Professional Documents
Culture Documents
คำแนะการฝึกทหารใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔
คำแนะการฝึกทหารใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔
กำรฝึกทหำรใหม่
ประจำปีงบประมำณ ๒๕๖๔
๑ ต.ค. ๖๓ – ๓๐ ก.ย. ๖๔
คำนำ
การฝึกทหารใหม่ของ ทบ. เป็นการฝึกที่มีความมุ่งหมาย เพื่อให้ทหารกองประจาการทุกเหล่าใน ทบ.
ที่เข้ามารับราชการทหารตาม พ.ร.บ.การรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ได้รับการฝึกในวิชาทหารเบื้องต้น
เป็ น รายบุ ค คลให้ มี ม าตรฐานเดี ย วกั น ทั่ ว ทั้ ง ทบ. และน าไปใช้ เป็ น พื้ น ฐานในการเข้ า รั บ การฝึ ก ศึ ก ษา
ตามระเบี ย บและหลั กสู ตรการฝึ กของแต่ ละเหล่ าในขั้ นสู งได้ อย่ างต่ อเนื่ อง และเป็ นผลส าเร็จตามนโยบาย
ที่ผู้บังคับหน่วยกาหนด
การฝึกทหารใหม่ในปัจจุบันหน่วยฝึกต้องยึดถือการฝึกตามระเบียบและหลักสูตรการฝึก และ ที่ได้รับ
การแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้บังคับบัญชาและสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจ
เยี่ยมการฝึก พบว่าส่วนที่เกี่ยวข้องยังมีการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายการฝึก, คาสั่ง และ คาชี้แจงตามที่ ทบ.
กาหนด ตลอดจนการพั ฒนาคุ ณลั กษณะของครูฝึ ก ซึ่ งเป็นส่วนสาคัญในการฝึ กทหารใหม่ ให้ได้รับความรู้ท าให้
การฝึกมีประสิทธิภาพลดลง ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อ ทบ.
คาแนะน าการฝึกทหารใหม่ ฉบั บนี้ ได้ ยึ ดถื อตามระเบี ยบและหลั กสู ตรการฝึ ก การฝึ กทหารใหม่
เบื้ องต้ นทั่ วไป ส าหรับทหารทุ กเหล่ าของ ทบ. (๑๐ สั ปดาห์ ) พ.ศ. ๒๕๖๒ เพิ่ มเติ มเรื่ อ งที่ ท าการฝึ ก บุ ค คล
ท่าเบื้องต้น ตามคู่มือการฝึก ว่าด้วย แบบฝึกบุคคลท่ามือเปล่า และบุคคลท่าอาวุธ โรงเรียนทหารมหาดเล็ก
ราชวัลลภรักษาพระองค์ พ.ศ.๒๕๖๐ โดยได้กาหนดรายละเอียดท่าฝึกเพิ่มเติม และหัวข้อในการสอนอบรม
จานวน ๗ หั ว ข้อ , เพิ่ มเติมแนวทางการพั ฒนาความสมบู รณ์ แข็ งแรงทางร่างกายส าหรั บทหารใหม่ เพื่ อให้
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฝึก ได้ศึกษาและทาความเข้าใจได้อย่างเป็นลาดับขั้น, เพิ่มเติมตารางการตรวจสอบรายวิชา
การฝึ กจานวน ๕๐๐ ชั่วโมง เพื่ อให้ ผู้ ฝึกทหารใหม่สามารถตรวจสอบและกากั บดู แลรายวิ ชาการฝึกสอน
ให้เป็ นไปตามระเบี ยบและหลักสูตรการฝึกฯ ในส่วนของระเบียบ, คาสั่ง, คาชี้แจง, แนวทางการปฏิบัติ ต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ และการจัดตั้ง บก.หน่วยฝึกทหารใหม่ ในเอกสารเล่มนี้ ตลอดจนตัวอย่างคาสั่งการฝึก,
แผนบทเรียน ตาม รส.๒๑ – ๖ ได้ เพิ่ มเติ มข้ อเน้ นย้ าที่ ส าคั ญ คื อ การคั ดเลื อกผู้ ที่ จะต้ องมาปฏิ บั ติ หน้ าที่
ครูฝึกทหารใหม่ ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รายละเอียดตามที่แนบในเล่มแล้ว ส่วนนอกนั้นยังคงไว้เช่นเดิม
ทั้งนี้คาแนะนาการฝึกทหารใหม่เล่มนี้ เป็นเพียงแนวทางในการจัดการฝึก ผู้บังคับหน่วยจะต้องนาระเบียบและ
หลักสูตรการฝึ ก, คู่ มือการฝึก, คู่ มื อราชการสนาม ตลอดจนคาแนะน า และเอกสารหลัก นิย มที ่เกี ่ย วข้อ ง
มาพิจารณาประยุกต์ใช้ ในการวางแผนจัดการฝึกให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาระหน้าที่ของทหารใหม่
ที่จะต้องปฏิบัติตามภารกิจของหน่วย รวมถึงสภาพแวดล้อมอื่น ๆ เพื่อฝึกทหารใหม่ให้มีทักษะ และมีความ
ชานาญ จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ตอบสนองภารกิจของหน่วย ให้บรรลุผลสาเร็จได้อย่างดียิ่ง
ยศ.ทบ. หวังว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็ นประโยชน์แก่ ผู้บังคับบั ญชาทุ กระดับตั้งแต่ ผู้ฝึก, ผู้ช่วยผู้ฝึก,
ครูนายสิบ และครูทหารใหม่ ได้เข้าใจถึงการจัดการฝึกและการดาเนินการฝึ กได้ถูกต้อง ตลอดจนเป็นแนวทาง
การแก้ไขปั ญ หาในด้านการฝึ ก ให้ ส าเร็จลุ ล่ วงตามวั ตถุ ประสงค์ และเป็ นไปตามนโยบายของ ทบ. โดยจะไม่
ก่อให้เกิดบาดเจ็บและการสูญเสียจากการฝึกและนาไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีต่อ ทบ. ต่อไป
ยศ.ทบ.
บัญชีรายการแจกจ่าย
อัตรำจ่ำย
ลำดับ รำยกำร หมำยเหตุ
หน่วยละ
๑ กรมฝ่ำยเสนำธิกำร (๖), กรมฝ่ำยกิจกำรพิเศษ (๖), ๑
กรมฝ่ำยยุทธบริกำร (๙)
๒ ทภ. (๔) ๒
๓ ทน. (๔), นสศ., นปอ., นรด., รร.จปร., ๑
๔ พล.ร. (๑๐), พล.ม.(๓), พล.ป. ๒
๕ พล.พัฒนำ (๔), พล.ปตอ., พล.รพศ., พล.ช., ๑
ศสพ., ขกท., ศบบ., ศสร.
๖ มทบ. (๓๕), บชร. (๔) ๑
๗ กรม ร. (๒๗), กรม ม. (๗), กรม ป. (๑๐) ๒
๘ กรม ช. (๕), กรม ส. (๑), กรม ขส.รอ. (๑), ๑
กรม ปตอ. (๒), กรม พัฒนำ (๔), กรม สน. (๔),
ศปภอ.ทบ. (๔),
๙ ศร., ศม., ศป. ๓
๑๐ ศฝยว.ทบ., รร.นส.ทบ. ๑
๑๑ นขต.บก.ยศ.ทบ. ๑
๑๒ หน่วยฝึกทหำรใหม่ ๑
๑๓ อะไหล่ ๒๐
รวมทั้งสิ้น ๖๐๐
หมำยเหตุ ๑. หน่วยจะได้รับเอกสำรตำมรำยกำรแจกจ่ำย
๒. สำมำรถคัดลอกข้อมูลได้จำก www.atc-rta.com
ตรวจถูกต้อง
(ลงชื่อ) พ.อ.เฉลิมพล จันดำ
(เฉลิมพล จันดำ)
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ.
สารบัญ
หน้า
คานา
บทที่ ๑ กล่าวทั่วไป ๑–๑
๓. วิธีดาเนินการประเมินผล ๒ - ๖๘
๔. การรายงานผลการประเมิน ๒ - ๖๙
๕. แบบฟอร์มการประเมินผลการฝึกเป็นบุคคล ๒ - ๗๐
๖. แบบฟอร์มตารางแสดงผลการฝึกเป็นส่วนรวม ๒ - ๗๒
ตอนที่ ๔ การสนับสนุนการฝึก ๒ - ๗๓
ตอนที่ ๕ ตารางตรวจสอบรายวิชาจานวน ๕๐๐ ชั่วโมง ๒ - ๗๕
บทที่ ๓ นโยบาย, คาสั่ง, วิทยุฯ สั่งการและคาแนะนาที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ ๓-๑
ตอนที่ ๑ นโยบายการฝึก ๓-๑
๑. นโยบายการฝึกทหารใหม่กองทัพบก ๓-๑
๒. นโยบายการฝึกทหารใหม่ จก.ยศ.ทบ. ๓-๖
๓. คาสั่ง ทบ.(เฉพาะ)ที่ ๕๐๕/๕๗ ลง ๑๗ พ.ค.๕๗ เรื่อง การป้องกันและเฝ้าระวัง
การ บาดเจ็บจากความร้อน ในการฝึกทหารใหม่ ๓–๙
๔. คาสั่ง ทบ.(เฉพาะ)ที่ ๕๐๖/๕๗ ลง ๑๗ พ.ค.๕๗ เรื่อง การป้องกันและเฝ้าระวัง
การบาดเจ็บจากความร้อน ในการฝึก ๓ - ๑๒
๕. คาสั่ง ทบ.ที่ ๖๕/๒๕๔๒ ลง ๓ ก.พ. ๔๒ เรื่อง การพัฒนาคุณภาพชีวิตทหาร
กองประจาการ ๓ – ๑๔
๖. ข้อเน้นย้ามาตรการนิรภัยในการฝึก (เพื่อพลาง) ๓ – ๒๓
ตอนที่ ๒ แนวทางป้องกันทหารใหม่เจ็บป่วย ๓ – ๒๖
ตอนที่ ๓ คาอธิบายเพิ่มเติมการใช้เครื่องช่วยฝึกและอาวุธ ๓ – ๓๕
๑. วิธีการใช้เครื่องช่วยฝึกคานเล็ง, ช้อนเล็ง, หีบเล็ง และสนามยิงปืนเบื้องต้น ๓ – ๓๕
๒. ตัวอย่างช้อนเล็ง และคานฝึกเล็งที่ปรับปรุงแก้ไข ๓ – ๓๗
๓. ข้อเน้นย้าการใช้อาวุธประจากาย/ประจาหน่วย ๓ – ๔๐
ตอนที่ ๔ เครื่องช่วยฝึกปืนเล็กยาว เอ็ม.๑๖ จาลองประกอบอุปกรณ์การเล็งด้วยแสงเลเซอร์ ๓ – ๔๑
ตอนที่ ๕ การฝึกยิงปืนประกอบการเคลื่อนที่ ๓ – ๔๓
๑. คาอธิบายเพิ่มเติมประกอบการสร้างสนามฝึกยิงปืนประกอบการเคลื่อนที่ ๓ – ๔๓
๒. ภาพรวมสนามฝึกยิงปืนประกอบการเคลื่อนที่ ๓ – ๔๔
๓. รูปภาพตัวอย่างเครื่องกาบังประกอบการสร้างสนามยิงปืนประกอบการเคลื่อนที่ ๓ – ๔๕
๔. การปฏิบัติในการฝึกยิงปืนประกอบการเคลื่อนที่ ๓ – ๔๖
๕. การฝึกยิงเป็นคู่ ๓ – ๔๗
๖. ภาพสังเขปการยิงปืนเป็นคู่ ๓ – ๔๙
-๓–
ตอนที่ ๖ การฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ๓ – ๕๐
และการพัฒนาความสมบูรณ์แข็งแรงทางร่างกายของทหารใหม่ ๓ – ๕๓
ตอนที่ ๗ เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ ๓ – ๖๐
*****************************************
๑–๑
บทที่ ๑
กล่าวทั่วไป
๔.๑.๘ มีความเขาใจในแนวทางการฝกที่มุงเนนผลการปฏิบัติ
๔.๑.๙ เปนตัวอยางที่ดีแกครูนายสิบ, ครูทหารใหมและทหารใหมไดเปนอยางดีในทุก ๆ เรื่อง
๔.๒ ผช.ผูฝก, ครูนายสิบ และครูทหารใหม มีคุณลักษณะเชนเดียวกับผูฝก
๕. การจัดเตรียมเครื่องชวยฝก, แผนภาพเครื่องชวยฝก และอุปกรณการฝก หนวยฝกทหารใหมจะตอง
เบิก–รับ เครื่องชวยฝก, แผนภาพเครื่องชวยฝก และอุปกรณการฝกใหเรียบรอยกอนดําเนินการฝก โดยใหปฏิบัติ
ดังนี้.-
๕.๑ เตรียมไวใหเพียงพอกับการใชในการฝกทหารใหม ทุกวิชาทุกเรื่อง
๕.๒ ตรวจสภาพใหเรียบรอย มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม และมีการซอมบํารุงใหพรอมใชงาน
๕.๓ มีบัญชีคุม และสมุดยืม เรียบรอย
๕.๔ นํามาใชใหเกิดประโยชนอยางแทจริง โดยนํามาใชประกอบการฝกหรือสอนทุกครั้ง
๖. พื้นที่การฝกและสนามฝก สนามฝกตาง ๆ หนวยฝกทหารใหมจะตองเตรียมไวใหอยูในสภาพทีเ่ รียบรอย
พรอมทําการฝก และมีความปลอดภัยเมื่อใชทําการฝก สนามฝกที่ใชทําการฝกทหารใหมมีดงั นี้
๖.๑ สนามฝ ก บุ ค คลเบื้ อ งต น และแถวชิ ด ควรเป น สนามหญ า พื้ น เรี ย บมี แ ท น สู งสํ าหรั บ ผู ฝ ก
สามารถรองรับทหารใหมขณะทําการฝกไดเพียงพอ การฝกทาอยูกับที่และการฝกทาเคลื่อนที่ตาง ๆ รวมถึง
การฝกแบบรวมการไดทั้งหนวยฝก
๖.๒ สนามฝกกายบริหาร
๖.๒.๑ กายบริหารอยูกับที่ เปนลานพื้นเรียบ มีแทนสูงสําหรับผูฝก พื้นที่เพียงพอสําหรับการขยาย
ระยะตอและระยะเคียงของทหารใหมทั้งหนวยฝกไดดี
๖.๒.๒ ราวดึงขอใชทอเหล็กขนาดเสนผาศูนยกลาง ๑ ๑/๒ นิ้ว มีการยึดตรึงแข็งแรง มีความ
ปลอดภัยขณะปฏิบัติ มีชองดึงไมนอยกวารอยละ ๑๐ ของจํานวนทหารใหม
๖.๒.๓ สนามฝ กวิ่ ง มี ระยะทางรวม ๒,๐๐๐ เมตร ขนาดความกว างเพี ยงพอ และการจราจร
ไมพลุ กพล าน (หากมี การแขงขันควรใช พื้นที่ ราบเสมอ) มีมาตรการป องกันอุบั ติ เหตุ จากการจราจร เช น มีป าย
กําหนดความเร็วยานพาหนะ มีเจาหนาที่ประจําจุดแยก, มีไฟสัญญาณหรือวัตถุสะทอนแสงในแถวทหาร
๖.๓ สนามฝกยิงปนเบื้องตน ตั้งอยูในที่โลงไดระยะตามคูมือการฝก (แบบวงกลม หรือ แบบคูขนาน)
๖.๔ สนามฝกทางยุทธวิธี ใหเลือกพื้นที่ที่สามารถทําการฝก ใหมีความเหมาะสมกับภูมิประเทศ
ในการรบ มี ความกว างด านหน า และความลึ กในระดั บหมู ปล. ลั กษณะการวางเครื่ องกี ดขวางให วางสลั บ
มิใชวางเปนแถวตรงกัน, ปอมสนาม และหลุมบุคคล ควรอยูในพื้นที่ที่มีการกําบัง และซอนพราง การดัดแปลง
ภูมิประเทศตาง ๆ ใหคํานึงถึงความเหมาะสมในการฝก เพื่อใหเกิดความเขาใจ เมื่อตองนําไปใชปฏิบัติทางยุทธวิธี
และหนวยตองจัดทําโตะทรายหรือภูมิประเทศจําลอง อธิบายใหทหารใหมเขาใจภาพการปฏิ บัติทางยุทธวิธี
ในระดับ บุคคล, การปฏิบัติเปนคู, ชุดยิง และ หมู
๖.๕ สนามฝกยิงปนระยะ ๒๕ เมตร (๑,๐๐๐ นิ้ว) ตองเนนกฎความปลอดภัยของสนามฝกยิงปน
และบริเวณโดยรอบ ขณะทําการฝก ชองยิง แนวยิง และเปาตองมีความสมบูรณพรอมใชงาน รวมทั้งหนวยตอง
กําหนดใหใชมาตรการรักษาความปลอดภัยในการใชสนามฝกยิงปนดวยกระสุนจริง อยางเครงครัด
๒–๔
๗.๓.๒ การนั บ วั น เวลา ในการฝ กตามระเบี ยบและหลั กสู ตรการฝ ก ให เริ่ มนั บตั้ งแต วั น ที่
๑ พ.ย. ๖๓ (ผลัดที่ ๒/๖๓) และวันที่ ๑ พ.ค. ๖๔ (ผลัดที่ ๑/๖๔) โดยในห วง ๑ – ๓ วันแรกของแตละผลัด
จะเปนการดําเนินกรรมวิธีดานธุรการตอทหารใหม และเริ่มทําการฝกตั้งแตวันพฤหัสบดีที่ ๕ พ.ย. ๖๓ (ผลัดที่ ๒/๖๓)
และ ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ พ.ค. ๖๓ (ผลัดที่ ๑/๖๔)
ตั ว อย า ง ในผลั ด ที่ ๒/๖๓ ทหารใหม เข า รายงานตั ว ณ หน ว ยฝ ก ฯ การดํ า เนิ น กรรมวิ ธี คื อ
วันอาทิตยที่ ๑ พ.ย. ๖๓ ถึง วันพุธที่ ๔ พ.ย. ๖๓ เพราะฉะนั้นการนับวันแรกของการฝกตามระเบียบหลักสูตร
คือวันจันทรที่ ๒ พ.ย. ๖๓ และใหเริ่มทําการฝกทหารใหมตั้งแต วันพฤหัสบดีที่ ๕ พ.ย. ๖๓ เปนตนไป
๗.๔ การจัดทําตารางกําหนดการฝกหลัก (ตารางกําหนดการฝกเปนสัปดาห) คือ ตั้งแตสัปดาหแรก
ที่ทหารใหมเขารายงานตัวจนทําการฝกจบ ๑๐ สัปดาห เวลาการฝก ๕๐๐ ชั่วโมง
๗.๕ กําหนดเจาหนาที่ในการฝกซึ่งประกอบดวย ผอ.ฝก, รอง ผอ.ฝก, ผูชวย ผอ.ฝก., ผบ.หนวยฝก ,
เจาหนาที่ธุรการประจําหนวยฝก, ผูฝก, ผูชวยผูฝก, ครูนายสิบ และครูทหารใหม
๗.๖ ตารางกําหนดการฝกหลัก (ตารางกําหนดการฝกเปนสัปดาห) มีรายละเอียด ดังนี้
๗.๖.๑ เรื่องและวิชาที่ทําการฝกสอนอบรมครบตามระเบียบหลักสูตรที่กําหนดไว
๗.๖.๒ จํานวนเวลาเปนชั่วโมง ของแตละเรื่องที่ทําการฝกครบตามจํานวนที่ระเบียบหลักสูตรกําหนดไว
๗.๖.๓ การนับวงรอบสัปดาห ใหนับตามวงรอบสัปดาหสากลเริ่มตั้งแตทหารใหมเขาหนวยและ
เริ่มทําการฝกในผลัดที่ ๒/๖๓ มีวันหยุดราชการอยู ๔ วัน คือ วันเสารที่ ๕ ธ.ค. ๖๓ (วันพอแหงชาติ), วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ธ.ค. ๖๓
(หยุ ดวั น รัฐ ธรรมนู ญ ), วันพฤหั สบดีที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๓ และวั นศุกรที่ ๑ ม.ค. ๖๔ (หยุ ดวันสิ้ นป และวั นขึ้นป ใหม )
โดยในวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ธ.ค. ๖๓ ไมนับเปนวันหยุด การฝกใหทําการฝกตามปกติ สําหรับวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๓
และวันศุกรที่ ๑ ม.ค. ๖๔ (หยุดวันสิ้นป และวันขึ้นปใหม) ใหนับเปนวันหยุดการฝก ใหงดทําการฝก เพื่อเปนขวัญและ
กําลังใจใหกับทหารใหม
๗.๖.๔ จํานวนชั่วโมงรวมชองสุดทาย ถูกตองตามเวลาการฝกที่มีอยูในสัปดาหนั้น ๆ การกําหนด
ในแตละสัปดาหจะมีชั่วโมงการฝกเทาใดนั้น ขอใหหนวยพิจารณา ดังนี้
๗.๖.๔.๑ สัปดาหที่ ๑ - ๔
๗.๖.๔.๒ สัปดาหที่ ๕ – ๑๐
การจัดตารางกําหนดการฝกหลัก(ตารางกําหนดการฝกเปนสัปดาห) คือการจัดทําแผนการฝก
ทหารใหมใหเปนไปตามระเบียบและหลักสูตรการฝกฯ จํานวน ๕๐๐ ชั่วโมง โดยฝายยุทธการและการฝก
ของหนวยเปนผูรับผิดชอบ ตารางการฝกดังกลาวนี้ เพื่อใหหนวยฝกทราบวา ในแตละสัปดาหมีรายวิชาและ
ชั่วโมงการฝกเทาใด ครอบคลุมการฝกครบทุกวิชาทุกเรื่องหรือไม มีจํานวนชั่วโมงการฝ กครบถูกตองตามที่
ระเบียบและหลักสูตรฯ กําหนด ดังตัวอยางในการวางแผน การจัดทําตารางกําหนดการฝกหลัก (หนา ๒ – ๑๙)
๗.๗ ตารางกําหนดการฝกประจําสัปดาห (จากแผนการจัดการฝกที่วางไวตามตัวอยางในหนา ๒ – ๒๒
ถึง ๒ – ๒๓)
๗.๗.๑ แบบของตาราง ใชตามระเบียบและหลักสูตรการฝกทหารใหม ฯ
๗.๗.๒ มีความถูกตอง และตรงกับตารางกําหนดการฝกหลัก (ตารางกําหนดการฝกเปนสัปดาห)
๗.๗.๓ รายการสอน กําหนดรายละเอียดของวิชาเปน ทา และ เรื่องที่จะใหสอนอบรม เชน
- การฝกบุคคลทามือเปลา - ทาตรง, ทาพัก
- การติดตอสื่อสาร - เรื่องหลักการติดตอสื่อสาร
- การอบรมแบบธรรมเนียมของทหาร - เรื่องการรักษาการณ ฯลฯ
๗.๗.๔ หลักฐานจะตองกําหนดใหละเอียด สมบูรณ ชัดเจน งายตอการคนหามาใชในการสอนอบรม
๗.๗.๕ ทุกชองของตารางจะตองมีรายละเอียดที่ถูกตองและเรียบรอย
๗.๗.๖ การกําหนดวิชาและชัว่ โมงทําการฝกจะตองยึดถือระเบียบและหลักสูตรการฝกฯ และ
ใหเปนไปตามคําสั่งการฝกประจําปของ ทบ. โดยจะตองระบุไวในคําสั่งการฝกของหนวยดวย
๗.๗.๗ ในกรณี ที่หนวยจัดตั้ งสถานีฝก เพื่อหมุนเวียนการฝกนั้น ให หน วยกําหนดลงในตาราง
การฝกประจําสัปดาห และแยกออกเปนสถานีในแตละวัน โดยที่ชั่วโมงการฝกรายวิชาที่ทหารใหมแตละคน
เขารับการฝกตองเทากับจํานวนชั่วโมงที่กําหนดไวในตารางกําหนดการฝกหลัก (ตารางกําหนดการฝกเปนสัปดาห)
๒–๗
๓๐ ๓๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ สัปดาหที่ ๖ การฝก ๕๐ ชม
(วันเฉลิมพระราชินฯี )
ตารางกําหนดการฝก
หนวยจัดการฝก.....................................
หลักฐาน คําสั่งการฝกของหนวย................ที่......./...........ลง.........................
กําหนดการฝก (ว. ด. ป.)
ลําดับ งานการฝก หนวยรับการฝก หมายเหตุ
ในที่ตั้ง นอกที่ตั้ง/พื้นที่ฝก
๑ การฝกทหารใหม
๒ – ๑๒
๑๒. ตัวอยางคําสั่งการฝกทหารใหม
คําสั่งกองพันทหารราบที่ ............กรมทหารราบที่..........
ที่ /๒๕๖๓
เรื่อง การฝกทหารใหม ผลัดที่ ๒/๖๓
------------------
๑. วันมีผลบังคับใช : ๑ พ.ย. ๖๓ – ๑๓ ม.ค. ๖๔
๒. หลักฐาน : ผนวก ก
๓. ความมุงหมายในการฝก
๓.๑ เพื่อให ท หารใหมเป น รายบุ คคล ได รับ การฝ กศึกษาวิ ชาการทหารเบื้ องต น สํ าหรับ นํ าไปใช
ในการฝกขั้นตอไป จนมีประสิทธิภาพทําการรบตามหนาที่ของทหารแตละเหลาได
๓.๒ เพื่อปรับสภาพรางกายและจิตใจของทหารใหมจากการดําเนินชีวิตแบบพลเรือนมาดําเนินชีวิต แบบทหาร
๓.๓ เพื่อปลูกฝงลักษณะทหาร
๓.๔ เพื่อปลูกฝงใหเกิดทัศนคติที่ดีงามตอ ทบ.
๔. ระบบการฝก : ใชการฝกที่เนนผลการปฏิบัติ โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติไมนอยกวารอยละ ๗๐ ดังนี้.-
๔.๑ การฝกแบบรวมการ ในการฝกสอนอบรม ดังตอไปนี้
๔.๑.๑ การฝกแถวชิด ๔.๑.๒ การสอนอบรม
๔.๒ การฝกแบบแยกการ โดยจัดการฝกแบบหมุนเวียน ดังนี้
๔.๒.๑ การฝกเบื้องตน (เวนการฝกแถวชิด) ๔.๒.๒ วิชาทหารทั่วไป
๔.๒.๓ การฝกใชอาวุธประจํากาย ๔.๒.๔ การฝกทางยุทธวิธี
๕. เจาหนาที่ฝกทหารใหม : ผนวก ข
๖. วันทําการฝก : ตั้งแต ๖ พ.ย. ๖๓ ถึง ๑๓ ม.ค. ๖๔
๖.๑ จันทร - ศุกร ฝกวันละ ๙ ชม.
๖.๒ วันเสาร ฝกวันละ ๕ ชม.
- เวลา ๐๕๓๐ – ๐๖๓๐ ตั้งแตสัปดาหที่ ๔ ใหทําการทดสอบสรรถภาพรางกาย)
- เวลา ๐๘๐๐ – ๑๒๐๐ ตั้งแตสัปดาหที่ ๑ – ๗ ใหทําการฝกสอนในกลุม
วิชาการชวยเหลือประชาชนและการสอนอบรม
๖.๓ การประเมินผลการฝกจํานวนชั่วโมง ๑๙ ชั่วโมง ถือวาเปนเวลาในหลักสูตรแตใหประเมินผล
เมื่อฝกจบเปนรายวิชา หรือตามที่หนวยพิจารณาเห็นสมควร และใหเริ่มประเมินผลไดตั้งแตสัปดาหที่ ๕ เปนตนไป
หรือไมชากวาสัปดาหที่ ๖ จนถึงวันเสร็จสิ้นการฝก
๒ – ๑๓
๗. มาตรฐานการฝก
๗.๑ การประเมินผลการฝกทหารใหม จะตองดําเนินการตอทหารใหมทุกนาย โดยปฏิบัติตามรายการ
ของคูมือการประเมินผล การฝกทหารใหมเบื้องตนทั่วไป สําหรับทหารทุกเหลาของกองทัพบก (๑๐ สัปดาห)
พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยใหยกเลิกการตรวจสอบแบบจัดตั้งสถานีตรวจสอบ ๖ สถานี และการจําหนายยอดทหารใหม
๒๐ % ของยอดเต็ม
๗.๒ ผลการฝกเปนรายวิชา จะตองผานเกณฑที่กําหนดไว ในคูมือการประเมินผล การฝกทหารใหม
เบื้องตนทั่วไป สําหรับทหารทุกเหลาของกองทัพบก (๑๐ สัปดาห) พ.ศ. ๒๕๕๕
๘. สนามฝกและพื้นที่การฝก : ใหหนวยฝก ฯ จัดเตรียมใหเรียบรอย ดังนี้.-
๘.๑ สนามการฝกเบื้องตนและแถวชิด ๘.๒ สนามฝกกายบริหาร (ราวดึงขอ, สนามฝกวิ่ง)
๘.๓ สนามฝกการใชดาบปลายปน ๘.๔ สนามฝกขวางลูกระเบิดซอมขวาง
๘.๕ สนามฝกยิงปนเบื้องตน ๘.๖ สนามฝกทางยุทธวิธี
๘.๗ สนามฝกยิงปน ๒๕ เมตร (๑,๐๐๐ นิ้ว) ๘.๘ สนามฝกบุคคลทําการรบ
๘.๙ สนามฝกการเดินทางดวยเข็มทิศ ๘.๑๐ สนามฝกสรางเครื่องกีดขวาง
๘.๑๑ พื้นที่การฝกการลาดตระเวน ๘.๑๒ พื้นทีก่ ารเคลื่อนที่ทางยุทธวิธี และการพักแรม
๘.๑๓ พื้นที่การฝกปอมสนาม ในสนาม
๙. เครื่องชวยฝกตาง ๆ รวมทั้งแผนภาพเครื่องชวยฝก ใหหนวยฝกเตรียมไวใหเรียบรอย
๑๐. ตารางกําหนดการฝก
๑๐.๑ ตารางกําหนดการฝกหลัก(เปนสัปดาห) ตามระเบียบและหลักสูตรการฝก การฝกทหารใหม
สําหรับทหารทุกเหลาของ ทบ.๑๐ สัปดาห พ.ศ.๒๕๖๒ (ผนวก ค หนา ๒ – ๑๙ ถึง ๒ – ๒๑)
๑๐.๒ ตารางกําหนดการฝกประจําสัปดาห (ผนวก ง หนา ๒ – ๒๒ ถึง ๒ – ๒๓)
๑๐.๓ ตารางกํ าหนดการฝ กเมื่ อฝนตก (อนุ ผ นวก ๑ ประกอบผนวก ง หน า ๒ – ๒๔) ตาราง
กําหนดการฝกประจําวัน ( หนา ๒ – ๒๕ ) กําหนดขึ้นใหสอดคลองกับตารางกําหนดการฝกหลัก (เปนสัปดาห)
๑๑. การตรวจการฝก
๑๑.๑ ผบ.พัน หรือเทียบเทาจะตรวจการฝกหรือใหมีผูรับมอบอํานาจ ตรวจอยางไมเปนทางการไดทุกวัน
๑๑.๒ รายการกําหนดการตรวจประจําวันของเจาหนาที่ตรวจการฝกฯ (ผนวก จ หนา ๒ - ๒๖)
๑๑.๓ การตรวจการฝก ผูตรวจจะตองบันทึกผลการตรวจการฝกทหารใหมในสมุดรับตรวจ และ
ตองรายงานให ผบ.พัน ทราบ ทุกวัน
๑๒. บันทึกและรายงาน : ใหดําเนินการตามระเบียบและหลักสูตรโดยเครงครัด
๑๓. คําแนะนําการฝก
๑๓.๑ ใหใชการฝกในสนามฝก มากกวาการสอนในหองเรียน ในอาคาร
๑๓.๒ ใหทหารใหมไดมีการฝกปฏิบัติมากกวาการสอนดวยการบรรยาย ตาม รส. ๒๑ – ๖ วาดวย
วิธีเตรียมการและดําเนินการฝกที่เนนผลการปฏิบัติ พ.ศ. ๒๕๓๑
๑๓.๓ การฝ กยิ งป นด วยกระสุ นจริ งในสนามจะต องสวมหมวกเหล็ กทุ กครั้ งที่ ทํ าการฝ กยิ ง และ
เมื่อทหารใหมสวนหนึ่งเขาแนวยิงแลว สวนที่เหลือใหทําการฝกทบทวนเรื่องตาง ๆ ของวิชาใชอาวุธประจํากาย
เพื่อใหเกิดความชํานาญ
๒ – ๑๔
(ลงชื่อ) พ.ท.
(.....................................)
ผบ.ร. ....... พัน. .........
ฝยก.ร. ........ พัน. .......
๒ – ๑๖
พ.ต.
(.................................)
ฝอ.๓ .................
๒ – ๑๘
ผนวก ข (เจาหนาที่ฝกทหารใหม ผลัดที่ ๒/๖๓) ประกอบคําสั่ง ร.... พัน..... ที.่ ..../๒๕๖๓ ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓
๑. ผูอํานวยการฝก (ควรเปน ผบ.หนวย)
๒. รองผูอํานวยการฝก (ควรเปน รอง ผบ.หนวย)
๓. ผูชว ยผูอํานวยการฝก (ควรเปน ฝอ.๓)
๔. ผบ.หนวยฝก (ควรเปน ผบ.รอย.)
๕. เจาหนาที่ประจําหนวยฝก (จํานวนเจาหนาที่ ตามความเหมาะสม )
๖. ผูฝก
๗. ผูชว ยผูฝก
๘. ครูนายสิบ
............
............
............
๙. ครูทหารใหม (พลทหาร)
............
............
............
............
ตรวจถูกตอง
พ.ต.
(.............................)
ฝอ.๓ ................
หมายเหตุ
๑. หนวยที่จัดตั้งหนวยฝก ๒ หนวยฝกหรือ ๓ หนวยฝก ใหใชคําสั่งการฝกทหารใหม ๑ คําสั่ง
๒. ผนวก ข (เจาหนาที่ฝกทหารใหม ผลัดที่ ๒/๖๓ ประกอบคําสั่ง ร....พัน......ที่......../๒๕๖๓
ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓ จะตองเพิ่ม ผนวก ข ๒ ชุดหรือ ๓ ชุด ตามที่หนวยจัดตั้งหนวยฝก)
๓. เจาหนาที่หนวยฝกจะไมเหมือนกันใน ผนวก ข คือ ผูฝ ก, ผูชวยผูฝก, ครูนายสิบและ ครูทหารใหม
๔. เอกสารตําราทุกเลมที่อางอิงในการฝกจะตองมีครบทั้ง ๒ หนวยฝก หรือ ๓ หนวยฝก ตาม ผนวก ก
๕. สนามฝก ๑๓ สนาม หนวยจะตองจัดทําเพิ่มเติมตามสัดสวนและใหเหมาะสมในการ
เตรียมการฝก, การจัดการฝก, การดําเนินการฝก, การประเมินผลการฝก รวมถึงพื้นที่การฝกของหนวย
๒ - ๑๙
ผนวก ค ตารางกําหนดการฝกหลัก(เปนสัปดาห) ประกอบคําสั่ง ร……พัน……ที…
่ …../๒๕๖๓ ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓
เวลา สัปดาห
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝกสอน
(ชม.) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐
ก. กรรมวิธีรับทหารใหมเขาหนวย (๓๐)
๑ กรรมวิธีรับทหารใหมเขาหนวย ๓๐
ข. การฝกเบื้องตน (๗๘)
๒ การฝกบุคคลทาเบื้องตน ๗๘
ค. การเสริมสรางความสมบูรณแข็งแรงทางรางกาย (๖๕)
๓ การออกกําลังกาย/ศิลปะการตอสูปองกันตัว ๕๓
๔ การทดสอบความสมบูรณแข็งแรงทางรางกาย ๑๒
ง. การชวยเหลือประชาชน (๔๐)
๕ จิตอาสา ๑๐
๖ การปองกันและบรรเทาสาธารณภัย ๑๖
๗ การปฐมพยาบาล ๑๔
จ.การสอนอบรม (๕๖)
๘ แบบธรรมเนียมทหาร ๔
๙ อุดมการณทางทหาร ๖
๑๐ ความมั่นคงของชาติและหนาที่พลเมือง ๒
๑๑ ประวัติศาสตรชาติไทยและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย ๑๒
๑๒ ศาสตรพระราชา เขาใจ เขาถึง พัฒนา และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑๒
๑๓ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ, ไรนาสวนผสม ๘
๑๔ วินัยของชาติ ๔
๑๕ กิริยามารยาทราชสํานัก และคําราชาศัพท ๔
๑๖ การพัฒนาบุคลิกภาพ ๔
ฉ. วิชาทหารทั่วไป (๓๐)
๑๗ การติดตอสื่อสาร ๘
๑๘ การอานแผนที่และการใชเข็มทิศ ๑๐
๒ - ๒๐
เวลา สัปดาห
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝกสอน
(ชม.) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐
๑๙ การขาวเบื้องตน, การสังเกตและการสะกดรอย ๕
๒๐ การทําลายทุนระเบิดและกับระเบิด ๕
๒๑ การปองกันนิวเคลียร ชีวะ เคมี เปนบุคคล ๒
ช. การใชอาวุธ (๖๙)
๒๒ อาวุธศึกษา ๑๐
๒๓ การฝกพลแมนปนเบื้องตน ๔๕
๒๔ การใชลูกระเบิดขวาง ๖
๒๕ การใชดาบปลายปน ๘
ซ. การฝกทางยุทธวิธี (๑๑๓)
๒๖ การกําบังและการซอนพราง ๗
๒๗ การฝกบุคคลทําการรบในเวลากลางวัน ๓๕
๒๘ การฝกบุคคลทําการรบในเวลากลางคืน ๑๐
๒๙ ปอมสนาม ๖
๓๐ เครื่องกีดขวาง ๕
๓๑ การยิงประกอบการเคลื่อนที่ (เปนคู) ๓๐
๓๒ การลาดตระเวน/การระวังปองกัน ๑๒
๓๓ การเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีและการพักแรมในสนาม ๘
ด. การตรวจสอบ (๑๙)
๓๔ การฝกบุคคลทาเบื้องตน ๓
๓๕ การใชอาวุธ ๕
๓๖ วิชาทหารทั่วไปและการฝกทางยุทธวิธี ๕
๒ - ๒๑
เวลา สัปดาห
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝกสอน
(ชม.) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐
๓๗ การสอนอบรม ๓
๓๘ การทดสอบความสมบูรณแข็งแรงทางรางกาย ๓
รวม ๕๐๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐ ๕๐
ตรวจถูกตอง
พ.ต.
(................................)
ฝอ.๓……………...
หมายเหตุ
๑. ในผลัดที่ ๒/๖๓ ทหารใหมรายงานตัวเขาหนวยในวันอาทิตยที่ ๑ พ.ย. ๖๓ หนวยดําเนินกรรมวิธีตอทหารใหมเปนเวลา ๓ วัน ดังนั้นในสัปดาหที่ ๑ การดําเนินกรรมวิธีตอทหารใหม
ใหนับเปนเวลาในการฝกตามระเบียบและหลักสูตรฯ จํานวน ๓๐ ชม.ดวย
๒. วันหยุดราชการในผลัด ๒/๖๓ คือ วันที่ ๕ ธ.ค.๖๓, วันที่ ๑๐ ธ.ค.๖๓ ไมนับเปนวันหยุดใหดําเนินการฝก ตามปกติ เวนวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๓ และวันที่ ๑ ม.ค. ๖๔ หยุดวันสิ้นปและวันปใหม
ใหงดทําการฝกเพื่อเปนขวัญและกําลังใจใหกับทหารใหม
๓. การประเมินผลการฝกมีเวลาทั้งสิ้น ๑๙ ชั่วโมง ใหทําการประเมินผลตอทหารใหมทุกนาย (โดยไมมีการจําหนายยอด) เมื่อจบการฝกสอนเปนรายวิชาหรือตามที่หนวยพิจารณาความเหมาะสม
โดยยกเลิกการจัดตั้งสถานีตรวจสอบ ๖ สถานี และเฉลี่ย จํานวนชั่วโมงของการประเมินผลทั้ง ๑๙ ชั่วโมงลงในแตละสัปดาห เริ่มตั้งแตสัปดาหที่ ๕ เปนตนไป แตจะประเมินผลไมชากวา
สัปดาหที่ ๖ จนจบสัปดาหสุดทายของการฝก ในกรณีทหารใหมบางนายไมสามารถประเมินผลไดในบางวิชา เนื่องจากความผิดปกติทางรางกาย เชน แขนหรือขาดามเหล็ก ระบบหายใจไมปกติ
อาน - เขียนหนังสือไมได ใหคณะกรรมการประเมินผลลงความเห็นไวในชองหมายเหตุ
๔. การจัดทําตารางกําหนดการฝกหลัก (เปนสัปดาห ผนวก ค) ยศ.ทบ. ใหเอกภาพแกหนวยในการลงรายละเอียดของจํานวนชั่วโมงที่ใชในการฝก, สอนอบรม และประเมินผลการฝก
ตั้งแตสัปดาหที่ ๒ จนถึงสัปดาหสุดทาย โดยจํานวนชั่วโมงที่ใชในการฝกสอนแตละเรื่องจะตองเปนไปตามระเบียบและหลักสูตรการฝก การฝกทหารใหมเบื้องตนทั่วไปสําหรับทหารทุกเหลาของ ทบ.
(๑๐ สัปดาห) พ.ศ.๒๕๖๒
ตัวอย่าง
ตารางกาหนดการฝึกประจาสัปดาห์
เวลา
วัน , วันที่ สถานที่ รายการ วิธีสอน การแต่งกาย ผู้สอน หลักฐาน เครื่องช่วยฝึก
ตั้งแต่ - ถึง
อาทิตย์ที่ อาคารที่พัก - การดาเนินกรรมวิธีรับทหารใหม่ สช., ป. ชุดลาลอง ผู้ฝึก
๒ -๒๒
๑ พ.ย. ๖๓ - เวลาผู้บังคับบัญชา " " ครูฝึก
จันทร์ที่
"
๒ พ.ย. ๖๓ " " "
อังคารที่
"
๓ พ.ย. ๖๓ " " "
เวลา
วัน , วันที่ สถานที่ รายการ วิธีสอน การแต่งกาย ผู้สอน หลักฐาน เครื่องช่วยฝึก
ตั้งแต่ - ถึง
พุธที่ ๐๘๐๐ - ๑๒๐๐ สนามฝึก การฝึกบุคคลท่ามือเปล่า ป. ชุดฝึก ผู้ฝึก คฝ.๗ - ๖ ภคฝ.
๔ พ.ย. ๖๓ ๑๓๐๐ - ๑๔๐๐ " การฝึกบุคคลท่ามือเปล่า ป. " " " วีดิทัศน์
๑๔๐๐ - ๑๖๐๐ " การปฐมพยาบาล ป. " " รส.๒๑-๑๑ "
๑๖๐๐ - ๑๗๐๐ " กายบริหาร ป. ชุดครึ่งท่อน " รส.๒๑-๒๐,รส.๒๑-๑๕๐ "
๑๙๐๐ - ๒๐๐๐ ห้องอบรม การอบรม สช. ชุดลาลอง " คู่มือพลทหารว่าด้วย
ทหารใหม่ควรทราบ
พฤหัสบดีที่ ๐๘๐๐ - ๑๒๐๐ สนามฝึก การฝึกบุคคลท่าอาวุธ ป. ชุดฝึก ผู้ฝึก คฝ.๗ - ๕ ภคฝ.
๕ พ.ย. ๖๓ ๑๓๐๐ - ๑๖๐๐ " การปฐมพยาบาล ป. " " รส.๒๑-๑๑ วีดิทัศน์
๒ - ๒๓
๑๖๐๐ - ๑๗๐๐ " กายบริหาร ป. ชุดครึ่งท่อน " รส.๒๑-๒๐,รส.๒๑-๑๕๐ "
๑๙๐๐ - ๒๐๐๐ ห้องอบรม การอบรม สช. ชุดลาลอง " คู่มือพลทหารว่าด้วย "
ทหารใหม่ควรทราบ
อาทิตย์ที่ ๐๘๐๐ - ๑๐๐๐ คลัง/อาคาร การปรนนิบัติบารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ ป. ชุดฝึก ครูฝึก - -
๘ พ.ย. ๖๓ ที่พัก คลัง อาคารที่พัก " "
๑๐๐๐ - ๑๒๐๐ ห้องอบรม เวลาผู้บังคับบัญชา สช. " ผบช. - -
หลักสูตรการฝึกทหารใหม่ สัปดาห์ที่ ๑
หน่วยฝึก......................................................... ตั้งแต่ ๑ พ.ย. ๖๓ ถึง ๘ พ.ย. ๖๓
เวลา
วัน , วันที่ วิชาเดิม วิชาที่เปลี่ยนแปลง สถานที่ ผู้สอน หลักฐาน เครื่องช่วยฝึก
ตั้งแต่ - ถึง
วันพุธที่ ๔ ๐๘๐๐-๑๒๐๐ การฝึกบุคคลท่ามือเปล่า การอ่านแผนที่ และการใช้เข็มทิศ จ.ส.อ.ทรหด ฯ รส.๒๑ -๒๖ ภคฝ.
พ.ย. ๖๓ " ภคฝ.
๒ - ๒๔
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(....................................)
ฝอ.๓......................
หมายเหตุ
๑. การออกตารางกาหนดการฝึกเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ควรออกเป็นห้วงระยะเวลาเดียวกันกับตารางกาหนดการฝึกประจาสัปดาห์ เพื่อให้การแก้ไขตารางกาหนดการฝึก
ประจาสัปดาห์ง่ายขึ้น ในกรณีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวิชาที่ทาการฝึก
๒. วิชาเดิมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ จะต้องเป็นวิชาที่ไม่สามารถทาการฝึกหรือปฏิบัติในสนามฝึกได้
๓. วิชาที่เปลี่ยนแปลง จะต้องไม่ใช่วิชาการอบรม และควรเป็นวิชาที่อยู่ในวันถัดไป หรือสัปดาห์ถัดไป ที่สามารถทาการฝึกได้มาทดแทนการฝึก
๔. ฝ่ายยุทธการฯ จะต้องวางแผน เตรียมการ และจัดทาตารางกาหนดการฝึกเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันมิให้การฝึกฯ ไม่ครบตามที่ระเบียบและ
หลักสูตร ฯ กาหนด
ตารางกาหนดการฝึกประจาวันหลักสูตรการฝึกทหารใหม่
วันพุธที่ ๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓
หน่วยฝึก ...........................
๒ - ๒๕
๑๓๐๐ – ๑๔๐๐ การปฏิบัติต่อผู้บาดเจ็บฯ ๑ - ” ” รส.๒๑-๑๑ ”
๑๔๐๐ – ๑๕๐๐ การพยาบาลฉุกเฉิน ๑ - ” ” ” ”
๑๕๐๐ – ๑๖๐๐ การเข้าเฝือก ๒ - ” ” ” ”
๑๖๐๐ – ๑๗๐๐ กายบริหาร/ศิลปการต่อสู้ป้องกันตัว ๓๔ - ” ” รส.๒๑-๒๐,รส.๒๑-๑๕๐ ชุดครึ่งท่อน
๑๙๐๐ – ๒๐๐๐ อบรมเรื่องคุณลักษณะของทหาร ๒ - ห้องอบรม ” คู่มือพลทหารว่าด้วย ชุดลาลอง
ทหารใหม่ควรทราบ
(ลงชื่อ)
(...........................................)
ตาแหน่ง ผู้ฝึกทหารใหม่
๒ – ๒๖
ผนวก จ เจ้าหน้าที่ตรวจการฝึกทหารใหม่ ประกอบ คาสั่ง ร...... พัน. ..... ที่ ……/๒๕๖๓ ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓
ลาดับ ผู้ตรวจ วันที่ตรวจ หมายเหตุ
พ.ย. ๖๓ ธ.ค. ๖๓ – ม.ค. ๖๔
๑ พ.ต.จักรกฤษณ์ จงสง่ากลาง ๑ ๑
๒ ร.ท.ภาคี เข็มกลัด
๓ ร.ท.วสันต์ บุตรสนิท
๔ ร.ท.พรศักดิ์ บุตรเมือง
๕ ร.ท.สาธิต เหลือน้อย
๖ ร.ท.โกศล ลุยตัน
๗ ร.ท.สมบัติ ภักดิ์ชาติ
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
หมายเหตุ เรื่องที่ควรตรวจและกากับดูแล ดังนี้.-
๑. เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการฝึก
๑.๑ การฝึกประจาวัน
๑.๒ การอบรม
๑.๓ การออกกาลังกาย
๑.๔ กายบริหาร/ศิลปะการป้องกันตัว
๑.๕ กีฬา
๑.๖ การทดสอบ
๒. เรื่องความเป็นอยู่ของทหาร
๒.๑ การรับประทานอาหาร
๒.๒ การนอน
๒.๓ การพักผ่อน
๒.๔ น้าดื่ม ห้องน้า ห้องสุขา โรงนอน
๓. สวัสดิการด้านอื่น ๆ ที่จาเป็นตามความเหมาะสม
- เจ้าหน้าที่ที่ตรวจการฝึกทหารใหม่บันทึกผลการตรวจข้อบกพร่อง ข้อควรแก้ไขลงในสมุดตรวจ
การฝึกประจาวัน และให้รายงานผู้บังคับบัญชารับทราบทุกสัปดาห์
๒ – ๒๗
ผนวก ฉ อัตรากระสุนและวัตถุระเบิด ประกอบ คาสั่ง ร..... พัน. .....ที่ ……/๒๕๖๓ ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓
ลาดับ รายการ จานวน หมายเหตุ
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
( ...................... )
ฝอ.๓ ...........
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
๒ – ๒๙
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
หมายเหตุ เรื่องที่ควรตรวจและกากับดูแล ดังนี้.-
๑. การฝึกประจาวัน
๒. การออกกาลังกาย
๓. กายบริหาร/ศิลปะการป้องกันตัว
๔. กีฬา
๒ – ๓๐
ผนวก ด แผนเผชิญเหตุการณ์บาดเจ็บจากความร้อน ประกอบ คาสั่ง ร…... พัน. …..
ที่ ……./๒๕๖๓ ลง ๑๕ ต.ค. ๖๓
ให้หน่วยฝึกจัดทาแผนผังการเคลื่อนย้ายทหารใหม่ที่บาดเจ็บจากลมร้อน โดยกาหนด
เส้นทางหลัก และ เส้นทางรองในการเคลื่อนย้ายจากหน่วยฝึกไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมทั้งระบุ
ขั้นตอนการปฐมพยาบาลในขั้นต้น และการติดต่อกับทางโรงพยาบาล
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
๒ – ๓๑
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
๒ – ๓๒
ตรวจถูกต้อง
พ.ต.
(……......................)
ฝอ.๓ ...........
๒ – ๓๓
๑๓. การฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ ทบ.กาหนดให้ทหารใหม่ต้องรับการฝึกเฉพาะหน้าที่ตามระเบียบ
และหลักสูตรการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ของเหล่าโดยให้ดาเนินการ ดังนี้.-
๑๓.๑ จะต้องทาการฝึกภายหลังจบการฝึกทหารใหม่แล้ว ไม่เกิน ๑๕ วัน โดยในการฝึกทหารใหม่
ผลัดที่ ๒/๖๓ อนุโลมให้ทาการฝึกภายหลังจากจบการฝึกทหารใหม่แล้วไม่เกิน ๓๐ วัน ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญ หา
ห้วงการฝึกตรงกับการซักซ้อมการสวนสนาม กระทาสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล
๑๓.๒ การจัดทาคาสั่งการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ หน่วยต้องจัดทาคาสั่งแยกจากคาสั่งการฝึก
ทหารใหม่
๑๓.๓ หน่ ว ยจะต้ อ งจั ด ท าบั ญ ชี บ รรจุ ก าลั ง พลของทหารใหม่ ต ามต าแหน่ ง หน้ า ที่ และ
จัด ทหารใหม่ เข้ารับการฝึกในวิชาที่ กาหนดตาม ชกท.นั้ น ๆ โดยปฏิ บัติตามระเบียบและหลักสูตรการฝึ ก
ทหารใหม่ เฉพาะหน้ าที่ ของเหล่ า และในกรณี ห น่ วยที่ ฝ ากการฝึ ก ทหารใหม่ ให้ ห น่ ว ยที่ ฝึก ทหารใหม่
ส่งตัวทหารใหม่คืนหน่วยต้นสังกัด เพื่อออกคาสั่งการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ของหน่วยเองต่อไป
๑๓.๔ ก าหนดการฝึ ก ทหารใหม่ เฉพาะหน้ า ที่ ในสั ป ดาห์ ที่ ๒ เฉพาะ พั น .ร.,พั น .ม.ที่ เป็ น
นขต.กรม.ร., กรม.ม., นขต.พล.ร.และ นขต.พล.ม. ให้ใช้ สป.๕ ตามที่ได้รับการสนับสนุนจาก ทบ. คนละ
๑๐๙ นัด/นาย และกาหนดการยิงปืนในลักษณะต่าง ๆ ตามเอกสารประกอบการฝึกทหารใหม่และทหารใหม่
เฉพาะหน้าที่ ปรับปรุงใหม่ ปี ๒๕๕๑ และคาสั่งการฝึกประจาปี ๒๕๖๔ ประกอบการฝึกด้วย
๑๔. แผนบทเรียน : ครูฝึกซึ่งรับผิดชอบในการฝึก การสอน และการอบรม ในเรื่องนั้น ๆ จะต้อง
จัดทาแผนบทเรียนด้วยตนเอง โดยจัดทาตามเนื้อหาวิชาที่ได้รับมอบหมาย/เรื่องที่ทาการฝึก, การสอนหรือ
อบรม รูปแบบของแผนบทเรียน ให้ปฏิบัติตามคู่มือราชการสนามว่าด้วยวิธีเตรียมการและดาเนินการฝึกที่เน้น
ผลการปฏิ บัติ (รส.๒๑ – ๖) พ.ศ. ๒๕๓๑ ทั้งนี้ครูผู้สอนจะต้องทาด้วยตนเอง เพื่อให้มีความเข้าใจในเนื้ อหา
ขอบเขตการฝึกของวิชานั้น ๆ และเป็นการเตรียมการในเรื่องเครื่องช่วยฝึกหรือสิ่งอุปกรณ์ ประกอบการฝึก
ให้ได้ตามมาตรฐานการฝึกที่ ทบ.กาหนด โดยอยู่ภายใต้การอานวยการ กากับดูแลของผู้ฝึก และ ผบ.หน่วย
เพื่อให้การฝึกเป็นไปตามคาสั่งและนโยบายที่ ทบ.กาหนดอย่างเป็นรูปธรรม
๑๔.๑ หัวข้อการจัดทาแผนบทเรียน มีหัวข้อ ดังนี้
๑๔.๑.๑ วัตถุประสงค์การฝึก ๑๔.๑.๒ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น
๑๔.๑.๓ คาแนะนาทางธุรการ ๑๔.๑.๔ ลาดับขั้นของการปฏิบัติและเวลาที่ใช้
๑๔.๑.๕ ข้อจากัดเกี่ยวกับการรักษา ๑๔.๑.๖ ข้อคิดเห็นและรายละเอียดเพิ่มเติม
ความปลอดภัย
๑๔.๑.๗ การประเมินผลการฝึก (ผู้สอนและผู้รับการฝึก)
๑๔.๒ คาอธิบายการจัดทาแผนบทเรียน
๑๔.๒.๑ วัตถุประสงค์การฝึก คือ เรื่องหลักที่กาหนดให้ ทาการฝึก กาหนดในรูปกิจเฉพาะ
เงื่อนไข มาตรฐาน
๑๔.๒.๒ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น คือ เรื่องย่อยของเรื่องหลักที่กาหนดให้ทา
การฝึก โดยแบ่งเป็นลาดับขั้นที่จะฝึกสอน/อบรมจากง่ายไปหายาก กาหนดในรูปกิจเฉพาะ เงื่อนไข มาตรฐาน
๑๔.๒.๒.๑ กิ จเฉพาะ คื อ เรื่องที่ จะต้ องปฏิ บัติ ให้ ส าเร็จลุ ล่วงไป ดู ได้ จากแถลง
หลักสูตร การฝึกในระเบียบหลักสูตรการฝึก หัวข้อเรื่องและรายละเอียดที่ฝึกสอน
๒ – ๓๔
---------------------------------
๒ – ๓๕
ตัวอย่าง แผนบทเรียน
แผนบทเรียน เรื่องการอ่านแผนที่และการใช้เข็มทิศ
๑. วัตถุประสงค์การฝึก เพื่อสอนให้ทหารใหม่มีความรู้ในเรื่องการอ่านแผนที่ และการใช้เข็มทิศ
ให้สามารถนาไปปฏิบัติหน้าที่ของพลทหารได้
กิจเฉพาะ : การใช้แผนที่ และการใช้เข็มทิศในหน้าที่ของพลทหาร
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ เข็มทิศ,
บรรทัดวัดมุม MR-1 หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดาและยางลบ
มาตรฐานการฝึก : ๑. ทหารใหม่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง สัญลักษณ์, สี และลักษณะ
ภูมิประเทศที่ใช้บนแผนที่ได้อย่างถูกต้อง
๒. ทหารใหม่สามารถกาหนดจุดที่อยู่เป็นพิกัดทางทหาร และสามารถ
คานวณ และวัดระยะทาง ในแผนที่ได้ถูกต้อง
๓. ทหารใหม่มีความรู้ คุณลักษณะของเข็มทิศเลนเซติค รวมถึงการใช้
เข็มทิศได้ถูกต้อง
๔. ทหารใหม่สามารถบอกจุดที่อยู่ของสิ่งซึ่งไม่ทราบที่ตั้ง โดยการเล็งสกัดตรง
และการเล็งสกัดกลับด้วยวิธีใช้แผนที่และเข็มทิศได้อย่างถูกต้อง
๕. ทหารใหม่สามารถเดินทางด้วยเข็มทิศในเวลากลางวันและกลางคืน
ได้อย่างถูกวิธี
๒. วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น (ครูฝึกกาหนดเรื่องย่อย จากง่ายไปหายาก)
๒.๑ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๑
กิจเฉพาะ : การอ่านสัญลักษณ์ สี และเครื่องหมายบนแผนที่
เงื่อนไข : ทหารใหม่ ได้รับแผนที่ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ
มาตรฐานการฝึก : ๑. อ่านสัญลักษณ์แผนที่ได้ถูกต้อง ทันทีที่มองเห็นภาพสัญลักษณ์นั้น ๆ
ภายใน ๑ นาที
๒. บอกความหมายของสีที่ใช้บนแผนที่ได้ครบทั้ง ๕ สีและสามารถอ่าน
ลักษณะภูมิประเทศบนแผนที่ได้ถูกต้องว่าที่ใดเป็นน้า, สิ่งก่อสร้างที่
มนุษย์สร้างขึ้น, ป่า, ที่สูง, ภูเขา, ถนน และเส้นทางคนเดินที่ใดบ้าง
ตามคาบอกของครูที่กาหนดให้ภายใน ๑ นาที
๒.๒ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๒
กิจเฉพาะ : การกาหนดจุดที่อยู่เป็นพิกัดทางทหารโดยอาศัยเส้นกริด
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ
บรรทัดวัดมุม MR-1 หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดาและยางลบ
มาตรฐานการฝึก : กาหนดจุดที่อยู่เป็นพิกัดทางทหารใกล้เคียง ๑๐๐ เมตรได้ถูกต้อง
ตามคาบอกของครูที่กาหนดให้ ภายใน ๑ นาที
๒ – ๓๖
๒.๓ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๓
กิจเฉพาะ : การคานวณและวัดระยะทาง โดยใช้มาตราส่วนและระยะทางของแผนที่เส้นกริด
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับบรรทัดวัดมุม MR-1
หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดาและยางลบ
มาตรฐานการฝึก : สามารถคานวณ และวัดระยะทาง ในแผนที่ได้ถูกต้องตามคาบอกของครู
ที่กาหนดให้ ภายใน ๑ นาที
๒.๔ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๔
กิจเฉพาะ : การหาค่ามุมภาคทิศเหนือ
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ บรรทัดวัดมุม MR-1
หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดา และยางลบ
มาตรฐานการฝึก : ๑. เมื่อกาหนดจุดที่อยู่แล้วสามารถวัดมุมภาคทิศเหนือ (กริด) ไปยังตาบลที่
กาหนดให้และอ่านค่ามุมภาคทิศเหนือได้ถูกต้องในเวลาไม่เกิน ๒ นาที
๒. หามุมภาคทิศเหนือได้ถูกต้อง ภายใน ๒ นาที หลังจากทราบค่าของ
มุมภาคทิศเหนือและจุดที่อยู่แล้ว
๒.๕ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๕
กิจเฉพาะ : การอธิบายความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบของเข็มทิศ และการใช้เข็มทิศ
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับเข็มทิศเลนเซติค จานวน ๑ เรือน
มาตรฐานการฝึก : ๑. บอกชิ้นส่วนที่สาคัญของเข็มทิศเลนเซติคได้ถูกต้อง ทั้ง ๑๒ ชิ้นส่วน
ภายใน ๓ นาที
๒. อธิบายจากสิ่งต่างๆ ที่มีอิทธิพลทาให้เข็มทิศคลาดเคลื่อนได้ถูกทั้ง
๕ หัวข้อ ภายใน ๒ นาที
๓. อ่านค่ามุมภาคทิศเหนือที่หน้าปัดเข็มทิศ ได้ถูกต้องทันทีที่เล็งเข็มทิศ
ตรงที่หมาย ภายใน ๑ นาที
๔. ตั้งเข็มทิศสาหรับใช้ในเวลากลางคืนได้ถูกต้อง
๒.๖ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๖
กิจเฉพาะ : การวัดมุม และกรุยทิศทางบนแผนที่
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ บรรทัดวัดมุม MR-1
หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดาและยางลบ และเข็มทิศเลนเซติค จานวน ๑ เรือน
มาตรฐานการฝึก : ๑. ทาการวัดมุมภาคทิศเหนือกริดหรือทิศเหนือแม่เหล็กได้อย่างถูกวิธี และ
สามารถบอกค่าของมุมได้อย่างถูกต้องในเวลา ๑ นาทีจากจุดที่กาหนดให้
๒ จุด
๒. สามารถกรุยทิศทางลงบนแผนที่ได้อย่างถูกวิธีและเสร็จเรียบร้อย ภายใน
๑ นาที หลังจากที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติ
๒ – ๓๗
๒.๗ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๗
กิจเฉพาะ : การกาหนดจุดที่อยู่ โดยการเล็งสกัดตรง และการเล็งสกัดกลับ
เงื่อนไข : ทหารใหม่ได้รับแผนที่มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จานวน ๑ ฉบับ บรรทัดวัดมุม MR-1
หรือ P-67 จานวน ๑ แผ่น, ดินสอดาและยางลบ และเข็มทิศเลนเซติค จานวน ๑ เรือน
มาตรฐานการฝึก : ๑. สามารถบอกจุดที่อยู่ของสิ่งซึ่งไม่ทราบที่ตั้งโดยการเล็งสกัดตรง ด้วยวิธีใช้
แผนที่และไม้บรรทัดอย่างถูกวิธี โดยใช้เวลาไม่เกิน ๕ นาที (จุดเด่น ๒ แห่ง
อยู่ห่างกันไม่เกิน ๑๐๐ ม.)
๒. สามารถบอกจุดที่อยู่ของตนเองบนแผนที่ โดยวิธีเล็งสกัดกลับได้อย่างถูกวิธี โดยใช้
เวลาไม่เกิน ๒ นาที หลังจากได้รับคาสั่งให้หาจุดที่อยู่ของตนเอง
๒.๘ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๘
กิจเฉพาะ : การเดินทางด้วยเข็มทิศในเวลากลางวัน
เงื่อนไข : ๑. ทหารใหม่ได้รับเข็มทิศเลนเซติค จานวน ๑ เรือน
๒. ใช้สนามฝึกเดินทางด้วยเข็มทิศ (ย่อระยะ) ขนาดกว้าง ๑๐๐ เมตร ลึก ๑๒๐ เมตร
แบ่งเป็น ๔ ระยะ ดังนี้.-
- ระยะที่ ๑ ปักหลักหมายเลขไว้ ๓ หลัก
- ระยะที่ ๒ ปักหลักหมายเลขไว้ ๔ หลัก
- ระยะที่ ๓ ปักหลักหมายเลขไว้ ๗ หลัก
- ระยะที่ ๔ ปักหลักหมายเลขไว้ ๖ หลัก
๓. ทหารใหม่จะต้องเดินจากจุดเริ่มต้นในเวลากลางวัน ผ่านหลักหมายเลขต่าง ๆ
ในสนามไม่น้อยกว่า ๖ หลัก
มาตรฐานการฝึก : เดินทางด้วยเข็มทิศในเวลากลางวันถูกวิธีและพบที่หมายถูกต้องครบถ้วนใช้เวลา
เหมาะสม (ไม่เกิน ๒๐ นาที ตั้งแต่เริ่มให้ปัญหาจนถึงที่หมายหลักสุดท้าย)
๒.๙ วัตถุประสงค์การฝึกตามลาดับขั้น ๙
กิจเฉพาะ : การเดินทางโดยใช้เข็มทิศในเวลากลางคืน
เงื่อนไข : ๑. ทหารใหม่ได้รับเข็มทิศเลนเซติค จานวน ๑ เรือน
๒. ใช้สนามฝึกเดินทางด้วยเข็มทิศ (ย่อระยะ) ขนาดกว้าง ๑๐๐ เมตร ลึก ๑๒๐ เมตร
แบ่งเป็น ๔ ระยะ ดังนี้.-
- ระยะที่ ๑ ปักหลักหมายเลขไว้ ๓ หลัก
- ระยะที่ ๒ ปักหลักหมายเลขไว้ ๔ หลัก
- ระยะที่ ๓ ปักหลักหมายเลขไว้ ๗ หลัก
- ระยะที่ ๔ ปักหลักหมายเลขไว้ ๖ หลัก
๓. ทหารใหม่จะต้องเดินในเวลากลางคืนจากจุดเริ่มต้นผ่านหลักหมายเลขต่าง ๆ
ในสนามไม่น้อยกว่า ๔ หลัก
มาตรฐานการฝึก : เดินทางด้วยเข็มทิศในเวลากลางคืนถูกวิธีและพบที่หมายถูกต้องครบถ้วน ใช้เวลา
เหมาะสม (ไม่เกิน ๓๐ นาที ตั้งแต่เริ่มให้ปัญหาจนถึงที่หมายหลักสุดท้าย)
๒ – ๓๘
๓. คาแนะนาทางธุรการ
๓.๑ ห้วงเวลาการฝึก :
๓.๒ สถานที่ฝึก :
๓.๒.๑ ห้องเรียน
๓.๒.๒ สนามฝึกเดินทางด้วยเข็มทิศ (ย่อระยะ)
๓.๓ ผู้รับการฝึก : ทหารใหม่ ผลัดที่
๓.๔ ผู้ฝึกและผู้ช่วยผู้ฝึก :
๓.๕ เครื่องช่วยฝึกและยุทโธปกรณ์ :
๓.๕.๑ แผนที่มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ ๑ ระวาง/คน
๓.๕.๒ เข็มทิศเลนเซติค ๑ เรือน/คน
๓.๕.๓ บรรทัดวัดมุม MR-1 หรือ P-67 ๑ แผ่น/คน
๓.๕.๔ ดินสอดา และยางลบ
๓.๕.๕ เข็มทิศจาลอง
๓.๖ หลักฐานอ้างอิง :
๓.๖.๑ คู่มือราชการสนามว่าด้วยการอ่านแผนที่ (รส. ๒๑ – ๒๖)
๓.๖.๒ คู่มือพลทหารว่าด้วยการปฏิบัติการในสนาม พ.ศ.๒๕๑๗
๒ – ๓๙
๔. ลาดับขั้นของการปฏิบัติและเวลาที่ใช้
๑๕. เรื่องอื่น ๆ
๑๕.๑ การจัดการบังคับบัญชาทหารใหม่ ขอให้วางแผนจัดสายการบังคับบัญชาให้มีความต่อเนื่อง ตั้งแต่
การฝึกทหารใหม่ไปจนแยกย้ายบรรจุหน่วย (กองร้อย) โดยให้มีความสัมพันธ์ทางการบั งคับบัญ ชาระหว่าง
ครูนายสิบ ครูท หารใหม่ และทหารใหม่ภายในหน่วย (กองร้อย) เดียวกัน เพื่ อประโยชน์ในการปกครอง
บังคับบัญชา และการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๕.๒ การฝากฝึก หน่วยที่ฝากทหารใหม่ เพื่อรับการฝึกจากหน่วยข้างเคียง จะต้องจัดครูนายสิบ และ
ครูท หารใหม่ ร่ว มท าการฝึ ก ตามอั ต ราส่ ว นที่ ก าหนด (๑ : ๑ : ๘) รวมทั้ ง จะต้ อ งจั ด อาวุ ธ ยุ ท โธปกรณ์
เครื่องช่วยฝึก สป.๕ และ เป้า ให้กับหน่วยที่รับฝากฝึกตามจานวนยอดทหารใหม่ของหน่วย
๑๕.๓ ระเบี ย บ ทบ.ว่ า ด้ ว ยการส่ ง ก าลั ง สป.๕ พ.ศ. ๒๕๔๒ ก าหนดให้ ห น่ ว ยใช้ เบิ ก กระสุ น ฝึ ก
จากจานวนเครติดที่ได้รับแบ่งมอบให้ตามจานวนที่จะใช้ฝึกเฉพาะครั้ง คราวล่วงหน้า เพื่อให้ไ ด้รับกระสุน
ก่อนการฝึกอย่างน้อย ๗ วัน และกาหนดให้ คลังกระสุน บชร./ส่วนภูมิภาค ขอเบิกเพื่อสะสมกระสุนให้เต็ม
ตามระดั บ และการสะสมอื่ น ๆ ที่ ทบ. ก าหนด กั บ ให้ มี ก ระสุ น ที่ จ ะแจกจ่ า ยหน่ ว ยอย่ า งเพี ย งพอ
ตามความจาเป็น การเบิกกระสุน ฝึกเมื่ อได้ รับการแบ่ ง มอบเครดิ ตกระสุ นฝึก จาก นขต.ทบ.แล้ ว ให้ เบิ ก
กระสุนฝึกมาสะสมไว้ให้เพียงพอที่จะสนับสนุนหน่วยรับการสนับสนุนได้ในเวลา ๖ เดือน สาหรับในเดือน
กรกฎาคม - กันยายน ซึ่งจะเป็นห้วงเวลาสิ้นสุดเครดิตกระสุนฝึก เพื่อให้การส่งกาลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องและ
ทันเวลา ให้คลังกระสุน บชร./ส่วนภูมิภาค ทาการเบิกกระสุนเท่าจานวนเครดิตที่ได้รับไว้เดิมในเดือนตุลาคม
ถึ ง ธั น วาคม มาสะสมไว้ ล่ ว งหน้ า ดั ง นั้ น การฝึ กในห้ วงต้ นปี งบประมาณ ได้ แก่ การฝึ กครู ทหารใหม่
(ห้วงเดือน ต.ค.) ขอให้ดาเนินการเบิกกระสุนล่วงหน้าตามยอดเครดิตกระสุนของหน่วยในปีงบประมาณก่อน
ซึ่งคลังกระสุน บชร./ส่วนภูมิภาค ได้เตรียมกระสุนสนับสนุนไว้ให้แล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วย
การส่งกาลัง สป.๕ ตามที่กล่าวข้างต้น
๑๕.๔ เรื่องท่าเคารพขณะถืออาวุธ
๑๕.๔.๑ หน่วยฝึกทหารใหม่ มีข้อสงสัยในเรื่องท่าเคารพขณะถืออาวุธ เมื่อแต่งกายไม่เรียบร้อย
เช่ น แต่ ง กายชุ ด ล ารองขณะท าความสะอาดอาวุ ธ , ถื อ อาวุธ แต่ ง เครื่ อ งแบบแต่ มิ ไ ด้ ส วมหมวก เป็ น ต้ น
จะปฏิบัติท่าเคารพนายทหารสัญญาบัตรในลักษณะใด (ท่าวันทยาวุธ หรือท่าตรง (เรียบอาวุธ) )
๑๕.๔.๒ ข้อบังคับทหาร พ.ศ.๒๔๗๘ ว่าด้วยการเคารพบนบก เมื่ออยู่ตามลาพัง ถือปืนอยู่กับที่
ทาวันทยาวุธ
๑๕.๔.๓ จากข้ อบั งคั บทหารตามข้ อ ๑๕.๔.๒ มิ ได้ ก าหนดรายละเอี ยดปลี กย่ อย รวมทั้ งจากการ
ตรวจสอบข้อ มูลเพิ่ม เติม มิได้ มีการกาหนดรายละเอีย ดการปฏิ บัติ ที่ชัด เจนต่อกรณี ในข้ อ ๑๕.๔.๑ ดัง นั้ น
เพื่อให้การปฏิบัติ ท่าเคารพขณะถืออาวุธในห้วงการฝึกทหารใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและแนวทาง
เดียวกั น จึ งให้อ นุโลมปฏิบั ติท่ าเคารพนายทหารสัญ ญาบัต รเมื่อ ถือ อาวุธ ด้วยท่าวัน ทยาวุธ เมื่อ แต่ ง
เครื่องแบบเรียบร้อยเท่านั้น (สวมหมวก, สวมเสื้อ, สวมกางแกง และสวมรองเท้า) กรณีอื่นนอกเหนือจากนี้
ให้ใช้ท่าตรง (เรียบอาวุธ) ในการทาความเคารพ ทั้ง นี้ ถ้าหาก ทบ. มีการกาหนดระเบียบ, ข้อบัง คับ ,
คาสั่ง ฯลฯ เป็นอย่างอื่น รวมทั้งการปฏิบัติที่มิใช่ห้วงการฝึกทหารใหม่ ให้ปฏิบัติตามที่ ทบ. กาหนด
๒ – ๔๒
๑๕.๕ คาบอกคาสั่งเคารพ
๑๕.๕.๑ หน่วยฝึกทหารใหม่ มีข้อสงสัยในเรื่องการใช้คาบอกคาสั่งเคารพระหว่าง “ทาความเคารพ.....
แถว-ตรง” กับ “แสดงการเคารพ ...... แถว-ตรง” มีการใช้อย่างไร
๑๕.๕.๒ ให้ใช้คาบอกคาสั่งว่า “ถวาย/แสดงความเคารพ” ต่อผู้บังคับบัญชาที่มียศสูงกว่า หรือ
สิ่งที่ทหารต้องแสดงความเคารพซึ่งแบ่งออกเป็น ๓ กรณี ได้แก่ กรณีแถวมีอาวุธ, กรณีแถวไม่มีอาวุธ และ
กรณีการบอกแสดงความเคารพในอาคาร ในห้องเรียนหรือในที่ประชุม(ไม่สวมหมวก) ตามหนังสือ กพ.ทบ.
ที่ กห ๐๔๐๑/๙๗๑ ลง ๑๖ มี.ค.๖๐
๑๕.๕.๓ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติในห้วงการฝึกทหารใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นแนวทาง
เดียวกันจึ งให้ใช้คาบอกเคารพ ตามข้อ ๑๕.๕.๒ ทั้งนี้ หาก ทบ. มีการกาหนดระเบียบ, ข้อบังคับ, คาสั่ง
เป็นอย่างอื่นรวมทั้งการปฏิบัติที่มิใช่ห้วงการฝึกทหารใหม่ ให้ปฏิบัติตามที่ ทบ. กาหนด
๑๕.๖ การอบรมทหารใหม่ในเวลากลางคืน เวลา ๑๙๐๐ – ๒๐๐๐ วิชาการก่อการร้าย/การต่อต้าน
การก่อการร้าย, วิชาความรู้ทั่ วไปเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ใช้เอกสารการฝึกอบรมและประเมิน ผลการฝึ ก
ทหารใหม่ประกอบร่างระเบียบและหลักสูตรการฝึก การฝึกทหารใหม่เบื้องต้น สาหรับทหารทุกเหล่าของ
ทบ. (๑๐ สัปดาห์) พ.ศ.๒๕๔๗
๑๕.๗ คาแนะนา แนวทางการปฏิบัติ สาหรับการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ สาหรับหน่วยทหาร
และ รพ.ทบ. ให้ตรวจสอบกั บ กรมแพทย์ทหารบก เนื่ องจากไข้หวัดได้มี วิวัฒนาการเป็ นไข้หวัด ๒๐๑๐ หรือมิได้
เกิดขึ้นประจาทุกปี
๑๕.๘ หลักการควบคุมโรคติดต่อในค่ายทหาร แนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน สอบสวนและควบคุมการระบาด
ของโรคไวรั สโคโรนาสายพั นธ์ ใหม่ ๒๐๑๙ ( COVID-19 ) ส าหรั บหน่ วยทหาร และ รพ.ทบ. ให้ ตรวจสอบกั บ
กรมแพทย์ทหารบก
๑๕.๙ การรายงานการสูญเสียจากการฝึก ขอให้หน่วยรายงานด่วนตามสายการบังคับบัญ ชาจนถึง ทบ.
และแจ้งให้ ยศ.ทบ. ทราบด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กาหนดไว้ใน ผนวก จ การรายงานการสูญเสีย ประกอบ
คาสั่ง ทบ. เรื่อง การฝึกประจาปี ๒๕๖๔
๑๕.๑๐ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทราบข้อมูลสถานภาพทหารใหม่ ผลัดที่ ๒/๖๓ และ ผลัดที่ ๑/๖๔ ขอให้
หน่วยฝึกทหารใหม่ ส่งข้อมูลตามตัวอย่างแบบฟอร์มใน วิทยุราชการทหาร ยศ.ทบ. ที่ กห ๐๔๖๑.๑๓/๑๔๔
ลง ๗ พ.ค. ๕๘ ให้ส่งถึง ยศ.ทบ. ภายในวันที่ ๑๕ พ.ย. ๖๓ (ผลัดที่ ๒/๖๓) และวันที่ ๑๕ พ.ค. ๖๔ (ผลัดที่ ๑/๖๔)
๑๕.๑๑ คาแนะการฝึกทหารใหม่ที่จ่ายให้ทุกปีสาหรับใช้เป็นแนวทางการฝึกทหารใหม่ ขอให้หน่วยเก็บไว้
เป็นหลักฐานทุกเล่ม
๒ – ๔๓
๑๖. การเตรียมการรับตรวจการฝึกทหารใหม่
๑. การเตรียมการฝึก ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ ดังนี้
๑.๑ นโยบายของผู้บังคับบัญชา
๑.๑.๑ นโยบายที่หน่วยเหนือได้เน้นย้า/กาหนดแนวทางการฝึกทหารใหม่
๑.๑.๒ นโยบายการฝึกทหารใหม่ ยศ.ทบ.
๑.๑.๓ นโยบายการฝึกทหารใหม่ ( ตามสายการบังคับบัญชา ) เช่น ทภ., มทบ., บชร., กองพล, กรม, กองพัน
๑.๒ บุคลากรที่ใช้ในการฝึกและมาตรการในการคัดเลือกครู
- ผบ.หน่วย จะต้องออกคาสั่งคัดเลือกผู้ฝึก, ผู้ช่วยผู้ฝึก, ครูนายสิบและครูทหารใหม่ด้วย
๑.๓ คาสั่งการฝึกของหน่วย
- การออกคาสั่งของหน่วย จะต้องกาหนดวัน เริ่มการฝึก และ วันจบการฝึก ให้ถูกต้องตามผนวก
ประกอบคาสั่งจะต้องครบ เช่น ผนวก ก, ข, ค อนุผนวกจะต้องครบตามตัวอย่างในคาแนะนา เช่น ตารางการฝึก
ประจาสัปดาห์, ตารางสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
๑.๔ แผนบทเรียน
๑.๔.๑ ทุกหน่วยฝึกจะต้องจัดทาแผนบทเรียนและรายการแผนบทเรียน (บัญชีคุม) ดังนี้
๑.๔.๑.๑ การฝึกบุคคลเบื้องต้น ( ๗๘ ชม.)
๑.๔.๑.๒ การเสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงทางร่างกาย ( ๖๕ ชม.)
๑.๔.๑.๓ การช่วยเหลือประชาชน ( ๔๐ ชม., ๓ เรื่อง)
๑.๔.๑.๔ การอบรม ( ๕๖ ชม., ๙ เรื่อง )
๑.๔.๑.๕ วิชาทหารทั่วไป ( ๓๐ ชม., ๕ เรื่อง )
๑.๔.๑.๖ วิชาการฝึกใช้อาวุธ ( ๖๙ ชม., ๔ เรื่อง )
๑.๔.๑.๗ การฝึกทางยุทธวิธี ( ๑๑๓ ชม., ๘ เรื่อง )
๑.๔.๒ ทุกหน่วยฝึกจะต้องแบ่งครูที่ รับผิดชอบในการสอนแต่ละวิชา เพื่อ จัดทาแผนบทเรียนตาม
รส.๒๑–๖ ( ๗ หัวข้อ ) และจะต้องเขียนด้วยลายมือครูที่สอนด้วย
๑.๕ การจัดตั้ง บก.หน่วยฝึกทหารใหม่ ตามนโยบายของ จก.ยศ.ทบ. และการจัดบอร์ด/ข้อมูล/เอกสาร
ใน กอ.ฝึกทหารใหม่ ตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการฝึก ๙ มาตรฐาน และเพิ่มมาตรฐาน การรักษา
ความปลอดภัยจากการฝึกฯ (ตัวอย่างแนวทางการจัดบอร์ดฯ หน้า ๒ – ๔๙)
๑.๖ สนามฝึก
- ทุกหน่วยจะต้องจัดทาแผนที่สังเขป ๑๓ สนามขนาดใหญ่ติดไว้ที่หน่วยฝึกและย่อขนาดกระดาษ
เอ ๔ เพื่อง่ายต่อการชี้แจง
๑.๗ เครื่องช่วยฝึก
- ทุกหน่วยจะต้องจัดทาบัญชีคุมเครื่องช่วยฝึกทุกชนิดที่มีอยู่ในคลังและเครื่องช่วยฝึกที่จัดทาขึ้นเอง
เช่น เครื่องช่วยฝึกการต่อสู้ ป้องกันตั ว กระสอบทราย, นวม, มีดสั้น, ไม้ หุ้มนวม พร้อ มการจัดเก็บ ให้เป็ น
ระเบียบเรียบร้อย, สะอาด
๒ – ๔๔
๒. การจัดการฝึก
๒.๑ การกาหนดผู้รับผิดชอบและหน้าที่ในการฝึก ผู้ฝึกสามารถออกคาสั่งจัดครูนายสิบและครูทหารใหม่
รับผิดชอบในแต่ละเรื่องและสถานีต่างๆ ได้ดังนี้
๒.๑.๑ รับผิดชอบการฝึกในแต่ละเรื่อง/รายวิขา
๒.๑.๒ รับผิดชอบการจัดหน่วยฝึกทหารใหม่ ตามข้อ ๑ (ส.๑, พลฯ ๑)
๒.๑.๓ รับผิดชอบคลังเครื่องช่วยฝึก – เครื่องช่วยฝึก (ส.๑, พลฯ ๑)
๒.๑.๔ รับผิดชอบสนามฝึก ๑๓ สนาม (สนามฝึกละ ๒ นาย, ส.๑, พลฯ ๑)
๒.๑.๕ แผนบทเรียนทุกนายต้องช่วยจัดทาแบบรวมการ
๒.๒ ตารางกาหนดการฝึก (จะต้องมีในหน่วยฝึกทหารใหม่)
๒.๒.๑ ตารางกาหนดการฝึกประจาสัปดาห์
๒.๒.๒ ตารางการฝึกเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
๒.๒.๓ ตารางกาหนดการฝึกประจาวัน (สามารถเคลื่อนย้ายไปสนามฝึกได้)
๒.๓ วิธีการฝึก ใช้การฝึกมุ่งเน้นผลการปฏิบัติ
๒.๓.๑ มีการกาหนดกิจเฉพาะ เงื่อนไข และมาตรฐาน
๒.๓.๒ ใช้วิธีการฝึกแบบรวมการ – แยกการ - ผสม
๒.๓.๓ ทาการฝึกจากง่ายไปหายาก
๒.๓.๔ มีการแบ่งขั้นการฝึก ๓ ขั้นตอน
๓. การดาเนินการฝึก
๓.๑ ฝึกปฏิบัติมากกว่าการบรรยาย
๓.๒ แบ่งผู้เข้ารับการฝึกจานวนเหมาะสมกับเครื่องช่วยฝึก
๓.๓ ฝึกตามตารางกาหนดการฝึก
๓.๔ การทบทวนหลังการปฏิบัติ
๓.๕ คาสั่ง/ระเบียบ มาตรการรักษาความปลอดภัยในการฝึก
๔. การประเมินผลการฝึก
- คาสั่งการประเมินผลการฝึก, การแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผล
๕. การสนับสนุน
๕.๑ หลักฐาน, เอกสาร ตารา มีครบทุกเล่มตามผนวก ก
๕.๒ บัญชีคุมเอกสารตารา และสมุดยืม
๕.๓ เจ้าหน้าที่เสนารักษ์
๕.๓.๑ แผนการส่งกลับทางสายการแพทย์, รพ.ที่ใกล้เคียง
๕.๓.๒ รถพยาบาล, ปรอทวัดอุณหภูมิ, ธงสี
๒ – ๔๕
๖. กากับดูแล
๖.๑ มีการกาหนดเจ้าหน้าที่ตรวจการฝึก (ในผนวก จ ประกอบคาสั่งการฝึกของหน่วย)
๖.๒ มีสมุดบันทึกการตรวจการฝึก, สมุดตรวจเยี่ยม เป็นต้น
๖.๓ การรายงานการสูญเสียจากการฝึก : ให้ดูในคาสั่งการฝึกประจาปี ผนวก จ
๗. อื่น ๆ
- สวัสดิการต่าง ๆ ที่หน่วยดาเนินการ
หมายเหตุ กาหนดการทดสอบความรู้ผู้ฝึกทหารใหม่ ผู้ช่วยผู้ฝึกฯ ครูนายสิบและครูทหารใหม่
๒ – ๔๖
ตัวอย่างการจัดหน่วยฝึกเตรียมการรับตรวจฯ
“หน่วยฝึกทหารใหม่ ร.๒๒ พัน.๒”
(บอร์ด) ๑
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖
๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒
ตารางการฝึกเมื่อสภาพอากาศ
ตารางกาหนดการฝึกประจาสัปดาห์ เปลี่ยนแปลง
(หน้า ๒ – ๑๙ ถึง ๒ – ๒๐) (หน้า ๒ – ๒๑)
บอร์ด ๔
ตารางกาหนดการฝึกประจาวัน
หลักสูตรการฝึกทหารใหม่
(หน้า ๒ – ๒๒)
โต๊ะ โต๊ะ
วางเอกสาร,ตารา – บัญชีคุม วางเครื่องช่วยฝึกของหน่วยที่ใช้
ในการประกอบการฝึก
๑๗. รายการแผนบทเรียนที่จะต้องจัดทาในการฝึกแต่ละหลักสูตรการฝึก
แผนบทเรียนการฝึกครูทหารใหม่ การจัดทาแผนบทเรียนการฝึกครูทหารใหม่ ประกอบด้วย (๑๔ เรื่อง)
การฝึกทบทวนและการยิงปืน (๓๖ ชม.)
๑. แผนบทเรียนการฝึกทบทวนบุคคลท่าเบื้องต้น (๑๒ ชม.)
๒. แผนบทเรียนการฝึกทบทวนการใช้ดาบปลายปืน (๖ ชม.)
๓. แผนบทเรียนการฝึกทบทวนการใช้ลูกระเบิดขว้าง (๔ ชม)
๔. แผนบทเรียนการฝึกทบทวนการฝึกบุคคลทาการรบ (๖ ชม.)
๕. แผนบทเรียนการฝึกทบทวนการใช้อาวุธ และการฝึกยิงปืน (๘ ชม.)
การฝึกทาหน้าที่ครู
๑. แผนบทเรียนวิชาครูทหาร (๑๘ ชม.)
๒. แผนบทเรียนวิชาการฝึกทาหน้าที่ครูทหารในการฝึกบุคคลท่าเบื้องต้น (๒๖ ชม.)
๓. แผนบทเรียนวิชาการฝึกทาหน้าที่ครูทหารในการฝึกการใช้ดาบปลายปืน (๑๐ ชม.)
๔. แผนบทเรียนวิชาการฝึกทาหน้าที่ครูทหารในการฝึกการใช้ลูกระเบิดขว้าง (๘ ชม.)
๕. แผนบทเรียนวิชาการฝึกทาหน้าที่ครูทหารในการฝึกบุคคลทาการรบ (๑๘ ชม.)
๖. แผนบทเรียนวิชาการฝึกทาหน้าที่ครูทหารในการฝึกการใช้อาวุธประจากาย (๒๐ ชม.)
การอบรม
๑. แผนบทเรียนการอบรมระเบียบการภายในหน่วย (๑ ชม.)
๒. แผนบทเรียนการอบรมการบังคับบัญชาและการเคารพ (๒ ชม.)
๓. แผนบทเรียนการอบรมวินัยทหาร (๑ ชม.)
แผนบทเรีย นการฝึกสิบ ตรีกองประจาการ การจัดทาแผนบทเรีย นการฝึก สิบ ตรีก องประจาการ
เป็นไปตามรายละเอียดเรื่องที่ทาการฝึกตามระเบียบและหลักสูตรการฝึกสิบตรีกองประจาการของแต่ละเหล่า
แผนบทเรียนการฝึกทหารใหม่ การจัดทาแผนบทเรียนการฝึกทหารใหม่ ประกอบด้วย (๒๗ เรื่อง)
การฝึกบุคคลเบื้องต้น (๗๘ ชม)
- แผนบทเรียนการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า/บุคคลท่าอาวุธ/การฝึกแถวชิด
วิชาทหารทั่วไป (๓๐ ชม, ๕ เรื่อง)
๑. แผนบทเรียนวิชาการติดต่อสื่อสาร
๒. แผนบทเรียนวิชาการอ่านแผนที่และการใช้เข็มทิศ
๓. แผนบทเรียนวิชาการข่าวเบื้องต้น, การสังเกตและการสะกดรอย
๔. แผนบทเรียนวิชาการระเบิดทาลาย ทุ่นระเบิด และกับระเบิด
๕. แผนบทเรียนวิชาการป้องกันนิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี เป็นบุคคล
วิชาการฝึกใช้อาวุธ (๖๙ ชม, ๔ เรื่อง)
๑. แผนบทเรียนวิชาการฝึกใช้อาวุธประจากาย
๒. แผนบทเรียนวิชาการยิงปืนด้วยกระสุนจริง
๓. แผนบทเรียนวิชาการใช้ลูกระเบิดขว้าง
๔. แผนบทเรียนวิชาการใช้ดาบปลายปืน
๒ – ๔๘
การฝึกทางยุทธวิธี (๑๑๓ ชม, ๘ เรื่อง)
๑. แผนบทเรียนวิชาการกาบังและการซ่อนพราง
๒. แผนบทเรียนวิชาการฝึกบุคคลทาการรบในเวลากลางวัน
๓. แผนบทเรียนวิชาการฝึกบุคคลทาการรบในเวลากลางคืน
๔. แผนบทเรียนวิชาป้อมสนาม
๕. แผนบทเรียนวิชาเครื่องกีดขวาง
๖. แผนบทเรียนการยิงประกอบการเคลื่อนที่ (เป็นคู่)
๗. แผนบทเรียนวิชาการลาดตระเวน/การระวังป้องกัน
๘. แผนบทเรียนวิชาการเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีและการพักแรมในสนาม
การอบรม (๕๖ ชม, ๙ เรื่อง)
๑. แผนบทเรียนวิชาแบบธรรมเนียมของทหาร
๒. แผนบทเรียนอุดมการณ์ทางทหาร
๓. แผนบทเรียนความมั่นคงของชาติและหน้าที่พลเมือง
๔. แผนบทเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์
๕. แผนบทเรียนศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๖. แผนบทเรียนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ, ไร่นาสวนผสม
๗. แผนบทเรียนวินัยของชาติ
๘. แผนบทเรียนกิริยามารยาทราชสานัก และคาราชาศัพท์
๙. แผนบทเรียนการพัฒนาบุคคลิกภาพ
----------------------------------------------
๒ – ๔๙
แนวทางการจัดบอร์ด/ข้อมูล/เอกสาร ใน กอ.ฝึกทหารใหม่
ตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการฝึก ๙+๑ มาตรฐาน
มาตรฐาน เอกสารประกอบตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้
มาตรฐานที่ ๑
การจัดการฝึกและการพัฒนาการฝึก
๑. นโยบายการฝึก ผบช.ตามลาดับชั้น
๒. บัญชีรายชื่อเอกสาร ตารา รส. คฝ.
๓. บัญชีคุมตารา และสมุดจ่าย-ยืม
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ ๔. ประชุมเตรียมการ การฝึกทหารใหม่และบันทึกการประชุม
การจัดระบบการฝึกและพัฒนาการฝึก การแบ่งมอบความรับผิดชอบให้แต่ละส่วน
๕. คาสั่งฝึกฯ,ตารางการฝึกหลัก ,ตารางการฝึกประจาสัปดาห์ และ
ตารางการฝึกประจาวัน
๖. ตารางการฝึกเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
๑. ผังการจัดส่วนต่าง ๆ ใน กอ.ฝึกทหารใหม่ พร้อมระบุ
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒
อานาจหน้าที่
ประสิทธิภาพการจัดการฝึกที่เน้นการปฏิบัติ
๒. รายการแผนบทเรียนครบทุกวิชาและครบ 7 หัวข้อ
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ ๑. แผนบทเรียนครบทุกรายวิชา
การฝึกเรียนการสอนภายในหน่วยทหาร ๒. สมุดจ่าย-ยืม แผนบทเรียน
๑ รายการแบบประเมินผลการฝึกทหารใหม่
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๔ ๒. แผนการตรวจสอบการฝึกทหารใหม่
ประสิทธิภาพการประเมินผลการฝึก ๓. คาสั่งตรวจสอบซ้ากรณีทดสอบไม่ผ่าน
๔. บันทึกแนวทางการแก้ไขข้อบกพร่องจากการประเมินผล
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๕ ๑. บันทึกขออนุมัติการ ทลป.
ประสิทธิภาพการทบทวนหลังการปฏิบัติ ๒. บันทึกรายงานผลการ ทลป. ตามสายการบังคับบัญชา
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๖ ๑. สมุดตรวจเยี่ยม
ประสิทธิภาพการกากับดูแล ๒. แผนการตรวจเยี่ยมของ ผบช., ฝอ.
๑. แผนการป้องกันอันตรายและมาตรการรักษาความปลอดภัย
ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๗
ในการฝึก
ประสิทธิภาพการป้องกันอันตรายและการ รปภ.
๒. คาสั่งกาหนดนายทหารนิรภัยและเจ้าหน้าที่นิรภัย
มาตรฐานที่ ๒
คุณภาพของผู้เข้ารับการฝึก
๑. แบบฟอร์มประวัติประจาตัวทหารใหม่
๒. ข้อมูลสถานภาพทหารใหม่
๒ – ๕๐
มาตรฐาน เอกสารประกอบตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้
๓. ตารางสถิติข้อมูลด้านคุณวุฒิการศึกษา และอาชีพทหารใหม่
ก่อนเข้ารับราชการ
๔. ตารางสถิติข้อมูลด้านการเจ็บป่วยของทหารใหม่ ก่อนเข้ารับ
ราชการ
๕. ตารางสถิติข้อมูลด้านยาเสพติดของทหารใหม่ ก่อนเข้ารับ
ราชการ
๖. ตารางสถิติข้อมูลด้าน อายุ, การขอสิทธิ์วันรับราชการ
และภูมิลาเนาของทหารใหม่ ก่อนเข้ารับราชการ
๗. แผนการพัฒนาสมรรถภาพร่างกายกาลังพล
๘. ข้อมูลกลุ่มเฝ้าระวัง (สภาพร่างกาย/สภาพจิตใต/ยาเสพติด
(ต้องมีผ้าคลุม)
๙. แบบฟอร์มประวัติประจาตัวทหารใหม่
๑๐. ข้อมูลสถานภาพทหารใหม่
มาตรฐานที่ ๓
อุปสรรคในการฝึกและแนวทางในการแก้ไขปัญหา
๑. ข้อมูลการศึกษาของกาลังพลที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการฝึก
(อ่านไม่ออก/เขียนไม่ได้/มีปัญหาทางสมอง/อื่น ๆ)
๒. ข้อมูลการใช้ยาเสพติดก่อนเข้ากองประจาการ
๓. สภาพอากาศในพื้นที่ทาการฝึก ความร้อน/ความชื้น/
๔. ข้อมูลทหารใหม่ที่มีโรค,ความเจ็บป่วย,ความพิการ ที่เป็น
ปัญหาต่อการฝึก (งดฝึก,ทุเลาฝึก,รอปลด,ฯลฯ)ก่อนเข้ารับราชการ
๕. ปัญหาด้านการส่งกาลังบารุง,สนามฝึกฯ,เครื่องช่วยฝึก
และอื่น ๆ
มาตรฐานที่ ๔
คุณภาพครูฝึก
๑. บัญชีครูฝึกทหารใหม่ของหน่วยประจาปี ๒๕๖๒
(ทั้งครูนายสิบและครูทหารใหม่)
๒. เอกสารขออนุมัติจัดการประชุมพิจารณาคัดเลือกครูฝึก
ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ ๓. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกครูฝึก
ครูฝึกมีความรู้ทางวิชาการ
๔. บันทึกสรุปผลการประชุมพิจารณาคัดเลือกครูฝึก
และมีความสามารถในการฝึก
๕. บันทึกขออนุมัติทดสอบประเมินผลความรู้ความสามารถ
สามารถครูฝึก
๖. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทดสอบประเมินผลความรู้
ความสามารถครูฝึก
๒ – ๕๑
มาตรฐาน เอกสารประกอบตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้
๗. สรุปผลการทดสอบประเมินผลความรู้ความสามารถครูฝึก
๘. บันทึกขออนุมัติตัวบุคคลบรรจุและทาหน้าที่ในคาสั่งฝึก ฯ
๙. รายชื่อครูฝึกทหารใหม่
๑๐. ประวัตินายสิบ และประวัติครูทหารใหม่(เรียงตาม
ตาแหน่ง)
๑๑. คู่มือครูฝึกทหารใหม่
ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๒
ครูฝึกได้รับการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
๑. คาสั่งฝึกครูทหารใหม่
๒. ผลการประเมินผลการตรวจสอบการฝึกครูทหารใหม่
๓. ขออนุมัติทาการฝึกและทดสอบซ้า สาหรับครูทหารใหม่
ที่ไม่ผ่านเกณฑ์
๔. บันทึกส่งตัวครูฝึกเข้ารับการอบรมโรคลมร้อน
มาตรฐานที่ ๕
คุณภาพสนามฝึก
๑. ระเบียบว่าด้วย กาหนดแนวทางในการบริหารจัดการและ
การใช้สนามฝึก ของหน่วย
๒. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพสนามฝึก
๓. บันทึกการกาหนดคุณสมบัติของสนามฝึกและพื้นที่ฝึก,
กาหนดผู้รับผิดชอบ และการดาเนินการ
๔. คาสั่งแต่งตั้งนายทหารนิรภัยและเจ้าหน้าที่นิรภัยสนามฝึก
ยิงปืน ๑,๐๐๐ นิ้ว
๕. คาสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสนามฝึก และพื้นที่การฝึก
มาตรฐานที่ ๖
การประชาสัมพันธ์การฝึก
๑. ระเบียบ/คาสั่ง/นโยบาย ของ กห.,ทบ.ที่เกี่ยวข้องกับการ
ประชาสัมพันธ์
๒. คาสั่ง พล.ร.๓ เรื่อง กาหนดแนวทางการประชาสัมพันธ์
งานการฝึกของหน่วย
๓. แผนการประชาสัมพันธ์งานการฝึกของหน่วย
๔. คาสั่งแต่งตั้งคณะทางานประชาสัมพันธ์งานการฝึกของหน่วย
๕. บันทึกขออนุมัติการจัดตั้งกลุ่มไลนผู้ปกครอง และ
แนวทางปฏิบัติในการส่งข้อมูล
๒ – ๕๒
มาตรฐาน เอกสารประกอบตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้
มาตรฐานที่ ๗
คุณภาพกรรมการ
๑. บัญชีกรรมการประเมินผลการฝึกของหน่วยประจาปี
๒. บันทึกการกาหนดมาตรฐาน กรรมการประเมินผลการฝึก
๓. ขออนุมัติจัดการประชุมพิจารณาคัดเลือกกรรมการ
ประเมินผลการฝึก
๔. สรุปผลการประชุมพิจารณาคัดเลือกกรรมการประเมินผล
ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๑ การฝึก
กรรมการมีความรู้ความสามารถในการ ๕. ขออนุมัติทดสอบประเมินผลความรู้ความสามารถ
ประเมินผล กรรมการประเมินผลการฝึก
๖. สรุปผลการทดสอบประเมินผลความรู้ความสามารถ
กรรมการประเมินผลการฝึก
๗. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลการฝึก
๘. คู่มือกรรมการประเมินผล
๙. บัญชีกรรมการประเมินผลการฝึกของหน่วยประจาปี
๑. แผนการอบรมให้ความรู้กรรมการ
ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๒
๒. คาสั่งการฝึกครูทหารใหม่, พัฒนาขีดความสามารถ,
กรรมการได้รับการเพิ่มพูนความรู้
พร้อมผลการประเมิน
มาตรฐานที่ ๘
การบริหารทรัพยากรในการฝึก
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๑ ๑. เอกสารแบ่งมอบงบประมาณ
ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณ ๒. ฎีกาเบิกจ่ายงบประมาณ
๑. เอกสารแจกจ่าย สป.๓ สนับสนุนงานการฝึกประจาปี
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒
๒. บันทึกการกาหนดมาตรการควบคุมการใช้ สป.๓
ประสิทธิภาพการบริหาร สป.๓
๓. บันทึกกาหนดมาตรการป้องกันการรั่วไหล สป.๓
๑. เอกสารการแจกจ่าย สป.๕
๒. เอกสารรายงานการเบิก และรายงานการใช้ สป.๕
สนับสนุนการฝึกฯ
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ๓. แผนการใช้ สป.๕ สาหรับงานการฝึกทหารใหม่
ประสิทธิภาพการบริหาร สป.๕ และเป้า ๔. แบบฟอร์มรายงานการใช้ สป.๕ สนับสนุนการฝึกฯ
๒ – ๕๓
มาตรฐาน เอกสารประกอบตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้
๑. รายการแผนภาพ
๒. สมุดคุมเครื่องช่วยฝึก
๓. บัญชีคุมเครื่องช่วยฝึก
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๔
๔. สมุดจ่าย-ยืมเครื่องช่วยฝึก
ประสิทธิภาพการสนับสนุนเครื่องช่วยฝึกและอื่น ๆ
๕. บันทึกกาหนดเจ้าหน้าที่คลังเครื่องช่วยฝึก และกาหนด
ความรับผิดชอบ
๖. แผนผังและกาหนดเจ้าหน้าที่สาหรับป้องกันทหารหนี
๑. รายการของแจกกาลังพล
๒. สิทธิของทหารใหม่ที่จะได้รับในห้วงการฝึก เช่น เงินเดือน
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๕ เบี้ยเลี้ยง
ข้อมูลสวัสดิการของทหารใหม่ ๓. สรุปผลรายการของจัดหาของทหารใหม่
๔. สิทธิที่ทหารใหม่จะได้รับเมื่อฝึกจบ (เงินเดือน+เบี้ยเลี้ยง
ที่จะได้รับเมื่อหักค่าใช้จ่ายในห้วงการฝึกแล้ว)
๑. คาสั่งแต่งตั้ง ให้ ผบ. /ฝอ. มีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการ
มาตรฐานที่ ๙ วางแผนการฝึก
การประกันคุณภาพการฝึกระดับหน่วย ๒. แผนการจรวจเยี่ยมของหน่วยเหนือ กรม. กองพล และหน่วย
ของตนเอง
๑. คาสั่งแต่งตั้งนายทหารนิรภัยการฝึก
๒. ระเบียบ/คาสั่ง/ข้อเน้นย้า/วิทยุ เกี่ยวกับการป้องกันโรคลมร้อน
๓. คาสั่งกาหนดมาตรการป้องกันโรคลมร้อนของหน่วยฝึก
มาตรฐานที่ ๑๐
๔. แผนเผชิญเหตุ, แผนการส่งกลับสายแพทย์ พร้อมแผนผัง
การรักษาความปลอดภัยจากการฝึก
เส้นทางในกรณีกาลังพลเกิดโรคลมร้อน
๕. หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ และสถานพยาบาลใกล้เคียง
๖. แผนผังกาหนดสีธง, เวลาการฝึก เมื่อสภาพอากาศร้อน
๒ – ๕๔
ตัวอย่าง แนวทางการจัดบอร์ด/ข้อมูล/เอกสาร ใน กอ.ฝึกทหารใหม่
ตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการฝึก 9+1 มาตรฐาน
บอร์ดที่ 1
บอร์ดที่ 2
๒ – ๕๕
บอร์ดที่ 3
บอร์ดที่ 4
๒ – ๕๖
บอร์ดที่ 5
บอร์ดที่ 6
๒ – ๕๗
บอร์ดที่ 7
บอร์ดที่ 8
๒ – ๕๘
บอร์ดที่ 9
บอร์ดที่ 10
๒ – ๕๙
บอร์ดที่ 11
“ยาว 240 ซม.”
“กว้าง 120 ซม.”
ตอนที่ ๒
การดาเนินการฝึก
๑. รูปแบบและลักษณะการฝึก
การฝึกทหารใหม่ให้ใช้การฝึกที่เน้นผลการปฏิบัติ โดยให้ฝึกปฏิบัติมาก ๆ เพื่อให้เกิดทักษะความชานาญ
ในการปฏิบัติแต่ละเรื่อง การดาเนินการในรายละเอียดจะใช้วิธีการใดนั้นผู้ฝึกทหารใหม่จะต้องใช้ดุลยพินิจ
ในการก าหนดวิ ธี ก ารฝึ ก ให้ เหมาะสมกั บ จ านวนทหารใหม่ จ านวนเครื่องช่ วยฝึ ก และจ านวนครู ฝึ กที่ มี อ ยู่
เพื่อป้องกันมิให้ทหารใหม่ต้องรอคอยการฝึกอันเนื่องมาจากความจากัดของเครื่องช่ว ยฝึก และครูฝึก ซึ่งผู้ฝึก
สามารถทาการฝึกได้ ๓ แบบ คือ
- การฝึกแบบรวมการ เช่น วิชาการสอนอบรม, การฝึกแถวชิด
- การฝึกแบบแยกการ เป็นการฝึกหมุนเวียน แยกเป็นสถานีฝึก
- การฝึกแบบผสม (ทั้งแบบรวมการ และแยกการ)
การฝึกแบบแยกการ เป็นวิธีการฝึกที่ดีมาก ทาให้ทหารใหม่เกิดความสนใจ มีความชานาญ ได้มีโอกาส
ใช้ เครื่องช่วยฝึกอย่ างทั่ วถึง ไม่ เกิ ดความเบื่ อหน่ าย โดยจั ดทหารใหม่แบ่ งออกเป็ นกลุ่ ม หรื อ พวก ให้ มี จ านวน
ใกล้เคียงกัน จานวนกลุ่มที่เหมาะสมคือ ๔ กลุ่ม เพื่อรับการฝึกสอน หมุนเวียน ๔ วิชา ๆ ละ ๒ ชม. ในแต่ละวัน
หรืออาจแบ่งเป็น ๘ กลุ่มวิชา ๆ ละ ๑ ชม. ทาการฝึกอยู่ในบริเวณไม่ห่างไกลกัน เรื่องที่สามารถนามาจัดการฝึก
หมุนเวียนได้ คือ
- การติดต่อสื่อสาร - การอ่านแผนที่ฯ - การปฐมพยาบาลฯ
- การใช้อาวุธประจากาย - การระเบิดทาลายฯ - การฝึกบุคคลทาการรบในเวลากลางวัน
- การใช้ลูกระเบิดขว้าง - การฝึกหมู่ทางยุทธวิธี - การฝึกบุคคลทาการรบในเวลากลางคืน
ตามที่เวลาการฝึกสอนของแต่ละวิชาไม่เท่ากัน ดังนั้นการจัดการฝึกหมุนเวียน จะต้องกาหนดให้ดี เมื่อหมด
เวลาของวิชานั้น ๆ แล้วก็เอาวิชาอื่นมาแทนต่อไป
รูปแบบการฝึกจะเป็นแบบใดก็ตาม การดาเนินการฝึกนั้น ผู้ฝึก ครูนายสิบและครูทหารใหม่ จะต้อง
ปฏิบัติในลักษณะดังนี้.-
๑. ให้ฝึกจากง่ายไปหายากและเป็นไปตามตารางกาหนดการฝึกประจาวัน
๒. มุ่งเน้นการปฏิบัติมากกว่าการบรรยายเป็นสิ่งที่พึงกระทา และให้ทหารใหม่ได้ศึกษาทาความเข้าใจก่อน
เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติ แต่มิใช่กระทาในลักษณะให้ทหารใหม่ ได้ใช้วิธีการท่องจา
และให้มีการทบทวนหรือทดสอบความรู้ในช่วงท้ายชั่วโมงว่าทหารใหม่มีความเข้าใจตามที่รับการฝึก/ศึกษา
ที่ผ่านมาหรือไม่
๓. การแจกจ่ายเอกสารประกอบการฝึก ให้ทหารใหม่ได้นาศึกษาเพิ่มเติม หรือบอกให้ทหารใหม่จดบันทึก
เฉพาะหัวข้อที่สาคัญเท่านั้น เพื่อให้ทหารใหม่ได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
ก่อนการฝึกจริงจะทาให้ทหารใหม่เข้าใจได้เร็วขึ้น
๔. ให้นาเครื่องช่วยฝึกมาใช้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึก
๕. เมื่อฝึกจบในแต่ละวิชาจะต้องมีการประเมินผลทุกครั้งโดยต่อเนื่อง
๖. จะต้องแก้ไขทันที เมื่อทหารใหม่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามแบบฝึก
๒ – ๖๑
๒. การฝึกที่เน้นผลการปฏิบัติ
ลักษณะของการฝึกที่เน้ นผลการปฏิ บัตินั้น ต้องมีวัตถุประสงค์ การฝึกที่แน่ชัด โดยระบุไว้อย่ างชัดเจนว่า
ทหารใหม่ จ ะต้ อ งมี ขี ด ความสามารถท าอะไรได้ บ้ า งเมื่ อ จบการฝึ ก โครงสร้ า งของวั ต ถุ ป ระสงค์ ก ารฝึ ก
ประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ
๑. กิจเฉพาะ คือ เรื่องที่จะต้องปฏิบัติให้สาเร็จลุล่วงไป (ผู้ฝึกทราบได้จาก ระเบียบและหลักสูตรการฝึก
การฝึก ทหารใหม่เบื้ องต้ นทั่ วไป สาหรับทหารทุกเหล่าของกองทั พบก (๑๐สัปดาห์) พ.ศ. ๒๕๖๒ ตอนที่ ๗
แถลงหลักสูตรการฝึก หัวข้อเรื่อง และรายละเอียดที่ฝึกสอน)
๒. เงื่อนไข คือ เรื่องที่จะต้องปฏิบัตินั้นจะต้องกระทาให้สาเร็จลุล่วงภายใต้เงื่อนไขอย่างใด(ผู้ฝึกทราบได้
จาก คู่มือการประเมินผลการฝึกทหารใหม่ เบื้องต้นทั่วไป สาหรับ ทหารทุกเหล่าของกองทัพบก ๑๐ สัปดาห์
พ.ศ.๒๕๕๕)
๓. มาตรฐานการฝึก คือ มาตรฐานของการปฏิบัติที่ยอมรับแล้ว (ผู้ฝึกทราบได้จาก คู่มือการประเมินผล
การฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่วไป สาหรับ ทหารทุกเหล่าของกองทัพบก ๑๐ สัปดาห์ พ.ศ.๒๕๕๕)
การที่ระบุ กิจเฉพาะ, เงื่อนไข และมาตรฐานการฝึกไว้ในวัตถุประสงค์การฝึกโดยชัดแจ้งนั้น ย่อมจะทาให้
ทหารใหม่มีความเข้าใจว่า ถ้าตนสามารถปฏิบัติงานได้สาเร็จเรียบร้อยตามมาตรฐานที่กาหนดนั้น แสดงว่า
ใช้ได้ แต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้ ทหารใหม่ก็จะทราบได้เองว่าจะต้องเรียนรู้ในสิ่งใดอีกจึงบรรลุถึงมาตรฐานนั้น
ดังนั้นทุกครั้งที่ทาการฝึกจึงมีความจาเป็นต้องทาให้ทหารใหม่มีสภาวการณ์ของการเรียนรู้ คือ มีความสานึก
ว่าตนต้องรับการฝึก และมีความเข้าใจว่าจะต้องเรียนรู้ในเรื่องอะไรบ้าง
๓. วิธีการฝึก
ใช้หลักนิยมการฝึกที่เน้นผลการปฏิบัติ รส.๒๑ – ๖ (พ.ศ.๒๕๓๑) ประกอบกับการทบทวนหลังการปฏิบัติ
(ทลป.) ทุกขั้นตอนของการฝึกในแต่ละขั้น โดยแบ่งเป็น ๓ ขั้นตอน ดังนี้.-
๓.๑ ขั้นสาธิต (CRAWL PHASE) ดาเนินการโดย ผบ.หน่วย/ผู้ฝึก พูดกับทหารใหม่ถึงกิจเฉพาะเป็นหน่วย
ทีละขั้น อธิบายว่าแต่ละคน หรือหน่วยจะต้องทาอะไร (อธิบายกิจเฉพาะ เงื่อนไข มาตรฐานการฝึก) แสดงตัวอย่าง
กิจเฉพาะรอง โดยการปฏิบัติให้ดูตั้งแต่เริ่มแรกจนกระทั่งจบทั้งกิจเฉพาะเป็นหน่วย อธิบายมาตรการวัดสมรรถภาพ
ในแต่ละขั้นตอนในรายละเอียดถกแถลง หน้าที่ของกิจเฉพาะสนับสนุนภายในกิจเฉพาะหลักและตอบคาถาม
๓.๒ ขั้นปิดตอน (WALK PHASE) เป็นการปฏิบัติช้า ๆ ทีละขั้นด้วยการชี้แจงเงื่อนไขที่ริเริ่มกิจเฉพาะให้ทหารใหม่
แต่ ละคนปฏิ บั ติ หน้ าที่ ในแต่ ละขั้ นตอนอย่ างช้ า ๆ ก่ อนแนะน าและวิ จารณ์ การปฏิ บั ติ ในแต่ ละขั้ นตอนที่ ปฏิ บั ติ
หยุดการฝึก ถ้าเห็นว่าต้องแก้ไข และเริ่มฝึกต่อไปในกิจเฉพาะนั้น จนกระทั่งสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานโดยไม่ต้องแนะนา
๓.๓ ขั้นเปิดตอน หรือขั้นปฏิบัติเต็มที่ (RUN PHASE) การฝึกในขั้นนี้ให้ทหารใหม่ปฏิบัติกิจเฉพาะเป็นบุคคล
หรือเป็ นหน่วยด้ วยความเร็วสูงสุด เช่ นเดี ยวกับการปฏิบั ติในระหว่างการรบจริง ด้ วยการกาหนดเงื่อนไขที่ริเริ่ ม
กิจเฉพาะ ให้ฝึกปฏิบัติกิจเฉพาะไปโดยเสรีจนจบการปฏิบัติ ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องให้เริ่มไปปฏิบัติ ในขั้น
ปิดตอนอีกครั้ง เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่กิจเฉพาะจะต้องปฏิบัติ ฯลฯ เช่น ภายใต้การป้องกัน นชค., ภูมิประเทศ ที่แตกต่าง,
การเปลี่ยนตัวผู้ปฏิบัติในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และฝึกให้ท้าทายด้วยการใช้ข้าศึกสมมุติ คชฝ.เลเซอร์ หรือการใช้กระสุนจริง
ในตอนสุดท้ายให้ทาการทบทวนหลังการปฏิบัติ (ทลป.) เพื่อสรุปจุดแข็ง จุดอ่อนของกาลังพลหน่วยที่เข้าทาการฝึก
๒ – ๖๒
๕. การประเมินผลการฝึกโดยต่อเนื่อง
จากผลของการที่จัดให้มีการเน้นหนักในเรื่อง “การเรียนโดยการปฏิบัติ” นั้น ผู้ฝึกจึงมีโอกาสได้
ทราบถึงความคืบหน้าของสิ่งที่ได้ทาการฝึกไปโดยต่อเนื่อง และทราบถึงประสิทธิผลของการฝึกไปโดยลาดับด้วย
ผู้ฝึก จึง ไม่จาเป็น ต้องรอคอยดูผ ลการทดสอบเมื่อ ตอนจบการฝึก การที่รอคอยให้ก ารฝึก จบสิ้น ลงแล้ว
จึง ค้น หาว่ามีผู้ใดรู้เรื่องเล็กน้อยหรือมีผู้ใดไม่รู้เรื่องเลยนั้น จะเป็นการเสียเวลามาก อันที่ จริงแล้วในขณะที่
ทหารใหม่ที่รับการฝึกแสดงให้เห็นถึงความดีเด่นของบทบาทในการปฏิบัติงานทั้งปวงในระหว่างที่ฝึกหัดนั้น
ก็ย่อมจะเป็นเครื่องบ่ งชี้ให้ผู้ฝึกได้ทราบในทันที ว่า ทหารใหม่เหล่านั้ นมีความคืบหน้าในการฝึกเป็ นผลดี
เพียงไร และในทานองเดียวกันทหารใหม่เหล่านั้นก็ไม่จาเป็นต้องคอย ให้การฝึกจบลงเสียก่อนแล้วจึงค้นหา
ว่าตนสามารถทาอะไรได้ดีเพียงไร เนื่องจากว่า ในวัตถุประสงค์การฝึกของแต่ละเรื่องที่ฝึกนั้นได้กาหนด
มาตรฐานการฝึ กไว้ แล้ ว ทหารใหม่ จะสามารถทราบผลการปฏิ บั ติง านขอตนและพยายามที่ จะเพิ่ม ขี ด
ความสามารถของตนให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้นเอง
๖. เรื่องที่ทาการฝึก
๖.๑ การฝึกเบื้องต้น (จานวน ๗๘ ชม.) ให้หน่วยฝึกยึดถือคู่มือการฝึกว่าด้วย แบบฝึกบุคคลท่ามือเปล่า
และบุคคลท่าอาวุธ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พ.ศ.๒๕๖๐ ให้เพิ่มท่าการฝึกบุคคลเบื้องต้น
ในการตรวจสอบ ดังนี้
๖.๑.๑ บุคคลท่ามือเปล่า
๖.๑.๑.๑ ท่ายกอก หน้า ๒
๖.๑.๑.๒ ท่านั่งคุกเข่าวันทยหัตถ์ และท่าเลิกนั่งคุกเข่าวันทยหัตถ์ หน้า ๑๗ – ๑๘
๖.๑.๑.๓ ท่าออกนอกแถวและท่ากลับเข้าแถว นอกนั้นไม่เปลี่ยนแปลง หน้า ๔๖
๖.๑.๒ บุคคลท่าอาวุธ
๖.๑.๒.๑ ท่ายกอก หน้า ๒
๖.๑.๒.๒ ท่ายกปืน และเอาปืนลง หน้า ๗
๖.๑.๒.๓ ท่าวางปืน และท่าหยิบปืน หน้า ๘
๖.๑.๒.๔ ท่าเตรียมใช้อาวุธและท่าเรียบอาวุธจากท่าเตรียมใช้อาวุธ หน้า ๑๘
๖.๑.๒.๕ ท่าคอนอาวุธ เรีรยบอาวุธจากท่าคอนอาวุธ หน้า ๑๙
๖.๑.๒.๖ ท่ารับตรวจและท่าเลิกรับตรวจ หน้า ๒๘ – ๓๐
๖.๑.๒.๗ ท่าตรวจอาวุธ หน้า ๓๒
๖.๑.๒.๘ ท่าติดดาบและปลดดาบ หน้า ๓๖ – ๓๘
๖.๑.๒.๙ ท่าแบกอาวุธจากท่าวันทยาวุธ, ท่าวันทยาวุธจากท่าแบกอาวุธ หน้า ๕๘ – ๖๐
๖.๑.๒.๑๐ ท่าถือปืนตามเสด็จ และท่าเรียบอาวุธจากท่าถือปืนตามเสด็จ หน้า ๖๒
๖.๑.๒.๑๑ ท่าถวายความเคารพจากท่าถือปืนตามเสด็จ หน้า ๖๔
๖.๑.๒.๑๒ ท่าเปลี่ยนยาม หน้า ๗๐
๖.๑.๒.๑๓ ท่ายืนยามถวายพระบรมศพและเลิกยืนยามถวายพระบรมศพ หน้า ๗๒ – ๗๔
๖.๑.๒.๑๔ ท่ากอดปืนนั่งคุกเข่า และเลิกกอดปืน หน้า ๗๖
๖.๑.๒.๑๕ ท่าอาวุธพระราชทานเลิกบรรจุ ๑๒ ขั้นตอน หน้า ๑๐๗
๒ – ๖๔
๖.๘. การยิ ง ปื น ของทหารใหม่ : จะต้ องท าการฝึ กตั้ ง แต่ ขั้ นพื้ น ฐานท่ ายิ ง, การเล็ งและการลั่ นไก,
การจัดศูนย์พอดี, การแก้ปัญหาเหตุติดขัดโดยฉับพลัน โดยการทาการฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริง จะต้องทาการฝึกยิง
แห้งบ่อย ๆ เพื่อให้ทหารเกิดความมั่นใจและชานาญในการใช้อาวุธ สาหรับการยิงด้วยกระสุนจริงจะต้องทาการ
ยิงปืนให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสูตรการฝึก การฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่วไป สาหรับทหารทุกเหล่าของ
ทบ.(๑๐ สัปดาห์) พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังนี้
๖.๘.๑ การฝึกครูทหารใหม่ หน่วยฝึกจะได้รับ สป.๕ ตามที่ได้รับการสนับสนุนจาก ทบ. ทั้งใน
ส่วนผู้รับการฝึกครูทหารใหม่, ครูนายสิบ และผู้ฝึกที่ปฏิบัติหน้าที่ในการฝึกทหารใหม่
๖.๘.๒ การฝึกทหารใหม่จะได้รับ ก.ปล.๕.๕๖ มม. ตามที่ไ ด้รับการสนับสนุนจาก ทบ. จานวน
๑๘๓ นัด และกาหนดการยิงปืนตามตารางการฝึกยิงปืน ในตอนที่ ๘ ดังนี้.
๖.๘.๒.๑ การยิงจัดกลุ่มกระสุน จานวน ๒๗ นัด (เป้าปรับศูนย์รบ)
๖.๘.๒.๒ การยิงปรับศูนย์รบ จานวน ๑๘ นัด (เป้าปรับศูนย์รบ)
๖.๘.๒.๓ การยิงเพื่อความคุ้นเคย จานวน ๖๙ นัด (เป้าปรับศูนย์รบและเป้าหุ่นย่อส่วน)
๖.๘.๒.๔ การยิงประเมินผล จานวน ๖๙ นัด (เป้าปรับศูนย์รบและเป้าหุ่นย่อส่วน)
รวม ๑๘๓ นัด
๖.๘.๓ ผู้ฝึกทหารใหม่ ควรศึกษาในเรื่องการฝึกยิงปืนตาม รส.๒๓ - ๙, รส. ๒๓ – ๙ - ๑ ระเบียบและ
หลักสูตรการฝึก การฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่ว ไป สาหรับทหารทุกเหล่าของ ทบ.(๑๐ สัปดาห์) พ.ศ.๒๕๖๒
เพื่อให้การยิงปืนของทหารใหม่ได้ผลดี และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
๖.๘.๔ ในกรณีที่ทหารใหม่ยิงปืนจัดกลุ่มกระสุน จานวน ๒๗ นัด ตามข้อ ๖.๘.๒.๑ ไม่ได้ผล
ตามมาตรฐานที่กาหนดไว้ ให้นาทหารใหม่กลับไปฝึกในสถานีการใช้คานฝึกเล็ง (การฝึกจัดศูนย์พอดี) ,
สถานีการใช้หีบการเล็ง (การเล็ง ๓ จุด), สนามฝึกยิงปืนเบื้องต้น (สนามฝึกยิงปืนแบบวงกลมและแบบขนาน
ฝึกการเล็ง – การลั่นไก) แล้วจึงนาทหารใหม่กลับไปทาการยิงจัดกลุ่มกระสุนใหม่อีกครั้ง
๖.๘.๕ การยิงประกอบการเคลื่อนที่ (เป็นคู่) ใช้ ก.ปล.๕.๕๖ มม.ซร. จานวน ๑๘ นัด/คน
๖.๘.๖ หาก ทบ.มีข้อจากัดในการสนับสนุน ก.ปล.ขนาด ๕.๕๖ มม. สาหรับการฝึก ยศ.ทบ.
จะทาการปรับอัตรากระสุนการฝึกทหารใหม่และแจ้งให้หน่วยรับทราบต่อไป
๖.๙ เวลาผู้บังคับบัญชา (ใช้ห้วงเวลา ๑๐๐๐ – ๑๒๐๐ ทุกวันเสาร์ของสัปดาห์)
๖.๙.๑ เวลาผู้บังคับบัญชานี้ ใช้สาหรับผู้บังคับบัญชาได้มาพบปะทหารใหม่เพื่อชี้แจงหรือสร้างความสัมพันธ์
ทางจิตใจกับทหารใหม่ ดังนี้.-
๖.๙.๑.๑ การปรับสภาพจากบุคคลพลเรือนมาเป็นทหาร
๖.๙.๑.๒ ปรึกษาปัญหาด้านครอบครัวและเรื่องส่วนตัว
๖.๙.๑.๓ ปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพและยาเสพติด
๖.๙.๑.๔ ปรึกษาปัญหาเรื่องอื่น ๆ
๒ – ๖๗
…………………………………………………
๒ – ๖๘
ตอนที่ ๓
การประเมินผลการฝึกทหารใหม่
การประเมินผลการฝึกทหารใหม่ ใช้คู่มือการประเมินผลการฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่วไป สาหรับทหาร
ทุกหน่วยของ ทบ. (๑๐ สัปดาห์ ) พ.ศ.๒๕๖๓ ประกอบกั บคาแนะน าการตรวจสอบการฝึกทหารใหม่ของ ทบ.
พ.ศ. ๒๕๖๓
๑. การประเมินผล เป็นเครื่องมือในการประเมินค่าการฝึกของทหารใหม่ใน ทบ. โดยให้หน่วยฝึกทหารใหม่
สามารถคัดเลือกทหารใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละวิชา เข้าทาการตรวจสอบการฝึกทหารใหม่ได้
(ไม่มีการจับฉลากเลือกตัวบุคคล) เพือ่ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในวิชาการฝึกดังนี้
๑.๑ วิชาการทดสอบความสมบูรณ์แข็งแรงทางร่างกาย
๑.๒ วิชาการฝึกบุคคลท่าเบื้องต้นและแถวชิด
๑.๓ วิชาการใช้อาวุธประจากาย
๑.๔ วิชาการยิงปืนด้วยกระสุนจริง
๑.๕ วิชาทหารทั่วไปและการฝึกทางยุทธวิธี
๒. เจ้ า หน้ าที่ ป ระเมิ น ผล ผู้ บั ง คั บ หน่ วยทหารระดั บ กองพั น หรือ เที ย บเท่ า จะต้ อ งออกค าสั่ ง แต่ ง ตั้ ง
คณะกรรมการประเมินผล โดยมีจานวนกรรมการตามความเหมาะสม ซึ่งประกอบด้วย
๒.๑ ประธานกรรมการ ๑ นาย
๒.๒ หัวหน้ากรรมการประจาวิชา จานวน ๕ นาย
๒.๓ กรรมการประจาวิชา จานวนตามความเหมาะสม
๒.๔ ผู้ช่วยกรรมการประจาวิชา จานวนตามความเหมาะสม
หมายเหตุ ผู้ บั งคั บ หน่ ว ยระดั บ กองพั น หรื อ เที ย บเท่ า ควรจะต้ อ งมี ก ารประชุ ม ชี้ แ จง อบรม เจ้ าหน้ า ที่
ประเมินผลที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการประเมินผลการฝึกให้ทราบถึงวิธีการประเมินผลการฝึกที่ชัดเจน
และถูกต้องสามารถทาการประเมินผลการฝึกทหารใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓. วิธีดาเนินการประเมินผล
๓.๑ หน่ วยฝึ กทหารใหม่ ส ามารถคั ด เลื อ กทหารใหม่ ที่ มี ค วามรู้ค วามสามารถในแต่ ละวิช า เข้ ารับการ
ประเมินผลในทุกวิชาที่ท าการฝึก โดยใช้ระบบการตรวจสอบการฝึก ๑ วันต่อ ๑ หน่ วยต่อ ๖ สถานี การจาหน่าย
กระทาได้เฉพาะกรณีจาเป็นเท่านั้น เช่น ทหารใหม่เจ็บป่วย ไม่สามารถเข้ารับการประเมินผลการฝึกได้ เป็นต้น
๓.๒ ให้ทาการประเมินผล โดยใช้รายละเอียดตามหัวข้อการประเมินผลในคู่มือการประเมินผลการฝึกทหารใหม่
เบื้องต้นทั่วไป สาหรับทหารทุกหน่วยของ ทบ. (๑๐ สัปดาห์) พ.ศ.๒๕๖๓ ประกอบคาแนะนาการตรวจสอบการฝึก
ทหารใหม่ของ ทบ. พ.ศ. ๒๕๖๓
๓.๓ การทดสอบความรู้ของวิชาการอบรม ให้ผู้สอนใช้วิธีสอบถามความเข้าใจของทหารใหม่ โดยการสุ่มตัวอย่างเป็น
รายบุคคล ในช่ วงท้ายชั่วโมงของวิชาการสอนอบรม ตามค าแนะน าการตรวจสอบการฝึกทหารใหม่ ของ ทบ. พ.ศ.
๒๕๖๓
๓.๔ วิชาการยิงประกอบการเคลื่อนที่ (เป็นคู่) การสังเกต การสะกดรอย และการรายงาน ซึ่งเป็นวิชาที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่
ให้ หน่วยทาการประเมินผลเมื่ อจบการฝึกเป็นรายวิชา โดยให้ ผบ.หน่วย เป็นผู้พิ จารณาจัดคณะกรรมการประเมินผล
ตามความเหมาะสม
๒ – ๖๙
……………………………….
แบบฟอร์มการบันทึกผลการฝึกเป็นบุคคล (ไว้ที่หน่วย)
--------------------------------------
แบบบันทึกผลเป็นบุคคล
ยศ - ชื่อ…………………………………………………..ตาแหน่ง………………………………………ชกท………………..สังกัด……………………..
การฝึกตามระเบียบและหลักสูตรการฝึก….(การฝึกทหารใหม่, การฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่, การฝึกครูทหารใหม่, การฝึกสิบตรีกองประจาการ, การฝึก ชกท.ของเหล่าต่าง ๆ
การฝึกบิน ฯลฯ)….
เรื่อง / วิชาที่ทาการฝึก…………………………………………………………
มาตรฐานการฝึก………………………………………………………………
การประเมินผล
ผลการประเมิน ยศ-ชื่อ-ตาแหน่งของผู้ประเมิน
ลาดับ กิจเฉพาะ และข้อคิดเห็น ปัญหาข้อขัดข้องที่สาคัญ หมายเหตุ
ครั้งที่ ว.-ด.-ป.
ผ่าน ไม่ผ่าน ผบช.ตามลาดับชั้น
๒ - ๗๐
ครูฝึก/ผบช.โดยตรง
เหนือขึ้นไป ๑ ระดับ
๑ ๑
๒
๓
ฯลฯ
๒ ๑
๒
๓
ฯลฯ
หมายเหตุ การบันทึกผลการฝึกเป็นบุคคล ให้ทาสาเนาบันทึกเป็นหลักฐานไว้ที่หน่วยบังคับบัญชาขึ้นไปถึงระดับกองร้อยหรือเทียบเท่า
ตรวจถูกต้อง
(ลงชื่อ) ร.อ……………………………..
(…………………………….)
กรรมการประเมินผล
๒ – ๗๑
คำชี้แจงประกอบ (แบบฟอร์มกำรบันทึกผลเป็นบุคคล)
-----------------------------
๑. ช่องลำดับ ให้บันทึก จำนวนเรื่องของวิชำที่ทำกำรฝึก
๒. ช่องกิจเฉพำะ ให้บันทึก เรื่องต่ำง ๆของวิชำที่ทำกำรฝึก
๓. ช่องกำรประเมินผล ให้ บั น ทึ ก กำรท ำกำรประเมิ น ผลและบั น ทึ ก ผล ของครู ฝึ ก /
ผบช. โดยตรง หรือ ผบช. ตำมลำดับชั้นเหนือขึ้นไป ๑ ระดับ ซึ่งจะทำกำรประเมินผลกี่ครั้งก็ได้โดยแสดง
เครื่อ งหมำย ( / ) ในช่ อ ง “ผ่ ำน” เมื่ อ ผ่ ำนตำมเกณฑ์ ม ำตรฐำนที่ ก ำหนด และแสดงเครื่ องหมำย ( / )
ในช่อง “ไม่ผ่ำน” เมื่อไม่ผ่ำนตำมเกณฑ์มำตรฐำนที่กำหนด
๓.๑ ช่องครั้งที่ ให้บันทึก ลำดับครั้งที่ทำกำรประเมินผลในกิจเฉพำะนั้น
๓.๒ ช่อง ว. – ด. - ป. ให้บันทึก วัน เดือน ปี ที่ทำกำรประเมินผลตำมลำดับครั้ง
๓.๓ ช่องผลกำรประเมิน ให้บันทึก ผลของกำรประเมินโดยแสดงเครื่องหมำย ( / ) ในช่อง
“ผ่ำน” หรือ “ไม่ผ่ำน” ตำมลำดับ
๓.๔ ช่องผู้บั นทึก กำรประเมิ นผล(ครูฝึ ก/ผบช. โดยตรง) ให้ล งนำมผู้บัน ทึก และข้อคิ ดเห็ น
ทุกครั้งที่ทำกำรฝึกในแต่ละกิจเฉพำะเสร็จสิ้นลงหรือเมื่อมีกำรทบทวนในกิจเฉพำะนั้น ๆ
๓.๕ ช่อ งผู้ บั น ทึ ก กำรประเมิ น ผล (ผบช. ตำมลำดั บ ขั้น เหนื อ ขึ้น ไป ๑ ระดั บ ) ให้ ล งนำม
ผู้บันทึกและข้อคิดเห็น ซึ่งจะทำกำรประเมินผลและบันทึกผลในโอกำสใดก็ได้ เพื่อประเมินค่ำขีดควำมสำมำรถของ
กำลังพล
๔. ช่องปัญหำข้อขัดข้องที่สำคัญ ให้บันทึก ปัญ หำข้อขัดข้องที่สำคัญ ซึ่งผู้บันทึกพิจำรณำแล้ว
เห็ น ว่ ำ หำกละเลยถึ ง ปั ญ หำนี้ แ ล้ ว จะมี ผ ลกระทบต่ อ ประสิ ท ธิ ภ ำพและขี ด ควำมสำมำรถของก ำลั ง พล
ที่เข้ำรับกำรฝึก
---------------------
แบบฟอร์มตารางแสดงผลการฝึกเป็นส่วนรวมของหน่วยฝึกประกอบความเห็น
ตารางแสดงผลการฝึกทหารใหม่เป็นส่วนรวมประกอบความคิดเห็น
หลักสูตรการฝึกทหารใหม่ รุ่นปี……………ผลัดที่……………หน่วย…………..
๒ -๗๒
(ลงชื่อ)………………………………………….
(………………………….)
ตำแหน่ง ผู้บังคับหน่วย
หมายเหตุ
๑. ตารางนี้ใช้สาหรับผู้บังคับหน่วยฝึกบันทึกผลการฝึกเป็นส่วนรวมของทุกวิชาที่ปรากฏอยู่ในหลักสูตรการฝึก
๒. ผบ.หน่วยฝึกจะบันทึกได้โดยรวบรวมจากรายงานของผู้ฝึกสอนหรือผู้ฝึก และจากการตรวจการฝึกด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด
๓. หลักฐานนี้เก็บไว้ที่หน่วยฝึก ๑ ชุด เสนอเหล่าสายวิทยาการของตน และ ยศ.ทบ.หน่วยละ๑ ชุด และรายงานตามสายการบังคับบัญชาจนถึงกองทัพภาค
๔. การบันทึกผลการฝึกเป็นส่วนรวมประกอบความคิดเห็น ให้ยึดถือเกณฑ์การประเมินผลเช่นเดียวกับ ผนวก ง ในระเบียบและหลักสูตรการฝึก การฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่วไป
สาหรับทหารทุกเหล่า ของ ทบ. (๑๐ สัปดาห์) ปี ๒๕๖๒
๒ – ๗๓
ตอนที่ ๔
การสนับสนุนการฝึก
๑. การสนับสนุนจากหน่วยฝึก หรือหน่วยบังคับบัญชา
๑.๑ จัดแบ่ง สป.๕ สาหรับการฝึกทหารใหม่ไว้อย่างเหมาะสมและพอเพียง
๑.๒ จัดเตรียมเป้าไว้อย่างพอเพียง
๑.๓ จัดหาหลักฐานการฝึก, คู่มือ, เอกสาร, ตารา และเครื่องช่วยฝึก ให้พร้อมที่จะนาไปใช้ในการฝึก
๑.๔ สนับสนุนในด้านธุรการอื่น ๆ เช่น รถพยาบาล เป็นต้น
๒. การสนับสนุนจาก ยศ.ทบ.
๒.๑ งบประมาณค่าเครื่องช่วยฝึก
๒.๑.๑ ค่าเครื่องช่วยฝึกสิ้ นเปลือง สนั บสนุ นให้ เป็ นค่ าวัสดุ สิ้นเปลื องเป็ น รายบุ คคลเฉพาะ
การฝึกทหารใหม่ จานวน ๖๐ บาท/คน, การฝึกครูทหารใหม่ ๒ ผลัด, การฝึกสิบตรีกองประจาการ หน่วยฝึกละ
๒,๐๐๐ บาท/ผลัด (๖,๐๐๐ บาท), การฝึกทหารใหม่ ๒ ผลัด หน่วยฝึกละ ๒,๐๐๐ บาท ( ๔,๐๐๐ บาท)
๒.๑.๒ ค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกนอกที่ตั้ง (ค่าเบี้ยเลี้ยง และเงินเพิ่มพิเศษพลทหาร สาหรับเดินทางไกล
ทหารใหม่) ๒ วัน/ผลัด ตามยอดกาลังพลที่จัดการฝึก
๒.๑.๓ สป.๓ ให้การสนับสนุน สป.๓ ประเภทเบนซินไร้สารฯ ๙๑ และดีเซลหมุนเร็ว แก่หน่วยฝึก
ทหารใหม่ ตามที่ได้รับการจัดสรรจาก ทบ. ตามวงรอบการฝึกประจาปี ๒๕๖๓
๒.๒ เอกสาร, ตารา, เครื่องช่วยฝึก, แผ่นภาพเครื่องช่วยฝึก, ฟิล์มภาพยนตร์, วีดีทัศน์, แผ่นบันทึกข้อมูล
๒.๓ สป.๕, เป้า และวัตถุระเบิด ให้การสนับสนุนแก่หน่วยฝึกทหารใหม่ ทั้งนี้ให้ เป็นไปตามเกณฑ์
การแจกจ่ายในข้อ ๖
๓. การส่งกาลังบารุงจากเหล่าสายยุทธบริการอื่น ๆ
๓.๑ สพ.ทบ. (สป.๕, อาวุธ, ยุทโธปกรณ์อื่น ๆ)
๓.๒ พธ.ทบ. (สป.๓, เครื่องแต่งกาย, เครื่องสนาม ฯลฯ)
๔. สิ่งอุปกรณ์ และเครื่องช่วยฝึก ให้นามาใช้ประกอบการฝึกอย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูง สุด
ตลอดจนให้ คิ ด ค้ น สิ่ ง ประดิ ษ ฐ์ส าหรั บ เป็ น เครื่อ งมื อ ช่ วยในการฝึ ก สอน ให้ ท หารใหม่ เรี ย นรู้ เข้ าใจ และ
เกิดทักษะความชานาญในการปฏิบัติ
๕. การจาหน่ายเครื่องช่วยฝึก ให้หน่วยปฏิบัติตามระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการจาหน่ายสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๓๙
๖. เกณฑ์การแจกจ่าย
๖.๑ การฝึกครูทหารใหม่ใช้ ก.ปล.๕.๕๖ มม.ธด. จานวน ๕๐ นัด/นาย ตามที่ได้รับการสนับสนุน
จาก ทบ.โดยทาการฝึกยิงปืนทุกนายทั้งผู้ฝึก, ผู้ช่วยผู้ฝึก, ครูนายสิบ และครูทหารใหม่ ใช้ตารางการฝึกยิงปืน
ตามระเบียบการฝึกทหารใหม่ ๑๐ สัปดาห์ พ.ศ.๒๕๖๒ (ตอนที่ ๘)
๒ – ๗๔
๖.๒ การฝึ ก ทหารใหม่ ผลั ด ที่ ๒/๖๓ และผลั ด ที่ ๑/๖๔ ใช้ ก.ปล.๕.๕๖ มม.ธด.ตามที่ ได้ รั บ
การสนับ สนุนจาก ทบ. จานวน ๑๘๓ นัด/นาย โดยใช้ตารางการฝึกยิง ปืน ตามระเบี ยบการฝึกทหารใหม่
๑๐ สัปดาห์ พ.ศ.๒๕๖๒ (ตอนที่ ๘) ทั้งนี้ ทบ. มีข้อจากัดในการสนับสนุน ก.ปล.๕.๕๖ มม.สาหรับการฝึก
ยศ.ทบ. จะทาการปรับอัตรากระสุนการฝึกทหารใหม่ และแจ้งให้หน่วยรับทราบต่อไป
๖.๓ การฝึ กการยิ งประกอบการเคลื่ อนที่ (เป็ นคู่ ) ของทหารใหม่ ใช้ ก.ปล.๕.๕๖ มม.ซร. จ านวน
๑๘ นัด/คน
๖.๔ เป้าสาหรับการฝึกครูทหารใหม่ และการฝึกทหารใหม่ในงบประมาณปี ๒๕๖๔ มีดังนี้
๖.๔.๑ การฝึกครูทหารใหม่
๖.๔.๑.๑ เป้าปรับศูนย์รบ ๒ เป้า/คน
๖.๔.๑.๒ เป้ารูปหุ่นย่อส่วน ๒ เป้า/คน
๖.๔.๒ การฝึกทหารใหม่
๖.๔.๒.๑ เป้าปรับศูนย์รบ ๔ เป้า/คน
๖.๔.๒.๒ เป้ารูปหุ่นย่อส่วน ๖ เป้า/คน
๗. เบี้ยเลี้ยงฝึกนอกที่ตั้ง : ทหารใหม่ ออกฝึกนอกที่ตงั้ จะได้รับเงินเพิ่มพิเศษวันละ ๒๔ บาท
๘. รายละเอียดเพิ่มเติม ให้ประสาน สกฝ.ยศ.ทบ., โทร.ทศท.๐-๒๒๔๑ – ๔๑๐๖, โทร.ทบ. ๘๙๐๒๒ – ๒๓
หมายเหตุ การสนั บสนุนการฝึกทหารใหม่ เป็ นหน้ าที่ของผู้ บังคั บบั ญชาของหน่ วยฝึ กทหารใหม่ ที่จะ
สนับสนุน งบประมาณและสิ่งอุปกรณ์ตามที่ได้รับการแบ่งมอบจาก ทบ. สาหรับใช้ในการฝึกได้ครบถ้วน
ทั น เวลาและมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ สาหรั บ หน่ ว ยที่ ฝ ากทหารใหม่ ให้ หน่ วยอื่ นฝึ ก มี หน้ าที่ ด าเนิ นการ และ
ให้การสนับสนุนหน่วยฝึกทหารใหม่ที่ตนฝากการฝึกไว้ด้วย
*********************************************
ตรวจถูกต้อง
พ.อ. เฉลิมพล จันดา
( เฉลิมพล จันดา )
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ.
