Professional Documents
Culture Documents
(เล่ม001) บทวิเคราะห์ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ในปัจจุบัน
(เล่ม001) บทวิเคราะห์ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ในปัจจุบัน
1. ภาพรวมของงานดานน้ําเสียในปจจุบันของประเทศไทย 1
1.1 สภาพงานดานน้ําเสียในปจจุบัน 1
1.2 ปญหาหลักในการจัดการน้ําเสีย 3
1.3 กลยุทธในงานดานการจัดการน้ําเสีย 3
2. ระบบบําบัดน้าํ เสีย 3 รูปแบบ 7
2.1 ระบบบอผึ่ง (Waste Stabilization Ponds) 7
2-2 ระบบบอเติมอากาศ (Aerated Lagoon) 8
2.3 ระบบคลองวนเวียน (Oxidation Ditch Process) 8
3. ขนาดและตนทุนของระบบบําบัดน้าํ เสียในปจจุบัน 9
4. ระบบทอรวบรวมน้ําเสีย 12
5. ปริมาณการใชน้ําและปริมาณน้ําเสีย 13
6. คุณภาพและลักษณะของน้ําเสีย 16
7. โลหะหนักในตะกอนน้ําเสีย 19
7-1 กระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ 23
7-2 ระบบคลองวนเวียน 23
7-3 ระบบบอผึ่งและบอเติมอากาศ 24
7-4 ผลการวิเคราะหตะกอนน้ําเสีย 24
7-5 การนําไปประยุกตใชดวยความปลอดภัยและกระบวนการกําจัดตะกอนน้ําเสีย 25
8. การเกิดปญหาสาหรายในระบบบอผึง่ 26
9. ผลของน้ําทิ้งหลังการบําบัด 27
10. ผลจากความเขมขนต่ําของน้ําเสียเขาระบบที่มีตอระบบบอผึ่ง 29
11. ดัชนีปริมาตรตะกอน (SVI) ต่ํา 30
12. ปญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟาในระบบบําบัดน้ําเสีย 31
13. ปญหาเกี่ยวกับเครื่องจักรกลในระบบบําบัดน้ําเสีย 36
14. การควบคุมความปลอดภัย 41
15. ระบบบําบัดน้าํ เสียรวม และ การบําบัดน้าํ เสียเฉพาะที่ 42
16. สรุป 45
บทวิเคราะหระบบบําบัดน้ําเสียที่มีอยูในปจจุบัน
1. ภาพรวมของงานดานน้ําเสียในปจจุบนั ของประเทศไทย
1-1 สภาพงานดานน้ําเสียในปจจุบัน
งานดานน้าํ เสียในประเทศไทยเริ่มตนจากการระบายน้ําฝนออกสูแมนา้ํ ผานทางคูคลองตางๆ
เพื่อปองกันพืน้ ที่ในเขตเมืองไมใหเกิดน้ําทวม อยางไรก็ตาม คลองตางๆ ในกรุงเทพมหานครไดกลาย
สภาพเปนทอระบายน้ําเนื่องจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวขึ้นเปนยานชุมชนเมือง
บอเกรอะและบอพักน้ําเสียที่ลนทะลักจึงถูกปลอยลงไปยังทางระบายน้ําฝนหรือทอระบายหรือถูกปลอย
ลงไปในคลองโดยตรง ทอระบายที่มีอยูก ถ็ ูกสรางขึ้นอยางดอยคุณภาพทั้งในแงของรอยตอตาง ๆ การ
วางแนว และความลาดเอียงของทอ ดังนั้นอัตราการซึมของน้ําผิวดินจึงสูงตามไปดวย โดยเฉพาะใน
บริเวณที่มีระดับน้ําใตดนิ สูง เชน กรุงเทพฯ และเมืองที่อยูใ กลชายฝงตาง ๆ
ระบบบําบัดน้าํ เสียที่มีรูปแบบทันสมัยแหงแรกถูกสรางขึ้นใน พ.ศ.2514 เพื่อรองรับ
แผนการเคหะในเขตหวยขวางในกรุงเทพฯ ระบบบําบัดน้ําเสียหวยขวางถูกสรางโดยการเคหะแหงชาติ
ดวยขนาดการบําบัดน้ําเสีย 2,400 ลบ.ม. ตอวัน สวนงานดานน้ําเสียคอยๆ พัฒนาขึ้นและไดรบั การ
ผลักดันในชวงที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยางรวดเร็วในชวงทศวรรษที่ 1990 ระบบบําบัดน้ําเสีย
ที่มีรูปแบบทันสมัยนอกเขตกรุงเทพฯ ถูกสรางขึ้นครั้งแรกในจังหวัดขอนแกน และปาตองในจังหวัด
ภูเก็ต ใน พ.ศ.2528
จากสถิติ พบวาในเดือนพฤศจิกายน 2543 ประเทศไทยมีเทศบาลทั้งหมด 1,131 แหง ยกเวน
กรุงเทพฯ และมีเทศบาลเพียง 67 แหงเทานั้นที่มีระบบบําบัดน้ําเสียดําเนินงานหรืออยูระหวางการ
กอสราง มีระบบบําบัดน้ําเสีย 51 แหงที่ดําเนินงาน และ 14 แหงที่อยูในระหวางการกอสรางซึ่งแตกตาง
กันไปในแตละพื้นที่ ตารางที่ 1.1 แสดงใหเห็นสถานะในปจจุบันของระบบบําบัดน้าํ เสียในประเทศไทย
ระบบบําบัดน้าํ เสียทั้ง 87 แหงนี้มีกําลังในการบําบัดน้ําเสียรวมประมาณ 2.84 ลาน ลบ.ม. ตอวัน ดวย
การจัดสรรเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 67 ลานบาท (ตารางที่1.2)
-1-
นอกจากระบบบําบัดน้ําเสียทั้ง 77 แหงในตารางขางตน ยังมีระบบบําบัดน้ําเสียอีก 7 แหงที่
มีกรุงเทพมหานครเปนผูดูแลจัดการ โดยมี 5 แหงที่เดินระบบแลว โดยรวมแลวจึงมีระบบบําบัดน้ําเสีย
ที่ถูกสรางขึ้นหรืออยูระหวางการกอสรางทั่วประเทศรวม 87 แหง
-2-
ตารางที่ 1.3 ขนาดบําบัดปริมาณสูงสุดที่จะรับไดตามทีอ่ อกแบบไว
และปริมาณน้าํ เสียเขาระบบฯ จริง พ.ศ. 2546
ภาค ขนาดบําบัดที่จะรับไดตามที่ออกแบบไว ปริมาณน้ําเสียเขาระบบจริง ขนาดรับน้ําเสีย
(ลบ.ม./วัน) (ลบ.ม./วัน) (%)
992,000 59
กรุงเทพฯ (492,000 ณ ปจจุบัน) 291,500 (50~91)
1,870,970 40
ภาคอื่นๆ (826,800 ณ ปจจุบัน) 379,200 (6~100)
2,862,970
รวม (1,318,800 ณ ปจจุบัน) 670,700 51
อยางไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่วาระบบบําบัดน้ําเสียสวนใหญมีเครื่องวัดอัตราการไหล
แตอยูในสภาพที่ชํารุดเสียหาย ขอมูลอัตราการไหลเขาจึงไมนาเชื่อถือ
1-2 ปญหาหลักในการจัดการน้ําเสีย
ปญหาหลักในการจัดการน้ําเสียในประเทศไทย สรุปไดดงั นี้
- การเดินระบบและการบํารุงรักษาไมเหมาะสม
- องคกรปกครองสวนทองถิ่นไมเต็มใจจัดเก็บคาบําบัดน้ําเสีย
- งบประมาณไมเพียงพอ
- ระบบทอรวบรวมน้ําเสียไมครอบคลุมพื้นที่
1-3 กลยุทธในงานดานการจัดการน้ําเสีย
-3-
(ราง) กรอบแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดลอมพ.ศ. 2545-2549 (ค.ศ. 2002-2006) : กล
ยุทธการจัดการสิ่งแวดลอมสําหรับประเทศไทย
เปาหมายในการปรับปรุงคุณภาพน้าํ
ภายใน พ.ศ. 2549 ออกซิเจนละลายน้าํ จะตองไมนอยกวา 4 มก./ลิตร สําหรับแมน้ํา
เจาพระยาตอนลาง และ 2 มก./ลิตร สําหรับคลองตางๆ ที่ไหลมารวมกันในแมน้ํา
เจาพระยา
ออกซิเจนละลายน้ําจะตองไมนอยกวา 4 มก./ลิตร สําหรับแมน้ําทาจีนตอนลาง และ 2
มก./ลิตร สําหรับคลองตางๆ ที่ไหลมารวมกันในแมน้ําทาจีน
คุณภาพน้ําของแมน้ําสายสําคัญ ๆ ที่ไหลผานบริเวณตัวเมืองจะตองไดมาตรฐาน
คุณภาพน้ําที่กาํ หนดไว
คุณภาพน้ําทะเลจะตองไดมาตรฐานคุณภาพน้ําที่กําหนดไว บริเวณตอนเหนือของอาว
ไทยและบริเวณแหลงทองเที่ยวสําคัญจะตองไดรับการปรับปรุงเปนอันดับแรก
นโยบายและวิธีการ
เรงการฟนฟูคณ ุ ภาพน้ําในแหลงน้ําสําคัญๆ
ลดและควบคุมมลภาวะทางน้ําที่เกิดจากชุมชน การเกษตร และอุตสาหกรรมตาง ๆ
ผูที่กอใหเกิดมลภาวะตองเสียคาใชจายในการควบคุมมลภาวะทางน้ํา
สงเสริมการมีสวนรวมของภาคเอกชนในการลงทุนและการดําเนินงานของ
สาธารณูปโภคสําหรับการควบคุมมลภาวะทางน้ํา
ไดมีการเสนอวิธีการควบคุมสิ่งแวดลอมบนพื้นฐานของนโยบายขางตนดังตอไปนี้
กระจายอํานาจและหนาที่ในการควบคุมมลภาวะทางน้าํ ไปสูหนวยงานทองถิ่นใน
ระดับจังหวัดและอําเภอ และเสริมสรางศักยภาพของหนวยงานเหลานัน้ เพื่อใหแนใจวา
มีการควบคุมมลภาวะทางน้าํ ในระดับจังหวัดและอําเภอ
ริเริ่มกอสรางสาธารณูปโภคในการจัดการน้ําเสียในทุกเทศบาล และสงเสริมการมีสวน
รวมของภาคเอกชน
-4-
สงเสริมและสนับสนุนการลงทุนของหนวยงานทองถิ่น รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน
ในการกอสรางสาธารณูปโภคในการจัดการน้ําเสีย ผานทางกองทุนสิ่งแวดลอมมาก
ขึ้น ใหสอดคลองกับความตองการ
เรงรัดใหมีการจัดเก็บคาบําบัดน้ําเสียโดยหนวยงานทองถิน่ หรือหนวยงานที่รับผิดชอบ
โดยตรง
สงเสริมและรวมมือกับภาคเอกชนและองคกรตางๆ ในการดําเนินการรณรงค
เสริมสรางความรูความเขาใจ เพื่อสรางความตระหนักและความเต็มใจที่จะมีสว นรวม
รับผิดชอบในการควบคุมมลภาวะทางน้ํา
สงเสริมการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมสําหรับการจัดการคุณภาพน้ํา
และการจัดการน้ําเสีย
กลยุทธที่เกี่ยวของกับการจัดการน้ําเสียดังที่อธิบายไวในแผนนี้ มีดังนี้
สรางแบบแผนการปฏิบัติในการออกแบบระบบบําบัดน้ําเสีย เพื่อรับประกันความ
เหมาะสมของการออกแบบใหเปนไปตามปริมาณและลักษณะจริงของน้ําเสีย
-5-
ระบบบําบัดน้าํ เสียจะตองสามารถรวบรวมและบําบัดน้าํ เสียไดไมนอยกวา 70% ของ
ปริมาณน้ําเสียที่เกิดในพื้นทีบ่ ริการ
เพิ่มประสิทธิภาพของระบบบําบัดน้ําเสียที่มีอยูและปรับปรุงระบบดังกลาวเพื่อให
แนใจวาไดรับประโยชนเต็มประสิทธิภาพ จัดเก็บคาบริการบําบัดน้ําเสียเพื่อใหแนใจ
วาจะมีการดําเนินงานของระบบบําบัดน้ําเสียอยางยั่งยืน
