Professional Documents
Culture Documents
ชีววิทยา ม.6 เล่ม2 หน่วย6 - ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ชีววิทยา ม.6 เล่ม2 หน่วย6 - ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Slide PowerPoint_สื่อประกอบการสอน
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ผลการเรียนรู้
3 วิทยาเอ็มบริโอเปรียบเทียบ 4 ชีวโมเลกุลระดับโมเลกุล
ปลา เต่า ไก่ มนุษย์
ช่องเหงือก หำง
นกฟินช์มีกำรปรับตัวเข้ำกับที่อยู่อำศัย
เมื่อเวลำผ่ำนไป ค่อย ๆ เกิดวิวัฒนำกำร
กลำยเป็นนกฟินช์ชนิดใหม่ที่มคี วำมจำเพำะ
ในแต่ละพื้นที่
การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ชื่อสิ่งมีชีวิต
• วิธีการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์
- เขียนด้วยภำษำละติน
- ชื่อสกุลต้องขึ้นต้นด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่ ส่วนชื่อระบุสปีชีส์ใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็ก
คาโรลัส ลินเนียส - เขียนให้ต่ำงจำกตัวอักษรอื่น ๆ โดยอำจใช้ตัวเอียงหรือขีดเส้นใต้
- แยกระหว่ำงชื่อสกุลกับชื่อสปีชีส์
(Carolus Linnaeus)
การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต การระบุชนิดของสิ่งมีชีวิต
กำรระบุและตรวจสอบชนิด (identification) ของสิ่งมีชีวิตนิยมใช้ไดโคโตมัสคีย์ (dichotomous key)
โดยพิจำรณำควำมแตกต่ำงของลักษณะทีละลักษณะเป็นคู่ ๆ
ปีกมีสีเดียว
ตัวอย่างไดโคโตมัสคีย์ของแมลง หนวด 1 คู่
1 ก ปีกแข็ง …………………………………….. ดูข้อ 2 ปีกมีลำยจุด
1 ข ปีกไม่แข็ง …………………………………. ดูข้อ 3 ปีกแข็ง
2 ก มีหนวด 1 คู่ ……………………………… ดูข้อ 4
ไม่มีหนวด
2 ข ไม่มีหนวด ……………………………….... ด้วง
3 ก ปีกมีชั้นเดียว …………………………….. ดูข้อ 5
แมลง
3 ข ปีกมี 2 ชั้น ………………………………... จิ้งหรีด
ปีกมี 2 ชั้น
4 ก ปีกมีสเี ดียว ……………………………….. แมลงทับ ปีกไม่แข็ง ปีกโปร่งแสง
4 ข ปีกมีลำยจุด ………………………………. แมลงเต่ำทอง
5 ก ปีกโปร่งแสง ………………………………. แมลงปอ ปีกมีชั้นเดียว
ปีกทึบแสง
5 ข ปีกทึบแสง …………………………………. ผีเสื้อ
กาเนิดของสิ่งมีชีวิต กาเนิดสิ่งมีชีวิตตามแนวคิดของโอปาริน
1 2 3 4
1 ให้ควำมร้อนจนน้ำเดือดกลำยเป็นไอ
3
ประจุไฟฟ้า 2 ไอน้ำเคลื่อนที่ไปตำมหลอดทดลอง
CH4 NH3 H2 H2 O 4
2 ส่วนที่เปรียบได้กับชั้นบรรยำกำศ ประกอบ
3
ไปด้วย CH4 NH3 H2 H2 O
บริเวณควบแน่น 5