๒ – ๗๕
ตอนที่ ๕
ตารางตรวจสอบรายวิชาการฝก ๕๐๐ ชัว่ โมง
ตารางตรวจสอบรายวิชาการฝกทหารใหมจํานวน 500 ชั่วโมง
หนวยฝกทหารใหม ............................................
เวลา จํานวนชั่วโมงที่ฝกแลว
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝก หมายเหตุ
(ชม.) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37
ก. กรรมวิธีรับทหารใหมเขาหนวย 30
1 ข. การฝกบุคคลเบื้องตน 78
1.1 บุคคลทามือเปลา
1.2 บุคคลทาอาวุธ
1.3 การเดินสวนสนาม
1.4 แถวชิด
ค. การเสริมสรางความสมบูรณแข็งแรงทางรางกาย 65
๒ - ๗๖
2 กายบริหาร/ศิลปะการตอสูปองกันตัว 53
3 การทดสอบความสมบูรณแข็งแรงทางรางกาย 12
ง. การชวยเหลือประชาชน 40
4 จิตอาสา 10
5 การปองกันและบรรเทาสาธารณภัย 16
6 การปฐมพยาบาล 14
6.1 การปฐมพยาบาลเบื้องตน
6.2-การเขาเฝอก
6.3-การหามเลือด
6.4-การทําเปลสนาม
จ. การสอนอบรม 56
7 5.1 แบบธรรมเนียมทหาร 4
8 5.2 อุดมการณทางทหาร 6
เวลา จํานวนชั่วโมงที่ฝกแลว
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝก หมายเหตุ
(ชม.) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37
9 5.3 ความมั่นคงของชาติและหนาที่พลเมือง 2
10 5.4 ประวัติศาสตรชาติไทยและพระราชกรณียกิจ 12
ของพระมหากษัตริย
11 5.5 ศาสตรพระราชา เขาใจ เขาถึง พัฒนา และ 12
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
12 5.6 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ, ไรนา 8
สวนผสม
13 5.7 วินัยของชาติ 4
14 5.8 กิริยามารยาทราชสํานัก และคําราชาศัพท 4
15 5.9 การพัฒนาบุคลิกภาพ 4
๒ -๗๗
ฉ. วิชาทหารทั่วไป 30
16 การติดตอสื่อสาร 8
16.1 การรับ -สงขาว
16.2 การติดตอสื่อสารทางวิทยุ
16.3 การติดตอสื่อสารทางสาย
17 การอานแผนที่และการใชเข็มทิศ 10
17.1 การอานแผนที่
17.2 การใชเข็มทิศ
18 การขาวเบื้องตน 5
19 การระเบิดทําลาย, ทุนระเบิดและกับระเบิด 5
เวลา จํานวนชั่วโมงที่ฝกแลว
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝก หมายเหตุ
(ชม.) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37
20 การปองกันนิวเคลียร, ชีวะและเคมีเปนบุคคล 2
ช. การฝกการใชอาวุธ 69
21 การฝกใชอาวุธประจํากาย/ยิงปนดวยกระสุนจริง 55
21.1 การฝกทายิงเบื้องตน, การบรรจุและเลิกบรรจุ
21.2 การฝกคานเล็ง
21.3 การฝกเล็งสามจุด
21.4 การยิงปนดวยกระสุนจริง
22 การใชลูกระเบิดขวาง 6
การสอนเชิงสาธิต
๒ -๗๘
การปฏิบัติในสนามฝก
23 การใชดาบปลายปน 8
ซ. การฝกทางยุทธวิธี 113
24 การกําบังและการซอนพราง 7
25 การฝกบุคคลทําการรบในเวลากลางวัน 35
25.1 การสอนเชิงสาธิต
25.2 การปฏิบัติภาคสนาม
26 การฝกบุคคลทําการรบในเวลากลางคืน 30
26.1 การสอนเชิงสาธิต
26.2 การปฏิบัติภาคสนาม
27 ปอมสนาม 6
เวลา จํานวนชั่วโมงที่ฝกแลว
ลําดับ เรื่องที่ทําการฝก หมายเหตุ
(ชม.) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37
28 เครื่องกีดขวาง 5
29 การยิงประกอบการเคลื่อนที่ ( เปนคู ) 30
29.1 การสอนเชิงสาธิต
๒ -๗๙
29.2 การปฏิบัติภาคสนาม
30 การลาดตระเวน/การระวังปองกัน 12
31 การเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีและการพักแรมในสนาม 8
ด.การตรวจสอบ 19
๓-๑
บทที่ ๓
นโยบาย, คาสั่ง และคาแนะนาที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่
ตอนที่ ๑
นโยบายการฝึก
(สำเนำ)
คำสั่งกองทัพบก
ที่ ๒๔๑/๒๕๓๖
เรื่อง นโยบำยกำรฝึกทหำรใหม่กองทัพบก
-------------
๑. กล่ำวทั่วไป
๑.๑ กองทัพบกได้กำหนดนโยบำยด้ำนกำรฝึกไว้ว่ำ ให้หน่วยเพ่งเล็งและให้ควำมสำคัญ ต่อ
กำรฝึกตำมวงรอบประจำปี โดยถือว่ำเป็นกำรฝึกที่เป็นมำตรฐำนของกองทัพบก ซึ่งจะต้องจัดให้มีกำรฝึกทุกขั้นตอน
และทุกหลักสูตรตั้งแต่กำรฝึกเป็นบุคคล, กำรฝึกเป็นหน่วยเบื้องต้น และกำรฝึกเป็นหน่วยเบื้องสูงตำมลำดับ
๑.๒ กำรฝึกทหำรใหม่เป็นส่วนหนึ่งของกำรฝึกเป็นบุคคล ซึ่งจัดสำหรับทหำรกองประจำกำร
ที่เข้ำมำรับรำชกำรตำมพระรำชบัญญัติรับรำชกำรทหำร โดยทหำรกองประจำกำรดังกล่ำวเป็นกำลังพลส่วนใหญ่
ของกองทัพบก ที่ประกอบขึ้นเป็นหน่วยทหำรต่ำง ๆ กำรฝึกทหำรใหม่จึงเป็นกำรฝึกที่เป็นพื้นฐำนและเป็นกำรฝึก
หลักที่มีควำมสำคัญยิ่ง กล่ำวคือ เป็นกำรฝึกเพื่อเปลี่ยนสภำพทหำรกองประจำกำรจำกบุคคลพลเรือนให้เป็นทหำร
เป็นกำรฝึกเพื่อให้ทหำรกองประจำกำรสำมำรถปฏิบัติงำนตำมตำแหน่งหน้ำที่ และทำให้หน่วยมีควำมพร้อมรบในขณะ
ประจำกำรและเป็นกำรฝึก เพื่อให้ทหำรกองประจำกำรสำมำรถนำวิชำควำมรู้ และประสบกำรณ์ ไปใช้ในกำรพัฒนำประเทศ
เมื่อปลดจำกประจำกำรไปแล้วได้
๑.๓ โดยที่ ก ำรรับ รำชกำรเป็ น ทหำรกองประจ ำกำรเป็ น ไปตำมข้ อ บั ง คั บ ของกฎหมำย
ประชำชนที่อยู่ในหลักเกณฑ์บำงส่วน จึงไม่มีควำมสมัครใจและพยำยำมหลีกเลี่ยงกำรเข้ำรับรำชกำรทหำร รวมทั้งมี
ทัศนคติที่ขัดแย้งต่อกำรเข้ำรับรำชกำรทหำร และกำรฝึกของทหำรกองประจำกำรอยู่เสมอ
๒. วัตถุประสงค์ ปรับปรุงระบบกำรฝึกทหำรใหม่ของกองทัพบก เพื่อให้กำรฝึกเป็นไปอย่ำงมี
ประสิทธิภำพ เป็นมำตรฐำนเดียวกัน และเสริมสร้ำงให้บังเกิดภำพลักษณ์ที่ดีต่อกองทัพบก
๓. นโยบำยทั่วไป
๓.๑ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกำรฝึกทหำรใหม่ทั้งปวง ได้แก่ ผู้บังคับบัญชำตำมลำดับชั้น จนถึงผู้ฝึก
ทหำรใหม่ จะต้องได้รับทรำบนโยบำยกำรฝึกทหำรใหม่ของกองทัพบกโดยถ่องแท้และถูกต้องตรงกัน กับจะต้อง
ปฏิบัติตำมนโยบำยดังกล่ำวอย่ำงเคร่งครัด
๓–๒
๓.๒ ในด้ำนจิตใจ จะต้องทำกำรฝึกเพื่อเสริมสร้ำงให้ ทหำรกองประจำกำร รวมถึงครอบครัว
บังเกิดควำมรักควำมผูกพัน และควำมศรัทธำต่อครูฝึก ผู้ฝึก ผู้บังคับบัญชำ และหน่วยเป็นส่วนรวม อันจะเป็นผลให้
ชำยไทยมีควำมเต็มใจ และสมัครใจเข้ำรับใช้ชำติในกำรเป็นทหำร มีควำมเสียสละและอดทนไม่ย่อท้อ ต่อกำรฝึก
มีวินัย และตั้งใจปฏิบัติหน้ำที่ตำมที่ได้รับมอบหมำยจนครบระยะเวลำประจำกำรที่กำหนด
๓.๓ หลักสูตรกำรฝึกทหำรใหม่ จะต้องได้รับกำรปรับปรุงพัฒนำให้ทันสมัย และเสริมสร้ำง
ควำมชำนำญ ในกำรปฏิบัติด้วยระยะเวลำอันสั้นที่สุดเท่ำที่จะกระทำได้และกำรจัดสรรทรัพยำกรต่ำง ๆ เพื่อใช้ใน
กำรฝึกตำมหลักสูตรกำรฝึกทหำรใหม่ให้ถือว่ำเป็นเรื่องที่มีควำมสำคัญในควำมเร่งด่วนอันดับแรก
๓.๔ กำรลงทั ณฑ์ ทหำรกองประจ ำกำรที่ กระท ำผิ ดวินั ยทหำร ให้ ด ำเนิ นกำรตำมวิ ธีกำรและ
ตำมอำนำจ กำรลงทัณฑ์ที่กำหนดไว้ในประมวลวินัยทหำร ซึ่งมี ๕ สถำน ได้แก่ ภำคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กัก ขัง
และจำขังเท่ำนั้น ห้ำมใช้วิธีกำรลงทัณฑ์ที่นอกเหนือจำกนี้โดยเด็ดขำด
๔. นโยบำยเฉพำะ ให้หน่วยและผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินกำรดังนี้.
๔.๑ กรมยุทธศึกษำทหำรบก
๔.๑.๑ กำหนดนโยบำยและแนวทำงปฏิบัติในรำยละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งกำกับดูแล
กำรปฏิบัติ เพื่อให้เป็นไปตำมนโยบำยนี้ และให้ข้อเสนอแนะหนทำงปฏิบัติ ในกำรปรับปรุงระบบกำรฝึกทหำรใหม่
ต่อกองทัพบกอย่ำงต่อเนื่อง
๔.๑.๒ ด ำเนิ น กำรให้มี โสตทั ศนู ป กรณ์ และเอกสำรคู่ มือ ผู้ฝึ กทหำรใหม่ เพื่ อแจกจ่ ำย
ให้หน่วยใช้ในกำรฝึกสอนผู้ฝึกทหำรใหม่ ให้เข้ำใจขั้นตอนและวิธีกำรปฏิบัติในกำรฝึกทหำรใหม่อย่ำงทั่วถึง
๔.๑.๓ ดำเนินกำรให้มีกำรประชุมสัมมนำหรือชี้แจงผู้ฝึกทหำรใหม่ ทุกหน่วยและทุกผลัด
เพื่อให้ทรำบและปฏิบัติตำมนโยบำยและแนวทำงปฏิบัติในกำรฝึกทหำรใหม่ของกองทัพบกอย่ำงถูกต้อง
๔.๑.๔ ปรั บปรุ งพั ฒนำหลั กสู ตรกำรฝึ กทหำรใหม่ และก ำหนดควำมต้ องกำรทรั พยำกร
เพื่อสนับสนุน กำรฝึกตำมหลักสูตรกำรฝึกทหำรใหม่ให้สอดคล้องกับควำมจำเป็นอย่ำงเพียงพอ
๔.๒ ผู้บังคับบัญชำตำมลำดับชั้น
๔.๒.๑ จะต้องให้ควำมสนใจและกำกับดูแลกำรฝึก ตำมหลักสูตรกำรฝึกทหำรใหม่ โดยใกล้ชิด
เพื่อให้มั่นใจว่ำทหำรกองประจำกำรได้รับกำรปฏิบัติและได้รับกำรฝึกให้เป็นไปตำมนโยบำยกองทัพบกอย่ำงแท้จริง
และมีผลกำรฝึกเป็นไปตำมเกณฑ์ที่กองทัพบกกำหนด
๔.๒.๒ ให้เพ่งเล็งในด้ำนสวัสดิกำร ควำมเป็นอยู่ และขวัญ ของทหำรกองประจำกำรกับ
กำรปฏิบัติของผู้รับผิดชอบในกำรลงทัณ ฑ์ทหำรกองประจำกำรเป็นพิเศษ รวมทั้งกำกับดูแลกำรจัดสรรและ
กำรใช้ทรัพยำกรที่กองทัพบกให้กำรสนับสนุน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกำรฝึก
๔.๒.๓ ให้ข้อเสนอแนะกำรปรับปรุงระบบกำรฝึกทหำรใหม่ต่อกองทัพบกอย่ำงต่อเนื่อง
๓–๓
๔.๓ ผู้บังคับหน่วยฝึกทหำรใหม่
๔.๓.๑ อำนวยกำรฝึกและจัดกำรฝึก ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรที่กองทัพบก
และ กรมยุทธศึกษำทหำรบกกำหนดเพ่งเล็งเป็นพิเศษในกำรคัดเลือกให้ได้ผู้ปฏิบัติหน้ำที่ ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึก
ชั้นนำยสิบ และครูทหำรใหม่ที่เหมำะสม และเป็นไปตำมคุณสมบัติที่กองทัพบกกำหนดอย่ำงแท้จริง
๔.๓.๒ ดำเนินกำรเพื่อให้ผู้ฝึกทหำรใหม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทรำบนโยบำยกำรฝึก
ทหำรใหม่ของกองทัพบกที่ถูกต้อง และกำกับดูแลกำรปฏิบัติให้เป็นไปตำมนโยบำยโดยใกล้ชิดและเข้มงวด
๔.๓.๓ เอำใจใส่ ในกำรให้ ควำมรู้ ค ำแนะน ำ และกำรฝึ กอบรมแก่ ผู้ ฝึ กทหำรใหม่ และผู้ ที่
เกี่ยวข้องด้วยตนเอง ถึงวิธีกำรปฏิบัติในกำรฝึกที่ถูกต้องและเหมำะสม รวมทั้งให้กำรดูแลบำรุงขวัญ กับให้กำร
สนับสนุนกำรฝึกแก่ผู้ฝึกทหำรใหม่อย่ำงเต็มขีดควำมสำมำรถ
๔.๓.๔ ให้ข้อเสนอแนะกำรปรับปรุงระบบกำรฝึกทหำรใหม่ ต่อผู้บังคับบัญชำตำมลำดับชั้น
อย่ำงต่อเนื่อง
๔.๔ ผู้ฝึกทหำรใหม่
๔.๔.๑ ศึกษำให้ท รำบโดยถ่อ งแท้ ถึงนโยบำยกำรฝึก ทหำรใหม่ของกองทัพ บก ค ำสั่ ง
ตลอดจนระเบี ยบหลั กสู ตร และหลั กฐำนเอกสำรที่ เกี่ ยวข้ องกั บกำรฝึ กทหำรใหม่ และแจ้ งให้ ผู้ ที่ เกี่ ยวข้ อง ได้ แก่
ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึก ชั้นนำยสิบ และครูทหำรใหม่ ทรำบ
๔.๔.๒ ปฏิบัติตำมนโยบำยกำรฝึกทหำรใหม่ของกองทัพบก และกำกับดูแลกำรปฏิบัติ
ของผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึกชั้นนำยสิบ และครูทหำรใหม่ ให้เป็นไปตำมนโยบำยโดยใกล้ชิดและเข้มงวด
๔.๔.๓ จะต้องเสียสละและทุ่มเทเพื่อดำเนินกำรฝึกให้เป็นไปตำมหลักสูตรและคำสั่งของ
หน่วยฝึก รวมทั้งดูแลเอำใจใส่ทหำรกองประจำกำรเป็นรำยบุคคลด้วยตนเองตลอดเวลำ เพื่อให้ทรำบถึงสภำพ
ผลกำรฝึกควำมเป็นอยู่ร่ำงกำยและจิตใจตลอดจนสภำพทำงด้ำนขวัญ ในอันที่จะได้ใช้เป็นข้อมูลปรับปรุงแก้ไข
กำรฝึกให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ
๔.๔.๔ ให้ข้อเสนอแนะกำรปรับปรุงระบบกำรฝึกทหำรใหม่ ต่อผู้บังคับหน่วยฝึกทหำรใหม่อย่ำง
ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๓ เมษำยน ๒๕๓๖
รับคำสั่ง ผบ.ทบ.
สำเนำถูกต้อง
พ.อ. เฉลิมพล จันดำ
(ลงชื่อ) พล.อ. ยุทธนำ แย้มพันธุ์
(เฉลิมพล จันดำ)
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ. (ยุทธนำ แย้มพันธุ์)
ผช.ผบ.ทบ.
๓–๔
นโยบายการฝึกทหารใหม่ของ ทบ.
(วิทยุราชการทหาร ยก.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห ๐๔๐๗/๑๐๓๖๗ ลง ๑๒ ก.ค. ๖๒)
-----------------------
๑. กำรฝึกทหำรใหม่ของ ทบ. คือจุดตำยของ ทบ. ที่ส่งผลต่อภำพลักษณ์ กำรดำเนินกำรใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ต้องเป็นไปด้วยควำมเหมำะสม สมเหตุสมผล และสำมำรถตอบสังคมได้
๒. ให้ พบ. จัดทำเอกสำร และคู่มือในกำรป้องกันกำรบำดเจ็บ และเสียชีวิตของทหำรใหม่จำกโรคลมร้อน
(Heat Stroke) ไม่ใช่ ต่ำงหน่ วยต่ ำงคิ ด โดยต้ องกำหนดรำยละเอียด (จำนวนและชนิ ด) ของสิ่ง อุ ปกรณ์
มำตรฐำน และขั้นตอนกำรปฏิบัติอย่ำงเป็นแบบแผน (Pattern) ที่มปี ระสิทธิภำพและสำมำรถปฏิบัติได้จริง
ให้แก่หน่วยฝึกทหำรใหม่ทุกหน่วยตั้งแต่กำรป้องกันแก้ไขเหตุฉุกเฉิน กำรเตรียมกำรแก้ไขอำกำรโรคลม
ร้อน และแผนกำรเคลื่อนย้ำยผู้ป่วยฉุกเฉิน
๓. ให้ ห น่ ว ยฝึก ทหำรใหม่ จัด ให้ มี น้ ำแข็ง อยู่ ในกระติก อย่ ำงเพี ย งพอตลอดทั้ ง วั น โดยมี ป ริ ม ำณน้ ำแข็ ง
ตำมสัดส่วนของทหำรใหม่ในแต่ละหน่วยฝึกอย่ำงเหมำะสม (ปริมำณ/ทหำรใหม่/หน่วยฝึก)
๔. ให้ ผู้ ฝึก/ครู ฝึกทหำรใหม่ ควบคุ มและบั งคั บให้ ทหำรใหม่ดื่ มน้ ำตลอดห้ วงกำรฝึ ก เพื่ อลดผลกระทบจำก
โรคลมร้อน โดยพิจำรณำใช้ขวดน้ำแบบใสที่ง่ำยต่อกำรสังเกตว่ำทหำรใหม่ได้ดื่มน้ำในปริมำณมำกน้อยเพียงใด
๕. ให้ ห น่ วยฝึ ก ทหำรใหม่ ค วบคุ ม และหลี ก เลี่ ย งปั จ จั ย เสี่ ย งที่ อ ำจเกิ ด โรคลมร้ อ น คื อ สภำพแวดล้ อ ม
(กำรถ่ ำยเทอำกำศของโรงนอน) ควำมเสี่ ยงต่ อบุ คคล (สภำพร่ำงกำยของทหำรใหม่ ) และกิจ กรรม
จำกกำรฝึก (กำรหลีกเลี่ยงกำรฝึกท่ำมกลำงอำกำศร้อน)
๖. ให้กำรฝึกทหำรใหม่ ๑๐ สัป ดำห์ ของทุ กหน่วยฝึกทหำรใหม่ต้องเป็นมำตรฐำนเดียวกัน โดยมุ่ งเน้ น
กำรฝึกพื้นฐำนที่จำเป็นให้แก่ทหำรใหม่เพียงอย่ำงเดียว มิใช่ห้วงเวลำของกำรรับน้องใหม่ ผบ.พัน. และ
ผู้ฝึกทหำรใหม่ ต้องกำกับดูแลไม่ให้มีกำรแอบลงโทษ ผู้ใดฝ่ำฝืนจะลงโทษเด็ดขำด โดยเมื่อจบกำรฝึก
ต้องสำมำรถทำกำรรบได้ตำมตำแหน่ง
๗. กำรคัดเลือกทหำรใหม่ในปีงบประมำณ ๒๕๖๓ (ผลัดที่ ๑/๖๓ และ ๒/๖๓) ให้ดำเนินกำรด้วยควำม
รอบคอบอย่ำงแท้จริง มุ่งเน้นที่คุณภำพ ต้องเป็นผู้ที่มีร่ำงกำยและจิตใจที่พร้อมต่อกำรฝึก โดยจัดจำนวน
คณะกรรมกำรตรวจเลือกให้สอดคล้องกับปริมำณผู้เข้ำรับกำรตรวจเลือก รวมทั้งต้องเพิ่มบุคลำกรทำง
กำรแพทย์/แพทย์ ในกำรซักถำมและบันทึกหลักฐำนในกำรตรวจที่ชัดเจน
๘. ให้ปรับปรุงหน่วยฝึกทหำรใหม่ ให้มีสภำพที่พร้อมต่อกำรรองรับจำนวนทหำรใหม่ที่เข้ำรับกำรฝึกในแต่
ละผลัดได้อย่ำงเพียงพอ ไม่แออัด และมีกำรระบำยอำกำศที่ดี รวมทั้งให้ดูแลกำรประกอบเลี้ยงเพื่อทหำร
ใหม่ได้รับประทำนอำหำรที่มีคุณภำพ ทั้งนี้ ผู้ฝึกต้องนอนหน่วยฝึกตลอดห้วงกำรฝึก
๓–๕
---------------------
๓–๖
หน่วยฝึกทหำรใหม่ฯ
ฯลฯ ทหำรใหม่ : ๘
( สำเนำ )
คำสั่งกองทัพบก
(เฉพำะ)
ที่ ๕๐๕/๕๗
เรื่อง กำรป้องกันและเฝ้ำระวังกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อน ในกำรฝึกทหำรใหม่
๓.๓ จัดให้มีเครื่องมือในกำรติดตำมสภำพอำกำศที่อำจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดกำรบำดเจ็บ
จำกควำมร้อน เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิและควำมชื้นสัมพัทธ์ เพื่อกำรเฝ้ำระวังและกำหนดมำตรกำรในกำรฝึก
ให้เหมำะสมต่อไป
๓.๔ จัดเจ้ำหน้ำที่เสนำรักษ์ประจำหน่วยฝึก และจั ดตั้ง ที่ปฐมพยำบำล โดยจัดเตรียม
ยำและเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์สำหรับกำรปฐมพยำบำลเบื้องต้น รวมถึงรถพยำบำลส่งป่วยให้มีควำมพร้อม
ต่อกำรปฏิบัติงำน และต้องประสำนแผนกำรส่งต่อผู้ป่วยกับ โรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก ในพื้นที่หรือ
โรงพยำบำลนอกสังกัดกองทัพบกในพื้นที่อย่ำงใกล้ชิด
๓.๕ จัดให้มีกำรตรวจคัดกรองควำมเสี่ยงต่อกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนแก่ทหำรใหม่ก่อน
เข้ำรับกำรฝึก เพื่อพิ จำรณำคัดแยกทหำรใหม่ที่มีป ระวัติเสี่ยง สำหรับเฝ้ำระวังเป็ นพิเศษและต้องท ำกำร
ซักถำม และจดบันทึกข้อมูลควำมเสี่ยงต่อกำรเจ็บป่วยในช่วงเย็นของทุกวัน ที่มีกำรฝึก รวมทั้ง กำรบันทึ ก
ข้อมูลสภำพแวดล้อมของกำรฝึกในแต่ละวัน
๓.๖ จั ด ท ำแผนเผชิ ญ เหตุ ในกำรปฐมพยำบำลและส่ ง ต่ อ ไปรั ก ษำพยำบำล ณ
สถำนพยำบำล ในกรณีที่ทหำรใหม่บำดเจ็บจำกควำมร้อนและจะต้องมีกำรซักซ้อมอยู่เสมอ
๓.๗ แจ้ งผู้ บังคับ หน่ วยสำยแพทย์ และประสำนกำรปฏิบั ติ เพื่อ ป้อ งกั นกำรบำดเจ็ บ
จำกควำมร้อนกับหน่วยสำยแพทย์และ/หรือโรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก ในพื้นที่อย่ำงใกล้ชิด
๓.๘ รำยงำนตำมสำยกำรบั งคับบัญชำ เมื่อมีทหำรที่ สงสั ยว่ำบำดเจ็บจำกควำมร้อนและ
เข้ำรับรักษำตัวในโรงพยำบำลหรือเสียชีวิต พร้อมทั้งแจ้งโรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก ในพื้นที่ทรำบทันที
ที่สำมำรถกระทำได้หรือภำยใน ๒๔ ชั่วโมง เพื่อร่วมกันค้นหำสำเหตุและพิจำรณำแก้ไขปัญหำพร้อมให้ควำม
ช่วยเหลือต่อไป
๔. ผู้อำนวยกำรโรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก
๔.๑ ดำเนินงำนป้องกันและเฝ้ำระวังกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนจำกกำรฝึก และรำยงำน
ผลกำรดำเนินงำนป้องกันและเฝ้ำระวังกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนมำยัง กรมแพทย์ทหำรบก ภำยใน ๓๐ วันหลัง
เสร็จสิ้นกำรฝึก
๔.๒ รำยงำนผลกำรสอบสวนโรค กรณีเกิดกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อน ถึงกรมแพทย์ทหำรบก
ทันทีที่สำมำรถกระทำได้ หรือภำยใน ๒๔ ชั่วโมงหลังได้รับแจ้งจำกหน่วยฝึก
๔.๓ ประสำนแนวทำงกำรรั ก ษำพยำบำลและกำรส่ ง ต่ อ ผู้ป่ ว ยจำกกำรบำดเจ็ บ จำก
ควำมร้อนกับโรงพยำบำลนอกสังกัดกองทัพบก เพื่อที่จะสำมำรถให้กำรรักษำพยำบำลได้อย่ำงทันท่วงทีและ
เป็นมำตรฐำนเดียวกัน
๕. ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึก ครูทหำรใหม่ และเจ้ำหน้ำที่เสนำรักษ์ประจำหน่วยฝึก ต้องได้รับ
กำรพัฒนำทักษะในกำรคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อกำรเกิดกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อน และกำรปฐมพยำบำลอย่ำง
สม่ำเสมอและสำมำรถปฏิบัติงำนได้จริง
๓ – ๑๑
รับคำสั่ง ผบ.ทบ.
