Professional Documents
Culture Documents
จักรวรรดิโรมันมีความหมายยิง่ ใหญ่ในทางประวัติศาสตร์
ชาวโรมันเป็ นชนชาติที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในการปกครองและกฎหมาย
เป็ นชนชาติที่กาํ เนิดวิชานิติศาสตร์ข้ ึนแก่โลก
มีผกู ้ ล่าวว่า จักรวรรดิโรมันเคยปราบโลกให้อยูม่ ือด้วยแสนยานุภาพ
ทางกองทัพโรมันมาครั้งหนึ่ง แต่ชยั ชนะที่ยงิ่ ใหญ่ของโรมันในสมัย
ต่อมา คือการเอาชนะโลกด้วยวิชานิติศาสตร์
ประเทศในยุโรป อังกฤษหรื ออเมริ กา ต่างได้รับอิทธิพลจากกฎหมาย
โรมันและวิธีการทางนิติศาสตร์ที่สืบทอดจากโรมัน
กฎหมายโรมันเป็ นเช่นเดียวกันกับกฎหมายในสังคมโบราณทัว่ ไป คือ
เป็ นกฎเกณฑ์ทางจารี ตประเพณี ที่ตกทอดกันมา
แล้วนํามารวบรวมเป็ นลายลักษณ์อกั ษร
กฎหมายสิ บสองโต๊ะ
ชาวโรมันถือคติตามที่ถ่ายทอดมาทางปรัชญากรี ก เชื่อว่ากฎหมายที่
แท้จริ งนั้นคือเหตุผล กฎหมายจึงต้องเป็ นธรรม
ชาวโรมันมีความเชื่อในความถูกต้อง ความดีของสิ่ งที่มีมาอยูก่ ่อนและ
ตกทอดมาแต่บรรพบุรุษ The Good Old Law
ไม่ปฏิเสธหรื อยกเลิกของเก่า
พยายามรักษาของเก่าไว้โดยเอาความคิดใหม่เข้าไปปรุ งแต่ง
นําเอาความคิดเรื่ องเหตุผล หลักความเป็ นธรรมจากปรัชญากรี ก มา
ปรุ งแต่งให้กฎหมายเจริ ญขึ้น
เกิดพัฒนาการทางนิติศาสตร์ เป็ นหลักวิชาในการใช้กฎหมาย การ
ตีความกฎหมาย และการพัฒนาหลักกฎหมายขึ้น
กฎหมายโรมัน เดิมถือว่าเป็ นกฎหมายที่ใช้เฉพาะกับชาวโรมันเท่านั้น
จึงเรี ยกว่า กฎหมายชาวเมือง (Jus Civile)
ในคดีที่ชาวต่างชาติพิพาทกันเอง ศาลจะไม่ใช้กฎหมายโรมัน แต่จะใช้
กฎหมายของชนชาติน้ นั ๆ เป็ นเกณฑ์
ในคดีพิพาทระหว่างชาวโรมันกับชาวต่างชาติ นักกฎหมายโรมันเริ่ ม
หาหลักเกณฑ์โดยมีความเชื่อจากกฎหมายธรรมชาติ หรื อ Jus
Naturale เป็ นกฎเกณฑ์ที่เป็ นเหตุผลสอดคล้องกับธรรมชาติ มี
ผลใช้ได้ทวั่ ไป ครอบคลุมทุกชาติทุกภาษา
หลักกฎหมายที่เข้าใจว่าเป็ นที่ยอมรับกันในหมู่ชนชาติต่าง ๆ นี้
เรี ยกว่า กฎหมายนานาชาติ (Jus Gentium) ซึ่ งเป็ นหลักที่มา
จากกฎหมายธรรมชาติ
หลักกฎหมายเรื่ องทาสเป็ นทรัพย์สินของนายทาสและไม่มีสภาพ
บุคคลตามกฎหมาย แต่มีความเห็นว่า ขัดต่อกฎหมายธรรมชาติ เพราะ
มนุษย์ทุกคนมีความเป็ นมนุษย์ (Humanity) เสมอภาคกัน และ
ไม่อาจเป็ นทรัพย์สินของมนุษย์ดว้ ยกันได้
แนวคิดนี้มีส่วนสําคัญในการผ่อนคลายความเคร่ งครัดต่อระบบทาส
มีการนําความคิดเกี่ยวกับหลักมนุษยธรรมมาปรับใช้ในเรื่ องทาสมาก
ขึ้นเรื่ อย ๆ เช่น ห้ามทรมานทาสในการหาพยานหลักฐาน ห้ามฆ่าทาส
ตามอําเภอใจ เป็ นต้น
ต่อมา เมื่อโรมันขยายอาณาเขตออกไปจนกลายเป็ นจักรวรรดิใหญ่โต
ดินแดนที่เคยเป็ นต่างชาติต่างภาษาถูกรวบรวมเข้ามากลายเป็ นส่ วน
หนึ่งของโรมัน
Jus Gentium กลายเป็ นส่ วนหนึ่งของ Jus Civile
กลายเป็ นระบบกฎหมายที่มีเนื้อหาครอบคลุมกว้างขวาง
เป็ นกฎหมายที่เปี่ ยมด้วยเหตุผลและมีความบริ บูรณ์อย่างยิง่ สามารถ
นําไปปรับใช้แก่กรณี ต่าง ๆ และชนชาติต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางและ
เป็ นธรรม
กฎหมายโรมัน ผ่านการปรุ งแต่งด้วยวิชานิติศาสตร์มาเป็ นเวลานาน
นับพันปี ความคิดความเห็นทางกฎหมายที่สงั่ สมมาเป็ นเวลานาน มี
มากมาย จึงเกิดความคิดที่จะต้องรวบรวมกฎหมายและชําระกฎหมาย
ตลอดจนความเห็นทางกฎหมายให้เป็ นระบบ
ราวศตวรรษที่ 6 จักรพรรดิจสั ติเนียนได้ดาํ เนินการให้มีการจัดทํา
ประมวลกฎหมายในรู ปของการสรุ ปผลงานของนักนิติศาสตร์ เรี ยกว่า
Corpus Juris Civilis
ประมวลกฎหมายของพระเจ้าจัสติเนียน แบ่งออกเป็ น 4 ภาค คือ
ภาคแรก Pandect หรื อ Digest เป็ นการรวมเอากฎหมาย
ทั้งหมดโดยเฉพาะส่ วนที่เป็ นความเห็นทางกฎหมายของนักนิติศาสตร์
โรมันที่มีเหตุผลเป็ นที่ยอมรับนับถือ เข้าไว้ดว้ ยกัน
ภาคที่สอง เป็ นการนําเอา Pandect เฉพาะที่สาํ คัญ เป็ นหลัก
เบื้องต้นจัดไว้เป็ นหมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาของคนรุ่ น
หลัง เรี ยกว่า Institute
ภาคที่สาม เรี ยกว่า Codex เป็ นการรวบรวมกฎหมายที่บญั ญัติข้ ึน
ได้แก่ พระราชโองการ พระราชบัญญัติ กฤษฎีกาที่ได้ประกาศออกมา
และยังมีผลใช้ได้อยูเ่ ข้าไว้ดว้ ยกัน
ภาคที่ 4 เรี ยกว่า Novels เป็ นการรวบรวมกฎหมายใหม่ที่
ประกาศใช้ภายหลังที่ได้ทาํ ประมวลกฎหมายแล้ว
ประมวลกฎหมายของพระเจ้าจัสติเนียน ได้รับการยอมรับว่าเป็ น
กฎหมายทัว่ ไปของยุโรป และสําหรับผูท้ ี่ตอ้ งศึกษาวิชากฎหมายต่อมา
ในสมัยกลางจนกระทัง่ สมัยใหม่เป็ นเวลาอีกหลายร้อยปี
ความยุติธรรม คือเจตจํานงอันแน่วแน่ตลอดกาลที่จะให้แก่ทุกคนใน
ส่ วนที่เขาควรจะได้ วิชานิติศาสตร์ (Jurisprudence) คือ
ความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องของมนุษย์และสิ่ งศักดิ์สิทธิ์ เป็ นวิทยาการที่วา่ ด้วย
ความยุติธรรมและความอยุติธรรม (Institute)
จักรวรรดิโรมันรุ่ งเรื องในทางการปกครองและกฎหมาย แผ่อาํ นาจ
ครอบคลุมภาคพื้นทวีปยุโรปเกือบทั้งหมด
ภายใต้การปกครองของโรมัน ดินแดนทุกส่ วนอยูใ่ นความสงบร่ มเย็น
เพราะการปกครอง ไม่ใช่เป็ นเพราะการใช้อาํ นาจข่มไว้
รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เอเชียไมเนอร์ อียปิ ต์ สเปน อังกฤษ
เยอรมัน ฝรั่งเศส
จักรวรรดิโรมันเริ่ มเสื่ อมอํานาจจากความมัง่ คัง่ รํ่ารวย คุณธรรมเสื่ อม
และถูกอนารยชนรุ กราน เข้าสู่ ยคุ มืด