Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเ
บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเ
วัฏจักรชีวิตของพืช ถาวรเชิงซ้อน
3. เนื้อเยื่อลาเลียง
ระยะแกมีโทไฟต์ (n)
ระยะสปอโรไฟต์ (2n) รายวิชา ชีววิทยาเพิ่มเติม 3 ราก โฟลเอ็ม (อาหาร) ไซเล็ม (น้า)
ซีฟทิวบ์เมมเบอร์
ว30243 (ม.5 เทอม 2) ลาต้น คอมพาเนียน
เทรคีด
เวสเซล
ใบ โฟลเอ็มพาเรงไคมา ไซเล็มพาเรงไคมา
โฟลเอ็มไฟเบอร์ ไซเล็มไฟเบอร์
ะ . .
Egg
กลีบดอก (petal) " o
กลีบเลี้ยง (sepal)
โอวุล (ovule) เม ด
ฐานรองดอก (receptacle) ~ าน ดอก ( Peduncl e)
ข้
ก้
ล็
2. การจาแนกประเภทของดอก
2.1 ใช้ส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกได้ 2 ชนิด
2.1.1 ดอกครบส่วน (complete flower) หมายถึง ดอกที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 อย่างคือ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้
และเกสรตัวเมีย เช่น ชบา กุหลาบ บัวหลวง อัญชัญ ผักบุ้ง เป็นต้น
2.1.2 ดอกไม่ครบส่วน (incomplete flower) หมายถึง ดอกที่มีส่วนประกอบไม่ครบ เช่น ตาลึง มะละกอ ฟักทอง เฟื่องฟ้า
1
ไ อ
5
e-ใ ก บ
วง
stigm "
style
และ
•
2
Fila ั
/ ตาลึง
Anther
(
pdlengrain)
ละออง
เร
ดอกชบา
Male Female
ตื๋
ณู
ลี
ข่
ต้
ยู่
2. การจาแนกประเภทของดอก (ต่อ)
2.2 ใช้อวัยวะสืบพันธุ์ของพืชเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกได้ 2 ชนิด
2.2.1 ดอกสมบูรณ์เพศ (perfect flower) หมายถึง ดอกที่มีทั้งอวัยวะเพศผู้และเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน เช่น กุหลาบ ชบา
2.2.2 ดอกไม่สมบูรณ์เพศ (imperfect flower) หมายถึง ดอกที่มีอวัยวะเพศผู้และเพศเมียอยู่คนละดอก อาจอยู่ในต้นเดียวกัน
หรือแยกต้นก็ได้ เช่น หน้าวัว มะพร้าว มะละกอ ตาล ฟักทอง บวบ ข้าวโพด
มะละกอ ฟักทอง
2. การจาแนกประเภทของดอก (ต่อ)
2.3 ใช้จานวนดอกที่เกิดบนก้านดอกเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกได้ 2 ชนิด
2.3.1 ดอกเดี่ยว (solitary flower) หมายถึง ดอกที่เกิดเดี่ยวๆ บนก้านดอก ตามซอกใบ กิ่ง หรือลาต้น เช่น ดอกกุหลาบ จาปา
2.3.2 ดอกช่อ (inflorescence flower) หมายถึง ดอกที่เกิดเป็นกลุ่มอยู่บนก้านดอกใหญ่เดียวกัน เช่น บานไม่รู้โรย ทานตะวัน
tt อย
ดอกย่อย เป็นหมัน
จะ ดอก
ดอกย่อย สมบูรณ์เพศ
-
- ""
_
ทานตะวัน
ย่
มี
3. ประเภทของพืช
3.1 พืชไร้ดอก (Gymnosperm) คือ พืชที่ไม่มีดอกห่อหุ้มรังไข่แต่มีเมล็ด เรียกว่า เมล็ดเปลือย (naked seed) เป็นพืชที่มีท่อ
ลาเลียง ภายในท่อลาเลียงจะไม่มีเวสเซล (vessel) ในไซเลม ไม่มีเซลล์คอมพาเนียล (companion cell) ในโฟลเอม มีการสร้างสปอร์ที่ใบ
เรียกว่า สตรอบิลสั (strobilus) เป็นชั้นๆ หรือเรียกว่า โคน (cone) ตัวอย่างพืช เช่น สนสองใบ สนสามใบ ปรง แป๊ะก๊วย
นไ 1 มา)
( มา )
sporophyte สปอโรไฟต์ ออกดอก
( 2 n) เซล "
Gametophyteln ) im
น
.
เอ็มบริโอ
( 2h) สปอร์มาเทอร์เซลล์ ,
น อน 2ท > ท
แบ่งเซลล์แบบไมโทซิส แบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จาก
-
Megasporeen
)
E
ไซโกต ( 2ท ) สปอร์ G) ni
(ก)
๓
แบ่งเซลล์แบบไมโทซิส icraspore
ทาง
จาก ก nt
การปฏิสนธิ แกมีโตไฟต์ ( ง เ มบ โอ )
อ
£ Gmbryosac
a
{ละ
og, ts
ญ
G)
เซลล์สืบพันธุ์ .
pollengr ( ละออง เร 1
โทไฟ /
egg ⇐ &
G) Generatire/ * อ ระยะ แก
sperm ⇐ E
ข้
พื
ชั
ต้
ที่
ชั
ถุ
คื
ฮ๋
อ่
ต้
ม่
อ๋
ถุ่
ต้
มี
นี่คื
อ็
ห็
ป็
ม่
คึ
ม้
ณู
ญู่
ล์
ริ
ต้
ไร
กด 0 การสร้างเซลล์สบื พันธุเ์ พศผู้ ⑥
ใน
Anther (Microsporogenesis)
แ เป ยน เ น
12ก) เซล จะ
Microspore
มีไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์จานวนมาก
(n) (n)
(microspore mother cell) (2n)
(ทา (
แ ง จาก 4 1 →
Meiosis ( ไมโล )
โดย ลดโครโมโซม
ก)
จาก มา -
> n
(n) (h)
1 กลม)
/
malegametophyte นิวเคลียสค่อนข้างกลม (tube nucleus) ( ) ก
-
ละอองเรณู
(pollen grain หรือ male gametophyte)
(n)
ที่
ซิล์
ซิ
ป็
ป็
ม่
บ่
ณู
ณู
ลี่
ล์
ใน โอ ล
เ ด ภาย
การสร้างเซลล์สบื พันธุเ์ พศเมีย
0
(Megasporogenesis) +
12ก) ( 2n)
รังไข่มีออวุล (ovule)
ภายในออวุลประกอบด้วยเซลล์นิวเซลลัส ( Nucellus )
ovule
"
\
เซลล์ตรงกลางนิวเซลลัส เรียกว่า megaspore mother cell (2n)
Meiosis ( บท)
Nucellus
/ megasporemothercdl
( 2ท
)
\
เมกะสปอร์ (megaspore) (n) 4 เซลล์
3 เมกะสปอร์สลายไปเหลือเพียง 1 แ ง เซล อไป
( เมกะ สปอ )
t nt " n
Embrgosac /
< I
/↳
n n n
2. กลุ่มบริเวณตรงกลางมีนิวเคลียส 2 เซลล์
เรียกว่า โพลาร์นิวคลีไอ (Polar Nuclei)
3. กลุ่มทางด้านไมโครไพล์มีนิวเคลียส 3 เซลล์
ซึ่งมีนิวเคลียสอันตรงกลางจะมีขนาดใหญ่กว่าอัน
อื่นเป็นเซลล์ไข่ (Egg Cell)
อีก 2 เซลล์ที่ขนาบข้างเรียกว่า ซินเนอร์จิด
micropyle (Synergids)
เมกะ สปอ
c)
/ ( Embrgosa
(n)
(n)
ร์
6. การผสมพันธุ์ของพืชดอก ประกอบด้ วย 2 ขั้นตอน
พอน ลาน
Pdlenttcstingia
6.1 การถ่ายละอองเรณู (Pollination) คือ การที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย โดยอาศัยน้า ลม หรือแมลง เกิดได้ 2 แบบ คือ
-
หรือคนละดอกแต่ต้นเดียวกันก็ได้
6.1.2 การถ่ายละอองเรณูต่างดอกหรือข้ามดอกกัน (Cross-pollination) เป็นการถ่ายละอองเรณูของพืชชนิดเดียวกัน ต่างต้นกัน
s r z z zc e ctr fzce CTOZL
และมีคุณสมบัติทางพันธุกรรมต่างกันคือ มียีนไม่เหมือนกัน
ชั
6.2 การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ การที่สเปิร์มนิวเคลียสเข้าไปผสมกับเซลล์ไข่ ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย
ทิวบ์นิวเคลียส สร้าง pollen tube ลงไปในก้านชูยอด
เกสรตัวเมีย
Generative
Tubenucleus เจอเนอเรทีฟนิวเคลียส แบ่งแบบไมโทซิสได้ 2 นิวเคลียส
° ส าง จาก (male gametophyte)
Tlbe ( หลอด ละออง เร ) ทิวบ์นิวเคลียสและสเปิร์มเซลล์ 2 เซลล์ เคลื่อนไป
ตามหลอดละอองเรณู จนเข้าสู่แกมีโตไฟต์เพศเมีย
_
style
จาก
Nuc/
ส าง eus
Generatire ปลายของหลอดจะแตกออก (ทิวบ์นิวเคลียสสลาย)
1ไป หา ส)
( บท) และสเปิร์มเซลล์ (n) ตัวหนึ่งรวมกับเซลล์ไข่
ไซโกต (2n)
(ก,ก)
13ท ) อีกตัวหนึ่งจะเข้าผสมกับโพลานิวคลีไอ (2n)
า
เอนโดสเปิร์มเซลล์ชุดแรก (3n)
/
วุ
ก้
การ
ป สน อน
Double Fertilization
= -24
ซ้
ฏิ
ธิ
การเปลีย่ นแปลงหลังการปฏิสนธิของพืชดอก
โครงสร้างภายในดอกเดิม โครงสร้างหลังการปฏิสนธิ
ไข่ (Egg) + สเปิร์ม (Generative) เอ็มบริโอ (Embryo) หรือ ต้นอ่อน
โพลาร์นิวคลีไอ (Polar nuclei) + สเปิร์ม (Generative) เอนโดสเปิร์ม (Endosperm) หรือ เนื้อในเมล็ด
รังไข่ (Ovary) ผล (Fruit)
ผนังรังไข่ (Ovary wall) เปลือกและเนื้อของผล (Pericarp)
ออวุล (Ovule) เมล็ด (Seed)
เยื่อหุ้มออวุล (Intergument) เปลือกหุ้มเมล็ด (Seed coat)