สำเนำถูกต้อง
พ.อ. เฉลิมพล จันดำ
(เฉลิมพล จันดำ)
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ.
(สำเนำ)
คำสั่งกองทัพบก
(เฉพำะ)
ที่ ๕๐๖/๕๗
เรื่อง กำรป้องกันและเฝ้ำระวังกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนในกำรฝึก
เนื่องจำกปัจจุบันสภำพภูมิอำกำศในทุกภูมิภำคของโลกมีกำรเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เป็นผล
มำจำกสภำวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิและควำมชื้นสัมพัทธ์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำรฝึก จึงอำจเกิด
กำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนจนถึงขั้นทุพพลภำพหรือเสียชีวิตได้ กำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนนั้นสำมำรถป้องกัน
ได้ด้วยกำรเตรียมพร้อมของหน่วยจัดกำรฝึก หน่วยรับกำรฝึก และหน่วยรักษำพยำบำลในทุกระดับทั้งในด้ำน
กำรป้องกันและเฝ้ำระวัง ตลอดจนกำรกำกับดูแลอย่ำงใกล้ชิดของ ผู้บังคับบัญ ชำทุกระดับชั้น จึงให้หน่วย
ต่ำงๆ ในกองทัพบกที่เกี่ยวข้องปฏิบัติดังนี้
๑. ผู้บังคับหน่วยจัดกำรฝึกและผู้บังคับหน่วยรับกำรฝึก
๑.๑ ยึดถือ ประกำศ กรมแพทย์ทหำรบก เรื่องคำแนะนำในกำรป้องกันและเฝ้ำระวังกำร
ปฐมพยำบำล และกำรรักษำพยำบำลกำรบำดเจ็ บจำกควำมร้ อนลงวันที่ ๑๙ มี นำคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่ อเป็ น
แนวทำงในกำรปฏิบัติตำมควำมเหมำะสมกับภำรกิจ
๑.๒ จัดทำแผนเผชิญ เหตุ ในกำรปฐมพยำบำล และส่ง ต่อกำลัง พลที่ รับกำรฝึกที่ได้รับ
บำดเจ็บจำกควำมร้อนไปรักษำพยำบำล ณ สถำนพยำบำลและควรมีกำรซักซ้อมแผน
๑.๓ รำยงำนตำมสำยกำรบังคับบัญชำ เมื่อมีทหำรที่สงสัยว่ำบำดเจ็บจำกควำมร้อนและ
เข้ำรับรักษำตัวในโรงพยำบำลหรือเสียชีวิต พร้อมทั้งแจ้งให้ โรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบกในพื้นที่ทรำบ
ทันทีที่สำมำรถกระทำได้หรือภำยใน ๒๔ ชั่วโมง เพื่อร่วมกันค้นหำสำเหตุและพิจำรณำแก้ไขปัญหำพร้อมให้
ควำมช่วยเหลือต่อไป
๑.๔ ยึ ด ถื อ แนวทำงกำรกำรป้ อ งกั น และเฝ้ ำ ระวั ง กำรบำดเจ็ บ จำกควำมร้ อ น โดย
พิจำรณำปรับใช้ตำมควำมเหมำะสมสำหรั บกำรปฏิบัติกำรทำงทหำรอื่นใดที่กำลังพลมีควำมเสี่ยงที่จะได้รับ
กำรบำดเจ็บจำกควำมร้อน
๒. ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชำทุ ก ระดั บ ชั้ น และผู้ บั ง คั บ หน่ ว ยสำยแพทย์ รั บ ผิ ด ชอบต่ อ กำรป้ อ งกั น
มิให้กำลังพลได้รับบำดเจ็บจำกควำมร้อนในกำรฝึก โดยจะต้องกำกับดูแล กวดขันให้ผู้จัด กำรฝึกและผู้รับกำร
ฝึก ปฏิ บั ติ ต ำมค ำแนะน ำในข้อ ๑.๑ และพิ จำรณำลงทั ณ ฑ์ ต ำมสมควรแก่ ผู้ ที่ เกี่ ยวข้ อ งที่ ไ ม่ ป ฏิ บั ติ ต ำม
คำแนะนำฯ จนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบำดเจ็บจำกควำมร้อนที่รุนแรง
๓. ผู้บังคับหน่วยจัดกำรฝึก
๓.๑ จั ดให้ มี กำรให้ ควำมรู้เกี่ย วกับ กำรบำดเจ็ บจำกควำมร้อนและกำรปฐมพยำบำล
เบื้องต้น ให้แก่ ผู้จัดกำรฝึก ผู้เข้ำรับกำรฝึกและเจ้ำหน้ำที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเริ่มกำรฝึกทุกครั้ง
๓ – ๑๓
๓.๒ จัด ให้ มี เครื่อ งมื อ ในกำรติ ดตำมสภำพอำกำศที่ อ ำจเป็ น ปั จ จัย ที่ ก่ อ ให้ เกิ ดกำร
บำดเจ็บจำกควำมร้อน เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิและควำมชื้นสัมพัทธ์ เพื่อกำรเฝ้ำระวังและกำหนดมำตรกำรใน
กำรฝึกให้เหมำะสมต่อไป
๓.๓ จัดให้มีเจ้ำหน้ำที่สำยแพทย์ประจำ ที่ บังคับกำรฝึกและ/หรือประจำส่วนรับกำรฝึก
โดยให้จัดตั้งที่ปฐมพยำบำลจัดเตรียมยำและเวชภัณฑ์และอุปกรณ์สำหรับกำรปฐมพยำบำลเบื้องต้นรวมถึ ง
รถพยำบำลส่งป่วย เพื่อให้มีควำมพร้อมต่อกำรให้กำรรักษำพยำบำลในกรณีพบผู้ป่วยที่ได้รับบำดเจ็บจำก
ควำมร้อนในสถำนกำรณ์จริง และต้องประสำนแผนกำรส่งต่อผู้ป่วยกับ โรงพยำบำลสังกัดในกองทัพบกใน
พื้นที่ หรือโรงพยำบำลนอกสังกัดกองทัพบกในพื้นที่อย่ำงใกล้ชิด
๔. ผู้บังคับหน่วยรับกำรฝึกต้องเตรียมควำมพร้อมของสภำพร่ำงกำยและจิตใจของกำลังพล
ที่จะเข้ำรับกำรฝึกและควรมีกำรทดสอบร่ำงกำยตำมเกณฑ์มำตรฐำนของแต่ละหลักสูตร หำกมิได้กำหนดไว้
ให้ถือตำมเกณฑ์กำรทดสอบร่ำงกำยประจำปีของกองทัพบก
๕. ผู้อำนวยกำรโรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก
๕.๑ รำยงำนผลกำรสอบสวนโรคกรณี เกิดกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนถึง กรมแพทย์ -
ทหำรบกทันทีที่สำมำรถกระทำได้หรือภำยใน ๒๔ ชั่วโมงหลังได้รับแจ้งจำกหน่วยฝึก
๕.๒ ประสำนแนวทำงกำรรั กษำพยำบำลและกำรส่ง ต่ อ ผู้ป่ ว ยจำกกำรบำดเจ็ บ จำก
ควำมร้อนกับโรงพยำบำลนอกสังกัดกองทัพบกที่อยู่ใกล้หน่วยฝึกหรือเป็น โรงพยำบำลที่มีโอกำสได้รับกำรส่ง
ต่อจำกโรงพยำบำลในสังกัดกองทัพบก เพื่อที่จะสำมำรถให้กำรรักษำพยำบำลได้อย่ำงทั นท่วงทีและเป็ น
มำตรฐำนเดียวกัน
๖. เจ้ำกรมแพทย์ทหำรบก เป็นผู้รับผิดชอบในกำรวำงแผนอำนวยกำรตลอดจนดำเนินกำร
และกำกับดูแลกำรป้องกันเฝ้ำระวังกำรบำดเจ็บจำกควำมร้อนจำกกำรฝึก ให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
รับคำสั่ง ผบ.ทบ.
สำเนำถูกต้อง
พ.อ. เฉลิมพล จันดำ
(เฉลิมพล จันดำ)
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ.
๓ – ๑๗
๔.๔ หน่ วยรับ กำรตรวจที่ มีผ ลกำรตรวจเป็ น คะแนนได้เกิ นกว่ำร้อยละ ๗๐ แต่ไ ม่ถึ ง
ร้อยละ ๘๕ จะต้องพัฒนำคุณภำพชีวิตทหำรกองประจำกำรให้ดีขึ้นทุกปี จนกว่ำผลกำรตรวจมีคะแนนเกิน
ร้อยละ ๘๕ หำกไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ให้พิจำรณำกำรปรับย้ำย ผบ.หน่วย ออกจำกตำแหน่งต่อไป
๕. ให้ห น่วยรับ กำรตรวจและหน่วยต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้กำรสนั บสนุนและอำนวยควำม
สะดวกตำมควำมเหมำะสมที่หน่วยตรวจ/ชุดตรวจ ร้องขอ
----------------------------------------------
๓ - ๑๙
อนุผนวก ๑ (เรื่องและหัวข้อในการตรวจ) ประกอบ ผนวก ก (การตรวจและประเมินผล)
ประกอบคาสั่ง ทบ.ที่ ๖๕/๒๕๔๒ ลง ๓ ก.พ. ๔๒
------------------------------------------------------------
แบบประเมินผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตทหารกองประจาการ
หน่วย.............................................................
คะแนน ผลการตรวจ
ลาดับ รายการ หมายเหตุ
เต็ม ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒
ด้านอาหารและโภชนาการ (๒๐)
๑ คุณภาพอาหารที่นามาประกอบเลี้ยงเหมาะสมกับ ๕
ราคาครบถ้วนตามรายการ และการใช้ค่าประกอบ
เลี้ยงสอดคล้องกับยอดเงินที่หักเบี้ยเลี้ยงทหารกอง
ประจาการ
๒ ผู้ปรุงอาหาร, สภาพโรงครัว, ที่รับประทานอาหาร ๓
และภาชนะที่ใช้ประกอบ, ใส่ หรือตักอาหารสะอาด
ปราศจากเชื้อโรค
๓ อาหารที่นามาปรุงมีคุณค่าทางโภชนาการ มีความ ๖
เพียงพอ รสชาติ สะอาด และน่ารับประทาน
๔ รายการอาหารมื้อกลางวันและเย็นมีกับข้าว ๒ อย่าง ๒
และใน ๑ สัปดาห์ มีอาหารท้องถิ่นหรืออาหารพิเศษ
อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๑ มื้อ
๕ สภาพที่ล้างภาชนะนาไปผึ่งให้แห้งหลังใช้งาน ๒
ด้านเครื่องแต่งกาย เครื่องนอน และของใช้ส่วนตัว
๖ ได้รับครบตามรายการแจกจ่าย และมีคุณภาพ และ ๓
เหมาะสมกับราคา
๗ มีอุปกรณ์ซักรีดเสื้อผ้าให้บริการทหารกองประจาการ ๓
เช่น เตารีด, เครื่องซักผ้า, เครื่องรีดผ้า เป็นต้น
๘ จัดเจ้าหน้าที่บริการซักรีดผ้าเป็นส่วนรวม โดยไม่คิด ๒
ค่าใช้จ่ายหรือคิดในราคาต้นทุน
๓ - ๒๐
คะแนน ผลการตรวจ
ลาดับ รายการ หมายเหตุ
เต็ม ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒
๙ มีร้านค้าจาหน่ายเครื่องหมาย และเครื่องแบบในราคา ๒
ที่ประหยัดและเป็นธรรม
ด้านที่พักอาศัย (๒๐)
๑๐ มีสภาพแวดล้อมโดยรวมของหน่วยเป็นระเบียบ, ๕
สะอาด และร่มรื่น
๑๑ บริเวณอาคารโรงทหารเป็นระเบียบ สะอาด ร่มรื่น ๖
สะดวก สบาย โรงนอนทหารมีการติดมุ้งลวดและ
พัดลมเพดาน
๑๒ มีห้องพักผ่อน และสิ่งอานวยความสะดวก ๖
๑๓ สภาพห้องน้า - ส้วม ทหาร สะอาด และปราศจาก ๓
กลิ่นเหม็น
ด้านสุขภาพ (๑๐)
๑๔ หน่วยระดับกองร้อยมีตู้ยาและเครื่องมือปฐมพยาบาล ๒
๑๕ หน่วยระดับกองพันหรือเทียบเท่า มีสนามฟุตบอล ๒
อย่างน้อย ๑ สนาม
๑๖ หน่วยระดับกองร้อย มีสนามตะกร้อ, สนามวอลเลย์บอล ๒
และโต๊ะปิงปอง
๑๗ หน่วยรักษาพยาบาลให้การดูแลสุขภาพและรักษา ๒
พยาบาลทหารกองประจาการ ในระดับเดียวกับ
ข้าราชการทหาร
๑๘ มีการออกกาลังกายประจาวันอย่างสม่าเสมอ โดย ผบ. ๒
หน่วยทุกระดับเป็นผู้นาออกกาลังกาย
ด้านสวัสดิการอื่น ๆ (๒๐)
๑๙ มีการฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อให้ทหารกองประจาการ ๘
นาความรู้ไปประกอบอาชีพได้จริง หลังปลดประจาการ
๒๐ มีการจัดการศึกษาต่อนอกระบบโรงเรียน ๓
๒๑ มีร้านค้าสวัสดิการจาหน่ายสินค้าที่จาเป็นในชีวิต ๓
ประจาวันราคาถูกกว่าท้องตลาด
๓ - ๒๑
คะแนน ผลการตรวจ
ลาดับ รายการ หมายเหตุ
เต็ม ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒
๒๒ มีร้านตัดผม มีบริการไปรษณีย์ และโทรศัพท์ทางไกล ๔
๒๓ การบริการอื่น ๆ ๒
ด้านคุณธรรมและจริยธรรม (๒๐)
๒๔ มีการอบรมชี้แจงประจาวัน ๓
๒๕ มีการอบรมศีลธรรมตามห้วงเวลา ๓
๒๖ มีการนาทหารไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาตาม ๒
โอกาสอันควร
๒๗ จานวนทหารกระทาผิดวินัย ติดยาเสพติด และ ๖
อบายมุขอื่น ๆ มีน้อยมากหรือไม่มีเลย
๒๘ มีการแสดงออกถึงความมีวินัยที่ดี อาทิ การตบแต่ง ๖
ร่างกาย เครื่องแต่งกาย และการแสดงความเคารพ
เป็นต้น
รวม (๑๐๐)
๓ – ๒๒
--------------------------------------------------------------------
๓ – ๒๓
ข้อเน้นย้ำมำตรกำรนิรภัยในกำรฝึก (เพื่อพลำง)
--------------------------------------------
๔. มำตรกำรนิรภัยเฉพำะ :
๔.๑ การเคลื่ อ นที่ ป ระกอบการยิ ง ของส่ ว นด าเนิ น กลยุ ท ธ์ ในการฝึ ก ทางยุ ท ธวิ ธี
ด้วยกระสุนจริง ให้หลีกเลี่ยงการกาหนดแนวทาง/เส้นทางเคลื่อนที่ที่ตัดหรือทาบทับกัน ทั้ง นี้ให้หน่วย
พิจารณากาหนดมาตรการควบคุมให้รัดกุม เช่น แนวทาง/เส้นทางเคลื่อนที่ แนวขั้นการปฏิบัติ แนวห้ามยิง
แนวจากัดการยิง เป็นต้น
๔.๒ การยิงอาวุธยิงสนับสนุน ประเภทอาวุธยิงเล็งตรง ให้หลีกเลี่ยงการยิงที่มีความเสี่ยง/
ล่อแหลมต่ออันตราย เช่น กาหนดแนวยิงตัดหรือทับแนวเส้นทางเคลื่อนที่ของส่วนดาเนินกลยุทธ์ในแต่ละ
ขั้นการปฏิบัติ ทั้งนี้ให้หน่วยพิจารณากาหนดมาตรการควบคุมให้รัดกุม เช่น ที่ตั้งยิง แนวห้ามยิง แนวจากัด
การยิ ง และที่ หมาย/ต าบลกระสุ นตก เป็ นต้ น โดยให้ พิ จารณาปั จจั ยภู มิ ประเทศเกี่ ยวกับ ความลาดชั น
ความเอียง ของที่ตั้งยิง ลักษณะของที่หมาย ประกอบกับ ขีปนวิธีของอาวุธแต่ละชนิด มุมยก/มุมกด ในขณะ
ทาการยิง อันอาจส่งผลให้หัวกระสุนเกิดการสะท้อน/แฉลบข้ามไปยังบริเวณพื้นที่ด้านหลัง/ด้านข้างของ
ที่หมาย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้
๔.๓ การยิงอาวุธยิงสนับสนุน ประเภทอาวุธวิถีโค้ง ให้หลีกเลี่ยงการยิง ที่มีความเสี่ยง/
ล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การกาหนดที่หมาย/ตาบลกระสุนตกใกล้แนวทหารฝ่ายเดียวกัน การกาหนด
แนวยิง ตัด หรือทาบทับแนวทาง/เส้นทางเคลื่อนที่ของส่วนดาเนินกลยุทธ์ ในแต่ละขั้นการปฏิบัติ ทั้ง นี้
ให้หน่วยพิจารณากาหนดมาตรการควบคุมให้รัดกุม เช่น บัตรปลอดภัย (ระบุมุมทิศ มุมสูง ส่วนบรรจุ)
เขตปลอดภัย (หลักเขตการยิง ซ้าย – ขวา) ที่ตั้งยิง ที่หมาย/ตาบลกระสุนตก แนวห้ามยิง พื้นที่ห้ามยิง
เป็นต้น
๔.๔ การยิ งอาวุ ธ ยิ ง สนั บ สนุ น จากอากาศยาน ให้ ห ลี ก เลี่ ย งการยิ ง ที่ มี ค วามเสี่ ย ง/
ล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การกาหนดที่หมาย/ตาบลกระสุนตกใกล้แนวทหารฝ่ายเดียวกัน การกาหนด
ตาบลปล่อยอาวุธหลังแนวทหารฝ่ายเดียวกัน ทั้งนี้ให้หน่วยพิจารณากาหนดมาตรการควบคุมให้รัดกุม เช่น
เส้นทางบินเข้า ระดับสูงบิน ตาบลปล่อยอาวุธ เส้นทางบินออก และการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วย
บ.และส่วนดาเนินกลยุทธ์
๔.๕ ให้ผู้บังคับหน่วยกวดขัน และดาเนินการให้กาลังพลมีความพร้อม ทั้งในด้านความรู้
ทักษะให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานตามตาแหน่งหน้าที่ นอกจากนั้นให้คานึงถึงความพร้อมทางด้านร่างกาย
และสภาพจิตใจ/ทัศนคติ อันอาจเป็นสาเหตุของอันตรายได้
๔.๖ ให้ ห น่ ว ยที่ เกี่ ย วข้ อ ง ประกอบด้ ว ย หน่ ว ยใช้ หน่ ว ยสนั บ สนุ น โดยตรง หน่ ว ย
สนับสนุนทั่วไป กรมฝ่ายยุทธบริการ ดาเนินการด้านการส่งกาลัง และซ่อมบารุงให้เป็นไปตามระเบียบ ทบ.
ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ และ สป.ในการฝึกได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเบิ ก – จ่าย เก็ บรักษา จาหน่าย ส่งคืน สป.๕ ในการฝึก นอกจากนั้ นในการฝึ กยิง สป.๕ ประเภท
จรวด/อาวุธนาวิถี ให้หน่วยใช้ประสานหน่วยสนับสนุน เพื่อตรวจสภาพก่อนการใช้งาน กรณีการตรวจ
สภาพครั้งล่าสุดได้ดาเนินการมาก่อน ๓ เดือน นับถึงวันฝึกยิง
๓ – ๒๕
---------------------------------------------------------------
ตรวจถูกต้อง
(ลงชื่อ) พ.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา
(สมศักดิ์ รุ่งสิตา)
ผอ.กอง ยก.ทบ.
สาเนาถูกต้อง
พ.อ. เฉลิมพล จันดา
(เฉลิมพล จันดา)
ผอ.กตฝ.สกฝ.ยศ.ทบ.
๓ – ๒๖
ตอนที่ ๒
แนวทางป้องกันทหารใหม่เจ็บป่วย
แนวทางการป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อนสาหรับหน่วยฝึกทหาร
๑.ขั้นเตรียมการ
๑.๑ สาหรับผู้บังคับบัญชา
๑.๑.๑ กากับ ดูแล กวดขันให้หน่วยฝึกทหารใหม่ปฏิบัติตามประกาศกรมแพทย์ทหารบก เรื่องคาแนะนา
ส าหรั บ ผู้ บั งคั บหน่ วย, ผู้ ฝึ ก, ครู ฝึ ก และเจ้ าหน้ าที่ ที่ เกี่ ยวข้ องกั บการป้ องกั น, การปฐมพยาบาล และการ
รักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากความร้อน
๑.๑.๒ กาหนดให้มีการตรวจร่างการทหารใหม่เพื่อคัดกรองผู้ที่มีโรคประจาตัวหรือผู้ที่มีน้าหนักเกิน หรือ
ผู้ที่ติดยาเสพติด รวมถึงดื่มสุราอย่างหนักก่อนเข้ากองประจาการ และมีอาการไข้ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงอาจนาไปสู่การ
เจ็บป่วยจากโรคลมร้อนได้
๑.๑.๓ กากับดูแลให้มีเครื่องวัดความชื้นสัมพัทธ์ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย และสิ่งอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
ขั้นพื้นฐานที่ทันสมัย (ตามคาแนะนาของหน่วยสายแพทย์ในพื้นที่) เพียงพอต่อจานวนกาลังพลของหน่วยและ
พร้อมใช้งานขณะที่ทา การฝึก
๑.๒ สาหรับหน่วยฝึก
๑.๒.๑ ส่งผู้ฝึก, ครูนายสิบ, ครูทหารใหม่ และเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจาหน่วยฝึก เข้ารับการอบรม
จาก รพ.ทบ.ในพื้นที่ เรื่อง การเจ็บป่วยจากความร้อน การประเมินอาการ การปฐมพยาบาล และการส่งผู้ป่วยไป
โรงพยาบาล ให้ครบทุกนาย
๑.๒.๒ เตรียมสิ่งอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและสิ่งอุปกรณ์ช่วยชีวิตพื้นฐานให้ พร้อมใช้ ได้แก่
๑.๒.๒.๑ เปลสนาม ต้องกางออกและวางไว้ในสถานที่ที่หยิบใช้ได้สะดวก พร้อมรับผู้ป่วยเมื่อมีเหตุ
ฉุกเฉินได้ทันที
๑.๒.๒.๒ ถังน้า ขนาด ๒๐๐ ลิตร หรือขนาดตามความเหมาะสมและเติมน้าสะอาดให้เต็มสาหรับ
ใช้เช็ดตัว ใช้ล้างหน้า ต้องมีฝาปิดเพื่ อป้องกันแมลง ฝุ่นละออง หรือใบไม้ไม่ให้ร่วงตกลงสู่ถังซึ่งจะทาให้น้า
มีกลิ่นเน่าเหม็น ไม่สะอาดและอาจทาให้เกิดผื่นคันได้
๑.๒.๒.๓ ผ้าขนหนู ขนาดกว้าง X ยาว ประมาณ ๑๔ X ๒๘ นิ้ว เป็น สี่เหลี่ย มฝืน ผ้าสาหรับ
เช็ดตัวเพื่อลดไข้หรือใช้ชุบน้าสะอาดบิดให้หมาด เช็ดหน้า ขณะพักและใช้คล้องคอบริเวณท้ายทอยใต้ปกเสื้อ
เพื่อ ช่วยลดความร้อน ขณะท าการฝึกกลางแดด ควรมีผ้ าขนหนูป ระจาตัวทหารทุก คนเพราะสามารถ
นามาใช้ในการปฐมพยาบาลผู้เจ็บป่วย จากความร้อนได้ (เช็ดตัวและใช้ป้องกันการกัดลิ้น)
๑.๒.๒.๔ กระบอกฉีดน้า ชนิดพ่นละอองฝอยสาหรับพ่นไปบริเวณรอบ ๆ ตัวผู้ป่วยและเหนือ
ศีรษะของ ผู้รับการฝึก เพื่อให้อุณหภูมิของอากาศบริเวณนั้นต่ากว่าอุณหภูมิร่างกายจึงทาให้ร่างกายระบายความ
ร้อนออกมาได้ ทุกสถานีฝึกและที่ปฐมพยาบาลของหน่วยฝึกต้องมีอย่างน้อยแห่งละ ๕ อัน เติมน้าสะอาดให้เต็ม
เมื่อกดหัวฉีดแล้วน้าพ่นออกมาเป็นละอองฝอยได้ไกล ไม่ตกลงมาเป็นหยดน้าใกล้ตัวซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ
๑.๒.๒.๕ พั ดลม หรือ กระดาษแข็ ง ใช้พั ด เพื่ อ ให้มี ก ารถ่ ายเทเคลื่อ นไหวของอากาศบริเวณ
รอบตัวผู้ป่วย เป็นการช่วยให้เหงื่อและน้าระเหยได้เร็วขึ้นขณะที่ทาการเช็ดตัว เพื่อลดไข้หรือระบายความ
ร้อนออกจากร่างกาย
๓ – ๒๘
๑.๒.๒.๖ รถส่ งผู้ ป่ วย อาจเป็ นรถพยาบาล รถจิ๊ ป หรื อรถกระบะที่ มี อุ ปกรณ์ ช่ วยชี วิ ตพื้ นฐาน
มีอุปกรณ์ ปฐมพยาบาลและมีการระบายอากาศที่ดี โดยน ามาจอดที่ถนนด้านหน้าหน่วยฝึกให้อยู่ในสภาพ
พร้อมส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลได้ทันที และมอบหมายผู้ทาหน้าที่พลขับไว้ด้วย
๑.๒.๒.๗ ยา และเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ช่วยชีวิตพื้นฐานและอุปกรณ์ชุดปฐมพยาบาล ที่จาเป็นของ
เจ้าหน้าที่เสนารักษ์สนามประจาหน่วยฝึก
๑.๒.๒.๘ ไดร์เป่าผม ใช้ลมอุ่นประมาณ ๔๕ องศาเซลเซียส เป่าย้อนรูขุมขนตามบริเวณแขน ขา
และลาตัว ขณะที่เช็ดตัวผู้ป่วยตามไปด้วย เพื่อให้เส้นเลือดฝอยบริเวณผิวหนังขยายตัวซึ่งทาให้มีการระบายความ
ร้อนออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น
๑.๒.๓ เตรียมเอกสารและคู่มือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมไว้ที่ บก.หน่วยฝึก เช่น คู่มือการป้องกันและ
การปฐมพยาบาลการเจ็บป่วยจากความร้อนสาหรับหน่วยฝึกทหาร แผนการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยฝึก
กับ รพ.ทบ./ รพ.สาธารณสุข ในพื้นที่ แบบบันทึกการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน (ข้อมูลส่วน
บุคคลประจาวัน/ข้อมูลการฝึกประจาวัน (บันทึกทุกช่วงเวลาที่กาหนด) จัดทาบอร์ดให้ความรู้เรื่องการป้องกัน
การเกิดการเจ็บป่วยจากความร้อน การประเมินอาการการเจ็บป่วยจากความร้อนจากน้อยไปหามาก การ
ปฐมพยาบาลการเจ็บป่วยจากความร้อน พร้อมผังการไหลของงาน เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเมื่อมี ผู้ป่วยเจ็บ
จากความร้อนขณะนาส่ง รพ.
๑.๒.๔ เตรียมฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ระหว่างเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจาหน่วยฝึก ผช.ครูฝึก และผู้รับ
การฝึก โดยจาลองสถานการณ์ฝึก การประเมินอาการผู้ป่วยจากกรณีศึกษา การปฐมพยาบาล การช่วยชีวิต
พื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร และการส่งผู้ป่วยไป รพ.ตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบในแผนฯ จนเกิดทักษะ
เมื่อมีเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นจะสามารถประเมินอาการเบื้องต้นและให้การปฐมพยาบาลผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที
ถูกต้อง ทาให้ลดอัตรา การเจ็บป่วย/เสียชีวิต/พิการ ในระหว่างการฝึกลงได้
๑.๒.๕ เตรียมประสานกับ รพ.สาธารณสุขในพื้นที่ กรณีที่หน่วยฝึกอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจาก รพ.ทบ. ให้ทา
หนั งสือราชการ ถึงผู้บริหาร รพ.สาธารณสุข ในพื้นที่ ที่ใกล้ที่สุดโดยตรง เพื่อประสานการปฏิบัติกับแพทย์
พยาบาลที่เกี่ยวข้อง ในแนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเจ็บจากความร้อนและปัญหาที่เคยเกิดขึ้ น เพื่อให้
เกิดการขยายเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคลมร้อน ที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี
๒. ขั้นก่อนทาการฝึก หน่วยฝึกควรดาเนินการดังนี้
๒.๑ ประสานงานกั บ ศูน ย์เฝ้าระวังติด ตามสถานการณ์ โรคลมร้อ น ซึ่ ง รพ.ทบ.เป็ น ศูน ย์ กลางจัดตั้ ง ใน
แนวทางต่าง ๆ ที่หน่วยต้องปฏิบัติเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อนในระหว่างการฝึก
๒.๒ การบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล (กาลังพลเป็นผู้บันทึกด้วยตนเองเพียงครั้งเดียว) เพื่อเป็นข้อมูลในการ
ค้นหาปัจจัยเสี่ยงจากบุคคลซึ่งอาจมีปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการเจ็บป่วยจากความร้อนในระหว่างการฝึกได้ เช่น
ความเคยชิน จากความร้อน การออกกาลังกาย โรคประจาตัวและการใช้ยา ฯลฯ
๒.๓ ให้ทาการฝึกสร้างความเคยชินกับความร้อน ใน ๒ สัปดาห์แรก ดังนี้
๒.๓.๑ สัปดาห์แรกไม่ควรฝึกเกินวันละ ๕ – ๖ ชั่วโมง เวลาที่เหลือใช้ดาเนินงานด้านธุรการ เช่น การ
บันทึกข้อมูลส่วนบุคคล การตรวจสุขภาพร่างกาย การฉีดวัคซีน
๒.๓.๒ สัปดาห์ที่ ๒ ไม่ควรฝึกเกินวัน ละ ๗ – ๘ ชั่วโมง เวลาที่เหลือดาเนินงานด้านธุรการ เช่น การ
อบรม เรื่อง สุขศาสตร์ส่วนบุคคล ความรู้เรื่องโรคติดต่อและการป้องกัน การเฝ้าระวังป้องกันการเจ็บป่วยจาก
ความร้อนตามระดับความรุนแรงต่าง ๆ เพื่อการดูแลสุขภาพของผู้รับการฝึกและเพื่อนผู้รับการฝึก (คู่บัดดี้)
๓ – ๒๙
แนวทางการดูแลผู้มีอาการเจ็บป่วยจากความร้อน
ผู้ที่ถูกสงสัยว่ามีอาการเจ็บป่วยจากความร้อน
ยุติการฝึกทันที รายงานผู้บังคับบัญชาสูงสุดให้ทราบ
เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับกาลังพลที่เหลือ
นาผู้ป่วยเข้าที่ร่ม
ประเมินความรู้สึกตัว
ยังพอรู้สึกตัว ไม่มีสติ
จับนอนตะแคงป้องกันการสาลัก
ให้การปฐมพยาบาล
๑. ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด
๒. เช็ดตัวด้วยน้าอุณหภูมิปกติทั้งตัว โดยเช็ดจากปลายมือ ปลายเท้า เข้าสู่หัวใจ (ย้อนรูขุมขน)
๓. พ่นน้าบริเวณรอบ ๆ ตัวผู้ป่วยด้วยกระบอกฉีดน้าเพื่อช่วยระบายความร้อนจากร่างกายผู้ป่วย
๔. ให้ผู้ป่วยนอนในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ใช้พัดลมหรือกระดาษแข็งพัดให้ลมผ่านผิวร่างกายเร็ว
เพื่อให้น้าระเหยจนแห้ง
๕. ถ้าสามารถวัดความดันโลหิต จับชีพจร วัดอัตราการหายใจและวัดอุณหภูมิทางทวารหนักได้ให้ทา และบันทึกไว้
เป็นหลักฐานเพื่อมอบให้กับทาง รพ.ที่รับรักษาไว้
๖. ถ้าผู้ป่วยมีความดันโลหิตต่ากว่า ๙๐/๖๐ mmHg พิจารณาให้ ๐.๙% NSS (Isotonic solution)
ทางเส้นเลือดดา ถ้าทาได้โดยไม่เสียเวลา
๗. รีบนาส่ง รพ.ทบ.โดยเร็วที่สุด
ระหว่างนาส่ง รพ.ทบ.ในพื้นที่ ให้ปฏิบัติในข้อ ๑-๔ อย่างต่อเนื่องต่อไป
เมื่อถึงโรงพยาบาล
๑. Airway การเอาวัตถุออกจากช่องปาก
- นาสิ่งแปลกปลอมในปากออกให้หมด เช่น ฟันปลอม, ทอฟฟี่ ฯลฯ
- ลิ้นตกหรือไม่ ใช้วิธีการเชยคางขึ้น
- ระวังการกัดลิ้นโดยใช้ผ้า
๒. Breathing การดูแลทางเดินหายใจ
- หลังจากนาสิ่งแปลกปลอมออกจากช่องปากแล้ว ให้ดูการหายใจ มีลิ้นตกหรือไม่ ถ้ามีลิ้นตกใช้วิธีการ
เชยคางเพื่อให้มกี ารหายใจดีขึ้น
๓. Circulation ระบบไหลเวียนเลือด
- วัดความดันโลหิต ถ้าต่ากว่า ๑๐๐/๖๐ mm/Hg
- เตรียมการให้สารน้าทางเส้นเลือดด้วย NSS ๖๐ หยด/นาที
๔. Decrease body temperature กระบวนการลดความร้อน
- ใช้กระบวนการลดความร้อนจากร่างกายตามขั้นตอน คือ ถอดเสื้อผ้า, เช็ดตัว, พรมน้าด้วยละอองฝอย
บริเวณรอบตัวผู้ป่วย, ทาให้น้าระเหยด้วยการใช้พัดลม, ใช้ไดร์เป่าผม (ลมอุ่น)
- วัดปรอททางทวารหนัก หรือใช้ปรอทแบบดิจิตอล
๕. Evacuate การส่งกลับ
- นาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โดยเร็วที่สุด พร้อมกับให้การปฐมพยาบาลไปตลอดทางในระหว่าง
นาส่ง รพ.
๓ – ๓๕
ตอนที่ ๓
คําอธิบายเพิ่มเติมการใชเครื่องชวยฝกและอาวุธ
วิธีการใชเครื่องชวยฝกคานฝกเล็ง, ชอนเล็ง, หีบปดเปา และสนามยิงปนเบื้องตน
๑. การใชคานฝกเล็ง
๑.๑ เครื่องชวยฝกคานฝกเล็ง ประกอบดวย
๑.๑.๑ คานฝกเล็ง
๑.๑.๒ แผนศูนยหลังจําลอง ขนาด ๓ x ๓ นิ้ว รูศูนยหลังจําลองเสนผานศูนยกลาง ๑ ซม.
๑.๑.๓ แผนเปาหุนยอสวน ขนาด ๓ x ๓ นิ้ว รูปหุนยอสวนกวาง ๑ ซม., สูง ๑.๕ ซม.
๑.๒ การปฏิบัติ
๑.๒.๑ การจัดศูนยพอดี วิธีการปฏิบัติใหทหารใหม ใชคานฝกเล็งพาดที่บาที่ถนัด และใสแผนศูนย
หลังจําลองที่ชองบากตัวคานฝกเล็ง หางจากรูศูนยตรวจสอบ ๕ ซม.
๑.๒.๒ ใสแผนเปาหุนยอสวนที่ชองบากตัวคานฝกเล็งดานหนาศูนยหนาจําลอง
๑.๒.๓ ใหทหารใหมเล็งที่รูศูนยตรวจสอบผานรูศูนยหลังจําลองและใหศูนยหลังจําลองอยูกึ่งกลาง
ศูนยหนาจําลองทั้งทางดิ่งและทางระดับ
๑.๒.๔ ใหศูนยหนาจําลองอยูกึ่งกลาง รูปเปาหุนยอสวนในจุดวงกลมสีขาว
๒. การฝกเครื่องชวยฝกหีบปดเปา
๒.๑ เครื่องชวยฝกหีบปดเปา ประกอบดวย
๒.๑.๑ หีบปดเปาสําหรับฝกเล็ง ๓ จุด ปดกระดาษสีขาว
๒.๑.๒ หีบพาดปน ( ไมหรือโครงเหล็ก )
๒.๑.๓ ปลย.ของหนวยทีใ่ ชในการฝก (หนวยที่ใช ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๔ จะมีปญหาที่หูกะวินบน และ
ชองใสซองกระสุนจะไมสนิท)
๒.๑.๔ ชอนเล็งที่ปรับปรุงใหม กวาง ๗ ซม. ยาว ๒๕ ซม. ติดรูปเปาหุนยอสวนตามชนิดอาวุธ เชน
ปลย.๑๑ ใชรูปเปาหุนยอสวน ๒๐๐ เมตร, ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑ ใชรูปเปาหุนยอสวน ๒๕๐ เมตร, ปลย.เอ็ม.๑๖
เอ.๒, เอ.๔ หรือ ทาโวร ใชรูปเปาหุนยอสวน ๓๐๐ เมตร และดานตรงขามใหติดรูปเปาหุนยอสวน ๕ : ๓ ทุกชนิด
๒.๑.๕ ชอนเล็งถาฝกในระยะ ๒๕ เมตร ใหเจาะรูเสนผานศูนยกลาง ๑ ซม. และถาฝกในระยะ
๑๕ เมตร ใหเจาะรูเสนผานศูนยกลาง ๐.๖ ซม. (ตัวอยางในคําแนะนํา)
๒.๒ การปฏิบัติ
๒.๒.๑ ใหวางหีบปดเปาในพื้นที่ฝก ที่เสมอและเมื่อทดลองขยับไปมาไมเคลื่อนไหว
๒.๒.๒ ใหวางหีบพาดปนอยูตรงขามกับหีบปดเปาระยะ ๒๕ เมตร หรือ ๑๕ เมตร แลวแตพื้นที่ฝก
ใหเปนแนวเดียวกัน และนําอาวุธที่หนวยใชวางพาดที่หีบพาดปนโดยวิธีจัดเสนเล็งใหตรงกลางบริเวณหีบปด
เปาที่ปดกระดาษสีขาวไว
๓ – ๓๖
--------------------------------
ตัวอยางชอนเล็งที่ปรับปรุงแกไขของ ปลย.๑๑, ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑, ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๒
ปลย.๑๑ ใชเปาหุนยอสวน ระยะ ๒๐๐ ม. ฝกเล็งระยะ ๒๕ ม. และการฝกระยะ ๑๕ ม. ใชยออัตราสวน ๕ : ๓ จากเปาหุนยอสวน ระยะ ๒๐๐ ม.
๔ ๑
๕
๒ ๓
๑
ฝกเล็ง ระยะ ๑๕ ม.
ฝกเล็ง ระยะ ๒๕ ม.
แผนเล็ง ๓ จุด ปลย.๑๑
วงกลมตรวจกลุมกระสุน ระยะ ๑๕ ม.
วงกลมตรวจกลุมกระสุน ระยะ ๒๕ ม.
๖
๖
ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑ ใชเปาหุนยอสวน ระยะ ๒๕๐ ม. ฝกเล็งระยะ ๒๕ ม. และการฝกระยะ ๑๕ ม. ใชยออัตราสวน ๕:๓ จากเปาหุนยอสวน ระยะ ๒๕๐ ม.
๓ - ๓๗
๑
๔
๕
๒ ๓
๑
ฝกเล็ง ระยะ ๑๕ ม.
ฝกเล็ง ระยะ ๒๕ ม.
วงกลมตรวจกลุมกระสุน ระยะ ๑๕ ม.
๖
แผนเล็ง ๓ จุด ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑
วงกลมตรวจกลุมกระสุน ระยะ ๒๕ ม.
๖
ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๒ ใชเปาหุนยอสวน ระยะ ๓๐๐ ม. ฝกเล็งระยะ ๒๕ ม. และการฝกระยะ ๑๕ ม. ใชยออัตราสวน ๕ : ๓ จากเปาหุนยอสวน ระยะ ๓๐๐ ม.
๔ ๒ ๓
๕
ฝกเล็ง ระยะ ๒๕ ม.
ฝกเล็ง ระยะ ๑๕ ม.
วงกลมตรวจกลุมกระสุน ระยะ ๒๕ ม.
๖
๓ - ๓๘
๔ ๒
-- กวาง ๐.๕ ซม. ๑
-- สูง ๑.๕ ซม.
๕ ซม.
๒๐ ซม.
แผนเปาหุนยอสวน แผนศูนยหลังจําลอง
- ขนาด ๓.๓ นิ้ว - ขนาด ๓.๓ นิ้ว
๓ - ๓๙
- รายละเอียดตัวเปาหุนยอสวน - รายละเอียดรูปศูนยหลังจําลอง
ตามขอ ๔ ตามขอ ๒
*****************************************
๓ – ๔๑
ตอนที่ ๔
เครื่องชวยฝกปนเล็กยาว เอ็ม.๑๖ จําลอง ประกอบอุปกรณการเล็งดวยแสงเลเซอร
ศูนยอํานวยการสรางอาวุธ ศูนยการอุตสาหกรรมปองกันประเทศ และพลังงานทหาร ไดแจกจาย
เครื่องชวยฝกปนเล็กยาว เอ็ม.๑๖ จําลอง (ภาพที่ ๑) ใหกับ ทบ. โดยมอบให ยศ.ทบ.แจกจายใหกับหนวย
เพื่อใชในการฝกแทน ปลย.เอ็ม.๑๖ ซึ่งเปนยุทโธปกรณหลัก โดยเครื่องชวยฝกดังกลาวมีรูปรางและน้ําหนัก
ใกลเคียงกับ ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑ สามารถติดดาบปลายปน ขาทราย และซองกระสุนได มีชุดโครงลูกเลื่อน
จําลองสามารถลั่นไกได แตไมสามารถยิงดวยกระสุนจริงได โดยหนวยสามารถนําไปใชฝกบุคคลทาอาวุธ,
การถอดประกอบ ตลอดจนการฝกบุคคลทําการรบในเรื่องที่ไมมีการใชกระสุนซอมรบหรือกระสุนจริงได
เพื่อใหการใชงานเครื่องชวยฝก ปลย.เอ็ม.๑๖ จําลอง เกิดประโยชนสูงสุด ยศ.ทบ.ไดนํามาปรับปรุง
ประกอบเขากับระบบการเล็งดวยแสงเลเซอร (ภาพที่ ๒ - ๔) เพื่อใหสามารถทําการฝกการเล็งและการลั่นไก
ใหเกิดความชํานาญกอนการยิงปนดวยกระสุนจริง ดังนั้นจึงขอใหหนวยนําเครื่องชวยฝก ปลย.เอ็ม.๑๖ จําลอง
ไปใชในการฝก โดยเฉพาะการฝกทหารใหม เพื่อใหเกิดประโยชนและเพิ่มประสิทธิภาพการฝกตอไป
เลเซอร
สวิซปิ ด – เปิ ด
ทอ PVC
สายยู ทองเหลือง
แผงวงจรประกอบด้วย ๒ ส่วนตามภาพ
ลังถาน + แบตเตอรี่
สายไฟจากแผงวงจรไป - เลเซอร
๓ – ๔๒
ภาพที่ ๓
การติดตั้งเลเซอร (ปลย.เอ็ม.๑๖ จําลอง ศูนยหนา)
ภาพที่ ๔
ปลย.เอ็ม.๑๖ จําลอง ประกอบเสร็จเรียบรอยแลว
๓ – ๕๒
การตอสูตัวตอตัวดวยไมหุมนวม
๓ – ๕๓
การพัฒนาความสมบูรณแข็งแรงทางรางกายสําหรับทหารใหม
กลาวนํา
การรบเปนกิจกรรมที่ตองใชแรงกายแรงใจอยางสูงสุด หากทหารไมถึงพรอมดวยสมรรถภาพรางกาย
ที่สมบูรณแข็งแรงแลวไซรยอมไมสามารถทําการรบอยางมีประสิทธิภาพ
รางกายที่แข็งแรงเปนพื้นฐานของการฝกทางยุทธวิธีทุกรูปแบบ ไมวาจะเปนบุคคลหรือเปนหนวยและ
การฝกทางยุทธวิธีที่มีประสิทธิภาพจะตองฝกซ้ําบอย ๆ จนเกิดความชํานาญนี่คือเหตุผลที่ทหารจําเปนต อง
มีสมรรถภาพรางกายที่สูงกวาบุคคลในวิชาชีพอื่น ประโยชนของการมีสมรรถภาพรางกายที่แข็งแรงในดานอื่น ๆ
ไดแก การลดอาการเจ็บปวย, การทนทานตอความเหน็ดเหนื่อยจากการฝก, การมีลักษณะทหารที่เขมแข็ง
สงาผาเผยเปนที่เลื่อมใสของคนทั่วไปทําใหเกิดความรวมมือรวมใจภายในหนวยในการปฏิบัติงานเปนทีม
ระดับสมรรถภาพรางกายของทหารคนหนึ่งยอมมีผลกระทบโดยตรงตอความพรอมรบของหนวยเปน
สวนรวมดวย บทเรียนจากประวัติศาสตรไดบงไวชัดเจนวาสมรรถภาพรางกายมีบทบาทสําคัญตอประสิทธิภาพ
การรบ ทหารที่มีสมรรถภาพรางกายที่ดีไมเพียงแตเปนทรัพยากรบุคคลที่มีคาของกองทัพ แตยังเปนผูที่สามารถ
ดํ ารงชี วิ ต ได อย างมีความสุ ข มีลั กษณะทหารองอาจผึ่ งผายเป น ที่ เ ลื่ อมใสของบุ คคลทั่ว ไป และทําให เ กิ ด
ภาพลักษณที่ดีตอกองทัพบก การดูแลใหกําลังพลในหนวยมีสมรรถภาพรางกายอยูในเกณฑที่กองทัพบกกําหนด
เปนความรับผิดชอบของผูบังคับหนวยทุกระดับ
ความรับผิดชอบของผูนําหนวย
การพัฒนาสมรรถภาพรางกายจะไดผลหรือไมขึ้นอยูกับประสิทธิภาพของผูนําหนวย โดยเฉพาะผูนํา
หนวยอาวุโสจะตองปฏิบัติตนเปนตัวอยางและควรเขารวมในโปรแกรมการออกกําลังกายอยูเสมอ กลาวคือ
ตองเปนตัวอยางในการออกกําลังกาย
การจั ด ทําโปรแกรมการพัฒ นาสมรรถภาพร างกายจะต องมี การวางแผนที่ ดี หากทําโดยขาดการ
วางแผน และการจัดการที่ดีจะเปนผลเสียตอขวัญและกําลังใจของหนวย โปรแกรมที่ดีจะทําใหการพัฒ นา
สมรรถภาพรางกายไดผลเหมาะสมกับ เวลาผูนํ าหนวยต องประเมินระดับสมรรถภาพร างกายของกําลั ง พล
ในหนวยอยูในเสมอ เพื่อตรวจสอบวายังตองปรับปรุงในดานใด แลวปรับโปรแกรมใหสอดคลอง
หากพบวากําลังพลคนใดมีสมรรถภาพรางกายที่ต่ํากวาเกณฑหรือมีสภาพรางกายที่ไมอาจพัฒนาใหมี
สมรรถภาพรางกายไดถึงเกณฑมาตรฐาน ก็อาจตองจัดโปรแกรมเปนพิเศษใหกําลังพลดังกลาว ซึ่งตองพิจารณา
เปนราย ๆ ไป ทั้งนี้เวลาที่จัดไวสําหรับการพัฒนาสมรรถภาพรางกายของกําลังพลจะตองใชใหเกิดประสิทธิภาพ
สูงสุดโดยจะตองหลีกเลี่ยงเหตุการณดังตอไปนี้
• การขาดการเตรียมการหรือเตรียมตัวของผูบังคับหนวยเอง
• จัดกลุมที่ใหญเกินไปใหคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบ
• การฝกไมหนักพอทําใหไมเกิดการพัฒนา
• พัฒนาการชาเกินไปจนกําลังพลเบื่อหรือเร็วเกินไปจนเกิดการบาดเจ็บจํานวนมาก
• เนนพิธีการและรูปแบบมากเกินไป (เชนใหหนวยวิ่งเปนแถวชา ๆประกอบการรองเพลงหรือเนน
ความพรอมเพรียงเขาจังหวะ, ออกกําลังทาเดิม ๆ ซ้ํา ๆ ทุกวันเปนตน)
• สิ่งอํานวยความสะดวกไมเพียงพอตองเขาคิวยาวเพื่อรอใชอุปกรณออกกําลังกาย
• ใชเวลาพักนานเกินไปจนไมพัฒนา
๓ – ๕๔
องคประกอบของสมรรถภาพรางกาย
สมรรถภาพรางกายมีองคประกอบหลัก ๔ องคประกอบ คือ :
1. ความทนทานในระบบไหลเวียนโลหิต(Cardiorespiratory (CR) Endurance) เปนความสามารถ
ของรางกาย ในการนําเอาออกซิเจนและสารอาหารที่จําเปนไปสูกลามเนื้อ และนําของเสียออกจากเซลล
เนื้อเยื่อกลับมาฟอก ในทีน่ ี้จะใชคําเรียกวาระบบแอโรบิก
2. กํ า ลั ง และความทนทานของกล า มเนื้ อ (Muscular Strength and MuscularEndurance)
ความแข็งแรงของกล ามเนื้ อเป น ความสามารถสู งสุ ด ในการออกแรงของกล ามเนื้ อต อแรงต านในหนึ่ ง ครั้ ง
(เชนการยกของหนัก, การออกแรงดึงหรือดัน) สวนความทนทานของกลามเนื้อ คือ ความสามารถของกลามเนื้อ
ในการออกแรงเคลื่อนที่แบบซ้ํา ๆ ตอแรงกระทําเปนระยะเวลานาน
3. ความยืดหยุน (Flexibility) คือความสามารถของขอ (เชนเขา, ศอกฯลฯ) ในการเคลื่อนไหวใน
แตละทิศทางตามปกติ
4. ความสมสวนของรู ปร า ง (Body Composition) ปริ มาณไขมัน ในร างกายเมื่อเปรี ยบเทียบกับ
มวลกายทั้งหมด (total body mass) อยูในเกณฑที่เหมาะสม
การออกกําลังกายอยางถูกตองเหมาะสม จะทําใหทหารสามารถพัฒนาสมรรถภาพรางกายไดครบ
ทุกองคประกอบตามศักยภาพของแตละคน
โปรแกรมสําหรับหนวย
ผูบังคับหนวย จึงควรกําหนดโปรแกรมการออกกําลังกายใหเหมาะสมกับหนวยของตน กําลังพลแตละคน
ก็มีสมรรถภาพรางกายแตกตางกัน การออกกําลังกายบางแบบ เชน การวิ่งควรจัดกลุมทีมี่สมรรถภาพใกลเคียงกัน
แทนที่จะใชโปรแกรมแบบเดียวกันทั้งหนวย หนวยขนาดกองรอยควรจะแบงเปนกลุมประมาณ ๓ ถึง ๖ กลุม
ในการฝกวิ่งของกลุมทหารในกลุม ควรจะวิ่งดวยอัตราชีพจรฝกของตน เมื่อทหารคนใดเห็นวาความเร็วของกลุ ม
ในการวิ่งไมหนักพอที่จะทําใหชีพจรเตนถึงชีพจรฝก ก็ควรยายไปยังกลุมที่ใชโปรแกรมที่หนักกวา
การจัดกลุมวิ่งตามสมรรถภาพควรมีจุดมุงหมาย ๒ ประการ คือ
๑) ชวยใหทหารพัฒนาระดับสมรรถภาพรางกายใหถึงจุดสูงสุด
๒) ชวยใหทหารที่มีสมรรถภาพรางกายต่ํากวามาตรฐาน สามารถพัฒนาสมรรถภาพรางกายใหถึง
เกณฑที่ ทบ. กําหนด
ทหารที่ มี สมรรถภาพร างกายอยู ในเกณฑ สู ง ๆ ควรสนั บสนุ นให พั ฒนาให สู งขึ้ นอี ก ไม ควรให มาวิ่ ง
ในอัตราเร็วที่ชา ๆ ตามกําลังพลสวนใหญ ในกลุมที่มีสมรรถภาพรางกายต่ํากวามาก ๆ เพราะนอกจากจะทํ าให
ขาดความทาทายแลวผานไปนาน ๆ กําลังพลเหลานี้จะเสียขวัญ และขาดแรงจูงใจในการพัฒนาสมรรถภาพรางกาย
ไปดวย ดังนั้นจึงขอใหผูฝกและครูฝกทหารใหม ที่เกี่ยวของปฏิบัติตามคูมือการพัฒนาสมรรถภาพรางกายทหาร
พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทําตารางการพัฒนาความสมบูรณแข็งแรงทางรางกายของทหารใหมของหนวยฝกฯ ตนเอง
๓ - ๕๖
ตารางการพัฒนาความสมบูรณ์แข็งแรงทางร่างกายของทหารใหม่
สัปดาห์ที่ การปฏิบัติ
เดิน - วิ่งเร็ว ท่าลุกนั่ง, หมายเหตุ
สัปดาห์ที่ ๑ วัน วิ่งช้า วิ่งปานปลาง ทดสอบร่างกาย
สลับวิ่ง สลับวิ่งช้า ดันพื้น,ดึงข้อ
จันทร์ การวอมล์ก่อน
๐๕๓๐- / - - - กายบริหาร - และหลัง
๐๗๐๐
อังคาร จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / กายบริหาร การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ และหลัง
พุธ
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
พฤหัสบดี จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
ศุกร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
เสาร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
อาทิตย์
พัก
สัปดาห์ที่ ๒
จันทร์ การวอมล์ก่อน
๐๕๓๐- / / / - กายบริหาร - และหลัง
๐๗๐๐
อังคาร จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
๓ - ๕๗
สัปดาห์ที่ การปฏิบัติ
เดิน - วิ่งเร็ว ท่าลุกนั่ง, หมายเหตุ
สัปดาห์ที่ ๒ วัน วิ่งช้า วิ่งปานปลาง ทดสอบร่างกาย
สลับวิ่ง สลับวิ่งช้า ดันพื้น,ดึงข้อ
พุธ จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐
พฤหัสบดี
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
ศุกร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
เสาร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
อาทิตย์
พัก
สัปดาห์ที่ ๓
จันทร์ การวอมล์ก่อน
๐๕๓๐- / / / กายบริหาร - และหลัง
๐๗๐๐
อังคาร จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
พุธ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐
พฤหัสบดี จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
๓ - ๕๘
สัปดาห์ที่ การปฏิบัติ
เดิน - วิ่งเร็ว ท่าลุกนั่ง, หมายเหตุ
สัปดาห์ที่ ๒ วัน วิ่งช้า วิ่งปานปลาง ทดสอบร่างกาย
สลับวิ่ง สลับวิ่งช้า ดันพื้น,ดึงข้อ
ศุกร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
เสาร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
อาทิตย์
พัก
สัปดาห์ที่ ๔
จันทร์ การวอมล์ก่อน
๐๕๓๐- / / / กายบริหาร - และหลัง
๐๗๐๐
อังคาร จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
พุธ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐
พฤหัสบดี จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
ศุกร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
เสาร์
๐๕๓๐- / การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ และหลัง
อาทิตย์
๓ - ๕๙
สัปดาห์ที่ การปฏิบัติ
เดิน - วิ่งเร็ว ท่าลุกนั่ง, หมายเหตุ
สัปดาห์ที่ ๒ วัน วิ่งช้า วิ่งปานปลาง ทดสอบร่างกาย
สลับวิ่ง สลับวิ่งช้า ดันพื้น,ดึงข้อ
สัปดาห์ที่ ๕
จันทร์
๐๕๓๐- / / / กายบริหาร - การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ และหลัง
อังคาร จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
พุธ
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐
พฤหัสบดี จัดกลุ่มตามความสามารถ
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
ศุกร์
๐๕๓๐- / / กายบริหารและ การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ ท่าที่ถูกต้อง และหลัง
เสาร์
๐๕๓๐- / การวอมล์ก่อน
๐๗๐๐ และหลัง
อาทิตย์
พัก
๑. ในสัปดาห์ที่ ๖ - ๑๐ ควรพัฒนาให้ทหารใหม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันได้เป็นส่วนรวม
๒. ให้ผู้ฝึกและครูฝึกที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามคู่มือการพัฒนาสมรรถภาพร่างกายทหารใหม่ พ.ศ.๒๕๕๘
๓ – ๖๐
ตอนที่ ๗
เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวของกับการฝกทหารใหม
เอกสาร/หลักฐาน เพิ่มเติมที่หนวยสามารถหาดูไดจาก คําแนะนําการฝกทหารใหม ประจําปงบประมาณ
แตละปยอนหลัง
๑. วิชาการสอนอบรม เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง (ขอมูลจากหนังสือ เรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร”
จัดทําโดย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแหงชาติ)
๒. คําแนะนํา การสงเสริมการศึกษา ทหารกองประจําการ (กศน.)
๓. เพลงมารชปลุกใจ จํานวน ๒๖ เพลง
----------------------------------------------------------------