Professional Documents
Culture Documents
324 PDF
324 PDF
จุดประสงค์
๑. เพื่อฝึ กทักษะการฟัง
๒. เพื่อฝึ กทักษะการอ่านออกเสี ยงและอ่านจับใจความ
๓. เพื่อฝึ กทักษะการเขียนคําและเขียนบทร้อยกรอง
๔. เพื่อฝึ กทักษะการพูด
๕. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีเจตคติที่ดีต่อการอ่านและเขียนบทร้อยกรอง
การใช้ สื่อ
ช่ วงชั้นที่ ๑
๑.๑ สําหรับชั้นอนุบาล หรื อ ชั้นประถมปี ที่ ๑ ครู อ่านให้ฟังแล้วให้นกั เรี ยนตอบ
เมื่อได้คาํ ตอบที่ถูกแล้ว ให้นกั เรี ยนบอกเหตุผลของการเลือกคําตอบว่าเหตุผลใดที่เลือกคําตอบนั้น ทํา
ให้นกั เรี ยนวิเคราะห์ใจความของบทร้อยกรองได้ แล้วให้นกั เรี ยนพูดเกี่ยวกับคําตอบ เช่น ลักษณะ
ประโยชน์ เล่านิทาน หรื อให้นกั เรี ยนวาดภาพ หรื อปั้ นดินนํ้ามันเกี่ยวกับคําตอบนั้น เป็ นต้น
๑.๒ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๒-๓ ครู อ่านให้ฟัง หรื อให้นกั เรี ยนอ่านคนละข้อความแล้ว
ให้นกั เรี ยนที่ฟังเขียนคําตอบลงในสมุด จะทําให้นกั เรี ยนได้คิดเพื่อหาคําตอบและคิดเพื่อประสมคําใน
การเขียน
๑.๓ ทําบัตรกิจกรรมการเรี ยนรู ้เป็ นแผ่น โดยมีบทร้อยกรองปริ ศนา ๑ บท ให้นกั เรี ยนอ่าน
แล้วให้เขียนคําตอบ พร้อมวาดภาพประกอบ หรื อ ให้บรรยายเป็ นบทร้อยแก้ว
๑.๔ ฝึ กอ่านและเขียนคําคล้องจองจากบทร้อยกรอง
ช่ วงชั้นที่ ๒
๒.๑ ให้นกั เรี ยนหรื อครู อ่านทํานองเสนาะให้นกั เรี ยนฟัง แล้วให้นกั เรี ยนเขียนคําตอบลงใน
สมุด โดยแยกคําตอบเป็ นคํามูล คําประสม คําควบกลํ้า อักษรนํา เสี ยงวรรณยุกต์ แยก
พยัญชนะต้นเป็ นอักษร ๓ หมู่ หรื อ อักษรเดี่ยว อักษรคู่ตามลักษณะคําตอบของปริ ศนาแต่ละชุด
๒.๒ ฝึ กทักษะการพูดโดยให้นกั เรี ยนบอกเหตุผลที่เลือกคําตอบนั้น
๒.๓ ฝึ กอ่านให้จาํ ได้อย่างน้อย ๑ บท เพื่อจําเป็ นตัวอย่างในการเขียนบทร้อยกรอง
๒.๔ ฝึ กอ่านและเขียนคําคล้องจองจากบทร้อยกรอง
๒.๕ ให้นกั เรี ยนเขียนแผนผังบทร้อยกรอง แต่ละประเภท เพื่อเป็ นแนวทางในการเขียน
บทร้อยกรอง
๒.๖ ฝึ กเขียนปริ ศนาเรื่ องอื่น ๆ อย่างน้อยคนละ ๑ บท
ร้ อยกรองปริ ศนา พัฒนาการคิด ๒
ชุดที่ ๑ ฉันคือสัตว์อะไร
๑. ตัวฉันหน้าคล้ายคนซุกซนนัก อาศัยพักบนต้นไม้อยูใ่ นป่ า
กินผลไม้เป็ นอาหารแต่นานมา ใครเก่งกล้าตอบพลันฉันคืออะไร
๒. ฉันมีท้ งั สี ดาํ นํ้าตาลขาว สองหูยาวสี่ ขาแสนน่ารัก
อาหารโปรดของฉันนั้นคือผัก ใครรู ้จกั ตอบพลันฉันคืออะไร
๓. อันตัวของฉันนี้มีสองขา มีปีกกล้าหากินยามมืดคํ่า
ส่ วนกายานั้นมีสีเกือบดํา นอนในถํ้าห้อยหัวตัวอะไร
๔. ฉันเป็ นสัตว์ไม่มีขาอยูป่ ่ ารก มักกัดฉกผูค้ นพ่นพิษสง
ใครได้รับพิษร้ายอาจตายลง อย่างุนงงตอบพลันฉันคืออะไร
๕. เมื่อเล็กฉันมีหางขาว่างเว้น พอโตเห็นสี่ ขาพาหางหาย
คนจับฉันกินบ่อยคอยหลบกาย กระโดดได้เร็วพลันฉันคืออะไร
