You are on page 1of 16



ปี ที่ 5 ฉบับที่ 1 กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2554


ไม่ ใส่หมวกกันน็อก
ไม่ ได้น็อกคนเดียว
ทุ ก ๆ ปี 5,000 คน ที่ ป ระสบอุ บั ติ เ หตุ ไ ม่ ส ามารถช่ ว ยเหลื อ ตั ว เองได้ อี ก ต่ อ ไป กลายเป็ น
ภาระแสนสาหั ส ของครอบครั ว อย่ า เสี่ ย งเป็ น 1 ในนั้ น ใส่ ห มวกกั น น็ อ กทุ ก ครั้ ง ที่ ขั บ ขี่

accident.or.th

อุ บั ติ เ หตุ มิ ใ ช่ เ วรกรรม “ตั้ ง สติ . ..ก่ อ นสตาร์ ท ”


www.accident.or.th

 << หน้าแรก >>

ถ้ารักคือการให้ แล้วคุณให้คนที่คุณรัก
ชีวิตบนท้องถนนเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความ
เสี่ยง ประมาทเมื่อใดก็อาจบาดเจ็บและเสีย
สวมหมวกนิรภัยแล้วหรือยัง?
ชีวิตได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะผู้ที่ขี่รถจักร-
ยานยนต์ที่ไม่มีอะไรป้องกันร่างกายเลยหาก
“รักคือการให้” เรามักจะได้ยินประโยคนี้อยู่เสมอ
และสามารถรับรู้ได้ถึงความรัก ความปรารถนาดี ความ
ห่วงใย ที่อีกคนส่งไปยังอีกคนหนึ่ง แล้ววันนี้คุณได้ให้
เกิดอุบัติเหตุ จะมีก็เพียงหมวกนิรภัยเพียง อะไรกับคนที่คุณรักแล้วหรือยัง แน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึงคน
สิ ่ ง เดี ย วที ่ จ ะช่ ว ยป้ อ งกั น อั น ตรายบริ เ วณ ที ่ ค ุ ณ รั ก ไม่ ว ่ า จะเป็ น ครอบครั ว เพื ่ อ นฝู ง คุ ณ ก็ ย ่ อ ม
ศีรษะ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญ อยากเห็นเขามีชีวิตที่ดี อยากอยู่กับเขาไปตลอด ถึง
ต้องยอมรับว่าบนถนนวันนี้เต็มไปด้วย เวลาแล้วที่คุณต้องให้ความรักผ่านหมวกนิรภัยกับคนที่
รถจักรยานยนต์ที่วิ่งกันขวักไขว่ ทั้งที่ขี่โดย
คุณรัก
วัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัวพ่อแม่ลูก แต่ เราคงทราบกันดีว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เราคาดเดา
ล่วงหน้าไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด เกิดขึ้นที่ไหน และเกิดขึ้นกับใคร คุณคงจะปฏิเสธไม่
ได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่คุณรัก หรือแม้กระทั่งตัวคุณเองก็ยังต้องโดยสารหรือขับขี่รถ

รู้ด ี จักรยานยนต์อยู่ แล้วคุณให้ความสำคัญกับการป้องกันการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจาก


อุบตั เิ หตุจากรถจักรยานยนต์มากเพียงใด หากคุณคิดว่ามันเป็นเรือ่ งไกลตัว คงไม่เกิดขึน้

กับเราหรือคนใกล้ชิดเราหรอก คุณคงคิดผิดที่สุด เพราะปัจจุบันปัญหาสถานการณ์
ความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะการบาด
แล้วต้อง เจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพราะรถจักรยานยนต์ ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า 3
ใน 4 ของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเกิดจากรถจักรยานยนต์ และ
ลงมือ ครึ่งหนึ่งนั้นได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่
ประสบอุบัติเหตุแล้วเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมีการสวมหมวกนิรภัยที่ต่ำมาก

ทำดี คือ ผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 14 ส่วนผู้นั่งซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยเพียงร้อยละ 4.7


ส่วนเด็กและวัยรุ่นสวมหมวกนิรภัยในอัตราที่ต่ำกว่าผู้ใหญ่
คุณรู้หรือไม่ว่ารัฐบาลเขาก็รักและห่วงใยประชาชนไม่น้อย เพราะได้เล็งเห็นถึง
ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่าง
น่าเสียดายที่ผู้ขี่จักรยานยนต์หรือมอเตอร์- มหาศาล ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบในการ
ไซค์จำนวนมาก ยังประมาทและไม่ตระหนัก กำหนดให้ พ.ศ. 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และ
ถึงความปลอดภัยของตัวเองอย่างจริงจัง จึง กำหนดให้ปี พ.ศ. 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100
เคยชินที่จะไม่สวมหมวกนิรภัย แม้จะรู้ว่าผิด เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้เป็นอย่างมาก จึงอยากให้ประชาชน
กฎหมาย แม้จะเคยเห็นภาพสยดสยองของ ผู้ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและค่านิยมเสียใหม่ ให้ตระหนัก
มอเตอร์ไซค์คันอื่นที่ไม่สวมหมวกฯ เวลาเกิด ถึงเรื่องความปลอดภัย โดยการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งในขณะขับขี่และโดยสารรถ
อุบัติเหตุ ซึ่งหลายคนจะเกิดสำนึกและเห็น จักรยานยนต์
ความสำคัญของการสวมหมวกฯ หรือความ ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลได้ทำนั้น ก็ทำด้วยความรัก ความห่วงใยประชาชน ไม่อยากให้
เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ จึงมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับผู้ขับขี่
ไม่ประมาท ก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับคน และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ที่จะต้องสวมหมวกนิรภัย หากมีการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติ
ในครอบครัว หรือวงศาคณาญาติ เสียก่อน ตาม จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ขณะที่ผู้ขับขี่ที่มีผู้โดยสารนั่งซ้อนท้าย

แต่ ค วามสู ญ เสี ย ไม่ ส ามารถเรี ย กกลั บ คื น แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย ก็มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท การที่
หรือซ่อมแซมได้เหมือนรถยนต์ การป้องกัน ออกกฎหมายเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการให้ผู้ขับขี่หันมาให้ความสำคัญกับการสวมหมวกนิรภัย
จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะรักษาชีวิตให้ปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง ขณะที่หลายคนก็มีข้ออ้างในใจหลายข้อ อาทิ

และยืนยาว จะสวมทำไมทั้ง 2 คน ให้คนขี่สวมคนเดียวก็พอ ไม่เห็นต้องไปหาซื้อให้วุ่นวาย สวมแล้ว
ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากตาย ไม่อยากสูญเสีย ร้อน สวมแล้วผมยุ่งเสียทรง ไปแค่นี้เองไม่ต้องสวมก็ได้ ช่างมันเถอะอะไรจะเกิดก็ต้อง
ก็จงลงมือปฏิบัติตามกฎจราจรและกฎแห่ง เกิด คิดเสียว่าเป็นเวรกรรม ฯลฯ ถ้าใครคิดว่าทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเหตุผลที่คุณ

จะไม่สวมหมวกนิรภัย คุณคิดว่ามันคุ้มแล้วหรือที่จะเอาชีวิตตัวเองหรือคนที่เรารัก

ความปลอดภัยเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะไม่มี ไปเสี่ยงบนท้องถนน ที่อาจจะเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตได้ง่าย กับเหตุผลที่เป็น


สิ่งใดได้มาฟรีๆ นอกจากลงมือทำจริง เพียงข้ออ้าง
วั น นี้ ยั ง ไม่ ส ายเกิ น ไปที่ ทุ ก คนจะหั น มาให้ ค วามสำคั ญ กั บ คุ ณ ค่ า ชี วิ ต ของ
ตนเอง ด้วยการหยิบหมวกนิรภัยขึ้นมาสวมใส่ให้เป็นนิสัย หรือคอยเตือนให้คนที่รัก
สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะท่านที่มี
บุตรหลานตัวเล็กๆ สิ่งแรกที่ท่านควรทำเพื่อแสดงออกถึงความรักอย่างแท้จริง คือ
(ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม)
การเลือกซื้อหมวกนิรภัยน่ารักๆ ที่ได้มาตรฐานสักใบมามอบให้เขา เพื่อป้องกันการ
ประธานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ บาดเจ็บบริเวณศีรษะซึ่งอันตรายที่สุด
พรหมมินทร์ กัณธิยะ

สำนักงาน :
เครือข่ายลดอุบัติเหตุ ชั้น 1 อาคารราชประชาสมาสัย ผู้อำนวยการสำนักงาน
(Accident Prevention กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พรหมมินทร์ กัณธิยะ
Network)
ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 ผู้ประสานงาน : กษิดิศ ขันธรัตน์
สํานักงานเครือข่ายลดอุบตั เิ หตุ (สคอ.) โทรศัพท์ 0-2588-3769 วรสุดา ชูวงค์ตระกูล
ภายใต้การสนับสนุนของสํานักงาน ชัชฎาภรณ์ ธรรมพานิช
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส.) โทรสาร 0-2580-0518
<< บทความ >> 

ทำไม!!!ต้องสวมหมวกนิรภัย
ปั จ จุ บั น อุ บั ติ เ หตุ บ นท้ อ งถนนเกิ ด ขึ้ น มากมาย จาก
ปริมาณยวดยานพาหนะที่เพิ่มมากขึ้น และส่วนใหญ่ของ
ผู้ประสบเหตุ มักเป็นผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์มากกว่าผู้ที่ขับ
รถยนต์ ด้วยสาเหตุจากความประมาท คึกคะนอง ขับขี่
ยวดยานพาหนะขณะมึนเมา ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น
ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร ย้อนเส้นทาง ฝ่าไฟแดง โดย
เฉพาะอย่างยิ่งคือ การไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งมักทำให้ได้
รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
จากข้อมูลทางการแพทย์ พบว่า ผู้ที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการขี่รถจักรยานยนต์ สาเหตุที่รุนแรงที่สุดคือได้รับบาดเจ็บ

ที่ศีรษะจนโลหิตคั่ง และโอกาสที่จะรอดชีวิตหรือกลับมาเป็นปกติ
ก็มีน้อยมาก เนื่องจากก้อนเลือดไปกดทับเนื้อสมอง ซึ่งหากสมอง
ตายบางส่วนก็จะส่งผลให้เป็นอัมพาต ถ้าสมองตายทั้งหมดก็จะ
ทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เรื่องร้ายแรงที่ว่านี้ทุกคนสามารถ
ป้องกันได้ หรือสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ด้วยการสวมหมวก
นิรภัยให้ติดเป็นนิสัยและความเคยชิน ก็จะช่วยลดความรุนแรง
ของการบาดเจ็บที่ศีรษะได้อย่างมาก
อย่างที่กล่าวแล้วว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์มีโอกาสที่จะ ดีกว่าประมาทจนเกิดอันตรายแล้วต้องมาเสียเงินรักษาพยาบาลเป็น
เกิดอุบัติเหตุสูงกว่า และมีแนวโน้มการบาดเจ็บจากการชนมาก จำนวนมาก
กว่ายานพาหนะประเภทอื่น (เพราะไม่มีอะไรปกป้องร่างกายเลย) ปี 2554 นี้ เป็นปีที่รัฐบาลมีนโยบายให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
หมวกนิรภัยจึงเป็นเครื่องป้องกันอันตรายที่จำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ สวมหมวกนิรภัยกันให้ได้ทุกคน หากใครฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามก็จะมี
รถจั ก รยานยนต์ ท ุ ก คน ซึ่งการสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง ทั้งผู้ขับขี่เองและผู้ซ้อน
จักรยานยนต์ จะช่วยลดการตายหรือการบาดเจ็บรุนแรงทีศ่ รี ษะ ท้าย แต่เชื่อว่าผู้ที่ไม่ชอบสวมหมวกฯหลายคน (จะด้วยเหตุผล

ลงได้ 30 % และลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรงในศีรษะได้ถงึ 4 เท่า ส่วนตัวอะไรก็ตาม) ก็ยังอาจฝ่าฝืนกฎหมายกันอยู่อย่างไม่เกรงกลัว
หมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก มีลักษณะคล้ายกะโหลก แต่สิ่งที่อยากให้นำไปคิดก็คือ มาตรการทางกฎหมายที่ออกมา
กลม ผิวแข็งเรียบ ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุประเภทพลาสติก ทีเ่ รียก บังคับ ใช้นั้น อยู่บนพื้นฐานของความห่วงใยและปรารถนาดี
ว่า เอบีเอส ซึ่งย่อมาจาก อะคริโลไนตริล บิวตะไดอีน สไตรีนโพ- หากไม่ปฏิบัติตาม ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายก็ย่อมได้รับผลที่จะเกิดขึ้น
ลีเมอร์ นอกจากนี้ ยังมีการเติมสารที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น เติม เอง (ทั้งบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต)
สารลดการติดไฟ เพื่อป้องกันการติดไฟของเปลือกหมวกกันน็อก ดังนั้น ทางเลือกของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็มี
ในกรณีที่นักซิ่งขาโจ๋ทั้งหลายล้มคว่ำแล้วเอาศีรษะครูดไปกับพื้น อยู่ เ พี ย ง 2 ทาง เท่ า นั้ น คื อ จะเลื อ กเอา
ถนน (เพื่อวัดความแข็งแกร่งของศีรษะตนเอง) ซึ่งหากไม่มีสาร ความปลอดภัย โดยการสวมหมวกนิรภัย
ประเภทนี้ผสมอยู่ หมวกกันน็อกอาจลุกเป็นไฟ คลอกที่ ทุ ก ครั้ ง ยามขั บ ขี่ ร ถ หรื อ ยึ ด เอาความ
ศี ร ษะและใบหน้ า จนเสี ย โฉม หรื อ ถึ ง แก่ ช ี ว ิ ต ได้
สะดวกสบายแต่ อ าจบาดเจ็ บ และ
ดังนัน้ การสวมหมวกนิรภัยขณะขับขีร่ ถจักรยาน- ตายได้ตลอดเวลา อันนี้ก็แล้วแต่
ยนต์ จึงไม่ใช่เพียงเพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจ จิ ต สำนึ ก ของแต่ ล ะคนแล้ ว ล่ ะ
จับของเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น แต่วัตถุประสงค์ เพราะผู้ที่จะลิขิตชะตาชีวิตให้
แท้จริงคือ การลดการบาดเจ็บและความสูญเสียจาก ทุ ก ข์ ห รื อ สุ ข นั้ น ไม่ ใ ช่ ใ คร
อุบัติเหตุซึ่งนับวันจะเพิ่มปริมาณความสูญเสียมากขึ้น ทีไ่ หน แต่คอื ตัวเราเอง
เรื่อยๆ
พฤติกรรมน่าสนใจเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัยที่ดูขบขัน
และน่าเศร้าไปพร้อมๆ กันคือ ภาพพ่อแม่ขี่รถจักรยานยนต์โดย
สวมหมวกนิรภัยเพียงคนเดียว แต่กับลูกน้อยตัวเล็กๆ (ซึ่งเป็น
บุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต) ที่ซ้อนท้ายไปไหนต่อไหนด้วยตลอด
เวลา ส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัยให้ลูกเลย ทั้งที่ในความเป็น
จริง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บุคคลที่จะได้รับอันตรายมากที่สุด
หรืออาจเสียชีวิต ก็คือลูกที่รักปานแก้วตาดวงใจนั่นเอง แต่การ
ป้องกันเอาไว้ก่อน โดยซื้อหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานให้ลูกสวมใส่
 << เกาะสถานการณ์ >>

ตำรวจภาค 1 รณรงค์
ต้องสวมหมวกนิรภัย 100%

วั น นี้ ห น่ ว ยงานต่ า งๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ต่ า งเร่ ง ปฏิ บั ติ ต ามนโยบายของรั ฐ เรื่ อ ง

การสวมหมวกนิรภัย เพื่อลดปัญหาความรุนแรงจากการบาดเจ็บและการเกิด
2552 และในปี 2554 รัฐบาลได้ประกาศให้มีการ

ใส่หมวกนิรภัย 100% โดยมุ่งเน้นทุกภาคส่วนให้มี
อุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนร่วม “ทาง บช.ภ.1 จะเร่งผลักดันให้ทุกพื้นที่เป็น
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พลตำรวจ ไปตามนโยบายของรัฐบาลให้เร็วที่สุด โดยจะทำการ
เอกอัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) รรท.ผบช.ภ.1 เป็นประธานเปิดโครงการ “รณรงค์
แจกจ่ายหมวกให้ครบทุกพื้นที่ภายในกลางปีนี้ และ
ส่งเสริมการใส่หมวกนิรภัย 100% ตำรวจภูธรภาค 1” โดยมี พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล
ในช่วง 1 - 2 เดือนต่อจากนี้ จะทำการตักเตือนก่อน
รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ภ.1 ตัวแทนบริษัท ยามาฮ่าไทย หลังจากนั้น ก็จะทำการจับ ปรับ อย่างจริงจังต่อไป”
มอเตอร์ จำกัด, บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, มูลนิธิเมาไม่ขับ สสส. และประชาชนในชุมชน พล.ต.อ. อัศวิน กล่าว
ต่างๆ จาก 9 จังหวัดในพื้นที่ บช.ภ.1 จำนวนกว่า 600 คน เข้าร่วมโครงการด้วย หวังว่าอีกไม่นาน เราจะได้เห็นผู้ขี่รถจักร-
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และมติคณะ ยานยนต์ ส วมหมวกนิ ร ภั ย กั น ทั้ ง ประเทศ เมื่ อ
รัฐมนตรี ที่กำหนดให้ปี 2554 นี้ เป็นปีแห่งการสวมหมวกนิรภัย 100% เป็นทศวรรษแห่ง
ดอกไม้ แ ห่ ง วิ นั ย บานสะพรั่ ง พร้ อ มกั น คงเป็ น
ความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ร่วมกับสหประชาชาติ โดยประเทศไทยมี
ภาพที่งดงามมาก
เป้าหมายลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 หรือมี
อัตราการตายไม่เกิน 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน จาก 16.87 ต่อ 100,000 คน ในปี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554

คำแนะนำในการเลือกซื้อ
หมวกนิรภัย
สำหรั บ ผู้ ที่ ขี่ ร ถจั ก รยานยนต์ ตอนนี้
หมวกนิรภัยยังช่วยกระจายแรงจากการกระแทก นิรภัย หากมีรอยคว้านมากกว่า 1 เซนติเมตร

คงถึ ง เวลาที่ จ ะต้ อ งซื้ อ หาหมวกนิ ร ภั ย
ไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้น ทำให้แรงกระแทกไม่ไป ขึ้นไปไม่ควรใช้ เนื่องจากจะเป็นจุดอ่อนของ
มาสวมใส่อย่างจริงจังเสียที หลังจากที่ รวมอยู ่ ณ พื ้ น ที ่ เ ล็ ก ๆ ส่ ว นใดส่ ว นหนึ ่ ง ของ หมวกบริเวณนั้น ทำให้ได้รับอันตรายต่อศีรษะ
หลายคนหลบเลี่ ย ง หรื อ ไม่ เ คยสนใจ กะโหลกเพียงแห่งเดียว ทำให้แรงกระแทกต่อ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เรื่ อ งการสวมหมวกฯ เลย ทั้ ง ที่ ทุ ก คน เนื้อสมองลดลง แรงหมุนและความตึงเครียด 6 ควรตรวจสอบการติดตั้งสายรัดคาง และ
ทราบดี ว่ า อุ ป กรณ์ ช นิ ด นี้ ส ามารถช่ ว ย
ภายในก็จะลดลงด้วย เลือกชนิดที่เป็นโลหะกับโลหะด้วยกัน
ลดความรุ น แรงยามเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ ไ ด้ สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อหมวก 7 ควรตรวจสอบตัวยึดสายรัดคาง และเลือก
อย่างมาก นิรภัย นอกจากมีสัญลักษณ์ มอก. แล้ว ยังต้อง ชนิดที่เป็นรูปครึ่งวงกลม 2 ชิ้นด้วยกัน หรือ
ได้มีการเปรียบเทียบความเสี่ยงระหว่าง
คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย คือ ระหว่างโลหะกับโลหะ ควรหลีกเลี่ยงชนิดที่ทำ
การสวมหมวกนิรภัยกับไม่สวมหมวกฯ พบว่า 1 หมวกนิรภัยที่สามารถปกป้องศีรษะและ ด้วยพลาสติก เนื่องจากชำรุดได้ง่าย
การสวมหมวกนิ ร ภั ย สามารถลดความเสี ่ ย ง
ใบหน้าได้ดีที่สุด คือหมวกนิรภัยชนิดเต็มใบ
8 ควรลองสวมหมวกนิรภัยก่อนซื้อ ไม่ควรซื้อ
และความรุนแรงของการบาดเจ็บลงได้ประมาณ รองลงมาคือชนิดเปิดหน้า หมวกที่หลวมหรือคับเกินไป
72 % และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 2 หมวกนิรภัยควรมีแผ่นกันลมที่สามารถถอด 9 หากเกิดอุบัติเหตุ และหมวกนิรภัยได้รับแรง
39 % อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้อง เปลี่ยนได้ และควรใช้ชนิดใสในเวลากลางคืน กระแทกแล้ว จะต้องซื้อหมวกใบใหม่ทันที ไม่
ไปเสียเงินค่ารักษาพยาบาลจากเรื่องอุบัติเหตุ และสีทึบในเวลากลางวัน ควรนำหมวกใบเก่ามาใช้อีก
แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถจักรยานยนต์ 3 ควรตรวจสอบความหนาของเปลือกนอก 10 ไม่ควรแขวนหมวกนิรภัยใกล้กับถังน้ำมัน
ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุด้วย ไม่ควรต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร มีสีสดและสะท้อน เพราะไอระเหยของน้ ำ มั น จะทำให้ โ ฟมเสื ่ อ ม
สำหรั บ หมวกนิ ร ภั ย ที ่ อ อกแบบและผลิ ต แสงได้ เพื่อให้ผู้ขับขี่คันอื่นเห็นได้งา่ ย โดยเฉพาะ สภาพเร็วขึ้น
อย่ า งได้ ม าตรฐานนั ้ น ภายในจะมี โ ฟมซึ ่ ง มี ในเวลากลางคืน และไม่ควรมีส่วนยื่นออกจากผิว รี บ ไปซื้ อ หาหมวกนิ ร ภั ย มาสวมใส่
คุณสมบัติยืดหดได้ เมื่อเกิดการชนและกระแทก ชั้นนอกของหมวกฯ เกินกว่า 5 มิลลิเมตร กันตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
จากของแข็ง โฟมที่อยู่ภายในหมวกนิรภัยจะถูก 4. ควรตรวจสอบความแข็งและความหนาของ ให้ ต นเอง ในยามที่ ต้ อ งใช้ ชี วิ ต อยู่ บ น
อัดกระแทก ยืดเวลาที่ศีรษะใช้ก่อนหยุดเคลื่อน โฟม ซึง่ ควรมีความหนาประมาณ 2.5 เซนติเมตร ท้องถนน
ไหวออกไปประมาณ 6 มิ ล ลิ ว ิ น าที ซึ ่ ง มี ผ ล
ขึ้นไป เนื้อโฟมแข็งใช้นิ้วกดไม่ลง จาก http://www2.manager.co.th/Family/
ในการควบคุมพลังงานจากการชน นอกจากนี้ 5. ลองใช้ ม ื อ คลำโฟมส่ ว นหน้ า ของหมวก ViewNews.aspx?NewsID=9540000022960

<< เกาะสถานการณ์ >> 



ตำรวจปลุกสำนึก
วินจักรยานยนต์ - แท็กซี่
ให้เคารพกฎจราจร
เพื่อลดอุบัติเหตุ
เมือ่ วันที่ 17 มกราคม 2554
พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ
ผกก.1 (สายตรวจ) บก.จร.
ได้ทำพิธีปล่อยแถวรณรงค์
โครงการ “กรุงเทพปลอดภัย
จราจรใส่ ใ จ ป้ อ งภั ย ลด 7 วันอันตราย ปี 2554
อุ บั ติ เ หตุ ” หรื อ หมายจั บ
จราจร เพื่อประชาสัมพันธ์ บาดเจ็บ - อุบัติเหตุลดลง
ให้ ป ระชาชนในย่ า นถนน
พระราม 4 สุขุมวิท อโศก
และนานา ได้รับทราบ
แต่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
พ.ต.อ.วี ร ะวิ ท ย์ กล่ า วว่ า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายก-
โครงการนี ้ เ ป็ น การรณรงค์ รั ฐ มนตรี ฝ่ า ยความมั่ น คง ในฐานะ
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ ประธานกรรมการและผู้อำนวยการ
ยวดยานพาหนะเข้าใจ และจดจำระเบียบข้อบังคับของกฎจราจร
ความปลอดภัยทางถนน เป็นประธาน
โดยเฉพาะ 7 ข้อหาหลัก ทีป่ ระชาชนมักจะทำผิดกันบ่อย ได้แก่ ไม่สวม แถลงข่ า วสรุ ป ผลการดำเนิ น การ
หมวกนิรภัยขณะขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ / ไม่คาดเข็มขัด ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง
นิรภัยขณะขับรถ หรือโดยสารตอนหน้ารถยนต์ / ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เทศกาลปี ใ หม่ 2554 ในช่ ว งรณรงค์

หรือไม่พกติดตัวขณะขับขี่รถ / ขับขี่รถย้อนศร / ดื่มเครื่องดื่มแอล-


7 วันระวังอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่
กอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดแล้วขับขี่รถ / ขับขี่รถโดยใช้ความเร็ว 4 มกราคม 2554 ซึ่งในปีนี้ ปรากฏว่าการเกิดอุบัติเหตุ และ
เกินกว่ากฎหมายกำหนด / และขับรถจักรยานยนต์ไม่ชิดขอบทาง
จำนวนผู้บาดเจ็บลดลง แต่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ข้างซ้าย ซึ่ง 7 ข้อหาเหล่านี้ จะถูกประกาศและประชาสัมพันธ์ใน
โดยปี 2554 เกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวน 3,497 ครั้ง เปรียบ
รูปแบบคล้ายหมายจับ เพื่อให้เป็นจุดสนใจและกระตุ้นเตือน โดย
เทียบกับช่วงปี 2553 เกิด 3,534 ครั้ง ลดลง 37 ครั้ง หรือคิดเป็น
จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะเคร่งครัดให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจร ร้อยละ 1.05
หากใครฝ่าฝืนจะถูกจับแน่นอน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 358 ราย เปรียบเทียบกับช่วงปี 2553 มี

นอกจากนี้ พ.ต.อ.วีระวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า การเตือนสติ และปลุก ผู้เสียชีวิต 347 ราย เพิ่มขึ้น 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.17
จิตสำนึกภายใต้โครงการนี้ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจและเคารพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3,750 ราย เปรียบเทียบกับช่วงปีที่
กฎจราจรมากขึ้น โดยจะมีการติดสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์ มุ่งเน้นจุด ผ่านมา มีผบู้ าดเจ็บ 3,827 ราย ลดลง 77 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.01
ที่สังเกตง่ายตามถนนสายหลัก และตรอกซอยที่มีวินรถจักรยานยนต์ สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก
เป็นหลัก และบริเวณที่มีรถสาธารณะอย่างแท็กซี่ เนื่องจากผู้ที่ขับขี่รถ และเชียงราย
รั บ จ้ า งเหล่ า นี ้ ต้ อ งมี ค วาม จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี 13 ราย
ห่ ว งใยในความปลอดภั ย ชี ว ิ ต จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 131 คน

และทรัพย์สินของผู้อื่น รวมทั้ง โดยคิดเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคกลาง 26 จังหวัด ภาคตะวัน
ตั ว เอง จากการเกิ ด อุ บ ั ต ิ เ หตุ ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคใต้ 14 จังหวัด
ขณะขับขี่ เพราะหากปฏิบัติตาม ทั้งนี้ พบว่าการเมาสุราเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็น
กฎจราจรอย่ า งเคร่ ง ครั ด แล้ ว อันดับแรก รองลงมาคือการขับรถเร็ว โดยรถจักรยานยนต์ เป็น
การเกิ ด อุ บ ั ต ิ เ หตุ ก ็ จ ะน้ อ ยลง พาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาคือ รถกระบะ ถนนที่
หรือไม่เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน (ร้อยละ
หากทุ ก ฝ่ า ยตระหนั ก 63.85)
ถึ ง ปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้ น และ นอกจากนี้ ยังพบว่า 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็น
ร่ ว มใจกั น แก้ ไ ข ปั ญ หา เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี
ย่อมลดและหมดไปได้ แม้ จ ะมี เ สี ย งค่ อ นขอดจากผู้ ที่ ไ ม่ ไ ด้ ท ำงานเกี่ ย วข้ อ งว่ า
ทำไมต้องมานั่งนับศพคนตาย คนเจ็บ กันทุกปี อย่างไรก็ตาม
ข้อมูลจาก “http://www.manager.co.th/Crime ViewNews. ตัวเลขเหล่านี้ ก็เป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่า มาตรการต่างๆ ที่ได้ดำเนิน
aspx?NewsID=954000000659”
การกันไปนั้น ประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน
 << ประเด็นข่าว >>

อุบัติเหตุซ้ำๆ
บนทางด่วน...ต้องโทษใคร
อุบัติเหตุบนทางด่วนนับวันยิ่งเกิดขึ้นบ่อย และแต่ละครั้ง งาน เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ เหตุการณ์นี้นับเป็นความ
ก็มักร้ายแรง นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของทุกครอบครัวที่ประสบชะตากรรมร่วมกัน ซึ่ง
มากมาย เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ไม่น่าจะให้ผ่านเลยไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนั้นแล้ว ก็ยังคงเกิดอุบัติเหตุบน
เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่ควรเป็นบทเรียนสอน ทางด่วนอีกเป็นระยะๆ ทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นมาว่า แท้จริงแล้ว
ใจและช่วยเตือนสติให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จงขับขี่และใช้รถ
สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องเศร้าๆ เหล่านี้ขึ้นมาคืออะไร บ้างก็ว่าเป็นเรื่อง
ใช้ถนนด้วยความไม่ประมาท ของสภาพถนน บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของกฎหมายที่ย่อหย่อน ฯลฯ
เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553 เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากผู้ใช้รถใช้ถนนมีสติและระลึกถึง
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียหลัก ความปลอดภัยอยู่เสมอ และไม่ขับขี่รถด้วยความเร็ว ต่อให้
พลิกคว่ำ บนทางด่วนโทลล์เวย์ ก่อนพุ่งไปชนขอบปูนข้างทางจน ถนนหนทางขรุขระหรือมีปัญหามากมายอย่างไร ใครจะบังคับ
ประตูเปิดออก แล้วเหวี่ยงผู้โดยสารกระเด็นตกลงมาเสียชีวิต
กฎหมายเคร่งครัดหรือไม่ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะความระมัด
บนถนนวิภาวดีรังสิตรวม 9 ศพ และบาดเจ็บอีก 7 ราย ที่น่า ระวังที่มีอยู่ทุกขณะ จะทำให้ห่างไกลจากอุบัติเหตุด้วยตัวของ
เสียใจอย่างยิ่งคือ เกือบทั้งหมดเป็นบุคลากรที่สำคัญของหน่วย เราเอง

การทางพิเศษฯ ทางด่วนเป็นช่องทางการสัญจรเพื่อการเดินทางที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
แต่ปจั จุบนั ทางด่วนกำลังจะกลายเป็นเส้นทางแห่งความสูญเสีย
สำหรั บ ผู้ ใ ช้ ร ถใช้ ถ นนไปเสี ย แล้ ว อั น เนื่ อ งมาจากการเกิ ด

ออกมาตรการคุมเข้ม อุบัติเหตุที่บ่อยขึ้น
สำหรับเรื่องนี้ พันโททวีสิน รักกตัญญู ผู้ว่าการการทางพิเศษ
แห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เปิดเผยว่าตลอดปี 2553 การเกิดอุบัติเหตุ

เพื่อลดอุบัติเหตุ บนทางด่วนพิเศษ สาเหตุหลักเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงถึง


ร้อยละ 70 รองลงมาคือประมาท หลับใน มึนเมา และสาเหตุอื่นๆ และ

บนทางด่วน กล่าวว่า ในปี 2554 นี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะสานต่อ


โครงการปีแห่งความปลอดภัย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
ด้วยการปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ป้ายจราจร ระบบกล้องตรวจจับ
ความเร็วอัตโนมัติ การกวดขันวินัยจราจรในช่วงเวลาต่างๆ และการ
ตรวจจับผู้ขับขี่รถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ส่วนปัญหาที่ได้รับร้องเรียนจากผู้ใช้ทางด่วนฯ ให้แก้ไขกฎหมาย
ขยายความเร็วรถบนทางด่วนไม่ให้เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น

จะหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะแก้ไขกฎหมายได้หรือไม่ แต่อย่างไร
ก็ตาม หากผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมาย และเพิ่มความ
ระมัดระวังในการขับขี่ ก็จะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุจราจร ซึ่งจะ
เป็นการลดความเสี่ยงต่อความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้ง
ในส่วนตนเองและเพื่อนร่วมทางด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. กล่าวว่า ในส่วนของ
ทางด่วนมอเตอร์เวย์นั้น อธิบดีกรมทางหลวงใช้อำนาจพระราชบัญญัติ
ทางหลวง กำหนดให้ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อ
ชัว่ โมงได้ ส่วนบนทางด่วนฯต้องดูวา่ อำนาจของผูว้ า่ การ กทพ. ใช้อำนาจ
ได้ด้วยหรือไม่ และต้องมั่นใจว่าทางพิเศษได้ก่อสร้างตามมาตรฐาน
สากล สภาพโครงสร้างไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุหากใช้ความเร็วสูง
ดู เ หมื อ นว่ า ที่ สุ ด แล้ ว การแก้ ปั ญ หาในเรื่ อ งต่ า งๆให้ ไ ด้
ผลอย่างถาวร ต้องเริ่มที่คนคือเริ่มที่ “ตน” ก่อนเสมอ
จาก : http://hilight.kapook.com/view/55226

<< ประเด็นข่าว >> 


ข่าวอุบัติเหตุทางถนนที่ได้รับความสนใจ
จากประชาชนเป็นจำนวนมาก และมีการ

ติ ด ตามเรื่ อ งราวกั น ข้ า มปี ได้ แ ก่ ข่ า ว มาตรฐานใบขับขี่เมืองไทย


เยาวชนอายุ ไ ม่ ถึ ง 18 ปี “ขั บ รถยนต์ ”
ชนกับรถตู้โดยสารบนโทลล์เวย์ จนเป็น
เหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาด มีก็ด.ี ..ไม่มีก็ ได้
เจ็บอีกหลายราย
สิ ่ ง ที ่ ย ั ง เป็ น ข้ อ ถกเถี ย งกั น ของคนใน
สังคม ก็คือประเด็นที่ผู้ขับรถยนต์ข้างต้นไม่มี

