Professional Documents
Culture Documents
โรงเรียนกวดวิชาครูสมชาย
BIOLOGY
จากรูปหัวใจ
A. เลือดในหลอดเลือดหมายเลข 1 เป็นเลือดที่มี
ออกซิเจนมาก
B. หลอดเลือดหมายเลข 2 นำเลือดไปปอด
C. ลิ้นไตรคัสปิดเป็นลิ้นหัวใจที่กั้นระหว่างห้องหัวใจ
หมายเลข 3 และหมายเลข 4
D. หลอดเลือดหมายเลข 5 นำเลือดจากหัวใจและ
แขนเข้าสู่หัวใจ
ข้อใดถูก
1. A B และ C 2. A B และ D 3. A B C และ D 4. C และ D 5. B และ C
CHEMISTRY
1. R X และ Z เป็ นสัญลักษณ์สมมติของธาตุ 3 ชนิด
R มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์เป็ น 115R อะตอม X มี 10 อิเล็กตรอนและ 10 นิวตรอน
ส่วน Z มีเลขอะตอมมากกว่า X อยู่ 1 และมีนิวตรอนเป็ น 2 เท่าของ R
ข้อใดถูกต้อง
1. Z มีเลขมวล 22
2. R มี 11 นิวตรอน
3. X มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์ 2010X
4. เลขมวลของ Z เท่ากับเลขอะตอมของ R
5. จานวนโปรตอนในอะตอมของ 3 ธาตุน้ ีรวมกันเท่ากับ 28
ก. มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 18 18 8 1
ข. ทำปฏิกิริยากับน้ำได้รุนแรงกว่าโซเดียม
ค. มี 55 นิวตรอน
ข้อสรุ ปใดถูกต้อง
1. ก
2. ข
3. ค
4. ก และ ข
5. ข และ ค
ธาตุ A D E X
หมู่ VIA IA IIIA IVA
คาบ 2 3 3 6
การระบุสมบัติของธาตุในข้อใดถูกต้อง
1. ทุกธาตุนาไฟฟ้าได้
2. D มีความเป็ นโลหะมากกว่า E
3. X เป็ นธาตุก่ ึงโลหะ จึงนาไฟฟ้าได้นอ้ ย
4. อะตอม X มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากที่สุด ส่วนอะตอม A มีมวลน้อยที่สุด
5. A มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนจานวนมาก จึงมีแนวโน้มจะให้อิเล็กตรอนได้ง่ายเมื่อเกิดสารประกอบ
5. กาหนดเลขอะตอมของธาตุต่างๆดังนี้
ธาตุ L M R ออกซิเจน(O) ฟลูออรี น(F)
เลขอะตอม 16 19 31 8 9
4. Q+ ไอออนมีจานวนอิเล็กตรอนเท่ากับนิวตรอน
5. L- ไอออนกับธาตุ M มีจานวนอิเล็กตรอนเท่ากัน
7. การระบุหมู่และคาบของธาตุที่มีเลขอะตอมต่อไปนี้ ข้อใดไม่ถูกต้อง
เลขอะตอม หมู่ คาบ
1. 11 IA 3
2. 10 VIIIA 3
3. 7 VA 2
4. 5 IIIA 2
5. 8 VIA 2
1.
2.
3.
4.
5. 10. ธาตุสมมติ A B C D E F G เป็ นธาตุ ที่ อ ยู่ ใ นคาบเดี ย วกั น ของตารางธาตุ
เรี ยงลาดับตั้งแต่หมู่ IA ถึงหมู่ VIIA ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (ปี การศึกษา 2558)
1. ความเป็ นโลหะของ A < B < C
2. ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยากับน้ าของ C < B < A
3. ความเป็ นอโลหะของ G < F < E < D
4. B มีจานวนระดับพลังงานของอิเล็กตรอนมากกว่า F
5. A มีจานวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากกว่า G
17. จากข้อมูลต่อไปนี้
ก. ธาตุ W แผ่รังสี แอลฟาเพื่อลดพลังงานส่วนเกินในนิวเคลียส
ข. ธาตุ X เกิดปฏิกิริยาเคมีกบั ธาตุ Y เกิดเป็ นสารประกอบ Z คายพลังงานความร้อน
ค. ธาตุ M ให้รังสี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อลดพลังงานส่วนเกินในนิวเคลียส
ง. ธาตุ A รวมกับธาตุ B เกิดเป็ นสารละลาย AB คายพลังงานความร้อน
ข้อใดเป็ นธาตุกมั มันตรังสี
1. ข และ ก 2. ง และ ค 3. ง และ ข 4. ค และ ก
21. พิจารณากิจกรรมต่อไปนี้
ก. การเผาไหม้ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
ข.การระเหยของตัวทาละลายที่เป็ นผลิตภัณฑ์จากการกลัน่ น้ ามันดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี
ค.การใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ง.การใช้แก๊สโซฮอล์ อี 85 เป็ นเชื้อเพลิงในเครื่ องยนต์แทนน้ ามันเบนซิน
กิจกรรมใดที่ส่งผลกระทบทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
1. ก และ ง
2. ข และ ค
3. ก และ ค
4. ค และ ง
5. ข และ ง
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. A มีความหนาแน่นมากกว่า B
2. B มีความเหนียวมากกว่า A
3. A มีจุดหลอมเหลวสูงกว่า B
4. B มีความยืดหยุน่ มากกว่า A
5. พลาสติกที่เป็ นผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ A และ B เป็ นพลาสติกเทอร์มอเซต
ผลิตภัณฑ์จากพลาสติกชนิดที่ 1 ผลิตภัณฑ์จากพลาสติกชนิดที่ 2
1. ขวดแชมพู แผ่นฟิ ลม์ ห่ออาหาร
2. กล่องโฟมใส่อาหาร ขวดแชมพู
3. แผ่นฟิ ลม์ ห่ออาหาร ถ้วยเมลามีน
4. ถ้วยเมลามีน หูกระทะ
5. หูกระทะ กล่องโฟมใส่อาหาร
ข้อใดระบุชนิดของอาหารทั้ง 4 ชนิดที่นามาทดสอบโดยถูกต้อง
A B C D
ข้าวกล้อง น่องไก่ น้ าเชื่อมจากข้าวโพด เนยเทียม
ข้าวกล้อง เนยเทียม น้ าเชื่อมจากข้าวโพด น่องไก่
น้ าเชื่อมจากข้าวโพด น่องไก่ ข้าวกล้อง เนยเทียม
น้ าเชื่อมจากข้าวโพด เนยเทียม ข้าวกล้อง น่องไก่
ข้อสรุ ปใดไม่ถูกต้อง
1. น้ ามัน A มีกรดไขมันอิ่มตัวมากที่สุด
2. น้ ามัน D และ E ไม่เหมาะสาหรับทาอาหารประเภททอด
3. น้ ามัน B C และ F มีค่าร้อยละของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเท่ากัน
4. น้ ามัน A – F แช่ในตูเ้ ย็น น้ ามันทุกชนิดไม่แข็งตัว ยกเว้นน้ ามัน A
5. การทาเนยเทียม น้ ามัน A ต้องเติมไฮโดรเจนมากกว่าน้ ามันชนิดอื่น
จากข้อมูล ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. น้ ามัน A มีจุดหลอมเหลวต่ากว่าน้ ามัน E
2. น้ ามัน C มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวน้อยกว่าน้ ามัน D
3. น้ ามัน E เหม็นหืนช้ากว่าน้ ามัน C ที่อุณหภูมิสูง
4. น้ ามัน D มีโอกาสพบในน้ ามันพืชมากกว่าน้ ามัน B
5. น้ ามัน A มีโอกาสเป็ นของแข็งมากกว่าน้ ามัน B ที่อุณหภูมิห้อง
31. เมื่อร่ างกายย่อยอาหารต่อไปนี้จนสิ้นสุดจะได้รับสารอาหารตามข้อใด
2 แล็กโทส + 3 ซูโครส ย่อยสลายจนสิ้นสุด
1. 5 กลูโคส + 3 ซูโครส 2. 5 กลูโคส + 3 กาแล็กโทส
3. 2 กลูโคส + 3 ฟรักโทส + 2 กาแล็กโทส 4. 5 กลูโคส + 3 ฟรักโทส + 2 กาแล็กโทส
32. ธาตุ D E และ M อยูค่ าบที่ 3 ในตารางธาตุ เมื่อเกิดเป็ นสารประกอบ DE2 และ ME เขียนแผนภาพแสดงการ
เกิดพันธะ ได้ดงั นี้
จากข้อมูล สมบัติของธาตุและสารประกอบในข้อใดถูกต้อง
1. สารประกอบ ME เป็ นของแข็งที่นาไฟฟ้าและนาความร้อนได้ดี
2. ธาตุ E มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเคลือ่ นที่อย่างอิสระทาให้นาไฟฟ้าได้ดี
3. ธาตุ D สามารถสร้างพันธะโคเวเลนต์ พันธะไอออนิก และพันธะโลหะ
4. สารประกอบ DE2 มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูงกว่าสารประกอบ ME
5. ธาตุ E เมื่อเกิดเป็ นสารประกอบทั้งสองชนิดจะมีการจัดเรี ยงอิเล็กตรอนเป็ น 2 8 8
34. พิจารณาสมการเคมีต่อไปนี้
2H2O2 (l) 2a + b
C3H8 (g) + 5b 3c + 4a
D + 8b 5c + 6a
2e Na2CO3 (s) + a + c
จากสมการเคมี สูตรเคมีของสารในข้อใดถูกต้อง
1. สาร a คือ O2
2. สาร b คือ H2
3. สาร c คือ CO2
4. สาร d คือ C5H10
5. สาร e คือ Na2C2O4
36. หิ น ปู น ท าปฏิ กิ ริ ย ากับ สารละลายกรดไฮโดรคลอริ ก เกิ ด แก๊ ส คาร์ บ อนไดออกไซด์ (CO2) สารละลาย
แคลเซียมคลอไรด์ และน้ า โดยข้อมูลที่ได้จากการทดลองเป็ นดังตาราง (ปี การศึกษา 2558)
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. เวลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ส CO2 ทุก ๆ 1 cm3 มีค่าไม่เท่ากัน
2. อัตราการเกิดแก๊ส CO2 ในช่วง 2-3 cm3 มีค่ามากกว่าในช่วง 4-5 cm3
3. อัตราการเกิดแก๊ส CO2 ทุก ๆ 1 cm3 มีค่าเพิม่ ขึ้น
4. เวลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ส CO2 ในช่วง 1-2 cm3 มีค่าน้อยกว่าในช่วง 2-3 cm3
5. อัตราการเกิดแก๊ส CO2 เฉลี่ยนเท่ากับ 0.011 cm3s-1
37. เมื่อนาเอทานอล (C5H5OH) 50 cm3 (ความหนาแน่น 0.8 g/cm3) ละลายน้ า 200 cm3 จะได้สารละลายที่มี
ความเข้มข้นเท่าใดในหน่วยร้อยละโดยมวลต่อปริ มาตร
1. 16 % โดยมวลต่อปริ มาตร 2. 16.67 % โดยมวลต่อปริ มาตร
3. 20 % โดยมวลต่อปริ มาตร 4. 31.25 % โดยมวลต่อปริ มาตร
PHYSICS
1. (O-NET ม.3) วัตถุกำลังเคลื่อนที่ไปทางขวาบนพื้นโดยการลากด้วยแรง F ขณะที่วัตถุเคลื่อนที่เกิดแรงเสียด
ทาน f กระทำต่อวัตถุตลอดเวลา ดังภาพ
แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นเป็นแรงเสียดทานประเภทใด และการกระทำใดที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานมีค่าเพิ่มขึ้น
ตามลำดับ
1. แรงเสียดทานสถิต เพิ่มมวลของวัตถุ
2. แรงเสียดทานสถิต เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสของวัตถุ
3. แรงเสียดทานจลน์ เพิ่มมวลของวัตถุ
4. แรงเสียดทานจลน์ เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสของวัตถุ
สภาพของพื้นถนน แรงเสียดทานระหว่างล้อกับพื้นถนน
1. พื้นแห้ง แรงเสียดทานจลน์
2. พื้นแห้ง แรงเสียดทานสถิต
3. พื้นเปียก แรงเสียดทานจลน์
4. พื้นเปียก แรงเสียดทานสถิต
5.
6.
7. จากรูป จงหาแรงลัพธ์
12 N
10 N
4√2
1. 2N N
2. 6N
3. 10 N
4. 14 N
8. มวล 10 และ 15 กิโลกรัม วางบนพื้นฝืด ต่อกันด้วยเชือกเบา ออกแรง 300 นิวตัน ดึงในแนวราบทำ ให้ระบบมี
ความเร่งคงที่ สัมประสิทธิ์ของความเสียดทานจลน์มีค่า 0.5 จงหาความเร่งของระบบ
1. 7 เมตร/วินาที2 2. 5 เมตร/วินาที2
3. 3 เมตร/วินาที2 4. 1 เมตร/วินาที2
3 kg T = 18 N 2 kg
F=?
1. 20 N
2. 30 N
3. 40 N
4. 50 N
1. 1 เมตร/วินาที2
2. 2 เมตร/วินาที2
3. 3 เมตร/วินาที2
4. 4 เมตร/วินาที2
A 14 m B 7m
C D
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
13. (O-NETม.6 ปี 61) วัตถุหนึ่งกำลังเคลื่อนที่เป็นแนวตรงบนพื้นราบ ที่เวลา t=10 วินาที และ t=30 วินาที วัตถุ
มีอัตราเร็วเท่ากับ 10 เมตรต่อวินาที และ 24 เมตรต่อวินาที ตามลำดับ ดังภาพ
15. กราฟต่อไปนี้ป็นการแสดงการเปลี่ยนแปลงความเร็วตามเวลาของวัตถุหนึ่ง
ข้อใดอธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุนี้ไม่ถูกต้อง
1. มีการเปลี่ยนแปลงทิศการคลื่อนที่ในช่วงวินาทีที่ 4-8
2. ความเร่งในช่วงวินาทีที่ 0-2 คือ 3 m/s2
3. ในวินาทีที่ 6 วัตถุอยู่ไกลจากจุดเริ่มต้นมากที่สุด
4. การกระจัดในช่วงวินาทีที่ 0-8 คือ 32 เมตร
16. รถยนต์แล่นด้วยอัตราเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเมือง ก ไปยังเมือง ข ที่อยู่ห่างกัน 200 กิโลเมตร
ถ้าออกเดินทางเวลา 08.00 น. จะถึงปลายทางเวลาเท่าใด
1. 09.30 น.
2. 09.50 น.
3. 10.30 น.
4. 10.50 น.
5 cm
1. 0.2 m/s
2. 0.5 m/s
3. 1.0 m/s
4. 1.5 m/s
20. เมื่อลากแถบกระดาษผ่านเครื่องเคาะสัญญาณเวลาที่เคาะด้วยความถี่ 50 เฮิรตซ์ ปรากฏจุดบนแถบกระดาษ
เป็นดังรูป จงหาความเร่งที่ตำแหน่ง C
3. 4.
SX
1. 1,000 m
2. 1,500 m
3. 2,000 m
4. 4,000 m
แรงพยุง
25. วัตถุ 3 ชนิด มีปริมาตรเท่ากัน ลอยอยู่ในน้ำ ดังรูป ข้อใดไม่ถูกต้อง
26.
27.
28.
29.
B C
0 0 เวลา
เวลา B
3. อุณหภูมิ 4. อุณหภูมิ
A B A B
D 0
0 เวลา เวลา
C C
38. เมื่อใช้น้ำร้อนมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส มาผสมกับน้ำเย็นมวล 200 กรัม อุณหภูมิ 15 องศา
เซลเซียส อุณหภูมิผสมของน้ำเป็นเท่าใด
1. 10 องศาเซลเซียส
2. 20 องศาเซลเซียส
3. 30 องศาเซลเซียส
4. 40 องศาเซลเซียส
39. ใส่ก้อนอลูมิเนียมมวล 20 กรัม อุณหภูมิ 210 องศาเซลเซียส ลงในน้ำเย็นมวล 200 กรัม อุณหภูมิ 0 องศา
เซลเซียส เมื่อถึงสมดุลความร้อน อุณหภูมิของสารทั้งสองจะเป็นเท่าใด (กำหนดให้ ค่าความจุความร้อน
จำเพาะของอลูมิเนียมเท่ากับ 0.5 แคลอรี/กรัม·องศาเซลเซียส)
1. 10 องศาเซลเซียส
2. 40 องศาเซลเซียส
3. 60 องศาเซลเซียส
4. 100 องศาเซลเซียส
50 kg 50 kg Y
กก.
1. 25 กิโลกรัม
2. 50 กิโลกรัม
3. 75 กิโลกรัม
4. 100 กิโลกรัม
47. คานเบาอันหนึ่งยาว 9 เมตร ที่ปลายทั้งสองข้างมีน้ำหนัก 60 นิวตัน และ 120 นิวตัน แขวนอยู่ อยากทราบว่า
จะต้องแขวนคานไว้ที่ตำแหน่งใด คานจึงจะอยู่ในแนวสมดุล
1. ตำแหน่งห่างจากน้ำหนัก 60 นิวตัน 3 เมตร
2. ตำแหน่งห่างจากน้ำหนัก 120 นิวตัน 3 เมตร
3. ตำแหน่งห่างจากน้ำหนัก 60 นิวตัน 4 เมตร
4. ตำแหน่งห่างจากน้ำหนัก 120 นิวตัน 4 เมตร
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล
52. นายฟักทิ้งขวดมวล 0.5 กิโลกรัม จากหลังคาบ้านครูใหญ่ ซึ่งสูง 12 เมตร ให้ตกอย่างอิสระ ถ้าขวดตกลงมาได้
ทาง 1/3 ของทางทั้งหมด จะมีพลังงานจลน์เท่าใด
1. 20 จูล
2. 40 จูล
3. 60 จูล
4. 80 จูล
54. จากรูป รถมวล 4 กิโลกรัม มีความเร็ว 2 เมตรต่อวินาที เข้าชนสปริงซึ่งมีค่านิจ 400 นิวตัน/เมตร สปริงจะหด
สั้นที่สุดเท่าใด ถ้าพื้นไม่มีความฝืด
1. 0.1 เมตร
2. 0.2 เมตร
3. 0.3 เมตร
4. 0.4 เมตร
แสงและทัศนอุปกรณ์
55 กระจกเงาเว้ารัศมี R มีแกนมุขสำคัญตามแนว X และขั้นกระจกอยู่ที่ x = 0 รูปใดต่อไปนี้แสดงการเกิดภาพ
ของวัตถุเนื่องจากการสะท้อนกระจกเงาเว้านี้ได้อย่างถูกต้อง
พิจารณาตารางบันทึกผลการทดลองการเกิดภาพของเลนส์นูนต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 56-57
ระยะวัตถุ (cm) ขนาดภาพ ชนิดภาพ
3 ใหญ่กว่าวัตถุ ภาพเสมือนหัวตั้ง
6 ไม่สามารถวัดได้ ไม่สามารถระบุชนิดได้
9 ใหญ่กว่าวัตถุ ภาพจริงหัวกลับ
12 เท่ากับวัตถุ ภาพจริงหัวกลับ
18 เล็กกว่าวัตถุ A
56. เลนส์นูนอันนี้มีความยาวโฟกัสเท่าไร
1. 3 เซนติเมตร
2. 6 เซนติเมตร
3. 7.5 เซนติเมตร
4. 18 เซนติเมตร
63. ข้อใดถูกต้อง
1. เลนส์นูน-เกิดภาพจริงหัวกลับเท่านั้น
2. เลนส์เว้า-เกิดภาพเสมือนหัวตั้งและภาพจริงหัวกลับ
3. กระจกนูน-เกิดภาพเสมือนหัวตั้งเท่านั้น
4. กระจกเว้า-เกิดภาพเสมือนหัวกลับและภาพจริงหัวกลับ
64.
65.
66.
ไฟฟ้า
67.
68.
69.
การคำนวณหาจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ไปและเงินค่าไฟฟ้า