๖. ฉันอาศัยในนํ้าไม่มีขา อยูใ่ นตูแ้ สนงามตาพาสุ ขสันต์
เป็ นอาหารคุณค่าดีมีครบครัน จงตอบพลันฉันนี้หรื อคืออะไร
๗. ฉันนี้มีสี่ขาอยูป่ ่ าใหญ่ คนทัว่ ไปเกรงกลัวในตัวฉัน
เป็ นเจ้าป่ ามานานนักรู ้จกั กัน ทายซิฉนั คืออะไรใหญ่น่ากลัว
๘. ฉันเป็ นสัตว์สี่ขาแสนน่ารัก ทั้งรู ้จกั หน้าที่ดีหนักหนา
คอยจับหนูอยูใ่ นบ้านทุกเวลา แต่เห็นหมากลัวพลันฉันคืออะไร
๙. ฉันนี้มีหกขาปี กกล้าแกร่ ง เป็ นแมลงกินนํ้าหวานบ้านรังใหญ่
ใครรังแกฉันจะต่อยปล่อยเหล็กใน งานน้อยใหญ่ช่วยกันฉันคืออะไร
๑๐. ฉันมีชื่อน่ากลัวตัวสี สวย มีปีกช่วยโบยบินกินนํ้าหวาน
ผสมเกสรมาลีที่เบ่งบาน นัน่ คืองานประจําวันฉันคืออะไร
๑๑. ตัวฉันนี้สีดาํ กํายํานัก ชาวนามักใช้งานด้านการไถ
กินหญ้าเป็ นอาหารสําราญใจ คืออะไรตอบมาหาง่ายดาย
๑๒. ฉันนี้มีสองขาหากินทัว่ ด้วยลําตัวมีปีกบินไกลถิ่นที่
กินแมลงตามใบไม้ได้ผลดี รังฉันนี้บา้ นสบายทายอะไร
๑๓. ฉันนี้เป็ นสัตว์ใหญ่อยูใ่ นป่ า มีสองงาจมูกยาวสี่ เท้าลํ่า
ลากซุงหนักยากแค้นแสนตรากตรํา ฉันมีสีคลํ้าคลํ้าคืออะไร
๑๔. ฉันนี้มีสี่ขาคลานช้านัก ชอบกินผักแต่แข็งแรงวิง่ แข่งได้
มีกระดองป้ องกันอันตราย เคยชนะกระต่ายทายอะไร
พรรณี จันทร์ ณรงค์
ร้ อยกรองปริ ศนา พัฒนาการคิด ๓
๕. ฉันนี้มีสีเขียว มาท่องเที่ยวประเทศไทย
ทั้งเด็กและผูใ้ หญ่ ต่างกินได้ทวั่ ทุกคน
เมล็ดมากอยูก่ ลางเนื้อ จิ้มพริ กเกลืออร่ อยล้น
ปลูกได้ทุกแห่งหน ฉันคือผลอะไรดี
๙. ยามสาวฉันคับแจ แต่เมื่อแก่ฝักหลวมโพรก
ฉันถูกบริ โภค ทั้งอ่อนแก่อย่างแพร่ หลาย
เพชรบูรณ์ปลูกรสหวาน คนกล่าวขานกันมากมาย
ปรุ งอาหารดองก็ได้ คิดแล้วทายคืออะไร
ชุดที่ ๓ ฉันคืออะไร
๑. ฉันมีสามสี แดงมีอยูข่ า้ ง
นํ้าเงินอยูก่ ลาง ขาววางอยูใ่ น
เช้าเชิญขึ้นเสา เย็นเอาลงไว้
คนยืนตรงให้ อะไรตอบมา
๒. ฉันมีสี่ขา ใหญ่กว่าเก้าอี้
ห้องเรี ยนต้องมี ใช้วางตํารา
สิ่ งของเครื่ องใช้ รับได้ทุกครา
ตั้งอยูต่ รงหน้า ฉันคืออะไร
๓. ฉันนี้มีปาก ชื่อจากสัตว์ปีก
ไม่เคยหลบหลีก หากใครเขียนใช้
ของเหลวหลากสี นั้นมีในไส้
ซื้อหาได้ง่าย ฉันคืออะไร
๔. ฉันทําจากยาง รู ปร่ างสวยหรู
คําผิดศัตรู รออยูท่ วั่ ไป
หากฉันได้พบ ต้องลบทันใด
ฉันคืออะไร คิดได้ตอบพลัน
๕. ฉันมีหลากสี ยาวดีน่าใช้
เส้นจะตรงได้ ต้องใช้ทุกครา
เมื่อวางฉันลง เส้นตรงงามตา
เธอรู ไหมว่า ฉันคืออะไร
๖. ฉันมีหลายหน้า วิชาหาใส่
จดเก็บทันใจ อยูใ่ นฉันพลัน
แบบฝึ กหัดมาก ง่ายยากไม่หวัน่
รับได้ทุกวัน ฉันคืออะไร
๙. ฉันมีไส้ดาํ คนทําไว้เขียน
ใช้ท้ งั นักเรี ยน ผูค้ นทัว่ ไป
ต้องคอยเหลาปลาย ไม่ให้เส้นใหญ่
วาดภาพก็ได้ อะไรตอบมา
๑. ฉันอยูโ่ รงเรี ยน
สอนเด็กอ่านเขียน รํ่าเรี ยนวิชา
อบรมนิสัย ฝึ กใช้ปัญญา
เธอทราบไหมว่า ฉันเป็ นอะไร