น้าเย็นเข้า จำลองกำรเกิดฟ้ำแลบ และฟ้ำผ่ำ โดยให้แก๊ส
4
น้าเย็นออก ทำปฏิกิริยำผ่ำนประจุไฟฟ้ำ
น้า 5 ควบแน่นไอน้ำที่ได้จำกกำรทดลอง
1
6
6 นำน้ำไปตรวจสอบ พบว่ำมีกรดอะมิโนเจือปนอยู่
สารโมเลกุล
กาเนิดของสิ่งมีชีวิต กาเนิดเซลล์โพรคาริโอต
ลักษณะของเซลล์โพรคาริโอต
• ไม่มีนิวเคลียสแท้ เนื่องจำกไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
• สำรพันธุกรรมอยู่ในบริเวณทีเ่ รียกว่ำ นิวคลีออยด์ (nucleoid)
• ไม่มีออแกเนลล์ที่มเี ยื่อหุ้ม
กาเนิดของสิ่งมีชีวิต กาเนิดเซลล์ยูคาริโอต
1 เยื่อหุ้มเซลล์โพรคำริโอตเกิดกำรม้วนพับเข้ำไปภำยในเซลล์
1
นิวเคลียส
เยื่อหุ้มเซลล์ที่ม้วนพับเข้ำไปกลำยเป็นเอนโดพลำสมิกเรติคิวลัม และ
2 2
t เยื่อหุ้มนิวเคลียส
t
3
เซลล์ โพรคำริโอตขนำดใหญ่รับเอำแบคทีเรียที่เจริญได้ดีในที่ที่มี
t 3
แก๊สออกซิเจนเข้ำสู่เซลล์
ไมโทรคอนเดรีย
4 แบคทีเรียที่เจริญได้ดีในที่ที่มีแก๊สออกซิเจนกลำยเป็นไมโทคอนเดรีย
5 4
ทำหน้ำที่สร้ำงพลังงำนให้กับเซลล์
เซลล์ยูคำริโอตแรกเริ่มที่ไม่สำมำรถสร้ำงอำหำรได้เองรับเอำแบคทีเรีย
6 5
คลอโรพลาสต์ ที่สังเครำะห์ด้วยแสงได้เข้ำสู่เซลล์
แบคทีเรียที่สังเครำะห์ด้วยแสงได้กลำยเป็นคลอโรพลำสต์ ทำหน้ำที่
6
ในกระบวนกำรสังเครำะห์ด้วยแสง
อาณาจักรมอเนอรา
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอรา หรือพวกแบคทีเรียมีลักษณะเป็นเซลล์แบบ
โพรคาริโอต (prokaryotic cell)
เดิมสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียว
แต่ในปัจจุบันจากหลักฐานทางชีวโมเลกุลและรูปแบบในการดารงชีวิต
ทาให้ให้นักอนุกรมวิธานจัดสิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
อาร์เคียแบคทีเรีย (Archaebacteria) และกลุ่มยูแบคทีเรีย (Eubacteria)
อาณาจักรมอเนอรา ลักษณะและรูปร่างของแบคทีเรีย
แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวจำพวกโพรคำริโอต (prokaryotic cell) ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
• ไม่มีนิวเคลียสแท้ เนื่องจำกไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
• สำรพันธุกรรมมีอยู่ในบริเวณทีเ่ รียกว่ำ นิวคลีออยด์ (nucleoid)
- ดีเอ็นเอที่มีลักษณะเป็นวงปิด (circular DNA)
- พลำสมิด (plasmid) ซึ่งทำให้เกิดกำรต่อต้ำนยำปฏิชีวนะ
หรือคุณสมบัติพิเศษประเภทอื่น ๆ
• ผนังเซลล์เป็นสำรประกอบพวกเพปทิโดไกลแคน (peptidoglycan)
• มีรูปร่ำง 3 แบบ ได้แก่
เมทาโนค็อกคัส ซัลโฟโบลัส
(𝑀𝑒𝑡ℎ𝑎𝑛𝑜𝑐𝑜𝑐𝑐𝑢𝑠 sp. ) (𝑆𝑢𝑙𝑓𝑜𝑏𝑜𝑙𝑢𝑠 sp. )
• กำรดำรงชีวิต • กำรเคลื่อน
- ผู้ผลิต (autotroph) - ซีเลีย (cilia)
- ผู้บริโภค (𝑐𝑜𝑛𝑠𝑢𝑚𝑒𝑟) - แฟลเจลลัม (flagellum)
- ผู้ย่อยสลำย (decomposer) - เท้ำเทียม (pseudopodium)
• ไม่มีระยะตัวอ่อน (embryo)
อาณาจักรโพรทิสตา ไดโพลโมนาดิดา และพาราบาซาลา
• ส่วนใหญ่มีนิวเคลียส 2 อัน และมีแฟลเจลลัม แต่ไม่มีออแกเนลล์ขนำดใหญ่อื่น ๆ
อำยสปอต
• สำหร่ำยทะเลขนำดใหญ่ • สำหร่ำยเซลล์เดียว
• มีสีน้ำตำล เพรำะมีรงควัตถุสีน้ำตำล เรียกว่ำ ฟิวโคแซนทีน • เป็นผู้ผลิตสำคัญในทะเล
อาณาจักรโพรทิสตา โรโดไฟตา
• สาหร่ายสีแดง (red algae) เพรำะมีรงควัตถุ เรียกว่ำ ไฟโคอีรีทริน
• ไม่มีระยะแฟลเจลลัมในวงชีวิต
สาหร่ายผมนาง (𝐺𝑟𝑎𝑐𝑖𝑙𝑎𝑟𝑖𝑎 sp. )
𝑆𝑝𝑖𝑟𝑜𝑔𝑦𝑟𝑎 sp.
𝐶ℎ𝑎𝑟𝑎 sp.
• เป็นผู้ผลิต (producer)
• มีรงควัตถุประเภทคลอโรฟิลล์ และแคโรทีนอยด์ ซึ่งอยูภายในคลอโรพลาสต์
• ผนังเซลล์ประกอบไปด้วยเซลลูโลส
• ปากใบ (stoma) ช่วยควบคุมสมดุลน้า และแลกเปลี่ยนแก๊ส
• มีวงจรชีวิตแบบสลับ (alternation of generation)
อาณาจักรพืช พืชไม่มีท่อลาเลียง
• เป็นพืชกลุ่มแรกที่มีวิวัฒนำกำรขึ้นมำอยู่บนบก ต้องอำศัยน้ำและควำมชื้นในกำรดำรงชีวิต จึงมักพบอยู่ตำมที่ชื้นแฉะ โดยมี
โครงสร้ำงคล้ำยรำก เรียกว่ำ ไรซอยด์ (rhizoid) ทำหน้ำที่ดูดน้ำและแร่ธำตุต่ำง ๆ มีช่วงแกมีโทไฟต์เด่น ช่วงสปอโรไฟต์
พบเพียงบำงช่วง โดยจะเจริญอยู่บนแกมีโทไฟต์
ไฟลัมเฮปาโทไฟตา ไฟลัมแอนโทซีโรไฟตา ไฟลัมไบรโอไฟตา
ไฟลัมนีโทไฟตา
ไฟลัมไซแคโดไฟตา ไฟลัมกิงโกไฟตา
ไฟลัมโคนิเฟอโรไฟตา
มะเมื่อย
ปลง
แปะก๊วย สน
อาณาจักรพืช พืชมีท่อลาเลียงที่มเี มล็ด
พืชดอก (angiosperm)
• จั ด อยู่ ใ นไฟลั ม แอนโทไฟตำ (Phylum Anthophyta) เป็ น กลุ่ ม ที่ มี ค วำมหลำกหลำยมำกที่ สุ ด ในอำณำจั ก รพื ช มี ด อก
(flower) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ มีกำรกำรปฏิสนธิแบบคู่ (double fertilization) เกิดเป็นเอนโดสเปิร์ม และเอมบริโอที่เจริญ
อยู่ภำยในเมล็ดที่มีผลหุ้ม ซึ่งพัฒนำมำจำกรังไข่ (ovary)
จาปี
บัว
พืชใบเลี้ยงคู่ : กุหลาบ
อาณาจักรฟังไจ
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ (kingdom Fungi) เป็นสิ่งมีชีวิตประเภท
ยูคาริโอต มีทั้งพวกที่เป็นเซลล์เดียว และหลายเซลล์
