 5

2. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
5 + 2 = 7


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

25
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T163
4 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนในชองวางใหถูกตอง
1. 3
8
3 + 5 = 8 5

2. 1
7
1 + 6 = 7 6

ฉบับ
3. 6
เฉลย 9
6 + 3 = 9 3

4. 5
6
5 + 1 = 6 1

5. 4
5
4 + 1 = 5 1
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

26
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T164
5 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง และโยงเสนจับคูขอที่สัมพันธกัน
1. 2.
8 7
9 8
1 1
3. 4.
5 3
6 5
1 2
5. 6.
4 3 ฉบับ
8 6 เฉลย

4 3
7. 8.
3 2
7 9
4 7
9. 10.
4 1
5 7
1 6


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

27
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T165
6 เติมผลบวกใน ใหถูกตอง
1. 2 + 1 = 3 2. 2 + 0 = 2
3. 3 + 5 = 8 4. 3 + 6 = 9
5. 3 + 3 = 6 6. 3 + 2 = 5
7. 1 + 6 = 7 8. 1 + 2 = 3
9. 1 + 1 = 2 10. 2 + 7 = 9
11. 4 + 1 = 5 12. 4 + 2 = 6
ฉบับ
เฉลย
13. 4 + 3 = 7 14. 4 + 4 = 8
15. 1 + 0 = 1 16. 0 + 1 = 1

7 โยงเสนจับคูโจทยการบวกจํานวนที่มีผลบวกเทากัน

1+5 4+4 2+2 3+6

5+3 3+1 4+2 7+2


หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

28
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T166
4 การสลับท่ข
ี องการบวก

1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1. รวมกับ รวมกับ
4 + 2 = 2 + 4
6 = 6
2. รวมกับ รวมกับ
3 + 1 = 1 + 3
4 = 4
ฉบับ
เฉลย
2 วาดรูปลงในชองวางที่กําหนด และเติมตัวเลขแสดงจํานวนใน
ใหถูกตอง
1.
รวมกับ รวมกับ

5 + 2 = 2 + 5

2.
รวมกับ รวมกับ

4 + 1 = 1 + 4


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

29
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T167
3 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1. 5 + 4 = 4 + 5
2. 6 + 2 = 2 +6
3. 7 + 0 = 0 + 7
4. 1 + 8 = 8 + 1
5. 5 + 1 = 1+ 5
6. 6 + 1 = 1+6
ฉบับ
เฉลย
7. 2 + 1 = 1 +2
8. 3 + 2 = 2 + 3
4 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง

1. 2.
7 3
5 2 5 8

5+ 2 = 7 5 + 3 =8
2+ 5 = 7 3 + 5 = 8
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

30
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T168
5 การบวกด้วยศูนย์

1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง และระบายสีรูปตามจํานวน


ที่เปนผลบวก
1.
รวมกับ เทากับ

5 + 0 = 5
2.
รวมกับ เทากับ
ฉบับ
เฉลย
6 + 0 = 6

2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง

3 + 0 = 3
ตะกราใบแรกมีสมอยู 3 ผล ตะกราใบที่สองมีสมอยู 0 ผล
รวมแลวมีสมทั้งหมด 3 ผล


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

31
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T169
6 โจทย์ปัญหาการบวกท่ม
ี ีผลบวกไม่เกิน 9

1 เขียนประโยคสัญลักษณ และหาคําตอบ
1. ชาลีมีขนม 5 ชิ้น ซื้อเพิ�มอีก 3 ชิ้น ชาลีมีขนมทั้งหมดกี่ชิ้น
?
ขนม 5 ชิ้น ซื้อเพิ่ม 3 ชิ้น

ประโยคสัญลักษณ 5 + 3 = ตอบ ๘ ชิ้น


2. ตนกินชมพูไป 4 ผล ยังมีชมพูเหลืออยู 2 ผล เดิมตนมีชมพูกี่ผล
?
กินชมพู 4 ผล เหลือ 2 ผล
ฉบับ
เฉลย ประโยคสัญลักษณ 4 + 2 = ตอบ ๖ ผล
3. อองมีดนิ สอ 6 แทง นุน มีดนิ สอมากกวาออง 3 แทง นุน มีดนิ สอกีแ่ ทง
6 แทง
อองมีดินสอ 3 แทง
นุนมีดินสอ
?
ประโยคสัญลักษณ 6 + 3 = ตอบ ๙ แทง
4. แปงมีสม 3 ผล มีสมนอยกวาแอปเปล 4 ผล แปงมีแอปเปลกี่ผล
3 ผล
แปงมีสม 4 ผล
แปงมีแอปเปล
?
ประโยคสัญลักษณ 3 + 4 = ตอบ ๗ ผล
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

32
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T170
2 วางแผนแกโจทยปญหาตอไปน�้โดยการวาดรูป และหาคําตอบ
1. พีใ่ หสมุดนองไป 7 เลม ยังมีสมุดเหลืออยู 2 เลม เดิมพีม่ สี มุดกีเ่ ลม
การวางแผนแกโจทยปญหา
?

ใหสมุดนองไป 7 เลม เหลือ 2 เลม

ประโยคสัญลักษณ 7 + 2 = ตอบ ๙ เลม


2. จอยเลีย้ งแมว 2 ตัว เลีย้ งแมวนอยกวาสุนขั 1 ตัว จอยเลีย้ งสุนขั กีต่ วั
การวางแผนแกโจทยปญหา
2 ตัว
ฉบับ
จอยเลี้ยงแมว 1 ตัว เฉลย
จอยเลี้ยงสุนัข
?
ประโยคสัญลักษณ 2 + 1 = ตอบ ๓ ตัว
3. มะลิมีจานสีแดง 4 ใบ มีจานสีเขียวมากกวาจานสีแดง 4 ใบ มะลิ
มีจานสีเขียวกี่ใบ
การวางแผนแกโจทยปญหา
4 ใบ
มะลิมีจานสีแดง 4 ใบ
มะลิมีจานสีเขียว
?
ประโยคสัญลักษณ 4 + 4 = ตอบ ๘ ใบ


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

33
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T171
3 แสดงวิธีแกโจทยปญหา พรอมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
1. แมซื้อสมโอ 6 ผล ซื้อแตงโม 2 ผล แมซื้อผลไมทั้งหมดกี่ผล
ประโยคสัญลักษณ 6 + 2 =
วิธีทํา แมซื้อสมโอ 6 ผล +
ซื้อแตงโม 2 ผล
แมซื้อผลไมทั้งหมด 8 ผล
ตอบ แมซื้อผลไมทั้งหมด ๘ ผล
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
8 มากกวา 6 และ 2
ฉบับ
ดังนั้น 8 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
เฉลย
2. มีนกเกาะบนกิง� ไม 3 ตัว บินมาเกาะเพิม� อีก 4 ตัว มีนกเกาะบนกิง� ไม
ทั้งหมดกี่ตัว
ประโยคสัญลักษณ 3 + 4 =
วิธีทํา มีนกเกาะบนกิ่งไม 3 ตัว
+
บินมาเกาะเพิ่มอีก 4 ตัว
มีนกเกาะบนกิ่งไมทั้งหมด 7 ตัว
ตอบ มีนกเกาะบนกิ่งไมทั้งหมด ๗ ตัว
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
7 มากกวา 3 และ 4
ดังนั้น 7 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

34
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T172
3. ออมมีตุกตา 4 ตัว นุนมีตุกตามากกวาออม 2 ตัว นุนมีตุกตากี่ตัว
ประโยคสัญลักษณ 4 + 2 =
วิธีทํา ออมมีตุกตา 4 ตัว
+
นุนมีตุกตามากกวาออม 2 ตัว
นุนมีตุกตา 6 ตัว
ตอบ นุนมีตุกตา ๖ ตัว
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
6 มากกวา 4 และ 2
ดังนั้น 6 จึงเปนคำตอบที่สมเหตุสมผล
ฉบับ
4. แมนําไขไปทําไขตุน 3 ฟอง ยังเหลือไขอีก 5 ฟอง เดิมแมมีไข เฉลย
ทั้งหมดกี่ฟอง
ประโยคสัญลักษณ 3 + 5 =
วิธีทํา แมนำไขไปทำไขตุน 3 ฟอง
+
ยังเหลือไขอีก 5 ฟอง
เดิมแมมีไขทั้งหมด 8 ฟอง
ตอบ เดิมแมมีไขทั้งหมด ๘ ฟอง
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
8 มากกวา 3 และ 5
ดังนั้น 8 จึงเปนคำตอบที่สมเหตุสมผล


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

35
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T173
7 การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกท่ม
ี ีผลบวกไม่เกิน 9

1 สรางโจทยปญหาการบวกจากสิ�งที่กําหนดให พรอมทั้งหาคําตอบ
(ตัวอยางคําตอบ)
1.

แปงมีดอกไม 2 ตน
สรางโจทยปญหาการบวกได ดังน�้
แมใหอีก 3 ตน แปงมีดอกไมรวมทั้งหมดกี่ตน

ประโยคสัญลักษณ 2 + 3 =
ฉบับ ตอบ ๕ ตน
เฉลย

2. 5 1
มีฝรั่งในจาน 5 ผล
สรางโจทยปญหาการบวกได ดังน�้
เอามาเพิ่มอีก 1 ผล มีฝรั่งในจานทั้งหมดกี่ผล

ประโยคสัญลักษณ 5 + 1 =
ตอบ ๖ ผล
หมายเหตุ : การตรวจแบบฝกหัดการสรางโจทยปญหา ใหครูพิจารณาจาก
• โจทยที่สรางมีความสมเหตุสมผลหรือไม
หน
ังส เน

• มีความเปนไปไดในชีวิตประจําวันหรือไม
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม

• มีความคิดสรางสรรคเชิงบวก
ู ในร ีกา
ะหว รปร

36
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T174
3. 6+3=

ฉันมีขนม 6 ชิ้น
สรางโจทยปญหาการบวกได ดังน�้
พี่มีขนมมากกวาฉัน 3 ชิ้น พี่มีขนมกี่ชิ้น

ประโยคสัญลักษณ 6 + 3 =
ตอบ ๙ ชิ้น

2 เติมตัวเลขแสดงจํ
เลขแสดงจานวนใน ใหมีผลบวกตามที่กําหนด จากนั้นสราง
โจทยปญหาการบวก (ตัวอยางคําตอบ)
ฉบับ
เฉลย
1. 4 + 3 = 7
มีเด็กเลนใน
สรางโจทยปญหาการบวกได ดังน�้
สนามเด็กเลน 4 คน เดินมาเพิ่มอีก 3 คน
มีเด็กเลนในสนามเด็กเลนทั้งหมดกี่คน
2. 6 + 1 = 7
ฉันมีดินสอ 6 แทง
สรางโจทยปญหาการบวกได ดังน�้
พี่ใหอีก 1 แทง ฉันมีดินสอทั้งหมดกี่แทง


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

37
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T175
แบบฝึ กทบทวน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
กา ✗ ทับตัวอักษร ก. ข. หรือ ค. หนาคําตอบที่ถูกตอง
1 รวมกับ
จากรูป เขียนเปนประโยคสัญลักษณไดอยางไร
✗ก. 4 + 2 =
ข. 5 + 2 =
ค. 4 + 1 =
2 3 + 2 = 5 ขอใดตอไปน�้ถูกตอง
ฉบับ
เฉลย
ก. 5 เปนตัวตั้ง ✗ข. 2 เปนตัวบวก
ค. 3 เปนผลบวก
3 รวมกับ มีผลบวกเทากับขอใด
ก. 5 ข. 6 ✗ค. 7
4 ขอใดตอไปน�้ถูกตอง
3 5 4 2
ก. ข.
9 7
5 1
✗ค.
6
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

38
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T176
5 ผลบวกของ 3 + 1 = ตรงกับขอใด
✗ก. 4 ข. 5 ค. 6
6 ผลบวกของ 0 + 2 = ตรงกับขอใด
ก. 1 ✗ข. 2 ค. 3
7 6 + 3 และ 3 + 6 มีผลบวกเทาใด และมีผลบวกเทากันหรือไม
ก. 9 และ 8 ไมเทากัน
ข. 8 เทากัน
✗ค. 9 เทากัน
8 มีสมอยู 4 ผล มีเงาะมากกวาสม 5 ผล มีเงาะกี่ผล จากโจทยเขียน ฉบับ
เฉลย
ประโยคสัญลักษณไดตรงกับขอใด
✗ก. 4 + 5 =
ข. 4 + 4 =
ค. 4 + 3 =
9 จากขอ 8 คําตอบคือขอใด
ก. 7 ผล ข. 8 ผล ✗ค. 9 ผล
10 มีเสื้อ 2 ตัว ซื้อเพิ่มอีก 5 ตัว มีเสื้อทั้งหมดกี่ตัว
ก. 6 ตัว ✗ข. 7 ตัว ค. 8 ตัว


 ไข าร

คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม
ุงแก พิจ

10 39
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T177
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ิ ก รร ม

Active L earning
ก ความสามารถดาน ✓ การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี

ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปน�้


1. ถาแตละคนตองเตรียมขนมมาคนละ 2 ชนิด สําหรับจัดงานเลีย้ ง โดยมีเงือ่ นไข
วาผลรวมของจํานวนขนมของแตละคนตองไมเกิน 9 ชิน้ ใหเขียนรายการขนม
และจํานวนขนม พรอมทั้งแสดงการหาผลรวมของจํานวนขนมของแตละคน
ตามวิธีที่ตนเองถนัด
คนที่ 1 แพรพลอย แสดงวิธีหาจํานวนขนมทั้งหมด
ขนมที่เตรียมมา มีดังน�้
2
1) แพนเคก 2 ชิ้น
6
2) โดนัต 4 ชิ้น 4
รวมทั้งหมด 6 ชิ้น
ฉบับ
เฉลย คนที่ 2 มะเขือ แสดงวิธีหาจํานวนขนมทั้งหมด
ขนมที่เตรียมมา มีดังน�้
1) พิซซา 3 ชิ้น 3 4 5 6 7
1 2 3 4
2) ขนมปงเนยสด 4 ชิ้น
รวมทั้งหมด 7 ชิ้น
คนที่ 3 แตงโม แสดงวิธีหาจํานวนขนมทั้งหมด
ขนมที่เตรียมมา มีดังน�้
5+
1) ขนมชั้น 5 ชิ้น 4
2) ขนมเขง 4 ชิ้น 9
รวมทั้งหมด 9 ชิ้น
หน
ังส เน

2. แตละกลุมออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

40
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T178
3
หน่ วยการเรียนรู้ท่ี
8 4 2

3 การลบจาํ นวนสองจาํ นวนทม


ไม่เกิน 9
่ี � � ��ง
ี ว �

1 ความหมายของการลบ

เขียนตัวเลขแสดงจํานวนของรูปที่เหลือใน
1.
เหลือ 1

2.
เหลือ 4
ฉบับ
เฉลย
3.
เหลือ 2

4.
เหลือ 3

5.
เหลือ 5


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

41
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T179
2 ประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบ

1 เขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบ
1.
เหลือ

ประโยคสัญลักษณแสดงการลบ 7 - 4 = 3
อานวา เจ็ดลบดวยสี่เทากับสาม
2.
เหลือ
ฉบับ
เฉลย
ประโยคสัญลักษณแสดงการลบ 6 - 3 = 3
อานวา หกลบดวยสามเทากับสาม
2 เขียน ลอมรอบคําตอบที่ถูกตอง
1. จํานวนใดคือตัวลบ 5 - 4 = 1

2. จํานวนใดคือผลลบ 9 - 2 = 7

3. จํานวนใดคือตัวตั้ง 8 - 6 = 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

42
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T180
3 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเขียนประโยคสัญลักษณแสดงการลบ พรอมทั้ง
หาคําตอบ
1.
7 - 2 = 5

2.
5 - 1 = 4

3. ฉบับ
เฉลย
8 - 2 = 6

4.
9 - 3 = 6

5.
6 - 1 = 5


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

43
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T181
3 การลบจํานวนสองจํานวนท่ม
ี ีตว � ไม่เกิน 9
ั ตัง

1 กา ✗ ทับรูปเพื่อแสดงการลบจากประโยคสัญลักษณที่กําหนดให และเขียน
ผลลบใน ใหถูกตอง
1. 7 - 1 = 6


2. 5 - 4 = 1
✗ ✗ ✗ ✗
ฉบับ
เฉลย
3. 9 - 4 = 5

✗ ✗ ✗ ✗
4. 8 - 6 = 2
✗ ✗ ✗ ✗ ✗ ✗
5. 6 - 6 = 0

✗ ✗✗✗ ✗ ✗
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

44
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T182
2 ����น�ูก�����งก�������ก��น�
�����ง ��อนก��� �������นต��������ง���น�น
ใน ใหถูกตอง
1.

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
6 - 2 = 4

2.

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ฉบับ
เฉลย
9 - 4 = 5
3. 7 - 3 = 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

4. 5 - 2 = 3
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

5. 8 - 6 = 2

8

1 2 3 4 5 6 7 9 10
 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

45
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T183
3 ����น�ูก�����งก�������ก��น�
�����งก�� �ต�อ �������นต��������ง���น�น
ใน ใหถูกตอง
1.

2 3 4
1 5 6 7 8 9 10
6 - 2 = 4

2.

ฉบับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เฉลย
4 - 1 = 3
3. 8 - 2 = 6
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

4. 7 - 3 = 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

5. 9 - 3 = 6
3
หน

1 2 4 5 6 7 8 9 10
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

46
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T184
4 พิจารณารูปที่กําหนดให แลวเติมตัวเลขแสดงจํานวนในชองวางใหถูกตอง
1.
5
6
6 - 5 = 1 1

2. 5
8
8 - 5 = 3 3

3. ฉบับ
4 เฉลย

7
เจนมีสม 7 ผล แบงใหนองไป 3 ผล 3
เจนเหลือสม 4 ผล

4. 7
9
2
แมคามีดอกกุหลาบ 9 ดอก ขายไป 7 ดอก
แมคาเหลือดอกกุหลาบ 2 ดอก


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

47
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T185
5 เติมตัวเลขแสดงจํานวนในชองวางใหถูกตอง
1. 2.
9 8
1 8 5 3

9-1= 8 8-5= 3

3. 4.
6 1
5 1 1 0
ฉบับ
เฉลย
6-5= 1 1-1= 0

6 เติมผลลบใน ใหถูกตอง
1. 2 - 1 = 1 2. 6 - 3 = 3
3. 7 - 2 = 5 4. 4 - 4 = 0
5. 8 - 2 = 6 6. 8 - 1 = 7
7. 7 - 3 = 4 8. 5 - 3 = 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

48
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T186
7 โยงเสนจับคูโจทยการลบจํานวนกับผลลบ

8-7 1 9-5

4-1 2 8-3

6-1 3 3-1

8-6 4 7-6 ฉบับ


เฉลย

8-4 5 8-5

8 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน เพื่อใหไดผลลบตามที่กําหนด
(ตัวอยางคําตอบ)
1. 2.
6 3
9 - 3 9 - 6
7 - 1 7 - 4


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

49
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T187
4 การลบด้วยศูนย์

1 เติมผลลบใน ใหถูกตอง
1.
5-0= 5

2.
3-0= 3

3.
6-0= 6
ฉบับ
เฉลย

4.
7-0= 7

2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง
1. 2 - 0 = 2 2. 1 - 0 = 1
3. 4 - 0 = 4 4. 5 - 0 = 5
5. 9 - 0 = 9 6. 8 - 0 = 8
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

50
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T188
5 ความสัม�ั��์ของการบวกและการลบ

1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง

1. 6 1 5 2. 2 8 6

5+1= 6 2+6= 8
1+5= 6 6+2= 8
6 - 5= 1 8-2= 6
6 - 1= 5 8-6= 2

3. 3 4 7 4. 6 2 4 ฉบับ
เฉลย

3+4 = 7 2+ 4 = 6
4+ 3 = 7 4+ 2 = 6
7- 4 = 3 6- 4 = 2
7- 3 = 4 6- 2 = 4

2 เติมเค�ื่องหมา� � ห�ือ � ใน เพื่อใหไดคําตอบตามที่กําหนด


1. 6 + 3 = 9 2. 6 + 2 = 8
3. 8 - 2 = 6 4. 9 - 3 = 6


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

51
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T189
3 ลากเสนไปตามเสนทางที่มีประโยคสัญลักษณสัมพันธกับประโยคสัญลักษณ
ที่กําหนด
1.
6-1=5
��������� 7-1=6

7-6=1

2. 5-2=3
ฉบับ
เฉลย ��������� 5+2=7

5-3=2

3.
5+4=9
���������
9-5=4

9-2=7
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

52
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T190
6 การหาตัวไม่ทราบค่า���ร���ค�ัญลักษณ์

1 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหถูกตอง

1. 3 - 2 = 1 2. 4 - 3 = 1

3. 5 - 2 = 3 4. 2 - 2 = 0

5. 7 - 5 = 2 6. 8 - 3 = 5

7. 7 - 6 = 1 8. 6 - 4 = 2

9. 9 - 0 = 9 10. 9 - 5 = 4 ฉบับ
เฉลย

11. 8 - 4 = 4 12. 9 - 2 = 7

2 หาคาของรูปตอไปน�้

+ = = 6

5 + 1 = = 3


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

53
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T191
7 โจทย์ปัญหาการลบท่ม
ี ีตว � ไม่เกิน 9
ั ตัง

1 เขียนประโยคสัญลักษณ และหาคําตอบ
1. โปงเลี้ยงไก 8 ตัว เปนไกตัวผู 6 ตัว เปนไกตัวเมียกี่ตัว
โปงเลี้ยงไก 8 ตัว

ไกตัวผู 6 ตัว ?

ประโยคสัญลักษณ 8 - 6 = ตอบ � ตัว


2. จอยมีกลวย 9 ผล รับประทานไป 4 ผล จอยเหลือกลวยกี่ผล
จอยมีกลวย 9 ผล

รับประทานไป 4 ผล ?
ฉบับ
เฉลย ประโยคสัญลักษณ 9 - 4 = ตอบ ๕ ผล
3. นุน มีดอกไม 6 ดอก เจนมีดอกไม 5 ดอก นุน มีดอกไมมากกวาเจน
กีด่ อก 6 ดอก
นุนมีดอกไม
เจนมีดอกไม ?
5 ดอก

ประโยคสัญลักษณ 6 - 5 = ตอบ � ดอก


4. แปงมีสมุด 7 เลม มีหนังสือนอยกวาสมุด 1 เลม แปงมีหนังสือ
กี่เลม 7 เลม
แปงมีสมุด
แปงมีหนังสือ 1เลม
?
ประโยคสัญลักษณ 7 - 1 = ตอบ ๖ เลม
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

54
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T192
2 วางแผนแกโจทยปญหาตอไปน�้โดยการวาดรูป และหาคําตอบ
1. แมตองการไข 7 ฟอง มีอยูแลว 5 ฟอง แมตองซื้อไขเพิ�มอีกกี่ฟอง
การวางแผนแกโจทยปญหา
แมตองการไข 7 ฟอง

มีอย�แลว � ฟอง ?

ประโยคสัญลักษณ 7 - 5 = ตอบ � ฟอง


2. แปงมีสม 8 ผล มีมังคุด 4 ผล แปงมีสมมากกวามังคุดกี่ผล
การวางแผนแกโจทยปญหา
8 ผล ฉบับ
แปงมีสม เฉลย

แปงมีมังคุด ?
4 ผล

ประโยคสัญลักษณ 8 - 4 = ตอบ � ผล
3. ออยเลี้ยงปลา 6 ตัว เลี้ยงนก 5 ตัว ออยเลี้ยงนกนอยกวาปลากี่ตัว
การวางแผนแกโจทยปญหา
6 ตัว
ออยเลี้ยงปลา
ออยเลี้ยงนก ?
5 ตัว

ประโยคสัญลักษณ 6 - 5 = ตอบ � ตัว




 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

55
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T193
3 แสดงวิธีแกโจทยปญหา พรอมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
1. แมคามีสมโอ 6 ผล ขายไป 3 ผล แมคาเหลือสมโอกี่ผล
ประโยคสัญลักษณ 6 - 3 =
วิธีทํา แมคามีสมโอ 6 ผล -
ขายไป 3 ผล
แมคาเหลือสมโอ 3 ผล
ตอบ แมคาเหลือสมโอ ๓ ผล
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
3 นอยกวา 6
ฉบับ
ดังนั้น 3 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
เฉลย
�. แตงปล�ก�อกไม � ตน แป�วปล�ก�อกไม 6 ตน แป�วปล�ก�อกไม
นอยกวาแตงกี่ตน
ประโยคสัญลักษณ 7 - 6 =
วิธีทํา แตงปลูกดอกไม 7 ตน -
แป�วปลูกดอกไม 6 ตน
แป�วปลูกดอกไมนอยกวาแตง 1 ตน
ตอบ แป�วปลูกดอกไมนอยกวาแตง � ตน
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
1 นอยกวา 7
ดังนั้น 1 จึงเปนคำตอบที่สมเหตุสมผล
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

56
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T194
3. พี่มีมะละกอ 8 ผล พี่มีมะละกอมากกวาชมพู 2 ผล พี่มีชมพูกี่ผล
ประโยคสัญลักษณ 8 - 2 =
วิธีทํา พี่มีมะละกอ 8 ผล -
พี่มีมะละกอมากกวาชมพู 2 ผล
พี่มีชมพู 6 ผล
ตอบ พี่มีชมพู ๖ ผล
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
6 นอยกวา 8
ดังนั้น 6 จึงเปนคําตอบที่สมเหตุสมผล
ฉบับ
4. ขนมราคาหอละ 9 บาท ใหมมีเงินอยู 4 บาท ใหมตองเพิ�มเงิน เฉลย
อีกกี่บาท��ง�ะ���อขนม��พอ�ี
ประโยคสัญลักษณ 9 - 4 =
วิธีทํา ขนมราคาหอละ 9 บาท -
ใหมมีเงินอยู 4 บาท
ใหมตองเพิ่มเงินอีก 5 บาท
ตอบ ใหมตองเพิ่มเงินอีก ๕ บาท
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบ
5 นอยกวา 9
ดังนั้น 5 จึงเปนคำตอบที่สมเหตุสมผล


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

57
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T195
8 การสร้างโจทย์ปัญหาการลบท่ม
ี ีตว � ไม่เกิน 9
ั ตัง

1 สรางโจทยปญหาการลบจากสิ�งที่กําหนด พรอมทั้งหาคําตอบ
(ตัวอยางคําตอบ)
1.

ฉันมีขนม 6 ชิ้น
สรางโจทยปญหาการลบได ดังน�้
แบงใหเพื่อน 2 ชิ้น ฉันเหลือขนมกี่ชิ้น

ประโยคสัญลักษณ 6 - 2 =
ฉบับ
เฉลย ตอบ � ชิ้น

2. 7 5
ฉันมีดินสอ 7 แทง
สรางโจทยปญหาการลบได ดังน�้
พี่มีดินสอ 5 แทง ฉันมีดินสอมากกวาพี่กี่แทง

ประโยคสัญลักษณ 7 - 5 =
ตอบ � แทง
หมายเหตุ : การตรวจแบบฝกหัดการสรางโจทยปญหา ใหครูพิจารณาจาก
หน

• โจทยที่สรางมีความสมเหตุสมผลหรือไม
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา

• มีความเปนไปไดในชีวิตประจําวันหรือไม
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

58 • มีความคิดสรางสรรคเชิงบวก
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T196
3. 9-6=

แมคามีก��เป�า 9 ใบ
สรางโจทยปญหาการลบได ดังน�้
ขายไป 6 ใบ แมคาเหลือก��เป�ากี่ใบ

ประโยคสัญลักษณ 9 - 6 =
ตอบ ๓ ใบ

2 เติมตัวเลขแสดงจํานวนใน ใหมีผลลบตามที่กําหนด จากนั้นสราง


โจทยปญหาการลบ (ตัวอยางคําตอบ) ฉบับ
เฉลย
1. 9 - 3 = 6
ฉันมีลูก�ป�ง 9 ลูก
สรางโจทยปญหาการลบได ดังน�้
แบงใหนองไป 3 ลูก ฉันเหลือลูก�ป�งกี่ลูก

2. 7 - 1 = 6
ฉันมีตุกตา 7 ตัว
สรางโจทยปญหาการลบได ดังน�้
แบงใหนอง 1 ตัว ฉันเหลือตุกตากี่ตัว


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

59
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T197
แบบฝึ กทบทวน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3
กา ✗ ทับตัวอักษร ก. ข. หรือ ค. หนาคําตอบที่ถูกตอง
1

จากรูป เขียนเปนประโยคสัญลักษณไดอยางไร
ก. � � 3 �
✗ข. 7 - 4 =
ค. 4 � 3 �

ฉบับ
2 8 � 3 � 5 ขอใดตอไปน�้�ูกตอง
เฉลย
✗ก. 8 เปนตัวตั้ง
ข. 5 เปนตัวลบ
ค. 3 เปนผลลบ

3 เหลือนํ้าหวานอยูกี่ขวด

✗ก. 3 ข. 4 ค. 5
4 ขอใดตอไปน�้ไมถูกตอง
ก. � � 5 � 4
ข. � � 4 � 3
หน

✗ค. 8 - 5 = 2
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

60
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T198
5 ขอใดตอไปน�้ถูกตอง
ก. � � 2 = 7 � 2
ข. 5 � 3 > 2 - 0
✗ค. 7 - 6 < 8 - 6
6 9 - = 4 + 5 จํานวนใน คือขอใด
✗ก. 0 ข. 1 ค. 2
7 4 + 3 = 7 ไมสัมพันธกับประโยคสัญลักษณในขอใด
ก. 7 � 4 = 3
ข. 7 � 3 = 4
✗ค. 4 - 3 = 1 ฉบับ
เฉลย
8 มีนกเกาะบนกิ�งไม 5 ตัว บินหน�ไป 1 ตัว เหลือนกที่เกาะบนกิ�งไม
กี่ตัว จากโจทยเขียนเปนประโยคสัญลักษณไดดังขอใด
ก. 5 + 1 =
✗ข. 5 - 1 =
ค. 6 � 1 =
9 จากขอ 8 คําตอบคือขอใด
✗ก. 4 ตัว ข. 5 ตัว ค. 6 ตัว
10 มีนํ้าผลไม 9 กลอง มีนํา้ ผลไมมากกวานมอยู 7 กลอง มีนมอยูก กี่ ลอง
ก. 1 กลอง ✗ข. 2 กลอง ค. 3 กลอง


 ไข าร

คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม
ุงแก พิจ

10 61
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T199
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ิ ก รร ม

Active L earning
ก ความสามารถดาน การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี

��น���ร��น���ค������าสถาน�าร������า�นด����า�น��น�����������รรม�����น��
ถานักเรียนตองการซื้อกระดาษหอของขวัญ เพื่อมอบใหกับเพื่อนผูหญิง 2 คน
และเพื่อนผูชาย 2 คน โดยมีเงื่อนไข ดังน�้
� กลองของขวัญของแตละคนมีขนาดเทากัน
� กระดาษสีชมพู 2 แผน หอได 1 กลองพอดี
� กระดาษสี��า 1 แผน หอได 1 กลองพอดี
� กระดาษหอของขวัญทั้ง 2 สี ราคาแผนละ 1 บาท
1. ถานักเรียนมีเงิน 9 บาท จะเลือกซื้อกระดาษหอของขวัญอยางไร พรอมบอก
เหตุผล
�ะ���อกระดา�สี��า 4 ��น เพราะใชกระดา�
ฉบับ
เฉลย
นอยกวาสีชมพู ทำใหประหยัดเงินมากกวา
2. แสดงวิธีหาจํานวนเงินทั้งหมดที่ใชซื้อกระดาษหอของขวัญ
กลองที่ 1 กลองที่ 2 กลองที่ 3 กลองที่ 4

1 2 3 4

ดังนั้น ซื้อกระดาษหอของขวัญทั้งหมด 4 บาท


3. แสดงวิธีหาจํานวนเงินที่เหลือหลังจากซื้อกระดาษหอของขวัญ แลวออกมา
นําเสนอหนาชั้นเรียน
ประโยคสัญลักษณ 9-4=
9

5 บาท 4 5
หน

ดังนั้น เหลือเงิน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

62
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T200
3
หน่ วยการเรียนรู้ท่ี
8 4 2

4 จาํ นวนน� �������


� ���

1 จํานวนนั �����������

1 ƒ³✗˜²›–²¨¾¦„˜¶Æ¿«•‰Š´š¨š¤ºœÂ¢m—ºƒ–n®‰
1.

ÏÏÎÎ 13 ✗1177

2.
ÏÔ 16 ✗
1144
ฉบับ
เฉลย

3.
✗1177 ÏÏÓ
✗Ó 18

4.
ÏÏ 11 ✗
ÏÏ××

5.
14 ✗
ÐÐÎÎ ✗
ÏÏÎÎ


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

63
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T201
2 ¾„¶£š ¦n®¢¤®›–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨š¤ºœ˜¶Æƒ´¬š•
1.
15 ÏÏ 19

2.
12 ÏÒ ÏÐ

3.
ฉบับ
เฉลย
15 18 ÏÔ

4.
Ï× 20 ÐÎ

5.
ÏÔ ÏÎ 17
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

64
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T202
3 ¾„¶£š–²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ–²¨¾¦„˜£¿¦±–²¨¬š²‰«¸®¿«•‰Š´š¨šÁšŒm®‰¨m³‰
1.

� ��� ��� สิบหก


 –²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ –²¨¾¦„˜£ –²¨¬š²‰«¸®

2.

� ��� ��� สิบแปด


 –²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ –²¨¾¦„˜£ –²¨¬š²‰«¸® ฉบับ
เฉลย

3.

� ��� ��� ยี่สิบ


 –²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ –²¨¾¦„˜£ –²¨¬š²‰«¸®

4.
� ��� ��� สิบหา
 –²¨¾¦„¯µš•º®³¤›µƒ –²¨¾¦„˜£ –²¨¬š²‰«¸®


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

65
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T203
� การแสดงจํานวนนั บ �� ��ง �� �นร� ��วามสัม�ัน�์
ของจํานวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม

1 ŸµŠ³¤”³¤ºœ˜¶Æƒ´¬š•Á¬n¿¦n¨¾–µ¢–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨šÁš
1. 7
12
5
11
2.
20
9
ฉบับ
เฉลย 7
3.
17
10

7
4.
11
4

8
5.
14
6
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

66
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T204
2 ¾–µ¢–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨šÁš
¾¦„¿« Á¬n—ºƒ–n®‰¿¦±À£‰¾«nšŠ²›†ºmƒ²›¤ºœ˜¶Æ¢¶
Š´š¨š¾˜m³ƒ²š
1. 6
18
12

2. 7
19
12
3. 10 ฉบับ
เฉลย
14
4
4. 8
16
8
5. 12
15
3


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

67
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T205
3 ¾–µ¢–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨šÁš Á¬n—ºƒ–n®‰
1. 2.
11 13
6 5 7 6

3. 4.
15 17
10 5 4 13

ฉบับ
เฉลย
4 ¾„¶£š¿«•‰Š´š¨šÁš¤º
š¿«• œ†¨³¢«²¢Ÿ²š™q¿››«m¨š£m®£¿¦±«m¨š¤¨¢„®‰Š´š¨š
–m®Âœš¶Ç (ตัวอยางคำตอบ)

1. 10 11 12
19 19 19
9 8 7

2. 10 11 12
14 14 14
4 3 2
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

68
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T206
3 การเขี ยนตัวเลขแสดงจํานวน�นร� �กร�จาย

1 ›®ƒ¬¦²ƒ¿¦±†m³„®‰¾¦„À••„®‰Š´š¨š–m®Âœš¶Ç
1.
15
5 อยูในหลัก หนวย มีคา 5
1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10
2.
11
1 อยูในหลัก หนวย มีคา 1
1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10
3.
14
4 อยูในหลัก หนวย มีคา 4
1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10
4.
18
8 อยูในหลัก หนวย มีคา 8 ฉบับ
1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10 เฉลย

5.
20
0 อยูในหลัก หนวย มีคา 0
2 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 20
6.
17
7 อยูในหลัก หนวย มีคา 7
1 อยูในหลัก สิบ มีคา 10
7. 6 อยูในหลัก หนวย มีคา 6
16 1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10
8.
12
2 อยูในหลัก หนวย มีคา 2
1 อยูใ นหลัก สิบ มีคา 10


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

69
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T207
2 š ²›Š´š¨š¤ºœ¿¦±¨‰¦n®¢¤®›¤ºœÁ¬n†¤›¤ºœŠ³ƒš²Çš¾–µ¢¾¦„À••
Áš¬¦²ƒ¬šm¨£¿¦±¬¦²ƒ«µ›Áš ¾Ÿ¸Æ®¿«•‰Š´š¨š¤ºœ˜²Ç‰¬¢•
1.
หลักสิบ หลักหนวย
1 4

2.
หลักสิบ หลักหนวย
1 1

ฉบับ 3.
เฉลย หลักสิบ หลักหนวย
1 0

4.
หลักสิบ หลักหนวย
1 8

5.
หลักสิบ หลักหนวย
1 5
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

70
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T208
3 š²›Š´š¨š•®ƒÂ¢n¿¦n¨¾„¶£šŠ´š¨šÁš¤ºœƒ¤±Š³£
 ¤ºœ¡³Ÿ Š´š¨š ¤ºœƒ¤±Š³£

1. 12 10 + 2

2. 18 10 + 8

ฉบับ
เฉลย
3. 15 10 + 5

4. 11 10 + 1

5.
19 10 + 9


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

71
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T209
4 ¾„¶£šŠ´š¨šŠ³ƒ¤ºœƒ¤±Š³£˜¶Æƒ´¬š•Á¬n
1. 10 + 6 = 16 2. 10 + 5 = 15
3. 10 + 4 = 14 4. 10 + 7 = 17
5. 10 + 8 = 18 6. 10 + 9 = 19
7. 10 + 2 = 12 8. 10 + 3 = 13
9. 10 + 0 = 10 10. 20 + 0 = 20
5 À£‰¾«nšŠ²›†ºmŠ´š¨šƒ²›¤ºœƒ¤±Š³£„®‰Š´š¨š˜¶Æ«²¢Ÿ²š™qƒ²š

ฉบับ
1. 15 • • 10 + 4
เฉลย

2. 14 • • 10 + 5

3. 19 • • 10 + 8

4. 16 • • 20 + 0

5. 20 • • 10 + 9

6. 18 • • 10 + 6
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

72
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T210
4 การเปรียบเทียบจํานวน

1 š²›¤ºœ¿¦±¾–µ¢–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨šÁš Š³ƒš²Çš¾œ¤¶£›¾˜¶£›Š´š¨š
 À•£¾–µ¢¾†¤¸Æ®‰¬¢³£ ¬¤¸® Áš
1.

18 15

2.
ฉบับ
เฉลย
14 = 14

3.

10 = 10

4.

17 13


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

73
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T211
2 š²›¤ºœ¿¦±¾–µ¢–²¨¾¦„¿«•‰Š´š¨šÁš
¾¦„¿«•‰Š´ Š³ƒš²Çš¾œ¤¶£›¾˜¶£›Š´š¨š
 À•£¾–µ¢¾†¤¸Æ®‰¬¢³£>¬¤¸®<Áš
1.

18 > 14

2.

ฉบับ 11 < 15
เฉลย

3.

13 < 17

4.

19 > 16
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

74
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T212
3 ¤±›³£«¶Š´š¨š–³¢˜¶Æƒ´¬š•
1. จํานวนที่มีคามากกวา 13 2. จํานวนที่มีคานอยกวา 17
19 12 11 12 17 17 16 15 12 18
17 18 13 14 16 19 17 11 19 20
18 11 20 13 15 17 20 14 18 19
16 13 19 10 19 19 18 13 20 18
14 10 13 12 15 20 17 16 17 18

4 ¨ ³•¤ºœ–³¢Š´š¨š˜¶Æƒ´¬š•¦‰Áš–³¤³‰¿¦±¾„¶£š¿«•‰ƒ³¤¾œ¤¶£›¾˜¶£›
Š´š¨šÁšŒm®‰¨m³‰
1. 18 14
ฉบับ
เฉลย

18 มีคา มากกวา 14
2. 15 15

เทากับ

15 15
 ไข าร

มีคา
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

75
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T213
5 ¾–µ¢¾†¤¸Æ®‰¬¢³£>, <¬¤¸® Áš Á¬n—ºƒ–n®‰
1. 12 < 17 2. 15 = 10 + 5

3. 18 < 19 4. 1 + 4 < 14

5. 18 > 10 + 3 6. 10 + 6 > 12

7. 15 > 14 8. 9 + 1 = 10 + 0
ฉบับ
เฉลย
9. 16 < 20 10. 20 + 0 > 19

6 ¾–µ¢†´¨m³u¢³ƒƒ¨m³v¬¤¸®ušn®£ƒ¨m³v¦‰ÁšŒm®‰¨m³‰Á¬n—ºƒ–n®‰
1. สุรีมีลูกแกว 12 ลูก แปงมีลูกแกว 13 ลูก
สุรีมีจํานวนลูกแกว นอยกวา แปง
2. �ั้น ป.1�1 มีนักเรียน�าย 1� �น มีนักเรียนหญิง 2� �น
�ั้น ป.1�1 มีจํานวนนักเรียน�าย นอยกวา นักเรียนหญิง
3. เมื่อวานเจไดอานหนังสือได 12 หนา วันน�้อานหนังสือได 17 หนา
วันน�้เจไดอานหนังสือไดจํานวนหนา มากกวา เมื่อวาน
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

76
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T214
5 การเรียงลําดับจํานวน

1 ¾¤¶£‰¦´•²›Š´š¨šŠ³ƒ
Š´š¨šŠ³ƒนอยไปมาก
1. 11 19 16 20
11 19
16 20

2. 15 18 11 20 17

11 17 20
15 18
ฉบับ
เฉลย

2 ¾¤¶£‰¦´•²›Š´š¨šŠ³ƒมากไปน
Š´š¨šŠ³ƒ อย
1. 13 19 17 14
19 14
17 13

2. 18 12 15 20 16

20 16 12
18 15


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

77
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T215
3 ƒ´¬š•Š´š¨š 19 17 12 14
1. จํานวนที่มากที่สุด คือ 19
2. จํานวนที่นอยที่สุด คือ 12
3. จํานวนที่มากกวา 12 แตนอยกวา 19 คือ 14 และ 17
4. เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก 12 14 17 19

4 ŸµŠ³¤”³œ¤±À£†–m®Âœš¶Ç¿¦n¨¾–µ¢†´–®›¦‰ÁšŒm®‰¨m³‰
1. เจนกระโดดตบได 20 ครั้ง นุนกระโดดตบได 17 ครั้ง และโบวี่
ฉบับ กระโดดตบได 19 ครั้ง
เฉลย
เรียงลําดับคนที่กระโดดตบไดจํานวนครั้งจากมากไปนอยได ดังน�้
เจน โบวี่ นุน
2. ลุงซือ้ มะมวงมา 9 ผล ซือ้ มะละกอมา 16 ผล และซือ้ ฝรัง� มา 13 ผล
เรียงลําดับจํานวนผลไมที่ซื้อมาจากนอยไปมากได ดังน�้
9 13 16
3. แมคาขายขนมปงไสเผือกได 15 ชิ้น ขายขนมปงไสครีมได 18 ชิ้น
ขายขนมปงไสถว�ั แดงได 12 ชิน้ และขายขนมปงไสแยมสมได 9 ชิน้
เรียงลําดับขนมปงแตละไสที่ขายไดจากมากไปนอยได ดังน�้
�น���������ี� �น�������เ���� �น���������่วแ�� �น�������แ�����
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

78
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T216
5 À£‰¾«nšŠ²›†ºmŠ´š¨šƒ²›¤ºœ˜¶Æƒ´¬š•Š³ƒš²Çš¾¤¶£‰¦´•²›Š´š¨š

18 15
11
13 17

ฉบับ
เฉลย

เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก
11 13 15 17 18

เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย
18 17 15 13 11


 ไข าร
ุงแก พิจ
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร

79
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T217
แบบฝึ กทบทวน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4
 ƒ³✗ ˜²›–²¨®²ƒª¤ ƒ„¬¤¸®†¬šn³†´–®›˜¶Æ—ºƒ–n®‰
1

จากรูป ผีเสื้อมีจํานวนกี่ตัว
✗ก. 18 ตัว ข. 15 ตัว ค. 12 ตัว
2

จากรูป ดาวมีจํานวนตรงกับขอใด
ฉบับ
เฉลย ✗ก. 1 สิบ กับ 5 หนวย ข. 5 สิบ กับ 1 หนวย
ค. 0 สิบ กับ 5 หนวย
3 ขอใดตอไปน�้ถูกตอง
15 19 17
ก. ข. ✗ค.
4 12 11 9 8 9
4 ขอใดถูกตอง
ก. 10 + 3 < �� ข. 10 + 5 > 10 + 7
✗ค. 10 + 7 = ��
5 17 เขียนในรูปกระจายไดอยางไร
หน

ก. 12 + 5 ✗ข. 10 + 7 ค. 13 + 4
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

80
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T218
6 จํานวนในขอใดเปนจํานวนสองหลักที่มี 1 เปนเลขโดดในหลักสิบ
และเลขโดดในหลักหนวยมีคานอยกวา 7 อยู 3
ก. 20 + 0 ✗ข. 10 + 4 ค. 10 + 7

7
ควรเติมคําใดลงในชองวาง
✗ก. เทากับ ข. นอยกวา ค. มากกวา
8 จํานวนในขอใดมากกวา 16 ทั้งหมด
ก. 17 14 18
�✗ข. 19 20 18 ฉบับ
เฉลย
ค. 18 17 16
9 จํานวนในขอใดเรียงลําดับจากนอยไปมาก
ก. 16 13 14 17 20
�✗ข. 13 14 16 17 20
ค. 20 17 16 14 13
 จํานวนในขอใดเรียงลําดับจากมากไปนอย
ก. 11 12 16 17 19
ข. 19 16 17 12 11
✗ค. 19 17 16 12 11


 ไข าร

คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม
ุงแก พิจ

ǰǯ 81
ปร วจ
รับ ตร
รป สง
ีกา าง
จม ะหว
อา นร
หา ี้อยู ใ
เนื้อ ลมน
ือเ
ังส
หน

T219
สมรรถนะสำคัญสำหรับผูเรียน
ิ ก รร ม

Active L earning
ก †¨³¢«³¢³¤—•n³š ✓ การสื่อสาร
✓ การคิด การแกปญหา
การใชทักษะชีวิต การใชเทคโนโลยี

Á¬nš²ƒ¾¤¶£šŠ²›†ºm¿¦n¨œµ›²–µƒµŠƒ¤¤¢–m®Âœš¶Ç
1. แตละคูรวมกันสํารวจเพื่อนในหองเรียนจํานวน 20 คน วาเพื่อนแตละคน
เดินทางมาโรงเรียนดวยวิธีใดบาง โดย 1 คน สามารถตอบไดเพียง 1 วิธี
แลวเขียนบันท�ก�ลลงในกรอบดานลาง
¤³£Œ¸Æ®š²ƒ¾¤¶£š˜¶Æ¾•µš˜³‰¢³À¤‰¾¤¶£š•n¨£¨µ™¶–m³‰Ä
¨µ™¶˜¶Æ ร��นต� ไดแก ��� เ�� โ�� แวว และน����
¨µ™¶˜¶Æ ร�โรงเร��น ไดแก เ�น �ะนาว �ราว โก โ�ว� และจิ�ว
¨µ™¶˜¶Æ เดิน ไดแก แตงกวา โจ และเรน
¨µ™¶˜¶Æ ร�จ�กร�าน�นต� ไดแก เ��และ���
ฉบับ
เฉลย ¨µ™¶˜¶Æ ร�����า ไดแก เ�ร� เจน �า�ร�ง และต�า�
¨µ™¶˜¶Æ เร��ด�วน ไดแก �

เขียนจํานวนเพื่อนที่เดินทางมาโรงเรียนดวยวิธีตาง � ได ดังน�้


¨µ™¶˜¶Æ ¨µ™¶˜¶Æ ¨µ™¶˜¶Æ ¨µ™¶˜¶Æ ¨µ™¶˜¶Æ ¨µ™¶˜¶Æ
จํานวนคน 5 6 3 2 4 0

2. นําจํานวนเพื่อนที่เดินทางแตละวิธี มาเรียงลําดับจากมากไปนอย
6 5 4 3 2 0
3. แตละคูออกมานําเสนอขอมูลหนาชั้นเรียน
หน
ังส เน
ือเล ื้อห
มน าอา
ี้อย จม
ู ในร ีกา
ะหว รปร

82
างส ับป
งต รุงแ
รว ก ไข
จพ
ิจา
รณ

T220
ภาคผนวก

Active Learning คืออะไร

Active Learning คือ การจัดการเรียนรูที่เนน “กระบวนการเรียนรู” เนนผูเรียน


มากกวา “เนื้อหาวิชา” โดยเนนผูเรียนเปนศูนยกลาง เพื่อชวยใหผูเรียน
เปนศูนยกลาง
สามารถเชื่อมโยงความรู หรือสรางความรูใหเกิดขึ้นดวยตนเอง โดยการลงมือ
ปฏิบตั จิ ริงผานสือ่ หรือกิจกรรมการเรียนรูท ม่ี ผี สู อนเปนผูแ นะนำ ซึง่ ใชกระบวนการ
คิดวิเคราะห คิดแกปญหา และคิดสรางสรรค

มีหลักการที่เปนองคประกอบ ดังนี้

การเรียนรูผานการลงมือทำ
เนนใหผูเร�ยนมีโอกาสลงมือปฏิบัติ การเรียนรูจากการมีปฏิสัมพันธรวมกัน
ผานการรวมมือกัน วางแผน ว�เคราะห เนนการมีปฏิสัมพันธระหวางผูสอนกับผูเร�ยน และผูเร�ยน
สังเคราะห สรางชิ�นงานหร�อนวัตกรรม กับผูเร�ยน โดยผูเร�ยนสามารถเขาถึงความรู ไดภายใต
การแนะนำของผูสอน หร�อการทำงานรวมกันกับเพ�่อน
รวมถึงมีการสื่อสารและนำเสนอผลงานใหผูอื่นไดรับรู

การเรียนรูจากการสำรวจ และคนหา
เนนกระตุนใหผูเร�ยนไดคนหาโดยเชื่อมโยงความสนใจ
และประสบการณโดยตรงระหวางเร�่องที่สอน
กับความสนใจของตนเอง การเรียนรูผานการคิด
เนนว�ธีการเร�ยนรูของผูเร�ยน โดยผูเร�ยนจะมีสวนสำคัญ
ในกระบวนการคิด เพ�่อตอยอดการเร�ยนรูของตนเอง
คิด
คนหา
ปฏิสัมพันธ
ลงมือทำ
การจัดการเรียนรู Active Learning มีอะไรบŒาง

การจัดการเรียนรู Active Learning ตองเลือกใช ใหเหมาะสมกับตัวชี้วัด จุดเนนของสาระ ธรรมชาติวิชา


เพือ่ ทำใหการจัดการเรียนรูเ กิดประสิทธิภาพ ทำใหผเู รียนเกิดสมรรถนะตามเปาหมายทีถ่ กู กำหนดไว ซึง่ การจัดการเรียนรู
ที่สามารถนำมาใช ไดอยางมีประสิทธิภาพมีหลากหลาย เชน

การจัดการเรียนรู การจัดการเรียนรู
โดยใชสมองเปนฐาน ดวยกระบวนการสืบสอบ
(Brain-Based Learning) (Inquiry-Based Learning)

รูปแบบการสอน
กระบวนการเรียนรู แบบสืบสอบความรู การจัดการเรียนรู
ภูมิศาสตร โดยใชโครงงานเปนฐาน
(5Es Instructional Model)
(Geo Literacy) (Project-Based Learning)

รูปแบบการสอน
“โมเดลซิปปา”
(CIPPA Model) วิธีสอน
วิธีสอนแบบแกปญหา
แบบใชกรณีตัวอยาง
(Problem Solving Method)
(Case Study)

การเรียนการสอนเนนมโนทัศน
(Concept Based Teaching วิธีสอน
and Learning) โดยการอภิปรายกลุมยอย
กระบวนการปฏิบัติ
(Small Group Discussion)
(Practice Teaching)

วิธีสอน
โดยใชสถานการณจำลอง การจัดการเรียนรู
(Simulation) Active Learning
มีอยูหลากหลายนะคะ

You might also like