Professional Documents
Culture Documents
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นางพัชรี คูณทอง
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ
ชุดที่ 6 ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
คำนำ
พัชรี คูณทอง
สำรบัญ
เรื่อง หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
คำชี้แจงเกี่ยวกับกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ค
แผนภูมิลำดับขั้นตอนกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ง
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์สำหรับครู จ
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์สำหรับนักเรียน ช
สาระการเรียนรู้ / มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 1
จุดประสงค์การเรียนรู้ 1
แนวความคิดต่อเนื่อง 2
สาระสาคัญ 3
แบบทดสอบก่อนเรียน 4
บัตรเนื้อหา ชุดที่ 6 เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีฯ 7
บัตรกิจกรรมที่ 6.1 เรื่อง ท่องโลกกว้างตามหาธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี 22
บัตรกิจกรรมที่ 6.2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีฯ 25
บัตรกิจกรรมที่ 6.3 ถอดบทเรียน เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีฯ 26
แบบฝึกหัด เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีฯ 27
แบบทดสอบหลังเรียน 28
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 31
บรรณำนุกรม 32
ประวัติย่อผู้จัดทำ 33
คำชี้แจงเกี่ยวกับชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์
แผนภูมิลำดับขั้นตอนกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์
อ่านคาชี้แจงและคาแนะนาในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ศึกษาตัวชี้วัดและจุดประสงค์การเรียนรู้
เสริมพื้นฐำน
ทดสอบก่อนเรียน ผู้มีพื้นฐำนต่ำ
ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามขั้นตอน
ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากชุดกิจกรรม
ไม่ผ่ำน ทดสอบหลังเรียน
กำรทดสอบ
ผ่ำนกำรทดสอบ
ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องต่อไป
แผนภูมิลำดับขั้นตอนกำรเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์
ชุดที่ 6 เรื่อง ธรณีสัณฐำนและโครงสร้ำงทำงธรณีที่เกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์สำหรับครู
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์สำหรับนักเรียน
ชุดที่ 6
ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่
ของแผ่นธรณี
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้า ใจองค์ประกอบและความสัมพัน ธ์ ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิศาสตร์โลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิต
และสิ่งแวดล้อม
ตัวชี้วัด
ว 3.2 ม.6/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
โดยใช้แบบจาลอง
ว 3.2 ม.6/3 ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณที่สัมพันธ์กับ
การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่างหลักฐานทางธรณีวิทยา
ที่พบ
จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด
1. อธิบายกระบวนการที่ทาให้ เกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ระบุผลที่เกิดจากการ
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณีได้ (K)
2. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรุป เกี่ยวกับกระบวนการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (P)
3. อธิ บ ายรู ป แบบการเคลื่ อ นที่ ข องแผ่ น ธรณี ที่ สั ม พั น ธ์ กั บ การเกิ ด ธรณี สั ณ ฐาน
และโครงสร้างทางธรณีวิทยาแบบต่าง ๆ (K)
4. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกี่ยวกับธรณีสัณฐานและโครงสร้างทาง
ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ในการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน (A)
5. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้ห รืออยากรู้อยากเห็น ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์
ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้ (A)
ลาดับความคิดต่อเนื่อง
การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี
ธรณี ภ าคซึ่งเป็น ชั้น นอกสุดของโครงสร้ า งโลก แบ่งออกเป็น แผ่น ธรณี (plate)
หลายแผ่น ซึ่งเคลื่อนที่ไปบนฐานธรณีภาคทา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีอยู่ตลอดเวลา
ทฤษฎีทวีปเลื่อน คือ แนวความคิดที่กล่าวว่า ในอดีต ณ ช่วงเวลาหนึ่งทวีปต่าง ๆ
ไม่ได้มีตาแหน่ง เหมือนกับในปัจจุบัน แต่เคยอยู่รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่เพียงแผ่นดินเดียวที่
เรียกว่า พันเจีย (Pangaea)
หลักฐานที่สนับสนุนว่าทวีปเคยอยู่ติดกันมาก่อน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีป ซาก
ดึกดา บรรพ์ ความคล้ายกันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขา หลักฐานจากรอยครูดบนหินที่เกิด
จากการเคลื่อนตัวของธารน้า แข็งบรรพกาล
ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทร เป็นการพบหลักฐานบนพื้นสมุทรที่สนับสนุนการ
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ได้แ ก่ สัน เขากลางสมุทร อายุของหิน บะซอลต์บนพื้น มหาสมุทร
ภาวะแม่เหล็กบรรพกาล
สาระสาคัญ
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. หินที่เกิดจากตะกอนธารน้าแข็ง ควรจะเกิดขึ้นบริเวณใด
ก. ขั้วโลก
ข. ใกล้เทือกเขา
ค. ใกล้มหาสมุทร
ง. ใกล้รอยแยกแผ่นธรณีภาค
3. อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อโลกมีรอยแตกร้าวและมีการเคลื่อนที่
ก. อุทกภัย
ข. แผ่นดินไหว
ค. การกร่อนของเปลือกโลก
ง. ดินขาดอาหารของพืชใช้เพาะปลูกไม่ได้
4. สถานการณ์ใดที่ไม่ได้ เป็นผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก
ก. น้าท่วม
ข. ภูเขาถล่ม
ค. หิมะละลาย
ง. แผ่นดินแยก
5. ภูเขาเกิดขึ้นได้หลายกระบวนการ แต่กระบวนการใดที่ไม่สามารถทาให้เกิดภูเขาได้
ก. การกัดกร่อนของผิวโลก
ข. การยกตัวขึ้นของพื้นทวีป
ค. การดันของหินหนืดที่ใต้ผิวโลก
ง. การปรับตัวระหว่างหินหนืดกับหินชั้นบริเวณข้างเคียง
6. เมื่อแผ่นดินเคลื่อนที่ออกไปขณะเดียวกันนั้นเกิดอะไรขึ้น
ก. แมกมาจากใต้แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรจะถูกดันแทรกเสริมขึ้นมาตรงรอยแยก
ข. เกิดรอยต่อระหว่างแผ่นธรณีภาค
ค. การกร่อนของเปลือกโลก
ง. เกิดการแบ่งชั้นหิน
7. โครงสร้างและอายุหินรองรับแผ่นธรณีภาคจึงมีอายุอ่อนสุดบริเวณใด
ก. บริเวณเทือกเขา
ข. กลางมหาสมุทร
ค. บริเวณรอยต่อแผ่นธรณีภาค
ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข. ถูกต้อง
8. สาเหตุใดที่ทาให้แผ่นเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง
ก. มนุษย์และธรรมชาติ
ข. ธรรมชาติและแผ่นดินไหว
ค. มนุษย์และการระเบิดภูเขา
