Professional Documents
Culture Documents
หลักนิยมการปฏิบัติการของหน่วยเหล่าสาย
หลักนิยมการปฏิบัติการของหน่วยเหล่าสาย
สารบัญ
เรื่อง หน้า
๑. คำนำ ก
๒. บทสรุปผู้บริหาร ข
๓. หลักนิยม (Doctrine) ๑
๔ หลักการทำสงคราม (Principles of war) ๒
๕. กองทัพบก ๔
๖. หลักนิยมในการปฏิบัติการของกองทัพบก ๑๑
๗. หลักนิยมของเหล่าทหารราบ ๑๒
๘. หลักนิยมของเหล่าทหารม้า ๒๖
๙. หลักนิยมของเหล่าทหารปืนใหญ่ ๔๗
๑๐. หลักนิยมของเหล่าทหารช่าง ๖๖
๑๑. หลักนิยมของเหล่าทหารสื่อสาร ๗๓
๑๒. หลักนิยมของเหล่าทหารขนส่ง ๗๗
๑๓. หลักนิยมของเหล่าทหารพลาธิการ ๘๒
๑๔. หลักนิยมของเหล่าทหารสรรพาวุธ ๘๖
๑๕. หลักนิยมของเหล่าทหารสารวัตร ๙๐
๑๖. หลักนิยมของเหล่าทหารแพทย์ ๑๐๑
๑๗. หลักนิยมของเหล่าทหารการสัตว์ ๑๐๔
๑๘. หลักนิยมของเหล่าทหารดุริยางค์ ๑๑๐
๑๙. หลักนิยมของเหล่าทหารการข่าว ๑๑๓
๒๐. หลักนิยมการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก ๑๑๘
๒๑. หลักนิยมกิจการพลเรือนของกองทัพบก ๑๒๕
๒๒. หลักนิยมกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ๑๓๖
๒๓. หลักนิยมการรบพิเศษ ๑๔๑
๒๔. หลักนิยมการบินทหารบก ๑๔๙
๒๕. หลักนิยมศูนย์ไซเบอร์ทหารบก ๑๕๒
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก
คำนำ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก เล่มนี้ จัดทำขึ้นตามนโยบาย จก.ยศ.ทบ.โดยได้
รวบรวมข้อมูล ประเภทการจัด ของหน่ว ย/เหล่า และ หลักนิยมทางยุทธวิธี ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานการปฏิบั ติ
ทางยุทธวิธีในปัจจุบัน จากหน่วยและเหล่าสายวิทยาการ ตลอดจนการสืบค้นวิเคราะห์ข้อมูลจาก เอกสาร ตำรา
ที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาหลัก ประกอบด้วย หลักนิยม ทบ.และ หลักนิยมทางทหารที่เกี่ยวข้องที่เป็นองค์ประกอบ
ในระดับรองลงไป แนวทางในการกำหนดหลักนิยมทางทหารของกองทัพบก ได้แก่ การปฏิบัติการของกองทัพบก
หลักนิยมของหน่วยและเหล่าทหาร ได้แก่ หลักนิยมของเหล่าทหารราบ หลักนิยมของเหล่าทหารม้า หลักนิยมของ
เหล่าทหารปืนใหญ่ หลักนิยมของเหล่าทหารช่าง หลักนิยมของเหล่าทหารสื่อสาร หลักนิยมของเหล่าทหารขนส่ง
หลักนิยมของเหล่าทหารพลาธิการ หลักนิยมของเหล่าทหารสรรพาวุธ หลักนิยมของเหล่าทหารสารวัตร หลักนิยม
ของเหล่าทหารแพทย์ หลักนิยมของเหล่าทหารการสัตว์ หลักนิยมของเหล่าทหารดุริยางค์ หลักนิยมของเหล่า
ทหารการข่าว หลักนิยมการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก หลักนิยมกิจการพลเรือนของกองทัพบก หลักนิยม
กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก หลักนิยมการรบพิเศษ หลักนิยมการบินทหารบก หลักนิยมศูนย์ไซเบอร์ทหารบก
ซึ่งจะทำให้รับทราบถึง ประเภทการจัด และ หลักนิยมหรือแนวทางปฏิบัติการอันเป็นหลักพื้นฐานการปฏิบัติ
ทางยุทธวิธีของหน่วยและเหล่า อันจะเป็นประโยชน์ต่อการประสานงานและการปฏิบัติการร่วมกันให้บรรลุ
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ
ขอขอบคุณหน่วยและเหล่าสายวิทยาการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองวิทยาการของเหล่าต่าง ๆ ตลอดจน
เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อมูลเอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบกเล่มนี้ จนสำเร็จ
ด้วยความเรียบร้อยตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา หากผู้ใช้มีขอ้ เสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไข เพิ่มเติมและพัฒนา
ข้อมูลเนื้อหาเอกสารฉบับนี้ กรุณาส่งข้อมูลโดยระบุหมายเลขหน้า หัวข้อ และเนื้อหา พร้อมด้วยเหตุผลประกอบ
ส่งให้กับ ศพย.ยศ.ทบ.(กพล.ฯ) เลขที่ ๔๑ ถนนเทอดดำริ เขตดุสิต กรุงเทพ ๑๐๓๐๐ หรือ doctrinecdsd@gmail.com
เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ศูนย์พัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์
กรมยุทธศึกษาทหารบก
กรกฎาคม ๒๕๖๓
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ข
บทสรุปผู้บริหาร
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก
หลั ก นิ ย ม (Doctrine) มี พ ื ้ น ฐานมาจากประวั ต ิศ าสตร์ การศึ ก ษา ค้ น คว้า วิ เ คราะห์แ ละตีค วาม
ประสบการณ์จากการรบที่ผ่านมา เป็นหลักการที่นิยมใช้ในการปฏิบัติงานหรือภารกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เป็น
หนทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เป็นการให้อำนาจในการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ (Authoritative) แต่ไม่ใช่คำสั่งที่ต้องปฏิบัติ
การนำไปใช้ต้องพิจารณาให้สอดคล้องและเหมาะสม
หลักนิยมทางทหาร (Military Doctrine) คือ หลักการพื้นฐานซึ่งกำลังรบทางทหารยึดถือเป็นแนว
ปฏิบัติเพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ในการใช้กำลังหรือวัตถุประสงค์ของชาติ (National Objectives) ไม่ถือเป็นหลัก
ที่หน่วยจะต้องถือยึดมั่ นเป็นหลักปฏิบัติตายตัว เสมอ การนำไปใช้จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์
พื้น ที่ และโอกาส ซึ่งหลักนิยมทางทหารนี้เป็นผลผลิตสำคัญส่วนหนึ่งจากยุทธศาสตร์ทหารของชาติ ( NMS :
National Military strategy)
ประเภทหลั กนิ ยมทางทหาร แบ่ งเป็ น ๓ ประเภท ๑) หลั กนิ ยมพื ้นฐาน (Fundamental Doctrine)
๒) หลักนิยมสงครามพิเศษ ๓) หลักนิยมยุทธวิธีของหน่วย (Organization Doctrine)
การกำหนดหลักนิยมทางทหาร เป็นกระบวนการที่เป็นระบบ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
๑) หลักการ ทำสงคราม (Principles of war) ๒) หลักการปฏิบัติการนอกจากสงคราม (Operations other than
War Doctrine) ๓) หลักการทางตำรา (Military Document) ๔) การฝึก (Training) ๕) การยุทธ์ (Operation)
หลั ก การทำสงคราม (Principles of war) เป็ น แนวทางที ่ ก ำหนดเพื ่ อ ให้ ไ ด้ ช ั ย ชนะ มี ห ลั ก การ
๑๐ ประการ คือ ๑) ดำรงความมุ่งหมาย (Maintain Objective) ๒) การรวมกำลัง (Mass) ๓) การดำเนินกลยุทธ์
(Maneuver) ๔) การระวังป้องกันและ รปภ. (Security) ๕) ความง่าย (Simplicity) ๖) การรุก (Offensive) ๗) การ
ออมกำลัง (Economy of force) ๘) เอกภาพในการบังคับบัญชา (Unity of command) ๙) การจู่โจม (Surprise)
และ ๑๐) การต่อสู้เบ็ดเสร็จ (Total Defense)
กองทัพบก เป็นส่วนราชการขึ้นตรงกองบัญชาการทหารสูงสุด ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ
และกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๒ และ และ พระราช
กฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการ กองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๕๘ โดยกำหนดส่วนราชการของกองทัพบกเป็น ๓๔ ส่ วน แบ่งตามลักษณะงานเป็น ๗ ส่วน ๑) ส่วน
บัญชาการ ๒) ส่วนกำลังรบ ๓) ส่วนสนับสนุนการรบ ๔) ส่วนส่งกำลังบำรุง ๕) ส่วนภูมิภาค ๖) ส่วนการฝึกศึกษา
และหลักนิยม ๗) ส่วนช่วยพัฒนาประเทศ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ค
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก
หลักนิยม (Doctrine) มีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์ การศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์ และการตีค วาม
ประสบการณ์จากการรบที่ผ่านมา เป็นหลักการที่นิยมใช้กันในการปฏิบัติงานหรือภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายที่ต้องการ จึงกล่าวได้ว่า หลักนิยมเป็นหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือ
จุดหมายที่ตั้งไว้ หลักนิยมเป็นการให้อำนาจในการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ (Authoritative) แต่ไม่ใช่คำสั่งที่ต้อง
ปฏิบัติ ในการนำไปใช้ควรต้องพิจารณาให้สอดคล้องและเหมาะสมกับลักษณะงานนั้น ๆ
หลักนิยมทางทหาร (Military Doctrine) คือ หลักการพื้นฐานซึ่งกำลังรบทางทหารหรือส่วนของกำลังรบ
ทางทหารยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ ในการใช้กำลังหรือวัตถุประสงค์ของชาติ (National
Objectives) หลั ก นิ ย มทางทหารนี้ ไม่ ถ ื อ เป็ น หลั ก ที ่ ห น่ ว ยจะต้ อ งถื อ ยึ ด มั ่ น เป็ น หลั ก ปฏิ บ ั ต ิ ต ายตั ว เสมอ
การนำไปใช้จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับ สถานการณ์ พื้นที่และโอกาส ซึ่งหลักนิยมทางทหารนี้เป็นผลผลิต
สำคัญส่วนหนึ่งจากยุทธศาสตร์ทหารของชาติ (NMS : National Military strategy) โดยคุณลักษณะสำคัญของ
หลักนิยมทางทหารจะต้องสนับสนุนวัตถุประสงค์ของชาติและมีความอ่อนตัวในการปฏิบัตินั่นเอง
ประเภทของหลักนิยมทางทหาร
หลักนิยมทางทหารแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ดังนี้
๑. หลักนิยมพื้นฐาน (Fundamental Doctrine) เป็นหลักนิยมที่ใช้เป็นแนวทางหลักให้กองทัพ
ดำเนินการสนับสนุนให้ชาติสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของชาติได้ จากการศึกษาประวัติศาสตร์ทางทหาร บทเรียน
จากการรบ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และ หลักนิยมของชาติอื่น ๆ ตลอดจนชาติมหาอำนาจ และชาติที่อาจจะเป็น ภัย
คุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ลักษณะรูปแบบของสงครามที่ประเทศอาจต้องเผชิญ โครงสร้างกำลังทัพ และ
การจัดหน่วยทางยุทธศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างพลังอำนาจของชาติ และกำลังทหารของประเทศสัมพันธมิตร
และศัตรู วัตถุประสงค์ทางทหารของชาติ ซึ่งจะกำหนดขึ้นเป็นหลักนิยมพื้นฐานโดยให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
และพระราชบัญญัติความมั่ นคงของชาติ เพื่อเป็นหลักในการกำหนดหลักนิยมแบบอื่น ๆ ตัวอย่าง ได้แก่ รส.๑
กองทัพบก (พศ.๒๕๕๕), รส.๑๐๐-๑ หลักนิยมกองทัพบกในการรบตามแบบ (๒๕๓๙), รส.๑๐๐-๔ หลักนิยม
กองทัพบกในการต่อสู้เบ็ดเสร็จ (๒๕๓๙) และ รส.๑๐๐-๕ การยุทธ์ของกองทัพบกในสนาม (๒๕๓๘) คู่มือราชการ
สนามทั้ง ๔ เล่มนี้ จึงเป็นหลักนิยมพื้นฐานอันจะเป็นแม่บทในการกำหนดหลักนิยมหรือยุทธวิธีของหน่วยและ
เหล่าต่าง ๆ ต่อไป
๒. หลักนิยมสงครามพิเศษหรือตามสภาพแวดล้อม (Environmental Doctrine) เป็นหลักนิยม
ที่ใช้ในการปฏิบัติการยุทธ์หรือการรบในบางลักษณะจำเป็นต้องศึกษาและคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและลักษณะ
พิเศษในการปฏิบัติการหรือการใช้กำลังทางอากาศอย่างรวดเร็วเพื่อผลแตกหักในการรบ ซึ่งจะเป็นหลั กนิยม
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๒
กองทัพบก
กองทัพบก เป็นส่วนราชการขึ้นตรงกองบัญชาการทหารสูงสุด ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ
และกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๒ และ และ พระราช
กฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการ กองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๕๘ โดยกำหนดส่วนราชการของกองทัพบกเป็น ๓๔ ส่วนราชการ สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มตามลักษณะ
งานประเภทได้เป็น ๗ ส่วน ดังนี้
๕.๔ ทภ.๔ ปกครองบังคับบัญชา มทบ.๔๑, มทบ.๔๒, มทบ.๔๓, มทบ.๔๔, มทบ.๔๕ และ มทบ.๔๖
๖. ส่ ว นการฝึ ก ศึ ก ษาและหลั ก นิ ย ม มี ห น้ าที่ อำนวยการ และดำเนิ นการฝึ ก ศึ ก ษาของกำลังพล
กองทัพบก เพื่อให้กำลังพลเหล่านั้นมีความสามารถเหมาะสมตามตำแหน่งหน้าที่ อันจะทำให้หน่วยต่าง ๆ ของ
กองทัพบก มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ประกอบด้วยส่วนงานต่าง ๆ ดังนี้
๖.๑ กรมยุทธศึกษาทหารบก (ยศ.ทบ.) มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ
ดำเนินการ สนับสนุน และตรวจตราเกี่ยวกับกิจการสายวิทยาการ การฝึก และศึกษาของกำลังพลเป็นบุคคล และ
หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพบก ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งกิจการอนุสศาสนาจารย์ และการพัฒนา
กำหนดหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพบก ประกอบด้วยหน่วยขึ้นตรง ได้แก่
๖.๑.๑ ศูนย์การทหารราบ (ศร.)
๖.๑.๒ ศูนย์การทหารม้า (ศม.)
๖.๑.๓ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ (ศป.)
๖.๑.๔ วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.)
๖.๑.๕ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก (รร.สธ.ทบ.)
๖.๑.๖ โรงเรียนนายสิบทหารบก (รร.สธ.ทบ.)
๖.๑.๗ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก (ศฝยว.ทบ.)
๖.๒ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.) มีหน้าที่ ให้การศึกษา อบรม และดำเนินการฝึก
นักเรียนนายร้อยและบุคลากรตามที่กองทัพบกกำหนด
๖.๓ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการ
และดำเนินการเกี่ยวกับกิจการกำลังสำรอง และกิจการอาสารักษาดินแดน
๖.๔ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ และดำเนินการฝึก ศึกษา
เกี่ยวกับการสงครามพิเศษ การส่งกำลังทางอากาศ และการยุทธ์ส่งทางอากาศโดยมีศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.)
เป็นหน่วยปฏิบัติ
๖.๕ ศูนย์การบินทหารบก (ศบบ.) มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ดำเนินการฝึก และศึกษาเกี่ยวกับ
กิจการบินของกองทัพบก
๖.๖ โรงเรียนของเหล่าสายวิทยาการต่าง ๆ ได้แก่ โรงเรียนทหารช่าง โรงเรียนทหารสื่อสาร
โรงเรียนทหารพลาธิการ ฯลฯ ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้เป็นหน่วยในอัตราของหน่วย/เหล่าสายวิทยาการนั้น ๆ
๗. ส่วนพัฒนาประเทศ รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาประเทศทางด้านการเมือง
เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา และการทหาร เพื่อให้เกิดความความมั่นคงของชาติ ภายในขอบเขตที่ได้รับมอบหมาย
รวมทั้งการดำเนินการให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติ แบ่งออกเป็น ๒ ระดับ ดังนี้
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑
๗.๑ ระดั บกองทั พบก ได้แก่ พล.ช. รับผิดชอบด้านการก่อสร้ างขนาดใหญ่ ที่ เป็นงานพิเศษเกิ น
ขีดความสามารถของ พล.พัฒนา
๗.๒ ระดับกองทัพภาค ได้แก่ พล.พัฒนา โดยแบ่งมอบ ๑ กองพลต่อ ทภ. เพื่อปฏิบัติในพื้นที่ ทภ.
หลักนิยมหลักในการปฏิบัติการของ ทบ.
ในการปฏิบัติการของกองทัพบก ยึด ถือปฏิบัติตาม คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย กองทัพบก (รส.๑)
พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งอธิบายถึง ภารหน้าที่ ความรับผิดชอบ และการปฏิบัติของกองทัพบกในปัจจุบันและอนาคต
เชื่อมโยงกับคู่มือราชการสนาม ว่าด้วย การปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก (รส.๓-๐) พ.ศ.๒๕๕๗ ซึ่งได้พัฒนาต่อ
ยอดมาจากคู ่ ม ื อ ราชการสนาม ว่ า ด้ ว ย ระบบการรบร่ ว มอากาศพื ้ น ดิ น (รส.๑๐๐-๒๖) พ.ศ.๒๕๑๙ และ
คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย หลักนิยมกองทัพบก (รส.๑๐๐-๑ – ๔) พ.ศ.๒๕๓๙, ซึ่งประกอบด้วย หลักนิยมการรบ
ตามแบบ (รส.๑๐๐-๑) พ.ศ.๒๕๓๙, หลักการสงครามพิเศษ (รส.๑๐๐-๒) พ.ศ.๒๕๓๙, การยุทธ์ร่วม (รส.๑๐๐- ๓)
พ.ศ.๒๕๓๙, การต่อสู้เบ็ดเสร็จ (รส.๑๐๐-๔) พ.ศ.๒๕๓๙ รวมถึง คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย การยุทธ์ของ
กองทัพบกในสนาม (รส.๑๐๐-๕) พ .ศ.๒๕๔๒ โดยหน่วยและเหล่าทหารได้กำหนดหลักนิยม ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบตั ิ
ที่ดีที่สุดในการที่จะทำให้การปฏิบัติการหรือภารกิจบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ สอดคล้อง และเป็นไป
ตามหลักในการปฏิบัติการของกองทัพบกดังกล่าวข้างต้น โดยเนื้อหาสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าที่จะกล่าว
ต่อไปจะมีขอบเขตเนื้อหาประเภทการจัดและหลักนิยมซึ่งเป็นหลักพื้นฐานทางยุทธวิธีในปัจจุบันของหน่วย/เหล่า
ดังจะกล่าวต่อไป
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒
หลักนิยมการปฏิบตั ิการของหน่วย/เหล่าสายวิทยาการ
หลักนิยมของเหล่าทหารราบ
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
ทหารราบเป็นหน่วยที่ปฏิบัติการโดยการเข้าประชิด ใช้อำนาจการยิง และการดำเนินกลยุทธ์
เข้าทำลายกำลังข้าศึก หรือเข้ายึดภูมิประเทศ ควบคุมประชาชนและทรัพยากรในพื้นที่ที่ยึดได้ ในการป้องกัน
และรักษาภูมิประเทศที่ยึดได้ ทหารราบจะใช้การผลักดันการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และ
การตีโต้ตอบ
ภารกิจโดยทั่วไปของทหารราบ คือ การเข้าประชิดข้าศึกโดยใช้อำนาจการยิงและการดำเนิน
กลยุทธ์เพื่อทำลายและจับข้าศึก ผลักดันการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ
ในหน่ วยระดั บกรมทหารราบขึ ้ นไป นอกจากภารกิ จในการทำลายกำลั งข้ าศึ กแล้ ว จะมี
ขีดความสามารถในการควบคุมพื้นที่ ประชาชน และทรัพยากรในพื้นที่ด้วย ทหารราบมีขีดความสามารถปฏิบัติ
การรบได้ทุกสภาพภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศ สามารถใช้อำนาจการทำลายและข่มขวัญได้เมื่อใช้ทหารราบ
ยานเกราะ และ/หรือร่วมกับรถถัง
หน่วยทหารราบ นอกจากมีภารกิจในการรบซึ่งเป็นภารกิจหลักแล้ว ยังมีบทบาทในการปฏิบัติ
ภารกิจอื่น ๆ อีก เช่น การป้องกันและการปราบปรามการก่อความไม่สงบ การรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน
ประเทศ ตลอดจนภารกิจในบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ
การจั ดหน่ วยทหารราบโดยทั ่ วไปจะมี การจั ดเป็ นส่ วนบั งคับบั ญชา, ส่ วนกำลั งรบ และ
ส่วนสนับสนุนการรบ ในหน่วยที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่กองพันขึ้นไป จะมีการจัดครบทั้ง ๕ ส่วน คือ ๑) ส่วนบังคับบัญชา,
๒) ส่วนลาดตระเวน และข่าวกรอง, ๓) ส่วนกำลังรบ, ๔) ส่วนสนับสนุนการรบ และ ๕) ส่วนสนับสนุนการช่วยรบ
ปัจจุบัน มีการจั ด หน่ว ยทหารราบออกเป็น ๓ แบบ คือ ๑) ทหารราบมาตรฐาน, ๒) ทหารราบเบาและ
ทหารราบส่งทางอากาศ และ ๓) ทหารราบยานเกราะ
ทหารราบมาตรฐาน มีรปู แบบการจัดตามที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์,
กองพลทหารราบที่ ๓, ๔, ๕, ๖ เป็นต้น คำย่อที่ใช้ในเอกสารเล่มนี้จะใช้คำว่า พล.ร. โดยมีขีดความสามารถ
- ควบคุม บังคับบัญชา และดำเนินงานทางธุรการต่อกองพันทหารราบ และหน่วยทหาร
ในอัตราในการปฏิบัติการรบและการปราบปรามการก่อความไม่สงบ
- ปฏิ บ ั ต ิ ก ารรบอย่ า งต่ อ เนื ่ อ ง ต่ อ กำลั ง รบของข้ า ศึก ภายในกรอบของกองพลหรื อ
ปฏิบัติการเป็นอิสระ เมื่อได้รับการเพิ่มเติมกำลังอย่างเหมาะสม
- ค้นหา ข้าศึก หรือกำลังฝ่ายตรงข้ามด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ดำรงการเกาะ และ/หรือตรึ ง
ข้าศึกแล้วทำลายหรือผลักดันออกไป
- สามารถปฏิบัติการรบ ได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา ๗๒ ชม. โดยไม่ต้องส่งกำลังบำรุง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓
- ปฏิบัติการในพื้นที่ที่ภูมิประเทศ หรือสภาพลมฟ้าอากาศยากลำบาก
- สามารถเคลื่อนย้ายกำลังเข้าทำการรบ ด้วยการเคลื่อนย้ายทางถนน ทางเรือ และทาง
อากาศ เมื่อได้รับการสนับสนุนยานพาหนะเพิ่มเติม
- สามารถปฏิบัติการยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศด้วยกำลังขนาดเบา
- สามารถเป็น หน่ว ยปฏิบัต ิ การยุทธ์ส ่งทางอากาศ เมื่อได้รับการฝึกและสนับ สนุ น
เครื่องบิน ลำเลียง ทั้งนี้ ตามที่กองทัพบกมอบหมาย
- เข้าควบคุมประชากรในดินแดนที่ยึดได้
- ฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ที่ยึดได้
- ปฏิบัติภารกิจทางทหารที่มิใช่สงคราม
ทหารราบเบา จัดตามความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของ ทบ.โดยเฉพาะสำหรับใช้ใน
ภารกิจสนองตอบผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริงในด้านการรักษาความมั่นคงภายใน ซึ่งหมายรวมถึงการ
ปปส.และภารกิจอื่น ๆ ปัจจุบันมี พล.ร.๗, ๙, ๑๕ มีการจัดหน่วยตาม อจย.๗-๒ ภารกิจของ พล.ร.เบา
คงเป็นเช่นเดียวกับ พล.ร.มาตรฐาน คือ การทำลายกำลังข้าศึกและการยึดครองพื้นที่ โดยมีขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการรบอย่างต่อเนื่อง ต่อกำลังรบของข้ าศึกที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์อย่ างเดียวกัน
หรือต่ำกว่า อยู่ในกรอบของกองพลหรือปฏิบัติการอิสระเมื่อได้รับการเพิ่มเติมกำลังอย่างเหมาะสม
- ปฏิบัติในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศหรือสภาพอากาศยากลำบาก
- ควบคุมประชากร และฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ที่เข้ายึดครอง
- ดำเนินการปฏิบัติการทางทหารเพื่อรักษาความมั่นคงภายใน
ทหารราบยานเกราะ มีความมุ่งหมายที่จะให้มีความทันสมัย พร้อมที่จะรับสถานการณ์ได้ทุก
รูปแบบ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะปฏิบัติการรุกได้ทันทีสอดคล้องกับสภาวะสงครามในอนาคต
รวมทั้งรูปแบบของสงครามเคมี ชีวะ นิวเคลียร์ด้วย ภารกิจของ พล.ร.ยานเกราะ คงเช่นเดียวกับ พล.ร.ทั่วๆ ไป
คือ การทำลายกำลังข้าศึก และควบคุมพื้นที่ รวมทั้งประชาชนและทรัพยากร โดยมีขีดความสามารถ
- สามารถปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ, วิธีรุกและการร่นถอย
- สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความรวดเร็วในการเคลื่อนที่เข้าปะทะ, การเข้าตีเร่งด่วน และ
ประณีต, การขยายผลและการไล่ติดตาม
- สามารถกระจายกำลังได้เป็นบริเวณกว้าง และรวมกำลังได้อย่างรวดเร็ว
- สามารถต่อสู้รถถังได้
- สามารถปฏิบัติการรบเป็นหน่วยกำบังในการรุก รับ และร่นถอย
- ดำเนินการต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศต่ออากาศยานร่อนต่ำได้
- ควบคุมบังคับบัญชาหน่วยดำเนินกลยุทธ์ได้ ๑๕ กองพัน
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔
๑.๒ การจัด
๑.๒.๑ ทหารราบมาตรฐาน
๑.๒.๑.๑ พล.ร. (INFANTRY DIVISION)
(๑) การจัด
(๒) ภารกิ จ พล.ร.ทำลายกำลั งข้ าศึก ควบคุ มพื ้นที ่ท างบก รวมทั้ง
ประชาชน และทรัพยากร
(๓) ขีดความสามารถ พล.ร.
(๓.๑) ปฏิบัติการรบต่อกำลังทางพื้นดินของข้าศึกที่มียุทโธปกรณ์
คล้ายคลึงกัน หรือด้อยกว่าอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
(๓.๒) ปฏิบัติการได้ในสภาพอากาศและภูมิประเทศที่ยากลำบาก
(๓.๓) ปฏิบัติการได้ดว้ ยการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงอันจำกัด
(๓.๔) ควบคุมประชาชนฝ่ายข้าศึกได้
(๓.๕) ปฏิบัติการฟื้นฟูและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
(๓.๖) สามารถควบคุ ม หน่ ว ยดำเนิ น กลยุ ท ธ์ ข นาดกองพั น ได้
๑๐ กองพัน
(๔) ขีดจำกัด
(๔.๑) ไม่มีขีดความสามารถของการขนส่งทางอากาศด้วยเครื่องมือ
ในอัตรา
(๔.๒) มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่จำกัด
(๔.๓) มีขีดความสามารถในการป้องกันและต่อสู้ยานเกราะจำกัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๕
(๔.๑๐) ฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ที่ยึดได้
(๔.๑๑) ปฏิบัติภารกิจทางทหารที่มิใช่สงคราม
๑.๒.๑.๓ พัน.ร. อจย.๗-๑๕
(๑) การจัด พัน.ร.
๑.๒.๒ ทหารราบเบา
๑.๒.๒.๑ พล.ร.เบา (LIGHT INFANTRY DIVISION)
(๑) การจัด พล.ร.เบา จัดตามความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของ ทบ.
โดยเฉพาะ สำหรับใช้ในภารกิจสนองตอบผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริงในด้านการรักษาความมั่นคง
ภายใน ซึ่งหมายรวมถึงการ ปปส.และภารกิจอื่น ๆ ปัจจุบันมี พล.ร.๗, ๙, ๑๕ มีการจัด
(๔.๙) ปฏิบัติการเป็นอิสระภายใต้การส่งกำลังบำรุงอย่างจำกัด
เป็นเวลานานไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมง
(๔.๑๐) ปฏิบัติการรบในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี
๑.๒.๓ ทหารราบยานเกราะ
๑.๒.๓.๑ พล.ร.ยานเกราะ (MECHANIZED INFANTRY DIVISION)
(๑) การจัด พล.ร.ยานเกราะ การจัดในรูปแบบนี้มุ่งหมายที่จะให้มีความ
ทันสมัย พร้อมที่จะรับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะปฏิบัติการรุก
ได้ทันที สอดคล้องกับสภาวะสงครามในอนาคต รวมทั้งรูปแบบของสงคราม นชค.ด้วย มีการจัด ดังนี้
กองบังคับการและกองร้อยบังคับการ กองพันทหารราบยาน
อจย.๗ – ๔๒ อจย.๗ – ๔๕
(๒) ภารกิจ กรม ร.ยานเกราะ บังคับบัญชา ควบคุมหน่วยรบและหน่วย
สนับสนุน ในอัตราและหน่วยที่มาขึ้นสมทบ
(๓) ขีดความสามารถ กรม ร.ยานเกราะ
(๓.๑) บังคับบัญชา วางแผน ควบคุม และกำกับดูแล กองพันทหาร
ราบยานเกราะ ได้ตั้งแต่ ๒ – ๕ กองพัน
(๓.๒) จัดให้มีการสนับสนุนการติดต่อสื่อสาร
(๓.๓) วางการติ ด ต่ อ กั บ กองบั งคั บการหน่ วยเหนื อและหน่ว ย
ข้างเคียง
(๓.๔) ดำเนินการให้ กรมทหารราบยานเกราะปฏิบัติการอย่าง
ต่อเนื่องได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
(๓.๕) ดำเนินการทางธุรการ การเลี้ยงดู การส่งกำลังซ่อมบำรุงขั้น
หน่วย การขนส่ง และการบริการ ทางการแพทย์ (เว้นกองพันทหารราบยานเกราะ)
(๓.๖) จัดการระวังป้องกันที่บังคับการกรม
(๓.๗) มีความคล่องแคล่วและเคลื่อนที่ด้วยยานพาหนะในอัตราได้
๑.๒.๓.๓ พัน.ร.ยานเกราะ อจย.๗-๔๕
(๑) การจัด พัน.ร.ยานเกราะ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๒๑
๒.๔.๒ ทหารราบมาตรฐาน
- รส. ๗-๘ ว่าด้วย หมู่ หมวดปืนเล็กทหารราบ พ.ศ. ๒๕๔๘
- รส. ๗-๑๐ ว่าด้วย กองร้อยอาวุธเบา พ.ศ. ๒๕๔๗
- รส. ๗-๒๐ ว่าด้วย กองพันทหารราบ พ.ศ. ๒๕๔๙
- (ร่าง) รส. ๗-๓๐ ว่าด้วย กรมทหารราบ
- คฝ. ๗-๘ การฝึกและประเมินผลการฝึกหมู่ปืนเล็กและหมวดปืนเล็กเหล่าทหารราบ
พ.ศ. ๒๕๔๑
- คฝ. ๗-๑๐ การฝึกและประเมินผลการฝึกกองร้อยอาวุธเบา/กองร้อยทหารราบ
- คฝ. ๗-๒๐ การฝึกและประเมินผลการฝึกกองพันทหารราบ พ.ศ. ๒๕๔๖
- คู่มือปฏิบัติการทางยุทธวิธีทหารราบมาตรฐานของกองทัพบกพ.ศ. ๒๕๕๖
๒.๔.๓ ทหารราบยานเกราะ
- รส. ๗-๗ ว่าด้วย หมู่ หมวด ทหารราบยานเกราะ พ.ศ. ๒๕๓๙
- รส. ๗๑-๓ ว่าด้วย กรมทหารราบยานเกราะ
- คู่มือปฏิบัติการทางยุทธวิธีทหารราบยานเกราะของกองทัพบก พ.ศ. ๒๕๕๖
- รส. ๓-๒๑.๙ ว่ า ด้ ว ย ชุ ด รบหมู ่ แ ละหมวดทหารราบยานเกราะล้ อ ยาง
พ.ศ. ๒๕๖๒
- รส. ๓-๒๑.๑๑ ว่าด้วย ชุดรบกองร้อยทหารราบยานเกราะล้อยาง พ.ศ. ๒๕๖๒
- รส. ๓-๙๐.๖ ว่าด้วย กรม ร. ฉก./กองพลน้อยชุดรบ พ.ศ. ๒๕๖๑
--------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๒๖
หลักนิยมของเหล่าทหารม้า
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ พล.ม. อจย.๗-๒ บก. และร้อย.บก.พล. ( ๕ ม.ค.๓๓ )
๑.๑.๑ กล่าวทั่วไป
ภารกิจ บังคับบัญชา ควบคุมทางยุทธการ และกำกับดูแลการปฏิบัติ การหน่วย
ในอัตรา และหน่วยที่ได้รบัการบรรจุมอบ หรือที่มาขึ้นสมทบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกองพล
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- กองบัญชาการกองพล จัดให้ มีการบังคับบัญชา วางแผน ควบคุม กำกับดูแล
การปฏิบัติของหน่วยในอัตรา และหน่วยที่ได้รับการบรรจุมอบหรือที่ขึ้นมาสมทบ
- กองร้อยกองบัญชาการกองพล จัดให้มีการสนับสนุนแก่กองบัญชาการและกองร้อย
กองบัญชาการ ด้านธุรการ การเลี้ยงดู การส่งกำลัง การซ่อมบำรุงขั้นหน่วย การขนส่ง การรักษาพยาบาล
และการระวังป้องกัน
- จัดตั้งที่บังคับการได้ ๑ แห่ง และที่บังคับการทางยุทธวิธีเคลื่อนที่ได้ ๑ แห่ง
- เคลื่อนย้ายด้วยยานพาหนะในอัตราได้ ๑๐๐ %
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๒๗
๑.๑.๓ การจัดหน่วยทหารม้าในกองพลทารราบ
๑.๑.๓.๑ พล.๑ รอ.ประกอบด้วย
๑) ม.พัน.๔ รอ.(พัน.ถ.จัดกำลังตาม อจย.๑๗-๑๕)
๒) ร้อย.ม.(ลว.) ที่ ๑ พล.๑ รอ. (จัดกำลังตาม อจย.๑๗-๕๗ พ.)
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๒๙
ขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการยุทธ์ ด้วยอำนาจการยิงรุนแรง ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และมีอำนาจ
การข่มขวัญสูง
- เข้าตี หรือโต้ตอบ ภายใต้การยิงของข้าศึก
- ทำลายยานเกราะข้าศึกด้วยการยิง
- จัดให้มีส่วนฐานยิง และส่วนดำเนินกลยุทธ์
- ยึด และรักษาภูมิประเทศ ในห้วงระยะเวลาหนึ่ง
- ปฏิบัติการเป็นอิสระในขีดจำกัด
- สนับสนุนการยิงด้วยอาวุธวิถีโค้ง ให้กับหน่วยในอัตรา หรือหน่วยที่มาสมทบ
- มีความรวดเร็วในการขยายผลแหง่ความมีชัย
๑.๓ พัน.ม.(ถ.) อจย.๑๗-๑๕ (๒๕ ม.ค.๑๙)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ
- เคลื่อนที่เข้าประชิด และทำลายกำลังข้าศึ กโดยใช้อำนาจการยิง การดำเนินกลยุทธ์
อำนาจทำลายและข่มขวัญ
- ปฏิบัติการรบร่วมกับทหารเหล่าอื่น
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของ กรมทหารม้า กองพลทหารม้าหรือกองพลทหารราบ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๑
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการรบที่ต้องใช้อำนาจการยิง ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ มีเกราะป้องกันตัว
อำนาจการทำลาย และข่มขวัญสูง
- เข้าตี หรือตีโต้ตอบภายใต้อำนาจการยิงของข้าศึก
- ทำลายยานเกราะของข้าศึกด้วยการยิง
- สนับสนุนหน่วยทหารราบยานยนต์ ทหารราบ และ/หรือทหารม้าด้วยการยิง การดำเนิน
กลยุทธ์ อำนาจทำลายและข่มขวัญ
- ขยายผลแห่งความมีชัยหลังการเจาะแนวของข้าศึก โดยใช้ความคล่องแคล่วในการ
เคลื่อนที่ในภูมิประเทศได้อย่างสูง
- ทำการยิงสนับสนุนด้วยอาวุธในอัตราของหน่วย
- จัดการในด้านธุรการ การส่งกำลัง การติดต่อสื่อสาร การซ่อมบำรุงได้สมบูรณ์ในกองพันเอง
- เคลื่อนที่ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
๑.๔ ร้อย.ถ. อจย.๑๗-๑๗ (๒๕ ม.ค.๑๙)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ
- เข้าประชิดและทำลายกำลังศึกโดยใช้อำนาจการยิง การดำเนินกลยุทธ์ อำนาจทำลาย ข่มขวัญ
- ปฏิบัติการรบร่วมกับทหารเหล่าอื่น
การแบ่งมอบ ๓ กองร้อย ต่อ ๑ กองพันทหารม้า (รถถัง) อจย. ๑๗ – ๑๕
ผังการจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๒
ขีดความสามารถ
- เข้าตี หรือตีโต้ตอบภายใต้อำนาจการยิงของข้าศึก
- ทำลายยานเกราะของข้าศึกด้วยการยิง
- สนับสนุนหน่วยทหารราบยานยนต์ ทหารราบและ/หรือทหารม้าด้วยการยิ ง การดำเนิน
กลยทุธ์ อำนาจทำลาย และข่มขวัญ
- ขยายผลแห่งความมีชัยหลังการเจาะแนวของข้าศึก
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศได้อย่างสูง
- เคลื่อนที่ได้ ๑๐๐ เปอรเ์ซ็นต์
๑.๕ พัน.ม.(ก.) อจย.๑๗-๒๕ พ.(๑๐ มิ.ย.๒๘)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ เข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิง และการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับเป็นเชลย
ทำลายการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกรมทหารม้า อจย.๑๗-๒๑ พ.
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- จัดเป็นฐานยิงและส่วนดำเนินกลยุทธ์ได้
- แย่งยึดพื้นที่
- ปฏิบัติการเป็นอิสระได้ในขีดจำกัด
- ป้องกันต่อสู้รถถังได้ในขีดจำกัด
- ยิงสนับสนุนด้วยอาวุธวิถีโค้งให้กับหน่วยในอัตรา และหน่วยที่ขึ้นสมทบ
- ปฏิบัติการลาดตระเวนระยะไกลได้ เมื่อเพิ่มเติมยุทโธปกรณ์ให้ตามความเหมาะสม
- ร่วมในการยุทธเคลื่อนย้ายทางอากาศได้ เมื่อมีอากาศยานขนส่งให้
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนทีส่ ูง
- ชดเชยจุดอ่อนซึ่งกันและกันได้
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๓
ขีดความสามารถ
- เข้าประชิดข้าศึก ด้วยการยิง และการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับเป็นเชลย
- ทำลายการเข้าตีของข้าศึก โดยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ
- แย่งยึดภูมิประเทศ
- ดำเนินกลยุทธ์ได้ในภูมิประเทศทุกประเภท และทุกสภาพอากาศ
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง
- ต่อสู้รถถังได้ในขีดจำกัด
๑.๗ พัน.ม.(ก.) อจย.๑๗-๒๕ ก.(๙ พ.ค.๖๑)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ เข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิง และการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับเป็นเชลย
ทำลายการเข้าตีของข้าศึก ด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกรมทหารม้า
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๔
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- จัดเป็นฐานยิง และส่วนดำเนินกลยุทธ์ได้
- แย่งยึดพื้นที่
- ปฏิบัติการเป็นอิสระได้ในขีดจำกัด
- ทำลายยานเกราะของข้าศึกด้วยอาวุธยิงในอัตรา
- ทำการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยในอัตรา และหน่วยที่ขึ้นสมทบ
- ปฏิบัติการลาดตระเวน และทำการระวังป้องกันให้กบั หน่วยเหนือได้
- ร่วมในการยุทธ์เคลื่อนย้ายทางอากาศได้ เมื่อมีอากาศยานขนส่งให้
- ชดเชยจุดอ่อนซึ่งกันและกันได้
- มีความคล่องแคล่วสูง เคลื่อนที่ได้ ๑๐๐%
๑.๘ ร้อย.ม.(ก.) อจย.๑๗-๒๗ ก.(๙ พ.ค.๖๑)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ เข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิง และการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับเป็นเชลย
ทำลายการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิดและการตีโต้ตอบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกองพันทหารม้า (ยานเกราะ) อจย.๑๗-๒๑ ก.
ผังการจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๕
ขีดความสามารถ
- เข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิงและการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับเป็นเชลย
- ทำลายการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ
- แย่งยึดภูมิประเทศ
- จัดเป็นฐานยิง และส่วนดำเนินกลยุทธ์ได้
- ทำลายยานเกราะของข้าศึก ด้วยการยิงของอาวุธในอัตรา
- ดำเนินกลยุทธได้ในทุกภูมิประเทศ และทุกสภาพอากาศ
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง
๑.๙ พัน.ม.(ลว.) อจย.๑๗-๕๕ พ.(๑๐ มิ.ย.๒๘)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ ทำการลาดตระเวนระวังป้องกัน และเป็นหน่วยออมกำลังให้แก่หน่วยเหนือหรือ
หน่วยที่ขึ้นสมทบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกองพลทหารม้า หรือกองพลทหารราบ
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- ดำเนินการลาดตระเวนทางพื้นดิน ทั้งทางกว้าง และทางลึก
- รวบรวม และดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวสาร
- ป้องกันปีก หรือทำงานทางปีกของหน่วยเหนือ หรือหน่วยขึ้นสมทบ
- ทำการระวังป้องกันช่องว่างระหว่างหน่วย
- เมื่อได้รับการเพิ่มเติมกำลัง สามารถที่จะปฏิบัติเป็นหน่วยกำลังในการปฏิบัติการรบด้วย
วิธีรุก วิธีรับ และการร่นถอย
- ขยายผล และเพิ่มเติมอำนาจการทำลายด้วยอาวุธยิงให้หน่วย
- เมื่อได้รับการเพิ่มเติมกำลังที่ีเหมาะสม สามารถปฏิบตั กิ ารรบเป็นกึ่งอิสระได้
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๖
ขีดความสามารถ
- ทำการลาดตระเวน และระวัง ป้ อ งกั นให้ กับ หน่ วยเหนื อ หรื อ หน่ว ยที ่ ไปขึ ้น สมทบ
มักปฏิบัติการเป็นอสิระ โดยไม่มีการเพิ่มเติมกำลัง
- ทำการรบได้ในขีดจำกัด อันเหมาะสมแก่หน่วยยานเกราะขนาดเบา
- แต่ละบุคคลในหน่วยนี้ ทำการรบได้อย่างทหารราบ
- หน่วยนี้สามารถป้องกันตัวเอง และที่ตั้งได้จากการโจมตีทางพื้นดิน
๑.๑๑ พัน.ม.(ลว.) อจย.๑๗-๕๕ ก.
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ ทำการลาดตระเวน และระวังป้องกันให้หน่วยเหนือ หรือหน่วยที่ไปขึ้นสมทบ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกองพลทหารม้า
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๗
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- ทำการลาดตระเวน และระวังป้องกัน ทั้งในระยะไกล และระยะใกล้
- ปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก วิธีรับ หรือทำการรบหน่วงเวลา ในฐานะเป็นหน่วยออมกำลัง
เมื่อได้รับการเพิ่มเติมกำลัง
- ทำการปราบจลาจล เมื่อได้รับการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ที่เหมาะสม
- จั ด การในด้ า นธุ ร การ การส่ ง ่ ก ำลั ง บำรุ ง การรั ก ษาพยาบาล และการส่ ง กลั บ การ
ติดต่อสื่อสาร การซ่อมบำรุงได้สมบูรณ์ในกองพันเองได้
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ๑๐๐ %
๑.๑๒ ร้อย.ม.(ลว.) อจย.๑๗-๕๗ ก.
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ ทำการลาดตระเวน และระวังป้องกันให้แก่หน่วยเหนือ หรือหน่วยที่ไปขึ้นสมทบ
การแบ่งมอบ ๓ กองร้อย ต่อ ๑ กองพันทหารม้า (ลาดตระเวน) อจย.๑๗-๕๕ ก.
ผังการจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๘
ขีดความสามารถ
- ลาดตระเวน และระวังป้องกันให้แก่หน่วยเหนือ หรือหน่วยที่ไปขึ้นสมทบ
- ทำการรบด้วยวิธีรุก วิธีรับ หรือรบหน่วงเวลาได้อย่างจำกัด
- ปฏิบัติการเป็นอิสระ เมื่อได้รบัการสนับสนุนอย่างเหมาะสม
- ทำการปราบจลาจล เมื่อได้รับการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ที่เหมาะสม
- ทำการรบอย่างทหารราบเมื่อจำเป็น และสามารถป้องกันตนเองจากการโจมตีทางพื้นดิน
- ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ๑๐๐ %
๑.๑๓ พัน.ม.(ใช้มา้ ) อจย.๒-๑๕ (๕ มี.ค.๒๓)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ
- ทำการลาดตระเวนให้กับหน่วยเหนือ หรือหน่วยที่ไปขึ้นสมทบ
- เป็นหน่วยสำหรับการแห่นำ ตามเสด็จ และสวนสนาม เนื่องในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน
ของหน่วยทหารรักษาพระองค์ฯ
- การถวายอารักขา และความปลอดภัยแด่องค์พระบาทสมเด็ จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็ จ
พระนางเจ้า พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยขึ้นการบังคับบัญชาโดยตรงต่อกองทัพบก อาจบรรจุมอบให้กับ
หน่วย ในกองทัพบกได้
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการลาดตระเวนและระวังป้องกันได้ในภูมิประเทศที่ยากลำบากในห้วงระยะเวลาจำกัด
- ปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก วิธีรับ ทำการรบหน่วงเวลาได้ ในห้วงระยะเวลาจำกัด
- สามารถปรับกำลังใช้ในการปราบปรามจลาจล เมื่อได้รับการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้
ที่เหมาะสม
- จั ด การในด้ า นธุ ร การ การส่ ง กำลั ง บำรุ ง การรั ก ษาพยาบาล และการส่ งกลั บ การ
ติดต่อสื่อสาร การซ่อมบำรุงได้สมบูรณ์ในกองพันเอง
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๓๙
ขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการลาดตระเวนและระวังป้องกันได้ในภูมิประเทศที่ยากลำบากในห้วงระยะเวลาจำกัด
- ปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก วิธีรับ ทำการรบหน่วงเวลาได้ ในห้วงระยะเวลาจำกัด
- ทำการระวังป้องกันที่ตั้ง หรือภูมิประเทศที่สำคัญ
- ปฏิบัติการเป็นอิสระ เมื่อได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม
- สามารถปรับกำลังใช้ในการปราบจลาจล เมื่อได้รบัการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้อย่าง
เหมาะสม
- ทำการรบอย่างทหารราบได้ ในห้วงระยะเวลาจำกัด
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๔๐
ขีดความสามารถ
- ปฏิบัติการลาดตระเวน และระวังป้องกันทั้งทางอากาศ และอย่างจำกัดทางพื้นดิน
- ปฏิบัติการเฝ้าตรวจเฉพาะบริเวณได้ทั้งทางอากาศ และทางพื้นดิน
- ทำการรบด้วยวิธีรุก วิธีรับ และร่นถอย รวมกับหน่วยดำเนินกลยุทธ์ได้
- ทำลายยานเกราะหรือกำลังอื่น ๆ ของข้าศึก ด้วยการใช้อาวุธทางอากาศ
- ปฏิบัติการเป็นอิสระได้
- ปฏิบัติการในเวลากลางคืน/ทัศนวิสัยจำกัดได้
- ปฏิบัติการสื่อสาร การพยาบาล และส่งกลับได้ เมื่อได้รั บการสนับสนุนอย่างเหมาะสม
จากหน่วยเหนือ
- ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ที่ได้รับมอบ
๑.๑๖ ร้อย.ค.หนัก กรม ม. อจย.๑๗-๒๔ พ.(๑ มิ.ย.๓๐)
กล่าวทั่วไป
ภารกิจ จัดเครื่องยิงหนักยิงช่วยหน่วยต่าง ๆ ของ กรมทหารม้า กองพลทหารม้า โดยใกล้ชิด
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของกรมทหารม้า กองพลทหารม้า
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
- สามารถเข้าที่ตั้งและเปลี่ยนที่ตั้งยิงได้รวดเร็ว ติดตามหน่วยรับการสนับสนุนโดยใกล้ชิด
- สามารถยิงสนั บสนุนอย่างรุนแรงได้ในระยะเวลาหนึ่ง ตามขีด ความสามารถในการ
ลำเลียงกระสุน
- สามารถรวมการยิงโดยใช้ศูนย์อำนวยการยิงของกองร้อย
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๔๒
- สามารถจัดเป็นหน่วยระดับหมวดแยกสมทบหน่วยรับการสนับสนุนได้ตามความจำเป็น
- จัดชุดตรวจการณ์หน้าสนับสนุนได้ ๓ ชุด
- การระวังป้องกันที่ตั้งของตนเอง กระทำได้อย่างจำกัด
- สามารถซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ตามอัตราในขั้นหน่วยได้
- สามารถเคลื่อนย้ายด้วยตนเองได้ ๑๐๐% มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ บนเส้นทาง
และในภูมิประเทศ
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธีของหน่วยในปัจจุบัน
๒.๑ หลักพื้นฐานทางยุทธวิธี
๒.๑.๑ หลักนิยมพื้นฐานในการรบของทหารม้า
- ทำการรบบนยานรบเคลื่อนที่เร็ว (ปฏิบัติการรวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด)
- ปฏิบัติการเป็นอสิระโดยใช้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่และอำนาจการยิง
ที่รุนแรง
- ทำการรบแตกหัก หวังผลตัดสินการรบ
- ไม่รบยืดเยื้อเป็นเวลานาน
- ทำการรบแบบผสมเหล่า มีความสมบูรณ์ในตัวเอง
- ทำการรบโดยใช้กำลังเป็นปึกแผ่น
๒.๑.๒ ทหารม้า มีขีดความสามารถ ดังนี้.-
- ดำเนินกลยุทธภายใต้การยิงที่มีเกราะป้องกันในสนามรบ
- เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในพื้นที่หนึ่งและเข้าปะทะกับข้าศึกเพื่ อตัดสินการรบ
ณ ตำบลคับขัน
- มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ทำให้กระจายกำลังและรวมกำลังรวดเร็ว
- ทนต่อการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ได้ในระดับหนึ่ง
- เข้าปะทะและผละจากการสู้รบกับข้าศึกอย่างรวดเร็ว โดยสูญเสียน้อยที่สดุ
- เข้าโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อที่มั่นข้าศึก
๒.๑.๓ การรบด้วยวิธีรุก ทหารม้าสามารถปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกได้ ๕ แบบ
- การเคลื่อนที่เข้าปะทะ
- การเข้าตีเร่งด่วน
- การเข้าตีประณีต
- การขยายผล
- การไล่ติดตาม
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๔๓
--------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๔๗
หลักนิยมของเหล่าทหารปืนใหญ่
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป ปัจจุบันเหล่าทหารปืนใหญ่ของไทย แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ทหาร
ปืนใหญ่สนาม และ ทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน โดยเหล่าทหารปืนใหญ่จะถูกจัดอยู่ใน ๓ ส่วนราชการของ
กองทัพบก ได้แก่ ส่วนกำลังรบ, ส่วนสนับสนุนการรบ และส่วนการศึกษา โดยมีรายละเอียดดังนี้
๑.๑.๑ ส่วนกำลังรบ เหล่าทหารปืนใหญ่จะถูกบรรจุอยู่ในกองพลดำเนินกลยุทธ์ (พล.ร./
พล.ม.) ของแต่ละกองทัพภาค เรียกว่า “ปืนใหญ่ในกองพล” ซึ่งจะเป็นหน่วยระดับกรม โดยมีการจัด
โครงสร้าง กรม ป. ใน พล.ดำเนินกลยุทธ์ ดังนี้
หมายเหตุ ปัจจุบันยังไม่มี
การจัดตั้งหน่วย พัน.ป.คปม.
ขีดความสามารถ
- ควบคุมบังคับบัญชา ศปภอ.ทบ.ประจำพื้นที่ ได้ ๔ ศูนย์
- ปฏิบัต ิหน้าที่กองอำนวยการสำรองให้กับกองอำนวยการต่อสู้
ป้องกันภัยทางอากาศได้
- แจ้งเตือนภัยทางอากาศให้กับหน่วยต่าง ๆ และส่วนราชการอื่นอยู่
ในระบบ ปภอ.ตามความจำเป็น
- ควบคุ ม ทางยุ ท ธการต่ อหน่ วย ปตอ.ในภารกิจ ป้ องกั นภั ยทาง
อากาศในพื้นที่ส่วนหลัง
- ประสานการใช้อาวุธที่นอกเหนือจากอาวุธ ปตอ. ซึ่งนำมาใช้ใน
บทบาท ปภอ.ของ ทบ.
- ดำรงการติดต่อสื่อสารกับหน่วยเหนือ หน่วยรอง หน่วยข้างเคียง
และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
- ให้คำแนะนำ และกำหนดมาตรการในการป้องกันภัยทางอากาศ
- ส่วนปฏิบัติการสามารถปฏิบัติภารกิจได้ตลอด ๒๔ ชม.
- ดำเนินการทางธุรการ การเลี้ยงดู การส่งกำลัง การขนส่ง และการ
รปภ. ให้แก่ บก. และ ร้อย.บก.
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๕๖
ขีดความสามารถ
- การปฏิบัติภารกิจต้องได้รบั การสนับสนุนที่จำเป็นจากหน่วยรับการ
สมทบหรือบรรจุมอบ
- อำนวยการ และ ควบคุมทางยุทธการเรื่องการป้องกันภัยทาง
อากาศเชิงรุกต่อหน่วย ปตอ.และ หน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่
- ประสานงานเกี่ยวกับข่าวสาร/ข่า วกรองกับหน่วยต่าง ๆ ในระบบ
ป้องกันภัยทางอากาศ
- แจ้งเตือนภัยทางอากาศให้กับหน่วยต่าง ๆ ในระบบการ ปภอ. ใน
พื้นที่รับผิดชอบ
- สามารถแยกกำลังพล และยุทโธปกรณ์เพื่อจัดตั้งศูนย์ต่อสู้ป้องกัน
ภัยทางอากาศได้อีกหนึ่งศูนย์เมื่อจำเป็น
(๓) ศูนย์ต่อสูป้ ้องกันภัยทางอากาศ พัน.ปตอ. (ศปภอ.พัน.ปตอ.) มีภารกิจ
วางแผน อำนวยการ ควบคุมการใช้อาวุธของหน่วยในการ ปภอ. ในพื้นที่รับผิดชอบ ประสานการปฏิบัติในการ
ป้องกันภัยทางอากาศกับ ศปภอ.ทบ.ประจำพื้นที่ ดำเนินการประสานงานในข่ายแจ้งเตือนภัยเนิ่นกับ ศปภอ.ทบ.
ประจำพื้นที่ และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประสานงานในข่ายแจ้งเตือนภัยของหน่วยในระดับกองทัพ และปฏิบัติ
หน้าที่อื่นที่ได้รับมอบ ซึ่ง ศปภอ.นี้ จะจัดตั้งในระดับกองพัน ปตอ.ทุกกองพัน รายละเอียดตามแผนภาพ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๕๗
๑.๓.๑.๒ หน่วยในระบบอาวุธ
(๑) กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) มีภารกิจในการ
วางแผน อำนวยการ ควบคุม กำกับดูแล การต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศต่อที่ตั้งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่
กองทัพบกกำหนด มีการจัดตามแผนผัง
การจัด
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๖๖
หลักนิยมของเหล่าทหารช่าง
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
การจัดหน่วยทหารช่าง ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของระบบทหารช่าง จาก
การที่ทหารช่าง มีการจัดหน่วยแบ่งเป็นหลายระดับ ตั้งแต่หน่วยทหารช่างขนาดเล็ก ไปจนถึงหน่วยบัญชาการ
ทหารช่าง ซึ่งหน่วยทหารช่างเหล่านั้นจะมีภารกิจ และขีดความสามารถต่างกันไป สืบเนื่องมาจากควา ม
หลากหลายของหน่วยทหารช่างดังกล่าว จึงทำให้เกิดความอ่อนตัวในการจัดโครงสร้างของหน่วยทหารช่าง
ให้เหมาะสมกับการประกอบกำลังของหน่วยดำเนินกลยุทธ์ และสามารถจัดวางหน่วยทหารช่าง ให้สอดคล้อง
กับจังหวะการรบในแต่ละยุทธบริเวณ เพื่อให้สนองตอบการสนับสนุนทางการช่างต่อหน่วยดำเนินกลยุทธ์ ได้
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
หลักนิยมการรบอากาศพื้นดิน มีผลต่อการพัฒนาปรับปรุงการจัดหน่วยทหารช่าง เพื่อให้
สามารถปฏิบัติ งานช่างตามพันธกิจของทหารช่าง ๕ ประการในยุทธบริเวณ อันได้แก่ การสนับสนุนความ
คล่องแคล่วในการเคลื่อนที่, ต่อต้านความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่, ความอยู่รอดในสนามรบ, งานช่างทั่วไป
และงานแผนที่สนาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีหน่วยทหารช่าง ซึ่งมีขนาดแตกต่าง
กันไป ตั้งแต่กรมทหารช่าง กองพลทหารช่าง กองพันทหารช่าง กองร้อยทหารช่างอิสระ และชุดทหารช่าง มี
การจัดดังนี้
๑.๑.๑ หน่วยทหารช่างของ กช.: ระดับกรมฝ่ายยุทธบริการ มี พล.ช. เป็นหน่วยในอัตรา
ประกอบด้วย
-ช.๑๑ มีหน่วยในอัตรา คือ ช.๑๑ พัน.๑๑๑ และ ช.๑๑ พัน.๖๐๒
-พัน.ช.คมศ.
๑.๑.๒ หน่วยทหารช่างของกองพล: พัน.ช.พล ในอัตราของ พล.ร./ม. ได้แก่ ช.พัน.๑ พล.๑
รอ., ช.พัน.๒ พล.ร.๒ รอ., ช.พัน.๓ พล.ร.๓, ช.พัน.๔, ช.พัน.๕ พล.ร.๕, ช.พัน.๖ พล.ร.๖, ช.พัน.๘ พล.ม.๑,
ช.พัน.๙ พล.ร.๙ และ ช.พัน.๑๕ พล.ร.๑๕ (พล.ร.๗, พล.ม.๒ รอ. และ พล.ม.๓ ไม่มี พัน.ช.พล ในอัตรา)
๑.๑.๓ หน่วยทหารช่างของกองทัพภาค: กรม ช.ทภ. ในอัตราของ พล.พัฒนาที่ ๑-๔ ได้แก่
-ช.๑ รอ. ประกอบด้วย ช.๑ พัน.๕๒ และ ช.๑ พัน.๑๑๒ รอ.
-ช.๒ ประกอบด้วย ช.๒ พัน.๒๐๑ และ ช.๒ พัน.๒๐๒
-ช.๓ ประกอบด้วย ช.๓ พัน.๓๐๒
-ช.พัน.๔๐๑ พล.พัฒนา ๔ และ ช.พัน.๔๐๒ พล.พัฒนา ๔
๑.๑.๔ หน่วยทหารช่างของกองทัพบก: ทบ. ฝากการบังคับบัญชาไว้กับ กช. ได้แก่
-กรมทหารช่างส่งกำลังและซ่อมบำรุง (ช.๒๑)
-ช.พัน.๕๑
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๖๗
๑.๒ ผังการจัด
๑.๒.๑ กองพันทหารช่างสนาม (กองพล) อจย.๕-๑๕
ภารกิจ เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพการรบของกองพลทหารราบ โดยการปฏิบัติงาน
ช่างทั่วไป
การแบ่งมอบ จัดเป็นหน่วยในอัตราของกองพลทหารราบ (กองพล ละ ๑ กองพัน)
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
๑. วางแผน อำนวยการ และกำกับการดูแลในหน้าที่ฝ่ายอำนวยการทหารช่าง ใน
เรื่องการปฏิบัติงานช่างของกองพลทั้งหมด
๒. การลาดตระเวนทางการช่าง
๓. สร้าง ซ่อมแซม และบำรุง ถนน ที่ลุย ข้าม ทางระบายน้ำ สะพานเครื่องหนุน
มั่นและเครื่องหนุนลอยแพส่งข้าม เครื่องกีดขวาง (รวมทั้งดงระเบิด) ที่บังคับการ และที่ตั้งการตั้งรับ
๔. ทำการก่อสร้างในสนามโดยทั่วไป รวมทั้งการก่อสร้างสนามบินและสนาม ฮ.
๕. การทำลายและรื้อถอนเครื่องกีดขวาง รวมทั้งดงระเบิด
๖. จัดเจ้าหน้าที่ทหารช่างและเครื่องมือสายช่าง สำหรับการข้ามลำน้ำต่อหน้า
ข้าศึก
๗. จัดการบริการการส่งกำลังสายช่าง รวมทั้งทำการประปาได้ ๔ ชุด
๘. ทำการรบอย่างทหารราบ เมื่อจำเป็นยิ่ง
๑.๒.๒ กองพันทหารช่างสนาม (กองทัพ) อจย.๕-๓๕
ภารกิจ เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพการรบของกองทัพบก โดยการปฏิบัติงานช่าง
ทั่วไป และเพิ่มเติมประสิทธิภาพหน่วยทหารช่างของกองพลเมื่อต้องการ
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยของกองทัพบก อาจแบ่งมอบให้หน่วยรองได้ตามความ
เหมาะสม
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๖๘
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
๑.วางแผน อำนวยการ และกำกับการดูแลในหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ
หน่วยทหารช่าง ในเรื่องการปฏิบัติงานช่างทั้งหมด
๒. การลาดตระเวนทางการช่าง
๓. สร้าง ซ่อมแซม และบำรุงถนน ที่ลุย ข้าม ท่อน้ำ สะพานเครื่องหนุน
มั่น เครื่องขีดขวาง (รวมทั้งดงระเบิด) ที่บังคับการและที่ตั้งการตั้งรับ
๔. การทำลายและรื้อถอนเครื่องขีดขวาง รวมทั้งดงระเบิด
๕. จัดการบริการการส่งกำลังสายช่าง รวมทั้งแหล่งน้ำ ๔ แหล่ง
๖. ทำการรบอย่างทหารราบเมื่อจำเป็นยิ่ง
๑.๒.๓ กองพันทหารช่างก่อสร้าง อจย.๕-๑๑๕
ภารกิจ สร้างและฟื้นฟูถนน สนามบิน ระบบทางท่อ โครงสร้าง และสาธารณูปโภค
และช่วยในการปฏิบัติการกู้ภัยฉุกเฉิน
การแบ่งมอบ จัดเป็นหน่วยของกองทัพบก
ผังการจัด
ขีดความสามารถ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๖๙
ขีดความสามารถ
๑. สนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเสริมขีดความสามารถของหน่วยทหารช่างอื่นๆ
ในการก่อสร้างขนาดใหญ่และงานที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งงานก่อสร้างทางระดับและทางดิ่ง
๒. ดำเนิ น การก่ อสร้ างเส้ นทางคมนาคม ระบบทางท่ อ และงานก่ อ สร้ า งขนาดใหญ่
ตลอดจนงานที่มีลักษณะพิเศษ
๓. ให้คำแนะนำทางเทคนิค แก่หน่วยทหารช่าง ในการก่อสร้างงานที่มีลักษณะพิเศษ
๔. ดำเนินการผสมคอนกรีต เพื่อสนับสนุนคอนกรีตผสมเสร็จให้กับหน่วยปฏิบัติงาน
ก่อสร้างได้ไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ลบ.ม.ต่อวัน
๕. ดำเนินการผสมแอสฟัลต์ เพื่อสนับสนุนแอสฟัลต์ผสมร้อนให้กับหน่วยปฏิบัติงาน
ก่อสร้างได้ไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ตันต่อวัน
๖. ทำการขนย้ายวัสดุได้ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ตันต่อเที่ยว
๗. ทำการซ่อมบำรุงเครื่องมือช่าง ตามอัตราของกองพัน ถึงขั้นการซ่อมบำรุงสนับสนุน
โดยตรง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๗๐
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธขี องหน่วยในปัจจุบัน
๒.๑ หลักพื้นฐานทางยุทธวิธี
๒.๑.๑ พันธกิจทางยุทธวิธีของทหารช่าง ทุกหน่วยที่ให้การสนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธ์ใน
การยุทธ์ทุกรูปแบบ มีงานที่จะต้องปฏิบัติตามลำดับความสำคัญและเร่งด่วนดังนี้
๒.๑.๑.๑ การอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนที่ (Mobility) หมายถึง งานที่
เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวก ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ของหน่วยดำเนินกลยุทธ์ หน่วยยิง
หน่วยสนับสนุน และการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ มีงานที่ทหารช่างจะต้องปฏิบัตไิ ด้แก่
-การเจาะช่องสนามทุน่ ระเบิดและหรือเครื่องขีดขวางอื่นๆ
-การข้ามช่องแคบด้วยลาดหรือสะพานโครงแผง
-การปรับปรุง ซ่อมบำรุง ดูแลรักษาถนน สะพาน ทางคนเดิน สนามบิน
ทางยุทธวิธี
หลักนิยมของเหล่าทหารสือ่ สาร
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
“ความเหนื อ กว่ า ด้ า นสารสนเทศ” เป็ น ปั จ จั ย สำคั ญ ยิ ่ ง ต่ อ ความสำเร็ จ ทางทหาร
เปรียบเสมือนสิ่งรับประกันชัยชนะต่อการปฏิบัติทางทหาร ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศสามารถเป็นตัวคูณ
และแหล่งกำเนิดอำนาจการรบของหน่วย สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ การบรรจบกันของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สร้าง
ขีดความสามารถอัน หลากหลายในยุคที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสารสนเทศ พร้อม ๆ กับการถือกำเนิดขึ้นของ
บทบาทภัยคุกคามใหม่ ๆ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ทำให้สภาพแวดล้อมในสนามรบเปลี่ยนแปลงไป ในยุคปัจจุบันที่ เป็น
ยุ ค แห่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสารด้ ว ยการแพร่ ข ยายของเทคโนโลยี ส ารสนเทศ โดยเฉพาะอย่ า งยิ ่ ง เทคโนโลยี
การติดต่อสื่อสารและเทคโนโลยีเครือข่าย แนวคิดต่ าง ๆ ว่าด้วยการทำสงครามสารสนทศ และการทำ
สงครามที่มีเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง กำลังได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งสารสนเทศกลายเป็น
ปัจจัยพื้นฐานของกระบวนการแสวงข้อตกลงใจทางทหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ม าซึ่งความเหนือกว่า
ด้านสารสนเทศ ในขณะเดียวกันฝ่ายเราก็จะไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามดำเนินการลักษณะเดียวกันกับฝ่ายเรา
ฉะนั้น “ความเป็นศูนย์กลางของเครือข่าย” จึงเกิดจากข้อเท็จจริงที่ว่า..เครือข่ายการติดต่อสื่อสารได้ถูก
นำมาใช้เพื่อช่วยให้การทำสงครามสารสนเทศเกิดขึ้นได้จริงในยุทธบริเวณ
๑.๒ การจัด
๑.๒.๑ พัน.ส.บก.ทบ.
หน่วย ส.ในระดับกองทัพบก คือ กรมทหารสือ่ สารที่ ๑ หรือ ส.๑ ได้แก่ ส.๑ พัน.๑๐๑,
ส.๑ พัน.๑๐๒ ประกอบด้วย
๑.๒.๑.๑ กองบังคับการ และกองร้อยกองบังคับการ (อจย.๑๑-๒)
๑.๒.๑.๒ กองพันทหารสื่อสาร จำนวน ๒ กองพัน (อจย.๑๑-๑๕)
๑.๒.๒ พัน.ส.ทภ.
๑.๒.๒.๑ การจัด หน่วย ส.ในระดับกองทัพภาค คือ พัน .ส.ทภ.(อจย.๑๑-๕๕)
ได้แก่ ส.พัน.๒๑ ทภ.๑, ส.พัน.๒๒ ทภ.๒, ส.พัน.๒๓ ทภ.๓, ส.พัน.๒๔ ทภ.๔, ส.พัน.๓๕ นสศ. ประกอบด้วย
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๗๔
(๑) กองบังคับการและกองร้อยกองบังคับการ
(๒) กองร้อยวิทยุและศูนย์ข่าว
(๓) กองร้อยสายและวิทยุถ่ายทอด
๑.๒.๒.๒ ภารกิจ พัน.ส.ทภ.จัดวางการสื่อสารประภทวิทยุ, การสื่อสารประเภทสาย
และจัดตั้งศูนย์ข่าวให้กับ กองบัญชาการกองทัพภาค รวมทั้งการวางการสื่อสารทางสายด้วยวิทยุถ่ ายทอด
จากกองบัญชาการกองทัพภาคไปยังหน่วยรองหลักของกองทัพภาค, หน่วยขึ้นสมทบ, หน่วยขึ้นการควบคุม
ทางยุทธการ และหน่วยอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
๑.๒.๒.๓ ขีดความสามารถ พัน.ส.ทภ.
(๑) สามารถสนับสนุนการติดต่อสื่อสารแก่ กองทัพภาคที่มี ๒ - ๔ กองพล
(๒) ติดตั้ง ปฏิบัติการ และดำรงการสื่อสารประเภทวิทยุ ด้วยชุดวิทยุ
โทรพิมพ์ได้ไม่เกิน ๓๕ ชุดพร้อมกันต่อหนึ่งหมวดวิทยุ
(๓) จัดชุดวิทยุสนับสนุนส่วนบังคับบัญชาและอำนวยการ กองบัญชาการ
กองทัพภาค ได้ไม่เกิน ๖ ชุดต่อหนึ่งหมวดวิทยุ
(๔) จัดตั้งศูนย์ข่าว พร้อมบริการนำสารยานยนต์ได้ ๑ ศูนย์ข่าว
(๕) จัดวางการสื่อสารทางสายด้วยวิทยุถ่ายทอด ด้วยระบบวิทยุขนาด
๑๒ ช่องเสียงได้ ๓ ระบบพร้อมกันต่อหนึ่งหมวดวิทยุถ่ายทอด และติดตั้ งปฏิบัติการ และดำรงการสื่อสาร
ทางสาย ได้ไม่เกิน ๑๐๐ ทางสาย
(๖) บริการภาพนิ่ง รวมทั้งล้าง อัด ขยาย ภาพนิ่ง
(๗) ทำการรบอย่างทหารราบเมื่อจำเป็น
๑.๒.๓ พัน.ส.พล.
๑.๒.๓.๑ การจัดหน่วย ส.ในระดับกองพล คือ พัน.ส.พล.(อจย.๑๑ - ๓๕) ได้แก่
ส.พัน.๑, ส.พัน.๒, ส.พัน.๓, ส.พัน.๔ พล.ร.๔, ส.พัน๕ พล.ร.๕, ส.พัน๖ พล.ร.๖, ส.พัน.๙ พล.ร.๙, ส.พัน.๑๑
พล.ม.๑, ส.พัน.๑๒, ส.พัน.๑๓ พล.ปตอ., ส.พัน.๑๕ พล.ร.๑๕ ประกอบด้วย
(๑) กองบังคับการและกองร้อยกองบังคับการ
(๒) กองร้อยวิทยุและศูนย์ข่าว
(๓) กองร้อยสายและวิทยุถ่ายทอด
๑.๒.๓.๒ ภารกิจ พัน.ส.พล.จัดการสื่อสารให้แก่กองบัญชาการกองพล รวมทั้ ง
การสื่อสารไปยังหน่วยต่าง ๆ ที่ปฏิบัติการภายใต้การบังคับบัญชาของกองบัญชาการกองพล และจัดบริการ
การภาพให้กับกองพล
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๗๕
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๗๗
หลักนิยมของเหล่าทหารขนส่ง
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กรมการขนส่งทหารบก
๑.๑.๑ เป็นส่วนราชการขึ้นตรงกองทัพบก เป็นเหล่าช่วยรบ มีภารกิจและหน้าที่ในการ
วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ ดำเนินการวิจัยและพัฒนา เกี่ยวกับการจัดหาส่งกำลัง
ซ่อมบำรุงและการบริการ กำหนดหลักนิยมและทำตำรา ตลอดทั้งการฝึกและศึกษา ทั้งนี้เกี่ยวกับกิจการ และ
สิ่งอุปกรณ์ของเหล่าทหารขนส่ง มี เจ้ากรมการขนส่งทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
๑.๑.๒ ขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่สำคัญ
๑.๑.๒.๑ วางแผน อำนายการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ และดำเนินการ
เกี่ยวกับการส่งกำลังบำรุงสายขนส่ง ตามแผนและนโยบายของกองทัพบก
๑.๑.๒.๒ ค้นคว้า วิจัย พัฒนา และให้คำแนะนำทางวิชาการสายขนส่งเกี่ยวกับ
การผลิต การจัดหา การส่งกำลัง การซ่อมบำรุง และการบริการ
๑.๑.๒.๓ กำหนดมาตรฐานและคุณลักษณะเฉพาะของสิ่งอุปกรณ์สายขนส่ง
๑.๑.๒.๔ รวบรวมความต้องการและพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับงบประมาณด้าน
ส่งกำลังบำรุงสายขนส่งและการเคลื่อนย้ายสนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพบก
๑.๑.๒.๕ ดำเนินการขนส่งกำลังพล สิ่งอุปกรณ์และสัตว์ ให้แก่หน่วยต่าง ๆ ของ
กองทัพบก และหน่วยอื่นที่ได้รับมอบหมาย ด้วยการขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำเฉพาะในลำน้ำ และการ
ขนส่งทางอากาศอย่างจำกัด
๑.๑.๒.๖ ให้การศึกษาและอบรมกำลังพลเหล่าทหารขนส่งและเหล่าทหารอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของกองทัพบก
๑.๑.๒.๗ กำหนดหลักนิยม จัดทำหลักสูตร ตำรา แบบฝึกวิชาการเหล่าทหาร
ขนส่ง และประสานการศึกษาวิชาการเหล่าทหารขนส่งกับทหารอื่น ๆ
๑.๑.๒.๘ ทำการทดสอบและออกใบอนุญาตขับรถยนต์ทหารให้แก่กำลังพลของ
หน่วยต่าง ๆ ในกองทัพบก
๑.๑.๒.๙ จัดทำและออกแบบเครื่องช่วยฝึกที่เกี่ยวกับวิชาการเหล่าทหารขนส่ง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๗๘
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธขี องหน่วยในปัจจุบัน
การปฏิบัติทางยุทธวิธีในดำเนินการเกี่ยวกับการส่งกำลังบำรุงสายขนส่ง ยึดปฏิบัติตามหลักนิยม
การส่งกำลังบำรุงของ ทบ.(รส.๔-๐) และหลักนิยมการส่งกำลังบำรุงของ ทบ.ในยามปกติ
ปัจจุบัน ขส.ทบ.อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงแนวสอนที่ใช้อยู่ใน รร.ขส.ขส.ทบ.วิชาการขนส่ง
ทางรถยนต์ วิชาการขนส่งทางรถไฟ วิชาการขนส่งทางน้ำ วิชาการขนส่งทางอากาศ และวิชาการเคลื่อน
Control ย้าย และเอกสารการแปลเรื่อง การควบคุมการเคลื่อนย้าย (Movement Control ATP 4-16,
April 2013) ทบ.สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิยมของ ทบ.ไทย และภัยคุกคามในปัจจุบัน
------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๘๒
หลักนิยมของเหล่าทหารพลาธิการ
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กรมพลาธิการทหารบก
๑.๑.๑ เป็นกรมฝ่ายยุทธิบริการ มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับกิจการด้านการกำกับ
การเลี้ยงดูทหาร เพื่อดูแลการปฏิบัติการเลี้ยงดูให้ทหารได้รับประโยชน์มากที่สุด พร้อมทั้งกำกับดูแลปรนนิบตั ิ
บำรุง การจำหน่าย การเบิกทดแทน ชุดสูทภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเลี้ยง เพื่ อให้หน่วยมีใช้ได้
ตลอดเวลา หากการเลี้ยงดูทหารในกองทัพบกมีแบบแผนและมาตรฐานเลี้ยงดูที่ดีเช่นเดียวกันทุก ๆ หน่วย
ย่อมส่งผลให้ทหารมีขวัญและกำลังใจการการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและอำนาจการรบที่
ไม่มีตัวตนให้มากยิ่งขึ้น
๑.๑.๒ ภารกิจ
กรมพลาธิการทหารบก มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ
ดำเนินการ วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการผลิต จัดหา ส่งกำลัง ซ่อมบำรุง บริการ กำหนดหลักนิยมและตำรา
ตลอดจนการฝึกและศึกษา ทั้งนี้เกี่ยวกับกิจการและสิ่งอุปกรณ์ของเหล่าทหารพลาธิการ โดยมีขอบเขตความ
รับผิดชอบและหน้าที่ ดังนี้
๑.๑.๒.๑ เสนอนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ เกี่ยวกับการ
กำหนดความต้องการ ผลิต จัดหา ส่งกำลัง ซ่อมบำรุง การบริการสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ
๑.๑.๒.๒ ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการของเหล่าพลาธิการ
๑.๑.๒.๓ กำหนดหลั ก นิ ย ม วิ จ ั ย และพั ฒ นา จั ด ทำตำราและคู ่ ม ื อ เกี ่ ย วกั บ
วิทยาการสายพลาธิการ
๑.๑.๒.๔ ดำเนินการจัดหา ผลิต และซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ
๑.๑.๒.๕ วางแผน อำนวยการ จัดทำและปรับปรุงหลักสูตร ตลอดจนดำเนินการ
ให้การศึกษาเหล่าทหารพลาธิการ
๑.๑.๒.๖ ดำเนินการเกี่ยวกับสถานพักผ่อนตามที่ได้รับมอบ
๑.๑.๒.๗ ดำเนิ น การเกี่ ย วกั บ การเกษตรกรรมเพื ่ อ สนั บ สนุ น การผลิ ต และ
สนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพบกตามที่ได้รับมอบ
๑.๑.๓ การจัด
กรมพลาธิการทหารบก ได้มีการจัดโดยใช้ อัตราเฉพาะกิจ หมายเลข ๓๕๐๐ มี
หน่วยขึ้นตรง ๒๐ หน่วย ดังนี้
๑.๑.๓.๑ แผนกธุรการ ๑.๑.๓.๒ กองกำลังพล
๑.๑.๓.๓ กองยุทธการและการข่าว ๑.๑.๓.๔ กองส่งกำลังบำรุง
๑.๑.๓.๕ กองปลัดบัญชี ๑.๑.๓.๖ กองวิทยาการ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๘๓
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๘๖
หลักนิยมของเหล่าทหารสรรพาวุธ
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
เหล่ า ทหารสรรพาวุ ธ มี ฐ านะเป็ น เหล่ า สนั บ สนุ น ทางการช่ ว ยรบ ให้ ก ารสนั บ สนุ น
สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒, ๔ และ ๕ สายสรรพาวุธ ในเขตยุทธบริเวณ เพื่อเป็นหลักในการประกันความสำเร็จ
ให้กับหน่วยรับการสนับสนุนทั้งหลาย ให้ดำรงความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และอำนาจการยิงของตนไว้ได้
ตลอดระยะเวลาที่กำหนด และหากภารกิจการสนับสนุนนี้ล้มเหลว ย่อมกระทบกระเทือนต่อผลสำเร็จของ
การปฏิบัติการทางทหารของหน่วยเป็นส่วนรวม สิ่งอุปกรณ์ครบชุดสายสรรพาวุธที่มีอยู่มากมายแบบในพื้นที่
ต่าง ๆ ของยุทธบริเวณทำให้ได้มาซึ่งความคล่องแคล่ว และอำนาจการยิง การสนับสนุนสายสรรพาวุธ
ที่สมบูรณ์ต่อรายการสิ่งอุปกรณ์เหล่านี้ ประกอบด้วย การส่งกำลัง การซ่อมบำรุง และบริการพิเศษอื่น ๆ
ซึ่งจะต้องกำหนดขอบเขตหรือลักษณะแห่งการปฏิบัติตามสภาพ แวดล้อม และปริมาณของยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวุธที่ใช้อยู่ในแต่ละส่วนของยุทธบริเวณนั้น ซึ่งเป็นความต้องการและให้การสนับสนุนทางสรรพาวุธ
ทั้งสิ้น ทั้งนี้ จึงทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยสรรพาวุธที่แตกต่างกั นหลายประเภท การที่จะจัดให้มี
การสนับสนุนอย่างครบถ้วนรวมอยู่ในหน่วยสรรพาวุธเพียงหน่วยเดียวนั้น ย่อมกระทำไม่ได้ ดังนั้น จึงต้อง
แบ่งหน้าที่ในการสนับสนุนให้แก่หน่วยสรรพาวุธประเภทต่าง ๆ ซึ่งแต่ละหน่วยจัดขึ้นเพื่อปฏิบัติการเฉพาะ
หน้าที่ หน่วยสรรพาวุธบางหน่วย จึงเป็นหน่วยชำนาญเฉพาะในกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ การส่งกำลัง
การซ่อมบำรุง และบางหน่วยจึงเป็นหน่วยที่มีความชำนาญเฉพาะเป็นพิเศษ เช่น การทำลายล้างวัตถุระเบิด
การเทียบสภาพทางขี ปนวิถี และการข่าวกรองทางเทคนิค หน่วยสรรพาวุธสนับสนุนโดยตรงส่วนมาก
จะปฏิบัติทั้งพันธกิจการส่งกำลังและการซ่อมบำรุง ส่วนหน่วยที่สนับสนุนทั่วไป และหน่วยสนับสนุนประจำที่
จะปฏิบัติเฉพาะพันธกิจหลักอันใดอันหนึ่งใน ๓ ประการดังกล่าว
๑.๒ กองสรรพาวุธเบากองพล อจย.๙-๒๕
๑.๒.๑ การจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๘๗
------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๙๐
หลักนิยมของเหล่าทหารสารวัตร
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
ทหารสารวัตรมีภารกิจที่จะต้องปฏิบัติทั้งในยามปกติและยามสงคราม ดังนี้
๑.๑. ยามปกติ
๑.๑.๑ การรักษาระเบียบวินัย กฎหมาย และคำสั่ง โดยการสอดส่องตรวจตราให้
ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมอยู่ในระเบียบวินัยความสงบ
เรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
๑.๑.๒ ว่ากล่าวตักเตือนและจับกุมทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงาน
ในสังกัดกลาโหมที่กระทำความผิด
๑.๑.๓ การเรือนจำทหาร
๑.๑.๔ การความคุมการจราจรทางทหาร
๑.๑.๕ การอารักขาบุคคลสำคัญ
๑.๑.๖ การักษาความปลอดภัยทางวัตถุ
๑.๑.๗ การป้องกัน และการวิจัยอาชญากรรมในกองทัพบก
๑.๑.๘ การสืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร
๑.๑.๙ การฝึก และการศึกษาวิชาการเหล่าทหารสารวัตร
๑.๑.๑๐ การปฏิบัติหน้าที่อื่นตามผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารจะกำหนด
๑.๑.๑๑ ปฏิบัติภารกิจตามที่กองทัพบกมอบหมาย
๑.๒ ยามสงคราม
๑.๒.๑ การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง คำชี้แจง
และแบบธรรมเนียมทหาร
๑.๒.๒ การควบคุ ม จราจรทางทหาร รวมถึ ง การสนั บ สนุ น และคุ ้ ม กั น การ
เคลื่อนย้ายหน่วยทางยุทธวิธี และทางธุรการ
๑.๒.๓ การอารักขาบุคคลสำคัญ
๑.๒.๔ การรักษาความปลอดภัยทางวัตถุ
๑.๒.๕ การเรือนจำ
๑.๒.๖ การควบคุมทหารพลัดหน่วย
๑.๒.๗ การเชลยศึก
๑.๒.๘ การดำเนินการต่อชนชาติศัตรู ผู้ลี้ภัย และพลเรือนชาติอื่นที่ถูกกักกัน
๑.๒.๙ การปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนหลัง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๙๑
ขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่ที่สำคัญ
๑) เสนอนโยบาย และแนะนำทางวิชาการเกี่ยวกับกิจการทหารสารวัตร
๒) วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการเกี่ยวกับการรักความปลอดภัย สถานที่และบุคคลที่
กองทัพบกกำหนด การรักษาระเบียบวินัย การจับกุมทหารที่กระทำความผิด การอารักขาบุคคลสำ คัญ
การจราจรในกิจการทหาร กิจการเรือนจำ และดำเนินการเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ใน
อำนาจศาลทหาร รวมทั้งทหารพลัดหน่วยและเชลยศึก
๓) ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการเหล่าทหารสารวัตร
๔) กำหนดหลักนิยม วิจัยและพัฒนา จัดทำตำรา และคู่มือเกี่ยวกับกิจการของเหล่าทหารสารวัตร
๕) วางแผน อำนวยการ จัดทำและปรับปรุงหลักสูตร ตลอดจนดำเนินการให้การฝึกศึกษากำลังพล
เหล่าทหารสารวัตร
๑.๒.๑.๒ การจัดหน่วยทหารสารวัตรในส่วนภูมิภาค ได้แก่ หน่วยทหารสารวัตรที่ขึ้น
ตรงต่อ กองทัพภาค และมณฑลทหารบก
(๑) กองทัพภาค ประกอบด้วย แผนกสารวัตร แผนกสืบสวนสอบสวน
และกองพันทหารสารวัตรกองทัพภาค
แผนกสารวัตร เป็นฝ่ายกิจการพิเศษในกองบัญชาการกองทัพภาค
แผนกสืบสวนสอบสวน เป็นฝ่ายกิจการพิเศษในกองบัญชาการกองทัพภาค
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๙๓
ภารกิจ
๑) ดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย
๒) การควบคุมการจราจรในกิจการทหาร
๓) การสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม
๔) การรักษาความปลอดภัยให้แก่บคุ คลสำคัญ อาคารสถานที่ ที่ตงั้ และสิ่งอำนวยความสะดวก
ทางทหาร รวมถึงการปฏิบัตกิ ารควบคุมการก่อความไม่สงบในพื้นที่เขตหลัง
๕) การสนับสนุนการรบให้หน่วยดำเนินกลยุทธ์ของกองทัพภาค และปฏิบตั ิการเกี่ยวกับกิจการ
สารวัตรทหาร ด้านอืน่ ๆ ในลักษณะรวมการให้กบั กองทัพภาคหรือทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ขีดความสามารถ
๑) บังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสัง่ ข้อบังคับ และแบบธรรมเนียมทหาร
๒) อารักขาและรักษาความปลอดภัยแก่ผู้บังคับบัญชาชัน้ สูง และบุคคลสำคัญตามทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย
๓) กำหนดมาตรการและดำเนินการรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง สิง่ อำนวยความสะดวกทางทหาร
และการขนส่ง
๔) จับคุมทหารหรือบุคคลทีอ่ ยู่ในอำนาจศาลทหารทีก่ ระทำความผิด เสนอแนะมาตรการ และ
ป้องกันอาชญากรรมในเขตพื้นที่ทหาร
๕) อำนวยการและควบคุมการจราจรทางทหารในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบ
๖) สนับสนุนการปฏิบตั ิการในพื้นที่ส่วนหลัง
๗) ดำเนินการต่อเชลยศึก หรือบุคคลพลเรือนที่ถูกกักกันเมื่อได้รับมอบหมาย
๘) ร่วมมือในการปฏิบตั ิการแบบตำรวจทัง้ การปฏิบตั ิการร่วมและผสม
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๙๔
๙) ซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ในอัตราขั้นหน่วยได้
๑๐) ทำการรบอย่างทหารราบได้เมื่อจำเป็น
(๓) ร้อย.สห.มทบ.
