You are on page 1of 462

หยกผลาญใจ

ผู้แต่ ง : กริ นดา

แนะนําเรื่ องแบบย่ อๆ

จากเด็กสาวในโลกปั จจุบัน ข้ าฟื้ นขึน้ ใน


ร่ างของโฉมงามผู้ถูกใช้ เป็ นเครื่ องมือ
ล่ อลวงบุรุษผู้กุมอํานาจ
ทั้งหลาย ข้ าไม่ อาจฝื นชะตา แต่ ข้าไม่
ต้ องการเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ง ข้ ายอม
เดิมพันทุกสิง่ เพื่อให้ รอด
พ้ นจากชะตากรรมอันเลวร้ ายนี้

ข้ อมูลเบื้องต้ นของเรื่ องนี้

...เพียงเบี้ยตัวหนึ่งในกระดานหมาก ต่ อให้ งดงามเพียงใด


ย่ อมไม่ มีความหมายในสายตาท่ านใช่ หรื อไม่ ...

ชินอ๋ อง ข้ าอวี้ชงิ แม้ นเป็ นหยกงาม ขอแตกสลาย


ก็ไม่ ขออยู่ในมือท่ าน

1
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 1 : เด็กน้ อยในชนบท

ข้าลืมตาขึ้นในผ้าห่มเนื้อหยาบ กลิ่นอับชื้นที่เกิดจากการใช้สอยมาอย่างเนิ่ นนานลอยเข้าจมูกแต่ตอนนี้


ข้าชินเสี ยแล้ว ตัวข้าซึ่ งบัดนี้อยูใ่ นร่ างกายกลมป้อมของเด็กน้อยวัยเจ็บขวบค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนัง่ ข้าที่
ใครๆ ต่างก็พากันเรี ยกว่าอาหลันหยิบเสื้ อตัวนอกมาสวมใส่ ก่อนก้าวเข้าไปในห้องครัว ผูห้ ญิงที่เป็ นแม่
ของของร่ างนี้กาํ ลังคุดคูอ้ ยูห่ น้าเตาถ่าน พยายามจะเร่ งไฟที่ทาํ ท่าว่าจะมอดดับ ลมหนาวพัดมาแรง
ห้องครัวสับปะรังเคนี้ดูเหมือนแทบจะไม่สามารถกันลมหนาวได้เลย เมื่อแม่ลุกขึ้นมา หัวเข่าก็เปื้ อน
รอยดินเพราะพื้นบ้านเป็ นเพียงดินทุบแน่น ข้าเดินเข้าไปใกล้พลางร้องเรี ยก

“แม่”

นางหันกลับมา ใบหน้าดูเศร้าสลด “อาหลัน รี บลุกทําไม ฟ้ายังไม่สว่างเลย”

ข้าไม่ตอบ เพียงเดินเข้ากอดขานางไว้แล้วซุกหน้าคลอเคลียเพื่อหาไออุ่น อาหลันตัวจริ งตายไปแล้ว


ตั้งแต่ตอนห้าขวบ หากไม่ใช่ผหู ้ ญิงคนนี้ไปคุกเข่าให้กบั แม่ใหญ่ ข้าที่ตอนนั้นเพิ่งมาเข้าร่ างนี้กค็ งตายไป
ด้วยเหมือนกัน บุญคุณนี้ขา้ จะลืมได้อย่างไรในเมื่อยุคสมัยนี้ลูกสาวยังไม่มีค่าเท่ากับข้าวสารสักถัง

“มีอะไรให้อาหลันช่วยหรื อไม่” ข้าถามพลางจ้องหน้านาง แต่นางส่ ายหน้าปฏิเสธ สี หน้าเหมือนจะร้องไห้

“แม่เป็ นอะไรไป แม่ร้องไห้ทาํ ไม”

แม่ของข้านัง่ คุกเข่าลงกับพื้น ประคองร่ างของข้าไว้ในอ้อมแขน “อาหลัน แม่รักเจ้ามากนัก รู ้อย่าง


นี้.. รู ้อย่างนี้ แม่น่าจะปล่อยให้เจ้าจากไปเสี ยดีกว่า” นํ้าตาไหลลงจากดวงตากลมโต ตอนแม่ยงั
สาวๆ คงจะสวยน่าดู ข้าคิด ทว่าคําพูดแปลกๆของแม่ทาํ ให้ขา้ ต้องขบคิดอีกครั้ง

“แม่อยากให้ขา้ ตายหรื อ” ข้าถามด้วยคําถามพาซื่ อเหมือนเด็ก แต่ดูเหมือนคําถามของข้ายิง่ ทําให้นาง


ร้องไห้หนักเข้าไปอีก พอเริ่ มจะสงบใจได้ แม่ของข้าก็ลูบหัวลูบไหล่แล้วมองข้าด้วยสี หน้าจริ งจัง

“อาหลัน วันนี้จะมีคนพาเจ้าไปอยูบ่ า้ นใหม่ เจ้าจะต้องทําตัวดีๆ นะ” ครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งนางก็เปลี่ยน


ถ้อยคําใหม่ “เจ้าจะต้องเข้มแข็งนะ อย่าได้ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มีอะไรก็ตอ้ งฟันฝ่ าไปให้ได้”

2
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าพยักหน้ารับ ในใจคิดว่าจะต้องมีเรื่ องอะไรไม่ดีแน่ๆ ข้ารู ้สึกหวาดกลัว หรื อว่าคนในบ้านนี้ ตดั สิ นใจ


จะขายข้า แม้จะพยายามเก็บอาการแล้วแต่แม่กค็ งสังเกตเห็นประกายหวาดกลัวในแววตาข้า แม่จึง
กอดข้าไว้แน่น นํ้าเสี ยงที่เอ่ยก็เปี่ ยมไปด้วยความเคียดแค้น

“หากข้ารู ้วา่ นางช่วยให้เจ้ารอดชีวติ ในตอนนั้นเพียงเพื่อจะบดขยี้เราสองแม่ลูกในวันนี้ ข้ายอมปล่อย


ให้เจ้าตายไปเสี ยตั้งแต่ตอนนั้นจะดีกว่า”

ข้ากอดแม่ไว้แน่น เข้าใจสิ่ งที่แม่กาํ ลังสื่ อในทันที ตัวของข้าสั่นระริ ก แม้จะรู ้วา่ แม่รักข้าเพียงใดแต่ดู


ท่าว่าคราวนี้แม่จะช่วยข้าไว้ไม่ได้เสี ยแล้ว

ถึงข้าในร่ างนี้จะเพิ่งอายุเจ็บขวบ แต่แม่กเ็ ล่าอะไรให้ขา้ ฟังไม่นอ้ ย แม่บอกว่าตอนแต่งกับพ่อใหม่ๆ มี


ความสุ ขมาก พ่อทําไร่ ทาํ นา ส่ วนแม่ทอผ้า พอมีขา้ อยูๆ่ พ่อก็ลม้ ป่ วยลงโดยไม่ทราบสาเหตุเพียงไม่
นานก็จากไปเสี ยแล้ว ตอนนั้นแม่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร หากเป็ นแม่หม้ายตัวคนเดียวก็พอว่า แต่แม่มี
ลูกติด ตอนแม่ตดั สิ นใจจะกลับไปบ้านเดิม หลิ่วเหลยซึ่ งมีบุตรภรรยาอยูแ่ ล้วก็รับแม่เป็ นอนุ

พูดถึงตรงนี้สีหน้าของแม่ดูเคียดแค้นยิง่ กว่าเดิม ข้าเดาได้ในทันทีวา่ แม่ไม่ได้เต็มใจ หลิ่วเหลยถึงแม้


ฐานะไม่ได้ยากจนแต่นิสัยหยาบกระด้าง คนเฉลียวฉลาดอย่างแม่ไม่มีทางตัดสิ นใจเป็ นอนุคนประเภทนี้
อย่างเด็ดขาด เรื่ องราวจากนั้นแม่ไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่จากพฤติกรรมของคนในบ้านที่ขา้ เห็นก็รู้วา่ แม่
ถูกข่มเหงรังแกมากแค่ไหน แม่ใหญ่ซ่ ึ งเป็ นภรรยาหลวงชิงชังรังเกียจพวกเราเสี ยยิง่ กว่าอะไร หา
ทางกลัน่ แกล้งข้าและแม่เป็ นประจํา แต่กพ็ อเข้าใจได้ ไม่วา่ ใครก็คงทนเห็นสามีพาผูห้ ญิงอื่นมาอยูร่ ่ วม
บ้านไม่ได้หรอก ยิง่ แม่ของข้าหน้าตาสะสวย แม่ใหญ่กย็ งิ่ เกลียดชัง

แต่ถึงกับบีบให้แม่ไปคุกเข่าเพื่อให้ตามหมอมารักษาข้า พอหายป่ วยแล้วก็ขายทิ้งเนี่ยนะ จิตใจจะโหด


เหี้ ยมเกินไปแล้ว ใจของข้าสุ มไปด้วยความเกลียดชัง ในโลกใบนี้ มีแม่เพียงคนเดียวที่รักข้า แม่ใหญ่
ยังจะพรากสิ่ งมีค่าสิ่ งสุ ดท้ายของข้าไปอีกหรื อ

“แม่จ๋า ข้าไม่อยากไป แม่พาข้าหนีไปเถิดนะ ข้าอยากจะอยูก่ บั แม่ ไม่วา่ ลําบากอย่างไรข้าก็จะอด


ทน” ข้ากอดแม่แล้วซุกไซร้อกอุ่น นํ้าตาไหลพราก แม่นิ่งซึ มมองข้าร้องไห้ นํ้าตาของแม่กก็ าํ ลังไหลอยู่
เหมือนกัน อยูๆ่ แม่กล็ ุกพรวด ก้าวเข้าไปในห้อง รวบของใส่ ห่อผ้า จูงข้าออกมาที่ลานหน้าบ้าน ใจ
ของข้าเต้นระทึก รู ้สึกดีใจที่แม่จะพาข้าหนีไป แต่กห็ วาดกลัวว่าจะสําเร็ จหรื อไม่ ขณะที่กาํ ลังจะก้าว

3
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ออกจากรั้วบ้าน ก็ได้ยนิ เสี ยงตะโกนดังขึ้น
“ท่านแม่ๆ แม่รองจะพาอาหลันหนีไปแล้ว” หลิ่วซิ่ งลูกชายคนโตของแม่รองอายุสิบห้าตบไม้ตบมือเรี ยก
คนในบ้าน “ดีนะที่ท่านแม่บอกให้ขา้ คอยเฝ้าไว้ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงโดนนายหน้าทุบตีเป็ นแน่”

หลิ่วเหลยกับแม่ใหญ่วงิ่ ออกมา สี หน้าเกรี้ ยวกราด หลิ่วเหลยคว้าตัวแม่ขา้ ไว้แล้วตบตีไม่หยุดมือ แม่ไม่


ร้องสักแอะ ข้าถลาเข้าไปกอดขาชายใจชัว่ หวังจะให้เขาหยุดทําร้ายแม่ แต่กลับถูกสะบัดออกมา

“ท่านพ่อ อย่าตีท่านแม่เลย” ข้าขอร้องแต่วา่ เขาเตะข้าออกมาอีก

“ใครเป็ นพ่อของเจ้ากัน ไอ้ตวั กาฝาก” เขาตะคอกใส่ ขา้

“ท่านพี่ ระวังอย่าทําให้อาหลันบาดเจ็บ ประเดี๋ยวจะเสี ยราคา” เสี ยงแม่ใหญ่เอ่ยเตือน

ข้ากัดฟันในปากจนแทบจะแหลก หลิ่วเหลยตบตีแม่จนเพื่อระบายโทสะจนสาแก่ใจแล้วก็ปล่อยให้แม่ลม้
ฟุบลงอยูต่ รงลานบ้านนั้น ข้าคลานเข้าไปหาแม่ ร้องไห้ไม่หยุด

“แม่จ๋า ข้าขอโทษ ข้าไม่น่าขอให้แม่พาข้าหลบหนีเลย” ข้าพยายามซุกร่ างเล็กๆเข้าไปในอกแม่ซ่ ึ งล้ม


นอนอยู่

แม่เอื้อมมือมากอดข้า “ไม่เป็ นไร แม่ผดิ เองที่ไม่ตดั สิ นใจให้เร็ วกว่านี้ แม่เพิ่งรู ้เมื่อคืนนี้เองว่า


เดรัจฉานพวกนั้นจะขายเจ้า หลันเอ๋ อร์อย่าโกรธแม่เลยนะที่ปกป้องเจ้าไม่ได้”

ข้าส่ ายหัว “ไม่โกรธ ไม่โกรธ ข้ารักท่านแม่ที่สุด” ข้ากอดแม่แน่น เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้ บนลาน


บ้านนั้นตกอยูใ่ นความเงียบ มีเพียงหลิ่วซิ่ งจับตาดูเราสองแม่ลูก เขานัง่ กระดิกเท้าไม่ได้สนใจพวก
เราเท่าไหร่ ข้าประคองแม่ข้ ึนมา

“แม่จ๋า กลับไปในห้องพวกเราเถอะ”

แม่พาร่ างกายอันบอบชํ้ากลับเข้าไปในห้อง ข้ากับแม่นงั่ กอดกันบนเตียง ความอบอุ่นจากอกของแม่ทาํ


ให้น้ าํ ตาข้ารื้ นขึ้นมาอีก มือไม้หยาบกร้านของแม่ลูบเส้นผมข้าอย่างรักใคร่

4
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อาหลัน เจ้าต้องเข้มแข็ง ไม่วา่ แม่จะอยูก่ บั เจ้าหรื อไม่กต็ าม” แม่เอ่ยเสี ยงเบา
“ท่านแม่ ได้โปรดรอข้า” ข้าตัดสิ นใจในทันที กลัวว่าเมื่อไม่มีขา้ แล้ว แม่จะไร้พลังใจที่จะมีชีวิตอยูต่ อ่
“ข้าจะเข้มแข็งดังท่านแม่วา่ หากไม่ตายไปเสี ยก่อนข้าจะกลับมาหาท่าน ข้าจะพาท่านไปจากที่นี่ ท่าน
แม่ได้โปรดรอข้า” ข้าบอกกับท่านแม่ดว้ ยนํ้าเสี ยงจริ งจังผิดวิสัยเด็กเจ็ดขวบ

แม่หลุบตาลงมาสบตากับข้า ริ มฝี ปากเม้มแน่นก่อนจะเอ่ยตอบ

“ตกลง แม่จะรอ แม่จะรอดูวนั ที่เจ้าเติบใหญ่กลับมา”

นึกย้อนไปแล้วมันเป็ นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ ของเด็กหญิงคนหนึ่ง อาจจะด้วยความไร้เดียงสาทํา


ให้ขา้ เอ่ยปากกับแม่ไปเช่นนั้น แต่ในเมื่อแม่รับปากข้า ข้าก็ยดึ มัน่ กับคําสัญญานี้มาตลอดหลายปี

5
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 2 : บุตรีบุญธรรมตระกูลจาง

ตอนข้าออกจากบ้าน แม่ไม่ได้มาส่ ง เราแค่กอดกันแน่นๆ เป็ นครั้งสุ ดท้ายภายในห้องนอนแคบๆ ของ


แม่ ข้าไม่อยากให้เราสองแม่ลูกต้องเสี ยนํ้าตาให้คนชัว่ เหล่านั้นดูดว้ ยสี หน้าเยาะเย้ย ข้าคว้าห่อผ้าที่
แม่ห่อให้แล้วเดินเตาะแตะจากไป นายหน้าที่มาเป็ นผูห้ ญิงร่ างท้วมหน้าตาผิวพรรณดีแต่ท่าทางจัดจ้าน
พอเห็นข้าก็ตาเป็ นประกายแล้วตรงเข้ามาหยิกแก้ม

“หน้าตาผิวพรรณดีจริ งๆ” นางหันไปเอ่ยกับหลิ่วเหลยที่ยนื ถูไม้ถูมืออยูข่ า้ งๆ

“แหะๆ ข้าก็บอกแล้ว กับฮูหยินข้าจะกล้าโกหกได้อย่างไร”

ฮูหยินผูน้ ้ นั จับมือของข้าขึ้นมาดู บอกให้ขา้ ถอดรองเท้า จากนั้นก็พยักเพยิดกับคนที่มาด้วยกันให้พาข้าไปขึ้นรถ

ข้าหันกลับมามองที่บา้ นเป็ นครั้งสุ ดท้าย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจําที่เลวร้าย แต่มีคนที่ขา้


ห่วงใยอยูค่ นหนึ่ ง สักวันหนึ่ งข้าจะต้องกลับมา ท่ามกลางม่านนํ้าตาที่พร่ าเลือนข้าปรารถนาเหลือเกินที่
จะได้เห็นร่ างคุน้ ตาของแม่อีกครั้ง

……………………

ข้าเนื้อตัวสัน่ เทาทันทีที่ได้ยนิ ว่ารถม้าคันนี้ กาํ ลังมุ่งหน้าไปที่หอไป๋ ฮวา ถึงร่ างนี้จะยังเด็กแต่ชื่อที่ได้ยนิ ก็


ทําให้ขา้ รู ้ได้วา่ มันคือหอคณิ กาแห่งหนึ่ง ผัวเมียคู่น้ นั ช่างเป็ นเดรัจฉานโดยแท้ กับเด็กคนหนึ่ งก็ยงั
สามารถโหดเหี้ ยมได้ถึงเพียงนี้ ตอนที่ได้ยนิ พวกนั้นเรี ยกคนที่มาซื้ อตัวข้าว่าฮูหยิน ข้านึกว่าพวกนั้นขาย
ข้าไปเป็ นสาวใช้เท่านั้น นึกไม่ถึงว่าคนเลวพวกนั้นตั้งใจจะมอบชะตาชีวติ ที่เลวร้ายเช่นนี้ ให้กบั ข้า มิ
น่าแม่ถึงได้พูดว่าน่าจะปล่อยให้ขา้ ตายไปตอนที่ขา้ ป่ วยคราวนั้น

หอไป๋ ฮวาเป็ นตึกใหญ่โตหรู หรา ตั้งแต่ฟ้ื นมาในชาติน้ ีขา้ เคยอยูแ่ ต่ในบ้านหลังเล็กในหมู่บา้ นชนบทเท่า
นั้น ไม่เคยเห็นสถานที่อูฟ้ ู่ อย่างนี้ มาก่อน หวังฮูหยินผูน้ ้ นั พาข้าเข้าไปรวมกับเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มอีกหลายคน

“ใกล้จะได้คนครบหรื อยัง” สตรี วยั กลางคนซึ่ งนัง่ อยูใ่ นห้องนั้นเอ่ยถามนํ้าเสี ยงเข้มงวด

6
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ใกล้แล้วเจ้าค่ะ เถ้าแก่เนี้ย เหลืออีกสองสามบ้านที่ขา้ ต้องไปดู ไม่เกินอาทิตย์หน้าน่าจะเรี ยบร้อย
แล้วเจ้าค่ะ” หวังฮูหยินตอบท่าทางนอบน้อม

“ดี” เถ้าแก่เนี้ยตอบสั้นๆ แล้วก็โบกมือให้หวังฮูหยินออกไป

เวลาหนึ่งอาทิตย์ผา่ นไป ข้าอยูร่ ่ วมกับเด็กหญิงเหล่านั้นด้วยดี เด็กเหล่านี้ถูกซื้ อหาก่อนหน้าข้าไม่เท่า


ไหร่ แต่ละคนยังไม่หายคิดถึงบ้าน บางคราวก็ผลัดกันปลอบผลัดกันร้องไห้ ข้าไม่คิดถึงบ้านเลยสักนิด
ในใจคิดเป็ นห่วงแต่แม่ ป่ านนี้นางจะโดนรังแกอย่างไรบ้าง ที่ขา้ สัญญากับแม่ไป ไม่รู้วา่ จะทําสําเร็ จ
เมื่อไร ยิง่ ถูกขายมาในหอคณิ กาเช่นนี้ ไม่ตอ้ งเดาว่าข้าจะมีอนาคตเช่นไร ตอนนี้ ขา้ ยังไม่อยากคิด
อะไร ข้าก็แค่เด็กเจ็ดขวบคนหนึ่ ง จะทําอะไรได้เล่า อย่างน้อยก็ยงั รู ้สึกอุ่นใจว่าอีกหลายปี กว่าข้าจะ
โตเป็ นสาว ป่ านนั้นอาจจะหาหนทางหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้แล้ว

ทว่าเวลาในหอไป๋ ฮวานั้นแสนสั้น อาทิตย์ถดั มาก็มีชายกลางคนแต่งกายเรี ยบร้อยมาพาข้าและเด็กน้อย


ทั้งสิ บคนไป พวกเราได้ยนิ เถ้าแก่เนี้ยเรี ยกเขาว่าพ่อบ้านหลี่ พวกเรามองหน้ากันเลิ่กลัก่ แต่ไม่มีใคร
กล้าปริ ปากถามว่าพวกเรากําลังจะไปไหน ในที่สุดรถม้าก็มุ่งตรงสู่ บา้ นตระกูลจาง ท่าทางจะเป็ น
ตระกูลใหญ่ ประตูหน้าใหญ่โตมีหินสลักรู ปสิ งโตคู่ดูน่าเกรงขาม พวกเราถูกพาเข้าไปในเรื อนเล็กด้าน
หลัง เรื อนนี้ต้ งั อยูโ่ ดดเดี่ยวห่างจากเรื อนอื่นๆ พวกเราถูกจัดให้พกั ในห้องแคบๆ ห้องละสองคน
เพื่อนร่ วมห้องของข้าอายุแปดขวบชื่ออาหนิง พอเก็บของเสร็ จทุกคนก็มารวมตัวในห้องโถงกลาง
ผูห้ ญิงวัยกลางคนท่าทางสง่างามแนะนําตัวกับพวกเรา นางให้พวกเราเรี ยกว่า แม่นมหลิน ภายหลัง
ได้ยนิ จากคนในจวนว่าแม่นมหลินเดิมทีเป็ นนางข้าหลวงอยูใ่ นวัง แต่ดว้ ยการขอร้องจากนายท่านใหญ่
ตระกูลจางจึงตกลงมาเป็ นผูอ้ บรมกิริยามารยาทให้แก่พวกเรา

ข้าขมวดคิ้ว นายท่านใหญ่ตระกูลจางคิดจะทําอะไรอย่างนั้นหรื อ อยูด่ ีๆ จึงกว้านซื้ อเด็กหญิงมามาก


มาย อีกทั้งให้คนมาอบรมอย่างกับเป็ นคุณหนูตระกูลสู ง แต่อย่างไรเสี ยอยูท่ ี่นี่กด็ ีกว่าอยูห่ อนางโลมนัน่
แหละ ข้าคิดอย่างสบายใจขึ้นมาบ้าง

อย่างไรก็ตาม จากเด็กหญิงจํานวนสิ บคนในไม่ใช้กค็ ่อยๆ ทยอยถูกคัดออก พวกที่ไม่ผา่ นการอบรมจะ


ถูกลดฐานะลงเป็ นเพียงสาวใช้ภายในจวนซึ่ งต้องทํางานรับใช้ทวั่ ไปแตกต่างจากพวกเราซึ่ งอยูด่ ีกินดีมี
ฐานะสุ ขสบายราวกับคุณหนู แม่นมหลินพรํ่าบอกพวกเราอยูบ่ ่อยๆ ว่าบุญคุณของนายท่านใหญ่จางเทียม
ฟ้า พวกเราต้องจดจําไว้ให้ดี ในวันข้างหน้าต้องทําทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ ข้าฟังแล้วผ่านหู แอบ
เบ้ปากกับตัวเองพลางคิดในใจ บุญคุณเทียมฟ้าอย่างนั้นหรื อ ถ้าไม่คิดจะใช้ประโยชน์จากพวกเราจะ

7
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ลงทุนมากมายเช่นนี้ไปเพื่ออะไร แม้วนั นี้จะยังไม่รู้ถึงจุดประสงค์ แต่วนั หน้าเรื่ องที่เขาจะออกปากให้
พวกเราทําต้องไม่ใช่เรื่ องเล็กน้อยแน่

ทุกวันพวกเราจะถูกเคี่ยวกรําให้ฝึกคัดอักษร ดีดพิณ วาดภาพ เดินหมาก อีกทั้งยังต้องท่องตําราพันบท


กวี ความสามารถที่คุณหนูตระกูลใหญ่ตอ้ งมีพวกเราล้วนต้องเชี่ยวชาญ แม้ชีวติ โดยทัว่ ไปสุ ขสบายแต่ก็
ราวกับนกในกรงทอง แม่นมหลินควบคุมพวกเราอย่างเข้มงวด ไม่วา่ จะยืนเดินนัง่ นอนล้วนต้องสํารวม
ราวกับอยูใ่ นรั้วในวัง

สําหรับคนที่มาจากศตวรรษที่ยสี่ ิ บเอ็ดอย่างข้าซึ่ งได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านตาในแต่ละวันมากมาย ย่อมมี


เนื้อทีเหลือเฟื อที่จะจดจําศาสตร์ ต่างๆ เหล่านี้ มีเพียงดีดพิณที่ขา้ เหมือนต้องงมาเริ่ มใหม่เพราะใน
ชาติก่อนไม่เคยเรี ยนดนตรี มาก่อน ข้าไม่ได้ร่ าํ รวยและมีเวลาเหลือเฟื อที่จะมาเรี ยนดนตรี ตอนนั้นข้า
มุ่งมัน่ จะสอบคณะแพทย์ เวลาทั้งหมดจึงทุ่มเทไปกับการอ่านตํารา เคราะห์ดีที่ขา้ เป็ นคนชอบฟังเพลง
และฟังหลายแนว จึงพอจะเข้าถึงความสุ นทรี ของดนตรี ได้โดยง่าย

อาหนิงเพื่อนร่ วมห้องของข้าเป็ นคนเงียบขรึ ม ข้าไม่รู้วา่ อาหนิงมีความเป็ นมาอย่างไรแต่คิดว่าคงจะ


มาตระกูลที่ดี จะด้วยเคราะห์หามยามร้ายอะไรก็แล้วแต่ สุ ดท้ายแล้วนางก็มาจบอยูท่ ี่หอ้ งเล็กๆ ในหอ
ไป๋ ฮวาเหมือนกับข้า อาหนิงดูจะเป็ นคนที่มีการอบรมมาดีต้ งั แต่ก่อนแม่นมหลินจะมาสอนพวกเราเสี ยอีก
เด็กหญิงทั้งหลายอยูด่ ว้ ยกันก็พูดคุยกัน มีเพียงข้าอาหนิงที่พูดน้อยและไม่ค่อยสนใจใคร พวกเราอยูด่ ว้ ย
กันจึงไม่เคยมีปัญหากันเลย

ตอนที่พวกเราอายุสิบสอง เด็กหญิงที่แรกเข้ามาสิ บคนก็ถูกคัดออกเหลือห้าคน ในคนที่เหลือนั้นเป็ นข้า


และอาหนิ งสองคน ข้าไม่เคยคิดแข่งขันกับใคร คิดแต่ต้ งั ใจเรี ยนให้ดีที่สุดเพราะกลัวถูกคัดออก
เพราะอะไรน่ะหรื อ อันที่จริ งการเป็ นสาวใช้ในจวนตระกูลใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ข้าไม่ได้รังเกียจที่
จะทํางานรับใช้หรอก แต่ที่ตระกูลจางไม่เหมือนที่อื่น บรรดาคุณชายที่เป็ นบุตรชายของนายท่านใหญ่
และนายท่านรองล้วนแล้วแต่เป็ นคุณชายเสเพลขึ้นชื่อ บ่าวไพร่ ในจวนที่หน้าตาสะสวยล้วนแล้วแต่ถูก
พวกเขาลากขึ้นเตียงทั้งสิ้ น เด็กหญิงบางคนที่มาพร้อมกับพวกเรา หลังจากถูกคัดออกไปแล้วบางคนก็
ถูกคุณชายเหล่านี้ข่มเหงตั้งแต่อายุสิบสองสิ บสามปี เท่านั้น มีแต่พวกเราที่นายท่านใหญ่หา้ มมิให้แตะต้อง
เด็ดขาด

ตอนอายุสิบสี่ เด็กหญิงอีกสองคนถูกคัดออก เหลือเพียงข้า อาหนิง และอีกคนหนึ่งที่ชื่ออาหง สองคนที่


ถูกคัดออกไปได้ข่าวนายท่านใหญ่ส่งไปเป็ นของกํานัลแก่ขนุ นางใหญ่โตผูห้ นึ่ ง ข้าได้ยนิ แล้วเบ้หน้าอย่าง

8
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นึกรังเกียจ นี่สินะจุดประสงค์ของการเลี้ยงดูอบรมพวกเราอย่างดี ไม่ต่างกับหมูที่ถูกเลี้ยงไว้ในอวย
เพื่อรอวันเชือด เราสามคนที่เหลือไม่รู้วา่ จะเป็ นเบี้ยที่ถูกใช้แล้วทิ้งในวันไหน บางครั้งข้าสบตากับอา
หนิงก็เห็นแววประหวัน่ พรั่นพรึ งในดวงตาของนางเหมือนกัน บางครั้งข้าก็อดรําพึงรําพันกับนางไม่ได้
แต่อาหนิงเข้มแข็งนัก ดวงตาสุ กใสคู่น้ นั มองไปบนฟ้า บอกกับข้าว่าขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ยงั มี
ความหวัง

พวกเราสามคนใกล้จะถึงวัยปั กปิ่ นแล้ว ตอนนี้แต่ละคนแม้ยงั ไม่เป็ นสาวเต็มตัวแต่กเ็ ห็นเค้าความงาม


ของยอดพธูอย่างแท้จริ ง แม่นมหลินบอกว่านายท่านใหญ่ใจดี จะเลือกหนึ่ งในสามของพวกเราเป็ นบุตร
บุญธรรม นายท่านใหญ่เป็ นขุนนางใหญ่ในราชสํานัก ข้าเดาเจตนาได้ในทันที เขาคงคิดจะส่ งใครคน
หนึ่งในพวกเราเข้าวังเป็ นแน่ แค่คิดถึงตรงนี้ขา้ ก็หลัง่ เหงื่อเย็นออกมาทันที โดยปกติเรื่ องราวในวังก็
ซับซ้อนยุง่ ยากมากอยูแ่ ล้ว ล้วนเต็มไปด้วยเล่ห์กล ยิง่ เป็ นเพียงเด็กหญิงที่ซ้ื อหามา ใต้เท้าจางไร้
ความผูกพัน ย่อมต้องใช้ให้กระทําการเสี่ ยงชีวติ เป็ นแน่สมกับที่เกิดมาเป็ นเบี้ยตัวหนึ่ง ข้าไม่อยากได้
รับเลือกเลย ทว่ามองไปที่อาหนิง เห็นเธอไม่แสดงท่าทีอะไร ยังคงสงบเช่นเดิม ส่ วนอาหงมีสีหน้า
ตื่นเต้น อาหงช่างซื่ อนัก ตลอดระยะเวลาที่ผา่ นมานางเห็นใต้เท้าจางเป็ นผูม้ ีพระคุณประดุจบุพการี ดู
ท่าว่าอาหงคงจะได้รับเลือกเป็ นแน่ หากข้าเป็ นใต้เท้าจางคงไม่เลือกตัวเองหรื ออาหนิงที่ดูนิ่งเฉย
ไร้ความจงรักภักดีหรอก

ใต้เท้าจางเรี ยกพวกเราไปพบทีละคน ข้าไม่รู้วา่ เขาพูดอะไรกับคนอื่นบ้าง แต่เมื่อข้าเข้าไป สายตา


ของใต้เท้าจางกวาดสํารวจไปทัว่ ตัว ข้ารู ้สึกไม่ชอบนัก เหมือนว่าเขากําลังประเมินราคาสิ นค้าอยู่
เมื่อสํารวจจนพึงพอใจสายตาเขาก็หยุดอยูบ่ นใบหน้าข้า ข้าค้อมตัวก้มหน้าน้อยๆ ประหนึ่งแสดงความ
เคารพ แต่อนั ที่จริ งข้าพยายามซ่อนใบหน้าไม่ให้เขาได้เห็นต่างหาก

“เงยหน้าขึ้นซิ ” เขาเอ่ย

เมื่อข้าเงยหน้าขึ้นก็ได้ยนิ เสี ยงลมหายใจของใต้เท้าจางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ

“เจ้าชื่ออะไร” เขาถามข้าเสี ยงทุม้ ตํ่า

“ข้าชื่ออาหลันเจ้าค่ะ” ข้าตอบ แม่ขา้ เป็ นชาวบ้านทัว่ ไป จึงไม่ได้ต้ งั ชื่อให้ขา้ มีเพียงชื่อเรี ยกสมัย


เด็กเท่านั้น

9
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ใต้เท้าจางพยักหน้า “ได้ยนิ ว่าเจ้ามีความสามารถ สามารถรํ่าเรี ยนศิลปะของสตรี ได้เชี่ยวชาญ”

“ใต้เท้ากล่าวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ สิ่ งที่อาหลันทําได้ลว้ นแล้วแต่ดว้ ยการชี้แนะจากท่านอาจารย์” ข้า


ตอบพลางก้มหน้า ระหว่างนั้นรู ้สึกได้วา่ สายตาของเขาจ้องมองอย่างเพ่งพินิจ

“อวี้ชิง” เขาเอ่ยเบาๆ พลางลูบเคราแพะ “อวี้ชิง เหมาะสมกับเจ้ายิง่ นัก งดงามดุจหยกกระจ่าง


จากนี้ไปเจ้าชื่ออวี้ชิงก็แล้วกัน”

ข้าย่อตัวคารวะเขาเป็ นการขอบคุณ “เป็ นความกรุ ณาของใต้เท้ายิง่ เจ้าค่ะ อวี้ชิงจะจดจําไว้เจ้าค่ะ”

ริ มฝี ปากของใต้เท้าจางหยักขึ้นเป็ นรอยยิม้ นํ้าเสี ยงที่เอ่ยกับข้าก็ดูจะอ่อนโยนขึ้น “เอาล่ะ เจ้าออก


ไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะปรึ กษากับแม่นมหลินสักครู่

ข้าเดินกลับมายังเรื อนพัก อาหนิงกับอาหงได้พบกับใต้เท้าจางก่อนหน้าข้าแล้ว อาหนิงมีสีหน้าเรี ยบ


เฉย นัง่ ดื่มชาอย่างสงบอยูท่ ี่โต๊ะ ในขณะที่อาหงเดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวาย พอเห็นข้าอา
หงก็วิ่งเข้ามาถามทันที

“เป็ นอย่างไรบ้าง ใต้เท้าจางสนทนาอะไรกับเจ้าบ้างอาหลัน”

ข้าแย้มยิม้ เล็กน้อย “ไม่ได้สนทนาอะไรนักหรอก ใต้เท้าเพียงถามชื่อข้า จากนั้นก็ปล่อยกลับมา”

สี หน้าของอาหงดีข้ ึนทันตา “อย่างนั้นหรื อ มิน่าจึงใช้เวลาไม่นานนัก”

ข้าเลิกสนใจอาหงแล้วเดินไปนัง่ ตรงข้ามกับอาหนิง

“ถึงเวลาแล้วสิ นะ” ข้าเอ่ยพลางริ นนํ้าชาให้ตวั เอง

อาหนิงยกยิม้ ไม่เอ่ยว่ากระไร

สักพักแม่นมหลินก็แก้มปริ กลับมา เอ่ยกับอาหนิงและอาหงว่า

10
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“พวกเจ้าสองคนกลับเข้าห้องไปก่อน ข้ามีเรื่ องจะคุยกับอาหลัน”

ข้าเบิกตากว้าง ได้แต่มองตามสองคนเดินจากไป อาหงหน้ายูท่ นั ที ข้าอยากจะบอกนางเหลือเกินว่า


ถ้าเลือกได้ขา้ อยากมอบตําแหน่งบุตรบุญธรรมให้อาหงเสี ยจริ ง ข้าไม่ตอ้ งการอะไรมากไปกว่าการได้
มีชีวิตที่สงบสุ ขและได้กลับไปหาแม่ แม่นมหลินจูงมือข้ามานัง่ ด้วยกันที่เก้าอี้ แล้วเล่าให้ขา้ ฟั งด้วยสี หน้า
ตื่นเต้น

“นายท่านพอใจเจ้ามาก ออกปากชมใหญ่เชียวว่าเจ้างดงามอีกทั้งยังฉลาดเฉลียว”

ข้านิ่วหน้า พูดคุยกันไม่กี่คาํ เนี่ยนะ รู ้วา่ ข้าฉลาดเฉลียวได้อย่างไร แม่นมหลินเห็นสี หน้าข้าจึงเอ่ยต่อ

“ระดับนายท่านแล้วมองไม่พลาดหรอก นายท่านบอกว่าอาหนิงเรี ยบเฉยเกินไป ยากจะคาดเดาความ


คิด ส่ วนอาหงก็อ่านง่ายเกินไป เกรงว่าจะไม่อาจทํางานที่นายท่านมอบหมายให้ลุล่วงไปได้ ส่ วนเจ้า
ไม่เพียงแต่งดงามที่สุด กิริยายังดูเป็ นธรรมชาติ ไม่อ่อนไม่แข็ง อ่อนหวานแต่กล็ ึกลับยากจะอ่านออกได้”

ข้าฟังแล้วตกตะลึง รู ้อย่างนี้ขา้ น่าจะแสร้งปลาบปลื้มในตัวนายท่านอย่างอาหงก็ดี ข้าไม่ได้อยากได้


ตําแหน่งบุตรบุญธรรมตระกูลจางเสี ยหน่อย แต่ตอนนี้สายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้แล้ว แม่นมหลินเห็น
ท่าทีเหมือนมึนงงของข้าก็เข้าใจว่าข้ากําลังดีใจ จึงรี บไล่ขา้ กลับไปพักผ่อน

“พร่ ◌ุงนี้ยามเฉิ น ให้ไปพบนายท่านที่หอ้ งหนังสื อ คืนนี้เตรี ยมตัวเก็บข้าวของ จากนี้เจ้าต้องย้ายไปอยู่


เรื อนใหญ่แล้วล่ะ”

ตอนนี้พวกเราแต่ละคนมีหอ้ งส่ วนตัวเป็ นของตนเอง กลับมาถึงห้องข้าก็นงั่ ลงกับเตียง ในใจกําลังครุ่ น


คิดอย่างหนัก ได้ยนิ มาว่าใต้เท้าจางเป็ นถึงเสนาบดีฝ่ายขวา ตระกูลจางตอนนี้ทรงอิทธิพลอย่างยิง่
บ่าวไพร่ ในบ้านพูดคุยอย่างภาคภูมิใจว่าเป็ นเพราะไทเฮาเป็ นคนของตระกูลจาง ตระกูลจางเองก็มี
บุตรสาว แต่วา่ พวกนางถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ อีกทั้งรู ปโฉมล้วนธรรมดา ใต้เท้าจางคงไม่อาจส่ ง
พวกนางไปแก่งแย่งกับสตรี ในวังได้หรอกกระมัง เอาเถิดคิดไปล่วงหน้าก็เปลืองสมองเสี ยเปล่า เอา
ไว้แก้ไขตามสถานการณ์เถิด ข้ารี บเข้านอนทันที

วันรุ่ งขึ้นยามเฉิ นข้าไปพบใต้เท้าจาง ในห้องมีชายชราชุดขาวท่าทางเหมือนซิ นแส ใต้เท้าจางเอ่ย


เรี ยกเขาว่าหมอเหอ เอ่ยชื่นชมเขายกใหญ่วา่ เป็ นหมอเทวดา ผมและหนวดเคราขาวโพลน ท่าทาง

11
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เหมือนกับเทพเซี ยน ใต้เท้าจางผายมือเชิญหมอเหอไปนัง่ ที่โต๊ะคู่แล้วพยักเพยิดให้ขา้ ไปนัง่ อีกฝั่ง หมอ
เหอยืน่ มือออกมา ข้าจึงรี บวางแขนไว้บนโต๊ะเล็กที่คนั่ อยูต่ รงกลางให้ท่านหมอจับชีพจร สักครู่ ท่านหมอ
ก็เงยหน้าขึ้น

“สุ ขภาพแข็งแรงดีมาก ร่ างกายนางพร้อมที่จะรับยานี้ ”

ข้าเหลือบตามองท่านหมออย่างสงสัย ข้าไม่ได้เจ็บไข้ เหตุใดจึงคิดจะสัง่ ยา หรื อว่า..จะเป็ นยาพิษ


ใต้เท้าจางคิดจะบีบบังคับให้ขา้ ทําตามคําสั่งด้วยการมอบยาพิษให้อย่างนั้นหรื อ คิดถึงตรงนี้กอ็ ดตัวสั่น
น้อยๆขึ้นมาไม่ได้

ใต้เท้าจางดูเหมือนจะอ่านความคิดของข้าออกจึงรี บเอ่ย

“ไม่ตอ้ งกลัวไปหรอก ยานี้ ไม่ใช่ยาพิษ ไม่อนั ตราย ไม่วา่ สตรี ใดต่างก็อยากครอบครองยานี้ดว้ ยกันทั้ง
นั้น สนนราคามันจึงไม่เบาเลย”

ข้ามองใต้เท้าจางด้วยแววตาฉงน

“ชื่อของมันคือ โฉมงามแสนตําลึง” ใต้เท้าจางเอ่ยต่อ

ฟังชื่อแล้วข้าก็มนั่ ใจว่าไม่เคยได้ยนิ ชื่อยานี้มาก่อนทั้งในชาติที่แล้วและชาติน้ ี

“สรรพคุณของยานี้เจ้ากินไปแล้วก็จะเข้าใจ เป็ นเพียงยาบํารุ งเลือดลมของสตรี เท่านั้น”

หมอเหอหยิบขวดกระเบื้องออกมาจากแขนเสื้ อสองขวด เปิ ดขวดหนึ่งแล้วเทยาเม็ดใหญ่ออกมากลาง


ฝ่ ามือยืน่ ให้ขา้ ข้ามองยาเม็ดสี ดาํ แวววาวนั้นแล้วก็รู้สึกขื่นคอ ยาอะไรก็ไม่รู้ ใครจะกล้ากินสุ่ มสี่ สุ่ม
หน้า หมอเหอพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

“รี บกินเสี ยเถิด มีขา้ อยูท่ ้ งั คนรับรองเจ้าไม่ตายหรอก”

เมื่อเห็นข้ายังลังเล ใต้เท้าจางก็เอ่ยบ้าง “อวี้ชิง ที่ขา้ ต้องให้เจ้ากินยาต่อหน้า เพราะยานี้มิใช่หา


มาได้โดยง่าย หากมิใช่เพราะข้าเป็ นคงกว้างขวาง มีพี่นอ้ งมากมาย เพียงแค่ชื่อยาก็อย่าหวังจะจะมี

12
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
โอกาสได้ยนิ ข้าเลือกเจ้าเป็ นบุตรบุญธรรมแล้ว อย่างไรก็ไม่ตอ้ งการให้เจ้าเป็ นอันตรายหรอก เจ้า
กินยาเสี ยเถิด”

ใต้เท้าจางพูดถึงขนาดนี้ขา้ จึงต้องรับยามากิน หมอเหอส่ งขวดกระเบื้องอีกใบมาให้พร้อมทั้งกําชับ

“ยาในขวดนี้เป็ นยาระงับอาการ หากเจ็บปวดจนทนไม่ไหวให้กินทีละเม็ด แต่สามชัว่ ยามกินได้เม็ด


หนึ่งเท่านั้น ห้ามกินเกินกว่านั้นเข้าใจหรื อไม่”

ข้าพยักหน้า ใต้เท้าจางยิม้ อย่างพอใจแล้วให้ขา้ กลับไป

ทั้งวันข้ารู ้สึกเป็ นปรกติ สามารถย้ายข้าวของจากเรื อนเดิมมาเรื อนใหญ่ได้โดยไม่มีอาการอะไร ข้า


รํ่าลาอาหนิงที่มีสีหน้าเรี ยบเฉยและอาหงที่ดูหดหู่ อนาคตจากนี้ ของพวกเธอคงไม่พน้ การเป็ นอนุ ต่อให้
สวยงามเพียงใดหากไม่มีชาติตระกูล พวกนางก็ไม่อาจเอื้อมคว้าตําแหน่งภรรยาเอกได้ ช่างเป็ น
ชะตาที่อาภัพเสี ยจริ ง กระนั้นข้าก็ไม่อาจทําใจให้ยนิ ดีกบั ฐานะใหม่ของตัวเองได้หรอก มันคงจะเลว
ร้ายไม่ต่างกัน

ห้องใหม่ของข้าตบแต่งสวยงามสมฐานะคุณหนูตระกูลจาง มีสาวใช้คอยปรนนิบตั ิดูแลไม่ต่างอะไรกับคุณ


หนูตวั จริ ง ตอนกลางคืนพอดับเทียนเข้านอนแล้ว ข้ากลับรู ้สึกกระสับกระส่ าย ร้อนวูบวาบตามผิว
เหงื่อแตกโซมทัว่ ร่ าง นึกถึงยาในขวดกระเบื้องแล้วในใจก็บงั เกิดความไม่แน่ใจ ผ่านไปหลายชัว่ ยาม
อาการก็ยงั ไม่ดีข้ ึน ท้ายที่สุดรู ้สึกราวกับผิวหนังชั้นนอกโดนไฟเผา ข้าจึงประคองร่ างขึ้นมากินยาใน
ขวดไปหนึ่ งเม็ด อาการจึงค่อยทุเลา ข้าหลับอย่างอ่อนเพลียจนถึงเช้า แต่อาการก็ยงั ไม่หายไป

สาวใช้เข้ามาคอยดูแลเช็ดตัวให้ขา้ ผ้าขาวที่ลูบผ่านผิวหน้ามีคลาบไคลเป็ นปื้ น ดูเหมือนผิวหนังของข้า


จะหลุดลอกออกมาเป็ นชั้น ข้าเห็นสี หน้าประหลาดใจของสาวใช้กอ็ ดผวาไม่ได้ จึงเอ่ยถาม

“ข้าเป็ นอะไรไป”

“คุณหนูเพียงแค่อ่อนเพลียเจ้าค่ะ” สาวใช้ตอบอย่างสงวนคํา ดูเหมือนว่านางจะถูกกําชับให้พูดเพียง


แค่น้ ีเท่านั้น ไม่วา่ จะถามกี่ครั้ง นางก็จะตอบเช่นนี้เสมอ

ตอนกลางคืนอาการแสบผิวหายไปแล้ว ข้ากลับเจ็บหน้าอกและปวดท้องอย่างรุ นแรงราวกับมดลูกบีบรัด

13
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ปวดเกร็ งราวกับมีใครจับลําไส้บิด ปวดจนตัวงอดิ้นเร่ าๆ อยูบ่ นเตียง ข้าแทบอยากจะลุกขึ้นมาเอาหัว
โขกเตียงเสี ยให้ตายไปให้รู้แล้วรู ้รอด แต่กก็ ดั ฟันลุกขึ้นมากินยาถึงสองครั้ง

พอคืนที่สาม ข้าผวาเสี ยจนไม่กล้านอน ใบหน้าซี ดเผือดจนสาวใช้สงสาร นางยกนํ้าขิงมาให้ดื่ม อีกทั้ง


ยังเช็ดเนื้อตัวให้ขา้ ด้วย คืนนี้ กระดูกในร่ างเจ็บร้าวไปหมด เหมือนถูกจับหักกระดูกทีละท่อนๆ ทัว่ ทั้ง
ร่ าง ข้าแทบอยากจะเทยาในขวดกระเบื้องเข้าปากให้หมดหากไม่ติดว่าจะกินยาเกินขนาด สรุ ปแล้ว
ยาที่หมอเหอให้มาน่าจะเป็ นยาระงับปวดขั้นรุ นแรง กระนั้นกินเข้าไปแล้วความเจ็บปวดก็ยงั มากมายอยูด่ ี

สามคืนที่ขา้ ราวกับตกนรก พอรุ่ งเช้าอาการเจ็บปวดต่างๆ ก็หายไป เหลือเพียงร่ างกายที่ยงั สะบัก


สะบอม ข้านอนอีกหนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่ขยับเขยื้อน สาวใช้ได้แต่เข้ามาหยอดข้าวต้มให้ขา้ ทีละคํา
กระนั้นข้ายังขี้เกียจจะกลืนลงไปเสี ยด้วยซํ้า หากให้ขา้ พบเจอกับความทรมานเช่นนี้ มิสู้ให้ตายไปเลย
เสี ยดีกว่า ข้าพอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดหมอเหอจึงต้องจับชีพจรก่อนจะให้ยา หากร่ างกายไม่แข็ง
แรงพอ เกรงว่ากินยานี้เข้าไปน่าจะตายมากกว่ารอด

หลังจากสามวันแห่งความทรมาน ร่ างกายของข้าก็รู้สึกอ่อนแอลงมาก ข้าไม่อยากลงจากเตียงแม้


เพียงนิด ได้แต่ปล่อยให้สาวใช้ป้อนข้าว ป้อนนํ้า เช็ดตัว เวลาส่ วนใหญ่ในแต่ละวันข้ามักจะหลับ แม้
ตอนกลางวันจะนอนเยอะขนาดนั้น ตอนกลางคืนข้าก็ยงั หลับได้อยู่ ผ่านไปเจ็ดวันจึงรู ้สึกดีข้ ึน ข้าก้าว
ลงจากเตียงเป็ นครั้งแรก

เจินเจินสาวใช้ที่คอยปรนนิบตั ิช่วยพยุงข้าลงจากเตียง ล้างหน้าล้างตาเรี ยบร้อยแล้วก็รอกินอาหาร


เช้าที่โต๊ะ ขณะยกตะเกียบขึ้นมาข้าก็เพ่งมองมือของตัวเองอย่างประหลาดใจ มือเรี ยวขาวของข้าบัด
นี้อ่อนช้อยราวกับถูกดัด ปลายนิ้วแต่ละนิ้วโค้งอ่อนราวกับต้นหอม ผิวขาวกระจ่างอ่อนนุ่มแต้มสี ชมพูระ
เรื่ อ ข้าประหลาดใจจนเกือบจะวางตะเกียบ แต่เห็นเจินเจินคอยปรนนิบตั ิอยูจ่ ึงเก็บอาการ จน
เจินเจินเก็บสํารับออกไปแล้วจึงค่อยสํารวจตัวเองอย่างละเอียด

...เช่นนี้นี่เองใต้เท้าจางจึงบอกว่ายานี้เป็ นที่ปรารถนาของสตรี ตัวข้าที่ใครๆ ว่าโฉมงามอยูแ่ ล้ว


เพียงได้รับยา “โฉมงามแสนตําลึง” ก็ดูเหมือนจะมีร่างกายที่งดงามชวนหลงใหลยิง่ กว่าเดิม นึกถึง
อาการทรมานที่ผา่ นมาทั้งสามคืนแล้ว ข้าไม่แน่ใจว่าหากใต้เท้าจางสั่งให้ขา้ กินยานี้อีกข้าจะยอมกิน
หรื อไม่ ความงามที่แลกมาด้วยความทรมานเกือบถึงขั้นเอาชีวติ ไม่วา่ อย่างไรก็ดูไม่น่าลิ้มลองเลย
ตอนอาบนํ้า เจินเจินลอบมองข้าหลายครั้ง แน่ล่ะ ทั้งผิวพรรณและเรื อนร่ างเช่นนี้ ผใู ้ ดเคยเห็นบ้าง
หากมิใช่สวรรค์สร้างก็คงเป็ นนรกสาป ข้าคิดในใจ

14
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 3 : ชินอ๋ องผู้ร้ายกาจ

หลังจากที่รักษาอาการจนเป็ นปกติแล้ว วันหนึ่ งใต้เท้าจางก็เรี ยกหาข้า

“เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ทําไมข้าจึงเลือกเจ้า” เขาถามเมื่อได้เห็นหน้าข้าอีกครั้ง

ข้าก้มหน้าลงไม่ตอบ

“นอกจากจะมีรูปโฉมงดงามแล้ว เจ้ายังมีกิริยายัว่ ยวน”

ข้านิ่วหน้า ข้าไม่เคยยัว่ ยวนสักหน่อย แม่นมหลินดุออกปานนั้น ข้าจะมีเวลาไปชม้ายชายตาให้ใครตอน


ไหน ใต้เท้าจางเห็นสี หน้าข้าจึงอธิบาย

“เจ้าไม่รู้ตวั หรอก ข้าเองก็อธิบายไม่ถูก เอาเป็ นว่ากิริยาบางอย่างของเจ้าล้วนดึงดูดบุรุษให้เข้าหา


ข้าเองก็เป็ นหนึ่ งในนั้น” กล่าวจบเขาก็จอ้ งข้านิ่ง ทําเอาข้าเสี ยวสันหลังวาบ สิ่ งที่เห็นในแววตาชาย
วัยกลางคนผูน้ ้ ีมิใช่ความปรารถนาหรื อไร เขาเริ่ มมีอายุแล้วก็จริ งแต่กย็ งั ดูสง่างาม ใบหน้ายังไม่ค่อย
ปรากฏริ้ วรอยและเรื อนร่ างยังคงทะมัดทะแมงเช่นคนหนุ่ม สมัยหนุ่มเขาคงเป็ นชายรู ปงามคนหนึ่ง แต่
ข้าไม่มีความคิดจะจับผูช้ ายคราวพ่อหรอกนะ ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากจึงนิ่งเสี ย เกิดเขาเสี ยดาย
เก็บข้าไว้เชยชมเองจะทําเช่นไร เขาเห็นข้าเงียบจึงพูดต่อ “หากมิใช่ตอ้ งใช้งานเจ้าแล้วล่ะก็ ข้า
คงเก็บไว้เสี ยเอง” ปลายเสี ยงของเขาสัน่ พร่ า แต่เพียงชัว่ พริ บตาก็กลับมาทีท่าทีเอาจริ งเอาจังตามเดิม

“อีกสองอาทิตย์ขา้ จะทําพิธีปักปิ่ นให้แก่เจ้า”

“ขอบคุณใต้เท้าจางเจ้าค่ะ” ข้าตอบ

“อย่าลืมว่าจากนี้ ไปเจ้าคือบุตรสาวบุญธรรมของข้า จะมามัวเรี ยกใต้เท้าจางอีกไม่ได้” เขาเอ็ดข้า


ไม่จริ งจังนัก ข้าจึงก้มหน้าเป็ นเชิงรับรู ้และขอลุแก่โทษ เว้นไปชัว่ ครู่ ใต้เจ้าจางก็เอ่ยต่อ

“เดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงในวัง เจ้าต้องติดตามข้าเข้าวังในฐานะบุตรสาว ข้าต้องการให้เจ้าทํา


อะไรรู ้หรื อไม่”

15
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ข้าน้อยโง่เขลา แต่หากใต้เท้าจาง..เอ่อ ท่านพ่อต้องการฟังความเห็นอันตํ่าต้อย ข้าคาดว่า


เอ่อ..ท่านพ่อ ต้องการให้ขา้ ดึงความสนพระทัยจากฮ่องเต้ใช่หรื อไม่เจ้าคะ” ข้าก้มหน้าตอบ ใต้เท้า
จางคลี่ยมิ้ อย่างพอใจ

“ถูกต้องแล้วอวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างเฉลียวฉลาดนัก ขนาดข้าไม่เคยเอ่ยปากเล่าอะไรให้เจ้าฟัง เจ้ายัง


สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยําถึงเพียงนี้ ไม่เสี ยทีที่ขา้ เลือกเจ้าจริ งๆ” เขามองข้าด้วยสายตา
พราวระยับราวกับปลาบปลื้มนักหนาที่ตนเองมีเพชรนํ้างามอยูใ่ นมือ “ด้วยรู ปโฉมเช่นนี้มีหรื อที่ฝ่าบาท
จะไม่สนพระทัย”

ได้ฟังถ้อยคําเหล่านี้ขา้ รู ้สึกขยะแขยงจนแทบอาเจียน จึงปล่อยให้เขาพูดคนเดียว

“รอจนเจ้าเข้าวังได้แล้ว ข้าจะบอกอีกทีวา่ จะให้เจ้าทําอะไร”

เขาเอ่ยด้วยสี หน้ายินดี ส่ วนข้าได้แต่ยนื ก้มหน้านิ่ ง คิดในใจว่า ทําไมเขาจึงโง่เขลาถึงเพียงนี้ เข้า


วังไปแล้วข้าย่อมเป็ นอิสระเหมือนเสื อติดปี ก เขาจะบังคับข้าให้อยูใ่ ต้อาณัติได้อย่างไร

………………………….

“เรี ยนท่านอ๋ อง ใต้เท้าจางเริ่ มเคลื่อนไหวแล้วขอรับ คนของเรารายงานมาว่าใต้เท้าจางรับบุตรี


บุญธรรมคนหนึ่ง เดือนหน้าจะพานางไปงานเลี้ยงในวังหลวง”

ชายหนุ่มในชุดสี ฟ้าครามลดหนังสื อในมือลง แม้จะแต่งกายธรรมดาและอยูใ่ นอิริยาบถผ่อนคลาย กลิ่น


อายแห่งความสู งศักดิ์กแ็ ผ่ซ่านไปทัว่ แววตาของเสวียนเฟิ งสงบราบเรี ยบ

“ส่ งคนไปสังหารนางเสี ย”

“ขอรับ อ้อ ยังมีข่าวมาอีกว่าใต้เท้าจางเชิญหมอเทวดาเหอไปที่จวนด้วยขอรับ แต่ไม่ได้รับรายงาน


ว่ามีผใู ้ ดเจ็บป่ วย ท่านจะให้สืบต่อไปหรื อไม่วา่ ใต้เท้าจางเชิญหมอเหอไปทําอะไร”

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ใบหน้าหล่อเหลาอมยิม้ น้อยๆ ก้าวเท้าออกจากศาลาริ มนํ้าพลางเอ่ย “ไม่จาํ เป็ น

16
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
หากข้าไม่อนุญาต แม้แต่ชื่อท่านหมอเหอเขายังไม่มีโอกาสจะได้ยนิ เสี ยด้วยซํ้า ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร
ว่าเขาเชิญท่านหมอเหอไปทําไม” เดินไปได้สี่หา้ ก้าวชายหนุ่มก็หยุด ก่อนจะเปลี่ยนใจ “ยังไม่ตอ้ งส่ ง
คนไปสังหารนาง ข้าจะแวะไปดูฝีมือของท่านหมอเหอเสี ยหน่อย ดูซิวา่ จะสมคํารํ่ารื อหรื อไม่”

สายลับผูน้ ้ นั คุกเข่าประสานมือเป็ นการรับคําก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบ

……………………….

ใต้เท้าจางเรี ยกข้ามาพบ พอข้ามาถึงก็พบสาวใช้กเ็ ดินนําไปยังห้องติดสวน ห้องนี้เปิ ดประตูกว้าง ที่


นัง่ เป็ นเบาะนัง่ กับพื้น สาวใช้สองคนกําลังจัดดอกไม้อยู่ ใต้เท้าจางนัง่ อยูใ่ นตําแหน่งประธาน ข้า
คารวะใต้เท้าจางแล้วเขาก็วาดมือให้ขา้ นัง่ ลงที่เบาะซึ่ งเยื้องไปด้านซ้ายข้านัง่ ประสานมือไว้บนตัก
ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย รอฟังเขาว่าจะมีบญั ชาอะไร สาวใช้ซ่ ึ งจัดดอกไม้เสร็ จแล้วยกมาตั้งไว้ตรงกลาง
ห้อง จากนั้นสาวใช้อีกกลุ่มก็ยกชุดชงชาเข้ามา ข้าเหลือบไปมองใต้เท้าจางอย่างแปลกใจ เขาแย้ม
ยิม้ อย่างผูใ้ หญ่ใจดีให้ขา้ ขณะเอ่ย

“วันนี้ขา้ ว่าง คิดจะผ่อนคลายสักนิดจึงเชิญเจ้ามาชงชา”

ข้ายังไม่ทนั เอ่ยรับคํา บ่าวไพร่ กเ็ ข้ามารายงานสี หน้าลนลาน

“นายท่านขอรับ ชินอ๋ องเสด็จมา กําลังมุ่งมาทางนี้ แล้วขอรับ”

สี หน้าของใต้เท้าจางเปลี่ยนสี ยังไม่ทนั จะขยับตัว เสี ยงทุม้ กังวานของชายหนุ่มก็ดงั ขึ้นที่หน้าห้อง

“รบกวนใต้เท้าจางแล้ว วันนี้ขา้ ไม่มีธุระที่ไหน จึงขอแวะมารบกวน”

ข้านัง่ ก้มหน้าอยูจ่ ึงได้ยนิ เพียงเสี ยงเสี ยดสี กนั ของเนื้อผ้าขณะก้าวย่าง ชินอ๋ องผูน้ ้ นั ถือวิสาสะก้าวเข้า
มาในห้อง ใต้เท้าจางซึ่ งมีทีท่าสุ ขมุ อยูเ่ ป็ นนิจถึงกับดีดตัวขึ้นจากที่นงั่ เชื้อเชิญให้ท่านอ๋ องนัง่ ใน
ตําแหน่งประธานแทนที่ตน

“เชิญท่านอ๋ องพะย่ะค่ะ กระหม่อมย่อมรู ้สึกยินดีที่พระองค์ให้เกียรติ”

17
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ท่านอ๋ องไม่ได้สนใจใต้เท้าจางมากนัก เพียงนัง่ ลงแทนที่แล้วตวัดสายตามองมาทางข้า
“โฉมงามผูน้ ้ ีเป็ นใครกัน”

ใต้เท้าจางมีสีหน้ากระอักกระอ่วนแต่กป็ รับให้สงบราบเรี ยบได้อย่างรวดเร็ ว “นางเป็ นบุตรสาว


บุญธรรมของข้าเอง อวี้เอ๋ อร์ ยังไม่คารวะท่านอ๋ องอีกหรื อ”

“อวี้เอ๋ อร์ถวายพระพรชินอ๋ องเพคะ” ข้าก้มลงคํานับกับพื้น ทว่าไม่รู้ชินอ๋ องไม่ใส่ ใจหรื อจงใจจะแกล้ง


ข้ากันแน่ จึงหันไปพูดเรื่ องอื่นกับใต้เท้าจาง ปล่อยให้ขา้ หมอบอยูก่ บั พื้นเช่นนั้น

“ไม่ทราบข้ามารบกวนธุระสําคัญของท่านหรื อไม่”

“หามิได้พะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงจะให้อวี้เอ๋ อร์ชงชา ไม่ได้สลักสําคัญอะไร อวี้เอ๋ อร์ เจ้ากลับไป


ก่อนเถอะ” ใต้เท้าจางดูเหมือนจะคอยโอกาสให้ขา้ ปลีกตัวออกมา จึงรี บเอ่ยปากไล่ขา้ ทันที

“ไม่ตอ้ งไปหรอก ข้าเองก็ไม่ได้มีธุระสําคัญอันใด พักดื่มชาที่นี่เสี ยหน่อยก็ดี”

ข้าค่อยๆ ยันร่ างขึ้นจากพื้น ในใจรู ้สึกกรุ่ นโกรธชินอ๋ องผูน้ ้ ี ดูท่าทางจะเป็ นคนเอาแต่ใจไม่นอ้ ย แต่ก็
คงเป็ นธรรมดาของพวกเชื้อพระวงศ์ที่ไม่ใคร่ จะเห็นใครในสายตา ข้าหันไปสบตาใต้เท้าจาง เห็น
เขาพยักเพยิดให้ขา้ ชงชาจึงค่อยเดินเข่าไปยังชุดชงชาที่สาวใช้ยกมาวางไว้มุมหนึ่ ง ขณะตักนํ้าร้อน
ลวกกาดินเผา ข้ารู ้สึกได้ถึงสายตาของชินอ๋ องที่จบั จ้องมือขาวเรี ยวอ้อนช้อยของข้าไม่วางตา

“บุตรี ของท่านใต้เท้าจางงดงามราวกับนางจิ้งจอก”

คําพูดของเขาทําให้ขา้ เกือบจะทํากาดินเผาหลุดมือ “นางจิ้งจอก” ถือว่าเป็ นคําชมที่ไหนกัน ไม่ตอ้ ง


หันไปมองข้าก็รู้สึกได้วา่ ใต้เท้าจางคงจะยิม้ ฝื ดเฝื่ อน

“มิได้ๆ นางเป็ นเพียงเด็กกําพร้ายากจนที่ขา้ รับอุปการะเท่านั้น ไหนเลยจะงดงามดังท่านว่า”

ข้าใช้ตะเกียบคีบใบชาใส่ กา ลวกด้วยนํ้าร้อนแล้วเททิ้ง พยายามไม่ใส่ ใจบทสนทนาของคนทั้งคู่ ขณะ


ตักนํ้าร้อนใส่ กา ก็รู้สึกได้วา่ ชินอ๋ องผูน้ ้ นั โยนคําถามใส่ ขา้ โดยตรง

18
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ผูใ้ ดอบรมการชงชาให้เจ้ารึ ช่างดูสงบ เรี ยบง่าย สง่างาม เข้าถึงสุ นทรี ยศาสตร์ ของการชงชายิง่ นัก”
ข้าปิ ดฝากานํ้าชา ทิ้งให้ใบชาแช่ในนํ้าร้อนเพื่อปล่อยกลิ่นและรสชาติหอมกรุ่ น จากนั้นจึงหันมาประสาน
มือตอบ

“หม่อมฉันความสามารถธรรมดา เพียงแต่ได้รับการชี้แนะจากอาจารย์ที่ท่านพ่อจัดหาให้เพคะ”

ใต้เท้าจางดูเหมือนจะผ่อนลมหายใจน้อยๆ แน่ล่ะ เขาคงกลัวข้าจะตอบว่าแม่นมหลินเป็ นผูส้ อน หาก


ตอบเช่นนี้ยอ่ มจะเป็ นการเปิ ดเผยตนเองว่ามีเส้นสายในวังมากเพียงใด อีกทั้งเพียงบุตรบุญธรรมคน
หนึ่ง ใยต้องไหว้วานกูกมู าสอนด้วย

ครั้นเวลาเหมาะสม ข้าก็เทนํ้าชาลงในถ้วยกระเบื้องเนื้อดีสามใบเพียงครึ่ งหนึ่ ง ข้าประคองถ้วยชา


ไปให้ชินอ๋ อง เขาทอดตามองถ้วยชาในมือของข้านิ่งเฉยอยูค่ รู่ หนึ่งจึงค่อยยืนมือมารับ เมื่อส่ งชาให้ใต้
เท้าจางแล้วข้าก็กลับมานัง่ ที

“อืม ชาดี” ชินอ๋ องเอ่ยขณะประคองชาขึ้นดม จากนั้นจึงค่อยละเลียดดื่มชาร้อนหอมกรุ่ นลงคอ ยกถ้วย


ชาเพียงสามครั้ง ถ้วยของชินอ๋ องก็วา่ งเปล่า ข้าประคองกานํ้าชาเข้าไปริ นให้เขา จนบัดนี้ยงั ไม่ได้
เหลือบมองหน้าเขาสักนิด

“เจ้าอายุเท่าไหร่ แล้วหรื อ”

“เรี ยนท่านอ๋ อง หม่อมฉันอายุสิบสี่ ปีแล้วเพคะ” ข้าหลุบสายตาลงขณะตอบ

“อาทิตย์หน้านางก็จะเข้าพิธีปักปิ่ นแล้วพะย่ะค่ะ” ใต้เท้าจางเสริ ม นํ้าเสี ยงไม่แน่ใจ

“หากนางยังมิได้หมั้นหมายกับผูใ้ ด เปิ่ นหวางหมายจะตบแต่งนางเป็ นหวางเฟย ใต้เท้าจางว่าอย่างไร”

ข้าตะลึง มือที่ถือกานํ้าชาชะงักค้าง นํ้าชาในมือของใต้เท้าจางกระฉอก แน่ละสิ ลงทุนกับข้าไปมาก


มายขนาดนี้ หวังจะเอาไว้ใช้งานในวัง อยูด่ ีๆถูกชุบมือเปิ บไปเช่นนี้ ผูใ้ ดจะทนได้กนั แต่ชินอ๋ องไม่น่า
จะจริ งจังนัก ตําแหน่งของเขาเป็ นรองเพียงฮ่องเต้ อยูด่ ีๆ จะอยากได้ผหู ้ ญิงไม่มีหวั นอนปลายเท้า
อย่างข้าไปเป็ นชายาเอกได้อย่างไร ข้าเป็ นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ งเท่านั้นนะ หรื อว่าเขาแค่อยากจะแหย่
ใต้เท้าจางเล่นๆ กัน ข้าไม่แน่ใจนัก

19
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เอ่อ เรี ยนท่านอ๋ อง เรื่ องสมรสของสตรี เป็ นเรื่ องใหญ่ กระหม่อมขอให้เลยพิธีปักปิ่ นไปก่อนแล้วจึง
ค่อยพิจารณาอีกทีได้หรื อไม่พะย่ะค่ะ”

“ใต้เท้าจางคิดว่าการแต่งเข้าวังเสิ่ นหยางกงเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งพิจารณาด้วยหรื อ” นํ้าเสี ยงไว้ตวั ของ


ชินอ๋ องเย็นเยียบ

“กระหม่อมมิบงั อาจพะย่ะค่ะ เพียงแต่อวี้เอ๋ อร์ยงั เล็กนัก กระหม่อมเพียงอยากเก็บไว้กบั ตัวให้นาน


หน่อย” ใต้เท้าจางรี บปฏิเสธ

“สตรี เข้าพิธีปักปิ่ นยังนับว่าเล็กอยูอ่ ีกหรื อ ใต้เท้าจางคงจะเห็นว่าวังเสิ่ นหยางกงของเปิ่ นหวางเล็ก


ไป หมายตาสถานที่ใหญ่กว่านั้นกระมัง” ถ้อยคําเป็ นนัยของชินอ๋ องทําให้ใต้เท้าจางถึงกับเหงื่อแตก
เต็มหน้า ชินอ๋ องผูน้ ้ ีช่างร้ายกาจยิง่ นัก เพียงคําพูดไม่กี่คาํ ถึงกับทําลายแผนการของจางอี้หมิงลงได้
ใต้เท้าจางผูท้ ี่ขา้ รู ้จกั ใช่คนที่ต่อกรด้วยง่ายๆ เสี ยที่ไหนกัน ข้ารอดูวา่ ใต้เท้าจางจะตอบว่าอะไร

“มิกล้าๆ หากท่านอ๋ องไม่รังเกียจอวี้เอ๋ อร์ที่เป็ นกําพร้าชาติกาํ เนินตํ่าต้อย กระหม่อมก็ยนิ ดียงิ่ นักพะย่ะค่ะ”

คําตอบของเขาทําให้ขา้ ตกตะลึงราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เขาละทิ้งข้า ยกข้าให้กบั ชินอ๋ องผู ้


ร้ายกาจนี่น่ะหรื อ ข้าลอบกลืนนํ้าลายลงคอพลางแอบช้อนสายตาขึ้นมองเขาเป็ นครั้งแรก

20
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 4 : แผนสํ ารอง

วูบเดียวเท่านั้นที่ขา้ ตวัดสายตาขึ้นมอง ความประหวัน่ พรั่นพรึ งถาโถมเข้ามาเต็มอก ดวงตาของคน


เช่นไรกันจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้ สายตานั้นคมปลาบ เห็นเพียงประกายอันมืดมิดดุจหุ บเหวที่ไร้กน้ เขา
คงเป็ นโหดเหี้ ยมไม่นอ้ ย ในแววตาจึงดูเหมือนไม่มีความอบอุ่นอยูเ่ ลย ด้วยความกลัวข้าจึงไม่ทนั ใส่ ใจ
รายละเอียดอื่นๆ บนใบหน้าของชินอ๋ อง ไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าเขาหน้าตาเป็ นอย่างไร ครั้นหลบสายตาเขา
แล้วก็ไม่มีขวัญกล้าจะแอบมองอีก

ขณะที่ทุกคนกําลังนิ่งงันไปอย่างทําอะไรไม่ถูก ชินอ๋ องก็ไม่รอช้า เรี ยกผูต้ ิดตามที่ยนื เฝ้าอยูห่ น้าห้อง

“เฉิ นซี ให้คนร่ างสัญญาหมั้นหมาย เสร็ จแล้วนําเข้ามาให้เปิ่ นหวาง”

เพียงไม่นานสัญญาหมั้นหมายระหว่างชินอ๋ องและข้าก็เป็ นอันเสร็ จเรี ยบร้อยโดยที่ขา้ ไม่มีโอกาสได้


ชําเลืองมองในสัญญาฉบับนั้นเลยสักนิด ทุกสิ่ งล้วนเป็ นใต้เท้าจางจัดการให้แทน ใบหน้าของใต้เท้า
จางราวกับกลืนยาขม ถูกมัดมือชกเช่นนี้ ในใจใต้เท้าจางคงขมขื่นเหลือจะกล่าว ข้าเองก็ไม่ต่างกัน
ข้าอดกังวลถึงอนาคตไม่ได้ เขาเป็ นคนอย่างไรข้ายังไม่รู้จกั เลยเสี ยด้วยซํ้า คิดดูแล้วมิสู้เข้าไปเป็ น
สนมนางในเสี ยดีกว่า อย่างน้อยมีสตรี นบั พัน ข้าก็ไม่ตอ้ งรับมือกับฮ่องเต้บ่อยนักหรอก อย่างดีกแ็ ค่สู้รบ
ปรบมือกับเหล่าสตรี นางในที่มากเล่ห์กลเท่านั้น

“น้อมส่ งเสด็จชินอ๋ องพะย่ะค่ะ”

ขณะที่กาํ ลังใช้ความคิด เสี ยงของใต้เท้าจางก็ดึงสติขา้ กลับมา ข้ารี บค้อมกายส่ งเสด็จตาม ชินอ๋ องที่
กําลังจะก้าวออกจากห้อง อยูๆ่ ก็หนั กลับมาราวกับนึกอะไรได้

“อวี้เอ๋ อร์ พิธีปักปิ่ นของเจ้า เปิ่ นหวางจะมาร่ วมงาน”

เพียงได้ยนิ ข้าก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่ าง ความรู ้สึกหวาดกลัวชายคนนี้ครอบงําจิตใจข้าอย่างน่าประหลาด


ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เหมือนกับว่าข้าเคยได้รู้จกั เขามาก่อน แต่มนั จะเป็ นไปได้อย่างไรกัน ข้ารี บตั้ง
สติเอ่ยขอบคุณ

21
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ขอบพระทัยท่านอ๋ องเพคะ”

สายตาข้าจับจ้องอยูเ่ พียงรองเท้าปักลายและชายเสื้ อคลุมมังกรสี่ เล็บ ท่านอ๋ องมองร่ างกายสั่นเทา


ของข้าอยูช่ วั่ ครู่ ก่อนจะสาวเท้าจากไป

…………………..

ใต้เท้าจางสี หน้าบึ้งตึงจนข้าไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปาก มือของเขากําหมัดแน่นอยูเ่ ป็ นนาน ในที่สุดก็มอง


มาที่ขา้ อย่างชัง่ ใจ

ข้าก้มหน้าลง พอจะคาดเดาความคิดของเขาได้ เขากําลังเสี ยดาย หากต้องสู ญเสี ยข้าไปให้ชินอ๋ อง


มิสู้เขาเก็บข้าไว้เองตั้งแต่แรกหรื อ คราวนี้คนก็ไม่อาจได้ใช้ เก็บไว้เองก็ไม่ได้ เหมือนกับที่ผา่ นมา
เขาตัดชุดแต่งงานให้ชินอ๋ องเปล่าๆ เสี ยอย่างนั้น ใจข้าเต้นตึกตัก หวังว่าเขาจะไม่ทาํ อะไรบ้าๆ
หรอกนะ อย่างน้อยคงจะต้องเห็นแก่หน้าชินอ๋ อง ไม่กล้าล่วงเกินว่าที่หวางเฟยอย่างข้าเป็ นแน่

ใต้เท้าจางครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก็เอ่ยออกมาช้าๆ สี หน้าดีข้ ึน

“ใช่วา่ จะหมดหนทางเสี ยทีเดียว ประเดี๋ยวข้าจะให้คนส่ งข่าวแก่ไทเฮา เจ้าเองก็ไม่ตอ้ งกังวลไป


แผนการนี้ตระเตรี ยมมาเนิ่นนาน ข้าย่อมไม่มีทางล้มเลิกกลางคันแน่”

เห็นไหมล่ะ ข้าคิดแล้วว่าคนเจ้าแผนการอย่างใต้เท้าจางไม่มีทางจนตรอกแน่

เมื่อแผนการจิบชาของใต้เท้าจางล่มไม่เป็ นท่า ข้าจึงกลับมาที่หอ้ งของตัวเอง รู ้สึกไม่สบายใจจนต้อง


ไปล้มตัวลงนอน ดวงตาของท่านอ๋ องยังติดอยูใ่ นความทรงจํา ตัวข้าสั่นยะเยือกขึ้นมาอีก คราวนี้ขา้
รู ้สึกเป็ นกังวลจริ งๆ

วันรุ่ งขึ้นไทเฮาส่ งคนมารับข้าเข้าวัง ข้ารู ้วา่ นี่ตอ้ งเป็ นแผนการของใต้เท้าจาง เจินเจินช่วยแต่งกาย


ให้ขา้ อย่างประณี ตแล้วติดตามข้าเข้าวัง ใต้เท้าจางลงมืออย่างรวดเร็ ว เขาคงยังไม่ไว้ใจข้าจึงไม่
ได้เล่าเรื่ องราวอะไรให้ฟัง ข้าเข้าวังไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ต้ืนลึกหนาบางอะไรทั้งสิ้ น รู ้แต่เพียงว่าไทเฮา
เป็ นพี่สาวของเขา

22
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คนของไทเฮาพาข้าไปที่ตาํ หนักฉื อหนิง ยามที่ขา้ ไปถึงก็ได้ยนิ เสี ยงพูดคุยดังลอดออกมา ขันทีที่เฝ้า
ประตูเห็นข้ามาถึงก็เดินเข้าไปด้านใน ครู่ หนึ่งก็กลับออกมาขานเสี ยงดัง

“ไทเฮามีรับสั่งให้คุณหนูจางอวี้ชิงเข้าเฝ้า”

ข้าก้าวเข้าไปในห้อง เห็นสตรี วยั กลางคนท่าทางมีสง่าราศีผหู ้ นึ่ งนัง่ อยูก่ บั บุรุษผูห้ นึ่งซึ่ งหันหลังให้ ข้า
จึงตรงเข้าไปยอบกายคารวะอย่างนอบน้อม

“อวี้ชิงถวายพระพรไทเฮาเพคะ”

ข้าไม่รู้วา่ อีกคนเป็ นใครแต่พอจะเดาได้ ครั้นไม่มีใครเอ่ยแนะนําจึงต้องแสร้งทําเป็ นไม่รู้ต่อไป

“อวี้ชิงคารวะท่านผูอ้ าวุโส”

ข้าเอ่ยจบเขาก็หวั เราะเสี ยงดังลัน่ ทันที

“อย่างเรานับเป็ นผูอ้ าวุโสแล้วหรื อ” เขาเอ่ยพลางหันกลับมา วินาทีที่ประสานสายตากัน บุรุษผูน้ ้ นั ก็


นิ่งค้างไปในทันที ไทเฮาแอบยิม้ อย่างพอพระทัย

“เด็กโง่ ยังไม่รีบถวายบังคมฝ่ าบาทอีกหรื อ”

นัน่ ปะไร ข้าเดาผิดเสี ยที่ไหน แต่ยามนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาดีใจที่ขา้ ทายถูก ข้ารี บย่อกายคารวะอีก


ฝ่ ายอย่างรวดเร็ ว

“ถวายพระพรฝ่ าบาทเพคะ อวี้ชิงมีตาแต่ไร้แวว ขอฝ่ าบาทประทานอภัยด้วยเพคะ”

ภายในห้องเงียบงันไปชัว่ อึดใจ ข้าย่อขาค้างจนเมื่อยก็ยงั ไม่ได้ยนิ เสี ยงใด ครู่ หนึ่ งจึงค่อยได้ยนิ


เสี ยงกระแอมไอดังมาจากฮ่องเต้

“ลุกขึ้นเถิด”

23
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ครั้นข้าลุกขึ้นยืนแล้ว ไทเฮาก็พระราชทานเก้าอี้ให้นงั่ ข้านัง่ ก้มหน้าประสานมืออย่างเจียมเนื้อเจียม
ตัว ได้ยนิ เสี ยงฮ่องเต้เอ่ยขึ้น

“ผูน้ ้ ีคือ?”

“หลานสาวของข้า บุตรี ของจางอี้หมิง” ไทเฮาตอบ ดวงตาพระนางเป็ นประกาย

“เหตุใดข้าไม่เคยได้ยนิ มาก่อนว่าใต้เท้าจางมีบุตรี งดงามเช่นนี้ ” ฮ่องเต้ถามด้วยท่าทางสนใจ เขาดู


เก้อเขินเล็กน้อย ข้าเห็นไทเฮาไม่ตอบจึงต้องตอบเอง

“ทูลฝ่ าบาท หม่อมฉันเป็ นบุตรี บุญธรรมของใต้เท้าจางเพคะ ที่ผา่ นมาอวี้ชิงเป็ นเพียงเด็กโง่เขลา ใต้


เท้าจางเมตตาจึงให้อาจารย์มาอบรมที่จวน ไม่ได้ออกไปไหน จึงไม่ค่อยมีคนรู ้เพคะ”

“อ้อ อาทิตย์หน้าเจ้าก็จะเข้าพิธีปักปิ่ นแล้วมิใช่รึ” ไทเฮาเอ่ย พลางหันไปเรี ยกนางกํานัล “ไปเอา


ปิ่ นหยกลายเมฆมงคลมา”

เพียงไม่นานนางกํานัลก็ยกกล่องไม้ฉลุลายปราณี ตออกมา

“ของกํานัลเล็กๆ น้อยๆ จากข้า รับไปสิ ”

ข้ารับกล่องไม้ไว้ในมือ พลางเอ่ยขอบคุณไทเฮา ไทเฮาชวนข้าคุยสัพเพเหระ สายตาของฮ่องเต้ยงั


คงจับจ้องอยูบ่ นใบหน้าของข้าตลอดเวลา ข้าจึงไม่กล้าเงยหน้าแม้สักนิด ในที่สุดก็ได้ยนิ นํ้าเสี ยงกลั้ว
หัวเราะของฮ่องเต้เอ่ย

“เราน่ากลัวมากอย่างนั้นหรื อ เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักนิดเล่า หรื อเรามีเขางอก มี


เขี้ยวออกมาจากปากหรื อไร”

ข้าแย้มยิม้ มุมปาก รี บเอ่ยตอบทั้งที่ยงั ก้มหน้า “หามิได้เพคะ อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่รู้สึกยําเกรงในพระราช


อํานาจ อวี้เอ๋ อร์ ต่าํ ต้อยนัก แม้แต่พระพักตร์ กไ็ ม่สมควรได้เห็น”

“เผิงจิ้น เหตุใดจึงแกล้งนางเช่นนั้น” ไทเฮาแสร้งเอ็ด ฮ่องเต้หวั เราะ แล้วเอ่ยกับข้าอย่างหยอกเย้า

24
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้ชิง เงยหน้าขึ้นมาเถิด เราไม่ได้อยากคุยกับหน้าผากของเจ้า ให้เรามองหน้าหน่อยไม่ได้หรื อ


เราอนุญาตให้เจ้ามองเราเป็ นการแลกเปลี่ยน”

ในเมื่อฮ่องเต้มีกระแสรับสั่ง ข้าจึงต้องทําตามอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อได้มองพระองค์เต็มตาก็อด


อุทานในใจไม่ได้ เขาเป็ นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิ บเจ็ดสิ บแปดเท่านั้นเอง ใบหน้าคมสันนั้นเกลี้ยง
เกลาดูมีสง่าราศี ข้าไม่นึกฝันมาก่อนว่าฮ่องเต้จะเป็ นเพียงเด็กหนุ่มขี้เล่นคนหนึ่งเท่านั้น

ฮ่องเต้มองข้าอย่างเพ่งพินิจด้วยสายตาพึงใจ ไทเฮามองตาม จากนั้นจึงออกปากไล่ขา้ อย่างรู ้จงั หวะ

“เวลาก็ไม่เช้าแล้ว อวี้เอ๋ อร์กลับไปก่อนเถิด ข้ากับฮ่องเต้มีเรื่ องจะหารื อกันสักหน่อย”

ข้าเดินตามคนของไทเฮาออกจากตําหนัก ในใจรู ้สึกว่างโหวง รู ้อยูแ่ ก่ใจดีวา่ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจาก


นั้น ไทเฮาคงจะกําลังพยายาม “ขาย” ข้าให้แก่ฮ่องเต้หนุ่มน้อยนัน่ นึกถึงสายตาของเขาที่มองข้าก็
รู ้สึกเวทนานัก ข้าได้แต่หวังว่าฮ่องเต้จะทรงพระปรี ชาสามารถ ไม่ตกเป็ นเครื่ องมือของคนอื่นเหมือน
อย่างข้า แต่ใครจะสามารถบอกได้เล่า ในเส้นทางแห่งอํานาจ ต่างก็ใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ าย ไม่วา่
ใครล้วนตกเป็ นเครื่ องมือโดยจะรู ้ตวั หรื อไม่กต็ าม แต่ผแู ้ พ้โดยสิ้ นเชิงก็คือคนที่ไม่มีอาํ นาจในมืออย่าง
ข้านี่แหละ

……………………

ชินอ๋ องเคาะนิ้วเรี ยวยาวกับกรอบหน้าต่างรถม้า ตั้งแต่ออกจากจวนตระกูลจาง เขาก็อยูใ่ นท่าครุ่ นคิด


เช่นนี้มาตลอด

..จางอวี้ชิง.. สตรี ผนู ้ ้ ีสาํ คัญนัก

ยาของหมอเทวดาเหอถึงมีแสนตําลึงทองก็ใช่จะซื้ อหาได้ สตรี ที่เคยกินยานี้มีจาํ นวนนับนิ้วได้ พวกนาง


ล้วนเป็ นยอดพธู แต่ละคนเบื้องหลังไม่ธรรมดา เสวียนเฟิ งเคยเห็นคนที่กิน “โฉมงามแสนตําลึง” มา
ก่อน ยานั้นนับเป็ นยาวิเศษที่ช่วยปรับปรุ งรู ปลักษณ์ของสตรี เพียงแต่เสวียนเฟิ งยังไม่คิดว่าจางอวี้ชิง
จะเป็ นได้ถึงขั้นนั้น ก่อนจะกินยานัน่ นางจะงดงามสักปานใด

25
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เสวียนเฟิ งหลับตาลง เขาตัดสิ นใจผิดพลาดไปเสี ยแล้ว อันที่จริ งเขาควรส่ งคนไปสังหารนางตั้งแต่ตน้
เพื่อตัดไฟเสี ยแต่ตน้ ลม ไม่ควรเลย ไม่ควรคิดจะไปดูผลงานท่านหมอเหอ…

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาดําสนิทของชินอ๋ องก็คมกล้า มุมปากเหยียดขึ้นอย่างเยาะหยัน แผนการ


ครานี้ของตระกูลจางร้ายกาจนัก เขาประเมินคนพวกนี้ ต่าํ ไป นึกถึงเบี้ยตัวใหม่ของศัตรู แล้วก็สั่น
สะเทือนในอกนัก บุรุษเต็มตัวเช่นเขาเห็นแล้วยังใจเต้น จะนับประสาอะไรกับฮ่องเต้ที่ยงั เป็ นเพียง
หนุ่มน้อยเลือดร้อนเล่า อานุภาพทําร้ายล้างของนางช่างรุ นแรงนัก หากตระกูลจางส่ งนางเข้าวังไป
สําเร็ จ มีหรื อที่ฮ่องเต้หนุ่มจะไม่หวัน่ ไหว

เสวียนเฟิ งยกมือขึ้นทาบกับสัญญาหมั้นหมายที่เก็บไว้ในอกเสื้ อ เขาไม่สนใจตําแหน่งหวางเฟยที่จะมอบ


ให้นางสักนิด ขอเพียงช่วยยับยั้งแผนการที่คนพวกนี้มีต่อฮ่องเต้ได้กพ็ อแล้ว เขาชิงลงมืออย่างบุ่มบ่าม
เช่นนี้ ย่อมรู ้ดีถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ต่อหน้าจางอี้หมิงจะโอนอ่อนผ่อนตาม แต่เขามัน่ ใจว่าอีก
ฝ่ ายย่อมจะหาทางแก้ลาํ ได้แน่ และแย่ไปกว่านั้น อาจถึงคราวที่เขาต้องตกที่นงั่ ลําบากก็เป็ นได้

26
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 5 : บทเพลงกระเรียนสู่ ฟ้า

ตั้งแต่ได้สบตากับชินอ๋ องครานั้น ข้าฝันเห็นตัวเองในสถานที่ประหลาด รายรอบด้วยผูค้ นแปลกหน้า ได้


ยินเสี ยงทุม้ อ่อนโยนเรี ยกหา ซี ยนิ ซี ยนิ อยูไ่ ม่ขาด เมื่อตื่นขึ้นมาก็นึกไม่ออกว่าซี ยนิ ผูน้ ้ ีเป็ นใคร

...ซี ยนิ พักตร์กวนอิม…

อยูๆ่ ฉายานี้กผ็ ดุ ขึ้นมาในหัว ฟังดูคุน้ เคยอย่างน่าประหลาด ความทรงจําที่ไม่ปะติดปะต่อ ไม่รู้วา่ จาก


ชาติไหนผุดขึ้นมาอย่างรางเลือน อาจจะเป็ นนิทานที่ขา้ เคยได้อ่านในวัยเด็ก ซี ยนิ มีรูปโฉมงดงามนัก
เป็ นที่หมายหมองของบุรุษผูก้ ล้าทัว่ ทั้งใต้หล้า แต่ชะตาชีวิตของโฉมงามซี ยนิ ช่างอาภัพเหลือเกิน
ความงามของนางเรี ยกได้วา่ ต้องสาป

...เป็ นที่ปรารถนา แต่ไม่อาจเป็ นที่รัก…

เพียงนึ กถึงชื่อซี ยนิ จิตใจข้าก็ห่อเหี่ ยว แต่กลับจําไม่ได้วา่ เรื่ องราวเป็ นอย่างไร หรื อว่าจิตใต้สาํ นึก
ของข้ากําลังส่ งเสี ยงเตือน บางทีชะตาชีวิตข้าอาจไม่ต่างจากซี ยนิ ก็ได้ ยิง่ ตั้งแต่ได้รับยาบ้าๆ นัน่ ข้า
ก็รู้ตวั ดีวา่ ตนเองจะต้องเป็ นที่ชงั นํ้าหน้าของเหล่าสตรี เป็ นที่ปรารถนาหมายจะครอบครองของบุรุษ
ข้าอดรู ้สึกหวาดหวัน่ ขึ้นมาไม่ได้ เวลาที่งิ้วอย่างข้าจะต้องออกโรงอยูอ่ ีกไม่ไกลแล้ว

พิธีปักปิ่ นของข้าซึ่ งเป็ นเพียงบุตรบุญธรรมของใต้เท้าจางจริ งๆ แล้วไม่ได้มีความสลักสําคัญอะไร แต่


เมื่อผูค้ นได้ข่าวว่าชินอ๋ องจะเสด็จมาร่ วมงาน ต่างก็ตอบรับเทียบเชิญกันอย่างคับคัง่ ทางฝ่ ายคนจาก
ตระกูลจางเองมีเพียงฝ่ ายชายเข้าร่ วม ประมุขของตระกูลคนอื่นๆ รวมถึงเหล่าคุณชายเสเพลต่าง
เฝ้ารอยลโฉมลูกบุญธรรมอย่างข้า ส่ วนบรรดาฮูหยินต่างหาข้ออ้างพาบุตรสาวออกจากจวนไปสิ้ น บ้าง
ก็วา่ ไปเยีย่ มผูเ้ ฒ่าจากตระกูลเดิมซึ่ งอยูต่ ่างเมือง บ้างก็ไปถือศีลที่วดั แน่ล่ะ ใครจะอยากอยูร่ ่ วม
แสดงความยินดีกบั ผูห้ ญิงที่ไม่ได้เป็ นแม้แต่ญาติ แถมยังงดงามเกินหน้าเกินตาตัวเองและบุตรสาวเล่า
นอกจากจะไม่อยากเห็นข้าแล้ว พวกนางคงจะไม่อยากปั้ นหน้าฟังแขกเหรื่ อที่มาชื่นชมข้าหรอก

ข้าเตรี ยมปิ่ นลายเมฆมงคงที่ได้รับพระราชทานจากไทเฮาไว้เข้าพิธี แต่ก่อนที่พิธีจะเริ่ ม ขันทีจากวัง


หลวงก็อญั เชิญพระราชโองการมาถึงข้า ข้าคุกเข่าลง

27
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จางอวี้ชิง บุตรี ของจางอี้หมิง เสนาธิการฝ่ ายขวา รู ปโฉมงดงาม กิริมารยาทเรี ยบร้อยสมเป็ น
กุลสตรี จึงพระราชทานปิ่ นทองลายหงส์ จบพระราชโองการ”

ข้ากล่าวขอบพระทัยแล้วลุกขึ้น กงกงพยักเพยิดให้ขนั ทีนอ้ ยถือกล่องมาส่ งให้ ใต้เท้าจางมีสีหน้ายินดี


เอ่ยขึ้นว่า

“เราใช้ปิ่นพระราชทานนี้เข้าพิธีเถิด”

ข้ารู ้สึกไม่เข้าที เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง ทันใดนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงประกาศ

“ชินอ๋ องเสด็จ”

ผูค้ นในงานต่างพากันยอบกาย เงาร่ างสู งใหญ่สง่างามเดินอาดๆ เข้ามาในงาน

“ลุกขึ้นเถอะ ไม่ตอ้ งมากพิธี”

กล่าวจบชินอ๋ องก็เดินตรงมาทางข้าและใต้เท้าจาง สายตาของเขาเหลือบมองปิ่ นพระราชทานจาก


ฮ่องเต้ในมือข้าแล้วไปหยุดอยูท่ ี่ปิ่นพระราชทานจากไทเฮาที่ต้ งั อยูบ่ นโต๊ะ กระไอเย็นเยียบที่แผ่ออกมา
ทําให้ลมหายใจข้าติดขัดในทันที

“เฉิ นซี ” เขาเอ่ยเสี ยงงวด

คนสนิทของเขารี บถือกล่องมาย่อกายส่ งให้ เขาเอื้อมมือหยิบกล่องไม้ในมือข้าส่ งให้กบั ใต้เท้าจาง

“พิธีในวันนี้ ใช้ปิ่นของเปิ่ นหวางก็แล้วกัน”

กล่าวจบก็คว้ากล่องจากเฉิ นซี มายัดเยียดใส่ มือข้า เห็นข้ามึนงงอยู่ เขาก็เอ่ยขึ้น

“เปิ ดดูสิ ชอบหรื อไม่”

ข้าเปิ ดกล่องไม้ดว้ ยมืออันสั่นเทา ภายในกล่องบรรจุปิ่นทองเป็ นลวดลายหงส์เหิ นคาบมุก อ่อนช้อยสู งค่านัก

28
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ของขวัญแก่วา่ ที่หวางเฟย”

นํ้าเสี ยงที่ติดจะยโสเย็นชาอยูเ่ ป็ นนิจปรากฏร่ องรอยยัว่ เย้า ข้ารู ้สึกประหลาดใจจนต้องเงยหน้าขึ้น


มองเขาอย่างอดใจไม่ไหว ยามมีรอยยิม้ ดวงตาของเขาจะเป็ นเช่นไรกันนะ ชัว่ ขณะนั้นข้าลืมความ
หวาดกลัวไปเสี ยสนิท

ท่ามกลางความมืดมิดในแววตาดําสนิท ข้าเห็นประกายเล็กๆ แห่งความอบอุ่น เมื่อเห็นว่ายามนี้เขา


ไม่ได้ดูโหดร้ายอย่างที่คิด ข้าก็ทาํ ใจกล้ามองใบหน้าเขาอย่างสํารวจตรวจตรา

..ชินอ๋ องรู ปงามถึงเพียงนี้เลยหรื อ..

ลมหายใจของข้าสะดุด ประมวลภาพหนุ่มหล่อทั้งหมดที่ขา้ เคยเห็นทั้งในชาติที่แล้วและชาติน้ ี ยังไม่มี


ใครเทียบได้กบั เสี้ ยวหนึ่งของชินอ๋ องผูน้ ้ ีเสี ยด้วยซํ้า ข้ารู ้ตวั ว่าผิวหน้าของตัวเองแดงซ่านก็ตอนที่เห็น
รอยขบขันในดวงตาเขา จึงรี บก้มหน้าหลบสายตาวาววามนั้น

เขาเห็นข้าเขินอายก็ไม่ได้ต่อความอีก หันไปเอ่ยกับใต้เท้าจางให้เริ่ มพิธี เสร็ จจากพิธีชินอ๋ องก็ลาก


ลับ ไม่ได้ร้ ังอยูง่ านเลี้ยงต่อ เขาไม่ได้แสดงความสนใจข้ามากไปกว่าเดิม ค่อยทําให้ขา้ โล่งอกขึ้นมา
บ้าง อยูต่ ่อหน้าเขา ข้ามีแต่จะทําเรื่ องขายขี้หน้า

…………………………

ตีเหล็กต้องตีเมื่อร้อน สองอาทิตย์ถดั มา ใต้เท้าจางก็พาข้าไปร่ วมงานเลี้ยงชมบุปผาในวังหลวง จุด


ประสงค์ของงานนี้กเ็ พื่อให้หนุ่มสาวจากตระกูลสู งได้พบปะกัน ถึงแม้ขา้ จะหมั้นหมายกับชินอ๋ องแล้ว แต่
ใต้เท้าจางก็ยงั คงมุ่งมัน่ ที่จะพาข้ามาร่ วมงานนี้ เพราะจุดประสงค์ของเขาอยูท่ ี่องค์ฮ่องเต้

ข้าไม่ใช่ตวั เลือกที่น่าสนใจของบรรดาแม่สื่อเพราะถูกจับจองไปแล้ว ชื่อของข้าจึงไม่เป็ นที่รู้จกั มากนัก


ยามเข้าไปในงานต้องนัง่ แยกชายหญิง ข้าไม่รู้จกั ใครเลย ได้แต่นงั่ เงียบๆ ฟังคนอื่นสนทนา รับรู ้ได้
ถึงสายตาแสดงความสนใจจากฝั่งตรงข้ามและสายตาริ ษยาที่จอ้ งมองมาราวกับจะเผาข้าให้เป็ นจุณ
เสี ยงกระซิ บกระซาบถามว่าข้าเป็ นใครดังไปทั้งสองฝั่ง ถึงข้าจะไม่สนใจแต่มานัง่ เป็ นเป้าสายตา
อย่างนี้ กร็ ู ้สึกไม่ดีเหมือนกัน

29
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ใต้เท้าจางเป็ นขุนนางใหญ่ ที่นงั่ ของข้าจึงค่อนมาทางด้านหน้า แต่ดว้ ยฐานะบุตรบุญธรรมจึงอยูถ่ ดั จาก


บรรดาคุณหนูสายตรงตระกูลใหญ่ ข้านัง่ อึดอัดอยูไ่ ม่นาน ฮ่องเต้ ฮองเฮา และไทเฮาก็เสด็จ หลัง
จากถวายบังคมและลุกขึ้นแล้ว ฮ่องเต้กเ็ บือนสายตามาทางข้า แม้จะเพียงแวบเดียวแต่กเ็ พียงพอที่จะ
ทําให้ฮองเฮาซึ่ งประทับอยูเ่ คียงข้างจับสังเกตได้ ข้ารู ้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีข้ ึนมาทันที

การแสดงต่างๆ เริ่ มขึ้นพร้อมกับอาหารที่ทยอยเข้ามาวาง ข้าก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจใคร ครั้นต่าง


อิ่มหนําสําราญ ฮ่องเต้กย็ กถ้วยชาขึ้นจิบ กวาดสายตาไปโดยรอบก่อนเอ่ย

“ปี นี้ได้ยนิ ว่าฮองเฮากําหนดให้บุตรี จากตระกูลต่างๆ ตระเตรี ยมการแสดงไว้คนละชุดมิใช่หรื อ”

“เพคะ พวกนางล้วนเปี่ ยมด้วยความสามารถน่าชมเชยนัก หม่อมข้าเห็นเป็ นโอกาสดีให้พวกนางแสดง


ต่อหน้าพระพักตร์ จะได้เป็ นกําลังใจให้พวกนางฝึ กปรื อเพคะ”

ข้าขมวดคิ้ว ใต้เท้าจางไม่ได้บอกข้ามาก่อนให้เตรี ยมการแสดง บางทีเขาคงจะไม่ได้ข่าว ฮองเฮา


คงไม่รู้วา่ ข้าจะมาร่ วมงานเพราะข้าเป็ นคุณหนูที่เพิ่งขึ้นทําเนียบ อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่าไทเฮากับ
ฮองเฮาก็ไม่ค่อยดีนกั ไม่แปลกที่ไทเฮาจะไม่รู้

“อ้อ ข้าได้ยนิ ว่าใต้เท้าจางเพิ่งรับบุตรสาวบุญธรรมหน้าตางดงามนัก เราไม่สู้ให้นางแสดงเป็ นคน


แรกเล่าเพคะ ถือโอกาสนี้เปิ ดตัวนางให้คนทั้งหลายได้รู้จกั ฝ่ าบาทเห็นเป็ นอย่างไรเพคะ”

นัน่ ไงเล่า ผลลัพธ์ของการชายตาแวบหนึ่งของฮ่องเต้ ทําให้ขา้ ตกที่นงั่ ลําบาก ฮองเฮากินนํ้าส้ม


เปรี้ ยวเสี ยแล้ว

ฮ่องเต้ดูเหมือนจะรู ้เท่าทันเจตนาของฮองเฮา แต่ไม่สะดวกออกปากปกป้องข้า ไม่อย่างนั้นข้าคงจะ


โดนฮองเฮาเพ่งเล็งยิง่ กว่านี้เป็ นแน่ เขาจึงปล่อยเลยตามเลย

“เอาสิ ”

ข้าลุกขึ้นย่อกาย คิดจะบรรเลงพิณสักเพลง

30
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“แม่นางอวี้ บุตรี ใต้เท้าอวี้เจียงเก่งกาจพิณนัก มิสู้ให้นางบรรเลงพิณแล้วให้แม่นางจางร่ ายรําดีหรื อ
ไม่ เจ้าว่าอย่างไร” ฮองเฮาหันมาเอ่ยกับข้า ไม่วา่ ใครๆ ก็ดูเจตนาของพระนางออกว่าจงใจ
เหยียดหยามข้า การร่ ายรํามิใช่ศิลปะชั้นสู งอันคุณหนูตระกูลสู งทั้งหลายพึงแสดงต่อหน้าผูค้ น แต่ดว้ ย
ฐานะของพระนาง หากประสงค์จะกลัน่ แกล้งสตรี ต่าํ ศักดิ์ผหู ้ นึ่ ง ใครจะกล้าขัดขวางเล่า แม้แต่ใต้เท้า
จางยังมองเมิน ปล่อยให้ขา้ เผชิญสถานการณ์ดว้ ยตนเอง

ข้าจะว่าอย่างไรได้เล่า ได้แต่รับพระบัญชา เดินออกไปสมทบกับคุณหนูอวี้ผนู ้ ้ นั ศิลปะการร่ ายรํานั้นก็


ได้ร่ าํ เรี ยนมาอยูห่ รอก แต่อยูด่ ีๆ ให้มาร่ ายรําต่อหน้าธารกํานัลโดยไม่ได้ซกั ซ้อม ฮองเฮาไม่คิดว่ามัน
เกินไปหน่อยหรื อ ข้าปรึ กษาคุณหนูอวี้อยูค่ รู่ หนึ่ งถึงบทเพลงที่จะใช้ในการแสดง คุณหนูอวี้นงั่ เตรี ยม
พร้อมบรรเลงพิณ ข้าเดินไปหยุดเบื้องพระพักตร์อย่างสงบใจ ทันทีที่เสี ยงพิณบรรเลงก็เริ่ มขยับกาย
ร่ ายรําตามจังหวะ

โชคดีนกั ที่คุณหนูอวี้ยงั มีมนุษยธรรมอยูบ่ า้ ง นางเล่นเพลงธรรมดาที่ไม่ยากเกินไป ไม่เร็ วเกินไป เป็ น


บทเพลงของวสันตฤดูที่แผ่วพริ้ วงดงาม บรรเลงไปได้ครึ่ งเพลงก็ได้ยนิ เสี ยงขานว่าชินอ๋ องเสด็จ ข้า
ร่ ายรําต่อไปไม่ได้หยุดจนเห็นเงาร่ างของเขาประทับลงบนที่นงั่ หัวแถว สายตาของเขาที่จอ้ งมองมาดุ
ดันจนข้าขวัญผวา ได้แต่กลํ้ากลืนร่ ายรําต่อไปจนจบเพลง จิตใจไม่ได้อยูก่ บั เนื้อกับตัวจนไม่ได้สังเกต
บรรยากาศรอบข้าง ครั้นเสี ยงเพลงหยุดลงก็ได้ยนิ แต่เสี ยงลมหายใจ

ฮ่องเต้ทอดสายตามองมาอย่างเหม่อลอยราวกับยังไม่ตื่นจากห้วงฝัน ฝั่งบุรุษก็ได้ยนิ แต่เสี ยงทอดถอน


ใจ นํ้าเสี ยงของไทเฮาดังขึ้นอย่างยินดี

“แม่นางอวี้ แม่นางจาง การแสดงของพวกเจ้าช่างน่าประทับใจนัก”

ฮ่องเต้จึงได้สติ ตรัสชมเชยแล้วพระราชทานสิ่ งของให้คุณหนูอวี้และข้าเป็ นจํานวนเท่ากัน ฮองเฮาสี


หน้าบึ้งตึง ได้แต่ตรัสชมพวกข้าไปแกนๆ ข้ากลับมานัง่ ประจําที่แต่ยงั คงรู ้สึกได้ถึงสายตาร้อนผ่าวที่ตาม
แผดเผาข้ามาตลอดตั้งแต่เมื่อครู่

...จะเป็ นใครไปได้เล่า ถ้าไม่ใช่ชินอ๋ อง…

เขาไม่ได้ร้ ังอยูจ่ นงานเลี้ยงเลิก ทว่าตอนเขากลับ เฉิ นซี คนสนิทของเขากลับมาปรากฏกายเบื้องหลัง


ข้าแล้วกระซิ บกระซาบเบาๆ

31
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“คุณหนูขอรับ ชินอ๋ องให้ขา้ มาเชิญท่านไปขึ้นรถม้ากลับด้วยกัน ท่านอ๋ องจะไปส่ งท่านที่จวน เมื่อครู่ ขา้


ได้เรี ยนให้ใต้เท้าจางทราบแล้ว เชิญคุณหนูจาง”

ข้าเบือนสายตาไปทางใต้เท้าจาง เขามองมาอยูก่ ่อนแล้ว พอข้าหันไปมองจึงพยักหน้าเบาๆ เป็ นเชิง


ให้ขา้ ไปได้ ข้าจึงลุกขึ้นเดินตามเฉิ นซี ไป พอไปถึงรถม้า ชินอ๋ องคงจะคอยข้าอยูน่ านแล้ว ใบหน้าจึง
บูดบึ้ง ข้าก้าวขึ้นรถม้าด้วยหัวใจเต้นรัว ไม่กล้าพูดอะไรกับเขาสักคํา

ข้านัง่ ฝั่งตรงข้ามกับเขา พอรถม้าออก เขาก็จอ้ งมองข้าด้วยสายตากราดเกรี้ ยว แต่ไม่พดู อะไรสักคํา


ข้ารี บหลบสายตา เขาคงโกรธที่ขา้ หมั้นหมายกับเขาแล้วแต่ยงั จะมางานเลี้ยงหาคู่กระมัง เขาจะมา
โทษข้าได้อย่างไร ข้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ งที่ถูกจัดวางไว้ เป็ นคนของใครเขาก็รู้ วันนี้ที่ขา้ มางาน
ชมบุปผาก็มาตามคําสั่ง ในเมื่อเจ้านายออกคําสั่ง ข้าจะไม่ทาํ ตามได้อย่างไร

ในไม่ชา้ รถม้าก็มาถึงจวนตระกูลจาง ชินอ๋ องลงจากรถม้าพร้อมข้า ไม่ได้กลับไปวังเสิ่ นหยางกงหลัง


จากมาส่ งข้าเรี ยบร้อยแล้ว เขากลับเดินนําข้าไปห้องรับรองแขกฝั่งติดสวนที่เขาได้พบข้าครั้งแรก ทํา
ตัวราวกับเป็ นเจ้าของบ้านก็ไม่ปาน เมื่อสาวใช้ยกนํ้าชาเข้ามาให้ เขาก็บอกให้พวกนางนําพิณออกมาตั้ง

ชินอ๋ องดีดพิณด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน ข้านัง่ ฟังตัวเกร็ ง รับรู ้ได้วา่ อารมณ์ของเขาไม่ปกตินกั เสี ยงพิณ


ของเขาถาโถมราวกับคลื่นสาด บ่งบอกถึงโทสะที่ปะทุอยูภ่ ายใน จบไปเพลงหนึ่งเขาก็เงยหน้าขึ้น

“ร่ ายรําให้ขา้ ดู”

“เพคะ?” ข้าเบิกตามองเขาอย่างประหลาดใจ ไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรื อไม่ เขาจ้องมองข้า


อยูเ่ งียบๆ ไม่ได้เอ่ยปากอีก ราวกับว่าคําพูดของเขาเมื่อครู่ ชดั เจนดีอยูแ่ ล้ว ข้าไม่อาจบ่ายเบี่ยงจึง
จําต้องลุกขึ้นมาจัดแขนเสื้ อ ชุดนี้สาํ หรับเข้าวังจึงรุ่ ยร่ ายเป็ นพิเศษ เนื้อผ้าบางเบาพลิ้วไหวทั้งยังยาว
ลากพื้น จะว่าไปไม่เหมาะกับการร่ ายรํามากนัก ข้าลอบถอนใจอย่างเหน็ดเหนื่อย วันนี้มนั วันอะไรกัน
ทําไมมีแต่คนอยากดูขา้ ร่ ายรํา

เมื่อข้าออกไปยืนดีแล้ว เขาก็ลงมือบรรเลงบทเพลงกระเรี ยนสู่ ฟ้า เสี ยงพิณของเขาหนักแน่นทว่าคลุม้


คลัง่ บรรเลงไปได้ครู่ หนึ่งก็ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่ อยๆ ทั้งคัง่ แค้นและเจ็บปวดราวกับนกกระเรี ยนที่
ต้องลูกศรนายพราน ข้าเคลื่อนไหวร่ างกายตามจังหวะที่เร่ งร้อนขึ้นเรื่ อยๆ นั้นจนหอบหายใจแข้งขา

32
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
สั่น ขณะที่กาํ ลังคิดว่าจะร่ ายรําต่อไปไม่ไหว เสี ยงพิณก็นุ่มนวลขึ้น โปร่ งเบาราวกับกระเรี ยนที่พร้อม
จะโผบินสู่ อากาศ ข้าผ่อนลมหายใจแหงนหน้า วาดแขนขึ้นสู งตามจังหวะดนตรี ที่อ่อนช้อยนั้น เมื่อเสี ยง
พิณอันเศร้าสร้อยแผ่วเบาสิ้ นสุ ดลง ข้าก็ทิ้งตัวลงกับพื้นอันเป็ นบทสรุ ปของบทเพลงนกกระเรี ยนนี้

...ถูกแล้ว มันตาย บทเพลงนี้บรรยายถึงความเจ็บปวดของนกกระเรี ยนตัวหนึ่งที่ถูกล่าโดยนายพราน


มันกระเสื อกกระสนต้องการจะมีชีวิตรอด ดิ้นรนแม้จะรู ้วา่ ไม่มีหวัง ท้ายที่สุดแล้วแม้วา่ มันจะตาย แต่ก็
ตายในขณะที่โผบินสู่ ฟ้า สิ่ งสุ ดท้ายที่มนั เห็นคือท้องฟ้ากว้างและอิสรภาพที่รอคอยมันอยู… ่

ชินอ๋ องบรรเลงบทเพลงนี้ .. หรื อว่าเขากําลังคิดจะวางมือจากข้า หรื อว่าเขาเวทนาข้า ข้าเริ่ ม


สับสนในใจ

เขาลุกขึ้น สาวเท้ามาหยุดอยูเ่ บื้องหน้าข้าที่ยงั คงฟุบหมอบอยู่ จับร่ างที่อ่อนปวกเปี ยกราวกับตุ๊กตาผ้า


ของข้าให้ลุกขึ้นยืน การร่ ายรําชุดนี้ตอ้ งใช้พลังงานอย่างมาก ข้าอ่อนเพลียทั้งร่ างกายและจิตใจ ดวง
ตายังคงเอ่อไปด้วยนํ้าตาจากความสะเทือนอารมณ์ ใช่..ข้าเข้าใจความรู ้สึกของนกกระเรี ยนตัวนี้
รวมถึงผูท้ ี่บรรเลงบทเพลงนี้ออกมาด้วย บางครั้งฝื นดึงดันไปก็เจ็บปวดยิง่ กว่า ข้าคิดว่าในที่สุดแล้ว
เขาคงตัดสิ นใจจะปล่อยมือ ในเมื่อรู ้เจตนาของเขาแล้ว ข้าก็เงยหน้าสบตาเขาตรงๆ เป็ นครั้งแรก

...และนัน่ เป็ นการตัดสิ นใจที่ผดิ มหันต์...

33
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 6 : แผนสาวงาม

ริ มฝี ปากร้อนผ่าวประทับลงมาอย่างหนักหน่วง ทันที่เราสองสัมผัสกัน ต่างก็รับรู ้ได้วา่ มันสายเกินกว่า


จะหันหลังกลับแล้ว หากตอนแรกชินอ๋ องตั้งใจที่จะปล่อยมือ ข้าไม่ควรมองตาเขา เขาไม่ควรจูบข้า
จุมพิตนี้กลับเป็ นดัง่ โซ่ตรวนที่ร้อยรัดตรึ งพวกเราไว้ดว้ ยกัน ลมหายใจร้อนผ่าวของชินอ๋ องริ นรดที่ขา้ ง
แก้ม จุมพิตของเขาเร่ าร้อนรุ นแรง ข้าเป็ นดัง่ นกน้อยที่ติดบ่วงแร้วของพรานป่ า ยากที่จะดิ้นรนให้หลุด
พ้นพันธนาการ วงแขนของเขารัดแน่นจนข้าแทบจะหายใจไม่ออก ชินอ๋ องพึมพําเบาๆ ที่ขา้ งหู

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเป็ นของข้า เจ้าจะร่ ายรําให้ผอู ้ ื่นนอกจากข้าดูไม่ได้”

เขาแทนตัวเองว่าข้า ประดุจจะบอกว่าถ้อยคําที่เอ่ยล้วนมาจากใจชายคนหนึ่ง มิใช่เปิ่ นหวางผูด้ าํ รงตําแหน่งชิน


อ๋ อง ในใจข้าอดหวัน่ ไหวขึ้นมาไม่ได้ นี่เขาโกรธที่ขา้ ร่ ายรําต่อหน้าคนมากมายในงานชมบุปฝาเองหรอกหรื อ
ข้าเอนซบกายแกร่ งโดยไม่เอ่ยคําใด อยากจะตอบรับคําหวานนั้น แต่คาํ พูดข้าไม่มีความหมาย ไม่อาจให้คาํ
สัญญาใด ข้าไม่ใช่เจ้าชีวิตของตน วันหน้าล้วนแล้วแต่ตอ้ งทําตามคําสั่งผูอ้ ื่น ต่อให้ใจปรารถนาก็ยากจะ
บรรลุผล

“อวี้เอ๋ อร์ ” เห็นข้าเงียบไปเขาก็ดนั ร่ างข้าออกเพื่อจับจ้องสี หน้า ข้าเพียงเบือนหน้าหลบสายตา ปฏิกิริยาเพียง


เท่านี้กเ็ พียงพอที่จะทําให้เขากลับมาเย็นชาตามเดิม ความอ่อนหวาน ความเร่ าร้อนเหื อดหายไป เขากลับไปเป็ น
คนที่ทาํ ให้ขา้ หวาดกลัว กลายเป็ นบุรุษไร้ใจที่แววตาปราศจากความรู ้สึก ร่ างกายอันนุ่มนิ่มจึงสั่นเทาอย่างไม่
อาจระงับราวกับกระต่ายน้อยที่ปรากฏตัวอยูห่ น้าราชสี ห์ ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางข้าขึ้น

“เจ้ากลัวเปิ่ นหวางอย่างนั้นรึ ” เขาถามเสี ยงราบเรี ยบ ดูกลับมาเป็ นคนเดิมที่ยะโสโอหัง

ข้าส่ ายหน้า พยายามบังคับร่ างกายนี้ไม่ให้สั่น แต่กลับทําไม่ได้

“ทุกครั้งที่เข้าใกล้เปิ่ นหวาง เจ้ามักจะตัวสั่นเช่นนี้ เสมอ” ดวงตาเฉลียวฉลาดของเขามองข้าอย่างขู่เข็ญ “หรื อว่า


เจ้าเคยพบเปิ่ นหวางมาก่อน”

ข้าส่ ายหน้าดิกจนต่างหูระย้าไหวตีสองข้างแก้ม สี หน้าของเขาอ่านไม่ออกอีกแล้ว...

34
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามนี้เป็ นต้นยามเซิ น (15.00 น.) กว่าใต้เท้าจางจะกลับมาก็คงปลายยามอิ่ว (19.00 น.) ข้ารู ้สึกอึดอัดอยากหนี
จากเขา อยากให้ใต้เท้าจางกลับมาเร็ วๆ เขาเป็ นตัวแปรที่อยูน่ อกเหนือความคาดเดาของข้ามาโดยตลอด ทําให้
ชีวิตที่ยากลําบากของข้ายิง่ ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ขอให้ขา้ ได้จดั การกับปัญหาตรงหน้าทีละอย่างได้หรื อไม่ ข้า
ไม่สามารถรับมือกับใต้เท้าจางที่หมายจะส่ งข้าไปยัว่ ยวนฮ่องเต้ พร้อมๆ กับรับมือชินอ๋ องเจ้าอารมณ์คนนี้ได้
หรอก

จู่ๆ เขาก็กระตุกสายรัดเอวของข้า สาบเสื้ อเปิ ดออกเผยให้เห็นเอี๊ยมตัวใน ร่ องอกปรากฏให้เห็นรําไร ข้าร้อง


ออกมาเพียงคําหนึ่งก็ถูกรั้งเอวเข้าไปกระแทกกับแผงอกจนเสี ยงหายเข้าไปในลําคอ สายตาของข้าเหลือบไป
ทางประตูหอ้ ง หวังว่าจะมีใครเข้ามาช่วยเหลือ

...ข้าลืมไปว่าคนตรงหน้าเป็ นใคร ถ้าไม่มีคาํ สัง่ คงไม่มีใครกล้าเสนอหน้าเข้ามา ต่อให้ขา้ ถูกฆ่าหัน่ ศพอยูใ่ น


ห้องนี้ บ่าวไพร่ ในบ้านก็คงไม่มีใครกล้ามาช่วย ส่ งเสี ยงร้องไปก็อายเปล่าเสี ยเท่านั้ นั …

ชินอ๋ องดูดเม้มขบกัดลําคอข้าอย่างแรงจนรู ้สึกเจ็บ รอยหนวดที่โกนเกลี้ยงเกลาให้ความรู ้สึกสากระคายยามลาก


ไถผ่านผิวเนื้อไวต่อสัมผัสของข้า มือของเขาตะปบลงบนหน้าอกทําเอาข้าสะดุง้ สุ ดตัวกรี ดร้องออกมาเบาๆ ที
หนึ่ง เขาคิดจะทําบัดซบอะไรกับข้า ข้าเพิ่งจะอายุยา่ งสิ บห้า ร่ างกายนี้ยงั ไม่เติบโตเต็มที่เสี ยด้วยซํ้า

ยามที่เขาปล่อยข้า เนื้อตัวข้าก็เต็มไปด้วยรอยจูบ ข้าไม่กล้าแม้แต่จะออกจากห้อง สภาพเช่นนี้จะให้ผอู ้ ื่นเข้าใจ


ว่าอย่างไร ทว่าเขากลับดูอารมณ์ดีนกั ดวงตาคมคู่น้ นั ประสานกับสายตาตัดพ้อของข้าอย่างไม่รู้สึกผิดสักนิด ข้า
พยายามจัดผมเผ้าและเสื้ อผ้าด้วยตนเองให้อยูใ่ นสภาพเรี ยบร้อยที่สุดโดยที่เขานัง่ มองอยูเ่ ฉยๆ พร้อมกับรอยยิม้
มุมปาก ข้าอยากจะกลับห้องตัวเอง ไปซุกซ่อนตัวให้พน้ ความอับอาย พอข้าคิดจะทําใจกล้าก้าวขาออกจากห้อง
โดยไม่สนสายตาบ่าวไพร่ เขาก็คว้าแขนข้าไว้

“จะรี บไปไหนกันเล่า ทิ้งแขกเหรื่ อไว้อย่างนี้ได้หรื อ จวนท่านเสนาบดีอบรมบุตรี มาอย่างไรถึงได้ไร้มารยาท


เช่นนี้ ”

ข้าพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมแต่ไม่สาํ เร็ จ ยื้อยุดอยูค่ รู่ หนึ่งเขาก็ชอ้ นตัวข้าขึ้นนัง่ บนตักแล้วกอดรัด


เอาไว้

...ไอ้คนบ้า..

35
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ากรี ดร้องในใจ เขาซุกซบใบหน้ากับเรื อนผมข้าแล้วพึมพําเบาๆ

“หอมจัง”

…ไอ้คนหน้าด้าน…

“หยุดด่าเปิ่ นหวางในใจได้แล้ว” ข้าฟังแล้วสะดุง้ เขารู ้ได้อย่างไรกัน

“ถึงเจ้าไม่ยอมเปิ ดปากพูดกับเปิ่ นหวาง แต่ดวงตาของเจ้าล้วนเปิ ดเผยสิ่ งที่อยูใ่ นใจให้เปิ่ นหวางรับรู ้ท้ งั หมด เด็ก
น้อย หากเจ้าเลือกเดินทางสายนี้ จงกลับไปฝึ กมาใหม่”

ข้าขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก จึงซุกตัวอยูเ่ ฉยๆ ในท่าที่เขาที่เขาจัดให้ เพียงไม่นานก็หลับไป มารู ้สึกตัว


ตอนได้ยนิ เสี ยงคนพูดคุย

“ถวายพระพรชินอ๋ องพะย่ะค่ะ กระหม่อมบกพร่ องต่อหน้าที่ มิได้ตอ้ นรับท่านอ๋ องให้ดี ขอท่านอ๋ องทรงลง


อาญา”

นํ้าเสี ยงร้อนรนแตกตื่นของใต้เท้าจางแว่วเข้ามาในหู ข้าลืมตาตื่นอย่างสะลึมสะลือ เห็นเพียงอกเสื้ อหรู หราสี


ทอง

“ไม่ตอ้ งเกรงใจไปหรอกใต้เท้าจาง เป็ นเปิ่ นหวางต่างหากที่เป็ นฝ่ ายมารบกวน”

ข้ากระพริ บตาเมื่อรู ้สึกตัวตื่นเต็มที่ ใบหน้าแดงซ่านเมื่อรู ้วา่ ใต้เท้าจางกลับมาแล้วและเห็นข้ากับชินอ๋ องอยูใ่ น


สภาพนี้ ยามนี้ไม่กล้าเผชิญหน้าผูใ้ ดได้แต่แกล้งหลับต่อ พอปิ ดเปลือกตาลงก็สัมผัสได้วา่ อกกว้างนั้นสั่นไหว
นิดๆ ราวกับกลั้นหัวเราะ

“ท่านอ๋ อง ไม่ทราบว่าตอนที่กระหม่อมไม่อยู่ เกิด..เกิดอะไรขึ้นหรื อพะย่ะค่ะ” ใต้เท้าจางถามชินอ๋ องนํ้าเสี ยง


อึกอัก สภาพของข้าตอนนี้จะให้คนที่เห็นคิดเป็ นอย่างอื่นไปได้อย่างไร

“ใต้เท้าจางสบายใจเถิด ข้าหมั้นหมายกับนางแล้ว อย่างไรก็ตอ้ งรับผิดชอบแน่นอน” คําตอบของเขาไม่ได้ทาํ ให้


ใต้เท้าจางสบายใจขึ้นได้เลย ข้านึกภาพออกได้ทนั ทีวา่ ใต้เท้าจางคงจะกําลังโกรธจนหนวดกระตุก ทั้งๆ ที่โดน

36
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องทําลายแผนการไปแล้วครั้งหนึ่งด้วยการบังคับให้ทาํ สัญญาหมั้นหมาย เขาสู ้อุตส่ าห์วางแผนให้ฮ่องเต้
ได้พบข้าก่อนพิธีปักปิ่ นจนพระองค์ส่งปิ่ นทองมาเป็ นของแทนใจ อีกทั้งยังอุตส่ าห์ให้ขา้ เข้าร่ วมงานชมบุปผา
ใต้เท้าจางรู ้ดีวา่ หากฮ่องเต้ประสงค์สิ่งใด แม้นมีเจ้าของแล้ว จะเป็ นไปไม่ได้เชียวหรื อ ที่เหลือล้วนขึ้นอยูก่ บั ว่า
ชินอ๋ องว่าจะต้านทานพระราชประสงค์ได้หรื อไม่

ข้าได้ยนิ จากใต้เท้าจางว่าเขาเป็ นพระอนุชาของอดีตฮ่องเต้ ด้วยตําแหน่งชินอ๋ องแม้มีโอกาสขึ้นครองราชย์แต่


กลับยกบัลลังค์ให้กบั หลานชาย ด้วยความซาบซึ้ งของฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั เขาจึงได้รับการอวยพระยศเป็ นชิน
อ๋ องหมวกเหล็ก ทายาทย่อมมีสิทธิ์ ในตําแหน่งชินอ๋ องได้ทนั ทีโดยไม่ตอ้ งลดตําแหน่งเช่นปกติ ชินอ๋ องไม่
ชมชอบเมืองหลวงนัก จึงรั้งตําแหน่งแม่ทพั คุมทหารอยูเ่ มืองหน้าด่านแถวชายแดน แต่ยามนี้ กลับมาเมืองซัง่ จิ่ง
ชัว่ คราวด้วยภารกิจไม่เปิ ดเผย

“ฮ่องเต้ไม่ระแวงเขาเรื่ องบัลลังค์ แต่กลับต้องมาผิดใจกันเพราะสตรี แผนสาวงามนี้ใช้ได้ผลดียงิ่ ” ใต้เท้าจางพูด


กับข้าตอนนัง่ รถม้าไปงานชมบุปผา เขาดูยนิ ดียงิ่ นักหากอาหลานทั้งสองจะแตกคอกัน

แต่ที่ขา้ ไม่รู้กค็ ือ ใต้เท้าจางได้กราบทูลฮ่องเต้หรื อไม่วา่ ชินอ๋ องผูน้ ้ ี ได้ทาํ สัญญาหมั้นหมายผูกมัดตัวข้าไว้แล้ว


หากฮ่องเต้ทรงรู ้อยูแ่ ล้ว นี่ยอ่ มไม่ใช่สัญญาณที่ดี..สําหรับชินอ๋ อง

ทันใดนั้นข้าก็พลันรู ้แจ้ง… รอยจูบ ผมเผ้าและเสื้ อผ้ายุง่ เหยิง ตัวข้าที่หลับเป็ นตายในอ้อมกอดของชินอ๋ อง เขา


ตั้งใจจะให้ใต้เท้าจางเข้าใจว่า…

สตรี ที่ผา่ นการร่ วมหอแล้วจะถวายตัวให้ฮ่องเต้ได้อย่างไร

ทันใดนั้นข้าก็รู้สึกว่าบุรุษทั้งสองช่างขับเคี่ยวกันได้สมนํ้าสมเนื้อดียงิ่ นัก

37
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 7 : แล้ วหญ้ าแพรกก็แหลกลาญ

ข้านอนครุ่ นคิดทบทวนอยูค่ นเดียว การกระทําของชินอ๋ องวันนี้ หมายความว่าอย่างไร เขารักข้าหรื อ…

ข้าส่ ายหน้า เป็ นไปไม่ได้ คนอย่างเขารักใครเป็ นที่ไหนกัน เขาคือชินอ๋ อง จะคิดจะทําอะไรย่อมต้อง


นึกถึงประเทศชาติก่อนอยูแ่ ล้ว จะถือเรื่ องความรักเป็ นสําคัญได้อย่างไร

สิ่ งที่เขาทํากับข้าก็แค่กนั ท่าใต้เท้าจางเท่านั้น ทีน้ ีใต้เท้าจางก็ไม่สามารถเอาข้าไปเป็ นเหยือ่ ล่อ


ฮ่องเต้ได้สาํ เร็ จ เขาลงทุนไปไม่นอ้ ย เสี ยทรัพย์ไปกับยาหมอเหอมากมาย ยาที่มีมูลค่าควรเมือง
ขนาดนั้นคงกระทบกระเทือนต่อสถานะทางการเงินของตระกูลไปไม่นอ้ ยเลยทีเดียว หากแผนการนี้ลม้
เหลว ใต้เท้าจางจะคิดอ่านลงมือทําอะไรอีกย่อมไม่ปลอดโปร่ งราบรื่ นเช่นเดิม แผนการทุกอย่างล้วน
ต้องใช้เงิน

ข้าอดเศร้าใจไม่ได้ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองไปเลย ข้าก็แค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น…

วันรุ่ งขึ้น ร่ องรอยตามร่ างกายที่ชินอ๋ องประทับไว้เมื่อวานดูเป็ นสี เข้มเด่นชัดบนผิวขาวผ่องของข้า


ยามอาบนํ้าข้ารู ้สึกอับอายเจินเจินนัก แต่นางก็ไม่ได้ปริ ปากหรื อแม้แต่มีสีหน้าประหลาดใจ คงได้ข่าว
ซุบซิ บนินทาจากบ่าวไพร่ คนอื่นๆ เรื่ องที่ชินอ๋ องอุม้ ข้าที่มีสภาพยุง่ เหยิงออกมาจากห้องรับรองแขก
แล้วกระมัง ข่าวฉาวเช่นนี้ ไปไวเสี ยยิง่ กว่าไฟลามทุ่งเสี ยอีก

ด้วยความที่ร่องรอยที่ชินอ๋ องทําไว้ช่างเด่นชัดเหลือเกิน วันนี้ขา้ จึงต้องใส่ เสื้ อคอปกตั้งเพื่อปกปิ ด


อยากจะเอาผ้าพันคอมาทบอีกชั้นแต่กจ็ นใจ มันคงดูประหลาดเกินไปเพราะนี่เป็ นหน้าร้อน รอยแดง
โผล่พน้ ปกเสื้ อขึ้นมาไม่มาก ..ช่างเถอะ อย่างไรเสี ยวันนี้ขา้ ก็อยูบ่ า้ น คงไม่เป็ นอะไรกระมัง

ยามสายใต้เท้าจางให้คนมาตามข้าที่หอ้ งบอกว่ามีแขกมาพบ ข้านิ่วหน้า ตั้งแต่ขา้ มาอยูใ่ นภพนี้ กเ็ ป็ น


ประดุจนกน้อยในกรงทอง นอกจากครอบครัวเดิมและจวนใต้เท้าจาง ข้าก็ไม่รู้จกั ใครที่ไหนอีก แขก
จํานวนน้อยนิดของข้าจะเป็ นใครไปไม่ได้นอกจากชินอ๋ องผูน้ ้ นั

สาวใช้นาํ ข้าไปยังห้องรับรองแขกริ มสวนเช่นเดิม ข้าก้าวเข้าไปใจเต้นตึกตัก ในใจไม่ค่อยอยากมาที่


นี่สักเท่าไหร่ เพราะมันเต็มไปด้วยความทรงจําเมื่อวานที่ขา้ อยากจะลืม ร่ างสู งสวมชุดสามัญชนสี

38
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นํ้าเงินเข้มยืนไพล่หลังชมสวนรออยูใ่ นนั้น ข้าเดินไปหยุดอยูเ่ บื้องหลังแล้วจึงยอบกาย
“อวี้เอ๋ อร์ถวายพระพรชินอ๋ องเพคะ”

ร่ างนั้นหันกลับมา นัยน์ตาสุ กใสเป็ นประกาย

“เราเอง”

“ฝ..ฝ่ าบาท เสด็จมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ”

ข้าตกใจจนเอ่ยตะกุกตะกัก ฮ่องเต้หวั เราะร่ วน นํ้าเสี ยงทุม้ น่าฟังดังก้องในห้องอันเงียบสงบ ดวงตา


พราวระยับ ยามทอดมองข้าปรากฏแววอ่อนหวานของชายหนุ่มแรกรัก ข้าใจสัน่ สะท้านขึ้นมาทันที รู ้สึก
ได้ถึงเค้ารางแห่งความยุง่ ยาก ข้ารี บยอบกายคารวะใหม่อีกครั้ง

“ถวายบังคมฝ่ าบาทเพคะ”

“มีเพียงเราสองคน เจ้าอย่ามากพิธีไปเลยอวี้เอ๋ อร์ ”

ข้านึกอยากถามเขาว่ามาที่นี่ทาํ ไม แต่นึกได้วา่ เป็ นการไม่บงั ควรจึงนิ่งเฉยเสี ย เขาเดินนําข้าไปนัง่


ยังเบาะรองพื้น ข้าจัดแจงริ นนํ้าชาที่สาวใช้วางเตรี ยมไว้ในถาดให้เขา ขณะยืน่ ถ้วยชาให้ อยูๆ่ มือ
ใหญ่กค็ ว้าข้อมือข้าไว้แน่นจนนํ้าชาแทบกระฉอก

ข้าช้อนตาขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาเข้มขึ้น ใบหน้าปรากฏสี แดงเข้ม ดูเหมือน


เขาจะกําลังพยายามข่มกลั้นอารมณ์

“ไทเฮาบอกว่าเจ้าไม่สบาย เราจึงแวะมาดู”

ข้ามองหน้าเขา ไม่รู้วา่ เขาเป็ นอะไร และนึกไม่ออกว่าข้าควรจะพูดอะไร ข้อมือข้ายังถูกเขาเกาะ


กุมไว้มนั่ ปลายนิ้วข้าที่ประคองถ้วยชาสั่นระริ ก เขาจะให้ขา้ ค้างอยูท่ ่านี้อีกนานเท่าไหร่ กนั เขาขบฟัน
จนกรามขึ้นเป็ นสัน ในที่สุดเอ่ยออกมาด้วยนํ้าเสี ยงลอดไรฟัน

“เป็ นฝี มือของผูใ้ ดกัน?”

39
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าอึกอัก ในที่สุดก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงเรื่ องอะไร รอยจูบของชินอ๋ องที่ปรากฏอยูต่ ามซอกคอและ


หลังใบหูไม่ได้รอดพ้นสายตาของฮ่องเต้ไปได้เลยแม้วา่ ข้าจะใส่ เสื้ อปกสู งแล้วก็ตาม ในใจของข้าตื่น
ตระหนก ไม่อาจเอ่ยชื่อชินอ๋ องออกไปได้ ไม่รู้วา่ เป็ นเพราะความรู ้สึกอยากปกป้องเขาหรื อเพราะ
ความเกรงกลัวคนตรงหน้า ข้าได้แต่กม้ หน้าเช่นเคย หากจะอยูร่ อดในภพนี้ การนิ่งเงียบดูจะเป็ นหน
ทางที่ปลอดภัยที่สุด

“เป็ นเขาใช่ไหม” นํ้าเสี ยงของฮ่องเต้พลุ่งพล่านไปด้วยโทสะ

เขาไหนกัน.. เขารู ้หรื อว่าเป็ นชินอ๋ อง อาแท้ๆ ของตัวเอง อยูๆ่ ท่าทีของเขาก็อ่อนลง รับถ้วยชา
ในมือข้าไปจิบ

“เจ้าคงหวาดกลัวไม่นอ้ ยใช่หรื อไม่ นับตั้งแต่ได้รู้วา่ เจ้าถูกชินอ๋ องบังคับให้ทาํ สัญญาหมั้นหมาย เรา


เอ่ยปากกับเขาหลายครั้ง นึกไม่ถึงว่าเขาจะดื้อดึงนัก นอกจากจะปฏิเสธข้าอย่างไร้เยือ่ ใย เขายัง
กระทําการตํ่าช้ากับเจ้าเช่นนี้ ” นิ่งไปครู่ หนึ่งก็เอ่ยเสี ยงขรึ มอย่างตัดสิ นใจแล้ว “เราจะรับเจ้าเข้าวัง”

ข้านิ่งตะลึงไปราวกับถูกฟ้าผ่า จะเป็ นไปได้อย่างไรกัน

“แต่วา่ ..ข้ากับชินอ๋ อง...” ข้าตั้งใจจะเตือนเขาว่าข้าหมั้นหมายกับชินอ๋ องแล้ว ข้านึกอยากให้เขา


เข้าใจผิดตามที่ชินอ๋ องต้องการว่าเราสองคนมีอะไรกันแล้ว เขาจะได้ตดั ใจจากข้า เรื่ องวุน่ วายจะ
ได้จบลงเสี ยที แต่วา่ เมื่อได้ยนิ ข้าเอ่ยถึงชินอ๋ อง เขากลับกราดเกรี้ ยวขึ้นมาอีก

“เรื่ องนั้นเราไม่ถือสาแม้แต่นอ้ ย!”

เขากระชากข้าเข้าไปในอ้อมแขน

“ไม่ตอ้ งกังวลว่าคนในวังจะคัดค้านเรื่ องที่เจ้ามิใช่สตรี พรหมจรรย์ เราจะบอกพวกนั้นเองว่าเป็ นเรา


ที่อดใจไม่ไหวข่มเหงเจ้าที่นี่ เราต้องการให้เจ้าอยูข่ า้ งกายเรา เราไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็ นของใคร
มาก่อน”

ข้าตะเกียกตะกายดิ้นรนออกจากอ้อมแขนที่รัดแน่นของฮ่องเต้ เขาซุกไซร้ร่างกายข้าราวกับคนมึนเมา

40
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ฝ่ าบาท..ได้โปรดเถิดเพคะ” นํ้าเสี ยงข้าที่เปล่งออกมาฟังดูน่าเวทนานัก แต่ในพระกรรณของ


ฮ่องเต้มนั กลับฟั งดูอ่อนหวานเย้ายวน เขาจึงกระซิ บข้างหูขา้ อย่างอ่อนโยน

“ไม่ตอ้ งกลัวไปหรอกอวี้เอ๋ อร์ เราจะอ่อนโยนกับเจ้า เราจะไม่ทาํ ให้เจ้าเจ็บปวดเหมือนกับชินอ๋ อง”

สาบเสื้ อของข้าแยกออก เผยให้เห็นหัวไหล่กลมกลึง ฮ่องเต้ฝังศีรษะลงอย่างหลงใหล ในใจข้านึ ก


สาปแช่งใต้เท้าจางไม่หยุด เป็ นเขา! เป็ นเขาที่ทาํ ให้ขา้ ต้องอยูใ่ นสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้
ข้าจะทําอย่างไรดี ข้านึกถึงใบหน้าของชินอ๋ อง จู่ๆ นํ้าตาก็ไหลออกมา

“เผิงจวิน้ !”

นํ้าเสี ยงดุดนั เกรี้ ยวกราดดังขึ้นที่หน้าประตู ข้าเบือนใบหน้ากลบนํ้าตาไปมอง ชินอ๋ องยืนอยูต่ รงนั้น สี


หน้าถมึงทึงด้วยความโกรธ

ฮ่องเต้ผละออกจากร่ างของข้า สันกรามขบแน่น แววตาเต็มไปด้วยโทสะเช่นกัน

“เสด็จอา”

นํ้าเสี ยงที่เรี ยกขานชินอ๋ องเฉยเมย สายตาชินอ๋ องที่จอ้ งมองหลานชายดุดนั นัก เขาก้าวเข้ามาดึงร่ าง


ข้าไปจากฮ่องเต้ ตระกองกอดข้าไว้ในอ้อมอกอย่างหวงแหน แล้วหันไปเอ่ยกับหลานชายเสี ยงเย็นเยียบ
“นางเป็ นว่าที่หวางเฟยของข้า”
“นางไม่ได้เต็มใจ!”
“เจ้ารู ้ได้อย่างไร!”

บุรุษทั้งสองสาดคําพูดใส่ กนั ด้วยโทสะ ฮ่องเต้จอ้ งมองข้าที่ถูกพันธนาการอยูใ่ นอ้อมอกของชินอ๋ องราว


กับอยากจะดึงไปกอดเสี ยเอง ส่ วนข้าอยากจะหลับตาลงแล้วไม่ตอ้ งรับรู ้อะไรอีก ข้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าเรื่ อง
ราวในวันนี้ตอ้ งเกิดขึ้น แต่สุดท้ายแล้วข้าจะถูกยกให้ใครก็ข้ ึนอยูก่ บั ว่าคนผูน้ ้ นั มีกาํ ลังช่วงชิงไปได้ไหม
ทุกสิ่ งล้วนอยูเ่ หนือการควบคุมของข้าโดยสิ้ นเชิง
...ข้าเป็ นเพียงตุก๊ ตาที่สวยงามตัวหนึ่ง...

41
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 8 : ว่ าด้ วยกามารมณ์

หลังจากปะทะคารมกับชินอ๋ องอย่างรุ นแรง ฮ่องเต้กส็ ะบัดแขนเสื้ อจากไปอย่างโกรธกริ้ ว เกรงว่า


รอยร้าวนี้ยากจะประสาน ชินอ๋ องอุม้ ข้ากลับมายังห้องนอนเช่นเคย ข้ารู ้สึกอ่อนเพลียเหลือเกินจึงไม่
ได้คดั ค้านอะไรเมื่อเขาอุม้ ข้าออกเดิน สุ ดแล้วแต่เขาจะพาข้าไปที่ไหน

ชินอ๋ องนัง่ ลงที่ขอบเตียงโดยที่ยงั อุม้ ข้าอยูบ่ นตัก ข้าซุกใบหน้าลงกับอกเขาอย่างไม่อยากคิดอะไรมาก

“ข้าจะรี บตบแต่งเจ้าให้เร็ วที่สุด” เขาเอ่ยกับข้า

ข้าฟังแล้วนิ่งเฉยอยู่ จะเป็ นไปได้หรื อ คู่ต่อกรของเขาไม่ใช่ธรรมดา หนึ่งนั้นคือฮ่องเต้ ไหนจะใต้


เท้าจางจอมเจ้าเล่ห์ ท้ายที่สุดแล้ว ยังไม่แน่วา่ ข้าจะตกอยูใ่ นมือใคร ข้าไม่อยากจะทุ่มเทจิตใจให้
ใครทั้งนั้น ไม่อยากตั้งความหวังไว้กบั ใครทั้งสิ้ น เพราะคนที่จะเจ็บปวดก็คือตัวข้าเอง เขามองท่า
ทางหมดอาลัยตายอยากของข้าแล้วอมยิม้

“เรื่ องเพียงแค่น้ ี กท็ อ้ แท้แล้วหรื อกระต่ายน้อย”

ได้ยนิ เขาเรี ยกข้าอย่างหยอกเอินเช่นนี้ กอ็ ดรู ้สึกโกรธขึ้นมาไม่ได้ เขาเห็นข้าเป็ นตัวโง่งมหรื อไร


สถานการณ์จวนตัวถึงเพียงนี้ ข้าจะมัวนิ่งเฉยอยูไ่ ด้อย่างไร ใบหน้าข้าแดงเรื่ อ พยายามจะไม่เม้ม
ปากให้เขารู ้วา่ ข้าไม่พอใจ ข้าไม่อยากตอบเขา ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา จึงหุ บปากเงียบ แต่
ไม่อาจซ่อนแววตาที่ทอประกายดื้อรั้นต่อต้าน

“ยังเด็กอยูแ่ ท้ๆ ชอบทําท่าทางอมทุกข์ราวกับคนแก่” เขายังคงพูดต่อไม่หยุด

...เด็กที่ไหนกัน ชาติก่อนข้าอายุสิบแปดแล้วนะก่อนที่จะข้ามมายังภพนี้ บวกกับอายุของเจ้าของร่ าง


เดิม ตอนนี้กป็ าเข้าไปตั้งสามสามสิ บสอง เอ้ย ยีส่ ิ บเจ็ดแล้ว (อ้อ ข้าเพิ่งมาตอนห้าขวบ) แก่กว่า
นายซะอีกนะชินอ๋ อง…

“ถ้าแน่จริ งก็เถียงเปิ่ นหวางออกมาดังๆ สิ จะมัวคิดอยูใ่ นใจทําไม หรื อว่า..กลัวว่าฝี ปากเจ้าจะสู ้


เปิ่ นหวางไม่ได้”

42
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หม่อมฉันไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว” ข้าว่าพลางผลักอกเขาออก แต่เขายื้อไว้ไม่ปล่อย

จู่ๆ ก็ราวกับแผ่นฟ้าพลิกตลบ ร่ างของชินอ๋ องทาบทับอยูบ่ นตัวข้า ใบหน้าของเขาห่างจากใบหน้าข้า


เพียงคืบ ลมหายใจเป่ ารดผิวหน้าจนข้าจักกะจี้ มุมปากเขาเจือรอยยิม้ เจ้าเล่ห์

“ไม่ใช่เด็กน้อยแล้วหรื อ เปิ่ นหวางต้องพิสูจน์”

กล่าวจบก็ประทับริ มฝี ปากลงมาเบาๆ ข้าสั่นสะท้านไปทั้งร่ าง รู ้สึกดีจนไม่อยากให้เขาถอนริ มฝี ปาก


พอลืมตาขึ้นก็เห็นเขาทอดสายตามองมาอย่างลึกลํ้า

“ฮ่องเต้เข้าใจว่าเจ้าตกเป็ นของเปิ่ นหวางแล้ว แต่ยงั ไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ พวกเรามิสู้ทาํ ให้มนั


เป็ นความจริ งดีหรื อไม่”

ข้ามีสีหน้ามึนงง ชัว่ ขณะจึงเข้าใจสิ่ งที่เขากําลังสื่ อ ดวงตาจึงเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าเป็ น


สี ชาด ชินอ๋ องหัวเราะเสี ยงทุม้ เปี่ ยมเสน่ห์ ราวกับเมื่อครู่ เขาเพียงล้อเล่น

เขาฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มของข้าแรงๆ ทีหนึ่ งอย่างหมัน่ เขี้ยว แล้วพลิกตัวข้าให้เป็ นฝ่ ายขึ้นมานอนก่าย


เกยบนอกของเขาแทน ก่อนจะเอ่ยถามเสี ยงอ่อนโยน

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเชื่อใจข้าหรื อไม่”

“ไม่” ข้าเผลอตอบออกไปตามที่ใจคิด ข้าตัวคนเดียว คนรอบกายก็มีแต่จะคิดหาประโยชน์จากข้า


เขาเองก็เป็ นหนึ่ งในนั้น เป็ นดัง่ คนแปลกหน้าสําหรับข้า จะให้ขา้ เชื่อใจได้อย่างไร

สี หน้าของเขานิ่งขึงไปเมื่อได้ยนิ คําตอบ เสี ยงที่เอ่ยถามก็เข้มขึ้น

“เพราะเหตุใด”

“จ..จะให้หม่อมฉันเชื่อใจท่านอ๋ องได้อย่างไรเพคะ พระองค์หลอกกินเต้าหูห้ ม่อมฉันอยูเ่ รื่ อย” ข้ารี บ


ตอบด้วยนํ้าเสี ยงเจือรอยกระเง้ากระงอด

43
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

สี หน้าของเขาดีข้ ึนมาทันตา ข้าจึงรู ้วา่ มาถูกทางแล้ว เขาเอื้อมมือมาลูบเส้นผมดําขลับของข้าที่สยาย


อยูต่ ามหลังไหล่ “เจ้าเพิ่งอายุเท่านี้กต็ อ้ งมาพัวพันกับเรื่ องราวเช่นนี้ แม้จะเฉลียวฉลาดเพียงใดก็
สมควรอยูห่ รอกที่จะอดหวัน่ วิตกมิได้”

ข้าเหลือบตาขึ้นมองเขา เขามองตอบมา ในตานั้นเจือประกายอ่อนโยนให้เห็น ทําท่าตรึ กตรองอยูช่ วั่


ครู่ จึงเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบเรื่ อยราวกับเล่านิทานให้เด็กฟัง

“ไทเฮาไม่ใช่มารดาที่แท้จริ งของฮ่องเต้ นางเป็ นฮองเฮาในรัชกาลก่อน โอรสของนางสิ้ นพระชนม์


ตั้งแต่ยงั เยาว์ ฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั แม้จะให้ความเคารพนางแต่ดูเหมือนว่านางจะยังไม่พอใจ ยังคง
พยายามทําทุกอย่างเพื่อรักษาอํานาจของตระกูลจาง ก่อนหน้านี้ ส่งคุณหนูใหญ่ตระกูลจางเข้าวังไปก็ไม่
ได้รับความโปรดปราน ตอนนี้มีเพียงพระโอรสจากจากเต๋ อเฟยตระกูลเซี ยวที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังค์
ไทเฮาไม่ตอ้ งการให้ตระกูลเซี ยวขึ้นมามีบารมีเทียบเท่าตระกูลจาง นางจึงต้องการให้เจ้าแก่งแย่ง
ความโปรดปราน ยัว่ ยวนฮ่องเต้ให้ลุ่มหลงและให้กาํ เนิดรัชทายาทแก่เขา เพื่อที่ตระกูลจางจะได้
รักษาฐานอํานาจต่อไปได้”

“แล้วฮ่องเต้จะมองแผนการนี้ไม่ออกหรื อเพคะ” ข้าเอ่ยถามด้วยความสงสัยอย่างแท้จริ ง

“ย่อมมองออก”

เขาเอ่ยแล้วก็นิ่งเงียบ ข้าจึงไม่แน่ใจว่าควรจะถามต่อดีหรื อไม่ ในเมื่อมองออกแล้ว เหตุใดต้องขัด


แย้งกับชินอ๋ องด้วยแผนการตื้นๆ แบบนี้ดว้ ยเล่า ชินอ๋ องเหลือบมองข้าแล้วเปรยขึ้นมาเรี ยบๆ

“เจ้าว่าในชีวติ หนึ่ง ผูค้ นจะปรารถนาสิ่ งใดบ้าง”

ข้าคิดแล้วเอ่ยตอบเป็ นลําดับ

“ความสุ ข ลาภยศ อํานาจ”

ชินอ๋ องได้ฟังคําตอบของข้าแล้วก็ส่ายหน้า

44
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ช่างไร้เดียงสานัก”

ข้าพยายามคิดอีก สิ่ งใดหรื อที่คนเราต้องการ

“ความรัก มิตรภาพ ชื่อเสี ยง”

ดูเหมือนว่าจะยังไม่ใช่คาํ ตอบที่ถูก แต่ท้ งั หมดที่ขา้ พูดไป มิใช่สุดยอดปรารถนาของผูค้ นแล้วหรื อ เขา


ทอดถอนใจก่อนยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าของข้าพลางเอ่ยเสี ยงตํ่า

“กามารมณ์”

ใบหน้าของข้ามีเลือดสู บฉี ดทันทีที่ได้ยนิ คําตอบของเขา ชินอ๋ องใช้ขอ้ นิ้วไล้แก้มข้าขณะเอ่ยสื บไป

“ที่เจ้าว่ามา ฮ่องเต้ลว้ นมีพรั่งพร้อมทุกอย่าง ทว่าเจ้าแผ่นดินแม้จะยิง่ ใหญ่สักเพียงใด ก็เป็ นเพียง


บุรุษคนหนึ่ง มีหรื อจะไม่ตอ้ งการยอดหญิงงามในแผ่นดิน สิ่ งเหล่านี้ยอ่ มเป็ นจุดอ่อนจุดตาย เป็ น
เกียรติยศโง่ๆ ของเหล่าบุรุษผูย้ งิ่ ใหญ่ท้ งั หลาย มิเช่นนั้นจะมีคาํ กล่าวว่า โฉมงามล่มเมือง หรอกหรื อ”

ข้าหลบสายตาของเขาที่ทอประกายร้อนแรงวาบขึ้นมายามจ้องมาที่ขา้ ไม่กล้าถามว่าแล้วเขาเล่าเป็ น
ดังเช่นฮ่องเต้หรื อไม่?

"เหตุใดท่านอ๋ องจึงไม่เตือนสติฮ่องเต้เล่าเพคะ" ข้าอ้อมแอ้มถามเรื่ องอื่นแทน

“เผิงจวิน้ ไม่ใช่คนโง่ ข้าไม่จาํ เป็ นต้องชี้นาํ เขาในเรื่ องใดๆ หรอก เขาย่อมรู ้อยูแ่ ล้วว่าไม่ควรรับ
เจ้าเป็ นสนมตั้งแต่แรก เขาเพียงแต่ยงั เยาว์และมัน่ ใจในตัวเองมากเกินไปเท่านั้น คิดว่าเพียงรับ
เจ้าเข้ามาก็ไม่เป็ นอุปสรรคต่อการบริ หารราชกิจ”

ข้าไม่เห็นด้วย หากฮ่องเต้รู้ผดิ ชอบชัว่ ดี เขาจะเลอะเลือนประพฤติตนดังชินอ๋ องว่าได้อย่างไร

“แล้วเหตุใดท่านอ๋ องจึงไม่เชื่อพระทัยฮ่องเต้เล่าเพคะ เพียงรับหม่อมฉันเป็ นสนมไม่ได้หมายความว่า


แผนการของใต้เท้าจางจะสําเร็ จเสี ยหน่อย สนมนางในมีต้ งั มากมาย ฝ่ าบาทจะลุ่มหลงมัวเมาในสตรี
นางเดียวอย่างหม่อมฉันได้อย่างไร” ข้ายังคงถามเขาต่ออย่างพาซื่ อ

45
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ชินอ๋ องกล่าวกลั้วหัวเราะ "ทารกน้อย ที่เจ้ากล่าวเช่นนี้เพราะเจ้ายังไม่เคยได้สัมผัสรสรักน่ะสิ หาก


เจ้าเคยได้ลอง ย่อมจะไม่พดู เช่นนี้แน่" กล่าวจบก็หวั เราะจนตัวโยน

“หากฮ่องเต้ไม่รู้สึกลุ่มหลงในตัวเจ้า เขาคงต้องไปบวชเป็ นพระแล้ว”

/ข้าเองก็เช่นกัน/ชินอ๋ องเอ่ยในใจ

46
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 9 : คนไม่ ผดิ ผิดทีค่ รอบครองหยก

ข้าทําหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยนิ คําตอบของชินอ๋ อง ถึงแม้ชาติที่แล้วข้าจะตายตอนอายุสิบแปดแต่กไ็ ม่ได้มี


ประสบการณ์เรื่ องพวกนี้สักเท่าไหร่ ข้าเป็ นเพียงเด็กเรี ยนคนหนึ่งเท่านั้น มีชอบดารานักร้อง มีแอบปลื้มรุ่ นพี่
แต่ทา้ ยที่สุดด้วยความมุ่งมัน่ ถึงอนาคต ข้าจึงไม่ได้ขอ้ งเกี่ยวกับเรื่ องรักๆ ใคร่ ๆ เลย

ชินอ๋ องเห็นข้ามีท่าทางกระอักระอ่วนใจก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก ข้าจึงนอนฟังเสี ยงหัวใจของเขาเต้น กลิ่นกายของ


เขาหอมกลิ่นสนสดชื่นเจือด้วยกลิ่นกํายานจางๆ ร่ างกายของเขาแม้จะแข็งไปบ้างแต่กอ็ ุ่นสบาย

เมื่อครู่ ตอนถูกฮ่องเต้จู่โจม ข้าร้องไห้ไปไม่นอ้ ย ตอนนี้จึงเริ่ มเคืองตา อดไม่ได้จะยกมือขึ้นขยี้ แต่ชินอ๋ องจับมือ


ข้าไว้

“อย่าขยี้ตา เรี ยกให้คนเอานํ้าล้างหน้ามา ดูสิ ร้องไห้จนตาแดงเช่นนี้ เจ้ากลายเป็ นกระต่ายน้อยไปจริ งๆ เสี ย


แล้ว”

ข้าไม่เถียงเขา ได้นอนคุยกับเขาพักหนึ่ง ความรู ้สึกกลัดกลุม้ ใจอันหนักอึ้งเมื่อครู่ หายไปเสี ยแล้ว ข้าเลื่อนตัวลง


จากตัวเขาที่ขา้ นอนทาบทับอยู่ แล้วออกไปเรี ยกสาวใช้ที่หน้าห้อง เมื่อข้าหันกลับมาเขาก็ลุกขึ้นนัง่ แล้ว ชุด
ลําลองสี ครามที่เขาสวมใส่ ทาํ ให้ดูงดงามราวกับคุณชายบัณฑิต เขาปรายตามองเสื้ อผ้าหลุดรุ่ ยของข้าแล้วเอ่ย
เสี ยงนุ่ม

“ประเดี๋ยวเจ้าแต่งตัวใหม่เสี ยเถิด เปิ่ นหวางจะพาออกไปข้างนอก”

ข้าหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อหู อะไรนะ ออกไปข้างนอกหรื อ ข้าคงฟังไม่ผิดกระมัง เกือบสิ บปี ที่อยู่


ในร่ างนี้ ข้าไม่เคยได้ออกไปข้างนอกเลย ได้แต่บ่มเพาะความเป็ นกุลสตรี อยูท่ ี่จวนตระกูลจาง ข้าเริ่ มดีดลูกคิด
รางแก้วในใจอย่างรวดเร็ ว ...อันที่จริ ง ชินอ๋ องก็เป็ นตัวเลือกที่ไม่เลว เขากุมอํานาจไม่แพ้ฮ่องเต้ ตัวฮ่องเต้เองยัง
ต้องเกรงใจเขาอยูห่ ลายส่ วน หากข้าแต่งเข้าวังเสิ่ นหยางกงก็ไม่ตอ้ งปวดหัวรับคําสั่งจากใต้เท้าจาง และไม่ตอ้ ง
ใช้ชีวิตแห้งเหี่ ยวราวกับนกน้อยในกรงทองในวังหลวง วันๆ คิดแต่จะสู ้รบปรบมือกับผูอ้ ื่น ทําไมข้าถึงเพิ่งคิด
ได้นะ

รอยยิม้ ฝันหวานปรากฏอยูบ่ นริ มฝี ปาก แต่ความคิดของข้าต้องสะดุดลงเมื่อชินอ๋ องยืน่ นิ้วมาดีดหน้าผาก

47
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“คิดอะไรไปไกล ดูทาํ หน้าเข้า หากวันหน้าแต่งเข้าวังเสิ่ นหยางกง นึกจะออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนเพียงบอกเปิ่ น


หวางให้พาไปก็ได้แล้ว ไม่รู้หรื อว่าเปิ่ นหวางเป็ นหลักให้เจ้ายึดเกาะได้”

ข้ายิม้ กว้างอย่างดีใจให้เขาเป็ นครั้งแรก รอยยิม้ จึงถูกส่ งไปทั้งปากและตา ข้าลืมหลักจริ ยาของกุลสตรี เสี ยสนิท
ที่ตอ้ งแย้มยิม้ น้อยๆ ไม่เห็นฟัน เขาตะลึงมองอยูช่ วั่ ครู่ พึมพําเบาๆ ว่า”เด็กโง่” แล้วก็ตวัดข้าเข้ามาในอ้อมแขน
กดจุมพิตหนักๆ บนริ มฝี ปาก

ข้าถูกชินอ๋ องจูบไปหลายครั้งแล้ว คราวนี้จึงเริ่ มเกิดความคุน้ เคย ยามเขาไล้เลียริ มฝี ปากข้าแผ่วเบา ข้าก็ทาํ แบบ
เดียวกันกับเขาบ้าง ทําเอาร่ างสู งสั่นสะท้านครางออกมาแผ่วเบา

“อา..อวี้เอ๋ อร์ เด็กร้ายกาจ” แล้วมือหนาก็ดึงเอวคอดเข้ามาแนบชิดยิง่ ขึ้นจนไอร้อนผ่าวจากกายเขาห่อหุม้ ร่ างข้า


ไว้หมด

เราผละจากกันเมื่อมีเสี ยงเคาะประตู เจินเจินถืออ่างนํ้าเข้ามา ข้าให้นางปรนนิบตั ิลา้ งหน้า เสร็ จแล้วจะแต่งตัว


ใหม่เพื่อออกไปข้างนอกกับเขา จึงหันไปมองเขาอย่างมีความหมายว่าให้ออกไปรอข้างนอก

“เปิ่ นหวางจะรออยูท่ ี่นี่” เขาตอบหน้าตาเฉย

ข้ากับเจินเจินมองหน้ากันเลิ่กลัก่ ก่อนจะหน้าแดงทั้งคู่ เจินเจินช่วยข้าถอดเสื้ อผ้าชุดเก่าออก ข้ายืนหันหลังให้


เขา เนื้อตัวแดงไปหมดด้วยความอับอาย คนผูน้ ้ ีหน้าด้านเหลือเกิน บนตัวข้าเหลือเพียงเอี๊ยมกับกางเกงตัวใน
บางเบา ขณะกําลังรอเจินเจินหยิบชุดใหม่มาให้ผลัด เขากลับบอกให้นางออกไป เจินเจินพาดชุดที่เพิ่งหยิบมา
ไว้บนฉากแล้วรี บคํานับก่อนออกไป ข้าหันไปมองเขาอย่างงุนงง พวกเรามิใช่จะรี บออกไปข้างนอกหรอกหรื อ

“มานี่สิ”

เมื่อเหลือเพียงสองคนตามลําพัง เขาก็เรี ยกให้ขา้ เดินเข้าไปหาเขาซึ่ งนัง่ คอยอยูบ่ นเตียงด้วยสายตาวาววาม

ข้าพอจะนึกออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แต่กลับเดินเข้าไปหาเขาราวกับต้องมนต์สะกด ยอมรับกับตัวเอง


อย่างหน้าไม่อายว่า ข้าต้องการอิสรภาพ ต้องการความมัน่ คงในชีวติ ที่เขาสามารถมอบให้ได้ หากจะมีใครสัก

48
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คนสามารถพาข้าออกไปจากวังวนแห่งความวุน่ วายนี้ได้ คนผูน้ ้ นั มิใช่ชินอ๋ องหรอกหรื อ เขาประคองข้านัง่ ลง
เคียงข้างแล้วลงมือปลดเปลื้องเสื้ อผ้าที่เหลือของข้าออกโดยที่ขา้ มิได้ขดั ขืนแม้แต่นอ้ ย

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเร่ าร้อนที่ไม่อาจอดกลั้น จับจ้องผิวเรี ยบลื่นราวกับหยกและเรื อนร่ างอ่อนช้อย


ของข้าอย่างหลงใหล

เสี ยงของใต้เท้าจางดังขึ้นที่หน้าประตู “ถวายพระพรชินอ๋ องพะย่ะค่ะ”

ข้ารี บมุดตัวเข้าไปใต้ผา้ ห่ม ชินอ๋ องยังคงสวมเสื้ อผ้าเรี ยบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นริ้ วแดงแต่แววตาดุดนั ราวกับ
พยัคฆ์ร้าย เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงเย็นเยียบ

“ใต้เท้าจาง ไม่ทราบมีธุระอะไรเร่ งด่วนรึ ”

“ทูลท่านอ๋ อง กระหม่อมเพิ่งทราบว่าท่านอ๋ องให้เกียรติแวะมาเยีย่ มอวี้เอ๋ อร์ กระหม่อมซาบซึ้ งใจนัก ทว่าชาย


หญิงไม่พึงอยูด่ ว้ ยกันตามลําพัง เกรงว่าจะเกิดข้อครหาได้ จึง...”

ใต้เท้าจางยังเอ่ยไม่ทนั จบประโยค ชินอ๋ องก็ขดั ขึ้น

“ใต้เท้าจางไม่ตอ้ งเป็ นกังวล ข้ากับอวี้เอ๋ อร์กาํ ลังจะออกไปข้างนอก สบายใจเถิด”

“กระหม่อมขอประทานอภัยพะย่ะค่ะ” ใต้เท้าจางเอ่ยขลุกขลักในลําคอเหมือนคนกําลังสําลักโทสะ ชัว่ ครู่ จึงได้


ยินเสี ยงฝี เท้าของเขาห่างออกไป ข้ารี บลุกขึ้นจากใต้ผา้ ห่ม สวมเสื้ อผ้าด้วยมืออันสัน่ เทา เสี ยงใต้เท้าจางทําให้ขา้
พลันได้สติ เมื่อครู่ ขา้ ทําอะไรลงไป คิดจะพลีร่างเพื่อแลกกับชีวิตใต้ปีกของท่านอ๋ องอย่างนั้นหรื อ ลืมไปหรื อ
ไรว่าเขาเองก็เห็นข้าเป็ นเบี้ยตัวหนึ่งไม่ต่างกัน

ข้าไม่คิดจะเรี ยกเจินเจินเข้ามาแล้ว และไม่กล้าหันไปมองเขาที่ยงั คงนัง่ นิ่งอยูบ่ นเตียง ข้าจัดการทุกกอย่างด้วย


ตัวเอง นับเป็ นการแต่งกายที่ไวที่สุดในชีวติ ข้าเกล้าผมเรี ยบง่ายแล้วปักปิ่ นหยกอันหนึ่ง เรี ยบร้อยแล้วก็หนั ไป
มองเขาอย่างกล้าๆ กลัว เห็นเขากําลังมองมาด้วยสายตาอ่านไม่ออก

“อย่าลืมสวมผ้าโปร่ งคลุมใบหน้าเจ้า” เขาเอ่ยเตือนก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวนําออกไปนอกห้อง

49
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องให้บ่าวไปเรี ยกรถม้ารับจ้าง เขาปฏิเสธที่จะใช้รถม้าของจวน เมื่อขึ้นไปนัง่ เคียงคู่กนั บนรถ เขาก็หนั มา
อธิบายกับข้า
“เปิ่ นหวางไม่ได้เอารถม้ามา”

“แล้วท่านอ๋ องมาอย่างไรเพคะ”

เขายกมุมปาก “เปิ่ นหวางรี บมา กลัวไม่ทนั ช่วยเจ้าให้พน้ เงื้อมมือฮ่องเต้”

เห็นเขาไม่ยอมตอบข้าจึงไม่ได้ถามต่อ ครู่ หนึ่งเขาจึงหันมาถามข้า “เจ้าไม่เคยได้ยนิ ผูค้ นพูดกันถึงวิชาตัวเบา


ของเปิ่ นหวางหรื อ”

ข้าอยูแ่ ต่ในจวน จะไปรู ้ได้อย่างไร ต่อมาภายหลังถึงค่อยได้ยนิ ว่า ชินอ๋ องมีวชิ ายุทธ์ล้ าํ เลิศ แต่ในเมื่อเขาถาม ข้า
จึงส่ ายหน้าตอบ “ไม่เคยเพคะ” ดูเหมือนเขาจะมีสีหน้าผิดหวัง หรื อไม่ขา้ ก็คิดไปเอง

คําถามของเขาคงจะบอกข้าเป็ นนัยว่าเขาใช้วิชาตัวเบาลอบเข้าจวนกระมัง ข้าลองปะติดปะต่อเหตุการณ์เอาเอง


เมื่อเช้าเขาคงได้ข่าวว่าฮ่องเต้เสด็จจวนตระกูลจาง จากนั้นคงคาดเดาได้วา่ ฮ่องเต้ไม่คิดจะละเว้นข้าจึงรี บเร่ งใช้
วิชาตัวเบามาช่วย

..มิน่า เขาจึงปรากฏตัวที่ประตูดา้ นสวน เป็ นเพราะเขาไม่ได้เข้ามาจากประตูหน้าจวนนี่เอง

..มิน่า ใต้เท้าจางจึงไม่รู้วา่ เขามา จิ้งจอกเฒ่าคงหมายจะเปิ ดโอกาสให้ฮ่องเต้ จึงทําทีเป็ นออกไปจากเรื อนใหญ่

..กว่าใต้เท้าจางจะรู ้วา่ ฮ่องเต้กลับไปแล้ว ก็คงเป็ นตอนที่เจินเจินไปรายงานกระมัง จึงได้รีบเร่ งรุ ดมายังห้องข้า


เขาคงกลัวว่าหากข้าท้องขึ้นมาเสี ยก่อน แผนการเขาได้พงั พินาศจนยากจะแก้สถานการณ์แน่ๆ

นึกแล้วก็อดถอนใจไม่ได้ โชคดีที่เขามาทัน ไม่เช่นนั้นข้าคงได้เข้าวังเร็ วกว่ากําหนดเป็ นแน่ ถึงยามนั้นหาก


ฮ่องเต้รู้วา่ ข้ายังไม่ตกเป็ นของชินอ๋ องคงจะไม่ยอมปล่อยมือ ข้าหันไปมองชินอ๋ องอย่างนึกขอบคุณ

เขาเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง หากแต่มุมปากกลับมีรอยยิม้ ราวกับมีตาหลังที่มองเห็นสายตาขอบคุณของ


ข้า

50
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
รถม้าหยุดลงที่เหลาเทียนฝู เขาประคองข้าลงจากรถ จ่ายเงินให้คนขับรถม้าแล้วจูงข้าเดินเข้าไป ตอนนี้เป็ นเวลา
มื้อเที่ยง ผูค้ นในเหลาจึงแน่นขนัด พอหลงจู๊เห็นว่าผูท้ ี่กา้ วเข้ามาเป็ นใครก็รีบเข้ามาต้อนรับอย่างนอบน้อมและ
นําขึ้นไปชั้นสองทันที ชินอ๋ องไม่สนใจสายตาของคนทั้งหลายที่หนั มามองอย่างสนใจ ข้าเดินตามหลังเขาไป
ติดๆ พยายามซ่อนใบหน้าที่คลุมผ้าโปร่ งไว้อย่างสุ ดความสามารถ โต๊ะที่พวกเรานัง่ อยูใ่ นห้องส่ วนตัวติด
หน้าต่าง มองลงไปเห็นถนนจอแจและผูค้ นขวักไขว่ ข้ามองลงไปอย่างสนใจ นี่นบั เป็ นบรรยากาศเมืองโบราณ
ที่ขา้ ได้เห็นเป็ นครั้งแรก

ชินอ๋ องดูอารมณ์ดีนกั ระหว่างจิบชารออาหาร ก็ลว้ งพัดงาช้างสี ขาวออกมาโบกด้วยมาดคุณชายเจ้าสําราญ ทว่า


ความสําราญของเขาถูกขัดจังหวะด้วยเสี ยงเคาะประตู บุรุษสองคนก้าวเข้ามาในห้อง

“ถวายพระพรเสด็จอา”

ชินอ๋ องขยับตัวนัง่ หลังตรง หุ บพัดเก็บก่อนจะเอ่ยนํ้าเสี ยงเรี ยบนิ่ง

“เจ้าหก เจ้าสิ บ พวกเจ้าก็มากินอาหารที่หอเทียนฝูเช่นกันหรื อ”

หนุ่มน้อยทั้งสองแอบเหลือบตามามองข้า ทว่าปากก็ตอบคําถามของชินอ๋ องไปพลาง

“พะย่ะค่ะ พวกเราไม่รู้วา่ เสด็จอามีแขก จึงทะเล่อทะล่าเข้ามา ขอเสด็จอาโปรดประทานอภัย”

ชินอ๋ องเพียงยกยิม้ ไม่ได้สนใจข้อแก้ตวั ข้างๆ คูๆ นั้น

“เอาเถิด ในเมื่อเห็นแล้วว่าข้ามีแขก ก็รีบออกไปเถิด”

องค์ชายหกและองค์ชายสิ บต่างมีสีหน้ายากจะบรรยายด้วยไม่คิดว่าตนจะโดนเอ่ยปากไล่เช่นนี้ พวกเขานึกว่า


ชินอ๋ องจะเชิญร่ วมโต๊ะ ครั้นถูกอีกฝ่ ายเมิน จึงได้แต่คารวะชินอ๋ องแล้วเดินคอตกออกจากห้องไป

เมื่อทั้งสองลับสายตา ชินอ๋ องก็บ่นเบาๆ “เจ้าเด็กพวกนี้เหลวไหลเสี ยจริ ง” พอเห็นสายตามีคาํ ถามของข้าจึง


กล่าวต่อ “พวกเขาอยากรู ้จกั กับเจ้า หากข้าไม่ไล่ไป เกรงว่าคงเกาะติดพวกเราเป็ นตังเมทั้งวันเป็ นแน่” เขาเอ่ยถึง
เด็กหนุ่มหน้าทะเล้นสองคนนัน่ ด้วยสี หน้ากึ่งขันกึ่งฉิ ว ป็ นครั้งแรกที่ขา้ ได้เห็นด้านที่เป็ นมนุษย์ของเขา เขาเอ่ย
ต่อด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบเรื่ อย

51
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ที่งานชมบุปผาเมื่อวาน ชื่อเสี ยงของเจ้าขจรขจายไปทัว่ ผูค้ นล้วนแล้วแต่อยากยลโฉมเจ้าทั้งสิ้ น เจ้าคงไม่รู้วา่


วันนี้ที่ประตูจวนของใต้เท้าจางวุน่ วายแค่ไหน”

ข้านิ่วหน้าเมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เกรงว่าชีวติ ของข้าคงจะวุน่ วายยิง่ กว่าเดิม คนเหล่านั้นคงจะไม่รู้วา่ ข้ามีสัญญาหมั้น


หมายกับชินอ๋ องแล้ว อีกทั้งยังเป็ นที่หมายปองของฮ่องเต้ จึงได้กล้าเสนอหน้ามาแบบไม่กลัวตายเช่นนี้

เมื่ออาหารมา เราทั้งสองนัง่ รับประทานไปเงียบๆ สตรี ไม่พึงพูดคุยระหว่างมื้ออาหาร ครั้นอิ่มแล้วชินอ๋ องจึงเอ่ย


ถาม
“ถูกปากหรื อไม่”

ข้าพยักหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับรู ้สึกว่าอร่ อยไม่สู้ที่ขา้ ทําเอง สิ่ งที่ขา้ ฝึ กฝนมาในตระกูลจางล้วนแล้วแต่เป็ น


คุณสมบัติของสตรี ไม่วา่ จะเป็ นศาสตร์หรื อศิลป์ หากต้องการจะผ่านบททดสอบล้วนต้องเป็ นเลิศในด้านนั้น
อย่างแท้จริ ง ด้วยว่าสิ่ งเหล่านี้อาจเป็ นประโยชน์เมื่อใต้เท้าจางส่ งพวกเราไปปฏิบตั ิภารกิจ

ขากลับ คนของเหลาเทียนฝูเรี ยกรถม้ารอไว้แล้ว ระหว่างทางข้าได้ยนิ เสี ยงแปลกๆ ดังมาจากด้านหน้ารถ


จากนั้นรถม้าก็เร่ งความเร็ วขึ้นจนภายในรถสั่นสะเทือนไปหมด ข้าหันไปมองชินอ๋ องด้วยสี หน้าซี ดเผือด เขา
เอื้อมแขนมาโอบข้าไว้แนบอก

“ไม่ตอ้ งกลัว” เขาปลอบข้า แต่ขา้ ไม่เชื่อเขาสักนิด คนขับรถคงจะถูกสังหารไปแล้ว วันนี้ เขาเร่ งร้อนออกมา ไม่
มีผตู ้ ิดตามสักคน ยามนี้ถูกคนปองร้าย แถมมีขา้ เป็ นตัวถ่วงอีกคน แล้วจะหนีรอดไปได้อย่างไร

...คนไม่ผดิ ผิดที่ครอบครองหยกงาม…

อยูด่ ีๆ คํากล่าวนี้ กผ็ ดุ ขึ้นมาในใจ เป็ นเพราะข้าใช่หรื อไม่ ผูท้ ่ีส่งคนเหล่านี้มาจะใช่ฮ่องเต้หรื อไม่ หรื อว่าจะเป็ น
ใต้เท้าจาง ไม่วา่ จะเป็ นใคร ต่างก็มีแรงจูงใจด้วยกันทั้งนั้น หากเป้าหมายของคนพวกนี้คือตัวข้า ชินอ๋ องจะสละ
ข้าซึ่ งเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ งหรื อไม่ ขอบตาของข้าร้อนผ่าวจนรู ้สึกชื้นขนตา

“เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่เจ้าหรอก อีกอย่าง มีเปิ่ นหวางอยูท่ ้ งั คน ไม่มีใครทําอันตรายเจ้าได้”


มือของข้ากําอกเสื้ อเขาไว้แน่น ทิวทัศน์ภายนอกเริ่ มเป็ นที่เปลี่ยวร้าง ..ข้าไม่น่าออกมานอกจวนเลย..
ไม่วา่ ผูท้ ี่ส่งมือสังหารมาจะเป็ นใครก็ตาม ดูท่าทางความแตกแยกในเมืองหลวงได้เริ่ มเปิ ดฉากขึ้นแล้ว

52
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

53
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 10 : วางใจเปิ่ นหวางเถิด

รถม้าชะลอความเร็ วก่อนจอดลงบนเส้นทางเปลี่ยวร้างไร้คนสัญจร เสี ยงฝี เท้ายํา่ เข้ามาจากรอบทิศ ข้า


หวังว่าจะเป็ นโจรชิงทรัพย์ธรรมดาเพราะยามออกจากเหลาเทียนฝู ชินอ๋ องแต่งกายเหมือนสามัญชน โดยสารรถ
ม้าว่าจ้างธรรมดา มิใช่รถม้าประทับตราวังเสิ่ นหยางกง หากเหล่ามิจฉาชีพจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็ นคุณชายรํ่ารวยผู ้
หนึ่งก็ไม่แปลก แต่แล้วนํ้าเสี ยงที่ฟังดูไม่เป็ นมิตรก็ดงั มาจากภายนอกรถม้า

“ทูลชินอ๋ อง กระหม่อมได้รับบัญชาจากฮ่องเต้ให้เชิญท่านอ๋ องเข้าวังพะย่ะค่ะ”

ฟันของข้ากระทบกันดังกึก ความหวังอันริ บหรี่ ของข้าแหลกละเอียด หากเป็ นคนที่ฮ่องเต้ส่งมา ฝี มือย่อมไม่


สามัญ ทั้งชินอ๋ องและข้าจะรอดไปได้หรื อ ชินอ๋ องไม่เอ่ยว่ากระไร มือเรี ยวล้วงไปในอกเสื้ อ หยิบบางสิ่ ง
หน้าตาคล้ายนกหวีดที่ทาํ จากหยกขึ้นมาเป่ าโดยที่ขา้ ไม่ได้ยนิ เสี ยงของมันแม้แต่นอ้ ย ดวงตาของเขากลับมา
ครอบคลุมด้วยม่านหมอกดํามืดเช่นเดิม ร่ างกายข้าสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้ามขึ้นมาอีก

“ไม่ตอ้ งกลัว” เขาหันมาเอ่ยด้วยความสุ ขมุ เยือกเย็น แต่ท่าทางเช่นนี้ของเขาทําให้ขา้ กลัวยิง่ กว่าโจรร้ายข้างนอก


เสี ยอีก ในหัวปรากกฏภาพแววตาที่คล้ายคลึงกับดวงตาคู่น้ ี ทว่าเป็ นของบุคคลอีกผูห้ นึ่งเป็ นเงารางๆ ทับซ้อน
ขึ้นมา หัวใจข้ารู ้สึกเจ็บปวดยากจะทานทนโดยไม่รู้สาเหตุ

เสี ยงลมแหวกอากาศดังขึ้นหลายสาย เสี ยงโลหะปะทะกันดังขึ้นจากภายนอก ชินอ๋ องเอื้อมมือไปปลดม่าน


หน้าต่างลงแล้วรั้งร่ างสัน่ เทาของข้าขึ้นไปนัง่ บนตัก เห็นข้านัง่ ตัวเกร็ งก็ยงิ่ ปลอบโยน แต่ขา้ กําลังกลัวเขา มิใช่
กลัวฉากต่อสู ้ภายนอกนัน่

“คนของเปิ่ นหวางมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็ นห่วง” เขากระซิ บแผ่วเบาที่ใบหู ริ มฝี ปากกดลงมาบนขมับ

เสี ยงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด กลิ่นคาวเลือดฉุนเฉี ยวเล็ดลอดเข้ามาภายในรถม้า เพียงไม่นานก็ปรากฏ


เสี ยงรายงานดังขึ้นมาจากนอกรถ

“ทูลท่านอ๋ อง ควบคุมตัวคนร้ายได้แล้วพะย่ะค่ะ”

54
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จับเป็ นตัวหัวหน้าไปสอบสวน” ชินอ๋ องพูดเสี ยงเย็นเยียบ สี หน้าแววตาเปี่ ยมไปด้วยอํานาจและความเฉี ยบขาด
เช่นเดียวกับท่านอ๋ องที่ฉนั พบในวันแรก สิ้ นเสี ยงคําสั่ง เสี ยงดาบกรี ดผ่านเนื้อและเสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวดก็
ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกสิ่ งตกอยูใ่ นความเงียบ

เสี ยงร้อง..กลิ่นคาวเลือด..แววตาดํามืดของชินอ๋ อง เหตุใดฉากนี้คุน้ ตาข้าเสี ยเหลือเกิน แต่ขา้ มัน่ ใจว่าภพชาติ


ก่อนไม่มีเรื่ องราวเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าแน่ ..แล้วมันเกิดขึ้นตอนไหนกัน.. ข้าตัวสั่นอย่างสุ ดระงับ ชินอ๋ องกระชับ
อ้อมกอดเข้าแน่น

“กระต่ายน้อย เจ้าคงตกใจมาก ประเดี๋ยวเปิ่ นหวางจะพาไปส่ งที่จวน เปิ่ นหวางบอกแล้วมิใช่หรื อ มีเปิ่ นหวางอยู่


ทั้งคน เจ้าไม่เป็ นอันตรายแน่” จากนั้นก็เอ่ยเสี ยงดังขึ้น “เก็บกวาดให้เรี ยบร้อย ที่เหลืออารักขาเปิ่ นหวางไปจวน
ใต้เท้าจาง”

รถม้าค่อยเคลื่อนตัวออกอย่างเชื่องช้า ล้อรถคงลากผ่านพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยโลหิ ต ชินอ๋ องสี หน้าไม่เปลี่ยนสัก


นิด ข้าทําใจกล้าถามออกไป

“เป็ นฮ่องเต้จริ งหรื อเพคะ”

ชินอ๋ องยกมุมปากขึ้น ส่ งเสี ยงหึ ในลําคอ “เจ้าคิดว่าอย่างไร”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตากลมโตของข้าทอแววจนปัญญา ข้าไม่มีขอ้ มูลสักนิดนอกจากสิ่ งที่คนร้ายกล่าวอ้าง


แล้วจะไปรู ้ได้อย่างไร

“เป็ นบิดาบุญธรรมของเจ้า”

คําตอบของเขาทําให้ขา้ เบิกตาขึ้นอย่างประหลาดใจ

“คนร้ายแต่งกายคล้ายองครักษ์ประจําพระองค์ ฉวยโอกาสที่เปิ่ นหวางออกมาข้างนอกโดยไร้ผตู ้ ิดตามหมาย


สังหารหรื อจับกุม นํ้าเสี ยงของพวกมันยามเอ่ยกับเปิ่ นหวางเมื่อครู่ จึงไม่มีความยําเกรงแม้แต่นอ้ ย เปิ่ นหวางบ
อกแล้วมิใช่หรื อ เป้าหมายของพวกมันมิใช่เจ้า หากวันนี้เปิ่ นหวางตายไปเสี ย ย่อมจะเป็ นไปตามแผนการของ
ใต้เท้าจาง ราชสํานักคงต้องเกิดคลื่นลมขึ้นแน่ ส่ วนฮ่องเต้ยอ่ มจะตกเป็ นจําเลย เรื่ องราวความขัดแย้งของฮ่องเต้
และเปิ่ นหวางเป็ นที่ล่วงรู ้ของคนในวัง”

55
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าคิดในใจ แล้วใต้เท้าจางคิดหรื อไม่วา่ หากชินอ๋ องไม่ตายเล่า เขาจะทําอย่างไร พอดีกบั ที่ชินอ๋ องเอ่ยต่อ

“หากเปิ่ นหวางไม่ตาย เขาคงคิดว่าตบตาเปิ่ นหวางได้สาํ เร็ จ ย่อมจะก่อให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างเปิ่ น


หวางและฮ่องเต้ เสี ยดายนัก เขาคาดผิดทั้งหมด” ปรากฏรอยยิม้ เยือกเย็นบนใบหน้าหล่อเหลา

ข้านิ่งงันไป ในใจรู ้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที ..ชินอ๋ องคํานวณทุกอย่างไว้หมดแล้ว ไม่วา่ จะเป็ นการปรากฏตัว


ที่จวนเพื่อช่วยเหลือข้า การแสดงให้ใต้เท้าจางเห็นว่าเขามาเพียงลําพัง การพาข้าออกมานอกบ้าน เหล่านี้ลว้ น
เป็ นหนึ่งในแผนการล่อจับครั้งนี้ ของเขาใช่หรื อไม่ ข้าเป็ นเพียงส่ วนหนึ่ งของแผนการ

...อยูด่ ีๆ ข้าก็อยากจะรํ่าไห้…

“ไม่ตอ้ งร้อง ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้วกระต่ายน้อย” เขาเอ่ยเสี ยงเบาชิดใกล้ ปลายนิ้วปาดนํ้าตาที่หางตา


ของข้า ข้าเพิ่งรู ้ตวั ว่านํ้าตาไหล

“เปิ่ นหวางไม่อยากส่ งเจ้ากลับจวนจิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ นั เลย อวี้เอ๋ อร์รอหน่อยเถิด ทุกอย่างเรี ยบร้อยเมื่อใด เปิ่ นหวาง
จะรี บรับเจ้าเข้าวัง”

คําสัญญาของเขาช่างอ่อนหวานนัก แต่ขา้ ฟังแล้วกลับยากที่จะเชื่อ

ข้าหวัน่ ไหวไปกับความอ่อนโยนของเขา แต่แววตาเย็นยะเยือกเมื่อครู่ น้ นั ..ช่างน่าสะพรึ งกลัว สิ่ งใดคือความ


จริ ง สิ่ งใดคือความลวงกันแน่

ชินอ๋ องมาส่ งข้าถึงจวนแต่ไม่ได้แวะลงมา เขาบอกข้าว่ามีธุระที่จะต้องรี บไปจัดการ ข้าอดโล่งใจไม่ได้ ข้า


ต้องการใช้เวลาคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว ทว่าเมื่อก้าวเข้าเรื อนใหญ่ สาวใช้กร็ ายงานว่าใต้เท้าจางให้ขา้ ไปพบที่
ห้องหนังสื อ เขากําลังนัง่ ทําสี หน้าครํ่าเคร่ งอยูท่ ่ีโต๊ะ ข้ายืนประสานมืออย่างสงบเสงี่ยมอยูเ่ บื้องหน้า

“คารวะบิดา” ข้าคํานับเขาอย่างนอบน้อม สี หน้าของเขาไม่ดีนกั คงรู ้ข่าวแล้วกระมังว่าคนที่ส่งไปทํางานไม่


สําเร็ จ แน่นอนว่าเรื่ องพวกนี้ ใต้เท้าจางไม่คิดจะเอ่ยปากให้ขา้ รู ้แม้แต่นอ้ ย

“เจ้าหายไปทั้งวัน ลืมไปแล้วหรื อว่าคนที่ขา้ ให้เจ้ายัว่ ยวนคือฮ่องเต้ มิใช่ชินอ๋ องผูน้ ้ นั ”

56
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าย่อเข่าลงเป็ นการขอโทษก่อนเอ่ยตอบ แสร้งบีบนํ้าตาและทําเสี ยงสั่น

“เรี ยนบิดา อวี้เอ๋ อร์มิได้เต็มใจเลยสักนิด ล้วนเป็ นชินอ๋ องใช้กาํ ลังบังคับข้าทั้งสิ้ น ขนาดเมื่อเช้าฮ่องเต้ยงั ต้อง
เกรงใจเขา มิอาจรับอวี้เอ๋ อร์เข้าวังเป็ นสนม แล้วลําพังอวี้เอ๋ อร์จะขัดขืนได้อย่างไร”

สี หน้ากราดเกรี้ ยวของใต้เท้าจางดีข้ ึนเล็กน้อย “เอาเถิด เรื่ องนี้แม้แต่ขา้ เองก็ยากจะเอ่ยปาก ชินอ๋ องผูน้ ้ ีจดั การได้
ยากยิง่ เขามากล้นทั้งอํานาจวาสนา เจ้าเล่ห์มากแผนการ เจ้ามิใช่คู่ต่อกรของเขาหรอก” ใต้เท้าจางมีสีหน้า
หนักใจก่อนเอ่ยต่อ “เจ้าเสี ยทีแก่ชินอ๋ องไปแล้ว ..แล้วฮ่องเต้เล่า”

ข้าทําท่าอึกอึกก่อนเอ่ยตอบ “ม..เมื่อเช้า ข้ากับฮ่องเต้กาํ ลังจะ..กําลังจะ..เอ่อ ชินอ๋ องก็มาขัดจังหวะ เขาโต้เถียง


กับฮ่องเต้อย่างรุ นแรงเจ้าค่ะ”

ใต้เท้าจางถอนใจอย่างผิดหวัง “ยังไม่สาํ เร็ จรึ มิหนําซํ้าชินอ๋ องยังรังแกเจ้าซํ้าอีก ป่ านนี้จะกินยาห้ามครรภ์กไ็ ม่


ทันการเสี ยแล้ว ได้แต่หวังว่าเจ้าจะไม่ต้ งั ท้องขึ้นมาเสี ยก่อน”

ใต้เท้าเอ่ยอย่างเห็นเป็ นเรื่ องธรรมดา ไม่ได้เป็ นห่ วงข้าสักนิด เขาคิดจะให้ขา้ เป็ นหญิงสองชายโดยไม่มีแม้ความ


ละอายสักเศษเสี้ ยวเลยหรื อ ในใจของข้าเคืองแค้นทว่าได้แต่เพียงก้มหน้าเก็บงําประกายตาไว้

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าจะเตือนเจ้า ชินอ๋ องยังหนุ่มแน่นรู ปงาม เจ้าอย่าได้เผลอใจ อย่าได้คิดหักหลังข้าไปเข้ากับเขาเป็ นอัน


ขาด”

ข้ารี บเงยหน้าเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงร้อนรอน “บุญคุณบิดาเทียมฟ้า แม่นมหลินพรํ่าสอนอวี้เอ๋ อร์ทุกวันตั้งแต่ยงั เด็ก อวี้


เอ๋ อร์ ไม่มีทางลืมเจ้าค่ะ อวี้เอ๋ อร์จะจดจําคําเตือนของบิดาไว้ในใจ ไม่มีทางลืมแน่นอน” ใช่ ข้าไม่มีทางลืม แต่ไม่
มีวนั ซาบซึ้ งแน่

“ดี อย่าลืมว่าเจ้าเป็ นคนตระกูลจาง แม้ตายไปก็เป็ นผีตระกูลจาง”

“เจ้าค่ะ” ข้าก้มหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย ใต้เท้าจางเห็นเช่นนั้นก็พอใจ

“เจ้าอย่าลืมคําพูดในวันนี้ กแ็ ล้วกัน หากวันใดคิดหักหลังข้า รับรองได้วา่ เจ้าจะต้องเสี ยใจ” เขายังไม่วายเอ่ยข่มขู่


ข้า นัน่ ย่อมเป็ นเรื่ องปกติธรรมดา จะใช้คนย่อมต้องกําหราบ แต่สายตาของใต้เท้าจางดูมนั่ ใจอย่างแปลกๆ

57
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เหตุใดเขาจึงเชื่อว่าจะควบคุมข้าได้กนั ข้าคิดอย่างไรก็ไม่อาจหาคําตอบได้

"อ้อ แล้ววันนี้ ตอนที่เจ้าออกไปกับชินอ๋ องมีเหตุการณ์อะไรหรื อไม่" ในที่สุดเขาก็เอ่ยถามแบบหยัง่ เชิง

ข้าแสร้งทําทีเป็ นลังเล "เรี ยนบิดา อันที่จริ งรถม้าที่ขา้ และชินอ๋ องโดยสารไป ถูกผูร้ ้ายลอบจู่โจม โชคดีนกั ข้า
และชินอ๋ องไม่ได้รับอันตราย แต่..แต่ชินอ๋ องกําชับไม่ให้ขา้ บอกใคร"

ใต้เท้าจางแสร้งทําท่าตกใจ "อย่างนั้นหรื อ น่าหวาดเสี ยวยิง่ นัก ดีที่เจ้าไม่เป็ นอะไร" ครู่ หนึ่งจึงเอ่ยต่อ "แล้วชิน
อ๋ องว่าอย่างไรบ้าง ทราบหรื อไม่วา่ เป็ นฝี มือของใคร"

"เรี ยนบิดาตามตรง องครักษ์ของชินอ๋ องตามมาช่วยได้ทนั จึงสังหารคนร้ายจนหมด เห็นชินอ๋ องบอกว่าคน


เหล่านั้นเป็ น.. เอ่อ เรื่ องนี้เป็ นความลับ อวี้เอ๋ อร์ไม่รู้วา่ ควรกล่าวดีหรื อไม่" ข้าแสร้งทําทีลงั เล

"อวี้เอ๋ อร์ บอกข้ามาเถิด นี่เป็ นสิ่ งที่เจ้าสมควรทําในฐานะบุตร เจ้าไม่ควรปิ ดบังสิ่ งใดต่อข้า"

ข้าได้ยนิ เช่นนั้นก็กล่าวต่อด้วยสี หน้าเหมือนสบายใจขึ้นมาก "ท่านอ๋ องบอกว่าคนเหล่านั้นเป็ นราชองครักษ์ของ


ฮ่องเต้เจ้าค่ะ" กล่าวจบข้าก็กม้ หน้านิ่ง

"อา..นึกไม่ถึง ฮ่องเต้จะลงมือโดยไม่เห็นแก่ความเป็ นอาหลานเช่นนี้" ใต้เท้าจางอุทานอย่างเสแสร้งโดยไม่มี


ความละอายสักนิดทั้งที่มนั เป็ นฝี มือของเขาแท้ๆ

แต่เดิมใต้เท้าจางมีสีหน้าระแวง แต่ในเมื่อเห็นว่าข้าไม่มีใจจะปกปิ ด ทั้งยังยอมเล่าเรื่ องทุกอย่างโดยละเอียดทั้ง


ที่ชินอ๋ องสั่งให้เก็บเป็ นความลับ เขาก็คลายใจลงแล้วสั่งให้ขา้ ไปพักผ่อน

…………

ข้ากลับเข้ามาในห้อง ให้เจินเจินปรนนิบตั ิอาบนํ้าแล้วก็ลม้ ตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่อาจใช้


ความคิดทบทวนเรื่ องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้อย่างที่ต้ งั ใจ ยามหลับก็บงั เกิดความฝันแปลกประหลาดถึงซี ยนิ ผู ้
นั้นอีกครั้ง

58
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
..ซี ยนิ .. ซี ยนิ ..

ข้าได้ยนิ เสี ยงเอ่ยเพรี ยกหาชื่อนั้นอย่างรัญจวน นํ้าเสี ยงเช่นนี้ มิใช่ยามเสน่หาหรอกหรื อ ข้ารู ้สึกกระดากใจที่จะ


เหลือบตามองภาพตรงหน้า แต่ทา้ ยที่สุดก็พา่ ยแพ้แก่ความอยากรู ้อยากเห็น

ครั้นเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นชายหนุ่มรู ปงามกําลังกอดเกี่ยวยอดพธูงามลํ้า เสี ยงลมหายใจและเสี ยงครางแผ่วเบา


ทําให้ขา้ อดหน้าแดงไม่ได้

...ความฝันสัปดนอันใด ต้องเป็ นเพราะชินอ๋ องแน่ๆ ที่ทาํ ให้ขา้ ฝันแบบนี้..

อยูๆ่ ข้าก็รู้สึกว่าอุณหภูมิในร่ างกายพุง่ สู ง ข้ารู ้สึกวาบหวิวแปลกๆ เพียงแค่เห็นภาพคู่รักร่ วมอภิรมย์ไม่น่าทําให้


ข้าเกิดความรู ้สึกเช่นนี้ ได้ เสี ยงอันน่าละอายเล็ดลอดออกมาจากริ มฝี ปากข้า ในที่สุดข้าก็ลืมตา.. ลืมตาตื่นขึ้นมา
จากความฝัน…

เสื้ อผ้าของข้าหลุดรุ่ ย ทรวงอกของข้ากําลังถูกใครบางคนครอบครองจนข้าแทบละลาย ยามถูกขบเม้มความรู ้สึก


ซาบซ่านแผ่กระจายไปทั้งร่ างจนแทบจะเปล่งเสี ยงอันน่าละอายออกมาอีก นี่ไม่ใช่เวลาที่ขา้ จะเคลิบเคลิ้มไปกับ
สัมผัสนี้! ข้าต้องร้องเรี ยกให้คนช่วย!

ข้ากําลังจะส่ งเสี ยงร้อง ทว่าร้องออกมาได้ไม่ถึงครึ่ งคํา มือใหญ่กเ็ ลื่อนมาปิ ดปากข้าไว้ ข้างหูได้ยนิ เสี ยงกระซิ บ
ที่คุน้ เคย

“กระต่ายน้อย เป็ นเปิ่ นหวางเอง”

ชินอ๋ อง! ดวงตาข้าเบิกกว้าง เขาลอบเข้าจวนยามวิกาลเพื่อลวนลามข้าอย่างนั้นหรื อ ยามกลางคืนเวรยามในจวน


ยิง่ แน่นหนาเสี ยกว่าตอนกลางวัน เขาเล็ดรอดเข้ามาได้อย่างไร

“เปิ่ นหวางคิดถึงเจ้าจนนอนไม่หลับ”

ถ้อยคําออดอ้อนของเขาทําให้ขา้ ใจอ่อน จึงไม่ได้ผลักไสเขาออก ข้าเพิง่ ตื่น ยังคิดอะไรไม่ออก จึงได้แต่เอ่ย


นํ้าเสี ยงง่วงงุน

59
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้าเหนื่อย ข้าอยากนอน”

“เปิ่ นหวางรู ้ เจ้านอนเถิด เปิ่ นหวางจะไม่ทาํ อะไร เพียงนอนกอดเจ้าไว้เฉยๆ”

ข้าได้ยนิ เพียงเท่านี้ก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง ทั้งคืนได้แต่ฝันถึงฉากรัญจวนแปลกๆ ของซี อินและบุรุษผูน้ ้ นั ตื่น


เช้ามาข้ายังรู ้สึกกระปลกกระเปลี้ย ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนท่านอ๋ องมาจริ งๆ หรื อนัน่ เป็ นแค่ความฝันลามกของข้า

ทว่ายามที่ขา้ อาบนํ้าสิ่ งที่ขา้ สงสัยจึงได้รับการยืนยัน เมื่อคืนมิใช่ความฝัน รอยจูบใหม่ๆ ที่กระจายไปทัว่ ทั้งตัว


มีอยูแ่ ม้ตามส่ วนเร้นลับ ใบหน้าของข้าแดงซ่าน นึกย้อนไปถึงถ้อยคําที่ได้ยนิ ก่อนที่จะหลับไป

...เปิ่ นหวางจะไม่ทาํ อะไร เพียงนอนกอดเจ้าไว้เฉยๆ…

คําพูดของคนผูน้ ้ ี เชื่อถือไม่ได้จริ งๆ

60
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 11 : หากเจ้ าชั่วร้ ายคงประเสริฐนัก

ตั้งแต่งานชมบุปผา ข้ายังไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อยูเ่ งียบๆ

วันนี้ยามสาย ไทเฮาส่ งรถม้ามารับข้าเข้าวัง เกากงกงบอกว่าพระนางเห็นว่างานชมบุปผาข้ารี บกลับเสี ยก่อน ยัง


ไม่มีโอกาสได้พูดคุย จึงมีพระประสงค์จะให้ขา้ ไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนคุยเล่นสักสองสามวัน ข้ารับฟังด้วยสี หน้าสงบ
แม้ในใจแตกตื่น นี่คงเป็ นแผนการของใต้เท้าจางเป็ นแน่ เขาพยายามจะส่ งข้าขึ้นไปสังเวยแก่ฮ่องเต้ เมื่อวานเขา
พลาดโอกาสให้ฮ่องเต้รวบรัดข้าที่จวน อีกทั้งยังไม่อาจสังหารชินอ๋ อง วันนี้จึงเร่ งลงมือ หากข้าเข้าวังไปครานี้
เผลอๆ อาจได้ตื่นขึ้นมาบนแท่นบรรทมของฮ่องเต้เป็ นแน่

...ข้าจะทําอย่างไรดี…

ข้าไม่อาจเหนี่ยวรั้งอยูท่ ี่จวนได้ จําต้องเดินไปขึ้นรถม้าโดยมีเจินเจินหอบข้าวของเดินตาม

วังหลวงยังคงงดงามโอ่อ่าเหมือนเคย ข้าเดินเท้าตามเกากงกงเข้าตําหนักฉื อหนิง ระหว่างทางได้ยนิ เสี ยงเอ่ยทัก

“เกากงกงมิใช่หรื อ?”

ข้าและเกากงกงเหลียวมองไปตามเสี ยง พบหนุ่มน้อยสองคนอายุราวสิ บหกสิ บเจ็ด ข้าจําได้วา่ เขาคือองค์ชายหก


และองค์ชายสิ บที่ได้พบเมื่อวานนี้ที่หอเทียนฝู จึงรี บยอบกายคํานับตามเกากงกง

“แม่นางผูน้ ้ ีคือ?”

“ทูลองค์ชายหกและองค์ชายสิ บ นางคือคุณหนูจาง บุตรี บุญธรรมใต้เท้าจางอี้หมิงพะย่ะค่ะ” เกากงกงเอ่ยตอบ


ท่าทางกระสับกระส่ าย

“อ้อ” องค์ชายทั้งสองรับคําแล้วจับจ้องข้าไม่วางตา ข้าพยายามก้มหน้าให้ต่าํ ลงอีก

“เจ้ามิใช่สตรี คนเมื่อวานที่เราเจอกับชินอ๋ องหรอกหรื อ” องค์ชายสิ บโพล่งขึ้นมาอย่างประหลาดใจ

61
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แม้เรื่ องนี้จะไม่ใช่ความลับ ไทเฮาและคนของพระนางย่อมรู ้ความเคลื่อนไหวของข้า แต่การที่อยูด่ ีๆ องค์ชาย
สิ บพูดขึ้นกลางอุทยานในวังหลวงก็ดูจะมิใช่สิ่งที่สมควรเท่าใด ใบหน้าของข้าจึงแดงซ่าน มิได้ตอบรับหรื อ
ปฏิเสธ

องค์ชายสิ บกระทุง้ ศอกใส่ สีขา้ งผูเ้ ป็ นน้องชาย

“ไร้สาระ คุณหนูจางอย่าได้ใส่ ใจ องค์ชายสิ บคงจะจําคนผิด” องค์ชายหกเหลือบมองสัมภาระในมือเจินเจิน


แล้วหันมาเอ่ยกับข้า “คุณหนูจางคงจะมาอยูเ่ ป็ นเพื่อนไทเฮากระมัง”

คนในวังย่อมรู ้ความสัมพันธ์ระหว่าไทเฮาและตระกูลจาง

“หวังว่าเราคงจะมีโอกาสได้พบกันอีก”

กล่าวจบเขาก็รีบลากแขนเสื้ อองค์ชายสิ บจากไป เกากงกงผ่อนลมหายใจ เอ่ยกระซิ บกับข้าเบาๆ

“องค์ชายซุกซนทั้งสองนี้ ท่านอยูห่ ่างเอาไว้หน่อยจะดีกว่า”

ข้าพยักหน้ารับ เขาจึงรี บเดินนําไปยังตําหนักไทเฮาทันที

เมื่อไปถึงตําหนัก ไทเฮามิได้พูดคุยกับข้ามากนักด้วยรู ้วา่ ข้ามีฐานะอะไรและถูกส่ งตัวมาทําอะไร พระนางเพียง


ให้คนจัดห้องพักให้ขา้ ในปี กตึกทิศตะวันออก ข้าได้พกั ผ่อนในห้องอันงดงามหรู หรายิง่ กว่าที่จวนตระกูลจาง
ผ้าห่มม่านมุง้ ล้วนเป็ นของชั้นเลิศ ข้าจึงถือโอกาสนอนพักเอาแรงตลอดช่วงบ่าย พอถึงกลางยามเซิ น (16.00 น.)
ไทเฮาก็ส่งนางกํานัลสองคนมาปรนนิบตั ิขา้ อาบนํ้าแต่งตัว พวกนางทํางานด้วยความประณี ตรวดเร็ ว เสื้ อผ้าและ
เครื่ องประดับล้วนเป็ นของที่ตาํ หนักไทเฮาจัดเตรี ยมไว้ให้ แต่งตัวเสร็ จแล้ว พวกนางก็เกล้าผมให้ขา้ เป็ นมวยผม
ห้าชั้น โชคดีที่ขา้ มีเรื อนผมดกหนา จึงไม่ตอ้ งใช้ผมปลอมเสริ ม ด้วยความที่เป็ นหญิงสาวยังไม่ออกเรื อน จึงใช้
เพียงปิ่ นปั กผมเรี ยบง่ายทว่าดูหรู หรางดงาม

พวกนางผัดแป้งให้ขา้ ทว่าหันกลับไปปรึ กษากันครู่ หนึ่งก็ลบแป้งออก

62
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“คุณหนูผิวดีอยูแ่ ล้ว บ่าวเห็นว่าไม่ทาแป้งจะเห็นผิวกระจ่างมากกว่านะเจ้าคะ” ข้าเพียงพยักหน้าเล็กน้อย พวก
นางจึงเติมชาดที่ปาก เขียนคิ้วเขียนตาเล็กน้อยเป็ นอันเสร็ จสิ้ น

แม้ไทเฮาจะไม่เอ่ยปาก แต่การส่ งคนมาช่วยแต่งองค์ทรงเครื่ องให้ขา้ เช่นนี้ ย่อมจะเป็ นการบอกเป็ นนัยว่าเย็นนี้


คงจะมีแขกพิเศษ จริ งดังคาด พอแต่งกายเสร็ จนางกํานัลทั้งสองก็นาํ ข้าไปนัง่ รอยังห้องเสวย

“อีกสักครู่ ไทเฮาและฝ่ าบาทจะเสด็จมาเจ้าค่ะ” นางกํานัลทั้งสองกําชับก่อนจะจากไป ปล่อยให้ขา้ นัง่ รอตาม


ลําพัง

ผ่านไปครู่ ใหญ่ ข้าจึงได้ยนิ เสี ยงขันทีประกาศ ข้าลุกขึ้น ครั้นเห็นเงาร่ างทั้งสองปรากฏที่ประตู ก็ยอบกายคารวะ


อย่างอ่อนน้อม ฮ่องเต้ทรงชุดมังกรเต็มยศเหมือนเพิ่งเสร็ จสิ้ นภารกิจ ประคองไทเฮาเข้ามาในห้อง

“อวี้เอ๋ อร์ถวายบังคมฝ่ าบาท ถวายพระพรไทเฮาเพคะ”

แววตาของฮ่องเต้ทอประกายวาบยามจับจ้องมาที่ร่างของข้า มุมปากของเขาหยักขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชดั ว่า


ลิงโลดอย่างยิง่ แต่เก็บงําไว้ไม่อาจแสดงออก ด้วยว่าอยูเ่ บื้องพระพักตร์ไทเฮา

“ไม่ตอ้ งมากพิธี” เขาเอ่ยเสี ยงเคร่ งขรึ ม

ครั้นนัง่ ลงเรี ยบร้อยแล้ว ต่างก็รับประทานอาหารไปอย่างเงียบๆ เห็นได้ชดั ว่าไทเฮามิได้สนิทสนมกับฮ่องเต้


มากนัก กินไปได้ไม่กี่คาํ ข้าก็รู้สึกอิ่ม แต่ในเมื่ออีกสองคนยังไม่อิ่ม ข้าก็จาํ ต้องคีบอะไรเล็กน้อยเข้าปาก เคี้ยว
อย่างเชื่องช้าไปพลาง

“ไม่อร่ อยหรื อ” นํ้าเสี ยงทุม้ ตํ่าของฮ่องเต้ดงั ขึ้น ดวงตาที่ทอดมองมาระยิบระยับ

“ทูลฝ่ าบาท ฝี มือคนครัวของตําหนักฉื อหนิงลํ้าเลิศ อาหารล้วนถูกปากอวี้เอ๋ อร์ เพียงแต่อวี้เอ๋ อร์ไม่ค่อยหิ วเพ


คะ” ข้ารี บเอ่ย

ฮ่องเต้ไม่วา่ กระไร เพียงแต่คีบอาหารอีกไม่กี่คาํ ก็วางมือ ส่ งสายตาไปทางไทเฮาเล็กน้อย พระนางก็เปรยขึ้น


อย่างรู ้จงั หวะ

63
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เฮ้อ.. วันนี้ขา้ ท่องพระสู ตรเสี ยจนล้าสายตาไปหมด เห็นทีตอ้ งขอตัวไปเอนหลังก่อน หวังว่าฮ่องเต้คงไม่ถือ
สา”

“เสด็จแม่โปรดอย่าหักโหม หากทรงเหน็ดเหนื่อยเกินไปจะกระทบกระเทือนพระวรกายเอาได้” ว่าแล้วก็ตรง


เข้าประคองไทเฮาให้ลุกขึ้น “ลูกส่ งเสด็จ เสด็จแม่ทรงถนอมพระวรกายด้วยพะย่ะค่ะ”

ข้ารี บย่อกายคารวะไทเฮา คล้อยหลังนางไปแล้ว ทั้งห้องก็ตกอยูใ่ นความเงียบงัน ข้าไม่รู้จะทําเช่นไร จึงก้มหน้า


นิ่งเช่นเคย ฮ่องเต้ยนื นิ่งอยูช่ วั่ ครู่ จึงเอ่ยเสี ยงเบา

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าอิ่มแล้วใช่หรื อไม่ ไปชมสวนกับเราหน่อยเถิด”

ข้าไม่มีหนทางปฏิเสธ ได้แต่รับคําแล้วเดินตามฮ่องเต้ออกไป ยามหัวคํ่า บรรยากาศในอุทยานหลวงกําลังสบาย


สายลมพัดแผ่วพริ้ วหอบเอากลิ่นเกสรดอกไม้โชยมา ฝี พระบาทของฮ่องเต้เนิบนาบ ไม่ชา้ ไม่เร็ ว ขันทีประจํา
พระองค์ทอดฝี เท้าห่างออกไป

“เราดีใจมากที่ได้เจอเจ้า หากรู ้วา่ เจ้าอยูท่ ี่นี่ เราจะรี บมาให้เร็ วกว่านี้ ” เขาเอ่ยขณะที่ขา้ เดินตามอยูข่ า้ งหลัง ข้าไม่
รู ้จะเอ่ยสิ่ งใด ได้แต่รับฟัง

“คืนนี้เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน ไทเฮาช่างร้ายกาจยิง่ นัก นางรู ้จุดอ่อนของเรา เอาเจ้ามาล่อใกล้หูใกล้ตาข้าเช่นนี้


ข้าจะตัดใจได้อย่างไร”

ข้าปล่อยให้คาํ พูดของเขาเป็ นเหมือนสายลมพัดแผ่ว ไม่ได้ตอบรับ เขาเองก็ไม่ได้ตอ้ งการคําตอบ ต้องการเพียง


ระบายความในใจให้ขา้ รู ้เท่านั้น

“เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ มันทรมานเพียงใดที่ได้เห็นแต่ไม่อาจครอบครอง”

ดูเหมือนเส้นทางทอดไกลจนไม่มีวนั จบสิ้ น ขาทั้งสองของข้าเริ่ มอ่อนล้า เขาผ่อนฝี เท้าลงเมื่อได้ยนิ เสี ยงหายใจ


ของข้า ในที่สุดฮ่องเต้กพ็ าข้าไปจนถึงสระบัวที่ห่างไกล

“เหนื่อยหรื อไม่” เขาหันมาถาม สังเกตเห็นเหงื่อเม็ดเล็กที่ผดุ ตามกรอบหน้าผากของข้า

64
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่เหนื่อยเพคะ” ข้าปด

เขาล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับหน้าผากให้ขา้ ข้าตกใจจนผงะ

“ฝ..ฝ่ าบาทเพคะ ของใช้ส่วนพระองค์ นํามาเช็ดเหงื่อให้อวี้เอ๋ อร์ เช่นนี้เป็ นการไม่สมควร…”

“เราไม่ถือสา” ฮ่องเต้จอ้ งตาข้ายามเอ่ยถ้อยคํานี้ เตือนให้นึกถึงเรื่ องอื่นเช่นกัน ถูกแล้ว เขาไม่เคยถือสา ไม่ถือสา


แม้วา่ ข้าจะตกเป็ นของชายอื่น ความจริ งใจของเขาชวนให้ขา้ ปวดใจเหลือเกิน ข้าจึงเบี่ยงสายตาหลบ ใบหน้าระ
เรื่ อ

“ได้ยลโฉมเจ้าใต้แสงจันทร์เช่นนี้ คืนนี้ เราคงหลับฝันดี” ฮ่องเต้เอ่ยด้วยรอยยิม้

แสงจันทร์สาดส่ องทิวทัศน์อนั งดงามในอุทยาน มีแสงจากโคมไฟเป็ นระยะๆ ต้องเปี่ ยมบุญญาธิการสักเท่าใด


จึงจะเป็ นเจ้าของสิ่ งที่อยูเ่ บื้องหน้านี้ได้ ทว่าจิตใจของผูท้ ี่มีทุกอย่างในมือดูจะไม่เป็ นสุ ขนัก มือของเขาเอื้อมมา
ลูบไล้ที่ลาํ คอ แม้ขา้ มองไม่เห็น แต่สายตาที่เจ็บปวดของเขาก็ทาํ ให้ขา้ รู ้วา่ เขากําลังสัมผัสรอยใหม่ที่ชินอ๋ องทิ้ง
ไว้เมื่อคืน

“เห็นเจ้าอยูใ่ ต้อาณัติผอู ้ ื่นเช่นนี้ เรา..เราเจ็บปวดเหลือเกิน” ฮ่องเต้ตรัสออกมาด้วยนํ้าเสี ยงสะเทือนอารมณ์ ข้า


เองก็จนใจ แต่ไม่อาจปริ ปากบอกความจริ งกับเขาได้

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้ารังเกียจเราหรื อไม่” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา

ข้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนพยายามเรี ยบเรี ยงคําพูด ข้าไม่ตอ้ งการทําร้ายนํ้าใจเขา แต่กไ็ ม่ตอ้ งการให้เขายึดติดอยู่


กับข้า

“ฝ่ าบาท พระองค์สูงศักดิ์ยงิ่ นัก อวี้เอ๋ อร์ต่าํ ต้อยเช่นนี้ จะรังเกียจพระองค์ได้อย่างไร”

“ขอแค่เจ้าออกปาก เราพร้อมจะขัดแย้งกับชินอ๋ อง”

ไม่..ไม่.. ข้าไม่ตอ้ งการให้แผนการของใต้เท้าจางสําเร็ จ

65
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“นํ้าพระทัยของฝ่ าบาท อวี้เอ๋ อร์ ซาบซึ้ งยิง่ นัก เจตนาของใต้เท้าจางผูบ้ ิดา เกรงว่าฝ่ าบาทเองก็ทรงชัดแจ้งอยูแ่ ก่
ใจ ทว่าอวี้เอ๋ อร์แปดเปื้ อนเสี ยแล้วจึงไม่อาจเอื้อม อีกทั้งยังไม่อาจทําใจหากต้องกลายเป็ นหญิงสองชาย ให้อา
หลานใช้สตรี ร่วมกันเพคะ” ข้าเอ่ยถ้อยคําตัดรอนโหดร้าย แต่เขายังคงไม่ละความพยายาม

“เราบอกแล้วว่าไม่ถือสา อีกทั้งจะไม่มีผใู ้ ดล่วงรู ้ เพียงเจ้าพยักหน้า ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็ นพระสนมคืนนี้เลย”


กล่าวจบก็สืบเท้าเข้ามารวบเอวข้าไปกอดไว้ ข้าอึกอัก จะผลักออกก็ไม่ได้ จะปล่อยไว้เช่นนี้ กไ็ ม่ควร ไม่รู้จะ
ปฏิเสธอย่างไร…

ทันใดนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงหนึ่งดังขึ้น

“พี่สี่ช่างเร่ าร้อนนัก.. อ้อ ข้าลืมไป ขอประทานอภัย ต้องเรี ยกฝ่ าบาทถึงจะถูก”

เงาร่ างหนุ่มน้อยสองคนสื บเท้าเข้ามาใกล้ สี หน้าซุกซนมีแววล้อเลียน

“พวกข้ามาขัดจังหวะหรื อไม่” องค์ชายสิ บเอ่ยถามเสี ยงใส แม้วา่ นํ้าเสี ยงที่เพิ่งเริ่ มแตกเนื้อหนุ่มจะทําให้มนั ฟังดู
แปลกๆ เหมือนเสี ยงเป็ ดก็ตาม

ฮ่องเต้หน้าตึง ไม่ตอบคําแต่กลับเอ่ยถามเสี ยงเรี ยบ “ยามนี้มืดคํ่าแล้ว เหตุใดพวกเจ้ายังมาเตร็ ดเตร่ อยูแ่ ถวนี้อีก”

“เสด็จพี่ พวกข้าถูกพระอาจารย์สั่งกักตัวทําโทษ ห้ามมิให้ออกไปนอกวัง ราตรี น้ ี ยงั เยาว์ ไม่อาจขังตัวอยูใ่ น


ตําหนักได้ จึงพากันออกมาเดินเล่นเผือ่ จะพบเห็นอะไรดีๆ” องค์ชายสิ บกล่าวด้วยรอยยิม้ มีเลศนัย

“เจ้าสิ บ” องค์ชายหกแสร้งเอ็ดเสี ยงดุ “ฝ่ าบาทตรัสถามก็ตอบดีๆ จะมามัวเล่นลิ้นได้อย่างไร”

ฮ่องเต้ถอนใจ ดูท่าจะอิดหนาระอาใจกับสองพี่นอ้ งคู่น้ ี จึงคร้านจะต่อปากต่อคํา “พวกเจ้าจะไปไหนก็ไปเถิด


เราเองก็กาํ ลังจะกลับแล้ว” กล่าวจบก็เอื้อมมือมากุมมือฉันแล้วพาออกเดิน ร่ างฉันปลิวตามฝี เท้าที่เร่ งรี บของเขา

เบื้องหลังยังได้ยนิ เสี ยงหัวเราะทะเล้นของสองพี่นอ้ งแว่วมา


แม้ในมือหนาจะมีมือนุ่มเนียนราวกับหยกของนาง แต่ฮ่องเต้ยงั คงไม่พอใจ ..เพียงได้มองก็อยาก
สัมผัส เมื่อได้สัมผัสก็ปรารถนาจะครอบครอง.. แววตาของฮ่องเต้เศร้าสร้อย ได้แต่ดาํ ริ ในใจ ..อวี้เอ๋ อร์ หากเจ้า
ชัว่ ร้ายกว่านี้ กค็ งประเสริ ฐนัก...

66
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 12 : ตัดสิ นใจ

เมื่อสามารถลากตัวข้าเข้าวังมาได้แล้ว ไทเฮามีหรื อที่ไม่คิดจะจับข้าใส่ พานถวายฮ่องเต้! ฉวยโอกาสที่ชินอ๋ องผู ้


นั้นยังไม่ไหวตัว ทําข้าวสารให้เป็ นข้าวสุ กไปเสี ย

นางเรี ยกข้าไปพบแต่เช้า ถามไถ่ถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ทั้งยังมีสีหน้ากราดเกรี้ ยวเมื่อได้ยนิ ว่า องค์ชายทั้งสอง


ปรากฏตัวขึ้นมาขัดจังหวะ

ข้าค่อยแอบถอนใจอย่างโล่งอก หากองค์ชายซุกซนสองคนนัน่ ไม่มาพบเข้า ข้าคงยากจะปฏิเสธฮ่องเต้ได้ อีก


อย่างถึงข้าปฏิเสธฮ่องเต้ได้สาํ เร็ จ กลับมาก็ตอ้ งเผชิญด่านไทเฮา นางคงนึกระแวงสงสัยว่า สายตาที่ฮ่องเต้จบั
จ้องข้าอ่อนเชื่อมเสี ยขนาดนั้น ข้าได้ใช้ความพยายามหรื อไม่ เหตุใดข้ายังหลุดรอดกลับมาได้ คงไม่ยากที่สตรี
รอบจัดเช่นไทเฮาจะคะเนหาสาเหตุได้วา่ เป็ นเพราะข้าเป็ นฝ่ ายปฏิเสธฮ่องเต้เสี ยเอง

..อันตราย อันตรายยิง่ นัก…

อีกเรื่ องที่ทาํ ให้นางฉุนเฉี ยวขนาดนี้กเ็ พราะเมื่อคืน หลังจากแยกกับข้าแล้ว ฮ่องเต้เสด็จตําหนักเซี ยวเสี ยนเฟย


คู่แข่งกับตระกูลจางของนาง เซี ยวเสี ยนเฟยไม่เพียงมีโอรสแล้ว นางยังเป็ นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ไม่เสื่ อม
คลาย ต่างจากตําหนักอันเงียบเหงาของคุณหนูใหญ่ตระกูลจางมากนัก นางเข้าวังมาหลายปี แล้ว อีกทั้งยังมี
ตระกูลจางหนุนหลัง แต่ยงั ได้เป็ นเพียงสนมขั้นผิน

“อวี้เอ๋ อร์ ” ไทเฮาเอ่ยเรี ยกข้า พลางจับจ้องมาอย่างใช้ความคิด “ฮ่องเต้โปรดเจ้ามาก เจ้าคิดว่าอย่างไรหากข้าจะ


ให้เกากงกงนําเจ้าไปยังตําหนักเฉี ยนชิงของฝ่ าบาทราตรี น้ ี ”

ข้าได้ยนิ แล้วตื่นตระหนก นางหมายจะให้ขา้ ปี นขึ้นเตียงฮ่องเต้หรื อ ข้าไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธนาง ไม่เช่นนั้น


นางอาจจะหวาดระแวงได้ ข้าทําทีครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งจึงเอ่ย

“ทูลไทเฮา อวี้เอ๋ อร์ยงั มีสัญญาหมั้นหมายกับชินอ๋ อง หากทําสิ่ งใดโจ่งแจ้งเกินไป เกรงว่าจะไม่เหมาะสมเพคะ”

67
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จริ งของเจ้า” นางเอ่ยคล้ายเห็นด้วย ข้าลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าประโยคถัดมาของนางทําให้ขา้ เย็นยะ
เยือกราวกับถูกนํ้าสาด “เช่นนั้นเย็นนี้ขา้ จะเชิญฮ่องเต้มาที่นี่อีก เขาจะต้องรี บมาแน่ จากนั้น เจ้าจงทําทุกวิถีทาง
เหนี่ยวรั้งฮ่องเต้ไว้ที่ตาํ หนักนี้ให้ได้ การณ์กจ็ ะเป็ นว่าฮ่องเต้เป็ นฝ่ ายลงมือกับเจ้าเอง”

ข้าได้แต่กม้ หน้ารับคํา “เพคะ” ไม่กล้าบ่ายเบี่ยงอีก

ตลอดทั้งวันข้าได้แต่กลัดกลุม้ คิดหาหนทางที่จะเอาตัวรอดในคืนนี้ หากข้าแสดงออกชัดเจนว่าขัดขืน ไทเฮาคง


ให้คนมอมยาสลบแล้วอุม้ ข้าไปขึ้นเตียงฮ่องเต้เป็ นแน่ ข้าควรจะทําอย่างไรดี

ในที่สุดข้าก็ตดั สิ นใจได้ หลังอาหารเที่ยง ข้าจะทําทีออกไปเดินเล่นในอุทยาน หากโชคดีอาจจะได้เจอองค์ชาย


หกและองค์ชายสิ บ อย่างน้อยดูเขาทั้งสองมีความสนิทสนมกับชินอ๋ อง ข้าอาจจะฝากให้พวกเขาช่วยส่ งข่าวถึง
ชินอ๋ อง เลวร้ายที่สุด หากไม่เจอใครเลย คืนนี้ขา้ อาจต้องขอร้องฮ่องเต้ให้ละเว้นข้า แต่กไ็ ม่รู้วา่ จะสําเร็ จหรื อไม่
ข้าทอดถอนใจ ไม่มีทางออกอื่นใดแล้ว ข้าต้องลองเสี่ ยงดู

ไทเฮาจับตาดูขา้ อย่างระมัดระวัง เมื่อนางกํานัลยกอาหารกลางวันมาตั้ง ข้าจึงลงมือกินด้วยท่าทางราวกับไม่มี


เรื่ องเดือดเนื้อร้อนใจ

ทว่ากินอาหารกลางวันแล้ว ยังไม่ทนั ได้ออกไปเดินเล่นอย่างที่ต้ งั ใจ ข้าก็รู้สึกง่วงงุนเหลือเกิน หนังตาหนักจน


แทบจะลืมไม่ข้ ึน ยังเดินไปไม่ถึงเตียงข้าก็ทรุ ดลงกับพื้น ดีวา่ นางกํานัลทั้งสองคนที่คอยปรนนิบตั ิอยูช่ ่วยกัน
พยุงข้าไว้ได้ทนั

...ไม่ถูกต้อง นี่มนั ไม่ถูกต้อง.. ข้าไม่ควรจะง่วงเช่นนี้ หรื อว่า..ข้าถูกวางยา ไทเฮาคงไม่เชื่อใจข้า นางคงคิดว่าข้า


ไม่เต็มใจจะปรนนิบตั ิฮ่องเต้ จึงใช้วธิ ีสกปรกเช่นการวางยาข้าเช่นนี้

นางกํานัลทั้งสองประคองข้ามาล้มตัวลงนอนบนเตียง ข้าได้ยนิ เสี ยงเปิ ดประตูเข้ามา นางกํานัลย่อกาย แล้วออก


จากห้องไปเงียบๆ ข้าพยายามฝื นลืมตา เห็นผูท้ ี่เข้ามาคือไทเฮา นางนัง่ ลงที่เก้าอี้ขา้ งเตียง จ้องมองข้าอย่างเพ่ง
พินิจ แล้วเอ่ยกับข้าเบาๆ ราวกับปลอบโยน

“เด็กน้อย เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน แม้แต่ขา้ ซึ่ งเป็ นอดีตประมุขวังหลัง ก็ยงั ไม่เคยเห็นใครงดงามเท่านี้ ”

พระนางถอนใจ เงียบไปครู่ หนึ่งจึงเอ่ยต่อ

68
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ ข้าเองก็เป็ นสตรี ใจจริ งไม่อยากทําเช่นนี้ แต่อย่างไรเสี ย เจ้าก็ตอ้ งถวายตัวอยูด่ ี เบี้ยอย่างเจ้าช่างสู งค่า
อย่างหาได้ยากยิง่ นัก ขนาดฮ่องเต้ยงั มิทนั ได้ครอบครองเจ้า ยังหลงใหลหัวปักหัวปํ าถึงเพียงนี้ หากวันใดเจ้าได้
เป็ นสนมของเขา มีหรื อที่เขาจะสนใจสิ่ งอื่นใดอีก เขาคงจะถูกเจ้าปั่นหัวราวกับลูกข่างทีเดียวล่ะ”

ข้ากัดฟั นแน่น พยายามฝื นลืมตา ทว่าทําอย่างไรก็ลืมไม่ข้ ึน สุ ดท้ายโลกทั้งใบก็ตกอยูใ่ นความมืด…

ตอนที่ขา้ ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะถึงยามซวีแล้ว (19.00 น.) ท้องฟ้าภายนอกมืดไปหมด ข้ายันกายขึ้นจากเตียงแล้วขยี้


ตา พอสังเกตเห็นสภาพห้องก็หายง่วงเป็ นปลิดทิ้ง

..ที่นี่คือที่ใด..

ห้องนี้กว้างขวางมลังเมลือง เทียบกับตําหนักไทเฮาแล้วยังงดงามหรู หรากว่าหลายส่ วน ม่านมุง้ ถักทออย่าง


ประณี ต แท่นบรรทมใหญ่โตราวกับจะนอนพร้อมกันได้หา้ หกคน ข้าสังหรณ์ใจว่านี่คงจะเป็ นห้องบรรทมของ
ฮ่องเต้ ไทเฮาลงมือกับข้าเสี ยแล้ว!

ตัวข้ายังปลอดภัยดีอยู่ ฮ่องเต้คงยังไม่กลับมา ข้าจะรั้งอยูท่ ี่นี่นานไม่ได้!

ข้าลุกขึ้นยืนอย่างโงนเงน ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาจะยังทําให้ร่างกายของข้าสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง ข้าพยายามประคองกาย


ไปยังประตูหอ้ ง หมายใจว่าหากเส้นทางปลอดโปร่ งก็จะลอบเร้นกายออกไปเสี ย ทว่าเมื่อก้มลงมองดูตวั เอง
ใบหน้าของข้าก็ตอ้ งร้อนผ่าว

ทั้งเนื้อทั้งตัวของข้าหอมกรุ่ นไปหมด เส้นผมยาวเหยียดตรงคลุมบั้นท้ายของข้าถูกแปรงจนดําขลับเงางามราว


กับนํ้าหมึก แล้วปล่อยให้ทิ้งตัวสยายเป็ นธรรมชาติ ยามที่ขา้ หลับใหล คนพวกนั้นคงจับข้าไปขัดสี ฉวีวรรณเป็ น
การใหญ่

บนร่ างกายข้ามีเพียงเสื้ อคลุมสี แดงสด เนื้อผ้าเรี ยบลื่นเป็ นมันแนบเข้ากับร่ างกาย มีเพียงสายผูกเอวเส้นเดียว


ภายใต้น้ นั ล้วนไม่ได้สวมใส่ สิ่งใด อกเอวเย้ายวนเผยให้เห็นเป็ นรอยใต้ผา้ อย่างชัดเจน ยิง่ ยามไหวกาย สาบเสื้ อ
ยิง่ เผยอออกจนแทบจะเห็นเนื้อในที่เป็ นก้อนกลมขาวผ่องอยูร่ างๆ ข้ายกมือกุมสาบเสื้ อไว้แน่น
ข้าไม่กล้าให้ใครเห็นข้าในสภาพนี้!

เสี ยงพูดคุยจากภายนอกดังเล็ดลอดเข้ามา

69
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ฮ่องเต้ใกล้เสด็จกลับจากห้องทรงอักษรแล้ว วันนี้ทรงไม่ได้เลือกแผ่นป้าย คงจะบรรทมที่ตาํ หนัก”

ใบหน้าของข้าซี ดเผือด ..จะทําอย่างไรดี..

ข้านึกถึงชินอ๋ อง สองวันมานี้เขาหายไปไหนกันนะ ไม่รู้หรื อว่าข้าถูกส่ งตัวเข้าวัง เหตุใดป่ านนี้ เขายังไม่มาช่วย


ข้า

ข้าเหยียดยิม้ ให้กบั ตัวเอง ..ถามอะไรโง่ๆ.. ข้าสําคัญอะไรกับเขา หายหน้าไปเพียงสองวันเขาจึงจะรู ้สึกว่าผิด


สังเกต หากข้าคิดจะอยูร่ อด ข้าจะต้องอยูร่ อดด้วยตัวเอง มิใช่ดว้ ยการพึ่งพิงผูอ้ ื่น

“เหตุใดวันนี้ ฮ่องเต้จึงเสด็จกลับช้านักเล่า”

“เจ้าไม่รู้อะไร ทรงเสด็จไปตําหนักฉื อหนิงของไทเฮา มาตรว่าต้องการพบคุณหนูจางอะไรนี่แหละ แต่ดู


เหมือนว่าไทเฮาจะอ้างว่านางป่ วย ตั้งแต่ทรงเสด็จกลับมาก็ดูเหมือนว่าจะทรงพระอารมณ์ไม่ดีนกั เจ้าว่า..หาก
ฮ่องเต้เห็น “สิ่ งนั้น” ในห้องบรรทม จะทรงโปรดหรื อไม่ ตอนเกากงกงมาขอให้ช่วย ข้าเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธเช่น
ไร”

“อย่าห่วงไปเลย อย่างเลวโทสะของพระองค์กค็ งตกอยูก่ บั แม่นางผูน้ ้ นั เสี ยมากกว่า อย่างไรเสี ยพวกเราก็คงไม่


เดือดร้อน”

ข้าไม่มีแก่ใจจะฟังบทสนทนาของเหล่าขันทีอีกต่อไป จึงคว้าเก้าอี้มาต่อขา ปี นขึ้นไปบนหน้าต่าง รู ้ดีวา่ หาก


หลบเลี่ยงฮ่องเต้ในคืนนี้ได้สาํ เร็ จ อนาคตของข้ากับตระกูลจางก็จบสิ้ นแล้ว พวกเขาคงรู ้แน่วา่ ข้าเอาใจออกห่าง
หากต้องการจะมีชีวิตรอด เห็นจะต้องหนีไปพึ่งใบบุญของชินอ๋ องแล้วกระมัง แต่หากชินอ๋ องเห็นว่าข้าหมด
ประโยชน์แล้วเล่า เขาจะยังช่วยเหลือข้าหรื อไม่ ตอนนี้ขา้ ไม่มีเวลามาคิดเรื่ องพวกนี้ ได้แต่หาทางรอดเฉพาะ
หน้าไปก่อน

ข้ายันตัวขึ้นไปนัง่ บนขอบหน้าต่าง เห็นเวรยามเดินเลี้ยวหัวมุมมาแต่ไกล จึงรี บปี นกลับมายืนบนเก้าอี้ตามเดิม


ตอนนี้ขา้ ไม่สนใจแล้วว่าชุดนี้จะล่อแหลมหรื อไม่ ขอเพียงข้าหนีพน้ ไปจากห้องนี้เสี ยก่อน ไม่รู้วา่ ฮ่องเต้จะ
กลับมาจากห้องทรงอักษรเมื่อไหร่

70
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
พอเวรยามเดินพ้นหัวมุมตึกไป ข้าจึงค่อยปี นขึ้นมานัง่ บนหน้าต่างอีกครั้ง มองลงไปยังพื้นดิน ถึงจะมีหญ้าเขียว
ชะอุ่มแลดูนุ่มนิ่ม แต่จากบนนี้ กส็ ู งไม่ใช่นอ้ ย ข้าตั้งใจจะค่อยๆ โหนตัวลงไป จับกรอบหน้าต่างไว้ พอปลายเท้า
ใกล้พ้ืนแล้วค่อยปล่อยมือ

เสี ยง “ถวายบังคมฝ่ าบาท ขอจงทรงพระเจริ ญหมื่นๆ ปี ” ดังใกล้เข้ามาเป็ นลําดับ ข้ารี บร้อนจนข้อศอกไถลกับ


ขอบหน้าต่างอย่างแรง เจ็บจนนํ้าตาเล็ด ยามที่บานประตูเปิ ดออก ที่ขอบหน้าต่างก็เหลือแต่มือของข้าห้อย
ต่องแต่งอยูเ่ ท่านั้น

เสี ยงฝี เท้าเนิบช้าก้าวเข้ามาในห้อง ข้าโล่งใจที่พวกขันทีหน้าห้องไม่ได้ปริ ปากพูดอะไร ข้าได้ยนิ เสี ยงฮ่องเต้สูด


ลมหายใจเข้าลึก ปลายนิ้วข้าเริ่ มรับนํ้าหนักไม่ไหว ข้าจึงค่อยๆ ปล่อยมือ

...ตุบ..

เสี ยงหนึ่งดังขึ้นในความเงียบ แต่มนั ไม่ได้ดงั มาก ฮ่องเต้คงไม่ได้ยนิ ข้าอดทนไม่ร้องออกมาสักแอะ แม้จะจุก


จนต้องนอนตัวงอแต่กไ็ ม่กล้าส่ งเสี ยง ครู่ หนึ่งเมื่อหายจุกแล้ว จึงค่อยยันกายลุกขึ้นจากพื้น เงยหน้าขึ้นมาก็เห็น
ฮ่องเต้เท้าคางกับกรอบหน้าต่าง มองลงมายังข้าด้วยสายตาเปี่ ยมรอยยิม้

71
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 13 : หม่ อมฉันจะปลงผมบวชชี

ข้าตกตะลึง ได้แต่แหงนหน้ามองฮ่องเต้ราวกับคนบ้าใบ้ ฮ่องเต้มองข้าอย่างสํารวจตรวจตาแล้วใบหน้าก็แดงขึ้น


ข้าลืมไปเสี ยสนิ ทว่าชุดนี้เปิ ดเผยเนื้อตัวข้าเพียงไร จึงยกมือขึ้นกุมสาบเสื้ อไว้ แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างกระอัก
กระอ่วนใจ

“ฝ่ าบาทรู ้ได้อย่างไรเพคะว่าอวี้เอ๋ อร์อยูต่ รงนี้ ” ข้ามัน่ ใจว่าตอนหย่อนตัวลงมาไม่ได้ทาํ ให้เกิดเสี ยงดังที่จะเรี ยก


ความสนใจจากคนในห้องได้เลย

ฮ่องเต้ยมิ้ ละมุนพลางตอบ “ประการแรก ในห้องมีกลิ่นหอมจากเครื่ องหอมของสตรี ข้าไปพบเจ้าที่ตาํ หนักฉื


อหนิงมา แต่ไทเฮาไม่ให้พบ เมื่อกลับถึงห้องบรรทม กลับมีกลิ่นกายสตรี เจือจางอยูใ่ นห้อง เจ้าคิดว่าจะเป็ น
ฝี มือใครได้อีก สนมคนใดจะขวัญกล้าถึงขั้นปี นแท่นบรรทมเรา”

ข้าคิดตามแล้วพยักหน้า จริ งของเขา มิน่าตอนเขาเข้าห้องมา ข้าจึงได้ยนิ เสี ยงเขาสู ดลมหายใจลึกยาว แต่เพียง


เท่านี้น่ะหรื อก็รู้ถึงร่ องรอยของข้าได้ ฮ่องเต้จะอัจริ ยะเกินไปแล้วกระมัง

“ประการที่สอง หากไม่ใช่เจ้า ผูใ้ ดจะอุตริ ยกเก้าอี้มาตั้งไว้ขา้ งหน้าต่างกันเล่า เพียงแค่เห็นเก้าอี้วางอยูต่ รงนี้ ข้าก็


นึกออกทันทีวา่ เจ้าคงใช้เก้าอี้ต่อขาปี นออกไป ไหนจะเสี ยง ตุบ เบาๆ นั้นอีก” เอ่ยถึงตรงนี้ฮ่องเต้กห็ วั เราะ
ออกมาเบาๆ ข้าอดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ ทําไมข้าช่างโง่เง่าเช่นนี้ หลักฐานคือเก้าที่ต้ งั อยูท่ นโท่ หากใครเดาไม่
ออกก็คงโง่เต็มทน

เสี ยงฝี เท้าแว่วมาแต่ไกล กองลาดตระเวนคงหวนมาอีกครา นี่ขา้ ปี นออกมาจะหนึ่งเค่อแล้วหรื อ ข้าเริ่ ม


ลุกลี้ลุกลน ข้าแต่งกายเช่นนี้ ไม่อาจให้กองลาดตระเวนมาพบเห็นเอาได้

ฮ่องเต้รีบยันตัวโผนออกจากหน้าต่างราวกับเด็กหนุ่มซุกซน เขาก้าวมายืนเคียงข้างข้า

“มาเถอะ เราจะพาเจ้ากลับเข้าไป ยืนอยูต่ รงนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนัก”

72
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่ปฏิเสธ เขารวบร่ างของข้าขึ้น กระโจนทีเดียวก็ลอยตัวเข้าไปในหน้าต่าง แสงตะเกียงในห้องอาบชุดคลุม
สี แดงสดของข้า ดูเร่ าร้อนยิง่ กว่ายามได้เห็นในแสงสลัวข้างนอกนัน่ ฮ่องเต้ทาํ ราวกับจะไม่ปล่อยข้าลง ข้าไม่ได้
สวมรองเท้า ปลายเท้าขาวนวลเนียนไล่มาถึงข้อเท้าและเรี ยวขาล้วนโผล่พน้ ชุดคลุมออกมา

ข้าแหงนหน้าขึ้นมองเขาอย่างลังเลใจ เกรงว่าสภาพอันเย้ายวนเกินไปจะทําให้เขายั้งสติไว้ไม่อยู่ จึงเอ่ยเรี ยกเขา


เบาๆ

“ฝ่ าบาทเพคะ”

เขาไม่ตอบ กลับอุม้ ข้าไปวางลงบนเตียง ข้ารี บยันกายลุกขึ้นนัง่

“เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์ ปีนลงไป ข้อศอกขูดกับขอบหน้าต่างเจ็บเหลือเกิน” ข้าแสร้งเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงออดอ้อน หวังว่าจะ


ดึงความสนใจเขามาที่อาการบาดเจ็บของข้าได้

“ไหนให้เราดูซิ”

ข้ายืน่ แขนข้างที่เจ็บออกไป เขาคว้ามือนุ่มนิ่มไว้ มืออีกข้างรู ดแขนเสื้ อข้าขึ้นไปถึงข้อศอกแล้วพลิกซ้ายพลิก


ขวาดู

“ถลอกเล็กน้อย เราจะใส่ ยาให้เจ้าก่อน”

เขาลุกขึ้นไปหยิบขวดกระเบื้องออกมาเปิ ดฝา ควักเอาเนื้อยาหอมเย็นมาป้ายแขนให้ขา้ บริ เวณที่ถลอกรู ้สึกเย็น


ขึ้นมาทันที เขาเก็บขวดยาแล้วหันกลับมาถาม “ยังเจ็บตรงไหนอีกหรื อไม่”

“ไม่มีแล้วเพคะ” ข้าก้มหน้าลง ในหัวคิดวุน่ วายไปหมด

ข้าหมดข้ออ้างที่จะถ่วงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขา จึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว ดวงตาลึกซึ้ ง


ของฮ่องเต้จบั จ้องมาเป็ นประกายระยับ

“ฝ่ าบาทเพคะ อวี้เอ๋ อร์ถูกไทเฮาเล่นเล่ห์ วางยาแล้วส่ งอวี้เอ๋ อร์มาที่นี่…”

73
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เรื่ องนั้นเรารู ้อยูแ่ ล้ว” ฮ่องเต้ตดั บทข้าตั้งแต่ยงั พูดไม่จบ นํ้าเสี ยงของเขาดูเหมือนจะหมดความอดทน

“ฝ่ าบาทคงจะทราบดีอยูแ่ ล้วว่า อวี้เอ๋ อร์..เอ่อ ไม่ได้เห็นดีกบั ไทเฮาสักนิด อวี้เอ๋ อร์ มีพนั ธะ…” เขาตัดบทข้าอีก
ครั้ง

“พันธะหมั้นหมายนัน่ เมื่อเรารับเจ้าเป็ นสนม ก็เป็ นอันยกเลิก เจ้าไม่มีอะไรต้องกังวลอีก”

ถ้อยคําของเขาแทบจะทําให้ขา้ หมดข้อโต้แย้ง ฮ่องเต้เอื้อมมือมาสัมผัสเส้นผมของข้าที่ทิ้งตัวราวกับม่านไหม


แววตาของเขาเข้มจัด นํ้าเสี ยงที่เอ่ยก็เต็มเปี่ ยมไปด้วยความมุ่งมาดปรารถนา

“ขอเพียงเจ้ายอม เราจะแต่งตั้งเจ้าให้อยูใ่ นฐานะที่ผใู ้ ดก็ตามไม่อาจล่วงละเมิดได้ เจ้าประสงค์สิ่งใดเพียงเอ่ยปาก


มา”

ข้าก้มหน้าลง ครุ่ นคิดหาทางรอดเร็ วจี๋ ยังเหลือวิธีการอะไรอีกที่ขา้ ยังไม่ได้ใช้ ..ใช่แล้ว!..นํ้าตา! ข้ายังไม่ได้ใช้


นํ้าตา คิดได้ดงั นี้ จึงรี บเค้นนํ้าตา ด้วยสภาวะที่ตึงเครี ยดเช่นนี้ นํ้าตาของข้าก็รินไหลออกมาง่ายดาย ข้าช้อน
สายตาขึ้นพร้อมกับหยาดนํ้าตาที่ร่วงหล่นราวกับไข่มุก นํ้าเสี ยงของข้าสั่นพร่ าด้วยความเศร้าสลดอย่างแท้จริ ง
จากภายใน เส้นประสาทของข้าตึงเครี ยดไปหมดแล้ว ระยะเวลาสั้นๆ ในวังหลวงแทบจะบีบคั้นข้าจนแหลก
ละเอียดไม่มีชิ้นดี

“ฝ่ าบาทเพคะ อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งการถูกผูค้ นเหยียดหยามว่าเป็ นหญิงแพศยา ชัว่ ชีวติ ต้องการมีสามีเพียงคนเดียว
อวี้เอ๋ อร์ ขอวิงวอนให้ฝ่าบาทละเว้นอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเถิดนะเพคะ” ข้าขอร้องเขาอย่างน่าสงสาร ขอร้องเขาในฐานะที่
ข้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่งซึ่ งถูกจับวางบนกระดานโดยไม่มีทางเลือกแม้แต่นอ้ ย ความหวังเดียวที่เหลืออยูค่ ือ
ความเมตตาจากเขาเท่านั้น

ฮ่องเต้เบือนสายตาหลบไปทางอื่น ครู่ หนึ่งจึงถอนหายใจหนักหน่วง

“อวี้เอ๋ อร์ .. เจ้าจะหาว่าเราเห็นแก่ตวั ก็ได้ เรายอมเป็ นคนบาป ยอมแลกกับความสัมพันธ์ฉนั อาหลานเพียงเพื่อให้


ได้ครอบครองเจ้า เรามิใช่ไม่เห็นใจเจ้า เพียงแต่เรามิอาจตัดใจ ไม่ยนิ ยอมปล่อยมือ”

“แม้วา่ จะต้องเป็ นหุ่นเชิดของไทเฮาและใต้เท้าจางหรื อเพคะ” ข้าแย้งเขาทั้งนํ้าตา หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจ ทว่า


ฮ่องเต้กลับหัวเราะ

74
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หากระดับเรายังเป็ นได้เพียงหุ่นเชิด เจ้าคิดว่าฐานะฮ่องเต้จะมีไว้ทาํ ไม ไม่ชา้ ก็เร็ วตระกูลจางย่อมต้องถูกกําจัด


อยูแ่ ล้ว เราย่อมไม่มีทางให้ตระกูลนี้ข้ ึนมามีอิทธิ พลเหนือราชสํานักแน่”

คําตอบของเขาชัดเจนแล้ว ข้าหมดสิ้ นหนทางรอดแล้ว…

ข้ากระถดกายลงจากเตียงแล้วลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้ขดั ขวาง เพียงจ้องมองข้าทุกความเคลื่อนไหว ข้าเดินไปหยุด


อยูท่ ี่โต๊ะ ริ นนํ้าชาใส่ จอกแล้วยกขึ้น

“จอกนี้อวี้เอ๋ อร์ขอดื่มให้ฝ่าบาทเพคะ” ข้ายกถ้วยชาขึ้นจรดริ มฝี ปากแล้วกลืนลงไป หางตาเหลือบไปมองเสาต้น


ใหญ่ใกล้ๆ แวบหนึ่ง ยังไม่ทนั จะวางถ้วยชา ร่ างสู งใหญ่ของฮ่องเต้กถ็ ลันมารวบเอวข้าไว้ เสี ยงถ้วยชาตก
กระทบพื้นดังขึ้นในความเงียบ

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าถึงขั้นคิดละทิ้งชีวติ ตนเองเลยหรื อ” นํ้าเสี ยงของเขาสะเทือนใจนัก

ใช่… ข้าไม่คิดจะมีชีวติ อยูเ่ ป็ นเบี้ยให้ผอู ้ ื่นอีกแล้ว จนใจที่เขาไหวตัวเร็ วนัก ยามนี้ ตกอยูใ่ นอ้อมแขนเขาแล้ว ข้า
ไม่อาจดิ้นรน ไม่อาจหลุดพ้น ไม่อาจแสวงหาแม้กระทัง่ ความตายให้ตวั เอง นํ้าตาของข้าไหลริ นอย่างอดสู
ฮ่องเต้จอ้ งมองใบหน้าข้าด้วยแววตาปวดร้าว

“หากเป็ นข้าที่พบเจ้าก่อนชินอ๋ อง เจ้าจะมอบหัวใจให้ขา้ หรื อไม่”

เขาก้มลงมาจุมพิตข้าโดยไม่รอฟังคําตอบ ริ มฝี ปากของข้าถูกเคล้าคลึงอย่างอ่อนโยน แต่ขา้ ไม่อาจตอบสนอง


ในห้วงสํานึกมีเพียงจุมพิตอันเร่ าร้อนของชินอ๋ องเพียงผูเ้ ดียวที่จะปลุกไฟในกายข้าให้ลุกโหมขึ้นได้ กระนั้น
ฮ่องเต้กห็ อบหายใจ อุม้ ข้าไปที่เตียงแล้วเอนกายลงทาบทับ

สายผูกเอวถูกกระตุกออก ชายเสื้ อทั้งสองหลุดพ้นจากกันเป็ นอิสระ ลมหายใจของฮ่องเต้สะดุด ข้ายกมือขึ้น


กอดอก รู ้สึกอับอายที่ตอ้ งเปิ ดเปลือยร่ างกายต่อหน้าชายอื่น

เสี ยงแว่วมาแต่ไกลว่าชินอ๋ องเสด็จ ทําให้แววตาที่สิ้นหวังของข้าเป็ นประกาย ข้าเบือนสายตาไปทางฮ่องเต้ เห็น


ใบหน้าของเขากราดเกรี้ ยว แววตาเปี่ ยมไปด้วยโทสะ ความหึ งหวง ความริ ษยา เสี ยงฝี เท้าหนักๆ ยํา่ มาอย่างเร่ ง
ร้อนที่หน้าบานประตูปิดสนิทของห้องบรรทม ขันทีหน้าห้องละลํ่าละลักกล่าว

75
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านอ๋ อง! นัน่ ห้องบรรทมของฝ่ าบาทนะพะย่ะค่ะ ท่านอ๋ องเข้าไปไม่ได้พะย่ะค่ะ”

“ผูใ้ ดกล้ากล่าวว่าข้าเข้าไปไม่ได้”

ข้าได้ยนิ เสี ยงดุดนั ของชินอ๋ องดังขึ้นหน้าห้อง เขามาช่วยข้าแล้ว ใจที่แตกร้าวของข้ากลับมาประสานกันดังเดิม


ความอบอุ่นที่แทรกขึ้นในใจทําลายความสิ้ นหวังเมื่อครู่ ของข้าไปจนหมดสิ้ น อย่างน้อยชีวิตไร้ค่าของข้านี้กย็ งั
มีความหมายกับใครบางคนอยูบ่ า้ ง

“ทหาร! ต้านชินอ๋ องไว้อย่าให้เข้ามาได้” ฮ่องเต้ตะโกนออกคําสั่งด้วยโทสะแรงกล้า เขาปลดเสื้ อคลุมตัวเอง เลิก


สนใจความวุน่ วายหน้าห้อง หันกลับมาสนใจข้าอีกครั้ง “อวี้เอ๋ อร์ เป็ นของเราเสี ยเถิด”

เสี ยงฝี เท้าหนักๆ หลายคู่กรู กนั มาที่หน้าห้อง คงจะห้อมล้อมชินอ๋ องเอาไว้ ฮ่องเต้กม้ ลงสัมผัสข้าไม่สนใจอะไร
อีก เขาดูเร่ งร้อนจนไม่สนใจว่าข้าพร้อมหรื อไม่ เขาจับเรี ยวขาของข้าแยกออก ข้าร้องอย่างตกใจ พยายามขืนไว้

“ฝ่ าบาท! อย่านะเพคะ ฝ่ าบาท!”

เสี ยงชินอ๋ องดังก้องขึ้นจากหน้าห้อง “ข้ามีป้ายทองอาญาสิ ทธิ์ ผูใ้ ดอยากหัวหลุดจากบ่าก็กา้ วเข้ามา”

บนเตียงภายในห้อง ข้ากับฮ่องเต้กต็ ่อสู ้กนั พัลวัน ข้าดิ้นรนจนสุ ดแรงเกิด พยายามใช้สองมือดันร่ างของฮ่องเต้


ออก ชินอ๋ องอยูข่ า้ งนอกนี่แล้ว เขากําลังมาช่วยข้า ข้าต้องถ่วงเวลาไว้ให้ได้มากที่สุด!

“ฝ่ าบาท ได้โปรดละเว้นอวี้เอ๋ อร์ ดว้ ยเพคะ” ข้าขอร้องเสี ยงสั่นด้วยความหวาดกลัว ทว่าฮ่องเต้ไม่รับฟัง กลับ
พยายามที่จะโหมกายเข้ามา เสี ยงประตูที่ถูกกระแทกเปิ ดทําให้ฮ่องเต้รีบทิ้งกายลงมาบดบังร่ างของข้าไว้จาก
สายตาคนภายนอก

“ไสหัวไปให้หมด” ชินอ๋ องตวาดใส่ ผคู ้ นที่ยงั ยืนอออยูห่ น้าห้อง ไม่มีผใู ้ ดกล้าชําเลืองมองเข้ามาในห้องแม้แต่


เพียงนิด เพียงไม่นานก็เหลือเพียงเราสามคน ชินอ๋ องปิ ดประตู ก้าวเข้ามาด้วยแววตาดํามืดราวกับจะฆ่าคน

“เผิงจวิน้ เจ้าทําอะไรหวางเฟยของข้า”

76
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ฮ่องเต้ลุกขึ้นจากกายข้า หยิบเสื้ อขึ้นคลุมกายอย่างลวกๆ หันไปกล่าวกับชินอ๋ องด้วยท่าทางไม่อนาทรร้อนใจ
“เสด็จอา นางมิใช่หวางเฟยของท่าน นางเป็ นของกํานัลที่บิดานางมอบให้ขา้ วันนี้ ขา้ กลับมาถึงตําหนัก นางก็
ถูกส่ งตัวมารอข้าที่นี่อยูแ่ ล้ว หากมิใช่ท่านสอดมือเข้ามา นางก็ควรเป็ นของข้าโดยชอบธรรม”

ข้าคว้าผ้าห่มขึ้นมาปกปิ ดร่ างกาย ในใจรู ้สึกหนักอึ้ง ดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะอ้างสิ ทธิ์ ในตัวข้าเช่นกัน เหตุผลของ


เขายากจะปฏิเสธ เจตนาของไทเฮาและใต้เท้าจางชัดเจน เพียงแต่ชินอ๋ องเองก็มีสัญญาหมั้นหมายที่ถูกต้อง
เช่นกัน ไม่วา่ เป็ นใครก็ยากที่จะตัดสิ นชี้ขาดว่าสิ ทธิ์ ในตัวข้าควรเป็ นของใคร ยามนี้ขา้ รู ้สึกราวกับตัวเองเป็ น
เต้าหูท้ ี่ถูกบีบอยูร่ ะหว่างก้อนหิ นใหญ่ ไม่วา่ ใครจะเป็ นฝ่ ายขยับ ข้าก็ลว้ นแหลกเหลว

ในวังวนของอํานาจ จะยังมีที่ยนื เหลือให้ขา้ อยูอ่ ีกหรื อ

ข้าเหลือบมองชินอ๋ อง เขาคงรี บเร่ งมา สภาพจึงขะมุกขะมอมอย่างเห็นได้ชดั ราวกับไม่ได้พกั ผ่อนชําระกาย


ทว่าเขากลับไม่ได้มองข้าสักนิด ดวงตาดําสนิทของชินอ๋ องยามจ้องมองฮ่องเต้ให้ความรู ้สึกเย็นยะเยือกจนข้าอด
สะท้านไม่ได้

ฮ่องเต้จอ้ งมองเขาอย่างท้าทาย ต่างฝ่ ายไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางความเงียบอันน่าอึดอัดนั้น ข้าตัดสิ นใจข่ม


กลั้นความอาย ลุกจากเตียง เหยียบเสื้ อคลุมสี แดงสดที่ตกอยูข่ า้ งเตียงขึ้นสวมใส่ เมื่อผูกเชือกรัดเอวแล้วก็เงย
หน้าขึ้น เห็นบุรุษทั้งสองต่างยืนทําหน้าแปลกๆ ข้าหลงลืมไปได้อย่างไรว่ากิริยาเมื่อครู่ ดูยวั่ ยวนเพียงใด ทว่า
ยามนี้สายไปเสี ยแล้ว ข้าได้แต่เดินหน้าต่อ

“ทูลฝ่ าบาท ทูลท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ตดั สิ นใจแล้ว ในเมื่ออวี้เอ๋ อร์เป็ นต้นเหตุของความขัดแย้ง อวี้เอ๋ อร์ยนิ ดีบวชชี
ปลงผม ถือศีลกินเจอยูท่ ี่อารามหลวงชัว่ ชีวิตเพคะ”

“ไม่ได้!” เสี ยงของบุรุษทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน แล้วจู่ๆ บรรยากาศที่หนักอึ้งก็ผอ่ นคลายด้วยเสี ยงหัวเราะของ


คนทั้งคู่

“อย่างเจ้าน่ะรึ จะไปบวชชี” ชินอ๋ องเอ่ยพลางหัวเราะตัวโยน

“อวี้เอ๋ อร์ของข้า เจ้าช่างเอ่ยวาจาได้น่าเอ็นดูยงิ่ นัก เราไม่เคยได้ยนิ อะไรตลกเช่นนี้ มาก่อน” ฮ่องเต้หวั เราะ


ประสานเสี ยงไปกับชินอ๋ อง

77
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ใบหน้าข้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย เหตุใดทั้งสองคนจึงเห็นข้าเป็ นตัวตลกเช่นนี้

“ไม่เห็นหน้าขันตรงไหน อดีตพระสนมที่ต้ งั ใจละทางโลกไปจําศีลที่อารามหลวงก็มีให้เห็นตั้งมากมายไม่ใช่


หรื อเพคะ” ข้าเอ่ยนํ้าเสี ยงกระแทกกระทั้นอย่างเริ่ มโกรธขึ้นมาบ้าง ฮ่องเต้พยายามกลั้นหัวเราะอธิ บายอย่างใจ
เย็น

“อวี้เอ๋ อร์ อย่าหาว่าเราดูแคลนเจ้า อารามหลวงมิใช่ที่ที่เหมาะสมกับเจ้าหรอก ที่นนั่ เป็ นประดุจที่หลบภัยของคน


จากวังหลังก็จริ ง แต่รูปโฉมเช่นเจ้า หากไปถือศีลกินเจอยูท่ ี่วดั รังแต่จะเรี ยกหาความวุน่ วายไปสู่ อารามอันสงบ
สุ ขแห่งนั้น อีกอย่างเจ้าลืมไปแล้วหรื อว่า เจ้ายังมิได้แต่งให้เสด็จอา ยังมิได้เป็ นสนมของข้า เจ้าจะเข้าไปอยูใ่ น
อารามหลวงด้วยฐานะอะไร”

ข้าลืมไปเสี ยสนิท ข้าเป็ นเพียงบุตรี บุญธรรมขุนนางคนหนึ่ง มิใช่เชื้อพระวงศ์หรื อพระญาติเสี ยหน่อย เหตุใด


อารามหลวงจะเปิ ดประตูตอ้ นรับข้าเล่า ข้าเงยหน้าขึ้นมองชายทั้งสองคนที่ยนื อยูซ่ า้ ยขวา เห็นสี หน้าทั้งคู่เจือ
รอยยิม้ ก็รู้สึกใจชื้นขึ้น ถึงแม้จะถูกหัวเราะเยาะเป็ นตัวตลก แต่สถานการณ์กด็ ีข้ ึนแล้ว ข้าจึงเอ่ยต่อ

“เช่นนั้นหม่อมฉันจะกลับไปอยูท่ ี่จวนของบิดา”

“ไม่ได้!” เสี ยงของทั้งคู่ประสานกันขึ้นมาอีกครั้ง

“เจ้าทํางานไม่สาํ เร็ จ คิดว่าใต้เท้าจางจะเลี้ยงดูเจ้าไว้เฉยๆ หรื อ” ชินอ๋ องเอ่ย “รู ปการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว คืนนี้เจ้า


ต้องเลือกเสี ยแล้วว่าจะอยูก่ บั ผูใ้ ด เจ้าจะถวายตัวเป็ นสนมของฮ่องเต้ หรื อจะเป็ นหวางเฟยของข้าก็จงเลือกมา
เสี ย”

ข้าหันไปมองชินอ๋ อง ไม่กล้าหันไปสบตาฮ่องเต้ คนเจ้าเล่ห์ผนู ้ ้ ี รู้อยูว่ า่ อย่างไรเสี ย ข้าก็ตอ้ งเลือกเขา จึงทําทีเป็ น


เปิ ดโอกาสให้ขา้ ได้เลือก ข้าถลึงตาใส่ เขา นึกอยากแกล้งเขาขึ้นมา จึงทําทีเป็ นลังเล

“อวี้เอ๋ อร์ ..อวี้เอ๋ อร์ไม่กล้าเลือกเพคะ”

ฮ่องเต้รู้เจตนาของข้าจึงแกล้งกล่าวเสริ ม “เช่นนั้นให้เราช่วยเลือกดีหรื อไม่ เจ้าอยูก่ บั เราเสี ยที่นี่ จะได้ตบตาใต้


เท้าจางได้สาํ เร็ จด้วย”

78
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องรี บเอ่ยเสี ยงขุ่นขึ้นมาทันที “อวี้เอ๋ อร์ เจ้าลืมแล้วหรื อไรว่าเจ้าเป็ นของข้าแล้ว”

ฮ่องเต้รีบกล่าวแย้ง “เราบอกแล้วอย่างไร เราไม่ถือสาเรื่ องนี้ อวี้เอ๋ อร์ ไม่ตอ้ งกังวล”

“เผิงจวิน้ เจ้าอย่ากล่าวเป็ นเล่นไป สายเลือดมังกรไม่ใช่เรื่ องล้อเล่น ตอนนี้ในท้องนางอาจจะมีชินอ๋ องน้อยแล้ว


ก็เป็ นได้ เจ้าจะรับนางเข้าวังไปได้อย่างไร จะให้เกิดข้อกังขาว่านางตั้งครรภ์บุตรของใครกันรึ ”

“ข้ารอได้ อีกหนึ่ งเดือนให้หลังค่อยให้หมอหลวงจับชีพจรนางก็ได้ หากนางตั้งท้องจริ ง ข้าจะรอจนกว่านางจะ


คลอดแล้วยกบุตรให้เสด็จอาไป ท่านว่าดีหรื อไม่”

“เช่นนั้นไม่เกิดข้อครหาว่าเจ้ารับสตรี ที่ต้ งั ครรภ์ท้ งั ยังคลอดบุตรของผูอ้ ื่นมาเป็ นสตรี วงั หลังหรื อ”

“เรื่ องนั้นข้าย่อมจะมีวธิ ีปกปิ ด…”

ข้าฟังจนเวียนหัวไปหมด จึงถอยไปทรุ ดตัวลงนัง่ ที่ขอบเตียงอย่างอ่อนล้า เสี ยงโต้เถียงกันหยุดลงทันใด ชินอ๋ อง


ถลันเข้ามาประคองข้า “ข้าจะพาเจ้ากลับวัง”

ข้าไม่ได้คา้ นอีก จึงส่ งเสี ยงตอบรับเบาๆ ในลําคอ หันไปทางฮ่องเต้ สี หน้าเขาเศร้าสร้อยจนข้ารู ้สึกสงสาร ข้าจึง
ลุกขึ้นเดินไปหา ย่อกายทีหนึ่งแล้วเอ่ย

“ฝ่ าบาทเพคะ คําถามที่ฝ่าบาทถามอวี้เอ๋ อร์ เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ได้ตอบ”

เขาจ้องมองข้าอย่างมีความหวัง

“คําตอบก็คือ ใช่ เพคะ”

บนริ มฝี ปากของเขาปรากฏรอยยิม้ จางๆ

“วันนี้อวี้เอ๋ อร์เหนื่อยล้านัก ขอทูลลาฝ่ าบาทเพคะ”

ข้าย่อกายคารวะแล้วเดินหันหลังจากมา

79
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คล้อยหลังจางอวี้ชิง ฮ่องเต้เดินมาหยุดยืนเคียงข้างเสวียนเฟิ งก่อนทอดถอนใจด้วยความเสี ยดาย

“หากนางฮุบเหยือ่ ที่ขา้ วางไว้ ข้าคงลงมือครอบครองนางอย่างไม่ลงั เล เสี ยดายที่นางมิได้มีใจทําตามแผนการ


ของจางอี้หมิงแต่แรก” ยามพูดถึงนางสี หน้าฮ่องเต้อ่อนโยนยิง่ นัก

“เจ้าควรส่ งคนไปบอกข้าตั้งแต่เมื่อคืน โชคดีที่เจ้าหกและเจ้าสิ บไปพบเสี ยก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงจะบีบนาง


จนปฏิเสธไม่ได้กระมัง” ชินอ๋ องเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงไม่พอใจ

“ท่านอา ข้าเพียงแต่ช่วงชิงสิ่ งที่ขา้ ปรารถนา ท่านเป็ นคนสอนข้าเองมิใช่หรื อ เหตุใดท่านต้องมาทําใจแคบกับ


ข้าด้วยเล่า”

“เรื่ องอย่างนี้ทาํ ใจกว้างได้ดว้ ยรึ !” ชินอ๋ องตวาดใส่ หลานชาย ไม่ได้สนใจว่าเขาเป็ นฮ่องเต้เลยสักนิด “รู ้ท้ งั รู ้วา่
นางเป็ นของข้า แต่เจ้าก็ยงั ดึงดันจนวินาทีสุดท้าย”

ฮ่องเต้ถอนใจ “สตรี ท้ งั หลายต่างทําทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ความรักจากข้า แต่นางกลับไม่ใยดี หรื อว่านี่เป็ นคําสาป


ของผูเ้ ป็ นฮ่องเต้กนั ไม่อาจรักผูใ้ ด และไม่มีผใู ้ ดมอบความรักอันแท้จริ งให้”

ชินอ๋ องตบไหล่หลานชาย “เอาเถอะ ข้าเข้าใจเจ้าดี อย่างน้อยการที่เจ้าหลงใหลนางถึงเพียงนี้ กม็ ีขอ้ ดีอยูบ่ า้ ง


ไทเฮาและจางอี้หมิงล้วนหลงกลพวกเราเสี ยสนิท”

บุรุษทั้งสองยิม้ ให้แก่กนั ก่อนที่ชินอ๋ องจะก้าวออกไป ทิ้งฮ่องเต้หนุ่มไว้เพียงลําพัง

80
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 14 : หากรู้ จกั ปกปิ ด ก็ไม่ นับเป็ นเรื่ องอือ้ ฉาว

ก่อนจะพาข้าออกมา ชินอ๋ องมวยผมให้ขา้ แล้วปักด้วยปิ่ นของเขา สตรี ยงั มิได้ออกเรื อนไม่พึงปล่อยผมต่อหน้า


บุรุษอื่น เขายังถอดเสื้ อตัวนอกคลุมกายให้ขา้ แล้วอุม้ ข้าซึ่ งเท้าเปล่าเปลือยไปขึ้นรถ ข้ากับเขานัง่ บนรถม้าเคียงคู่
ไปด้วยกัน พอรถออกวิ่งลมเย็นภายนอกก็แทรกเข้ามา เสื้ อผ้าน้อยชิ้นของข้าไม่อาจป้องกันความหนาวเย็นใน
ยามคํ่าคืนได้ ชินอ๋ องขยับกาย ทําท่าจะคลี่ผา้ คลุมไหล่บนรถออกมาให้ขา้ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เขาอุม้ ข้าไปนัง่ บน
ตักแล้วกอดข้าไว้แทน

“อย่างนี้อุ่นกว่า” เขาเอ่ย

ข้าเพียงซุกหน้าเข้ากับอกเขา กลิ่นอายของเขาทําให้ขา้ รู ้สึกคุน้ เคย บรรยากาศบนรถสุ ขสงบจนข้าอยากจะให้


เวลาเช่นนี้ทอดยาวออกไปไม่มีวนั จบ ชินอ๋ องเอ่ยถามข้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“คําถามของเผิงจวิน้ คืออะไร”

ข้างุนงงไปครู่ ใหญ่ ในที่สุดจึงเข้าใจ ก่อนที่จะจากมาข้าบอกกับฮ่องเต้วา่ คําตอบของข้าคือ ใช่ ชินอ๋ องได้ฟังคง


รู ้สึกสงสัย แต่ขา้ จะบอกเขาไปตามตรงได้อย่างไรว่าฮ่องเต้ถามว่าหากเขาพบข้าก่อน ข้าจะรักเขาได้หรื อไม่

“ฝ่ าบาทถามข้าว่า หม่อมฉันรักชินอ๋ องใช่หรื อไม่”

“โกหก” ชินอ๋ องจับปลายคางข้าเชยขึ้นมา “จะบอกเปิ่ นหวางมาดีๆ หรื อไม่”

“หม่อมฉันไม่ได้โกหก” ข้ายังคงปฏิเสธเสี ยงแข็ง

“เจ้าโกหก” เขายืนยัน

“ท่านไม่ได้อยูด่ ว้ ยในตอนนั้น จะมารู ้ได้อย่างไร” ข้าเป็ นผูร้ ้ายปากแข็งเพราะถึงสารภาพไปตามตรง ยังไงเขาก็


ไม่พอใจอยูด่ ี

81
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“คําตอบของเจ้าทําให้ฮ่องเต้แย้มยิม้ ย่อมต้องไม่ใช่คาํ ถามนี้แน่ จะบอกมาตามตรงหรื อไม่ หากเจ้าไม่สารภาพ
อย่าหาว่าเปิ่ นหวางใจร้าย เปิ่ นหวางมีวธิ ีสอบสวนผูร้ ้ายปากแข็งที่ไม่ธรรมดา หรื อว่าเจ้าอยากจะลอง” เขา
คาดคั้นจนข้ารู ้สึกกลัว

“ก็ได้ๆ” ข้าเอ่ยอย่างจํายอม “ฝ่ าบาทถามว่า หากฝ่ าบาทพบหม่อมฉันก่อน หม่อมฉันจะรักฝ่ าบาทได้หรื อไม่”

ดวงตาของชินอ๋ องลุกวาบ “แล้วเจ้าก็ตอบว่า ใช่!”

เห็นไหมเล่า! สุ ดท้ายเขาก็ไม่พอใจอยูด่ ี ข้าจึงโอบแขนคล้องคอเขาไว้อย่างออดอ้อน

“อวี้เอ๋ อร์ เพียงแต่พดู ให้ฮ่องเต้สบายพระทัย ท่านอ๋ องอย่าคิดมากไปเลยเพคะ ถึงอย่างไรอวี้เอ๋ อร์กเ็ ลือกท่านอ๋ อง


อยูด่ ีไม่ใช่หรื อ”

“ถึงจะเป็ นเช่นนั้นก็ไม่ได้!” นํ้าเสี ยงของเขายังคงเอาแต่ใจ “หากเราไม่ลงโทษเจ้า เจ้าคงไม่หลาบจํา” กล่าวจบก็


รังแกข้าในรถม้าอย่างหน้าไม่อาย โชคดีที่ระยะทางไปวังเสิ่ นหยางกงไม่ไกลนัก ชัว่ ครู่ รถม้าก็หยุดลง เขาอุม้ ข้า
ลงจากรถ ตรงเข้าไปยังห้องบรรทม ระหว่างทางไม่มีบ่าวไพร่ โผล่มาให้เห็นรกตาแม้แต่คนเดียว

“ท่านอ๋ องเพคะ ห้องของอวี้เอ๋ อร์ อยูท่ างไหนหรื อเพคะ” ข้าถามเมื่อเห็นเขาพาข้าเข้าไปในห้องนอนหลัก


ตําหนักกลาง

“ไม่มี! เจ้านอนกับเปิ่ นหวางที่นี่” นํ้าเสี ยงของเขายังคงแข็งอย่างคนกําลังหงุดหงิด

“ท่านอ๋ อง!” ข้าอุทานอย่างไม่อยากเชื่อหู “หม่อมฉันเป็ นสตรี ยงั ไม่ออกเรื อน ท่านไม่คิดว่าทําเช่นนี้อวี้เอ๋ อร์ จะ


เสื่ อมเสี ยหรื อเพคะ แค่หม่อมฉันมาค้างอ้างแรมที่วงั เสิ่ นหยางกงก็ร้ายแรงพอตัวอยูแ่ ล้ว หากให้อวี้เอ๋ อร์นอน
ร่ วมเตียงกับท่าน อวี้เอ๋ อร์คง..คง..” ข้ากําลังจะเอ่ยว่า คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เขาก็เอ่ยสวนราวกับคน
ขวางโลก

“เรื่ องอื้อฉาวหากรู ้จกั ปกปิ ดก็ไม่นบั ว่าเป็ นเรื่ องอื้อฉาว”

ข้าอ้าปากค้าง เขาอ้างตรรกะอะไรกัน! ข้ารู ้สึกตกใจกับความหน้าหนาของเขา

82
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เจ้าไม่ตอ้ งสนใจเรื่ องเกียรติยศหรื อหน้าตา สิ่ งเหล่านี้เปิ่ นหวางให้เจ้าได้ ไม่ตอ้ งไปสนใจลมปากคนข้างนอก”
เขาเอ่ยพลางวางข้าลงบนเตียง

พ่อบ้านให้คนยกนํ้าร้อนเข้ามาอย่างรู ้งาน ชินอ๋ องหันมาเรี ยกข้าหน้าตาเฉย

“มาปรนนิบตั ิเปิ่ นหวางอาบนํ้า”

ข้านัง่ ขยําผ้าปูเตียงอย่างดื้อดึง ในใจรู ้สึกหงุดหงิดนัก ข้าจะทนอ๋ องเจ้าอารมณ์ผนู ้ ้ ี ได้สักกี่น้ าํ เขาช่างยียวนอย่าง


น่าโมโหที่สุด

“หรื อจะมาอาบนํ้ากับเปิ่ นหวางแทน”

...ข้ารี บกระโดดผลุงลงจากเตียงทันที…

ไม่ใช่วา่ กลัวคําขู่หรอกนะ เห็นแก่ที่เขาช่วยข้าเอาไว้หรอก

ชินอ๋ องใส่ เสื้ อผ้าสี เข้มรัดกุมราวกับคนเดินทาง ตามเนื้อตัวยังมีเศษโคลนเปรอะเปื้ อน ข้าแกะสายรัดเอวของเขา


ออก ปลดเปลื้องเสื้ อผ้าของชินอ๋ องไปตามปกติโดยไม่มีท่าทีเขินอาย ทําไมน่ะหรื อ ก็เพราะข้ามาจากศตวรรษที่
ยีส่ ิ บเอ็ดอย่างไรล่ะ เรื่ องเนื้อตัวของผูช้ ายเป็ นเรื่ องธรรมดาจะตาย มีอะไรให้เขินอายกัน ตามหน้าปกนิตยสารก็
มีให้เห็นเป็ นประจํา

แต่นนั่ ย่อมไม่ใช่ตอนถอดกางเกง…

“ท่านอ๋ องถอดเองเถิดเพคะ” ข้าเอ่ยอ้อมแอ้มหน้าแดงพลางผละออก รู ้สึกว่าการทําเช่นนี้จะดูสนิทชิดเชื้อกัน


เกินไป ชินอ๋ องเห็นข้าเขินอายก็ไม่ได้รบเร้า จัดการตัวเองเรี ยบร้อยก็กา้ วลงไปแช่ตวั ในถัง

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ เปิ่ นหวางรู ้สึกอย่างไรตอนเห็นเจ้าทอดกายอยูบ่ นเตียงชายอื่น” ชินอ๋ องถามทั้งๆ ที่ยงั
หลับตา

ข้าหน้าแดง นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นยังรู ้สึกหวาดเสี ยวไม่หาย หากเขาไปไม่ทนั ข้าคง…

83
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้าแทบจะตรงเข้าไปสังหารเผิงจวิน้ ยังดีที่เจ้ายังปลอดภัย..”

“ท่านอ๋ อง หม่อมฉันจะสระผมให้นะเพคะ” ข้าเอ่ยกับเขาแผ่วเบาด้วยนํ้าเสี ยงอ่อนโยน ท่าทางเขาเหน็ดเหนื่อย


แล้ว ข้าไม่อยากให้เขาเอ่ยเรื่ องที่ไม่สบายใจอีก ข้ายกอ่างนํ้ามาตั้ง โชลมเส้นผมจนเปี ยกแล้วชําระคราบฝุ่ นที่ติด
อยูอ่ อกจนสะอาด ข้าไม่ทนั ระวังจึงทํานํ้ากระเซ็นมาโดนเสื้ อผ้าเปี ยกแนบลําตัว ข้านวดศีรษะเขาอย่างเบามือ
จนกระทัง่ ได้ยนิ เสี ยงลมหายใจสมํ่าเสมอ เขาคงรู ้สึกสบายจนหลับไปแล้ว ข้าจึงหยิบผ้าขาวมาถูแขนและลําคอ
ให้เขา ก่อนจะไล่ไปยังแผ่นอก จู่ๆ ชินอ๋ องก็ลืมตาขึ้น

“ไปถูหลังให้ขา้ เถอะ” เขาเอ่ยเสี ยงพร่ า ข้าเห็นริ้ วแดงบนใบหน้าเขา จึงรี บรับคํา

ระหว่างนั้นข้าและเขาต่างจนด้วยคําพูด ได้ยนิ เพียงเสี ยงลมหายใจของกันและกัน แผ่นหลังของเขาขาวมากแต่


เต็มไปด้วยมัดกล้าม เขาตัวสู งใหญ่ มีรูปร่ างที่ดีจนข้านึกอิจฉา ข้าโน้มตัวลงเพื่อถูแผ่นหลังเขาที่แช่อยูใ่ นนํ้า อยู่
ดีๆ เขาก็เกร็ งตัว แขนแข็งแรงที่พาดอยูบ่ นขอบอ่างปรากฏเส้นขนลุกชูชนั เขาเอ่ยกับข้าเสี ยงแปร่ ง “ไปเอาผ้า
ซับตัวมา เปิ่ นหวางจะขึ้นแล้ว”

ข้ากางผ้าซับตัวออก แต่เขากลับรับเอาไว้ในมือ “เจ้าไปรอหลังฉากเถิด ที่เหลือเปิ่ นหวางจัดการเอง” ข้างุนงง


เล็กน้อยแต่รีบปลีกตัวออกไปอย่างโล่งใจ

ข้าเช็ดศีรษะให้เขาอย่างนุ่มนวล เขานัง่ ข้ายืน ดวงตาของเขาที่สะท้อนในกระจกจับจ้องข้าไม่วางตา พอหยดนํ้า


แห้ง ข้าก็หยิบหวีข้ ึนสาง เขามองนิ้วเรี ยวของข้าเคลื่อนไหวอย่างเพลิดเพลิน

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าอย่ากลับไปที่จวนใต้เท้าจางอีกเลย ที่นนั่ ไม่ปลอดภัยสําหรับเจ้า ไม่รู้วา่ วันใดเขาจะประเคนเจ้าให้


ผูใ้ ดอีก” ชินอ๋ องเอ่ย “รู ้หรื อไม่ เขาสมคบกับแม่ทพั บูรพาส่ งคนไปสร้างสถานการณ์ที่เมืองหลงจิ่ง หลอกล่อ
เปิ่ นหวางออกจากเมืองหลวง แล้วอาศัยช่วงเวลานั้นส่ งเจ้าไปเป็ นบรรณาการแก่ฮ่องเต้ หากมิใช่เพราะเจ้าหก
และเจ้าสิ บส่ งข่าวมา เปิ่ นหวางคงกลับมาช่วยเจ้าไม่ทนั ”

มิน่าเขาจึงเพิ่งมาช่วยข้า โชคดีที่ได้เจอองค์ชายซุกซนทั้งสอง ข้าติดหนี้บุญคุณเขาทั้งสองจริ งๆ

“ท่านอ๋ องเพคะ หากข้าไม่ได้กลับจวนบิดา ข้าจะรั้งอยูท่ ี่นี่ในฐานะใด” ข้าเอ่ยปากถามเขาตรงๆ ข้าต้องการ


ความมัน่ คงในชีวติ ข้าอยากรู ้วา่ เขาให้ขา้ ได้หรื อไม่

84
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าขบคิดเรื่ องนี้ มาสักพักหนึ่ งแล้ว ข้าหวนนึกถึงแม่ ข้าเจริ ญวัยป่ านนี้แล้ว แต่ยงั ไม่ได้ทาํ ตามสัญญา ไม่รู้วา่ แม่
จะยังรอข้าอยูห่ รื อไม่ อาศัยฐานะของชินอ๋ อง ข้าอยากจะช่วยแม่ออกมาจากครอบครัวของคนชัว่ อย่างหลิ่วเหลย
นัน่

ต่อให้ชินอ่องไม่ทาํ ตามสัญญาแต่งข้าเป็ นหวางเฟย แต่รับข้าเป็ นอนุ ข้าก็คงต้องยินยอมอยูด่ ี ในสังคมที่โหดร้าย


นี้มีทางเลือกให้ขา้ ด้วยหรื อ ยิง่ รู ปโฉมของข้าเป็ นดุจตราบาป เป็ นดังดาบสองคม หากข้าเปิ ดเผยใบหน้านี้ ต่อ
โลกภายนอกโดยไม่มีผใู ้ ดปกป้อง ย่อมจะนําภัยมาสู่ ตนเอง ผูอ้ ่อนแอย่อมตกเป็ นเหยือ่ ของผูท้ ี่เข้มแข็ง
โดยเฉพาะผูอ้ ่อนแอที่งดงาม ย่อมจะถูกหมายตาเป็ นพิเศษ

“เจ้ากลัวเปิ่ นหวางไม่รักษาสัญญาหรื อ?” เขาถามเสี ยงเรี ยบ

ข้าหลุบสายตาลง

“เปล่าเพคะ นอกจากท่านอ๋ องแล้ว อวี้เอ๋ อร์ไม่มีที่ไป ไม่รู้จกั ใครอื่น อวี้เอ๋ อร์ เป็ นเพียงลูกไก่ในกํามือ ท่านอ๋ อง
จะจัดการอย่างไรย่อมตามแต่ท่านเห็นสมควร อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่อยากรู ้การตัดสิ นใจของท่านอ๋ องเท่านั้น จะได้
เตรี ยมใจ...”

“เจ้าเตรี ยมใจเป็ นเจ้าสาวของเปิ่ นหวางก็พอ” เขาเอ่ยยิม้ ๆ

หัวใจของข้าพองฟูเมื่อได้ยนิ คําพูดของเขา แทบจะกระโดดตัวลอยแล้วหอมแก้มเขาซ้ายขวา แต่สิ่งที่เขาเห็นคือ


ข้าเพียงยืนตะลึงกําหวีแน่น ดวงตาเป็ นประกาย ใบหน้าแดงกํ่า ชินอ๋ องหลุดหัวเราะออกมา

“กระต่ายน้อย เจ้าเป็ นอะไรไปหรื อ”

“ท่านอ๋ อง...” นํ้าตาแห่งความยินดีรินไหล ข้าซาบซึ้ งใจจนไม่อาจเอ่ยออกมาเป็ นคําพูด “อวี้เอ๋ อร์ .. อวี้เอ๋ อร์ ”

ข้าวางหวีลงแล้วเบียดตัวขึ้นไปนัง่ ซ้อนบนตักเขาอย่างออดอ้อน ท่านอ๋ องอาบนํ้าแล้วใส่ แต่เพียงเสื้ อตัวใน


เตรี ยมเข้านอน ส่ วนข้ายังอยูใ่ นชุดสี แดงเพลิงนั้น ข้ากอดเอวเขาไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่ ง “ท่านอ๋ อง อวี้
เอ๋ อร์ฝันไปหรื อไม่”

“เด็กโง่” เขาเอ่ยพลางลูบไล้แผ่นหลังของข้า

85
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านอ๋ อง” ข้าเกลือกกลิ้งใบหน้าเข้ากับอกเขา แอบเช็ดนํ้าตาที่ซึมออกมาไปพลาง เส้นผมของข้าเริ่ มหลุดรุ่ ยร่ าย


พันมือพันไม้ของเขาไปหมด แต่ยามนี้ขา้ ไม่สนใจ อยากจะหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า ความเครี ยด ความ
กังวล มลายหายไปหมดสิ้ น ชินอ๋ องเป็ นเพียงความหวังเดียวของข้า หวังว่าเขาจะไม่ผดิ คําพูด

“อวี้เอ๋ อร์ หากเจ้าซาบซึ้ งใจอยากตอบแทนเปิ่ นหวางก็ไม่ยากเลย” เขาก้มลงมองข้าพลางเอ่ยยิม้ ๆ

ข้าช้อนสายตาขึ้นมองเขาราวกับเขาเป็ นพระโพธิสัตว์มาโปรดก็ไม่ปาน “ท่านอ๋ องโปรดเอ่ยปากเถิดเพคะ อวี้


เอ๋ อร์ยอ่ มต้องพยายามสุ ดความสามารถ”

“เมื่อครู่ ตอนเจ้าปรนนิบตั ิเปิ่ นหวางอาบนํ้า เปิ่ นหวางถูกใจเสื้ อคลุมตัวนี้นกั วันหน้าเจ้าใส่ บ่อยๆ ได้หรื อไม่”

ข้านึกย้อนไปถึงตอนที่ขา้ ก้มๆ เงยๆ ช่วยเขาถูเนื้อถูตวั เสื้ อตัวนี้คงจะไม่ได้ปกปิ ดอะไรสักเท่าไหร่ ยิง่ นึกไปถึง


ท่าทางผิดปรกติของเขาในตอนนั้นแล้ว เขาแกล้งหลับ.. แต่..แต่แอบลืมตามองอยูต่ ลอด.. ข้ายิง่ หน้าแดง ..เขา..
เขาเห็นอะไรไปแล้วบ้าง แถมตอนข้ายืนซับผมให้เขาหน้ากระจก.. ข้าก้มลงมองสภาพตัวเอง เสื้ อตัวนี้ยามเปี ยก
นํ้าก็แนบเนื้อแถมคอเสื้ อยังแหวกลงมาลึกจนเห็นร่ องอก ..มิน่าเขาจึงนัง่ มองนิ่ งไม่เอ่ยสิ่ งใด..

มือของข้ายกขึ้นกุมอกเสื้ อทันที “ท่านอ๋ อง!” ข้าร้องขึ้นมาด้วยความโกรธและความอาย ตอนข้าโป๊ เขาไม่คิดจะ


บอกข้าสักคํา ไม่รู้วา่ แอบดูไปแล้วมากน้อยแค่ไหน

ชินอ๋ องยกยิม้ ดูมิได้สะทกสะท้านเลยสักนิด ข้าตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่เขากดเอวข้าไว้

“ท่านอ๋ อง!” ข้าร้องเสี ยงสั่น รู ้สึกหวาดกลัวเขาขึ้นมาบ้าง เมื่อครู่ ขา้ ไม่น่าทําใจกล้าปี นตักเขาขึ้นมาเลย ยามนี้จะ
ลงก็ลงไม่ได้เสี ยแล้ว

“อวี้เอ๋ อร์ ได้เวลาเข้านอนแล้ว” กล่าวจบเขาก็เอื้อมมือมาปลดปิ่ นของข้าออกแล้ววางไว้หน้ากระจก ผมยาว


สลวยทิ้งตัวลงรุ่ ยร่ าย ชินอ๋ องมองตาเป็ นประกาย ข้าเอนกายหนีออ้ มอกเขาจนแทบตกเก้าอี้

"กระต่ายน้อย เจ้าจะเขินอายเปิ่ นหวางไปทําไมกัน"

86
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องกระชับวงแขนอุม้ ข้าไปที่เตียง ชุดคลุมสี แดงตัวนั้นแหวกออกตามการเคลื่อนไหวของร่ างกาย ข้า
พยายามตะปบไว้แต่ไม่เป็ นผล รอยผ่าของเสื้ อแหวกขึ้นมาถึงขาอ่อน สี หน้าของชินอ๋ องดูอารมณ์ดีนกั

“หากเสื้ อตัวนี้ปกปิ ดอะไรไม่ได้..เจ้าก็..ถอดออกเสี ยเถิด..” นํ้าเสี ยงทุม้ ตํ่าของเขาฟังแล้วชวนให้หวาดหวัน่

“ม..ไม่ ข้าไม่ถอด… ท่านอ๋ อง..ข้า” กลัวท่าน ข้าเอ่ยในใจ กลัวว่าหากเขารู ้วา่ ข้ากลัวจะยิง่ ได้ใจ รังแกข้ามากขึ้น
ไปอีก

ชินอ๋ องยิม้ สมใจเมื่อได้ยนิ ข้าบอกว่าไม่ถอด แววตาเขาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก ข้าเบิกตากว้าง เพิ่งจะเข้าใจเจตนาเขา


เขาต้องการให้ขา้ สวมชุดนี้ต่างหาก เนื้อผ้ามันลื่นแนบเนื้อ ยามสวมใส่ เหมือนปิ ดเหมือนไม่ปิด ในสายตาของ
เขาแล้ว นัน่ กลับเร้าใจยิง่ กว่า

...แต่ขา้ มีทางเลือกหรอกหรื อ ต่อให้เขามีท่าทางราวกับจะกลืนกินข้า ข้าก็ไม่ถอด ไม่ถอดเด็ดขาด!

87
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 15 : ยามเมื่อหยกเผาผลาญ

..ซี ยนิ เจ้าเชื่อใจข้าหรื อไม่..

ข้าได้ยนิ ชื่อนี้อีกครั้งในความฝัน

ก่อนนอนชินอ๋ องอุม้ ข้ามาที่เตียง แล้วถามคําถามเดียวกันนี้กบั ข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเชื่อใจเปิ่ นหวางหรื อไม่”

ตอนนั้นข้าไม่เชื่อใจเขาเลย ไม่เลยสักนิดเดียว เขานิสัยเจ้าเล่ห์ร้ายกาจขนาดนั้น ข้าจะเชื่อใจเขาได้อย่างไร แต่ขา้


จะทําอย่างไรได้เล่านอกจากผงกหัวหงึกหงักราวกับตุก๊ ตาเสี ยบไม้

“เชื่อเพคะ อวี้เอ๋ อร์ เชื่อใจท่านอ๋ องที่สุด” ใครๆ ก็ตอ้ งเอาตัวรอดไว้ก่อน ข้าผิดศีลข้อมุสาเสี ยแล้ว

เขาทอดสายตามองข้านิ่งอยูช่ วั่ ครู่ จับข้านอนตะแคงซุกอกเขาแล้วเอื้อมมือมาลูบไล้แผ่นหลังข้า

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าจะบอกอะไรให้ เจ้าที่เป็ นเช่นนี้ชวนให้บุรุษหลงงมงายนัก”

เขาเอ่ยพลางไล้ปลายนิ้วบนกายข้าด้วยแววตาเปี่ ยมเสน่ห์ เขากําลังล่อลวงข้าหรื อจึงได้มองข้าด้วยสายตาราวกับ


เสื อร้ายสะกดเหยือ่ ข้าเหม่อมองเขา เกือบจะเคลิบเคลิ้มไปเสี ยแล้ว ปฏิเสธไม่ได้วา่ เขาช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ
เหลือเกิน ยังดีที่นึกขึ้นได้วา่ เมื่อครู่ เขาร้ายกาจแค่ไหน ชินอ๋ องจับจ้องสี หน้าข้าตลอดเวลาพลางเอ่ยต่อ

“ภายนอกเจ้าดูนุ่มนวลอ่อนหวานไปทั้งตัว ทั้งเรื อนร่ างและกิริยา แต่ขา้ รู ้วา่ นัน่ เป็ นแค่ภาพหลอกตา เจ้าแค่ไม่มี
ทางสู ้ต่างหาก ภายในเจ้านั้นเย่อหยิง่ ถือดี แม้ปากจะบอกยอมแพ้ แต่ในใจของเจ้ากลับไม่เคยยอมศิโรราบแม้แต่
น้อย ในหัวสวยๆ ของเจ้าล้วนเต็มไปด้วยแผนการเอาตัวรอดใช่หรื อไม่ ในยามนี้เจ้าก่นด่าเปิ่ นหวางอยูใ่ นใจแต่
ภายนอกกลับออดอ้อนอ่อนหวานใส่ ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่จอ้ งจะตะครุ บเจ้าของทีเผลอ ”

ข้าหน้าแดง เขาอ่านข้าออกขนาดนี้เชียวหรื อ

88
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เด็กโง่ มีบุรุษใดบ้างไม่ชมชอบการปราบพยศ เจ้ายิง่ ต่อต้าน เปิ่ นหวางยิง่ อยากเอาชนะ”

ถึงจะถูกเขาจับได้แล้วก็เถอะ ข้ารี บเอ่ยอย่างเอาใจ “ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์มีแต่จะเห็นท่านอ๋ องเป็ นผูม้ ีพระคุณ
จะคิดต่อต้านได้อย่างไร”

สี หน้าของชินอ๋ องไม่เชื่อข้าสักนิดเดียว เขาเพียงยกยิม้ มุมปาก ไม่ตอบคําของข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเชื่อใจเปิ่ นหวางหรื อไม่” เขาถามซํ้า

คราวนี้ขา้ ส่ ายหน้า…

..การที่ขา้ ยอมรับตามตรง นัน่ เท่ากับเป็ นการเชื่อใจเขา เป็ นก้าวแรกที่ขา้ ยอมเปิ ดใจ..

“ดีมาก” เขายิม้ “เปิ่ นหวางเองก็ไม่เชื่อใจตนเองเหมือนกัน”

แม้เขาจะบอกอย่างตรงไปตรงมา แต่คาํ ตอบของเขาชวนให้ขา้ ไม่สบายใจ คืนนี้เขาจะละเว้นข้าหรื อไม่ ข้ายังคง


กังขา คําพูดต่อมาของเขาค่อยทําให้ขา้ ผ่อนคลาย

“หลับเสี ย” เขากระซิ บ

ชินอ๋ องกระชับข้าไว้ในอ้อมแขน แล้วเราสองก็หลับตา ใจของข้ารู ้สึกอบอุ่น ระหว่างนั้นข้าได้ยนิ เสี ยงเขาพูด


งึมงํา

“เปิ่ นหวางเร่ งควบม้ากลับมา มิได้หยุดพักเลยสักนิด คืนนี้เปิ่ นหวางได้แต่กอดเจ้าไว้เฉยๆ จริ งๆ เสี ยแล้ว”

..มือไม้ท่านไม่ซุกซนได้กด็ ียงิ่ แล้ว ข้ายินดียงิ่ นัก.. ข้าแอบคิดในใจ

ไม่มีใครลุกขึ้นไปดับเทียน ได้แต่ปล่อยให้เปลวเทียนเผาไหม้ตวั เองจนหมดแล้วมอดดับลง

…………………..

89
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ยามที่ขา้ ปิ ดตาอยูใ่ นห้วงฝัน นํ้าเสี ยงที่คุน้ หูกด็ งั ขึ้นอีก

...ซี ยนิ เจ้าเชื่อใจข้าหรื อไม่…

ข้าลืมตาขึ้น

บุรุษรู ปงามผูน้ ้ นั เอ่ยกับซี ยนิ ผูง้ ดงามปานนางสวรรค์ นางพยักหน้าอย่างเขินอาย เขารวบนางไว้ในอ้อมแขน


แล้วเริ่ มบรรเลงเพลงรักอันเร่ าร้อน

“ท่านอ๋ อง..” ซี ยนิ ผูน้ ้ นั ไม่ได้ขดั ขืนแม้แต่นอ้ ย ข้าเห็นนางแล้วอดสะท้อนใจไม่ได้ นางช่างใสซื่ อเหลือเกิน


หลงเชื่อคําบุรุษง่ายๆ ได้อย่างไร ข้าเวทนานาง เสี ยดายแทนนางที่ปล่อยกายปล่อยใจให้เขาคนนั้น นางไม่คิด
หรื อว่าหากวันหน้าเขาทอดทิ้ง นางจะอยูไ่ ด้อย่างไร หากนางตั้งครรภ์ข้ ึนมานอกสมรส ทางออกเดียวสําหรับ
นางเห็นจะเป็ นความตายกระมัง

“ซี ยนิ ข้ารักเจ้า” เสี ยงของเขาพรํ่าบอกนาง

“เจิ้งอู่..” ข้าได้ยนิ นางเอ่ยนามเขาเป็ นครั้งแรก หัวใจกระตุกราวกับถูกค้อนทุบกระหนํ่า ข้าสัน่ ระริ กไปทั้งตัว


เจิ้งอู่.. เจิ้งอู่ เหตุใดนามนี้ราวกับถูกสลักไว้ส่วนลึกที่สุดในวิญญาณ

“ซี ยนิ เจ้าจะรอข้าใช่หรื อไม่” เขาถามนางเสี ยงนุ่ม โอบนางไว้ในอ้อมแขนอย่างรักใคร

“เพคะ ซี ยนิ จะรอท่านอ๋ อง”

“ข้าจะตบแต่งเจ้าเป็ นภรรยาเพียงคนเดียว รักเจ้าเพียงคนเดียว ไม่มีใครอีก”

ซี ยนิ เบิกตากว้างอย่างซาบซึ้ งใจ “ท่านอ๋ อง”

ข้าเบ้ปาก ในยุคนี้ ชายสู งศักดิ์มีหรื อที่จะมีภรรยาเพียงคนเดียว ซี ยนิ ช่างอ่อนต่อโลกเสี ยจริ ง เดี๋ยวก่อน.. ข้าฉุ ก
ใจคิด ..แล้วข้าต่างจากนางตรงไหน..

90
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้าเจิ้งอู่นาํ ทัพไปออกศึกครานี้ หวังจะสร้างความดีความชอบ ข้ากลับมาจะให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ข้า
จะปฏิเสธคุณหนูสามของจวนรองแม่ทพั เจ้าจะได้นงั่ เกี้ยวแปดคนหามเข้าวังของข้า ซี ยนิ เจ้าดีใจหรื อไม่”

ซี ยนิ ยิม้ ละมุนงดงามนัก “เพียงได้อยูเ่ คียงข้างท่านอ๋ อง ซี ยนิ ไม่สนใจสิ่ งอื่นใดเพคะ”

“นับแต่ได้พบเจ้าที่วดั กว่างจี๋ซื่อ ข้าก็ไม่มีตาไว้แลผูใ้ ดอีก”

ใบหน้าของซี ยนิ ระเรื่ อด้วยความขวยอาย เจิ้งอู่ผนู ้ ้ นั ประคองถ้วยยาขึ้นส่ งให้นาง

“ซี ยนิ ดื่มยาห้ามครรภ์เสี ยก่อนเถิด แม้ขา้ อยากจะมีลูกกับเจ้าเหลือเกิน แต่ขา้ จากไปครานี้นานนัก ยังมีอีกหลาย


เรื่ องที่ยงั สะสางไม่เรี ยบร้อย แต่ขา้ จะพยายามกลับมาหาเจ้าให้เร็ วที่สุด”

แม้ยาถ้วยนั้นจะกลิ่นแรงรสชาติขมเฝื่ อนเพียงใด แต่ซียนิ ผูน้ ้ นั ก็ดื่มลงไปโดยไม่ลงั เล

“ซี ยนิ เชื่อใจท่านอ๋ องเพคะ”

ข้านํ้าตารื้ น แม้ไม่ได้เห็นตอนจบของเรื่ องแต่กพ็ อจะคาดเดาได้ ความเชื่อใจของซี ยนิ ช่างสู งค่าเหลือเกิน

……………

ข้าลืมตาตื่นขึ้นในอ้อมแขนของชินอ๋ อง เมื่อคืนเขาไม่ได้รังแกข้า ทําให้ความรู ้สึกที่ขา้ มีต่อเขาดีข้ ึนไม่นอ้ ย ทว่า


ความรู ้สึกนี้กลับอยูไ่ ม่นานนัก ทันทีที่ขา้ ขยับตัวจะลุกขึ้น ชินอ๋ องก็ลืมตา ราวกับว่าเขาตื่นอยูน่ านแล้ว

“กระต่ายน้อย ยังเช้านัก เจ้าจะรี บลุกไปไหน”

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่ง่วงแล้วเพคะ” ข้าตอบเบาๆ รู ้สึกเขินอายเล็กน้อยที่ตอ้ งร่ วมเตียงกับบุรุษเป็ นครั้งแรก

“ไม่ง่วงก็ดีแล้ว เปิ่ นหวางรอเจ้าอยูพ่ กั ใหญ่ทีเดียว” เขาเอ่ยเสี ยงนุ่ม มือไม้เริ่ มอยูไ่ ม่สุข

“อ๊ะ..ท่านอ๋ อง! นี่มนั เช้าแล้วนะเพคะ” ข้าร้องออกมา

91
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ก็ใช่น่ะสิ ” เขากล่าวราวกับเป็ นเรื่ องธรรมดาสามัญ “เจ้านอนพักผ่อนเพียงพอแล้วมิใช่หรื อ เปิ่ นหวางอุตส่ าห์
รอด้วยความอดทน ไม่ปลุกเจ้าขึ้นมาเสี ยก่อน”

ข้าจับหลังมือของเขาที่กาํ ลังลูบไล้บ้ นั เอว เงยหน้าขึ้นเอ่ยนํ้าเสี ยงวิงวอน

“ท่านอ๋ อง..ได้โปรดเมตตาอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเพคะ” ข้าเพิ่งอายุยา่ งสิ บห้า ยังไม่พร้อมร่ วมหอกับเขาหรอก

“ได้ เปิ่ นหวางจะเอ็นดูเจ้าให้มากๆ” เขารับคําทว่าแสร้งเข้าใจความหมายของข้าผิดไป "เอ็นดูมากๆ" ใน


ความหมายของเขานั้น คงจะทําเอาข้าลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหว ข้าโมโหเสี ยจนอยากจะตะบันใบหน้ากวนๆ ของ
เขาไปสักทีสองที ทว่าได้แต่อดกลั้นไว้ แววตาเขาที่มองมาระยิบระยับราวกับกําลังสนุกหนักหนา ข้าได้แต่
แสร้งฉี กยิม้ พลางกล่าว

“ท่านอ๋ องล้ออวี้เอ๋ อร์เล่นแล้ว”

มือของเขาเคลื่อนหลุดจากมือของข้าที่ยดึ กุมไว้แล้วลูบไล้ผวิ เนียนไปทัว่ ร่ าง ความสากจากฝ่ ามือของเขาทําให้


ข้ารู ้สึกร้อนวูบวาบ ข้าพยายามปกป้องเนื้อตัวเป็ นพัลวัน แต่ชุดของไทเฮานี่มนั ช่าง… ราวกับถูกออกแบบมาให้
สนิทเสน่หากันได้ได้โดยไม่ตอ้ งถอด ชินอ๋ องขยับมือเพียงนิดเสื้ อคลุมนั้นก็แหวกออกให้เขาเข้ามาสํารวจเรื อน
ร่ างของข้าได้อย่างย่ามใจ

“ท่านอ๋ องเพคะ..” เสี ยงของข้าเริ่ มสั่น “อวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่พร้อม ท่านอ๋ องให้เวลาอวี้เอ๋ อร์เตรี ยมใจอีกหน่อยเถิดนะ
เพคะ..” ข้ายังพูดไม่จบประโยคดีกต็ อ้ งร้องอุทานออกมา

“ท่านอ๋ อง!”

ข้าผวาเมื่อเขาก้มศีรษะลงมาซุกไซร้แผ่วเบาที่ซอกคอ ขบเม้มติ่งหูอ่อนไหวของข้า ข้าหดคอหนี สองมือผลักไส


เขาออก ชินอ๋ องยันกายขึ้นเล็กน้อย สายตาดุๆ มองสองมือข้าที่ยนั แผ่นอกเขาไว้

“เมื่อคืน อวี้เอ๋ อร์ บอกเองมิใช่หรื อว่าจะพยายามสุ ดความสามารถพื่อตอบแทนเปิ่ นหวาง หรื อว่าเจ้าไม่คิดจะ


รักษาคําพูด”

92
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าพูดพลางหอบหายใจ นํ้าเสี ยงราวกับกําลังจะร้องไห้ “อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มทําตามที่พดู เพคะ แต่วา่ ..แต่วา่ …อวี้เอ๋ อร์
ยังเด็ก เรื่ องแบบนี้.. เรื่ องแบบนี้.. เอ่อ.. เร็ วเกินไป”

“อวี้เอ๋ อร์..” แววตาของชินอ๋ องวาววับยามมองหน้าข้าแล้วเอ่ยคํา “เจ้า..ไม่เด็กแล้ว” เขากล่าวพลางเลื่อนมือมา


เกาะกุมทรวงอกอิ่มของข้าไว้ราวกับจะยืนยันคําพูดของตัวเอง ข้าใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาลงมือเคล้นคลึงแผ่ว
เบา

ข้ารู ้วา่ เขาเป็ นคนทําอะไรตามใจ ไม่ยดึ ถือหลักเกณฑ์ แต่ในสภาพที่ขา้ ตกเป็ นรองเช่นนี้ ข้าได้แต่เอาหลักจรรยา
สตรี มาอ้าง

“ยามนี้อวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ได้แต่งเข้าวัง บางเรื่ องก็ไม่สมควรและไม่อาจกระทําได้ ท่านอ๋ องโปรดระงับใจไว้ก่อนเถิด


เพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์ ” นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องเย็นเยียบขึ้นมา “เจ้าเห็นเปิ่ นหวางเป็ นคนว่าง่ายอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าคิดว่า


เปิ่ นหวางสนใจกฎเกณฑ์หยุมหยิมพวกนั้นด้วยหรื อ”

ข้าจนใจจนแทบร้องไห้ออกมา สุ ดจะหาหนทางบ่ายเบี่ยงได้อีก จึงกัดริ มฝี ปากแน่น เบือนสายตาไปทางอื่นที่ไม่


มีเขา ตั้งใจว่าจะไม่ปริ ปากพูดอะไรกับเขาอีก

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าไม่เชื่อใจเปิ่ นหวางหรื อ” เขากัดใบหูขา้ เบาๆ นํ้าเสี ยงหยอกเย้า

ข้าไม่ตอบ อย่างไรเสี ยข้าก็ไม่อาจหยุดยั้งเขาได้ ชินอ๋ องไม่ได้นาํ พากับอาการมึนตึงของข้า เขาเพียงเคลื่อนตัว


ตํ่าลงไป ข้ารู ้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว รับรู ้ได้ถึงสัมผัสจากริ มฝี ปากและปลายลิ้นที่หยอกเย้าอยูต่ ามผิวกาย
ซึ่ งไวต่อสัมผัสของข้า

ดวงหน้าแดงเรื่ อของข้าแหงนหงาย เห็นเพียงเพดานเตียงและผ้าม่านมุง้ ที่ไหวพะเยิบ ปลายนิ้วของข้าจิกผ้าปู


เตียงแน่น ข้ากัดริ มฝี ปาก พยายามจะไม่ส่งเสี ยงครางออกมา ชินอ๋ องดูสนุกสนานยิง่ นักกับการที่ได้กลัน่ แกล้ง
ข้า เขายิง่ ลงมือหนักข้อขึ้น ข้าหอบหายใจ ตัวอ่อนปวกเปี ยกไปกับสัมผัสอันเจนจัดของเขา ข้ายังคงดื้อดึง
พยายามไม่มอง ทั้งยังมองไม่เห็นว่าเขาทําอะไรกับร่ างกายของข้าบ้าง

93
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามที่ชินอ๋ องผละออก ข้าแอบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ข้าแทบจะต้านทานเขาไม่ไหวอยูแ่ ล้ว แต่ความรู ้สึก
โล่งใจก็อยูไ่ ด้เพียงครู่ เดียวเท่านั้น ชินอ๋ องปลดเปลื้องเสื้ อผ้าอย่างเร่ งร้อน ข้ารี บตะเกียกตะกายไปอีกฝั่งหนึ่ ง
ของเตียง ผมยาวสลวยของข้ากระเซอะกระเซิ งไปหมด กลิ่นกายของชินอ๋ องอบอวลอยูบ่ นเนื้อตัวข้า ข้ามองเขา
ด้วยสายตาเว้าวอน

“ท่านอ๋ องเพคะ…”

ข้านึกว่าเขาจะใช้กาํ ลังดึงข้ากลับไป ทว่าเขาเพียงมองข้าด้วยสายตาอันทรงพลังอํานาจคู่น้ นั นํ้าเสี ยงที่เขาเอ่ยกับ


ข้าทุม้ ตํ่า

“มานี่สิ”

เขาเพียงออกคําสั่งธรรมดา ข้าก็ไม่กล้าขัด ได้แต่เคลื่อนกายกลับไปหาเขาอย่างว่าง่าย เขาจับข้านอนลงเช่นเดิม


เสื้ อคลุมสี แดงยังอยูบ่ นตัวข้า แต่สภาพของมันในยามนี้หลุดรุ่ ย เผยให้เห็นเนื้อตัววับแวมของข้าล่อตาล่อใจชิน
อ๋ องนัก ดวงตาเข้มจัดของเขาฉายโชนไปด้วยความปรารถนา ข้าเห็นแล้วอดสั่นสะท้านไม่ได้ เขาเบียดกายเข้า
มาโดยไม่ถอดเสื้ อคลุมสี ชาด ปล่อยให้มนั แนบกายชื้นเหงื่อของข้า ราวกับเจ้าสาวในคืนเข้าหอ

ข้าพ่ายแพ้ต่อความปรารถนา ไม่ได้ต่อต้านเขาอีก แต่พอสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แข็งกร้าวของเขา ความเจ็บปวดที่


แทรกเข้ามาก็เตือนสติขา้

...ไม่.. ข้าไม่ตอ้ งการเป็ นอย่างซี ยนิ ...

“ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์เจ็บเพคะ” ข้านิ่วหน้าพลางยันอกของเขาออก

เขาหอบหายใจ “เปิ่ นหวางจะอ่อนโยนต่อเจ้า”

ข้าบิดกายอย่างทรมาน

...นี่ ข้าไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมแบบซี ยนิ ได้หรื อ.. ความฝันของซี ยนิ ตามหลอกหลอนข้าจนข้ากลัว ข้านึกถึง


นางแล้วก็สะเทือนใจจนนํ้าตาไหล คําสัญญาลมๆ แล้งๆ ที่เจิ้งอู่ให้ไว้กบั นาง เทียบกับข้าตอนนี้แล้ว ต่างกัน
ตรงไหน ร่ างกายงดงามของข้าและนางเป็ นเพียงบุปผาหายากที่บุรุษหมายจะเชยชม

94
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

...เป็ นที่ปรารถนา แต่ไม่อาจเป็ นที่รัก…

ข้าร้องไห้ดว้ ยความเศร้าเสี ยใจ มิใช่ดว้ ยความเจ็บปวด

มีเพียงเรื่ องนี้..ที่ขา้ ไม่อาจเชื่อใจเขา

อาการสะอื้นไห้ไร้เสี ยงของข้าทําให้ชินอ๋ องหยุดชะงัก กรามของเขานูนขึ้นเป็ นสัน กายของเขาสั่นระริ กร้อน


ผ่าว เห็นได้ชดั ว่ากําลังถูกเพลิงปรารถนาแผดเผาจนหนักหนาสาหัสเพียงไร ทว่าเขากลับปล่อยมือจากเอวข้า...

เขาผละจาก ไม่เอ่ยสิ่ งใด ร่ างสู งลุกขึ้นไปสวมเสื้ อผ้า ก้าวออกไปจากห้อง ครู่ หนึ่งก็ได้ยนิ เสี ยงเขาฝึ กยุทธ์ที่ลาน
หน้าตําหนัก

ข้ายังคงร้อนผ่าวไปทัว่ ทั้งร่ าง นํ้าตาของข้าหยุดไหลแล้ว ข้าได้แต่ซุกใบหน้าลงกับเตียงอย่างสับสน

…….

เสวียนเฟิ งออกหมัดอย่างคลุม้ คลัง่ หุ่นไม้ที่ต้ งั ไว้เป็ นเป้า หักสะบั้นตลอดแนว ทว่าไม่อาจระงับอารมณ์พลุ่ง


พล่านที่ปะทุข้ ึนมาได้

เขาแปลกใจตัวเองที่ละเว้นนาง ปล่อยร่ างสั่นระริ กเย้ายวนไว้บนเตียงนัน่ ! เขารู ้สึกประหลาดใจที่ไม่อาจทนเห็น


นํ้าตาของนางได้ นางมิได้ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากเขา ทว่านางดูราวกับคนใจสลาย.. มีอะไรที่
เขาไม่รู้อย่างนั้นหรื อ นางมีความลับใดที่รอดพ้นสายตาเขาไปอย่างนั้นหรื อ

เขาคือชินอ๋ องผูไ้ ม่เคยต้องสนใจความรู ้สึกของผูใ้ ด อันที่จริ งไม่วา่ นางจะยินยอมหรื อไม่กต็ าม เขาไม่


จําเป็ นต้องใส่ ใจแม้แต่เพียงนิด เขาสามารถลงมือครอบครองนางได้ตามประสงค์ แต่ไม่รู้ดว้ ยเหตุใด เขากลับ
ทนเห็นนางเป็ นเช่นนั้นไม่ได้ ราวกับเขากําลังทําร้ายนางอย่างสาหัสที่สุด

เขาสลัดความคิดวุน่ วายออกจากหัว เอาเถิด หากนางไม่พร้อม เขาจะรอจนกว่าจะตบแต่งนางเป็ นหวางเฟยก็


แล้วกัน!

95
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 16 : ไม่ มีสิ่งใดได้ มาเปล่ าๆ

ข้านอนอยูค่ นเดียว ถามตัวเองซํ้าๆ ว่าข้าตัดสิ นใจถูกแล้วหรื อ บรรยากาศยามเช้าอันสดชื่นเงียบสงัดไม่ได้ทาํ ให้


ความเศร้าในใจของข้าลดลงได้เลย ..ข้าจะเศร้าใจไปทําไม.. ข้าถามตัวเอง ข้าปรารถนาหัวใจของเขาอย่างนั้น
หรื อ... ข้าหน้าร้อนผ่าว รี บปฏิเสธตัวเอง ไม่..ข้าไม่อ่อนต่อโลกถึงเพียงนั้น ข้าถูกส่ งมาเข้าร่ างอาหลันเพียงหวัง
มีชีวิตรอดเท่านั้น อย่างอื่นข้าล้วนไม่สนใจ ข้าบอกตัวเองให้ต้ งั สติและมองโลกตามความเป็ นจริ ง ในที่สุดข้าก็
คิดตก หากข้าต้องการความคุม้ ครองของเขา ข้าก็ตอ้ งแลกในสิ่ งที่เขาต้องการ

ยามที่ชินอ๋ องกลับมา ข้ายังคงนอนซบอยูบ่ นเตียง ใบหน้าผินไปทางประตู สายตาเลื่อนลอย ผมยาวสยายของข้า


แผ่กระจายไปทัว่ ดูโดยรวมแล้วกลับเป็ นภาพที่งดงาม เส้นผมสี น้ าํ หมึกและร่ างอ่อนช้อยในชุดแดงบนเตียงสี
ขาว ราวกับดอกเหมยแดงบนกิ่งก้านสี เข้มท่ามกลางหิ มะ แววชื่นชมปรากฏในดวงตาของเขาวูบหนึ่งก่อนจะ
หายไป ตอนที่เขาก้าวเข้ามา สี หน้าของเขาเรี ยบเฉย แต่ขา้ เห็นรอยขึ้งเครี ยดที่หวั คิ้ว นัน่ เป็ นเพราะข้า ข้าทําให้
เขาต้องหงุดหงิดใจ ข้ารี บผุดลุกขึ้นต้อนรับเขา

ก่อนหน้านี้ขา้ ใคร่ ครวญดูแล้วรู ้สึกผิดต่อเขายิง่ นัก เป็ นข้าเองที่ทาํ ตัวไร้เหตุผล ทั้งก่อนหน้าและต่อจากนี้ชีวิต


ของข้าล้วนต้องพึ่งพาคนผูน้ ้ ี ข้ายังจะทําตัวมากเรื่ องได้อีกหรื อ ยิง่ เขาละเว้นข้าในขณะที่เรี ยกได้วา่ ทั้งทรมาน
และต้องอาศัยการอดกลั้นเป็ นที่สุด ข้าก็ยงิ่ นับถือเขา ซาบซึ้ งที่เขาไม่รุกรานเอาแต่ใจ

..ถึงข้าจะพลีกายให้เขาก่อนสมรสแล้วเป็ นอย่างไรเล่า ข้าเองก็ทาํ ใจอยูแ่ ล้วมิใช่หรื อ ไม่วา่ เขาจะมอบตําแหน่ง


ฐานะอะไรให้ ข้าก็ตอ้ งรับไว้ อีกทั้งเขาเป็ นคนเด็ดขาด พูดคําไหนคํานั้น เขาย่อมไม่ผดิ คําสัญญากับข้าแน่ ข้าจะ
ระแวงเขาไปเพื่ออะไร..

ข้าจัดเสื้ อผ้าให้เข้าที่ แล้วเดินไปย่อกายให้เขา

“ท่านอ๋ องเพคะ ให้อวี้เอ๋ อร์ปรนนิบตั ิท่านอ๋ องอาบนํ้าเถิดนะเพคะ” ข้าพูดกับเขาอย่างอ่อนหวาน แววตาสื่ อ


ความนัย ..ข้ายินยอมแล้ว..

ชินอ๋ องมีสีหน้ามึนตึง เอ่ยกับข้าเสี ยงเย็น “เจ้าคิดจะแกล้งทรมานเปิ่ นหวางหรื อ”

ข้ามีสีหน้าละอาย รี บก้มหน้าตํ่าพลางอธิบาย

96
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์เพียงตื่นตกใจ ทําให้ท่านอ๋ องต้องระคายพระทัย คราวนี้ขอโอกาสให้อวี้เอ๋ อร์ ได้แก้ตวั ใหม่เถิด


นะเพคะ”

ชินอ๋ องเพียงหันหลังให้ขา้ แล้วออกเดิน ใจของข้าตกไปอยูท่ ี่ตาตุ่ม เขาคงโกรธจนไม่อยากจะมองหน้า จากนี้ขา้


จะมีโอกาสแก้ตวั อีกหรื อ ข้านํ้าตารื้ นอย่างใจเสี ย ทว่าเขาก้าวไปได้สี่หา้ ก้าวก็เอ่ยโดยไม่หนั มามอง

“ตามเปิ่ นหวางมา”

รอยยิม้ ผุดขึ้นบนริ มฝี ปาก ข้ารี บรุ ดฝี เท้าตามเขาไปติดๆ รู ้สึกใจชื้นขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ยงั ไม่ใจแข็งกับข้า
เกินไปนัก เขาเดินนําข้าไปด้านหลังตําหนักโดยไม่ผอ่ นฝี เท้า ทําเอาข้าต้องสาวเท้าตามจนแทบจะเป็ นวิง่
ระยะทางระหว่างห้องบรรทมกับสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างไกลเพราะความใหญ่โตของตําหนัก เพียงเปิ ดประตู
บานใหญ่ไอนํ้าก็พวยพุง่ ออกมา ชินอ๋ องหันไปเอ่ยกับนางกํานัลสองคนที่เฝ้าอยูด่ า้ นหน้า

“เตรี ยมเสื้ อผ้าให้นาง”

ข้าก้าวตามเขาเข้าไปในห้อง ใบหน้าแดงจัด ใจเต้นตึกตัก ลอบกลืนนํ้าลายอย่างหวาดหวัน่ หน้าผากของข้าเริ่ มมี


เหงื่อซึ ม หรื อว่าข้าตัดสิ นใจผิดพลาด ข้าส่ ายหน้ากับตัวเองเบาๆ ไม่..ข้าไม่มีทางเลือก หากข้าทําให้เขาไม่พอใจ
เขามีสิทธิ์ที่จะไล่ขา้ ออกไปจากวังเสิ่ นหยางกง แล้วชีวติ ของข้าต่อจากนี้จะเป็ นอย่างไรกันเล่า กลับไปหาใต้เท้า
จางหรื อ เขาคงไม่เก็บข้าไว้แน่ ข้าคงไม่แคล้วตกเป็ นอนุของเขาหรื อถูกส่ งต่อไปเป็ นของกํานัลแก่ผอู ้ ื่น ขณะที่
ข้ากําลังครุ่ นคิดก็ตอ้ งสะดุง้ เพราะเสี ยงของเขา

“อวี้เอ๋ อร์ ” เขาเอ่ยเสี ยงเย็น “เจ้าแน่ใจแล้วหรื อ หากเจ้าตัดสิ นใจแล้วย่อมไม่มีทางหันหลังกลับได้อีก”

“อวี้เอ๋ อร์แน่ใจแล้วเพคะ ท่านอ๋ องได้โปรดให้อภัยความลังเลก่อนหน้านี้ของอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเพคะ” ข้าย่อขาก้ม


หน้าตอบด้วยนํ้าเสี ยงแน่วแน่ ตัดความลังเลสงสัยก่อนหน้านี้ทิ้งไปเสี ยสิ้ น จึงไม่เห็นแววตาที่ลุกวาบอย่างพึง
พอใจของเขา

ข้านึกถึงซี ยนิ แต่คราวนี้ขา้ ไม่หวัน่ ไหวอีกแล้ว ข้าไม่เหมือนนาง ข้าไม่ได้พลีกายเพื่อหัวใจของชินอ๋ อง ข้าไม่


ต้องการความรัก ข้าทําเพื่อตัวข้าเอง เพื่อฐานะ อํานาจและอนาคตที่เขาจะให้ขา้ ได้ ข้าต้องการความมัน่ คง
ปลอดภัยในชีวติ มิใช่ชีวิตที่ขา้ ไม่อาจกําหนดได้เอง ไม่รู้จะถูกส่ งต่อไปเป็ นอนุของผูอ้ ื่นเมื่อไหร่ ข้าเชื่อมัน่ ใน

97
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตัวชายคนนี้ ในศักดิ์ศรี และความหยิง่ ทะนงของเขา กับผูห้ ญิงตัวเล็กๆไม่มีทางสู ้อย่างข้าเขาคงไม่คิดรังแก ดู
อย่างเมื่อครู่ ประไร นึกแล้วความอบอุ่นก็แล่นผ่านกลางใจข้า..เขาไม่ได้หกั หาญนํ้าใจข้า... และถึงแม้เขาคิดจะ
ใช้ขา้ ก็ไม่ผดิ อะไร เพราะข้าเองก็คิดจะใช้เขาเช่นกัน นี่ยอ่ มเป็ นการแลกเปลี่ยนที่สมนํ้าสมเนื้อ

ชินอ๋ องเอื้อมมือมากุมต้นแขนทั้งสองของข้า สายตาคมจ้องมองลงมาอย่างคาดคั้นท้าทาย กายของข้าสั่นระริ ก


แต่ดวงตาของข้ามุ่งมัน่ ข้าต้องการเขา ทั้งร่ างกายและฐานะของเขา ข้ายินดีใช้ร่างกายของตนเองเข้าแลก ข้ายอม
เสี่ ยงกับเดิมพันครั้งนี้ เดิมพันที่ขา้ ทุ่มสุ ดตัว หวังเพียงได้รับเพียงเศษเสี้ ยวความเมตตา

ชินอ๋ องดึงร่ างข้าเข้าไปจุมพิตอย่างรุ นแรงราวกับอารมณ์ที่ข่มกลั้นไว้เมื่อครู่ ปะทุออกมาจนหมดสิ้ น ข้าโอน


อ่อนซบเขาราวกับกิ่งหลิวที่พลิ้วไปตามลม ร่ างกายนุ่มนิ่มของข้าถูกกอดรัดไว้แน่น ความเร่ าร้อนของเขาราว
กับไฟที่จุดติดบนร่ างของข้าที่เป็ นเหมือนกับนํ้ามัน เพลิงพิศวาทเผาผลาญพวกเราจนแทบมอดไหม้

ห้องนี้เป็ นห้องอาบนํ้าขนาดใหญ่ท่ีถูกสร้างขึ้นโดยมีสระนํ้าร้อนธรรมชาติไหลผ่าน ในห้องมีเตียงกว้างเอาไว้


นอนพักหลังอาบนํ้า หน้าต่างบานใหญ่สาํ หรับเปิ ดระบายอากาศอุดอูใ้ นหน้าร้อนและปิ ดกันลมในหน้าหนาว
เครื่ องเรื อนในห้องล้วนทําจากหิ นหยกขาวเพื่อให้ทนทานต่อความชื้น ที่ริมสระมีถาดใส่ เกลือหอมและนํ้ามัน
นวดตัวเตรี ยมไว้พร้อม ฉากกั้นจัดวางไว้เป็ นสัดส่ วน นับได้วา่ ห้องนี้ถูกสร้างขึ้นสําหรับการเสพสุ ขโดยแท้จริ ง

ชินอ๋ องเกี่ยวเอวของข้าจนเท้าลอยจากพื้นแล้วพาไปที่เตียง เมื่อล้มตัวลงเขาก็ทาํ สิ่ งที่คา้ งคาอยูก่ ่อนหน้า บรรจง


จูบข้าไปทัว่ กาย ลูบไล้ผวิ นุ่มละมุนของข้าด้วยฝ่ ามือสากระคายไม่หยุดมือ เนื้อตัวของเขายามที่แนบเข้าหาข้า
ร้อนผ่าว เนื้อตัวข้าเป็ นดัง่ หยกเย็นที่ดูดซับไอร้อนจากร่ างกายของเขา ผิวใสกระจ่างของข้าเรี ยบลื่นเย็นดังผิว
หยก ยามกายร้อนลวกของเขาสัมผัส ชินอ๋ องจึงชื่นชอบไม่นอ้ ย เขาคํารามในลําคออย่างหมดความอดทน ข้าบิด
กายด้วยความรัญจวนจนแผ่นหลังอ่อนโค้ง

แม้วา่ จะเป็ นครั้งแรกของข้า แต่ขา้ ก็ข่มกลั้นความเจ็บปวด พยายามปรนเปรอให้เขาสุ ขสมที่สุด ถึงกระนั้นข้าก็


เจ็บจนนํ้าตาไหล ข้านึ กถึงตําราชินกงที่เคยได้อ่าน นึกถึงคําสอนของหญิงคณิ กามากประสบการณ์ที่ใต้เท้าจาง
เชิญให้มาสอนเคล็ดลับในห้องหอ ผลตอบแทนก็คือเสี ยงครางกระหึ่ มของชินอ๋ องและการปลดปล่อยครั้งแล้ว
ครั้งเล่าอย่างไม่รู้จกั พอ ข้าไม่มีประสบการณ์มาก่อนจึงไม่รู้วา่ กิริยาของข้ายามตอบสนองเขาเต็มไปด้วยความ
ไร้เดียงสาทว่ายัว่ ยวนอย่างที่สุด

เขาไม่ยอมให้ขา้ ถอดเสื้ อคลุมสี แดง กลับรั้งมันไว้กบั กายข้ายามเขาเข้าครอบครอง สี แดงสดตัดกับผิวขาวผ่อง


ราวกับหยกของข้า ทั้งดูสวยงามและร้อนแรงประดุจกลีบเหมยแดงพร่ างพรมบนหิ มะ เช่นเดียวกับผ้าปูเตียงสี

98
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ขาวที่เปรอะเปื้ อนรอยเลือดจากกายข้า ยามเขารุ กลํ้า ข้ากรี ดร้องออกมาเบาๆ เพราะข้ารู ้วา่ นัน่ จะช่วยเร้าอารมณ์
เขายิง่ ขึ้น ยามสัมผัสข้าเขาเต็มไปด้วยความเร่ าร้อนคลุม้ คลัง่ แต่ยามกลืนกินข้า เขากลับอ้อยอิ่งเชื่องช้าจนข้า
แทบละลาย นํ้าตาของข้าไหล แต่คราวนี้เป็ นนํ้าตาแห่งความสุ ขสม

หลังพายุอารมณ์ครั้งแรกผ่านพ้นไป ความปรารถนาที่กกั เก็บไว้ของชินอ๋ องช่างมากมายและรุ นแรงเหลือเกิน


ข้าแทบจะตอบสนองไม่ไหว กระนั้นก็ตาม ข้าไม่อาจปฏิเสธได้วา่ นอกจากความเจ็บปวดในครั้งแรกแล้ว ทุก
ครั้งข้าก็ลว้ นสุ ขสมไปกับเขา ราวกับเป็ นการแลกเปลี่ยนความสําราญระหว่างกัน แต่สาํ หรับข้า รู ้สึกว่าออกจะ
หนักหน่วงจนร่ างกายระบมไปไม่นอ้ ย

มันคือการแลกเปลี่ยนที่คุม้ ค่าหรื อไม่ ข้าไม่รู้ แต่ขา้ ไม่รู้สึกเสี ยใจสักนิด ชินอ๋ องไม่ใช่บุรุษธรรมดาที่สตรี ใดนึก
จะครอบครองก็ได้ เขาเป็ นบุรุษที่เย่อหยิง่ ทะนงในศักดิ์ศรี ข้าแอบดีใจที่ขา้ เปลี่ยนใจยอมเป็ นของเขา ไม่เช่นนั้น
เขาอาจจะไม่ชายตามองข้าอีกเลยก็เป็ นได้

ครู่ หนึ่งในขณะที่เรากําลังกอดเกี่ยวกันอยูใ่ นสระ ไอนํ้าร้อนจากสระพวยพุง่ จนบรรยากาศในห้องเป็ นภาพลาง


เลือนราวกับตกอยูใ่ นห้วงฝัน ชินอ๋ องกําลังครอบครองข้าอย่างเร่ าร้อน นํ้าในสระไหวกระเพื่อมตามความ
เคลื่อนไหว ยามนั้นสติของเราทั้งสองกระเจิดกระเจิง เขากลับหลุดปากครางชื่อหนึ่งออกมา

"อา..ซี ยนิ .."

ชัว่ ขณะนั้นข้าแข็งค้างไปทั้งร่ าง

..เขารู ้จกั นางด้วยหรื อ หรื อว่าเขาจะฝันเห็นนางเช่นกัน..

แต่จงั หวะรักไม่คอยท่า เพียงพริ บตาข้ากับเขาก็กลับมาครวญครางอย่างเร่ าร้อนโดยไม่ได้นึกถึงเรื่ องใดอีก

ข้าไม่รู้ตวั ว่าเขาอุม้ ข้ากลับมายังห้องบรรทมเมื่อไหร่ รู ้แต่เพียงอารมณ์พิศวาทของเขายังไม่เสื่ อมคลาย เขากอด


เกี่ยวทรมานข้าอีกหลายครั้ง สุ ดท้ายข้ารู ้สึกตัวยามเขาลุกจากเตียงออกไปนอกห้อง ได้ยนิ เสี ยงทุม้ เนิบนาบของ
เขาออกคําสั่งกับคนหน้าห้อง

99
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“พรุ่ งนี้จดั พิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ข้าจะแต่งหวางเฟย”

คําสั่งของเขาทั้งเรี ยบง่ายและไร้พิธีรีตอง

แม้จะเหน็ดเหนื่ อยและเจ็บระบมเหลือแสน แต่ขา้ ก็อดนํ้าตาไหลอย่างปลาบปลื้มไม่ได้ ในที่สุดเขาก็รักษา


สัญญา จากนี้ไปข้าไม่ตอ้ งหวัน่ เกรงอะไรอีกแล้ว ข้าคือ ชินหวางเฟย ข้าหลับไปพร้อมกับรอยยิม้

…..

เสวียนเฟิ งอารมณ์ดีอย่างคนอิ่มเอมในรสรัก เพลิงโทสะในยามเช้าสู ญสลายหายไปหมด ยามที่เขากลับเข้ามา


หาอวี้เอ๋ อร์ในห้อง ตั้งใจจะบอกนางว่าเขาจะรอจนกว่าจะตบแต่งนาง ทว่านางกลับเสนอตัวให้เขา คิดแล้วก็อด
ยิม้ อย่างอารมณ์ดีข้ ึนมาอีกไม่ได้ เขาได้ครอบครองนางหลายครั้งอย่างสมใจ นางช่างถูกใจเขาเสี ยเหลือเกิน รู ป
โฉมโนมพรรณต้องตาจนตื่นตะลึง กิริยาออดอ้อนของนางเร้าอารมณ์นกั ทั้งไร้เดียงสาและร้ายกาจในคนๆ
เดียว เขายกยิม้ มุมปาก เช่นนี้สิจึงจะเหมาะสมกับตําแหน่งหวางเฟยของเขา

เขาชอบที่นางเป็ นแบบนี้ สตรี ที่ท้ งั งดงามเฉลียวฉลาด เด็ดขาด กล้าได้กล้าเสี ย ในเมื่อนางกล้าเดิมพัน เขาก็กล้า


จ่าย วิถีของโลกก็เป็ นเช่นนี้มิใช่หรื อ ..ไม่มีสิ่งใดได้มาเปล่าๆ...

เขาพลันนึกถึงยามที่ร่างของอวี้เอ๋ อร์ อ่อนระทวยอยูข่ อบสระ ยามที่เขาครอบครองนางอย่างเร่ าร้อน ไอหมอกที่


โรยอยูร่ อบตัวทําให้สติสัมปัญชัญญะของเขาพร่ าเลือนไปชัว่ ครู่ ยามนั้นเขาหลุดชื่อสตรี ผหู ้ นึ่งออกมา..

“..ซี ยนิ ..” ซี ยนิ คือใครเขายังไม่รู้จกั เสี ยด้วยซํ้า ทว่าเมื่ออวี้เอ๋ อร์ ได้ยนิ ชื่อนี้ กต็ วั แข็งขึ้นมาทันที เขาแน่ใจว่านาง
จะต้องเคยได้ยนิ ชื่อนี้มาก่อนแน่ เขาเก็บความสงสัยไว้ในใจ ตั้งใจว่าจะซักถามเรื่ องนี้กบั นางในภายหลัง

100
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 17 : หวานลํา้ กําซาบทรวง

ตอนที่ขา้ ตื่นขึ้นมาเป็ นเวลาใกล้ค่าํ ยามขยับตัวข้ารู ้สึกเมื่อยล้าไปทั้งกาย ข้าหน้าแดงเมื่อนึ กถึงฉากรักดุเดือดที่


เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อกลางวัน ก้มลงสํารวจตัวเอง เขาคงเป็ นคนเช็ดตัวและสวมเสื้ อผ้าให้ขา้ เพราะเสื้ อนั้นผูกไม่
เรี ยบร้อยดีนกั นางกํานัลคนหนึ่งเปิ ดประตูเดินเข้ามา พอเห็นข้าตื่นนางก็ยอ่ กายแล้วเอ่ย

“คุณหนูตื่นพอดี ท่านอ๋ องให้บ่าวยกยามาให้เจ้าค่ะ กําชับว่าหากคุณหนูยงั ไม่ตื่น ให้บ่าวปลุกขึ้นมาดื่มยาก่อน


ค่อยนอนต่อ”

นางวางถาดลงที่โต๊ะแล้วประคองถ้วยยามาให้ขา้ ข้าชําเลืองมองถ้วยยาในมือนาง สายตาของข้าวูบไหวแต่สี


หน้าของข้าไม่เปลี่ยน

...ยาห้ามครรภ์อย่างนั้นหรื อ…

ข้าเตือนตัวเองอีกครั้ง ระหว่างข้าและชินอ๋ องเป็ นการแลกเปลี่ยน หากเขาไม่พร้อมให้ขา้ ตั้งครรภ์ทายาทของเขา


ข้าจะมีสิทธิ์บ่นอะไรเล่า ถึงจะบอกตัวเองอย่างนั้นแต่จิตใจของข้ากลับห่อเหี่ ยว ข้าเคยได้ยนิ มาว่ายาห้ามครรภ์
รสชาติเลวร้ายนัก กินเข้าไปแล้วจะรู ้สึกพะอืดพะอม

“ข้ากินข้าวก่อนได้หรื อไม่” ตั้งแต่เช้าข้ายังไม่ได้กินอะไร ไม่แน่วา่ กินยานัน่ เข้าไป ข้าอาจจะกินอะไรไม่ลง

นางกํานัลผูน้ ้ นั ยังคงยืน่ ถ้วยยาให้พลางเอ่ย “ยานี้ ตอ้ งกินตอนร้อนเจ้าค่ะ คุณหนูรีบดื่มให้หมดนะเจ้าคะ หมิงจู


เตรี ยมสํารับรอไว้แล้วเจ้าคะ ดื่มยาแล้วประเดี๋ยวจะยกมาให้ที่เตียง”

เมื่อนางยืนยันอย่างนั้นข้าจึงรับยามาดื่ม ยานั้นไม่ได้ขมอย่างที่คิด รสชาติกไ็ ม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ หมิงจูเห็นข้า


ดื่มได้จึงยิม้ พลางเอ่ย

“ท่านอ๋ องสั่งให้ใส่ น้ าํ ผึ้งลงไปด้วยเจ้าค่ะ จะได้ดื่มง่าย ท่านอ๋ องเกรงว่าท่านจะไม่ยอมดื่ม”

หมิงจูกล่าวราวกับรู ้สึกยินดีแทนข้าที่ชินอ๋ องเป็ นห่วงเป็ นใย ข้ายิม้ เย็นแต่ในใจข้าเจ็บหนึบ ข้าไม่พดู อะไร ดื่ม
ยาเสร็ จแล้วจึงบอกให้นางประคองไปโต๊ะอาหาร ทว่ายามเท้าสัมผัสพื้นแทบอยากจะเปลี่ยนใจให้นางยกสํารับ

101
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
มาที่เตียง ร่ างกายของข้าเจ็บระบม ข้าได้แต่ข่มกลั้นความเจ็บปวด พยายามประคองกายเดินให้ตรง ก้าวไปได้
สองสามก้าว ประตูหอ้ งก็เปิ ดออก

ชินอ๋ องเห็นข้าก็ตรงเข้ามาอุม้ พลางถามเสี ยงดุ “ลุกจากเตียงมาทําไม”

หมิงจูรีบปลีกตัวออกไปนอกห้อง ข้าได้เห็นหน้าเขาเป็ นครั้งแรกหลังจากมีสัมพันธ์ลึกซึ้ งก็นึกขวยใจไม่นอ้ ย


จึงก้มหน้าลงกล่าวเสี ยงอูอ้ ้ ี

“อวี้เอ๋ อร์หิวแล้ว จะไปกินข้าวเพคะ”

“เหตุใดไม่ให้คนยกสํารับไปให้ที่เตียง ลุกขึ้นมาเดินเช่นนี้เจ้าหายเจ็บแล้วหรื อ” เขาเอ็ดข้าเสี ยงดุ ข้าได้ฟังแล้ว


หน้าแดงยิง่ กว่าเก่า

“อวี้เอ๋ อร์เพียงไม่อยากให้ผอู ้ ื่นยุง่ ยาก ท่านอ๋ องอย่าได้ถือสาเลยนะเพคะ”

เขาเพียงถอนใจเบาๆ ไม่วา่ อะไรข้าอีก ชินอ๋ องก้าวเท้ายาวๆ อุม้ ข้าไปวางไว้ที่โต๊ะ “หากเจ้าดีข้ ึนแล้วก็มาร่ วม


โต๊ะกับเปิ่ นหวาง”

ขณะกินข้าวเขาก็เอ่ยถามขึ้นมา

“เจ้าดื่มยาแล้วใช่หรื อไม่”

ข้าเม้มริ มฝี ปากเล็กน้อยก่อนก้มหน้าตอบเบาๆ “ยาห้ามครรภ์ที่ท่านอ๋ องประทานมา อวี้เอ๋ อร์ ดื่มแล้วเพคะ”

“ดีแล้ว” เขาตอบ แต่แล้วก็กลับขมวดคิ้ว “เจ้าว่าเจ้าดื่มยาอะไรนะ” เขาถามนํ้าเสี ยงแข็งขึ้น

ข้าก้มหน้าลงอีก นํ้าตาจะหยดยามเอ่ยเสี ยงสั่น “ยาห้ามครรภ์เพคะ หมิงจูบอกว่าต้องดื่มตอนร้อน หม่อมฉันก็


ดื่มลงไปทั้งหมดเพคะ” ข้าตอบ หมายจะให้เขารู ้วา่ ข้าไม่ได้บิดพลิ้วไม่ยอมดื่มยาแต่อย่างใด ข้าพยายามกลั้น
นํ้าตา ในใจอดรู ้สึกเศร้าสร้อยไม่ได้ สตรี ที่ตอ้ งดื่มยาห้ามครรภ์น้ นั มีสถานะไม่ต่างอะไรกับนางบําเรอ เพราะ
หากตั้งครรภ์ข้ ึนมา เขาก็ไม่อาจเสพสุ ขกับข้าได้อีก

102
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ ” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงราวกับระอาใจ ใบหน้าเจือรอยยิม้ “ที่เจ้าดื่มเป็ นยาลดไข้”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ ใบหน้าแดงซ่าน บัดนั้นข้ารู ้สึกอับอายขายหน้านัก

“อวี้เอ๋ อร์.. เอ่อ.. อวี้เอ๋ อร์..” ข้าไม่รู้จะกล่าวแก้ไขอย่างไร

“ในสองปี นี้ เจ้าไม่ทอ้ งหรอก ยาโฉมงามแสนตําลึงที่เจ้ากินไปยังปรับสมดุลย์ร่างกายของเจ้าไม่เสร็ จสิ้ น อีก


อย่างเจ้าเป็ นหวางเฟยของเปิ่ นหวาง เปิ่ นหวางจะให้เจ้ากินยาห้ามครรภ์ไปทําไม” เขาเอื้อมมือมาเชยคางของข้า
ขึ้นสบตาแล้วยิม้ “กระต่ายน้อย เดี๋ยวนี้เจ้าหัดคิดเล็กคิดน้อยกับเปิ่ นหวางแล้วหรื อ”

ใจที่หนักอึ้งของข้าพลันผ่อนคลายลง เขาอุตส่ าห์ให้คนต้มยามาให้เพราะกลัวข้าจับไข้ ข้ากลับเข้าใจเขาผิด ข้า


หลบตาเขาอย่างนึกละอาย “อวี้เอ๋ อร์เข้าใจท่านอ๋ องผิดไป ขอท่านอ๋ องลงโทษอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเพคะ”

“เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วงเรื่ องนั้นหรอก หากร่ างกายเจ้าพร้อมเมื่อใด เปิ่ นหวางย่อมจะลงโทษเจ้าแน่” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยง


ใจดี ทว่ามุมปากกลับเจือรอยยิม้ ร้ายกาจ

ข้าใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อได้ยนิ คําพูดราวกับจะขู่ของเขาพลางคิดแย้งในใจ ต่อให้ขา้ ไม่มีความผิด เขาก็ลงโทษข้า


อยูด่ ี ดูอย่างวันนี้ เถิด ตั้งแต่เช้าจรดบ่าย ข้าได้พกั เสี ยที่ไหน ข้าวปลาก็ไม่ได้กินเสี ยด้วยซํ้า ทว่าข้าได้แต่กล่าว
เสี ยงอ่อนโยนพลางคีบอาหารให้เขาอย่างเอาใจ

“ท่านอ๋ องเมตตาอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยนะเพคะ อวี้เอ๋ อร์ยงั เจ็บอยูเ่ ลย”

ชินอ๋ องไม่ตอบ ได้แต่หวั เราะในลําคอ สายตาที่มองมาราวกับหมาป่ า นัน่ ทําให้ขา้ รู ้วา่ เขาไม่คิดจะละเว้นข้า!

คืนนั้นเขานอนกอดข้าไว้ไม่ได้รังแกข้าอีก ยามหลับสนิทข้าก็ฝันถึงซี ยนิ เช่นเคย

...ซี ยนิ ข้าจะทําให้เจ้าภูมิใจ…

คราวนี้ขา้ เห็นภาพการจากลาระหว่างคนทั้งสอง ซี ยนิ นํ้าตานองหน้า กอดชายคนรักไว้แน่น เขาลูบผมนางอย่าง


ปลอบประโลม

103
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ซี ยนิ ข้าจะทําให้เจ้าภูมิใจ ข้าจะเป็ นบุรุษที่เข้มแข็งและปกป้องเจ้าใด้ เจ้าอดทนหน่อยเถิด รอวันที่ขา้ กลับมา”
ยามเอ่ยนัยน์ตาของเจิ้งอู่เป็ นประกายตามประสาคนหนุ่มที่กาํ ลังจะไปไขว่คว้าความฝัน

“ซี ยนิ จะรอท่านอ๋ องเพคะ” ซี ยนิ ตอบ แต่ในตาของนางฉายชัดว่าไม่ตอ้ งการให้เขาจากไป นางไม่ตอ้ งการให้เขา
เป็ นวีรบุรุษ ต้องการเพียงให้เขาอยูข่ า้ งกายนาง แต่นางไม่สามารถเอ่ยปากออกไปได้ นางจะไปขัดขวางความ
ฝันของเขาได้อย่างไรกัน นางรู ้ดีวา่ เจิ้งอู่เป็ นคนเฉลียวฉลาดมากความสามารถ ย่อมต้องหาทางโบยบินสู่ ฟ้า
กว้าง รั้ววังอันสงบสุ ขไม่มีทางรั้งเขาไว้ได้แน่

ยามเขาจะจากไป นางถอดปิ่ นหยกมอบให้เขาเป็ นของแทนใจ เจิ้งอู่รับแล้วเก็บไว้ในอกเสื้ อ

"ข้าจะเก็บไว้ขา้ งกายเสมอ" เขาบอกแล้วยืน่ ป้ายหยกห้อยเอวให้นาง

ซี ยนิ ทําตาโต “ท่านอ๋ อง จะได้อย่างไรเพคะ” นางเอ่ยอย่างตกใจ

“เก็บไว้เถิดซี ยนิ ข้าอยากให้เจ้าเก็บไว้แล้วนึกถึงข้าตลอดเวลา”

“ซี ยนิ ย่อมคิดถึงท่านอ๋ องทุกลมหายใจอยูแ่ ล้ว”

“เด็กดี” เขาเอ่ยพลางจุมพิตหน้าผากนาง

ซี ยนิ มองตามแผ่นหลังกว้างที่กาํ ลังเดินห่างออกไปมากขึ้นเรื่ อยๆ ดวงตาพร่ างพรมไปด้วยนํ้าตา

วันที่กองทัพจะเคลื่อนออกจากเมืองหลวง ซี ยนิ ลอบออกจากจวนไปรอส่ งเขาที่ขา้ งทาง ฝูงชนแออัดรอชม


ขบวนทัพอันเกรี ยงไกร ท่านอ๋ องสวมชุดเกราะสง่างามอยูบ่ นหลังม้าดึงดูดสายตาของผูค้ น ริ้ วธงโบกสะบัด ซี
ยินสวมผ้าปิ ดหน้ายืนอยูบ่ นระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม สายตาทอดมองเจิ้งอู่อยูไ่ กลๆ เค้าร่ างสะโอดสะอง
ของนางดึงดูดสายตาของเขาได้โดยไม่ยากเย็น สองตาประสานพลันเกิดแววอ่อนโยน เจิ้งอยูพ่ ยักหน้าให้นาง
น้อยๆ เป็ นการจากลา สายตาอาลัยอาวรณ์ของทั้งคู่ร้ ังอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนที่ขบวนจะผ่านไป ซี ยนิ กําราวระเบียงแน่น
ชัว่ ชีวิตของนางที่บิดามารดาเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม นางได้รับรู ้ถึงรสชาติของความทุกข์ระทมเป็ นครั้งแรก
ในชีวติ

…………………………...

104
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
วันต่อมา ข้าถูกปลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่กลางยามอิ๋น (04.00 น.) ชินอ๋ องลุกไปก่อนหน้านั้นแล้ว นางกํานัล
ทั้งหลายพาข้าไปอาบนํ้าอย่างพิถีพิถนั ช่วยข้าแต่งกายด้วยชุดเจ้าสาวอันงดงาม ถึงแม้คาํ สั่งของชินอ๋ องจะ
ฉุกละหุก แต่ขา้ วของเครื่ องใช้ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบหาที่ติไม่ได้ ชุดเจ้าสาวของข้าเป็ นผ้าชั้นดี ปั กเย็บอย่าง
ประณี ต เพียงดูดว้ ยสายตาก็รู้วา่ มิใช่ของธรรมดาสามัญ ไม่รู้วา่ เขาไปแย่งชิงของเจ้าสาวคนไหนมากัน เหล่านาง
กํานัลพากันเปลี่ยนคําเรี ยกขานข้า

“หวางเฟยงดงามเหลือเกิน บ่าวไม่เคยเห็นใครงามเท่านี้มาก่อน มิน่าท่านอ๋ องจึงลุ่มหลงหวางเฟยถึงเพียงนี้


เพียงหวางเฟยถวายตัว ท่านอ๋ องก็จดั พิธีสมรสให้ทนั ที”

ข้าไม่ตอบคําพวกนาง ใบหน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย เหตุการณ์เมื่อวานย่อมเป็ นที่ล่วงรู ้ไปทั้งวัง ไหนจะพิธี


กราบไหว้ฟ้าดินแบบสายฟ้าแลบนี่อีกเล่า ไม่วา่ ผูใ้ ดก็คงคิดว่าข้าเป็ นนางจิ้งจอกยัว่ ยวนชินอ๋ องเป็ นแน่ แต่นี่หา
ใช่ความผิดของข้า ล้วนเป็ นความมักมากของชินอ๋ องผูน้ ้ นั ต่างหาก

ผ่านไปหนึ่งคืน ข้าก็ไม่เจ็บระบมแล้ว ร่ างกายนี้ ฟ้ื นฟูได้เร็ วเหลือเกิน ข้าไม่รู้วา่ ยาที่เขาให้ดื่มมีส่วนช่วยหรื อไม่


วันนี้เป็ นงานมงคล ข้าได้นอนเต็มอิ่ม จิตใจก็แช่มชื่น ใบหน้าจึงผ่องใสนัก เหล่านางกํานัลคงล้วนนึกอิจฉาใน
โชควาสนาของข้าในใจ ชินอ๋ องไม่สนใจแต่งชายามาหลายปี จู่ๆ ก็คิดจะตบแต่งหวางเฟย พวกนางคงคิดว่าชีวติ
ข้าโรยด้วยกลีบกุหลาบ อาศัยเพียงรู ปโฉมที่งดงามก็ได้ทุกสิ่ งที่ปรารถนามากระมัง พวกนางหารู ้ไม่วา่ ข้าต้อง
แลกด้วยสิ่ งใดบ้าง หลายปี ที่ผา่ นมาข้าต้องเป็ นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ งของใต้เท้าจาง ถูกเลี้ยงดูดว้ ยความเข้มงวด
อบรมกิริยามารยาทของวังหลวง รํ่าเรี ยนศาสตร์ ต่างๆ เพื่อมัดใจชาย ไม่เคยมีชีวิตวัยเด็กเหมือนคนอื่นเขา ต้อง
คอยกังวลว่าจะถูกยกให้ผอู ้ ื่นเมื่อไหร่ ไม่มีสิทธิ์ แม้แต่จะกําหนดชีวติ ตัวเอง เป็ นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ งที่ใต้เท้าจาง
เก็บไว้ใช้สอย เป็ นตุก๊ ตาตัวงามที่ฮ่องเต้และชินอ๋ องต่างยื้อแย่ง และล่าสุ ดเมื่อวานนี้ ข้าต้องยอมทิ้งศักดิ์ศรี พลี
ร่ างกายเพื่อแลกกับศักดิ์และฐานะที่ได้รับมาในวันนี้

มงกุฏหงส์หนักอึ้งถูกสวมลงมาบนศีรษะของข้า ตําแหน่งหวางเฟยสู งส่ งนัก แต่ขา้ ก็รู้วา่ มันมาพร้อมกับภาระ


อันหนักอึ้งด้วยเช่นกัน ข้าเหลือบตามองตนเองในกระจกเป็ นครั้งสุ ดท้าย เห็นเพียงดวงหน้างามลํ้าของสตรี
อ่อนวัยผูห้ นึ่ ง รู ปโฉมนางงดงามหยาดฟ้า ดวงตานางทอประกายอารมณ์หลากหลาย ดูเปราะบางราวกับหยกที่
พร้อมจะแหลกสลายหากถูกกระทบ แต่กด็ ูเข้มแข็งหยิง่ ผยองในคราเดียวกัน เครื่ องประดับหรู หราทั้งหลายข่ม
ใบหน้าและเครื่ องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มของข้าจนดูเล็กจ้อยน่าทะนุถนอมนัก คิ้วโก่ง ตาหงส์ ริ มฝี ปากรู ปกระจับ
สี แดง หน้าผากของข้าโค้งลาดถูกแต้มด้วยชาดสี แดงเป็ นรู ปกลีบดอกไม้ ต่างหูมุกเม็ดใหญ่แวววามห้อยระย้า
ส่ องให้ดวงหน้าเรี ยวกระจ่างตา

105
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
...ชินอ๋ องจะชอบหรื อไม่…

ข้าคิดในใจแล้วก็หน้าแดง ทําไมข้าต้องไปสนใจเขาด้วยว่าจะคิดอย่างไร นางกํานัลประคองข้าไปนัง่ ที่เตียงเพื่อ


รอเวลา

ยามเข้าพิธี ข้ามองไม่เห็นสิ่ งใดนอกจากผ้าแดงที่ปกคลุมใบหน้าเท่านั้น ตอนแรกข้านึกว่าพิธีถูกจัดขึ้นเงียบๆ


เป็ นการภายใน แต่เสี ยงพูดคุยของแขกเหรื่ อทําให้ขา้ รู ้วา่ พิธีน้ ีจดั ขึ้นอย่างสมเกียรติ เขาต้องมีอิทธิพลมากมาย
เพียงใดจึงสามารถเชิญแขกเหรื่ อคนสําคัญได้ในเวลาอันสั้น ผูค้ นที่มาร่ วมงานคงไม่แคล้วปลีกตัวมาด้วยความ
เกรงอกเกรงใจ ไม่กล้าล่วงเกินชินอ๋ อง ขณะที่พิธีกาํ ลังจะเริ่ ม ขันทีจากวังหลวงก็อญั เชิญพระราชโองการมาถึง
ผูค้ นในงานล้วนคุกเข่าจนเกิดเสี ยงตึงตังไปทัว่

“จางอวี้ชิง บุตรี บุญธรรมเสนาธิการฝ่ ายขวาจางอี้หมิง งดงามเปี่ ยมด้วยจรรยาสตรี บัดนี้เข้าพิธีอภิเษกแก่ชินอ๋ อง


จึงมีพระราชโองการให้การอภิเษกนี้เป็ นสมรสพระราชทานและประทานสิ นสมรสสี่ สิบเก้าหี บ รับราช
โองการ”

ข้ากล่าวขอบพระทัยเสี ยงสั่น นํ้าตาข้าไหล โชคดีที่มีผา้ คลุมหน้าจึงไม่มีผใู ้ ดเห็น ข้าพลันนึกถึงแววตาอ่อนโยน


ของเขายามจับจ้องข้า ดวงตาของชายแรกรัก แววตาที่เต็มไปด้วยโทสะและความเศร้าสร้อยยามรู ้วา่ ข้าตกเป็ น
ของชินอ๋ อง คําพูดที่เขากล่าวกับข้าครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาไม่เคยถือสา... จนบัดนี้ ฮ่องเต้กย็ งั เป็ นห่วงเป็ นใยในตัว
ข้า ข้าซาบซึ้ งนํ้าใจของเขานัก สมรสพระราชทานเป็ นหลักประกันว่าในวันข้างหน้าชินอ๋ องไม่อาจทอดทิ้งข้า
ไหนจะสิ นสมรสลํ้าค่าอีกสี่ สิบเก้าหี บกันเล่า ทําอย่างไรข้าก็ไม่อาจลืมความรักที่เขามีให้ขา้ ทว่าข้ากับเขาไร้
วาสนา แม้ฮ่องเต้จะดีกบั ข้าเพียงใด ข้ารับไว้ได้แต่ความปรารถนาดีของเขาเท่านั้น

ชินอ๋ องประคองข้าลุกขึ้นยืนแล้วทําพิธีกราบไหว้ฟ้าดินต่อ ยามนี้ ขา้ จึงได้รู้วา่ ใต้เท้าจางไม่ได้มาร่ วมงาน


หลังจากคํานับฟ้าดินแล้ว เมื่อต้องคํานับบิดามารดา ชินอ๋ องและข้าเพียงหันหน้าไปทางทิศของวังหลวงด้วยบิดา
มารดาของชินอ๋ องเป็ นอดีตฮ่องเต้และสนมชั้นเฟย นอกจากฟ้าดินและอดีตฮ่องเต้และมารดาผูล้ ่วงลับของเขา
แล้ว เขายังต้องคํานับใครอีกเล่า

เสร็ จสิ้ นพิธี ข้าคล้องแขนดื่มสุ รายวนยางด้วยกันกับเขาในห้องหอ ยามยกจอกสุ ราขึ้นดื่ม ใบหน้าของเราแทบ


สัมผัสกัน สองตาจับจ้องบังเกิดความรู ้สึกแปลกๆ เป็ นความตื้นตันในอก เป็ นความรู ้สึกหวานชื่นเจือด้วยรอย
โศกจางๆ ประหนึ่งการรอคอยอันยาวนานได้ถึงกาลสิ้ นสุ ดลง ยามนั้นข้าไม่เข้าใจความรู ้สึกวูบไหวในอก ไม่
เข้าใจว่าเหตุใดนํ้าตาข้าจึงหลัง่ ไหล เหตุใดร่ างกายข้าจึงสั่นระริ ก ความรู ้สึกเหน็บหนาวโอบล้อมกายข้า โอบ

106
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ล้อมใจข้า ราวกับจะแช่แข็งข้าอยูใ่ นคุกอันหนาวเย็นมืดมน กระนั้น ข้ากับเขาก็ได้ร่วมผูกผมร่ วมสัมพันธ์ ร้อย
ชะตาชีวิตของชาติน้ ี เข้าไว้ดว้ ยกัน ..ไม่พรากจากกันอีก..

ชินอ๋ องถอดมงกุฏหงส์ให้ขา้ เทียนมงคลสี แดงเผาไหม้ แสงเทียนวูบไหวกระทบใบหน้างดงามราวกับรู ปสลัก


ของเขาเป็ นสี เหลืองนวล สี หน้าเขาดูอ่อนโยนยิง่ นัก เขาสัมผัสไล้แก้มข้าอย่างแผ่วเบา อยูๆ่ ข้าก็รู้สึกกระดาก
อายนัก ไม่รู้จะเอามือไม้วางไว้ตรงไหน เขายกยิม้ มุมปากเอ่ยนํ้าเสี ยงแผ่วเบา

“อวี้เอ๋ อร์ วันนี้เจ้างดงามเหลือเกิน”

ข้าได้แต่กม้ หน้า รู ้ตวั ว่าสองแก้มคงแดงกํ่าไปหมด เขานัง่ ลงข้างกาย รั้งร่ างข้าเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยข้างหู

“เปิ่ นหวางต้องรบกวนเจ้าแล้ว”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขาพลางเบิกตากว้าง กําลังจะเอ่ยค้าน แต่เขาเอื้อมมือมาปิ ดปากข้า

“วันนี้ตามธรรมเนียมอย่างไรก็ตอ้ งร่ วมหอ”

ข้าแอบแย้งในใจ ไหนเขาบอกไม่ยดึ ถือหลักเกณฑ์หยุมหยิมมิใช่หรื อ แล้วนี่จะมายึดถือธรรมเนียมอะไรกัน จะ


ร่ วมหรื อไม่ร่วมหอมีใครมารับรู ้ดว้ ยเสี ยเมื่อไหร่ สี หน้าของข้ายุง่ เหยิง เขาหัวเราะราวกับอ่านใจของข้าออก

“เปิ่ นหวางมีหวางเฟยงดงามราวนางสวรรค์ จะไม่เชยชมนางในคืนเข้าหอได้อย่างไร”

ข้าเบือนหน้าหนี เอ่ยเสี ยงเบา “แต่วา่ เมื่อวานท่านเพิ่งจะ..”

“แล้วเมื่อวานเจ้าได้กินข้าวหรื อไม่ ”

ข้าพยักหน้า

“ถ้าเมื่อวานเจ้ากินข้าวแล้ว เหตุใดวันนี้จึงต้องกินอีกเล่า”

ข้ามองค้อนเขา กินข้าวกับเรื่ องอย่างว่ามันเหมือนกันเสี ยที่ไหน เขารี บกล่าวอย่างเอาใจ

107
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“คืนนี้เปิ่ นหวางขอแค่ชื่นใจ จะไม่รังแกเจ้าหนักเกินไปนัก”

ข้ามีสิทธิ์ปฏิเสธหรื อ…

เขาอุม้ ข้าวางคร่ อมไว้บนตัก ยามจุมพิตกันก็กอดเกี่ยวแนบรัดราวกับนกยวนยางคู่ ชุดเจ้าสาวสี แดงเลื่อนหลุด


จากกายข้า ผิวขาวนวลกระจ่างราวกับผิวทารกของข้าเปล่งประกายใต้แสงเทียน เขาปลดมวยผมของข้าลง ลม
หายใจหอบกระชั้น ยามเขาเปี่ ยมไปด้วยความปรารถนาเช่นนี้ช่างดูหล่อเหลายวนใจเหลือเกิน ยามแนบกายเข้า
หากันได้ยนิ แต่เสี ยงหอบหายใจ ข้ารู ้สึกอึดอัดจนต้องครางออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบตาของเขาที่เปี่ ยมไปด้วย
ไอปรารถนา ความรู ้สึกหวานลํ้าแทรกขึ้นในอก ข้ายกแขนขึ้นคล้องคอเขาไว้ หยัดกายขึ้นประทับริ มฝี ปากเขา
แผ่วเบา เขาครางเสี ยงตํ่าแล้วจับข้านอนลงโดยที่กายยังคงแนบสนิทกัน เส้นผมของข้าแผ่กระจายไปทัว่ เตียงพัน
เข้ากับเส้นผมของเขาที่ทาบทับอยูเ่ บื้องบน แม้เมื่อวานจะเพิ่งร่ วมรักกับเขาไปหลายหน ทว่าข้ากลับรู ้สึกขัดเขิน
ราวกับนี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เสี ยความบริ สุทธิ์ให้เขา ร่ างกายข้าเปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิ ด มีเพียงสายตาร้อนแรงของ
เขาทอดมองลงมาจนข้าสะเทิ้นอาย

ข้าหลับตาลง รู ้สึกถึงความร้อนจากกายเขาที่ถ่ายทอดสู่ กายข้า เขากอดข้าไว้แน่น หลังจากนั้นข้าง่วงงุนจนแทบ


ลืมตาไม่ข้ ึน ได้ยนิ เสี ยงกระซิ บอ่อนหวานที่ขา้ งหู

“หลับเถิดกระต่ายน้อย เปิ่ นหวางไม่รังแกเจ้าแล้ว”

ริ มฝี ปากชื้นประทับบนหน้าผาก แล้วข้าก็หลับไป

108
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 18 : ลูกแกะทีห่ ่ มหนังราชสี ห์

เช้าวันถัดมา ข้าตื่นเพราะรอยจุมพิตที่พร่ างพรมบนใบหน้า พอลืมตาขึ้นก็เห็นดวงตาคมของเขาคู่น้ นั จับจ้องข้า


ด้วยรอยยิม้

“กระต่ายน้อย ตื่นได้แล้ว จากนี้เจ้าต้องเป็ นคนคอยปรนนิบตั ิเปิ่ นหวาง”

ข้ายันกายลุกขึ้นจากเตียงอย่างง่วงงุนพลางขยี้ตา กําลังจะก้าวลงจากเตียงให้คนไปเตรี ยมนํ้าล้างหน้าบ้วนปากมา


ให้เขา เขากลับฉุ ดมือข้าไว้

“เจ้าข้ามขั้นตอนไปเสี ยแล้วอวี้เอ๋ อร์”

ข้าเหลือบตามองเขาอย่างงงๆ เขาปรายตาลงไปเบื้องล่าง ข้ามองตามแล้วก็ตอ้ งหน้าแดง

“ท่านอ๋ อง!” ข้าดิ้นรนจะก้าวลงจากเตียง ทว่าเขารวบเอวข้าไว้แน่นแล้วกดลงกับเตียง

“กระต่ายน้อย คิดจะหนีเปิ่ นหวางหรื อ!” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าที่ชะโงกอยูเ่ หนือร่ างข้าเจิดจ้าไปด้วย


รอยยิม้ จนข้าตาพร่ าไปชัว่ ครู่

ข้าจ้องเขาตาแป๋ ว ตีสีหน้าเรี ยบเฉยทั้งที่สองแก้มแดงซ่าน “อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่จะรี บไปเตรี ยมเครื่ องแต่งกายให้


ท่านอ๋ องไปฝึ กยุทธ์ยามเช้าเพคะ”

“ข้าไปฝึ กมาเรี ยบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนฟ้ายังไม่สาง เจ้ายังไม่ตื่น” ข้าเพิ่งรู ้วา่ เขาเป็ นทหาร จึงมีนิสัยชอบทําอะไร


ด้วยตัวเอง

“เช่นนั้นท่านอ๋ องอาจจะอยากอาบนํ้า อวี้เอ๋ อร์จะให้คนไปเตรี ยมยกนํ้าอาบมาให้นะเพคะ” ข้ารี บเสนอทางเลือก


อื่นเพื่อให้ตนเองพ้นไปวงแขนที่รัดแน่นราวกับปลอกเหล็กนี้

“เป็ นความคิดที่ดี” ดวงตาของเขาสว่างวาบพร้อมยิม้ เจ้าเล่ห์ เขาปล่อยมือจากข้า ข้ากลับรู ้สึกไม่ชอบมาพากลแต่


ก็รีบลุกจากเตียงออกไปเรี ยกสาวใช้หน้าห้อง

109
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

นํ้าอาบถูกยกเข้ามาตั้งไว้หลังฉาก ระหว่างนั้น ข้าจัดแจงเก็บที่นอนอย่างเรี ยบร้อยโดยมีเขานัง่ มองอยูข่ า้ งๆ

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเป็ นหวางเฟย นอกจากคอยดูแลเปิ่ นหวางแล้ว เรื่ องอื่นเจ้าไม่จาํ เป็ นต้องลงมือทําเอง เปิ่ นหวางไม่
อยากให้เจ้าเหนื่อย”

“เพคะท่านอ๋ อง” ข้าหันมาก้มหน้ารับคําเขาอย่างว่าง่าย เข้าใจเจตนาของเขาที่อยากให้ขา้ สุ ขสบาย เขาไม่ได้หา้ ม


ข้าทําโน่นทํานี่ แต่ให้ขา้ เป็ นผูต้ ดั สิ นใจเอง

นํ้าอาบพร้อมแล้ว ข้าจึงช่วยเขาปลดเปลื้องเครื่ องแต่งกาย แต่พอเขาจะก้าวลงถัง เขากลับอุม้ ข้าลงไปด้วยทั้ง


เสื้ อผ้า

เสี ยงโหวกเหวกดังขึ้นในห้องบรรทมของชินอ๋ องตั้งแต่เช้าแรกของการสมรส ชวนให้ผคู ้ นที่ได้ยนิ ต้องอมยิม้


แล้วคิดไปไกล ข้าวใหม่ปลามันก็เป็ นเช่นนี้แหละหนอ ข้าได้แต่ทาํ ใจว่าเรื่ องราวของข้าคงเป็ นขี้ปากชาวบ้าน
ไปอีกนาน ผูค้ นคงเลื่องลือว่าเขาลุ่มหลงมัวเมาในหวางเฟยผูง้ ดงามยัว่ ยวนดัง่ ปี ศาจจิ้งจอก

“ท่านอ๋ อง! อย่าเพคะ! อวี้เอ๋ อร์เปี ยกไปหมดแล้ว” ข้าดิ้นรนพลางร้องห้าม พยายามจะตะเกียกตะกายออกมาจาก


ถังโดยมีเขาหัวเราะชอบใจ

“ดูท่าทางเจ้าตอนนี้เถิด ราวกับลูกแมวกลัวนํ้า”

“ท่านอ๋ องแกล้งอวี้เอ๋ อร์อีกแล้ว” ข้าเอ่ยเสี ยงกระเง้ากระงอดพลางพยายามดันร่ างของเขาออก

“เปิ่ นหวางชอบเวลาเจ้าเปี ยกปอน ผิวนุ่มๆ ของเจ้าราวกับจะคั้นนํ้าออกมาได้”

เขาเอ่ยเสี ยงราวกับจะกัดกินข้าพลางยึดเอวของข้าไว้ ข้าจึงต้องอาบนํ้าพร้อมกับเขา แต่กว่าจะอาบนํ้าเสร็ จก็ทาํ


เอาข้าแทบหมดแรง

หลังอาหารเช้าเขาให้ขา้ บรรเลงพิณให้ฟังที่ศาลาริ มนํ้า ส่ วนเขาจิบชามองดูขา้ อย่างสบายอารมณ์ ข้ามิได้จะอวด


แต่สาํ หรับข้าซึ่ งผ่านการเคี่ยวกรําคุณสมบัติสตรี จากจวนใต้เท้าจาง ฝี มือด้านต่างๆ ของข้าย่อมไม่เป็ นสองรอง
ใคร ดนตรี กเ็ ป็ นหนึ่งในนั้น

110
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านอ๋ องจะให้หม่อมฉันบรรเลงเพลงใดหรื อเพคะ” ข้าถามเขาพลางทดลองปรับเสี ยงพิณ

“ตามใจเจ้าเถอะ” เขาตอบเรี ยบๆ พลางยกชาขึ้นจิบ

ตอนนี้เป็ นหน้าร้อน เครื่ องแต่งกายจึงตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อบางเบาเย็นสบาย ในอุทยานเต็มไปด้วยดอกไม้บาน


สะพรั่งส่ งกลิ่นหอมชื่นใจ ข้าทอดสายตามองไปยังสายนํ้าในทะเลสาบรู ้สึกถึงบรรยากาศที่รื่นรมย์และผ่อน
คลาย จึงคิดจะบรรเลงเพลงบุปผาสายชล

นิ้วของข้าจรดบนสายพิณบังเกิดเป็ นคลื่นเสี ยงสะท้านไหวในอากาศ แต่ละครั้งที่นิ้วเรี ยวของข้าพรมลงไป


ปรากฏเป็ นเสี ยงใสดังติงราวกับหยดนํ้า อากาศอันอบอุ่นและสายลมแผ่วพริ้ วชวนให้ใจข้ากระหวัดไปถึงชาติ
ภพก่อน ยามที่ขา้ เป็ นเพียงเด็กสาววัยสิ บแปดที่ไม่มีเรื่ องใดให้กลัดกลุม้ นอกจากเรื่ องเรี ยนที่ขา้ มานะบากบัน่
พยายามทําให้ความฝันของข้าเป็ นจริ ง วันที่แสงแดดดีเช่นนี้ ข้ามักจะออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ นัง่ อ่าน
หนังสื ออยูร่ ิ มนํ้า เดินช้อปปิ้ งกับเพื่อนๆ หาอะไรกินกันตามประสาวัยรุ่ น ข้าโหยหาชีวติ แบบนั้นเหลือเกิน

บทเพลงบุปผาสายชลของข้าจึงพรรณาความสุ ขสดใสของของชีวิตในอีกห้วงเวลาหนึ่งอันห่างไกล ห้วงเวลาที่


ข้าปลอดภัยไร้กงั วล เต็มไปด้วยอิสระเสรี และความฝันของเด็กสาวคนหนึ่ ง เสี ยงพิณอันไพเราะประดุจปลุก
ตัวตนในวันวานของข้าขึ้นมา ตัวตนที่ขา้ กักเก็บไว้เนิ่นนานตั้งแต่ถูกส่ งมาอยูใ่ นร่ างนี้ เด็กสาวที่สนุกสนานร่ า
เริ งคนนั้นไม่เคยได้มีโอกาสเผยตัวตนที่แท้จริ งในร่ างของอาหลันผูม้ ีชีวิตแสนอาภัพคนนี้ ข้าในร่ างอาหลันไม่
เคยได้หวั เราะอย่างเบิกบานเต็มที่ ยามเศร้าไม่อาจหลัง่ นํ้าตา ยามเคียดแค้นไม่อาจแสดงออกทางใบหน้า ช่าง
เป็ นชีวติ ที่น่าเศร้าเหลือเกิน

ใบหน้าของข้าเปี่ ยมสุ ข ท่วงทํานองดนตรี ผสมผสานกับดนตรี สมัยใหม่ที่ขา้ คุน้ เคย ข้าดัดแปลงจังหวะเนิบช้า


อันเก่าแก่โบราณของบุปผาสายชลให้มีโทนหยอกเย้าสนุกสนานจนเกิดเป็ นจินตภาพดอกไม้โบกไหวในสาย
ลม ผืนนํ้าพริ้ วระยับเป็ นเกลียวคลื่น ข้าคือเด็กสาวอายุสิบแปดคนนั้นที่กาํ ลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีความ
ทะเยอทะยานและความมัน่ ใจเต็มเปี่ ยม ยามที่ดนตรี จบลงข้ายังรู ้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่แผ่ซ่านไปทัว่ ทั้งร่ าง ข้า
หลับตาลง ซึ มซับความรู ้สึกอันงดงามที่ขา้ เกือบจะลืมเลือนไปแล้วนี้

ข้าลืมตาขึ้นเมื่อได้ยนิ เสี ยงชินอ๋ องวางถ้วยชา สายตาคมกริ บของเขามองมาอย่างใช้ความคิด เขาพยายามเก็บแวว


ตาตื่นตะลึง

111
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เชิงพิณของหวางเฟยยอดเยีย่ มยิง่ นัก หากผูร้ ู ้ได้สดับย่อมต้องยกให้เป็ นหนึ่ งในเมืองหลวงอย่างไม่ตอ้ งสงสัย”

“ท่านอ๋ องชมเกินไปแล้วเพคะ” ข้ากลั้นยิม้ กล่าวถ่อมตนตามมารยาท นับว่าชินอ๋ องก็เป็ นผูร้ ู ้สาํ เนียงอยู่


เหมือนกันจึงสามารถบอกได้วา่ ฝี มือของข้าไม่ธรรมดา

“แต่เปิ่ นหวางกลับรู ้สึกว่าเจ้ากําลังโหยหาอะไรบางอย่างที่ห่างไกล ดนตรี ของเจ้าราวกับมาจากห้วงเวลาอื่น


พรรณาถึงบางสิ่ งที่ไม่มีในโลกนี้ ” เขาเอ่ยเสี ยงขรึ ม “เจ้าอยูท่ ี่นี่ไม่มีความสุ ขหรื อ”

คําพูดของเขาราวกับกรี ดลงกลางใจข้า นํ้าตาของข้าทะลักไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ข้าตกใจจนมือสั่น ความลับที่ขา้


ย้อนเวลามาไม่เคยมีใครรู ้ ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีใครมองออก แต่เขา..กลับสัมผัสความลับของข้าได้เพียงสดับเสี ยง
พิณ อดีตที่ขา้ คะนึงหาเป็ นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวที่ขา้ ไม่เคยเผยให้ใครรู ้

ข้าทําทีเป็ นยกแขนเสื้ อขึ้นซับเหงื่อแต่แอบเช็ดนํ้าตา เขามักจะได้เห็นช่วงเวลาอ่อนแอของข้าเสมอ สายตาคม


กล้าของเขาราวกับมองเห็นทะลุไปถึงก้นบึ้งในใจของข้า ไม่วา่ ข้าจะซุกซ่อนความรู ้สึกไว้ลึกเพียงใด เขากลับ
สามารถขุดคุย้ ออกมาได้อย่างง่ายดาย

“กระต่ายน้อย กระต่ายน้อย ตาแดงอีกแล้วหรื อ” เขาส่ ายหน้าเบาๆ พลางยิม้ อย่างล้อเลียนข้า แล้วก็เปลี่ยนเรื่ อง


พูดให้ขา้ ลืมความเศร้า

“รู ้หรื อไม่ บิดาบุญธรรมของเจ้ายืน่ ฎีการ้องเรี ยนเปิ่ นหวางต่อฮ่องเต้”

ข้าหันมามองเขาตาโตทั้งที่ขนตางอนยังชุ่มด้วยหยาดนํ้าตา “ใต้เท้าจางน่ะหรื อเพคะ” ข้าถามอย่างประหลาดใจ


เคลื่อนกายเข้าไปนัง่ ใกล้เขา อยากรู ้ข่าวทางฝั่งใต้เท้าจางเช่นกัน ป่ านนี้เขาคงรู ้แล้วกระมังว่าข้าหักหลังเขามาเข้า
กับชินอ๋ องแล้ว

ชินอ๋ องพยักหน้า หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับนํ้าตาให้ขา้ เอ่ยต่ออย่างไม่ใส่ ใจ

“เขากล่าวหาว่าเปิ่ นหวางฉุดคร่ าเจ้ามาวังเสิ่ นหยางกง” เขาเหยียดยิม้ “น่าขันสิ้ นดี”

“แล้วฮ่องเต้วา่ อย่างไรหรื อเพคะ” ข้าถามอย่างอยากรู ้

112
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ฝ่ าบาทก็ประทานสมรสให้พวกเราดังที่เจ้าเห็น ฎีกาของจางอี้หมิงจะทําอะไรได้เล่า มิเท่ากับตบหน้าตัวเอง
เต็มๆ หรื อ” เขาหัวเราะเสี ยงทุม้ “สัญญาหมั้นหมายกับเจ้า เปิ่ นหวางก็มี เรื่ องที่เปิ่ นหวางบุกไปช่วยเจ้าที่
ตําหนักเฉี ยนชิงของฮ่องเต้กล็ ่วงรู ้กนั ไปทั้งวังหลวง ใครๆ ก็รู้วา่ เป็ นเขาที่ละเมิดสัญญา หมายเอาเจ้าใส่ พานไป
ถวายฮ่องเต้ เขาทําแบบนี้ไม่เท่ากับทุ่มก้อนหิ นใส่ เท้าตนเองหรื อ”

พอเอ่ยเรื่ องนี้ข้ ึนมา ข้ากลับไม่ค่อยสบายใจ รู ้สึกราวกับตัวเองเป็ นเพียงเหยือ่ ล่อชั้นดีหรื อหมากตัวหนึ่งที่ท้ งั


สองฝ่ ายต่างใช้เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกัน ข้าเป็ นเพียงของรางวัลชิ้นงามที่ชินอ๋ องช่วงชิงมาจากมือใต้เท้าจางได้
เท่านั้น เป็ นดัง่ เหรี ยญตราที่เขาประดับไว้อย่างภาคภูมิใจ

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่ตอ้ งกลัวไปหรอก บัดนี้เจ้าเป็ นคนของเปิ่ นหวางแล้ว จางอี้หมิงทําอะไรเจ้าไม่ได้หรอก” เขาเอ่ย


ปลอบเมื่อเห็นข้าสี หน้าไม่ดี นึ กว่าข้ากําลังหวาดกลัวใต้เท้าจาง

“อวี้เอ๋ อร์ขอบพระทัยท่านอ๋ อง หากไม่ได้ท่านอ๋ องช่วยไว้ ป่ านนี้ อวี้เอ๋ อร์ไม่รู้จะเป็ นเช่นไร”

เขาทําท่าจะเอ่ยอะไรออกมา แต่แล้วก็เห็นพ่อบ้านเดินอย่างรี บเร่ งมาแต่ไกล จึงนิ่งรออย่างใจเย็น

พ่อบ้านคารวะแล้วจึงกล่าว “ทูลท่านอ๋ อง ใต้เท้าจางให้คนมาถามไถ่ถึงหวางเฟยพะย่ะค่ะ ใต้เท้าจางไม่ได้


มาร่ วมพิธีอภิเษก นึ กเป็ นห่วงหวางเฟยที่แต่งออกมาโดยตระกูลจางยังไม่รับรู ้ จึงขอให้หวางเฟยกลับไปเยีย่ ม
บ้านเดิมตามธรรมเนียม”

“หึ หากเมื่อวานจางอี้หมิงไม่มวั ส่ งฎีการ้องเรี ยนข้าก็คงได้มาร่ วมงานเช่นเดียวกับคนอื่นๆ”

“ท่านอ๋ องเพคะ แล้วอวี้เอ๋ อร์ ตอ้ งกลับไปเยีย่ มบ้านเดิมตามธรรมเนียมหรื อไม่เพคะ” ข้าถามอย่างกังวลใจ ข้าไม่
อยากพบหน้าใต้เท้าจางนัน่ อีกต่อไปแล้ว เขาใช้สอยข้าอย่างเลือดเย็น อีกทั้งยังเคยข่มขู่ขา้ มิให้คิดหักหลังเขา
ยามนี้ขา้ แต่งเข้าวังเสิ่ นหยางกงแล้ว เกรงว่าหากหวนคืนตระกูลจาง คงไม่แคล้วถูกเขาวางยาพิษตายให้สมแค้น
โทษฐานที่มาเข้ากับศัตรู ตวั ฉกาจอย่างชินอ๋ อง

“ไม่ตอ้ งไป บัดนี้เจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลจางอีกแล้ว” เขาเอ่ยขึ้นในทันที ข้าจึงค่อยโล่งใจ

เพียงตอบปฏิเสธคนของเขาไป ในตอนบ่ายใต้เท้าจางก็ปรากฏตัวที่วงั เสิ่ นหยางกง

113
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องเอนกายพิงหมอนโดยมีขา้ อิงแอบอยูแ่ นบอก ข้ากําลังอ่านคัมภีร์เต้าเต๋ อจิงให้เขาฟัง นิ้วเรี ยวของเขาพัน
เส้นผมนุ่มสลวยของข้าเล่นพลางฟังนํ้าเสี ยงใสๆ ของข้าท่องปรัชญาเต๋ าว่าด้วยเรื่ องความเป็ นเอกภพของสรรพ
สิ่ งอย่างเพลิดเพลิน

ยามที่พอ่ บ้านนําใต้เท้าจางเข้ามา เขาก็ไม่ได้ขยับกายแม้แต่นอ้ ย

“ถวายพระพรชินอ๋ องและชินหวางเฟยพะย่ะค่ะ” ใต้เท้าจางค้อมกายคารวะเราทั้งสอง

“ใต้เท้าจางไม่ตอ้ งมากพิธี บัดนี้ เราเป็ นเหมือนครอบครัวเดียวกัน จะว่าไปใต้เท้าจางก็เป็ นพ่อตาของเปิ่ นหวาง


ท่านทําตัวตามสบายเถิด”

ถ้อยคําตามมารยาทประเภทนี้ขา้ ไม่คิดว่าจะได้ยนิ จากปากชินอ๋ อง ที่เขาพูดคงเป็ นเพราะตั้งใจจะกวนประสาท


ใต้เท้าจางมากกว่า ท่าเอนกายตามสบายของเขาไม่ได้ให้เกียรติใต้เท้าจางผูเ้ ป็ นพ่อตาสักนิด ซึ่ งก็เป็ นดังที่ขา้ คิด
ใต้เท้าจางอยากได้เขาเป็ นลูกเขยที่ไหนกัน หนวดใต้เท้าจางกระตุกทั้งๆที่ยงั ก้มหน้า

“ทูลท่านอ๋ อง กระหม่อมมาขอพบบุตรสาว กระหม่อมเพียงส่ งนางเข้าวังไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนไทเฮาสองสามวัน นึ ก


ไม่ถึงว่าท่านอ๋ องจะตบแต่งนางเป็ นหวางเฟยเสี ยแล้วพะย่ะค่ะ กระหม่อมยังไม่มีโอกาสให้โอวาทแก่นาง ศักดิ์
และฐานะของหวางเฟยยิง่ ใหญ่นกั หากพลั้งพลาดไปจะไม่เป็ นการสมควร กระหม่อมจึงอยากจะขอโอกาสได้
พูดคุยกับอวี้เอ๋ อร์ประสาพ่อลูกตามลําพังพะย่ะค่ะ”

ใต้เท้าจางค้อมกายนิ่งอยูเ่ ป็ นเชิงยืนกราน

เห็นขุนนางใหญ่อย่างใต้เท้าจางยืนค้อมกายอยูเ่ บื้องหน้าเช่นนี้ทาํ ให้ขา้ บังเกิดความคิด ข้าไม่จาํ เป็ นต้องตัดรอน


เขา ยามนี้สถานะของข้าสู งส่ ง แม้แต่ขนุ นางมากบารมีอย่างเขายังต้องคํานับ ข้ามีอะไรให้ตอ้ งกลัวเล่า หากข้า
ทําทีวา่ ยังภักดีต่อเขา เช่นนี้เขาคิดอ่านทําการใดหรื อมีแผนร้ายอะไรข้าย่อมจะได้ล่วงรู ้ ข้าจึงหันไปเอ่ยแก่ชิน
อ๋ องอย่างอ่อนหวาน

“ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์จากมาไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะรํ่าลาบิดา ขอท่านอ๋ องได้โปรดให้อวี้เอ๋ อร์ได้คุยกับบิดา


ตามลําพังด้วยเถิดเพคะ”

114
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องไม่เพียงแต่ไม่คดั ค้าน แววตาเขาที่สบกับข้ายังทอประกายระยับอย่างนึกสนุก ข้ารู ้..เขาชอบใจที่ขา้
ตัดสิ นใจแบบนี้ กระต่ายน้อยของเขาอันที่จริ งแล้วเป็ นแม่เสื อต่างหากอย่างไรเล่า หาได้ตอ้ งรอให้เขาคอย
ปกป้องอยูฝ่ ่ ายเดียว ตอนนี้ขา้ เป็ นหวางเฟย ไม่ใช่อวี้เอ๋ อร์ คนเดิมที่อยูใ่ ต้อาณัติของใต้เท้าจาง มีหรื อที่ขา้ คนนี้ไม่
คิดจะเอาคืน ฝันไปเถิด!

เขาส่ งสายตาสัพยอกให้ขา้ พลางกล่าวนํ้าเสี ยงราวกับจะเห็นใจ

“หากอวี้เอ๋ อร์คิดถึงบิดา เปิ่ นหวางก็ไม่ขดั พวกเจ้าไปคุยกันตามสบายที่หอ้ งรับรองแขกเถิด เปิ่ นหวางจะรออยู่


ที่นี่”

เมื่ออยูก่ นั ตามลําพัง ข้าจึงประสานมือคารวะใต้เท้าจาง สวมบทบาทบุตรสาวบุญธรรมผูก้ ตัญญู รี บออกตัวรับ


ผิดก่อนที่ใต้เท้าจางจะได้เอ่ยปาก

“บิดาเจ้าคะ อวี้เอ๋ อร์อกตัญญูนกั ไม่สามารถทําภารกิจที่บิดามอบหมายให้สาํ เร็ จลุล่วงได้”

ใต้เท้าจางหรี่ สายตาลง มองข้าอย่างยิม้ เยาะพลางเอ่ยเสี ยงเย็นชา “อวี้เอ๋ อร์ บัดนี้เจ้าประสบโชควาสนาได้เป็ น


หวางเฟย เจ้ายังมีใจภักดีต่อข้าอยูอ่ ีกหรื อ”

ข้ารี บเอ่ยเพื่อแสดงความบริ สุทธิ์ ใจ

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้เอาใจออกห่างบิดา แต่วา่ อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจปฏิเสธชินอ๋ องได้ คืนนั้นอวี้เอ๋ อร์เกือบจะทําสําเร็ จอยู่


แล้ว แต่วา่ เขาใช้ป้ายทองอาญาสิ ทธิ์บุกเข้าไปในตําหนักเฉี ยนชิง อุม้ อวี้เอ๋ อร์ออกมาจากแท่นบรรทมของฮ่องเต้
อวี้เอ๋ อร์หวาดกลัวนัก ไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน ยามนั้นชินอ๋ องหึ งหวงจัด อวี้เอ๋ อร์ กลัวท่านอ๋ องจะพลั้งมือฆ่าตาย
จึงได้แต่ปิดปากเงียบ บิดานึกดูเถิดเจ้าค่ะ ในสภาพนั้นอวี้เอ๋ อร์จะทําเช่นไรได้”

ใต้เท้าจางถอนใจ เขาเองก็ได้ยนิ เรื่ องราวมาเช่นนั้น

“แสดงว่าชินอ๋ องหลงใหลเจ้ายิง่ นัก คนผูน้ ้ ีสอดมือเข้ามา ทําให้แผนการข้าวุน่ วายไปหมด ส่ วนเจ้า ไม่คิดทรยศ


ข้าก็ดีแล้ว เจ้าอยูท่ ี่นี่คอยเป็ นหูเป็ นตาให้ขา้ หากข้าจะให้เจ้าลงมือเมื่อใดจะให้คนมาส่ งข่าว จําไว้วา่ คนที่หกั
หลังข้า ข้าย่อมไม่ปรานี ” ใต้เท้าจางยังไม่วายข่มขู่ขา้

115
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
หลังจากใต้เท้าจางกลับไปแล้ว ชินอ๋ องก็เอ่ยเย้าข้าด้วยใบหน้าเจือรอยยิม้

“กระต่ายน้อย เดี๋ยวนี้เจ้าเริ่ มจะมีเขี้ยวเล็บแล้วหรื อ”

ข้าช้อนสายตามองเขาแล้วอมยิม้ “อวี้เอ๋ อร์หาได้มีเขี้ยวเล็บไม่ เป็ นเพียงลูกแกะที่ยมื หนังราชสี ห์ของท่านอ๋ องมา


ห่มคลุมต่างหากเล่าเพคะ”

ชินอ๋ องหัวเราะชอบใจกับคําตอบของข้า

ยามคํ่าคืนชินอ๋ องเล่นพลิกผ้าห่มกับข้าอย่างสําราญใจ กว่าจะได้นอนข้าต้องแกล้งร้องไห้จะเป็ นจะตายเขาจึง


ยอมปล่อย ไม่รู้วา่ เขารู ้ทนั ข้าหรื อไม่แต่ขา้ ได้ยนิ เสี ยงเขาหัวเราะหึ หึในลําคอ รู ้ทนั ก็ช่างปะไร ขอแค่ขา้ ได้หลับ
ได้นอนก็เพียงพอแล้ว ข้าคร้านที่จะสน ยามหลับตาก็นึกอยากจะเป็ นภรรยาดุร้ายที่สามีกลัวหงอกับเขาบ้าง แต่
ทําอย่างไรก็นึกถึงภาพของชินอ๋ องถูกข้าข่มไม่ออก ชินอ๋ องที่ท้ งั แสนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนี่น่ะหรื อจะตกเป็ นเบี้ยล่าง
ให้ขา้ ข่มเหง นัน่ ดูจะเป็ นการฝันเฟื่ องเกินไป...

116
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 19 : งานเลีย้ งต้ อนรับราชทูต

..เจิ้งอู่… ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน..

หมู่น้ ียามที่ขา้ หลับตา มักจะฝันเห็นซี ยนิ และเรื่ องราวความรักระหว่างนางกับเจิ้งอู่ เหตุใดข้าจึงฝันถึงคนคู่น้ ี


บ่อยๆ ข้าเองก็ไม่เข้าใจ อาจจะตั้งแต่ขา้ ได้พบชินอ๋ องกระมัง ครั้งหนึ่งในสระนํ้า ยามที่ชินอ๋ องร่ วมรักกับข้า เขา
เคยหลุดปากเรี ยกชื่อซี ยนิ หรื อว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับนาง นางอาจจะเป็ นวิญญาณที่เขาเคยไปล่วงเกินไว้ก็
เป็ นได้ ว่าแต่มนั เกี่ยวข้องอะไรกับข้ากันเล่า คืนนี้ ขา้ ฝันเห็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากคราวที่แล้วที่ซียนิ และเจิ้งอู่
ลํ่าลากัน

เจิ้งอู่จากไปเกือบปี ซี ยนิ ในวัยสาวงามลํ้าดุจบุปผาแย้มกลีบก็มีบรรดาแม่สื่อที่เหล่าคุณชายจากตระกูลใหญ่ส่ง


มาทาบทามมิได้ขาด บิดามารดาได้แต่เฝ้าถามว่านางหมายตาผูใ้ ด ซี ยนิ ได้แต่สายหน้า บิดามารดาก็จนปัญญา

หากเป็ นบุตรสาวบ้านอื่น เรื่ องราวคงไม่ยากลําบากนัก ด้วยว่าส่ วนใหญ่กม็ กั จับหมั้นหมายกันตั้งแต่ยงั เล็ก แต่


สําหรับซี ยนิ ตอนนางอายุเจ็ดขวบ ชื่อเสี ยงความงามของนางก็ระบือไกล ใครๆ ต่างก็อยากหมั้นหมายบุตรชาย
ของตนกับซี ยนิ ทั้งนั้น ซี เหมี่ยนเจ้ากรมอาญาผูเ้ ป็ นบิดาของนางไม่อยากล่วงเกินผูใ้ ด กลัวว่าหากยกนางให้คน
ใดคนหนึ่ ง คนที่เหลือจะไม่พอใจ จึงได้ป่าวประกาศไปว่า คู่ครองของซี ยนิ ไว้รอนางเติบใหญ่ให้นางเป็ นผู ้
ตัดสิ นใจด้วยตนเอง จึงค่อยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้บา้ ง แต่ยามนี้ซียนิ เข้าพิธีปักปิ่ นไปเกือบปี แล้วก็ยงั ไม่
ตัดสิ นใจเลือกใครเสี ยที คุณชายตระกูลใหญ่ต่างก็ฮ่ ึมฮัม่ ใส่ กนั ราวกับจะเกิดศึก ส่ วนซี ยนิ นั้นก็ไม่มีท่าทีจะ
สนใจใคร

บิดามารดาร้อนใจนัก อยากจะเลือกคู่ให้นางเสี ยเอง แต่กไ็ ม่อาจผิดคําพูด ซี ยนิ ทั้งเรี ยบร้อยทั้งงดงามอ่อนหวาน


ผูใ้ ดจะคาดคิดว่านางได้ยอมพลีกายให้องค์ชายห้าได้เชยชมก่อนที่เขาจะจากไปยังสมรภูมิ หากบิดามารดารู ้เข้า
คงแทบเป็ นลมล้มพับ ศึกที่องค์ชายห้าเจิ้งอู่อาสาไปรบ ติดพันตึงมือ จะมีหวังได้กลับมาหรื อไม่กย็ งั ไม่รู้ แต่ซี
ยินยังคงรอคอยด้วยใจมัน่ ต่อให้เจิ้งอู่สิ้นชื่อ นางก็ไม่ขอมีคู่เลยเสี ยดีกว่า

แต่ชื่อเสี ยงของซี ยนิ พักตร์ กวนอิม ย่อมนําพาแต่เรื่ องปวดหัวมาให้ องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดต่างได้ยนิ ชื่อเสี ยง
ได้เคยยลพักตร์ ต่างก็หมายปองนางด้วยเช่นกัน ปกติซียนิ มักจะเก็บตัวอยูแ่ ต่ในจวนเพื่อหลบหลีกบรรดาบุรุษที่
หลงใหลในตัวนาง นอกจากครั้งที่ได้พบองค์ชายห้าเจิ้งอู่ที่วดั กว่างจี๋ซื่อแล้ว ก็แทบไม่ได้พบบุรุษอื่นใดอีก ไม่รู้
ว่าองค์ชายทั้งสองมีโอกาสพบเห็นนางตอนไหนกัน

117
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดมิใช่เป็ นศัตรู หวั ใจกันเท่านั้น ทั้งสองยังแย่งชิงบัลลังค์กนั อย่างเปิ ดเผย ต่างฝ่ ายต่างมี
ขุนนางสนับสนุนฝ่ ายตัวเองอยูไ่ ม่นอ้ ย ต่อสู ้กนั ทั้งในที่ลบั และที่แจ้ง ก่อให้เกิดคลื่นลมในวังหลวง ยิง่ ตอนนี้
ฮ่องเต้ทรงพระประชวร รัชทายาทซึ่ งเกิดจากฮองเฮาก็อ่อนแอ ผูค้ นต่างก็คาดคะเนไปต่างๆ นานา

...เจิ้งอู่ เมื่อใดท่านจะกลับมา ข้าทนต่อแรงกดดันแทบจะไม่ไหวแล้ว... ซี ยนิ ได้แต่ครํ่าครวญในใจ

อายุนางจะพ้นวัยหมั้นหมายแล้ว บิดามารดาต่างก็บีบคั้นนางทุกวัน เทียบเชิญไปงานต่างๆ ส่ งมาไม่ได้ขาด นาง


ได้แต่ปฏิเสธไปเสี ยทุกงาน หากยังเป็ นเช่นนี้ ต่อไป นางจะอยูใ่ นสังคมชั้นสู งต่อไปโดยไม่คบหาใครได้อย่างไร
กัน ซี ยนิ ร้อนใจนัก…

จะส่ งจดหมายถึงกันก็ไม่ได้ดว้ ยว่าทั้งสองแอบคบหากันอย่างลับๆ บิดามารดาไม่ได้ล่วงรู ้สักนิด จนกระทัง่ วัน


หนึ่งข่าวคราวจากชายแดนจึงมาถึงเมืองหลวง

...องค์ชายห้าได้รับบาดเจ็บในการรบ…

ซี ยนิ ล้มทั้งยืน ดีที่สาวใช้ประคองไว้ได้ทนั

องค์ชายห้าได้รับบาดเจ็บ แต่ได้รับการรักษาทันท่วงที โชคดีคุณหนูสามจวนรองแม่ทพั ติดตามบิดาไปชายแดน


จึงได้นางคอยช่วยดูแล…

จิตใจของซี ยนิ หนักอึ้ง นางไม่รู้วา่ ข่าวใดทําให้นางทุกข์ใจมากกว่ากัน ระหว่างอาการบาดเจ็บของชายคนรัก


และสตรี ที่อาสาพยาบาลอยูข่ า้ งกายเขา

คุณหนูสามจวนรองแม่ทพั มิใช่คนที่มารดาของเจิ้งอู่เคยทาบทามไว้หรื อ นางขอติดตามบิดาไปออกทัพครานี้


มิใช่เพื่อหาโอกาสได้ใกล้ชิดเจิ้งอู่หรื อไร

ใจของซี ยนิ ราวกับถูกบิด ความรู ้สึกขมปร่ าแทรกขึ้นมาในลําคอ

...ไม่ นางต้องเชื่อใจเจิ้งอู่ ท่านอ๋ องของนางไม่มีทางแปรเปลี่ยนด้วยเรื่ องเล็กน้อยแค่น้ ีแน่ เขาจะทอดทิ้งนางได้


อย่างไร นาง..นางได้ยอมมอบกายให้เขาแล้ว...

118
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

วันคืนล่วงไป ไม่มีข่าวใดจากชายแดนอีก มีเพียงคนขององค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดที่ส่งมาทาบทามสู่ ขอนาง


จากบิดามารดา สถานการณ์บีบคั้นเหลือเกิน

ทั้งคู่เป็ นองค์ชายมากอํานาจบารมี นางจะปฏิเสธได้อย่างไร

ซี ยนิ ขังตัวอยูใ่ นห้อง นํ้าตานองหน้า.. หากเขาไม่กลับมา นางคงไม่เหลือสิ่ งใด...

...ข้ามองใบหน้าทุกข์ตรมของซี ยนิ ก่อนภาพตรงหน้าจะเลือนหายไป...

เจ็บเหลือเกิน.. ความคิดถึงคะนึงหา ความเป็ นห่วง ความหึ งหวง ความหวาดกลัว และความสิ้ นหวัง.. สิ่ งเหล่านี้
ข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ขา้ กลับเข้าใจความรู ้สึกของซี ยนิ

“อวี้เอ๋ อร์ อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเป็ นอะไร”

ข้าได้ยนิ นํ้าเสี ยงร้อนรนของชินอ๋ องดังขึ้นข้างหู ตัวข้ายังคงสะอื้นนํ้าตานองหน้าทั้งที่สองตาปิ ดสนิท ข้าร้องไห้


ยามหลับอย่างนั้นหรื อ เหตุใดข้าจึงรู ้สึกสะเทือนใจราวกับเป็ นซี ยนิ เสี ยเอง

“กระต่ายน้อย ร้องไห้ทาํ ไม” ชินอ๋ องถามข้าอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นข้าลืมตาขึ้น

ข้าซุกกายเข้าหาเขา ไม่กล้าบอกเขาตามตรงว่าข้าร้องไห้เพราะสงสารสตรี แปลกหน้าคนหนึ่ งในความฝัน เขาคง


จะหาว่าข้าเป็ นบ้า ทันใดนั้นข้าก็เกิดความคิด จึงรี บใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ตรงหน้า

“อวี้เอ๋ อร์ คิดถึงมารดาเพคะ จากกันมานานไม่รู้ป่านนี้เป็ นเช่นไร” ข้าเล่าเรื่ องทั้งหมดให้เขาฟัง ทั้งเรื่ องที่มารดา


ตกเป็ นอนุของหลิ่วเหลยได้อย่างไร และครอบครัวนั้นปฏิบตั ิต่อเราสองคนแม่ลูกอย่างไร ยิง่ เล่าก็ยงิ่ สะเทือนใจ
จนนํ้าตาไหลออกมาอีก ชินอ๋ องนิ่งฟังอย่างใจเย็น ยกมือขึ้นปาดนํ้าตาให้ขา้ แล้วเอ่ยเสี ยงเรี ยบ

“เรื่ องมารดาเจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง เปิ่ นหวางจะให้คนไปจัดการรับตัวมารดาเจ้ามาอยูด่ ว้ ยกันที่วงั เสิ่ นหยางกง


ส่ วนเรื่ องครอบครัวหลิ่วเหลยนัน่ เจ้าต้องการให้เปิ่ นหวางจัดการเช่นไร”

119
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าดีใจที่ได้ยนิ ว่าเขาจะรับแม่มาอยูด่ ว้ ยกัน แต่เมื่อได้ยนิ เขาเอ่ยถามถึงครอบครัวหลิ่วเหลยท้ายประโยค นํ้าเสี ยง


เย็นยะเยียบนัน่ ก็ทาํ ให้ขา้ อดเสี ยวสันหลังขึ้นมาไม่ได้ ข้าเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะจัดการยังไงกับ
ครอบครัวนั้น ข้าแค้นพวกเขา แต่กไ็ ม่ได้คิดถึงขั้นแก้แค้น ถึงแม้คนพวกนั้นจะทําลายชีวิตของแม่ คิดจะขายข้า
ให้กบั หอคณิ กา แต่ขา้ ก็รู้ดีวา่ คนพวกนั้นไม่ได้มีความหมายต่อชีวติ ข้าอีกต่อไป ไม่วา่ จะเป็ นตายร้ายดีขา้ ย่อมไม่
สนใจพวกเขาอีก ขอเพียงให้ขา้ ได้อยูก่ บั แม่กพ็ อ

“ขอเพียงมารดาสบายดีและได้กลับมาอยูพ่ ร้อมหน้าแม่ลูก อวี้เอ๋ อร์กพ็ อใจแล้วเพคะ ส่ วนเรื่ องของหลิ่วเหลย


อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้ติดใจอะไร” ข้าก้มหน้าตอบ แต่แอบชําเลืองมองหน้าเขา เห็นชินอ๋ องยิม้ เย็นมุมปากจึงมัน่ ใจว่าเขา
คงไม่ปล่อยผ่านแน่ อย่างไรเสี ยคงหาทางคิดบัญชีกบั หลิ่วเหลยและครอบครัว แต่เขาจะให้ขา้ รู ้หรื อไม่น้ นั คง
เป็ นอีกเรื่ อง

เราสองคนกระซิ บกระซาบคุยกันบนเตียงราวกับคู่รักหวานชื่นอยูน่ านตั้งแต่ฟ้ามืดจนฟ้าเริ่ มสว่าง นับแต่ขา้


ละเมอร้องไห้จนกระทัง่ ตื่นขึ้นมา เขานอนโอบข้าไว้ในอ้อมแขน ข้าขดตัวเข้าหาอ้อมกอดเขาราวกับลูกแมวที่
หาไออุ่นจากเจ้าของ ข้าไม่รู้วา่ ทําไมเพียงจ้องมองดวงตาดําสนิทลึกลํ้าคู่น้ นั ข้าก็พรั่งพรู เรื่ องราวต่างๆ ออกมา
ราวกับไม่มีวนั จบสิ้ น เขาฟังข้าเล่าเรื่ องทุกอย่างอย่างตั้งใจโดยไม่ขดั จังหวะ ข้ารู ้สึกอบอุ่นและเป็ นสุ ข บังเกิด
ความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเขา เขาก็..ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ขา้ คิดไปเสี ยทีเดียว

“ท่านอ๋ อง วันนี้ ไม่ฝึกยุทธ์หรื อเพคะ” ข้าเงยหน้าขึ้นถามเขา

“อืม..เปิ่ นหวางกําลังจะไป” เขาตอบพลางคลายอ้อมแขนออก ข้ารู ้สึกโหยหาไออุ่นจากอ้อมแขนนั้นขึ้นมาใน


ทันใด มันคงจะแสดงออกชัดเจนในสายตาจนเขาต้องหันกลับมาถาม

“อยากไปดูเปิ่ นหวางฝึ กหรื อไม่”

ข้าพยักหน้า ไม่รู้วา่ อะไรดลใจให้ทาํ เช่นนั้น อากาศยามเช้าหนาวเย็นจะตาย ข้าจะอยากออกไปนัง่ ตากลมดูเขา


ฝึ กซ้อมทําไม แต่จะปฏิเสธก็ไม่ทนั แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับคําตอบของข้านัก

ข้าสวมเสื้ อคลุมตัวหนาหลายชั้น เขาให้คนยกเก้าอี้ออกมาตั้งข้างๆ ลานฝึ ก บรรยากาศยามเช้าตรู่ เงียบสงัด บน


ลานกว้างมีเพียงข้ากับเขาสองคน นอกจากเขาซึ่ งเป็ นความเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวบนลานเวิง้ ว้างนัน่ ก็ไม่มี
สิ่ งอื่นใดให้ขา้ มองอีก ข้าจึงจําเป็ นต้องดูเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาร่ ายรํากระบวนท่างดงาม พริ้ วไหวแต่ทรง

120
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
พลัง สวยงามยิง่ กว่าที่เคยเห็นตามหนังจีนในชาติที่แล้วเสี ยอีก สายตาของข้าจึงชื่นชมอย่างปิ ดไม่มิด สายตาคม
กล้าหันมาสบตากับข้าเป็ นระยะ ข้าบังเกิดความรู ้สึกแปลกๆ จนต้องเบือนสายตาหนี

ลมเย็นพัดโชยมาจนข้าสั่นสะท้าน ปลายจมูกแดงไปหมด ข้ากระชับเสื้ อคลุมให้แนบลําตัว ข้าเพิ่งตื่นนอนก็


ออกมานัง่ เป็ นเพื่อนเขา ผมเผ้ายังไม่ได้สางและเกล้ามวย เพียงปล่อยยาวสยายตามธรรมชาติ ภายใต้เสื้ อคลุม
ตัวหนาข้ายังสวมชุดนอนอยู่ ชินอ๋ องปรายตามองมาก็อมยิม้ อย่างเอ็นดู ข้าคงดูเหมือนเด็กน้อยง่วงงุนที่พนั ผ้าจน
ตัวหนาเป็ นซาลาเปาอยูข่ อบสนาม ผ่านไปครู่ ใหญ่ประมาณครึ่ งชัว่ ยามกับอีกสองเค่อ ข้าจามออกมาทีหนึ่ง ชัว่
พริ บตาเขาก็ทะยานจากกลางลานมาอยูข่ า้ งกายข้า ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขา.. นี่ยงั ไม่ครบหนึ่งชัว่ ยามเลยมิใช่หรื อ

“เปิ่ นหวางจะไปเดินลมปราณต่อในห้อง” เขาเอ่ยเสี ยงเรี ยบพลางอุม้ ข้าขึ้นมา

ข้าซุกอยูใ่ นอ้อมอกที่อุ่นจัดของเขา ปล่อยให้เขาพากลับห้อง ในใจยังอยากนอนต่ออีกสักเล็กน้อยเพราะเมื่อคืน


กว่าเขาจะปล่อยให้ขา้ นอนก็ดึกแล้ว ยังไม่ทนั ถึงห้องข้าก็เริ่ มตาปรอย ข้าไม่รู้ตวั ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอ
รู ้สึกตัวอีกทีขา้ ก็ตื่นขึ้นมาบนเตียงในยามสาย ในห้องไม่ปรากฏเงาของชินอ๋ อง

หมิงจูยกอ่างนํ้าเข้ามาปรนนิบตั ิขา้ ล้างหน้า ขณะกําลังสางผมให้ขา้ นางก็เอ่ยเสี ยงใส

“ท่านอ๋ องบอกว่าวันนี้ให้หวางเฟยพักผ่อนมากๆ เพคะ คืนนี้ท่านอ๋ องจะพาหวางเฟยเข้าวังไปร่ วมงานเลี้ยง


ต้อนรับราชทูตจากแคว้นเว่ย เดี๋ยวตอนบ่ายหมิงจูจะพาคนมาช่วยหวางเฟยแต่งกายนะเพคะ”

ข้าพยักหน้ารับรู ้

“แล้วท่านอ๋ องตอนนี้อยูท่ ี่ไหนหรื อ” ข้าถามอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่แต่งเข้ามา เขามักจะขลุกอยูข่ า้ งกายข้าไม่


ห่าง

“ท่านอ๋ องกําลังประชุมอยูใ่ นห้องทรงอักษรเพคะ หวางเฟยมีความใดจะให้บ่าวไปถ่ายทอดถึงท่านอ๋ องหรื อไม่


เพคะ”

ข้าส่ ายหน้า ไม่ตอ้ งการรบกวนเวลาทํางานของเขา ข้านัง่ คัดอักษรฆ่าเวลา นานเท่าใดแล้วที่ขา้ ไม่เคยมีกิจกรรม


ที่ผอ่ นคลาย ที่ผา่ นมาในจวนใต้เท้าจาง ข้าต้องฝึ กฝนสิ่ งเหล่านี้เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด ให้ได้รับการยอมรับ

121
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
จากท่านอาจารย์และแม่นมหลิน เพื่อที่จะได้อยูร่ อด ไม่ตกเป็ นของเล่นของเหล่าคุณชายเสเพลในจวน ยามนี้จึง
รู ้สึกดีที่ไม่ตอ้ งทําสิ่ งเหล่านี้ภายใต้แรงงกดดันใดๆ

พอตกบ่าย หมิงจูและนางกํานัลอีกสามสี่ คนก็เข้ามาช่วยข้าแต่งเนื้อตัว พวกนางจับข้าอาบนํ้าอย่างพิถีพิถนั ไม่


ต่างอะไรกับวันสมรส ชุดที่เตรี ยมไว้เป็ นสี ขาวขลิบทองปักลายหงส์งามสง่า ผมของข้าเกล้าเป็ นมวยสู งปักปิ่ น
ระย้าเป็ นเส้นยาวทอประกายวิบวับจากอัญมณี ที่ประดับอยู่ ยามเคลื่อนไหวดูงดงามจับตา เครื่ องประดับศีรษะ
มากมายจนรู ้สึกหนัก แต่ละชิ้นมองด้วยสายตาลํ้าค่าจนไม่อาจประเมินราคา ต่างหูเป็ นเครื่ องทองฝังมุกนํ้างาม
เม็ดใหญ่เรี ยงเป็ นสายเกือบจรดหัวไหล่ เกาะอกตัวในเป็ นลายดอกสี น้ าํ ตาลอ่อนขลิบทอง พอผูกเชือกรัดใต้อก
แล้วก็เน้นทรวดทรงชัดเจน เนื้อผ้าพริ้ วไหวยามก้าวย่างราวกับจะล่องลอย

ยามชินอ๋ องปรากฏกาย เขาสวมเสื้ อคลุมมังกรสี ทองเข้ากันกับข้า เขาจับจ้องข้าอย่างพึงใจ เดินเข้ามากระซิ บกับ


ข้าใกล้ๆ

“เปิ่ นหวางชักจะไม่อยากไปงานเลี้ยงเสี ยแล้วซี ” ข้าหน้าแดง รี บก้มหน้าลงหลบสายตากรุ ้มกริ่ ม แต่แล้วชินอ๋ อง


กลับขมวดคิ้วเล็กน้อยยามจับจ้องเนินอกของข้าที่ดูจะมากเกินพอดี

“อวี้เอ๋ อร์ เปลี่ยนชุดดีหรื อไม่..”

ข้าเบิกตากว้างมองเขา ประหนึ่ งว่าเขาพูดอะไรผิดไป ชุดนี้ กว่าจะสวมใส่ เรี ยบร้อย เขารู ้หรื อไม่วา่ ใช้เวลาไป
เท่าไหร่ จะมาให้เปลี่ยนตอนนี้ คิดว่าจะไปร่ วมงานทันหรื อ…

“ไปหาผ้าคลุมไหล่ให้หวางเฟย” เขาหันไปสัง่ หมิงจูเสี ยงดุ หมิงจูรีบกุลีกจุ อไปหาผ้าโปร่ งสี ขาวมาคลุมไหล่ให้


ข้า สี หน้าของเขาจึงค่อยดีข้ ึน

“เสี ยเวลาไปมากแล้ว พวกเราไปกันเถิด” เขาหันมาบอกข้า ข้าแอบค้อนเขาไปทีหนึ่ง เสี ยเวลาเพราะใครกันเล่า

เขากุมมือข้าไปขึ้นรถ ยามจะต้องเข้าวังหลวง ข้าอดนึกถึงฮ่องเต้ไม่ได้ ใจหนึ่งก็เป็ นห่วงเขา อีกใจหนึ่งก็อึดอัด


ใจไม่อยากเจอหน้า หวังว่าฮ่องเต้จะทําใจเรื่ องของข้าได้แล้ว ยามที่พบหน้ากันข้าจะได้เห็นเขาเป็ นสหายคน
หนึ่งที่พึงมีแต่ความปรารถนาดีให้แก่กนั เท่านั้น

122
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ ” ชินอ๋ องเอ่ยกับข้าขณะอยูบ่ นรถม้า “อย่าอยูห่ ่างจากเปิ่ นหวาง รัชทายาทแคว้นเว่ยที่เดินทางมากับ
คณะราชทูตในครั้งนี้ไม่น่าไว้ใจนัก เปิ่ นหวางไม่วางใจจางอี้หมิง ดูเหมือนว่าเขาจะมีความเกี่ยวพันกับแคว้นเว่ย
ผูใ้ ดจะรู ้วา่ เขาคิดจะลากเจ้าเข้ามายุง่ เกี่ยวในแผนการร้ายอีกหรื อไม่”

ข้าได้ยนิ เขาเอ่ยเช่นนี้ กอ็ ดตัวสั่นขึ้นมาอีกไม่ได้ เรื่ องราวระหว่างข้ากับใต้เท้าจางยังไม่จบสิ้ นอีกหรื อ บัดนี้ขา้


เป็ นหวางเฟย เขายังบังอาจยืมมือคนต่างแคว้นหมายจะระรานข้า ข้ารี บซุกตัวเข้าหาชินอ๋ อง

“ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์ไม่อยากเป็ นเครื่ องมือของใต้เท้าจางอีกต่อไปแล้ว”

“เจ้าวางใจเถิดอวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่ยอมปล่อยให้เป็ นเช่นนั้นแน่” เขาเอ่ยกับข้าด้วยนํ้าเสี ยงหนักแน่น ในที่สุด


รถม้าของวังเสิ่ นหยางกงก็แล่นเข้าสู่ ประตูวงั หลวง

123
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 20 : หวางเฟยผู้งดงาม

ถึงแม้ขา้ จะได้รับการอบรมจากนางข้าหลวงในจวนใต้เท้าจางมาเป็ นอย่างดีถึงกิริยามารยาทในวังหลวง แต่ยาม


ต้องเข้าร่ วมพิธีการใหญ่โตเช่นนี้ กอ็ ดนึกประหม่าไม่ได้ อีกทั้งยามนี้ขา้ มิใช่จางอวี้ชิง บุตรี บุญธรรมของใต้เท้า
จางอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็ นชินหวางเฟยแห่ งวังเสิ่ นหยางกง ยามที่ขา้ เดินเคียงคู่ชินอ๋ องเข้ามาในท้องพระโรง
อย่างแช่มช้า สายตาทุกคู่จึงพุง่ มาที่เจ้าสาวหมาดๆ ของชินอ๋ องที่แม้เพิ่งปรากฏกายในแวดวงชั้นสู งแต่กเ็ ป็ นที่
เลื่องลือไปทัว่ ราชสํานัก

...นางมิใช่หรื อที่ชินอ๋ องบุกไปช่วงชิงมาจากแท่นบรรทมของฝ่ าบาท…

…สตรี ผนู ้ ้ ีหรื อที่ทาํ ให้ชินอ๋ องยอมตบแต่งหวางเฟย…

...ได้ยนิ มาว่าชินอ๋ องลุ่มหลงในตัวหวางเฟยผูน้ ้ ี นกั ถึงกับขลุกอยูก่ บั นางทั้งวันทั้งคืนไม่ไปไหน…

...งดงามจริ งๆ ราวกับนางปี ศาจจิ้งจอก ไม่แปลกที่ชินอ๋ องจะ…

เสี ยงกระซิ บกระซาบดังขึ้นยามที่ขา้ ปรากฏกาย สายตาที่มองมามีท้ งั ประเมิน เหยียดหยาม ชื่นชม ตกตะลึง


หลงใหล ..ใช่..ข้านี่แหละ..จางอวี้ชิง ผูใ้ ช้ร่างกายอันงดงามแลกมาซึ่ งศักดิ์ฐานะอันสู งส่ งนี้ … ข้าทําได้เพียงทิ้ง
สายตาไปยังพื้นพรมสี แดงที่ทอดยาวเบื้องหน้า สาวเท้าตามชินอ๋ องด้วยกิริยางามสง่า ทําทีราวกับไม่ใส่ ใจสิ่ งใด
ชินอ๋ องประคองข้าเดินเข้าไป มุมปากประดับรอยยิม้ นิดๆ ดูหล่อเหลาราวกับเทพเซี ยนสู งส่ งผูอ้ ยูเ่ หนือโลก
ไม่ครณาต่อบรรยากาศรอบตัว

“ดูเหมือนว่าผูค้ นจะสนใจหวางเฟยของเปิ่ นหวางยิง่ กว่าตัวเปิ่ นหวางเสี ยอีก” เขาเอ่ยติดตลกทําให้ขา้ รู ้สึกผ่อน


คลายขึ้นมาไม่นอ้ ย ข้าช้อนสายตาขึ้นสบตากับเขายามเอ่ย

“ท่านอ๋ องล้อเล่นแล้ว หากอวี้เอ๋ อร์ ไม่ได้เดินเคียงคู่มากับชินอ๋ อง มีหรื อผูใ้ ดจะให้ความสนใจ”

เขาเพียงยกมุมปากแล้วพาข้าเดินไปยังที่นงั่

124
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ฝั่งตรงข้ามเป็ นที่นงั่ ของรัชทายาทจากแคว้นเว่ย เมื่อแรกที่ได้ยนิ เสี ยงขานว่าชินอ๋ องเสด็จ สายตารัชทายาท
แคว้นเว่ยแทบไม่ได้เหลือบแลไปทางชินอ๋ องแม้แต่นอ้ ย แต่กลับจับจ้องมาที่ขา้ สายตาเรี ยวยาวคู่น้ นั วาบขึ้น
อย่างสนใจ รอยยิม้ จุดขึ้นที่มุมปาก ไท่จื่อผูน้ ้ ีแสดงออกไม่สาํ รวม ทอดแขนเอนกายนัง่ ตามสบายราวกับคุณชาย
เจ้าสําราญ ข้ารู ้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี หวังว่างานเลี้ยงคืนนี้จะผ่านไปโดยราบรื่ น

เมื่อฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จ สถานการณ์กลับไม่ได้ดีข้ ึนสักนิด เมื่อทุกคนถวายบังคมเรี ยบร้อยแล้ว ฮ่องเต้


กวาดสายตามองมาทางข้ากับชินอ๋ องแต่แล้วกลับหยุดอยูท่ ี่ขา้ ข้าก้มหน้าลง ไม่ตอ้ งการเป็ นที่สนใจของใครอีก
รู ้ดีวา่ ใครๆ คงกําลังจับตามองพวกเราสามคน ชินอ๋ องยืดกายขึ้นเล็กน้อย ไหล่หนาเบี่ยงมาทางข้าราวกับไม่
ตั้งใจ ฮ่องเต้เห็นกิริยาเล็กน้อยนี้จึงค่อยได้สติ เก็บสายตากลับไปอย่างยากเย็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนตกอยูใ่ น
สายตาของรัชทายาทเว่ยหงอิ่นผูล้ อบสังเกตการณ์เงียบๆ ด้วยแววตาเต้นระริ กราวกับรอดูเรื่ องสนุก

ใต้เท้าจางนัง่ ห่ างออกไปไม่มากนัก รอยยิม้ บนใบหน้าของเขาคืนนี้ดูจะกว้างขวางเป็ นพิเศษ เขาลงทุนกับข้าไป


ไม่นอ้ ย มีหรื อจะปล่อยหมากตัวนี้ให้เสี ยเปล่า ในเมื่อชินอ๋ องช่วงชิงไป เขาก็เพียงแค่หาคนมาช่วงชิงกลับจาก
ชินอ๋ องเท่านั้นเอง รัชทายาทแคว้นเว่ยก็คือคนผูน้ ้ นั เห็นทีเขาคงจะสร้างความยากลําบากให้กบั ชินอ๋ องไม่นอ้ ย

ข้าลองมองจากมุมใต้เท้าจาง เหตุใดเขาต้องชักศึกเข้าบ้านเล่า จะดีชวั่ อย่างไรก็ไม่ควรทรยศต่อบ้านเมืองตนเอง


มิใช่หรื อ ข้าครุ่ นคิด นึกถึงคําฮ่องเต้ที่เคยบอกว่า อีกไม่นานตระกูลจางจะต้องถูกกําจัด ก็พอเข้าใจความคิดของ
ใต้เท้าจาง เขาคงรู ้วา่ ฮ่องเต้ไม่คิดจะเก็บตระกูลจางไว้ จึงหมายยืมกําลังแคว้นเว่ยก่อศึกนอกเพื่อที่ฮ่องเต้จะ
ชะลอศึกในไว้ก่อน ใต้เท้าจางกําลังซื้ อเวลา หากเกิดศึกสงครามขึ้นมาจริ งๆ ล่ะก็… ข้าหันไปมองข้างกาย ก็คง
เป็ นชินอ๋ องที่เป็ นผูบ้ ญั ชาการรบ ยามนี้ ชินอ๋ องเป็ นดัง่ ปราการอันแข็งแกร่ งของแคว้นเยีย่ หากถูกดึงตัวไปคุม
การรบอยูท่ ี่ชายแดน เกิดอะไรขึ้นกับทางเมืองหลวงก็คงกลับมาช่วยไม่ทนั นํ้าไกลไม่อาจดับไฟใกล้ แย่กว่านั้น
หากเกิดอะไรขึ้นกับชินอ๋ อง แคว้นเยีย่ ของเราคงเปรี ยบประดุจพยัคฆ์ที่ไร้เขี้ยวเล็บ ขอบตาของข้าร้อนผ่าว
ขึ้นมา คิดอะไรไร้สาระ! ข้าเอ็ดตัวเอง ชินอ๋ องไม่มีทางเป็ นอะไรไปได้หรอก เขาเจ้าแผนการปานนั้น มีหรื อจะ
ไม่เท่าทันใต้เท้าจาง

...แต่ในสงครามอะไรก็เกิดขึ้นได้มิใช่หรื อ…

...ทวนเปิ ดเผยหลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลบั ยากระวัง…

ใต้เท้าจางจ้องเล่นงานเขาอยูใ่ นที่ลบั ชินอ๋ องจะคอยระวังได้ตลอดไปหรื อ

125
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าสะบัดศีรษะเบาๆ พยายามปั ดความคิดนั้นทิ้งไป

“คิดมากไปแล้วกระต่ายน้อย เจ้ากินอาหารให้อร่ อย ชมการแสดงให้เพลิดเพลินใจเถิด เรื่ องอื่นๆ ปล่อยให้เป็ น


หน้าที่ของเปิ่ นหวาง” เขากระซิ บเบาๆ พร้อมรอยยิม้

ฮ่องเต้กล่าวทักทายปราศัยคณะราชทูตอย่างมีไมตรี การแสดงเริ่ มขึ้น งานเลี้ยงเป็ นไปอย่างชื่นมื่น ข้าทําอย่างที่


เขาว่า กินอาหารให้อร่ อย ทําใจให้สบาย ในไม่ชา้ ก็ลืมความกังวลและไม่สนใจรัชทายาทเว่ยหงอิ่นผูน้ ้ นั อีก
ระหว่างที่การแสดงจบลง รัชทายาทเว่ยหงอิ่นก็เอ่ยขึ้น

“ได้ยนิ ว่าชินอ๋ องเพิ่งเข้าพิธีอภิเษก ข้ายังไม่มีโอกาสได้แสดงความยินดี จึงขอถือโอกาสนี้คาํ นับสุ ราให้แก่ชิน


อ๋ องและชินหวางเฟย”

ข้าและชินอ๋ องยกจอกสุ ราขึ้นคํานับตอบ เว่ยหงอิ่นยิม้ พลางกล่าว

“ชินหวางเฟยงดงามยิง่ นัก ชินอ๋ องมากด้วยบุญญาธิการ สมควรแล้วที่จะได้ครองคู่กบั โฉมงามปานนี้” คําพูด


ของเว่ยหงอิ่นฟังแล้วแปร่ งหู ประหนึ่งจะยุยงให้ฮ่องเต้กบั ชินอ๋ องแตกคอกัน ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ต้ืนลึกหนา
บางเรื่ องที่บุรุษทั้งสองแย่งชิงตัวข้า เขาพูดเช่นนี้มิใช่หมายความว่าฮ่องเต้ไม่อาจมีบุญญาธิ การเทียบเท่าชินอ๋ อง
หรอกหรื อ

เว่ยหงอิ่นผูน้ ้ ีจงใจยัว่ โทสะชินอ๋ อง หากชินอ๋ องระงับโทสะไว้ไม่ได้คงไม่ดีแน่ ข้าจึงยิม้ ให้เว่ยหงอิ่นพลางเอ่ย


อย่างอ่อนหวาน

“องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้ว หม่อมฉันเสี ยอีกรู ้สึกสํานึกในความเมตตาของชินอ๋ อง หม่อมฉันเป็ นเพียง


สตรี ธรรมดา ชินอ๋ องถึงกับยกตําแหน่งชายาเอกให้ นับเป็ นวาสนาของหม่อมฉันต่างหากเล่าเพคะ”

เสี ยงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของชินอ๋ องดังขึ้น ฟังไม่ออกว่าเป็ นการเสแสร้งแต่อย่างใด ชั้นเชิงทางการทูตของ


เขาย่อมไม่ธรรมดา

“องค์รัชทายาทกล่าวผิดไปแล้ว ได้ครองคู่กบั หวางเฟยหาใช่เกี่ยวข้องกับบุญญาธิการแต่อย่างใด เป็ นเพราะบุพ


เพวาสนาชักพาต่างหากเล่า ชาติก่อนข้าและหวางเฟยคงได้เก็บดอกไม้ร่วมต้น ชาติน้ ีจึงได้มาพบกันอีก”

126
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เว่ยหงอิ่นแย้มยิม้ มีไมตรี กล่าวต่อ

“ก่อนหน้านี้ขา้ ได้ยนิ ว่าหวางเฟยเคยแสดงฝี มือร่ ายรําในงานชมบุปผา เป็ นที่กล่าวขวัญไปทัว่ ว่างดงามอ่อนช้อย


สะกดจิตสะกดใจผูค้ น มาเยือนแคว้นเยีย่ ครานี้ ได้แต่หวังว่าหวางเฟยจะเมตตา ไม่ทราบข้าพอจะมีบุญตาได้ชม
หรื อไม่”

ชินอ๋ องใบหน้ามืดครึ้ มขึ้นมาทันใด รังสี กดดันแผ่ไปรอบตัวจนข้าแทบหายใจไม่ออก ข้าเป็ นถึงชินหวางเฟย จะ


มาร่ ายรําให้เขาชมได้อย่างไร เขาเอ่ยเช่นนี้ ไม่เท่ากับจงใจกระตุกหนวดเสื ออย่างชินอ๋ องหรอกหรื อ ข้ารี บกล่าว
แก้ไขสถานการณ์

“ข่าวลือย่อมกล่าวเกินจริ งไปบ้าง องค์รัชทายาทอย่าได้ใส่ พระทัยเลยเพคะ”

“หวางเฟยถ่อมตนแล้ว ท่านกล่าวเช่นนี้คงมิได้ลาํ บากใจที่จะช่วยให้ขา้ สมปรารถนากระมัง” รัชทายาทยังคง


คาดคั้น

ชินอ๋ องคลี่ยมิ้ พลางกล่าวเนิบนาบอย่างมีไมตรี

“รัชทายาทกล่าวผิดไปแล้ว หวางเฟยมิได้ลาํ บากใจ ในฐานะหวางเฟยของข้า นางไม่อาจลดตัวลงมาร่ ายรําต่อ


หน้าธารกํานัลได้ต่างหาก ท่านยังเยาว์วยั บางครั้งพูดจาเลอะเลือนไปบ้างก็ไม่แปลก” ชินอ๋ องกล่าวราวกับไม่
ถือสา ประดุจผูใ้ หญ่ใจกว้างแต่กไ็ ม่ลืมซ่อนนัยติเตียนไว้ในประโยคเดียวกัน

ฮ่องเต้กลับเป็ นฝ่ ายประทับดูดว้ ยรอยยิม้ สายตาวิบวับอย่างบันเทิงใจจับจ้องชินอ๋ องที่กาํ ลังกินนํ้าส้มเปรี้ ยวแต่


กลับตีฝีปากอย่างเยือกเย็น เว่ยหงอิ่นทําราวกับไม่รู้สึกรู ้สมที่ถูกชินอ๋ องตําหนิ

“นึกไม่ถึงวันนี้ ตอ้ งให้ชินอ๋ องชี้แนะแล้ว น่าอายเสี ยจริ ง” เขายิม้ กว้างแต่ขา้ เห็นหางตาเขากระตุกเล็กน้อยด้วย


โทสะ สายตาของเขาทําให้ขา้ รู ้วา่ เขายังไม่ยอมเลิกรา “ชินอ๋ องรักใคร่ หวางเฟยเช่นนี้เป็ นที่น่าอิจฉายิง่ นัก ไม่
ยอมแม้จะให้หวางเฟยแสดงฝี มือ หากข้าบังอาจขอร้องหวางเฟยในฐานะตัวแทนราชทูต เห็นแก่ความสัมพันธ์
ของสองแคว้น ไม่ทราบหวางเฟยพอจะตอบรับคําขอข้าได้หรื อไม่”

127
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาหันมาพูดกับข้าโดยตรง เอาความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นมาอ้างหมายจะกดดันข้า ข้ายังจําโทสะของชินอ๋ อง
คราวก่อนนั้นได้ มีหรื อจะกล้ารับปากเว่ยหงอิ่น

“วันนี้นางรําขึ้นชื่อมากมายมารวมตัวกัน หม่อมฉันฝี มืออ่อนด้อย ไหนเลยจะกล้าแสดงฝี มือให้เป็ นที่ขายหน้า


เล่าเพคะ” ข้าเอ่ยปฏิเสธอย่างนิ่มนวล

“รัชทายาทดูจะชื่นชมหวางเฟยของข้านัก ท่านไม่รีบตบแต่งไท่จื่อเฟยเล่า ดูท่าท่านคงจะพอใจที่ได้ชมนางร่ าย


รําแต่เพียงผูเ้ ดียวเป็ นแน่” จะได้ไม่ตอ้ งมารบกวนหวางเฟยของข้า คําพูดของชินอ๋ องดูจะสื่ อเช่นนี้

ข้าไม่ตอ้ งการตัดรอนเว่ยหงอิ่นให้เป็ นข้อพิพาทระหว่างแคว้นเยีย่ และแคว้นเว่ย อีกทั้งไม่ตอ้ งการทําให้ชินอ๋ อง


โกรธ จึงหาทางประนีประนอม

“หม่อมฉันพอจะมีฝีมือทางพิณอยูบ่ า้ ง ขอถือโอกาสนี้เป็ นตัวแทนแคว้นเยีย่ บรรเลงเพลงพิณต้อนรับองค์รัช


ทายาทและคณะทูตแทนดีหรื อไม่เพคะ”

เว่ยหงอิ่นไม่อาจหาข้อโต้แย้งได้อีก ฮ่องเต้จึงรับสั่งให้นางกํานัลยกพิณเข้ามา ข้าก้าวไปนัง่ ลงเบื้องพระพักตร์


คิดจะบรรเลงเพลง ถวายพระพรยามสารท ซึ่ งไพเราะเหมาะสมแก่โอกาส ทว่ายังไม่ทนั จะได้จรดปลายนิ้ว
เสี ยงของเว่ยหงอิ่นก็ขดั ขึ้น

“หวางเฟยโปรดบรรเลงเพลงฤทัยแรกรักได้หรื อไม่ ได้เห็นหวางเฟยในวันนี้ ข้ารู ้สึกอยากฟังเพลงนี้ข้ ึนมาจับ


ใจ”

ใบหน้าของข้าแแดงเรื่ อ ฤทัยแรกรักเป็ นบทเพลงที่สตรี นิยมเล่นเพื่อเผยความนัยให้บุรุษที่ตนหมายปอง จะให้


ข้าเล่นเพลงนี้ ให้เขา เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก ข้าลังเล ไม่รู้จะเอ่ยปฏิเสธอย่างไร

“หวางเฟยบรรเลงเพลงนี้ให้เปิ่ นหวางฟังอีกรอบเถิด เปิ่ นหวางฟังเจ้าเล่นเพลงนี้คราใดก็ไม่เบื่อ รัชทายาทได้มา


แสดงความยินดีต่อการอภิเษกของพวกเรา หากจะให้พระองค์ได้ร่วมเป็ นประจักษ์พยานในความรักของสองเรา
อีกครั้งก็ไม่แปลก” ชินอ๋ องเอ่ยแทรกขึ้นมา ทําลายเจตนาเกี้ยวพาของเว่ยหงอิ่นเสี ยสิ้ น รัชทายาทผูน้ ้ ีสติดี
หรื อไม่ กล้าพูดจาแทะโลมข้าต่อหน้าชินอ๋ องผูเ้ ป็ นสวามีและข้าราชบริ พารทั้งหลายในท้องพระโรง เป็ นการท้า
ทายชินอ๋ องและแคว้นเยีย่ ชัดๆ เขาคิดจะเปิ ดศึกหรื อไร ใต้เท้าจางมีสีหน้าเรี ยบเฉย แต่ขา้ รู ้วา่ เขากําลังสาสมใจที่
ทําให้ชินอ๋ องขุ่นเคือง

128
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ดนตรี ของเพลงฤทัยแรกรักมีท่วงทํานองหวานซึ้ ง เมื่อก่อนถึงข้าบรรเลงได้ดีอย่างไรก็ไม่เคยเข้าถึงอารมณ์รัก


ใคร่ ฉนั ชายหญิง ทว่าบัดนี้ยามจรดนิ้วเข้ากับสายพิณข้ากลับนึกถึงใบหน้าของชินอ๋ อง พลันถ่ายทอดอารมณ์
อ่อนหวานละมุน ชวนให้หวั ใจสั่นไหว ท่วงทํานองทั้งอ่อนหวานออดอ้อน รู ้สึกได้ถึงความรักอันใสซื่ อบริ สุทธิ์
ของดรุ ณีแรกรุ่ น บุรุษใดได้ฟังก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกรัก อยากโอบประคองถนอมความรักของสตรี ผนู ้ ้ นั มาแนบ
ใจ

ข้าบังเอิญเหลือบไปสบตากับชินอ๋ อง เห็นเขามองมาด้วยสายตาหวานซึ้ งชวนให้สะเทิ้นอายก็รีบดึงสายตากลับ


ข้าดีดพิณไปอมยิม้ ไป แอบแลกสายตากับเขาเป็ นที่หวานชื่นชวนให้อิจฉานัก ดนตรี จบลง ในใจผูฟ้ ังยังคงกรุ่ น
ไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักที่อวลอยูใ่ นบรรยากาศ ดรุ ณีผบู ้ รรเลงพิณงามพิลาศ บรรเลงเพลงรักได้อ่อนหวาน
จับใจ หัวใจของบุรุษใดจะไม่ละลายบ้างเล่า ผูช้ มต่างนิ่งงันอยูใ่ นภวังค์ของบทเพลง เสี ยงชื่นชมเซ็งแซ่ข้ ึนเป็ น
ลําดับ ดวงเนตรของฮ่องเต้ร้าวราน ความรักอันหวานลํ้าในบทเพลงช่างตอกยํ้าถึงความเจ็บปวดสู ญเสี ยของเขา
เว่ยหงอิ่นมองข้าด้วยดวงตาวาววับ ความมุ่งมาดปรารถนาฉายชัดในแววตาคู่น้ นั

ฮ่องเต้ตรัสชมเชย รอยยิม้ เศร้าปรากฏที่มุมปาก

“ชินหวางเฟยช่างบรรเลงเพลงฤทัยแรกรักได้งดงามยิง่ นัก เราเพิ่งรู ้วา่ ไม่เพียงร่ ายรํา หวางเฟยยังนับเป็ น


อัจฉริ ยะทางเพลงพิณอย่างหาตัวจับยาก”

ข้าก้มศีรษะกล่าวถ่อมตน

“ฝ่ าบาทตรัสชมเกินไปแล้วเพคะ หม่อมฉันฝี มือธรรมดา มิอาจนับเป็ นอะไรได้”

“หากให้ปรมาจารย์ฝานลู่มาฟัง เห็นทีจะต้องนับเจ้าเป็ นสหายผูร้ ู ้สาํ เนียง เอาเถิด วันนี้รบกวนชินหวางเฟยแล้ว


เชิญเจ้าสนุกกับงานเลี้ยงต่อเถิด”

ข้ากลับมานัง่ ประจําที่ มือหนาของชินอ๋ องเอื้อมมารวบมือข้าไว้ใต้โต๊ะ สายตาวาววับส่ งความนัย

“อวี้เอ๋ อร์ บทเพลงเมื่อครู่ เจ้าบรรเลงจากใจใช่หรื อไม่” เขาโน้มตัวมากระซิ บยที่ริมหูขา้

ข้าก้มหน้าอย่างเขินอาย ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่กล้าตอบรับ

129
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เจ้ามีขา้ อยูใ่ นใจตอนบรรเลงฤทัยแรกรักใช่หรื อไม่”

นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องอบอุ่นอ่อนหวานจนข้าไม่อาจปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้าน้อยๆจนแทบสังเกตไม่เห็น รอยยิม้


จุดขึ้นที่มุมปากของชินอ๋ อง นัยน์ตาคู่คมวาววับเป็ นประกาย

“หวางเฟยของข้าช่างน่ารักน่าเอ็นดูเป็ นที่สุด”

ปลายนิ้วของเขาเกลี่ยหลังมือข้าจนรู ้สึกวูบวาบ ใบหน้าของข้าแดงเรื่ อ ไม่กล้าสบตาเขา สายตาของเขาชัดแจ้ง


ไม่ตอ้ งบอกข้าก็รู้ดีวา่ คืนนี้เมื่อกลับไปถึงวัง ข้าต้องเจอกับอะไรบ้าง

งานเลี้ยงดําเนินต่อไปอย่างราบรื่ น บรรยากาศค่อยคลายความเป็ นทางการลง เหล่าเสนาอํามาตย์พูดคุยกันอย่าง


ออกรสพลางชมการร่ ายรํา ข้ากับชินอ๋ องกําลังรอคอยเวลาอันสมควรเพื่อปลีกตัวกลับ คืนนี้ ฮ่องเต้น่าจะอยูจ่ น
ดึก หากฮ่องเต้ยงั ไม่กลับ ย่อมไม่มีใครกล้าออกจากงานเลี้ยง นางกํานัลเข้ามาริ นสุ รา ทว่าพลั้งพลาดทําสุ ราหก
รดแขนเสื้ อข้า นางรี บคุกเข่าโขกศีรษะตัวสั่นงันงก

"หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอชินหวางเฟยโปรดเมตตาด้วยเพคะ"

ข้านึกเวทนานาง จึงไม่ได้คิดจะเอาผิดใด ทว่าชินอ๋ องกลับออกคําสั่งเสี ยงเรี ยบ

"เอาตัวไปโบยยีส่ ิ บไม้"

ข้าหันไปมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ อึดใจต่อมาจึงเข้าใจเมื่อได้ยนิ เสี ยงไทเฮาเอ่ย

“ชินหวางเฟย อาภรณ์ของเจ้าเลอะสุ รา เข้าไปผลัดเปลี่ยนในห้องด้านในก่อนเถิด”

นางกํานัลสองคนก้าวเข้ามาข้างกายข้าแทนคนที่ถูกลากออกไปโบย พวกนางคงเป็ นคนของไทเฮา ข้าหันไป


มองชินอ๋ อง เขาพยักหน้าให้ขา้ ไปได้ แม้จะคลางแคลงใจ ข้าก็ติดตามนางกํานัลสองคนไปยังตําหนักข้าง สี หน้า
ของใต้เท้าจางราบเรี ยบ ข้ารู ้ดีวา่ นี่เป็ นเพียงจุดเริ่ มต้น เขากําลังวางแผนการร้ายและข้ากําลังจะก้าวเท้าเข้าไปใน
นั้น

130
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 21 : ต้ องแย่ งชิงมา จึงควรค่ าให้ ครอบครอง

นางกํานัลเดินนําข้าเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง พลางหันมายอบกายเอ่ย

“หวางเฟยโปรดถอดเสื้ อตัวนอกออกเถิดเพคะ หม่อมฉันจะนําไปล้างคราบสุ ราออกแล้วนํามาคืน ไม่นานหรอก


เจ้าค่ะ”

ข้าถอดเสื้ อตัวนอกออกโดยมีพวกนางช่วย เหลือไว้เพียงเสื้ อเกาะอกตัวใน ข้าจึงนําผ้าคลุมไหล่สีขาวโปร่ งบาง


ขึ้นมาคลุมกายไว้ นางกํานัลคนหนึ่งประคองข้าไปนัง่ ที่เก้าอี้แล้วริ นนํ้าชาให้ ข้าไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้อง ใครจะ
ไปรู ้วา่ ในนํ้าชามีอะไรแปลกปลอมอยูห่ รื อไม่ หลังจากปรนนิบตั ิขา้ เรี ยบร้อยแล้ว นางกํานัลทั้งสองก็ทาํ ท่าจะ
ก้าวออกจากห้องพร้อมกับเสื้ อตัวนอกของข้าในมือ

“ช้าก่อน” ข้าเอ่ยทัดทานพวกนางไว้ สองเท้าของพวกนางชะงักอยูก่ บั ที่ ทั้งสองกรอกสายตามาทางข้าอย่าง


ระแวดระวัง

“เพคะหวางเฟย?”

“พวกเจ้าคอยอยูป่ รนนิบตั ิขา้ คนหนึ่ง” ข้าเอ่ยเสี ยงเรี ยบ

พวกนางมีสีหน้าลําบากใจขึ้นมาทันที แต่กไ็ ม่อาจขัดคําสัง่ ข้าได้ มุมปากข้ายกขึ้นนิดๆ คิดจะทิ้งข้าไว้ตามลําพัง


หากเกิดอะไรขึ้นผูใ้ ดจะมาร่ วมรับผิดชอบกันเล่า หนึ่ งในนางกํานัลเดินกลับเข้ามายืนอยูด่ า้ นข้าง ข้ากวาด
สายตามองไปรอบห้องอย่างระมัดระวัง เกรงว่านี่จะเป็ นแผนจัดฉากของใต้เท้าจาง ห้องนี้ดูเหมือนจะเป็ น
ห้องพักชัว่ คราว มีชุดเก้าอี้ โต๊ะเครื่ องแป้งและที่นอน

“เปลี่ยนชุดของเจ้ามาให้ขา้ ” ข้าหันไปออกคําสั่ง

นางกํานัลผูน้ ้ นั หน้าซี ดเผือด “ต..แต่วา่ หวางเฟยเพคะ”

ข้าเพียงตวัดสายตามองนางอย่างเฉี ยบขาด นางจึงค่อยถอดชุดออกอย่างเสี ยไม่ได้ ข้ารับชุดของนางมา


ผลัดเปลี่ยน มือปลดปิ่ นหรู หราที่ประดับศีรษะออกใส่ ห่อผ้า แล้วส่ งชุดของข้าให้นาง

131
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“สวมชุดนี้เสี ย แล้วนัง่ รออยูใ่ นห้องนี้แทนข้า ข้าจะออกไปเดินเล่นเสี ยหน่อย” ข้าเอ่ยกับนางด้วยรอยยิม้ ซุกซน


รอจนนางนัง่ ลงเรี ยบร้อยข้าจึงยืน่ จอกนํ้าชาให้นาง

“ดื่มเสี ย” นางมีสีหน้าราวกับจะร้องไห้ แต่ไม่อาจปฏิเสธข้า ข้ายืนมองอยูช่ วั่ ครู่ เห็นนางไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็


เดินออกจากห้อง ก้มหน้าสาวเท้าไปตามระเบียงทางเดินที่ค่อนข้างมืดสลัว มีเพียงคบเพลิงจุดไว้ตามเสาต้นเว้น
ต้น ข้าเดินสวนกับบุรุษผูห้ นึ่งซึ่ งไม่เคยพบหน้า เขาแต่งกายด้วยชุดขุนนางต่างแคว้น กลิ่นอายแห่งอํานาจบารมี
แผ่ออกมาชัดเจน ข้ายิง่ ก้มหน้าตํ่ากว่าเดิม เมื่อเดินผ่านมาไกลแล้วข้าจึงค่อยแอบหันกลับไปมอง เห็นบุรุษผูน้ ้ นั
เดินเข้าไปในห้องที่ขา้ เพิ่งก้าวออกมา ข้าลอบเหงื่อตก หากเมื่อครู่ ขา้ ออกมาช้ากว่านี้เพียงนิด ข้าไม่อยากจะคิด
ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ข้าเดินอ้อมตัวตึกมาอยูใ่ ต้หน้าต่างห้องที่ขา้ เพิ่งออกมาเมื่อครู่ ตั้งใจมาลอบฟังบทสนทนา ได้ยนิ เสี ยงบุรุษผูน้ ้ นั


กล่าว

“หึ นี่หรื อชินหวางเฟย ไหนใต้เท้าจางบอกว่าเจ้างามหนักหนา ที่แท้กเ็ พียงสตรี หน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่ง”

ข้ากลั้นใจฟัง เกรงว่านางกํานัลคนนั้นจะเผยความจริ งออกไป กลับได้ยนิ แต่เสี ยงแปลกๆ จากนาง นางกําลัง


ครวญครางอย่างไร้สติ! ข้าหน้าแดงแต่กเ็ งี่ยหู ฟังต่อไป

“กํายานปลุกกําหนัดอย่างนั้นหรื อ!” เสี ยงของบุรุษผูน้ ้ นั ดังขึ้น หน้าต่างที่ปิดสนิทเหนือศีรษะของข้าพลันเปิ ด


ออกอย่างแรง โชคดีที่เขาไม่ได้มองลงมา ไม่เช่นนั้นคงจะเห็นว่าข้าแอบฟังอยู่ กลิ่นหอมของกํายานโชยออกมา
อบอวลในอากาศยามคํ่าคืน กํายานนี้มกั จะใช้กบั นางสนมในคืนแรกของการถวายตัว ข้าเบิกตากว้าง สิ่ ง
แปลกปลอมมิได้อยูใ่ นนํ้าชา หากแต่อยูใ่ นกํายานต่างหาก มิน่านางกํานัลทั้งสองจึงมีท่าทางอยากจะรี บออกจาก
ห้องถึงเพียงนั้น ฤทธิ์ยาคงจะรุ นแรงมาก เพียงชัว่ ครู่ ที่ขา้ ออกจากห้องมา นางกํานัลผูน้ ้ นั ถึงกับไม่อาจตั้งสติได้

“จางอี้หมิงช่างชัว่ ร้ายนัก ถึงกับจะผูกมัดข้าด้วยวิธีการตํ่าช้า” ข้าได้ยนิ เสี ยงบุรุษผูน้ ้ นั คํารามด้วยความโกรธ เขา


มิได้แยแสนางกํานัลผูน้ ้ นั หากแต่ขา้ ได้ยนิ เขาหยิบบางสิ่ งวางไว้บนโต๊ะ แล้วเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา

“ชินหวางเฟย ข้าไม่มีธุระอื่นใดกับเจ้า หากเจ้าตั้งสติได้แล้วก็จงเก็บยาขวดนี้ไป ใต้เท้าจางหมายให้เจ้าสังหาร


ชินอ๋ องเสี ย เจ้าได้ยนิ ข้าหรื อไม่”

132
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าได้ยนิ แต่เสี ยงนางกํานัลผูน้ ้ นั ครางอืออา เสี ยงเสื้ อผ้าเสี ยดสี จากนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงโครมคราม บุรุษผูน้ ้ นั คงจะ
ผลักร่ างของนางออก

“เจ้าคงทําให้ใต้เท้าจางไม่ไว้วางใจอย่างมากถึงขั้นต้องวางยาปลุกกําหนัดให้เจ้าทําผิดต่อชินอ๋ อง มิหนําซํ้ายัง
กําชับให้ขา้ เก็บปิ่ นของเจ้าไว้เป็ นหลักฐานเอาผิดว่าเจ้านอกใจ” เขาทําเสี ยงเยาะในลําคอ “นับว่าไม่แปลกที่เขา
จะระแวง นกดีตอ้ งฉลาดเลือกกิ่งไม้เกาะ คนฉลาดต้องรู ้จกั เลือกนายดี อนาคตชินหวางเฟยย่อมรุ่ งโรจน์อย่าง
ไม่ตอ้ งสงสัย เหตุใดจะมาสวามิภกั ดิ์ต่อใต้เท้าจางที่ฮ่องเต้คิดจะกําจัดอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวันเล่า ชินอ๋ องเองก็ร้ายกาจ
ไม่เบา ถึงกับเอาตําแหน่งหวางเฟยมาล่อซื้ อตัวคนเลยรึ ” นํ้าเสี ยงของเขามีร่องรอยนึกสนุก “ข้าจะลองเล่นกับ
พวกเจ้าดูสักครั้ง หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทาํ ให้ขา้ ผิดหวัง”

ครู่ หนึ่ง คงจะเป็ นช่วงที่เขาก้มลงไปปลดปิ่ นจากศีรษะนาง ข้าก็ได้ยนิ เสี ยงเขาเอ่ยขึ้นอย่างกังขา

“เจ้าใช่ชินหวางเฟยแน่รึ? ถึงแม้เสื้ อผ้าจะดูมีราคา เหตุใดปิ่ นปั กผมจึงธรรมดาสามัญเหมือนของใช้นางกํานัล


ทัว่ ไป”

ข้าใจหล่นไปอยูท่ ี่ตาตุ่ม รี บแนบตัวเข้ากับกําแพง

“อา..” เขาร้องอย่างนึกขึ้นได้ พลางสบถอย่างหัวเสี ย ข้าได้ยนิ เสี ยงเขากระแทกประตูเปิ ด เสี ยงฝี เท้าหนักๆ วิง่
ไปตามระเบียงทางเดิน เขารู ้ตวั แล้ว เขารู ้วา่ ข้าที่เดินสวนกับเขาที่ทางเดินคือชินหวางเฟยตัวจริ งที่ลอบสลับตัว
ออกจากห้อง ข้ารี บยํา่ เท้าในความมืดสลัว หมายรี บกลับไปยังท้องพระโรง

“ช้าก่อน! เจ้ามาทําอะไรลับๆ ล่อๆ อยูต่ รงนี้ ” เสี ยงตวาดอย่างดุดนั ทําให้ขา้ สะดุง้ โหยง เงยหน้าขึ้นมาเห็นเป็ น
องครักษ์ลาดตระเวนผูห้ นึ่ ง ข้าก้มหน้าลงตํ่าพลางตอบ

“ไทเฮามีพระบัญชาให้ขา้ นําชินหวางเฟยมาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ที่ตาํ หนักข้างเจ้าค่ะท่านราชองครักษ์ ตอนนี้


เรี ยบร้อยแล้วข้าจึงกําลังจะกลับไปยังท้องพระโรง”

เขากวาดสายตามองข้า “ไม่คุน้ หน้าตาสักเท่าไหร่ เอาเถอะเจ้ารี บไป แล้วอย่าออกมาเพ่นพ่านตามใจชอบ ตอนนี้


ในวังมีอาคันตุกะจากต่างแดน เวรยามจึงเข้มงวดรัดกุมเป็ นพิเศษ”

133
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าก้มศีรษะให้แล้วรี บสาวเท้าจากมา ทว่าข้าจะกลับเข้าไปในท้องพระโรงในสภาพนี้ได้อย่างไร เหตุใดชิน
หวางเฟยจึงอยูใ่ นชุดนางกํานัลเล่า เรื่ องนี้ยอ่ มก่อให้เกิดข้อกังขาแก่ผคู ้ นอย่างไม่ตอ้ งสงสัย อีกทั้งข้ายังไม่
ต้องการให้ไทเฮาและใต้เท้าจางระแคะระคายว่าแผนการที่พวกเขาหมายจะข่มขู่ให้ขา้ ลอบปลงพระชมน์ชิน
อ๋ องล้มเหลว บุรุษที่เขาส่ งไปหมายให้ทาํ ลายชื่อเสี ยงข้านั้นไม่ได้พบข้า ขณะที่ขา้ กําลังเดินตัดลานระหว่าง
ตําหนักอยูน่ ้ นั เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น

“ชินหวางเฟย” นํ้าเสี ยงเย็นเยียบน่าขนลุกดังขึ้นที่เบื้องหลัง ข้าหันกลับไป บุรุษผูน้ ้ นั ยืนตระหง่านอยูใ่ ต้แสง


จันทร์ ใบหน้าซ่อนอยูใ่ นเงามืด เห็นเพียงโครงหน้าสง่างามและดวงตาเย็นชาวาววาม เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้
อย่างเชื่องช้า ทว่าปิ ดกั้นทางหนีของข้าไว้ได้หมด

“นึกไม่ถึงว่าชินหวางเฟยจะเจ้าเล่ห์แสนกลนัก ทําเอาข้าเกือบหลงกล” มุมปากของเขาปรากฏรอยยิม้ ดวงตาลุก


วาบอย่างพึงใจ

ข้ารี บก้มหน้าลงตํ่าพลางย่อกาย “ใต้เท้าเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็ นเพียงข้ารับใช้ของไทเฮา ได้รับคําสั่ง


ให้มาหยิบของที่ตาํ หนักข้าง กําลังจะนํากลับไปให้พระองค์ในท้องพระโรงเพคะ”

เขาเอื้อมมือมาจับปลายคางของข้าเชยขึ้น “หากนางกํานัลธรรมดายังงดงามถึงเพียงนี้ สนมของฮ่องเต้ไม่เรี ยกว่า


ดาดดื่นหรื อ” เขาเหยียดยิม้ พลางล้วงไปในอกเสื้ อ “ชินหวางเฟย ข้ามีของฝากจากแคว้นเว่ยมาให้เจ้า” เขายัดเยีย
ดขวดกระเบื้องใส่ มือข้า “ชินอ๋ องหลงใหลเจ้านักมิใช่หรื อ ค่อยๆ เอาสิ่ งนี้ให้ชินอ๋ องกินเสี ย เขาจะค่อยๆ ป่ วย
โดยหาสาเหตุไม่พบ รับรองว่าไม่เป็ นอันตรายถึงชีวิต เจ้าเองก็ไม่มีสิ่งใดต้องเสี่ ยง นี่มิใช่เรื่ องดีหรอกหรื อ”

ข้าไม่ตอบ เพียงจับจ้องเขาอย่างประเมิน กําลังสงสัยว่าเขาเอาความมัน่ ใจมาจากไหนว่าข้าจะทําตามคําสัง่ ปิ่ น


ปักผมรวมถึงเครื่ องประดับทุกชิ้นถูกข้าเก็บใส่ เข้าห่อพกเหน็บไว้ที่ขา้ งเอว ไม่มีทางที่เขาจะเอาสิ่ งของข้างกาย
ข้ามาข่มขู่

ดวงตาลึกลํ้าราวกับเสื อดําจับจ้องมาที่ขา้ พร้อมรอยยิม้ เขาล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้ อ หยิบผ้าชิ้นหนึ่งออกมา ผ้า


มันเลื่อมสี น้ าํ ตาลอ่อนขลิบทอง นัน่ มันเสื้ อเกาะอกของข้า! เขาถอดชุดข้าออกมาจากร่ างนางกํานัลผูน้ ้ นั ! ข้าเบิก
ตามองเขาอย่างตกตะลึง เขายิม้ พลางยกอาภรณ์ชิ้นน้อยของข้าขึ้นแตะปลายจมูก “เจ้าคิดว่าของสิ่ งนี้ไม่ชวนให้
ผูค้ นหลงเชื่อมากกว่าปิ่ นปั กผมของเจ้าอีกหรื อ” รอยยิม้ ของเขาร้ายกาจ “หากเจ้าเชื่อฟังก็จะยังอยูใ่ นตําแหน่ง
หวางเฟยต่อไป หากเจ้าคิดขัดขืน นอกจากจะหลุดจากตําแหน่งแล้ว ผูใ้ ดจะรู ้วา่ มีโทษทัณฑ์ใดรอเจ้าอยู่ ได้ข่าว
ว่าชินอ๋ องหึ งหวงรุ นแรงนักไม่ใช่หรื อ เจ้าคิดว่าเขาจะฟังคําแก้ตวั ของเจ้าหรื อไม่”

134
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าพลันหวนนึกถึงคําพูดเขาที่ขา้ แอบฟังเมื่อครู่ เขาบอกว่าชินอ๋ องใช้ตาํ แหน่งหวางเฟยซื้ อตัวข้าจากใต้เท้าจาง


หากชินอ๋ องคิดเช่นนั้นจริ ง เขาจะมีความเชื่อใจให้ขา้ หรื อไม่ ในใจของข้าว้าวุน่ ทว่าข้ากลับไม่แสดงออกแม้
เพียงสักนิด ข้าแย้มยิม้ ยอบกายให้เขา

“องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้ว ใต้เท้าจางเป็ นบิดาบุญธรรมของอวี้เอ๋ อร์ บุญคุณเทียมฟ้า มีหรื อที่อวี้เอ๋ อร์จะมี


ใจคิดเป็ นอื่น เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่ระแวงสงสัยว่านี่จะเป็ นแผนการของฮองเฮาหมายจะให้ร้ายอวี้เอ๋ อร์ องค์
รัชทายาทคงจะทราบข้อพิพาทระหว่างฮ่องเต้และชินอ๋ อง เรื่ องนี้ มีสาเหตุมาจากหม่อมฉัน ฮองเฮาทรงหึ งหวง
ฮ่องเต้ไม่นอ้ ย อวี้เอ๋ อร์ จึงไม่อาจดูเบาแรงริ ษยาของสตรี หากหม่อมฉันเกิดเรื่ องเสื่ อมเสี ยขึ้นมาในคืนนี้ คนที่
สมใจที่สุดคงเป็ นพระนาง” ข้ากล่าววาจาเยือกเย็นน่าเชื่อถือ เหตุผลที่ยกมาล้วนแต่เป็ นที่ประจักษ์ของคนทัว่ ไป
ฮองเฮาเคยจ้องจะเล่นงานข้าตอนงานชมบุปผา วันนี้สายตาที่พระนางมองมาก็ไม่เป็ นมิตรนัก ยิง่ เห็นฮ่องเต้
เหม่อมองข้าอย่างตกตะลึง มีหรื อสตรี ใดจะทนนิ่งเฉยอยูไ่ ด้ ข้าเห็นเขายังเงียบจึงเอ่ยต่อ

“บิดามิได้แจ้งอวี้เอ๋ อร์สักนิดว่าได้มีการนัดหมายให้อวี้เอ๋ อร์ได้พบกับพระองค์เพื่อถ่ายทอดแผนการ อวี้เอ๋ อร์จะ


รู ้ได้อย่างไรเล่าเพคะว่านี่คือมิตรมิใช่ศตั รู เพียงเห็นนางกํานัลสองคนพาอวี้เอ๋ อร์ไปยังห้องหับมิดชิดที่ตาํ หนัก
ข้าง ริ นนํ้าชาให้ดื่ม ให้นงั่ รอตามลําพัง แม้อวี้เอ๋ อร์จะไม่เท่าทันเล่ห์กลในวังหลวง แต่สถานการณ์ล่อแหลมถึง
เพียงนี้ อวี้เอ๋ อร์จะไม่ระแวงสงสัยได้อย่างไร” ข้ากล่าวจบรอยยิม้ ก็ผดุ ขึ้นที่มุมปากของเขา

“เจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าข้าคือรัชทายาท” นัยน์ตาเขาเป็ นประกายยามเอ่ยปากถาม

“อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่คาดเดา ผูเ้ ป็ นรัชทายาทย่อมมิใช่บุคคลธรรมดา ทําการใดย่อมไม่อาจคาดเดา รัชทายาทที่อวี้


เอ๋ อร์ พบในงานเลี้ยงนั้น แม้จะดูเปี่ ยมไปด้วยสง่าราศีหากแต่ยงั ขาดสิ่ งที่เรี ยกว่าอํานาจบารมี สิ่ งเหล่านี้อวี้เอ๋ อร์
สัมผัสได้เมื่อได้พบพระองค์เพคะ” ข้าแสร้งเยินยอเขาเสี ยบ้าง จะมีบุรุษใดไม่ชมชอบคําหวานเล่า อันที่จริ งแล้ว
ข้าเดาได้ไม่ยากเลยสักนิด ข้าเป็ นถึงหวางเฟย หากมิใช่รัชทายาท คนธรรมดาทัว่ ไปใครจะกล้าล่วงเกินข้าเล่า
คนผูน้ ้ นั เห็นทีจะต้องกินดีหมีหวั ใจเสื อจึงจะกล้าต่อกรกับชินอ๋ อง ดวงตาของเขาหลุบลง ข้าจึงไม่อาจเห็นแวว
ตาของเขาได้ มีเพียงมุมปากนั้นที่ยกขึ้น

“หึ ทั้งงดงามและเฉลียวฉลาดนัก มิน่าใต้เท้าจางจึงไม่ยอมปล่อยมือ” ข้าได้ยนิ เขาพึมพํากับตนเอง ครู่ หนึ่งเขาก็


หันมาเอ่ยกับข้าเสี ยงขรึ ม

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้ารู ้หรื อไม่ ใต้เท้าจางคิดจะจัดการกับเจ้าอย่างไร”

135
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าแสร้งก้มหน้าเขินอาย เห็นฉากรัญจวนเมื่อครู่ ใครไม่รู้กโ็ ง่เต็มที “ทูลรัชทายาท อวี้เอ๋ อร์ไม่ทราบเพคะ”

หึ ข้าจะไม่ทราบได้อย่างไร ใต้เท้าจางก็คิดจะประเคนข้าให้ท่านต่ออย่างไรเล่า ตาเฒ่าชัว่ ช้าผูน้ ้ ีมีหรื อจะไม่คิด


ใช้ประโยชน์จากข้าจนคุม้ เขาคงหวังใช้ขา้ เป็ นข้อแลกเปลี่ยนกับรัชทายาทเว่ยหงอิ่น ไม่เช่นนั้นจะคิดวางยาข้า
หรื อ คงคิดว่าข้าจะมัดใจเว่ยหงอิ่น ทําให้ขา้ เป็ นหมากสําคัญ ช่วยให้เขามีอาํ นาจในการต่อรองเพิ่มขึ้นน่ะสิ

“หากชินอ๋ องถูกกําจัด เจ้าไม่มีอะไรต้องกลัว ข้ามีอนาคตอันยิง่ ใหญ่กว่าชินหวางเฟยรอคอยเจ้าอยู”่ คําพูด


ห้วนๆ ของเขาฟังดูหนักแน่น จู่ๆ เขาก็สัญญาตําแหน่งฮองเฮาแก่ขา้ ข้าแสร้งเบิกตาโต ทําท่าซาบซึ้ งใจ แต่ในใจ
นึกดูแคลน บุรุษเหล่านี้เห็นสตรี เป็ นตัวโง่งมหรื อ ยามจําเป็ นต้องใช้งาน ก็ให้สัญญาลมๆ แล้งๆ พอสําเร็ จสม
ประสงค์กถ็ ีบหัวส่ งไม่กก็ าํ จัดทิ้ง แต่ขา้ แสดงได้สมจริ งยิง่ นัก ดวงตาของข้าเป็ นประกาย สองแก้มแดงระเรื่ อ
เอ่ยขอบพระทัยริ มฝี ปากสั่นระริ ก

“พระองค์..ไม่ทรงรังเกียจหม่อมฉันหรื อเพคะ” ข้าแสร้งเอ่ยหยัง่ เชิง

“เจ้ามีส่วนใดให้น่ารังเกียจหรื อ” เขาตอบพลางส่ งสายตาเจ้าชูไ้ ปทัว่ ร่ างข้า คราวนี้ขา้ หน้าแดงอย่างแท้จริ งด้วย


ความโกรธ ข้าหลุบสายตาหลง เขาจึงไม่เห็นประกายโกรธกรุ่ นในดวงตา เข้าใจเพียงว่าข้าเขินอาย “หากข้า
ต้องการหงส์คู่บลั ลังค์ ใยมิใช่สตรี ที่พรั่งพร้อมด้วยรู ปโฉมและปัญญา เจ้าอายุเพียงเท่านี้ กลับเข้าใจอะไร
มากมายนัก ส่ วนเรื่ องที่วา่ เจ้าเคยเป็ นของใครมาก่อนนั้น.. ข้าไม่สนใจ สิ่ งใดที่ขา้ ปรารถนา ต้องแย่งชิงมา จึงจะ
ควรค่าให้ครอบครอง” ดวงตาที่เปี่ ยมไปด้วยความมัน่ ใจเอ่ย

“หากเราตกลงกันได้แล้ว เช่นนั้นอวี้เอ๋ อร์ขอเสื้ อตัวนั้นคืนได้หรื อไม่เพคะ” ข้าเอ่ยอย่างอ่อนหวาน พยายาม


ต่อรอง ถึงแม้ขา้ จะเชื่อมัน่ ว่าชินอ๋ องไม่มีทางเชื่อคําโป้ปดของคนพวกนี้ แต่กนั ไว้ก่อนย่อมดีกว่าแก้มิใช่หรื อ

“เจ้าวางใจเถิด ของชิ้นนี้ยอ่ มไม่ตกไปถึงมือใต้เท้าจาง อีกอย่างข้าไม่มีทางเอามันมาใช้ข่มขู่เจ้า ข้าเพียงแต่จะ


เก็บไว้เพื่อระลึกถึงผูเ้ ป็ นเจ้าของเท่านั้น” เขากล่าวพลางเก็บเสื้ อตัวน้อยของข้าเข้าอกเสื้ อ

จังหวะนั้นขบวนเสด็จของฮ่องเต้กาํ ลังเสด็จพระราชดําเนินกลับ ข้าจึงรี บปลีกตัวไปหลบอยูข่ า้ งตําหนัก เมื่อตก


อยูใ่ นเงามืด เอวของข้าก็ถูกเขารวบเอาไว้แน่นจากด้านหลัง เสี ยงสัน่ พร่ าของเขากระซิ บข้างหู

136
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างเป็ นสตรี ที่ร้ายกาจนัก คืนนี้ขา้ ควรจะรวบรัดเจ้าไว้ถึงจะถูก แต่เสี ยดาย..เวลาไม่คอยท่าเสี ย
แล้ว”

กล่าวจบเขาก็ปล่อยข้าแล้วเร้นกายหายไปในเงามืด ข้าตกใจจนทรุ ดกายลงกับพื้น ใจยังคงเต้นตึกตักกับ


เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น นึกขอบคุณสวรรค์ที่รอดพ้นมาได้ ข้านึกถึงนางกํานัลที่ขา้ ทิ้งไว้ในห้อง จึงรี บกลับไปยัง
ห้องนั้นหมายจะเปลี่ยนชุดกลับคืน ทั้งยังตั้งใจจะข่มขู่นางกํานัลผูน้ ้ นั มิให้ปริ ปากเรื่ องที่ขา้ สลับตัว

เมื่อกลับไปถึงห้องนั้น นางกํานัลที่นาํ เสื้ อข้าไปทําความสะอาดก็กลับมาแล้ว นางกําลังประคองเพื่อนสาวที่ตอ้ ง


ฤทธิ์ยาปลุกกําหนัด ข้าให้นางช่วยสับเปลี่ยนเครื่ องแต่งกายกลับคืน จากนั้นจึงกําชับพวกนางมิให้แพร่ งพราย
เรื่ องที่ขา้ และรัชทายาทแคว้นเว่ยไม่ได้พบปะกันในห้องนี้ออกไป

“จําไว้ หากเรื่ องนี้รู้ถึงหูไทเฮา พวกเจ้าก็ถือว่าทํางานพลาด จะได้รับโทษร้ายแรงถึงขั้นไหนก็ลองคิดดูเถิด”


พวกนางพยักหน้าตัวสั่นงันงกแล้วรี บจากไป

ข้านัง่ อยูห่ น้ากระจก หยิบเอาปิ่ นและเครื่ องประดับผมขึ้นมาสวมไว้ดงั เดิม จัดเครื่ องแต่งกายให้เรี ยบร้อย ขาดก็
แต่เสื้ อเกาะอกตัวใน ยังดีที่พอจะหยิบยืมได้จากนางกํานัลทั้งสอง เรี ยบร้อยแล้วก็กา้ วออกจากห้อง ยุรยาตร
อย่างงามสง่ากลับไปยังงานเลี้ยง แต่เหมือนข้าจะลืมอะไรไปสักอย่าง

ระหว่างที่เดินก็รู้สึกแปลกๆ ทุกจังหวะก้าวย่างที่ชายผ้าเสี ยดสี ร่ างกายข้าร้อนรุ่ ม แทบจะเดินกลับไปถึงงาน


เลี้ยงไม่ไหว ชินอ๋ องลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นข้าเดินกลับมา เขาไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจที่เห็นข้ากลับมาตามลําพัง
ยามนั้นข้าไม่ได้เฉลียวใจ ข้าไม่มีสติพอที่จะคิดอะไรออกเสี ยด้วยซํ้า เพียงได้เห็นร่ างสู งของเขาอยูต่ รงหน้าก็
แทบจะถลาเข้าไปซบอก ชินอ๋ องรี บเข้ามาประคอง

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าไม่สบายหรื อ พวกเรารี บกลับกันเถิด”

ชินอ๋ องประคองข้าออกจากงานโดยไม่สนใจสายตาผูค้ น เสี ยงซุบซิ บดังขึ้นไล่หลัง

...หวางเฟยกลับจากผลัดอาภรณ์ ใบหน้าแดงกํ่า ท่าทางเหมือนเมามาย เกิดอะไรขึ้นที่ตาํ หนักข้างกัน…

...หรื อว่านางดื่มสุ ราจนเมามาย ช่างไม่สาํ รวมเอาเสี ยเลย…


เสี ยงติติงดังขึ้น มีเพียงใต้เท้าจางและไทเฮาที่สายตาวาววามเป็ นประกายอย่างสมใจ

137
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 22 : ความรักหรื อความลวง

เพียงเข้าไปในรถม้า ข้าก็โถมเข้าหาร่ างของชินอ๋ องอย่างไม่อาจอดกลั้น ข้าร้อนรุ่ มทรมานไปทั้งร่ างกาย รู ้แต่วา่


มีเพียงชินอ๋ องเท่านั้นที่จะช่วยข้าได้ ข้าปี นขึ้นไปบนตักเขา มือไม้รุกรานไปทัว่ ทั้งกายแกร่ ง ริ มฝี ปากข้าประทับ
ไปบนผิวกายร้อนผ่าวของเขาทุกที่ที่เปิ ดเผยต่อสายตาข้าทั้งซอกคอและแผงอก ข้าเบียดกายเข้าหาเขาแนบแน่น
เสี ยดสี อกนุ่มเข้ากับกายเขาราวกับว่าการทําเช่นนี้ จะช่วยลดความทรมานของข้าได้ ชินอ๋ องกอดข้าไว้แน่น ทั้ง
จุมพิตและพึมพําข้างหู เบาๆ

“กระต่ายน้อย อดทนอีกนิ ดเถิด ประเดี๋ยวก็ถึงวังแล้ว”

นํ้าเสี ยงของเขาทั้งสงสารและเต็มไปด้วยความปรารถนาในตัวข้า กายของเขาสั่นระริ กอย่างอดกลั้น ข้าจู่โจมเขา


ขนาดนี้ หากเขาไม่รู้สึกอะไรเลยก็นบั ว่าแปลก ยามที่เขาอุม้ ข้าเข้ามาในห้องบรรทม ข้าเกี่ยวกระหวัดพันรัดเขา
ไว้แน่น เสื้ อผ้าของเขาหลุดรุ่ ยด้วยฝี มือข้า ข้าสู ดดมกํายานนัน่ นานเกินไป อีกทั้งภายหลังยังย้อนกลับไปใช้เวลา
แต่งตัวที่หอ้ งนั้นอีกครู่ ใหญ่ กลิ่นกํายานที่หลงเหลืออยูย่ งั คงหนาแน่น ทําให้ขา้ พลาดท่าต้องยานัน่ เข้าจนได้

ข้ากดชินอ๋ องลงกับเตียง ขึ้นคร่ อมเขาไว้แล้วรุ กรานอย่างเอาแต่ใจ ราวกับเขาเป็ นขนมหวานที่ขา้ ต้องการจะลิ้ม


รส ข้าไม่สนใจจะปลดเครื่ องประดับออกสักชิ้น ชินอ๋ องครางอย่างพอใจ มือไม้ลูบไล้เคล้นคลึงไปทัว่ กายข้า
อย่างเร้าอารมณ์ ข้าทนต่อแรงปรารถนาไม่ไหว ลงมือครอบครองเขาอย่างงกเงิ่นทั้งที่ต่างฝ่ ายยังถอดเสื้ อผ้าไม่
หมด เสื้ อผ้าของข้าหลุดรุ่ ยเผยให้เห็นไหล่กลมและทรวงอกอิ่มเต็ม เครื่ องประดับบนศีรษะและตุม้ หู แกว่งไกว
ตามจังหวะการเคลื่อนไหวของกายข้าดูสวยงามเร้าอารมณ์นกั ชินอ๋ องซึ่ งนอนอยูเ่ บื้องล่างจับจ้องภาพงดงาม
ตรงหน้าไม่วางตาราวกับถูกสะกด กายของข้ากระตุกอย่างสุ ขสมแต่ขา้ ยังรู ้สึกว่าไม่พอ ได้ยนิ เสี ยงเปี่ ยมเสน่ห์
ของเขาเอ่ยเตือน

“อวี้เอ๋ อร์ ใจเย็นๆ ร่ างกายของเจ้าจะบาดเจ็บเอาได้”

ข้ารู ้วา่ เขาเป็ นห่ วงร่ างกายอันบอบบางของข้า ถึงแม้ที่ผา่ นมาเขาจะรังแกข้าบ่อยครั้ง แต่เขาก็ทะนุถนอมข้าเสมอ


ชินอ๋ องมักข่มกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่รุนแรง ค่อยๆ ครอบครองข้าซึ่ งเป็ นเพียงดรุ ณีแรกรุ่ นไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
แต่ยามนี้ขา้ ต้องการร่ วมรักกับเขาอย่างเร่ าร้อน ไม่ได้ตอ้ งการความอ่อนโยนสักนิด ข้าจึงทิ้งกายลงอย่างแรง
สายตาเร่ าร้อนของข้ามองเขาอย่างท้าทาย สายตาของชินอ๋ องราวกับจุดไฟติดขึ้นมาในทันใด รอยยิม้ กระดกขึ้น
ที่มุมปาก มือเขาเลื่อนมาจับที่บ้ นั เอวข้าพลางเอ่ย

138
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อา...กระต่ายน้อยของเปิ่ นหวาง แท้จริ งแล้วเป็ นแม่เสื อสาวดีๆ นี่ เอง”

...หากข้ารู ้สักนิดว่าการท้าทายเขาเช่นนี้จะทําให้ขา้ พบเจอกับอะไรบ้าง ข้าจะไม่ทาํ เด็ดขาด…

ชินอ๋ องจับสะโพกของข้าขยับขึ้นลง เขาหยัดกายขึ้นรับสัมผัสจากข้าหนักหน่วง ข้าสุ ขสมจนนํ้าตารื้ น ภายในมุง้


มีแต่เสี ยงครวญครางหอบหายใจ มือของข้ายันแผ่นอกและหน้าท้องของเขาไว้มิให้ฟุบลงไป แผ่นหลังเหยียด
โค้งสวยงาม

“อวี้เอ๋ อร์.. เจ้าช่างยัว่ ยวนเหลือเกิน” เขาเอ่ยปนเสี ยงหอบหายใจ

ข้ากําลังมึนเมาในรสรัก ปล่อยให้เขาจับพลิกควํ่าพลิกหงายโดยไม่ได้คดั ค้าน ทั้งยังเร่ งรัดเขาอย่างร้อนใจจนเขา


ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขัน แต่ขา้ ไม่สนใจหรอก ยามนี้เห็นเขาเป็ นเพียงบริ วารคนหนึ่ งที่มีหน้าที่ตอ้ ง
ปรนเปรอข้า

หลังพายุอารมณ์ผา่ นพ้นไปหลายยก ข้าค่อยรู ้สึกมีสติข้ ึน ฤทธิ์ ยาค่อยเจือจางไปมากแล้ว ข้ายันกายลุกขึ้นนัง่


รู ้สึกแขนขาอ่อนแรงอยูบ่ า้ ง ตั้งใจจะเข้านอนแล้ว จึงค่อยๆยกมือขึ้นปลดเครื่ องประดับออกจากมวยผมที่
หลุดรุ่ ยแล้ววางไว้ขา้ งหมอน ชินอ๋ องลุกขึ้นมานัง่ ซ้อนด้านหลัง แล้วลงมือช่วยข้าปลดเครื่ องประดับ สัมผัส
ใกล้ชิดสนิทสนมเช่นนี้ทาํ ให้ลมหายใจของพวกเรากระชั้นขึ้นมาอีกระลอก เขาปลดมวยผมของข้าลง อกหนา
ของเขากระเพื่อม ข้ากัดริ มฝี ปากจนเป็ นสี แดง รู ้ท้ งั รู ้วา่ ไม่ควร แต่ยามที่เขาถอดเสื้ อผ้าที่ยงั คงรุ่ ยร่ ายติดกายอยู่
ข้าก็ไม่ได้หา้ มเขาสักคํา เขาจับร่ างกายเปลือยเปล่าของข้านอนลง ข้ายกแขนขึ้นโอบรัดเขาอย่างเต็มใจยามที่เขา
โน้มกายลงมา เขาเล้าโลมข้าอย่างเชื่องช้า ข้าตอบสนองเขาอย่างอ่อนหวานปานกัน ยามร่ างกายสอดประสาน
ข้ารู ้สึกมีน้ าํ หยดใส่ แก้มจึงลืมตา เห็นชินอ๋ องจ้องข้าด้วยสายตาสเน่หาทว่าในดวงตาเจือแววรวดร้าว ข้ายกมือ
ขึ้นลูบรอยเปี ยกบนแก้มเขา ไม่วา่ เขาจะเศร้าเสี ยใจด้วยเรื่ องใด ข้าล้วนไม่ตอ้ งการเห็น สองแขนเรี ยวของข้า
ยกขึ้นโอบรัดร่ างใหญ่โตของเขาราวกับจะปลอบประโลม…

ข้าฝันถึงซี ยนิ …

ท่านอ๋ องกลับถึงเมืองหลวงแล้ว ดวงหน้าเศร้าหมองราวกับดอกไม้เฉาของซี ยนิ ค่อยกลับมามีชีวิตชีวา วันที่เขา


เข้าเมืองมา นางลอบไปยืนรอที่ระเบียงโรงเตี๊ยมที่เดิมเพื่อรอรับเขา ทว่าไม่ได้เห็นเขาแม้แต่เงา อาการบาดเจ็บ

139
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ของเขาคงยังไม่หายดีจึงต้องนัง่ มาในรถม้า ซี ยนิ แอบผิดหวังเล็กน้อยแต่กก็ ลับจวนไปรอคอยอย่างมีความหวัง
อีกไม่นาน..นางก็จะได้เจอเขาแล้ว.. ซี ยนิ คิดอย่างเป็ นสุ ข

ซี ยนิ เฝ้าคอยเป็ นเวลาสามวัน ท่านอ๋ องก็ไม่ได้ส่งข่าวมา นางร้อนใจนัก ลอบออกจากจวนพร้อมสาวใช้อีกครา


บอกที่บา้ นว่าจะไปนมัสการพระที่วดั รถม้าจวนเจ้ากรมอาญากลับไปจอดอยูข่ า้ งวังท่านอ๋ อง ซี ยนิ ซึ่ งปิ ดหน้าไว้
ก้มหน้าก้มตาให้สาวใช้เดินประคองไปยังประตูวงั คนเฝ้าประตูยอ่ มจํานางได้เพราะท่านอ๋ องเคยพานางมาที่วงั
หลายครั้ง นางมีความสําคัญอย่างไรทุกคนในวังย่อมรู ้กนั ดี ทว่าวันนี้เขากลับดูอึกอักไม่อยากให้นางผ่านเข้าไป

“คุณหนูกลับไปก่อนเถิดขอรับ วันนี้คงยังไม่เหมาะ”

“ได้โปรดให้ขา้ เข้าไปเถิด หากท่านอ๋ องยุง่ ข้าจะไม่รบกวนให้เขาเสี ยเวลา เพียงจับตามองห่างๆ ก็พอ” ซี ยนิ เอ่ย
อ้อนวอนอย่างอ่อนหวาน คนเฝ้าประตูใจอ่อน จึงเปิ ดให้นางและสาวใช้เข้าไป

ซี ยนิ เดินเข้าไปอย่างคนคุน้ เคยทาง ได้ยนิ เสี ยงพิณดังมาจากศาลาในอุทยานก็สาวเท้าไปทางนั้น ..เขาคงจะมี


แขก นางขอเพียงแอบมองเขาสักเล็กน้อยก็พอ.. ซี ยนิ คิดในใจอย่างช่◌ุมชื่น

เพียงได้เห็นเงาด้านหลังของเขามาแต่ไกล ดวงตาของซี ยนิ ก็ร้ื นนํ้าตา เจิ้งอู่..เจิ้งอู่ที่นางรัก เขากลับมาแล้ว เขา


ปลอดภัยดี.. ครั้นย่างเท้าเข้าไปใกล้ ก็ได้เห็นบุคคลอื่นในศาลา

...คุณหนูสามจวนรองแม่ทพั … ลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ นั นางกําลังดีดพิณอยู่

ซี ยนิ ชาวาบไปทั้งตัว ฝี มือพิณของลวีอ่ ี่ไม่ได้ดีเด่นอันใด แต่เจิ้งอู่กลับยืนฟังอย่างตั้งใจ เขาไม่มีเวลาไปหานาง


แต่กลับมีเวลาฟังลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ ีบรรเลงพิณ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วใช่หรื อไม่ ซี ยนิ มองภาพตรงหน้าอย่างชํ้าใจ นึก
ย้อนถึงตนเอง

นางมีฝีมือบรรเลงพิณเป็ นเลิศ แต่เจิ้งอู่ไม่เคยได้ฟัง เพราะอะไรน่ะหรื อ.. ทุกครั้งที่ได้เจอนาง เจิ้งอู่มีแต่เพียง


ความปรารถนา เขามักจะกอดเกี่ยวนางอย่างเสน่หาแทบไม่มีเวลาทําอย่างอื่น อย่าว่าแต่ดีดพิณเลย ทุกครั้งเขา
และนางมักจะไปจบลงที่เตียง

140
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นํ้าตาไหลอาบสองแก้ม ซี ยนิ หันหลังกลับ ไม่รู้วา่ ตัวเองกลับมาถึงจวนได้อย่างไร เข้าห้องแล้วก็บอกให้สาวใช้
ออกไปโดยไม่สนใจสายตาเป็ นห่วงเป็ นใยของอีกฝ่ าย ซี ยนิ นึกถึงภาพคุณหนูสามที่ดีดพิณในศาลา.. ช่างดู
บริ สุทธิ์ เหนือโลกีย ์ ไร้ซ่ ึ งคราบคาวแปดเปื้ อน

ทันใดนั้นซี ยนิ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างด้อยค่าเสี ยเหลือเกิน..

ข้าลืมตาขึ้น สองตายังมีน้ าํ ตาคลอหน่วย นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ข้าลืมอะไรไปอย่างนั้นหรื อ… ข้าลืมชินอ๋ อง


ไปได้อย่างไร

ชินอ๋ องรู ้วา่ ข้ากําลังเผชิญหน้ากับอะไร แต่กย็ งั ปล่อยให้ขา้ ไป…

วงแขนที่กระชับรอบเอวทําให้ขา้ พลิกตัวกลับไป ชินอ๋ องมองข้าอยูด่ ว้ ยแววตาลึกซึ้ ง ข้าจ้องมองเข้าไปในแวว


ตาเขาอย่างค้นคว้า กลับมองเห็นแต่รอยรักใคร่ เจืออยูใ่ นนั้น ข้าหลุบตาลงอย่างรู ้สึกสับสน

“อวี้เอ๋ อร์ ” นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องดังขึ้น “เปิ่ นหวางไม่ได้ทอดทิ้งเจ้า เมื่อวานเปิ่ นหวางส่ งคนไปลอบสังเกตการณ์
อยูห่ ่างๆ หากเจ้ามีอนั ตรายใด ย่อมจะบุกเข้าไปช่วยทันที ในฐานะชินอ๋ อง เปิ่ นหวางไม่อาจละทิ้งหน้าที่
ตรงหน้าติดตามเจ้าไปได้ เว่ยหงอิ่นผูน้ ้ ีฝีปากไม่เบาเลย เปิ่ นหวางจําต้องอยูช่ ่วยฮ่องเต้รับหน้า...”

ข้ายกมือขึ้นปิ ดปากเขา “อวี้เอ๋ อร์เข้าใจเพคะ ท่านอ๋ องอย่าได้กงั วลใจไปเลย” ข้ายิม้ ให้เขาอย่างสดใส แม้วา่ ใน
ใจจะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นก็ตาม เขาจับมือของข้าออก

“เฉิ นซี รายงานทุกอย่างให้เปิ่ นหวางทราบแล้ว” สายตาของเขาเกรี้ ยวกราดขึ้นมาในทันใด “ใต้เท้าจางบังอาจใช้


วิธีสกปรกกับเจ้า โชคดีที่เจ้าไหวตัวทัน ไม่เช่นนั้นเมื่อวานคงต้องมีการปะทะกันในวังเป็ นแน่ เปิ่ นหวางไม่มี
ทางปล่อยมันไว้”

เขาจับข้าซุกเข้ากับอก “อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่มีทางยอมสู ญเสี ยเจ้าไป” เขาบอกข้านํ้าเสี ยงอ่อนโยน ใจของข้า
สั่นสะท้าน นํ้าตาของข้าไหล ทั้งรู ้สึกอบอุ่นและสับสนใจในคราเดียว

“ท่านอ๋ อง..” ข้าเรี ยกเขาเสี ยงสั่น สายตาของเขาสบลงมากับดวงตาคลอหยาดนํ้าตาของข้า “อวี้เอ๋ อร์มอบกายให้


ท่านอ๋ องแล้ว ย่อมเป็ นคนของท่าน ไม่มีสิ่งใดที่อวี้เอ๋ อร์จะปกปิ ดต่อท่านอ๋ องอีก ใต้เท้าจางมีแผนร้ายหมายปลิด

141
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชีวิตท่านอ๋ อง ได้ขอให้รัชทายาทเว่ยหงอิ่นตัวจริ งมอบยาพิษให้อวี้เอ๋ อร์ ทั้งยังหมายให้เขาครอบครองอวี้เอ๋ อร์
เพื่อเป็ นการข่มขู่ เมื่อวานผูท้ ี่ท่านอ๋ องสนทนาด้วยมิใช่เว่ยหงอิ่นตัวจริ ง”

ชินอ๋ องมีสีหน้าประหลาดใจ “เช่นนี้นี่เอง เว่ยหงอิ่นที่ขา้ ได้ยนิ มา ไม่น่าจะเป็ นบุรุษปากกล้าที่เอ่ยวาจาสามหาว


ในท้องพระโรง เว่ยหงอิ่นตัวจริ งคงถือโอกาสนี้เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ในแคว้นเราโดยที่พวกเราไม่ทนั ระวัง
สงสัย ช่างเป็ นคนที่ร้ายกาจนัก”

ชินอ๋ องยกมือขึ้นลูบศีรษะข้า “อวี้เอ๋ อร์ ใช่วา่ ข้าอยากจะให้เจ้าพัวพันกับเรื่ องพวกนี้ เหตุการณ์เมื่อวานล้วน


แล้วแต่สถานการณ์พาไป ความลับที่เจ้าเปิ ดเผยเป็ นประโยชน์อย่างมากก็จริ งอยู่ แต่เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการแลก
กับความเชื่อใจของเจ้าแม้สักนิด อวี้เอ๋ อร์ เจ้าจงอย่าได้ระแวงสงสัยในตัวเปิ่ นหวางเลย”

ข้าซุกซบใบหน้าเข้ากับอกเขาโดยไม่ได้ตอบคํา ข้าไม่ได้ใสซื่ อถึงเพียงนั้น ที่เขาแสดงออกต่อข้าช่างหวานลํ้า


เขาดีต่อข้า เท่านี้ ขา้ ก็พอใจ ข้าต้องการเพียงชีวิตที่ปลอดภัยไม่ตอ้ งเป็ นเพียงหมาก แต่ไม่แน่ใจว่าตําแหน่งหวาง
เฟยที่ได้มาจะคุม้ ค่าหรื อไม่ หรื อว่าข้าเป็ นเพียงหมากที่เปลี่ยนมือเจ้าของเท่านั้น? นํ้าตาของข้าไหลริ นเป็ นสาย

...วันนี้เขาใช้ขา้ วันหน้าข้าใช้เขา ระหว่างเราเป็ นเพียงการแลกเปลี่ยน… ข้าบอกกับตัวเอง หากไม่อยากเสี ยใจ


จงจําข้อนี้ไว้

…………………….

เสวียนเฟิ งแทบใจสลายยามเห็นอวี้เอ๋ อร์เดินกลับมาในท้องพระโรงตามลําพัง กระต่ายน้อยของเขาช่างดู


เปราะบาง... ดวงหน้าของนางแดงกํ่า แววตาร้อนแรงด้วยฤทธิ์ยา นางโดนยาสกปรกนัน่ ! เขาแทบอยากจะฟาด
ฝ่ ามือใส่ จางอี้หมิงที่นงั่ อยูไ่ ม่ไกลให้แหลกเป็ นชิ้นๆ อวี้เอ๋ อร์ของเขา..ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู ้ฟาดฟัน
ระหว่างขั้วอํานาจอีกแล้ว

ทว่าลึกๆ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธกับตัวเอง ถึงแม้เขาจะส่ งเฉิ นซี ลอบติดตามนางไป แต่จริ งๆ แล้วเป็ นเขาเองที่ปล่อย


นางไป ให้นางไปล้วงความลับจากฝ่ ายตรงข้ามดูวา่ มีแผนการร้ายอะไรแอบซ่อนอยู่ ไม่มีทางที่อวี้เอ๋ อร์จะไม่รู้
ถึงเจตนาของเขา นางเฉลียวฉลาดถึงเพียงนั้น

ยามที่เขาเห็นสายตานางจ้องมองมาอย่างค้นคว้า หัวใจของเขาบีบรัดราวกับจะแหลกสลาย คุม้ ค่าหรื อไม่กบั


ความเชื่อใจของนาง เสวียนเฟิ งได้แต่กล่าวโทษตัวเอง อวี้เอ๋ อร์ ช่างบริ สุทธิ์นกั ยามบรรเลงฤทัยแรกรัก เขารู ้วา่

142
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ในใจนางมีเขาอยูใ่ นนั้น ความหวานชื่นกําซาบอยูใ่ นอก เป็ นเขาเองที่บ่มเพาะความระแวงสงสัยให้เกิดขึ้นในใจ
นาง ดวงตาสุ กใสหวานเชื่อมของอวี้เอ๋ อร์ เป็ นเขาเองที่ดบั ลงกับมือ ไม่ใช่แค่นาง ใจของเขาก็ปวดร้าวไม่ต่างกัน
เขาไม่อยากเชื่อ แต่บดั นี้หวั ใจเขาอยูใ่ นอุง้ มือของนางแล้ว

เสวียนเฟิ งค่อยๆ จําได้ ..ยามร่ วมรักกับนางเมื่อคืน ภาพของสตรี ที่ชื่อซี ยนิ ค่อยปรากฏแจ่มชัดในใจ นางงดงาม
ไม่แพ้อวี้เอ๋ อร์ ของเขา เขารักอวี้เอ๋ อร์สุดใจ แต่ภาพซี ยนิ ที่มองมาอย่างรักใคร่ กลับบดขยี้หวั ใจเขาเป็ นเสี่ ยงๆ จู่ๆ
ความเศร้าโศกมหาศาลก็ถาโถมเข้ามาในจิตใจ เขาชินอ๋ องผูไ้ ม่เคยเสี ยนํ้าตามาก่อนถึงกลับหลัง่ นํ้าตาโดยไม่
รู ้ตวั

ยามนั้นสัมผัสอย่างปลอบประโลมของอวี้เอ๋ อร์จึงค่อยคลายความเศร้าในใจของเขาลงได้ นางเช็ดนํ้าตาให้เขา


อย่างแผ่วเบา โอบรัดเขาไว้ในอก เขาร่ วมรักกับนางอย่างบ้าคลัง่ จวบจนฟ้าสางราวกับว่านัน่ จะช่วยระบาย
ความรู ้สึกอึดอัดคับข้องในใจ ราวกับว่าเป็ นเขาเสี ยเองที่ตอ้ งยาปลุกกําหนัดนัน่ อวี้เอ๋ อร์..ซี ยนิ .. ไม่วา่ พวกเจ้าจะ
เป็ นใคร ข้า..เสวียนเฟิ งล้วนทําผิดต่อพวกเจ้าอย่างร้ายกาจ

143
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 23 : มิใช่ เพียงกามารมณ์ ใช่ หรื อไม่

ชาติก่อนข้าเคยได้ยนิ เรื่ องกบกับนํ้าเดือด หากใส่ กบลงไปในนํ้าเดือด มันจะกระโดดออกมาทันที แต่หากแช่มนั


ไว้ในนํ้าธรรมดาแล้วค่อยนําไปตั้งไฟ กบจะไม่รู้สึกตัวแม้แต่นอ้ ยว่านํ้านั้นมีอุณภูมิสูงขึ้น กว่ามันจะรู ้ตวั ว่านํ้าที่
มันแช่อยูน่ ้ นั ร้อน มันก็ตายเสี ยแล้ว

ตอนนี้ ตวั ข้าคงเป็ นเหมือนกบตัวนั้น ข้าเลือกที่จะอยูใ่ นวังเสิ่ นกงหยางแบบกบตัวนั้น รอคอยให้อุณหภูมิของนํ้า


สู งขึ้นทีละน้อยโดยที่ขา้ ทําตัวไม่รู้สึกรู ้สาใดๆ…

ข้านอนแช่น้ าํ ร้อนอย่างอ่อนเพลีย เนิ่นนานจนหมิงจูตอ้ งเติมนํ้าร้อนให้หลายครั้ง นางโรยเกลือหอมลงในนํ้า


อาบ กลิ่นหอมละมุนทําให้ขา้ รู ้สึกผ่อนคลาย บทรักเมื่อคืนทําเอาข้าสิ้ นเรี่ ยวแรง อดนึกสงสัยไม่ได้วา่ ชินอ๋ อง
เอาพละกําลังมาจากไหน พอฟ้าสางก็ออกไปฝึ กยุทธ์ต่อ หมิงจูประคองข้าออกจากอ่าง ซับกายซับผมให้อย่าง
เบามือ ข้าตั้งใจว่าวันนี้จะไม่กระดิกตัวทําอะไรเด็ดขาด ขณะที่หมิงจูกาํ ลังช่วยข้าแต่งกาย นางกํานัลคนหนึ่งก็
เข้ามารายงาน

“ท่านอ๋ องตรัสว่าหากหวางเฟยสะดวกเมื่อใด ขอเชิญหวางเฟยไปพบที่หอ้ งอักษรเพคะ”

ข้าพยักหน้ารับ แอบนิ่วหน้าคิดในใจ ไม่ใช่วา่ เขาจะให้ขา้ ตามไปปรนนิบตั ิในห้องอักษรอีกนะ ข้าไม่ไหวแล้ว


ข้าไม่ได้แสดงอาการใด แต่หมิงจูกลับอมยิม้ นิดๆ ราวกับรู ้เท่าทันความคิดข้า ความโปรดปรานที่ชินอ๋ องมีให้ขา้
หมิงจูยอ่ มเห็นได้จากร่ องรอยตามผิวผ่อง ข้าหน้าแดงยามนางเอ่ย

“หวางเฟยจะให้หม่อมฉันนวดเนื้อนวดตัวถวายก่อนไปพบท่านอ๋ องไหมเพคะ”

ข้าปฏิเสธ เพียงบอกให้นางช่วยข้าแต่งกายตามสบาย ไม่ตอ้ งรี บร้อน นางแต่งกายให้ขา้ ด้วยชุดสี ขาวมิดชิด ดู


บริ สุทธิ์ ผดุ ผ่องราวกับแม่ชี หมิงจู...นางชักจะรู ้ดีมากขึ้นทุกวันแล้ว.. ข้าเอ็ดนางในใจ

ราวครึ่ งชัว่ ยามถัดมา ไม่ชา้ ไม่เร็ วเกินไป ข้าก็ไปปรากฏกายที่หน้าห้องเขา เฉิ นซี เดินนําข้าเข้าไปด้านใน ห้อง
อักษรใหญ่โตโอ่โถง มีหนังสื อเรี ยงรายแน่นขนัดเต็มผนังห้อง ข้ากวาดตามองอย่างชื่นชม ชินอ๋ องเห็นสายตา
ข้าก็เอ่ยอย่างเอาใจ

144
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หากเจ้าชอบก็เข้ามาในห้องนี้ได้ทุกเมื่อ จะหยิบยืมหนังสื อเล่มใดไปอ่านก็ได้ เปิ่ นหวางอนุญาต”

ข้าหันมายิม้ หวานให้เขาอย่างดีใจ “ขอบพระทัยเพคะ”

เฉิ นซี ปลีกกายออกไปเฝ้าหน้าประตูอย่างเคย ข้ากําลังจะทิ้งตัวลงนัง่ บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ทว่าเขากลับกวักมือ


เรี ยกข้าเข้าไปหา

“มานัง่ กับเปิ่ นหวางเถอะ”

ข้าก้าวเข้าไปใกล้ เขารวบเอวข้าแล้วจับข้านัง่ ซ้อนบนตัก ข้าใจเต้นตึกตัก กลัวว่าเขาจะอดใจไม่ไหวกับข้าอีก


แต่วา่ เขาเพียงกอดข้าไว้เท่านั้น

“อวี้เอ๋ อร์ ” ชินอ๋ องเอ่ยอย่างระมัดระวัง “เมื่อวานพอได้ทราบเรื่ องมารดาของเจ้า เปิ่ นหวางก็ให้คนออกไปสื บหา


ทันที”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระคนยินดี เขาก้มลงมาสบตาข้ายามเอ่ยคํา “มารดาของเจ้า


ไม่ได้อยูท่ ี่บา้ นของหลิ่วเหลย ส่ วนครอบครัวของหลิ่วเหลยถูกสังหารสิ้ น เหตุการณ์น้ ีเกิดขึ้นราวสองเดือนที่
แล้ว”

ข้านิ่งงันไป พยายามทําความเข้าใจกับถ้อยคําที่เขาเอ่ยออกมา ...มารดาไม่ได้อยูท่ ี่บา้ นหลิ่วเหลย.. ครอบครัว


หลิ่วเหลยถูกสังหารสิ้ น… นัน่ หมายความว่า...

ข้ากําอกเสื้ อเขาไว้แน่นโดยไม่รู้ตวั “ท่านอ๋ อง! ได้โปรดช่วยมารดาของอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเพคะ” นํ้าตาของข้าไหลริ น


ชินอ๋ องเอื้อมมือมาเช็ดนํ้าตาให้ขา้

“วางใจเถิดอวี้เอ๋ อร์ ตอนนี้คนของเปิ่ นหวางกําลังจับตาจวนใต้เท้าจางอยู่ หากได้เบาะแสมารดาเจ้า จะรี บช่วย


ออกมาทันที”

145
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าซุกใบหน้าร้องไห้กบั อกเขาอย่างร้าวราน ข้ายังไม่มีโอกาสได้ช่วยแม่ออกมาจากครอบครัวหลิ่วเหลย แม่กลับ
ต้องมาตกอยูใ่ นมือคนชัว่ อีกแล้วหรื อ เขาลูบหลังลูบไหล่ขา้ อย่างปลอบโยน ไม่ได้เอ่ยคําใด ไม่ได้ให้ความหวัง
ลมๆ แล้งๆ แก่ขา้ ไม่ได้สัญญาว่าแม่จะปลอดภัย ชินอ๋ องก็เป็ นเช่นนี้ หากไม่มนั่ ใจเขาจะไม่เอ่ยคํา

“มิน่า ใต้เท้าจางจึงมัน่ ใจนักว่าอวี้เอ๋ อร์ไม่มีทางทรยศเขา ที่แท้ต้ งั แต่ตอนที่เขาเลือกอวี้เอ๋ อร์ ไว้เป็ นหมาก เขาก็
ควบคุมตัวมารดาไว้แล้วนี่ เอง” ข้าเปรยขึ้นมา สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ใต้เท้าจางไม่เพียงเห็นชีวิตข้า
เป็ นหมาก ยังคิดเอาชีวติ แม่ไว้เป็ นเบี้ยต่อรองกับข้าอีกด้วย

“อวี้เอ๋ อร์ ใต้เท้าจางคิดใช้มารดาเจ้าเป็ นเหยือ่ ล่อ อย่างไรเสี ยมารดาเจ้าก็ยงั ปลอดภัย ระหว่างนี้ เขาไม่มีทางทํา
อันตรายมารดาของเจ้าหรอก” ชินอ๋ องปลอบ

“แล้วถ้าหากอวี้เอ๋ อร์ตอ้ งเลือกระหว่างมารดาและท่านอ๋ องเล่าเพคะ ท่านอ๋ องจะไม่ระแวงสงสัยอวี้เอ๋ อร์หรื อ”


ข้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาพลางเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา ชินอ๋ องมองตาข้าแล้วเอ่ยอย่างจริ งจัง

“ไม่วา่ เจ้าจะเลือกใคร เปิ่ นหวางไม่เสี ยใจทั้งสิ้ น เจ้าคือคนที่เปิ่ นหวางเลือก เจ้าอยากให้เปิ่ นหวางเป็ นเช่นไร
เปิ่ นหวางก็ยนิ ดี”

ข้าหลบสายตาเขา เขายอมรับได้หรื อหากข้าหักหลังเขา เขายอมให้ขา้ ปลิดชีวติ อันสู งส่ งของเขาเพื่อแลกกับชีวิต


ของแม่ที่เป็ นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาหรื อ ทุกคําพูดที่เขาเอ่ยออกมา ข้ารู ้วา่ เขาเอ่ยจากใจจริ ง.. ในใจข้ารู ้สึก
ทดท้อ ข้าไม่อาจเลือกใครได้... เลือกไม่ได้เลยสักคน… เงียบไปอึดใจ ข้าจึงเอ่ย

“อวี้เอ๋ อร์ได้แต่ฝากความหวังไว้กบั ท่านอ๋ องเพคะ หวังว่าท่านอ๋ องจะช่วยมารดาได้”

ข้าก้มหน้ากล่าวต่อ “อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจหักหลังท่านอ๋ องได้กจ็ ริ ง แต่วา่ อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจเมินเฉยต่อความเป็ นตายของ


มารดาเช่นกัน อวี้เอ๋ อร์ยอมแลกชีวติ ตนเองกับมารดา หากเกิดอะไรขึ้น..ขอท่านอ๋ องโปรดประทานอนุญาต
ให้อวี้เอ๋ อร์...”

ข้าพูดยังไม่ทนั จบประโยค วงแขนของเขาก็รัดข้าแน่นจนแทบหายใจไม่ออก เขาซบใบหน้าลงกับซอกคอข้า


เอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงปวดร้าวกราดเกรี้ ยว “ไม่! ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าเป็ นอะไรไป ข้าไม่ยอมให้เจ้าจากไป อวี้เอ๋ อร์ ..
ข้ารักเจ้า รักเจ้ายิง่ กว่าสิ่ งใด!”

146
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คําสารภาพรักแบบกะทันหันของเขาทําให้ขา้ นิ่งงันอย่างพูดไม่ออก ข้าพูดไม่ถูกว่าข้ารู ้สึกอย่างไร หัวใจของข้า
พองฟู มันช่างเป็ นรสชาติหวานลํ้าที่เจือด้วยความขม ราวกับสุ ราร้อนแรงที่แหลมบาดคอแต่กลับทําให้มึนเมา
ใจของข้าที่แตกสลายเป็ นชิ้นๆ ราวกับถูกสมานขึ้นมาใหม่ นี่ใช่รสชาติของความรักหรื อไม่ ...หรื อข้าได้มอบ
หัวใจให้ชินอ๋ องไปแล้ว... เรื่ องราวบางอย่างแม้อยากจะหลีกเลี่ยงแต่กไ็ ม่อาจฝื น ..หรื อนี่จะเป็ นชะตาฟ้ากัน..

“เปิ่ นหวางจะให้คนทุ่มเทสุ ดกําลังเพื่อช่วยมารดาเจ้าออกมาให้ได้ อวี้เอ๋ อร์ เจ้าห้ามคิดจะอยูห่ ่างกายเปิ่ นหวาง


แม้แต่นิดเดียว!”

วงแขนที่รัดแน่นของเขากลับทําให้ขา้ รู ้สึกอบอุ่น ยามนี้ถึงแม้วา่ ข้าจะต้องตาย ข้าก็รู้สึกว่าชาติน้ ีไม่ได้เกิดมาเสี ย


เปล่า ข้าได้สัมผัสความรู ้สึกอันงดงาม แม้วา่ มันจะเป็ นเพียงภาพมายาแต่มนั ก็ช่างคุม้ ค่ากับช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทาํ
ให้ขา้ เป็ นสุ ขอย่างเหลือเกิน ข้าไม่ได้เอ่ยคําใด เขาเองก็กอดข้าไว้นิ่ง เราสองต่างซึ มซับความสุ ขอันเงียบงัน
ความรักที่แม้ไม่เอ่ยคําแต่เปรี ยบประดุจสัญญาที่หนักแน่นดุจขุนเขา

ยามที่ขา้ ออกจากห้องอักษร ท้องฟ้าก็มืดแล้ว ข้าใช้เวลาอยูใ่ นนั้นทั้งวันนัง่ อ่านหนังสื ออยูใ่ กล้ๆ เขา ชินอ๋ องช่าง
เป็ นบุรุษที่ออดอ้อนนัก ข้าไม่เคยเห็นตัวตนด้านนี้ ของเขามาก่อน ยามข้าหายไปเลือกหนังสื อบนชั้นนานเกินไป
เขาก็จะตามไปยืนกดดัน ทําทีเป็ นแนะนําเล่มโน้นเล่มนี้ให้ขา้ จนข้าต้องรี บหยิบมาส่ งๆ นัง่ ไปได้สักพักเขาก็บ่น
ปวดคอปวดไหล่ ลําบากข้าต้องไปยืนนวดให้ พอลงมือเขียนหนังสื อราชการ ก็กวาดสายตาไปยังแท่นหมึก ข้า
จําต้องวางหนังสื อลงแล้วไปยืนฝนหมึกให้เขา พอหมิงจูยกของว่างเข้ามา หากข้าไม่ป้อนเขาก็ไม่ยอมกิน สรุ ป
แล้วเขาเพียงต้องการให้ขา้ พะเน้าพะนอเอาใจอยูใ่ กล้ๆ ใช่หรื อไม่ เพียงให้ขา้ อยูใ่ กล้สายตา ได้สัมผัสแตะต้อง
ข้าเล็กๆ น้อยๆ เขาก็พอใจ ข้าจําได้วา่ วันนี้ขา้ ตั้งใจจะไม่กระดิกตัวทําอะไรเด็ดขาด ทําไมข้ากลับต้องมาคอยเอา
อกเอาใจเขา ข้าเหนื่อย ข้าอยากพัก แต่บุรุษผูน้ ้ ีกลับทําให้ขา้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ตกเย็นข้าจึงนัง่ หลับโดยมี
หนังสื อคาอยูบ่ นหน้าตัก

ชินอ๋ องอุม้ ข้ากลับมายังห้องบรรทม เขาอาบนํ้าให้ขา้ ราวกับเป็ นการไถ่โทษที่วนั นี้เขาทําตัวเอาแต่ใจ สายตา


ของเขาวิบวับส่ งความนัยหลายครั้งแต่ขา้ ไม่ใจอ่อน ข้ายังเข็ดขยาดกับบทรักเมื่อคืนไม่หาย คืนนี้จึงเป็ นคืนหนึ่ง
ในไม่กี่คืนที่ขา้ ร่ วมเตียงกับเขาโดยไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ยามเขาโอบกอดข้า ข้ารี บหลับตาลงไม่สนใจลมหายใจ
หนักหน่วงที่เป่ ารดข้างหู เขาจะทรมานก็ช่างเขาเถิด ใครใช้ให้เขาหักโหมทรมานข้าก่อนกันเล่า คืนนั้นข้าฝันถึง
ซี ยนิ เช่นเคย..

...ท่านอ๋ องเพคะ.. ระหว่างเรามิใช่เพียงกามารมณ์ใช่หรื อไม่…

147
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ซี ยนิ ถามคําถามนี้ซ้ าํ ๆ ในใจ

...เจิ้งอู่… ข้าเชื่อใจท่าน

..ซี ยนิ เชื่อใจท่านอ๋ องเพคะ..

หลังจากเศร้าซึ มไปหลายวัน ซี ยนิ ก็ใคร่ ครวญถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เจิ้งอู่เพียงยืนฟังคุณหนูสามบรรเลงพิณ


ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเสี ยหน่อย เหตุใดนางจึงระแวงสงสัยท่านอ๋ องอย่างไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้ ที่ท่านอ๋ อง
ไม่ติดต่อมาอาจเป็ นเพราะมีเหตุจาํ เป็ น นางเคยสัญญาต่อเขาไว้แล้วไม่ใช่หรื อว่าจะเชื่อใจเขา เจิ้งอู่ที่นางรู ้จกั
มิใช่บุรุษเหลาะแหละ นางไม่ควรตัดสิ นเขาด้วยภาพที่เห็นเพียงชัว่ อึดใจ

ซี อินตั้งสติ ความรักระหว่างนางและเขามิใช่เรื่ องง่าย ยิง่ ยามนี้องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดเข้ามาพัวพัน ท่านอ๋ อง


จะทําอะไรก็คงต้องไว้หน้าองค์ชายทั้งสองซึ่ งต่างมีตระกูลใหญ่หนุนหลัง เสี ยนเฟยมารดาของเจิ้งอู่ถึงแม้มี
ตําแหน่งสู งส่ งในวังหลังกลับไร้อาํ นาจหนุนหลัง นางผลักดันตัวเองขึ้นสู่ ตาํ แหน่งสนมเอกได้ดว้ ยอาศัยความ
งามและสติปัญญาของตนตามลําพัง เจิ้งอู่คิดอ่านจะทําการใดย่อมขาดลมใต้ปีก ไร้ผสู ้ นับสนุน ซี ยนิ จึงไม่แปลก
ใจที่เสี ยนเฟยมารดาของเขาทาบทามคุณหนูสามจวนรองแม่ทพั ให้แก่บุตรชาย กําลังทหารกว่าสองแสนนาย
ย่อมอยูใ่ นกํามือ

นางจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ซี ยนิ บอกกับตัวเอง… หากนางจะอยูเ่ คียงข้างเขาได้ นางต้องหนักแน่นไม่


หวัน่ ไหว

เพื่อปฏิเสธการทาบทามจากองค์ชายทั้งสอง ซี ยนิ จึงให้บิดามารดาป่ าวประกาศออกไปว่านางล้มป่ วย บิดา


มารดาต่างเห็นด้วย ทั้งองค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ด ไม่วา่ ใครก็ไม่อาจล่วงเกิน การจะยกซี ยนิ ให้คนใดคนหนึ่ง ..
เสี่ ยงเกินไป.. หากฝ่ ายใดได้ข้ ึนครองราชย์ อีกฝ่ ายมิถูกกวาดล้างสิ้ นตระกูลหรื อ บิดามารดาจึงเห็นว่าควรยับยั้ง
เรื่ องนี้ไว้ก่อน

ทว่าการกลับไม่ง่ายดังที่คิด ครั้นได้ยนิ ข่าว องค์ชายทั้งสองต่างปรากฏกายที่จวนเจ้ากรมอาญาพร้อมกัน ไม่รู้วา่


เป็ นเรื่ องบังเอิญหรื อไม่ แต่บิดาได้แต่ตอ้ นรับองค์ชายทั้งสองอย่างกระอักกระอ่วนใจ ซี ยนิ ให้คนนําม่านไม้ไผ่
มากางกั้น แล้วออกรับแขกเบื้องหลังม่านนั้น องค์ชายทั้งสองได้ยนิ แต่น้ าํ เสี ยงไพเราะอ่อนหวานทว่าไม่อาจได้

148
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยลโฉม นัน่ ไม่ยงิ่ ทรมานกว่าหรื อ อยูเ่ บื้องหน้าแต่ไม่อาจทอดสายตา อุตส่ าห์มาถึงที่นี่แล้ว แต่ไม่อาจได้พบ
โฉมงามซี ยนิ ที่มีคนได้เห็นน้อยเสี ยยิง่ กว่าน้อย

องค์ชายสี่ สุขมุ เยือกเย็น องค์ชายเจ็ดหุนหันพลันแล่น.. ซี ยนิ สรุ ปกับตัวเองในใจหลังได้พูดคุยกับคนทั้งสอง


เพียงชัว่ ครู่ องค์ชายเจ็ดไม่พอใจนักที่นางต้อนรับเขาหลังม่าน ยืนยันจะให้นางเผยโฉม

“ขอองค์ชายเจ็ดโปรดอภัย บัดนี้ ซียนิ เจ็บป่ วยทรุ ดโทรม อันเป็ นธรรมดาของสตรี ยอ่ มไม่ตอ้ งการให้ผใู ้ ดยลโฉม
ยามไม่น่าดู หากซี ยนิ หายดีแล้ว ย่อมจะไม่เกี่ยงงอนแม้แต่นอ้ ยเพคะ” นางพยายามบ่ายเบี่ยงสุ ดความสามารถ
ข้อแรกไม่ตอ้ งการให้เขาเห็นหน้า ข้อสองไม่ตอ้ งการให้เขาจับได้วา่ นางไม่ได้ป่วยจริ ง คุยไปคุยมาองค์ชายเจ็ด
ยังวกกลับมาเรื่ องที่นางไม่ยอมเผยโฉม ซี ยนิ รําคาญใจจึงรี บตัดบท

“ขอบพระทัยองค์ชายทั้งสองที่มาเยีย่ มเยียน ทว่าซี ยนิ รู ้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่อาจรั้งอยูน่ านได้ ขอองค์ชายโปรด


ประทานอภัยแก่ซียนิ ด้วยเพคะ” พูดจบนางก็ทาํ ท่าจะลุกขึ้นยืน องค์ชายเจ็ดไม่พอใจ ลุกขึ้นตวาดก้อง

“หากไม่ให้ขา้ ได้พบหน้า ก็อย่าหวังว่าข้าจะยอมกลับเลย”

องค์ชายสี่ ยมิ้ เยาะ

“น้องเจ็ดช่างมีลีลาเกี้ยวสตรี น่าชมนัก นับว่าเป็ นบุญตาของข้าแล้ว”

องค์ชายเจ็ดได้ฟังบังเกิดโทสะ ทว่าไม่อาจลงไม้ลงมือกับศัตรู คู่อาฆาต ได้แต่ตวัดดาบออกมาตัดม่านไม้ไผ่ลง

ม่านบังตาร่ วงหล่นลงกับพื้น เผยให้เห็นโฉมงามซึ่ งซ่อนตัวอยูเ่ บื้องหลัง ซี ยนิ ตกตะลึง นางยังไม่ทนั ล่าถอยเข้า


ไปข้างใน ดวงตาขององค์ชายทั้งสองตื่นตะลึงยิง่ กว่า ซี ยนิ ช่างงดงามสมคํารํ่าลือ ไม่สิ.. งามเสี ยยิง่ กว่าที่ผคู ้ นรํ่า
ลือ เมื่อได้มายลด้วยตาตนเองจึงประจักษ์ ที่ผา่ นมาได้แอบเห็นจากไกลๆ ไม่อาจเทียบได้กบั สิ่ งที่ปรากฏอยู่
ตรงหน้า..

ซี ยนิ ตกใจ รี บลุกขึ้นจะผละหนีไปห้องด้านหลัง ทว่าองค์ชายเจ็ดฉวยข้อมือนางไว้ ดวงตาฉายแววพึงพอใจเต็ม


เปี่ ยม

“ซี ยนิ มาเป็ นชายาของข้าเถอะ”

149
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ปล่อยมือนาง เจ้าช่างหยาบช้าป่ าเถื่อนนัก คนไม่รู้จกั รักหยกถนอมบุปผาเช่นเจ้าย่อมไม่คู่ควรกับนาง” องค์ชาย


สี่ ตวาดกร้าว คว้าข้อมือขององค์ชายเจ็ดที่เกาะกุมนางไว้

ซี ยนิ ฉวยโอกาสที่ท้ งั สองกําลังโต้เถียงกันล่าถอยไปยังห้องด้านใน คนที่นางรอคอยกลับไม่มา คนที่มากลับทํา


ให้นางลําบากใจ ซี ยนิ หยิบหยกห้อยเอวที่ท่านอ๋ องเคยให้ไว้ข้ ึนดู นางกําหยกนั้นไว้แน่นราวกับว่าจะทําให้
เจ้าของหยกผูน้ ้ นั ระลึกถึงนางขึ้นมาได้..

ซี ยนิ พยายามนึกถึงช่วงเวลาที่ท้ งั สองเคยอยูด่ ว้ ยกัน นอกเหนือจากคําหวานและฉากรักเร่ าร้อนแล้ว ระหว่างนาง


และเขาราวกับคนแปลกหน้า ท่านอ๋ องไม่เคยรู ้อะไรเกี่ยวกับนาง.. ในใจของซี ยนิ หนาวยะเยือก

...ระหว่างเราสองคน มิใช่เพียงกามารมณ์ใช่หรื อไม่...

150
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 24 : ของขวัญวันเกิด

เวลาล่วงเลยไปเป็ นสัปดาห์ ชินอ๋ องดูจะยุง่ มากขึ้น เขาต้องเข้าวังทุกวัน คงจะด้วยเรื่ องรัชทายาทแคว้นเว่ยที่ยงั


ไม่เดินทางกลับไป ส่ วนเรื่ องของแม่ ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าจากคนของชินอ๋ อง พวกเขายังไม่อาจสื บเสาะได้
ว่าใต้เท้าจางเอาตัวแม่ไปซ่อนไว้ที่ใด ข้าไม่รู้วา่ ใต้เท้าจางจะให้เวลาแม่เท่าไหร่ เขาจะรอนานแค่ไหนจึงจะฆ่า
แม่ทิ้ง จนกว่าข้าจะวางยาชินอ๋ อง หรื อจนกว่าจะรู ้วา่ ข้าแปรพักตร์ หนึ่งเดือน.. สองเดือน.. ข้าไม่มีทางรู ้เลย ข้า
ไม่อาจทําสิ่ งใดได้นอกจากรอ ระหว่างนั้นข้าได้แต่ทาํ เป็ นอาศัยอยูใ่ นวังเสิ่ นหยางกงอย่างมีความสุ ข ใช้ชีวิตราว
กับเจ้าหญิง ทําเป็ นลืมเรื่ องราวร้ายๆ ไปเสี ย วันหนึ่งหมิงจูกเ็ อ่ยกับข้า

“หวางเฟยเพคะ เดือนหน้าจะเป็ นวันเกิดของชินอ๋ อง หวางเฟยจะเตรี ยมอะไรให้เป็ นของขวัญแก่ท่านอ๋ องดีเพ


คะ”

ข้าเหลือบตามองหมิงจูอย่างชมเชย นางช่างรู ้ใจนัก หากนางไม่บอก มีหรื อข้าจะรู ้ได้วา่ ชินอ๋ องเกิดเมื่อใด นับแต่
เขาบอกรักข้าในห้องอักษร ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองก็หวานชื่น เขาเอาอกเอาใจข้าสารพัด ใช้เวลาอยูก่ บั ข้า
ไม่ห่าง มีเพียงยามที่เขาต้องทํางานจึงจะยอมให้ขา้ ห่างกาย แต่เพราะต้องเข้าวัง เขาจึงไม่ค่อยมีเวลามาวอแวกับ
ข้ามากนัก ซึ่ งนับว่าดีแล้ว ข้าได้พกั ผ่อนเต็มที่ในยามกลางวัน ใช้ชีวิตราวกับเป็ นเจ้าของวังแห่งนี้ แต่เพียงผูเ้ ดียว

ข้ามีความสุ ขจนล้นอก หากไม่ติดเรื่ องแม่ ข้าคงรู ้สึกราวกับอยูใ่ นสรวงสวรรค์

“ข้า..คิดจะตัดเย็บอาภรณ์” ข้าเอ่ยตอบหมิงจู ดวงตานางเป็ นประกายราวกับว่าสิ่ งที่ขา้ เอ่ยถูกต้องที่สุดแล้ว

“หวางเฟยคิดจะลงมือตัดเย็บเสื้ อผ้าให้ท่านอ๋ องด้วยตัวเองหรื อเพคะ”

ข้าเพียงแต่อมยิม้ ไม่ตอบนาง…

ข้าให้พอ่ บ้านฉี นาํ ข้าไปยังห้องเก็บผ้า เพียงก้าวเท้าเข้าไปข้างในข้าก็อา้ ปากค้าง ผ้าพับจํานวนมากมายเรี ยงราย


กันแน่นขนัดยิง่ กว่าร้านขายผ้าเสี ยอีก เสี ยงพ่อบ้านฉี ยนื พูดอยูข่ า้ งๆ

“หวางเฟยต้องการผ้าแบบไหนเพียงเอ่ยปาก กระหม่อมจะให้คนไปยกลงมาให้คดั เลือกพะย่ะค่ะ”

151
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“รบกวนพ่อบ้านฉี แล้ว” ข้าตอบพลางสาวเท้าเข้าไปด้านใน

ข้าเลือกผ้าแพร ผ้าไหม ผ้าโปร่ ง และผ้าลูกไม้ เฉดสี คละกัน มีสีดาํ ขาว และแดงเป็ นหลัก เสร็ จแล้วให้คนยกไป
ไว้ในห้องที่ขา้ ชอบไปนัง่ เล่นในยามบ่าย ข้าต้องการเก็บไว้เป็ นความลับ ยามที่ขา้ ออกแบบ แม้แต่หมิงจูขา้ ก็
ไม่ให้เห็น นางเอ่ยกับข้าอย่างหยอกล้อ

“หวางเฟยไม่ให้หมิงจูช่วยเย็บสักหน่อยหรื อเพคะ”

“ไม่ได้ ชิ้นนี้ขา้ จะทําเอง” ข้าตอบยิม้ ๆ ปล่อยให้หมิงจูเข้าใจผิดว่าข้าจะตัดเย็บชุดให้ชินอ๋ อง จากนั้นข้าจะใช้


เวลายามบ่ายในทุกวันเก็บตัวเย็บผ้าตามลําพัง

วันหนึ่ งมีคนมาแจ้งว่าใต้เท้าจางฝากของมาให้ เพียงได้ยนิ ชื่อเขา ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ คนที่ถือของมากลับไป


แล้ว มีเพียงกล่องใบเล็กที่วางอยูบ่ นโต๊ะ ข้ากลั้นใจหยิบกล่องนั้นขึ้นมา รู ้วา่ ของที่อยูภ่ ายในคงจะเลวร้ายอย่าง
ที่สุด เขาต้องการการข่มขวัญข้า รู ้ท้ งั รู ้แต่ขา้ ก็ตอ้ งเปิ ดดู

ภายในเป็ นถุงหอมเก่าครํ่าคร่ าสี แดง เพียงเห็นข้าก็จาํ ได้วา่ เป็ นของแม่ มุมถุงมีคราบเปี ยกชื้นสี เดียวกันกับถุง ..
คราบเลือด.. ข้านํ้าตาไหล แม่คงจะเจ็บปวดนัก ข้าไม่อยากรู ้วา่ เดรัจฉานนัน่ ตัดชิ้นส่ วนไหนของแม่ออกมา แต่ก็
ต้องแข็งใจเปิ ดดู ภายในเป็ นข้อนิ้วก้อย ข้าปิ ดถุงแล้ววางไว้ที่เดิมด้วยมือสัน่ ระริ ก

“หวางเฟย เป็ นอะไรหรื อไม่เพคะ” หมิงจูเอ่ยอย่างเป็ นห่วง

“ข้าไม่เป็ นอะไร ประคองข้าไปนอนที” ข้าตอบพลางเช็ดนํ้าตา

ตอนเย็นเมื่อชินอ๋ องกลับถึงวัง เขาสาวเท้าเข้ามาในห้องบรรทมอย่างรี บร้อน คงมีคนรายงานเขาแล้วว่าเกิดอะไร


ขึ้นตอนที่เขาไม่อยู่ เขาผวามาที่เตียง คว้าร่ างของข้าขึ้นมากอดโดยไม่สนใจว่าข้าหลับอยูห่ รื อไม่

“กระต่ายน้อย เปิ่ นหวางไม่ดีเอง ทําให้มารดาเจ้าต้องได้รับความลําบาก” นํ้าเสี ยงของเขาสะเทือนใจ

ดวงตาของข้าแดงกํ่า ข้านอนร้องไห้อยูเ่ ป็ นนาน สงสารแม่จบั ใจ เป็ นเพราะข้า ชีวิตแม่จึงต้องตกอยูใ่ นอันตราย


ต้องทนรับความเจ็บปวดทรมานถึงเพียงนี้ แค่คิดว่าข้าอยูส่ ุ ขสบายเพียงไร แล้วแม่ตอ้ งเจ็บปวดเพียงไร ใจของ
ข้าก็แทบจะขาดรอนๆ

152
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านอ๋ อง.. อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจทนเห็นมารดาถูกแล่ออกมาทีละชิ้นเช่นนี้ได้” ข้าสะอื้นบอกเขา

“เปิ่ นหวางรู ้ เปิ่ นหวางจะรี บจัดการเรื่ องนี้ให้เร็ วที่สุด” เขาเอ่ยกับข้านํ้าเสี ยงหนักแน่น

คืนนั้นข้าฝันร้าย ข้าฝันเห็นแม่นอนจมกองโลหิ ต ข้าสะดุง้ ตื่นขึ้นมาเป็ นพักๆ ชินอ๋ องได้แต่คอยปลอบอยูข่ า้ งๆ

นับแต่วนั นั้นใจของข้าหนักอึ้งราวกับมีตะกัว่ ถ่วงไว้ ข้าได้แต่เฝ้านับวันเวลา แม่มีเวลาอีกเท่าไหร่ ใต้เท้าจางจะ


ทําร้ายแม่อีกหรื อไม่ กระนั้นข้าก็ยงั คงตัดเย็บชุดด้วยความตั้งใจ ชินอ๋ องเหน็ดเหนื่อยนัก ไหนจะต้องรับมือกับ
แคว้นเว่ย ไหนจะต้องต่อกรกับใต้เท้าจางและสื บหาเรื่ องของแม่ไปพร้อมๆ กัน ข้าไม่อาจเพิกเฉยโดยไม่ทาํ
อะไร อย่างน้อยขอให้ขา้ ได้ทาํ อะไรเพื่อเขาบ้างก็ยงั ดี

วันเกิดของชินอ๋ องใกล้เข้ามาแล้ว ในวังเสิ่ นหยางกงวุน่ วายตระเตรี ยมงานเลี้ยง ถึงแม้ชินอ๋ องจะไม่ชอบพิธีการ


ยุง่ ยาก แต่ดว้ ยฐานะของเขา งานวันเกิดไม่อาจจัดธรรมดาสามัญได้เพราะถือเป็ นโอกาสอันดีให้ขนุ นางน้อย
ใหญ่ได้มาคารวะ ข้าเองก็แอบเตรี ยมของขวัญไว้ให้เขาเช่นกัน ข้าเดินทางไปร้านเครื่ องประดับด้วยตนเอง สั่ง
ให้นายช่างทองทําแหวนทองเรี ยบง่ายสองวง ด้านในแหวนวงใหญ่สลักคําว่า “อวี้” ที่แปลว่าหยก ซึ่ งเป็ นชื่อข้า
ด้านในแหวนวงเล็กสลักคําว่า “เฟิ ง” ซึ่ งเป็ นอักษรในนามของเขา หมิงจูคิดว่าข้าเย็บเสื้ อเป็ นของขวัญชินอ๋ อง
ข้าปล่อยให้นางเข้าใจผิดเช่นนั้น ข้าตั้งใจปิ ดเรื่ องแหวนเป็ นความลับจึงพานางกํานัลคนอื่นติดตามมาแทน ก่อน
ถึงวันงาน คนที่ร้านก็นาํ ของมาส่ งให้ที่วงั ข้าตรวจตราความเรี ยบร้อยจนพึงพอใจก็เอาไปเก็บไว้ในลิ้นชักแล้ว
ไขกุญแจซึ่ งมีที่ขา้ เพียงดอกเดียว

ใกล้ถึงวันเกิดแล้ว ชินอ๋ องดูอารมณ์ดีเป็ นพิเศษ ข้าไม่รู้วา่ เขามีเรื่ องอะไรน่ายินดีแต่กไ็ ม่ได้ถาม คืนก่อนวันงาน


เขารวบข้าไว้ในอ้อมแขนแล้วถามเสี ยงออดอ้อน

“วันพรุ่ งนี้ วนั เกิดเปิ่ นหวางแล้ว อวี้เอ๋ อร์ได้เตรี ยมของขวัญไว้ให้เปิ่ นหวางหรื อไม่”

ข้าย่นจมูกใส่ พลางเอ่ยตัดรอน “อวี้เอ๋ อร์ไม่มีเวลาเตรี ยมอะไรเป็ นพิเศษหรอกเพคะ เรื่ องพวกนี้ให้หมิงจูเป็ นคน


จัดการ”

153
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แววตาของชินอ๋ องระยิบระยับ “หวางเฟยช่างใจร้ายใจดําเสี ยจริ ง”

ข้าเห็นสายตาเขาแล้วก็คาดเดาได้วา่ หมิงจูจะต้องแอบไปรายงานเป็ นแน่วา่ ข้าลงมือตัดเย็บชุดให้เขา ข้าลอบยิม้


ในใจ ข้าไม่ตดั ชุดให้คนอย่างชินอ๋ องหรอก ถึงแม้เขาจะปลาบปลื้ม แต่เขาไม่ใช่คนที่จะพึงพอใจกับสตรี ที่ใส่ ใจ
เรื่ องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้หรอก อาภรณ์ของเขาตัดเย็บปราณี ตลํ้าเลิศด้วยฝี มือช่างหลวง เรื่ องอะไรข้าต้องไป
ลําบากลําบนแย่งงานของช่างเย็บผ้าด้วยเล่า

วันรุ่ งขึ้นวังเสิ่ นหยางกงคลาคลํ่าไปด้วยผูค้ นที่มาร่ วมคารวะชินอ๋ อง ข้าแต่งกายงดงามคอยรับรองแขกเหรื่ อฝ่ าย


สตรี แม้พวกนางจะริ ษยาข้า แต่ภายนอกก็ไม่อาจแสดงอาการ ได้แต่แย้มยิม้ เสแสร้ง ทําทีเป็ นพินอบพิเทา ยาม
ชินอ๋ องเดินมาหาข้า คุณหนูจากตระกูลใหญ่ท้ งั หลายต่างชม้ายชายตาเป็ นพัลวัน ถึงแม้ชินอ๋ องจะมีชายาเอกแล้ว
แต่ตาํ แหน่งชายารองก็ใช่วา่ เย้ายวนใจน้อยเสี ยเมื่อไหร่ ยิง่ ชินอ๋ องเป็ นบุรุษสู งใหญ่รูปงาม มีตาํ แหน่งแม่ทพั พ่วง
มาด้วย ในแผ่นดินนี้รองจากฮ่องเต้แล้ว จะมีใครเปี่ ยมอํานาจบารมีเช่นเขาอีก

ข้าอดค้อนใส่ ชินอ๋ องอย่างหมัน่ ไส้ไม่ได้ เขายิม้ มุมปาก กระซิ บกับข้าที่ขา้ งหู “กระต่ายน้อย เปิ่ นหวางไม่อาจ
ห้ามพวกนางไม่ให้ส่งสายตาให้เปิ่ นหวางได้ เปิ่ นหวางไม่ได้ชายตามองพวกนางสักหน่อย เหตุใดเจ้าต้องโมโห
ด้วยเล่า”

“อวี้เอ๋ อร์ไม่บงั อาจโมโหท่านอ๋ องหรอกเพคะ” ข้าตอบพลางเดินหนีไปในสวนหย่อม ชินอ๋ องไพล่หลังเดินตาม


เข้ามา

“สําหรับสตรี เหล่านั้น นอกจากจริ ตที่ใส่ เข้ามาเต็มเปี่ ยมแล้ว เปิ่ นหวางไม่เห็นมีอะไรมากกว่านั้น ไม่เหมือนกับ


เจ้า…” เขารวบร่ างของข้าไว้ แล้วดันเข้ากับต้นไม้ใหญ่ “กระต่ายน้อย..เจ้าไม่ตอ้ งทําอะไร เปิ่ นหวางก็นึก
พิศวาทเจ้าทุกลมหายใจ”

ใบหน้าของข้าแดงกํ่า ข้าพยายามผลักอกเขาออก “ท่านอ๋ อง อย่าสิ เพคะ ประเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

“วันนี้วนั เกิดเปิ่ นหวาง เจ้าต้องตามใจเปิ่ นหวาง” เขาเอ่ยอย่างเกเร

“ตรงนี้ไม่ได้เพคะท่านอ๋ อง” ข้ารี บเอ่ยห้าม เพียงแค่น้ ีสายตาสตรี ในงานก็แทบจะฉี กทึ้งข้าเป็ นชิ้นๆ อยูแ่ ล้ว หาก
มีใครมาเห็นเข้า ผูค้ นคงเอาไปรํ่าลือว่าข้ายัว่ ยวนชินอ๋ องอย่างไร้ยางอายในสวนยามกลางวันแสกๆ

154
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ถ้าเช่นนั้นคืนนี้ เล่า”

“คืนนี้อวี้เอ๋ อร์จะตามใจท่านอ๋ องเพคะ” ข้ารี บเอ่ยตอบไปโดยไม่ทนั คิด หมายจะให้เขารี บปล่อยข้าเสี ยทีก่อนที่


จะมีคนเห็น บริ เวณนี้อาจมีคนเดินผ่านได้ทุกเมื่อ

ชินอ๋ องยิม้ อย่างสมใจ “เจ้ารับปากเปิ่ นหวางแล้ว คืนนี้จะมาอ้างโน่นอย่างนี่อย่างที่แล้วมาอีกไม่ได้”

ข้าหน้าแดง เขาช่างเจ้าเล่ห์นกั ฉวยโอกาสนี้รวบรัดเอาคําตอบจากข้า ที่ผา่ นมาข้ามักจะหาข้ออ้างบ่ายเบี่ยงไม่ให้


เขารังแก ชินอ๋ องเห็นข้าเศร้าโศกเรื่ องแม่กไ็ ม่ได้เซ้าซี้ กวนใจ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคิดจะเอาคืนทบต้นทบดอก

ตกเย็นแขกเหรื่ อกลับไปหมดแล้ว ชินอ๋ องไม่ได้สนใจของขวัญลํ้าค่าที่ผคู ้ นนํามาเป็ นของกํานัล เขาเอ่ยปากทวง


ถามของขวัญจากข้า

ข้าหยิบกล่องใบเล็กออกมาส่ งให้เขา ชินอ๋ องมีสีหน้าผิดคาด คงจะคิดว่าข้าตัดเย็บอาภรณ์ให้กระมัง กระนั้นเขา


ก็เปิ ดกล่องออกดู

“ข้าสั่งให้นายช่างทําแหวนคู่ ภายในสลักชื่อของเราสองคนเอาไว้ สวมใส่ ติดตัวไว้จะได้ระลึกถึงกันตลอดเวลา


เพคะ” ข้าเอ่ยเสี ยงใส ดวงตาของชินอ๋ องเป็ นประกาย

“เป็ นความคิดที่ดี แหวนวงนี้เปิ่ นหวางจะใส่ ติดตัวไว้ตลอด”

ข้าหยิบเอาแหวนวงใหญ่สวมให้เขาที่นิ้วนางข้างซ้าย พลางเอ่ยอธิบาย “เชื่อกันว่านิ้วนางข้างซ้ายเชื่อมต่อกับ


เส้นเลือดที่แล่นไปหัวใจ ดังนั้นใส่ แหวนไว้ที่นิ้วนี้ ความคิดถึงของเราสองย่อมส่ งตรงถึงใจ” ข้ายิม้ สายตาที่
มองเขาอ่อนหวาน เขามองข้าราวกับจะจดจําช่วงเวลานี้ไว้

ชินอ๋ องหยิบแหวนวงเล็กขึ้นมา สวมให้ขา้ ที่นิ้วนางข้างซ้ายบ้าง อดไม่ได้ที่จะถาม “ความเชื่อแปลกๆ เช่นนี้เจ้า


ไปเอามาจากไหน เปิ่ นหวางไม่เคยได้ยนิ มาก่อน”

“อวี้เอ๋ อร์จาํ ไม่ได้วา่ อ่านเจอจากที่ใด” ข้าตอบไปส่ งๆ แต่เขาก็ไม่ได้ซกั ไซ้ต่อ

“อวี้เอ๋ อร์ยงั มีของขวัญให้ท่านอ๋ องอีกชิ้นเพคะ” ข้าเงยหน้ามองเขา นัยน์ตาเป็ นประกาย

155
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขามองข้าอย่างคาดคะเน ในแววตาระยิบระยับอย่างนึกสนุก “กระต่ายน้อย เจ้าไม่เคยหยุดทําให้เปิ่ นหวาง


ประหลาดใจเลย”

“แต่ของขวัญชิ้นนี้จะรี บร้อนไม่ได้ ไว้ขา้ ตระเตรี ยมเรี ยบร้อยแล้วจะเรี ยกท่านอ๋ องเข้าไปชมนะเพคะ” ข้ากล่าว


พลางดันร่ างเขาออกจากห้อง

หมิงจูเข้ามาช่วยข้าอาบนํ้าตามปกติ ซับเส้นผมและเนื้อตัวแห้งแล้วข้าก็ให้นางออกไป ข้าหยิบชุดที่แอบตัดเย็บ


ไว้ข้ ึนมาสวมใส่

มันคือชุดกระต่ายน้อยของโลกปั จจุบนั ในชาติที่แล้ว!

ตั้งแต่วนั ที่ขา้ ถวายตัว ข้าเก็บเอาเสื้ อคลุมสี แดงที่ชินอ๋ องชื่นชอบตัวนั้นไปซ่อนไว้ ไม่ใช่วา่ ข้าไม่ตอ้ งการความ
โปรดปรานจากเขา แต่หากข้ายังขยันแต่งตัวยัว่ ยวนเขา จะไปเอาเรี่ ยวแรงจากไหนมาต่อกรกับเขาเล่า ถึง
กระนั้นข้าก็รับรู ้ได้วา่ ชินอ๋ องมีความชอบอย่างไร เขาชอบให้ขา้ สวมใส่ เสื้ อผ้าเย้ายวน.. แล้วคืนไหนจะ
เหมาะสมกับการแต่งกายเช่นนี้มากไปกว่าคืนวันเกิดของเขาเล่า นี่ยอ่ มเป็ นของขวัญที่ทาํ ให้เขาประทับใจไม่รู้
ลืม ข้าแอบอมยิม้ กับตัวเอง

ข้าตัดชุดกระต่ายเป็ นชุดเกาะอกสี ดาํ กับกางเกงขาเว้าสู งเพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ ที่ขอบหน้าอกติดขนสัตว์ฟู


ฟ่ องสี ขาว ชายเสื้ อประดับด้วยผ้าลูกไม้สีขาวระสะโพกเพื่อปิ ดขอบกางเกง เหนือบั้นท้ายงามงอนเป็ นหาง
กระต่ายฟูนุ่ม ที่ลาํ คอผูกโบว์สีแดงน่ารัก ข้านําลวดอ่อนมาทําเป็ นโครงสําหรับเย็บหูกระต่ายให้ต้ งั ขึ้นมาแล้ว
ยึดไว้กบั มงกุฏเล็กๆ ประดับศีรษะ ปล่อยผมยาวสยาย สวมต่างหู และสร้อยข้อมือเพชรเรี ยบหรู เป็ นอันเสร็ จ
เรี ยบร้อยแล้วสํารวจตัวเองในกระจกอย่างระทึกใจ สองแก้มของข้าแดงกํ่า

...ชินอ๋ องจะชอบหรื อไม่...

ยามที่ขา้ เปิ ดประตูหอ้ งให้เขาเข้ามา ข้าเอาผ้าคลุมไหล่ของเขาห่อกายไว้มิดชิด เขามีสีหน้าประหลาดใจที่เห็นข้า


ห่อกายเช่นนั้น ทั้งยังมองหู กระต่ายบนศีรษะข้าอย่างเงียบๆ ไม่พดู อะไร เมื่อปิ ดประตูลง ข้าเดินไปที่เตียง หมุน
กายกลับมาแล้วปลดผ้าคลุมไหล่ลง คอยมองดูปฏิกิริยาของเขา

156
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องจ้องมองข้าอย่างตกตะลึง เขาไม่พดู อะไรไปพักใหญ่ ได้แต่กวาดสายตาไปตามร่ างกายข้าอย่างเชื่องช้า
ในที่สุดก็เอ่ยถ้อยคําราวกับละเมอ

“กระต่ายน้อย..เจ้า..กลายเป็ นกระต่ายน้อยไปแล้วจริ งๆ”

..เท่านี้เองหรื อ.. ข้าก้มหน้าลงแอบซ่อนความผิดหวัง ข้าแต่งกายเปิ ดเผยเนื้อตัวเช่นนี้เขาคงไม่ชอบ เสี ยทีขา้ ลง


แรงลงเวลาไปตั้งมากมาย… คนโบราณคงไม่ชอบการแต่งกายสมัยใหม่แบบนี้กระมัง

ฉับพลันตัวข้าก็ลอยขึ้นจากพื้น ชินอ๋ องวางข้าลงบนเตียง

“น.น่ารัก.. น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน กระต่ายน้อยของข้า” นํ้าเสี ยงของเขาสัน่ สะท้าน

คืนนั้น ชินอ๋ องราวกับกลายร่ างเป็ นสัตว์ป่า กลืนกินข้าอย่างตะกรุ มตะกราม นี่ขา้ บ้าไปแล้วหรื อไง! ทําไมถึงทํา
อะไรโง่ๆแบบนี้ ! ชินอ๋ องมีแต่จะกินข้าจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก ข้านึกยังไงถึงตัดชุดกระต่ายน้อยให้ตนเอง ข้า
ก่นด่าตัวเองในใจแต่กส็ ายไปเสี ยแล้ว…

157
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 25 : ไม่ มีสตรีดๆี ทีไ่ หนทํากัน (ตอนพิเศษ)

เสวียนเฟิ งบอกไม่ถูกว่ารู ้สึกอย่างไรเมื่อเห็นร่ างงดงามเย้ายวนในชุดกระต่ายน้อย.. นางทําให้เขาประหลาดใจ


ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่อาจคาดเดาได้วา่ ของขวัญอีกชิ้นคืออะไร รู ้แต่วา่ ต้องไม่ธรรมดาแน่เพราะแววตาของ
กระต่ายน้อยวาววามถึงเพียงนั้น ใจของเขาเต้นระทึก ยามนางปรากฏกายในผ้าคลุมไหล่ของเขา เสวียนเฟิ ง
ถึงกับผิดคาด แต่ยงิ่ ผิดคาดไปอีกเมื่อนางปลดผ้าคลุมไหล่ลง..

นางอยูใ่ นเครื่ องแต่งกายอันแปลกประหลาด เขาพินิจดูอยูน่ าน หู กระต่ายและหางฟูฟ่องทําให้เขารู ้วา่ นางตั้งใจ


แต่งกายเป็ นกระต่ายขนฟูเพื่อเขาในคํ่าคืนนี้ อกเอวของนางเด่นชัดในชุดรัดรู ปสี ดาํ เปิ ดเผย แขนขาเรี ยวเปลือย
เปล่า ทั้งขาวทั้งเนียนน่าสัมผัสไปทั้งร่ าง ตากลมโตของนางจับจ้องเขาอย่างคาดหวัง แต่เมื่อเห็นเขานิ่งงันก็กม้
หน้าวูบอย่างสลดใจ เขายกยิม้ น่าเอ็นดูเหลือเกินกระต่ายน้อย.. เจ้าทําอะไรลงไปรู ้ตวั หรื อไม่..

นอกเหนือจากอารมณ์พิศวาทที่มีต่อนาง ยามนี้เสวียนเฟิ งรู ้สึกในกายร้อนรุ่ มราวกับบางสิ่ งในตัวถูกปลุกให้ลุก


โชนขึ้นมา ..สัญชาติญาณของนักล่ากระมัง.. กระต่ายน้อยของเขาช่างน่ารัก.. น่าฟัด น่าขยํ้าให้จมเขี้ยวเหลือเกิน
..

เขาคว้าร่ างนางขึ้นเตียงอย่างหมดความอดทน ชุดนี้ดูแปลกประหลาดนัก เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มนั กลับขับ


เน้นทรวดทรงอ้อนแอ้นของนางชัดเจนโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจที่ลน้ ทะลักออกมาจากเกาะอกและบั้นท้ายที่มี
พูก่ ลมน่ารักติดเป็ นหางกระต่ายอยู่

..อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างร้ายกาจนัก..

“ท่านอ๋ อง.. โปรดของขวัญชิ้นนี้ หรื อไม่เพคะ” นางยังมีแก่ใจเงยหน้าขึ้นถามเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ ว เส้นผมสี น้ าํ


หมึกแผ่สยายบนเตียง บนศีรษะยังมีหูกระต่ายน่ารักนัน่ ..

“ชอบ! ชอบมากที่สุด!” เขาตอบอย่างแข็งขัน พลันได้เห็นรอยยิม้ สมใจจากริ มฝี ปากนาง

“อวี้เอ๋ อร์ ลงมือเย็บด้วยตัวเองตั้งนาน อยากให้ท่านอ๋ องได้เห็นกระต่ายน้อยสมใจ”

158
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
น่าเอ็นดูเหลือเกิน.. เสวียนเฟิ งรู ้สึกตื้นตัน นางช่างรู ้ใจเขา ของขวัญชิ้นนี้ถูกใจเขาเหลือเกิน ถึงตายก็ไม่มีวนั ลืม
เลือน เขาจับโบว์สีแดงที่ลาํ คอนางพลางเอ่ย “อา..เงื่อนเช่นนี้ ช่างเหมาะกับเจ้าเหลือเกินกระต่ายน้อย”

อวี้เอ๋ อร์คลี่ยมิ้ “เงื่อนเช่นนี้นิยมผูกไว้บนของขวัญเพคะ” นางมักมีธรรมเนียมแปลกๆ ที่เขาไม่เคยได้ยนิ มาก่อน

“ดี! เช่นนั้นก็ปล่อยไว้อย่างนี้เถอะ กระต่ายน้อย เจ้าเป็ นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเปิ่ นหวาง”

กระต่ายน้อยได้ยนิ เช่นนี้กย็ มิ้ แป้นไม่หุบ เขาอดใจไม่ไหวถึงกับต้องยืน่ มือไปลูบดวงหน้านั้นอย่างรักใคร่ นาง


น่ารักเกินไปแล้ว!

เอาล่ะ! หมดเวลาสําหรับการพรอดพรํ่าคํารัก สายตาของเสวียนเฟิ งลุกวาบ ยามนี้ ร่างกายเขาแผ่กลิ่นอายเข้มข้น


กระต่ายน้อยยังไม่รู้ตวั ว่าคํ่าคืนนี้ จะเจอกับอะไร

“ท่านอ๋ อง เหตุใดมองอวี้เอ๋ อร์เช่นนั้นเล่าเพคะ” นางถามเสี ยงสั่นเมื่อเห็นสายตาเขา

“กระต่ายน้อย.. คืนนี้จงยอมให้เปิ่ นหวางกลืนกินเสี ยโดยดี ยังจําสัญญาเมื่อกลางวันได้หรื อไม่ เจ้าบอกว่าคืนนี้


จะตามใจเปิ่ นหวางมิใช่หรื อ” กล่าวพลางเท้าแขนลงบนเตียง คร่ อมร่ างของนางไว้

“แต่วา่ ..” นางยังไม่ทนั ได้กล่าว เขาก็ปิดปากนางไว้ดว้ ยจุมพิตเร่ าร้อน อวี้เอ๋ อร์ มีหรื อจะต้านทานเขาได้ เพียงไม่
นานก็ตอบสนองเขาอย่างเร่ าร้อนปานกัน

ชายหนุ่มหยอกล้อนางโดยไม่มีท่าทีวา่ จะถอดชุดกระต่ายน้อยออก ราวกับสิ งโตที่เล่นกับเหยือ่ จนพอใจก่อนจะ


ลงมือกลืนกิน..

อวี้เอ๋ อร์ หอบหายใจ ร่ างงามในชุดกระต่ายน้อยบิดไปมาอย่างกระสับกระส่ าย

“ท่านอ๋ องเพคะ..” นางกระตุน้ เตือนเขาเสี ยงหวาน เสวียนเฟิ งหัวเราะหึ หึในลําคอ

“ทําไมรึ ..” สายตาวาววามยามเอ่ย

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ไหวแล้ว.. ท่านอ๋ องโปรด..”

159
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เรี ยกตัวเองใหม่ซิ กระต่ายน้อย” เสวียนเฟิ งยิม้ นัยน์ตาลุกโชติช่วงด้วยเพลิงปรารถนาทว่าแฝงประกาย


ระยิบระยับอย่างบันเทิงใจ

อวี้เอ๋ อร์กดั ริ มฝี ปากแน่นจนแดงราวเลือดจะหยด แล้วพลิกกายหนีไปทางอื่น หันหลังให้เขาจนเห็นพูเ่ ล็กๆ น่า


เอ็นดูที่บ้ นั ท้าย ช่วงเวลาอย่างนี้ นางก็ยงั ขัดขืนดึงดันเขาจนถึงที่สุด จะไม่ให้เขาหลงใหลนางได้อย่างไร

เสวียนเฟิ งเอื้อมมือไปเคล้นคลึงบั้นท้ายงามงอนหนักหน่วงแล้วทิ้งกายนอนซ้อนด้านหลัง กระซิ บข้างหูนาง


“กระต่ายน้อยตัวนี้ด้ือดึงเหลือเกิน” เขาขบกัดใบหูนางแล้วไล้ริมฝี ปากไปตามซอกคอหอมกรุ่ น อวี้เอ๋ อร์สั่น
สะท้านไปทั้งกาย

มือไม้ของเขาเปะปะอยูต่ ามอาภรณ์ชิ้นล่าง พยายามจะถอดออกเพื่อแนบสนิทกับนาง แต่ไม่คุน้ เคยกับเสื้ อผ้า


เช่นนี้ ไม่รู้วา่ ถอดอย่างไร

“อวี้เอ๋ อร์ถอดเองเพคะ” นางรี บปัดมือเขาออก กลัวว่าชุดที่นางอุตส่ าห์เย็บขึ้นมาจะขาดไปเสี ยก่อน นางชันกาย


ขึ้นคุกเข่า ค่อยๆ รู ดผ้าชิ้นน้อยสี ดาํ นัน่ ออกจากเรี ยวขา เหลือไว้เพียงเกาะอกและเงื่อนสี แดงที่ลาํ คอระหง กิริยา
อันเป็ นธรรมชาติน้ นั ดูยวั่ ยวนจนเขาสั่นสะท้านต้องกลั้นเสี ยงครางไว้แล้วแสร้งเอ่ยเสี ยงดุ

“กิริยาเช่นนี้ ไม่มีสตรี ดีๆที่ไหนทํากันหรอก”

กระต่ายน้อยหน้ามุ่ยขึ้นมาทันที สะบัดหน้าจนผมสี น้ าํ หมึกกระจาย เอ่ยเสี ยงแง่งอน “เช่นนั้นจากนี้ ไปอวี้เอ๋ อร์


จะไม่ทาํ อีกแล้ว จะไม่เย็บชุดเช่นนี้อีก และจะนอนเฉยๆ ยามปรนนิบตั ิท่านอ๋ อง”

“แต่เปิ่ นหวางกลับชอบให้เจ้าทํา” เขาเอ่ยยิม้ ๆ ส่ งสายตาให้นางอย่างมีความหมาย เรี ยกรอยยิม้ มุมปากนางให้


โค้งขึ้นอย่างอดไม่ได้ นางหน้าแดงค้อนเขาอีกคราด้วยสายตาที่สื่อว่า คนอะไรช่างหยอกเย้าเก่งเหลือเกิน..

จากนั้นม่านมุง้ ก็สั่นไหวไปหมด เนิ่นนานจนค่อนคืน เสี ยงกระต่ายน้อยดังเล็ดลอดออกมา วิงวอนขอร้องให้เขา


เมตตา แต่เขามีหรื อที่จะฟัง ก็คืนนี้วนั เกิดเขา กระต่ายน้อยมีแต่จะต้องตามใจเขามิใช่หรื อ..

ในที่สุด นางก็แกล้งร้องไห้อีก..

160
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านอ๋ อง ฮึก..อวี้เอ๋ อร์ ไม่ไหวแล้วเพคะ” นํ้าตาไหลเป็ นทางราวกับสั่งได้

“อวี้เอ๋ อร์..” เขาเอ่ยอย่างใจเย็น “ลูกไม้เดิมไม่อาจใช้กบั คนเดิม เจ้าคิดว่าเปิ่ นหวางไม่รู้หรื อ” รอยยิม้ ร้ายกาจ


ปรากฏขึ้นบนมุมปากของเขา “เจ้าเคยแกล้งร้องไห้มาแล้ว ตอนนั้นเปิ่ นหวางยอมให้เจ้า เห็นว่าเจ้ายังไม่คุน้ เคย
กับเปิ่ นหวาง แต่คืนนี้..” เขาใช้นิ้วเขี่ยโบว์สีแดงที่ลาํ คอนาง “เจ้ามอบกายให้เป็ นของขวัญเปิ่ นหวางมิใช่หรื อ..
อย่าได้แม้แต่จะคิด เปิ่ นหวางไม่มีทางยอมให้เจ้าบิดพลิ้ว”

นํ้าตาของนางหยุดไหลทันที “ท่านอ๋ อง! คอยดูเถิด อวี้เอ๋ อร์จะไม่คุยด้วย ต่อให้ท่านอ๋ องมาขอโทษภายหลัง อวี้


เอ๋ อร์กไ็ ม่ยกโทษให้”

แต่มีหรื อที่คนอย่างชินอ๋ องจะสนใจคําขู่ประเภทนี้ เปรี ยบประดุจราชสี ห์ที่ไม่สนใจเสี ยงขู่ฟ่อของลูกแมว...

จวบจนฟ้าสาง ความเคลื่อนไหวในห้องจึงค่อยสงบลง...

161
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 26 : เปิ่ นหวางย่ อมไม่ ผดิ

วันรุ่ งขึ้น ข้าไม่แม้แต่จะเหลือบตามองชินอ๋ อง ยังโกรธที่เขาทํากับข้าไม่หาย แต่จะโทษเขาฝ่ ายเดียวก็ไม่ถูก ข้า


เป็ นคนสัญญาเองว่าจะตามใจเขา แถมยังเป็ นข้าเองที่เป็ นคนต้นคิดเรื่ องชุดกระต่ายบ้าๆ นัน่ ดูท่าชินอ๋ องจะ
ถูกใจมากถึงขั้นถอดชุดนั้นเก็บไว้เอง กลัวว่าข้าจะเอาไปซ่อนอีก ข้าได้แต่นอนมองเขาลอกคราบข้าด้วยสายตา
แค้นเคือง แต่เขาจะสะทกสะท้านสักนิดหรื อก็ไม่!

ข้านอนสลบไสลไปจนถึงยามบ่ายด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่า ตื่นขึ้นมาต้องทนกับสายตาล้อเลียนของหมิงจูยามให้
นางปรนนิบตั ิอาบนํ้า ข้านัง่ กินข้าวคนเดียวอย่างกระแทกกระทั้น ชินอ๋ องคงรู ้ตวั ว่ายัว่ โทสะข้าไว้มากจึงจงใจ
หลบหน้าเสี ย

ทว่าข้าคาดผิดไป เขาไม่ได้หลบหน้าข้า คนอย่างเขามีหรื อจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้าที่เป็ นเพียงหวางเฟยตัว


น้อย ที่เขาทํากับข้าก็ชอบด้วยเหตุผลทุกประการ เป็ นหน้าที่หวางเฟยที่ตอ้ งปรนนิ บตั ิเขาอยูแ่ ล้ว ไม่วา่ เขาจะ
เรี ยกร้องอะไรกับข้าก็ไม่ผิด ข้ามีสิทธิ์ บ่นอะไรเสี ยที่ไหน! เขาให้คนมาตามข้าไปพบที่หอ้ งอักษรอีกครั้ง พอ
เห็นหน้าข้า เขาก็กลั้นยิม้ อย่างอดไม่อยูท่ ้ งั ๆ ที่ขา้ ตีสีหน้าบึ้งตึงสุ ดชีวิต ข้านัง่ ลง หลังตรงคอแข็ง มองไปทางอื่น
ที่ไม่มีเขา

“กระต่ายน้อย.. ยังโกรธเปิ่ นหวางอยูห่ รื อ” นํ้าเสี ยงของเขานุ่มนวลออดอ้อน ข้าไม่มีทางใจอ่อนง่ายๆ

“เมื่อคืนเปิ่ นหวางเพียงเอ็นดูเจ้าหนักไปหน่อยเท่านั้น ก็ใครใช้ให้เจ้าน่ารักน่าใคร่ ถึงเพียงนั้นเล่า”

ใช่สิ! ทั้งหมดล้วนเป็ นความผิดของข้า เมื่อคืนข้าร้องเสี ยจนเจ็บคอ เขาทรมานข้าอย่างไร้เมตตา ข้าไม่มีทางยก


โทษให้! ข้านัง่ เงียบไม่ตอบคํา ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรื อว่าข้าจะไม่คุยด้วย ต่อให้เขามางอนง้อขอโทษข้าก็เถอะ..

ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจท่าทีป้ ั นปึ่ งของข้า กลับทํานํ้าเสี ยงเป็ นการเป็ นงานยามเอ่ยต่อ

“เปิ่ นหวางจะแกล้งล้มเจ็บ ยาพิษที่รัชทายาทเว่ยหงอิ่นให้เจ้ามามีท้ งั หมดหกเม็ด มีชื่อว่าพิษหกทวาร เป็ นพิษที่มี


เฉพาะในแคว้นเว่ย ไม่มียาแก้ ตรวจหาไม่พบ หากเจ้าให้เปิ่ นหวางกินทีละเม็ด ยานั้นย่อมจะค่อยๆ ไปดับทวาร
ทั้งหกของเปิ่ นหวาง ทําให้กลายเป็ นคนพิการเสี ยสติ ถึงตอนนั้นเปิ่ นหวางย่อมไม่มีเขี้ยวเล็บไปต่อกรกับพวก
นั้นได้อีก”

162
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าได้ยนิ แล้วถึงกับสะท้าน ช่างเป็ นพิษที่เหี้ ยมโหดเหลือเกิน.. หากข้าตัดสิ นใจเอายานัน่ ให้เขากิน.. ข้านึกถึง


ภาพชินอ๋ องที่ตามองไม่เห็น หูไม่ได้ยนิ ไม่อาจรับสัมผัสภายนอกใดๆได้ ก็รู้สึกปวดใจเหลือเกิน ข้ายังคงนิ่งงัน
ไม่ได้หนั ไปมองเขา

“เปิ่ นหวางจะแสร้งปล่อยข่าวออกไปว่าตามองไม่เห็น ทําทีวา่ ได้รับพิษเม็ดแรกไปแล้ว ยามนี้เปิ่ นหวางไม่


จําเป็ นต้องเข้าวังแล้ว ไม่ตอ้ งกลัวว่าใครจะผิดสังเกต เจ้าว่าดีหรื อไม่” เขาแสร้งถามความคิดข้า

“อวี้เอ๋ อร์ไม่มีความเห็นเพคะ” ข้าตอบนํ้าเสี ยงเย็นชา

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ถามหรื อ เหตุใดเปิ่ นหวางจึงต้องทําเช่นนี้ ”

ข้าไม่ตอบ พอจะเดาได้วา่ เขาทําเช่นนี้เพื่อให้ใต้เท้าจางตายใจว่าข้าลงมือแล้วหลังจากที่เขาส่ งข้อนิ้วแม่มา


กระตุน้ เตือน ชินอ๋ องคงต้องการให้สืบหาตัวแม่ได้ง่ายขึ้นกระมัง ใต้เท้าจางได้ยนิ อย่างนี้จะได้คลายความ
ระมัดระวัง ถึงตอนนั้นเขาจะได้หาโอกาสช่วยแม่ออกมาได้ ข้าบังเกิดความรู ้สึกตื้นตัน จึงค่อยคลายโทสะลง
แต่กย็ งั ไม่คิดจะพูดกับเขาอยูด่ ี

“หากเจ้าไม่ถาม เปิ่ นหวางก็จนใจ คงต้องให้เจ้าได้ประจักษ์ดว้ ยตาตนเอง” กล่าวจบข้าก็ได้ยนิ เขาเรี ยกเฉิ นซี

เฉิ นซี เดินนําคนผูห้ นึ่งเข้ามาในห้อง ข้าหันไปมองแล้วก็ตอ้ งเบิกตาค้างอย่างตกตะลึง

...แม่! แม่มาได้อย่างไร…

ข้านิ่งงันจนแม่เดินเข้ามาใกล้ แม่มองคนในห้องอย่างตื่นๆ กวาดสายตาผ่านข้าไป แต่แล้วก็หนั กลับมาจดจ้อง


ใหม่

ในแววตาแม่เต็มไปด้วยความรู ้สึกไม่อยากเชื่อ เขม้นมองข้าซํ้าแล้วซํ้าอีกไม่อาจเอ่ยวาจา ข้าเองก็จอ้ งแม่ตอบตา


ไม่กระพริ บเช่นกัน ระหว่างเราไม่อาจมีใครเอ่ยคําใด จนกระทัง่ เสี ยงของชินอ๋ องดังขึ้นอีกครั้ง

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าจะไม่ทกั ทายมารดาหน่อยหรื อ”

163
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นํ้าตาของข้าไหลพราก ข้าลุกขึ้นยืน ก้าวไปหาแม่ชา้ ๆ ก่อนจะทรุ ดตัวลงแทบเท้าแม่

“ท่านแม่.. ท่านแม่ ข้าอกตัญญูนกั ทําให้ท่านแม่ได้รับความลําบากแล้ว” ข้าสะอื้น นึกถึงข้อนิ้วแม่ที่ถูกตัด


ออกไป แม่ทิ้งตัวลงนัง่ กอดข้าไว้ในอ้อมแขน ข้ายังจําได้ ไออุ่นที่คุน้ เคย กลิ่นกายอ่อนละมุนของแม่ที่กอดข้า
ไว้ในคํ่าคืนที่หนาวเหน็บ ห้องแคบๆ ที่ไม่อาจกันลมหนาวกับผ้าห่มบางๆ ที่นนั่ เราสองแม่ลูกนอนหลับไปใน
อ้อมกอดกันและกันทุกคืน ข้าคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน ข้าซุกใบหน้าเข้ากับอก รัดร่ างแม่ไว้แน่นในอ้อมแขน
อย่างไม่ตอ้ งการจะให้หายไปไหนอีก

“อาหลัน แม่ไม่เป็ นอะไร แม่ดีใจเหลือเกิน เห็นเจ้าสุ ขสบายดีเช่นนี้ แม่ไม่มีอะไรให้ตอ้ งเป็ นห่วงอีก”

ข้านํ้าตาไหล “แม่จ๋า อาหลันไม่อาจทําตามสัญญา ไม่ได้กลับไปหาท่านให้เร็ วกว่านี้ ทําให้ท่านถูกใต้เท้าจางจับ


ตัวไป ต้องถูกตัดนิ้วได้รับความเจ็บปวดทรมาน”

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว แม่ไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด ตระกูลจางเพียงซื้ อตัวแม่ไป ให้ทาํ งานอยูใ่ นครัว” แม่ตอบ ข้าผละ


ออกจากอ้อมกอด จับมือทั้งสองของแม่ข้ ึนมาดู ถึงแม้จะหยาบกร้านไปบ้างแต่นิ้วมือก็สมบูรณ์ ข้าผ่อนลม
หายใจอย่างโล่งอก ใต้เท้าจางคงตัดนิ้วของผูเ้ คราะห์ร้ายคนอื่นส่ งมาหลอกข้ากระมัง ข้ายังจับต้นชนปลายอะไร
ไม่ถูก รู ้แต่วา่ มีเรื่ องราวมากมายอยากจะเอ่ยกับแม่ แต่ไม่รู้จะเอ่ยปากเรื่ องใดก่อน

“อวี้เอ๋ อร์ ให้มารดาเจ้าไปพักผ่อนก่อนดีหรื อไม่ เปิ่ นหวางยังมีธุระต้องคุยกับเจ้าอีกสักครู่ เสร็ จแล้วเจ้าค่อยใช้


เวลาด้วยกันสองแม่ลูก เปิ่ นหวางคุยไม่นานหรอก”

ได้ยนิ เช่นนั้นข้าจึงปล่อยมือแม่แล้วพยุงให้แม่ลุกขึ้น เฉิ นซี เดินนําแม่ออกไปนอกห้อง ข้ามองตามแม่จนลับ


สายตา

“แม่ของเจ้าปลอดภัยแล้ว อยูใ่ นวังของเปิ่ นหวาง ไม่มีอะไรต้องเป็ นห่วง”

ข้าหันกลับมา ในดวงตาข้าทอประกายขอบคุณ ในที่สุดเขาก็ช่วยแม่ขา้ กลับมาได้อย่างปลอดภัย ชีวติ ของข้านี้


ติดหนี้บุญคุณเขามากเหลือเกิน

“ท่านอ๋ องเพคะ ได้โปรดรับการคารวะจากอวี้เอ๋ อร์ ” ข้าย่อกายให้เขาอย่างอ่อนน้อม ขอบคุณเขาด้วยความรู ้สึก


ซาบซึ้ งจากใจจริ ง เขารี บลุกจากที่นงั่ เข้ามาประคอง

164
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์ อย่าทําอย่างนี้ เจ้าเป็ นหวางเฟยของข้า เป็ นหน้าที่ขา้ ที่ตอ้ งคุม้ ครองเจ้าและมารดาให้ปลอดภัย” เขา
ไม่ได้ใช้คาํ ว่าเปิ่ นหวางแทนตัว ทําให้ขา้ รู ้วา่ เขาเอ่ยออกมาในฐานะชายผูห้ นึ่ งซึ่ งตั้งใจปกป้องดูแลสตรี อนั เป็ นที่
รัก

ข้ากอดเขาไว้แน่นแล้วร้องไห้ออกมา ข้าโล่งใจ..โล่งใจเหลือเกิน แม่เป็ นสายสัมพันธ์เดียวของข้าที่เหลืออยูบ่ น


โลกใบนี้ หากแม่เป็ นอะไรไป ข้าคงเศร้าเสี ยใจและรู ้สึกผิดบาปไปชัว่ ชีวิต จิตใจข้าที่เครี ยดขมึงราวกับเส้นลวด
ที่ขึงตึงมาเป็ นเดือนค่อยผ่อนคลาย ข้าปล่อยให้ชินอ๋ องกอดข้าไว้อย่างปลอบประโลม

“ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไร”

“ไม่ตอ้ งทําอย่างไร เพียงรักเปิ่ นหวางให้มากๆ ก็พอ” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี

“อวี้เอ๋ อร์ละอายใจเหลือเกิน..ที่โกรธเคืองท่านอ๋ องด้วยเรื่ องเมื่อคืน ท่านอ๋ องได้โปรดอย่าถือโทษอวี้เอ๋ อร์เลยนะ


เพคะ” ข้าเอ่ยอย่างอ่อนหวาน ความโกรธเคืองในใจมลายไปสิ้ น ให้ขา้ ตอบแทนเขายิง่ กว่านี้ขา้ ก็ยนิ ดี ทุกสิ่ งที่ขา้
ทําไปไม่อาจเทียบได้กบั สิ่ งที่เขาทําให้แก่ขา้

“กระต่ายน้อยอย่าคิดมากไปเลย เจ้าทําให้เปิ่ นหวางมีความสุ ขมาก เปิ่ นหวางเห็นเจ้าปั่นปึ่ งกลับนึกเอ็นดู มิได้


โกรธเคืองเลยสักนิด” เขาเอ่ยยิม้ ๆ “แววตายินดีของเจ้าก็คือความสุ ขของเปิ่ นหวาง วันเกิดเปิ่ นหวางปี นี้ เปิ่ น
หวางได้รับของลํ้าค่าถึงสามสิ่ ง”

ข้าช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างสงสัย

“แหวนแทนใจของเจ้าที่ส่งความรักตรงถึงหัวใจ ชุดกระต่ายน้อยที่เปิ่ นหวางไม่มีทางลืมเลือน และแววตาสุ ขใจ


ของเจ้ายามได้พบมารดา ฟ้าช่างส่ งเจ้ามาเพื่อให้เปิ่ นหวางมีแต่ความอิ่มใจ”

คําพูดของเขาทําให้ขา้ อิ่มเอิบใจเช่นกัน ทว่าพูดถึงชุดกระต่ายน้อยขึ้นมา ข้าก็นึกขึ้นได้ ที่เมื่อคืนเขากล้ารังแกข้า


โดยไม่กลัวคําขู่เลยสักนิด เป็ นเพราะเขารู ้วา่ ตัวเองทําความดีความชอบอย่างใหญ่หลวง อย่างไรเสี ยข้าก็ตอ้ งยก
โทษให้ มิหนําซํ้ายังต้องซาบซึ้ งในบุญคุณเขาอีกต่างหาก ข้าขบริ มฝี ปาก แม้จะรู ้เช่นนี้แล้วแต่กไ็ ม่อาจเอ่ยปาก
ตําหนิเขาได้ ชินอ๋ องผูน้ ้ ีร้ายกาจยิง่ นัก รับมือได้ยากเหลือเกิน ทุกสิ่ งล้วนคิดคํานวณมาเป็ นอย่างดี ไม่มีช่องว่าง
เลยสักนิด

165
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาเห็นสี หน้าข้าก็เหมือนจะรู ้ตวั ว่าข้าคิดออกแล้ว จึงรี บเปลี่ยนเรื่ อง

“อวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ได้ตอบเปิ่ นหวาง รู ้หรื อไม่เหตุใดเปิ่ นหวางต้องแกล้งล้มเจ็บ”

ข้านิ่วหน้าคิด เขาช่วยท่านแม่ออกมาได้แล้ว จะแกล้งได้รับพิษไปอีกทําไม

“จางอี้หมิงยังไม่รู้วา่ แม่ของเจ้าได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว เปิ่ นหวางทําเช่นนี้เพื่อให้เขาตายใจต่อไป”

“เหตุใดเขาจึงไม่รู้เล่าเพคะ มารดาเป็ นเชลยของเขาอยูม่ ิใช่หรื อ ช่วยคนออกมาแล้วจะไม่รู้ได้อย่างไร” ข้าสงสัย

“คนของเปิ่ นหวางใช้เวลาเนิ่นนานตามหาตัวมารดาเจ้าตามที่คุมขังกบดาน หาเท่าใดก็ไม่พบ จนแทบจะพลิก


เมืองหลวงหา ที่แท้จางอี้หมิงใช้แผนการ /ที่อนั ตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด/ ให้คนซื้ อตัวมารดาเจ้าจากหลิ่ว
เหลย ปล่อยให้ทาํ งานในครัวราวกับบ่าวไพร่ ธรรมดาคนหนึ่ ง ไม่มีใครให้ความสนใจเพราะไม่มีใครรู ้
ความสําคัญของมารดาเจ้า มารดาเจ้ามิได้รู้เรื่ องราวใดทั้งสิ้ น เพียงปฏิบตั ิตามระเบียบของจวนอย่างเคร่ งครัดที่
ไม่อนุญาตให้บ่าวไพร่ ออกไปข้างนอก ตราบเท่าที่ในจวนสงบเรี ยบร้อยดี จางอี้หมิงก็ไม่มีอะไรต้องกังวล คน
ของเปิ่ นหวางมุ่งสื บเสาะตามที่คุมขังทรมานนักโทษของเขา ไม่มีใครนึกว่านางจะเป็ นบ่าวไพร่ ไม่สลักสําคัญ
ในครัว จึงไม่มีผใู ้ ดพบเห็นมารดาของเจ้า”

เช่นนี้ นี่เอง จางอี้หมิงจึงตบตาคนของชินอ๋ องได้นานนัก

“โชคดีคนของเปิ่ นหวางที่เพิ่งส่ งเข้าไปสอดแนมในฐานะบ่าวรับใช้ได้พบนางเข้า จดจําได้วา่ คล้ายคลึงกับ


ภาพวาดมารดาเจ้าที่เปิ่ นหวางแจกจ่ายให้ทุกคน เขาสอบถามจนได้ความว่านางถูกขายมาจากบ้านหลิ่วเหลยจึง
มัน่ ใจว่าใช่แน่ เมื่อหาคนปลอมแปลงโฉมเป็ นมารดาเจ้าได้แล้ว จึงนําตัวไปแทนแล้วลอบช่วยเหลือออกมา”

ข้าอ้าปากฟังอย่างตื่นเต้น หมายความว่าชินอ๋ องตบตาใต้เท้าจางมาโดยตลอด จนบัดนี้ใต้เท้าจางก็ยงั คงคิดว่า


แผนการทุกอย่างเป็ นไปตามความคาดหมายของเขากระมัง เขามิได้รู้สักนิดว่าข้ายังไม่ได้ตกเป็ นของเว่ยหงอิ่น
ชินอ๋ องยังไม่ตอ้ งพิษ และมารดาข้าไม่ได้ตกอยูใ่ นกํามือเขาแล้ว ทันใดนั้นสายตาข้าที่มองชินอ๋ องก็เป็ นประกาย
อย่างชื่นชม เขาเห็นเข้าก็ยกยิม้ แล้วดีดหน้าผากข้า

166
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เหตุใดจึงจ้องมองเปิ่ นหวางเช่นนั้น เปิ่ นหวางบอกแล้วมิใช่หรื อว่าเปิ่ นหวางปกป้องเจ้าได้ เจ้ามองเปิ่ นหวาง
เช่นนี้อยากจะโดนรังแกอีกหรื อไร”

ข้าหน้าแดง รี บก้มหน้า “อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่รู้สึกว่าท่านอ๋ องช่างชาญฉลาดเหลือเกิน ปั่นหัวใต้เท้าจางเสี ยจนยํา่ แย่


หากเขาได้รู้ความจริ งคงต้องกระอักเลือดเป็ นแน่เพคะ”

ชินอ๋ องหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ใช่วา่ เปิ่ นหวางจะได้เปรี ยบเขาเสมอไป เขาก็สร้างความลําบากให้เปิ่ นหวางไม่


น้อยเช่นกัน” เขานิ่งไปครู่ หนึ่งจึงเอ่ย

“กระต่ายน้อย หลังจากเว่ยหงอิ่นกลับแคว้นเว่ยไปแล้ว เปิ่ นหวางอาจต้องกลับไปชายแดน เจ้าอยูท่ างนี้ ตอ้ ง


รักษาตัวให้ดี”

คําพูดเขาทําให้ขา้ ใจหาย ข้าไม่ได้เตรี ยมใจที่จะต้องอยูห่ ่างกายเขา

“ท่านอ๋ องเพคะ ได้โปรดให้อวี้เอ๋ อร์ได้ติดตามไปด้วยเถิดเพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์ ชายแดนมิใช่สถานที่ที่เจ้าควรไป” เขาเอ่ยเพียงเท่านี้แล้วก็ไม่เอ่ยเรื่ องนี้ ต่อ

“ไปหามารดาเจ้าเถอะ พวกเจ้าคงมีเรื่ องต้องพูดกันมากมายทีเดียว”

เมื่อเขาเอ่ยถึงมารดาขึ้นมา ดวงตาข้าก็เป็ นประกาย ข้าเขย่งกายขึ้นจุมพิตที่ริมฝี ปากเขาเร็ วๆ ทีหนึ่ ง

“เช่นนั้นอวี้เอ๋ อร์ขอตัวก่อนนะเพคะ” ข้ายิม้ สดใสให้เขาก่อนจะรี บผละออกจากอ้อมแขน กลัวเขาจะเปลี่ยนใจ


เสี ยก่อน ข้าสาวเท้าออกจากห้องอย่างรวดเร็ วแทบจะเป็ นวิ่ง ในใจข้ามีเรื่ องราวอยากบอกเล่าให้แม่ฟังมากมาย
เหลือเกิน เจ็ดปี ที่ไม่ได้พบกัน ความรักความคิดถึงอัดแน่นอยูใ่ นอก รอยยิม้ อย่างเบิกบานปรากฏขึ้นบนริ ม
ฝี ปากข้าเป็ นครั้งแรกตั้งแต่มาถึงโลกใบนี้

167
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 27 : ยังจดจําความรักไว้ มิได้ลืมเลือน

“แม่!”

แม่นงั่ อยูใ่ นห้องรับรองเพียงลําพัง ตรงหน้ามีถว้ ยชาที่ยงั ไม่ได้จิบ ท่าทางแม่ไม่คุน้ เคยกับสถานที่ พอเห็นข้า แม่
ก็รีบลุกขึ้น

“อาหลัน!”

ข้าวิง่ เข้าไปกอดแม่ แม่กอดข้าตอบ เราสองคนยิม้ อย่างสุ ขใจ จับจ้องกันราวกับไม่เคยเห็นกันมาก่อน แม่ยงั คง


งดงามเหมือนที่ขา้ จําได้แม้วา่ จะดูมีอายุข้ ึนเล็กน้อย

“แม่จ๋า ข้าคิดถึงแม่เหลือเกิน” แม่น้ าํ ตาไหล

“อาหลัน แม่นึกว่าเจ้าถูกขายให้แก่หอคณิ กาไปนานแล้ว เป็ นมาอย่างไรเจ้าจึงได้มาอยูว่ งั ท่านอ๋ องเช่นนี้ ”

ข้าเล่าเรื่ องทุกอย่างให้แม่ฟัง เรื่ องที่ใต้เท้าจางซื้ อตัวข้ามา ให้การเลี้ยงดูอบรมราวกับคุณหนูตระกูลใหญ่ เรื่ องที่


เขารับข้าเป็ นบุตรบุญธรรมแล้วให้กินยาโฉมงามแสนตําลึง ใช้ให้ขา้ ไปยัว่ ยวนฮ่องเต้ทว่ากลับกลายเป็ นว่าข้า
ตกเป็ นของชินอ๋ อง สุ ดท้ายเรื่ องที่เขาจับตัวแม่ไปเพื่อบังคับให้ขา้ วางยาท่านอ๋ อง

แม่ฟังอย่างประหลาดใจในโชคชะตาอันพลิกผันของข้า จากเด็กน้อยในชนบทคนหนึ่งกลับได้เป็ นถึงหวางเฟ


ยของชินอ๋ องผูม้ ีอาํ นาจล้นแผ่นดิน แม่มองข้าอย่างชื่นชม

“ดีแล้วที่อาหลันตั้งใจเล่าเรี ยนจนได้รับเลือกจากใต้เท้าจาง ยาเม็ดของหมอเหอช่างพิสดารนัก มิน่าเล่า อาหลัน


ของแม่จึงงดงามจนแม่เกือบจําไม่ได้” แม่เอ่ยยิม้ ๆ พอแม่ได้ยนิ ว่าคนของชินอ๋ องไปสื บหาแม่ที่บา้ นของหลิ่ว
เหลย ก็ถามข้าถึงคนพวกนั้นว่าเป็ นอย่างไรหลังจากขายแม่ไปอีกคน

“หลิ่วเหลยและครอบครัวล้วนถูกสังหารสิ้ น ทางการลงบันทึกว่าเป็ นการปล้นโดยโจรต่างถิ่น”

168
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แม่เพียงทอดถอนใจก่อนจะกล่าว “จะเป็ นไปได้อย่างไร หลิ่วเหลยเป็ นเพียงชาวบ้านธรรมดา โจรที่ไหนจะ
สนใจมาปล้นฆ่าอย่างทารุ ณกัน น่าเวทนาพวกเขานัก ต้องมาตายอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่”

“หากวันนั้นพวกเขาไม่คิดขายข้า จะถูกใต้เท้าจางฆ่าล้างครัวเช่นนี้หรื อ มิหนําซํ้าอยูก่ นั มาเป็ นสิ บปี ยังคิดจะขาย


แม่อีกด้วย” ข้าแย้งอย่างไม่เห็นด้วย เหตุใดแม่ตอ้ งไปสงสารคนร้ายกาจอย่างนั้น

“เจ้าอย่าพูดอย่างนั้นอาหลัน ความทุกข์ยากในชีวิตตน ไม่ควรโทษให้เป็ นความผิดของผูอ้ ื่น แม่เองกลับมองว่า


ในความโชคร้ายนั้นอย่างน้อยก็มีความโชคดีอยูบ่ า้ ง และบางคราวในความโชคดีกลับมีโชคร้ายแฝงอยู”่

คําพูดแม่ทาํ ให้ขา้ ได้คิด แม่เห็นข้านิ่งฟังจึงเอ่ยต่อ

“เมื่อครั้งแม่ยงั เยาว์ รู ้สึกว่าตัวเองโชคดีนกั ที่ได้เจอบิดาเจ้า ยามนั้นเขาเป็ นบัณฑิตหนุ่มรู ปงาม สุ ภาพอ่อนโยน


มีความรู ้สูง ตั้งใจจะไปสอบเข้ารับราชการ ทว่าได้มาเจอแม่เสี ยก่อน เขากลัวว่าแม่จะถูกยกให้ผอู ้ ื่นไปจึงรี บตบ
แต่งแม่เป็ นภรรยา ครั้นจะออกเดินทางไปสอบถึงเมืองหลวงแม่กต็ ้ งั ท้องเจ้าเสี ยก่อน เขานึกเป็ นห่วงแม่จึงตัดใจ
ล้มเลิกความคิดที่จะรับราชการเสี ย อยูด่ ว้ ยกันสองผัวเมียอย่างสมถะทําไร่ ทาํ นาอย่างมีความสุ ข”

ข้าฟังอย่างสนใจ ตอนนั้นข้ายังเด็ก แม่จึงไม่ได้เล่ารายละเอียดเช่นนี้ให้ฟัง ข้าเพิ่งได้รู้วา่ พ่อข้าเป็ นบัณฑิต


ยากจน ด้วยความรักที่มีต่อแม่จึงยอมละทิ้งโอกาสก้าวหน้าของตนเสี ย

“แม่คิดว่าตัวเองช่างเป็ นสตรี ที่โชคดีนกั ได้พบเจอบุรุษแสนดีเช่นพ่อเจ้า แต่แล้วในความโชคดีน้ นั ก็บงั เกิด


คราวเคราะห์ใหญ่หลวงกับครอบครัวเล็กๆ ของเรา” แม่หนั มามองข้า นํ้าตารื้ นขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ “แม่คิดว่าพ่อ
ของเจ้าถูกหลิ่วเหลยวางยา แม่เพิ่งคลอดเจ้าไม่กี่เดือน พ่อของเจ้าก็ลม้ เจ็บและตายอย่างปัจจุบนั ทันด่วน แม่ยงั
ไม่ทนั จะเดินทางกลับบ้านเดิม หลิ่วเหลยก็บุกมาที่บา้ น แล้วใช้กาํ ลังกับแม่”

ข้าเห็นแม่น้ าํ ตาไหลก็อดร้องไห้ตามอย่างสงสารไม่ได้ ข้าสงสารแม่เหลือเกิน ไม่เพียงแต่ตอ้ งพรากจากชายอัน


เป็ นที่รัก ยังถูกชายหยาบช้ารังแก ทันใดนั้นข้าก็รู้สึกสาสมใจที่ใต้เท้าจางสังหารครอบครัวหลิ่วเหลยทั้งบ้าน แม่
เอื้อมมือมาจับไหล่ขา้

“แม่รู้วา่ เจ้าคิดอะไรอยู่ จงละวางความคิดนั้นเถิดอาหลัน ความอาฆาตแค้นเป็ นดัง่ ยาพิษ แม่ไม่ตอ้ งการให้เจ้า


เป็ นคนอย่างนั้น”

169
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ามองแม่อย่างประหลาดใจ เหตุใดแม่จึงสามารถให้อภัยคนที่ทาํ ลายชีวติ แม่ท้ งั ชีวติ ได้เล่า พ่อมิใช่ตายด้วย
นํ้ามือหลิ่วเหลยหรื อไร

“ท่านแม่ ข้าไม่ใช่แม่พระ ไม่อาจทําใจละวางความแค้นลงได้”

“แม่เองก็เจ็บแค้นอยูห่ ลายปี แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป แม่จึงค่อยคิดได้ ต้องขอบคุณที่เจ้าเคยบอกให้แม่รอ แม่ใช้


ชีวิตอยูเ่ พื่อรอเจ้ากลับมา ระหว่างนั้นแม่จึงได้เข้าใจว่าคนเรามีชีวิตอยูไ่ ด้ดว้ ยความหวัง มิใช่ความแค้น แม่ใช้
ชีวติ อยูร่ ่ วมบ้านกับคนที่แม่ท้ งั เกลียดชังทั้งเคียดแค้นอย่างที่สุดเพียงเพื่อรอเจ้ากลับมา เแม่ไม่อาจจากไปไหน
ไม่อาจฆ่าพวกนั้นกับมือให้สมใจ หากแม่ไม่อาจทําใจ คงเป็ นบ้าไปเสี ยก่อน”

"ไม่จริ งหรอก ความแค้นก็ทาํ ให้คนมีชีวิตต่อไปได้เช่นกัน" ข้าเถียง

"ชีวิตเช่นนั้นเรี ยกว่าชีวติ หรื อ เพลิงแค้นมีแต่จอ้ งจะแผดเผาให้วอดวายไปด้วยกัน ความหวังหล่อเลี้ยงชีวติ แต่


ความแค้นทําลายชีวิต ไม่เพียงผูอ้ ื่น ยังรวมถึงตนเองด้วย"

ข้ามิได้โต้แย้งแม่อีก เพียงแต่คิดในใจว่า แม่ช่างเป็ นคนใจอ่อนเหลือเกิน

“อาหลัน เจ้าคงแค้นเคืองใต้เท้าจางมากกระมัง” แม่เอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นข้านิ่งเงียบ

“ท่านแม่ ชัว่ ชีวติ ข้าไม่เคยเคียดแค้นใครถึงเพียงนี้” ข้าบอกแม่ตามตรง

“อาหลัน เจ้าคงเห็นแล้วว่าชีวิตแม่เจออะไรมาไม่นอ้ ย ความเศร้าโศกแทบขาดใจใช่วา่ จะไม่เคยรู ้จกั แม่เพียง


อยากจะบอกเจ้าว่า ความรักความแค้นล้วนแล้วแต่เป็ นมายา ทุกสิ่ งย่อมเป็ นไปตามวาระ ถึงที่สุดแล้วเจ้าจง
ปล่อยวางแล้วใช้ชีวิตให้มีความสุ ขเถิด”

ข้าเบิกตาอย่างประหลาดใจ ใต้เท้าจางทํากับข้าถึงเพียงนี้ เหตุใดแม่ไม่โกรธสักนิด

“ท่านแม่รู้หรื อไม่ ใต้เท้าจางยังวางยาข้า หวังให้รัชทายาทหงอิ่นปลุกปลํ้า ซํ้ายังส่ งข้อนิ้วในถุงหอมของแม่มา


ข่มขู่ขา้ ทําให้ขา้ ไม่สบายใจไปทั้งเดือน”

170
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“แล้วท้ายที่สุด เจ้าปลอดภัยดีหรื อไม่เล่าอาหลัน แม่เองก็ไม่ได้เป็ นอะไร อย่าลืมว่าหากไม่มีใต้เท้าจาง เจ้าคง
ต้องเติบโตในหอคณิ กา มีชีวติ ราวกับตกนรกทั้งเป็ น หากไม่มีเขา เจ้าจะได้รับการอบรมที่ดีเช่นกุลสตรี ช้ นั สู ง
หรื อ หากเขาไม่ทุ่มเทกับเจ้า เจ้าจะมีรูปโฉมงดงามเช่นนี้หรอกหรื อ สิ่ งเลวร้ายที่เขาทํากับเจ้าแม่เข้าใจ แต่สิ่งดีๆ
ในชีวติ เจ้าก็เป็ นเพราะเขาหยิบยืน่ ให้เช่นกัน ไม่เช่นนั้นเจ้าและชินอ๋ องคงไม่ได้มีวาสนาต่อกันเช่นนี้ แน่”

ข้าฟังที่แม่พูดก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ใจยังไม่อาจจะยอมรับจึงนิ่งเฉยเสี ย

แม่เห็นข้ายังดื้อรั้นจึงไม่ได้กล่าวต่อ เปลี่ยนไปถามถึงเรื่ องชินอ๋ องกับข้าแทน

“เขาดีกบั ข้ายิง่ นักแม้วา่ จะเป็ นคนร้ายกาจเจ้าแผนการไปบ้าง” ข้าเอ่ยตอบแม่อย่างเขินอาย แม่ยมิ้ อย่างพอใจ

“อาหลันได้ครองคู่กบั คนที่รัก แม่กด็ ีใจ”

ข้าเห็นแม่มีท่าทางชื่นชมชินอ๋ องมากเกินไปก็รู้สึกขวาง จึงเล่าเรื่ องราวความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของชินอ๋ องให้แม่


ฟัง เรื่ องที่เขาใช้ขา้ เป็ นเหยือ่ ล่อ แถมยังรังแกข้าต่างๆ นานา แม่เพียงแต่ยมิ้ ไม่เอ่ยสิ่ งใด แม่เห็นข้าเล่าเรื่ องร้ายๆ
ของเขาแต่แววตากลับเต็มเปี่ ยมไปด้วยความสุ ข ท้ายที่สุด แม่จึงเอ่ย

“วันหน้าหากมีปัญหาอุปสรรคใด จงจดจําความรักในวันนี้ ไว้อย่าได้ลืมเลือน”

ชินอ๋ องจัดให้แม่พกั ในตําหนักเมฆาล่องซึ่ งอยูไ่ ม่ไกลจากตําหนักหลักหยางซิ น ยามที่พวกเราเดินมาส่ งแม่


ด้วยกัน เขาทอดฝี เท้าให้ชา้ ลงแล้วเอ่ยกระซิ บกับข้า

“คืนนี้เจ้าจะนอนกับมารดาสักคืนก็ได้ เปิ่ นหวางจะยอมเสี ยสละหมอนข้างอย่างเจ้า เห็นแก่แม่ลูกเพิ่งจะได้พบ


กัน”

ข้าค้อนเขาอย่างรู ้ทนั “เป็ นเพราะคืนนี้อวี้เอ๋ อร์ ตอ้ งพักผ่อนร่ างกาย ท่านอ๋ องจึงไม่อาจแตะต้องต่างหากเล่าเพ
คะ”

171
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
รอยยิม้ ของเขาโค้งขึ้นอย่างถูกใจ “เจ้ารู ้ใจเปิ่ นหวางอีกแล้ว มีเจ้านอนอยูเ่ คียงข้างแต่ไม่อาจแตะต้องย่อมเป็ น
การทรมานเปิ่ นหวางยิง่ นัก มิสู้ปล่อยให้เจ้านอนกับมารดาสักคืนให้หายคิดถึง พรุ่ งนี้เจ้าค่อยยังชัว่ แล้วค่อย
กลับมานอนกอดเปิ่ นหวาง”

ข้าทุบหน้าอกเขาเบาๆ อย่างหมัน่ ไส้

คืนนั้นข้านอนหลับสนิท แต่กย็ งั ฝันถึงซี ยนิ เช่นเคย

ในวังหลวง ราชโองการฉบับแล้วฉบับเล่าทยอยประกาศออกมาเพื่อปูนบําเหน็จเหล่าขุนนางฝ่ ายบู๊ซ่ ึ งสร้าง


ความดีความชอบในการศึก ...องค์ชายห้าเจิ้งอู่ มีความดีความชอบจากการนําทัพไปรบชายแดน สามารถ
ต้านทานกองทัพของพวกชนเผ่าจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ จึงได้รับการอวยยศเป็ นจวิน้ อ๋ อง…

...แต่เขาไม่ได้เอ่ยถึงการสมรสพระราชทาน รวมถึงไม่ได้ปฏิเสธคุณหนูสามจวนรองแม่ทพั ..

ซี ยนิ รอเขาอย่างสงบเสงี่ยมอยูท่ ี่จวนด้วยจิตใจที่ร้อนรุ่ ม แต่วนั เล่าวันเล่า เขาก็ไม่ได้มา…

...ซี ยนิ เจ้าเชื่อใจข้าหรื อไม่…

นางได้ยนิ แต่เพียงประโยคนี้ซ้ าํ ๆ ในหัว

ซี ยนิ ยังคงเชื่อใจท่าน... นางรํ่าร้องในใจ ไม่กล้าหลัง่ นํ้าตาให้ใครเห็น ความรักของนางกับเขาเป็ นความลับ นาง


ได้แต่กลํ้ากลืนความขมขื่นลงในอก

ซี ยนิ จําได้..เขาสัญญาว่าหากรบชนะกลับมาจะขอสมรสพระราชทานกับนาง นางจะได้นงั่ เกี้ยวแปดคนหามเข้า


วังของท่านอ๋ อง บัดนี้ทุกอย่างเป็ นดัง่ สายลม ราวกับเรื่ องที่เคยเกิดขึ้นเป็ นเพียงความฝัน

ใจของซี ยนิ เจ็บจนชา เขาจะรู ้หรื อไม่วา่ หัวใจนางหลัง่ เลือด ดวงตาหลัง่ นํ้าตา

หลังจากได้รับการอวยยศเป็ นจวิน้ อ๋ อง เส้นทางในราชสํานักขององค์ชายห้าเจิ้งอู่ดูจะพุง่ สู ง...

172
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามนี้ องค์ชายสี่ กบั องค์ชายเจ็ดต่างก็ฟาดฟันกันอย่างสุ ดชีวิต ขุนนางที่ฝักใฝ่ ทั้งสองฝ่ ายก็มีไม่นอ้ ย หากฝ่ ายใด
ฝ่ ายหนึ่ งช่วงชิงราชบัลลังค์เป็ นผลสําเร็ จ มีหรื อที่จะปล่อยให้อีกฝ่ ายรอดไปได้ ศึกนี้จึงสู ้กนั ยิบตาด้วยว่าหากอีก
ฝ่ ายครองบัลลังค์ได้สาํ เร็ จ นัน่ ย่อมหมายถึงจุดจบของฝ่ ายที่พา่ ยแพ้

..แต่หากเป็ นองค์ชายห้าเจิ้งอู่ที่อยูน่ อกเหนือความคาดหมายของผูใ้ ดกันเล่า เขาย่อมเป็ นตัวเลือกที่ท้ งั สองฝ่ าย


พึงปรารถนา แต่ละฝ่ ายพอจะมีทางถอย มีหนทางประนีประนอมกันได้ ไม่ตอ้ งเข่นฆ่ากันจนตายไปข้างหนึ่ ง
อีกทั้งใครจะอยากสนับสนุนองค์ชายทั้งสองที่ต่อสู ้กนั เพียงเพื่อแย่งชิงสตรี นางหนึ่ งกันเล่า

..แน่นอนว่าเรื่ องที่ท้ งั คู่ต่างหมายปองซี ยนิ ไม่ใช่ความลับ..

ท่านรองแม่ทพั ผูเ้ คยเอนเอียงไปทางองค์ชายสี่ เริ่ มลังเล องค์ชายสี่ แม้สุขมุ เยือกเย็นกลับมีความแค้นลํ้าลึกกับ


องค์ชายเจ็ด รอยแค้นนี้ยงิ่ ฝังลึกเมื่อทั้งสองต่างหมายปองสตรี คนเดียวกัน ตรองดูแล้วหากเขาสนับสนุนองค์
ชายสี่ หากองค์ชายสี่ ได้ครองบัลลังค์สมประสงค์ เขาย่อมได้รับเพียงความดีความชอบธรรมดา แต่หากเขา
สนับสนุนองค์ชายห้าเจิ้งอู่ อย่างไรเสี ย เสี ยนเฟยมารดาของเจิ้งอู่กเ็ คยทาบทามบุตรี คนที่สามของเขาไว้ บางที
ลูกสามของเขาอาจจะมีวาสนาได้เป็ นถึงฮองเฮา เจิ้งอู่ยงั ไม่ได้แสดงท่าทีวา่ หมายปองสตรี ใด แต่ความโปรด
ปรานขององค์ชายสี่ ดูเหมือนจะมีให้เพียงสตรี นามว่าซี ยนิ เท่านั้น เขามิสู้สนับสนุนองค์ชายห้าดีกว่าหรื อ เพื่อ
อนาคตของบุตรี คนที่สามและวงศ์ตระกูล คิดได้ดงั นั้นแล้วท่านรองแม่ทพั ก็ตดั สิ นใจ เจิ้งอู่เพียบพร้อมด้วย
สติปัญญาและความสามารถ ในเมื่อสิ่ งที่เขาขาดก็คืออํานาจหนุนหลัง เช่นนั้นเขาผูน้ ้ ีจะเป็ นลมใต้ปีกให้องค์ชาย
ห้าผูน้ ้ ีเอง...

..เจิ้งอู่.. ท่านจะหักหลังข้าจริ งๆ หรื อ..

ข่าวสารจากภายนอกแพร่ มาให้ได้ยนิ

...ฮ่องเต้ทรงพระประชวร รัชทายาทอ่อนแอ…

บิดาของซี ยนิ เป็ นเจ้ากรมอาญา มีนิสัยเถรตรงยิง่ นัก ยึดมัน่ ในความถูกต้อง ไม่วา่ อย่างไรก็สนับสนุนองค์รัช
ทายาทซึ่ งมีสิทธิ์ชอบธรรมในบัลลังค์ แม้ยามที่ราชสํานักแบ่งออกเป็ นฝักฝ่ าย เจตนารมณ์ของเขาก็ยงั มัน่ คงนัก

วันหนึ่ งจวนของเจ้ากรมอาญาก็ถูกล้อม ทหารนํากําลังเข้ากับกุมใต้เท้าซี เหมี่ยนบิดาของซี ยนิ ไปยังคุกหลวง

173
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“บิดาของข้าถูกใส่ ความ” ซี ยนิ เอ่ยขอร้องนายกองซึ่ งนําคนมาควบคุมตัวบิดา ทว่าต่อให้เป็ นโฉมงามซี ยนิ


ขอร้อง เขาจะขัดคําสั่งผูบ้ งั คับบัญชาได้หรื อ

“ใครเป็ นผูอ้ อกคําสั่งจับบิดาข้า” ซี ยนิ เอ่ยถามอย่างแค้นเคือง ทว่านายกองผูน้ ้ นั ไม่ตอบ ได้แต่นาํ ตัวบิดานาง


ออกจากจวนไป

นางคิดไม่ออกว่าจะไปพึ่งใคร มารดาได้แต่นงั่ ร้องไห้ น้องชายอยูใ่ นห้องกับพี่เลี้ยง ในใจของซี ยนิ หวาดหวัน่


เหลือเกิน บัดนี้ นึกได้แต่ใบหน้าคนรัก

..เจิ้งอู่ ท่านต้องช่วยข้าได้แน่..

แม้จะไม่แน่ใจต่อท่าทีของคนรักที่เงียบหายไป ครานี้ซียนิ ได้แต่บากหน้าไปยังวังของเขาอีกครั้ง คนเฝ้าประตู


ยังคงอึกอักไม่เต็มใจให้นางเข้าไปเช่นเคย

“คุณหนูกลับไปก่อนเถิดขอรับ วันนี้ไม่เหมาะจริ งๆ คราวที่แล้วข้าก็ไม่กล้ารายงานท่านอ๋ องว่าข้าปล่อยให้


คุณหนูเข้าไป”

“บัดนี้บิดาข้าถูกจองจําอยูใ่ นคุกหลวง มารดาของข้าได้แต่นงั่ ร้องไห้ ข้ามาขอพบท่านอ๋ องเพื่อขอความ


ช่วยเหลือ ท่านอ๋ องเป็ นที่พ่ ึงสุ ดท้ายของข้าแล้ว ท่านได้โปรดเห็นใจข้าด้วยเถิด” ซี ยนิ อ้อนวอน ใบหน้างดงาม
อ่อนหวานนั้นเศร้าสร้อย ไม่วา่ ผูใ้ ดได้เห็นย่อมไม่อาจใจแข็งอยูไ่ ด้

ซี ยนิ ก้าวเข้าไปในวังขององค์ชายห้าด้วยความรู ้สึกราวกับคนแปลกหน้า ผูค้ นขวักไขว่ แต่นางไม่คุน้ หน้าเลยสัก


นิด ทุกคนดูเร่ งรี บไม่มีเวลาสนใจแขกไม่ได้รับเชิญเช่นนาง ซี ยนิ ขยับผ้าที่ปิดใบหน้าให้รัดกุมยิง่ ขึ้น นางไม่
อาจเอาชื่อเสี ยงของตนมาเสี่ ยงได้วา่ บุกเข้าวังองค์ชายห้าโดยพลการ คนกลุ่มใหญ่เดินสวนมา ตรงกลางคือเจิ้งอู่
ท่านอ๋ องของนาง! ซี ยนิ ดีใจยิง่ นัก รี บสาวเท้าเข้าไปคารวะ

“ถวายพระพรจวิน้ อ๋ องเพคะ” ใบหน้าซี ยนิ แดงระเรื่ ออย่างยินดี ได้พบหน้าท่านอ๋ องของนางอย่างใกล้ชิดเป็ น


ครั้งแรกหลังจากที่ไกลกันนานนับปี เขาจะยินดีเช่นเดียวกับนางหรื อไม่ ยามเงยหน้าขึ้นดวงตาคู่งามยังเป็ น
ประกายระยิบระยับ แม้วา่ นางจะปิ ดบังใบหน้าแต่เจิ้งอู่ตอ้ งจดจํานางได้แน่ ทว่าประกายในแววตาของนางต้อง
ดับไปเมื่อประสานสายตากับคนตรงหน้า

174
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เจิ้งอู่จอ้ งมองนางด้วยดวงตาดํามืดไร้ความรู ้สึก เอ่ยนํ้าเสี ยงเย็นชา ใบหน้าราวกับฉาบทาด้วยนํ้าแข็ง

“เจ้ากลับไปเสี ยเถิด”

กล่าวจบก็กา้ วเดินต่อพลางหันไปหารื อกับท่านรองแม่ทพั ทิ้งนางไว้เบื้องหลังราวกับนางเป็ นคนแปลกหน้า ซี


ยินยืนนิ่ งราวกับวิญญาณหลุดจากร่ าง มองตามร่ างสู งที่ค่อยๆ ไกลออกไป นัน่ ใช่เจิ้งอู่ของนางแน่หรื อ

ระหว่างที่เดินไปนั้นคนของเขาเข้ามารายงานสถานการณ์ไม่ขาด ดูเหมือนว่าเขากําลังยุง่ ยามสั่งการดวงตาดํา


สนิทคู่น้ นั เย็นชา นํ้าเสี ยงเฉี ยบขาด เขาจดจ่ออยูก่ บั การบัญชาการจนดูเหมือนไม่สนใจสิ่ งใด ยามถกกับรองแม่
ทัพดูเคร่ งเครี ยดจริ งจังราวกับกําลังตัดสิ นใจเรื่ องความเป็ นความตาย เมื่อก่อนยามเขาเอ่ยถึงการศึก สายตาเขา
มักจะเป็ นประกายกระตือรื อล้น เขาคือคนหนุ่มที่ทะเยอทะยาน นี่คือตัวตนของเขายามโลดแล่นอยูใ่ นสมรภูมิ
ใช่หรื อไม่ ตัวตนของเขาที่นางไม่เคยรู ้จกั

..ข้าเป็ นเพียงบุตรสาวเจ้ากรมอาญา บัดนี้บิดาต้องโทษทัณฑ์ ยิง่ ไม่มีประโยชน์กบั เขา..

ที่ผา่ นมาเขาเพียงหลอกเชยชม เป็ นนางที่โง่งม หลงเชื่อลมปากของท่านอ๋ องรู ปงาม ซี ยนิ คิดในใจอย่างขมขื่น

แม้จะเคยคิดว่ารู ปการณ์อาจจะเป็ นเช่นนี้ แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริ ง ซี ยนิ ก็ยงั อดไม่ได้ที่จะหลัง่ นํ้าตา สิ่ งที่นาง
หวาดกลัวกลับกลายเป็ นเรื่ องจริ ง เจิ้งอู่หมดรักนางเสี ยแล้ว ซี ยนิ เดินออกจากวังองค์ชายห้าราวกับไร้วญ ิ ญาณ

แม้จะเศร้าโศกเพียงใดแต่ซียนิ ยังไม่อาจล้มลง นางเป็ นเพียงคนเดียวที่จะช่วยเหลือบิดาได้ นางสั่งให้คนขับรถ


ม้าไปส่ งที่วงั องค์ชายสี่ แม้แต่ชายคนรักยังเห็นนางเป็ นเพียงคนแปลกหน้า นางจะยังมีที่พ่ ึงอื่นอีกหรื อ ระหว่าง
องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดที่หุนหันพลันแล่น นางเลือกขอความช่วยเหลือจากองค์ชายสี่ เสี ยดีกว่า

องค์ชายสี่ ตอ้ นรับนางเป็ นอย่างดี ครั้นทักทายปฏิสันถารตามธรรมเนียมแล้ว ซี ยนิ ก็เอ่ยปากถึงจุดประสงค์ของ


การมาในคราวนี้ องค์ชายสี่ นงั่ ฟังอย่างตั้งใจ ครั้นนางเล่าจบ มุมปากของเขาก็ประดับด้วยรอยยิม้ อ่อนโยน ซี ยนิ
ค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเขาคงจะไม่ใจดํากับนางเกินไปนัก

175
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ซี ยนิ เรื่ องที่เกิดขึ้นกับบิดาเจ้า ข้ารู ้สึกเห็นใจเจ้านัก ทว่าข้าเองก็จนใจเหลือเกิน ไม่รู้วา่ เป็ นคําสั่งของผูใ้ ด เกรง
ว่าหากกระทําการบุ่มบ่ามอาจจะพลาดพลั้งเป็ นช่องโหว่ให้ศตั รู ของข้าฉวยโอกาสโจมตี” คําอธิบายของเขาทํา
ให้ใบหน้างดงามของซี ยนิ สลดลง นางพอจะเข้าใจความนัยที่เขาบอก ความหมายก็คือ ไม่

“แต่วา่ ..เรื่ องราวอาจไม่ยากถึงเพียงนั้น หากเจ้ายอมเป็ นชายาของข้า ยามนั้นเราย่อมเปรี ยบเสมือนคนคน


เดียวกัน ข้าย่อมทุ่มสุ ดกําลังเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเจ้า”

ซี ยนิ กัดริ มฝี ปาก คําขอของเขาช่างยากลําบากเหลือเกิน ..นางจะทําอย่างไรดี.. ถึงแม้เจิ้งอู่จะหมดรักนาง แต่นาง


ไม่อาจฝื นใจตกเป็ นภรรยาของคนอื่นนอกจากเขาได้

..ถึงแม้นางจะเป็ นคนแปลกหน้าสําหรับเขาไปแล้ว แต่นางยังจดจําความรักครั้งนั้นไว้มิได้ลืมเลือน..

“เรื่ องนี้ ..ซี ยนิ ต้องขอเวลาตัดสิ นใจก่อนเพคะ” นางแบ่งรับแบ่งสู ้พลางขอตัวกลับ

ทว่าทันทีที่ลุกขึ้น มือหนาขององค์ชายสี่ กค็ ว้าข้อมือนางไว้ พลางเอ่ยด้วยโทสะ

“ซี ยนิ .. เจ้าจะดูแคลนข้าเกินไปแล้ว เป็ นชายาของข้าต้องฝื นใจขนาดนั้นเลยหรื อ” ในชีวติ ขององค์ชายสี่ จะมี


สตรี สักกี่คนกันที่กล้าปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ซียนิ จะไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่น องค์ชายสี่ ยอ่ มรู ้สึกเสี ยหน้า
ไม่นอ้ ย

“หามิได้เพคะองค์ชายสี่ เพียงแต่เรื่ องสําคัญเช่นนี้ หม่อมฉันต้องปรึ กษาบิดามารดาเสี ยก่อน”

“หึ บิดาหัวแข็งของเจ้าเห็นข้าอยูใ่ นสายตาเสี ยที่ไหน อย่านึกว่าข้าไม่รู้ เขาสนับสนุนรัชทายาทอย่างลับๆ ถูกคน


ของเจิ้งอู่จบั ไปคุมขังก็สมควรแล้ว”

ซี ยนิ ตกตะลึง ..เจิ้งอู่เป็ นคนสั่งจับกุมบิดานางอย่างนั้นหรื อ.. เป็ นไปไม่ได้ เขาจะทําเช่นนั้นไปทําไม

“ตาแก่ขวางโลกเช่นนั้นปล่อยให้เน่าตายในคุกไปเถิด ส่ วนเจ้า..หากยังเล่นตัวไม่เลิก อย่านึกว่าข้าจะมีความ


อดทนมากนัก หากเรื่ องยุง่ ๆ นี่จบลงเมื่อไหร่ ข้าจะส่ งเกี้ยวไปรับถึงหน้าจวน ยามนั้นถึงเจ้าคิดปฏิเสธก็ไม่ได้
แล้ว” องค์ชายสี่ หวั เราะ ซี ยนิ ตกตะลึงในปฏิกิริยาของเขานัก เขามิใช่องค์ชายสี่ ผสู ้ ุ ขมุ เยือกเย็นดังที่แสดงให้เห็น

176
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ภายนอกเลย แท้จริ งแล้ว องค์ชายผูน้ ้ ีกไ็ ม่ได้ต่างจากองค์ชายเจ็ด พวกเขาล้วนแล้วแต่กระหายในอํานาจ ไม่ได้
เห็นผูอ้ ื่นอยูใ่ นสายตา

ไม่วา่ จะเจิ้งอู่ องค์ชายสี่ องค์ชายเจ็ด พวกเขาล้วนแล้วแต่ปรารถนาร่ างกายนาง หาได้มีใครรักนางจากใจจริ งไม่


งดงามแล้วเป็ นอย่างไรเล่า ท้ายที่สุดก็เป็ นเพียงที่รองรับความใคร่ เป็ นที่ระบายอารมณ์ปรารถนา ซี ยนิ รู ้สึกอดสู
นัก นางจากไปอย่างรวดเร็ ว รู ้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจ

ซี ยนิ นึกถึงคําพูดขององค์ชายสี่ เจิ้งอู่คือผูอ้ ยูเ่ บื้องหลังการจับกุมบิดา

..นี่มนั เรื่ องอะไรกัน มีเบื้องหลังอะไรที่นางไม่รู้หรื อ.. เหตุใดเจิ้งอู่จึงทําเช่นนี้ กบั นาง นางหลงเชื่อเขา มอบกาย
มอบใจให้เขาอย่างไม่มีขอ้ แม้ เขากลับตอบแทนนางอย่างโหดร้ายเช่นนี้หรื อ ซี ยนิ รํ่าไห้จนสองตาแดงชํ้า หรื อ
เป็ นนางที่ชกั ศึกเข้าบ้าน เป็ นเหตุให้บิดาต้องเดือดร้อน ซี ยนิ ไม่อาจหาคําตอบให้กบั ตนเองได้ จึงตั้งใจว่า นางจะ
ไปพบกับเจิ้งอู่เป็ นครั้งสุ ดท้ายด้วยตนเองเพื่อขอคําตอบในเรื่ องที่ยงั ค้างคาใจ เขาจะกล้าสบตานางแล้วเอ่ย
ถ้อยคําจากใจหรื อไม่ ยามนั้น นางจะยอมรับทุกสิ่ งที่เขาตัดสิ นใจ เชื่อในคําพูดของเขาทุกคํา

..แต่วา่ ขอเวลาหน่อยเถิดนะ.. ขอเวลาให้นางได้ทาํ ใจ หากต้องเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งนางจะเข้มแข็ง นางจะ


ไม่ร้องไห้ แม้วา่ ภายในนางจะแหลกสลาย แต่นางจะไม่ให้เขาได้เห็นนํ้าตา..

177
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 28 : สลักเวลาได้ เลื่อนหลุดแล้ว

“อาหลัน เจ้าเป็ นอะไรไปหรื อ แม่เห็นเจ้าร้องไห้ยามหลับ” แม่ถามข้าในวันรุ่ งขึ้น

“ข้าเพียงฝันร้าย หมู่น้ ีไม่รู้เป็ นอะไรข้าฝันเช่นนี้บ่อยๆ”

แม่เพียงแต่มองอย่างเป็ นห่วง “เจ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกกระมัง ยามเจ้ารํ่าไห้ดูทุกข์โศกเหลือเกิน”

ความฝันของซี ยนิ ทําให้ขา้ นึกกลัว เหตุใดข้าจึงฝันถึงนางไม่เลิก นางเป็ นวิญญาณที่ตามอาฆาตแค้นข้าอย่างนั้น


หรื อ ข้าตัดสิ นใจจะไปทําบุญที่อารามเพื่อความสบายใจ จึงชวนแม่ไปด้วยกัน ชินอ๋ องกําลังหารื อเรื่ องงาน ข้า
ให้คนไปแจ้งเขาแล้วก็ออกเดินทาง ข้าไม่ได้เจาะจงวัดใดวัดหนึ่ งเป็ นพิเศษ เพียงบอกคนรถของวังเสิ่ นหยางกง
ว่าต้องการไปทําบุญยังวัดที่เงียบสงบ เมื่อลงจากรถ ข้าต้องตกใจเมื่อเห็นป้ายหน้าวัด

วัดกว่างจี๋ซื่อ! มิใช่สถานที่ซ่ ึ งซี ยนิ และเจิ้งอู่ได้พบกันเป็ นครั้งแรกหรื อ ข้าประคองแม่เข้าไป มองภายในวัด


อย่างสํารวจตรวจตรา วัดนี้ เก่าแก่โบราณ ทั้งเงียบสงบและสวยงาม บันไดหิ นทอดยาวขึ้นไปบนเขา แต่ละย่าง
ก้าวที่ใกล้เข้าไป ข้ารู ้สึกหวาดกลัว

..ข้าไม่อยากไปต่อ ข้าไม่อยากรู ้ ไม่อยากสนใจคู่รักซี ยนิ กับเจิ้งอู่อีกแล้ว ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะมีอะไรรออยู่


ข้างหน้า.. เรื่ องราวของคนทั้งคู่ช่างชวนหดหู่ เพียงแค่นึกถึงก็ราวกับจะมีม่านหมอกแห่งความเศร้าปกคลุมจางๆ
แต่ขา้ พาแม่มาถึงนี่แล้ว อยูด่ ีๆ จะพากลับได้อย่างไร

เมื่อขึ้นไปถึงอารามอันเงียบสงบบนเนินเขา ข้ากับแม่จุดธูปไหว้พระ เติมนํ้ามันตะเกียง บริ จาคเงินทําบุญไปไม่


น้อย จิตใจของข้ายังคงว้าวุน่ หลวงจีนชราเดินมาทักทายเราสองแม่ลูก

“สี กาทั้งสองจะไม่เสี่ ยงทายหน่อยหรื อ”

แม่ส่ายหน้า “ชีวิตของข้าบรรลุทุกสิ่ งที่ใจปรารถนา ข้าไม่ตอ้ งการจะเสี่ ยงทายอีกเจ้าค่ะ”

“สี กาผูน้ ้ ี เล่า เจ้ามาที่นี่เพื่อหาคําตอบมิใช่หรื อ คําตอบอยูเ่ บื้องหน้าแล้ว อย่าได้กลัวไปเลย” หลวงจีนหันมา


กล่าวกับข้า ข้ายกเซี ยมซี ข้ ึนเขย่า...

178
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

...อดีตล่วงเลยดุจสายธาร

รักแค้นเพียงสภาวะหนึ่ง

ยึดถือไว้เผาผลาญมอดไหม้

หยกงามแตกสลาย เผาผลาญใจ

สองมือมิอาจไขว่คว้า

สิ่ งผิดพลาดไม่อาจแก้ไข

สิ่ งใดเกิด เชิดหน้ารับไว้

ปั จจุบนั จึ่งลิขิตได้

สลักเวลาได้เลื่อนหลุดแล้ว..

ข้าอ่านคําทํานายแล้วนํ้าตาไหล ถ้อยคําช่างจับใจแม้จะไม่อาจตีความได้ถ่องแท้ ดูแล้วไม่ใช่คาํ ทํานายที่ดีนกั แต่


ข้าก็พบั เก็บไว้ในแขนเสื้ อ เสี ยงระฆังดังเหง่งหง่างในความเงียบสงบขวนให้วงั เวงใจ ใจข้ารู ้สึกสั่นไหว มอง
ทิวทัศน์อนั สวยงามของอารามเงียบสงบแห่งนี้แล้วกลับหวาดกลัวเหลือเกิน ข้าชวนแม่กลับวังเสิ่ นหยางกง ไม่
คิดจะกลับมาเหยียบวัดแห่งนี้อีก..

หลังกลับจากวัดกว่างจี๋ซื่อ ข้าไม่ฝันถึงซี ยนิ อีก ข้าค่อยรู ้สึกโล่งใจ ยามนี้ เป็ นกลางฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เริ่ มเปลี่ยน
สี ทิวทัศน์รอบตัวกลายเป็ นสี แดงสลับกับสี ทองดูงดงาม ข่าวเรื่ องชินอ๋ องล้มป่ วยแพร่ ไปทัว่ เมือง ผูค้ นต่างขวัญ
เสี ย ชินอ๋ องเป็ นดัง่ ปราการแข็งแกร่ งปกป้องแคว้นไว้ จะล้มป่ วยได้อย่างไร ในสายตาพวกเขาชินอ๋ องเปรี ยบ
ประดุจสมมติเทพ เมื่อความเชื่อถูกสั่นคลอน ย่อมเกิดความสับสนราวกับไก่ไร้หวั เสี ยงกระซิ บกระซาบเลื่อง

179
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ลือแพร่ ไปทัว่ ไม่มีใครกล้าชี้นิ้วมายังหวางเฟยผูง้ ดงามว่าเป็ นต้นเหตุของการเจ็บป่ วยนี้หรื อไม่แม้วา่ ในใจลึกๆ
ผูค้ นอาจจะแอบคิด

นอกเหนือจากคนในตําหนักหลักแล้ว บ่าวรับใช้อื่นๆ ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้ตาํ หนักหยางซิ นล้วนเข้าใจว่าข่าวลือ


เป็ นเรื่ องจริ ง ทั้งยังถูกกําชับมิให้แพร่ งเรื่ องที่ชินอ๋ องตามองไม่เห็น ทั้งนี้เพื่อเป็ นการลวงคนของฝ่ ายตรงข้ามที่
อาจแฝงตัวเข้ามาสื บข่าวในวังเสิ่ นหยางกง ชินอ๋ องเก็บตัวอยูใ่ นตําหนักหลักกับข้าทั้งวันทั้งคืน ใช้เวลาด้วยกัน
อย่างหวานชื่น เราสองดีดพิณเดินหมาก เขามักนอนหนุนตักข้าอ่านหนังสื อ บางทีหากต้องนัง่ ทํางานในห้อง
อักษร ก็มกั บังคับให้ขา้ ซุกตัวอยูใ่ นอ้อมอกเขา ข้ามักผล็อยหลับไป ช่างเป็ นช่วงเวลาที่สงบสุ ขเหลือเกิน

วันนี้หลังเที่ยง เขาพาข้าไปนัง่ ทํางานด้วยอีกเช่นเคย ข้าเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาเสื้ อผ้าหลุดรุ่ ย เขาหอบหายใจ


แรง มองข้าด้วยสายตาเร่ าร้อน

“ท่านอ๋ องเพคะ!” ข้าร้องอย่างตกใจ พยายามตะกายลงจากตัก นี่มนั กลางวันแสกๆ แถมอยูใ่ นห้องอักษร เฉิ นซี
จะเข้ามารายงานสถานการณ์เมื่อไหร่ กไ็ ม่รู้!

มือของเขายึดเอวข้าไว้แน่น “กระต่ายน้อย เจ้านอนดิ้นยุกยิกบนตักเปิ่ นหวาง รบกวนสมาธิ ทาํ งานของเปิ่ นหวาง


นัก.. เจ้าต้องรับผิดชอบ” เขาเอ่ยด้วยสายตาวาววาม รอยยิม้ ร้ายกาจ

ข้าอ้าปากค้าง เป็ นเขามิใช่หรื อที่จบั ข้ามานัง่ ตักเขาทํางาน ข้าไม่ได้เรี ยกร้องขอมานัง่ ตรงนี้เสี ยหน่อย แต่
ประเด็นนั้นเขาย่อมไม่ฟัง “แต่วา่ อวี้เอ๋ อร์ไม่เคยนอนดิ้น ยิง่ นอนบนตักท่านอ๋ องอย่างนี้ เป็ นไปไม่ได้ที่..” ข้า
เถียงอย่างไม่ยอมแพ้

“เจ้าหลับอยูจ่ ะรู ้ตวั ได้อย่างไรว่าดิ้นหรื อไม่” เขาไม่ฟังเสี ยง ทําตัวราวกับหมาป่ าที่โทษลูกแกะว่าทําให้น้ าํ ขุ่น


กระตุกสายรัดเอวข้าพลางอุม้ ข้าวางบนโต๊ะอักษร

“ม..ไม่เอา อย่านะเพคะท่านอ๋ อง” ข้าเท้าแขนยันโต๊ะไว้ พยายามจะกระถดหนี ข้าไม่ได้หน้าหนาอย่างเขา เกิด


อะไรขึ้นในนี้ บ่าวไพร่ หน้าห้องย่อมจะได้ยนิ แต่ชินอ๋ องไม่สนใจ ปัดข้าวของบนโต๊ะกระจัดกระจายแล้วจับข้า
นอนราบลง

“ท่านอ๋ องเพคะ บนโต๊ะอักษรไม่เหมาะนัก อวี้เอ๋ อร์รู้สึกไม่สบายกาย” ข้าหาข้ออ้างบ่ายเบี่ยง

180
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ไว้คราวหน้าข้าจะให้คนเอาเตียงมาตั้งไว้” เขาตอบอย่างไม่ใส่ ใจ

“ท่านอ๋ อง!” ข้าร้อง นึกฉุนกับความเอาแต่ใจของเขา เขาก้มลงซุกไซร้กายข้า ข้าเอามือจับใบหน้าเขาไว้อย่าง


ต่อต้าน พูดนํ้าเสี ยงแข็งขึ้นมาบ้าง

“ท่านอ๋ องเอาแต่ใจอย่างนี้ คราวนี้อวี้เอ๋ อร์ไม่มีทางยอม”

“อย่างนั้นหรื อ” เขาเงยหน้าขึ้นมายิม้ กับข้า ทําเอาข้าใจสั่นแปลกๆ “เปิ่ นหวางจะรอดูวา่ กระต่ายน้อยจะต่อต้าน


อย่างไร” กล่าวจบก็จบั ตัวข้าควํ่าหน้าลงกับโต๊ะ ตัวเขาประกบอยูด่ า้ นหลัง รุ กรานข้าอย่างหนักหน่วงจนข้าหอบ
หายใจ

“ท่านอ๋ อง..” นํ้าเสี ยงของข้าเหนื่อยอ่อน

“เรี ยกข้าว่าเสวียนเฟิ ง.. ข้าอยากให้เจ้าเอ่ยนามข้า”

ข้าหลับตาลงอย่างละอาย เขากระตุน้ ข้าด้วยริ มฝี ปากแผ่วเบาบนหลังคอและแผ่นหลัง

“อา.. เสวียนเฟิ ง.. เสวียนเฟิ ง..” ข้าร้องออกมาอย่างสุ ดจะกลั้น

ยามได้ยนิ ข้าเรี ยกชื่อเขา เขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะครอบครองข้าอย่างคลุม้ คลัง่ ข้าไม่รู้วา่ เขาเป็ นอะไรขึ้นมา


อีก หลังจากทุกอย่างเสร็ จสิ้ น เขาอุม้ ข้าขึ้นมาไว้บนตักเช่นเคย

“กระต่ายน้อยของเปิ่ นหวาง นับวันยิง่ น่ารักขึ้น เปิ่ นหวางจะเสี ยงานก็เพราะเจ้ารู ้หรื อไม่”

ข้าตวัดสายตามองเขาอย่างขุ่นเคือง

“อวี้เอ๋ อร์จะไม่มาอยูเ่ ป็ นเพื่อนท่านอ๋ องที่หอ้ งอักษรอีกแล้ว” ข้าโวยขึ้นมาบ้าง

“หากเจ้าไม่ชอบโต๊ะอักษร เปิ่ นหวางบอกแล้วจะให้คนยกเตียงเข้ามาตั้ง เฉิ นซ..” เขาทําท่าจะเรี ยกคนสนิทเข้า


มา

181
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้ารี บยกมือขึ้นปิ ดปากเขา สภาพของเราสองไม่เรี ยบร้อย โต๊ะทํางานก็กระจุยกระจาย จะให้เฉิ นซี เข้ามาได้


อย่างไร

“ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะ อวี้เอ๋ อร์จะไม่มาห้องอักษรเพราะท่านอ๋ องชอบรังแก ไม่ใช่เพราะต้องการเตียง” ข้าเอ่ย


หน้าแดง

“อ้อ อย่างนี้เองหรอกหรื อ” เขาแสร้งทําท่าว่าเพิ่งเข้าใจ ทั้งๆที่ดูสีหน้าก็รู้วา่ แกล้งให้ขา้ ได้อาย

ข้าค้อนเขาพลางยันกายลุกขึ้น จัดเสื้ อผ้าให้เข้าที่ เขามองข้าไม่วางตา ข้าจัดการเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดให้


เรี ยบร้อยดังเดิม

“ประเดี๋ยวเปิ่ นหวางเรี ยกคนเข้ามาเก็บให้ เจ้าไม่ตอ้ งลําบากหรอก” เขาเอ่ยพลางลุกขึ้นมาจับมือข้าไว้

“อวี้เอ๋ อร์ไม่อยากให้ผใู ้ ดรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้นเพคะ” ข้าเอ่ยด้วยใบหน้าซับสี เลือด

“จะเป็ นไปได้อย่างไร เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้น ใครๆ ย่อมได้ยนิ อยูแ่ ล้ว สิ่ งที่อวี้เอ๋ อร์ กงั วลย่อมเกินกว่าเหตุ”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ข้าจนด้วยคําพูด รู ้สึกว่าคนผูน้ ้ ีหมดทางเยียวยา เขาไม่รู้จกั


อายบ้างหรื ออย่างไร ชินอ๋ องจับของในมือข้าวางลง

“อวี้เอ๋ อร์ อยูก่ บั เปิ่ นหวางมาจนป่ านนี้ ยังต้องกังวลอยูอ่ ีกหรื อว่าผูอ้ ื่นคิดอย่างไร เจ้าควรเปลี่ยนวิธีคิดเสี ยใหม่
ในฐานะหวางเฟย จงรู ้จกั ใช้อาํ นาจให้เป็ น มิใช่คอยเกรงอกเกรงใจผูใ้ ต้บงั คับบัญชา หากคิดแบบเจ้า วันๆ มัว
แต่กงั วลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ก็ไม่ตอ้ งทําอะไรกันพอดี เจ้าไม่ตอ้ งใส่ ใจในเรื่ องไม่จาํ เป็ น เปิ่ นหวางจะจากไป
ไกล เจ้าเป็ นเสี ยอย่างนี้ เปิ่ นหวางจะวางใจได้อย่างไร”

ข้าฟังคําพูดเขาแล้วฉุกใจ หรื อว่าเขาจงใจทําเช่นนี้เพื่อชี้แนะข้า ข้ายังอ่อนเยาว์ ทั้งขาดเขลาและขี้เกรงใจ เขาคง


เกรงว่าข้าจะไม่อาจคุมผูค้ นให้อยูใ่ ต้อาณัติได้ ข้าต้องแข็งกว่านี้ ต้องสงบนิ่งเยือกเย็นและไม่หวัน่ ไหวไปต่อ
ความคิดของผูอ้ ื่น ใช่แล้ว นัน่ คือสิ่ งที่ชินอ๋ องเป็ น เขามีความมัน่ ใจสู ง มัน่ คงไม่คลอนแคลนไม่วา่ กับผูใ้ ด ข้า
ค่อยๆ ซึ มซับสิ่ งที่เขาชี้แนะ ทว่ายามดวงตาข้าฉายแววเข้าใจ เขากลับเอ่ยออกมา

182
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จะว่าไป เปิ่ นหวางว่าไม่ตอ้ งเอาเตียงเข้ามาก็ได้ หากคราวหน้าเจ้าไม่ถนัด เปิ่ นหวางจะยอมเสี ยสละอยูข่ า้ งล่าง
โอ๊ย..”

เขาแกล้งร้องเมื่อข้าทุบไหล่เขาอย่างแรง

ไม่ใช่..ไม่ใช่.. ไม่มีทาง.. คนอย่างนี้น่ะหรื อ นอกจากคิดอกุศลกับข้าแล้ว ไม่มีทางจะเป็ นอย่างอื่น เขาเป็ นเพียง


คนหน้าหนาผูห้ นึ่งเท่านั้น.. ข้าก่นด่าเขาในใจ หมดหนทางเยียวยาจริ งๆ...

……………..

เสวียนเฟิ งใช้ความคิดยามอยูต่ ามลําพัง หลายครั้งยามร่ วมสัมพันธ์กบั อวี้เอ๋ อร์ เงาของสตรี ที่ชื่อซี ยนิ ผุดขึ้นในใจ
ไม่รู้เพราะเหตุใด ระยะหลังเขาเริ่ มเห็นภาพซี ยนิ แจ่มชัดขึ้น เขาแน่ใจว่าในหัวใจมีอวี้เอ๋ อร์เพียงคนเดียว และชัว่
ชีวิตไม่เคยพัวพันสตรี แปลกหน้าผูน้ ้ ี เขาไม่เคยได้ยนิ ชื่อนี้มาก่อน เหตุใดจึงได้มีภาพของนางโผล่ข้ ึนมาได้เล่า
ชินอ๋ องไม่เชื่อเรื่ องงมงาย ไม่เชื่อในภูติผปี ี ศาจ แต่เรื่ องพวกนี้ ไม่รู้จะหาคําอธิบายอย่างไร

นอกจากครั้งแรกที่เขาหลุดปากเรี ยกชื่อซี ยนิ ออกมาแล้ว หลังจากนั้นเขาพยายามปิ ดบังไม่ให้อวี้เอ๋ อร์รู้ เกรงว่า


นางจะเข้าใจผิดคิดว่าเขามีสตรี อื่น

ครั้งล่าสุ ดที่เขาเห็นภาพของซี ยนิ นางกําลังเรี ยกชื่อบุรุษผูห้ นึ่งนามเจิ้งอู่ดว้ ยความเสน่หา จังหวะเดียวกับที่อวี้


เอ๋ อร์ เรี ยกนามเขา เจิ้งอู่มิใช่ชื่อชาวบ้านทัว่ ไป บุรุษผูน้ ้ ีตอ้ งเป็ นกษัตริ ยห์ รื อเชื้อพระวงศ์ ประวัติศาสตร์แคว้นเยีย่
ไม่เคยมีราชนิกลู นามเจิ้งอู่ แล้วเขาเป็ นใครกัน เสวียนเฟิ งหลับตาลงอย่างใช้ความคิด พยายามขุดคุย้ ความทรงจํา
ส่ วนลึก เมื่อใด..เมื่อใดกันที่เขาได้ยนิ ชื่อสองคนนี้ เหตุใดเขาจึงรู ้สึกเศร้าใจยามได้เห็นภาพซี ยนิ เสวียนเฟิ งยก
มือขึ้นกุมศีรษะ ทรมานเหลือเกิน อาการปวดศีรษะที่แทรกขึ้นมาราวกับจะเตือนไม่ให้เขาขุดลึกลงไปในความ
ทรงจํา

…………………….

183
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ยามนี้ตาํ หนักหยางซิ นไม่ค่อยมีคน ในสายตาคนภายนอก ชินอ๋ องคงไม่อยากให้ใครเห็นสภาพอันน่าเอน็จอนาจ


ของตัวเอง แต่ในความเป็ นจริ ง ชินอ๋ องกําลังเตรี ยมตัวเดินทางไปชายแดน เฉิ นซี เดินเข้าออกตําหนักคอย
รายงานสถานการณ์มิได้ขาด จิตใจของข้าว้าวุน่ ได้แต่มองเขาอย่างออดอ้อน

“ท่านอ๋ องโปรดให้อวี้เอ๋ อร์ติดตามไปด้วยเถิดนะเพคะ อวี้เอ๋ อร์สัญญาว่าจะไม่ทาํ ให้ท่านอ๋ องยุง่ ยากแม้เพียงนิด”


ข้าอ้อนวอน

ชินอ๋ องยังคงนิ่งเฉย พลิกเอกสารราวกับไม่ได้ยนิ เสี ยงของข้า

“ท่านอ๋ องเพคะ” ข้าลุกไปยืนด้านหลังเขา โอบแขนรอบคอแล้วซุกใบหน้าบนบ่ากว้าง “อวี้เอ๋ อร์สัญญาว่าไปถึง


ชายแดนแล้วจะตามใจท่านอ๋ องทุกอย่าง”

“อย่างนั้นหรื อ เหตุใดไม่ตามใจเปิ่ นหวางตั้งแต่ตอนนี้ อย่างนี้ เรี ยกว่าเจ้าปฏิบตั ิหน้าที่หวางเฟยบกพร่ อง


หรื อไม่” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงเรี ยบเฉยเย็นชา เขาช่างใจแข็งเสี ยจริ ง ทําให้ขา้ ต้องงัดเอามารยาหญิงมาออดอ้อนทั้งที่
ไม่อยากจะใช้เท่าไรนัก ข้าแนบแก้มนุ่มเข้ากับแก้มเขาแล้วถูไถเบาๆ

“ได้โปรดเมตตาอวี้เอ๋ อร์ดว้ ยเถิดนะเพคะท่านอ๋ อง”

ชินอ๋ องมีท่าทีเคลิบเคลิ้มไปชัว่ ครู่ แต่แล้วกลับเอ่ยตัดรอน “หากที่ผา่ นมา เจ้าเต็มใจปรนนิบตั ิเปิ่ นหวางเช่นนี้


เปิ่ นหวางอาจจะให้ไปด้วยก็เป็ นได้ แต่นี่” เขาส่ ายหน้า “เห็นได้ชดั ว่าทําไปเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝง”

“ท่านอ๋ อง!” ข้าเหยียดกายขึ้นยืนตรง “เหตุใดจึงใจดํากับอวี้เอ๋ อร์นกั ”

“กระต่ายน้อยอย่าขอร้องในสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้เลย ถึงเปิ่ นหวางอยากให้เจ้าไปด้วยมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางยอม


ให้เจ้าไปเสี่ ยงอันตราย”

“อวี้เอ๋ อร์ จะระมัดระวัง”

“ไม่ได้!”

184
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์จะเชื่อฟังทุกอย่าง”

“ไม่ได้!”

“อวี้เอ๋ อร์จะเอาอกเอาใจอย่างดี”

“ไม่ได้!”

“งั้นเลื่อนเวลาเดินทางออกไปได้ไหมเพคะ”

“ไม่ได้! หากช้ากว่านี้จะเข้าหน้าหนาว เดินทางยากลําบาก เปิ่ นหวางเลื่อนเพื่อเจ้ามาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ยงั ไงก็


ต้องไป”

ข้ารู ้สึกขัดใจ แทบจะกระทืบเท้าออกไปจากห้อง ทันใดนั้นเฉิ นซี กเ็ ข้ามารายงาน

“ทูลท่านอ๋ อง ใต้เท้าจางขอเข้าเฝ้าท่านอ๋ องและหวางเฟยพะย่ะค่ะ”

ข้าหน้าซี ดขึ้นมาทันที ไม่อยากได้ยนิ ชื่อคนผูน้ ้ ี ไม่อยากพัวพันด้วยอีกแล้ว

“ปฏิเสธไปเสี ย” ชินอ๋ องตอบโดยไม่ตอ้ งคิด

“ช้าก่อนเพคะ” ข้ารี บขัดขึ้น “อวี้เอ๋ อร์จะออกไปพบใต้เท้าจางเอง”

ชินอ๋ องหันมามองอย่างประหลาดใจ “เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องทําเช่นนี้หรอกอวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางย่อมจะมีวธิ ีสืบข่าวจาก


ทางอื่น หากเจ้าไม่สบายใจก็ไม่ตอ้ งเข้าใกล้คนผูน้ ้ ี ”

ข้าตัดสิ นใจแล้ว ข้าเชื่อใจเขา เชื่อในความรักที่เขามีให้ขา้ ข้ายอมเป็ นหมาก ยอมเป็ นม้าเป็ นลาให้เขาช่วงใช้ ไม่
สิ .. ข้าต้องเปลี่ยนวิธีคิดเสี ยใหม่เหมือนที่เขาเคยสอน ข้าต้องมองตัวเองเสี ยใหม่

เหตุใดข้าจึงวางตัวเองไว้เป็ นหมาก ทําไมไม่วางตัวเองไว้ตาํ แหน่งหวางเฟย ข้าเป็ นภรรยาของเขา ครอบครอง


ทั้งสิ ทธิ์ ศักดิ์ศรี และหัวใจของชินอ๋ อง ข้าควรต่อสู ้เคียงข้างเขาในฐานะภรรยามิใช่หมากตัวหนึ่ ง ในเมื่อเขา

185
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
จําเป็ นต้องใช้ขา้ ข้าก็ควรก้าวออกมาจากเงามืดในใจ ข้าไม่ใช่หมาก ข้าเป็ นหวางเฟย ทุกก้าวที่ขา้ ตัดสิ นใจ ข้า
เป็ นคนเลือกเอง หากยามนี้จะออกไปต่อกรกับใต้เท้าจาง ย่อมเป็ นไปในฐานะภรรยา ชินอ๋ องไม่ได้บงั คับข้า
เป็ นข้าที่เลือกจะร่ วมจมหัวจมท้ายกับเขา หากเขาต้องการความช่วยเหลือ ข้าจะทําโดยไม่ขอให้เขาเอ่ยปาก ชิน
อ๋ องหันมามองข้าด้วยความเป็ นห่วง

“อวี้เอ๋ อร์ จะไปหยัง่ เสี ยงดูเพคะว่าใต้เท้าจางมาด้วยเรื่ องอะไร” ข้าตอบเขาอย่างมุ่งมัน่

“อวี้เอ๋ อร์ สําหรับเปิ่ นหวาง เจ้าสําคัญที่สุด เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการให้เจ้าไปเสี่ ยงอีกต่อไปแล้ว” เขาบอกข้าอย่าง
หนักแน่น ในแววตาของเขาสื่ อชัดเจนว่ากลัวจะสู ญเสี ยข้าไปมากเพียงไร

“ท่านอ๋ องโปรดวางใจ อวี้เอ๋ อร์รู้ดีวา่ ทําอะไรอยู่ เพียงอยากแบ่งเบาภาระของท่านอ๋ อง นี่มิใช่หน้าที่ของหวาง


เฟยหรอกหรื อ” ข้าตอบพลางส่ งสายตาอย่างมีความนัยให้เขา ได้รับเป็ นรอยยิม้ และสายตาที่มองมาอย่าง
ภาคภูมิใจของชินอ๋ อง

ยามที่ขา้ ออกไปพบใต้เท้าจาง เขามีสีหน้ายินดียงิ่ นัก

“คารวะบิดา ท่านอ๋ องไม่สบายไม่ตอ้ งการพบแขก ต้องเสี ยมารยาทต่อบิดาแล้ว”

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าทําได้ดีมาก ยามนี้ในเมืองหลวงระสํ่าระสาย ชินอ๋ องสู ญเสี ยสายตาแล้วย่อมไม่อาจเป็ นภัยต่อพวก


เราได้อีก” คําตอบของใต้เท้าจางบอกเป็ นนัยว่าในวังเสิ่ นหยางกงมีคนของเขาแฝงตัวอยูจ่ ริ งๆ คนภายนอกรู ้
เพียงชินอ๋ องไม่สบาย มีเพียงคนในวังเท่านั้นที่รู้วา่ ชินอ๋ องมองไม่เห็น

ข้าแสร้งตีสีหน้าเศร้าพลางเอ่ย “แล้วมารดาอวี้เอ๋ อร์เป็ นเช่นไรบ้างเจ้าคะ ของที่บิดาฝากมาให้คราวก่อนทําให้อวี้


เอ๋ อร์ตื่นตระหนกจนนอนไม่หลับไปหลายคืน”

เขาแสร้งตีสีหน้าเห็นใจก่อนเอ่ย “อวี้เอ๋ อร์เจ้าก็รู้ เรื่ องนี้สาํ คัญใหญ่หลวงไม่อาจรอช้า เจ้ามัวรี รอไม่ลงมือสักที


จะเสี ยการใหญ่ได้ ทั้งไทเฮาและรัชทายาทเว่ยหงอิ่นต่างรอจังหวะลงมือ ข้ามีทางเลือกอื่นหรื อนอกจากจะ
ตักเตือนเจ้าเช่นนี้”

186
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เป็ นอวี้เอ๋ อร์ที่เลอะเลือนเองเจ้าค่ะ เพราะความใจอ่อนของอวี้เอ๋ อร์ทาํ ให้บิดาต้องลําบากแล้ว ที่มารดาอวี้เอ๋ อร์


เจ็บคราวนี้ลว้ นเป็ นความผิดของอวี้เอ๋ อร์” ข้าทําเป็ นแบกรับความผิดไว้ท้ งั หมด

“เอาเถอะ ข้าเข้าใจ ชินอ๋ องดีต่อเจ้า การจะลงมือกับเขาก็คงทําให้เจ้าลําบากใจ อย่างไรเสี ยตอนนี้แม่เจ้าก็อาการ


ดีข้ ึน ข้ามาครานี้ กเ็ พื่อตักเตือนให้เจ้าลงมือต่อได้แล้ว

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ทวนคําถามอย่างสงสัย “ลงมือต่อ?”

“ยาเม็ดที่สองอย่างไรเล่า องค์รัชทายาทกําชับมาว่าต้องกินให้ครบทั้งหกเม็ด”

ข้าแสร้งตีสีหน้าพรั่นพรึ ง “ท่านอ๋ องตาบอดแล้ว ยังต้องให้กินอีกหรื อเจ้าคะ”

“เอาเถิด ทําตามที่ขา้ สั่ง อย่าได้คิดมาก หากแผนการสําเร็ จองค์รัชทายาทมีบญั ชาให้ส่งตัวเจ้าไปแคว้นเว่ยเพื่อ


รับการปูนบําเหน็จรางวัล” เขานิ่งไปชัว่ ครู่ ก่อนเอ่ยต่อ “อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างวาสนาดีนกั ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาท
จะโปรดปรานเจ้ามากนัก ทรงดีต่อเจ้าไม่นอ้ ย กําชับข้าไม่ให้ทาํ ให้เจ้าลําบากใจ อนาคตภายภาคหน้าของเจ้าอา
จะได้เป็ นถึงประมุขวังหลัง”

เขาจงใจเอ่ยเรื่ องนี้กบั ข้าเพราะต้องการหลอกล่อข้าด้วยตําแหน่งฮองเฮาแคว้นเว่ยกระมัง สําหรับเขาแล้ว ข้าเป็ น


เพียงสมบัติผลัดมือ นึกถึงตรงนี้ ขา้ ก็รังเกียจชายตรงหน้ายิง่ นัก ข้าแสร้งทําเป็ นถามถึงเว่ยหงอิ่น

“แล้วรัชทายาทเป็ นอย่างไรบ้างเจ้าคะ นับแต่คืนนั้นอวี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ได้เจอเขาอีกเลย” ข้าแสร้งทํากิริยาเขินอายราว


กับข้าและเขามีสัมพันธ์กนั ลึกซึ้ ง ใต้เท้าจางดูเหมือนจะยินดียงิ่ นักที่ทาํ ให้ขา้ คบชูส้ ู่ ชายได้สาํ เร็ จ หากเขาเอา
ตัวเองเป็ นมาตรฐาน ตําแหน่งฮองเฮาย่อมเย้ายวนกว่าตําแหน่งหวางเฟยเป็ นแน่ เผอิญข้าไม่ใช่คนหวังนํ้าบ่อ
หน้า และความรู ้สึกที่ขา้ มีให้ชินอ๋ องเป็ นของแท้จริ ง

“รัชทายาทกลับแคว้นเว่ยไปแล้ว ยามนี้ กาํ ลังเตรี ยมจัดทัพ ในเมื่อแคว้นเยีย่ ไร้ชินอ๋ อง ก็เป็ นเพียงพยัคฆ์ไร้เขี้ยว


เล็บ เจ้าอย่าได้ตาํ หนิขา้ ว่าอกตัญญูต่อแผ่นดิน หากมิใช่เพราะฮ่องเต้คิดกําจัดตระกูลจางของเรา มีหรื อข้าจะ
ตัดสิ นใจทําเช่นนี้”

187
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์เข้าใจการตัดสิ นใจของบิดาเจ้าค่ะ บิดาทําทุกอย่างเพื่อตระกูลจางของเรา อวี้เอ๋ อร์ จะตําหนิได้อย่างไร”
ข้าแสร้งคล้อยตามเขา “นกน้อยย่อมเลือกไม้ใหญ่ทาํ รัง บิดาได้จดั หารังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมให้อวี้เอ๋ อร์ อวี้เอ๋ อร์มี
แต่จะต้องขอบคุณท่าน”

เขาหัวเราะอย่างพอใจในคําตอบของข้า ข้าจึงฉวยโอกาสถามถึงมารดา

“ข้าขอพบท่านแม่ได้หรื อไม่เจ้าคะ”

เขามีท่าทีระแวงขึ้นมาทันที คงกลัวว่าข้าต้องการรู ้ที่ซ่อนตัวแม่ “เรื่ องมารดา เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้าให้คนดูแล


นางเป็ นอย่างดี หากไม่อยากเป็ นลูกอกตัญญูทาํ ให้มารดาเจ้าต้องลําบาก เจ้าเพียงทําตามคําสั่งข้าก็พอ”

เขายังไม่รู้วา่ มารดาไม่ได้อยูท่ ี่จวนของเขาแล้ว ข้าเพียงก้มหน้าอย่างเชื่อฟัง ส่ งใต้เท้าจางกลับไปอย่างสงบ


เสงี่ยม

188
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 29 : แก้ วลํา้ ค่ าหรื อจะลอยมาสู่ มือ

ชินอ๋ องจากไปแล้ว ในที่สุดเขาก็ไม่ยอมให้ขา้ ติดตามไปด้วย มิใยว่าข้าจะกอดเขาไว้แน่นเพียงใด ไม่ยอมให้เขา


จากไป เขาไม่ได้แกะวงแขนของข้าที่รัดเขาไว้แน่นราวกับลูกลิงออก เขาเพียงกอดข้าตอบ อุม้ ข้ามาที่เตียง ร่ วม
รักกับข้าอย่างร้อนแรงหนักหน่วง พอข้าหลับใหล เขาก็จากไปเงียบๆ กลางดึก

ข้าผวาตื่นขึ้นมา รู ้ตวั ว่าพลาดท่าเสี ยแล้ว บนเตียงฝั่งที่เขานอนเป็ นประจําว่างเปล่าเยือกเย็น อกข้าวูบโหวง เขา


จากไปแล้ว นํ้าตาของข้าไหลริ นด้วยความอาลัย เขาช่างใจจืดใจดํานัก ข้าไม่มีโอกาสได้ร่ าํ ลาสักนิด ไม่ได้เห็น
ยามเขาไป ไม่ได้เตือนให้เขารักษาสุ ขภาพให้ดี ไม่ได้บอกเขาว่าข้าจะคิดถึงเขาเพียงไหน ข้าลุกขึ้นมาสวม
เสื้ อผ้า เดินไปที่หน้าต่าง โลกสี เงินยามคํ่าคืนช่างอ้างว้าง ข้าไม่เคยรู ้สึกเดียวดายเช่นนี้มาก่อนเลย

ข้ากลับไปนอนอย่างเหงาหงอย ยามเช้าตื่นขึ้นมาจึงค่อยเห็นจดหมายที่วางบนโต๊ะ ลายมือหนักแน่นสวยงาม


ของชินอ๋ องตวัดปลายพูก่ นั อย่างเร่ งรี บ เขาคงพยายามรั้งรอเพื่อใช้เวลากับข้าจนวินาทีสุดท้ายจึงต้องจากไป
อย่างรี บร้อนเช่นนั้น ข้ากวาดสายตาไปตามจดหมายนั้น ราวกับได้ยนิ เสี ยงเขาดังขึ้นข้างหู

...กระต่ายน้อย เปิ่ นหวางไม่อยากเห็นเจ้าร้องไห้ จึงจากมายามเจ้าหลับใหล อย่าได้นอ้ ยใจเปิ่ นหวางเลย เปิ่ น


หวางย่อมอยากเห็นเจ้าหลับอย่างเป็ นสุ ขปลอดภัยในวังเสิ่ นหยางกงมากกว่าจะมาตกระกําลําบากอยูท่ ี่ชายแดน
ทุรกันดารห่างไกล การเดินทางยากลําบาก เจ้าจะเจ็บป่ วยไม่สบายเอาได้ ยามข้าศึกรุ กราน หากเจ้ารั้งอยูใ่ กล้ๆ
จิตใจเปิ่ นหวางไม่อาจสงบสุ ข รังแต่จะเป็ นห่วงเจ้าตลอดเวลา เจ้าอยูท่ างโน้นจงคอยรับมือกับใต้เท้าจางให้ดี
เขาต้องกลับมาหาเจ้าอีกแน่ หากขาดเจ้าไปสักคน เขาย่อมระแวงสงสัย แผนการของข้าที่ชายแดนก็จะ
ยากลําบากขึ้น เจ้าบอกว่าเป็ นหน้าที่ของหวางเฟยที่จะต้องช่วยแบ่งเบาภาระของเปิ่ นหวางมิใช่หรื อ เปิ่ นหวาง
ทิ้งเฉิ นซี ไว้ให้คอยดูแลเจ้า เขาเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง รู ้ใจเปิ่ นหวางดียงิ่ มีอะไรไม่เข้าใจเจ้าก็ถามเขาเอาได้
เจ้าเป็ นเพียงกระต่ายน้อย เปิ่ นหวางควรจะอดใจรอให้เจ้าเติบใหญ่กว่านี้ แต่ที่ผา่ นมาเปิ่ นหวางปรารถนาเจ้า
เหลือเกิน รังแกเจ้าหนักเกินไปก็หลายหน หวังว่าเจ้าจะไม่โกรธเปิ่ นหวาง พบกันคราวหน้าเจ้าคงจะเติบโตกว่า
นี้เป็ นสาวสะพรั่งที่งดงามยิง่ กว่าเดิม ยามคิดถึงเปิ่ นหวาง อย่าลืมมองแหวนแทนใจของเราสอง ยามใดที่มอง
แหวนสลักชื่อเจ้า เปิ่ นหวางจะระลึกได้ถึงความรักที่เราสองมีต่อกัน เปิ่ นหวางจะรอคอยจนกว่าจะได้พบเจ้าอีก
ครั้ง จงรักษาตัวให้ดี เปิ่ นหวางรักและคิดถึงเจ้าทุกลมหายใจ…

189
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นํ้าตาของข้าไหลริ น ถ้อยคําของเขาช่างอ่อนหวาน ความรักที่ถ่ายทอดมาในจดหมายยิง่ ทําให้ขา้ คิดถึงราวจะ
ขาดใจ ยามนั้นที่เจิ้งอู่จากไกล ซี ยนิ คงจะรู ้สึกเช่นนี้สินะ ความรู ้สึกเช่นนี้ช่างยากจะบรรยายนอกจากได้
ประจักษ์ดว้ ยตนเองเท่านั้น

ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ จะรอท่าน นานเท่าใดก็จะรอ…

ฤดูกาลผันเปลี่ยน ใบไม้สีทองและสี แดงถูกแทนที่ดว้ ยความขาวโพลนสุ ดลูกหู ลูกตาของหิ มะ ลมหนาวจากทาง


ตอนเหนือพัดลงมา เช่นเดียวกับข่าวลือเกี่ยวกับอาการเจ็บป่ วยของชินอ๋ องยังคงแพร่ สะพัดไปในเมืองหลวง..

นับแต่ลม้ ป่ วยลง ชินอ๋ องไม่ปรากฏกายอีกเลย ไม่มีใครสามารถบอกได้วา่ ป่ วยเป็ นอะไร ฮ่องเต้ส่งแพทย์หลวง


ไปยังวังเสิ่ นหยางกงหลายต่อหลายครั้ง แต่ละคนกลับออกมาได้แต่ส่ายหัว เริ่ มมีผคู ้ นเอาไปรํ่าลือว่ายามนี้ ชิน
อ๋ องเป็ นเพียงคนพิการ ตามองไม่เห็น หู ไม่ได้ยนิ และเป็ นเพียงคนบ้าใบ้ หวางเฟยคนงามก็ไม่เคยก้าวเท้าออก
จากวัง ยามที่ประตูบานใหญ่ของวังเสิ่ นหยางกงปิ ดสนิท ผูค้ นก็จนใจที่จะเสาะหาข่าวเพิ่มเติมได้ ไม่มีผใู ้ ดอาจ
ฟันธงได้วา่ เกิดอะไรขึ้นหลังประตูใหญ่บานนั้น

ในที่สุดเพื่อเป็ นการสยบข่าวลือ ตอนใกล้สิ้นปี ฮ่องเต้จึงเชิญชินหวางเฟยมาร่ วมงานเทศกาลตงจื่อในวังหลวง


เทศกาลนี้ตรงกับวัน เห-มา-ยัน ซึ่ งจัดว่าเป็ นวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงสั้นที่สุด ข้าให้หมิงจูช่วยข้าแต่งกายด้วย
ชุดขาวสวมเสื้ อคลุมจิ้งจอกเงิน ภายนอกยังมีข่าวที่ชินอ๋ องป่ วย ข้าจึงไม่ควรแต่งกายสี ฉูดฉาด นี่เป็ นครั้งแรกที่
ข้าต้องออกหน้าด้วยตัวเองตามลําพัง เฉิ นซี และหมิงจูติดตามข้าไปด้วย ข้าไม่แน่ใจว่าวันนี้ ตอ้ งพบเจอกับอะไร
แต่กต็ ้ งั ใจว่าจะพยายามไม่ดึงความสนใจของผูค้ นมากเกินไป

ข้ามองออกมานอกหน้าต่างรถม้า ปี นี้อากาศเหน็บหนาวเหลือเกิน ภายนอกปกคลุมไปด้วยหิ มะจนขาวโพลน


ต้นไม้ที่ไร้ใบ กิ่งก้านดูเป็ นสี ดาํ ราวกับยืนต้นตาย ข้ากุมเตาพกในมือ คิดถึงไออุ่นจากกายชินอ๋ อง ยังดีที่ขา้ มีแม่
ข้าแวะไปหาแม่ทุกวันที่ตาํ หนักเมฆาล่อง ไม่เช่นนั้นวันเวลาในวังเสิ่ นหยางกงคงจะเงียบเหงาสุ ดจะทานทน

เมื่อถึงวังหลวง ข้าลงจากรถม้า สายตาของผูค้ นมองมาอย่างตกตะลึงเตือนให้ขา้ ระลึกได้วา่ ข้าไม่ได้ออกมา


ปรากฏกายนานเพียงใดแล้ว ข้ากระชับเสื้ อคลุมขนจิ้งจอกแล้วก้าวออกเดิน ข้าถูกความหนาวเย็นกัดผิวจนแดง
ไปหมดทั้งแก้มและปาก หมิงจูประคองอยูข่ า้ งกาย บุรุษทั้งหลายมองเข้าอย่างชื่นชมหลงใหล สตรี มองข้าด้วย
ความริ ษยา ข้าชินชาเสี ยแล้ว ข้าไม่สนใจว่าคนเหล่านี้จะคิดอย่างไร ชินอ๋ องเคยบอกไว้ ข้าคือชินหวางเฟย ข้า
เดินยืดกายอย่างงามสง่าเข้าไปในงาน

190
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ภายในงานคลาคลํ่าไปด้วยเหล่าสนมและคุณหนูตระกูลใหญ่ ข้าไม่คิดจะสนใจผูใ้ ด มาปรากฏกายวันนี้เพื่อ


สนองเจตนาฮ่องเต้เท่านั้น ขนมอี๊หรื อบัวลอยถูกยกออกมาแจกจ่าย ข้าเห็นแล้วอดคิดถึงชินอ๋ องไม่ได้ เวลาใกล้
สิ้ นปี เช่นนี้ สมาชิกครอบครัวมักกลับมารวมตัวกัน กินขนมอี๊เพื่อความเป็ นสิ ริมงคล แต่ยามนี้ชินอ๋ องกลับต้อง
อยูช่ ายแดนอย่างเดียวดายท่ามกลางลมหนาว เพียงคิดถึงเขา ก็ราวกับมีกอ้ นอะไรมาจุกที่ลาํ คอ ข้าตักขนมอี๊ข้ ึน
กินอย่างไม่รู้รส เสี ยงฮ่องเต้ดงั ขึ้นอย่างเอื้ออาทร

“ชินหวางเฟย อาการเจ็บป่ วยของชินอ๋ องเป็ นอย่างไรแล้วบ้าง”

“ทูลฝ่ าบาท อาการของท่านอ๋ องทรงตัวแล้วเพคะ” ข้าตอบ ไม่สนใจสายตาผูค้ นที่มองมาอย่างสนใจ

“ดีแล้ว” ฮ่องเต้ตรัสตอบ “หวังว่าเทศกาลวันตรุ ษในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ ชินอ๋ องจะหายดีและมาร่ วมงานกับ


พวกเราได้” ฮ่องเต้พยายามให้ความร่ วมมือในการกระจายข่าวเรื่ องชินอ๋ องป่ วย แต่ในขณะเดียวกันก็พยายาม
ควบคุมไม่ให้ข่าวลือเกินเลยจนสร้างความตื่นตระหนก

“เพคะ” ข้าก้มหน้าตอบ รู ้สึกว่าสายตาฮ่องเต้จะจับอยูท่ ี่ใบหน้าข้านานเกินควร ..เนิ่นนานจนป่ านนี้ เขายังทําใจ


ไม่ได้อีกหรื อ..

ผูค้ นยังไม่ลืมเลือนเรื่ องราวรักสามเส้าระหว่างข้า ชินอ๋ องและฮ่องเต้ ใครๆ ก็รู้วา่ ชินอ๋ องขัดแย้งกับฮ่องเต้เพราะ


ข้า สายตาลึกซึ้ งของฮ่องเต้ยามมองข้าย่อมจะชวนให้ผคู ้ นจินตนาการไปไกล ชินอ๋ องป่ วยหนัก หวางเฟยคนงาม
จะมีใครคุม้ ครองดูแลเล่า หรื อว่าเบื้องหลังการป่ วยของชินอ๋ องจะมีเงื่อนงํา หากชินหวางเฟยเป็ นหม้าย ฮ่องเต้
จะรับอาสะใภ้เป็ นภรรยาหรื อไม่ ดูท่าในวังหลวงจะมีหวั ข้อใหม่ให้แอบซุบซิ บนินทากันอย่างสนุกปาก เรื่ อง
อย่างรับช่วงต่อภรรยาหม้ายใช่วา่ จะไม่เคยมี

หากเป็ นจริ งดังเช่นข่าวลือ ใต้เท้าจางคงจะยินดีเป็ นที่สุด ผูค้ นคงจะระแวงสงสัยฮ่องเต้วา่ เป็ นผูว้ างยาเสด็จอา
ของตนเองเพื่อแย่งชิงภรรยา ตัวใต้เท้าจางก็จะห่างไกลจากการถูกตกเป็ นผูต้ อ้ งสงสัย

ฮองเฮายังคงมองข้าด้วยสายตาไม่เป็ นมิตร แต่ดว้ ยตําแหน่งชินหวางเฟยของข้าทําให้นางไม่อาจล่วงเกินได้ ข้า


อยูร่ ่ วมงานจนสมควรแก่เวลาก็คิดจะปลีกตัวกลับ ยามเดินกลับผ่านอุทยานหลวง กงกงผูห้ นึ่ งก็กา้ วเข้ามาคํานับ

“ถวายพระพรชินหวายเฟย ฝ่ าบาทมีรับสั่งให้นาํ ทางชินหวางเฟยไปพบยังศาลาจงชิงพะย่ะค่ะ”

191
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าพยักหน้ารับแล้วเดินตามกงกงผูน้ ้ นั ไป ระหว่างทางก็อดครุ่ นคิดไม่ได้ ฮ่องเต้จะเรี ยกข้าไปพบด้วยเรื่ องใด


เขาเสด็จออกจากงานไปครู่ ใหญ่แล้ว ยังไม่กลับไปพักผ่อนที่ตาํ หนักเฉี ยนชิงอีกหรื อ

ศาลาจงชิงที่ฮ่องเต้รอพบข้าอยูเ่ ป็ นศาลาฤดูหนาว รอบด้านกรุ กระจกไว้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้


ภายในมีเตาผิงให้ความอบอุ่น หมิงจูรออยูภ่ ายนอกกับกงกง ข้าเข้าไปในศาลาเพียงคนเดียว ฮ่องเต้ลุกขึ้นอย่าง
ยินดีเมื่อเห็นข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าดูซูบลงไปไม่นอ้ ย ก่อนชินอ๋ องจากไปชายแดน ได้ฝากให้เราดูแลเจ้า หากเสด็จอาเห็นเจ้าเป็ น


เช่นนี้ คงตําหนิ เราไม่นอ้ ยเลยทีเดียว”

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่บงั อาจรบกวนฝ่ าบาทหรอกเพคะ ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น อวี้เอ๋ อร์เพียงไม่รู้สึกอยากอาหาร”

“เราส่ งคนครัวจากในวังไปให้ดีหรื อไม่ หากได้ลองอาหารที่ถูกปาก อวี้เอ๋ อร์จะได้กินข้าวได้มากขึ้น” เขาเอ่ย


ถามอย่างห่วงใย

ข้าเพียงแย้มยิม้ มุมปาก ยกนํ้าชาขึ้นริ นแล้วส่ งให้เขา ปลายนิ้วเขาสัมผัสมือข้าแผ่วเบา ไม่รู้วา่ จงใจหรื อไม่

“ฝ่ าบาทอย่าทรงลําบากเลยเพคะ”

ต่างฝ่ ายต่างยกนํ้าชาขึ้นจิบ เงียบไปครู่ หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงทรมาน

“อวี้เอ๋ อร์ จนบัดนี้ เรายังไม่อาจตัดใจจากเจ้า เราไม่เคยลืมเจ้าและไม่อาจลืมเจ้า” เขาสารภาพ

“ฝ่ าบาท” ข้าเอ่ยเตือนเขาเสี ยงนุ่ม สิ่ งที่เขาเอ่ยย่อมไม่สมควร ข้าเป็ นภรรยาของเสด็จอาเขา เขาไม่สมควรตีทา้ ย


ครัวชินอ๋ อง

ฮ่องเต้หยิบกล่องเครื่ องประดับออกมา ภายในเป็ นเครื่ องประดับทองฝังอัญมณี ครบชุดสู งค่า

“อวี้เอ๋ อร์ พรุ่ งนี้เป็ นวันเกิดเจ้าไม่ใช่หรื อ” เขายิม้ ให้ขา้ พลางเอ่ย

192
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าได้แต่มองเขาตาค้าง แม้แต่ชินอ๋ องข้ายังไม่เคยบอก แล้วเขารู ้ได้อย่างไร

“ถูกต้องแล้วเพคะ แล้วฝ่ าบาททราบได้อย่างไร” ข้าเอ่ยถามแต่ไม่กล้ารับของไว้

“เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งรู ้หรอก รับไว้เถิด นี่เป็ นคําสั่งของเรา เจ้าจะไม่รับของพระราชทานได้หรื อ”

ข้าได้แต่เอื้อมมือไปรับไว้ รู ้สึกไม่สบายใจ สายตาของเขาแลดูหมายมาดชอบกล

“อวี้เอ๋ อร์รู้หรื อไม่ ยามเราเติบใหญ่ใกล้ชิดเสด็จอา เราชื่นชมเขาเสมอมา เห็นเขาเป็ นแบบอย่างที่เราใฝ่ ฝัน เสด็จ


อาสอนเราว่าหากปรารถนาสิ่ งใดต้องต่อสู ้ให้ได้มา มีหรื ออยูด่ ีๆ แก้วลํ้าค่าจะตกมาถึงมือ” เขาหันมามองข้า ข้า
รี บก้มหน้าหลบสายตา

“ยามนี้เสด็จอาไม่อยู่ เจ้ารู ้หรื อไม่เราคิดจะทําอะไร”

คําถามของเขาทําให้ขา้ หวาดหวัน่ ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ได้แต่กม้ หน้าตอบคําเขา

“ไม่ทราบเพคะ”

“ไม่วา่ จะศึกใด ชัยชนะล้วนขึ้นอยูก่ บั การช่วงชิงจังหวะและโอกาส ยามนี้เสด็จอาไม่อยู่ โอกาสย่อมเป็ นของเรา


แต่อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกังวลไป เราไม่ฝืนใจเจ้า เราเพียงจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนใจเจ้า ขอเพียงเจ้ายอมให้โอกาสเรา
เราจะทําให้เจ้าใจอ่อนให้ได้ ขอเพียงเจ้ายินดีเป็ นของเรา เราไม่สนใจว่าชินอ๋ องจะว่าอย่างไร”

คําพูดของเขาทําให้ขา้ ตื่นตระหนก เกรงว่านี่คงจะไม่ได้อยูใ่ นแผนการของใต้เท้าจางกระมัง ตอนนี้ ใต้เท้าจาง


ร่ วมมือกับเว่ยหงอิ่น จะส่ งข้าไปแคว้นเว่ยอยูร่ อมร่ อ ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนี้คงเป็ นความตั้งใจของเขาเอง

“ฝ่ าบาทเพคะ หากตัดสิ นพระทัยเช่นนี้ ไม่เป็ นผลเสี ยต่อการศึกที่ชายแดนหรื อเพคะ หากฝ่ าบาทและชินอ๋ อง
ขัดแย้งกัน ใต้เท้าจางมีแต่จะยินดี” ข้าพยายามชี้ให้เขาเห็นถึงข้อเสี ยของการทําเช่นนี้

“เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วงไป เรากับชินอ๋ องย่อมแยกแยะได้ระหว่างเรื่ องบ้านเมืองและเรื่ องส่ วนตัว ในสนาม
รบ เราและเขาอยูฝ่ ่ ายเดียวกัน แต่ในสนามรัก เราต่างอยูฝ่ ่ ายตรงข้าม เขาปล่อยเจ้าไว้เช่นนี้ ย่อมเป็ นการเดิน
หมากที่ผดิ พลาด เปิ ดช่องโหว่ให้เราช่วงชิงเจ้ามาได้”

193
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ฮ่องเต้ดูมนั่ ใจในความคิดของตนยิง่ นัก ข้าไม่กล้าขัด ได้แต่คิดอยากจะไปจากที่นี่เสี ยเหลือเกิน ไปซุกซ่อนตัว


อยูใ่ นวังเสิ่ นหยางกงไม่ตอ้ งออกมาอีก วันนี้ขา้ ไม่ควรมาที่วงั หลวงเลย

อยูๆ่ ฮ่องเต้กค็ ว้าร่ างข้าไว้ออ้ มอกแล้วกระโจนไปยังมุมหนึ่งของศาลา ร่ างของเขาทาบทับร่ างของข้าไว้ ข้ายัง


ไม่ทนั ได้ต้ งั ตัว ได้ยนิ แต่เสี ยงกระจกแตกเกรี ยวกราว จากนั้นได้ยนิ เสี ยงตะโกนดังลัน่

“มีคนร้ายลอบปลงประชนม์! คุม้ กันฝ่ าบาท!”

จากนั้นเสี ยงโลหะกระทบกันก็ดงั ไม่ขาดสาย เสี ยงกระบี่กรี ดผ่านอากาศ เสี ยงตะโกน คํารามอย่างเกรี้ ยวกราด
และเจ็บปวดดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ข้าได้กลิ่นคาวเลือด ฮ่องเต้ขยับกาย เศษกระจกที่คา้ งเกลื่อนอยูบ่ นกายเขาตก
กระทบพื้น เขาใช้ร่างกายกําบังข้าจากการปองร้าย ข้ารู ้สึกซาบซึ้ งใจ แต่วา่ ตอนนี้ เราสองคนยังตกอยูใ่ นอันตราย
ศาลาคับแคบ ราชองครักษ์ไม่อาจทุ่มกําลังคนเข้ามาจัดการกับคนร้ายได้อย่างถนัดถนี่ คนร้ายสี่ หา้ คนล้มลงไป
เพียงหนึ่ ง เหตุการณ์ชุลมุน คมกระบี่ของคนร้ายพุง่ มาทางฮ่องเต้ แต่องครักษ์ผหู ้ นึ่ งปราดเข้ามาใช้กระบี่รับไว้
ทัน ฮ่องเต้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว อุม้ ข้าไว้ในอ้อมแขนพาออกจากศาลานั้น

เมื่อออกมาสู่ ที่โล่ง ราชองครักษ์ที่ติดตามมาก็หอ้ มล้อมอารักขาเขาอย่างแน่นหนามุ่งไปยังตําหนักเฉี ยนชิง ข้า


เห็นหมิงจูตามมาห่างๆ ก็อุ่นใจ นางไม่ได้รับบาดเจ็บ

ในตําหนักเฉี ยนชิง ฮ่องเต้ปล่อยข้าลง ข้ารี บย่อกายคารวะ

“ขอบพระทัยฝ่ าบาทที่ปกป้องอวี้เอ๋ อร์เพคะ”

“เราต่างหากที่ผิดต่อเจ้า หากเราไม่เรี ยกเจ้ามาพบ เจ้าคงไม่ตอ้ งตกอยูใ่ นอันตรายเช่นนี้” เขาตอบ มองข้าอย่าง


เป็ นห่วง “เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ กระมัง ให้หมอหลวงตรวจดูอาการสักหน่อยดีหรื อไม่”

ข้ารี บปฏิเสธ รู ้สึกว่าจะใช้เวลาอยูใ่ นวังหลวงแห่งนี้นานเกินไปเสี ยแล้ว ของขวัญชิ้นที่เขายืน่ ให้เมื่อครู่ ยงั ตกอยู่


ในศาลา ข้าจึงบอกเขา

“อย่าเป็ นห่วงไปเลย เราจะให้คนจัดส่ งไปที่วงั เสิ่ นหยางกง” เขาบอก

194
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าหน้าแดง เหตุใดฟังดูแล้วเหมือนข้าเป็ นคนงกอย่างไรชอบกล ข้าเพียงแต่กลัวว่าของขวัญลํ้าค่าจะสู ญหาย
ในช่วงชุลมุนโดยไม่มีใครรู ้ ใช่วา่ กลัวจะไม่ได้เสี ยเมื่อไหร่ ฮ่องเต้หวั เราะอย่างอารมณ์ดี

“ไม่ตอ้ งคิดมากไป เราเข้าใจเจตนาเจ้า”

ข้าได้ยนิ เช่นนี้จึงค่อยสบายใจ จึงรํ่าลาฮ่องเต้กลับวังเสิ่ นหยางกงอย่างโล่งใจ หวังว่าระหว่างนี้เขาจะล้มเลิก


ความคิดบ้าๆ ที่เอ่ยกับข้าในศาลาจงชิงเสี ย

195
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 30 : ความคิดถึงของคนไกล

ข้ากลับถึงวังเสิ่ นหยางกงอย่างเหนื่อยล้า ให้หมิงจูช่วยผลัดเปลี่ยนเสื้ อผ้าแล้วก็รีบเข้านอน ตื่นเช้ามาได้กลิ่น


หอมละมุนของดอกไม้ ข้าลุกขึ้นอย่างประหลาดใจ สวมเสื้ อคลุมแล้วเดินออกไปดูที่หอ้ งชั้นนอก

ดอกไม้หลากสี สันเบ่งบานชูช่อราวกับสวนสวรรค์ในฤดูใบไม้ผลิ ข้าเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง หมิงจูได้ยนิ


เสี ยงความเคลื่อนไหวจึงเปิ ดประตูเข้ามา

“ท่านอ๋ องส่ งของขวัญมาให้หวางเฟยเนื่องในวันเกิดเพคะ หวางเฟยโปรดหรื อไม่”

ข้าแทบไม่ได้ยนิ เสี ยงของนางว่าพูดอะไรต่อ ในหัวของข้าได้ยนิ แต่เพียงชื่อเขา ชินอ๋ อง เสวียนเฟิ ง.. เขาอยูไ่ กล


ถึงเพียงนั้นยังส่ งของขวัญมาให้ขา้ เขาคงไปถามเอาจากแม่ แล้วให้คนเตรี ยมการไว้ล่วงหน้า กลางฤดูหนาว
เช่นนี้ จะไปหาดอกไม้สดเช่นนี้มาจากไหนได้ต้ งั มากมาย ทันใดนั้นสายตาข้าก็เหลือบไปเห็นกล่องสี แดงที่วาง
ไว้บนโต๊ะเครื่ องแป้ง ข้าเดินไปหยิบขึ้นมาเปิ ดออกดู

ภายในเป็ นจี้รูปโบว์สีแดงสด ทําจากทับทิมนํ้างามสี แดงกํ่าขนาดเท่าๆ กันเรี ยงร้อยทีละเม็ดสะท้อนแสงเป็ น


ประกายสวยงาม ถูกใจข้าเหลือเกิน ข้าหยิบสายสร้อยที่ร้อยจี้น้ นั ไว้ข้ ึนมาทาบกับลําคอ จี้รูปโบว์สีแดงตัดกับ
ลําคอขาวผ่องของข้าโดดเด่นยิง่ นัก เครื่ องประดับชิ้นนี้ทาํ ขึ้นเลียนแบบหูกระต่ายที่ขา้ ผูกคอในวันนั้น วันที่ขา้
แต่งชุดกระต่ายน้อย.. ชินอ๋ องช่างใส่ ใจจดจําทุกรายละเอียดเหลือเกิน ข้าอมยิม้ ใบหน้าระเรื่ อ บนโต๊ะยังมี
จดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ข้าเปิ ดออกอ่านอย่างกระตือรื อล้น จดหมายจากชินอ๋ อง!

...กระต่ายน้อย ชอบของขวัญที่เปิ่ นหวางส่ งมาให้หรื อไม่ ใครๆ ก็วา่ สตรี ชอบดอกไม้ เปิ่ นหวางไม่รู้วา่ เจ้าชอบ
หรื อไม่ ชอบดอกอะไร เปิ่ นหวางจึงขอมอบให้เจ้าเสี ยทุกดอก เพราะถึงอย่างไรเสี ยกระต่ายน้อยย่อมเป็ นราชินี
แห่งบุปผาที่เบ่งบานได้งดงามเกินกว่าใคร เจ้าเคยบอกว่าเงื่อนสองหูที่เจ้าผูกคอยามแต่งชุดกระต่ายน้อยนิยมผูก
ไว้บนของขวัญ เปิ่ นหวางรู ้สึกว่ามันเหมาะกับเจ้ายิง่ นัก จึงให้คนทําเป็ นจี้หอ้ ยคอให้เจ้าเพราะเจ้าเป็ นของขวัญที่
ดีที่สุดในชีวิตเปิ่ นหวาง ขอให้เจ้ามีความสุ ขมากๆ กระต่ายน้อย เปิ่ นหวางคิดถึงเจ้าเสมอ..

ข้าทาบจดหมายไว้กบั อก หวานใจเหลือเกิน.. ดวงตาของข้าไหวระริ ก ในอกยังอวลด้วยความรู ้สึกดื่มดํ่า เสวียน


เฟิ ง.. เสวียนเฟิ ง อยากเจอเหลือเกิน.. ชินอ๋ อง..ข้าคิดถึงท่าน ข้าเก็บจดหมายของเขาไว้เป็ นอย่างดี ส่ วนสร้อยคอ
นั้นตั้งใจจะสวมใส่ ไว้ตลอด

196
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ยามสาย คนของวังหลวงก็นาํ ของขวัญจากฮ่องเต้มาส่ ง ฮ่องเต้คงจะรู ้วนั เกิดข้าเพราะเห็นชินอ๋ องฝากจดหมาย


มาให้ขา้ คนส่ งสารย่อมต้องแวะวังหลวงรายงานฮ่องเต้ก่อน ปกติขา้ และชินอ๋ องไม่ติดต่อกันทางจดหมายเพราะ
กลัวความลับรั่วไหลว่าชินอ๋ องอยูท่ ี่ชายแดน ไม่ได้เจ็บป่ วยอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่วนั เกิดข้าชินอ๋ องคงเห็นเป็ น
กรณี พิเศษ ข้ารับของขวัญจากฮ่องเต้เอาไว้ เปิ ดออกดูเห็นมีจดหมายแนบมาด้วย เนื้อความสั้นๆ ในจดหมายทํา
ให้ขา้ นึกหวัน่ ใจ เขารู ้วา่ ข้าตั้งใจจะหลบหน้า

...อวี้เอ๋ อร์ หวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เจ้าจะหายตกใจแล้ว เราส่ งของขวัญมาให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะให้


ความสําคัญ หยิบมันขึ้นสวมใส่ บา้ ง ถ้าเป็ นเช่นนั้นเราคงยินดีนกั เรายังหวังว่าอวี้เอ๋ อร์ จะไม่ลืมสิ่ งที่เราเอ่ยปาก
ในศาลาจงชิง เราย่อมทําเช่นที่พูด อย่าได้คิดว่าอยูแ่ ต่ในวังเสิ่ นหยางกงจะหลบหน้าเราได้ ต่อให้เจ้าคิดจะหลบ
หน้าเรา เราจะทําให้เจ้าโผล่ออกมาจากกระดองให้ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู…

เขาลงท้ายจดหมายราวกับจะข่มขู่ ข้ายังนึกไม่ออกว่าฮ่องเต้จะมีวธิ ี การใดทําให้ขา้ ออกจากวังเสิ่ นหยางกงไปได้


ข้าเป็ นชินหวางเฟย เขาไม่อาจใช้กาํ ลังบังคับเรี ยกตัวข้าเข้าวังไปได้หรอก ข้านึกสงสัยได้ไม่นาน เพียงวันรุ่ งขึ้น
ไทเฮาก็ส่งคนมารับข้าเข้าวัง อ้างว่ามีใบชามาใหม่ อยากให้ขา้ ไปลองชิม

“ข้ารู ้สึกซาบซึ้ งในพระมหากรุ ณาธิคุณของไทเฮา แต่วา่ ยามนี้ชินอ๋ องยังอาการไม่ดีนกั ข้าไม่อาจวางใจปล่อย


เขาให้ห่างสายตา ขอเกากงกง โปรดกราบทูลไทเฮาตามนี้ดว้ ยเถิด” ข้าปฏิเสธไปพร้อมให้หมิงจูมอบเงินถุง
ใหญ่ให้กงกง เหตุผลที่ยกขึ้นมาอ้างฟั งดูมีน้ าํ หนัก ไทเฮาไม่อาจบังคับข้าไปได้ ทว่าวันรุ่ งขึ้นข้าก็ได้ตอ้ นรับ
แขกอีกคน..

ใต้เท้าจางรอพบข้าในห้องโถงด้วยสี หน้ายิม้ กริ่ ม พอเห็นข้าก็กระซิ บกระซาบเสี ยงเบา

“อาการของชินอ๋ องคงยํา่ แย่เต็มทีแล้วกระมัง เจ้าให้ยาครบทั้งหกเม็ดแล้วหรื อไม่”

ข้าแสร้งทํานํ้าตาคลอ

197
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เรี ยนบิดา ยังเหลือเม็ดสุ ดท้าย อวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ได้ให้ แต่วา่ เพียงเท่านี้สภาพของชินอ๋ องก็อยูม่ ิสู้ตาย บิดาโปรด
เมตตาเขาสักนิดเถิดเจ้าค่ะ” ข้าแสร้งเห็นใจศัตรู เพื่อให้เกิดความสมจริ ง อวี้เอ๋ อร์ เป็ นเด็กสาวธรรมดาไม่เคยฆ่า
คนมาก่อน ถูกใช้ให้วางยาพิษเช่นนี้หากไม่รู้สึกอะไรเลย จิตใจก็คงหยาบกระด้างเกินไปกระมัง ใต้เท้าจาง
หลงเชื่อ

“ไม่ได้! คําสั่งของรัชทายาทถือเป็ นที่สุด จะทําการใหญ่เจ้าใจอ่อนได้หรื อ”

ข้าแสร้งทําท่าตกใจ “อวี้เอ๋ อร์ผดิ ไปแล้ว ขอบิดาโปรดอภัย”

“ไม่เป็ นไร ว่าแต่ตอนนี้อาการของชินอ๋ องเป็ นอย่างไร”

“เรี ยนบิดา ชินอ๋ องสู ญเสี ยดวงตาไปนานแล้ว ต่อมาก็ไม่อาจได้ยนิ เสี ยง ไม่อาจได้กลิ่น ไม่อาจลิ้มรสอาหาร
ล่าสุ ด กล่องเสี ยงของท่านอ๋ องเสี ยหาย ยามนี้ไม่อาจเอ่ยวาจาได้” ข้าลดเสี ยงเบาลง “อีกไม่นานคงมีการลัน่ ระฆัง
เจ้าค่ะ” ข้าสื่ อถึงระฆังมรณกาล ใต้เท้าจางมีสีหน้าสาสมใจ

“ชินอ๋ องทํากับข้าไว้เจ็บแสบ สมควรแล้วที่ไม่ได้ตายดี มันทรมานเช่นนี้สมใจข้านัก” เขาหันมาหาข้า “อวี้เอ๋ อร์


พาข้าไปดูอาการชินอ๋ องได้หรื อไม่”

ใจข้าหล่นวูบแต่ไม่แสดงอาการ ข้าตอบอย่างครุ่ นคิด

“ก่อนหน้านี้ ชินอ๋ องสั่งคนสนิทไว้วา่ ไม่ตอ้ งการพบใคร หากอวี้เอ๋ อร์นาํ บิดาเข้าไปเกรงว่าจะผิดสังเกต เอาอย่าง


นี้เถิดเจ้าค่ะ อวี้เอ๋ อร์ จะไปบอกเฉิ นซี คนสนิทของท่านอ๋ องให้ไปทําธุระอย่างอื่น พอเขาจากไปแล้ว อวี้เอ๋ อร์ค่อย
ลอบนําบิดาเข้าไปดีหรื อไม่เพคะ”

ใต้เท้าจางตาเป็ นประกายอย่างยินดี “ดียงิ่ นัก อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างเฉลียวฉลาดจริ งๆ”

ข้ายิม้ บอกให้เขารอแล้วออกจากห้องไปหาเฉิ นซี

ข้าเล่าสถานการณ์ให้เฉิ นซี ฟัง สั่งการเขาอย่างรวดเร็ วแล้วกลับไปหาใต้เท้าจางที่ยงั รอข้าอยุใ่ นห้อง ข้าถ่วงเวลา


สักเล็กน้อยพอให้เฉิ นซี เตรี ยมการเสร็ จสิ้ น จากนั้นจึงนําใต้เท้าจางไปยังห้องซึ่ งข้าอ้างว่าเป็ นห้องพักฟื้ น

198
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ในห้องอวลไปด้วยกลิ่นยา มีแพทย์ประจําวังเสิ่ นหยางกงนัง่ อยูข่ า้ งเตียงสี หน้าไม่ดีนกั พอเขาเห็นข้าและใต้เท้า
จางเข้ามาก็รีบลุกขึ้นคารวะ ข้าพยักเพยิดเป็ นเชิงให้เขาออกไป

ใต้เท้าจางเดินเข้ามาชะโงกดูร่างที่อยูบ่ นเตียง ร่ างนั้นดูซูบผอมผิวซี ดคลํ้าปล่อยผมยาวสยาย ไม่เหมือนชินอ๋ อง


ที่สูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามคนเดิม ผ้าขาวผืนหนาพันดวงตาปกปิ ดไปกว่าครึ่ งหน้า มีจุดสี แดงสองจุดซึ ม
ออกมาบริ เวณเบ้าตา เสี ยงลมหายใจของร่ างที่อยูบ่ นเตียงติดขัดราวกับทรมาน ปลายจมูกมีผา้ ขาวโปะไว้ เลอะ
คราบสี เหลือง ที่หมอนมีรอยเลอะสี เดียวกัน ดูเหมือนจะเป็ นของเหลวที่ไหลออกมาจากหู ร่ างนั้นไม่มีปฏิกิริยา
ใด ราวกับไม่รับรู ้วา่ มีคนเข้ามาในห้อง

“นี่คือชินอ๋ องแน่หรื อ” ใต้เท้าจางถามเสี ยงเบา

ข้าตีหน้าเศร้า “เจ้าค่ะ เขาเปลี่ยนไปจนข้าจําแทบไม่ได้ ตั้งแต่ได้รับยานัน่ ดวงตาก็สลายเป็ นวุน้ เหลวใสไหล


ออกมา จนบัดนี้ บาดแผลที่ดวงตารักษาอย่างไรก็ไม่หาย ได้รับความเจ็บปวดทรมานนัก ที่ผา่ นมาชินอ๋ องร้อง
โอดครวญจนบัดนี้แม้แต่กล่องเสี ยงก็ถูกทําลายไปด้วย ข้ายังคงให้ยาเขาต่อเนื่อง บัดนี้เขาก็มีสภาพอย่างที่เห็น
ว่าแต่เม็ดสุ ดท้ายจะทําลายส่ วนใดของชินอ๋ องหรื อเจ้าคะ” ข้าแสร้งถามอย่างสงสัย ราวกับไม่รู้อานุภาพของพิษ
ร้ายนี้เลย

ใต้เท้าจางยิม้ อย่างเหี้ ยมเกรี ยม “เขาจะเป็ นคนเสี ยสติ นับว่าเป็ นความปรานีแล้วที่ไม่ตอ้ งให้เขามารับรู ้สภาพอัน
น่าเอน็จอนาถของตัวเอง”

ข้าหลุบตาลงเหมือนสะเทือนใจ แต่แท้จริ งแล้วเก็บซ่อนแววตาเคียดแค้นไว้ ใต้เท้าจางคิดทําร้ายชินอ๋ องถึงเพียง


นี้

“เห็นสภาพของชินอ๋ องเป็ นเช่นนี้แล้วข้าค่อยสบายใจ อวี้เอ๋ อร์ ไทเฮาส่ งข่าวมาว่าเจ้าไม่ยอมเข้าวังไปตามคําเชิญ


ของนางอย่างนั้นหรื อ” เขาหันมาถามข้า ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองอะไร

“เจ้าค่ะ อวี้เอ๋ อร์เห็นว่าชินอ๋ องป่ วยหนัก หากเข้าวังไปบ่อยๆ ย่อมดูไม่สมควร”

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” เขาตําหนิขา้ “พระเสาวนียข์ องไทเฮาใช่วา่ จะเพิกเฉยได้เสี ยที่ไหน หากนางส่ งคนมา


รับอีก เจ้าก็ไปเถอะ”

199
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ารู ้วา่ ไทเฮาคงถูกฮ่องเต้กดดันให้พาตัวข้าเข้าวัง จึงแสร้งทําเป็ นปรึ กษาเขาเรื่ องฮ่องเต้ “แต่วา่ บิดาทราบหรื อไม่
เมื่อวันเทศกาลตงจื่อ ฮ่องเต้แสดงท่าทีต่ออวี้เอ๋ อร์ อวี้เอ๋ อร์ไม่สบายใจนัก บิดาบอกไว้มิใช่หรื อว่าจะส่ งอวี้เอ๋ อร์
ไปแคว้นเว่ย การที่ไทเฮาส่ งคนมารับตัวอวี้เอ๋ อร์ ไม่แน่วา่ แท้จริ งแล้วเป็ นพระประสงค์ของฮ่องเต้”

“อวี้เอ๋ อร์ การศึกยังติดพันไม่จบสิ้ น ยังไม่แน่วา่ ผูใ้ ดจะเป็ นฝ่ ายกุมชัย เจ้าไม่รับไมตรี ฝ่าบาทไว้ก่อนเล่า ทางฝ่ าย
รัชทายาทอย่างไรถึงตอนนั้นค่อยตัดสิ นใจก็ยงั ไม่สาย”

“เจ้าค่ะ หากบิดาเห็นว่าดี อวี้เอ๋ อร์ กจ็ ะเชื่อฟัง” ข้ารับคําอย่างว่าง่าย แต่ในใจนึกสาปแช่งคนผูน้ ้ ี เขาพูดเสมือนว่า


สําหรับข้าแล้ว การมีสามีเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งก็ไม่เห็นเป็ นไร สุ ดท้ายแล้วข้าเป็ นเนื้อที่เขาหมายจะส่ งไปขึ้นเขียง
ใครก็ได้เพื่อให้เส้นทางสู่ อาํ นาจของตัวเองมัน่ คง ช่างเป็ นคนที่น่ารังเกียจเหลือเกิน

วันรุ่ งขึ้น ข้าจําต้องเข้าวังไปเมื่อไทเฮาส่ งคนมาอีก เมื่อไปถึงตําหนักฉื อหนิง นางกํานัลก็พาข้าไปยังห้องรับรอง


ไทเฮาไม่ได้อยูท่ ี่นนั่ มีเพียงร่ างสู งใหญ่ยนื ชมภาพวาดบนผนังอยูเ่ งียบๆ พอข้าเข้าไปเขาก็หนั กลับมา รอยยิม้
ยินดีจุดขึ้นที่มุมปาก

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้ามาแล้ว” ดวงตาเขาเป็ นประกายยามมองข้า

“ถวายบังคมฝ่ าบาทเพคะ” ข้ายอบกาย เขารี บเข้ามาประคอง

“เราบอกแล้วมิใช่หรื อ ระหว่างเราไม่ตอ้ งมากพิธี”

ข้าถอยจากวงแขนเขาอย่างละมุนละม่อม เดินนําไปยังชุดเก้าอี้ รอจนเขานัง่ ลงจึงค่อยทิ้งกายลงนัง่ อีกด้าน เขาคง


มารออยูน่ านแล้ว ชาที่คา้ งอยูใ่ นจอกเย็นชืด ข้าหยิบจอกใบใหม่ข้ ึนมาริ นชาให้เขา คราวนี้เขาไม่ได้รับจอกชา
แต่กลับกุมมือข้าไว้

“อวี้เอ๋ อร์ เราดีใจที่เจ้ามา”

“ฝ่ าบาทคิดอย่างไรจึงไปเข้ากับไทเฮา พระองค์ไม่เห็นแก่ชินอ๋ องที่ไปออกรบเหน็ดเหนื่อยอยูท่ ี่ชายแดนหรื อเพ


คะ” ข้าดึงมือออก วางจอกชาไว้กบั โต๊ะ เอ่ยกับเขาอย่างตัดพ้อ

200
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เราไปเข้ากับไทเฮาเสี ยที่ไหน เราเพียงสั่งให้นางทําตามประสงค์เท่านั้น เจ้าคิดว่าเราทําไม่ได้อย่างนั้นหรื อ จง
อย่าลืม ถึงแม้ตอนนี้ไทเฮาจะลอบให้ความช่วยเหลือเว่ยหงอิ่น สถานะของนางในวังหลังแห่งนี้ อย่างไรเสี ยก็
ขึ้นอยูก่ บั เราแต่เพียงผูเ้ ดียว”

“ฝ่ าบาทบีบบังคับอวี้เอ๋ อร์ให้เป็ นหญิงสองใจ อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจทําได้” ข้าบอกเขาตามตรง

“อวี้เอ๋ อร์ เราบอกแล้วไม่ได้บีบบังคับเจ้า เพียงแต่อยากให้เจ้าให้โอกาสเรา แวะมาหาเราบ้าง ให้เราได้เอาใจใส่


ดูแลเจ้า ถึงเราไม่อาจออกหน้าเองได้ ไทเฮาก็ยนิ ดีที่จะให้เป็ นเช่นนี้มิใช่หรื อ เจ้าอย่าเอาแต่อุดอูอ้ ยูใ่ นวังเสิ่ นหยา
งกงเลย เข้าวังมาเปิ ดหูเปิ ดตาเสี ยบ้างเถอะ”

ข้าไม่ตอบ เพียงเมินมองไปทางอื่น ได้ยนิ เสี ยงเขาถอนใจก่อนจะเอ่ย

“อวี้เอ๋ อร์ บรรเลงพิณให้เราฟังหน่อยเถิด”

ข้าค้อมศีรษะรับคํา ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงไปนัง่ ยังด้านหลังพิณที่ต้ งั ไว้ในห้อง ปรับเสี ยงแล้วลงมือบรรเลง

ข้าไม่ได้ถามเขาว่าต้องการฟังบทเพลงใด ข้าบรรเลงเพลงหญิงสาวชนเผ่า ที่มีเนื้อหาครํ่าครวญถึงชายคนรักที่


เดินทางไปรบในที่ห่างไกล ยามบรรเลงบทเพลงข้านํ้าตาไหล ความอ้างว้างถาโถมเข้ามาเต็มจิตใจ ไม่สนใจว่า
ฮ่องเต้ที่นงั่ ฟังอยูจ่ ะรู ้สึกอย่างไร ฮ่องเต้ลุกขึ้นจากที่นงั่ มาจับมือข้าให้หยุดบรรเลง เขาสบตาข้าสายตาเจ็บชํ้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าคิดถึงชินอ๋ องมากอย่างนั้นหรื อ”

ข้าช้อนตาขึ้นมองเขาด้วยดวงตาเปี ยกชื้นขนตาพราว

“เพคะ” ข้าตอบ ไม่สนใจว่าเขาจะกริ้ วหรื อไม่ เขาขบกรามจนขึ้นสัน

“เจ้าช่างโหดร้ายต่อเรานัก เพียงความสุ ขเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้เรามิได้หรื อ จากนี้ ไปหากเราสั่งให้เจ้ามา เจ้าก็ตอ้ ง


มา”

เขาเอ่ยอย่างกราดเกรี้ ยวก่อนจะสะบัดแขนเสื้ อออกจากห้องไป ครั้งแรกที่เขาเรี ยกตัวข้าเข้าวังจบลงเช่นนี้ ที่ผา่ น


มาไม่วา่ ข้าจะปฏิเสธเขาอย่างไร เขาก็ไม่เคยโกรธข้ามาก่อน...

201
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เมื่อกลับถึงวันเสิ่ นหยางกง ข้าได้แต่ครุ่ นคิด..

ฮ่องเต้จริ งจังกับข้าเหลือเกิน ข้าควรจะทําอย่างไร ข้ากลัวว่าหากฮ่องเต้เรี ยกข้าเข้าวังไปบ่อยๆ คงมีสักวันที่เขา


จะห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ข้าควรจะบอกเฉิ นซี ให้เขาส่ งข่าวถึงชินอ๋ องดีหรื อไม่ แต่แล้วข้ากลับเปลี่ยนใจ.. ขัดขืน
ไปก็ไม่มีประโยชน์ มิสู้คล้อยตามเสี ยดีกว่า อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีใครเสี ยประโยชน์มิใช่หรื อ ต่างฝ่ ายต่างได้
ประโยชน์ ฮ่องเต้ยนิ ดีที่ได้เจอข้า ไทเฮายินดีที่ได้สร้างความดีความชอบ ใต้เท้าจางสมใจที่ทุกอย่างเป็ นไปตาม
แผน ส่ วนข้า..

ข้าเห็นโอกาสในวิกฤติ ข้าลอบยิม้ อย่างสมใจ ..ใครว่ามีแต่พวกท่านที่เจ้าแผนการ ข้า..อวี้เอ๋ อร์ ก็เจ้าแผนการไม่


น้อยไปกว่ากัน..

ข้าจะถือโอกาสนี้แก้แค้นพวกท่านทั้งสอง ชินอ๋ อง..โทษฐานที่ไม่ให้ขา้ ติดตามไป ฮ่องเต้..โทษฐานที่บงั คับ


จิตใจข้า เห็นข้าเป็ นสตรี ไม่รู้ความหรื ออย่างไร อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน…

ส่ วนใต้เท้าจางและไทเฮานั้น ข้าจะปล่อยให้พวกเขากระหยิม่ ใจไปก่อน ถึงวันที่ทุกอย่างเปิ ดเผย พวกเขาย่อมจะ


รับรู ้ได้เองว่าที่ผา่ นมาเดินหมากผิดพลาดทั้งหมด

ข้าเข้าวังทุกๆ สามวันตามรับสั่งของฮ่องเต้ดว้ ยข้ออ้างว่าไปเยีย่ มไทเฮา ครั้งถัดมาที่ขา้ เจอหน้าเขา เขายังคง


โกรธข้าอยู่ ใบหน้าสง่างามนั้นนิ่ งเฉยประดุจรู ปปั้ น แม้ยามข้าเข้าไปย่อกายคารวะก็ยงั ไม่เอ่ยคํา ราวกับมองไม่
เห็นข้ากระนั้น

ข้าเหยียดกายขึ้นยืนตรงโดยไม่รอเขาอนุญาต ก้าวถอยหลังไปยืนอยูด่ า้ นข้างแล้วแสร้งบีบนํ้าตา เพียงนึกถึงชิน


อ๋ องข้าก็ร้องไห้ได้อย่างง่ายดาย ข้าก้มหน้าปล่อยให้น้ าํ ตาไหลริ นเงียบๆ ครู่ หนึ่ งเมื่อเขารู ้วา่ ข้าร้องไห้กร็ ี บลุกขึ้น
อย่างร้อนรนเข้ามาโอบข้าไว้ในอ้อมแขน

"อวี้เอ๋ อร์อย่าร้องไห้ เราไม่โกรธเจ้าแล้ว"

ข้ายกมือขึ้นเช็ดนํ้าตา "ไม่จริ งเพคะ ฝ่ าบาทกริ้ วอวี้เอ๋ อร์แล้ว ในเมืองหลวงแห่งนี้อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มเหลือตัวคนเดียว


ไม่มีใครให้พ่ งึ พาได้อีก"

202
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
"อวี้เอ๋ อร์ เราขอโทษ เราไม่พดู กับเจ้าเพราะเราเสี ยใจที่เจ้าตัดรอนเราเสี ยเหลือเกิน" เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงเว้าวอน "หาก
เราโกรธเจ้าจริ ง เราจะมานัง่ รอเจ้าที่นี่ทาํ ไม"

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขา

"ฝ่ าบาทก็ทรงทราบ อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจหลอกลวง แสร้งทําเป็ นรักทั้งๆ ที่ใจอยูก่ บั ชายอื่น" แววตาของข้าจริ งใจ

"เรารู ้ เราจึงไม่ได้เร่ งรัดเจ้าอย่างไรเล่า" เขาตอบเสี ยงอ่อน

"อวี้เอ๋ อร์มีเรื่ องขอบังอาจกราบทูลฝ่ าบาทสักหน่อยได้หรื อไม่เพคะ"

"อะไรหรื อ" เขาถาม นํ้าเสี ยงอ่อนโยน

"หากอวี้เอ๋ อร์ยนิ ดีให้โอกาสฝ่ าบาท เข้าวังมาพบฝ่ าบาทบ่อยๆ ฝ่ าบาทโปรดระวังพระทัย อย่าทุ่มเทความรัก


ให้อวี้เอ๋ อร์มากไปกว่านี้ได้หรื อไม่เพคะ"

เขาไม่ตอบคําข้า เพียงถามข้ากลับอย่างมัน่ ใจ "แล้วเจ้าเล่าไม่กลัวเผลอใจให้เราหรื อ"

ข้ายิม้ ละไม

"ฝ่ าบาทจะทรงพนันดูกไ็ ด้เพคะ ระหว่างเราสองคน ผูใ้ ดสู ญเสี ยหัวใจให้อีกฝ่ าย เป็ นฝ่ ายพ่ายแพ้ ย่อมไม่ถือ
โทษโกรธเคืองอีกฝ่ าย"

"เช่นนั้นเราก็แพ้ต้ งั แต่ยงั ไม่ได้เริ่ มเสี ยแล้ว" เขาบอกข้า "มีเพียงหัวใจเจ้าที่เราปรารถนา ไม่วา่ จะพนันสักกี่ครั้ง


เราก็ยนิ ดีที่จะเป็ นฝ่ ายพ่ายแพ้ หากแม้นมันจะทําให้เจ้าเปลี่ยนใจได้"

ข้าไม่ได้ตอบ

หลังจากนั้นข้าไม่ได้ต่อต้านเขาอีก เข้าวังไปก็เป็ นเพื่อนเขาเดินหมากจิบชา บรรเลงพิณให้เขาฟังตามแต่เขาจะ


บัญชา ฮ่องเต้พึงพอใจและมีความสุ ขมาก พอเห็นข้าว่าง่าย ฮ่องเต้กไ็ ม่เคยขัดใจข้า เขาไม่ฝืนใจข้าดังที่เคย
รับปากไว้ เขามักจะปลีกตัวหาเวลาทานอาหารเย็นกับข้าก่อนจะปล่อยข้ากลับวังเสิ่ นหยางกง ไทเฮาเห็นว่าข้ามี

203
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
อิทธิพลต่อฮ่องเต้มากเพียงใดก็หนั มาปฏิบตั ิต่อข้าอย่างดี นางแอบรู ้สึกขอบคุณข้าที่ไว้หน้านางอยูบ่ า้ ง ยอมเข้า
วังมาตามบัญชาของนาง ท่าทีของใต้เท้าจางที่มีต่อข้าก็ดีข้ ึนด้วย พวกเขาคงคิดว่าข้าเห็นชินอ๋ องหมดประโยชน์
แล้วจึงคิดหาที่เกาะใหม่

คนทัว่ ไปที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ กพ็ ดู ไปในทางเดียวกัน ต่างกล่าวเป็ นเสี ยงเดียวกันว่า ระฆังมรณกาล


คงใกล้ลนั่ แล้ว ชินหวางเฟยเข้าวังบ่อยเช่นนี้ อาการของชินอ๋ องคงแย่แล้วแน่ๆ การศึกครั้งแรกที่ชายแดนพ่าย
แพ้ แม้จะเป็ นการปะทะเล็กๆ แต่กส็ ร้างความหวาดหวัน่ ให้แก่ผคู ้ น ขาดชินอ๋ องไปสักคน ทัพหลวงย่อม
เปรี ยบเสมือนมังกรที่ขาดหัว ขวัญกําลังของไพร่ พลระสํ่าระสาย อีกทั้งยังขาดแผนการอันเจ้าเล่ห์รัดกุมของชิน
อ๋ อง แคว้นเยีย่ จะเอาอะไรไปสู ้เล่า แคว้นเว่ยเห็นเป็ นโอกาสดีจึงเริ่ มนําทัพโอบล้อมเข้ามา แต่ดูท่าฮ่องเต้จะลุ่ม
หลงมัวเมาในตัวชินหวางเฟย จึงไม่ได้มีทีท่าจะทุกข์ร้อนต่อสถานการณ์ที่ชายแดนสักเท่าใดนัก

..หรื อนี่จะเป็ นจุดจบของแคว้นเยีย่ กัน..

ชินหวางเฟยผูน้ ้ ี ช่างเป็ นโฉมงามล่มเมืองโดยแท้จริ ง

เสี ยงเล่าลือระหว่างฮ่องเต้และชินหวางเฟยเริ่ มกระหึ่ มขึ้นเรื่ อยๆ แต่ขา้ ไม่สนใจ สิ่ งเหล่านี้ลว้ นแล้วแต่เป็ นไป
ตามประสงค์ของพวกท่านมิใช่หรื อ..ฮ่องเต้..ชินอ๋ อง

ข้าไม่รู้วา่ เฉิ นซี ได้รายงานเรื่ องเหล่านี้ให้ชินอ๋ องทราบหรื อไม่ แต่พอสิ้ นสุ ดฤดูหนาว เริ่ มเข้าฤดูใบไม้ผลิ คําสั่ง
จากชินอ๋ องก็ส่งลงมาจากทางเหนือ

...ให้ขา้ ติดตามขบวนเสบียงไปยังชายแดน…

204
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 31 : สู่ ชายแดน

ข้านัง่ อยูบ่ นรถม้า มองออกไปยังทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิอย่างสมใจ มุมปากของข้ามีรอยยิม้ น้อยๆ สี เขียวอ่อนของ


ใบไม้ที่เพิ่งผลิใบช่างสวยงามนัก ดูเขียวขจีสบายตา

ป่ านนี้ ฮ่องเต้คงกําลังเกรี้ ยวกราดอยูก่ ระมัง เฉิ นซี แอบเตรี ยมการให้ขา้ เดินทางออกจากเมืองหลวงอย่างลับๆ


โดยมีเขาและหมิงจูติดตามมาด้วย เรื่ องราวในวังเสิ่ นหยางกงล้วนแล้วแต่ปล่อยให้พอ่ บ้านฉี ผเู ้ จนจัดเป็ นคน
จัดการ

กว่าฮ่องเต้จะทรงทราบว่าข้าลอบติดตามขบวนเสบียงออกจากเมืองหลวงมา ก็เป็ นระยะทางไกลแล้ว เขาไม่


เพียงต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันที่โดนข้าดัดหลัง ยังต้องคอยรับหน้าปกปิ ดความลับเรื่ องที่ชินอ๋ องและชินหวางเฟย
ไม่ได้อยูท่ ี่เมืองหลวงอีกด้วย ข้าทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้ให้เขาจัดการ ฮ่องเต้ออกพระราชโองการ เนื่องด้วยชิน
อ๋ องเจ็บหนัก ห้ามมิให้ผใู ้ ดไปรบกวนที่วงั เสิ่ นหยางกงเป็ นอันขาด ต่อให้มีใครกล้าเสนอหน้าไป ย่อมถูก
พ่อบ้านฉี รับหน้าไว้ ไม่มีอะไรให้ตอ้ งเป็ นห่วง

ฮ่องเต้รวดร้าวพระทัยหรื อไม่ยอ่ มไม่มีใครบอกได้ ข้าฟังจากที่เฉิ นซี เล่า ยามที่เสด็จไปหาไทเฮา สี หน้าของเขา


เศร้าหมอง เขาตรัสกับไทเฮาว่าช่วงนี้ ไม่ตอ้ งให้ขา้ เข้าวัง เขาต้องการให้ขา้ อยูป่ รนนิบตั ิชินอ๋ องให้เต็มที่ ไทเฮา
ได้ยนิ เช่นนี้ กเ็ ข้าใจว่าชินอ๋ องคงถึงวาระสุ ดท้ายแล้ว นางและใต้เท้าจางคงจะเลิกยุง่ กับข้าไปพักใหญ่

ข้าบอกฮ่องเต้แล้วมิใช่หรื อให้เขาห้ามใจ อย่าถลําลึกมากไปกว่านี้ เขาไม่เชื่อข้า บีบบังคับให้ขา้ ใช้เวลาอยูก่ บั เขา


เสพติดการมีขา้ อยูข่ า้ งกาย หลงใหลในตัวข้า หลอกตัวเองว่าข้าจะยอมใจอ่อน เขาย่อมรู ้ดีวา่ หากเผลอใจหลงรัก
ข้าแล้วผลลัพธ์จะเป็ นเช่นไร ข้าบอกแล้วมิใช่หรื อไร ..อย่าหาว่าข้าใจร้าย..

ชินอ๋ องจากไปตอนเดือนสิ บปี ที่แล้ว ข้าเริ่ มออกเดินทางตอนเดือนห้า เป็ นเวลาเกือบปี ที่เราไม่ได้เจอกัน ข้านึก
ถึงเขาอย่างเป็ นสุ ข อยากจะเร่ งวันเวลาที่จะได้พบหน้ากันให้เร็ วขึ้นอีก แต่กจ็ นใจที่ขบวนเสบียงเดินทางไปได้
ช้าเหลือเกิน กว่าจะถึงชายแดนก็ใช้เวลานานถึงสองเดือน ยืดเวลาที่เราทั้งสองจะได้พบหน้ากันออกไปอีก แต่
ข้อดีกค็ ือ มีการอารักขาปลอดภัยรัดกุม นอกเหนื อจากทหารที่ติดตามคุมกองเสบียงมานี้ เฉิ นซี ยงั จัดวาง
กําลังคนของเสิ่ นหยางกงไว้อีกด้วย เพียงแต่ติดตามมาอย่างลับๆ ไม่ได้เปิ ดเผย ในขบวนนี้ ข้าและหมิงจูมีฐานะ
เป็ นหญิงรับใช้ที่ติดตามเฉิ นซี มาเท่านั้น

205
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ทุกวันข้าจะเก็บตัวอยูบ่ นรถม้ากับหมิงจู แต่ขา้ ไม่อาจอยูบ่ นรถได้ตลอดเวลา ยามพักรถ ข้าจําต้องออกไปเดินยืด


เส้นยืดสาย ได้พบเพื่อนร่ วมขบวนบ้างไม่บ่อยนัก ข้าสวมอาภรณ์เนื้อหยาบตัวหลวมโคร่ ง แต่กไ็ ม่อาจปกปิ ด
รู ปร่ างอรชรอ้อนแอ้น หมิงจูตอ้ งใช้ผา้ ผืนใหญ่พนั เอวข้าไว้ให้มีขนาดหนาเทอะทะเกินจริ งอยูท่ ุกวัน ยามเช้าข้า
จะใช้น้ าํ ข้าวที่ตม้ จนข้น ทาตามใบหน้า ลําคอและหลังมือ พอนํ้าข้าวแห้งก็จะทิ้งรอยย่นไว้ตามผิวหนังราวกับ
คนแก่ ถึงกระนั้นก็ยงั ได้ยนิ เสี ยงแว่วมาจากรถม้าใกล้เคียงว่า หญิงรับใช้สูงวัยของเฉิ นซี หน้าตาน่าเอ็นดูท้ งั ยังมี
กลิ่นกายหอมนัก ท้ายที่สุดเฉิ นซี ตอ้ งไปหาหญ้าบางชนิดที่มีกลิ่นเหม็นเขียวมาโขลกละเอียด แล้วให้หมิงจูทา
ตามร่ างกายข้า

ไม่มีใครสงสัยว่าข้าคือชินหวางเฟย กระนั้นก็ไม่มีใครกล้ามาวุน่ วายกับพวกเรามากนัก พวกเขารู ้วา่ เฉิ นซี เป็ น


ใคร มือขวาของชินอ๋ องใครจะกล้าล่วงเกินหรื อ แม้แต่สาวใช้สองคนที่ติดตามมายังต้องเปิ ดห้องพักให้เป็ น
พิเศษยามแวะพักตามโรงเตี๊ยม ถึงแม้ตลอดการเดินทาง ความเป็ นอยูค่ ่อนข้างลําบาก แต่ใจข้ากลับเป็ นสุ ขนัก

เนื่องจากเป็ นสตรี เพียงสองคนในขบวน ข้ามักช่วยหมิงจูประกอบอาหาร สํารับของพวกเราแยกต่างหากจาก


พวกทหาร หมิงจูชื่นชอบอาหารที่ขา้ ปรุ งนัก เอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังบอกให้ขา้ ทําให้ชินอ๋ องลองชิม ข้าเห็นดี
ด้วย ตั้งใจว่าเมื่อไปถึงชายแดน จะลงมือเข้าครัวให้ชินอ๋ องได้ลิ้มลอง

ขบวนเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า แต่ในที่สุดก็มาถึงหัวเมืองทางตอนเหนือ เจ้าเมืองให้การต้อนรับเฉิ นซี เป็ นอย่างดี


ชินอ๋ องย่อมเป็ นแขกประจําของที่นี่ จากที่นี่ไปยังเมืองหน้าด่านที่ชินอ๋ องตั้งค่ายอยูใ่ ช้เวลาเดินทางไปกลับโดย
ม้าเร็ วเพียงหนึ่ งวัน แต่สาํ หรับขบวนเสบียงอาจใช้เวลาถึงสามวัน ทว่าเพียงเท่านี้ขา้ ก็ยนิ ดีจนแทบเก็บงําความ
ตื่นเต้นไว้ไม่ได้ อีกไม่นานข้าก็จะได้พบหน้าเขาแล้ว เทียบกับเวลาเกือบปี ที่ผา่ นมา สามวันไม่นบั ว่าหนักหนา
อะไรเลย

ข้ากับหมิงจูกม้ หน้าเดินตามเฉิ นซี ตอ้ ยๆ เมื่อเจอหน้าท่านเจ้าเมืองก็ยอ่ กายคารวะตามปกติ ทว่าท่านเจ้าเมือง


กลับเพ่งมองข้าซึ่ งอยูใ่ นคราบหญิงชรา ข้ารู ้สึกไม่สบายใจนัก ครั้นอยูก่ นั ตามลําพังเราสามคน ท่านเจ้าเมืองก็
หันมาเอ่ยกับข้า

“ถวายพระพรหวางเฟย กระหม่อมได้รับบัญชาจากชินอ๋ องให้ตอ้ นรับหวางเฟยเป็ นอย่างดี ท่านอ๋ องกําชับว่า


การมาของหวางเฟยเป็ นความลับ กระหม่อมจึงได้จดั โต๊ะอาหารให้หวางเฟยเป็ นการเฉพาะอยูใ่ นห้องด้านหลัง
เชิญหวางเฟยเสด็จตามกระหม่อมมาเถิดพะย่ะค่ะ”

206
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านเจ้าเมืองอย่าได้มากพิธี ข้าปลอมตัวอยูเ่ ช่นนี้ ไม่ได้ถือสาเรื่ องกินอยู่ ให้เฉิ นซี กบั หมิงจูร่วมโต๊ะกับข้าเถอะ”
ข้ากล่าวอย่างเป็ นกันเอง

คืนนั้นข้าพักในห้องรับรองที่จวนเจ้าเมืองโดยมีหมิงจูนอนอยูห่ น้าเตียงตามปกติ ข้าหลับไปอย่างรวดเร็ วด้วย


ความเหนื่อยอ่อน ทว่ากลางดึก กลับสะดุง้ ตื่นขึ้นมา มีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น!

ห้องทั้งห้องมืดสนิท คืนนี้เป็ นคืนเดือนแรมไร้แสงจันทร์ ตัวของข้ากระสับกระส่ าย มีเหงื่อท่วมไปหมด เป็ นไป


ได้อย่างไร คํ่าคืนในฤดูใบไม้ผลิอากาศเย็นสบาย ข้ากลับหอบหายใจราวกับเพิ่งไปวิง่ มา แขนขาอ่อนแรงอย่าง
น่าประหลาด ข้าลืมตาโพลงในความมืด กําลังคิดจะเรี ยกหมิงจูกไ็ ด้ยนิ เสี ยงลมหายใจอยูข่ า้ งๆ

ตัวของข้าแข็งทื่อขึ้นมาในบัดดล! ...ใครกันนอนอยูข่ า้ งกายข้า!

ต้องไม่ใช่คนร้ายแน่ การดูแลความปลอดภัยในจวนเข้มงวดรัดกุม คนร้ายไม่มีทางเล็ดรอดเข้ามาอย่างเงียบ


เชียบได้แน่ ต่อให้เข้ามาได้ ไหนจะองครักษ์เงาที่แฝงกายอยู่ ไหนจะหมิงจูที่นอนอยูห่ น้าเตียงข้า จะมีใครผ่าน
มาขึ้นเตียงข้าได้อย่างไร หน้าผากข้าหลัง่ เหงื่อเย็น.. ถ้าไม่ใช่คนก็เหลือแต่..

หรื อว่า..ในจวนเก่าแก่โบราณแห่งนี้จะมีผี! หรื อว่า..ข้าโดนผีอาํ !

ขนในกายข้าลุกชันไปหมด ขณะที่จินตนาการของข้าเตลิดไปไกลในด้านร้าย ข้าก็ได้ยนิ เสี ยงหนึ่ งเอ่ยขึ้นที่ขา้ ง


หู ..

“กระต่ายน้อย หากเจ้าตื่นแล้วก็มาต่อกันเถิด”

ทั้งนํ้าเสี ยงและถ้อยคําที่ใช้เรี ยกขานฟังดูคุน้ เคยเหลือเกิน..

ชินอ๋ อง!

ลมหายใจของข้าที่กลั้นไว้ ผ่อนออกมาอย่างแรง ความตื่นตระหนกจากการหวาดกลัวสิ่ งลี้ลบั เหนือธรรมชาติ


คลายไป กลับกลายเป็ นความตื่นเต้นประหลาดใจระคนคาดไม่ถึง เขาอยูท่ ี่เมืองหน้าด่านมิใช่หรื อ เหตุใดจึงมา
โผล่ที่นี่ได้ ทําเอาข้าตกใจเกือบตาย ข้านิ่งอึ้งไปไม่อาจเอ่ยคํา

207
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาคงคิดว่าการเงียบของข้าคือการตอบรับจึงเคลื่อนไหวแช่มช้าในความมืดราวกับเสื อดําพรางกาย สมองของ
ข้ายังคงมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ได้แต่ปล่อยให้เขาละเลียดชิมกายข้าราวกับของหวาน ปลายนิ้วของข้าจับ
ศีรษะเขาไว้ ขยุม้ เส้นผมนุ่มมืออย่างลืมตัว ความตื่นตระหนกเมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็ นความเร่ าร้อน ร่ างที่สั่น
ระริ กของข้าร้อนผ่าว เช่นนี้ เองข้าจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว! ข้าผวาเกาะร่ างเขาไว้พร้อมกับเสี ยงคราง
แผ่ว ยามที่เขารุ กเร้าหนักขึ้น ข้าก็ชะงักขึ้นมาอีก

“อ๊ะ! หมิงจู.. หมิงจูเพคะ ท่านอ๋ อง” ข้าเตือนเขาเสี ยงแผ่วอย่างตกใจ เพิง่ นึกขึ้นได้วา่ ยังมีนางอยูใ่ นห้อง กลัวว่า
นางจะตื่นขึ้นมาพบเห็น

“ข้าให้นางออกไปแล้ว” เขาตอบเสี ยงหนักๆ พลางหอบหายใจ

“นี่ดึกแล้ว นางจะไปนอนที่ไหน” ข้าอดถามอย่างเป็ นห่วงไม่ได้

“กระต่ายน้อย เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งไปสนใจ” เขาเอ่ยอย่างหมดความอดทน “เป็ นห่วงตัวเองเสี ยก่อนเถิด”

เขาขยับกายเปลี่ยนท่า รุ กลํ้าเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ ข้ารู ้สึกเสี ยดแน่นที่ทอ้ งน้อยจนหลุดเสี ยงร้องออกมา ห่างหาย


จากเรื่ องพวกนี้ไปนาน ร่ างกายของข้าราวกับไม่คุน้ เคย ชินอ๋ องชะงักเพื่อข่มกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่พลุ่งพล่าน
ค่อยขยับกายอย่างเนิบช้า ข้ากัดริ มฝี ปากแน่น ความรู ้สึกวาบหวิวกําจายไปทัว่ ร่ างจนต้องจิกแผ่นหลังใหญ่โต
ของเขาไว้ ข้าแหงนหงายสั่นสะเทือนไปทั้งกาย ท่ามกลางความมืดมิดที่มองไม่เห็นสิ่ งใด ได้ยนิ เสี ยงเขาหอบ
หายใจหนักหน่วง เขาครางอย่างสุ ขสม เงาตะคุ่มด้านบนถาโถมเข้าใส่ กายข้าอย่างเร่ าร้อนจนข้าต้องยกเรี ยวขา
ขึ้นเกี่ยวกระหวัดกายเขา ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของชินอ๋ อง กลิ่นหอมสดชื่นคล้ายกลิ่นสนอวลใน
โพรงจมูกทั้งยังห่อหุม้ กายข้าไว้

“ท่านอ๋ องเพคะ..” ข้าร้องเรี ยกเขาเสี ยงหวาน โหยหาสัมผัสที่แสนคิดถึง

“กระต่ายน้อย..ยอดเยีย่ มเหลือเกิน” นํ้าเสี ยงของเขาสั่นพร่ า ข้าหลัง่ นํ้าตาอย่างสุ ขสมและยินดี ร่ างกายนุ่มนวล


ของข้าโอบรัดเขาไว้แน่น

เมื่ออารมณ์พิศวาทผ่านพ้น ข้าไม่ได้หลับไปเหมือนเคย สู ้อุตส่ าห์ฝืนลืมตาเพื่อเอ่ยวาจากับเขา “ท่านอ๋ อง เหตุใด


จึงมามืดๆ แกล้งให้อวี้เอ๋ อร์ตกใจเล่าเพคะ”

208
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าได้ยนิ เสี ยงเขาหัวเราะ

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าหลับลึกเหลือเกิน เปิ่ นหวางมาถึง เจ้าก็ยงั ไม่รู้สึกตัว แม้หมิงจูเรี ยกเจ้าก็ยงั ไม่ตื่น”

ข้าหน้าแดง “ก็อวี้เอ๋ อร์เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางนี่เพคะ ท่านอ๋ องยังคิดจะรังแกอวี้เอ๋ อร์ยามหลับอีกหรื อ”

“ตอนแรกเปิ่ นหวางตั้งใจจะปล่อยให้เจ้านอน ไว้ตอนเช้าค่อยให้เจ้าประหลาดใจตอนตื่นขึ้นมาพบเปิ่ นหวาง


แต่อวี้เอ๋ อร์กลับยัว่ ยวนจนเปิ่ นหวางอดใจไม่ไหว” เขากล่าวแก้ตวั

“อวี้เอ๋ อร์หลับอยู่ จะยัว่ ยวนท่านอ๋ องได้อย่างไรเพคะ” ข้านิ่วหน้าแย้งเสี ยงขุ่น เขาพาลโทษข้าอีกตามเคย

“เปิ่ นหวางอุตส่ าห์ข้ ึนเตียงแล้วรี บข่มตาหลับ แต่เจ้ากลับกระแซะกายเข้ามา กลิ่นกายเจ้ารบกวนเสี ยจนเปิ่ นหวา


งนอนไม่หลับ”

ข้าหน้าแดง รี บยกแขนตัวเองขึ้นมาดม “ไม่จริ ง อวี้เอ๋ อร์อาบนํ้าก่อนเข้านอน จะมีกลิ่นรบกวนได้อย่างไร”

“เจ้าลองคิดดู เปิ่ นหวางหลับตาลงแล้ว แต่กลับมีกระต่ายขนฟู ตัวนิ่มๆ หอมๆ อย่างนี้เบียดเข้าหา ผูใ้ ดจะทน


ไหวกัน” เขาเอ่ยพลางขยี้หวั ข้าอย่างเอ็นดู

“ท่านอ๋ อง!” ข้าทั้งโกรธทั้งอาย “รู ้หรื อไม่อวี้เอ๋ อร์ตื่นมาตกใจแทบตาย”

ข้ารู ้สึกได้ถึงปลายคางที่เกยบนศีรษะข้า “เปิ่ นหวางรู ้ เพราะกลัวเจ้าจะตกใจว่าโดนคนแปลกหน้าลักหลับ จึงรอ


ให้เจ้าตื่นขึ้นมาก่อน”

นี่ขนาดเขากลัวว่าข้าจะตกใจแล้วหรื อ ข้านึกว่าเขาเป็ นผีแต่กค็ ร้านจะบอกความจริ ง ขืนบอกไป เขาได้หวั เราะ


เยาะข้าเสี ยปะไร

“อวี้เอ๋ อร์นึกว่ามีผรู ้ ้ายเข้ามาในห้องเสี ยอีก” ข้าแกล้งพูดไปอย่างนั้น

เขาหัวเราะ “งั้นหรื อ ไม่ใช่นึกว่าเปิ่ นหวางเป็ นผีหรอกหรื อ เห็นนอนตัวแข็งทื่ออยูพ่ กั ใหญ่ เปิ่ นหวางนึกว่าเจ้า


จะแข็งตายไปเสี ยแล้ว”

209
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ความอดทนของข้าหมดลง ข้าระดมทุบตีเขาเป็ นพัลวัน คนผูน้ ้ ีร้ายกาจเหลือเกิน กลัน่ แกล้งข้าสารพัด รู ้ท้ งั รู ้ยงั


แสร้งทําเฉยคอยจับผิดข้า พอข้าเหนื่อย เขาก็จบั ข้าซุกเข้าหาอ้อมอก

“หลับเถิด” เขากระซิ บเบาๆ เราสองคนไม่ได้พดู อะไรต่อ หลังจากนั้นข้าก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

ยามเช้าข้าตื่นขึ้นในอ้อมแขนเขา ในแสงอรุ ณ ข้าได้เห็นหน้าเขาชัดๆ เป็ นครั้งแรกหลังจากไม่ได้เห็นเป็ นเวลา


ถึงหกเดือน เขายังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ดูหยาบกระด้างกว่าตอนอยูเ่ มืองหลวง หนวดเคราเริ่ มครึ้ ม ผิวขาว
สะอาดของเขาดูเข้มขึ้น ไม่เหลือคราบคุณชายบัณฑิตเลยสักนิด แต่กลับดูหา้ วหาญมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

พอรู ้สึกตัวว่าข้าไม่ได้นอนคนเดียวตามลําพังอีกต่อไป ข้าก็รู้สึกแปลกๆ หลายเดือนที่ไม่มีเขาเคียงข้าง ทําให้


ข้ารู ้สึกขัดเขินราวกับเขาเป็ นคนแปลกหน้า ยิง่ เขานอนจ้องข้าตาเขม็งเช่นนี้ ข้ายิง่ ทําอะไรไม่ถูก แทนที่เขาจะ
ช่วยให้ขา้ ลดความประหม่า เขากลับยิง่ แกล้งให้ขา้ เขินอาย เขาเอื้อมมือมาลูบไล้ใบหน้าข้า ปลายนิ้วไล้ไปตาม
ริ มฝี ปาก

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน เปิ่ นหวางมองเท่าไหร่ กไ็ ม่พอ”

ข้าได้ยนิ แล้วหน้าแดง รี บผลักอกเขา

“รี บลุกเถิดเพคะ คนที่จวนนี้พลุกพล่าน ประเดี๋ยวใครจะมาเห็นเข้า”

เขาปล่อยข้าจากอ้อมกอดแล้วลุกขึ้นนัง่ ข้าออกไปเรี ยกหมิงจูให้ยกอ่างนํ้าเข้ามา แล้วปรนนิบตั ิชินอ๋ องแต่งกาย


เขาสวมชุดชาวบ้านสี เทาผ้าเนื้อหยาบ แต่กลับดูดีเหลือเกิน ข้าผูกเชือกที่เอวให้เขา อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง

“อวี้เอ๋ อร์กาํ ลังคิดไม่ดีกบั เปิ่ นหวางอยูใ่ ช่หรื อไม่” เขาก้มลงมองข้าพลางเอ่ยยิม้ ๆ

“เปล่าเสี ยหน่อยเพคะ อวี้เอ๋ อร์ กาํ ลังคิดว่าจะมีใครรู ้หรื อไม่วา่ ท่านอ๋ องมาที่นี่” ข้าปด

“เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้าบอกเฉิ นซี ล่วงหน้าแล้วว่าจะแวะมารับเจ้าที่จวนเจ้าเมือง วันนี้ขา้ จะพาเจ้า


ล่วงหน้ากลับจวนแม่ทพั ที่เมืองหน้าด่าน”

210
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“แล้วเฉิ นซี กบั หมิงจูล่ะเพคะ” ข้าอดนึกถึงสองคนนั้นไม่ได้

“พวกเขาจะติดตามกองเสบียงไปตามปกติ เจ้ารี บแต่งตัวเถอะ เปิ่ นหวางจะออกไปคุยกับท่านเจ้าเมืองสัก


หน่อย”

ข้าเกล้าผมให้เขาเรี ยบร้อยแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วจุมพิตข้าหนักหน่วง

“ไว้กลับไปที่จวน เปิ่ นหวางมีเรื่ องจะต้องสะสางกับเจ้า” เขาเอ่ยกับข้าเสี ยงดุ ข้าถึงกับเสี ยวสันหลัง หวังว่าเขา


จะไม่ได้หมายถึงเรื่ องที่ขา้ เข้าวังไปใช้เวลาอยูก่ บั ฮ่องเต้หรอกนะ

พอชินอ๋ องออกไป หมิงจูกก็ า้ วเข้ามาด้วยรอยยิม้ ข้าหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตานาง แต่กฝ็ ื นถามกลับไปด้วยสี


หน้าเรี ยบเฉย

“เมื่อคืนเจ้าไปนอนที่ไหนกัน ข้าเป็ นห่วงเสี ยแทบแย่”

“เมื่อคืนหมิงจูไปนอนกับสาวใช้ของจวนนี้เพคะ ตอนท่านอ๋ องมาถึง หมิงจูเรี ยกท่านแล้ว แต่ท่านพลิกตัวหนี


อย่างไรก็ไม่ยอมตื่น หมิงจูจนใจ..” ข้ารี บยกมือตัดบท แค่น้ ีขา้ ก็อบั อายเหลือเกินแล้ว

“รี บแต่งตัวให้ขา้ เถิด ไม่รู้วา่ ท่านอ๋ องจะออกเดินทางยามไหน”

หมิงจูไม่รู้ไปหยิบยืมชุดมาจากไหน ช่วยข้าแต่งกายด้วยชุดสตรี ชาวบ้านกลางเก่ากลางใหม่ เกล้าผมปักปิ่ นไม้ ดู


เรี ยบง่ายน่ามอง พอชินอ๋ องกลับมา สายตาที่จบั จ้องข้าก็พลันอ่อนโยน

“พวกเราแต่งกายเช่นนี้ ดูแล้วเหมือนคู่ผวั เมียหนุ่มสาวทัว่ ไป เจ้าว่าจริ งหรื อไม่”

ข้าก้มลงมองตัวเอง แล้วมองเขา “ท่านอ๋ องดูไม่เหมือนชาวบ้านสักหน่อย เหมือนคนที่ปลอมตัวเป็ นชาวบ้าน


มากกว่าเพคะ”

เขาหัวเราะ “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง เจ้าเองก็เช่นกัน มองอย่างไรก็โดดเด่นเกินกว่าจะเป็ นหญิงชาวบ้านทัว่ ไป”

211
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

หมิงจูมองข้าอย่างจนใจ “หม่อมฉันหาเสื้ อผ้าซอมซ่อให้หวางเฟยตามที่ท่านอ๋ องรับสั่งแล้วเพคะ

“ช่างเถอะ ไปกับเปิ่ นหวางไม่มีอะไรต้องห่วง” เขาบอกง่ายๆ พลางจูงมือข้าออกจากห้อง

ยามที่เราสองคนออกจากจวนเจ้าเมืองเป็ นเวลาเช้าตรู่ ชินอ๋ องพาข้าออกทางประตูหลังจวน ลัดเลาะไปตาม


ตรอกซอกซอย เพียงไม่นานก็มุ่งหน้าออกจากประตูเมือง ที่หน้าประตูเมืองมีคนของเขาขึ้นม้ารออยู่ พอเห็นเรา
สองคนควบม้าออกมา ก็ต้ งั ขบวนแล้วควบตามมาอย่างรวดเร็ ว ข้านัง่ อยูใ่ นอ้อมกอดของชินอ๋ อง ในใจรู ้สึกเป็ น
สุ ขอย่างยิง่ ถึงแม้จะรู ้วา่ ฤดูหนาวสิ้ นสุ ดลงแล้ว อีกไม่นานชินอ๋ องจะเผยตัว เปิ ดศึกกับแคว้นเว่ยอย่างเหี้ ยมหาญ
ข้าก็หาได้กลัวไม่ ก็เขาเจ้าแผนการเป็ นที่หนึ่ ง เพียงมีเขาอยูเ่ คียงข้าง ข้ายังต้องกลัวอะไรอีกหรื อ...

212
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 32 : เรื่ องราวในจวนแม่ ทพั

ตั้งแต่ยอ้ นเวลามา นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ ได้นงั่ บนหลังม้า ตอนแรกๆ ข้าก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ สายลมที่พดั ผ่านใบหน้า
ทําให้ขา้ รู ้สึกสดชื่นเป็ นอิสระ แต่เมื่อเวลาผ่านไปข้าเริ่ มรู ้สึกถึงแรงสะเทือนที่แทบจะเขย่าเครื่ องในข้าออกมา
จากปาก

“อดทนหน่อยกระต่ายน้อย อีกประเดี๋ยวเราจะแวะพักกันแล้ว” เขากระซิ บข้างหูขา้

ข้าพยายามไม่ทาํ ตัวให้เป็ นภาระเขาจึงไม่ได้ปริ ปากบ่นอะไร เราแวะพักกลางวันกันเพียงครู่ เดียวก็เดินทางต่อ


ชินอ๋ องดูเหมือนอยากจะไปถึงที่หมายให้เร็ วที่สุด ตอนนี้เขายังเร้นกายอยู่ การออกมาเปิ ดเผยตัวเช่นนี้จึงไม่ใช่
เรื่ องที่ดีนกั อีกทั้งยังมีขา้ ติดตามมาด้วยย่อมเป็ นการเพิ่มความเสี่ ยงให้กบั เขาหากมีคนจดจําได้

แต่ใครใช้ให้เขาออกมารับข้าเองเล่า หากเขารออยูท่ ี่จวนอีกสามวันให้หลังข้าก็ไปถึงแล้วนี่นา แถมข้ายังไม่ตอ้ ง


ทรมานนัง่ หลังม้าเช่นนี้อีก ข้าได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าเอ่ยปาก

ยามบ่ายอากาศร้อนขึ้น ชินอ๋ องตวัดเสื้ อคลุมตัวหนาขึ้นมาโอบข้าไว้ท้ งั ร่ าง ข้านัง่ โงนเงนด้วยความง่วง เขาจึง


จับตัวข้าพิงอก ข้ารี บฝื นลืมตา ทว่าในไม่ชา้ ความร้อนและความเหน็ดเหนื่อยก็ทาํ ให้ขา้ เอนซบหลับไปกับแผ่
นอกเขาอีก ข้าหลับๆ ตื่นๆ อยูบ่ นหลังม้าจนพลบคํ่า ในที่สุดชินอ๋ องก็หนั ไปพูดกับผูต้ ิดตาม

“แวะพักโรงเตี๊ยมแถวนี้สักคืนหนึ่งก่อน”

คนของเขารับคําแล้วรี บควบม้านําไป เพียงไม่นานคณะของพวกเราก็ตามไปถึงที่พกั ชินอ๋ องอุม้ ข้าลงจากม้า


แล้วประคองเข้าไปในตึกไม้กลางเก่ากลางใหม่ขนาดไม่ใหญ่นกั ตอนนี้เป็ นยามโพล้เพล้ ด้านล่างของโรงเตี๊ยม
เต็มไปด้วยแขกที่มานัง่ กินอาหารและดื่มเหล้า ชินอ๋ องตวัดหมวกที่ติดกับเสื้ อคลุมของเขาให้คลุมใบหน้าข้า
พวกเรารี บก้าวเข้าไปในห้องพักซึ่ งอยูบ่ นชั้นสองซึ่ งคนของเขาล่วงหน้ามาเตรี ยมการไว้แล้ว

อาหารเย็นถูกยกเข้ามา เป็ นเพียงอาหารธรรมดาแต่ขา้ รู ้สึกหิ วจึงกินเข้าไปไม่นอ้ ย ชินอ๋ องมองอย่างพอใจ

“กระต่ายน้อยกินมากๆ จะได้โตไวๆ” เขาอดไม่ได้ที่จะเย้าข้า

213
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าแย้มยิม้ คีบกับข้าวให้เขา “ท่านอ๋ องก็เสวยมากๆ เพคะ รี บเร่ งเดินทางมาทั้งวัน อวี้เอ๋ อร์เพิ่งจะรู ้วา่ การควบม้า
เหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้ ”

“เปิ่ นหวางเห็นเจ้าหลับตลอดเวลา รู ้ดว้ ยหรื อว่าเหนื่อย”

“ท่านอ๋ อง!” ข้าเอ่ยอย่างมีน้ าํ โห “อวี้เอ๋ อร์อุตส่ าห์เป็ นห่วง”

“รี บกินเถิด ประเดี๋ยวอาบนํ้าแล้วจะได้เข้านอน” เขาว่า

พอข้าได้ยนิ ว่าอาบนํ้า ตาก็เป็ นประกายวาบขึ้น ข้านึกว่าคืนนี้จะไม่ได้อาบนํ้าเสี ยอีก จึงรี บกินข้าวอย่างดีใจ พอ


คนยกถาดอาหารออกไปแล้ว ครู่ หนึ่งก็ยกนํ้าอาบเข้ามา ข้ามองควันกรุ่ นๆ ที่ล่องลอยในถังตาวาว คิดถึง
ความรู ้สึกสบายตัวยามแช่อยูใ่ นนํ้า แต่ปากก็แสร้งถามชินอ๋ อง

“ท่านอ๋ องจะให้อวี้เอ๋ อร์ปรนนิบตั ิอาบนํ้าเลยหรื อไม่เพคะ” ข้ารู ้เจตนาเขา เขาต้องสั่งนํ้าถังนี้มาให้ขา้ แน่ๆ เพียง
เขาตอบปฏิเสธ ข้าก็พร้อมจะกระโจนลงถังในทันที

“อืม.. ก็ดีเหมือนกัน เปิ่ นหวางรู ้สึกเมื่อยล้านัก มีอวี้เอ๋ อร์คอยปรนนิบตั ิบีบนวดก็คงสบายดีไม่นอ้ ย”

ข้าอ้าปากค้างอย่างผิดคาด คําตอบของเขาทําให้ขา้ หน้าหุบขึ้นมาในทันที แทนที่ขา้ จะได้แช่น้ าํ ให้สบาย กลับ


ต้องมาคอยปรนนิบตั ิบีบนวดเขาอีกหรื อ ข้าแอบเม้มริ มฝี ปากอย่างขุ่นเคือง นี่ชินอ๋ องไม่รู้จริ งๆ หรื อแสร้งไม่รู้
ความนัยในคําถามของข้ากันแน่ แต่ขา้ จะทําอย่างไรได้หรื อนอกจากตอบรับแล้วก้าวไปช่วยเขาถอดเสื้ อผ้า

ชินอ๋ องลงไปแช่กายในนํ้าร้อนอย่างอารมณ์ดี มีขา้ มองอยูข่ า้ งถังด้วยสี หน้าไม่สบอารมณ์

“อวี้เอ๋ อร์ตวั หอมอยูแ่ ล้ว ถึงไม่อาบนํ้าสักวันก็ไม่เป็ นไร” อยูด่ ีๆ เขาก็เปรยขึ้นมา ข้าแอบถลึงสายตาใส่ แผ่นหลัง
เขาอย่างโกรธเกรี้ ยว “แต่ถา้ จะอาบ.. ก็ตอ้ งลงมาอาบกับเปิ่ นหวาง”

มือนุ่มของข้ากําหมัดแน่น เขารู ้ดีวา่ ข้าชอบอาบนํ้าแค่ไหน เรื่ องแค่น้ ียงั จะมาแกล้งข้าอีกหรื อ “ไม่เป็ นไรเพคะ
อวี้เอ๋ อร์ยนิ ดีปรนนิบตั ิท่านอ๋ อง ท่านอ๋ องคงเหนื่อยนัก เมื่อวานก็เดินทางมาทั้งวัน ให้ท่านอ๋ องได้ผอ่ นคลายย่อม
เป็ นการสมควรเพคะ” ข้าอดนึกชื่นชมตัวเองในใจไม่ได้ที่สามารถสรรหาคําตอบที่อ่อนหวานทั้งๆ ที่ในใจคลุม้
คลัง่ อยากจะฆ่าคน

214
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ใครจะลงไปให้โง่! ขืนข้าลงไปในถังไม่มีทางได้แค่อาบนํ้าหรอก!

“อืม..ไม่อยากลงมาก็ไม่เป็ นไร” เขาตอบพลางหลับตาลงอย่างสบาย ดวงตาคู่สวยของเขาพริ้ มลงอย่างมี


ความสุ ข ข้าเห็นแล้วหงุดหงิดขึ้นมาทันที

เขาแสร้งยกมือขึ้นบีบต้นคอตัวเอง ทําให้ขา้ ต้องรี บปราดเข้าไปบีบนวดให้ “อวี้เอ๋ อร์นวดให้เองเพคะ” ข้ายิม้ มุม


ปากอย่างอาฆาตมาดร้าย เขาอยากแกล้งข้านักใช่หรื อไม่ หากข้าไม่ลงไปเสี ยอย่าง เขาจะทําอะไรได้ คืนนี้ขา้
ยอมไม่อาบนํ้าก็ได้ ขอแค่ให้ได้เอาคืนเขาบ้าง

นํ้าหนักมือข้าไม่หนักไม่เบาชวนให้ผอ่ นคลาย มือของข้าไล่ไปตามบ่ากว้าง นวดไปก็โน้มกายเอ่ยกับเขาข้างหู

“ดีหรื อไม่เพคะท่านอ๋ อง”

“อืม..ดี ดีมาก” เขาตอบ ข้าเหลือบตามองแขนเขาที่ขนลุกชูชนั ขึ้นมาเป็ นตุ่มแล้วแอบยิม้

ไม่เพียงนวดเฟ้นหลังไหล่เขาอย่างดี ข้ายังจงใจปั ดป่ ายส่ วนต่างๆ ของร่ างกายไปโดนเขาแผ่วเบา สักพักก็โน้ม


กายไปเอ่ยกับเขาเบาๆ หายใจเป่ ารดใบหู

“ท่านอ๋ องจะให้อวี้เอ๋ อร์ถูหลังให้เลยไหมเพคะ”

เขานิ่งไปไม่ตอบ อกหนากระเพื่อมตามลมหายใจ ข้าจะรอดูวา่ เขาหมดความอดทนเมื่อไหร่ แต่ขา้ ไม่มีทางลง


ถังไปเด็ดขาด ปล่อยให้เขาทรมานไปผูเ้ ดียวเถิด

“เจ้าเอาอกเอาใจเปิ่ นหวางเช่นนี้ เปิ่ นหวางค่อยรู ้สึกว่าเรื่ องที่เปิ่ นหวางต้องกลับไปสะสางกับเจ้าที่จวน..ไม่ค่อย


น่าโมโหสักเท่าใดแล้ว” จู่ๆ เขาก็เอ่ยเรื่ องที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยขึ้นมา เสี ยงตํ่าๆ นัน่ ฟังไม่ออกว่ารู ้สึกอย่างไร

ข้าเหงื่อแตกพลัก่ ความรู ้สึกราวกับวัวสันหลังหวะ เขาบอกว่ากลับจึงจวนยังมีเรื่ องต้องสะสางกับข้า ข้ากลับ


รู ้สึกว่ากิริยายียวนของเขาไม่น่าโมโหสักเท่าไหร่ แล้ว..

“เอ่อ..อวี้เอ๋ อร์ชกั อยากอาบนํ้าขึ้นมาเสี ยแล้ว ท่านอ๋ องโปรดอนุญาตให้อวี้เอ๋ อร์ ลงไปแช่ตวั ด้วยคนนะเพคะ”

215
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

สงครามครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของข้า ข้าได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นใจ..

วันรุ่ งขึ้น เดินทางต่อราวสองชัว่ ยามก็ถึงจวนแม่ทพั ดูภายนอกเงียบเหงาราวกับไม่มีคนอยู่ แต่เมื่อเข้าไปภายใน


จึงได้เห็นว่ามีผดู ้ ูแลประมาณสี่ หา้ คน ทุกคนล้วนออกมายืนต้อนรับเราทั้งสอง

ข้าแย้มยิม้ เบิกบาน เดินสํารวจในจวนอย่างสนใจ อยากรู ้วา่ ที่ผา่ นมาเขามีความเป็ นอยูอ่ ย่างไรที่จวนแห่งนี้ เขา
เห็นข้าเดินไปทัว่ ก็เข้ามาจูงมือข้า

“อวี้เอ๋ อร์ ไปดูหอ้ งพักกันก่อนเถิด”

ข้าเดินตามเขาไป ความเป็ นอยูใ่ นจวนนี้ ไม่ได้สะดวกสบายนัก ด้วยว่าเป็ นเมืองชายแดนห่างไกลความเจริ ญ แต่


ก็มีทุกอย่างเหมาะสมตามสถานะ ห้องนอนของชินอ๋ องเรี ยบง่าย นอกจากโต๊ะที่ต้ งั ชุดนํ้าชาก็มีเพียงตูเ้ สื้ อผ้าและ
ชั้นหนังสื อ เขาหันมาบอกข้า

“เปิ่ นหวางจะให้คนยกโต๊ะเครื่ องประดับเข้ามาให้เจ้า”

ข้าเอ่ยขอบคุณเขาพลางคิดว่าจะตบแต่งห้องให้น่าอยูข่ ้ ึนได้อย่างไร ขณะที่ขา้ มองไปรอบๆ ห้อง เขาก็กา้ วมายืน


ซ้อนหลัง

“กระต่ายน้อย เจ้าตัวสู งขึ้น” เขาเอ่ยพลางยืนเทียบส่ วนสู งกับข้า เมื่อก่อนข้าตัวสู งเท่ารักแร้ แต่ตอนนี้ไต่ข้ ึน


มาถึงหัวไหล่เขาแล้ว

“แน่นอนสิ เพคะ อวี้เอ๋ อร์ยงั อยูใ่ นวัยกําลังโตนี่นา” ข้าตอบ อดไม่ได้ที่จะแขวะเรื่ องที่เขารังแกข้าตั้งแต่เริ่ มเป็ น
สาว เขาฟังความนัยออกแต่ทาํ เป็ นไม่สนใจ เสไปพูดเรื่ องอื่นแทน

“อวี้เอ๋ อร์เติบโตขึ้นกว่าเดิมมาก” เขามองข้าสายตาระยับ “งดงามขึ้นยิง่ กว่าภาพที่เปิ่ นหวางจดจําไว้ในใจเสี ย


อีก”

216
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าก้มลงมองตัวเองเพื่อซ่อนความเขินอาย “อวี้เอ๋ อร์กเ็ หมือนเดิมนี่เพคะ ไม่เห็นจะเปลี่ยนไปตรงไหน”

เขายิม้ มือเอื้อมมาจับเอวคอดของข้า “เจ้าผอมเหมือนเดิม แต่ส่วนอื่นๆ ไม่ได้เล็กตามตัวไปด้วยเลย”

ข้าหน้าแดง เขาพูดถูก หน้าอกของข้าอวบอิ่มขึ้น สะโพกของข้าผายออกเป็ นสัญญาณของการเจริ ญวัย ผูอ้ ื่นอาจ


ไม่สังเกตเพราะข้าสู งขึ้นจึงทําให้ดูเพรี ยวเหมือนเดิม แต่มีหรื อจะรอดพ้นสายตาช่างสังเกตของชินอ๋ องไปได้ ข้า
รู ้สึกขัดเขินจึงเปลี่ยนมาพูดถึงตัวเขาบ้าง

“ท่านอ๋ องก็เปลี่ยนไปเพคะ ดูคมเข้มขึ้น ไม่เหมือนตอนอยูว่ งั เสิ่ นหยางกง”

“แน่นอน เปิ่ นหวางมิได้มาเก็บตัวอยูท่ ี่จวนเฉยๆ สักหน่อย แต่ละวันเปิ่ นหวางปลอมตัวออกไปดูสถานการณ์


บางทีกป็ ลอมเป็ นคนจร บางทีกป็ ลอมเป็ นนักเลงอันธพาล อยูท่ ี่นี่เปิ่ นหวางซูบผอมลงไปไม่นอ้ ย”

ข้ามองเขาอย่างสํารวจ “อวี้เอ๋ อร์ ไม่เห็นว่าท่านอ๋ องจะซูบลงไปเลย”

“ดูแต่ตาใช่วา่ จะมองออกเสี ยหน่อย” เขาคว้ามือข้าไปจับที่หน้าอก ลูบลงมาตามชายโครง “ผอมลงหรื อไม่”

ข้าหน้าแดง ใครจะไปรู ้ได้เล่า จับลงไปมีแต่กล้ามเนื้อแข็ง แต่คร้านจะปฏิเสธจึงได้แต่เออออไปกับเขา ขณะที่


บรรยากาศกําลังชื่นมื่น ข้ากลับหลุดปากพูดถึงฮ่องเต้เพราะกลัวเขาจะลากเข้าไปเรื่ องอื่น

“ตอนอวี้เอ๋ อร์ออกจากเมืองหลวง ไม่รู้ฮ่องเต้กริ้ วหรื อไม่ อวี้เอ๋ อร์ ทิ้งเรื่ องราวต่างๆ ไว้ให้ฝ่าบาทเป็ นผูส้ ะสาง”
พอเห็นสี หน้าเขา ข้าจึงได้รู้วา่ พูดผิดไป

“อวี้เอ๋ อร์ ตอนอยูเ่ มืองหลวง เปิ่ นหวางได้ข่าวว่าเจ้ากับฮ่องเต้พยายามจะสวมหมวกเขียวให้เปิ่ นหวางอย่างนั้น


หรื อ” เขาเอ่ยเสี ยงเรี ยบราวกับเป็ นเรื่ องธรรมดา แต่ขา้ ฟังแล้วรู ้วา่ เขากําลังไม่พอใจ

“เปล่าเพคะ ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่สนองพระประสงค์ของฝ่ าบาทที่ตอ้ งการตบตาใต้เท้าจางต่างหากเล่าเพ


คะ” ข้าเอ่ยพลางสบตาเขาอย่างแสดงความจริ งใจ

ข้าทําเช่นนี้อาจตบตาคนอื่นได้ แต่ไม่รู้วา่ ทําไม ไม่อาจตบตาชินอ๋ องได้เลยสักครั้ง

217
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง” เขาพยักหน้าช้าๆ “เจ้าจึงต้องไปดีดพิณ เดินหมาก ร่ วมโต๊ะเสวยกับเขาเป็ นประจําใช่หรื อไม่”
ยามเอ่ย ดวงตาเขาจับจ้องใบหน้าข้าเขม็ง

ข้าก้มหน้าหลบตา ดูท่าเขาจะได้รับรายงานข่าวมาโดยละเอียด ข้าได้แต่ออ้ มแอ้มตอบ “ท่านอ๋ องทิ้งอวี้เอ๋ อร์ไว้ที่


เมืองหลวงตามลําพัง อวี้เอ๋ อร์จะขัดรับสั่งฝ่ าบาทได้อย่างไรเพคะ”

“แล้วเจ้าคิดว่าข้าทิ้งเฉิ นซี ไว้ที่นนั่ เพื่ออะไร ที่ฟังมา เจ้าไม่แม้แต่จะเอ่ยปากกับเขาเรื่ องนี้เลยมิใช่หรื อ”

ข้าก้มหน้าเงียบ เขารู ้ทนั ข้าทุกอย่าง ยามนี้แก้ตวั ไปก็เปล่าประโยชน์ ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธข้าจริ งจัง ข้ารู ้สึก
กลัวเขาที่เป็ นแบบนี้

“เจ้าทําสําเร็ จแล้ว ในที่สุดเปิ่ นหวางก็ตอ้ งยอมให้เจ้ามา เปิ่ นหวางทั้งห่วงและหวงเจ้า ไม่วา่ ใครมาใกล้ชิดเจ้า


เปิ่ นหวางล้วนไม่ยนิ ดี ทั้งๆ ที่การศึกติดพัน แต่เปิ่ นหวางกลับต้องเรี ยกตัวเจ้ามา เปิ่ นหวางไม่ไว้ใจให้เจ้าอยูท่ ี่
นัน่ เจ้าหรื อจะเท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของเผิงจวิน้ หากเขาไม่เจ้าเล่ห์ จะขึ้นเป็ นฮ่องเต้ได้หรื อ เจ้ารู ้หรื อไม่ การศึก
ครานี้สาํ คัญแค่ไหน..”

เขาทําท่าจะบ่นว่าข้าอีกยาว ข้ารู ้สึกโกรธและน้อยใจ ข้าอุตส่ าห์ยอมทนลําบาก ติดตามเขามาถึงที่นี่ แต่เขากลับ


เอาแต่บ่นว่าข้า ความยินดีที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจยามได้พบหน้ามลายหายไปสิ้ น ข้าโกรธเขาและคราวนี้ไม่ได้คิดจะ
ปิ ดบังอีก

“ท่านบอกว่าเป็ นห่วงข้า แล้วข้าไม่เป็ นห่วงท่านหรื อ” ข้าโพล่งออกมา นํ้าตาไหล “หากข้าไม่ทาํ เช่นนี้ มีหรื อเรา
สองคนจะได้อยูด่ ว้ ยกัน ในสายตาท่าน ข้าเป็ นเพียงกระต่ายน้อยที่ท่านเลี้ยงเอาไว้เชยชมในยามที่เอ็นดูใช่
หรื อไม่ ข้าไม่มีสิทธิ์ คิดถึง ไม่มีสิทธิ์ ห่วงหาท่าน มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถแสดงความรักต่อข้าใช่หรื อไม่
หากเป็ นเช่นนั้นเชิญท่านไปหากระต่ายน้อยตัวใหม่มาเลี้ยงดูเถิด ข้าเป็ นคน มิใช่กระต่ายน้อยที่ท่านเลี้ยงเอาไว้ดู
เล่น ”

ข้าสะบัดชายเสื้ อหันหลังวิง่ ออกจากห้อง ชินอ๋ องไม่ได้ตามมา เขาคงไม่คิดว่าตนเองเป็ นฝ่ ายผิดจนต้องมาขอ


โทษข้า จะว่าไป เขาไม่เคยขอโทษข้าเลยด้วยซํ้าไม่วา่ จะเรื่ องใด ข้าคิดอย่างเสี ยใจ เขาล้วนเป็ นฝ่ ายถูกเสมอ มี
แต่ขา้ ที่ตอ้ งพึ่งพิงเขา ต้องคอยงอนง้อเอาใจ ทําสิ่ งใดก็ตอ้ งคอยดูสีหน้าว่าเขาสบอารมณ์หรื อไม่ ข้านํ้าตาไหล
ข้าไม่น่าวางแผนติดตามเขามาที่ชายแดนเลย!

218
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 33 : เพราะรักจึงเจ็บปวด

พอข้าอารมณ์เย็นลง ข้าก็ค่อยได้คิด ข้าเข้าใจอะไรผิดไปหรื อไม่ เขาเห็นข้าเป็ นเพียงสมบัติที่เขาครอบครอง


เป็ นเพียงสัตว์เลี้ยงที่เขาเลี้ยงดูอย่างดี การมีอยูข่ องข้าเพียงเพื่อให้ชีวิตของเขามีสีสัน มีความสุ ข ส่ วนชีวิตของ
เขาไม่ได้มีไว้เพื่อข้า นี่คือข้อแตกต่าง เขาไม่ผิดที่คิดแบบนี้เพราะเขาคือชินอ๋ อง ฐานะของเขาช่างแตกต่างจาก
ข้าเหลือเกิน

ชีวิตของข้าขึ้นอยูก่ บั ความโปรดปรานของเขาเพียงเท่านั้น เหตุใดข้าจึงหลอกตัวเองไปได้วา่ เขารักข้าเช่นกัน


เขาเพียงถูกใจข้า ชอบที่ขา้ ท้าทายเขา แต่เขาไม่เคยหวังให้ขา้ มีสถานะที่เท่าเทียม ร่ วมกันคิดอ่านในฐานะคู่ชีวิต
คนหนึ่ง ข้ากําลังคาดหวังอะไรจากเขากันแน่ ข้าคงย้อนเวลามาผิดยุคสมัย สตรี ที่เก่งกล้าเกินไปเขาคงไม่
ปรารถนา เขาต้องการเพียงคนที่เชื่อฟังอยูใ่ ต้อาณัติและไม่ต้ งั คําถามกับการตัดสิ นใจของเขา

ความจริ งที่ขา้ เพิ่งค้นพบนี้ ไม่ได้ทาํ ให้ขา้ ตื่นตกใจ บางครั้งคนเราอาจใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะเข้าใจสถานการณ์ที่


ตนเองเผชิญอยู่ ข้าไขว่คว้าในสิ่ งที่ตนเองไม่ควรได้รับ ข้าเรี ยกร้องเกินไปใช่หรื อไม่

ข้านัง่ ทบทวนเรื่ องราวต่างๆ อยูท่ ี่ศาลา จนตอนเที่ยงเขาให้สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งมาตามข้าไปกินอาหาร


มื้อเที่ยง เมื่อเช้าข้ากําลังตื่นตาตื่นใจกับจวนจึงไม่ทนั ได้สังเกตนาง สตรี ผนู ้ ้ ีหูตาไม่เบา นางมีกิริยาเรี ยบร้อย
ปฏิบตั ิต่อข้าอย่างอ่อนน้อม แนะนําตัวเองว่าชื่อซู่ถิง แต่มีหรื อสตรี งดงามที่ชายแดนอันห่างไกลจะไม่วาดหวัง
ถึงอนาคตที่ดีกว่า ข้ามองนางแล้วนึกถึงตนเอง พวกเราก็ไม่ต่างกัน ข้ายิม้ ให้นางพลางเอ่ย

“นําทางไปเถิด”

ที่โต๊ะอาหาร ข้ากับเขานัง่ เผชิญหน้า ต่างฝ่ ายต่างไม่เอ่ยวาจา ข้าคีบอาหารให้เขาตามหน้าที่ ครู่ หนึ่งเขาก็เปิ ด


ปาก

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางหึ งหวงเจ้ามิใช่ไม่มีสาเหตุ เราอยูห่ ่างไกลกันถึงเพียงนั้น..”

“ท่านอ๋ องคงเกรงว่าข้าจะไม่ซื่อสัตย์ต่อท่านกระมัง” ข้ากล่าวอย่างใจเย็น

219
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่ใช่ เปิ่ นหวางเชื่อใจเจ้า แต่ไม่เชื่อใจเผิงจวิน้ ”

เขาอ้างฮ่องเต้ตามเคย ข้าสบตากับเขารู ้ดีวา่ สิ่ งที่ขา้ จะพูดต่อไปนี้อาจทําให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ แต่ขา้


ไม่อาจไม่พดู เขาคิดว่าข้าเป็ นสตรี ไม่รู้ความ ที่ผา่ นมาไม่เท่าทันความคิดของเขาหรื อ

“ท่านอ๋ องจะบอกว่าเชื่อใจข้า แต่ไม่เชื่อว่าข้าจะรับมือฮ่องเต้ได้..” ข้าปรายตามองเขา “ข้าขอบังอาจถาม หาก


มิใช่ดว้ ยแผนการรับมือของข้า ท่านอ๋ องจะจัดการปัญหานี้อย่างไร”

ข้ารอให้เขาตอบ แต่เขาไม่ตอบ เขาตําหนิขา้ แต่สิ่งที่ขา้ ตัดสิ นใจทําลงไป แผนการที่ขา้ เลือกใช้ลว้ นให้ผลลัพธ์


น่าพอใจไร้ช่องโหว่ ข้ารู ้วา่ เขาไม่อาจตอบได้จึงเอ่ยต่อ

“ท่านจะให้เฉิ นซี พาข้าเดินทางฝ่ าหิ มะมาหาท่านกลางฤดูหนาว หรื อท่านจะละทิ้งภารกิจทางนี้ กลับเมืองหลวง


เพื่อไปคอยคุม้ ครองข้า หรื อท่านจะให้ขา้ แตกหักกับฮ่องเต้และใต้เท้าจางเพื่อทําให้ท่านสบายใจ” แต่ละ
ทางเลือกที่ขา้ เอ่ยไปล้วนแล้วแต่เป็ นไปไม่ได้ ข้าหยุดเล็กน้อย

“ท่านไม่คิดจะไปไล่เบี้ยเอากับฮ่องเต้แต่มาไล่เบี้ยเอากับข้าเป็ นเพราะเหตุใดหรื อ เป็ นฮ่องเต้ที่บีบข้าทุกวิถีทาง


ให้ออกมาจากวังเสิ่ นหยางกง ท่านคิดว่าเป็ นข้าอย่างนั้นหรื อที่เรี ยกร้องให้ฮ่องเต้มาตามตอแย เป็ นข้าหรื อที่
อยากเข้าวังไปร่ วมเทศกาลตงจื่อ ทั้งหมดล้วนเป็ นเพราะท่านและหลานชายของท่านที่ดึงข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่
ต้น”

ข้ามองเขาอย่างเศร้าสร้อยพลางกล่าวต่อ “ล้วนเป็ นพวกท่านใช้ขา้ ตบตาใต้เท้าจาง ให้ขา้ เป็ นนางนกต่อ ล้วน


เป็ นพวกท่านที่ใช้นามของข้าชินหวางเฟยเพื่อสยบข่าวลือกระพือข่าวลวงจนเป็ นที่สาปแช่งของผูค้ นทั้งหลาย
ได้ข้ ึนชื่อว่าเป็ นนางปี ศาจยัว่ ยวนให้ชินอ๋ องและฮ่องเต้ลุ่มหลงมัวเมา ข้าเพียงแต่เล่นไปตามบทของพวกท่าน ข้า
ผิดตรงไหนหรื อ ท้ายที่สุดแล้วอวี้เอ๋ อร์คนนี้เป็ นเพียงแพะรับบาปตัวหนึ่ งเท่านั้นกระมัง”

"ไม่ใช่" เขาพูดแล้วก็นิ่งเสี ย ข้าจึงเอ่ยต่อ

“ข้าทําอย่างที่ท่านสอน ข้าไม่สนใจลมปากผูค้ น ปล่อยให้นามของตัวเองฉาวโฉ่ คิดแต่เพียงว่าแค่ได้รับความ


รักจากท่านก็เพียงพอ ท่านบอกให้ขา้ ภูมิใจในสิ ทธิ์ และศักดิ์ของหวางเฟย แต่กลับเป็ นท่านเองที่เห็นข้าเป็ นเพียง
หุ่นเชิด ข้าปิ ดหู ปิดตาตัวเองมาตลอดว่าท่านรักข้า บัดนี้จึงได้เข้าใจ ได้เห็นแล้วว่าท่านมองข้าอย่างไร”

220
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าวางตะเกียบลง

“ข้าไม่ได้คิดจะมาถกเถียงหาถูกผิดกับท่าน สิ่ งใดที่เกิดแล้วล้วนปล่อยผ่าน หากท่านอ๋ องไม่พอพระทัย จะให้ขา้


เดินทางกลับไปข้าก็ยนิ ดี”

ข้ารอฟังอยูน่ าน เขาไม่ตอบ ข้าจึงลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

คืนนั้น ข้ากลับเข้าไปในห้องพัก เขานอนหงายชิดด้านใน ไม่รู้วา่ หลับแล้วหรื อไม่ ข้าก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง


เราไม่ได้เอ่ยวาจาแก่กนั เลยสักคํา หัวใจของข้าร้าวราน ข้าคือกบตัวนั้น กบที่แช่อยูใ่ นนํ้าที่ต้ งั ไฟ ข้าหลอกตัวเอง
นานเกินไป นานจนต้องตายในนํ้าเดือด

เขาเอื้อมแขนมาโอบเอวข้าไว้ ข้าไม่ได้ปัดป้อง ไม่ได้ตอบสนอง เพียงนอนเป็ นวัตถุอยูต่ รงนั้น ข้าไม่รู้วา่ ยามนี้


ควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ข้าควรแสดงความรักต่อเขาเช่นเคยราวกับว่าข้าไม่รู้สึกอะไรหรื อควรตั้งคําถามกับเขา
ต่อไป ท้ายที่สุดแล้วข้าตัดสิ นใจไม่ได้จึงปล่อยให้แขนของเขาค้างอยูบ่ นเอวข้าเช่นนั้น

ข้าหลับตาลง หวังว่าการหลับใหลเพียงสั้นๆ จะช่วยให้ขา้ พ้นจากความคิดอันสับสนวุน่ วาย แต่ขา้ คิดผิด นัน่


กลับเป็ นการนําข้าไปสู่ เรื่ องราวที่ซบั ซ้อนตึงเครี ยดยิง่ กว่า..

ข้ากลับมาอยูใ่ นจวนเจ้ากรมอาญาผูเ้ ป็ นบิดาของซี ยนิ ข้ากวาดสายตาไปโดยรอบ นางอยูท่ ี่ใดเล่า นานแล้วที่ขา้


ไม่ได้ฝันถึงนาง สาวใช้ของนางเปิ ดประตูเข้ามาในห้อง เดินตรงมาที่ขา้ แล้วกล่าวอย่างร้อนรน

“คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ในวังหลวงเกิดความวุน่ วาย ไม่รู้วา่ ท่านรองเจ้ากรมอาญาจะสามารถแวะไป


ดูนายท่านตามที่คุณหนูไหว้วานได้หรื อไม่นะเจ้าคะ”

ปากของข้าตอบไปเองราวกับบทพูดนี้ถูกกําหนดไว้แล้ว “บอกให้คนเตรี ยมรถ ข้าจะไปวังองค์ชายห้า” ขณะที่


พูดใจข้าก็บีบคั้นอย่างแรง ข้าสัมผัสได้ถึงความรู ้สึกทุกอย่างของร่ างนี้ราวกับเป็ นร่ างของข้าเอง ช้าก่อน! ข้าอยู่
ในร่ างซี ยนิ อย่างนั้นหรื อ!

221
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ารับรู ้ความรู ้สึกนึกคิดของร่ างนี้ นางตั้งใจจะไปหาเจิ้งอู่ ใจของข้าประหวัน่ พรั่นพรึ ง ข้าไม่อยากรู ้ ข้าไม่อยาก
เห็นว่าเขาจะตอบนางว่าอย่างไร ข้าได้เป็ นประจักษ์พยานความโหดร้ายที่ผา่ นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าไม่อาจทน
เห็นซี ยนิ ต้องทุกข์ทนได้อีก

..อย่าไป.. ข้าตะโกนในใจ แต่ร่างนี้ยงั คงเคลื่อนไหวต่อไปตามวาระ ข้าเสมือนคนที่ถูกลากไปยังลานประหาร


ไม่อาจขัดขืนได้แม้แต่นอ้ ย

ซี ยนิ ไปพบเขาที่วงั คนเฝ้าประตูจาํ นางได้ ได้แต่มองนางด้วยสายตาเวทนา เขายังคงเอ่ยคําเดิม

“อย่าเพิ่งเข้าไปเลยขอรับคุณหนู”

คราวนี้ซียนิ ไม่ได้ออ้ นวอนเช่นเคย นางเพียงเอ่ยแช่มช้า ดูสงบเยือกเย็นนัก “ครั้งนี้คงเป็ นครั้งสุ ดท้ายที่ขา้


รบกวนท่านแล้ว”

“คุณหนู ได้โปรดอย่าเข้าไปเลย หากท่านเข้าไปมีแต่จะเจ็บชํ้ายิง่ ไปกว่านี้ ” เขากลับเป็ นฝ่ ายขอร้องนาง

นางยิม้ ให้เขา “ข้าไม่อาจเจ็บชํ้าไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว” นางตอบ

เขาหลีกทางให้นางอย่างไม่เต็มใจนัก กว่านางจะเข้าใจท่าทีของคนเฝ้าประตูกเ็ มื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ในขณะ


ที่นางทุกข์ตรมหม่นไหม้ เจิ้งอู่นงั่ เคียงคู่คุณหนูสามอยูใ่ นห้องรับรอง อากาศภายนอกหนาวเหน็บ แต่สองร่ างที่
เคียงคู่กนั โอบล้อมไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงที่สาดแสงทาบทาบนร่ าง

ไม่มีใครนําซี ยนิ เข้ามาหาพวกเขา ไม่มีใครกล้าพานางมา นางเดินมาด้วยตัวเอง ยามนี้จึงมีเพียงคนสามคนจับ


จ้องกันและกันอย่างประหลาดใจ ไม่สิ..มีเพียงซี ยนิ กระมังที่ประหลาดใจ

..เจิ้งอู่.. ข้างกายท่านไม่เคยห่างจากลวีอ่ ี่เลยใช่หรื อไม่

“เจ้ามาที่นี่ทาํ ไม” เขาถามซี ยนิ ด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา สายตาที่มองนางราวกับมองคนแปลกหน้า ซี ยนิ ไม่แน่ใจว่า


เขาคือคนเดียวกับเจิ้งอู่ที่เคยพรํ่าคําหวาน กอดรัดนางอย่างรักใคร่ หรื อไม่

222
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เสี ยนเฟยมารดาของเขาคงวางแผนไว้นานแล้ว จึงได้ทาบทามคุณหนูสามจวนแม่ทพั ประจิม ที่แท้กเ็ พื่อการนี้
นี่เอง เจิ้งอู่นงั่ อยูต่ รงนั้น ตรงหน้านาง แต่นางไม่อาจไขว่คว้า เขากําลังรอคอย สิ่ งที่เขารอคอยไม่ใช่นาง ..ข้าเป็ น
เพียงบุตรสาวเจ้ากรมอาญาผูด้ ้ือด้าน ย่อมไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากเป็ นที่ระบายความใคร่ .. นางคิด เขา
กําลังรอคอยอนาคตที่ยงิ่ ใหญ่ต่างหาก

คุณหนูสามผูน้ ้ นั นัง่ จิบชามองผูม้ าเยือนอยูเ่ งียบๆ สายตาของนางที่ปรายตามองมานั้นดูเหมือนกําลังเวทนา แต่ซี


ยินกลับมองเห็นแววลําพองใจ ลวีอ่ ่ีกาํ ลังเยาะเย้ยนางอยูต่ ่างหากเล่า ..งดงามแล้วเป็ นอย่างไร สู ้กาํ ลังพลสอง
แสนนายที่บิดานางมอบให้เจิ้งอู่ได้หรื อไม่.. บุรุษที่ฉลาดย่อมรู ้จกั เลือก ซี ยนิ เป็ นเพียงรองเท้าคู่เก่าที่เขาใช้แล้ว
ทิ้ง จะมอบสิ่ งที่เขาต้องการได้เช่นคุณหนูสามหรื อ ยามนี้บิดานางทําความดีความชอบต่อเขามากมาย ยามหนุน
เขาขึ้นสู่ อาํ นาจแล้ว ตําแหน่งข้างกายของเขาจะตกเป็ นของใครได้

ลวีอ่ ี่ดูสาสมใจนักที่เห็นสตรี อีกนางหนึ่ งนิ่งงันไม่อาจเอ่ยวาจา แต่กลับเสแสร้งทําเป็ นเห็นใจ

“เจิ้งอู่ แม่นางซี ยนิ มีธุระมาหาท่านถึงที่นี่ ท่านไม่มีแก่ใจจะถามไถ่นางเสี ยหน่อยหรื อว่ามีธุระใด” นางเอ่ยกับ


เขาด้วยถ้อยคําสนิทสนม แม้ปากจะพูดเช่นนี้ กลับไม่มีทีท่าว่าจะปลีกตัวไปให้ท้ งั คู่ได้มีโอากสพูดคุยกันตาม
ลําพัง

“ไม่จาํ เป็ น ข้ากับนางไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” เขาตอบอย่างเฉยชา

เจิ้งอู่เยือกเย็นนัก ไม่มีแม้ท่าทางกระสับกระส่ าย ไม่แม้แต่จะหวัน่ เกรงว่าซี ยนิ จะเปิ ดเผยเรื่ องของคนทั้งคู่ เขา


ช่าง.. เขาช่างไร้ความรู ้สึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซี ยนิ ข่มความอาย เอ่ยทวงสัญญาเขาต่อหน้าลวีอ่ ี่ นี่เป็ นโอกาส
สุ ดท้ายที่นางจะได้เอ่ยวาจากับเขา

“ท่านอ๋ องเพคะ ยังจําสัญญาได้หรื อไม่ หม่อมฉันไม่เคยลืม ซี อินเชื่อใจท่านอ๋ องเพคะ”

นางเอ่ยถ้อยคําที่เคยพรํ่าพูดกับเขานับพันครั้ง หากเขาไม่รู้สึกอะไร จิตใจของเขาย่อมไม่ใช่คนปกติธรรมดา

“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า เจ้ากลับไปเสี ยเถิด” ไม่มีแม้ความละอายใจในนํ้าเสี ยง

นํ้าตาของนางแห้งเหื อด นางไม่มีน้ าํ ตาจะไหล ยามนี้ได้แต่กล่าวต่อไป “ซี ยนิ เคยบอกว่าจะรอ นานเท่าใดก็จะ


รอ ไม่ทราบว่าซี ยนิ ยังติดค้างสัญญานี้หรื อไม่เพคะ”

223
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ลวีอ่ ี่กล่าวเสี ยงกลั้วหัวเราะ “สัญญาอะไรหรื อเจิ้งอู่”

“เรื่ องไม่สลักสําคัญอะไร อย่าได้ใส่ ใจเลย” เขาตอบสี หน้าขรึ ม “แม่นางซี ยนิ เจ้ากลับไปเถอะ”

ไม่มีคาํ อธิบาย เขาเพียงเอ่ยปากไล่

..ข้าเป็ นสิ่ งของที่หมดประโยชน์แล้ว..เขาไม่ตอ้ งการ เขาไม่จาํ เป็ นต้องอธิบายอะไร เพราะในความคิดเขา เขา


ไม่ได้ติดค้างอะไรข้า ข้าเป็ นแค่สตรี ที่งมงายในรักคนหนึ่งเท่านั้น เทียบไม่ได้กบั บัลลังค์มงั กรอันยิง่ ใหญ่

“เช่นนั้น.. จากนี้ ไป ซี ยนิ จะไม่รอแล้ว”

ซี ยนิ ยืนรอคําตอบอยูต่ รงนั้นเนิ่นนานจนขาด้านชาแทบหมดความรู ้สึก แต่วา่ ไม่มีคาํ ตอบใด นางจับจ้องสองคน


ที่นงั่ เคียงคู่กนั จิบชาท่องบทกวีราวกับไม่มีนางอยูต่ รงนั้น ..ท่านทํากับข้าอย่างนี้ ได้อย่างไร ท่านหักหลังข้าหรื อ
.. นางได้แต่คิด ไม่ได้ถามออกไป

ใบหน้าของนางไม่มีรอยเคียดขึ้งเลยสักนิด นางยังเป็ นซี ยนิ ที่อ่อนหวานงดงามคนเก่า

“เจิ้งอู่.. ขอให้ท่านสมหวังในสิ่ งที่ปรารถนา” เสี ยงหวานไพเราะของนางแผ่วพริ้ ว ราวกับแพรไหมไล้ผา่ นขอน


ไม้แข็งกระด้าง เขาหาได้สะท้านสะเทือน ยามนางเอ่ยวาจา ดวงตาดํามืดราวกับหุ บเหวไร้กน้ ของเขาจับจ้องนาง
นิ่ง ไม่ได้มีความเห็นใจหรื อรู ้สึกผิด นางไม่อาจทําให้เขาหวัน่ ไหวแม้เพียงสักนิ ด..

..ข้าทําสําเร็ จ ข้าไม่มีน้ าํ ตาสักหยด.. ซี ยนิ บอกตัวเอง แต่ในใจกลับมีรูโหว่ขนาดใหญ่ โลหิ ตไหลทะลักออกมา


ไม่ขาดสาย นางทอดสายตามองเขานิ่ง แม้จะเจ็บปวดถึงเพียงนี้แต่ยงั ต้องการเห็นใบหน้าที่แสนรัก อยากจดจํา
เขาไว้ในใจ นี่อาจเป็ นครั้งสุ ดท้ายที่นางจะได้เห็นเขาใกล้ๆ

ยามที่ซียนิ ตัดใจหันหลังกลับ ดวงตาของเขายังคงดํามืดเย็นชา เสี ยงของลวีอ่ ี่ดงั เจื้อยแจ้วอย่างอารมณ์ดี เขามอง


นางอย่างไร้ระลอกคลื่นแห่งอารมณ์ ช่างเป็ นดวงตาที่ราบเรี ยบ ไร้จิตใจ ไร้ความรู ้สึก บัดนี้ซียนิ รู ้แล้ว การ
สังหารเข่นฆ่าศัตรู ให้ดบั ดิ้นช่างเป็ นความเมตตาปรานีโดยแท้ เพราะการปล่อยให้ตายทั้งที่มีลมหายใจต่างหาก
ที่เป็ นความโหดร้ายอย่างที่สุดโดยที่มือไม่ตอ้ งเปื้ อนเลือด..

224
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ซี ยนิ ยังจําคําขององค์ชายสี่ ได้ หากหมดเรื่ องวุน่ วาย เขาจะเอาเกี้ยวมารับนางที่จวนไม่วา่ นางจะยินยอมหรื อไม่ก็
ตาม เรื่ องนี้เจิ้งอู่น่าจะรู ้อยูแ่ ล้ว นางยังหน้าโง่มาหาเขาแทนที่จะไปหาองค์ชายสี่ ข้อเสนอองค์ชายสี่ ต่างหากที่จะ
ช่วยบิดาได้ เพราะอย่างน้อยเขายังมีขอ้ แลกเปลี่ยนที่จบั ต้องได้จริ ง มิใช่เพียงสัญญาลมๆ แล้งๆ นางยังมีอะไรที่
เขาต้องการ ต่างจากเจิ้งอู่ที่ไม่มีธุระอะไรกับนางอีกต่อไป ..สิ่ งที่เขาต้องการจากนาง ล้วนได้ไปหมดแล้ว..
เรื่ องราวใดๆ ของนางล้วนไม่สาํ คัญต่อเขาอีก ซี ยนิ ให้คนรถพาไปหาองค์ชายสี่

ใบหน้าขององค์ชายสี่ ยมิ้ ระรื่ น เขายังเข้าใจว่าท่านรองแม่ทพั สนับสนุนเขาโดยมีเจิ้งอู่สวามิภกั ดิ์ หารู ้ไม่สมัคร


พรรคพวกของเขาส่ วนใหญ่ลว้ นแปรพักตร์ไปแล้ว ซี ยนิ ไม่คิดจะบอกเขา นางยังคงปรารถนาให้เจิ้งอู่สมหวัง
จากใจจริ ง มาที่นี่เพียงหวังใช้ประโยชน์จากองค์ชายสี่ เท่านั้น

“ซี ยนิ เจ้ามาหาข้า รู ้ข่าวในวังหลวงแล้วใช่หรื อไม่ มีขา้ เท่านั้นที่จะช่วยเจ้าได้”

“องค์ชายสี่ กล่าวได้ถูกต้องแล้วเพคะ ซี ยนิ มาด้วยเรื่ องนั้น ซี ยนิ เต็มใจแต่งเป็ นชายาของท่าน ขอเพียงท่าน


ช่วยเหลือบิดาออกจากคุกหลวงเพคะ” นางตอบอย่างอ่อนหวานแม้ในใจขมขื่น

เขาหัวเราะอย่างยินดี “เรื่ องนั้นย่อมไม่ลาํ บาก ยามนี้องค์ชายเจ็ดถูกคุมตัวอยูใ่ นวังของตนเอง ภายในราตรี น้ ี


เรื่ องราวทุกอย่างน่าจะเรี ยบร้อย”

“ได้ยนิ เช่นนั้นซี ยนิ ก็วางใจ หวังว่าองค์ชายสี่ จะไม่ลืมสัญญา โปรดช่วยบิดาออกมาด้วย บิดาไม่แข็งแรงนัก ไม่


ทราบว่าองค์ชายสี่ จะส่ งคนไปช่วยตอนนี้เลยได้หรื อไม่เพคะ”

“เรื่ องนั้นย่อมไม่เป็ นปัญหา เจ้ากลับไปที่จวนเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนส่ งตัวบิดาเจ้าตามไป”

เท่านี้เอง… ความรักที่เคยมี ความเจ็บปวดทรมาน ช่างเทียบกันไม่ได้กบั ผลประโยชน์ หากนางไม่มีความรักเสี ย


ตั้งแต่แรก ชีวิตคงไม่ยงุ่ เหยิงวุน่ วายถึงเพียงนี้ กระมัง เพียงแค่การแลกเปลี่ยน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่ตอ้ ง
เจ็บปวด ไม่ตอ้ งทรมาน.. องค์ชายสี่ จะคิดกับนางอย่างไร จะทํากับนางอย่างไร ไม่ได้ทาํ ให้นางเจ็บปวดเลยสัก
นิด ..เพราะนางไม่ได้รักเขา ..เพราะไม่รักจึงไม่เจ็บ.. เช่นนี้นี่เอง เจิ้งอู่คงรู ้สึกเช่นเดียวกัน เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
สักนิดกับสิ่ งที่เขาทํากับนาง ..เพราะเขาไม่ได้รักนาง.. เขาจึงไม่เคยต้องเจ็บปวด

225
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามที่ขา้ ลืมตา สองแก้มของข้าเปี ยกชุ่ม ข้าจําได้ตอนที่ขา้ เจอชินอ๋ องใหม่ๆ เขามีดวงตาแบบเจิ้งอู่ ดวงตาดํา
สนิทที่ไร้กน้ บึ้ง ทั้งทรงอํานาจและเฉี ยบขาด ตอนนั้นข้าหวาดกลัวดวงตาคู่น้ นั เหลือเกิน เหตุใดข้าจึงไม่เชื่อ
สัญชาตญาณของตนเอง

ข้ารู ้แล้ว..ทําไมข้าจึงมีความฝันแบบซี ยนิ วิญญาณของนางอาจจะเวทนาข้า พยายามจะเตือนข้าว่าบุรุษที่ขา้


ทุ่มเทใจให้ ท้ายที่สุดก็ไม่ต่างกับเจิ้งอู่ของนาง

อาการไหวกายเพียงเล็กน้อยของข้าทําให้ชินอ๋ องรู ้วา่ ข้าตื่นแล้ว เสี ยงของเขาดังมาจากเบื้องหลัง เขายังคงโอบ


เอวข้าไว้

“อวี้เอ๋ อร์ อย่าไปจากข้า”

“อวี้เอ๋ อร์อยูน่ ี่เพคะ” ข้าตอบเขาเสี ยงนุ่มนวล

“ไม่.. เจ้ากําลังถอยห่างจากข้าไป” เสี ยงของเขาเศร้าสร้อย

“ท่านอ๋ องวางใจเถิดเพคะ” ข้าตอบ เรื่ องบางเรื่ องแม้ระวังเป็ นอย่างดีกไ็ ม่อาจป้องกัน สายไปเสี ยแล้ว.. ข้าได้
ถลําลึกเกินกว่าจะถอนตัวเสี ยแล้ว ไม่รักจึงไม่เจ็บ.. ถึงจะรู ้อย่างนี้ แต่ใจของข้าก็เจ็บเหลือเกิน

226
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 34 : รักลึกซึ้งทีไ่ ม่ อาจทุ่มเท

อวี้เอ๋ อร์กาํ ลังเสี ยใจ..

นางพูดถูกแล้ว เขาคิดว่าตัวเองเป็ นห่วงนางคนเดียวหรื อไร

เขาหึ งหวงนาง โกรธที่นางใกล้ชิดฮ่องเต้จนทนไม่ได้ เขานึกถึงแต่ความรู ้สึกของตัวเอง ไม่ได้มองจากมุมของ


นางเลยสักนิด

ยามที่อวี้เอ๋ อร์ลุกไปแล้ว เสวียนเฟิ งยังคงนัง่ อยูท่ ี่โต๊ะอาหาร

เขาคิดว่าตนเองเก่งกาจ สามารถควบคุมทุกสิ่ งไว้ในกํามือ หลงลําพองว่าแผนการของเขาเจ้าเล่ห์รัดกุม แต่อนั ที่


จริ งแล้วเต็มไปด้วยรู รั่วและตัวแปรที่คาดไม่ถึง หากไม่ใช่เพราะนาง..อุทิศตนทําเพื่อเขา แผนการเหล่านี้คงจะ
ถูกเปิ ดโปงไปแล้ว

เขาหลงนึ กว่าตัวเองเก่งกาจดุจเทพเจ้า สามารถคุม้ ครองนางให้ปลอดภัยอยูใ่ นวังเสิ่ นหยางกง แต่อนั ที่จริ งแล้ว


ทิ้งนางไว้ท่ามกลางเขี้ยวเล็บและคลื่นลม

..เขาไม่ได้ปกป้องนางสักนิด นางต่างหากที่ปกป้องเขา..

เขาค่อยนึกทบทวน ความผิดของอวี้เอ๋ อร์คืออะไร..

ความผิดของนางคือการชี้ให้เขาเห็นว่าเขาไม่เอาไหน ไม่อาจทําตามที่ปากพูดได้ต่างหาก นางจึงต้องยอม


กระโจนลงมา เอาตัวเองเข้าไปพัวพันทั้งกับฮ่องเต้และจางอี้หมิง

เสวียนเฟิ งกําหมัดแน่นนัง่ ฟังวาจานางอย่างไม่อาจโต้แย้ง

..ช่างน่าละอายเหลือเกิน ทุกสิ่ งที่นางเอ่ยมาเขาไม่อาจแย้งได้สักคําเดียว..

อวี้เอ๋ อร์ ท้ายที่สุดแล้วเป็ นข้าที่ทาํ ผิดต่อเจ้า

227
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

…………………….

ข้ายังคงอยูก่ บั เขา รักเขาเหมือนเดิม แต่ความรู ้สึกไม่เหมือนเดิมเสี ยแล้ว ราวกับคนที่ยนื อยูข่ อบหน้าผา ไม่รู้วา่
จะพลัดหล่นลงไปเมื่อไหร่ เป็ นความรักลึกซึ้ งที่ไม่อาจทุ่มเทใจ หวังความรักจากเขาแต่ไม่อาจเชื่อใจ ความรัก
ประเภทไหนกันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงเช่นนี้

..ระหว่างเรา เพียงนอนเตียงเดียวกัน แต่ฝันคนละอย่าง..

ข้าปรารถนาความรัก แต่เขาปรารถนาร่ างกาย.. ที่ผา่ นมายังไม่ชดั เจนอีกหรื อ

ระหว่างเราประหนึ่งมีม่านหมอกปกคลุมไว้ ข้าสัมผัสถึงความตึงเครี ยดนั้นได้ แต่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร ชิน


อ๋ องที่มนั่ คงดุจภูผากลับเผยร่ องรอยของความหวัน่ ไหว เปรี ยบประดุจรอยร้าวเล็กๆ ที่ค่อยๆ ปริ แยก เขาไม่เคย
เอ่ยปากกับข้าว่าเขาคิดอะไร บางครั้งยามดึก เขาตื่นขึ้นมากอดข้าไว้ สั่นสะท้านไปทั้งกายราวกับกลัวว่าข้าจะ
หายไปในความมืด ข้าลูบหลังเขาอย่างปลอบประโลม เราสองคนราวกับเด็กหลงทาง เป็ นเพียงสัตว์บาดเจ็บที่
ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้แต่ผลัดกันเลียแผลแต่ไม่อาจเยียวยา ใช้เพียงความสัมพันธ์ทางกายปลอบประโลม
จิตใจราวกับขี้เมาที่ใช้สุราดับทุกข์

มันไม่ได้ผลนักนอกจากช่วยให้ลืมสิ่ งที่ถ่วงอยูใ่ นใจชัว่ ครั้งชัว่ คราว

ยามนี้เขาปั กหลักอยูท่ ี่จวน วางแผนอยูเ่ บื้องหลังอย่างลับๆ เวลาที่เขาใช้ความคิดด้วยความสุ ขมุ เยือกเย็น ข้า


มักจะนัง่ อยูด่ ว้ ยข้างๆ ข้าอยากรู ้วา่ เขาคิดอะไรยามมองดูชยั ภูมิจาํ ลองบนโต๊ะ ข้ามองธงสี ต่างๆ ที่ปักอยูบ่ นแผน
ที่จาํ ลองนั้นก่อนจะเอ่ยปากถาม

“ท่านอ๋ องคิดจะวางแผนการรบอย่างไรหรื อเพคะ”

ข้าไม่ได้คิดว่าเขาจะสนใจตอบข้า เรื่ องการศึกมิใช่ธุระของสตรี ทว่าเขาละสายตาจากแผนที่ตรงหน้า หัน


กลับมามองข้าอย่างสนใจ

“อวี้เอ๋ อร์สนใจกลศึกด้วยหรื อ”

228
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์เพียงอยากรู ้ความคิดท่านอ๋ องเพคะ” ข้าตอบตามจริ ง

เขายิม้ รวบเอวข้าลงนัง่ ซ้อนบนตัก แล้วอธิบายอย่างกระตือรื อล้น

“เห็นธงที่ปักอยูห่ รื อไม่ นัน่ คือชายแดนแคว้นเยีย่ ทั้งสามเมือง ฉางซา ถงจิ่ง และลัว่ หนานที่เราอยูใ่ นตอนนี้ เปิ่ น
หวางวางแผนให้ฮ่องเต้แต่งตั้งท่านแม่ทพั ประจิมซึ่ งเป็ นคนของใต้เท้าจางนําทัพออกรบ เขาน่าจะแกล้งแพ้
แคว้นเว่ยถอยร่ นมาทางเมืองฉางซา ฉางซาไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ ที่สาํ คัญแต่ที่นนั่ ชัยภูมิเหมาะสมที่จะตั้งรับ ทั้ง
ยังไม่มีกองทัพประจําอยูท่ ี่เมือง หากแคว้นเว่ยยึดไว้ได้ยอ่ มเหมาะสมที่จะใช้เป็ นฐานทัพชัว่ คราวเพื่อรุ กเข้ามา
ในแคว้นเยีย่ ที่นนั่ เปิ่ นหวางจะให้คนลอบสังหารเขา แล้วให้รองแม่ทพั มู่หรงจีซ่ ึ งเป็ นคนของเปิ่ นหวางขึ้น
บัญชาการแทน ทหารใต้อาณัติแม่ทพั ประจิมอาจเสี ยขวัญไปบ้าง แต่ท่านรองแม่ทพั มู่มากความสามารถ ต้องใช้
ความตายของแม่ทพั ประจิมปลุกขวัญกําลังใจของเหล่าทหารขึ้นมาได้แน่”

“ท่านอ๋ องฉวยโอกาสกําจัดศัตรู ในคราวเดียว แถมยังใช้ความตายของเขาป้ายสี แคว้นเว่ย ปลุกระดมขวัญของ


ทหารแม่ทพั ประจิมให้ฮึกเหิ ม ชิงคนของเขามาอยูใ่ ต้อาณัติตน แผนการท่านอ๋ องช่างลํ้าเลิศเสี ยนี่กระไร ยิงธนู
ดอกเดียว ได้นกถึงหลายตัว”

ข้ากล่าวชื่นชม อดทึ่งไม่ได้ แผนการเขามักจะลึกลํ้าเช่นนี้ ผูใ้ ดจะคาดคิดว่าแม่ทพั ประจิมแห่งแคว้นเยีย่ ต้องมา


ตายด้วยเงื้อมมือคนแคว้นเยีย่ ด้วยกันเอง ตอนไปยมโลก ตัวเขาเองคงยังไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าชินอ๋ องเป็ นผูส้ ่ งเขาไป
ชินอ๋ องปล่อยให้เขากระหยิม่ ใจว่าตนคงแย่งอํานาจและความสําคัญของทัพท่านอ๋ องมาไว้ในมือได้ จากนั้นฉวย
โอกาสใช้ความประมาทของเขาเล่นงานถึงตาย

การศึกมิหน่ายเล่ห์ ชินอ๋ องเป็ นผูท้ ี่ไม่อาจประมาทได้..

“ยามนี้แคว้นเว่ยให้แม่ทพั ตูเ้ หม่านําทัพมา ถึงแม้จะเป็ นจิ้งจอกเฒ่ามากประสบการณ์ แต่ตูเ้ หม่าเป็ นคนใจร้อน


โลภมาก พอเห็นแม่ทพั ประจิมแสร้งแตกทัพล่าถอยเข้าเมืองฉางซาจะต้องติดกับแน่ เขารู ้วา่ แม่ทพั ประจิม
สวามิภกั ดิ์ต่อรัชทายาทแคว้นเว่ย ย่อมไม่ระวัง ยามนั้นคงมุ่งหักหาญเอาเมืองฉางซาโดยง่าย” เขาหยุดพลางผุด
รอยยิม้ เหี้ ยมเกรี ยม

“เปิ่ นหวางจะให้ทพั หลวงซุ่มซ่อนกําลังอยูใ่ นเมืองฉางซาและชายป่ าข้างกําแพงเมือง พอทัพของแคว้นเว่ยบุก


มาก็ตีโอบกระหนาบไว้ ชัยภูมิเมืองฉางซาเป็ นเนินเขา เหมาะแก่การซุ่มซ่อนลอบสังเกตการณ์ เปิ่ นหวางจะ
โจมตีระลอกแรกด้วยเกาทัณฑ์ จากนั้นยามทัพแตกขบวนจึงค่อยให้พลทหารม้าเข้าบดขยี้ ปกติตูเ้ หม่าย่อมจะ

229
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ระแวงระวัง แต่ยามนี้เขาคิดว่าเปิ่ นหวางร่ อแร่ ใกล้ตาย แม่ทพั ประจิมเป็ นพวกเดียวกับเขา เขาย่อมไม่ระแวงและ
หวังใช้โอกาสนี้ สร้างความดีความชอบให้ตนเอง”

“ท่านอ๋ องใช้ประโยชน์จากข่าวลือเสี ยคุม้ ค่าเลยนะเพคะ” ข้าหยอกล้อเขายิม้ ๆ แต่เขากลับหน้าเสี ยขึ้นมาทันใด

“อวี้เอ๋ อร์ ที่ผา่ นมาเปิ่ นหวางไม่คิดจะใช้เจ้า..”

ข้ายกมือขึ้นปิ ดปากเขา “อย่าคิดมากไปเลยเพคะ” ข้าถามเขาต่อ “จากนั้นจะทําอย่างไรต่อเพคะ”

“เปิ่ นหวางจะฉวยโอกาสนี้ปรากฏกาย ปลุกขวัญกําลังใจทหาร รุ กคืบเข้าไปในแคว้นเว่ยเพื่อตีหวั เมืองสําคัญ


จากนั้น..”

ข้านิ่งฟัง คิดว่าเขาคงจะบ่ายหน้าสู่ เมืองหลวงแคว้นเว่ย

“จากนั้นก็เปิ ดโอกาสให้แคว้นเว่ยได้เจรจาสงบศึก”

ข้านิ่วหน้า “หากยึดหัวเมืองสําคัญได้ ไม่ใช่โอกาสอันดีหรอกหรื อเพคะที่จะบุกตีเมืองหลวง”

เขาส่ ายหน้า “รบร้อยชนะร้อยเป็ นเรื่ องดี แต่จะประเสริ ฐยิง่ กว่าหากไม่ตอ้ งรบ” เขาเอ่ยพลางหันมามองข้าด้วย
ดวงตาของผูผ้ า่ นโลกมามาก “เปิ่ นหวางไม่ได้ฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ ไม่วา่ จะเป็ นความตายของ
ผูใ้ ด เปิ่ นหวางย่อมไม่อยากเห็น ยิง่ ลูกหลานแคว้นเยีย่ ด้วยแล้ว เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการให้พวกเขาต้องมาล้มตาย
โดยไม่จาํ เป็ น ทุกคนย่อมมีบา้ นให้กลับ มีคนที่รักรออยู่ เปิ่ นหวางเพียงขอให้มีแผ่นดินอันสงบสุ ขปลอดภัยให้
พวกเขาได้อยูอ่ าศัยเท่านั้น”

ยามที่ขา้ ฟังเขา ข้ารับรู ้ได้ถึงความรักความผูกพันที่เขามีให้แก่แผ่นดินและราษฎร เขาไม่ใช่คนตัวเปล่า ทุกความ


เคลื่อนไหว ทุกการตัดสิ นใจ ต้องนึกถึงบ้านเมือง เขาจึงไม่ตอ้ งการศึกยืดเยื้อที่สูญเสี ยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

230
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แผนการหลอกล่อตูเ้ หม่าเป็ นไปตามที่ชินอ๋ องคาดการณ์ ตูเ้ หม่าไล่ตามแม่ทพั ประจิมมายังเมืองฉางซาหมายจะ
หักหาญเอาโดยง่าย ทั้งคู่นดั แนะกันไว้เรี ยบร้อยแล้ว แม่ทพั ประจิมจะแสร้งล่าถอยหนีเข้าเมือง ครั้นตูเ้ หม่า
ติดตามมาก็จะแสร้งยอมแพ้เปิ ดประตูเมืองให้อีกฝ่ ายเข้ายึดครอง ทุกอย่างดูจะเป็ นไปด้วยดีหากตอนที่แม่ทพั
ประจิมผ่านเข้าประตูเมืองมาไม่ได้เจอรองแม่ทพั มู่หรงจีเสี ยก่อน

รองแม่ทพั มู่หรงจีตะโกนก้องคํารามปลุกขวัญกําลังใจทหารเสี ยงดัง ให้ทุกคนช่วยกันป้องกันกําแพงเมือง


พร้อมกันนั้นก็บญั ชาการรบให้แต่ละหน่วยประจําแต่ละด้านของกําแพง แม่ทพั ประจิมมีสีหน้าประหลาดใจ
เหลือแสน ทัพหลวงซุ่มซ่อนอยูใ่ นเมืองฉางซาอันเงียบเหงาได้อย่างไร มู่หรงจีฉวยโอกาสพาเขาขึ้นไปยืน
สังเกตการณ์บนกําแพง แต่โชคร้ายเหลือเกินลูกธนูของศัตรู ดอกหนึ่งก็พงุ่ เข้ามาเสี ยบลําคอแม่ทพั ประจิมอย่าง
ถนัดถนี่จนล้มลงขาดใจตายคาที่

“แม่ทพั ประจิมต้องธนูสิ้นชีพแล้ว ทหารหาญทั้งหลาย พวกเราต้องแก้แค้นให้ท่านแม่ทพั ” เสี ยงดังสนัน่ ราวกับ


ฟ้าผ่าของมู่หรงจีปลุกความคัง่ แค้นในจิตใจของเหล่าทหาร โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทหารใต้บงั คับบัญชาของแม่ทพั
ประจิมต่างเคียดแค้นที่ผเู ้ ป็ นนายถูกสังหารโดยแคว้นเว่ย จึงสู ้รบกันอย่างถวายชีวิต

ผลการรบครั้งนี้ ทัพเว่ยเสี ยหายย่อยยับ ทัพราวสิ บห้าหมื่น เหลือรอดกลับไปเพียงห้าหมื่น ยามที่ทหารแตกทัพ


ยังไม่ทนั ได้ล่าถอย กลับถูกกองกําลังที่ซุ่มโจมตีอยูบ่ นเนินเขายิงห่าธนูเข้าใส่ กองทัพอันเกรี ยงไกรล้มลงราว
กับใบไม้ร่วง ที่เหลือรอดก็ถูกทหารม้าที่ควบตะบึงลงมาจากเขาไล่ฆ่าฟันอย่างโหดเหี้ ยม ตูเ้ หม่าหนีรอดไปได้
อย่างเฉี ยดฉิ วด้วยความแค้นสุ มทรวง

ชินอ๋ องฟั งรายงานความคืบหน้าด้วยความยินดี เมื่อนายทหารผูน้ ้ นั กลับไปแล้ว เขาก็หนั มาเอ่ยกับข้า

“ยามนี้ถึงเวลาที่เปิ่ นหวางจะออกโรงเสี ยที”

ข้ายิม้ ให้เขา ถึงเวลาที่เราต้องจากกันแล้ว

“อวี้เอ๋ อร์จะรอท่านอ๋ องเพคะ” ข้าเอ่ย รู ้สึกใจหายราวกับจะไม่ได้พบหน้ากันอีก

ยามที่ชินอ๋ องปรากฏกายในสนามรบ แคว้นเว่ยจึงได้รู้วา่ ตนเองโดนหลอกเสี ยแล้ว ชินอ๋ องไม่ได้เจ็บป่ วยใกล้


ตาย บัดนี้ กลับมาโลดแล่นบนสมรภูมิราวกับเทพสงคราม ทหารแคว้นเยีย่ โห่ร้องอย่างฮึกเหิ ม ชินอ๋ อง..ท่านแม่

231
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ทัพใหญ่ผหู ้ า้ วหาญเกรี ยงไกรจะเจ็บป่ วยได้อย่างไร นัน่ ล้วนแล้วแต่เป็ นแผนตบตาข้าศึก ชินอ๋ องนํากําลังทหาร
เพียงแสนนายขับไล่ทหารแคว้นเว่ยออกไปจากชายแดน ทั้งยังรุ กลํ้าเข้าไปยึดตีเมืองเล็กๆ รายทาง

ถึงแม้ตูเ้ หม่าจะพ่ายแพ้ยบั เยินกลับไปในการปะทะกันครั้งล่าสุ ด แคว้นเว่ยก็ไม่ได้คิดจะวางมือจากสงคราม


กลับส่ งรัชทายาทเว่ยหงอิ่นมาเป็ นผูบ้ ญั ชาการทัพพร้อมกับทหารกองหนุนอีกแสนนาย กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธ
ได้วา่ ผลพวงจากการพ่ายแพ้คราวก่อน ได้สร้างบาดแผลให้กบั กองทัพแคว้นเว่ยไว้ไม่นอ้ ย ยิง่ ยามนี้ ชินอ๋ องผู ้
เกรี ยงไกรกลับมาเป็ นแม่ทพั ขวัญกําลังใจของทหารแคว้นเว่ยย่อมถูกบัน่ ทอนอย่างหนัก ชินอ๋ องช่างเก่งกาจใน
การเล่นกับจิตใจผูค้ นนัก ก่อนหน้าศึกสําคัญ เขาปล่อยให้แคว้นเว่ยรบชนะในการปะทะกันย่อยๆ ตอนใกล้สิ้น
ฤดูหนาว เพียงเพื่อให้อีกฝ่ ายลําพองใจในชัยชนะอันจอมปลอมจนเกิดความประมาท บัดนี้พอคว้าชัยชนะมาได้
ในศึกสําคัญ สถานการณ์ยอ่ มพลิกผัน ชินอ๋ องใช้สงครามจิตวิทยากับศัตรู เอาความเป็ นเทพสงครามของตนเข้า
ขู่ ทําลายความมัน่ ใจของฝ่ ายตรงข้ามจนไม่เหลือหลอ ยามนี้ ตอ่ ให้อีกฝ่ ายเอาเทพสงครามตัวจริ งอย่างท่านเทพ
เอ้อหลางมานําทัพก็ไม่แน่วา่ จะต้านทานได้

กระนั้นเว่ยหงอิ่นก็มิใช่ผทู ้ ี่จะดูเบาได้ หากจะกล่าวว่าคู่เปรี ยบที่มีฝีมือสู สีกบั ชินอ๋ องคือใคร ก็อาจไม่เกินเลยที่


จะกล่าวว่าคือรัชทายาทแคว้นเว่ยผูน้ ้ ี เขาทําให้การรบครั้งนี้ตึงมือ จากที่แต่เดิม ชินอ๋ องตั้งใจจะเผด็จศึกให้ได้
ภายในสามเดือนกลับลากยาวออกไปจนเกือบสิ้ นสุ ดฤดูใบไม้ร่วง สู ญเสี ยไพร่ พลและทรัพย์สินไปไม่นอ้ ย

ทางเมืองหลวง ได้ยนิ ว่าใต้เท้าจางกําลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก ฮ่องเต้มีรับสัง่ ให้เจ้ากรมอาญาสื บสวนหา


ผูก้ ระทําผิดกรณี ยกั ยอกเงินช่วยเหลือราษฏรที่ประสบอุทกภัย ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงหลายตระกูลล้วนมี
ส่ วนเกี่ยวข้องกับการทุจริ ตใหญ่โตครั้งนี้ การตัดสิ นพิจารณาคดีเป็ นไปอย่างยากลําบาก ราชสํานักไม่อาจไร้ขนุ
นาง เกรงว่าหากจะเอาผิดจริ งจัง ตําแหน่งที่ยนื ในท้องพระโรงคงจะว่างเปล่าเงียบเหงา ฮ่องเต้จึงมีดาํ ริ ให้ทาํ
ทัณฑ์บนไว้ก่อน แต่ขา้ รู ้วา่ อย่างไรเสี ยเขาก็คงจะหานํ้าดีมาแทนที่น้ าํ เสี ยอย่างคนกลุ่มนี้ เขาเพียงแต่รอเวลาปั้ น
คนขึ้นมาใหม่เท่านั้น

ใต้เท้าจางเจนจัดสมกับเป็ นเสนาบดีฝ่ายขวา เก็บกวาดเรี ยบร้อยจนไม่เหลือร่ องรอยสาวมาถึงตัว เขายังคงสู ้ยบิ


ตาไม่ยอมแพ้ ล่าสุ ดได้บงการให้ตระกูลหวังซึ่ งเป็ นขุนนางในอาณัติส่งบุตรี เข้าวัง ไม่รู้วา่ ตั้งใจจะก่อกระแส
อะไรในวังหลัง ยามนี้ชินอ๋ องเผยตัวแล้ว ใต้เท้าจางคงจะแค้นแทบกระอักที่โดนข้าหลอก หากไม่มีขา้ แผนตบ
ตาเขาคงไม่อาจใช้ได้นานขนาดนี้ ยิง่ ที่ผา่ นมา ข้าทําตัวอยูใ่ นโอวาทเป็ นบุตรี ท่ีดีมาโดยตลอด เขาหรื อจะคาดคิด
ว่ามีวนั นี้
ข้าอยูท่ ี่จวนคอยฟังข่าวความคืบหน้าของการศึกอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน

232
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่การศึกรบพุง่ อยูท่ ี่ชายแดน เขามักจะกลับมาหาข้าที่จวนบ่อยๆ แต่ละครั้งเราจะกอดกันไว้แน่นราวกับจะ
ได้เจอหน้ากันเป็ นครั้งสุ ดท้าย อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสงคราม ดาบกระบี่ไม่มีตา ไม่มีใครรู ้วา่ อนาคตจะเกิดอะไร
ขึ้น เราสองได้แต่ตกั ตวงช่วงเวลาสั้นๆ อันมีค่านี้ ไว้ กระนั้นความรักของเราก็ช่างเปราะบางเหลือเกิน

ครานี้ชินอ๋ องจากไปหลายเดือน เขารุ กไล่ทพั เว่ยเข้าไปจนเกือบถึงเมืองจี้เจียงอันเป็ นหัวเมืองสําคัญทางตอนใต้


ของแคว้นเว่ย เขาเคยบอกกับข้าว่าวัตถุประสงค์ของการศึกครานี้ เขาหมายตาเมืองจี้เจียงนี่เอง ชินอ๋ องไม่สนใจ
จะยึดครองแคว้นเว่ย ..ยุง่ ยากเกินไป.. เขาบอก ถึงตีได้สาํ เร็ จก็คอยระวังรักษา มิสู้แย่งชิงเมืองจี้เจียงมา เพียง
เท่านี้แคว้นเว่ยก็อ่อนแอ จี้เจียงเป็ นเมืองสําคัญทางการค้า มัง่ คัง่ เสี ยยิง่ กว่าเมืองหลวงด้วยว่ามีพอ่ ค้าคหบดี
มากมาย แต่ละปี เก็บอากรได้เป็ นจํานวนมหาศาล ทําเลเหมาะสมด้วยว่าเป็ นทางผ่านของขบวนสิ นค้าจากหลาย
แคว้น ยามนั้นข้าพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา

“ทําไมหรื อ อวี้เอ๋ อร์ เห็นว่าข้ามักน้อยเกินไปหรื อไม่”

“ท่านอ๋ องตัดสิ นใจถูกต้องแล้วเพคะ อวี้เอ๋ อร์ ยอ่ มไม่อยากให้ท่านอ๋ องใช้เวลาทั้งชีวติ จับดาบอยูใ่ นสนามรบเป็ น
แน่”

ยามนั้นเขายังหัวเราะอย่างมีความสุ ขอยูเ่ ลย

เขาล้อมตีเมืองจี้เจียงอยูน่ านหลายเดือน น่าจะใกล้สาํ เร็ จแล้วกระมัง

ข้ากําลังปักผ้ายามที่หมิงจูวงิ่ หน้าตาตื่นเข้ามา

“หวางเฟยเพคะ..” นางมีท่าทางดีใจ “ท่านอ๋ องส่ งคนมาแจ้งข่าว ยามนี้ยดึ เมืองจี้เจียงสําเร็ จ กําลังยกทัพกลับมา


น่าจะมาถึงในอีกเจ็ดวันเพคะ”

ในใจของข้าหวานลํ้า มิใช่เพียงยินดีที่เขารบชนะ ยังยินดีที่เขาปลอดภัย อีกไม่นานเราจะได้เจอกัน

ข้าไม่หวังอะไรมาก ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้เราจะกลับเมืองหลวง เรื่ องราวของใต้เท้าจางคงจะคลี่คลายในไม่ชา้


ข้าจะลืมความขุ่นข้องหมองใจที่เคยมีต่อกัน ข้าจะเปิ ดใจให้เขาอีกครั้ง เรื่ องราวทั้งหลายคงเป็ นไปด้วยดีหากว่า
ทุกสิ่ งเป็ นไปตามที่ขา้ คาดการณ์ไว้..

233
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 35 : เกิดขึน้ อย่ างรวดเร็ว แต่ ทาํ ลายทั้งชีวติ

ย่างเข้าวันที่เจ็ดในยามสายกองทัพแคว้นเยีย่ ที่นาํ โดยชินอ๋ องก็กลับมาถึงเมืองลัว่ หนาน วันนี้ทอ้ งฟ้าปลอดโปร่ ง


สดใส เสี ยงผูค้ นโห่ร้องอย่างยินดีดงั ก้องไปทัว่ ข้าได้แต่รอเขาอยูท่ ี่จวน

..แม้ชินอ๋ องจะเผยตัว แต่ขา้ ชินหวางเฟย ไม่อาจให้คนนอกล่วงรู ้ได้วา่ อยูท่ ี่นี่ ผูค้ นคงไม่ยนิ ดีกบั การปรากฏกาย
ของข้านัก ข้ามิใช่ถูกกล่าวขานว่าเป็ นนางปี ศาจจิ้งจอกหรื อ พวกเขาคงไม่ศรัทธาในตัวข้า ไม่ยนิ ดีให้ขา้ เข้าใกล้
ชินอ๋ อง ยิง่ ยามเขาได้รับชัยชนะกลับมาเช่นนี้ หากข้าเสนอหน้าออกไป มีแต่ผคู ้ นจะประณามว่าเป็ นตัวอัปมงคล

“อวี้เอ๋ อร์ !”

ข้าลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยนิ เสี ยงที่คุน้ เคย ชินอ๋ องสาวเท้าเข้ามาในห้อง คว้าร่ างข้าไว้ในอ้อมกอด

“เปิ่ นหวางคิดถึงเจ้าเหลือเกิน”

เพียงคําพูดง่ายๆ ของเขากลับทําให้ขา้ นํ้าตาซึ ม ข้าซึ มซับความรู ้สึกอ่อนหวานในใจ

“ท่านอ๋ องไปผลัดเปลี่ยนเสื้ อผ้าก่อนดีหรื อไม่เพคะ” ข้าเอ่ยเตือนเขา เขายังคงสวมชุดเกราะ ยามโอบรัดข้าไว้จึง


รู ้สึกเจ็บอยูบ่ า้ ง

“เปิ่ นหวางขอโทษ มัวแต่ดีใจเกินไปจึงลืมไปว่ายังไม่ได้ถอดเกราะ” เขาปล่อยร่ างข้าออก “อวี้เอ๋ อร์เจ็บหรื อไม่”

ข้าดีใจที่ได้เห็นเขา มองเขาทัว่ ร่ างอย่างสํารวจตรวจตรา เขาปลอดภัยดี ทั้งยังดูสดชื่น นัยน์ตาสุ กใสเป็ นประกาย


ข้ายิม้ ให้เขาอย่างปลาบปลื้ม

"อวี้เอ๋ อร์ขอแสดงความยินดีดว้ ยเพคะ ในที่สุดปณิ ธานของท่านอ๋ องก็สาํ เร็ จแล้ว"

"อวี้เอ๋ อร์.." เขาเอื้อมมาจับมือข้าไว้ ทอดสายตามองข้าอย่างอ่อนหวาน ทําท่าจะพูดอะไรต่อ แต่แล้วก็มีคนของ


เขาละลํ่าละลักเข้ามารายงาน

234
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ทูลท่านอ๋ อง เกิดเรื่ องแล้วพะย่ะค่ะ”
ทัพใหญ่เพิ่งกลับมา จะเกิดเรื่ องอะไรได้ ชินอ๋ องนิ่วหน้า “รี บรายงาน”

“ยามนี้แคว้นเว่ยส่ งคนตามมาตะโกนท้าทายอยูน่ อกกําแพงเมือง บอกให้ท่านอ๋ องรี บออกไปเจรจาพะย่ะค่ะ”

ชินอ๋ องเพียงยิม้ เยาะ

“แคว้นเว่ยยามนี้ พา่ ยแพ้สงคราม เมืองจางจี้โดนยึดแล้ว รัชทายาทนําทัพที่เหลือหนีตายไปขึ้นไปทางตอนเหนือ


ยังจะมาเจรจาอะไรอีกรึ ก่อนหน้านี้ขา้ เปิ ดโอกาสให้เจรจากลับเพิกเฉย ยามนี้พวกเขายังเหลืออะไรให้ต่อรอง
อีก”

“รัชทายาทเว่ยหงอิ่นเสด็จมาเองพร้อมกับเชลยศึกในมือพะย่ะค่ะ”

ชินอ๋ องขมวดคิ้ว “เชลยศึกอะไรกัน”

“ทูลท่านอ๋ อง ยามนี้องค์ชายหกและองค์ชายสิ บตกอยูใ่ นมือแคว้นเว่ยพะย่ะค่ะ”

ชินอ๋ องตกตะลึง เขาคาดไม่ถึงว่าองค์ชายซุกซนสองคนนัน่ ไปอยูใ่ นมือฝ่ ายตรงข้ามได้อย่างไร

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้ารอเปิ่ นหวางอยูท่ ี่นี่” เขาบอกข้าก่อนจะผลุนผลันออกไป

ถึงข้าไม่ได้ตามไปที่กาํ แพงเมืองก็ได้รับรู ้เรื่ องราวทุกอย่างโดยไม่ตกหล่น

..ชัยชนะของชินอ๋ องคือความว่างเปล่า..

การจับตัวเชลยศึกในช่วงสงครามถือเป็ นเรื่ องธรรมดา บางครั้งเพื่อเรี ยกค่าไถ่ บางครั้งเพื่อข้อแลกเปลี่ยนบาง


ประการ ขึ้นอยูก่ บั ว่าเชลยศึกที่จบั ได้มีความสําคัญมากเพียงใด ยามนี้เชลยศึกทั้งสองเป็ นถึงองค์ชาย เชื้อพระ
วงศ์ใกล้ชิด มีหรื อที่ขอ้ เรี ยกร้องของฝ่ ายตรงข้ามจะไม่หนักหนาเอาการ เพียงได้ยนิ ข้าก็รู้วา่ เมืองจี้เจียงที่ชิน
อ๋ องอุตส่ าห์ตีมาด้วยความยากลําบากน่าจะหลุดมือไปเสี ยแล้ว..

235
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แต่นนั่ คือการคาดเดาของข้า เชลยศึกมีถึงสองคน คนหนึ่งเว่ยหงอิ่นคงจะแลกกับเมืองจี้เจียง แล้วอีกคนเล่า..เขา
จะแลกกับอะไร
ข้าไม่ได้นึกถึงตัวเองเลยสักนิด การที่ขา้ อยูท่ ี่นี่เป็ นความลับ ไม่วา่ ใครก็ไม่อาจล่วงรู ้

จนกระทัง่ ชินอ๋ องกลับมาด้วยสี หน้าดําคลํ้า ยามที่เขาเอ่ยปาก ข้าจึงได้รู้ขอ้ แลกเปลี่ยนอีกประการ

ชินอ๋ องกอดข้าไว้แน่นโดยไม่ได้สนใจว่าข้าจะเจ็บหรื อไม่ เขากอดข้าเนิ่นนาน ทรวงอกของเขาสะท้อนขึ้นลง


อย่างแรง

“อวี้เอ๋ อร์..” ข้ารอฟังเขาแต่เขาไม่อาจเอ่ยปากต่อไปได้ เขาดูสะเทือนอารมณ์ ข้าเข้าใจเขา.. เพื่อให้ได้เมืองจี้เจียง


เขาต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากเหลือเกิน

“อวี้เอ๋ อร์ ..” ชินอ๋ องสู ดลมหายใจเข้าลึก พยายามจะเอ่ยคําอย่างยากลําบาก นํ้าเสี ยงของเขาสั่นเครื อแหบพร่ า เต็ม
ไปด้วยอารมณ์ “เว่ยหงอิ่นยืน่ ข้อเสนอ เขาต้องการแลกชีวิตองค์ชายทั้งสองกับจี้เจียงและ…” นํ้าเสี ยงของเขา
ขาดหายไปในลําคอ

ข้ารู ้เขาคงรู ้สึกสิ้ นหวัง ข้ากอดเขาไว้อย่างปลอบโยน “ท่านอ๋ องอย่าเสี ยพระทัยไปเลยเพคะ วันหน้ายังมีโอกาส


ท่านอ๋ องเก่งกล้าสามารถ ต้องยึดจี้เจียงกลับคืนมาได้แน่”

เขาจ้องมองข้านิ่ง ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าข้าแผ่วเบา สองตาเขาทอประกายเศร้าโศกอย่างสุ ดซึ้ ง

“อวี้เอ๋ อร์ … เว่ยหงอิ่นต้องการเจ้า”

สิ้ นเสี ยงของชินอ๋ อง ข้านิ่งงันไปราวกับถูกสาป!

ข้าฟังผิดไปหรื อไม่ เว่ยหงอิ่นต้องการตัวข้า..

ข้าสบตากับชินอ๋ อง เขาไม่หลบสายตาข้าเลยสักนิด ในแววตาเขาเต็มไปด้วยความรู ้สึกผิด ความละอาย ความ


เศร้าเสี ยใจ เขามองข้าด้วยสายตาขอลุแก่โทษ มองอย่างคนที่หมดอาลัยตายอยาก ขอให้ขา้ ประณามเขา ทําร้าย
เขาให้เต็มที่ ให้สาสมกับสิ่ งที่กาํ ลังจะเกิดขึ้นกับข้า แววตาของเขาเจ็บปวด ข้าได้แต่มองเขานิ่ง ดวงตาของข้า

236
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เบิกค้าง ข้าไม่อาจเอ่ยคําใด ข้าไม่อาจแม้แต่จะฝื นตัวเองให้กล่าวออกมาว่าข้ายินดี ข้ายอมพลีชีพเพื่อองค์ชายทั้ง
สอง..

“อวี้เอ๋ อร์.. ข้า..ข้า..” เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็นชินอ๋ องผูร้ ้ายกาจไม่อาจเอ่ยวาจา เขามีทางเลือกหรื อ.. ข้ามีสิทธิ์เลือก
หรื อ.. ข้ารู ้วา่ เรื่ องราวจะเป็ นอย่างไรต่อไป

..เพียงหวางเฟยคนหนึ่งหรื อจะเทียบชีวิตอันสู งค่าขององค์ชาย ยิง่ เป็ นหวางเฟยที่ชวั่ ร้าย ล่อลวงให้บุรุษหลงงม


งาย หากชินอ๋ องไม่ส่งตัวข้าไป เขาจะเงยหน้ามองฟ้า ก้มหน้ามองดินได้อย่างไร เขาจะทําผิดต่อราชวงศ์ได้หรื อ
จะทําผิดต่อความศรัทธาของผูใ้ ต้บงั คับบัญชาได้หรื อ..

ใจของข้าเจ็บแต่ขา้ ไม่อาจหลัง่ นํ้าตา แม้ในยามที่ใจของข้าแหลกสลาย ข้ายังหวังเพียงถนอมนํ้าใจเขา ไม่อยาก


ให้เขาต้องเห็นนํ้าตา ไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดไปมากกว่าที่เป็ นอยู่ ความรักของพวกเราช่างอาภัพเหลือเกิน..

..ความรักที่แสนสั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ ว แต่จะทําลายพวกเราไปทั้งชีวติ ..

ชินอ๋ องกอดข้าไว้ เขาตัวสั่น ข้าตัวแข็งเป็ นท่อนไม้ ข้าไม่รู้จะทําอย่างไร ในใจข้าเศร้าเหลือเกิน เศร้าจนไม่อาจ


บรรยายเป็ นคําพูด ..เขาไม่ผดิ ข้าไม่ผดิ .. ผิดที่ฟ้าต่างหากที่ลิขิตชะตาอันแสนเศร้าเช่นนี้มาให้พวกเรา

ชินอ๋ องกอดข้าไว้แนบอกอย่างอาลัย ในที่สุดข้าก็ไม่อาจกลั้น ข้ากอดเขาทั้งนํ้าตา กายข้าสั่นสะท้าน ข้ากอดเขา


อย่างโหยหา อาลัยเขาเหลือเกิน ใบหน้านี้ ร่ างกายนี้ นํ้าเสี ยงที่ขา้ คุน้ เคย วันวานที่เรามีร่วมกัน เป็ นเขาที่ทาํ ให้
ชีวิตข้ามีวนั ที่สุขที่สุด มีวนั ที่มืดหม่นที่สุด แต่ไม่วา่ มันจะเศร้าหมองทุกข์ตรมเพียงไร ข้ากลับปรารถนาให้เป็ น
เขาอยูเ่ คียงข้าง ต่อให้ดวงใจดวงนี้ถูกเขาบดขยี้ ข้าก็ยงั มีเขาอยูใ่ นอ้อมกอด แต่นนั่ กําลังจะกลายเป็ นอดีต ข้ารั้ง
ใบหน้าเขาลงมาจุมพิตอย่างอาลัย ขอให้ขา้ ได้ประทับรอยนี้เป็ นครั้งสุ ดท้าย

สัมผัสของชินอ๋ องเต็มไปด้วยความขมขื่น ข้ารู ้วา่ เขาโศกาอาดูรมากเพียงใด ข้าเองก็ไม่ต่างกัน เราต่างโอบกอด


กันเป็ นครั้งสุ ดท้าย เปิ ดเปลือยความรักที่อยูใ่ นใจ ยามนี้ไม่วา่ เขาจะจริ งใจกับข้าหรื อไม่กไ็ ม่มีความหมายแล้ว
จากนี้ไปเราคงจะไม่ได้พบกันอีก

ชินอ๋ องลงมือสัมผัสแตะต้องข้า ข้าสิ้ นไร้เรี่ ยวแรงจะคัดค้าน มันคงเป็ นการเสพสุ ขที่เต็มไปด้วยความขมขื่น


หัวใจที่แหลกสลายสองดวงประสานกันเป็ นครั้งสุ ดท้าย แต่ในความเศร้านั้นก็เป็ นความรู ้สึกที่งดงาม ข้ามอง
เขาด้วยความรัก ในช่วงเวลาสุ ดท้ายที่เราแนบชิด ชินอ๋ องกอดข้าไว้แนบแน่น

237
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์.. ข้ารักเจ้า รักเจ้าจากใจจริ ง หวังเพียงเจ้าเชื่อคําข้า”

ข้าหลับตาลง ได้ฟังคํารักจากเขาในยามนี้ยงั จะมีประโยชน์อนั ใดอีกเล่า รังแต่จะทําให้ขา้ เจ็บปวดยิง่ กว่าเดิม


นํ้าตาที่เพิ่งหยุดไปไหลลงมาอีก นิ้วของเขาไล้เบาๆ บนใบหน้า เช็ดนํ้าตาข้าให้แห้งเหื อด

“อย่าร้องไห้..” เขาบอกข้า “แม้เราจากกันก็เพียงชัว่ คราว ข้าจะพาเจ้ากลับมา ข้าจะตามไปชิงตัวเจ้ากลับมาไม่


ว่าเว่ยหงอิ่นจะพาเจ้าไปซุกซ่อนไว้ที่ไหน”

ข้าลืมตาขึ้นมองเขา ยิม้ ให้เขาอย่างงดงาม ทําทีวา่ ข้าเชื่อในคําสัญญานั้น..

ข้าเพียงทําไปเพื่อให้เขาสบายใจ คํามัน่ ของเขาข้าเพียงฟังผ่านหู ยามนี้เขาสะเทือนใจ ถ้อยคําที่เอ่ยมาย่อมเปี่ ยม


ล้นไปด้วยอารมณ์ ย่อมไม่อาจใช้เหตุผล แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะได้คิด..และจะคิดได้.. สัญญาของเขาหนัก
แน่น แต่มนั คงเป็ นไปไม่ได้เสี ยแล้ว เพียงข้าก้าวพ้นแคว้นเยีย่ ไปก็จะกลายเป็ นสตรี มีราคี อีกทั้งเว่ยหงอิ่นคงไม่
มีทางปล่อยข้าง่ายๆ เขาก็คงแค้นข้ามากเช่นเดียวกับใต้เท้าจาง เพียงสตรี คนเดียวก่อให้เกิดความปราชัยอันน่า
อัปยศของแคว้นเว่ย เขาอาจจะไม่ไว้ชีวติ ข้า หรื อมีชะตากรรมอันโหดร้ายรออยูก่ ส็ ุ ดจะรู ้ จุดจบของนางนกต่อ
คงไม่สวยงามนัก ชินอ๋ องก็คงรู ้เช่นเดียวกัน.. แต่เขาไม่พดู

ข้านอนซุกอยูใ่ นอ้อมแขนเขา ซึ มซับทุกวินาทีที่ผา่ น อยากจะยืดเวลาออกไปให้ยาวนานแต่คงเป็ นไปไม่ได้ ยาม


ที่ชินอ๋ องขยับกายจะลุกขึ้น ร่ างของเขาก็ชะงักราวกับตกอยูใ่ นภวังค์ ดวงตาของเขาเบิกกว้างจับจ้องบางสิ่ งที่
ไกลออกไป กายของเขาสั่นสะท้าน เขาถูกจู่โจมด้วยอารมณ์ที่รุนแรง รุ นแรงจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่ าง ในดวงตาเขา
ราวกับเห็นภาพที่น่าสะพรึ งกลัวที่สุดในชีวติ นํ้าตาของชินอ๋ องหลัง่ ไหล..

ข้าลุกขึ้นมากอดเขาไว้ เรี ยกเขาอย่างดึงสติ “ท่านอ๋ อง.. ท่านอ๋ องเพคะ”

เขากําลังมองเห็นสิ่ งใด เขามองเห็นอนาคตอย่างนั้นหรื อ หากเป็ นเช่นนั้นจริ ง อนาคตของข้าคงจะเลวร้ายนัก

ยามที่ดวงตาเขากลับมารวมศูนย์เป็ นปกติ นํ้าตายังคงไหลอาบแก้ม เขากอดข้าไว้แน่น แน่นราวกับจะไม่ปล่อย


ให้จากไป นํ้าเสี ยงที่เปล่งออกมารวดร้าวสะเทือนอารมณ์เหลือเกิน

238
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์.. อวี้เอ๋ อร์ ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ได้โปรดรอข้า.. ได้โปรดเชื่อใจข้า เชื่อใจข้าอีกสักครั้ง ไม่วา่ เจ้าจะเป็ น
อย่างไร ขอเพียงเจ้ามีชีวติ อยู่ ข้าจะไปช่วยเจ้าออกมา”

ท้ายที่สุดแล้ว ชินอ๋ องก็เป็ นคนไปส่ งข้าที่หน้าประตูเมือง สายตาคนรอบข้างแม้จะตื่นตะลึงในความงามของข้า


แต่กไ็ ร้ซ่ ึ งความเห็นใจ สตรี กาลกิณีเช่นนี้ ไปเสี ยให้พน้ จากแคว้นเยีย่ ย่อมเป็ นการดี แคว้นเยีย่ ไม่ตอ้ งการนาง
จิ้งจอกมายัว่ ยวนชินอ๋ องให้หลงงมงาย ข้าไม่ตอ้ งการความเห็นใจ ไม่ตอ้ งการให้ใครมาสรรเสริ ญเยินยอในสิ่ งที่
ข้าทําลงไปเพื่อให้แผนการตบตาศัตรู สาํ เร็ จ ความเสี ยสละของข้าไม่ตอ้ งการให้ใครมาเชิดชู ข้าต้องการเพียง
อิสรภาพ.. อิสรภาพที่จะได้ใช้ชีวติ ตามที่ขา้ ปรารถนา ตั้งแต่ขา้ ลืมตามา คําคํานี้ขา้ ไม่เคยรู ้จกั

ชินอ๋ องกุมมือข้าไว้มนั่ ไม่ยอมปล่อย แม้ยามข้าเผชิญหน้ากับเว่ยหงอิ่น เขาก็ยงั คงเกาะกุมมือข้าไว้ แต่ทา้ ยที่สุด


แล้ว เป็ นมือคู่น้ ี นี่เองที่ส่งข้าให้กบั ศัตรู

องค์ชายทั้งสองไม่อาจสู ้หน้าข้า ได้แต่กล่าวขอขมาจากใจจริ ง

“หากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาของพวกเรา ก็คงไม่ตอ้ งลําบากหวางเฟย”

พวกเขาคุกเข่าให้ขา้ ข้าไม่โกรธพวกเขาเลยสักนิด ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตไว้แล้ว

พวกเขาถูกมิตรสหายที่พบปะกันตามเหลาสุ ราหว่านล้อม ให้ออกมาผจญภัย ให้ไปสมัครเป็ นทหาร พวก


คุณชายเจ้าสําราญที่ถูกใต้เท้าจางส่ งตัวมาช่วยกันยุยง ดูจะเป็ นประสบการณ์ที่น่าสนุกตื่นเต้น มีหรื อองค์ชายผู ้
ซุกซนทั้งสองจะอยากอยูเ่ ฉยในวัง ถูกบังคับให้เล่าเรี ยนในสิ่ งที่ตนไม่สนใจ จึงละทิ้งฐานันดร ปลอมตัวออกมา
รับใช้ชาติ ฟังดูน่าสนุกกว่าเป็ นไหนๆ ใครเลยจะคาดคิดว่าเป็ นแผนการที่เว่ยหงอิ่นเตรี ยมไว้ต้ งั แต่ตน้

ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยช่วยให้ขา้ รอดพ้นจากเงื้อมมือฮ่องเต้ ครั้งนี้เขาทําให้ขา้ ตกอยูใ่ นมือเว่ยหงอิ่น ทุกอย่างช่าง


เหมาะสมยุติธรรม!

ข้าดึงมือให้พน้ จากการเกาะกุมของชินอ๋ อง ถึงเวลาที่ตอ้ งเอ่ยลา เราสองมองหน้า ไม่มีใครพูดอะไร ทุกสิ่ งที่


ต้องการพูดได้พูดไปหมดแล้ว ยามนี้เพียงต้องการประทับภาพของอีกฝ่ ายลงในใจเท่านั้น ข้าเป็ นฝ่ ายเอ่ยคําลา

“ลาก่อนเพคะ..ท่านอ๋ อง”

239
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
สั้นและเรี ยบง่าย ข้ารี บหันหลังกลับ กลัวว่าไม่อาจจะกลั้นนํ้าตาเอาไว้ได้ ชินอ๋ องไม่ได้เอ่ยสิ่ งใด เขาเองก็คงไม่
ต่างกัน ดวงตาเศร้าโศกคู่น้ นั ได้แต่ยนื มองแผ่นหลังของข้าที่ห่างออกไป ไปหาเว่ยหงอิ่นที่ยนื คอยอยูด่ ว้ ยสี หน้า
สาสมใจ

ข้าจากมาโดยปราศจากความหวาดกลัว ในใจมีแต่ความชินชา ข้าก็เหมือนซี ยนิ ไม่อาจเจ็บชํ้าไปมากกว่านี้ได้


อีกแล้ว..

ไม่น่าเชื่อว่าชะตากรรมของข้าจะไปพ้องกับโฉมงามเช่นซี ยนิ เราต่างต้องใช้ร่างกายแลกกับสวัสดิภาพของผูอ้ ื่น


ความฝันของข้าราวกับเป็ นลางบอกเหตุ

เมื่อคืนข้าฝัน..

บิดาของซี ยนิ กลับมาถึงจวน ตามหลังนางมาไม่นาน เขาดูซูบลงไปบ้าง แต่ปลอดภัยดี

มารดายินดี น้องชายยินดี ซี ยนิ รู ้สึกว่าสิ่ งที่ตวั เองตัดสิ นใจทําไปสมควรแล้ว อย่างน้อยเพื่อเป็ นการไถ่โทษแก่


บิดาที่ถูกชายคนรักของนางจับตัวไป ยามนี้นางช่วยบิดาออกมาได้แล้ว ไม่วา่ จะต้องแลกกับสิ่ งใด ถือว่านางได้
ทําหน้าที่ลูกกตัญญูตอบแทนบิดา

"ซี ยนิ เจ้าจะไปไหนหรื อ" บิดาถามเมื่อเห็นนางหันหลังจะก้าวออกไปจากห้อง ทุกคนหันมามองนางอย่าง


ประหลาดใจที่นางทําท่าจะปลีกตัวไปในขณะที่ทุกคนกําลังชื่นมื่นกับการกลับมาของบิดา

"ซี ยนิ เพียงจะไปขอบคุณองค์ชายสี่ เจ้าค่ะ" นางตอบบิดา หลบสายตาที่มองมาของทุกคน

"เช่นนั้นข้าจะไปด้วย" บิดากล่าว

"ท่านพ่อเพิ่งออกมาจากคุกหลวง อยูพ่ กั ผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ เรื่ ององค์ชายสี่ ไว้ท่านพ่อตามไปขอบคุณภายหลัง


ก็ได้ ยามนี้องค์ชายสี่ คงจะกําลังยุง่ วุน่ วาย" ข้าบอกบิดา เขาเพิ่งออกจากคุกหลวง คงยังไม่รู้เรื่ องที่เกิดขึ้นในวัง

"ซิ ยนิ หากไม่ใช่เพราะเจ้า ท่านพ่อคงยังไม่ได้ออกจากคุกมา เด็กคนนี้ช่างกตัญญูเหลือเกิน ท่านพี่รู้หรื อไม่ ยาม


ที่ท่านติดอยูใ่ นคุกหลวง มีนางที่คอยวิง่ เต้นหาทางช่วยเหลือท่านทุกวิถีทาง ข้าเสี ยอีก.. ข้าได้แต่ร่ ําไห้ ไม่อาจ
คิดอ่านหาหนทางช่วยท่านพี่ได้เลย" มารดาเอ่ยพลางรํ่าไห้ข้ ึนมาอีกครา

240
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

"ท่านแม่อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ซี ยนิ เพียงแต่พอจะมีคนคุย้ เคยอยูบ่ า้ ง ท่านแม่เสี ยอีก คอยอยูด่ ูแลจวนให้


เรี ยบร้อยยามบิดาไม่อยู่ หากขาดท่านแม่สักคน ตระกูลเราก็คงขาดหัวเรื อ ยากจะฝ่ าคลื่นลมไปได้" นางปลอบ
มารดาอย่างอ่อนโยน

น้องชายคนเล็กวิ่งมากอดเอวนางไว้ "พี่ซียนิ พักนี้ ขา้ ไม่ได้เห็นท่านเลย ยามนี้ท่านพ่อกลับมาแล้ว เหตุใดสี หน้า


ท่านพี่ยงั คงเศร้าหมองเล่า"

นางกอดน้องชายตอบ "ซี หลาง พี่ร้องไห้เพราะความยินดี เด็กคนนี้ช่างไม่รู้ความเอาเสี ยเลย ท่านพ่อกลับมา เจ้า


คิดว่าพี่สาวจะไม่ดีใจได้อย่างไร"

นางกวาดสายตามองทุกคน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความสุ ขและความอบอุ่น น่าเสี ยดาย หัวใจดวงนี้ไม่


อาจสัมผัสความรู ้สึกอย่างนั้นได้อีกแล้ว มันด้านชาไปหมด นางได้แต่ฝืน.. ฝื นยิม้ ฝื นหัวเราะ แสร้งทําท่าว่ามี
ความสุ ข ราวกับนางสบายดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน นางแทบจะต้องเค้นพลังหยาด
สุ ดท้ายออกมา

"เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ซี ยนิ รี บไปเสี ยก่อนดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะไม่ทนั ได้ทาํ ธุระตามที่ต้ งั ใจไว้" ในที่สุดซี ยนิ ก็เอ่ยลา

ยามที่ซียนิ ก้าวออกจากจวนมา เสี ยงระฆังมรณกาลเก้าครั้งก็ดงั แว่วมาจากวังหลวง เสี ยงเหง่งหง่างชวนให้วงั เวง


ใจ เสี ยงผูค้ นพากันรํ่าไห้ดงั ขึ้นไปทัว่ ทุกสารทิศ ฮ่องเต้ทรงเสด็จสวรรคตแล้ว..

ซี ยนิ เดินนํ้าตาไหล กลมกลืนไปกับผูค้ นรอบข้าง นางกระชับผ้าคลุมศีรษะให้ปกปิ ดใบหน้า

ไม่มีใครทําร้ายนาง ทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นในชีวิต นางล้วนเป็ นผูต้ ดั สิ นใจเอง ทั้งเจิ้งอู่ ทั้งองค์ชายสี่ ไม่มีใครผิด นาง
เป็ นผูห้ ยิบยืน่ สิ่ งที่พวกเขาต้องการให้เอง

..ข้ารู ้วา่ นางกําลังจะไปไหน ยามนี้ขา้ คือซี ยนิ ข้าล่วงรู ้ความรู ้สึกนึกคิดของนางทุกอย่าง..

..บางที.. นางตัดสิ นใจเช่นนี้.. อาจจะดีที่สุดแล้ว..

241
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 36 : ความปรารถนาครั้งสุ ดท้ าย

เรื่ องราวที่เกิดขึ้นบนกําแพงเมือง การเจรจาระหว่างชินอ๋ องและเว่ยหงอิ่น ภายหลังข้าจึงค่อยได้ฟังมาโดย


ละเอียด

ชินอ๋ องไปที่นนั่ พบเว่ยหงอิ่นนําตัวองค์ชายหกและองค์ชายสิ บมายืนท้าทายอยูท่ ี่นอกประตูเมือง เขาขบกราม


แน่น สายตาที่มองเว่ยหงอิ่นลุกวาบ องค์ชายทั้งสองสบตาผูเ้ ป็ นอาแล้วได้แต่กม้ หน้าลงอย่างละอาย

“ชินอ๋ อง! ไม่ทราบว่าสําหรับท่าน ชีวติ ขององค์ชายทั้งสองนี้มีค่าเท่าใด”

“ต้องการอะไร!” ชินอ๋ องถามเสี ยงห้วน

เว่ยหงอิ่นยิม้ อย่างสมใจ “ข้อแลกเปลี่ยนของข้านั้นไม่เท่าไหร่ เลย ท่านแทบไม่ตอ้ งเสี ยอะไรด้วยซํ้า”

เขาเพียงนิ่งฟังไม่เอ่ยคํา

“สําหรับชีวิตคนสองคน ข้ามีเงื่อนไขสองข้อ” เว่ยหงอิ่นกล่าวอย่างแช่มช้า “ประการแรก ข้าต้องการเมืองจี้เจียง


คืน ขอให้ท่านถอนกําลังทหารออกไปในสามวัน”

“ย่อมได้” เขาสวนขึ้นมาทันที

เว่ยหงอิ่นได้ยนิ เช่นนั้นก็ยกยิม้ มุมปาก ดูมีเลศนัยนัก “ท่านช่างตัดสิ นใจได้รวดเร็ วดีแท้ ชินอ๋ องช่างเป็ นคน
เด็ดขาดเสี ยนี่กระไร เกรงว่าเงื่อนไขอีกข้อจะไม่ง่ายเช่นนี้กระมัง”

ชินอ๋ องไม่ตอบ เพียงใช้ความเงียบเป็ นตัวเร่ งเร้าให้อีกฝ่ ายเอ่ยวาจา เว่ยหงอิ่นเห็นว่าไม่อาจกระตุน้ ให้อีกฝ่ าย


เต้นตามได้ จึงกล่าวต่อ

“ข้าต้องการแลกชีวิตขององค์ชายอีกคนกับชินหวางเฟย”

242
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แววตาของเขาวูบไหว ชินอ๋ องรี บเก็บงําความรู ้สึกอย่างรวดเร็ วเอ่ยเสี ยงเย็นชา “ข้อนั้นเห็นทีรัชทายาทคงต้อง
ผิดหวังเสี ยแล้ว ข้าไม่มีคนจะให้ หวางเฟยของข้าอยูท่ ี่เมืองหลวง ถึงท่านจะเรี ยกร้องตัวนาง ข้าก็จนใจที่จะ
นํามาให้”

เว่ยหงอิ่นยิม้ นัยน์ตาฉายแววคมปลาบ “งั้นหรื อ ที่ขา้ ได้ยนิ มาหาใช่เช่นนั้น ชินหวางเฟยแท้จริ งแล้วอยูท่ ี่จวน


ท่านแม่ทพั ภายในกําแพงเมืองนี่เอง ได้ยนิ ว่าชินหวางเฟยงดงามนัก ทั้งฮ่องเต้และชินอ๋ องต่างลุ่มหลงในตัวนาง
เกรงว่าสาเหตุที่ท่านไม่ยอมมอบตัวนางเช่นนี้ คํากล่าวอ้างนี้น่าจะไม่ผดิ กระมัง”

บังเกิดเสี ยงฮือฮาดังขึ้นในหมู่ทหาร พวกเขาล้วนประหลาดใจเมื่อได้ทราบว่าชินหวางเฟยอยูใ่ กล้แค่ปลายจมูก


นี่เอง ชินอ๋ องขบกรามแน่น เรื่ องราวในจวนหลุดรอดออกมาได้อย่างไร.. แน่นอนว่าในจวนแม่ทพั ย่อมมีหนอน
บ่อนไส้

“รัชทายาทคงได้ยนิ มาผิดไปแล้วกระมัง เสี ยงรํ่าลือที่ท่านฟังมาเห็นทีจะเชื่อถือไม่ได้เสี ยแล้ว” เขาตอบอย่าง


เยือกเย็น

“เรื่ องนั้นแล้วแต่ท่านจะตัดสิ นใจ ข้าให้เวลาสองชัว่ ยาม หากไม่ได้ตวั หวางเฟย หนึ่ งในสององค์ชายนี้ตอ้ งถูก
สังหาร ชินอ๋ องคงไม่อยากเห็นหลานชายตัวเองต้องมาตายต่อหน้าต่อตากระมัง”

“ข้าขอเวลาตัดสิ นใจสามวัน” เสวียนเฟิ งตะโกนตอบ เขาหมายจะใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลา ในสามวันนั้นเขาตั้งใจจะ


บุกเข้าไปชิงตัวองค์ชายทั้งสองออกมาอย่างลับๆ

“ไม่ได้!” เว่ยหงอิ่นเท่าทันความคิดเขา “ข้าให้เวลาสองชัว่ ยามเท่านั้น ตัดสิ นใจว่าจะส่ งคนมาหรื อไม่ ไม่เช่นนั้น


สองหัวนี้กเ็ อากลับไปหัวเดียว!” เขายืน่ คําขาด

ชินอ๋ องย่อมไม่อาจเอ่ยคําว่าไม่ เขาไม่อาจปล่อยให้ราชนิกูลอันมีสายเลือดของกษัตริ ยต์ อ้ งตายตกไปต่อหน้าต่อ


ตา ไม่วา่ ใครต่างก็รู้ดีวา่ เขาจะตัดสิ นใจอย่างไร ..แค่หวางเฟยคนเดียวจะเทียบชีวติ เชื้อพระวงศ์ได้หรื อ.. มิ
เช่นนั้นจะมีคาํ กล่าวประเภท ..พี่นอ้ งเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้ อผ้าได้อย่างไร.. ในชีวิตของชินอ๋ องมีหรื อ
จะหาสตรี มาเคียงคู่ไม่ได้

องค์ชายสิ บผูซ้ ่ ึ งยามนี้เริ่ มเติบใหญ่เป็ นหนุ่มน้อยเลือดร้อน ตะโกนออกมาอย่างคัง่ แค้น

243
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เสด็จอา หลานยินดีตายชดใช้ความผิด อย่าให้หวางเฟยต้องมาลําบากเพราะความโง่เขลาของพวกข้าเลย”

“เจ้าสิ บ! นี่ใช่เวลาที่เจ้าจะสอดปากได้ที่ไหนกัน!” องค์ชายหกดุด่าผูเ้ ป็ นน้อง มิใช่วา่ เขากลัวตาย แต่เขารู ้วา่


ลําพังลมปากของเขาสองพี่นอ้ งไม่มีผลต่อการตัดสิ นใจของชินอ๋ อง เสด็จอาของเขาไม่มีทางเลือก อย่างไรเสี ยก็
ต้องใช้สตรี อนั เป็ นที่รักมาชดเชยกับความผิดพลาดของพวกเขา ยิง่ ปากมากในยามนี้ รังแต่จะเป็ นที่รําคาญใจ
ของเสด็จอาเสี ยเท่านั้น

ชินอ๋ องหลับตาลงช้าๆ คําพูดทุกคําที่หลุดออกมาช่างกรี ดใจเขาเหลือเกิน

“ได้! ข้าจะกลับมาในอีกสองชัว่ ยาม”

และในสองชัว่ ยามนั้น เขาก็พาข้ากลับมาโดยไม่ตอ้ งอาศัยการเกลี้ยกล่อม

………...

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าคงชํ้าใจมากใช่หรื อไม่”

เว่ยหงอิ่นเอ่ยกับข้ายามที่พวกเรานัง่ อยูบ่ นรถม้า กิริยาของข้าสงบนิ่ง ไม่ได้โศกเศร้า ไม่ได้หวาดกลัว

“อวี้เอ๋ อร์มีอะไรให้ตอ้ งเสี ยใจ ทุกสิ่ งที่ทาํ ลงไปล้วนเพื่อความอยูร่ อด จะเสี ยใจก็เพียงแค่ชยั ชนะของอวี้เอ๋ อร์
เพียงชัว่ คราว ไหนเลยจะสู ้แผนการของไท่จื่อได้” ข้าตอบเขาเนิบนาบ ไม่ตอ้ งการให้เขารู ้วา่ ข้าผูกใจกับชินอ๋ อง
มากเพียงใด ข้าไม่ตอ้ งการให้เขารู ้จุดอ่อนของข้า ไม่เช่นนั้นเขาคงจะบดขยี้มนั จนแหลกละเอียดอย่างไม่ลงั เล

เว่ยหงอิ่นยิม้ อย่างพอใจ “ไม่นึกเลยเพียงสตรี คนหนึ่งกลับทําให้ขา้ ถึงกับต้องเกือบจนแต้ม อวี้เอ๋ อร์ ถึงแม้เจ้าไม่


รู ้สึกอะไร แต่ขา้ ได้เอาคืนชินอ๋ องก็พึงพอใจมากแล้ว เห็นสี หน้าของมันหรื อไม่ ยามเจ้าจากมา..ราวกับจะควัก
เอาหัวใจมันออกมาด้วย”

ข้ากลั้นนํ้าตา ตอบราวไม่รู้สึกอะไร “นัน่ ย่อมเป็ นเรื่ องของชินอ๋ อง หัวใจของผูใ้ ด ไม่รู้จกั ระวังรักษาไว้เอง จะ


โทษผูอ้ ื่นได้อย่างไร”

เว่ยหงอิ่นหัวเราะฮาฮา “ช่างเป็ นสตรี ที่เย็นชานัก เจ้าถูกใจข้าเหลือเกินอวี้เอ๋ อร์ สตรี เช่นนี้จึงจะเหมาะสมกับข้า”

244
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาเอื้อมแขนมาโอบไหล่ขา้ ดึงให้ขา้ เอนซบอกกว้างอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาของข้าว่างเปล่า ..เว่ยหงอิ่น ท่านคิด


ว่าข้าเหมาะกับท่านงั้นหรื อ แต่ท่านกลับไม่เหมาะกับข้า.. ท่านคิดว่าข้าไร้หวั ใจ แต่แท้จริ งแล้วหัวใจข้าเป็ นเพียง
ก้อนเนื้ออ่อนนุ่ม ไม่อาจทนต่อแรงกระทบกระเทือนได้มากกว่านี้ ที่ผา่ นมาหัวใจของข้าเจ็บเกินไป เจ็บจนแทบ
อยากจะหยุดเต้น ข้าหลับตา แกล้งหลับไปตลอดการเดินทางเพื่อจะได้ไม่ตอ้ งพูดคุยกับเขา ข้าไม่อยากเผยความ
อ่อนแอ

ยามที่เขาพาข้ากลับไปถึงค่ายทหาร ท้องฟ้าเริ่ มมืดแล้ว เขาเดินนําข้าเข้าไปในห้อง

“ข้าจะให้เจ้าตั้งครรภ์มงั กรของข้า ให้สตรี ที่ชินอ๋ องรักสื บทอดเชื้อสายให้กบั ข้าคงเป็ นสิ่ งที่ทรมานจิตใจของมัน


อย่างสาสมที่สุด” เขาเอ่ยพลางปลดเปลื้องชุดข้าอย่างแรงจนแทบเป็ นกระชาก ยาเทวดาของหมอเหอทําให้บดั นี้
ร่ างกายของข้ายังไม่อาจตั้งครรภ์ได้จนกว่าจะปี หน้า แต่ขา้ ไม่ได้บอกเขา ข้าไม่ได้ขดั ขืนไม่ได้สมยอม เพียง
ปล่อยให้เขากระทําตามอําเภอใจ เพราะเหตุใดน่ะหรื อ..

..ข้าจะรอให้เขากระหยิม่ ใจไปก่อน ก่อนที่จะพบว่าชีวิตเบี้ยเช่นข้ายอมสละชีวติ เพื่อกินขุนเช่นเขา.. ในเมื่อถูก


บีบคั้นจนไม่อาจอยู่ ข้าก็ขอตายดังเช่นหงส์เพลิงที่ยอมเผาผลาญตัวเองไปพร้อมกับศัตรู

สายตาเขาลุกวาบยามเรื อนร่ างงดงามของข้าปรากฏแก่สายตา แต่แล้วโทสะก็แทรกขึ้นมาแทนที่ยามที่เขาเห็น


ร่ องรอยที่ชินอ๋ องประทับไว้.. ไม่ผดิ ชินอ๋ องจงใจทําเช่นนี้ รอยจูบที่กระจายไปทัว่ คราบรักของเขายังอยูบ่ น
กายข้า เปรอะเปื้ อนตามซอกขาและเสื้ อผ้า เว่ยหงอิ่นบันดาลโทสะจนแทบอยากจะสับชินอ๋ องเป็ นหมื่นชิ้นหาก
เขาอยูต่ รงนั้น ข้านึกว่าชินอ๋ องร่ วมรักกับข้าด้วยความอาลัยก่อนจากมา แต่แท้จริ งแล้วเขาพยายามจะซื้ อเวลาให้
ข้า ชินอ๋ องรู ้วา่ เว่ยหงอิ่นคิดจะจัดการกับข้าอย่างไร..

“ชินอ๋ อง! ข้ากับเจ้าไม่อาจอยูร่ ่ วมฟ้า! สารเลวนัก มันบังอาจฝากรักไว้กบั เจ้าก่อนจากมา ข้าจะฆ่ามัน!” เว่ยหง


อิ่นคํารามด้วยความโกรธ

เขาปล่อยร่ างกายกึ่งเปลือยของข้าไว้บนเตียง อารมณ์ปรารถนาของเขายังคงไม่อาจดับลงได้โดยง่าย

“เอาผูห้ ญิงเข้ามา” เขาตะโกนบอกคนภายนอก

245
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
บริ วารของเขารับคําสั่งอย่างงุนงงแกมประหลาดใจ ในห้องมียอดพธูงามลํ้าอยูท่ ้ งั คน เขาจะต้องการสตรี อีกคน
ไปทําไม แต่น้ าํ เสี ยงกราดเกรี้ ยวของเขาทําให้ไม่มีใครกล้าถาม สตรี หน้าตาสะสวยคนหนึ่งถูกส่ งเข้ามาในห้อง
เขากระชากเสื้ อผ้าของนางออกอย่างไม่ใยดี จับร่ างนางกดบนเตียงแล้วระบายอารมณ์อย่างรุ นแรงตามโทสะที่
พลุ่งพล่าน สายตาเขายังคงจับจ้องอยูท่ ี่ขา้

เสี ยงของสตรี นางนั้นร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่กล้าดิ้นรน ตัวของนางสั่นเทา ข้าเบิกตามองภาพ


ตรงหน้า รู ้สึกเห็นใจนางที่ตอ้ งมารองรับความใคร่ จากบุรุษที่โหดร้ายเช่นนี้ สตรี ที่เขาเห็นเป็ นเพียงตุก๊ ตา แม้
ยามร่ วมรักยังจับจ้องสตรี อื่น จะเป็ นความรู ้สึกที่ขมขื่นเพียงใด เว่ยหงอิ่นมิได้ถนอมนางสักนิด สิ่ งที่เขาทํากับ
นาง ทําให้ขา้ รู ้วา่ ที่ผา่ นมาชินอ๋ องอ่อนโยนกับข้าเพียงใด ดวงตาของเว่ยหงอิ่นที่มองข้า ราวกับว่าคนที่เขากําลัง
ร่ วมรักอยูด่ ว้ ยเป็ นข้า ข้ารู ้สึกถึงรสชาติขมปร่ าในลําคอ ความรู ้สึกสะอิดสะเอียนแทรกขึ้นมาจนข้าแทบอยากจะ
อาเจียน

ชินอ๋ องเพิ่งร่ วมรักกับข้า ต่อให้เว่ยหงอิ่นปรารถนาข้าเพียงใดก็ไม่อาจแตะต้อง ไม่เช่นนั้นหากข้าตั้งครรภ์ จะ


บอกได้อย่างไรว่าทารกนั้นเป็ นบุตรของผูใ้ ด ยิง่ เว่ยหงอิ่นต้องการให้ขา้ ตั้งครรภ์มงั กรให้เขา อย่างน้อยก็ตอ้ งรอ
สักเดือนหนึ่ งให้แน่ใจว่าข้าไม่ได้ทอ้ ง แต่หากข้าตั้งท้องขึ้นมา ก็เดาได้วา่ ชะตากรรมของเด็กในครรภ์จะเป็ น
เช่นไร อาจจะไม่ได้มีโอกาสลืมตามาดูโลก ข้าถอนใจอย่างโล่งอก โชคดีที่ขา้ ไม่อาจตั้งครรภ์ อย่างน้อยยังมี
เวลาราวหนึ่งเดือนที่ไม่ตอ้ งตกเป็ นของเขา

คืนนั้นเว่ยหงอิ่นจากไปนอนที่อื่น เขาคงไม่คิดจะทรมานตัวเองด้วยการนอนเคียงข้างสตรี ที่เขาไม่อาจแตะต้อง


ข้านอนจ้องมองเพดานในความมืด ครุ่ นคิดร้อยแปดวิธีที่จะสังหารเขา ข้าไม่ใจร้อน ข้าพร้อมจะรอโอกาสที่
เหมาะสมเพื่อลงมือเพียงครั้งเดียวไม่ให้ผิดพลาด..

คืนนั้นข้าฝันถึงซี ยนิ คราวนี้ขา้ ไม่ได้เศร้าโศก กลับรู ้สึกยินดีราวกับได้เจอสหายเก่า

ซี ยนิ ..หากจะมีใครสักคนเข้าใจข้า คนคนนั้นก็คงเป็ นเจ้า…

ยามที่ขา้ ไปถึงริ มทะเลสาบ ความมืดเริ่ มโรยตัวแล้ว ทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยม่านหมอกแห่งความเศร้าสลด ไม่มี


เสี ยงดนตรี รื่นเริ งจากหอสุ รา ไม่มีมหรสพละเล่น ท่ามกลางความมืดมิดหนาวเย็นของฤดูหนาว มีเพียงแสงไฟ
ลอดออกมาจากหน้าต่างครัวเรื อนไม่กี่หลัง แสงหม่นสลัวนั้นดูเศร้าสร้อย บิดามารดาไม่รู้วา่ ข้าไม่ได้เรี ยกรถม้า
จากจวน ข้าเดินไปเรื่ อยๆ ทีละก้าวอย่างไม่ตอ้ งกังวลเรื่ องเวลา

246
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
..เวลาไม่สาํ คัญอีกต่อไปแล้ว..

ข้าหยุดนับเวลาตั้งแต่ขา้ ไม่ตอ้ งรอคอยเขา เวลาเป็ นสิ่ งที่ไม่มีความหมายอีกต่อไป เช่นเดียวกับลมหายใจของข้า

ที่นี่เงียบสงัดไร้ผคู ้ น เราสองเคยนัง่ แอบอิงชมสายนํ้าที่เป็ นประกายสะท้อนพยับแดดตอนหน้าร้อนที่แล้ว ยามนี้


ทะเลสาบเวิง้ ว้างเหน็บหนาว ผิวนํ้าเริ่ มมีเกล็ดนํ้าแข็งซ้อนเป็ นชั้น อีกไม่นานจะเป็ นช่วงที่หนาวเย็นที่สุดของปี
เป็ นช่วงเวลาเกิดของข้า

ข้ามาที่นี่มิใช่เพราะต้องการรําลึกความหลัง มันเจ็บปวดเกินไปที่จะนึกย้อนถึงช่วงเวลาแสนสุ ขเหล่านั้นในยาม


ที่ใจทุกข์เหลือเกิน ข้ามาที่นี่เพียงเพราะที่แห่งนี้ไม่มีคน ข้าไม่ตอ้ งการให้ใครหาข้าพบ หวังให้สายนํ้าพัดพาข้า
ไปไกล อย่าให้ใครได้รู้วา่ ซี ยนิ พักตร์กวนอิมจบชีวติ ลงเพียงเพราะชายโหดร้ายคนหนึ่ง ข้าไม่อยากให้ใครรู ้วา่ ซี
ยินผูเ้ ฉลียวฉลาดกลับโง่งมงายในเรื่ องความรักถึงเพียงนี้

..หากไม่รักก็คงไม่ตอ้ งเจ็บ.. ข้าตั้งความปรารถนาเป็ นครั้งสุ ดท้าย..

..ขอให้ขา้ ได้ไปยังที่ไกลแสนไกล

..ขอเป็ นคนธรรมดา ไม่ขอเป็ นโฉมงามอีกแล้ว..

..ไม่ขอพบหน้า ไม่ขอฝากรัก ไม่ขอเชื่อใจอีก…

ดวงตาดํามืดไร้คลื่นความรู ้สึกของเขาวาบขึ้นมาในความทรงจํา

อา..ช่างน่ากลัว น่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาเช่นนี้ โหดร้ายยิง่ กว่าดวงตาคู่ไหนๆ

ข้าจดจําภาพดวงตาของเขาไว้ เจอชาติใดขอหลีกหนีให้ไกลห่าง

เลือดของท่านเป็ นสี น้ าํ เงิน เลือดของข้าเป็ นสี แดง อย่างไรก็ไม่อาจประสาน..

ข้าเดินลงไปในทะเลสาบกลางฤดูหนาว ข้าไม่ได้จมนํ้าตาย แต่ตายเพราะความหนาวเหน็บที่เกาะกุมหัวใจ


หัวใจของข้ากลายเป็ นนํ้าแข็ง... ไม่อาจรู ้สึกรู ้สมได้อีก

247
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
วิญญาณของซี ยนิ พักตร์กวนอิมหลุดออกจากร่ าง ปราศจากความเจ็บปวดทรมาน พ้นจากพันธะทุกประการที่
เกี่ยวร้อยใจ ความปรารถนาสุ ดท้ายของนางนําพานางไปสู่ ภพภูมิอื่น สู่ ดินแดนซึ่ งสตรี มิได้มีค่าแค่อุ่นเตียง ที่ซ่ ึ ง
สตรี มีเสรี ภาพมีอิสระที่จะเลือกวิถีชีวติ และทางเดินของตัวเอง หลบหนีจากอํานาจราชศักดิ์ของท่านอ๋ อง ที่ซ่ ึ ง
เขาไม่อาจติดตามไปหลอกหลอนข้าได้อีก และในร่ างเดิมของข้า.. ซี ยนิ ได้ถือกําเนิดขึ้น

ข้าเปิ ดเปลือกตาขึ้นกลางดึก เข้าใจแล้วเหตุใดจึงฝันถึงซี ยนิ ในภพชาติก่อน ข้าคือซี ยนิ ที่หลบหนีชะตากรรมอัน


โหดร้ายมาเกิดเป็ นเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ ง ใช้ชีวิตอย่างปกติมานานถึงสิ บแปดปี แล้วสิ่ งใดกันที่ชกั นําข้า
กลับมายังที่นี่ มาพบเจอกับชะตากรรมอันโหดร้ายเช่นเดิม

เงาวูบไหวปรากฏขึ้นที่หน้าต่างราวกับภูติผปี ี ศาจ ร่ างในชุดสี ดาํ ปรากฏขึ้นที่ขา้ งเตียง ข้ายังคงนอนนิ่งจับสังเกต


ผูบ้ ุกรุ ก

“ข้ามารับตัวเจ้า” นํ้าเสี ยงราบเรี ยบนั้นเอ่ยแผ่วเบา เขาเป็ นมัจจุราชมารับวิญญาณของข้าหรื อ ข้ายังไม่อาจ


แยกแยะได้วา่ อะไรคือความจริ ง อะไรคือความฝัน รู ้แต่วา่ ไม่อาจมีสิ่งใดทําให้ขา้ หวาดกลัว แม้ความคิดที่วา่ ข้า
อาจจะตายยังไม่อาจทําให้ขา้ หวัน่ ไหว ยามนี้อดีตทั้งหลายได้เปิ ดเผยอยูต่ รงหน้า ข้าไม่มีสิ่งใดติดค้างในใจ ขอ
ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี สิ่ งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในภพชาติเหล่านี้ ข้าขอวางไว้ที่นี่ ขอก้าวต่อไปโดยไร้ความ
ทรงจําแต่หนหลังเช่นเดียวกับชาติที่แล้ว ขอกลับไปเป็ นเด็กสาววัยสิ บแปดคนเดิมที่ไร้ซ่ ึ งเรื่ องเดือดเนื้อร้อนใจ
ไร้รักไร้อาลัย..

ความปรารถนาครั้งสุ ดท้ายของข้ายังคงเป็ นเช่นเดียวกับซี ยนิ ข้าได้แต่หวังว่ามัจจุราชผูน้ ้ ีคงจะมีเมตตา

เงามืดนั้นย่อกายลงข้างเตียงพลางจับมือข้าไว้ เขาคงคิดว่าข้ายังไม่ตื่น

“ซี ยนิ .. ข้าเจิ้งอู่..ผิดต่อเจ้าเหลือเกิน ไม่วา่ จะใช้ท้ งั ชีวิตในชาติที่แล้วหรื อชาติน้ ี กไ็ ม่อาจชดใช้ให้เจ้าได้ท้ งั หมด”

ร่ างกายของข้าแข็งทื่อ..

..เจิ้งอู่..
ไม่เพียงนามนี้ทาํ ให้ขา้ ตื่นตระหนก นํ้าเสี ยงที่เอ่ยก็ทาํ ให้ใจข้าเย็นยะเยือกดุจนํ้าแข็ง ผูท้ ี่เอ่ยถ้อยคําเหล่านี้ไม่ใช่
ใคร
..ชินอ๋ องนัน่ เอง..

248
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 37 : อีกกีช่ าติจงึ จะลืมความเจ็บปวด

ข้าจําได้ไม่ชดั เจนว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น รู ้แต่วา่ ข้าสั่นสะท้านไปทั้งกาย

“ไม่..ไม่..ไม่จริ ง..” ข้าคลุม้ คลัง่ ยามนั้นข้าไม่สนแล้วว่าเสี ยงร้องของข้าจะปลุกให้เวรยามเข้ามาหรื อไม่ ข้ารู ้แต่


เพียงข้าไม่อาจยอมรับความจริ งที่ปรากฏตรงหน้าได้ ไม่จริ งใช่หรื อไม่ ชินอ๋ องต้องไม่ใช่เจิ้งอู่

“อวี้เอ๋ อร์ ..เจ้า..จําได้แล้วหรื อ” นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องเศร้าสร้อย

ข้าส่ ายหน้า ส่ ายอย่างแรงจนศีรษะแทบหลุดจากบ่า ไม่ ข้าไม่ตอ้ งการเจอะเจอเขาอีก ไม่วา่ จะเจิ้งอู่หรื อชินอ๋ อง


ข้ายอมตายอยูท่ ี่นี่ ตายอยูใ่ นมือศัตรู !

ก่อนที่ขา้ จะส่ งเสี ยงดังจนผิดสังเกต ทุกสิ่ งก็ดบั วูบลง..

ข้ารู ้สึกตัวอีกทีกอ็ ยูใ่ นจวนแม่ทพั แล้ว ยามลืมตาขึ้น เห็นเขานอนอยูเ่ คียงข้าง กายข้าก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีก ข้า
ผุดลุกขึ้นนัง่ กรี ดร้องอย่างเจ็บปวดพลางผลักไสเขาลงจากเตียง

เขาสะดุง้ ตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าอิดโรย เห็นข้ากรี ดร้องคลุม้ คลัง่ ก็โอบกอดข้าไว้แนบแน่น

“อวี้เอ๋ อร์ ฟังข้าก่อนเถิด ขอโอกาสให้ขา้ ได้อธิบาย ข้ายินดีชดใช้ทุกสิ่ งให้แก่เจ้า ขอเพียงเจ้าให้โอกาสรับฟังข้า”

นํ้าตาข้าริ นไหลอย่างเจ็บปวด ความรัก ความเชื่อใจ ข้าต้องมีสักเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอ ข้ามีแต่ตอ้ งหยิบยืน่


โอกาสให้แก่เขาใช่หรื อไม่ แล้วตัวข้าเล่า เคยได้โอกาสเช่นนั้นสักครั้งหรื อ ข้าไม่อาจรับฟัง ไม่ตอ้ งการจะรับฟัง
ให้ขา้ ตายไปเสี ยดีกว่า ข้าทั้งกรี ดร้อง ทั้งครํ่าครวญโหยไห้ ไม่สนใจว่าผูใ้ ดจะได้ยนิ ไม่สนใจว่าผูใ้ ดจะว่าข้า
วิปลาส ขอให้ขา้ ได้ไปให้พน้ จากคนผูน้ ้ ี

ชินอ๋ องกอดข้านํ้าตาไหล “อวี้เอ๋ อร์ ข้ารู ้ เจ้าต้องทุกข์ตรมหม่นไหม้เพียงใด ขอเพียงโอกาสให้ขา้ ได้ชดเชย..”

249
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้าจะต้องตายอีกสักกี่ชาติจึงจะลืมความเจ็บปวดนี้ได้! ท่านจะชดเชยให้ขา้ ได้อย่างไร นอกจากให้ขา้ ได้ตายไป
เสี ยให้พน้ !” ข้ารี ดเค้นประโยคนี้ ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ความทรมานที่บีบหัวใจข้าจนแตกเป็ นเสี่ ยงๆ ผูใ้ ด
จะทานทนได้ ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ยามที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ข้าไม่รู้วา่ ข้าพูดในฐานะอวี้เอ๋ อร์หรื อซี ยนิ

“ข้าเจ็บ เจ็บ..เจ็บเหลือเกิน” ข้ากรี ดร้อง กําปั้นของข้าทุบลงที่อกตัวเองอย่างหนักหน่วง เขารั้งข้อมือข้าไว้ ข้ายิง่


ดิ้นรนให้พน้ จากการเกาะกุมของเขา หัวใจของข้าแตกสลาย ดวงใจที่แตกร้าวของข้า เขาจะประสานให้เป็ น
ดังเดิมได้หรื อ ประสาทของข้าตึงเครี ยดจนขาดสะบั้น จากนั้นข้าก็หมดสติไป

ข้าหลับๆ ตื่นๆ เป็ นเวลานานเท่าใดไม่อาจบอกได้ รู ้แต่วา่ ยามตื่นข้าคลุม้ คลัง่ จนหมอต้องให้ยาที่มีฤทธิ์ กล่อม


ประสาท ข้าจึงมักจะหลับใหลเสี ยเป็ นส่ วนมาก หากได้สติเพียงช่วงสั้นๆ ข้าก็มกั จะกรี ดร้องว่า เจ็บ.. เจ็บ
เหลือเกิน.. เจ็บเหลือเกิน.. ข้าไม่รู้วา่ คนที่เฝ้ามองข้าอยูจ่ ะเจ็บปวดเพียงใด เพราะลําพังตัวข้าก็ไม่อาจช่วยเหลือ
ตัวเองได้แม้แต่นอ้ ยนิด บางครั้งข้าพุง่ เข้าใส่ กาํ แพงเพียงเพราะอยากลืม อยากลบความทรงจําอันเจ็บปวดเช่นนี้
ไปจากใจ หากมิใช่เขาคอยหยุดยั้งข้าไว้ ข้าคงได้ตายจากไปสมใจเสี ยแล้ว

..ชีวิตเช่นนี้อยูไ่ ม่สู้ตาย..

ข้ารู ้วา่ เป็ นเขาที่คอยดูแลข้าตลอดเวลาไม่ห่าง คอยเช็ดตัว คอยป้อนยาป้อนอาหาร ข้ารู ้ได้อย่างไรน่ะหรื อ ข้ารู ้


ได้จากสัมผัส แม้ขา้ จะหลับตา แต่ยามชินอ๋ องเช็ดกายให้ขา้ เขาจะเช็ดอย่างตั้งอกตั้งใจ เขามีเรี่ ยวแรงพละกําลัง
มาก นํ้าหนักมือยามลูบผ้าผ่านกายย่อมมากตามไปด้วย แต่นนั่ ไม่ได้ทาํ ให้ขา้ รู ้สึกเจ็บ สัมผัสนั้นทําให้ขา้ รู ้สึกตัว
ตื่นขึ้นมาจากฝันอันพร่ าเลือนแต่ไม่อาจลืมตา ข้าได้ยนิ เสี ยงเขาคุยกับข้า แต่ขา้ ไม่อาจตอบ ยามป้อนยาเขามักถือ
โอกาสจุมพิตข้า อมยาขมไว้ในปากของตัวเองแล้วป้อนให้ ยามป้อนอาหาร ข้ารู ้สึกถึงนํ้าแกงอุ่นๆ ที่ไหลลงคอ
มีเขาเอาช้อนหยอดอย่างใจเย็นที่ริมฝี ปาก ทั้งหมดนี้ขา้ ล้วนรับรู ้ แต่มนั กลับไม่อาจเยียวยาบาดแผลในจิตใจ

“อวี้เอ๋ อร์ หากเจ้าปรารถนาจะรู ้สิ่งใด จงถามข้ามาเถิด ข้าจะเล่าโดยไม่ปิดบัง”

ข้าได้ยนิ เสี ยงกระซิ บของเขาเป็ นบางครั้ง ดูเหมือนเขามีบางสิ่ งอยากจะบอกข้า

หากเขาดึงดันเปิ ดปากเล่าเรื่ อง เปลือกตาของข้าจะกระตุกอย่างตึงเครี ยด ลมหายใจผิดจังหวะ แม้จะไม่ได้สติ


แต่ร่างกายข้าก็ปฏิกิริยาขึ้นมาอีก

..ข้าไม่อยากรู ้.. ไม่ ..ข้าไม่อยากฟัง..

250
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าไม่อยากนึกถึงว่าเขาโหดร้ายกับข้าเพียงไร หักหลังข้าอย่างไร เห็นข้าเป็ นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ งที่เขาหลอกใช้..

เพียงเท่านั้นนํ้าเสี ยงนุ่มนวลของเขาก็จะเงียบหายไป

…………………….

ครั้งสุ ดท้าย.. นี่จะเป็ นครั้งสุ ดท้าย

เสวียนเฟิ งไม่รู้วา่ เขาเอ่ยคํานี้กบั ตัวเองมาเป็ นครั้งที่เท่าไหร่ ทุกครั้งที่เขาปล่อยมือจากนาง เขาจะต้องบอกตัวเอง


อย่างนี้

เสวียนเฟิ งอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ได้แต่ยมิ้ เยาะตัวเอง ..นี่หรื อ คนที่รับปากว่าจะดูแลปกป้องนาง นี่หรื อ


คนที่บอกให้นางเชื่อใจ.. ใจของเขาขมขื่น

อวี้เอ๋ อร์ ข้าช่างบัดซบเหลือเกิน..

กลับจากศึกคราวนี้เขาตั้งใจจะพานางกลับเมืองหลวง ดูแลนางเป็ นอย่างดี ชดเชยทุกสิ่ งที่เขาเคยทําผิดต่อนาง


ทําให้นางเป็ นสตรี ที่โชคดีที่สุด

ถ้าไม่เพราะไอ้ลูกตะพาบสองตัวนัน่ ! เขาคงไม่ตอ้ งผิดสัญญาที่ให้ไว้กบั ตัวเอง

แค่ได้ยนิ ว่าองค์ชายทั้งสองถูกจับเป็ นตัวประกัน เขาก็รู้แล้วว่าเว่ยหงอิ่นจะเรี ยกร้องอะไรบ้าง ยามนั้นเขาแสดง


ละครได้สมจริ งเสี ยยิง่ กว่านางงิ้วเสี ยอีก เขากลัวเว่ยหงอิ่นเสี ยที่ไหน คําขู่ของรัชทายาทผูน้ ้ นั ราวกับเด็กเล่นขาย
ของ

ยามกลับจากกําแพงเมือง เขาไม่ได้เศร้าเพราะต้องมอบนางให้ศตั รู ไม่ได้กลัวว่าจะสู ญเสี ยนางไป เขาย่อมแย่ง


ชิงนางกลับมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน แต่ในใจของเขาหนักอึ้ง เขาหวัน่ ใจที่จาํ ต้องใช้นางเป็ นหมากลวงศัตรู อีก
แล้ว ต้องหลอกลวงนาง ใช้นางเป็ นเครื่ องแลกเปลี่ยนกับหลานชายไร้สมองสองคนนัน่ ! ช่วยนางคนเดียว
โอกาสสําเร็ จย่อมสู งกว่า นางมีโอกาสรอดมากกว่าองค์ชายทั้งสองที่เว่ยหงอิ่นคงไม่คิดจะเก็บไว้ แต่กบั นาง เว่ย
หงอิ่นคงไม่เฝ้าจับตาระแวงระวังนางมากนัก นางเป็ นเพียงอิสตรี งดงามคนหนึ่งที่เว่ยหงอิ่นคิดจะเสพสุ ขและใช้

251
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เป็ นเครื่ องมือล้างแค้นเขา ต่างจากองค์ชายทั้งสองที่เป็ นเชลยสงครามสู งค่ามากความสําคัญ มีแต่จะต้องคุมขัง
ไว้ในคุกที่มีเวรยามตลอดเวลา การคุม้ กันย่อมแน่นหนากว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

ตอนแรกเขาตั้งใจจะซื้ อเวลา แสร้งขอเวลาตัดสิ นใจสามวันเพื่อบุกไปช่วยคนในระหว่างนั้น แต่เว่ยหงอิ่นรู ้ จึง


ให้เวลาเขาเพียงสองชัว่ ยาม ช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนั้นย่อมไม่มีทางพลิกสถานการณ์นอกเสี ยจากยอมตามนํ้าไป
ก่อน

ครั้งนี้จะเป็ นครั้งสุ ดท้าย เขาพรํ่าบอกกับตัวเองอย่างเศร้าโศก เขามีทางเลือกอื่นหรื อ

ยามกลับไปถึงจวน อวี้เอ๋ อร์รีบเข้ามาปลอบประโลมเขาอย่างอ่อนหวาน เขารู ้ถึงความเป็ นห่วงเป็ นใยของนาง รู ้


ว่านางวิตกกังวลแทนเขาเพียงไร แต่เขาก็ยงั พูดคํานั้นออกไป

“เว่ยหงอิ่นต้องการเจ้า...”

นางแข็งทื่อไปทั้งกาย ราวกับวิญญาณหลุดจากร่ าง นางรู ้วา่ เขาไม่มีทางเลือก อย่างไรเสี ยก็ตอ้ งส่ งนางให้ศตั รู


แต่นางกลับไม่เอ่ยปากตําหนิเขาสักคํา

ยามเขาร่ วมรักกับอวี้เอ๋ อร์ นางรํ่าไห้อย่างคนใจสลาย นางกําลังคิดว่าจะต้องพลัดพรากจากเขา เขารู ้นางอาลัยเขา


รักเขายิง่ กว่าชีวิตตัวเอง อวี้เอ๋ อร์แม้จะยังแค้นเคืองเขา แต่กย็ งั โอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนละมุนของนาง คิด
เพียงแต่จะแบ่งเบาความทุกข์ความเศร้าของเขาเท่านั้น นางคิดว่าเขาเห็นนางเป็ นเพียงหมากในกระดาน ทั้งที่ใน
ความเป็ นจริ งแล้ว เขาพยายามกันนางออกไปสุ ดความสามารถ แต่บางครั้งสถานการณ์ช่างบีบบังคับเสี ย
เหลือเกิน มนุษย์คนหนึ่งหรื อจะหยัง่ รู ้อนาคตได้ ต่อให้เขาวางแผนรัดกุมอย่างไร เพชรนํ้างามเช่นนางก็ถูกดึง
เข้ามาเกี่ยวข้องอยูด่ ี

เสวียนเฟิ งไม่รู้จะปลอบโยนนางอย่างไร ได้แต่บอกนางว่าเขาจะไปช่วยนางกลับมา แผนการที่ดีเลิศคือแผนการ


ที่หลอกได้แม้กระทัง่ ฝ่ ายเดียวกัน และทุกคนที่อยูฝ่ ่ ายเดียวกับเขาล้วนถูกหลอกทั้งสิ้ น! ไม่วา่ จะเป็ นอวี้เอ๋ อร์
สององค์ชาย ทหารแคว้นเยีย่ ผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาเขา ทุกคนเข้าใจว่าเขาจะยอมยกหวางเฟยให้เว่ยหงอิ่น

..ไม่มีทาง..

252
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ไม่เพียงกลศึก เสวียนเฟิ งยังเจนจบเรื่ องกลลวง ยามจะรุ ก แสร้งเป็ นถอย ยามจะถอยแสร้งเป็ นรุ ก ตบตาเว่ย
หงอิ๋นเสี ยยับเยิน ทว่าความแนบเนียนของเขาหลอกลวงได้เสี ยสนิทกระทัง่ คนข้างกายอย่างอวี้เอ๋ อร์

..ไม่เป็ นไร นางจะต้องเข้าใจเหตุผลของเขา.. เขาปลอบตัวเอง

เขาวิชาตัวเบาลํ้าเลิศ วิทยายุทธ์ไร้เทียมทาน เคลื่อนไหวรวดเร็ วไร้ร่องรอย คืนนี้จะฉวยโอกาสจากความคาดไม่


ถึงของทุกฝ่ ายเล็ดลอดเข้าไปในค่ายทหารของฝ่ ายตรงข้าม ชิงตัวอวี้เอ๋ อร์ออกมาอย่างเงียบเชียบ และจะใช้
โอกาสนี้เอาคืนเว่ยหงอิ่น พิษหกทวารนัน่ จะหยอดไว้ในกานํ้าชาของเขาสักเม็ด! พิษที่วา่ จะไปทําลายประสาท
ส่ วนไหนของเขานั้น ก็รอลุน้ เอาเองเถิด

ส่ วนเมืองจี้เจียงที่ยดึ มาได้น้ นั หรื อ เขาไม่มีทางถอนกําลังทหาร ที่บอกว่าจะถอนทัพในสามวันก็พดู ไปอย่างนั้น


หากคืนนี้ ชิงตัวอวี้เอ๋ อร์ออกมาได้สาํ เร็ จแล้ว เว่ยหงอิ่นยังจะมีอะไรมาต่อรองกับเขาอีกเล่า เสวียนเฟิ งคิดอย่าง
สมใจ มุมปากปรากฏรอยยิม้ นิดๆ

..เขาต้องได้ท้ งั เมืองและสาวงาม..

ดวงตาคู่งามของเขาหลุบมองสตรี ในอ้อมแขน

..เขารักนาง รักนางเหลือเกิน..

เขาไม่อาจเสี่ ยงให้เว่ยหงอิ่นแตะต้องร่ างกายนี้ จึงฝากรอยรักไว้เป็ นประจักษ์พยาน นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างรัช


ทายาทผูน้ ้ นั ย่อมต้องคิดล้างแค้นเขาโดยใช้อวี้เอ๋ อร์เป็ นเครื่ องมือแน่ หากมันจะให้อวี้เอ่อร์ต้ งั ครรภ์ เขาก็จะ
ยับยั้งไว้เอง

เขาพรํ่าสัญญาให้นางคลายใจ ..ไม่ตอ้ งกลัว เขาจะไปชิงตัวนางกลับมา.. ทว่าอวี้เอ๋ อร์ของเขานํ้าตาไหล เขาเห็น


แล้วปวดใจนัก เสวียนเฟิ งกรี ดนํ้าตาจากแก้มนวล กระชับอ้อมกอดอย่างแสนรัก อวี้เอ๋ อร์..อดทนอีกนิดเถิด จาก
นี้ไปจะไม่ตอ้ งเสี ยนํ้าตาอีกแล้ว เขาให้สัญญากับนางในใจ

ภาพที่เขาเห็นหลังจากร่ วมรักกับอวี้เอ๋ อร์ คือภาพในอดีต.. ภาพของซี ยนิ โฉมงามผูก้ มุ หัวใจของเจิ้งอู่.. ยามเขา


ประคองกายขึ้นจากเตียง กําลังจะพาอวี้เอ๋ อร์ไปส่ งถึงมือศัตรู ภาพของซี ยนิ ก็ผดุ ขึ้นมาในใจ เป็ นฉากสุ ดท้าย
ของเรื่ องราวที่เขาไม่เคยเห็นตอนจบ

253
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาตื่นตระหนก เขาตกใจ เสวียนเฟิ งตาเบิกโพลงอย่างคาดไม่ถึง ความเจ็บปวดโศกศัลย์อนั ไม่อาจพรรณนาได้


ถาโถมเข้ามาในจิตใจ บทสุ ดท้ายของเรื่ องราวในชาติที่แล้วเพิ่งปรากฏแก่สายตา

เขาไม่อยากเชื่อ

เรื่ องราวจบลงเช่นนี้หรื อ

..นางตาย..

เสวียนเฟิ งสั่นสะท้าน ความรู ้สึกเจ็บปวด สู ญเสี ย แทรกซ้อนขึ้นมาในอก ยามนั้นแม้เพียงหายใจยังเจ็บจนไม่


อาจทานทน ..ซี ยนิ ..อา.. ซี ยนิ .. ไม่จริ งใช่หรื อไม่ ซี ยนิ ..นางอันเป็ นที่รักยิง่ ต้องไม่ตาย นางต้องไม่ตาย

นํ้าตาของเขาไหลหยด ทรมานเหลือเกิน.. เจ็บปวดเหลือเกิน.. ราวหัวใจถูกควัก ความรักหลุดลอยไปจากมือ จะ


ใช้ท้ งั ชีวิตที่เหลืออยูก่ อบกูแ้ ก้วลํ้าค่าที่แหลกสลายไปแล้วนี้ กลับคืนมาได้อย่างไร หัวใจเขาหลัง่ โลหิ ต เขาเพิ่ง
เข้าใจว่าหัวใจของซี ยนิ ก่อนที่จะแตกดับไปรู ้สึกอย่างไร หัวใจนางก็คงจะหลัง่ โลหิ ตไม่ต่างกัน

ที่ผา่ นมา ตั้งแต่มาชายแดน เสวียนเฟิ งฝันเห็นคนทั้งคู่ เห็นภาพความทรงจําที่ไม่ปะติดปะต่อของเจิ้งอู่ รับรู ้ถึง


อุปสรรคที่เจิ้งอู่เผชิญอยู่ ถึงเขาจะไม่เชื่อเรื่ องงมงาย แต่คนฉลาดอย่างเขาก็พอจะคาดเดาได้ ความฝัน.. เศษเสี้ ยว
ความทรงจําที่ผดุ ขึ้นมาในหัวเขาแวบวาบย่อมหมายความว่า เจิ้งอู่..คือชาติที่แล้วของเขา และไม่แน่วา่ ซี ยนิ ผู ้
นั้น..ก็คืออวี้เอ๋ อร์ของเขานี่เอง เขารู ้เจิ้งอู่ทาํ ผิดต่อซี ยนิ ไว้มากมายเหลือเกิน เขาย่อมรู ้เหตุผล หากเขาเป็ นเจิ้งอู่ก็
จําเป็ นต้องทําแบบเดียวกัน

..แต่เขากลับไม่รู้วา่ ท้ายที่สุดแล้ว.. ซี ยนิ ตาย.. นางตายด้วยหัวใจที่แหลกสลาย.. จากไปด้วยความเข้าใจผิด โดย


ที่เจิ้งอู่ไม่มีแม้โอกาสได้แก้ไข

เจิ้งอู่ตอ้ งการให้นางคิดแค้น ให้นางอาฆาต ให้นางกลับมาทวงคืนจากเขาให้สาสม

254
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
..แต่สิ่งที่เหลืออยูค่ ือความว่างเปล่า ซี ยนิ จากไปไกล.. นางไม่ได้คิดแค้น ไม่ได้อาฆาตเขา.. นางเลือกที่จะลืม..
ราวกับในใจของนางไม่เคยมีเขามาก่อน ดวงวิญญาณของนางล่องลอยไปสู่ ที่ใดก็สุดจะรู ้ได้.. นางเลือกที่จะลืม
เขา ปล่อยให้เขาเป็ นอดีตที่ไม่ควรค่าจะจดจําอีกต่อไป

มันช่างเจ็บปวดลึกลํ้าเหลือเกิน.. การไม่เป็ นที่รัก การเป็ นที่เกลียดชัง ยังมีความหมายมากกว่าการถูกลืม..

ชาติน้ ีเขาได้รับโอกาสอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขาทํากับอวี้เอ๋ อร์ ช่างไม่ต่างอะไรกับที่เจิ้งอู่ทาํ กับซี ยนิ เมื่อชาติก่อน.. เขา


ไม่ยอมบอกนาง เขาไม่อาจปริ ปากบอกนาง ยิง่ นางรู ้จะยิง่ เป็ นภัย ขอให้นางจากไปแบบไม่รับรู ้อะไรเสี ยดีกว่า รู ้
เพียงว่าเขารักนางมากเหลือเกิน และจะไปช่วยนางกลับมาไม่วา่ จะเกิดอะไรขึ้นกับนาง เขากลัวเหลือเกิน เขา
กลัวนางจะเป็ นเช่นนั้น จะมีจุดจบเหมือนซี ยนิ แต่เขาก็ไม่กล้าบอกนาง กลัวจะสู ญเสี ยนางไป กลัวนางจะ
รังเกียจ กลัวนางจะเกลียดเขา

เขาเพิ่งรู ้วา่ ท้ายที่สุดแล้ว ซี ยนิ สิ้ นลมหายใจ.. เจิ้งอู่มาช้าเกินไป ซี ยนิ ไม่อาจรอเขา

ยามนั้นเสวียนเฟิ งราวกับหลุดจากการควบคุมทุกอย่าง ได้แต่กอดอวี้เอ๋ อร์ไว้แนบแน่น เขารํ่าไห้อย่างเศร้าสร้อย


และหวาดกลัว..

“อวี้เอ๋ อร์ รอข้า.. ได้โปรดรอ.. รอจนกว่าข้าจะไปช่วยเจ้า ขอเพียงเจ้ามีชีวิตอยู่ ข้าจะไปช่วยเจ้ากลับมา” ข้าจะไม่


ช้า จะไม่สายเกินไปอีก อวี้เอ๋ อร์ ได้โปรดรอข้า

ครั้งนี้ขา้ จะไม่ไปช้า ข้าจะไม่ปล่อยให้สายเกินไป

255
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 38 : หนทางทีไ่ ม่ อาจเลือก

...เขาไม่ได้ไปสาย นางยังปลอดภัย..

แล้วอะไรที่สายเกินไปเล่า

หัวใจที่แหลกละเอียดของนาง เพราะรู ้วา่ เขาคือเจิ้งอู่ หรื อเพราะรู ้วา่ เขาหลอกใช้นาง

เขารู ้ตวั สายเกินไป.. แต่..ถึงจะรู ้ก่อนหน้านี้แล้วเป็ นอย่างไรเล่า เขาก็ยงั ต้องตัดสิ นใจเช่นเดิมอยูด่ ี ตําแหน่งชิน
อ๋ องและชินหวางเฟย..ต้องแลกมาด้วยอะไรมากมายเหลือเกิน มีชีวติ สุ ขสบายแต่ไม่อาจกําหนดชะตาชีวิต
ตัวเองได้เช่นคนธรรมดา มีภาระหน้าที่อนั หนักอึ้งที่รออยูเ่ บื้องหน้า ไหนเลยจะทําตามใจปรารถนาของตัวเอง
ได้ เบื้องบนต้องถวายความซื่ อสัตย์จงรักภักดี เบื้องล่างคือผูใ้ ต้บญั ชาและราษฎรที่ตอ้ งปกป้องคุม้ ครอง เขาและ
นางดังคนถูกมัดมือมัดเท้าลากจูงให้เดินไปในเส้นทางที่ไม่อยากจะก้าวไป

นางไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว นางเหมือนคนหมดสิ้ นแล้วทุกสิ่ ง กรี ดร้องหวนไห้ราวกับสัตว์บาดเจ็บ เขาทําอะไรได้


ที่บอกว่าจะชดเชยแก่นาง จะเล่าความจริ งทุกอย่างให้นางฟัง เขาได้แต่มองดูอยูเ่ ฉยๆ ไม่อาจทําสิ่ งใดเพื่อเป็ น
การบรรเทาความเจ็บปวดนั้นให้เบาบางลงได้เลย

..เขาช่างไร้ค่านัก..

เป็ นจอมทัพ เป็ นเทพสงคราม เก่งกาจกลยุทธ์เจ้าแผนการ ..แล้วอย่างไรเล่า.. สตรี ที่เขารักคนเดียวยังปกป้อง


ไม่ได้

เขารับรู ้ดว้ ยหัวใจอันเจ็บปวด นางไม่ตอ้ งการเขา ไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกต่อไป หัวใจของนางถูกทําร้ายมาก


เกินไป ไม่อาจแบกรับไหวได้อีกแล้ว..

แม้ท่านหมอก็ไม่อาจเยียวยา ได้แต่ดบั ความทุกข์ของนางด้วยการหลับใหล คนที่ปวดใจคือคนที่ได้แต่ดูอยูเ่ ฉยๆ


เช่นเขา

256
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คืนนั้นที่เขาบุกไปช่วยนาง นางจําเรื่ องราวแต่หนหลังได้แล้ว เขาต้องจี้จุดสลบแล้วพานางออกมา นางกลับถึง
จวนแม่ทพั อย่างปลอดภัย เขามีนางอยูใ่ นอ้อมกอดดังเดิม แต่ไม่อาจหลับตาลงอย่างเป็ นสุ ขได้

..เขารู ้ นางไม่มีวนั จะเป็ นเหมือนเดิมกับเขาอีกต่อไป เขาได้สูญเสี ยกระต่ายน้อยที่แสนบริ สุทธิ์ผนู ้ ้ นั ไปตลอด


กาล..

นํ้าตาของเขาหลัง่ ไหลอย่างเงียบๆ ในความมืด โหยหาอาลัย นึกถึงความรักที่หลุดลอย แม้กายนางจะอยูก่ บั เขา


แล้วใจนางเล่าล่องลอยไปที่ไหน

คืนนั้นเขาฝัน เป็ นการฝันอย่างปะติดปะต่อเป็ นครั้งแรก ภาพร่ างที่ไร้ลมหายใจของซี ยนิ เปรี ยบประดุจอิฐก้อน


หนึ่งที่กระเทาะหลุดออก พาให้เขื่อนยักษ์พงั ทลายลง กระแสความทรงจําไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่ อง..

ครั้งสุ ดท้ายที่ซียนิ มาหา แววตาของนางรวดร้าว กรี ดหัวใจเขาเหลือเกิน ทว่าเขาได้แต่ใส่ หน้ากาก ตีสีหน้าเย็น


ชาราวกับการมาของนางไม่ได้มีความหมายกับเขาเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ในใจอยากดึงตัวนางมาปลอบประโลม
แนบอก

..ซี ยนิ รอข้าอีกเพียงหนึ่ งราตรี พร่ ◌ุงนี้ขา้ จะไปหาเจ้า ไปรับขวัญปลอบโยนเจ้า ไปขอรับผิดที่ทาํ ให้เจ้าเจ็บปวด
มาเนิ่นนานเหลือเกิน คืนนี้ทุกอย่างจะเสร็ จสิ้ น วันพรุ่ งนี้ขา้ จะเป็ นอิสระ..

ยามนางเอ่ยยํ้าว่าเขาจะให้นางรอหรื อไม่ เขาไม่ได้ตอบ ไม่คิดเลยว่านัน่ จะเป็ นการปลดปล่อยนางจากสัญญารัก


ของพวกเขาทั้งสอง

..เช่นนั้น จากนี้ไป ซี ยนิ จะไม่รอแล้ว..

ใจของเขากระตุกวูบ ในใจได้แต่ร่ าํ ร้อง ..ได้โปรดรอข้า เจ้าเคยบอกมิใช่หรื อ นานเท่าใด..ซี ยนิ ก็จะรอ ได้โปรด


เชื่อใจข้า เจ้าได้มอบสิ่ งลํ้าค่าในชีวิตให้ขา้ ด้วยความเชื่อใจ ได้โปรดเชื่อใจข้า รอข้าอีกสักนิด

หัวใจของเขารํ่าไห้ แต่สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง เขาเอ่ยปากไล่ให้นางกลับไป อย่าได้อยูท่ ี่นี่เพียงเพื่อให้เขา


ต้องทําร้ายนางมากไปกว่านี้ ได้โปรดกลับไปรอเขาที่จวนอย่างปลอดภัย รอเขาอย่างเชื่อใจ..

257
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นางกลับไป.. แต่ก่อนจากได้หนั มาอวยพรให้เขาสมปรารถนา เขาไม่ได้ตอบนาง นางต่างหากคือสิ่ งที่เขา
ปรารถนาที่สุด

คล้อยหลังนาง เจิ้งอู่รู้สึกจิตใจหนักอึ้ง.. มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

เขารี บปล่อยตัวบิดานางกลับไป หวังให้ไปดูแลนางแทนเขา ยามนี้เขารวบอํานาจไว้หมดแล้ว บิดาของซี ยนิ ออก


จากคุกแล้วย่อมปลอดภัย ซี ยนิ ..รอข้าอีกสักนิด อดทนหน่อยเถิด ทุกอย่างใกล้จะจบสิ้ นแล้ว..

..ทุกอย่างผิดพลาด ซี ยนิ ไม่อาจรอ..

เจิ้งอู่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็ นฮ่องเต้ องค์ชายเจ็ดมีความผิดฐานลอบปลงพระชนม์อดีตฮ่องเต้ องค์ชายสี่ ลม้


ป่ วยอยูใ่ นจวนไม่ยอมพบผูใ้ ด

หลังจากซี ยนิ ก้าวออกจากจวนบิดาไป ไม่มีใครพบเห็นนางอีก นางบอกครอบครัวว่าจะไปพบองค์ชายสี่ เขาจึง


ตกเป็ นผูต้ อ้ งหา ทว่าซี ยนิ ไม่ได้ไปปรากฏตัวที่จวนองค์ชายสี่ แล้วนางหายไปไหนกันเล่า ภารกิจแรกของฮ่องเต้
องค์ใหม่คือการติดตามหาตัวนาง แม้จะเสาะหาไปทุกที่ ก็ไม่ปรากฏแม้เงา..

ช้าไปวันเดียว เสี ยใจไปชัว่ ชีวติ

เวลาล่วงเลยผ่านไปเป็ นสัปดาห์ จิตใจของเจิ้งอู่กระวนกระวายดังไฟเผา นางอยูท่ ี่ใด เหตุใดจึงไม่รอเขา เจิ้งอู่กิน


ไม่ได้นอนไม่หลับ นางหนีเขาไปซ่อนตัวอยูท่ ี่ใด นางโกรธเขามากใช่หรื อไม่ ซี ยนิ ..ได้โปรดกลับมา อย่าปล่อย
ให้ขา้ ละเมอเพ้อหาอยูเ่ ช่นนี้..

ตอนที่ร่างของนางลอยขึ้นมา ผิวนํ้าในทะเลสาบก็เริ่ มจับตัวเป็ นนํ้าแข็ง ซี ยนิ พักตร์ กวนอิมจึงถูกผนึกอยูใ่ น


ก้อนนํ้าแข็งในสภาพเดิม ตอนที่มีคนไปพบเข้าก็เป็ นช่วงเวลาที่หนาวเหน็บที่สุดของปี แล้ว คราแรกที่ผคู ้ นพบ
เห็นร่ างของนาง ต่างเข้าใจว่าหญิงสาวผูน้ ้ ีเป็ นพรายนํ้างดงามที่กาํ ลังหลับใหล

258
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เจิ้งอู่มองร่ างหญิงคนรักที่อยูใ่ ต้น้ าํ แข็งอย่างตะลึงงัน ไม่จริ งใช่หรื อไม่.. นางเพียงแค่หลับไป.. ปกติซียนิ ขี้หนาว
ผิวกายของนางมักจะเย็นอยูเ่ สมอ เพียงเขาเอาตัวนางขึ้นมา กอดให้แน่นๆ ถ่ายทอดความอบอุ่นให้อย่างเคย นาง
ก็จะตื่นขึ้น ลืมตาขึ้นมาพูดกับเขาใช่หรื อไม่...

เขาเพียงแต่หลอกตัวเอง.. ร่ างของนางถูกฝังอยูใ่ นนํ้าแข็งนัน่ หลับใหลชัว่ นิรันดร์ ทุกข์ร้อนไม่อาจแผ้วพาน ไม่


อาจลุกขึ้นมายิม้ ให้เขาอย่างอ่อนโยน มองเขาด้วยแววตารักใคร่ เขาไม่อาจได้ยนิ เสี ยงหวานลํ้าของนางบอกรัก
ไม่อาจโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนได้อีก

ภายใต้แผ่นนํ้าแข็งที่ทอประกาย นางดูสงบ งดงาม ไร้เรื่ องกังวลใจ จากไปในที่ไกลแสนไกล ไม่อาจมีทุกข์โศก


ใดกลํ้ากรายได้อีก

...ซี ยนิ เชื่อใจท่านอ๋ องเพคะ…

ภาพใบหน้าของนางยามเอ่ยวาจา จ้องมองเขาด้วยความไว้ในเชื่อใจ นางมอบหัวใจทั้งดวงวางไว้ในมือเขาโดย


ไม่ลงั เล

และยามนี้หวั ใจดวงนี้ของนางกลับเย็นเยือก ไร้ชีวติ ไร้ซ่ ึ งความอบอุ่น ไม่อาจกลับมาเต้นได้อีก เป็ นเขาที่


ทําลายความรัก ทําลายหัวใจลํ้าค่าดวงนี้ของนาง

ยามไร้อาํ นาจ ไม่อาจปกป้องนาง ยามมีอาํ นาจ นางจากไปเสี ยแล้ว

เขาไม่รู้.. เขาไม่รู้วา่ นางจะตัดสิ นใจอย่างนี้ เขานึกว่านางจะขังตัวอยูใ่ นจวน รอเขา..รอเขาอยูท่ ี่นนั่ ให้เขาเสร็ จ


สิ้ นจากแผนการทั้งหลายแล้วไปพานางออกมา เขาไม่รู้วา่ นางจะเจ็บปวดถึงเพียงนี้ เขารู ้วา่ นางเสี ยใจ..แต่เขาไม่
มีโอกาสอธิบาย ต่อหน้าคุณหนูสามผูน้ ้ นั เขาจําเป็ นต้องหลอกใช้นาง ไม่..เขาหลอกใช้สตรี ท้ งั สองคน เขา
หลอกใช้ความรักครอบครองซี ยนิ หลอกใช้ความทะเยอทะยานของลวีอ่ ี่ ยืมกองกําลังจากบิดานาง หลอกตัวเอง
ว่าทุกอย่างกําลังเป็ นไปได้ดี ทั้งๆ ที่เห็นหัวใจของซี ยนิ กําลังหลัง่ โลหิ ตอยูต่ รงหน้า หลอกตัวเองว่านางไม่เป็ น
อะไร หลอกตัวเองว่าเขายังมีเวลาปลอบโยนนางภายหลัง แล้วซี ยนิ จะทนได้อย่างไร

สิ่ งที่นางมองเห็นคือเขาหักหลังความเชื่อใจ กุมตัวบิดานางไว้ในคุกหลวง ส่ วนตัวเขามาสานสัมพันธ์กบั ผูห้ ญิง


คนใหม่ เขาทําลงไปได้อย่างไร

259
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เจิ้งอู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ร่างไร้วญ
ิ ญาณของนาง เขากระเทาะก้อนนํ้าแข็งออกมาด้วยตนเองท่ามกลางลมหนาวที่
พัดกรี ด นํ้าตาที่ไหลออกมากลายเป็ นนํ้าแข็งเกาะค้างอยูบ่ นใบหน้า

..ซี ยนิ ..ซี ยนิ ..

เสี ยงที่ครํ่าครวญในใจย่อมไม่มีใครได้ยนิ หัวใจของเขาเจ็บปวดเหลือเกิน นางอยูต่ รงหน้า แต่เขาไม่อาจ


ไขว่คว้าได้อีกแล้ว เขาไม่ตอ้ งการบัลลังค์ อํานาจราชศักดิ์ เขาต้องการเพียงนาง

ยามที่นาํ ร่ างของนางขึ้นมาได้สาํ เร็ จ ร่ างของนางแข็งทื่อ ใบหน้าซี ดขาว เขากอดนางไว้แน่นราวกับจะสามารถ


ถ่ายทอดความอบอุ่นให้กบั ร่ างที่เย็นจัดราวกับนํ้าแข็ง

หวังเพียงให้นางลืมตาขึ้นมาพูดคุยกับเขาดังเช่นวันวาน…

นํ้าตาของเขาริ นไหล หัวใจเจ็บปวดเหลือเกิน

“ซี ยนิ หากดวงวิญญาณเจ้ายังอยูต่ รงนี้ โปรดกลับมาหาข้าเถิด ซี ยนิ .. ข้าเจิ้งอู่ รักเพียงแต่เจ้า ข้ารักเพียงแต่เจ้าผู ้


เดียว ได้ยนิ หรื อไม่”

มีเพียงความเงียบและสายลมพัดแผ่วพลิ้ว วิญญาณของซี ยนิ จากไปไกลแสนไกล ไม่แม้แต่จะได้ยนิ ถ้อยคําที่เขา


พรํ่าบอก

ในมือของนางกําหยกที่เขาเคยมอบให้ไว้แน่น

...ซี ยนิ ไม่วา่ เจ้าจะอยูท่ ี่ไหนก็ตาม ข้า..เจิ้งอู่จะต้องตามหาเจ้าให้พบ ข้าจะไม่มีทางปล่อยมือจากเจ้าอีกเด็ดขาด...

คุณหนูสามลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ นั นางรู ้.. รู ้วา่ ข้ารักเจ้า ซี ยนิ ..

ข้าไม่เคยรักนาง สองตาข้าไม่เคยเหลียวแลนาง นางติดตามบิดาไปชายแดนเพราะหลงใหลรู ปกายของข้า


หลงใหลตําแหน่งฐานะของข้า ข้าหมางเมิน ไม่แยแสนาง แสดงออกให้นางรู ้อย่างชัดเจนว่าข้าไม่เคยรักนาง แต่
..

260
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามข้าบาดเจ็บไม่รู้สึกตัว นางเฝ้าไข้ ข้าเพรี ยกหาแต่เจ้า..ซี ยนิ ข้าพรํ่าคํารักถึงเจ้า.. นางรู ้วา่ ในใจข้ามีเพียงเจ้า

..ลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ ี ไม่ธรรมดาเลย นางเปรี ยบประดุจอสรพิษ..

นางเคียดแค้นชิงชังเจ้า..ซี ยนิ สตรี ผยู ้ ดึ ครองหัวใจข้าไว้แต่ผเู ้ ดียว

และแล้วข้าก็ได้รู้..ข้าไม่อาจประมาทความริ ษยาของสตรี และความปรารถนาของบุรุษ..

ด้วยฐานะบิดาของนาง องค์ชายผูใ้ ฝ่ บัลลังค์ต่างต้องเกรงใจ ยิง่ นางเป็ นคุณหนูสามผูย้ งั ไม่ออกเรื อน ต่อให้พวก


เขาต้องตบแต่งนางเข้าวังก็ลว้ นยินดี คนเหล่านี้มีใครใส่ ใจเรื่ องความรักกันเล่า แต่สิ่งที่คุณหนูสามผูน้ ้ ีทาํ ทําให้
องค์ชายเหล่านั้นต้องประหลาดใจ

นางเขียนจดหมายถึงองค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ด ฝากฝังให้ช่วยดูแลเพื่อนสนิทของนาง แม่นางซี ยนิ ผูง้ ดงามเลื่อง


ชื่อ.. นางมีคนหมายปองมากเกินไป เกรงว่าจะตกอยูใ่ นอันตราย ขอให้องค์ชายทั้งสองคอยลอบให้ความ
ช่วยเหลือดูแล คําขอของนาง พวกเขากล้าเมินเฉยหรื อ

จะเป็ นไปได้อย่างไร.. ซี ยนิ เผยโฉมน้อยครั้งนัก อีกทั้งนางมิได้มีคุณหนูสามเป็ นเพื่อนสนิท นางเก็บตัวอยูใ่ น


จวนเสี ยเป็ นส่ วนใหญ่ ผูใ้ ดจะปองร้ายนางได้กนั

ทว่าสิ่ งที่ลวีอ่ ี่ทาํ สําเร็ จคือ นางได้กระตุน้ ความอยากรู ้อยากเห็นขององค์ชายทั้งสอง แน่นอนว่าชื่อเสี ยงของซี ยนิ
พวกเขาย่อมได้ยนิ มาอยูบ่ า้ ง แต่ไม่วา่ ที่ใดก็มกั มีการกล่าวขานความงามของสตรี จนเกินจริ งอยูไ่ ม่นอ้ ยมิใช่หรื อ
พวกเขาไม่เคยคิดว่าซี ยนิ จะงดงามไปกว่าสนมนางในสักกี่มากน้อย ..จนกระทัง่ ได้มาเห็นกับตา..

ย่อมมีบางคราวที่ซียนิ ติดตามครอบครัวออกไปทําธุระนอกบ้าน บางครั้งไปกราบไหว้สุสานบรรพบุรุษ


บางครั้งไปวัดกว่างจี๋ซื่อกับมารดา

พวกเขาลอบชื่นชมความงามของนางอยูไ่ กลๆ โดยที่นางไม่รู้ตวั ..

กลับกลายเป็ นว่าองค์ชายทั้งสองต่างใช้อาํ นาจที่ตนมีย้อื แย่งซี ยนิ ไว้ในมือตน กรณี พิพาทนี้แม้แต่องค์ฮ่องเต้ก็


ทรงไม่ขอยุง่ เกี่ยว พวกเขาต่างส่ งคนไปทาบทามซี เหมี่ยนบิดาผูเ้ ถรตรงของนาง ถึงขั้นเสด็จไปเยีย่ มนางที่จวน
สิ่ งเหล่านี้เจิ้งอู่รับฟังจากรองแม่ทพั ด้วยหัวใจที่หล่นวูบ

261
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาจะกลับไปทันหรื อไม่.. เกรงว่ากว่าเขาจะกลับไป ซี ยนิ จะไม่แต่งให้หนึ่งในสองคนนัน่ ไปแล้วหรื อ ลําพังซี


ยินและตระกูลซี จะต้านทานได้นานแค่ไหน สิ่ งที่เขาพอจะทําได้คือการถ่วงดุลอํานาจองค์ชายทั้งสองนัน่ ไว้
ต้องขัดขวางไม่ให้พวกนั้นได้ในสิ่ งที่ปรารถนา หากพวกเขาขึ้นสู่ อาํ นาจ ซี ยนิ ย่อมไม่อาจหลุดพ้นเงื้อมมือ

เขาเริ่ มแสดงท่าทีต่อลวีอ่ ี่ท้ งั ๆ ที่รู้วา่ นัน่ เป็ นสิ่ งที่นางต้องการ เขาจะทําให้นางตายใจเพียงเพื่อค้นพบว่าใน


ท้ายที่สุด สิ่ งที่นางปรารถนา เขาไม่มีวนั จะมอบให้ เขาทําทีวา่ ซาบซึ้ งหนักหนาที่นางคอยดูแลยามเขาบาดเจ็บ
ทําทีวา่ สถานการณ์ลาํ บากทําให้เขาได้เห็นนํ้าใจนาง หากเขาไม่ทาํ เช่นนี้ นางคงรังควาญซี ยนิ ไม่เลิกรา ใครจะรู ้
ว่านอกจากองค์ชายทั้งสองแล้ว ลวีอ่ ี่จะมีแผนร้ายจัดการกับซี ยนิ ต่อไปอย่างไร

ทว่าเพียงองค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดก็ยากจะรับมือ เจิ้งอู่แม้อยูไ่ กลถึงชายแดน ก็ได้ข่าวความเคลื่อนไหวของทั้ง


สองไม่ขาด ทั้งคู่ต่างวางแผนครอบครองซี ยนิ ไม่ลดละ ไม่เพียงแต่หมายจะครอบครองสาวงาม ศึกครั้งนี้ยงั
เกี่ยวพันถึงศักดิ์ศรี ..และลามไปถึงบัลลังค์ หากตระกูลซี ยงั ปฏิเสธองค์ชายทั้งสองต่อไป เกรงว่า..จะไม่เป็ นผลดี
นัก พวกเขาโหดเหี้ ยมเพียงใด เจิ้งอู่จะไม่รู้หรื อ แม้แต่บิดาแท้ๆ ของตัวเองยัง… เจิ้งอู่ทอดถอนใจ เกรงว่าอาการ
ประชวรของบิดาจะมิใช่สาเหตุธรรมชาติดงั ที่เข้าใจ

..ทุกสิ่ งประจวบเหมาะกันเกินไป..

..ความแตกแยกจากภายใน .. ย่อมเป็ นสัญญาณที่เลวร้ายที่สุดที่คนนอกจะเข้าแทรกแซง

ปั ญหาที่ชายแดน การรุ กรานของพวกชนเผ่าในช่วงเวลานี้ยอ่ มไม่ใช่เหตุบงั เอิญ ย่อมมีกลุ่มใดคอยให้การ


สนับสนุนเป็ นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ยดื เยื้อถึงเพียงนี้ ตามปกติแล้วฤดูกาลนี้ พวกชนเผ่ามักล่าถอยกลับไปไล่ตอ้ น
ฝูงสัตว์ตามปกติ แต่เหตุใดครานี้ จึงยังสามารถยืนหยัดต่อสู ้ได้ หากมิใช่มีผคู ้ อยสนับสนุน

แม้แต่อาการบาดเจ็บของเขา.. บางทีอาจไม่ใช่เรื่ องบังเอิญ ใครบางคนอาจจะพยายามลอบสังหารเขาอยูก่ ไ็ ด้


เขาเป็ นองค์ชายที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังค์คนหนึ่ ง ถึงแม้ฆ่าไม่ตาย แต่การศึกติดพัน ย่อมถูกรั้งอยูท่ ี่ชายแดน ไม่
อาจกลับสู่ เมืองหลวงได้ในช่วงเวลาสําคัญ

สิ่ งเหล่านี้ลว้ นบ่งชี้วา่ กําลังจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นหรื อ

เจิ้งอู่ตดั สิ นใจผลักดันตนเองเข้าสู่ ศูนย์กลางของความขัดแย้ง

262
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

..เพียงสองมือของข้า หากไร้อาํ นาจ ย่อมไม่อาจปกป้องเจ้าและแผ่นดินเกิด.. ซี ยนิ ขอให้เจ้าเชื่อใจข้า จิตใจข้า


ไม่มีวนั ผันแปร..

แคว้นใกล้เคียงกําลังจับจ้องตาเป็ นมัน คอยยุแยงอยูภ่ ายนอก รอให้เกิดศึกสายเลือด ความขัดแย้งนี้ ข้าไม่อาจไม่


เข้าร่ วม..

เขาไม่อาจบอกได้วา่ มีองค์ชายใดร่ วมมือกับต่างแคว้นเพื่อให้ตนสมประสงค์หรื อไม่ แต่ที่แน่ๆ หากองค์ชายทั้ง


สองเกิดการปะทะ เหล่าขุนนางที่สนับสนุนทั้งสองอยู่ มีหรื อจะไม่สู้กนั ยิบตา ความแตกแยกนี้อย่างไรไม่อาจ
ประสาน จะมีผใู ้ ดล่วงรู ้วา่ แท้จริ งแล้วตนตกเป็ นเครื่ องมือ ยามนั้นคงไม่มีแก่ใจร่ วมมือกันระวังศึกภายนอก

รัชทายาทอ่อนแอ จําต้องเร้นกายเพื่อรักษาชีวิต แต่ตวั เลือกที่สามจําเป็ นต้องมี เขามีทางเลือกอื่นหรื อ

หากปล่อยให้องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดหํ้าหัน่ กันต่อไป ทั้งซี ยนิ และแว่นแคว้นต้องตกอยูใ่ นมือของผูอ้ ื่นแน่!


เจิ้งอู่ไม่มีทางยอมให้ใครเป็ นผูเ้ ฒ่าหาปลา มาตักตวงผลประโยชน์จากสถานการณ์น้ ีเป็ นอันขาด

ยามกลับถึงเมืองหลวงเจิ้งอู่ไม่อาจปลีกตัว หลังเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อเยีย่ มเยียนอาการประชวรแล้วก็ไปหาเสี ยนเฟย


ตอนแรกที่เขาตัดสิ นใจไปรบ มารดาคัดค้านหัวชนฝา นางขัดใจจนไม่พดู กับเขาแม้เขาจะมารํ่าลา มารดารู ้วา่
การไปศึกครั้งนี้เท่ากับว่าเขาถูกกันอยูน่ อกวง แต่เจิ้งอู่ไม่ได้สนใจเพราะเขาไม่ได้ตอ้ งการบัลลังค์มาตั้งแต่ตน้
ยามได้เห็นหน้าเขาคราวนี้ มารดาจึงยินดีนกั เพราะรู ้วา่ เขากําลังสานสัมพันธ์กบั คุณหนูสาม สิ่ งที่นางวาดหวังไว้
ใกล้จะเป็ นจริ ง ทว่านางก็รู้เช่นกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซี ยนิ เป็ นเช่นไร

“เจิ้งอู่ มารดาก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ ได้อย่างยากลําบาก ฟาดฟันกับสตรี นางในมาไม่ใช่นอ้ ยกว่าจะได้ข้ ึนเป็ นเสี ยน


เฟย เจ้ามียศศักดิ์เช่นนี้ กเ็ พราะเกิดจากมารดาขั้นเฟย จงอย่าทําให้ความพยายามของข้าสู ญเปล่า เจ้าย่อมรู ้วา่
มารดาหมายตาสิ่ งใด”

มารดาเอ่ยกับเขาทันทีที่เห็นหน้า เขารักมารดา แต่ความสัมพันธ์ฉนั แม่ลูกแทบไม่มี การให้กาํ เนิดเขาดูเหมือน


จะแค่ช่วยยกสถานะมารดาขึ้นมาเท่านั้นเอง องค์ชายที่งดงามและเฉลียวฉลาด เขาเป็ นความหวัง เป็ นเครื่ องมือ
ที่มารดาคิดจะใช้สานต่อความทะเยอทะยานของตน ดูเหมือนว่าชีวติ ในวังหลังได้กลืนกินจิตวิญญาณของผูอ้ ยู่
อาศัยผูน้ ้ ีไปเสี ยแล้ว เขาตอบมารดาเสี ยงเย็นชา

263
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้ารู ้วา่ ข้าทําสิ่ งใดอยู”่

เหตุใดเขาจะไม่รู้จกั นิสัยมารดาเล่า นางเป็ นสตรี ที่มีนิสัยทะเยอทะยานและเฉลียวฉลาดอย่างร้ายกาจ มิเช่นนั้น


ลําพังนางคนเดียวจะมาได้ไกลถึงเพียงนี้หรื อ

“เจิ้งอู่” นํ้าเสี ยงของมารดาเนิบนาบราวกับเอ่ยเรื่ องทัว่ ไป “เจ้ารู ้หรื อไม่ สตรี ขา้ งกายซี ยนิ ผูน้ ้ นั สาวใช้ประจําตัว
ของนางยามนี้ ตกอยูภ่ ายใต้การควบคุมของข้า บุรุษที่นางหลงรักเป็ นคนที่ขา้ ส่ งไป อันว่าสตรี ในห้วงรักมักทํา
สิ่ งใดก็ได้เพื่อบูชาความรัก เจ้าว่าจริ งหรื อไม่”

บ่ากว้างของเจิ้งอู่เกร็ งขึ้นเล็กน้อย ความนัยของมารดาเหตุใดเขาจะไม่รู้ ความโหดเหี้ ยมของสตรี นางในใช่วา่


เขาจะไม่คุน้ เคย เพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่ตอ้ งการ ไม่วา่ ใครขวางทางย่อมกําจัดโดยไม่ลงั เล มารดาเขาก็ไม่ต่างกัน
เจิ้งอู่นึกถึงซี ยนิ ด้วยความเป็ นกังวล มารดาคิดจะเอาชีวติ นางมาขู่ ทว่าเขายังกล่าวตอบมารดาด้วยนํ้าเสี ยงไม่
อนาทรร้อนใจ

“เรื่ องราวของสาวใช้ไร้ความสําคัญ มารดาจะกล่าวกับข้าเพื่ออะไร มิสู้มารดาเอาเวลาไปสนใจลวีอ่ ี่ดีกว่าหรื อ


ได้ข่าวว่านางอยากจะเข้าวังมาคารวะว่าที่แม่สามีสักที”

เสี ยนเฟยได้ยนิ เช่นนั้นก็มีสีหน้าดีข้ ึน แต่กย็ งั ไม่วายกําชับ

“ลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ ีมิใช่ธรรมดา ได้ข่าวว่าในจวนรองแม่ทพั ฐานะของนางไม่อาจมีผใู ้ ดเทียบ อายุเพียงเท่านี้ กลับจัดการ


เหล่าฮูหยินรองและอนุเสี ยอยูม่ ือ องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดมิใช่ตอ้ งเผชิญหน้ากันเร็ วขึ้นเพราะนางหรื อ เจิ้งอู่
เจ้าจงอย่าได้ประมาทนาง จะทําสิ่ งใดก็ตอ้ งนึกถึงลวีอ่ ี่เอาไว้บา้ ง ยามนี้ไม่อาจล่วงเกินนางและบิดา หากลม
เปลี่ยนทิศ ชีวิตของเจ้าและข้าจะตกอยูใ่ นอันตราย ฉะนั้น คิดอ่านสิ่ งใดจะกระทําการผลีผลามไม่ได้ ของที่
หมายตาไว้ตอ้ งได้มาอยูใ่ นมือให้มนั่ คงเสี ยก่อน เข้าใจหรื อไม่เจิ้งอู่”

เขามิได้ตอบมารดา ตั้งใจว่าเสร็ จจากนี่จะลอบไปหาซี ยนิ

“เจิ้งอู่ แม่นางซี ยนิ นัน่ ตัดใจเสี ยเถิด ปล่อยให้นางเป็ นเหยือ่ ล่อชั้นดีให้องค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดแตกหักกันเร็ ว
ขึ้น เจ้าอย่าเพิ่งไปยุม่ ย่ามกับนาง ยามนี้ที่จวนนางมีคนของสององค์ชายจับตาอยู่ หากเจ้าทําเสี ยเรื่ องขึ้นมา อย่า
หาว่ามารดาไม่เตือน” มารดาเอ่ย “หากข้ารู ้วา่ เจ้าหาทางติดต่อนางแม้เพียงนิด อย่าหาว่าข้าใจร้าย”

264
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เจิ้งอู่รู้ มารดาของเขาพูดจริ งทําจริ ง แต่คาํ ขู่เพียงเท่านี้หรื อจะมาขัดขวางหัวใจรักที่เขามีต่อนางได้ ไม่วา่ อย่างไร
เขาก็จะลอบหาโอกาสไปพบซี ยนิ อยูด่ ี มีคนขององค์ชายสี่ และองค์ชายเจ็ดจับตาดูอยูแ่ ล้วอย่างไร ทางเข้าจวนมี
ทางเดียวหรื อ

ครั้นกลับถึงวัง เจิ้งอู่ผลัดเปลี่ยนเครื่ องแต่งกาย ยังไม่ทนั จะก้าวเท้าออกจากห้อง ข้ารับใช้กก็ า้ วเข้ามารายงาน

“คุณหนูลวีอ่ ี่มาขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ” เจิ้งอู่ชะงักเท้า นางมาพบเขาด้วยเรื่ องใดกัน

ยามพบหน้า ลวี่อี่เปิ ดปาก “ข้าไปเยีย่ มคาระเสี ยนเฟยมา พระนางเมตตาข้านัก ลวีอ่ ี่รู้สึกปลาบปลื้ม ทว่ายังคงมี
ความกังวลใจ บุปผางามในเมืองหลวงมีไม่นอ้ ย เกรงว่าเป้าหมายของท่านบรรลุแล้ว ตําแหน่งข้างกายท่านคง
ไม่ได้มีไว้สาํ หรับข้า เกรงจะเป็ นดังว่า เสร็ จนาฆ่าโคถึก เสร็ จศึกฆ่าขุนพล”

นางมาเพื่อข่มขู่เขาหลังจากที่ไปข่มขู่มารดา.. สตรี ผนู ้ ้ ีร้ายกาจยิง่ นัก เจิ้งอู่แย้มยิม้ เอ่ยวาจาอ่อนโยนเอาใจ

“เจ้ากังวลเกินไป ยามนี้ขา้ หาได้สนใจสตรี ใดนอกจากเป้าหมายที่อยูต่ รงหน้า ลวีอ่ ี่ เจ้ามีบุญคุณต่อข้า ดูแลข้า


ยามบาดเจ็บ บิดาเจ้ายังสนับสนุนข้า ข้ามีหรื อจะหักหลังความมีน้ าํ ใจของเจ้าได้”

“ลวีอ่ ี่ได้ยนิ เช่นนี้กเ็ บาใจ ท่านคงเห็นพ้องกับมารดากระมัง เสี ยนเฟยรับปากข้า หากมีเรื่ องใดรบกวนจิตใจข้า..”


นางหยุดไปนิดหนึ่ง “พระนางจะจัดการบดขยี้มดปลวกเหล่านั้นมิให้มากวนใจข้าได้อีก” นางปรายตามองเขา

“เจิ้งอู่ มารดาของท่านช่างเป็ นสตรี ที่เด็ดขาดเสี ยจริ ง หากท่านเป็ นเช่นพระนาง แผนการครานี้กไ็ ม่มีอะไรน่า


เป็ นห่วงแล้ว” นางทิ้งท้ายไว้ก่อนจะจากไป

เจิ้งอู่กดั ฟันกรอด คําขู่ของมารดาและลวีอ่ ี่มิใช่ลอ้ เล่น พวกนางกระโดดลงมาในวังวนแห่งการแย่งชิงอํานาจ


ก่อนเขา ต่างเจนจัดเจ้าแผนการ พวกนางล้วนบีบบังคับให้เขาเดินไปตามทางที่พวกนางต้องการ ยามเป้าหมาย
พ้องกัน เสี ยนเฟยและลวีอ่ ี่ต่างทํางานประสานกันเป็ นอย่างดี จัดวางกําลังคนไว้ทุกจุด เกรงว่ามิใช่เพียงคนจับ
ตาดูจวนเจ้ากรมอาญา แม้แต่เขาที่อยูใ่ นวังของตนเองก็ไม่ต่างอะไรกับนักโทษคุมขัง คนรอบกายล้วนเป็ นคน
ของมารดาที่จดั หาให้ต้ งั แต่เขาเริ่ มออกมามีวงั เป็ นของตนเอง ไม่วา่ เขาเคลื่อนไหวอย่างไร มารดาล้วนล่วงรู ้
แม้แต่จะส่ งสารลับสักฉบับ ล้วนไม่อาจรอดหูรอดตา

265
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ส่ วนซี ยนิ นั้นเล่า อยูท่ ี่จวนของตนก็ยงั ไม่ปลอดภัย เขาไม่อาจเคลื่อนไหวโดยไม่ระมัดระวัง มารดาเขาหากจะ
จัดการซี ยนิ ยังต้องนึกถึงความรู ้สึกของเขาอยูส่ ่ วนหนึ่ง แต่สาํ หรับลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ นั .. เขารู ้..นางกําลังรอคอย รอคอยให้
เขาทําผิดสัญญาต่อนางเพื่อจะใช้เป็ นข้ออ้างในการกําจัดซี ยนิ สตรี ที่นางเกลียดชังที่สุด นางกําลังจับตาดูเขาอยู่
หากเขาติดต่อซี ยนิ เมื่อใด นางจะลงมือกับซี ยนิ โดยไม่ลงั เล สตรี ผนู ้ ้ ีเหี้ ยมโหดยิง่ นัก

..ซี ยนิ ข้าเจิ้งอู่ยามนี้ยงั ไม่อาจปกป้องเจ้าได้ เจ้าจงอดทนหน่อยเถิด..

เจิ้งอู่พยายามหักห้ามใจที่กระวนกระวายคิดถึงนาง จากนั้นเขาก็ยงุ่ กับการเตรี ยมแผนการ มีแต่การประชุม


ปรึ กษาหารื อไม่วา่ งเว้นแต่ละวันจนดึกดื่น ลวีอ่ ี่ติดตามบิดานางมาที่วงั นอกจากจะเป็ นการประกาศตัวแล้ว นาง
ยังคอยจับตาเขาทุกฝี กา้ ว เจิ้งอู่ไม่อาจแสดงท่าทีรําคาญนางได้แม่แต่เพียงนิด ลวี่อี่ผนู ้ ้ ี นางรู ้..แต่แสร้งทําเป็ นไม่
รู ้ นางกําลังทรมานเขา

รองแม่ทพั แต่เดิมสนับสนุนองค์ชายสี่ ยิง่ มาเห็นเขาให้ความใกล้ชิดกับลวีอ่ ี่กย็ งิ่ มัน่ ใจว่าตนคิดถูก ร่ วมมือกับ


เขาตบตาองค์ชายสี่ วา่ เขาและเจิ้งอู่สวามิภกั ดิ์ ดําเนินงานใดก็ภายใต้พระนามองค์ชายสี่ ใช้สอยคนและ
แหล่งข่าวของเขา เจิ้งอู่ผนู ้ ้ ีเติบโตขึ้นมาด้วยวิธีการราวกับปรสิ ต แฝงอยูใ่ นร่ างของผูอ้ ื่นโดยแท้

แผนการใกล้จะสําเร็ จอยูแ่ ล้ว ยามนั้นเขาจึงได้พบซี ยนิ สตรี ที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจ เจิ้งอู่รู้วา่ หากเขาใจอ่อนแม้


เพียงนิด ย่อมไม่อาจเก็บงําประกายตา ได้แต่บงั คับให้ตนเองไร้ความรู ้สึกราวกับก้อนหิ น ราวกับไม่เห็นนาง แต่
ละครั้งที่นางปรากฏตัว เขาแทบไม่อาจทนได้ ..คิดถึงเหลือเกิน ห่วงใยเหลือเกิน.. แต่เพื่อความปลอดภัยของ
นาง เขาจําต้องอยูใ่ ห้ห่าง ไม่อาจแสดงออกว่ารัก ว่าเอื้ออาทร ไม่อาจเผยความรู ้สึกได้สักนิด เขารู ้วา่ นาง
เจ็บปวด เขาเองก็เจ็บปวดใจเหลือเกิน

..ซี ยนิ ได้โปรดกลับไป ได้โปรดอย่ามาหาข้าอีก ข้าไม่ตอ้ งการเห็นเจ้าเจ็บปวดแม้เพียงนิด.. เขาพรํ่าบอกนางใน


ใจ หวังว่าความเย็นชาของเขาจะทําให้นางถอดใจ

..นางไม่เพียงถอดใจ..

นางเจ็บเกินไป จนตัดสิ นใจทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

266
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 39 : คําพิพากษาของชนเผ่ าอันไกลโพ้ น

ซี ยนิ .. ข้าเข้าใจแล้ว ใจของคนรอเป็ นเช่นไร

แผ่นดินนี้ขาดข้าย่อมมีคนอื่น แต่หากข้าขาดเจ้า..ข้าก็ไม่เหลือใคร เรื่ องง่ายๆ เช่นนี้ ข้าเพิ่งเข้าใจในยามที่สาย


เกินไปเสี ยแล้ว ข้าตั้งสัตย์สาบาน ไม่วา่ เกิดชาติภพใด ข้าจะไม่ขอเป็ นฮ่องเต้อีกเด็ดขาด สิ่ งที่ตอ้ งแลกมา ไม่
คุม้ ค่าเลยสักนิด

โลกใบนี้อา้ งว้างเกินไป ยามไม่มีเจ้า ทุกสิ่ งล้วนขาดสี สัน ขาดชีวิตจิตใจ ยามสายลมแผ่วพริ้ ว ยามสกุณาแว่ว


สําเนียง ยามใบไม้ผลิใบ ดอกไม้เบ่งบาน ข้าไม่อาจรับรู ้ถึงความงดงาม แม้ยามแสงแดดอุ่นละมุนอาบไล้
ใบหน้า หรื อยามเกล็ดหิ มะเกาะตามร่ างกาย ความรู ้สึกของข้าก็หาได้แตกต่างไม่ โลกที่ไม่มีเจ้าอยูจ่ ะอบอุ่นหรื อ
เหน็บหนาวก็ไม่ต่างกัน

โลกที่ขา้ อยูใ่ บนี้กลับกลายเป็ นโลกคู่ขนาน เป็ นโลกที่ไร้ซ่ ึ งความหมายอีกต่อไป..

สรรพสําเนียงล้วนเงียบสงัด มีเพียงข้าจมอยูใ่ นความเศร้าอันหนักอึัง ยามลืมตามีเพียงใจที่อา้ งว้าง ยามหลับตา


ลงถูกหลอกหลอนด้วยความฝันว่าเจ้าเหน็บหนาวอยูภ่ ายใต้ช้ นั นํ้าแข็ง ถูกกักขังอยูใ่ นนั้นโดยที่ขา้ ไม่อาจ
ช่วยเหลือออกมาได้ แม้ขา้ จะทุ่มเทพละกําลังเพียงใด ก็ไม่อาจทําลายชั้นนํ้าแข็งที่ก้ นั เราสองคนไว้ ได้แต่มอง
ร่ างเจ้าค่อยๆ กลายเป็ นนํ้าแข็งไปทีละน้อยเหมือนวันที่ขา้ ได้พบร่ างไร้วญ
ิ ญาณของเจ้า ใจของข้าเจ็บปวดราว
กับถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่งแทง

ซี ยนิ ..

ข้าไม่อาจทนอยูโ่ ดยในโลกที่ไม่มีเจ้าได้ ขอเป็ นดัง่ นกยวนยางคู่..โบยบินตามเจ้าไป

หลายร้อยปี ก่อน กษัตริ ยพ์ ระนามเจิ้งอู่ได้มีรับสั่งให้สร้างหลุมศพไร้ป้ายขึ้นอย่างลับๆ บนหุ บเขาอันเงียบสงัด


ด้านหลังวัดกว่างจี๋ซื่อ

267
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เจิ้งอู่มิได้แต่งตั้งฮองเฮา มิได้รับนางสนม เป็ นรัชสมัยที่แปลกประหลาดและแสนสั้น เพียงจัดการความวุน่ วาย
ในราชสํานักจนเรี ยบร้อย แต่งตั้งผูส้ ื บทอดราชบัลลังค์ แล้วก็หายสาบสู ญไป
……………….

หลังจากซี ยนิ จากไป เรื่ องราวของนางถูกบันทึกไว้ในบทกวี ทว่าเรื่ องราวที่เล่าขานจะมีผใู ้ ดล่วงรู ้เบื้องหลัง กวี
พรรณนาภาพของโฉมงามผูห้ นึ่งซึ่ งจากไปในวัยที่กาํ ลังเบ่งบาน งดงามราวบุปผาแรกแย้ม โฉมงามผูเ้ ปี่ ยมไป
ด้วยความกตัญญู..ยอมใช้ชีวิตตนเองแลกกับบิดา โฉมงามผูถ้ ูกยื้อแย่งโดยสององค์ชายผูก้ ระหายอํานาจ เห็น
นางเป็ นเพียงถ้วยรางวัล นางถูกบีบบังคับให้แต่งเป็ นชายาเพื่อช่วยบิดาออกมาจากคุกหลวง นางตัดสิ นใจ
ยอมรับข้อเสนอ ทว่ายามบิดาปลอดภัย โฉมงามผูแ้ สนเด็ดเดี่ยวได้จบชีวติ ตนเองลงในทะเลสาบซี ไห่อนั หนาว
เหน็บเพื่อหลีกหนีจากองค์ชายผูโ้ หดร้ายนี้.. กลายมาเป็ นตํานานเล่าขานสื บมา ตามที่ต่างๆ นักเล่านิทานมักจะ
หยิบยกเรื่ องราวของนางขึ้นมาเล่าอย่างยกย่อง

องค์ชายสี่ ยอ่ มตกเป็ นจําเลยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผูค้ นต่างประณามถึงความร้ายกาจของเขา องค์ชายสี่ ที่ผคู ้ น


เข้าใจว่าสุ ขมุ เยือกเย็น สุ ภาพอ่อนโยนนั้น แท้จริ งแล้วช่างเป็ นคนร้ายกาจเหลือเกิน เขาพลาดจากบัลลังค์อย่าง
น่าเจ็บใจ ไม่เพียงถูกผูอ้ ื่นหลอกใช้ ยังถูกกล่าวหาว่าเป็ นต้นเหตุของการตายของซี ยนิ อีกด้วย ความแค้นนี้ไม่
อาจบรรยาย แค่เพียงรักษาชีวิตไว้ได้กน็ บั ว่าดีแล้ว เจิ้งอู่มิได้เห็นเขาเป็ นเสี้ ยนหนามจนถึงกับต้องสังหาร

ผูใ้ ดจะล่วงรู ้ความจริ ง.. เบื้องหลังการตายของซี ยนิ คืออะไร ผูท้ ี่เกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่ปิดปากเงียบ ใครจะกล้าชี้
นิ้วไปที่ฮ่องเต้กนั เล่า

ยามเขาก้าวขึ้นสู่ บลั ลังค์ เจิ้งอู่กวาดสายตามองผูค้ นที่หมอบกราบอยูเ่ บื้องล่าง อํานาจล้นฟ้า อยูเ่ หนือผูใ้ ดในใต้
หล้า แต่จิตใจกลับโหยหาใครบางคน.. ตําแหน่งนี้ผคู ้ นต่างปรารถนา แต่เมื่อได้มาแล้วช่างว่างเปล่าเหลือเกิน คํา
สาปของผูเ้ ป็ นฮ่องเต้อย่างนั้นหรื อ..ย่อมไม่อาจรักใครและไม่มีผใู ้ ดมอบความรักอันจริ งแท้ให้ ทั้งเสี ยนเฟยผู ้
เป็ นมารดา ทั้งลวีอ่ ี่ผปู ้ รารถนาจะอยูข่ า้ งกาย พวกนางมิได้รักเขา พวกนางต่างปรารถนาอํานาจ แต่คิดหรื อว่า
อํานาจที่พวกนางแสวงหามาแทบเป็ นแทบตาย เขาจะมอบให้พวกนางง่ายๆ

หน้าหนาวใกล้จะสิ้ นสุ ดลงแล้ว เจิ้งอู่ประทับตราลงในราชโองการที่เหมือนกันสองฉบับ ฉบับหนึ่งให้กงกงคน


สนิทเก็บไว้ อีกฉบับหนึ่งมอบให้เจ้ากรมอาลักษณ์

เรื่ องราววุน่ วายต่างๆ สะสางเสร็ จสิ้ นแล้ว ไม่ตอ้ งกลัวภัยคุกคามจากต่างแคว้น ไม่ตอ้ งกลัวการเผชิญหน้าของ
อํานาจต่างขั้วในราชสํานัก ถึงเวลาที่จะจัดการเรื่ องทุกอย่างตามที่มนั ควรจะเป็ นเสี ยที

268
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

มารดา..อํานาจที่ท่านปรารถนา ยามนี้อยูใ่ นมือท่านแล้ว โอรสของท่านได้เป็ นฮ่องเต้


ลวีอ่ ี่..ชัยชนะอันหอมหวานมีรสชาติเป็ นเช่นไร ศัตรู หวั ใจนามซี ยนิ มิได้อยูบ่ นโลกใบนี้แล้ว

คงจะสมใจพวกท่านนัก...

เจิ้งอู่กา้ วลงจากบัลลังค์มงั กร โบกมือไม่ให้มีผใู ้ ดติดตาม

ในราชโองการสองฉบับนั้น เขาแต่งตั้งให้องค์ชายสี่ เป็ นผูส้ ื บทอดราชบัลลังค์ เขาไม่ได้ปรารถนาบัลลังค์น้ ี มัน


สมควรเป็ นขององค์ชายสี่ มาตั้งแต่ตน้ ยามนี้เขาขอชดเชยให้ องค์ชายสี่ อาจจะไม่ใช่คนที่ดีนกั แต่กไ็ ม่ใช่นกั
ปกครองที่เลวร้าย เขามีความสามารถและคุณสมบัติเหมาะสมกว่ารัชทายาทซึ่ งยามนี้ยงั เร้นกายไม่ปรากฎตัว

องค์ชายสี่ คงเจ็บแค้นแทบกระอักเลือดยามรู ้วา่ ทุกสิ่ งที่ตนเองทุ่มเทมาถูกเขาชุบมือเปิ บ เจิ้งอู่สามารถกุมใจคน


รอบกายองค์ชายสี่ จนสามารถยึดบัลลังค์มาครองได้อย่างง่ายดาย เขายิม้ เป็ นรอยยิม้ ที่ยากจะได้เห็นนับตั้งแต่ซี
ยินจากไป เอาเถิด ถือเป็ นบทเรี ยนเล็กๆ น้อยๆ สําหรับคนที่เคยทําให้ซียนิ ลําบากใจ

รอยยิม้ ของเจิ้งอู่หยักขึ้นอีกเมื่อนึ กถึงเสี ยนเฟยและลวีอ่ ี่ เขายิม้ ทําไมน่ะหรื อ..

มารดา.. ลวีอ่ ี่.. พวกเจ้ามีความสุ ขกันมามากเพียงพอแล้ว

มารดา..ตําแหน่งไทเฮาที่ท่านปรารถนาก็ได้เป็ นแล้ว ข้าถือว่ากตัญญูต่อท่าน ได้มอบสิ่ งที่ท่านปรารถนาที่สุดใน


ชีวิต จากนี้ ในรัชสมัยขององค์ชายสี่ หากท่านต้องเปลี่ยนนิวาสถานจากตําหนักฉื อหนิงไปอยูต่ าํ หนักเย็นชัว่
ชีวิตที่เหลืออยู่ ล้วนแล้วแต่เป็ นโชคชะตาของท่าน ข้า..เจิ้งอู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่ องนี้

ลวีอ่ ี่..รองแม่ทพั บิดาเจ้าหักหลังองค์ชายสี่ อย่างเจ็บแสบที่สุด ใช้คนเขาใช้เงินเขาตัดชุดแต่งงานให้ขา้ วันที่ขา้


ขึ้นครองราช คือวันที่องค์ชายสี่ สาบานว่าจะล้างผลาญตระกูลเจ้าอย่างถึงที่สุด ข้า..ไม่ตอ้ งลงมือทําอะไรเลย จุด
จบของคนทรยศจะเป็ นเช่นไรเล่า.. เจ้าและตระกูลเจ้าคงถึงกาลอวสาน ไม่มีที่ให้หยัง่ เท้าในแคว้นนี้ อีกต่อไป
จะหนีหวั ซุกหัวซุนไปที่ใดก็อย่าหมายว่าองค์ชายสี่ จะปรานี ยามนี้ เขาฉลาดขึ้นแล้ว จะหนีให้ตลอดรอดฝั่งก็คง
ไม่ง่ายนัก

ความปรารถนาของพวกท่านบรรลุผล แต่น่าเสี ยดาย มันช่างแสนสั้นเหลือเกิน..

269
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เจิ้งอู่มุ่งหน้าสู่ วดั กว่างจี๋ซื่อเพียงลําพัง สถานที่ในความทรงจําเมื่อแรกพบนาง ดวงใจอันเจ็บปวดค่อยกรุ่ นไอ


หวานละมุนเพียงได้คิดถึง ตอนนั้นเป็ นยามเช้าในฤดูใบไม้ผลิ เขายืนอยูใ่ ต้ตน้ หูหยางยามที่นางเดินหลงเข้ามา

ซี ยนิ ..ยามแรกพบหน้า เจ้าได้ขโมยหัวใจข้าไปทั้งหมด เราต่างจับจ้องกันอย่างเขินอาย ชัว่ ขณะนั้นข้าก็รู้ได้วา่


ชีวิตนี้ไม่ตอ้ งการผูใ้ ดอีก

เจ้าชะงักเท้าทําท่าจะถอยหนี เป็ นข้าที่หน้าด้านเหนี่ยวรั้งเจ้าไว้

“ช้าก่อนแม่นางผูง้ ดงาม ข้ามีนามว่าเจิ้งอู่ ไม่ทราบแม่นางเรี ยกว่าอะไร”

ยามนั้นซี ยนิ มิได้ตอบ นางเพียงปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเขา นํ้าเสี ยงของนางไพเราะนัก

“ชายหญิงอยูด่ ว้ ยกันตามลําพังไม่เหมาะนัก ข้าหายมานานแล้ว คนที่บา้ นคงกําลังตามหา เห็นทีตอ้ งขอตัวก่อน”

นางทําท่าจะก้าวจากไป เจิ้งอู่หลุดปากถามออกมาอย่างยั้งไม่อยู่

“เราจะได้เจอกันอีกหรื อไม่”

นางเพียงหันมามองแต่ไม่ได้ตอบ ใบหน้างดงามนั้นแดงเรื่ อ ซี ยนิ รี บสาวเท้าจากไป

จากนั้นเจิ้งอู่มกั จะมาดักรอพบนางที่วดั กว่างจี๋ซื่อเสมอ ความรักเกิดขึ้นที่นี่ ข้าขอใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อระลึกถึง


เจ้า..ซี ยนิ

เจิ้งอู่มุ่งไปยังหุ บเขาด้านหลัง หลุมศพโดดเดี่ยวดูเดียวดายใต้แสงจันทร์

..ซี ยนิ เจ้าเหงาหรื อไม่ ข้า..มาอยูเ่ ป็ นเพื่อนแล้ว..

เจิ้งอู่เลื่อนแผ่นหิ นที่ปิดปากทางเข้า ภายในเป็ นห้องใต้ดิน เขาจุดเทียนก้าวเข้าไปแล้วก็เลื่อนปิ ดสนิ ท

270
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
กลางห้องนั้นมีโลงนํ้าแข็งพันปี ตั้งอยู่ ของลํ้าค่าเพียงชิ้นเดียวที่เขาเอามาจากขุมทรัพย์ราชวงศ์ ภายในนั้นร่ าง
ของซี ยนิ นอนทอดยาวราวกับว่านางเพียงหลับไป เขาล้วงเข้าไปในอกเสื้ อ หยิบปิ่ นหยกที่นางเคยมอบให้เขาไว้
ดูต่างหน้ายามจากไปรบ

..ปิ่ นหยกนี้ สตรี มอบเป็ นของแทนใจ คืนแต่งงาน เจ้าบ่าวปักคืนให้..

สําหรับเรา.. ไม่มีคืนมงคลอีกแล้ว เขาค่อยๆ ปั กปิ่ นนั้นไว้บนมวยผมนาง

..ซี ยนิ ชาติน้ ี เจ้าอาภัพนัก มอบกายให้ขา้ แต่ไม่มีโอกาสแม้จะสวมชุดแดงขึ้นเกี้ยวแปดคนหาม หากชาติหน้ามี


จริ ง ข้าจะตบแต่งเจ้าเป็ นภรรยา ไม่ปล่อยให้ตอ้ งน้อยเนื้อตํ่าใจเช่นนี้อีก..

เจิ้งอู่ทอดกายลงนอนเคียงข้างนาง

เขาผนึกตนเองไว้ในนั้นโดยไม่มีผใู ้ ดล่วงรู ้

หนาวเหน็บ..หนาวเหน็บเหลือเกิน ซี ยนิ ..ตอนเจ้าจากไปเจ้าก็คงรู ้สึกเช่นเดียวกันนี้ใช่หรื อไม่ ไม่..เจ้าคงจะ


หนาวยิง่ กว่า เจ็บยิง่ กว่า เพราะเจ้าจากไปทั้งที่ยงั เข้าใจข้าผิด ซี ยนิ ..ข้ากําลังจะตามเจ้าไป ไม่วา่ เจ้าอยูแ่ ห่งหนใด
ข้าจะพาเจ้ากลับมา ข้าจะชดเชย..ชดเชยให้กบั เจ้า ความผิดของข้า ขอเพียงเจ้ายอมให้อภัย...ซี ยนิ

เขากอดร่ างนางไว้ในอ้อมแขน ซี ยนิ ..แม้นอยูร่ ่ วมกันไม่ได้ ยามตายก็ขอตายร่ วมกัน.. เจิ้งอู่หลับตาลง จิตใจรู ้สึก
สงบเป็ นครั้งแรกนับแต่นางจากไป ไม่วา่ ผูอ้ ื่นจะว่าอย่างไร ร่ างในอ้อมกอดก็คือภรรยาของเขา

เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่รู้ได้ หากเขายังไม่ออกไป หากเขายังไม่ยอมลุกขึ้น มรณกาลย่อมใกล้เข้ามาแล้ว เจิ้งอู่


เพียงหลับตาอย่างสงบ ในห้วงมโนสํานึกกลับมีเสี ยงหนึ่งดังขึ้น คราแรกเขานึกว่าตนเองหูฝาด ในนี้ ไม่มีใคร
จะมีคนมาพูดกับเขาได้อย่างไร แต่แล้วบทสนทนาก็ดงั ขึ้นในหัว

“..กลับไปเสี ยเถิดเจิ้งอู่ ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า เจ้ามีดวงชะตาจักรพรรดิ์ อย่าเอาชีวติ มาทิ้งเช่นนี้เลย”

เขาตอบกลับไป

271
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ไม่ ข้าไม่กลับไป..หากครองแผ่นดินแต่ไม่อาจครองคู่ มิสู้ขอวายชีวา..”

เสี ยงดังกล่าวตอบกลับมา “..แม้เจ้าจะตายตามนางไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้าไม่อาจได้พบนาง นางจากไปไกลเสี ย


แล้ว..”

“ท่านเป็ นใคร บอกข้าได้หรื อไม่ ยามนี้นางอยูท่ ี่ใด ทําอย่างไรข้าจึงจะได้พบนาง” เขาถามด้วยความหวังอัน


ริ บหรี่ แม้ในโลกหลังความตายก็มิอาจได้พบพานหรื อ

เสี ยงนั้นเงียบไปอย่างไม่ตอ้ งการจะเปิ ดเผย เขาจึงกล่าวต่อโดยไม่ลงั เล

“หากท่านคือยมทูต ข้า..เจิ้งอู่ ขอใช้อายุขยั ที่เหลืออยู่ รวมทั้งดวงชะตาจักรพรรดิ์แลกกับทุกสิ่ ง ขอเพียงเอาดวง


วิญญาณนางกลับมา ให้ขา้ ได้แก้ไขในสิ่ งที่ผดิ พลาด”

เขาได้ยนิ เสี ยงหัวเราะแผ่วเบา “..แน่ใจหรื อ นางจะค่อยๆ จําเรื่ องราวระหว่างเจ้าทั้งสองได้ ส่ วนเจ้าจะลืมเลือน


ทุกสิ่ ง เจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าจะไม่ผิดพลาดซํ้าสอง”

“ข้ามัน่ ใจ ความเจ็บปวดนี้ไม่วา่ ภพชาติใด..ข้าไม่อาจลืมเลือน.. ขอเพียงนางจดจําความรักครั้งนั้นได้ แม้มนั จะ


เป็ นความผิดพลาด แต่ขา้ จะขอทําทุกอย่างเพื่อแก้ไข” เขาตอบหนักแน่น

“ได้.. เช่นนั้นข้าจะนําดวงวิญญาณของเจ้าไป”

ยามลมหายใจสุ ดท้ายของเจิ้งอู่สิ้นไป ท่านยมทูตก็ทอดถอนใจ

หากเจ้าผ่านด่านชะตารักครั้งนี้ไปได้ ชาติต่อไปคงไม่มีแล้ว ซี ยนิ เอ๋ ย.. ด่านเคราะห์คราวนี้คงหนักหนาเกินไป


สําหรับเจ้า

เขาทอดตามองสองร่ างที่นอนเบียดกัน ฝ่ ายชายกอดรัดฝ่ ายหญิงไว้อย่างแสนรัก ช่างเป็ นโศกนาฏกรรมที่ชวน


ให้สะเทือนใจเหลือเกิน หวังว่าชาติหน้าเจ้าสองคนคงไม่เป็ นเช่นนี้อีก

272
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ก่อนตื่นขึ้นมา เสวียนเฟิ งมองเห็นภาพของนางในภพใหม่ เป็ นเด็กสาวธรรมดา มีชีวิตที่ปกติสุข มีความฝัน มี
เป้าหมายในชีวติ เป็ นเขาที่ชกั พานางกลับมา ให้นางต้องปวดร้าวใจซํ้าแล้วซํ้าเล่า เขาเห็นแก่ตวั อย่างร้ายกาจที่
พรากนางมาจากชีวิตที่ดีเช่นนั้น ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้แก้ไขอะไรเลยใช่หรื อไม่

………………………...

ข้าไม่รู้วา่ ข้ารอดพ้นจากอาการวิปลาสมาได้อย่างไร ข้าฟื้ นคืนสติข้ ึนมาในที่สุดเมื่อมาถึงเมืองหลวง

..เมื่อได้มาพบแม่..

ยามที่ขา้ หลับใหล ข้าร้องไห้ ข้าได้ยนิ เสี ยงคุน้ หูปลอบโยน เสี ยงนั้นทําให้ขา้ คลายใจ

“อาหลัน.. ร้องไห้ทาํ ไม คนดี..ตื่นขึ้นมาบอกแม่เถิด”

ข้าเปิ ดเปลือกตาขึ้น เห็นดวงหน้าแสนรักของแม่อยูเ่ บื้องหน้า จับจ้องลงมาอย่างเป็ นห่วงเป็ นใย

“แม่..” ข้าเรี ยก เสี ยงแหบพร่ า ข้าไม่ได้เอ่ยวาจามานานจนแทบจะลืมวิธีพดู ไปเสี ยแล้ว

“อาหลัน ยามจากไปชายแดนเป็ นอย่างไรบ้างหรื อ เจ้าซูบไปไม่นอ้ ย กลับมายังเจ็บป่ วยเช่นนี้อีก”

ข้าลุกขึ้นมากอดแม่ไว้ เรี่ ยวแรงยังไม่ฟ้ื นตัว แต่หวั ใจเปี่ ยมไปด้วยความอบอุ่น ความรู ้สึกเจ็บปวดค่อยทุเลาลง


ไปบ้าง

“แม่ อาหลันคิดถึงแม่” เข้าเอ่ยเสี ยงสั่นเครื อ ข้าไม่ตอบแม่ ไม่อยากเล่าให้แม่ฟังว่าเรื่ องราวที่เกิดขึ้นที่ชายแดน


เป็ นอย่างไร ข้าไม่อยากนึ กถึง ไม่อยากจดจํา

“อาหลัน แม่จะไม่ถาม มีอะไรอยากเล่าให้แม่ฟังหรื อไม่” แม่มองตาข้า สายตาเต็มไปด้วยความเข้าใจ แม่รู้ได้


อย่างไร ก็เพราะชีวิตแม่เคยผ่านเหตุการณ์ที่หวั ใจแหลกสลายมาแล้วหลายครั้งอย่างไรเล่า แม่มองเห็นสิ่ ง
เดียวกันนั้นในแววตาข้า ความขมขื่น ความสิ้ นหวัง

273
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“แม่..” ข้านํ้าตารื้ น พยายามจะเอ่ยปาก แต่ไม่มีถอ้ ยคําใดหลุดออกมา ข้าไม่รู้จะเล่าอย่างไร เรื่ องราวช่างซับซ้อน
เหลือเกิน แต่ละเรื่ องล้วนเกี่ยวพันกันอย่างไม่เล่าไม่ได้

“เอาเถิด ใจเย็นๆ ไว้มีเวลา ค่อยๆ เล่าให้แม่ฟังทีละเรื่ องก็ได้ อาหลันกลับมา แม่ดีใจนัก ยามเจ้าไม่อยู่ แม่รู้สึก
เงียบเหงาเหลือเกิน ยังดีมีนางกํานัลตัวน้อยอยูเ่ ป็ นเพื่อนคอยให้คลายเหงา” แม่เอ่ยถึงเด็กหญิงตัวน้อยสองคนที่
เพิ่งรับเข้ามาอยูก่ บั แม่ ชินอ๋ องใส่ ใจยิง่ นัก กลัวว่าหากใช้นางกํานัลผูใ้ หญ่จะทําให้แม่ปรับตัวยากมากกว่าอยูก่ บั
เด็กๆ

“อาหลันเมื่อไหร่ จะมีหลานให้แม่ซกั ที” แม่เอ่ยขึ้นมาอย่างคนไม่รู้ต้ืนลึกหนาบาง

ข้าสัน่ สะท้านขึ้นมาอีก มีลูกกับเขาอย่างนั้นหรื อ ยามนี้แม้แต่หน้าเขาข้ายังไม่อยากมอง จะมีลูกกับเขาได้


อย่างไร ข้ารี บเปลี่ยนเรื่ อง

“ท่านแม่ คืนนี้อาหลันขอค้างที่ตาํ หนักเมฆาล่องกับท่านได้หรื อไม่”

“จะได้อย่างไรเล่าอาหลัน เจ้าเป็ นสตรี ออกเรื อนแล้ว ควรอยูป่ รนนิบตั ิสามีจึงจะถูก” ท่านแม่ดุขา้ แต่ขา้ กอดแม่
ไว้แล้วทําเสี ยงออดอ้อน

“อาหลันจากไปชายแดนเป็ นครึ่ งปี คิดถึงท่านแม่เหลือเกิน ชินอ๋ องไม่วา่ อะไรหรอกเจ้าค่ะ”

“อาหลัน เจ้ากับชินอ๋ องทะเลาะกันใช่หรื อไม่” แม่ถามตรงๆ ข้าได้แต่นิ่งเงียบไป

“ชินอ๋ องเป็ นคนอุม้ เจ้ามาส่ งที่นี่ สี หน้าของเขาไม่สบายใจเลย เขาดูเป็ นห่วงเจ้ามาก อาหลัน มีอะไรก็ค่อยๆ พูด
ค่อยๆ จากันเถอะ” แม่พยายามเกลี้ยกล่อมข้า

เพียงนึ กถึงเขา ข้าก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีก “ท่านแม่อย่าพูดถึงเขาอีกเลย อาหลันไม่พร้อมจะฟัง”

แม่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ยามนั้นนางกํานัลเข้ามารายงานว่าชินอ๋ องเสด็จ ข้ารี บหลบอยูข่ า้ งหลังแม่

เขาก้าวเข้ามาในห้อง ชิงคารวะแม่ก่อนที่แม่จะทันได้ลุกขึ้นคารวะเขา เขาเบือนสายตามาทางข้าอย่างห่วงใย

274
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ มีคนไปบอกข้าว่าเจ้าฟื้ นแล้ว” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงยินดี คราวนี้ขา้ ฟื้ นขึ้นมาอาการปกติ ไม่ได้กรี ดร้องหวน
ไห้อีก เขาคงนึกว่าข้าหายแล้ว ข้าไม่ตอบเขา ซุกใบหน้าลงกับแผ่นหลังแม่อย่างหาที่พกั พิง

“อาหลัน ตอบท่านอ๋ องเสี ยสิ อย่าทําตัวเป็ นเด็ก” แม่เอ็ดข้า

“ข้าไม่อยากพบท่าน อย่ามาให้ขา้ เห็นหน้าอีก” ข้าเอ่ยนํ้าเสี ยงเจ็บปวด

คําตอบของข้าทําให้แม่ตกใจ แต่ชินอ๋ องไม่มีท่าทางประหลาดใจแม้แต่นอ้ ย แววตาของเขาเพียงสลดลง

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าจะมาเยีย่ มเจ้าใหม่” เขาตอบแล้วจากไป ไม่ได้สร้างความลําบากใจให้แก่ขา้ ข้าถอนหายใจอย่างโล่


งอก หากเขาอยูน่ านกว่านี้ ไม่แน่วา่ ข้าอาจจะมีอาการคลุม้ คลัง่ ขึ้นมาอีก

“อาหลัน” แม่เอ่ย “ชินอ๋ องคงทําร้ายความรู ้สึกเจ้ามากสิ นะ”

“ท่านแม่" ข้านํ้าตาคลอ “เขา..เขา หักหลังความเชื่อใจของข้า เขาทําผิดต่อข้ามากมายนัก” ข้าไม่รู้จะเล่าเรื่ อง


ทั้งหมดให้แม่ฟังอย่างไร ทั้งเรื่ องชาติที่แล้วและชาติน้ ีที่เขาหลอกใช้ขา้ ครั้งแล้วครั้งเล่า

“อาหลันคงเคยได้ยนิ แต่คาํ กล่าวที่วา่ สิ บปี ล้างแค้นไม่สาย ใช่หรื อไม่ ชีวติ ต้องชดใช้ดว้ ยชีวติ นี่เป็ นวิธีคิดของ
ชนแผ่นดินใหญ่อย่างพวกเรา” แม่เล่า “แต่มีชนเผ่าอันไกลโพ้นใช้วธิ ีอนั แปลกประหลาดตัดสิ นคดีความ ไม่มี
ศาล ไม่มีผพู ้ ิจารณาคดี มีแต่เจ้าทุกข์ที่จะเป็ นผูเ้ อาผิด ฆาตรกรจะถูกมัดมืดมัดเท้าแล้วปล่อยให้จมในแม่น้ าํ
ครอบครัวของเหยือ่ ที่ถูกสังหารจะยืนดูความตายที่คืบคลานเข้ามา พวกเขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตดั สิ นใจว่าจะช่วย
ฆาตรกรผูน้ ้ นั หรื อไม่ ยามนั้นจิตใจพวกเขาย่อมเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความสู ญเสี ย แต่ในขณะที่อีก
ชีวิตหนึ่งกําลังจะดับสู ญ พวกเขาจะตัดสิ นใจอย่างไร”

"เป็ นข้า ข้าจะปล่อยให้เขาตาย" ข้าตอบนํ้าเสี ยงเคียดแค้น

แม่เล่าต่อเสี ยงเรี ยบเรื่ อย “จะปล่อยให้ตายก็ไม่ถือว่าผิด แต่หากตัดสิ นใจที่จะช่วยแล้ว ครอบครัวของเหยือ่ ถือ


ได้วา่ มอบชีวติ ใหม่ให้กบั คนที่เขาโกรธแค้นชิงชัง ได้ละวางความแค้นในใจ ได้ให้อภัยคนที่ทาํ ผิดต่อพวกเขา
ได้ให้โอกาสคนคนหนึ่งอีกครั้ง นับว่าเป็ นการชําระความที่แปลกพิสดารนัก”

275
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าฟังแม่เล่าอย่างประหลาดใจ ข้าไม่เคยได้ยนิ เรื่ องราวเหล่านี้มาก่อนเลย มีดว้ ยหรื อคนที่จะสามารถอภัยให้กบั
ความผิดร้ายแรงเช่นนั้นได้

“สิ่ งที่พวกเขาทําไม่ใช่แค่การชําระความหรอก เป็ นการชําระล้างจิตใจ ปลดปล่อยครอบครัวของเหยือ่ จาก


ความแค้น เจ้าว่าวิธีน้ ีประหลาดหรื อไม่” ข้าจําได้วา่ แม่บอกข้าเช่นนี้

แต่วธิ ี การนั้นคงใช้ไม่ได้สาํ หรับข้า

แม้วา่ ข้าฟังดู รู ้สึกเข้าทีอยูเ่ หมือนกัน เพียงแต่วา่ ข้าจะจับชินอ๋ องมาถ่วงนํ้าได้อย่างไร ยามนั้นข้าจะรู ้ได้อย่างไร


ว่าข้าต้องการให้เขาตายหรื อปล่อยให้เขารอด หากข้าปล่อยให้เขาตาย ข้าจะรู ้สึกดีข้ ึนหรื อไม่ หากข้าปล่อยให้
เขารอด ข้าจะละวางความแค้นได้จริ งหรื อ

276
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 40 : ชีวติ ลิขติ เอง

ข้าอยูก่ บั แม่ที่ตาํ หนักเมฆาล่อง ไม่ยอมกลับไปที่ตาํ หนักหยางซิ น หมิงจูจึงถูกส่ งตัวมาอยูก่ บั ข้า ชินอ๋ องไม่
ได้มาให้ขา้ เห็นหน้าอีก ข้าจึงค่อยคลายใจ หมิงจูคงจะเข้าใจว่าที่ขา้ เสี ยใจเป็ นเพราะชินอ๋ องแลกตัวข้ากับองค์
ชายทั้งสอง จึงพยายามช่วยพูดจาให้กบั เขาไม่นอ้ ย

“หวางเฟยทราบหรื อไม่เพคะ พอท่านอ๋ องไปช่วยท่านกลับมาสําเร็ จ ก็จดั การชําระความในจวนเสี ยยกใหญ่ หา


ตัวคนที่แพร่ งพรายเรื่ องที่ท่านซ่อนตัวอยูท่ ี่จวนแม่ทพั ”

“อย่างนั้นหรื อ” ข้ารับคําอย่างไม่ใส่ ใจนัก

“ปรากฏว่าเป็ นซู่ถิงเพคะ” หมิงจูเอ่ยนํ้าเสี ยงไม่อยากเชื่อ “คนที่จวนแม่ทพั ล้วนคัดสรรมาเป็ นอย่างดี แต่ละคน


ซื่ อสัตย์จงรักภักดียงิ่ นัก ซู่ถิงเอง บิดาก็เป็ นนายทหารในสังกัดของท่านอ๋ อง การที่นางทําเช่นนี้ ผูค้ นต่างพากัน
ประหลาดใจ”

มุมปากของข้าหยักขึ้น ข้าไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่นอ้ ย สิ่ งที่นางทําไม่ได้ถือว่าหักหลังชินอ๋ องเสี ยหน่อย นาง


ทําไปเพื่อกําจัดศัตรู หวั ใจอย่างข้าต่างหาก ข้าเอ่ยถามต่อไป

“แล้วชินอ๋ องจัดการเรื่ องนี้อย่างไร”

“ชินอ๋ องกริ้ วมากเพคะ การที่เรื่ องนี้หลุดไปถึงหู ฝ่ายตรงข้ามทําให้หวางเฟยตกอยูใ่ นอันตรายใหญ่หลวง จึงให้


นางเลือกระหว่างไปเป็ นคณิ กาของกองทัพหรื อโดนโทษโบยประหาร”

ข้าไม่ตอ้ งถามก็รู้วา่ นางตัดสิ นใจเช่นไร จิตใจของข้าห่อเหี่ ยว ไม่วา่ ทางเลือกใดก็ไม่น่าพิสมัย อย่างน้อยข้าก็


เข้าใจความรู ้สึกของนาง จึงอดสะท้อนใจไม่ได้ หมิงจูเห็นเช่นนั้นจึงรี บเปลี่ยนเรื่ อง

“ท่านอ๋ องเป็ นห่วงท่านมาก ลอบติดตามไปช่วยท่านกลับมาได้ในราตรี น้ นั หมิงจูยงั ร้องไห้ไม่ทนั หยุด ท่านอ๋ อง


ก็พาท่านกลับมาที่จวนเสี ยแล้ว อีกทั้งยามที่ท่าน เอ่อ..ไม่สบาย ท่านอ๋ องก็ดูแลท่านด้วยตัวเองตลอดเวลา หมิงจู
เห็นแล้วยังเป็ นห่วงท่านอ๋ อง เกรงว่าจะเจ็บป่ วยตามไปอีกคน”

277
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“หมิงจู วันนี้ขา้ รู ้สึกอ่อนเพลีย ให้คนเตรี ยมสํารับเย็นไวหน่อยเถิด” ข้าหาข้ออ้างให้นางออกไป ข้าไม่ตอ้ งการ
ได้ยนิ เรื่ องราวของชินอ๋ อง หมิงจูรับคําอย่างกระตือรื อล้นแล้วจากไป ข้าเอนกายบนเก้าอี้คนงาม ครุ่ นคิด
เรื่ องราวอยูเ่ งียบๆ

เจิ้งอู่.. ชาติก่อนข้าตัดใจลืมความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเขา ทว่าชาติน้ ี ข้ากลับผูกผมร่ วมสัมพันธ์ฉนั ผัวเมียกับ


ชินอ๋ อง ตบแต่งเป็ นหวางเฟยของเขา รักเขาจนหมดใจ ความเจ็บปวดในใจข้าไม่อาจบรรยาย ความรู ้สึกทั้งรัก
ทั้งแค้นที่มีต่อคนคนเดียวข้าจะแยกแยะได้อย่างไร ชาติก่อนเจิ้งอู่ทรยศความเชื่อใจของข้า ทอดทิ้งข้าไปอย่าง
เลือดเย็นที่สุด ชาติน้ ี ชินอ๋ องเห็นข้าเป็ นเพียงเครื่ องมือ ยามที่เขามอบข้าให้เว่ยหงอิ่น เขารู ้อยูแ่ ล้วว่าข้าใจสลาย
แต่กลับไม่บอกข้าสักคํา ปล่อยให้ขา้ เศร้าเสี ยใจที่คิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว เขาใช้ประโยชน์จากความจริ งใจ
ของข้าเพื่อลวงศัตรู หัวใจข้าไม่อาจทนรับความสะเทือนใจเช่นนี้ ได้อีกแล้ว หากข้ายังอยูก่ บั เขา เรื่ องราวเช่นนี้
จะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง

พอได้คิด ข้าก็ตระหนักว่าข้าไม่อาจใช้ความตายหลีกหนีปัญหาได้อีกต่อไป การมีชีวิตอยูอ่ ย่างสง่างามต่างหาก


เล่าคือคําตอบ ชาติที่แล้วข้าไม่รู้วา่ หลังจากข้าตายไปแล้ว เจิ้งอู่ได้ครองราชนานเพียงใด ราชบัลลังค์ของเขา
มัน่ คงหรื อไม่ ลวีอ่ ี่เล่า ตําแหน่งฮองเฮาคงไม่แคล้วเป็ นของนาง คนอื่นล้วนได้เสวยสุ ขบนความทุกข์ของข้ากัน
ถ้วนหน้า มีขา้ เพียงคนเดียวที่พา่ ยแพ้ ไม่..ครอบครัวของข้าอีกเล่า ท่านพ่อ ท่านแม่ ซี หลาง พวกเขาผิดอะไร
เหตุใดจึงต้องสู ญเสี ยซี ยนิ ไปก่อนวัยอันควร แล้วข้า..อาหลันลูกรักของแม่ หากข้าตายไป คนที่จะทุกข์ใจก็มีแต่
แม่ ข้าจะทอดทิ้งแม่ไปได้อย่างไร ข้าจะไม่ยอมเป็ นคนที่พา่ ยแพ้อีก ที่ผา่ นมาข้าผิดต่อคนที่รักข้าด้วยใจจริ ง
กลับเลือกสังเวยชีวิตให้กบั ความรักที่ไม่มีอยูจ่ ริ ง ให้กบั คนที่ไม่คู่ควร ข้าช่างทําผิดต่อตนเองและครอบครัวเสี ย
เหลือเกิน

ยามนี้ขา้ ตระหนักแล้ว ความตายไม่ใช่ทางออก ไม่อาจปลดปล่อยข้าจากบ่วงรักอันยุง่ เหยิง ไม่อาจเปลี่ยนแปลง


ชะตาชีวิตของข้าได้ แม้ชาติที่แล้วข้าจะพลีชีพสังเวยความรัก ชาติน้ ีขา้ ก็ยงั คงหวนมาอยูใ่ นจุดเดิมอีก ในเมื่อฟ้า
ส่ งข้ามาเผชิญชะตาแบบเดิมอีกครั้ง คราวนี้ขา้ จะขอเลือกทางเดินเอง ทว่าในยุคสมัยนี้ ข้อจํากัดช่างมีมากมาย
เหลือเกิน

ข้าเผลอหลับไปเมื่อใดก็ไม่อาจรู ้ได้ รู ้สึกตัวเมื่อมีบางอย่างสัมผัสที่ริมฝี ปาก ข้าลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าของชิน


อ๋ องชะโงกอยูเ่ หนือร่ างข้า จับจ้องข้าด้วยสายตาลึกซึ้ ง

“อวี้เอ๋ อร์ ” นํ้าเสี ยงของเขาอบอ่◌ุนอ่อนโยน

278
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อย่า..” ข้าเบือนหน้าหนี แววตารวดร้าว ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขา ข้ายังไม่พร้อม แต่ขา้ ไม่อาจหนีได้ ยามนี้ขา้ ถูก
ขังอยูใ่ นวงแขนเขาที่เท้าลงมาบนเก้าอี้

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน หายโกรธข้าแล้วหรื อไม่ กลับไปอยูด่ ว้ ยกันที่ตาํ หนักหยางซิ นเถิด” เขางอนง้อ
อ่อนหวาน

“ไม่!” นํ้าเสี ยงของข้าแข็งขึ้นมาในทันใด ข้าไม่ตอ้ งการกลับไปเป็ นอย่างเดิม ข้าไม่ตอ้ งการเป็ นสตรี ที่งมงายใน
รักคนนั้นอีกแล้ว

“ข้ารักเจ้าเสมอมา ไม่วา่ ชาติน้ ีหรื อชาติที่แล้ว” เขาเอ่ยเสี ยงนุ่ม ไม่สนใจท่าทีแข็งกร้าวของข้า

ข้ายกมือขึ้นปิ ดหู “ข้าไม่ตอ้ งการฟังเรื่ องนั้น ออกไป! ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน!”

ชินอ๋ องอุม้ ร่ างข้าขึ้นจากเก้าอี้คนงามมากอดไว้แนบอก “ข้ารักเจ้า ข้าไม่เคยหักหลังเจ้า ทุกอย่างเป็ นความเข้าใจ


ผิด” เขาเอ่ย “เจิ้งอู่ตายตามเจ้าไป..ซี ยนิ ส่ วนข้า..ข้าไม่เคยคิดจะหลอกใช้เจ้า..อวี้เอ๋ อร์ ข้าขอโทษที่ทาํ ให้เจ้า
เสี ยใจ เป็ นข้าที่ผิดเอง แต่สถานการณ์เช่นนั้น ข้าจําเป็ นต้องตัดสิ นใจในเวลาที่จาํ กัด อวี้เอ๋ อร์ ..ได้โปรด อภัยให้
ข้า ให้โอกาสข้าอีกครั้ง ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย ข้าจะไม่ปล่อยมือจากเจ้าอีก”

ข้าไม่ได้สนใจฟังเขา ได้แต่สวนกลับไป “หากต้องการให้ขา้ อภัย ก็อย่ามาให้ขา้ เห็นหน้าอีก ให้ขา้ ได้ใช้ชีวติ ที่


เหลืออย่างสงบ ไม่ตอ้ งยุง่ เกี่ยวกันอีก ได้หรื อไม่!”

“อวี้เอ๋ อร์..หากเจ้าต้องการเวลา ข้ามอบให้เจ้าได้ นานเท่าใดก็จะรอ แต่ได้โปรดอย่าจากข้าไป ข้ายินดีทาํ ทุก


อย่างให้เจ้าหายโกรธ ขอเพียงเจ้าอภัยให้ขา้ กลับมาอยูเ่ คียงข้างข้าดังเดิม”

“ปล่อยข้า! ท่านกลับไปเถิด เราต่างคนต่างอยูด่ ีที่สุดแล้ว” ข้าบอกกับเขาเสี ยงเย็นชา

ข้าพิจารณาทางออกไว้หลายทาง ข้าไม่อาจอยูร่ ่ วมกับชินอ๋ องได้ สิ่ งที่เขาทํากับข้าหนักหนาสาหัสเกินไป แม้ไม่


รู ้วา่ ชะตากรรมเบื้องหน้าจะมีอะไรรออยู่ แต่ขา้ ก็ขอเป็ นอิสระจากเขา ไม่ตอ้ งข้องเกี่ยวกันอีก ข้านึกถึงแม่ หาก

279
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แม่รู้วา่ ข้าตัดสิ นใจอย่างไร แม่ยอ่ มไม่ขดั ข้อง ข้าจะขอก้าวออกจากกรงทองแห่ งนี้ ไปเริ่ มต้นชีวติ ใหม่กบั แม่
สองคนดังที่ขา้ เคยให้สัญญากับแม่ไว้เมื่อยังเด็ก

คืนนั้นข้าบอกแม่วา่ ข้าตัดสิ นใจอย่างไร แม่เพียงนิ่งฟังเงียบๆ ข้าไม่รู้วา่ แม่เห็นด้วยหรื อไม่ ทว่าแม่กล่าวเพียงว่า


ไม่วา่ ข้าอยูท่ ี่ไหน แม่กจ็ ะติดตามไปด้วย ข้ามองแม่อย่างซาบซึ้ งใจ ในใจก็อดรู ้สึกผิดไม่ได้ ..แม่อยูใ่ นรั้ววัง
อย่างสุ ขสบาย ไม่รู้วา่ ข้าจะพาแม่ไปลําบากหรื อไม่ แต่..ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เราสองคนแม่ลูกช่วยกัน
เก็บข้าวของ ข้าเลือกแต่ของใช้ส่วนตัว ข้าวของฟุ่ มเฟื อยอื่นๆ ล้วนทิ้งไว้เบื้องหลัง กระนั้นข้าก็ไม่อาจหยิง่ ยะโส
ได้มากนัก จําต้องติดเงินเบี้ยหวัดที่ขา้ ได้รับในแต่ละเดือนมาด้วย เงินนั้นมีจาํ นวนไม่นอ้ ย หากไม่มีเงินก้อนนี้
ข้ารู ้วา่ เราสองแม่ลูกคงไม่อาจอยูร่ อดได้เกินหนึ่ งเดือน ข้าวางแผนจะออกจากเมืองหลวง หนีไปในที่ที่เขาไม่
อาจติดตามข้าไปได้อีก พอฟ้าสว่าง ข้าและแม่ถือห่อผ้าตรงไปยังประตูวงั คนเฝ้าประตูเห็นก็คาํ นับ
ก่อนเอ่ยถามอย่างนอบน้อม “หวางเฟยและพระสัสสุ จะให้กระหม่อมไปจัดเตรี ยมรถม้าให้หรื อไม่” ข้าส่ ายหน้า
“เพียงเปิ ดประตูให้กพ็ อแล้ว ข้าและพระสัสสุ จะไปเพียงใกล้ๆ ไม่ตอ้ งให้คนติดตามไป” เขามีท่าทีลงั เล แต่
สุ ดท้ายก็ยอมเปิ ดประตูให้ สถานะของข้าในวังเสิ่ นหยางกงเป็ นอย่างไร เขาย่อมไม่กล้าขัด ข้ารี บจูงแม่ออกจาก
ประตู เดินไปตามถนนเลียบกําแพงวัง หวังว่าข้างหน้าจะมีรถม้าผ่านมาให้เรี ยก ยามนี้ขา้ เพิ่งได้รู้วา่ วังเสิ่ นหยา
งกงยิง่ ใหญ่เพียงใด ข้าเดินเสี ยจนเหนื่อยก็ยงั ไม่สุดแนวรั้ว เสี ยงรถม้าวิ่งมาจากด้านหลัง ข้าและแม่กม้ หน้าก้ม
ตาเดินพยายามไม่หนั ไปมองให้เกิดพิรุธ ทว่ารถม้าคันนั้นกลับจอดเบื้องหน้าเราทั้งสอง ข้าหันหลังกลับ แต่แล้ว
ร่ างของคนที่ขา้ ไม่อยากเจอก็ขวางอยูต่ รงหน้า คนเฝ้าประตูคงให้คนไปรายงานเขา ช่างว่องไวกันยิง่ นัก
“อวี้เอ๋ อร์ กลับไปกับเปิ่ นหวางเถิด” ชินอ๋ องเอ่ยอย่างเว้าวอน สายตาที่มองข้าเศร้าสร้อยนัก “หลีกทาง
ไป ท่านกับข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” ข้าเอ่ยเสี ยงเย็นชา แต่เขาดูไม่ฟังสักนิด กลับสาวเท้าเข้ามาหาข้า
เพียงพริ บตาชินอ๋ องก็ตวัดอุม้ ข้าไว้ในอ้อมแขน พลางหันไปพูดกับแม่ “ท่านแม่ เชิญขึ้นรถม้ากลับวังเถิด” รถ
ม้าวิ่งจากไปไกลแล้ว ข้ายังคงกรี ดร้องดิ้นรนให้เขาปล่อย ทว่าเขากลับกอดข้าไว้แน่นแล้วพาเดินด้วยฝี เท้ามัน่ คง
เขาก้มลงมากระซิ บกับข้า “ต่อให้ตอ้ งโดนเจ้าเกลียด เปิ่ นหวางก็ไม่มีทางยอมเสี ยเจ้าไป”

ข้าจ้องมองเขาด้วยสายตาวาววับ "ได้! เช่นนั้นเราก็อยูก่ นั ไปแบบนี้เถอะ!"

