Professional Documents
Culture Documents
doc
Photosynthesis
เขียนสมการเคมี และอธิบายกระบวนการสังเคราะด้วยแสงมา
ให้เข้าใจ
CHMg
6 CO2 + 6H2O + radiation C6H12O6
+ 6 O2
รังสีดวงอาทิตย์ประกอบด้วยช่วงรังสีอะไรบ้าง และช่วงไหนที่
เรียกว่า Photosynthetically active radiation และต่างจากคำาว่า
แสง (Light) อย่างไร อธิบาย
รังสีดวงอาทิตย์ เป็ นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า ประกอบด้วยรังสีท่ีมี
ความยาวคลื่น ๆตั้งแต่ 0.2 – 2000 nm. แต่เพื่อความสะดวกมัก
จะแบ่งช่วงความยาวคลื่นออกเป็ น 4 กล่่มคือ 1) กล่่มที่มี
ความยาวคลื่นน้อยกว่า 380 nm. ได้แก่ Ultra violet, X rays,
gamma rays, cosmic rays 2) กล่่มรังสีแสง (ที่มีความยาวคลื่น
380 – 800 nm) 3) กล่่มที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 800 nm
ได้แก่ infrared, radiowave, microwaves การที่รงั สีดวงอาทิตย์มี
ลักษณะเป็ นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าจึงทำาให้ อน่ ภาคโฟตอน (photon)
ที่มีอย่่สามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วแสงคือประมาณ 3 x 10
8
cm/sec และแต่ละคลื่นมีความถี่ต่างกันและมีความยาวคลื่นต่างกัน
ทั้งสามค่ามีความสัมพันธ์ดังสมการ
1
Q&A.doc
หรือ Eistein/m /s
2
2
Q&A.doc
รีเอกชัน
่ เซนเตอร์ (Reaction center: P680) คืออะไร อย่่
ที่ไหน และมีหน้าที่สำาคัญอย่างไร
คือโมเลก่ลคลอโรฟิ ลล์ ซึ่งอย่ใ่ น PSII ทำาหน้าที่รบ
ั อิเลคตรอนจาก
รงค์วัตถ่ท่ีรบ
ั รังสีดวงอาทิตย์ แล้วส่งต่อให้แก่ PSII
3
Q&A.doc
จงบอกถึงบทบาทของนำ้าในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงมา
ให้เข้าใจ
รีดิวซ์มังกานี สเพื่อให้สามารถถ่กนำามาใช้ใหม่ได้อีกในการรีดิวซ์
P680 ในระหว่างขั้นตอน light reaction
แสดงสมการการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 และบอก
ด้วยว่ามีเอนไซมอะไรที่เกี่ยวข้องกับการตรึง
คาร์บอนไดออกไซด์
Ribulose 1, 5 biphosphate + RubP (carboxylase/oxygenase)
+ CO2 3 phosphoglyceric acid วงจรนี้ ถ่ก
เรียกว่า Calvin’s cycle ตามชื่อนั กวิทยาศาสตร์ท่ีค้นพบ หรือเรียก
4
Q&A.doc
Photorespiration คืออะไร
การตรึง O2 แทน CO2 ของเอนไซม์ Rubisco ทำาให้เกิด CO2 ขึ้น
มาแทน
แสดงสมการเคมีของกระบวนการ photorespiration
RubP carboxylase + O2 3-PGA + 2-
PGA + CO2
5
Q&A.doc
6
Q&A.doc
Respiration
แสดงกลไกหลัก 3 กลไกในกระบวนการหายใจของพืช และ
บอกด้วยว่าแต่ละกลไกใช้อะไรเป็ นวัตถ่ดิบเพื่อสร้างอะไร
1. glycolysis : glucose pyruvic
acid
2. Kreb’s cycle : pyruvic acid
NADH
3. Electron transport chain : NADH
APT + H2O
มีปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อการหายใจของพืช และมีผลอย่างไร
1. อ่ณหภ่มิ : หากส่งจะเพิ่มการหายใจมากกว่าการสังเคราะห์ด้วย
แสง
2. อาย่ใบพืช : หากแก่ก็จะเพิ่มการหายใจมากขึ้น และส่งกว่าใบ
อาย่น้อย
3. ตำาแหน่งของใบในต้นพืช : ในทรงพ่่มและใบบริเวณล่างจะ
หายใจมากกว่าบริเวณอื่น และมีการสังเคราะห์ด้วยแสงน้อยกว่า
4. นำ้าตาลที่เป็ นวัตถ่ดิบของการหายใจ
7
Q&A.doc
การวัดอัตราการสังเคราะห์แสงในระดับใบ หรือทรงพ่มพืชนั้ น
ทำาได้อย่างไร
ใช้เครื่องมือ IRGA เพื่อวัดการแลกเปลี่ยนก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างใบพืชกับบรรยากาศรอบ ๆ ใบพืช โดย
เอาหลักการทางไฟฟ้ าที่กล่าวถึง การเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้ า ขึ้น
อย่่กับความต่างศักย์ของกระแสไฟฟ้ า กับแรงต้านทานในตัวนำานั้ น
ๆ ดังนั้ นอัตราการสังเคราะห์แสง (CO2 assimimilation หรือ
fixation) จึงพิจารณาจาก ความแตกต่างของปริมาณก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ ([CO2]) ต่อความสามารถในการต้านทานของ
ผิวใบพืช (resistance) หรือเรียกในทางตรงกันข้ามว่าคือความ
สามารถในการชักนำาก๊าซ (conductance)ให้เข้าส่่ใบพืช
A = ∆ [CO2} / r หรือ A = ∆ [CO2] Gs
A มีหน่วยเป็ น mole CO2/m /s
2
อธิบายความหมาย และบอกหน่วยการวัดค่าของคำาต่อไปนี้
การเจริญเติบโต (Growth)
8
Q&A.doc
9
Q&A.doc
LA / TDW
Relative growth rate (RGR)
อัตราส่วนของนำ้าหนั กแห้ง ต่อ นำ้าหนั กแห้งเริม
่ ต้น ต่อ หน่วยเวลา
แสดงถึงประสิทธิภาพของมวลชีวภาพของพืชต้นนั้ นในการเพิ่มนำ้า
หนั กแห้งในช่วงเวลาหนึ่ ง (g/g/d)
(lnW2 – lnW1) / (T2 – T1)
Leaf area duration (LAD)
ระยะเวลาที่พื้นที่ใบพืชนั้ นสามารถดำารงสภาพอย่่ได้ (dm d)
2
LA x T
Specific leaf area (SLA)
สัดส่วนของพื้ นที่ใบ ต่อ นำ้าหนั กของใบนั้ น ๆ แสดงถึงความหนา
หรือบางของใบพืชนั้ นๆ (dm /g)
2
LA / LW
10
Q&A.doc
พลังงานจากรังสีดวงอาทิตย์คืออะไร สำาคัญอย่างไรต่อระบบ
นิ เวศของพืชปล่ก และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มีค่าของหน่วยวัดเป็ น
อย่างไร
ในระบบนิ เวศนั้ นมักจะพิจารณารังสีดวงอาทิตย์ในร่ปของแหล่ง
กำาเนิ ดของพลังงานแก่พืช และสิ่งมีชีวิตในระบบนิ เวศนั้ น ๆ การ
แบ่งรังสีดวงอาทิตย์จึงอาจแบ่งออกเป็ น 1. Short wave solar
radiation (300 – 2,500 nm) 2. PAR (400 - 700 nm) 3.
Near infrared radiation (700 – 2,500 nm) และ 4. long wave
solar radiation (2,500 – 30,000) ซึ่งแต่ละช่วงรังสีน้ ั นมีเครื่อง
มือ (sensor) ในการวัดปริมาณพลังงานรังสีดวงอาทิตย์ท่ีแตกต่าง
กัน (ด่ภาพประกอบ)
รังสีในช่วง PAR เท่านั้ นที่เป็ นแหล่งพลังงานสำาคัญของการสร้าง
ชีวมวลของพืช โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง จึงถือว่า
เป็ นส่วนที่สำาคัญที่ส่ดต่อระบบนิ เวศ แต่อย่างไรก็ตามช่วงรังสีอ่ ืน
ๆ ก็มีอิทธิพลต่อการงอกเมล็ด การยืดตัวของลำาต้น และต่อ
อ่ณหภ่มิขององค์ประกอบต่าง ๆในระบบนิ เวศด้วย
การศึกษาเรื่องการสังเคราะห์ด้วยแสง นิ ยมวัดรังสีที่พืชใช้ (PAR)
ในเป็ นร่ปของ PPFD ที่มีหน่วยเป็ น quantum คือ mol
Photon/m /s ส่วนในการศึกษาเรื่องการเติบโตและเรื่องนิ เวศวิทยา
2
อธิบายการรับและการส่องผ่านของรังสีดวงอาทิตย์ในทรงพ่่มใบ
พืชปล่กมา
11
Q&A.doc
การส่องผ่านของรังสีดวงอาทิตย์ผ่านตัวกลางใด ๆ จะเกิดปรากฏ
การที่เรียกว่า Beer’s law คือ ความเข้มข้นของแสงจะลดลงอย่าง
ผกผันกับระยะทาง และความหนาแน่นของชั้นตัวกลาง
I1 = I0 ln KL
เมื่อรังสีดวงอาทิตย์เดินทางผ่านชั้นตัวกลางอาจเกิดปรากฏการ
หลายอย่าง ได้แก่ การส่องผ่าน (Penetration หรือ Transmittion)
การสะท้อน (Reflection) การฟ้ ่งกระจายหรือการกระเจิง
(Scattering) การเปลี่ยนเป็ นรังสีคลื่นยาว (Fluorescence) หรือ
เปล่งความร้อน (Heating) การระเหยของนำ้า (Heat of water
evaporization) และการถ่กด่ดซับ (Absorbtion) โดยตัวกลางนั้ น
ๆ (ด่ภาพประกอบ)
อธิบายการวิเคราะห์การเจิญเติบโตของพืชปล่กโดยใช้ค่า
radiation use efficiency
การสร้างมวลชีวของพืชเป็ นผลจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ลบด้วยการหายใจ การตาย และการเคลื่อนย้ายชีวมวลออกจากต้น
พืชนั้ น ๆ ดังสมการ
DW = Pn - Res - Dead loss - Translocation loss
หากพืชนั้ นมีค่าการส่ญเสียโดยการตาย และการเคลื่อนย้ายชีวมวล
น้อยมาก ดังนั้ นอาจจะจะประเมินการสร้างนำ้าหนั กแห้งของต้นพืช
ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเป็ นหลัก หรือกล่าวได้ว่าชีว
มวลของพืชเป็ นผลมาจาก ปริมาณพลังงานในรังสีดวงอาทิตย์ท่ีพืช
ด่ดซับ ค่ณด้วยประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานเหล่านี้ ให้เป็ น
ชีวมวลหรือนำ้าหนั กแห้งของพืขชนั้ น ๆ ค่าหลังนี้ คือ Radiation
12
Q&A.doc
13
Q&A.doc
14
Q&A.doc
15
Q&A.doc
อธิบายว่าแสงมีบทบาทอย่างไรต่อการยืดของลำาต้น
16
Q&A.doc
17
Q&A.doc
18
Q&A.doc
องค์ความร้่ไปใช้ให้เป็ นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาของการเกษตร
หรือการทำางานนั้ นอาศัยทั้งองค์ความร้่ร่วมกับประสบการณ์ ความ
เข้าใจในเหต่และผลแห่งธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความยัง่ ยืนของ
มน่ ษย์หรือช่มชน เราเรียกว่า ภ่มิปัญญา ซึ่งนายกรัฐมนตรีของ
อินเดียใช้คำาว่า traditional knowledges
อธิบาย growth stage ของถัว่ ลิสง
Stage Abbreviation Description
title
Vegetative stages
V-E Emergence บางส่วนของใบเลี้ยง (cotyledon) เริม
่
โผล่พ้นผิวดิน
V-0 - ใบเลี้ยงคลี่กางออก (อาจเกิดใต้ผิวดิน
ก็ได้)
V-1 First มีใบจริง (tetrafoliate leaflets) ที่ข้อ
tetrafoliate แรกของลำาต้นหลัก คลี่กางออกแล้ว
V-n Additional V การพัฒนาของข้อที่ n บนลำาต้นหลัก
stages โดยข้อนั้ นมีใบจริงคลี่กางออกแล้ว
Reproductive stages
R-1 Beginning ดอกแรก (บนข้อใดก็ได้) เริม
่ บาน
bloom
R-2 Beginning เข็มแรกเริม
่ ยืดยาว (elongation) และ
peg แทงลงดิน
r-3 Beginning ฝั กแรกบนเข็มที่แทงลงดิน เริม
่ พอง
pod ออกเป็ นสองเท่าของขนาดเข็ม
19
Q&A.doc
20