You are on page 1of 5

บทนำ

หากจะกล่าวถึงอารยธรรมโบราณอันเก่าแก่ที่เปี่ ยมล้นไปด้วยความเชื่อและภูมิปัญญาที่ยงั หลงเหลือหลัก


ฐานทางประวัติศาสตร์ ให้ศึกษาไม่นอ้ ยไปกว่าอารยธรรมเก่าแก่อื่น ๆ ในพื้นที่ทวั่ โลก ที่มีท้ งั ภาษา
สถาปั ตยกรรม ปติมากรรม รวมทั้งศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมให้คน้ คว้า อีกทั้งยังมีความเชื่อที่โดดเด่น
เต็มไปด้วยปริ ศนาและความลึกลับที่กระตุน้ ความอยากรู ้อยากเห็น อันนำมาสู่ ความกระตือรื อร้นของคน
ยุคปั จจุบนั ในการไขปริ ศนาเหล่านี้ คงหนีไม่พน้ อารยธรรมอียปิ ต์โบราณที่ถึงแม้จะล่มสลายมานานกว่า 3,000 ปี
แล้ว ทว่าภูมิปัญญาเหล่านี้กห็ าได้สูญสิ้ นไปตามกาลเวลา
อารยธรรมอียปิ ต์โบราณ หรื อ ไอยคุปต์ เป็ นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็ น
หนึ่งในอารยธรรมที่เจริ ญรุ่ งเรื องในหลาย ๆ ด้าน ไม่วา่ จะเป็ นภูมิปัญญาด้านอักษรศาสตร์ที่ใช้ในการประดิษฐ์
อักษรภาพ หรื อภูมิปัญญาด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่โด่งดังไปทัว่ โลกเพราะนอกจากจะสร้างสิ่ งที่มี
ขนาดใหญ่แล้วยังมีวิธีการสร้างเกินกว่าที่มนุษย์ในปั จจุบนั จะจินตนาการได้ นัน่ คือพีระมิด นอกจากนี้ยงั ปรากฏ
ภูมิปัญญาด้านความเชื่อทางศาสนาที่สร้างพิธีกรรมน่าพิศวงอย่างการรักษาสภาพศพเพื่อรอการกลับมาของ
เจ้าของร่ างที่ไร้ลมหายใจนั้นซึ่ งภูมิปัญญาทั้งหมดทั้งปวงที่ได้กล่าวมานั้นถูกสร้างขึ้นตามความเชื่อของชาว
อียปิ ต์ที่โบราณมีต่อ เทพเจ้าที่พวกเขานับถือและโลกหลังความตาย
มัมมี่ หรื อ ศพอาบน้ำยากันเน่าเปื่ อยของชาวอียปิ ต์โบราณคือหนึ่งในภูมิปัญญาที่ถูกสร้างขึ้ นตาม
ความเชื่อของชาวอียปิ ต์โบราณเกี่ยวกับโลกหลังความตาย ชาวอียปิ ต์โบราณเชื่อกันว่าวิญญาณเป็ นอมตะ ไม่มี
วันดับสลาย และสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้โดยอาศัยร่ างเดิม จึงจำเป็ นต้องเก็บรักษาสภาพศพให้อยูไ่ ด้นาน
ที่สุดเพื่อรอคอยการกลับมาของวิญญาณผูเ้ ที่ยวไปในดินแดนแห่งผูว้ ายชนม์ ชาวอียปิ ต์จึงคิดค้นวิธีการรักษา
สภาพร่ างที่ไร้ลมปราณเพื่อรอคอยวิญญาณกลับมาด้วยวิธีการทำมัมมี่ โดยเมื่อตายไปแล้วจะเข้าพิธีท ำมัมมี่
เริ่ มจากการนำอวัยวะภายในมาบรรจุใส่ ขวดโหล จากนั้นชโลมน้ำมันสนและสารนาตรอนบนร่ างก่อนห่อด้วยผ้า
ลินิน ชาวอียปิ ต์โบราณเชื่อกันว่าร่ างเหล่านี้จะได้รับการปกป้ องคุม้ ครองจากเทพอนูบิส ซึ่ งเป็ นเทพเจ้าแห่งความ
ตาย เทพเจ้าอนูบิสมีลกั ษณะที่โดดเด่น รู ปร่ างเป็ นสุ นขั จิ้งจอกสี ด ำ ซึ่ งชาวอียปิ ต์มีความเชื่อกันว่าสี ด ำเปรี ยบ
เสมือนความตาย เทพเจ้าสุ นขั องค์น้ ี เป็ นผูช้ ้ ีทางเดินไปสู่ นครแห่งผูว้ ายชนม์ให้กบั เหล่าดวงวิญญาณ
ที่ล่วงลับไปแล้ว
ความเชื่อและอารยธรรมที่กล่าวมานั้นล้วนมีเสน่ห์ ดึงดูดให้ “อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน” ผูก้ ำกับภาพยนต์ชาว
อเมริ กนั หยิบยกประเด็นเหล่านี้ไปสร้างเป็ นภาพยนต์ที่ถึงแม้จะผ่านมา 24 ปี แล้วก็ยงั อยูใ่ นความทรงจำของใคร
หลายคน และน้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยนิ ชื่อของภาพยนต์เรื่ อง “The Mummy (1999)” ในภาพยนตร์เรื่ องนี้ มี
หลายส่ วนที่ตรงกับประวัติศาสตร์ และบางส่ วนที่ถูกต่อเติมเสริ มแต่งเข้ามาเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมอันเป็ น
ธรรมชาติของการสร้างหนังและละคร โดยบทความนี้จะกล่าวถึงประเด็นต่าง ๆ ที่ อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน ได้
หยิบยกความเชื่อ และ ภูมิปัญญาต่าง ๆ ของชาวอียปิ ต์โบราณทั้งที่ปรากฏอยูใ่ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และ
ไม่ปรากฏมานำเสนอผ่านภาพยนตร์เรื่ องนี้

ความเชื่อของชาวอียปิ ต์ โบราณผ่ านภาพยนตร์ The Mummy (1999)


ภาพยนตร์ The Mummy (1999) เป็ นเรื่ องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 3,000 ปี ก่อน ณ เมืองธี บส์ ประเทศอียปิ ต์
อิมโฮเทปมหาปุโรหิตของฟาโรห์เซติที่ 1 ได้ลกั ลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ งกับอนัคซูนามุน พระสนมของฟาโรห์
เซติที่ 1 ทั้งสองได้ร่วมมือกันสังหารฟาโรห์หลังจากที่ฟาโรห์จบั ได้วา่ ถูกทั้งคู่แทงข้างหลัง หลังจากนั้นอิมโฮเทป
ได้ท ำการหลบหนี ในขณะที่อนัคซูนามุนนั้นปลิดชีพตัวเองเพราะเธอเชื่อว่าอิมโฮเทปจะชุบชีวิตเธอได้
อิมโฮเทปและเหล่าสมุนนักพรตได้ขโมยศพของอนัคซูนามุนและรี บเดินทางไปยังเมืองฮามุนบั ตรา (นครแห่งผู ้
วายชนม์) แต่ในขณะที่ก ำลังทำพิธีชุบชีวิตนาง เหล่าเมไจทหารของฟาโรห์ได้เข้ามาขัดขวางพิธีกรรมทำให้
อิมโฮเทปและเหล่านักพรตผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาไม่สามารถชุบชีวิตอนัคซูนามุนได้สำเร็ จ เหล่าเมไจได้ลงโทษ
คณะนักพรตโดยการทำมัมมี่ท้ งั เป็ น ในขณะที่อิมโฮเทปนั้นต้องโทษคำสาปและฝังทั้งเป็ นใต้รูปปั้ นเทพเจ้าอนูบิ
