Professional Documents
Culture Documents
กลยุทธแห่ง จูเลียส ซีซาร์
กลยุทธแห่ง จูเลียส ซีซาร์
1. จุดกาเนิดกรุงโรม
บริเวณที่ตงและภู
ั้ มิประเทศของกรุงโรม ตังอยู ้ ่ทางตอนกลางของคาบสมุทรอิตาลี เป็ นหุบเขาขนาด
ใหญ่ มีเนื ้อที่ประมาณ 3 ตารางไมล์ ประกอบด้ วยเนินเขา 7 ลูกและแม่น ้า 2 สายมาบรรจบกัน มี
ชุมชนขนาดใหญ่ตงอยู ั ้ ่บนฝั่ งแม่น ้าไทเบอร์ Tiber และแม่น ้าอานีอาเน่ Aneane ห่างจากฝั่ งทะเล
เมดิเตอร์ เรเนียน 24 กิโลเมตร การศึกษาทางโบราณคดียืนยันว่าในบริเวณนี ้เคยมีมนุษย์ตงถิ ั ้ ่นฐาน
อยู่มานานตังแต่ ้ ครัง้ ดึกดาบรรพ์ ไม่ต่ากว่า 14,000 ปี
2. การปกครองของอาณาจักรโรมัน
สภาพสังคมโรมัน
Circus Maximus
3. จูเลียส ซีซาร์
ข้ อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) เป็ นทังรั้ ฐบุรุษ แม่ทพั และผู้ประพันธ์ร้อย
แก้ วอันเลื่องชื่อชาวโรมัน เขามีบทบาทสาคัญในเหตุการณ์อนั นาไปสู่การสิ ้นสุดสาธารณรัฐโรมัน
และความเจริญของจักรวรรดิโรมัน ในยุค 60 ปี ก่อนคริสตศักราช
4. กบฏทาส
5. การศึกที่ไซลาริ อสุ
6. การเมืองในกรุงโรม
การแต่งตังแม่
้ ทพั โรมัน เพื่อออกไปทาศึก หรื อ ไปดูแลรักษาดินแดนอาณานิคม จะต้ องผ่านการ
นาเสนอ อภิปรายและมีมติแต่งตังจากสภาsenate
้ แม่ทพั ที่ได้ รับการแต่งตังจะมี
้ สถานะเป็ น
สมาชิกไปด้ วย หรื อ ส่วนใหญ่มกั จะเป็ นสมาชิกอยู่แล้ ว
แม่ทพั แคร็กซุส เป็ นผู้มงั่ คัง่ มีธุรกิจการค้ าขายมากมายอยู่ในกรุงโรม เขามุ่งหวังที่จะให้ วฒุ ิสภา
ออกกฎหมายลดภาษี ให้ กบั ธุรกิจของตน แต่ทาไม่สาเร็จเพราะในรัฐสภาแบ่งเป็ นสองขัวชั ้ ดเจน
เช่นเดียวกับแม่ทพั ปอมปี ย์ ซึง่ ต้ องการออกกฎหมายจัดสรรที่ดินทากินในดินแดนที่รบชนะมา
เพื่อให้ เป็ นรางวัลตอบแทนครอบครัวทหารที่ร่วมรบก็ทาไม่ได้ เพราะอีกฝ่ ายจะคอยคัดค้ าน จนทา
ให้ การเมืองมาถึงทางตัน ถึงขันที ้ ่แคร็กซุสตัดสินใจจะก่อสงครามกลางเมืองกับฝ่ ายปอมปี ย์เพื่อ
ตัดสินชี ้ขาด จึงยื่นคาขาดกับซีซาร์ วา่ “เจ้ าจะอยู่ข้างใด”
ซีซาร์ บัดนันมี
้ เครดิตในทางการเมืองขึ ้นมาแล้ ว ในวันพิธีศพของภรรยาสุดที่รักซึง่ เกิดป่ วยและ
เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ทังแคร็