เพียงไม่กี่วนั ที่ขา้ ฟื้ นคืนสติข้ ึนมา ฮ่องเต้กม็ ีพระราชโองการปูนบําเหน็จให้แก่ขา้ ชินหวางเฟยผูง้ ดงาม เปี่ ยม
ด้วยสติปัญญา คุณธรรมและจริ ยธรรม ใช้กลอุบายลวงข้าศึกแคว้นเว่ยจนได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
พระราชทานรางวัลมากมาย รวมถึงราชทินนาม ซี ให้แก่ขา้

ข้ายิม้ เยาะ “ซี ” ที่แปลว่าสวยงามงดงามอย่างนั้นหรื อ นี่คงเป็ นความคิดชินอ๋ องกระมัง ยามนี้ เขาเพิง่ คิดจะมาเชิด
ชูขา้ และซี ยนิ อย่างนั้นหรื อ ข้าไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดเดียว ลาภยศชื่อเสี ยงจอมปลอมที่เขาหามาประเคนให้ขา้

280
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่ตอ้ งการ แต่ก่อนล้วนเป็ นเขาที่ลากข้าลงนํ้าครํา ยามนี้คิดจะจับข้าใส่ ตะกร้าล้างนํ้าให้ผดุ ผ่องดังเดิมหรื อ
แม้ผคู ้ นจะรู ้วา่ ที่ผา่ นมาชื่อเสี ยงเน่าเหม็นของข้าล้วนเป็ นกลลวงศัตรู แล้วอย่างไรเล่า ชีวิตของข้ามีความสุ ขขึ้น
หรื อ ไม่.. ไม่วา่ ข้าจะดีหรื อเลวในสายตาคนอื่นล้วนไม่ต่างกัน ข้าเป็ นเพียงหมากในกํามือของเขา

ข้าเรี ยกหาพ่อบ้านฉี “มีเทียบเชิญไปงานเลี้ยงบ้างหรื อไม่”

สี หน้าของพ่อบ้านฉี สว่างไสวขึ้นมาทันที เขาคงคิดว่าข้ากลับมาเป็ นปกติแล้วกระมัง

“มีพะย่ะค่ะ ฮ่องเต้จะจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้กบั เหล่าขุนนางบุ๋นและบู๊ที่สร้างความดีความชอบในสงคราม


คราแรกท่านอ๋ องเห็นว่าท่านยังอาการไม่ใคร่ ดี จึงไม่คิดว่าท่านจะไปด้วย หากท่านอ๋ องรู ้วา่ หวางเฟยจะไป
ร่ วมงานด้วย ต้องดีพระทัยมากพะย่ะค่ะ”

“ดี ข้าจะไปร่ วมงาน” ข้าบอกเขายิม้ ๆ ข้าจะมัวเป็ นฝ่ ายตั้งรับเฉยๆ ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเป็ นฝ่ ายเพลี่ยงพลํ้าเสี ย
เอง ในเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยข้าไป ก็อย่าหาว่าข้าร้ายกาจ

ข้ารู ้ดีวา่ ข้าไม่อาจหลบหน้าชินอ๋ องไปได้ตลอด การเผชิญหน้าต่างหากที่จะช่วยให้ขา้ รู ้วา่ จะก้าวต่อไปอย่างไร


ข้าต้องเข้มแข็ง ข้าปลุกปลอบใจตัวเอง ..วางความเศร้าโศกลงเสี ยเถิด ลดความคาดหวังที่มีต่อผูอ้ ื่นลงเสี ยบ้าง
ไม่คาดหวังย่อมไม่ผดิ หวัง นอกจากตัวข้าเองแล้ว ข้าจะตั้งความหวังกับผูใ้ ดได้เล่า

พอถึงวันงาน ข้าจัดแจงเลือกชุดด้วยตนเอง พอนางกํานัลช่วยแต่งตัวทําผมเรี ยบร้อยแล้ว ข้าให้พวกนางออกไป


แล้วลงมือประทินโฉมด้วยตนเอง

..ข้าไม่ตอ้ งการเป็ นชินหวางเฟยที่เป็ นเพียงตุก๊ ตาอีกแล้ว..

ชีวิตของข้า ข้าจะลิขิตเอง

ข้าไม่ได้ทาแป้ง เพียงปล่อยให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเป็ นธรรมชาติ ผิวของข้าอิ่มเอิบชุ่มนํ้า เป็ นสี ขาวอมชมพู ข้า


แต้มผงทองที่เปลือกตา เขียนคิ้วเขียนตาอย่างบรรจง วาดขอบตาตวัดหางจนดวงตาคู่งามคมเฉี่ ยวดังตาหงส์ ข้า
แต้มชาดที่ปากแล้วมองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ

281
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่ใช่สตรี หน้าขาวที่เป็ นเพียงตุก๊ ตาของผูอ้ ื่น.. ข้าก็คือข้า อยากให้ผคู ้ นมองข้าอย่างไรก็เป็ นสิ ทธิ์ ของข้า ข้าจะ
ตัดสิ นใจด้วยตัวเอง

ยามที่ขา้ เดินไปที่ตาํ หนักหยางซิ นเพื่อขึ้นรถม้า ชินอ๋ องยืนรอข้าอยูแ่ ล้ว เขาจับจ้องข้าอย่างตื่นตะลึง ข้าสวมชุด


แดง ทาปากแดง ดูร้อนแรงยิง่ นัก ทําไมหรื อ..ข้าจะสวมชุดแดงเข้าวังหลวงแล้วเป็ นอย่างไร นี่ไม่ใช่โอกาสอัน
เป็ นมงคลที่จดั ขึ้นเพื่อฉลองให้กบั ผูท้ ี่มีส่วนร่ วมในสงครามหรอกหรื อ ไม่ใช่ขา้ หรื อที่ตอ้ งสู ญเสี ยอะไรไป
มากมายเพื่อชัยชนะของพวกท่าน ข้าสวมชุดแดงย่อมเหมาะสมแก่กาลเทศะอันเป็ นมงคล มีอะไรไม่เหมาะสม
กัน

“อวี้เอ๋ อร์ .. เจ้าสวมชุดแดงเช่นนี้ ดูโดดเด่นเกินไป เปลี่ยนเป็ นสี อื่นดีหรื อไม่” เขาเอ่ยอย่างลังเล

“เช่นนั้นข้าไม่ไป” ข้าตอบ ทําท่าจะให้หมิงจูประคองกลับ

“เอาเถิด เจ้าสวมชุดแดงก็ดูงดงามดี เพียงแต่ขา้ ไม่อยากให้ผอู ้ ื่นได้เห็นก็เท่านั้น” เขาเอ่ยแล้วเข้ามาประคองข้า


ขึ้นรถ

ถูกต้อง ข้าจงใจแต่งกายให้งดงาม งามมากจนเขาต้องนึกเสี ยดาย แต่ขา้ ไม่มีทางให้เขาได้เชยชมร่ างกายนี้อีก


ต่อไป ข้าจะปล่อยให้เขาทรมาน หากเขาอยากมีชายารองหรื ออนุกต็ ามใจเถิด นัน่ เป็ นสิ่ งที่ขา้ ปรารถนาอยูแ่ ล้ว
ข้าไม่สนใจสักนิด การมีอยูข่ องข้าเพียงเพื่อเป็ นเสี้ ยนหนามตําใจแต่ไม่อาจถอนออกได้ ข้าจะเลิกสนใจเรื่ องของ
เขา เพียงใช้ชีวิตของข้าอย่างมีความสุ ข

ตลอดทาง ข้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่สนใจเขาแม้แต่นอ้ ย ชินอ๋ องเอื้อมมือมากุมมือข้าไว้ ข้าดึงมือออก เอ่ย


โดยไม่หนั ไปมองหน้าเขาสักนิด

“หากแตะต้องตัวข้า ข้าจะไม่ไปไหนกับท่านอีก”

เขาชักมือกลับไป

“อวี้เอ๋ อร์ อย่าเมินเฉยกับข้าเช่นนี้เลย ข้าเห็นแล้วปวดใจนัก”

282
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าเพียงปรายตามองเขา “อย่าใส่ ใจข้า ปล่อยให้ขา้ อยูต่ ามลําพัง ไม่เช่นนั้น วังเสิ่ นกงหยางของท่าน ข้าก็ไม่ขอ
อยู่ ข้ายอมถวายตัวเป็ นพระสนม” ข้าขู่เขา

“อย่า.. อวี้เอ๋ อร์ อยูก่ บั ข้า เจ้าต้องอยูข่ า้ งกายข้า.. ได้.. ข้าไม่ขดั ใจเจ้า ขอเพียงเจ้าอยูก่ บั ข้า”

ข้าหันกลับไปมองนอกหน้าต่าง ยกมุมปากอย่างพึงพอใจ ชัยชนะเล็กๆ ของข้า ได้เห็นเขาถอยไปก้าวหนึ่งแล้ว..

ชินอ๋ องประคองข้าเข้าไปในงาน คราวนี้ขา้ รู ้สึกเป็ นอิสระอย่างแท้จริ ง ข้าไม่สนใจสายตาผูค้ นรอบข้าง ใครจะ


มองข้าอย่างไรล้วนไม่สาํ คัญ ต่อให้ขา้ ทําตัวดีแค่ไหน พวกเขาก็มองว่าข้าเลว ข้าไม่ได้มีชีวติ เพื่อคนเหล่านี้ ข้ามี
ชีวิตเพื่อตัวเองและแม่ ผูค้ นจับจ้องข้าและชินอ๋ องที่เดินเคียงคู่กนั เขา..บุรุษที่ใต้หล้ายกย่อง เทพสงครามที่คน
ทัว่ แคว้นต่างเชิดชู ส่ วนข้าสตรี งดงามยัว่ ยวนที่ผคู ้ นต่างประนามหยามเหยียด นางปี ศาจจิ้งจอกที่ปั่นหัวบุรุษผู ้
กุมอํานาจ ทั้งฮ่องเต้ท้ งั ชินอ๋ องต่างตกอยูใ่ ต้มนต์เสน่ห์ของข้า เหมาะสมกันดีหรื อไม่เล่า ข้าเหยียดยิม้ น้อยๆ
สายตาข้าประดุจมีแม่เหล็ก สะกดให้ผใู ้ ดก็ตามที่จดจ้องต้องตกอยูใ่ ต้ภวังค์อย่างไม่อาจถอนสายตา ชินอ๋ องสี
หน้านิ่ ง มือที่ประคองต้นแขนข้ากดแรงขึ้นเล็กน้อยแทบไม่สังเกต หึ งหวงข้าหรื อ.. ท่านไม่มีสิทธิ์..

ยามฮ่องเต้เสด็จมา คนทั้งท้องพระโรงต่างถวายบังคม ข้าลอบชําเลืองมองเขา จากกันไปหลายเดือน ฮ่องเต้ดู


กํายําขึ้น โครงหน้าเด่นชัดขึ้น จากหนุ่มน้อยเขากลายเป็ นหนุ่มฉกรรจ์แล้ว เมื่อรู ้วา่ ชินอ๋ องพาข้ามาร่ วมงาน เขา
หันมามองข้านัยน์ตาระยับ

..โกรธข้าหรื อไม่ คราวก่อนข้าจากไป ทิ้งเขาให้รับหน้าปั ญหาเพียงลําพัง แต่เขาเองไม่ใช่หรื อที่ทาํ ให้ขา้ ลําบาก


ใจ.. สายตาเราสบกันราวกับจะสื่ อสารเช่นนี้ สายตาของเขาไม่ได้ตดั พ้อข้า ข้ามองเห็นแต่ความรักความโหยหา
ฉายชัดอยูใ่ นนั้น เราต่างไม่ได้สนใจสายตาผูค้ นรอบข้าง ข้าไม่ได้หลบตาเขาเช่นเคย.. ข้าไม่เห็นฮองเฮาอยูใ่ น
สายตาด้วยซํ้า

“การศึกคราวนี้ หากไม่ได้ชินหวางเฟย แคว้นเยีย่ คงลําบากแล้ว” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้นหลังจากตรัสชื่นชมเหล่าขุนนาง


เป็ นรายบุคคล “ด้วยเหตุน้ ี เราจึงพระราชทานราชทินนาม ซี เพื่อเป็ นเกียรติแก่หวางเฟย ที่ผา่ นมาต้องลําบาก
หวางเฟยแล้ว”

283
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าเพียงยิม้ น้อยๆ ในสี หน้า “ขอบพระทัยฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันมิได้ลาํ บากอะไรเลย เหล่าขุนนางทั้งหลายที่
ร่ วมวางแผนและออกไปสู ้ศึกต่างหากเล่าเพคะที่สมควรได้รับคําชมเชย” ข้ากล่าวตอบ ในใจของข้านึกเย้ยหยัน
แต่ทาํ ทีเป็ นช้อนสายตามองเขาอย่างซาบซึ้ ง เขาก็ไม่ต่างกับเสด็จอา รักข้า..แต่กห็ ลอกใช้ขา้

ต่อให้พวกเขาพยายามประเคนเกียรติยศชื่อเสี ยงมาให้ขา้ สักเท่าไหร่ ข้าจะทําลายเสี ยให้หมด หึ ..ชินหวางเฟยสู ง


ส่ งด้วยคุณธรรมจริ ยธรรมอย่างนั้นหรื อ เป็ นเพียงลมปากของพวกท่านเท่านั้น ข้ายอมใช้ชื่อเสี ยงตัวเองตบหน้า
พวกท่าน พวกท่านต่างหากที่ชื่อเสี ยงเกียรติยศล้วนสําคัญ ไม่ใช่ขา้ ข้าไม่สนชื่อเสี ยงจอมปลอม ข้าขอเพียงกิน
อิ่มนอนหลับ ใช้ชีวิตสุ ขสบายในวังเสิ่ นหยางกง โลกภายนอกจะเป็ นอย่างไร พวกท่านไปสะสางกันเอาเองเถิด
ชอบกันนักไม่ใช่หรื อเรื่ องกลข่าวลือ

ข้าคิดจะใช้ฮ่องเต้เป็ นเครื่ องมือทรมานชินอ๋ อง พวกเขาล้วนเห็นข้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ ง หากบัดนี้


สถานการณ์จะกลับกันก็ไม่เห็นจะแปลก พวกเขาจะรู ้ตวั หรื อไม่ ข้าไม่สน รู ้แต่วา่ หากพลาดพลั้งตกลงมาใน
บ่วงที่ขา้ วางไว้ ล้วนเป็ นความผิดของพวกเขาเอง ดังเช่นที่ขา้ เคยบอกเว่ยหงอิ่น หัวใจของผูใ้ ด ไม่รู้จกั ระวัง
รักษาไว้เอง จะโทษผูอ้ ื่นได้อย่างไร

..ข้าเปลี่ยนไปแล้ว ข้าไม่มีความเมตตาปรานีให้แก่ผใู ้ ด ทําตัวเป็ นแม่พระแล้วอย่างไรเล่า เสี ยสละตัวเองแล้ว


อย่างไรเล่า สุ ดท้ายมีเพียงความชอกชํ้า ข้าไม่ได้ทาํ ร้ายผูใ้ ด พวกเขาล้วนแล้วแต่กา้ วเข้ามาเอง มอบหัวใจไว้ใน
มือข้าเอง ข้าจะบดขยี้ตามใจชอบอย่างไรก็ไม่ผดิ ดังเรื่ องเล่าที่แม่เล่าให้ขา้ ฟัง หากเป็ นข้า.. ข้าจะปล่อยให้พวก
เขาตาย..

284
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 41 : เราต่ างงมงายในรัก

ระหว่างที่อยูใ่ นงานเลี้ยง ข้ากวาดสายตาหาใต้เท้าจาง แต่มองไม่เห็นเขา ชินอ๋ องเห็นกิริยาข้าก็กระซิ บข้างหู

“ตระกูลจางถูกประหารเก้าชัว่ โคตร”

ลมหายใจของข้าสะดุด ข้าแค้นเขา แต่นึกไม่ถึงว่าจุดจบของตระกูลจางอันยิง่ ใหญ่จะกะทันหันเช่นนี้ ก่อนหน้า


นี้ฮ่องเต้ยงั ไม่อาจหาทางเอาผิดเขาได้เลยมิใช่หรื อ

“จางอี้หมิงหลบหนีไปได้ เขาเพียงหอบบุตรชายคนโตหนีไปด้วย บุตรี ภรรยา ญาติพี่นอ้ งคนอื่นๆ ที่เหลือราว


แปดร้อยชีวิต ล้วนปล่อยให้ถูกประหารทั้งตระกูล เครื อข่ายใต้ดินของเขามีไม่นอ้ ย ไม่อาจกวาดล้างให้หมดได้
ในคราวเดียว จนบัดนี้กย็ งั หาตัวไม่พบ” ชินอ๋ องกล่าวต่อ

ช่างสมกับเป็ นใต้เท้าจางเสี ยจริ ง ไร้น้ าํ ใจแม้กระทัง่ กับครอบครัวตัวเอง บัดนี้ขา้ รู ้สึกว่าสิ่ งที่เขาทํากับข้ายังเทียบ


ไม่ได้กบั สิ่ งที่เขาทํากับคนในครอบครัว เขานําพาหายนะมาสู่ ตระกูล พอเกิดเรื่ องก็สละเรื อ หนีเอาชีวติ รอดโดย
ไม่สนความเป็ นความตายของใคร

“แล้วไทเฮาเล่าเพคะ” ข้าถามชินอ๋ อง ความสนใจในเรื่ องที่ได้ยนิ ทําให้ขา้ ลืมความโกรธ หันมาคุยกับเขาเป็ น


ปกติ

“สุ ราพิษ” ชินอ๋ องตอบสั้นๆ

ข้านิ่วหน้า “แต่พระนางแต่งออกมาแล้ว ไม่นบั เป็ นคนตระกูลจางแล้วมิใช่หรื อเพคะ เหตุใด..”

“คนที่ใต้เท้าจางให้ตระกูลหวังส่ งเข้ามา ได้รับคําสั่งจากพระนางให้ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้และโอรสของ


เซี ยวเต๋ อเฟย”

ข้าตกใจ ไทเฮาช่างขวัญกล้านัก ลงมือกระทําเรื่ องร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร ตระกูลจางคงอับจนหนทางแล้ว


กระมังจึงตัดสิ นใจทําอะไรบ้าบิ่นเช่นนี้

285
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“คนที่ใต้เท้าจางส่ งมาเป็ นยอดฝี มือหรื ออย่างไรเพคะ ถึงขั้นหมายเอาชีวติ ฮ่องเต้ ใช่วา่ จะกระทําได้ง่ายๆ เสี ยที่
ไหน” ข้าถามอย่างสงสัย ไหนจะโอรสของเซี ยวเต๋ อเฟย บุคคลสําคัญระดับนี้การอารักขาย่อมแน่นหนาเป็ น
พิเศษ มีหรื อจะเปิ ดโอกาสให้กระทําการสําเร็ จได้โดยง่าย

“พวกเขาหมายให้นางฉาบทายาพิษไว้ตามร่ างกายยามถวายงาน หากฮ่องเต้เสด็จไปร่ วมบรรทมย่อมได้รับพิษ


ส่ วนโอรสของเซี ยวเต๋ อเฟย ไทเฮาส่ งคนไปวางยาพิษในอาหาร แล้วหมายป้ายความผิดให้นางในคราเดียว” ชิน
อ๋ องยิม้ “แต่บงั เอิญว่าสตรี ผนู ้ ้ นั มีความแค้นกับตระกูลจางมาก่อน จึงใช้โอกาสนี้ สะสาง ทั้งเปิ ดโปงแผนการ
และหาหลักฐานมัดตัวเสี ยดิ้นไม่หลุด นางก็คือพระสนมคนใหม่ที่นงั่ อยูน่ นั่ ไงเล่า เจ้าคงคุน้ เคยกับนางมาก่อน
กระมัง” ชินอ๋ องกวาดสายตาไปยังที่นงั่ ซึ่ งเยื้องลงมาจากสนมขั้นเฟย ข้าเห็นร่ างหญิงสาวคุน้ ตา

..อาหนิง.. เด็กหญิงผูร้ ่ วมชะตากรรมกับข้าที่จวนใต้เท้าจาง เป็ นนางจริ งๆ ด้วย นางนอนร่ วมห้องกับข้าตั้งแต่ยงั


เยาว์ ที่แท้หลังจากใต้เท้าจางรู ้วา่ ข้าหักหลัง ก็หนั ไปช่วงใช้นางเป็ นหมากตัวต่อไป นางถูกส่ งตัวไปให้ตระกูล
หวังเพื่อแอบอ้างว่าเป็ นบุตรสาวคนเล็กแล้วส่ งเข้าวัง

“ไม่เพียงเรื่ องลอบปลงพระชนม์ พระสนมผูน้ ้ ียงั อาศัยช่วงที่พาํ นักอยูจ่ วนตระกูลหวัง ค้นหาหลักฐานมัดตัวใต้


เท้าจางในคดีต่างๆ มากมาย ในจํานวนนั้นมีคดีสังหารล้างตระกูลมู่ซ่ ึ งเป็ นสกุลเดิมของนาง ตระกูลหวังเอง ยาม
ติดต่อกับตระกูลจางก็เก็บหลักฐานไว้เป็ นหลักประกันว่าอีกฝ่ ายจะไม่หกั หลัง เห็นได้ชดั ว่าพวกเขาเองแม้
ร่ วมมือกัน แต่กไ็ ม่อาจวางใจกันและกันได้เต็มที่ หลักฐานที่พระสนมผูน้ ้ ีหาเจอ นางล้วนแอบนําติดตัวเข้าวัง
หลวงไปด้วยและมอบให้ฮ่องเต้กบั มือ”

ข้าอดรู ้สึกชื่นชมนางไม่ได้ ..อาหนิงยอมเสี่ ยงตาย ลอบค้นบ้านสกุลหวัง ล้างแค้นได้อย่างหมดจดงดงาม นางไม่


เพียงชําระแค้นส่ วนตัว ยังสามารถสร้างความดีความชอบใหญ่หลวงแก่แผ่นดิน สามารถล้วงข้อมูลที่สายลับ
และหน่วยข่าวกรองไม่อาจเข้าถึง ช่างเป็ นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่กล้าหาญเสี ยจริ ง นางเบือนสายตามาทางข้าพอดี
เราสองคนจับจ้องกันนิ่งอยู่ ในดวงตานางมีแววจดจําข้าได้ ข้าและนางต่างแอบยิม้ ให้กนั อย่างยินดี

ที่แท้ฮ่องเต้มีไพ่ตายอยูใ่ นมือ แต่ไม่ยอมเผยออกมาสักนิด ได้แต่ปล่อยให้ใต้เท้าจางวิง่ เต้นเสี ยจนหมดแรงไป


เองเสี ยก่อน ข้าจําได้ ตระกูลหวังส่ งนางเข้าวังตั้งแต่ก่อนสงครามจะสิ้ นสุ ด ตั้งแต่ตอนนั้นฮ่องเต้ยงั คงนิ่งเฉยไม่
กระโตกกระตากอันใด รอจนใต้เท้าจางพ่นพิษออกมาจนหมดแล้วค่อยจัดการทีเดียว ใต้เท้าจางช่างสมกับคําว่า
หมองูตายเพราะงู เขาหมายมัน่ ปั้ นมือว่าแผนสาวงามจะทําให้เขาได้เปรี ยบ แต่ทา้ ยที่สุดแล้วกลับเป็ นจุดอ่อนจุด
ตาย ล้วนเป็ นข้าและอาหนิงที่นาํ พาตระกูลจางมาถึงจุดจบ

286
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ารู ้สึกสบายใจ ได้เห็นอาหนิงมีความสุ ขดีกร็ ู ้สึกยินดีไปกับนางด้วย อย่างน้อยนางก็ไม่ตอ้ งตกเป็ นอนุในบ้าน
ขุนนาง นางงดงามและเฉลียวฉลาดเกินกว่าจะเป็ นเพียงของกํานัลของใคร ฮ่องเต้เป็ นคนรู ้จกั รักหยกถนอมบุป
ผา ยิง่ นางทําความดีความชอบเช่นนี้ อย่างไรเสี ยชีวิตในวังหลังก็คงไม่ยากลําบากนัก

ข้าดีใจที่ได้เจอสหายเก่าอย่างอาหนิง ยินดีที่รู้วา่ นางไม่ตอ้ งพบเจอชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นเดียวกับเด็กสาวคน


อื่นๆ ที่เติบโตขึ้นมาในตระกูลจางพร้อมกัน ดีใจที่รู้วา่ ใต้เท้าจางและไทเฮาต่างก็พา่ ยแพ้ ยิง่ นึกถึงตอนที่พวกเขา
พยายามจะส่ งข้าขึ้นเตียงบุรุษคนนั้นคนนี้ ข้ายิง่ สาแก่ใจ แม้วา่ ยามนี้ใต้เท้าจางยังคงหลบหนีไปได้ แต่ขา้ เชื่อว่า
อีกไม่นานเขาจะต้องถูกจับกุม อํานาจใต้ดินของเขามีแต่จะถูกบัน่ ทอนลงไปเรื่ อย หากไร้อาํ นาจจากราชสํานัก
คุม้ หัว มีหรื อเรื่ องราวสกปรกผิดกฎหมายที่เขากระทํามาหลายปี จะยังคงปกปิ ดต่อไปได้

ข้าดื่มสุ ราอย่างรู ้สึกครึ้ มใจ นางกํานัลคอยริ นสุ ราผลไม้ให้ ข้าดื่มจนใบหน้าเริ่ มขึ้นสี ระเรื่ อ ชินอ๋ องส่ งสายตาให้
นางกํานัลผูน้ ้ นั หยุดริ น ข้าหันไปมองหน้าเขาอย่างขัดใจ เขายิม้ ให้ขา้

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าดื่มสุ ราหนักไปแล้ว ประเดี๋ยวจะเมามายไปเสี ยก่อน”

หึ .. ไม่มีอีกแล้ว อวี้เอ๋ อร์ ที่จะก้มหน้าก้มตาตอบคํา ต่อให้ขา้ ดื่มสุ ราจนเมามายให้เขาต้องอับอายข้าก็ไม่สน


ดวงตาของข้าหยาดเยิม้ “เมาแล้วอย่างไร ท่านอายผูค้ นหรื อหากจะมีหวางเฟยขี้เมา” ข้าตอบเขาอย่างคนพาลแต่
ชินอ๋ องกลับไม่ถือสาแม้แต่นอ้ ย

“หวางเฟยของข้าเป็ นสตรี ที่ท้ งั งดงามและเฉลียวฉลาด ข้ามีสิ่งใดให้ตอ้ งอายกันเล่า หากข้ารู ้วา่ อวี้เอ๋ อร์ชอบรํ่า
สุ รา ยามอยูท่ ี่วงั เสิ่ นหยางกงย่อมต้องหาเวลารํ่าสุ ราเป็ นเพื่อนเจ้าแน่”

ข้าแสร้งทําเป็ นไม่ได้ยนิ ยืน่ จอกสุ ราที่วา่ งเปล่าให้กบั นางกํานัล นางรี บเข้ามาริ นอย่างไม่กล้าขัด ข้ายกสุ ราขึ้น
ดื่มจนหมดจอกแล้ววางลงบนโต๊ะ ประคองร่ างที่เริ่ มรู ้สึกมึนขึ้นยืนประสานมือ ฮ่องเต้หนั มาทางข้า ดวงตาของ
เขาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย เข้าวังมาคราวนี้ กิริยาของข้าดูแปลกไป

“หวางเฟยมีอะไรจะกล่าวหรื อ” เขาเอ่ยถาม

“ทูลฝ่ าบาท วันนี้เป็ นโอกาสอันดี แคว้นเยีย่ ได้ฉลองชัยชนะเหนือแคว้นเว่ย หม่อมฉันจึงอยากจะถือโอกาสร่ าย


รําถวายเบื้องพระพักตร์ เพคะ”

287
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ฮ่องเต้ชะงักไป สายตาเหลือบมองชินอ๋ องอย่างสงสัย ข้าได้ยนิ เสี ยงบดกราม เสี ยงกระดูกข้อนิ้วลัน่ ฮ่องเต้ลงั เล
ไม่รู้วา่ ควรจะตอบรับข้อเสนอของข้าอย่างไร ข้ารู ้ ชินอ๋ องไม่ยนิ ดีให้ขา้ เผยโฉมต่อหน้าผูค้ น ยิง่ ไม่ยนิ ดีให้ขา้
ร่ ายรําให้ผใู ้ ดชมนอกจากเขา แล้วอย่างไรเล่า ร่ างกายของข้านี้ เขาไม่ใช่เจ้าของ ชื่อเสี ยงของข้าหากเขาจะกังวล
ก็เพียงเพราะมันจะเกี่ยวพันถึงชื่อเสี ยงหน้าตาของชินอ๋ องเท่านั้น แท้จริ งแล้วข้าไม่ได้มีความหมายในสายตาเขา
มากถึงเพียงนั้น

“ท่านอ๋ องเพคะ หากหม่อมฉันจะขอร้องให้ท่านอ๋ องเป็ นผูบ้ รรเลงพิณได้หรื อไม่” ข้าหันมาถามชินอ๋ องเสี ยง


อ่อนหวานราวกับไม่รู้วา่ เขากําลังโกรธ

หากเป็ นชินอ๋ องคนเดิม ยามนี้เขาต้องคลุม้ คลัง่ ด้วยความหึ งหวง แต่ยามนี้ เขาทําอย่างนั้นได้หรื อ เขามีสิทธิ์อะไร
จะมาหึ งหวงข้า สี หน้าของเขาเรี ยบเฉย แต่ขา้ รู ้วิธีน้ ีจะทําให้เขาโกรธเป็ นที่สุด ใช่ เขาไม่ตอ้ งการให้บุรุษใดจับ
จ้องข้า แต่หากมันเป็ นความปรารถนาของข้า เขาจะกล้าขัดข้าหรื อ

“เจ้าต้องการให้เปิ่ นหวางบรรเลงเพลงใด” เขาตอบเสี ยงเรี ยบ

“บทเพลงกระเรี ยนสู่ ฟ้าเพคะ” ร่ างของชินอ๋ องนิ่งขึงไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบเสี ยงเบา

“ได้”

นางกํานัลยกพิณออกมาวางไว้เบื้องหน้า ชินอ๋ องก้าวออกมาประจําที่ ท่วงทีสง่างาม ข้ายืนสงบนิ่งอยูเ่ บื้องพระ


พักตร์ ยามนี้ท้ งั ท้องพระโรงเงียบสงัด ผูค้ นต่างจับจ้องสองสามีภรรยาที่มีความคิดแปลกประหลาด ชินหวาง
เฟยจะร่ ายรําให้ผคู ้ นดู ชินอ๋ องจะบรรเลงพิณ เรื่ องราวเช่นนี้เคยมีมาก่อนเสี ยที่ไหน แม้แต่ฮ่องเต้ยงั ไม่อาจเอ่ย
ถ้อยคํา

ชินอ๋ องเชิงพิณมิใช่ชวั่ ยามปลายนิ้วจรดลงบนพิณ เพียงเสี ยงแรกที่กรี ดผ่านสายพิณก็เติมบรรยากาศหนักอึ้งไป


ทัว่ ท้องพระโรง ความทรงจํายามเขาบรรเลงเพลงนี้ให้ขา้ ร่ ายรําตอนเราพบกันใหม่ๆ ยังแจ่มชัด ตอนนั้นข้ารู ้สึก
หวาดกลัวเขาเหลือเกิน แต่ยามนี้ความรู ้สึกข้าด้านชาไปหมด ยามที่บาดแผลสดใหม่ แรกๆ อาจจะเจ็บอยูบ่ า้ ง
แต่นานเข้าก็จะกลายเป็ นความชาชิน

เรื อนกายของข้าอ่อนพลิ้วไปตามเสี ยงเพลง ยามที่จงั หวะเพลงหนักหน่วงแสดงถึงการต่อสู ้อย่างดุเดือดเพื่อเอา


ชีวิตรอด ราวกับเป็ นการประลองระหว่างข้ากับชินอ๋ อง ระหว่างกระเรี ยนและพรานป่ า เขาเป็ นพรานที่ไล่ล่าข้า

288
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ด้วยเสี ยงพิณ ข้าเป็ นกระเรี ยนที่พยายามดิ้นรนเพื่ออิสรภาพ การแสดงอย่างประสานกันของพวกเราจับใจผูช้ ม
เหลือเกิน ข้ารับรู ้ได้วา่ ทุกคนต่างจับจ้องเราสองไม่วางตา ดนตรี ของเขาบีบคั้นเหลือเกิน ยามที่ท่วงทํานองเร่ ง
เร้าถึงที่สุด นกกระเรี ยนกําลังจะหลุดจากบ่วงแร้วของนายพรานไปสู่ อิสรภาพ เสี ยงพิณก็หยุดชะงักลง ชินอ๋ อง
ลุกขึ้นยืน

ข้าหันไปมองเขา.. เขาจงใจขัดขวางข้า

เขารู ้ ข้าเหมือนกระเรี ยนตัวนั้น ยามนี้ขอโบยบินจากไปอีกครั้งเพื่อไปสู่ อิสรภาพ แต่เขากลับสะบั้นท่อนสุ ดท้าย


ลง ความนัยที่ขา้ กําลังจะสื่ อไปถึงฮ่องเต้และทุกคนถูกเขาตัดโอกาสเสี ยกลางครัน

ชินอ๋ องรวบร่ างข้าขึ้นอุม้ โดยไม่สนใจสายตาใคร

“หวางเฟยเหน็ดเหนื่อยแล้ว ข้าจะพานางกลับไปก่อน เชิญพวกท่านเฉลิมฉลองกันตามสบายเถิด”

“หม่อมฉันยังไม่เหนื่อยเพคะ” ข้าเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา แววโกรธกรุ่ นอยูใ่ นดวงตา

“กลับก่อนเถิด งานรื่ นเริ งมีบ่อย ไว้ขา้ จะพามาอีก” เขาเอ่ยกับข้าเบาๆ

ข้าเม้มปาก ตวัดมือตบหน้าเขา แม้มนั จะไม่แรงนัก แต่กท็ าํ ให้ทุกคนตื่นตะลึง ชินอ๋ องไม่ได้มีท่าทางโกรธเลย


สักนิด

“ข้าผิดเองที่ขดั ใจหวางเฟย นางกําลังสนุกจึงหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ พวกท่านอย่าได้สนใจ”

ใช่ ข้าไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด ข้ารู ้..แต่ขา้ จงใจทําเช่นนั้น ข้าไม่สนใจชื่อเสี ยง หากเขาไม่อยากชื่อเสี ยงป่ นปี้ ก็


ปล่อยข้าไปเสี ย แต่เขาไม่ปล่อยข้าลง กลับอุม้ ข้าเดินมาขึ้นรถม้า

คล้อยหลังพวกเรา ทัว่ ท้องพระโรงคงจะอึงอลไปด้วยเสี ยงซุบซิ บนินทา หวางเฟยผูน้ ้ ีช่างทําตัวได้ฉาวโฉ่เสี ย


เหลือเกิน ร่ ายรําต่อหน้าผูค้ นมากมาย ทั้งยังลากชินอ๋ องมาบรรเลงพิณ ทําร้ายเชื้อพระวงศ์ต่อเบื้องพระพักตร์
และธารกํานัล นางไม่ได้ให้เกียรติชินอ๋ องเลยแม้แต่นอ้ ย แต่ผใู ้ ดจะกล้าเอ่ยวาจาเล่า ก็ชินอ๋ องลุ่มหลงมัวเมาใน
ตัวนาง ให้ทา้ ยนางเสี ยจนเคยตัวเช่นนี้มิใช่หรื อ..

289
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
บนรถม้า ข้าคิดว่าเขาคงจะตําหนิขา้ ระเบิดอารมณ์ใส่ ขา้ แต่เขากลับอุม้ ข้าไว้บนตักอย่างอารมณ์ดี ข้าผลักไสเขา

“ปล่อย! ข้าบอกแล้วมิใช่หรื อ อย่าแตะต้องตัวข้า!”

“ชินหวางเฟยช่างน่ารักเสี ยเหลือเกิน ยามเจ้าเมามายช่างดุร้ายไม่ต่างกับแม่เสื อ” เขาไม่สนใจว่าข้ากําลังโกรธ


“กลับไปถึงวังเปิ่ นหวางจะให้คนยกสุ ราออกมาแล้วดื่มเป็ นเพื่อนเจ้าเอง เจ้าคงโกรธที่เปิ่ นหวางไม่ให้เจ้าดื่มสุ รา
เมื่อครู่ ”

“ข้าไม่ดื่มกับท่าน!” ข้าตอบเสี ยงห้วน

“ถ้าหวางเฟยเมาแล้วก็ไม่เป็ นไร เปิ่ นหวางจะพาไปนอนแทน” เขาตอบอย่างตามใจ ทําทีไม่รู้ร้อนว่าข้ากําลัง


โกรธ

“ข้าไม่ได้เมา!” ข้าตะโกนตอบอย่างหงุดหงิด แอบถามตัวเองในใจอยูเ่ หมือนกันว่า คนเมาส่ วนใหญ่กพ็ ดู เช่นนี้


มิใช่หรื อ

ชินอ๋ องไม่ได้ตอบ แต่ขา้ เห็นรอยยิม้ เกลื่อนใบหน้าเขา ข้ารู ้สึกหงุดหงิดจนต้องสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น จึง


ไม่ได้เห็นประกายระยิบระยับในดวงตาเขา

พอกลับไปถึงวัง เขาให้คนยกสุ ราดอกท้อออกมาตั้ง ส่ วนตัวเขาอุม้ ข้าเข้าไปนัง่ ในห้องอุ่น

“ปล่อย! ข้าจะกลับตําหนัก”

สุ ราถูกยกมาวางพอดี เขารี บริ นสุ ราให้ขา้ อย่างเอาใจ

“หวางเฟยลองชิมดูก่อน นี่เป็ นสุ ราดอกท้อชั้นเลิศ หาซื้ อได้ยากนัก สักสิ บปี จะหาได้กาหนึ่ง เปิ่ นหวางแสน
เสี ยดายเป็ นที่สุด ปกติมกั เก็บไว้ดื่มคนเดียว เห็นแก่ที่หวางเฟยเป็ นคอสุ ราเหมือนกัน จะแบ่งให้ชิมบ้าง”

ข้าฟังแล้วอดรู ้สึกหมัน่ ไส้ไม่ได้ ของรักของหวงอย่างนั้นหรื อ ข้ารี บยกขึ้นดื่มจนหมดจอก สุ ราร้อนแรงไหล


ผ่านลําคอร้อนวูบจนข้าต้องอุทานดังอา แต่หลังจากนั้นกลิ่นหอมของดอกท้อก็อบอวลไปทัว่ ทั้งโพรงจมูกและ
ปาก ช่างเป็ นรสสัมผัสที่ตราตรึ งใจ เขาริ นสุ ราเติมให้อย่างเอาใจ

290
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หวางเฟยชอบหรื อไม่” ข้าเพิ่งสังเกตว่าเขาเรี ยกข้าหวางเฟยอย่างให้เกียรติ ค่อยรู ้สึกพอใจขึ้นมานิดๆ ข้าไม่


ตอบเขา ยกสุ ราขึ้นกระดกจนหมดจอกอย่างครึ้ มใจ

“หวางเฟย สุ รานี้ หายากนัก ค่อยๆ ละเลียดดีหรื อไม่”

ข้าคว้ากาสุ ราจากมือเขามาริ นด้วยตัวเอง ..หวงนักใช่หรื อไม่ ข้าจะดื่มเสี ยให้หมด..

ทว่าดื่มไปได้เพียงสามจอก ข้าก็มึนศีรษะ รู ้สึกอาการไม่ค่อยดี จึงรี บหันไปเอ่ยกับเขา

“ข้าจะกลับตําหนักแล้ว”

“เปิ่ นหวางจะพาเจ้าไปนอนเอง”

เขาตรงเข้ามาอุม้ ข้า แม้สติเริ่ มจะพร่ าเลือนแต่ขา้ ก็รู้วา่ เช่นนี้ไม่ดีแน่

“ให้คนมาประคองข้ากลับตําหนักเมฆาล่อง” ข้าบอกเขา

“ตําหนักนี้ เป็ นของเจ้า อวี้เอ๋ อร์ ดึกแล้ว..อย่ากลับไปรบกวนท่านแม่เลย” เขาตอบเสี ยงทุม้ พลางก้าวเดิน

ข้าส่ ายหน้า “ไม่..พาข้ากลับไป ข้าไม่คา้ งที่นี่”

แต่เขาวางข้าลงบนเตียงนุ่มที่คุน้ เคยเสี ยแล้ว ข้ากวาดตามองไปรอบห้อง ห้องหอที่ขา้ กับเขาเคยร่ วมเรี ยงเคียง


หมอนกันอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน นํ้าตาของข้ารื้ นขึ้น

“ข้าจะกลับตําหนักเมฆาล่อง..”

เขาปิ ดปากข้าด้วยจุมพิตอ่อนหวาน ข้ารู ้สึกมึนเมาเพราะฤทธิ์ สุราแต่ไม่ได้ไร้สติ ข้าไม่ตอ้ งการให้ทุกอย่างเป็ น


แบบนี้ ไม่ตอ้ งการให้เขาแตะต้องข้า ข้าโกรธแค้นเขา อยากให้เขาหายไปจากชีวิต ไม่ตอ้ งการให้เขาประทับซํ้า
รอยเดิม

291
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อย่า..” ข้าเอ่ยห้ามเสี ยงแผ่วขณะที่เขาปลดเปลื้องอาภรณ์แดง

“อา.. อวี้เอ๋ อร์ คืนนี้เจ้างดงามร้อนแรงเหลือเกิน” ชินอ๋ องไม่ได้หยุดมือ เขาเอ่ยอย่างหลงใหลก่อนจะฝังใบหน้า


ลงบนทรวงอกนุ่มล้น ข้าหอบหายใจ สัมผัสของเขาแทบจะกระชากลมหายใจของข้าให้หลุดลอยไป เขาเล้าโลม
ข้าอย่างเชื่องช้า อุณหภูมิในกายข้าพุง่ สู งลิ่ว ข้าพลิกกายหนี เขาตามติดมาทาบทับข้าไว้

“อวี้เอ๋ อร์.. อย่าทรมานข้าอีกเลย” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงอ่อนหวานเว้าวอน ข้าฟังแล้วเกือบใจอ่อน ทว่าแข็งใจตอบ


กลับไป

“ไม่.. ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรื อว่าห้ามแตะต้องข้า” นํ้าเสี ยงข้าสั่นพร่ า ฟังดูเย้ายวนมากกว่าจะห้ามปราม

“ถูกต้อง..แต่ขา้ นึกว่าเจ้าหมายความเช่นนั้นเฉพาะในรถม้า”

“เสวียนเฟิ ง! ท่านมัน..ท่านมันชัว่ ช้าที่สุด!” ข้ากรี ดร้องอย่างแค้นเคือง

ข้าไม่ยนิ ยอม ข้าจิกเล็บข่วนร่ างกายเขาทุกที่ที่ขา้ สัมผัส แต่เขาไม่สนใจสักนิด จับข้าควํา่ หน้าคุกเข่า รุ กรานข้า


อย่างไร้ยางอาย ไร้คุณธรรมใดๆ

“อา..อวี้เอ๋ อร์ เจ้า..” เขาครางอย่างพอใจ

ใช่..ร่ างกายของข้าเต็มไปด้วยส่ วนโค้งส่ วนเว้ามากกว่าเดิม ข้าจิกผ้าปูที่นอนแน่นอย่างระบายความอึดอัด ยาม


เขาครอบครองข้าอย่างเร่ าร้อน ร่ างกายนุ่มนิ่มของข้าโอบรัดแน่นจนเขาสัน่ สะท้าน ข้ารู ้สึกถึงความสุ ขสมที่
แผ่ซ่านไปทัว่ กายตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า กายข้าสั่นระริ ก

สติของข้าเริ่ มพร่ าเลือน แต่ขา้ รู ้วา่ เขาไม่มีทางหยุดแค่น้ ีแน่ เขาห่างหายจากเรื่ องพวกนี้ไปนาน อดกลั้นมานาน
โดยไม่ยอมรับสตรี อื่นมาร่ วมเตียง ข้ารับรู ้วา่ เขาพลิกกายข้าให้นอนราบ

“อวี้เอ๋ อร์.. เรื่ องที่เกิดขึ้นเจ้าไม่ผิด เจ้าไม่ให้ขา้ แตะต้อง เป็ นข้าเองที่ฝ่าฝื นคําสั่งแตะต้องเจ้า พรุ่ งนี้ ขา้ จะยอมรับ
ผิดแต่โดยดี ให้เจ้าทําโทษเอาตามใจชอบ”

ข้ายกมือขึ้นข่วนใบหน้ากวนๆ นั้นอย่างหงุดหงิดใจ

292
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

..ชัว่ ร้าย.. ชัว่ ร้ายเหลือเกิน ชินอ๋ องที่ร้ายกาจคนนั้นกลับมาแล้ว ที่ผา่ นมาเขาทําเป็ นหงอเพียงเพื่อหลอกให้ขา้


ตายใจอย่างนั้นหรื อ ข้าคิดอย่างแค้นเคือง หลังจากนั้นก็ไม่อาจต้านทานแรงปรารถนาของเขาได้อีก

คํ่าคืนนั้น ข้าจึงได้รู้วา่ ความรักกับกามารมณ์เป็ นคนละเรื่ องกัน ใจของข้าชิงชังเขา แต่ร่างกายของข้ากลับไม่ได้


ปฏิเสธเมื่อเขาสัมผัส ข้าอับอายยามตอบสนองสัมผัสเขาโดยไม่เกี่ยงงอน ข้าแค้นเขาที่ผลักให้ขา้ ตกลงไปในวัง
วนที่ลึกยิง่ กว่าเดิม ในความรู ้สึกที่รุนแรงและซับซ้อน ข้าวางบ่วงดักเขาไว้ แต่เขาก็วางบ่วงดักข้าไว้เช่นกัน

…………………………...

เสวียนเฟิ งยินดีนกั ยามพ่อบ้านมารายงานว่านางจะไปร่ วมงานในวัง เขาแทบเฝ้ารอให้วนั นั้นมาถึงไม่ไหว เมื่อ


ถึงวันงาน นางทําให้เขาประหลาดใจ อวี้เอ๋ อร์สวมชุดแดงดูงดงามเย้ายวนเหลือเกิน นางดูแปลกไป ดูอนั ตราย
น่าค้นหา ทว่ากลับเย็นชากับเขาเสี ยเหลือเกิน เขาเจ็บลึกในอก

ในงาน เขาเห็นนางกวาดตามองหาใต้เท้าจาง จึงกระซิ บบอกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้นางฟังคร่ าวๆ เสวียนเฟิ ง


ลอบยิม้ เวลาที่นางลืมความแค้นช่างน่ารักเหลือเกิน นางเอียงหูเข้ามาใกล้จนเขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เขามองใบ
หูเล็กๆ และลําคอลาดระหงของนางแล้วได้แต่ลอบกลืนนํ้าลาย เขารู ้วา่ นางกําลังจะทําอะไร นางแค้นเขา หาก
นางจะทําอะไรเพื่อเป็ นการระบายความแค้นในใจลงบ้างเขาก็ไม่โกรธเลย ดีเสี ยอีก หากนางได้ระบายจนสา
สมใจแล้วก็จะหายโกรธเขาเร็ วขึ้น เสวียนเฟิ งได้แต่รอวันนั้น ระหว่างนี้เขาจะประพฤติตนเป็ นสามีแสนดีที่อยู่
ในโอวาทของนาง

เขาเป็ นลูกหนี้ของนาง จะทําตัวโอหังกับเจ้าหนี้ ได้หรื อ

..อวี้เอ๋ อร์ ยอมใจอ่อนกับข้าเร็ วๆ เถิด ข้าคิดถึงเจ้าจะแย่อยูแ่ ล้ว..

นางดูสบายอกสบายใจ ดื่มสุ ราจนเริ่ มจะเมามาย เขาไม่อยากให้ใครเห็นยามที่นางเมาจนน่ารักเช่นนี้ ฮ่องเต้มอง


มาสายตาปรอยจนเขาแทบจะทนไม่ได้ ไหนจะสายตาขุนนางคนอื่นๆ อีกเล่า เขาแทบอยากจะพานางกลับวัง
เสี ยเดี๋ยวนั้น ยามนางกํานัลจะเข้ามาริ นสุ ราเพิ่มเขาจึงปรามด้วยสายตา ไม่คิดว่าอวี้เอ๋ อร์จะสังเกตเห็น นางหันมา
มองเขาอย่างขุ่นเคือง

293
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ในที่สุดนางก็ไม่ฟังคําเขา ดื่มสุ ราเพิ่มอีกจอกแล้วประคองกายลุกขึ้น เสวียนเฟิ งแทบไม่อยากเชื่อหูยามได้ยนิ
นางกราบทูลฮ่องเต้

..นางจะร่ ายรําถวาย เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง..

นางทําร้ายเขาได้เจ็บแสบเหลือเกิน แต่เขาได้แต่ยอมตาม แม้นางจะขอให้เขาเป็ นผูบ้ รรเลงบทเพลงกระเรี ยนสู่


ฟ้า อันเป็ นบทเพลงแห่งความหลังของทั้งสอง เขาจะขัดนางได้หรื อ อวี้เอ๋ อร์ร่ายรํางดงามเย้ายวนจนไม่อาจละ
สายตาได้ เขาบรรเลงพิณด้วยหัวใจอันอึดอัด ยามบทเพลงใกล้จบลง เขาไม่อาจทนบรรเลงต่อไปได้ นางกําลัง
เข้าถึงบทเพลง นางคิดว่าตัวเองเป็ นกระเรี ยนตัวนั้น นางกําลังจะโบยบินไปจากเขา ฮ่องเต้มีหรื อจะรับสารนี้
แล้วไม่เข้าใจ!

นางจะหยามหมิ่นเขา ทําให้เขาเป็ นตัวตลกเป็ นคนโง่ในสายตาคนอื่น เขาไม่สนเลยสักนิด แต่นางจะไปจากเขา


ไม่ได้.. เรื่ องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่ยนิ ยอม!

เขาหยุดบรรเลงแล้วพานางกลับวัง ไม่สนใจสายตาผูใ้ ดทั้งสิ้ น เหนือความคาดหมาย..คํ่าคืนนั้นเขาได้มีโอกาส


เชยชมนางอีกครั้ง หัวใจเขาพองฟูไปด้วยความสุ ขจนแทบปริ แตก

..เขายังมีความหวัง ลึกๆ ว่านางยังคงเป็ นกระต่ายน้อยที่งดงามอ่อนโยนของเขา..

เขากอดนางเอาไว้ตลอดทั้งคืน เฝ้ารอเวลาที่นางจะตื่นเพื่อปลอบโยนงอนง้อให้นางหายโกรธ แต่เสี ยงฝี เท้าที่


หน้าห้องทําให้ตอ้ งออกไปดู เฉิ นซี รายงานเสี ยงเบา

“ฮ่องเต้มารอพบท่านอ๋ องพะย่ะค่ะ เสด็จเป็ นการลับ”

เขาถอนใจ รู ้ดีวา่ อีกฝ่ ายมาพบด้วยเรื่ องอะไร

“เปิ่ นหวางจะรี บไป”

เขาหันไปมองร่ างที่ยงั คงหลับใหลอยูบ่ นเตียงอย่างอาลัยอาวรณ์ หวังว่าฮ่องเต้จะรี บกลับไปและนางจะยังไม่ตื่น


ขึ้นมาเสี ยก่อน

294
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“มาหาข้าแต่เช้า มีอะไรเร่ งด่วนหรื อเผิงจวิน้ ” ชินอ๋ องถามขณะสาวเท้าเข้ามาในห้องอักษร

ฮ่องเต้ลุกขึ้นยืน คารวะชินอ๋ องด้วยความเคยชิน เขากวาดสายตามองผูเ้ ป็ นอาที่เดินเข้ามา สายตาสะดุดเข้ากับ


รอยข่วนตามใบหน้าและลําคอ ชัว่ ขณะนั้นรู ้สึกตื้อตันในลําคอจนแทบไม่อาจกล่าววาจาออกมาได้

..ระหว่างนางและเสด็จอาอาจจะไม่ได้มีปัญหาอย่างที่เขาคิดกระมัง..

“เสด็จอา ท่านกับอวี้เอ๋ อร์มีปัญหาอะไรกันหรื อ” เหตุการณ์เมื่อคืน ไม่วา่ ใครก็ยอ่ มมองออก

“ไม่มีอะไร นางเพียงแต่นอ้ ยใจข้านิดหน่อยเท่านั้น” ชินอ๋ องกล่าวปัดราวกับไม่ใช่เรื่ องสําคัญ

“เรื่ องของเจ้าหกและเจ้าสิ บไม่ได้ราบรื่ นดังที่ท่านเขียนรายงานมาสิ นะ” ฮ่องเต้คาดเดา “อวี้เอ๋ อร์ไม่ใช่สตรี ไร้


เหตุผล นางคงจะไม่งอนท่านด้วยเรื่ องเล็กน้อยเป็ นแน่ เรื่ องนี้คงทําให้นางสะเทือนใจนัก”

ชินอ๋ องนิ่งฟังมิได้ตอบ เรื่ องราวซึ่ งเดิมทีกย็ ากอยูแ่ ล้ว กลับซับซ้อนขึ้นด้วยเรื่ องราวในชาติภพก่อนที่เขาไม่อาจ


เปิ ดปากบอกใครได้

“เสด็จอา.. หากอวี้เอ๋ อร์ไม่สะดวกใจอยูก่ บั ท่าน.. ยกนางให้ขา้ เถิด” ฮ่องเต้เอ่ยจริ งจัง เขารู ้สึกเห็นใจเสด็จอา แต่
หากมันจะทําให้เขาได้สตรี ในดวงใจมาไว้ในกํามือ เขาก็ไม่คิดจะรอช้า

“ไม่ได้!” นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องดุดนั “นางเป็ นหวางเฟยของข้า ยามอยูเ่ ป็ นคนของข้า ยามตายก็เป็ นผีของข้า”

“เสด็จอา หากนางอยูก่ บั ท่านมีแต่ความเจ็บชํ้า มิสู้จากกันด้วยดีจะดีกว่าหรื อ ข้ารับรองจะไม่มีทางทําให้นาง


เสี ยใจ”

“เจ้านึกว่าข้าอยากทําร้ายนางอย่างนั้นหรื อ เผิงจวิน้ ทางเดียวที่ขา้ จะยอมยกนางให้คือข้าตายไปเสี ยก่อน”

“หากว่านางเลือกที่จะอยูก่ บั ข้าเล่า”

“นางจะไม่เลือกเจ้า” ชินอ๋ องตอบอย่างมัน่ ใจ

295
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เหตุใดเสด็จอาจึงมัน่ ใจเช่นนั้น”

..เพราะนางรักข้า! รักมาตั้งแต่ตน้ .. รักมาตั้งแต่ชาติก่อน จิตใจของเราสองตรงกัน หากไม่เพราะข้าทําให้นาง


เสี ยใจครั้งแล้วครั้งเล่า นางคงไม่คิดตัดใจจากข้า.. เขาคิดเช่นนี้แต่ตอบออกไปอีกอย่าง

“นางไม่ใช่สตรี กระหายอํานาจ ย่อมไม่ชมชอบการแก่งแย่งในวังหลวง”

“ข้าไม่เชื่อคําพูดของท่าน ขอเพียงนางตกปากรับคําข้า ข้าจะรับนางเข้าวัง ข้าไม่สนใจคําครหาของผูใ้ ดทั้งสิ้ น!”

“เผิงจวิน้ !” ชินอ๋ องตวาดอย่างกราดเกรี้ ยว “ต่อให้นางรับปากเจ้า ข้าก็ไม่มีทางปล่อยนางไป เรื่ องของข้าและ


หวางเฟย เจ้าเข้ามาสอดได้หรื อ”

“เสด็จอา! ข้ารักนางอย่างจริ งใจ รักแต่แรกเห็น ขอเพียงได้รู้วา่ นางมีใจเอนเอียงมาทางข้า ข้าจะไม่ลงั เลเลย”

“แม้วา่ นางจะเห็นเจ้าเป็ นเพียงเครื่ องมืออย่างนั้นหรื อ?”

“ถูกต้อง” แววตาของฮ่องเต้เจ็บปวด “ต่อให้นางหลอกใช้ขา้ ข้าก็ไม่ถือ ขอเพียงนางอยูข่ า้ งกายข้า เพียงข้ากวาด


สายตาไปได้เห็นนางยามที่ขา้ ปรารถนา ข้าก็พอใจ”

คําตอบของหลานชายทําให้ชินอ๋ องสะเทือนใจ

“เผิงจวิน้ เจ้าช่างงมงายในรักนัก!” อันที่จริ งแล้ว พวกเราทุกคนล้วนไม่ต่างกัน ชินอ๋ องคิดในใจ

296
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 42 : ความรักไม่ อาจต้ านทาน ความแค้ นไม่ อาจปล่ อยวาง

ข้าลืมตาตื่นขึ้น ไม่ได้รู้สึกแปลกที่ เพราะที่นี่คือห้องของข้าเอง แม้ขา้ จะไม่ได้นอนห้องนี้มานานหลายเดือนแต่


ข้าก็จดจําทุกตารางนิ้วของที่นี่ได้ ข้านอนมองเพดาน นึกถึงเรื่ องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

..ข้าพลาดท่าให้กบั เขา.. ข้าทําลายชื่อเสี ยงเขาได้ป่นปี้ สมใจ แต่กลับถูกเขาเอาเปรี ยบ..ข้านํ้าตาไหล ทั้งอดสู ท้ งั


คัง่ แค้น ทั้งๆ ที่ขา้ ลัน่ วาจาไปแล้วว่าจะไม่ให้เขาแตะต้อง แต่เขากลับเชยชมข้าได้อย่างง่ายดายด้วยสุ ราเพียงสาม
จอก..

ข้าลุกขึ้นจากเตียงด้วยสภาพราวกับดอกไม้กลีบชํ้า ชินอ๋ อง..เขาถือโอกาสนี้เอาคืนข้าใช่หรื อไม่ เด็ดปี กข้ามิให้


ผยอง.. เตือนสติวา่ ข้าเป็ นเพียงหวางเฟยที่ตอ้ งพึ่งพาเขาราวกับดาวเคราะห์นอ้ ยที่ตอ้ งพึ่งพาแสงสว่างจากดวง
ตะวัน หากเขาต้องการ ไม่วา่ ข้าจะเต็มใจหรื อไม่กต็ าม มีหรื อจะขัดขืนเขาได้

ข้ารี บลุกขึ้นมาสวมเสื้ อผ้ามือไม้สั่นเทา ..ต้องรี บกลับไปตําหนักท่านแม่ก่อนที่เขาจะกลับมา ข้ากําลังหนีอะไร..


ข้าไม่มีเวลาถามตัวเอง หมิงจูได้ยนิ เสี ยงความเคลื่อนไหวจึงรี บยกอ่างนํ้าเข้ามาให้ขา้ ล้างหน้าด้วยสี หน้าชื่นมื่น
นางคงเข้าใจว่าข้าและชินอ๋ องคืนดีกนั แล้ว

“หวางเฟยจะสรงนํ้าเลยหรื อไม่เพคะ”

ข้าไม่ตอบนาง เพียงก้มหน้าเอ่ยเสี ยงอูอ้ ้ ี “ข้าจะกลับตําหนักเมฆาล่อง”

หมิงจูมีสีหน้าลําบากใจ “หวางเฟยรอพบท่านอ๋ องก่อนดีหรื อไม่เพคะ..”

ข้าไม่สนใจนาง เพียงแต่งกายรวบผมอย่างลวกๆ แล้วก็กา้ วไปผลักประตู

“อวี้เอ๋ อร์ ตื่นแล้วหรื อ”

ที่หน้าประตู ชินอ๋ องกําลังจะก้าวเข้ามาพอดี นํ้าเสี ยงของเขาฟังดูโล่งใจที่เห็นว่าข้ายังไม่ทนั จากไป ข้ารี บเบี่ยง


กายหลบเขา เขาก้าวเข้ามาแล้วปิ ดประตูหอ้ ง หมิงจูรีบวางอ่างนํ้าลงแล้วปลีกตัวออกไป

297
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าโกรธข้าหรื อไม่ ข้ามารับโทษที่เมื่อคืนรังแกเจ้า” เขาเอ่ยเสี ยงนุ่ม มองข้าด้วยสายตาอ่อนโยน

“อวี้เอ๋ อร์มีสิทธิ์ อะไรไปโกรธท่านอ๋ องเพคะ ร่ างกายนี้เป็ นของท่านอ๋ อง ท่านอ๋ องคิดจะเชยชมเมื่อใดก็ยอ่ มได้”


ข้าตอบเขาเสี ยงสั่น ดวงตาหลุบลงมองพื้น

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าไม่ได้ปรารถนาเพียงร่ างกายเจ้า ข้าต้องการหัวใจเจ้า ต้องการให้เจ้ารักข้าดังเดิม ..ข้าไม่ได้คิดจะข่ม


เหงเจ้าให้ได้รับความน้อยเนื้อตํ่าใจเช่นนี้ อย่าเข้าใจข้าผิด” ชินอ๋ องมีสีหน้าเจ็บปวดเมื่อได้ยนิ คําพูดของข้า เขา
ทําท่าจะก้าวเข้ามากอดข้าไว้ ข้าถอยหนี ยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้แน่น ชินอ๋ องชะงักมือที่กาํ ลังเอื้อมมาหาข้า กํา
ไว้แน่นก่อนทิ้งลงข้างตัว

“ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรใจร้อนกับเจ้า อวี้เอ๋ อร์.. อย่ากลัวข้าได้หรื อไม่ ให้ขา้ ได้รักเจ้าเหมือนเคย”

“เพคะ” ข้ารับคําเขา ลงมือคลายปมเสื้ อผ้า คําว่ารักของเขาคงหมายความเช่นนี้ เขาเอื้อมมือมาจับมือข้าไว้

“อวี้เอ๋ อร์..ได้โปรดอย่าทําแบบนี้ ”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขานํ้าตาคลอ “อวี้เอ๋ อร์ไม่เหลือศักดิ์ศรี ใดอีกแล้ว แค้นท่านแต่ไม่อาจทําร้ายท่าน ไม่อาจชําระ


แค้นให้ตวั เองไม่พอ ยังเอาตัวมาประเคนให้ท่านถึงที่น่ี เป็ นเพียงสตรี หน้าโง่..หลงรักคนที่ทาํ ให้ตวั เองเจ็บชํ้า
พอใจที่ได้สนองความใคร่ เพียงชัว่ ครู่ ชวั่ ยามของท่าน ชีวิตของอวี้เอ๋ อร์มีค่าเพียงเท่านี้ ”

“ไม่ใช่” ชินอ๋ องเอ่ยได้เพียงเท่านี้ ลําคอกลับตีบตันไปหมด

ข้าดึงมือออกจากมือใหญ่ของเขาที่ย้อื ยุดไว้ ดวงตาของข้าร้าวราน “อวี้เอ๋ อร์จะไม่หา้ มปรามท่านอ๋ องอีก ยาม


ท่านอ๋ องปรารถนา..เพียงส่ งคนไปตาม อวี้เอ๋ อร์จะมาปรนนิบตั ิทนั ทีเพคะ ขอเพียงท่านอ๋ องอนุญาตให้อวี้เอ๋ อร์
ได้อยูก่ บั มารดา ท่านอ๋ องปรารถนาสิ่ งใดอวี้เอ๋ อร์ จะไม่ขดั ขืนอีก” ข้าเอ่ยอย่างยอมแพ้

ข้าเหนื่อยเหลือเกิน.. ศีรษะของข้าปวดร้าวไปหมด ข้าช่างอ่อนแอนัก..กับคนที่ทาํ ร้ายข้าปางตาย ข้าตอบโต้ได้


เพียงเท่านี้หรื อ ใจของข้าไม่ได้แข็งแกร่ งดังหิ นผา ข้าเป็ นเพียงหยกเปราะบางที่อาจแหลกสลายได้ทุกเมื่อ ไม่
อาจทนกระทบกระแทกจากนํ้ามือคนที่รัก ใจข้าไม่อาจรับไหว ยามรัก ข้ารักด้วยใจ ยามเจ็บ จึงเจ็บเจียนตาย
เป็ นเช่นนี้มาโดยตลอดทุกภพทุกชาติ ข้าเป็ นดัง่ คนโง่ รักอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ใช้สมอง หากเขาสงสารข้า ก็
ปล่อยข้าไปเถิด อย่าปล่อยให้ขา้ ทรมานอยูใ่ นบ่วงรักอีกเลย

298
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์..” นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องสั่นเครื อ “หากเจ้าไม่อาจรักเปิ่ นหวางได้อีกต่อไป.. ขอเพียง..มีทายาทให้เปิ่ น


หวางได้หรื อไม่.. เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการให้ทายาทเกิดกับสตรี ใดนอกจากเจ้า”

ดวงตาของข้าเบิกกว้าง ..มีทายาทกับเขาอย่างนั้นหรื อ.. นัน่ จะต่างอะไรกับการจองจําเล่า แต่ขา้ ไม่อาจปฏิเสธ..


โดยหน้าที่หวางเฟย ข้าจําต้องให้กาํ เนิดทายาทของชินอ๋ องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าพยักหน้า กายข้ายังคงอยูก่ บั
เขา แต่ใจข้าเป็ นดังหยกร้าวที่ยากจะประสาน เขาจะรู ้หรื อไม่ ข้าเจ็บปวดเพียงใดที่รักเขา หากข้าไม่รักเขา ข้าจะ
ไม่เจ็บถึงเพียงนี้เลย ข้ายอมรับกับตัวเองในที่สุด ..ความรักไม่อาจต้านทาน ความแค้นไม่อาจปล่อยวาง.. เหตุใด
ข้าจึงต้องตกอยูใ่ นสภาพอันน่าเอน็จอนาถเช่นนี้

“อวี้เอ๋ อร์.. เจ้าเป็ นภรรยาของเปิ่ นหวางทั้งในชาติที่แล้วและชาติน้ ี เปิ่ นหวางรักเจ้าเพียงคนเดียว รักเจ้าที่สุด


ชีวิตของเปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการสิ่ งใดนอกจากเจ้า วันใดเจ้าพร้อมรับฟัง เปิ่ นหวางจะพาเจ้าไปยังสถานที่หนึ่ง”
เขาเอ่ยกับข้าด้วยนํ้าเสี ยงสะเทือนอารมณ์ มือหนายกขึ้นไล้ใบหน้าข้าอย่างแสนรัก ดวงตาของข้าหลุบลงปกปิ ด
ประกายตาสับสน ท่าทีของเขาช่างชัดเจนจริ งใจเสี ยเหลือเกิน จนข้าแทบอยากวางความแค้นลงแล้วใจอ่อนไป
กับสัมผัสของเขา

“เจ้ากลับไปเถิดอวี้เอ๋ อร์ ไม่ตอ้ งกลัวเปิ่ นหวางอีก หากเจ้าไม่เต็มใจ เปิ่ นหวางจะไม่รังแกเจ้าอีก” เขาเอ่ยอนุญาต

ยามเดินออกจากห้องบรรทม ใจของข้ารู ้สึกว่างโหวง อยากจะหันหลังกลับไปกอดเขาอย่างรักใคร่ สารภาพกับ


เขาว่าข้ารักเขามากเพียงใด แต่ขา้ กลัวเหลือเกิน ข้าเข็ดขยาดกับความรัก ความเจ็บปวดที่เคยลิ้มรสมายังเข็ดขม
จนใจไม่อาจลืมเลือน ความแค้นอาจจะวางลงได้สักวันหนึ่ ง แต่ความกลัวที่ขา้ ต้องเผชิญอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวันเล่า
บาดแผลเรื้ อรังในจิตใจข้าผูใ้ ดจะเยียวยาให้ดีดงั เดิมได้..

ชินอ๋ องรักข้าอย่างนั้นหรื อ สําหรับเขาแล้ว ความรักกับความใคร่ แทบแยกกันไม่ออก เขารักข้าหรื อปรารถนาใน


ตัวข้ากันแน่ ความงามนี้ ช่างต้องสาป ชินอ๋ องไม่อาจปล่อยมือจากข้าเพราะหลงใหลในรู ปโฉมนี้ใช่หรื อไม่
เพราะติดใจรสสัมผัสยามได้เสพสม มันคงเป็ นเพียงกามารมณ์มิใช่ความรัก

ดังเช่นที่ซียนิ เคยหวาดกลัว..

แต่สาํ หรับข้า ความรักที่มีให้เขาลํ้าลึกเหลือเกิน ทั้งในชาติก่อนและชาติน้ ี

299
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ต่อให้แค้นเพียงไหน ก็ไม่อาจตัดใจทําร้ายได้ลง..

คําพูดของแม่ลอยเข้ามาในห้วงสํานึกข้า

..จงจดจําความรักไว้อย่าได้ลืมเลือน..

ข้าไม่ได้ลืม.. ข้าไม่เคยลืมความรักของเราสองคน

เช่นเดียวกับความเจ็บปวด ความขมขื่น ข้าก็ไม่อาจลืมเช่นกัน..

“ท่านแม่”

ข้าหลบสายตาแม่เมื่อเดินเข้าไปในตําหนักเมฆาล่อง เมื่อคืนข้าไม่ได้กลับมาค้างที่นี่ แม่คงจะรู ้ สายตาแม่มี


รอยยิม้

“อาหลัน เมื่อคืนเจ้าไปออกงานกับท่านอ๋ องมา เป็ นอย่างไรบ้าง สนุกหรื อไม่”

“สนุกเจ้าค่ะ แต่วา่ อาหลันดื่มสุ ราเมามาย จึงหลับไปก่อน ไม่ได้กลับมานอนที่นี่” ข้าตอบแม่เสี ยงเบา ท่าทาง


ไม่ได้ร่าเริ งอย่างที่ควรจะเป็ น แม่มองข้าอย่างเพ่งพินิจ

“ดีแล้ว ที่จริ งแล้วเจ้าควรอยูท่ ี่ตาํ หนักหยางซิ น แต่แม่เข้าใจ หากเจ้าไม่สบายใจ จะพักอยูท่ ี่นี่ไปพลางๆ ก่อนก็
ได้”

ข้าได้ยนิ คําพูดของแม่กค็ ่อยเบาใจ ข้ากลัวแม่ผลักไสข้ากลับไปอยูก่ บั ชินอ๋ อง หากแม่ทาํ เช่นนั้น ข้าคงไม่รู้จะ


หันหน้าไปพึ่งใคร

“ท่านแม่ คนเราจะทั้งรักทั้งเกลียดคนคนหนึ่งได้หรื อไม่” ข้าถามอย่างสงสัย

“ย่อมได้ แต่คนผูน้ ้ นั คงจะทุกข์ทรมานมากทีเดียว” แม่ตอบข้า “หากใจเลือกที่จะแบกความแค้นไว้ ก็จงวาง


ความรักลงเสี ยเถิด แต่หากรักมากเหลือเกิน ก็จงให้อภัย”

300
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าครุ่ นคิดตามคําแม่
“อาหลัน เจ้าจะเลือกทางใดก็ไม่ผดิ ผูค้ นมากมายเลือกที่จะวางความรักลงเพราะไม่ตอ้ งการเจ็บปวดอีก แต่คน
อีกจํานวนมากกลับยอมเจ็บปวดเพียงเพื่อรักษาความรักไว้ ถามใจเจ้าดูเถิดว่าเชื่อใจเขามากเพียงใด หากเจ้าเลือก
ความรักแล้ว ความรักนั้นมีเพียงความเจ็บปวด สักวันหนึ่งเมื่อใจเจ้าทนรับต่อความเจ็บปวดไม่ไหว ก็จะปล่อย
วางความรักลงได้เอง”

ข้านํ้าตาไหลเมื่อได้ยนิ ถ้อยคําของแม่

“หากเลือกที่จะรัก ไม่เพียงเจ้าให้โอกาสเขา ตัวเจ้าเองก็ได้รับโอกาสเช่นกัน อาหลันอาจจะได้รับความรักตอบ


อาจจะได้รับความสุ ข แต่กน็ นั่ แหละ เรื่ องของอนาคต ใครจะบอกได้เล่า พวกเราล้วนมีชีวิตอยูด่ ว้ ยความหวัง”

ข้ารู ้ สิ่ งที่แม่พดู มาล้วนเป็ นความจริ ง แต่ตอนนี้ ขา้ ยังไม่อาจตัดสิ นใจ ข้าขอยืดเวลาออกไปให้ความรู ้สึกในใจข้า
ชัดเจนยิง่ กว่านี้ เสี ยก่อน

วันรุ่ งขึ้น ฮ่องเต้ส่งคนมาเชิญข้าเข้าวัง ใจของข้าหนักอึ้ง มีหรื อที่ฮ่องเต้จะไม่รู้ความนัยของข้าในบทเพลง


กระเรี ยนสู่ ฟ้า แม้ชินอ๋ องจะสะบั้นช่วงท้ายลง ฮ่องเต้ยอ่ มรู ้วา่ ข้าจะสื่ ออะไร ข้าตัดสิ นใจถูกแล้วหรื อไม่ที่
กระโจนลงมาในปมอันยุง่ เหยิงนี้

เฉิ นกงกงเดินนําข้าไปยังตําหนักเฉี ยนชิง ข้าได้พบคนที่ขา้ ไม่คิดว่าจะได้เจอ

“อาหนิง!” ข้าเอ่ยทักนางอย่างประหลาดใจ นางลุกขึ้นยืนอย่างยินดีเมื่อได้เห็นข้า

“อาหลัน!”

เราต่างตรงเข้าจับแขนกันอย่างดีใจ ทักทายถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันชัว่ ครู่ ก่อนอาหนิงจะเดินนําข้าไปนัง่

“ที่แท้ฮ่องเต้เรี ยกข้าเข้าวังเพื่อมาพบเจ้าอย่างนั้นหรื อ” ข้าถามนาง


“ถูกแล้ว งานเลี้ยงคืนนั้นฝ่ าบาทเห็นเราสองคนยิม้ ให้แก่กนั จึงตรัสถามข้าว่าต้องการพบเจ้าหรื อไม่ มีหรื อข้า
จะไม่อยากพบ อาหลัน ข้ามีเรื่ องราวมากมายอยากเล่าให้เจ้าฟังเหลือเกิน”

301
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ยามนี้ฮ่องเต้ออกว่าราชการ ข้ากับอาหนิงจึงนัง่ คุยกันโดยสะดวกใจ นางเล่าให้ขา้ ฟังถึงอดีตที่ผา่ นมา

“ตอนนั้นข้ายังเป็ นเด็ก ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น รู ้แต่วา่ คืนหนึ่ง มารดาก็ให้พี่เลี้ยงอุม้ ข้าที่กาํ ลังหลับอยูบ่ นเตียงหนี
ออกไปทางช่องลับข้างกําแพง ภายหลังข้าจึงได้รู้จากพี่เลี้ยงว่าคนในตระกูลข้าถูกสังหารสิ้ น จวนถูกเผาวอดวาย
ไม่มีผรู ้ อดชีวติ สักคนหนึ่ง ทางการลงบันทึกว่าเป็ นการกระทําของกลุ่มโจรผูร้ ้าย แต่จะเป็ นไปได้อย่างไร จวน
สกุลมู่ยงิ่ ใหญ่เพียงไร จะถูกฆ่าล้างตระกูลเพียงเพราะโจรกระจอกได้หรื อ คําสั่งเสี ยของมารดาที่ฝากนางมา คือ
เสนาบดีฝ่ายขวา จางอี้หมิง เป็ นต้นเหตุแห่งความหายนะของตระกูลเรา พี่เลี้ยงของข้าพาข้ากลับไปอาศัยอยูก่ บั
ครอบครัวของนาง ภายหลังนางล้มป่ วยเสี ยชีวติ พี่สาวของนางกลับขายข้าให้กบั หอคณิ กาแม้จะได้รับการฝาก
ฝังจากพี่เลี้ยงของข้าเป็ นอย่างดี” อาหนิงยิม้ เยาะ “นางบอกทางหอคณิ กาว่าเป็ นมารดาของข้าเพราะกลัวคนจะ
สงสัยว่าข้ามีความเกี่ยวพันกับตระกูลมู่ที่สิ้นไป นึกไม่ถึงตอนที่ใต้เท้าจางเอาชีวิตนางมาขู่ ข้าอยากจะหัวเราะ
ข้าแทบจะเฝ้ารอให้ใต้เท้าจางสังหารนางไม่ไหว”

“โชคชะตาช่างเล่นตลกเหลือเกิน ใต้เท้าจางกลับซื้ อตัวเจ้ามาเลี้ยงดูในจวนตนเอง ฟูมฟักลูกศัตรู จนเติบใหญ่”


ข้าเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ

“ถูกต้อง ข้าเติบโตมาด้วยความเคียดแค้น กินข้าวหม้อเดียวกันกับเขา แต่คิดหาทางทําลายล้างตระกูลเขาอยูท่ ุก


เมื่อเชื่อวัน นึ กไม่ถึงในที่สุดโอกาสก็มาถึง” อาหนิงเอ่ย นัยน์ตาเป็ นประกาย

“อาหลัน เจ้ารู ้หรื อไม่ ที่ผา่ นมา ข้ารู ้สึกผิดที่มีขา้ รอดชีวิตอยูค่ นเดียว ข้าอยูโ่ ดยมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวัน
ข้าจะได้ลา้ งมลทินให้กบั ครอบครัว ลากตัวคนชัว่ ผูน้ ้ ีออกมารับผิดให้ได้ ไม่นึกเลยว่าในที่สุด โอกาสก็มาถึง
ตอนที่ขา้ ลงมือค้นจวนตระกูลหวัง ข้าไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด ข้าคิดแต่เพียงว่า แม้ขา้ ตายไป ก็ขอลากคนพวกนี้
ลงนรกไปด้วย ยามนี้ความตั้งใจของข้าลุล่วงแล้ว ข้าเป็ นอิสระจากความแค้นอันหนักอึ้งที่แบกมานานหลายปี ”
อาหนิงดูเปลี่ยนไปจากเด็กหญิงเงียบขรึ มในวันวาน ความแค้นในใจนางได้ชะล้างไปสิ้ นแล้ว นางมองข้าด้วย
นัยน์ตาพราวระยับ

“อาหนิง ข้าอิจฉาเจ้าเหลือเกิน” ข้าเอ่ยกับนาง ข้าอยากปลดปล่อยตัวเองจากความแค้นเช่นนี้บา้ ง


“เจ้ามีอะไรต้องอิจฉาข้ากัน เรื่ องราวของเจ้ากับชินอ๋ อง ข้าได้ยนิ มาตั้งนานแล้ว เขาหลงใหลเจ้านักมิใช่หรื อ ดู
อย่างคืนนั้นเจ้าตบหน้าเขา ใครๆ ก็เอาไปรํ่าลือกันว่าชินอ๋ องกลัวภรรยายิง่ นัก หากเป็ นคนอื่นมีหรื อศีรษะจะยัง
อยูบ่ นบ่า” อาหนิงกล่าวพลางหัวเราะ

“อาหนิ ง!” ข้าทั้งโกรธทั้งอาย

302
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อาหลันเจ้ายังทําตัวเหมือนเดิมไม่มีผดิ เจ้าไม่สนใจประจบสอพลอผูใ้ ด แม้วา่ คนผูน้ ้ นั จะเป็ นถึงชินอ๋ อง สตรี


อื่นมีแต่คนอยากเอาอกเอาใจชินอ๋ องกันทั้งนั้น เจ้ากลับไม่แยแสเขาเลยสักนิด ว่าแต่เจ้าน้อยใจอะไรเขากันเล่า
เหตุใดจึงทําเรื่ องเช่นนี้ ไม่สมกับเป็ นเจ้าเอาเสี ยเลย อย่าลืมเจ้าเป็ นที่หนึ่งในจวนใต้เท้าจางเชียวนะ” อาหนิงถาม
ข้าสี หน้าจริ งจัง

“อาหนิง เจ้าคิดว่าเจ้าจะรักฝ่ าบาทได้หรื อไม่” ข้าไม่ตอบแต่ถามนางกลับ

“อาหลัน.. เหตุใดจึงถามข้าเช่นนี้ เจ้าไม่เคยได้ยนิ หรื อ สตรี นางในต้องการเพียงความโปรดปราน ไม่ตอ้ งการ


ความรัก”

“แล้วเจ้าหักห้ามใจไม่ให้รักเขาได้หรื อ”

อาหนิงสี หน้าหม่นหมองลง “อาหลัน ข้าไม่รู้วา่ นี่ใช่ความรักหรื อไม่ รู ้แต่ขา้ ขมขื่นใจยามได้ยนิ ว่าฝ่ าบาทเสด็จ
ตําหนักอื่น ข้ารู ้..แต่ขา้ ไม่อาจทําใจ วิถีของวังหลังเป็ นเช่นนี้ ฮ่องเต้มิใช่คนที่ผใู ้ ดอาจครอบครอง หากเผลอใจ
รักย่อมมีแต่ความผิดหวัง”

ข้ามองนางอย่างเศร้าสร้อย รู ้สึกว่าชะตาของเราแทบไม่ต่างกัน รักคนที่ไม่สมควรรักนับเป็ นการทําร้ายตัวเอง


อย่างแท้จริ ง

เฉิ นกงกงมาเชิญข้ากลับตอนเที่ยง ข้าอําลาอาหนิง สัญญาว่าหากมีโอกาสจะแวะมาเยีย่ มนางอีก ครั้นเดินออก


จากตําหนักเฉี ยนชิง เฉิ นกงกงกลับนําข้าไปยังศาลาแห่งหนึ่ง

“ฮ่องเต้รับสั่งให้เชิญหวางเฟยร่ วมโต๊ะเสวยพะย่ะค่ะ” เฉิ นกงกงเอ่ยยามนําข้ามาถึงศาลา ข้าไม่อาจปฏิเสธ ได้แต่


ก้าวขึ้นไปบนศาลานั้นพลางยอบกายคารวะฮ่องเต้

เขาลุกขึ้นมาประคองข้าให้นงั่ ลง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารชั้นเลิศ ยามนี้อากาศเริ่ มอุ่นขึ้นแล้ว บรรยากาศยาม


เที่ยงวันกําลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปนัก

เขาให้คนออกไปนอกศาลาจนหมด ข้าจึงลุกขึ้นคอยคีบอาหารปรนนิบตั ิเขา ทว่าฮ่องเต้กดไหล่ขา้ ให้นงั่ ลง

303
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ให้เราดูแลเจ้าเถิด” เขากลับเป็ นฝ่ ายคอยคีบอาหารให้ขา้ แทน

อาหารรสเลิศ ทว่าข้ากินแทบไม่รู้รส ไม่รู้วา่ ฮ่องเต้จะเอ่ยสิ่ งใดกับข้า หลังอาหาร เขาชวนข้าเดินหมาก ใจของ


ข้ากระวนกระวาย รอคอยว่าเมื่อใดเขาจะเอ่ยปาก ผ่านไปได้หนึ่ งตา ข้าเป็ นฝ่ ายแพ้ ในตาที่สอง เขาเอ่ยขณะข้า
กําลังใช้ความคิด

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเดินหมากได้ดีไม่แพ้ชินอ๋ อง เสี ยแต่วา่ เจ้าลังเลไม่เด็ดขาด”

“ฝ่ าบาททรงปรี ชาสามารถ หม่อมฉันไม่อยากพ่ายแพ้อีก จึงต้องตัดสิ นใจให้ถว้ นถี่ก่อนเพคะ”

“เจ้ารี รออะไรอยูห่ รื อ” เขาถามพลางสบตาข้านิ่ง ข้าละสายตาจากเขาอย่างอึดอัดใจ

“ตาต่อไปที่จะต้องก้าวเดิน อย่าได้ลงั เลที่จะยืมมือเรา เรายินดี” เขาเอ่ยเป็ นนัย

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่ขวัญกล้าถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ ฝ่ าบาท” ข้าตอบพลางหลุบสายตาลง

“มาเป็ นสนมของเรา เราจะรักเจ้าถนอมเจ้า ให้ทุกสิ่ งที่เจ้าปรารถนา ลืมชินอ๋ องเสี ยเถิด หากเจ้าแค้นเขา จงใช้เรา
เป็ นเครื่ องมือแก้แค้น”

“ฝ่ าบาท!” ข้าเอ่ยอย่างตกใจ เขารู ้เจตนาของข้ามาโดยตลอด ไม่เพียงไม่โกรธ กลับยอมสละตัวเองเป็ นเครื่ องมือ


เพียงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดข้า ใจของข้าเจ็บปวดด้วยความเวทนา แต่ขา้ ไม่อาจรักเขา

"ฝ่ าบาท อวี้เอ๋ อร์ ลอ้ เล่นกับหัวใจท่าน อวี้เอ๋ อร์สมควรตาย"

"เรากลับดีใจที่เจ้านึกถึงเรา เพราะนัน่ หมายความว่า ในใจของเจ้า เราอยูถ่ ดั มาจากชินอ๋ อง"

ข้านํ้าตาไหล ไม่อาจให้คาํ ตอบเขา ไม่วา่ ข้าจะเลือกใคร หนทางข้างหน้าล้วนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

304
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 43 : ดอกไม้ ทผี่ ลิบาน

คืนนั้นข้าหลับไปด้วยความรู ้สึกสับสน ข้าฝันถึงเจิ้งอู่ ฝันถึงช่วงเวลาที่เราอยูด่ ว้ ยกัน ยามที่เขายังไม่จากไปรบ


ช่างเป็ นความรู ้สึกที่แสนหวาน ความรู ้สึกที่ซียนิ ลืมเลือนไปนานแล้ว เจิ้งอู่ช่างหยอกเย้า แกล้งให้ซียนิ เขินอาย
แววตาของเขายามที่มองนางเต็มไปด้วยความรัก ข้ารู ้สึกคุน้ เคย แววตาเช่นนี้ช่างคล้ายกับใครคนหนึ่ง

..ช่างเหมือนชินอ๋ องยามที่มองข้า..

แววตาของคนจะหลอกลวงกันได้ถึงขั้นนี้ เชียวหรื อ

หรื อว่าเจิ้งอู่จะรักซี ยนิ จากใจจริ ง

หรื อว่าชินอ๋ องจะจริ งใจกับข้า

ความฝันของข้าสะดุดลง ข้าลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึก ข้าไม่ได้อยูบ่ นเตียงตามลําพัง แต่กาํ ลังหลับสบายอยูใ่ น


อ้อมแขนของใครคนหนึ่ง เสี ยงลมหายใจของเขาสมํ่าเสมอ เขากําลังอยูใ่ นนิทรารมย์อนั แสนสุ ขเช่นกัน

ชินอ๋ องนอนกอดข้าไว้เช่นนี้ทุกคืนหรื อ..

ข้าไม่กล้าขยับตัว กลัวเขาจะตื่นขึ้นมา ยามนั้นข้าไม่รู้วา่ ควรทําเช่นไร

ตั้งแต่กลับมาจากชายแดน เขามาที่ตาํ หนักเมฆาล่องเพียงสองครั้ง แต่ละครั้งโดนข้าไล่กลับไปอย่างไม่ไว้หน้า


เขาไม่เคยมาให้ขา้ เห็นหน้าตามที่ขา้ เอ่ยปาก เขารักษาสัญญา ใช่สิ.. ตอนข้าหลับข้าไม่ได้เห็นหน้าเขาเสี ยหน่อย
ในใจข้าเกิดความรู ้สึกอยากจะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้กไ็ ม่เชิง ..ชินอ๋ องผูน้ ้ ีเจ้าเล่ห์นกั ตีความคําพูดของข้าจน
ไม่อาจเอาผิดเขาได้

มิน่าเขาจึงดูไม่ได้เดือดร้อนนักยามที่ขา้ แยกมาอยูต่ าํ หนักเมฆาล่อง..

ในใจของข้าเกิดความรู ้สึกแปลกๆ คล้ายกับความอบอุ่นค่อยๆ ซึ มซาบเข้ามาในใจที่ถูกนํ้าแข็งห่อหุม้ ไว้ทีละชั้น

305
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นายกับบ่าวช่างเข้ากันดีเสี ยจริ ง ข้านึกถึงยาสมุนไพรที่หมิงจูยกมาให้ดื่มทุกวันหลังอาหารเย็น นางบอกว่าเป็ น
ยาบํารุ งที่หมอจัดให้ ข้ารู ้วา่ ยานั้นมิใช่เพียงยาบํารุ ง ทว่าเจือด้วยยานอนหลับอ่อนๆ เพื่อกล่อมประสาทข้า ข้าดื่ม
แล้วหลับสบายจึงมักดื่มทุกวันก่อนนอน แต่บงั เอิญคืนนี้ขา้ มัวแต่ใช้ความคิดจึงเข้านอนโดยไม่ได้ดื่ม และนี่คง
เป็ นสาเหตุที่ทาํ ให้ขา้ ตื่นขึ้นมาในยามนี้

ข้าหลับตาลงอีกครั้ง ทําเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาอยากจะนอนที่นี่กช็ ่างเขาเถิด ในใจข้าไม่อยากปลุกคนที่


กําลังหลับสบายให้ตื่นขึ้นมา อาจจะเป็ นเพราะยามนี้ขา้ ง่วง หรื อไม่ขา้ ก็เหนื่อยเกินไปที่จะขับไล่เขาลงจากเตียง
กลางดึก น่าแปลกที่ขา้ หลับต่อได้สนิท ข้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้า บนเตียงมีขา้ อยูต่ ามลําพัง ที่นอนอีกฝั่งเรี ยบตึง
ไม่มีอะไรผิดปกติ ราวกับคํ่าคืนที่ผา่ นมาไม่มีร่างสู งใหญ่นอนอยูต่ รงนั้น

ชินอ๋ องคงจะแอบลุกไปเงียบๆ ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง

ข้าลุกขึ้นจากที่นอน รู ้สึกปวดตึงที่ทอ้ งน้อย หันไปดูเห็นรอยเลือดที่ผา้ ปูเตียง ระดูของข้ามา..

ยามนี้ฤดูหนาวสิ้ นสุ ดลงแล้ว เวลาผ่านไปเร็ วเหลือเกิน สองหนาวแล้วหรื อตั้งแต่ขา้ กินยาหมอเหอ ระหว่างนั้น


ระดูของข้าขาดไป ข้ายกมือทาบหน้าท้องที่แบนราบ จากนี้หากชินอ๋ องร่ วมอภิรมย์กบั ข้า ย่อมมีโอกาสที่ขา้ จะ
ตั้งท้องขึ้นมา เรื่ องนี้เขาคงจะรู ้อยูแ่ ล้วจึงได้เอ่ยปากกับข้า แม้ชินอ๋ องจะยังหนุ่มแน่น แต่ในยุคนี้อายุกถ็ ือว่าไม่
น้อยแล้ว เชื้อพระวงศ์คนอื่นที่รุ่นราวคราวเดียวกันล้วนแต่มีทายาทไปแล้วหลายคน

ข้าตัดสิ นใจ ..ข้าจะมอบทายาทให้กบั เขา ไม่วา่ อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่วา่ เขาจะรักข้าอย่างแท้จริ ง


หรื อไม่กต็ าม เด็กคนนี้คือพยานรักของข้า เขาจะเกิดมาเพราะความรักของข้า

หลังจากคืนนั้น ข้าไม่เข้าใจการกระทําตัวเองเลยสักนิด ข้าไม่โวยวายเรื่ องที่เขาแอบมานอนบนเตียงข้า ข้าไม่ได้


ตําหนิหมิงจูที่เอาสมุนไพรช่วยหลับให้ขา้ ดื่ม ข้าไม่ได้บอกนางว่าข้าไม่ตอ้ งการดื่มสมุนไพรนี้อีก ข้าเพียงแอบ
เททิ้งกับกระถางต้นไม้ ทุกคืนยามดึกข้าจะลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอุ่น ยิม้ ให้เขาอย่างสุ ขใจ ในความเงียบข้า
กลับสัมผัสได้ถึงความรักที่แอบซ่ อนอยู่ ทั้งในใจเขาและในใจข้า ข้าไม่ตอ้ งการคําพูด ต้องการเพียงช่วงเวลา
แบบนี้ท่ีเราอยูก่ นั ตามลําพังสองคน

ข้าแอบรักเขา ชินอ๋ องที่หลับใหล ชายที่มอบเพียงไออุ่นให้กบั ข้าแต่ไม่เคยเรี ยกร้องสิ่ งใดจากข้าเป็ นการตอบ


แทน ข้ารักช่วงเวลาที่ได้นอนฟังเสี ยงหัวใจของเขาเต้น ได้อยูใ่ นอ้อมกอดของเขา ห่อหุม้ ไปด้วยกลิ่นอายของ

306
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาที่ขา้ คุน้ เคย บางครั้งข้าทําใจกล้า ลุกขึ้นมามองหน้าเขายามหลับ แสงจันทร์สลัวทําให้ขา้ เห็นโครงหน้าเขาได้
เพียงรางๆ แต่เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทําให้ขา้ สุ ขใจเหลือเกิน

เหตุใดข้าจึงปรารถนาให้เขาหลับ.. ยามเขาหลับ เขาดูไร้พษิ ภัย ไม่เหมือนชินอ๋ องยามตื่นที่เฉลียวฉลาดทันคน


ข้าไม่ตอ้ งคอยระวังตัว ไม่ตอ้ งกลัวว่าจะเขาจะทําให้ขา้ เจ็บชํ้านํ้าใจ ไม่ตอ้ งกลัวว่าเขาจะบีบคั้นให้ขา้ อภัยให้เขา
ข้ามีเวลามองเขาในแบบที่ขา้ อยากมอง นึกฝันว่าเรารักกัน ไร้ซ่ ึ งเรื่ องขุ่นข้องหมองใจ

ครั้งหนึ่งข้าเกือบทําเขาตื่น ยามนั้นข้าชะโงกหน้าเหนือร่ างเขา จ้องมองใบหน้ายามหลับอย่างรักใคร่ ข้าไม่ทนั


ระวัง เส้นผมของข้าทิ้งตัวลงเคล้าเคลียลําคอเขา ชินอ๋ องสะดุง้ ลมหายใจติดขัด แต่เขาเพียงพลิกกายหนี ยามนั้น
ข้าตกใจเกือบตาย ได้แต่ทิ้งตัวนอนแสร้งทําเป็ นหลับ โชคดีเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมา

ต้นไม้กระถางนั้นตาย มันคงทนดื่มยาทุกวันไม่ไหว คนยกกระถางใหม่เข้ามาแทน กระถางกล้วยไม้หลากสี ถูก


ยกเข้ามาวางหมุนเวียน ในห้องข้ามักจะมีดอกไม้สดชื่นอยูเ่ สมอ ข้าไม่ได้ถามว่าเป็ นใครให้เอาเข้ามา แต่ดูจาก
สายตาหมิงจูที่มองข้าอย่างคาดหวังให้ถาม ข้าก็รู้คาํ ตอบ

ข้าไม่รู้วา่ ฮ่องเต้ยงั คงส่ งคนมารับข้าเข้าวังหรื อไม่ ทว่าครั้งหนึ่งขณะเดินเล่นในสวน ข้าเห็นแผ่นหลังเฉิ นกงกง


เดินจากไปไวๆ เฉิ นกงกงจะมีธุระอะไรที่วงั เสิ่ นหยางกงได้เล่า ข้าได้ยนิ จากหมิงจู ระยะนี้ชินอ๋ องไม่ยอม
ออกไปไหน อยูต่ ิดวังราวกับพยัคฆ์เฝ้าถํ้า เขากําลังเฝ้าอะไรอยูห่ รื อ ข้าไม่ได้ถามต่อ หากกงกงข้างกายฮ่องเต้
มาแล้วยังต้องกลับไปมือเปล่า เห็นทีฮ่องเต้คงต้องเสด็จเอง แต่ดว้ ยภารกิจรัดตัว การออกจากวังแต่ละทีมิใช่
เรื่ องง่ายเลย เขาคงได้แต่ใช้มิตรภาพระหว่างข้าและอาหนิงมาอ้าง ข้าแอบยิม้ เห็นทีอาหนิงคงต้องรอเก้อ ที่ขา้
บอกว่าจะแวะไปเยีย่ มนางอีก คงต้องรออีกนาน จนกว่าคนหัวแข็งบางคนจะวางใจเสี ยก่อน

วันคืนผันผ่าน ข้าใช้ชีวิตกับแม่อย่างสงบและเป็ นสุ ข ชินอ๋ องไม่เคยแวะเวียนมาหาข้าในตอนกลางวัน แต่เรา


นอนในอ้อมกอดกันและกันทุกคืน เช่นนี้ ช่างดีเหลือเกิน แม้ไม่เคยได้เอ่ยวาจา แต่ในใจข้ากลับอบอุ่น รู ้สึกได้
ชิดใกล้เขากว่าเคย ไม่รู้วา่ เขาจะรู ้สึกเช่นเดียวกันหรื อไม่ หมิงจูยงั คงยกยามาให้ขา้ ดื่ม แต่นางบอกว่า ท่านหมอ
เปลี่ยนยาให้ขา้ ใหม่ คราวนี้เป็ นยาบํารุ งร่ างกายเตรี ยมความพร้อมสําหรับการตั้งครรภ์ ใบหน้าของข้าแดงเรื่ อ

“โอรสธิ ดาของหวางเฟยและท่านอ๋ องต้องงามมากแน่เพคะ หมิงจูแทบจะรอดูไม่ไหว” นางกล่าวสี หน้าแย้มยิม้


ดูเหมือนว่านางจะรู ้อะไรไม่นอ้ ยทีเดียว ไม่รู้วา่ นางรู ้เรื่ องที่ขา้ แอบเทยาทิ้งหรื อไม่

307
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จะเป็ นไปได้อย่างไร ข้ากับท่านอ๋ องไม่ได้ร่วมเตียงกันเสี ยหน่อย” ข้าแสร้งเอ็ดนาง แต่กด็ ื่มสมุนไพรที่นางยก
มา ข้ากลัวนางรู ้เหลือเกินว่าข้าเฝ้ารอเวลากลางคืนที่ชินอ๋ องจะมาหา กลัวว่านางจะนําความไปบอกเขา แต่นางก็
ไม่ได้ทาํ ดังที่ขา้ นึกกลัว นางจะรู ้ได้อย่างไรกันเล่า เรื่ องนี้มีเพียงข้าคนเดียวที่รู้

เหตุการณ์เป็ นไปอย่างราบรื่ น จนกระทัง่ คืนหนึ่ ง ข้าตื่นกลางดึกเช่นเคย ข้าซุกอยูก่ บั แผงอกเขา ทว่าคืนนี้แปลก


ไป อกอุ่นของเขาสะท้อนขึ้นลงหนักหน่วง เขาหอบหายใจแรง วงแขนที่โอบข้าไว้รัดแน่น เขาตื่นอยูแ่ ละกําลัง
พยายามระงับอารมณ์อย่างหนัก ข้านอนตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิก ได้แต่แกล้งหลับต่อไป จุมพิตเขาพร่ าง
พรมลงบนใบหน้าข้า เขาคงจะทรมานมากแต่ไม่กล้าทําอะไรข้าเกินไปกว่านี้

“อวี้เอ๋ อร์..” เขากระซิ บแผ่วเบา “ไม่วา่ เปิ่ นหวางจะทําอะไร เจ้าห้ามตื่นขึ้นมาเด็ดขาดรู ้หรื อไม่ เจ้าไม่จาํ เป็ นต้อง
รับรู ้สิ่งที่เกิดขึ้นหากมันจะทําให้เจ้าไม่สบายใจ อวี้เอ๋ อร์สัญญาจะให้ทายาทแก่เปิ่ นหวางมิใช่หรื อ เปิ่ นหวาง
เพียงมาขอตามสัญญา”

..เขารู ้วา่ ข้าตื่นอยู!่

ข้าไม่อาจลืมตา เขาถืออาการเงียบงันของข้าเป็ นการตอบรับ หากข้าไม่ยนิ ยอมมีหรื อจะนอนนิ่งเฉยให้เขากอด


ได้นานถึงเพียงนี้

เขาจุมพิตข้าที่ริมฝี ปาก ปากนุ่มของเราเคล้าเคลียกัน ลมหายใจอุ่นริ นรดใบหน้า ระหว่างเรามีเพียงความคิดถึง


เพียงจุมพิตหยอกล้อทักทายกลับใช้เวลาเนิ่นนาน เราสองคนราวกับทําความรู ้จกั กันใหม่ ปลายลิ้นเขาไล้เรี ยว
ริ มฝี ปากข้าอย่างหยอกล้อ ข้าแกล้งงับริ มฝี ปากเขาเบาๆ เขาหัวเราะในลําคอแล้วจูบข้าอย่างหนักหน่วง

เราต่างโหยหากัน เราต่างคิดถึงกัน สัมผัสของเขาช่างละเมียดละไม เราสองคนพยายามช่วยกันประคับประคอง


ความรักอันเปราะบางในความมืด ข้าแปลกใจ ในยามที่ตามองไม่เห็น ใจของเรากลับมองเห็นความรักได้
ชัดเจนเหลือเกิน ตัวตนของเขาในยามนี้อ่อนโยนอ่อนหวาน เขาคือชายที่ขา้ รัก เป็ นทั้งเจิ้งอู่ เป็ นทั้งเสวียนเฟิ ง
ไม่วา่ ภายนอกจะเป็ นใคร แต่ท้ งั ตัวตนและจิตวิญญาณภายในก็ยงั คงเป็ นเขา คนที่ขา้ รักทั้งชาติก่อนและชาติน้ ี

คืนนี้ช่างเป็ นคํ่าคืนอันแสนสุ ข เป็ นคํ่าคืนที่ควรค่าแก่การจดจํา ข้าไม่เอ่ยปากพูดกับเขาสักคํา ทําเสมือนว่าข้า


กําลังหลับ เพียงละเมอไปกับสัมผัสเขาเท่านั้น เขาก็ไม่ได้เอ่ยคําใดกับข้า เราสื่ อสารกันเพียงความเคลื่อนไหว
เชื่องช้างดงามราวกับหงส์คู่เริ งระบํา ระมัดระวังราวกับกลัวว่าอีกฝ่ ายจะแตกหัก ในใจเราดื่มดํ่าในรสรักอย่าง
เงียบงัน

308
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ยามที่ขา้ ลืมตาตื่น มุมปากยังประดับด้วยรอยยิม้ ที่นอนข้างกายว่างเปล่าเรี ยบตึง ไร้เงาชูร้ ักยามคํ่าคืนของข้า เขา


จากไปเสี ยแล้ว ราวกับเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็ นเพียงความฝัน กระนั้นในใจของข้าราวกับมีบางสิ่ งผลิบาน หรื อ
นี่จะเป็ นความรักครั้งใหม่..กับหัวใจดวงเดิม..

เป็ นไปได้ดว้ ยหรื อ.. หรื อว่าชินอ๋ องเป็ นบุรุษที่มีหลายแง่มุมที่ขา้ ไม่รู้จกั ข้ากําลังตกหลุมรักตัวตนอีกด้านของ
เขาหรื อ ด้านที่เขาเป็ นเพียงเสวียนเฟิ ง..มิใช่ชินอ๋ องผูย้ งิ่ ใหญ่ ใช่หรื อไม่

309
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 44 : เพียงเวลาจะเยียวยาบาดแผล

ข้าบอกหมิงจูให้เตรี ยมนํ้าอาบแต่ไม่ให้นางอยูป่ รนนิบตั ิ เรื่ องที่เกิดเมื่อคืน อย่ามีคนรู ้เลยย่อมดีที่สุด หมิงจูมอง


ข้าอย่างสงสัย ข้าเพียงนิ่งเฉยไม่อธิบายสิ่ งใด ยามนางออกไปแล้ว ข้าปลดเปลื้องเสื้ อผ้า แล้วก้าวลงแช่ในนํ้าอุ่น
ข้าใช้เวลาในอ่างครุ่ นคิดถึงเรื่ องราวต่อจากนี้

เสี ยงขลุ่ยไม้ไผ่ดงั แว่วมา เป็ นท่วงทํานองบทเพลงฤทัยแรกรัก เสี ยงดนตรี พลิ้วหวานทว่าแฝงแววยัว่ เย้าหยอก


ล้อ เผยอุปนิสัยของผูบ้ รรเลงเช่นนี้ จะเป็ นผูใ้ ดไปได้ถา้ ไม่ใช่ชินอ๋ อง เสี ยงดนตรี อ่อนหวานยามบรรเลงด้วย
บุรุษให้ความรู ้สึกแปลกประหลาดนัก ข้ารู ้สึกใบหน้าร้อนผ่าวราวกับถูกเขาสารภาพรักต่อหน้า รี บวักนํ้าอุ่นขึ้น
ใส่ ใบหน้าราวกับจะกลบเกลื่อนทั้งๆ ที่อยูค่ นเดียว เสี ยงดนตรี น้ ีช่างรบกวนสมาธิ ขา้ เหลือเกิน ข้าจะใช้ความคิด
ได้อย่างไร ข้าจึงเรี ยกหมิงจูเข้ามา

“ใครมาเป่ าขลุ่ยเล่นอยูแ่ ถวนี้ เสี ยงดังน่ารําคาญนัก เจ้าออกไปไล่ให้ไปเล่นไกลๆ หน่อยเถิด” ข้าเอ่ยกับนาง


หมิงจูทาํ หน้าแปลกๆ เหมือนจะพูดแต่กไ็ ม่พดู

“ทําไมหรื อ” ข้าถามนาง

“เปล่าเพคะ หมิงจูจะออกไปบอกให้คนผูน้ ้ ีหยุดเล่นเพคะ”

นางหายไปพักหนึ่ง เสี ยงขลุ่ยก็หายไป ข้าถอนใจอย่างโล่งอก รี บชําระร่ างกายแล้วลุกขึ้นแต่งตัว ข้ากินอาหาร


เช้ากับแม่แล้วออกไปเดินเล่นด้วยกันตามปกติ อากาศยามเช้าฤดูใบไม้ผลิสดชื่นยิง่ นัก มวลดอกไม้เริ่ มแข่งกันชู
ช่อเบ่งบาน ข้ารู ้สึกสดชื่น พยุงแม่กา้ วเดิน ชี้ชวนกันดูดอกไม้ใบหญ้าอย่างมีความสุ ข นางกํานัลผูห้ นึ่งก้าวเข้า
มาหา

“ทูลหวางเฟย ท่านอ๋ องเชิญท่านไปพบที่หอ้ งอักษรเพคะ”

แม่หนั มามองข้า ข้าหลบสายตาแล้วกล่าวขอตัว หมิงจูประคองแม่เดินต่อ ส่ วนข้าแยกจากมาแล้วเดินตามนาง


กํานัลผูน้ ้ นั ไป ในใจยังนึกเก้อกระดาก อดคิดอย่างสงสัยไม่ได้ เขาตามข้าไปพบด้วยเรื่ องอะไร หากเป็ นเรื่ อง
เมื่อคืน ข้าจะแสร้งทําเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อให้เขาพยายามจะสานสัมพันธ์ขา้ ก็จะทําเป็ นไม่รับรู ้ ยามที่
ข้าไปถึงหน้าห้อง ก็ได้ยนิ เสี ยงทุ่มเถียงกันดังเล็ดลอดออกมา ครั้นเฉิ นซี ขานนามข้า เสี ยงในห้องจึงค่อยเงียบไป

310
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ภายในห้องบุรุษสองคนจ้องมองกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ.. ชินอ๋ องมิได้อยูต่ ามลําพัง คนที่ใส่ ชุดสามัญชน


ยืนอยูต่ รงข้ามไม่ใช่ใคร ฮ่องเต้นนั่ เอง! พอเห็นข้าเขาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างยินดี

“อวี้เอ๋ อร์ !” เขาตรงเข้ามาจะจับมือข้า ทว่าชินอ๋ องรี บก้าวมาขวางไว้

ฮ่องเต้มองหน้าชินอ๋ องอย่างขุ่นเคืองก่อนจะหันมาถามข้าเสี ยงแข็ง

“อวี้เอ๋ อร์ เราส่ งเฉิ นกงกงมารับเจ้าหลายครั้งแต่ไม่เคยได้พบเจ้าเลย เป็ นชินอ๋ องขัดขวางไม่ให้เจ้าเข้าวังไปใช่


หรื อไม่”

ข้าก้มหน้าตอบอย่างอึดอัดใจ “ทูลฝ่ าบาท ที่ผา่ นมาอวี้เอ๋ อร์ไม่ค่อยสบายเพคะ” ข้าตอบเลี่ยงๆ ไม่ตอ้ งการให้เขา


สองคนผิดใจกัน

“ที่ผา่ นมา อวี้เอ๋ อร์ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ทําให้ไม่ต้ งั ครรภ์เสี ยที ยามนี้ขา้ ให้หมอจัดยาบํารุ งให้นาง นางจึง
สมควรต้องเก็บตัวพักผ่อน เตรี ยมพร้อมสําหรับการตั้งครรภ์ทายาทให้ขา้ ”

“จริ งหรื อ อวี้เอ๋ อร์” ฮ่องเต้เอ่ยอย่างเจ็บปวด สายตามองมาที่ขา้

ข้าได้แต่กม้ หน้าผงกศีรษะ

“อวี้เอ๋ อร์ เสด็จอาบังคับขืนใจเจ้าใช่หรื อไม่ เจ้าเคียดแค้นเขา ไม่มีทางที่จะยอมให้เขาแตะต้อง เจ้าย่อมไม่มีทาง


ยอมตั้งครรภ์กบั เขา ใช่หรื อไม่อวี้เอ๋ อร์” เขาหันมาถามข้าอย่างมีความหวัง

“ฝ่ าบาทเพคะ เป็ นหน้าที่ของอวี้เอ๋ อร์ที่ตอ้ งให้กาํ เนิดทายาทแก่ท่านอ๋ องเพคะ” ข้าตอบอย่างสงวนถ้อยคํา ไม่
ต้องการให้ทา้ ยชินอ๋ อง แต่กไ็ ม่ตอ้ งการให้ความหวังฮ่องเต้

“เราไม่เชื่อ” ฮ่องเต้กล่าวอย่างบันดาลโทสะ “เรามาเพื่อให้เห็นกับตา เฉิ นกงกงมาหลายครั้งก็ไม่ได้พบเจ้า ย่อม


เป็ นชินอ๋ องที่กกั ขังเจ้าไว้”

“เผิงจวิน้ เจ้าเห็นกับตาแล้วใช่หรื อไม่ ข้าไม่ได้กกั ขังรังแกอวี้เอ๋ อร์ ล้วนเป็ นความสมัครใจของนางเอง”

311
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ฮ่องเต้ทาํ ราวกับไม่ได้ยนิ คําพูดของชินอ๋ อง หันมาเอ่ยกับข้าต่อ “อวี้เอ๋ อร์ จําคําพูดของเราได้หรื อไม่ เรายินดีที่


เจ้านึกถึงเรา อย่าได้กลัวไปเลย หากเจ้าอยูใ่ ต้ปีกเรา แม้อาํ นาจราชศักดิ์ของชินอ๋ องก็ไม่อาจกลํ้ากราย”

“เผิงจวิน้ เจ้าพูดเช่นนี้ กบั ภรรยาผูอ้ ื่นได้รึ!” ชินอ๋ องเอ่ยเสี ยงดังขึ้นมา

“เสด็จอา หากอวี้เอ๋ อร์ตอ้ งการให้โอกาสข้า ท่านจะขวางได้หรื อ” ฮ่องเต้หนั ไปโต้ตอบอย่างไม่ยอมแพ้

ข้ามองภาพตรงหน้าอย่างเหนื่อยล้า บุรุษสองคนที่แย่งชิงตัวข้ามาตั้งแต่ตน้ จนบัดนี้กย็ งั ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


ข้าตัดสิ นใจเอ่ยกับชินอ๋ อง

“ท่านอ๋ องเพคะ ได้โปรดให้อวี้เอ๋ อร์ได้คุยกับฝ่ าบาทตามลําพังสักครู่ หนึ่งเถิดเพคะ”

ฮ่องเต้สีหน้าดีข้ ึนมาทันที ชินอ๋ องหันมาจ้องมองข้าอย่างอัดอั้น ข้าจ้องเขาตอบนิ่งเฉย ในที่สุดเขาก็สะบัดแขน


เสื้ อเดินออกจากห้องไป แต่เขาคงไม่ไปไหนไกลนอกจากจะแอบเงี่ยหูฟังอยูห่ น้าห้อง ครั้นอยูก่ นั ตามลําพัง ข้า
ก็หนั ไปเอ่ยกับฮ่องเต้

“ฝ่ าบาทเพคะ อวี้เอ๋ อร์ขอบพระทัยในพระเมตตาที่ฝ่าบาทมีให้กบั อวี้เอ๋ อร์มาโดยตลอด ทว่าอวี้เอ๋ อร์ตดั สิ นใจจะ


ประคับประคองชีวิตคู่น้ ีต่อไป เป็ นอวี้เอ๋ อร์ เองที่ไม่ยอมก้าวออกจากกรงขังนี้ไปสู่ กรงขังใหม่ ฝ่ าบาทคงจะ
เข้าใจความรู ้สึกของอวี้เอ๋ อร์ ”

ฮ่องเต้มีสีหน้าเซื่ องซึ มเมื่อได้ยนิ คําพูดของข้า เหตุใดเขาจะไม่เข้าใจเล่า กรงขังใหม่กค็ ือวังหลังของเขา ที่ซ่ ึ ง


โหดร้ายไม่ต่างกันเลย เขายิม้ อย่างขมขื่น

“จริ งสิ อยูท่ ี่นี่ชินอ๋ องยังเป็ นของเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว อยูก่ บั เรา ยังมีสตรี อื่นอีกนับร้อยพัน ต่อให้เป็ นเจ้าซึ่ งไม่ได้
รักเราก็ไม่แน่วา่ จะทําใจได้ เจ้าตัดสิ นใจเช่นนี้ เราไม่ตาํ หนิเจ้า อวี้เอ๋ อร์..ว่าแต่เจ้าละวางความแค้นลงได้แล้ว
หรื อ”

“ความแค้นอวี้เอ๋ อร์ ยงั ไม่อาจละวางลงได้ ความรักก็เช่นกันเพคะ ยามนี้จิตใจหม่อมฉันราวกับมีไฟเผาผลาญ


ยากนักที่จะเป็ นสุ ขได้ มีเพียงบางครั้งที่พยายามลืมไปเท่านั้น” ข้าเปิ ดใจพูดกับเขา

312
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ เสด็จอาช่างเป็ นบุรุษที่โชคดีเหลือเกิน เขาได้ครอบครองเจ้า ทั้งกายและใจ แม้เราจะพยายามทุ่มสุ ดตัว
เพื่อแย่งชิงมา แต่เจ้าก็ไม่เคยหวัน่ ไหว แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อาภัพนัก ภาระหน้าที่อนั ยิง่ ใหญ่ทาํ ให้เขาไม่
อาจเลือกทําตามใจปรารถนาได้ เราทั้งอิจฉาและเห็นใจเขาเหลือเกิน”

ข้าไม่ตอบเขาเรื่ องชินอ๋ อง เพียงเอ่ยปลอบโยนแผ่วเบา “สตรี ที่รักฝ่ าบาทเช่นนี้ใช่วา่ จะไม่มี ฝ่ าบาทเพียงต้อง


มองหาให้ถว้ นถี่เพคะ” ข้าเอ่ยบอกเขาเป็ นนัย

“สักวันหนึ่งข้าคงจะมอบหัวใจให้คนผูน้ ้ นั ได้ดงั เช่นข้ามอบให้เจ้า แต่มนั คงจะอีกนาน” เขายิม้ เศร้า ข้ามองเขา


อย่างสงสาร

“ฝ่ าบาท..” ข้าพยายามจะเอ่ยปลอบเขา

“เอาเถิด คราวนี้เราคงหมดหวังแล้วจริ งๆ อวี้เอ๋ อร์ เราขอให้เจ้ามีความสุ ข ความแค้นระหว่างเจ้ากับเขา แม้เรา


ไม่รู้ชดั แจ้งว่าเป็ นเรื่ องอะไร แต่หวังว่าเจ้าจะปล่อยวางมันลงได้ในเร็ ววัน เราปรารถนาจะเห็นเจ้ามีความสุ ขแม้
เจ้าจะไม่ได้อยูเ่ คียงข้างเราก็ตาม”

เขาคว้ามือข้าไปจับไว้ ข้าไม่ได้หา้ มปราม นี่คงจะเป็ นครั้งสุ ดท้ายแล้วที่เขาจะได้พูดเปิ ดใจกับข้า ทว่าเขาโน้ม


ใบหน้าลงมา ข้าอุทานอย่างตกใจ

“ฝ่ าบาท!”

เสี ยงประตูกระแทกเปิ ดดังสนัน่ ชินอ๋ องพุง่ กายเข้ามาทันที

“เผิงจวิน้ ! ปล่อยภรรยาข้าเดี๋ยวนี้ ”

“เสด็จอา ท่านช่างใจแคบเสี ยจริ ง ข้าเพียงจะเอ่ยคําลากับนาง แค่น้ ีกไ็ ม่ได้หรื อ”

“เช่นนั้นข้าเอ่ยคําลากับสนมเจ้าอย่างนี้บา้ งได้ไหมเล่า” ชินอ๋ องถามกลับอย่างโมโห ดึงร่ างข้ามาไว้ในอ้อมกอด

“หากท่านอยากทําอย่างนั้นข้าก็ไม่วา่ แต่ถามอวี้เอ๋ อร์ดูก่อนเถิด”

313
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องมีสีหน้าประหลาดขึ้นมาทันที “อวี้เอ๋ อร์ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”

ข้าไม่เคยเห็นสี หน้าเช่นนี้ของเขามาก่อน รู ้สึกตลกจนแทบหลุดขํา ฮ่องเต้ถึงกับหัวเราะเสี ยงดัง

“เสด็จอา เห็นทีเสี ยงเล่าลือข้างนอกนัน่ คงจะเป็ นความจริ งเสี ยแล้ว ชินอ๋ องกลัวภรรยายิง่ นัก”

“กลัวแล้วเป็ นอย่างไร ไม่กลัวแล้วเป็ นอย่างไร เสร็ จธุระเจ้าแล้วก็กลับไปเสี ยเถิด” ใบหน้าของชินอ๋ องมีริ้วแดง


ขึ้นมานิดๆ รี บเอ่ยปากไล่ผเู ้ ป็ นหลานอย่างไม่รักษามารยาท ครั้นฮ่องเต้จากไปแล้ว เขายังไม่ยอมปล่อยมือจาก
ข้า ข้าจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับเขา

“ท่านอ๋ องเพคะ การที่อวี้เอ๋ อร์ยอมตั้งครรภ์ให้ท่าน ไม่ได้หมายความว่าอวี้เอ๋ อร์สามารถทําใจให้อภัยท่านได้ทุก


อย่าง”

อ้อมแขนที่โอบกอดข้าไว้คลายออก

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางรู ้ บาดแผลในใจเจ้าเจ็บปวดเพียงใด แต่ได้โปรดให้โอกาสชายที่ทาํ ร้ายเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า


ได้โปรดเชื่อในความรักของเปิ่ นหวางอีกสักครั้ง”

ข้านิ่งเฉย โอกาสอย่างนั้นหรื อ หากข้าไม่ให้โอกาสเขา จะยอมตั้งครรภ์กบั เขาได้อย่างไร ร่ างกายข้ายอมตกเป็ น


ของเขา แต่ใจที่เจ็บชํ้าของข้ายังไม่ทนั เยียวยาหายดี เขาก็จอ้ งจะครอบครองอีกแล้วหรื อ

“อวี้เอ๋ อร์..” เขาเรี ยกข้านํ้าเสี ยงเว้าวอน ข้าเบือนสายตาไปทางอื่นที่ไม่มีเขา

เขายกสองมือขึ้นปิ ดตาข้าแล้วก้มลงมาจุมพิต

“การที่เจ้ามองไม่เห็นข้า ไม่ได้หมายความว่าข้าไม่ใช่ชินอ๋ อง” เขาพึมพําอยูท่ ี่ริมฝี ปาก “รสจูบนี้มิใช่เหมือนกับ


บุรุษในยามคํ่าคืนผูน้ ้ นั หรื อ.. อวี้เอ๋ อร์ อย่าหลอกตัวเองอีกเลย ข้า..ชินอ๋ องผูน้ ้ ีกค็ ือบุรุษในยามคํ่าคืนของเจ้า
บุรุษในหัวใจเจ้า ต่อให้เจ้าจะบอกตัวเองอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริ งนี้ได้”

314
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นํ้าตาของข้าไหลริ น “ท่านรู ้.. รู ้มาโดยตลอดว่าข้าเฝ้ารอไออุ่นจากท่านในยามคํ่าคืน รู ้วา่ ข้ายินยอมเปิ ดเปลือย
หัวใจให้กบั ท่านในยามหลับใหล แล้วท่านรู ้หรื อไม่เหตุใดข้าจึงทําตัวน่าสมเพชเช่นนั้น” ชินอ๋ องนิ่ งฟังข้า มือ
ของเขายังคงปิ ดตาข้าไว้จึงไม่อาจเห็นประกายร้าวราน

“เพราะใจของข้ายังไม่อาจลืมความเจ็บปวด ได้แต่แอบซึ มซาบความรักในใจอย่างเงียบๆ ราวกับมุสิกแอบกิน


เศษอาหาร อวี้เอ๋ อร์รักท่านอ๋ อง แต่ยงั ไม่อาจทําใจให้ท่านอ๋ องใกล้ชิด อวี้เอ๋ อร์กลัวเหลือเกิน กลัวว่าหากมอบ
หัวใจให้ท่านอ๋ องไป เหตุการณ์จะเป็ นเช่นเดิมอีก ความเจ็บปวดในครั้งนั้นยังแจ่มชัดอยูใ่ นใจจนทุกวันนี้ หาก
ทุกสิ่ งจะเป็ นเหมือนเดิม อวี้เอ๋ อร์รับไม่ไหว ได้โปรดอย่าบีบคั้นอวี้เอ๋ อร์มากไปกว่านี้เลย ได้โปรดให้อวี้เอ๋ อร์ได้
หลอกตัวเองต่อไป ได้รักบุรุษในยามคํ่าคืนผูน้ ้ นั ขอเวลาให้อวี้เอ๋ อร์ได้มีความสุ ขเพียงน้อยนิดได้หรื อไม่”

ชินอ๋ องเลื่อนมือมากุมใบหน้าข้าให้เงยขึ้นมองเขา “อวี้เอ๋ อร์ไม่มีอะไรต้องกลัว ข้าสัญญา จะไม่ทาํ ให้เจ้าเจ็บชํ้า


อีก ข้ารักเจ้าเหลือเกิน อยากมีเจ้าเคียงข้างตลอดเวลา มิใช่เฉพาะยามคํ่าคืน”

“เพียงวาจาไม่อาจรักษาใจที่แตกร้าว ขอท่านอ๋ องโปรดเมตตา ให้เวลาอวี้เอ๋ อร์ได้ทาํ ใจด้วยเพคะ ใจคนยากจะ


ฝื น อยากลืมกลับไม่อาจลืม เพียงกาลเวลาจึงเยียวยาทุกสิ่ ง”

ชินอ๋ องมองข้าสายตาปวดร้าว “ได้.. ข้าจะรอ”

คืนนั้นเป็ นคืนแรกที่ขา้ เข้านอนโดยไม่หลับ ยามดึกเขาเปิ ดประตูเข้ามาในห้อง ทิ้งกายลงนอนเคียงข้างข้า เขารู ้


ว่าข้ายังไม่หลับ มือหนาเอื้อมมากุมมือข้าไว้ ข้านอนนิ่งเฉยราวกับกําลังหลับใหลไม่รู้สึกตัว ชินอ๋ องหลับตาลง
ลมหายใจของเขาสมํ่าเสมอ ข้ารอจนแน่ใจว่าเขาหลับแล้วจึงพลิกตัวเข้าหาอกอุ่น ประทับจูบลงบนริ มฝี ปากเขา
แผ่วเบาราวกับผีเสื้ อขยับปี ก ข้าซุกใบหน้ากับแผ่นอกกว้างแล้วกระซิ บเบาๆ

“ข้ารักท่าน” /บุรุษในยามคํ่าคืนของข้า/

จากนั้นข้าก็หลับไป ไม่ได้เห็นรอยยิม้ ที่ปรากฏขึ้นบนมุมปากของเขา

315
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 45 : กําแพงทีข่ วางกั้น

เทศกาลชุนเจี๋ยหรื อวันตรุ ษมาถึงแล้ว เป็ นเทศกาลต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ในเมืองเต็มไปด้วยความคึกคัก ท้องถนน


ร้านรวงต่างประดับประดาไปด้วยสี แดง แม้ในวังเสิ่ นหยางกงเองก็เต็มไปด้วยรอยยิม้ และเสี ยงหัวเราะ บ่าวใน
วังต่างช่วยกันตกแต่งสถานที่อย่างคึกคัก รอรับอัง่ เปากันอย่างเบิกบาน ชินอ๋ องเป็ นคนใจกว้าง ย่อมตบรางวัล
ตอบแทนความขยันขันแข็งและความซื่ อสัตย์ให้พวกเขาอย่างงาม ข้าตระเตรี ยมซองแดงให้แม่ หมิงจู และนาง
กํานัลในตําหนักเมฆาล่อง ส่ วนของคนอื่นๆ นั้นเป็ นหน้าที่ของชินอ๋ องมอบหมายให้พอ่ บ้านฉี จดั การ พ่อบ้านฉี
เอารายการมาให้ขา้ ตรวจดู ข้าเห็นว่าเหมาะสมดีแล้วจึงให้เป็ นไปตามนั้น แต่สมทบเงินส่ วนตัวของข้าเพิ่มให้
ทุกคนอีกคนละห้าตําลึง ข้าแทบไม่ได้ใช้เงิน ให้พวกเขาไปย่อมจะดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ

คืนเฝ้าปี ข้าต้องอยูก่ บั เขาที่ตาํ หนักหยางซิ นตามธรรมเนียม ข้าขอให้แม่ไปด้วย เราสามคนนัง่ กันเงียบๆ ข้าและ


ชินอ๋ องไม่มองหน้ากัน แม่ทาํ เป็ นนัง่ เย็บผ้าอยูอ่ ีกมุมหนึ่งไม่สนใจเราสองคน

ข้าไม่รู้จะทําอะไรจึงลุกขึ้นเดินไปชมไม้กระถางที่ริมหน้าต่าง รับรู ้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่ติดตามมา ยามตื่น ชิน


อ๋ องเป็ นเหมือนคนแปลกหน้าสําหรับข้า ข้าทําเป็ นไม่ใส่ ใจแม้วา่ ในใจรู ้สึกเก้อกระดากต่อสายตาเขาเหลือกําลัง

“ไปเอากระดาษกับพูก่ นั มา เปิ่ นหวางจะเขียนภาพ” เขาหันไปบอกหมิงจู นางรับคําแล้วหายไปชัว่ ครู่ กลับมา


พร้อมกับข้าวของในมือ มีนางกํานัลช่วยถือตามมาอีกสองคน ข้าหันไปมองอย่างฉงน มืดคํ่าป่ านนี้ เขาจะวาด
ภาพอะไรกันหรื อ

นิ้วเรี ยวของเขาคว้าพูก่ นั ขึ้นสะบัด สี หน้าของเขาดูจริ งจังนัก ข้าเผลอเหม่อมองเขาอย่างสนใจ ชินอ๋ องละสายตา


จากผืนกระดาษขึ้นมาสบตาข้าแวบหนึ่ง แล้วหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ แม้จะอยากรู ้วา่ เขาวาดภาพอะไรแต่
ข้าไม่อยากชวนเขาสนทนา อีกทั้งไม่อยากเดินเข้าไปใกล้ ข้าเพียงเท้าแขนที่ขอบหน้าต่างแล้วมองออกไปยัง
ท้องฟ้าภายนอก ชมจันทร์ กระจ่างฟ้าและดวงดาวพร่ างพรายอย่างสบายอารมณ์ ปี ใหม่แล้ว หวังว่าสิ่ งดีๆ จะเข้า
มาในชีวิตข้าบ้าง

ครู่ หนึ่งชินอ๋ องจึงวางพูก่ นั ปลดกระดาษลงจากขาตั้งแล้วส่ งให้หมิงจู หมิงจูตาพราว รับกระดาษแล้วเดินตรง


มาหาข้า

“หวางเฟยทอดพระเนตรสิ เพคะ ฝี มือเขียนภาพของท่านอ๋ องช่างลํ้าเลิศเสี ยจริ ง”

316
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้ากวาดสายตามองภาพในมือของหมิงจู แม้จะเป็ นภาพร่ างนํ้าหมึกคร่ าวๆ หากแต่สัดส่ วนสมจริ ง สตรี ในภาพมี


เค้าโครงใบหน้าและรู ปร่ างเหมือนกับข้าไม่มีผดิ เพี้ยน ลายเส้นของเขาหนักแน่น ปลายพูก่ นั ตวัดอย่างมีศิลปะ
ในภาพเป็ นอิริยาบถเมื่อครู่ ของข้าที่กาํ ลังเท้าหน้าต่างทอดสายตาไกลออกไป สี หน้าของข้าแม้จะแฝงความเศร้า
แต่กเ็ ปี่ ยมไปด้วยความหวัง เขาเป็ นเช่นนี้เสมอ มักจะมองออกว่าข้ารู ้สึกอย่างไร

ฝี มือของเขาไม่เลวเลย ข้าเลื่อนสายตาไปมองเขาซึ่ งกําลังจับจ้องข้าไม่วางตา สายตาของเขาวาววาม มองข้าที่


กําลังชมผลงานของเขาอย่างคาดหวัง ข้าหลบสายตาเขา กล่าวกับหมิงจู

“เอาไปใส่ กรอบติดไว้ในห้องนอนข้า” ในเมื่อเขาวาดภาพข้า มันก็สมควรเป็ นของข้ามิใช่หรื อ ข้าไม่อาจปฏิเสธ


ได้วา่ ถูกใจภาพนี้เหลือเกิน

“อวี้เอ๋ อร์ ภาพนี้เปิ่ นหวางเป็ นผูว้ าด อยูด่ ีๆ เจ้าจะช่วงชิงไปได้อย่างไร” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงหยอกเย้า “เว้นเสี ยแต่
ว่าอวี้เอ๋ อร์จะวาดภาพเปิ่ นหวางเป็ นการแลกเปลี่ยน เปิ่ นหวางจึงจะยกภาพนี้ ให้”

ข้าถอนใจเบาๆ กล่าวกับหมิงจูโดยไม่มองหน้าเขา “เช่นนั้นเจ้าก็นาํ ภาพนี้ ไปคืนท่านอ๋ องเถิด”

หมิงจูมีสีหน้าผิดหวัง ข้าไม่ได้หนั ไปมองว่าชินอ๋ องมีสีหน้าอย่างไร แต่เพียงครู่ เดียวเขาก็เอ่ยเสี ยงนุ่ม

“ไม่เป็ นไร หากอวี้เอ๋ อร์ อยากชมภาพนี้เมื่อใด ก็ไปดูในห้องบรรทมได้ทุกเวลา”

ข้าไม่ได้ตอบ

ชินอ๋ องหยิบขลุ่ยไม้ไผ่ข้ ึนมาบรรเลงฤทัยแรกรัก บทเพลงนี้สตรี มกั เล่นให้บุรุษที่แอบรัก แต่เขากลับบรรเลง


เพลงนี้ ให้ขา้ อีกครั้ง ข้าไม่กล้ามองมารดา รู ้สึกอายที่เขาเกี้ยวข้าต่อหน้าคนอื่น ข้าเดินกลับไปนัง่ ที่เดิม ให้หมิงจู
หยิบหนังสื อมาให้อ่าน ไม่สนใจเขาอีก ทว่าเสี ยงขลุ่ยแว่วหวานดังก้องกังวานในความเงียบทําให้ขา้ อ่าน
หนังสื อไม่เข้าหัวสักนิด ในหู ได้ยนิ แต่เสี ยงดนตรี นนั่ จังหวะหยอกเย้ายัว่ ล้อ ราวกับจะท้าทายให้ขา้ เอาพิณมา
ดีดประชัน ข้าเพิกเฉย ทําเป็ นพลิกหนังสื อต่อไป

..ชินอ๋ อง ระหว่างท่านและข้า มีระยะห่างเช่นนี้ เหมาะสมดีแล้ว..

317
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่คิดจะปี นกําแพงข้ามไปหาเขาอีก ปล่อยให้เขาพยายามไปฝ่ ายเดียวเถิด

พอใกล้เที่ยงคืน โต๊ะไหว้บรรพบุรุษถูกจัดไว้เรี ยบร้อย เราต่างจุดธูปเทียนเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าแห่ง


โชคลาภ เสี ยงประทัดเริ่ มดังเป็ นระยะ และดังต่อเนื่องไปเรื่ อยๆ จนแรกอรุ ณของปี มาถึง บรรยากาศเต็มไปด้วย
ความชื่นมื่น เราสามคนกินเกี๊ยวเพื่อความเป็ นสิ ริมงคล

“ท่านอ๋ องเพคะ หม่อมฉันอยากจะขออนุญาตพาอาหลันไปไหว้บิดาได้หรื อไม่ ตั้งแต่บิดาของอาหลันสิ้ นไป


อาหลันแทบไม่ได้ไปคารวะหลุมศพเลย” แม่เอ่ยกับเขา

“ท่านแม่อย่าได้เกรงใจ หากท่านแม่ประสงค์จะทําสิ่ งใดไม่ตอ้ งขออนุญาตจากข้า ข้าต่างหากที่ตอ้ งเคารพท่าน


ในฐานะมารดา ขอเพียงท่านแจ้งให้คนของข้าทราบ พวกเขาจะจัดเตรี ยมรถม้าและคนอารักขาไปด้วย” เขาตอบ

“ขอบพระทัยท่านอ๋ องเพคะ” แม่ตอบเขาอย่างซาบซึ้ ง

ข้านึกถึงพ่อขึ้นมา จริ งดังแม่วา่ ตั้งแต่มาเข้าร่ างนี้ ข้าไม่เคยไปหลุมศพพ่อเลย หลิ่วเหลยเป็ นคนใจคอคับแคบ


ย่อมไม่ยอมให้แม่ไปเซ่นไหว้หลุมศพสามีเก่าเป็ นแน่ ข้านึกอย่างสะท้อนใจ สงสารพ่อเหลือเกิน ยามอยูต่ อ้ ง
พลัดพราก ยามตายจากไม่อาจได้เห็นลูกเมีย ข้าดีใจที่จะได้ไปไหว้หลุมศพพ่อ แต่วา่ ช่วงนี้ ผคู ้ นพลุกพล่าน แม่
คงจะรอให้พน้ เทศกาลชุนเจี๋ยไปเสี ยก่อนจึงค่อยออกเดินทาง

หลังเทศกาลชุนเจี๋ย ข้าก็ไม่มีเหตุให้ตอ้ งพบชินอ๋ องอีก แต่ในยามกลางคืนเขายังคงมานอนร่ วมเตียงกับข้าเป็ น


ปกติ ระดูของข้ามาอีกครั้ง ข้ายังไม่ทอ้ ง.. ข้าลองคํานวณดูในใจ คราวก่อนยามร่ วมสัมพันธ์กบั เขา ระดูขา้ เพิง่
หมดไปราวเจ็ดวัน ข้าเพิ่งกลับมามีระดูอีกครั้ง ระยะเวลาอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง หลังจากร่ วมรักกับข้าในคํ่า
คืนนั้นแล้วเขาก็ไม่ได้แตะต้องข้าอีก ข้ากระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้วา่ ควรจะบอกเรื่ องนี้แก่ชินอ๋ องหรื อไม่ เกรงว่า
จะดูเป็ นการเชิญชวญเขาราวกับหญิงไร้ยางอาย ทว่าข้ายังไม่ทนั ลงมือทําอะไร ชินอ๋ องก็ส่งหมอหลวงมาจับชีพ
จรข้าเสี ยก่อน ท่านหมอจัดยาบํารุ งให้ขา้ ตามเดิม ดูเหมือนว่าเขาจะระบุวนั ที่เหมาะแก่การประกอบกิจให้ชิน
อ๋ องทราบ หลังจากท่านหมอกลับไปไม่นาน หมิงจูกเ็ ดินยิม้ แก้มปริ มาบอกข้าว่าชินอ๋ องเชิญข้าไปพักที่
ตําหนักหยางซิ นเป็ นเวลาสามวัน

ข้าตีสีหน้าเฉยเมย

318
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ข้าไม่ไป หากชินอ๋ องไม่สะดวกมาที่นี่กช็ ่างเขาเถิด”

หมิงจูหน้ามุ่ย “หวางเฟยเพคะ ท่านไม่โปรดจะมีอ๋องน้อย ธิดาน้อยหรื อเพคะ หมิงจูต้ งั ตาคอยจะแย่อยูแ่ ล้ว”

“แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่ขา้ ต้องไปตําหนักหยางซิ นด้วยเล่า” ข้าตอบอย่างไม่สนใจ ข้าไม่ตอ้ งการกลับไปยืนอยู่


จุดเดิม ทุกวันนี้ ขา้ มีความสุ ขดีแล้ว พอใจกับความสัมพันธ์ที่มีระยะห่าง ข้าไม่แน่ใจว่าการที่ชินอ๋ องต้องการให้
ข้ากลับไป เขาจะมีแผนการใดหรื อไม่ อยูท่ ี่ตาํ หนักเมฆาล่องเขาจะทําอะไรยังต้องเกรงใจแม่ ข้าไม่มีทางยอมไป
เด็ดขาด

หมิงจูกลับไปรายงานคําตอบของข้าให้ชินอ๋ องทราบ ครู่ หนึ่งเขาก็มาปรากฏกายที่ตาํ หนักเมฆาล่อง ข้ากําลัง


นอนอ่านหนังสื อเล่นอย่างสบายอารมณ์ในห้องนอน ปล่อยเส้นผมยาวสยาย เสื้ อผ้าไม่ได้รัดกุม ชินอ๋ องก้าวเข้า
มาเงียบๆ ยามเขาเอ่ยคํา ข้าจึงสะดุง้ สุ ดตัว

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางชวนเจ้าไปตําหนักหยางซิ นมีเจตนาดี เจ้าอย่าได้แคลงใจเลย”

ข้ารี บผุดลุกขึ้นนัง่ “ท่านอ๋ อง!” ผมสี น้ าํ หมึกทิ้งตัวลงยาวสยายล้อมกรอบใบหน้า นิ้วเรี ยวของข้าจับหนังสื อ


แนบอก ข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะบุกเข้ามาถึงในห้องส่ วนตัว

สี หน้าของชินอ๋ องประหลาดใจที่เห็นข้าตกใจ “อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่ได้ต้ งั ใจทําให้เจ้าตกใจกลัว”

“ท่านอ๋ องออกไปก่อนเถิดเพคะ ประเดี๋ยวอวี้เอ๋ อร์จะตามออกไป อวี้เอ๋ อร์แต่งกายไม่เรี ยบร้อย ไม่พร้อมจะ


รับแขก” ข้าเอ่ยพลางพยายามจัดเส้นผมและเสื้ อผ้าให้เข้าที่ ข้าไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขายามไม่ทนั ตั้งตัว
เช่นนี้ ข้ายังไม่ทนั ตีสีหน้าเย็นชา ทําตัวห่างเหิ น เขาก็บุกประชิดตัวเสี ยแล้ว

“อวี้เอ๋ อร์ .. เราสองคนหาใช่คนอื่นคนไกล” เขาก้าวมานัง่ ข้างๆ ข้าบนเตียง ข้าเกร็ งตัวยามเขาเอื้อมมาจับข้อมือ


ข้าที่กาํ ลังยกขึ้นรวบเส้นผมเพื่อปักปิ่ น สายตาของเขาหลุบลงมองริ มฝี ปากข้า

“ท่านอ๋ องมาด้วยธุระอะไรนะเพคะ” ข้ารี บเปลี่ยนเรื่ องก่อนที่เขาจะเบี่ยงเบนไปเรื่ องอื่น เขายกยิม้ อย่างขบขัน

319
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เปิ่ นหวางชวนเจ้าไปตําหนักหยางซิ นเพื่อให้เจ้าสบายใจ หากอยูท่ ี่นี่อวี้เอ๋ อร์ ไม่เขินอายมารดาหรื อยามที่เรา
ต้อง.. พยายามให้เจ้าตั้งครรภ์” เขาหยุดไปอย่างรู ้จงั หวะ ทําให้ขา้ หน้าแดง ดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขา
พลางขยับกายออกห่าง

“ก็ไม่จาํ เป็ นต้องพยายามมากขนาดนั้นเสี ยหน่อย มารดาคงไม่ผดิ สังเกตหรอกเพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์ แน่ใจหรื อ ถึงเจ้าไม่เขินอาย แต่หอ้ งนอนของเจ้าอยูต่ ิดกับมารดา เปิ่ นหวางเกรงว่าจะเป็ นการรบกวน
..”

“ท่านอ๋ องคงไม่คิดจะเคี่ยวกรําอวี้เอ๋ อร์ ท้ งั วันทั้งคืนหรอกกระมังเพคะ หากเป็ นเช่นนั้น อวี้เอ๋ อร์อยูท่ ี่ตาํ หนัก
เมฆาล่องย่อมจะเหมาะสมกว่า” ข้ารี บตัดบทพลางขยับกายจะลุกขึ้น ทว่าเขานัง่ ทับชายเสื้ อของข้าไว้ ยามลุกขึ้น
อย่างรวดเร็ วจึงเกิดแรงกระชากรั้งข้าให้ลม้ ลงไปซบชินอ๋ อง

“อา!” ข้าอุทานอย่างตกใจ ชินอ๋ องกุมเอวข้าไว้ไม่ให้หล่นลงไปกับพื้น

“เวลาเพียงสามวันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก อวี้เอ๋ อร์กลัวอะไรกันหรื อ” เขากระซิ บข้างหู ขา้ ข้าสั่นยะ


เยือกไปทั้งกาย ชินอ๋ องเจ้าเล่ห์ปานนี้ มีหรื อจะไม่หาโอกาสรั้งข้าไว้ที่ตาํ หนักหยางซิ นตลอดไป

“อีกอย่าง” เขาเอ่ยต่อ “หากเปิ่ นหวางคิดจะเคี่ยวกรําเจ้าจริ งๆ คิดหรื อว่าอยูท่ ี่ตาํ หนักเมฆาล่อง เปิ่ นหวางจะทํา
ไม่ได้ อวี้เอ๋ อร์ลองไปตัดสิ นใจดู อยากจะให้มารดาเป็ นประจักษ์พยานในการผลิตทายาทของเราสองคน
หรื อไม่”

ใช่..ข้าลืมไปได้อย่างไรว่าเขาหน้าหนาปานนี้ ข้าเม้มปาก กําอกเสื้ อเขาไว้แน่น ใบหน้าแดงกํ่า เขามองข้าอย่าง


ล้อเลียน

“เปิ่ นหวางพูดอะไรผิดไปหรื อ อวี้เอ๋ อร์มิใช่ติดค้างเปิ่ นหวางเรื่ องทายาทหรอกหรื อ” มือที่กมุ บั้นเอวข้าไว้เริ่ ม


ขยับ

ข้าสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น ตะโกนเรี ยกหมิงจู

“หมิงจู! เก็บข้าวของ ข้าจะไปตําหนักหยางซิ น”

320
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าไม่มีทางเลือก หากข้าไม่เรี ยกหมิงจูเข้ามา เกรงว่าเขาจะไม่ยอมปล่อย กระนั้นแม้หมิงจูกา้ วเข้ามาในห้อง เขา


ก็ยงั ไม่ใส่ ใจสักนิด นางกลับต้องเป็ นฝ่ ายก้มหน้าก้มตา พยายามไม่มองมาทางเราสองคน ข้าดันหน้าอกเขาออก
อย่างโกรธๆ เขาเพียงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“เปิ่ นหวางจะพาหวางเฟยไปลาพระสัสสุ เสี ยหน่อย” กล่าวจบก็อุม้ ข้าตัวลอย

“ท่านอ๋ อง ยังไม่ถึงวันที่หมอหลวงระบุไว้เสี ยหน่อย” ข้าเอ่ยแย้งเขาที่แสร้งตีขลุมพาข้าไปก่อนกําหนด

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าอย่ากังวลเรื่ องนั้นมากไปเลย อย่างไรเสี ยเปิ่ นหวางก็ต้ งั ใจว่าจะทําให้เจ้าตั้งครรภ์ภายในเดือนนี้ให้


ได้ เจ้าให้เวลาเปิ่ นหวางมากขึ้นหนึ่งวัน ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นหนึ่งส่ วน ไม่เช่นนั้นเดือนหน้าเราก็ตอ้ งมาพยายาม
กันใหม่ ถูกหรื อไม่” เขาเอ่ยเช่นนี้ขา้ จึงได้แต่ปิดปากเงียบ

แม่ได้แต่อมยิม้ ยามที่ชินอ๋ องอุม้ ข้ามาหา เขาไม่ได้บอกแม่วา่ ที่พาข้าไปมีวตั ถุประสงค์อะไร บอกเพียงว่าข้าจะ


ไปอยูส่ าํ หนักหยางซิ นเสี ยหลายวัน แม่ไม่ได้วา่ อะไร กลับมีท่าทางดีใจเสี ยด้วยซํ้า ข้ามองแม่อย่างขอความ
ช่วยเหลือ ทว่าแม่กลับบอกให้ขา้ ทําตัวดีๆ

"อาหลัน ตั้งใจปรนนิบตั ิท่านอ๋ องให้ดี เป็ นสามีภรรยากันต้องรักกันให้มากๆ"

เขายิม้ ยามได้ยนิ ท่านแม่สอนข้า ครั้นเดินออกจากตําหนักเมฆาล่อง ข้าหันไปบอกเขาอย่างแค้นเคือง

“ท่านอ๋ อง ยามนี้ ท่านจะลิงโลดใจอย่างไรก็เชิญ แต่อย่าลืมว่าอวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ยอมยกโทษให้ หากมีทายาทให้ท่าน


แล้ว อวี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ติดค้างอะไรท่านอ๋ องอีก” ข้าเอ่ยยามเห็นเขาทําสี หน้าราวกับผูม้ ีชยั

“เรื่ องนั้นเปิ่ นหวางรู ้แจ้งแก่ใจดีอยูแ่ ล้ว อวี้เอ๋ อร์ อย่าได้เป็ นห่วงเลย”

ประกายตาระยิบระยับของเขาบอกข้าว่า เขาไม่ได้หวาดกลัวคําขู่ของข้าสักนิด เขาคงตระเตรี ยมทางหนีทีไล่


เอาไว้แล้วกระมัง ดูอย่างเรื่ องในวันนี้ปะไร การกระทําของเขาประกาศชัดแจ้ง.. หากข้าไม่ยอมก้าวข้ามกําแพง
มา เขาก็จะเป็ นฝ่ ายข้ามมาหาข้าเอง..

321
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 46 : คิดถึงคราใด ก็สุขใจยิง่ นัก

ชินอ๋ องพาข้ามาที่ตาํ หนักหยางซิ น แต่ไม่ได้วนุ่ วายกับข้าอย่างที่นึกกลัว เขาปล่อยให้ขา้ ได้ใช้เวลาตามลําพังอยู่


ในตําหนักอย่างที่เคย ส่ วนเขาหมกตัวอยูใ่ นห้องอักษร ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะมีภารกิจยุง่ คนเดินเข้าออก
รายงานสถานการณ์มิได้ขาด ข้าพยายามจะคาดเดา ยามนี้บา้ นเมืองสงบ ไร้ภยั คุกคามจากต่างแคว้น เหตุใดชิน
อ๋ องยังคงต้องลงมาควบคุมสถานการณ์ดว้ ยตนเองอีกเล่า

..หรื อว่าในราชสํานักจะเกิดคลื่นลมใดขึ้นมาอีก..

หมู่น้ ีขา้ ไม่ได้ติดตามข่าวคราวใด ไม่รู้วา่ ภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง ข้านึกอยากจะเข้าวังไปหาอาหนิงเพื่อ


สอบถามข่าวคราว คราวนี้เขาคงจะไม่ขดั ขวาง ข้าพูดจากับฮ่องเต้ชดั เจนแล้ว ชินอ๋ องคงไม่นึกระแวง
ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและข้าอีก

หลังอาหารเย็น ข้าให้หมิงจูช่วยอาบนํ้าแล้วใส่ เสื้ อตัวในเนื้อดีสีขาวเตรี ยมเข้านอนแต่หวั คํ่า ข้าคิดว่าเขาคงจะ


กลับมาตอนดึกเช่นเดียวกับตอนไปหาข้าที่ตาํ หนักเมฆาล่อง แต่ขา้ ยังไม่ทนั จะก้าวขึ้นเตียงเขาก็ผลักประตูเข้า
มา ข้าสะดุง้ เล็กน้อยอย่างตกใจ ใบหน้าของเขายามต้องแสงเทียนดูงดงามราวกับรู ปสลัก เปลือกตาสองชั้นของ
เขาหลุบลงยามก้าวย่างอย่างเงียบกริ บทว่ามัน่ คง เขายังคงเป็ นชินอ๋ องที่สง่างามน่าเกรงขามคนเดิม

ข้ามองเขาสี หน้าเฉยเมยทั้งที่ใจเต้นตึกตัก ยืนดูเขาถอดเสื้ อตัวนอกโดยไม่คิดจะเข้าไปช่วยสักนิด เขาคงเพิ่ง


อาบนํ้ามาเช่นกัน ไรผมของเขายังเปี ยกชื้น ข้าได้กลิ่นหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก ข้าก้าวขึ้นไปนัง่ คุกเข่าบน
เตียงรอเขา ตั้งใจว่าจะกลั้นใจให้มนั จบๆ ไปเสี ย จะได้ไม่ตอ้ งมีอะไรติดค้างกันอีก มือของข้ากําแน่นอยูใ่ ต้แขน
เสื้ อ

เขาก้าวขึ้นเตียงมานัง่ ซ้อนอยูเ่ บื้องหลังข้า ข้าเอี้ยวกายหันไปมองทว่าเขายึดไหล่ขา้ ไว้ จากนั้นผ้าแถบหนึ่งก็ปิด


ลงบนดวงตา บดบังสายตาข้าจากการมองเห็น

..เขากําลังจะทําอะไร..

คิดว่าทําแบบนี้จะทําให้ขา้ ลืมว่าเขาเป็ นใครได้หรื อ

322
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องไม่เอ่ยคําใด ข้ารู ้สึกเสี ยหน้าหากต้องเป็ นฝ่ ายเอ่ยปากถามจึงเงียบเสี ย ปล่อยให้เขาทําตามใจชอบ
อย่างไรเสี ยคืนนี้ ขา้ ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือเขาอยูแ่ ล้ว ข้าพยายามทําใจให้สบาย แม้มองไม่เห็นก็ไม่เป็ นไร ข้าตั้งใจ
จะไม่สนใจสิ่ งที่เกิดขึ้นอยูแ่ ล้วมิใช่หรื อ

เขาจับเส้นผมนุ่มสลวยที่แผ่สยายเต็มแผ่นหลังของข้ามาพาดไว้ที่ไหล่ดา้ นซ้าย เผยหลังคอนวลเนียนให้ปรากฏ


แก่สายตา กิริยาของเขาแช่มช้า ทําเอาข้าซึ่ งมองไม่เห็นรู ้สึกสั่นไหว นิ้วมือแข็งแรงของเขาสัมผัสนวดคลึงต้น
คอข้า ก่อนจะเลื่อนมากดที่บ่าและไหล่ เขาจับกายข้าให้นอนควํา่ ลงแล้วนวดไปทัว่ แผ่นหลัง ข้าค่อยๆ ผ่อนลม
หายใจด้วยความระแวดระวัง ครู่ ใหญ่ขา้ รู ้สึกสบายจนร่ างกายที่ขึงเกร็ งค่อยผ่อนคลายลง นิ้วมือของเขาช่างทํา
หน้าที่ได้ดีเหลือเกิน คลายจุดตามร่ างกายข้าจนรู ้สึกปลอดโปร่ ง ข้านึกขึ้นได้วา่ เขาเป็ นผูฝ้ ึ กยุทธ์ ย่อมรู ้วธิ ี สกัด
จุดและเปิ ดเส้นชีพจรในร่ างกาย จึงไม่ได้แปลกใจในความสามารถอันแสนพิเศษนี้อีก

เขาเลื่อนมาที่บ้ นั เอวก่อนจะค่อยๆ ไล่ลงมาตามเนินสะโพกและบั้นท้าย ข้าหน้าร้อนผ่าวยามเขาเคล้นคลึง


สะโพกงามงอน มือของเขาเฉี ยดไปเฉี ยดมาอย่างน่าหวาดเสี ยว ข้าทําท่าจะพลิกกาย ทว่าเขากดร่ างข้าไว้เช่นเคย

เขายังคงนวดให้ขา้ ไปทัว่ ร่ างราวกับเป็ นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ข้ารู ้สึกร่ างกายเบาสบาย นอนซบหมอนนุ่มจน


เกือบจะหลับไป ขณะนั้นเองที่ขา้ เริ่ มรู ้สึกถึงความร้อนที่ถ่ายทอดออกมาจากฝ่ ามือของเขา เขานาบฝ่ ามือเข้ากับ
สะโพกด้านหลังเหนือบั้นท้าย บังเกิดกระแสความอบอุ่นในช่องท้องของข้า ข้าทําเสี ยงพึงพอใจในลําคอโดยไม่
รู ้วา่ กิริยานั้นน่ารักน่าใคร่ เพียงใด เขาจับข้าพลิกกายแล้วกระตุกปมสายรัดเอว ยามที่สาบเสื้ อแยกออกจากกัน ข้า
รู ้สึกเย็นวาบเมื่อผิวกายเปลือยเปล่าสัมผัสกับอากาศ แต่เพียงไม่นานก็ถูกนาบด้วยผิวกายร้อนผ่าวของเขา

มันกําลังจะเกิดขึ้น.. ข้าบอกตัวเอง กลั้นใจไว้ ไม่ตอ้ งรับรู ้สิ่งใด ปล่อยให้เขาทําตามอําเภอใจ ข้าจะนอนเป็ น


ท่อนไม้ ทว่าจากการนวดเมื่อครู่ ทาํ ให้ร่างกายข้าปลอดโปร่ งประหนึ่งเดินลมปราณ ความรู ้สึกต่อสัมผัสที่มา
กระทบไว กว่าปกติ ยิง่ เขาปิ ดตาข้าไว้ทาํ ให้ประสาทรับรู ้อื่นๆ เฉี ยบคมเหลือเกิน ข้าสะท้านอย่างรุ นแรงยามเขา
แตะต้อง ได้แต่กลั้นเสี ยงครางเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา

มือหนาของเขาลูบไล้ไปทัว่ กาย ทั้งสากระคายทั้งร้อนรุ่ ม ข้าเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้ อยากให้เขาหยุดเล้าโลม


แล้วจัดการทุกอย่างให้เสร็ จสิ้ นเสี ยที ข้าไม่อยากยืดเยื้อ ไม่อยากให้เขาเล่นสนุกกับร่ างกายข้าเช่นนี้ ไม่อยาก
รู ้สึกอะไรกับสัมผัสของเขามากไปกว่านี้

“ท่านอ๋ อง อย่าเสี ยเวลาอีกเลยเพคะ” ข้าบอกเขา

323
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาไม่ตอบ เพียงก้มลงจุมพิตมือของข้าที่ร้ ังเขาไว้ ไล่ข้ ึนมาตามเรี ยวแขนจนข้าขนลุก ต้องปล่อยมือเขา ใบหน้า
ของเขาซุกซบกับทรวงอกนุ่มหยุน่ ทั้งดูดกลืนทั้งเคล้นคลึงหนักหน่วง กายข้าผวายะเยือก เปล่งเสี ยงคราง
ออกมาอย่างไม่อาจกลั้น มือนุ่มของข้าลากไล้ไปบนกายของเขาอย่างเผลอไผล ทั้งบีบเคล้นทั้งจิกข่วนไป
ตามหลังไหล่หนาเพื่อระบายความรู ้สึกทรมานที่เกิดขึ้น ข้าแอ่นกายเข้าหาเขา อยากให้เขาสัมผัสแตะต้อง

ในขณะที่ขา้ ไม่ทนั ตั้งตัว เขาก็ดึงผ้าผูกตาของข้าออก ข้าไม่ทนั ปกปิ ดแววตาหวานลํ้า เราสบตากัน เขาพรมจูบ


ลงมาบนเปลือกตา

“เปิ่ นหวางไม่ได้เห็นแววตาที่งดงามเช่นนี้ของเจ้ามานานเท่าใดแล้ว..กระต่ายน้อย”

ไม่มีวนั .. ข้าไม่มีวนั ยอมเป็ นกระต่ายน้อยของเขาอีก ข้าจะไม่ยอมมอบความรักเพียงเพื่อให้เขาย้อนมาทําร้ายข้า


ในภายหลัง ข้าเบือนหน้าหนีสายตาร้อนแรงของเขา

ยามนั้นเขาจึงเข้าครอบครองข้า ปลายเท้าของข้าจิกกับผ้าปูเตียงอย่างเสี ยวซ่าน ข้ารู ้สึกอึดอัดวาบหวิวยามที่เขา


ขยับกาย มือนุ่มของข้ายันอกเขาไว้ยามที่จงั หวะเร่ งเร้าจนข้าแทบหายใจไม่ทนั ข้าอยากให้เขาผ่อนแรงลงทว่า
ยามนั้นได้แต่หอบหายใจจนไม่มีแรงพูดออกมา จวบจนชินอ๋ องฝากรักไว้ในกายข้า ข้าก็ยงั ไม่มีเรี่ ยวแรงจะเอ่ย
คํา

..เขารู ้วา่ จะทําให้ขา้ พึงพอใจได้อย่างไร ข้าเองก็รู้เช่นกันว่าทําอย่างไรเขาจะหมดความควบคุม.. ดูเหมือนว่าเรา


จะเข้ากันได้ดีเหลือเกิน

ชินอ๋ องจับร่ างข้าที่ยงั คงหอบหายใจขึ้นนัง่ ตัก ร่ างกายประสานกันสนิทจนไม่มีที่วา่ ง เส้นผมข้าแผ่กระจายไป


ทัว่ ระท่อนแขนแข็งแรง ข้าแสร้งปรื อตาพูดกับเขาราวกับลูกแมวขี้เซา

“ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์ อ่อนเพลียอยากนอนเหลือเกิน ท่านอ๋ องได้โปรดให้อวี้เอ๋ อร์ได้พกั เถิดนะเพคะ”

ข้าคิดว่าเขาจะดึงดันไม่ฟังคําขอ ทว่าเขาเพียงกอดรัดข้าไว้แน่นครู่ หนึ่งอย่างระงับอารมณ์แล้วจึงเอ่ยคํา

“ได้สิ เรายังมีเวลาด้วยกันอีกมาก เปิ่ นหวางจะไม่ขดั ใจเจ้า”

324
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ารู ้วา่ เพลิงปรารถนาของเขายังไม่ดบั ลง ทว่าเขาเพียงประคองข้าทอดกายลงนอน ตัวเขานอนกอดข้าไว้ สู ด
หายใจเข้าลึก ข้าแกล้งนอนหลับไปทว่ายังขยับกายยุกยิกเบียดเสี ยดเขาใต้ผา้ ห่ม แต่เขาก็ยบั ยั้งใจมิได้รุกรานข้า
อีก เขาเพียงซุกใบหน้าลงกับซอกคอแล้วกอดข้าไว้แน่น

ข้านึกสงสัย ชาติก่อนหากซี ยนิ ไม่จบชีวติ ตนเองไปเสี ยก่อน เจิ้งอู่จะยอมให้นางสมรสไปกับองค์ชายสี่ หรื อไม่


เขาจะทนเห็นซี ยนิ เป็ นของคนอื่นได้หรื อ ความผูกพันที่ผา่ นมาจะมีความหมายกับเขาบ้างหรื อไม่ ข้าตอบตัวเอง
อย่างปวดร้าว ..ไม่มี.. หากเจิ้งอู่ยงั มีเยือ่ ใยกับซี ยนิ แม้สักนิด เขาย่อมไม่ปล่อยให้ซียนิ ไปขอความช่วยเหลือจาก
องค์ชายสี่ แต่แรกหรอก ครั้งสุ ดท้ายที่ซียนิ ไปหาเขา เขาคงจะไม่โหดร้ายเย็นชากับนางถึงเพียงนั้น กระทัง่ เยือ่ ใย
สุ ดท้ายกับซี ยนิ ก็สะบั้นลงได้อย่างง่ายดาย ซี ยนิ จึงตัดใจจะไม่รอ หากเป็ นชินอ๋ อง เขาไม่มีทางยอมปล่อยมือจาก
ข้า ไม่ยอมให้ขา้ จากไป ไม่ยอมให้ขา้ มีชายอื่น แม้ขา้ จะทําหมางเมินใส่ แต่เขาก็ไม่ถือสา หากเทียบกับอุปนิสัย
ของเขาก่อนหน้านี้แล้ว ยามนี้นบั ว่าเขายอมลงให้ขา้ มากเหลือเกิน ข้ายังมีหวังในตัวเขาใช่หรื อไม่..

..ไม่สิ ทั้งเจิ้งอู่และชินอ๋ องคือคนคนเดียวกัน พวกเขาย่อมไม่ต่างกัน..

รุ่ งเช้า ยามข้าตื่น ชินอ๋ องยังคงนอนกอดข้าไว้ ไม่ได้ลุกขึ้นไปฝึ กยุทธ์เช่นเคย ต่างจากยามที่อยูต่ าํ หนักเมฆาล่อง


ข้ามักจะตื่นขึ้นมาพบเตียงอีกฟากที่วา่ งเปล่า ข้ารู ้วา่ เขาตื่นแล้วจึงยันกายลุกขึ้นนัง่ เขาลุกขึ้นตาม ดวงตาคมคู่น้ นั
จับจ้องมาที่ขา้ ข้าไม่สบตา ทําทีเป็ นมองไปทางหน้าต่าง ฟ้าเริ่ มสว่างแล้ว ดูเหมือนเพิ่งจะเป็ นต้นยามเหม่า เมื่อ
คืนข้าหลับสนิทดีเหลือเกิน

“อวี้เอ๋ อร์ไม่นอนต่ออีกสักนิดหรื อ” เขาถามข้าสายตาวาววาม

ข้าควานหยิบเสื้ อนอนที่ตกอยูใ่ กล้ๆ ขึ้นสวมใส่ ปิ ดบังทรวดทรงเย้ายวนใจ “อวี้เอ๋ อร์ไม่รู้สึกง่วงแล้วเพคะ” ข้า


ตอบแล้วรี บลุกขึ้นจากเตียง

เขาลุกขึ้นสวมเสื้ อ ผูกเอวอย่างลวกๆ แล้วเดินไปเรี ยกคนที่หน้าประตู พักใหญ่น้ าํ อาบควันกรุ่ นก็ถูกยกเข้ามาใน


ห้อง เขาหันมาทางข้า

“มาเถอะ อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางจะอาบนํ้าให้เจ้า”

“เชิญท่านอ๋ องเถิดเพคะ อวี้เอ๋ อร์ ยงั ไม่อยากอาบ” ข้าปฏิเสธ รู ้ดีวา่ เขาชมชอบการเริ งรักกับข้าในนํ้ามากเพียงใด

325
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่ตอ้ งกลัว เปิ่ นหวางไม่ได้คิดจะรังแกเจ้า เพียงแต่เห็นว่าเมื่อคืนเราร่ วมหอกัน เจ้ายังไม่ได้ชาํ ระกาย เกรงว่า
จะไม่สบายตัว”

“ท่านอ๋ องเรี ยกหมิงจูมาเถิดเพคะ” ข้าต่อรองอย่างไม่ยอมแพ้

“ช่วงนี้ นอกจากจําเป็ นจริ งๆ เปิ่ นหวางไม่ให้ใครประจําอยูท่ ี่ตาํ หนัก ยามนี้ไม่มีใครทั้งสิ้ น มีเพียงเราสองคน”

“เช่นนั้นอวี้เอ๋ อร์จะอาบเอง ท่านอ๋ องออกไปก่อนเถิดเพคะ”

ข้าเอ่ยปากไล่เขาอย่างไม่ออ้ มค้อม ดวงตาคมหม่นลง ชินอ๋ องเอ่ยเสี ยงเศร้า

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางมีเวลาอยูใ่ กล้ชิดเจ้าเพียงช่วงนี้เท่านั้น ให้เปิ่ นหวางได้ดูแลเจ้าบ้างได้หรื อไม่ หลังจากนี้ เปิ่ น
หวางรู ้ เจ้าคงไม่ให้เปิ่ นหวางได้เข้าใกล้อีก”

เขาพูดถูก หลังจากนี้ขา้ ไม่คิดจะให้เขาใกล้ชิดข้าอีก เมื่อได้ยนิ เขาเอ่ยเช่นนี้ กอ็ ดรู ้สึกสงสารไม่ได้ ข้าจึงไม่ได้


คัดค้านเขา หลังจากนี้เราสองคนก็เป็ นเพียงคนแปลกหน้าต่อกัน ช่วงเวลานี้ เขาอยากจะทําอะไรก็ปล่อยเขาไป
เถิด

ข้าเดินเข้าไปหาเขา ยอมให้เขาปรนนิบตั ิ เสื้ อที่ขา้ เพิ่งสวมถูกเขาปลดเปลื้องอีกครั้ง ชุดสี ขาวเนื้อนุ่มถูกทิ้งลง


กองกับพื้น ลมหายใจของเขาสะดุด ข้ารี บก้าวลงถังไม้

อารามรี บร้อน ข้าไม่ได้รวบผมขึ้น ผมของข้าบางส่ วนจึงเปี ยกนํ้า เขาช่วยรวบผมข้าขึ้นเป็ นมวยสู งแล้วปักปิ่ น


ให้ เผยให้เห็นลําคอระหงและไหล่เปล่าเปลือย ข้าห่อไหล่กดร่ างลงในนํ้าอย่างต้องการจะหลบให้พน้ สายตาเขา
เขาใส่ น้ าํ มันหอมลงในอ่างแล้วหยิบเกลือขัดผิวขึ้นมาจากโถ

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางจะขัดหลังให้เจ้า”

ข้าไม่ได้ตอบ ปล่อยให้เขาทําตามใจชอบ เม็ดเกลือสากครู ดกับผิวอ่อนของข้าจนรู ้สึกแสบ ข้าหันไปบอกเขา

“เจ็บ.. ไม่ตอ้ งแล้ว”

326
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เปิ่ นหวางจะเบามือกว่านี้ ” เขาตอบแล้วลดนํ้าหนักมือลง ข้าแทบไม่รู้สึกถึงสัมผัสของเม็ดเกลือ รู ้แต่เพียงความ
ร้อนจากฝ่ ามือของเขาเท่านั้น

เมื่อถูหลังเสร็ จ เขาก็คว้าแขนเรี ยวขึ้นมาถูทีละข้าง สายตาเขาจดจ่ออยูก่ บั ผิวกายข้าที่เขากําลังขัดถูอย่างตั้งใจ


เม็ดเหงื่อผุดซึ มที่หน้าผากและปลายจมูกเขา ข้าเมินมองไปทางอื่น

ร้อน.. เหตุใดวันนี้น้ าํ อาบจึงร้อนเหลือเกิน ใบหน้าของข้าร้อนผ่าวราวกับมีไฟลุกไหม้ พอเขาถูแขนเสร็ จข้าจึง


รี บบอก

“พอแล้วเพคะ ที่เหลืออวี้เอ๋ อร์จะอาบเอง”

เขาลุกขึ้นยืน ข้านึกว่าเขาจะออกไปจากห้อง ทว่าเขากลับโอบกอดข้าไว้จากด้านหลัง ไม่สนใจว่าแขนเสื้ อจะ


เปี ยกนํ้าหรื อไม่

“อวี้เอ๋ อร์..” เขาพึมพําเสี ยงพร่ าที่ขา้ งใบหู “เจ้ารังเกียจหรื อไม่หากเปิ่ นหวางจะ..อาบกับเจ้า” ลมหายใจของเขา
เป่ ารดใบหูขา้ ก่อนจะเอ่ยจนจบประโยค

ความคิดในหัวของข้าขาวโพลน ข้านิ่งงันไปไม่ได้ตอบ

"อวี้เอ๋ อร์.. " นํ้าเสี ยงของชินอ๋ องเอ่ยอย่างเว้าวอน "เจ้าอย่าใจร้ายกับเปิ่ นหวางเลย.." ข้าเพิ่งรู ้วา่ บุรุษตัวโตก็
สามารถออดอ้อนได้เก่งไม่แพ้สตรี อาการซุกซบคลอเคลียและนํ้าเสี ยงน่าสงสารของเขาทําให้ขา้ ไม่อาจทนทํา
ใจแข็งต่อไปได้ ข้าพยักหน้าเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น

"อวี้เอ๋ อร์น่ารักที่สุด" นํ้าเสี ยงลิงโลดของเขาดังขึ้นมาทันที ราวกับว่ารอคอยโอกาสนี้อยูน่ านแล้ว

"แต่ท่านอ๋ องต้องสัญญาว่าจะไม่เอาแต่ใจ" ข้ารี บกําชับแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ฟัง

ชินอ๋ องก้าวลงมาในนํ้าอย่างเริ งร่ า จับร่ างข้าขึ้นนัง่ บนตัก ข้ายันไหล่เขาไว้เพื่อทรงตัว ส่ วนเขาเกาะกุมสะโพก


ข้าไว้แน่น มุมปากเขาปรากฏรอยยิม้ ข้าไม่แน่ใจว่าตัวเองตัดสิ นใจผิดหรื อไม่ นํ้าล้นกระฉอกจากถัง เขายืน่ นิ้ว
มาลูบที่หว่างคิ้ว ข้าจึงรู ้ตวั ว่ากําลังนิ่วหน้าอยู่

327
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
"เจ้าขี้หนาวจึงไม่ชอบอยูใ่ นนํ้าสิ นะ อย่าห่วงไปเลย เปิ่ นหวางจะไม่ปล่อยให้เจ้าหนาว” เขาบอกข้าอย่าง
อ่อนโยนก่อนจะค่อยๆ สัมผัสข้าอย่างเสน่หา ข้าโอนอ่อนคล้อยตาม ก่อนที่น้ าํ จะเย็น ชินอ๋ องก็อุม้ ข้าขึ้นจากนํ้า
ซับเนื้อตัวและสวมเสื้ อผ้าให้ขา้ ก่อนจึงค่อยจัดการกับตัวเอง

เส้นผมของเราสองเปี ยกปอน เขาเช็ดผมให้ขา้ ที่หน้ากระจก แม้จะมีคนคอยปรนนิบตั ิมาตลอดชีวิต แต่ชินอ๋ องก็


ทําสิ่ งเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่ว เขาสางผมให้ขา้ เสร็ จแล้วจึงปล่อยให้แห้ง จากนั้นจึงลงมือจัดการซับผมของ
ตนเอง

ข้าเดินไปดึงผ้าจากมือของเขาแล้วเป็ นฝ่ ายซับให้ สายตาของเขาเป็ นประกายวาบอย่างดีใจ ข้ามีสีหน้าเรี ยบเฉย


ราวกับจะบอกเขาว่าอย่าได้คิดเป็ นอื่น ข้าเพียงแต่ตอบแทนที่เขาดูแลข้าเมื่อครู่ เท่านั้น ขณะกําลังเช็ด ใจข้าก็
กระหวัดไปถึงคืนแรกในวังเสิ่ นหยางกง ตอนนั้นข้าก็ยนื เช็ดผมให้เขาเช่นนี้ เพียงแต่ขา้ อยูใ่ นเสื้ อคลุมสี แดง
ร้อนแรงตัวนั้น นึกขึ้นแล้วรอยยิม้ ก็ผดุ ขึ้นที่มุมปาก ชินอ๋ องช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกิน ตอนนั้นเขาแกล้งข้าจนหัว
หมุนไปหมด

สายตาของข้าเผอิญสบตากับเขาในกระจก รอยยิม้ ที่มุมปากของข้ายังไม่ทนั จางไป จึงดูเหมือนว่าข้ากําลังยิม้ ให้


เขา แววตาของเขาอ่อนลง เขายกยิม้ แล้วเอ่ย

“น่าประหลาดนัก จนบัดนี้เปิ่ นหวางก็ยงั หาเสื้ อคลุมสี แดงตัวนั้นไม่พบ..”

เขาเอ่ยราวกับล่วงรู ้ความคิดในใจของข้า ข้ารี บปรับสี หน้าให้เป็ นปกติแล้วเอ่ย

“เพียงเสื้ อคลุมตัวเดียว หาได้มีความสลักสําคัญอันใด ท่านอ๋ องอย่าได้ใส่ พระทัยเลยเพคะ”

“เปิ่ นหวางจะไม่ใส่ ใจได้อย่างไร เสื้ อคลุมตัวนี้อวี้เอ๋ อร์สวมใส่ ยามถวายตัวให้เปิ่ นหวางเป็ นครั้งแรก อีกทั้งเป็ น
เสื้ อคลุมตัวนี้ที่อวี้เอ๋ อร์ใส่ ยามอาบนํ้าให้เปิ่ นหวาง แม้เปิ่ นหวางพยายามจะไม่มองแต่กย็ งั ไม่อาจละสายตา ความ
ทรงจําในวันนั้นยังคงแจ่มชัดอยูใ่ นใจ เปิ่ นหวางคิดถึงคราใดก็สุขใจยิง่ นัก”

ข้าได้ยนิ เขาเท้าความถึงเรื่ องเก่าก่อนก็หน้าแดง ตอนนั้นข้ายังไม่รู้เดียงสา ถูกเขากลัน่ แกล้งข่มเหงรังแกอยูเ่ สมอ

“ลืมเสี ยเถิดเพคะ บางเรื่ องแม้จดจําได้กไ็ ม่อาจหวนคืนมาได้อีกแล้ว” ข้าตัดบท ชินอ๋ องหลุบตาลง ไม่ได้เอ่ย


อะไรอีก

328
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาแต่งกายชุดสี ฟ้าคราม ดูสง่างามราวกับคุณชายบัณฑิต ข้าช่วยเกล้าผมครอบกวานหยกขาวให้เขา พอเสร็ จ


เรี ยบร้อย เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันมาจับมือข้าไว้ ร่ างสู งใหญ่ของเขาข่มข้าจนดูเล็กจ้อย ข้าดึงมือหลุดพ้นจากการ
เกาะกุม ชินอ๋ องเพียงยิม้ แล้วเอ่ยคํา

“เจ้ารออยูท่ ี่นี่ เปิ่ นหวางจะไปทําอะไรมาให้เจ้ากิน” กล่าวจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ข้าอดเลิกคิ้วกับตัวเอง


ไม่ได้ เขาบอกว่าจะไปทําอะไรมาให้ขา้ กินอย่างนั้นหรื อ ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรื อไม่ เขาบอกว่าที่ตาํ หนักไม่มี
ใคร แต่ขา้ ไม่คิดว่าเขาถึงกับไม่เหลือคนไว้ในห้องเครื่ อง ข้าลังเลใจ ข้าควรจะตามไปช่วยเขาดีหรื อไม่ แต่แล้วก็
คิดได้

..ชินอ๋ องอยากจะทําอะไรก็ปล่อยเขาไปเถิด คนเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ไม่แน่วา่ นี่อาจจะเป็ นหนึ่ งในแผนการของเขาก็


ได้.. ข้าตัดสิ นใจรออยูใ่ นห้องจนเขากลับมา

329
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 47 : วันนั้นคงอีกไม่ ไกล

ชินอ๋ องกลับมาพร้อมกับถาดอาหารหอมกรุ่ น เขาประคองถาดวางลงกับโต๊ะ ข้าจัดชามข้าวและตะเกียบ รอเขา


นัง่ เรี ยบร้อยแล้วจึงค่อยนัง่ ลงตาม ข้านึกประหลาดใจเมื่อเห็นอาหารสามอย่างและนํ้าแกงหนึ่ งถ้วย ข้าไม่คิดว่า
ชินอ๋ องจะทําอาหารเป็ น ยิง่ ไม่คิดว่าจะทําได้ดีเช่นนี้ ข้าคีบอาหารให้เขา เราต่างกินอาหารกันไปเงียบๆ รอบ
ข้างมีแต่เพียงเสี ยงนกร้องและเสี ยงกิ่งไม้ไหวยามต้องลม ดูเขาพอใจที่เห็นข้ากินอาหารได้มาก

หลังอาหาร เขาไม่ได้กลับไปยังห้องอักษร ยังคงเตร็ ดเตร่ อยูใ่ กล้ๆ ข้านัง่ ปักผ้า เขานัง่ อ่านตํารา ข้าเห็นเขาดูผอ่ น
คลายจึงเอ่ยถามเรื่ องที่ยงั ข้องใจ

“ท่านอ๋ องเพคะ อวี้เอ๋ อร์เห็นมีคนเดินเข้าออกตําหนักรายงานสถานการณ์ไม่ขาด ไม่ทราบว่ายามนี้บา้ นเมืองมี


เหตุการณ์ฉุกเฉิ นใดหรื อเพคะ”

ชินอ๋ องวางหนังสื อลง เงยหน้าขึ้นมองข้า ดวงตาของเขากลับมาลึกลํ้าดังหลุมไร้กน้ “อวี้เอ๋ อร์ช่างสังเกตนัก สอง


สามวันมานี้ คนของเปิ่ นหวางเพียงได้เบาะแสผูร้ ้ายสําคัญคนหนึ่ง อวี้เอ๋ อร์อย่าได้สนใจเลย”

“หากเป็ นเพียงโจรผูร้ ้ายธรรมดา ไยต้องรายงานถึงท่านอ๋ อง” ข้ากล่าวพลางสบตาเขา เขายิม้ เป็ นฝ่ ายหลบตาข้า
ก่อน

“อวี้เอ๋ อร์กล่าวได้ถูกต้องแล้ว โจรผูน้ ้ ีมิใช่ผรู ้ ้ายธรรมดา หากเปิ่ นหวางไม่ลงมาดูแลด้วยตนเองเกรงว่า


สถานการณ์จะลุกลามใหญ่โต แต่อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไป เรื่ องราวไม่ได้หนักหนาดังที่เจ้านึกกลัว”

สุ ดท้ายเขาก็ไม่ได้ตอบคําถามข้า ข้ามองเขาอย่างขัดใจ ทว่าเขาเพียงยกตําราขึ้นอ่านต่อ

ระหว่างที่อยูด่ ว้ ยกันที่ตาํ หนักหยางซิ น เราสองคนใช้เวลาในแต่ละวันด้วยกันอย่างเงียบสงบ แรกๆ ข้าปล่อยให้


เขาเข้าครัวเพียงลําพัง แต่แล้วก็นึกเห็นใจ ชินอ๋ องเคยชินแต่กบั การรบทัพจับศึก หากต้องมาหยิบจับงานในครัว
เขาคงทําได้ไม่คล่องนัก ครั้งหลังๆ ข้าจึงตัดสิ นใจตามเขาเข้าครัวไป เขาเห็นข้าหยิบจับงานในครัวได้คล่องก็
มอบตําแหน่งแม่ครัวให้ ส่ วนเขาลดฐานะลงมาเป็ นลูกมือ คอยช่วยข้าหัน่ ผักก่อไฟ ภาพชินอ๋ องและหวางเฟย
เข้าครัวเองคงเป็ นภาพที่แปลกตาสําหรับคนภายนอก ข้าแอบขําเมื่อเห็นใบหน้าเขาเปื้ อนคราบเขม่า ข้ารี บก้ม
หน้าลงกลั้นยิม้ พอเห็นใบหน้าข้าเปื้ อนรอยยิม้ เขาก็เอื้อมมือที่ดาํ เพราะคราบเขม่ามาวาดใบหน้าข้า

330
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ไม่ช่วยเช็ดหน้าให้เปิ่ นหวางแล้วยังแอบหัวเราะอีกรึ ”

“อย่าเพคะ อวี้เอ๋ อร์กาํ ลังว่าจะเช็ดให้พอดี ท่านอ๋ องอย่าเพิ่งกริ้ วสิ เพคะ” ข้าหลบหนีเป็ นพัลวัน เขาได้ฟังคําข้าก็
หัวเราะเสี ยงดัง เขาไม่เชื่อคําพูดข้าสักนิด

ข้าคิดรายการอาหารแปลกใหม่ให้เขาได้ลิ้มลองในแต่ละมื้อ นับเป็ นความสนุกอย่างหนึ่ ง แต่ละวันผ่านไปอย่าง


ไม่น่าเบื่อ ชินอ๋ องยังคงทํางานหนัก แต่เขาไม่ได้ขลุกตัวอยูห่ อ้ งอักษร กลับหอบหนังสื อราชการมานัง่ อ่าน
ใกล้ๆ ยามเขาดูเคร่ งเครี ยด ข้ามักจะบรรเลงพิณเป็ นท่วงทํานองผ่อนคลาย ยามนั้นชินอ๋ องจะเบือนสายตาจาก
งานตรงหน้าขึ้นมายิม้ ให้ขา้ รอยยิม้ นั้นบังเกิดเป็ นความอบอุ่นวาบขึ้นในใจ

ยามไม่มีคนสนิทข้างกาย เราต่างคอยดูแลกัน พอไม่มีหมิงจู ข้าก็เคยชินกับการมีเขาอยูข่ า้ งๆ ชินอ๋ องสระผมให้


ข้า จับข้านอนหนุนตัก ชําระเส้นผมยาวรุ่ ยร่ ายของข้าอย่างตั้งอกตั้งใจ เขาทําได้ไม่ดีเท่าหมิงจู ทั้งข้าและเขาตัว
เปี ยกปอนไปหมด บางครั้งข้าถึงกับลืมตัว รอยยิม้ ที่ขา้ ไม่ปรารถนาจะมอบให้เขากลับประดับที่มุมปากอย่างไม่
ตั้งใจ เขายิม้ กว้างตอบข้าทําให้ใบหน้านั้นอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยามข้าสระผมให้เขา ชินอ๋ องมักจะ
นอนลืมตา จ้องมองข้านิ่ งจนบางครั้งข้ารู ้สึกเขินอาย เวลาอายข้ามักจะแกล้งทํานํ้ากระเซ็นใส่ ใบหน้าเขา ยาม
นั้นรอยยิม้ จะปรากฏที่มุมปากเขาเสมอ ดวงตาเขาที่มองข้าจะระยิบระยับยิง่ กว่าเดิม

ข้าเพิ่งเข้าใจ เขาไม่ได้พาข้ามาที่ตาํ หนักหยางซิ นเพื่อจะเคี่ยวกรําข้าอย่างที่เขาขู่ แท้จริ งแล้วเขาพาข้ามาเพื่อใช้


เวลาอยูด่ ว้ ยกัน เรี ยนรู ้ซ่ ึ งกันและกัน เป็ นคู่สามีภรรยาธรรมดาที่ไม่ได้มีเพียงเรื่ องนั้น เรื่ องผลิตทายาทคงเป็ น
เพียงข้ออ้าง เขาดูแลใส่ ใจข้า หวังว่าข้าจะใจอ่อน เขารู ้วา่ ข้าเป็ นคนอย่างไร ข้าไม่ตอ้ งการเป็ นฝ่ ายรับเพียงอย่าง
เดียว หากเขาดีต่อข้า ข้าย่อมดีต่อเขา ดูแลเขาเป็ นการตอบแทน

ข้าบอกตัวเองว่านี่กเ็ ป็ นการแลกเปลี่ยนรู ปแบบหนึ่งเช่นกัน แต่ความรู ้สึกผูกพันแนบแน่นกลับค่อยๆ ก่อตัวขึ้น


ในจิตใจ

คืนหนึ่งหลังจากพายุอารมณ์เพิ่งผ่านพ้นไป ชินอ๋ องกอดข้าไว้ในอ้อมแขน เขาถามข้าด้วยนํ้าเสี ยงสุ ขใจ

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าอยากได้ลูกชายหรื อลูกสาว”

331
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มอยากได้ลูกชาย ท่านอ๋ องต้องการทายาทไม่ใช่หรื อเพคะ” ข้าตอบเขาเนือยๆ ในใจรู ้สึกหนักอึ้ง
อย่างบอกไม่ถูก

“ใจจริ งเปิ่ นหวางอยากได้ลูกสาว ลูกสาวของเราคงจะงดงามเหมือนมารดา อวี้เอ๋ อร์คลอดลูกสาวให้เปิ่ นหวาง


สักหลายๆ คนได้หรื อไม่”

ช้าก่อน! เขาคิดจะมีลูกกี่คนกัน! หากข้ามีแต่ลูกสาวให้เขาหลายคน ข้าต้องตั้งครรภ์กี่ครั้งกันกว่าจะได้ลูกชายผู ้


สื บสายโลหิ ตให้เขา ข้าลืมนึกเรื่ องนี้ไป โอกาสที่ขา้ จะได้ลูกสาวย่อมมีไม่นอ้ ย ข้าพลาดไปแล้วใช่หรื อไม่..

“ท่านอ๋ องเพคะ ท่านอ๋ องขอเพียงให้อวี้เอ๋ อร์มอบทายาทให้แก่ท่านอ๋ องไม่ใช่หรื อเพคะ”

เขากล่าวต่อ ไม่สนใจคําทักท้วงของข้า

“เปิ่ นหวางชอบเด็กผูห้ ญิง ดูแล้วอ่อนโยนน่ารัก แถมยังช่างออดอ้อนเอาใจ แต่เด็กผูช้ ายน่ะหรื อ” เขาทําหน้ายู่


ก่อนกล่าวต่อ “แก่นแก้วซุกซนอย่างกับลิงทะโมน ไม่เห็นน่ารักตรงไหน เปิ่ นหวางนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ แล้ว
ไม่อยากมีลูกชาย”

ข้าหลุดขํา ตอนเด็กชินอ๋ องคงจะเป็ นเด็กที่ซุกซนร้ายกาจน่าดู ชินอ๋ องกล่าวต่อ

“แต่เพื่อสถานภาพที่มนั่ คงของอวี้เอ๋ อร์ ในวันหน้า เปิ่ นหวางจําเป็ นต้องมีลูกชาย หากเปิ่ นหวางสิ้ นไป เจ้าจะได้
ไม่ลาํ บาก”

“ท่านอ๋ อง!” ข้าเอ็ดเขาเสี ยงจริ งจัง “พูดอะไรอย่างนั้นเพคะ ไม่เป็ นมงคลเอาเสี ยเลย” ใจของข้าวูบไหวเพียง
ความคิดที่วา่ โลกนี้จะไม่มีเขา

“อวี้เอ๋ อร์เป็ นห่วงเปิ่ นหวางหรื อ” เขาถามเสี ยงนุ่ม

ข้านิ่งเงียบไป ได้ยนิ เสี ยงเขาถอนใจก่อนพูดนํ้าเสี ยงจริ งจัง “โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เปิ่ นหวางคิดอ่านการใด


ไม่ประมาท ย่อมนึกถึงอวี้เอ๋ อร์เป็ นอันดับแรก แม้เปิ่ นหวางจะอยูห่ รื อไม่ ย่อมไม่ปล่อยให้อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งลําบาก”

332
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ายกมือขึ้นปิ ดปากเขา “ท่านอ๋ อง อย่าพูดอีกเลยเพคะ” ข้าเสี ยงสั่น นํ้าตาไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้น “อวี้เอ๋ อร์
ต้องการเพียงท่านอ๋ องปลอดภัย เรื่ องอื่นใดนั้นล้วนไม่สาํ คัญ”

เขายิม้ พลางเอื้อมมือมาเช็ดนํ้าตาให้ขา้ “อย่าร้องไห้ เปิ่ นหวางไม่ปรารถนาจะเห็นเจ้าเศร้าเสี ยใจ”

เขาเงียบไปอึดใจก่อนเอ่ยถามออกมาอย่างลังเล “เรื่ องที่ผา่ นมา อวี้เอ๋ อร์หายโกรธเปิ่ นหวางแล้วหรื อ”

ข้าสู ดนํ้ามูกพลางตอบ “อวี้เอ๋ อร์อาจจะยังไม่หายโกรธ ยังไม่อาจทําใจยกโทษ แต่อวี้เอ๋ อร์ไม่เคยอยากเห็นท่าน


อ๋ องทุกข์ทรมาน” ข้าบอกความรู ้สึกที่แท้จริ งต่อเขา รอยยิม้ ปรากฏที่ริมฝี ปาก ส่ งให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นน่า
มองยิง่ นัก “เปิ่ นหวางรู ้ เปิ่ นหวางกําลังรอคอยวันนั้น วันที่อวี้เอ๋ อร์จะยกโทษให้เปิ่ นหวางอย่างแท้จริ ง”

ข้ามองเขาตาเป็ นประกายพร่ างพราว วันนั้นที่เขาว่าอยูอ่ ีกไม่ไกลแล้ว ใจของข้ากําลังเยียวยา มันกําลังฟื้ นฟูอย่าง


ช้าๆ ขอเพียงเขาไม่สร้างบาดแผลเพิ่มเติม ข้าหลบสายตาเขา รู ้ตวั ดีวา่ ไม่อาจห้ามความรู ้สึกผูกพันที่เพิ่มพูนขึ้น
ทุกวัน ข้าช่างไม่หลาบจําเอาเสี ยเลย แต่ยามรัก แม้คนที่ฉลาดที่สุดก็กลับโง่เขลา แม้แต่คนขี้ขลาดที่สุดก็กลับ
กล้าหาญ ข้าเผลอใจไปเสี ยแล้ว

“เปิ่ นหวางไม่ให้เจ้ากลับ” เขาบอกกับข้าเช้าวันที่ครบกําหนด มิไยว่าข้าจะยกเหตุผลต่างๆ มาอ้างเขาก็ยนื ยันคํา


เดิม “อวี้เอ๋ อร์เป็ นหวางเฟย ต้องอยูท่ ี่ตาํ หนักหลักกับเปิ่ นหวาง เปิ่ นหวางไม่ยอมให้ใครคิดว่าอวี้เอ๋ อร์ไม่ใช่คน
สําคัญ”

“ท่านอ๋ องเป็ นคนเชิญอวี้เอ๋ อร์มาพักที่ตาํ หนักหยางซิ นสามวันไม่ใช่หรื อ อวี้เอ๋ อร์ มาก่อนกําหนดตั้งสองวัน เรา
ใช้เวลาด้วยกันมาร่ วมอาทิตย์ จุดประสงค์ของท่านอ๋ องก็น่าจะบรรลุแล้ว ยามนี้ในท้องอวี้เอ๋ อร์อาจจะมีท่านอ๋ อง
น้อยอยูแ่ ล้วก็เป็ นได้” ข้าเถียงเขา

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่ได้ตอ้ งการเพียงลูกที่เกิดจากเจ้า เปิ่ นหวางต้องการพวกเราที่เป็ นครอบครัวพร้อมหน้า”

เขาลุกไปหยิบของในกล่องเครื่ องประดับ แล้วเดินกลับมาหาข้าที่เตียง ในมือของเขามีแหวนคู่สลักชื่อเขาและจี้


รู ปโบว์ที่ขา้ เคยใส่ ติดกายไว้ตลอด ยามที่ขา้ ย้ายไปอยูต่ าํ หนักเมฆาล่อง ข้าให้หมิงจูนาํ ของทั้งสองชิ้นกลับมาคืน

333
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เปิ่ นหวางจะสวมคืนให้เจ้า อวี้เอ๋ อร์คงยังไม่ลืม แหวนนี้อวี้เอ๋ อร์ เป็ นคนบอกเปิ่ นหวาง ให้สวมไว้ที่นิ้วนางข้าง
ซ้าย ความคิดถึงจะส่ งตรงถึงหัวใจ เปิ่ นหวางสวมแหวนที่สลักชื่ออวี้เอ๋ อร์ไม่เคยให้ห่างกาย” เขาจับมือข้าขึ้นมา
สวมแหวนให้อย่างบรรจง จากนั้นก็ชูสายสร้อยที่ร้อยจี้ทบั ทิมรู ปโบว์

“จี้น้ ีทาํ เป็ นรู ปเงื่อนสองหู อวี้เอ๋ อร์เป็ นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเปิ่ นหวาง จําได้หรื อไม่ เปิ่ นหวางขอให้เจ้าสวม
จี้น้ ีต่อไป หากเจ้าสวมของแทนใจทั้งสองชิ้น ลูกของเราย่อมรับรู ้ได้วา่ พ่อกับแม่ของเขารักกันมากเพียงใด เขา
จะได้รีบมาเกิดอย่างไรกันเล่า” เขากล่าวพร้อมกับอ้อมไปสวมสร้อยให้ขา้ ที่ดา้ นหลังหน้าตาเฉย ข้าอ้าปากจะ
เถียงเขาหลายครั้งแต่กไ็ ม่อาจเถียงได้ทนั

เขาลุกขึ้นยืนพลางฉุ ดข้าให้ลุกตาม

“เจ้ารอเปิ่ นหวางอยูท่ ี่ตาํ หนักหยางซิ นก่อน วันนี้เปิ่ นหวางต้องเข้าวัง แต่จะรี บสะสางงานแล้วกลับมาคุยกับเจ้า


ให้รู้เรื่ อง” เขากําชับข้า

“ท่านอ๋ อง..” ข้ากําลังจะอ้าปากบอกเขาว่าข้าอยูท่ ี่ตาํ หนักเมฆาล่องกับแม่กไ็ ม่เห็นต่างกันตรงไหน เขาก็ไปหาข้า


ได้ตลอด แต่ยงั ไม่ทนั ได้เอ่ย เขาก็รวบเอวข้าไปกอดไว้แล้วจุมพิตอย่างเสน่หา

“เปิ่ นหวางไปเตรี ยมตัวก่อน เจ้าพักผ่อนให้มากๆ” กล่าวจบก็เดินจากไป ข้าได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไป


ในใจบังเกิดความรู ้สึกอบอุ่นแปลกๆ บางทีการเริ่ มต้นใหม่กบั เขาอาจจะไม่ใช่เรื่ องเลวร้ายกระมัง

….

ยามออกจากวังเสิ่ นหยางกง เสวียนเฟิ งบอกกับตัวเอง ..อวี้เอ๋ อร์ จากนี้ไปเขาจะไม่ให้นางต้องถูกดึงเข้ามาพัวพัน


กับเรื่ องราวในราชสํานักอีก เขาจะถนอมปกป้องนางอยูใ่ นรั้ววังเสิ่ นหยางกง เรื่ องราวอันใด เขาจะเป็ นผูแ้ บก
รับไว้เอง ขอเพียงนางมีความสุ ขและลืมเลือนความเจ็บปวดในอดีตไปเสี ย

…….

คล้อยหลังเขาไปไม่นาน ข้าก็กลับไปหาแม่ที่ตาํ หนักเมฆาล่อง หลายวันที่ผา่ นมาข้าเก็บตัวอยูก่ บั ชินอ๋ องเพียง


ลําพังสองคน จึงไม่มีโอกาสได้พบแม่ ครั้นเห็นหน้าข้า แม่กอ็ ุทานอย่างยินดี

334
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อาหลัน! แม่กาํ ลังนึกถึงอยูพ่ อดี วันนี้แม่วา่ จะไปเคารพหลุมศพพ่อ นึกว่าเจ้ายังไม่สะดวกจึงตั้งใจจะไปคน
เดียวก่อน ไว้ค่อยพาอาหลันไปวันหลัง นี่อาหลันกลับมาพอดี จะไปกับแม่เลยหรื อไม่”

“ไปเจ้าค่ะ” ข้าตอบตกลง ไหนๆ วันนี้ ชินอ๋ องก็ไม่อยู่ หากข้าอยูท่ ี่วงั เสิ่ นหยางกงคนเดียวคงเงียบเหงานัก อีก
อย่างข้าอยากไปกราบสุ สานพ่อมานานแล้ว แม้จะมีเวลาเตรี ยมตัวน้อยก็ไม่เป็ นอุปสรรค

ตอนที่ขา้ กับแม่ออกจากวังเสิ่ นหยางกงยังเป็ นเวลาเช้าตรู่ คล้อยหลังชินอ๋ องเพียงครู่ เดียวเท่านั้น แม่เพียงไป


บอกให้คนเตรี ยมรถม้าไปหมู่บา้ นเดิม ชินอ๋ องเคยอนุญาต หากแม่ตอ้ งการทําสิ่ งใดเพียงบอกคนของเขา คนใน
วังเสิ่ นหยางกงให้ความเคารพแม่เป็ นอย่างดีแม้แม่จะเป็ นเพียงสามัญชน ข้ากับแม่นงั่ คุยสัพเพเหระกันไปบนรถ
ม้า เพียงไม่นานก็เข้าเขตหมู่บา้ น พวกเรามองบริ เวณที่เคยเป็ นบ้านของหลิ่วเหลยยามรถวิ่งผ่าน ยามนี้เหลือ
เพียงที่ดินรกร้าง คนในครอบครัวล้วนถูกสังหารสิ้ น สายตาของเราสองแม่ลูกว่างเปล่า ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์
ไม่ได้แค้นเคือง คนก็ตายไปแล้ว ความแค้นมีประโยชน์อนั ใดเล่า

หลุมศพของพ่ออยูช่ ายขอบหมู่บา้ น ทั้งโดดเดี่ยวและห่างไกล เพียงรถม้าแล่นเข้าไปใกล้ แม่กน็ ้ าํ ตาไหล ข้ามอง


อย่างเวทนา แม่คงคิดถึงพ่อเหลือเกิน กี่ปีมาแล้วที่อยูม่ าโดยไม่มีพอ่ มิหนํ้าซํ้าชีวิตก็ยากลําบาก โดนรังแกโดย
คนชัว่ อย่างหลิ่วเหลย ข้าคิดแล้วก็นึกโกรธหลิ่วเหลยขึ้นมา อยากจะขุดหลุมศพเอาร่ างเขาขึ้นมาสับเป็ นหมื่นชิ้น
ให้หายแค้น

เราสองแม่ลูกให้คนขับรถและผูต้ ิดตามรออยูท่ ี่รถม้า ข้ากับแม่ประคับประคองตะกร้าใส่ ของไหว้เดินเข้าไป


ช่วยกันทําความสะอาดหลุมศพจนสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา ข้าวางดอกไม้ไว้หน้าหลุมศพแล้วช่วยแม่
จัดเตรี ยมของไหว้ ยามจุดธูปไหว้พอ่ ข้ารู ้สึกตื้นตัน แม้ไม่เคยได้เห็นหน้า แต่พอ่ ก็เป็ นคนให้ร่างกาย ให้ชีวติ นี้
แก่ขา้ มา ข้าบอกพ่อ ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง สตรี ที่พอ่ รัก ข้าจะดูแลอย่างดี ขณะเดียวกันข้าก็อดไม่ได้ที่จะขอพรจากพ่อ
ขอให้ชีวิตข้ามีความสุ ขเสี ยที ขอให้ขา้ หลุดพ้นจากทุกข์โศกที่กดั กินใจอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน

ข้านึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่แล้วก็อดคิดไม่ได้ หากตอนนั้นพ่อตัดสิ นใจไปสอบเป็ นขุนนาง


สุ ดท้ายเรื่ องราวจะลงเอยเช่นนี้หรื อไม่.. ไม่มีใครบอกได้ แต่ที่ขา้ แน่ใจ หากพ่อได้เป็ นขุนนาง พ่อย่อมจะมี
อํานาจบารมีเพียงพอที่จะปกป้องแม่ได้ ตัวพ่อเองอาจไม่ตอ้ งตายอย่างน่าอนาถ แม่กค็ งไม่โดนหลิ่วเหลยยํา่ ยี

หากชินอ๋ องไม่ได้เข้มแข็งปานนี้ ชะตาชีวิตข้าอาจไม่ต่างจากแม่ คงตกอยูใ่ นวังวนอํานาจ ผลัดเปลี่ยนมือบุรุษ


เป็ นว่าเล่น ข้าเข้าใจ ตําแหน่งหวางเฟยแม้จะมัน่ คงปลอดภัยแต่กต็ อ้ งแลกมาด้วยอะไรมากมายเหลือเกิน
ตําแหน่งชินอ๋ องก็เช่นกัน อํานาจย่อมมาพร้อมกับภาระอันหนักอึ้ง ข้าและเขาล้วนฝ่ าคลื่นลมด้วยกันมาไม่นอ้ ย

335
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าหันไปมองแม่ แม่ยงั คงนํ้าตาไหล ไม่รู้วา่ ในใจแม่พดู อะไรกับพ่อบ้าง แม่ต่างหากคือคนที่สูญเสี ยอย่างแท้จริ ง


ข้าเจ็บปวดแต่ขา้ ยังไม่สูญเสี ยเขาไป หลายปี ที่ผา่ นมา แม่อยูก่ บั ความจริ งที่วา่ ในโลกนี้ไม่มีพอ่ อีกต่อไปแล้วได้
อย่างไร หากเป็ นข้าหัวใจคงแหลกสลาย ข้าคงทนอยูไ่ ม่ได้ ดูชาติที่ขา้ เป็ นซี ยนิ นัน่ อย่างไร ข้าเลือกที่จะจบชีวิต
ตัวเองเพื่อหนีความทุกข์ แม่ช่างเป็ นผูห้ ญิงที่แข็งแกร่ งเหลือเกิน

ข้าประคองแม่เดินกลับไปยังรถม้า ขากลับข้าถามเรื่ องที่ยงั คาใจ

“ท่านแม่อยูไ่ ด้อย่างไรโดยไม่มีท่านพ่อ ข้านึกไม่ออกเลย หากเป็ นข้าจะทําอย่างไร”

“แม่อยูไ่ ด้เพราะมีเจ้าอย่างไรเล่าอวี้เอ๋ อร์ หากไม่มีเจ้า แม่คงยอมตายเสี ยดีกว่าให้หลิ่วเหลยข่มเหง” แม่ตอบข้า


อย่างสงบราวกับเรื่ องราวที่ผา่ นมาเนิ่นนานไม่อาจทําร้ายแม่ได้อีกต่อไป “ตอนที่แม่คิดจะสู ้ตายกับหลิ่วเหลย
เจ้าที่นอนอยูใ่ นเปลก็ร้องขึ้นมา แม่จึงนึกขึ้นได้วา่ หากขาดแม่ไปเสี ยคน เจ้าซึ่ งเป็ นเพียงทารกเพศหญิงก็คงยาก
ที่จะรอดชีวิต”

ข้านํ้าตาไหล ไม่อยากนึกว่าช่วงเวลานั้นแม่จะเจ็บปวดเพียงใด ข้านึกชิงชังรังเกียจหลิ่วเหลยมากขึ้นไปอีก หาก


เขาไม่ได้ตายด้วยนํ้ามือใต้เท้าจาง ข้าคงไม่ลงั เลที่จะขอให้ชินอ๋ องจัดการเขาอย่างสาสม

“แต่แม่ดีใจที่มีเจ้า ทําให้แม่ไม่ตอ้ งทําเช่นนั้น หากแม่คิดสั้นเสี ยตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงไม่ได้รู้วา่ ชีวติ ที่เหลืออยูม่ ีค่า


เพียงใด แม่ดีใจที่ได้มีชีวติ อยูจ่ นเข้าใจความหมายของการมีชีวิต แม่ยอ่ มคิดถึงพ่อ แม่เสี ยพ่อไปแต่ไม่ได้สูญเสี ย
ความรักที่มีต่อเขา เราจากกันก็เพียงชัว่ คราว แม่เชื่อว่าพ่อคงรอแม่อยูท่ ี่ไหนสักแห่ง”

ข้าฟังคําของแม่แล้วสะอื้น โชคดีเหลือเกินที่ขา้ มีแม่อยูด่ ว้ ย ไม่เช่นนั้นแล้ว ชีวติ อันยุง่ เหยิงของข้าคงไร้หลักยึด


อยูๆ่ คนขับรถก็ดึงบังเหี ยน ข้าได้ยนิ เสี ยงม้าร้องจากการถูกบังคับให้หยุดกะทันหัน ด้านนอกมีเสี ยงฝี เท้าม้า
สับสนและเสี ยงองครักษ์ภายนอกที่สื่อสารกันอย่างเร่ งด่วน ข้ารู ้สึกได้ถึงความผิดปกติ รี บจับแขนแม่ไว้แน่น
เราต่างมองตากัน เข้าใจได้ในทันทีวา่ เกิดอะไรขึ้น

..รถม้าของเราคงโดนซุ่มโจมตี..

336
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 48 : ทุกคนต่ างมีเหตุผล

แม่เป็ นสามัญชนมาชัว่ ชีวิต ไม่คุน้ เคยกับขบวนรถเอิกเริ ก จึงให้คนนํารถม้าเรี ยบง่ายธรรมดาออกมา องครักษ์ก็


ให้ติดตามมาเพียงไม่กี่คน ไม่รู้วา่ ยามนี้คนร้ายที่รายล้อมพวกเราอยูม่ ีมากน้อยเพียงใด องครักษ์จะรับมือไหว
หรื อไม่ องครักษ์ชกั ดาบออกจากฝักเสี ยงดังบาดหู หนึ่งในนั้นตรงเข้ามารายงานที่หน้าประตูรถม้า

“หวางเฟยและพระสัสสุ โปรดระวังตัว ยามนี้ถนนถูกตัดขาด มีคนโค่นไม้ใหญ่กีดขวางทางเบื้องหน้าไว้ แต่


โปรดวางพระทัย พวกกระหม่อมจะปกป้องท่านด้วยชีวิตพะย่ะค่ะ”

ข้าฟังแล้วไม่สบายใจ ผูใ้ ดกันเล่าคิดจะปองร้ายชินหวางเฟย แม้จะมีผตู ้ ิดตามน้อย แต่ลกั ษณะของรถม้าก็บ่ง


บอกว่ามิใช่รถชาวบ้านธรรมดา โจรผูร้ ้ายทัว่ ไปจะกล้าลงมืออุกอาจเช่นนี้หรื อ

ข้าภาวนาขอให้ผรู ้ ้ายข้างนอกนั้นเป็ นเพียงโจรธรรมดา หวังว่าผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหลังจะไม่ใช่ใต้เท้าจาง เขาคงเคียด


แค้นข้ากับชินอ๋ องนักที่ขดั ขวางแผนการของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าขมวดคิ้ว ยามนี้เขาเป็ นผูร้ ้ายหลบหนี ทั้ง
ฮ่องเต้และชินอ๋ องน่าจะระดมกําลังคนไล่ล่าอย่างไม่ลดละ ไม่น่าจะมีเวลามาติดตามชําระแค้นกับข้ามิใช่หรื อ

“ฝ่ ายตรงข้ามมีจาํ นวนมากน้อยเท่าใด” ข้าเอ่ยถามออกไป

เสี ยงความเคลื่อนไหวดังออกมาจากชายป่ าข้างทาง กิ่งไม้สั่นไหว ฝูงนกโผบินขึ้นฟ้าอย่างตกใจ อีกฝ่ ายตีวง


ล้อมเข้ามาเรื่ อยๆ เสี ยงกีบม้าขบวนใหญ่ดงั มาจากเบื้องหลัง ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกปิ ดทางหนีจนหมดสิ้ น อีก
ทั้งจํานวนคนฝ่ ายตรงข้ามดูจะเยอะเกินกว่าที่เหล่าองครักษ์จะรับมือไหว เสี ยงองครักษ์ตอบมาอย่างลังเล

“ทูลหวางเฟย จํานวนไม่แน่ชดั แต่ดูจะมีมากกว่าพวกเราหลายเท่า”

..หลายสิ บคนอย่างนั้นหรื อ ไม่สิ อาจจะมากกว่านั้น อีกฝ่ ายดูเหมือนจะติดตามพวกเราตั้งแต่ขามา ซุ่ มซ่อน


กําลังดักรออย่างใจเย็น น่าจะมีการวางแผนมาเป็ นอย่างดี ย่อมไม่ใช่ผรู ้ ้ายธรรมดา พวกเราถูกล้อมวงอยูใ่ จกลาง
ศัตรู ยามนี้หนทางหลบหนี ถูกตัดขาดสิ้ น ตอนนี้ ต่างฝ่ ายต่างกําลังหยัง่ เชิงดูท่าทีกนั อยู่ ข้าตัดสิ นใจอย่างรวดเร็ ว
ข้ามัน่ ใจว่าผูร้ ้ายกลุ่มนี้ตอ้ งเป็ นคนของใต้เท้าจาง อย่างไรเสี ยเขาก็ตอ้ งการเพียงตัวข้า ต่อให้เหล่าองครักษ์สู้จน
ตัวตาย สุ ดท้ายข้าก็ถูกจับตัวไปอยูด่ ี มิสู้ให้พวกเขารุ ดกลับไปรายงานชินอ๋ องกันเล่า แม้พวกเขาจะยินดีพลีชีพ
แต่ขา้ ก็ไม่ตอ้ งการให้ผใู ้ ดต้องมาตายเพื่อข้า ทุกชีวติ ย่อมมีคุณค่ากับคนข้างหลัง ข้ารี บเอ่ยกับพวกเขา

337
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ทุกคนอย่าเพิ่งปะทะ ถนอมเรี่ ยวแรงไว้ก่อน คนที่ผรู ้ ้ายต้องการตัวคือข้า พวกท่านจงพามารดาข้ากลับไป ข้าจะ


เจรจากับคนพวกนี้เอง”

“หวางเฟยโปรดพิจารณา ชินอ๋ องไม่มีทางยอมให้พวกเรากลับไปโดยไม่มีท่าน พวกเราจะตีฝ่าวงล้อมพาท่านทั้ง


สองกลับไป” องครักษ์กล่าวแย้งอย่างไม่เห็นด้วย ในสายตาของพวกเขา หากข้าตกอยูใ่ นเงื้อมมือคนเหล่านี้คง
ไม่อาจหนีพน้ ชะตากรรมอันเลวร้าย

“ดูจากจํานวนฝ่ ายตรงข้ามแล้ว พวกท่านมัน่ ใจว่าจะพาข้าหลบหนีไปได้สาํ เร็ จหรื อไม่” ข้าถามพวกเขาเสี ยง


จริ งจัง ทุกคนไม่มีใครตอบ ลําพังแค่เอาตัวรอดก็ลาํ บากเหลือเกินแล้ว หากต้องคุม้ กันสตรี ไร้วรยุทธ์อีกสองคน
หนีออกไปด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเหลือ เหล่าองครักษ์คงรู ้สึกว่าหากไม่มีขา้ กลับไป พวกเขาคงไม่มีหน้าไป
พบชินอ๋ อง ข้าจึงรี บเอ่ยโน้มน้าว

“หากสุ ดท้ายแล้วพวกท่านต้องตาย ข้าถูกจับตัวไป ย่อมเป็ นการทุ่มเทที่เสี ยเปล่า เป็ นการต่อสู ้ที่ใช้เพียงอารมณ์


ความรู ้สึก ไม่ได้ใช้สติปัญญา สถานการณ์จะยิง่ เลวร้ายหนักกว่าเดิม ทําตามที่ขา้ ว่า ชินอ๋ องย่อมเข้าใจเจตนา
ของข้า ไม่มีทางตําหนิพวกท่านแน่”

แม้แต่แม่กจ็ บั แขนข้าไว้อย่างเป็ นห่วง “อาหลัน ให้แม่ไปกับเจ้า”

“ท่านแม่ อย่าได้เป็ นห่วงอาหลัน อย่างไรเสี ยคนพวกนี้ยอ่ มไม่ทาํ อันตรายข้า ท่านแม่ติดตามเหล่าองครักษ์


กลับไปเสี ยก่อนเถิด ประเดี๋ยวชินอ๋ องจะตามมาช่วยข้าภายหลัง”

แม่ไม่ยอมลงจากรถ “ไม่เช่นนั้นก็ให้องครักษ์อารักขาเจ้ากลับไป ทิ้งแม่ไว้ที่นี่”

ข้าสุ ดปั ญญาจะบังคับ จําต้องตัดสิ นใจอย่างรวดเร็ ว ในสถานการณ์คบั ขันเช่นนี้ได้แต่ยอมตามความตั้งใจของ


แม่ ข้าพูดกับองครักษ์ที่ยงั คงห้อมล้อมอยูร่ อบรถม้า ไม่มีใครมีทีท่าอยากจะจากไป

“นี่เป็ นคําสั่งของข้า จงรี บกลับไปรายงานชินอ๋ อง ยิง่ พวกท่านไปได้เร็ วเท่าใด โอกาสรอดของพวกเราก็จะยิง่ มี


มากขึ้น ยังไม่เข้าใจอีกหรื อ” ข้าเริ่ มเสี ยงแข็ง

พวกเขาคุกเข่าประสานมือรับคําสั่ง

338
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“พะย่ะค่ะ หวางเฟยโปรดวางพระทัย พวกเราจะรี บไปรายงานท่านอ๋ องให้เร็ วที่สุดพะย่ะค่ะ”

ดูเหมือนว่ากลุ่มผูป้ องร้ายไม่ตอ้ งการให้เป็ นเช่นนั้น จึงรี บเปิ ดฉากโจมตี แต่เหล่าองครักษ์ที่ได้รับบัญชาจากข้า


ไม่ได้สนใจจะโต้ตอบ พวกเขาเพียงร่ วมมือกันตีฝ่าวงล้อมออกไปก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีอย่างรวดเร็ ว ชาย
ชุดดําได้แต่แบ่งกลุ่มออกติดตามหมายสังหารทุกคนให้หมดสิ้ นเพื่อมิให้หลบหนีไปส่ งข่าว โชคดีที่วทิ ยายุทธ
ของเหล่าองครักษ์มิใช่ชวั่ เพียงไม่ตอ้ งปะทะกับกองกําลังที่มีคนมากกว่าหลายเท่าตัว การหลบหนีให้พน้ จาก
การไล่ล่าดูจะไม่ใช่เรื่ องยากสําหรับพวกเขาเลย เพียงไม่นานเสี ยงประดาบก็ห่างออกไป พวกเขาคงหลุดจากวง
ล้อมแล้ว

คนอื่นๆ จากไปแล้ว เหลือเพียงองครักษ์ท่าทางสุ ขมุ ผูห้ นึ่งที่ดูเหมือนจะเป็ นหัวหน้า เขายังคงปักหลักอยูท่ ี่ขา้ ง


รถม้า ไม่ยอมจากไป

“ท่านเข้ามาใกล้ๆ” ข้าเรี ยกเขาจากในรถ

ยามนี้กลุ่มผูร้ ้ายเริ่ มตีวงล้อมเข้ามาเรื่ อยๆ องครักษ์ผนู ้ ้ นั ชักดาบขึ้นประจันหน้ากับฝ่ ายตรงข้ามซึ่ งยามนี้อยูห่ ่าง


ออกไปราวยีส่ ิ บก้าว ครั้นได้ยนิ เสี ยงข้า เขาก็กา้ วมายืนที่ขา้ งประตู ข้าพูดกับเขาเสี ยงเบา

“ท่านหลบหนีไปเสี ยเถิด อย่าเอาชีวติ มาทิ้งไว้ที่นี่เลย”

“กระหม่อมไม่ไปพะย่ะค่ะ หวางเฟยเป็ นดัง่ ดวงใจของชินอ๋ อง กระหม่อมขอถวายชีวิตปกป้องหวางเฟย” เขา


ตอบหนักแน่น ดูท่าจะเป็ นผูม้ ีฝีมือไม่นอ้ ย ข้าบังเกิดความคิด

“ท่านทําทีเป็ นหลบหนีไปก่อน จากนั้นลอบสะกดรอยอยูห่ ่างๆ คอยดูวา่ คนพวกนี้ จะพาข้าไปที่ใด” ข้ากระซิ บ


“จากนั้นนําทางชินอ๋ องมาช่วยข้า ท่านสละชีพอยูต่ รงนี้ยอ่ มไม่เป็ นประโยชน์ต่อข้าสักนิด ท่านว่าจริ งหรื อไม่”

เขาได้ยนิ แล้วนัยน์ตาเป็ นประกายแจ่มแจ้ง รี บประสานมือ

“รับทราบพะย่ะค่ะ หวางเฟยช่างปรี ชาสามารถนัก” เขารับคําเสี ยงเบา

339
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“แต่อย่าเพิ่งไปทันที แสร้งทําทีเป็ นต่อสู ้แล้วถอดใจล่าถอย ไม่เช่นนั้นฝ่ ายตรงข้ามจะรู ้เท่าทันเจตนาเอาได้” ข้า
เอ่ยเตือนเขา

ยามนั้นฝ่ ายตรงข้ามบางคนเริ่ มเปิ ดฉากต่อสู ้ จํานวนที่มากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ของศัตรู ทาํ ให้องครักษ์ของ


ชินอ๋ องเป็ นฝ่ ายเสี ยเปรี ยบอย่างเห็นได้ชดั เขาทําทีเป็ นเพลี่ยงพลํ้า ก่อนจะตัดสิ นใจแสร้งหนีเอาตัวรอด วิชาตัว
เบาขององครักษ์ผนู ้ ้ ีล้ าํ เลิศนัก เพียงพริ บตาก็หายไปดุจสายลม

ครั้นเหลือข้ากับมารดาเพียงลําพังสองคน ข้าก็อดหวาดหวัน่ ขึ้นมาไม่ได้ ข้ารู ้วา่ อย่างไรเสี ยคนร้ายเหล่านี้กจ็ ะยัง


ไม่สังหารข้า แต่ไม่อาจบอกได้วา่ พวกเขาคิดจะจัดการกับข้าอย่างไร แม่จบั แขนข้าไว้ เรี ยกข้าอย่างปลอบโยน

“อาหลัน”

ข้ารู ้สึกอุ่นใจขึ้นที่อย่างน้อยยังมีแม่ เราสองคนได้แต่นงั่ กุมมือกันไว้แน่น รอคอยชะตากรรมอยูบ่ นรถม้า เมื่อไม่


มีองครักษ์มาต่อต้าน กองกําลังภายนอกจึงมิได้บุกเข้ามา มีเพียงเสี ยงฝี เท้าก้าวเดินมาเพียงลําพัง น่าจะเป็ นผูบ้ ง
การคนเหล่านี้ ข้าเป็ นฝ่ ายเปิ ดปากก่อน

“พวกท่านเป็ นใคร ขัดขวางขบวนของข้ามีจุดประสงค์ใด” นํ้าเสี ยงของข้าสงบนิ่งไม่หวัน่ ไหว ข้าไม่อาจเผย


ความอ่อนแอได้

เสี ยงหัวเราะแผ่วพริ้ วลอยมา ราวกับว่าเจ้าของนํ้าเสี ยงกําลังรื่ นรมย์ใจอย่างเหลือแสน

“หวางเฟยไม่รู้จริ งๆ หรื อว่าพวกเราต้องการสิ่ งใด”

ใจข้ากระตุกวูบ แสดงว่าคนเหล่านี้รู้วา่ ข้าเป็ นใคร พวกเขาคงเป็ นคนที่ใต้เท้าจางส่ งมาจริ งๆ ข้าไม่อยากเจรจา


ให้มากความจึงนิ่งเฉยเสี ย รอฟังว่าอีกฝ่ ายจะเอ่ยสิ่ งใด

เขาเพียงหัวเราะนํ้าเสี ยงเย้ยหยัน “ไม่น่าเชื่อ องครักษ์ของชินอ๋ อง ยามมีภยั ต่างพากันหนีตาย ทิ้งชินหวางเฟยกับ


มารดาไว้ตามลําพัง ดูท่าความจงรักภักดีที่คนเหล่านี้มีให้ชินอ๋ องจะไม่ได้เผือ่ แผ่มาถึงหวางเฟยกระมัง”

ข้าไม่ตอบ ปล่อยให้เขาพูดไปเองฝ่ ายเดียว เขาคงรู ้สึกเก้อกระดากจึงหันไปสั่งคนของตน

340
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“นําตัวไปยังจุดนัดหมาย”

ต้นไม้ที่ถูกล้มขวางถนนไว้ถูกเคลื่อนย้ายออกอย่างรวดเร็ ว ในไม่ชา้ ทุกอย่างก็ดูปกติราวกับไม่เคยมีเหตุร้าย


เกิดขึ้น รถม้าเคลื่อนตัวอีกครั้ง เพียงไม่นานก็เลี้ยวเข้าทางสายแคบ อีกทั้งยังขรุ ขระจนรถสะเทือนไปตลอดทาง
ข้ามองออกไปภายนอกเห็นเพียงป่ ารกสองข้างทาง หวังว่าองครักษ์ผนู ้ ้ นั จะติดตามมาทัน ในที่สุดรถม้าก็หยุด
ลง

“ลงมาได้แล้ว” นํ้าเสี ยงบุรุษคนเดิมดังขึ้น

ข้าปลุกปลอบใจให้หา้ วหาญ ก้าวลงจากรถแล้วหันมาประคองแม่ ข้ากวาดตามองไปรอบๆ ตอนนี้ พวกเรามาถึง


บ้านเรื อนธรรมดาหลังหนึ่ง ตัวอาคารเป็ นบ้านปูนสามัญซึ่ งมีเพียงสองปี ก อาคารตะวันออกและอาคาร
ตะวันตกยังไม่ได้สร้าง ตรงกลางเป็ นลานโล่งซึ่ งบัดนี้จอดรถม้าลักษณะคล้ายคลึงกันห้าคัน เสี ยงฝี เท้าดังใกล้
เข้ามา ข้าจึงละสายตาจากการสังเกตสิ่ งรอบตัว บุรุษที่ยนื รออยูก่ บั ข้ารี บค้อมกายคารวะผูท้ ี่เดินเข้ามาใกล้ ชายที่
เพิ่งมาถึงมีใบหน้าประพิมประพายคล้ายใต้เท้าจาง ใช่แล้ว.. เขาคือจางอี้หวั บุตรชายคนโตผูเ้ สเพลของใต้เท้า
จางนัน่ เอง เขาและใต้เท้าจางคือตระกูลจางสองคนสุ ดท้ายที่ยงั รอดชีวิต ข้ามีโอกาสพบเขาไม่บ่อยนักยามอยู่
จวนตระกูลจาง นิสัยมักมากของเขาและพี่นอ้ งต่างมารดา เป็ นที่รู้กนั ในหมู่สาวใช้ ทว่ายามนี้ท่าทางของเขาดู
เอาการเอางานต่างกับยามอยูใ่ นจวน เขาพยักหน้ารับการคารวะ สายตาชําเลืองมองมาทางข้าและมารดา

“ชินหวางเฟย ในที่สุดเจ้าก็มีวนั นี้ หากมิใช่บิดาต้องการตัวเจ้า เจ้าคงไม่โชคดีได้มายืนอยูเ่ บื้องหน้าข้าในสภาพ


สมบูรณ์เช่นนี้หรอก” นํ้าเสี ยงของเขาเจือความอาฆาต โชคดีเขากําลังรี บเร่ งจึงไม่มีเวลาใส่ ใจข้ามากนัก เขาเดิน
นําเข้าไปในบ้านและพยักเพยิดให้คนของเขาพาข้าและแม่ตามเข้าไป ภายในบ้านมีสตรี สี่คนถูกจับมัดอยูก่ บั พื้น
แต่ละคนมีท่าทางหวาดกลัว

“จับพวกนางใส่ กระสอบแล้วแยกย้ายไปขึ้นรถพร้อมกัน” เขาบงการลูกน้อง หลังจากจัดการสตรี ท้ งั สี่ คนเสร็ จ


เรี ยบร้อย คนเหล่านั้นก็หนั มาทางข้า จางอี้หวั เอ่ยนํ้าเสี ยงเยาะหยัน

“ต้องรบกวนหวางเฟยแล้ว” ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะยัดข้าลงไปในกระสอบเช่นกัน

“คุณชายจาง ยามนี้ขา้ ตกอยูใ่ นเงื้อมมือท่านย่อมไร้หนทางต่อสู ้ แต่ท่านไม่จาํ เป็ นต้องทําตัวแล้งนํ้าใจ สร้าง


ความลําบากให้ขา้ ถึงเพียงนี้ กไ็ ด้กระมัง” ข้าเอ่ยเสี ยงเรี ยบ

341
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“หวางเฟย ข้าขอบังอาจเตือนท่านสักเรื่ องหนึ่ ง ระยะทางกว่าจะไปถึงที่หมายมิใช่ใกล้ ท่านสะดวกใจจะนัง่ รถ
ม้าเคียงข้างไปกับลูกน้องข้าซึ่ งล้วนแล้วแต่เป็ นบุรุษเช่นนั้นหรื อ”

ข้ามองหน้าเขา เขาจ้องข้ากลับด้วยสายตาแสดงความเกลียดชังอย่างปิ ดไม่มิด หากมิได้รับคําสั่งจากบิดา เขาคง


แก้แค้นข้าอย่างไม่ปรานี

“กับข้าคุณชายจะกลัน่ แกล้งอย่างไรก็ได้ แต่กบั มารดาหวังว่าท่านจะมีเมตตา” ข้าเอ่ยกับเขาอย่างใจเย็น ข้าไม่


ต้องการให้แม่ได้รับความยากลําบากใดๆ

“หวางเฟยไม่ตอ้ งเป็ นห่วง มารดาท่านไม่ได้ติดตามไปด้วยหรอก ข้าย่อมไม่ใจไม้ไส้ระกํากับผูอ้ าวุโส” เขาพยัก


หน้าเป็ นเชิงให้ลูกน้องลงมือ ส่ วนเขาหันไปหารื อกับชายที่เดินนําข้าเข้ามา

ในที่สุดข้าก็ถูกจับมัดอยูใ่ นกระสอบ ข้าได้ยนิ เสี ยงแม่เรี ยกข้าด้วยความเป็ นห่วง

“อาหลัน”

“ท่านแม่” ข้าตอบเสี ยงเบา กลัวจะเป็ นการดึงความสนใจของจางอี้หวั และยัว่ ยุให้เขาเกิดโทสะ

“อาหลัน เจ้าไม่ตอ้ งกลัว ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงแม่ หากมีโอกาสจงรี บหนีไป อย่าได้ลงั เล อย่าได้กงั วลถึงแม่เข้าใจ
หรื อไม่”

ข้ายังไม่ทนั ตอบก็ได้ยนิ เสี ยงชายคนหนึ่งเอ่ยกับแม่ “ท่านตามข้ามาทางนี้ ”

แม่คงจะถูกเขาฉุ ดกระชากไป เสี ยงฝี เท้าแม่ที่ห่างออกไปไม่สมํ่าเสมอ ประเดี๋ยววิ่งประเดี๋ยวเดิน ข้านึกเป็ นห่วง


แม่ แต่กร็ ู ้ดีวา่ ตราบใดที่พวกเขายังไม่อาจเอาชนะชินอ๋ องได้ ข้าและแม่ยอ่ มเป็ นตัวประกันที่มีค่ายิง่ พวกเราจะ
ยังคงปลอดภัย

ข้าได้ยนิ เสี ยงจางอี้หวั ถามลูกน้อง

“มีใครเหลือรอดไปได้หรื อไม่”

342
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“พวกองครักษ์ต่างทอดทิ้งหวางเฟยเอาตัวรอดกันหมด แต่นายน้อยไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้าส่ งคนติดตามไปจัดการ
แล้วขอรับ”

“แล้วคนที่ติดตามไปกลับมาแล้วหรื อไม่”

“ยังขอรับนายน้อย”

ข้าได้ยนิ เสี ยงกระแทกหนักๆ และเสี ยงคนร้องด้วยความเจ็บปวด

“ไม่ได้เรื่ อง! ลูกน้องของเจ้ามันเศษสวะ หากติดตามไปนานขนาดนี้ยงั ไม่กลับมา แสดงว่าพวกนั้นคงถูกเหล่า


องครักษ์จดั การไปเสี ยแล้ว” นํ้าเสี ยงของจางอี้หวั กราดเกรี้ ยว “ชินอ๋ องคงได้ข่าวแล้ว ป่ านนี้พวกมันคงออกไล่
ล่าพวกเราไม่ต่างกับหมาล่าเนื้อ บัดซบ! คนของเราตั้งมากมาย ปล่อยให้หลบหนีไปได้อย่างไร ไหนว่าคนของ
ชินอ๋ องซื่ อสัตย์จงรักภักดีนกั พวกมันสมควรจะต้องต่อสู ้เพื่อคุม้ กันชินหวางเฟยจนตัวตายมิใช่หรื อ อะไรทําให้
พวกมันไหวตัวเร็ วถึงเพียงนั้น ฐานที่มนั่ นี้อยูไ่ ม่ได้แล้ว รี บแยกย้ายกันออกไป..”

ข้าไม่ได้ฟังจนจบเพราะถูกแบกออกมาเสี ยก่อน ข้าที่อยูใ่ นกระสอบถูกโยนขึ้นไปบนรถม้าอย่างไม่ปรานี


ปราศรัย ข้าแสร้งร้องเสี ยงดังอย่างเจ็บปวด หวังว่าหากองครักษ์ของชินอ๋ องที่ติดตามข้ามา ลอบจับตาดูอยูจ่ ะได้
รู ้วา่ ข้าขึ้นรถคันไหน ข้าได้ยนิ เสี ยงโยนของหนักๆ ขึ้นรถม้าคันอื่นๆ เช่นกัน ครั้นแล้วรถก็ออกวิง่ อย่างรวดเร็ ว
ทันที พวกเขาคงมาเปลี่ยนรถม้าที่นี่ รถม้าทั้งห้าคันที่เตรี ยมไว้บรรทุกข้าและหญิงสาวทั้งสี่ วงิ่ กระจายกัน
ออกไปหลายทิศทางเพื่อหลอกล่อให้ยากต่อการติดตาม

ข้ากังวลว่าองครักษ์ที่ขา้ ให้ลอบสะกดรอยมาผูน้ ้ นั จะสับสน เขาจะติดตามรถม้ามาถูกคันหรื อไม่ หวังว่าเขาจะ


ได้ยนิ เสี ยงข้าร้องตอนถูกจับโยน ข้าถูกอุม้ เปลี่ยนรถม้าอีกสามครั้ง ใจของข้านึกกังวล ไม่ได้สนใจสภาพอันน่า
เมื่อยขบในกระสอบหรื อตัวรถที่เขย่าอย่างแรงไปตลอดทาง

ตอนที่ขา้ ถูกปล่อยตัวออกมาจากกระสอบป่ านก็เป็ นเวลาเย็นแล้ว ข้าถูกอุม้ ลงจากรถมาไว้ในห้องห้องหนึ่ง ข้า


เมื่อยขบไปทั้งตัว อีกทั้งยังกระหายนํ้าเป็ นอย่างมาก ปากกระสอบถูกแก้ออก เสี ยงฝี เท้าคนที่แบกข้าเข้ามาค่อยๆ
ห่างออกไป จากนั้นก็มีเสี ยงปิ ดประตู ข้าค่อยๆ คลานออกมาแล้วกวาดสายตาไปทัว่

343
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ดูเหมือนที่นี่จะเป็ นบ้านร้าง สภาพห้องที่ขา้ อยูท่ รุ ดโทรมแต่เห็นได้ชดั ว่าได้รับการทําความสะอาดสําหรับใช้
งานชัว่ คราว ในห้องจุดเทียนไขไว้เพียงเล่มเดียว บนเก้าอี้ชุดมีร่างคุน้ ตานัง่ อยู่ ใบหน้าของคนผูน้ ้ นั ดูเป็ นแสงเงา
ใต้แสงเทียนราวกับสวมหน้ากากยักษ์

ใต้เท้าจาง! เขาดูชราขึ้นมาก ไหล่ที่เคยผึ่งผายค้อมลงเล็กน้อยราวกับภาระที่แบกไว้บนบ่าช่างหนักเหลือเกิน


เส้นผมที่เคยดําสนิทยามนี้ กลับกลายเป็ นสี ขาวโพลน ทว่าดวงตาเขายังคงคมปลาบเช่นเดิม เขากําลังจับจ้องข้า
ข้าบอกไม่ถูกว่าในดวงตาเขามีความรู ้สึกใดแอบซ่อนอยู่ เคียดแค้น สาสม พอใจ ทุกอย่างดูปะปนกันไปหมด

“อวี้เอ๋ อร์ ตกใจหรื อไม่ที่พบข้าที่นี่” เขาเอ่ยเสี ยงเรี ยบไม่บ่งบอกความรู ้สึก

ข้าตกใจแต่ไม่แสดงออก ข้าเพียงคารวะเขาอย่างสุ ภาพเช่นเคย

“อวี้เอ๋ อร์คารวะบิดาเจ้าค่ะ”

ใต้เท้าจางทําเสี ยงขึ้นจมูกอย่างเย้ยหยัน ไม่รู้วา่ เย้ยหยันข้าหรื อตัวเขาเอง

“เจ้ายังกล้าเรี ยกข้าเป็ นบิดาอยูอ่ ีกหรื อ ข้าเป็ นเพียงผูร้ ้ายหลบหนีที่ทางการต้องการตัว”

“อวี้เอ๋ อร์เคยเคารพท่านเช่นไร บัดนี้กย็ งั รู ้สึกเช่นเดิมเจ้าค่ะ” ข้าตอบด้วยอาการสงบนิ่ง

มุมปากใต้เท้าจางบิดขึ้นด้วยอาการเย้ยหยัน “หากข้าไม่หลงเชื่อใบหน้างามๆ วาจาอ่อนหวานกับกิริยา


พินอบพิเทา ตระกูลจางคงไม่พบจุดจบเช่นนี้ ” ปลายเสี ยงของเขาสัน่ ระริ กด้วยความเจ็บใจ

“สิ่ งที่อวี้เอ๋ อร์ทาํ แม้จะผิดต่อบิดา แต่อวี้เอ๋ อร์ทาํ ลงไปล้วนแล้วเพราะสถานการณ์บงั คับ อวี้เอ๋ อร์ หาได้มี
ทางเลือกเจ้าค่ะ”

“หึ สถานการณ์บงั คับอย่างนั้นหรื อ ไม่ใช่เพราะเจ้าหลงรักชินอ๋ องหรอกหรื อจึงทรยศข้า” นํ้าเสี ยงของเขาเยาะ


หยัน เขาเริ่ มหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ “อย่างน้อยข้าก็ดีใจ ไม่ใช่ขา้ คนเดียวที่หลงกล เจ้าเองก็เช่นกัน พวกเราล้วนตก
เป็ นหมากที่ชินอ๋ องหยิบมาใช้ สําหรับข้าเขาทําเช่นนี้ยอ่ มไม่แปลก ข้าเป็ นศัตรู ตวั ฉกาจของเขา แต่เจ้า..อวี้เอ๋ อร์
เจ้าคงรักเขาหมดใจ โดนเขาหลอกใช้เอาเช่นนี้คงปวดใจไม่นอ้ ยกระมัง”

344
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่อาจปฏิเสธได้วา่ สิ่ งที่ใต้เท้าจางเอ่ยทําให้ขา้ เจ็บปวด ข้าพยายามไม่แสดงออกทางสี หน้า แต่ใต้เท้าจางยังคง
เอ่ยไม่หยุด

“ผูค้ นรํ่าลือเรื่ องที่เจ้าตบหน้าเขาในท้องพระโรง คนในวังเสิ่ นหยางกงต่างล่วงรู ้วา่ เจ้าแยกตําหนัก อวี้เอ๋ อร์..เจ้า


ชํ้าใจใช่หรื อไม่ ความรักที่เจ้ามีให้เขาสุ ดท้ายถูกตอบแทนด้วยการเอาตัวเจ้าไปแลกกับองค์ชายทั้งสอง เขาเพียง
หลอกใช้เจ้า เจ้ามอบกายมอบใจให้เขา ได้กลับมาเพียงสิ ราภรณ์ที่วา่ งเปล่า ตําแหน่งหวางเฟยของเจ้านั้นจะต่าง
อะไรกับนางบําเรอส่ วนตัวของชินอ๋ องเล่า”

เสี ยงหัวเราะของใต้เท้าจางราวกับหนามแหลมคมที่ทิ่มตําใจข้า ข้าไม่ตอ้ งการให้เขาเอ่ยเรื่ องเก่าๆ หากเขาแค้น


ข้า จะลงโทษทรมานข้าอย่างไรก็ตามใจ แต่อย่าเอ่ยถึงเรื่ องเหล่านี้ ยิง่ เขาพูดข้าก็ยงิ่ รู ้สึกเจ็บปวด

“อวี้เอ๋ อร์ผดิ ต่อบิดาและตระกูลจาง หากบิดาคิดจะแก้แค้น อวี้เอ๋ อร์กย็ นิ ดีชดใช้ความผิดเจ้าค่ะ”

ข้าตอบเขานํ้าเสี ยงเรี ยบเรื่ อย สี หน้าเย็นชาราวกับสวมหน้ากาก ระหว่างข้าและใต้เท้าจาง เราต่างทําผิดต่อกัน


เราต่างไม่ได้ติดค้างกัน เขาผิดที่ช่วงใช้ขา้ ราวกับเป็ นสิ นค้าที่ไร้ชีวติ จิตใจ เห็นข้าเป็ นเพียงใบเบิกทาง จับข้าใส่
พานถวายบุรุษคนแล้วคนเล่าเพียงเพื่อหวังจะเพิ่มอํานาจให้ตนเอง ส่ วนข้าก็หกั หลังความเชื่อใจของเขา นําพา
ตระกูลอันยิง่ ใหญ่มาสู่ จุดจบอันน่าอนาถใจ

รอยยิม้ ขื่นปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ใต้เท้าจางมองข้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าเลี้ยงดูเจ้ามา มอบตัวยาลํ้าค่าให้เจ้า เจ้าเป็ นปฏิมากรรมที่งดงามที่สุดที่ขา้ เคยสร้างมา แม้ขา้ จะแค้น


เจ้าถึงเพียงใดก็ไม่เคยมีความคิดที่จะทําลายเจ้า ข้าไม่อาจทําใจ”

ข้ายังคงนิ่งเงียบ แต่ในใจนึกแย้งเขา ข้าไม่ใช่ผลผลิตของเขา ข้าไม่เคยอยากกินยาเม็ดนั้นของหมอเหอ หากข้ารู ้


ว่ามันจะทําให้ชีวติ ของข้าวุน่ วายถึงเพียงนี้ ข้ามิสู้ขอกลืนยาพิษเสี ยดีกว่า

“บุญคุณของบิดาเทียมฟ้า ทว่าบิดาเห็นอวี้เอ๋ อร์เป็ นเพียงเนื้อบนเขียง ส่ งให้บุรุษคนแล้วคนเล่า อวี้เอ๋ อร์ไม่


ปรารถนาจะมีชีวติ เช่นนี้ ” ข้าบอกเขา

“ข้ามิใช่หลวงจีน มิใช่อริ ยเจ้าผูป้ ราศจากกิเลส ไม่อาจกล่าวว่าเป็ นคนดีมีเมตตา แต่ขา้ ไม่เคยหลอกลวงเจ้า ข้าม


อบความงามเหนือผูใ้ ดให้เจ้า หวังเพียงใช้รูปโฉมนั้นเพื่อประโยชน์ของตระกูลจาง ชีวติ ไร้ค่าของทารกหญิง

345
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เช่นเจ้า มิใช่ขา้ หรื อที่นาํ พาออกจากหอคณิ กามามีชะตาชีวิตอันสู งส่ ง ข้าไม่เคยหลอกลวงว่าเส้นทางที่เจ้าเดินจะ
เต็มไปด้วยรุ ้งงาม เจตนาข้าชัดเจนแต่แรกเริ่ มว่าหวังใช้เจ้าเป็ นหมากตัวหนึ่ ง เจ้าเองก็รู้มิใช่หรื อ อวี้เอ๋ อร์ เทียบ
กันแล้ว ข้าผิดตรงไหน หว่านพืชย่อมหวังผล เทียบกับชินอ๋ องเล่า เขาดีต่อเจ้าอย่างไร เพียงถูกใจ รับเจ้าเป็ น
หวางเฟย เจ้าก็นบั ว่าเขามีบุญคุณกับเจ้าแล้วหรื อ เขามีแต่ได้กบั ได้ ไม่เคยมอบสิ่ งใดตอบแทนแก่เจ้าเลย
นอกจากจะหลอกใช้งานเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าแลกกับคําว่ารัก”

ข้าไม่อาจแย้งคําของใต้เท้าจาง เขาพูดถูก เหมือนกับที่แม่เคยกล่าว ชีวติ ข้ามีวนั นี้ ได้กเ็ พราะเขา ชินอ๋ องเพียงเข้า
มาได้ถูกจังหวะ ทําให้ขา้ ไม่ตอ้ งใช้เรื อนร่ างทําเรื่ องเลวร้ายตามที่ใต้เท้าจางต้องการ ข้าผิดหรื อที่โกรธแค้นเขา
หรื ออันที่จริ งข้าควรโกรธแค้นชะตาชีวติ ที่ทาํ ให้ขา้ ตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่ไม่อาจเลือก ชัว่ ขณะนั้น ข้ารู ้สึกว่าใน
ชีวิตอันแสนสั้น ข้าเพิ่งได้ลืมตามองโลกนี้อย่างเข้าใจเป็ นครั้งแรก ถูกผิดดีเลวล้วนอยูใ่ นตัวทุกผูท้ ุกคน ข้าไม่
อาจตําหนิใต้เท้าจางหรื อชินอ๋ อง แต่ละคนย่อมมีเหตุผลในการกระทําของตนเอง นี่หรื อคือสิ่ งที่แม่พยายามพรํ่า
สอนให้ขา้ เข้าใจ ใต้เท้าจางมองข้า

“เจ้าเข้าใจสิ่ งที่ขา้ พูดแล้วใช่หรื อไม่ หากมิใช่ตอ้ งทําเพื่อตระกูลจาง เจ้าคิดว่าข้ายินดีอย่างนั้นหรื อที่ตอ้ งยกเจ้า


ให้บุรุษอื่น หากมิใช่เพื่อตระกูลจางแล้ว เจ้าคิดว่าข้ายินดีจะรับภาระอันหนักอึ้งนี้ ไว้บนบ่าหรื อ”

เขาลุกขึ้นยืน เดินมาหาข้าที่ยงั คงคุกเข่าอยูก่ บั พื้น

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าคงตัดสิ นใจผิดที่ปล่อยเจ้าไป หากข้าเก็บเจ้าไว้ในจวน เรื่ องราวทุกอย่างคงไม่เป็ นเช่นนี้กระมัง เจ้า


เป็ นเพียงนกน้อย แต่ยามได้สยายปี กบิน กลับบินได้สูงเหลือเกิน เกินกว่าข้าจะไขว่คว้าได้” นํ้าเสี ยงของเขา
ละห้อยหา ทว่าเพียงครู่ เดียวก็กลับคืนสู่ ความเป็ นจริ ง

“เจ้ารู ้หรื อไม่ หลังจากเหตุการณ์แลกตัวประกัน รัชทายาทเว่ยหงอิ่นสู ญเสี ยประสาทสัมผัส ไม่อาจรู ้รส ลิ้นแข็ง
จนแทบไม่อาจเอ่ยวาจา เจ้าคิดว่าเป็ นฝี มือของผูใ้ ดกัน”

อยูด่ ีๆเขาก็เอ่ยถึงรัชทายาทแคว้นเว่ย ข้าไม่รู้วา่ เกิดเรื่ องอะไรขึ้นหลังจากชินอ๋ องช่วยข้าออกมาจากค่ายทหาร


แคว้นเว่ย ใต้เท้าจางเห็นสี หน้างุนงงของข้าก็อธิ บาย

“คืนที่มีคนบุกไปชิงตัวเจ้า ชินอ๋ องให้คนใส่ ยาพิษหกทวารลงในกานํ้าชา โชคดีที่รัชทายาทเพียงไม่อาจรับรส


หากเขาหูหนวกตาบอดหรื อเสี ยสติ ป่ านนี้คงถูกถอดออกจากตําแหน่งไปเสี ยแล้ว กระนั้นยามพูด เขาก็ได้แต่

346
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ถ่ายทอดคําสั่งผ่านคนสนิท ไม่อาจพูดจาได้ชดั เจนดังคนปกติ เรื่ องนี้ถูกปิ ดเป็ นความลับ รับรู ้เพียงฝ่ ายเดียวกัน
เท่านั้น”

ดวงตาของข้าเบิกกว้าง ยาพิษหกทวาร ตอนที่ใต้เท้าจางใช้ให้ขา้ วางยาชินอ๋ อง ข้าได้มอบให้ชินอ๋ องไปแล้ว นึก


ไม่ถึงว่าเขาจะใช้พิษตัวเดียวกันนี้ทาํ ร้ายคนที่ส่งมันมาให้เขา

“เว่ยหงอิ่นยุติสงครามกับแคว้นเรา แต่เขายังส่ งคนมาไล่ล่าตัวข้า มอบหมายงานชิ้นสุ ดท้ายให้ขา้ ทําเป็ นข้อ


แลกเปลี่ยนกับการลี้ภยั อยูใ่ นแคว้นเว่ย”

ข้าถอนใจ นึกรู ้ในทันที เว่ยหงอิ่นมีความแค้นอัดแน่นในอกกับชินอ๋ องถึงเพียงนี้ ข้อแลกเปลี่ยนของเขาจะเป็ น


อะไรไปได้ คําตอบก็ชดั เจนอยูต่ รงหน้าแล้วไม่ใช่หรื อ ใต้เท้าจางยอมเสี่ ยงตายลักพาตัวข้า ต่อให้เว่ยหงอิ่นจะ
หมดความไว้วางใจในตัวใต้เท้าจางแล้ว แต่เขาก็ยงั เห็นว่าใต้เท้าจางยังเป็ นเบี้ยที่มีประโยชน์ เขาทั้งสองมีศตั รู
คนเดียวกัน ใต้เท้าจางมีหรื อจะไม่ฉวยโอกาสนี้ยมื มือเว่ยหงอิ่น พวกเขาต่างใช้ประโยชน์จากกันและกัน ไม่มี
ใครเสี ยเปรี ยบใคร

“เขาต้องการตัวเจ้า และต้องการให้ขา้ กําจัดชินอ๋ อง” ใต้เท้าจางหัวเราะ “มีหรื อที่ขา้ จะไม่ตกลง อวี้เอ๋ อร์
ท้ายที่สุดก็ตอ้ งลําบากเจ้าอีกแล้ว เจ้าต้องเป็ นทั้งเหยือ่ ล่อชินอ๋ องและเป็ นค่าไถ่ชิ้นงามที่ขา้ จะนําไปมอบให้กบั
รัชทายาทแคว้นเว่ย”

ข้ายิม้ มุมปาก ในวังวนแห่งอํานาจ ปลาเล็กกินปลาใหญ่ ฝ่ ายอ่อนแอร่ วมมือกันจัดการฝ่ ายที่เข้มแข็งกว่า กล


อุบายที่วางไว้เป็ นดิบดีอาจถูกซ้อนกลอย่างไม่ต้ งั ใจ เหยือ่ ล่ออย่างนั้นหรื อ ใต้เท้าจางคิดจะใช้ขา้ ล่อให้ชินอ๋ อง
มาติดกับ แล้วเขาไม่คิดหรื อว่าท้ายที่สุดแล้วอาจเป็ นเขาที่ติดกับชินอ๋ องเสี ยเอง นึกถึงตรงนี้ขา้ รี บห้ามความคิด
ตัวเอง ..ไม่ เป็ นไปไม่ได้ การที่ใต้เท้าจางจับตัวข้าได้ยอ่ มอยูน่ อกเหนือความคาดหมายของชินอ๋ อง ข้าไม่ได้
ตั้งใจจะออกมาข้างนอกเสี ยหน่อย ทุกอย่างล้วนเป็ นเรื่ องบังเอิญ

ข้านึกถึงเว่ยหงอิ่น นึ กถึงแววตาคมปลาบดังเสื อดําที่จบั จ้องข้าอย่างปรารถนา ข้าได้พบเขาเพียงสองครั้ง แต่ละ


ครั้งล้วนไม่น่าพิสมัย หากคราวนี้ ขา้ ต้องตกอยูใ่ นมือเขาอีก เขาย่อมไม่ปล่อยให้ขา้ หลุดมือ เขาคงใช้ขา้ เป็ น
เครื่ องระบายความแค้นที่มีต่อชินอ๋ องอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ข้ามองใต้เท้าจาง

“บิดาเหตุใดไม่หลบหนีลงใต้ไปยังแคว้นอู่ เหตุใดจึงทําตามคําสั่งของเว่ยหงอิ่นเล่าเจ้าคะ หากทําตามคําสั่งเขา


บรรลุแล้ว บิดาไม่กลัวเขาจะหักหลังหรื อเจ้าคะ”

347
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ใต้เท้าจางหัวเราะอีกครั้ง

“ยามนี้ ต่อให้กลัวเขาจะหักหลังแล้วอย่างไรเล่า ข้ามีทางเลือกหรื อ ข้าหมดสิ้ นแล้วทุกอย่าง ประตูหน้าเจอเสื อ


ประตูหลังเจอหมาป่ า ชินอ๋ องตามกวาดล้าง เว่ยหงอิ่นตามไล่ล่า หากข้าทําดังเจ้าว่าได้สาํ เร็ จ ข้าจะย้อนกลับมา
จับตัวเจ้าหรื อ ชินอ๋ องทําลายเครื อข่ายใต้ดินของข้าเสี ยแทบหมดสิ้ น ยามนี้สิ้นตระกูลจาง ความยิง่ ใหญ่ที่สั่งสม
มาหลายชัว่ อายุคนไม่มีอะไรเหลือ ตอนที่ขา้ เกือบจะถูกคนของชินอ๋ องจับตัวได้ คนของเว่ยหงอิ่นช่วยข้าไว้ ทั้ง
ยังให้หยิบยืมกําลังเงินและกําลังคนสําหรับก่อการนี้ ข้าไม่เพียงมีโอกาสล้างแค้น ยังมีที่พกั พิงในแคว้นเว่ย
แม้วา่ เขาอาจจะหักหลังข้าในภายหลัง แต่กน็ บั ว่าแผนการเขาช่วยซื้ อเวลาให้ขา้ ได้ไม่นอ้ ยจริ งหรื อไม่”

ใต้เท้าจางกล่าวไม่ผดิ หากข้าเป็ นเขาก็จะหยิบยืมกําลังเว่ยหงอิ่นเข้าต่อกรกับชินอ๋ อง จากนั้นค่อยดูสถานการณ์


หาทางหลบหนีเอาตัวรอดในภายหลัง

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าไม่คิดหรื อ เหตุใดข้าจึงจับตัวเจ้าได้ง่ายดายเพียงนี้ ”

ข้ารู ้วา่ เขากําลังจะบอกอะไร ข้าพยายามหยุดความคิด พยายามจะไม่คิดว่าเพราะอะไร หากข้าหาคําตอบให้


ตัวเองได้ ข้ากลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะรับไม่ไหว ต่อหน้าใต้เท้าจางผูเ้ จ้าเล่ห์สุขมุ ข้ายิง่ ต้องเข้มแข็งเยือกเย็น ข้า
เพียงใช้ความเงียบเป็ นเกราะกําบังตัว

“อวี้เอ๋ อร์ ข้าเลือกเจ้าเป็ นบุตรบุญธรรม ไม่เพียงเพราะเจ้างดงามเฉลียวฉลาดยิง่ กว่าใคร ข้าชื่นชอบที่สีหน้าเจ้า


ไม่เคยเปลี่ยน ยามส่ งเจ้าไปทํางาน ศัตรู ยอ่ มไม่อาจคาดเดาจิตใจเจ้าได้ แต่กลับกลายเป็ นว่าแม้แต่ขา้ ก็ไม่อาจ
ล่วงรู ้ความคิดของเจ้า”

เขาเห็นข้ายังคงนิ่งเฉยจึงกล่าวต่อ

“เจ้าคงจะหลงรักชินอ๋ อง เรื่ องนั้นข้าไม่โทษเจ้า สตรี ใดได้ใกล้ชิดเขา คงยากที่จะหักห้ามใจ แต่วา่ ที่ผา่ นมายังไม่


ชัดเจนอีกหรื อ อวี้เอ๋ อร์เอ๋ ย บุรุษเช่นชินอ๋ องไม่อาจมีความรักให้สตรี ใด มิสู้เจ้าติดตามข้าไปแคว้นเว่ย รัชทายาท
แคว้นเว่ยพึงใจเจ้ามากมายนัก ต่อให้เขามีความแค้นกับชินอ๋ องมากเพียงใดย่อมยังคงปฏิบตั ิต่อเจ้าเป็ นอย่างดี”

ข้ารู ้เขาพยายามเกลี้ยกล่อมข้า หากข้าโอนอ่อนผ่อนตาม การเดินทางขึ้นเหนือของเขาย่อมง่ายดายขึ้น ข้าคิดจะ


ใช้แผนตบตาเขาเช่นเคย แต่หากคล้อยตามง่ายเกินไปย่อมก่อให้เกิดความสงสัย

348
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ที่บิดากล่าวมาอวี้เอ๋ อร์เห็นด้วยทุกประการ ชินอ๋ องแท้จริ งแล้วเพียงหลอกใช้ขา้ เรื่ องนี้ขา้ ได้ประจักษ์ดว้ ย


ตัวเอง บิดาคงได้ยนิ เรื่ องราวมาไม่นอ้ ย ยามนี้อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มเป็ นนกที่ตอ้ งการเปลี่ยนรัง แต่วา่ บิดาคิดดีแล้วหรื อ
ความรู ้สึกที่เว่ยหงอิ่นมีต่อเราไม่ใช่ดีนกั จะกลายเป็ นว่าเราต่างถูกลวงให้ตกอยูใ่ นเงื้อมมือเขาอย่างง่ายดาย ยาม
นั้นเขาจะลงมือทําอะไร เราย่อมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ หมดหนทางต่อสู ้”

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่มีสิ่งใดไม่ตอ้ งเสี่ ยง ต่อให้เจ้าอาศัยอยูใ่ นวังเสิ่ นหยางกงกับชินอ๋ อง ก็ใช่วา่ จะไม่ตอ้ งเสี่ ยงเสี ย
เมื่อไหร่ หากวันใดชินอ๋ องเกิดเรื่ องราวเช่นคราวแลกตัวประกันอีก เขาย่อมไม่ลงั เลที่จะยอมเสี ยสละเจ้า การที่
เจ้าจะไปตายเอาดาบหน้ากับรัชทายาทเว่ยย่อมไม่ต่างกัน”

เราต่างฝ่ ายต่างยกเหตุผลมาโต้กนั อย่างถ้อยทีถอ้ ยอาศัย ทว่าเราต่างรู ้อยูแ่ ก่ใจดีวา่ ไม่อาจเชื่อใจอีกฝ่ ายได้ ยามนี้
อาศัยเพียงมีผลประโยชน์ร่วมกัน ข้าจําต้องสวมบทสตรี แพศยาผูม้ องสถานการณ์อย่างถี่ถว้ นก่อนตกลงใจ
รับปากเขา

“เรื่ องที่ผา่ นมา บิดาไม่โกรธอวี้เอ๋ อร์แล้วหรื อ” ข้าแสร้งถามหยัง่ เชิง

ใต้เท้าจางถอนใจ “สิ่ งที่เจ้าทํากับข้ายังน้อยกว่าที่อาหนิงทํานัก เจ้าเพียงทําให้ขา้ ไม่อาจสู ้หน้าเว่ยหงอิ่นได้เพราะ


การข่าวที่ผดิ พลาด แคว้นเว่ยพ่ายแพ้ยบั เยิน แต่อย่างไรเสี ยผูเ้ สี ยหายก็คือแคว้นเว่ยมิใช่ขา้ แต่สาํ หรับอาหนิง คน
ตระกูลจางกว่าแปดร้อยชีวิตต้องดับสู ญไปเพราะนาง หากมิใช่นางเป็ นพระสนมอยูใ่ นวังหลวง อย่างไรเสี ยข้าก็
ต้องหาทางชําระแค้นให้จงได้”

ข้านึกเป็ นห่วงอาหนิงจึงแสร้งถามต่อ “แล้วบิดาไม่มีคนในวังหลวงที่พอจะลงมือกับนางได้หรื อเจ้าคะ”

“คนที่เคยเป็ นมือเป็ นเท้าให้ขา้ ย่อมยังมีอยู่ แต่ยามนี้ ลมเปลี่ยนทิศเสี ยแล้ว จะใช้สอยสิ่ งใดย่อมไม่ง่ายดายดังเดิม


เหลือก็เพียงบุตรี คนโตของข้า ทว่านับแต่ไทเฮาสิ้ นไป สถานะในวังหลังของนางก็ตกตํ่าลงอย่างมาก เกรงว่าจะ
เป็ นเบี้ยที่ไม่อาจใช้สอยเสี ยแล้ว”

นํ้าเสี ยงที่เอ่ยถึงบุตรสาวคนเดียวของเขาชวนให้ขา้ อนาถใจ ชีวิตนางมีค่าเป็ นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ งในสายตาผูเ้ ป็ น


บิดาเช่นกัน

349
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เว้นเสี ยแต่หากนางเป็ นคนสกุลจางที่แท้จริ งย่อมต้องรู ้วา่ ควรทําอย่างไร” แววพยาบาทในดวงตาเขาทําให้ขา้
ไม่อาจวางใจ บุตรี คนโตของใต้เท้าจางเป็ นคนอย่างไร ข้าไม่อาจรู ้ได้ ข้าไม่เคยพบนาง ได้ยนิ มาเพียงว่านางเป็ น
คนถือดีเอาแต่ใจ ยามนี้ นางเป็ นสนมขั้นผิน ไม่รู้วา่ จะมีพิษสงใดและหมายจะเล่นงานอาหนิงหรื อไม่ หวังว่าอา
หนิงจะรู ้และระมัดระวังตัวเช่นกัน

ข้าคิดจะให้ใต้เท้าจางตายใจ คลายความระมัดระวังลง จึงพยายามสร้างความสัมพันธ์อนั ดีกบั เขาเพื่อสวัสดิภาพ


ของข้าและแม่

“บิดาเจ้าคะ เรื่ องระหว่างข้าและชินอ๋ องอย่างไรก็ไม่อาจประสาน อวี้เอ๋ อร์ตดั สิ นใจติดตามบิดาไป จะดีจะร้าย


บิดาก็ยงั เมตตาอวี้เอ๋ อร์ ว่าแต่ตอนนี้มารดาของอวี้เอ๋ อร์อยูท่ ี่ใดหรื อเจ้าคะ”

“เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง มารดาของเจ้าสบายดี” ใต้เท้าจางตอบพลางยกยิม้ อย่างคนที่อยูเ่ หนือกว่า ข้านึกรู ้


ทันทีวา่ เขาคิดจะใช้แม่เพื่อต่อรองกับข้าอีก ทว่าได้แต่ยมิ้ แย้มกลับไป

“บิดาช่างเมตตาอวี้เอ๋ อร์และมารดานัก หากเราสองแม่ลูกได้ที่พกั พิงใหม่ในแคว้นเว่ย ย่อมไม่มีทางลืมบุญคุณ


บิดา”

สายตาของใต้เท้าจางทอประกายเย้ยหยันแวบหนึ่ งราวกับจะบอกว่า หากเขาเชื่อคําข้าก็เสี ยทีที่มีอายุมาจนป่ านนี้


รอยยิม้ ของข้าก็เช่นกัน ราวกับจะบอกว่าหากสิ่ งที่เขาทํากับข้านับเป็ นบุญคุณแล้วล่ะก็ ข้าก็คงโง่งมเหลือเกิน
เราต่างใส่ หน้ากากเข้าหากันราวกับเป็ นบิดาและบุตรที่เป็ นห่วงเป็ นใยกันเหลือเกิน ใต้เท้าจางเอ่ยลา

“เวลาก็ไม่เช้าแล้ว อวี้เอ๋ อร์พกั ผ่อนเถิด ห้องนี้ขา้ ให้คนเตรี ยมไว้ให้เจ้า แม้จะไม่สะดวกสบายนัก แต่กพ็ ออยูไ่ ด้
กระมัง”

“นี่กด็ ียงิ่ แล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณบิดาที่เป็ นห่วง อวี้เอ๋ อร์นอ้ มส่ งบิดาเจ้าค่ะ” ข้ารี บตอบอย่างอ่อนน้อม

ใต้เท้าจางก้าวออกจากห้องไป ข้าเดินตามไปส่ งแล้วปิ ดประตู สายตาก็แอบมองออกไปโดยเร็ ว หน้าประตูมีเวร


ยามยืนเฝ้าอยูส่ องคน รอบๆ ห้องนี้คงมีประจําอยูอ่ ีกหลายจุด ข้านึกถึงองครักษ์ที่ลอบสะกดรอยตามมา เขาจะ
ตามมาถึงที่นี่หรื อไม่ แล้วชินอ๋ องเล่า ราตรี น้ ีเขาจะมาช่วยข้าใช่หรื อไม่ ข้าเดินไปล้มตัวนอนลงที่เตียงแต่ไม่อาจ
ข่มตาหลับ

350
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 49 : สงครามแห่ งคําลวง

เช้าวันถัดมา ใต้เท้าจางพาข้าออกเดินทางแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าขึ้นเหนือโดยสวมรอยเป็ นขบวนพ่อค้า ข้านอนไม่


หลับทั้งคืน อีกทั้งยังเดินทางติดต่อกันโดยไม่ได้พกั รู ้สึกอ่อนเพลียเหลือกําลังจึงหลับไปตลอดทาง ยามบ่ายได้
ยินเสี ยงโหวกเหวกโวยวาย ข้ารี บลุกขึ้นนัง่ หลังตรง แหวกม่านมองออกไปนอกหน้าต่าง ชินอ๋ องมาช่วยข้าใช่
หรื อไม่ ข้าตื่นเต้นจนนัง่ ไม่ติด รอคอยว่าเมื่อใดจะมีเสี ยงต่อสู ้ มีร่างที่คุน้ ตาของเขาพุง่ ทะยานมาหาข้าที่รถม้า
ทว่าจนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสี ยงอึกทึกดังอยูเ่ พียงชัว่ ครู่ กก็ ลับเข้าสู่ ความสงบเรี ยบร้อยดังเดิม ข้ารู ้สึก
กระวนกระวายจนแทบร้องไห้ ข้าปรับนํ้าเสี ยงให้เป็ นปกติแล้วจึงตะโกนถามคนขับรถม้า

“เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นกันหรื อ เหตุใดจึงมีเสี ยงโวยวายดังมาจากด้านหลังขบวน”

“ไม่มีอะไรขอรับ เพียงพรรคพวกของเราตามมาสมทบ”

ใจของข้าดิ่งวูบด้วยความรู ้สึกผิดหวัง ไม่ใช่คนที่ขา้ รอคอย เป็ นเพียงขบวนตามมาสมทบ ข้าปิ ดม่านลง เอนกาย


พิงผนังรถอย่างหมดแรง ข้าปลุกปลอบตัวเอง ..ไม่เป็ นไร ตอนนี้ชินอ๋ องอาจจะกําลังติดตามมา หากได้เบาะแส
ข้า เขาย่อมไม่รอช้า

พอตกกลางคืนขบวนของใต้เท้าจางก็เข้าพักที่โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่สองชั้น หน้าฉากโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ดูไม่แตกต่าง


จากโรงเตี๊ยมทัว่ ไป แต่แท้จริ งแล้ว ที่นี่เป็ นหนึ่ งในฐานที่มนั่ ไม่ก่ีแห่งของตระกูลจางที่ยงั หลงเหลืออยู่ ข้าก้าว
เข้าไปในตัวตึก ผูค้ นในนั้นพลุกพล่านทว่าไม่ได้ดูประหลาดใจที่เห็นขบวนขนาดใหญ่ของใต้เท้าจางแวะพัก ดู
เหมือนว่าทุกคนที่อยูใ่ นนั้นล้วนเป็ นคนของเขาทั้งสิ้ น ไม่มีแขกหรื อคนนอกปะปนอยูเ่ ลย เพื่อหลีกเลี่ยงสายตา
ที่มองมาอย่างสนใจ ข้าจึงรี บเข้าห้องพัก อาหารและนํ้าอาบถูกส่ งตามขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว อย่างไรเสี ยใต้เท้าจาง
ก็ไม่ได้ละเลยข้า ยังคงดูแลข้าอย่างดี

เวลาผ่านไปวันหนึ่งแล้ว ข้าไกลออกจากเมืองหลวงมากขึ้นเรื่ อยๆ แต่ยงั คงไร้เงาของชินอ๋ องหรื อคนที่เขาส่ งมา


ช่วย ข้าเริ่ มหวัน่ ไหว หรื อว่าองครักษ์ที่ลอบสะกดรอยตามข้ามาจะคลาดกันยามเปลี่ยนรถม้า หรื อว่าชินอ๋ อง
ไม่ได้รับข่าวจากองครักษ์ เป็ นไปได้หรื อไม่วา่ พวกองครักษ์ลว้ นถูกคนของใต้เท้าจางสังหารสิ้ น ข้าเริ่ มกังวลใจ
ไปต่างๆ นานา

351
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
หลังอาหารเย็น ใต้เท้าจางให้คนมาเชิญข้าไปคุย ข้ารวบรวมสติก่อนก้าวเข้าไปในห้อง ข้าบอกกับตัวเอง โลกนี้
ไม่มีที่สาํ หรับคนอ่อนแอ หากข้าไม่เข้มแข็งมีแต่จะถูกบดขยี้ทาํ ลายไป ข้าไม่อาจหวังพึ่งชินอ๋ องเสมอไป ข้ามี
เพียงตัวเองเป็ นที่พ่ งึ เท่านั้น

“บิดาให้อวี้เอ๋ อร์ มาพบ มีเรื่ องใดจะชี้แนะหรื อเจ้าคะ” ข้าเอ่ยถามยามได้พบหน้า

“อวี้เอ๋ อร์ วันนี้ยามเดินทาง เจ้าได้พบเห็นสิ่ งใดผิดปกติหรื อไม่” ใต้เท้าจางถามข้า ท่าทางอารมณ์ดีไม่นอ้ ย

“เรี ยนบิดาตามตรง วันนี้อวี้เอ๋ อร์ อ่อนเพลีย จึงหลับมาตลอดทาง ไม่ได้พบเห็นสิ่ งใดผิดสังเกตเจ้าค่ะ”

ใต้เท้าจางยิม้ “เช่นนั้นก็ดีแล้ว หากเจ้าขาดเหลือสิ่ งใดก็บอกมา หากไม่ลาํ บากข้าจะให้คนจัดหาให้”

“ขอบคุณในความเมตตาของบิดาเจ้าค่ะ อวี้เอ๋ อร์ซาบซึ้ งนัก” ข้าตอบแล้วนิ่งเฉยอยู่ ใต้เท้าจางเรี ยกข้ามาพบคง


มิใช่เพียงเพื่อถามว่าข้าขาดเหลือสิ่ งใดแน่ เขาคงมีธุระอื่นที่ยงั ไม่ได้ออกปาก

จริ งดังคาด เขาจ้องหน้าข้าเขม็งพลางเอ่ยช้าๆ อย่างมีเลศนัย

“ข้าอยากให้เจ้าได้พบคนผูห้ นึ่ ง”

“มารดาหรื อเจ้าคะ”

ข้าถามกลับทันที ใจข้านึกเป็ นห่วงแม่ ข้าสังหรณ์ใจไม่ดี หวังว่าเขาคงไม่ได้ทาํ อะไรแม่เพื่อเป็ นการข่มขู่ขา้ สี


หน้ากังวลของข้าทําให้ใต้เท้าจางหัวเราะ

“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรื อว่ามารดาเจ้าไม่เป็ นอันตราย อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกังวลไป คนที่เจ้า


จะได้พบนี้ เป็ นศัตรู ตวั ฉกาจของเจ้า ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้แก้แค้นอย่างสมใจ”

ข้าขมวดคิ้ว วาจาที่ใต้เท้าจางกล่าวฟังแล้วไม่น่าไว้ใจ เขาหันไปตะโกนสั่งคนหน้าห้อง

“นําตัวเข้ามา!”

352
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
อึดใจหนึ่งเสี ยงฝี เท้าสับสนหลายคู่กด็ งั ใกล้เข้ามา ประตูเปิ ดออกพร้อมกลับร่ างหนึ่ งที่ถูกกระชากลากถูเข้ามา
ในห้อง หากใช้คาํ ว่าถูก "ลาก" ก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไปนัก เพราะร่ างนั้นถูกมัดเท้าไว้ติดกันจนไม่อาจก้าวเดิน
เมื่อเข้ามาถึงก็ถูกผลักล้มลงกับพื้นเบื้องหน้าข้าและใต้เท้าจาง

“ท่านอ๋ อง!”

ข้าอุทานอย่างประหลาดใจ เป็ นไปไม่ได้ ชินอ๋ องไม่มีทางพลาด เขาไม่มีทางหลงกลใต้เท้าจาง เหตุใดเขาจึงถูก


ใต้เท้าจางคร่ ากุมตัวไว้ได้ เขาถูกพันธนาการไว้แน่นหนา ตามร่ างกายมีร่องรอยบาดเจ็บ ข้ารู ้สึกเจ็บปวดในอก
ยามเห็นเขาต้องตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ ราวกับเป็ นข้าที่บาดเจ็บเสี ยเอง

บุรุษกํายําสี่ คนที่คุมตัวเขามา ยังคงยืนคุมเชิงอยูใ่ กล้ๆ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ใต้เท้าจางลอบ


สังเกตสี หน้าข้าตลอดเวลา ข้าได้แต่กลํ้ากลืนความสงสารลงไปในอก ข้าต้องเข้มแข็ง ข้าจะผิดพลาดไม่ได้ หาก
ข้าใจอ่อน ไม่เพียงชีวติ ไร้ค่าของตัวเอง แม้แต่ชินอ๋ องก็อาจไม่มีหนทางรอด

ชินอ๋ องอยูใ่ นสภาพขะมุกขมอม เขาคงผ่านการต่อสู ้มาไม่นอ้ ย อีกทั้งยามถูกนําตัวมา คงล้มลุกคลุกคลานมา


ตลอดทาง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏรอยแตกชํ้าหลายแห่ง แววตาของเขาดํามืดไม่บอกอารมณ์ อีกทั้งยัง
เปล่งไอสังหารจนข้าตัวสั่น สภาพของเขาในยามนี้ราวกับพยัคฆ์ร้ายที่เพลี่ยงพลํ้าต้องกับดักของนายพรานแต่ยงั
ไม่ยอมจํานน เขาค่อยๆ ทรงตัวขึ้นหยัดยืน ไม่สูญเสี ยบุคลิกงามสง่าที่ติดตัวมาแต่กาํ เนิด สายตาของเขาไม่มอง
มาทางข้าสักนิด ไม่รู้วา่ ก่อนจะมาพบข้า ใต้เท้าจางและคนของเขาได้พดู อะไรกับชินอ๋ องไปบ้าง

“อวี้เอ๋ อร์ บอกความตั้งใจของเจ้าให้ชินอ๋ องได้รู้ก่อนตายหน่อยเถิด ยามไปพบยมบาลเขาจะได้ฉลาดขึ้นมาบ้าง”

ข้าตะลึงงัน ใต้เท้าจางต้องการสิ่ งใด เหตุใดข้าจะไม่รู้ การเสแสร้งทําเป็ นหมดรักชินอ๋ องไม่ได้ยากเลยสักนิด แต่


ข้าไม่คาดคิดว่าจะต้องทําต่อหน้าเขา พูดใส่ หน้าเขาว่าข้าไม่รักเขาอีกต่อไป ใต้เท้าจางต้องการให้ขา้ พูดให้เขา
เจ็บใจว่าเขาเป็ นบุรุษโง่งมที่มารักคนอย่างข้า แม้ขา้ จะเคยเจ็บชํ้าที่เคยถูกเขาหลอกใช้ แต่ขา้ ก็ไม่ตอ้ งการเห็นเขา
เจ็บปวดจากการถูกหักหลังเฉกเช่นเดียวกัน จิ้งจอกเฒ่าเห็นข้ายังไม่อาจกล่าววาจาจึงหันไปพูดกับชินอ๋ องเสี ย
เอง

“ท่านอ๋ อง สตรี ที่ท่านสู ้เสี่ ยงชีวิตมาช่วยเหลือไม่ได้รักใคร่ ใยดีท่านสักนิด นางยินดีเดินทางไปกับข้าเพื่อถวาย


ตัวให้แก่รัชทายาทแคว้นเว่ย”

353
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
สี หน้าของชินอ๋ องไม่เปลี่ยน ทั้งยังไม่ได้เหลือบมองมาทางข้าแม้สักนิด ข้ารู ้วา่ เขายังมีความหวังในตัวข้าจึงยอม
เสี่ ยงชีวิตเข้ามาช่วยเหลือ แต่ความเชื่อใจของเขาจะมีมากพอหรื อไม่ เขาจะเชื่อคําพูดของใต้เท้าจางหรื อไม่ขา้
ไม่อาจแน่ใจ สี หน้าเช่นนี้ของเขาไม่ต่างกับยามที่เจิ้งอู่ตดั รอนซี ยนิ ในชาติก่อน สงบนิ่ง ไร้อารมณ์ ยากจะคาด
เดา ข้าพยายามกลั้นนํ้าตาที่ร้ื นขึ้นมาขอบตาอย่างยากเย็น

หรื อว่าเขาคงปักใจว่าข้าเป็ นหญิงแพศยาตามที่ใต้เท้าจางกล่าวกระมัง ถึงอย่างนั้นข้าก็ยงั ปรารถนาให้เขา


ปลอดภัย ข้ายอมทําทุกอย่างเพื่อช่วยให้เขาหนีรอดไปได้ แม้วา่ นัน่ จะแลกมาด้วยอิสรภาพของตัวข้าเอง ชีวิตที่
ต้องตกอยูใ่ นเงื้อมมือของศัตรู อย่างเว่ยหงอิ่น ยามนี้ขา้ ไม่ปรารถนาให้เขาช่วยข้าออกไป ขอเพียงเขาเอาตัวรอด
ออกไปได้กเ็ พียงพอแล้ว

ใต้เท้าจางเคยบอกว่าเขาไม่อาจหักใจทําลายข้า ปฏิมากรรมงดงามที่เขาสร้างขึ้น เขาพูดถูก เขาไม่ทาํ ร้ายร่ างกาย


ข้า แต่เขาได้ทาํ ร้ายความรักของข้า ทําร้ายหัวใจของข้าอย่างเลือดเย็นที่สุด

“ว่าอย่างไรเล่าอวี้เอ๋ อร์ เมื่อคืนเจ้ากล่าวแก่ขา้ ว่าอย่างไร จงถ่ายทอดให้ชินอ๋ องฟังหน่อยเถิด ประเดี๋ยวเขาจะหา


ว่าข้ากล่าวคําเท็จ” ใต้เท้าจางเร่ งเร้าข้า เขาทําเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการสะบั้นสายสัมพันธ์ที่ขา้ และชินอ๋ องมีต่อ
กัน หลังจากนี้ไม่วา่ ข้าและชินอ๋ องจะมีชีวติ อยูห่ รื อตายจากกัน ความรักที่เขามีให้ขา้ คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ข้า
จําเป็ นต้องพูดออกไป จําเป็ นต้องทําให้ใต้เท้าจางเชื่ออย่างสนิทใจว่าข้าหมดรักเขา

ข้ายอม..ยอมทําทุกอย่างเช่นเดียวกับซี ยนิ ยอมให้เขาหมดรักข้า เพียงเพื่อให้เขาได้มีชีวิตรอดต่อไป ให้เขา


ปลอดภัย

เพียงเขาตัดใจจากข้า ฝี มือเยีย่ มยุทธ์เช่นเขา คนของใต้เท้าจางย่อมไม่อาจสกัดกั้นเอาไว้ได้

ข้ามองชินอ๋ อง มองใบหน้าที่ขา้ แสนรัก ดวงตาของเขาดํามืดไร้ความรู ้สึก เขาทอดมองไปไกลราวกับไม่สนใจ


ว่ามีขา้ อยูต่ รงนั้น เขาคงกําลังรอ.. รอถ้อยคําสะบั้นรักจากข้า

“ท่านอ๋ อง ที่ผา่ นมา ไม่วา่ ท่านจะทําผิดต่อข้าอย่างไร อวี้เอ๋ อร์ลว้ นอภัยให้สิ้นแล้ว..” ข้าเอ่ยเสี ยงแผ่ว “จากนี้ ไป
เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันอีก อวี้เอ๋ อร์เหนื่อยเหลือเกิน ขอไปเริ่ มต้นชีวติ ใหม่ที่ไม่มีท่าน อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้รัก
ท่านอีกต่อไปแล้ว” สี หน้าของข้าเรี ยบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร

ชินอ๋ องยังคงเงียบงัน มีเพียงใต้เท้าจางที่ดูเบิกบานใจเป็ นพิเศษ

354
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านอ๋ อง ได้ยนิ ชัดเจนแล้วหรื อไม่ สตรี ที่ท่านหลงใหลสุ ดท้ายก็ตกเป็ นของศัตรู ท่าน รัชทายาทเว่ยช่างมี
วาสนาได้เชยชมหญิงงามถึงเพียงนี้ จากนี้ไปท่านคงได้แต่มองนางตกเป็ นของชายอื่นด้วยความเต็มใจ ชินอ๋ อง
ความรู ้สึกเช่นนี้เจ็บปวดใจดีหรื อไม่ นี่ยงั ไม่เท่าเศษเสี้ ยวความแค้นที่สุมอกข้าเลยเสี ยด้วยซํ้า” ใต้เท้าจางหัวเราะ
ก่อนกล่าวต่อ

“ต้องขอบคุณรัชทายาทเว่ยที่จะทําหน้าที่ชาํ ระแค้นแทนข้า เขาต้องการให้ขา้ ส่ งมอบตัวท่านที่ยงั มีชีวติ อยูไ่ ปให้


เขา เขาคงจะมีวิธีค่อยๆ ทรมานท่านให้ตายทั้งเป็ น แต่หากท่านโชคดีกค็ งจะได้ตายเร็ วหน่อย รัชทายาทเว่ยอ
นุญาตให้สังหารท่านได้ทนั ทีหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน”

ข้าลอบถอนใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยใต้เท้าจางก็จะยังไม่สังหารชินอ๋ องในเร็ ววัน เว่ยหงอิ่นต้องการจับเป็ น


หากชินอ๋ องไม่อาจหลบหนีไปได้ ข้าก็ยงั มีโอกาสแอบให้ความช่วยเหลือเขาในภายหลัง

“พูดจบแล้วหรื อไม่” ชินอ๋ องเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงเย็นเยียบ สี หน้าและสายตาของเขายังคงกวนโทสะใต้เท้าจางได้ดี


เช่นเคย

ใต้เท้าจางหยุดหัวเราะ มองเขาด้วยสายตากราดเกรี้ ยว

“จนบัดนี้ยงั โอหังอยูอ่ ีกหรื อ คิดหรื อว่าท่านยังเป็ นชินอ๋ องที่ใครๆ ก็หวาดกลัว ยามนี้ตกอยูใ่ นกํามือของข้า พึง
สํานึกไว้เถิดว่าข้าจะทรมานท่านอย่างไรก็ได้ ขอเพียงแค่ส่งท่านให้ถึงมือรัชทายาทเว่ยในสภาพที่ยงั มีลมหายใจ
ก็พอ” เขาหันไปทางหนึ่ งในผูค้ ุม “สั่งสอน!”

บุรุษที่ยนื อยูข่ า้ งเขาออกหมัดใส่ ใบหน้าเขาอย่างแรง ชินอ๋ องเสี ยหลักล้มลง ข้าหลุบตาลง ไม่ตอ้ งการเห็นภาพ
ตรงหน้า ใต้เท้าจางยกยิม้ กล่าวด้วยนํ้าเสี ยงเย้ยหยัน

“เสี ยทีที่ท่านเป็ นถึงจอมทัพ กลับหลงอุบายบุตรชายของข้า แค่สตรี เพียงคนเดียวทําให้ท่านมืดบอดได้ถึงเพียงนี้


เลยหรื อท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ เจ้ายังมีสิ่งใดจะกล่าวกับเขาอีกหรื อไม่ ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้แค้นเคืองเขาเท่าที่ควร
เจ้ายังมีเยือ่ ใยให้เขาอยูก่ ระมัง” ใต้เท้าจางหันมากล่าวกับข้า ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะเห็นข้าทําร้ายชินอ๋ อง
จนถึงที่สุด ต้องการสร้างความบาดหมางให้กบั พวกเราจนเกินเยียวยา

355
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“บิดาเข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่หมดคําพูด ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวแก่คนผูน้ ้ ีอีกต่อไป” ข้าตัดบทใต้เท้าจาง
อย่างรวบรัด

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างมีจิตใจงดงามนัก ไม่รู้หรื อว่าชินอ๋ องเห็นเจ้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ ง ที่ขา้ จับตัวเจ้าได้ง่ายดายก็


ล้วนแล้วแต่เป็ นเพราะเขา”

ข้านิ่งฟังไม่เอ่ยสิ่ งใด หากเป็ นดังใต้เท้าจางว่า ข้าก็ขอฟังเสี ยหน่อยว่าแผนการของชินอ๋ องเป็ นเช่นไร ข้าไม่หลง


กลใต้เท้าจาง ยามนี้เขากําลังทําสงครามประสาทกับข้า ต้องการให้ขา้ และชินอ๋ องเจ็บปวด คํายุแยงของใต้เท้า
จางยังมีช่องโหว่ เพราะหากชินอ๋ องเห็นข้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่งจริ ง เหตุใดตัวเขาจึงต้องพาตัวเองมาตกอยูใ่ น
สถานการณ์ยากลําบากเช่นนี้ดว้ ยเล่า

356
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 50 : บุญคุณ ความแค้ น

ทว่าขณะที่ผคู ้ ุมไม่ทนั ได้สนใจ ชินอ๋ องซึ่ งยังคงล้มอยูก่ บั พื้นก็เริ่ มเคลื่อนไหว เขาเอื้อมสองมือที่ถูกมัดติดกันไว้


ไปที่ส้นรองเท้า ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ ว ข้าเห็นเพียงประกายมีดที่ตอ้ งแสงเทียน จากนั้นเชือกที่พนั ธการ
เขาก็หลุดลงกับพื้น เขาผุดลุกขึ้นยืนตรง วาดแขนไปรอบกาย ท่วงทีของเขาเรี ยกได้วา่ รวดเร็ ว ทรงพลัง แม่นยํา
และเงียบกริ บ ลําคอของผูค้ ุมทั้งสี่ มีโลหิ ตพุง่ กระฉูด พวกเขาล้มลงโดยไม่มีเสี ยงร้องสักแอะ เพียงครู่ เดียวพื้น
ห้องก็เจิ่งนองไปเลือดแดงสด ส่ งกลิ่นคละคลุง้ ชวนอาเจียน

เขาสะกิดปลายเท้าเพียงนิดก็ส่งตัวทะยานมายืนอยูเ่ บื้องหลังใต้เท้าจาง เสี ยงเย็นเยียบของชินอ๋ องเอ่ยขึ้นไม่ดงั


นัก แต่แทรกซึ มเข้าไปทุกเส้นประสาทชวนให้หนาวยะเยือกราวกับเสี ยงของมัจจุราช คมมีดบางเฉี ยบที่ยงั เปื้ อน
โลหิ ตของผูค้ ุมทั้งสี่ จ่อเข้ากับลําคอใต้เท้าจาง

“แผนการของข้าเป็ นอย่างไรหรื อ ไหนลองเล่าให้ฟังสักหน่อยเถิด”

“ชินอ๋ อง! ท่านแสร้งทําเป็ นหลงกลอี้หวั อย่างนั้นหรื อ” ใต้เท้าจางเหลือกตาถาม เขากัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น


เมื่อรู ้วา่ ตัวเองเป็ นฝ่ ายเสี ยที

ชินอ๋ องหัวเราะในลําคออย่างสําราญใจ

“จางอี้หมิง เสี ยทีเคยเป็ นถึงเสนาบดี หลงคิดว่าบุตรชายตัวเองมีความสามารถหลอกชินอ๋ องได้อย่างไร”

“ที่อ้ ีหวั นําตัวท่านมาสมทบกับขบวนเมื่อบ่ายนี้ลว้ นแล้วแต่เป็ นแผนการของท่านอย่างนั้นหรื อ แล้ว..แล้วคน


ของอี้หวั ที่คุมตัวมารดาของอวี้เอ๋ อร์ไว้เล่า” ใต้เท้าจางถามนํ้าเสี ยงลนลาน

ชินอ๋ องเหยียดยิม้ ใบหน้าของเขาแม้จะชวนมองแต่กลับดูโหดเหี้ ยมเหลือเกิน

“ทันทีที่คล้อยหลังจางอี้หวั มา คนของข้าก็จดั การสังหารสิ้ น ลูกน้องเดนตายของท่านเหล่านั้น ทิ้งไว้กเ็ ป็ นเสี้ ยน


หนามแก่แผ่นดิน สวามิภกั ดิ์กบั คนแคว้นอื่น ส่ งเสริ มเจ้านายชัว่ นอกจากโทษตายแล้ว ข้าไม่มีทางเลือกอื่นให้”

ใต้เท้าจางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ชินอ๋ อง ท่านจะตามจองเวรข้าไปถึงไหน”

357
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“จางอี้หมิง ข้าเพียงแต่ทาํ ตามหน้าที่ หาได้มีความแค้นกับท่านเป็ นการส่ วนตัว หากท่านไม่กาํ เริ บเสิ บสาน คิด
สร้างอิทธิพลในราชสํานัก มีหรื อที่ฮ่องเต้จะคิดกําราบท่าน ท่านไม่เพียงไม่สาํ นึกกลับยิง่ ถลําลึกยืมมือแคว้นเว่ย
ชักศึกเข้าบ้าน โทษร้ายแรงถึงเพียงนี้ขา้ จะละเว้นได้อย่างไร”

แม้หน้าห้องจะมีเวรยามเฝ้าอยู่ แต่ใต้เท้าจางกลับไม่กล้าตะโกนเรี ยก ไม่วา่ ใครก็เดาได้ หากมีมีดจ่ออยูท่ ี่คอหอย


จะตะโกนให้ผอู ้ ่ืนช่วยก็เปล่าประโยชน์ ทันทีที่เขาเปล่งเสี ยง วิญญาณก็คงหลุดลอยออกจากร่ างแล้ว ใต้เท้าจาง
เอ่ยกับชินอ๋ องเสี ยงหอบ

“ชินอ๋ อง ท่านทําสําเร็ จแล้วก็นาํ ตัวนางกลับไปเถิด จะสังหารข้าหรื อทําอย่างไรก็อย่าได้ชกั ช้า เชิญลงมือเถิด”

“ยังก่อนเสนาบดีจาง ข้าไม่รีบร้อน เมื่อครู่ ท่านว่าจะเล่าแผนการของข้าให้อวี้เอ๋ อร์ฟังมิใช่หรื อ เหตุใดไม่เล่า


ก่อน ข้ายังมีเวลาอีกมาก รอฟังท่านจบแล้วค่อยจากไปก็ยงั ไม่สาย” ชินอ๋ องแสร้งเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงอารมณ์ดี แต่ขา้
สัมผัสได้วา่ จิตใจเขาเต็มไปด้วยโทสะ

ใต้เท้าจางชักสี หน้า ไม่ยอมเอ่ยวาจา ชินอ๋ องเอ่ยเสี ยงลอดไรฟัน

“เหตุใดไม่บอกนางไปเล่า ว่าแท้จริ งแล้วท่านหลอกใช้ความกตัญญูของเด็กคนหนึ่ งเพื่อให้แผนการของตน


บรรลุผล”

ข้าหันไปมองใต้เท้าจางอย่างต้องการคําตอบ เขาเอ่ยเป็ นนัยกับข้าหลายครั้งว่าชินอ๋ องใช้ขา้ เป็ นเหยือ่ ล่อ แท้จริ ง


แล้วเรื่ องราวเป็ นอย่างไร ชินอ๋ องหักหลังความเชื่อใจของข้าครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนั้นหรื อ

“พูด!” ชินอ๋ องกดใบมีดลงกับลําคอใต้เท้าจางอย่างน่ากลัว เลือดสี แดงไหลซึ มลงมาโดนอกเสื้ อ สภาพในห้อง


ยามนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวคลุง้ ชวนสะอิดสะเอียนของโลหิ ต แต่ขา้ ไม่สนใจ ข้าต้องการฟังคําตอบจากปากของ
ใต้เท้าจาง

“เสี่ ยวถิง..” ใต้เท้าจางเปิ ดปากแล้วก็นิ่งเงียบไป ชินอ๋ องปั กมีดลงหน้าขาของเขา โชคดีที่ใต้เท้าจางนัง่ อยู่


ไม่เช่นนั้นเขาคงล้มลงกับพื้น ชินอ๋ องอุดปากเขาไว้ทนั ท่วงทีก่อนที่เสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวดจะเล็ดรอด
ออกมา ใต้เท้าจางสั่นเทิ้มไปทั้งกาย

358
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อย่าคิดถ่วงเวลา รี บเล่าไป” เสี ยงของชินอ๋ องเย็บเยียบชวนให้ขนลุก

สายตาของใต้เท้าจางเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ไม่แปลกที่เขาจะจงเกลียดจงชังชินอ๋ อง ตัวเขาเองก็เคยเป็ น


บุรุษที่ทรงอํานาจ เคยยิง่ ใหญ่มาก่อน แต่นนั่ ล้วนเป็ นเรื่ องราวในรัชกาลก่อน สมัยที่ชินอ๋ องยังเยาว์วยั ครั้นชิน
อ๋ องเติบใหญ่อาํ นาจบารมีของตระกูลจางก็ค่อยๆ ถูกรัศมีของเขาบดบังจนเสื่ อมถอยลงทีละน้อย

“เสี่ ยวถิงส่ งข่าวให้คนของข้า ว่ามารดาของอวี้เอ๋ อร์จะออกจากวังในวันนั้น คราแรกข้าหมายจับตัวนางเพียงคน


เดียว คาดไม่ถึงว่าอวี้เอ๋ อร์จะติดตามมาด้วย” ใต้เท้าจางกล่าวกระท่อนกระแท่น ใบหน้าคมสันของเขายับย่นด้วย
ความเจ็บปวด

“อย่าโกหก!” ชินอ๋ องคํารามในลําคอ

“ข้าตั้งใจให้คนเปิ ดเผยร่ องรอยแหล่งกบดานหลักเพื่อให้ชินอ๋ องลงมือ เป็ นแผนล่อเสื อออกจากถํ้า ข้าได้รับการ


สนับสนุนจากรัชทายาทเว่ยจึงตั้งใจสละเรื อแต่แรกอยูแ่ ล้ว ชินอ๋ องเจ้าเล่ห์เพทุบาย ต่อให้ขา้ วางกลลวงใดไว้ที่
นัน่ ย่อมไม่อาจจัดการกับเขาได้โดยง่าย ไม่สู้ลงมือกับเจ้าและมารดา อวี้เอ๋ อร์ เสี่ ยวถิงเป็ นคนของข้า พอชินอ๋ อง
ออกจากวัง นางก็ได้รับคําสั่งให้ไปตามเจ้าที่ตาํ หนักหยางซิ น”

แม้เรื่ องราวที่ใต้เท้าจางเล่าจะไม่ต่อเนื่องและเข้าใจยาก แต่ขา้ ก็พอปะติดปะต่อเรื่ องราวได้ ข้านึกย้อนไปถึง


เหตุการณ์ในวันนั้น เสี่ ยวถิง นางกํานัลตัวน้อยของแม่ยงั ไม่ทนั ไปตามข้า ข้าก็มาหามารดาที่ตาํ หนักเสี ยก่อน
และตกลงใจออกมาด้วยกัน เป็ นไปตามแผนการใต้เท้าจางโดยบังเอิญ เขาตั้งใจสร้างสถานการณ์ให้ขา้ และชิน
อ๋ องผิดใจกัน เช่นนี้กจ็ ะดูเหมือนว่า ชินอ๋ องใช้ขา้ เป็ นเหยือ่ ล่อใต้เท้าจาง ส่ วนข้าก็อาศัยจังหวะที่ชินอ๋ องไม่อยู่
หลบหนีออกมาเข้ากับฝ่ ายตรงข้าม หากชินอ๋ องมิได้บีบบังคับให้ใต้เท้าจางสารภาพ เราสองย่อมไม่อาจสลัด
ความเคลือบแคลงในจิตใจที่มีต่อกันไปได้

“ดูท่าเวลาของท่านจะหมดเสี ยแล้ว” ชินอ๋ องกวาดสายตาไปทางประตูหอ้ งในขณะที่ยงั ไม่มีใครไหวตัว ดู


เหมือนเขาจะได้ยนิ เสี ยงฝี เท้ามาแต่ไกล “เสนาบดีจาง ข้ามิได้มีความแค้นส่ วนตัวกับท่าน เรื่ องราวที่เกิดขึ้น
ทั้งหมดอย่าได้อาฆาตแค้นอีกต่อไปเลย ท่านจงติดตามตระกูลจางไปยมโลกด้วยจิตใจที่สงบเถิด นี่เป็ นคําเตือน
สุ ดท้ายของข้า”

ใต้เท้าจางขบฟั นแน่น ดวงตาลึกลํ้าของเขาหันมามองข้าที่นงั่ อยูด่ า้ นข้างโดยมีโต๊ะคัน่ กลาง ข้าสบตาเขา ดวงตา


ของเขาแฝงแววอาลัย ยามนี้เขาเป็ นเพียงชายที่น่าสงสารคนหนึ่ง เกิดมาอย่างยิง่ ใหญ่แต่กลับต้องมาเห็นทุกสิ่ ง

359
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ล่มสลายลงไปกับตาตัวเอง ไม่วา่ จะเป็ นอํานาจ ชาติตระกูลหรื อแม้แต่ความรัก.. ข้าหลบตาเขา ความรู ้สึกที่เขามี
ต่อข้า ใช่วา่ ข้าจะไม่รู้ ในความร้ายกาจนั้น ข้ารู ้วา่ เขาเมตตาข้าไม่นอ้ ย เขาต้องหักห้ามใจเพียงใด ยามมองข้าก้าว
ขึ้นแท่นบรรทมของชินอ๋ อง ข้ามีแต่เพียงความเวทนาสงสารจนลืมความแค้นที่มีต่อเขาไปหมดสิ้ น ข้าทิ้งตัวลง
จากเก้าอี้ คุกเข่าลงเบื้องหน้าใต้เท้าจาง

“เราต่างทําผิดต่อกัน สิ่ งใดที่อวี้เอ๋ อร์ล่วงเกินไปขอบิดาโปรดให้อภัย อวี้เอ๋ อร์สาํ นึกในบุญคุณบิดาอยูเ่ สมอ ขอ


ท่านโปรดวางใจ แม้ท่านจะจากไป อวี้เอ๋ อร์ จะเซ่ นไหว้ไม่ปล่อยให้บิดาต้องอดอยาก”

เขามองข้าอย่างเศร้าสร้อย ความกตัญญูจากข้าคงไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา แต่เป็ นสิ่ งเดียวที่ขา้ ให้เขาได้ อย่าง


น้อยข้าก็ติดหนี้ บุญคุณเขาดังที่แม่วา่ เขาให้โอกาส ให้การอบรมเลี้ยงดูอย่างที่บุตรสาวชาวบ้านสามัญไม่อาจมี
ได้

ข้าคํานับใต้เท้าจางเป็ นครั้งสุ ดท้ายด้วยความเคารพอย่างแท้จริ ง

“หลับตา”

เสี ยงชินอ๋ องดังแว่วมาจากเหนือศีรษะ ข้าไม่กล้าขัดคําสั่งเขา ข้าหลับตาทั้งๆ ที่หน้าผากยังจรดอยูก่ บั พื้น เมื่อลืม


ตาขึ้นอีกครั้ง ขาเก้าอี้ที่ใต้เท้าจางนัง่ อยูก่ เ็ นืองนองไปด้วยโลหิ ต ข้ารู ้สึกหน้ามืด พยายามประคองกายลุกขึ้นนัง่
บนเก้าอี้ตามเดิมโดยไม่หนั ไปมองทางใต้เท้าจาง ยามนี้เขาคงหมดลมหายใจแล้ว

ประตูหอ้ งถูกเปิ ดออก จางอี้หวั ก้าวเข้ามาด้วยสี หน้ากระหยิม่ ใจ เขาคงตั้งใจมาเย้ยหยันชินอ๋ องและข้า ทว่าภาพ


ที่ปรากฏอยูต่ รงหน้าทําให้เขาตื่นตระหนกจนไม่อาจก้าวขา ศพผูค้ ุมมากฝี มือทั้งสี่ นอนเรี ยงรายจมกองเลือด
บิดาของเขานัง่ สงบอยูบ่ นเก้าอี้เหมือนคนกําลังงีบหลับ หากไม่สังเกตรู บนอกเสื้ อและเลือดที่ไหลนองตามขา
เก้าอี้กค็ งดูไม่ออก

ชินอ๋ องยืนอยูต่ รงไหนข้าไม่ได้สังเกต รู ้แต่วา่ พอข้าประคองร่ างนัง่ บนเก้าอี้ จางอี้หวั ก็เข้ามาพอดี เขาจ้องมองข้า
ด้วยสี หน้าซี ดเผือด เอ่ยปากถามอย่างตะกุกตะกัก

“ช..ชินอ๋ องเล่า”

360
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เงาดําที่เคลื่อนไหวมาประชิดเบื้องหลังจางอี้หวั ทําให้ขา้ ต้องรี บหลับตา เสี ยงของเหลวฉี ดพุง่ และพร่ างพรมลง
กับพื้นทําให้ขา้ เดาได้วา่ หลอดเลือดใหญ่ที่ลาํ คอของเขาคงจะถูกสะบั้น ข้าเห็นความตายมากเกินไปจนทําให้
แทบครองสติไม่อยู่ ข้าไม่ตอ้ งการลืมตา ไม่ตอ้ งการเห็นภาพในห้องซึ่ งเต็มไปด้วยการฆ่าฟัน แม้วา่ คนเหล่านี้
จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าแต่ความตายของพวกเขากลับทําให้ขา้ สะเทือนใจ

ชินอ๋ องจบชีวิตใต้เท้าจางก่อนที่จะสังหารบุตรชายคนเดียวที่เหลืออยูข่ องเขา นับเป็ นความเมตตาครั้งสุ ดท้าย


หากใต้เท้าจางต้องเห็นบุตรชายของตนตายตกไปกับตา เขาคงไม่อาจนอนตายตาหลับ ชินอ๋ องมอบความตายที่
รวดเร็ วและไม่ทรมานให้กบั คนทั้งคู่

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางจะพาเจ้ากลับไป” เขากระซิ บที่ริมหู ข้าตัวสั่นสะท้าน ไม่รู้วา่ ข้ากําลังกลัวเขาหรื อกลัวเรื่ อง
ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่น้ ี แขนของเขาโอบเอวข้าแล้วยกขึ้นแนบอก ข้าคว้าคอเขาไว้แน่น ต้องการให้เขาพาข้า
ออกไปโดยเร็ ว ตอนสังหารจางอี้หวั ชินอ๋ องแอบอยูห่ ลังประตู เมื่อทุกอย่างเสร็ จสิ้ น เขาปิ ดประตูอย่างเงียบๆ
แล้วพาข้าหลบหนีออกไปทางหน้าต่าง ไม่สนใจว่าเวรยามจะเห็นหรื อไม่ ยามนี้สิ้นใต้เท้าจางและบุตรชายแล้ว
คนเหล่านี้ยอ่ มไร้ผสู ้ ั่งการ เปรี ยบประดุจอสรพิษไร้หวั

กว่าจะมีเวรยามสังเกตเห็น ชินอ๋ องก็พาข้ากระโดดข้ามเขตโรงเตี๊ยมไปยังตัวตึกข้างเคียงเสี ยแล้ว พวกเขา


ตะโกนโหวกเหวกสั่งให้คนไปรายงานให้ใต้เท้าจางทราบ ถึงตอนนั้นคงเพิ่งจะได้รู้วา่ หัวหน้าของพวกตนล้วน
เสี ยชีวิต!

361
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 51 : คํา่ คืนแห่ งความเป็ นความตาย

อย่างไรก็ตาม ชินอ๋ องคาดการณ์ผดิ ไปอย่างหนึ่ ง ความตายของใต้เท้าจางและจางอี้หวั ไม่ได้ทาํ ให้พวกเราพ้น


จากอันตราย

เว่ยหงอิ่นส่ งมือดีมาไม่นอ้ ย นอกจากจะช่วยเหลือใต้เท้าจางแล้ว คนเหล่านี้ยอ่ มได้รับคําสั่งมาว่า หากใต้เท้าจาง


ลงมือพลาด พวกเขาควรจัดการอย่างไร

ทันทีที่ข่าวแพร่ ไปว่าชินอ๋ องพาข้าหลบหนี ส่ วนใต้เท้าจางและจางอี้หวั ตายเสี ยแล้ว คนของเว่ยหงอิ่นก็ออก


ติดตามไล่ล่าชินอ๋ องและข้ามาทันที พวกเขาน่าจะเป็ นนักฆ่าฝี มือดีที่ส่งมาจัดการชินอ๋ องโดยเฉพาะ ชินอ๋ องพา
ข้ากระโจนไปตามหลังคาบ้านเรื อนในยามคํ่าคืนราวกับแมวป่ าที่ปราดเปรี ยว เงาดํานับสิ บที่ติดตามมาทําให้เขา
ต้องวางแผนใหม่ เขาไม่อาจสะบัดกลุ่มนักฆ่าหลุดได้ ทําได้เพียงทิ้งช่วงห่างออกมาเท่านั้น จึงหันเหทิศทางออก
จากเขตบ้านเรื อน

“เฉิ นซี กบั คนของเปิ่ นหวางจํานวนหนึ่งปักหลักรอพวกเราอยูท่ ี่ชายป่ า พวกเขาไม่ได้เข้าเมืองมาเพราะไม่


ต้องการให้ดูเอิกเริ กจนคนของใต้เท้าจางผิดสังเกต ตอนแรกเปิ่ นหวางเตรี ยมที่พกั คืนนี้ไว้ให้เจ้า ตั้งใจจะออก
เดินทางพรุ่ งนี้เช้า แต่เห็นทีจะไม่ได้การเสี ยแล้ว เจ้าติดตามเฉิ นซี ออกเดินทางทันทีเถิด เปิ่ นหวางจะหลอกล่อ
คนร้ายไปอีกทาง เป้ าหมายของพวกนั้นอยูท่ ี่เปิ่ นหวางเพียงคนเดียว”

“ไม่! ท่านอ๋ อง อย่าไปนะเพคะ ให้เฉิ นซี และคนของท่านอ๋ องช่วยรับมือคนร้ายไม่ได้หรื อ”

“พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู ้ของนักฆ่าเหล่านี้ พวกนี้เป็ นกลุ่มนักฆ่าอิสระ ไม่ได้ข้ ึนตรงต่อแว่นแคว้นใด รับงานแต่ละ


ครั้งไม่มีคาํ ว่าผิดพลาด หากให้พวกเฉิ นซี ไปต่อสู ้เกรงว่าจะเป็ นการเอาชีวติ ไปทิ้งเสี ยเปล่าๆ ลําพังเปิ่ นหวางคน
เดียวน่าจะพอหลบหนีเอาตัวรอดได้”

เหลวไหลทั้งเพ เรื่ องที่เขาพูดล้วนกุข้ ึนมาหลอกข้า มีที่ไหนหรื อต่อสู ้คนเดียวแล้วมีโอกาสรอดมากกว่า ข้ารู ้วา่


ชินอ๋ องตั้งใจจะไปเสี่ ยงอันตรายเพียงคนเดียวเพื่อให้ขา้ ปลอดภัย ข้าเห็นเขาใช้กาํ ลังกายมากในการหลบหนีจึง
ไม่พดู ต่อ จนกระทัง่ เขาเร้นกายเข้ามาในป่ า ผิวปากเป็ นสัญญาณ เฉิ นซี และคนของเขาก้าวออกมาคุกเข่า

“ถวายพระพรท่านอ๋ อง ถวายพระพรหวางเฟย” พวกเขามีน้ าํ เสี ยงยินดีที่เห็นเราทั้งสองปลอดภัย

362
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เฉิ นซี พวกเจ้านําตัวหวางเฟยออกเดินทางทันที ทิ้งรถม้าไว้ที่นี่ ให้นางควบม้าไปกับเจ้า” ชินอ๋ องรี บถ่ายทอด


คําสั่งรัวเร็ ว พวกเขาลุกขึ้นโดยไม่รอชินอ๋ องอนุญาตเนื่องจากสัมผัสได้วา่ สถานการณ์ฉุกเฉิ น

ชินอ๋ องวางข้าลงกับพื้น เฉิ นซี และพรรคพวกแยกย้ายไปเตรี ยมม้าอย่างรวดเร็ ว ชินอ๋ องอาศัยจังหวะนี้หนั มาเอ่ย


กับข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าเคยถามเปิ่ นหวางว่าจะชดเชยให้เจ้าได้อย่างไร ชาติก่อนไม่ใช่เพียงแค่ชีวติ ของเจ้าที่ตอ้ งดับสู ญไป


ความทุกข์ระทมขมขื่นในใจเจ้ายังไม่อาจลบเลือน ชาติน้ ี เปิ่ นหวางชดใช้ได้แค่ชีวิต ขอเสี่ ยงชีวิตเพื่อให้เจ้าและ
มารดาปลอดภัย ที่เจ้ากล่าวต่อหน้าใต้เท้าจางว่าให้อภัย เปิ่ นหวางก็เป็ นสุ ขใจแม้วา่ เจ้าจะหมดรักเปิ่ นหวางแล้วก็
ตาม”

ข้านํ้าตาไหล นี่ไม่ใช่สิ่งที่ขา้ ต้องการ ความแค้นอะไรนั้นล้วนเหลวไหลสิ้ นดี ข้าต้องการเพียงชีวิตที่แต่ละวันตื่น


ขึ้นมาแล้วมีเขาเคียงข้าง อดีตที่เจ็บปวดทั้งหลายมีความหมายอะไรกับชีวิตข้ากันเล่า ข้าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา รู ้
ว่าแม้ขา้ จะขอร้อง เขาก็คงไม่ยอมเปลี่ยนใจ

“ท่านอ๋ องเชื่อใจข้าหรื อไม่” คําถามเดียวกันนี้ เขาเคยถามข้าทั้งในชาติก่อนที่เป็ นซี ยนิ และในชาติน้ ี ยามนี้ขา้


ถามเขากลับด้วยแววตาสงบนิ่ง

“อวี้เอ๋ อร์ ความรักที่เจ้ามีให้เปิ่ นหวาง เปิ่ นหวางไม่เคยสงสัยสักนิด แต่ที่ผดิ คือเปิ่ นหวางได้ทาํ ลายความรักนั้น
ลงไปเสี ยแล้ว” เขาตอบเสี ยงเศร้าสร้อย

“หากท่านเชื่อใจข้า จงอย่าเชื่อวาจาที่ขา้ เอ่ยต่อหน้าศัตรู เรื่ องง่ายๆ เช่นนี้ท่านน่าจะรู ้มิใช่หรื อ”

ชินอ๋ องยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแทบสังเกตไม่เห็น ข้าบังเกิดความคิดแวบขึ้นมาในหัว แต่ยงั ไม่มีเวลาค้นหา


คําตอบว่าเป็ นเรื่ องใด

“เจ้าบอกว่าหมดรักเปิ่ นหวางแล้ว อีกทั้งไม่มีสิ่งใดจะกล่าวกับเปิ่ นหวางอีก ชาติน้ ีเปิ่ นหวางชดใช้ได้เพียงชีวิต


ความขมขื่นใจที่เจ้าได้รับ เปิ่ นหวางขอตามไปชดใช้ในชาติหน้า ม้าน่าจะพร้อมแล้ว เจ้ารี บติดตามเฉิ นซี ไปเถิด”

เขาจับไหล่ขา้ ดันออกห่างจากตัว ข้าเบี่ยงกายหนีฝ่ามืออุ่น หันหลังให้เขา

363
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หากท่านอ๋ องทิ้งข้าไว้แล้วจากไปในคืนนี้ ไม่วา่ ท่านจะรอดชีวิตกลับมาหรื อไม่ อวี้เอ๋ อร์ จะตั้งสัตย์สาบานไม่


ขอพบเจอท่านอีกไม่วา่ ชาติน้ ีหรื อชาติไหน หากท่านจะไปก็ไปเสี ยเถิด” ข้าเอ่ยนํ้าเสี ยงเด็ดเดี่ยวจริ งจัง ไม่หนั
ไปมองเขาแม้เพียงนิด ความขมขื่นที่ผา่ นมายังไม่พออีกหรื อ หากเขากล้าทิ้งให้ขา้ ต้องโศกเศร้าเพียงลําพัง ชะตา
รักของเราสองก็คงต้องขาดกัน

“อวี้เอ๋ อร์ !” ชินอ๋ องอุทานอย่างตกใจ

ข้าสาวเท้าตรงไปหาเฉิ นซี มือแข็งแรงยึดแขนข้าไว้ กระชากข้าเข้าไปหาตัว

“ได้ เจ้าไปกับข้า เราจะเป็ นตายด้วยกัน” เขาพูดพลางกอดข้าไว้แน่น

ข้ากอดเขาตอบ ยามนี้ขา้ รู ้แล้วว่าความรักคืออะไร ข้าไม่ปรารถนาจะเห็นเขาได้รับอันตราย ไม่อาจทอดทิ้งเขา


ไว้ตามลําพัง หากชาติที่แล้วซี ยนิ ตายเพราะความรัก ชาติน้ ีขา้ ก็คงเหมือนกัน จะต่างกันก็แค่ซียนิ ตายโดยใจที่
ปราศจากรัก แต่ขา้ ตายด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ ยมไปด้วยความรัก

ยามฉิ นซี จูงม้าเข้ามาใกล้ ชินอ๋ องออกคําสั่งใหม่

“เฉิ นซี ! คืนนี้เราจะตั้งรับศัตรู อยูใ่ นป่ า พวกมันคงจะยังไม่กล้าบุกเข้ามาเพราะไม่รู้สถานการณ์ เจ้าจงนําม้าไป


กระจายผูกไว้เป็ นวงกว้าง ส่ วนพวกเรารวมตัวกันอยูบ่ ริ เวณนี้อย่างเงียบเชียบ พรุ่ งนี้ยามฟ้าสาง พวกเจ้าจงนํา
ขบวนรถม้าล่วงหน้าไปก่อน ทําทีวา่ อารักขาพวกข้ากลับวัง เปิ่ นหวางและหวางเฟยจะแอบอยูใ่ นป่ าแล้วค่อย
ติดตามออกไปภายหลัง หากขบวนถูกโจมตี ให้พากันหลบหนีกลับไปยังวังเสิ่ นหยางกง เปิ่ นหวางและหวาง
เฟยจะกบดานในยามกลางวันและออกเดินทางในยามกลางคืน หากเปิ่ นหวางไม่กลับไปภายในสามวัน ให้นาํ
คนออกค้นหา แบ่งกําลังคนส่ วนหนึ่งเก็บกวาดโรงเตี๊ยมของใต้เท้าจาง ที่เหลือออกเสาะหาตามเส้นทางกลับ
เมืองหลวงสายรอง เปิ่ นหวางจะไปทางอ้อม"

ชินอ๋ องสั่งการเสร็ จ ตามแนวชายป่ าก็ปรากฏเงาดําที่ติดตามเขามา พวกนั้นแกะรอยมาอย่างรวดเร็ ว เสี ยงความ


เคลื่อนไหวแหวกอากาศดังชัดเจนในคํ่าคืนที่เงียบสงัด แม้แต่แมลงกลางคืนก็ราวกับจะพร้อมใจกันหยุดส่ งเสี ยง
ร้อง

364
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
โชคดีเหลือเกินที่คืนนี้เป็ นคืนเดือนมืด ทุกคนล้วนสวมอาภรณ์สีดาํ แม้แต่ขา้ ชินอ๋ องก็ให้สวมชุดดําทับไว้ เขา
ไม่ได้สั่งให้ทุกคนตอบโต้แต่ให้อาํ พรางกายกลืนหายไปกับความมืด ต่อให้พยายามเพ่งมองก็ไม่อาจมองเห็น มี
เพียงเสี ยงม้าดังมาเป็ นระยะจากตรงโน้นทีตรงนี้ ที ชวนให้เกิดความระแวงสงสัย ความเงียบราวกับกับดักของ
พวกเราทําให้ศตั รู ไม่กล้าบุกเข้ามา ชินอ๋ องมิใช่เป็ นเพียงเป็ นเทพสงคราม ชื่อเสี ยงเรื่ องเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายก็ไม่
น้อยหน้า แคว้นเว่ยเองก็ได้ประสบกับตัวเองมาแล้ว นักฆ่าเหล่านี้ ยอ่ มไม่กล้าเสี่ ยง

คืนนี้ไม่มีใครได้หลับเต็มตา ทุกคนต่างเตรี ยมพร้อมตั้งรับการโจมตีอยูเ่ งียบๆ ฝ่ ายตรงข้ามได้แต่เดินวนเวียนอยู่


รอบๆ อย่างดูท่าที

จนกระทัง่ ครึ่ งคืน ท้ายที่สุดคนเหล่านั้นก็ตดั สิ นใจล่าถอย แต่กท็ ิ้งคนคอยเฝ้าไว้จาํ นวนหนึ่ง ที่เหลือคงจะ


กลับมาตอนฟ้าสาง

ชินอ๋ องนัง่ อยูบ่ นกิ่งไม้ใหญ่ เอนกายพิงลําต้นอย่างผ่อนคลาย กอดข้าไว้แนบอก แม้น้ าํ ค้างยามดึกก็ไม่อาจทําให้


ข้าเหน็บหนาว เราต่างถ่ายทอดไออุ่นให้แก่กนั ข้าไม่รู้วา่ เขาได้หลับบ้างหรื อไม่ รู ้แต่วา่ ทุกครั้งที่ขา้ ขยับกาย
แขนของเขาจะโอบประคองข้าไว้อย่างระมัดระวังเสมอ ข้าเงยหน้าขึ้นจูบเขาเบาๆ ที่ปลายคางอย่างปลอบ
ประโลม เกรงว่าประสาทสัมผัสของเขาจะตึงเครี ยดเกินไปยามต้องคอยรับมือศัตรู มือใหญ่ของเขาเอื้อมมาลูบ
ใบหน้า ปลายนิ้วของเขาไล้ริมฝี ปากข้าแผ่วเบา สื่ อว่าเขาอยากจุมพิต ข้าซุกหน้ากับอกเขาอย่างเขินอาย ไม่คิด
จะตามใจเขา อกหนาสะท้อนขึ้นลงยามโอบกอดข้าไว้แน่น ข้าหยิกต้นขาเขาเบาๆ เป็ นการสัง่ สอน ในคํ่าคืน
แห่งความเป็ นความตาย ท่ามกลางเหล่าองครักษ์นบั สิ บ เขายังกล้าทําตัวไร้ยางอายแบบนี้อีกหรื อ!

365
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 52 : ราตรีอนั มืดมิด

ก่อนฟ้าสาง ชินอ๋ องส่ งสัญญาณบอกให้เฉิ นซี เตรี ยมขบวนออกเดินทาง ท้องฟ้าเริ่ มเป็ นสี น้ าํ เงินเข้มปนเทา
อ่อนเป็ นสัญญาณว่าอรุ ณรุ่ งใกล้จะมาถึง เฉิ นซี และพรรคพวกเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ลูบแผงคอม้าเป็ น
สัญญาณให้เงียบเสี ยง ม้าเหล่านี้ เป็ นม้าศึก ได้รับการฝึ กฝนมาเป็ นอย่างดี อีกทั้งผ่านสมรภูมิมาไม่นอ้ ย จึงเชื่อฟัง
คําสั่งและไม่ตื่นตกใจง่ายต่างจากม้าทัว่ ไป ชินอ๋ องคงรู ้สึกว่า หากรอจนฟ้าสาง พรรคพวกที่เหลือของเว่ยหงอิ่
นคงตามมาสมทบ การรับมือฝ่ ายตรงข้ามย่อมจะยากกว่า มิสู้ช่วงชิงโอกาสยามที่อีกฝ่ ายไม่ทนั ระวัง

ขณะที่กลุ่มคนร้ายยังไม่รู้วา่ ภายในป่ าฝ่ ายของชินอ๋ องวางแผนจะทําอะไร ชินอ๋ องก็ช่วงชิงความได้เปรี ยบด้วย


ปฏิบตั ิการเหนือความคาดหมาย เขาให้เฉิ นซี และพรรคพวกควบม้าตะบึงฝ่ าออกไป กลุม่ หนึ่ งนําหน้ารถม้า มือ
น้าวคันศร อีกกลุ่มปิ ดท้ายชักดาบขึ้นเตรี ยมพร้อม

ฝ่ ายตรงข้ามที่กระจายกําลังเฝ้าอยูต่ ามชายป่ าต่างพากันกระโจนหลบขบวนม้าที่หอ้ ตะบึงออกมาอย่างรวดเร็ ว


เกาทัณฑ์ที่ถูกยิงจากหลังม้าสาดลงมาเป็ นห่าฝน พวกเขายังไม่ทนั ตั้งหลักก็ตอ้ งชักดาบขึ้นปั ดป้องลูกธนูที่ส่งมา
อย่างแม่นยําร้ายกาจ ทว่าบางคนก็ไม่อาจสกัดกั้น ลูกธนูบางดอกพุง่ เข้าเสี ยบตามร่ างกาย แม้ไม่เป็ นอันตรายถึง
ชีวิตแต่กไ็ ด้รับบาดเจ็บไม่นอ้ ย ครั้นขบวนรถม้าของชินอ๋ องเลยไปไกลไม่เห็นฝุ่ น กลุ่มนักฆ่าที่เพิ่งตั้งตัวได้ต่าง
ก็รีบปรึ กษาหารื อกันอย่างรวดเร็ ว คนเจ็บที่ตอ้ งธนูสองคนถูกส่ งตัวกลับไปรายงานสถานการณ์ ส่ วนคนอื่นที่
ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยต่างรี บโจนทะยานตามขบวนรถม้าของชินอ๋ องไป

ข้ากับชินอ๋ องซุ่มมองเหตุการณ์อยูเ่ งียบๆ บนกิ่งไม้พมุ่ ใบดกหนา ไม่รู้วา่ รถม้าที่วา่ งเปล่าจะตบตาคนของเว่ยหง


อิ่นได้นานแค่ไหน ทันทีที่พวกเขาโจมตีกจ็ ะรู ้ได้วา่ ข้าและชินอ๋ องไม่ได้อยูใ่ นนั้น ขณะที่ขา้ กําลังใช้ความคิด
ชินอ๋ องก็พาข้ากระโดดลงจากต้นไม้ ประคองข้านัง่ ลงที่โคนต้น

“อวี้เอ๋ อร์ รอเปิ่ นหวางอยูท่ ี่นี่สักครู่ ”

ข้ายังไม่ทนั ตอบคํา เขาก็พลิ้วกายจากไปราวกับลมพัด

ข้าเฝ้ารออย่างกระวนกระวายอยูใ่ ต้ไม้ใหญ่พร้อมกับกองสัมภาระและม้าหนึ่งตัว เวลาผ่านไปราวหนึ่งเค่อแต่


สําหรับข้าช่างยาวนานเหลือเกิน ในที่สุดชินอ๋ องก็กลับมา เขาส่ งเสี ยงเรี ยกข้ามาแต่ไกล ข้าผุดลุกขึ้นยืนอย่างดี
ใจ ครั้นเขาเดินเข้ามาใกล้ ข้าได้ยนิ เสี ยงลมหายใจหนักเหมือนคนเพิ่งผ่านการออกแรง ที่แก้มซ้ายของเขา มีรอย

366
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เข้มเหมือนโคลนติดอยู่ พอจะมองเห็นได้ในความมืดสลัว ข้าหยิบผ้าเช็ดหน้า เขย่งปลายเท้าขึ้นเช็ดรอยเปื้ อนให้
เขา ยามนั้นข้าจึงได้กลิ่นคล้ายสนิมเหล็ก ข้าเพ่งมองผ้าเช็ดหน้าในมือ

“เลือด! ท่านอ๋ องได้รับบาดเจ็บหรื อเพคะ!”

เขาเลื่อนมือมาจับบั้นเอวข้าไว้ เอ่ยนํ้าเสี ยงปลอบประโลม

“เปิ่ นหวางไม่เป็ นอะไร เป็ นเลือดของผูอ้ ื่น”

ข้าได้ยนิ เช่นนั้นจึงค่อยคลายใจว่ากลิ่นคาวโลหิ ตที่แตะจมูกข้าล้วนเป็ นของศัตรู ที่เขาสังหาร แต่กย็ งั ไม่วาย


สํารวจไปทัว่ ร่ างของเขา ทว่าชุดสี ดาํ ที่เขาสวมใส่ ทาํ ให้ยากจะบอกได้วา่ เขาได้รับบาดเจ็บหรื อไม่

“ท่านอ๋ องไปทําอะไรมาหรื อเพคะ” ข้าถามทั้งๆ ที่เดาคําตอบได้อยูแ่ ล้ว เขาคงไม่แคล้วตามไปปลิดชีพคนของ


ฝ่ ายตรงข้ามที่จะกลับไปแจ้งข่าว หากกําลังเสริ มมาช้า กลุม่ คนที่ติดตามเฉิ นซี ไปย่อมจะไม่กล้าเข้าโจมตี พวก
เฉิ นซี กจ็ ะมีเวลาหลบหนีไปได้ไกลอีกนิด

“เปิ่ นหวางตามไปสกัดสองคนที่ได้รับบาดเจ็บไว้ไม่ให้กลับไปแจ้งข่าว”

“แต่วา่ ท่านอ๋ องเองก็ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ตอนถูกใต้เท้าจางจับตัวไปอยูแ่ ล้วมิใช่หรื อเพคะ เหตุใดยังออกไปเสี่ ยง


อันตรายเช่นนี้อีกเล่า” ข้าอดตําหนิเขาไม่ได้

“หากปล่อยให้สองคนนั้นหนีรอดไปได้ เราจะต้องเสี่ ยงภัยมากกว่านี้ การหลบหนียอ่ มจะยากลําบากยิง่ ขึ้น อีก


อย่างสองคนนั้นก็บาดเจ็บเหมือนกันมิใช่หรื อ เปิ่ นหวางคนเดียวจัดการได้ไม่ตึงมือนักหรอก” เขาอธิบาย

จากนั้นชินอ๋ องก็เดินไปรื้ อค้นสัมภาระบนหลังม้าราวกับว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่ได้สลักสําคัญอะไร เขา


หยิบผ้าผืนหนาออกมาปูลงกับพื้น พอนัง่ ลงเรี ยบร้อยแล้วก็กวักมือเรี ยกข้า

“อวี้เอ๋ อร์มานอนเอาแรงเสี ยก่อนเถิด พวกเรายังต้องเดินทางอีกไกล”

ข้าเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย เขาจับข้านอนหนุนตัก ข้าเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา

367
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านอ๋ องไม่พกั ผ่อนหรื อเพคะ ฟ้ายังไม่สว่าง คนร้ายคงยังไม่กลับมา”

“เจ้านอนเถิด เปิ่ นหวางจะอยูย่ ามเอง”

ข้าหลับตาลงแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ วด้วยความอ่อนเพลีย รู ้สึกตัวอีกครั้งยามฟ้าสาง ชินอ๋ องเขย่าปลุกข้าเบาๆ


ข้ายันกายลุกขึ้นอย่างงัวเงียกําลังจะเอ่ยปาก ทว่าชินอ๋ องปิ ดปากข้าไว้พลางพยักเพยิดไปที่ดา้ นนอก ไกลออกไป
คนของเว่ยหงอิ่นรวบรวมสมัครพรรคพวกมากันอย่างล้นหลาม คนเหล่านี้บางส่ วนคือคนของใต้เท้าจางที่สิ้น
นายแล้วจึงหมายสวามิภกั ดิ์กบั แคว้นเว่ย พวกเขาคงได้เห็นร่ างของสหายทั้งสองที่ถูกชินอ๋ องสังหารระหว่าง
ทางกลับไปโรงเตี๊ยมแล้ว สี หน้าจึงไม่สู้ดีนกั พวกเขาก้มๆ เงยๆ สังเกตร่ องรอยการต่อสู ้และรอยเท้าม้า จากนั้น
จึงกระโจนขึ้นม้าติดตามไปอย่างเร่ งรี บ

ยามเสี ยงฝี เท้าม้าห่างออกไปแล้ว ชินอ๋ องหยิบหมัน่ โถวและนํ้าดื่มออกมา ชวนข้ากินอาหารเช้าอย่างสบายใจ


กินเสร็ จแล้วเขาจึงเอ่ยกับข้า

“พักผ่อนให้สบายใจเถิด คืนนี้พวกเราค่อยออกเดินทาง”

“แต่วา่ ..พวกเราหยุดพักอยูท่ ี่เดิมแบบนี้จะดีหรื อเพคะ หากว่าพวกนั้นย้อนกลับมา..”

“อย่ากังวลไปเลย ไม่วา่ ผูใ้ ดก็คงนึกไม่ถึงว่าพวกเราไม่ได้ติดตามกองอารักขาขององครักษ์ไป ย่อมไม่มีใครเชื่อ


ว่าพวกเราจะแยกตัวออกมาตามลําพังสองคนทั้งๆ ที่มีคนปองร้ายหมายชีวติ ศัตรู ยอ่ มจะติดตามเฉิ นซี ไปหมด
จวบจนพวกเขาโจมตีขบวนรถม้านัน่ แหละจึงจะค่อยรู ้ความจริ ง หากพวกเขาย้อนกลับมา ย่อมคาดไม่ถึงว่าพวก
เราจะยังอยูท่ ี่เดิม ฉะนั้นยามนี้ เราอยูอ่ ย่างสงบ ไม่ตอ้ งเคลื่อนไหว นับเป็ นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุด”

ข้าฟังแผนการของชินอ๋ องแล้วได้แต่พยักหน้า ไม่อาจปฏิเสธเหตุผลที่เขายกขึ้นมาอ้าง แม้ในใจจะเป็ นกังวลอยู่


บ้างเมื่อคิดว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาหาพวกเราที่นี่ ชินอ๋ องเห็นสี หน้าข้าก็อธิ บายต่อ

“วิธีการที่ศตั รู นึกไม่ถึง ย่อมเป็ นวิธีการที่หลอกลวงศัตรู ได้ดีที่สุด ที่ที่อนั ตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด เจ้าไม่


เคยได้ยนิ หรื อ”

แม้ขา้ จะเคยได้ยนิ คํากล่าวนั้นแต่ใจข้าก็ยงั ไม่กล้าพอ ข้ามองเขาอย่างพิจารณา อย่างนี้ นี่เอง ชินอ๋ องจึงลวงศัตรู


ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขานับเป็ นผูท้ ี่เข้าถึงจิตใจของมนุษย์ได้ถ่องแท้เหลือเกิน เขามองเห็นถึงความคิดอ่าน กิเลส

368
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตัณหา และความหวาดกลัวของมนุษย์ได้ชดั แจ้งราวกับอ่านฝ่ ามือของตนเอง ทั้งยังวางแผนการดักไว้รอบด้าน
ข้าคลายความกังวลใจลง ล้มตัวลงนอนไม่ไกลจากร่ างเขาที่ยงั คงนัง่ ขัดสมาธิ มือวางไว้บนเข่าเหมือนกําลังเดิน
ลมปราณ เขาเอื้อมมือมาดึงข้าไปนอนหนุกตักอีกครา ข้าไม่ได้คดั ค้าน เพียงขยับตัวให้อยูใ่ นท่าที่สบายแล้ว
นอนหลับไป

ข้าตื่นขึ้นมาอีกครั้งในยามบ่าย นอนเต็มอิ่มจนไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิ ด เห็นชินอ๋ องยังคงนัง่ หลังตรงอยูท่ ี่เดิม


ตลอดเวลา อดนึกสงสัยไม่ได้วา่ ร่ างกายเขาประกอบไปด้วยเลือดเนื้อหรื อหล่อขึ้นมาจากเหล็กกล้า จึงได้
ทนทานแข็งแกร่ งเช่นนี้

ข้าลุกขึ้นมาดึงแขนเขาให้เอนกายลงนอน พลางเขยิบเข้าไปใกล้ให้เขาหนุนตัก ชินอ๋ องล้มตัวลงอย่างว่าง่าย


พลางเงยหน้าขึ้นจ้องมองข้าตาเป็ นประกาย ข้ารู ้สึกสะเทิ้นอายจนต้องเมินหลบ เขาเพียงหลับตาลง รอยยิม้
ปรากฏขึ้นที่มุมปาก แม้เขาจะหลับไปพักใหญ่แล้ว ใบหน้าของข้าก็ยงั คงร้อนผ่าวไม่หาย ข้าจ้องมองใบหน้าเขา
ที่กาํ ลังหลับใหลอย่างเป็ นสุ ข คิ้วเข้มพาดเฉี ยง ดวงตาคมทรงอํานาจที่บดั นี้ปิดสนิท ขนตาของเขายาวงอนไม่
แพ้อิสตรี ริ มฝี ปากหยัก ประดับด้วยรอยยิม้ มุมปากตลอดเวลาทําให้เขาดูลึกลับยากจะคาดเดา ทุกองค์ประกอบ
บนใบหน้า ยามรวมเข้ากับโครงหน้าห้าวหาญคมสันกลับเป็ นส่ วนผสมที่ลงตัว เปี่ ยมเสน่ห์จนยากจะละสายตา

ลมหายใจของเขาสมํ่าเสมอ ข้าอดทนต่อความเมื่อยขบ ไม่กล้าขยับกายด้วยเกรงว่าเขาจะตื่น เวลาผ่านไปราว


หนึ่งชัว่ ยาม สายลมเย็นสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิแผ่วพลิ้วมา พัดเอาใบไม้แห้งปลิวตกลงมาบนใบหน้าที่งดงาม
ราวกับเทพเซี ยนนั้น ข้าใช้ปลายนิ้วหยิบออกอย่างแผ่วเบา อดไม่ได้ที่จะเกลี่ยปอยผมที่ปรกลงมาบนหน้าผาก ดู
เขาหลับลึกจนไม่รู้สึกตัว สองสามวันมานี้ ต้ งั แต่ขา้ หายตัวไป เขาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย ข้าก้มลงจุมพิตเขา
เบาๆ ที่แก้มและเปลือกตาอย่างรักใคร่ ทันใดนั้นมือแข็งแรงก็เอื้อมมาจับใบหน้าข้าให้โน้มลงไปสัมผัสกับริ ม
ฝี ปากเขา

เขาจูบข้าอย่างอ่อนหวาน เรี ยกร้องให้ขา้ ยอมตามใจ เนิ่นนานจนเราต่างร้อนรุ่ มไปทั้งกาย แต่ขา้ ยังไม่ใจกล้าถึง


ขั้นที่จะร่ วมอภิรมย์กบั เขากลางป่ าเช่นนี้ ข้าเบือนหน้าหนี จมูกโด่งของเขาไล้ไปตามผิวแก้มยามพูดงึมงําหยอก
เย้า

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าใจร้ายกับเปิ่ นหวางเหลือเกิน”

ข้าดึงมือเขาที่เกาะกุมใบหน้าข้าออก ยันกายขึ้นนัง่ หลังตรงตามเดิม

369
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านอ๋ อง เรากําลังหลบหนีศตั รู อยูน่ ะเพคะ!”

เขาลุกขึ้นมาดึงข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน แล้วพาล้มตัวลงนอนไปด้วยกัน

“จะกังวลไปไย เจ้าไม่เชื่อใจแผนการของเปิ่ นหวางหรื อ”

ข้าซุกใบหน้าเข้ากับอกเขา กลิ่นคาวเลือดที่ติดตามเสื้ อผ้าจางลงไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงคราบเกรอะกรัง กระนั้นข้าก็


ไม่ได้นึกรังเกียจ อากาศอบอุ่นในยามบ่ายชวนให้เราสองคนกอดกันหลับไปอย่างเกียจคร้าน พอแสงตะวันใกล้
ลับขอบฟ้า ชินอ๋ องลุกขึ้นยืนอย่างกระปรี้ กระเปร่ า จูงม้าพลางชักชวนข้าให้ออกเดินทาง

เราสองคนออกจากป่ ายามโพล้เพล้ เส้นทางที่พวกเรามุ่งหน้าไปว่างเปล่าไร้ผคู ้ น มีเพียงเสี ยงกีบม้าก้องไปใน


ความเงียบ ยามนี้เป็ นกลางฤดูใบไม้ผลิ อากาศจึงไม่หนาวเย็นนัก ไม่เช่นนั้นการเดินทางในยามราตรี ยอ่ มเป็ น
อุปสรรค ชินอ๋ องมีท่าทางผ่อนคลาย ไม่ได้ดูระมัดระวังเช่นที่ผา่ นมา เขามัน่ ใจได้อย่างไรว่าระหว่างทางจะไม่มี
คนของเว่ยหงอิ่นดักรอ ข้ายังคงนึกสงสัยทว่าไม่ได้เอ่ยถามอีก เพราะรู ้วา่ คําตอบของเขาคงจะเป็ นเหมือนเดิม
ความมืดเริ่ มโรยตัว แสงสลัวรอบกายของเราถูกแทนที่ดว้ ยม่านหมอกสี ดาํ แห่งรัตติกาล ข้ามองไม่เห็นสิ่ งใด
รู ้สึกวังเวงใจเหลือจะกล่าว ยามนั้นชินอ๋ องเอ่ยกับข้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นํ้าเสี ยงทุม้ ของเขาปลุกปลอบให้ขา้
อุ่นใจ

"อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่เคยคิดใช้เจ้าเป็ นเหยือ่ ล่อใต้เท้าจาง"

"เรื่ องนั้นอวี้เอ๋ อร์ทราบแล้วเพคะ" ข้าตอบ แต่เขาคงยังไม่วางใจว่าข้าจะเชื่อเขาจริ งๆ จึงรี บอธิบายต่อ

“เปิ่ นหวางไม่รู้วา่ มารดาของอวี้เอ๋ อร์จะออกเดินทางในวันนั้น เปิ่ นหวางเคยอนุญาตท่านแม่ให้ไปไหนมาไหน


ได้โดยสะดวก ไม่ตอ้ งขออนุญาตหรื อรายงานขึ้นมา นึกไม่ถึง จะไปเข้าทางแผนการร้ายของจางอี้หมิง วันนั้น
เปิ่ นหวางออกจากวังไป หมายจะใช้ตวั เองเป็ นเหยือ่ ล่อ กลับเป็ นการเปิ ดโอกาสให้จางอี้หมิงเข้าถึงตัวเจ้าสอง
คนแม่ลูกอย่างน่าเจ็บใจ”

“บางครั้งเรื่ องราวหรื อแผนการที่วางไว้ดีแล้วก็อาจไม่เป็ นไปตามที่กาํ หนด เคยมีผกู ้ ล่าวไว้มิใช่หรื อเพคะ


แผนการอยูท่ ี่คน สําเร็ จอยูท่ ี่ฟ้า ท่านอ๋ องอย่าได้คิดมากไปเลย”

370
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าอ้างคํากล่าวจากตอนหนึ่งของบทประพันธ์สามก๊กที่เคยอ่านเมื่อชาติก่อน ขงเบ้งวางแผนหลอกล่อสุ มาอี้มา
ติดกับในหุบเขา หมายจะเผาให้วอดวายทั้งกองทัพ แต่ฝนกลับตกลงมา ทําให้สุมาอี้รอดตายหวุดหวิด

“อืม.. แผนการอยูท่ ี่คน สําเร็ จอยูท่ ี่ฟ้า.. วาจานี้กล่าวได้จบั ใจนัก นับว่าเข้าใจถึงสัจธรรมอันได้แก่ความไม่


แน่นอนของโลกใบนี้ อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างเป็ นสตรี ที่หลักแหลมนัก”

“อวี้เอ๋ อร์ ไม่ได้เป็ นคนกล่าวเองเสี ยหน่อยเพคะ เพียงจําคําผูอ้ ื่นมาพูด” ข้ากล่าวแก้ รู ้สึกละอายหากแอบอ้างคํา


กล่าวของผูอ้ ื่นมาเป็ นของตน กระนั้นคําชมของชินอ๋ องก็ทาํ ให้ขา้ หัวใจพองโต

เราพูดคุยกันไปตลอดเส้นทางอันอ้างว้างโดดเดี่ยว ปล่อยให้มา้ ประจําตัวของชินอ๋ องนําทางไป มันเป็ นม้าพันธุ์


ดีฝีเท้าจัด อีกทั้งยังเฉลียวฉลาดแสนรู ้ เขาแทบไม่ตอ้ งคอยบังคับม้า บางคราวมันก็วงิ่ บางคราวมันก็เดิน มันรู ้วา่
ชินอ๋ องกําลังมุ่งหน้าไปที่ใด เส้นทางทอดยาวเบื้องหน้าเห็นเป็ นสี อ่อนรางๆ ในความมืด เบื้องหน้าเราสองจะมี
ชะตากรรมใดรออยูก่ ส็ ุ ดจะรู ้ ข้ามองขึ้นไปบนฟ้า ดวงดาวดารดาษงดงามราวกับภาพฝัน ใจของข้ารู ้สึกเบิกบาน
ในราตรี อนั มืดมิดนี้ ข้ากับเขาเป็ นเพียงมนุษย์ตวั จ้อยอยูภ่ ายใต้จกั รวาลอันกว้างใหญ่ ข้าเอนกายซบอกเขา ฟัง
เสี ยงเต้นของหัวใจ ชินอ๋ องโอบกระชับข้าไว้ในอ้อมแขนอุ่น

371
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 53 : อดีตทีห่ วนกลับมา

ภายในเวลาสองวันเราก็ล่วงเข้าสู่ ชายขอบเมืองหลวง แม้วา่ การเดินทางด้วยเส้นทางสายรองจะเสี่ ยงต่อโจรผูร้ ้าย


แต่ระหว่างที่เราเดินทางก็หาได้ประสบเหตุเภทภัยใดไม่ เป็ นดังที่ชินอ๋ องคาดการณ์ ศัตรู ต่างก็นึกไม่ถึงว่าพวก
เราจะแยกตัวจากขบวนหลัก เลือกเส้นทางที่อนั ตราย ทั้งยังเดินทางในช่วงเวลากลางคืนที่มืดมิด แม้แต่โจรผูร้ ้าย
ก็คงไม่มีใครคิดดักปล้นทั้งในเวลาและสถานที่เช่นนี้ ก็จะมีผใู ้ ดใจกล้าราวกับกินดีหมีหวั ใจเสื อได้เท่าชินอ๋ อง
กันเล่า ในยามราตรี ผทู ้ ี่จะกล้าออกมาเพ่นพ่านเห็นจะมีแต่สัตว์ร้ายและภูติผกี ระมัง

ระหว่างทางนั้น ชินอ๋ องเล่าเรื่ องราวต่างๆ ของเขาให้ขา้ ฟัง ทั้งชีวติ วัยเด็กในวังหลวง การฝึ กฝนที่หนักหน่วง
ยามเขาเจริ ญวัย การผจญภัยยามเขาเติบใหญ่ ศึกสําคัญที่เขาผ่านพ้น สถานการณ์ที่เกือบทําให้เขาจนแต้มหลาย
ต่อหลายครั้ง ข้าฟังอย่างเพลิดเพลิน อันที่จริ งแล้วเขาไม่ใช่ชินอ๋ องผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างที่ใครหลายคนนึกฝันให้เขา
เป็ น เขาเป็ นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีดา้ นอ่อนแอ ผิดพลาดได้ มีความขัดแย้งในจิตใจเหมือนกับคน
ทัว่ ไป เขาเพียงแค่เรี ยนรู ้ผา่ นประสบการณ์อนั โชกโชนทั้งในรั้วและนอกรั้ววัง

เขาเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่จะมาช่วยเหลือข้าจากใต้เท้าจาง ยามนั้นนํ้าเสี ยงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดหวัน่

“ตอนนั้นเปิ่ นหวางรู ้วา่ เสนาบดีจางจงใจเผยร่ องรอยแหล่งกบดาน นึกว่าเขามุ่งเอาชีวิตเปิ่ นหวาง จึงตั้งใจซ้อน


แผนเขา เอาตัวเองเป็ นเหยือ่ ล่อ ยามไปถึงที่หมาย กลับไม่พบผูใ้ ดเลย เปิ่ นหวางนึกเอะใจจึงรี บกลับมาที่วงั
องครักษ์ที่เจ้าสั่งให้กลับมาแจ้งข่าวพบกับเปิ่ นหวางที่หน้าประตู เปิ่ นหวางรี บติดตามพวกเขาไปยังจุดเกิดเหตุ
พวกเราแกะรอยไปจนถึงบ้านหลังแรก จากนั้นร่ องรอยของเจ้าก็หายไป รถม้าที่ออกจากบ้านหลังนั้นวิง่ แยก
ออกเป็ นห้าเส้นทาง ไม่อาจติดตามได้ ขณะที่พวกเรากําลังมืดแปดด้าน องครักษ์ที่ลอบสะกดรอยตามเจ้าไปก็
กลับมารายงาน เขาคลาดกับเจ้ายามเปลี่ยนรถม้าครั้งที่สาม เขาตําหนิตวั เองอย่างมาก เปิ่ นหวางจึงได้แต่
ปลอบใจ เสนาบดีจางวางแผนไว้เป็ นอย่างดี ไม่วา่ ใครก็ยากจะสะกดรอยได้สาํ เร็ จ”

“ข้าเองก็ไม่มนั่ ใจว่าเขาจะตามมาถูกหรื อไม่ โชคดีเหลือเกินที่ท่านอ๋ องเปี่ ยมด้วยสติปัญญา ติดตามมาช่วยข้าได้


สําเร็ จ ว่าแต่ท่านอ๋ องทราบหรื อไม่ เหตุใดใต้เท้าจางจึงแยกมารดาข้าไปไว้อีกที่หนึ่ ง”

“เขาแยกตัวประกันเพื่อลดความเสี่ ยงหากมีการบุกชิงตัว อีกทั้งเปิ ดโอกาสให้อีกคนหนึ่งรอดหากถูกโจมตี เขา


คงไม่ตอ้ งการให้ตระกูลจางต้องสู ญสิ้ น เสนาบดีจางร้ายกาจสมกับเป็ นจิ้งจอกเฒ่า เขาเลือกพาเจ้าขึ้นเหนือไป
หาเว่ยหงอิ่น คงตั้งใจจะให้บุตรชายของเขาหลบหนีไปที่อื่น เขาเองคงไม่ได้วางใจเว่ยหงอิ่นนัก ยามนั้นเปิ่ น

372
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
หวางรู ้สึกสิ้ นหวังเป็ นที่สุด แค้นใจตัวเองเหลือเกินที่ไม่อาจปกป้องเจ้าไว้ได้ แผ่นดินกว้างใหญ่ ยากจะบอกได้
ว่าเขาใช้เส้นทางใด เกรงว่าหากเนิ่นช้าหลายวัน เจ้าจะเป็ นอันตราย โชคดีที่คนของเปิ่ นหวางได้ร่องรอยของจาง
อี้หวั เปิ่ นหวางจึงนํากําลังไปล้อมจับเขาไว้”

“แล้วเหตุใดท่านอ๋ องจึงต้องแสร้งทําเป็ นหลงกลเขาด้วยเล่าเพคะ เหตุใดไม่บีบบังคับให้เขาบอกที่ซ่อนของใต้


เท้าจางเล่า” ข้าถามอย่างสงสัย ไม่มีเหตุผลใดที่ชินอ๋ องต้องเจ็บตัวยอมตนเป็ นเชลยของจางอี้หวั

“เรื่ องใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้า เปิ่ นหวางไม่อาจเสี่ ยง อวี้เอ๋ อร์ หากจางอี้หวั ตัดสิ นใจปลิดชีพตนเอง เบาะแสเดียวที่
จะนําเปิ่ นหวางไปหาเจ้าได้ยอ่ มหมดไป มิสู้เปิ่ นหวางแสร้งทําเป็ นยอมแพ้ ส่ งตัวเองเข้าไปแลกกับตัวประกัน
ตอนนั้นจางอี้หวั มัวแต่ดีใจที่หลอกเปิ่ นหวางได้สาํ เร็ จ จึงไม่ทนั ได้คิดว่าเรื่ องราวทุกอย่างง่ายดายเกินไป”

ข้านึกถึงยามที่ชินอ๋ องถูกพันธนาการมาพบใต้เท้าจาง เขาบาดเจ็บมาไม่นอ้ ย จางอี้หวั คงใช้เขาเป็ นที่ระบาย


ความแค้น นึกย้อนกลับไปแล้ว ข้าอดรู ้สึกใจหายไม่ได้ ชินอ๋ องทําอะไรเสี่ ยงเหลือเกิน หากจางอี้หวั ลุแก่โทสะ
ทําอันตรายเขาถึงแก่ชีวติ เล่า จะทําอย่างไร ชีวิตอันไร้ค่าของข้าย่อมไม่อาจเทียบได้กบั ชินอ๋ องผูเ้ ป็ นดัง่ ปราการ
ของแว่นแคว้น

“ท่านอ๋ องไม่ควรเสี่ ยงชีวิตตัวเองเพื่ออวี้เอ๋ อร์เลย” ข้าเอ่ยเสี ยงเบา

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางไม่อาจสู ญเสี ยเจ้า หากไม่มีเจ้า ชีวิตของเปิ่ นหวางก็ไร้ความหมาย” เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงหนัก
แน่นจริ งจัง ข้าได้ฟังแล้วรู ้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“แล้วท่านแม่เล่าเพคะ” ข้ารู ้ต้ งั แต่แรกแล้วว่าเขาช่วยแม่ไว้ได้ แต่กย็ งั อยากถามถึงรายละเอียดในตอนนั้นด้วย


ความอยากรู ้

“จางอี้หวั หลอกว่าหากเปิ่ นหวางยอมเป็ นเชลยของเขา เขาจะปล่อยตัวเจ้าและมารดา เปิ่ นหวางเพียงเล่นไปตาม


นํ้า เขาจับตัวเปิ่ นหวางไว้แต่ไม่ได้ปล่อยคนตามที่สัญญา ทางหนึ่ งจางอี้หวั ใช้เปิ่ นหวางเป็ นตัวประกันฝ่ าวงล้อม
ของทหารออกมา อีกทางหนึ่งคนสนิทของเขาใช้มารดาเจ้าเป็ นตัวประกันแล้วหลบหนีไป เรื่ องราวต่อจากนี้ เจ้า
ล้วนได้ยนิ จากเสนาบดีจางแล้ว”

ชินอ๋ องลดเสี ยงลงยามเอ่ยประโยคถัดมากับข้า “ตอนอวี้เอ๋ อร์บอกใต้เท้าจางว่าหมดรักเปิ่ นหวางแล้ว เปิ่ นหวาง


ยังสะเทือนใจไม่หาย อยากได้ยนิ คําบอกรักจากเจ้าให้ชุ่มชื่นหัวใจสักหน่อยได้หรื อไม่”

373
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เรื่ องแบบนี้ไม่มีผใู ้ ดเอ่ยปากกันหรอกเพคะ” ข้าแย้งเสี ยงเบา ใบหน้าร้อนผ่าว ชินอ๋ องไม่ได้เซ้าซี้ ขา้ อีก

ยามนั้นเป็ นเวลากลางดึกราวยามอิ๋น (3.00-5.00 น.) ข้านอนกลางวันเต็มอิ่มแล้ว ถึงแม้จะเดินทางตลอดทั้งคืนก็


ไม่ง่วงเลยสักนิด เส้นทางที่เรามุ่งหน้าไปเริ่ มคุน้ ตาข้าขึ้นมาทีละน้อย จุดหมายอีกไม่ไกลแล้ว หากรี บเร่ ง
เดินทาง พวกเราอาจจะบรรลุถึงวังเสิ่ นหยางกงได้ก่อนรุ่ งเช้า ทว่าชินอ๋ องกลับไม่ได้ไปตามเส้นทางหลัก เขา
เลี้ยวเข้าทางแยกซึ่ งตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ข้าเผลอกุมแขนเขาไว้แน่นยามเขาควบม้าลอดซุม้ ประตูที่ปาก
ทางเข้า

“ท่านอ๋ อง! ท่านจะพาอวี้เอ๋ อร์ไปที่ใด” ข้าเอ่ยถามอย่างตกใจ

“ข้ามีบางสิ่ งอยากให้เจ้าได้เห็น” เขาตอบนํ้าเสี ยงสงบราบเรี ยบ

เล็บของข้าจิกลงบนแขนเขาโดยไม่รู้ตวั

“ไม่! ท่านอ๋ อง ได้โปรดพาอวี้เอ๋ อร์กลับไป ยามนี้เราถูกศัตรู ไล่ล่าอยูม่ ิใช่หรื อ เหตุใดไม่รีบกลับวังเสิ่ นหยางกง”


ยามนี้ขา้ นึกถึงรั้วรอบขอบชิดอันมัน่ คงปลอดภัยของวังเสิ่ นหยางกง ที่ซ่ ึ งข้าสามารถใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ หลีก
หนีจากปั ญหาทั้งมวล

“อวี้เอ๋ อร์ จากนี่ไปถึงวังเสิ่ นหยางกงอีกไกลนัก เปิ่ นหวางไม่รู้วา่ หนทางข้างหน้าเราจะต้องพบเจอกับสิ่ งใด เรา


จะมีชีวิตรอดหรื อไม่ เปิ่ นหวางมีบางสิ่ งอยากให้เจ้าได้รับรู ้ หากแม้เปิ่ นหวางจะต้องตาย ก็ไม่มีสิ่งใดติดค้างใน
ใจอีก”

ข้าสั่นเทิ้มไปทั้งกาย เส้นทางที่เขาพาข้ามาคือปากทางเข้าวัดกว่างจี๋ซื่อ พวกเราควบม้าเข้ามาในเขตวัด ผ่านหมู่


ตึกสงฆ์ หอระฆัง หอคัมภีร์ สถานที่เหล่านี้ ลว้ นมีเงาของเจิ้งอู่และซี ยนิ ในอดีตชาติ นํ้าตาข้าเอ่อขึ้นมากลบตา
ข้าเห็นเพียงภาพทิวทัศน์ที่พร่ าเลือนในความมืด แทบจะทุกตารางนิ้วในที่แห่งนี้ลว้ นเต็มไปด้วยความทรงจําอัน
แสนสุ ข ภาพความรักอันสวยงามกําลังทําร้ายข้า จุดจบของซี ยนิ เป็ นอย่างไร ความรักของคนทั้งสองลงเอย
อย่างไร ข้ารู ้ดีมิใช่หรื อ

374
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
..ข้าพยายามลืม พยายามฝังกลบอดีตอันแสนเจ็บปวดเหล่านั้นเพื่อเริ่ มต้นใหม่กบั ชินอ๋ อง เหตุใดเขาจึงพาข้า
กลับมาที่นี่อีก!

พอผ่านเข้ามาในเขตวัดได้ไม่เท่าไหร่ เสี ยงฝี เท้าม้าก็แว่วมาให้ได้ยนิ มาแต่ไกล ไม่ใช่แค่คนหรื อสองคน แต่เป็ น


ทั้งขบวน!

..มีคนตามพวกเรามาอย่างนั้นหรื อ!

นอกเหนือจากความเจ็บปวดที่บีบคั้นในหัวใจจนแน่นหน้าอก ยามนี้ขา้ ถูกแทรกด้วยความรู ้สึกตื่นตระหนก คน


ที่ติดตามมาใช่คนของเว่ยหงอิ่นหรื อไม่..

“ท่านอ๋ อง..” ข้ากระซิ บเสี ยงเบาทั้งนํ้าตา เขาเพียงจุปากให้ขา้ เงียบ เขาคงรู ้ตวั ว่ามีคนติดตามมาพักใหญ่แล้ว จึง
พาข้าหลบเข้ามาในนี้ ไม่วา่ จะโดยจงใจหรื อไม่กต็ าม ข้าก็ไม่อาจขัดขืนได้เสี ยแล้ว

ข้าไม่ได้คดั ค้านเขาอีกว่าเขาจะพาข้าไปที่ใด ขอเพียงเราสองคนรอดพ้นจากอันตรายเฉพาะหน้าไปก่อน

ในบริ เวณวัดอันมืดมิด ข้าพยายามต้านความทรงจําที่ไหลบ่าเข้ามาราวกับกระแสนํ้าหลาก ความสัมพันธ์ลบั ๆ


ระหว่างเจิ้งอู่และซี ยนิ ล้วนแล้วแต่บ่มเพาะจากสถานที่แห่งนี้ แม้จะผ่านไปกี่ชาติ บาดแผลที่มองไม่เห็นก็ยงั ไม่
อาจเยียวยา กระทบถูกเมื่อใดก็เจ็บปวดใจสุ ดจะทานทน ข้าขอไม่จดจําได้หรื อไม่ ข้าพยายามเหลือเกินที่จะลืม
ว่าชินอ๋ องคือเจิ้งอู่คนที่ทาํ ร้ายซี ยนิ จนไม่อาจทนมีชีวิตอยู่ ข้าพยายามตัดความเชื่อมโยงระหว่างบุรุษทั้งสอง แต่
ชินอ๋ องกลับพาข้ามายังที่แห่งนี้ มาเผชิญหน้ากับอดีตอันโหดร้ายอีกครั้ง เขาทําไปเพื่ออะไร ข้าไม่อาจหา
คําตอบให้ตวั เองได้

ข้าไม่พร้อม.. ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับอดีต มันเจ็บปวดเกินไป.. ข้ารํ่าร้องอยูใ่ นใจ

บรรยากาศเริ่ มเคร่ งเครี ยด ชินอ๋ องไม่เอ่ยสิ่ งใดอีก เขากระตุน้ ม้าให้วงิ่ เร็ วขึ้น ครั้นพบสุ มทุมพุม่ ไม้ ก็ชกั ม้าเข้า
ไปผูกไว้ มันยืนสงบนิ่งในพุม่ ไม้ใบบังราวกับเข้าใจสถานการณ์ ชินอ๋ องอุม้ ข้าลงพาเดินเท้าขึ้นไปบนเขา

เสี ยงฝี เท้าม้าที่ติดตามมา วนยํา่ อยูร่ อบๆ ตีนเขา ดึกป่ านนี้หากไม่ใช่ผปู ้ องร้าย คงไม่มีใครมีกะจิตกะใจติดตาม
เราสองคนมาถึงในนี้ ครั้นไร้ซ่ ึ งเสี ยงกีบม้า พวกเขาคงไม่รู้วา่ จะติดตามข้าและชินอ๋ องไปทางไหน ชินอ๋ องกุม
มือข้าไว้แน่น ข้ารู ้สึกได้ถึงความแน่วแน่ในทุกฝี ก้าวยามเขาเยื้องย่าง เราเดินกันไปเงียบๆ ชินอ๋ องไม่ได้มีท่าที

375
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เร่ งร้อน เขาหยุดเมื่อเบื้องหน้าปรากฏเนินดิน มีตน้ ไม้รกครึ้ มขึ้นอยูร่ ายรอบ ชินอ๋ องอ้อมไปด้านหลัง ตรงเข้าไป
แหวกวัชพืชที่ข้ ึนปกคลุมหนาแน่น ข้าจึงได้เห็นว่าแท้จริ งแล้วมีประตูหินบานหนึ่งถูกซ่อนอยู่ เขารวบรวมพลัง
จนสั่นสะท้านไปทัว่ ร่ างเพื่อเลื่อนประตูบานนั้นออก ท่าทางจะหนักมิใช่นอ้ ย หากมิใช่เปิ ดออกด้วยกําลังภายใน
คงต้องใช้ชายฉกรรจ์จาํ นวนมาก

ชินอ๋ องดูคุน้ เคยกับสถานที่แห่งนี้เป็ นอย่างดี เขาก้าวเข้าไปในอุโมงค์น้ นั มันทั้งมืดทั้งแคบราวกับหลุมศพ ข้า


ไม่กล้าก้าวตามเข้าไป ได้แต่ยนื รออยูข่ า้ งนอก เสี ยงหิ นจุดไฟดังมาจากข้างใน เพียงไม่นานแสงสว่างก็สาดส่ อง
ออกมาจากในโพรงนั้น

“เข้ามาเถิดอวี้เอ๋ อร์ ในนี้ ไม่มีอนั ตราย คนภายนอกไม่มีทางค้นหาเราพบ” เขาบอกข้า นํ้าเสี ยงและสี หน้าดูเยือก
เย็นกว่าปกติ

ข้าสาวเท้าเข้าไปอย่างลังเล อุโมงค์น้ ีทอดลึกลงไปใต้ดิน ดูจากภายนอกย่อมไม่อาจรู ้ได้วา่ มีสถานที่เช่นนี้แอบ


ซ่อนอยู่ ยามนี้ขา้ ไม่รู้วา่ กลัวผูร้ ้ายหรื อถํ้าคับแคบแห่งนี้มากกว่ากัน เขาเดินมาเลื่อนประตูปิด เสี ยงประตูหินครื ด
คราดที่เลื่อนปิ ดสนิทลงทําให้ขา้ รู ้สึกใจคอไม่ดี ราวกับว่าจะถูกกักขังอยูใ่ นนี้ตลอดกาล หากไม่มีชินอ๋ องอยูด่ ว้ ย
ยามนี้ขา้ คงคลุม้ คลัง่ ด้วยความหวาดกลัวไม่ต่างกับคนเสี ยสติ

จะไม่ให้ขา้ กลัวได้อย่างไร ยามที่ขา้ กวาดสายตามองไปรอบๆ ข้าเห็นป้ายวิญญาณตั้งอยูโ่ ดดเดี่ยวบนโต๊ะ ฝุ่ นจับ


หนาจนมองไม่เห็นชื่อที่เขียนอยูบ่ นนั้น ใกล้ๆ กันมีเชิงเทียนและกระถางธูป แสงเทียนวูบไหวราวกับว่าข้า
กําลังฝันไป สิ่ งที่ต้ งั อยูเ่ บื้องหน้ามิใช่โลงศพหรื อ! ข้าเบิกตาค้าง ไม่อาจก้าวขาออกเดิน เพิ่งตระหนักว่าพวกเรา
อยูใ่ นสุ สาน ชินอ๋ องหยิบป้ายวิญญาณนั้นขึ้นมาเช็ดกับแขนเสื้ ออย่างถนอมแล้ววางไว้บนโต๊ะตามเดิม ข้าไม่
อาจคาดเดาว่าคนในสุ สานเป็ นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับเขา เหตุใดเขาจึงดูคุน้ เคยนัก หากเป็ นพระญาติ มิใช่ลว้ น
แล้วแต่ถูกฝังอยูใ่ นสุ สานกษัตริ ยห์ รื อสุ สานราชวงศ์หรอกหรื อ

เขาหันมาหาข้าโดยมีแสงเทียนสาดส่ องอยูด่ า้ นหลัง ข้าจึงไม่สามารถมองเห็นสี หน้าของเขาได้

“อวี้เอ๋ อร์มานี่เถิด เปิ่ นหวางจะให้เจ้าดูอะไร”

ครั้นเห็นข้าไม่อาจขยับกาย เขาจึงก้าวเข้ามาจูงมือ ข้าเดินตามเขาไปราวกับหุ่นไม้ ชินอ๋ องหยุดอยูท่ ี่ขา้ งโลงศพ


ค่อยๆ เลื่อนฝาโลงให้เปิ ดออก ฝาหิ นตกกระแทกพื้นเสี ยงดังกึกก้อง ไอเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทัว่ ข้าหลับตา
กลั้นเสี ยงกรี ดร้องไว้ในลําคอ ไม่กล้ามองสิ่ งที่อยูใ่ นนั้น

376
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์ ลืมตาเถิด ไม่ตอ้ งกลัว ข้าต้องการให้เจ้าได้รู้ความจริ งที่ขา้ ไม่มีโอกาสได้บอกในชาติที่แล้ว” นํ้าเสี ยง


ของเขาเศร้าเหลือเกิน เศร้าจนข้าต้องลืมตาขึ้นมองใบหน้านั้น

นํ้าตาหยดลงมาจากดวงตาคมกล้า เขาจ้องมองข้าอย่างจริ งจังเต็มไปด้วยความรู ้สึก ยามนั้นแววตาของเขาช่าง


เหมือนกับคนที่ขา้ อยากลืม

“ซี ยนิ ..” ยามเขาเอ่ยคํานี้ ราวกับม่านบางๆ ที่ก้ นั อดีตกับปัจจุบนั เอาไว้ขาดสะบั้นลง ดวงตาของข้าวูบไหวด้วย


ความรู ้สึกมากมาย ความแค้นที่ขา้ ไม่รู้ตวั ว่าแอบซ่อนอยูป่ ะทุข้ ึนมา ความรักที่ลึกซึ้ งจนไม่อาจบรรยาย ความ
เจ็บปวดสะเทือนใจที่กรี ดใจข้าเป็ นชิ้นๆ ความรู ้สึกก่อนตายของซี ยนิ กลับมาอีกครั้ง ยามนี้รุนแรงร้าวราน
จําเลยที่ทาํ ผิดต่อซี ยนิ ผูน้ ้ นั บัดนี้ยนื อยูต่ รงหน้า ซี ยนิ มีคาํ พูดมากมายที่อยากจะกล่าว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้กล่าว
ออกมา ยามนี้คาํ พูดนั้นพรั่งพรู ข้ ึนมาอยูท่ ี่ริมฝี ปาก รอเพียงข้าเปิ ดปากเท่านั้น

“เหตุใด.. เจิ้งอู่.. เหตุใดจึงทํากับข้าเช่นนั้น” ดวงตาของข้าเป็ นประกายวาววับ จับจ้องเขาอย่างรอคําตอบ

“ซี ยนิ .. ข้ารักเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว ข้าไม่เคยลืมเจ้า แต่ยามนั้น.. ยามนั้นข้าไม่อาจ..บอกความจริ ง” นํ้าเสี ยงของเขา


สั่นสะท้านราวกับคนหายใจไม่ออก

“ท่านรู ้หรื อไม่ ใจข้าเจ็บเพียงใด..” นํ้าเสี ยงของข้ารี ดเค้นจนแม้แต่ขา้ เองก็ตกใจ

“ข้ารู ้.. ข้ารู ้.. ข้าผิดไปแล้ว ซี ยนิ ..ได้โปรดยกโทษให้ขา้ ” เขาคุกเข่าลง “เป็ นเพราะข้า เจ้าจึงต้องตาย เป็ นเพราะ
ข้า..เจ้าจึงต้องเหน็บหนาวเพียงลําพังอยูใ่ นทะเลสาบนัน่ ซี ยนิ อีกกี่ชาติขา้ ก็ไม่อาจชดใช้ให้เจ้าได้หมด ซี ยนิ ..
ได้โปรด..ลงโทษข้าให้สาสมกับความเจ็บปวดที่เจ้าต้องได้รับ”

“เจิ้งอู่.. เพียงบอกข้ามา บอกความจริ งข้า เหตุใดจึงหักหลังข้า เหตุใดจึงผิดสัญญา ทิ้งให้ขา้ เฝ้ารอ ท่านไม่ได้รัก


ข้า เพียงหลอกใช้ขา้ ใช่หรื อไม่” นํ้าตาของข้าไหล นึกถึงคืนวันที่ซียนิ ขังตัวเองอยูใ่ นห้องรอฟังข่าวคราวของเจิ้ง
อู่อย่างขมขื่น วันแล้ววันเล่าที่นางรอให้เขามาหา แต่เขาก็ไม่ได้มา สายตาเย็นชาและถ้อยคําตัดรอนที่เขามอบให้
นางครั้งแล้วครั้งเล่า จิตใจอันเปราะบางของสตรี ในห้องหอที่ได้ละเมิดจารี ตของยุคสมัย ยอมทอดกายให้คนรัก
เชยชม เพียงเพื่อได้เห็นเขาจากไปกับหญิงอื่น

377
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“สิ่ งที่ขา้ ผิดต่อเจ้า ข้าไม่มีอะไรจะกล่าว ข้าหลอกเจ้า หลอกว่าไม่ได้รัก เพียงเพื่อจะให้ลวีอ่ ี่ตายใจ ยอมเป็ น
บันไดให้ขา้ ก้าวขึ้นสู่ บลั ลังค์มงั กร แต่สุดท้าย..ซี ยนิ ข้าไม่ตอ้ งการสิ่ งใดนอกจากเจ้า ยามรู ้วา่ เจ้าไม่รอข้า.. ซี ยนิ ..
ข้า..”

นํ้าตาของเขาหลัง่ ไหลจนแทบไม่อาจเอ่ยวาจา

“ยามเจ้าไม่รอข้า ข้าก็ไม่เหลือสิ่ งใด.."

378
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 54 : อีกด้ านของความจริง

น่าแปลกนัก ทั้งที่หวั ใจข้าถูกเขาทําร้าย แต่ขา้ กลับทนไม่ได้ยามเห็นเขาหลัง่ นํ้าตา ทั้งเจิ้งอู่และชินอ๋ องต่างเป็ น


บุรุษองอาจเข้มแข็ง พวกเขาเป็ นจอมทัพห้าวหาญ มิใช่คนจิตใจอ่อนแอ มีหรื อจะหลัง่ นํ้าตามากมายเพื่อสตรี
เพียงคนเดียว ข้าอยากจะเอื้อมมือไปโอบกอดเขาไว้ ปลอบประโลมเขาให้คลายจากความเศร้าโศก แต่ขา้ ยัง
ไม่ได้คาํ ตอบ เหตุใดเจิ้งอู่จึงโหดร้ายกับซี ยนิ เช่นนั้น เหตุผลของเขาคืออะไร หากไม่ได้รู้ ปมในใจข้าย่อมไม่มี
วันเลือนหาย ข้าย่อมไม่อาจยอมรับเขาได้อย่างแท้จริ ง

“ซี ยนิ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะรอไม่ไหว ยามนั้นคลื่นลมในราชสํานักรุ นแรงเหลือเกิน แคว้นเยีย่ ของเราเปรี ยบประดุจ


นาวาที่ใกล้ล่ม ตัวเจ้าเองก็ตกเป็ นเป้าของผูไ้ ม่หวังดีโดยที่ขา้ ไม่อาจทําอะไรได้เลยสักนิด ข้าเจิ้งอู่..ช่างอ่อนแอ
ไร้อาํ นาจ ยามนั้นข้าจึงได้รู้ หากไร้อาํ นาจ ข้าย่อมไม่อาจปกป้องคนที่รักไว้ได้ ข้าถูกจับตาอยูท่ ุกฝี ก้าว ไม่อาจ
เผยความคิดให้ผใู ้ ดรู ้แม้จะเป็ นคนใกล้ชิดที่สุด ซี ยนิ ยามนั้นข้าได้แต่หวังว่าเจ้าจะยังเชื่อใจข้า..เจิ้งอู่..ผูท้ าํ ลาย
หัวใจของเจ้า ข้าช่างโง่เง่าเหลือเกินใช่หรื อไม่ รู ้ท้ งั รู ้เจ้ารักข้าถึงเพียงนั้น ความเจ็บปวดเจียนตายยามเห็นข้า
เปลี่ยนไป เจ้าจะทนได้อย่างไร.. ซี ยนิ .. ยามได้ครอบครองอํานาจ ยามได้ยนื อยูเ่ หนือผูค้ นใต้หล้า เจ้าก็ไม่อยูร่ อ
ข้าเสี ยแล้ว.. ทุกสิ่ งที่ขา้ แย่งชิงมาล้วนไร้ความหมาย”

สายตาของเขาทอดมองลงไปภายในโลงศพ “ ซียนิ ..ถึงเจ้าจากไปแล้ว แต่ขา้ ไม่เคยไกลจากเจ้า เรายังคงอยู่


ด้วยกันเสมอ แม้วา่ เจ้าจะไม่เคยมีโอกาสได้รับรู ้”

ยามนั้นข้ามองตามสายตาเขาลงไป เตรี ยมใจว่าสิ่ งที่เห็นคงจะไม่น่าอภิรมย์นกั ทว่าข้ากลับต้องตกตะลึง ภายใน


โลงนั้น ปรากฏร่ างอันอ่อนเยาว์ของสองหนุ่มสาว แสงเทียนเหลืองนวลดูอบอุ่นอาบไล้ใบหน้างดงามของพวก
เขาทําให้ดูราวกับว่าพวกเขายังคงมีชีวติ เจิ้งอู่กอดเกี่ยวซี ยนิ อย่างรักใคร่ ราวกับว่าไม่วา่ ใครก็ไม่อาจแยกพวกเขา
จากกัน

ข้าซวนเซจนต้องทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง ชินอ๋ องถลันมาประคองข้าไว้ในอ้อมแขน สิ่ งที่ขา้ ได้เห็น


ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก ..พวกเขาเพียงแค่หลับไปใช่หรื อไม่ เหตุใดร่ างของพวกเขาจึงยังคงอยูท่ ี่นี่ ไม่ได้เสื่ อม
สลายไปตามกาลเวลา ตามกฏธรรมชาติ!

ข้าคิดทบทวนความทรงจําแต่หนหลัง ไม่มีทางเป็ นไปได้ เวลาผ่านไปหลายร้อยปี พวกเขาตายไปนานแล้ว


ไม่ใช่หรื อ!

379
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ซี ยนิ ..ร่ างของเจ้าถูกผนึกอยูใ่ นทะเลสาบซี ไห่ที่กลายเป็ นนํ้าแข็ง ข้าเก็บรักษาร่ างของเจ้าไว้ในโลงนํ้าแข็งพันปี


ยามสะสางราชกิจเรี ยบร้อย ข้าจึงมาอยูเ่ ป็ นเพื่อนเจ้าที่นี่ ไม่ให้เจ้าต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่กระนั้นวิญญาณเจ้า
ก็จากข้าไปไกลแสนไกลจนไม่อาจรับรู ้ความรักที่ขา้ มีต่อเจ้า”

ดวงตาของข้าทอดมองลงบนใบหน้าของเจิ้งอู่อย่างเพ่งพินิจ เขาคือเจิ้งอู่คนเดิมที่ขา้ รัก แต่ใบหน้าของเขาซูบ


ตอบอิดโรยจากครั้งสุ ดท้ายที่ขา้ ได้เห็น หลังจากข้าตายไป เขาคงทุกข์ใจไม่นอ้ ย ยามเขาล้มตัวลงนอนเคียงข้าง
ข้าในโลงนํ้าแข็ง เขาคงสิ้ นหวังจนไม่อยากมีชีวิตอยูอ่ ีกต่อไป ความรู ้สึกเช่นนี้ ช่างปวดร้าวจนเกินจะบรรยาย
เช่นนี้สินะ ผูค้ นจึงกล่าวว่า คนตายไม่ทุกข์ไม่ร้อน ส่ วนคนอยูก่ ลับเหมือนตายทั้งเป็ น

ชินอ๋ องยังคงเล่าต่อ “ยามข้าใกล้ตาย ข้ารู ้..ข้าไม่อาจปล่อยมือจากเจ้า ข้ารักเจ้าเหลือเกินซี ยนิ รักจนไม่สนใจสิ่ ง


อื่นใดทั้งสิ้ น ตอนนั้นข้าหวังเพียงได้เห็นหน้าเจ้าในปรโลก ข้าจะยอมรับผิดทุกอย่างต่อเจ้า ยอมชดใช้ให้เจ้าไม่
ว่าเจ้าจะเรี ยกร้องสิ่ งใด แต่ยามมรกาลใกล้จะมาถึง เสี ยงหนึ่งดังขึ้นในโสต บอกให้ขา้ ได้รู้วา่ เจ้าไม่ได้อยูท่ ี่นนั่
แล้ว”

ข้ายกมือขึ้นปาดนํ้าตาให้เขา ร่ างใหญ่โตของเขาสั่นเทิ้มอย่างสะเทือนอารมณ์ คิดดูแล้วช่างเป็ นฉากที่แปลก


ประหลาดเหลือเกิน เราสองคนพูดคุยถึงเรื่ องราวในชาติก่อนพลางมองดูร่างไร้วญ ิ ญาณของตัวเอง ราวกับว่า
เรื่ องราวของเจิ้งอู่และซี ยนิ เป็ นความจริ ง ส่ วนข้าและชินอ๋ องเป็ นเพียงวิญญาณ

“เจ้าตั้งใจลืมเลือนความรักของเรา ทิ้งข้าไปยังที่ไกลแสนไกลจนข้าไม่อาจตามไปถึง เสี ยงนั้นบอกข้าให้


กลับไป ดวงชะตาอันยิง่ ใหญ่รอคอยข้าอยู่ แต่หากไม่มีเจ้า..ความยิง่ ใหญ่น้ นั จะมีความหมายอะไร ทุกลมหายใจ
มีเพียงความเจ็บปวด บัลลังค์มงั กรที่ผคู ้ นต่างปรารถนากลับเป็ นสิ่ งทรมานข้า ตอกยํ้าข้าว่าเพื่อให้ได้มนั มาข้า
ต้องสู ญเสี ยสิ่ งใดไป! ข้าตัดสิ นใจทําสัญญาแลกเปลี่ยนกับเสี ยงนั้น ไม่วา่ นัน่ จะเป็ นยมทูต เทพเซี ยน หรื อมาร
ร้าย ขอเพียงเจ้ากลับมา จะต้องแลกกับสิ่ งใดข้าก็ยอม”

“แล้วท่านแลกเปลี่ยนกับสิ่ งใดหรื อ” ข้าถามเสี ยงสั่น จ้องมองเขาอย่างกังวล กลัวเหลือเกินว่าเขาจะตัดสิ นใจทํา


อะไรบ้าบิ่นลงไป

เขายิม้ “เป็ นสิ่ งเล็กน้อยเท่านั้น ข้าขอแลกกับดวงชะตาจักรพรรดิ์และอายุขยั ที่เหลืออยู่ เห็นหรื อไม่ ล้วนเป็ นสิ่ ง
ที่ขา้ ไม่ได้ปรารถนาอยูแ่ ล้วแม้เพียงสักนิด”

380
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านจึงต้องตายทั้งที่ยงั ไม่สิ้นอายุขยั อย่างนั้นหรื อ”

“ถูกต้อง” เขาตอบ

ข้านํ้าตาไหล รู ้สึกอนาถใจกับชะตากรรมของเราสอง ทั้งยังเพิ่งเข้าใจเรื่ องราวที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ นี่สินะ.. คือ


สาเหตุที่ทาํ ให้ขา้ ตาย ทั้งๆ ที่ขา้ หนีไปไกลแสนไกล ถือกําเนิดในยุคสมัยที่สตรี ไม่ได้มีค่าเพียงอุ่นเตียงและให้
กําเนิดบุตร เขาติดตามข้าไป เอาตัวข้ากลับมายังภพนี้ เพื่อให้เราสองได้อยูด่ ว้ ยกัน เพื่อให้ขา้ ได้รู้วา่ เขาไม่เคย
เปลี่ยนใจจากข้าเลย

“ให้อภัยข้าได้หรื อไม่..”

ชินอ๋ องประคองใบหน้าข้าไว้ เอาหน้าผากมาชนกับข้า เอ่ยถามด้วยนํ้าเสี ยงเว้าวอนอ่อนหวาน ข้าสบตาเขา แวว


หวานในดวงตานั้นไม่เปลี่ยนไปเลย เป็ นแววตาของเจิ้งอู่ที่เคยทอดมองข้าผูเ้ ป็ นซี ยนิ ใจของข้าอบอุ่นราวกับมี
แสงแดดยามเช้าสาดส่ องมาละลายเกล็ดหิ มะอันเหน็บหนาว รอยร้าวในใจถูกสมานราวกับไม่เคยมีมาก่อน มุม
ปากข้าคลี่แย้มออกเป็ นรอยยิม้ จางๆ ชินอ๋ องจูบเบาๆ ที่มุมปากนั้น

“ไม่วา่ จะเป็ นซี ยนิ หรื ออวี้เอ๋ อร์ หัวใจของข้าล้วนตกเป็ นของเจ้า มีเจ้าครอบครองแต่เพียงผูเ้ ดียว ไม่เคยมีใคร
อื่น” เขากระซิ บบอกข้า

“หากเจิ้งอู่ไม่เคยหักหลังข้า ก็ถือเสี ยว่าสิ่ งที่เกิดขึ้นกับเราเป็ นเพียงเคราะห์กรรม ชาติก่อนนั้นเราต่างไร้วาสนา


ข้า..ข้าอภัยให้เจิ้งอู่” ข้าเอ่ยตะกุกตะกักในตอนท้าย เพราะชินอ๋ องเอาแต่จอ้ งมองข้าด้วยสายตาวาววาม ดวงตา
คมปลาบราวกับมองทะลุเข้ามาในจิตใจจนข้านึกเขินอาย

“แล้วเสวียนเฟิ งผูน้ ้ ีเล่า อวี้เอ๋ อร์ จะอภัยให้ได้หรื อไม่”

ข้ามองค้อนเขา “หากไม่ใช่เพราะท่านเอาตัวข้ากลับมา ข้าก็คงไม่ตอ้ งพรากจากครอบครัวในโลกนั้น ต้อง


สู ญเสี ยชีวติ ดีๆ ที่เป็ นอิสระ กลายมาเป็ นเครื่ องมือของใต้เท้าจาง พัวพันในสงครามแย่งชิงอํานาจระหว่างพวก
ท่าน”

381
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ ข้าผิดไปแล้ว ชาติก่อนเจิ้งอู่ไร้อาํ นาจไม่อาจปกป้องเจ้า ชาติน้ ีขา้ เข้มแข็งแต่ไร้ซ่ ึ งความทรงจําแต่หน
หลัง อีกทั้งยังโหดร้ายต่อเจ้าจนเกือบจะเสี ยเจ้าไป อวี้เอ๋ อร์ หากเจ้ายังเชื่อใจข้า ได้โปรดมอบความรักให้ขา้
มอบชีวิตเจ้าให้ขา้ ดูแล ข้าจะทะนุถนอมเจ้าไม่ทาํ ให้เจ้าต้องเสี ยนํ้าตาอีก” เขาให้คาํ มัน่ แก่ขา้ ด้วยนํ้าเสี ยงจริ งจัง

“ท่านอ๋ อง.. อวี้เอ๋ อร์ไม่มีสิ่งใดติดค้างในใจอีกแล้วเพคะ อย่างน้อยซี ยนิ ก็ไม่ได้รักคนผิด เจิ้งอู่แม้จะทําให้นาง


เข้าใจผิดแต่ตวั เขาเองก็ทุกข์ทรมานไม่ต่างกัน อวี้เอ๋ อร์ขอจดจําเพียงความรักอันลึกซึ้ งของพวกเขา ส่ วนอดีตที่
เจ็บปวดนั้นขอให้เป็ นอุทาหรณ์ ให้พวกเราประคับประคองความรักจากนี้ไป ยามนี้เราต่างรู ้แล้วว่าความรักที่
ได้มามิใช่ง่ายดายเลย”

ชินอ๋ องกระชับอ้อมกอดแล้วจุมพิตข้า เราต่างดื่มดํ่าในความรักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันช่างเป็ นความรู ้สึกที่


ซาบซึ้ งตรึ งใจ ทว่าก่อนที่จะไปไกลกว่านั้น ข้ายันอกเขาไว้ พยักเพยิดไปทางโลงศพที่ยงั คงเปิ ดค้างอยูอ่ ย่างนั้น
พลางกล่าวอย่างเขินอาย

“พวกเรารุ กลํ้าเข้ามาในสุ สานแห่งนี้กร็ บกวนพวกเขามากพอแล้ว ขอท่านอ๋ องได้โปรดให้พวกเขาได้พกั ผ่อน


อย่างสงบต่อไปเถิด”

ชินอ๋ องได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจความหมายที่ขา้ สื่ อ เขาลุกขึ้นไปยกฝาโลงอันหนักอึ้งขึ้นมาปิ ด ข้ามองใบหน้าคนทั้ง


สองที่หลับใหลเคียงกันในโลงแคบนั้นเป็ นครั้งสุ ดท้าย ตาของข้าราวกับจะฝาดไป แวบหนึ่ งนั้นมุมปากของคน
ทั้งคู่ราวกับจะปรากฏรอยยิม้ จากนั้นแผ่นหิ นที่ค่อยๆ เลื่อนปิ ดลงก็ผนึกเรื่ องราวอันชวนรันทดใจ เก็บรักษา
ตํานานรักที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมไว้จากห้วงเวลาของโลกภายนอก

ชินอ๋ องทรุ ดตัวลงนัง่ เคียงข้างแล้วกอดข้าไว้ ยามนี้พวกเรายังออกไปไม่ได้ คนร้ายคงยังวนเวียนอยูแ่ ถวนี้ แต่ขา้


ไม่เดือดร้อนสักนิด อากาศเย็นเยียบภายในถํ้าทําให้ขา้ ต้องซุกกายเข้าหาเขา มือเย็นเฉี ยบของข้าวางลงบนแผ่
นอกกว้าง กล้ามเนื้ออกของเขากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย

“ท่านอ๋ อง?” นํ้าเสี ยงของข้าฉงน เขารี บเอ่ยกลบเกลื่อน

“ไม่มีอะไร”

ข้าเงยหน้าขึ้นสบตา คําพูดเช่นนี้ดูไม่ใช่ชินอ๋ องเลยสักนิด เขาต้องมีบางสิ่ งปิ ดบังข้าไว้แน่ ข้าเอื้อมมือไป หมาย


จะเปิ ดสาบเสื้ อเขาออก ทว่าเขากลับจับข้อมือข้าไว้ เอ่ยด้วยใบหน้าเกลื่อนรอยยิม้

382
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์คิดไม่ดีกบั เปิ่ นหวางอยูห่ รื อ”

ข้าไม่สนใจคําสัพยอกของเขา ดึงมือจนพ้นการเกาะกุม ยามที่สาบเสื้ อแหวกออก ข้าถึงกับต้องสู ดหายใจเข้าลึก


บาดแผลฉกรรจ์ปรากฏอยูแ่ ผ่นอกกว้าง เขาเพียงใช้เศษผ้าพันแผลไว้ลวกๆ เห็นได้ชดั ว่าเขาไม่ใส่ ใจเลยสักนิด
ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างขุ่นเคือง เขาบาดเจ็บถึงเพียงนี้ กลับปกปิ ดข้าไว้

“ท่านอ๋ อง! บาดแผลนี่หมายความว่าอย่างไร” ข้าถามเขาเสี ยงดุ

“ไม่มีอะไร เปิ่ นหวางเพียงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยยามต่อสู ้กบั นักฆ่าสองคนนั้น ไม่มีอะไรต้องกังวล” เขาตอบ


ด้วยท่าทางสบายๆ พร้อมรอยยิม้

“ไม่ตอ้ งกังวลอย่างนั้นหรื อ” ข้ากล่าวพลางยกกําปั้ นขึ้นมาทําท่าจะทุบลงไป เขาเกร็ งตัวขึ้นน้อยๆ ตั้งท่ารับ


กําปั้ นข้าอย่างอาจหาญ

ข้าไม่อาจหักใจทําร้ายเขาได้ เขาผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อข้าชะงักมือไว้

“ท่านอ๋ อง หากเล็กน้อยจริ ง ท่านคงไม่ปิดบัง เหตุใดไม่บอกอวี้เอ๋ อร์เสี ยแต่แรก อวี้เอ๋ อร์จะได้ทาํ แผลให้” ข้า
กล่าวพลางไล้ปลายนิ้วไปตามรอยแผล ยามนี้บาดแผลเริ่ มแห้งแล้ว ปากแผลประสานกันเป็ นสะเก็ดเลือดสี เข้ม

“อวี้เอ๋ อร์ อะไรที่เปิ่ นหวางทนได้กจ็ ะทน จะไม่ทาํ ให้อวี้เอ๋ อร์ไม่สบายใจ” เขาบอกข้าเสี ยงนุ่ม

“ท่านอ๋ องทําเช่นนี้อวี้เอ๋ อร์ไม่สบายใจยิง่ กว่า ท่านอ๋ องจงใจปิ ดบังข้า หากอวี้เอ๋ อร์ไม่คน้ พบโดยบังเอิญ มีหรื อ
คนปากแข็งอย่างท่านจะยอมบอก”

ข้าถลกเสื้ อเขาลง เผยให้เห็นช่วงลําตัวแข็งแรง ยามนี้ไม่มีขา้ วของสักอย่าง มีเพียงนํ้าดื่มและเสบียงเล็กน้อยที่นาํ


ติดตัวเข้ามา ข้าฉี กชายเสื้ อชุบนํ้าเพื่อเช็ดแผลให้เขา พอจะฉี กเพิ่มเพื่อนํามาพันแผลเขาก็หา้ มข้าไว้

“แค่น้ ีกพ็ อแล้ว อวี้เอ๋ อร์ อย่าได้ลาํ บาก”

383
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ามองเขา แววตาเต็มไปด้วยความสงสาร “ไม่เป็ นไรหรอกเพคะท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ ยงั มีชุดดําที่สวมใส่ ทบั อยู่ แม้
ชุดจะขาดไปบ้างก็ไม่เป็ นไร”

เขาพยักหน้า ปล่อยให้ขา้ จัดการกับบาดแผลไปเรื่ อยๆ ข้าทําอะไรไม่ได้มากนัก เพียงเช็ดแผลแล้วพันให้เขาใหม่


อย่างประณี ตบรรจง ชินอ๋ องมองข้าอย่างเพลิดเพลิน ริ มฝี ปากปรากฏรอยยิม้ พึงใจ

ข้าสวมเสื้ อผ้าให้เขาตามเดิมแล้วจึงนัง่ อิงแอบกัน เราได้แต่นงั่ รอเวลา ในที่สุดเปลวเทียนก็เผาผลาญจนดับมอด


ไป ทิ้งเราสองคนไว้ในความมืด แต่กเ็ ป็ นความมืดที่สุขใจ ข้ากับเขาพูดคุยกันไปเรื่ อยๆ ยามนี้เราต่างมีเวลา
มากมายเท่าที่ตอ้ งการ ชินอ๋ องจึงเล่าย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตให้ขา้ ฟั งทั้งหมดโดยละเอียด ตั้งแต่เรื่ องที่
เขาจากไปรบและได้รับบาดเจ็บ ลวีอ่ ี่รู้เรื่ องความรักที่แอบซ่อนของพวกเราได้อย่างไร ความลําบากใจที่เขาต้อง
เผชิญ สถานการณ์ในตอนนั้นบีบบังคับจนเขาหมดทางเลือก ยามนี้เมื่อได้มองเรื่ องราวผ่านมุมมองของเขา ข้า
ได้แต่นึกเห็นใจ ไม่ใช่เพียงซี ยนิ ที่ทุกข์ใจ เจิ้งอู่เองก็คงไม่ต่างกัน

เจิ้งอู่เป็ นเพียงองค์ชายธรรมดา มีเพียงรู ปกายที่งดงามและความเฉลียวฉลาดเฉี ยบแหลมที่ได้รับการถ่ายทอดมา


จากเสี ยนเฟยผูเ้ ป็ นมารดา เขาไร้ซ่ ึ งอํานาจหนุนหลัง ไร้ผสู ้ นับสนุน มีเพียงจิตใจที่หา้ วหาญและความรักที่
มัน่ คง ยามนั้นเขาคงรู ้วา่ หากไม่มีเหตุผลที่มีน้ าํ หนักมากพอ คงไม่อาจปฏิเสธการสมรสที่เสี ยนเฟยผูเ้ ป็ นมารดา
ทาบทามให้ สาเหตุที่เขาไปออกรบ ทางหนึ่งเพื่อหลีกหนีลวีอ่ ี่และอีกทางหนึ่ งเพื่อสร้างความดีความชอบดังที่
ได้เคยบอกซี ยนิ ไว้ หากเขารบชนะกลับมา การจะขอสมรสพระราชทานกับข้า มารดาของเขาย่อมไม่อาจขัดได้
แต่น่าเสี ยดายเหลือเกิน สุ ดท้ายเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะถูกดึงเข้ามาในวังวนแห่งอํานาจ

เจิ้งอู่ทาํ สําเร็ จ เขาได้เป็ นฮ่องเต้ แต่มนั กลับเป็ นชัยชนะที่วา่ งเปล่า

ข้านึกย้อนไปแล้วก็รู้สึกสงสารเขาเหลือเกิน

..เจิ้งอู่ ข้าทุกข์เพราะไม่รู้ความจริ ง ส่ วนท่านทุกข์เพราะรู ้เรื่ องราวทั้งหมด แต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่ งใด..