๒. ฉันสวมชุดขาว
ทั้งหมวกรองเท้า สี ขาวเหมือนกัน
ทําตามหมอสั่ง ทุกครั้งไม่หวัน่
ช่วยคนไข้พลัน ฉันเป็ นอะไร
๓. ฉันไปทุกแห่ง
ตามที่อยูแ่ จ้ง แจกจ่ายจดหมาย
มีพสั ดุภณ
ั ฑ์ ฉันนั้นจ่ายให้
คําตอบแสนง่าย ฉันเป็ นอะไร
๔. ฉันอยูบ่ นรถ
ปฏิบตั ิตามกฎ การจราจร
ถือพวงมาลัย รถไปแน่นอน
ใจไม่รีบร้อน ฉันเป็ นอะไร
๕. ฉันอยูบ่ นถนน
ป้ องกันรถชน คอยให้สัญญาณ
โบกมือให้เสี ยง ไม่เกี่ยงการงาน
ให้รถหยุดผ่าน ฉันเป็ นอะไร
๖. ฉันมีทุ่งนา
ปลูกข้าวงามตา เลี้ยงคนมากมาย
ฉันไถหว่านดํา ตรากตรําเหลือหลาย
แสนลําบากกาย ฉันเป็ นอะไร
๗. ฉันนี้มีเรื อ
ได้ปลามากเหลือ ลากอวนหามา
ปลาเล็กไม่เอา เลี้ยงชาวประชา
เห็นทะเลฟ้ า ฉันเป็ นอะไร
๘. ฉันชายกล้าหาญ
การรบเชี่ยวชาญ ป้ องกันศัตรู
ใครรุ กประเทศ ลํ้าเขตฉันสู ้
ทุกคนย่อมรู ้ ฉันเป็ นอะไร
๙. ฉันชอบคนดี
สวมชุดกากี ช่วยประชาชน
จับโจรผูร้ ้าย มิให้ฆ่าปล้น
กล้าหาญอดทน ฉันเป็ นอะไร
๑๐. ฉันคนแข็งแกร่ ง
ทํางานด้วยแรง ไม่พ่ งึ วิชา
ทั้งขุดแบกหาม ทําตามบัญชา
งานหนักไม่วา่ ฉันเป็ นอะไร
๑๑. ฉันชอบขับขาน
คนฟังชื่นบาน แสนสุ ขอุรา
ฉันยืนหลังไมค์ มีไฟส่ องหน้า
ตอบได้ไหมว่า ฉันเป็ นอะไร
๑๒. ฉันนําคนเที่ยว
ความรู ้ชาญเชี่ยว ทุกทุกสถาน
ท่องเที่ยวที่ไหน บอกได้ชาํ นาญ
สนุกกับงาน ฉันเป็ นอะไร
๑๓. ฉันเดินบนรถ
ใครขึ้นเห็นหมด ไม่ลอดสายตา
ผูโ้ ดยสารนัง่ ไม่ร้ ังรอรา
รี บเก็บเงินตรา ฉันเป็ นอะไร
๑๔. ฉันรับคนไข้
เป็ นโรคอะไร ตรวจได้ชาํ นาญ
คอยออกคําสั่ง ให้นางพยาบาล
รับปฏิบตั ิงาน ฉันเป็ นอะไร
๑๖. ฉันทําเก้าอี้
โต๊ะตูอ้ ย่างดี ทั้งบ้านเตียงนอน
เลื่อยไม้สวยหรู ใช้ตะปูคอ้ น
คิดให้แน่นอน ฉันเป็ นอะไร
๑๘. ฉันคนกล้าหาญ
ใช้เชือกไต่คลาน จักรยานล้อเดียว
ห้อยโหนต่อตัว น่ากลัวหวาดเสี ยว
ท่าทางปราดเปรี ยว ฉันเป็ นอะไร
ชุดที่ ๕ ฉันคืออวัยวะใด
๑. ฉันนี้มีมากมาย รักษาไว้ยมิ้ สวยดี
หากใครนั้นไม่มี เคี้ยวอาหารรําคาญจริ ง
ชุดแรกเรี ยกนํ้านม ไม่ขื่นขมเมื่อถอนทิ้ง
ชุดสองนั้นแท้จริ ง ทายซิฉนั นั้นอะไร
๒. ฉันอยูข่ า้ งศีรษะ ไม่เกะกะซ้ายขวามี
รับเสี ยงได้อย่างดี หากฉันนี้ไม่พิการ
ใครเชื่อคนอื่นง่าย มีคาํ ใช้แต่โบราณ
ว่าเบาเหลือประมาณ คนเรี ยกขานว่าอะไร
๓. ฉันอยูบ่ นใบหน้า ใต้ดวงตาสองข้างมี
ชมพูดูสวยดี ตัวฉันนี้รับนํ้าตา
ใกล้ใกล้กบั จมูก แม่จูบลูกถูกทุกครา
เรี ยกปรางก็ได้นา ทายซิวา่ คืออะไร
๔. ฉันนี้อยูใ่ ต้ปาก ดูไม่ยากปลายมนแหลม
เฉียงไปนั้นคือแก้ม ฉันช่วยแง้มปากขึ้นลง
ปากพูดฉันขยับให้ เสี ยงที่ได้ดงั มัน่ คง
ชกฉันพลันงวยงง ตอบให้ตรงคืออะไร
๕. ฉันนี้มีสองข้าง อยูร่ ะหว่างคอและท้อง
เสื้ อปิ ดมิให้มอง ทั้งหญิงชายต่างก็มี
หญิงใดที่มีลูก ช่วยพันผูกลูกอย่างดี
ดูดนํ้าจากฉันนี้ ลองทายซีคืออะไร
๖. ฉันอยูเ่ หนือลําคอ ผมทั้งกออยูบ่ นฉัน