จัดเตรียมคูมือ ใหคําแนะนํา และดําเนินการรณรงคประชาสัมพันธ เพื่อสงเสริมการ
อนุรักษน้ําดวยการลดปริมาณน้ําเสียตอไป
จัดสรรงบประมาณสําหรับโครงการบําบัดน้ําเสียในเมืองที่มีแผนการดําเนินงานที่
ชัดเจน รวมถึงการจัดหาทีด่ นิ การออกแบบ การกอสราง และการบริหารจัดการ
วิจัยและสงเสริมการนําน้ําทัง้ หลังการบําบัดและกากตะกอนกลับมาใช
วิจัยเพื่อสรางแบบแผนการปฏิบัติในการออกแบบระบบบําบัดน้ําเสียทีเ่ หมาะสมกับ
ประเทศไทย
องคการปกครองสวนทองถิ่นปรับโครงสรางองคกรใหมีบุคลากรที่จะรับผิดชอบการ
ควบคุมดูแลระบบบําบัดน้ําเสีย
1-3-5 ขอบเขตทางกฎหมายเพื่อการพิทักษสิ่งแวดลอม
ความรั บ ผิ ด ชอบของประเทศไทยในการพิ ทั ก ษ สิ่ ง แวดล อ มเป น รู ป ร า งขึ้ น เมื่ อ มี ก าร
ประกาศใช พรบ. ทางสิ่ ง แวดล อ มฉบั บ แรกที่ ชื่ อ ว า “พระราชบั ญ ญั ติ ส ง เสริ ม และรั ก ษาคุ ณ ภาพ
สิ่งแวดลอมแหงชาติ” ในป พ.ศ. 2518 โดยจัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ และสํานักงาน
คณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ภายใตการดําเนินงานของสํานักนายกรัฐมนตรี
ตอมา พระราชบัญญัตินี้ไดถูกแกไขเพิ่มเติม 2 ครั้ง ใน พ.ศ. 2521 และ 2522 โดยโอนยาย
สํานักงานคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ใหอยูภายใตบังคับบัญชาของกระทรวงวิทยาศาสตร
เทคโนโลยีและการพลังงาน การเปลี่ยนแปลงที่สําคัญๆ เกิดขึ้นเมือ่ พระราชบัญญัตินี้ถูกแทนที่ดวย
พระราชบัญญัติที่ครอบคลุมมากขึ้นภายใตชื่อเดิมในเดือนเมษายน 2535
พระราชบัญญัติฉบับใหมเสริมสรางการจัดตั้งสถาบันเพือ่ การจัดการสิง่ แวดลอม โดยการ
แทนที่สํานักงานคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ดวยหนวยงานใหม 3 แหง ไดแก สํานักงาน
นโยบายและแผนสิ่งแวดลอม (ปจจุบันคือสํานักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดลอมแหงชาติ (ONEP))
กรมควบคุมมลพิษ (PCD) และกรมสงเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอม (DEQP) กระทรวงวิทยาศาสตร
เทคโนโลยีและสิ่งแวดลอม (MOSTE) ไดถูกปรับโครงสรางใหมเปนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอม (MONRE) ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2545
พระราชบัญญัติและกฎหมายตาง ๆ ตอไปนี้ไดถูกครอบคลุมไวภายในกรอบการทํางานของ
การพิทักษสิ่งแวดลอมในประเทศไทย
-6-
- พระราชบัญญัติสงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหงชาติ พ.ศ .2535
- พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ .2512 (แกไขเพิ่มเติม 2535)
- พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2484 (แกไขเพิ่มเติม 2535)
- พระราชบัญญัติความเปนระเบียบและความสะอาดในที่สาธารณะ พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติการควบคุมสิ่งกอสราง พ.ศ. 2496
- พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496
ในตอนตอไปหลังจากการทบทวนระบบบําบัดน้ําเสีย 3 รูปแบบที่ใชในประเทศไทย จะได
กลาวถึงรายละเอียดและประเด็นทางเทคนิคมากขึ้นตามสิ่งที่คนพบจากกิจกรรมโครงการการปรับปรุง
การบําบัดน้ําเสีย
2. ระบบบําบัดน้ําเสีย 3 รูปแบบ
มีระบบการจัดการน้ําเสีย 3 รูปแบบที่กําลังดําเนินงานอยูใ นประเทศไทยตามที่ไดกลาวไวใน
ตารางที่ 1.1 ไดแก ระบบบอผึ่ง ระบบบอเติมอากาศ และกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ ( เชน ระบบ
คลองวนเวียน และอื่นๆ)
-7-
ระบบบอผึ่ง เปนระบบที่ไมยุงยากซับซอน และมีคากอสรางและคาดําเนินการต่ํา ขอเสีย
เพียงอยางเดียวของระบบนี้ คือตองใชพื้นที่มาก และตองเสียตนทุนมากในการจัดหาพื้นที่สูง แตในเขต
อากาศรอนอยางประเทศไทย พื้นที่ที่จําเปนสําหรับ ระบบบอผึ่ง จะมีขนาดเล็กกวาในเขตที่มีอณ ุ หภูมิ
ปานกลาง แมแตในเขตที่มีอณ ุ หภูมิปานกลางซึ่งตองใชพื้นที่มาก ยังมี ระบบบอผึ่ง ใชเปนจํานวนมาก
และยังเดินระบบอยู เชน ในสหรัฐอเมริกามี ระบบบอผึ่ง มากกวา 10,000 บอ ที่ถูกใชในการบําบัด (ดู
จดหมายขาวของกลุมผูเชี่ยวชาญสมาคมน้ําระหวางประเทศในเรื่องระบบบอผึ่ง ฉบับที่ 16 เดือนตุลาคม
2546 ประกอบ) จํานวนนีเ้ ทากับประมาณหนึ่งในสามของระบบบําบัดน้ําเสียทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
ตามประวัติศาสตร การพัฒนา ระบบบอผึ่ง ใหเปนกระบวนการบําบัดขั้นที่สองเปนเรื่องบังเอิญอยาง
มาก ดวยบอที่ริเริ่มสรางขึ้นเปนบอตกตะกอนงายๆ หรือเปนถังเก็บฉุกเฉินที่โรงบําบัด เพิ่งจะมีการ
กําหนดเกณฑการออกแบบและการดําเนินงานที่จําเปนในการจัดการบอใหประสบผลสําเร็จเมื่อเร็ว ๆ นี้
ขณะนี้ ระบบบอผึ่งไดรับการยอมรับวาเปนกระบวนการบําบัดหลักและไดมีการนําไปใชทั่วโลก
-8-
ลักษณะของระบบคลองวนเวียน (เปรียบเทียบกับกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจดั้งเดิม) มี
ดังตอไปนี:้ คาดําเนินการกอสรางต่ํา ดูแลรักษางาย มีความทนทานตอการเปลี่ยนแปลงของภาระบรรทุก
น้ําเสียเขา ระบบฯ กําจัดไนโตรเจนไดมาก จําเปนตองใชพื้นที่มากกวาปริมาณตะกอนที่ผลิตออกมานอย
ถังตกตะกอน
คลองวนเวียน
น้ําไหลออก
น้ําเสีย
น้ําไหลเขา ตะกอนสูบกลับ
3. ขนาดและตนทุนของระบบบําบัดน้ําเสียในปจจุบนั
จากผลการสํารวจที่จัดทําโดยกรมควบคุมมลพิษใน พ.ศ. 2547 มีระบบบําบัดน้ําเสียรวม 77
แหง ที่ดําเนินงานอยูในประเทศไทยยกเวนในเขตกรุงเทพมหานคร เปนระบบบอผึ่ง 39 แหง ระบบบอ
เติมอากาศ 13 แหง และกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจรวมหลายรูปแบบ 24 แหง เชนระบบคลอง
วนเวียน ระบบแบบเอสบีอาร (sequencing batch reactor) และระบบอืน่ ๆ
รายชื่อของระบบบําบัดน้ําเสียทั้ง 77 แหง แสดงไวในตารางที่ 3.1
ขนาดโดยเฉลี่ยของระบบทั้ง 3 แบบ ไดแก ระบบบอผึ่ง ระบบบอเติมอากาศ และกระบวนการ
แอกทิเวเต็ดสลัดจ คือ 12,685 ลบ.ม./ วัน 21,554 ลบ.ม./วัน และ 25,660 ลบ.ม./วัน ตามลําดับ ตาม
ขอมูลนี้ เราอาจกลาวไดวาระบบบอผึ่งมีการนํามาใชอยางมากสําหรับระบบน้ําเสียขนาดเล็ก ระบบบอ
เติมอากาศใชสําหรับระบบน้ําเสียขนาดกลาง และกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจใชมากสําหรับระบบ
ขนาดใหญ
-9-
12
10
8 ระบบบอผึ่ง
6 บอเติมอากาศ
จํานวน
4 แอกทิเวเต็ดสลัดจ
2
0
ความจุ
- 10 -
ตาราง3.1 รายชื่อโรงบําบัดน้ําเสียที่มีอยูในปจจุบัน
No ทองถิ่น คาใชจายในการสราง ระบบ ความจุของระบบ ปริมาณน้ําเสียที่ไหลเขามา คาใชจายในการดําเนินการ
(ลานบาท) ประเภท ลบ.ม./วัน % ความจุ (ลานบาท/ป)
1 เทศบาลนครเชียงใหม( ฝงตะวันตก) 706.09 AL 55,000 15,000 27 14.37
2 เทศบาลเมืองเชียงใหม 602.88 AL 27,200
3 เทศบาลเมืองลําปาง 582.69 AS 10,000
4 เทศบาลเมืองพะเยา 200.00 SP 9,700 3,598 37 1.86
5 เทศบาลเมืองสุโขทัย 287.23 SP 8,400
6 เทศบาลนครลําปาง 631.85 SP 12,300
7 เทศบาลเมืองพิจิตร 180.00 AL 12,000 3,000 25 5.22
8 เทศบาลเมืองนาน 475.00 SP 8,259 1,400 17 0.81
9 เทศบาลนครพิษณุโลก 371.29 SP 15,000
10 เทศบาลเมืองชุมแสง ,พื้นที่WMAนครสวรรค 52.42 SP 1,650 487 30 0.81
11 เทศบาลเมืองตาก 66.49 SP 5,400 2,903 54 0.83
12 เท ศบาลเมืองแมสอด ,ตาก 305.00 SP 40,000
13 เทศบาลเมืองกําแพงเพชร 230.00 SP 13,500 2,500 19 0.6
14 เทศบาลเมืองอุทัยธานี 15.90 SP 2,590
15 เทศบาลตําบลสลกบาตร ,กําแพงเพชร 230.00 SP 500
16 เทศบาลนคร นครปฐม 219.16 SP 60,000 15,000 25 2.8
17 เทศบาลเมืองชัยนาท 203.80 SP 3,469 2,500 72 0.7
18 เทศบาลตําบลอูทอง ,สุพรรณบุรี 135.51 SP 5,500 3,500 64 0.39
19 เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี 363.21 SP 11,400 2,000 18 0.8
20 เทศบาลนครนนทบุรี (ประชานิเวศน) 616.50 AS 38,500 20,000 52 7.93
21 เทศบาลเมืองสิงหบุรี 249.50 SP 4,500 1,900 42
22 เทศบาลเมืองอางทอง 179.00 AL 8,200 900 11 2.95
23 เทศบาลนครอยุธยา 496.92 AS 25,000 1,500 6 2.00
24 เทศบาลตําบลพระอินทรราชา, อยุธยา 148.30 AS 4,500 1,900 42 0.96
25 เทศบาลเมืองปทุมธานี 340.00 AS 11,000 6.45
26 เทศบาลเมืองบานหมี่,ลพบุรี 4.68 SP 1,000 600 60 0.15
27 เทศบาลเมืองราชบุรี 359.00 SP 20,000 17,000 85 2.19
28 เทศบาลเมืองบานโปง ,ราชบุรี 82.74 SP 5,000 0.37
29 เทศบาลเมืองโพธาราม ,ราชบุรี 55.92 AS 5,000 2,500 50 2.59
30 เทศบาลเมืองกาญจนบุรี 547.25 AS 24,000 12,000 50 8.20
31 เทศบาลเมืองเพชรบุรี 117.80 SP 10,000 3,500 35 3.55
32 เทศบาลตําบลชะอํา, เพชรบุรี 359.50 AL 17,000 2,306 14 1.54
33 เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ 200.00 AL 8,000 2,480 31 1.91
34 เทศบาลตําบลหัวหิน( เฟส1 ),ประจวบคีรีขันธ 53.00 RBC 8,000 8,000 100 4.16
35 เทศบาลตําบลหัวหิน( เฟส2 ),ประจวบคีรีขันธ 310.00 AS 85,000
36 เทศบาลเมืองสกลนคร, 630.00 SP 16,000 7,295 46 3.84
37 (กุสุมาลย หนองสนม)
38 เทศบาลตําบลทาแร, สกลนคร 60.76 SP 2,054 952 46 0.22
39 เทศบาลนครขอนแกน 533.00 AL 50,000 50,000 100 3.00
40 เทศบาลตําบลหัวขวาง, มหาสารคาม 21.39 SP 1,500 600 40 0.51
41 เทศบาลเมืองชัยภูมิ 0.10 SP 2,000 1,000 50 0.83
42 เทศบาลนคร นครราชสีมา 655.00 SP 32,000 50,884 159 9.79
43 เทศบาลตําบลปากชอง 255.66 SP 12,000 2,000 17 1.25
44 เทศบาลตําบลบัวใหญ ,นครราชสีมา 1.54 SP 1,500 1,306 87 0.05
45 เทศบาลเมืองบุรีรัมย 249.30 AL 13,000 6,500 50 2.02
46 เทศบาลนครอุบลราชธานี 370.00 AL 22,000 5,500 25 2.92
47 เทศบาลตําบลวารินชําราบ, อุบลราชธานี 309.00 SP 22,200 2,896 13 0.4
48 เทศบาลนครยโสธร 502.99 SP 7,246
49 เทศบาลนครอํานาจเจริญ 650.00 SP 13,185
50 องคการปกครองจังหวัดชลบุรี 565.00 AS 22,500 10,315 46 7.69
51 เทศบาลเมืองพนัสนิคม ,ชลบุรี 30.00 SP 5,000 2,000 40 0.65
52 เทศบาลเมืองศรีราชา ,ชลบุรี (พื้นที่WMA) 115.52 AS 18,000 1,444 8 12.05
53 เทศบาลตําบลแหลมฉบัง ,ชลบุรี 179.60 AS 25,000 1,450 6 0.78
54 ซอยวัดบุญกาญจนาราม, พัทยา ชลบุรี(พื้นที่W 359.11 AS 20,000 6,000 30 2.57
55 เทศบาลเมืองพัทยา (ระบบใหม) 1786.88 AS 65,000 50,000 77 28.44
56 เมืองแสนสุข ,ใต/เหนือ 800.00 AS 14,000 17,131 122 15.00
57
58 เทศบาลเมืองระยอง 318.00 AL 41,000 4,000 10
59 เทศบาลตําบลบานเพ, ระยอง 230.00 AS 8,000 941 12 0.27
60 เทศบาลมาบตาพุด ,ระยอง 286.70 AL 15,000
61 เทศบาลเมืองจันทบุรี 300.00 SP 17,000 2,591 15 0.86
62 เทศบาลตําบลขลุง ,จันทบุรี 128.24 SP 54,000 2,591 48 0.10
63 เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา 240.00 AS 24,000 3,000 13 2.11
64 องคการบริหารสวนตําบลเกาะพงัน ,สุราษธา 10.00 Biofilter 200 >200 >100 0.27
65 เกาะสมุย (นาบน) 420.00 AS 2,400
66 เกาะสมุย (หาดเฉวง) AS 6,000
67 เกาะสมุย (หาดละไม) AS 8,560
68 เทศบาลเมืองชุมพร 199.90 SP 12,000
69 เทศบาลเมืองปาตอง, ภูเก็ต 360.19 AS 14,250 7,000 49 3.15
70 เทศบาลเมืองภูเก็ต เฟส1 912.00 AS 36,000 20,443 57 12.00
71 องคการบริหารสวนตําบลกระรน , ภูเก็ต 161.90 Bio-AS 6,000
72 เทศบาลนครตรัง 480.80 AL 17,700 8,000 45 1.63
73 เกาะพีพี ,กระบี่ 15.95 SP 400
74 เทศบาลเมืองกระบี่ 200.00 AL 12,000
75 เทศบาลนครหาดใหญ ,สงขลา 1784.38 SP 69,000 60,000 87 17.52
76 เทศบาลนครสงขลา 298.70 AL 24,000 5,000 21 36.00
77 เทศบาลเมืองปตตานี 348.00 SP 28,920
1,337,183 457,313
- 11 -
ตนทุนตอหนวยในการกอสราง
ตนทุนตอหนวย 1,000 บาท/ลบ.ม
80.00
70.00
60.00
50.00 WSP
40.00 AL
30.00 AS
20.00
10.00
-
0 20,000 40,000 60,000 80,000
ขนาดบําบัด
4. ระบบทอรวบรวมน้ําเสีย
ระบบทอรวบรวมน้ําเสียสวนใหญในประเทศไทยจะเปนระบบที่รวมทั้งการระบายน้ําฝน
และน้ําเสียเขาดวยกัน เดิมระบบทอระบายน้ําไดรับการออกแบบและสรางขึ้นพรอมกับระบบสูบน้ําเพื่อ
ระบายน้ําฝนจากบริเวณแหลงชุมชนสูลําน้ําธรรมชาติ ภาระหนาที่ในการรวบรวมน้ําเสียเพิ่มขึ้นมา
หลังจากมีการสรางระบบระบายน้ําฝน
โดยทั่วไป ระบบทอในประเทศไทยมีความลาดเอียงนอยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น
เชน ประเทศญี่ปุน ระบบทอที่มีอยูสวนใหญถูกเชื่อมโยงเขาดวยกันเพื่อใหเปนรูปแบบเครือขาย
มากกวาที่จะเปนแบบกิ่งกานสาขาที่มักจะพบเห็นทั่วไปในประเทศอืน่ ๆ มีการคิดกันวาแบบเครือขายนี้
ไดรับการพัฒนาขึ้นเพื่อชดเชยกับความดอยความสามารถในการรองรับน้ําที่ไหลเขาอันเนื่องมาจาก
ความลาดเอียงนอยของทอระบาย และเนือ่ งจากความลาดเอียงนอยนี้ โคลนและทรายจํานวนมากจึงมี
แนวโนมที่จะทับถมกันเปนตะกอนที่บริเวณกนทอระบาย
อนุภาคตะกอนตาง ๆ มักจะปรากฏใหเห็นเปนทางเหมือนกับทรายในวันฝนตกโดยการเอา
สวนประกอบโคลนออก กาซไขเนา (hydrogen sulfide) จะเกิดขึ้นภายใตผิวหนาที่อยูระหวางน้าํ กับ
ตะกอนจากแบคทีเรียลดซัลเฟต อัตราการเกิดกาซไขเนาจะขึ้นอยูกับปริมาณสารอินทรีย สวนใหญ คา
BOD จะลดลงจากการใชสารอินทรียละลายน้ํา หมายความวาการหมักแบบไมใชออกซิเจน) Anaerobic
Decomposition) ของสารอินทรียจะเกิดขึ้นโดยจะควบคูไปกับการผลิตสารที่มีกลิ่น
- 12 -
5. ปริมาณการใชน้ําและปริมาณน้ําเสีย
ขอมูลของการประปาสวนภูมิภาคในประเทศไทยแสดงวาใน พ.ศ. 2547 ปริมาณการใชน้ํา
เฉลี่ยเทากับ 162 ลิตร/ คน/ วัน คานีด้ ูจะรวมไปถึงการใชเชิงพาณิชยดว ย
250
200
150
ลิตร / คน / วัน
100
50
- 13 -
ตารางที่ 5.1 ปริมาณการใชนา้ํ ปลายทางทั้งในเขตเมืองและชนบทของจังหวัดขอนแกนและเมืองสําคัญ
2004 2000น 1
ขอนแก 2004 กรุง1998*
เทพฯ 3
กิจกรรมการใชน้ํา ขอนแกน เชียงใหม 2
ปลายทาง
เมือง ชนบท ฤดูแลง ฤดูฝน
การใชในหองสุขา
การอาบน้ํา
การซักผา
การลางจาน
อื่นๆ
การใชน้ํา
(การใชทั้งหมด)
อื่นๆ แสดงหนวยเปนลิตร/ประเภท/วัน
หมายเหตุ: * ปที่พิมพ
a
อื่นๆ = การใชทั้งหมด - การใชในหองสุขา - การอาบน้ํา - การซักผา - การลางจาน
b
ขอมูลปริมาณการใชรวมไดรับจากใบแจงคาบริการน้ํา
c
ขอมูลปริมาณการใชรวมไดรับจากบันทึกยอดจําหนายน้าํ ของการประปาสวนภูมภิ าค
1
ขอมูลปริมาณการใชทั้งหมดและการลางจานเปนขอมูลที่วัดได ขอมูลการซักรีดและการใช
ในหองสุขาคํานวณจากการสังเกตความถีใ่ นการใช ขอมูลการอาบน้ํามาจากการคํานวณ (การอาบน้ํา =
การบริโภครวม – การลางจาน – การซักผา -การใชน้ําในหองสุขา)
1
ที่มา: ทองหอและมังคลา (2545)
2
แบบสํารวจเชียงใหม โดยคณะทํางานของโอตากิ
3
Darmody, Maddaus และ Beatty (2541) อางถึงใน White (2536)
- 14 -
ตารางที่ 5.2 ปริมาณการใชนา้ํ ปลายทางทั้งในเขตเมืองและชนบทของจังหวัดขอนแกนและเมืองสําคัญ
อื่นๆ ในประเทศไทย แสดงหนวยเปนรอยละ
2004 2000 2004 1998 1983 1978
กิจกรรมการใชนา้ํ
ขอนแกน ขอนแกน1 เชียงใหม 2 กรุงเทพฯ 3 กรุงเทพฯ 4 กรุงเทพฯ 5
ปลายทาง
(ในหอพัก)
เมือง ชนบท ฤดูแลง ฤดูฝน
การใชในหองสุขา
การอาบน้ํา
การซักผา
การลางจาน
อื่นๆ
การใชน้ํา
(การใชทั้งหมด)
หมายเหตุ: * ปที่พิมพ
**อื่นๆ = การใชทั้งหมด - การใชในหองสุขา - การอาบน้ํา - การซักผา - การลางจาน
1
ขอมูลปริมาณการใชทั้งหมดและการลางจานเปนขอมูลที่วัดได ขอมูลการซักรีดและ
การใชในหองสุขาคํานวณจากการสังเกตความถี่ในการใช ขอมูลการอาบน้ํามาจากการ
การคํานวณ
1
ที่มา: ทองหอและมังคลา (2545)
2
แบบสํารวจเชียงใหม โดยคณะทํางานของโอตากิ
3
Darmody, Maddaus และ Beatty (2541) อางถึงใน White (2546)
4
ตันทุนวัตร (2526)
5
ศิวะบวร (2524)
ขอมูลเหลานี้แสดงใหเห็นวาปริมาณการใชน้ําเกือบครึ่งหนึ่งไดถูกจัดประเภทเขาในการใช
อื่นๆ ซึ่งไดแก การใชน้ําเพื่อทําสวนและลางรถ น้ําที่ใชในการทําสวนไมไดไหลไปสูร ะบบบําบัดน้าํ เสีย
หมายความวาน้ําที่ใชในครัวเรือนเกือบครึ่งหนึ่งอาจจะไมไดถูกปลอยลงไปในระบบบําบัดน้ําเสีย หาก
การอนุมานนีถ้ ูกตอง น้ําเสียที่เขาระบบบําบัดน้ําเสียจะนอยกวาอัตราน้าํ เสียเขาระบบที่ออกแบบไวตั้งแต
ตนมาก
- 15 -
ตารางที่ 5.3 ปริมาณการใชนา้ํ เฉลี่ย แสดงเปนรอยละ
ขอนแกน เชียงใหม
เฉลี่ย
เมือง ชนบท แลง ฝน
การใชน้ําในสุขา 8 7 10 8 8
การอาบน้ํา 17 17 13 19 17
การซักผา 14 16 13 13 14
การลางจาน 10 16 15 12 13
อื่นๆ 51 44 50 48 48
รวม 100 100 100 100 100
สมมุติฐานเหลานี้มีผลตอการออกแบบระบบและการจัดเก็บคาธรรมเนียมการใชอยางมาก
งานวิจยั ที่ละเอียดมากขึน้ กวานี้จําเปนตองใชสมมุติฐานนี้กับการออกแบบจริงและการคํานวณตางๆ เชน
การจัดทํางบประมาณการดําเนินการและบํารุงรักษา หรือการประมาณคาธรรมเนียมการใช
1) ลดา มธุรสา (2548), การวิเคราะหและคาดการณปริมาณการใชน้ําปลายทางภายใน
จังหวัดขอนแกน ประเทศไทย วิทยานิพนธนี้เปนสวนหนึ่งของการศึกษาปริญญาโทวิทยาศาสตร
มหาบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีแหงเอเชีย
6. คุณภาพและลักษณะของน้ําเสีย
กรมควบคุ มมลพิ ษกั บสํ านั กงานสิ่ งแวดลอมภาคของกระทรวงทรั พยากรธรรมชาติ และ
สิ่งแวดลอมไดดําเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ําของระบบบําบัดน้ําเสีย จากขอมูลในป 2548 คาเฉลี่ยของคา
BOD ในน้ําเสียที่ไหลเขาระบบฯ เทากับ 48 มก./ลิตร และคาเบี่ยงเบนมาตรฐานเทากับ 86.5 มล./ลิตร
ในทางสถิติ ขอมูลที่มากกวาคาเบี่ยงเบนมาตรฐานจากคาเฉลี่ยถึงสองเทาถือเปนความผิดปกติ หากไมนับ
รวมขอมูลที่มากเกินไปเหลานี้ คาเฉลี่ยของคา BOD ที่คํานวณใหมจะเทากับ 30.2 มล./ลิตร คาเหลานีแ้ สดง
วาความเขมขนเฉลี่ยของคา BOD ในน้ําเสียที่ไหลเขาระบบฯ นั้นนอยกวาคาที่ออกแบบไวมาก
- 16 -
อีกทั้ง โครงการไดดําเนินการศึกษาเพิ่มเติมโดยพุงเปาไปที่ระบบบําบัดน้ําเสีย 9 แหงคือ
ระบบบําบัดน้าํ เสียเทศบาลเมืองศรีราชา เทศบาลนครสงขลา เทศบาลเมืองชะอํา เทศบาลเมืองบานเพ
เทศบาลเมืองปทุมธานี เทศบาลเมืองกําแพงเพชร เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตําบลชุมแสง และ
เทศบาลตําบลทาแร ผลการศึกษาแสดงไวในตารางที่ 6.1 ความเขมขนเฉลี่ยของคา BOD ในน้ําเสียเขา
ระบบฯในตารางนี้เทากับ 38.9 มล./ลิตร ขอมูลในการศึกษานี้ไดมาจากการเก็บตัวอยางแบบ Composite
Sample ตลอด 24 ชั่วโมง และทําการสุมตัวอยางสองครั้งในฤดูรอนและฤดูฝน การศึกษาสวนใหญ
แสดงใหเห็นวาความเขมขนของคา BOD ของน้ําเสียเขาระบบระหวางฤดูรอนและฤดูฝนวามีความ
แตกตางกันอยางมากในแตละสถานที่
ตารางที่ 6.1 ผลของการวิเคราะหคุณภาพน้ําในเดือนเม.ย./พ.ค.และก.ค./ส.ค.2548
ศรีราชา
สงขลา
ชะอํา
บานเพ
ปทุมธานี
กําแพงเพ
เชียงราย
ชุมแสง
ทาแร
คาเฉลี่ย
จากขอมูลรายงานประจําเดือนของการเดินระบบและบํารุงรักษาระบบบําบัดน้ําเสียเทศบาล
เมืองกําแพงเพชร คา BOD ของน้ําเสียเขาระบบฯ เฉลี่ยเทากับ 34.8 มล./ลิตร ในชวงเดือนพฤษภาคมถึง
เดือนกันยายน 2548 สวนของเทศบาลเมืองปทุมธานี คา BOD ของน้ําเสียเขาระบบฯ เฉลี่ยเทากับ 12.2
มล./ลิตร ในชวงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม 2548
ขอมูลทั้งหมดที่กลาวมานีแ้ สดงใหเห็นวาคา BOD ของน้ําเสียเขาระบบฯ มีคาต่ํา คา
ออกแบบที่กําหนดขึ้นใหมโดยกรมควบคุมมลพิษที่จัดทําเสร็จในป พ.ศ. 2546 ไดสะทอนใหเห็นถึง
สภาพเหลานีแ้ ลว คา BOD เผื่อออกแบบนี้แนะนําใหใช 80 มล./ลิตร และ 160 มล./ลิตร สําหรับระบบ
ทอรวมและระบบทอแยกตามลําดับ แตเมื่อเทียบกับขอมูลที่มีอยู คาที่แนะนํานี้กย็ ังอยูใ นระดับที่
คอนขางสูงทีเดียว
น้ําเสียสวนใหญในประเทศไทยจะถูกเรียกกันอยางผิด ๆ วา Gray Waste ทั้งนี้ Gray Waste
ไมไดรวมถึงอุจจาระหรือปสสาวะของมนุษย โดยทัว่ ไป น้ําเสียจากสวมจะใชระบบบอเกรอะ และน้ํา
ทิ้งที่ออกจากบอเกรอะก็จะไหลซึมลงดินหรือระบายออกไปยังทอระบาย ขอเท็จจริงนี้เปนสวนหนึ่งของ
- 17 -
สาเหตุที่มีความเขมขนในน้ําที่ไหลเขาสูระบบต่ํา แตเฉพาะขอเท็จจริงนี้เพียงอยางเดียวไมไดอธิบายถึง
ความเปนมาของความเขมขนของคา BOD ในน้ําที่ไหลเขาต่ําที่กลาวมาขางตนไดทั้งหมด
สาเหตุอีกประการหนึ่งที่มกี ารกลาวถึงบอยๆ คือ การยอยสลายในระหวางการไหลของน้ํา
เสียจากทอระบายไปยังโรงบําบัดน้ํา Pomeroy and Parkhurst (2515) ไดทํารายงานไววา คา BOD ลดลง
26% หลังจากน้ําเสียพักตัวในทอระบายน้ําในประเทศที่มอี ุณหภูมิพอเหมาะเปนเวลา 4 ชั่วโมง โทมัส
และคณะรายงานวาคา COD ที่ละลายน้ําลดลง 24% ภายใน 3 ชั่วโมง ในทอระบายน้ํา ที่อุณหภูมิ 15 oC
Manandhar and Schroder (1995) รายงานวาในการทดลองของเขาทั้งสองวาคา COD ลดลง 49-63% ที่
อุณหภูมิ 29-33oC จากรายงานเหลานี้จะเห็นวาการสลายตัวที่คอนขางสูงของสารอินทรีย เชน คา BOD
หรือคา COD จะเพิ่มมากขึ้นในทอระบายในประเทศไทยดวย ทอระบายน้ําจึงเปนกระบวนการบําบัดน้ํา
เสียดวย ปจจุบันความคิดเหลานี้ไดรับการยอมรับโดยทัว่ ไปในหมูนักวิจัยสาขาวิชานี้หลังจากมีการ
ตีพิมพหนังสืออนุสรณเรื่อง “วิศวกรรมกระบวนการทอระบาย-กระบวนการจุลนิ ทรียของระบบทอ
ระบาย” (Sewer processes-Microbial Process Engineering of Sewer Networks-) เขียนโดย Dr. Thorkild
Hvitved-Jacobsen.
จากผลการศึกษาที่ดําเนินการโดยอดีตผูเชีย่ วชาญของโครงการ TCSW ระยะเวลากักพัก
เฉลี่ยในกรุงเทพฯ จะอยูที่ประมาณ 5 วัน พวกเขานําตัวอยางน้ําเสียในสภาพสดและเก็บไวที่อุณหภูมิ 30
o
C และไดมกี ารนําตัวอยางขนาดเล็กมากมาสังเกตดูจุลินทรียทั้งพืช (microflora) และสัตว (microfauna)
ในน้ําตัวอยางนั้น พบวาจํานวนพารามีเซียม (paramecium)เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาทีผ่ านไป จุดสูงสุดวัด
ไดที่ 5 วันหลังจากเริ่มทําการสังเกต จํานวนพารามีเซียม สูงสุดนับไดประมาณ 600 ตัวในน้ําเสีย 1 มล.
เมื่อพนชวงเวลาดังกลาวนี้ จะเกิดเชื้อราสีดําขึ้นและคอย ๆ ขยายวงกวางออกจนถึงขีดสุดในวันที่ 11
จากนั้นจะเกิดไรแดงน้ําจืด(daphnia)ขึ้นและขยายวงกวางออกมากขึ้นๆ ในทางกลับกัน ในน้ําทีไ่ หล
ออกจากถังตกตะกอนแรกของระบบบําบัดน้ําเสียสี่พระยา พบพารามีเซียมเปนบริเวณกวาง มีการ
วิเคราะหคา BOD ในลําดับการทดลอง และผลที่ไดก็สอดคลองกับคา BOD ที่สํารวจไดในระบบบําบัด
น้ําเสียสี่พระยา จากขอเท็จจริงเหลานี้ ผูเชี่ยวชาญดังกลาวสรุปไดวาระยะเวลาเก็บกักของน้ําเสียทีม่ าถึง
ระบบบําบัดน้าํ เสียของสี่พระยา เทากับประมาณ 5 วัน เนื่องจากมักจะพบพารามีเซียม ไดบอย ๆ ในน้ํา
เสียเขาระบบฯของโรงบําบัดอื่น เราจึงสามารถสันนิษฐานไดวา โดยทัว่ ไป ระยะเวลาเก็บกักของน้าํ เสีย
กอนที่จะไปถึงระบบบําบัดน้ําเสียในกรุงเทพเฉลี่ยอยูที่ 5 วัน ทั้งนีก้ ็มสี าเหตุหลักมาจากระบบทอมีความ
ลาดเอียงนอย จึงเปนผลใหเกิดการตกตะกอนในเสนทอ
- 18 -
ภาพที่ 6.1 กระบวนการสลายตัวของน้ําเสียและการเปลี่ยนสภาพของจุลินทรีย
7. โลหะหนักในตะกอนน้ําเสีย
ระดับการเจือปนของโลหะหนักในสาธารณูปโภคในการระบบบําบัดน้ําเสียในพื้นทีช่ นบท
ไทยยังไมมีการตรวจสอบเพียงพอ เปนเรือ่ งนากังวลเกี่ยวกับการปนเปอ นของโลหะหนักสูระบบระบาย
น้ําเสียในสวนที่เกี่ยวของกับการปรับปรุงคุณภาพชีวิต ดูเหมือนวาในปจจุบัน การระบายน้าํ เสียทีม่ ีการ
ควบคุมลงสูระบบระบายน้ําเสียหรือแหลงน้ําจากโรงงานขนาดเล็กและการผลิตในครัวเรือนในประเทศ
ไทยจะไมไดรับการตรวจสอบอยางละเอียด ยกเวนในโรงงานขนาดใหญที่ควบคุมโดยกระทรวง
อุตสาหกรรม ดังนั้นการสะสมของโลหะหนักในระบบบําบัดน้ําเสียจึงเปนเรื่องนาหวง ดังนั้น โครงการ
การปรับปรุงการจัดการน้ําเสียจึงไดดําเนินการศึกษาการวิเคราะหโลหะหนัก ดวยการวิเคราะหน้ําเสีย
และน้ําหลังการบําบัด
ไดทําการสุมตัวอยางและวิเคราะหตะกอนที่สะสมในระบบบําบัด ตะกอนทีเ่ ปนสวนเกิน
และตะกอนจากบอบําบัดตางๆ อีกทั้งยังไดมีการวิเคราะหการปนเปอ นโลหะหนักในตะกอนที่อยูใน
ระบบทอระบายน้ําเสีย ในขณะเดียวกันก็ไดวิเคราะหลักษณะตะกอนเบื้องตน ของแข็งทั้งหมด ของแข็ง
ระเหยงาย และคาแคลอรี่ คา CODcr อีกดวย ตารางขางลางนี้เปนรายชื่อระบบบําบัดน้าํ เสียเปาหมายที่จะ
ทําการศึกษา
- 19 -
ตารางที่ 7.1 ระบบบําบัดน้ําเสียที่วางเปาหมายที่จะทําการวิเคราะหโลหะหนักในตะกอน
วิธีการบําบัด ระบบบําบัดน้าํ เสีย
AS 3 แหง หวยขวาง (กทม.) สี่พระยา (กทม.) ชองนนทรี (กทม.)
WSP 3 แหง เทศบาลเมืองกําแพงเพชร เทศบาลตําบลชุมแสง เทศบาลตําบลทาแร
AL 3 แหง เทศบาลเมืองชะอํา เทศบาลนครสงขลา เทศบาลนครเชียงราย
OD 3 แหง เทศบาลเมืองศรีราชา เทศบาลเมืองบานเพ เทศบาลเมืองปทุมธานี
AS คือกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ WSP คือระบบบอผึ่ง
AL คือระบบบอเติมอากาศ OD คลองวนเวียน
- 20 -
ตารางที่ 7.3 ตะกอนสวนเกินและ ตะกอนที่ผานการรีดแลวจากระบบบําบัดน้ําเสียแอกทิเวเต็ดสลัดจใน กทม.
หวยขวาง สี่พระยา ชองนนทรี
ตะกอนยอนกลับ ตะกอนรีดแลว ตะกอนสวนเกิน ตะกอนสวนเกิน
อางอิง
หัวขอ หนวย
ความชื้น
อัตราสวนของแข็งระเหย
คาความรอน
ทองแดง
สังกะสี
เหล็ก
แมงกานีส
โครเมียม
ฟลูออไรด
แคดเมียม
ตะกั่ว
สารหนู
สารปรอท
ซีลีเนียม
โบรอน
นิกเกิล
แบเรียม
- 21 -
ตารางที่ 7.5 ตะกอนสวนเกินจากบอสูบตะกอนกลับของระบบคลองวนเวียน
หัวขอ หนวย OD ศรีราชา บานแพ ปทุมธานี
ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งแรก ครั้งที่สอง
ความชื้น
อัตราสวนของแข็งระเหย
คาความรอน
ทองแดง
สังกะสี
เหล็ก
แมงกานีส
โครเมียม
ฟลูออไรด
แคดเมียม
ตะกั่ว
สารหนู
สารปรอท
ซีลีเนียม
โบรอน
นิกเกิล
แบเรียม
ความชื้น
ของแข็งระเหย
คาความรอน
COD
ทองแดง
สังกะสี
เหล็ก
แมงกานีส
โครเมียม
ฟลูออไรด
แคดเมียม
ตะกั่ว
สารหนู
สารปรอท
ซีลีเนียม
โบรอน
นิกเกิล
แบเรียม
- 22 -
ตารางที่ 7.7 ตะกอนกนบอพักตามถนนในทอระบายน้ําของเทศบาล (2/2)
หัวขอ หนวย ศรีราชา กําแพงเพชร ชุมแสง
ความชื้น
อัตราสวนของแข็งระเหย
คาความรอน
COD
ทองแดง
สังกะสี
เหล็ก
แมงกานีส
โครเมียม
ฟลูออไรด
แคดเมียม
ตะกั่ว
สารหนู
สารปรอท
ซีลีเนียม
โบรอน
นิกเกิล
แบเรียม
7-1 กระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ
ปริมาณความชื้นของตะกอนสวนเกินมีคา ระหวาง 98.6 - 99.4% w/w ความเขมขนของ
ของแข็งทั้งหมดอยูระหวาง 1.4 - 0.6% อัตราสวนของของแข็งระเหยสูงกวาตะกอนจากระบบบําบัดน้ํา
เสียแบบอื่น เชน ระบบบอผึ่ง บอเติมอากาศ และระบบคลองวนเวียน คือ อยูที่ระหวาง 40 – 80%
ตะกอนน้ําเสียจากระบบบําบัดน้ําเสียในกรุงเทพฯ มีแนวโนมที่จะมีความเขมขนของสังกะสี โครเมียม
แคดเมียม และปรอทประกอบอยูสูงเมื่อเปรียบเทียบกับคามาตรฐานที่ใชในการเกษตร อีกทั้งตะกอนที่
นํามาจากโรงบําบัดน้ําเสียชองนนทรียังมีความเขมขนของแมงกานีส ตะกัว่ และนิกเกิลอยูดวย
คาแคลอรี่ของตะกอนอยูระหวาง 8,000 ถึง 17,000 J/g. ตะกอนสวนใหญไมพบวามีฟลูโอ
ไรด ยกเวนตะกอนจากโรงบําบัดน้ําเสียชองนนทรี ตัวอยางที่สุมไดทั้งหมดมีสารซีลีเนียมประกอบอยู
เพียงเล็กนอย
7-2 ระบบคลองวนเวียน
ความเขมขนของโลหะหนักจะแตกตางกันไปแลวแตสถานที่ พบโลหะหนักอยางนอยหนึ่ง
อยางจากรายการตอไปนี้ สังกะสี ทองแดง แคดเมียม ตะกัว่ ปรอท นิกเกิล ที่ตรวจพบไดในตัวอยาง
และสารเหลานี้แสดงคาสูงกวามาตรฐานสําหรับใชในการเกษตรที่ประเทศญี่ปุน อัตราสวนของแข็ง
ระเหยต่ํากวาตะกอนสวนเกินในโรงบําบัดน้ําเสียของกรุงเทพฯ ประมาณ 5% - 30%
- 23 -
7-3 ระบบบอผึ่งและบอเติมอากาศ
ผลการวิเคราะหโลหะหนักจากตะกอนน้ําเสียที่นํามาจากระบบบอผึ่งและระบบบอเติม
อากาศที่ตั้งอยูในเขตชนบมีคาความเขมขนของโลหะหนักในแตละสถานที่แตกตางกัน ตะกอนที่ชุมแสง
มีการปนเปอนของโลหะหนักนอยกวา ในทางตรงกันขาม มีโรงบําบัดน้ําเสียที่ตะกอนน้ําเสียมีสังกะสี
และปรอทปนเปอนอยูสูงมาก และในสวนของแคดเมียมและตะกั่วก็มีแนวโนมที่จะมีปนเปอนมากกวา
โลหะอื่น ปริมาณความชื้นอยูในชวง 75-93% ความแตกตางเหลานี้อาจจะขึ้นอยูกับวิธีการสุมตัวอยาง
และความหนาแนนของตะกอน
เพื่อที่จะทราบสวนประกอบอินทรียสารในตะกอนน้ําเสีย ไดมีการคํานวณคาแคลอรี่ตอ
หนวยของของแข็งระเหยไดพบคาแคลอรี่ตอหนวยมีคาประมาณ 20kJ/gVS.
7-4 ผลการวิเคราะหตะกอนน้ําเสีย
ผลการวิเคราะหตะกอนแสดงใหเห็นวามีความเขมขนของตะกอนโลหะหนักอยูใ นเกณฑต่ํา
ซึ่งสามารถจะนําไปใชในพืน้ ที่สีเขียวไดโดยปราศจากปญหา แตพบโดยทั่วไปวามีการพบการสะสม
ของสังกะสีในตะกอนทั้งหมด สําหรับตะกัว่ ทองแดง แมงกานีสนัน้ แสดงผลลัพธการปนเปอนใน
ระดับที่แตกตางกัน ซึ่งแสดงใหเห็นวาการปนเปอนเหลานี้ขึ้นอยูกับสถานที่ อาจจะสามารถสืบหาจุด
ตนตอที่ปลอยโลหะหนักไดจากการวิเคราะหตะกอนในบอพักตนทาง
ตารางที่ 7.8 ลักษณะของตะกอนน้ําเสีย
ของแข็งระเหย
COD-g/kg-DS ของแข็งระเหย% COD/ของแข็งระเหย kJ/g-ของแข็งระเหย Fe% COD-FeS%
- 24 -
คา COD ของตะกอนแสดงใหเห็นถึงความตองการออกซิเจนในการลดสารอนินทรีย เชน
เฟอรรัส ซัลไฟด ดังขอมูลแสดงไวในตารางที่ 7.8 สมมุติฐานของสารลดอนินทรีย (เฟอรรัส ซัลไฟด)
ลดความตองการใชออกซิเจนของ COD ลง 10-80% จากปริมาณทั้งหมด คาแคลอรี่ของตะกอนน้าํ เสียมี
คาประมาณ 20kJ/gVS ตัวอยางตะกอนทั้งหมดมีปริมาณความชื้นอยูระหวาง 37 - 84% w/w อัตราสวน
ของแข็งระเหยงายอยูในชวง 9-29%
7-5 การนําไปประยุกตใชดวยความปลอดภัยและกระบวนการกําจัดตะกอนน้ําเสีย
ขอมูลแสดงใหเห็นวาตะกอนน้ําเสียมีความเขมขนของโลหะหนักคอนขางสูงในบางภูมิภาค
การปนเปอนของโลหะหนักมีความเขมขนสูง เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานการนําไปใชในพืน้ ที่สเี ขียว
โดยเฉพาะอยางยิ่งตะกอนทีน่ ํามาจากระบบบําบัดน้ําเสียในกรุงเทพฯ จะมีการปนเปอนของโลหะหนัก
ในปริมาณสูง
การควบคุมการระบายน้ําเสียสูระบบรวบรวมน้ําเสีย หรือแมน้ําลําคลองจากโรงงานขนาด
เล็กและอุตสาหกรรมในครัวเรือนในประเทศไทย โดยเฉพาะอยางยิ่งในเขตกรุงเทพฯ จะตองไดรบั การ
ตรวจสอบอยางละเอียดเปนลําดับแรก
การทําความสะอาดระบบทอรวบรวมน้ําเสียเปนการทําใหระบบบําบัดน้ําเสียมีประสิทธิภาพขึ้น