สพร้อมกับสคารับ หรื อแมลงปี กแข็งกินเนื้อคน เหล่าเมไจผูซ้ ื่ อสัตย์และภักดีต่อฟาโรห์ได้ให้ค ำสัตย์สาบานว่าจะ
ป้ องกันไม่ให้อิมโฮเทปฟื้ นกลับคืนมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ปี 1926 ณ เมืองไคโร ประเทศอิยปิ ต์ โจนาธาน ได้มอบของขวัญให้กบั น้องสาวของเขา เอเวอลีน
บรรณารักษ์และนักอียปิ ต์วิทยาซึ่ งทำงานให้กบั พิพิธภัณฑ์ของดร.เทอเรนซ์ เบย์ ของขวัญที่เขามอบให้เธอนั้นคือ
กล่องปริ ศนารู ปดาว 8 แฉกพร้อมกับแผนที่อนั จะนำพวกเขาไปสู่ เมืองฮามูนบั ตรา โจนาธานสารภาพว่าเขาได้
กล่องนี้มาจากนักผจญภัยชาวอเมริ กนั ผูห้ นึ่ง ริ ค โอ’คอนเนล โดยริ คได้คน้ พบเมืองฮามุนบั ตราระหว่างที่เขา
กำลังสู ้รบกับชนพื้นเมืองอยู่ เอเวอลีนและโจนาธานช่วยริ คให้รอดพ้นจากโทษประหารและทำข้อตกลงกับริ คให้
พาไปยังนครฮามูนบั ตรา
ในระหว่างทางพวกเขาได้พบกับกลุ่มนักล่าสมบัติชาวอเมริ กนั และยังถูกอาร์เด็ธ เบย์ หัวหน้าเหล่าเมไจ
เตือนให้ไปให้พน้ จากเมืองแห่งนี้แต่ดว้ ยความดื้อรั้นและความอยากรู ้อยากเห็นพวกเขาก็ยงั ยืนยันที่จะไปต่อ ใน
ระหว่างนั้นเอเวอลีนได้คน้ หาคัมภีร์อาร์มุน ในขณะนั้นเธอได้สะดุดเข้ากับหี บศพของอิมโฮเทป ในขณะเดียวกัน
กลุ่มนักล่าสมบัติได้พบกับคัมภีร์มรณะและโหลใส่ อวัยวะของอนัคซุนามุน และระหว่างนั้นมีนกั ล่าสมบัติเสี ย
ชีวิตอย่างปริ ศนาระหว่างขุดหาสมบัติ
ในยามค่ำคืน เอเวอลีนได้ขโมยคัมภีร์มรณะมาจากเหล่านักล่าสมบัติและได้อ่านหนึ่งในคาถาที่ปรากฏ
อยูใ่ นคัมภีร์น้ นั แต่หารู้ไม่วา่ นัน่ คือการปลุกดวงวิญญาณอันชัว่ ร้ายและเต็มไปด้วยแรงอาฆาตของอิมโฮเทปให้
กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่ออิมโฮเทปพบเอเวอลีนก็เข้าใจผิดคิดว่าเธอคืออนัคซูนามุน ส่ วนเหล่านักล่าสมบัติได้รีบ
หนีกลับกรุ งไคโร เมื่ออิมโฮเทปได้พบกับเบนนีหนึ่งในนักล่าสมบัติที่เสนอตัวว่าจะขอรับใช้เขา เบนนีช่วยให้
อิมโฮเทปได้ฟ้ื นคืนร่ างมนุษย์อย่างเต็มตัวโดยการสู บเลือดเนื้ อจากเหล่านักล่าขุมทรัพย์ท ำให้มีพลังแข็งแกร่ งมาก
ยิง่ ขึ้น ทั้งเอเวอลีนและโอคอลเนลต้องร่ วมมือกันหาทางกำจัดวิญญาณชัว่ ร้ายนี้ก่อนที่มนั จะสร้างภัยพิบตั ิท ำลาย
ล้างโลกใบนี้
จากเรื่ องย่อจะเห็นได้วา่ ผูก้ ำกับได้ใส่ ฉากที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มาอ้างอิงและไม่มีตามหลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์ มารองรับ ทั้งนี้เพื่อเพิม่ อรรถรสในการรับชมให้ผชู ้ มรู ้สึกสนุก ตื่นตา พิศวง และหลงใหลไป
กับเนื้อเรื่ อง และเพื่อเพิ่มอำนาจ ความน่ากลัวให้กบั การกระทำและสถานการณ์ต่าง ๆ ในเรื่ อง รวมถึงสร้างปมให้
กับตัวละครเพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงในแต่ละเหตุการณ์ ชักจูงให้คนดูสมั ผัสได้ถึงความน่ากลัวของคำสาปมัมมี่
ความน่าพิศวงที่อยูภ่ ายในพีระมิด และความขลังของคัมภีร์ทองและคัมภีร์มรณะ
การกระทำของตัวละครที่ไม่ได้มีการบันทึกลงในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ปรากฏอยูห่ ลายฉาก ยก
ตัวอย่างเช่น ฉากที่ฟาโรห์เซติคน้ พบว่าพระสนมอนัคซูนามุนลักลอบมีความสัมพันธ์กบั ชายอื่น ฟาโรห์ให้นาง
ทาทองตามตัวเนื่องจากป้ องกันไม่ให้นางมีชู้ เพราะเมื่อมีชายใดแตะต้องตัวนาง จะมีรอยนิ้วมือติดตามตัวของ
นาง เมื่อนั้นองค์ฟาโรห์จะรู้ได้ทนั ทีวา่ นางมิได้จงรักภักดีต่อพระองค์ ในฉากนี้ มีการแสดงให้เห็นว่าอิมโฮเทป
นั้นได้ใช้มือสัมผัสแขนของอนัคซูนามุนและฟาโรห์กไ็ ด้สงั เกตถึงรอยนิ้วมือปริ ศนานั้น ฟาโรห์จึงสงสัยว่าสนม
ของตนกำลังนอกใจและมีสมั พันธ์กบั ชายอื่น การทาทองบนตัวไม่ปรากฏอยูใ่ นความเชื่ออียปิ ต์โบราณ มีเพียง
การใช้เครื่ องใช้ที่ท ำจากทอง และเครื่ องประดับในการแต่งกายแสดงให้เห็นถึงความมัง่ คัง่ เท่านั้น จากฉากที่ได้
กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าผูก้ ำกับใส่ การกระทำของตัวละครที่อยูน่ อกเหนือความจริ งทางประวัติศาสตร์เพื่อ
เป็ นการปูทางไปสู่ เหตุการณ์การสังหารฟาโรห์อนั จะนำไปสู่ ความผิดใหญ่หลวง เป็ นจุดเริ่ มต้นของมัมมี่ผดู ้ ุร้าย
และน่าหวาดผวา
นอกจากฉากที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วยังมีอีกหนึ่งฉากที่ผกู ้ ำกับใส่ เข้ามาเพื่อเป็ นการสร้างเหตุผลของ
ความรุ นแรงและดุร้ายของตัวละคร นัน่ คือฉากการทำมัมมี่แบบฮอม-ได เป็ นการทำมัมมี่สด อิมโฮเทปลักลอบ
เป็ นชูก้ บั สนมของฟาโรห์และสังหารฟาโรห์ผเู ้ ป็ นกษัตริ ย ์ จึงถูกเหล่าเมไจจับตัวไปต้องโทษที่ร้ายแรงที่สุดนัน่
คือพิธีฮอม-ได หรื อการฝังร่ างทั้งเป็ นพร้อมแมลงปี กแข็งกินเนื้อคนและปิ ดผนึกโรงเอาไว้ดว้ ยคำสาป จากนั้นฝัง
โลงนี้ไว้ใต้รูปปั้ นเทพอนูบิส โดยผูท้ ี่ตอ้ งคำสาปนี้ดวงวิญญาณจะไม่ได้เกิดใหม่หรื อได้ไปนครแห่งผูว้ ายชนม์
และหากผูใ้ ดปลุกวิญญาณดวงนี้ ข้ ึนมาโลกก็จะพบเจอกับโรคร้าย ทุพภิกขภัย และเป็ นมหันตภัยของมนุษยชาติ
คำสาปนี้แม้ไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์ แต่ทางผูก้ ำกับได้ใส่ เข้าไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าอิมโฮเทปตายอย่างเจ็บ
ปวดทั้งกายและใจมากเพียงใด ทำให้ผชู้ มได้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดตัวละครตัวนี้ จึงกลายมาเป็ นวิญญาณที่ดุร้าย
อาฆาตแค้น และเป็ นอันตรายต่อมนุษยชาติ และการฝังใต้รูปปั้ นเทพอนูบิสนั้นตามความเชื่อชาวอียปิ ต์โบราณเท
พอนูบิสนอกจากจะเป็ นผูป้ กป้ องร่ างมัมมี่แล้วยังเป็ นผูช้ ่วยในการชัง่ วิญญาณว่าวิญญาณดวงไหน
ทำบาปหนักหรื อทำความดีมากกว่า หากดวงไหนทำบาปมากเทพอนูบิสก็จะลงโทษอย่างเหี้ ยมโหด จะเห็นได้
ว่าการที่น ำโลงศพของอิมโฮเทปให้อยูข่ า้ งใต้เทพอนูบิสก็เพื่อให้พระองค์พิพากษาลงโทษและกักวิญญาณของ
อิมโฮเทปไม่ให้กลับขึ้นมาได้อีก
อีกทั้งมีหลายฉากที่ผกู้ ำกับอ้างอิงคุณสมบัติของสิ่ งมีชีวิตตามความเชื่อของชาวอียปิ ต์โบราณและได้มี
การใส่ คุณสมบัติเพิ่มเติมจากจินตนาการของตนเพื่อสร้างความน่ากลัว น่าสยดสยอง ทำให้ฉากนั้นน่าตื่นเต้นมาก
ยิง่ ขึ้น เช่นฉากที่น ำแมลงสคารับเทใส่ โลงศพเพื่อให้กดั กินเนื้อของอิมโฮเทปก่อนปิ ดผนึก หรื อฉากที่เบนนีหนึ่ง
ในนักล่าสมบัติติดอยูใ่ นที่เก็บขุมทรัพย์ของฟาโรห์และถูกฝูงแมลงสคารับกัดกินร่ าง โดยแมลงสคารับตามหลัก
ฐานทางประวัติศาสตร์น้ นั เป็ นเพียงแมลงอียปิ ต์โบราณที่ด ำรงชีวิตอยูด่ ว้ ยการบริ โภคซากพืชซากสัตว์และ
อุจจาระของเสี ยทั้งหลาย แต่ในภาพยนตร์ได้มีการเพิ่มคุณสมบัติให้แมลงชนิดนี้ กินเนื้อคนเพื่อเพิ่มความอันตราย
และความน่ากลัวของสัตว์โบราณที่อยูใ่ นพีระมิดมานานกว่า 3,000 ปี ซึ่ งในความเป็ นจริ งแมลงสคารับอียปิ ต์น้ี
ได้สูญพันธ์หายไปเหลือเพียงแต่สญ ั ลักษณ์เท่านั้น
เพิ่มเติมจากฉากที่กล่าวมายังมีเรื่ องของพิธีกรรมและคาถาที่ไม่ปรากฏแน่ชดั ในหลักฐานประวัติศาสตร์
แต่ทางผูก้ ำกับก็ได้หยิบยกความคลุมเครื อเหล่านั้นมาเติมแต่งเพื่อเพิ่มรสชาติของภาพยนต์เรื่ องนี้ ให้กลมกล่อม
มากยิง่ ขึ้น ไม่วา่ จะเป็ นฉากพิธีกรรมฟื้ นคืนชีพของอนัคซูนามูนที่อิมโฮเทปอ่านคาถาในคัมภีร์มรณะทันใดนั้น
ดวงวิญญาณของนางก็ผดุ ขึ้นมาจากแม่น ้ำวิญญาณแห่งผูว้ ายชนม์และกำลังจะกลับเข้าร่ าง ซึ่ งคัมภีร์มรณะแท้จริ ง
แล้วตามประวัติศาสตร์ “คัมภีร์น้ ี ประกอบด้วยมนตร์คาถาจำนวนหนึ่งซึ่ งตั้งใจให้เป็ นเครื่ องช่วยเหลือผูว้ ายชนม์
ในการเดินทางผ่านยมโลกเข้าสู่ ชีวิตแห่งความตาย (The Egyptian Book of the Dead by Anonymous, 2557)”
ไม่ใช่เป็ นคีมภีร์สำหรับชุบชีวิตวิญญาณแต่อย่างใดแต่ผกู ้ ำกับได้ท ำการเติมแต่งเพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ และความ
ขลังและเพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของคัมภีร์มรณะ
ในภาพยนตร์เรื่ องนี้ ยงั มีอีกหลายฉากที่เพิ่มเติมเนื้อหาของคาถาในคัมภีร์ เช่นฉากที่อิมโฮเทปปลุก
วิญญาณทหารมัมมี่ หรื อ ฉากสำคัญอย่างฉากที่เอเวอลีนอ่านมนต์จากคัมภีร์ทองและทำให้ร่างของอิมโฮเทปจาก
เดิมที่เป็ นอมตะนั้นเป็ นมรรตัย จากฉากเหล่านี้จะเห็นได้วา่ ภาพยนตร์ให้ความสำคัญกับประโยชน์ของคัมภีร์
ศักดิ์สิทธิ์ เหล่านี้ ใช้ความลึกลับของคัมภีร์เหล่านี้เพิ่มอำนาจ ความน่ากลัวของคาถาในคัมภีร์
นอกเหนือจากนี้ ยงั มีฉากที่อา้ งอิงตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อาทิ ฉากที่มมั มี่อิมโฮเทปบุกเข้าไป
ในห้องนางเอกและพยายามลักพาตัวเอเวอลีนจากนั้นเมื่อริ ครู ้เข้าจึงรี บรุ ดเข้าไปในห้องพร้อมกับจังหวะที่อิมโฮ
เทปกำลังจะโจมตีริค ริ คจึงอุม้ แมวขึ้นมาและยืน่ ใส่ หน้าอิมโฮเทป เมื่ออิมโฮเทปเห็นเข้าจึงตกใจและรี บเผ่นหนี
ออกไป จากฉากนี้แสดงให้เห็นว่าอิมโฮเทปกลัวแมวเป็ นอย่างมาก เนื่องจากตามความเชื่อของชาวอียปิ ต์โบราณ
นั้นแมวเป็ นสัญลักษณ์ตวั แทนของเทพีบาสเตต มีลกั ษณะหัวเป็ นแมวร่ างกายเป็ นสตรี โดยชาวอียปิ ต์น้ นั เชื่อว่าเท
พีบาสเตตเป็ นเทพแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ ชาวอียปิ ต์โบราณจึงเคารพบูชาเพราะเชื่อว่าแมวเป็ นสัตว์
ศักดิ์สิทธิ์ และเป็ นสิ่ งมีชีวิตที่เป็ นตัวแทนจากเทพและยังมีตวั ตนในปั จจุบนั ซึ่ งชาวอียปิ ต์ในปั จจุบนั นี้ กย็ งั เชื่อ
และเคารพในสิ่ งมีชีวิตนี้ เห็นได้จากการที่มีกฎหมายคุม้ ครองแมว “ห้ามทำร้ายแมวโดยเด็ดขาด ผูใ้ ดละเมิด
กฎหมายนี้จะต้องได้รับโทษถึงชีวิต นอกจากนี้ หากแมวที่เลี้ยงไว้ตายลงสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องโกน
ผมเพื่อเป็ นการไว้ทุกข์ให้กบั แมว ทั้งยังต้องทำมัมมี่แมวเพื่อให้แมวมีชีวิตอันเป็ นนิรันดร์อีกด้วย” (ศูนย์ขอ้ มูล
อัญมณี และเครื่ องประดับ, 2565)
จากฉากทั้งหมดที่กล่าวมาสะท้อนให้เห็นว่าในมุมมองของคนในสังคมที่มีต่ออารยธรรมอียปิ ต์โบราณ
เป็ นไปในทางไหนเนื่องจากภาพยนตร์ชุดนี้ ถูกสร้างโดยชาวอเมริ กนั ซึ่ งไม่ใช่ชาวพื้นเมืองและมีความเชื่อที่แตก
ต่างไปจากคนเอเชีย ดังนั้นภาพยนตร์เรื่ องนี้ จึงถูกสร้างขึ้นมาผ่านมุมมองของคนนอกพื้นที่ จะเห็นได้วา่
ภาพยนตร์เรื่ องนี้ มีการเติมแต่งฉาก องค์ประกอบ สถานที่ต่างๆให้ดูลึกลับ เหนือธรรมชาติมากกว่าที่หลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์ได้ช้ ีให้เห็น นอกจากจะทำให้ผชู ้ มมีอรรถรสในการรับชมมากยิง่ ขึ้นแล้วยังทำให้ภาพจำของ
อารยธรรมอียปิ ต์โบราณ จากที่ปกติคนเข้าใจว่าอารยธรรมนี้ ลึกลับ น่าพิศวงเป็ นทุนเดิมอยูแ่ ล้ว หลังจากที่ได้รับ
ชมภาพยนตร์เรื่ องนี้ ยงิ่ ทำให้ผชู้ มรู้สึกเชื่อในความลึกลับและน่าพิศวงของอารยธรรมนี้ มากขึ้นไปอีก เห็นได้จาก
ฉากที่ได้มีการวิเคราะห์ไปในข้างต้นเช่น คำสาปฮอม-ได แมลงสคารับกินเนื้อ หรื อ คำสาปต่างๆที่ไม่ปรากฏใน
คัมภีร์ ฉากเหล่านี้ถูกใส่ มาเพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวของผูส้ ร้างมีมุมมองต่อความเชื่อเหล่านี้อย่างไรและต้องการ
ชักจูงให้ผชู ้ มรู้สึกว่าอารยธรรมของชาวอียปิ ต์โบราณลึกลับ น่าพิศวง น่าค้นหามากกว่าที่ในประวัติศาสตร์ได้
จารึ กเอาไว้ เป็ นการสร้างภาพจำให้กบั คนเหล่านั้นว่ามีความโหดร้ายและเชื่อในสิ่ งที่อยูเ่ หนือธรรมชาติ นอก
เหนือจากนี้ หลังจากที่ผชู้ มได้รับชมภาพยนตร์เรื่ องนี้ ท ำให้กระตุน้ ความอยากรู ้อยากเห็นจึงทำให้ผชู ้ มหลายคน
มาตามรอยอารยธรรมและศึกษาความเชื่อของยาวอียปิ ต์โบราณนับได้ว า่ เป็ นการกระตุน้ เศรษฐกิจของประเทศ
อียปิ ต์อีกด้วย และถึงแม้วา่ ในหนังจะมีการเพิม่ เติมข้อมูลที่ไม่เป็ นตามความจริ งตามประวัติศาสตร์แต่กท็ ำให้
หลายคนสนใจและต้องศึกษาข้อเท็จจริ งเกี่ยวกับเรื่ องเหล่านี้ และภาพยนตร์เรื่ องนี้ ยงั ช่วยธำรงรักษาอารยธรรม
เก่าแก่ หลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยิง่ ไปกว่านั้นทำให้ผคู ้ นที่ไม่เคยให้ความสนใจกับอารยธรรมโบราณ
เหล่านี้ได้ลองเปิ ดใจหันมาให้ความสนใจกับอารยธรรมเหล่านี้มากขึ้น เพราะเหตุน้ ี จึงหยิบยกภาพยนตร์ The
Mummy มาวิเคราะห์เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ที่ถูกสร้างโดยคนที่มีความเชื่อแตกต่างจากชาวพื้นเมืองผูเ้ ป็ น
เจ้าของความเชื่อและอารยธรรมที่ผสู้ ร้างนำมาจึงทำให้ภาพจำของอารยธรรมชุดนี้ แตกต่างออกไปจากสิ่ งที่มนั
ควรจะเป็ น

You might also like