้ กซุสและปอมปี ย์ต่างมาร่วมงานศพด้ วย ซีซาร์ จงึ เกิดแรงบันดาล
ใจที่จะผ่าทางตันทางการเมืองในครัง้ นันด้
้ วยวิถีทางของตน
8. กงสุลแห่งโรม
9. แม่ทพั ปราบกอล
10. การศึกที่อเล็กเซีย
13. ศึกโรมสู้โรม
ปอมปี ย์ เมื่อชัง่ กาลังดูแล้ ว เขามีทหาร 45,000-65,000 คน ซึง่ มากกว่าซีซาร์ ในสัดส่วน 3:1 แต่ก็
คิดว่าคงกินกันไม่ลง เพราะทหารซีซาร์ แม้ จะมีจานวนน้ อยกว่า แต่ก็มีระเบียบวินยั สูง ยิ่งเพิง่ ชนะ
ศึกใหญ่มาหมาดๆ ขวัญสู้รบจึงสูงกว่ากันมาก จึงเสนอเจรจา แต่สดุ ท้ ายการเจรจาครัง้ นันล้ ้ มเหลว
เพราะต่างฝ่ ายต่างไม่ยอมกัน ศึกโรมสู้โรมจึงระเบิดขึ ้นที่นนั ้ เรี ยก Phasalus Battle
14. ติดหล่มศึกภายในอียิปต์
กษัตริย์อียิปต์ในขณะนันชื
้ ่อ ปโตเลมี Ptoleme อายุเพียง 14 ปี ขึ ้นครองราชย์ค่กู นั กับพี่สาว คือ
พระนางคลีโอพัตรา ทังคู้ ่แต่งงานกันระหว่างพี่น้องตามราชประเพณีโบราณ แต่ต่อมาเกิดแตกแยก
และกาลังต่อสู้แย่งชิงอานาจกันเอง
ต่อมาคลีโอพัตรา ได้ ส่งคนบุกเข้ าไปช่วยเอาตัวซีซาร์ ออกมาจากที่กกั บริ เวณ ซีซาร์ จงึ ตัดสินใจช่วย
คลีโอพัตราปราบกษัตริย์ปโตเลมีลงได้ สาเร็จ พระนางคลีโอพัตราได้ เสด็จขึ ้นครองราชย์แทน เป็ น
พระราชินีคลีโอพัตรา
15. ผู้เผด็จการแห่งโรม
16. การปฏิรูปของซีซาร์
17. จุดจบของซีซาร์
ซีซาร์ เองเสียอีก ที่เป็ นฝ่ ายให้ ความรักและฝากความหวังไว้ ที่ตวั บรูตสุ ในฐานะเป็ นทายาททาง
การเมืองของเขา ในด้ านหนึง่ คงเป็ นเพราะซีซาร์ ไม่มีลกู ชาย ส่วนหลานตาของเขาที่เกิดจากลูก
สาวกับปอมปี ย์ แม้ ทราบว่าเป็ นผู้ชายแต่ก็ไม่เคยได้ เห็นหน้ ากัน อีกด้ านหนึ่งน่าจะเป็ นเพราะความ
รักผูกพันที่มีต่อนางเซอร์ วิเลีย แม่ของบรูตสุ
ส่วนแลปิ ดสุ เสืออีกตัวหนึง่ ก็ถกู เนรเทศไปแล้ ว ดังนัน้ เมื่อฝ่ าย Octavius มีชยั ชนะแบบเบ็ดเสร็จ
แล้ ว จึงได้ รับการสถาปนาอย่างเป็ นทางการโดยสภาซีเนท senate ให้ ขึ ้นดารงตาแหน่งเป็ น
จักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิโรมัน เรี ยกตาแหน่งนี ้ว่า ออกุสตุส Augustus
18. สรุปประเด็นกลยุทธ์ที่น่าศึกษา
3.โจมตีแบบสายฟ้าแลบ ทาลายจุดแข็งคู่ต่อสู้