ง. มนุษย์และการตัดไม้ทาลายป่า
9. นอกจากหลักฐานรอยต่อแผ่นธรณีภาค รอยแยกของแผ่นธรณีภาคและการค้นพบซากดึกดา
บรรพ์แล้วยังมีหลักฐานใดอีกที่ยืนยันสมมติฐานของเวเกเนอร์
ก. สนามแม่เหล็กโลกโบราณ
ข. การค้นพบภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่ๆ
ค. การเปลี่ยนแปลงของอากาศที่ทาให้เกิดการสะสมตัวของตะกอนในบริเวณ
ง. ข้อ ก. และ ค. ถูกต้อง
บัตรเนื้อหา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชุดที่ 6 ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
1. แผ่นธรณีเคลื่อนที่แยกออกจากกัน
การเคลื่อนที่แยกออกจากกันของแผ่นธรณี ทาให้เกิดสันเขาใต้สมุทร ส่งผลให้แผ่นธรณี
แตกออกจากกันอย่างฉับพลัน เป็นสาเหตุทาให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ตรงบริเวณแนวรอยต่อของ
แผ่นธรณี
1.1 แผ่นธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน
รอยต่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน (Divergent plate boundaries) เกิดขึ้น
เนื่องจากแรงดันในชั้นฐานธรณีภาค ดันให้แผ่นธรณีโก่งตัวขึ้นจนเกิดรอยแตก แมกมาอยู่ภายใน
ดันตัวออก ทาให้แผ่นธรณีเคลื่อนที่แยกจากกัน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในลักษณะนี้ทาให้เกิด
1.2 แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่ออกจากกัน
ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกัน ขอบแผ่นธรณีภาคที่แยกจากกันนี้ เนื่องจาก
การดันตัวของแมกมาในชั้นธรณีภาค ทาให้เกิดรอยแตกในชั้นหินแข็ง แมกมาสามารถถ่ายโอน
ความร้อนสู่ชั้นเปลือกโลก อุณหภูมิและความดันของแมกมาลดลงเป็นผลให้เปลือกโลกตอนบน
ทรุดตัวกลายเป็นหุบเขาทรุด (rift valley)
แรงดันในชั้นฐานธรณีภาคดันให้แผ่นธรณีทวีปโก่งตัว ส่วนยอดของรอยโ่ก่งยืดตัว
ออกและบางลงจนเกิดรอยแตก และทรุดตัวลงกลายเป็น "หุบเขาทรุด" (Rift valley) แมกมา
ผลักให้ แผ่นธรณีแยกออกจากกัน ตัวอย่างเช่น ทะเลสาบมาลาวี ในทวีปแอฟริกา และ ทะเล
แดง ซึ่งกันระหว่างทวีปแอฟริกากับคาบสมุทรอาหรับ
1.3 แผ่นธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่ออกจากกัน
แรงดันในชั้นฐานธรณีภาคดันให้แผ่นธรณีมหาสมุทรยกตัวขึ้นเป็น สันเขาใต้สมุทร
(Mid oceanic ridge) แล้วเกิดรอยแตกที่ส่วนยอด แมกมาผลักให้แผ่นธรณีมหาสมุทรแยกออก
จากกัน ตัวอย่างเช่น สันเขาใต้มหาสมุทรแอตแลนติก
ต่อมาน้าทะเลไหลมาสะสมกลายเป็นทะเล และเกิดรอยแตกจนเป็นร่องลึก เมื่อ
แมกมาเคลื่อนตัวแทรกขึ้นมาตามรอยแตก เป็นผลให้แผ่นธรณีภ าคใต้มหาสมุทรเคลื่อนตัวแยก
ออกไปทั้งสองข้าง ทาให้พื้นทะเลขยายกว้างออกไปทั้งสองด้านเรียกว่า กระบวนการขยายตัวของ
พื้นทะเล (sea floor spreading) และปรากฏเป็นเทือกเขากลางมหาสมุทร เช่น บริเวณกลาง
มหาสมุทรแอตแลนติก บริ เวณทะเลแดง รอยแยก แอฟริกาตะวันออก อ่าวแคลิ ฟอร์เ นีย มี
ลักษณะเป็นหุบเขาทรุด มีร่องรอยการแยก เกิดแผ่นดินไหวตื้นๆ มีภูเขาไฟและลาวาไหลอยู่ใต้
มหาสมุทร
ในขณะที่แผ่นธรณีภาคเกิดรอยแตกและเลื่อนตัว จะมีผลทาให้เกิดคลื่นไหวสะเทือน
ไปยังบริเวณต่างๆ ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดรอยแตก รอยเลื่อนในชั้นธรณีภาคเกิดเป็นปรากฏการณ์
แผ่นดินไหว
1.4 อายุหินและสนามแม่เหล็ก
แก่นโลกชั้นในและแก่นโลกชั้น นอกหมุนไปในทิศทางเดี ยวกัน แต่ด้วยความเร็วไม่
เท่ากัน ถ้าแก่นโลกชั้นในหมุนเร็วกว่าแก่นโลกชั้นนอก จะเกิดแรงเหนี่ยวนาให้เส้นแรงแม่เหล็ก
โลกเคลื่ อ นที่ จ ากขั้ ว ใต้ ไ ปยั ง ขั้ ว เหนื อ (Normal magnetism) แต่ ใ นบางครั้ ง แก่ น โลกชั้ น ใน
เมื่อแมกมาโผล่ขึ้นจากชั้นฐานธรณีภาค กลายเป็นลาวาหินบะซอลต์ไหลบนพื้นผิวโลก
อะตอมของธาตุ เ หล็ ก ที่ มี อ ยู่ ใ นแร่ แ มกนี ไ ทต์ จะถู ก เหนี่ ย วน าให้ เ รี ย งตั ว ตามทิ ศ ทางของ
สนามแม่เหล็กโลก รูปที่ 6.5 แสดงให้เห็นว่า ลาวาชั้นล่างมีอายุเก่ากว่าลาวาชั้นบน เพราะเกิด
2. แผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน
การเคลื่อนที่เข้าหากันของแผ่นธรณี ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาต่างๆ ตรง
บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี ดังนี้
- การเคลื่อนที่เข้าหากันของแผ่นธรณีมหาสมุทร เมื่อแผ่นธรณีมหาสมุทรจานวน 2 แผ่น
เคลื่ อ นที่ เ ข้ า หากั น แผ่ น ที่ มี ค วามหนาแน่ น มากกว่ า ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น แผ่ น ที่ มี อ ายุ หิ น มากกว่ า
จะมุดตัวลงข้างใต้อีกแผ่นหนึ่ง บริเวณที่แผ่นธรณีมุดตัวลง เรียกว่า เขตมุดตัว บริเวณเขตมุดตัวจะ
เกิดเป็นร่องลึกก้นมหาสมุทร ส่วนปลายของแผ่นธรณีที่มุดตัวลง จะเคลื่อนที่จมลงสู่ฐานธรณีภาค
ทาให้บางส่วนหลอมเหลวกลายเป็นแมกมา และจะปะทุแทรกขึ้นมาบนเปลือกโลกมหาสมุทร
เกิดเป็นกลุ่มภูเขาไฟลูกเล็กๆ อยู่กลางมหาสมุทร มีลักษณะเรียงต่อกันเป็นรู ปโค้งตามแนวร่องลึก
ก้นมหาสมุทร เรียกแนวภูเขาไฟดังกล่าวว่า หมู่เกาะรูปโค้ง
- การเคลื่ อ นที่ เ ข้ า หากั น ของแผ่ น ธรณี ม หาสมุ ท ร กั บ แผ่ น ธรณี ท วี ป เมื่ อ แผ่ น ธรณี
มหาสมุทรกับแผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหากัน แผ่นธรณีมหาสมุทรซึ่งมีความหนาแน่นมากกว่า
จะมุดตัวลงข้างใต้แผ่นธรณีทวีป บางส่วนของแผ่นธรณีที่มุดตัวหลอมเหลวกลายเป็นแมกมา ปะทุ
แทรกขึ้นมาบนเปลือกโลกทวีป เกิดเป็นกลุ่มภูเขาไฟที่มีการวางตัวเป็นรูปโค้งอยู่เหนือเขตมุดตัว
เรียกว่า แนวภูเขาไฟรูปโค้ง
- การเคลื่อนที่เข้าหากันของแผ่นธรณีทวีป เมื่อแผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหากัน บางส่วน
ของแผ่นธรณีที่มีความหนาแน่นมากกว่า จะมุดตัวลงข้างใต้อีกแผ่นหนึ่ง และบางส่วนที่มีความ
หนาแน่นใกล้เคียงกัน จะเกิดการชนกันจนทาให้ชั้นหินบนเปลือกโลกทวีป เกิดเป็นรอยคดโค้ง
และเกิดเป็นเทือกเขาสูงใหญ่ ตรงบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณี
2.1 แผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน
รอยต่อของแผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน (Covergent plate boundary) เกิดขึ้นใน
บริ เ วณที่ แผ่ น ธรณีป ะทะกัน ซึ่ งเรี ย กว่า "เขตมุ ดตัว " (Subduction zone) ซึ่ง มัก จะท าให้ เกิ ด
แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในระดับลึก เนื่องจากแผ่นธรณีด้าน
หนึ่งมุดตัวลงสู่ชั้นฐานธรณีแล้วหลอมละลาย หากแนวปะทะเกิดขึ้นใต้มหาสมุทร น้าทะเลใน
บริเวณโดยรอบจะเคลื่อนที่จมเข้าหากันแล้วสะท้อนกลับ ทาให้เกิดคลื่นสึนามิ รอยต่อของแผ่น
ธรณีเคลื่อนที่เข้าหากันมี 3 รูปแบบคือ แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกัน แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกับแผ่น
ธรณีทวีป และแผ่นธรณีทวีปชนกัน
2.2 แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกัน
แผ่นธรณีมหาสมุทรเกิดขึ้นและเคลื่อนที่ออกจากจุดกาเนิด บริเวณรอยต่อที่แผ่น
ธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน แรงขับดันจากเซลล์การพาความร้อน (Convection cell) ในชั้นฐาน
ธรณีภาค ทาให้แผ่นธรณีมหาสมุทรสองแผ่นเคลื่อนที่ปะทะกัน ดัง รูปที่ 6.8 แผ่นธรณีที่มีอายุ
มากกว่า มีอุณหภูมิต่ากว่า และมีความหนาแน่นมากกว่า จะจมตัวลงในเขตมุดตัว ทาให้เกิดร่อง
ลึ ก ก้ น สมุ ท ร (Mid oceanic trench) เมื่ อ แผ่ น ธรณี จ มตั ว ลง เปลื อ กมหาสมุ ท รและเนื้ อ โลก
ชั้นบนสุดซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่าจะหลอมละลายเป็นหินหนืด ซึ่งมีความหนาแน่นต่ากว่าเนื้อโลกใน
2.3 แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีทวีป
แผ่นธรณีมหาสมุทรเป็นหินบะซอลต์ มีความหนาแน่นมากกว่าแผ่นธรณีทวีปซึ่งเป็น
หินแกรนิต เมื่อแผ่นธรณีทั้งสองปะทะกัน แผ่นธรณีมหาสมุทรจะจมตัวลงและหลอมละลายเป็น
หินหนืด เนื่องจากหินหนืดมีความหนาแน่นน้อยกว่าเนื้อโลกในชั้นฐานธรณีภาค มันจึงยกตัวขึ้น
ดันเปลือกโลกทวีปให้กลายเป็นเทือกเขาสูง เกิดแนวภูเขาไฟเรียงรายตามชายฝั่ง ขนานกับร่องลึก
ก้ น สมุ ท ร ดั ง รู ป ที่ 6.9 ตั ว อย่ า งเทื อ กเขาที่ เ กิ ด ขึ้ น ด้ ว ยกระบวนการนี้ ได้ แ ก่ เทื อ กเขาแอน
ดีส บริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้
2.4 แผ่นธรณีทวีปชนกัน
แผ่นธรณีทวีปมีความหนามากกว่าแผ่นธรณีมหาสมุทร ดังนั้นเมื่อแผ่นธรณีทวีป
ปะทะกัน แผ่ น หนึ่ งจะมุ ดตัว ลงสู่ ชั้ น ฐานธรณี ภ าค อีกแผ่ นหนึ่ งจะถู กยกเกยสู งขึ้น กลายเป็ น
เทือกเขาที่สูงมาก เป็นแนวยาวขนานกับแนวปะทะ ดัง รูปที่ 6.10 ตัวอย่างเทือกเขาสูงที่เกิดขึ้น
ด้วยกระบวนการนี้ ได้แก่ เทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล เทือกเขาแอลป์ ในทวีปยุโรป
3. แผ่นธรณีเคลื่อนที่เฉือนกัน
ในธรรมชาติ การเคลื่อนที่เฉือนกันของแผ่นธรณีส่วนใหญ่ เกิดร่วมกับการเคลื่อนที่แยก
ออกจากกัน และการเคลื่ อนที่เข้ าหากันของแผ่ น ธรณี เช่ น รอยเลื่ อนแซนแอนเดรียส (San
Andreas Fault)
3.1 แผ่นธรณีเคลื่อนที่ผ่านกัน
สันเขาใต้สมุทร (Mid oceanic ridge) เป็นบริเวณที่แมกมาโผล่ขึ้นมาแล้วดันแผ่น
ธรณีให้ แยกออกจากกัน เนื่ องจากแผ่ นธรณีมีความหนาแน่นไม่เท่ากัน สั นเขาใต้ส มุทรจึงไม่
สามารถต่อยาวเป็นแนวเดียว ทว่าเยื้องสลับกันคล้ายรอยตะเข็บ ด้วยเหตุนี้แผ่นธรณีที่เพิ่งเกิด
ขึ้นมาใหม่จึงเคลื่อนที่สวนทางกัน ในแนวตั้งฉากกับสันเขาใต้สมุทร เกิดเป็นรอยเลื่อนทรานส
ฟอร์ม (Transform fault) ดัง รูป ที่ 6.11 ปรากฏการณ์นี้ทาให้ เกิดแผ่ นดินไหวในระดับตื้น มี
ความรุนแรงปานกลาง ถ้าเกิดขึ้นบนแผ่นดินจะทาให้ถนนขาด สายน้าเปลี่ยนทิศทางการไหล
หรือทาให้เกิดหน้าผาและน้าตก
จากการที่นักวิทยาศาสตร์พบธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีแบบต่าง ๆ ในบริเวณ
แนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่มีความสัมพันธ์กับรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี จึงทาให้สรุปได้
ว่า แนวรอยต่อของแผ่นธรณีมี 3 รูปแบบ คือ แนวแผ่นแยกธรณี แนวแผ่นธรณีเคลื่อนหากัน และ
แนวแผ่นธรณีเคลื่อนผ่านกันในแนวราบ
4. การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก
แผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา และแบ่งการเคลื่อนที่ของแผ่นโลกออกเป็น
3 แบบคือการชนกัน การแยกจากกัน และแบบรอยเลื่ อน ซึ่งมีผลทาให้ เกิดกระบวนการทาง
ธรณีวิทยา ดังนี้
4.1 การคดโค้งโก่งงอ
การคดโค้งโก่งงอ เกิดจากแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น เคลื่อนที่ชนกันด้วยแรงดันมหาศาล
ทาให้ชั้นหินตรงบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกชนกันเกิดการคดโค้งโก่งงอ แต่การเกิดรอยคดโค้งโก่งงอ
จะใช้ เ วลาเป็ น พั น ปี แ ละต้ อ งได้ รั บ พลั ง งานอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง รอยคดโค้ ด โก่ ง งอของชั้ น หิ น เกิ ด
ติดต่อกันเป็นบริเวณกว้างกินพื้นที่มากจะกลายเป็นเทือกเขา เช่น เทือกเขาหิมาลัยในทวีปเอเซีย
เทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป เทือกเขาภูพานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นต้น
4.2 การยกตัวและการยุบตัว
การยกตัว และการยุ บ ตัว เกิดจากพลั งงานที่ส ะสมอยู่ภ ายในเปลื อ กโลก จะเริ่มแตก
และแยกออกจากกันในทิศทางที่เป็นเส้นตรงหรือแนวราบ ทาให้เกิดรอยเลื่อนในลักษณะ ต่าง ๆ
เช่ น การยกตั ว ของแผ่ น เปลื อ กโลกที่ เ กิ ด จากรอยเลื่ อ นแบบปกติ เ ป็ น ภู เ ขา เรี ย กว่ า Block
Mountain โดยยอดเขาจะมีลักษณะราบและไหล่เขาชันมาก เช่น ภูกระดึง จังหวัดเลย และอีก
แบบคือ การยุบตัวของแผ่นเปลือกโลก กลายเป็นแอ่งหรือหุบเขา เรียกว่า Rift valleys ซึ่งเกิด
จากรอยเลื่อนแบบย้อน
4.3 การผุพังอยู่กับที่
การผุ พั ง อยู่ กั บ ที่ เ ป็ น กระบวนการที่ ท าให้ วั ส ดุ ส ลายออกเป็ น ชิ้ น เล็ ก ๆ โดยมี ก าร
เปลี่ยนแปลงขนาดและองค์ประกอบเคมีของอนุภาคที่สลายตัว ปัจจัยทาให้เกิดการผุพังอยู่กับที่
มีดังนี้
- ปัจจัยทางกายภาพ เกิดจากน้าที่แทรกตัวเข้าไปอยู่ในชั้นหินที่มีรอยแยกหรือรอยแตก
เมื่ อุ ณ หภู มิ มี ก ารเปลี่ ย นแปลง เช่ น ในเวลากลางคื น อากาศเย็ น จั ด น้ าจะกลายเป็ น น้ าแข็ ง
มีปริมาณเพิ่มขึ้น ดันรอยแยกให้ขยายตัวมากขึ้น ทาให้ชั้นหินที่อยู่ด้านล่างแตก และเมื่อถึงตอน
กลางวันน้าแข็งละลาย น้านะแทรกไปตามรอยแตกใหม่ จะเกิดเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
จนในที่สุดเกิดการผุพังเกิดขึ้น
- ปัจจัยทางเคมี เกิดจากน้าฝนที่เป็นปัจจัยสาคัญ โดยการเกิดกระบวนการปฏิกิริยา
ไฮโดรไลซิส ปฏิกิริยาออกซิเดชัน และปฏิกิริยาคาร์บอเนชัน ที่เป็นสาเหตุของการผุพัง
- ปัจจัยชีวภาพ เกิดจากพืชเป็นตัวกลางที่ทาให้ชั้นหินเกิดการผุพัง เช่น รากพืชที่ไปชอน
ไชไปในรอยแตกของหิน เมื่อพืชโตขึ้นรากพืชจะทาให้หินแตกเป็นชั้น ๆ
4.4 การกร่อน
การกร่อน เป็นการพังทลายของชั้นหินเนื่องจากลม ฝน แม่น้า ลาธาร ธารน้าแข็ง คลื่น
เป็นต้น
4.5 การพัดพาและทับถม
ดิน หิ น เมื่อ เกิ ดการกั ดกร่ อ น จะถูก น้าหรือ ลมพัด ไปสู่ ที่ต่ ากว่ า เกิ ดการทั บถมเป็ น
ลักษณะต่างๆ เช่น แม่น้าเจ้าพระยา เกิดจากการพัดพาตะกอนไปทับถมที่ปากน้า เกิดเป็นดิน
ดอนปากแม่น้า เป็นต้น
ผลกระทบธรรมชาติ
การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกมี 2 ลักษณะ ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การเกิดแผ่นดินไหว ภูเขา
ไฟระเบิด ทาให้ผิวโลกบางส่วนแยกตัวออก บางส่วนถล่มทลายและยุบตัวลง มีผลทาให้อาคาร
บ้านเรือน ต้นไม้และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย และยังทาให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตต้อง
ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรืออาจเสียชีวิตไป
การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เช่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก
การกร่อนและการผุพังของหินและดินตามเปลือกโลก ทาให้พื้นที่ที่จะใช้ทางการเกษตรกรรมถูก
ทาลายไป ส่งผลกระทบต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรที่จะได้รับโดยตรง
ผลกระทบจากการกระทาของมนุษย์
ในการพัฒนาประเทศมนุษย์ได้ทาลายเปลือกโลกเสมอ มนุษย์ได้ทาลายเปลือกโลกด้วย
การขุดเจาะ บางครั้งมีการระเบิดภูเขาเพื่อเอาหินและแร่ธาตุขึ้นมาใช้ หรือ การทดลองระเบิด
นิวเคลียร์ มีการตัดไม้ทาลายป่าซึ่งเป็นการทาให้การกร่อนของพื้นดินเกิดเร็วขึ้นอีกด้วย
ผลกระทบต่อประเทศไทย
เนื่ องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ได้รับอิ ทธิพลจากลมมรสุ มเกือบตลอดปี
มีแม่น้าลาคลองอยู่ทั่วไป ดังนั้นบริเวณต่าง ๆ ของประเทศจึงได้รับอิทธิพลจากการกร่อนโดย
กระแสน้ าเป็ น ส่ ว นใหญ่ ถึ งแม้ว่า การเกิ ดแผ่ นดิน ไหวในประเทศไทยยัง มีน้อ ยและไม่รุน แรง
แต่ เ นื่ อ งจากประเทศไทยตั้ ง อยู่ ไ ม่ ห่ า งจากแนวรอยต่ อ ของแผ่ น เปลื อ กโลกมากนั ก
และแผ่ น ยู เ รเซี ย ที่ ร องรั บ ประเทศไทยได้ รั บ แรงดั น เนื่ อ งจากการเคลื่ อ นที่ เ ข้ า มาของแผ่ น
ออสเตรเลียอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจทาให้เกิดแผ่นไหวได้เสมอ
การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเรามีปัจจัยที่ทาให้เปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดจาก
หลายสาเหตุและมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
บัตรกิจกรรมที่ 6.1
เรื่อง ท่องโลกกว้างตามหาธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี
จุดประสงค์กิจกรรม
1. ระบุลักษณะธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี
2. เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี กับการเคลื่อนที่ รูปแบบ
ต่าง ๆ ของแผ่นธรณี
วัสดุ-อุปกรณ์
1. แผนที่ภูมิประเทศ
2. รูปแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
สถานการณ์
“นักธรณีวิทยาได้สารวจพบธรณีสัณฐาน และโครงสร้างทางธรณีแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ สันเขา
กลางสมุทรแอตแลนติก หมู่เ กาะภูเขาไฟรูป โค้ง ประเทศญี่ปุ่ น หุ บเขาทรุดที่ ทะเลแดง ร่ องลึ ก
ก้นสมุทรมาเรียนา แนวรอยเลื่อนซานแอนเดรียส แนวเทือกเขาหิมาลัย และ แนวเทือกเขาแอนดีส
ให้นักเรียนศึกษาและอธิบายลักษณะแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์ กับการเคลื่อนที่ของแผ่น
ธรณีและทาให้เกิดธรณีสัณฐาน และโครงสร้างทางธรณีแบบต่าง ๆ”
วิธีการทากิจกรรม
1. นักเรียนสืบค้นเกี่ยวกับลักษณะของธรณีสัณฐาน โครงสร้างทางธรณี และระบุบริเวณที่พบ
ลงพื้นแผนที่ภูมิประเทศ จากนั้นอภิปรายสรุปดังประเด็นต่อไปนี้
- ลักษณะของธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีแต่ละแห่งที่กาหนดให้
- บริเวณที่พบธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีดังกล่าว
- รอยต่อของแผ่นธรณีที่พบธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีข้างต้น
- ทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในบริเวณที่พบธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี
แต่ละแห่งปรากฏอยู่
2. สรุปและนาเสนอความสัมพันธ์ระหว่างธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่กาหนดให้กับ
ทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี
ผลการทากิจกรรม
สรุปผลการทากิจกรรม
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..................................................................................................................................... .........................
คาถามหลังกิจกรรม
1. จากกิจกรรมนักเรียนพบว่าถ้าจาแนกตามรูปแบบการเคลื่อนที่แล้ว แนวรอยต่อของ แผ่น
ธรณีมีกี่รูปแบบ อย่างไรบ้าง
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
................................................................................................................................ ..............................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
2. ธรณีสัณฐานแบบใดบ้างที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในลักษณะเดียวกัน
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
บัตรกิจกรรมที่ 6.2
แผนผังมโนทัศน์ เรื่อง ธรณีแปรสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี
ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
บัตรกิจกรรมที่ 6.3
ถอดบทเรียน เรื่อง ธรณีแปรสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี
ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
แบบฝึกหัด
เรื่อง ธรณีแปรสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
2. จงอธิบายเกี่ยวกับประโยชน์ในการศึกษาโครงสร้างทางธรณี
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
แบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อโลกมีรอยแตกร้าวและมีการเคลื่อนที่
ก. อุทกภัย
ข. แผ่นดินไหว
ค. การกร่อนของเปลือกโลก
ง. ดินขาดอาหารของพืชใช้เพาะปลูกไม่ได้
4. หินที่เกิดจากตะกอนธารน้าแข็ง ควรจะเกิดขึ้นบริเวณใด
ก. ขั้วโลก
ข. ใกล้เทือกเขา
ค. ใกล้มหาสมุทร
ง. ใกล้รอยแยกแผ่นธรณีภาค
5. ภูเขาเกิดขึ้นได้หลายกระบวนการ แต่กระบวนการใดที่ไม่สามารถทาให้เกิดภูเขาได้
ก. การกัดกร่อนของผิวโลก
ข. การยกตัวขึ้นของพื้นทวีป
ค. การดันของหินหนืดที่ใต้ผิวโลก
ง. การปรับตัวระหว่างหินหนืดกับหินชั้นบริเวณข้างเคียง
6. เมื่อแผ่นดินเคลื่อนที่ออกไปขณะเดียวกันนั้นเกิดอะไรขึ้น
ก. แมกมาจากใต้แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรจะถูกดันแทรกเสริมขึ้นมาตรงรอยแยก
ข. เกิดรอยต่อระหว่างแผ่นธรณีภาค
ค. การกร่อนของเปลือกโลก
ง. เกิดการแบ่งชั้นหิน
7. เปลือกโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสาเหตุใด
ก. กระแสน้า
ข. ธารน้าแข็ง
ค. ภูเขาไฟระเบิด
ง. การเกิดปฏิกิริยาเคมี
8. สาเหตุใดที่ทาให้แผ่นเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง
ก. ธรรมชาติและแผ่นดินไหว
ข. การกระทาของมนุษย์และธรรมชาติ
ค. มนุษย์และการระเบิดภูเขา
ง. มนุษย์และการตัดไม้ทาลายป่า
9. โครงสร้างและอายุหินรองรับแผ่นธรณีภาคจึงมีอายุอ่อนสุดบริเวณใด
ก. บริเวณเทือกเขา และเทือกเขากลางมหาสมุทร
ข. บริเวณรอยเลื่อนซานแอนเดรียส
ค. แผ่นธรณีภาคกลางมหาสมุทร
ง. บริเวณรอยต่อแผ่นธรณีภาค
กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
ชุดที่ 6 ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการ
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน
ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
บรรณานุกรม
ประวัติย่อผู้จัดทา
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. 2535 ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหินสูง ตาบลช่องเม็ก อาเภอสิรินธร
จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2538 มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก ตาบลช่องเม็ก
อาเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2541 มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสิรินธรวิทยานุสรณ์ อาเภอสิรินธร
จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2545 ปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต (ค.บ.) สาขาวิชาฟิสิกส์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2556 ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศษ.ม.) สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
มหาวิทยาลัยราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี