บทการนําเสนอการแสดงโขนฉาก

กล่ าวสวัสดีแล้วแนะนําตัว

ประวัติ โขนฉาก
เกิดในสมัย รัชกาลที 5 มีวิวฒั นาการจากโขนโรงใน โดยผูค้ ิดสร้างฉากประกอบ/การแสดงบทเวทีคล้ายละครดึก
ดําบรรพ์ ผูใ้ ห้กาํ เนิดโขนฉากจึงเข้าใจว่าเป็ น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริ ศรานุอดั ติวงศ์ ซึง
ท่านก็เป็ นผูใ้ ห้กาํ เนิ ดละครดึกดําบรรพ์

การแสดงโขนฉาก
โขนฉาก คือโขนทีมีการสร้างฉากประกอบการแสดงขึนบนเวที ทํานองเดียวกับการแสดงละครดึกดําบรรพ์แต่
วิธีแสดงเป็ นแบบโขนโรงใน มีบทพากย์ บทเจรจา บทร้องท่าเต้นและกระบวนรํา ทังมีฉากทีสร้างขึนประกอบ
เพือให้เข้ากับเหตุการณ์บรรยากาศตามทีปรากฏในเรื อง โขนฉากนีเกิดขึนในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั เข้าใจว่าสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริ ศรานุวดั ติวงศ์ทรงพระดําริ ให้มีขึน

การแต่ งตัว
เครื องแต่งกายของโขนนัน ได้เลียนแบบอย่างเครื องแต่งกายของพระมหากษัตริ ย์ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1. ศิราภรณ์ คือเครื องประดับศรี ษะ เช่น ชฎา มงกุฎ หรื อแม้นกระทังหัวโขนก็จดั เป็ นเครื องศิราภรณ์ดว้ ยเช่นกัน

2. ภูษาภรณ์ คือ เสื อผ้า เครื องนุ่งห่ม เช่น ฉลององค์(เสื อ) สนับเพลา(กางเกง) พระภูษา(ผ้านุ่ง) เป็ นต้น
3. ถนิมพิมพาภรณ์ คือ เครื องประดับต่าง ๆ เช่น ปั นเหน่ง(เข็มขัด) สังวาล อินทรธนู ธํามรงค์ แหวนรอบ

ทองกร กรองคอ สะอิง กําไลเท้า เป็ นต้น แต่งกายแบบยืนเครื อง พระ นาง ยักษ์ ลิง
และยังมีตวั ละครอืนๆ ผูแ้ สดงจะต้องสวมหัวโขน
 บทการนําเสนอการแสดงโขนฉาก

การแต่ งตัว (เพิมเติม)

เครื องแต่งกายทีใช้ในการประกอบการแสดงโขน แต่งกายแบบยืนเครื อง พระ นาง ยักษ์ ลิง นอกจากตัวละคร
อืนๆ จะแต่งกายตามลักษณะนันๆ เช่น ฤาษี นอกจากนี ผูแ้ สดงโขนจะต้องสวมหน้ากากทีเรี ยกว่า "หัวโขน" ซึง
ศิลปิ นไทยได้กาํ หนดลักษณะและสี ไว้อย่างเป็ นแบบแผน และกําหนดให้ใช้เฉพาะกับตัวละคร เช่น พระรามสี
กายเขียว พระลักษณ์สีกายเหลือง ทศกัณฐ์สีกายเขียว เป็ นต้น

ดนตรีทีใช้
ดนตรี ประกอบโขนมีส่วนสําคัญในการส่ งเสริ มการแสดง โดยทัวไปจะบรรเลงโดยวงปี พาทย์พนเมื ื องซึง
ประกอบด้วยเครื องลมและเครื องเคาะ เช่น ปี ใน ระนาดเอก และฆ้องวงเล็ก คณะปี พาทย์บรรเลงตามทํานอง
เพลงทีสื บทอดกันมาจากรุ่ นสู่ รุ่นและถือเป็ นส่ วนสําคัญของประสบการณ์การแสดงโขน การแต่งเพลงมัก
ประกอบด้วยการบรรเลงสลับฉากและดนตรี ประกอบสําหรับตัวละครและฉากต่างๆ ดนตรี ช่วยสร้างบรรยากาศ
ของฉากทีกําลังแสดงและเพิมความมีชีวิตชีวาและลึกซึงให้กบั ศิลปะการแสดงแบบไทยโบราณนี

กล่ าว ขอบคุณทีรับฟังและรับชมคะ