ตัวอย่างการศึกที่ไซลาลิอสุ ด้ วยความที่ซีซาร์ เชื่อมัน่ ในกลยุทธ์การโจมตีแบบสายฟ้าแลบและ
ความแข็งแกร่งของกองทหารม้ าของตน เมื่อลงมือปฏิบตั ิการ จึงทาให้ เขาสามารถบุกทะลวงถึง
ศูนย์บญ
ั ชาการของสปาร์ ตาคัสโดยไม่ทนั ให้ ตงตัั ้ ว ทาเอานักรบแกลดิเอเตอร์ ที่เก่งฉกาจในการต่อสู้
แบบประชิดตัว ไม่สามารถพลิกเกมสู้ได้ เลย กองทัพจึงแตกพ่ายกระเจิดกระเจิงแบบไม่เป็ นท่า
5.ถือดุลในอานาจสามเส้า
ในสภาวะของอานาจสามเส้ า ด้ านหนึง่ เป็ นแคร็กซุส ผู้ร่ ารวย มีกองทัพอยู่ในมือ และเป็ น
ผู้บงั คับบัญชาเก่า กับอีกด้ านหนึง่ คือปอมปี ย์ ผู้เป็ นแม่ทพั เกรี ยงไกรจากภาคตะวันออกและทรง
อิทธิพลในโรม ซีซาร์ เป็ นตัวกลาง เป็ นกันชน และเป็ นผู้คอยถ่วงดุลระหว่างสองขัวอ ้ านาจ
แต่ด้วยความที่ เป็ นผู้เข้ าใจในบทบาทของคนกลางและสามารถแสดงบทถ่วงดุลได้ อย่าง
เหมาะเจาะ เขาจึงเติบโตแข็งแรงขึ ้นทุกวัน จนในที่สดุ กลายเป็ นผู้ถือดุลอานาจขึ ้นมาในระดับที่
เสมอกันหรื อเป็ นฝ่ ายที่เหนือกว่า
6.กล้าได้ กล้าเสีย
กล้ าได้ กล้ าเสีย เป็ นเรื่ องของการตัดสินใจ ในสถานการณ์ปกติ คนส่วนใหญ่มกั ตัดสินใจเมื่อมี
ความมัน่ ใจและความแน่นอนในระดับที่สงู แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน ก็มกั จะไม่
กล้ าเสี่ยง แต่ซีซาร์ ไม่ใช่คนแบบนัน้ ความกล้ าได้ กล้ าเสียน่าจะเป็ นนิสยั ส่วนตัวของเขาอยู่แล้ ว ดู
จากที่เขาสามารถไต่เต้ าขึ ้นมาจากพลทหารเลวในกองทัพของแคร็กซุสได้ ก็เพราะนิสยั ที่กล้ าได้ กล้ า
เสียในการตัดสินใจ เมื่อบวกกับความห้ าวหาญและทักษะฝี มือการต่อสู้ รวมทังความสามารถใน
้
การนากองทหารเข้ าสู้รบ จึงส่งให้ เขามีความก้ าวหน้ าในตาแหน่งขึ ้นมาอย่างรวดเร็ว
ระหว่างนันต่
้ างฝ่ ายต่างหาวิธีที่จะเอาชนะกัน ทางเวอร์ ซนิ รี บส่งข่าวให้ กองทหารกอลจากเมือง
ต่างๆเข้ ามาช่วย หวังเข้ าตีกระหนาบ ซึง่ เมื่อทหารกอลจากเมืองอื่นมาสมทบจริงตามนัดหมายและ
มีจานวนมากเสียด้ วย ซีซาร์ กลับสัง่ ให้ สร้ างกาแพงวงแหวนล้ อมอีกชัน้ โดยทหารโรมันอยู่ระหว่าง
นันและใช้
้ กาแพงเป็ นที่กาบังศาสตราวุธ สู้ด้วยอาวุธธนูเป็ นหลัก จนเมื่อกาแพงแตก ข้ าศึกบุกเข้ า
มาได้ จึงตัดสินใจส่งกองทหารม้ าที่แข็งแกร่งตีฝ่าออกไป แล้ วกลับมาตีตลบหลัง กองทัพกอลไม่ทนั
ต่อกลศึกของซีซาร์ จงึ เป็ นฝ่ ายปราชัย ทังที
้ ่มีกาลังพลเหนือกว่ามาก
การขยายอานาจของโรมันได้ เริ่มมานานตังแต่
้ ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็ นระบบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเรื องอานาจสูงสุดในสมัยจักรพรรดิทราจัน ด้ วยชัยชนะเหนือดา
เซีย (ปั จจุบนั คือประเทศโรมาเนียและมอลโดวา และส่วนหนึง่ ของประเทศฮังการี บัลแกเรี ยและ
ยูเครน) ในปี ค.ศ.106 และเมโสโปเตเมียในปี ค.ศ. 116 (ซึง่ ภายหลังสูญเสียดินแดนนี ้ไปในสมัย
จักรพรรดิฮาเดรี ยน)
จักรวรรดิโรมันขณะมีความเจริญสูงสุดนันมี
้ ประชากรประมาณ 75,000,000 คน ไม่เคยปรากฏมา
ก่อนหน้ านี ้ว่าคนจานวนมากขนาดนี ้จะสามารถอยู่รวมกันอย่างดี นับเป็ นประวัติศาสตร์ การเกิด
สากลรัฐ ซึง่ ประกอบด้ วยชนหลายชาติ อยู่กนั โดยสันติและราบรื่ น นับเป็ นความสาเร็จอันยิ่งยอด
ที่สดุ ของโรม อารยธรรมโรมัน สืบทอดต่อมาจากอารยธรรมกรี กในหลายๆ ด้ าน โดยมีการพัฒนา
ต่อยอดกันมา
กองทัพโรมันสืบทอดวิธีการรบโดยใช้ หอกยาวและการจัดกาลังรบแบบกองทหารฟาลังส์ของกรี ก
ต่อมาเปลี่ยนมาเป็ นกองทหารลิเจียนแทนในช่วงราว 405 ปี ก่อนคริสตกาล ถึง 395 ก่อนคริสตกาล
กองทหารฟาลังส์
ทหาร 256 คนเข้ าแถวเป็ นรูปสี่เหลี่ยม อาจจะรบตามลาพังหรื ออาจจะเป็ นส่วนหนึง่ ของ
กองทหารฟาลังส์ที่มีจานวนหลายพันก็ได้ เวลารบนับ 5 แถวแรกข้ างหน้ าจะยื่นหอกออกไป
ข้ างหน้ า ส่วนพวกข้ างหลังที่เหลืออยู่ก็จะยกหอกของตนขึ ้นประสานกัน เป็ นการคุ้มกันลูกธนูให้ กบั
พวกที่อยู่ข้างหน้ าด้ วย พระเจ้ าฟิ ลปที่ II ได้ นาเอากองทัพแบบนี ้มาใช้ เพื่อเปิ ดทางให้ กบั พวกทหาร
ม้ า
ลักษณะของโรมันเปรี ยบเทียบกับกรี ก
นอกจากนันยั
้ งมี ทฤษฎีสญ
ั ญาสังคม (ที่ว่ารัฐบาลถือกาเนิดจากการตกลงโดยสมัครใจในหมู่
ประชาชน) และความคิดเกี่ยวกับอธิปไตยของปวงชน หลักที่ว่าด้ วยการแบ่งอานาจ (ดังเช่นใน
รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา) และ ความคิดที่ว่ากฎหมายเป็ นหลักสูงสุดในการปกครองประเทศ