ภารกิจ ปฏิบัติงานในกิจการสารวัตรทหารให้แก่มณฑลทหารบก
การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของมณฑลทหารบก
ขีดความสามารถ
๑) บังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ และแบบธรรมเนียมของทหาร
๒) อารักขาและรักษาความปลอดภัยแก่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง และบุคคลสำคัญตามที่ ได้รับ
มอบหมาย
๓) รักษาความปลอดภัยที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารและการขนส่ง
๔) จับกุมทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารที่
กระทำความผิด และป้องกันอาชญากรรมในเขตพื้นที่ทหาร
๕) อำนวยการและควบคุมการจราจรทางทหาร
๖) สนับสนุนการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง
๗) ดำเนินการต่อเชลยศึก บุคคลพลเรือนชาติอื่นที่ถูกกักกันเมื่อได้รับมอบหมาย
๘) ทำการรบอย่างทหารราบได้เมื่อจำเป็น
๙) มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ๒๕%
๑.๒.๑.๓ ส่วนกำลังรบ ได้แก่ ฝ่ายการสารวัตร และกองพันทหารสารวัตรกองทัพ
ภาค การสนับสนุนการรบให้หน่วยดำเนินกลยุทธ์ของกองทัพภาค และปฏิบัติการเกี่ยวกับกิจการสารวัตร
ทหารด้านอื่นๆ ในลักษณะรวมการให้กับกองทัพภาคหรือที่ได้รับมอบหมายปฏิบัตงิ านในกิจการสารวัตรทหาร
ด้านการสนับสนุนการรบ มีกองร้อยทหารสารวัตรสนาม เป็นหน่วยในอัตราของกองพันทหารสารวัตรกองทัพ
ภาค โดยอาจกำหนดขึ้นสมทบหรือขึ้นควบคุมทางยุทธการกองพลทหารราบหรือกองพลทหารม้า หรือหน่วย
อื่นๆ ได้ตามความจำเป็นทางด้านยุทธการ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๙๗
(
(
หลักนิยมของเหล่าทหารแพทย์
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป/ขีดความสามารถ
หลักนิยมของการบริการแพทย์ในยุทธบริเวณ จำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อให้การบริการ
แพทย์เป็นไปอย่างต่อเนือ่ งตามแผนการดำเนินกลยุทธ์ทุกสถานการณ์ดว้ ยศักยภาพที่สูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่
การรบที่มีการบาดเจ็บจำนวนมาก และสามารถคงไว้ซึ่งการเคลื่อนย้ายติดตามหน่วยดำเนินกลยุท ธ์ โดยที่มี
การบริการแพทย์ต่อหน่วยในสนามได้โดยตรงในขณะปฏิบัติการ การควบคุมแบบรวมการจะได้ผลดี กว่าการ
ควบคุ ม แบบแยกการ หน่ ว ยสายแพทย์ ม ั ก ได้ ร ั บ การควบคุ ม โดยผู ้ บ ั ง คั บ บั ญ ชาหรื อ นายแพทย์ ใ หญ่
กองบัญชาการ/ผู้บังคับหน่วยสายแพทย์ที่ได้รับการมอบหมาย
๑.๒ ระดับการบริการทางการแพทย์ในยุทธบริเวณ แบ่งเป็น ๕ ระดับ ได้แก่
๑.๒.๑ การบริการแพทย์ระดับหน่วย
หมวดเสนารักษ์และการบริการแพทย์ระดับหน่วย อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์
(อจย) กรม ร.ร้อย.บก.กรม ร. และ มว.สร.ร้ อย.บก.กรม ร.(ยานยนต์) ตามคำสั่ง ทบ (ฉพาะ) ลับ ที่ ๗๑/๕๐
เรื่อง อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ (ครั้งที่ ๒๓) ลง ๑๒ ก.ย.๕๐ ให้ใช้ อจย.หมายเลข ๗-๑๒ พ. (๕ ธ.ค.๓๐)
กองบังคับการและกองร้อยกองบังคับการ กรมทหารราบ และ อจย.หมายเลข ๗-๑๕ พ. (๕ ธ.ค.๓๐) กองพัน
ทหารราบ
เพื่อติดตามสนับสนุน และเมื่อหน่วยออกปฏิบัติการในพื้นที่ใดก็จะได้รับการ
สนับสนุนจากบริการแพทย์ของหน่วยนั้น ๆ เช่น ถ้าต้องไปปฏิบัติการในพื้นที่ของ พัน .ร.กำลังพลที่ได้รับ
บาดเจ็บ หลังจากที่นายสิบพยาบาลซึ่งประจำอยู่ ได้ให้การปัจจุบันพยาบาลแล้ว เมื่อจำเป็นต้องส่งกลับก็ร้อง
ขอการส่งกลั บไปยังที่พยาบาลกองพัน หรือถ้าหน่วยปฏิบัติอยู่ในพื้นที่ของ กรม ร.ก็ร้องขอการส่งกลับ
ผู้บาดเจ็บไปยังที่พยาบาล ซึ่งการบริการแพทย์ระดับหน่วยนี้ จะดำเนินการต่อผู้บาดเจ็บนั้นต่อไปตามระบบ
ทางการแพทย์ที่เหมาะสม
๑.๒.๒ การบริการแพทย์ระดับกองพล
๑.๒.๒.๑ ฝ่ายการแพทย์กองพล จะจัด ตั้งสำนักงานอยู่ในกองบัญชาการกองพล
ทำหน้าที่เป็นฝ่ายอำนวยการของผู้บังคับบัญชาการกองพล ประเภทฝ่ ายกิจการพิเศษ (ทางการแพทย์) ตอน
เสนารักษ์ กองร้อยกองบัญชาการกองพล จัดเป็นการบริการทางการแพทย์ระดับหน่วย มีภารกิจในการให้การ
รักษาพยาบาลขั้นต้นแก่เจ้าหน้าที่ใน บก.พล. และ นขต.บก.พล.
๑.๒.๒.๒ กองพันเสนารักษ์ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบยานยนต์ (พัน.สร.
กรม สน.พล.ม.ตาม อจย. ๘-๓๕ ม. (๒๙ ม.ค. ๒๙) และ พล.ร. ตาม อจย. ๘-๓๕ (๒๙ ม.ค.๒๔) และ ทัน.สร.
พล.ปตอ.ตาม อจย.๘-๔๕ (๒๕ มิ.ย. ๒๒))
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๐๒
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๐๔
หลักนิยมของเหล่าทหารการสัตว์
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
กรมการสัตว์ทหารบก มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ
ดำเนินการ วิจัยและพัฒนาเกีย่ วกับการผลิต การจัดหา การส่งกำลัง การซ่อมบำรุง การบริการ การสุขาภิบาล
เวชกรรมป้องกัน การรักษาพยาบาล การบำรุงรักษา การผสมพันธุ์สัตว์ และการเสบียงสัตว์ การสนับสนุนการ
ปฏิบัติการทางทหารด้วยการใช้สัตว์ และการเกษตรของกองทัพบก กำหนดหลักนิยมและทำตำรา ตลอดจน
การฝึก ศึกษา ทั้งนี้ เกี่ยวกับกิจการและสิ่งอุปกรณ์ของเหล่าทหารการสัตว์ มี เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก เป็น
ผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
๑.๒ การจัดหน่วย
หน่วย อจย. ในความรับผิดชอบของกรมการสัตว์ทหารบกประกอบด้วย ๒ หน่วย ได้แก่
๑.๒.๑ กองพันสุนัขทหาร
๑.๒.๑.๑ ภารกิจ สนับสนุนทหารในการรบด้วยการลาดตระเวน สะกดรอบ ค้นหา
วัตถุระเบิดและเพิ่มขีดความสามารถให้กับหน่วยทหารในการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งทางทหารและคลัง
ยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ ให้การสนับสนุนหน่วยทหารในการค้นหายาเสพติด อาวุธปืนและวัตถุระเบิด ตลอดจน
ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามที่กองทัพบกมอบหมาย
๑.๒.๑.๒ การจัด
๑.๒.๒.๒ การจัด
๒.๔ สรรพตำราที่ใช้ในปัจจุบัน
๒.๔.๑ คู่มือราชการสนาม
- รส.๑๓-๑๐๐-๑ ว่าด้วย กองพันสัตว์ต่าง (พ.ศ.๒๕๔๓)
- รส.๑๓-๑๐๐-๒ ว่าด้วย กองพันสุนัขทหาร (พ.ศ.๒๕๔๕)
- รส.๔-๐๒.๑๘ ว่าด้วย หลักนิยมทหารการสัตว์ (พ.ศ.๒๕๔๕)(ยังไม่ได้ประกาศใช้)
- รส.ทหารการสัตว์ ว่าด้วย การใช้สัตว์ต่าง (พ.ศ.๒๕๕๕) (ยังไม่ได้ประกาศใช้)
- หลั ก นิ ย มของหมวดบรรทุ ก ต่ า ง ในภารกิ จ ช่ ว ยเหลื อ ด้ า นมนุ ษ ยธรรมและ
การบรรเทาสาธารณภัย (พ.ศ.๒๕๖๑)
๒.๔.๒ คู่มือการฝึก/คู่มือเทคนิค
- คท.๑๓-๑ ว่าด้วย การใช้สุนัข
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร สำหรับสุนขตรวจค้นวัตถุระเบิด
(พ.ศ.๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขตรวจค้นทุ่นระเบิด
และอุโมงค์) (พ.ศ.๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขตรวจค้นยาเสพติด
ให้โทษ) (พ.ศ.๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้ บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขลาดตระเวน)
(พ.ศ.๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขสะกดรอย) (พ.ศ.
๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขยามสายตรวจ)
(พ.ศ.๒๕๕๗)
- คู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกผู้บังคับสุนัขทหาร (สำหรับสุนัขยาม) (พ.ศ.๒๕๕๗)
๒.๔.๓ ระเบียบหลักสูตรการฝึก
- ระเบียบหลักสูตรการฝึกเป็นหน่วยเบื้องต้น (หมู่ หมวด ตอน) สำหรับกองพัน
สัตว์ต่าง เหล่าทหารการสัตว์ (พ.ศ.๒๕๒๑)
- ระเบียบหลักสูตรการฝึกเป็น หมู่ หมวด ตอน ของกองพันสุนขทหารเหล่าทหาร
การสัตว์ (พ.ศ.๒๕๔๒)
- ระเบียบหลักสูตรการฝึกร่วมการรบ ป่า -ภูเขา สำหรับกองพันสัตว์ต่าง กรมการ
สัตว์ทหารบก เหล่าทหารการสัตว์ (๔ สัปดาห์) (พ.ศ.๒๕๕๐)
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๐๙
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๐
หลักนิยมของเหล่าทหารดุริยางค์
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า : กรมดุริยางค์ทหารบก
๑.๑. กล่าวทั่วไป กรมดุริยางค์ทหารบก เป็น หน่วยทหารของกองทัพบก มีหน้าที่ วางแผน
อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ ดำเนินการ เกี่ยวกับกิจการดนตรี การฝึกศึกษา วิทยาการ การพัฒนา
การดนตรี และปฏิบัติการแสดงดนตรีของกองทัพบก โดยมีขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่สำคัญ ดังนี้
๑.๑.๑ วางแผน อำนวยการ กำกับการ ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการดนตรีทั้งปวงในฐานะ
เป็นหัวหน้าเหล่าสายวิทยาการของ ทบ.
๑.๑.๒ ดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกและศึกษาวิชาดนตรีให้กับกำลังพลเหล่าทหารดุริยางค์
ของ ทบ.
๑.๑.๓ ดำเนิน การผลิต นักเรียนดุริยางค์ทหารบก เพื่อบรรจุเป็นกำลังพลเหล่าทหาร
ดุริยางค์ให้แก่หน่วยทหารใน ทบ.
๑.๑.๔ ดำเนินการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการดนตรีของกำลังพลเหล่าทหารดุริยางค์
ทั้งเป็นบุคคลและเป็นหน่วย ด้วยการทดสอบ เพื่อจัดระดับขีดความสามารถ และการตรวจสอบการฝึก
การบรรเลงและประเมินผลในระดับ มว.ดย.
๑.๑.๕ พัฒนาวิทยาการดนตรี การประพันธ์บทเพลง การเรียบเรียงเสียงประสานตลอดจน
ให้คำแนะนำและเสนอแนะวิทยาการดนตรีให้ส่วนราชการในกองทัพบก และส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หรือตามที่ได้รับมอบหมายจาก ทบ.
๑.๑.๖ ปฏิบัติการแสดงดนตรี และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบันเทิงของกองทัพบก และ
ปฏิบัติการแสดงดนตรีในงานพระราชพิธีต่าง ๆ รวมทั้งปฏิบัติการแสดงดนตรี เพื่อสนับสนุนหน่วยทหาร และ
ส่วนราชการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบ
๑.๑.๗ กำหนดหลักนิยมด้านการดนตรี คุณลักษณะเฉพาะเครื่ องดนตรี และอุปกรณ์
ประกอบการแสดงดนตรีของ ทบ.
๑.๑.๘ กำหนดความต้อง การจัดหา การเก็บรักษาและการแจกจ่าย สิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
กับสายวิทยาการเหล่าทหารดุริยางค์ของ ทบ.
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๑
๑.๓ ขีดความสามารถ
๑.๓.๑ กองดนตรี มีหน้าที่ ปฏิบัติการแสดงดนตรีสากล โยธวาทิต หัสดนตรี และดนตรีไทย
ดำเนินการจัดวงดุริยางค์ จาก มว.ดนตรีต่าง ๆ ไปบรรเลงตามลักษณะงาน ผลิตผลงานเพลงใหม่ และเรียบเรียง
เสียงประสาน เพื่อสนับสนุนภารกิจของ ทบ.และส่วนราชการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบ
๑.๓.๒ กองวิทยาการ มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการค้นคว้าและพัฒนาวิทยาการดนตรี
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคและวิทยาการที่ทันสมัยให้กับสายงานด้านดนตรีสากล และดนตรีไทย ตลอดจน
ให้คำปรึกษาเสนอแนะด้านการประพันธ์เพลง การเรียบเรียงเสียงประสาน การวิจัยและพัฒนาด้านดนตรี
การบันทึกเสียง เพื่อใช้ในกิจการของ ทบ. รวมทั้งดำเนินการในเรื่องคุณลักษณะเฉพาะ สป.เครื่องดนตรี และ
เครื่องประกอบเครื่องดนตรี การจัดทำหลักนิยมทางทหาร การแปลเอกสารตำราต่างประเทศ ห้องสมุด และ
พิพิธภัณฑ์
๑.๓.๓ แผนกบริการ มีหน้าที่ ให้บริการเกี่ยวกับ การสวัสดิการ การขนส่ง การรักษาพยาบาล
การสาธารณูปโภคและการสุขาภิบาล รวมทั้งการสนับสนุนกำลังพลเกี่ยวกับการรักษาการณ์ รักษาความปลอดภัย
การซักรีด และการบริการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบ
๑.๓.๔ โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก มีหน้าที่ ดำเนินการฝึก และศึกษาวิชาดนตรี ให้กับกำลัง
พลเหล่าทหารดุริยางค์ นักเรียนดุริยางค์ทหารบก
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๒
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธีของหน่วยในปัจจุบัน
สรรพตำราที่ใช้ในปัจจุบัน
- ข้อบังคับทหารว่าด้วยการเคารพ มาตรา ๓ การบรรเลงเพลงเคารพ
- คู่มือการตรวจสอบการฝึกการบรรเลงของหมวดดุริยางค์
- FM ๑๒ – ๕๐ U.S. Army Band เอกสารแปล
- หลักนิยม (รส.) ที่ใช้ในปัจจุบัน กำลังดำเนินการ
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๓
หลักนิยมของเหล่าทหารการข่าว
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
กรมข่าวทหารบก (ขว.ทบ.) จัดหน่วยตาม อฉก.๑๒๐๐ มีภารกิจ วางแผน อำนวยการ
ประสานงาน กำกับการ และดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านการข่าว การรักษาความปลอดภัย การข่าวลับ การทูต
ฝ่ายทหารบกไทยในต่างประเทศ การติดต่อกับทูตฝ่ายทหารบกต่างประเทศในประเทศไทย การพิธีการทูต
ที่กองทัพบกต้องร่วมด้วย การฝึกและศึกษาของเจ้าหน้าที่ข่าวของกองทัพบก การเตรียมชุดเจ้าหน้าข่าวกรอง
ทางทหารสำหรับปฏิบัติงาน ตลอดจนกำหนดความต้องการและควบคุมการจ่ายแผนที่
การข่าวกรองนั้นจะสามารถให้การสนับสนุนแก่การรบหรือให้การสนับสนุนทางยุทธวิธีได้
อย่างไร ผู้บังคับหน่วยทางยุทธวิธีย่อมต้องการข่าวกรองทางการรบหรือข่าวกรองทางยุทธวิธี รวมทั้งการต่อต้าน
ข่าวกรอง (ตข.) เพื่อที่จะใช้ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมานั้นให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้น เพื่อที่จะ
ให้ได้การดำเนินงานดังกล่าวได้ผล จำเป็นต้องอาศัยระบบงานทางการข่าวกรองที่ดีมีประสิทธิภาพอันหนึ่ง
ผู้ที่ดำเนินทางด้านข่าวกรองเราเรียกว่า ฝอ.๒ หรือนายทหารฝ่ายการข่าว สธ.๒ เป็นผู้ดำเนินการงานด้าน
ฝ่ายอำนวยการ ทำการกำกับดูแลกิจการเรื่องการข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรองของหน่วยนั้น
๑.๒ การจัด
๑.๒.๑ ตำแหน่งงานในหน้าที่ของนายทหารฝ่ายการข่าว เรียกอีกอย่างหนึ่ง คือ ฝอ.๒ หรือ
สธ.๒ ซึ่งทั้งสองคำนี้จะใช้แทนชื่อนายทหารฝ่ายการข่าว ตามระดับหน่วยดังต่อไปนี้
- ระดับกองทัพ และกองพล เรียกว่า สธ.๒
- ระดับกรม และกองพัน เรียกกว่า ฝอ. ๒
**หน่วยที่ต่ำกว่าระดับกองพัน ไม่มีการจัดแผนกข่าวกรอง**
๑.๒.๒ การจัดแผนกข่าวกรอง
หน่วยตั้งแต่ระดับกองพันขึ้นไป จะมีการจัดแผนกข่าวกรองขึ้นแผนกหนึ่งตาม
อัต ราของหน่วยนั้น ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับนายทหารฝ่ายการข่าวจะพิจารณากำหนดจัดแผนกของตนให้
เหมาะสมกับสถานการณ์ แล้วเสนอต่อฝ่ายเสนาธิการไปยังผู้บังคับบัญชาหน่วยเพื่ออนุมัติอัตราต่อไป โดย
แผนกข่าวกรองของหน่วยในระดับต่าง ๆ ดังนี้
๑.๒.๒.๑ กองพัน แผนกข่าวกรองของหน่วยระดับกองพันนับว่าเล็กมาก เพราะ
โดยปกติมีกำลังพล คือ นายทหารฝ่ายการข่าว (ฝอ.๒) ยศ ร.ท. ๑ นาย, ผช.นายทหารฝ่ายการข่าว ยศ ร.ท.
๑ นาย, เสมียนข่าวกรอง ยศจ่า ๑ นาย และ เสมียนข่าวกรอง ยศ ส.อ. ๑ นาย
๑.๒.๒.๒ กรม แผนกข่าวกรองของกรมมีเช่นเดียวกับกองพัน คือ นายทหารฝ่าย
การข่าว (ฝอ.๒) ยศ ร.ท. ๑ นาย, ผช.นายทหารฝ่ายการข่าว ยศ ร.ท. ๑ นาย, เสมียนข่าวกรอง ยศจ่า ๑ นาย
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๔
และ เสมียนข่าวกรอง ยศ ส.อ. ๑ นาย แต่มีบุคคลมาสมทบด้วยอีก คือ น.แผนที่ ยศ ร.อ. ๑ นาย และ
ผช.น. แผนที่ ยศ ร.ท. ๑ นาย
๑.๒.๒.๓ กองพล
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธีของหน่วยในปัจจุบัน
๒.๑ หลักพื้นฐานทางยุทธวิธี
๒.๑.๑ การดำเนินงานข่าวกรองทางยุทธวิธี มีความต้องการข่าวกรองในเรื่องเกี่ยวกับ
ฝ่ายตรงข้ามและสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการ ประกอบด้วย สภาพภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศ และท่าที
ของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก เพื่อนำมาใช้ให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจของหน่วย ทั้งนี้ ลักษณะ
ของการดำเนินงานข่าวกรองทางยุทธวิธี จะมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินการข่าวกรองต่าง ๆ อาทิ การ
ปฏิบัติตามวงรอบข่างกรอง การเตรียมสนามรบด้านการข่าว การปฏิบัติการข่าวกรอง การเฝ้าตรวจและ
การลาดตระเวน (กฝล.) การข่าวกรองในการดำเนินกรรมวิธีเป้าหมาย
๒.๑.๒ การดำเนินงานตามวงรอบข่าวกรอง (Intelligence Cycle) เป็นกระบวนการให้
ได้มาซึ่งข่าวกรองที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการข่าวสารของผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ เพื่อ
นำไปใช้ในการตกลงใจที่บรรลุภารกิจ ขณะเดียวกั นนายทหารข่าวกรองจะใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มเติมช่องว่าง
ข่าวกรองที่ขาดหายไป และนำไปใช้ในการยืนยันหรือปฏิเสธประมาณการข่าวกรองต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิง่
นำไปพิจารณาในการพัฒนาหนทางปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามที่ได้จาการเตรียมสนามรบด้านการข่าว (IPB) โดย
ดำเนินการเป็นวงรอบ ๔ ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผนรวบรวมข่าวสาร ขั้น ตอนที่ ๒ การรวบรวม
ข่าวสาร ขั้นตอนที่ ๓ การดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวสาร และขั้นตอนที่ ๔ การใช้และการกระจายข่าวกรอง
๒.๒ ข้อพิจารณาการใช้
๒.๒.๑ การปฏิบัติการข่าวกรองกระทำเพื่อช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาในเรื่องข่าวสารข้อมูล
เกี่ยวกับภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศ ฝ่ายตรงข้าม และประชาชานในพื้นที่ปฏิบัติการ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อน
การปฏิบัติทางยุทธวิธีและปฏิบัตอิ ย่างต่อเนือ่ งไปตามสถานการณ์การรบที่พัฒนาไปตามลำดับ การปฏิบัติการ
ข่าวกรองจะใช้ทรัพยากรของหน่วยต่าง ๆ ที่มีอยู่ ได้แก่ หน่วยดำเนินกลยุทธ์ หน่วยลาดตระเวน ทั้งทาง
อากาศและพื้นดิน ระบบการตรวจจับเป้าหมาย และหน่วยข่าวกรองทางทหาร ตลอดจนข่าวกรองที่ได้รับการ
สนับสนุนจากหน่วยเหนือ รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวของรัฐบาล
๒.๒.๒ ผู้บังคับบัญชาจะให้คำแนะนำในการดำเนินงานข่าวกรอง โดยการกำหนดหัวข้อ
ข่าวสารสำคัญและความต้องการข่าวกรองอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้ในระหว่างการแสวงข้อตกลงใจ และวาดภาพ
การรบได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาจะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนและควบคุมการปฏิบัติงานด้าน
การข่าวในระดับเดียวกับงานด้านยุทธการ รวมทั้ง จะต้องแน่ใ จว่ามีการกระจายข่าวกรองไปตามความ
ต้องการของหน่วยรองอย่างทันเวลา
๒.๒.๓ นายทหารข่าวกรอง จะต้องให้ข่าวกรองแก่ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ
ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ ขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศ โดยต้อง
ดำเนินการในเรื่องต่อไปนี้
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๖
- การดำเนินการตามวงรอบข่าวกรอง
- การเตรียมสนามรบด้านการข่าว (IPB)
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๘
หลักนิยมการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
การส่งกำลังบำรุงเป็นงานสาขาหนึ่งของการช่วยรบ ซึ่งประกอบไปด้วยการวางแผน และ
การปฏิบัติการสนับสนุนหน่วยเกี่ยวกับงานการช่วยรบ รวมทั้งกิจการทั้งปวงนอกเหนือไปจากการยุทธ์ อันได้แก่
๑.๑.๑ การกำหนดนโยบาย การวางแผน การวิจัยและพัฒนาการ การทำงบประมาณใน
การส่งกำลังบำรุง
๑.๑.๒ การออกแบบ และการพัฒนา การจัดหา การเก็บรักษา การแจกจ่าย การเคลื่อนย้าย
การซ่อมบำรุง การส่งกลับ และการจำหน่ายยุทโธปกรณ์
๑.๑.๓ การเคลื่อนย้าย การส่งกลับ และการรักษาพยาบาลกำลังพล
๑.๑.๔ การจัดหาหรือการก่อสร้าง การซ่อมแซม การดำเนินงานและการจัดสิ่งอำนวยความ
สะดวกต่าง ๆ
๑.๑.๕ การจัดหาหรือจัดให้มีบริการต่าง ๆ
การส่งกำลังบำรุงเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานมากมายหลายส่วน แต่ความมุ่งหมายนั้น
มีเพียงการสนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อให้การช่วยรบสามารถทำการรบได้ชัยชนะในที่สุด โดยการจัดสิ่งอุปกรณ์
และบริการอย่างเพียงพอและทันเวลาให้กับหน่วยรับการสนับสนุนตามความต้องการ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญในการ
ส่ ง กำลั ง บำรุ ง ให้ บ รรลุ ว ั ต ถุ ป ระสงค์ ไ ด้ น ั ้ น จะต้ อ งมี ก ารจั ด ระบบงานการส่ ง กำลั ง บำรุ ง ที ่ เ หมาะสม
ประกอบด้วย บุคลากร สิ่งอุปกรณ์ เงินหรืองบประมาณ และการบริหารระบบที่เหมาะสม
๑.๒ การจัดหน่วยส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก
ในการดำเนินการด้านการส่งกำลังบำรุง กองทัพบก ได้แบ่งการจัดหน่วยทางการส่งกำลัง
บำรุง ออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ หน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับกองทัพบก หน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับกองทัพภาค
หน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับกองพล และหน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับต่ำกว่ากองพล
๑.๒.๑ หน่วยที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุงในระดับกองทัพบก ได้แก่ กรมฝ่ายเสนาธิการ
กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษบางหน่วย
๑.๒.๑.๑ กรมฝ่ายเสนาธิการ
(๑) กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก มีหน้าที่
- วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการและดำเนินการ
เกี่ยวกับงานส่งกำลังบำรุงทั้งปวง การฝึกและการศึกษาด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก
- แนะนำและกำกับดูแล ฝ่ายยุทธบริการและฝ่ายกิจการพิเศษ
ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๑๙
(๑) การเคลื่อนย้ายและการขนส่งสิ่งอุปกรณ์
(๒) การดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน การก่อสร้าง การซ่อมแซม ตกแต่ง
อาคารสถานที่ การติดตั้งและซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวก
(๓) การรักษาพยาบาลและการส่งกลับ
(๔) เป็นตำบลส่งกำลังของกองทัพภาค หรือตามที่กองทัพบกกำหนด
เพือ่ ทำหน้าที่เก็บรักษา แจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์บางประเภท
๑.๒.๓ หน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับกองพล ในระดับกองพลจะมีหน่วยสนับสนุนทางการ
ส่งกำลังบำรุงเป็น ๒ แบบ ดังนี้
๑.๒.๓.๑ กองพลทหารราบแบบเดิม จะมีหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง
แบบสายยุทธบริการ ๕ สาย ได้แก่ กองพลาธิการกองพล กองสรรพาวุธเบากองพล กองพันทหารเสนารักษ์
กองพล กองพันทหารสื่อสารกองพล และกองพันทหารช่างสนามของกองพล
๑.๒.๓.๒ กองพลทหารราบแบบมาตรฐาน จะมีหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง
บำรุง ที่จัดแบบพันธกิจ คือ กรมสนับสนุน เป็นหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง สำหรับการจัดหน่วย
ของกรมสนับสนุน ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
๑.๒.๔ หน่วยส่งกำลังบำรุงในระดับต่ำกว่ากองพล ในระดับต่ำกว่ากองพลลงมาจะไม่มี
การจัดหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงแยกให้เห็นอย่างชัดเจน หน่วยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิ บัติหน้าที่
สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงจะรวมอยู่กับหน่วยกำลังรบ เช่น หมวดสื่อสาร หมวดบริการ หมวด/หมู่
เสนารักษ์ นายทหารส่งกำลัง และนายสิบสูทกรรม เป็นต้น
๑.๓ ขีดความสามารถ
การส่งกำลังบำรุงมีความเกี่ยวเนื่องกับงานด้านต่าง ๆ สรุปได้ ๕ ด้าน ดังนี้
๑.๓.๑ การส่งกำลัง (Supply)
การส่งกำลัง เป็นการปฏิบัติการในเรื่องความต้องการ การจัดหา การแจกจ่าย
และการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ รวมทั้งการควบคุมการปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าว ซึ่งเรียกโดยรวมว่า “วงรอบ
การส่งกำลัง”
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๑
จากภาพวงรอบการส่งกำลังหรือวงจรชีวิตของสิ่งอุปกรณ์ จะหมุนไปตามลำดับ
จากความต้อง การจัดหา การแจกจ่าย การซ่อมบำรุง การจำหน่าย ไม่มีการหมุนย้อยกลับทาง ส่วนการ
ควบคุมนั้น อยู่ตรงกลาง คือ ควบคุมทุกขั้นตอนของวงรอบ ทั้งนี้ วงรอบการส่งกำลังจะเริ่มต้น ณ จุดไหนก็ได้
แต่โดยธรรมดาแล้วความต้องการมักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งกำลัง กล่าวคือ เมื่อเกิดความขาดแคลน
ก็จะต้องมีการกำหนด “ความต้องการ” เมื่อ “จัดหา” เสร็จแล้วสิ่งอุปกรณ์จะเข้าสู่ระบบ “การแจกจ่าย” ซึ่ง
ครอบคลุมถึง การรับ การเก็บรักษา การจ่าย และการขนส่งอุปกรณ์ หลังจากสิ่งอุปกรณ์เข้าไปอยู่ใน
ครอบครองของหน่วยใช้ มีการใช้และเสื่อมสภาพไป จำเป็นต้องตัดออกไปจากระบบ นั่นก็คือ “การจำหน่าย”
เมื่อมีการจำหน่ายย่อมนำไปสู่ความขาดแคลนขึ้นอีก ซึ่งจะหมุนเป็นวงรอบเช่นนี้ตลอดไป
๑.๓.๒ การซ่อมบำรุง (Maintenance)
การซ่อมบำรุง เป็นการกระทำใด ๆ ที่มุ่งหมายจะรักษายุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ใน
สภาพที่ใช้การได้หรือมุ่งหมายที่จะทำให้ยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดกลับคืนมาอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ และหมาย
รวมถึงการตรวจสภาพ การทดสอบ การบริการ การซ่อมแก้ การซ่อมใหญ่ การซ่อมสร้าง การดัดแปลง และ
การซ่อมคืนสภาพ โดยการดำเนินการซ่อมบำรุง จะต้องยึดหลักการดังนี้
๑.๓.๒.๑ ต้องปฏิบัติตามคู่มือที่ได้รับจากกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการ
พิเศษที่รับผิดชอบ
๑.๓.๒.๒ การซ่อมแก้ ต้องพยายามกระทำ ณ ที่ซึ่งยุทโธปกรณ์ตั้งอยู่
๑.๓.๒.๓ ยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดเกินขีดความสามารถของหน่วย หน่วยจะส่งไปซ่อม
ที่หน่วยซ่อมบำรุงประเภทสูงกว่า หรือร้องขอให้หน่วยซ่อมบำรุงประเภทสูงกว่าดังกล่าวมาดำเนินการซ่อมให้
๑.๓.๒.๔ ห้ามทำการยุบรวม เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจหรือสถานการณ์
ทางยุทธวิธีบังคับ
สำหรับความรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงเป็นความรับผิดชอบของบุคคล (ผู้ใช้
ยุทโธปกรณ์ หรือมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับของบัญชาของตนใช้) จะต้องรับผิดชอบในการดูแลรักษา รวมทั้งการ
ปรนนิบตั ิบำรุงยุทโธปกรณ์ในความรับผิดชอบของตนอย่างรอบคอบอยู่เสมอ ในขั้นของผู้ใช้ และความรับผิดชอบ
ของผู้บงั คับบัญชา ผู้บงั คับบัญชาทุกระดับชัน้ จะต้องสอดส่องดูแลจนเป็นทีแ่ น่ใจว่ายุทโธปกรณ์ที่อยู่ในความ
รับผิดชอบของตนได้รับการปรนนิบตั ิบำรุง และการซ่อมบำรุงอย่างดี และอยูใ่ นสภาพที่ใช้การได้อยู่เสมอ
๑.๓.๓ การขนส่ง (Transportation)
การขนส่ง เป็นการใช้เครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกอันจำเป็นมาสนับสนุน
การเคลื่อนย้าย โดยมุ่งที่จะให้การเคลื่อนย้ายสามารถบรรลุภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีพันธกิจ คือ
การจัดให้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
และทางท่ อ ขอบเขตของการขนส่งนั้นหมายรวมถึงการเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์และ
สิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งต่าง ๆ การวางแผนทางฝ่ายอำนวยการ การจัดการอันจำเป็นเพื่อให้การ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๒
--------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๕
หลักนิยมกิจการพลเรือนของของกองทัพบก
๑. กล่าวทั่วไป
กรมกิจการพลเรือนทหารบก (กร.ทบ.) จัดตั้งขึ้นเมื่อ ๑๓ มกราคม ๒๕๒๕ ตาม อฉก.๑๗๐๐
มีฐานะเป็นกรมฝ่ายเสนาธิการของกองทัพบก มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการ และ
ดำเนินการเกี่ยวกับงานกิจพลเรือน และงานที่ได้รับมอบหมายที่ดำเนินต่อการสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร
และการปกครอง การฝึกศึกษาในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับงานกิจการพลเรือนของกองทัพบก ตลอดจนแนะนำ
และกำกับดูแลเกี่ยวกับการดำเนินงานกิจการพลเรือนของหน่วยต่างๆ ของกองทัพบก
จากประสบการณ์การปฏิบัติงานกิจการพลเรือนของกองทัพบกที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์
ภัยคุกคามที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิมอย่างมาก ทำให้การปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน สนับสนุน
ภารกิจต่างๆ ของกองทัพบก ทั้งในด้านการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบ
เรียบร้อยภายในประเทศ และรวมถึงการช่วยเหลือประชาชน ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
พร้อมทั้งยังประสบกับความขัดแย้งทางความคิดของคนในชาติ ที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นกลุ่มเป็นพวกจนอาจเป็น
ชนวนสำคัญนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อกัน ซึ่งเริ่มเห็นชัดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงเพิ่มมาก
ยิ่งขึ้น อีกทั้งได้มีกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาจาบจ้วงและก้าวล่วงสถาบันหลักของชาติ โดยใช้เทคโนโลยีทางด้านสื่อสาร
มวลชนเป็นเครื่องมือในการตอกย้ำสร้างกระแสอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน กรมกิจการพลเรือนทหารบก จึงได้
นำเอาประสบการณ์ทั้งปวงในทุกมิติ ผนวกเข้ากับวิสัยทัศน์ทางกิจการพลเรือน จัดทำเป็น “หลักนิยม” ซึ่งมี
สาระสำคัญครอบคลุมงานด้านกิจการพลเรือนในทุกมิติ ทั้งในส่วนที่มุ่งเน้นสนับสนุน การปฏิบัติการทางทหาร
เพื่อให้การใช้กำลังทหารของกองทัพบกในทุกภารกิจได้รับการยอมรับ และได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
ทุกภาคส่วนในสังคมไทย และประชาคมโลก ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการผสมผสานทรัพยากร ทั้งฝ่ายทหาร
และฝ่ายพลเรือน เข้าด้วยกันเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความผาสุก โดยแบ่งงาน
งานกิจการพลเรือน ออกเป็น ๔ แขนง ได้แก่ การปฏิบัติการกิจการพลเรือน การประชาสัมพันธ์ การเสริมสร้าง
อุดมการณ์ชาติ และ การปฏิบัติการจิตวิทยา
การปฏิบัติการกิจการพลเรือน หมายถึง การดำเนินงานทั้งปวงของหน่วยทหารที่เกี่ยวข้องหรือ
กระทบกระเทือนต่อส่วนราชการพลเรือน ประชาชน และทรัพยากรในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งในยามปกติ
ยามสงคราม และในสภาวะไม่ปกติอื่นๆ เพื่อให้บรรลุภารกิจที่หน่วยทหารต้องการ
การประชาสัมพันธ์ หมายถึง การดำเนินการเผยแพร่ข่าวสาร และการเสริมสร้างความเข้าใจ
ด้วยวิธีการที่มีแผน และกระทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีภายในองค์กร และระหว่างองค์กร
กับกลุ่มประชาชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้เป็นที่เชื่อมั่นศรั ทธา และได้รับการ
สนับสนุนจากประชาชน
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๖
๒.๓ ส่วนสนับสนุนการรบ
๒.๓.๑ หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) มีกองกิจการพลเรือนรับผิดชอบ
งานกิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน (ผอ.กกร.นปอ.) เป็นผู้รับผิดชอบ
ทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๓.๒ กองพลทหารปืนใหญ่ (พล.ป.) มีฝ่ายกิจการพลเรือนรับผิดชอบงานกิจการพลเรือน
ภายในพื้นที่รับผิดชอบ มีหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน (หน.ฝกร.พล.ป.) เป็นผู้รับผิดชอบทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๔ ส่วนส่งกำลังบำรุง
๒.๔.๑ กรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.), กรมการทหารสื่อสาร (สส.), กรมพลาธิ การ
ทหารบก (พธ.ทบ.), กรมแพทย์ทหารบก (พบ.) และกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) มีกองยุทธการและ
การข่าวรับผิดชอบงานกิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้อำนวยการกองยุทธการและการข่าว
(ผอ.กยข.) เป็นผู้รับผิดชอบทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๔.๒ กรมยุทธโยธาทหารบก (ยย.ทบ.), กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) และ
กรมการสัตว์ทหารบก (กส.ทบ.) มีกองแผนและโครงการรับผิดชอบงานกิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ
มีผู้อำนวยการกองแผนและโครงการ (ผอ.กผค.) เป็นผู้รับผิดชอบทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๕ ส่วนการฝึกศึกษาและหลักนิยม
๒.๕.๑ กรมยุทธศึกษาทหารบก (ยศ.ทบ.) มีกองยุทธการและการข่าวรับผิดชอบงาน
กิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้อำนวยการกองยุทธการและการข่าว (ผอ.กยข.ยศ.ทบ.) เป็นผู้รับผิดชอบ
ทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๕.๒ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.) มีกองกิจการพลเรือนรับผิดชอบงาน
กิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน (ผอ.กกร.รร.จปร.) เป็นผู้รับผิดชอบ
ของทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๖ ส่วนภูมิภาค : มณฑลทหารบก (มทบ.) มีหน้าที่บังคับบัญชากำลังประจำถิ่นของกองทัพบก
รวมทั้งระดมสรรพกำลังและการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ ทั้งนี้มีการปรับภารกิจ/บทบาทให้มี
ความรับผิดชอบเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบอื่นๆ การรักษาความมั่นคงภายใน และการช่วยเหลือประชาชน
โดยมีการจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (สง.ปรมน.จว.) เพื่อเพิ่มขี ดความสามารถ
ในการอำนวยการและควบคุมการปฏิบัติ ในภารกิจการรักษาความมั่นคงภายใน รวมทั้งมีการจัดตั้งกองพัน
มณฑลทหารบก (พัน.มทบ.) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบูรณาการภารกิจการช่วยเหลือประชาชนและ
การรักษาความมั่นคงภายในในพื้นที่รับผิดชอบ มีกองกิจการพลเรือนรับผิดชอบงานกิจการพลเรือนในพื้นที่
รับผิดชอบ มีหัวหน้ากองกิจการพลเรือน (หก.กกร.) เป็นผู้รับผิดชอบทางฝ่ายอำนวยการ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๘
๒.๗ ส่วนพัฒนาประเทศ
๒.๗.๑ กองพลพัฒนา (พล.พัฒนา) เป็นหน่วยวางแผน อำนวยการ ประสานงาน และควบคุม
กำกับดูแล การปฏิบัติการส่งเสริมสนับสนุน และดำเนินการพัฒนาประเทศทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
จิตวิทยา และการทหาร เพื่อให้เกิดความมั่นคงของชาติ รวมทั้งให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน ที่
ประสบสาธารณภัยภายในขอบเขตที่ได้รับการมอบหมาย ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้ง ร้อย.บรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้
กองทัพบกมีหน่วยรองรับภารกิจการช่วยเหลือประชาชน มีฝ่ายกิจการพลเรือนรับผิดชอบงานกิจการพลเรือน
ภายในพื้นที่รับผิดชอบ และมีหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองพล (หน.ฝกร.พล.พัฒนา) เป็นผู้รับผิดชอบ
ทางฝ่ายอำนวยการ
๒.๗.๒ กองพลทหารช่าง (พล.ช.) เป็นหน่วยพัฒนาในระดับ กองทัพบกเสริมให้กับกองพล
พัฒนาของกองทัพภาค ในกรณีที่มีงานช่างขนาดใหญ่ที่เป็นงานพิเศษเกินขีดความสามารถของกองพลพัฒนา
มีฝ่ายกิจการพลเรือนรับผิดชอบงานกิจการพลเรือนภายในพื้นที่รับผิดชอบ และมีหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองพล
(หน.ฝกร.พล.ช) เป็นผู้รับผิดชอบทางฝ่ายอำนวยการ
๓. การแบ่งกลุ่มงานกิจการพลเรือน
การดำเนินงานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพบกส่วนใหญ่เป็นการปฏิบัติภารกิจภายในประเทศ
เป็นหลัก ซึ่งมีความแตกต่างจากการปฏิบัติภารกิจด้านกิจการพลเรือนของกองทัพต่างประเทศ โดยเฉพาะ
ประเทศที่มิได้มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักของชาติ ดังนั้น การจัดทำหลักนิยมด้านกิจการพลเรือน
ของกองทัพบก จึงเป็นการนำเอาประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริงเป็นแนวคิด โดยพิจารณาให้มีความ
เหมาะสมกับสภาพการเมือง การปกครอง สังคมวัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบไทย รวมทั้ งนำประสบการณ์
ความขัดแย้งทางการเมืองในแต่ละห้วงเวลา และการปฏิบัติภารกิจที่สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร
ในสถานการณ์ต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยแบ่งกลุ่มงานด้านกิจการพลเรือนของ ทบ. ออกเป็น ๓ กลุ่ม
ได้แก่ การสนับสนุนสถาบันหลักของชาติ การสนับสนุนพลเรือน และ การสนับสนุนการปฏิบัติทางทหาร
๓.๑ การสนับสนุนสถาบันหลักของชาติ
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักที่สร้างชาติบ้านเมือง และปกครองดูแลให้อาณา
ประชาราษฎร์มีความร่มเย็นเป็นสุข มาตั้งแต่เริ่มความเป็นชาติไทย ให้ดำรงคงอยู่จนถึงพวกเราคนไทยในทุกวันนี้
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ได้ทรงทำนุบำรุงประเทศชาติ โดยทรงพระวิริยะอุตสาหะ ทุ่มเทพระวรกาย และ
พระสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ มาได้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น กองทัพบก
และกำลังพลทุกคนจึงต้องมุ่งมั่นทุ่มเทในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาไว้เหนือเกล้าฯ
โดยจะต้องดำเนินการในทุกวิถีทางที่จะป้องกันมิให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดมาจาบจ้วง และล่วงละเมิดพระบรม
เดชานุภาพโดยเด็ดขาด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๒๙
๓.๓ การสนับสนุนการปฏิบัติทางทหาร
การปฏิบัติการทางทหารในภารกิจต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือและ
การสนับสนุนจากฝ่ายพลเรือน รวมทั้งมีการใช้ทรัพยากรของฝ่ายพลเรือน ทั้งในยามปกติ ยามสงคราม และ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๑
ภายหลังเกิดสงคราม ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติการของฝ่ายทหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุภารกิจ
ตามที่ต้องการ ดังนั้นการดำเนินงานด้านกิจการพลเรือนของฝ่ายทหารที่มุ่งเน้นสนับสนุนการปฏิบัติทางทหาร
จึงเป็นการดำเนินงานที่ฝ่ายทหาร เข้าไปประสานสัมพันธ์ และใช้ทรัพยากรทั้งฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน
ร่วมกัน เพื่อสนับสนุนให้การปฏิบัติในภารกิจต่างๆ ทางทหารสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ ได้แก่ ภารกิจใน การ
ป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
และการปฏิบัติการอื่น ๆ
๓.๓.๑ การป้องกันประเทศ
การใช้กำลังในการป้องกันประเทศของกองทัพบก ได้จัดทำแผนการปฏิบัติทางทหาร
เอาไว้ตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์ ในยามปกติ ยามใกล้เกิดสงครามหรือยามฉุกเฉิน ยามสงคราม
และภายหลังเกิดสงคราม ดังนั้นการดำเนินงานด้านกิจการพลเรือนสนับสนุนการปฏิบัติการทางด้านยุทธการ
และการข่าว จึงเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญของงานด้านกิจการพลเรือนในการสนับสนุนการปฏิบัติทางทหาร
ซึ่งจะมุ่งเน้นสนับสนุนด้วยกำลังประชาชน และการสนับสนุนการปฏิบัตกิ ารข่าวสาร รวมทั้งงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
กับฝ่ายพลเรือนและทรัพยากรในพื้นที่ปฏิบัติการ โดยมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้
๑) ยามปกติ
(๑) การเตรียมสนามรบด้านกิจการพลเรือน เพื่อสำรวจ รวบรวม และวิเคราะห์
ข้อมูลพื้นที่ด้านกิจการพลเรือน ในการจัดตั้งและพัฒนาเครือข่ายกำลังประชาชนในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการ
พัฒนาพื้นที่เพื่อความมั่นคงให้เกื้อกูลต่อการปฏิบัติทางทหารในปัจจุบันและอนาคต
(๒) สนับสนุนการปฏิบัติตามพันธกิจ ๓ ประการ ตามแนวความคิดในการ
สถาปนาความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยมีงานกิจการพลเรือนสามารถในการสนับสนุนการปฏิบัติ ได้แก่
- การเฝ้าตรวจและการป้องกันชายแดน เน้นในการใช้กำลังประชาชน
สนับสนุน กำลังรบหลักในภารกิจการเฝ้าตรวจชายแดน โดยใช้กำลังประชาชนที่มีอยู่ในแผนงาน/โครงการ
ทั้งของกองทัพบกและหน่วยงานอื่นๆ
- การจัดระเบียบพื้นที่ และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน
ดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และภูมิคุ้มกันให้กับหมู่บ้านหรือ
ชุมชนตามแนวชายแดน ทั้งในเรื่องระบบป้องกันและเตือนภัย การพัฒนาพื้นที่ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง
ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยาและการทหาร จนกระทั่งสามารถอยู่ได้ตามแนวชายแดนอย่างมี
ความสุข และการเสริมสร้างอุดมการณ์ชาติ เพื่อให้รักและหวงแหนแผ่นดินที่อยู่อาศัย จนสามารถจัดตั้งกำลัง
ประชาชนให้การ ช่วยเหลือทางราชการในการป้องกันประเทศ รวมทั้งเป็นแหล่งข่าวประชาชนที่มีประสิทธิภาพ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๒
- การประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ความช่วยเหลือ
ในการพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านและช่วยเหลือเมื่อมีภัยพิบัติต่างๆ เกิดขึ้น รวมถึงการจัดที่พักพิงชั่วคราวให้กับ
ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ นอกจากนั้นยังสามารถใช้การกีฬาและวัฒนาธรรมเป็นสื่อในการสร้างความสัมพันธ์
อันดีต่อกันได้อีกด้วย
(๓) การปฏิบัติการจิตวิทยา ดำเนินการโดยการชี้นำให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ
มีทัศนคติและการกระทำที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติของฝ่ายเรา ซึ่งจะครอบคลุมการโฆษณาชวนเชื่อและการ
ปฏิบัติการทั้งปวง ที่มีผลทางจิตวิทยาต่อกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด
(๔) การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ทำความเข้าใจ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์
อันดีระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชนด้วยการรับ และกระจายข่าวสารที่จำเป็นตามแผนและโครงการ
ต่างๆ ให้ประชาชนได้ทราบถึงผลการดำเนินงานของฝ่ายเรา เพื่อจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจน
บรรลุเป้าหมาย โดยใช้สื่อมวลชน เครื่องมือทางการประชาสัมพันธ์ทั้งสิ้นที่มีอยู่
(๕) การช่วยเหลือประชาชนและผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ เตรียมการซักซ้อม
แผนการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่การรบ ตลอดจนการช่วยเหลือในเรื่องเครื่องอุปโภคและบริโภคต่างๆ
ตามขีดความสามารถ
(๖) การสนับสนุนการแก้ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน โดยการให้
ความร่วมมือ สนับสนุน การติดต่อประสานงานกับหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา
๒) ยามใกล้เกิดสงครามหรือยามฉุกเฉิน
(๑) พัฒนากำลังประชาชนตามแผนการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคง
ของชาติในการสนับสนุนการจัดระเบียบพื้นที่และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เช่น การฝึกทบทวน
กำลังประชาชนให้มีความพร้อมที่จะทำการสู้รบกับฝ่ายตรงข้ามเมื่อยามสงคราม
(๒) ฝึก/ปฏิบัติร่วม กำลังรบหลัก –กำลังประจำถิ่น–กำลังประชาชน เพื่อให้
มีความพร้อมที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับกำลังรบต่างๆ ได้เมื่อยามสงคราม
(๓) สนับสนุนการเฝ้าตรวจและจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน โดยให้กำลังประชาชน
ติดตามสถานการณ์และรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งการต่อต้านฝ่ายตรงข้าม
ตามขีดความสามารถ
(๔) ควบคุมและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้มีการ
สำรวจทรัพยากรในพื้นที่และเตรียมวางแผนที่จะขอใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่อย่างรอบคอบเมื่อ
ยามสงคราม
๓) ยามสงคราม
(๑) ใช้กำลังประชาชนสนับสนุนกำลังประจำถิ่น และกำลังรบหลัก เช่น แจ้งเตือน
การเข้ามาของข้าศึก สอดส่อง และป้องกันการปฏิบัติของหน่วยก่อวินาศกรรม/บ่อนทำลายของข้าศึก รวมทั้ง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๓
เป็นแกนนำของประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของฝ่ายเราและขัดขวางการปฏิบัติของข้าศึก
ตลอดจนร่วมปฏิบัติการสงครามกองโจรหรือสงครามนอกแบบเมื่อสามารถกระทำได้
(๒) กำหนดมาตรการควบคุม และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ให้
กีดขวางการยุทธ
(๓) ปฏิบัติการจิตวิทยาและการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการรบเป็นการ
ดำเนินการต่อฝ่ายข้าศึกเป็นเป้าหมายหลัก เพื่อทำลายขวัญ และกำลังใจในการต่อสู้ของข้าศึก ประชาชน ใน
พื้นที่การรบ เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือ และสนับสนุนการปฏิบัติของฝ่ายเรา กำลังฝ่ายเรา เพื่อเสริมสร้างขวัญ
และกำลังใจในการปฏิบัติการรบ
๓.๓.๒ การสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
การสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หมายถึง การดำเนินการ
เพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ใดที่เป็นภัยอันเกิดจากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ก่อให้เกิด
ความไม่สงบสุข ทำลายหรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ ให้กลับสู่
สภาวะปกติเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว
เป็นอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยสถานการณ์ที่ถือ
เป็นภัยซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้แก่ ความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคม
ความไม่ เ ชื ่ อ มั ่ น ของประชาชนต่ อ ระบบและสถาบั น การเมื อ ง การขาดความสมดุ ล ของการจั ด การ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
โรคระบาด ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ผู้หลบหนีเข้าเมือง
ในประเทศ ยาเสพติด และความยากจน
ภารกิจของกองทัพบกในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีความเกี่ยวเนื่อง
และสอดคล้องกันอย่างใกล้ชิดกับภารกิจของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และใช้
ทรัพยากรส่วนใหญ่ร่วมกัน ดังนั้น งานกิจการพลเรื อนของกองทัพบกในการสนับสนุนการดำเนินงานรักษา
ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงเป็นการประสานความร่วมมือหรือการจัดโครงการ/กิจกรรม เพื่อสนับสนุนแผน
ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไข
ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ต้องไม่ ส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักของหน่วย และสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ
โดยมุ่งเน้นงานด้านจิตวิทยา งานมวลชน และการปฏิบัติการข่าวสาร
๓.๓.๓ การสนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
การสนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ เป็นการดำเนินการเพื่อ
ป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งก่อให้เกิดความวุ่นวาย การจลาจล
และความไม่สงบสุข ซึ่งทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือกระทบ
ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้กลับสู่สภาวะปกติ โดยกำหนดให้ภารกิจดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของกำลัง
ของฝ่ายบ้านเมือง
บทบาทของทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศจะเกิดขึ้น ในกรณี
ที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบและกำลังของฝ่ายบ้านเมืองไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ รัฐบาลอาจประกาศใช้
พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ
การประกาศกฎอัยการศึก ตามความรุนแรงของสถานการณ์ โดยมอบหมายให้ฝ่ายทหารเข้าควบคุมและแก้ไข
สถานการณ์
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๕
๓.๓.๔ การสนับสนุนการปฏิบัติการอื่นๆ
การใช้กำลังทหารในการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ เป็นการใช้กำลังตามสถานการณ์ที่อาจ
จะเกิดขึ้นได้ตามห้วงเวลาที่มีปัญหาวิกฤตทั้งภายในประเทศหรือภายนอกประเทศ ซึ่งเมื่อมีการใช้กำลังทหาร
ปฏิบัติทางด้านยุทธการ หรือการใช้กำลังในการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ เป็นต้น การดำเนินงานด้านกิจการพลเรือน
ก็จะต้องมีความพร้อมที่ปฏิบัติควบคู่ไปด้วยเสมอ เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของกองทัพบกต่อสถานการณ์นั้นๆ
สำเร็จโดยสมบูรณ์ มีความชอบธรรมในการปฏิบัติการได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
งานกิจการพลเรือนในการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ บทบาทของทหารในการ
ปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนขึ้นอยู่กับภัยคุกคาม สถานภาพความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติการ การปฏิบัติงาน
ตามหน้าที่ขององค์กรพลเรือน และองค์กรเอกชน ขาดประสิทธิภาพ ตลอดจนปัญหาอุปสรรค และข้อจำกัด
ต่างๆ ทำให้หน่วยทหารจำเป็นที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้ภาพรวมของการปฏิบัติการรักษาสันติภาพมี
ความน่าเชื่อถือ อันเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการบรรลุภารกิจในความพยายามทางการทูต และการ
บรรลุข้อตกลงทางการเมือง ตลอดจนเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม อันเป็นจุดสูงสุดของการปฏิบัติภารกิจรักษา
สันติภาพ
๔. สรรพตำราที่ใช้ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน กร.ทบ. อยู่ในห้วงดำเนินการพัฒนาปรับปรุงหลักนิยมและทบทวนสรรพตำรา
ทั้งหมดที่ใช้ในด้านกิจการพลเรือน
---------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๖
หลักนิยมกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) เป็นกรมฝ่ายยุทธบริการ มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ
ประสานงาน ให้แนะนำเกี่ยวกับการป้องกัน เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ ตลอดจนดำเนินการตรวจทดลอง
สารพิษหรือสารตัวอย่างให้กับหน่วยต่างๆ ใน ทบ. กำกับการวิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับการผลิต ส่งกำลัง ซ่อม
บำรุงและการบริการ กำหนดหลักนิยมและทำตำรา ตลอดจนการฝึกและศึกษา ทั้งนี้เกี่ยวกับการปฏิบัติ และ
การป้องกันทาง เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ ตลอดจนกิจการวิทยาศาสตร์ ของกองทัพ ทหารบก โดย กรม
วิทยาศาสตร์ทหารบก แบ่งส่วนราชการออกเป็น แผนกธุรการ แผนกการเงิน แผนกจัดหา แผนกไพโรเทคนิค
กองแผนและโครงการ กองวิทยาการ กองคลัง กองบริการ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ทหารบก และกองร้อย
วิทยาศาสตร์ที่ ๑
๑.๒ การจัดหน่วย
กรมวิทยาศาสตร์ ทหารบก ทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุง ใช้ อฉก.๓๙๐๐ สำหรับ หน่วยทหาร
วิทยาศาสตร์ที่ใช้ อจย.ประกอบด้วย ๒ หน่วย ได้แก่ ร้อย.วศ.๑ ใช้ อจย.๓-๔ (๒ ก.ค. ๒๗) ซึ่งเป็นหน่วย
สนับสนุนการรบ โดย ทบ. ฝากการบังคับบัญชาไว้กับ วศ.ทบ .และมีตอนปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็น
นขต.ของ ร้อย.บร.สนาม พัน.สบร.บชร.
๑.๒.๑ กองร้อยวิทยาศาสตร์ที่ ๑ (Chemical Company) มีภารกิจ ให้การสนับสนุนการ
ปฏิบัติการทาง คชรน. แก่หน่วยกำลังรบของ ทบ. มีผังการจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๗
๑.๓ ขีดความสามารถ/การแบ่งมอบ
๑.๓.๑ กองร้อยวิทยาศาสตร์ที่ ๑
๑.๓.๑.๑ ขีดความสามารถ
- ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสารเคมีที่ส่งมาจากเขตหน้า
- จัดชุดตรวจทาง นชค. เพื่อการเตือนภัยในสนามได้ ๑ ชุด
- จัดชุดทำลายล้างพิษได้ ๒ ชุด เพื่อทำลายล้างพิษขั้นสมบูรณ์ให้แก่
กำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือเป็นพื้นที่
- จัดชุดทำควันทางยุทธวิธีได้ ๑ ชุด
- ซ่อมบำรุงขั้นหน่วยให้แก่ยานพาหนะและยุทโธปกรณ์สาย วศ.ในอัตรา
๑.๓.๑.๒ การแบ่งมอบ
- เป็น นขต.ของ กองพันวิทยาศาสตร์
- อาจจัดแยกสมทบให้หน่วยระดับกองทัพ หรือหน่วยกำลังรบอื่นของ ทบ.
ตามความเหมาะสม
๑.๓.๒ ตอนปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
๑.๓.๒.๑ ขีดความสามารถ ให้การสนับสนุนการทำลายล้างพิษ นชค. อย่างจำกัด
แก่หน่วย ในพื้นที่รับผิดชอบ
๑.๓.๒.๒ การแบ่งมอบ
- เป็นหน่วยในอัตราของ ร้อย.บร.สนาม พัน.สบร.บชร.
- ๑ ตอนปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ต่อ ๑ ร้อย.บร.สนาม
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธีของหน่วยในปัจจุบัน
๒.๑ หลักพื้นฐานทางยุทธวิธี
ร้อย.วศ.๑ เป็นหน่วยสนับสนุนการรบ จัดสมทบให้หน่วยระดับกองทัพ หรือหน่วยกำลังรบ
อื่นของ ทบ.ตามความเหมาะสม ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการด้าน คชรน.ในพื้นที่รับผิดชอบ เป็นหน่วยทาง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๘
๒.๒ ข้อพิจารณาการใช้
๒.๒.๑ อาวุธ เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ มีคุณสมบัตเิ ป็นอาวุธทีม่ ีอำนาจทำลายสูง ออกแบบ
เพื่อทำให้เกิดการสูญเสียเป็นกลุ่มก้อน อาวุธนี้เมื่อใช้แล้วหรือขูว่ ่าจะใช้หนทางปฏิบตั ิขนั้ การปฏิบตั ิ เป้าหมาย
เปลี่ยนไป
๒.๒.๑.๑ ลักษณะพิเศษของอาวุธเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์
(๑) ยังมีผลให้เกิดการสูญเสียเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ขนาดใหญ่
(๒) มีผลอันตรายตกค้าง
(๓) ในการป้องกันจำเป็นต้องใช้สิ่งอุปกรณ์และมาตรการที่กำหนดขึน้
โดยเฉพาะ
๒.๒.๑.๒ เป้าหมายการโจมตีด้วยอาวุธ เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ ลงฝ่ายที่
(๑) ไม่ได้มีการเตรียมการไว้เลย
(๒) มีความสามารถในการป้องกันต่ำ
(๓) ไม่มีอาวุธทำลายมนุษย์แบบเดียวกันหรือเหนือกว่า
(๔) ไม่ได้ระวังตัวทั้งที่มียุทธภัณฑ์ป้องกันตนอยู่แล้ว
๒.๒.๑.๓ ผลจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธ เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์
(๑) สูญเสียกำลังพลที่ไม่ได้รับการป้องกัน
(๒) ประสิทธิภาพการทำงานและการรบของกำลังพลลดลง
(๓) จำกัดการใช้ภูมิประเทศ อาวุธยุทโธปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก
(๔) เวลาขัดขวางการยิงสนับสนุนและการดำเนินกลยุทธ์
๒.๒.๒ ระดับกองทัพบก วศ.ทบ.เป็นกรมฝ่ายยุทธบริการและสนับสนุนการช่วยรบ มีหน้าที่
๒.๒.๒.๑ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการ วิจัยพัฒนา เกี่ยวกับ
การผลิต ส่งกำลังบำรุง และบริการ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๓๙
--------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔๑
หลักนิยมการรบพิเศษ
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.)
๑.๑.๑ กล่าวทั่วไป หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มีหน้าที่เตรียมแผนยุทธการ อำนวยการ
และดำเนินการปฏิบัติการพิเศษ ในพื้นที่รับผิดชอบ งานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการพิเศษทั้งปวงนั้นอาจจะ
กำหนดงานต่าง ๆ ได้ ดังนี้
๑.๑.๑.๑ เตรียมแผนยุทธการในเรื่องการปฏิบัติการพิเศษ ให้สอดคล้องกับแผน
ป้องกันประเทศ
๑.๑.๑.๒ เตรียมการ อำนวยการ และดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ
ในพื้นที่รับผิดชอบ
๑.๑.๑.๓ กำหนดความเร่งด่วนของพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษ
๑.๑.๑.๔ จัดหา เก็บรักษา แจกจ่ายข่าวกรองที่ใช้สนับสนุนการปฏิบัติการพิเศษ
๑.๑.๑.๕ แบ่งมอบภารกิจ พื้นที่ งาน ให้แก่หน่วยรองเพื่อเตรียมการปฏิบัติการ
พิเศษที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
๑.๑.๑.๖ พัฒ นาแผนยุทธการ ธุรการ ส่งกำลังบำรุง การติด ต่อสื่อสาร เพื่อ
สนับสนุนการปฏิบัติการพิเศษ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
๑.๑.๑.๗ วางแผน และดำเนินการฝึกหน่วยในความรับผิดชอบ และประสานการ
ปฏิบัติกับเหล่าทัพอื่น เพื่อฝึกผสมเหล่า เกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ
๑.๑.๑.๘ ดำรงการติด ต่อสื่อสารกับหน่วยทหาร หน่วยพลเรือน เจ้าหน้าที่ที่
เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการพิเศษ
๑.๑.๒ ภารกิจ
๑.๑.๒.๑ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับการ และปฏิบัติการเกี่ยวกับ
การปฏิบัติการพิเศษ
๑.๑.๒.๒ วางแผน อำนวยการ กำกับการและดำเนินการฝึก และศึกษาเกี่ยวกับ
การปฏิบัติการพิเศษ การส่งกำลังทางอากาศ และการยุทธ์ส่งทางอากาศ และการปฏิบัติการพิเศษอื่นที่ ทบ.
มอบหมาย
๑.๑.๒.๓ เป็นหน่วยสายวิทยาการ รพศ.ในการดำเนินการวิจัย พัฒนา กำหนด
หลักนิยม และทำตำราในทางวิทยาการที่เกี่ยวข้อง
๑.๑.๒.๔ ปกครองบังคับบัญชาหน่วยทหารที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
๑.๑.๓ การแบ่งมอบ เป็นส่วนราชการขึ้นตรงต่อ ทบ.
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔๒
๑.๑.๔ การจัด
๑.๒ พล.รพศ.๑
๑.๒.๑ การจัด เป็นหน่วยขึ้นตรง นสศ. มีหน่วยรองหลักระดับ กรม รพศ.จำนวน ๕ กรม
๑.๒.๒ ภารกิจ
๑.๒.๒.๑ ปฏิบัติการพิเศษ
๑.๒.๒.๒ ปฏิบัติการสนับสนุนมาตรการรักษาความมั่นคงภายใน
๑.๒.๒.๓ ปฏิบัติภารกิจพิเศษที่ได้รับมอบหมาย
๑.๒.๓ การแบ่งมอบ เป็นหน่วยขึ้นตรง หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
๑.๒.๔ ขีดความสามารถ
๑.๒.๔.๑ บังคับบัญชา วางแผน ดำเนินการทางธุรการ กำกับดูแลการปฏิบัติงาน
ของกองพล และหน่วยที่ขึ้นสมทบ
๑.๒.๔.๒ ปฏิบัติการพิเศษ การสนับสนุนมาตรการรักษาความมั่นคงภายใน และ
ภารกิจพิเศษที่ได้รับมอบ
๑.๓ ศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.) และ นขต.ศสพ.
๑.๓.๑ การจัด
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔๓
๒.๒ ข้อพิจารณาการใช้
๒.๒.๑ หลักการของการปฏิบัติการพิเศษของหน่วยรบพิเศษ
ในการปฏิบัติการทางยุทธวิธี หน่วยรบพิเศษจะปฏิบัติงานไปตามหลักพื้นฐานของ
การยุทธ์อากาศ-พื้นดิน ซึ่งเป็นหลักนิยมในการทำสงครามที่สำคัญของ ทบ.โดยได้อธิบายถึงวิธีการที่กำลังของ
ทบ.จะทำการวางแผนและดำเนินการยุทธ์ (หลัก) การรบและการเข้าปะทะที่สำคัญร่วมกับกำลังของเหล่าทัพ
อื่นๆ และพันธมิตร หลักนิยมนี้เป็นหลักนิยมที่เกื้อกูลต่อยุทธศาสตร์ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ตามยุทธศาสตร์
ทหารในการทำสงครามได้อย่างรวดเร็วและมีผลแตกหัก
๒.๒.๒ การปฏิบัติการร่วมของ หน่วยรบตามแบบ(Conventional Forces) และหน่วย
ปฏิบัติการพิเศษ (Special Operations Forces)
๒.๒.๒.๑ หลักนิยม ในการปฏิบัติการร่วมระหว่างหน่วยรบตามแบบ และหน่วยรบ
พิเศษ มีหลักพื้นฐาน เป็นไปตาม “กรอบแนวความคิดในการใช้กำลัง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของ ทบ.
ตามแนวทางยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี”
๒.๒.๒.๒ หน่วยรบตามแบบ และหน่วยรบพิเศษ ทบ.และหน่วยรบพิเศษเหล่าทัพ
สามารถเข้าใจแนวทางการปฏิบัติการร่วมกันได้ จะต้องอาศัย “แนวความคิดในการใช้กำลัง (ตามแผนป้องกัน
ประเทศ)” ที่จำเป็นต้องมีความเข้าใจร่วมกัน โดยพื้นฐานการรบร่วม(เหล่า)ใน ทบ.ไทย จะใช้ระบบปฏิบัติการ
ในสนามรบ (Battlefield Operating System) ดังนั้น การปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษจะถูกใช้กำลัง
และสนับสนุน ในลักษณะอย่างไรได้บ้างนั้น ฝ่ายเสนาธิการ และ ผบ.หน่วยรบตามแบบ และหน่วยปฏิบัติการ
พิเศษ จำเป็นต้องศึกษาแนวทางระบบปฏิบัติการในสนามรบตามแผนการป้องกันประเทศ ซึ่งควรต้อง
พิจารณาแต่ละระบบฯ ตามหลักนิยม ระบบปฏิบัติการในสนามรบด้วย
๒.๒.๒.๓ ขีด ความสามารถ ของหน่วยรบตามแบบ ที่จะเกื้อกูล ให้กับหน่ว ย
ปฏิบัติการพิเศษ ได้แก่ การควบคุมบังคับบัญชา การยิง การข่าวกรอง การลาดตระเวน การเฝ้าตรวจ การส่ง
กำลังเร่งด่วน การส่งกลับสายแพทย์ และความสามารถในการเคลื่อนย้าย และหน่ วยรบตามแบบ จะได้รับ
ประโยชน์ เ กื ้ อ กู ล จากความสามารถของหน่ ว ยปฏิ บ ั ต ิ การพิ เ ศษ ได้ แ ก่ ข่ า วแจ้ ง เตื อ นเหตุ การณ์ จาก
ความสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมการปฏิบัตกิ าร และขีดความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย (targeting) และ
ชป.รพศ.ช่วยกำหนดจังหวะในการปฏิบัติการให้กับหน่วยตามแบบ ทั้ง นี้ ทั้งหน่วยรบตามแบบ และ หน่วย
ปฏิบัติการพิเศษ จะได้ประโยชน์จากเอกภาพในความพยายาม ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบร่วมกัน
๒.๓ การจัดกำลังเข้าทำการรบ หรือการแบ่งมอบ จำแนกเป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์ หน่วย
สนับสนุนการรบ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบ
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔๘
๒.๔ สรรพตำราที่ใช้ในปัจจุบัน
๒.๔.๑ คู่มือหลักนิยมที่สำคัญ
- รส.๓๑-๘๑ ยุทธวิธี เทคนิค และกรรมวิธีการลาดตระเวนพิเศษสำหรับหน่วยรบ
พิเศษ (พิมพ์ปี ๕๕)
- การปฏิบัติการของหน่วยจู่โจม (พิมพ์ปี ๖๐)
- รส.๓๓-๑ หลักนิยมการปฏิบัติการจิตวิทยา ทบ.ไทย (ปี ๕๐)
- รส.๒๐-๑ หลักนิยมหน่วยทหารพราน (ปี ๕๑)
๒.๔.๒ ข้อมูลหลักนิยมที่ประกาศใช้แล้ว
- รส.๓๑-๘๑ เทคนิ คการปฏิ บั ต ิ การพิเศษ ของหน่ วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
(พิมพ์ปี ๕๕)
- รส.๓๑-๘๑ เทคนิ คการปฏิ บั ต ิ การพิเศษ ของหน่ วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
(พิมพ์ปี ๕๕)
- การปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ (พิมพ์ปี ๕๙)
- การปฏิบัติการของหน่วยจู่โจม (พิมพ์ปี ๖๐)
- รส.๓๓-๑ หลักนิยมการปฏิบัติการจิตวิทยา ทบ.ไทย (ปี ๕๐)
- รส.๒๐-๑ หลักนิยมหน่วยทหารพราน (ปี ๕๑)
-------------------------------------------------------------------------
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๔๙
หลักนิยมการบินทหารบก
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
ศูน ย์การบิน ทหารบกในฐานะหัวหน้าสายวิทยาการการบินทหารบก มีภารกิจในการ
ปกครองบังคับบัญชาหน่วยบินที่ ทบ.แบ่งมอบให้ คือ กรมบิน และหน่วยบินในอัตรา เป็นหน่วยบินทาง
ยุทธวิธีที่สนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธ์ในการรบ การสนับสนุนการรบและการสนับสนุนการช่วยรบ
๑.๒ กรมบิน อจย.๑-๑๑ (๖ ก.ค.๕๙)
๑.๒.๑ กรมบินได้รับการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้มีความสมบูรณ์ในการปฏิบัติการรบได้ทุก
รูปแบบ โดยสามารถจัดเป็นหน่วยบินเฉพาะกิจสนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธ์ภาคพื้นเข้าทำการรบตามความ
ต้องการทางด้านยุทธการ มีหน่วยบินในอัตรา จำนวน ๖ กองพัน ประกอบด้วย กองพันบินปีกหมุน ๔ กองพัน
(กองพันบินที่ ๑, ๒, ๓ และ ๙) กองพันบินปีกติดลำตัว ๑ กองพัน (กองพันบินที่ ๒๑) และกองพันบินสนับสนุน
ทั่วไป (กองพันบินที่ ๔๑)
๑.๒.๒ การจัดหน่วย กรมบิน อจย.๑-๑๑ (๖ ก.ค.๕๙)
๑.๒.๓ ขีดความสามารถ
๑.๒.๓.๑ ทำการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางอากาศ การปฏิบัติการ
ยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ การลาดตระเวน การโจมตี การต่อสู้ยานเกราะและรถถัง การตรวจการณ์ การชี้
เป้าหมาย การถ่ายภาพทางอากาศ การถ่ายทอดพื้นที่การรบ การค้นหาและกู้ภัย การส่งทางอากาศ การ
ติดต่อสื่อสาร การส่องสว่างสนามรบ การปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือการสงคราม การปฏิบัติการจิตวิทยา
การบรรเทาสาธารณะภัยและการช่วยเหลือประชาชน
๑.๒.๓.๒ สามารถประกอบกำลังเป็นหน่วยบินโจมตีเคลื่อนที่ทางอากาศปฏิบัตกิ าร
ในทางลึ กได้ ทำการยกหิ ้ว สิ ่ง อุ ปกรณ์ ขนาดใหญ่ / หนั ก ด้ ว ยการยกหิ้ วภายนอกลำตั วอาก าศยานตาม
ขีดความสามารถ
๑.๒.๓.๓ ดำเนินการจัดตั้งสนามบินทหารบกในสนามรบ การจัด การควบคุม
การจราจรทางอากาศและการบริหารห้วงอากาศ ภายใต้การกำกับดูแลของของฝ่ายยุทธการอากาศจากหน่วย
ที่ไปสนับสนุนให้กับอากาศยานของ ทบ.หรืออากาศยานที่อยู่ในการควบคุมด้วยหอบังคับการบินของ ทบ.
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๕๐
๒. หลักนิยมทางยุทธวิธีของหน่วยในปัจจุบัน
๒.๑ หลักพื้นฐานทางยุทธวิธีของหน่วยบินทหารบก
ยึด ถือ หลักนิยมกองทัพบก รส. ๓ – ๐ เป็นกรอบในการปฏิบัต ิ โดยการบินทหารบก
สามารถสนับสนุนหน่วยกำลังรบและหน่วยทหารอื่นๆ ในการปฏิบัติการยุทธ์ ตามระบบปฏิบัติการในสนามรบ
(Battle Operations System: BOS) ได้ครบทั้ง ๗ ประการ ทั้งในภารกิจด้านการรบ สนับสนุน การรบ
สนับสนุนการช่วยรบ และการปฏิบัติการทางทหารอื่นๆ ที่มิใช่สงคราม สามารถตอบสนองพัน ธกิจ ๕
ประการ ของกองทัพบกได้อย่างครบถ้วน
๒.๒ ข้อพิจารณาการใช้
ต้องพิจารณาร่วมกันระหว่างหน่วยบินและหน่วยรับการสนับสนุน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- จำนวนและแบบของอากาศยาน
- ภารกิจของหน่วยรับการสนับสนุน
- นามเรียกขานและความถี่
- ที่ตั้งปัจจุบันของหน่วย
- ขีดความสามารถของอากาศยานและเจ้าหน้าที่ประจำ
- น้ำหนักที่ใช้บรรทุก
- ความต้องการในการส่งกำลังบำรุง (สป.๓ (อ.), สป.๕)
- สถานภาพอาวุธ กระสุน สป.๓ (อ.)
- ชิ้นส่วนซ่อมอากาศยาน
- สป.สิ้นเปลืองในแต่ละวัน/ชม.บิน
- ข้อพิจารณาพิเศษ เช่น ที่รวมพล พื้ นที่จอดอากาศยาน การระวังป้องกันพื้นที่ พื้นที่ใน
การเพิ่มเติม สป.๓ (อ.) และ สป.๕
๒.๓ การจัดกำลังเข้าทำการรบหรือการแบ่งมอบ
๒.๓.๑ จำแนกเป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์ หน่วยสนับสนุนการรบและหน่วยสนับสนุนการ
ช่วยรบ โดยมีการจัดหน่วยบินในภารกิจการรบตามภารกิจ ดังนี้
- การลาดตระเวน/การระวังป้องกัน
- การโจมตี
- การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ
- การสนับสนุนการยิง
- การปฏิบัติการพิเศษ
- โดยการใช้ ฮ. ลาดตระเวนติดอาวุธ หรือ ฮ. โจมตี ซึ่งมีขีดความสามารถในด้าน
การทำลายกำลังบางส่วนของข้าศึก ทำลายยุทธภัณฑ์ ยานเกราะที่เป็นอันตรายเพื่อตัดรอนและสกัดกั้นกำลัง
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๕๑
หลักนิยมศูนย์ไซเบอร์ทหารบก
๑. ประเภทการจัดของหน่วย/เหล่า
๑.๑ กล่าวทั่วไป
ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) ได้แปรสภาพจากศูนย์เทคโนโลยีทางทหาร (ศทท.)
เป็น ศูน ย์ไ ซเบอร์กองทักบก มีฐานะเป็นหน่วยขึ้นตรง ทบ.ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ รับผิด ชอบหน้าที่
ดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติด้านไซเบอร์ และพัฒนาความพร้อมด้านไซเบอร์ของ ทบ. มีผู้อำนวยการศูนย์
ไซเบอร์กองทัพบกเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
๑.๒ ขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่ที่สำคัญ
๑.๒.๑ วางแผน ประสานงาน ให้คำปรึกษา และดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติด้านไซเบอร์
ได้แก่ การรักษาความมัน่ คงปลอดภัยไซเบอร์ การปฏิบัติการไซเบอร์ และการสนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร
ของ ทบ.
๑.๒.๒ วางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการสำรองและฟื้นฟูระบบไซเบอร์ของ ทบ.
๑.๒.๓ วิเคราะห์ข้อมูลการจราจรทางไซเบอร์ รวมทั้งพิสจู น์หลักฐานทางดิจิทัล
๑.๒.๔ เฝ้ า ตรวจ แจ้ ง เตื อ น กำหนดมาตรการ และกำกั บดูแลการรัก ษาความมั่น คง
ปลอดภัยไซเบอร์ของหน่วยต่าง ๆ ของ ทบ.
เอกสารสรุปหลักนิยมของหน่วย/เหล่าของกองทัพบก ๑๕๓
-------------------------------------------------------------------------