You are on page 1of 18

• ความท้าทายของอุตสาหกรรม คือ การที่ตน้ ทุนต่างๆที่สงู ขึน้ (ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงและราคาพลังงาน) แต่ CPK สามารถทากาไรได้มากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ โดยการขยายตัวของ

กาไรมาจากรายได้ของยอดขายกว่า 5%
• ผลประกอบการของบริษัท เป็ นที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆที่ดาเนินธุรกิจร้านอาหารซึง่ เผชิญกับปั ญหาการลดลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า แม้ว่าบริษัทจะมีผลการ
ดาเนินงานที่ดี
• ราคาหุน้ ของ CPK ลดลง ในช่วงเดือนมิถนุ ายน โดยมีราคาปั จจุบนั อยู่ที 22.10 ดอลลาร์
• จากการลดลงของราคาหุน้ ทาใหผูบ้ ริหารพูดถึงซือ้ หุน้ คืน (share repurchase) แต่บริษัทมีเงินสดส่วนเกินอยู่นอ้ ย
• การซือ้ หุน้ คืนจานวนมากต้องมีการกูย้ ืมเพื่อมาใช้ในการซือ้ หุน้ คืน ผูบ้ ริหารมีนโยบายที่จะหลีกเลี่ยงการก่อหนีใ้ นงบดุล โดยนโยบายการเงินของบริษัท เป็ นลักษณะ
conservative สอดคล้องกับนโยบายของ Rick Rosenfeld Co-CEO ที่มองว่า งบดุลของบริษัทที่แข็งแกร่งจะช่วยรักษาความสามารถในการกูย้ ืม
• การเพิ่มขึน้ ของอัตราดอกเบีย้ ทาให้ Collyns ได้ตระหนักถึงประโยชนข์องการก่อหนี ้
ก่อตัง้ ในปี 1985 โดยทนายความ Larry Flax และ Rick Rosenfield ใน
เมือง Beverly Hills รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเมนูทมี่ ีชอื่ เสียง
คือ พิซซ่าไก่บาร์บคี วิ

• ในช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2007 บริษัทมี 213 แห่ง ใน 28 รัฐ และต่างประเทศ 6 ประเทศ


• California ยังคงเป็ นศูนย์กลาง (ประมาณ 41% เป็ นร้านที่ตงั้ อยู่ ใน California)
• เป็ นร้านอาหารบรรยากาศแบบสบายๆ (Casual Dining Model) ที่ได้รบั ความนิยมใน
สหรัฐอเมริกา
- มีสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายไม่เป็ นทางการ
- อาหารที่ประกอบจากวัตถุดิบชัน้ ดี
- การนาเสนอที่มีความคิดสร้างสรรค์
มาจาก 3 แหล่ง ได้แก่
1. การขายอาหารในร้านอาหารของบริษัท
2. ค่าลิขสิทธิ์จากร้านอาหารแฟรนไชส์
3. ค่าลิขสิทธิ์จากพันธมิตร Kraft Food ในการขายพิซซ่าแช่เข็ง

ในปี 1996 บริษัทพัฒนาแนวคิด ASAP ร่วมกับ HMSHost เป็ นร้านที่ตงั้ อยู่ในสนามบิน ในการเลือกซือ้ พิซซ่า
และ grab-n-go สลัด และแซนวิช เป็ นร้านอาหารแบบ Fast Casual Dining แต่ยอดขายและการดาเนินงาน
ของ ASAP ไม่เป็ นไปตามที่ฝ่ายบริหารคาดการณ์ ซึง่ หยุดการพัฒนา ASAP ในปี 2007
• ฝ่ ายบริหารเชื่อว่า ความสาเร็จมาจากการเติบโตทัง้ ในประเทศและ
ต่างประเทศ ผ่านการร่วมทุนกับ Kraft Food โดยมาจากการอุทิศเพื่อ
สร้างความพึงพอใจของลูกค้า เมนูท่ีสร้างสรรค์และการให้บริการที่น่า
ประทับใจ แต่ละเมนูมีการใช้วตั ถุดิบที่มีคณ ุ ภาพสูงซึ่งเป็ นสิ่งที่ CPK
ให้ความสาคัญที่สดุ
• ผูร้ ว่ มก่อตัง้ ทัง้ สองมุ่งเน้นการพัฒนาเมนูให้มีความโดดเด่นและสร้าง
ความประทับใจให้กบั ลูกค้า

• ในปี 2007 บริษัทมีการเพิ่มเมนูอาหาร พัฒนาและทดสอบแนวคิดร้านอาหาร • CPK ใช้ 1% ของยอดขายในการทาการตลาดซึง่ น้อยกว่า 3% - 4% ของยอดขาย


รูปแบบใหม่ คือ LA Food Show ซึง่ ถูกสร้างโดย Flax และ Rick Rosenfield ในปี ของร้านอาหารคู่แข่ง เช่น Chili's, Red Lobster, Olive Garden และ Outback
2003 โดย LA Food Show จะนาเสนอประสบการณ์ท่ีมากขึน้ และเมนูท่ี Steakhouse ที่ใช้จ่ายเป็ นประจาทุกปี การใช้จ่ายทางการตลาด ประมาณ
หลากหลายกว่า CPK 50% เป็ นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเมนูอาหาร และอีกครึง่ หนึ่งใช้ในการทากลยุทธ์
การตลาดทั่วไป เช่น การประชาสัมพันธ์ direct mail การจัดโฆษณาภายนอก
และในลักษณะออนไลน์
Restaurant Industry

Full Service Limited Service

Fine Dining Fast Food


Casual Dining Buffet
Restaurant Industry
• บริษท ่ กษาด ้านร ้านอาหาร คาดการณ์ว่ากลุ่มร ้านอาหาร Limited Servise ร ักษาอัตรา CAGR 5 ปี
ั ทีปรึ
ไว ้ที่ 5.5% และสาหร ับ Full Servise อยู่ที่ 5.1%
• สาหร ับ subsector ของ CPK คาดว่าจะเติบโตมากยิงขึ ้ ่ 6.5%
่ นที

่ าทายผู บ
ปั จจ ัยทีท้ ้ ริหารในอุตสาหกรรมร ้านอาหาร

่ มขึ
• ราคาสินค ้าโภคภัณฑ ์ทีเพิ ่ น้
่ งขึน้
• ค่าแรงทีสู
่ ้องการร ับประกันอาหารนอกบ ้านลดลง เนื่ องจากราคาน้ามันทีสู
• Demand ของผู ้ทีต ่ ง
• ความมั่งคังของคร
่ ่
วั เรือนทีลดลง
• ความสนใจในอุตสาหกรรมของนักลงทุน(ผูถ้ อื หุน)

Recent Developments
• ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่เป็ นบวกของ CPK เป็ นเครื่องยืนยันว่าบริษัทเป็ น Safe heaven ของ casual dining sector ในขณะที่บริษัทร้านอาหารอื่นๆมียอดขายและกาไรที่
ก บ เ น
เติบโตน้อยลง รายได้ของ CPK เพิ่มขึน้ ถึง 16% ได้ 159 ล้านดอลลาร์สาหรับไตรมาสสองของปี 2007 โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าลิขสิทธิ์จาก Kraft และ แฟรนไชส์ต่างประเทศ

เพิ่มขึน้ 37% และ 21% ตามลาดับในไตรมาสสอง
• บริษัทมีแผนที่จะเปิ ดสาขาใหม่เพิ่ม 16-18 แห่งในปี 2007 สาหรับแผนการขยายกิจการนีค้ าดหวังเงินลงทุน 85 ล้านดอลลาร์
• บริษัทประสบความสาเร็จในการจัดการค่าใช้จ่าย 2 ตัวที่ใหญ่ท่ีสดุ คือ ต้นทุนแรงงานและอาหาร ต้นทุนแรงงานลดลงจาก 36.6% สู่ 36.3% เมื่อเทียบกับรายได้รวม ส่วน
ต้นทุนอาหารและเครื่องดื่มมีค่าคงที่ประมาณ 24.5% ของรายได้รวม และบริษัทกาลังเริม่ ดาเนินการตัง้ ทีมงานดูแลเกี่ยวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ท่ีปรับเพิ่มขึน้ เช่น ชีส ที่
ราคาเพิ่มจาก 1.37 ปอนด์ไปเป็ น 2 ปอนด์ปอน
ดอลลา อ
ถึ
ต่
ป็
ลั
ด์
ร์
Capital Structure Decision
• คาดการณ์ว่าส่วนผูถ้ ือหุน้ ของ CPK อยู่ประมาณ 226 ล้านดอลลาร์เมื่อสิน้ สุดไตรมาสสอง ด้วยราคาหุน้ ที่ต่ากว่า 20 ดอลลาร์ จะทาให้บริษัทมี Market Cap อยู่ท่ี 644 ล้านดอลลาร์
• ไม่นานมานีบ้ ริษัทพึง่ ออกหุน้ เพื่อปั นผล (stock dividend) 50% ซึง่ จะทาให้เกิดการแบ่งหุน้ ของ CPK จากเดิมถือคนละ 2 หุน้ กลายเป็ นคนละ 3 หุน้
• แม้ว่าจะมีความท้าทายจากการขยายร้านอาหารเพิ่ม 38% ในช่วง 5 ปี ท่ีผ่านมา แต่ CPK ก็ยงั สร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมี ROE 10.1% ในปี 2006 ซึง่ ไม่ได้รบั ประโยชน์
จากการก่อหนี ้
• CPK ใช้เงินที่ได้จากการ IPO ชาระหนีค้ งค้างของบริษัททัง้ หมด ทาให้บริษัทปราศจากการระดมทุนด้วยหนี ้
• CPK รักษาวงเงินสินเชื่อไว้ท่ี 75 ล้านดอลลาร์ โดยดอกเบีย้ จ่ายจะคานวณจาก LIBOR+0.80% โดย LIBOR = 5.36% ทาให้ดอกเบีย้ ของเงินกูข้ องบริษัท = 6.16%
• การที่ราคาหุน้ ของบริษัทตกลงกว่า 10% ทาให้เกิดคาถามว่านีเ้ ป็ นเวลาที่เหมาะสมที่จะซือ้ หุน้ คืนหรือเปล่า รวมถึงการก่อหนีเ้ พิ่มเนื่องจากวงเงินสินเชื่อยังเหลืออยู่มาก ซึง่ การก่อหนี ้
ช่วยให้ลดการจ่ายภาษี ลงได้ 10 ล้านดอลลาร์ในปี 2006
Suggested Questions
1. In what ways can Susan Collyns facilitate the success of CPK?

• บริษัทประสบความสาเร็จในการบริหารต้นทุนที่ใหญ่ท่ีสดุ สองตัว ได้แก่ ต้นทุนแรงงานและต้นทุนวัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม ซึง่ ทาให้บริษัทมีกาไรเพิ่มขึน้


• พัฒนาเมนูใหม่ท่ีหลากหลายโดยใช้วตั ถุดิบที่มีคณ ุ ภาพสูง เพื่อรักษาลูกค้าเดิมและสร้างฐานลูกค้าใหม่
• หลีกเลี่ยงการก่อหนี ้ เนื่องจากนโยบายของบริษัทเชื่อว่างบดุลที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการกูย้ ืมเมื่อถึงเวลาจาเป็ น
• ผูบ้ ริหารควรเพิ่ม ROE ด้วยการก่อหนีเ้ พิ่มขึน้ ในระดับที่เหมาะสม และการก่อหนีย้ งั ช่วยลดภาระภาษี เงินได้นิติบคุ คล
2. Using the scenarios in case Exhibit 9, what role does leverage play in affecting the return on equity (ROE) for CPK? What about the cost of capital? In
assessing the effect of leverage on the cost of capital, you may assume that a firm’s CAPM beta can be modeled in the following manner:
βL = βU[1 + (1 − T)D/E], where βU is the firm’s beta without leverage, T is the corporate income tax rate, D is the market value of debt, and E is the
market value of equity.

ROE = (Net Income × 100) ÷ Equity

ROE = (Profit ÷ Revenue) × (Revenue ÷ Capital) * (Capital / Equity)

จะเห็นว่า ROE ในแต่ละ Scenario สูงขึน้ เมื่อบริษัทมี Debt/Total Capital เพิ่มขึน้ เมื่อพิจารณาจากสูตร ROE ประกอบไปด้วย 3 ส่วน โดยส่วนที่สาม คือ การก่อหนี ้ ถ้าหากว่า
บริษัทมีก่อหนีเ้ พิ่มขึน้ จะส่งผลให้ ROE สูงขึน้
2. Using the scenarios in case Exhibit 9, what role does leverage play in affecting the return on equity (ROE) for CPK? What about the cost of capital? In
assessing the effect of leverage on the cost of capital, you may assume that a firm’s CAPM beta can be modeled in the following manner:
βL = βU[1 + (1 − T)D/E], where βU is the firm’s beta without leverage, T is the corporate income tax rate, D is the market value of debt, and E is the
market value of equity.

เมื่อเปรียบเทียบทัง้ 4 scenario บริษัทมีการก่อหนีเ้ พิ่มขึน้ จะทาให้


WACC ของบริษัทลดลง
3. Based on the analysis in case Exhibit 9, what is the anticipated CPK share price under each scenario?
How many shares will CPK be likely to repurchase under each scenario? What role does the tax deductibility of interest play in encouraging debt financing at
CPK?
3. Based on the analysis in case Exhibit 9, what is the anticipated CPK share price under each scenario?
How many shares will CPK be likely to repurchase under each scenario? What role does the tax deductibility of interest play in encouraging debt financing at
CPK?

จาก Exhibit 32.9 บริษัทมีการก่อหนีเ้ พิ่มขึน้ ในแต่ละ Scenario ทาให้มีดอกเบีย้ จ่ายเพิ่มขึน้ แตกต่างกันไป ส่งผลให้ EBT & Income tax ลดลง
และทาให้ Net income ลดลง
4. What capital structure policy would you recommend for CPK?

จากการคานวณในข้อ 2 และ ข้อ 3 ทางกลุ่มคิดว่า บริษัทควรมีโครงสร้างเงินทุนโดยมีสัดส่วนหนีเ้ ป็ น 30 % ต่อเงินทุนทัง้ หมด เนื่องจาก


• เมื่อเปรียบเทียบทัง้ 3 scenario แล้ว ในกรณีมีการก่อหนีท้ ่ี 30 % บริษัทจะมีตน้ ทุนของเงินทุนต่าที่สดุ (WACC) โดยอยู่ท่ี 6.44 % และมีอตั รา
ผลตอบแทนผูถ้ ือหุน้ (ROE) ที่สงู สุด คือ 11.1%
• เมื่อบริษัทก่อหนี ้ บริษัทจะได้รบั ผลประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายดอกเบีย้ เพิ่มขึน้ ส่งผลให้ EBT ลดลง และทาให้ช่วยลดค่าใช้จ่าย
ทางภาษี ของบริษัทลงได้
5. What is the case for not doing the recapitalization?

• ถ้าหากบริษัทไม่มีการปรับโครงสร้างเงินทุน หมายความว่า บริษัทจะระดมทุนด้วยการใช้ส่วนของผูถ้ ือหุน้ ทัง้ หมด โดยไม่ใช้หนีเ้ ลย เท่ากับว่า บริษัท


จะมีกระแสเงินสดที่ได้มาจากการดาเนินงานเท่านัน้ ในการใช้เป็ นเงินทุนหมุนเวียน เงินลงทุนขยายกิจการ รวมถึงการเพิ่มผลตอบแทนให้ผถู้ ือหุน้
• การใช้โครงสร้างเงินทุนโดยปราศจากหนีท้ าให้ ROE ต่าที่สดุ เนื่องจากไม่มีตวั leverage มาขับเคลื่อน ROE และ WACC สูงที่สดุ เนื่องจากไม่มี
ส่วนของหนีซ้ ง่ึ มีตน้ ทุนที่ต่ากว่ามาถ่วงนา้ หนัก และ Net income สูงที่สดุ เนื่องจากบริษัทไม่มีภาระดอกเบีย้ จ่าย

6. What should Collyns recommend

บริษัทมีนโยบายทางการเงินในลักษณะ Conservative จึงทาให้บริษัทอาจจะมีตน้ ทุนทางการเงินที่สงู กว่า จึงแนะนาว่าบริษัทควรปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการก่อหนีบ้ า้ งใน


ปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนทางการเงินลงบ้าง เพราะต้นทุนทางการเงินจากหนีน้ นั้ น้อยกว่าส่วนของผูถ้ ือหุน้ เงินทุนยังเท่าเดิมแต่บริษัทจะมีตน้ ทุนของเงินทุนลดลง
THANK YOU

1. Mr.Jetsada Prasomsri 6250334


2. MissThanchanok Chatarat 6250339
3. Mr.Witsarut Kaewmaha 6250344

Group C

You might also like