หน้าตามารวมกัน เป็ นตัวฉันทั้งกลมรี
ข้างในมีสมอง หูท้ งั สองก็ตอ้ งมี
สวมหมวกปกปิ ดดี ทายฉันนี้คืออะไร
ชุดที่ ๖ ฉันคือใครในนิทาน
๑. นิทานเรื่ องใดมีฉนั ทําให้เรื่ องนั้นสนุกยิง่
ฉันนั้นไม่มีตวั จริ ง ใหญ่ยงิ่ กว่าใครมานาน
มักใช้กระบองเป็ นอาวุธ กินมนุษย์เขี้ยวใหญ่ใจหาญ
เล่ามาแต่ครั้งโบราณ เรี ยกขานฉันว่าอะไร
๔. ฉันลูกพระพายเก่งกาจ ฉลาดกว่าใครในหล้า
หาวเป็ นดาวเดือนเกลื่อนฟ้ า อาสาพระรามโรมรัน
หากตายกายฟื้ นคืนได้ เมื่อลมถูกกายกระชั้น
ไม่กลัวแม้ทศกัณฐ์ ตอบพลันฉันนี้คือใคร
๒. ดอกนี้มีกลิ่นประทิ่นไกล งามงดสดใส
ปักในแจกันนั้นดี
ดมดอมหอมมากหลากสี ต้องห้ามหนามมี
แดงดีประจักษ์รักจริ ง
๓. ดอกอะไรใครชอบตอบได้ กลิ่นรํ่ากําจาย
มอบให้แด่ผบู ้ ูชา
บานเบ่งเปล่งขาวราวผ้า ดอกตูมนั้นหนา
สรรหามาทํามาลัย
๕. ดอกอะไรใหญ่มากหากบาน ในสระตระการ
ใช้งานหลายหลากมากมี
เมล็ดสายใช้กินได้ดี ปลูกทัว่ ปฐพี
พระนี้นาํ ดอกบูชา
๖. ดอกอะไรไม่ร่วงโรยรา เลิศลํ้าทํายา
รักษาโรคภัยได้ดี
จัดพานสวยมากหลากสี กลิ่นหอมไม่มี
กลมรี ชูช่อรอแมลง
๗. ดอกอะไรไม่เบื่อเมื่อบาน สดชื่นรื่ นสราญ
ไม่นานกลีบร่ วงโรยรา
กลีบซ้อนสวยลํ้างามตา หลากสี นานา
มีค่าเลิศหรู คู่ไทย
๘. ดอกอะไรไม่เคยแน่นอน รักผันสัญจร
เร่ ร่อนเหินห่างจางไป
สี ดอกงามงดสดใส เหลืองแดงแกว่งไกว
หากใครพบเห็นเป็ นชม
ชุดที่ ๘ ซ่ อนคาลานากลอน
จุดประสงค์
๑. เพื่อฝึ กทักษะการฟัง
๒. เพื่อฝึ กทักษะการอ่านออกเสี ยงและอ่านจับใจความ
๓. เพื่อฝึ กทักษะการเขียนคําและเขียนบทร้อยกรอง
๔. เพื่อฝึ กทักษะการใช้รูปสระ
๕. เพื่อฝึ กทักษะการพูด
๖. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีเจตคติที่ดีต่อการอ่านและเขียนบทร้อยกรอง
การใช้ สื่อ
๑. ศึกษารู ปสระจากหนังสื อเรี ยนหรื อหนังสื ออ่านประกอบ
๒. อ่านให้นกั เรี ยนฟังเพื่อฝึ กสมาธิก่อนเรี ยน และมารยาทการฟังแล้วให้นกั เรี ยน
เขียนตอบ
๓. ฝึ กนักเรี ยนอ่านบทร้อยกรองและคิดหาคําตอบ
๔. ฝึ กเขียนคํา ประโยคและข้อความจากคําตอบ
๕. เขียนคําคล้องจองและแผนผังกลอนสุ ภาพ
๖. ฝึ กเขียนบทร้อยกรองโดยการเลียนแบบ
๗. คัดบทร้อยกรอง
๙. พินทุอิมีฝนทองจ้องเหยียบแหวน ไม้หน้าแค้นขวางหน้าอย่างกล้าหาญ
ยักษ์นาํ งูหนั อากาศพาด จ.จาน มีทหารนําหนูตายไล่หนูเป็ น
๘.๓ คําควบไม่แท้
๘.๔ อักษรนา
ชุดที่ ๙ ปริศนาคา
จุดประสงค์ การเรียนรู้
๑. เพื่อฝึ กการคิดคําหรื อสํานวน
๒. เพื่อฝึ กการใช้พจนานุกรม
๓. เพื่อฝึ กการเขียนคําและเรี ยนรู ้ความหมายของคําอย่างหลากหลาย
๔. เพื่อฝึ กทักษะการอ่านบทร้อยกรอง
วิธีใช้ สื่อ
๑. ฝึ กทักษะการฟัง ครู อ่านให้นกั เรี ยนฟัง และให้นกั เรี ยนเปิ ดหาคําจากพจนานุกรม
แล้วเขียนตอบลงในสมุด ให้นกั เรี ยนคิดคําตอบเป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่มก็ได้
