Professional Documents
Culture Documents
7 ก.ค. 64
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
สารบัญ
หน้า
หมวดที่ 1 ข้อมูลทั่วไป 5
1. รหัสและชื่อหลักสูตร 5
2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา 5
3. วิชาเอก (ถ้ามี) 5
4. จานวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตร 5
5. รูปแบบของหลักสูตร 5
6. สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/ เห็นชอบหลักสูตร 6
7. ความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 6
8. อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสาเร็จการศึกษา 6
9. ชื่อ-สกุล ตาแหน่ง และคุณวุฒิการศึกษาของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร 7
10.สถานที่จัดการเรียนการสอน 7
11.สถานการณ์ภายนอกหรือการพัฒนาที่จาเป็นต้องนามาพิจารณาในการวางแผนหลักสูตร 7
12.ผลกระทบจากข้อ 11 ต่อการพัฒนาหลักสูตรและความเกีย่ วข้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัย 8
13.ความสัมพันธ์กับหลักสูตรอื่นที่เปิดสอนในคณะ/ภาควิชาอื่นของสถาบัน (ถ้ามี) 8
หมวดที่ 2 ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร 10
1. ปรัชญา ความสาคัญ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร และผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร 10
2. แผนพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร 12
หมวดที่ 3 ระบบการจัดการศึกษา การดาเนินการ และโครงสร้างของหลักสูตร 14
1. ระบบการจัดการศึกษา 14
2. การดาเนินการหลักสูตร 14
2.1 วัน-เวลาในการดาเนินการเรียนการสอน 14
2.2 คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา 14
2.3 ปัญหาของนักศึกษาแรกเข้า 14
2.4 กลยุทธ์ในการดาเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา/ข้อจากัดของนักศึกษาในข้อ 2.3 14
2.5 แผนการรับนักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาในระยะ 5 ปี 14
2.6 งบประมาณตามแผน 15
2.7 ระบบการศึกษา 17
2.8 การเทียบโอนหน่วยกิต รายวิชา และการลงทะเบียนเรียนข้ามมหาวิทยาลัย (ถ้ามี) 17
3. หลักสูตรและอาจารย์ผู้สอน 17
3.1 หลักสูตร 17
3.1.1 จานวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 17
3.1.2 โครงสร้างหลักสูตร 17
3.1.3 รายวิชา 18
3.1.4 แผนการศึกษา 25
3.2 ชื่อ สกุล ตาแหน่ง คุณวุฒิ และภาระงานสอนของอาจารย์ 33
3.2.1 อาจารย์ประจาหลักสูตร 33
3.2.2 อาจารย์ประจา 39
3.2.3 อาจารย์พิเศษ 39
4. องค์ประกอบเกี่ยวกับประสบการณ์ภาคสนาม (การฝึกงาน หรือสหกิจศึกษา) (ถ้ามี) 39
5. ข้อกาหนดเกี่ยวกับการทาโครงงานหรืองานวิจัย (ถ้ามี) 39
หมวดที่ 4 ผลการเรียนรู้ กลยุทธ์การสอนและการประเมินผล 41
1. การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนักศึกษา 41
2. การพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตรในแต่ละข้อ 41
3. แผนที่แสดงการกระจายความสัมพันธ์ผลลัพธ์การเรียนรู้จากหลักสูตรสูรายวิชา 46
(Curriculum Mapping)
หมวดที่ 5 หลักเกณฑ์ในการประเมินผลนักศึกษา 58
1. กฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์ในการให้ระดับคะแนน (เกรด) 58
2. กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา 58
3. เกณฑ์การสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตร 59
หมวดที่ 6 การพัฒนาอาจารย์ 64
1. การเตรียมการสาหรับอาจารย์ใหม่ 64
2. การพัฒนาความรู้และทักษะให้แก่อาจารย์ 64
หมวดที่ 7 การประกันคุณภาพหลักสูตร 65
1. การกากับมาตรฐาน 65
2. บัณฑิต 65
3. นักศึกษา 66
4. อาจารย์ 68
5. หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน 68
6. สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 68
7. ตัวบ่งชี้ผลการดาเนินงาน (Key Performance Indicators) 71
หมวดที่ 8 การประเมินและปรับปรุงการดาเนินการของหลักสูตร 73
1. การประเมินประสิทธิผลของการสอน 73
2. การประเมินหลักสูตรในภาพรวม 74
3. การประเมินผลการดาเนินงานตามรายละเอียดหลักสูตร 74
4. การทบทวนผลการประเมินและวางแผนปรับปรุง 74
เอกสารแนบ 75
ภาคผนวก ก. คาอธิบายรายวิชา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชา 76
ภาคผนวก ข. ตารางเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงระหว่างหลักสูตรเดิมและหลักสูตรปรับปรุง 120
ภาคผนวก ค. ประวัติอาจารย์ประจาหลักสูตร 126
ภาคผนวก ง. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตร 218
ภาคผนวก จ. ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 219
ภาคผนวก ฉ. บทสรุปผู้บริหาร 251
ภาคผนวก ช. เอกสารความร่วมมือกับสถาบันอื่น 269
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
หมวดที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
1. รหัสและชื่อหลักสูตร
1.1 ระบุรหัส : 2520002
1.2 ชื่อหลักสูตร (ภาษาไทย) : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
(ภาษาอังกฤษ) : Master of Engineering Program in Civil Engineering
2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
2.1 ชื่อเต็ม (ภาษาไทย) : วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา)
(ภาษาอังกฤษ) : Master of Engineering (Civil Engineering)
2.2 ชื่อย่อ (ภาษาไทย) : วศ.ม. (วิศวกรรมโยธา)
(ภาษาอังกฤษ) : M.Eng. (Civil Engineering)
3. วิชาเอก (ถ้ามี)
ไม่มี
4. จานวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตร
แผน ก2 (วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต) จานวน 37 หน่วยกิต
5. รูปแบบของหลักสูตร
5.1 รูปแบบ
หลักสูตรระดับปริญญาโท 2 ปี ได้แก่ แผน ก2
5.2 ภาษาที่ใช้
หลักสูตรจัดการเรียนการสอนด้วยภาษาไทยเป็นหลักหรือด้วยภาษาอังกฤษในบางรายวิชา อาจมีการ
ใช้เอกสารและตาราเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
5.3 การรับเข้าศึกษา
รับทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติที่เข้าใจภาษาไทย
5.4 ความร่วมมือกับสถาบันอื่น
ภาควิชาวิศวกรรมโยธาได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสถาบันการชั้นนาในระดับ
ภู มิ ภ า ค เ ช่ น Universiti Teknologi Malasia (UTM), University of Malaya (UM), Universiti Saints
Malasia (USM), National Taiwan Ocean University (NTOU), National Taiwan University (NTU) ซึ่ง
ตามแนวทางในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ได้มีความร่วมมือในด้านเกี่ยวกับการวิจัยและผลงานแผยแพร่
บทความทางวิชาการร่วมกันระหว่างคณาจารย์ของภาควิชาวิศวกรรมโยธาและบุคลากรของสถาบันต่างๆ
เหล่านี้ ซึ่งความร่วมมือในระดับนานาชาตินี้มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรวิศวกรรม
ศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) ด้วยการช่วยเพิ่มมุมมองต่อวิชาชีพและองค์ความรู้จากพื้นฐานสังคมและ
วัฒนธรรมรวมไปถึงเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน นอกเหนือไปจากความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ดังที่
กล่าวไว้ข้างต้น หลักสูตรยังได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรม หน่วยราชการ รวมไปถึงสมาคม
วิชาชีพต่างๆ (เช่น สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) มาช่วยแบ่งบันประสบการณ์และแนวความคิดที่
เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในหลักสูตร ในฐานะวิทยากรรับเชิญของรายวิชาต่างๆ อยู่อย่างสม่าเสมอ
5.5 การให้ปริญญาแก่ผู้สาเร็จการศึกษา
ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
6. สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตร
หลักสูตรปรับปรุง กาหนดเปิดสอนเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2564 ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2564
เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ....2520.... (ระบุปี พ.ศ. ของหลักสูตรนี้ที่เปิดสอนครั้งแรก)
ได้พิจารณากลั่นกรองโดยสภาวิชาการ ในการประชุมครั้งที่ ...6.../...2564...
เมื่อวันที่......14....... เดือน.....มิถุนายน......... พ.ศ. ...2564....
ได้รับอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตรจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ....263.....
เมื่อวันที่....7... เดือน...กรกฎาคม.... พ.ศ. ....2564....
ปรับปรุงจากหลักสูตรเดิม
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559
7. ความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มคี ุณภาพและมาตรฐาน
หลักสูตรมีความพร้อมเผยแพร่คุณภาพและมาตรฐานตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ.2552 ในปีการศึกษา 2565
8. อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสาเร็จการศึกษา
(1) วิศวกรโยธา
(2) ผู้จัดการโครงการก่อสร้าง
(3) นักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ
(4) นักออกแบบ
(5) นักวิชาชีพในสถานประกอบการ
ใช้รายวิชาร่วมกับหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
13.3 การบริหารจัดการ
อาจารย์ ผู้ รั บ ผิ ด ชอบหลั ก สู ต รต้ อ งประสานงานกั บ อาจารย์ ผู้ แ ทนจากในคณะอื่ น ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
ด้านเนื้อหาสาระ การจัดตารางเรียนและสอบ และความสอดคล้องกับมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามกรอบ
มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติและผลลัพธ์การเรียนรู้รายวิชาที่กาหนดไว้
หมวดที่ 2 ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร
1.2 ความสาคัญของหลักสูตร
ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้ต่อเนื่องนั้น ยังคงต้องมีการก่อสร้างโครงสร้าง
ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบขนส่ ง และที่พักอาศัยที่มีความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างทั่ว ถึ ง
นอกจากนี้ประเทศไทยยังต้องการผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากภัยพิบัติต่างๆ
เช่ น อุ ท กภั ย ป้ อ งกั น ปั ญ หาอุ บั ติ เ หตุ ต่ า งๆ ในระยะยาว ประเทศไทยยั ง ต้ อ งมี ก ารบ ารุ ง รั ก ษาระบบ
สาธารณูปโภค โครงสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ให้คงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ซึ่ง การดาเนินการดังกล่าวนั้นต้องการ
วิศวกรโยธาที่มีทั้งความรู้และทักษะในการทางานที่ดีเป็นจานวนมาก ในขณะเดียวกันลักษณะการทางานเชิง
วิศวกรรมโยธาก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและทักษะต่างๆ ที่จาเป็นต่อวิศวกรรุ่นใหม่ๆ ก็เปลี่ยนแปลง
ไปจากเดิม หน่วยงานต่างๆ มีความต้องการวิศวกรที่พร้อมที่จะทางานได้ทันทีที่จบการศึกษามากกว่าที่จะต้อง
ทาการฝึกอบรมก่อนที่จะให้เริ่มปฏิบั ติงานทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานสามารถบรรลุเป้าหมายในการดาเนินงานได้
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด ตามที่หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตนี้เน้นการพัฒนานักวิชาชีพ
ด้านวิศวกรรมโยธาที่มีทั้งความรู้ในระดับสูงและมีทักษะต่างๆ พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้ทันทีที่จบการศึกษา จึง
เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศไทยในปัจจุบันและมีความสาคัญในการแก้ปัญหาและ
ส่งเสริมการพัฒนาของประเทศ บุคลากรที่สาเร็จการศึกษาจะช่วยเพิ่ม คุณภาพและเพิ่มขีดความสามารถใน
การผลิต และแก้ปัญหา และเป็นผลให้เศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่งและมีการพัฒนาที่ยั่งยืน
1.3 วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1.3.1 เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาระดับปริญญาโท ที่มีทั้งความรู้ระดับสูงและทักษะในการ
ทางานในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา เป็นที่ยอมรับของภาคอุตสาหกรรมขึ้นภายในประเทศ
1.3.2 เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาที่สามารถประยุกต์ใช้กระบวนการวิจัยในการแก้ไขปัญหา
หรือสร้างนวัตกรรมในเชิงวิศวกรรมได้
1.3.3 เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและภูมิภาค มี
ความรู้พื้นฐานในสาขาความเชี่ยวชาญที่ดีและสามารถที่จะทางานเป็นทีมและปรับตัวตามสภาวะการณ์
และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปได้
2. แผนพัฒนาปรับปรุง
แผนการพัฒนา/เปลี่ยนแปลง กลยุทธ์ หลักฐาน/ตัวบ่งชี้
- ปรับปรุงหลักสูตรวิศวกรรมโยธา - พัฒนาหลักสูตรโดยมีพื้นฐาน - เอกสารปรับปรุงหลักสูตร
ให้ มี ค วามทั น สมั ย และเป็ น ไป จากทิ ศ ทางการพั ฒ นาของ - ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น
ตามมาตรฐาน ตามเกณฑ์ ที่ ประเทศไทยและภู มิ ภ าค หลักสูตร
ส านั ก งานปลั ด กระทรวงการ อาเซียน
อุ ด มศึ ก ษา วิ ท ยาศาสตร์ วิ จั ย - ติดตามประเมินหลักสูตรอย่าง
และนวัตกรรม (สป.อว.) กาหนด สม่าเสมอ
- ปรับปรุงหลักสูตรโดยเน้น - พัฒนาหลักสูตรโดยมีการ - เอกสารปรับปรุงหลักสูตร
ผลลัพท์การเรียนรู้ (LO) ของ กาหนด “ผลลัพท์การเรียนรู้ - รายงานการประเมิ น ตนเอง
บัณฑิตตามทฤษฎีการเรียนการ ระดับหลักสูตร” และกระจาย (Self-Assessment Report)
สอนที่เป็นที่ยอมรับในระดับ ผลลัพท์การเรียนรู้ไปยัง ซึ่งจัดทาขึ้นทุกปีการศึกษา
นานาชาติ รายวิชาต่างๆ อย่างเหมาะสม - ข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ การเรี ย นการ
- มีการปรับปรุงเนื้อหา วิธีการ สอนและการเรี ย นการสอน
ส่งเสริมการเรียนรู้ และวิธี (เช่น มคอ. 5 มคอ. 6 และ มคอ.
ผลลัพท์การเรียนรู้ที่สอดคล้อง 7) และตัวอย่างข้อสอบและการ
กับผลลัพท์การเรียนรู้ที่ ให้คะแนนของแต่ละรายวิชา
กาหนดไว้
- ปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้อง - ติดตามความเปลี่ยนแปลงใน - รายงานผลการประเมินความพึง
กับความต้องการของธุรกิจ และ ความต้องการของ พอใจในการใช้ บั ณ ฑิ ต ของ
การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ผู้ประกอบการ สถานวิจัยด้าน ผู้ ใ ช้ ง านบั ณ ฑิ ต (เช่ น สถาน
วิศวกรรมโยธาในปัจจุบัน วิศวกรรมโยธา (ภาคผู้ใช้ ประกอบการ หน่วยงานรัฐ รัฐ
บัณฑิต) มีการรวบรวม สาหกิจต่างๆ) และจากบัณฑิตที่
ความเห็นในการปรับปรุง จบการศึกษาไป
2.6 งบประมาณตามแผน
2.6.1 งบประมาณรายรับ (หน่วย : บาท)
อัตราค่าเล่าเรียน ภาคการศึกษา ปีการศึกษา
1. ค่าบารุงการศึกษา 12,000 บาท 24,000 บาท
2. ค่าลงทะเบียน
วิชาเรียน 1,000 บาท/หน่วยกิต 6,250 บาท 12,500 บาท
วิทยานิพนธ์ 2,000 บาท/หน่วยกิต 6,000 บาท 12,000 บาท
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรของนักศึกษา 97,000 บาท / คน
ข. กลุ่มสาขาวิชาเลือก 24 หน่วยกิต
(Elective Courses in the Specified Field)
ข.1 วิชาเลือกกลุ่มวิชาหลัก
ข.1.1 กลุ่มวิชาวิศวกรรมโครงสร้าง
CVE 630 กลศาสตร์ของแข็งที่มีความต่อเนื่อง 3 (3 – 0 – 9)
(Continuum Solid Mechanics)
CVE 632 การออกแบบโครงสร้างคอนกรีตขั้นสูง 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Design of Concrete Structures)
CVE 633 การออกแบบคอนกรีตอัดแรงขั้นสูง 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Design of Prestressed Concrete)
CVE 634 การออกแบบและใช้งานคอนกรีตพิเศษ 3 (3 – 0 – 9)
(Design and Application of Special Concrete)
ข.1.2 กลุ่มวิชาวิศวกรรมเทคนิคธรณี
CVE 653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Soil Improvement Technique)
CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมโยธา 3 (3 – 0 – 9)
(Instrumentation in Civil Engineering)
CVE 655 อุโมงค์และงานก่อสร้างใต้ดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Tunneling and Underground Construction)
CVE 657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 (3 – 0 – 9)
(Numerical Analysis in Geotechnical Engineering)
CVE 658 วิศวกรรมธรณีวิทยาประยุกต์ 3 (3 – 0 – 9)
(Applied Engineering Geology)
CVE 659 กลศาสตร์ของหิน 3 (3 – 0 – 9)
(Rock Mechanics)
CVE 660 การสารวจใต้ผิวพื้นและการทดสอบดิน 3 (2 – 3 – 9)
(Subsurface Investigation and Soil Testing)
CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Soil Mechanics)
CVE 662 คุณสมบัติและพฤติกรรมของดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Soil Properties and Behavior)
CVE 664 พลศาสตร์ของดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Soil Dynamics)
CVE 666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Theoretical Soil Mechanics)
CVE 667 โครงสร้างดิน 3 (3 – 0 – 9)
(Earth Structures)
CVE 668 วิศวกรรมฐานรากขั้นสูง 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Foundation Engineering)
ข. 3 วิชาเลือกสาขาวิชาคณิตศาสตร์
วิชาเลือกในกลุ่มคณิตศาสตร์ หรือ สถิติขั้นสูง นักศึกษาสามารถเลือกเรียนตามแผนการศึกษา
ของกลุ่มวิชาได้ดังนี้
MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ 3 (3 – 0 – 9)
(Mathematical Techniques)
MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Mathematics for Engineers)
CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Mathematics for Civil Engineering)
CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 – 0 – 9)
(Advanced Statistical Methods for
Transportation Studies)
ค. วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1
MTH xxx / CVE xxx วิชาเลือกสาขาวิชาคณิตศาสตร์ 3 (3 - 0 - 9)
(Mathematic Elective)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 1 3 (3 - 0 - 9)
xx
(Elective I)
CVE xxx (Advanced
วิชาเลือกในกลุMathematics
่มวิชาหลัก 2 for Engineer) 3 (3 - 0 - 9)
(Elective II)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 3 3 (3 - 0 - 9)
(Elective III)
รวม 12 (12-0-36)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 48
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 701 ทักษะสาคัญสาหรับวิชาชีพวิศวกรรมโยธา 1 (0 – 3 –3)
(Essentials for Professional Civil Engineering)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 4 3 (3 - 0 - 9)
(Elective IV)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 5 3 (3 - 0 - 9)
(Elective V)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 1 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VI)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 2 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VII)
รวม 13 (12-3-39)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 54
ปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 6 (0-12-24)
(Thesis)
รวม 6 (0-12-24)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 36
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1
MTH xxx / CVE xxx วิชาเลือกสาขาวิชาคณิตศาสตร์ 3 (3 - 0 - 9)
(Mathematic Elective)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 1 3 (3 - 0 - 9)
(Elective I)
CVE xxx (Advanced
วิชาเลือกในกลุMathematics
่มวิชาหลัก 2 for Engineer) 3 (3 - 0 - 9)
(Elective II)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 3 3 (3 - 0 - 9)
(Elective III)
รวม 12 (12-0-36)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 48
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 701 ทักษะสาคัญสาหรับวิชาชีพวิศวกรรมโยธา 1 (0 – 3 –3)
(Essentials for Professional Civil Engineering)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 4 3 (3 - 0 - 9)
(Elective IV)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 5 3 (3 - 0 - 9)
(Elective V)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 1 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VI)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 2 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VII)
รวม 13 (12-3-39)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 54
ปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 6 (0 - 12 -24)
(Thesis)
รวม 6 (0 - 12 -24)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 36
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1
MTH xxx / CVE xxx วิชาเลือกสาขาวิชาคณิตศาสตร์ 3 (3 - 0 - 9)
(Mathematic Elective)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 1 3 (3 - 0 - 9)
(Elective I)
CVE xxx (Advanced
วิชาเลือกในกลุMathematics
่มวิชาหลัก 2 for Engineer) 3 (3 - 0 - 9)
(Elective II)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 3 3 (3 - 0 - 9)
(Elective III)
รวม 12 (12-0-36)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 48
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 701 ทักษะสาคัญสาหรับวิชาชีพวิศวกรรมโยธา 1 (0 – 3 –3)
(Essentials for Professional Civil Engineering)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 4 3 (3 - 0 - 9)
(Elective IV)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 5 3 (3 - 0 - 9)
(Elective V)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 1 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VI)
CVE xxx วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 2 3 (3 - 0 - 9)
(Elective VII)
รวม 13 (12-3-39)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 54
ปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 6 (0-12-24)
(Thesis)
รวม 6 (0-12-24)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 36
ปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1
MTH xxx / CVE xxx วิชาเลือกสาขาวิชาคณิตศาสตร์ 3 (3 - 0 - 9)
(Mathematic Elective)
ปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 6 (0 - 12 -24)
(Thesis)
รวม 6 (0 - 12 -24)
ชั่วโมง/สัปดาห์ = 36
คุณลักษณะพิเศษ กลยุทธ์หรือกิจกรรมของนักศึกษา
มีความรู้เกี่ยวกับงานวิศวกรรมโยธาสาขา - ใช้องค์ความรู้ที่มีความทันสม้ยในการเรียนการสอน
ต่างๆ ที่เชี่ยวชาญพร้อมทั้งความสามารถ - มีการฝึกให้นักศึกษาฝึกแก้ไขปัญหาในลักษณะที่ต้องประยุกต์ใช้
ในการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ดังกล่าวใน องค์ความรู้ พร้อมกรณีศึกษา
- มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายในบางรายวิชาเพื่อถ่ายทอด
งานวิศวกรรม
ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในงาน
วิศวกรรม
มีทักษะต่างๆที่จาเป็นต้องการทางานใน - กาหนดให้นักศึกษาต้องทางานเป็นกลุ่ม และมีการกาหนดหัวหน้า
การทางานวิศวกรรมในโครงการต่างๆ กลุ่มในการทารายงาน ตลอดจนกาหนดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการ
นาเสนอรายงาน เพื่อเป็นการฝึกให้นักศึกษาได้สร้างภาวะผู้นา
และการเป็นสมาชิกกลุ่มที่ดี ในบางรายวิชา
- กาหนดกติกาที่จะสร้างวินัยในตนเอง เช่น การเข้าเรียนตรงเวลา
เข้าเรียนอย่างสม่าเสมอ การมีส่วนร่วมในชัน้ เรียน เสริมความกล้า
ในการแสดงความคิดเห็น
- ส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านการทากิจกรรมต่างๆ
การนาเสนอผลงาน การเขียนรายงาน และการสื่อสารรูปแบบ
ต่างๆ เพื่อให้สามารถผลักดันงานต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้
ยึดมั่นใจหลักคุณธรรม จริยธรรม และ - ให้ความรู้เกี่ยวกับความสาคัญของคุณธรรม จริยธรรม และ
จรรยาบรรณวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพในเนื้อหาในบางรายวิชาที่เกี่ยวข้อง
- การให้ความรู้ถงึ ผลกระทบต่อสังคม และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กับการกระทาความผิดเกี่ยวกับงานก่อสร้าง
2. การพัฒนาผลการเรียนรูร้ ะดับหลักสูตรในแต่ละข้อ
ผลลัพธ์การเรียนรู้ กลยุทธ์การสอนที่ใช้พัฒนาการ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้
(PLO/SubPLO) เรียนรู้
PLO1 : บัณฑิตสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในงานด้านวิศวกรรมโยธาได้
Sub PLO1A : อ ธิ บ า ย เ กี่ ย ว กั บ การบรรยายในห้องเรียน การสอบวัดผล (สอบกลางภาค
ปรากฎการณ์ ธ รรมชาติ วั ส ดุ แ ละ และ สอบปลายภาค)
ระบบต่ า งๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ งาน
วิศวกรรมโยธาและประยุกต์ใช้ความรู้
ดังกล่าวในงานวิศวกรรมได้
การให้นักศึกษาฝึกแก้ปัญหาเชิง การประยุกต์ใช้ความรู้ในการทา
วิศวกรรมโดยเน้นไปที่การ วิทยานิพนธ์ (การสอบ
ประยุกต์ใช้ความรู้ ในรูปแบบของ วิทยานิพนธ์)
การมอบหมายงาน (งานเดี่ยวหรือ
งานกลุ่ม)
การให้นักศึกษาอธิบายหลักการ
ต่างๆ ในเชิงวิศวกรรม
PLO2 : บัณฑิตมีทักษะในการทางานด้านวิศวกรรม
Sub PLO2A : สามารถเรี ย นรู้ ไ ด้ การอธิบายถึงความสาคัญของการ การให้คะแนนจากงานที่
ด้วยตนเอง เรียนรู้ด้วยคนเอง มอบหมาย
การทาวิทยานิพนธ์ภายใต้คาแนะนา
ของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
การให้นักศึกษาปฏิบัติภาระกิจเป็น การให้คะแนนจากงานที่
กลุ่มโดยให้มีการบริหารจัดการ มอบหมาย
กันเอง
การทาวิทยานิพนธ์ภายใต้คาแนะนา
ของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
การให้นักศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ
เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยตนเองพร้อม
ทั้งนาเสนกรณีตัวอย่างที่สามารถนา
เทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นมาใช้เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพ หรือ ความปลอดภัย
ของงานวิศวกรรมโยธา
46
ผลการเรียนรู้ในตารางมีความหมาย ดังนี้ 2. ความรู้ 3. ทักษะทางปัญญา
1. คุณธรรม จริยธรรม (1) มีความรู้และความเข้าใจด้านหลักการใช้ภาษา (1) มีความคิดอย่างมีวิจารณญาณทีด่ ี สามารถวิเคราะห์ อภิปราย
(1) มีคุณธรรมจริยธรรม ซื่อสัตย์สจุ ริต มีจิต และการสื่อสาร และประยุกต์ใช้ความรู้ด้านภาษา และการสื่อสาร ในการเรียนรู้
อาสา ไม่ละเลยต่อปัญหาขององค์กรหรือ (2) สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศกึ ษากับ และการทางานอย่างเหมาะสม
สังคม ความรู้ในศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (2) สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และสรุปประเด็นปัญหาได้
(2) มีวินัย ตรงต่อเวลา เคารพกฎระเบียบ (3) สามารถใช้ความรู้และทักษะในด้านภาษาอังกฤษ (3) สามารถคิด วิเคราะห์ ใช้ตรรกะในการสื่อสารและนาเสนอ
มารยาท และข้อบังคับขององค์กรและ มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาในการเรียนและ ข้อมูลอย่างมีลาดับขั้นตอน และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมี
สังคม การทางานจริงได้ ระบบ สามารถใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทางานได้
(3) ตระหนักในคุณค่าของระบบคุณธรรม (4) สามารถนาความรู้ด้านภาษามาใช้ในการพัฒนา อย่างมีประสิทธิภาพ
จริยธรรม เข้าใจและซาบซึ้งในวัฒนธรรม และต่อยอดการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง (4) มีจินตนาการและความยืดหยุ่นในการปรับใช้องค์ความรูท้ ี่
ไทยและวัฒนธรรมสากล สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม รู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางองค์
(4) มีจรรยาบรรณทางวิชาชีพ ตระหนักถึง ได้ด้วยตนเองเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ความรู้และเทคโนโลยีใหม่
หน้าที่ความรับผิดชอบที่มีต่อตนเองและ
สังคม
4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสือ่ สาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
(1) สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลาย และ ทางานร่วมกันได้อย่างมี (1) มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์ หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อ
ประสิทธิภาพ การแก้ปญั หาทีเ่ กี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์
(2) รู้จักบทบาท หน้าที่ และมีความรับผิดชอบในการทางานตามที่มอบหมาย (2) มีทักษะในการสือ่ สารข้อมูลทั้งทางการพูด การเขียน และการสื่อความหมายได้อย่างดี
ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม ตรงประเด็น และเหมาะสมกับบริบท
(3) สามารถปรับตัวและทางานร่วมกับผู้อื่นทัง้ ในฐานะผู้นาและผู้ตามได้อย่างมี (3) สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทีท่ ันสมัยได้อย่างเหมาะสมและ
ประสิทธิภาพ สามารถ วางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ มีประสิทธิภาพ
(4) สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ของตนเอง
(5) มีจิตสานึกความรับผิดชอบด้านวิชาชีพของตนเอง
47
3.2 ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผลลัพทธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตรกับผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับรายวิชา (PLO Curriculum Mapping)
PLO 1 PLO 2 PLO 3
Sub Sub Sub Sub Sub Sub Sub 2E Sub 2F Sub Sub
1A 1B 2A 2B 2C 2D 3A 3B
สาหรับผู้เข้าศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต)
ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษาที่ 1
MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ หรือ
MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร หรือ
CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา หรือ
CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง
LNG 550 : วิชาปรับพื้นภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หรือ
LNG 600 : วิชาภาษาอังกฤษระหว่างการเรียนในหลักสูตรสาหรับนักศึกษาระดับ
บัณฑิตศึกษา
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 1
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 2
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 3
ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษาที่ 1
CVE 701 ทักษะสาคัญสาหรับวิชาชีพวิศวกรรมโยธา
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 4
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาหลัก 5
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 1
CVE XXX วิชาเลือกในกลุ่มวิชาอื่น 2
ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษาที่ 2
48
PLO 1 PLO 2 PLO 3
Sub Sub Sub Sub Sub Sub Sub 2E Sub 2F Sub Sub
1A 1B 2A 2B 2C 2D 3A 3B
CVE 702 วิทยานิพนธ์
ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษาที่ 2
CVE 702 วิทยานิพนธ์
49
PLO1 PLO2 PLO3
รายวิชา
1A 1B 2A 2B 2C 2D 2E 2F 3A 3B
รายวิชาเลือกในกลุ่มวิชาวิศวกรรมโครงสร้าง
CVE630 กลศาสตร์ของแข็งที่มีความต่อเนื่อง
CVE632 การออกแบบโครงสร้างคอนกรีตขั้นสูง
CVE633 การออกแบบคอนกรีตอัดแรงขั้นสูง
CVE634 การออกแบบและใช้งานคอนกรีตพิเศษ
CVE636 การออกแบบโครงสร้างเหล็กขั้นสูง
CVE637 วิธีการคานวณในกลศาสตร์โครงสร้าง
CVE638 ทฤษฎีของแผ่นบางและเปลือกบาง
CVE639 เสถียรภาพของโครงสร้าง
CVE640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขั้นสูง
CVE641 คอนกรีตเทคโนโลยีขั้นสูง
CVE642 พลศาสตร์โครงสร้าง
CVE644 ทฤษฎีของโครงสร้างเปลือกบาง
CVE645 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์ในกลศาสตร์โครงสร้าง
CVE646 วิธีการพลังงานในกลศาสตร์ประยุกต์
50
PLO1 PLO2 PLO3
รายวิชา
1A 1B 2A 2B 2C 2D 2E 2F 3A 3B
CVE648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและ
แผ่นดินไหว
CVE732 การวิเคราะห์โครงสร้างวัสดุคอมโพสิต
CVE 733 การวิเคราะห์ไฟไนต์เอลิเมนต์ไม่เชิงเส้นของโครงสร้าง
CVE734 การออกแบบข้อต่อโครงสร้างเหล็ก
CVE735 ความทนทาน การป้องกันและซ่อมแซมคอนกรีต
รายวิชาเลือกในกลุ่มวิชาวิศวกรรมเทคนิคธรณี
CVE653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน
CVE654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมโยธา
CVE655 อุโมงค์และงานก่อสร้างใต้ดิน
CVE657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี
CVE658 วิศวกรรมธรณีวิทยาประยุกต์
CVE659 กลศาสตร์ของหิน
CVE660 การสารวจใต้ผิวพื้นและการทดสอบดิน
CVE661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง
CVE662 คุณสมบัติและพฤติกรรมของดิน
51
PLO1 PLO2 PLO3
รายวิชา
1A 1B 2A 2B 2C 2D 2E 2F 3A 3B
CVE664 พลศาสตร์ของดิน
CVE666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน
CVE667 โครงสร้างดิน
CVE668 วิศวกรรมฐานรากขั้นสูง
รายวิชาเลือกในกลุ่มวิชาวิศวกรรมขนส่ง
CVE671 ระบบการขนส่ง
CVE672 การดาเนินงานการจราจร
CVE674 การขนส่งมวลชนในตัวเมือง
CVE675 การประเมินโครงการด้านการขนส่ง
CVE676 การออกแบบทางเรขาคณิตของถนน
CVE677 การวางแผนการขนส่ง
CVE678 การวางแผนและออกแบบสนามบิน
CVE679 การออกแบบผิวทางขั้นสูง
CVE771 แบบจาลองวิเคราะห์การจราจรและการใช้งาน
CVE772 สิ่งแวดล้อมของระบบการขนส่ง
CVE773 วิศวกรรมและการวางแผนความปลอดภัยทางถนน
CVE774 เทคนิคการหาผลเฉลยที่ดีที่สุดสาหรับการขนส่ง
52
PLO1 PLO2 PLO3
รายวิชา
1A 1B 2A 2B 2C 2D 2E 2F 3A 3B
CVE775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการ
เดินทาง
CVE776 การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
CVE777 นโยบายและการวางแผนการขนส่งสินค้าในเขตเมือง
CVE778 แบบจาลองการขนส่งสินค้า
CVE779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง
รายวิชาเลือกในกลุ่มวิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้า
CVE 680 กลศาสตร์ของไหลขั้นสูง
CVE 681 ชลศาสตร์ทางน้าเปิดขั้นสูง
CVE 682 ชลศาสตร์ของการไหลแบบไม่คงที่
CVE 683 การจาลองและแบบจาลองสภาพอุทกวิทยา
CVE 685 การวิเคราะห์ระบบแหล่งน้า
CVE 686 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรน้า
CVE 688 ชลศาสตร์ชายฝั่งทะเล
CVE 689 ชลศาสตร์ของน้าขึ้นน้าลงและบริเวณปากแม่น้า
CVE 690 การกัดเซาะและตะกอน
CVE 691 กลศาสตร์และกระบวนการของแม่น้า
53
PLO1 PLO2 PLO3
รายวิชา
1A 1B 2A 2B 2C 2D 2E 2F 3A 3B
CVE 692 การป้องกันน้าท่วมและการระบายน้า
CVE 693 อุทกวิทยาขั้นสูง
CVE 695 การวิเคราะห์ปัญหาแหล่งน้าโดยคอมพิวเตอร์
CVE 696 ระบบและกระบวนการทางอุทกวิทยา
CVE698 การออกแบบโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทะเล
รายวิชาเลือกในกลุ่มวิชาอืน่ ๆ
CVE 704 หัวข้อพิเศษ 1
CVE 705 หัวข้อพิเศษ 2
CVE 706 หัวข้อพิเศษ 3
CVE 707 หัวข้อพิเศษ 4
54
3.3 ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร (PLOs) กับKMUTT Student QF และผลการเรียนรู้ 5 ด้านของ TQF
KMUTT Student QF TQF
5. ทักษะการ
KMUTT’s 4. ทักษะความสั มพันธ์ระหว่าง วิเคราะห์เชิง
Communication Skill
1. คุณธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ 3. ทักษะทางปัญญา
Management Skills
Professional Skill
Citizenship บุคคล และรับผิดชอบ ตัวเลข การสื่ อสาร
Thinking Skill
Learning Skill
Leadership
Knowledge
ผลลั พท์การเรียนรู้ของหลั กสู ตร และการใช้
Responsibility
Humanization
Adaptability
1 2 3 4 5 1 2 3 4 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3
PLO 1: บัณฑิตสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในงานด้านวิศวกรรมโยธาได้ P P P P P P P
ในงานวิศวกรรมได้
55
Sub PLO3B รับฟังความเห็นที่แตกต่าง ให้เกียรติและเคารพคุณค่าใน
P P P P P P
งานของผู้อื่น
ความหมายของกรอบคุณลักษณะบัณฑิตอันพึงประสงค์ของ มจธ. (KMUTT Student QF)
กรอบคุณลักษณะบัณฑิตอันพึงประสงค์ ของ มจธ. (KMUTT Student QF)
ความรับผิดชอบ (Responsibility) มีความรับผิดชอบต่อทั้งตนเอง วิชาชีพและสังคม มีวินัย ตรงต่อเวลา ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสาธารณะ ไม่ละทิ้งงานหรือปัดความรับผิดชอบ พร้อม
ที่จะยอมรับและจัดการกับผลที่ตามมาจากการกระทาทั้งผลโดยตรงและผลกระทบทางอ้อม เคารพต่อกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆขององค์กรและสังคม ตลอดจนมีจรรยาบรรณทาง
ความเป็นพลเมือง มจธ.(KMUTT’s citizenship) วิชาการและวิชาชีพ
คือความเป็นมืออาชีพและมีคุณธรรมจริยธรรม
(Professionalism and Integrity)รวมถึงการยึดมั่น การปรับตัว (Adaptability) มีความยืดหยุ่นไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนปิดกั้นตนเองจากสิ่งอื่น และเตรียมพร้อมที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆโดยไม่คิดต่อต้ านแต่พร้อมจะทา
ตามหลักปฏิบัติด้านจรรยาบรรณองค์กร เพื่อพัฒนาสู่ ความเข้าใจในความจาเป็นของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
การเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ (Humanization) การเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ (Humanization) มีทัศนคติมองโลกในแง่ดี ไม่ดูถูกตนเองและผู้อื่น เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ใส่ใจดูแล สิ่งแวดล้อมและของสาธารณะ สามารถอยู่
ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี รู้จักการให้ การแบ่งปัน และการเสียสละ
ทักษะการคิด (Thinking Skill) คือ มีความคิดสร้างสรรค์ มีระบบความคิดที"มีเหตุผล รู้จัก ประมวลสารสนเทศ ระดมความคิดรอบด้านจากมุมมองที่แตกต่าง สามารถเลือกใช้แบ บแผน ความคิดที่หลากหลาย นามาใช้ในการแก้ไขปัญหาและ
ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุมีผล
ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) คือ รู้จักแสวงหาความรู้ มองการเรียนรู้ว่าเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆที่มี อยู่หลากหลายรูปแบบ มีระบบและระเบียบวิธีคิดที่ดี สามารถ
แยกแยะ กลั่นกรองข้อมูลที่ได้มาจากการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม โดยสมรรถนะด้านทักษะการเรียนรู้
ทักษะการจัดการ (Management Skills) คือ สามารถตั้งเป้าหมาย วางแผน และดาเนินการอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ข้อจากัดของทรัพยากรและอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมจริยธรรม เพื่อ ให้บรรลุเป้าหมายส่วนตน ทีมงาน องค์กร และ
สังคม สามารถคาดการณ์ถึงปัญหา ผลกระทบ ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีและมีความสามารถในการเตรียมพร้อม ป้องกัน และแก้ไขสถานการณ์หรือปัญหาเชิงรุก
ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill) คือ มีทักษะในการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษได้ดีทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม มีความสามารถในการถ่ายทอด การนาเสนอ มีวิจารณญาณที่ดีใน
การรับฟัง
ภาวะผู้นา (Leadership) คือ มีความเชื่อมั่นและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีความเข้าใจพื้นฐานและความต้องการของทีม สามารถสร้างบรรยากาศการทางานเป็นทีม สร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ รู้เท่าทัน
ต่อสถานการณ์ โอกาส และความท้าทาย และ /สร้างสรรค์วิธีการในการบรรลุเป้าหมายที่หลากหลาย มีความสามารถในการรับฟังอย่างลึกซึ้ง สามา รถสื่อสาร และประสานงานให้เกิดความร่วมมือในการคิดและลงมือทาของทีม รวมทั้งเป็น
แบบอย่างการปฏิบัติที่ดี
56
ผลการเรียนรู้ 5 ด้าน ตามคุณวุฒิปริญญาโท
คุณธรรม จริยธรรม 1.3 สามารถสังเคราะห์และใช้ผลงานวิจยั สิ่งตีพิมพ์ทางวิชาการหรือรายงานทางวิชาชีพและพัฒนาความคิด
1.1 สามารถจัดการปัญหาคุณธรรมจริยธรรมที่ซับซ้อนในบริบททางวิชาการหรือวิชาชีพ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูล ใหม่ๆโดยบูรณาการให้เข้ากับองค์ความรู้เดิมหรือเสนอเป็นความรู้ใหม่ทที่ ้าทาย
เพียงพอ ก็สามารถวินิจฉัยอย่างผูร้ ู้ คานึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น ด้วยความยุติธรรม หลักฐาน หลักการที่มี 1.4 สามารถใช้เทคนิคทั่วไปหรือเฉพาะทางในการวิเคราะห์ประเด็นหรือปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างสร้างสรรค์
เหตุผลและค่านิยมอันดีงาม รวมทั้งพัฒนาข้อสรุปและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องในสาขาวิชาการหรือวิชาชีพ
1.2 สามารถจัดการปัญหาคุณธรรมจริยธรรม วินิจฉัยอย่างผู้รู้ โดยให้ข้อสรุปของปัญหาด้วยความไวต่อ 1.5 สามารถวางแผนและดาเนินการโครงการสาคัญหรือโครงการวิจัยค้นคว้าทางวิชาการได้ด่วยตนเองโดย
ความรูส้ ึกของผู้ที่ได้รับผลกระทบ การใช้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เทคนิคการวิจัยและให้ขอ้ สรุปที่สมบูรณ์ซึ่งขยายองค์ความรู้
1.3 คิดริเริ่มในการยกปัญหาทางจรรยาบรรณที่มีอยู่เพือ่ การทบทวนและแก้ไข หรือแนวทางการปฏิบัติในวิชาชีพทีม่ ีอยู่เดิมได้อย่างมีนัยสาคัญ
1.4 สนับสนุนอย่างจริงจังให้ผู้อื่นใช้การวินิฉัยทางด้านคุณธรรมจริยธรรมในการจัดการกับข้อโต้แย้งและ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความรับผิดชอบ
ปัญหาที่มีผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 1.1 สามารถแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนหรือความยุ่งยากระดับสูงทางวิชาชีพได้ด้วยตนเอง
1.5 สามารถแสดงออกซึ่งภาวะผู้นาในการส่งเสริมให้มกี ารประพฤติปฎิบัตติ ามหลักคุณธรรม จริยธรรมใน 1.2 สามารถตัดสินใจในการดาเนินด้วยตนเองและสามารถประเมินตนเอง
สภาพแวดล้อมของการทางานและในชุมชนที่กว้างขวางขึ้น 1.3 สามารถวางแผนในการปรับปรุงตนเองให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานระดับสูงได้
ความรู้ 1.4 รับผิดชอบในการดาเนินงานของตนเองและร่วมมือกับผู้อื่นอย่างเต็มที่ในการจัดการข้อโต้แย้งและปัญหา
1.1 มีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเนื้อหาสาระหลักของสาขาวิชา ตลอดจนหลักการและทฤษฎีที่ ต่างๆ
สาคัญและนามาประยุกต์ในการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการหรือการปฏิบตั ิในวิชาชีพ 1.5 แสดงออกทักษะการเป็นผู้นาได้อย่างเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพใน
1.2 มีความเข้าใจทฤษฎีการวิจัยและการปฏิบัติทางวิชาชีพนั้นอย่างลึกซึ้งในวิชาหรือกลุ่มวิชาเฉพาะในระดับ การทางานของกลุม่
แนวหน้า ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1.3 มีความเข้าใจในวิธพี ัฒนาความรู้ใหม่ๆและการประยุกต์ ตลอดถึงผลกระทบของงานวิจัยในปัจจุบันที่มีต่อ 1.1 สามารถคัดกรองข้อมูลทางคณิตศาสตร์และสถิติเพื่อนามาใช้ในการศึกษาค้นคว้าปัญหา สรุปปัญหาและ
องค์ความรู้ในสาขาวิชาและต่อการปฏิบัติวิชาชีพ เสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ
1.4 ตระหนักในระเบียบข้อบังคับทีใ่ ช้อยู่ในสภาพแวดล้อมของระดับชาติและนานาชาติที่อาจมีผลกระทบต่อ 1.2 สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างเหมาะสมกับกลุ่มบุคคลต่างๆทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ
สาขาวิชาชีพรวมทั้งเหตุผลและการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงชุมชนทั่วไป
ทักษะทางปัญญา 1.3 สามารถนาเสนอรายงานทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสิง่ ตีพิมพ์ทางวิชาการและ
1.1 ใช้ความรู้ทางภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในการจัดการบริบทใหม่ที่ไม่คาดคิดทางวิชาการและวิชาชีพ และ วิชาชีพรวมทัง้ วิทยานิพนธ์หรือโครงการค้นคว้าที่สาคัญ
พัฒนาแนวคิดริเริม่ และสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองประเด็นหรือปัญหา
1.2 สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจในสถานการณ์ที่มขี ้อมูลไม่เพียงพอ
57
58
หมวดที่ 5 หลักเกณฑ์ในการประเมินผลนักศึกษา
1. กฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์ในการให้ระดับคะแนน (เกรด)
เป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับประกาศของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2. กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา
2.1 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้ขณะนักศึกษายังไม่สาเร็จการศึกษา
การทวนสอบมาตรฐานการเรียนรู้ของนักศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการประกันคุณภาพภายในของ
สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันพิสูจน์ว่าการศึกษาตามหลักสูตรนั้นได้มีการดาเนินการและบรรลุ
เป้าหมายตามวัตถุประสงค์ และทาให้มั่นใจว่าผลลัพท์การเรียนรู้ที่กาหนดไว้ในหลักสูตรนั้นเป็น ที่เข้าใจตรงกันใน
หมู่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนักศึกษา
ในหลักสูตรนี้ ได้มีการกาหนดกลไกเพื่อการทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้อยู่ ดังนี้
ในการสอบวัดผลการเรียนรู้ (ทั้งกลางภาคและปลายภาค) อาจารย์ผู้สอนแต่จะรายวิชาจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ในการจัดทาข้อสอบเพื่ อวัดผลการเรียนรู้ และต้องส่งข้อสอบเพื่อการตรวจทานโดยคณะกรรมการที่ภาควิชา
มอบหมายก่อนดาเนินการจัดสอบ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีองค์ความรู้ที่เหมาะสมเกี่ยวกับวิชานั้นๆ โดยผู้ตรวจทาน
ข้อสอบจะดาเนินการตรวจสอบว่าข้อสอบนั้นมีมีความเหมาะสมต่อการวัดผลการเรียนรู้ของนักศึก ษาในขอบเขต
ของแต่ละวิช าหรื อ ไม่ อ ย่ างไร ทั้ งนี้ผู้ ตรวจทานข้ อสอบจะพิจ ารณาเนื้อ หาทางด้ านวิศ วกรรม รวมถึงความ
สอดคล้องของคาถามในข้อสอบกับผลลัพท์การเรียนรู้ที่คาดหวังของรายวิชานั้นๆ รวมไปถึงตรวจทานความ
สมบูรณ์ถูกต้องของข้อสอบด้วย
เมื่อสิ้นสุดแต่ละภาคการศึกษา ผลคะแนนของแต่ละวิชาก็จะต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองในที่ประชุม
คณาจารย์ของภาควิชา โดยจะมีการพิจารณาถึงคะแนนเก็บ คะแนนสอบกลางภาคและคะแนนสอบปลายภาค
ว่ามีลักษณะอย่างไร ในการประชุมนี้จะมีการทวนสอบวิธีการที่อาจารย์แต่ละท่านใช้ในการเก็บคะแนน หลักการ
ให้คะแนน รวมไปถึงสอบถามถึงรายละเอียดในกรณีที่พบนักศึกษาที่ได้คะแนนน้อยหรือมากจนผิดปกติด้วย ทั้งนี้
หากพบกรณีที่การให้คะแนนไม่สอดคล้องกับผลลัพทย์การเรียนรู้อย่างเพียงพอ ก็จะขอให้อาจารย์ผู้สอนรายวิชา
นั้นๆ กลับไปพิจารณาแก้ไข ทั้งนี้มีการบันทึกการประชุมดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน
คณะกรรมการหลักสูตรได้มีการร้องขอให้อาจารย์ผู้สอนแต่ละรายวิชาเก็บตัวอย่างข้อสอบและคาตอบของ
นักศึกษาที่ได้คะแนนในระดับต่างๆ อย่างน้อยเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อกรณีที่ต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียด
ทั้งนีก้ ารเก็บตัวอย่างข้อสอบและคาตอบของนักศึกษานั้นจะรับผิดชอบโดยอาจารย์ผู้สอนรายวิชานั้นๆ
สาหรับการทาวิทยานิพนธ์นั้น ภาควิชาได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการวิชาการเพื่อดูแลทวนสอบหัวข้อตถุ
ประสงค์ และขอบเขต ของวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาแต่ละคน โดยนักศึกษาจะต้องนาส่งรายละเอียดดังกล่าว
เพื่อพิจารณาภายในภาคการศึกษาที่ 3 ของนักศึกษาคนนั้นๆ และคณะกรรมการวิชาการของภาควิ ช าจะ
พิจารณาว่ารายละเอียดต่างๆของวิทยานิพนธ์นั้น สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และผลลัพท์การเรียนรู้ของหลักสูตร
หรือไม่ และอาจจะให้นักศึกษาพิจารณาแก้ไขหากมีความจาเป็น
สาหรับการสอบวิทยานิพนธ์เพื่อขอสาเร็จการศึกษา ภาควิชาก็ได้มีการแต่งตั้งคณะทางานเพื่อตรวจสอบ
รูปเล่มรวมไปถึงรายละเอียดวิทยานิพนธ์ว่ามีคุณภาพเพียงพอตามที่ได้กาหนดไว้ในหลักสูตร
2.2 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้หลังจากนักศึกษาสาเร็จการศึกษา
สาหรับบัณฑิตที่สาเร็จการศึกษาจากหลักสูตร ภาควิชาได้มีการติดต่อเพื่อขอข้อ มูลความเห็นของบัณฑิต
และผู้ใช้งานบัณฑิตเกี่ยวกับความสามารถ (ในแง่ขององค์ความรู้ และ ทักษะ) ที่เป็นประโยชน์ต่อการทางานใน
สาขาความเชี่ยวชาญ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรวมถึง
3. เกณฑ์การสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตร
เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2558 และเป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาพ.ศ. 2562 (ภาคผนวก จ.)
ข้อ 17 การลงทะเบียนเรียน
17.1 การลงทะเบียนรายวิชา
17.1.1 นักศึกษาจะลงทะเบียนรายวิชาได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา
17.1.2 นักศึกษาระดับปริญญาเอกสามารถลงทะเบียนวิทยานิพนธ์ได้เมื่อสอบผ่านการวัด
คุณสมบัติ (Qualifying Examination, QE) แล้ว
ข้อ 30 การสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination)
34.3.3 นักศึกษาแผน ข
(ก) ต้องศึกษาได้ครบหน่วยกิตและสอบผ่านรายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรมีแต้มระดับคะแนน
เฉลี่ยไม่ต่ากว่า 3.00 และ
(ข) เสนอการศึ ก ษาค้ น คว้ า อิ ส ระ และสอบผ่ า นการสอบประมวลความรู้ (Comprehensive
Examination) โดยการสอบแบบปากเปล่าหรือสอบข้อเขียน และ
(ค) เสนอการศึกษาค้นคว้าอิสระ และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย
34.3.4 ต้องสอบผ่านภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ของแต่ละหลักสูตร หรือหากหลักสูตรไม่ระบุให้ใช้
เกณฑ์ของมหาวิทยาลัย
ข้อ 35 นักศึกษาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ แต่ละหลักสูตรกาหนด โดยความเห็นชอบของอาจารย์ ผู้รับผิดชอบ
หลักสูตร และคณะกรรมการประจาคณะอย่างครบถ้วน
ข้อ 36 ในการพิจารณาให้นักศึกษาได้รับปริญญา นอกจากคณะกรรมการประจาคณะจะพิจารณาจากผลการศึกษา
ของนักศึกษาแล้วให้นาพฤติการณ์ของนักศึกษาในด้านความประพฤติ คุณธรรม และจริยธรรม อันเป็นเกียรติและ
ศักดิ์ของนักศึกษาตามที่มหาวิทยาลัยกาหนด ตลอดเวลาที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยจนถึง วันที่จะนาเสนอสภา
มหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติให้ปริญญา มาเป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับประกาศของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
หมวดที่ 6 การพัฒนาอาจารย์
1. การเตรียมการสาหรับอาจารย์ใหม่
(1) มีการปฐมนิเทศแนะแนวการเป็นครูแก่อาจารย์ใหม่ ให้มีความรู้และเข้าใจนโยบายของมหาวิทยาลัย/
สถาบัน คณะตลอดจนในหลักสูตรที่สอน
(2) ส่งเสริมอาจารย์ให้มีการเพิ่มพูนความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมการสอนและการวิจัยอย่าง
ต่อเนื่องโดยผ่านการทาวิจัยสายตรงในสาขาวิชาและมีงบสนับสนุนในการทาวิจัยจากมหาวิทยาลัยและ
ภาควิชาเป็นอันดับแรก การสนับสนุนด้านการศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงานทางวิชาการและวิชาชีพในองค์กร
ต่าง ๆ การประชุมทางวิชาการทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ หรือการลาเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์
2. การพัฒนาความรู้และทักษะให้แก่อาจารย์
2.1 การพัฒนาทักษะการจัดการเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล
(1) ส่งเสริมอาจารย์ให้มีการเพิ่มพูนความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมการสอนและการวิจัยอย่าง
ต่อเนื่องโดยผ่านการทาวิจัย การสนับสนุนด้านการศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงานทางวิชาการและวิชาชีพ
ในองค์กรต่าง ๆ การประชุมทางวิชาการทั้งในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ หรือการลาเพื่อเพิ่มพูน
ประสบการณ์
(2) การเพิ่มพูนทักษะการจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลตามเกณฑ์และแนวปฏิบัติของ
KMUTT-PSF (KMUTT- Professional Standard Framework: Learning and Teaching)
2.2 การพัฒนาวิชาการและวิชาชีพด้านอื่นๆ
(1) มีการส่งเสริมให้อาจารย์มี ส่วนร่วการอมในกิจกรรมบริการวิชาการแก่ชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการ
พัฒนาความรู้และคุณธรรม และนาองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากงานดังกล่าวมาเสริมใน
การเรียนการสอนของหลักสูตร
(2) มีการกระตุ้นอาจารย์ทาผลงานทางวิชาการสายตรงในสาขาวิชาโครงสร้าง เทคนิคธรณี ทรัพยากรน้า
และขนส่ง
(3) ส่ ง เสริ ม การท าวิ จั ย สร้ า งองค์ ค วามรู้ ใ หม่ เ ป็ น หลั ก และเพื่ อ พั ฒ นาการเรี ย นการสอนและมี ค วาม
เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพ เป็นรอง
(4) จัดสรรงบประมาณสาหรับการทาวิจัย
(5) จัดให้อาจารย์ทุกคนเข้าร่วมกลุ่มวิจัยต่าง ๆ ของคณะ
(6) จัดให้อาจารย์เข้าร่วมกิจกรรมบริการวิชาการต่าง ๆ ของภาควิชาและคณะ
(7) ส่งเสริมให้อาจารย์สายปฏิบัติการมีใบรับรองวิชาชีพในสาขาวิชาที่สอบปฏิบัติ
(8) ส่งเสริมให้อาจารย์มีความเข้าใจในการเรียนการสอนแบบเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ (Outcome-based
education) และมีการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง (Continuous improvement)
หมวดที่ 7 การประกันคุณภาพหลักสูตร
1. การกากับมาตรฐาน
ในการกากับมาตรฐานหลักสูตร จะมีคณะกรรมการประจาหลักสูตร อันประกอบด้วยประธานหลักสูตร
หรือหัวหน้าภาค และอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักแต่ละสาขาวิชาในภาควิชาเป็นกรรมการหลักสูตร โดยมีที่ปรึกษา
ที่ ไ ด้ รั บ การแต่ ง ตั้ ง เป็ น ผู้ ก ากั บ ดู แ ลและคอยให้ ค าแนะน า ตลอดจนก าหนดนโยบายปฏิ บั ติ ใ ห้ แ ก่ กรรมการ
ผู้ รั บ ผิ ด ชอบหลั ก สู ต รโดยให้ เ ป็ น ไปตามมาตรฐานใช้ เ กณฑ์ ข อง ASEAN University Network – Quality
Assurance (AUN-QA)
การประเมินระดับหลักสูตรจะแบ่งได้เป็น 2 องค์ประกอบ ได้แก่
- • องค์ประกอบที่ 1 การกากับมาตรฐาน –หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิศวกรรมโยธา) นี้ถูก
กากับดูแลให้มีการดาเนินการตามองค์ประกอบที่ 1 (เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร) ของสานักงานปลั ดกระทรวงการ
อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยหลักสูตรดาเนินการตรวจสอบข้อมูลองค์ประกอบที่ 1 การ
กากับมาตรฐาน ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรเป็นประจาทุกปี
- • องค์ประกอบที่ 2 เกณฑ์การพัฒนา – ใช้แนวทางของ ASEAN University Network Quality Assurance
(AUN-QA) ซึ่งหลักสูตรดาเนินการตรวจประเมินเพื่อการพัฒนาตามเกณฑ์ ผ่านการเขียนรายงานการประเมินตนเอง
(SAR) ทุกปี และถ้าหลั กสู ตรได้รับการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐาน (Certification) AUN-QA แล้ว จึงจะทาการ
ประเมินอย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี
โดยหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธานี้ ได้รับการกากับให้มีการประเมินตามระบบ
CUPT QA ซึ่ ง ก าหนดรอบการประเมิ น หลั ก สู ต รทั้ ง 2 ส่ ว น คื อ องค์ ป ระกอบที่ 1 การก ากั บ มาตรฐาน และ
องค์ประกอบที่ 2 เกณฑ์การพัฒนาตาม AUN-QA เป็นประจาทุกปี
กรรมการผู้รับผิดชอบหลักสูตร จะวางแผนการจัดการเรียนการสอนร่วมกับคณะและอาจารย์ผู้สอน ติดตาม
และรวบรวมข้อมูล สาหรับใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรโดยกระทาทุกปีอย่างต่อเนื่อง
2. บัณฑิต
ตามนโยบายการพัฒนาประเทศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (กรอบการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12) รวมไปถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย หลักคิด
แผนอุดมศึกษาระยะยาวฉบับที่ 3 นโยบาย Thailand 4.0 และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 มจธ.ได้
มีการกาหนดเป้าหมายการดาเนินการทั้งในระยะกลาง (5 ปี และ 10 ปี) และระยะยาว (15 และ 20 ปี) โดยมี
KMUTT Education Reform/Lifelong Learning เป็นส่วนสาคัญของแผนการดาเนินการดังกล่าว
มจธ.มุ่ งพัฒนาการศึกษาอย่ า งมี คุ ณภาพเพื่ อให้ บัณฑิ ตที่จ บการศึกษามี คุณลัก ษณะที่พึ ง ประสงค์ ต าม
ศตวรรษที่ 21 สร้างผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Social Change Agent) และเน้นฝึกฝนให้บัณฑิตมีทักษะในการเรียนรู้
ตลอดชีวิต (Lifelong learning) ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสาคัญมากสาหรับการทางานในปัจจุบันและอนาคต ซึ่ง
ภาคอุตสาหกรรมจะให้ความสาคัญต่อใบปริญญาน้อยลง แต่ให้ความสาคัญกับทักษะที่บุคลากรแต่ละคนมีมากขึ้น
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางของ มจธ. การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้จึงเน้นการสร้างทักษะ
และความสามารถด้านต่างๆ (Competences) ให้กับนักศึกษา โดยมีการกาหนดผลลัพท์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร
(Program Learning Outcomes) และมีการทบทวนประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องสม่าเสมอ เพื่อให้
มั่นใจว่าการเรียนการสอนจะได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับทักษะและความสามารถที่เป็นที่ต้องการของ
ภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงอาชีพของผู้เข้าศึกษาในหลักสูตร
ในส่วนของการเรียนการสอนก็จะมีการสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ (Learning Environment) มากยิ่งขึ้น
โดยจะมี ก ารประยุ ก ต์ ใ ช้ เ ทคนิ ค การเรี ย นการสอนรู ป แบบต่ า งๆ เช่ น Active Learning, Work-integrated
Learning, Experience-based learning เข้ามาผสมผสานการเรียนการสอนในรูปแบบเดิมที่เป็นการบรรยายใน
ห้องเรียน ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนของรูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบต่างๆ นั้นจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างสูงในการพัฒนา
ทักษะ (Skills) ของนักศึกษานอกเหนือไปจากส่วนขององค์ความรู้เชิงวิศวกรรม (Engineering Knowledge)
การประเมิ น ผลลั พ ท์ ก ารเรี ย นรู้ ใ นรู ป แบบต่ า งๆ ก็ จ ะมี ก ารอ้ า งอิ ง กั บ ผลลั พ ท์ ก ารเรี ย นรู้ (Learning
Outcomes) อย่างชัดเจนมากขึ้น ถึงแม้ว่าสัดส่วนของการประเมินผลส่วนใหญ่จะยังเป็นการสอบข้อเขียน (Written
Examination) แต่ก็จะเพิ่มเติมการระบุอย่างชัดเจนว่าข้อสอบแต่ละข้อนั้นประเมินทักษะใดและสอดคล้อ งกับ
ผลลัพท์การเรียนรู้ที่ได้กาหนดไว้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมการประเมินในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้
นักศึกษาพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จาเป็นและสามารถวัดผลลัพท์ในการพัฒนาทักษะได้อย่างเหมาะสมมากกว่าการสอบ
ข้อเขียนเพียงอย่างเดียวด้วย
ควบคู่ไปกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวทางการเรียนการสอนดังกล่าว อาจารย์ที่อยู่ในหลักสูตรนี้ก็จะ
ได้ รั บ การส่ ง เสริ ม ให้ ส ามารถพั ฒ นาความรู้ แ ละทั ก ษะ รวมไปถึ ง เทคนิ ค การสอนที่ ส อดคล้ อ งกั บ ทิ ศ ทางการ
เปลี่ยนแปลงดังกล่าว และอาจารย์บางท่านอาจจะมีการทาวิจัยในห้องเรียนเพื่อส่งเสริมกระบวนการพัฒนากาเรียน
การสอนอย่างต่อเนื่องของ มจธ. แนวทางการปฏิบัติงานดังกล่าวจะทาให้สามารถมั่นใจได้ว่าบัณฑิตที่จบการศึกษา
จากหลักสูตรนี้จะมีทักษะที่เป็น ที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรมและมีความสามารถในการปรับตัว ยืดหยุ่น และ
ทางานในบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้
หลักสูตรยังมีการประเมินผลตอบรับของผู้ใช้งานบัณฑิต ประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม บริษัทเอกชน และ
หน่วยงานรัฐต่างๆ รวมไปถึงบัณฑิตที่จบการศึกษาไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อนาข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ และ
กาหนดทิศทางในการปรับปรุงหลักสูตรต่อไปในอนาคตด้วย
3. นักศึกษา
3.1 การรับนักศึกษาและการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าศึกษา
ในการบริหารหลักสูตรมีการกาหนดกระบวนการรับนักศึกษาโดยการตั้งคุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาและ
ร่วมกับการสอบสัมภาษณ์ รวมถึงการสอบวัดคะแนน นอกจากนี้เพื่อมั่นใจว่าตลอดหลักสูตรนักศึกษาจะ
สามารถมีเวลาอยู่กับการเรียนและทาวิจัยเชิงลึกได้อย่างไม่กังวล และอาจารย์ที่ปรึกษาจะมีประสบการณ์และ
เวลาเพียงพอ ภาควิชาได้กาหนดเงื่อนไขประกอบการสัมภาษณ์แรกเข้าดังต่อไปนี้ (แนวปฏิบัติการรับนักศึกษา
ปริญญาโท)
1).นักศึกษาควรติดต่อและมีที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์ ในกรณีที่ไม่กาหนดที่ปรึกษา
วิทยานิพนธ์ก่อนเข้าเรียนจะต้องเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาภายในการเรียนเทอมแรก
2).นักศึกษา/อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ต้องชี้แจงเรื่องสถานะการเงิน แหล่งทุน เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของ
นักศึกษาตลอดหลักสูตร
3.3 การอุทธรณ์ของนักศึกษา
ในขั้นแรก หากนักศึกษาประสบปัญหากับการเรียนรายวิชาใดๆ ก็จะสามารถปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา
วิทยานิพนธ์ หรือหากนักศึกษาประสบปัญหาในการติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ก็จะสามารถปรึกษา
อาจารย์ที่ปรึกษาชั้นปี โดยหากปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลการเรียน เช่น กรณีที่นักศึกษาเกิด
ความสงสัยเกี่ยวกับผลการประเมินในรายวิชาใดๆ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หรืออาจารย์ที่ปรึกษาชั้นปีก็จะ
นาปัญหาเข้าหารือในการประชุมภาควิชาฯ เมื่อนักศึกษาแสดงความจานงขอดูกระดาษคาตอบในการสอบกับ
อาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว อาจารย์ผู้สอนรายวิชาดังกล่าวก็จะต้องแสดงวิธีการให้คะแนนรวมไปถึงอธิบายวิธีการ
ประเมินของอาจารย์ให้นักศึกษาเข้าใจโดยปราศจากข้อสงสัย ทั้งนี้ขั้นตอนการอุทธรณ์ดังกล่าวของหลักสูตร ก็
สอดคล้องเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2546
หมวด 4 การอุทธรณ์
4. อาจารย์
4.1 การรับอาจารย์ใหม่
มี ก ารคั ด เลื อ กอาจารย์ ใ หม่ ต ามระเบี ย บและหลั ก เกณฑ์ ข องมหาวิ ท ยาลั ย โดยอาจารย์ ใ หม่ จ ะต้ อ ง
มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกขึ้นไปในสาขาใดสาขาหนึ่งของวิศวกรรมโยธา
4.2 การมีส่วนร่วมของอาจารย์ในการวางแผน การติดตามและทบทวนหลักสูตร
อาจารย์ผู้ รับผิ ดชอบหลั กสู ตร และผู้สอน จะต้องประชุมร่วมกันในการวางแผนจัดการเรียนการสอน
ประเมินผลและให้ความเห็นชอบการประเมินผลทุกรายวิชา เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมไว้สาหรับการปรับปรุง
หลักสูตร ตลอดจนปรึกษาหารือแนวทางที่จะทาให้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร และได้บัณฑิตเป็นไปตาม
คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์
ในกรณีที่พบว่ามีปัญหาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนเพื่อให้นักศึกษาบรรลุตามผลลัพท์การเรียนรู้ระดับ
หลักสูตร (PLOs) หรือผลลัพท์การเรียนรู้ของรายวิชาใดๆ (CLOs) ก็จะมีการนามาปรึกษาหารือในที่ประชุม
ร่วมกันระหว่างอาจารย์ผู้สอนและอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อกาหนดแนวทางการแก้ไข เช่น มีการจัดหา
อุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ที่จาเป็นเพิ่มเติม จัดหาวิทยากรจากภาคอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญเฉพาะในหัวข้อย่อยใน
เนื้อหา หรือ ทักษะต่างๆ ที่ได้กาหนดไว้มาเสริมในการเรียนการสอน เป็นต้น
4.3 การแต่งตั้งอาจารย์พิเศษ
อาจารย์พิเศษถือว่ามีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติมาให้กับ
นักศึกษา ดังนั้นจะมี การเชิญอาจารย์พิเศษหรือวิทยากร มาสอนหรือบรรยายพิเศษอย่างสม่าเสมอ และ
อาจารย์พิเศษนั้น ไม่ว่าจะสอนทั้งรายวิชาหรือบางชั่วโมงจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ตรง หรือมีวุฒิการศึกษา
อย่างต่าปริญญาโท ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2558
6. สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
6.1 อุปกรณ์การสอน
ลาดับ ชื่ออุปกรณ์ จานวน
1 เครื่อง Universal Testing Machine 200,000 กก. 1 เครื่อง
2 เครื่อง Universal Testing Machine 100,000 กก. 1 เครื่อง
3 เครื่อง Universal Testing Machine 30,000 กก. 1 เครื่อง
4 เครื่อง Universal Testing Machine 20,000 กก. 1 เครื่อง
6.2 ห้องสมุดและสารสนเทศ
ใช้ ส านั ก หอสมุ ด ของมหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า ธนบุ รี ซึ่ ง มี ห นั ง สื อ ทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ
เทคโนโลยีมากกว่า 124,404 รายการ และมีวารสารวิชาการต่างๆ กว่า 2,500 รายการ มีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ
เทคโนโลยีและวิศวกรรมไม่น้อยกว่า 15,000 เล่ม และระบบหนังสือ สิ่งพิมพ์ออนไลน์ ระบบสืบค้นและคลังข้อมูล
วารสารวิชาการออนไลน์ ระบบสนับสนุนการตรวจการลอกเลียนผลงาน
6.3 การจัดหาทรัพยากรการเรียนการสอนเพิ่มเติม
ประสานงานกับสานักหอสมุดกลาง ในการจัดซื้อหนังสือ และตาราที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริการให้อาจารย์และ
นักศึกษาได้ค้นคว้า และใช้ประกอบการเรียนการสอน ในการประสานการจัดซื้อหนังสือนั้น อาจารย์ผู้สอนแต่ละ
รายวิชาจะมีส่วนร่วมในการเสนอแนะรายชื่อหนังสือ ตลอดจนสื่ออื่น ๆ ที่จาเป็น นอกจากนี้อาจารย์พิเศษที่เชิญมา
สอนบางรายวิชาและบางหัวข้อ ก็มีส่วนในการเสนอแนะรายชื่อหนังสือ สาหรับให้สานักหอสมุดกลางจัดซื้อหนังสือ
ด้วย
ในส่วนของภาควิชาฯจะมีห้องสมุดย่อย เพื่อบริการหนังสือ ตารา หรือวารสารเฉพาะทาง และภาควิชาฯ
จะต้องจัดสื่อการสอนอื่นเพื่อใช้ประกอบการสอนของอาจารย์ เช่น เครื่องมัลติมีเดียโปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์
เครื่องถ่ายทอดภาพ 3 มิติ เครื่องฉายสไลด์ เป็นต้น นอกจากนี้สาหรับนักศึกษาที่ได้เริ่มทาวิทยานิพนธ์แล้วภาควิชา
จะมีการจัดเตรียมโต๊ะสาหรับทางานค้นคว้า ศึกษาวิจัย และดาเนินงานวิทยานิพนธ์ไว้ให้ด้วย
ปีการศึกษา
ตัวบ่งชี้และเป้าหมาย
2564 2565 2566 2567 2568
5. จัดทารายงานผลการดาเนินการของหลักสูตร ภายใน 60 วัน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
หลังสิ้นสุดปีการศึกษา
6. มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการ
เรียนรู้อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปี ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
การศึกษา
7. มีการพัฒนา/ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การ
สอน หรือ การประเมิ นผลการเรียนรู้ จากผลการประเมินการ ✓ ✓ ✓ ✓
ดาเนินงานที่รายงานในรายงานผลการดาเนินการของหลักสูตร
ปีที่แล้ว
8. 8. อาจารย์ใหม่ (ถ้ามี) ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศหรือแนะนา ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ด้านการจัดการเรียนการสอน
9. อาจารย์ประจาหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
และ/หรือวิชาชีพ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
10.จานวนบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอน (ถ้ามี) ได้รับการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
พัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มีต่อ ✓ ✓ ✓ ✓
คุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยมากกว่า 3.5 จากคะแนนเต็ม 5.0
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มตี ่อบัณฑิตใหม่ ✓ ✓ ✓
เฉลี่ยมากกว่า 3.5 จากคะแนนเต็ม 5.0
หมวดที่ 8 การประเมินและปรับปรุงการดาเนินการของหลักสูตร
1. การประเมินประสิทธิผลของการสอน
1.1 การประเมินกลยุทธ์การสอน
ในช่วงของการเตรียมการเรียนการสอน หลักสูตรจะมีการสื่อสารไปยังอาจารย์ผู้สอนรายวิชาต่างๆ ให้เข้าใจ
ถึงผลลัพท์การเรียนรู้ที่คาดหวังจากรายวิชานั้นๆ และได้มีการกาหนดไว้อย่างชัดเจนว่ากลยุทธ์ที่ใช้ในการเรียนการ
สอน และ วิธีการวัดผลนั้นจะต้องสอดคล้องกับผลลัพท์การเรียนรู้ที่ได้กาหนดไว้ ทั้งนี้อาจารย์ผู้สอนแต่ละท่านมี
อิสระในการกาหนดกลยุทธในการเรียนการสอนที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ต้องมีการเก็บ
เอกสารการเรียนการสอนไว้พร้อมทั้งสรุปกลยุทธ์การเรียนการสอนที่ใช้ในเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น มคอ.5 เป็นต้น
นอกจากนี้ หลั กสู ตรยังได้ส่ งเสริม ให้อาจารย์ทาแบบสอบถามนักศึกษาเกี่ ยวกั บวิ ธีการเรียนการสอนที่
ดาเนินการอยู่ เมื่อได้ดาเนินการสอนไปแล้วบางส่วน เช่น หลังการสอบกลางภาค เพื่อเป็นการสารวจความเห็น
ของนักศึกษาต่อวิธีการเรียนการสอนที่ใช้อยู่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสม
มากขึ้น และเมื่อจบการเรียนการสอนในเทอมการศึกษานั้นๆ แล้วก็ควรทาแบบสอบถามเกี่ยวกับวิธีการเรียนการ
สอนเพิ่มเติมในปีการศึกษาถัดๆ ไป
ในปั จ จุ บั น อาจารย์ ผู้ ส อนส่ ว นใหญ่ อ้ า งอิ ง ระบบการประเมิ น การเรี ย นการสอนของมหาวิ ท ยาลั ย (ที่
ดาเนินการก่อนประกาศผลการศึกษา) เป็นหลักทั้งนี้เพื่อลดความซ้าซ้อนของการประเมินที่นักศึกษาต้องทา
อย่างไรก็ตามหลักสูตรก็ส่งเสริมให้อาจารย์ผู้สอนนาความเห็นของนักศึกษามาปรับปรุงวิธีการเรี ยนการสอนอย่าง
ต่อเนื่อง
1.2 การประเมินทักษะของอาจารย์ในการใช้แผนกลยุทธ์การสอน
การประเมินทักษะของอาจารย์ในการใช้แผนกลยุทธ์การสอนนั้นจะเป็นการเน้นไปที่การพัฒนาการสอนของ
อาจารย์ใหม่ที่มีประสบการณ์ในการสอนน้อยกว่า 5 ปีและยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเอกสารประกอบการสอน
เป็นหลัก โดยมีการมอบหมายให้มีอาจารย์พี่เลี้ยงเพื่อให้คาแนะนาในการเตรียมเอกสารประกอบการสอนและ
กาหนดกลยุทธ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน โดยการประเมินทักษะในการใช้แผนกลยุทธ์การสอนนั้นจะอาศัยการ
สังเกตการณ์ในห้องเรียนเป็นหลัก ทั้งนี้บรรยากาศในการแนะนาจะเป็นไปเพื่อส่งเสริมให้อาจารย์ใหม่คลายความ
วิตกกังวลเกี่ยวกับการสอนลง
สาหรับอาจารย์ที่มีประสบการณ์สอนมาระยะเวลาหนึ่งแล้วมักจะมีแนวทางการสอนของตัวเองที่ชัดเจนและ
อาจารย์ทุกท่านในหลักสูตรนี้มักได้คะแนนประเมินเกี่ยวกับกลยุทธการเรียนการสอนในระดับสูง แผนกลยุทธ์การ
สอนจึงไม่ใช่ปัญ หาสาหรับอาจารย์ในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามหลักสูตรได้มีการส่งเสริมให้อาจารย์ทุกท่านมีการ
ปรับปรุงเนื้อหาการสอนให้ทันสมัยตามมาตรฐานเชิงวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นระยะ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก
อาจารย์ผู้สอนทุกท่านเป็นอย่างดี
ทั้งนี้การประเมินทักษะของอาจารย์ในการใช้แผนกลยุทธ์การสอนนั้นจะเป็นไปตามเกณฑ์และแนวปฏิบัติ
ของ KMUTT-PSF (KMUTT- Professional Standard Framework: Learning and Teaching)
2. การประเมินหลักสูตรในภาพรวม
การประเมินหลักสูตรในภาพรวมนั้นจะอ้างอิงแบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพของหลักสูตรในแง่มุมต่างๆ
เพื่อสรุปข้อเด่นข้อด้อยของหลักสูตรในภาพรวม โดยสารวจข้อมูลจาก นักศึกษาปีสุดท้าย (บัณฑิตที่เพิ่งสาเร็จ
การศึกษา), ผู้ว่าจ้างบัณฑิต (ที่เพิ่งสาเร็จการศึกษาไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี) ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้มีประโยชน์
เป็นอย่างมากในการพิจารณาว่าหลักสูตรมีความสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมหรือไม่ และ
สามารถกาหนดแนวทางในการปรับเปลี่ยนผลลัพท์การเรียนรู้ และกลยุทธ์ในการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม
นอกเหนือจากการสอบถามความเห็นจากบัณฑิตและผู้ ใช้งานบัณฑิตดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หลักสูตรก็
ยังได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาและ
มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรสมัยใหม่ในสถาบันชั้นนาทั่วโลก ซึ่งความเห็นที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิใน
ส่วนนี้จะเป็นแนวทางให้หลักสูตรสามารถกาหนดแนวทางในการพัฒนาให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
ของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาได้
3. การประเมินผลการดาเนินงานตามรายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตรมีการดาเนินการเพื่อประเมินผลการดาเนินงานตามรายละเอียดของหลักสูตร ตามขั้นตอนการ
ประกันคุณภาพหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และเกณฑ์
มาตรฐานหลักสูตร AUN-QA โดยมีการจัดทาเอกสารประเมินหลักสูตรรายปีเพื่อสรุปการดาเนินงานในแต่ละปี
การศึกษา
4. การทบทวนผลการประเมินและวางแผนปรับปรุง
• รวบรวมข้อเสนอแนะ/ข้อมูล จากการประเมินจากนักศึกษา ผู้ใช้บัณฑิต ผู้ทรงคุณวุฒิ
• วิเคราะห์ทบทวนข้อมูลข้างต้น โดยผู้รับผิดชอบหลักสูตร / ประธานหลักสูตร
• เสนอการปรับปรุงหลักสูตรและแผนกลยุทธ์ (ถ้ามี)
เอกสารแนบ
ภาคผนวก ก. คาอธิบายรายวิชา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชา
ภาคผนวก ข. ตารางเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงระหว่างหลักสูตรเดิมและหลักสูตรปรับปรุง
ภาคผนวก ค. ประวัติอาจารย์ประจาหลักสูตร
ภาคผนวก ง. คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตร
ภาคผนวก จ. ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
ภาคผนวก ฉ. บทสรุปผู้บริหาร
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการหาค่าเหมาะที่สุดแบบต่างๆได้
2. นักศึกษาสามารถคานวณแคลคูลัสของการแปรผันได้
3. นักศึกษาสามารถคานวณการประมาณค่าในช่วงและการประมาณค่าปริพันธ์เชิงตัวเลขได้
4. นักศึกษาสามารถคานวณผลเฉลยของระบบสมการเชิงเส้นและไม่เชิงเส้นเชิงตัวเลขได้
5. นักศึกษาสามารถคานวณผลเชิงตัวเลขของสมการเชิงอนุพันธ์สามัญและสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย
ได้
4. นักศึกษาสามารถออกแบบการเสริมเหล็กในส่วนปลายของโครงสร้างคอนกรีตอัดแรงได้
3. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์หรือออกแบบโครงสร้างคานคอนกรีตอัดแรงแบบต่อเนื่อง พื้นคอนกรีต
อัดแรงแบบดึงลวดที่หลังได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1.นักศึกษาสามารถอธิบายหลักการ วิธีการรวมทั้งเทคนิคต่างๆในการคานวณค่าน้าหนักบรรทุก
วิกฤตของโครงสร้างรับแรงตามแนวแกนได้อย่างถูกต้อง
2.นักศึกษาสามารถประยุกต์วิธีการต่างๆ เพื่อคานวณค่าน้าหนักบรรทุกวิกฤตของโครงสร้างทั้งแบบ
2 มิติและ 3 มิติ
3.สามารถสร้างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ของปัญหาโครงสร้างรั บแรงตามแนวแกนที่เกิดการเสีย
รูปมากได้อย่างถูกต้องแม่นยา
Review of concrete technology, chemical admixtures for concrete, fly ash, silica fume,
palm oil fuel ash, bagasse ash, blast- furnace slag, concrete binder without Portland
cement, high strength concrete, durability of concrete.
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถอธิบายกลไกของวัสดุปอซโซลานแต่ละประเภทได้
2. นักศึกษาสามารถอธิบายหลักการในการผลิตคอนกรีตกาลังสูง
3. นักศึกษาสามารถอธิบายแนวคิดเกี่ยวกับความทนทานของคอนกรีต
4. นักศึกษาสามารถอธิบายสมบัติของวัสดุประสานที่ไม่มีปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถอธิบายหลักการทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรขาคณิตของชิ้นส่วนเล็กๆ ได้
อย่างถูกต้อง
2. นักศึกษาสามารถระบุพารามิเตอร์สาคัญของโครงสร้างผนังบางรูปทรงต่างๆ ได้
3. นักศึกษาสามารถประยุกต์วิธีการทางกลศาสตร์ของแข็งในการวิเคราะห์โครงสร้างผนังบาง
หมุนรอบแกน
4. นักศึกษาสามารถสร้างแบบจาลองเพื่อคานวณหาค่าแรงภายในและโมเมนต์ดัดของโครงสร้างผนัง
บางรับน้าหนักบรรทุกแบบต่างๆได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1.นักศึกษาสามารถวิเคราะห์และหาผลตอบสนองของโครงสร้างภายใต้แรงกระทาจากแผ่นดินไหว
หรือแรงลม
2. นักศึกษาสามารถออกแบบองค์อาคารโครงสร้างภายใต้แรงกระทาจากแผ่นดินไหวหรือแรงลม
3. นักศึกษาสามารถอธิบายข้อกาหนดในมาตรฐานอาคารที่เกี่ยวข้องกับสาหรับแรงแผ่นดินไหวและ
แรงลมและอ้างอิงในการออกแบบได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถเลือกวิธีการปรับปรุงคุณภาพดินที่เหมาะสมได้
2. นักศึกษาสามารถ ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างการปรับปรุงคุณภาพดินด้วย วิธีการบดอัด
การให้น้าหนักล่วงหน้าและการระบายน้าทางดิ่ง การใช้เสาเข็มดินซีเมนต์ การเกร๊าท์ การอัดฉีด
แรงดันสูง การใช้วัสดุสังเคราะห์ในงานด้านวิศวกรรมเทคนิคธรณี กาแพงกันดินเสริมแรงและ
การใช้วัสดุมวลเบาในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณีได้
CVE659 กลศาสตร์ของหิน 3 (3 – 0 – 9)
Rock Mechanics
วิชาบังคับก่อน : ไม่มี
แรงกระทาในโครงสร้างหิน ความแข็งแรงและทฤษฎีการพังของหิน คุณสมบัติทางวิศวกรรมของ
หิน การวิเคราะห์ใ นศิล ากลศาสตร์ การใช้ประโยชน์โครงสร้างธรณีวิทยาใต้ดิน ฐานรากศิลา
กลศาสตร์ วิศวกรรมทางลาดหิน
Rock stress, strength and failure criteria, engineering properties of rock, analysis in
rock mechanics, underground space utilization, rock foundation, rock slope
engineering.
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถประเมินความเค้น และการวิบัติของมวลหินได้
2. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ความเข้าใจในพฤติกรรมของหินในเชิงลึกกับงานทางเทคนิคธรณีได้
3. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิคธรณีที่ซับซ้อนในหินได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของดินในเชิงลึกได้
2. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ความเข้าใจพฤติกรรมของดินในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณีได้อย่าง
เหมาะสม
3. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิคธรณีที่ซับซ้อนได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1.นักศึกษาสามารถอธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของโครงสร้างดินแบบต่างๆ ได้
2.นักศึกษาสามารถระบุส มบัติทางวิศวกรรมเทคนิคธรณีที่สาคัญ ของแต่ละองค์ประกอบของ
โครงสร้างดินแบบต่างๆ และทราบวิธีการทดสอบเพื่อให้ได้ค่าพารามิเตอร์สาหรับการออกแบบ
และการควบคุมคุณภาพการก่อสร้างได้
3.นักศึกษาสามารถออกแบบโครงสร้างดินแบบต่างๆ และให้ข้อเสนอแนะสาหรับการควบคุม
คุณภาพการก่อสร้างได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถวางแผนการเจาะสารวจดินได้
2. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์เสถียรภาพของฐานรากได้
3. นักศึกษาสามารถประเมินพารามิเตอร์ที่ใช้ในการออกแบบได้
4. นักศึกษาสามารถมารถออกแบบ ฐานรากแผ่ ฐานรากเสาเข็ม และ กาแพงกันดินได้
humans, vehicles, roads, and environments; traffic analysis for interrupted facilities;
theory and design of traffic signal control; traffic analysis for uninterrupted flow
facilities; capacity and level of service analysis for roadway segments, ramp
junctions, and weave facilities.
