You are on page 1of 19

Case Analysis Report

Case 32

MGMG664 : Study Case in Finance


College of Management Mahidol University (CMMU)
Academic Year 2/2021
List of Content
Overview 3
1. In what ways can Susan Collyns facilitate the success of CPK? 13
2. Using the scenarios in case Exhibit 9, what role does leverage play in affecting the return on equity (ROE) for CPK? 14
3. Based on the analysis in case Exhibit 9, what is the anticipated CPK share price under each scenario? 15
4. What capital structure policy would you recommend for CPK? 17
5. What is the case for not doing the recapitalization? 18
6. What should Collyns recommend? 18
Team Member 19
Overview
California Pizza Kitchen

ในช่วงต้นเดือน กรกฎาคม ปี 2007 ทีมงานด้านการเงินของ บริ ษทั California Pizza ที่นาํ โดยคุณ Susan Collyns CFO
ของ CPK ได้ทาํ การรวบรวมผลประกอบการ ณ ไตรมาสที่ 2 ในปี 2007 ในขณะที่อุตสาหหกรรมอาหารกําลังเผชิ ญหน้ากับ
ต้นทุนต่างๆที่สูงขึ้น ทั้งค่าแรง และราคาพลังงานที่ปรับตัวสู งขึ้น แต่ CPK ยังสามารถทํากําไรได้มากถึง 6 ล้านดอลลาร์ โดยการ
ขยายตัวของกําไรมาจาก รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 5% โดยผลประกอบการนี้เป็ นไปตามที่บริ ษทั คาดการณ์ไว้

ผลประกอบการของบริ ษทั เป็ นที่น่าประทับใจ เมื่อเปรี ยบเทียบกับร้านอาหารทัว่ ไปหลายแห่ งที่ประสบปั ญหาลูกค้า


ลดลงอย่างมาก แม้จะมีผลการดําเนินงานที่ดี แต่ความยากลําบากก็คือราคาหุ้นของ CPK ลดลง 10% ในช่วงเดือนมิถุนายน โดยมี
ราคาอยู่ที่ $22.10 จากการลดลงของราคาหุ้นทําให้ผบู ้ ริ หารมีการพูดถึงการซื้ อหุ้นคืน (share repurchase) แต่เนื่ องจากเงินสด
ส่ วนเกินของบริ ษทั มีอยูไ่ ม่มาก ทําให้ตอ้ งมีการจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในการซื้ อหุ้นคืนจํานวนมาก ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี
2000 ผูบ้ ริ หารมี นโยบายที่ หลี กเลี่ ยงการกู้ยืมซึ่ งสอดคล้องกับนโยบายการเงิ นของ Rick Rosenfeld Co-CEO ของบริ ษทั ที่มี
มุมมองว่า งบดุล ที่แข็งแกร่ งจะรักษาความสามารถในการกูย้ ืมในยามจําเป็ นเพื่อการเติบโตในอนาคตของ CPK แต่ดว้ ยอัตรา
ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็ นประวัติการณ์ Collyns จึงได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการก่อหนี้ข้ ึนมา

California Pizza Kitchen (CPK)

Larry Flax และ Rick Rosenfield ก่อตั้ง California Pizza Kitchen ที่แรกในปี 1985 ใน Beverly Hills, California เป็ นที่
รู ้จกั กันดีในเรื่ องของพิซซ่าบาร์ บีคิว - ไก่อบเตาโดยมีแนวคิด "Creative Pizza ในราคาที่ถูก" ซึ่ งได้รับความนิยมอย่างมาก และ
ขยายตัวไปทัว่ ทั้งรัฐและทัว่ โลกตามมาในอีกสองทศวรรษถัดมา ณ สิ้นไตรมาสที่สองของปี 2007 บริ ษทั มีสาขา 213 แห่งใน 28
รั ฐและต่างประเทศอีก 6 ประเทศ ในขณะที่ แคลิ ฟอร์ เนี ยยังคงเป็ นศูนย์กลาง (ประมาณ 41% ของร้ านค้าในอเมริ กาอยู่ใน
แคลิฟอร์ เนีย) รู ปแบบการรับประทานอาหารแบบสบายๆ ได้รับความนิยมทัว่ ทุกภูมิภาคของอเมริ กาด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็ น
มิตรกับครอบครัว พร้อมส่วนผสมที่ยอดเยีย่ มและการนําเสนอที่สร้างสรรค์

California Pizza Kitchen มี ร ายได้ม าจาก 3 แหล่ ง คื อ การขายอาหารในร้ า นอาหารของบริ ษทั เอง ค่ า ลิ ข สิ ทธิ์ จาก
ร้านอาหารแฟรนไชส์ และค่าลิขสิ ทธิ์ จากการเป็ นพันธมิตร Kraft Foods เพื่อขายพิซซ่ าแช่แข็งของ CPK ในร้านค้า ในขณะที่
บริ ษทั ได้ขยายตัวไปไกลกว่าแนวคิดเดิมด้วยแบรนด์ร้านอาหารอื่น ๆ อีกสองแบรนด์ แต่เป้าหมายหลักยังคงอยูท่ ี่การดําเนินงาน
ร้านอาหาร CPK ที่ให้บริ การเต็มรู ปแบบของบริ ษทั ซึ่งมี 170 สาขา

นักวิเคราะห์ประเมินศักยภาพของ CPK ที่บริ ษทั ให้บริ การเต็มรู ปแบบว่าจะเพิ่มขึ้นขึ้นที่ 500 สาขา ทั้งกลุ่มนักลงทุน
และผูบ้ ริ หารมีความมัน่ ใจน้อยลงเกี่ยวกับศักยภาพของความพยายามในการขยายแบรนด์แนวคิดร้านอาหาร ASAP ในปี 1996
บริ ษทั ได้พฒั นาแนวคิดธุรกิจแบบ ASAP เป็ นครั้งแรกด้วยข้อตกลงแฟรนไชส์กบั HMSHost ซึ่ งเป็ นแฟรนไชส์ ASAP ที่ต้ งั อยู่
ในสนามบิน โดยมีการเลือกพิซซ่า สลัด "grab-n-go" และแซนด์วิช ให้เลือกอย่างจํากัด ในขณะที่วิธีน้ ีไม่ใช่แหล่งรายได้หลัก แต่
ฝ่ ายบริ หารก็เห็นถึงความสําเร็ จของแนวคิดการขายแบบ ASAP ที่สนามบิน ซึ่งปัจจุบนั มีจาํ นวน 16 แห่ง
ในช่วงต้นปี 2007 HMSHost และ CPK ตกลงที่จะขยายความร่ วมมือไปจนถึงปี 2012 แต่ความเชื่อมัน่ เกี่ยวกับการใช้
ธุรกิจแบบ ASAP ในที่ๆบริ ษทั เป็ นเจ้าของเริ่ มมีหลากหลายมากขึ้น โดยบริ ษทั เปิ ดตัวครั้งแรกในปี 2000 เพื่อใช้ประโยชน์จาก
การเติบโตของการรับประทานอาหารแบบง่ายๆ อย่างรวดเร็ ว หน่ วยงาน ASAP ที่เป็ นของบริ ษทั เองนําเสนอพิซซ่ า สลัด ซุป
และแซนด์วิช ที่เป็ นที่นิยมมากที่สุดของ CPK พร้อมที่นงั่ ทานในร้านอาหาร

การขายแบบ ASAP ของบริ ษทั ไม่เป็ นไปตามความคาดการณ์ของฝ่ ายบริ หารแม้ว่าจะมีการปรับแนวคิดและต้นแบบ


ร้านอาหารในปี 2003 ฝ่ ายบริ หารจึงตัดสิ นใจหยุดการพัฒนา ASAP ทั้งหมดอย่างไม่มีกาํ หนดในปี 2007 และวางแผนที่บนั ทึก
ค่าใช้จ่ายประมาณ 770,000 เหรี ยญสหรัฐในไตรมาสที่สองเพื่อหยุดการเปิ ดร้านในรู ปแบบธุรกิจแบบ ASAP

แม้ว่าพวกเขาจะมีขอ้ สงสัยเกี่ยวกับเครื อข่ายร้านอาหาร ASAP ที่บริ ษทั เป็ นเจ้าของเอง แต่บริ ษทั และกลุ่มนักลงทุนก็มี
ความยินดีเกี่ยวกับความสําเร็ จและโอกาสของ CPK ที่มีแฟรนไชส์ร้านอาหารบริ การเต็มรู ปแบบในระดับสากล ในช่วงต้นเดือน
กรกฎาคม 2007 บริ ษทั มีสาขาในต่างประเทศ 15 แห่ ง โดยมีแผนเปิ ดให้บริ การมากขึ้นในช่วงครึ่ งหลังของปี 2007 ผูบ้ ริ หารได้
ค้นหาหุ้นส่ วนแฟรนไชส์ที่มีความรู ้ความสามารถที่สามารถปกป้องแบรนด์ของบริ ษทั และสามารถส่ งเสริ มการเติบโตในระดับ
ระหว่างประเทศ โดยข้อตกลงแฟรนไชส์จะให้ทาง CPK จ่ายเงินเริ่ มต้นที่ $50,000 ถึง $65,000 สําหรับแต่ละสถานที่เปิ ด และอีก
ประมาณ 5% ของยอดขายรวม ในสถานที่ต้ งั อยู่ในประเทศจีน (รวมถึงฮ่องกง), อินโดนี เซี ย, ญี่ปุ่น, มาเลเซี ย, ฟิ ลิปปิ นส์และ
สิ งคโปร์ บริ ษทั จึงวางแผนที่จะขยายไปทัว่ โลก โดยจะขยายไปที่เม็กซิโกและเกาหลีใต้ในช่วงครึ่ งหลังของปี 2007

ฝ่ ายบริ หารมองว่าความร่ วมมือของ Kraft Foods เป็ นความคิดในการสร้างแบรนด์ระดับโลก ในปี 1997 บริ ษทั ได้ทาํ
สัญญากับ Kraft Foods เพื่อจัดจําหน่ายพิซซ่ าแช่แข็งยี่ห้อ CPK ถึงแม้ว่ารายได้ในการจัดจําหน่ ายพิซซ่ าแช่แข็งจะน้อยกว่า 1%
ของรายได้ใ นปั จจุบัน แต่ ค่ า ลิ ข สิ ท ธิ์ ของ Kraft Foods มี อ ัต รากํา ไรก่ อ นหัก ภาษี 95% ซึ่ ง นัก วิ เ คราะห์ หลัก ทรั พ ย์ร ายหนึ่ ง
คาดการณ์ว่า นอกจากผลกระทบที่มีอตั รากําไรขั้นต้นสู งต่อผลกําไรของบริ ษทั ยังคงต้องเน้นความต้องการทางการตลาดในการ
เป็ นหุ้นส่วน Kraft Foods ซึ่ง Kraft Foods มีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายเงิน 5% ของยอดขายรวมในตลาดของแบรนด์พิซซ่าแช่แข็ง
ของ CPK ซึ่งราคามากกว่าที่ CPK จ่ายค่าการตลาดของตัวเอง

ฝ่ ายบริ หารเชื่อว่าความสําเร็ จในการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาจากการลงทุนร่ วมกับ Kraft Foods เป็ น


ส่ วนใหญ่เนื่องจาก “การอุทิศตนเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า การสร้างสรรค์เมนูและการบริ การที่ดีประทับใจ” รวมถึงสุ ดยอด
เมนู ที่ใช้วตั ถุดิบคุณภาพสู งเพราะวัตถุดิบเป็ นสิ่ งสําคัญที่สุดใน CPK โดยผูร้ ่ วมก่ อตั้งทั้งสองยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาสู ตร
รายการอาหาร โดยมีรายการอาหารให้เลือกมากมาย “รายการอาหารมีรสชาติที่โดดเด่นและน่าดึงดูดสําหรับลูกค้า” นักวิเคราะห์
เขียน ในขณะที่ บริ ษทั มี รายการอาหารที่ น้อยกว่ าและมี ความเฉพาะเจาะจงสําหรั บบุคคลในแต่ละชนชาติ เพื่ อให้มี ค วาม
ประทับใจ เช่น กุง้ ม้วนสิ งคโปร์ เป็ นอาหารที่โดดเด่นและไม่สามารถพบได้ทวั่ ไป ซึ่งกลยุทธ์น้ ีประสบความสําเร็ จและการวิจยั ที่
ชี้ให้เห็นถึงความเฉพาะเจาะจงของรายการอาหารกระตุน้ ให้มีผคู ้ นเข้ามาลิ้มลองเป็ นจํานวนมาก ดังนั้นเพื่อรักษารายการอาหาร
แบบดั้งเดิมไว้ ผูบ้ ริ หารจึงต้องดูรายงานยอดขายโดยละเอียดปี ละสองครั้งและชะลอการคิดค้นรายการอาหารใหม่ๆที่จะขาย โดย
การเพิ่มรายการอาหารล่าสุ ดของบริ ษทั ในปี 2007 ได้รับการพัฒนาและทดสอบตามแนวคิดร้านอาหารล่าสุ ดของบริ ษทั คือ LA
Food Show ถูกสร้ างโดย Flax และ Rosenfield ในปี 2003 โดยนําเสนอประสบการณ์ สุดหรู แ ละรายการอาหารและราคาที่
มากกว่า CPK โดย CPK มีความสนใจในการเป็ นเจ้าของ LA Food Show ในปี 2005 และวางแผนที่จะเปิ ดสาขาที่สองในต้นปี
2008

นอกเหนือจากการนําเสนอรายการอาหารที่มีความสร้างสรรค์ นักวิเคราะห์ยงั ชี้ให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของราคาอยู่ที่ 13.30


ดอลลาร์ซ่ ึงตํ่ากว่าร้านอาหารหรู อื่นๆ เช่น P.F. Chang's และ the Cheesecake Factory ซึ่งนักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets
ให้ CPK เป็ นผูน้ าํ ในด้าน “การสัมผัสประสบการณ์อาหารสุ ดหรู และราคาที่เหมาะสม”

CPK ใช้ 1% ของยอดขายสําหรับใช้ทาํ การตลาด ซึ่ งน้อยกว่า 3% ถึง 4% ของยอดขายของร้านอาหารคู่แข่งทัว่ ไปเช่น


Chili's, Red Lobster, Olive Garden และ Outback Steakhouse ที่ใช้จ่ายเป็ นประจําทุกปี ฝ่ ายบริ หารรู ้สึกว่าการตลาดแบบปากต่อ
ปากมีค่ามากกว่าสําหรับบริ ษทั ซึ่ งการใช้จ่ายด้านการตลาดจริ งๆแล้วประมาณ 50% ถูกใช้ไปกับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสู ตร
รายการอาหาร ส่ วนอีกครึ่ งหนึ่งใช้ไปกับกลยุทธ์การตลาดทัว่ ไป เช่น การประชาสัมพันธ์, การเสนอขายผ่านทาง Mail โดยตรง,
การจัดงานตามที่สาธารณะ (กลางแจ้ง) และทางออนไลน์

ลูกค้าของ CPK ไม่ได้มีเฉพาะคนที่สนใจและชื่ นชอบเกี่ ยวกับบริ การเท่านั้น แต่ยงั รวมถึ งกลุ่มคนทัว่ ไปด้วย ฝ่ าย
บริ หารมักเน้นลูกค้าหลักมีรายได้ครัวเรื อนเฉลี่ยมากกว่า $ 75,000 ตามการสํารวจความพึงพอใจของลูกค้าประจําปี 2005 ซึ่ ง
CPK คิดว่ารายได้ของฐานลูกค้า มักจะมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น ถ้าราคานํ้ามันที่สูง ก็อาจทําให้
ยอดขายของคู่แข่งลดลงเนื่องจากมีลูกค้าน้อยกว่า

Restaurant Industry

อุตสาหกรรมอาหารแบ่งได้เป็ น 2 Sector หลักๆ คือ แบบ Full service และ Limited service สําหรับส่ วนที่ได้รับความ
นิ ยมสู งสุ ดจะเป็ นแบบการให้บริ การแบบ Full service ซึ่ งรวมถึงการรับประทานอาหารเย็นแบบสบายๆ และอาหารที่เลิศรส
สําหรับอาหารจานด่วนที่เป็ นกันเองและมีความรวดเร็ วเป็ นสองสิ่ งที่ผใู ้ ห้บริ การแบบจํากัดให้ความสําคัญ บริ ษทั ที่ปรึ กษาด้าน
ร้านอาหาร “โครงการ Technomic Information Services” สําหรับร้านอาหารที่บริ การแบบ Limited service มีการรักษาห้าปี อัตรา
CAGR อยู่ที่ร้อยละ 5.5 เปรี ยบเทียบกับแบบ Full service จะอยู่ที่ร้อยละ 5.1 สําหรับ 5 ปี CAGR ของส่ วนงานดําเนินงานของ
บริ ษทั CPK แบบบริ หารเต็มรู ปแบบคาดว่าจะโตมากขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ในปี ที่ผ่านมามีสิ่งท้าทายผูบ้ ริ หารในอุตสาหกรรม
ร้านอาหาร คือ

- ราคาสิ นค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น
- ต้นทุนค่าแรงที่สูง
- ความต้องการที่ลดลงจากราคาแก◌๊ สที่สูง
- ความมัง่ คัง่ ของที่อยูอ่ าศัยทวีความรุ นแรงขึ้น
- ได้รับความสนใจมากในกลุ่มผูถ้ ือหุ้นในภาคอุตสาหกรรม

ราคาแก๊สที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความต้องการในการทานอาหารนอกบ้านในทางอ้อมยังผลักดันให้ราคาโภคภัณฑ์
อาหารสู งขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้นเชื้อเพลิงชีวภาพจากข้าวโพดส่ วนใหญ่คือ เอทานอล มีบทบาทในการผลักดันต้นทุนของอาหาร
ในภาคอุตสาหกรรมร้านอาหาร ร้านอาหารส่วนใหญ่จะตอบสนองโดยการขึ้นราคาเมนูในระดับที่แตกต่างกัน ร้านอาหารนั้นเชื่อ
ว่าการขึ้นราคามีผลกระทบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปริ มาณการออกมารับประทานอาหารนอกบ้านจากราคาที่สูงขึ้นของการซื้ อ
อาหารจากร้านสะดวกซื้อเพื่อไปทานที่บา้ น

ร้านอาหารไม่เพียงแต่รับมือกับต้นทุนสิ นค้าที่สูงขึ้นแต่ยงั มีค่าแรงที่สูงขึ้นด้วย ในเดือนพฤษภาคม 2007 ประธานาธิบดี


บุชได้ลงนามในกฏหมายที่เพิ่มอัตราค่าแรงขั้นตํ่าในช่วงระยะเวลาอีกสามปี เริ่ มตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2007 จาก $5.15 ต่อชัว่ โมง
เป็ น $7.25 ต่อชัว่ โมง ขณะที่ผบู ้ ริ หารร้านอาหารมีเวลาในการเตรี ยมการสําหรับผลของการเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยนี้ พวกเขา
ไม่พร้อมที่จะรับมือกับเกือบ 20 รัฐในปลายปี 2006 ที่ผา่ นการขึ้นค่าจ้างล่วงหน้าตามที่มากกว่าที่เสนอโดยสภา Congress

นอกเหนือจากการแข่งขันที่สูงขึ้นของต้นทุนขาย ร้านอาหารต้องเผชิญกับ gross margins ภายใต้ความกดดันจากการที่


ความต้องการลดลงของการรับประทานอาหารนอกบ้าน เมื่อเร็ วๆนี้แบบสอบถามของ AAA Mid-Atlantic ได้ถามนักท่องเที่ยวว่า
พวกเขาลดการใช้จ่ายจากการที่ราคาแก็สเพิ่มขึ้นได้อย่างไร และร้อยละ 52 ได้ตอบว่าค่าใช้จ่ายเรื่ องอาหารจะถูกตัดเป็ นอันดับ
แรก แม้จะมีข่าวนักวิเคราะห์ของ Deutsche Bank ตั้งข้อสังเกตถึงตัวชี้วดั ความมัง่ มีของผูบ้ ริ โภค หากตัดรายรับและการจ้างงาน
ตราบเท่าที่ผคู ้ นมีงานและรายรับเพิม่ ขึ้น พวกเขาก็จะออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน

ปัจจุบนั ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของอาหารและแรงงานและความกังวลของผูบ้ ริ โภคเน้นความแตกต่างระหว่างอุตสาหกรรม


อาหารและบริ การเต็มรู ปแบบ แฟรนไชส์ได้รับความนิยมมากขึ้นในส่ วนของการให้บริ การที่ จํากัด และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้าน
อาหารและค่าแรงงานเนื่องจากแฟรนไชส์ได้รับยอดขายเป็ นเปอร์เซ็นต์ ค่าลิขสิ ทธิ์ ของยอดขายรวมยังได้รับประโยชน์จากราคา
ที่เพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น บริ ษทั ร้านอาหารที่มีการดําเนินงานแฟรนไชส์ขนาดใหญ่น้ นั ไม่ได้มีเงินลงทุนจํานวน
มากในสถานที่หรื อภาระผูกพันในการเช่าที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่บริ ษทั เป็ นเจ้าของ นักวิเคราะห์บางคนรวมข้อกําหนดของ
สัญญาเช่าดําเนินงานเมื่อพิจารณาการใช้ประโยชน์จากบริ ษทั อาหาร นักวิเคราะห์ยงั เชื่อว่าร้านอาหารที่มีบริ การ จํากัด จะได้รับ
ประโยชน์จากการที่ผูบ้ ริ โภคมีการซื้ อขายลดลงจากกลุ่มธุ รกิจร้านอาหารแบบบริ การเต็มรู ปแบบ การเจริ ญเติบโตของธุ รกิจ
อาหารจานด่วนและการปรับปรุ งคุณภาพอาหารในฟาสต์ฟ้ดู ทําให้การซื้อขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

แนวโน้มระยะยาวสําหรั บความต้องการร้ านอาหารโดยรวมดู แข็งแกร่ งขึ้นมาก การศึ กษาโดยสมาคมร้ านอาหาร


แห่ งชาติคาดการณ์ว่าอัตราส่ วนที่ผบู ้ ริ โภครับประทานอาหารนอกบ้านจะเพิ่มขึ้นจาก 45% ในปี ที่ผ่านมาเป็ น 53% ภายในปี
2010 แนวโน้มเชิ งบวกในระยะยาวอาจช่ วยอธิ บายความสนใจอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมร้ านอาหารโดยผูถ้ ื อหุ้นนัก
เคลื่ อ นไหวซึ่ ง มัก จะเป็ นผูบ้ ริ หารของบริ ษทั เอกชนและกองทุนที่ มี ก ารป้ อ งกันความเสี่ ย ง William Ackman นัก ลงทุ นนัก
เคลื่อนไหวกับ Pershing Square Capital Management ได้ริเริ่ มนักลงทุนนักเคลื่อนไหวที่บงั คับให้ตอ้ งเปลี่ยนร้านอาหารใหญ่ ๆ
ในปั จจุบนั ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจาก Ackman วิพากษ์วิจารณ์ บริ ษทั ของ McDonald ได้มีการประชุมการลงทุนที่นิวยอร์ก
เมื่อปลายปี 2548 บริ ษทั ประกาศว่าจะปลดร้านอาหาร 1,500 แห่ ง, ซื้ อหุ้น 1 พันล้านดอลลาร์ และเปิ ดเผยรายละเอียดผลการ
ดําเนินงานในระดับร้านอาหารมากขึ้น Ackman สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเหล่านี้และสามารถใช้สื่อเพื่อใช้ประโยชน์
จากการถือหุ้นในแมคโดนัลด์ 4.5 เปอร์ เซ็นต์ ความสําเร็ จของเขาไม่ได้ถูกมองข้ามและนักลงทุนรายย่อยที่เป็ นแกนนําคนอื่น ๆ
ต่างก็กดดันอย่างหนักต่อการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ โซ่รวมถึง Applebee’s, Wendy’s และFriendly’s. การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
รวมถึงการขายโดยทันทีของบริ ษทั ยอดขายของหน่วยงานที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักและการปิ ดสาขาที่มีประสิ ทธิภาพตํ่า

ในการตอบสนองโซ่อื่น ๆ เริ่ มดําเนินการตามแผนการที่เป็ นมิตรกับผูถ้ ือหุ้นรวมถึงการเริ่ มต้นโครงการซื้อคืนหุ้น; เงิน


ปันผลที่เพิ่มขึ้น; การลดค่าใช้จ่ายองค์กร และการขายสิ นทรัพย์ทุติยภูมิ Doug Brooks ผูบ้ ริ หารระดับสู งของ Brinker International
Inc. ซึ่งเป็ นเจ้าของ Chili's ตั้งข้อสังเกตในการประชุมเมื่อเร็ ว ๆ นี้:

ในปั จจุบนั อุตสาหกรรมของเราไม่มีปัญหาการขาดแคลนและข่าวล่าสุ ดส่ วนใหญ่ได้เน้นที่การมีส่วนร่ วมของผูถ้ ือหุ้น


นักเคลื่อนไหว…แต่มนั เป็ นหน้าที่ของฉันในฐานะซีอีโอที่ทาํ หน้าที่เป็ นนักเคลื่อนไหวภายใน

ในเดือนเมษายน 2007 Brinker ประกาศว่า บริ ษทั มีหลักประกันที่ไม่ปลอดภัยจํานวน 400 ล้านเหรี ยญสหรัฐมุ่งมัน่ ที่จะ
จัดหาเงินทุนเพื่อธุรกรรมการซื้อคืนหุ้นแบบเร่ งด่วนซึ่งจะมีการซื้อคืนหุ้นสามัญประมาณ 300 ล้านดอลลาร์

Recent Developments

ผลประกอบการไตรมาสสองของ CPK เป็ นบวก จะยืนยันคําสรุ ปของนักวิเคราะห์หลายคนว่า บริ ษทั เป็ นที่หลบภัยใน
การลงทุนในภาคธุ รกิจอาหารแบบไม่เป็ นทางการ (Exhibits 32.2 and 32.3) ประกอบด้วยงบการเงินของ CPK จนถึงวันที่ 1
กรกฎาคม 2550 Exhibit 32.4 แสดงแนวโน้มการขายของร้านค้าที่เปรี ยบเทียบได้สําหรับ CPK และ บริ ษทั อื่น Exhibit 32.5
ประกอบด้วยการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่เลือกสรรสําหรับ CPK ซึ่ งคาดว่ารายได้และการเติบโตของกําไรทั้งหมดจะถูก
คาดการณ์ไว้ มอร์แกนคีแกนแสดงความคิดเห็นในพฤษภาคม:

แม้ จะมีแรงกดดันด้ านการตลาดเพิ่มขึน้ จากการใช้ จ่ายของผู้บริ โภค แต่ แนวคิดของ California Pizza Kitchen ยังคงเพิ่ม
ความพอใจของลูกค้ า ขึน้ อย่ างต่ อเนื่ อง โดยดึ งดูดลูกค้ าที่มีรายได้ สูงและเลือกปฏิ บัติมากขึน้ ครี เอทีฟของ CPK ค่ าเฉลี่ยการ
ตรวจสอบตํา่ และมาตรฐานการบริ การที่ สูงได้ วางแนวคิ ดสําหรั บความสําเร็ จในสภาพแวดล้ อมทางเศรษฐกิ จมหภาคและ
ผู้บริ โภคที่ดีลด้ วยยาก
ในขณะที่ บริ ษทั หรื อร้านอาหารอื่น ๆ ประสบปั ญหายอดขายและกําไรที่ลดลง แต่รายได้ของ CPK เพิ่มขึ้นมากกว่า
16% เป็ น 159 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 2 ของปี 2007 โดยเฉพาะค่าลิขสิ ทธิ์ จากพันธมิตรและแฟรนไชส์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง
37% และ 21% ตามลําดับ ไตรมาส 2 แผนการพัฒนาสําหรับการเปิ ดสถานที่ต้ งั ใหม่ท้ งั หมด 16 ถึง 18 แห่ งยังคงเป็ นไปตาม
กําหนดเวลาสําหรับปี 2007 แผนการระดมทุนของ CPK ในปี 2007 นั้นคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุน 85 ล้านดอลลาร์

บริ ษทั CPK ประสบความสําเร็ จในการจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดในสภาพแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของค่าแรงงาน


และค่าอาหาร โดยต้นทุนแรงงานลดลงจาก 36.6% เป็ น 36.3% ของรายได้รวมจากไตรมาส 2 ของปี 2006 ถึงไตรมาส2 ของปี
2007 ค่าอาหารเครื่ องดื่มและค่ากระดาษยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 24.5% ของรายได้ท้งั หมดในไตรมาส 2 ในปี 2006 ถึง 2007
บริ ษทั ได้ใช้เริ่ มมาตรการหลายอย่างเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านราคาสิ นค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อราคาชีสเพิม่ ขึ้นจาก
$ 1.37 ต่อปอนด์ในเดือนเมษายนเป็ นเกือบ 2.00 ดอลลาร์ ต่อปอนด์ในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ผูบ้ ริ หารรู ้สึกว่าการ
ปรับปรุ งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ประสบความสําเร็ จผ่านการปรับปรุ งการดําเนินงานร้านอาหาร
Capital Structure Decision

มูลค่าหุ้นตามบัญชีของ CPK คาดว่าจะอยูท่ ี่ประมาณ 226 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาสที่สอง ด้วยราคาหุ้นที่ต่าํ ในช่วงปี


20s ทําให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ CPK อยู่ท่ี 644 ล้านดอลลาร์ บริ ษทั เพิ่งออกหุ้นปั นผล 50% ซึ่ งแบ่งหุ้น CPK
อย่ า งมี ประสิ ทธิ ภาพโดยเป็ น 3-for-2 shares basis นั ก ลงทุ น CPK ได้ รั บหนึ่ งหุ้ น เพิ่ ม เติ มสํ า หรั บทุ ก ๆ
สองหุ้ น ของหุ้ น สามั ญ ที่ ถื อ อยู่ ปรั บ เพื่ อ การจ่ า ยเงิ น ปั น ผลหุ้ น Exhibit 32.6 แสดงประสิ ทธิ ภ าพของหุ้ น CPK
เทียบกับของกลุ่มอุตสาหกรรม

แม้จะมีความท้าทายในการเพิ่มจํานวนร้านถึง 38% ในช่วงห้าปี ที่ผา่ นมา แต่ CPK สร้างผลตอบแทนจากการดําเนินงาน


ที่แข็งแกร่ งอย่างต่อเนื่ อง ผลตอบแทนต่อผูถ้ ือหุ้น (ROE) ของ CPK ซึ่ งอยู่ที่ 10.1% ในปี 2006 ไม่ได้รับประโยชน์จากภาระ
ผูกพันทางการเงิน นโยบายทางการเงินมีความหลากหลายในอุตสาหกรรมโดยบางบริ ษทั ยังคงระดมทุนจากส่ วนทุนทั้งหมด
และบางบริ ษทั ใช้เงินกูท้ างการเงินมากกว่าครึ่ ง

Exhibit 32.7 แสดงข้อมูลทางการเงินที่เลือกสําหรับบริ ษทั ที่อยู่ในอุตสาหกรรม เนื่ องจาก CPK ใช้เงินที่ได้จากการ


เสนอขายหุ้น (IPO) ในปี 2543 เพื่อชําระหนี้ของบริ ษทั บริ ษทั จึงจะหลีกเลี่ยงการกูย้ ืมเงิน CPK ยังคงความสามารถในการกูย้ ืม
ภายใต้วงเงินเครดิต 75 ล้านดอลลาร์ที่มีอยู่ ดอกเบี้ยของวงเงินเครดิตคํานวณที่ LIBOR บวก 0.80% ด้วย LIBOR ที่ 5.36% อัตรา
ดอกเบี้ยของสิ นเชื่ออยูท่ ี่ 6.16% (ดู Exhibit 32.8)
การลดลงของราคาหุ้น 10% นี้ดูเหมือนจะทําให้เกิดคําถามว่านี่เป็ นเวลาที่เหมาะสมแล้วหรื อยังในการซื้อหุ้นคืนและใช้
ประโยชน์ทางภาษีจากการกูย้ ืมเงิน กําไรอย่างหนึ่งจากการใช้ประโยชน์คือการลดภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลซึ่ งเกือบ 10 ล้าน
ดอลลาร์ในปี 2549

Exhibit 32.9 แสดงบทสรุ ปทางการเงินของ Tax shield ของ CPK ภายใต้โครงสร้างทุนทางเลือก แต่ถึงกระนั้น CPK
จําเป็ นต้องรักษาความสามารถในการระดมทุนการขยายตัวที่แข็งแกร่ งที่ระบุไว้สําหรับบริ ษทั การใช้เงินทุนเพื่อคืนทุนให้แก่ผู ้
ถือหุ้นจําเป็ นต้องมีความสมดุลกับเป้าหมายการจัดการของการเติบโตของธุรกิจ
1. In what ways can Susan Collyns facilitate the success of CPK?
- ตามนโยบายทางการเงินของ CPK ที่ให้ความสําคัญกับการมีงบดุลที่ดี จะทําให้ CPK มีความสามารถในการกูย้ ืม
ยามจําเป็ นเพื่อการเติบโตในอนาคต ซึ่งทําโดยการลดหรื อหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้โดยไม่จาํ เป็ น
- เพิ่ม ROE โดยการเพิ่มสัดส่ วนของ Asset ให้มากกว่าส่ วนของ Equity โดยการกูย้ ืมมาเพื่อซื้ อ Asset เพิ่ม และยัง
ช่วยลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ในปี 2006 มีมากเกือบ 10 ล้านเหรี ยญ
- เพิ่มงบประมาณในการทําการตลาดมากขึ้น โดยใช้จากยอดขายราว 3-4% เหมือนคู่แข่งรายอื่น โดยเฉพาะสําหรับ
กลุ่มพิซซ่าแช่แข็ง ที่มี gross profit จากค่าลิขสิ ทธิ์ของ Kraft Foods ที่มากถึง 95%
- คิดค้น พัฒนาและรักษาสู ตรอาหารทั้งเมนูเดิมและเมนูใหม่ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามา
- ยังคงร้านอาหารประเภท ASAP เอาไว้ โดยเฉพาะในสนามบิน จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กบั CPK ได้
- เน้นการดําเนินกิจการร้านอาหารที่ CPK เป็ นเจ้าของทั้ง 170 แห่ง และรวมถึงสาขาที่จะขยายเพิ่มในอนาคตอีกด้วย
2. Using the scenarios in case Exhibit 9, what role does leverage play in affecting the return on equity (ROE) for CPK?
What about the cost of capital? In assessing the effect of leverage on the cost of capital, you may assume that a firm’s CAPM
beta can be modeled in the following manner: βL= βU[1 + (1 − T)D/E], where βU is the firm’s beta without leverage, T is
the corporate income tax rate, D is the market value of debt, and E is the market value of equity.
• What role does leverage play in affecting the return on equity (ROE) for CPK?

($ in thousands)
Debt/Total Capital
Actual
10% 20% 30%
Profit 20,299 19,360 18,419 17,480
Equity 25,888 203,299 180,710 158,122
ROE 9.0% 9.5% 10.2% 11.1%
จากตารางจะพบว่า ถ้าบริ ษทั กูเ้ งินเพิ่มมากขึ้น จะส่ งผลให้ ROE มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น (ในกรณี ที่กาํ หนดให้ผลรวม
ของส่วนของทุนกับหนี้คงที่)

• What about the cost of capital?

Debt/Total Capital
Actual
10% 20% 30%
Cost of debt after tax 4.16% 4.16% 4.16% 4.16%
Weight of debt 0% 3.47% 6.86% 10.18%
Weight of equity 100.00% 96.53% 93.14% 89.82%
Cost of equity 8.91% 9.01% 9.10% 9.20%
WACC 8.91% 8.79% 8.67% 8.55%

จากตาราง พบว่า เมื่อบริ ษทั มีการกูเ้ พิม่ ขึ้น จะส่งผลให้ WACC ลดลง เนื่องจากต้นทุนในส่วนของทุน สู งกว่าต้นทุนใน
ส่วนของหนี้
3. Based on the analysis in case Exhibit 9, what is the anticipated CPK share price under each scenario? How many
shares will CPK be likely to repurchase under each scenario? What role does the tax deductibility of interest play in
encouraging debt financing at CPK?
• What is the anticipated CPK share price under each scenario?
How many shares will CPK be likely to repurchase under each scenario?

Debt/Total Capital
($ in thousands, except share data) Actual
10% 20% 30%
Debt for shares repurchase - 22,589 45,178 67,766
Shares Repurchased (thousands) 1,011 1,999 2,965
Shares after repurchased (thousands) 29,130 28,119 27,131 26,165
Price per share ($) 22.1 22.35 22.60 22.86
Net income 20,299 19,360 18,419 17,480
EPS 0.70 0.69 0.68 0.67
P/E ratio 31.7 32.5 33.3 34.2
จากตารางการวิเคราะห์คาดการณ์ในตัวเลือกที่ต่างกัน จะพบว่าหากเพิ่ม Debt to Total Capital เป็ น 10%, 20%, 30% จะ
ทําให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจาก $22.1 เป็ น $22.35, $22.60 และ $22.86 ตามลําดับ และจะมีการซื้อหุ้นคืนเป็ นจํานวน 1.011, 1.999 และ
2.965 ล้านหุ้น ตามลําดับ

การคํานวนราคาหุ้นหลังการซื้อหุ้นคืนและจํานวนหุ้นที่ซื้อคืน

Post-announcement share price = PN = $22.10 + (D × t /29.130 ล้านหุ้น)

จํานวนหุน้ ที่จะถูกซื้อคืนจะเท่ากับหนี้ที่เพิ่มขึ้นดังสู ตรต่อไปนี้

Number of shares repurchased = D/PN

โดย
D = Debt
t = Tax rate

• What role does the tax deductibility of interest play in encouraging debt financing at CPK?

เมื่ อ บริ ษ ัท มี ก ารกู้ยื ม เงิ น เพิ่ ม ขึ้ น จะมี ด อกเบี้ ย เงิ น กู้ห รื อ ต้น ทุ นทางการเงิ นที่ สูง ขึ้น ส่ ง ผลให้ ร ายได้ก่ อ นหัก ภาษี
(Earnings Before Taxes) ลดลง ทําให้ภาษีเงิ นได้ของบริ ษทั (Income Taxes) ลดลง ดังนั้นหากบริ ษทั มีการเปลี่ยนโครงสร้าง
เงินทุนให้มีสัดส่วนหนี้ที่สูงขึ้น จะทําให้มี Tax Shield ที่มากขึ้นและทําให้มูลค่าโดยรวมของบริ ษทั สู งขึ้นและต้นทุนทางการเงิน
ของบริ ษทั (WACC) ลดลงดังตาราง

Debt/Total Capital
($ in thousands, except share data) Actual
10% 20% 30%
Market value:
Debt - 22,589 45,178 67,766
Equity 643,773 628,516 613,259 598,002
Market value of capital 643,773 651,105 658,437 665,768
WACC 8.91% 8.79% 8.67% 8.55%
4. What capital structure policy would you recommend for CPK?
Actual 10% 20% 30%

Income Tax 9,755 9,303 8,852 8,400

Net Income 20,299 19,360 18,419 17,480


ROE 9.0% 9.5% 10.2% 11.1%
Price per share ($) 22.1 22.35 22.60 22.86
EPS 0.70 0.69 0.68 0.67
Cost of equity 8.91% 9.01% 9.10% 9.20%
Cost of debt after tax 4.16% 4.16% 4.16% 4.16%
WACC 8.91% 8.79% 8.67% 8.55%
บริ ษทั CPK ควรเลือกการปรับโครงสร้างทุนของบริ ษทั ให้มีสัดส่ วนของหนี้สินในอัตราส่ วน 30% เนื่องจากได้ผลประโยชน์ใน
หลายๆด้านดังต่อไปนี้

1. มีกาํ แพงหรื อผลประโยชน์ทางด้านภาษี เนื่องจากต้องเสี ยภาษีนอ้ ยลง


2. ผลตอบแทนต่อส่วนของผูถ้ ือหุ้นสู งขึ้น (Return on Equity : ROE) สู งขึ้นทําให้นกั ลงทุนสนใจมากยิ่งขึ้น
3. มีตน้ ทุนเฉลี่ยของกิจการที่ต่าํ ลง อันเนื่องมาจากการถัวเฉลี่ยของต้นทุนส่ วนหนี้สินที่มีค่าตํ่ากว่าต้นทุนส่ วนของผูถ้ ือ
หุ้น
4. ราคาหุ้นของบริ ษทั เพิ่มสู งขึ้น โดยที่สมมติฐานทางด้านกลไกตลาดและปัจจัยอื่นๆคงที่

แต่อย่างไรก็ตามก็มีสิ่งที่ตอ้ งพิจารณาเพิ่มเติมในด้านอื่นๆหากปรับโครงสร้างทุนของบริ ษทั ดังนี้

1. ความมัง่ คัง่ ของนักลงทุน หากมองแค่เฉพาะ Return on Equity : ROE จะมองว่ามีผลตอบแทนต่อส่ วนทุนเพิม่ ขึ้นก็จริ ง
แต่หากพิจารณาที่ Earning per Share ของนักลงทุนจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่ลดลง ซึ่ งบ่งบอกได้ว่าความมัง่ คัง่ ของนัก
ลงทุนไม่ได้สูงขึ้นจริ ง
2. ต้นทุนส่ วนของผูถ้ ือหุ้นเพิ่มสู งขึ้นอันเนื่องมาจากความเสี่ ยงทางด้านการผิดนัดชําระหนี้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ของบริ ษทั
5. What is the case for not doing the recapitalization?
ในกรณี ที่บริ ษทั ไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเงินทุน หมายความว่าบริ ษทั ก็จะมีแค่กาํ ไรจากการดําเนินงานที่สามารถ
มาสร้างผลตอบแทนในผูถ้ ือหุ้นได้เท่านั้น โดยถ้าบริ ษทั ยังไม่มีนโยบายการกูย้ ืมเข้ามาก็จะทําให้การขยายบริ ษทั เพื่อรองรับต่อ
การเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็ นการเพิ่มจํานวนสาขาแฟรนไชส์ หรื อการขยายตัวไปยังต่างประเทศ จะเป็ นไปได้อย่างล้าช้า
เนื่องจากบริ ษทั มีเงินทุนได้มาจากแหล่งเดียว ซึ่งก็คือ กําไร โดยบริ ษทั ก็อาจจะต้องมีการกระตุน้ ยอดขาย เพื่อสร้างรายได้ให้มาก
ขึ้น ไม่ว่าจะเป็ น การคิดเมนูใหม่ๆ ขยายสาขา เพื่อให้กาํ ไรที่ได้จากการดําเนินมีเพิ่มสู งขึ้น แต่ถา้ หากบริ ษทั ตัดสิ นในกูเ้ งินเพื่อมา
ใช้ในการดําเนินงานก็อาจจะป็ นการเพิ่มโอกาสให้กบั ธุรกิจมากขึ้น

6. What should Collyns recommend?


เนื่องจาก CPK ใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) ในปี 2543 เพื่อชําระหนี้ที่คา้ งชําระ บริ ษทั
จึงหลีกเลี่ยงการกูย้ ืมเงินอย่างสมบูรณ์ CPK ยังคงความสามารถในการกูย้ ืมภายใต้วงเงินเครดิต 75 ล้านดอลลาร์ ที่มีอยู่ ดอกเบี้ย
ของวงเงินเครดิตคํานวณที่ LIBOR บวก 0.80% ด้วย LIBOR ที่ 5.36% อัตราดอกเบี้ยของสิ นเชื่ ออยู่ที่ 6.16% ทางกลุ่มจึงขอ
แนะนําว่า บริ ษทั ฯ ควรรักษาโครงสร้างเงินทุนในปั จจุบนั ไว้ ด้วยการกูย้ ืมภายใต้วงเงินเครดิต 75 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น ไม่ควรกู้
หนี้เพิ่ม ซึ่งจะเป็ นการเพิ่มต้นทุนความทุกข์ยากให้กบั บริ ษทั เนื่องจากบริ ษทั ดําเนินกิจการในตลาดที่มีการแข่งขันสู ง ซึ่งผูบ้ ริ หาร
มีนโยบายที่จะหลีกเลี่ยงการก่อหนี้

อีกทั้งราคาหุ้นของ CPK ลดลง 10% ในช่วงเดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยูท่ ี่ $ 22.10 จากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น


ทําให้ผูบ้ ริ หารมีการพูดถึงการซื้ อหุ้นคืน (share repurchase) แต่เนื่ องจากเงินสดส่ วนเกินของบริ ษทั มีอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ทําให้
ต้องมีการจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ซ้ือหุ้นคืนจํานวนมาก ถ้าหากบริ ษทั ฯ เลือกที่จะซื้อหุ้นคืน ทางกลุ่มเราแนะนําว่า การระดมทุนจาก
สัดส่วนหนี้ที่ไม่เกิน 20% เมื่อเพิ่มหนี้ 45.2 ล้านดอลลาร์ บริ ษทั จะได้รับมูลค่าปัจจุบนั เกือบ 14.7 ล้านดอลลาร์ จากผลประโยชน์
จากภาษี ส่ งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 22.64 ดอลลาร์ ซ่ ึ งจะทําให้ภาพรวมความเสี่ ยงของบริ ษทั เกิ ดการเปลี่ ยนแปลงน้อ ยกว่ า
โดยรวมแล้ว CPK อยู่ในสถานะทางการเงินที่ดีและจะเติบโตตามการขยายตัวอย่างต่อเนื่องสามารถดําเนินการต่อด้วยแผนการ
เติบโตปัจจุบนั ในการขยายไปยังที่ต้งั อื่น ๆ และเป็ นการรักษาความสามารถในการกูย้ ืมในยามฉุกเฉินในอนาคต
Team Member

1. Mr. Paphonsan Jirawanphan Student ID : 6350024


2. Miss Thanunya Swakpibool Student ID : 6350108
3. Mr. Vinithi Thongkampala Student ID : 6350116
4. Miss Kanoknad Kalaphakdee Student ID : 6350214
5. Mr. Suppawit Wareesurahan Student ID : 6350218
6. Miss Pobporn Jeasakul Student ID : 6350222
7. Miss Chattraporn Mesawas Student ID : 6350238

You might also like