Professional Documents
Culture Documents
จำนวนหน่วยกิจการศึกษาต่อเนือ่ ง ผู้เขียนบทความ
3 หน่วยกิต ชื่อ ดร.ภญ.ธิพาพรรณ พลายด้วง
สังกัด สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
บทคัดย่อ
ยาขี้ผึ้ง เป็นยาเตรียมทางเภสัชกรรมรูปแบบกึ่งแข็ง (semi-solid dosage form) มีตัวยาสำคัญ
เท่ากับหรือมากกว่า 1 ชนิด ละลายหรือกระจายอยู่ในยาพื้นขี้ผึ้ง สำหรับใช้ทาภายนอกร่างกาย ยา
พื้นขี้ผึ้งมี 4 แบบ ได้แก่ ยาพื้นชนิดเป็นมัน (Oleaginous หรือ hydrocarbon ointment bases)
ยาพื้ น ชนิ ด ดู ด น้ ำ ได้ (Absorption หรื อ absorbent ointment bases) ยาพื้ น ชนิ ด อิ มั ล ชั น
(Emulsion ointment bases) และยาพื้นชนิดละลายน้ำได้ (Water soluble ointment bases)
ตำรับยาพื้นขี้ผึ้งแต่ละแบบมีส่วนประกอบแตกต่างกัน ส่งผลให้มี คุณสมบัติ รวมทั้งข้อดี-ข้อเสียที่
แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยาพื้นขี้ผึ้งที่เหมาะสำหรับตัวยาสำคัญและบริเวณที่ต้องการใช้ย า
ขี้ผึ้ ง วิ ธี ก ารเตรีย มยาขี้ผึ้ ง มี 2 วิ ธี ได้ แ ก่ การหลอม (fusion) และการผสมตั ว ยาเข้า กับ ยาพื้ น
(incorporation) การเลือกวิธีเตรียมยาควรคำนึงถึงคุณสมบัติของตัวยาสำคัญและส่วนประกอบ
ต่างๆ ในตำรับ เพื่อให้ยาขี้ผึ้งที่เตรียมได้มีตัวยาสำคัญละลายหรือกระจายอย่างสม่ำเสมอ ขี้ผึ้งมีเนื้อ
เรียบเนียน มีความคงตัวทางเคมีและกายภาพ
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. เพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติ และส่วนประกอบของยาพืน้ ขี้ผึ้งแบบต่างๆ
2. เพื่อให้ทราบข้อดี-ข้อเสียของยาพื้นขี้ผงึ้ แบบต่างๆ
3. เพื่อให้ทราบวิธีเตรียมตำรับยาขี้ผึ้ง
คำสำคัญ ยาขี้ผึ้ง คุณสมบัติ ส่วนประกอบ วิธีการเตรียม
บทนำ
ตัวอย่างสารในตำรับยาพื้นขี้ผึ้งชนิดเป็นมัน
Petrolatum: yellow soft paraffin, soft paraffin, vaseline
สาร hydrocarbon ลักษณะเป็นมัน เหนียวเหนอะหนะ สามารถติดทนบนผิวหนังได้ดี
จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง แต่ล้างน้ำออกยาก เป็นสารเฉื่อยไม่ทำปฏิกิริยากับสารหรือ
ตัวยาในตำรับ มีความคงตัวสูง มีจุดหลอมเหลว 38-60 C เมื่อผ่านการฟอกสีโดยใช้ oxidizing
agent และกรด จะเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีขาว
Vegetable oils
น้ ำ มั น พื ช ที่ นิ ย มใช้ มี ห ลายชนิ ด เช่ น olive oil, sesame oil, cottonseed oil,
almond oil, corn oil เป็นต้น มีคุณ สมบัติทำให้ตำรับอ่อนนุ่ม ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น อาจเกิด
ออกซิเดชันทำให้ เกิดการเหม็น หืนได้ ป้องกันได้โดยเติมสารต้านออกซิเดชัน เช่น vitamin E,
butylated hydroxyanisole (BHA) เป็นต้น
ตัวอย่างสูตรตำรับยาขี้ผึ้งที่ใช้ยาพื้นชนิดเป็นมัน
Sulfur ointment
Sulfur 5 g
Soft paraffin q.s. to 100 g
ตัวอย่างสารในตำรับยาพื้นขี้ผึ้งชนิดดูดน้ำได้
Wool fat: anhydrous lanolin
ไขแกะ เป็ น สารประกอบเอสเทอร์ ข อง cholesterol มี สี เหลื อ งถึ ง น้ ำ ตาลอ่ อ น มี
ลักษณะเป็นมัน มีจุดหลอมเหลว 36-42 C ไม่ละลายน้ำ แต่เข้ากับน้ำได้โดยจะเกิดเป็นอิมัลชัน
ชนิดน้ำในน้ำมัน มีข้อเสียคือ เหม็นหืนได้ง่าย และอาจก่อให้เกิดการแพ้ มีการพัฒนาให้อยู่ในรูป
อนุพันธ์ของไขแกะ เช่น acetylated lanolin เป็นต้น
สารชนิดอื่นๆ
cetyl alcohol (C16), stearyl alcohol (C18) และ cetostearyl alcohol (n =15-
17) เป็นสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน คือ เป็นของแข็ง สีขาว เพิ่มความแข็งให้กับตำรับ มีจุด
หลอมเหลว 56-60 C ไม่ละลายน้ำ แต่เข้ากับน้ำได้ โดยจะเกิดเป็นอิมัลชันชนิดน้ำในน้ำมัน
ตัวอย่างสูตรตำรับยาขี้ผึ้งที่ใช้ยาพื้นชนิดดูดน้ำได้
Zinc and castor oil ointment BP
Zinc oxide, finely sifted 75 g
Castor oil 500 g
Cetostearyl alcohol 20 g
White beeswax 100 g
Arachis oil 305 g
ตัวอย่างสูตรตำรับยาขี้ผึ้งที่ใช้ยาพื้นอิมัลชันชนิดน้ำในน้ำมัน
Sulfur ointment
Precipitated sulfur 5.0 g
White wax 7.0 g
Sodium borate 0.5 g
Rose water 18.0 g
Liquid petrolatum q.s. to 60.0 g
ตัวอย่างสูตรตำรับยาขี้ผึ้งที่ใช้ยาพื้นอิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำ
Sulfur Ointment
Sulfur 2.0 g
Phenol 0.5 g
Cetyl alcohol 8.0 g
White wax 0.5 g
Propylene glycol 5.0 g
ข้อดีของยาพื้นชนิดอิมัลชัน
- เหมาะกับตัวยาที่เป็นของเหลว โดยยาพื้นอิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำเข้ากับตัวยา
ที่เป็นของเหลวได้ดีกว่าชนิดน้ำในน้ำมัน
- ยาพื้นชนิดน้ำมันในน้ำ สามารถดูดน้ำเหลืองจากแผลได้ดี และล้างน้ำออกง่าย
ข้อเสียของยาพื้นชนิดอิมัลชัน
- เนื่ องจากในตำรับ มี น้ ำ เป็ น ส่ ว นประกอบ จึ ง อาจเกิ ด การเจริญ เติ บ โตของ
เชื้อจุลินทรีย์ได้ จำเป็นต้องมีการเติมสารกันเสียในตำรับ
- อาจเกิดปัญหาความไม่เข้ากันระหว่างตัวยาที่มีประจุตรงข้ามกับสารทำอิมัลชัน
ที่เลือกใช้
ตัวอย่างสารในตำรับยาพื้นขี้ผึ้งชนิดละลายน้ำได้
polyethylene glycol (PEG): polyglyol, macrogol, carbowax
จุดหลอมเหลว 37-63 C มวลโมเลกุล 200-20,000 โดยมวลโมเลกุลต่างกันส่งผลต่อ
คุณสมบัติและสถานะที่แตกต่างกัน PEG มวลโมเลกุล 200-700 มีสถานะเป็นของเหลว หรือแข็ง
กึ่งเหลว มวลโมเลกุลมากกว่า 1000 มีสถานะเป็นของแข็ง มวลโมเลกุลสูงขึ้นจะมีความสามารถ
ในการละลายน้ำต่ำลง มีการดูดความชื้นและความดันไอลดลง
ตัวอย่างสูตรตำรับยาขี้ผึ้งที่ใช้ยาพื้นชนิดละลายน้ำได้
Herpes Ointment
Acyclovir 3.0 g
Lidocaine 1.8 g
PEG 1450 20.0 g
PEG 300 38.1 g
2-Ethylhexyl salicylate 1.5 g
วิธีการเตรียมยาขี้ผึ้ง
ยาขี้ผึ้งที่ดีควรมีความคงตัวทางเคมีและกายภาพ มีเนื้อเรียบเนียน ไม่หยาบ ตัวยาสำคัญ
ควรละลายหรือกระจายอย่างสม่ำเสมอในยาพื้นขี้ผึ้ง ซึ่งยาขี้ผึ้งสามารถเตรียมได้ 2 วิธี คือ การ
หลอม (fusion) และการผสมตัวยาเข้ากับยาพื้น (incorporation)
1. การเตรียมยาขี้ผึ้งโดยการหลอม (fusion)
เทคนิคการเตรียมยาขี้ผึ้งโดยใช้การหลอม
1.1 เนื่องจากสารต่างๆ ในการเตรียมตำรับยาขี้ผึ้งมีจุดหลอมเหลวต่างกัน วิธีการหลอมจึงต้อง
คำนึงถึงจุดหลอมเหลว โดยแบ่งเป็น 3 วิธีได้แก่
ตัวอย่างตำรับยาขี้ผึ้งที่เตรียมโดยใช้วิธีหลอม
2. การผสมตัวยาเข้ากับยาพื้น (Incorporation)
การผสมตัวยาสำคัญเข้ากับยาพื้นโดยวีนี้จะใช้เมื่อเตรียมยาพื้นแล้ว ตัวยาสำคัญอาจจะ
อยู่ในรูปของแข็งไม่ละลายน้ำ ของเหลว หรือในรูปสารละลายที่เหมาะสม
เทคนิ ค การเตรีย มยาขี้ ผึ้ ง โดยใช้ ก ารผสมตั ว ยาเข้ า กั บ ยาพื้ น (Incorporation) โดย
คำนึงถึงคุณสมบัติของตัวยาสำคัญ
2.1 ตัวยาสำคัญไม่ละลายน้ำหรือยาพื้นขี้ผึ้ง จะต้องทำให้ตัวยาเป็นผงละเอียด เพื่อให้ได้ขี้ผึ้งเนื้อ
เนียน มีตัวยากระจายอยู่อย่า งสม่ำเสมอ ไม่ระคายเคืองผิวหนัง โดยใช้ levigating agent บด
ผสมกับตัวยาสำคัญจนได้ smooth paste แล้วจึงผสมกับยาพื้นโดยวิธี geometric dilution
โดยเลือก levigating agent ตามชนิดของยาพื้นขี้ผึ้งในตำรับ
- ยาพื้ น ขี้ผึ้ งชนิ ด เป็ น มัน หรือ ยาพื้ น ขี้ผึ้งชนิ ดดู ดน้ ำได้ เลื อกใช้ mineral oil,
สารจำพวกน้ำมัน เช่น น้ำมันพืชชนิดต่างๆ หรือยาพื้นขี้ผึ้งที่หลอมแล้วเป็น levigating agent
ตัวอย่างตำรับยาขี้ผึ้งที่เตรียมโดยใช้วิธี incorporation
Bifonazole 1% and urea 40% in white petrolatum
Bifonazole 1 g
Urea 40 g
Mineral oil 1 g
White petrolatum 58 g
วิธีทำ
สรุป
ยาขี้ผึ้งเป็นยาเตรียมกึ่งแข็งที่มีตัวยามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ชนิด ละลายหรือกระจายอยู่
ในยาพื้นขี้ผึ้งใช้ทาภายนอกร่างกาย ยาพื้นขี้ผึ้งทางเภสัชกรรมมี 4 แบบ ได้แก่ ยาพื้นชนิดเป็น
มั น ยาพื้ น ชนิ ด ดู ด น้ ำ ได้ ยาพื้ น ชนิ ด อิ มั ล ชั น และยาพื้ น ชนิ ด ละลายน้ ำ ได้ แต่ ล ะแบบมี
ส่วนประกอบของแตกต่างกัน ส่งผลให้มีลักษณะ คุณ สมบัติ และมีวิธีการเตรียมยาขี้ผึ้งที่
แตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ยาพื้นแบบที่เหมาะสมในการเตรียมยาขี้ผึ้ง
เอกสารอ้างอิง
Allen, L.V., Popovich, N.G. and Ansel, H.C. 2011. Ansel’s Pharmaceutical Dosage
Forms and Drug Delivery Systems. 9th ed: Lippincott Williams & Wilkins.
Baltimore.
Lieberman, H.A., Rieger, M.M. and Banker, G.S. 2008. Pharmaceutical Dosage
Forms: Disperse Systems. Marcel Dekker. New York.
Mahato, R.I. and Narang, A.S. 2012. Pharmaceutical Dosage Forms and Drug
Delivery. 2nd ed: Boca Raton, FL: CRC Press.
British Pharmacopoeia. Volume I & Volume II. 2016. The Stationery Office Ltd.,
London.
Rowe, R.C., Sheskey, P.J. and Quinn, M.E. 2009. Handbook of Pharmaceutical
Excipients. 6 th ed: Pharmaceutical Press. London.
The United States Pharmacopeia 40 & The National Formulary 35 (USP 40-NF 35).
2017. United States Pharmacopeial Convention, Inc., Rockville.
การเปิดเผยสถานภาพของผู้เขียนที่เกี่ยวข้องกับบทความ
ดร.ภญ. ธิพาพรรณ พลายด้วง อาจารย์ประจำสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์