Professional Documents
Culture Documents
Vijai English
Vijai English
ความสาคัญปัญหา
ในวิชาภาษาอังกฤษ มักเกิดปั ญหาที่บ่งชี้วา่ ผูเ้ รี ยนไม่สามารถจดจาส่ วนสาคัญของภาษาอังกฤษได้
เช่น คาศัพท์ไวยากรณ์ เป็ นต้น ทั้งนี้ เนื่ องจากผูเ้ รี ยนไม่มีหลักจาที่จะนามาใช้ช่วยให้ตนเองจาได้ทาให้ผเู ้ รี ยน
ไม่สามารถต่อยอดความรู ้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไปได้ ครู ผสู ้ อนจึงได้พยายามสอนซ้ า ทบทวน พร้อมอธิบาย
เพื่อทาให้ผเู ้ รี ยนสามารถจดจา ได้มากขึ้น ถึงกระนั้นก็อาจยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ครู ผสู ้ อนจึงให้ผเู ้ รี ยนหัดทา
แบบฝึ กหัดซ้ า ๆ หลายครั้งเพื่อความเคยชินและซึ มซับความรู ้ที่พึงได้ไปในตัว วิธีการนี้ จะช่วยให้ผเู ้ รี ยนได้
ฝึ กคิดฝึ กตอบ และมีโอกาสใคร่ ครวญบทเรี ยนที่ได้เรี ยนมาก่อนหน้านี้ เป็ นการส่ งเสริ มทักษะให้เกิดขึ้น และ
ยังจะมีผลดีต่อการพัฒนาการเรี ยนในระดับสู งต่อไป
จากปั ญหาที่กล่าวมาข้างต้น ทาให้ผวู ้ จิ ยั สนใจที่จะพัฒนาทักษะในการใช้หลักกริ ยา 3 ช่อง ในภาษาอังกฤษ
ได้อย่างถูกต้องในการเรี ยนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่ งถือว่าเป็ นไวยากรณ์พ้นื ฐาน เพื่อวิเคราะห์ความสามารถใน
การเรี ยนภาษาอังกฤษในการเรี ยนไวยากรณ์ เพื่อเป็ นพื้นฐานที่ดีในการสื่ อสารภาษาอังกฤษให้มี
ประสิ ทธิ ภาพเพียงพอตามที่หลักสู ตรขั้นพื้นฐานกาหนดไว้
ขอบเขตการวิจัย
กลุ่มเป้ าหมาย
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ห้อง 2/4 จานวน 30
ในการวิจยั ครั้งนี้ ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย
1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ให้นกั เรี ยน ทดสอบความรู ้เรื่ อง กริ ยา 3 ช่อง จากชุดทดสอบ
2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการใช้กริ ยา 3 ช่อง นักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2
ได้ คล่องและถูกต้องตามหลักของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
ขอบเขตเนื้อหา
1. การทดสอบความรู ้เรื่ อง กริ ยา 3ช่องของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2
2 .สร้างใบความรู ้เรื่ องกริ ยา 3 ช่อง และแบบฝึ กทักษะเรื่ อง การเติม กริ ยา 3 ช่อง จานวน 20 ข้อ
ประโยชน์ ทคี่ าดว่าจะได้ รับจากการวิจัย
1) ทาให้ทราบวิธีการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้านกริ ยา 3 ช่อง ของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยม
ศึกษาปี ที่ 2
2) เพื่อที่นกั เรี ยนจะได้นาหลักของกริ ยา 3 ช่อง ไปใช้ในประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องตาม
หลักของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
3) ได้ขอ้ มูลที่เป็ นประโยชน์สาหรับ ครู และบุคลากร
๑. ตั้งชื่ อการวิจัยในชั้นเรียน
๒. เขียนโครงร่ างการวิจัยในชั้นเรียน
๔. เก็บรวบรวมข้ อมูล
ผลการวิจัย
การพัฒนาทักษะการกริ ยา 3 ช่อง ในภาษาอังกฤษ ของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 จานวน 11 คน ต่า
กว่าเกณฑ์ จากสาเหตุการผันกริ ยา ในภาษาอังกฤษ ไม่คล่อง ใช้เวลาทั้งสิ้ นประมาณ 4 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน
พฤษภาคม ถึงเดือนสิ งหาคม 2564 โดยแบ่งเป็ น 4 ระยะ
ระยะที่ 1: เป็ นระยะใช้แบบฝึ กทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ โดยสังเกตพฤติกรรมของ
นักเรี ยน ใช้เวลา 1 เดือน (เดือนพฤษภาคม) ผูว้ จิ ยั พบว่า ในช่วงแรกนักเรี ยนการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ใน
ภาษาอังกฤษ ไม่คล่อง ต้องทบทวนบทเรี ยนก่อน หรื อ ต้องมีตวั อย่างให้ดู และมีนกั เรี ยนบ้างคนทาไม่ได้
ส่ วนมากอยูใ่ นระดับควรปรับปรุ งแก้ไข.
ระยะที่ 2: เป็ นระยะใช้แบบฝึ กทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ในภาษาอังกฤษ โดยสังเกตพฤติกรรมการ
การใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ของนักเรี ยน ใช้เวลา 1 เดือน (เดือนมิถุนายน) ผูว้ จิ ยั พบว่า นิสิต
ทาไม่ค่อยได้ เพราะต้องสะกดทุกคา ทาให้การเติมคาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษไม่ตรง ตามเวลาที่
กาหนด แต่เมื่อให้ทาตามความสามารถการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษได้แต่ไม่ต่อเนื่อง อยูใ่ น
ระดับควรปรับปรุ ง.
ระยะที่ 3: เป็ นระยะพัฒนาการการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ และเสริ มแรงทางบวกโดยการ
ชมเชยและให้รางวัล ใช้เวลา 1 เดือน (เดือนกรกฎาคม) ผูว้ ิจยั พบว่านักเรี ยนมีความสมาธิในการใช้คาศัพท์
กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ มากขึ้น ทาได้เร็ วขึ้น แต่ยงั ต้องสะกดทีละคา นักเรี ยนส่ วนมากสามารถใช้
คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ อยูใ่ นระดับพอใช้.
ระยะที่ 4: เป็ นระยะทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการอ่านคาศัพท์กริ ยา 3 ช่องใช้เวลา 1 สัปดาห์
(สัปดาห์แรกของเดือนสิ งหาคม) นักเรี ยนอ่านได้ดีข้ ึน และจะต้องได้รับการพัฒนาทักษะต่อไป
จุดเด่ นของการพัฒนา: การพัฒนาทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ของนักเรี ยนสาเหตุการ
ใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ไม่ถูก ไม่คล่อง ต้องสะกดที่ละคาต้องฝึ กใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องใน
ภาษาอังกฤษ ใหม่ ทาให้ทาไม่ได้ตามเวลาที่กาหนด ซึ่ งผูว้ ิจยั ได้นาเอาแบบพัฒนาทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา
3 ช่องในภาษาอังกฤษ ใช้กบั นักเรี ยน จานวน 1รู ป ในเวลา 4 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ถึงเดือน
สิ งหาคม 2564 โดยแบ่งเป็ น 4 ระยะในช่วงแรกนักเรี ยนใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ไม่ถูก ไม่
คล่องและบ้างคนใช้ไม่เป็ นเลย นักเรี ยนส่ วนมากต้องปรับแก้ไขและทาความเข้าใจในเนื้อหาก่อน เมื่อนา
แบบฝึ กทักษะ มาพัฒนาทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ของนักเรี ยนในช่วงหลังนักเรี ยน
สามารถใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ อยูใ่ นระดับและอยูใ่ นระดับดีข้ ึนและจะต้องได้รับการพัฒนา
ทักษะต่อไป.
ผลทีไ่ ด้ จาการพัฒนา: ผูว้ จิ ยั พบว่า จากการนาแบบฝึ กพัฒนาทักษะความรู ้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกริ ยา 3 ช่องใน
ภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็ น 4 ระยะ ในเวลา 4 เดือน พบว่า การพัฒนาทักษะทักษะความรู ้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ของผูเ้ รี ยน จากที่ผเู ้ รี ยนใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ในภาษาอังกฤษไม่ถูก ไม่คล่อง
มีบางคนทาหรื อเลือกใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ไม่ได้ ต่อมาหลังจากได้ฝึกทักษะการใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ใน
ภาษาอังกฤษแล้วปรากฏว่า สามารถใช้และตัดสิ นใจเลือกใช้คาศัพท์กริ ยา 3 ช่อง ในภาษาอังกฤษได้เร็ วขึ้น
ทันตามเวลาที่กาหนดอยูใ่ นระดับดีมาก และควรได้รับการพัฒนาทักษะต่อไป
บรรณนานุกรม
สื บค้นจาก http://www.dicthai.com/dt_grammar_unit1_words.html หลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ . สื บค้น
เมื่อวันที่ 15 สิ งหาคม พ.ศ.2557.
สนิท ตั้งทวี. ความรู ้และทักษะการใช้ภาษากรุ งเทพฯ : โอเดียนสโตร์ , 2528.
ฑิตยา สุ วรรณชฏ. สั งคมวิทยา. (กรุ งเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช 2527).
อัญชลี สิ งห์นอ้ ย. แนวคิดทางไวยากรณ์ : การศึกษาเชิงวิวฒั นาการ พิษณุ โลก : มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2537.
สื บค้นจาก :http://th.wikipedia.org/wiki/ความรู ้ ความเข้าใจ (knowledge) .สื บค้นเมื่อวันที่ 18 สิ งหาคม พ.ศ.
2557.
สื บค้นจาก http://www.thai-aec.com/กริ ยา 3ช่อง . สื บค้นเมื่อวันที่ 25 สิ งหาคม พ.ศ. 2557.
ภาคผนวก
แบบสั มภาษณ์
ตอนที่ 1 สถานภาพของผู้ตอบแบบประเมิน
คาชี้แจง: โปรดทาเครื่ องหมาย / ลงใน ที่ตรงกับความคิดเห็นหรื อความเป็ นจริ งของท่านมากที่สุด
1. สถานภาพ
นักเรี ยน
2. อายุ
13-14ปี
3. ระดับการศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2
ตอนที่ 2 ความคิดเห็นของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ที่มีต่อกริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ
คาชี้แจง: โปรดทาเครื่ องหมายลงในช่องที่ตรงกับความเป็ นจริ งของท่านมากที่สุด
ปัญหา ความคิดเห็น
ด้ านเหตุผลส่ วนตัว
ด้ านทักษะต่ างๆ
1.การเขียนศัพท์กริ ยา 3 ช่องไม่ค่อยจะถูกต้อง
2. การผันศัพท์กริ ยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษไม่ถูก
1. bring
2. write
3. let
4. find
5. grow
6. persuade
7. mistake
8. cross
9. teach
10. drink
คาชี้แจง แบบฝึ กการแยก Irregular Verb ออกจาก Regular Verb Example: read, feel, play, see
…played..…
listen, do, go, make …listened…
know, help, say, think …helped…
Odd one word out
In each line, choose the word that is different from the others in Past Participle.
1. like, write, forget, eat ……………………………
2. take, bring, cut, clean …………………………..
3. put, buy, cook, teach ……………………………
4. catch, find, answer, lose ……………………….
5. want, tell, win, sit ………………………………
6. sell, build, drink, open …………………………
7. drive, feed, check, shut ………………………..
8. fly, plan, shake, begin …………………………
9. hit, love, hurt, lead …………………………….
10. happen, run, pay, wear ………………………
เฉลยแบบฝึ ก
A.
Base form Past Past Participle Meaning