ตะกอนจํานวนมากเกิดขึ้นจากการตกตะกอนในทอ และเกิดจากระบบบําบัดน้ําเสีย ระบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ
และระบบคลองวนเวียน การทําความสะอาดและการขุดลอกตะกอนในบอแรกของระบบบอผึ่งและระบบ
บอเติมอากาศไมไดเกิดขึ้นบอยครั้งนัก โดยทําประมาณ 5 ป หรือ10 ปตอครั้ง
ตารางที่ 7.9 มาตรฐานโลหะหนักและอื่นๆ
*1.มาตรฐานโลหะหนักเพื่อนําไปใชในพื้นที่สีเขียว
*2.มาตรฐานที่แนะนํา
*3.ความจําเปนที่ตองแจงตอเกษตรกร
ทองแดง
สังกะสี
โครเมียม
แคดเมียม
ตะกั่ว
สารหนู
สารปรอท
ซีลีเนียม
โบรอน
นิกเกิล
แบเรียม
- 25 -
(เอกสารอางอิง)
Nakatsukasa, การใชตะกอนน้ําเสียเพื่อการเกษตร, การนํากลับมาใช และการใชใหเกิดประโยชน ฉบับที่
25 เลขที่ 95 2002/3
Fukada, การแกไขเพิ่มเติมกฎหมายควบคุมปุยธรรมชาติ, การนํากลับมาใช และการใชใหเกิดประโยชน
ฉบับที่ 23 เลขที่ 88 2000/6
8. การเกิดปญหาสาหรายในระบบบอผึ่ง
สาหรายเปนสวนหนึ่งของระบบบําบัดน้ําเสียแบบบอผึ่ง แตเมื่อสาหรายแพรพันธุอยาง
ผิดปกติในระบบ จะทําใหเกิดปญหาหลาย ๆ อยาง หนึ่งในปญหาดังกลาวก็คือ สาหรายสวนเกินที่
ปรากฏในน้ําเสีย นําไปสูป ญหา BOD และสารแขวนลอยมีคาเกินระดับมาตรฐานคุณภาพน้ําทิง้ หลัง
การบําบัด ปญหาอื่นๆ ไดแก สารพิษจากสาหรายสีนา้ํ เงิน-เขียว สาหรายสีน้ําเงิน-เขียวบางชนิดเชน
Anabena flos aquae, Microcystis aeruginosa, และ Schizothrix calcicola ที่ผลิตสารพิษออกสูภายนอก
(Peptides และ Alkaloids) และสารพิษเขาสูภายใน (lypopolysaccarides) ซึ่งทําใหเกิดอาการตางๆ เชน
กระเพาะอาหารและลําไสอักเสบ มีรายงานวาในบางพื้นที่ในประเทศไทย น้ําเสียที่ระบายออกจาก
ระบบบอผึ่งซึ่งมีปริมาณสาหรายน้ําเงินอมเขียวอยูมากทําใหเกิดอาการอักเสบทางผิวหนังกับเกษตรกรที่
ใชน้ําทิ้งหลังการบําบัดเปนแหลงน้ําในการทํานา
การเพิ่มขึ้นอยางผิดปกติของสาหรายจะเกิดขึ้นในบอบม จึงควรควบคุมการขยายตัวที่มาก
เกินไปของสาหรายเหลานี้ดว ยวิธีการบางอยางเพื่อหลีกเลี่ยงการเกินระดับมาตรฐานน้ําเสียและลดความ
เสี่ยงทางดานสุขภาพ
โดยปกติ มักจะสรางจานกรองหินเพื่อเปนวิธีควบคุมจํานวนสาหรายในน้ําเสีย วิธที ี่เปนไป
ไดอีกวิธีหนึ่งที่จะควบคุมสาหรายคือ ทําใหเกิดรมเงาบางสวนดวยการใชแผนวัสดุลอยน้ําบังแสงแดดที่
สะทอนลงไปในบอ เมื่อแรกเริ่ม วิธีใหมนี้ไดรับการพัฒนาเพื่อควบคุมการขยายตัวของสาหรายในอาง
เก็บน้ําลึกสําหรับผลิตน้ําประปาในประเทศญี่ปุน ขณะนี้ วิธีนี้อยูใ นขัน้ ทดลองในการศึกษาเพื่อนํามาใช
กับระบบบอผึ่งในประเทศไทย
จากประสบการณการทดลองในประเทศญีป่ ุน การใชแผนวัสดุลอยน้ําบังแสงแดดบริเวณ
ผิวหนาน้าํ เพียง 30% นั้นก็เพียงพอที่จะลดจํานวนสิ่งมีชีวิตตอหนวยพื้นที่ของสาหรายสีน้ําเงิน-เขียวให
เขาสูสถานการณที่ไมเปนอันตรายแลว การใชแผนวัสดุลอยน้ําเพื่อใหรมเงากับผิวหนาทะเลสาบตาง ๆ
เพียง 30% จะชวยใหสามารถควบคุมจํานวนสิ่งมีชีวิตตอหนวยพื้นที่ของสาหรายได เราสามารถทําแผน
บังแสงในราคาตนทุนต่ําไดดวยวัสดุที่มีอยู เชน ไมไผ เศษไมที่ทิ้งแลว แผนโฟม และอื่นๆ
- 26 -
ภาพของการนําแผนบังแสงมาใชอยูในภาพประกอบตอไปนี้
บอแฟคคัลเททีฟ บอแฟคคัลเททีฟ
บอบม
หมายเลข 2 หมายเลข 1
แผนวัสดุบังแสงลอยน้ํา
ภาพที่ 8.1 แผนวัสดุบังแสงลอยน้ําสําหรับควบคุมการขยายตัวของสาหราย
9. ผลของน้ําทิ้งหลังการบําบัด
กลาวกันวาจํานวนผลผลิตขาวทั้งหมดในนาขาวที่ใชแหลงน้ําจากคลองที่รับน้ําทิ้งหลังการ
บําบัดแลวจากระบบบอผึ่งที่เทศบาลเมืองกําแพงเพชรมีจาํ นวนลดลง อีกทั้งยังมีรายงานดวยวาสวนใบ
สามารถเจริญเติบโตไดอยางอุดมสมบูรณ แตในสวนเมล็ดขาวกลับมีผลผลิตต่ํา
เปนที่ทราบกันทั่วไปวา ถานาขาวไดรบั ไนโตรเจนมากเกินไป เราจะสามารถสังเกตเห็น
อาการขางตนได มาตรฐานคุณภาพน้ําสําหรับน้ําในการเกษตรในประเทศญี่ปุนแสดงไวในตารางที่ 9.1
และคุณภาพน้าํ ตัวอยางจากระบบบําบัดขั้นที่ 2 ไดแสดงไวในตารางที่ 9.2
น้ําเสียที่ไดรับการบําบัดขั้นที่ 2 สามารถนํามาใชเปนแหลงน้ําในนาขาวได ตารางที่ 9.3
แสดงตัวอยางบางสวนของสถานการณการนําน้ํากลับมาใชในนาขาว น้ําเสียทีไ่ ดรับการบําบัดแลวมี
ความเขมขนของไนโตรเจนสูงกวาน้ําในแมน้ําปกติ น้ําที่มีไนโตรเจนสูงจะกอใหเกิดผลเสียบางอยางกับ
การปลูกขาว สถาบันวิจยั การปฏิบัติงานสาธารณะในประเทศญี่ปุนไดตรวจสอบความเขมขนของ
ไนโตรเจนที่สามารถรับไดในน้ําเสียที่ไดรบั การบําบัดแลวเพื่อการใชในการชลประทาน ในเวลานั้น ผล
การตรวจสอบมีดังนี้
- เมื่อความเขมขนของไนโตรเจนในน้ําเสียนอยกวา 20 มล./ลิตร และไนโตรเจนเปน
ประเภทไนเตรต ผลเสียที่เกิดกับการเพาะปลูกขาวจากการมีสารอาหารมากเกินไป
สามารถแกไขไดโดยการควบคุมการใชปุย
- ไนโตรเจนประเภทไนเตรตทําใหเกิดปญหาของสารอาหารสวนเกินนอยกวา
ไนโตรเจนประเภทแอมโมเนียมในน้ําเสีย
- เมื่อมีไนโตรเจนประเภทแอมโมเนียมประกอบอยูในน้ําเสียที่นํามาใชประโยชนอกี
การปองกันการเจริญเติบโตมากเกินไปของตนขาวดวยการควบคุมปุยเทานั้นเปนไปได
- 27 -
ยาก เนื่องจากปุยไนโตรเจนยังจําเปนตอการเติบโตตามปกติของตนขาว การลดปุย
ไนโตรเจนลงมากจะทําใหผลผลิตขาวลดลงมากดวย
- 28 -
ตารางที่ 9.3 ตัวอยางสถานการณการนําน้ําทิ้งหลังการบําบัดกลับมาใชในนาขาว
อัตราการนํา
ระบบบําบัดน้ํา คุณภาพสัดสวน น้ําเสียที่ไดรับการ ระยะเวลาการ
สถานที่ กลับมาใช ผูใช ปที่เริ่ม
เสีย น้ําเสีย บําบัดแลว ใช
(ลบ./วัน)
อาชิคากะ อาชิคากะ ไดอิจิ 10,000 สหกรณน้ํา 2:8 (น้ํา BOD 2.7 มล./ลิตร 20 มิถุนายน - 1978
ชลประทานชิ ชลประทานที่มี T-N 10.6 20 กันยายน
จิคาโซะ อยู: น้ําเสีย) NH4-N 0.1
NO3-N 9.8
คุมาโมโตะ เรนไดจิ 25,000 สหกรณน้ํา 5:5 BOD 6.4 มล./ลิตร กลางเดือน มิ.ย. 1982
ชลประทาน (น้ําในแมน้ํา: น้ํา T-N 7.1 - ตนเดือน ต.ค.