๒. ฝึ กทักษะการอ่าน ครู แจกร้อยกรองปริ ศนาคําให้แก่นกั เรี ยนเป็ นรายบุคคลหรื อ
กลุ่มแล้วช่วยกันหาคําจากพจนานุกรมตามเวลาที่กาํ หนด
๓. ให้นกั เรี ยนพัฒนาการอ่านโดยการหาคําหรื อสํานวนอื่น ๆ ที่มีความหมาย
ใกล้เคียงกันหรื อ พยางค์แรกเหมือนกัน
๔. พัฒนาการเขียนโดยการเลียนแบบการเขียนบทร้อยกรองแต่เป็ นคําชุดอื่น ๆ ที่
นักเรี ยนสนใจ
ชุดที่ ๙.๑
คาทีน่ าด้ วย “กระ”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ตก” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ชุดที่ ๙.๒
คาทีน่ าด้ วย “ตก”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ตก” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ตกหนึ่งพึงสังเกต บ่งถึงเหตุไม่งามตา
จุดด่างเต็มกายา ตกที่หน้าเป็ นจุดดํา
ตกสองต้องปลูกไว้ กล้วยหลากหลายประโยชน์ล้ าํ
ปลีดอกจะออกนํา หลายหวีงามตกตามมา
ตกสามงามกระไร ได้น้ าํ ใสดังเจตนา
ขุ่นข้นที่ปนมา ตกอยูก่ น้ คนชอบใจ
ตกสี่ มีกาํ เนิด ได้ฤกษ์เกิดชีวติ ใหม่
ชะตาเป็ นฉันใด เวลาตกยกให้โหร
ตกห้าลงบันได จะตกไซร้รีบกระโจน
พบเหตุยอมเอนโอน หมดทางเลี่ยงต้องเอียงตาม
ตกหกยกให้ปลา ว่ายแหวกมาหาแหล่งนํ้า
หน้าแล้งมาถึงยาม ปลาตกแอ่งแหล่งรวมกัน
ตกเจ็ดเสร็ จคนลวง ต้องติดบ่วงไม่รู้ทนั
ไม่เห็นหลุมกีดกั้น ตกลงพลันอันตราย
ตกแปดเป็ นรองเขา กําลังเราสู ้ไม่ได้
ตกล่างอยูร่ ่ าํ ไป ทําการใดเสี ยเปรี ยบพลัน
ตกเก้านํ้าสลาย สารละลายให้แยกกัน
แล้วรวมอย่างแข็งขัน ตกก้อนใหญ่งดงามตา
ตกสิ บหยิบยกให้ ตัดสิ นใจร่ วมชีวา
ร่ วมกิจการนานา ตกช่องทางหวังทํากิน
ชุดที่ ๙.๓
คาทีน่ าด้ วย “ตา”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ตํา” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ชุดที่ ๙.๔
คาทีน่ าด้ วย “นา้ ”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“นํ้า” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
นํ้าหนึ่งไม่พึงมี ขังในที่ใต้ครัวเรื อน
สกปรกเลอะเปรอะเปื้ อน กําจัดได้อย่าให้มี
นํ้าสองต้องแทรกยา เพื่อรักษาให้ผลดี
นํ้าข้าว สุ รานี้ เพิ่มแล้วมีฤทธิ์แรงยา
นํ้าสามยามได้ดื่ม พาหลงลืมปลื้มหนักหนา
สามัญเรี ยกสุ รา กับราชาเรี ยกต่างกัน
นํ้าสี่ หาไม่ยาก อยูใ่ นปากคุณอนันต์
ไหลได้ตลอดวัน เรี ยกให้งามสามพยางค์
นํ้าห้าพารู ้ทวั่ ความเลวชัว่ ที่เคยสร้าง
อํานาจหมดปลดวาง ที่อาํ พรางผุดทันใด
นํ้าหกตกจากฟ้ า ชะดินมาพร้อมนํ้าไหล
สี เหลืองเห็นแต่ไกล นํ้าวัวใครไหลระริ น
นํ้าเจ็ดเสกให้ขลัง เพิ่มพลังยามอาบกิน
ประพรมให้กายิน ไร้มลทินมีมงคล
นํ้าแปดสะสมน้อย เก็บบ่อยบ่อยก็ได้ผล
บ่อทรายนํ้าไม่ลน้ อยูค่ งทนตลอดกาล
นํ้าเก้าเฝ้ าแม่น้ าํ เมื่อถึงยามต้องทํางาน
นํ้ามารี บจัดการ ปล่อยให้ผา่ นต้องเหนื่อยกาย
นํ้าสิ บพูดไม่ออก ถ้าหากบอกจะมีภยั
เหมือนนํ้าเต็มภายใน ปากปราศรัยไม่ได้การ
ชุดที่ ๙.๕
คาทีน่ าด้ วย “ทา”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ทํา” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ชุดที่ ๙.๖
คาทีน่ าด้ วย “ผี ”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ผี” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ผีหนึ่งถึงที่หมาย นําของขายไร้กาํ ไร
ต้องยอมนายทุนไป ถ้าขืนเฝ้ าเน่าเหมือนผี
ผีสองจากอวกาศ อุกกาบาตเคลื่อนเร็วรี่
อากาศได้เสี ยดสี มีแสงพุ่งมุ่งพสุ ธา
ผีสามเห็นยามพลบ ตะวันหลบแต่แสงมา
สะท้อนหลอนหลอกตา เป็ นเวลาผีทาํ งาน
ผีสี่มีกาํ ลัง ถ้วยที่ต้ งั ได้ลากผ่าน
อักษรบนกระดาน เมื่อคนอ่านรู ้เรื่ องตน
ผีหา้ อย่าประมาท เมื่อพลั้งพลาดเคราะห์มาดล
ป่ วยอยูถ่ ูกรถชน ทุกข์มาซํ้าระกําใจ
ผีหกตกไร้บา้ น ขาดถิ่นฐานที่อาศัย
ร่ อนเร่ ซดั เซไป พบบ้านใครขอแอบอิง
ผีเจ็ดชอบใบตอง เป็ นสิ่ งของสร้างพักพิง
ใบเหลืองไม่อยูน่ ิ่ง หาที่ใหม่ยา้ ยไปพลัน
ผีแปดไม่คงที่ พอเริ่ มดีกลับแปรผัน
เปลี่ยนเป็ นร้ายฉับพลัน ตามไม่ทนั ต้องทําใจ
ผีเก้ามาเข้าปลํ้า แอบกระทํายามหลับใหล
เหนื่อยหอบยามเคลิ้มไป ไม่มีใครเมื่อตื่นมา
ผีสิบแปดพยางค์ คนเคียงข้างนั้นชักพา
คนนอกเข้าเคหา ทําไม่ดีบา้ นมีภยั
ชุดที่ ๙.๗
คาทีน่ าด้ วย “ไม้ ”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“ไม้” แล้วตรวจสอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรงกับ
บทร้อยกรอง
ชุดที่ ๙.๘
คาทีน่ าด้ วย “แม่ ”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“แม่” แล้วตรวจ สอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรง
กับบทร้อยกรอง
แม่หนึ่งคือคนกลาง เชื่อมระหว่างคู่หญิงชาย
ความรักสุ ขสมหมาย แม่น้ ีได้สร้างสัมพันธ์
แม่สองต้องออกศึก ใจหาญฮึกไม่ไหวหวัน่
อยูห่ น้าพร้อมฆ่าฟัน ออกคําสั่งวางแผนการ
แม่สามนี้เก่งกาจ มีอาํ นาจเวทย์เชี่ยวชาญ
ใช้ไม้กวาดเป็ นยาน เหาะเหินฟ้ าพาไปไกล
แม่สี่ดีหนักหนา เป็ นเทวดาคุม้ กันภัย
ทารกเกิดเมื่อใด จะสิ งสู่ อยูใ่ นกาย
แม่หา้ แสนกล้าแกร่ ง มีฤทธิ์แรงดึงดูดได้
โลหะใกล้เมื่อใด จะดูดไว้ให้ชิดกัน
แม่หกยกของได้ แรงมากมายงัดได้พลัน
เรี ยกคนที่เก่งครัน งานสารพันเป็ นผูน้ าํ
แม่เจ็ดเป็ นแบบให้ คนทั้งหลายได้กระทํา
แบบดีผลงานลํ้า เด็กจะทําตามแบบครู
แม่แปดผีในเรื อ คอยช่วยเหลือเมื่อสิ งสู่
ปกป้ องภัยศัตรู เจ้าของรู ้ไหว้บูชา
แม่เก้าสาวจัดจ้าน บริ วารห้อมกายา
ช้างพังเป็ นหัวหน้า โขลงช้างป่ าก็เรี ยกกัน
แม่สิบชอบอวดตน ว่าเป็ นคนเก่งกาจครัน
งานไหนไม่หวาดหวัน่ ทําอวดรู ้เป็ นผูน้ าํ
ชุดที่ ๙.๙
คาทีน่ าด้ วย “บรร”
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทร้อยกรองแต่ละบทซึ่งเป็ นความหมายของคําที่มีนาํ หน้าด้วย
“บรร” แล้วตรวจ สอบความถูกต้องโดยการเปิ ดหาคําจากพจนานุกรมให้มีความหมายตรง
กับบทร้อยกรอง
ชุดที่ ๙.๑๐
คาทีน่ าด้ วย “ปฏิ”
ชุดที่ ๑๐ ปริศนาสานวนไทย
จุดประสงค์ การเรียนรู้
๑. เพื่อฝึ กการคิดสํานวนไทย
๒. เพื่อฝึ กการใช้พจนานุกรม
๓. เพื่อฝึ กการใช้และเขียนสํานวนไทย
๔. เพื่อฝึ กทักษะการอ่านบทร้อยกรอง
วิธีใช้ สื่อ
๑. ฝึ กทักษะการฟัง ครู อ่านให้นกั เรี ยนฟัง และให้นกั เรี ยนเปิ ดหาคําจากพจนานุกรม
แล้วเขียนตอบลงในสมุด ให้นกั เรี ยนคิดคําตอบเป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่มก็ได้
๒. ฝึ กทักษะการอ่าน ครู แจกร้อยกรองปริ ศนาคําให้แก่นกั เรี ยนเป็ นรายบุคคลหรื อ
กลุ่มแล้วช่วยกันหาคําจากพจนานุกรมตามเวลาที่กาํ หนด
๓. ให้นกั เรี ยนพัฒนาการอ่านโดยการหาสํานวนอื่น ๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
หรื อ พยางค์แรกเหมือนกัน
๔. พัฒนาการเขียนโดยการเลียนแบบการเขียนบทร้อยกรองที่นกั เรี ยนสนใจ
ปริศนาสานวนไทย
๑. คนเหลี่ยมคมคารมแสนกลิ้งกลอก ปามะกอกอย่างไรไม่ถูกที่
มีเล่ห์ลิ้นหลบหลีกปลีกได้ดี คนอย่างนี้คบไม่ได้ไร้ความจริ ง
๒. หากทํานากล้าน้อยนิดจะผิดหวัง ข้าวมากถังที่หมายไม่ได้เห็น
หากทําปลาเกลือน้อยพลอยลําเค็ญ ปลาจะเหม็นไร้ค่าพาขาดทุน
๓. คําพูดขวานผ่าซากถากถางหู ร้อนปลาอยูเ่ ย็นได้ไม่ใช่แสร้ง
คําพูดหวานเย็นใจพิษภัยแรง ยามสําแดงฤทธิ์ออกมาปลาร้อนรน
๔. ทํางานได้เล็กน้อยค่อยทําใหม่ เงินหมดลงเมื่อไรหางานต่อ
มีขา้ วสารก้นถังยังเพียงพอ ค่อยตําต่อเมื่อหมดไปนั้นไม่ดี
๕. ผีเร่ ร่อนไร้ที่อยูด่ ูอนาถ เหมือนคนขาดที่พาํ นักพักอาศัย
พระไม่มีวดั อยูด่ ูกระไร ไม่วา่ ใครอยูเ่ ป็ นที่ดีนกั แล
๖. เมื่อนํ้าหลากไหลมาปลามีสุข มดเป็ นทุกข์ลอยนํ้าปลาตามล่า
ยามนํ้าแห้งปลาทุกข์มดสุ ขอุรา มดได้ปลาเป็ นอาหารสําราญใจ
๗. ยามพูดจาปราศรัยไม่ประมาท เกิดพลั้งพลาดเมื่อไรจะผิดศีล
ยามใดขึ้นต้นไม้รีบป่ ายปี น จะพลาดตีนตกได้ให้ระวัง
๘. คิดใช้ของผูอ้ ื่นทุกคืนคํ่า ของตนเองเก็บงําไม่ยอมใช้
รื้ อหลังคาบ้านอื่นแสนชื่นใจ บ้านตนเองเก็บไว้เพื่อใช้การ
๙. ช้างมีแผลใหญ่นกั ต้องรักษา จับหนูมาแล่เนื้อเพื่อปิ ดแผล
หนูมีเนื้อน้อยกว่าพาดูแล หนูกแ็ ย่เหมือนคนจนช่วยคนรวย
๑๐. เมื่อทํางานการใดใจพาลโลภ หวังละโมบผลประโยชน์จากหน้าที่
เหมือนเลี้ยงช้างไว้กินขี้ยอ่ มไม่ดี โทษจะมีตามมาอย่าได้ทาํ
๑๑. เอามือกําอุจจาระปะทะได้ ยังมีไว้ในมือถือได้บา้ ง
ถ้าคว้าตดไว้ดมลมพ้นทาง ได้ของบ้างดีกว่าหายไม่ได้เลย
คําเฉลยร้อยกรองปริ ศนา
ชุ ดที่ ๑ ฉันคือสั ตว์อะไร
๑. ลิง ๘. แมว ๑๕. อูฐ ๒๒. ลา ๒๙. หมู ๓๖. เป็ ด
๒. กระต่าย ๙. ผึ้ง ๑๖. จระเข้ ๒๓. ไก่ ๓๐. ปู ๓๗. แกะ
๓. ค้างคาว ๑๐. ผีเสื้ อ ๑๗. ห่าน ๒๔. แพนด้า ๓๑. เสื อ ๓๘. แรด
๔. งู ๑๑. ควาย ๑๘. จิง้ จก ๒๕. ยีราฟ ๓๒. กวาง ๓๙. นกกระจอกเทศ
๕. กบ ๑๒. นก ๑๙. เม่น ๒๖. ยุง ๓๓. สุ นขั จิ้งจอก ๔๐. แมงมุม
๖. ปลา ๑๓. ช้าง ๒๐. แพะ ๒๗. ม้า ๓๔. สุ นขั ๔๑. ม้าลาย
๗. ราชสี ห์ ๑๔. เต่า ๒๑. จิงโจ้ ๒๘. ตุก๊ แก ๓๕. วัว (โค) ๔๒. หนู
ชุ ดที่ ๓ ฉันคืออะไร
๑. ธงชาติไทย ๑๒. หนังสื อ ๒๓. โทรศัพท์ ๓๔. ทัพพี ๔๕. รถยนต์ ๕๖. มุง้
๒. โต๊ะ ๑๓. เข็มขัด ๒๔. เตารี ด ๓๕. ไม้กวาด ๔๖. เรื อ ๕๗. ค้อน
๓. ปากกา ๑๔. ถุงเท้า ๒๕. ขันนํ้า ๓๖. ร่ ม ๔๗. รถจักรยาน ๕๘. ถาด
๔. ยางลบ ๑๕. กางเกง ๒๖. แก้วนํ้า ๓๗. สบู่ ๔๘. รถไฟ ๕๙. จอบ
๕. ไม้บรรทัด ๑๖. เสื้ อ ๒๗. ปิ่ นโต ๓๘. แปรงสีฟัน ๔๙. พัดลม ๖๐. เขียง
๖. สมุด ๑๗. หมวก ๒๘. ช้อน ๓๙. พัด ๕๐. ปี่ ๖๑. สิ่ ว
๗. กระดานดํา ๑๘. กระโปรง ๒๙. จาน ๔๐. หวี ๕๑. กลอง ๖๒. พาน
๘. กระเป๋ าหนังสื อ ๑๙. รองเท้า ๓๐. กะละมัง ๔๑. มีด ๕๒. แห ๖๓. ไม้เรี ยว
๙. ดินสอ ๒๐. วิทยุ ๓๑. หม้อ ๔๒. ลูกบอล ๕๓. ขวาน ๖๔. คอมพิวเตอร์
๑๐. เก้าอี้ ๒๑. นาฬิกา ๓๒. กระทะ ๔๓. รถจักรยานยนต์ ๕๔. เลื่อย ๖๕. นกหวีด
๑๑. กรรไกร ๒๒. โทรทัศน์ ๓๓. ชาม ๔๔. เครื่ องบิน ๕๕. หมอน ๖๖. กุญแจ
ชุ ดที่ ๕ ฉันคืออวัยวะใด
๑. ฟัน ๔. คาง ๗. หน้าผาก ๑๐. จมูก ๑๓. แขน ๑๖. คอ
๒. หู ๕. นม ๘. นิ้ว ๑๑. ผม ๑๔. ตา ๑๗. เล็บ
๓. แก้ม ๖. ศีรษะ ๙. ปาก ๑๒. คิ้ว ๑๕. ขา ๑๘. มือ
ชุ ดที่ ๖ ฉันคือใครในนิทาน
๑. ยักษ์ ๕. พระอินทร์ ๙. นางผีเสื้ อสมุทร ๑๓. ขุนแผน ๑๗. ลําหับ ๒๑.พระลักษมณ์
๒. สุ ดสาคร ๖. ชูชก ๑๐. นางรจนา ๑๔. คาวี ๑๘. พระลอ ๒๒.จันทโครพ
๓. ทศกัณฐ์ ๗. ฤๅษี ๑๑. ทรพี ๑๕. ชาละวัน ๑๙. ขุนช้าง ๒๓.พระรถเสน
๔. หนุมาน ๘. สังข์ทอง ๑๒. ชีเปลือย ๑๖. พลายงาม ๒๐. พระอิศวร ๒๔. จันทร์สุดา
ชุ ดที่ ๘ ซ่ อนคาลานากลอน
คาทีใ่ ช้ การันต์ คาทีใ่ ช้ รร คาควบไม่ แท้ คาอักษรนา คาทีม่ ักเขียนผิด
๑. อัฒจันทร์ ๑. เข้าพรรษา ๑. ทรุ ดโทรม ๑. ขะมักเขม้น ๑. ผาสุ ก
๒. ดวงอาทิตย์ ๒. บรรพบุรุษ ๒. เศร้าสร้อย ๒. พิสมัย ๒. สังเกต
๓. สังสรรค์ ๓. อัศจรรย์ ๓. สร่ างไข้ ๓. อเนจอนาถ ๓. จํานง
๔. สายสิ ญจน์ ๔. อาถรรพณ์ ๔. ปราศรัย ๔. สัปหงก ๔. สําอาง
๕. ดวงจันทร์ ๕. จัดสรร ๕. พุทรา ๕. ทะนุถนอม ๕. ราคาเยา
๖. ซื่อสัตย์ ๖. กรรไกร ๖. ศรัทธา ๖. อะลุม้ อล่วย ๖. ผีพงุ่ ไต้
๗. ภาพยนตร์ ๗. ศตวรรษ ๗. แทรกแซง ๗. หยากไย่ ๗. ประดิดประดอย
๘. พระลักษมณ์ ๘. จรรโลง ๘. เศรษฐี ๘. กะหลํ่าปลี ๘. ลําไย
๙. เวียงจันทน์ ๙. ไอศวรรย์ ๙. สร้างเสริ ม ๙. อะร้าอร่ าม ๙. เจียระไน
๑๐. มัคคุเทศก์ ๑๐. ดึกดําบรรพ์ ๑๐. ทรวดทรง ๑๐. วิปริ ต ๑๐. เส้นทแยง
ชุ ดที่ ๙ ปริศนาคา
ชุ ดที่ ๑๐ ปริศนาสานวนไทย