You are on page 1of 78

om
.c
o k
nn
ba
o o
kr
.
w
w
w

คำนำ

m
แบบฝึ กทักษะกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้คณิ ตศาสตร์ เรื่ องสมการและการแก้สมการ

o
ได้จดั ทาขึ้นเพื่อใช้เป็ นสื่ อสาหรับใช้จดั กิจกรรมการเรี ยนรู ้กบั นักเรี ยนชั้นประถมศึกษา

c
ปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านสันม่วง ตามหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
การจัดทาได้ผา่ นการวิเคราะห์สาระและมาตรฐาน ตัวชี้วดั และสาระการเรี ยนรู ้แกนกลาง

k
กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้คณิ ตศาสตร์ โดยจัดทาแบบฝึ กทักษะจานวน 5 เล่ม สาหรับเล่มที่ 1
.
o
เรื่ อง สมการ มีจานวน 4 แบบฝึ กทักษะ ได้แก่ แบบฝึ กทักษะที่ 1 – 4

n
นอกจากนี้ แบบฝึ กทักษะยังมีรูปภาพประกอบที่มีสีสันสวยงามเหมาะสมกับวัย

n
ของผูเ้ รี ยนและมีการแทรกแนวคิดเพื่อช่ วยส่ งเสริ มสติปัญญาความคิด และจินตนาการ

a
ตามแนวคิ ด ของหลัก สู ต รที่ มุ่ ง เน้ น ประสบการณ์ ด้า นต่ า ง ๆ ที่ เ ป็ นประโยชน์ คื อ

b
การดาเนินชี วิต เช่น คิดอย่างมีเหตุผลเป็ นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหา
หรื อ สถานการณ์ ไ ด้อ ย่ า งถี่ ถ ้ว น รอบคอบ ช่ ว ยให้ ค าดการณ์ วางแผน ตัด สิ น ใจ

o
แก้ปัญหาและนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

o
r
ขอขอบคุ ณ ผูม้ ี ส่ ว นร่ ว มทุ ก ฝ่ ายที่ เ กี่ ย วข้อ งทั้ง ในโรงเรี ย นบ้า นสั นม่ วง และ

k
นอกโรงเรี ยน ตลอดจนนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 ซึ่ งช่ วยให้การจัดทาเอกสาร

.
ดังกล่าว ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสม มีประสิ ทธิ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

w
เหมาะสมสาหรับจัดกิ จกรรมการเรี ยนรู ้ระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 สามารถพัฒนา
ผูเ้ รี ยนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรี ยนรู ้ และตัวชี้วดั ที่กาหนดในหลักสู ตรแกนกลาง

w
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

w (นางเจตสุ ภา ใหนาค)
ตาแหน่งครู วทิ ยฐานะ ครู ชานาญการโรงเรี ยนบ้านสันม่วง

สำรบัญ

m
หน้ ำ

o
คานา ก

c
สารบัญ ข

.
แบบทดสอบก่อนเรี ยน เล่มที่ 1 1
แบบฝึ กทักษะที่ 1
แบบฝึ กทักษะที่ 2
o k 16
3

n
แบบฝึ กทักษะที่ 3 29

n
แบบฝึ กทักษะที่ 4 40

a
แบบทดสอบหลังเรี ยน เล่มที่ 1 50

b
เฉลย 52

o
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรี ยน เล่มที่ 1 53

o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1 55

k r
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2 60

.
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3 65

w
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4 70
เฉลยแบบทดสอบหลังเรี ยน เล่มที่ 1 73

w
บรรณานุกรม 75

w
1

แบบทดสอบก่ อนเรียน
เล่ มที่ 1

คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบหรื อข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)

k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
n
ตอบ .............................................................................................................

a
2. 30  20 < 800

o b
ตอบ .............................................................................................................

r o
k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)

.
3. 40  6 = 230

w ตอบ .............................................................................................................

w
w
4. 120 + 400 = 520
ตอบ .............................................................................................................
2

สมการในข้อใดมีตวั ไม่ทราบค่า และตัวไม่ทราบค่าคือตัวใด (ข้อ 5 - 6)

m
5. 36  n = 288

o
ตอบ .............................................................................................................

6. 480  ก = 80
. c
k
ตอบ .............................................................................................................

o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)

n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
a
ตอบ .............................................................................................................

b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด

o o
r
ตอบ .............................................................................................................

. k
9. 30  9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ

w
ตอบ ............................................................................................................

w
10. คาตอบของสมการ 30  9 = ข คือจานวนใด

w ตอบ .............................................................................................................
3

แบบฝึ กทักษะกลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์
สมกำรและกำรแก้สมกำร

om
c
แบบฝึ กทักษะที่ 1
เรื่อง สมกำร
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................

w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6

โรงเรียนบ้ ำนสั นม่ วง อำเภอฝำง


สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำเชียงใหม่ เขต 3
4

จุดประสงค์ กำรเรียนรู้
om
. c
k
เมื่อกาหนดประโยคสัญลักษณ์แสดง การบวก การลบ

o
การคูณและการหาร นักเรี ยนสามารถบอกได้วา่ เป็ นสมการ
หรื อไม่เป็ นสมการ

n n
ba
o o
k r
.
w
w
w
5

m
คำชี้แจง

c o
.
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ

แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
o k
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ

n n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ

a
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ

b
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย

o
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง

o
k r
.
w
w
w
6

ให้ นักเรียนพิจำรณำประโยคสั ญลักษณ์ ต่อไปนี้

1. 75  3 = 25
om
2. 19 + 16 ≠ 19  16
. c
k
3. 18  4 > 40
4.
o
360 + 180 = 180 + 360

n
a n
o b
ประโยคสั ญลักษณ์ ในข้ อ 1 และข้ อ 4 มีเครื่องหมำย เท่ ำกับ

o
ซึ่งเขียนแทนด้ วย = อยู่ระหว่ ำงจำนวนสองจำนวน เรียกว่ ำ
สมกำร

k r
.
w
w
จำกตัวอย่ ำง ประโยคสั ญลักษณ์ ในข้ อ 1 และข้ อ 4 เป็ นสมกำร
เพรำะมีเครื่องหมำย =

w
7

ดังนั้น สมกำร หมำยถึง ประโยคสั ญลักษณ์ ทมี่ เี ครื่องหมำย


เท่ ำกับ (=) อยู่ระหว่ ำงจำนวน 2 จำนวน

om
. c
k
ถ้ ำไม่ มเี ครื่องหมำย = จะไม่ เป็ นสมกำร ได้ แก่ ประโยค

o
สั ญลักษณ์ ในข้ อ 2 และ ข้ อ 3

n n
b a
o o
k r
.
w
ให้ พี่ ๆ ศึกษำใน

w
หน้ ำต่ อไปนะครับ

w
8

ให้นกั เรี ยนพิจารณาประโยคสัญลักษณ์ต่อไปนี้วา่ เป็ นสมกำร

om
c
หรื อ ไม่ เป็ นสมกำร

k .
1. 100 + 50 > 100 + 20
n o
n
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

a
o b
r o
2. 25 – 12 ≠ 30 – 18

. k
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

w
w
w 3. 6  5 = 5  6
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ
9

4. 40 + 5 = 4 + 4

m
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ

c o
5. 30  6 ≠ 10 – 2
k .
o
ผลกำรพิจำรณำ ไม่เป็ นสมการ เพรำะ ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

n
a n
6. 20  7 = 140

o b
ผลกำรพิจำรณำ เป็ นสมการ เพรำะ มีเครื่ องหมายเท่ากับ

r o
. k
w
w
w
10

m
ให้ นักเรียนเขียนประโยคสั ญลักษณ์ ทเี่ ป็ นสมกำรลงใน

o
ที่กำหนดให้ (ฝึ กให้ นักเรียนคิดอย่ ำงเป็ นกระบวนกำร โดยกำรใช้

c
.
จำนวนมำบวก ลบ คูณและหำร)

1. 10 + 20 =
o
12 + 18 k
2. 60  8 =
n n
480

a
3. 250 + 180 = 180 + 250
4.
5.
o b
500 – 200
28  3
=
=
60  5
7

r o
6. 90 – 50 = 40

. k
w
w
เข้ ำใจแล้วครับ

w
11

แบบฝึ กทักษะที่ 1.1


เรียนรู้ สมกำรกันเถอะ

om
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใดเป็ น สมการ หรื อ ไม่เป็ นสมการ

. c
k
ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล

n o
n
1. 15 + 8 > 12 + 3 เพราะ.............................................

b a
o
2. 10  12 = 120 เพราะ.............................................

r o
. k
3. 53 – 15 ≠ 40 เพราะ.............................................

w
w
4. 80  4 = 4  5 เพราะ.............................................

w5. 135 > 100 + 30 + 5 เพราะ.............................................


12

6. 22 + 8 < 25 + 9 เพราะ.............................................

7. 12  9 ≠ 12 + 9
om
เพราะ.............................................

. c
8. 30 + 45 = 45 + 30

o k
เพราะ.............................................

9. 25  0 < 1  1
n n
เพราะ.............................................

ba
10. 90  5 = 3  6

o o เพราะ.............................................

k r
.
w
w
w
13

แบบฝึ กทักษะที่ 1.2

om
ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์ที่เป็ นสมการลงใน 

c
(เพื่อฝึ กให้นกั เรี ยนคิดเป็ นกระบวนการอย่างหลากหลาย
และมีเหตุผล)

k .
n o
n
1.

b a
o
2.

r o
3.
. k
w
w
w
4.

5.
14

6.

om
7.
.c
o k
8.

nn
ba
o
9.

r o
.
10.
k
w
w
w
15

เกณฑ์ กำรให้ คะแนนแบบฝึ กทักษะที่ 1

m
แบบฝึ กทักษะที่ 1.1

o
1
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน  ได้ถูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน
รวม 5 คะแนน

. c
k
2. นักเรี ยนเขียนเหตุผลว่าเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการได้

o
1
ถูกต้อง ข้อละ คะแนน รวม 5 คะแนน

n
2
3. แบบฝึ กทักษะที่ 1.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

a n
1.
o bแบบฝึ กทักษะที่ 1.2
ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการเขียนประโยคสัญลักษณ์

r o
ซึ่ งจะมีเครื่ องหมาย = อยูร่ ะหว่างจานวนสองจานวน

k
2. ประโยคสัญลักษณ์นกั เรี ยนจะนามา บวก ลบ คูณ หรื อ หาร ก็ได้

. ฝึ กให้นกั เรี ยนคิดอย่างเป็ นอิสระและสมเหตุสมผล

w
3. เมื่อนักเรี ยนเขียนสมการถูกต้อง ได้ขอ้ ละ 1 คะแนน รวมเป็ น

w
10 คะแนน

w
4. แบบฝึ กทักษะที่ 1.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

แบบฝึ กทักษะที่ 1 มีคะแนนรวมทั้งหมด 20 คะแนน


16

แบบฝึ กทักษะที่ 2

om
c
เรื่อง สมกำรที่เป็ นจริงและสมกำรที่เป็ นเท็จ

k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................

w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6

w โรงเรียนบ้ ำนสั นม่ วง อำเภอฝำง


สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำเชียงใหม่ เขต 3
17

จุดประสงค์ กำรเรียนรู้

om
เมื่อกาหนดสมการให้นกั เรี ยนสามารถบอกได้วา่ สมการใด
เป็ นสมการที่เป็ นจริ งและสมการใดที่เป็ นเท็จ
. c
o k
n n
b a
o o
k r
.
w
w
w
18

คำชี้แจง

om
c
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ

.
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ

k
o
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น

n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ

n
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ

b a
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง

o o
k r
.
w
w
w
19

ให้ นักเรียนพิจำรณำประโยคสั ญลักษณ์ ทเี่ ป็ นสมกำรต่ อไปนี้


สมกำรในข้ อใดเป็ นจริง และสมกำรในข้ อใดเป็ นเท็จ

om
.
1. 20 + 20 + 20 + 20 + 20 = 100 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง
c
k
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = เท่ากัน

n o
n
2. 40 – 10 = 20 + 10 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง

a
b
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = เท่ากัน

o o
k r
3. 30  5 = 50  3 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง

.เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = เท่ากัน

w
w
w
20

4. 60  4 = 20 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ

m
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน

c o
5. 21  8 = 21 + 8 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ
k .
o
เพราะค่าของจานวนทั้งสองข้างของเครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน

n
a n
b
สมการที่เป็ นจริ ง หมายถึง สมการซึ่ งมีค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้าย

o
ของเครื่ องหมาย = กับค่าของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน

r o
. k
w
สมการที่เป็ นเท็จ หมายถึง สมการซึ่ งมีค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้าย

w
ของเครื่ องหมาย = กับค่าของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน

w
21

m
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใด เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง หรื อเป็ นสมการ
ที่เป็ นเท็จ เขียนคาตอบและเหตุผลลงใน  ที่กาหนดให้

c o
k .
o
1. 50  5 = 10  10 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ

n n
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า

a
ของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน

b
o o
k r
.
2. 15 + 15 = 30 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง

w
w เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า

w
ของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน
22

3. 63 – 35 = 4  7 เป็ นสมการที่เป็ นจริ ง

om
c
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า
ของจานวนที่อยูท่ างขวาเท่ากัน

k .
n o
a n
b
4. 8  8 = 2  5  6 เป็ นสมการที่เป็ นเท็จ

o o
เพราะค่าของจานวนที่อยูท่ างซ้ายของเครื่ องหมาย = กับค่า

k r
ของจานวนที่อยูท่ างขวาไม่เท่ากัน

.
w
w
w
23

เขียนประโยคสั ญลักษณ์ สมกำรที่เป็ นจริง และ สมกำรที่เป็ นเท็จ

om
สมกำรที่เป็ นจริง
.
สมกำรที่เป็ นเท็จ
c
1. 13 + 13 + 13 = 39 1. 68

o k
= 59

n
2. 50  5 = 150 + 100 2. 26 – 19 = 18 + 6

n
3. 190 – 60 = 70 + 60 3. 16  5 = 10  4

a
4. 45 + 9 = 54  1 4. 50 + 5 = 45 + 15

b
5. 20  4  5 = 50  8 5. 60 + 10 = 50 + 10

o o
r
วิธีคดิ (นักเรี ยนสามารถเขียนสมการที่เป็ นจริ ง หรื อ สมการที่เป็ นเท็จ

k
ด้วยจานวนอะไรก็ได้ ซึ่ งสามารถคิดได้อย่างหลากหลาย โดยนักเรี ยน

.
สามารถให้เหตุผลได้ในสิ่ งที่เขียนเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง หรื อ สมการที่

w
เป็ นเท็จ

w
w
เมื่อนักเรี ยนศึกษาตัวอย่างเข้าใจดี
แล้ว ทาแบบฝึ กทักษะที่ 2.1 – 2.2
ได้เลยนะครับ
24

แบบฝึ กทักษะที่ 2.1


เรียนรู้ จริงเท็จ

ให้นกั เรี ยนเขียนคาตอบว่าสมการในข้อใดเป็ นจริ ง และสมการ

om
c
ในข้อใดเป็ นเท็จ ลงใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล

k .
1. 150 + 130 = 180 – 30
n o
เพราะ...............................

a n
2. 900 + 100 = 100 + 900

o b เพราะ...............................

r o
. k
3. 45  30 = 900 + 450 เพราะ...............................

w
w
4. 635 – 153 = 330 + 172 เพราะ...............................

w5. 6  (5 + 4) = (65)+(64) เพราะ...............................


25

6. 35  5 = 5  35 เพราะ...............................

7. (255)100 = 500
om
เพราะ...............................

. c
8. 8  4  20 = 80  80

o k
เพราะ...............................

nn
a
9. 56 + 24 = 56 – 14 เพราะ...............................

o b
r o
10. (153)100 = 7100 เพราะ...............................

. k
w
w
w
26

แบบฝึ กทักษะที่ 2.2

ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์สมการที่เป็ นจริ ง

om
c
และสมการที่เป็ นเท็จ

k .
เป็ นกิจกรรมที่ให้นกั เรี ยนคิดได้อย่างอิสระและสมเหตุสมผล

n o
n
สมกำรที่เป็ นจริง

b a
1.

o o
k r 2.

. 3.

w
w
4.

w 5.
27

สมกำรที่เป็ นเท็จ

om
.c
1.

o k
2.

n n
3.

b a
o
4.

r o5.

. k
w
w
w
28

เกณฑ์ กำรให้ คะแนนแบบฝึ กทักษะที่ 2

m
แบบฝึ กทักษะที่ 2.1

o
1
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน  ได้ถูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน
รวม 5 คะแนน

. c
k
2. นักเรี ยนเขียนเหตุผลว่าเป็ นสมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นสมการที่

o
1
เป็ นเท็จได้ถกู ต้อง ข้อละ คะแนน รวม 5 คะแนน

n
2
3. แบบฝึ กทักษะที่ 2.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

a n
o b
แบบฝึ กทักษะที่ 2.2
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่เป็ นจริ ง

r o
จะมีค่าของจานวนที่อยูร่ ะหว่างเครื่ องหมาย = เท่ากัน ได้ถูกต้อง

k
ข้อละ 1 คะแนน

.
2. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่เป็ นเท็จ

w จะมีค่าของจานวนที่อยูร่ ะหว่างเครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน

w
ได้ถกู ต้อง ข้อละ 1 คะแนน

w
3. แบบฝึ กทักษะที่ 2.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

แบบฝึ กทักษะที่ 2 มีคะแนนรวมทั้งหมด 20 คะแนน


29

om
c
แบบฝึ กทักษะที่ 3
เรื่อง สมกำรที่มีตัวไม่ ทรำบค่ ำ
k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................

w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6

โรงเรียนบ้ ำนสั นม่ วง อำเภอฝำง


สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำเชียงใหม่ เขต 3
30

จุดประสงค์ กำรเรียนรู้

om
เมื่อกาหนดสมการหลาย ๆ สมการให้ นักเรี ยนสามารถบอก
ตัวไม่ทราบค่าของแต่ละสมการได้
. c
o k
n n
ba
o o
k r
.
w
w
w
31

คำชี้แจง

om
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ
. c
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น
o k
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ

n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ

n
a
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ

b
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย

o
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง

r o
. k
w
w
w
32

พิจารณาสมการต่อไปนี้

1. 30 – ข = 6 ตัวไม่ทราบค่า คือ ข

2. ช + 20 = 60 ตัวไม่ทราบค่า คือ ช
om
. c
k
3. 4  c = 80 ตัวไม่ทราบค่า คือ c

4. x – 10 = 50 ตัวไม่ทราบค่า คือ x
n o
a n
ตัวไม่ทราบค่าในสมการ จะใช้สัญลักษณ์ที่เป็ นตัวอักษรตัวใดก็ได้

b
เช่น ก, ข, ค, จ, ฉ, ช, a, b, c, x, y, z

o
r o
สมการที่มีการใช้ตวั อักษรหรื อสัญลักษณ์อื่นแทนจานวน

. k
เรี ยก ตัวอักษรหรื อสัญลักษณ์อื่นที่ใช้แทนจานวนในสมการว่า

w
ตัวไม่ ทรำบค่ ำ หรื อ ตัวแปร และเรี ยกสมการเช่นนี้วา่ สมกำรทีม่ ี
ตัวไม่ ทรำบค่ ำ หรือ สมกำรทีม่ ตี ัวแปร

w
w ให้นกั เรี ยนศึกษาตัวอย่าง
ในหน้าต่อไปนะครับ
33

ให้นกั เรี ยนพิจารณาสมการต่อไปนี้แล้วหาตัวที่ไม่ทราบค่า หรื อ ตัวแปร


ในแต่ละสมการมาเติมใน  ให้ถูกต้อง

om
p
. c
k
1. 50  p = 10 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

2. 62 + จ = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
n oจ

3. 8  ค
a n
= 120 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ค

o b
o
4. ฉ – 100 = 35 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ฉ

k r
.
5. 155  5 = ป ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ป

w
w
6. b  4 = 28 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ b

w
34

m
เขียนสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าลงใน  ให้ถูกต้อง(ฝึ กให้นกั เรี ยนได้
เขียนสมการได้อย่างหลากหลายอย่างสมเหตุสมผล)

c o
1. ...................................... เขียนได้ดงั นี้
k
ก – 20 = 30
.
n o
n
2. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ จ + 15 = 40

3. ......................................

b a
เขียนได้ดงั นี้ 8  d = 64

o o
4.

k r
...................................... เขียนได้ดงั นี้ ป  4 = 20

.
w
5. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ 36 + ข = 56

w
w
6. ...................................... เขียนได้ดงั นี้ m  15 = 450
35

แบบฝึ กทักษะที่ 3.1


หำตัวไม่ ทรำบค่ ำ

ให้นกั เรี ยนนาตัวไม่ทราบค่าในสมการมาเติมใน

om
c
 ให้ถูกต้อง

k .
1. 95  ส = 15 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
n o
a n
2. 25  ค = 125

o b
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

r o
k
3. ง – 35 = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

.
w
4. 250 + x = 400 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

w
w5. ก  12 = 6 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ
36

6. 22  a = 110 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

7. จ – 25 = 100 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

om
.c
k
8. 28 + b = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

n o
n
9. ม  7 = 20 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

b a
o
10. 15  y = 75 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

r o
. k
w
w
w
37

แบบฝึ กทักษะที่ 3.2

ให้นกั เรี ยนเขียนสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าลงใน 


ให้ถูกต้อง
om
.c
o k
n
1.

a n
2.

o b
r o
3.

. k
w
w
4.

w5.
38

6.

7.
om
.c
8.
o k
nn
9.

ba
o o
10.

k r
.
w
w
w
39

เกณฑ์ กำรให้ คะแนนแบบฝึ กทักษะที่ 3

แบบฝึ กทักษะที่ 3.1


om
. c
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน  ซึ่ งมีตวั ไม่ทราบค่าในแต่ละข้อ

k
ได้ถกู ต้อง ข้อละ 1 คะแนน

o
2. แบบฝึ กทักษะที่ 3.1 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

n n
a
แบบฝึ กทักษะที่ 3.2

b
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับสมการ เขียนสมการที่มีตวั ไม่

o
ทราบค่า โดยให้นกั เรี ยนได้คิดอย่างอิสระ ซึ่ งสามารถนามา

o
บวก ลบ คูณ หรื อ หาร เมื่อนักเรี ยนเขียนได้ถูกต้อง ข้อละ 1

k
คะแนน
r
.
2. แบบฝึ กทักษะที่ 3.2 มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

w
w
w
แบบฝึ กทักษะที่ 3 มีคะแนนรวมทั้งหมด 20 คะแนน
40

แบบฝึ กทักษะที่ 4

om
c
เรื่อง คำตอบของสมกำร

k .
n o
a n
o b
r o
. k
w
ชื่อ....................................................เลขที่.................

w
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6

w โรงเรียนบ้ ำนสั นม่ วง อำเภอฝำง


สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำเชียงใหม่ เขต 3
41

จุดประสงค์ กำรเรียนรู้

om
เมื่อกาหนดสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าหนึ่งตัวให้ นักเรี ยน
สามารถหาจานวนไปแทนตัวไม่ทราบค่า แล้วทาให้สมการเป็ น
. c
k
จริ งได้

n o
a n
o b
r o
. k
w
w
w
42

คำชี้แจง

om
c
1. อ่านจุดประสงค์การเรี ยนรู้ของแบบฝึ กทักษะ

k .
2. ศึกษาและทาความเข้าใจคาอธิบายหรื อตัวอย่างของ

o
แบบฝึ กทักษะอย่างละเอียดถี่ถว้ น

n
3. แบบฝึ กทักษะทั้งหมดมี 2 แบบฝึ ก ให้นกั เรี ยนทาทีละ

a n
แบบฝึ กทักษะ เมื่อทาครบแล้วส่ งให้ครู ตรวจ
4. ถ้าทาแบบฝึ กทักษะไม่เข้าใจให้กลับไปศึกษาคาอธิบาย

b
หรื อตัวอย่างของแบบฝึ กทักษะอีกครั้งหนึ่ง

o
r o
. k
w
w
w
43

พิจำรณำสมกำร จ + 25 = 75

จานวนอะไรที่นามาบวกกับ 25 แล้วได้ผลลัพธ์เท่ากับ 75
om
. c
k
จ + 25 = 75

n o
ถ้าแทน จ ด้วย 40 จะได้ 40 + 25 = 75

เครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน


a n
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นเท็จ เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ

o b
ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้ 50 + 25 = 75

r o
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นจริง เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ

. k
เครื่ องหมาย = เท่ากัน

w ดังนั้น 50 เป็ นคาตอบของสมการ จ + 25 = 75

w
w
44

พิจำรณำสมกำร ก + 40 = 100

จานวนอะไรที่นามาบวกกับ 40 แล้วได้ผลลัพธ์เท่ากับ 100


om
. c
k
ก + 40 = 100

n
ถ้าแทน ก ด้วย 50 จะได้ 50 + 40 = 100o
เครื่ องหมาย = ไม่เท่ากัน
a n
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นเท็จ เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ

o b
ถ้าแทน ก ด้วย 60 จะได้ 60 + 40 = 100
ซึ่ งเป็ น สมกำรที่เป็ นจริง เพราะค่าของจานวนทางซ้ายและทางขวาของ

r o
เครื่ องหมาย = เท่ากัน

. k ดังนั้น 60 เป็ นคาตอบของสมการ ก + 40 = 100

w
w
จำนวนที่นำมำแทนตัวไม่ ทรำบค่ ำในสมกำร

w
แล้ วทำให้ สมกำรนั้นเป็ นจริงเรียกจำนวนนั้นว่ ำ
คำตอบของสมกำร
45

m
ให้นกั เรี ยนพิจารณาสมการในข้างล่างนี้

c o
ฉ – 30 = 45

k .
n o
n
ถ้าแทน ฉ ด้วย 70 จะได้สมการที่เป็ นเท็จ เพราะ 70 – 30 = 40 ซึ่ งไม่

a
เท่ากับ 45 ที่อยูท่ างขวาของเครื่ องหมาย =

b
ถ้าแทน ฉ ด้วย 75 จะได้สมการที่เป็ นจริ ง เพราะ 75 – 30 = 45 ซึ่ ง

o
เท่ากับ 45 ที่อยูท่ างขวาของเครื่ องหมาย =

r o
k
75 เป็ นคำตอบของสมกำร ฉ – 30 = 45

.
w
w
w
46

พิจารณาว่า จานวนที่กาหนดให้ใน  เป็ นคาตอบของสมการหรื อไม่

จานวนใน  ซึ่ งเป็ นคาตอบของสมการ


om
ถ้าเห็ นว่าเป็ นคาตอบของสมการ ให้เขี ยนเครื่ องหมาย  หน้าข้อที่ มี

. c
คำถำม
k
ผลกำรพิจำรณำ

o
 1. ค – 12 = 20 42

n n
 1. ค – 12 = 20 42

a
 2. 18  ข = 9 2  2. 18  ข = 9 2

b
 3. 35 + บ = 52 27  3. 35 + บ = 52 27
 4. ส  9 = 81
o  4. ส  9 = 81
9 9
 5. m  5 = 8

r o 40  5. m  5 = 8 40

. k
w
ผลการพิจารณา ข้อ 2, 4 และ 5 เป็ นจานวนที่เป็ นคาตอบของสมการ เพราะ
เมื่อแทนค่าตัวไม่ทราบค่าด้วยจานวนดังกล่าวแล้ว ทาให้สมการเป็ นจริ ง

w
w สรุป คาตอบของสมการ คือ จานวนที่นาไปแทนค่าในตัวไม่ทราบ
ค่าแล้วทาให้สมการเป็ นจริ ง
47

แบบฝึ กทักษะที่ 4.1


หำคำตอบของสมกำร

ให้นกั เรี ยนเขียนจานวนที่แทนตัวไม่ทราบค่าในสมการ


om
.
แล้วทาให้สมการนั้นเป็ นจริ ง ลงใน  ให้ถูกต้อง
c
o k
1. ก  4 = 25

n n
3. ข  20 = 220

b a
o o
k r
2. 48  ม = 192 4. 9,000 – 4,248 = ย

.
w
w
w 5. 99 + ว = 152
48

แบบฝึ กทักษะที่ 4.2


ทดสอบเท็จจริง
ให้นกั เรี ยนเขียนเครื่ องหมาย  หน้าข้อที่มี

om
c
จานวนใน  ที่เป็ นคาตอบของสมการและ
ใส่ เครื่ องหมาย  หน้าข้อที่ไม่เป็ นคาตอบ

k .
o
ของสมการ

.........1. ก – 20 =

n
15
n 40

b a
o
.........2. ข4 = 8 32

r o
k
.........3. ง  12 = 60 8

.
w
w
.........4. 35 + จ = 80 50

w .........5. 11  ค = 77 7
49

เกณฑ์ กำรให้ คะแนนแบบฝึ กทักษะที่ 4

แบบฝึ กทักษะที่ 4.1

om
c
1. นักเรี ยนเขียนคาตอบซึ่ งเป็ นคาตอบของสมการลงใน  ได้
ถูกต้อง ข้อละ 1 คะแนน รวม 5 คะแนน

k .
o
2. นักเรี ยนเขียนคาตอบลงใน  ไม่ถกู ต้องจะไม่ได้คะแนน

n
3. แบบฝึ กทักษะที่ 4.1 มีคะแนนเต็ม 5 คะแนน

a n
แบบฝึ กทักษะที่ 4.2

o b
1. ให้นกั เรี ยนได้ใช้ความรู ้เกี่ยวกับการหาคาตอบของสมการ หรื อ
การแก้สมการ เพื่อให้ได้คาตอบที่ถูกต้อง แล้วนาไป

r o
เปรี ยบเทียบกับคาตอบที่กาหนดให้วา่ ตรงกันหรื อไม่ แล้ว

k
ตัดสิ นใจอย่างสมเหตุสมผลก่อนจะใส่ เครื่ องหมาย

.
2. เมื่อนักเรี ยนเขียนเครื่ องหมายลงในช่องว่างอย่างถูกต้องตาม

w เฉลยในแบบฝึ กทักษะจะได้ขอ้ ละ 1 คะแนน ถ้าไม่ถูกต้องจะ

w
ไม่ได้คะแนน

w
3. แบบฝึ กทักษะที่ 4.2 มีคะแนนเต็ม 5 คะแนน

แบบฝึ กทักษะที่ 4 มีคะแนนรวมทั้งหมด 10 คะแนน


50

แบบทดสอบหลังเรียน
เล่ มที่ 1

คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบหรื อข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)

k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
n
ตอบ .............................................................................................................

a
2. 30  20 < 800

o b
ตอบ .............................................................................................................

r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40  6 = 230

w ตอบ .............................................................................................................

w
w
4. 120 + 400 = 520
ตอบ .............................................................................................................
51

สมการในข้อใดมีตวั ไม่ทราบค่า และตัวไม่ทราบค่าคือตัวใด (ข้อ 5 - 6)

m
5. 36  n = 288

o
ตอบ .............................................................................................................

6. 480  ก = 80
. c
k
ตอบ .............................................................................................................

o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)

n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
a
ตอบ .............................................................................................................

b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด

o o
r
ตอบ .............................................................................................................

. k
9. 30  9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ

w
ตอบ ............................................................................................................

w
w
10. คาตอบของสมการ 30  9 = ข คือจานวนใด
ตอบ .............................................................................................................
52

om
.c
o k
n n
b a
เฉลย
o o
k r
.
w
w
w
53

เฉลยแบบทดสอบก่ อนเรียน
เล่ มที่ 1

คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบหรื อข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)

k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
เป็ นสมการ
n
ตอบ .............................................................................................................

a
2. 30  20 < 800
ไม่เป็ นสมการ
o b
ตอบ .............................................................................................................

r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40  6 = 230

w
สมการที่เป็ นเท็จ
ตอบ .............................................................................................................

w
w
4. 120 + 400 = 520
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ .............................................................................................................
54

สมการในข้อใดมีตวั ไม่ทราบค่า และตัวไม่ทราบค่าคือตัวใด (ข้อ 5 - 6)

m
5. 36  n = 288
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ n

o
ตอบ .............................................................................................................

6. 480  ก = 80
. c
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ ก
k
ตอบ .............................................................................................................

o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)

n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
สมการที่เป็ นเท็จ
a
ตอบ .............................................................................................................

b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด

o o
r
คาตอบของสมการ คือ 47
ตอบ .............................................................................................................

. k
9. 30  9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ

w
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ ............................................................................................................

w
10. คาตอบของสมการ 30  9 = ข คือจานวนใด

w คาตอบของสมการ คือ 270


ตอบ .............................................................................................................
55

om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1 k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
56

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1.1


เรียนรู้ สมกำรกันเถอะ

om
c
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อใดเป็ น สมการ หรื อ ไม่เป็ นสมการ

.
ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล

o k
n n
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
1. 15 + 8 > 12 + 3 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................

b a
o
2. 10  12 = 120 เครื่ องหมายเท่ากับ
เป็ นสมการ เพราะ.............................................

r o
k
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

.
3. 53 – 15 ≠ 40 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................

w
w
4. 80  4 = 4  5 เป็ นสมการ เพราะ.............................................
มีเครื่ องหมายเท่ากับ

w ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
5. 135 >100 + 30 + 5 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
57

ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ
6. 22 + 8 < 25 + 9 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................

om
c
7. 12  9 ≠ 12 + 9 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

k .
o
มีเครื่ องหมายเท่ากับ
8. 30 + 45 = 45 + 30 เป็ นสมการ เพราะ.............................................

n n
a
9. 25  0 < 1  1 ไม่เป็ นสมการ เพราะ.............................................
ไม่มีเครื่ องหมายเท่ากับ

o b
o
10. 90  5 = 3  6 เป็ นสมการ เพราะ.............................................
มีเครื่ องหมายเท่ากับ

k r
.
w
w
w
58

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 1.2

om
ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์ที่เป็ นสมการลงใน 

c
(เพื่อฝึ กให้นกั เรี ยนคิดเป็ นกระบวนการอย่างหลากหลาย
และมีเหตุผล)

k .
อยู่ในดุลยพินิจของครูผ้ ูสอน เช่ น

n o
n
1. 150 + 100 = 250

b a
o
2. 12  8 = 90 + 6

r o
3.
. k 132 – 132 = 50 + 50

w
w
w
4. 72  9 = 8

5. 200 + 40 + 7 = 247
59

6. 1,000 – 500 = 200 + 300

om
7. 120  10 = 1,200
.c
o k
8. 450  50 = 9
n n
b a
o
9. (20 + 18) + 12 = 20 + (18 + 12)

r o
.
10.
k 64  8 = 8

w
w
w
60

om
.c
o k
n
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2

a n
o b
r o
. k
w
w
w
61

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2.1


เรียนรู้ จริงเท็จ

om
ให้นกั เรี ยนเขียนคาตอบว่าสมการในข้อใดเป็ นจริ ง และสมการ

. c
k
ในข้อใดเป็ นเท็จ ลงใน ที่กาหนดให้พร้อมบอกเหตุผล

n o
1. 150 + 130 = 180 – 30

a n
เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

2. 900 + 100 = 100 + 900


o b เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างเท่ากัน

o
เป็ นจริ ง

k r
.
3. 45  30 = 900 + 450 เป็ นจริ ง เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างเท่ากัน

w
w
4. 635 – 153 = 330 + 172 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

w5. 6  (5 + 4) = (65)+(64) เป็ นจริ ง เพราะ....................................


จานวนทั้งสองข้างเท่ากัน
62

6. 35  5 = 5  35 เป็ นเท็จ เพราะ....................................


จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

7. (255)100 = 500 เป็ นจริ ง


om
เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างเท่ากัน

. c
8. 8  4  20 = 80  80 เป็ นเท็จ
o k
เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

n n
a
9. 56 + 24 = 56 – 14 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

o b
o
10. (153)100 = 7100 เป็ นเท็จ เพราะ....................................
จานวนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

k r
.
w
w
w
63

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 2.2

ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคสัญลักษณ์สมการที่เป็ นจริ ง

om
c
และสมการที่เป็ นเท็จ

k .
o
เป็ นกิจกรรมที่ให้นกั เรี ยนคิดได้อย่างอิสระและสมเหตุสมผล

n
a
สมกำรที่เป็ นจริงn
o b
r
1.
o 80  2 = 160

. k 2. 100 + 30 + 5 = 135

w 3. 81  9 = 9

w
w
4. 540 – 340 = 200

5. (30  5) + 10 = 160
64

สมกำรที่เป็ นเท็จ

om
.c
1. 212 – 10 = 200

o k
n
2. 50  4 = 300

3.

a n
1,000 – 500 = 1,050

4.

o b
210  70 = 5

o
5. 313  0 = 313

kr
.
w
w
w
65

om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3 k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
66

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3.1


หำตัวไม่ ทรำบค่ ำ

om
c
ให้นกั เรี ยนนาตัวไม่ทราบค่าในสมการมาเติมใน
 ให้ถูกต้อง

k .
1. 95  ส = 15
n
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ o ส

a n
2. 25  ค = 125

o b
ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ค

r o ง

k
3. ง – 35 = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

.
w
4. 250 + x = 400 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ x

w
w5. ก  12 = 6 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ก
67

6. 22  a = 110 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ a

7. จ – 25 = 100 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ จ

om
. c
k
8. 28 + b = 80 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ b

n o
n
9. ม  7 = 20 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ ม

b a y

o
10. 15  y = 75 ตัวที่ไม่ทราบค่า คือ

r o
. k
w
w
w
68

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 3.2

ให้นกั เรี ยนเขียนสมการที่มีตวั ไม่ทราบค่าลงใน 


ให้ถูกต้อง
om
.c
อยู่ในดุลยพินิจของครูผ้ ูสอน เช่ น

o k
n
1. ก  8 = 160

a n
2. 200 + a = 350

o b
r o
3.

. k จ – 120 = 280

w
w
4. ข  5 = 20

w5. 750 + b = 1,000


69

6. ก  9 = 450

7. 250 + x = 2,500
om
.c
8. ส – 3,000 = 400
o k
nn
9. M9 = 7

b a
o o
10.

k r
4  k = 40

.
w
w
w
70

om
.c
o
เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4
k
n n
b a
o o
kr
.
w
w
w
71

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4.1


หำคำตอบของสมกำร

ให้นกั เรี ยนเขียนจานวนที่แทนตัวไม่ทราบค่าในสมการ


om
แล้วทาให้สมการนั้นเป็ นจริ ง ลงใน  ให้ถูกต้อง
. c
o k
1. ก  4 = 25

n n
3. ข  20 = 220

100

b a 11

o o
k r
2. 48  ม = 192 4. 9,000 – 4,248 = ย

. 4

w
4,752

w
w 5. 99 + ว = 152

53
72

เฉลยแบบฝึ กทักษะที่ 4.2

ทดสอบเท็จจริง
ให้นกั เรี ยนเขียนเครื่ องหมาย  หน้าข้อที่มี

om
c
จานวนใน  ที่เป็ นคาตอบของสมการและ
ใส่ เครื่ องหมาย  หน้าข้อที่ไม่เป็ นคาตอบ

k .
o
ของสมการ

.........1.
 ก – 20 =
n
15
n 40

b a
o
.........2.
 ข4 = 8 32

r o
k
.........3. ง  12 = 60 8

.

w
w
.........4.
 35 + จ = 80 50

w .........5.
 11  ค = 77 7
73

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
เล่ มที่ 1

คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเติมคาตอบหรื อข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

om
c
(ข้อละ 1 คะแนน)

k .
จากประโยคสัญลักษณ์ประโยคใดเป็ นสมการหรื อไม่เป็ นสมการ (ข้อ 1 - 2)
1. 125 5 = 25
n o
เป็ นสมการ
n
ตอบ .............................................................................................................

a
2. 30  20 < 800
ไม่เป็ นสมการ
o b
ตอบ .............................................................................................................

r o
. k
สมการในข้อใดเป็ นสมการที่เป็ นจริ ง และเป็ นสมการที่เป็ นเท็จ (ข้อ 3 - 4)
3. 40  6 = 230

w
สมการที่เป็ นเท็จ
ตอบ .............................................................................................................

w
w
4. 120 + 400 = 520
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ .............................................................................................................
74

สมการในข้อใดมีตวั ไม่ทราบค่า และตัวไม่ทราบค่าคือตัวใด (ข้อ 5 - 6)

m
5. 36  n = 288
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ n

o
ตอบ .............................................................................................................

6. 480  ก = 80
. c
มีตวั ไม่ทราบค่า คือ ก
k
ตอบ .............................................................................................................

o
จงตอบคาถามจากสมการที่กาหนดให้ (ข้อ 7 - 10)

n
7. จ – 30 = 17 ถ้าแทน จ ด้วย 50 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ n
สมการที่เป็ นเท็จ
a
ตอบ .............................................................................................................

b
8. คาตอบของสมการ จ – 30 = 17 คือจานวนใด

o o
r
คาตอบของสมการ คือ 47
ตอบ .............................................................................................................

. k
9. 30  9 = ข ถ้าแทน ข ด้วย270 จะได้สมการที่เป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ

w
สมการที่เป็ นจริ ง
ตอบ ............................................................................................................

w
10. คาตอบของสมการ 30  9 = ข คือจานวนใด

w คาตอบของสมการ คือ 270


ตอบ .............................................................................................................
75

บรรณำนุกรม

m
สถาบันส่ งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2552). คู่มือครู
สำระกำรเรียนรู้ พนื้ ฐำนคณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้

c o
.
คณิตศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ 6. โรงพิมพ์สกสค. ลาดพร้าว :

k
กรุ งเทพมหานคร.

o
สถาบันส่ งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2552). หนังสื อ

n n
เรียนสำระกำรเรียนรู้ พนื้ ฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์
ชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6.โรงพิมพ์สกสค. ลาดพร้าว :
กรุ งเทพมหานคร.

b a
o o
k r
.
w
w
w

You might also like