Professional Documents
Culture Documents
โดย
นายธน ธนธารงกุล
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนปิยะบุตร์
สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๕
ธาตุและสารประกอบในอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมแร่ อุตสาหกรรมการผลิตโซดาไฟ อุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ย
อุตสาหกรรมเซรามิก และปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมการผลิตสารฟอกขาว อุตสาหกรรมการผลิตผงชูรส
อุตสาหกรรมการผลิตเกลือแกง อุตสาหกรรมการผลิตโซดาแอช
อุตสาหกรรมแร่
แร่ (minerals) หมายถึ ง ธาตุ หรื อ สารประกอบที่เกิ ดขึ้น เองตามธรรมชาติ มักอยู่ในรูป สารประกอบ,
ออกไซด์, ซัลไฟด์, คาร์บอเนต, ซัลเฟต
สินแร่
แร่ประกอบหิน แร่เศรษฐกิจ
การผลิตแร่เซอร์โคเนียม (Zr)
สินแร่ที่ขุดพบ: ZrSiO4 (เซอร์คอน)
กระบวนการผลิต:
ZrSiO4 + Na2O 100°C Na2ZrSiO3 H2SO4 Zr(SO4)2 NH3 Zr(OH)4 ∆ ZrO2
ประโยชน์: ZrO2 ใช้เป็นผงขัดและวัสดุทนไฟ
อุตสาหกรรมเซรามิกส์และปูนซีเมนต์
1. อุตสาหกรรมเซรามิก
หมายถึง: ผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบธรรมชาติมาผสมปั้นเป็นรูป แล้วเผาเพื่อทาให้เนื้อวัสดุแข็งแรงคงรูปได้
วัตถุดิบที่ใช้: ดินเหนียว เฟลด์สปาร์, ควอตซ์ เป็นหลัก
วัตถุดิบเพิ่มคุณภาพ: แร่ดิกไคต์, โดโลไมต์, Al2O3, ZrO2, SiO2
การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์: ทาได้หลายวิธี เช่น การใช้แป้นหมุน, ใช้เครื่องปั้นรูป, อัดเนื้อดินลงแบบโลหะ, การเทแบบ
สารมลพิษ: ตะกั่วใช้เป็นตัวทาละลายในขั้นตอนเคลือบติดให้สีสดใส เมื่อใส่อาหารร้อน Pb จะละลายปนออกมา
สรุปขั้นตอนการทาเซรามิก:
เตรียมวัตถุดิบ บดร่อน เลือกวิธีการขึ้นรูป เผาดิบ นาไปใช้งาน
ผสมกับน้า จนได้ ให้เหมาะสมกับการ
“น้าดิบ” นาไปใช้งาน เผาดิบ เคลือบ นาไปใช้งาน
2. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
หมายถึง: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการบดเม็ดปูนให้เป็นผง โดยเม็ดปูนเกิดจากการผสมกันของแคลเซียมคาร์บอเนต
(CaCO3), ซิลิกา (SiO2), อะลูมินา (Al2O3) และออกไซด์ของเหล็ก (Fe2O3) ในสัดส่วนที่เหมาะสม
วัตถุดิบที่ใช้: แบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก คือ เนื้อปูน, เนื้อดิน, วัตถุปรับปรุงคุณภาพ และสารเติมแต่ง
สารมลพิษ: ฝุ่นที่เกิดจากการบดเม็ดปูน มีแร่ยิปซัมเป็นองค์ประกอบ เป็นอันตรายต่อปอดอย่างมาก
สรุปขั้นตอนการทาเซรามิก: มี 2 วิธี ดังนี้
1) การเผาเปียก คือ การนาวัตถุดิบที่บดละเอียดมาคลุกเคล้า กับน้าจนได้ “น้าดิน” แล้วจึงนาไปเผา ใช้เมื่อ
วัตถุดิบมีความชื้นสูง การเผาเปียกจะทาให้เกิดฝุ่นน้อยกว่า แต่ต้นทุนในการเผาจะสูงขึ้นอย่างมาก
2) การเผาแห้ง คือ การนาวัตถุดิบที่บดละเอียดไปเผาทันทีโดยไม่คลุกรวมกับน้า ใช้เมื่อวัตถุดิบมีความชื้นต่า
การเผาแห้งประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเผาเปียก แต่เกิดฝุ่นมากกว่า
การนาปูนซีเมนต์ไปใช้ประโยชน์ : ปูนซีเมนต์เมื่อผสมกับน้า CaSO4 จะรวมตัวกับน้าเกิด เป็นสารประกอบ
CaSO4 • 2H2O ซึ่งเป็นของแข็งที่ทนต่อแรงอัดสูง จึงใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้าง โดยผสมปูนซีเมนต์กับทรายและหิน
แล้วผสมน้าในอัตราส่วนต่าง
ประเภทของปูนซีเมนต์: แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ปูน ซีเ มนต์ ปอร์ ต แลนด์ คือ ปู นซี เ มนต์ ที่ได้จากเม็ดปูนบด 100% ใช้กับงานที่รับแรงอัดมาก แบ่งได้ 5
ประเภท ตามการใช้งาน
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 1 : ใช้ทาคอนกรีตสร้างบ้านธรรมดา
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 2 : ใช้ทาคอนกรีตที่ทนการกัดกร่อนของซัลเฟตและความร้อน
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 3 : ใช้ทาคอนกรีตทนแรงบีบอัดสูง
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 4 : ใช้ทาคอนกรีตโครงสร้างหนา (สร้างเขื่อน)
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 5 : ใช้ทาคอนกรีตทนซัลเฟตสูงมาก (ก่อสร้างในทะเล)
2) ปูนซีเมนต์ผสม คือ ปูนซีเมนต์ที่ได้จากการผสมเม็ดปูน 75% เข้ากับทรายละเอียด 25% ใช้สาหรับงานที่ไม่
ต้องรับน้าหนักมาก เช่น งานฉาบ, เทพื้น, หล่อท่อ, กระเบื้องมุงหลังคา
2. ผลิตจากแหล่งน้าผิวดินหรือใต้ดิน (เกลือสินเธาว์)
ผลิตจากหินเกลือซึง่ มีแร่เฮไลต์ (NaCl) เป็นองค์ประกอบ หรือผลิตจากน้าบาดาลที่มีเกลือละลายอยู่มาก
กระบวนการผลิต: ละลายหินเกลือให้อยู่ในรูปสารละลาย กรองตะกอนและดินโคลนออก จากนั้นตากน้าเกลือ
ให้แห้ง
ปัญหาจากการทาเกลือสินเธาว์ : การทาเกลือสินเธาว์จากน้าบาดาล จะทาให้เกิดการยุบตัวของหน้าดิน และ
การตากเกลือทาให้เกิดปัญหาเกลือปนเปื้อนในแหล่งน้าจืด หรือปนลงไปในหน้าดิน
สรุปความแตกต่างของเกลือ
เกลือสมุทร เกลือสินเธาว์
มีปริมาณ NaCl ต่ากว่า ใช้ในการบริโภค มีปริมาณ NaCl สูงกว่า ใช้ในอุตสาหกรรม
มี MgSO4, MgCl2, CaCl2, CaSO4 เจือปนน้อย ชื้นง่าย มี MgSO4, MgCl2, CaCl2, CaSO4 เจือปนน้อย
เหมาะแก่การบริโภค เพราะมีไอโอดีนสูง ไม่เหมาะแก่การบริโภค เพราะมีไอโอดีนต่า
อุตสาหกรรมการผลิตโซดาแอช
1. โซดาแอช คือ โซเดียมคาร์บอเนต (Na2CO3) บางครั้งอาจเรียกว่า โซดาซักผ้า
2. สารตั้งต้น: CaCO3(s), NH3(aq), NaCl(s)
3. การเตรียม:
กระบวนการโซลเวย์ (Solvay process)
CaCO3 CaO + CO2
CaO + H2O Ca2+ + 2OH-
NH3 + H2O + Na+ + Cl- + CO2 NaHCO3(s) + NH4+ + Cl-
2NaHCO3(s) Na2CO3(s) + H2O + CO2
NaCl(aq)
NaCl
NaCl NaOH
NaOH + NaCl
Anode Cathode
Diaphragm
An: โลหะไทเทเนียม 2Cl- Cl2 + 2e-
Cat: เหล็กกล้า 2H2O + 2e- H2 + 2OH-
สารที่เคลื่อนที่ผ่านไดอะแฟรม: Na+, Cl-
ข้อดี: ได้ NaOH ปริมาณมากกว่าใช้เยื่อแลกเปลี่ยน ข้อเสีย: NaOH มี NaCl ปนเปื้อนมาก
2. การผลิตโดยใช้เยื่อแลกเปลี่ยนไอออน (Ion-exchange membrane)
+ –
Cl2 H2
NaCl
เข้มข้น + H2O
Na
+
-
Cl Na OH
-
NaOH + NaOH
เจือจาง Na เข้มข้น
Anode Cathode
Membrane
An: โลหะไทเทเนียม 2Cl- Cl2 + 2e-
Cat: เหล็กกล้า 2H2O + 2e- H2 + 2OH-
สารที่เคลื่อนที่ผ่านเยือ่ แลกเปลี่ยน: Na+
ข้อดี: ได้ NaOH ที่บริสุทธิ์กว่าแบบไดอะแฟรม
โดย ครูอาร์ม :: Djehuti ARM กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนปิยะบุตร์ จ.ลพบุรี
เอกสารสรุปบทเรียน เรื่อง “ธาตุและสารประกอบในอุตสาหกรรม” ห น้ า | 8
น้าออก น้าเข้า
Na + Hg
Anode ปั๊มน้า
Cl2
น้าเกลือออก น้าเกลือเข้า
Hg (Cathode)
An: โลหะไทเทเนียม 2Cl- Cl2 + 2e-
Cat: ปรอทเคลือบโซเดียม (โซเดียมอะมัลกัม) Na+ + e- Na(s) และ Na + Hg Na(Hg)x(l)
เมื่อผ่านสารประกอบ Na(Hg)x ไปทาปฏิกิริยากับน้าบริสุทธิ์ จะเกิดปฏิกิริยา: Na(Hg)x + H2O NaOH + xHg + H2
ข้อดี: ได้ NaOH ที่ไม่มี NaCl ปนเปื้อน ข้อเสีย: เกิดสารปนเปือ้ น Hg ทาให้เกิดโรคมินามาตะ
อุตสาหกรรมการผลิตสารฟอกขาว (Bleach)
1. สารฟอกขาว หมายถึง สารประกอบจาพวกไฮโปคลอไรต์ เช่น NaOCl, Ca(OCl)2, Mg(OCl)2
2. กระบวนการเตรียม: ผ่านแก๊ส Cl2 ลงใน NaOH เย็น
3. สมการเคมี: Cl2 + 2NaOH NaCl + NaOCl + H2
4. ประโยชน์: ใช้เป็นสารฟอกขาว, ใช้เป็นสารฆ่าเชื้อโรค, ฟอกเยื่อกระดาษ
อุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ย (Fertilizer)
ธาตุอาหารที่สาคัญในปุ๋ย ได้แก่ N (เร่งใบ ลาต้น), P (เร่งดอก ผล), K (เร่งราก)
1. ประเภทของปุ๋ย
1) ปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยเทศบาล) ได้แก่ ปุ๋ยหมัก และ ปุ๋ยคอก
ข้อดี: ดินร่วนซุย น้าและอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อเสีย: พืชได้รับธาตุอาหารไม่ครบถ้วน
2) ปุ๋ยอนินทรีย์ (ปุ๋ยเคมี/ปุ๋ยวิทยาศาสตร์) ได้แก่ ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต, ปุ๋ยยูเรีย, ปุ๋ยฟอสเฟต, ปุ๋ยโพแทสเซียมไนเตรต
ข้อดี: พืชได้รับธาตุอาหารที่ครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการ
ข้อเสีย: ดินเสื่อมสภาพ ส่วนใหญ่เป็นกรด และแข็งตัวไม่ร่วนซุย
2. การผลิตปุ๋ยวิทยาศาสตร์
1) ปุย๋ แอมโมเนียมซัลเฟต ให้ธาตุ N สูตรของปุ๋ยผสม
2NH3 + H2SO4 (NH4)2SO4 เป็นตัวเลขแสดงอัตราส่วนร้อยละโดย
2) ปุย๋ ยูเรีย ให้ธาตุ N น้าหนักของธาตุหลัก (N – P – K) ที่
2NH3 + CO2 NH2CO2NH4NH2CO2NH4 NH2CONH2 + H2O มีอยู่ในปุ๋ยชนิดนั้นๆ เช่น ปุ๋ยสูตร 16
3) ปุย๋ ซูเปอร์ฟอสเฟต ให้ธาตุ P – 20 – 20 จะมีธ าตุ N อยู่ 16% P
CaF2 • 3Ca3(PO4)2 + 10H2SO4 6H3PO4 + 10CaSO4 + 2HF 20% และ K 20% หรือ ปุ๋ยสู ตร 15
CaF2 • 3Ca3(PO4)2 + 14H2SO4 10Ca(H2PO4)2 + 2HF – 0 – 0 คื อ ปุ๋ ย ที่ มี เ ฉ พ า ะ ธ า ตุ
4) ปุย๋ โพแทสเซียมซัลเฟต ให้ธาตุ K ไนโตรเจนอยู่ 15% เพียงเท่านั้น
K2SO4 • 2MgSO4 + 4KCl 2MgCl2 + 3K2SO4
5) ปุย๋ โพแทสเซียมไนเตรต ให้ธาตุ K
KCl + NaNO3 NaCl + KNO3
3. ปุย๋ เดี่ยวและปุ๋ยผสม
1) ปุ๋ยเดี่ยว หมายถึง ปุ๋ยที่มีสารประกอบที่มีธาตุอาหารเพียงชนิดเดียว เช่น ปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยฟอสเฟต ปุ๋ยโพแทสเซียม
2) ปุ๋ยผสม หมายถึง ปุ๋ยที่เกิดจากการผสมปุ๋ยเดี่ยวเข้าด้วยกันในอัตราส่วนต่างๆ ตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด