Professional Documents
Culture Documents
ชีท แบบจำลองอะตอม
ชีท แบบจำลองอะตอม
(Atomic model)
อะตอมนัน
้ มีขนาดเล็กมาก อีกทัง้ ไม่มีใครเคยมองเห็นอะตอมมาก่อน
การศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับอะตอมจึงเป็ นการแปลผลจากข้อมูลที่ได้จากการ
ทดลองและนำมาสร้างเป็ นนโมภาพหรือแบบจำลอง
โดยเริ่มจากนักปรัชญาชาวกรีกในสมัยโบราณได้เสนอ
แนวคิดเกี่ยวกับส่วนประกอบของสสาร และแนวคิดที่โดดเด่น
คือ แนวคิดของดิโมคริตุส (Democritus) ซึง่ กล่าวไว้ว่า
“เมื่อนำสสารมาแบ่งย่อยลงไปเรื่อย ๆ จะได้อนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก
และไม่สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก” โดยเรียกอนุภาคนีว้ ่า “อะตอม
(atom)”
1. แบบจำลองอะตอมของดอลตัน
เมื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึน
้ ทำให้
แนวคิดของดิโมคริตุสนัน
้ ไม่สามารถ อธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึน
้ เกี่ยวกับ
สสารได้ ในปี คริสตวรรษที่ 19 จอห์น ดอลตัน นักวิทยาศาสตร์ชาว อังกฤษ
ได้พัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับอะตอมเพื่อที่จะอธิบายผลการทดลองของเขาใน
ขณะนัน
้ ได้ดังนี ้
1) ธาตุแต่ละชนิดจะประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุด เรียกว่า
“อะตอม” ซึ่งอะตอมไม่สามารถ แบ่งแยกออกไปได้อีก และไม่สามารถถูก
สร้างขึน
้ หรือทำลายได้
2) อะตอมในธาตุชนิดเดียวกันจะมีมวลและสมบัติต่างๆ เหมือนกัน
ส่วนอะตอมในธาตุต่างชนิดกัน จะมีมวลและสมบัติต่างกัน
3) สารประกอบเคมีเกิดจากอะตอมของธาตุตงั ้ แต่ 2 ชนิดขึน
้ ไปมารวม
กันด้วยพันธะเคมีใน อัตราส่วนเลขลงตัวน้อยๆ
แบบจำลองอะตอมของดอลตัน
2. แบบจำลองอะตอมของทอมสัน
นักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้ทำการศึกษาต่อ โดยศึกษาการนำไฟฟ้ า
ของแก๊ส ในปี พ.ศ. 2540 เซอร์ โจเซฟ จอห์น ทอมสัน นักวิทยาศาสตร์ชาว
อังกฤษ ทำการทดลองบรรจุแก๊สชนิดหนึ่งไว้ในหลอดแก้วที่ต่อไว้กับ เครื่อง
สูบอากาศเพื่อลดความดันภายในหลอด ที่แอโนดเจาะรูตรงกลาง และต่อไว้
กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ า กระแสตรงศักย์สูง ที่ปลายหลอดมีฉากเรืองแสงวาง
ขวางอยู่ พบว่าเมื่อลดความดันในหลอดแก้วให้ต่ำลงมาก ๆ จนเกือบเป็ น
สุญญากาศ จะมีจุดสว่างเกิดขึน
้ ตรงบริเวณศูนย์กลางของฉากเรืองแสงที่ฉาบ
ด้วยซิงค์ซัลไฟด์ (ZnS) จากนัน
้ ทอมสันเพิ่มขัว้ ไฟฟ้ าบวกและลบเข้าไปใน
หลอดรังสีแคโทด ขัว้ ทัง้ สองนีท
้ ำให้เกิดสนามไฟฟ้ าตัง้ ฉากกับทิศทางของ
รังสี จะพบว่ารังสีเบนเข้าหาขัว้ บวกของสนามไฟฟ้ า ทอมสันลองเปลี่ยนชนิด
ของแก๊สและ ชนิดของโลหะที่ใช้เป็ นขัว้ แคโทด แล้วทำการทดลองเหมือน
เดิม ปรากฏว่าผลการทดลองเหมือนกันหมด
รูปที่ 1.2 (ซ้าย) ภาพหลอดรังสีแคโทด (ขวา) ภาพหลอดรังสีแคโทดที่
ดัดแปลงแล้วโดยทอมสัน
จากการทดลองทอมสัน สรุปว่า
1) รังสีจากขัว้ แคโทดเป็ นลำอนุภาคที่มีประจุลบ
2) รังสีแคโทดพบในทุกธาตุ จึงเป็ นส่วนย่อยของธาตุ
3) ให้ช่ อ
ื รังสีแคโทดว่า “อิเล็กตรอน”
8
4) ประจุต่อมวลอิเล็กตรอน q/me = 1.76 x 10 C/g
แบบจำลองอะตอมของทอมสัน
แบบฝึ กหัดที่ 1.1
เรื่อง แบบจำลองอะตอมดอลตันและทอมสัน
คำชีแ
้ จง ให้นักเรียนเติมตัวอักษรหน้าข้อความต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
ก.แบบจำลองอะตอมของดอลตัน ข.แบบจำลอง
อะตอมของทอมสัน
………… 1. สสารประกอบขึน
้ จากอนุภาคที่เล็กที่สุด เรียกว่าอะตอม มี
ลักษณะเป็ นทรงกลมตันที่ไม่สามารถ แบ่งแยกได้อีก
………… 3. อะตอมไม่สามารถสร้างขึน
้ ใหม่ หรือทำลายได้
………… 7. ประจุบวกและประจุลบของอะตอมจะกระจายตัวอยู่ทั่วทัง้
อะตอมอย่างสม่ำเสมอ โดยประจุลบจะ ฝั งตัวอยู่ในเนื้ออะตอมที่มีประจุบวก
………… 8.
3. แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
รัทเทอร์ฟอร์ดจึงได้เสนอแบบจำลองอะตอมขึน
้ มาใหม่ว่า “อะตอม
ประกอบด้วยนิวเคลียสที่มีขนาดเล็กมากอยู่ตรงกลาง และมีประจุไฟฟ้ า
เป็ นบวก โดยมีอิเล็กตรอนวิ่งอยู่บริเวณรอบๆ”
แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
4. แบบจำลองอะตอมของนีลส์ โบร์
c
เนื่องจาก v = λ
hc
ดังนัน
้ E=λ
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
3. สเปกตรัมของธาตุและการแปลความหมาย
จากการทดลองศึกษาสเปกตรัมของแสงขาวและธาตุบางชนิด สังเกตได้ว่า
สเปกตรัมจากแสงอาทิตย์มีแสงต่อเนื่องกันเป็ น แถบสเปกตรัม ส่วน
สเปกตรัมที่ส่องจากธาตุบางชนิดจะมีเส้นสีเฉพาะตัว เรียกว่า เส้นสเปกตรัม
แบบจำลองอะตอมของนีลส์ โบร์
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาสเปกตรัมของแก๊ส เพราะว่ามีอะตอมอยู่ห่าง
กัน และใช้อะตอมไฮโดรเจนเนื่องจากมี 1 อิเล็กตรอน พบว่ามีเส้นสเปกตรัม
ที่ปรากฏในช่วงความยาวคลื่นที่มองเห็นได้โดยมีความยาวคลื่น 410 , 434 ,
486 และ 656 นาโนเมตร ตามลำดับ นอกจากนีก
้ ารศึกษาเส้นสเปกตรัม
ของอะตอมของธาตุอ่ น
ื ๆ ก็พบว่าอิเล็กตรอนในอะตอมของแต่ละธาตุคาย
พลังงานได้บางค่า และมีเส้นสเปกตรัมเฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน
สถานะพื้น (ground state)
หมายถึงอะตอมที่อิเล็กตรอนซึ่งเคลื่อนที่อยู่รอบนิวเคลียสมีพลังงาน
เฉพาะตัวอยู่ในระดับพลังงานต่ำ อะตอมในสถานะพื้นจะมีความเสถียร
เนื่องจากมีพลังงานต่ำ
สถานะกระตุ้น (excited state)
หมายถึงอะตอมที่ได้รับพลังงานเพิ่มขึน
้ ทำให้อิเล็กตรอนถูกกระตุ้นให้
อยู่ในระดับพลังงานสูงขึน
้ ที่สถานะกระตุ้นอะตอมจะไม่เสถียร เนื่องจากมี
พลังงานสูง
การที่นักวิทยาศาสตร์ใช้อะตอมของไฮโดรเจนเป็ นตัวอย่างในการแปล
ความหมายของเส้นสเปกตรัม เพราะเป็ นอะตอมที่มีอิเล็กตรอนเดียว จาก
การทดลองหลายครัง้ พบว่าอะตอมของไฮโดรเจนให้เส้นสเปกตรัมได้หลาย
เส้นที่มีลักษณะเหมือนกันทุกครัง้ จึงสรุปได้ว่าอิเล็กตรอนในอะตอมของ
ไฮโดรเจนขึน
้ ไปอยู่ในสถานะกระตุ้นที่มีพลังงานแตะต่างกันได้หลายระดับ
ค่าพลังงานของเส้นสเปกตรัมแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนระดับพลังงานของ
อิเล็กตรอนในอะตอมจากระดับพลังงานสูงมายังระดับพลังงานต่ำ
ลักษณะแบบจำลองอะตอมของนีลส์ โบร์
จากความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงระดับพลังงานของอิเล็กตรอนและ
การเกิดสเปกตรัม นีลส์ โบร์ สร้างแบบจำลองอะตอมเพื่อใช้อธิบาย
พฤติกรรมของอิเล็กตรอนในอะตอมได้ โดยกล่าวว่า อิเล็กตรอนจะเคลื่อนที่
รอบนิวเคลียสเป็ นวงคล้ายกับการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
แต่ละวงจะมีระดับพลังงานเฉพาะตัว ระดับพลังงานนของอิเล็กตรอนที่
อยู่ใกล้นิวเคลียสที่สุดซึ่งมีพลังงานต่ำที่สุดเรียกว่าระดับ K และระดับ
พลังงานที่อยู่ถัดออกมาเรียกเป็ น L M N... ตามลำดับต่อมาได้มีการใช้
ตัวเลขแสดงถึงระดับพลังงานของอิเล็กตรอน คือ n=1 หมายถึง ระดับ
พลังงานที่ 1 ซึ่งอยู่ใกล้กับนิวเคลียสที่สุด และชัน
้ ถัดออกมาเป็ น n=2
หมายถึงระดับพลังงานที่ 2 ต่อจากนัน
้ n=3 4 ... หมายถึงระดับพลังงาน
ที่ 3 4 และสูงขึน
้ ไปตามลำดับ
แบบฝึ กหัดเรื่องแบบจำลองอะตอมของโบร์
ตอบ……………………………………………………………………………………………………
………………………………………………
2.จงหาความถี่ของแสงที่มีความยาวคลื่นเท่ากับ 478 nm
วิธีทำ
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
วิธีทำ
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
......................................... ................................................................
...............
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
........................................................................................................................
............................................................
5. แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก
เนื่องจากแบบจำลองอะตอมของโบร์มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใช้อธิบาย
สเปกตรัมของอะตอมที่มีหลายอิเล็กตรอนได้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้ศึกษา
เพิ่มเติมจนได้ข้อมูลเพียงพอที่จะเชื่อว่าอิเล็กตรอนมีสมบัติเป็ นทัง้ อนุภาค
และคลื่น โดยเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสในลักษณะของคลื่นนิง่ บริเวณที่พบ
อิเล็กตรอนพบได้หลายลักษณะเป็ นรูปทรงต่าง ๆ ตามระดับพลังงานของ
อิเล็กตรอน จากการใช้ความรู้ทางกลศาสตร์ควอนตัมสร้างสมการขึน
้ เพื่อ
คำนวณหาโอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนในระดับพลังงานต่างๆ
พบว่าแบบจำลองนีส
้ ามารถอธิบายเส้นสเปกตรัมของธาตุได้ถูกต้อง
กว่าแบบจำลองอะตอมของโบร์ อิเล็กตรอนมีขนาดเล็กมากและเคลื่อนที่
อย่างรวดเร็วตลอดเวลาไปทั่วทัง้ อะตอม จึงไม่สามารถบอกตำแหน่งที่
แน่นอนของอิเล็กตรอนได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์พบว่ามีโอกาสที่จะ
พบอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียสบางบริเวณเท่านัน
้ ทำให้สร้างมโนภาพได้ว่า
อะตอมประกอบด้วยกลุ่มหมอกทึบแสดงว่ามีโอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนได้
มากกว่าบริเวณที่มีกลุ่มหมอกจาง
แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก