Professional Documents
Culture Documents
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่ วยที0 7 ทฤษฎีโครงข่ายวงจรไฟฟ้า
จงเลือกคําตอบที/ถูกต้องที/สุดเพียงข้อเดียว
จากรู ปที/ 1 จงใช้ทฤษฎีการวางซ้อน วิเคราะห์หาค่า V และ IO สําหรับคําถามข้อ 1 – 4
R1 R3
6 Ω IO + 2Ω
VS R2 IS
VO
10 V 4Ω 2A
-
ก. 0.5 A ข. 1 A
ค. 1.5 A ง. 2 A
2. ถ้า VO1 เป็ นผลมาจากแหล่งแรงดันไฟฟ้า 10 V แล้ว VO1 มีค่าเท่าใด
ก. 1 V ข. 2 V
ค. 3 V ง. 4 V
3. ถ้า I O 2 เป็ นผลมาจากแหล่งกําเนิดกระแสไฟฟ้า 2 A แล้ว I O1 มีค่าเท่าใด
ก. 0.6 A ข. 1 A
ค. 1.2 A ง. 1.8 A
4. VO มีค่าเท่าใด
ก. 6.6 V ข. 6.8 V
ค. 8.8 V ง. 9.8 V
จากรู ปที/ 2 จงใช้ทฤษฎีเทวินิน วิเคราะห์หาค่ากระแสไฟฟ้า I L
R1 R3 x
IL
30 Ω 5Ω
VS
R2 15 Ω RL 10 Ω
15 V
y
จากรู ปที/ 2 วงจรใช้สําหรับคําถามข้อ 5– 7
5. RTH มีค่าเท่าใด
ก. 10 W ข. 15 W
ค. 20 W ง. 25 W
196
y
รู ปที/ 3 ใช้สําหรับคําถามข้อ 8 – 10
8. RNมีค่าเท่าใด
ก. 10 W ข. 15 W
ค. 20 W ง. 30 W
9. I N มีค่าเท่าใด
ก. 0.5 A ข. 0.25 A
ค. 0.125 A ง. 0.185 A
10. กระแสไฟฟ้า I L ที/ไหลผ่านตัวต้านทาน 10 Ω มีค่า เท่าใด
ก. 0.5 A ข. 0.25 A
ค. 0.125 A ง. 0.185 A
197
สาระสําคัญ
ทฤษฎีการวางซ้อนใช้วิเคราะห์วงจรที/มีแหล่งกําเนิดอิสระมากกว่า 2 ตัว โดยพิจารณาทีละตัว แล้ว
นําผลที/ได้ มารวมทางพีชคณิตคือ ติดเครื/ องหมายและทิศทางด้วย
ทฤษฎีเทวินินเป็ นการวิเคราะห์หาวงจรสมมูลย์ของวงจรที/เป็ นเชิงเส้นใด ๆ สามารถแทนได้
ด้วยแหล่งกําเนิดแรงดัน 1 ตัว และความต้านทานภายใน 1 ตัว
ทฤษฎีนอร์ตนั เป็ นการวิเคราะห์หาวงจรสมมูลย์ของวงจรทีเ/ ป็ นเชิงเส้นเช่นเดียวกับทฤษฎี
เทวินิน แต่จะแทนด้วยแหล่งจ่ายกระแส 1 ตัวและโหลดภายใน 1 ตัว
เนืBอหาสาระ
7.1 ทฤษฎีการวางซ้อน
7.2 ทฤษฎีเทวินิน
7.3 ทฤษฎีนอร์ตนั
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั0วไป เพื/อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้และเข้าใจในเรื/ อง :
7.1 ทฤษฎีการวางซ้อน
7.2 ทฤษฎีเทวินิน
7.3 ทฤษฎีนอร์ตนั
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม หลังจากเรี ยนจบหน่วยเรี ยนนีYแล้ว ผูเ้ รี ยนควรมีความสามารถดังนีY
7.1 ใช้ทฤษฎีการวางซ้อนหาค่ากระแสและแรงดันในวงจรไฟฟ้าได้
7.2 หาค่าพารามิเตอร์ของวงจรสมมูลย์เทวินินได้
7.3 ใช้ทฤษฎีเทวินินหาค่ากระแสและแรงดันที/ไหลผ่านและตกคร่ อมโหลดได้
7.4 หาค่าพารามิเตอร์ของวงจรสมมูลย์นอร์ตนั ได้
7.5 ใช้ทฤษฎีนอร์ตนั หาค่ากระแสและแรงดันที/ไหลผ่านและตกคร่ อมโหลดได้
198
I
10 V 2Ω 2A
4Ω 2Ω
+ I1
10 V V1 2Ω
-
I3 + I2
V2 2Ω 2A
-
y
รู ปที/ 7.4 (ก) วงจรสําหรับตัวอย่างที/ 4.3
202
RTH = R4 + ( R2 + R3 ) R1
R ( R + R3 )
RTH = R4 + 1 2
R1 + R2 + R3
100 W (47 W + 22 W)
RTH = 100 W +
100 W + 47 W + 22 W
100 W (69 W)
RTH = 100 W +
169 W
RTH = 100 W + 41 W = 141 W
ขัYนตอนที/ (3) หาค่าแรงดันสมมูลย์ เทวินิน พิจารณารู ปที/ 7.4 (ข) อีกครัYงหนึ/งโดยนําแหล่งจ่าย
แรงดันใส่ในวงจรอีกครัYง ดังรู ป 7.4 (ค)
R1 R4 x
100 Ω 100 Ω
R2 47 Ω
VS ETH
10 V
R3 22 Ω
æ 69 W ö
ETH = çç ÷÷ (10 V ) = 4.08 V
è 169 W ø
ขัYนตอนที/ (4) เขียนวงจรสมมูลย์เทวินินได้ดงั รู ปที/ 7.4 (ง)
RTH x RTH x
141Ω 141Ω
ETH ETH
4.08 V RL
4.08 V
y y
y
รู ปที/ 7.5 (ข) การวิเคราะห์หา ความต้านทานสมมูลย์ เทวินิน
RTH = 16 W + (6W 12W)
(6W ´ 12W)
RTH = 16 W +
(6W + 12W)
72 æ W 2 ö
RTH = 16 W + ç ÷ = 20 W
18 çè W ÷ø
ขัYนตอนที/ (3) หาค่า ETH นําแหล่งจ่ายแรงดันมาใส่ในวงจรอีกครัYง เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
R1 R3
x
6Ω 16 Ω
VS
R2 12 Ω ETH
18 V
y
รู ปที/ 7.5 (ค) แสดงการวิเคราะห์ หาค่าแรงดันสมมูลย์ เทวินิน
204
12 W
ใช้กฎการแบ่งแรงดัน จะได้ ETH = (18 V ) = 12 V
(6 + 12) W
ขัYนตอนที/ (4) เขียนวงจรสมมูลย์ แล้วนําโหลดมาต่อเข้าทีข/ Yวั ที/ปลดออก
RTH x
20 Ω IL
ETH
RL
16 V
y
R1 = 6W R 2 = 6W
RL = 4W
15 V
I
R3 = 12W R4 = 3W
R1 R2
6W A B 6W
RTH
R3 R4
12W 3W
+ +
R1 V1 V2 R2
6W - A B- 6W
15 V ETH
+ +
R3 R4
V3 V4
12W 3W
- -
B
รู ปที/ 7.6 (ง) แสดงวงจรสมมูลย์ เทวินิน
หาค่ากระแสไฟฟ้าที/ไหลผ่าน RL ได้ดงั นีY
IL =
ETH
RTH + R L
=
5V
6 Ω+ 4 Ω
=
5V
10 Ω
= 0.5 A .....................ตอบ
207
ETH
IN = RN = RTH IN RN
RTH
b b
จากรู ปที/ 7.7 (ก) แสดงการแปลงวงจรสมมูลย์นอร์ตนั จากวงจรสมมูลย์เทวินิน และรู ปที/ 7.7 (ข)
แสดงวงจรสมมูลย์นอร์ตนั
22 kΩ 33 kΩ
R1 R3 R5
10 kΩ RN
5.6 kΩ 12 kΩ
y
รู ปที/ 7.8 (ข) แสดงการวิเคราะห์หา RN
y
รู ปที/ 7.8 (ค) แสดงการวิเคราะห์หา IN
IN
RN 12 kΩ 3 kΩ
10 mA
y
5Ω 3Ω +
VS IS RL
VL
20 V 8A 2Ω
-
B
รู ปที/ 7.9 (ข) แสดงการวิเคราะห์หา RN
B
รู ปที/ 7.9 (ค) แสดงการวิเคราะห์หา I N1
VS 20 V
พิจารณารู ปที/ 7.8 (ค) แล้วใช้กฎของโอห์ม จะได้ I N1 = = = 2.5 A
R1 + R2 8W
ขัYนตอนที(/ 3.2) นําแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อเข้ากับวงจร แหล่งจ่ายแรงดันลัดวงจร แล้วลัดวงจรที/ขYวั A
และ B ดังรู ปที/ 7.9 (ง) เพื/อหา I N 2
R1 R2 A
5Ω 3Ω
IS
IN2
8A
B
รู ปที/ 7.9 (ง) แสดงการวิเคราะห์หา IN2
æ 5W ö
I N 2 = (8 A)çç ÷÷ = 5 A
è 8W ø
ดังนัYน I N = I N 1 + I N 2 = 2.5 A + 5 A = 7.5 A
สรุปสาระสํ าคัญ
ทฤษฎีการวางซ้อนใช้สําหรับวิเคราะห์วงจรทีป/ ระกอบไปด้วยแหล่งจ่ายอิสระหลายตัว เพื/อหา
กระแส หรื อ แรงดันไฟฟ้า โดยวิเคราะห์ผลที/เกิดจากแหล่งจ่ายอิสระแต่ละตัว แล้วหาผลรวมทัYงหมดทาง
พีชคณิต
ทฤษฎีเทวินิน เป็ นการหาค่าวงจรสมมูลย์ โดยพิจารณาที/ ขัYว x – y ที/กาํ ลัง วิเคราะห์ โดยการ
แทนแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้า 1 ตัว ต่ออนุกรมกับ ความต้านทาน 1 ตัว โดยค่าแรงดัน ETH นีY เป็ นแรงดันที/
เปิ ดวงจรที/ขYวั x – y และความต้านทาน RTH เป็ นความต้านทานเทวินิน จากการมองเข้าที/ขYวั x – y ที/เปิ ด
วงจร โดยทําให้แหล่งจ่ายอิสระทัYงหมดในวงจรนัYนเป็ น ศูนย์ เขียนวงจรสมมูลย์ได้แล้ว จึงนําโหลด มาต่อ
ที/ขYวั x – y เพื/อแก้ปัญหาต่อไป
ทฤษฎีนอร์ตนั เป็ นการหาค่าวงจรสมมูลย์ โดยพิจารณาที/ ขัYว x – y ที/กาํ ลัง วิเคราะห์ โดยการ
แทนแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า ( I N )1 ตัว ต่อขนานกับ ความต้านทาน ( RN ) 1 ตัว โดยค่ากระแสไฟฟ้า I N นีY
เป็ นกระแส ที/ไหลตรงขัYวที/ ลัดวงจร ขัYว x – y และความต้านทาน RN ก็คือความต้านทาน RTH นัน/ เอง
เมื/อหาค่า วงจรสมมูลย์ได้แล้ว จึงนําโหลด มาต่อที/ขYวั x – y เพื/อแก้ปัญหาต่อไป
212
แบบฝึ กหัด
หน่ วยที0 7 ทฤษฎีโครงข่ายวงจรไฟฟ้า
1. จากวงจรในรู ปที/ 7.10 จงหากระแสไฟฟ้า I X โดยใช้ทฤษฎีการวางซ้อน ตอบ I X = 1.56 A
12 Ω
IX
10 V 10 Ω 40 Ω 2A
IO
20 V 4Ω 5A
10 Ω 10 Ω
IX
10 V 10 Ω 10 Ω 1A
R1 3 kΩ
B
R2 1.5 kΩ
-12 V
รู ปที/ 7.15 วงจรสําหรับแบบฝึ กหัดข้อที/ 6
7. วงจรในรู ปที/ 7.16 จงหาค่ากระแสที/ไหลผ่านโหลด RL โดยใช้ทฤษฎีเทวินิน
ตอบ ETH = 60 V , RTH = 14 Ω , I L = 3 A
12 Ω x
R3 IL
R2 6Ω
R1 3Ω 4A RL 6Ω
VS + 12 V
-
y
400 Ω
R2 200 Ω x IL
VS 400 Ω
200 Ω RL 100 Ω
18 V
y
แบบทดสอบหลังเรียน
หน่ วยที0 7 ทฤษฎีโครงข่ายวงจรไฟฟ้า
จงเลือกคําตอบที/ถูกต้องที/สุดเพียงข้อเดียว
จากรู ปที/ 1 จงใช้ทฤษฎีการวางซ้อน วิเคราะห์หาค่า V และ IO สําหรับคําถามข้อ 1 – 4
R1 R3
6 Ω IO + 2Ω
VS R2 IS
VO
10 V 4Ω 2A
-
ก. 0.5 A ข. 1.5 A
ค. 1 A ง. 2 A
2. ถ้า VO1 เป็ นผลมาจากแหล่งแรงดันไฟฟ้า 10 V แล้ว VO1 มีค่าเท่าใด
ก. 2 V ข. 1 V
ค. 4 V ง. 3 V
3. ถ้า I O 2 เป็ นผลมาจากแหล่งกําเนิดกระแสไฟฟ้า 2 A แล้ว I O1 มีค่าเท่าใด
ก. 0.6 A ข. 1.2 A
ค. 1.5 A ง. 1.8 A
4. VO มีค่าเท่าใด
ก. 8.8 V ข. 6.8 V
ค. 6.8 V ง. 9.8 V
จากรู ปที/ 2 จงใช้ทฤษฎีเทวินิน วิเคราะห์หาค่ากระแสไฟฟ้า I L
R1 R3 x
IL
30 Ω 5Ω
VS
R2 15 Ω RL 10 Ω
15 V
y
จากรู ปที/ 2 วงจรใช้สําหรับคําถามข้อ 5– 7
5. RTH มีค่าเท่าใด
ก. 20 W ข. 10 W
ค. 15 W ง. 25 W
216
6. ETH มีค่าเท่าใด
ก. 5 V ข. 4V
ค. 3 V ง. 6V
7. กระแสไฟฟ้า I L ที/ไหลผ่านตัวต้านทาน 10 Ω มีค่าเท่าใด
ก. 0.5 A ข. 0.2 A
ค. 0.3 A ง. 1A
จากรู ปที/ 3 จงใช้ทฤษฎีนอร์ตนั วิเคราะห์หาค่ากระแสไฟฟ้า I L
R1 R3 x
IL
20 Ω 20 Ω
VS
R2 20 Ω RL 10 Ω
15 V
y
รู ปที/ 3 ใช้สําหรับคําถามข้อ 8 – 10
8. RNมีค่าเท่าใด
ก. 30 W ข. 20 W
ค. 25 W ง. 15 W
9. I N มีค่าเท่าใด
ก. 0.185 A ข. 0.5 A
ค. 0.125 A ง. 0.25 A
10. กระแสไฟฟ้า I L ที/ไหลผ่านตัวต้านทาน 10 Ω มีค่า เท่าใด
ก. 0.5 A ข. 0.25 A
ค. 0.185 A ง. 0.125 A
217
เอกสารอ้างอิง
ภาคผนวก
- เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
- เฉลยแบบฝึ กหัดท้ายหน่ วย
219
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่ วยที0 7
1. ข 2. ง 3. ค 4. ค 5. ข 6. ค 7. ก 8. ง 9. ข 10. ง
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่ วยที0 7
1. ค 2. ค 3. ข 4. ก 5. ค 6. ก 7. ข 8. ก 9. ง 10. ค
220
เฉลยแบบฝึ กหัด
หน่ วยที0 7 ทฤษฎีโครงข่ายวงจรไฟฟ้า
1. จากวงจรในรู ปที/ 7.10 จงหากระแสไฟฟ้า I X โดยใช้ทฤษฎีการวางซ้อน ตอบ I X = 1.56 A
12 Ω
IX
10 V 10 Ω 40 Ω 2A
IT I X1
10 V 10 Ω 40 Ω
หาค่าความความต้านทานรวม มองที/ฝั/งแหล่งจ่ายแรงดัน 10 V
(10 W ´ 40 W)
RT = 12 W + (10 W 40 W) = 12 W +
(10 W + 40 W)
(400 W 2 )
RT = 12 W + = 12 W + 8 W = 20 W
(50 W)
VS 15 V
IT = = = 0.75 A
RT 20 W
40 W 40
ดังนัYน I X1 = ´ (0.75 A) = (0.75 A) = 0.6 A
40 W + 10 W 50
120 W 2
หาค่าความความต้านทาน ที/ RT 1 : RT 1 = 12 W 10 W = = 5.45 W
22 W
40 W
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ IT1 = ( 2 A ) = 1.76 A
(5.45 + 40) W
221
12 W
ดังนัYน IX 2 = (1.76 A ) = 0.96 A
(12 + 10) W
3) หาผลรวมทัYงสองแหล่งกําเนิดดังนัYน
จะได้ I X = I X1 + I X 2 = 0.6 A + 0.96 A = 1.56 A .....................ตอบ
IO
20 V 4Ω 5A
20 V 4Ω
20 V 20 V
พิจารณาจากวงจร จะพบว่า I O1 = = = 2A
6W + 4W 10 W
2) พิจารณาแหล่งกําเนิดกระแส 5 A เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
6Ω
4Ω 5A
IO2
พิจารณาจากวงจรใช้กฎการแบ่งกระแส
6W 6
จะได้ IO 2 = (5 A) = (5 A) = 3 A
6W + 4W 10
3) หาผลรวมทัYงสองแหล่งกําเนิดจะพบว่าทิศทางของกระแสทัYง 2 สวนทางกัน ดังนัYน
จะได้ I O = I O 2 - I O1 = 3 A - 2 A = 1A .....................ตอบ
222
IT I O1
12 V 2Ω 3Ω
ดังนัYน IT =
12 V
7.2 Ω
= 1.67 A
3W
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ I O1 =
(2 + 3) W
( 1.67 A ) = 1 A
IO 2 I1
RT1 4A
2Ω 3Ω
(6 W ´ 2 W) 12 W 2
พิจารณาจากวงจร จะพบว่า RT 1 = 6 W 2W = = = 1.5 W
(6W + 2 W) 8W
3W 3
ใช้กฎการแบ่งกระแส ดังนัYน I T1 = (4 A) = (4 A) = 2.67A
1.5 W + 3 Ω 4.5
6W 6
ใช้กฎการแบ่งกระแสอีกครัYง IO 2 = ( 2.67 A ) = (2.67 A) = 2 A
(6 + 2) W 8
3) หาผลรวมทัYงสองแหล่งกําเนิดดังนัYน
จะได้ IO = I O1 + I O 2 = 1A+ 2 A = 3 A .....................ตอบ
223
10 Ω 10 Ω
IX
10 V 10 Ω 10 Ω 1A
RT = 10 W + (10 W 20 W)
RT = 10 W + 6.67 W = 16.67 W
10 V
ดังนัYน IT = = 0.6 A
16.67 Ω
10 W
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ I X1 = ( 0.6 A ) = 0.2 A
(10 + 20) W
2) พิจารณาแหล่งกําเนิดกระแส 1 A เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
10 Ω 10 Ω 1A
I1
IX 2
RT 1 10 Ω 1A
10 Ω
พิจารณาจากวงจร จะพบว่า RT 1 = 10 W 10 W = 5 W
10 W
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ IX 2 = (1 A ) = 0.4 A
(10 + 10 + 5) W
3) หาผลรวมทัYงสองแหล่งกําเนิดดังนัYน
จะได้ IX = I X 2 - I X 1 = 0.4 A - 0.2 A = 0.2 A ...................ตอบ
224
B
พิจารณาจากวงจร จะพบว่า RTH = 18 W + (120 W 180 W)
(21,600 W 2 )
RTH = 18 W + = 18 W + 72 W = 90 W
300 W
ขัYนตอนที/ (3) หาค่า ETH เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
180 Ω 18 Ω A
R1 R3
15 V I R2 120 Ω ETH
R2 B
พิจารณาจากวงจร จะพบว่า ETH = ´ 15 V
R1 + R2
120 W
ETH = ´ 15 V = 6 V
(120 + 180) W
ขัYนตอนที/ (4) เขียนวงจรเทียบเคียง แล้วนําโหลดมาต่อเข้าที/ขYวั ที/ปลดออก
RTH A
IO
90 Ω
ETH
RL 10 Ω
6V
B
ETH 6V 6V
ดังนัYน IO = = = = 60 mA .....................ตอบ
RTH + R L 90 Ω + 10 Ω 100 Ω
225
R1 3 kΩ
B
R2 1.5 kΩ
-12 V
รู ปที/ 7.15 วงจรสําหรับแบบฝึ กหัดข้อที/ 6
วิธีทํา วาดวงจรใหม่ได้ดงั นีY R1 R2
3 kΩ 1.5 kΩ
A E2
E1
18 V B 12 V
3 kΩ 1.5 kΩ
A
RTH
B
4.5 æ k W 2 ö
RTH = 3 k W 1.5 k W = ç ÷ = 1 kΩ
4.5 çè k W ÷ø
ขัYนตอนที/ (3) หาค่า ETH เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
R1 R2 R1 R2
1.5 kΩ
E1
3 kΩ
+ A 3 kΩ
- A 1.5 kΩ E2
ETH1 ETH 2
18 V - B + B 12 V
1.5 kΩ
ETH 1 = (18 V ) = 6 V
1.5 kΩ + 3 kΩ
3 kΩ
ETH 2 = ( - 12 V ) = - 8 V
1.5 kΩ + 3 kΩ
จะได้ ETH = ETH 1 + ETH 2 = 6 V + (-8 V) = - 2 V
226
1 kΩ
ETH A
2V B
R3 IL
R2 6Ω
R1 3Ω 4A RL 6Ω
VS + 12 V
-
y
RTH = 12 W + (6 W 3 W) = 12 W + 2 W = 14 W
ขัYนตอนที/ (3) หาค่า ETH เขียนวงจรใหม่ได้ดงั นีY
12 Ω x R3 = 12 Ω 4 A
x
R3 +- V +
I1 R2 + + R2 3
+ V2 +
R1 6Ω R1 6Ω
V1 ETH1 V1 4 A ETH 2
3Ω 3Ω -
+ VS - -
- - 12 V I2 -
y
y
VS 12 V
พิจารณา ETH 1 : I1 = = = 1.33 A
R1 + R2 9W
R1 3W
ใช้กฎการแบ่งกระแส หา I2 จะได้ I2 = (4 A) = (4 A) = 1.33 A
R1 + R2 (3 + 6) W
ดังนัYน V2 = I 2 R2 = (1.33 A)(6 W) = 8 V
และ V3 = (4 A) R3 = (4 A)(12 W) = 48 V
จะได้ ETH 2 = V3 + V2 = 8 V + 48 V = 56 V
y
ETH 60 V 60 V
ดังนัYน IL = = = = 3A .....................ตอบ
RTH + R L 14 Ω + 6 Ω 20 Ω
y
(3 W ´ 6 W)
RTH = ( RT 1 + R3 ) R4 ; RT 1 = = 2W
(3 + 6) W
RTH = (2 Ω + 2 W) 4 Ω = 2 W
228
y y
(6 W ´ 6 W)
พิจารณา ETH 1 : RT 1 = R2 ( R3 + R4 ) = = 3W
(6 + 6) W
RT = R1 + RT 1 = 3 W + 3 W = 6 W
V 6V
I T = S1 = = 1A
RT 6W
R2 6W
ใช้กฎการแบ่งกระแส หา I2 จะได้ I2 = (1 A) = (1 A) = 0.5 A
R2 + ( R3 + R4 ) (6 + 6) W
ดังนัYน ETH 1 = I 2 R4 = (0.5 A)(4 W) = 2 V
พิจารณา ETH 2 : RT = R2 + ( R3 + R4 ) R1
RT = 6 W + (2 W + 4 W) 3 W
RT = 6 W + 2 W = 8 W
V 24 V
IT = S 2 = = 3A
RT 8W
R1 3W
ใช้กฎการแบ่งกระแส หา I4 จะได้ I4 = (3 A) = (3 A) = 1 A
R1 + ( R3 + R4 ) (3 + 6) W
ดังนัYน ETH 2 = I 4 R4 = (1 A)(4 W) = 4 V
y
ETH 6V 6V
\ IL = = = = 0.5 A .....................ตอบ
RTH + R L 2 Ω + 10 Ω 12 Ω
229
พิจารณาวงจรจะพบว่า RN = 1 k W + 2 kΩ = 3 k W
นําแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อเข้ากับวงจร แล้วลัดวงจรที/ขYวั x และ y เพื/อหาค่า IN
R2
x
2 kΩ
IS IN
24 A R1 1 kΩ
1k W 1
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ IN = (24 A) = (24 A) = 8 A
1k W + 2 k W 3
นําค่า RN , IN มาเขียนวงจรสมมูลย์นอร์ตนั
x
IN
RN 3 kΩ
8A
y
.....................ตอบ
400 Ω
R2 200 Ω x IL
VS 400 Ω
200 Ω RL 100 Ω
18 V
y
400 Ω
R2 200 Ω x
400 Ω
200 Ω RN
y
RN 300 Ω
\ IL = (I N ) = ( 30 mA ) = 22.5 mA ...............ตอบ
RN + R L 400 Ω
11. จากวงจรในรู ปที/ 7.20 จงหากระแสไฟฟ้า IO โดยใช้ทฤษฎีนอร์ตนั ตอบ I O = 1.8 A
R1 R3
30 Ω 15 Ω
E1 R2 E2
IO
18 V 10 Ω 45 V
30 Ω a 15 Ω
RN
b
(30 ´ 15) W 2
พิจารณาวงจรจะพบว่า RN = 30 W 15 W = = 10 W
(30 + 15) W
ขัYนตอนที/ (2) หา IN ลัดวงจรที/ขYวั a – b ใส่แหล่งจายแรงดันทีละตัว
R1 R3 R1 R3
30 Ω a 15 Ω 30 Ω a 15 Ω
E1 E2
I N1 IN2
18 V 45 V
b b
18 V
พิจารณา รู ปซ้ายมือ จะได้ I N1 = = 0.6 A
30 Ω
45 V
พิจารณา รู ปขวามือ จะได้ IN 2 = = 3A
15 Ω
I N = I N 1 + I N 2 = 0.6 A + 3 A = 3.6 A
ขัYนตอนที/ (3) เขียนวงจรเทียบเคียง แล้วนําเอาโหลดมาต่อเข้าที/ขYวั a – b
a
IL
IN RN RL 10 Ω
3 .6 A 10 Ω
b
RN 10 Ω
ใช้กฎการแบ่งกระแส จะได้ IL = (I N ) = (3.6 A )
RN + RL 10 Ω + 10 Ω
\ I L = 1.8 A .....................ตอบ
พิจารณาวงจรจะพบว่า RN = 8 W + 12 W = 20 W
y
12 W 12
พิจารณาวงจรจะพบว่า IN = (5 A) = (5 A) = 3 A
12 Ω + 8 W 20
ขัYนตอนที/ (3) เขียนวงจรสมมูลย์ แล้วนําเอาโหลดมาต่อเข้าที/ขYวั ที/ปลดโหลดออกไป
x
IL
IN RN RL 10 Ω
3A 20 Ω
y
RN 20 Ω
ดังนัYน IL = (I N ) = ( 3A )
RN + RL 20 Ω + 10 Ω
20 Ω
\ IL = (3 A) = 2 A .....................ตอบ
30 Ω