Professional Documents
Culture Documents
นักเรี ยนสามารถใช้หนังสื อเล่มนี้ เรี ยนกับครู กุ๊ก ผ่านเว็บไซต์ www.krookook.com ได้ต้ งั แต่เดื อนสิ งหาคม
พ.ศ. 2554 เป็ นต้นไป อย่างไรก็ตาม หากมีขอ้ ผิดพลาดประการใดในหนังสื อเล่มนี้ ผูเ้ ขียนต้องขออภัยเป็ น
อย่างสู ง และหากมีขอ้ สงสัยในเรื่ องใดๆ สามารถสอบถามจากครู ได้โดยตรง สุ ดท้ายนี้ ก็ขอให้นกั เรี ยนใช้
ประโยชน์จากหนังสื อเล่มนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุ ด
ครู กุ๊ก
สารบัญ
การเร่ งอัตราการเกิดปฏิกิริยา
จากทฤษฎีการชนของอนุภาค หากต้องการเร่ งอัตราการเกิดปฏิกิริยาด้วยปั จจัยใดๆก็ตาม ปั จจัยนั้นต้องเป็ นการเร่ ง
ขั้นตอนทั้ง 3 ดังกล่าว คือ …………………………...
………………………………………………………………………………………..
ปัจจัยทีม่ ีผลต่ อปฏิกริ ิยาเคมี
ปัจจัย จานวนอนุภาค ความถี่ในการชน พลังงานจลน์ กราฟ
จานวนอนุภาค
Ea
เพิ่ม [สารตั้งต้น]
พลังงานจลน์ ของอนุภาค
จานวนอนุภาค
Ea
เพิม่ อุณหภูมิ
พลังงานจลน์ ของอนุภาค
จานวนอนุภาค
Ea
เติมตัวเร่ ง
พลังงานจลน์ ของอนุภาค
2 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
การคานวณอัตราการเกิดปฏิกริ ิยา
อัตราการเกิดปฏิกิริยา คือ ........................................................ หารด้วย …………..
ตัวอย่างเช่น H2O2(l) +2H+(aq) + 3I-(aq) → I3-(aq) + 2H2O(l)
- ถ้าวัดอัตราจากสารตั้งต้น อัตราการเกิดปฏิกิริยา เท่ากับ
………………………………………………………………………………..
- ถ้าวัดอัตราจากสารผลิตภัณฑ์ อัตราการเกิดปฏิกิริยา เท่ากับ
………………………………………………………………………………..
อัตรารวมของปฏิกิริยาคือ ………………………………………………………..
ตัวอย่างที่ 4 จงเขียนสมการแสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงของแต่ละสาร และอัตราการเกิดปฏิกิริยารวม
4.1) 2Al(s) + 2NaOH(aq) + 6H2O(l) → 2NaAl(OH)4(aq) + 3H2(g)
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
4.2) 2KMnO4(s) + 16HCl(aq) → 2KCl(aq) + MnCl2(aq) + 8H2O(l) + 5Cl2(g)
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
ตัวอย่างที่ 5 ปฏิกิริยา 2A + B → 3C ถ้าความเข้มข้นของสาร A เป็ นฟังก์ชนั กับเวลาตามสมการ [A] = 5.0 – 0.6
t1/2
5.1) จงหาอัตราการลดลงของสาร A
…………………………………………………………………………….
5.2) จงหาอัตราการลดลงของสาร B
……………………………………………………………………………
5.3) จงหาอัตราการเกิดของสาร C
……………………………………………………………………………
5.4) จงหาอัตรารวมของปฏิกิริยา
……………………………………………………………………………
4 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
การดาเนินไปของปฏิกริ ิยา
เมื่อปฏิกิริยาดาเนินไปปริ มาณสารตั้งต้นจะ ...............
ถ้าปั จจัยเรื่ องความเข้มข้นของสารตั้งต้นที่ลดลงนั้น ส่ งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ปฏิกิริยาจะ ...................................
ถ้ า ปั จ จัย เรื่ องความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ง ต้ น ที่ ล ดลงนั้ น ไม่ ส่ ง ผลต่ อ อัต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยา ปฏิ กิ ริ ยาจะ
.......................................
กราฟแสดงการการเกิดปฏิกิริยา
ตัวอย่างที่ 6 ปฏิกิริยา 2O3(g) → 3O2(g)
ถ้าอัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นกับความเข้มข้นของ O3
แกน y คือ ............................................ แกน y คือ ............................................
แกน x คือ เวลา แกน x คือ เวลา
ตัวอย่างที่ 8 ปฏิกิริยาการดึงแอลกอฮอล์ออกจากเลือดที่เกิดในตับ
ถ้าอัตราการเกิดปฏิกิริยาไม่ข้ ึนกับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด
แกน y คือ ............................................ แกน y คือ ............................................
แกน x คือ เวลา แกน x คือ เวลา
กฎอัตรา
สมการกฎอัตราคือ สมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิรยากับความเข้มข้นเริ่ มต้นของสารตั้งต้น
ตัวอย่างที่ 9 สมการปฏิกิริยา D + E → F มีอตั ราการเกิดปฏิกิริยาที่ข้ ึนกับความเข้มข้นเริ่ มต้นของสาร D และ E
ดังตาราง
[D] [E] อัตราการเกิดปฏิกิริยา
การทดลองที่
(mol/dm3) (mol/dm3) (mol/dm3∙min)
1 1.0 1.0 0.15
2 2.0 1.0 0.30
3 3.0 1.0 0.45
4 1.0 2.0 0.15
9.1 จงเขียนสมการแสดงกฏอัตรา ..........................................
9.2 ปฏิกิริยานี้เป็ นปฏิกิริยาอันดับ ........
9.3 ความเข้มข้นเริ่ มต้นของสารใดมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยามากกว่า
...................................................
9.4 จงหาค่าคงที่อตั รา
ตัวอย่างที่ 11 จงเขียนกราฟต่อไปนี้จากกฎอัตราที่กาหนดให้
11.1) X + Y → 2Z กฎอัตรา R = k[X]
กราฟ [X] กับเวลา เมื่อ [Y] มากเกินพอ กราฟ [Y] กับเวลา เมื่อ [X] มากเกินพอ กราฟ Rx, RY กับเวลา
กราฟพลังงานและการดาเนินไปของปฏิกริ ิยาเคมี
ปฏิกิริยาดูความร้อนและปฏิกิริยาคายความร้อน
8. อัตราการเกิดปฏิกิริยานี้ข้ ึนกับความเข้มข้นของสารใด
1. A 2. B 3. M 4. Y
9. ข้อความต่อไปนี้ขอ้ ใดถูกต้อง
1. ปฏิกิริยารวมคือ M + 2B 2C 2. M คือตัวเร่ งปฏิกิริยา
3. Y คือสารเชิงซ้อนที่ถูกกระตุน้ 4. C คือโมเลกุลชัว่ คราว
-
16. จากปฏิกิริยา 4Mn2+ (aq) + 6H2O(l) + 5O2(g) 12H+ (aq) + 4Mn (aq) ใช้สารละลาย MnSO4 เข้มข้น
1 mol/dm3 จานวน 100 cm3 ทาปฏิกิริยากับ O2 มากเกินพอ ถ้าอัตราการลดลงของ Mn2- = 0.02 mol/dm3.s
อัตราการลดลงของ O2 จะเป็ นไปตามข้อใด
1. 0.05 mol/dm3.s 2. 0.0025 mol/s
3. 0.64 g/s 4. 0.56 dm3/s ที่ STP
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 13
18. จากปฏิกิริยา 2A(s) + 3B(aq) C (aq) + 3 D(g) ถ้าใช้ A 21.6 g ทาปฏิกิริยากับสารละลาย B เข้มข้น
3 mol/dm3 500 cm3 กราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงของสาร A, B, C, D เส้นใดไม่ถูกต้อง หรื อไม่
สอดคล้องกับเส้นอื่น (มวลโมเลกุล A = 27) แกนตั้งแทนปริ มาณสารเป็ นโมล แกนนอนแทนเวลา
1. เส้น A
2. เส้น B
3. เส้น C
4. เส้น D
14 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
3. 4.
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 15
ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ปฏิกิริยานี้เป็ นปฏิกิริยาดูดความร้อนเท่ากับ 100 kJ
2. ขั้นกาหนดอัตราของการทดลองที่ I คือ ขั้น A C การทดลองที่ II คือ F H
3. ถ้าการทดลองที่ I เกิดปฏิกิริยาที่อุณหภูมิหอ้ ง การทดลองที่ II เกิดปฏิกิริยาที่อุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิหอ้ ง
4. ถ้าการทดลองที่ I เป็ นปฏิกิริยาที่ไม่ใส่ ตวั เร่ งปฏิกิริยา การทดลองที่ II เป็ นปฏิกิริยาที่ใส่ ตวั เร่ งปฏิกิริยา
ข้อความใดถูกต้องสาหรับปฏิกิริยา A + B C
1. ปฏิกิริยาในภาวะที่ 1 เกิดช้ากว่าภาวะที่ 2
2. ปฏิกิริยาในภาวะที่ 1 จะมีจานวนอนุภาคที่มีพลังงานอย่างน้อยเท่ากับ Ea มากกว่าปฏิกิริยาที่ภาวะที่ 2
3. ถ้าปฏิกิริยาในภาวะที่ 1 เป็ นภาวะปกติ ปฏิกิริยาในภาวะที่ 2 จะมีการเติมตัวเร่ งปฏิกิริยา
4. ขั้นที่ 3 และขั้นที่ 1 เป็ นขั้นกาหนดอัตราของปฏิกิริยาในภาวะที่ 1 และภาวะที่ 2 ตามลาดับ
16 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
เวลา การดาเนินไปของปฏิกิริยา
3. จานวนโมเลกุล 4. E
ก ก
ข
ข
พลังงานจลน์ การดาเนินไปของปฏิกิริยา
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 17
ข้อใดถูกต้อง
1. ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นทันทีถา้ พลังงานที่ได้จากการชนกันของอนุภาคสารตั้งต้นมีค่าไม่นอ้ ยกว่า 10,100 kJ
2. อัตราการเกิดปฏิกิริยานี้ถูกควบคุมด้วยปฏิกิริยาขั้นย่อยที่ 3
3. ถ้าปฏิกิริยานี้ไม่เติมสาร A พลังงานของ B และ X จะเพิม่ ขึ้น
4. ปฏิกิริยารวมเป็ นปฏิกิริยาคายพลังงานเท่ากับ 3900 kJ
29. จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
I เมื่ออนุภาคของสารตั้งต้นชนกันจะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น
II เมื่ออนุภาคสารตั้งต้นมีพลังงานอย่างน้อยเท่ากับพลังงานก่อกัมมันต์จะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น
III เมื่ออนุภาคสารตั้งต้นชนกันแรงพอในทิศทางที่เหมาะสมจะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น
IV เมื่ออนุภาคสารตั้งต้นได้รับพลังงานแล้วชนกันในทิศทางที่เหมาะสมจะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น
ข้อที่ถูกต้องคือ
1. I II III และ IV 2. II และ III
3. III และ IV 4. III เท่านั้น
32. จากปฏิกิริยา 4Mn2+(aq) + 6H2O(l) + 5O2(g) → 12H+(aq) + 4MnO4-(aq) ใช้สารละลาย MnSO4 เข้มข้น 1
mol/dm3 จานวน 100 cm3 ทาปฏิกิริยากับ O2 มากเกินพอ ถ้าอัตราการลดลงของ Mn2+ = 0.02 mol/dm3s แล้ว
อัตราการลดลงของ O2 จะเป็ นตามข้อใด
1. 0.05 mol/dm3s 2. 0.0025 mol/s
3. 0.64 g/s 4. 0.56 dm3/s ที่ STP
20 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
การบ้ าน
ชุดที่ 1
1. ปัจจัยทีม่ ีอทิ ธิพลต่ ออัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี คือ
1) ความเข้มข้นของสารละลาย ความดัน ตัวเร่ งปฏิกิริยา พันธะโคเวเลนต์
2) พันธะโคเวเลนต์ อุณหภูมิ ความเข้มข้นของสารละลาย ความดัน
3) อุณหภูมิ ความเข้มข้นนองสารละลาย พื้นที่ผวิ ตัวเร่ งปฎิกิริยา
4) อุณหภูมิ พันธโคเวเลนต์ พื้นที่ผวิ ตัวเร่ งปฏิกิริยา
2. ใส่ แท่ งโลหะสั งกะสี รูปทรงกลม 1 cm3 ลงในกรดไฮโดรคลอริกเข้ มข้ น 0.1 โมล/ลิตร 20 cm3 แล้วเขย่าเบาๆ ถ้ า
เพิม่ สิ่ งต่ อไปนีส้ องเท่ า อะไรจะทาให้ อตั ราเร็วของการเกิดก๊ าซไฮโดรเจนเพิม่ มากทีส่ ุ ด
1) พื้นที่ผวิ ของ Zn 2) ปริ มาตรของ Zn
3) ปริ มาตรของ HCl 4) ความเข้มของ HCl
3. ข้ อใดเป็ นเหตุผลทีถ่ ูกต้ องทีส่ ุ ดเพือ่ แสดงว่ าอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาจะเพิม่ ขึน้ เมื่ออุณหภูมิเพิม่ ขึน้
1) โมเลกุลของสารนั้นจะมีการชนกันมากขึ้น
2) จะทาให้ความดันเพิ่มขึ้น
3) จะทาให้พลังงานก่อกัมมันต์เพิ่มขึ้น
4) โมเลกุลบางส่ วนมีพลังงานสู งเกิดขึ้น
14. เมื่อใส่ 1 M HCI 25 cm3 ลงในหินปูนชิ้นเล็กๆ จะมีก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ เกิดขึน้ การเปลีย่ นแปลงในข้ อใด
ทีจ่ ะไม่ ทาให้ อตั ราของปฏิกริ ิยาเริ่มต้ นเพิม่ ขึน้
1) ใช้ 1 M HCI 100 cm3 2) ใช้ 2 M HCI 25 cm3
3) ใช้ 2 M HCI 5o cm3 4) บดหินปูนให้เป็ นผงละเอียด
17. ปฏิกริ ิยาใดต่ อไปนีท้ อี่ ตั ราการเกิดไม่ ขนึ้ กับความเข้ มข้ นของสารตั้งต้ น
1) ปฏิกิริยาระหว่างโลหะแมกนี เซี ยมกับกรดไฮโดรคลอริ ก
2) ปฏิกิริยาระหว่างกรดออกซาลิกกับโพแทสเซี ยมเปอร์ แมงกาเนต
3) ปฏิกิริยาการกาจัดแอลกอฮอล์ในเลือดของคน
4) ปฏิกิริยาระหว่างโซเดียมไทโอซัลเฟตกับกรดไฮโดรคลอริ ก
18. คาตอบทีด่ ีทสี่ ุ ดสาหรับอธิบายว่ าเมื่ออุณหภูมิของระบบสู งขึน้ เล็กน้ อย อัตราของการเกิดปฏิกริ ิยามักเพิม่ ขึน้
อย่างรวดเร็วคือข้ อใด
1) จานวนครั้งของการชนกันเพิ่มขึ้น
2) พลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุลเพิ่มขึ้น
3) สัดส่ วนของโมเลกุลที่มีพลังงานมากกว่าหรื อเท่ากับพลังงานก่อกัมมันต์มากขึ้น
4) พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น
24 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