เกณฑ์ก็ถือว่าพร้อมแล้วที่จะไปขับได้
ส่วนกรณีการปลอมแปลงใบอนุญาตขับขี่
ใบอนุญาตขับขี่เพราะอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์
ฉะนั้นการตัดสินใจเฉพาะหน้าเมื่อเกิดกรณี
ฉุกเฉินอาจจะทำไม่ได้ทันท่วงที ไม่ดีพอ และ

ในปัจจุบันถือว่าลดน้อยมาก เพราะปัจจุบัน

ใบขับขี่เปลี่ยนรูปแบบการออกเป็นสมาร์ทการ์ด
ซึ่งป้องกันการปลอมแปลงได้มาก ส่วนกรณีซื้อ
อาจจะไม่รู้กฎจราจรอย่างครบถ้วนและจริงจัง
อย่างไรก็ตาม แม้บางคนจะมีใบอนุญาตขับขี่
แบบถูกต้องตามกฎหมาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมาย

ขายใบขับขี่ ทางสำนักงานขนส่งฯ ก็มีตำรวจ
191 คอยดูแล “เราจ้างตำรวจนอกเครื่องแบบ
วันหนึ่งประมาณ 10 นาย เพื่อมาตรวจสอบ
ความว่าจะทำให้จราจรบนถนนในบ้านเราดีขึ้น บุคคลที่เข้ามาหลอกในเรื่องนี้ และเรายังออก
ไม่ ไ ด้ ล ดการเกิ ด อุ บ ั ต ิ เ หตุ และไม่ ท ำให้ ก ฎ หนังสือเวียนกำชับเจ้าหน้าที่ว่า หากทำการ บ้าง แต่ลดน้อยลงจากเมื่อก่อนแล้ว คือเขาไป
จราจรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นด้วย เพราะยังมีผู้จอดรถใน ทดสอบไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือคนทดสอบ ซื้อใบขับขี่มาจากที่อื่น แล้วมาเรียนทีหลัง แต่
ที่ห้ามจอด ยังมีการขับรถฝ่าสัญญาณไฟ ยังมี ไม่ผ่านการทดสอบหรืออบรม แต่ยังไปออกให้ โดยรวมแล้ว ความไม่ใจร้อน และไม่ประมาท
การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ฯลฯ ซึ่งสิ่ง ทางกรมฯ ก็จะลงโทษอย่างหนักโดยเฉียบพลัน เท่านั้น ที่จะทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยลง
เหล่านี้ หาดูได้ไม่ยากตามท้องถนน (บ้านเรา) ทันที” ไม่ใช่อยู่ที่ว่ามีใบขับขี่หรือไม่ “การหัดขับรถ
ใบขับขี่เมืองไทย ขับรถได้ ไม่ ใช่แปลว่า ยกระดับโรงเรียนสอนขับรถ เพื่อที่จะให้ได้ใบขับขี่นั้น จะหัดขับเองก็ได้ แต่
ขับรถดี รศ.ดร.ธวัชชัย เหล่าศิรหิ งส์ทอง หัวหน้า ถ้ามาเรียนรู้อย่างถูกต้องก็จะได้รู้เรื่องของกฎ
นายฉั ต รชั ย อนั น ตกู ล ผู ้ อ ำนวยการ ศู น ย์ ว ิ จ ั ย และพั ฒ นาการจราจรและขนส่ ง จราจร เรือ่ งมารยาทบนท้องถนนด้วย โดยเฉพาะ
ส่วนใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งกรุงเทพ- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี การเลี้ยว การถอยหลัง ซึ่งมีเทคนิคที่ต้องเรียน
มหานคร ยอมรับความจริงว่า ใบอนุญาตขับขี่ เห็นว่าการสอบใบอนุญาตขับขี่ นอกจากการ รู้ ถ้าไม่เป็นมาเลยก็ต้องเรียนรู้กันประมาณ 15
ถือเป็นเพียงแค่หลักการเบื้องต้น ว่าคนๆ นั้น ทดสอบเชิงกายภาพ ความรู้ และทักษะแล้ว ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นมาแล้วบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจ

สามารถขับรถเป็น แต่ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า ยังควรต้องมีการทดสอบสภาพจิตใจและทัศน- กฎกติกาบนถนน ก็ต้องเรียนกัน 8 ชั่วโมง แต่
จะขับรถดี หรือขับรถไม่ประมาท เพราะเรื่อง คติด้วย “ของอเมริกา ออสเตรเลีย สวีเดน การ เอาเข้าจริง การจะมีใบขับขี่หรือไม่ ไม่ได้รับ
นั้นยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น สอบใบขับขี่ของเขายากกว่าเราเยอะ การที่เรา ประกั น ว่ า จะไม่ มี อุ บั ติ เ หตุ ถ้ า มี ใ บขั บ ขี่ แ ต่
ประสบการณ์ของคนขับ บวกกับจิตสำนึกของ จะสอบผ่ า นจะมี ก ารสอบความรู ้ แ ละทั ก ษะ ประสบการณ์นอ้ ยก็มโี อกาสเกิดอุบตั เิ หตุได้ ที่
คนขั บ เอง รวมถึ ง การปฏิ บ ั ต ิ ต ามกฎจราจร ความรู้คือข้อสอบ ของต่างประเทศก็อาจจะมี สำคัญคือเรื่องของความประมาท และความ
อย่างเคร่งครัด และมีมารยาทในการขับรถ ซึ่ง กลไกซับซ้อนกว่าบ้านเรา เรื่องทักษะ เวลา ใจร้อนของตัวผู้ขับขี่เองว่ามีมากน้อยแค่ไหน
จะช่วยลดอุบัติเหตุในการขับขี่ สอบใบขับขี่ของเราก็ถอยหน้า ถอยหลัง เข้า หากขับรถใจร้อนไปจี้คันหน้าด้วยความเร็วสูง
“เรื่องสำคัญที่สุดของการขับรถ ก็คือ ซอง ขึ้นสะพาน แต่อเมริกาที่ผมไปสอบหรือที่ ก็อาจจะทำให้ชนกันได้” นั่นคือ ความเห็นของ
ตัวคนนี่แหละ ส่วนใบขับขี่ ก็เป็นแค่เอกสาร ผมไปดูงานต่างประเทศ เขาจะให้ขับออกถนน ผู้มีประสบการณ์อีกคนหนึ่ง
หรือหนังสือทางราชการฉบับหนึ่งที่แสดงว่า จริงๆ แล้วเขาก็จะให้เราทำตามสถานการณ์ที่ ไม่มี ใบขับขี่ ก็ยังขับรถบนถนนกัน
คุณขับรถบนท้องถนนได้ แต่มันไม่ได้การันตี เขาบอก และตรวจด้วยว่าเราทำตามกฎจราจร มากมาย
ว่า เมื่อขับรถแล้วจะไม่เกิดอุบัติเหตุเลย ทาง หรือหลักปฏิบัติหรือเปล่า… อัครภูมิ มลิกุล นักศึกษาวัย 21 ปี จาก
ออกที่ดีก็คือ การเคารพและเรียนรู้กฎหมาย อีกประการที่เป็นความยากลำบาก คือ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่เรียนทักษะการขับรถ
จราจร ซึ่งกฎหมายพวกนี้ก็ไม่ได้หายากอะไร ในต่ า งประเทศ ก่ อ นที ่ ค ุ ณ จะทำการสอบใบ จากโรงเรียนสอนขับรถยนต์ มาแล้ว 10 ชั่วโมง
ตามร้านหนังสือทั่วไปก็มีขายแล้ว หรือแม้แต่ ขับขี่ คุณจะต้องผ่านหลักสูตรการเรียนมาก่อน ซึ ่ ง ทางโรงเรี ย นได้ ส อนทั ก ษะ ทฤษฎี การ
ไปดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ แน่นอนว่า เมื่อครบชั่วโมงแล้วจะมาสอบความรู้พื้นฐาน ปฏิบัติต่างๆ รวมถึงแจกหนังสือเกี่ยวกับกฎ
หากเขารูอ้ ย่างถ่องแท้ ก็เป็นประมาณ 70 - 80 แล้วค่อยไปสอบทักษะการขับรถ โรงเรียนสอน จราจรต่างๆ ให้มาอ่านด้วย แต่ยังไม่ไปสอบใบ
เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่จะทำให้ขับรถบนท้องถนนได้ ขั บ รถยนต์ ข องต่ า งประเทศจะมี ลั ก ษณะ ขับขี่ และยังขับรถยนต์บนถนนเป็นปกติ “พอ
อย่างปลอดภัย ส่วนอีกเรื่องก็คือมารยาทของ เหมือนสถาบันวิชาการ ที่การเรียนการสอน เรียนจบหลักสูตร เขาก็พาไปสอบทำใบขับขี่
คนขับเอง” จะเป็ น การพั ฒ นาทั ก ษะการขั บ รถอย่ า ง นะ แต่ผมยังไม่ได้ไปทำ เพราะขี้เกียจ เพื่อน
นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การออก แท้จริง ซึง่ ค่าเรียนก็จะแพง ผมเคยไปฝึกอบรมที่ หลายคนที่ขับรถก็ยังไม่มีใบขับขี่ พวกเราไม่มี
ใบอนุ ญ าตขั บ ขี ่ ร ถในปั จ จุ บ ั น อยู ่ ใ นเกณฑ์ สวีเดน คนสวีเดนส่วนใหญ่ไม่ขบั รถยนต์ เพราะ ใบขับขี่ ไม่ได้กลัวเจอตำรวจ แค่ระวังว่าอย่าขับ
มาตรฐานและทัดเทียมกับต่างประเทศ เพราะ ได้ใบขับขี่ยาก เนื่องจากต้องไปเรียนวิชาเก็บ ไปชนใครก็พอ เอาไว้มีรถส่วนตัวเมื่อไรก็จะไป
กว่าที่ผู้ขับขี่จะได้รับใบอนุญาตนั้น จะต้อง หน่วยกิต เพือ่ ให้มคี ณ ุ สมบัตมิ าสอบใบอนุญาต ทำใบขับขี่”
มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์สำหรับรถยนต์ ขับขี่ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นแสน” ก็เป็นมุมมองหนึ่งต่อการเกิดอุบัติเหตุที่ผู้
และ 15 ปีบริบูรณ์สำหรับรถจักรยานยนต์ มี ใบขับขี่แล้ว แต่ก็ยังมาเรียนขับรถ ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตฯ แต่ที่สุดแล้ว ทุกคน
ที่สำคัญผู้ขับขี่ยังต้องมีศักยภาพเพียงพอที่จะ มีคนจำนวนไม่น้อย แม้จะได้ใบอนุญาต ก็มีความเห็นตรงกันว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำ
ขับรถได้ โดยต้องผ่านการทดสอบทัง้ ภาคทฤษฎี ขับขี่มาเชยชมแล้ว แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่พอ ต้องไป ให้เกิดอุบัติเหตุก็คือ อารมณ์ความรู้สึก
และปฏิบัติให้ได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เรียนขับรถเพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น นึกคิดของคนนั่นเองว่ามีทัศนคติอย่างไร
เอาไว้ นายทะเบียนจึงจะออกใบอนุญาตให้ เรื่องนี้ นายมนทชัย ช่างแก้ ครูสอนขับ กับความปลอดภัยในการขับขี่
ซึ่งตรงนี้ถือว่าเชื่อถือได้ การสอบสะท้อนให้ รถยนต์ โรงเรียนสอนขับรถยนต์มนทชัย เล่าว่า จาก : “http://www.manager.co.th/Daily/
เห็นถึงการขับรถบนท้องถนนจริงๆ ซึ่งถ้าผ่าน “ที่ต่างจังหวัดอาจยังมีการซื้อขายใบขับขี่กันอยู่ ViewNews.aspx?NewsID=9540000002636”
 << นวัตกรรม >>

โครงการชาวตักศิลาสานพลัง
สร้างความปลอดภัยให้ลูกหลาน
ยกมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย
หมวกนิรภัย 100 %
เขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม
โดยเทศบาลเมืองมหาสารคาม สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ และภาคีเครือข่าย
พฤติกรรมสู่การขับขี่ปลอดภัย โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ พบว่า 3
ใน 4 ของอุบัติเหตุทางถนน เกิดขึ้นจากรถจักรยานยนต์ และ
การไม่สวมหมวกนิรภัย ซึง่ การดำเนินการให้เกิดผลร่วมในระยะยาว
ต้องเกิดขึน้ โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างชัดเจนและต่อเนือ่ ง
เพื่อเป็นการลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ลดการเสียชีวิต และลด
ความพิการ ป้องกันการสูญเสียรายได้จากการประสบอุบัติเหตุ และ
เพื่อรักษากฎระเบียบวินัยทางการจราจร เทศบาลเมืองมหาสารคาม
จึงได้ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.), สำนักงาน
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), โรงพยาบาลมหา-
สารคาม, สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองมหาสารคาม, สำนักงานขนส่ง
จังหวัดมหาสารคาม, วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม, วิทยาลัย
เทคนิคมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, มหาวิทยา-
ลั ย มหาสารคาม, สถาบั น การพลศึ ก ษาวิ ท ยาเขตมหาสารคาม,
บริษัท เอ พี ฮอนด้า, บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และ
สื่อมวลชนทุกแขนง จัดทำโครงการ “ชาวตักศิลา สานพลังสร้าง
ความปลอดภัยให้ลูกหลาน ยกมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย
หมวกนิรภัย 100 %” ขึ้น เพื่อสร้างกระแสปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนน ปลูกจิตสำนึก
และเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้อง ปลอดภัย
แก้ไขและลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนน

วัตถุประสงค์
* เพื่อสร้างกระแส “ทศวรรษแห่งความปลอดภัย สวมหมวก
หลักการและเหตุผล นิรภัย 100 % ในกลุ่มผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ให้เกิด

ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน นอกจากจะนำมาซึ่งความ ความรู้ ความเข้าใจ และร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การขับขี่ที่


สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังก่อให้เกิดความสูญเสียทาง ปลอดภัย และสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วนของจังหวัดมหา-

เศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ นับเป็น สารคาม ในการร่วมเป็นเจ้าภาพด้านสร้างเสริมความปลอดภัยและ
ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของคนไทย ที่ต้องเร่งดำเนิน ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
การหาทางป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระดับประเทศเอง * เพื่อสร้างบุคคลแกนนำการขับขี่ปลอดภัยให้แก่ครู - อาจารย์
ก็ได้มีการประกาศ “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน” เป็นวาระ ผู้นำชุมชน และนักเรียน นักศึกษา ในสถาบันการศึกษาในจังหวัด
แห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมเป็นเจ้าภาพ และดำเนินการให้ มหาสารคาม จำนวน 13 แห่ง
เกิดความปลอดภัยทางถนนในทุกระดับ * เพื่อเพิ่มช่องทางบริการและอำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียน
จังหวัดมหาสารคามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเทศบาลเมือง นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่อยู่ในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง
มหาสารคาม มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยสาเหตุสำคัญเกิดจาก ได้จัดทำใบอนุญาตขับรถหรือรถจักรยานยนต์ได้สะดวกขึ้น
ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ประมาท * เพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และผู้พิการจากอุบัติเหตุ
คึกคะนอง การขาดทักษะความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน ขาด ทางถนนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม
จิตสำนึกในการขับขี่อย่างปลอดภัย ขาดวินัย ละเลยการปฏิบัติตาม
กฎหมาย และกฎแห่งความปลอดภัยทางถนน การแก้ไขปัญหาโดย เป้าหมายและสถานที่ดำเนินการ
การสร้างให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และสร้างกระแส ให้ปรับเปลี่ยน * จัดประชุมเพื่อจัดตั้งเครือข่ายลดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง โดยเทศบาล


<< นวัตกรรม >> 

* กำหนดพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุจราจร ที่มีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้งนำมา
ทำป้ายเตือน “ที่นี่มีคนตายจากอุบัติเหตุ อย่าให้คุณเป็นรายต่อไป”
* ประสานเจ้าหน้าทีต่ ำรวจเพือ่ อำนวยความสะดวกในการเคลือ่ น
ขบวน และอำนวยความสะดวกปิดเส้นทางการจราจรในพิธีเปิด
* จัดกิจกรรมรณรงค์ “ขับขี่รถจักรยานยนต์ปลอดภัย เปิดไฟ
สวมหมวกนิรภัย 100 % เพื่อสร้างจิตสำนึกถึงความปลอดภัยของ
เมืองมหาสารคาม ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองมหาสารคาม ตนเอง และเชื่อมั่นเมื่อสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่มีการขับขี่
* ขอความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานจาก บริษัท เอพี * จัดการแสดงบทบาทสมมุติ การเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถ

ฮอนด้า จำกัด เพื่อจัดให้ความรู้เรื่องกฎหมายจราจร โดยเน้นการ
จักรยานยนต์ รวมทั้งจัดพิธีเปิดโครงการ “ชาวตักศิลา สานพลังสร้าง
ให้ความรู้เรื่องกฎจราจร และการขับขี่ที่ปลอดภัยเพื่อสร้างบุคคล
ความปลอดภั ย ให้ ลู ก หลาน ยกมาตรฐานการบั ง คั บ ใช้ ก ฎหมาย
แกนนำการขับขี่ปลอดภัยให้กับครู – อาจารย์ ผู้นำชุมชน และกลุ่ม หมวกนิรภัย 100 % ”
เยาวชนตามสถาบันการศึกษา ที่มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาอายุ * ประสานงาน / ดำเนินการ สร้างบุคคลแกนนำและให้ความ

15 ปีขึ้นไป สถาบันการศึกษาละ 1 ครั้ง ได้แก่ 1) มหาวิทยาลัย รู ้ เ รื ่ อ งกฎหมายจราจร การขั บ ขี ่ ป ลอดภั ย แก่ ส ถาบั น การศึ ก ษา

มหาสารคาม 2) สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม 3) เป้าหมาย
วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม 4) วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม * ประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดมหาสารคามเพื่อจัดการ
5) โรงเรียนสารคามพิทยาคม 6) โรงเรียนผดุงนารี 7) โรงเรียน สอบใบขับขี่เคลื่อนที่ / นอกสถานที่
เทศบาลบ้านส่องนางใย 8) โรงเรียนเทศบาลบูรพาพิทยาคาร 9) * สรุปผลการดำเนินงานเสนอผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่
โรงเรียนเทศบาลบ้านค้อ 10) โรงเรียนเทศบาลศรีสวัสดิ์วิทยา 11) เกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศ
โรงเรี ย นเทศบาลสามั ค คี ว ิ ท ยา 12) วิ ท ยาลั ย พยาบาลศรี ม หา-
เป็นวาระแห่งชาติ กำหนดให้ปี พ.ศ. 2554 - 2563 เป็นทศวรรษ

สารคาม แห่งความปลอดภัยทางถนน และปฏิบัติตามมติสมัชชาสุขภาพแห่ง
* ขอความร่ ว มมื อ และร่ ว มสนั บ สนุ น จาก สำนั ก งานเครื อ ข่ า ยลด ชาติ ที่กำหนดให้ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย
อุบัติเหตุ (สคอ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข 100% ที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้ายทุกคนต้องสวมหมวก
ภาพ (สสส.) ในการจัดกิจกรรมเปิดโครงการ “ชาวตักศิลา สานพลัง นิรภัยเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยอย่างเคร่งครัด จังหวัดมหาสารคาม

สร้างความปลอดภัยให้ลูกหลาน ยกมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย จึงประกาศวาระจังหวัด ให้ “ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์สวม


หมวกนิรภัย 100 %”และรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย เปิดไฟ สวม หมวกนิรภัย 100 %” ทั้งจังหวัด พร้อมเชิญชวนให้หน่วยงานภาค
หมวกนิรภัย 100 % 1 ครั้ง ณ บริเวณหอนาฬิกา เทศบาลเมือง รัฐและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานทุกคน ได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างให้
มหาสารคาม กับประชาชน เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยกัน
* จัดการสอบใบขับขี่เคลื่อนที่ / นอกสถานที่ 1 ครั้ง โดยสำนัก ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนได้อีกทางหนึ่ง
งานขนส่งจังหวัดมหาสารคาม
ระยะเวลาดำเนินการ
วิธีดำเนินการ ดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2553 ถึง กันยายน 2554
* เสนอโครงการเพื่อขอความเห็นชอบและขอรับการอนุมัติ โดยแยกตามกิจกรรมดังนี้
* จัดประชุมหน่วยงานและองค์กรเอกชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อ * จัดประชุมเพื่อจัดตั้งเครือข่ายลดอุบัติเหตุ วันที่ 13 ธันวาคม
หารูปแบบการจัดตั้งเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ขอความร่วมมือในการจัด 2553
กิจกรรม และเตรียมการประชาสัมพันธ์โครงการ * จัดกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เปิดไฟ สวมหมวกนิรภัย
* ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ รวม 100 % และจัดพิธีเปิดโครงการ “ชาวตักศิลา สานพลังสร้างความ
ทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน ปลอดภัยให้ลูกหลาน ยกมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย หมวก
* ประชาสัมพันธ์กิจกรรม โดยสถานีวิทยุเทศบาลฯ หอกระจาย นิรภัย 100 %” ในวันที่ 23 ธันวาคม 2553
ข่าวในชุมชน ขอความร่วมมือจากวิทยุชุมชน ประชาสัมพันธ์จังหวัด หากแต่ละจังหวัดสามารถประกาศให้การรณรงค์สวมหมวก
สื่อมวลชนท้องถิ่นร่วมประชาสัมพันธ์ด้วย นิรภัย 100 % เป็นวาระจังหวัด และลงมือปฏิบัติกันได้เร็ว
* กำหนดเส้นทางขบวนรณรงค์ แ ละจุ ด ตั ้ ง ขบวน เมื่อขบวน เท่าใด ก็จะยิง่ ช่วยลดการบาดเจ็บและการเสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุ
เคลื่อนที่มาถึงเพื่อทำพิธีเปิดงาน ทางถนนได้เป็นจำนวนมาก

10 << กิจกรรมองค์กร >> มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
จัดกิจกรรมรณรงค์
สวมหมวกนิรภัย 100 %
เนื่องในวาระที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่ง
ความปลอดภัยทางถนน เพื่อสร้างจิตสำนึกในด้านพฤติกรรมการขับขี่
ปลอดภัย สำนักงานเครือข่ายลดอุบตั เิ หตุ จึงได้รว่ มกับ สาขาวิชาเวชศาสตร์
และสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
จัดงาน “รณรงค์ครอบครัวอุน่ ใจ ขับขีป่ ลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 %”
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2554 เพื่อเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัย
ให้แก่เยาวชนและครอบครัว ณ ชุมชนท่าศาลา และชุมชนบริเวณใกล้เคียง


ปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริม
การสวมหมวกนิรภัย 100 %
เ มื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวย
การสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเครือ
ข่ายลดอุบัติเหตุ ได้ร่วมกิจกรรมเปิดตัวโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่ง
เสริมการสวมหมวกนิรภัย 100 % “เท่ห์ ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย
100 %” ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี โดยมี นายอภิสิทธิ์

เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดโครงการฯ ทั้งนี้


เพื่อประกาศเจตนารมณ์และผลักดันนโยบายการส่งเสริมการสวม
หมวกนิรภัย 100 % ในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมถึงสร้างกระแส
สังคมให้ภาคประชาชนร่วมขับเคลือ่ นมาตรการดังกล่าว เพือ่ ให้บรรลุ
เป้าหมายการดำเนินงานตามทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน

รณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 %
ที่ อบต.ท่าสาย
เ มื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการ
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ และทีมงานฯ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วน
ตำบลท่าสาย ได้จดั งาน “โครงการทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน
ท่องเที่ยวปลอดภัย คนเชียงรายปลอดอุบัติเหตุ สวมหมวกนิรภัย 100%” ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมี
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ปลัดจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี พร้อมกันนี้ ได้มีการเปิดศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน “7 วันอันตราย” ในช่วง
เทศกาลปีใหม่2554 การจัดบูธแสดงสินค้าและกิจกรรมต่างๆ การปล่อยขบวนรณรงค์ฯ รวมทั้งการถ่ายทำรายการ “ด้วยลำแข้ง” โดย คุณคำรณ

หว่างหวังศรี เพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ด้วย


<< กิจกรรมองค์กร >> 1111


สคอ. ร่วมกับชาวตักศิลา รวมพลัง


รณรงค์สวมหมวกนิรภัย100%
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ร่วมกับ เทศบาลเมืองมหาสารคาม
จั ด กิ จ กรรม “ชาวตั ก ศิ ล า สานพลั ง สร้ า งความปลอดภั ย ให้ ลู ก
หลาน ยกมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย หมวกนิรภัย 100%”
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 ณ บริเวณหอนาฬิกา โดยมี นาย

ทองทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธี และได้มี


การลงนามร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อ
รณรงค์ให้ทุกพื้นที่มีการสวมหมวกนิรภัย 100 % ขณะที่ภายในงาน
ก็ได้มีการจำลองสถานการณ์อุบัติเหตุเพื่อให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงความ
รุนแรงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เมื่อขับขี่โดยไม่สวมหมวก รวมทั้งได้มี
การมอบหมวกนิรภัยให้กับสถานศึกษาทุกแห่งในจังหวัดด้วย

โรงงานยุคใหม่ ใส่ ใจพนักงาน


บนพื้นฐานแห่งความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2553 สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)

ร่วมกับ บริษัท แคนนอน ไฮ - เทค (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานรณรงค์
ป้องกันอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ให้กับพนักงาน บริษัทแคนนอน จำกัด นิคม
อุตสาหกรรมไฮ - เทค บางเลน บางปะอิน จ.อยุธยา โดยมี นายสำเนียง
เบ็ญจวร ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและสุขภาพส่วนงาน
บุคคลและกิจการทั่วไป และ นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการ
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ร่วมเปิดงาน และมีการถ่ายทำรายการ
ด้วยลำแข้ง โดยคุณคำรณ หว่างหวังศรี จากสถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 เพื่อ
ประชาสัมพันธ์โรงงานสร้างเสริมความปลอดภัย
นอกจากนี้ บริษัท เอพี ฮอนด้า จำกัด บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต
จำกัด และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อ

ส่งเสริมความรู้และความบันเทิงภายในงานด้วย

สคอ. แถลงข่าว “รณรงค์ทศวรรษ


แห่งความปลอดภัย หมวกนิรภัย 100%”
เมื ่ อ วั น ที ่ 13 ธั น วาคม 2553
สำนั ก งานเครื อ ข่ า ยลดอุ บ ั ต ิ เ หตุ

(สคอ.) ได้จัดงานแถลงข่าว “รณรงค์
ทศวรรษแห่งความปลอดภัยหมวก
นิรภัย 100%” ณ บริเวณใต้อาคาร
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
โดยมี ดร.พรรณสิ ริ กุ ล นาถศิ ริ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี
พร้อมทั้งแถลงข่าวร่วมกับ ผศ.ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ และ นาย
เทียนโชติ จงพีรเ์ พียร โดยวัตถุประสงค์ของการแถลงข่าว ก็เพือ่ ส่งเสริม
การสร้างมาตรการความปลอดภัย โดยเน้นถึงการรณรงค์ให้ตระหนักถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยการสวมหมวกนิรภัย และได้มีการมอบเสื้อพร้อมกับ
หมวกนิรภัยให้แก่วินมอเตอร์ไซค์ ในโอกาสเปิดโครงการ “วินมอเตอร์ไซค์น้ำใจงาม” สถานีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
12 << น่ารู้จัก >>

พื้นที่สร้างเสริมความปลอดภัย
การที่ ค นเราจะมี สุ ข ภาวะที่ ดี ทั้ ง ทาง มีการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
ร่างกายและจิตใจนัน้ สิง่ แวดล้อมรอบตัว เป็ น ต้ น ซึ ่ ง การดำเนิ น งานดั ง กล่ า ว เน้ น

ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย การอยู่ในสิ่งแวด การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและการ

ล้ อ มที่ ดี ไ ม่ ใ ช่ แ ค่ เ พี ย งบรรยากาศหรื อ บูรณาการงานจากทุกภาคส่วน
อากาศดีเท่านั้น แต่ควรต้องเป็นพื้นที่ที่
ปลอดภัยด้วย ซึ่งนับวันก็จะหาได้ยากยิ่ง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์เพื่อความ
ปลอดภัย (อสป.) คือบุคคลที่มีจิตอาสา
พื้นที่สร้างเสริมความปลอดภัย คือพื้น ทำงานเพื ่ อ ความปลอดภั ย ด้ า นสุ ข ภาพ

ที่ที่มีการดำเนินงานส่งเสริมความปลอดภัย เช่น รณรงค์ลดเหล้า บุหรี่ และการป้องกัน
ทางสุขภาพ เช่น มีการรณรงค์งดดื่มเครื่อง อุ บ ั ต ิ เ หตุ ท างถนน โดยทำงานผ่ า นการ
ดื่มแอลกอฮอล์ รณรงค์ลดการสูบบุหรี่ และ รณรงค์ ป ระชาสั ม พั น ธ์ เ ป็ น หลั ก อสป.มี
บทบาทสำคัญในการช่วยพื้นที่
ดำเนินงานด้านการสร้างจิตสำนึก
เพื่อความปลอดภัย
ทะเบียนรายชื่ออาสาสมัครประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย (อสป.)ภาคกลาง
อสป. เกิ ด ขึ้ น ได้ อ ย่ า งไร
ลำดับ ชื่อ-สกุล หน่วยงาน จังหวัด อสป.คื อ ตั ว แทนที ่ พ ื ้ น ที ่ ส ร้ า ง
เสริมความปลอดภัยส่งเข้าร่วม
1 นายวัชรชัย องคเรียน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขนาน จังหวัดเพชรบุรี การสัมมนาอาสาสมัครประชา
2 นางสาวนุชจรีย์ สร้อยสง องค์การบริหารส่วนตำบลดอนยาง จังหวัดเพชรบุรี สัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย เป็น
3 นายจรูญ กลั้นกลืน องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ส้ม จังหวัดเพชรบุรี
4 นายประเสริฐ เผือกประคอง องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ส้ม จังหวัดเพชรบุรี บุ ค คลที ่ ม าจากหลากหลาย
5 นายสุรพงษ์ สุขเกษม เทศบาลตำบลทับยา จังหวัดสิงห์บุรี อาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่วิทยุชุมชน
6 นายนันทพนธ์ ซุ่นใช้ สำนักงานเทศบาลตำบลเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่หอกระจายข่าว เจ้า
7 นายสรวิชญ์ สินนาคา สำนักงานเทศบาลตำบลเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หน้าที่ประชาสัมพันธ์ ผู้รับผิด
8 นายธงชาติ รัตนกุสุมภ์ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสา จังหวัดกาญจนบุรี ชอบงานด้านอุบัติเหตุ เป็นต้น
9 นายวีระกิตติ์ สิทธิโชคเรืองกุล นักจัดรายการวิทยุ อสมท.ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
10 นายไพบูลย์ เล็กศรี ประธานอสม.พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวจะเน้น
11 นางเย็นตา ทรงวิช อสม.กทม.เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและ
12 คุณพรทิพย์ มาชื่น อสม.กทม.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร กั น เช่ น การจั ด รายการวิ ท ยุ
13 นายวิชัย ปราบใหญ่ อสม.กทม.เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร การสืบค้นข้อมูล และการเขียน
14 คุณเบญจพร เมืองอินทร์ อสม.กทม.เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ข่าว เป็นต้น
15 คุณศรีจันทร์ จันทรักษ์ อสม.กทม.เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
16 นายสุนิตย์ ทองอ่อน อสม.กทม.เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
17 นายปรีดี นักงาน อสม.กทม.เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
18 นางกนกพร คงพืช อสม.กทม.เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
19 นางมุกดา ริดมัด อสม.กทม.เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
20 คุณแช่มช้อย ยิ่งสุจริตพันธุ์ อสม.กทม.เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
21 คุณพูนศรี สุวรรณลาภ อสม.กทม.เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
22 นางกรระวี ตันตระกูล อสม.กทม.เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
23 น.ส.เสมอใจ คูหาเพ็ชร์ อสม.กทม.เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
24 คุณเสถียร ลีลาฉัตร อสม.กทม.เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร


ทะเบียนรายชื่ออาสาสมัครประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย (อสป.)ภาคใต้ ทะเบียนรายชื่อพื้นที่สร้างเสริมความปลอดภั
13 ย
ลำดับ ชื่อ-สกุล หน่วยงาน จังหวัด ภาคใต้
1 นายประพันธ์ วงศ์สัมพันธ์ เทศบาลตำบลปะทิว จังหวัดชุมพร ลำดับ หน่วยงาน จังหวัด
2 นายสุจินต์ ช่างตีทอง เทศบาลตำบลไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 เทศบาลตำบลปะทิว จังหวัดชุมพร
3 คุณคมแก้ว เที่ยงแท้ เทศบาลตำบลไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 องค์การบริหารส่วนตำบลท้ายสำเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช
4 นายสมศักดิ์ พรหมพิชัย องค์การบริหารส่วนตำบลไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3 เทศบาลตำบลลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
5 นายนรภัทร สมโรจน์รัตน์ องค์การบริหารส่วนตำบลท้ายสำเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช 4 องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเจริญ จังหวัดพังงา
6 นายฤทธิ์ ไชยวรรณ เทศบาลตำบลลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 องค์การบริหารส่วนตำบลพ่วงพรมคร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
7 นายพงษ์สิทธ์ กลับคล้าย เทศบาลตำบลลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
8 นายถาวร วงศ์แฝด องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเจริญ จังหวัดพังงา
9 นายสุธา คำเลี้ยง องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเจริญ จังหวัดพังงา
10 นายไพโรจน์ ช่วยชนะ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเจริญ จังหวัดพังงา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
11 นายทนงศักดิ์ ชุ่มจิตต์ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเจริญ จังหวัดพังงา
12 นายทวีชัย อ่อนนวน วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ลำดับ หน่วยงาน จังหวัด
จังหวัดกระบี่ FM 98.50 MHz จังหวัดกระบี่
13 นายวิทยา แมนเมือง องค์การบริหารส่วนตำบลพ่วงพรมคร จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ จังหวัดอุดรธานี
14 นายสุวิทย์ คงทอง องค์การบริหารส่วนตำบลพ่วงพรมคร จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 เทศบาลเมืองหนองบัว จังหวัดอุดรธานี
3 องค์การบริหารส่วนตำบลพังงู จังหวัดอุดรธานี
4 องค์การบริหารส่วนตำบลนาดี จังหวัดอุดรธานี
ทะเบียนรายชื่ออาสาสมัครประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย (อสป.) ภาคเหนือ 5 องค์การบริหารส่วนตำบลกุดสระ จังหวัดอุดรธานี
ลำดับ ชื่อ-สกุล หน่วยงาน จังหวัด
6
7
เทศบาลเมืองหนองสำโรง
เทศบาลตำบลน้ำปลีก
จังหวัดอุดรธานี
จังหวัดอำนาจเจริญ
8 เทศบาลตำบลท่่าขอนยาง จังหวัดมหาสารคาม
1 นายเจริญ ไชยธิวงค์ เทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ 9 เทศบาลตำบลแวงน่าง จังหวัดมหาสารคาม
2 น.ส.เบ็ญจวรรณ คล้ายคลึง เทศบาลตำบลวังทอง จังหวัดพิษณุโลก 10 องค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง จังหวัดชัยภูมิ
3 นายอนุชา หารกา องค์การบริหารส่วนตำบลถืมตอง จังหวัดน่าน 11 องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยต้อน จังหวัดชัยภูมิ
4 นายวิรัชกุล ทานิล องค์การบริหารส่วนตำบลไหล่น่าน จังหวัดน่าน 12 องค์การบริหารส่วนตำบลอีเซ จังหวัดศรีสะเกษ
5 นายประหยัด ผุสะดี องค์การบริหารส่วนตำบลไหล่น่าน จังหวัดน่าน 13 เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย
6 นางอารีรัตน์ มูลสาร องค์การบริหารส่วนตำบลกองควาย จังหวัดน่าน 14 เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
7 นายธนนภัทร ปันวงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลกองควาย จังหวัดน่าน
8 นายสามารถ จันทาพูน องค์การบริหารส่วนตำบลศรีดอนมูล จังหวัดเชียงราย
9 นายเอกภพ วงค์เที่ยง องค์การบริหารส่วนตำบลจอมหมอกแก้ว จังหวัดเชียงราย
10 น.ส.อริสา หงส์สามสิบเจ็ด องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสาย จังหวัดเชียงราย ภาคเหนือ
11 น.ส.พิมผกา ต้นแก้ว เทศบาลตำบลบ้านกลาง จังหวัดลำพูน
12 นางสง่า เบ้าศรี องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร ลำดับ หน่วยงาน จังหวัด
13 นายมานะ วุฑฒยากร องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร
14 นายกมลเทพ ผาสุก องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร 1 เทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
15 นายชัย เทียมผล องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร 2 เทศบาลตำบลวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
16 นายสุธรรม ชัยขาม องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร 3 องค์การบริหารส่วนตำบลถืมตอง จังหวัดน่าน
4 องค์การบริหารส่วนตำบลไหลน่าน จังหวัดน่าน
5 องค์การบริหารส่วนตำบลกองควาย จังหวัดน่าน
ทะเบียนรายชื่ออาสาสมัครประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย (อสป.) 6 องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด จังหวัดพิจิตร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 องค์การบริหารส่วนตำบลศรีดอนมูล จังหวัดเชียงราย
ลำดับ ชื่อ-สกุล หน่วยงาน จังหวัด
8
9
องค์การบริหารส่วนตำบลจอมหมอกแก้ว
องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสาย
จังหวัดเชียงราย
จังหวัดเชียงราย
10 เทศบาลตำบลบ้านกลาง จังหวัดลำพูน
1 นายวสันต์ ธุระพระ องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ จังหวัดอุดรธานี
2 นายสุนันท์ พละคร เทศบาลตำบลหนองบัว จังหวัดอุดรธานี
3 นายสมดี ธรรมโกลัง องค์การบริหารส่วนตำบลนาดี จังหวัดอุดรธานี
4 พ.จ.อ.คุณากร จันดาวาปี องค์การบริหารส่วนตำบลนาดี จังหวัดอุดรธานี ภาคกลาง
5 นายทวี คงจา องค์การบริหารส่วนตำบลกุดสระ จังหวัดอุดรธานี ลำดับ หน่วยงาน จังหวัด
6 นางสาวเทวา น้อยนรินทร์ เทศบาลเมืองหนองสำโรง จังหวัดอุดรธานี
7 นางศรีสุดา พาพินิจ เทศบาลเมืองหนองสำโรง จังหวัดอุดรธานี 1 เทศบาลตำบลไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
8 นายอำนาจ ผาลิวงศ์ เทศบาลตำบลน้ำปลีก จังหวัดอำนาจเจริญ 2 องค์การบริหารส่วนตำบลไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
9 นางฐิติวัลค์ รัตนพันธ์ เทศบาลตำบลท่าขอนยาง จังหวัดมหาสารคาม
3 องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขนาน จังหวัดเพชรบุรี
10 พ.จ.อ.วัลลภ พุ่มประเสริฐ เทศบาลตำบลแวงน่าง จังหวัดมหาสารคาม
11 น.ส.ธัญลักษณ์ จักรนารายณ์ เทศบาลตำบลแวงน่าง จังหวัดมหาสารคาม 4 องค์การบริหารส่วนตำบลดอนยาง จังหวัดเพชรบุรี
12 นายเกรียงศักดิ์ ฝางชัยภูมิ องค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง จังหวัดชัยภูมิ 5 องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ส้ม จังหวัดเพชรบุรี
13 นางนธมน โหมดนอก องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยต้อน จังหวัดชัยภูมิ 6 เทศบาลตำบลทับยา จังหวัดสิงห์บุรี
14 คุณสุกัญญา พลแสน องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยต้อน จังหวัดชัยภูมิ 7 สำนักงานเทศบาลตำบลเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
15 นายนิด เศรษศรี องค์การบริหารส่วนตำบลอีเซ จังหวัดศรีสะเกษ 8 องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสา จังหวัดกาญจนบุรี
16 นายสมศรี บุญมี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 9 อสม.กทม.11 ศูนย์ กรุงเทพฯ
17 นายนาวา คงปิ่น เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย 10 อสม.พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
18 นายประกอบ พละพงค์ เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

14 << ตั้งสติ...ก่อนสตาร์ท >>

7 ข้อ
พึงระวัง
ก่อนถอยรถ
เดี๋ ย วนี้ แ ทบไม่ มี อ ะไรเป็ น ไปไม่ ไ ด้ อี ก
ทับลูก ต้องสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กว่า “ห้ามไป สอนให้ลกู รูว้ า่ เวลาทีผ่ ใู้ หญ่เข้าไปสตาร์ท
แล้ว สำหรับภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับ เล่นในรถ หรือรอบๆ ตัวรถ” โดยเด็ดขาด เครื่องรถ หรือถอยรถ ลูกต้องอยู่ให้ห่างจาก
ผู้ขับขี่รถทั้งหลาย แม้เรื่องที่แสนเศร้า ต้องหมัน่ ดูแลเอาใจใส่ลกู เสมอว่าสถานที่ รถให้มากที่สุด
อย่ า งเรื่ อ งการถอยรถทั บ ลู ก ตั ว เองใน ที่ลูกเล่นอยู่นั้น มีรถผ่านไปผ่านมา หรือมีรถ เก็ บ ของเล่ น เด็ ก รถจั ก รยานของลู ก
บ้ า น ที่ เ มื่ อ มี ค รั้ ง ที่ ห นึ่ ง ก็ มี ค รั้ ง ที่ ส อง เข้ามาจอดใกล้ ๆ หรือไม่ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้ห่างจากที่จอดรถ
ตามมา และตามมาอีกหลายครั้ง วันนี้ ก่อนใช้รถ พ่อแม่เองต้องตรวจดูรอบๆ อย่าเชื่อใจในเทคโนโลยีที่ติดมากับตัว
พ่อแม่ทั้งหลายคงต้องตระหนักถึงความ รถก่อนเพื่อความปลอดภัย และแน่ใจว่าไม่มี รถมากไปกว่าเชื่อใจในตัวเอง
ปลอดภัยในเรื่องนี้ให้มากขึ้นอีกหลาย เด็กอยู่ในบริเวณนั้น จึงค่อยถอยรถ หรือ
แม้เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เท่า โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก เดินหน้า แต่หากประมาท ไม่ใส่ใจ ก็อาจนำความ
สิ่งที่ควรระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ เมื ่ อ จะถอยรถออกจากบ้ า น ขอให้ ใ ช้ สูญเสียยิ่งใหญ่มาสู่พ่อแม่ได้เสมอ
เกิ ด อุ บ ั ต ิ เ หตุ ข ึ ้ น กั บ ลู ก ตั ว เล็ ก ๆ ที ่ ย ั ง ไร้
ความระมั ด ระวั ง และหมั ่ น ดู ก ระจกหลั ง จาก / ASTVผู้จัดการออนไลน์ /อ้างอิงจาก The U.S.
เดียงสา เริ่มจาก และกระจกข้างบ่อย ๆ National Highway Traffic Safety Administration /

นักวิชาการเปิดเผย
ตำแหน่งไฟหน้ารถเมืองไทย
เสี่ยงเกิดอันตราย

จากเหตุการณ์เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์
ไล่ยิงกัปตันการบินไทยจนได้รับบาดเจ็บ
ยังไม่มีความพร้อม ทั้งในด้านเทคนิคและ
เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน การติดตั้งไฟหน้ารถ
กระทำที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นอีกด้วย
“กฎหมายกำหนดให้ไฟหน้ารถมีสีขาว
เหตุเพราะกะพริบไฟสูงใส่ เนื่องจากรถ อย่างผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย และ หรือเหลืองอ่อนเท่านั้น ส่วนความเข้มของ
ดั ง กล่ า วติ ด ไฟซี น อนที่ มี แ สงสว่ า งจ้ า เกิ ด ธุ ร กิ จ ขายอุ ป กรณ์ แ ต่ ง รถจำนวนมาก แสงต้องไม่เกิน 55 วัตต์ และติดตั้งสูงจาก
รบกวนสายตาระหว่างขับรถ จากกรณีที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่บังคับใช้กฎหมาย ผิ ว ทางถนนไม่ น ้ อ ยกว่ า 40 เซนติ เ มตร

เกิดขึ้น ทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ออก อย่างเข้มงวด ผมเสนอว่าควรที่จะปรับปรุง แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร รูปแบบการกระจาย
มาแสดงความเห็ น เพื่ อ จะได้ ช่ ว ยกั น กฎหมายในด้ า นตำแหน่ ง ไฟหน้ า รถให้ ไ ด้ แสงต้องอยู่ในระดับตรงช่องจราจรและไม่
แก้ไขและป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิด มาตรฐานเท่าสากล คือไม่เกิน 1.2 เมตร รบกวนสายตาผู้ขับขี่รายอื่น ซึ่งตัวกฎหมาย
ขึ้นอีก และยกระดั บ มาตรฐานการตรวจสภาพ มีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ขับขี่
นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการ รถยนต์ ใ ห้ ม ี ป ระสิ ท ธิ ภ าพดี ย ิ ่ ง ขึ ้ น ” นพ.
ลักลอบดัดแปลงไฟหน้ารถอย่างผิดกฎหมาย
ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ธนะพงศ์ กล่าว อยู่เป็นประจำ ซึ่งปีนี้ที่รัฐบาลมีนโยบายลด
(ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าว ด้ า น พล.ต.ต.อุ ทั ย วรรณ แก้ ว สอาด
อุบัติเหตุทางถนน เจ้าหน้าก็จะดำเนินการ
ว่า มาตรฐานสากลในประเทศยุโรปกำหนด ผู ้ บ ั ง คั บ การกองบั ง คั บ การตำรวจจราจร
กวดขันจับกุมอย่างเต็มที่ ส่วนมาตรฐานแสง
ให้ตำแหน่งติดตั้งไฟหน้ารถต้องไม่เกิน 1.2 (ผบก.จร.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล สว่างไฟหน้ารถเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องร่วม
เมตร แต่ในประเทศไทยกำหนดให้ไม่เกิน กล่าวถึงรถยนต์ที่ติดตั้งไฟหน้ารถอย่างผิด กันพิจารณาว่าจะต้องปรับปรุงกฎหมายเพิ่ม
1.35 เมตร ซึ่งสูงกว่าต่างประเทศ จึงทำให้ กฎหมายว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เติมหรือไม่ เนื่องจากความเข้มของแสงไฟ
เป็นปัญหามาก โดยเฉพาะรถยนต์ประเภท ควบคุมดูแลเรื่องนี้ตามปกติ โดยตรวจจับ ซีนอนยังมีปัญหาทางกฎหมายที่อาจควบคุม
กระบะหรือโฟร์วีล เมื่อบรรทุกสิ่งของที่ม ี
รถยนต์ ท ี ่ ด ั ด แปลงหรื อ แก้ ไ ขไฟหน้ า รถมี
ไม่ถึง” ผบก.จร. บช.น. กล่าว
น้ำหนักมาก รถยนต์จะเงยสูงขึ้นไปอีก ทำ แสงส่องสว่างมากเกินกำหนด โดยเฉพาะ เมื่อมีปัญหาและตั้งใจแก้ปัญหาร่วมกัน
ให้ทิศทางของแสงไฟหน้ารถรบกวนรถยนต์ การเปลี่ยนหลอดไฟเป็นไฟซีนอนที่มีหลายสี ด้วยความจริงใจ เรื่องใดๆ ก็เป็นเรื่อง
คันอื่นๆ เรื่องนี้กลับถูกมองข้ามและไม่แก้ไข เช่น สีฟ้าและสีเขียว ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย เล็กทั้งสิ้น
ให้ “ปัจจุบันระบบตรวจสอบสภาพรถยนต์ ตาม พ.ร.บ.จราจร 2522 และยังเป็นการ จาก : http://thaipost.net/x-cite/ 190111/33035

“แม่น้ำ” I << เรื่องที่อยากเล่า >> 15


15
สวัสดี พ่อแม่พี่น้องเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้ง ไหลพราก เมื่อเห็นสุภาพสตรีท่านหนึ่งยืนอยู่
หลาย ปีใหม่นี้ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างเอ่ย เคียงข้างข้าพเจ้า จากการสังเกต ไม่ใช่เธอ
ข้ า พเจ้ า ไปเชี ย งรายมา นั ่ ง รถทั ว ร์ ไ ปลง ข้ามถนนไม่ทนั แต่เธอจงใจไม่ขา้ ม ทว่ายืน
เชียงใหม่ประมาณ 10 ชั่วโมง นั่งรถสอง รอจนกระทั่งไฟแดง แล้วจึงเดินข้ามถนน
แถวเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายอีกประมาณ 2 อย่างสง่างาม หลังจากวันนัน้ ข้าพเจ้าสังเกต
ชั่วโมง แค่นั่งรถอย่างเดียวก็เมาแล้ว ไม่ต้อง เห็นว่ามีคนทำตามข้าพเจ้าและหญิงสาวที่
ดื่มแอลกอฮอล์เลย เคารพกฎจราจร อีก 3 - 4 คน ถึงแม้จะดูว่า
ก่อนปีใหม่ ข้าพเจ้าเคยบ่นเรื่องรถจอด น้อย แต่พวกเราก็ยึดมั่นกับสัญญาณไฟ ถือ
บนทางม้าลายตอนติดไฟแดงไปแล้ว คิดไป ได้ว่าเป็นนิมิตหมายอันดี สวรรค์คงเห็นใจใน
คิดมาจะบ่นแต่เรื่องคนขับรถกับเจ้าหน้าที ่
ความแน่วแน่ของข้าพเจ้า เห็นไหม!..ทุกสิ่ง

ก็ดูไม่ยุติธรรม ลองมาดูประชาชนทั่วไปที่ใช้ เมื่อเริ่มต้นจากตัวเราก่อน ท้ายที่สุดก็จะ


ถนนกันบ้าง ข้าพเจ้าสังเกตเกือบทุกวันที่
เดินทางมาทำงาน ไม่รู้เป็นไง เวลาข้ามถนน
ขยายผลไปสู่คนรอบข้างเองโดยธรรมชาติ
ถึงแม้จะเห็นผลช้า แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะมี
ต่อไปนี ้
คนส่วนใหญ่ช่างกล้าเสี่ยงภัยแบบไม่กลัว มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคนต่างถิ่น ต่างแดน เราจะไม่เดียวดาย
อันตรายกันเลย สงสัยชีวิตประจำวันไม่ค่อย
มีเรื่องให้ตื่นเต้น คือแทนที่จะรอให้ไฟแดง
ก่อนแล้วค่อยข้ามทางม้าลาย แต่เปล่าครับ
ท่าน ประชากรหมู่มากรวมใจเป็นหนึ่งเดียว
เขาจะได้ไม่มากล่าวหาว่าคนไทยไร้ระเบียบ
ไปเสียหมด
ร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขสิ่งเล็กๆ ทีละ
เรื่อง สักวันเราก็จะแก้ปัญหาใหญ่ได้ แต่

วิ่งข้ามถนนในขณะที่รถขาดช่วงแต่ไฟยัง ถ้าไม่เริ่มแก้แม้แต่เรื่องเล็กๆ แล้วเรื่อง
เขียวอยู่ ก็ได้แต่คิดในใจว่าชีวิตของเขาเรา ใหญ่ๆ เราจะเอาปัญญาที่ไหนไปทำได้
อย่ายุ่ง ขืนตะโกนบอกว่าพี่ๆ อย่าข้าม คง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ร่วมกันรักษา
ไม่ ม ี ใ ครฟั ง หรอก เมื ่ อ ก่ อ นข้ า พเจ้ า ก็ เ คย กฎ ระเบียบ ความถูกต้อง...สู้ต่อไป กับ
ประพฤติแบบนั้น แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าจะยืน ความยิ่งใหญ่เล็กๆ นี ้
รอจนสัญญาณไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดง
ก่อน แล้วจึงค่อยเดินข้ามทางม้าลาย (อย่าง
โดดเดี่ยว เดียวดาย)
วั น หนึ ่ ง ขณะที ่ ข ้ า พเจ้ า เดิ น ทางมา
ทำงาน และคนไทยส่วนใหญ่ยังคงรวมพลัง
ฝ่าไฟเขียวข้ามถนน โดยมีข้าพเจ้ายืนรอ
สัญญาณไฟแดงอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหมือน
เช่นเคย ไม่รู้อะไรดลใจให้ข้าพเจ้าหันไปทาง
ซ้ายมือ พลันน้ำตาแห่งความตื้นตันแทบ

ขอเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่และภาคีเครือข่ายทุกท่าน เขียนเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่ประสบพบเจอจากการใช้รถใช้ถนน


ไม่ว่าจะโหด เศร้า ฮา สารพัดอารมณ์ความรู้สึก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ผู้สนใจ สามารถส่งไฟล์ต้นฉบับ
มาได้ที่ E-mail : accident2549@yahoo.com หรือส่งจดหมายมาตามที่อยู่หลังจดหมายข่าวฯ

เฉลยคำถาม : ฉบับที่ 5 เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2553 ตอบ


คำตอบ : ปัจจุบันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน คําถาม
เฉลี่ยวันละ 53 คน ชิงรางวัล
คําถาม : จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดช่วง 7 วันอันตราย ปี 2554
ได้แก่จังหวัดใด?
ร่ ว มสนุ ก โดยตั ด หรื อ ถ่ า ยเอกสารชิ้ น ส่ ว นนี้ เขี ย นคำตอบ พร้ อ มชื่ อ -นามสกุ ล หน่ ว ยงาน ที่ อ ยู ่

สำหรับจัดส่งของรางวัล และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก แฟ็กซ์ มาที่ 0-2580-0518



(10 ท่านแรกที่ตอบถูก จะได้รับชุดของขวัญจากสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ จัดส่งให้ถึงบ้าน)

16 << ก่อนจาก >> I โบสีฟ้า

ทีวีจีนทำเก๋!
ฉายภาพชนสยอง
เตือนภัย
ผู้ ใช้รถ ใช้ถนน
ปริมาณรถยิ่งมาก อุบัติเหตุก็ยิ่งเกิดขึ้น อาทิ ภาพคนเดินถนนที่ถูกรถบรรทุกทับ
บ่อยเป็นเรื่องธรรมดาถ้าไม่มีมาตรการ ศีรษะจนแบน หรือภาพรถที่พุ่งเข้าชนคน
ป้องกันที่ดีพอมารองรับ ประเทศจีนเอง
ขี่รถจักรยานกลางสี่แยกจนกระเด็นไป
ก็ประสบกับปัญหาเรื่องอุบัติเหตุทางถนน ไกลกลางอากาศ ซึ ่ ง สร้ า งความหวาด
ไม่ น ้ อ ย และหลายครั ้ ง เป็ น อุ บ ั ต ิ เ หตุ ท ี ่
เสียวปนสยองให้ผู้ที่ได้รับชมเป็นอย่างยิ่ง
รุนแรงเสียด้วย เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา มี อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวก็ไม่ได้
สถิติตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทาง ต้องการให้ผู้ชมเป็นลม หรือ หั ว ใจวาย
ถนนมากถึง 70,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ เมื่อได้ดูภาพจริงอันน่าสยดสยอง แต่จุด
190 คน จากจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ประสงค์ของรายการ ก็เพื่อให้ภาพเหล่านี้
ทั้งหมด 265,000 ครั้ง และตัวเลขนี้มี เป็นบทเรียนเตือนสติแก่ผู้ขับ ขี ่ ร ถยนต์
1 2 แนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะใน รวมทั้งพวกมือใหม่หัดขับทั้ง หลายที ่ ม ี
กรุงปักกิ่งที่มีรถยนต์วิ่งถึง 4.8 ล้านคัน จำนวนหลายพันคนในกรุงปักกิ่งให้ระมัด
นี่เองจึงเป็นเหตุผลให้สถานีโทรทัศน์ ระวังมากยิ่งขึ้น โดยมีตำรวจจราจรมา
ปักกิ่ง จับมือกับตำรวจจราจรของปักกิ่ง อธิบายให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของผู้ขับรถ
1 2 ผลิตรายการโทรทัศน์ Traffic Light เพื่อ หรือคนเดินถนน นอกจากนี้ ทางรายการ
หวังลดอุบตั เิ หตุทเ่ี กิดขึน้ บนท้องถนน โดย ยังได้ให้คำแนะนำการใช้รถใช้ถนนอย่าง
รณรงค์และเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระวัง ปลอดภัยอีกด้วย เพราะสาเหตุของอุบัติ-
อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้เพียงแค่เสี้ยว เหตุ ส ่ ว นใหญ่ เกิ ด จากการละเมิ ด กฎ
1 2 วิ น าที ทั ้ ง นี ้ หลั ง จากรายการ Traffic จราจรขั้นพื้นฐานนั่นเอง
Light ออกอากาศ ก็ได้รับการกล่าวถึง ข่าวไม่ได้บอกต่อว่า เมือ่ ใช้วธิ ี “หนาม
อย่างมากมาย เพราะทางรายการได้นำ ยอก เอาหนามบ่ง” แล้ว สามารถลด
ภาพอุบัติเหตุสยองที่เกิดขึ้นจริงมาแพร่ อุบัติเหตุได้มากน้อยแค่ไหน
3 ภาพให้ผู้ชมโทรทัศน์ได้รับชม แบบซ้ำไป
ซ้ำมาทั้งภาพปกติ ภาพเคลื่อนไหวช้าๆ ข้อมูลจาก : http://hilight.kapook.com/view/55469

เครือข่ายลดอุบัติเหตุ
ชั้น 1 อาคารราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ถนนติวานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทรศัพท์ 0-2588-3769 โทรสาร 0-2580-0518

You might also like