เสีย) NH4-N 1.0
NO3-N 3.4
10. ผลจากความเขมขนต่ําของน้ําเสียเขาระบบที่มีตอระบบบอผึ่ง
ระบบบอผึ่งในเทศบาลเมืองกําแพงเพชรประกอบดวยบอที่เรียงตอกัน 3 บอ บอแรกคือบอ
แอนแอโรบิก บอที่สองคือบอแฟคคัลเททีฟ และบอที่สามคือบอบม
ในบอแอนแอโรบิก จากการสุมตัวอยางในวันที่ 22 สิงหาคม 2548 การวิเคราะหดว ยกลอง
จุลทรรศนแสดงความหลากหลายของสาหรายขนาดเล็กหลายประเภท คอนขางสูง (เชน Euglena,
Chlorella, Scenedesmus, diatoms เปนตน) แสดงวาบอแรกไมมีสภาพเปนบอแอนแอโรบิก เนื่องจาก
ปริมาณสารอินทรียนอ ยเกินไป
สาหรายในสามบอนี้มีความเขมขนต่ํามากในวันที่ 21 และ 22 สิงหาคม แตในบางพื้นที่
บริเวณใกลๆ มุมบอแตละบอกลับมีความเขมขนของสาหรายที่คอนขางสูง แสดงวาบอเหลานี้มีพื้นที่
เปนจุดอับ (Dead Zone)
เราสามารถสังเกตเห็นวาในรางระบายน้ําทิ้งหลังการบําบัดมีความเขมขนของสาหรายสูง
ทั้งนี้เปนเพราะวามีระยะเวลากักเก็บในรางระบายน้ํานาน รางระบายน้ําไดรับการออกแบบเพื่อรองรับ
น้ําทิ้งหลังการบําบัดจากชองทาง A และชองทาง B แตในสภาพการดําเนินงานปจจุบัน มีการใชชองทาง
A เทานั้น น้ําเสียจากชองทาง A ถูกระบายออกสูรางระบายน้ํา และน้ําที่ถูกระบายออกไมเพียงแตไหลลง
ไปตามกระแสน้ํา แตน้ําบางสวนยังไหลยอนกลับอีกดวย
ดวยเหตุนี้จึงเปนสาเหตุใหในรางระบายน้ําน้ําทิ้งหลังการบําบัดที่ไดรับการบําบัดแลวมี
ระยะเวลาการกักเก็บของน้ํายาวนานจนเกิดการแพรพันธุของสาหรายในรางระบายน้ําน้ําทิ้งหลังการ
บําบัด (ภาพที่ 10.1)
- 29 -
ภาพที่ 10.1 การไหลยอนกลับในรางระบายน้ําเสีย
- 30 -
ภาพที่ 11.1 SV30 ที่ปทุมธานี
12. ปญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟาในระบบบําบัดน้ําเสีย
ระบบบําบัดน้าํ เสียทุกระบบขับเคลื่อนดวยไฟฟา หมายความวาไมมีระบบใดทีจ่ ะทํางานได
หากปราศจากระบบจายไฟฟาที่คงที่ แมแตระบบบอผึ่งที่ทํางานโดยใชพลังงานแสงอาทิตยจาก
ธรรมชาติเปนระบบบําบัด แตไฟฟาก็ยังเปนสิ่งจําเปนในการสงตอน้ําเสียไปยังระบบตางๆ เวนแตจะไม
มีระบบสถานีสูบน้ํา การที่ไฟฟาดับโดยไมคาดคิดจะทําใหเกิดปญหาน้ําเสียทีไ่ มผานการบําบัดลงสู
- 31 -
แมน้ําหรือบางครั้งสูถนนใกลเคียงมากเกินไป
ปญหาที่เกี่ยวกับระบบไฟฟาที่เกิดขึ้นบอยคือ การลัดวงจรของแผงไฟฟา สาเหตุหลักของ
ปญหาเหลานีส้ ามารถแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก จากการที่มีหนู จิง้ จก เขาไปในระบบควบคุมไฟฟา
หรือกัดแทะสายไฟบุกรุกของสัตวเล็ก เชน ตุกแกและหนู และจากการขาดระบบการปองกันแบบสาย
ดิน
อันดับแรก การเขาไปในแผงควบคุมไฟฟาของสัตวเล็กตาง ๆ เกิดจากการปดผนึกรอบๆ
ชองสายไฟไมสนิทหรือมีการเปดฝาตูไว จากการสังเกตแผงไฟฟาที่มีอยู ชองสายไฟของแผงไฟฟาสวน
ใหญยังทําปูนปดรอยรั่วในการปดผนึกไมเสร็จเรียบรอย การเปดออกเชนนีจ้ ะทําใหมีการบุกรุกของ
ตุกแกและสัตวลักษณะเดียวกันอยางตอเนือ่ ง และทายที่สุดจะทําใหเกิดไฟฟาลัดวงจร ภาพที่ 12.1
แสดงตัวอยางเกี่ยวกับปญหานี้
อีกตัวอยางหนึ่งของการปลอยใหสายไฟเขาเปดโลงซึ่งไมเหมาะสมเมื่อเทียบกับวิธีการที่
เหมาะสมที่แสดงในภาพที่ 12.2 ความแตกตางทั้งสองแบบไมไดจํากัดอยูเฉพาะเพียงการทิ้งใหเปดโลง
เทานั้น แตยังรวมถึงความเรียบรอยของการพันสายไฟภายในของแผงไฟฟาและความสะอาดภายในดวย
- 32 -
ภาพที่ 12.2 ความแตกตางของการพันรอบชองสายไฟเขา
- 33 -
ภาพที่ 12.3 สายไฟเสียหายจากเหตุหนูกดั
- 34 -
ภาพที่ 12.5 ระบบปองกันการใชกระแสไฟฟามากเกินไป
อีกประการหนึ่งที่เราสังเกตเห็นไดบอยๆ ซึ่งอาจเกิดความเสียหายรุนแรงตอการจายไฟฟาก็
คือ การติดตั้งกลองเก็บสายเคเบิลไวในบริเวณที่สามารถจมน้ําไดงาย ดังที่จะเห็นไดจากภาพที่ 12.6 ควร
จะเก็บรักษาเครื่องใชไฟฟาใหพนจากสภาพเปยกชืน้ เมือ่ น้ําสามารถเขาถึงหรือทวมเครื่องใชไฟฟา จะ
ทําใหไฟฟาลัดวงจรไดงาย ซึ่งเปนสาเหตุทําใหเครื่องใชไฟฟาเกิดความเสียหายรุนแรง สําหรับการ
หลีกเลี่ยงความเสียหายลักษณะนี้ คือควรจะติดตั้งกลองเคเบิลและสาธารณูปโภคที่มีลักษณะเดียวกันนี้
ใหอยางนอยตองสูงกวาระดับพื้นดินและสูงพอที่จะพนระดับน้ําทวมสูงสุด
- 35 -
ประเด็นอืน่ ๆ ที่เราพบเห็นไดบอยคือ คา Power factor ต่ําเกินไป (ภาพที่ 12.7) เมื่อคา Power
factor ต่ํากวา 85% ประจุไฟฟาจะทําใหระบบเสียหาย ปญหาคา Power factor ต่ํานี้อาจแกไขไดดว ยการ
ติตตั้งตัวเก็บประจุไฟฟา (capacitor)
13. ปญหาเกี่ยวกับเครื่องจักรกลในระบบบําบัดน้ําเสีย
ระบบรวบรวมน้ําเสียไมไดเนนเฉพาะน้ําเสียจากชุมชนเทานั้น แตรวมไปถึงน้ําฝนดวย เมื่อ
ระบบรับน้ําฝนซึ่งชะลางวัสดุตาง ๆ จํานวนมากจากพื้นถนนลงมาสูระบบ โดยปกติ ระบบจะยอมให
ขยะและทรายตาง ๆ ไหลลงสูทอนําสงไปยังสถานีสูบน้ํา และทายสุดไปคือถึงระบบบําบัดน้ําเสีย หาก
เศษขยะไหลลงไปในเครื่องสูบน้ํา เศษขยะเหลานี้อาจทําใหเครื่องสูบน้ําเกิดขัดของได
การปองกันไมใหมีเศษวัสดุนานาประเภทเขาไปเครื่องสูบน้ํานับเปนสิ่งที่จําเปนจะตองทํา
เพื่อปองกันและเพื่อใหเครื่องสูบน้ําทํางานอยางราบรื่น จึงตองมีเครื่องดักขยะมาใชกอนที่น้ําเสียจะไหล
ลงสูเครื่องสูบน้ํา วัสดุกั้นเศษขยะมีลักษณะแตกตางกันไปสองแบบ คือ เครื่องดักขยะหยาบ และเครื่อง
ดักขยะแบบละเอียด เครื่องดักขยะแบบหยาบจะใชระยะหางซี่ตะแกรงในชวงระหวาง 50-150 มม. และ
เครื่องดักขยะแบบละเอียดจะใชระยะหางซี่ตะแกรงในชวงระหวาง 15-50 มม. จะใชเครื่องดักขยะแบบ
ละเอียด สําหรับระบบทอรวม นอกจากนี้ จากรายงาน พบวาเครื่องดักขยะที่ทําดวยเรซินชํารุดเสียหาย
อยูบอยครั้ง เครื่องดักขยะที่ทําดวยเรซินมีความแข็งแรงทนทานต่ํา
ภาพที่ 13.1 แสดงภาพเครื่องดักขยะอัตโนมัติเสียซ้ําหลังจากไดรับการซอมบํารุงอยางดี คาด
กวาสาเหตุของปญหานี้จะเกิดจากทรายที่กองทับถมอยูที่สวนปลายคราดของเครื่องดักขยะอัตโนมัติดังที่
แสดงในภาพที่ 13.2 ทรายที่กองอยูขดั ขวางการเคลื่อนไหวของคราด ซึ่งอาจเปนสาเหตุใหเครื่องเสีย
บอยๆ
- 36 -
ภาพที่ 13.1 เครื่องดักขยะอัตโนมัติที่เสียซ้ํา
สาเหตุของความเสียหายไม
Cause of Destroyed is
ไดมNot
าจากเศษขยะเท านั้น แตเกิด
only Rubbish
จากกBut
อนกรวดที ่ดานลางดวย
also Grit at bottom.
คราดอาจจะกระทบกั บกอนกรวด
Rake maybe hit grit.
จําเป นตองมีการตรวจสอบ
Investigation is necessary. ชนHit
กอนกรวด Grit
- 37 -
ขSuggestion
อแนะนํา
ทําคันกั้นน้ําไวกันเศษกรวด
Make the Dam to prevent settled grit.
คันDam
กั้นน้ํา
เศษกรวด
Grit
เมื่อพบวาสมรรถนะของการสูบน้ําของเครื่องสูบน้ําที่มีกําลังเทากันมีความแตกตางกัน เราก็
ยอมจะของใจวาอะไรเปนสาเหตุของปรากฏการณนี้ เราพบกับกรณีแปลกประหลาดนี้ที่ระบบบําบัดน้ํา
เสียเทศบาลเมืองกําแพงเพชร ในสถานีสูบน้ําเสีย มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ําสามเครื่องเพื่อสูบน้ําเขามาใน
ระบบบําบัดน้าํ เสีย เมื่อเราตรวจสอบสมรรถนะของเครื่องสูบน้ําแตละเครื่องโดยใหมีการขับเคลื่อนแยก
จากกันเปนเอกเทศ เครื่องวัดอัตราการไหลของน้ําแสดงอัตราการสูบน้ําที่แตกตางกัน ดังตอไปนี้ เครื่อง
ที่ 1 100 m3/h เครื่องที่ 2 150m3/h และเครื่องที่ 3 ผันแปรในชวงระหวาง 200 ถึง 400 m3/h เครื่องสูบ
น้ําที่มีลักษณะเฉพาะเหมือนกันจะตองมีสมรรถนะเหมือนกัน ดังนั้น เครื่องวัดอัตราการไหลที่
ตรวจสอบอัตราการไหลของการสูบน้ําที่คลอยตามกันชี้ใหเห็นถึงการรั่วซึมของน้ําทีส่ ูบไดไปสูทิศทาง
ที่ไมไดคาดหมายไว การตรวจสอบระบบตาง ๆ อยางละเอียดถี่ถวนทําใหทราบวาการทํางานของวาลว
เปด-ปดและวาลวกันการยอนกลับเกิดความบกพรองขึ้น เมื่อวาลวกันการยอนกลับไมไดหยุดยั้งการ
ไหลยอนกลับ น้ําที่สูบมาก็จะไหลกลับไปที่บอสูบน้ํา ดังที่แสดงในภาพที่ 13.4 หากใชวาลวเปด-ปดที่
ทํางานไดไมเต็มที่ ก็อาจเกิดการทํางานในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นได แตการทดลองในสถานที่จริงโดยใช
วาลวเปด-ปดก็แสดงผลลัพธแบบเดียวกัน ขอเท็จจริงทั้งสองนี้แสดงใหเห็นวาวาลวเปด-ปดและวาลวกัน
การยอนกลับไมไดทํางานอยางมีประสิทธิภาพ
- 38 -
ภาพที่ 13.4 กลไกการไหลกลับ
ไดมีการซอมปรับปรุงวาลวกันยอนจากการตรวจสอบพบปญหาดังกลาว ในการซอม
ปรับปรุงนี้ เราพบวาฝาครอบวาลวไดรับการติดตัง้ ผิดตําแหนงโดยอยูใ นระดับที่ต่ํากวาที่ควรดวยการ
ขยายรูรับของเพลาฝาครอบใหมีขนาดใหญขึ้น ซึ่งทําใหวาลวยอนกลับปดน้ําไดไมสนิท การปลอยใหอยู
ในสภาพเชนนี้เรื่อยไปจะทําใหสูญเสียพลังงานในการสูบน้ําเขา
- 39 -
ภาพที่ 13.6 วาลวเปด-ปดไมสามารถหยุดยัง้ น้ําไมใหไหลกลับได แมสภาพวาลวเปด-ปดจะอยูในระดับ
การปดเต็มที่ ก็ยังมีการรัว่ ซึมของน้ําที่สูบไปยังบอสูบ
- 40 -
14. การควบคุมความปลอดภัย
คนงานในระบบบําบัดน้ําเสียประสบกับสถานการณที่เสีย่ งตออันตรายทีเ่ ปนไปไดสูงหลาย
ประการ ในระบบบําบัดน้าํ เสียมีสถานที่ที่ไมปลอดภัยสูงอยูหลายจุด ไดแก เขตกอสรางของระบบ
ตางๆ สถานที่ยกพืน้ สูง ถังเติมอากาศ ภายในทอน้ําเสีย บอสูบ เครื่องรีดตะกอน หองทดลองเคมี ฯลฯ
คนงานและผูจดั การจําเปนตองรูและศึกษาเกี่ยวกับสภาพแวดลอมของตนเปนอยางดี และตองหลีกเลี่ยง
อุบัติเหตุที่เปนอันตรายตอสุขภาพและชีวติ การรักษาความปลอดภัยของคนงานเปนหนาที่อันดับแรก
ของผูจัดการระบบบําบัดน้ําเสีย
ในสถานที่ทํางานหลายแหง เราสังเกตเห็นคนงานทํางานในสภาพที่ไมปลอดภัย คนงาน
หลายคนไมสวมรองเทานิรภัยหรือหมวกชนิดแข็งเพื่อปองกันตัวเองจากอันตรายที่ไมคาดคิด (ภาพที่
14.1)
- 41 -
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมไดออกเกณฑมาตรฐานการจัดการความปลอดภัย สุขอนามัย
และสภาพแวดลอมการทํางานในที่อับขึ้นใน พ.ศ. 2541 เพื่อระบุสภาพการทํางานเพื่อเปนรายละเอียด
สําหรับขอ 6 และ ขอ 9 ของกฎหมายแรงงาน พ.ศ. 2541
การควบคุมความปลอดภัยเปนการกระทําอันจําเปนที่ผูจดั การหรือหัวหนาคนงานควรจะ
ดําเนินการเพื่อความปลอดภัยของคนงาน
- 42 -
ในแงนี้ ประเด็นสําคัญคือการหาจุดสมดุลระหวางระบบบําบัดแบบรวมศูนย ซึ่งรวมถึง
ระบบกลุมยอย กับระบบบําบัดน้ําเสียเฉพาะที่ การหาจุดสมดุลจากการเปรียบเทียบตนทุนในการ
กอสรางและคาเดินระบบและบํารุงรักษา รายละเอียดความคิดในการเปรียบเทียบตนทุนนีแ้ สดงไวใน
ภาพที่ 15.2 ควรแสดงผลการเปรียบเทียบตนทุนในมาตราสวนแผนที่ที่เหมาะสมโดยมีการแสดงสี
แบงแยกประเภททางเลือกตางๆ ภาพที่ 15.3 แสดงแผนทีห่ นึ่งที่อธิบายเกี่ยวกับผลของการอภิปราย
กลุมยอยขนาดใหญ หนวยที่แยกตัวเปน
กลุมยอยขนาดใหญ หนวยที่แยกตัวเปน
เอกเทศ หรือบานเดี่ยว
เอกเทศ หรือบานเดี่ยว
- 43 -
ภาพที่ 15.3 ตัวอยางแผนที่นา้ํ เสียในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุน
เพื่อการเปรียบเทียบตนทุน การเตรียมการบางอยางเปนสิ่งจําเปนในเรื่องของภาระตนทุน
เมื่อดูจากภาระตนทุน
เราจะสามารถทําการประเมินดังกลาวไดโดยงาย และเปรียบเทียบทางเลือกหลาย ๆ ทาง
ปจจัยตาง ๆ ดานลางนี้คือฟงกชันตนทุนและขอมูลที่จําเปนเบื้องตนที่สดุ สําหรับเปรียบเทียบตนทุน
1) ภาระตนทุนในการสรางระบบบําบัดน้ําเสีย
2) คากอสรางระบบขนาดเล็ก
3) คากอสรางระบบสําหรับบานเดี่ยว
- 44 -
4) คากอสรางสถานีสูบน้ํา
5) ภาระตนทุนในการสรางทอรวบรวมน้ําเสีย
6) การปฏิบัติการและบํารุงรักษาระบบบําบัดน้ําเสีย
7) การเดินระบบและการบํารุงรักษาระบบสูบน้ํา
8) ขอมูลดานอายุการใชงานของระบบตางๆ
9) ขอมูลพื้นฐานอื่น ๆ สําหรับใชวางแผนระบบบําบัดน้ําเสีย เชน จํานวนครัวเรือนโดย
เฉลี่ย ปริมาณน้ําเสียในครัวเรือนโดยเฉลี่ย
ฟงกชั่นตนทุน ควรไดรับการจัดเตรียมครั้งแรกบนพืน้ ฐานของภูมหิ ลังของแตละประเทศ
โดยทั่วไปมีวิธี การสรางฟงกชั่นตนทุนมีอยู 2 วิธี วิธีที่หนึ่งคือวิธีอปุ นัย อีกวิธีหนึ่งคือวิธีนิรนัย วิธี
อุปนัยหมายถึงการรวบรวมขอมูลที่มีอยู เพื่อนํามาคํานวณตนทุนและแบงระดับขอมูลเพื่อหาภาระที่
แมนยําที่สุดที่เปนตัวแทนขอมูลสวนใหญ วิธีนิรนัยหมายถึงการสรางภาระตนทุนดวยการใชการ
คํานวณเชิงสมมุติโดยแบงเปนหลาย ๆ ระดับ ตัวอยางประเภทฟงกชันที่ใชในประเทศญี่ปุน มีดังนี้
1) ระบบบําบัดน้าํ เสีย
CT= 103.5 × Qd0.89
CT: : คากอสรางระบบบําบัดน้ําเสีย หนวยเปน 10,000 เยน
Qd : ปริมาณการไหลสูงสุดในแตละวัน หนวยเปน ลบ./วัน
2) ทอรวบรวมน้าํ เสีย
Cp= 6.3 × m
Cp : คากอสรางทอรวบรวมน้ําเสีย หนวยเปน 10,000 เยน
3) ระบบสําหรับบานเดี่ยว
Cs= 96 × จํานวนบาน
Cs : คากอสรางระบบสําหรับบานเดีย่ ว หนวยเปน 10,000 เยน
16. สรุป
y ประเทศไทยมีระบบบําบัดน้าํ เสียที่ดําเนินการอยู 3 ระบบหลัก ๆ ไดแก ระบบบอผึ่ง (WSP) ระบบ
บอเติมอากาศ (AL) และกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ (AS) ซึ่งรวมถึงระบบคลองวนเวียน (OD)
y เกือบ 50% ของระบบที่มีอยู เปนระบบบอผึ่ง และประมาณ 20% เปนระบบบอเติมอากาศ จากสอง
ระบบนี้ ประมาณ 70% ของระบบที่มีอยูจึงเปนการดําเนินการโดยระบบบอ
y ตนทุนการกอสรางระบบบําบัดน้ําเสียตอหนวยอยูที่ประมาณ 23,000 บาท/ ลบ.
y ทอระบายน้ําในประเทศไทยมีความลาดเอียงนอยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เชน ประเทศ
ญี่ปุน ทอระบายน้ําทีส่ วนใหญที่มีอยูเชื่อมตอกันในลักษณะเปนเครือขายมากกวาจะเปนแบบ
- 45 -
กิ่งกานสาขาเหมือนในประเทศอื่นๆ เหตุนี้จึงทําใหน้ําเสียที่อยูในชวงการลําเลียงไปยังระบบบําบัด
มีลักษณะเฉพาะอยางมาก
y ปริมาณการใชน้ําเฉลี่ยอยูที่ 160 ลิตร/คน/วัน ยกเวนในเขตกรุงเทพมหานคร แตมีขอมูลบางอยางที่
แสดงวาน้ําที่ถูกระบายออกไปในระบบบําบัดน้ําเสียโดยตรงเปนเพียงครึ่งเดียวของปริมาณการใช
น้ําทั้งหมด หากสามารถนํางานวิจยั นี้มาเปนตัวแทนสภาพโดยทัว่ ไป การวางแผนระบบบําบัดน้ําเสีย
ที่ใชอยูก็ออกแบบมาเกินความจําเปนอยางมหาศาลแมจะมองจากแงนี้เพียงแงเดียวก็ตาม
y คุณภาพน้ําเสียที่ไหลเขาระบบ เชน คา BOD หรือ COD มีคาต่ํา ประมาณ 30-40 มล./ลิตร ในสวน
ของ BOD ทั้งนี้มีสาเหตุหลัก 3 ประการคือ น้ําเสียที่ระบายออกลงไปในระบบเปนน้ําใชจากอาคาร
บานเรือนที่ไมรวมน้ําจากสวม อุณหภูมิเฉลี่ยอยูที่ 30 องศาเซลเซียส และมีระยะเวลากักพักยาวนาน
มากในทอระบายน้ําเสีย ควรจะคํานึงถึงขอเท็จจริงนีใ้ นการออกแบบระบบบําบัดน้ําเสียคราวหนา
หากหลีกเลี่ยงการออกแบบระบบที่เกินจําเปนไดกจ็ ะไมกอใหเกิดปญหาในการปฏิบัติงาน
y มีรายงานถึงการเกิดปญหาสาหรายของน้ําในระบบบอผึง่ การเกิดสาหรายสีน้ําเงินอมเขียวที่อาจ
เปนพิษตอมนุษย ในการควบคุมสาหรายสีน้ําเงินอมเขียวเหลานี้ ควรนําวิธีการวางแผนบังแสงลอย
น้ําบางสวนทีพ่ ัฒนาในประเทศญี่ปุนเร็ว ๆ นี้ซึ่งเปนวิธีทมี่ ีตนทุนต่ํามาใช
y มีรายงานวาทุง นาบางแหงทีใ่ ชน้ําเสียทีไ่ ดรับการบําบัดแลวมาเปนน้ําชลประทาน ผลผลิตขาวมี
จํานวนนอยเอง คาดวามีสาเหตุมาจากปริมาณความเขมขนไนโตรเจนสูงในน้ําเสียที่ไดรับการ
บําบัดแลว เพือ่ ปองกันเหตุการณเชนนี้ ไนโตรเจนทั้งหมดตองไดรับการควบคุมโดยการลดปริมาณ
ปุยไนโตรเจนในทุงนานั้น
y ขอมูลดัชนีปริมาตรตะกอน (SVI) แสดงคาต่ํามากในกระบวนการแอกทิเวเต็ดตะกอนหลายแหง
ในกรณีเหลานีส้ ังเกตเห็นวามีอนุภาคเล็ก ๆ ที่ตานทานการตกตะกอนและนําไปสูน้ําที่ใสไมเพียงพอ
y มีการพบการลัดวงจรไฟฟาในแผงไฟฟาอยูบ อยครั้ง เนื่องมาจากการปลอยใหบริเวณรอบ ๆ ชอง
สายไฟเขาเปดโลง ซึ่งควรปดใหมดิ ชิด
y ระบบสายดินปองกันความผิดพลาดขนาดใหญเปนเรื่องที่ขาดเสียมิไดในระบบไฟฟาตางๆ แตกรณี
ที่พบสวนใหญคือ ไมมีการติดตั้งระบบสายดินปองกัน ระบบนี้เปนสิ่งสําคัญในการปองกันความ
เสียหายรุนแรง
y มีการวางกลองเก็บสายเคเบิลในระดับความสูงที่น้ําทวมถึง เครื่องใชไฟฟาควรเก็บใหหางจากสภาพ
ที่เปยกชืน้
y มีรายงานวาเครื่องดักขยะอัตโนมัติเสียอยูบอ ยครั้ง ปญหานี้อาจปองกันไดโดยการทําคันกั้นน้ําเล็ก ๆ
ไวเพื่อปองกันทรายไหลตามน้ําเขาไปใตเครื่อง
y งานบํารุงรักษาวาลวที่ไมรัดกุมเพียงพอทําใหมีการไหลยอนกลับจากวาลวกันยอน เพียงการ
ปรับปรุงสภาพเหลานี้กจ็ ะทําใหประหยัดพลังงานไดอยางมาก
y การจัดการความปลอดภัยเปนเรื่องสําคัญสําหรับผูจัดการ ควรจะแจกจายเครื่องมือและเครื่องแตง
- 46 -
กายในการปองกันอันตรายทางรางกายครบชุดใหแกคนงานแตละคน และควรปฏิบัติตามขอบังคับ
การทํางานในที่อับ
y ควรจะมีการพิจารณาเรื่องตนทุนของระบบบําบัดแบบรวมศูนยโดยเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น เชน
ระบบกลุมยอย และระบบบําบัดเฉพาะที่
- 47 -