แต่เซลล์ไม่มีการพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อ มีลักษณะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิต
กลุ่มยูแคริโอตอื่น ๆ ในด้านการดารงชีวิต
การเจริญเติบโต และการสืบพันธุ์
อาณาจักรฟังไจ ลักษณะของฟังไจ
• ฟังไจ หรือกลุ่มของเห็ด รำ และยีสต์ ส่วนใหญ่มีกำรดำรงชีวิตเป็นผู้ย่อยสลำยซำก (decomposer) บำงชนิดดำรงชีวิต
เป็นปรสิต โดยผนังเซลล์ของฟังไจเป็นสำรประเภทไคทิน
ไฮฟาแบบมีเยื่อกั้น ไฮฟาแบบไม่มีเยื่อกั้น
เยื่อกั้น ผนังเซลล์
ผนังเซลล์ ทำงเชื่อมระหว่ำงเซลล์ นิวเคลียส
นิวเคลียส
2
1 ไมซีเลียม (mycelium)
เกิดจำกกลุ่มของไฮฟำ (hypha) มีลักษณะเป็นเส้นบำงที่ประกอบขึ้นจำกเซลล์ โดยแบ่งออกเป็น
2 ประเภท คือ แบบมีเยื่อกั้นและไม่มีเยื่อกั้น
1
2 ฟรุตติงบอดี (Fruiting body)
หรือเรียกว่ำ เห็ด (mushroom) เป็นโครงสร้ำงที่เกิดจำกไมซีเลียมของฟังไจบำงชนิดรวมกลุ่มกัน
เป็นมัด ทำหน้ำที่สร้ำงสปอร์จำกกำรสืบพันธุ์แบบอำศัยเพศ
อาณาจักรฟังไจ ไฟลัมไคทริดิโอไมโคตา (Phylum Chytridiomycota)
• สร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ที่มีแฟลเจลลำ (zoospore)
• พบในที่ชื้นแฉะ หรือใกล้แหล่งน้ำ
• เป็นปรสิตในกบ
• เช่น 𝐵𝑎𝑡𝑟𝑎𝑐ℎ𝑜𝑐ℎ𝑦𝑡𝑟𝑖𝑢𝑚 𝑑𝑒𝑛𝑑𝑟𝑜𝑏𝑎𝑡𝑖𝑑𝑖𝑠
ซูโอสปอร์ฝังในผิวหนังของ
ซูโอสปอร์ (zoospore) โฮสต์และเจริญเป็นตัวเต็มวัย
ว่ำยไปหำโฮสต์
โฮสต์จะตำย
ภำยใน 120 วัน
ไคทริดตัวเต็มวัยเริ่มสร้ำง
ซูโอสปอร์ภำยในอับสปอร์
ซูโอสปอร์กระจำย
ออกจำกอับสปอร์
อาณาจักรฟังไจ ไฟลัมไซโกไมโคตา (Phylum Zygomycota)
• ไซโกตฟังไจ
• ดำรงชีวิตแบบอิสระเป็นผู้ย่อยสลำยสำรอินทรีย์
• ไฮฟำเป็นแบบไม่มีเยื่อกั้น
• สืบพันธุ์แบบไม่อำศัยเพศ โดยสร้ำงสปอร์แรงจิโอสปอร์ (sporangiospore)
• สืบพันธุ์แบบอำศัยเพศ โดยสร้ำงไซโกสปอร์ (zygospore)
• เช่น รำดำบนขนมปัง (𝑅ℎ𝑖𝑧𝑜𝑝𝑢𝑠 𝑠𝑡𝑜𝑙𝑜𝑛𝑖𝑓𝑒𝑟)
อาณาจักรฟังไจ ไฟลัมโกลเมอโรโมโคตา (Phylum Glomeromycota)
• ไมคอร์ไรซำ (mycorrhiza)
• เส้นใยรำแบบไม่มีผนังกั้น
• ดำรงแบบพึ่งพำ (mutualism) กับรำกของพืช
• ฮอสโตเรียม (haustorium) ช่วยทำให้พืชสำมำรถดูดน้ำและแร่ธำตุได้มำกขึ้น
อาณาจักรฟังไจ ไฟลัมแอสโคโมโคตา (Phylum Ascomycota)
• แซคฟังไจ (sac fungi)
• ไฮฟำจะมีผนังกั้น (septate hypha) ระหว่ำงเซลล์
• สืบพันธุ์แบบอำศัยเพศ โดยสร้ำงแอสโคสปอร์ (ascospore) บรรจุในถุงแอสคัส (ascus)
• สืบพันธุ์แบบไม่อำศัยเพศ โดยสร้ำงสปอร์ (conidium) บนโคนิดิโอฟอร์ (conidiophore)
• เช่น ยีสต์ (𝑠𝑎𝑐𝑐ℎ𝑎𝑟𝑜𝑚𝑦𝑐𝑒𝑠 sp. ) เห็ดถ้วย (𝐶𝑜𝑜𝑘𝑒𝑖𝑛𝑎 𝑖𝑛𝑠𝑡𝑖𝑡𝑖𝑎) เห็ดโมเรล
(𝑀𝑜𝑟𝑐ℎ𝑒𝑙𝑙𝑎 sp. ) เห็ดทรัฟเฟิล (𝐴𝑠𝑡𝑟𝑎𝑒𝑢𝑠 sp. ) แอสโคสปอร์ (ascospore)
เห็ดถ้วย
เห็ดโมเรล
เห็ดทรัฟเฟิล
อาณาจักรฟังไจ ไฟลัมเบสิดิโอโมโคตา (Phylum Basidiomycota)
• คลับฟังไจ (club fungi)
• สืบพันธุ์แบบอำศัยเพศโดยกำรสร้ำงเบสิดิโอสปอร์ (basidiospore) บนเบสิเดียม (basidium)
• เช่น รำสนิม (𝑃𝑢𝑐𝑐𝑖𝑛𝑖𝑎 sp. ) เห็ดโคน (𝑇𝑒𝑟𝑚𝑖𝑡𝑜𝑚𝑦𝑐𝑒𝑠 𝑓𝑢𝑙𝑖𝑔𝑖𝑛𝑜𝑠𝑢𝑠) เห็ดฟำง (𝑉𝑜𝑙𝑣𝑎𝑟𝑖𝑒𝑙𝑙𝑎 𝑣𝑜𝑙𝑣𝑎𝑐𝑒𝑎)
เห็ดเยื่อไผ่ (𝑃ℎ𝑎𝑙𝑙𝑢𝑠 𝑖𝑛𝑑𝑢𝑠𝑖𝑎𝑡𝑢𝑠) และเห็ดหอม (𝐿𝑒𝑛𝑡𝑖𝑛𝑢𝑙𝑎 𝑒𝑑𝑜𝑑𝑒𝑠)
เห็ดเยื่อไผ่
เห็ดหอม
อาณาจักรสัตว์
สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์จาพวกยูคาริโอต (eukaryotic cell)
ที่เซลล์รวมตัวกันเป็นเนื้อเยื่อเพื่อทาหน้าที่เฉพาะ
โดยดารงชีวิตเป็นผู้บริโภค ไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง (heterotroph)
เคลื่อนไหวได้ด้วยการทางานร่วมกันของระบบประสาทและระบบโครงร่าง
เรียนรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ดี
อาณาจักรสัตว์ เกณฑ์ในการจาแนกสัตว์
การเปลี่ยนแปลง การเจริญ
เนื้อเยื่อ ช่องว่างในลาตัว ลักษณะสมมาตร
ของบลาสโทพอร์ ในระยะตัวอ่อน
พบในตัวอ่อนสัตว์ที่มสี มมำตร พบในพวกโพรโทสโตเมีย
ด้ำนข้ำง
• โพรโทสโตเมีย • โทรโคฟอร์
ไม่มีช่องว่ำงในลำตัว
(protostomia) (trochophore)
ไม่มีเนื้อเยื่อที่แท้จริง สมมำตรแบบรัศมี • ดิวเทอโรสโตเมีย • เอคไดโซซัว
(deuterostomia) (ecdysozoa)
ช่องว่ำงในลำตัวแบบเทียม
มีเนื้อเยื่อแท้จริง สมมำตรแบบด้ำนข้ำง
ช่องว่ำงในลำตัวแท้จริง
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera)
ฟองน้าถูตัว
ฟองน้าแก้ว
• ไม่มีเนื้อเยื่อที่แท้จริง
• ลำตัวเป็นรูพรุน ช่วยในกำรไหลเวียนของนำภำยในลำตัว
• collar cell (choanocyte) ที่ช่วยดักจับอำหำร
• ตัวเต็มวัยฟองน้ำดำรงชีวิตแบบเกำะอยู่กับที่ (sessile animal)
• มีโครงสร้ำงค้ำจุนภำยในลำตัว เรียก สปิคูล (spicule)
• เช่น ฟองน้ำ (sponge) ฟองน้าหินปูน
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera)
• มีเนื้อเยื่อ 2 ชั้น
แมงกระพรุนกล่อง
• สมมำตร
- ตัวอ่อนมีสมมำตรแบบด้ำนข้ำง
- ตัวเต็มวัยมีสมมำตรแบบรัศมี
• มีรูปร่ำง 2 แบบ
ไฮดรา
- แบบโพลิป (polyp)
- แบบเมดูซำ (medusa) แมงกระพรุน
• ที่เทนทำเคิลมีไนโดไซต์ หรือเข็มพิษ (cnidocyte) ซึ่งใช้จับ
เหยื่อ หรือป้องกันตัว
• ท่อทำงเดินอำหำรแบบไม่สมบูรณ์ = ช่องแกสโตรวำสคิวลำร์
• เช่น ไฮดรำ แมงกระพรุน แมงกระพรุนกล่อง ปะกำรัง
กัลปังหำ
กัลปังหา
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมแพลทีเฮลมินทีส (Phylum Platyhelminthes)
• หนอนตัวแบน (flatworm)
• มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น หนอนหัวขวาน
• ไม่มีช่องว่ำงในลำตัว
• สมมำตรแบบด้ำนข้ำง
• ทำงเดินอำหำรไม่สมบูรณ์ พลานาเลีย
• กำรดำรงชีวิต
- แบบอิสระ เช่น พลำนำเลีย หนอนหัวขวำน
- แบบปรสิต เช่น พยำธิตัวตืด พยำธิใบไม้
• ใช้เฟลมเซลล์เป็นอวัยวะขับถ่ำย
พยาธิตัวตืด
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมมอลลัสกา (Phylum Mollusca)
• สัตว์ลำตัวอ่อนนุ่ม
ทากทะเล
• มีช่องว่ำงในลำตัวแท้จริง
• สมมำตรแบบด้ำนข้ำง
หมึก
• ทำงเดินอำหำรแบบสมบูรณ์
• รูปแบบกำรเจริญเป็นแบบโพรโทสโตม
• ตัวอ่อนจัดอยู่ในกลุ่มโลโฟโทโคซัว (lophotrochozoa)
• เมนเทิลสร้ำงเปลือกแข็งที่มีสำรประกอบแคลเซียมหุ้มตัว
• ใช้อวัยวะคล้ำยไตหรือเนฟิเดียมเป็นอวัยวะขับถ่ำย
• เช่น ลิ่นทะเล หอยฝำเดียว หอยสองฝำ ทำกทะเล และหมึก
หอยทาก
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)
ไส้เดือน
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมนีมาโทดา (Phylum Nematoda)
พยาธิหนอนหัวใจสุนัข
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมอาร์โทรโพดา (Phylum Arthropoda)
• สัตว์ขำปล้อง (arthropod)
• รยำงค์เป็นข้อปล้อง
• สมมำตรด้ำนข้ำง
• มีเปลือกแข็งที่เป็นสำรประเภทไคทินหุ้มลำตัว
• จัดอยู่ในกลุ่มเอคไดโซซัว
• ทำงเดินอำหำรสมบูรณ์
• อวัยวะในระบบขับถ่ำย
- ท่อมัลพิเกียน
- ต่อมเขียว
• ตัวอ่อนมีกำรเจริญในลักษณะเฉพำะ เรียกว่ำ
เมทามอร์โฟซิส
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมอาร์โทรโพดา (Phylum Arthropoda)
แมงดาทะเล
กิ้งกือ กระสุนพระอินทร์
ปู
คลาสอะแรคนิดา
คลาสชิโลโพดา
กั้ง
แมงมุม ตะขาบ
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมเอไคโนเดอร์มาตา (Phylum Echinodermata)
ดาวทะเล
• ช่องว่ำงในลำตัวแท้จริง
• ตัวเต็มวัยมีสมมำตรแบบรัศมี
• รูปแบบกำรเจริญของตัวอ่อนเป็นแบบดิวเทอโรสโตม
• ระบบหมุนเวียนน้ำ water vascular system ใช้ทิวป์ฟีท
(tube feet) ในกำรเคลื่อนที่
• มีโครงร่ำงแข็งภำยใน เรียกว่ำออสซิเคิล
• เช่น ดำวขนนก ดำวเปรำะ ปลิงทะเล เม่นทะเล และดำวทะเล
เม่นทะเล หมึก
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
ฉลาม
• สัตว์มีแกนสันหลัง (chordates)
• สมมำตรแบบด้ำนข้ำง
• รูปแบบกำรเจริญของตัวอ่อนเป็นแบบดิวเทอโรสโตม สุนัข
• ลักษณะร่วมของสัตว์ในกลุ่มคอร์เดต
- มีโนโทคอร์ด (Notochord) อย่ำงน้อยชั่วระยะหนึ่งของชีวิต
- กำรมีท่อประสาทกลวงที่ด้านหลัง(dorsal hollow nerve cord)
- กำรมีช่องเหงือก (gill slit)
- มีส่วนหางยื่นเลยทวำรหนักไป
จระเข้
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
ซับไฟลัมยูโรคอร์ดาตา ซับไฟลัมเซฟาโลคอร์ดาตา
ซับไฟลัมเวอร์ทิบราตา
สัตว์มีกระดูกสันหลังที่ไม่มีขากรรไกร เช่น ปลาปากกลม (Agnatha)
• แฮกฟิช (hagfish) • แลมเพรย์ (lamprey)
- ดำรงชีวิตเป็นผู้กินซำก - ดำรงชีวิตเป็นปรสิต
- สร้ำงเมือกได้เป็นจำนวนมำก - มีโครงร่ำงเป็นกระดูกอ่อน
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
ซับไฟลัมเวอร์ทิบราตา
สัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร
• คลาสคอนดริคไทอิส (Class Condrichtyes)
- ปลำกระดูกอ่อน
- ไม่มีแผ่นปิดเหงือก (operculum)
- มีกำรปฏิสนธิในร่ำงกำย และออกลูกเป็นตัว
- มีเกล็ดแหลมปกคลุมร่ำงกำย
ปลากระเบน
- เช่น ปลำฉลำม ปละกระเบน
ปลาฉลาม
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
แอกโซลอเติล
เขียดงู
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
นกที่ปีกเหมาะกับการว่ายน้า
นกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
จระเข้ งูพิษไวเปอร์
อาณาจักรสัตว์ ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ซับคลาส
ซับคลาสโพรเทอเรีย (SubClass Protheria) ซับคลาสเทอเรีย (SubClass Theria)
• ออกเป็นไข่ จิ้งโจ้
• มีทวำรร่วม (cloaca) • กลุ่มเมทาเทอเรีย (Metatheria)
• พบเฉพำะในประเทศออสเตรเลีย และนิวกีนี - สัตว์มีถุงหน้ำท้อง (marsupials) เช่น จิ้งโจ้
• เช่น ตุ่นปำกเป็ด - ส่วนมำกพบในทวีปออสเตรเลีย
- ลูกอยู่ในถุงหน้ำท้องจนกว่ำจะเจริญเติบโตเต็มที่
• กลุ่มยูเทอเรีย (Eutheria)
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่มีรก
- ตัวอ่อนมีกำรเจริญเติบโตภำยในมดลูกของแม่
ตุ่นปากเป็ด - ลูกได้รับอำหำรผ่ำนทำงรก แมวบ้าน
อาณาจักรสัตว์ ไพรเมต (primate)
• ลิงมีหำง
- ลิงโลกเก่ำ และลิงโลกใหม่
• ลิงไม่มีหำง (apes)
- ชะนี อุรังอุตัง กอลริลลำ กอริลลำ ชิมแปนซี และมนุษย์
สรุปบทเรียน
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต กาเนิดของสิ่งมีชีวิต
• ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ (biodiversity) หมำยถึง
กำรมี สิ่งมี ชีวิตหลำกหลำยชนิดมำอยู่ร่ วมกัน ณ สถำนที่ กาเนิดเซลล์ โพรคาริโอต
หนึ่งหรือระบบนิเวศใดระบบนิเวศหนึ่ง สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนำกำรมำจำกเซลล์แรกเริ่ม น่ำจะเป็น
สิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีวิตโดยไม่ ใช้แก๊สออกซิเจน เนื่องจำกใน
ความหลากหลายทางพันธุกรรม ช่วงนั้นบรรยำกำศของโลกมีแก๊สออกซิเจนปริมำณน้อย
ควำมหลำกหลำยของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นผลมำจำกควำม
แปรผันทำงพันธุกรรม
1. กำรจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิต นักวิทยำศำสตร์จัดหมวดหมู่ของ
ความหลากหลายของสปีชีส์ สิ่ งมี ชีวิตโดยพิ จำรณำจำกควำมสั มพั นธ์ ที่ใกล้ ชิดกันทำงสำย
ควำมหลำกหลำยของสปีชีส์สิ่งมีชีวติ วิ วั ฒ นำกำรและควำมคล้ ำ ยคลึ ง กั น ของสิ่ ง มี ชี วิ ต ซึ่ ง จั ด จำก
หมวดหมู่ใหญ่ลงไปหมวดหมู่ย่อย ๆ กาเนิดเซลล์ยูคาริโอต
2. ชื่อของสิ่งมีชีวิต กำรเขียนชื่อวิทยำศำสตร์ ในระบบทวินำม
เยื่อหุ้มเซลล์ของโพรคำริโอตคอดเว้ำ และพับซ้อนเข้ำไปใน
ความหลากหลายของระบบนิเวศ ส่วนแรกเป็นชื่อจีนัส และส่วนที่ 2 เป็นชื่อสปีชีส์
เซลล์กลำยเป็นเอนโดพลำสมิกเรติคิวลัมและเยื่อหุ้ม
ควำมหลำกหลำยของสิ่งมีชีวิต อันเนื่องมำจำกควำม 3. กำรระบุ ช นิ ด ไดโคโตมั ส คี ย์ (dichotomous key) เป็ น
นิวเคลียส ส่วนไมโทคอนเดรียและคลอโรพลำสต์เกิดจำก
แตกต่ำงของระบบนิเวศ เครื่องมือที่ ใช้ระบุชนิดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งพิจำรณำควำมแตกต่ำง
โพรคำริโอตขนำดเล็กเข้ำไปอำศัย
ของโครงสร้ำงทีละลักษณะเป็นคู่ ๆ
สรุปบทเรียน
• อาณาจักรโพรทิสตา เป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีควำมหลำกหลำยมำก และมีกำรค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อยู่ตลอดเวลำ ทำให้กำรจำแนกโพรทิสต์ออกเป็นกลุ่มต่ำง ๆ
มีข้อจำกัดเป็นจำนวนมำก เนื่องจำกกำรจัดหมวดหมู่ของโพรทิสต์มีกำรเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลำ