Professional Documents
Culture Documents
ไฟฟ้า PART 3 - กฎของโอห์ม การต่อวงจรไฟฟ้า
ไฟฟ้า PART 3 - กฎของโอห์ม การต่อวงจรไฟฟ้า
PART 3
กฎของโอห์ม
โอห์ม เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้ทดลองศึกษาความต้านทานไฟฟ้าของลวด
ตัวนําหลายๆ ชนิด และตั้งเป็นกฎของโอห์ม โดยกล่าวไว้ว่า “เมื่อ
อุณหภูมิของตัวนําคงที่ อัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้าที่
ปลายทั้งสองของตัวนําต่อการไหลของกระแสไฟฟ้าในตัวนําจะ
คงที่ และเท่ากับความต้านทานของตัวนํานั้น”
จากกฎของโอห์มเขียนความสัมพันธ์ของ V, I และ R ได้ดังนี้
กําหนดให้ … R = ความต้านทานที่ต่อกับเซลล์ไฟฟ้า…(โอห์ม)
r = ความต้านทานภายในของเซลล์ไฟฟ้า…(โอห์ม)
E = แรงเคลื่อนไฟฟ้าของเซลล์ไฟฟ้า…(โวลต์)
VR = ความต่างศักย์ไฟฟ้าภายนอกเซลล์…(โวลต์)
Vr = ความต่างศักย์ภายในเซลล์…(โวลต์)
I = กระแสไฟฟ้าในวงจร…(แอมแปร์)
ความสัมพันธ์ของแรงเคลื่อนไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน
กฎของโอห์ม
จะได้ว่า …
E = VR + Vr (เมื่อ V = IR)
E = IR + Ir
E = I(R + r)
ดังนั้น … ถ้ามีเซลล์ไฟฟ้า (E) หลายเซลล์ มีตัวต้านทานหลายตัว เขียนสมการได้ดังนี้ …
เมื่อ …
∑E = แรงเคลื่อนไฟฟ้ารวม
∑ R r = ความต้านทานภายนอกและภายในรวม
I = กระแสไฟฟ้าในวงจร
การต่อตัวต้านทาน
การต่อความต้านทานในวงจรไฟฟ้ามี 3 แบบคือ
1. การต่อแบบอนุกรม
เป็นการต่อเรียงเป็นเส้นเดียวกัน วงจรเป็นดังนี้
ลักษณะสําคัญ
•ถ้าสายไฟที่ต่อตัวต้านทานตัวใดตัวหนึ่งขาด จะไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลในวงจร
ตัวอย่างที่ 1 ตัวต้านทาน 3 ตัว มีค่า
เท่ากับ 100 , 220 , และ 330
ตามลําดับดังภาพ จงหาค่าความ
ต้านทานรวมของวงจร
ลักษณะสําคัญ
• ความต้านทานรวมภายในวงจร หาได้จาก
• กระแสไฟฟ้ารวมจะเท่ากับผลบวกของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานแต่ละตัว
Iรวม = I1 + I2 + I3 + .... + In
ถ้าสายไฟที่ต่อตัวต้านทานตัวใดตัวหนึ่งขาดก็ยังมีกระแสไฟฟ้าไหลในวงจร
ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าความต้านทานรวมของวงจรต่อไปนี้
3.การต่อแบบผสม เป็นการต่อแบบอนุกรมและแบบ
ขนานอยู่ในวงจรไฟฟ้าเดียวกัน ต้องแยกคิดทีละแบบ ไม่มีสูตร
คํานวณเฉพาะ
ตัวอย่างที่ 4 จงหาค่าความต้านทานรวมของวงจรต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าความต้านทานรวมของวงจรต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าความต้านทานรวมของวงจรต่อไปนี้
การต่อเซลล์ไฟฟ้า
ทบทวน
ก่อนนะจ๊ะ
เซลล์ไฟฟ้า ทําหน้าที่เป็นแหล่งกําเนิดไฟฟ้า จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่
วงจรไฟฟ้า เซลล์ไฟฟ้ากระแสตรงจะทําให้เกิดการไหลของกระแสในวงจรทิศทางเดียว
เซลล์ไฟฟ้า 1 เซลล์ จะประกอบด้วยค่าแรงเคลือ่ นไฟฟ้า (E) และ
ความต้านทานภายในเซลล์ (r) โดยที่ขีดยาว หมายถึง ขั้วบวก และขีดสั้น หมายถึง
ขั้วลบของเซลล์
รูปสัญลักษณ์ของเซลล์ไฟฟ้า 1 เซลล์
การต่อเซลล์ไฟฟ้าหลายเซลล์
2. การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบขนาน
คือ การนําเอาขั้วของเซลล์ไฟฟ้าแต่ละ
เซลล์ทเี่ หมือนกันมาต่อเข้าด้วยกันโดยนําขั้วบวก
ของแต่ละเซลล์รวมกัน และนําขั้วลบของเซลล์
รวมกันอีกด้านหนึ่ง แล้วนําเอาขั้วของเซลล์ทตี่ ่อ
ขนานไปใช้งาน
การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบ
ขนาน (Parallel cell) เซลล์ไฟฟ้าแต่ละเซลล์ต้องมี
ค่าแรงเคลือ่ นไฟฟ้า (Voltage) และความต้านทาน
ภายในเซลล์ไฟฟ้าแต่ละเซลล์เท่ากัน
การต่อเซลล์ไฟฟ้าหลายเซลล์
3. การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบผสม
เซลล์ไฟฟ้าแต่ละเซลล์ทจี่ ะนํามาต่อ
จะต้องมี แรงเคลื่อนไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ
ความต้านทานภายในเซลล์เท่ากันทุกตัว การต่อ
เซลล์ไฟฟ้าแบบผสมจะมีการต่อแบบอนุกรม และ
ขนาน จากรูป เป็นการต่ออนุกรมแถวละ x และต่อ
ขนานกันจํานวน y แถว