21. นักศึกษาทาการทดลองเกีย่ วกับการเกิดปฏิกริ ิยาสลายตัวของสาร X (สี เขียว) และสาร Y (สี เหลือง) ดังนี้
การทดลอง ผล
ก. ผลึก X ตั้งทิง้ ไว้ในทีส่ ว่าง สี เหลืองเกิดทีผ่ วิ ภายใน 5 นาที
ข. ผลึก X ตั้งทิง้ ไว้ในทีม่ ืด สี เขียว
ค. สารละลายของ X ตั้งทิง้ ไว้ในทีม่ ืด สี เขียว
ง. สารละลายของ X ตั้งทิง้ ไว้ในทีม่ ืด สี เขียว
จ. สารละลายของ X ตั้งทิง้ ไว้ ในที่ สี เหลืองอมเขียวภายใน 5 นาที และ
สว่าง ค่ อยๆเปลีย่ นเป็ นสี เหลือง
ข้ อใดไม่ สามารถสรุ ปได้ จากการทดลองข้ างต้ น
1) สาร X ไม่เหมาะที่จะใช้ทาสี ทาบ้าน
2) อัตราการสลายตัวไม่ข้ ึนกับอุณหภูมิ
3) อัตราการสลายตัวของ X ขึ้นกับความเข้มข้น
4) การสลายตัวของ X เกิดขึ้นได้ทุกสภาพถ้ามีแสง
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 25
22. X(s) + Y(aq) → Z(g) เป็ นปฏิกริ ิยาดูดความร้ อนอัตราเร็วของปฏิกิริยานี้เพิม่ ขึน้ เมื่อ
1. เพิม่ อุณหภูมิเพราะจานวนโมเลกุลทีมีพลังงานจลน์ สูงเพิม่ มากขึน้
2. เติมตัวเร่ งปฏิกริ ิยาเพราะทาให้ ปริมาณสารผลิตภัณฑ์ เพิม่ ขึน้
3. เพิม่ อุณหภูมิเพราะทาให้ สารตั้งต้ นขยายตัวมีพนื้ ที่ผวิ เพิม่ ขึน้
4. บด X ให้ มีขนาดเล็กลงหรือเป็ นผง และเพิม่ ปริมาณ Y
ข้ อใดถูกต้ อง
1) 1 และ 2 2) 2 และ 3
3) 3 และ 4 4) 1 และ 4
23. ปฏิกริ ิยา A+B → P เกิดช้ าแต่ สมบูรณ์ และเป็ นปฏิกริ ิ ยาคายความร้ อน พบว่ าอัตราของปฏิกริ ิยาขึน้ กับ
ปริมาณของสารตั้งต้ น A แต่ ไม่ เกิดขึน้ กับปริมาณของสารตั้งต้ น B การกระทาทั้งหมดในข้ อใด ต่ อไปนีม้ ีผล
ทาให้ ปฏิกิริยาเกิดเร็วขึน้
1) ลดอุณหภูมิ เพิม่ สาร A
2) ลดอุณหภูมิ เอาสาร P ออก
3) เพิ่มอุณหภูมิ เพิ่มสาร A เพิ่มสาร B
4) ลดอุณหภูมิ เพิ่มสาร A เอาสาร P ออก
ชุดที่ 2
1. ปฏิกริ ิยา A(s) + B(aq) → C(aq) + D(g) เป็ นปฏิกริ ิยาคายความร้ อน อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิม่ ขึน้ เมื่อใด
1) ลดขนาดของ A เพิ่มความเข้มข้นของ B ลดอุณหภูมิ
2) ลดปริ มาณของ D เพิ่มความเข้มข้นของ B ลดอุณหภูมิ
3) เพิ่มขนาดของ A ลดความดัน เพิ่มอุณหภูมิ
4) ลดขนาดของ A เติมตัวเร่ งปฏิกิริยา เพิม่ อุณหภูมิ
10. ค่ าคงที่ k ของปฏิกิริยาเป็ นเท่ าใด (ค่ าคงทีใ่ นหน่ วยลิตรต่ อโมลต่ อวินาที)
1) 2.0 x 106 2) 2.0 x 104
3) 2.0 x 102 4) 20
12. ในการศึกษาปฏิกิริยาระหว่ างเฮโมโกลบิน (Hb) กับคาร์ บอนมอนออกไซด์ (CO) ที่ 20 ๐ C , pH 7.3 มีสมการ
ดังนี้ 4Hb + 3CO → Hb4 (CO)3 ได้ ผลการทดลองดังนี้
ความเข้ มข้ นของสารตั้งต้ น
อัตราการหายไปของ Hb
(mol / dm3)
(mol / dm3 – sec)
(Hb) (CO)
3.00 1.00 0.90
6.00 1.00 1.80
6.00 2.00 3.60
ในขณะทีค่ วามเข้ มข้ นของ Hb เป็ น 3.0 mol/dm3 และของ CO เป็ น 2.00 mol/dm3 อัตราการหายไปของHb
เป็ นกี่ mol/dm3
1) 0.90 2) 1.80 3) 2.70 4) 3.60
13. เมื่อใส่ โลหะ X ลงในกรดไฮโดรคลอริค จะเกิดปฏิกริ ิยาให้ ก๊าซไฮโดรเจน ในการทดลองทีอ่ ุณหภูมิต่างๆกันโดย
จับเวลาทีใ่ ช้ ไปเมื่อได้ ก๊าซไฮโดรเจน 5 cm3 ได้ ข้อมูลดังนี้ ถ้ าทาการทดลองที่ 20๐C จะต้องใช้ เวลาเท่าใด
อุณหภูมิ (๐C) เวลา (วินาที)
30 100
40 50
50 25
1) 150 วินาที 2) 200 วินาที
3) 250 วินาที 4) 300 วินาที
14. ถ้ าการสลายตัวของสาร A ไปเป็ นสาร P เกิดโดยมีข้นั ตอนเดียว และจัดเป็ นกระบวนการขั้นพืน้ ฐานอย่างง่ าย
A → P และความเข้ มข้ นของ A ขณะปฏิกริ ิยาดาเนินไปเป็ นดังนี้
เวลา , s (A) , mol / dm3
0 1.00
50 0.61
100 0.37
150 0.22
อัตราของปฏิกิริยาทีว่ ินาที่ที่ 100 เป็ นเท่าใด
1) 0.0048 mol/dm3 2) 0.0030 mol/dm3
3) มากกว่า 0.0030 แต่นอ้ ยกว่า 0.0048 mol/dm3
4) เท่ากับอัตราเริ่ มต้นของปฏิกิริยาคือ 0.0078 mol / dm3
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 31
17. สารตั้งต้ น A สลายตัวให้ ผลิคภัณฑ์ P วัดความเข้ มข้ นของ A ทีเ่ วลาต่ างๆได้ ผลดังแสดง
เวลา (s) (A) (mol/dm3)
0 2.0
100 1.0
200 0.5
300 0.25
ถ้ าเริ่มต้ นจาก A 3.0 mol / dm3 ให้ สลายไปจนเหลือ 1.5 mol / dm3 จะใช้ เวลานานกีว่ นิ าที
1) 50 2) 100 3) 150 4) 200
19. ถ้ าให้ สาร A ทาปฏิกิริยากับสาร B โดยมีสาร C เป็ นตัวเร่ งปฏิกริ ิยาทีอ่ ุณหภูมิหนึ่ง พบว่ าเลขอันดับของ
ปฏิกริ ิยามีค่าเท่ากับ 0, 2 และ 0 เมื่อเทียบกับสาร A, B และ C ตามลาดับ จงหาว่าสมการแสดงกฎอัตราของ
ปฏิกริ ิยานี้ ตรงตามข้ อใดมากทีส่ ุ ด
1) อัตราเร็ ว = k (A)(B)2 2) อัตราเร็ ว = k (B)2
3) อัตราเร็ ว = k (A)(B) 4) อัตราเร็ ว = k (A)(B)2(C)
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 33
20. ปฏิกริ ิยาย้อนกลับของ X → Y มีพลังงานก่อกัมมันต์ ของปฏิกริ ิยาไปข้ างหน้ า 100 kJ/mol มีพลังงานก่อกัม
มันต์ ของปฏิกริ ิยาย้อนกลับ 75 kJ/mol ปฏิกริ ิยา X → Y นีเ้ ป็ นปฏิกิริยาชนิดใด
1) คายความร้อน 25 kJ / mol 2) คายความร้อน 175 kJ / mol
3) ดูดความร้อน 25 kJ / mol 4) ดูดความร้อน 175 kJ / mol
22. เมื่อนาสารละลายแอมโมเนียมาใส่ ขวดรู ปชมพู่ เขย่ าเล็กน้ อย แล้ วนาขวดแพลทินัมทีอ่ ่ ุนเล็กน้ อยหย่ อนลงไป
ในขวดเหนือระดับของเหลว พบว่ าลวดแพลทินัมร้ อนแดงขึน้ ข้ อสรุ ปผลการทดลองนี้ข้อใดถูกต้ อง
ก. แอมโมเนียถูกออกซิไดส์ โดยออกซิเจนในอากาศ
ข. ปฏิกริ ิยาทีเ่ กิดขึน้ เป็ นปฏิกิริยาดูดความร้ อน
ค. ปฏิกริ ิยาทีเ่ กิดขึน้ ป็ นปฏิกิริยาคายความร้ อน
ง. ลวดแพลทินัมเป็ นตัวเร่ งปฏิกริ ิยา
1) ก และ ง 2) ก ค และ ง
3) ก และ ข 4) ก ข และ ง
ชุดที่ 3
1. จากการทดลองหาอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาระหว่าง Zn(s) กับ HCl(aq) ตามสมการ
Zn(s) + 2HCl(aq) ZnCl2(aq) + H2(g) ได้ ผลดังนี้
เวลา (s) 20 30 50 70
ปริมาตร H2(cm3) 1 2 3 4
เพราะเหตุใดก๊ าซกับก๊ าซจึงทาปฏิกริ ิยาได้ เร็วกว่ าก๊ าซทาปฏิกริ ิยากับของแข็ง
1) เพราะอนุภาคเคลื่อนที่ได้สะดวกโอกาสชนกันจึงเกิดขึ้นมาก
2) เพราะพื้นที่ผิวของก๊าซทั้งสองสัมผัสกันมาก
3) เพราะอนุภาคต่างๆ ของก๊าซทั้งสองอยูช่ ิดกันโอกาสรวมตัวกันจึงสะดวก
4) พันธะภายในโมเลกุลของก๊าซไม่แข็งแรงจึงสลายพันธะได้ง่าย
8. จากปฏิกิริยา 2A → 3B ถ้ าความเข้ มข้ นของ A ลดลง จาก 0.568 m เป็ น 0.552 m ในฃ่ วงเวลา 2.50 นาที จง
คานวณหาอัตราการเกิดสาร B
1) 1.60 x 10-4M/วินาที 2) 1.07 x 10-4M/วินาที
3) 7.11 X 10-5M/วินาที 4) 3.55 x 10-5M/วินาที
9. สาร X ทาปฏิกริ ิยากับสาร Y ได้ สาร Z จากการทดลองพบว่ามีอตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเท่ ากับ 1/3 เท่ า ของอัตรา
การลดลงของสาร X หรือมีค่าเท่ ากับ 2 เท่ าของอัตราการลดลงของสาร Y หรือมีค่าเท่ ากับ ½ เท่ าของอัตรา
การเกิด Z สมการทีแ่ ทนการเกิดปฏิกริ ิยาคือข้ อใด
1) 3x + 2Y Z 2) 6X + Y 4Z
3) 3X + 2Y 3Z 4) 1/3 X + 2Y ½ Z
11. แก๊ ส N2O5 สลายตัว ดังสมการ 2N2O5 → 4NO2 + O2 ถ้ าอัตราการสลาย N2O5 มีค่าคงที่เท่ ากับ 1.8x10-5 โมล
ต่ อวินาที เมื่อเวลาผ่านไป 5 วินาที ข้ อสรุ ปใดถูก
1) เกิด NO2 = 9.0x10-5 mol
2) เกิด NO2 = 4.5x10-5 mol
3) เกิด O2 = 18x10-5 mol
4) เกิด O2 = 4.5x10-5 mol
12. ณ อุณหภูมิหนึ่ง A สลายตัวให้ B ร้ อยละ 90 โดยน้าหนัก ใช้ เวลา 40 นาที เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึน้ 10OC อัตรา
การสลายตัวจะเพิม่ ขึน้ 2 เท่า ถ้ าต้ องการให้ A สลายตัวได้ ร้อยละ 90 โดยนา้ หนักในเวลาเพียง 10 นาที จะต้ อง
เพิม่ อุณหภูมิขนึ้ กีอ่ งศาเซลเซียส
1) 10 2) 20
3) 30 4) 40
อั ต ราการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ยาเคมี | 37
14. เมื่อนาก๊ าซไนโตรเจนมอนอกไซด์ (NO) มาทาปฏิกิริยากับก๊ าซคลอรีน Cl2 ทาให้ ได้ ก๊าซไนโตรซิลคลอไรด์
(NOCl) ถ้ าความเข้ มข้ นของก๊าซไนโตรซิลคลอไรต์ เพิ่มขึน้ ด้ วยอัตรา 0.030 mol/dm3.s อัตราการหายไปของ
ก๊าซคลอรีน ณ ช่ วงเวลาเดียวกันมีค่าเท่าไร
1) 0.015 2) 0.030
3) 0.060 4) 0.010
15. จากการศึกษาเกีย่ วกับอัตราเร็วของปฏิกริ ิยา 2N2O5(g) 4NO2(g) + O2(g) ได้ ผลการทดลอง 2 ช่ วงดังนี้
ช่ วงที่ เวลา (s) ความเข้ มข้ นของ O2 (mol/l)
600 0.0021
1
1,200 0.0036
4,200 0.0072
2
4,800 0.0075
จงพิจารณาว่ าข้ อใดถูกต้ องที่สุด
1) อัตราเร็ วช่วงแรกมีค่าเท่ากับช่วงที่สอง
2) อัตราเร็ วช่วงที่สองมีค่าสู งกว่าช่วงแรก
3) อัตราเร็ วช่วงแรกมีค่าเป็ น 5 เท่าของช่วงที่สอง
4) อัตราเร็ วช่วงที่สองมีค่าเป็ น 2 เท่าของช่วงแรก
38 | เคมีครูก๊ กุ สยามสแควร์ ซอย 6
17. ใช้ ข้อมูลในตารางต่ อไปนีต้ อบคาถาม ข้ อใดกล่ าวถูกต้ อง ปฏิกิริยา Ea (kJ) E (kJ)
1) ปฏิกิริยา B เกิดเร็ วที่สุดเพราะคายความร้อน = 40 kJ A 70 +30
2) ปฏิกิริยา A มีค่า Ea ของปฏิกิริยาย้อนกลับ = 100 kJ
B 90 -40
3) ปฏิกิริยา C เกิดช้าที่สุดเพราะดูดความร้อน = 20 kJ
C 110 +20
4) ปฏิกิริยา D มีค่า Ea ของปฏิกิริยาย้อนกลับ 65 kJ
D 50 -15
18. ในปฏิกริ ิยาดูดความร้ อน A → P ผลต่ างๆ ระหว่างพลังงานของสาร A และสาร P (E) เท่ ากับ 48 kJ/mol และ
มีพลังงานก่อกัมมันต์ (Ea) = 120 kJ/mol ข้ อใด ผิด
1) เมื่อเติมตัวหน่วงปฏิกิริยาจะได้ Ea > 120 kJ/mol และปฏิกิริยาจะดูดความร้อนเท่าเดิม
2) เมื่อเติมตัวเร่ งปฏิกิริยาพลังงานของสาร A จะต่ากว่าของสาร P และมี Ea เท่าเดิม
3) เมื่อเพิม่ อุณหภูมิจะได้ Ea = 120 kJ/mol และมีจานวนอนุภาคที่มีพลังงาน > Ea มากขึ้น
4) เมื่อเติมตัวเร่ งปฏิกิริยาและลดปริ มาณสาร A ลงครึ่ งหนึ่ง อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น
30. ปฏิกริ ิยา A2 + B2 → 2AB มีแผนภาพพลังงานดังรู ป ถ้ าใช้ ตัวเร่ งปฏิกริ ิยา พบว่า
พลังงาน
พลังงานก่อกัมมันต์ ลดลง 10 kJ ข้ อสรุ ปใด ถูกต้ อง สาหรับปฏิกริ ิยาทีม่ ีตัวเร่ ง
(kJ)
1) พลังงานก่อกัมมันต์ของ A2 + B2 → 2AB มีค่า = 70 kJ
2) พลังงานก่อกัมมันต์ของ 2AB → A2 + B2 มีค่า = 45 kJ
3) พลังงานของปฏิกิริยา A2 + B2 → 2AB มีค่า = 25 kJ
เวลา
4) พลังงานของปฏิกิริยา 2AB → A2 + B2 มีค่า = 15 kJ
เฉลยการบ้าน
ชุดที่ 1
ข้อ 1-5 ข้อ 6-10 ข้อ 11-15 ข้อ 16-20 ข้อ 21-25
3 4 3 2 3
1 1 2 3 4
4 1 2 3 4
3 3 1 3 3
4 3 2 3 1
ชุดที่ 2
ข้อ 1-5 ข้อ 6-10 ข้อ 11-15 ข้อ 16-20 ข้อ 21-24
4 4 1 2 1
4 3 2 2 2
2 1 2 4 4
1 4 3 2 4
4 2 2 3
ชุดที่ 3
ข้อ 1-5 ข้อ 6-10 ข้อ 11-15 ข้อ 16-20 ข้อ 21-25 ข้อ 26-30 ข้อ 31-33
1 3 4 4 1 4 2
4 4 2 4 1 1 1
2 1 1 2 1 4 3
3 2 1 4 3 1
2 3 3 2 1 3