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1.นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดาเนินงานจราจร
2.นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ระดับการบริการจราจรบนถนนประเภทต่างๆรวมถึงทางแยก
3.นักศึกษาสามารถออกแบบสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยก
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการวางแผนทางด้านขนส่ง
2. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัญหาระบบการขนส่งและพิจารณาทางเลือกการปรับปรุงได้อย่าง
เหมาะสม
3. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์คาดการณ์ความต้องการการเดินทาง
2. นักศึกษาสามารถอธิบายลักษณะการเคลื่อนตัวของสินค้าในเขตเมือง
3. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีด้านการขนส่งในการวางแผนการขนส่งสินค้าในเขตเมือง
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์เส้นทางสั้นที่สุดในโครงข่ายขนส่ง
2. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์สมดุลของผู้ใช้ในโครงข่ายขนส่ง
3. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของโครงข่ายขนส่ง
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของการไหลในทางน้าเปิด
2. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีกลศาสตร์ของไหลมาประยุกต์ใช้ในงานวิศวกรรมชลศาสตร์
และงานพัฒนาแหล่งน้า
1. นักศึกษาสามารถอธิบายและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแบบจาลองทางอุทกวิทยา
2. นักศึกษาสามารถใช้แบบจาลองทางอุทกวิทยาเพื่อประยุกต์ใช้ในโครงการพัฒนาแหล่งน้าได้
in basin scale, adaption and vulnerability in basin scale, managing climate risk for
the water sector with tools and decision support
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อทรัพยากรน้า
2. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้แบบจาลองเพื่อประเมินผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศที่มีต่อทรัพยากรน้า
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาเข้าใจและนาเสนอพื้นฐานของสมการทั้งแบบสมการทางทฤษฎีและสมการอย่างง่าย
สาหรับใช้ในการประเมินการกัดเซาะ และอธิบายระบบการขนส่งตะกอนได้
2. นักศึกษาสามารถวางแผนการวิจัยและหาข้อมูลสาหรับการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิสัณฐานโลก
รวมถึงกระบวนการทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ลักษณะน้าท่วม น้าแล้ง และคานวณการหลากของน้า
2. นักศึกษาสามารถออกแบบปริมาณฝนและปริมาณน้าท่าสูงสุดที่จะเป็นไปได้
ผลลัพธ์การเรียนรู้
นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ความรู้ เทคโนโลยีเฉพาะทางในสาขาความเชี่ยวชาญของ
ตน ที่มีความสาคัญต่องานวิศวกรรมโยธาในปัจจุบัน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ความรู้ เทคโนโลยีเฉพาะทางในสาขาความเชี่ยวชาญของ
ตน ที่มีความสาคัญต่องานวิศวกรรมโยธาในปัจจุบัน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
1. นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
2. นักศึกษาสามารถบริหารจัดการงานและรับผิดชอบในการดาเนินงานให้เสร็จลุล่วงไปได้
3. นักศึกษามีทักษะในการสื่อสารและสามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้
4. นักศึกษาสามารถดาเนินการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาทางวิศวกรรมได้
5. นักศึกษามีความสามารถในยการปรับตัวและทางานภายใต้ความกดดันได้
6. นักศึกษายึดมั่นในหลักจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรมและความถูกต้อง ไม่ละเมิดสิทธิทาง
ปัญญาของผู้อนื่
7. นักศึกษารับฟังความเห็นที่แตกต่าง ให้เกียรติและเคารพคุณค่าในงานของผู้อื่น
120
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
1) อาจารย์ประจาหลักสูตร จานวน 5 ท่าน 1) ปรับเปลี่ยนอาจารย์ประจาหลักสูตรและลดจานวนเป็น 3 ท่าน
2) รายชื่ออาจารย์ประจา 2) ตัดรายชื่ออาจารย์ที่เกษียณอายุ เพิ่มรายชื่ออาจารย์ใหม่ และปรับตาแหน่งวิชาการ
ให้ตรงกับปัจจุบัน
3. รายละเอียดวิชา 3.รายละเอียดวิชา
ก. หมวดวิชาบังคับ ก. หมวดวิชาบังคับ
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 (0 –3 – 3) CVE 701 ทักษะสาคัญสาหรับวิชาชีพวิศวกรรมโยธา 1 (0 –3 – 3) เปลี่ยนชื่อและปรับ
*MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร 3 (3 –0 – 9) *MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร 3 (3 –0 – 9) เนื้อหาวิชา
*MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ 3 (3 –0 – 9) *MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ 3 (3 –0 – 9) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
*CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา 3 (3 –0 – 9) *CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา 3 (3 –0 – 9) ปรับเนื้อหาวิชา
*CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) *CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
* ตามแต่กลุ่มวิชา * ตามแต่กลุ่มวิชา ตัดออก
ข. หมวดวิชาเลือก ข. หมวดวิชาเลือก
ข.1 วิชาเลือกกลุ่มวิชาหลัก ข.1วิชาเลือกกลุ่มวิชาหลัก
ข.1 1.กลุ่มวิชาวิศวกรรมโครงสร้าง
CVE 630 กลศาสตร์ของแข็งขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 630 กลศาสตร์ของแข็งที่มีความต่อเนื่อง: 3 (3 –0 – 9) ปรับชื่อและเนื้อหารายวิชา
CVE 632 การออกแบบโครงสร้างคอนกรีตขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 632 การออกแบบโครงสร้างคอนกรีตขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 633 การออกแบบคอนกรีตอัดแรงขั้นสูง) 3 (3 –0 – 9) CVE 633 การออกแบบคอนกรีตอัดแรงขั้นสูง : 3 (3 –0 – 9) ปรับเนื้อหารายวิชา
CVE 634 การออกแบบและใช้งานคอนกรีตพิเศษ 3 (3 –0 – 9) CVE 634 การออกแบบและใช้งานคอนกรีตพิเศษ : 3 (3 –0 – 9)
CVE 635 ทฤษฎีของโครงสร้างขัน้ สูง 3 (3 –0 – 9) ยกเลิกรายวิชา
CVE 636 การออกแบบโครงสร้างเหล็กขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 636 การออกแบบโครงสร้างเหล็กขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 637 วิธีเชิงตัวเลขในกลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) CVE 637 วิธีการคานวณในกลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) ปรับชื่อและเนื้อหารายวิชา
121
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
CVE 638 ทฤษฎีของแผ่นบางและเปลือกบาง 3 (3 –0 – 9) CVE 638 ทฤษฎีของแผ่นบางและเปลือกบาง 3 (3 –0 – 9)
CVE 639 เสถียรภาพของโครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) CVE 639 เสถียรภาพของโครงสร้าง 3 (3 –0 – 9)
CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 641 คอนกรีตเทคโนโลยีขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 641 คอนกรีตเทคโนโลยีขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) ปรับเนื้อหารายวิชา
CVE 642 พลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) CVE 642 พลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9)
CVE 644 ทฤษฎีของโครงสร้างเปลือกบาง 3 (3 –0 – 9) CVE 644 ทฤษฎีของโครงสร้างเปลือกบาง 3 (3 –0 – 9)
CVE 645 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์ในกลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) CVE 645 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์ในกลศาสตร์โครงสร้าง 3 (3 –0 – 9)
CVE 646 วิธีการพลังงานในกลศาสตร์ประยุกต์ 3 (3 –0 – 9) CVE 646 วิธีการพลังงานในกลศาสตร์ประยุกต์ 3 (3 –0 – 9)
CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและ 3 (3 –0 – 9) CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและ 3 (3 –0 – 9)
แผ่นดินไหว แผ่นดินไหว
CVE 732 การวิเคราะห์โครงสร้างวัสดุคอมโพสิต 3 (3 –0 – 9) CVE 732 การวิเคราะห์โครงสร้างวัสดุคอมโพสิต 3 (3 –0 – 9)
CVE 733 การวิเคราะห์ไฟไนต์เอลิเมนต์ไม่เชิงเส้นของโครงสร้าง 3 (3 –0 – 9) CVE 733 การวิเคราะห์ไฟไนต์เอลิเมนต์ไม่เชิงเส้นของโครงสร้าง 3 (3 –0 – 9)
CVE 734 การออกแบบข้อต่อโครงสร้างเหล็ก 3 (3 –0 – 9) CVE 734 การออกแบบข้อต่อโครงสร้างเหล็ก 3 (3 –0 – 9)
CVE 735 ความทนทาน การป้องกัน และซ่อมแซมคอนกรีต 3 (3 –0 – 9) CVE 735 ความทนทาน การป้องกัน และซ่อมแซมคอนกรีต 3 (3 –0 – 9)
ข.1.2.วิชาเลือกกลุ่มวิชาเอกวิศวกรรมเทคนิคธรณี
CVE 653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 (3 –0 – 9) CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมโยธา: 3 (3 –0 – 9) ปรับชื่อและปรับ
คาอธิบายรายวิชา
CVE 655 อุโมงค์และงานก่อสร้างใต้ดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 655 อุโมงค์และงานก่อสร้างใต้ดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 (3 –0 – 9) CVE 657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 (3 –0 – 9)
CVE 658 วิศวกรรมธรณีวิทยาประยุกต์ 3 (3 –0 – 9) CVE 658 วิศวกรรมธรณีวิทยาประยุกต์ 3 (3 –0 – 9)
122
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
CVE 659 กลศาสตร์ของหิน 3 (3 –0 – 9) CVE 659 กลศาสตร์ของหิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 660 การสารวจใต้ผิวพื้นและการทดสอบดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 660 การสารวจใต้ผิวพื้นและการทดสอบดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 662 คุณสมบัติและพฤติกรรมของดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 662 คุณสมบัติและพฤติกรรมของดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 664 พลศาสตร์ของดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 664 พลศาสตร์ของดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 667 โครงสร้างดิน 3 (3 –0 – 9) CVE 667 โครงสร้างดิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 668 วิศวกรรมฐานรากขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 668 วิศวกรรมฐานรากขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
ข.1.3 วิชาเลือกกลุ่มวิชาเอกวิศวกรรมขนส่ง
CVE 671 ระบบการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 671 ระบบการขนส่งและเทคโนโลยี 3 (3 –0 – 9) ปรับชื่อและปรับ
คาอธิบายรายวิชา
CVE 672 การดาเนินงานการจราจร 3 (3 –0 – 9) CVE 672 การดาเนินงานการจราจร 3 (3 –0 – 9)
- CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) เปิดรายวิชาใหม่
CVE 674 การขนส่งมวลชนในตัวเมือง 3 (3 –0 – 9) CVE 674 การขนส่งมวลชนในตัวเมือง 3 (3 –0 – 9)
CVE 675 การประเมินโครงการด้านการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 675 การประเมินโครงการด้านการขนส่ง 3 (3 –0 – 9)
CVE 676 การออกแบบทางเรขาคณิตของถนน 3 (3 –0 – 9) CVE 676 การออกแบบทางเรขาคณิตของถนน 3 (3 –0 – 9)
CVE 677 การวางแผนการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 677 การวางแผนการขนส่ง 3 (3 –0 – 9)
CVE 678 การวางแผนและออกแบบสนามบิน 3 (3 –0 – 9) CVE 678 การวางแผนและออกแบบสนามบิน 3 (3 –0 – 9)
CVE 679 การออกแบบผิวทางขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 679 การออกแบบผิวทางขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
123
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
CVE 771 การออกแบบและการจัดการระบบจราจร 3 (3 –0 – 9) CVE 771 แบบจาลองวิเคราะห์การจราจรและการใช้งาน 3 (3 –0 – 9) เปลี่ยนชื่อและปรับ
เนื้อหาวิชา
CVE 772 สิ่งแวดล้อมของระบบการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 772 สิ่งแวดล้อมของระบบการขนส่ง 3 (3 –0 – 9)
CVE 773 วิศวกรรมและการวางแผนความปลอดภัยทางถนน 3 (3 –0 – 9) CVE 773 วิศวกรรมและการวางแผนความปลอดภัยทางถนน 3 (3 –0 – 9)
CVE 774 เทคนิคการหาผลเฉลยที่ดีที่สุดสาหรับการขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 774 เทคนิคการหาผลเฉลยที่ดีที่สุดสาหรับการขนส่ง 3 (3 –0 – 9)
CVE 775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการเดินทาง 3 (3 –0 – 9) CVE 775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการเดินทาง 3 (3 –0 – 9)
CVE 776 ระบบโลจิสติกส์ 3 (3 –0 – 9) CVE 776 การจัดการห่วงโซ่อุปทาน 3 (3 –0 – 9) เปลี่ยนชื่อและปรับ
เนื้อหาวิชา
CVE 777 นโยบายและการวางแผนการขนส่งสินค้าในเขตเมือง 3 (3 –0 – 9) CVE 777 นโยบายและการวางแผนการขนส่งสินค้าในเขตเมือง 3 (3 –0 – 9)
CVE 778 แบบจาลองการขนส่งสินค้า 3 (3 –0 – 9) CVE 778 แบบจาลองการขนส่งสินค้า 3 (3 –0 – 9)
CVE 779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง 3 (3 –0 – 9) CVE 779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง 3 (3 –0 – 9)
ข.1.4 วิชาเลือกกลุ่มวิชาเอกวิศวกรรมทรัพยากรน้า
CVE 680 กลศาสตร์ของไหลขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 680 กลศาสตร์ของไหลขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 681 ชลศาสตร์ทางน้าเปิดขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 681 ชลศาสตร์ทางน้าเปิดขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 682 ชลศาสตร์ของการไหลแบบไม่คงที่ 3 (3 –0 – 9) CVE 682 ชลศาสตร์ของการไหลแบบไม่คงที่ 3 (3 –0 – 9)
CVE 683 การจาลองและแบบจาลองสภาพอุทกวิทยา 3 (3 –0 – 9) เพิ่มรายวิชา
CVE 685 การวิเคราะห์ระบบแหล่งน้า 3 (3 –0 – 9) CVE 685 การวิเคราะห์ระบบแหล่งน้า 3 (3 –0 – 9)
CVE 686 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรน้า 3 (3 –0 – 9) CVE 686 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรน้า 3 (3 –0 – 9)
CVE 688 ชลศาสตร์ชายฝั่งทะเล 3 (3 –0 – 9) CVE 688 ชลศาสตร์ชายฝั่งทะเล 3 (3 –0 – 9)
CVE 689 ชลศาสตร์ของน้าขึ้นน้าลงและของบริเวณปากแม่น้า 3 (3 –0 – 9) CVE 689 ชลศาสตร์ของน้าขึ้นน้าลงและของบริเวณปากแม่น้า 3 (3 –0 – 9)
124
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
CVE 690 การกัดเซาะและตะกอน 3 (3 –0 – 9) CVE 690 การกัดเซาะและตะกอน 3 (3 –0 – 9)
CVE 691 กลศาสตร์และกระบวนการของแม่น้า 3 (3 –0 – 9) CVE 691 กลศาสตร์และกระบวนการของแม่น้า 3 (3 –0 – 9)
CVE 692 การป้องกันน้าท่วมและการระบายน้า 3 (3 –0 – 9) CVE 692 การป้องกันน้าท่วมและการระบายน้า 3 (3 –0 – 9)
CVE 693 อุทกวิทยาขั้นสูง 3 (3 –0 – 9) CVE 693 อุทกวิทยาขั้นสูง 3 (3 –0 – 9)
CVE 695 การวิเคราะห์ปัญหาแหล่งน้าโดยคอมพิวเตอร์ 3 (3 –0 – 9) CVE 695 การวิเคราะห์ปัญหาแหล่งน้าโดยคอมพิวเตอร์ 3 (3 –0 – 9)
CVE 696 ระบบและกระบวนการทางอุทกวิทยา 3 (3 –0 – 9) CVE 696 ระบบและกระบวนการทางอุทกวิทยา 3 (3 –0 – 9)
CVE 698 การออกแบบโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทะเล 3 (3 –0 – 9) CVE 698 การออกแบบโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทะเล 3 (3 –0 – 9)
ข.2 วิชาเลือกสาขาวิชาอื่น
CVE 620 ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ 3 (3 –0 – 9) 3 (3 –0 – 9) ยกเลิกรายวิชา
CVE 622 การบริหารโครงการก่อสร้าง 3 (3 –0 – 9) 3 (3 –0 – 9) ยกเลิกรายวิชา
CVE 704 หัวข้อพิเศษ 1 3 (3 –0 – 9) CVE 704 หัวข้อพิเศษ 1 3 (3 –0 – 9)
CVE 705 หัวข้อพิเศษ 2 3 (3 –0 – 9) CVE 705 หัวข้อพิเศษ 2 3 (3 –0 – 9)
CVE 706 หัวข้อพิเศษ 3 3 (3 –0 – 9) CVE 706 หัวข้อพิเศษ 3 3 (3 –0 – 9)
CVE 707 หัวข้อพิเศษ 4 3 (3 –0 – 9) CVE 707 หัวข้อพิเศษ 4 3 (3 –0 – 9)
ข.3 วิชาเลือกสาขาคณิตศาสตร์
MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ 3 (3 – 0 -.9) MTH 665 เทคนิคทางคณิตศาสตร์ 3 (3 – 0 -.9) ปรับผลลัพท์การเรียนรู้
MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร 3 (3 – 0 -.9) MTH 666 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกร 3 (3 – 0 -.9) ปรับผลลัพท์การเรียนรู้
CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา 3 (3 – 0 -.9) CVE 631 คณิตศาสตร์ขั้นสูงสาหรับวิศวกรรมโยธา 3 (3 – 0 -.9)
CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 – 0 -.9) CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 (3 – 0 -.9)
ค. วิทยานิพนธ์ ค. วิทยานิพนธ์
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
125
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา หมายเหตุ
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564
ง. หมวดวิชาภาษาอังกฤษ ง. หมวดวิชาภาษาอังกฤษ
LNG 550 วิชาปรับพื้นภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษา LNG 550 วิชาปรับพื้นภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษา
ระดับบัณฑิตศึกษา : 2 (1-2-6) ระดับบัณฑิตศึกษา : 2 (1-2-6)
LNG 600 วิชาภาษาอังกฤษระหว่างการเรียนในหลักสูตรสาหรับ LNG 600 วิชาภาษาอังกฤษระหว่างการเรียนในหลักสูตรสาหรับ
นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา : 3 (2-2-9) นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา : 3 (2-2-9)
126
127
ภาคผนวก ค. ประวัติอาจารย์ประจาหลักสูตร
ศ. ดร.ชัย จาตุรพิทักษ์กุล
Prof. Dr. Chai Jaturapitakkul
1. ประวัติการศึกษา
ปี ค.ศ. 1993 Ph.D. (Civil Engineering), New Jersey Institute of Technology, U.S.A.
ปี ค.ศ. 1987 M.Eng. (Structural Engineering and Construction), Asian Institute of
Technology, Thailand
ปี พ.ศ. 2527 วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ประเทศไทย
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์ประจาหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Chindaprasirt, P., Kroehong, W., Damrongwiriyanupap, N., Suriyo, W. and Jaturapitakkul, C. (2020):
“Mechanical properties, chloride resistance and microstructure of Portland fly ash cement
concrete containing high volume bagasse ash”, Journal of Building Engineering, Vol. 31, 101415.
(ISI-IF2019 = 3.379, Q1)
2. Klathae, T., Tanawuttiphong, N., Ananthanet, N., Tangchirapat, W., Chindaprasirt, P., Sukontasukkul,
P. and Jaturapitakkul, C. (2020): “Heat evolution, strengths, and drying shrinkage of concrete
containing high volume ground bagasse ash with different LOIs”, Construction and Building
Materials, Vol. 258, 119443. (ISI-IF2019-4.419, Q1)
3. Khongpermgoson, P., Boonlao, K., Ananthanet, N., Thitithananon, T., Jaturapitakkul, C.,
Tangchirapat, W. and Chee Ban, C. (2020): “The mechanical properties and heat development
behavior of high strength concrete containing high fineness coal bottom ash a pozzolanic binder”,
Construction and Building Materials, Vol. 253, DOI: 10.1016/j.conbuildmat.2020.119239. (ISI-IF2019-
4.419, Q1)
4. Dueramae, S., Tangchirapat, W., Chindaprasirt, P., Jaturapitakkul, C. and Sukontasukkul, P. (2020):
“ Autogenous and drying shrinkages of mortars and pore structure of pastes made with activated
binder of calcium carbide residue and fly ash”, Construction and Building Materials, Vol. 230,
116962. (ISI-IF2019-4.419, Q1)
5. Rattanachu, P., Toolkasikorn, P., Tangchirapat, W., Chindaprasirt, P. and Jaturapitakkul, C. (2020):
“Performance of recycled aggregate concrete with rice husk ash as cement binder”, Cement and
Concrete Composites, Vol. 108, 103533. (ISI-IF2019-6.257, Q1)
6. Norrarat, P., Tangchirapat, W., Songpiriyakij, S. and Jaturapitakkul, C. (2019): “Evaluation of
strengths from cement hydration and slag reaction of mortars containing high volume of
ground river sand and GGBF slag”, Advances in Civil Engineering, Vol. 2019, Article ID 4892015,
pp. 12.
16. Rattanachu, P., Karntong, I., Tangchirapat, W., Jaturapitakkul, C. and Chindaprasirt, P. (2018):
"Influence of bagasse ash and recycled concrete aggregate on hardened properties of high-
strength concrete", Materiales de Construcción, Vol. 68, Issue 330, April-June 2018.
17. Ramjan, S., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): "Effects of binary and ternary
blended cements made from palm oil fuel ash and rice husk-ash on alkali-silica reaction of
mortar", Arabian Journal for Science and Engineering, Vol. 43, Issue 4, April 2018, pp. 1941-
1954.
18. Abdulmatin, A., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): "An investigation of bottom
ash as a pozzolanic material", Construction and Building Materials, Vol. 186, pp. 155-162.
19. Ramjan, S., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): "Influence of bagasse ash with
different fineness on alkali-silica reactivity of mortar, Materiales de Construcción, Vol. 68,
Issue 332, pp. 1-12.
20. Norrarat, P., Tangchirapat, W, and Jaturapitakkul, C. (2017): “Evaluation of heat evolution of
pastes containing high volume of ground river sand and ground granulated blast furnace
slag”, Materials science (Medziagotyra), Vol. 23, No. 1, pp. 57-63.
21. Namarak, C., Satching, P., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Improving the
compressive strength of mortar from a binder of fly ash-calcium carbide residue”,
Construction and Building Materials, Vol. 147, pp. 713-719.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. อรรคเดช อับดุลมาติน, ปกป้อง รัตนชู, เพ็ญพิชชา คงเพิ่มโกศล, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล
(2563) “การศึกษาปฏิกิริยาปอซโซลานของเถ้าก้นเตาที่ได้จากการเผาถ่านหินลิกไนต์และถ่านหินบิทูมินัส ”
วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ., ปีที่ 43 ฉบับที่ 1, มกราคม-มีนาคม 2563, หน้า 49-65
2. Chapirom, A., Sinsiri, T., Jaturapitakkul, C. and Chindaprasirt, P. (2562): “Effect of speed
rotation on the compressive strength of horizontal mixes for cellular lightweight concrete”,
Suranaree Journal of Science and Technology, 26 (2), pp. 113-120.
3. ปกป้อง รัตนชู, อิศราพงษ์ ขานทอง, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “การใช้เถ้าชาน
อ้ อ ยบดละเอี ย ดเพื่ อ เพิ่ ม การต้ า นทานคลอไรด์ ข องคอนกรี ต ก าลั ง สู ง ที่ ใ ช้ ม วลรวมจากการย่ อ ยเศษ
คอนกรีต”, วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ, ปีที่ 41 ฉบับที่ 2, เมษายน–มิถุนายน 2561, หน้า 169-183.
4. อรรคเดช ฤกษ์พิบูลย์, นัฐภพ ถานะวุฒพงศ์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “กาลังอัด
ประลัย อัตราการซึมของน้าผ่านคอนกรีต และการแทรกซึมของคลอไรด์ผ่านคอนกรีตที่ใช้เถ้าชานอ้อย
ศ. ดร.ชัยยุทธ ชินณะราศรี
Prof. Dr.Chaiyuth Chinnarasri
1.ประวัติการศึกษา
ปี ค.ศ. 1997 D.Eng. (Integrated Water Resources Management), Asian Institute of Technology,
Thailand
ปี ค.ศ. 1990 M.Eng. (Water Resources Engineering), Asian Institute of Technology, Thailand
ปี พ.ศ. 2528 วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา) เกียรตินิยมอันดับสอง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี,
ประเทศไทย
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 281 กลศาสตร์ของไหล 3 หน่วยกิต
(Fluid Mechanics)
CVE 282 ชลศาสตร์สาหรับวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 3 หน่วยกิต
(Hydraulic for Environmental Engineering)
CVE 385 อุทกวิทยา 3 หน่วยกิต
(Hydrology)
CVE 488 วิศวกรรมแม่น้าเบื้องต้น 3 หน่วยกิต
(Introduction to River Engineering)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 688 ชลศาสตร์ชายฝั่งทะเล 3 หน่วยกิต
(Coastal Hydraulics)
CVE 689 ชลศาสตร์ของน้าขึ้นน้าลงและของบริเวณปากแม่น้า 3 หน่วยกิต
(Tidal and Estuarine Hydraulics)
CVE 691 กลศาสตร์และกระบวนการของแม่น้า 3 หน่วยกิต
(River Mechanics and Fluvial Processes)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Dissertation)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และ/หรืออาจารย์ประจาหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาสัมพันธ์กับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 101 อาณาจักรวิศวกรรมโยธา 2 หน่วยกิต
(World of Civil Engineering)
CVE 362 ปฐพีกลศาสตร์ 3 หน่วยกิต
(Soil Mechanics)
CVE 363 ปฎิบัติการปฐพีกลศาสตร์ 1 หน่วยกิต
(Soil Mechanics Laboratory)
CVE 364 วิศวกรรมฐานราก 3 หน่วยกิต
(Foundation Engineering)
CVE 492 การออกแบบงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Geotechnical Engineering Design)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน 3 หน่วยกิต
(Soil Improvement Technique)
CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Geotechnical Instrumentation)
CVE 666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน 3 หน่วยกิต
(Theoretical Soil Mechanics)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 653 เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน 3 หน่วยกิต
(Soil Improvement Technique)
CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Geotechnical Instrumentation)
CVE 666 ทฤษฎีกลศาสตร์ของดิน 3 หน่วยกิต
(Theoretical Soil Mechanics)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์ประจาหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Dararat, S., Kongkitkul, W., Arangjelovski, G. and Ling, H.I. (2019): “Estimation of stress state-
dependent elastic modulus of pavement structure materials using one -
dimensional loading test” , Road Materials and Pavement Design , doi:
https://doi.org/10.1080/14680629.2019.1620119
2. Jongpradist, P., Jamsawang, P. and Kongkitkul, W., 2019, “Equivalent Void Ratio Controlling
the Mechanical Properties of Cementitious Material-Clay Mixtures with High Water Content”,
Marine Georesources and Geotechnology, 37 (10), pp. 1151-1162.
3. Chantachot, T., Kongkitkul, W. and Tatsuoka, F., 2018, "Effects of temperature rise on load-
strain-time behaviour of geogrids and simulations", Geosynthetics International, Vol. 25, No.
3, pp. 287-303.
4. Nuntapanich, N., Kongkitkul, W., Tatsuoka, F. and Jongpradist, P., 2018, "Prediction of creep
behaviour from load relaxation behaviour of polymer geogrids", Geosynthetics International,
Vol. 25, No. 3, pp. 334-349.
5. Jongpradist, P., Homtragoon, W., Sukkarak, R., Kongkitkul, W. and Jamsawang, P. (2018):
“Efficiency of rice husk ash as cementitious material in high-strength cement-admixed
clay”, Advances. in Civil Engineering, Vol. 2018, Article ID 8346319, pp.11.
6. Sukkarak, R. , Pramthawee, P. , Jongpradist, P. , Kongkitkul, W. and Jamsawang, P. , 2018,
“ Deformation analysis of high CFRD considering the scaling effects” , Geomechanics and
Engineering, Vol. 14, No. 3, pp. 211-224.
7. Kaewsresai, K. , Kongkitkul, W. , Jongpradist, P. and Horpibulsuk, S. , 2017, “ Use of geogrid
encasement to increase the ductility of cement- mixed clay” , Journal of Testing and
Evaluation, ASTM, Vol. 45, No. 5, pp. 1787-1799.
8. Thaothip, A. and Kongkitkul, W. ( 2017) : “ Strength and deformation characteristics of EPS
bead-mixed sand”, International Journal of GEOMATE, Vol.13, No.35, July 2017, pp.8-15.
9. Dararat, S. and Kongkitkul, W. ( 2017) : “ Use of CBR mould for evaluation of constrained
modulus- bulk stress relations of pavement structure materials” , International Journal of
GEOMATE, Vol.12, No.32, April 2017, pp.107-113.
10. Chantachot, T., Kongkitkul, W. and Tatsuoka, F. (2017): “Effects of temperature on elastic
stiffness of a HPDE geogrid and its model simulation” , International Journal of GEOMATE,
Vol.12, No.32, April 2017, pp.94-100.
วารสารระดับประเทศ
1. สุรพันธ์ สุดใจ และ วรัช ก้องกิจกุล (2563) "ผลกระทบของอัตราส่วนปกคลุมและระยะระหว่างชั้นของตา
ข่ า ยเสริ ม ก าลั ง แบบสองทิ ศ ทางที่ มี ต่ อ ก าลั ง อั ด ของทรายเสริ ม ก าลั ง " , วารสารวิ ศ วกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ฉบับที่ 27 (1), มกราคม-เมษายน 2563, หน้า 198-211
บทความวิจัยที่เสนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Terum, B. and Kongkitkul, W. (2018): “Load-strain-time behaviours of a PP geogrid affected
by temperature change histories” , Proceedings of the 11th International Conference on
Geosynthetics, September 16-21, 2018, Coex, Seoul, Korea, paper S35-03.
2. Punya-in, Y. and Kongkitkul, W. (2018): “Compilation of non-linear three-component model
for simulations of rate-dependent load-strain-time behaviours of geogrids”, Proceedings of
the 11th International Conference on Geosynthetics, September 16- 21, 2018, Coex, Seoul,
Korea, paper S35-05.
บทความวิจัยที่เสนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ศรนเรศ อินทรัตน์ และ วรัช ก้องกิจกุล (2562): “อิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแวดล้อมแบบวัฏ
จั ก รที่ มีต่ อการพั ฒนาความเครีย ดคงเหลือของวัสดุ เสริม แรงสังเคราะห์โพลิโพรไพลีน ”, การประชุ ม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชัน
เซ็นเตอร์ อุดรธานี, อุดรธานี, GTE006, หน้า 1357-1365.
2. Pukeaw, S., Sumanuschai, O., Sakulpojworachai, W. and Kongkitkul, W. (2019): “Evaluation
of mass of failed soil slopes induced by lateral seepage and rainfall; a physical model
study with image analysis” , Proceedings of the 24th National Convention on Civil
Engineering, 10-12 July 2019, Centara Hotel & Convention Centre Udon Thani, Udon Thani,
GTE024, pp. 1482-1488.
3. Kuisomjai, P., Rattanasiriphan, W., Charoenwongsak, S., Thaonil, R. and Kongkitkul, W. (2019):
“ Evaluation of vertically loaded pile group efficiency by physical model tests with DIC
technique” , Proceedings of the 24th National Convention on Civil Engineering, 10- 12
July 2019, Centara Hotel & Convention Centre Udon Thani, Udon Thani, GTE025, pp. 1489-
1497.
4. Wiksitcharoenkul, N. , Limpanawat, P. , Kanhala, P. , Chiravacharadej, J. and Kongkitkul, W.
(2019): “Evaluation of compressive strength of lateritic soil mixed with cement and fly ash
for soil cement base course” , Proceedings of the 24th National Convention on Civil
Engineering, 10-12 July 2019, Centara Hotel & Convention Centre Udon Thani, Udon Thani,
GTE026, pp. 1498-1502.
5. ปรินทร มุทธากลิน, ภคพณ ภัทรเคหะ, ศรนเรศ อินทรัตน์ และ วรัช ก้องกิจกุล (2561): “การพัฒนา MS
Excel Worksheet เพื่ อ การวิเ คราะห์เสถียรภาพของลาดดินด้ วยวิ ธี Mass Procedure”, การประชุ ม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า,
นครนายก, GTE 13, ID 127.
6. ฉัตรชัย ไข่แก้ว, วัชริศ ถิ่นวัฒนากูล, วงศธร ศิริกิจ และ วรัช ก้องกิจกุล (2561): “การพัฒนา MS Excel
Worksheet เพื่อการวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดดินด้วยวิธี Method of Slices”, การประชุมวิชาการ
วิ ศ วกรรมโยธาแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรี ย นนายร้ อ ยพระจุ ล จอมเกล้ า ,
นครนายก, GTE 14, ID 128.
7. มนัสวี เฟื่องฟู, วรัช ก้องกิจกุล และ ปกรณ์ มิลินทะเลข (2561): “อิทธิพลของชนิดและลักษณะการคละ
ขนาดของวัสดุมวลรวมที่มีต่อสมบัติมาร์แชลของแอสฟัลต์คอนกรีต ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธา
แห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 19, ID
170.
8. สุรพันธ์ สุดใจ และ วรัช ก้องกิจกุล (2561): “ผลกระทบของอัตราส่วนปกคลุมของตาข่ายเสริมกาลังที่มีต่อ
กาลังอัดและการเสียรูปของทรายเสริมกาลัง ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23,
18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 23, ID 197.
9. ธมนวรรณ สืบพงศ์, วรัช ก้องกิจกุล และ พรเทพ ม่วงสุขา (2561): “การศึกษาสมบัติทางวิศวกรรมเทคนิค
ธรณีของโฟมโพลียูรีเทน”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม
2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 28, ID 213.
10. ชนาวรรธน์ สิริพฤกษา และ วรัช ก้องกิจกุล (2561): “การประเมินความเครียดในโครงสร้างชั้นทางภายใต้
น้าหนักจราจรที่แตกต่างกันด้วยแบบจาลองกายภาพ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้ง
ที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 36, ID 265.
11. พงศธร กระจ่างผล, วรัช ก้องกิจกุล และ Goran Arangjelovski (2561): “ผลกระทบของแรงกระทา
ด้านข้างแบบวัฐจักรที่ควบคุมแอมพลิจูดด้วยระยะทางต่อพฤติกรรมของเสาเข็มเดี่ยวและเสาเข็มกลุ่มใน
แบบจาลอง”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, โรงเรียน
นายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 44, ID 314.
12. สวรรยา ดารารัตน์ และ วรัช ก้องกิจกุล (2561): “การประมาณโมดูลัสยืดหยุ่นของหินคลุกโดยใช้โมดูลัส
ทิศทางเดียวแบบจากัด ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม
2561, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, นครนายก, GTE 50, ID 375.
13. Weerakul, P., Arangjelovski, G. and Kongkitkul, W. (2017): “Effects of group arrangements
on the lateral resistance of pile groups”, Proceedings of the 22nd National Convention
on Civil Engineering, 18- 20 July 2017, The Greenery Resort Khao Yai Hotel, Nakhon
Ratchasima, GTE 089, Vol.2, pp.222-227.
14. Kunrattanawanit, N., Manapattananukul, S., Padungwong, P. Kongkitkul, W. and Sukolrat, J.
(2017): “Laboratory Study on Evaluations of Strengths of Pavement Structure Materials by
Using a Rapid Cone Penetrometer” , Proceedings of the 22nd National Convention on
Civil Engineering, 18- 20 July 2017, The Greenery Resort Khao Yai Hotel, Nakhon
Ratchasima, GTE 164, Vol.2, pp. 317-324.
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
14. Rattanachu, P., Karntong, I., Tangchirapat, W., Jaturapitakkul, C. and Chindaprasirt, P. (2018):
“Influence of bagasse ash and recycled concrete aggregate on hardened properties of high-
strength concrete”, Materiales de Construcción, Vol. 68, No. 330.
15. Ramjan, S., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): “Effects of binary and ternary
blended cements made from palm oil fuel ash and rice husk-ash on alkali-silica reaction of
mortar”, Arabian Journal for Science and Engineering, Vol. 43, No. 4, pp. 1941-1954.
16. Abdulmatin, A., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): “An investigation of bottom
ash as a pozzolanic material”, Construction and Building Materials, Vol. 186, pp. 155-162.
17. Ramjan, S., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2018): “Influence of bagasse ash with
different fineness on alkali-silica reactivity of mortar”, Materiales de Construcción, Vol. 68,
No. 332, pp. 1-12.
18. Dueramae, S., Tangchirapat., W, Chindaprasirt, P. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Influence of
activation methods on strength and chloride resistance of concrete using calcium carbide
residue-fly ash mixture as a new binder”, Journal of Material in Civil Engineering, Vol. 29,
No. 4, pp. 1-1.
19. Norrarat, P., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Evaluation of heat evolution of
pastes containing high volume of ground river sand and ground granulated blast furnace
slag”, Materials science (Medziagotyra), Vol. 23, No. 1, pp. 57-63.
20. Namarak, C., Satching, P., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Improving the
compressive strength of mortar from a binder of fly ash-calcium carbide residue”,
Construction and Building Materials, Vol. 147, pp. 713-719.
21. Abdulmatin, A., Khongpermgoson, P., Jaturapitakkul, C. and Tangchirapat, W. (2017): “Use of
eco-friendly cementing material in concrete made from bottom ash and calcium carbide
residue”, Arabian Journal for Science and Engineering, pp. 1-10.
22. Sanawung, W., Cheewaket, T., Tanchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Influence of
palm oil fuel ash and W/B ratios on compressive strength, water permeability, and chloride
resistance of concrete”, Advances in Materials Science and Engineering, Vol. 2017, pp. 8.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. อรรคเดช อั บ ดุ ล มาติ น , ปกป้ อ ง รั ต นชู , เพ็ ญ พิ ช ชา คงเพิ่ ม โกศล , วี ร ชาติ ตั้ ง จิ ร ภั ท ร และ
ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2563) “การศึกษาปฏิกิริยาปอซโซลานของเถ้าก้นเตาที่ได้จากการเผาถ่านหินลิกไนต์
และถ่ า นหิ น บิ ทู มิ นั ส ” วารสารวิ จั ย และพั ฒ นา มจธ., ปี ที่ 43 ฉบั บ ที่ 1, มกราคม-มี น าคม 2563,
หน้า 49-65
2. วชิรกรณ์ เสนาวัง, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “กาลังอัดการต้านทานการขัดสี และ
การแทรกซึมของคลอไรด์ของคอนกรีตที่ผสมเถ้าปาล์มน้ามัน ”, วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ., ปีที่ 41,
ฉบับที่ 1, หน้า 1-14.
3. อรรคเดช ฤกษ์พิบูลย์, นัฐภพ ถานะวุฒิพงศ์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “กาลังอัด
ประลัย อัตราการซึมของน้าผ่านคอนกรีต และการแทรกซึมของคลอไรด์ผ่านคอนกรีตที่ใช้เถ้าชานอ้อย
บดละเอียดแทนที่ปูนซีเมนต์ปริมาณสูง”, วารสารวิชาการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย, ปีที่ 6, ฉบับที่
1, หน้า 1-9.
4. สุวัฒน์ รามจันทร์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2560) “ผลกระทบของความละเอียดของเถ้า
ถ่ า นหิ น และเถ้ า แกลบต่ อ ก าลั ง อั ด และการขยายตั ว ของมอร์ ต าร์ ที่ เ ร่ ง โดยใช้ ส ารละลาย NaOH ที่
อุณหภูมิสูง”,วารสารวิชาการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย, ปีที่ 5, ฉบับที่ 1, หน้า 1-13.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Mahasuwanchai, P., Wonganan, N., Athisakul, C., Tangchirapat, W., Sahamitmongkol, R. and
Leelataviwat, S. (2020): “Engineering properties of ancient masonry materials in Thailand and
substitution materials for historical structures preservation”, Proceeding of International
Conference on Sustainable Energy and Green Technology 2019, Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012077.
2. Sanawung, W., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C., (2017): “Influence of palm oil fuel
ash fineness on alkali-silica reaction of mortar”, The 2nd ACF Symposium Innovations for
sustainable concrete infrastructures, November 23-25, Chiang Mai, Thailand.
3. Rerkpiboon, A., Tanawuttiphong, N., Tangchirapat, W. and Jaturapitakkul, C. (2017): “Effects
of high-volume ground bagasse ash on compressive strength and heat evolution of
concrete”, The 2nd ACF Symposium Innovations for sustainable concrete infrastructures,
November 23-25, Chiang Mai, Thailand.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ปิ่นพงศ์ กันหาลา, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2563) “การประเมินกาลังและการหดตัวของ
คอนกรีตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ทาจากมวลรวมรีไซเคิลและใช้เถ้าก้นเตาร่วมกับกากแคลเซียมคาร์ไบด์
บดละเอี ยดเป็น วัสดุป ระสาน”, การประชุ มวิ ช าการวิ ศ วกรรมโยธาแห่ งชาติ ครั้ง ที่ 25, วั น ที่ 15-17
กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
2. เทพฤทธิ์ เจริญสุข, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2563) “คอนกรีตกาลังสูงที่ผสมเถ้าปาล์ม
น้ามันบดละเอียดในปริมาณสูง ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17
กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์, STR44
3. สุนัย โตศิริมงคล, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ และ ชัยณรงค์ อธิสกุล
(2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานของไทย”, การประชุม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
4. นครินทร์ นัคราโรจน์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2563) “ผลกระทบของเถ้าก้นเตาปริมาณ
สูงต่อกาลังอัดและโมดูลัสยืดหยุ่นของคอนกรีตกาลังสูงที่ใช้มวลรวมจากการย่อยเศษคอนกรีต”, การประชุม
วิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 15, วันที่ 25-27 มีนาคม 2563, Zoom Meeting
5. ปิยนัฐ เจริญอานวยสุข, ภควัต พร้อมมูล, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, อนุวัฒน์ อรรถไชยวุฒิ และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล
(2563) “สมบั ติ เ ชิ ง กลของคอนกรี ต สมรรถนะสู ง ที่ ใ ช้ เ ถ้ า ก้ น เตาบดละเอี ย ดร่ ว มกั บ ผงหิ น ปู น แทนที่
ปู น ซี เ มนต์ ” , การประชุ ม วิ ช าการคอนกรี ต ประจ าปี ครั้ ง ที่ 15, วั น ที่ 25-27 มี น าคม 2563, Zoom
Meeting
6. ปัญธนา สุทธิประภา, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2563) “อิทธิพลของสารละลายโซเดียมไฮ
ดรอกไซด์และอัตราส่วนกากแคลเซียมคาร์ไบด์ต่อเถ้าถ่านหินที่มีต่อกาลังอัดและความต้านทานการขัดสีของ
มอร์ตาร์ที่กระตุ้นด้วยด่าง”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 15, วันที่ 25-27 มีนาคม 2563,
Zoom Meeting
7. ทศพล มุสิกะศิริ, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, สมิตร ส่งพิริยะกิจ และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “การศึกษาปัจจัยที่
ส่งผลกระทบต่อสมบัติของจีโอพอลิเมอร์คอนกรีตสดและที่แข็งตัวแล้วที่ทาจากเถ้าถ่านหินที่มีปริมาณ
แคลเซียมสูง”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 13, 7-9 มีนาคม 2561, โรงแรม เดอะซายน์
พัทยา, จังหวัดชลบุรี.
8. กันติยา โสธรชัยวิทย์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, เที่ยง ชีวะเกตุ และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2561) “การศึกษากาลัง
อัด และการต้านทานการกัดกร่อนเนื่องจากกรดซัลฟูริคของจีโอโพลิเมอร์มอร์ตาร์จากเถ้าถ่านหินผสมซิลิกา
ฟูม”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 13, 7-9 มีนาคม 2561, โรงแรม เดอะซายน์ พัทยา,
จังหวัดชลบุรี.
ศ. ดร.สมชาย ชูชีพสกุล
Prof. Dr. Somchai Chucheepsakul
1.ประวัติการศึกษา
ปี ค.ศ. 1983 Ph.D. (Civil Engineering), University of Texas, U.S.A.
ปี ค.ศ. 1976 M.S.C.E. (Civil Engineering), University of Texas, U.S.A
ปี พ.ศ. 2517 วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ประเทศไทย
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 639 เสถียรภาพของโครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Structural Stability)
CVE 644 ทฤษฎีของโครงสร้างเปลือกบาง 3 หน่วยกิต
(Theory of Thin Elastic Shells)
CVE 645 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์ในกลศาสตร์โครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Finite Element Method in Structural Mechanics)
CVE 733 การวิเคราะห์ไฟไนต์เอลิเมนต์ไม่เชิงเส้นของโครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Nonlinear Finite Element Analysis of Structures)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2020): “A variational method for post-
buckling analysis of end-supported nanorods under self-weight with surface stress effect”,
Archive of Applied Mechanics, DOI: 10.1007/s00419-020-01807-y. (ISI-IF2019 = 1.374, Q3)
2. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2020): “Postbuckling analysis of a
nonlocal nanorod under self-weight”, International Journal of Applied Mechanics, Vol. 12,
No. 4, 2050035. (ISI-IF2019 =2.449, Q2)
3. Jiammeepreecha, W., Suebsuk, J. and Chucheepsakul, S. (2020): “Nonlinear Static Analysis
of Liquid-Containment Toroidal Shell under Hydrostatic Pressure”, Journal of structural
engineering, Vol. 146, Issue 1 (ISI-Q2-IF2018-2.528)
4. Klaycham, K., Nguantud, P., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2020): “Free vibration
analysis of large sag catenary with application to catenary jumper”, Ocean Systems
Engineering-AN International Journal, Vol. 10, Issue 1, pp. 67-86.
5. Klaycham, K., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2020): “Nonlinear Response of Marine
Riser with Large Displacement Excited by Top-End Vessel Motion using Penalty Method”,
International Journal of Structural Stability and Dynamics, Vol. 20, Issue 4, 2050052. (ISI-
IF2019-2.015, Q2)
6. Tangbanjongkij, C., Chucheepsakul, S. and Jiammeepreecha, W. (2020): “Analytical and
Numerical Analyses for a Variety of Submerged Hemi-Ellipsoidal Shells”, Journal of
Engineering Mechanics, Vol. 146, Issue 7, 04020066. (ISI-IF2019-2.033, Q2)
7. Panyatong, M., Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S. (2020): “Influences of surface effects
on large deflections of nanomembranes with arbitrary shapes by the coupled BE-RBFs
method”, Archive of Applied Mechanics, Vol. 90, Issue 5, pp. 1157-1177. (ISI-IF2019=1.374,
Q3)
8. Tangbanjongkij, C., Jiammeepreecha, W. and Chucheepsakul, S. (2020): “Numerical and
Analytical Analyses for a Variety of Submerged Hemi-Ellipsoidal Shells”, ASCE Journal of
Engineering Mechanics, Vol.146, No. 7, 04020066 pp. 15
9. Juntarasaid, C., Pulngern, T., and Chucheepsakul, S. (2020): “Postbuckling of a Nonlocal
Narorod under Selfweight”, International Journal of Applied Mechanics.
10. Klaychum, K.., Nguantud, P., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2020): “Free Vibration of
Large Sag Catenary Riser Application to Catenary Jumper”, Ocean System Engineering,
Vol. 10, No,1, pp. 67-86.
11. Panyatong, M., Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S. (2019): “Bending analysis of
functionally graded plates with arbitrary shapes and boundary conditions”, Structural
Engineering and Mechanics, Vol. 71, No. 6, pp. 627-641.
12. Jiammeepreecha, W, and Chucheepsakul, S. (2019): “Nonlinear Free Vibration Analysis of a
Toroidal Pressure Vessel under Constrained Volume Condition”, International Journal of
Structural Stability and Dynamics, Vol. 19, No. 10, 1950118 (19 pages).
13. Punjarat, O. and Chucheepsakul, S. (2019): “Post-buckling analysis of a uniform, self-weight
beam with application to marine riser”, International Journal of Structural Stability and
Dynamics, Vol. 19, No.4, 1950047 (20 pages).
14. Tangbanjongkij, C., Chucheepsakul, S. and Jiammeepreecha, W. (2019): “Large displacement
analysis of ellipsoidal pressure vessel heads using the fundamental of differential
geometry”, International Journal of Pressure Vessels and Piping, Volume 172, No. 5,
pp. 337-347.
15. Panyatong, M., Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S. (2018): “Nonlinear bending analysis
of nonlocal nanoplates with general shapes and boundary conditions by the boundary-only
method”, Engineering Analysis with Boundary Elements, Vol. 87, pp. 90-110.
16. Phanyasahachart, T., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2018) “Natural Frequencies of a
Very Large–Sag Extensible Cable”, ASCE Journal of Engineering Mechanics, Vol. 144, No.2,
06017020 (7 pages).
17. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2018): “A variational approach for large
deflection of ends supported nanorod under a uniformly distributed load, using intrinsic
coordinate finite elements”, Applied Mathematical Modelling, Vol. 54, pp. 34-45.
18. Phungpaingam, B. and Chucheepsakul, S. (2018): “Postbuckling behavior of variable-arc-
length elastica connected with a rotational spring joint including the effect of configurational
force”, Meccanica, Vol. 53, pp. 2619–2636.
19. Phanyasahachart, T., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2017): “Analysis of Large-Sag
Extensible Catenary with Free Horizontal Sliding at One End by Variational Approach”,
International Journal of Structural Stability and Dynamics, Vol. 17, No.7, 1750070 (17 pages).
20. Jiammeepreecha, W. and Chucheepsakul, S, (2017): “Nonlinear static analysis of an
underwater elastic semi-toroidal shell”, Thin-Walled Structures, Vol. 116, No. 7, pp. 12-18.
21. Haruehansapong, S., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2017): “Effect of Nanosilica Particle
Size on the Water Permeability, Abrasion Resistance, Drying Shrinkage, and Repair Work
Properties of Cement Mortar Containing Nano-SiO2”, Advances in Materials Science and
Engineering, Vol. 2017, 4213690 (11 pages).
22. Klaycham, K., Athisakul, C., and Chucheepsakul, S. (2017): “Nonlinear Vibration of Marine
Riser with Large Displacement”, Journal of Marine Science and Technology, Vol. 22, Issue 2,
pp 361–375.
23. Panyatong, M., Chinnaboon, B., and Chucheepsakul, S. (2016): “Free Vibration Analysis of FG
Nanoplates Embedded in Elastic Medium Based on Second-Order Shear Deformation Plate
Theory and Nonlocal Elasticity”, Composite Structures, Vol. 153, pp. 428-441.
24. Phanyasahachart, T., Athisakul, C., and Chucheepsakul, S. (2017): “Analysis of Large-Sag
Extensible Catenary with Free Horizontal Sliding at One End by Variational Approach”,
International Journal of Structural Stability and Dynamics, Vol. 17, No. 7, 1750070
(17 pages).
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. ภูมิภิญญ์ พลเจียก, บุญมี ชินนาบุญ และ สมชาย ชูชีพสกุล (2563) "การเปรียบเทียบผลตอบสนองสูงสุด
ของสะพาน ชนิด I-GIRDER โดยการวิเคราะห์โครงสร้างแบบสถิตและพลวัต เนื่องจากน้าหนักบรรทุกตาม
มาตรฐาน AASHTO LRFD และรถบรรทุกไทย", วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา วสท., ปีที่ 31 (3),
กรกฎาคม-กันยายน 2563, หน้า 99-***
2. ซุลกิฟลี เดมะ, บุญมี ชินนาบุญ, และ สมชาย ชูชีพสกุล (2562) "การวิเคราะห์ระนาบอินฟลูเอนซ์ของแผ่น
บางด้วยวิธีบาวดารีเอลิเมนต์" , วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา, ปีที่ 30, ฉบับที่ 2, เมษายน-มิถุนายน
2562,หน้า 7-23.
3. อาร์ตีส ยศอมรสุนทร, ชัยณรงค์ อธิสกุล, สมชาย ชูชีพสกุล และ การันต์ คล้ายฉ่า (2562) "การสั่นอิสระของ
ท่อลาเลียงของไหลใต้ทะเลในสภาวะแขวนปลายบน", วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ., ปีที่ 42, ฉบับที่ 1,
มกราคม-มีนาคม 2562, หน้า 69-93.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Sairuamyat, P., Mahasuwanchai, P., Athisakul, C., Leelataviwat, S. and Chucheepsakul, S.
(2020): “Application of 3D laser scanning technology for preservation and monitoring of Thai
pagoda: A case study of Wat Krachee Ayutthaya” , Proceeding of International Conference
on Sustainable Energy and Green Technology 2019 (SEGT 2019), Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012082.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ธนิยพรรธน์ ศรีมนตริภักดี, การันต์ คล้ายฉ่า, ชัยณรงค์ อธิสกุล, สมชาย ชูชีพสกุล, และ ชัยยุทธ ชินณะ
ราศรี (2563) “ผลตอบสนองทางพลศาสตร์สาหรับเคเบิ้ลยึดโยงแผงโซล่าเซลล์ลอยน้าเมื่อรับการกระตุ้นที่
ปลายด้านบน”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563,
การประชุมแบบออนไลน์
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 362 ปฐพีกลศาสตร์ 3 หน่วยกิต
(Soil Mechanics)
CVE 363 ปฎิบัติการปฐพีกลศาสตร์ 1 หน่วยกิต
(Soil Mechanics Laboratory)
CVE 364 วิศวกรรมฐานราก 3 หน่วยกิต
(Foundation Engineering)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 1 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project)
CVE 492 การออกแบบงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Geotechnical Engineering Design)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Soil Mechanics)
CVE 657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Numerical Analysis in Geotechnical Engineering)
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Soil Mechanics)
CVE 657 การวิเคราะห์เชิงตัวเลขในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Numerical Analysis in Geotechnical Engineering)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Phutthananon, C., Jongpradist, P. and Jamsawang, P. (2020): “ Influence of cap size and
strength on settlements of TDM-piled embankments over soft ground” , Marine
Georesources & Geotechnology, Vol. 38 (6), pp. 686-705. (ISI-IF2019 =1.716, Q3)
2. Yoobanpot, N., Jamsawang, P., Simarat, P., Jongpradist, P. and Likitlersuang, S. (2020):
“ Sustainable reuse of dredged sediments as pavement materials by cement and fly ash
stabilization” , Journal of Soils and Sediments, Vol. 20, Issue 10, pp. 3807-3823. (ISI-IF2019-
2.763, Q2)
3. Yoobanpot, N., Jamsawanga, P., Krairana, K., Jongpradist, P. and Likitlersuang, S. (2020):
“ Laboratory investigation of the properties of cement fly ash gravel for use as a column-
supported embankment” , Construction & Building Materials, Vol. 257, 119493. (ISI-IF2019=
4.419 Q1)
4. Phutthananon, C., Jongpradist, P., Dias, D. and Baroth, J. (2020): “ Parametric analysis and
optimization of T-shaped and conventional deep cement mixing column-supported
embankments”, Computers and Geotechnics, Vol. 122, 103555. (ISI-IF2019-3.818, Q1)
5. Yoobanpot, N., Jamsawang, P., Poorahong, H., Jongpradist, P. and Likitlersuang, S. (2020):
“ Multiscale laboratory investigation of the mechanical and microstructural properties of
dredged sediments stabilized with cement and fly ash” , Engineering Geology, Vol. 267,
105491. (ISI-IF2019=4.779, Q1)
6. Waichita, S., Jongpradist, P. and Schweiger, Helmut F. (2020): “ Numerical and experimental
investigation of failure of a DCM-wall considering softening behaviour” , Computers and
Geotechnics, Vol. 119, 103380. (ISI-IF2019 = 3.818, Q1)
7. Waichita, S. , Jongpradist, P. and Jamsawang, P. (2019): “ Characterization of deep cement
mixing wall behavior using wall- to excavation shape factor” , Tunnelling and Underground
Space Technology, Vol. 83, pp. 243-253.
8. Sukkarak, R., Jongpradist, P. and Pramthawee, P. (2019): “A modified valley shape factor for
the estimation of rockfill dam settlement”, Computers and Geotechnics, Vol. 108, pp. 244-
256.
9. Jamsawang, P. , Voottipruex, P. Tanseng, P. , Jongpradist, P. and Bergado, D. T. (2019):
“ Effectiveness of deep cement mixing walls with top- down construction for
deep excavations in soft clay: Case study and 3D simulation” , Acta Geotechnica, Vol. 14,
No. 1, pp. 225–246.
10. Sukkarak, R., Jongpradist, P., Jamsawang, P., Sukontasukkul, P. and Chindaprasirt, P. (2019):
“Effect of polypropylene fiber on the flexural strength properties of lightweight foam mixed
soil” , Advances in Materials Science and Engineering, Volume 2019, Article ID 1607325, 12
pages.
11. Chaipanna, P. and Jongpradist, P. (2019): “3D response analysis of a shield tunnel segmental
lining during construction and a parametric study using the ground-spring model”, Tunnelling
and Underground Space Technology, Vol. 90, pp. 369-382.
12. Lueprasert, P. , Jongpradist, P. , Ruangvirrojanakul, K. and Suwansawat, S. , (2019):
“ Dependence of tunnel deformation due to adjacent pile under loading on tunnel
geometry”, International Journal of Geomate, Vol. 16, Issue 54, pp. 193-199.
13. Jongpradist, P., Jamsawang, P. and Kongkitkul, W. (2019): “Equivalent Void Ratio Controlling
the Mechanical Properties of Cementitious Material-Clay Mixtures with High Water Content”,
Marine Georesources and Geotechnology, Vol. 37, No. 10, pp. 1151-1162.
14. Jamsawang, P., Suansomjeen, T., Suknotasukkul, P., Jongpradist, P., and Bergado, D.T. (2018):
“ Comparative flexural performance of compacted cement- fiber- sand” , Geotextiles and
Geomembranes, Vol. 46 (4), pp. 414–425.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. สมชาย จิรวัฒนาการ, กฤษดา ตระกูลจั่นนาค และ พรเกษม จงประดิษฐ์ (2563) "การวิเคราะห์เชิงตัวเลข
ของผลตอบสนองอุโมงค์แบบชิ้นส่วนประกอบเนื่องจากเสาเข็มรับแรงข้างเคียง", วารสารวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ปีที่ 27 (2), พฤษภาคม-สิงหาคม 2563, หน้า 28-38
2. รักษ์ศิริ สุขรักษ์, พรเกษม จงประดิษฐ์, ทศพร แย้มกล่า และ สุรเดช เหรัมพกุล (2563) “การพัฒนาเขต
ผลกระทบของอุโมงค์ส่งน้าจากการขุดลึกข้างเคียง” วิศวสารลาดกระบัง, ปีที่ 37 ฉบับที่ 1, มีนาคม 2563,
หน้า 21-28
3. ธนณั ฏฐ์ โยนจอหอ, พรเกษม จงประดิ ษฐ์ และ ศิริ ว รรณ ไวยชิ ต า, (2562) “ผลกระทบของเครื่องมือ
ตรวจวัดต่อการตรวจวัดการถ่ายแรงของเสาเข็มดินซีเมนต์ภายใต้การรับแรงในแนวแกน” วารสารวิศวกรรม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ปีที่ 26 ฉบับที่ 2, พฤษภาคม.–สิงหาคม 2562, หน้า 99-106.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Jongpradist, P. , Haema, N. and Lueprasert, P. (2019): “ Influence of pile row under loading
on existing tunnel”, Tunnels and Underground Cities: Proceedings of World Tunnel Congress
2019, Naples, Italy, May 6-9, 2019, pp. 5711-5719.
2. Chaipanna, P., Trakoonjannak, K. and Jongpradist, P. (2019): “Experimental investigation of
response of segment lining due to adjacent pile under loading” . 5th Inter Conference on
Science, Engineering & Environment ( SEE) , Bangkok, Thailand, November 11- 13, 2019,
pp. 512-515.
3. Waichita, S. and Jongpradist, P. (2019): “Investigation on the effects of wall slenderness on
failure behavior of DCM wall using a simplified small- scale physical model test” ,
The 4th International Conference on Geotechnics for Sustainable Infrastructure
Development- Geotec Hanoi 2019, Hanoi, Vietnam, November 28-29, 2019, pp. 489-495.
4. Pramthawee, P. and Jongpradist, P. (2018): “Incorporation of creep into an elasto-plastic soil
model for time-depedent analysis of a high rockfill dam”, Proceedings of the 9th European
Conference on Numerical Methods in Geotechnical Engineering (NUMGE 2018), June 25-27,
2018, Porto, Portugal, pp. 299-305.
5. Heama, N., Jongpradist, P., Lueprasert, P. and Suwansawat, S. (2018): “Investigation on Pile-
Soil-Tunnel Interaction Due to Adjacent Loaded Pile Row by 3D FEM”, The 4th International
conference on Engineering, Applied Sciences and Technology, Swissotel Resort Phuket
Patong Beach, Thailand, July 4-7, 2018, pp. 792-795.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ทิพวรรณ อิ่มเอิบ, ประทีป หลือประเสริฐ และ พรเกษม จงประดิษฐ์ (2563) “อิทธิพลของระยะห่างระหว่าง
หัวเจาะต่อการทรุดตัวของผิวดินจากการก่อสร้าง อุโมงค์คู่ - การวิเคราะห์เชิงตัวเลขแบบสามมิติ ” การ
ประชุ ม วิ ช าการวิ ศ วกรรมโยธาแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 25, วั น ที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุ ม แบบ
ออนไลน์, GTE10
2. กัณตภณ จินทราคา, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, ก้องภพ วัชรเสวี, ชัยณรงค์ อธิสกุล, พรเกษม จงประดิษฐ์ และ
สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานของ
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Advanced Statistical Methods for Transportation Studies)
CVE 675 การประเมินโครงการด้านการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transport Project Evaluation)
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 704 หัวข้อพิเศษ 1 3 หน่วยกิต
(Special Topics)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
2.2 ภาระการสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 673 สถิติขั้นสูงสาหรับการศึกษาด้านการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Advanced Statistical Methods for Transportation Studies)
CVE 675 การประเมินโครงการด้านการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transport Project Evaluation)
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Srisurapanon, V. (2016): “The case of subsidizing school bus operations”, Journal of Society
for Transportation and Traffic Studies, Vol.7, No.4, Dec.2016, pp. 11-19.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. พิษณุรักษ์ เจริญวัย, มัลลิกา พันธ์หงษ์, พิชชาพร ลิขิตปัญจมานนท์, พร พันธ์จงหาญ และ วิโรจน์ ศรีสุรภา
นนท์ (2563) “การปรั บ ปรุ ง ประสิ ท ธิ ภ าพของการให้ บ ริ ก ารแท็ ก ซี่ โ ดยใช้ ข้ อ มู ล จี พี เ อสแบบเกิ น นั บ ”,
การประชุมวิชาการ ครั้งที่ 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, 28 สิงหาคม 2563, ณ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, จังหวัดชลบุรี, ID090
2. ธนวั ฒ น์ ธวั ช ธนไพศาล และ วิ โ รจน์ ศรี สุ ร ภานนท์ (2563) “ปั จ จั ย ที่ ส่ ง ผลต่ อ การใช้ ร ถโรงเรี ย น”,
การประชุมวิชาการ ครั้งที่ 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, 28 สิงหาคม 2563, ณ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, จังหวัดชลบุรี, ID075
3. สุทธิดา นวสุขสาราญ, อาทิยา เผ่าพงษ์ , อรรถพล พรหมอินทร์ และ วิโรจน์ ศรีสุรภานนท์ (2562) “การ
ปรั บ ปรุ ง ทางเดิ น เท้ า ในชุ ม ชน (กรณี ศึ ก ษา ซอยพุ ท ธบู ช า 44)”, The 7th Thailand Bike and Walk
Forum : Think Globally, Bike-Walk Locally , วั น ที่ 21 กั น ยายน 2562 , ณ อาคารเคเอ็ ก ซ์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, หน้า 37-47.
4. ธนวัฒน์ ธวัชธนไพศาล, นนทกร วัฒนวิบูลย์, รัฐเขต จุนันท์ และ วิโรจน์ ศรีสุรภานนท์ (2562) “การจัดการ
การจอดรถบริเวณถนนพุทธบูชาจังหวัดกรุงเทพมหานคร” การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ
ครั้งที่ 24 วันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562 อุดรธานี, TRL008.
5. วิโรจน์ ศรีสุรภานนท์, ธนวัฒน์ ธวัชธนไพศาล, พิษณุรักษ์ เจริญวัย และ อชิรญาณ์ สอนสาย (2562) “ปัจจัย
ที่ มี ผ ลต่ อ การใช้ ร ถยนต์ ร่ ว มกั น ไปโรงเรี ย น” การประชุ ม วิ ช าการวิ ศ วกรรมโยธาแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 24
วันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562 อุดรธานี, TRL024.
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 341 การออกแบบโครงสร้างเหล็กและไม้ 3 หน่วยกิต
(Steel and Timber Design)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project)
CVE 444 การออกแบบคอนกรีตอัดแรง 2 หน่วยกิต
(Prestressed Concrete Design)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 642 พลศาสตร์โครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Structural Dynamics)
CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและแผ่นดินไหว 3 หน่วยกิต
(Analysis and Design of Structures for Wind and Seismic Loads)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
CET 623 ระบบโครงสร้างอาคาร 3 หน่วยกิต
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
CVE 642 พลศาสตร์โครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Structural Dynamics)
CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและแผ่นดินไหว 3 หน่วยกิต
(Analysis and Design of Structures for Wind and Seismic Loads)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
1.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
1.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Wararuksajja, W., Srechai, J. and Leelataviwat, S. (2020): “Seismic design of RC moment-
resisting frames with concrete block infill walls considering local infill-frame interactions”,
Bulletin of Earthquake Engineering, Vol. 18, Issue 14, pp. 6445-6474. (ISI-IF2019 = 2.602, Q2)
2. Junda, E., Leelataviwat, S. and Doung, P. (2018): “Cyclic testing and performance evaluation
of buckling-restrained knee-braced frames”, Journal of Constructional Steel Research, Vol.
48, pp. 154-164.
3. Leelataviwat, S., Posai, K., Sahamitmongkol, R. and Kietmetha, S. (2018): “Testing of a
damaged PT slab-column frame repaired using injection grouting and steel collar”, Eleventh
U.S. National Conference on Earthquake Engineering, Integrating Science, Engineering &
Policy, June 25-29, Los Angeles, California, U.S.A.
4. Wongpakdee, N., and Leelataviwat, S., (2017): “Influence of column strength and stiffness
on the inelastic behavior of strong-column-weak-beam frames”, Journal of Structural
Engineering, Vol. 143, No. 9, pp. 04017124-1 – 04017124-12.
5. Srechai, J., Leelataviwat, S., Wongkaew, A. and Lukkunaprasit, P., (2017): “Experimental and
analytical evaluation of a low-cost seismic retrofitting method for masonry-infilled non-
ductile RC frames”, Earthquakes and Structures, Vol. 12, No. 6, pp. 699-712.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Sairuamyat, P., Mahasuwanchai, P., Athisakul, C., Leelataviwat, S. and Chucheepsakul, S.
(2020): “Application of 3D laser scanning technology for preservation and monitoring of Thai
pagoda: A case study of Wat Krachee Ayutthaya” , Proceeding of International Conference
on Sustainable Energy and Green Technology 2019 (SEGT 2019), Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012082.
2. Mahasuwanchai, P., Wonganan, N., Athisakul, C., Tangchirapat, W., Sahamitmongkol, R. and
Leelataviwat, S. (2020): “Engineering properties of ancient masonry materials in Thailand and
substitution materials for historical structures preservation” , Proceeding of International
Conference on Sustainable Energy and Green Technology 2019, Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012077.
3. Mahasuwanchai, P., Wonganan, N., Athisakul, C., Tangchirapat, W., Sahamitmongkol, R. and
Leelataviwat, S. (2020): “Engineering properties of ancient masonry materials in Thailand and
substitution materials for historical structures preservation”, Proceeding of International
Conference on Sustainable Energy and Green Technology 2019, Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012077.
4. Sairuamyat, P., Mahasuwanchai, P., Athisakul, C., Leelataviwat, S. and Chucheepsakul, S.
(2020): “Application of 3D laser scanning technology for preservation and monitoring of Thai
pagoda: A case study of Wat Krachee Ayutthaya”, Proceeding of International Conference
on Sustainable Energy and Green Technology 2019 (SEGT 2019), Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012082.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ศิวนนท์ ต้นเกตุ , พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย , ชนาธิป บินซาอิส , สุรพัศ นิธิปฏิคม, สุวัจน์ชัย แก้วมาคูณ ,
ชัยณรงค์ อธิสกุล และ สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2563) “ข้อมูลการสแกนวัตถุ 3 มิติ และสมบัติวัสดุก่อของวัด
ราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่
15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
2. สุนัย โตศิริมงคล, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ และ ชัยณรงค์ อธิสกุล
(2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรั กษ์โบราณสถานของไทย”, การประชุม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
3. กัณตภณ จินทราคา, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, ก้องภพ วัชรเสวี, ชัยณรงค์ อธิสกุล, พรเกษม จงประดิษฐ์
และ สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน
ของไทย”, การประชุ ม วิ ช าการวิ ศ วกรรมโยธาแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 25, วั น ที่ 15-17 กรกฎาคม 2563,
การประชุมแบบออนไลน์
1. ประวัติการศึกษา
ปี พ.ศ. 2547 ปร.ด. (วิศวกรรมโยธา), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ประเทศไทย
ปี ค.ศ. 1999 M.Eng. (Structural Engineering), Illinois Institute of Technology, U.S.A.
ปี พ.ศ. 2540 วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ประเทศไทย
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 240 คณิตศาสตร์ประยุกต์สาหรับวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Applied Mathematics for Civil Engineers)
CVE 342 การออกแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 หน่วยกิต
(Reinforced Concrete Design)
CVE 444 การออกแบบคอนกรีตอัดแรง 3 หน่วยกิต
(Prestressed Concrete Design)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขัน้ สูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Mechanic of Materials and Structures)
CVE 732 การวิเคราะห์โครงสร้างวัสดุคอมโพสิต 3 หน่วยกิต
(Analysis of Composite Structures)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขัน้ สูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Mechanic of Materials and Structures)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2020): “ A variational method for post-
buckling analysis of end-supported nanorods under self-weight with surface stress effect” ,
Archive of Applied Mechanics, (ISI-IF2019 = 1.374, Q3)
2. Pulngern, T., Chanto, K., Pansuwan, W. and Pattaraumpornsak, W. (2020): “Effect of lamina
thickness on flexural performance and creep behavior of douglas fir glued laminated timber
beam”, Wood Research, Vol. 65, Issue 5, pp. 715-726.
3. Pulngern, T., Udtaranakron, T. and Chanto, K. (2020): “ Physical and mechanical behaviors
of thermally modified rubberwood glulam beam under sustained and cyclic loading” ,
Wood and Fiber Science, Vol. 52, No. 3, pp. 298-312. (ISI-IF2019 = 1.104, Q2)
4. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2020) : “ Postbuckling analysis of a
nonlocal nanorod under self-weight”, International Journal of Applied Mechanics, Vol. 12,
No. 4, 2050035. (ISI-IF2019 =2.449, Q2)
5. Juntarasaid, C., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2019): "Postbuckling analysis of end
supported rods under self-weight using intrinsic coordinate finite elements", International
Journal of Civil and Architectural Engineering, Vol. 13, No.11, pp. 689-693.
6. Juntarasaid, C., Pulngern, P. and Chucheepsakul, S. (2018): "A variational approach for large
deflection of ends supported nanorod under a uniformly distributed load, using intrinsic
coordinate finite elements", Applied Mathematical Modelling, Vol. 54, pp. 34–45.
7. Haruehansapong, S., Pulngern, T. and Chucheepsakul, S. (2017): “Effect of nanosilica particle
size on the water permeability, abrasion resistance, drying shrinkage, and repair work
properties of cement mortar containing nano- SiO2” , Advances in Materials Science and
Engineering, Vol. 2017, Article ID 4213690, pp. 11.
8. Pulngern, T. , Eakintumas, W. , Rosarpitak, V. and Sombatsompop, N. (2017): " Compressive
load thermal and acoustic properties of wood/ polyvinyl chloride composite log- wall
panels", Journal of reinforced Plastics and Composites.
9. Pulngern, T. , Chitsamran, T. , Chucheepsakul, S. , Rosarpitak, V. , Patcharaphun, S. and
Sombatsompop, N. (2016): " Effect of temperature on mechanical properties and creep
responses for wood/ PVC composites" , Construction and Building Materials, Vol. 111,
pp. 191-198.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Chanto, K., Mahasuwanchai, P., Eakintumas, W., Lairat, C., Thavornsettawat, N.,
Tanthanawiwat, K., Wongthavornman, K., Pulngern, T., Chayavanich, N., Wiputthanupong, W.
and Pansuwan, W. (2020) : “ Solar Decathlon Europe 2019: the resilient nest as a solar
powered and energy efficiency rooftop house for urban density”, International Conference
on Sustainable Energy and Green Technology 2019, Bangkok, Thailand, December 11- 14,
2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463, doi:10. 1088/ 1755-
1315/463/1/012033.
2. Pulngern, T., Chayavanich, N., Wiputthanupong, W. and Pansuwan, W. (2020): “Solar
Decathlon Europe 2019: the resilient nest as a solar powered and energy efficiency rooftop
house for urban density”, International Conference on Sustainable Energy and Green
Technology 2019, Bangkok, Thailand, December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and
Environmental Science 463, doi:10.1088/1755-1315/463/1/012033.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. กิตติพงศ์ เรืองศิลปานันต์, ทวิช พูลเงิน, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล (2562) “การศึกษา
คุณสมบัติเชิงและการหดตัวของคอนกรีตที่ทาจากเถ้าถ่านหินที่ถูกกระตุ้นด้วยด่าง”, การประชุมวิชาการ
คอนกรีตประจ าปี ครั้ง ที่ 14, 6-8 มี น าคม 2562, วรวนา หั ว หิ น โฮเต็ ล แอนด์ คอนเวนชั่ น จั ง หวัด
ประจวบคีรีขันธ์
2. ฐิปกรณ์ อุตรนคร และ ทวิช พูลเงิน (2562) “ผลการปรับปรุงสมบัติของไม้ด้วยความร้อนสูงที่มีผลต่อค่า
กาลังต้านทานแรงดัด ความถ่วงจาเพาะ และความชื้น ของไม้ยางพาราประสานด้วยกาว”, การประชุม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชัน
เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี.
3. พรเทพ วัฒนากรแก้ว, ทวิช พูลเงิน และ สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2560) “การประเมินและเสริมกาลังอาคาร
คอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อต้านทานแรงแผ่นดินไหว”, การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 14, 7-8 ธันวาคม
2560, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน, หน้า 353-362.
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 371 วิศวกรรมการทาง 3 หน่วยกิต
(Highway Engineering)
CVE 372 วิศวกรรมขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Engineering)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project)
CVE 405 หัวข้อพิเศษ 3 3 หน่วยกิต
(Special Topic III)
CVE 775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการเดินทาง 3 หน่วยกิต
(Travel Demand Modeling and Forecasting)
CVE 779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Network Analysis)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการเดินทาง 3 หน่วยกิต
(Travel Demand Modeling and Forecasting)
CVE 779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Network Analysis)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
CVE 775 การสร้างแบบจาลองและการพยากรณ์ความต้องการเดินทาง 3 หน่วยกิต
(Travel Demand Modeling and Forecasting)
CVE 779 การวิเคราะห์โครงข่ายขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Network Analysis)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Champahom, T., Jomnonkwao, S., Nambulee, W., Klungboonkrong, P., Karoonsoontawong,
A. and Ratanavaraha, V. (2020): “Analyzing transport mode choice for aging society in
Thailand”, Engineering and Applied Science Research, October-December, 2 020, 47 (4), pp.
383-392.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. ภูวดล พิมพ์สีทา และ อาพล การุณสุนทวงษ์ (2563) "การศึกษาความจุและระดับการให้บริการของท่าเรือ
ข้ามฟากพระประแดง", วิศวกรรมสารเกษมบัณฑิต, ปีที่ 10, ฉบับที่ 3, กันยายน-ธันวาคม 2563, หน้า 99-119
2. ปิ ย พั ช ร เพ็ ช รจั น ทร์ และ อ าพล การุ ณ สุ น ทวงษ์ (2563) "การพั ฒ นาแบบจ าลองสถานการณ์ ส าหรั บ
การศึกษาระบบแถวคอยบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสินด้วยโปรแกรม PTV Viswalk", วิศวกรรม
สารเกษมบัณฑิต, ปีที่ 10, ฉบับที่ 3, กันยายน-ธันวาคม 2563, หน้า 25-45
3. อาพล การุณสุนทวงษ์ สรวัชร์ จันทร์ทับ พรรณทิพา พันธ์ยิ้ม วันจักร ฉายากุล และ ปิยพงษ์ จิวัฒนกุล
ไพศาล (2563) “การประเมินประสิทธิผลของเครื่องหมายบนผิวจราจรแบบ Transverse Bar ที่มีต่อการลด
ความเสี่ ย งการเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ ช นท้ า ย” วารสารวิ จั ย และพั ฒ นา มจธ., ปี ที่ 43 ฉบั บ ที่ 1, มกราคม-
มีนาคม 2563, หน้า 17-29.
4. Champahom. T., Jomnonkwao, S., Karoonsoontawong, A., Hantanong, N., Beeharry, R. and
Ratanavaraha, V. (2 02 0): “ Modeling user perception of bus service quality: A case study in
Mauritius” , Songklanakarin Journal Science and Technology, Vol. 42 (3), pp. 660–670. (Q3,
Scopus)
5. A. Karoonsoontawong, S. Juntub, P. Punyim, V. Chayakul, P. Jiwattanakulpaisarn,
“Effectiveness Evaluation of “ Transverse Bar” Pavement Marking Pattern on the Reduction
of Rear-End Collision Risk”, KMUTT Research and Development Journal Vol.43 (1), 2020, pp.
18-29.
6. Champahom. T., Jomnonkwao, S., Karoonsoontawong, A., Hantanong, N., Beeharry, R. and
Ratanavaraha, V., “Modeling User Perception of Bus Service Quality: Case Study of Mauritius”,
Songklanakarin Journal of Science and Technology, Vol.42(3), June 2020, pp.660-670.
7. Mongkolchoo, T., Subprasom, K., Karoonsoontawong, A., Saowalakaksorn. S., “Alternative
Investment Scheme for Don Muang Tollway Extension Project”, KMUTT Research and
Development Journal Vol.42 (2), 2019.
8. Subunnapas, C., Punyim, P., Karoonsoontawong, A., “Study of Passenger Satisfaction to Use
Airport Rail Link Service”, KMUTT Research and Development Journal Vol.42 (4), 2019, 389-402.
9. Nambulee, W., Jomnonkwao, S., Siridhara, S., Ratanavaraha, V., Karoonsoontawong, A. and
Beeharry, R., (2018): “The Intercity Bus Passenger’s Locus of Control with Regard to Seat Belt
Use Intention”, Suranaree Journal of Science & Technology, Vol. 25, No. 3, pp. 235-246.
10. Nueangnitnaraporn, W. and Karoonsoontawong, A. (2018): “A Construction Heuristic Method
for Time Dependent Vehicle Routing Problem with Soft Time Windows and Multiple Use of
Vehicles”, KMUTT Research and Development Journal, Vol. 41, No. 1, January-March, pp. 63-81.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Li, M., Xie, C., Li, X. and Karoonsoontawong, A., 2019, “Liner Shipping Routes and Schedules
under Uncertain Weather and Ocean Conditions: A Robust Optimization Approach” , 98th
Transportation Research Board Meeting, 13-17 January, Washington, D.C.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ธวัชชัย ปัญญาคิด และ รศ. ดร.อาพล การุณสุนทวงษ์ (2563) “การศึกษาเพื่อปรับปรุงมาตรการควบคุม
การจราจรบริ เ วณจุ ด ตั ด ทางรถไฟโดยใช้ แ บบจ าลองระดั บ จุ ล ภาค และสั ญ ญาณไฟอั ต โนมั ติ แ บบพรี
เอ็มชั่น”, 4th National Conference on Creative Technology, วันที่ 5-7 สิงหาคม 2563, ณ โรงแรม
แกรนด์ แปซิฟิก ซอฟเฟอริน รีสอร์ท แอนด์ สปา, จังหวัดเพชรบุรี
2. Punyim, P., Nampulwan, S. and Karoonsoontawong, A., 2017, “Study of Customer Satisfaction
for Bus Service between KMUTT Campuses”, 22nd National Convention on Civil Engineering,
18-19 July 2017, Nakhon Ratchasima, Thailand.
3. Nueangnitnaraporn, W. and Karoonsoontawong, A. , 2 016, “ Time Dependent Multi- Trip
Vehicle Routing Problem with Soft Time Windows” , 21st National Convention on Civil
Engineering, 28-30 June, Songkhla, Thailand.
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Suweero, K., Moungnoi, W. and Charoenngam, C. (2017): "Outsourcing decision factors of
building operation and maintenance services in the commercial sector" , Property
Management, Vol. 35 Issue: 3, pp. 254-274.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ศดานันท์ อารยชูเกียรติ์, วุฒิพงศ์ เมืองน้อย และ สุทธิ ภาษีผล (2560) “การวิเคราะห์งบการเงินและการ
บริ ห ารความเสี่ ย งของบริ ษ้ ท จดทะเบี ย นในตลาดหลั ก ทรั พ ย์ แ ห่ ง ประเทศไทยกลุ่ ม พั ฒ นา
อสังหาริมทรัพย์”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 22, วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2560,
ณ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่, นครราชสีมา, หน้า 568-579.
2. มนัสนันท์ สุทธิวงศ์, วุฒิพงศ์ เมืองน้อย และ สุทธิ ภาษีผล (2560) “การวิเคราะห์งบการเงินและการบริหาร
ความเสี่ยงของบริษัทมหาชนกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ
ครั้งที่ 22, วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2560, ณ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ , นครราชสีมา, หน้า
580-588.
3. อาทิตย์ แสงดี, วุฒิพงศ์ เมืองน้อย และ สุทธิ ภาษีผล (2560) “การศึกษาขั้นตอนงานก่อสร้างถนนลาดยาง
ระหว่างผิวจราจรพราเคพซีลและผิวจราจรพาราแอสฟัสต์คอนกรีต กรณีศึกษา : องค์การบริหารส่วนจังหวัด
อุดรธานี ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 22, วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2560, ณ
โรงแรมเดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่, นครราชสีมา, หน้า 640-649.
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 233 กลศาสตร์วัสดุ 3 หน่วยกิต
(Mechanics of Materials)
CVE 337 การวิเคราะห์โครงสร้าง 1 3 หน่วยกิต
(Structural Analysis I)
CVE 338 การวิเคราะห์โครงสร้าง 2 3 หน่วยกิต
(Structural Analysis I)
CVE 341 การออกแบบโครงสร้างเหล็กและไม้ 4 หน่วยกิต
(Steel and Timber Design)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 636 การออกแบบโครงสร้างเหล็กขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Steel Design)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 734 การออกแบบข้อต่อโครงสร้างเหล็ก 3 หน่วยกิต
(Design of Steel Connections)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
CET 604 สัมมนาทางเทคโนโลยีวิศวกรรมโยธา 1 หน่วยกิต
(Civil Engineering Technology Seminar)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 636 การออกแบบโครงสร้างเหล็กขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Steel Design)
CVE 734 การออกแบบข้อต่อโครงสร้างเหล็ก 3 หน่วยกิต
(Design of Steel Connections)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Ashakul, A. (2017): “Experiments of angle welded connections under cyclic loads”, The 8th
Asia and Pacific Young Researchers and Graduates Symposium, September 7-8, 2017, Tokyo,
Japan.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ธนากร พรหมเจริญ, อภินัติ อัชกุล และ รักติพงษ์ สหมิตรมงคล (2561) “ปัจจัยที่ส่งผลต่อกาลังรับแรงเฉือน
ของอุปกรณ์ฝังยึดชนิดติดตั้งภายหลังในคอนกรีต”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23,
วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2561, ณ จ. นครนายก, บทความเลขที่ 139.
2. ศุภษิต ปันจันตา, รักติพงษ์ สหมิตรมงคล และ อภินัติ อัชกุล (2560) “พฤติกรรมภายใต้แรงดึงถอนของ
อุปกรณ์ฝังยึดแบบติดตั้งภายหลังในคอนกรีต ”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 12, วันที่ 15-
17 กุมภาพันธ์ 2560, ณ เดอะ รีเจนท์ ชะอา บีช รีสอร์ท, จังหวัดเพชรบุรี.
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Makararotrit, W. , Youwai, S. , & Rodpol, P. ( 2019) : “Deformation characteristics of cement
treated pasak clay and bangkok clay with different stress path”. World Congress on Civil,
Structural, and Environmental Engineering, (April), Rome Italy, pp. 1-10.
2. Malai, A. , Youwai, S. , & Jaturabandit, N. ( 2017) : “Stress- Strain Mechanism of Expanded
Polystyrene Foam under Cyclic Loading Conditions within and Beyond Yield States”,
International Conference on Transportation Infrastructure and Materials ICTIM2017) ,
Qingdao, Chaina, DOI: 10.12783/dynes/ictim2017/10184.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. วสุพล ภาวสุทธิไพศิฐ และ สมโพธิ อยู่ไว (2562) “คุณสมบัติเขิงพลวัตของแอสฟัลต์คอนกรีตที่ปรับปรุง
คุณสมบัติด้วยยางพาราและผงยางรถยนต์ ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, วันที่
10-12 กรกฎาคม 2562, ณ โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี หน้า 1339-1343
2. จารุกิตติ์ พูนชัย และ สมโพธิ อยู่ไว (2561) “การจาลองพฤติกรรมของเสาเข็มเดี่ยวในดินเหนียวกรุงเทพด้วย
วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, วันที่ 18-20 กรกฎาคม
2561, ณ หอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อาเภอเมือง, จ. นครนายก หน้า 216
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Pornthepkasemsant, P. and Charoenpornpattana S. (2019): “Identification of factors affecting
productivity in Thailand’s construction industry and proposed maturity model for
improvement of the productivity”, Journal of Engineering, Design and Technology, Vol.17,
No.5, pp.849-861.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Charoenpornpattana S., Pittayasophon S., Kuakim P., and Jutarosaga A. (2019): “The
Evolution of Research & Innovation Governance in Thailand: Re-aligning Budget and Funding
System towards National Priority”, Proceedings of ASIALICS 2019 Conference, 26-27 July
2019, Korea.
2. Jutarosaga A., Hengjan Y., Charoenpornpattana S., Jitvanichphaibool K. (2019): “The Emerging
Reorientation of Thailand’s National R&D Programmes - Limits and Challenges on
Technological Development” Proceedings of ASIALICS 2019 Conference, 26- 27 July 2019,
Korea.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. S. Tooptiantong, S. Charoenpornpattana and R. Ruthankoon, (2018): “Problems and benefits
of using building information modeling for construction projects from contractor’ s
perspective” , The 23rd National Convention on Civil Engineering, July 18- 20, 2018, Nakhon
Nayok, THAILND.
2. สุนิตษา เสาระโส สันติ เจริญพรพัฒนา และ รัฐวุฒิ รู้แทนคุณ (2560) “การสารวจการใช้แบบจาลอง
สารสนเทศอาคารในขั้นตอนโครงการก่อสร้าง”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 22,
วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2560, ณ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่, นครราชสีมา, หน้า 545-553.
3. เอก จิตชัยเจริญ, รัฐวุฒิ รู้แทนคุณ และ สันติ เจริญพรพัฒนา (2560) “การจัดทากาหนดการก่อสร้างด้วย
แบบจาลองสารสนเทศอาคาร กรณีศึกษาอาคารโครงสร้างสาเร็จรูป ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธา
แห่งชาติ ครั้งที่ 22, วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2560, ณ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่, นครราชสีมา
, หน้า 560-567
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 311 การบริหารงานวิศวกรรม 3 หน่วยกิต
(Engineering Management)
CVE 411 วิศวกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ 3 หน่วยกิต
(Modern Construction Engineering & Technology)
CVE 415 การบริหารงานก่อสร้าง 3 หน่วยกิต
(Construction Management)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 1 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 621 หัวข้อพิเศษ 1 3 หน่วยกิต
(Special Topic I)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับระดับปริญญาตรี
CVE 131 กลศาสตร์วิศวกรรม 1 3 หน่วยกิต
(Engineering Mechanics I)
CVE 232 กลศาสตร์วิศวกรรม 2 3 หน่วยกิต
(Engineering Mechanics II)
CVE 240 คณิตศาสตร์ประยุกต์สาหรับวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Applied Mathematics for Civil Engineers)
CVE 448 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์เบื้องต้น 3 หน่วยกิต
(Fundamental of Finite Element Method)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 635 ทฤษฎีของโครงสร้างขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Theory of Structures)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 635 ทฤษฎีของโครงสร้างขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Theory of Structures)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
International Journal of Structural Stability and Dynamics, Vol. 17, No. 7, pp.1750070-1 –
1750070-17.
5. Klaycham, K., Athisakul, C. and Chucheepsakul, S. (2017): “Nonlinear Vibration of Marine Riser
with Large Displacement”, Journal of Marine Science and Technology, Vol. 22, No. 2,
pp. 361-375.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Yosamornsoontorn, A., Athisakul, C., Chucheepsakul, S., and Klaycham, K., (2019): “Free
Vibration of Hang-off Riser”, KMUTT Research and Development, Vol. 42, pp. 69-93.
2. Chaiyasarn, K., Pleansamai, K, and Athisakul, C., (2018): “The Planar Extraction in Image-Based
3D Point Cloud Photogrammetry for As-Built Building Information Modelling”, Thammasat
Engineering Journal, Vol. 4, No.2, pp. 96-103.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Mahasuwanchai, P., Wonganan, N., Athisakul, C., Tangchirapat, W., Sahamitmongkol, R. and
Leelataviwat, S. (2020): “Engineering properties of ancient masonry materials in Thailand and
substitution materials for historical structures preservation” , Proceeding of International
Conference on Sustainable Energy and Green Technology 2019, Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012077.
2. Sairuamyat, P., Mahasuwanchai, P., Athisakul, C., Leelataviwat, S. and Chucheepsakul, S.
(2020): “Application of 3D laser scanning technology for preservation and monitoring of Thai
pagoda: A case study of Wat Krachee Ayutthaya” , Proceeding of International Conference
on Sustainable Energy and Green Technology 2019 (SEGT 2019), Bangkok, Thailand,
December 11-14, 2019, IPO Conf. Series: Earth and Environmental Science 463,
doi:10.1088/1755-1315/463/1/012082.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. นัย โตศิริมงคล, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย , วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ และ ชัยณรงค์ อธิสกุล
(2563) “สมบั ติ ท างกลของอิ ฐ ทดแทนเพื่ อ การอนุ รั ก ษ์ โ บราณสถานของไทย”, การประชุ ม วิ ช าการ
วิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
2. ธนิยพรรธน์ ศรีมนตริภักดี, การันต์ คล้ายฉ่า, ชัยณรงค์ อธิสกุล, สมชาย ชูชีพสกุล และ ชัยยุทธ ชินณะราศรี
(2563) “ผลตอบสนองทางพลศาสตร์สาหรับเคเบิ้ลยึดโยงแผงโซล่าเซลล์ลอยน้าเมื่อรับการกระตุ้นที่ปลาย
ด้านบน”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การ
ประชุมแบบออนไลน์
3. กัณตภณ จินทราคา, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, ก้องภพ วัชรเสวี, ชัยณรงค์ อธิสกุล, พรเกษม จงประดิษฐ์ และ
สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานของ
ไทย”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุม
แบบออนไลน์
4. สุนัย โตศิริมงคล, พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ และ ชัยณรงค์ อธิสกุล
(2563) “สมบัติทางกลของอิฐโบราณและอิฐทดแทนเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานของไทย”, การประชุม
วิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
5. ศิวนนท์ ต้นเกตุ พีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย ชนาธิป บินซาอิส สุรพัศ นิธิปฏิคม สุวัจน์ชัย แก้วมาคูณ ชัยณรงค์
อธิสกุล และ สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ (2563) “ข้อมูลการสแกนวัตถุ 3 มิติ และสมบัติวัสดุก่อของวัดราชบพิธ
สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร”, การประชุมวิ ชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 25, วันที่ 15-17
กรกฎาคม 2563, การประชุมแบบออนไลน์
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 101 อาณาจักรวิศวกรรมโยธา 2 หน่วยกิต
(World of Civil Engineering)
CVE 394 การทดลองชลศาสตร์ 1 หน่วยกิต
(Hydraulics Laboratory)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 1 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Capstone Project)
CVE 403 หัวข้อพิเศษ 1 3 หน่วยกิต
(Special Topic I)
CVE 490 อุทกวิทยาประยุกต์ 3 หน่วยกิต
(Applied Hydrology)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 681 ชลศาสตร์ทางน้าเปิดขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Open Channel Hydraulics)
CVE 685 การวิเคราะห์ระบบแหล่งน้า 3 หน่วยกิต
(Water Resources System Analysis)
CVE 693 อุทกวิทยาขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Hydrology)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 601 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CET 602 การศึกษาโครงการวิจัยเฉพาะเรื่อง 6 หน่วยกิต
(Special Research Study)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 681 ชลศาสตร์ทางน้าเปิดขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Open Channel Hydraulics)
CVE 685 การวิเคราะห์ระบบแหล่งน้า 3 หน่วยกิต
(Water Resources System Analysis)
CVE 693 อุทกวิทยาขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Hydrology)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Ekkawatpanit, C., Protoomchai, W., Khemngoen, C. and Srivihok, S. (2020): “Climate change
impact on water resources in Klong Yai River Basin, Thailand” , Proceedings of the
International Association of Hydrological Sciences, Vol. 383, pp. 355-365.
2. Kuljitjuawong, T., Kositgittiwong, D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2020): “ Comparison of
the flow behaviours of physical and numerical models on a stepped spillway” , Applied
Science and Engineering Progress, DOI: 10.14416/j.asep,2020.05.004.
3. Visessri, S. and Ekkawatpanit, C. (2020): “ Flood management in the context of climate and
land-use changes and adaptation within the Chao Phraya River Basin” , Journal of Disaster
Research, Vol. 15, Issue 5, pp. 579-587. (ESCI)
4. Foyhirun, C., Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2020): “ Wave Energy Potential and
Simulation on the Andaman Sea Coast of Thailand” , Sustainability, Vol. 12, Issue 9, 3657.
(ISI-IF2019-2.576, Q2)
5. Pratoomchai, W., Tantanee, S. and Ekkawatpanit, C. (2020): “A comprehensive grid-based
rainfall characteristics in the central plain river basin of Thailand”, Geographia Technica, Vol.
15, Issue 2, pp. 47-56. (ESCI)
6. Kanjanakaroon, P., Ekkawatpanit, C., Wongsa, S., Isarangkura, U. and Kositgittiwong, D. (2020):
“ A comparative study of embankment breach parameters in different breach locations” ,
Journal of Hydro-environment Research, Vol. 29, pp. 59–69. (ISI-IF2019-2.099, Q2)
7. Hiraga, Y., Kazama, S., Ekkawatpanit, C. and Yamada, K. (2020): “ Evaluation of the impact of
landfill on floodplain water quality in a tropical monsoon region” , Hydrological Research
Letters, Vol. 14, Issue 1, pp. 48-55. (ISI-IF2019-1.24, Q2)
8. Petpongpan, C., Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. (2020): “ Climate change impact on
surface water and groundwater recharge in Northern Thailand” , Water, Vol. 12, Issue 4,
103555. (ISI-IF2019-2.544, Q2)
9. Huang, G. , Xue, H. , Liu, H. , Ekkawatpanit, C. and Sukhapunnapha, T. (2019): “ Duality of
seasonal effect and river bend in relation to water quality in the Chao Phraya River”, WATER,
Vol. 11, Article Number 656, pp. 1-18. (ISI-Q2-IF2018-2.542)
10. Rangsiwanichpong, P., Kazama, S., Ekkawatpanit, C.and Gunawardhana, L. (2019): “Evaluation
of cost and benefit of sediment based on landslide and erosion models”, Catena, Vol. 173,
pp. 194-206. (ISI-Q1-IF2018-3.851)
11. Kompor, W. , Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. (2018): “ Assessment of ocean wave
energy resource potential in Thailand” , Ocean and Coastal Management, Vol. 160, pp. 64-
74. (ISI-Q2-IF2018-2.595)
12. Hiraga, Y., Kazama, S., Ekkawatpanit, C. and Touge, Y. (2018): "Impact of reclamation on the
environment of the lower mekong river basin" , Journal of Hydrology: Regional Studies 18,
pp. 143-155. (ESCI)
13. Ketsri, C. , Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2018): " Submerged breakwaters design
development based on artificial oyster reef", Lowland Technology International, 20 (2), pp.
229-236. (Scopus)
14. Rangsiwanichpong, P. , Kazama, S. and Ekkawatpanit, C. (2017): “ Analysing the relationship
between ocean indices and rainfall in the Chao Phraya River Basin” , International Journal
of Climatology, 37, pp.230-238. (ISI-Q1-IF2018-3.601)
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Kuljitjuawong, T., Kongkitkul, K.D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R., (2562) “Physical modeling
of flow behavior on stepped spillway case study: Mae Suai Dam in Chiang Rai” Veridian E-
Journal, Science and Technology, Silpakorn University, Vol.6, No.1, January-February, 2019,
ISSN 2408 – 1248.
2. ดวงมณี ทองคา, ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์ , กิตติรัตน์ รุ่งรัตนาอุบล ,ปัญญา วงศ์ต่าย ,เกรียงไกร ตรีฤทธิ
วิทยา ,พรพิมล ฉายแสง กฤติยาภรณ์ คุณสุข และ ไพลิน ทองสนิทกาญจน์, (2561) “การศึกษาการปรับตัว
ของประชาชนในจังหวัดจันทบุรีทั้งก่อนและหลังเกิดอุทกภัย ” วารสารวิจัยราไพพรรณี ปีที่ 12, ฉบับ
ที่ 2 พฤษภาคม–สิงหาคม 2561, หน้า 177-189.
3. Komkhum, N. , Kositgittiwong, D. , Ekkawatpanit, C. , “A Simulation Study of Detention Pond
for Flood Inundation Reduction in Lower Chao Phraya River Basin”, Journal of Science and
Technology, Ubon Ratchathani University, 21(1),37-45.
4. Kositgittiwong, D. , Ekkawatpanit, C. , Jaidee, T. and Lerdmongkolname, J. (2016): “Wave
Energy in Thailand: Policy and Appropriateness of Wave Power Generator”, SWU Engineering
Journal 11(2), 152-15.
5. Petchpongpan, C. , Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. , Lee, K. T, “Performance Assessment
of the Hydrological Models KW-GIUH and BTOPMC for River Runoff Simulation in Upper Yom
River Basin”, UBU Engineering Journal 10(2), 74-84.
6. Petchpongpan, C. , Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. , Lee, K. T. , “Application of KW- GIUH
Model for Flood Mitigation of Kaeng Sua Ten dam”, SWU Engineering Journal 12(1), 127-136.
7. Wititpan, S. , Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. , Srikasit, Sasananan, S. , “Automatic
Calibration of Tank Model Using Microsoft Excel Solver”, SWU Engineering Journal 12( 2) ,
151-159.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Ekkawatpanit, C., Pratoomchai, W. and Kositgittiwong, D. (2020): "Climate change impacts on
water resources in the upper Chaophaya River Basin" , The 2nd International Academic
Conference “ Roles of the university as the driver for changes and Innovation- based
society”, February 13-14, 2020, Rattanathepsatri Building, Thepsatri Rajabhat University, pp.
1-10.
2. Hongto,W, Wannawong, W. , Saetae, D. , Ekkawatpanit,C. , Sakornmaneerat, P. (2018):
“Alternative methods for offshore wind- wave resources and power assessments over the
Gulf of Thailand and Andaman Sea (528)”, AWTEC 2018, Taipei, Taiwan
3. Ketsiri, C. Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2017): “ Submerged Breakwaters Design
Development based on Artificial Oyster Reef”, International Convention on Civil Engineering,
July 20-21, 2017 Nakornratchasima, Thailand.
4. Foyhirun, C., Kositkittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2016): "The use of computational fluid
dynamics wave simulation in the coastal zone of Thailand" , The 3rd Asian Wave and Tidal
Energy Conference, Singapore, October 24-28, 2016, pp. 695-701. (Best paper award)
5. Ekkawatpanit, C., Kositgittiwong, D., Kompor, W. and Foyhirun, C. (2016): “The possibility of
promoting wave energy in the coastal zone of Thailand”, SEE 2016 in conjunction with ICGSI
2016 and CTI 2016, 28-30 November 2016, Bangkok,
6. Rangsiwanichpong, P. , Ekkawatpanit, C. , Komori, D. and Kazama, S. ( 2016) : " Assessment
landslides hazard map in Thailand using extreme daily rainfall" Proceedings of the Annual
Session of the Japanese Society of Civil EngineersTohoku Branch, Miyagi, Japan, March 14-
15, 2016.
7. Kompor, W. , Tanaka, H. , Ekkawatpanit, C. and Kositkittiwong, D. ( 2016) : " Application of
simulating WAves nearshore ( SWAN) model for wave simulation in Andaman sea 2014"
Proceedings of the Annual Session of the Japanese Society of Civil Engineers Tohoku Branch,
Miyagi, Japan, March 14-15, 2016.
8. Rangsiwanichpong, P., Kazama, S. and Ekkawatpanit, C. (2016): “Assessment of flood and
drought using ocean indices in the Chao Phraya river Basin, Thailand”, 7th ICWRER, June 5-9,
2016, Kyoto, Japan, pp. g14-04-1-g14-04-6.
9. Aimmanee, S. , Ekkawatpanit, C. and Asanuma, H. ( 2016) : “ Smart disaster mitigation in
Thailand”, Proceedings of SPIE vol. 9803, pp. 98030w-1-7
10. Kompor, W., Ekkawatpanit, C. and Kositkittiwong, D. (2016): "Evaluation of wave energy using
numerical model in gulf of Thailand and Andaman Sea" , The 3rd Asian Wave and Tidal
Energy Conference, Singapore, October 24-28, 2016.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. Suwannarat, W., Kositgittiwong, D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. ( 2020): “A study of the
energy reduction of flow through concrete and natural rubber tetrapods”, The 25th National
Convention on Civil Engineering, July 15-17, 2020, Online Conference.
2. Thunyaphun, T., Kositgittiwong, D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2020): “Scour protection
around bridge pier using based ram ”, The 25th National Convention on Civil Engineering,
July 15-17, 2020, Online Conference.
3. ภมรวรรณ พุทธา, ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์ และ ดวงฤดี โฆษิตกิตติวงศ์ ก้องกิจกุล (2562) “การประเมิน
น้ าท่ า ในลุ่ ม น้ ายมตอนบนโดยใช้ ข้ อ มู ล European Centre for Medium-Range Weather Forecasts
(ECMWF)”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็น
ทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี.
4. กิตติยา วงศ์ใหญ่, ดวงฤดี โฆษิตกิตติวงศ์ ก้องกิจกุล, ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์ และ รัชพล สุขจันทร์ (2562)
“การศึกษาความสามารถและตาแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งใบพัดผลักดันน้าเพื่อบรรเทาปัญหาการเกิด
อุทกภัย”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็นทา
ราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี.
5. รชตะ สารีศรี, ดวงฤดี โฆษิตกิตติวงศ์ ก้องกิจกุล, และ ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์ (2562) “ประเมินการใช้น้า
ของมันสาปะหลังและอ้อย ในพื้นที่อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธา
แห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี.
6. สุทธิดา อ่าแจ้ง, ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์, และ ดวงฤดี โฆษิตกิตติวงศ์ ก้องกิจกุล (2562) “การปรับปรุง
แบบจาลองอุทกวิทยา H08 โดยใช้พารามิเตอร์ของดินและการใช้ที่ดินในลุ่มน้าเจ้าพระยาตอนบน”, การ
ประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 24, 10-12 กรกฎาคม 2562, โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวน
ชันเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี.
7. ไตรรัตน์ ใจดี , ดวงฤดี โฆษิตกิตติวงศ์ และ ชัยวัฒน์ เอกวัฒน์พานิชย์ (2561) “การศึกษาเครื่องกาเนิด
พลังงานไฟฟ้าจากคลื่นในบริเวณชายฝั่งของประเทศไทยโดยใช้ทฤษฎีพลศาสตร์ของไหลเชิงคานวณ”,
การประชุมวิชาการระดับชาติ “มศว วิจัย” ครั้งที่ 11, 29-30 มีนาคม 2561, มหาวิทยาลัยศรีนครินทร
วิโรฒ.
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 235 วัสดุในงานวิศวกรรมโยธาและคอนกรีตเทคโนโลยี 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Materials and Concrete Technology)
CVE 236 วัสดุในงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Materials)
CVE 237 การวิเคราะห์โครงสร้าง 1 3 หน่วยกิต
(Structural Analysis I)
CVE 335 วัสดุซีเมนต์และคอนกรีต 3 หน่วยกิต
(Cement and Concrete Materials Laboratory)
CVE 336 วัสดุซีเมนต์และคอนกรีต 3 หน่วยกิต
(Materials Testing Laboratory)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project)
CVE 448 วิธีการไฟไนต์เอลิเมนต์เบื้องต้น 3 หน่วยกิต
(Fundamental of Finite Element Method)
CVE 403 หัวข้อศึกษาพิเศษ 1 3 หน่วยกิต
(Special Study I)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขัน้ สูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Mechanics of Materials and Structures)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 640 กลศาสตร์วัสดุและโครงสร้างขัน้ สูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Mechanics of Materials and Structures)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
วารสารระดับนานาชาติ/ภูมิภาค
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Panyatong, M., Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S. (2020): “Influences of surface effects
on large deflections of nanomembranes with arbitrary shapes by the coupled BE-RBFs
method”, Archive of Applied Mechanics, Vol. 90, Issue 5, pp. 1157-1177. (ISI-IF2019=1.374, Q3)
2. Panyatong, M. , Chinnaboon, B. and Chucheepsakul S. ( 2019) : “ Bending analysis of
functionally graded plates with arbitrary shapes and boundary conditions” , Structural
Engineering and Mechanics, An International Journal, Vol. 71, No. 6, pp.627-641.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Poljeck, P. , Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S. ( 2020) : “ A Comparison of maximum
responses of I- girder bridges by static and dynamic analysis due to AASHTO LRFD
specifications and Thai truck loading”, วิ ศ วกรรมสาร ฉบั บ วิ จั ย และพั ฒ นา ปี ที่ 31 ฉบั บ ที่ 3,
Research and Development Journal, Vol. 31, No. 3.
2. Dema, Z., Chinnaboon, B. and Chucheepsakul, S., (2019): “Analysis of Influence Surfaces of
Thin Plates by Boundary Element Method”, วิศวกรรมสาร ฉบับวิจัยและพัฒนา ปีที่ 30 ฉบับที่
2, Research and Development Journal, Vol. 30, No. 2, pp. 7-23.
3. ภูมิภิญญ์ พลเจียก, บุญมี ชินนาบุญ และ สมชาย ชูชีพสกุล (2563) "การเปรียบเทียบผลตอบสนองสูงสุด
ของสะพาน ชนิด I-GIRDER โดยการวิเคราะห์โครงสร้างแบบสถิตและพลวัต เนื่องจากน้าหนักบรรทุกตาม
มาตรฐาน AASHTO LRFD และรถบรรทุกไทย", วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา วสท., ปีที่ 31 (3),
กรกฎาคม-กันยายน 2563, หน้า 99.
2. ภาระงานสอน
2.1 ภาระงานสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 101 อาณาจักรวิศวกรรมโยธา 2 หน่วยกิต
(World of Civil Engineering)
CVE 371 วิศวกรรมการทาง 3 หน่วยกิต
(Highway Engineering)
CVE 473 วิศวกรรมจราจร 3 หน่วยกิต
(Traffic Engineering)
CVE 401 โครงร่างงานวิศวกรรมโยธา 1 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project Proposal)
CVE 402 โครงงานวิศวกรรมโยธา 3 หน่วยกิต
(Civil Engineering Project)
CVE 405 หัวข้อพิเศษ 3 3 หน่วยกิต
(Special Topic III)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 672 การดาเนินงานการจราจร 3 หน่วยกิต
(Traffic Operations)
CVE 677 การวางแผนการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Planning)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 702 วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 705 หัวข้อพิเศษ 2 3 หน่วยกิต
(Special Topic II)
CVE 773 วิศวกรรมและการวางแผนความปลอดภัยทางถนน 3 หน่วยกิต
(Road Safety Engineering)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 672 การดาเนินงานการจราจร 3 หน่วยกิต
(Traffic Operations)
CVE 677 การวางแผนการขนส่ง 3 หน่วยกิต
(Transportation Planning)
CVE 773 วิศวกรรมและการวางแผนความปลอดภัยทางถนน 3 หน่วยกิต
(Road Safety Engineering)
CVE 701 ระเบียบวิธวี ิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Yamoung, C. and Kiattikomol, V. (2017): “A Reversible Lane System Improvement of
Phetchaburi Road”, Ladkrabang Engineering Journal, Volume 34, Number 3, September,
Page 58-64.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Ruangjirakit, K., Laoonual, Y., Kiattikomol, V., Charadsuksawat, A., Sridan, S., and
Loahalertdecha, D. (2018): “A Study of Grid to Wheel Energy Consumption of Electric Vehicle
on Real Road Tests in Bangkok”, International Electric Vehicle Technology Conference and
Exhibition and 2018 IEEE Transportation Electrification Conference and Expo Asia-Pacific,
Bangkok, Thailand, pp. 1-5.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. Homkanjan, S. and Kiattikomol, V. (2019): “An Evaluation of Readiness of Bangkok Road
Network for Autonomous Vehicles”, Proc. of the 24th National Convention on Civil
Engineering, Udonthani, Thailand, pp. 1923-1927.
2. Homhuan, T. and Kiattikomol, V. (2019): “A Study for Long-Term Performance of Radar
Speed Signs”, Proc. of the 24th National Convention on Civil Engineering, Udonthani,
Thailand, pp. 1831-1837.
3. Rodkham, N., Sripongngam, N., Luechai, S., and Kiattikomol, V. (2019): “A Study for Start-Up
Lost Time and Saturation Flow Rate at Intersections in Bangkok”, Proc. of the 24th National
Convention on Civil Engineering, Udonthani, Thailand, pp. 1876-1881.
4. Krittavetin, Y. and Kiattikomol, V. (2018): “The Development of Intra Transit System within
the University that Links to Mass Transit System”, Proc. of the 23rd National Convention on
Civil Engineering, Nakhon Nayok, Thailand, pp. 1-9 (TR225).
5. Younglung, A. and Kiattikomol, V. (2018): “A Study of Radar Speed Sign Operations on
National Highways”, Proc. of the 23rd National Convention on Civil Engineering, Nakhon
Nayok, Thailand.
6. Homhuan, T., Rattanachavee, N., Homkeanchan, S., and Kiattikomol, V. (2018): “A Study for
Appropriate Time Periods for Curbside Parking: A Case Study for Pracha Uthit Road”, Proc.
of the 23rd National Convention on Civil Engineering, Nakhon Nayok, Thailand, pp. 1-8
(TR141).
7. Sridan, S. and Kiattikomol, V. (2018): “Electric Vehicles Readiness Situation in Bangkok”,
Proc. of the 23rd National Convention on Civil Engineering, Nakhon Nayok, Thailand, pp. 1-
7 (TR386).
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Thesis)
CVE 680 กลศาสตร์ของไหลขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Fluid Mechanics)
CVE 690 การกัดเซาะและตะกอน 3 หน่วยกิต
(Erosion and Sediment)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Kuljitjuawong, T., Kositgittiwong, D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2020): “ Comparison of
the flow behaviours of physical and numerical models on a stepped spillway” , Applied
Science and Engineering Progress, DOI: 10.14416/j.asep,2020.05.004.
2. Foyhirun, C., Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2020): “ Wave Energy Potential and
Simulation on the Andaman Sea Coast of Thailand” , Sustainability, Vol. 12, Issue 9, 3657.
(ISI-IF2019-2.576, Q2)
3. Kanjanakaroon, P., Ekkawatpanit, C., Wongsa, S., Isarangkura, U. and Kositgittiwong, D. (2020):
“ A comparative study of embankment breach parameters in different breach locations” ,
Journal of Hydro-environment Research, Vol. 29, pp. 59–69. (ISI-IF2019-2.099, Q2)
4. Petpongpan, C., Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. (2020): “Climate change impact on surface
water and groundwater recharge in Northern Thailand”, Water, Vol. 12, Issue 4, 103555. (ISI-IF2019-
2.544, Q2)
5. Ketsiri, C. Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. ( 2018): “Submerged Breakwaters Design
Development based on Artificial Oyster Reef”, Lowland Technology International journal,
Vol. 20, No. 2, pp. 229-236.
6. Kompor W. , Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. ( 2018) : “Assessment of Ocean Wave
Energy Resource Potential in Thailand”, Ocean and Coastal Management. Vol. 160, pp. 64-
74.
7. Ekkawatpanit, C., Kositgittiwong, D., Kompor W. and Foyhirun, C. (2017): “Investigation on the
possibility of wave energy into electricity in the coast of Thailand”, Journal of Sustainable
Energy and Environment, Vol. 8, pp. 43-45.
8. Kositgittiwong D. , Ekkawatpanit C. , Chiawyonsin, S. , Petpongpan, C. and Ekphisutsuntorn. ,
P. ( 2017) : “Development of Wetland Water Management in Bueng Takreng, Thailand”,
Wetland Research, Vol. 7, No. 1, pp. 25-31.
9. Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. ( 2016): “A Study on Integrated Water Resources
Management and King Bhumibol's New Theory on Land and Water Management
in Wattananakorn area, Sa Kaeo Province, Thailand”, Global Journal of Engineering and
Technology Review, Vol. 1, No. 1, pp. 69 – 77.
10. Kompor W. , Tanaka H, Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. ( 2016) : “Application of
Simulating WAves Nearshore (SWAN) model for wave simulation in Gulf of Thailand”, Tohoku
Journal Natural Disaster Science, Vol.52, pp.139-144.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Kuljitjuawong, T., Kongkitkul, D.K., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2019): “Physical Modeling
of Flow Behavior on Stepped Spillway Case Study: Mae Suai Dam in Chiang Rai”, Veridian E-
Journal Science and Technology Silpakorn University, Vol. 6, No. 1, pp. 89-104.
2. Komkhum, N. , Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. ( 2019) : “A Simulation Study of
Detention Pond for Flood Inundation Reduction in Lower Chao Phraya River Basin”, UBU
Engineering Journal, Vol. 21, No. 1, pp. 37-49.
3. Wititpan, S. , Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. and Sasananan, S. ( 2017) : “Automatic
Calibration of Tank Model Using Microsoft Excel Solver”, Srinakharinwirot Engineering
Journal, Vol. 12, No. 2, pp. 1-9.
4. Petpongpan, C. , Ekkawatpanit C. , Kositgittiwong, D. and Lee, K. T. ( 2017) : “Performance
Assessment of the Hydrological Models KW- GIUH and BTOPMC for River Runoff Simulation
in Upper Yom River Basin”, UBU Engineering Journal, Vol. 10, No. 2, pp. 74-84.
5. Petpongpan, C., Ekkawatpanit C., Kositgittiwong, D. and Lee, K.T. (2017): “Application of KW-
GIUH Model for Flood Mitigation of Kaeng Sua Ten dam”, Srinakharinwirot Engineering
Journal, Vol. 12, No. 1, pp. 127-136.
6. Kositgittiwong D., Ekkawatpanit C., Jaidee, T. and Lertmongkolnam, J. (2016): “Wave Energy
in Thailand: Policy and appropriateness of Wave Power Generator”, Srinakharinwirot
Engineering Journal, Vol. 11, No. 2, pp. 152-159.
7. Kositgittiwong D. ( 2016) : “Evaluation of the Risk of Bridge Failure from Flood Event in
Thailand”, KMUTT Research and Development Journal, Vol. 39, No. 2, pp. 191-205.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Ekkawatpanit, C., Pratoomchai, W. and Kositgittiwong, D. (2020): "Climate change impacts on
water resources in the upper Chaophaya River Basin" , The 2nd International Academic
Conference “ Roles of the university as the driver for changes and Innovation- based
society” , February 13- 14, 2020, Rattanathepsatri Building, Thepsatri Rajabhat University,
pp. 1-10.
2. Durin, B. , Težak, D. , Kositgittiwong, D. , Kranjčić, N. and Soldo, B. ( 2019) : “Preventing the
adverse impact of floods by combined use of the Monkey cheek concept and renewable
energy”, International Scientific Internet Conference of Young Scientists and Professionals,
20 December.
3. Foyhirun, C. , Kongkitkul, D. K. , Ekkawatpanit, C. ( 2019) : “Performance of Global Climate
Models (GCMs) for Wind Data Analysis”, 2019 International Conference on Water Resource
and Environmental Engineering (ICWREE2019), Singapore, 22-23 August.
4. Petpongpan, C. , Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. , Hanasaki, N. , Champathong, A. ,
Saphaokham, S. , Sukkapan, T. , and Thongduang, J. ( 2019) : “The assessment of climate
change impact on extreme flood and drought in Yom and Nan River basin, Thailand”,
THA 2019 International Conference on Water Management and Climate Change towards
Asia's Water-Energy-Food Nexus and SDGs, Bangkok, Thailand, 23-25 January.
5. Ketsiri, C. Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. , ( 2017) : “Submerged Breakwaters Design
Development based on Artificial Oyster Reef”, International Convention on Civil Engineering,
Nakornratchasima, Thailand, 20-21 July.
6. Ekkawatpanit, C. , Kositgittiwong, D. , Kompor W. and Foyhirun, C. ( 2016) : “The possibility
of promoting wave energy in the coastal zone of Thailand”, The 6th International
Conference on Sustainable Energy and Environment ( SEE 2016) , Bangkok, Thailand, 28- 30
November.
7. Kompor W., Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong, D. (2016): “Evaluation of Wave Energy Using
Numerical Model in Gulf of Thailand and Andaman Sea”, The 3rd Asian Wave and Tidal
Energy Conference, Singapore, 24-28 October.
8. Foyhirun, C., Kositgittiwong, D. and Ekkawatpanit, C. (2016): “The use of computational fluid
dynamics wave simulation in the coastal zone of Thailand”, The 3rd Asian Wave and Tidal
Energy Conference, Singapore, 24-28 October, pp. 695-701.
9. Kompor, W. , Tanaka, H., Ekkawatpanit, C. and Kositgittiwong D. ( 2016) : “Application of
Simulating WAves Nearshore ( SWAN) model for wave simulation in Andaman Sea 2014”,
Proceedings of the Annual Session of the Japanese Society of Civil Engineers - Tohoku
Branch, Miyagi, Japan, 14-15 March.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. Suwannarat, W. , Kositgittiwong, D. , Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. ( 2020) : “A study of the
energy reduction of flow through concrete and natural rubber tetrapods”, The 25th National
Convention on Civil Engineering, Thailand, 15-17 July.
2. Thunyaphun, T., Kositgittiwong, D., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2020): “Scour Protection
Around Bridge Pier Using Based Ramp”, The 25th National Convention on Civil Engineering,
Thailand, 15-17 July.
3. Umjaeng, S., Ekkawatpanit, C. and Kongkitkul, D.K. (2019): “The improvement of Hydrological
model H08 using soil and land use parameters in Upper Chao Phraya River Basin”, The 24th
National Convention on Civil Engineering, Udonthani, Thailand, 10-12 July.
4. Putta, P., Ekkawatpanit, C. and Kongkitkul, D.K. (2019): “Runoff Estimation in the Upper Yom
River Basin Using European Centre for Medium- Range Weather Forecasts ( ECMWF) data”,
The 24th National Convention on Civil Engineering, Udonthani, Thailand, 10-12 July.
5. Wongyai, K., Kongkitkul, D.K., Ekkawatpanit, C. and Sukjan, R. (2019): “Study of ability of flow
thruster turbine for flood relief”, The 24th National Convention on Civil Engineering,
Udonthani, Thailand, 10-12 July.
6. Foyhirun, C. , Kongkitkul, D. K. , Ekkawatpanit, C. ( 2019) : “Review of GCM Modeling and
Downscaling for a Study of the Impact of Climate Change on Coastal Area”, The 24th National
Convention on Civil Engineering, Udonthani, Thailand, 10-12 July.
1. ประวัติการศึกษา
ปี ค.ศ. 2001 Ph.D. (Geotechnical Engineering), University of Tokyo, Japan
ปี ค.ศ. 1998 M.Sc. (Earthquake Engineering), University “Ss. Cyril and Methodius”, Republic
of Macedonia
ปี ค.ศ. 1993 B.Eng. (Structural Engineering), University “Ss. Cyril and Methodius”, Republic
of Macedonia
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 111 เขียนแบบวิศวกรรม 3 หน่วยกิต
(Engineering Drawing)
CVE 261 วิทยาศาสตร์โลก 2 หน่วยกิต
(Earth Science)
CVE 363 ปฏิบัติการปฐพีกลศาสตร์ 1 หน่วยกิต
(Soil Mechanics Laboratory)
CVE 364 วิศวกรรมฐานราก 3 หน่วยกิต
(Foundation Engineering)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 654 เครื่องมือวัดในงานวิศวกรรมเทคนิคธรณี 3 หน่วยกิต
(Geotechnical Instrumentation)
CVE 661 กลศาสตร์ของดินขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Soil Mechanics)
CVE 664 พลศาสตร์ของดิน 3 หน่วยกิต
(Soil Dynamics)
CVE 701 ระเบียบวิธีวิจัย 1 หน่วยกิต
(Research Methodology)
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Jongpradist, P., Punya-in, Y., Tunsakul, J. and Arangjelovski, G. (2016): “Facture behaviour of
rock masses around high pressurized gas storage cavern” , International conference on
Geomechanics, Geo-energy and Geo-resources, pp. 86-91.
2. Thongraksa, A. , Jongpradist, P. , Tunsakul, J. , Sukkaruk, R and Arangjelovski, G. (2016):
“ Simulation of shear fracture in rock mass around high pressurized cavern by element free
galerkin method” , The 2016 World Congress on Advances in Civil, Environmental, and
Materials Resarch (ACEM16), ICC JEJU, Jeju island, South Korea, August 28-September 1.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. อาทิตย์ ฉายอรุณ, พรเกษม จงประดิษฐ์, ประทีป หลือประเสริฐ และ Goran Arangjelovski (2561) “อิทธิพลของ
วิธีการวิเคราะห์ต่อการประเมินผลกระทบของอาคารจากการขุดอุโมงค์เข้าใกล้โครงสร้าง”, การประชุมวิชาการ
วิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, จ. นครนายก, หน้า GTE209-1-7.
2. พงศธร กระจ่ า งผล, วรั ช ก้ อ งกิ จ กุ ล และ Goran Arangjelovski, (2561) “ผลกระทบของแรงกระท า
ด้านข้างแบบวัฐจักรทึ่ควบคุมแอมพลิจูดด้วยระยะทางต่อพฤติกรรมของเสาเข็มเดี่ยวและเสาเข็มกลุ่มใน
แบบจ าลอง”, การประชุ ม วิ ช าการวิ ศ วกรรมโยธาแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 23, 18-20 กรกฎาคม 2561, จ.
นครนายก, GTE 44, ID 314.
3. ฉัฐวัฒน์ วรรธนกันย์, วรัช ก้องกิจกุล, Goran Arangjelovski และ จุฑา สุนิตย์สกุล (2560) “การประเมิน
ความเครียดในวัสดุชั้นทางถนนผิวทางแอสฟัสต์คอนกรีตโดยใช้พารามิเตอร์หลุมการแอ่นตัวสังเคราะห์จาก
การวิเคราะห์เชิงเส้น”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 22, 18-20 กรกฎาคม 2560,
โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่, นครราชสีมา, GTE 144, เล่ม 2, หน้า 269-277.
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 633 การออกแบบคอนกรีตอัดแรงขั้นสูง 3 หน่วยกิต
(Advanced Design of Prestressed Concrete)
CVE 634 การออกแบบและใช้งานคอนกรีตพิเศษ 3 หน่วยกิต
(Design and Application of Special Concrete)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Wiwatrojanagul, P., Sahamitmongkol, R., and Tangtermsirikul, S., 2018, “A Method to Detect
Lap Splice in Reinforced Concrete using a Combination of Covermeter and GPR”,
Construction and Building Materials, Vol. 173, pp. 481-494
2. Wiwatrojanagul, P., Sahamitmongkol, R., Tangtermsirikul, S., and Khamsemanan, N., 2017, “A
New Method to Determine Locations of Rebars and Estimate Cover Thickness of RC Structure
using GPR Data”, Construction and Building Materials, Vol. 140, pp. 257-273
ผลงานวิจัยในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ
1. Leelataviwat, S., Posai, K., Sahamitmongkol, R. and Kietmetha, S., 2018, "Testing of a damaged
PT slab-column frame repaired using injection grouting and steel collar", Eleventh U.S.
National Conference on Earthquake Engineering, Integrating Science, Engineering & Policy,
June 25-29 2018, Los Angeles, California ,U.S.A.
2. S.Y., Mousavi Siamakani and Sahamitmongkol, R., 2018, “Effect of Adjacent Post-installed
Reinforcing Bars on Tensile Capacity of Post-installed Anchors in Concrete”, The Third
International Symposium on Concrete and Structures for Next Generation, September
7-8 2018, Department of Civil Engineering, Kasetsart University, Bangkok, Thailand, pp. 120-
124.
3. Khuon, N. and Sahamitmongkol, R., 2018, “Flow and Compressive Strength of Mortars
Containing Limestone Powder and Calcined Clay”, The Third International Symposium on
Concrete and Structures for Next Generation, September 7-8 2018, Department of Civil
Engineering, Kasetsart University, Bangkok, Thailand, pp. 167-170.
ผลงานวิจัยในการประชุมวิชาการระดับชาติ
1. Thitikavanont, Y. , Chamnankid, B, Sinthupinyo, S. and Sahamitmongkol, R. ,2019,
“ Compressive strength, heat generation and porosity of limestone calcined clay cement
systems”, Annual Concrete Conference 14, 6-8 March 2019, Wora Wana Hua Hin Hotel &
Convention, Prachuap Khiri Khan.
2. พชร ทีฆธนานนท์, ภาสพรรณ มณีโชติ, รณกร เฮงสกุลวัฒน์ และ รักติพงษ์ สหมิตรมงคล, 2562, “ผลของ
กระบวนการขัดต่อคุณสมบัติของผิวหน้าคอนกรีต ”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 14, 6-8
มีนาคม 2562, วรวนา หัวหิน โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์.
3. จาตุรันต์ แร่เพชร, ธนสร อาจสาอางค์, พันธิพา นาคนวล, รักติพงษ์ สหมิตรมงคล และ สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์,
2562, “คุณสมบัติเชิงกลภายใต้แรงอัดและการทดสอบแบบไม่ทาลายของอิฐก่อโบราณ”, การประชุม
วิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 14, 6-8 มีนาคม 2562 วรวนา หัวหิน โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์.
4. Solvej van Kampen, C. , Dorkpikul, P. Setthapongkun, C. and Sahamitmongkol, R. , 2019,
“Effect of bottom ash and glass cullet on alkali silica reaction in mortar”, Annual Concrete
Conference 14, 6 - 8 March 2019, Wora Wana Hua Hin Hotel & Convention, Prachuap Khiri
Khan.
5. Thitikavanont, Y. , Chamnankid, B. , Sinthupinyo, S. and Sahamitmongkol, R. , 2019,
“ Compressive strength, heat generation and porosity of limestone calcined clay cement
systems”, Annual Concrete Conference 14, 6-8 March 2019, Wora Wana Hua Hin Hotel &
Convention, Prachuap Khiri Khan.
6. Solvej van Kampen, C., Ushiro, M., Hori, A and Sahamitmongkol., 2018, “Development of
water based expansive additive slurry for shrinkage compensation in concrete”, Annual
concrete Conference 13, March 7-9 2018, The Zign Hotel ,Pattaya, Chonburi, pp. MAT-79 –
MAT-85.
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CVE 101 อาณาจักรวิศวกรรมโยธา 2 หน่วยกิต
(World of Civil Engineering)
CVE 131 กลศาสตร์วิศวกรรม 3 หน่วยกิต
(Engineering Mechanics)
CVE 236 วัสดุในงานวิศวกรรมโยธา 2 หน่วยกิต
(Civil Engineering Materials)
CVE 335 วัสดุซีเมนต์และคอนกรีต 3 หน่วยกิต
(Cement and Concrete Materials)
CVE 338 การวิเคราะห์โครงสร้าง 2 3 หน่วยกิต
(Structural Analysis II)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและแผ่นดินไหว 3 หน่วยกิต
(Analysis And Design of Structures For Wind
And Seismic Loads)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 648 การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างรับแรงลมและแผ่นดินไหว 3 หน่วยกิต
(Analysis And Design of Structures For Wind
And Seismic Loads)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Pimanmas, A., Yooprasertchai, E., and Wiwatrojanagul, P. (2019). “Cyclic loading test of
precast concrete load-bearing walls designed for gravitational loading”. Magazine of
Concrete Research, DOI: 10.1680/jmacr.19.00347.
2. Yooprasertchai, E. and Warnitchai, P. (2018), “Seismic performance of precast hybrid
moment-resisting frame rocking wall systems”, Magazine of Concrete Research, DOI:
10.1680/jmacr.17.00248.
ผลงานวิจัยในวารสารระดับประเทศ
1. Yooprasertchai, E., Wiwatrojanagul, P., Suwansaya, P. and Pimanmas, A. (2018), “Seismic
Behavior of Precast Concrete Load Bearing Wall with Welded Rebar Connections”,
Srinakharinwirot Engineering Journal, 13(1), 39-51. (in Thai)
2. Pimanmas, A., Thammarak, P. and Yooprasertchai, E. (2018), “Study of seismic resistance of
precast concrete structures and seismic retrofit of RC structures by Natural fibers” Full
Research Report submitted to the Thailand Research Fund (TRF).
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับปริญญาตรี
CTE 213 ปฏิบัติการเทคนิคการก่อสร้าง 2 3 หน่วยกิต
(Construction Technique Workshop II)
CTE 220 คอนกรีตและวัสดุก่อสร้าง 3 หน่วยกิต
(Concrete and Construction Materials)
CTE 223 กลศาสตร์วัสดุ 1 3 หน่วยกิต
(Mechanics of Materials)
CTE 428 การออกแบบคอนกรีตอัดแรง 3 หน่วยกิต
(Prestressed Concrete Design)
CTE 483 หัวข้อพิเศษ 3 หน่วยกิต
(Design and Construction of Precast Concrete)
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CTE 610 เทคนิคและเทคโนโลยีการก่อสร้าง 3 หน่วยกิต
(Construction Technique and Technology)
CTE 621 การออกแบบอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 หน่วยกิต
(Design of Reinforced Concrete Building)
CTE 624 นวัตกรรมของคอนกรีตเทคโนโลยี 2 หน่วยกิต
(Innovation in Concrete Technology)
CTE 626 การซ่อมแซมและเสริมกาลังโครงสร้าง 3 หน่วยกิต
(Repair and Retrofit of Structures)
CTE 649 ระบบโครงสร้างพื้นฐาน 3 หน่วยกิต
(Infrastructure Systems)
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ
1. Chamroeun Chhun, Chuchai Sujivorakul and Teerawut Muhummud, “Bond Mechanisms of
An Anchor Embedded into Concrete,” 2nd International Conference on Engineering
Innovation 2018, July 5- 6, 2018, Faculty of Engineering, King Mongkut’s University of
Technology North Bangkok, Thailand
2. Chamroeun Chhun, Chuchai Sujivorakul and Teerawut Muhummud, “Laboratory-Based
Learning to Study the Pullout Test of an Anchor in Concrete,” 9th International Science,
Social Science, Engineering and Energy Conference (I-SEEC 2018), May 2nd- 4th, 2018,
Ambassador Hotel Bangkok, Thailand
3. Wijitsombat, S. and Sujivorakul C., “Factors Affecting on the Strengthening of Reinforced
Concrete Beams Using Steel Plate”, The 2nd ACF Symposium 2017: Innovations for
Sustainable Concrete Infrastructures, November 23-25, 2017, Chiang Mai.
4. Sripan, T. and Sujivorakul C., “The Relationship between Perceived Teacher Autonomy
Support, School Engagement for Enhancing Perceived Value in Vocational Education”, The
10th International Conference of HUSOC on “Dynamics of Humanities and Social Sciences
in Cross-Border Societies”, February 3-4, 2017 Chiang Rai Rajabhat University, Chiang Rai.
5. Sripan, T. and Sujivorakul C., “Factors Related to Decreasing the Drop-Out Rate Among
Vocational Students”, The IRES International Conference, Bangkok, Thailand, 14 May 2016.
บทความวิจัยทีเ่ สนอในที่ประชุม/สัมมนาวิชาการระดับประเทศ
1. ชูชัย สุจิวรกุล, พัทธพล ศิลากุล, และ ณัฐพล พิลึก, “อิทธิพลของขนาดมวลรวมที่มีผลต่อการไหลตัวและ
กาลังของคอนกรีตเสริมเส้นใยที่ไหลตัวด้วยตนเอง”, การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี ครั้งที่ 13, 7-9
มีนาคม 2561 ณ โรงแรมเดอะ ซายน์ พัทยา จังหวัดชลบุรี
2. สรวิชญ บัวสี, วุฒิชัย สะผาย, ธนากร เขียวเหลือง และชูชัย สุจิวรกุล , “การศึกษาความต้านทานต่อแรง
แผ่นดินไหวของอาคารสูงไม่เกิน 15เมตร”, การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 22, จ.
นครราชสีมา, 18 – 20 กรกฏาคม 2560
3. ชูชัย สุจิวรกุล และ กนกวรรณ ชัยวรวิทย์กุล , “อิทธิพลของค่ากาลังอัดของคอนกรีต และขนาดตัวอย่าง
ทดสอบที่ มี ผ ลต่ อ การทดสอบค่ า ก าลั ง อั ด ของคอนกรี ต ที่ ไ ด้ จ ากการทดสอบแบบไม่ ท าลายโดยใช้ ค้ อ น
กระแทก”, การประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาชีวศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 1, 24 -25 มีนาคม
2560, จ. อุดรธานี
4. ชูชัย สุจิวรกุล, ชรินทร์ ชื่นเนียม อภิญญา แสนณรงค์ และ อรพิณ ภูมิกาล “กาลังและพฤติกรรมการยึด
เหนี่ยวระหว่างอุปกรณ์ฝังยึดกับคอนกรีตเสริมเส้นใยเหล็กแบบตะขอ” การประชุมวิชาการคอนกรีตประจาปี
ครั้งที่ 12, 15-17 กุมภาพันธ์ 2560, โรงแรมเดอะ รีเจนท์ ชะอา บีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี
ศ. ดร.ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ
Prof. Dr. Narongrit Sombatsompop
1. ประวัติการศึกษา
ปี ค.ศ. 1997 Ph.D. (Polymer Processing & Rheology), University of Manchester (UMIST), U.K.
ปี ค.ศ. 1994 M.Sc. (Polymer Science & Technology), University of Manchester (UMIST), U.K.
ปี พ.ศ. 2535 วท.บ. (เคมีอุตสาหกรรม), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, ประเทศไทย
2. ภาระการสอน
2.1 ภาระการสอนในปัจจุบัน
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
MTT 651 กระแสวิทยาของพอลิเมอร์ 3 หน่วยกิต
(Polymer Rheology)
MTT 655 กระบวนการขึ้นรูปพอลิเมอร์ 3 หน่วยกิต
(Polymer Processing)
MTT 692 หัวข้อพิเศษ 3 หน่วยกิต
(Special Topic: Wood Polymer Composites for Specific Applications)
MTT 600 วิทยานิพนธ์ 15 หน่วยกิต
(Thesis)
MTT 601 โครงการการศึกษาวิจัย 6 หน่วยกิต
(Research Study)
2.2 ภาระงานสอนในหลักสูตรนี้
รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา
CVE 901 วิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต
(Dissertation)
3. เหตุผลที่ได้รับมอบหมายให้รบั ผิดชอบหลักสูตรนี้
3.1 คุณวุฒิและสาขาวิชาตรงกับสาขาวิชาของหลักสูตร ภาควิชาวิศวกรรมโยธาต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญ
ทางด้านวัสดุ และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมโยธาในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีความเชื่อมโยง
กับศาสตร์ในสาขาวิชาอื่น ๆ มากขึ้น ดังนั้น จึงมีความจาเป็นต้องเพิ่มอาจารย์ประจาหลักสูตรที่มีความรู้
ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ดังกล่าวเพื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาร่วมและอาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์
3.2 ผลงานวิชาการย้อนหลัง 5 ปี
ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ
1. Moonlek, B., Wimolmala, E., Markpin, T., Sombatsompop, N. and Saenboonruang, K. (2020):
“Enhancing electromagnetic interference (EMI) shielding effectiveness for radiation
vulcanized natural rubber latex (RVNRL) composites containing multi-walled carbon
nanotubes (MWCNTs) and silk textile” – Polymer Composites, (accepted) [JIF = 2.268]
2. Srimalanon, P., Prapagdee, B. and Sombatsompop, N. (2020): “Soil inoculation with
Pseudomonas geniculata WS3 for accelerating the biodegradation process of in situ
compatibilized PBS/PLA blends doped with HPQM”, Journal of Polymers and the
Environment, (accepted) [JIF = 2.765].
3. Boonluksiri, Y., Prapagdee, B. and Sombatsompop, N., (2020): “Effect of poly (D-lactic acid)
and cooling temperature on heat resistance and antibacterial performance of
stereocomplex poly (L-lactic acid)”, Journal of Applied Polymer Science, 137, 48970. [JIF =
2.188].
4. Tangudom P, Wimolmala E, Prapagdee B & Sombatsompop N (2019): Mechanical properties
and antibacterial performance of PMMA toughened with acrylic rubber containing 2-
hydroxypropyl-3-piperazinyl-quinoline carboxylic acid methacrylate (HPQM) and HPQM
absorbed on TiO2 particles – Polymer Testing, 79, 106023, [JIF = 2.943].
5. Toyen, D., Markpin, T., Wimolmala, E., Sombatsompop, N. and Saenboonruang, K. (2019):
“Sm2O3/UHMWPE composites for radiation shielding applications: Mechanical and
dielectric properties under gamma irradiation and thermal neutron shielding”, Radiation
Physics and Chemistry, 164: 108366. [JIF = 1.435].
6. Choosri, S., Sombatsompop, N., Wimolmala, E. and Thongsang, S. (2019): “Potential Use of
fly ash and bagasse ash as secondary abrasives in phenolic composites for eco-friendly
brake pads applications”, Journal of Automobile Engineering 233(5): 1296-1305. [1.414].
7. Pattanasuttichonlakul, W., Sombatsompop, N., Prapagdee, B. (2018): “Accelerating
biodegradation of PLA using microbial consortium from dairy wastewater sludge combined
with PLA-degrading bacterium”, International Biodeterioration & Biodegradation 132: 74-
83. [2.962].
8. Srimalanon, P., Prapagdee, B., Markpin, T. and Sombatsompop, N. (2018): “Effects of DCP
as a free radical producer and HPQM as a biocide on the mechanical properties and
antibacterial performance of in situ compatibilized PBS/PLA blends”, Polymer Testing 67
(May): 331-341. [2.464]
ภาคผนวก จ. ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
บทสรุปผูบ้ ริหาร
ชื่อหลักสูตร: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา คณะ:วิศวกรรมศาสตร์
หัวข้อที่ 1 ที่มาของการปรับปรุงหลักสูตร
1.1) บทวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเปิดหรือการปรับปรุงหลักสูตร
A) การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
A1) การวิเคราะห์ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ได้ติดตามภาวการณ์มีง านท าของบัณ ฑิตที่จ บการศึ กษาอย่า งต่อ เนื่ อ ง
โดยเฉพาะบัณฑิตที่เพิ่งสาเร็จการศึกษา พบว่าบัณฑิตที่จบการศึกษาไปในช่วง 5 ปีล่าสุด ส่วนใหญ่ทางานใน
บริษัทเอกชน (50% ในบริษัทผู้ออกแบบ/ที่ปรึกษาเชิงวิศวกรรม) และมีจานวนประมาณ 20% ทางานใน
หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ, และมีบัณฑิตที่ศึกษาต่อระดับปริญญาเอกจานวนประมาณ 10% จากแนวโน้ม
ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าบัณฑิตส่วนใหญ่ของภาควิชาจะไปทางานในรูปแบบที่มีการวิเคราะห์วางแผนสูง
A2) สรุปข้อมูลความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกและการดาเนินการตามคาแนะนา
ข้อเสนอแนะ การดาเนินการ
ติดต่อประสานงานกับผู้อื่นหรือบุคคลภายนอก
ทักษะการสื่อสารเป็นทักษะสาคัญที่จาเป็นสาหรับ
นักศึกษาระดับปริญญาโท ซึ่งควรมีก่อนที่จะจบ
การศึกษาออกไปทางาน
ข้อเสนอแนะ การดาเนินการ
• Research work must be fully or partially ข้ อ เสนอแนะนี้ ส อดคล้ อ งกั บ ทิ ศ ทางการวิ จั ย ซึ่ ง
practical to engineering industry. ต้องการให้มีการทาวิจัยที่ตรงกับความต้องการของ
ภาคอุ ต สาหกรรมมากขึ้ น และได้ มี ก ารส่ ง เสริ ม
ประเด็นดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม
งานวิ จั ย บางส่ ว นนั้ น เป็ น ประเด็ น วิ จั ย ใหม่ ๆ
(Emerging research themes) ซึ่งอาจจะยังไม่ได้
รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรม การกาหนดให้
ต้องมีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมอาจจะทา
ให้เกิดความยากลาบากในกรณีที่นักศึกษาสนใจทา
การวิจัยในหัวข้อลักษณะดังกล่าว จึงไม่ได้มีการ
เพิ่มเติมประเด็นนี้เข้าไปในหลักสูตร
A3) การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมมหภาคที่มีผลต่อหลักสูตร
A4) การวิเคราะห์คู่แข่งหรือคู่เปรียบเทียบ
โดยที่ลักษณะโดยธรรมชาติของการเลือกเข้าศึกษาของนักศึกษาในหลักสูตรขั้นสูงเป็นไปตามความ
เชี่ยวชาญเฉพาะของอาจารย์ที่ปรึกษา และมีผลของความมีชื่อเสียงของอาจารย์ที่ปรึกษาและมหาวิทยาลัย
ร่วมด้วย ในขณะที่รูปแบบแผนการศึกษาโดยรวมถูกกาหนดโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ใน
ที่นี้ขอแสดงการเปรียบเทียบในลักษณะคู่เปรียบเทียบดังแสดงในตาราง
หลักสูตรนี้ *หลักสูตรคู่เปรียบเทียบ
จานวนแผนการศึกษา 1 แบบ เหมือนกัน
จานวนหน่วยกิต 37 หน่วยกิต 36 หน่วยกิต
(วิชาบังคับ 4 หน่วยกิต / วิชาเลือก (วิ ช าบั ง คั บ 9 หน่ ว ยกิ ต /
21 หน่วยกิต / วิทยานิพนธ์ 12 วิ ช าเลื อ ก 15 หน่ ว ยกิ ต /
หน่วยกิต) วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต)
เงื่อนไขสาเร็จการศึกษา เป็ น ไปตามประกาศกระทรวงศึ ก ษา เหมือนกัน
เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสู ตรระดั บ
บัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558
จานวนสาขาวิชาเอก (1) วิศวกรรมโครงสร้าง (1) วิศวกรรมโครงสร้าง
(2) วิศวกรรมเทคนิคธรณี (2) วิศวกรรมเทคนิคธรณี
(3) วิศวกรรมขนส่ง (3) วิศวกรรมขนส่ง
(4) วิศวกรรมทรัพยากรน้า (4) วิ ศ วกรรมก่ อ สร้ า งและ
การบริหาร
ภาษาที่ใช้ ศึ ก ษาเป็ น ภาษาไทยและอาจจะมี ศึ ก ษาเป็ น ภาษาไทยและ
เอกสารประกอบเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ
หมายเหตุ : หลั กสู ตรคู่เปรียบเที ยบ คือ หลั กสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลักสูตรที่คล้ายคลึงกันมักจะมีปัญหาจากมุมมองของภาคอุตสาหกรรมในสองลักษณะคือ ประการ
แรกบัณฑิตมีความรู้ดีแต่ไม่สามารถทางานเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานวิศวกรรมได้ หรือประการสอง บัณฑิตที่
จบการศึกษาไปไม่มีองค์ความรู้เชิงวิศวกรรมเพียงพอที่จะเริ่มงานได้ทันที ซึ่งการที่บัณฑิตจากหลักสูตรนี้มี
ทั้งความรู้ที่จาเป็นต่อการทางานในสาขาวิชาที่เชี่ยวชาญของต้นและสามารถเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน
วิศวกรรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นจุดแข่งของหลักสูตรนี้เมื่อเปรียบเทียบกับหลักสูตรอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันใน
ประเทศไทย
B )การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
B1) การวิเคราะห์ผลการดาเนินงานที่ผ่านของหลักสูตร
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาจัดตั้งครั้งแรกในปีการศึกษา 2520
ด้วยสาขาวิชาวิศวกรรมโครงสร้าง โดยหลักสูตรได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สาหรับหลักสูตร
ที่ปรับปรุงครั้งล่าสุด ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 ถึงปีการศึกษา 2663 ได้รับนักศึกษาใหม่จานวน 143 คน
และมีผู้จบการศึกษาในช่วงเวลาเดียวกันจานวน 86 คน
จานวนนักศึกษาที่สมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวมีค่าเฉลี่ย ประมาณ 35 คน/ปีการศึกษา ซึ่งมีค่า
ใกล้เคียงกับแผนการดาเนินการที่ระบุไว้ในหลักสูตรฉบับปรับปรุง ปีการศึกษา 2559 เป็นอย่างมาก
สัดส่วนของนักศึกษาที่เรียนจบการศึกษาคิดเป็น 60%
B 2)การวิเคราะห์ทรัพยากรที่หลักสูตรมี
นอกจากเครื่ อ งมื อ ครุ ภั ณ ฑ์ วิ จั ย ที่ ไ ด้ ล งทุ น และมี ก ารสนั บ สนุ น อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ในหลั ก สู ต รมี
คณาจารย์ที่มีวุฒิปริญญาเอกที่มีคุณสมบัติการเป็นที่ปรึกษาจานวน 25 คน ที่มีผลงานทางวิชาการต่อเนื่อง
และมีตาแหน่งวิชาการต่างๆ และจัดตั้งกลุ่มวิจัยต่างๆที่มีระบบการพัฒนาบัณฑิตที่เข้มแข็ง นอกจากนี้หนึ่ง
ในนโยบายหลักสาหรับการรับเข้าศึกษาของหลักสูตรนี้คือ นักศึกษาต้องสามารถทาโครงการวิทยานิพนธ์
ในช่วงปีที่ 2 ของการศึกษาในหลักสูตรได้แบบเต็มเวลา นักศึกษาในหลักสูตรส่วนใหญ่จะได้รับทุนการศึกษา
หรือการสนับสนุนอย่างเพียงพอจากที่ปรึกษาหรือภาควิชา
นอกเหนือจากเครื่องมือและครุภัณฑ์วิจัย โปรแกรมสาหรับคานวณแล้ว คณาจารย์ในหลักสูตรมีความ
ร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ ที่จะสนับสนุนการทาวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่
B3) การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน
ด้วยหลักสูตรที่ได้จัดตั้งมาระยะเวลากว่า 40 ปี หลักสูตรได้ผลิตบัณฑิตจานวนมากที่ขณะนี้อยู่ใน
ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงหน่วยงานรัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน บัณฑิตที่จบการศึกษาจาก
หลั ก สู ต รนี้ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ ในแง่ ข องการท างานว่ า มี ค วามรู้ ใ นด้ า นวิ ศ วกรรมที่ เ กี่ ย วข้ อ งที่ ดี แ ละมี
ขยันหมั่นเพียรมีทักษะในการทางานเป็นทีมได้ คุณภาพของบัณฑิตที่ผ่านมาและภาพลักษณ์ดังกล่าวทาให้
อัตราการจ้างงานของบัณฑิตที่จบจากหลักสูตรนี้อยู่ในอัต ราที่สูงมาก และทาให้หลักสูตรนี้ถือเป็นหนึ่งใน
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้การที่
หลักสูตรมีศิษย์เก่าจานวนมากที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ ทาให้มีเครือข่ายการทางานที่เข้ม
แข้งที่จะช่วยสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลนักศึกษาปัจจุบันและบัณฑิตจบใหม่ในรูปแบบต่างๆ เช่นการให้
ทุนการศึกษา การเป็นวิทยากรบรรยายเพื่อแบ่งบันประสบการณ์ การจัดศึกษาดูงาน เป็นต้น
C2) ประเด็นการปรับปรุงในครั้งนี้
การปรับปรุงครั้งนี้เป็นการปรับตามรอบปกติ โดยมีเนื้อหาสาระสาคัญที่การสารวจความต้องการ
ของผู้ใช้บัณฑิตว่าเปลี่ยนแปลงไปจากปรัชญาของหลักสูตรหรือไม่ และมีทักษะต่าง ๆที่ผู้ใช้บัณฑิตคาดหวัง
ที่ยังไม่มีในกระบวนการฝึกของหลักสูตรหรือไม่ เพื่อกาหนดและปรับปรุงกลยุทธ์การฝึกทักษะผ่านปรัชญา
ข อ ง ห ลั ก สู ต ร
ผลการสารวจพบว่า ภาคอุตสาหกรรมนั้นให้ความสาคัญกับทักษะในการทางานของบัณฑิต ไม่น้อยไปกว่า
องค์ความรู้เชิงวิศวกรรม และยังต้องการบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านที่โดดเด่ นกว่าที่เคย
เป็นมาในอดีต
ในการปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้จึงได้มีการระบุทักษะที่ได้รับความสาคัญเป็นอันดับต้นๆ เป็นส่วนหนึ่งของ
ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกเรียนกลุ่มวิชาที่ตรงกับความ
เชี่ยวชาญที่ตนสนใจได้มากขึ้น โดยยัง คงความหลากหลายของวิชาเลือกเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ
ของภาคอุตสาหกรรมและได้มีการปรับเปลี่ยนจานวนวิชาบังคับให้สอดคล้องกับแนวทางนี้ โดยวิชาบังคับจะ
เน้นไปที่การส่งเสริมให้นักศึกษาตระหนักถึงความสาคัญของทักษะต่าง ๆเหล่านี้ รวมไปถึงสามารถที่จะ
พัฒนาตนเองให้มีทั กษะดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ยังมีการปรับรายวิชาเลือก เช่นตัดหรือ
ปรับปรุงเนื้อหารายวิชาที่ไม่ทันสมัยออกหรือให้ ปรับเนื้อหาของรายวิชาให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใน
ปัจจุบันหรือที่กาลังจะเป็นที่นิยมในอนาคต
C3) จุดเด่นของหลักสูตร
ด้วยหลั กสู ตรที่ ได้จัดตั้งมาระยะเวลากว่ า 40 ปี ชื่อเสียงที่สั่งสมมา หลักสูตรครอบคลุมสาขา
วิชาเอกที่เป็นสาขาสาคัญในอุตสาหกรรมถึง 4 สาขา คุณภาพของบัณฑิตได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจาก
หน่วยงานที่รับบัณฑิตไปทางานอยู่ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน กอปรกับคณาจารย์ส่วนใหญ่ มีความ
เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม ชื่อเสียงและศักยภาพของคณาจารย์ ทาให้หลักสูตรวิศวกรรมศาตรมหา
บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาเป็นตัวเลือกแรกๆ สาหรับผู้ต้องการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิชา
วิศวกรรมโยธา ในประเทศไทย
นอกจากนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักสูตร ได้แก่ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาเอง ยังมีหลักสูตรระดับปริญญาตรี
ที่มีชื่อเสียงและเข้ม แข็ง ซึ่ งหลั กสู ตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตจะเป็นช่องทางหนึ่งให้บัณฑิตระดับ
ปริญญาตรีพัฒนาตัวเองไปอีกระดับหนึ่ง
หัวข้อที่ 2 ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร
2.1 ปรัชญา ความสาคัญ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
ปรัชญาของหลักสูตรคือ “เพื่อสร้างและพัฒนานักวิชาชีพด้านวิศวกรรมโยธาที่มีความรู้ความ
ชานาญ มีทักษะในการทางานเชิงวิศวกรรม พร้อมที่จะทางานในทีมงานวิศวกรรมระดับสูงได้ทันทีที่จบ
การศึกษา สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และ
ปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณ”
ในการพั ฒ นาเศรษฐกิ จ และสั ง คมของประเทศไทยให้ ต่ อ เนื่ อ งนั้ น ยั ง คงต้ อ งมี ก ารก่ อ สร้ า ง
โครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบขนส่ง และที่พักอาศัยที่มีความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่าง
ทั่วถึง นอกจากนี้ประเทศไทยยังต้องการผู้เชี่ ยวชาญที่จะคอยบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากภัย
พิบัติต่าง ๆ เช่น อุทกภัย ป้องกันปัญหาอุบัติเหตุ ต่าง ๆ ในระยะยาว ประเทศไทยยังต้องมีการบารุงรักษา
ระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ให้คงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวนั้น
ต้องการวิศวกรโยธาที่มีทั้งความรู้และทักษะในการทางานที่ดีเป็นจานวนมาก ในขณะเดียวกันลักษณะการ
ทางานเชิงวิศวกรรมโยธาก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและทักษะต่างๆ ที่จาเป็นต่อวิศวกรรุ่นใหม่ๆ ก็
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หน่วยงานต่างๆ มีความต้องการวิศวกรที่พร้อมที่จะทางานได้ทั นทีที่จบการศึกษา
มากกว่าที่จะต้องทาการฝึกอบรมก่อนที่จะให้เริ่มปฏิบัติงานทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานสามารถบรรลุเป้าหมายใน
การดาเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด ตามที่หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตนี้เน้น
การพัฒนานักวิชาชีพด้านวิศวกรรมโยธาที่มีทั้งความรู้ในระดับสูงและมีทักษะต่างๆ พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้
ทั น ที ที่ จ บการศึ ก ษา จึ ง เป็ น หลั ก สู ต รที่ ต อบสนองต่ อ ความต้ อ งการของประเทศไทยในปั จ จุ บั น และมี
ความสาคัญในการแก้ปัญหาและส่งเสริมการพัฒนาของประเทศ บุคลากรที่สาเร็จการศึกษาจะช่วยเพิ่ม
คุณภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต และแก้ปัญหา และเป็นผลให้เศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่ง
และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน
วัตถุประสงค์ของหลักสูตรเป็นไปดังนี้
o เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาระดับปริญญาโท ที่มีทั้งความรู้ระดับสูงและทักษะในการทางานใน
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา เป็นที่ยอมรับของภาคอุตสาหกรรมขึ้นภายในประเทศ
o เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาที่สามารถประยุกต์ใช้กระบวนการวิจัยในการแก้ไขปัญหาหรือ
สร้างนวัตกรรมในเชิงวิศวกรรมได้
o เพื่อผลิตนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและภูมิภาค มีความรู้
พื้นฐานในสาขาความเชี่ยวชาญที่ดีและสามารถที่จะทางานเป็นทีมและปรับตัวตามสภาวะการณ์และ
เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปได้
2.2 คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์หรือคุณลักษณะพิเศษของบัณฑิตของหลักสูตร
คุณลักษณะของบัณฑิตจะเป็นนักวิชาชีพวิศวกรรมโยธาที่มีทั้ง “ความรู้สาขาความเชี่ยวชาญของตน
ในระดับสูง” และมี “ทักษะในการทางานเชิงวิศวกรรม” ที่เป็นที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันและ
ในอนาคตอันใกล้ ทั้งยังประพฤติตนตามหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณ สามารถที่จะประยุกต์ใช้องค์ความรู้
ต่างๆ รวมถึงกระบวนการวิจัยเพื่อทางาน แก้ไขปัญหา หรือสร้างนวัตกรรมเชิงวิศวกรรมให้สาเร็จลุล่วงไปได้
3.2 Stage-LOs
Stage LO#1 มีความรู้และพื้นฐานเบื้องต้น บัณฑิตมีความสามารถในการใช้ทักษะในเชิงคณิตศาสตร์ และ
ตระหนักถึงทักษะต่างๆ ที่สาคัญต่อการทางานในเชิงวิศวกรรมวิชาชีพ
วิธีการวัดผล ใช้ผลการเรียนของรายวิชา CVE701 ซึ่งเป็นวิชาบังคับของหลักสูตร ร่วมกับรายวิชาเลือกสาขา
คณิตศาสตร์
กาหนดเวลา ภายใน 2 ภาคการศึกษาแรก
PLO ที่ถูกวัด PLO2
3.3 โครงสร้างของหลักสูตร
3.3.1) เปรียบเทียบโครงสร้างหลักสูตรเดิมกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ดังนี้
จานวนหน่วยกิต จานวน
หมวดวิชา เกณฑ์ หลักสูตรเดิม หลักสูตรปรับปรุง หน่วยกิต
สป.อว. พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2564 ที่แตกต่าง
แผน ก2 (วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต)
วิชาบังคับ ≥ 12 4 1 -3
วิชาเลือก 21 24 +3
วิทยานิพนธ์ ≥ 12 12 12 -
จานวนหน่วยกิต จานวน
หมวดวิชา เกณฑ์ หลักสูตรเดิม หลักสูตรปรับปรุง หน่วยกิต
สป.อว. พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2564 ที่แตกต่าง
แผน ก2 (วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต)
จานวนหน่วยกิตรวม ≥ 36 37 37 -
ตลอดหลักสูตร
หัวข้อที่ 4
4.1 คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
เป็นผู้สาเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธาจากสถาบันอุดมศึกษาที่สานักงาคณะกรรมการ
ข้าราชการผลเรือน (ก.พ) รับรองหลักสูตร หรือสาขาวิชาอื่นที่เทียบเท่าซึ่งคณะกรรมการสอบคัดเลือกเข้า
ศึกษาของภาควิชาฯ พิจารณาเห็นสมควรรับเข้าศึกษาได้
ภาคผนวก ช. เอกสารความร่วมมือกับสถาบันอื่น
MEMORANDUM OF UNDERSTANDING