Professional Documents
Culture Documents
ใบงานสมการป 6
ใบงานสมการป 6
om
.c
o k
nn
ba
o o
kr
.
w
w
w
ข
คำนำ
m
แบบฝึ กทักษะกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้คณิ ตศาสตร์ เรื่ องสมการและการแก้สมการ
o
ได้จดั ทาขึ้นเพื่อใช้เป็ นสื่ อสาหรับใช้จดั กิจกรรมการเรี ยนรู ้กบั นักเรี ยนชั้นประถมศึกษา
c
ปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านสันม่วง ตามหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
การจัดทาได้ผา่ นการวิเคราะห์สาระและมาตรฐาน ตัวชี้วดั และสาระการเรี ยนรู ้แกนกลาง
k
กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้คณิ ตศาสตร์ โดยจัดทาแบบฝึ กทักษะจานวน 5 เล่ม สาหรับเล่มที่ 1
.
o
เรื่ อง สมการ มีจานวน 4 แบบฝึ กทักษะ ได้แก่ แบบฝึ กทักษะที่ 1 – 4
n
นอกจากนี้ แบบฝึ กทักษะยังมีรูปภาพประกอบที่มีสีสันสวยงามเหมาะสมกับวัย
n
ของผูเ้ รี ยนและมีการแทรกแนวคิดเพื่อช่ วยส่ งเสริ มสติปัญญาความคิด และจินตนาการ
a
ตามแนวคิ ด ของหลัก สู ต รที่ มุ่ ง เน้ น ประสบการณ์ ด้า นต่ า ง ๆ ที่ เ ป็ นประโยชน์ คื อ
b
การดาเนินชี วิต เช่น คิดอย่างมีเหตุผลเป็ นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหา
หรื อ สถานการณ์ ไ ด้อ ย่ า งถี่ ถ ้ว น รอบคอบ ช่ ว ยให้ ค าดการณ์ วางแผน ตัด สิ น ใจ
o
แก้ปัญหาและนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
o
r
ขอขอบคุ ณ ผูม้ ี ส่ ว นร่ ว มทุ ก ฝ่ ายที่ เ กี่ ย วข้อ งทั้ง ในโรงเรี ย นบ้า นสั นม่ วง และ
k
นอกโรงเรี ยน ตลอดจนนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 ซึ่ งช่ วยให้การจัดทาเอกสาร
.
ดังกล่าว ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสม มีประสิ ทธิ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
w
เหมาะสมสาหรับจัดกิ จกรรมการเรี ยนรู ้ระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 สามารถพัฒนา
ผูเ้ รี ยนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรี ยนรู ้ และตัวชี้วดั ที่กาหนดในหลักสู ตรแกนกลาง
w
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
w (นางเจตสุ ภา ใหนาค)
ตาแหน่งครู วทิ ยฐานะ ครู ชานาญการโรงเรี ยนบ้านสันม่วง
ค
สำรบัญ
m
หน้ ำ
o
คานา ก
c
สารบัญ ข
.
แบบทดสอบก่อนเรี ยน เล่มที่ 1 1
แบบฝึ กทักษะที่ 1
แบบฝึ กทักษะที่ 2
o k 16
3
n
แบบฝึ กทักษะที่ 3 29
n
แบบฝึ กทักษะที่ 4 40
a
แบบทดสอบหลังเรี ยน เล่มที่ 1 50
b
เฉลย 52
o
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรี ยน เล่มที่ 1 53
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1 55
k r
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2 60
.
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3 65
w
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4 70
เฉลยแบบทดสอบหลังเรี ยน เล่มที่ 1 73
w
บรรณานุกรม 75
w
1
แบบทดสอบก่ อนเรียน
เล่ มที่ 1
om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)
k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
n
ตอบ .............................................................................................................
a
2. 30 20 < 800
o b
ตอบ .............................................................................................................
r o
k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
.
3. 40 6 = 230
w ตอบ .............................................................................................................
w
w
4. 120 + 400 = 520
ตอบ .............................................................................................................
2
m
5. 36 n = 288
o
ตอบ .............................................................................................................
6. 480 ก = 80
. c
k
ตอบ .............................................................................................................
o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)
n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
a
ตอบ .............................................................................................................
b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด
o o
r
ตอบ .............................................................................................................
. k
9. 30 9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ
w
ตอบ ............................................................................................................
w
10. คาตอบของสมการ 30 9 = ข คือจานวนใด
w ตอบ .............................................................................................................
3
แบบฝึ กทักษะกลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์
สมกำรและกำรแก้สมกำร
om
c
แบบฝึ กทักษะที่ 1
เรื่อง สมกำร
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................
w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6
จุดประสงค์ กำรเรียนรู้
om
. c
k
เมื่อกาหนดประโยคสัญลักษณ์แสดง การบวก การลบ
o
การคูณและการหาร นักเรี ยนสามารถบอกได้วา่ เป็ นสมการ
หรื อไม่เป็ นสมการ
n n
ba
o o
k r
.
w
w
w
5
m
คำชี้แจง
c o
.
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
o k
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ
n n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ
a
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ
b
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย
o
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง
o
k r
.
w
w
w
6
1. 75 3 = 25
om
2. 19 + 16 ≠ 19 16
. c
k
3. 18 4 > 40
4.
o
360 + 180 = 180 + 360
n
a n
o b
ประโยคสั ญลักษณ์ ในข้ อ 1 และข้ อ 4 มีเครื่องหมำย เท่ ำกับ
o
ซึ่งเขียนแทนด้ วย = อยู่ระหว่ ำงจำนวนสองจำนวน เรียกว่ ำ
สมกำร
k r
.
w
w
จำกตัวอย่ ำง ประโยคสั ญลักษณ์ ในข้ อ 1 และข้ อ 4 เป็ นสมกำร
เพรำะมีเครื่องหมำย =
w
7
om
. c
k
ถ้ ำไม่ มเี ครื่องหมำย = จะไม่ เป็ นสมกำร ได้ แก่ ประโยค
o
สั ญลักษณ์ ในข้ อ 2 และ ข้ อ 3
n n
b a
o o
k r
.
w
ให้ พี่ ๆ ศึกษำใน
w
หน้ ำต่ อไปนะครับ
w
8
om
c
หรื อ ไม่ เป็ นสมกำร
k .
1. 100 + 50 > 100 + 20
n o
n
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
a
o b
r o
2. 25 – 12 ≠ 30 – 18
. k
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
w
w
w 3. 6 5 = 5 6
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ
9
4. 40 + 5 = 4 + 4
m
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ
c o
5. 30 6 ≠ 10 – 2
k .
o
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
n
a n
6. 20 7 = 140
o b
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ
r o
. k
w
w
w
10
m
ให้ นักเรียนเขียนประโยคสั ญลักษณ์ ทเี่ ป็ นสมกำรลงใน
o
ที่กำหนดให้ (ฝึ กให้ นักเรียนคิดอย่ ำงเป็ นกระบวนกำร โดยกำรใช้
c
.
จำนวนมำบวก ลบ คูณและหำร)
1. 10 + 20 =
o
12 + 18 k
2. 60 8 =
n n
480
a
3. 250 + 180 = 180 + 250
4.
5.
o b
500 – 200
28 3
=
=
60 5
7
r o
6. 90 – 50 = 40
. k
w
w
เข้ ำใจแล้วครับ
w
11
om
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใดเป็ น สมการ หรื อ ไม่เป็ นสมการ
. c
k
ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล
n o
n
1. 15 + 8 > 12 + 3 เพราะ.............................................
b a
o
2. 10 12 = 120 เพราะ.............................................
r o
. k
3. 53 – 15 ≠ 40 เพราะ.............................................
w
w
4. 80 4 = 4 5 เพราะ.............................................
6. 22 + 8 < 25 + 9 เพราะ.............................................
7. 12 9 ≠ 12 + 9
om
เพราะ.............................................
. c
8. 30 + 45 = 45 + 30
o k
เพราะ.............................................
9. 25 0 < 1 1
n n
เพราะ.............................................
ba
10. 90 5 = 3 6
o o เพราะ.............................................
k r
.
w
w
w
13
om
ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์ที่เป็ นสมการลงใน
c
(เพื่อฝึ กให้นกั เรี ยนคิดเป็ นกระบวนการอย่างหลากหลาย
และมีเหตุผล)
k .
n o
n
1.
b a
o
2.
r o
3.
. k
w
w
w
4.
5.
14
6.
om
7.
.c
o k
8.
nn
ba
o
9.
r o
.
10.
k
w
w
w
15
m
แบบฝึ กทักษะที่ 1.1
o
1
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน ได้ถูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน
รวม 5 คะแนน
. c
k
2. นักเรี ยนเขียนเหตุผลว่าเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการได้
o
1
ถูกต้อง ข้อละ คะแนน รวม 5 คะแนน
n
2
3. แบบฝึ กทักษะที่ 1.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
a n
1.
o bแบบฝึ กทักษะที่ 1.2
ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการเขียนประโยคสัญลักษณ์
r o
ซึ่ งจะมีเครื่ องหมาย = อยูร่ ะหว่างจานวนสองจานวน
k
2. ประโยคสัญลักษณ์นกั เรี ยนจะนามา บวก ลบ คูณ หรื อ หาร ก็ได้
w
3. เมื่อนักเรี ยนเขียนสมการถูกต้อง ได้ขอ้ ละ 1 คะแนน รวมเป็ น
w
10 คะแนน
w
4. แบบฝึ กทักษะที่ 1.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
แบบฝึ กทักษะที่ 2
om
c
เรื่อง สมกำรที่เป็ นจริงและสมกำรที่เป็ นเท็จ
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................
w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6
จุดประสงค์ กำรเรียนรู้
om
เมื่อกาหนดสมการให้นกั เรี ยนสามารถบอกได้วา่ สมการใด
เป็ นสมการที่เป็ นจริ งและสมการใดที่เป็ นเท็จ
. c
o k
n n
b a
o o
k r
.
w
w
w
18
คำชี้แจง
om
c
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ
.
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ
k
o
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ
n
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ
b a
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง
o o
k r
.
w
w
w
19
om
.
1. 20 + 20 + 20 + 20 + 20 = 100 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง
c
k
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = เท่ากัน
n o
n
2. 40 – 10 = 20 + 10 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง
a
b
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = เท่ากัน
o o
k r
3. 30 5 = 50 3 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง
w
w
w
20
m
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน
c o
5. 21 8 = 21 + 8 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ
k .
o
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน
n
a n
b
สมการที่เป็ นจริ ง หมายถึง สมการซึ่ งมีค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้าย
o
ของเครื่ องหมาย = กับค่าของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน
r o
. k
w
สมการที่เป็ นเท็จ หมายถึง สมการซึ่ งมีค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้าย
w
ของเครื่ องหมาย = กับค่าของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน
w
21
m
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใด เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง หรื อเป็ นสมการ
ที่เป็ นเท็จ เขียนคาตอบและเหตุผลลงใน ที่กาหนดให้
c o
k .
o
1. 50 5 = 10 10 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ
n n
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า
a
ของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน
b
o o
k r
.
2. 15 + 15 = 30 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง
w
w เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า
w
ของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน
22
om
c
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า
ของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน
k .
n o
a n
b
4. 8 8 = 2 5 6 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ
o o
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า
k r
ของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน
.
w
w
w
23
om
สมกำรที่เป็ นจริง
.
สมกำรที่เป็ นเท็จ
c
1. 13 + 13 + 13 = 39 1. 68
o k
= 59
n
2. 50 5 = 150 + 100 2. 26 – 19 = 18 + 6
n
3. 190 – 60 = 70 + 60 3. 16 5 = 10 4
a
4. 45 + 9 = 54 1 4. 50 + 5 = 45 + 15
b
5. 20 4 5 = 50 8 5. 60 + 10 = 50 + 10
o o
r
วิธีคดิ (นักเรี ยนสามารถเขียนสมการที่เป็ นจริ ง หรื อ สมการที่เป็ นเท็จ
k
ด้วยจานวนอะไรก็ได้ ซึ่ งสามารถคิดได้อย่างหลากหลาย โดยนักเรี ยน
.
สามารถให้เหตุผลได้ในสิ่ งที่เขียนเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง หรื อ สมการที่
w
เป็ นเท็จ
w
w
เมื่อนักเรี ยนศึกษาตัวอย่างเข้าใจดี
แล้ว ทาแบบฝึ กทักษะที่ 2.1 – 2.2
ได้เลยนะครับ
24
om
c
ในข้อใดเป็ นเท็จ ลงใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล
k .
1. 150 + 130 = 180 – 30
n o
เพราะ...............................
a n
2. 900 + 100 = 100 + 900
o b เพราะ...............................
r o
. k
3. 45 30 = 900 + 450 เพราะ...............................
w
w
4. 635 – 153 = 330 + 172 เพราะ...............................
6. 35 5 = 5 35 เพราะ...............................
7. (255)100 = 500
om
เพราะ...............................
. c
8. 8 4 20 = 80 80
o k
เพราะ...............................
nn
a
9. 56 + 24 = 56 – 14 เพราะ...............................
o b
r o
10. (153)100 = 7100 เพราะ...............................
. k
w
w
w
26
om
c
และสมการที่เป็ นเท็จ
k .
เป็ นกิจกรรมที่ให้นกั เรี ยนคิดได้อย่างอิสระและสมเหตุสมผล
n o
n
สมกำรที่เป็ นจริง
b a
1.
o o
k r 2.
. 3.
w
w
4.
w 5.
27
สมกำรที่เป็ นเท็จ
om
.c
1.
o k
2.
n n
3.
b a
o
4.
r o5.
. k
w
w
w
28
m
แบบฝึ กทักษะที่ 2.1
o
1
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน ได้ถูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน
รวม 5 คะแนน
. c
k
2. นักเรี ยนเขียนเหตุผลว่าเป็ นสมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นสมการที่
o
1
เป็ นเท็จได้ถกู ต้อง ข้อละ คะแนน รวม 5 คะแนน
n
2
3. แบบฝึ กทักษะที่ 2.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
a n
o b
แบบฝึ กทักษะที่ 2.2
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่เป็ นจริ ง
r o
จะมีค่าของจานวนที่อยูร่ ะหว่างเครื่ องหมาย = เท่ากัน ได้ถูกต้อง
k
ข้อละ 1 คะแนน
.
2. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่เป็ นเท็จ
w
ได้ถกู ต้อง ข้อละ 1 คะแนน
w
3. แบบฝึ กทักษะที่ 2.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
om
c
แบบฝึ กทักษะที่ 3
เรื่อง สมกำรที่มีตัวไม่ ทรำบค่ ำ
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................
w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6
จุดประสงค์ กำรเรียนรู้
om
เมื่อกาหนดสมการหลาย ๆ สมการให้ นักเรี ยนสามารถบอก
ตัวไม่ทราบค่าของแต่ละสมการได้
. c
o k
n n
ba
o o
k r
.
w
w
w
31
คำชี้แจง
om
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ
. c
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
o k
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ
n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ
n
a
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ
b
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย
o
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง
r o
. k
w
w
w
32
พิจารณาสมการต่อไปนี้
1. 30 – ข = 6 ตัวไม่ทราบค่า คือ ข
2. ช + 20 = 60 ตัวไม่ทราบค่า คือ ช
om
. c
k
3. 4 c = 80 ตัวไม่ทราบค่า คือ c
4. x – 10 = 50 ตัวไม่ทราบค่า คือ x
n o
a n
ตัวไม่ทราบค่าในสมการ จะใช้สัญลักษณ์ที่เป็ นตัวอักษรตัวใดก็ได้
b
เช่น ก, ข, ค, จ, ฉ, ช, a, b, c, x, y, z
o
r o
สมการที่มีการใช้ตวั อักษรหรื อสัญลักษณ์อื่นแทนจานวน
. k
เรี ยก ตัวอักษรหรื อสัญลักษณ์อื่นที่ใช้แทนจานวนในสมการว่า
w
ตัวไม่ ทรำบค่ ำ หรื อ ตัวแปร และเรี ยกสมการเช่นนี้วา่ สมกำรทีม่ ี
ตัวไม่ ทรำบค่ ำ หรือ สมกำรทีม่ ตี ัวแปร
w
w ให้นกั เรี ยนศึกษาตัวอย่าง
ในหน้าต่อไปนะครับ
33
om
p
. c
k
1. 50 p = 10 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
2. 62 + จ = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
n oจ
3. 8 ค
a n
= 120 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ค
o b
o
4. ฉ – 100 = 35 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ฉ
k r
.
5. 155 5 = ป ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ป
w
w
6. b 4 = 28 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ b
w
34
m
เขียนสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าลงใน ให้ถูกต้อง(ฝึ กให้นกั เรี ยนได้
เขียนสมการได้อย่างหลากหลายอย่างสมเหตุสมผล)
c o
1. ...................................... เขียนได้ดงั นี้
k
ก – 20 = 30
.
n o
n
2. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ จ + 15 = 40
3. ......................................
b a
เขียนได้ดงั นี้ 8 d = 64
o o
4.
k r
...................................... เขียนได้ดงั นี้ ป 4 = 20
.
w
5. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ 36 + ข = 56
w
w
6. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ m 15 = 450
35
om
c
ให้ถูกต้อง
k .
1. 95 ส = 15 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
n o
a n
2. 25 ค = 125
o b
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
r o
k
3. ง – 35 = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
.
w
4. 250 + x = 400 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
w
w5. ก 12 = 6 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
36
om
.c
k
8. 28 + b = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
n o
n
9. ม 7 = 20 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
b a
o
10. 15 y = 75 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
r o
. k
w
w
w
37
a n
2.
o b
r o
3.
. k
w
w
4.
w5.
38
6.
7.
om
.c
8.
o k
nn
9.
ba
o o
10.
k r
.
w
w
w
39
k
ได้ถกู ต้อง ข้อละ 1 คะแนน
o
2. แบบฝึ กทักษะที่ 3.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
n n
a
แบบฝึ กทักษะที่ 3.2
b
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่มีตวั ไม่
o
ทราบค่า โดยให้นกั เรี ยนได้คิดอย่างอิสระ ซึ่ งสามารถนามา
o
บวก ลบ คูณ หรื อ หาร เมื่อนักเรี ยนเขียนได้ถูกต้อง ข้อละ 1
k
คะแนน
r
.
2. แบบฝึ กทักษะที่ 3.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
w
w
w
แบบฝึ กทักษะที่ 3 มีคะแนนรวมทั้งหมด 20 คะแนน
40
แบบฝึ กทักษะที่ 4
om
c
เรื่อง คำตอบของสมกำร
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................
w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6
จุดประสงค์ กำรเรียนรู้
om
เมื่อกาหนดสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าหนึ่งตัวให้ นักเรี ยน
สามารถหาจานวนไปแทนตัวไม่ทราบค่า แล้วทาให้สมการเป็ น
. c
k
จริ งได้
n o
a n
o b
r o
. k
w
w
w
42
คำชี้แจง
om
c
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ
k .
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ
o
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ
a n
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย
b
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง
o
r o
. k
w
w
w
43
พิจำรณำสมกำร จ + 25 = 75
จานวนอะไรที่นามาบวกกับ 25 แล้วได้ผลลัพธ์เท่ากับ 75
om
. c
k
จ + 25 = 75
n o
ถ้าแทน จ ด้วย 40 จะได้ 40 + 25 = 75
o b
ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้ 50 + 25 = 75
r o
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นจริง เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ
. k
เครื่ องหมาย = เท่ากัน
w
w
44
พิจำรณำสมกำร ก + 40 = 100
n
ถ้าแทน ก ด้วย 50 จะได้ 50 + 40 = 100o
เครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน
a n
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นเท็จ เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ
o b
ถ้าแทน ก ด้วย 60 จะได้ 60 + 40 = 100
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นจริง เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ
r o
เครื่ องหมาย = เท่ากัน
w
w
จำนวนที่นำมำแทนตัวไม่ ทรำบค่ ำในสมกำร
w
แล้ วทำให้ สมกำรนั้นเป็ นจริงเรียกจำนวนนั้นว่ ำ
คำตอบของสมกำร
45
m
ให้นกั เรี ยนพิจารณาสมการในข้างล่างนี้
c o
ฉ – 30 = 45
k .
n o
n
ถ้าแทน ฉ ด้วย 70 จะได้สมการที่เป็ นเท็จ เพราะ 70 – 30 = 40 ซึ่ งไม่
a
เท่ากับ 45 ที่อยูท่ างขวาของเครื่ องหมาย =
b
ถ้าแทน ฉ ด้วย 75 จะได้สมการที่เป็ นจริ ง เพราะ 75 – 30 = 45 ซึ่ ง
o
เท่ากับ 45 ที่อยูท่ างขวาของเครื่ องหมาย =
r o
k
75 เป็ นคำตอบของสมกำร ฉ – 30 = 45
.
w
w
w
46
. c
คำถำม
k
ผลกำรพิจำรณำ
o
1. ค – 12 = 20 42
n n
1. ค – 12 = 20 42
a
2. 18 ข = 9 2 2. 18 ข = 9 2
b
3. 35 + บ = 52 27 3. 35 + บ = 52 27
4. ส 9 = 81
o 4. ส 9 = 81
9 9
5. m 5 = 8
r o 40 5. m 5 = 8 40
. k
w
ผลการพิจารณา ข้อ 2, 4 และ 5 เป็ นจานวนที่เป็ นคาตอบของสมการ เพราะ
เมื่อแทนค่าตัวไม่ทราบค่าด้วยจานวนดังกล่าวแล้ว ทาให้สมการเป็ นจริ ง
w
w สรุป คาตอบของสมการ คือ จานวนที่นาไปแทนค่าในตัวไม่ทราบ
ค่าแล้วทาให้สมการเป็ นจริ ง
47
n n
3. ข 20 = 220
b a
o o
k r
2. 48 ม = 192 4. 9,000 – 4,248 = ย
.
w
w
w 5. 99 + ว = 152
48
om
c
จานวนใน ที่เป็ นคาตอบของสมการและ
ใส่ เครื่ องหมาย หน้าข้อที่ไม่เป็ นคาตอบ
k .
o
ของสมการ
.........1. ก – 20 =
n
15
n 40
b a
o
.........2. ข4 = 8 32
r o
k
.........3. ง 12 = 60 8
.
w
w
.........4. 35 + จ = 80 50
w .........5. 11 ค = 77 7
49
om
c
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบซึ่ งเป็ นคาตอบของสมการลงใน ได้
ถูกต้อง ข้อละ 1 คะแนน รวม 5 คะแนน
k .
o
2. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน ไม่ถกู ต้องจะไม่ได้คะแนน
n
3. แบบฝึ กทักษะที่ 4.1 มีคะแนนเต็ม 5 คะแนน
a n
แบบฝึ กทักษะที่ 4.2
o b
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับการหาคาตอบของสมการ หรื อ
การแก้สมการ เพื่อให้ได้คาตอบที่ถูกต้อง แล้วนาไป
r o
เปรี ยบเทียบกับคาตอบที่กาหนดให้วา่ ตรงกันหรื อไม่ แล้ว
k
ตัดสิ นใจอย่างสมเหตุสมผลก่อนจะใส่ เครื่ องหมาย
.
2. เมื่อนักเรี ยนเขียนเครื่ องหมายลงในช่องว่างอย่างถูกต้องตาม
w
ไม่ได้คะแนน
w
3. แบบฝึ กทักษะที่ 4.2 มีคะแนนเต็ม 5 คะแนน
แบบทดสอบหลังเรียน
เล่ มที่ 1
om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)
k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
n
ตอบ .............................................................................................................
a
2. 30 20 < 800
o b
ตอบ .............................................................................................................
r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40 6 = 230
w ตอบ .............................................................................................................
w
w
4. 120 + 400 = 520
ตอบ .............................................................................................................
51
m
5. 36 n = 288
o
ตอบ .............................................................................................................
6. 480 ก = 80
. c
k
ตอบ .............................................................................................................
o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)
n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
a
ตอบ .............................................................................................................
b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด
o o
r
ตอบ .............................................................................................................
. k
9. 30 9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ
w
ตอบ ............................................................................................................
w
w
10. คาตอบของสมการ 30 9 = ข คือจานวนใด
ตอบ .............................................................................................................
52
om
.c
o k
n n
b a
เฉลย
o o
k r
.
w
w
w
53
เฉลยแบบทดสอบก่ อนเรียน
เล่ มที่ 1
om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)
k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
เป็ นสมการ
n
ตอบ .............................................................................................................
a
2. 30 20 < 800
ไม่เป็ นสมการ
o b
ตอบ .............................................................................................................
r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40 6 = 230
w
สมการที่เป็ นเท็จ
ตอบ .............................................................................................................
w
w
4. 120 + 400 = 520
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ .............................................................................................................
54
m
5. 36 n = 288
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ n
o
ตอบ .............................................................................................................
6. 480 ก = 80
. c
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ ก
k
ตอบ .............................................................................................................
o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)
n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
สมการที่เป็ นเท็จ
a
ตอบ .............................................................................................................
b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด
o o
r
คาตอบของสมการ คือ 47
ตอบ .............................................................................................................
. k
9. 30 9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ
w
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ ............................................................................................................
w
10. คาตอบของสมการ 30 9 = ข คือจานวนใด
om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1 k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
56
om
c
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใดเป็ น สมการ หรื อ ไม่เป็ นสมการ
.
ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล
o k
n n
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
1. 15 + 8 > 12 + 3 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
b a
o
2. 10 12 = 120 เครื่ องหมายเท่ากับ
เป็ นสมการ เพราะ.............................................
r o
k
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
.
3. 53 – 15 ≠ 40 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
w
w
4. 80 4 = 4 5 เป็ นสมการ เพราะ.............................................
มีเครื่ องหมายเท่ากับ
w ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
5. 135 >100 + 30 + 5 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
57
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
6. 22 + 8 < 25 + 9 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
om
c
7. 12 9 ≠ 12 + 9 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
k .
o
มีเครื่ องหมายเท่ากับ
8. 30 + 45 = 45 + 30 เป็ นสมการ เพราะ.............................................
n n
a
9. 25 0 < 1 1 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
o b
o
10. 90 5 = 3 6 เป็ นสมการ เพราะ.............................................
มีเครื่ องหมายเท่ากับ
k r
.
w
w
w
58
om
ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์ที่เป็ นสมการลงใน
c
(เพื่อฝึ กให้นกั เรี ยนคิดเป็ นกระบวนการอย่างหลากหลาย
และมีเหตุผล)
k .
อยู่ในดุลยพินิจของครูผ้ ูสอน เช่ น
n o
n
1. 150 + 100 = 250
b a
o
2. 12 8 = 90 + 6
r o
3.
. k 132 – 132 = 50 + 50
w
w
w
4. 72 9 = 8
5. 200 + 40 + 7 = 247
59
om
7. 120 10 = 1,200
.c
o k
8. 450 50 = 9
n n
b a
o
9. (20 + 18) + 12 = 20 + (18 + 12)
r o
.
10.
k 64 8 = 8
w
w
w
60
om
.c
o k
n
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2
a n
o b
r o
. k
w
w
w
61
om
ให้นกั เรี ยนเขียนคาตอบว่าสมการในข้อใดเป็ นจริ ง และสมการ
. c
k
ในข้อใดเป็ นเท็จ ลงใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล
n o
1. 150 + 130 = 180 – 30
a n
เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
o
เป็ นจริ ง
k r
.
3. 45 30 = 900 + 450 เป็ นจริ ง เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างเท่ากัน
w
w
4. 635 – 153 = 330 + 172 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
. c
8. 8 4 20 = 80 80 เป็ นเท็จ
o k
เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
n n
a
9. 56 + 24 = 56 – 14 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
o b
o
10. (153)100 = 7100 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
k r
.
w
w
w
63
om
c
และสมการที่เป็ นเท็จ
k .
o
เป็ นกิจกรรมที่ให้นกั เรี ยนคิดได้อย่างอิสระและสมเหตุสมผล
n
a
สมกำรที่เป็ นจริงn
o b
r
1.
o 80 2 = 160
. k 2. 100 + 30 + 5 = 135
w 3. 81 9 = 9
w
w
4. 540 – 340 = 200
5. (30 5) + 10 = 160
64
สมกำรที่เป็ นเท็จ
om
.c
1. 212 – 10 = 200
o k
n
2. 50 4 = 300
3.
a n
1,000 – 500 = 1,050
4.
o b
210 70 = 5
o
5. 313 0 = 313
kr
.
w
w
w
65
om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3 k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
66
om
c
ให้นกั เรี ยนนาตัวไม่ทราบค่าในสมการมาเติมใน
ให้ถูกต้อง
k .
1. 95 ส = 15
n
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ o ส
a n
2. 25 ค = 125
o b
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ค
r o ง
k
3. ง – 35 = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
.
w
4. 250 + x = 400 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ x
w
w5. ก 12 = 6 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ก
67
om
. c
k
8. 28 + b = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ b
n o
n
9. ม 7 = 20 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ม
b a y
o
10. 15 y = 75 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
r o
. k
w
w
w
68
o k
n
1. ก 8 = 160
a n
2. 200 + a = 350
o b
r o
3.
. k จ – 120 = 280
w
w
4. ข 5 = 20
6. ก 9 = 450
7. 250 + x = 2,500
om
.c
8. ส – 3,000 = 400
o k
nn
9. M9 = 7
b a
o o
10.
k r
4 k = 40
.
w
w
w
70
om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4
k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
71
n n
3. ข 20 = 220
100
b a 11
o o
k r
2. 48 ม = 192 4. 9,000 – 4,248 = ย
. 4
w
4,752
w
w 5. 99 + ว = 152
53
72
ทดสอบเท็จจริง
ให้นกั เรี ยนเขียนเครื่ องหมาย หน้าข้อที่มี
om
c
จานวนใน ที่เป็ นคาตอบของสมการและ
ใส่ เครื่ องหมาย หน้าข้อที่ไม่เป็ นคาตอบ
k .
o
ของสมการ
.........1.
ก – 20 =
n
15
n 40
b a
o
.........2.
ข4 = 8 32
r o
k
.........3. ง 12 = 60 8
.
w
w
.........4.
35 + จ = 80 50
w .........5.
11 ค = 77 7
73
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
เล่ มที่ 1
om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)
k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
เป็ นสมการ
n
ตอบ .............................................................................................................
a
2. 30 20 < 800
ไม่เป็ นสมการ
o b
ตอบ .............................................................................................................
r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40 6 = 230
w
สมการที่เป็ นเท็จ
ตอบ .............................................................................................................
w
w
4. 120 + 400 = 520
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ .............................................................................................................
74
m
5. 36 n = 288
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ n
o
ตอบ .............................................................................................................
6. 480 ก = 80
. c
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ ก
k
ตอบ .............................................................................................................
o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)
n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
สมการที่เป็ นเท็จ
a
ตอบ .............................................................................................................
b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด
o o
r
คาตอบของสมการ คือ 47
ตอบ .............................................................................................................
. k
9. 30 9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ
w
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ ............................................................................................................
w
10. คาตอบของสมการ 30 9 = ข คือจานวนใด
บรรณำนุกรม
m
สถาบันส่ งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2552). คู่มือครู
สำระกำรเรียนรู้ พนื้ ฐำนคณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้
c o
.
คณิตศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ 6. โรงพิมพ์สกสค. ลาดพร้าว :
k
กรุ งเทพมหานคร.
o
สถาบันส่ งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2552). หนังสื อ
n n
เรียนสำระกำรเรียนรู้ พนื้ ฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6.โรงพิมพ์สกสค. ลาดพร้าว :
กรุ งเทพมหานคร.
b a
o o
k r
.
w
w
w