ข้าตายด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ไม่มีโอกาสได้ฟังคําอธิบาย ส่ วนท่านตายด้วยหัวใจที่อา้ งว้าง ต้องแบกรับ


ความรู ้สึกผิดโดยไม่มีโอกาสได้อธิบาย

เราไม่อาจกล่าวได้วา่ ผูใ้ ดทุกข์มากกว่ากัน แต่เรื่ องราวเช่นนี้ไม่วา่ ใครก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น ข้าได้แต่ต้ งั ใจจะ


ดูแลเขาให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยกับเรื่ องเลวร้ายที่ผา่ นมา

384
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าร้องไห้หรื อ” เขาเอ่ยถามในความมืด แม้ตาจะมองไม่เห็น แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจขาดห้วง


และอาการสั่นสะท้านน้อยๆ ของข้า

ข้าไม่ตอบเขา เพียงบอกกล่าวความตั้งใจของข้าเบาๆ ปลายเสี ยงสั่นสะท้าน

“ท่านอ๋ องเพคะ เราสองคนผ่านอะไรมาไม่นอ้ ย จากนี้ไปอวี้เอ๋ อร์จะรักจะดูแลท่านอ๋ องให้ดีที่สุด จะไม่ทาํ ให้


ท่านอ๋ องต้องระคายพระทัยแม้แต่นอ้ ยเพคะ”

“เจ้าไม่ตอ้ งเหนื่อยยากคอยดูแลเปิ่ นหวางหรอก ปล่อยให้เป็ นหน้าที่นางกํานัลเถิด อวี้เอ๋ อร์เพียงใช้ชีวิตให้มี


ความสุ ข ตามใจเปิ่ นหวางมากๆ รักเปิ่ นหวางมากๆก็พอ” เขาบอกข้าเสี ยงผ่อนคลาย ข้ากอดเอวเขาแน่นขึ้น
ระมัดระวังไม่ให้โดนแผลที่หน้าอก

“เพคะอวี้เอ๋ อร์จะไม่ขดั ใจท่านอ๋ อง จะทําตามทุกสิ่ งที่ท่านอ๋ องปรารถนา” ข้ารับคําเขาอย่างว่าง่าย เขากระชับ


อ้อมแขนที่กอดข้าไว้ อีกมือหนึ่ งลูบผมข้าอย่างอ่อนโยน ตอนนี้คงจะเช้าแล้ว เปลือกตาข้าเริ่ มหนักอึ้งขึ้นทุกที
ในที่สุดข้าก็หลับไป

385
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 55 : ความแค้ นของลวีอ่ ี่

ยามที่ขา้ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง รอบตัวยังคงมืดมิด ข้าได้ยนิ เพียงเสี ยงลมหายใจของตัวเองและชินอ๋ อง พอข้าขยับ


ตัว เขาก็ขยับตาม

“ตอนนี้ เป็ นยามใดแล้วเพคะ” ข้าถามเขา

“เจ้าหลับไปสองชัว่ ยามเห็นจะได้ ตอนนี้น่าจะใกล้เที่ยงแล้ว จะนอนต่ออีกหรื อไม่”

ข้าส่ ายหน้าแต่นึกขึ้นได้วา่ เขามองไม่เห็นจึงตอบ “ไม่แล้วเพคะ อวี้เอ๋ อร์ไม่ง่วงแล้ว”

“กินอะไรเสี ยหน่อยเถิด” ในความมืดนั้น ข้าได้ยนิ เสี ยงเขาควานหาข้าวของในห่อผ้า เพียงไม่นาน เขาก็สัมผัส


มือข้า ยัดหมัน่ โถวลงในมือพร้อมกับถุงหนังบรรจุน้ าํ

“ท่านอ๋ องเสวยหรื อยังเพคะ” ข้าถามเขากลับอย่างเป็ นห่วง เขายังบาดเจ็บอยู่ สมควรจะดูแลร่ างกายให้มาก

“เปิ่ นหวางเรี ยบร้อยแล้ว เจ้าจัดการของตัวเองเถิด” เขาตอบ

ข้าลงมือกัดหมัน่ โถวเย็นชืด เนื้อแป้งเริ่ มแห้งเนื่องจากโดนลม กว่าจะกลืนลงไปได้ขา้ ต้องกลืนนํ้าตาม พอข้าอิ่ม


เขาก็ดึงข้าไปกอดไว้ จมูกโด่งฝังลงบนต้นคอ ข้าหดคอหนีอย่างจักจี้ เอ็ดเขาเสี ยงเบา

“ท่านอ๋ อง.. อย่าสิ เพคะ เราอยูใ่ นสุ สานของเจิ้งอู่และซี ยนิ อยูน่ ะเพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าลืมไปแล้วหรื อ ทั้งเจิ้งอู่และซี ยนิ ก็คือพวกเราในชาติก่อน มีอะไรต้องอายกัน” เขากล่าวกลั้ว


หัวเราะก่อนจะเงียบไปชัว่ ครู่ แล้วเอ่ยเสี ยงเบา

“แต่กไ็ ม่แน่ ในโลงนั้นมีเพียงร่ างของพวกเรา หากวิญญาณชัว่ ร้ายที่วนเวียนอยูแ่ ถวนี้มาพบเข้าล่ะก็..”

คําพูดของเขาทําให้ขา้ รู ้สึกขนลุกเกรี ยวไปทั้งแขน ข้ารี บขยับเข้าใกล้เขา

386
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ท่านอ๋ องพูดอะไรก็ไม่รู้” แม้จะทําเสี ยงเอ็ดเขาแต่ปลายเสี ยงก็สั่นอย่างเห็นได้ชดั

“เจ้าเคยได้ยนิ หรื อไม่ วิญญาณที่ตายด้วยความแค้นมักจะเสาะหาร่ างมนุษย์ที่สมบูรณ์เพื่อจะ..” ข้ายกมือขึ้นปิ ด


ปากเขาก่อนที่เขาจะพูดจบ เสี ยงหัวเราะดังขึ้นในลําคอหนาแผ่วเบา เขาพยายามกลั้นหัวเราะจนร่ างสู งใหญ่สั่น
เทิ้มไปทั้งกาย ข้าอดไม่ได้ตอ้ งทุบแขนเขาด้วยความอาย

“ท่านอ๋ อง!”

“เปิ่ นหวางเพิ่งรู ้วา่ อวี้เอ๋ อร์กก็ ลัวผะ..” ข้าปิ ดปากเขาอีกคราไม่ให้พดู คํานั้นออกมา บรรยากาศเช่นนี้ไว้ใจได้เสี ย
ที่ไหนกัน ข้าไม่ใช่คนงมงายที่เชื่อในสิ่ งเหนือธรรมชาติ แต่โบราณว่าเข้าป่ าอย่าพูดถึงเสื อ เราสองคนอยูใ่ น
สุ สานแท้ๆ ใช่เวลาจะมาพูดเรื่ องภูติผีวญ ิ ญาณหรื อ

ข้าขยับกายออกมานัง่ ห่างเขาเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด รู ้วา่ เขาตั้งใจจะแกล้งข้า เขาเอ่ยทําลายความเงียบขึ้นอีกครั้ง


ในความมืดข้าไม่อาจมองเห็นสี หน้าเขา

“ในนี้ออกจะหนาวไปสักหน่อย อวี้เอ๋ อร์วา่ หรื อไม่”

ข้าไม่ตอบ แต่ยกแขนขึ้นกอดตัวเอง พอเขาพูดขึ้นมา ข้าก็ชกั เริ่ มรู ้สึกว่าอากาศรอบตัวเย็นขึ้นมาจริ งๆ

“ตอนนี้ เปิ่ นหวางหมดห่วงแล้ว เรื่ องที่อยากให้เจ้าได้รู้ เจ้าก็รู้แล้ว จากนี้ไปเปิ่ นหวางคงตายตาหลับ”

เขาพูดจบแล้วก็เงียบไป ทําเอาข้าใจไม่ดี ต้องเอ่ยเรี ยกเขาในความมืด

“ท่านอ๋ อง..อย่าเอ่ยเช่นนี้สิเพคะ”

“เราคงอยูใ่ นนี้ได้ถึงคืนนี้ เท่านั้น ไม่เช่นนั้นนํ้าและอาหารจะไม่พอ หากยิง่ รั้งอยูน่ านร่ างกายเปิ่ นหวางคงจะ


อ่อนแอเกินกว่าจะขยับประตูหินได้”

ข้าลืมความขุ่นเคืองเมื่อครู่ ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วกอดเขาไว้ “ท่านอ๋ อง อย่าเพิง่ กังวลไปเลยเพคะ พักผ่อน


เสี ยก่อนเถิด ยามอวี้เอ๋ อร์หลับไป ท่านอ๋ องได้พกั บ้างหรื อไม่”

387
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาไม่ตอบ ข้าเดาได้วา่ เขายังไม่ได้นอน จึงจัดแจงรั้งร่ างสู งให้นอนลงหนุนตักข้า ข้าอยากให้เขาได้พกั ผ่อน
เต็มที่ ไม่ตอ้ งคํานึงถึงสถานการณ์ที่รออยูภ่ ายนอก ยามที่เขาเอนกายลงนอน เขาหลุดเสี ยงครางออกมาเบาๆ
พร้อมลมหายใจหนักๆ ท่าทางจะเจ็บบาดแผลไม่นอ้ ย นอนไปได้สักพัก เขาก็เอ่ยเสี ยงเบาอย่างทดท้อใจ

“เปิ่ นหวางไม่รู้วา่ จะสามารถพาเจ้ากลับไปถึงวังเสิ่ นหยางกงได้หรื อไม่ อา..อากาศในนี้หนาวเหน็บยิง่ นัก เปิ่ น


หวางชักจะเจ็บแผลขึ้นมาอีกแล้ว”

ข้าทิ้งตัวลงโอบกอดเขาไว้อย่างเป็ นกังวลและสงสาร ชินอ๋ องไม่เคยอ่อนแอเช่นนี้ มาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคง


ทําให้เขาอ่อนล้าทั้งร่ างกายและจิตใจ

“ท่านอ๋ องอดทนไว้นะเพคะ หนาวมากหรื อไม่ ให้อวี้เอ๋ อร์กอดท่านอ๋ องไว้ดีหรื อไม่เพคะ”

เขานิ่งไปชัว่ ครู่ ก่อนเอ่ย

“อ้อมกอดของอวี้เอ๋ อร์ทาํ ให้เปิ่ นหวางสงบใจขึ้นมาก อวี้เอ๋ อร์ ยามออกไปจากที่นี่แล้ว หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ไม่


ต้องเป็ นห่วงเปิ่ นหวาง ให้ซ่อนตัวไว้ให้ดี พยายามหาทางเอาตัวรอดให้ได้ เข้าใจหรื อไม่”

“ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์จะทําอย่างนั้นได้อย่างไร ท่านอ๋ องเสี่ ยงชีวิตช่วยเหลืออวี้เอ๋ อร์มาหลายครั้ง ยามมีภยั จะให้อวี้


เอ๋ อร์ทิ้งท่านอ๋ องเพื่อเอาตัวรอดได้อย่างไร ยิง่ ยามนี้อวี้เอ๋ อร์ได้รู้เรื่ องราวแต่หนหลังสิ้ นแล้ว จะเป็ นตายอย่างไร
อวี้เอ๋ อร์กข็ ออยูเ่ คียงข้างท่านอ๋ องไม่ไปไหน”

เขาเอื้อมมือขึ้นมาลูบหลังข้าเบาๆ “ได้ยนิ อวี้เอ๋ อร์กล่าวเช่นนี้ เปิ่ นหวางมีความสุ ขเหลือเกิน”

จากนั้น เขาก็หลับไป ทิ้งข้าไว้เพียงลําพังในความมืดและความเงียบสงัด ใจของข้าพะวงอยูก่ บั อาการบาดเจ็บ


ของเขา เขาหลับไปพักใหญ่จนข้าเริ่ มรู ้สึกเป็ นกังวล ชินอ๋ องนอนนิ่งเหลือเกิน แทบไม่ขยับตัวและไม่ได้ยนิ
เสี ยงลมหายใจ ราวกับว่าเขากําลังจําศีลอยูก่ ระนั้น ข้าต้องก้มลงแนบหูกบั อกกว้างให้แน่ใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ข้านัง่ สัปหงกติดๆ กันหลายครั้ง แต่พยายามฝื นลืมตา กลัวว่าหากไม่มีใครสักคนตื่นอยู่ เราสองคนจะไม่มีใคร


ปลุกอีกฝ่ ายให้ตื่นขึ้นมาจากห้วงฝัน กลัวว่าเราสองคนจะติดอยูใ่ นนี้ตลอดไป ทว่าในที่สุดข้าก็เผลอหลับไปอีก
ครั้ง

388
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
คราวนี้ขา้ ฝันถึงเสี ยงประหลาดที่เจิ้งอู่เคยได้ยนิ ในฝันข้าเห็นตัวเองนอนอยูใ่ นชั้นนํ้าแข็งหนา โชคดีที่ยามนี้
ร่ างของข้าไร้ความรู ้สึกใดๆ ไม่เช่นนั้นคงจะถูกกัดกินด้วยความหนาวเหน็บเกินจะทนนี้

“ซี ยนิ .. น่าเสี ยดายเหลือเกิน สุ ดท้ายเจ้าก็ไม่อาจผ่านด่านเคราะห์ไปได้”

เสี ยงหนึ่งดังขึ้นในโสตโดยไม่ปรากฏตัวผูพ้ ดู

“ท่านเป็ นใคร” ข้าถามออกไปในความคิด

เสี ยงนั้นไม่ตอบข้า

“ทว่าเป็ นเช่นนี้อาจจะดีแล้วก็ได้..”

พลันในหัวข้าปรากฏภาพเหตุการณ์ข้ ึนมาเป็ นฉากๆ ข้าเห็นพิธีราชาภิเษกของเจิ้งอู่ ยามเขาขึ้นเป็ นฮ่องเต้ช่าง


สง่างามน่าเกรงขามเหลือเกิน ข้าเห็นตัวเองในร่ างซี ยนิ ขึ้นเป็ นฮองเฮาเคียงคู่บลั ลังค์กบั เขา จากนั้นภาพก็ตดั ไป
ที่ลวีอ่ ี่และท่านรองแม่ทพั ที่ถูกพันธนาการไว้ดว้ ยโซ่ตรวน ท่านรองแม่ทพั ใบหน้าถมึงทึง กัดฟันแน่นจนเส้น
เลือดปูดโปนขึ้นบนขมับ ส่ วนลวี่อี่ใบหน้าเรี ยบเฉย แววตาสงบนิ่งจนน่าขนลุก ทั้งสองถูกทหารนําตัวไปจองจํา
ในคุกหลวงก่อนจะถูกตัดสิ นโทษต่อไป

ยามอยูใ่ นคุกหลวง เสื้ อผ้าอาภรณ์ของคุณหนูสามแห่งจวนแม่ทพั ยังคงหรู หรางดงาม ขัดกับสภาพรอบตัวซึ่ งมี


เพียงกองฟางสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ นางนัง่ หลังตรงมองไปข้างหน้าเหมือนกับเมื่อครั้งบัญชาการอยู่
ในจวนรองแม่ทพั ริ มฝี ปากนั้นขยับเบาๆ

“เจิ้งอู่! ท่านหักหลังข้า! เสี ยทีขา้ และบิดาสนับสนุนให้ท่านขึ้นเป็ นใหญ่ ท่านกลับหลอกใช้ขา้ เชิดชูซียนิ ผูน้ ้ นั


ข้าน่าจะฆ่านางเสี ยให้ตายเมื่อยังมีโอกาส! นางทําอะไรให้ท่านบ้าง นอกจากใช้ความงามยัว่ ยวนท่านแล้วนาง
ไม่เคยทําอะไรเพื่อท่านเลย แต่ขา้ ! ข้าทุ่มเททุกอย่างเพื่อท่าน ท่านกลับตอบแทนข้าอย่างนี้หรื อ”

ไม่มีแม้น้ าํ ตาไหลออกมาสักหยด ลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ ีช่างเป็ นสตรี ที่น่ากลัวเหลือเกิน นางคงปวดร้าวใจไม่นอ้ ยแต่ได้


แปรเปลี่ยนความเศร้าโศกนั้นให้กลายเป็ นความแค้น นางพูดถูก ความสําเร็ จของเจิ้งอู่ลว้ นเป็ นเพราะฝี มือนาง ซี
ยินเพียงมองเจิ้งอู่ปีนป่ ายขึ้นไปด้วยตัวเองเพียงลําพัง ข้าไม่ได้ทาํ อะไรให้เขาแม้สักนิด แต่เขากลับมอบความรัก

389
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ให้ขา้ ความแค้นใจความเสี ยใจของลวีอ่ ี่ขา้ ย่อมเข้าใจ ลวีอ่ ี่กเ็ ป็ นสตรี ที่น่าสงสารอีกผูห้ นึ่ง เห็นได้ชดั ว่าความรัก
ไม่ปราณี ผใู ้ ด แม้จะเฉลียวฉลาด ทรงอํานาจเพียงใด กลับต้องพ่ายแพ้แก่ใจตน

..แต่ความรักมิใช่เรื่ องของผลประโยชน์ เจิ้งอู่รักข้า..ซี ยนิ แม้ขา้ จะเป็ นตัวไร้ค่า ย่อมมีความหมายในสายตาเขา


มากกว่าลวีอ่ ี่ผเู ้ ก่งกาจเป็ นไหนๆ เรื่ องของจิตใจบังคับกันได้หรื อ..

บิดาของลวีอ่ ี่นิ่งขึงไม่เอ่ยอะไรสักคํา เขารู ้ตวั ว่าตัวเองตัดสิ นใจผิดพลาดไป ไม่คิดว่าเจิ้งอู่จะยึดมัน่ ต่อสตรี นาม


ซี ยนิ ถึงเพียงนี้ สิ่ งที่ลวีอ่ ี่ทาํ ย่อมเป็ นการล่วงเกินซี ยนิ ไว้ไม่นอ้ ย แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเจิ้งอู่จะตัดสิ นใจทําเช่นนี้
จัดการกับตนและบุตรสาวอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของซี ยนิ ในอนาคต

“ซี ยนิ .. เจ้าชนะข้า ชนะทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงมือลงแรงทําอะไรสักนิด” ลวีอ่ ี่พดู เสี ยงลอดไรฟัน ฟังดูคล้ายเสี ยงขู่ฟ่อ
ของอสรพิษ “ข้าลวีอ่ ี่ขอจองเวรเจ้าทั้งสอง เจิ้งอู่ ซี ยนิ ไม่วา่ ชาติภพใด ข้าจะตามล้างผลาญพวกเจ้าให้สิ้น พวก
เจ้าครองบัลลังค์อยูบ่ นกองเลือดของข้าและบิดา ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้าอย่าได้มีโอกาสได้ครองคู่กนั อย่าง
เป็ นสุ ขเลย” แววตาของลวีอ่ ี่ลุกวาบยามเอ่ยคําอาฆาตนี้ จากนั้นนางและบิดาก็ถูกนําตัวไปตัดศีรษะ

แม้จะเป็ นเพียงความฝัน ข้าก็อดตัวสั่นไม่ได้ แรงอาฆาตของลวีอ่ ี่ช่างรุ นแรงเหลือเกิน ข้าอดรู ้สึกดีใจไม่ได้ที่


ชาติก่อนข้าชิงตัดรอน การตายของข้าทําให้ขา้ ไม่ตอ้ งเผชิญหน้ากับการจองเวรของสตรี ผนู ้ ้ ี ได้ยนิ ว่าหลังจากเจิ้ง
อู่ฝังตัวเองอยูใ่ นสุ สานกับซี ยนิ ล้วนแล้วแต่เป็ นองค์ชายสี่ ที่ไล่ล่าลวีอ่ ี่และบิดา เขาทําสําเร็ จ สามารถกุมตัวนาง
และบิดาไว้ได้ แต่ขา้ ไม่รู้วา่ เขามีวธิ ีจดั การคนทรยศอย่างไร

ชินอ๋ องเพิ่งเล่าให้ขา้ ฟังว่าด้านในสุ ดของคุกหลวงมีหอ้ งหนึ่งถูกปิ ดตายอยูใ่ นซอกหลืบที่แทบไม่มีใครเข้าถึง ที่


ประตูหอ้ งมีผา้ ยันต์ติดไว้เต็มไปหมด ไม่วา่ ผ่านมากี่ยคุ สมัยก็ไม่มีใครกล้าเปิ ดออก ผูค้ นล้วนไม่กล้าเฉี ยดกราย
ไปบริ เวณนั้น ได้ยนิ เพียงเสี ยงร้องโหยหวนทรมานของสตรี บางทีกไ็ ด้ยนิ เสี ยงสาปแช่งอย่างเคียดแค้น เสี ยงที่
เล็ดลอดออกมาช่างน่าขนลุกจนแม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องตัวสั่นด้วยความสะพรึ งกลัว

เขาบอกข้าว่านัน่ คงเป็ นลวีอ่ ี่ องค์ชายสี่ คงแค้นนางและบิดาที่หลอกให้เขาตายใจว่าสวามิภกั ดิ์ ใช้สอยทั้งเงิน


ทองและเครื อข่ายของเขาแต่กลับสนับสนุนผูอ้ ื่นขึ้นเป็ นฮ่องเต้ หากมิใช่เพราะเจิ้งอู่เมตตา องค์ชายสี่ คงถูก
ประหารให้ตายตกไปไม่ต่างจากองค์ชายเจ็ด วันที่เจิ้งอู่ข้ ึนครองราชย์ องค์ชายสี่ ตอ้ งเก็บตัว ไม่อาจทนต่อ
สายตาขบขันของคนทั้งแผ่นดินที่เห็นเขาเป็ นไอ้โง่ตวั หนึ่ง มิหนําซํ้ายังกลายเป็ นแพะรับบาปเรื่ องความตายของ
ซี ยนิ

390
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เมื่อนึกสงสัยว่าลวีอ่ ี่มีจุดจบอย่างไรหลังจากที่เจิ้งอู่ตาย ภาพของลวีอ่ ี่กป็ รากฏขึ้นอีกครั้งในมโนสํานึกของข้า
สภาพของนางเอน็จอนาถน่าเวทนา สิ่ งที่ขา้ เห็นเป็ นเพียงซากมนุษย์อาบกองเลือด เว้นเสี ยแต่วา่ ซากนี้ยงั คงมีลม
หายใจ องค์ชายสี่ ทรมานสองพ่อลูกจนสาสมใจ ท่านรองแม่ทพั เผชิญหน้ากับความตายที่รวดเร็ วและสบายกว่า
บุตรสาวมากนัก หลังจากโดนทรมานเพียงไม่กี่วนั ก็แค้นจนกระอักเลือดตาย ทว่าลวีอ่ ี่กลับมีชีวติ อยู่ นางเป็ น
สตรี ที่ใจเด็ดนัก นางไม่ยอมตาย..

"ลวีอ่ ี่ ข้ารู ้เมื่อเกือบจะสายเกินไป ศัตรู ที่แท้จริ งของข้าไม่ใช่องค์ชายเจ็ด แต่เป็ นเจ้า เจ้าที่แสดงท่าทีเป็ น


พันธมิตรต่อข้ามาโดยตลอด เจ้าเห็นข้าเป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ งเท่านั้นสิ นะ ที่ผา่ นมาข้าถูกเจ้าปั่ นหัวโดยไม่รู้ตวั
ต่อสู ้กบั องค์ชายเจ็ดแทบเป็ นแทบตายเพื่อกรุ ยทางให้บุรุษที่เจ้าหลงรัก"

องค์ชายสี่ หวั เราะเสี ยงดังก้องก่อนเอ่ยต่อ "เจ้าไม่เพียงยืมมือข้ากําจัดองค์ชายเจ็ด ยังใช้ขา้ กําจัดศัตรู หวั ใจอย่างซี


ยิน ความตายของนางกลับกลายเป็ นตราบาปของข้า ส่ วนเจิ้งอู่ของเจ้านั้นขาวสะอาดไร้มลทิน เจ้าคงคิดว่าเขา
จะแต่งตั้งสตรี ร้ายกาจอย่างเจ้าเป็ นฮองเฮาอย่างนั้นหรื อ ฮ่าๆๆ ข้าสาแก่ใจเหลือเกิน ลวีอ่ ี่ สุ ดท้ายเจ้าก็ถูกเจิ้งอู่
หลอกใช้ไม่ต่างกับข้า ไหนเล่าบัลลังค์หงส์ของเจ้า สุ ดท้ายเจิ้งอู่กไ็ ม่แยแสบัลลังค์ที่เจ้าช่วยแย่งชิงมาให้อย่าง
ยากลําบากแม้แต่นอ้ ย กลับยกมันคืนมาให้ขา้ เจ้าว่าเจิ้งอู่ตดั สิ นใจเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเล่า"

ประกายตาของลวีอ่ ี่เคียดแค้น ทว่าจนบัดนี้ นางยังไม่ยอมเอ่ยคํา นางไม่แม้แต่จะร้องขอความเมตตา ลวีอ่ ี่หวังว่า


จะมีคนของบิดามาช่วยนางออกไป นางขอเพียงมีชีวิตอยูเ่ พื่อจะกลับมาล้างแค้น ทว่าองค์ชายสี่ ข้ ึนเป็ นฮ่องเต้
จะมีผใู ้ ดกล้ากระทําการอุกอาจเช่นนั้นหรื อ แม้แต่ลูกน้องผูจ้ งรักภักดีที่สุดของบิดาก็ยงั ไม่กล้า ผูใ้ ดอยากจะ
เสี่ ยงกับข้อหากบฏกันเล่า นางจึงต้องตายด้วยความรู ้สึกสิ้ นหวัง ทั้งเคียดแค้นทั้งเกลียดชังโลกใบนี้ นาง
สาปแช่งและสาบานต่อฟ้าดินจะจองเวรองค์ชายสี่ ที่ทรมานนางจนแทบไม่เหลือสภาพความเป็ นคน

แม้ยามที่นางตายองค์ชายสี่ จะไม่ได้อยูต่ รงนั้น แต่ถอ้ ยคําอาฆาตที่นางทิ้งไว้กถ็ ูกนํามาถ่ายทอดโดยผูค้ ุมอย่างไม่


มีตกหล่น องค์ชายสี่ ที่ยามนั้นเป็ นถึงฮ่องเต้ยอ่ มรู ้สึกหวัน่ ไหวต่อคําสาปแช่งของคนตายไม่นอ้ ย จึงสั่งให้
นักพรตมาทําพิธีกกั วิญญาณ ขังนางไว้ในห้องนั้นตลอดมา

ผ่านไปหลายร้อยปี องค์ชายสี่ เวียนว่ายตายเกิดผ่านไปหลายภพชาติ ทว่าวิญญาณของลวีอ่ ี่ยงั คงถูกจองจําอยูใ่ น


ห้องนั้น รอวันที่ผนึกจะคลายออกเพื่อล้างแค้นคนที่ทาํ ร้ายนาง

ภาพที่ขา้ เห็นเปลี่ยนไปอีกครั้ง ข้ากลับมาอยูใ่ ต้ช้ นั นํ้าแข็งเช่นเดิม สายลมหนาวเหน็บพัดกรี ด ท้องฟ้าเป็ นสี เทา


หม่นมีเพียงแสงซี ดจางสาดส่ องลงมา ยามที่หนาวเหน็บที่สุดในฤดูหนาวเป็ นช่วงเวลาที่ขา้ เกิดและตาย.. ใจข้า

391
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
รู ้สึกสงบ ข้าสบายใจที่ไม่ตอ้ งผูกเวรกับคนอย่างลวีอ่ ี่ แม้ขา้ จะต้องตายอย่างโดดเดี่ยวด้วยความเข้าใจผิดก็ยงั ดี
เสี ยกว่า ข้าได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าใกล้เข้ามา ในที่สุดใบหน้าหนึ่ งก็ปรากฏขึ้นในคลองจักษุ เป็ นเจิ้งอู่นน่ั เอง เขามองข้า
อย่างตกตะลึงก่อนจะทรุ ดตัวลงนัง่ บนผิวนํ้าแข็งอย่างไร้เรี่ ยวแรง สั่นสะท้านไปทั้งกาย เขาไม่ได้สั่นจากความ
หนาวเย็น เจิ้งอู่กาํ ลังรํ่าไห้

เขาคลานขึ้นมาเหนือร่ างของข้า สองมือทาบลงบนผืนนํ้าแข็งอย่างไม่กลัวจะโดนไอเย็นกัดผิว นํ้าตาอุ่นๆ ของ


เขาไหลหยดลงบนชั้นนํ้าแข็งที่ก้ นั เราสองคนไว้แต่มนั ไม่มากพอที่จะละลายนํ้าแข็งหนาออกไปได้ ข้าได้เห็น
เรื่ องราวหลังจากที่ขา้ ตายไปในที่สุด ได้เห็นความโศกเศร้าและความเจ็บปวดของเขา พลันสิ่ งที่ขา้ ต้องเผชิญ
กลับดูเล็กน้อยไปในทันที เขาต้องเผชิญกับสภาพบีบคั้นรอบด้านเพียงเพื่อจะได้พบว่าความพยายามทั้งมวลของ
เขาสู ญเปล่า ทุกสิ่ งที่เขาทําเพื่อปกป้องข้า กลับกลายเป็ นการผลักไสข้าสู่ ความตาย โลกนี้ ช่างโหดร้าย ไม่วา่ ข้า
จะตัดสิ นใจเลือกทางใด ล้วนแล้วแต่มีผไู ้ ม่สมหวัง

..ในวังวนแห่งอํานาจ ทุกคนที่เกี่ยวข้องล้วนตกเป็ นเหยือ่ ..

..พาข้าออกไป ข้าไม่ตอ้ งการติดอยูใ่ นสภาพนี้ .. ข้ารํ่าร้องในใจ รู ้สึกอึดอัดกับภาพอดีตเหล่านี้

ภาพนั้นเลือนไป กลับกลายเป็ นความมืดเข้ามาห่อหุ ม้ ข้าลืมตาตื่นขึ้น

ข้ารู ้สึกตัวตื่นเมื่อชินอ๋ องลุกขึ้นนัง่ เขาอุม้ ข้ามานัง่ บนตัก

“ท่านอ๋ องเพคะ.. หากซี ยนิ ไม่ตาย เจิ้งอู่จะตัดสิ นใจทําอย่างไรกับลวีอ่ ี่และบิดา” ข้าถามเขาอย่างสงสัย ไม่แน่ใจ
ว่าสิ่ งที่ฝันไปเมื่อครู่ เป็ นเรื่ องจริ งหรื อไม่

ชินอ๋ องตอบโดยไม่ตอ้ งคิด

“ข้าย่อมไม่ปล่อยนางและบิดาไว้เป็ นเสี้ ยนหนามของซี ยนิ ย่อมจะประหารให้ตายตกตามกันไปเสี ยให้สิ้น”


นํ้าเสี ยงของเขายามเอ่ยฟังดูเหี้ ยมเกรี ยม เขาก็คงแค้นลวีอ่ ี่ไม่นอ้ ย

“ท่านอ๋ อง เรื่ องก็ผา่ นไปแล้ว อย่าได้โกรธนางอยูอ่ ีกเลย” ข้าเอ่ยปลอบเขาเบาๆ ไม่ตอ้ งการจะให้ชินอ๋ องข้อง
เกี่ยวกับนางอีกต่อไปแม้ในความคิด หากจิตของพวกเรายังพะวงอยูก่ บั นาง ไม่แน่วา่ จะเป็ นการชักนําวิญญาณ
ร้ายมาหาหรอกหรื อ

392
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“เหตุใดจึงถามขึ้นมา” เขาถามข้ากลับ

ข้าเล่าเรื่ องความฝันให้เขาฟัง "ห้องลึกลับที่ท่านอ๋ องสันนิษฐานว่าเป็ นห้องที่ขงั วิญญาณลวีอ่ ี่ไว้น่าจะถูกต้อง อวี้


เอ๋ อร์ ฝันเห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น นางกลายเป็ นวิญญาณร้ายที่อาฆาตองค์ชายสี่ ทุกวันนี้นางก็ยงั ถูกจองจําอยูท่ ี่
เดิมเพคะ"

"สมควรแล้ว เปิ่ นหวางไม่เห็นใจนางสักนิ ด" ชินอ๋ องตอบอย่างเย็นชา "กลับไปเปิ่ นหวางจะให้นกั พรตไปทําพิธี


ลงอาคมให้แน่นหนายิง่ กว่าเดิม ตราบใดที่เปิ่ นหวางยังมีลมหายใจอยู่ ก็อย่าได้หวังว่าดวงวิญญาณนางจะได้เป็ น
อิสระเลย"

393
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 56 : เปิ่ นหวางจะระวังตัวเอง

ฟ้ายังไม่ทนั มืด ชินอ๋ องก็ตดั สิ นใจพาข้าออกจากสุ สาน เขาเลื่อนแผ่นหิ นออกเล็กน้อย ลําแสงจากภายนอกสาด


ส่ องเข้ามา เราสองต่างหลับตาให้ดวงตาได้ปรับให้เข้ากับแสงจ้าที่ส่องทะลุเข้ามาในความมืดมิดอย่างกะทันหัน
กลิ่นอายสดชื่นของพืชพันธุ์เขียวชอุ่มและไออุ่นของฤดูใบไม้ผลิยามบ่ายแผ่กระจายเข้ามาในสุ สานที่เย็นเยียบ
แห่งนี้

เมื่อออกมาสู่ โลกภายนอก ข้ารู ้สึกราวกับได้เกิดใหม่ แสงสี ภายนอกดูสดใส ต่างกับโลกอันมืดมิดภายในที่ขา้


เพิง่ พ้นออกมา ข้าไม่เคยเห็นธรรมชาติรอบกายได้แจ่มชัดเท่านี้มาก่อน ความรู ้สึกหนักอึ้งในใจพลันหายไป
เหลือเพียงความปลอดโปร่ งเบาสบาย ตราบเท่าที่ขา้ ไม่ตอ้ งพะวงถึงอดีตที่เต็มไปด้วยความรัก ความแค้น ความ
ตายและการพลัดพราก ข้ารู ้สึกตื้นตันกับชีวติ ที่เหลืออยูน่ ้ ีเหลือเกิน

ตอนนี้น่าจะเป็ นยามเซิ น (15.00-17.00) ชินอ๋ องจูงมือข้าเดินลงจากเขาอย่างสบายอารมณ์ คราแรกข้าจะยังไม่


ยอมออกจากสุ สาน เกรงว่าจะยังมีคนร้ายดักรออยู่ อยากจะรอให้พลบคํ่าเสี ยก่อน ทว่าชินอ๋ องเตือนสติขา้

“อวี้เอ๋ อร์ลืมไปแล้วหรื อ เปิ่ นหวางให้เฉิ นซี ออกติดตามพวกเราในวันที่สามหากพวกเรายังกลับไม่ถึงวัง ตอนนี้


เวลาล่วงเข้ายามบ่ายแล้ว หากคนร้ายยังวนเวียนอยูแ่ ถวนี้ยอ่ มไม่อาจรอดพ้นสายตาของเฉิ นซี และหน่วยติดตาม
ไปได้ พวกเขาถูกฝึ กมาเป็ นอย่างดี ย่อมตามกลิ่นไล่ล่าคนพวกนั้นไม่ต่างกับหมาล่าเนื้อ”

ข้าได้ยนิ เช่นนั้นจึงค่อยคลายใจ แต่กอ็ ดนึ กไม่ได้วา่ ทุกอย่างดูง่ายดายผิดปกติ ตอนอยูใ่ นสุ สานเขายังดูทดท้อใจ


อยูเ่ ลยมิใช่หรื อ ข้าไม่มีเวลาได้คิดนาน รี บติดตามชินอ๋ องไปติดๆ เดินไปสักพักเขาก็หยุดเดินแล้วหันมาปลด
ปิ่ นข้า

"อวี้เอ๋ อร์ ผมรุ่ ยร่ าย เปิ่ นหวางจะปั กปิ่ นให้ใหม่จะได้เรี ยบร้อยยามพบหน้าผูค้ น"

พอเขาดึงปิ่ นออก เส้นผมข้าก็ทิ้งตัวลงราวกับม่านนํ้าตก นิ้วเรี ยวของเขาสัมผัสเรื อนผมสลวยของข้าอย่างคุน้ เคย


เขามวยผมให้ขา้ อย่างคล่องแคล่วโดยไม่ตอ้ งใช้หวี พอเขาหยุดมือเส้นผมของข้าก็ถูกเก็บเรี ยบร้อย ข้าเหลือบตา
มองเขา แม้จะผ่านช่วงเวลาคับขัน ทั้งยังติดอยูใ่ นสุ สานข้ามคืน แต่เส้นผมบนศีรษะของเขายังคงเรี ยบกริ บไม่มี
แตกแถวสักเส้น

394
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าแอบขมวดคิ้ว คนอะไรจะไม่มีที่ติสักนิดเลยหรื อ..

ชินอ๋ องจ้องมองไปเบื้องหน้า ทว่ามุมปากกลับมีรอยยิม้ กดลึก

"ยามเจ้าหลับ เปิ่ นหวางจัดการกับตัวเองเรี ยบร้อยแล้ว ไม่ใช่วา่ เปิ่ นหวางจะเรี ยบกริ บเป็ นคุณชายบัณฑิต
ตลอดเวลาหรอกนะ"

"อวี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ได้วา่ อะไรเสี ยหน่อย" ข้าตอบเขาเก้อๆ เมื่อถูกเขาจับความคิดได้

ยามลงมาถึงเชิงเขา ชินอ๋ องผิวปากเบาๆ ม้าสี น้ าํ ตาลแสนรู ้ของเขาก็วงิ่ เหยาะย่างเข้ามา เบื้องหลังยังมีเฉิ นซี และ
นายทหารขบวนใหญ่ติดตามมา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแกะรอยมาจนเจอม้าของชินอ๋ องได้สักพักแล้ว ทุกอย่าง
เป็ นไปตามที่ชินอ๋ องคาดการณ์ ข้านัง่ ม้าตัวเดียวกับเขาโดยมีเฉิ นซี ควบม้าอยูข่ า้ งๆ เพื่อรายงานสถานการณ์ที่
เกิดขึ้นในช่วงสามวันที่ผา่ นมาโดยละเอียด

“หลังจากพวกกระหม่อมลวงนักฆ่าให้ติดตามขบวนรถม้าไป พวกนั้นกลับไม่กล้าเข้าจู่โจม ได้แต่ติดตามไป


ห่างๆ จนกระทัง่ นักฆ่ากลุ่มที่เหลือตามมาสมทบ กว่าพวกนั้นจะลงมือโจมตี พวกเราก็ไปได้เกินครึ่ งทางแล้ว
กระหม่อมและพวกต่างทําทีเป็ นสู ้พลางถอยพลางเข้าไปในป่ าข้างทาง ลวงนักฆ่าเหล่านั้นเข้าสู่ สมรภูมิอนั ไม่
คุน้ เคย คนของเราที่พลาดพลั้งได้รับบาดเจ็บก็พากันเร้นกายในที่ซ่อน ส่ วนคนที่เหลือก็เปลี่ยนยุทธวิธีต่อสู ้เป็ น
แบบกองโจร หลอกล่อศัตรู ให้แยกตัวออกมาจากกล่◌ุมแล้วกําจัดทีละคนพะย่ะค่ะ”

เส้นทางแถบนั้นคนของชินอ๋ องใช้สัญจรเป็ นประจํา ทุกซอกทุกมุมล้วนแล้วแต่จาํ ได้จนทะลุปรุ โปร่ ง พวกเขา


ย่อมมีเส้นทางที่เอาไว้วางกับดักศัตรู หรื อล่อลวงสายลับของฝ่ ายตรงข้าม พออีกฝ่ ายหลงกลติดตามเข้าไป ในไม่
ช้านักฆ่าของเว่ยหงอิ่นก็ถูกเฉิ นซี และพวกสังหารสิ้ น

“ดี! ดีมาก” ชินอ๋ องกล่าวอย่างพอใจเมื่อได้ฟัง ครั้นแล้วจึงถามถึงคนของใต้เท้าจางที่หลงเหลืออยู่ เฉิ นซี กล่าว


ต่อ

“พวกเรากําจัดนักฆ่าเหล่านั้นได้เร็ วกว่าที่คิด จึงเร่ งควบม้ากลับวังเสิ่ นหยางกง นํากําลังทหารมุ่งหน้าสู่ โรงเตี๊ยม


อันเป็ นฐานที่มนั่ ของใต้เท้าจาง ทว่าเมื่อไปถึงกลับไม่พบผูใ้ ด พวกเราจึงออกค้นหาท่านอ๋ องและหวางเฟยหมาย
ถวายการอารักขา โชคดีระหว่างทางบังเอิญพบคนของใต้เท้าจางและเว่ยหงอิ่นที่กาํ ลังหลบหนี จึงควบคุมตัวไว้
พะย่ะค่ะ ยามนี้ถูกคุมขังอยูใ่ นเรื อนจํากองทัพ”

395
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ชินอ๋ องพยักหน้ารับรู ้ เฉิ นซี จึงกล่าวต่อ

"ทว่ากระหม่อมไร้ความสามารถ กว่าจะพบร่ องรอยของท่านอ๋ องและหวางเฟยเวลาก็ล่วงเลยถึงสามวัน ขอท่าน


อ๋ องโปรดลงอาญา"

ชินอ๋ องหัวเราะก่อนกล่าวกับคนสนิท "เฉิ นซี สิ่ งที่เจ้าทําล้วนแล้วแต่เป็ นความดีความชอบ เปิ่ นหวางจะลงอาญา


เจ้าได้อย่างไร อีกอย่างเปิ่ นหวางเป็ นคนสอนเจ้าแกะรอย หากเจ้าแกะรอยเปิ่ นหวางได้ง่ายดาย มิเสี ยชื่อเปิ่ น
หวางที่เป็ นอาจารย์ของเจ้าหรื อ"

เฉิ นซี ได้ยนิ เช่นนั้นก็มีสีหน้าดีข้ ึน

ข้าไม่รู้จะชื่นชมความสามารถในการเก็บร่ องรอยของชินอ๋ องดีหรื อไม่ แม้แต่คนของเขาก็แทบหาร่ องรอยไม่


พบ อีกทั้งข้าและชินอ๋ องเดินทางตอนกลางคืน ทําให้เฉิ นซี ตามรอยพวกเราอย่างยากลําบากไม่นอ้ ย เสี ยงฝี เท้า
ม้าในคืนนั้นที่ปากทางเข้าวัดกว่างจี๋ซื่อล้วนเป็ นของเฉิ นซี และพรรคพวกนัน่ เอง

“พวกเจ้าคงเหน็ดเหนื่อยกันไม่นอ้ ย กลับไปก็พกั ผ่อนกันให้เต็มที่ เปิ่ นหวางจะบําเหน็จรางวัลให้ทุกคนอย่าง


งาม” ชินอ๋ องเอ่ยปลุกปลอบขวัญ ทุกคนล้วนมีสีหน้าชื่นมื่น ต่างชูดาบไชโยโห่ร้องกันอย่างคึกคัก

พวกเรามาถึงเมืองหลวงเมื่อเวลาใกล้พลบคํ่า ทันเวลาที่จะปิ ดประตูเมืองพอดี รถม้าของวังเสิ่ นหยางกงจอดรอ


อยูท่ ี่นอกกําแพงเมือง ข้าและชินอ๋ องเปลี่ยนไปนัง่ รถม้าเพื่อปกปิ ดสภาพขะมุกขมอมไว้จากสายตาชาวเมือง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วนั ที่ผา่ นมาล้วนเป็ นความลับ ไม่มีใครรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับผูค้ นในวังเสิ่ นหยา
งกง

พอกลับไปถึงวัง ข้าให้คนตามหมอหลวงเพื่อรักษาบาดแผลให้ชินอ๋ อง หมอหลวงตรวจดูแล้วอาการของเขาไม่


น่าเป็ นห่วง ข้าจึงค่อยคลายใจ ระหว่างที่หมอใส่ ยาทําแผลให้เขา ข้าจึงเอ่ยปากขอตัวไปหาแม่ ป่ านนี้แม่คงจะ
เป็ นห่วงข้าเหลือเกิน ครั้นชินอ๋ องอนุญาต ข้ารี บตรงไปยังตําหนักเมฆาล่องโดยยังไม่ผลัดเปลี่ยนเสื้ อผ้า พอได้
เจอหน้า แม่กต็ รงเข้ามากอดข้าไว้แน่นราวกับกลัวว่าข้าจะหายไป แม่สาํ รวจข้าไปทัว่ ตัว เมื่อเห็นว่าข้าไม่ได้รับ
อันตรายใดก็ค่อยคลายกังวล

“อาหลัน เจ้าปลอดภัยดีใช่หรื อไม่ แม่เป็ นห่วงเจ้าเหลือเกิน”

396
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ท่านแม่ ข้าสบายดี ชินอ๋ องตามไปช่วยข้าไว้” ข้าเล่าเรื่ องให้แม่ฟังคร่ าวๆ โดยข้ามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสุ สาน


ไปเสี ย ข้าเล่าให้แม่ฟังถึงวาระสุ ดท้ายของใต้เท้าจางและคําสัญญาที่ขา้ ให้ไว้แก่เขา

“อาหลันทําถูกต้องแล้ว เขาเป็ นผูม้ ีพระคุณ หากเจ้าจะเคารพเขาเป็ นบิดาคนหนึ่งก็ไม่แปลก แม่ดีใจที่ทา้ ยที่สุด


เจ้าก็ปล่อยวางความแค้นที่มีต่อใต้เท้าจางลงได้”

“ท่านแม่” ข้าเอ่ยเสี ยงเบาลง จากนั้นกวาดสายตาไปรอบๆ “แล้วเสี่ ยวถิงเล่า” ข้าถามถึงเด็กหญิงตัวน้อยข้างกาย


แม่ผเู ้ ป็ นไส้ศึกให้ใต้เท้าจาง

แม่มีสีหน้าไม่สบายใจ กระซิ บตอบข้า “นางอยูด่ า้ นใน คนของชินอ๋ องจะมาเอาตัวนางไป แต่แม่ขอไว้ ได้ยนิ มา


ว่านางเป็ นสายของใต้เท้าจาง แต่นางยังเด็กนัก นางไม่เข้าใจว่าสิ่ งที่ใต้เท้าจางไหว้วานให้นางทําร้ายแรงเพียงใด
แม่ไม่อาจทนเห็นนางได้รับโทษ”

“ท่านแม่ เรื่ องนั้นปล่อยให้เป็ นหน้าที่ของชินอ๋ องวินิจฉัยเถิด” ข้าเอ่ยพลางจับไหล่แม่อย่างปลอบโยน ข้าเองก็


คุน้ เคยกับเสี่ ยวถิงไม่นอ้ ย นางเป็ นเพียงเด็กน้อยที่จิตใจบริ สุทธิ์คนหนึ่ง ข้าย่อมไม่อยากเห็นนางต้องมีจุดจบที่
เลวร้ายเช่นกัน

“อาหลัน เรื่ องของเสี่ ยวถิง อย่างไรเสี ยคงไม่พน้ โทษตาย แม่อยูก่ บั นางมาระยะหนึ่ง รู ้นิสัยใจคอของนางดี เสี่ ยว
ถิงเป็ นเด็กดี นางเพียงแต่ถูกใช้เป็ นเครื่ องมือ แม่เห็นนางเป็ นลูกหลานคนหนึ่ งจึงอดเวทนาไม่ได้ อาหลันพอจะ
พูดคุยกับชินอ๋ องเรื่ องนี้ได้หรื อไม่”

ข้าสบตาแม่อย่างหนักใจ “ข้าจะลองพยายามดู แต่ไม่แน่ใจว่าชินอ๋ องจะรับปากหรื อไม่”

ข้าไม่มนั่ ใจเลยสักนิดว่าจะช่วยพูดให้เสี่ ยวถิงได้สาํ เร็ จ ในวังหลวงชีวิตของนางข้าหลวงอาจปลิดปลิวได้ง่ายๆ


ด้วยเหตุผลที่ไร้สาระยิง่ กว่านี้เสี ยด้วยซํ้า การกระทําของเสี่ ยวถิงแม้เป็ นไปโดยรู ้เท่าไม่ถึงการณ์แต่ผลกระทบ
ร้ายแรงยิง่ นัก ทําให้ชีวติ ของชินอ๋ อง ชินหวางเฟยและพระสัสสุ ตอ้ งตกอยูใ่ นอันตราย นับเป็ นโทษสถานหนัก
หากข้าเป็ นชินอ๋ องก็ไม่อาจไม่ลงโทษนาง

ข้าลาแม่แล้วเดินกลับตําหนักหยางซิ นตามลําพัง หมิงจูยนื รอรับข้าอยูห่ น้าตําหนัก พอข้าเดินเข้ามาใกล้นางก็ยอ่


ตัวคารวะด้วยความดีใจ เอ่ยเสี ยงสั่นนํ้าตาคลอ

397
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“หวางเฟย ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว หมิงจูเป็ นห่วงท่านเหลือเกิน”

ข้าประคองนางขึ้นมา

“หมิงจู ข้าไม่เป็ นอะไรแล้ว เจ้าอย่ามาทําเป็ นขี้แยไป” ข้าเอ่ยยิม้ ๆ

นางรี บตรงเข้ามาพยุงข้าเข้าตําหนักอย่างกระตือรื อล้นแล้วจัดแจงปรนนิบตั ิขา้ อาบนํ้า ข้าเพิ่งรู ้ตวั ว่าเหนื่อย


เหลือเกินก็ยามที่ได้แช่น้ าํ ร้อน ข้าหลับไปโดยที่ศีรษะพาดขอบถัง ปล่อยให้หมิงจูสระผมและถูตวั ให้จนเสร็ จ
เรี ยบร้อยจึงค่อยตื่นขึ้นมา

“ชินอ๋ องเล่า” ข้าเอ่ยถามยามที่สวมเสื้ อนอน เปลือกตาหนักอึ้ง จนป่ านนี้เขายังไม่กลับมาห้องบรรทมอีกหรื อ

“ทูลหวางเฟย หลังจากหมอหลวงทําแผลเรี ยบร้อยแล้ว ท่านอ๋ องยังทรงงานต่อในห้องพระอักษรเพคะ”

ข้าพยักหน้ารับก่อนก้าวไปที่เตียง เขาหายตัวไปหลายวัน คงมีกิจที่ตอ้ งสะสางมากมายนัก หมิงจูกา้ วไปพลิกผ้า


ห่มให้อย่างรู ้งาน ข้าล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างแสนคิดถึง พอหมิงจูห่มผ้าให้เรี ยบร้อยก็หลับไปในทันที

ปกติหากชินอ๋ องยังไม่กลับมา ข้ามักให้คนจุดเทียนทิ้งไว้เสมอ คืนนี้กไ็ ม่ต่างกัน ยามที่ชินอ๋ องกลับมา จึงเห็น


ร่ างของข้าซึ่ งตกอยูใ่ นห้วงนิทรานอนทอดยาวอยูบ่ นเตียง เขาเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วพิศโฉมข้าอย่างหลงใหล ผิว
ขาวราวกับหยกตัดกับเส้นผมดําขลับแผ่กระจายเต็มหมอน ริ มฝี ปากแดงสดราวกับผลอิงเถาเผยอขึ้นเล็กน้อย
มือสากระคายของเขาไล้ผวิ หน้าข้า ยามนั้นข้ากําลังหลับสนิท รับรู ้แค่เพียงใครบางคนคลอเคลียข้าไม่ห่าง ที่
นอนอ่อนนุ่มแสนสบายทําให้ขา้ ไม่อาจเปิ ดเปลือกตา ข้าถอนหายใจอย่างเกียจคร้านแล้วหลับต่อ ได้ยนิ เสี ยง
หัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน

ใครบางคนกําลังรบกวนการนอนของข้า ข้าได้แต่เบี่ยงกายหนีสัมผัสวาบหวิวที่ประทับตามส่ วนต่างๆ ของ


ร่ างกายซึ่ งดูจะรุ กเร้าหนักขึ้น ในที่สุดข้าก็รู้สึกตัวตื่นแต่ไม่ได้ลืมตา ทว่าแพขนตาที่ขยับเล็กน้อยย่อมไม่อาจเล็ด
ลอดสายตาผูท้ ี่เฝ้ามองอยูไ่ ปได้ ข้าได้ยนิ เสี ยงหัวเราะหึ ในลําคอ เสี ยงผ้าเสี ยดสี ก่อนจะร่ วงลงกองกับพื้น ฟูกที่
นอนอ่อนยวบลงยามเขาสอดกายเข้ามาใต้ผา้ ห่ม ใบหน้าของข้าร้อนฉ่าแต่ขา้ ยังไม่กล้าลืมตา ข้าไม่กล้าสู ้สายตา
ของเขาที่ยามนี้น่าจะร้อนแรงเหลือเกิน สองแก้มแดงกํ่าของข้ากําลังเปิ ดโปงว่าข้าแกล้งหลับอยู่

398
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
นัน่ ยิง่ ทําให้ชินอ๋ องย่ามใจ เขาเคลื่อนกายชะโงกเหนือร่ างข้า นิ้วมือแข็งแรงบีบจมูกและไล้ริมฝี ปากแดงสดของ
ข้าอย่างหยอกล้อ

“เปิ่ นหวางไม่ใช่คนชอบลักหลับสตรี แต่หากใครบางคนยังคงไม่ยอมตื่น เห็นทีเปิ่ นหวางคงต้องละเมิดกฎของ


ตนเองสักครั้ง”

ข้ายังคงแกล้งหลับต่อ ทว่าร่ างกายเปลือยเปล่าร้อนผ่าวของเขาทําให้สติขา้ กระเจิดกระเจิง เขาประทับจุมพิต


หนักหน่วงลงบนริ มฝี ปากข้า ยามที่ขา้ ลืมตา ใบหน้าของเราสองคนห่างกันเพียงปลายจมูก ข้าผินหน้าหนี แสร้ง
เอ่ยเสี ยงงัวเงีย

“ท่านอ๋ องกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพคะ.. ท่านอ๋ องคงจะอ่อนเพลียแล้ว อวี้เอ๋ อร์ จะลุกไปดับเทียน” ข้าทําท่าจะลุก


ขึ้นจากเตียง

“ไม่ตอ้ ง”

เขาเอ่ยพลางกดไหล่ขา้ ไว้กบั ที่นอน ดวงตาที่จอ้ งมองมาเต็มไปด้วยความปรารถนา หนึ่งวีรบุรุษหนึ่ งสาวงาม


บนเตียงกว้างใต้แสงเทียนดูเย้ายวนใจนัก ทว่าสายตาของข้าสะดุดเข้ากับผ้าพันแผลที่พนั ไว้รอบอกแกร่ ง ข้าไล้
มือขึ้นสัมผัสเบาๆ สี หน้าเป็ นกังวล

“ท่านอ๋ อง..”

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกังวล เปิ่ นหวางจะระวังตัวเอง” เขาตัดบท แล้วรวบร่ างข้าเข้าไว้ในอ้อมแขน ชินอ๋ องถอด
เสื้ อผ้าของข้าออกทีละชิ้น สายตาทอดมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ ข้าเขินอายจนต้องกัดริ มฝี ปาก เมินมองไป
ทางอื่น

“อวี้เอ๋ อร์ อย่าทําเช่นนั้น เปิ่ นหวางจะหมดความอดทน รู ้หรื อไม่” เขาเอ่ยพลางเอื้อมมือมาไล้ริมฝี ปากแดงสดที่


ข้าขบเม้มไว้ ข้าได้แต่เบิกตาจ้องมองเขาอย่างหมดคําพูดที่จะเอ่ย รู ้สึกลําคอแห้งผาก

“ยามนี้เราสองคนมิได้กาํ ลังหลบหนีศตั รู มิได้อยูใ่ นสุ สาน อวี้เอ๋ อร์คงจะไม่หา้ มปรามเปิ่ นหวางแล้วกระมัง” เขา
กล่าวพร้อมรอยยิม้ มุมปาก ดูท้ งั เจ้าเล่ห์ท้ งั ท้าทายอยูใ่ นที

399
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าเบือนสายตาหนีเขา คําพูดเขาทําให้ขา้ ต้องกลั้นยิม้ ชินอ๋ องเป็ นคนช่างจดจําเสี ยจริ ง ใต้แสงเทียนอันเย้ายวน
นั้น ข้าส่ งค้อนให้เขาตาเป็ นประกาย

คืนนั้นเขากอดรัดข้า สัมผัสข้า ราวกับจะตอกยํ้าว่าเขาไม่ได้ฝันไป ในที่สุดเราสองคนก็ผา่ นช่วงเวลาอันเลวร้าย


ได้กลับมาอยูใ่ นอ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง ชินอ๋ องทําให้ขา้ อดสงสัยไม่ได้ เขาลงมือกับข้าโดยไม่ออมแรง
แล้วอาการบาดเจ็บของเขาเล่า! ที่เขาบอกว่าจะระวัง เป็ นข้าที่คิดมากไปเองใช่หรื อไม่!

“ท่านอ๋ อง..” ข้าเอ่ยเสี ยงแผ่วหลังจากพายุอารมณ์ผา่ นพ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่า “ท่านอ๋ องรี บพักผ่อนดีหรื อไม่เพ


คะ อาการบาดเจ็บของท่าน..”

“อวี้เอ๋ อร์ วางใจเถิด เปิ่ นวางจะระวังตัวเอง” เขาตอบก่อนที่ภาพที่ขา้ เห็นจะพลิกตลบอีกครา

400
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 57 : โลกก็โหดร้ ายเช่ นนี้

ข้าตื่นขึ้นในยามสายของวันถัดมา ยันกายลุกขึ้นจากเตียงอย่างกระปลกกระเปลี้ย ร่ องรอยสี กหุ ลาบกระจายไป


ทัว่ ทั้งเนื้อตัว ข้าหยิบเสื้ อนอนขึ้นมาสวมแล้วผูกเอวไว้หลวมๆ ก่อนเอ่ยเรี ยกหมิงจู

นางยกอ่างนํ้าเข้ามาในห้องให้ขา้ ล้างหน้าบ้วนปาก สี หน้าของนางเรี ยบเฉยแต่ดวงตาเป็ นประกายระยิบระยับ


กลับมาคราวนี้ขา้ และชินอ๋ องดีต่อกัน นางคงรับรู ้ได้แล้ว ชินอ๋ องให้คนยกนํ้าแกงไก่ต๋ ุนมาให้ขา้ เพื่อบํารุ ง
ร่ างกาย หลังจากกินอาหารเช้าเสร็ จ ข้าอาบนํ้าชําระกาย นึกขึ้นได้วา่ ต้องพูดกับชินอ๋ องเรื่ องที่แม่ขอร้องมา

ข้าไปหาเขายังห้องอักษร วันนี้อากาศดีเขาจึงให้คนยกโต๊ะออกมาตั้งที่ระเบียงด้านนอก ตอนที่ไปถึง ข้าเห็นเขา


เขียนอะไรยุง่ อยูจ่ ึงยืนรออยูด่ า้ นข้างเงียบๆ พอเขาละสายตาจากงานตรงหน้ามาเห็นข้า ก็วางพูก่ นั ลงแล้วลุกขึ้น
ยืน ตรงเข้ามาประคองข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เหตุใดไม่พกั ผ่อนให้มากๆ มาหาเปิ่ นหวางถึงที่นี่ มีธุระใดสําคัญเร่ งด่วนหรื อ”

“อวี้เอ๋ อร์มีเรื่ องจะขอร้องท่านอ๋ องเพคะ” ข้าตอบ

กิริยาของข้าทําให้เขารู ้วา่ ข้าไม่สะดวกที่จะเอ่ยตรงนี้ เขาจึงประคองข้าเข้าไปในห้องอักษรแล้วงับประตูปิด ข้า


ยืนเรี ยบเรี ยงคําพูดอยูค่ รู่ หนึ่ง ไม่รู้จะเริ่ มต้นอย่างไร ในที่สุดก็ตดั สิ นใจกล่าวออกไปตามตรง

“ท่านอ๋ องเพคะ เรื่ องเสี่ ยวถิง ท่านอ๋ องจะตัดสิ นโทษนางอย่างไร”

ชินอ๋ องทิ้งกายลงนัง่ บนเก้าอี้ ดึงมือข้าให้นงั่ ซ้อนลงบนตัก เขามีสีหน้าครุ่ นคิด

“อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งการให้เปิ่ นหวางตัดสิ นใจอย่างไร” เขาถามข้ากลับ

“อวี้เอ๋ อร์อยากให้ท่านอ๋ องละเว้นโทษตายแก่นางได้หรื อไม่เพคะ” เขายังคงนิ่ งงัน ข้าจึงรี บเอ่ยต่อ “อวี้เอ๋ อร์
เข้าใจการตัดสิ นใจของท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์พดู ขึ้นมาเพียงเพราะมารดาขอร้องมาเท่านั้น หากท่านอ๋ องทําเช่นนั้น
ไม่ได้ ก็ไม่เป็ นไรเพคะ”

401
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก เปิ่ นหวางเพียงอยากรู ้เหตุผล เหตุใดเจ้าและมารดาจึงต้องร้องขอชีวิตนางเช่นนี้”

“สําหรับมารดา เสี่ ยวถิงอยูร่ ับใช้ใกล้ชิด มารดาย่อมเห็นนางเป็ นบุตรหลานคนหนึ่ง ส่ วนสําหรับข้า..” ข้าเงย


หน้าขึ้นมองเขาก่อนกล่าวต่อ “นางเตือนให้ขา้ นึกถึงตนเอง ชะตาชีวิตของนางไม่ต่างจากข้าสักนิด ถูกชุบเลี้ยง
โดยใต้เท้าจาง ถูกเขาใช้บุญคุณคํ้าคอบีบบังคับให้กระทําเรื่ องราวต่างๆ ข้ายังจําความรู ้สึกนั้นได้ ตอนใต้เท้าจาง
พยายามยกข้าให้ฮ่องเต้ ข้าเชื่อว่าเสี่ ยวถิงเองก็ไม่เต็มใจ หากนางรู ้วา่ สิ่ งที่นางทําเป็ นอันตรายต่อข้าและมารดา
นางจะไม่ทาํ เด็ดขาด นางคงคิดไม่ถึงว่าจะมีแผนร้ายใหญ่หลวงซ่อนอยู”่

ชินอ๋ องกระชับวงแขนที่โอบเอวข้าไว้ “อวี้เอ๋ อร์อย่าเศร้าใจไปเลย เปิ่ นหวางรู ้ เจ้าสงสารสตรี ที่มีชะตากรรมไม่


ต่างกับเจ้า มีค่าเป็ นเพียงเบี้ยหมากในมือผูอ้ ื่น เจ้าและมารดาปกครองบ่าวไพร่ ดว้ ยจิตเมตตา ทว่าแนวคิดเช่นนั้น
ไม่อาจใช้ได้ในการปกครองคนหมู่มาก เปิ่ นหวางไม่เพียงปกครองคนในวังเสิ่ นหยางกง หน้าที่แม่ทพั ก็ไม่อาจ
บกพร่ อง กองทัพที่เข้มแข็งไม่อาจย่อหย่อนเรื่ องการลงโทษ ความเฉี ยบขาดคือหัวใจของการปกครอง เจ้าคงรู ้
คําตอบของเปิ่ นหวางแล้วกระมัง”

“อวี้เอ๋ อร์เข้าใจเพคะ อวี้เอ๋ อร์จึงว่าแล้วแต่ท่านอ๋ องจะพิจารณา อวี้เอ๋ อร์เพียงนําสารจากมารดามาส่ งต่อ” ข้าตอบ


พลางซบเข้ากับอกเขา “อวี้เอ๋ อร์จะแจ้งมารดาตามนี้”

ข้าปล่อยให้เขาสะสางงานต่อ ส่ วนตัวข้าจากไปยังตําหนักเมฆาล่อง เพียงเห็นสี หน้าข้า แม่กร็ ู ้คาํ ตอบ ข้าขอให้


แม่เรี ยกตัวเสี่ ยวถิงออกมาพบ คนอย่างใต้เท้าจางช่างโหดร้ายเหลือเกิน แม้แต่เด็กไร้เดียงสาก็ยงั ไม่วายถูกใช้
เป็ นเครื่ องมือ เด็กหญิงที่ยงั ไม่เข้าใจความหมายของคําว่าอํานาจ กลับกลายเป็ นหมากอีกตัวหนึ่งซึ่ งเขาจัดวางไว้
ใกล้ตวั ข้าโดยที่ขา้ และชินอ๋ องไม่ได้ไหวตัวเลยสักนิด

เมื่อเสี่ ยวถิงมาถึง นางคารวะข้าอย่างนอบน้อม ดวงตากลมโตลอบมองข้าอย่างชื่นชมเช่นเคย

“เสี่ ยวถิง เจ้าอยูก่ บั พระสัสสุ ที่นี่มีความสุ ขดีหรื อไม่” ข้าถามนางอย่างอ่อนโยน

เสี่ ยวถิงประสานมือก้มหน้าตอบ เห็นเพียงแก้มยุย้ สี ชมพูและจุกสองข้างบนศีรษะ

“เสี่ ยวถิงมีความสุ ขมากเพคะ เสี่ ยวถิงชอบพระสัสสุ ท่านใจดีกบั เสี่ ยวถิง”

402
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“เสี่ ยวถิง เจ้ารู ้หรื อไม่ เหตุใดคนของชินอ๋ องจึงจะมาเอาตัวเจ้าไป”

เสี่ ยวถิงสี หน้าสลดลง ดวงตาเรี ยวยาวที่เมื่อครู่ ยงั เป็ นประกายกลับหมองลง กล่าวเสี ยงสั่น “เป็ นเพราะเสี่ ยวถิง
ทํางานให้ใต้เท้าจาง ใต้เท้าจางต้องการทราบว่าพระสัสสุ จะออกจากวังวันไหน เสี่ ยวถิงมีหน้าที่ไปตามหวาง
เฟยให้ร่วมทางไปด้วย นอกเหนือจากนั้นเสี่ ยวถิงไม่ทราบเพคะ”

“เสี่ ยวถิงรู ้หรื อไม่ สิ่ งที่เจ้าทํา ชักพาพระสัสสุ และข้าไปสู่ อนั ตราย” ข้าถามนางต่อ

“เสี่ ยวถิงผิดไปแล้ว ขอหวางเฟยทรงลงอาญา ใต้เท้าจางเป็ นผูม้ ีพระคุณรับอุปการะเสี่ ยวถิงตั้งแต่ยงั เล็ก แม่ของ


เสี่ ยวถิงยามนี้ลม้ เจ็บก็ได้ใต้เท้าจางส่ งหมอไปรักษา เขาไหว้วานด้วยเรื่ องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ เสี่ ยวถิงจึงไม่กล้า
ปฏิเสธ หากเสี่ ยวถิงรู ้มาก่อนย่อมจะไม่ทาํ ” นางตอบด้วยนํ้าเสี ยงละอาย นํ้าตาไหลหยด

ปกติเสี่ ยวถิงเป็ นเด็กคล่องแคล่วช่างพูดจา อยูข่ า้ งกายแม่ขา้ ช่วยให้คลายเหงาไม่นอ้ ย แต่ยามนี้นางกลับสงบนิ่ง


ไม่แม้แต่จะกล่าวแก้ตวั ข้าถอนใจแผ่วเบาก่อนเอ่ยต่อ

“ความกตัญญูเป็ นสิ่ งที่ดี แต่หากคิดจะกตัญญูโดยไม่คาํ นึงถึงความถูกต้อง เท่ากับเป็ นการส่ งเสริ มผูม้ ีพระคุณ
ของเจ้าในทางที่ผดิ ทั้งยังทําให้ตวั เจ้าเองและผูอ้ ื่นเดือดร้อน เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ทําเช่นนี้จะได้รับโทษทัณฑ์เช่นไร”

เสี่ ยวถิงส่ ายหน้า มองข้าด้วยสายตาราวกับลูกสุ นขั ตัวน้อย “ไม่ทราบเพคะ แต่ไม่วา่ หวางเฟยจะตัดสิ นโทษเช่น
ไร เสี่ ยวถิงล้วนยินดีรับผิด”

ข้าถอนหายใจ ไม่อาจแข็งใจบอกความจริ งแก่นาง “เจ้ากลับไปก่อนเถิด ชินอ๋ องตัดสิ นใจอย่างไร ข้าค่อยให้คน


ไปตามเจ้ามา”

คล้อยหลังนางข้าได้แต่รําพึงกับตัวเอง

“เสี่ ยวถิง โลกก็โหดร้ายเช่นนี้เอง..”

นางเป็ นเพียงเด็กน้อยที่ไร้ซ่ ึ งเล่ห์เหลี่ยม น่าเวทนานักที่วยั เพียงเท่านี้กลับต้องมีจุดจบคือความตาย นางไม่ผิด


แต่ยคุ สมัยที่นางอยูเ่ ป็ นเช่นนี้ต่างหาก

403
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องมิใช่ไม่มีเมตตา ทว่าเขาไม่อาจไม่ลงโทษนาง ในยุคสมัยที่ผคู ้ นปกครองด้วยการสวามิภกั ดิ์ การทรยศ
เจ้านายถือเป็ นโทษที่ร้ายแรงที่สุด หากชินอ๋ องละเว้นนาง วันหน้าคําบัญชาของเขาย่อมไม่ศกั ดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่อาจ
ปกครองผูใ้ ต้บงั คับบัญชา

ข้าเดินกลับไปยังตําหนักหลักด้วยจิตใจหดหู่ ไม่อยากจะคิดเรื่ องนี้อีกต่อไปจึงตัดสิ นใจหาอะไรทํา วันนี้ ชินอ๋ อง


อยูว่ งั ข้าจึงตัดสิ นใจเข้าครัวทําอาหารให้เขา

ข้าตรงไปยังห้องเครื่ อง เสี ยงดังโหวกเหวกอันเป็ นปกติของในครัวเงียบลงในทันที คนครัวต่างยอบกายคารวะ


อย่างพร้อมเพรี ยงมิไยว่าข้าจะห้ามปราม เพียงข้าแจ้งความประสงค์ในการมายังห้องเครื่ อง ทุกคนก็ตระเตรี ยม
ข้าวของให้เป็ นอย่างดีท้ งั ยังเสนอตัวเป็ นลูกมือให้ขา้ ข้าจึงรี บปฏิเสธ

“มื้อนี้ขา้ จะลงมือทําอาหารสักสามอย่าง พวกเจ้าไม่ตอ้ งอยูช่ ่วยกันทั้งหมดหรอก ขอคนหัน่ ผักและดูไฟสักสอง


คนก็พอ”

แม่ครัวหลักรี บเสนอตัวทันที

“วัตถุดิบสําหรับอาหารกลางวันหม่อมฉันเตรี ยมไว้แล้วเพคะ ท่านอ๋ องรับสัง่ ให้คดั เลือกวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุ ง


ให้หวางเฟย หวางเฟยจะให้หม่อมฉันนําออกมาเลยหรื อไม่เพคะ”

ข้าพยักหน้า นางจึงรี บไปเตรี ยมผักปลาออกมา ข้ากวาดตามองไปรอบๆ เห็นบนเตายังมีโถดินเผาเคี่ยวด้วยไฟ


อ่อนตั้งอยูจ่ ึงเปิ ดออกดู กลิ่นหอมชวนชิมลอยฟุ้งไปทั้งครัว หัวหน้าคนครัวจึงกล่าว

“ท่านอ๋ องรับสั่งให้ต๋ ุนนํ้าแกงโสมไว้ต้ งั แต่เช้าเพคะ ถึงเวลาอาหารให้ยกไปให้หวางเฟยไม่ให้ขาด” ข้าพยักหน้า


รับรู ้

นางวางวัตถุดิบลงบนโต๊ะ ข้าเดินไปเลือกดู มีอาหารสดหลายอย่าง ชินอ๋ องชอบกินปลา ข้าตัดสิ นใจทําปลานึ่ง


ซี อิ๊ว เห็นผักกาดขาวต้นอวบและเต้าหู เ้ นื้อละเอียดจึงเลือกออกมาด้วย ความอร่ อยของอาหารส่ วนใหญ่ข้ ึนอยู่
กับความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็ นสําคัญ การปรุ งรสนั้นเพียงช่วยขับรสชาติของอาหารแต่ละชนิดให้เด่นขึ้นและ
มีความกลมกล่อม

404
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าให้คนช่วยหัน่ ผักและสับหมู ส่ วนข้าผสมเครื่ องปรุ งเตรี ยมไว้ในถ้วยเล็กๆ พวกนางตั้งไฟอย่างรู ้งาน ข้าต้มนํ้า
เดือดเตรี ยมนึ่งปลา วางปลาลงในจาน โรยขิง ขึ้นฉ่าย ราดนํ้าปรุ งรสแล้วประดับด้วยพริ กแดง จากนั้นก็วางลง
ในภาชนะบนเตาไฟแล้วปิ ดฝา

ข้าลงมือเจียวมันหมู ทอดเต้าหูจ้ นเปลือกด้านนอกเกรี ยม ตักขึ้นมาไว้ในจานอย่างระมัดระวัง แล้วลงมือผัด


เครื่ องปรุ งสําหรับราดเต้าหู ้ เต้าหู อ้ ่อนเนื้อเนียนละเอียดหอมกลิ่นถัว่ เหลือง จัดเป็ นวัตถุดิบชั้นเลิศ ยามทอดข้า
ต้องระวังเป็ นพิเศษไม่ให้เนื้อเต้าหูแ้ ตก ยิง่ ราดด้วยนํ้าปรุ งรสหวานเค็มรสชาติเข้มข้น จึงเข้ากันเป็ นอย่างดี
จากนั้นจึงผัดผักกาดขาวด้วยไฟแรงจัดเป็ นอย่างสุ ดท้ายเนื่องจากใช้เวลาไม่นาน ข้าจัดจานอย่างประณี ต ให้คน
ลําเลียงอาหารลงถาดแล้วยกไป

ข้ากลับมาหาเขาที่หออักษร เห็นเขายังอ่านเอกสารอย่างมีสมาธิ จึงให้คนจัดวางสํารับไว้ที่มา้ หิ นในสวน ครั้น


เรี ยบร้อยดีแล้วจึงเข้าไปตามเขา

“ท่านอ๋ องจะเสวยมื้อเที่ยงเลยหรื อไม่เพคะ อวี้เอ๋ อร์ให้คนตั้งสํารับไว้ในอุทยาน”

“เปิ่ นหวางกําลังหิ วพอดี วันนี้อากาศดี กินข้าวข้างนอกก็ดีเหมือนกัน”

พอนัง่ ลงที่โต๊ะ ชินอ๋ องกวาดสายตามองอาหาร เห็นมีอาหารน้อยอย่างก็ไม่ได้ประหลาดใจ ใบหน้าหล่อเหลา


กลับมีรอยยิม้ ผุดขึ้น

ชินอ๋ องคีบปลาเข้าปากเป็ นอันดับแรก

“อวี้เอ๋ อร์ เข้าครัวเองหรื อ” เขาเอ่ยถามพลางเคี้ยวอย่างช้าๆ เพื่อซึ มซับรสชาติ

“อวี้เอ๋ อร์ อยูว่ า่ งๆ จึงอยากทําอาหารให้ท่านอ๋ องได้ชิม แต่ละอย่างล้วนเป็ นอาหารพื้นๆ ไม่รู้วา่ ถูกปากหรื อไม่”
ข้าเอ่ย หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นมาได้วา่ แต่ละมื้อของชินอ๋ องล้วนแล้วแต่เป็ นอาหารชั้นเลิศที่มี
กรรมวิธีวจิ ิตรพิสดาร คนครัวที่ได้รับการอบรมจากในวังล้วนแล้วแต่ประดิดประดอยแต่ละจานออกมาเป็ น
พิเศษ อาหารธรรมดาที่ขา้ ทําจะไปเทียบได้อย่างไร

“เปิ่ นหวางชอบรสมือเจ้าเป็ นที่สุด ยังคงเป็ นอวี้เอ๋ อร์ที่รู้ความชอบของเปิ่ นหวาง” กล่าวจบเขาก็คีบอาหารจาน


อื่นๆ ขึ้นมากิน

405
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้าหน้าแดง ไม่รู้วา่ เขากล่าวชมเพียงเพื่อเอาใจข้าหรื อไม่ ข้าคีบกับข้าวจะใส่ ถว้ ยให้เขา แต่เขากลับอ้าปาก

หมิงจูและนางกํานัลคนอื่นๆ แอบก้มหน้าอมยิม้ ข้าเขินอายพวกนางแต่กป็ ้อนเขาอย่างตามใจ พอข้าจะลงมือกิน


ชินอ๋ องก็คีบเนื้อปลาส่ วนที่อร่ อยที่สุดมาตรงหน้า สายตาที่มองมาวาววาม ข้าเขินอายสายตาผูอ้ ื่นเหลือกําลัง
ขณะที่กาํ ลังลังเลใจอยูน่ ้ นั ชินอ๋ องก็เอ่ยเสี ยงขรึ มหน้าตาย

“พวกเจ้าออกไปให้หมด”

ครั้นเหลือพวกเราเพียงลําพัง ข้ามองหน้าเขาแล้วมองตะเกียบที่เขาถือค้างไว้อยูต่ รงหน้า เขาเอ่ยกับข้าเสี ยง


กระซิ บ

“อ้าปากสิ อวี้เอ๋ อร์” ทั้งๆ ที่คาํ พูดเขาเอ่ยออกมาอย่างธรรมดา แต่ขา้ กลับร้อนวูบวาบโดยไม่รู้สาเหตุ อาจจะเป็ น


สายตาเขาที่จอ้ งมองมาราวกับจะกลืนกินทั้งข้าและอาหารเข้าไปพร้อมกัน ข้าอ้าปากเคี้ยวอาหารแทบไม่รู้รส
พอถึงคราวเขา ชินอ๋ องก็รอให้ขา้ เป็ นฝ่ ายป้อน

“ท่านอ๋ อง.. อวี้เอ๋ อร์ไม่ค่อยถนัด ท่านอ๋ องเสวยเองดีหรื อไม่เพคะ” ข้ากล่าวอ้อมแอ้ม เขาตัวสู งถึงเพียงนี้ แม้ยาม
นัง่ ก็เป็ นการยากที่ขา้ จะป้อนถึงปาก

“อวี้เอ๋ อร์ กข็ ยับเข้ามาป้อนใกล้ๆ เปิ่ นหวาง ไหนตอนอยูใ่ นสุ สาน อวี้เอ๋ อร์วา่ จะตามใจเปิ่ นหวางทุกอย่างไม่ใช่
หรื อ” เขาทวงสัญญา

ข้าลุกขึ้นจากที่นงั่ ไปยืนข้างๆ เขา ชินอ๋ องรวบเอวข้านัง่ บนตัก

“เปิ่ นหวางไม่เคยกินอาหารอร่ อยเท่านี้มาก่อนเลย” เขากล่าวพลางจ้องมองเข้ามาในดวงตาข้า

ข้ารู ้.. เขากําลังล่อลวงข้า แต่มนั ออกจะเกินไป ยามกินข้าวในสวนกลางวันแสกๆ ใช่เวลาที่เหมาะสมหรื อ ข้าลืม


ไป คนอย่างชินอ๋ องสนใจกฎเกณฑ์เสี ยที่ไหน ยิง่ ข้าต่อต้าน เขายิง่ ครึ้ มอกครึ้ มใจ

“ท่านอ๋ องนัง่ ดีๆ สิ เพคะ ไม่เช่นนั้นอวี้เอ๋ อร์จะไม่ป้อนแล้ว” ข้าแสร้งทําเสี ยงแข็งใส่ ทําท่าไม่รู้ไม่ช้ ีต่อสายตา
แพรวพราวของเขา

406
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ทุกอย่างของอวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางจะกินทั้งหมด” เขากําลังพูดถึงอาหาร แต่กลับจ้องข้า
นิ่ง

ไม่รู้เหตุใด ข้าได้ยนิ คําพูดนี้ของเขาแล้วมือไม้สั่นไปหมด ใจของข้าเต้นแรง เขากําลังเกี้ยวข้าอยูห่ รื อ ข้ารี บคีบ


อาหารป้อนเขาไม่หยุดมือ กลัวว่าหากปากของเขาว่างจะพูดอะไรให้ขา้ ได้อายอีก เขาเคี้ยวอาหารอย่างอารมณ์ดี
ในแววตาปรากฏรอยยิม้

พออาหารมื้อกลางวันสิ้ นสุ ดลง ข้าแทบจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาป้อนข้า ข้าป้อนเขา ทําเอาข้าแทบสําลัก


ยามที่คนมายกสํารับไปเก็บ ชินอ๋ องเตรี ยมจะกลับเข้าไปทํางานต่อในหออักษร เขาหันมาเอ่ยกับข้าเบาๆ

“บ่ายนี้อวี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ตอ้ งหาอะไรทําให้เหน็ดเหนื่อย รี บกลับไปนอนเอาแรงเสี ยเถิด”

คําพูดสั้นๆ กินความนัยของเขาทําเอาข้าหน้าแดงอย่างไม่อาจระงับ ข้าค้อนเขาแล้วรี บเดินกลับตําหนัก

..ชินอ๋ อง ที่ผา่ นมาความร้ายกาจของท่านไม่ได้ครึ่ งหนึ่งของที่ท่านแสดงออกเลยด้วยซํ้า..

แม้ขา้ จะเดินจากมาไกลแล้ว แต่เสี ยงหัวเราะยียวนกวนประสาทของเขายังคงไล่ตามหลังข้ามา

407
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 58 : ความซื่ อตรงของคนเจ้ าเล่ ห์

อากาศเริ่ มร้อนขึ้น ฤดูใบไม้ผลิกาํ ลังจะสิ้ นสุ ดลง ยามบ่ายข้าจึงให้คนยกพิณไปตั้งไว้ที่ศาลาริ มนํ้า ต้นไม้ใหญ่


ร่ มครึ้ มที่อยูไ่ ม่ไกลทําให้ศาลาแห่งนี้ร่มรื่ นเย็นสบาย สายนํ้าจากทะเลสาบที่ไหลเอื่อยทําให้รู้สึกผ่อนคลายไม่
น้อย ข้าบรรเลงเพลงบุปผาสายชล เพลงเดียวกับที่เคยให้บรรเลงให้ชินอ๋ องฟังเมื่อสองปี ก่อนตอนที่ขา้ ถวายตัว
ใหม่ๆ ยามนี้ขา้ ไม่ใช่เด็กสาววัยสิ บแปดจากโลกเดิมอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ซียนิ ผูเ้ คยผิดหวังในรัก ไม่ใช่บุตรี บุญ
ธรรมของใต้เท้าจางที่เป็ นเพียงหมากในสงครามช่วงชิงอํานาจของบุรุษ ทว่าข้าคืออวี้เอ๋ อร์ที่ละวางความแค้นใน
อดีตลง มองเรื่ องราวที่เกิดขึ้นอย่างเป็ นกลางมากขึ้น

บทเพลงบุปผาสายชลในวันนี้เปี่ ยมไปด้วยท่วงทํานองของสายนํ้าที่ไหลริ น เปรี ยบประดุจชีวติ ของผูค้ นที่ลว้ น


เวียนว่ายอยูใ่ นสังสารวัฏ สุ ขทุกข์ดีเลวล้วนปะปน ข้าไม่อาจกล่าวอ้างว่าบรรลุธรรมใด เพียงแต่เหตุการณ์
เรื่ องราวที่ผา่ นเข้ามาได้เปิ ดหูเปิ ดตาข้า ทําให้ขา้ เข้าใจความหมายของชีวติ มากขึ้น

..ชีวิตนี้ใครกําหนด.. ไม่มีใครบอกได้ เราล้วนแล้วแต่ไหลไปตามกระแส จุดหมายปลายทางจะเป็ นเช่นไรไม่


อาจรู ้..

เสี ยงพิณสุ ดท้ายห้วนสั้น จบลงอย่างกะทันหัน ราวกับบุปผาที่ถูกเด็ดดึงจากต้นก่อนเวลาอันควร

ข้านึกถึงเสี่ ยวถิง เช้านี้มีคนนําตัวนางไปจากตําหนักเมฆาล่อง แม่เล่าว่านางคุกเข่าคํานับแม่ โขกศีรษะอย่างแรง


จนหน้าผากนูนของนางมีเลือดไหลซึ ม

"พระสัสสุ หากเสี่ ยวถิงย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่มีทางหักหลังให้ท่านต้องได้รับอันตราย ทว่าเสี่ ยวถิงพลาด


ไปแล้ว หวังเพียงชาติหน้าเกิดเป็ นม้าเป็ นลาให้ท่านช่วงใช้ เสี่ ยวถิงจะขอจงรักภักดีต่อพระสัสสุ จนถึงที่สุด"

แม่ประคองนางลุกขึ้น บอกนางว่าแม่ไม่เคยโกรธนาง แม่เข้าใจ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความจําเป็ น เสี่ ยวถิงเองก็


เช่นกัน มีมารดาที่นางรัก มีผมู ้ ีพระคุณที่นางต้องตอบแทน แม่หวังเพียงนางมีชีวติ ที่ดี ทว่าคําพูดของแม่คงเป็ น
เพียงคําปลอบโยนลมๆ แล้งๆ ไม่วา่ ใครต่างก็รู้ จุดจบของเสี่ ยวถิงจะเป็ นเช่นไร ข้าไม่รู้วา่ ท้ายที่สุดแล้วนางรู ้
หรื อไม่วา่ ความตายรอคอยนางอยูท่ นั ทีที่นางก้าวพ้นตําหนักเมฆาล่อง

408
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เสี่ ยวถิงเดินตามคนของชินอ๋ องไปด้วยอาการสงบนิ่ง ข้าหวังว่าชินอ๋ องจะไม่ทาํ ให้นางต้องทรมานนานนัก
ความตายที่รวดเร็ วคงจะเป็ นการปลดปล่อยที่แท้จริ ง นางจะได้เป็ นอิสระจากโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและ
การแก่งแย่ง

ความคิดของข้าถูกดึงกลับมาด้วยเสี ยงตบมือที่ดงั ขึ้นไม่ไกล ชินอ๋ องก้าวขึ้นมาบนศาลา ข้ารี บลุกขึ้นย่อกาย


คารวะ ทว่าชินอ๋ องปราดเข้ามาประคองไว้เสี ยก่อน

“อวี้เอ๋ อร์ บอกหลายครั้งแล้วมิใช่หรื อ พวกเราเป็ นสามีภรรยากัน อย่าได้มากพิธี” เขาดุขา้ เบาๆ

“ทําไว้ให้ชินดีกว่าเพคะ ต่อหน้าบุคคลอื่นอวี้เอ๋ อร์จะได้ไม่เผลอแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม” ข้าหาเหตุผลมาแย้ง


เขา

ชินอ๋ องไม่ได้สืบสาวหาความต่อ เพียงแต่เอ่ยชมเพลงพิณของข้า

“บุปผาสายชลในวันนี้ต่างจากเมื่อครั้งอวี้เอ๋ อร์บรรเลงให้เปิ่ นหวางฟังคราแรกเหลือเกิน แม้มิได้สดใสร่ าเริ ง


ทว่าลึกซึ้ งจับใจ”

ข้ายิม้ ตอบ “คนเดิมบรรเลงเพลงเดิม แต่ความคิดอ่านไม่เหมือนเดิมเสี ยแล้ว ขึ้นอยูก่ บั ว่าท่านอ๋ องโปรดแบบ


ไหนมากกว่ากันเพคะ”

มุมปากของชินอ๋ องกดลึก “ขอเพียงเป็ นคนเดิม จะบรรเลงอย่างไร เปิ่ นหวางย่อมโปรดปรานทั้งสิ้ น ขอเพียงมี


ใจบรรเลงให้เปิ่ นหวางฟังคนเดียวก็พอ”

ข้าก้มหน้าลงซ่อนรอยยิม้ พลางกล่าวเปลี่ยนเรื่ อง

“ท่านอ๋ องเสด็จมาถึงที่นี่ มีเรื่ องใดจะกล่าวกับอวี้เอ๋ อร์ใช่หรื อไม่” ศาลาริ มนํ้าอยูห่ ่างไกลจากหออักษร เขาเดิน
ฝ่ าแดดยามบ่ายมาถึงที่นี่ คงมีเรื่ องสําคัญจะกล่าวกับข้าเป็ นแน่

เขาประคองข้านัง่ ลง สายลมสดชื่นพัดมา หอบเอากลิ่นหอมของใบหญ้าที่อวลอยูใ่ นอากาศยามบ่ายมาด้วย ครั้น


นัง่ เรี ยบร้อยดีแล้วจึงเอ่ย

409
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์กล่าวถูกต้องแล้ว เปิ่ นหวางมีเรื่ องจะกล่าวกับเจ้า” เขายิม้ น้อยๆ ในสี หน้า “งานชมบุปผาปี นี้ อวี้เอ๋ อร์
อยากจะเข้าร่ วมหรื อไม่ อีกไม่นานเปิ่ นหวางจะต้องออกจากเมืองหลวงแล้ว อวี้เอ๋ อร์คงไม่ได้มีโอกาสมาร่ วม
งานเช่นนี้อีกบ่อยๆ”

ครั้นเขาเอ่ยถึงวังหลวง ข้าก็นึกถึงอาหนิงขึ้นมา ข้าไม่ได้พบนางนานแล้ว ไม่รู้วา่ นางปลอดภัยดีหรื อไม่ บุตรี คน


โตของใต้เท้าจางเป็ นสนมขั้นผินอยูใ่ นวังมิใช่หรื อ หากนางพยายามหาทางแก้แค้นแทนตระกูลจาง อาหนิงย่อม
ตกอยูใ่ นอันตราย แต่เดิมข้าตั้งใจจะขอติดตามชินอ๋ องเข้าวังเพื่อเตือนนางเรื่ องนี้เสี ยหน่อย ทว่าเพิ่งกลับถึง
วังเสิ่ นกงหยางได้ไม่ถึงอาทิตย์ ข้าจึงไม่ไม่สะดวกใจจะเอ่ยถึง นับว่าชินอ๋ องกล่าวถึงงานชมบุปผาได้ถูกจังหวะ
พอดี ข้าจึงรี บพยักหน้า

“อวี้เอ๋ อร์อยากพบอาหนิง จะอาศัยโอกาสนี้เข้าวังไปพบนางได้หรื อไม่เพคะ”

ชินอ๋ องพยักหน้า “หากฮ่องเต้รู้วา่ พวกเราจะไปร่ วมงาน คงมีรับสั่งให้นางมาร่ วมงานนี้เช่นกัน”

“อวี้เอ๋ อร์ เป็ นห่ วงอาหนิง บุตรี คนโตของใต้เท้าจางเป็ นพระสนมอยูใ่ นวังหลวงเช่นกัน ถึงใต้เท้าจางจะสิ้ นไป
แล้ว แต่กไ็ ม่อาจประมาทได้ อวี้เอ๋ อร์จึงอยากจะไปเตือนนางเสี ยหน่อย” ข้าเปรยความคิดให้เขาฟัง

ชินอ๋ องยกถ้วยชาขึ้นมาถือไว้ นิ้วเรี ยวยาวหยิบฝาขึ้นปาดใบชาก่อนค่อยๆ จิบ พลางกล่าว

“จางอี้หรู อาศัยอิทธิ พลของไทเฮาจึงได้เลื่อนตําแหน่งเป็ นถึงสนมขั้นผิน ไม่เช่นนั้นแล้วสตรี ที่ไม่มีความโดด


เด่นอันใดคงไม่ได้มาไกลถึงเพียงนี้หรอก ยิง่ ยามนี้ปราศจากไทเฮา เปิ่ นหวางคิดว่านางคงไม่อาจเคลื่อนไหว
อะไรด้วยตัวเองได้มากนัก อาหนิงสหายเจ้ากําลังตั้งครรภ์ นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ไม่นอ้ ยเลย
ทีเดียว จางอี้หรู คงจะไม่กล้ากระทําการใดบุ่มบ่าม”

“อาหนิ งตั้งครรภ์แล้วหรื อเพคะ” ข้าเอ่ยอย่างตื่นเต้น อดดีใจไปกับนางไม่ได้ จากที่พดู คุยกันคราวก่อน ดู


เหมือนว่านางมีใจให้ฮ่องเต้ไม่นอ้ ย แม้นางไม่อาจเป็ นสตรี เพียงคนเดียวของฮ่องเต้ การได้มีทายาทสื บสกุลกับ
เขาคงเป็ นสิ่ งปลอบประโลมใจให้กบั นางไม่นอ้ ย

“ฮ่องเต้ทรงหาโอกาสปูนบําเหน็จให้นางอยูแ่ ล้ว เรื่ องที่นางโขมยหลักฐานมัดตัวตระกูลจางมาให้ฮ่องเต้


อย่างไรก็ไม่อาจเปิ ดเผยออกไปได้ นางเป็ นพระสนม ไม่อาจให้มีข่าวคราวว่านางพัวพันกับเรื่ องราวนอกวังหลัง
ความดีความชอบครั้งนั้นยังไม่ได้ตอบแทน ครั้นนางตั้งครรภ์จึงอาศัยเหตุน้ ีเลื่อนขั้นให้เป็ นมู่เสี ยนเฟย”

410
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

ข้ายิม้ ตาเป็ นประกาย อาหนิ งได้เป็ นถึงพระสนมชั้นสู ง หากนางคลอดบุตรย่อมจะมีสิทธิ์ได้เลี้ยงดูเอง สําหรับ


คนที่ไร้ญาติขาดมิตรเช่นอาหนิง บุตรธิดาย่อมเป็ นเพียงสายใยเดียวที่หลงเหลืออยูบ่ นโลกใบนี้ นางคงสุ ขใจไม่
น้อย คําพูดของชินอ๋ องทําให้ขา้ สบายใจขึ้น ฐานะของนางในวังหลวงคงไม่มีใครกล้าล่วงเกิน นางทั้งงดงาม
และฉลาดเฉลียว อีกทั้งยังตั้งครรภ์สายเลือดมังกร หากฮ่องเต้ไม่ให้ความสําคัญแก่นางคงแปลกประหลาดนัก

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางเป็ นเชื้อพระวงศ์ช้ นั สู ง อีกทั้งยังกุมกําลังทัพไว้ในมือไม่นอ้ ย ไม่เหมาะที่จะรั้งอยูเ่ มืองหลวง


นาน เราจะมุ่งหน้าไปเมืองจางจี้ เมืองท่าสําคัญของแคว้นเว่ยที่ยดึ เอาไว้ได้ในศึกที่ผา่ นมา เปิ่ นหวางจะไปตั้ง
ฐานที่มนั่ อยูท่ ี่นนั่ เจ้ามีอะไรขัดข้องหรื อไม่”

ข้าส่ ายหน้า “ไม่มีเพคะ อวี้เอ๋ อร์จะขัดข้องได้อย่างไร ไม่วา่ ท่านอ๋ องเสด็จที่ใด อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มติดตามไปโดยไม่มี
ข้อแม้”

เขาวางถ้วยชาลงแล้วเอื้อมมากุมมือข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เราสองคนได้อยูด่ ว้ ยกันเช่นนี้ เปิ่ นหวางมีความสุ ขเหลือเกิน”

ข้ายิม้ ให้เขา ดวงตาข้าเป็ นประกายสื่ อความหมายเช่นเดียวกันกับเขา ชินอ๋ องหลุบตาลง กล่าวเสี ยงเบา

“เปิ่ นหวางยังติดค้างคําอธิบายเล็กๆ น้อยๆ ต่อเจ้า หวังว่าเจ้าฟังแล้วจะไม่โกรธ อันที่จริ งจะปล่อยผ่านเสี ยก็ได้


แต่เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการมีความลับใดกับอวี้เอ๋ อร์อีกต่อไป”

ข้าเงยหน้ามองเขาอย่างฉงน ความลับใดอีกหรื อที่เขายังเก็บงําไว้ มิใช่วา่ เรื่ องราวแต่หนหลังพวกเราได้พดู คุย


กันกระจ่างแล้วหรื อไร เขาเห็นสี หน้าข้าก็อมยิม้

“อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธเปิ่ นหวาง”

ข้าค้อนเขาทีหนึ่ ง “ทําอย่างกับว่าหากอวี้เอ๋ อร์ โกรธแล้ว ท่านอ๋ องจะไม่มีวธิ ีทาํ ให้อวี้เอ๋ อร์ ยกโทษให้อย่างนั้น
แหละ” ที่ผา่ นมาก็ลว้ นแต่เป็ นอย่างนี้ ไม่ใช่หรื อ ทุกคราวที่ขา้ ขุ่นเคืองใจ เขามักจะมีวธิ ีแก้ไขสถานการณ์ใน
แบบของตนเองเสมอ

411
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องโอบข้าไว้ในอ้อมแขนพลางกล่าว “อวี้เอ๋ อร์จาํ ตอนที่เปิ่ นหวางบุกไปช่วยเจ้าจากใต้เท้าจางได้หรื อไม่”

“จําได้เพคะ ตอนนั้นท่านอ๋ องได้รับบาดเจ็บแต่กส็ ังหารใต้เท้าจางและบุตรชายของเขา รวมทั้งผูค้ ุมอีกสี่ คนก่อน


พาอวี้เอ๋ อร์หนีออกมา พวกเรายังถูกกลุ่มนักฆ่าของเว่ยหงอิ่นติดตามมาจนต้องหลบซ่อนอยูใ่ นป่ าทั้งคืน” ข้า
ตอบเขา

“อันที่จริ งแล้ว นักฆ่าพวกนั้นไม่ได้ร้ายกาจปานนั้น ลําพังคนของเปิ่ นหวางก็พอจะรับมือกับพวกนั้นได้อยู่


หรอก”

ข้าใคร่ ครวญคําพูดของเขาพร้อมกับนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

“แล้วเหตุใดท่านอ๋ องจึงดึงดันจะออกไปหลอกล่อคนร้ายตามลําพังเล่าเพคะ”

“เปิ่ นหวางเพียงต้องการให้อวี้เอ๋ อร์ ได้ฉุกใจคิด”

ข้าคิดตาม ตอนนั้นเขาบอกว่ายินดีจะชดเชยทุกสิ่ งให้ขา้ ด้วยชีวิต ดูเหมือนเขาจะเชื่อว่าข้าหมดรักเขาเสี ยแล้ว


จนข้าต้องเอ่ยกับเขาว่าอย่าได้เชื่อคําที่ขา้ กล่าวต่อหน้าศัตรู

“ท่านอ๋ องอยากให้ขา้ เข้าใจความลําบากใจของเจิ้งอู่หรื อเพคะ” ข้าถาม

“อวี้เอ๋ อร์เข้าใจถูกต้องแล้ว ยามนั้นเปิ่ นหวางตั้งใจจะพาเจ้าไปสุ สานของซี ยนิ แต่กลัวเหลือเกินว่าอวี้เอ๋ อร์จะ


โกรธจนไม่ยอมยกโทษให้ เปิ่ นหวางจึงอยากให้เจ้าเข้าใจ เจิ้งอู่ไม่เคยมีโอกาสได้พบซี ยนิ ตามลําพัง ทุกครั้ง
ล้วนอยูต่ ่อหน้าลวีอ่ ี่และบิดาของนาง อีกทั้งเปิ่ นหวางไม่แน่ใจว่าอวี้เอ๋ อร์จะเชื่อคํายุแยงของใต้เท้าจางหรื อไม่
ว่าเปิ่ นหวางใช้เจ้าเป็ นเหยือ่ ล่อ อวี้เอ๋ อร์ไม่โกรธเปิ่ นหวางใช่หรื อไม่”

“เช่นนั้นการที่ท่านอ๋ องให้เฉิ นซี และคนอื่นๆ แยกกลับไปก่อนก็เป็ นเพราะตั้งใจจะออกเดินทางไปกับอวี้เอ๋ อร์


ตามลําพังหรื อเพคะ” ข้าค่อยๆ ลําดับความคิด

“อวี้เอ๋ อร์ สุ สานแห่งนี้เป็ นความลับของเราสองคน เปิ่ นหวางไม่ปรารถนาจะให้ผใู ้ ดล่วงรู ้ แม้แต่เฉิ นซี กย็ งั ไม่รู้
ว่านี่เป็ นเจตนาของเปิ่ นหวางที่หมายให้พวกเขากลับไปก่อน พวกเขานึกว่านักฆ่าเหล่านี้ร้ายกาจจริ งๆ ดังที่เปิ่ น

412
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
หวางว่า แต่พวกเขาเข้าใจเช่นนี้ กด็ ีแล้วมิใช่หรื อ พวกเขาจึงระมัดระวังตัวมากขึ้นจนไม่มีใครได้รับอันตรายถึง
ชีวิต” เขารี บเอ่ยอธิบายยืดยาวอย่างกลัวว่าข้าจะเอาผิด

ร้ายกาจนัก เขาสร้างสถานการณ์เอื้อประโยชน์ให้ตนเอง ข้าตัดสิ นใจนิ่งเฉย แต่ทบบัญชีน้ ีไว้ในใจ ในขณะที่ขา้


ตื่นตระหนกหวาดกลัวแทบเป็ นแทบตาย ชินอ๋ องกลับมองดูทุกอย่างเป็ นไปตามที่เขาต้องการ

“แล้วบาดแผลที่หน้าอกตอนที่ท่านอ๋ องติดตามไปสังหารนักฆ่าสองคนนั้นเล่า คงไม่ได้เกิดจากการต่อสู ้กนั จริ ง


หรอกนะเพคะ” ข้าเอ่ยอย่างประชดทว่าเขากลับยอมรับอย่างจํานน

“อวี้เอ๋ อร์กล่าวไม่ผดิ เปิ่ นหวางกังวลเกินไป เกรงว่าหากท้ายที่สุดอวี้เอ๋ อร์ไม่ยอมยกโทษให้จริ งๆ ก็จะใช้อาการ


บาดเจ็บเรี ยกร้องความเห็นใจจากเจ้า จึงชิงลงมือกับตัวเองเสี ยก่อน แต่โชคดีที่อวี้เอ๋ อร์เข้าใจ เปิ่ นหวางจึงไม่ได้
คิดจะเปิ ดเผยเรื่ องอาการบาดเจ็บตั้งแต่แรก”

เขาพูดราวกับเป็ นเรื่ องธรรมดาทั้งที่บาดแผลที่หน้าอกนั้นลึกเอาการ ข้าอดไม่ได้ตอ้ งกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย


คนประเภทไหนกันจะคิดวางแผนหลายชั้นจนแม้แต่คนรอบกายบางครั้งก็ไม่อาจเข้าถึง

“ท่านอ๋ องคิดว่าอวี้เอ๋ อร์ เป็ นคนเข้าใจอะไรยากหรื ออย่างไร เหตุใดเรื่ องราวธรรมดากลับต้องทําให้ซบั ซ้อนด้วย


เล่าเพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าไม่เข้าใจ เปิ่ นหวางเคยเกือบจะสู ญเสี ยเจ้าไป เปิ่ นหวางไม่ตอ้ งการเสี่ ยง หากสิ่ งใดที่ทาํ แล้วจะ
เหนี่ยวรั้งเจ้าไว้ได้ เปิ่ นหวางก็จะทํา” เขาตอบอย่างจริ งจังพร้อมกับกระชับอ้อมกอดที่โอบข้าไว้ให้แน่นเข้า ข้า
กอดเขาตอบอย่างปลอบประโลม

“ท่านอ๋ อง ขอเพียงอวี้เอ๋ อร์เข้าใจเหตุผลของท่าน มีหรื อจะยังถือโทษโกรธเคืองอยูไ่ ด้”

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างดีต่อเปิ่ นหวางเหลือเกิน” เขากระซิ บแผ่วเบาที่ริมหูแล้วถูไถใบหน้าเข้ากับแก้มนุ่ม ข้าฟังแล้ว


อดยิม้ ไม่ได้ เขาทําตัวราวกับเด็กชายตัวน้อยที่พอทําผิดแล้วถูกจับได้กอ็ อดอ้อนอย่างน่าเอ็นดู

“คราวนี้ เห็นแก่ความซื่ อตรงของท่านอ๋ องที่ยอมสารภาพ อวี้เอ๋ อร์ จึงให้อภัย แต่ภายภาคหน้า…”

413
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อวี้เอ๋ อร์ เราสองคนเข้าใจกันเช่นนี้แล้ว อวี้เอ๋ อร์คิดหรื อว่าในภายภาคหน้าเปิ่ นหวางจะมีสิ่งใดต้องปกปิ ดเจ้า
อีก” เขาเอ่ยขัดขึ้น

ข้าเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างคาดโทษ “จะมีหรื อไม่กต็ ามทีเถิด อย่าให้อวี้เอ๋ อร์จบั ได้กแ็ ล้วกัน”

เขาอมยิม้ มุมปาก แล้วก้มลงมาจุมพิตข้าโดยไม่ได้ตอบคํา

414
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 59 : สตรีใจแคบ

ข้าติดตามชินอ๋ องเข้าวังเพื่อร่ วมงานชมบุปผาที่จดั ขึ้นเป็ นประจําทุกปี บุตรภริ ยาของเหล่าขุนนางชั้นสู งต่างถือ


โอกาสนี้สร้างสายสัมพันธ์ พบปะบุคคลที่อาจเอื้อประโยชน์ให้แก่กนั ได้ในราชสํานัก จัดเป็ นวาระสําคัญที่ไม่
อาจละเลย หนุ่มสาวต่างมาร่ วมงานนี้เพื่อหาคู่ครอง ความมัง่ คัง่ ของแต่ละตระกูลวัดกันจากเสื้ อผ้าอาภรณ์และ
เครื่ องประดับที่สวมใส่ ฝ่ ายสตรี กถ็ ือโอกาสนี้ประชันความงามที่เบ่งบานราวกับบุปผาหลากสี ยามก้าวเข้ามา
ในงาน สี สันสดใสของแพรพรรณหลากตาข้าไปหมด เป็ นภาพที่ยากจะได้เห็นในยุคสมัยนี้เหลือเกิน

ข้าและชินอ๋ องมาถึงไม่ชา้ ไม่เร็ วเกินไปนัก ยามที่พวกเราปรากฏกาย เสี ยงพูดคุยในงานหยุดลงพร้อมกับสายตา


ของผูค้ นที่เหลือบแลมาอย่างสนใจ ข้าชินกับปฏิกิริยาเช่นนี้ของผูค้ นเสี ยแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกประหม่าเหมือนแต่
ก่อน ข้าสวมชุดสี ฟ้าขาวบางเบาพลิ้วไหว ยามเยื้องย่างชายผ้าทิ้งตัวอย่างสวยงาม แลดูสบายตาในช่วงอากาศอบ
อ้าวของปี ข้าสวมเครื่ องประดับน้อยชิ้นเพื่อมิให้ดูรกตา ทว่าแต่ละชิ้นก็ประณี ตงดงามสมฐานะ ปิ่ นระย้าทิ้งตัว
เป็ นเส้นยาวลงระสองบ่า สองหู ประดับด้วยต่างหูมุกแวววาว หยกขาวสลักอย่างประณี ตห้อยอยูท่ ี่เอว ชินอ๋ อง
สวมเสื้ อคลุมลายมังกรสี่ เล็บดูองอาจสง่างามเช่นเคย ใบหน้าของเขาเรี ยบเฉย สัมผัสอ่อนโยนจากปลายนิ้วที่
แตะข้อศอกยามประคองข้าเดินไปด้วยกันสื่ อให้รู้วา่ เขาเป็ นห่วงข้าเพียงไร

ข้ารู ้ เราสองคนต่างตกเป็ นหัวข้อสนทนาในยุคสมัยที่ยงั ไม่มีสิ่งบันเทิงอื่นใดนอกจากการนินทา ผูค้ นคงยังไม่


ลืมเรื่ องราวแต่หนหลังที่ขา้ จงใจสร้างขึ้น ชินหวางเฟยผูต้ บหน้าชินอ๋ องกลางท้องพระโรงครานั้น บัดนี้ยงั คง
เชิดหน้าเคียงคู่ชินอ๋ องอย่างงามสง่า มิได้ตอ้ งโทษทัณฑ์ มิได้เสื่ อมคลายความโปรดปราน วีรบุรุษของพวกเขา
ยังคงยึดมัน่ ในสตรี ร้ายกาจผูน้ ้ ี ถูกแล้ว สถานะของชินอ๋ องในใจของพวกเขาย่อมสู งส่ ง ครั้นถูกสตรี เช่นข้าหลู่
เกียรติจึงยากจะยอมรับได้ กระนั้น แม้จะตะขิดตะขวงใจอยูบ่ า้ ง คนเหล่านี้กไ็ ม่อาจปฏิเสธได้วา่ ชินหวางเฟ
ยช่างงดงามเหลือเกิน ชินอ๋ องของพวกเขามิใช่คนตาบอด มีหรื อจะไม่ลุ่มหลงในตัวนาง อันว่าโฉมสะคราญมี
หรื อจะไม่แสนงอนเอาแต่ใจ

..ทว่านัน่ ไม่ใช่ตวั ข้า ข้ามิใช่คนแสนงอนเอาแต่ใจ แต่หากผูใ้ ดจะคิดเช่นนั้นก็ตามใจ ข้าไม่คิดจะแก้ไข..

ข้าไม่สนใจลมปากของผูค้ น สาวเท้าเคียงคู่ชินอ๋ องอย่างแช่มช้า ครั้นนัง่ ประจําที่เพียงไม่นาน ฮ่องเต้กเ็ สด็จ


พร้อมกับฮองเฮาและเหล่าพระสนม อาหนิงได้ติดตามมาร่ วมงานดังที่ชินอ๋ องคาดการณ์ ยามนี้ครรภ์ของนาง
เริ่ มปรากฏให้เห็น นางดูงดงามอิ่มเอิบและมีชีวติ ชีวากว่าเดิม ครั้นสบตากันเราต่างยกมุมปากนิดๆ ให้กนั เป็ น

415
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
การทักทาย ฮ่องเต้มองมาทางข้าและชินอ๋ องอย่างยินดี รอยเศร้าหมองในดวงตาเขาจางไปมากแล้ว อีกไม่นาน
เขาคงจะลืมข้าได้อย่างสนิทใจ

หลังจากเสร็ จสิ้ นขั้นตอนอันเป็ นพิธีการ เหล่าหนุ่มสาวต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมอุทยาน แม้จะแยกกลุ่มชาย


หญิง ทว่าทั้งสองฝ่ ายต่างก็ลอบเมียงมองกันอยูใ่ นที บุรุษที่ใจกล้าหน่อยก็ตรงเข้ามาชวนสตรี ที่ตนหมายปอง
สนทนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึ กครื้ น ฮ่องเต้ประทับนัง่ บนบัลลังค์ ตรัสทักทายเหล่าขุนนางอย่างเป็ น
กันเอง บรรดาขุนนางต่างรํ่าสุ ราชมบรรยากาศอันสวยงามของอุทยานในฤดูร้อน ฮองเฮาลุกขึ้นจากที่ประทับ
ชักชวนฝ่ ายสตรี ให้ออกไปดื่มชาชมดอกไม้ในอุทยานเพื่อเปิ ดโอกาสให้เหล่าบุรุษได้สนทนากันอย่างเต็มที่

ข้าลุกขึ้นติดตามฮองเฮาออกไป ลานนํ้าชาถูกจัดไว้อย่างงดงามใต้ตน้ หู ถง ดอกไม้กระถางถูกยกออกมาตั้งเรี ยง


ราย ฮองเฮาประทับนัง่ เป็ นประธานอยูต่ รงกลาง รายรอบด้วยเหล่าพระสนมตามลําดับขั้น โชคดีที่ขา้ ได้นงั่ ติด
กับอาหนิง จึงรู ้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ขา้ และนางไม่อาจพูดคุยกันได้ตามต้องการ แต่อย่างน้อยก็พอจะ
แลกเปลี่ยนบทสนทนากันไม่ให้เก้อกระดาก ฮองเฮาหันไปสนทนากับภริ ยาขุนนางคนอื่นๆ ข้าจึงถือโอกาส
พูดคุยกับอาหนิง

“มู่เสี ยนเฟย ยามที่ขา้ ได้ยนิ จากชินอ๋ องว่าท่านตั้งครรภ์ ข้าดีใจเหลือเกิน จึงตั้งใจจะมาแสดงความยินดีกบั ท่าน”

อาหนิงยิม้ ให้ขา้ สองแก้มเป็ นสี ชมพูเรื่ อ “ขอบพระทัยชินหวางเฟย เรื่ องเล็กน้อยเท่านี้ ข้าย่อมไม่กล้ารบกวน


ชินหวางเฟยต้องลําบากมาเยีย่ มเยียน เพียงชินหวางเฟยระลึกถึง ข้าก็ปลาบปลื้มแล้ว”

ข้าแลกเปลี่ยนบทสนทนากับอาหนิงอีกสักเล็กน้อย เห็นคนรอบข้างไม่ได้สนใจเราสองคน จึงค่อยลดเสี ยงลง


กระซิ บเรื่ องที่ขา้ เป็ นกังวล

“อาหนิง เรื่ องของใต้เท้าจาง ข้าเป็ นห่วงเจ้าเหลือเกิน…”

“ดูท่าชินหวางเฟยกับมู่เสี ยนเฟยจะมีเรื่ องราวสนทนากันไม่นอ้ ย พวกท่านคงสนิทสนมกันมากกระมัง มิใช่วา่


ท่านสองคนเติบโตมาด้วยกันหรอกหรื อ”

ข้ายังไม่ทนั ได้เอ่ยจบ เสี ยงของฮองเฮาก็ดงั แทรกขึ้น แม้น้ าํ เสี ยงนั้นจะพยายามทําให้ฟังดูเป็ นมิตร แต่ขา้ ก็สัมผัส
ได้วา่ นางไม่ได้มีความรู ้สึกที่ดีต่อข้าและอาหนิงมากนัก นางเท้าความถึงเรื่ องที่ขา้ และอาหนิงล้วนเติบโตมาจาก
จวนใต้เท้าจางผูเ้ ป็ นกบฏ ข้าทําเป็ นไม่รู้ถึงความนัยนั้น ประสานมือตอบกลับไป

416
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ทูลฮองเฮา หม่อมฉันและมู่เสี ยนเฟยคุน้ เคยกันมาก่อน ยามได้เจอหน้าจึงอดไม่ได้จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน


จนเสี ยมารยาท ขอฮองเฮาโปรดประทานอภัยให้เราสองคนด้วยเพคะ”

“ชินหวางเฟยกล่าวเกินไปแล้ว ท่านสองคนเป็ นสหายกัน ทักทายกันเป็ นเรื่ องธรรมดา จะว่าเสี ยมารยาทได้


อย่างไร จริ งหรื อไม่ มู่เสี ยนเฟย” ท้ายประโยค ฮองเฮาหันไปถามอาหนิง

“เพคะฮองเฮา” อาหนิงก้มหน้าตอบอย่างนอบน้อม นางดูงดงามอ่อนโยนไร้พิษสงเมื่อเทียบกับฮองเฮา ครั้นเห็น


อาหนิงไม่มีปากเสี ยง นางจึงหันมาทางข้า

“ชินหวางเฟย ดูชินอ๋ องรักใครท่านเหลือเกิน น่าอิจฉายิง่ นัก ดูเอาเถิด เชื้อพระวงศ์อื่นๆล้วนมีชายารอง อนุ และ


เมียบ่าวล้นวัง แต่ดูเหมือนชินอ๋ องจะมีแต่ท่านเพียงผูเ้ ดียวสิ นะ”

ข้าเพียงยิม้ รับไม่ได้ตอบคํา วาจาของนางเหมือนจะชื่มชมทว่ากลับทําให้คนฟังรู ้สึกว่าข้าเป็ นสตรี ร้ายกาจ ข้า


รู ้สึกประหลาดใจที่นางยังคงมีท่าทางเป็ นอริ กบั ข้าไม่เสื่ อมคลายทั้งที่ฮ่องเต้กไ็ ม่ได้มีเยือ่ ใยให้ขา้ แล้ว ข้านึกใคร่
ครวญหาสาเหตุ ในที่สุดคําตอบก็ปรากฏอยูต่ รงหน้า อาหนิงนัน่ เอง! นางเป็ นสหายของข้า ยิง่ ยามนี้ ได้รับความ
โปรดปรานทั้งยังตั้งครรภ์มงั กรในขณะที่ครรภ์ของฮองเฮายังคงว่างเปล่า นางคงเจ็บใจมิใช่นอ้ ย ได้สมรสกับ
ฮ่องเต้ต้ งั แต่เขายังเป็ นเพียงองค์ชาย ครอบครองเขามานานกว่าใคร แต่กลับต้องมองสตรี คนแล้วคนเล่าให้
กําเนิ ดทายาทของเขา ข้ารู ้สึกเห็นใจนางไม่นอ้ ย แต่กร็ ู ้สึกว่าการที่นางมาพาลเอากับข้า ออกจะเกินเลยไปสัก
หน่อย ฮองเฮาไม่อาจเล่นงานพระสนมที่ต้ งั ครรภ์ต่อหน้าผูอ้ ื่นได้ ทําเช่นนั้นเท่ากับหาเรื่ องใส่ ตวั หากพระสนม
ผูน้ ้ นั มีอนั เป็ นอะไรไป นางคงไม่พน้ ข้อครหา

ข้าไม่รู้วา่ นางเอ่ยถึงเรื่ องนี้ ดว้ ยความริ ษยาที่ชินอ๋ องมีขา้ คนเดียวหรื อไม่ แต่พอคิดตาม สิ่ งที่นางพูดมาก็มีเค้า
ความจริ งอยูบ่ า้ ง เชื้อพระวงศ์ช้ นั สู งเช่นเขา การมีหลายภรรยาเป็ นเรื่ องธรรมดาเพราะการมีทายาทหลายคนเป็ น
เรื่ องสําคัญยิง่ กว่า

ฮองเฮาเห็นข้านิ่งเงียบมิได้ตอบคําก็กล่าวต่อด้วยนํ้าเสี ยงราวกับผูใ้ หญ่สั่งสอนเด็ก

“หวางเฟย เรื่ องแบบนี้จะใจแคบไม่ได้หรอกนะ”

417
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าไม่ได้ใจแคบ ข้าไม่เคยห้ามปรามเขาในเรื่ องนี้ ตั้งแต่เขารับข้าเข้าวังเสิ่ นหยางกง ข้าไม่เคยสนใจว่าเขาจะมี
สตรี อื่นใดหรื อไม่ ข้ารู ้ฐานะของตนเองดี โชคดีที่ชินอ๋ องไม่เคยชายตาสตรี ใดให้ขา้ ต้องปวดใจ แม้วา่ การที่ขา้
ต้องคอยปรนนิบตั ิเขาอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวันจะเป็ นงานที่หนักหนาสาหัสอยูบ่ า้ ง แต่เรื่ องแบบนี้จะบอกฮองเฮา
ออกไปได้หรื อ นางคงจะยิง่ เกลียดชังข้ามากกว่าเดิม ข้าจึงเพียงก้มหน้า ทําราวกับว่ากําลังละอายที่ถูกตําหนิ

“หวางเฟยอาจจะเห็นท่านอ๋ องทั้งรักทั้งเอาใจจึงได้กีดกันสตรี อื่นกระมัง” ฮองเฮายังเอ่ยปากไม่หยุด ส่ งผลให้


สตรี ที่รวมตัว ณ ที่แห่งนั้นมองมาที่ขา้ เป็ นจุดเดียวด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็ นมิตรนัก ข้าเห็นว่าออกจะเกินเลย
ไปแล้ว จึงรี บออกปาก ก่อนที่นางจะยัดเยียดข้อหาให้ขา้ มากไปกว่านี้

“หามิได้เพคะฮองเฮา หม่อมฉันไม่เคยกีดกันหรื อห้ามปรามสตรี ใด เพียงแต่ท่านอ๋ องมีภารกิจมาก จึงไม่ได้


สนใจเรื่ องนี้ ”

“นัน่ ยิง่ ต้องเป็ นหน้าที่หวางเฟยคอยจัดหาคนมาปรนนิบตั ิ” นางกล่าวเช่นนี้เสมือนตําหนิวา่ ข้าบกพร่ องต่อ


หน้าที่ ข้าจึงไม่อาจปฏิเสธได้อีก

“แต่กน็ ่าเห็นใจ ภูมิหลังของหวางเฟยไม่ได้คุน้ เคยกับคนในแวดวงชั้นสู ง ไม่แปลกที่จะไม่รู้วา่ จะสรรหาคนที่


เหมาะสมได้อย่างไร ข้าจะแนะนําสตรี ตระกูลดีให้ท่านได้รู้จกั เผื่อจะส่ งคนไปทาบทามแต่งเป็ นชายารอง”

คําพูดของฮองเฮามีนยั เหยียดข้าอยูใ่ นที ข้าทําเป็ นไม่รู้ไม่ช้ ี ได้แต่ยมิ้ ในสี หน้า คิดจะหาชายารองให้ชินอ๋ องน่ะ
หรื อ เหตุใดไม่ออกหน้าเองเล่า แต่ก่อนตอนเขายังไม่แต่งชายา มีใครกล้าสอดมือเข้าไปยุง่ หรื อ ยามนี้นางจะมา
คะยั้นคะยอให้ขา้ หาชายารองและอนุ เห็นได้ชดั ว่าเจตนาของนางไม่ดีนกั นางหันไปทางสตรี วยั กลางคนผูเ้ ป็ น
ภริ ยาของขุนนางฝ่ ายบุ๋นผูห้ นึ่ ง

“ฮูหยินซวี บุตรี ของท่านรู ปโฉมงดงาม กิริยามารยาทเรี ยบร้อย ได้ยนิ ว่ายังไม่ออกเรื อนมิใช่หรื อ หากชินหวาง
เฟยมีโอกาสได้พบนางคงจะเอ็นดูไม่นอ้ ย”

“ฮองเฮากล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ บุตรี ของหม่อมฉันมีรูปโฉมธรรมดา ไม่อาจเทียบได้กบั ชินหวางเฟยเพคะ”


นางรี บออกตัวอย่างนอบน้อมทว่าไม่อาจปกปิ ดความยินดีในสี หน้า ฮูหยินซวีมีใบหน้างดงาม บุตรี ของนางก็คง
งดงามไม่ต่างกัน ฮองเฮาเห็นข้ายังคงไม่เอ่ยวาจาจึงกล่าวต่อ

418
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ชินหวางเฟยแต่งเข้าวังเสิ่ นหยางกงนานแล้ว ยังไม่ให้กาํ เนิดท่านอ๋ องน้อยหรื อท่านหญิง เห็นทีจาํ เป็ นจะต้องมี
คนมาช่วยแบ่งเบาภาระบ้างกระมัง”

วาจาของฮองเฮาฟังดูจาบจ้วงนัก ต่อหน้าเหล่าบุรุษนางคงไม่มีขวัญกล้าจะเอ่ยถ้อยคําเหล่านี้ออกมา ทว่า


ท่ามกลางเหล่าฮูหยินที่ต่างก็อยากสนับสนุนบุตรี ของตนให้ได้มีตาํ แหน่งในวังเสิ่ นหยางกง นางย่อมได้รับการ
สนับสนุนเป็ นอย่างดี มีเพียงฮูหยินส่ วนน้อยที่ไม่ได้มีท่าทีสนใจในสงครามแย่งชิงตําแหน่งชายารอง

ข้ากวาดตามองไปรอบๆ สี หน้าแต่ละคนกระเหี้ ยนกระหื อรื ออยากจะจับบุตรี ของตนใส่ พานถวายชินอ๋ อง เพียง


คิดว่าชินอ๋ องจะมีสตรี อื่น ใจของข้าก็ปวดหนึบ ข้าจึงกล่าวแช่มช้า ใบหน้าแย้มยิม้ อย่างมีไมตรี

“ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงมีพระเมตตา เรื่ องชายารอง หม่อมฉันฟังแล้วเห็นจริ งตามที่ทรงแนะนํา หม่อมฉันจะ


นําความกลับไปปรึ กษาท่านอ๋ องเพคะ แต่ไหนๆ ทุกคนก็อยูก่ นั พร้อมหน้า จึงขอใช้โอกาสนี้แจ้งแก่ฮูหยินทุก
ท่าน หากผูใ้ ดสนใจจะเสนอบุตรี ให้เป็ นชายารองของท่านอ๋ อง โปรดแจ้งความประสงค์ต่อข้า ข้าจะนํารายชื่อ
ขึ้นทูลท่านอ๋ องโดยไม่ให้ตกหล่น”

ข้าหันไปทางฮองเฮา เอ่ยกับนางด้วยนํ้าเสี ยงไพเราะ “หากท่านอ๋ องทราบว่าฮองเฮาทรงทุ่มเทความคิดเพื่อเรา


สองคนถึงเพียงนี้ ท่านอ๋ องจะต้องซาบซึ้ งพระทัยมากเป็ นแน่เพคะ”

ใบหน้าของฮองเฮาซี ดเผือด ทว่ายังคงรักษาสี หน้าเป็ นปรกติ ข้าหันไปทางบรรดาฮูหยิน คลี่ยมิ้ อ่อนหวานให้


พวกนาง

“ท่านอ๋ องจะต้องพอพระทัยแน่ที่ได้ทราบว่ามีผปู ้ รารถนาดีอยากจะเสนอตัวช่วยสะสางเรื่ องราวภายในของเสิ่ น


หยางกงมากถึงเพียงนี้ ”

ไม่มีใครกล้าสบตาข้า ชินอ๋ องใช่คนที่ใครจะเข้าไปยุม่ ย่ามได้หรื อ แม้แต่ฮ่องเต้ยงั ต้องเกรงใจเขาอยูห่ ลายส่ วน


ในสายตาของพวกนาง ที่ชินอ๋ องไม่เคยถือสาข้านัน่ เพราะข้าเป็ นคนโปรด เป็ นนางจิ้งจอกที่ชินอ๋ องลุ่มหลง แต่
พวกนางนับเป็ นตัวอะไร หากชินอ๋ องรู ้วา่ พวกนางร่ วมมือกับฮองเฮาระรานข้า อนาคตในราชสํานักของสามี
พวกนางย่อมไม่ราบรื่ นเป็ นแน่

419
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ฮองเฮาไม่กล้าเอ่ยเรื่ องชายารองขึ้นมาอีก บรรยากาศของการจิบชาชมดอกไม้กร่ อยไปถนัดตา ข้ากับอาหนิง
ไม่ได้สนใจ เราหันมาพูดคุยกันเบาๆ เพียงไม่นานฮองเฮาก็เสด็จกลับ บรรดาฮูหยินเมื่อเห็นงานเลี้ยงนํ้าชาเสร็ จ
เร็ วกว่าปกติ ต่างก็แยกย้ายไปชมการแสดง บ้างก็ไปสมทบกับบุตรและสามี

ข้าชวนอาหนิงเดินเล่นในอุทยาน เล่าเรื่ องที่ขา้ และชินอ๋ องจะออกเดินทางไปเมืองจี้จาง อาหนิงได้ฟังก็มีสีหน้า


สลดลง นอกจากข้าแล้ว ในโลกใบนี้จะมีใครอีกที่นางจะสามารถพูดคุยด้วยได้โดยสะดวกใจ ข้าปลอบใจนาง
ว่าอย่างไรเสี ย ข้าและชินอ๋ องคงได้กลับมาเมืองหลวงทุกปี นางจึงค่อยมีสีหน้าดีข้ ึน ครั้นสบโอกาสข้าก็เอ่ยเรื่ อง
ที่ยงั ค้างคาก่อนหน้า

“อาหนิง จางอี้หรู บุตรี คนโตของใต้เท้าจางเป็ นสนมขั้นผินอยูใ่ นวัง ข้าเป็ นห่ วงเจ้า กลัวว่านางจะคิดแค้นเจ้าแล้ว
ลงมือทําอะไรที่ไม่คาดคิด”

“อาหลัน ข้าดีใจที่เจ้าเป็ นห่วง นอกจากครอบครัวที่ขา้ สู ญเสี ยไปแล้ว คนที่มีใจนึกถึงข้าเห็นจะมีเพียงเจ้า เรื่ อง


ของจางอี้หรู ขา้ จะจดจําไว้และคอยระมัดระวังตัวเป็ นอย่างดี เด็กคนนี้เป็ นลูกของข้า อย่างไรเสี ยข้าย่อมต้อง
ปกป้องเขาไว้ให้ได้” นางบีบมือข้าเพื่อถ่ายทอดความซาบซึ้ งใจ

“แล้วเจ้าเมื่อไหร่ จะมีชินอ๋ องน้อยเล่า อย่าปล่อยให้ฮองเฮาใช้เป็ นจุดอ่อนตําหนิเจ้าเอาได้ ” นางหลิ่วตาให้ขา้ ข้า


หน้าแดง

“นัน่ ใช่เป็ นเพราะข้าเสี ยที่ไหนกันเล่า”

อาหนิงรู ้วา่ ข้ากินยาหมอเหอเข้าไปจึงไม่ได้ประหลาดใจที่ขา้ ยังไม่ต้ งั ครรภ์แม้จะแต่งให้ชินอ๋ องมากว่าสองปี


ตอนนี้ร่างกายของข้าฟื้ นฟูเป็ นปกติแล้ว เหลือแต่เพียงรอเวลาเท่านั้น นางคลี่ยมิ้ ซุ กซน มองไปรอบตัวก่อนเอ่ย
เสี ยงเบา

“อาหลัน เมื่อครู่ เจ้าตอบโต้ฮองเฮาได้อย่างน่าดูชม นางคงคิดว่าไม่มีชินอ๋ องอยูด่ ว้ ย หมายจะรังแกเจ้าได้ง่ายๆ


กระมัง หารู ้ไม่ เจ้ามิใช่คนที่จะงอมืองอเท้าอยูเ่ ฉยๆ”

“อาหนิง อย่าพูดไป ใช่วา่ ข้าต้องการจะเป็ นศัตรู กบั นางเสี ยเมื่อไหร่ แต่เจ้าไม่เห็นหรื อ แต่ละข้อหาที่นางหมาย
จะยัดเยียดให้ขา้ หากมิใช่สตรี ใจแคบก็เป็ นสตรี ไร้ความสามารถไม่อาจให้กาํ เนิดบุตร หากข้านิ่งเฉยยอมรับ
ชื่อเสี ยงข้าคงป่ นปี้ ยิง่ กว่าเดิมเป็ นแน่”

420
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“ใช่เพราะกลัวเสี ยชื่อเสี ยงอย่างเดียวเท่านั้นหรื อ” อาหนิงเอ่ยถามยิม้ ๆ อย่างล้อเลียน ข้าหน้าแดงเมื่อถูกนาง


รู ้ทนั

“ก็ได้ ข้ายอมรับ ข้าไม่ตอ้ งการให้ท่านอ๋ องมีสตรี อื่น”

อาหนิงหัวเราะอย่างเบิกบาน “อาหลัน เจ้าช่างซื่ อตรงต่อความรู ้สึกเสี ยจริ ง”

"ข้าผิดหรื อที่รู้สึกเช่นนี้ หรื อว่าข้าจะเป็ นสตรี ใจแคบดังที่ฮองเฮาว่า" ข้าเอ่ยอย่างลังเลใจ

"อาหลันเจ้าคิดมากไปแล้ว ฮองเฮาเป็ นเพียงสตรี ข้ ีอิจฉา หากจะมีใครสักคนใจแคบ คนผูน้ ้ นั ย่อมเป็ นนางมิใช่


เจ้า เป็ นนางที่ไม่ปรารถนาจะเห็นผูอ้ ื่นมีความสุ ข"

ข้าได้ยนิ คําพูดของอาหนิ งก็สบายใจขึ้น เสี ยงฝี เท้าที่ใกล้เข้ามาทําให้เราสองคนหยุดสนทนา ครั้นหันไปดูเห็น


ชินอ๋ องเดินมือไพล่หลังใกล้เข้ามา ทําทีราวกับชมอุทยานอย่างสบายอารมณ์ อาหนิงรี บย่อกายคารวะ

"มู่เสี ยนเฟยตามสบายเถิด เจ้ากําลังตั้งครรภ์ อย่าได้มากพิธี" เขาเอ่ยกับอาหนิงอย่างอ่อนโยน พอหันมาทางข้าก็


เอ่ยราวกับไม่ต้ งั ใจ

"เปิ่ นหวางไม่รู้วา่ หวางเฟยอยูท่ ี่นี่ดว้ ย เพียงบังเอิญเดินชมอุทยานผ่านมาทางนี้เท่านั้น"

ข้ามีสีหน้าไม่เชื่อเขาแม้แต่นอ้ ย ชินอ๋ องคงไม่วางใจ กลัวว่าฮ่องเต้จะหาโอกาสมาพบข้ากระมัง ครั้นเห็นข้าอยู่


กับอาหนิ งตามลําพังจึงค่อยมีสีหน้าวางใจ

"มู่เสี ยนเฟยเดินชมอุทยานพักใหญ่แล้วกระมัง ท่าทางคงเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย หวางเฟยอย่าเพิ่งรบกวนนางเลย


หากยังมีเรื่ องคุยไม่จบ ไว้วนั หน้าเปิ่ นหวางจะพาเข้าวังมาเอง"

อาหนิงได้ยนิ เช่นนั้นก็เข้าใจเจตนาของชินอ๋ อง จึงรี บเอ่ยขอตัวแล้วหันไปหานางกํานัลสองคนที่ติดตามมาอยู่


ห่างๆ ข้าจําใจต้องรํ่าลาอาหนิง ครั้นนางกํานัลประคองอาหนิงจากไปแล้ว ข้าก็เดินตามชินอ๋ องไปขึ้นรถ เขา
เอื้อมมือมากุมมือข้าไว้มนั่ ตลอดทางที่ขา้ เดินผ่าน ไม่มีบุรุษใดกล้าเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องข้า ข้าได้แต่คิดในใจ

421
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
..ผูใ้ ดว่าสตรี ใจแคบ แท้จริ งแล้วบุรุษต่างหากเล่าที่ใจแคบยิง่ กว่า..

422
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 60 : ภรรยาทีด่ ุร้าย

คําพูดของฮองเฮายังคงดังก้องอยูใ่ นหัวข้า ระหว่างอยูบ่ นรถม้า ข้าอดไม่ได้จึงถามชินอ๋ องถึงเรื่ องที่ยงั ค้างคาอยู่


ในใจ

“ท่านอ๋ องเพคะ ท่านอ๋ องเคยคิดจะรับอนุหรื อชายารองบ้างหรื อไม่”

ชินอ๋ องชะงักไปในทันที มือแข็งแรงที่กมุ ไหล่ขา้ ไว้คลายออก ข้าหันไปมองเขา เห็นเพียงใบหน้าคมสันจ้อง


มองไปเบื้องหน้าอย่างเย็นชา

“อวี้เอ๋ อร์ เห็นเปิ่ นหวางเป็ นคนไม่รู้จกั พออย่างนั้นหรื อ”

นํ้าเสี ยงที่เขาเอ่ยเยียบเย็นจนข้าใจเสี ย ข้ารี บอธิบาย ทว่ายิง่ กล่าวแก้กลับยิง่ ทําให้สถานการณ์แย่ลง

“ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะ อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่สงสัย บุรุษอื่นอย่าว่าแต่เชื้อพระวงศ์เลย ล้วนแล้วแต่มีหลายภรรยา แต่วา่


ท่านอ๋ องไม่แม้แต่จะมีสตรี อื่นใดนอกจากอวี้เอ๋ อร์ ”

“อวี้เอ๋ อร์กาํ ลังดูถูกความจริ งใจของเปิ่ นหวางหรื อ”

“ท่านอ๋ องอย่าเพิ่งเข้าใจอวี้เอ๋ อร์ผิด อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่ไม่ตอ้ งการจะเป็ นสตรี ใจแคบ ไม่อยากขัดใจท่านอ๋ องหาก
นัน่ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านอ๋ องปรารถนาเพคะ ”

“เจ้าไม่เคยหึ งหวงเปิ่ นหวางเลยหรื อ” ชินอ๋ องเอ่ยเสี ยงตํ่า ข้ายิง่ ฟังยิง่ หวาดกลัว ไม่เคยคิดเลยว่าเพียงเอ่ยเรื่ องนี้
ขึ้นมาจะทําให้เขามีโทสะถึงเพียงนี้ อารามตกใจ ข้ากอดแขนเขาไว้แล้วซุกซบใบหน้าเข้ากับบ่ากว้าง

“ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ไม่เคยอยากให้สตรี ใดใกล้ชิดท่านอ๋ อง ทว่าฮองเฮากล่าวว่าการไม่จดั หา


สตรี มาปรนนิบตั ิท่านอ๋ องนับเป็ นความใจแคบของอวี้เอ๋ อร์ อวี้เอ๋ อร์จึงลองถามท่านอ๋ องดูวา่ มีความเห็นอย่างไร
ท่านอ๋ องอย่าโกรธอวี้เอ๋ อร์ เลยนะเพคะ”

423
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
จู่ๆ นํ้าเสี ยงเขาก็กลับมาเป็ นปกติ “อ้อ ที่แท้เป็ นฮองเฮาเองหรอกหรื อ ที่ยดั เยียดความคิดไร้สาระจําพวกนี้ใส่ หวั
เจ้า” เขายังคงนิ่งขึง ข้าจึงเบียดกายเข้าหาอย่างออดอ้อน

“ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์มีหรื อจะไม่เต็มใจปรนนิบตั ิท่านอ๋ อง ที่ถามดูเพียงเพราะสงสัยเท่านั้น ฮองเฮากล่าวว่า การ


จัดหาชายารองและอนุมาปรนนิบตั ิท่านอ๋ องเป็ นหน้าที่ของหวางเฟย นางยังกล่าวอีกว่าอวี้เอ๋ อร์ยงั ไม่ต้ งั ครรภ์
เสี ยที เห็นทีจะต้องหาสตรี อื่นมาแบ่งเบาภาระ อวี้เอ๋ อร์ฟังแล้วไม่สบายใจ จึงลองถามความเห็นท่านอ๋ องดูเท่า
นั้นเองเพคะ”

“เปิ่ นหวางรักเจ้าเพียงคนเดียว แต่คาํ พูดของไม่กี่คาํ ของฮองเฮากลับสั่นคลอนความมัน่ ใจของเจ้าอย่างนั้นหรื อ”

ข้าก้มหน้าลงอย่างสํานึกผิด

“อวี้เอ๋ อร์มนั่ ใจในตัวท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่ไม่มนั่ ใจว่าตัวเองเป็ นภรรยาที่ดีแล้วหรื อไม่” ข้าเงยหน้าขึ้นมอง


เขา เห็นเขายังมีสีหน้ามึนตึง จึงเอ่ยเสี ยงละห้อย “ท่านอ๋ องเพคะ หากอวี้เอ๋ อร์ทาํ ให้ท่านอ๋ องไม่พอใจ..”

“เอาเถอะ อย่าได้เอ่ยเรื่ องนี้ข้ ึนมาอีกเป็ นอันขาด” เขาเอ่ยเสี ยงดุพลางพลางวางมือลงบนบั้นเอวข้า “หากอวี้เอ๋


อร์ปรนนิบตั ิเปิ่ นหวางไม่ไหวก็เพียงบอกมา มิใช่หาข้ออ้างจะรับอนุให้เปิ่ นหวางเช่นนี้ ”

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้หาข้ออ้างบ่ายเบี่ยงไม่ยอมปรนนิบตั ิท่านอ๋ องเสี ยหน่อย ยิง่ ท่านอ๋ องเอ็นดูอวี้เอ๋ อร์ อวี้เอ๋ อร์ยงิ่ มีแต่
จะยินดี จะเกี่ยงงอนได้อย่างไร” ข้ารี บเอ่ยอย่างร้อนรน เกรงว่าเขาจะเข้าใจข้าผิดไปใหญ่

“ได้ยนิ อวี้เอ๋ อร์เอ่ยเช่นนี้ เปิ่ นหวางก็สบายใจว่าที่ผา่ นมาไม่ได้เอาเปรี ยบเจ้าเกินไป” นํ้าเสี ยงของเขาฟังดูเหมือน


ได้รับชัยชนะแปลกๆ “ส่ วนเรื่ องบุตรธิดานั้น อวี้เอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกังวล ปล่อยให้เป็ นหน้าที่เปิ่ นหวางเองเถิด”

ข้าหน้าแดง เริ่ มรู ้สึกตัวว่าเพลี่ยงพลํ้าไปเสี ยแล้ว แต่ยามนี้ ไม่อาจกล่าวสิ่ งใด เกรงว่าจะทําให้สถานการณ์ยา่ ํ แย่
กว่าเดิม ชินอ๋ องไม่ได้กล่าวสิ่ งใดอีก ข้ากลับรู ้สึกกระวนกระวายใจ ได้แต่ตาํ หนิตวั เองว่าไม่ควรเอ่ยคําถามไร้
สาระเช่นนั้นกับเขาเลย

..เกิดชินอ๋ องคิดพิเรนทร์อยากจะมีอนุและชายารองสักหลายคนเล่า..

ข้าส่ ายศีรษะ จะยอมให้เป็ นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด

424
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

คืนนั้นข้าอาบนํ้าเสร็ จแล้ว เพียงให้หมิงจูซบั เส้นผมและเนื้อตัวให้แห้งแล้วออกไป ข้าสวมเสื้ อนอนคลุมร่ าง


แล้วรื้ อค้นหี บผ้าใบที่ขา้ ลงกุญแจไว้ ที่กน้ หี บมีชายผ้าสี แดงโผล่ออกมา ข้าเอื้อมมือลงไปหยิบอย่างลังเล

..ทําเช่นนี้ คิดดีแล้วหรื อไม่.. ข้าถามตัวเอง

ข้าสะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความว้าวุน่ ใจ ข้าต้องการเพียงเขา มีอะไรต้องคิดอีกกัน ต่อให้เขาจะเคี่ยวกรําข้า


เพียงใด ข้าก็จะไม่ปริ ปากบ่น

คิดได้ดงั นี้ขา้ จึงคลี่เสื้ อคลุมเนื้อนุ่มลื่นสี แดงออกสวมใส่ เป็ นเสื้ อคลุมตัวเดียวกันกับที่ขา้ ใส่ ยามถวายตัว ข้า
ยังคงใส่ ได้พอดีแม้ร่างกายจะเติบโตมีส่วนโค้งเว้ามากกว่าเดิม ข้านัง่ ลงที่หน้ากระจก กรี ดปลายนิ้วแตะเครื่ อง
หอมลงบนซอกคอและหลังใบหู จากนั้นก็สางเส้นผมดําขลับยาวสยายจนขึ้นมัน ในกระจกสะท้อนภาพหญิง
สาวงดงามเย้ายวน ผิวขาวกระจ่างราวกับหยกเนื้อดีถูกห่อไว้ในผ้าแดง ผมดําราวนํ้าหมึกยาวคลุมบั้นท้าย สอง
แก้มแดงเรื่ อราวกับผลท้อ ข้าจับสาบเสื้ อที่แยกออกให้ทบกันอย่างไม่มนั่ ใจ ไม่รู้วา่ ข้าตัดสิ นใจถูกแล้วหรื อไม่

ข้าได้ยนิ เสี ยงประตูหอ้ งเปิ ดออก ชินอ๋ องก้าวเข้ามาในห้องชั้นนอก ข้าได้ยนิ เสี ยงเขาถอดเสื้ อคลุมตัวนอก จึง
ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ลังเลใจว่าควรจะก้าวไปหาเขาดีหรื อไม่ ทันใดนั้นเสี ยงฝี เท้าก็ใกล้เข้ามา นิ้วเรี ยวยาวของเขา
แหวกม่านประตูออกก่อนที่ร่างสู งสง่าจะปรากฏขึ้น แสงเทียนเหลืองนวลอาบทาร่ างสู งที่สวมเพียงเสื้ อตัวในสี
ขาว ยามเขาเดินเข้ามาใกล้เชิงเทียน แสงที่ส่องสะท้อนจากเบื้องหลังทอประกายราวกับรัศมีเซี ยน ท่วงทีเป็ น
ธรรมชาติของเขาแผ่กลิ่นอายสู งศักดิ์แม้มิได้ทรงชุดเต็มยศ อยูๆ่ ข้าก็รู้สึกอับจนคําพูด ได้แต่ยนื นิ่ งเบิกตากว้าง
จ้องมองเขาอยูก่ ลางห้อง ปกติยามนี้ขา้ มักจะเข้านอนแล้ว ชินอ๋ องจึงมีสีหน้าประหลาดใจที่เห็นข้ายืนอยูต่ รง
นั้น พอได้มองข้าถนัดตา ดวงตาดําลึกของเขาปรากฏแววจดจําได้ สี ดาํ เข้มในดวงตาราวกับปกคลุมด้วยไอหนา
ริ้ วแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้า นํ้าเสี ยงที่เอ่ยแปร่ งปร่ าราวกับไม่ใช่เสี ยงของเขา

“อวี้เอ๋ อร์ ?”

ข้าตอบกลับไปอย่างขัดเขิน

“ท่านอ๋ อง.. สรงนํ้าแล้วหรื อยังเพคะ”

425
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าพูดไปแล้วก็แทบกัดลิ้นตัวเอง เวลาป่ านนี้แล้วเขาจะยังไม่อาบนํ้าได้อย่างไร เส้นผมเปี ยกชื้นและกลิ่นหอม
สดชื่นจากกายสู งใหญ่ยอ่ มเป็ นคําตอบที่ชดั เจนอยูใ่ นตัว ข้าหน้าชา อยูๆ่ ก็รู้สึกเงอะงะทําอะไรไม่ถูก เห็นข้า
เป็ นเช่นนั้นสี หน้าของชินอ๋ องก็อ่อนโยนลง รอยยิม้ เอ็นดูหยักขึ้นที่มุมปาก ดูเหมือนเขาจะมองออกว่าข้ารู ้สึก
อย่างไร จึงก้าวไปนัง่ หน้ากระจก เรี ยกข้าที่ยงั คงละล้าละลังเสมือนว่าสติกาํ ลังหลุดลอยให้ตามไป

“หากอวี้เอ๋ อร์อยากปรนนิบตั ิ ก็..สางผมให้เปิ่ นหวางสักหน่อยเถิด”

ข้าก้าวไปยืนข้างๆ หยิบหวีงาช้างขึ้นสางผมให้เขา เขามองนิ้วมืออ่อนช้อยราวกับต้นหอมของข้าที่เคลื่อนไหว


อย่างแช่มช้า ระหว่างเราสองมีเพียงความเงียบและเสี ยงลมลมหายใจ ครู่ ใหญ่เขาก็เบือนสายตามาสบตาข้าผ่าน
กระจก ข้ามือไม้อ่อนจนทําหวีหลุดมือ ครั้นจะก้มลงไปเก็บ เขาก็จบั ข้อมือข้าไว้

“เปิ่ นหวางนึกถึงคืนแรกของเราสองคนในวังเสิ่ นหยางกงเหลือเกิน” เขาเอ่ยเสี ยงทุม้ แววตาที่จบั จ้องข้าเป็ น


ประกาย ทั้งโหยหาทั้งหลงใหล ข้าเขินอายจนหน้าร้อนผ่าว “ตอนนั้นเจ้าก็สางผมให้เปิ่ นหวางเช่นนี้ ”

ข้าใจเต้นตึกตัก เพียงก้มหน้าไม่ตอบคํา เขากระตุกมือเพียงเบาๆ ร่ างของข้าก็ลม้ ลงบนตัก สองแขนแข็งแรงรัด


เอวข้าไว้แน่น ข้าเอนกายออกห่างเขาอย่างตกใจ สาบเสื้ อแยกออก เผยให้เห็นต้นคอและร่ องอกรําไร

“ยามนั้นอวี้เอ๋ อร์ ดีใจที่เปิ่ นหวางบอกว่าจะแต่งเจ้าเข้าวัง ปี นขึ้นตักกอดรัดเปิ่ นหวางเสี ยแน่น แต่พอเปิ่ นหวางก


ระซิ บบอกให้เจ้าสวมชุดนี้บ่อยๆ เจ้าก็ทาํ ท่ากลัวเปิ่ นหวางเช่นนี้ ” เขากล่าวพลางหัวเราะเบาๆ สิ่ งที่เขาเอ่ย
กระตุน้ เตือนความทรงจําของข้าในคืนนั้นขึ้นมา

“ท่านอ๋ อง..อวี้เอ๋ อร์ จาํ ได้แล้ว..” ข้าขานรับเสี ยงแผ่ว น่าแปลกนัก ตอนนั้นข้าหวาดกลัวเขาเหลือเกิน ที่ยอม
ใกล้ชิดเพียงเพราะหวังความคุม้ ครองจากเขา แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปในยามนี้ ข้ากลับมีแต่ความรู ้สึกหวานลํ้าใน
ใจ

เขาคลี่ยมิ้ อ่อนโยน ยกมือขึ้นจับเส้นผมที่ไหลลื่นลงมาปรกใบหน้าให้ทดั หูขา้ ไว้ ข้าทําใจกล้าหยัดกายขึ้น


ประทับจูบที่ริมฝี ปากเขาแผ่วเบา

..ข้ายังไม่ได้ดูแลเขาให้ดี ยังไม่เคยตอบแทนเขาในสิ่ งต่างๆ ที่เขาทําเพื่อข้า..

426
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ไม่ตอ้ งให้ฮองเฮามาบอก ยามนี้ขา้ ตระหนักได้วา่ ตัวเองบกพร่ องต่อหน้าที่เพียงไร ข้าจูบยํ้าแผ่วเบาอย่างแสนรัก
เขายึดปลายคางข้าไว้แล้วก้มลงจุมพิตหยอกล้อกลับ

ข้าเบียดกายเข้าหาเขา ยกแขนขึ้นคล้องคอหนา กระซิ บแผ่วเบาที่ริมหู ดว้ ยความรู ้สึกที่เต็มตื้นขึ้นมาในใจ

“เสวียนเฟิ ง..ข้ารักท่าน ชัว่ ชีวติ นี้ หา้ มมีสตรี อื่นใด เข้าใจหรื อไม่”

ตัวของเขาสั่นเทิ้ม ในที่สุดก็หลุดเสี ยงหัวเราะออกมาเบาๆ “อวี้เอ๋ อร์ ไฉนถ้อยคําฝากรักของเจ้าจึงฟังดูเหมือน


คําขู่เล่า เจ้ากลายเป็ นภรรยาที่ดุร้ายของข้าไปแล้วหรื อ”

ข้าค้อนเขา “อวี้เอ๋ อร์ดุร้ายเสี ยที่ไหนกัน ที่ผา่ นมามีแต่ท่านคอยรังแกข้า”

“เช่นนั้นจากนี้ไปข้าจะเปิ ดโอกาสให้เจ้าเป็ นฝ่ ายรังแกบ้าง”

ข้าหน้าแดง แสร้งทําเป็ นผลักอกเขาออก “ท่านอ๋ องตัวใหญ่โตถึงเพียงนี้ อวี้เอ๋ อร์ จะไปรังแกได้อย่างไร”

เขาหัวเราะเสี ยงดัง “อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน รู ้ตวั หรื อไม่” เขากอบกุมใบหน้าข้าไว้ในมือหนาก่อน


พรมจูบไปทัว่

เส้นผมนุ่มสลวยของข้าทิ้งตัวลงระแขนแข็งแรง ข้ากําอกเสื้ อของเขาไว้แน่นยามที่เขาไล้ปลายจมูกโด่งลงมา


ตามลําคอและเนิ นอก หากข้าฟังไม่ผดิ ดูเหมือนเขาจะเอ่ยพึมพํากับตัวเอง

“ข้าต้องขอบคุณฮองเฮาที่ทาํ ให้ขา้ ได้เห็นเจ้าในชุดนี้อีกครั้ง..กระต่ายน้อย”

กระนั้นยามข้าเหลือบตามองเขา สี หน้าเขากลับดูหมายมาดอย่างไรชอบกล ประโยคถัดมาที่เขาเอ่ยกลับเยียบ


เย็นยิง่ นัก "แต่ความปรารถนาดีอื่นๆ ของนางข้าไม่ขอรับไว้"

427
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 61 : ไม่ จาํ เป็ นต้ องลืม

ก่อนออกเดินทางไปเมืองจี้เจียง ข้าแวะไปเยีย่ มอาหนิงที่วงั อีกหลายครั้ง แต่ละครั้งชินอ๋ องเป็ นผูพ้ าข้าไป ทุก


ครั้งที่ขา้ แยกไปพบอาหนิง เขาก็จะไปพูดคุยกับฮ่องเต้ ข้าอดคิดไม่ได้วา่ เป็ นความตั้งใจของเขาที่จะคอยกันท่า
ไม่ให้ฮ่องเต้ได้มีโอกาสพบข้าหรื อไม่ แต่แล้วข้าก็หวั เราะให้กบั ความคิดนี้ จะเป็ นไปได้อย่างไรกัน ชินอ๋ องจะ
จากไปไกล เป็ นธรรมดาที่เขาย่อมมีกิจธุระมากมายต้องสะสางกับฮ่องเต้ คงเป็ นข้าที่คิดมากไปเอง

ครรภ์ของอาหนิงแข็งแรงดี อาหนิงเองก็มีสีหน้าสดใส นางพรรณนาให้ขา้ ฟังถึงความสุ ขของการจะได้เป็ นแม่


คน ข้ารู ้วา่ นางรักเด็กคนนี้สุดใจ ดวงตาของนางเป็ นประกายยามพูดถึงทารกในครรภ์

“ข้าไม่สนใจว่าเขาจะเป็ นหญิงหรื อชาย เพียงเขาเกิดมาเป็ นลูกของข้า ข้าก็รักเขาเหลือเกินแล้ว”

“แต่ถา้ เขาเป็ นชาย สถานะของเจ้าย่อมสู งส่ งยิง่ กว่าเดิมมิใช่หรื อ” ข้าออกความเห็น

อาหนิงเพียงยิม้ แล้วส่ ายหน้า “ข้าไม่สนใจเรื่ องเหล่านั้นอีกแล้วอาหลัน ข้าตัวคนเดียว หาได้มีเกียรติยศของ


ตระกูลให้ตอ้ งรักษา ขอเพียงได้อยูใ่ กล้ชิดกับลูก จะเป็ นหญิงหรื อชายย่อมไม่ต่างกัน เป็ นหญิงกลับจะดีเสี ยกว่า
นางจะได้เป็ นของข้าเพียงผูเ้ ดียว ไม่ตอ้ งมีผใู ้ ดมาสนใจ”

ข้าเข้าใจสิ่ งที่อาหนิงคิด หากเป็ นพระธิดา โอกาสที่จะมีผปู ้ องร้ายย่อมน้อยกว่าพระโอรสมากนัก ยิง่ ยามนี้


ตําแหน่งของอาหนิงเป็ นถึงพระสนมเอก โอรสที่เกิดกับนางย่อมนับเป็ นผูม้ ีสิทธิ์ในราชบัลลังค์ หากเป็ น
เช่นนั้น ดูเหมือนว่าวันข้างหน้าของอาหนิงย่อมไม่ง่ายเลย แม้นางไม่ปรารถนาจะแย่งชิงกับผูใ้ ด ย่อมเป็ นไป
ไม่ได้ที่ผอู ้ ื่นจะไม่เห็นนางเป็ นศัตรู

“อาหนิง จะเป็ นลูกชายหรื อลูกสาว เขาก็เป็ นลูกของฮ่องเต้เหมือนกัน จะดีจะร้ายบิดาย่อมปกป้องบุตรไม่ให้


ได้รับอันตราย ยิง่ เจ้าเป็ นคนโปรด เขาย่อมไม่มีทางละเลย” ข้าปลอบใจนาง

นางเพียงแย้มยิม้ แล้วกล่าวด้วยสี หน้าสงบ

“ความโปรดปรานหาได้คงทนถาวร วังหลังไม่สิ้นไร้บุปผชาติและสาวงาม ดอกหนึ่ งโรยรา ดอกอื่นย่อมผลิ


บานทดแทน นอกจากตนเองแล้วข้าจะหวังพึ่งใครได้อย่างนั้นหรื อ” นางหันมาทางข้าแล้วเปลี่ยนเรื่ อง

428
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

“อาหลัน เจ้ามีโอกาสได้ติดตามท่านอ๋ องออกเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ข้าอิจฉาเจ้าเหลือเกิน ดูน่าสนุกเสี ย


จริ ง ข้าเสี ยอีกเป็ นดัง่ นกในกรงทอง ชัว่ ชีวิตนี้คงไม่ได้มีโอกาสโบยบินไปสู่ ฟ้ากว้างอีกแล้ว”

“อาหนิง ฐานะของเจ้าในยามนี้มิใช่ธรรมดา เจ้าเป็ นถึงมู่เสี ยนเฟย ผูค้ นเกือบทั้งแผ่นดินล้วนแล้วแต่ตอ้ งคุกเข่า


ให้เจ้ามิใช่หรื อ” ข้าปลอบใจนาง

นางถอนใจ “ชีวิตนี้ขา้ มีโอกาสเลือกเสี ยที่ไหน หากครอบครัวข้าไม่ถูกสังหารสิ้ น ป่ านนี้ขา้ อาจจะแต่งเข้า


ตระกูลดีๆ มีชีวิตครอบครัวปกติธรรมดา ไม่ตอ้ งคอยระแวดระวังทุกฝี กา้ วเช่นนี้หรอก”

“แล้วฮ่องเต้ดีต่อเจ้าหรื อไม่” ข้าถาม

อาหนิงหน้าแดงขึ้นมาทันที นางสะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างไม่ตอ้ งการให้ขา้ เห็นอาการเขินอาย

“อาหลัน ข้าไม่รู้ตดั สิ นใจถูกหรื อไม่ ข้าตั้งใจจะไม่รักเขา จะได้ไม่ตอ้ งเจ็บปวด แต่พอข้าตัดสิ นใจเช่นนี้ เขา
กลับ.. เขากลับ..”

“เขาทําไมหรื อ” ข้าถามอย่างสงสัย มองดวงหน้าแดงเรื่ อของนางอย่างนึกสนุก

“เหมือนเขาจะรับรู ้ความตั้งใจของข้า เขากลับแวะเวียนมาหาข้าจนข้าตั้งครรภ์ข้ ึนมา แม้กระทัง่ ตอนที่ขา้


ตั้งครรภ์แล้ว เขาก็ยงั แวะมาหาที่ตาํ หนักอยูบ่ ่อยๆ”

ข้าอดหัวเราะคิกออกมาไม่ได้ อาหนิงแสร้งทุบข้าเบาๆ อย่างเขินอาย ยังไม่ทนั ที่ขา้ จะซักไซร้นางต่อ เสี ยงหนึ่ ง


ก็ดงั ขึ้นมาจากข้างศาลาที่พวกเรากําลังนัง่ สนทนากัน

“มู่เสี ยนเฟยและชินหวางเฟยดูท่าจะสนิทสนมกันจริ งๆ พวกท่านคุยอะไรกันอยูห่ รื อ ท่าทางจะน่าสนุกไม่นอ้ ย”

ข้าและอาหนิ งมองหน้ากันก่อนจะค่อยๆ พากันลงจากศาลาไปคารวะฮองเฮาเนื่องจากนางไม่ได้กา้ วขึ้นมา ดู


เหมือนว่าฮองเฮากําลังเดินชมอุทยานกับเหล่าสนมคนอื่นๆ อีกสองสามคนและบังเอิญผ่านมาทางนี้ พอดี อา
หนิงไม่ได้ไปเข้าเฝ้าฮองเฮาเป็ นกิจวัตรในตอนเช้าเหมือนสนมคนอื่นๆ เนื่องจากกําลังตั้งครรภ์ ศาลาที่ขา้ และ

429
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
อาหนิงนัง่ คุยกันอยูห่ ่างไกลจากตําหนักฮองเฮาไม่นอ้ ย หากมิใช่เพราะนางตั้งใจจะมาแถวนี้โดยเฉพาะย่อมไม่มี
ทางพบเราสองคนเป็ นแน่

“มู่เสี ยนเฟย อายุครรภ์ของเจ้าไม่ใช่นอ้ ยแล้ว ไม่เก็บตัวอยูใ่ นตําหนัก ออกมาเดินเพ่นพ่านไปทัว่ เช่นนี้ หากเกิด


อะไรขึ้นเจ้ารับผิดชอบไหวหรื อ” ฮองเฮาเอ่ยกับอาหนิงด้วยนํ้าเสี ยงติเตียน อาหนิงเพียงก้มหน้ารับ

"ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงตักเตือนเพคะ หม่อมฉันผิดเองที่ไม่ได้คิดอ่านให้รอบคอบ"

“ฮองเฮาโปรดอย่าตําหนิมู่เสี ยนเฟยเลยเพคะ หม่อมฉันเห็นมู่เสี ยนเฟยอุดอูอ้ ยูใ่ นตําหนักจึงได้ชกั ชวนนาง


ออกมาเดินเล่น” ข้ารี บออกรับแทน

ฮองเฮากวาดสายตามาทางข้า

“ชินหวางเฟย ข้ารู ้ท่านสนิทสนมกับมู่เสี ยนเฟย แต่จะออกรับแทนสหายบ่อยๆ เช่นนี้ได้หรื อ ได้ยนิ ว่าอีกไม่


นานท่านก็จะติดตามชินอ๋ องไปจี้เจียงแล้วมิใช่หรื อ” นางกล่าวด้วยนํ้าเสี ยงกระหยิม่ ใจ

ข้านึกรู ้ในทันทีวา่ นางคิดจะทําอะไร นางริ ษยาข้า ชิงชังอาหนิง บุรุษที่นางรักกลับไปให้ความสนใจสตรี


ธรรมดาสามัญทั้งสองนางที่เติบโตในจวนใต้เท้าจาง แต่กลับเมินเฉยต่อนางซึ่ งเป็ นสตรี ตระกูลสู งมีตาํ แหน่ง
เป็ นถึงประมุขวังหลัง นางทําอะไรข้าไม่ได้เพราะข้ามีชินอ๋ องเป็ นเกราะกําบัง แต่กบั อาหนิงซึ่ งเป็ นพระสนมใต้
อาณัติ ทั้งยังตัวคนเดียวไร้ซ่ ึ งตระกูลหนุนหลัง หากคิดจะรังแกย่อมทําได้ง่ายดายดุจขยี้มดปลวก นางคงรู ้วา่ นี่
เป็ นจุดอ่อนของข้า จึงคิดจะหยิบยกเรื่ องนี้มากลัน่ แกล้งเราทั้งสองคน

ยามนี้ฮองเฮาดูลาํ พองใจอย่างเหลือแสน เท่าที่เคยฟังอาหนิงเล่าในครั้งก่อนๆ ตั้งแต่สิ้นไทเฮาไป ทัว่ ทั้งวังหลัง


แห่งนี้กม็ ีเพียงนางที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุด นางคงคิดว่าตนจะวางอํานาจอย่างไรก็ได้ กลุ่มอํานาจเก่าที่เพิ่งถูกโค่นล้มไป
ทําให้ราชสํานักสงบราวกับทะเลไร้คลื่นลม เหล่าพระสนมจากตระกูลต่างๆ ล้วนแล้วแต่สาํ รวมท่าที แม้แต่
เซี ยวเต๋ อเฟยที่เป็ นศัตรู คนสําคัญของไทเฮาและตระกูลจางก็หาได้ฉวยโอกาสนี้สร้างอิทธิพลให้กบั ตระกูลไม่
หลังสิ้ นตระกูลจางไปแล้วตระกูลเซี ยวกลับทําตัวสงบเสงี่ยม คงเกรงว่าความทะเยอะทะยานจะนําพาไปสู่ จุดจบ
ที่ไม่ต่างกับตระกูลจางผูเ้ ป็ นศัตรู นับว่าเป็ นกลยุทธ์ที่ไม่เลว เต่าในกระดองย่อมอายุยนื กว่ากระต่ายป่ าที่
ทะเล่อทะล่าออกมาจากที่ซุ่มซ่อน

430
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
อาหนิงเป็ นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ขา้ มี ข้าย่อมไม่ยนิ ยอมให้ฮองเฮากลัน่ แกล้งนาง แต่ท่าทีของฮองเฮาชัดเจนว่า
เรื่ องราวในวังหลังล้วนอยูใ่ นกํามือนาง ข้าโกรธจนตัวสั่น ทว่าทําได้เพียงหลุบตาลงแล้วแย้มยิม้ ข้าไม่ตอ้ งการ
สร้างปัญหาให้อาหนิงหลังจากข้าไปแล้ว อาหนิงอายุครรภ์มากยืนนานๆ ไม่ไหว ข้าเห็นใบหน้าซี ดเซี ยวของ
นางจึงเข้าไปประคอง กําลังจะเอ่ยปากขอตัวพาอาหนิงกลับไปพักผ่อนก็ได้ยนิ เสี ยงทรงอํานาจดังขึ้น

“มู่เสี ยนเฟยกําลังตั้งครรภ์ เจ้ายังกล้ากลัน่ แกล้งทรมานนางอีกหรื อเพ่ยเจิน”

ทุกคนหันไปมอง ครั้นเห็นฮ่องเต้สาวเท้าเข้ามาด้วยสี หน้ากราดเกรี้ ยวต่างก็พากันยอบกายถวายบังคมเป็ น


พัลวันไม่เว้นแม้แต่อาหนิง ฮ่องเต้รีบปราดเข้ามาประคองนาง "สนมรักไม่ตอ้ งมากพิธี"

เมื่อครู่ ฮ่องเต้เอ่ยนามฮองเฮาออกมาโดยตรงเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่ากําลังไม่พอใจอย่างหนัก ฮองเฮาเห็น


เหตุการณ์พลิกผันไปโดยไม่คาดหมายก็หน้าเสี ยทว่าพยายามปรับสี หน้าอย่างรวดเร็ ว นางยิม้ อ่อนหวาน หันมา
มองข้าและอาหนิงด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับแม่พระ

“ฝ่ าบาทเข้าพระทัยผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันเพียงเดินผ่านมาพบชินหวางเฟยและมู่เสี ยนเฟยโดยบังเอิญจึงแวะ


มาทักทายเท่านั้น ไม่ได้กลัน่ แกล้งพวกนางเสี ยหน่อยเพคะ ฝ่ าบาทเมตตามู่เสี ยนเฟยจนเข้าใจเจตนาหม่อมฉัน
ผิดไปเสี ยแล้ว”

“แวะทักทายอย่างนั้นหรื อ มู่เสี ยนเฟยครรภ์ใหญ่มากแล้วแต่เจ้าหาได้ละเว้นพิธีการ ไม่เพียงให้นางลงจากศาลา


มาคารวะ ยังปล่อยให้นางยืนรับเสด็จเช่นนี้มานานเท่าใดกันแล้ว” เขาเอ่ยเสี ยงแข็งขณะแขนแข็งแรงยังคงโอบ
อาหนิงไว้กบั ตัว ดวงหน้างดงามอ่อนหวานของอาหนิงยิง่ ดูเปราะบางน่าทะนุถนอม นางยังคงสงบปากสงบคํา
ดวงตาทอดมองพื้นราวกับไม่ได้ยนิ ถ้อยคําที่ฮ่องเต้และฮองเฮาแลกเปลี่ยนกัน นางทําราวกับตัวเองไม่ได้อยูต่ รง
นั้น

ฮองเฮาคงรู ้สึกเสี ยหน้าไม่นอ้ ยแต่ยงั คงฝื นยิม้ “หม่อมฉันเพิ่งพบหน้าพวกนาง พูดคุยกันไปไม่กี่คาํ จะนับเป็ น


การกลัน่ แกล้งได้อย่างไรกันเพคะ”

นางแสร้งกล่าวอ่อนหวาน ทว่าฮ่องเต้ยกมือขึ้นโบกอย่างรําคาญ

“เจ้ากลับไปก่อนเถิด”

431
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เขาไม่ได้สนใจฮองเฮาอีก ตรงเข้าประคองอาหนิงเดินขึ้นศาลาอย่างแช่มช้าเอาใจใส่ สายตาของฮองเฮาและ
เหล่าสนมที่แอบชําเลืองมองจึงเต็มไปด้วยไฟริ ษยา อาหนิงทั้งงดงาม ทั้งตั้งครรภ์มงั กร ซํ้ายังเป็ นที่โปรดปราน
ไม่เสื่ อมคลาย ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างนางมากเกินไปเสี ยแล้ว

..อาหนิงคงตกที่นงั่ ลําบากแล้ว..

ข้านึกเวทนานาง

ข้าก้าวตามคนทั้งคู่ข้ ึนไปบนศาลา พอฮ่องเต้ประคองอาหนิงนัง่ เรี ยบร้อยแล้ว ข้าก็ยอบกายคารวะ ตั้งใจจะขอ


ตัวกลับ ข้าบังเอิญมาเห็นเรื่ องราวภายในอันไม่สมควรเสี ยแล้ว

"ฝ่ าบาทและมู่เสี ยนเฟยคงมีเรื่ องต้องสนทนากัน หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ"

เขาโบกมือห้ามพลางมองข้าด้วยสายตาตัดพ้อ

“อวี้เอ๋ อร์ จนบัดนี้ยงั เห็นเราเป็ นคนอื่นอีกหรื อ”

ประโยคนี้ตีความได้หลากหลาย ข้าเริ่ มอึดอัดใจ กลัวว่าอาหนิงจะเข้าใจผิด ไม่รู้วา่ นางรู ้เรื่ องราวแต่หนหลัง


ระหว่างข้ากับฮ่องเต้หรื อไม่

“ฝ่ าบาท อวี้เอ๋ อร์ สนทนากับมู่เสี ยนเฟยนานแล้ว นางคงเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เช่นนั้นอวี้เอ๋ อร์ไม่ขอรบกวนแล้ว


เพคะ” ข้ายังคงยืนยันคําเดิม

ฮ่องเต้หลุดเสี ยงหัวเราะออกมาเบาๆ “อวี้เอ๋ อร์จะร้อนรนไปไย กลัวว่าเราจะทําให้เจ้าลําบากใจหรื อ เราบอกแล้ว


ว่าจะตัดใจจากเจ้า เจ้าคิดว่าเราทําไม่ได้อย่างนั้นหรื อ”

ฮ่องเต้เอ่ยถึงความรู ้สึกที่เขามีต่อข้าราวกับเป็ นเรื่ องธรรมดา ข้าเหลือบตามองอาหนิง กลัวว่าเรื่ องเหล่านี้จะทํา


ให้นางเสี ยใจ กลัวว่าเราสองคนจะเข้าหน้ากันไม่ติด ทว่านางเพียงหันมากล่าวกับข้าโดยตรงด้วยสี หน้ายิม้ แย้ม

432
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“อาหลัน อย่ากังวลไปเลย ต่อให้ฝ่าบาทไม่อาจตัดพระทัย ชินอ๋ องก็ไม่ปล่อยให้ผใู ้ ดมาชิงตัวเจ้าไปได้ง่ายๆ
หรอก ต่อให้คนผูน้ ้ นั จะเป็ นฮ่องเต้กต็ ามที” นางว่าพลางส่ งค้อนให้ฮ่องเต้อย่างน่ารัก เขายกมือขึ้นบีบจมูกนาง
บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ดูอ่อนหวานเหลือเกิน ข้าอดไม่ได้จึงหัวเราะออกมา

เราสามคนนัง่ คุยสัพเพเหระกันอยูพ่ กั ใหญ่ โดยมากพูดถึงเด็กในครรภ์ของอาหนิงและการเดินทางของข้าที่ใกล้


เข้ามา ครู่ หนึ่ งอาหนิงเริ่ มหาวนอน ฮ่องเต้จึงให้นางกํานัลประคองนางกลับตําหนักไปก่อน ข้าเตรี ยมตัวลากลับ
ทว่านึ กถึงเรื่ องสําคัญขึ้นมาได้จึงรี รอให้คล้อยหลังอาหนิงไปก่อนค่อยเอ่ยปาก

“ฝ่ าบาทเพคะ อวี้เอ๋ อร์จะจากไปไกล แต่ในใจยังคงกังวลเรื่ องอาหนิง ฝ่ าบาทคงเห็นแล้วว่าท่าทีที่ฮองเฮามีต่อ


นางเป็ นอย่างไร อวี้เอ๋ อร์เกรงว่า..”

“เล่ห์กลของสตรี วงั หลังเราย่อมรู ้ดีกว่าใคร อวี้เอ๋ อร์อย่ากังวลไปเลย ของรักของเรา เราย่อมปกป้องดูแล” เขา


ตอบข้าด้วยรอยยิม้ นุ่มนวล นํ้าเสี ยงและสี หน้าของเขาทําให้ขา้ รู ้สึกวางใจ แววตาของเขาเต็มเปี่ ยมไปด้วยความ
รักใคร่ ที่มีต่ออาหนิง ข้าอดดีใจแทนนางไม่ได้ ในที่สุดความรักของนางที่มีให้เขาก็ไม่ได้สูญเปล่า

“น่าประหลาดนัก ในวันที่เราคิดว่าไม่อาจรักใครได้อีก ความรักที่คิดว่าสู ญสิ้ นไปแล้วก็กลับผลิบานขึ้นมาใหม่”


อยูด่ ีๆ เขาก็เปรยขึ้นราวกับไม่ได้พดู กับข้า ข้าหันไปมองเสี้ ยวหน้าด้านข้างของเขาที่กาํ ลังผินมองสระบัว
สายตาคมปลาบของฮ่องเต้แลดูอ่อนโยน

“ในจํานวนนางในนับพันที่หวังเพียงเราชายตามอง กลับมีสตรี นางหนึ่ งที่พยายามหลบหลีกเรา พยายามหักห้าม


ใจไม่ให้รักเรา จะเป็ นไปได้หรื อ เราคือโอรสสวรรค์ผเู ้ ป็ นที่สุดในใต้หล้า อวี้เอ๋ อร์.. นอกจากเจ้าแล้วจะมีผใู ้ ดที่
ไม่ปรารถนาเราอีกกัน” เขาเอ่ยเสี ยดสี ตวั เองอย่างขําๆ ข้ารู ้เพราะเขาไม่ใช่คนจําพวกชอบยกยอตนเอง

“นางปฏิเสธเรา พยายามหลีกหนีเรา แต่ในดวงตานางกลับมีความรักแอบซ่อนอยู่ อวี้เอ๋ อร์ เราไม่นึกเลยว่าจะมี


ใครทําให้เราใจเต้นได้เช่นนี้อีก”

ยามข้าได้ยนิ ฮ่องเต้เปิ ดเปลือยความรู ้สึกที่มีต่ออาหนิงเช่นนี้ ความรู ้สึกระแวดระวังที่ขา้ มียามพบหน้าเขาค่อย


ผ่อนคลายลง ในที่สุดฮ่องเต้กต็ ดั ใจจากข้าได้สาํ เร็ จ ข้าดีใจที่เขาจะได้มีความสุ ขเสี ยที ข้ายังรู ้สึกผิดไม่วายที่ไม่
อาจตอบแทนความรักความปรารถนาดีที่เขาเคยมีให้ขา้ ข้ายิม้ ให้เขาด้วยความยินดีจากใจ

“อวี้เอ๋ อร์ดีใจเหลือเกินเพคะที่ในที่สุดฝ่ าบาทก็ได้พบสตรี ที่รักฝ่ าบาทอย่างแท้จริ ง”

433
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาหันมายิม้ ให้ขา้ ระหว่างเราบังเกิดความเงียบงันชัว่ ครู่ ข้าไม่รู้สึกอึดอัดเพราะรับรู ้ได้วา่ เป็ นความเงียบที่เปี่ ยม


ไปด้วยความปรารถนาดี เราสองคนต่างรักและเป็ นห่วงอาหนิงเหมือนๆ กัน

"อวี้เอ๋ อร์ขอบพระทัยฝ่ าบาทที่เมตตาอาหนิงเหลือเกิน ฝ่ าบาทคงมีพระราชกิจอีกมากมายที่ตอ้ งสะสาง อวี้เอ๋ อร์


เห็นทีจะต้องขอตัวเพคะ"

ข้ารํ่าลาเขา รู ้สึกสบายใจขึ้นมาก ทว่าในขณะที่กาํ ลังจะเดินผ่านร่ างสู งเพื่อก้าวลงจากศาลา เสี ยงทุม้ นั้นก็กล่าว


ขึ้นลอยๆ

“กระนั้นในใจข้า เจ้าก็ยงั คงงดงามที่สุด”

ข้าชะงัก ทว่ายังคงสาวเท้าต่อไปราวกับไม่ได้ยนิ คําพูดนี้ ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่หนั กลับไปดู


ว่าเขามีสีหน้าอย่างไรขณะที่พูด

“ความรักที่ไม่สมปรารถนาก็ไม่จาํ เป็ นต้องลืมมิใช่หรื อ” นํ้าเสี ยงนั้นลอยตามมา

..ข้าทําเป็ นไม่ได้ยนิ ข้าต้องใจแข็ง ความใจอ่อนของข้ามีแต่จะยิง่ ทําให้เขาเจ็บปวด ไม่ใช่แค่เขา หากอาหนิงรู ้วา่


เขายังมีความรู ้สึกซ่อนเร้นต่อข้า นางย่อมเสี ยใจ ข้าไม่อาจปล่อยให้เป็ นเช่นนั้นได้

ดีเหลือเกินที่ขา้ ต้องจากไปไกลถึงจี้เจียง..

ยามเดินจากมาไกลแล้ว ข้าได้แต่ถอนใจอย่างโล่งอก

“คนงามมีเรื่ องใดหนักใจอย่างนั้นหรื อ”

ข้ามัวแต่ใช้ความคิดจึงไม่ได้สังเกตร่ างสู งที่ยนื พิงต้นไม้อยูข่ า้ งทางเดิน ครั้นได้ยนิ นํ้าเสี ยงหยอกเย้าจึงหันไป


มองอย่างประหลาดใจ ชินอ๋ องยืนส่ งยิม้ ให้ขา้ เมื่อเห็นว่าเป็ นเขาดวงตาข้าก็ทอประกายยินดีอย่างปิ ดไม่มิด

“ท่านอ๋ อง!”

434
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าแทบจะโผเข้าไปกอดเขา เขามารอรับข้า ทําให้ระหว่างทางกลับข้าไม่ตอ้ งกังวลว่าจะเดินไปพบใครเข้าอีก
เขาหัวเราะเสี ยงดังเมื่อเห็นสี หน้าข้า

“อวี้เอ๋ อร์ เหตุใดทําหน้าราวกับเพิ่งออกจากกรงเสื อเล่า”

ข้าอดยิม้ กับคําเปรี ยบเปรยของเขาไม่ได้ "ก็ไม่ต่างกันสักเท่าใดนักหรอกเพคะ"

ยามมีชินอ๋ องเดินมาเป็ นเพื่อน ข้ารู ้สึกปลอดโปร่ งใจ ค่อยมีอารมณ์ชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามของอุทยานหลวง


ระหว่างนัง่ รถม้ากลับ ข้าเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังว่าฮองเฮาใช้อาหนิงมาข่มขู่ขา้ อย่างไรบ้าง ฮ่องเต้มาทันเวลา
ได้อย่างไร ทว่าไม่ได้เล่าคําพูดสุ ดท้ายที่ฮ่องเต้เอ่ยกับข้าก่อนจากมา ชินอ๋ องฟังแล้วกลับไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง
เลยสักนิด

“ไม่เห็นมีสิ่งใดน่ากังวล เผิงจวิน้ ไม่ใช่คนไร้น้ าํ ยา เรื่ องในครอบครัวเขา เขาย่อมจัดการเองได้ อวี้เอ๋ อร์กงั วล


มากเกินไปเสี ยแล้ว”

ข้าน้อยใจที่เขาทําราวกับไม่เห็นความสําคัญของเรื่ องที่ขา้ เล่า ฮองเฮามีเจตนามุ่งร้ายต่อข้าและอาหนิงถึงเพียง


นั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอาหนิงข้าคงรู ้สึกผิดไปตลอด

“ท่านอ๋ อง ลางสังหรณ์ของสตรี อาจฟังดูไม่มีเหตุผลในสายตาท่าน แต่อวี้เอ๋ อร์มนั่ ใจว่าฮองเฮาไม่มีทางปล่อยให้


อาหนิงได้อยูอ่ ย่างสงบแน่ หากท่านอ๋ องเห็นว่าไร้สาระ อวี้เอ๋ อร์จะไม่เอ่ยเรื่ องนี้กบั ท่านอีก”

ข้ายังไม่ทนั จะพูดจบประโยคดี เขาก็รวบเอวข้าแล้วยกขึ้นนัง่ บนตัก

“เปิ่ นหวางลืมไปว่าตนเองมีภรรยาที่ดุร้าย เจ้าต้องการให้เปิ่ นหวางทําอย่างไรเพียงออกปาก เปิ่ นหวางไม่ได้


บอกเสี ยหน่อยว่าจะไม่ช่วย” เขากล่าวยิม้ ๆ ด้วยนํ้าเสี ยงเอาอกเอาใจ ทําให้ขา้ ไม่อาจตีสีหน้าบึ้งตึงต่อไปได้ มุม
ปากข้ากดลึกเป็ นรอยยิม้

“จริ งหรื อเพคะท่านอ๋ อง”

เขาพยักหน้า

435
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
"อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งการเพียงให้อาหนิงและลูกปลอดภัยเพคะ ท่านอ๋ องมีวธิ ีการอย่างไร พอจะบอกอวี้เอ๋ อร์ ได้หรื อไม่"

ข้าถามนํ้าเสี ยงกระตือรื อล้น หมายใจว่าเขาคงส่ งคนเข้าไปคุม้ กันหรื อคอยสอดแนมทางฝั่งฮองเฮา ทว่าเขากลับ


ปิ ดปากเงียบไม่ยอมบอก

“เปิ่ นหวางย่อมทําได้อย่างที่พูด ถึงตอนนั้นอวี้เอ๋ อร์ยอ่ มจะได้รู้เอง"

436
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 62 : ย่ อมเป็ นไปตามกรรม

ชินอ๋ องและข้าออกเดินทางตอนต้นฤดูใบไม้ร่วง อากาศที่เริ่ มเย็นลงทําให้เดินทางได้ไกลขึ้นในแต่ละวัน หาก


เป็ นหน้าร้อนที่แสงแดดเจิดจ้าอากาศอบอ้าว ขบวนรถจะต้องหยุดพักให้น้ าํ ม้าอยูเ่ ป็ นระยะทําให้การเดินทาง
ล่าช้า ยามที่ขบวนรถผ่านพ้นประตูเมือง ข้าหวนนึกถึงอาหนิง ครั้งสุ ดท้ายที่เราได้พบกัน นางร้องไห้

“อาหลัน เมื่อเจ้าจากไปแล้ว ข้าก็เหลือตัวคนเดียว” นํ้าตาของนางไหลพรากอย่างน่าสงสาร ทําเอาข้าร้องตามไป


ด้วย

“อาหนิ งอย่าร้องไห้สิ” ข้าว่าทั้งที่ตวั เองก็น้ าํ ตาไหลเป็ นทํานบแตก

“ในวังหลวงผูค้ นมากมาย แต่ในใจข้ากลับเงียบเหงาว่างเปล่า” นางยังคงสะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าใจ “จากนี้


ไปข้าก็ไม่มีคนให้ปรับทุกข์ได้อีก นอกจากเจ้าแล้วจะมีใครสนใจว่าชีวิตข้าจะสุ ขหรื อจะทุกข์อย่างไร”

“อาหนิ ง อย่าลืมว่าเจ้ายังมีฮ่องเต้ เขารักถนอมเจ้าถึงเพียงนี้ มีหรื อจะไม่ใส่ ใจทุกข์สุขของเจ้า ไหนจะเจ้าตัวน้อย


ที่กาํ ลังจะลืมตามาดูโลกอีกเล่า” ข้าปลอบนาง

“อาหลัน เจ้าน่าจะอยูร่ อจนข้าคลอดเสี ยก่อน ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะไม่มีใครอยูเ่ คียงข้าในยามที่ขา้ อ่อนแอ


ข้ากลัวว่าข้าจะทนไม่ไหว..”

“ข้าก็อยากทําเช่นนั้นอยูเ่ หมือนกัน แต่หากไม่ไปตอนนี้ การเดินทางจะต้องล่าช้าไปถึงปี หน้าเพราะติดฤดูหนาว


ใช่วา่ ข้าไม่อยากอยูร่ อเจอเจ้าตัวน้อยเสี ยเมื่อไหร่ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะคลอดเด็กคนนี้อย่างปลอดภัย เจ้าต้องเข็มแข็ง
หากขาดเจ้าไปสักคน เด็กที่เกิดมาใครจะดูแลให้ความรักเขาได้เท่ากับเจ้า ข้าจะไม่อยูแ่ ล้ว เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ
อีกอย่าง..” ข้าลดเสี ยงลง “ข้าได้ขอร้องทั้งฮ่องเต้และชินอ๋ องให้คุม้ ครองเจ้าเป็ นอย่างดี ดังนั้นเจ้าไม่มีอะไรต้อง
ห่วง”

อาหนิงเช็ดนํ้าตา "เจ้าไปอยูท่ างโน้นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะอาหลัน ได้ยนิ ว่าขึ้นไปทางแคว้นเว่ยอากาศหนาวมาก


มิใช่หรื อ รักษาร่ างกายให้อบอุ่นเสี ยล่ะ ไม่อย่างนั้นจะไม่สบายเอา" นางเอ่ยกําชับอย่างห่วงใย

437
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
"ยังไม่ทนั คลอดเจ้าก็มีนิสัยเหมือนแม่คนเข้าไปทุกทีแล้วนะอาหนิง" ข้าเอ่ยกระเซ้านาง ทําให้อาหนิงค่อยยิม้
ออกมาได้

ตอนข้าจะกลับ นางคาดคั้นให้ขา้ รับปากว่าจะกลับมาเมืองหลวงทุกปี และให้เขียนจดหมายถึงนางสมํ่าเสมอ ข้า


เองก็ต้ งั ใจเช่นนั้นอยูแ่ ล้วจึงตกปากรับคํา

ระหว่างการเดินทาง ตลอดเส้นทางปลอดโปร่ งราบรื่ น ข้ารู ้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินราวกับได้ท่องเที่ยว ชิน


อ๋ องมีความรู ้เกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศและความเป็ นมาของแต่ละเมืองเป็ นอย่างดีจึงมักถ่ายทอดให้ขา้ ฟัง เขา
เดินทัพจับศึกบ่อยครั้ง ขึ้นเหนือล่องใต้อยูเ่ สมอ จําต้องรู ้ขอ้ มูลเหล่านี้อย่างแม่นยํา เส้นทางนี้เขาคุน้ เคยดีจึงมัก
พาข้าควบม้าแยกจากขบวนไปดูทุ่งดอกไม้หรื อภูเขาเปลี่ยนสี ตอนที่พาข้าไปแช่บ่อนํ้าพุร้อนยังถือโอกาสหา
เศษหาเลยกับข้าโดยไม่สนใจว่าเป็ นยามกลางวันแสกๆ โชคดีที่ไม่มีใครรู ้ ไม่เช่นนั้นข้าคงรู ้สึกอับอายทุกครั้ง
ยามเขาพาข้าแยกตัวไป บางครั้งเราก็ถือโอกาสไปเดินเล่นในเมือง จับจ่ายซื้ อของแปลกตาและชิมอาหาร
พื้นเมือง ข้าเพลิดเพลินเสี ยจนลืมวันลืมคืน

ช่วงหลังของการเดินทาง ข้าสังเกตว่าตัวเองนอนเก่งขึ้นมาก อดคิดไม่ได้วา่ ข้ามีนิสัยเกียจคร้านตั้งแต่เมื่อไหร่


กินอิ่มแล้วมักจะง่วงเหงาหาวนอน จึงใช้เวลาในแต่ละวันหลับบนรถม้าเสี ยเป็ นส่ วนใหญ่ ชินอ๋ องมักจะจับข้า
นอนหนุนตักบางครั้งก็ให้ขา้ พิงอกเขาหลับไป ข้าไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกบั ตัวเองจนกระทัง่ เขาให้แพทย์
ผูต้ ิดตามมาจับชีพจรตอนที่เราแวะพักในเมือง

..ข้าตั้งครรภ์..

ข้านิ่งงันไป ความรู ้สึกทั้งดีใจประหลาดใจผสมปนเปกันไปหมด ท่านหมอดึงเส้นไหมที่ใช้จบั ชีพจรให้เลื่อน


หลุดจากข้อมือข้าแล้วเก็บอุปกรณ์ในล่วมยา ข้าหันไปมองชินอ๋ อง เขากําลังมองมาด้วยดวงตาเป็ นประกาย พอ
ท่านหมอถอยออกไปเขาก็ปราดมานัง่ ข้างเตียงแล้วคว้าตัวข้าขึ้นมากอดอย่างยินดี

"อวี้เอ๋ อร์ เราจะมีลูกกันแล้ว เปิ่ นหวางยินดีเหลือเกิน"

ข้ากําลังมึนงง ท่านหมอบอกว่าข้าตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ข้าออกเดินทางมาได้สองเดือน แสดงว่าข้าตั้งครรภ์


ตั้งแต่ตอนอยูใ่ นเมืองหลวง ข้าไม่รู้ตวั เลยสักนิด ไม่ได้เอะใจเมื่อระดูไม่มา นึ กเอาเองว่าเป็ นเพราะร่ างกาย
ตรากตรําจากการเดินทาง โชคดีที่ครรภ์ไม่ได้รับความกระทบกระเทือนยามที่ขา้ ออกไปโลดโผนกับชินอ๋ อง

438
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ชีพจรของทารกเต้นไวไปสักนิด ฟังดูสับสนเล็กน้อย ขอหวางเฟยโปรดถนอมพระวรกายให้ดี อย่าหักโหมจน
ร่ างกายเหน็ดเหนื่อยเกินไปพะย่ะค่ะ อาจจะกระทบถึงทารกในครรภ์ได้”

ท่านหมอซึ่ งยืนเงียบๆ อยูด่ า้ นข้างกล่าวขึ้น ข้าฟังแล้วหน้าแดง ข้าเป็ นหวางเฟย วันๆ ต้องหักโหมทํางานทําการ


เสี ยที่ไหน เกรงว่าสิ่ งที่เขาเตือนคงต้องไปบอกชินอ๋ องเสี ยมากกว่า ทว่าตัวต้นเหตุกลับมองหน้าข้าแล้วหัวเราะหึ

“หวางเฟยโปรดระวังความคิด ท่านหมอหมายถึงเจ้าอย่าลุกนัง่ ให้วนุ่ วายไป ให้นอนพักอยูเ่ ฉยๆ ใช่หรื อไม่” เขา


หันกลับไปถามท่านหมอโดยไม่สนใจข้าที่ถลึงตาใส่ เขา

ท่านหมอเพียงกระแอมกระไอเล็กน้อยแล้วเชิญเขาออกไปคุยที่หอ้ งชั้นนอก ปล่อยให้ขา้ นัง่ หน้าแดงอยูบ่ นเตียง


คนเดียว ดูเหมือนว่านอกจากแพทย์หลวงจะมีขอ้ ตักเตือนเขาแล้ว ชินอ๋ องเองก็มีคาํ ถามมากมายสอบถามเขา
เช่นกัน เสี ยงกระซิ บกระซาบของพวกเขาดังลอดเข้ามาในห้อง ข้าพยายามไม่ฟัง รู ้ดีวา่ ข้อสงสัยที่ชินอ๋ องถาม
ท่านหมอจะเกี่ยวข้องกับเรื่ องใด

ตอนนั้นเราแวะพักที่จวนเจ้าเมือง ข้าลุกจากเตียงตรงไปยังห้องของแม่ อยากจะรี บบอกข่าวดีน้ ีให้แม่รู้ เป็ นดังที่


ข้าคิด แม่ถึงกับยิม้ ไม่หุบ สี หน้าเบิกบานของแม่ทาํ ให้ขา้ อบอุ่นในใจ อย่างน้อยในชีวิตก็ยงั มีแม่อีกคนที่ร่วมสุ ข
ร่ วมทุกข์ไปกับข้า ข้านึกถึงอาหนิง ตอนนางรู ้วา่ ตั้งครรภ์กค็ งมีความรู ้สึกอยากแบ่งปันเรื่ องราวนี้ กบั คนใกล้ชิด
เสี ยแต่วา่ นอกจากฮ่องเต้แล้ว นางก็ไม่เหลือใคร ช่างน่าเวทนานัก แม่เอ็ดข้าเสี ยยกใหญ่ที่ไม่รู้ตวั ให้เร็ วกว่านี้ ที่
ผ่านมาแม่เห็นข้าตะลอนไปโน่นมานี่กบั ท่านอ๋ อง เมื่อนึกย้อนไปแม่ถึงกับยกมือทาบอกว่าเคราะห์ดีที่เด็กไม่
เป็ นอันตราย หลังจากนั้นทุกครั้งที่ขา้ แวะไปหาแม่ ก็จะเห็นแม่วนุ่ วายอยูก่ บั การตัดเย็บชุดให้หลานไม่
เป็ นอันว่างมือ

ชินอ๋ องก็เข้มงวดกับอาหารการกินของข้ามากกว่าเดิม ข้าต้องดื่มนํ้าแกงบํารุ งมากมายเสี ยจนเบื่อ โชคดีที่ขา้ ไม่มี


อาการแพ้จึงไม่เป็ นอุปสรรคต่อการเดินทางมากนัก ชินอ๋ องให้คนนําเบาะหนามาปูบนรถม้าอย่างดี เส้นทางไป
ชายแดนอยูใ่ นสภาพดีไม่ขรุ ขระเนื่องจากเป็ นเส้นทางเคลื่อนทัพและลําเลียงเสบียง ตลอดทางมีจุดพักม้าเป็ น
ระยะ ยามถึงชายแดนอากาศก็เริ่ มหนาวเย็นแล้ว พวกเราเข้าพักในจวนแม่ทพั แห่งเดิมที่ขา้ เคยอยู่ ชินอ๋ อง
ตัดสิ นใจปักหลักพํานักอยูท่ ี่นี่จนกว่าจะผ่านพ้นฤดูหนาว รอให้ขา้ คลอดและพักฟื้ นจนแข็งแรงดีเสี ยก่อนจึง
ค่อยเดินทางต่อไปยังเมืองจี้เจียง ตอนนี้เองที่ข่าวจากเมืองหลวงส่ งมาถึง

439
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ชินอ๋ องเอ่ยเรื่ องนี้ข้ ึนมาตอนกําลังจะเข้านอน เขาประคองข้าขึ้นเตียงแล้วห่มผ้าให้ จากนั้นก็สอดตัวเข้ามาในผ้า
ห่มโดยยังไม่ดบั เทียน ข้าตัวสั่นน้อยๆ เมื่อสัมผัสกับที่นอนและผ้าห่มที่ยงั เย็นเฉี ยบ เขาดึงตัวข้าไปกอดให้ความ
อบอุ่นแล้วกระซิ บบอก

"อวี้เอ๋ อร์ เรื่ องของอาหนิ งเจ้าสบายใจได้แล้วนะ"

ข้าช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าเขาที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิม้ "ท่านอ๋ องหมายความว่าอย่างไรเพคะ"

"ฮองเฮาถูกขับไปอยูต่ าํ หนักเย็น ส่ วนจางอี้หรู กก็ ลืนพิษฆ่าตัวตายหนีความผิดไปเสี ยแล้ว"

เขาพูดจบก็หลับตาลง ทําท่าจะเข้าสู่ นิทรารมย์หลังจากทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ขา้ ข้าตาแจ้งขึ้นมาทันที ผุดลุก


ขึ้นนัง่ แล้วดึงให้เขาลุกขึ้นมาด้วย

"ท่านอ๋ อง อย่าเพิ่งหลับสิ เพคะ อธิบายให้อวี้เอ๋ อร์ ฟังเสี ยก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น"

เขาทําทีเป็ นสะลึมสะลือลุกขึ้นมานัง่ แกล้งเอนศีรษะมาซุกซบไหล่ขา้ "มีอะไรเอาไว้คุยกันพรุ่ งนี้ ไม่ได้หรื อ คืน


นี้เปิ่ นหวางเพลียเหลือเกิน อยากจะรี บเข้านอน"

"ท่านอ๋ อง อย่าเพิ่งหลับสิ เพคะ" ข้ายกแขนขึ้นโอบกอดเขาไว้แล้วเอ่ยอย่างเอาใจ "ประเดี๋ยวอวี้เอ๋ อร์จะบีบนวด


ให้ระหว่างที่ท่านอ๋ องเล่าไปด้วยดีไหมเพคะ"

เพียงได้ยนิ ข้อเสนอ คนที่เมื่อครู่ ยงั ทําท่าง่วงงุนกลับรี บรับปาก นัง่ หลังตรงขึ้นมาทันที "ก็ดีเหมือนกัน สองสาม
วันมานี้เปิ่ นหวางรู ้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยูไ่ ม่นอ้ ย"

ข้าแอบตวัดสายตามองคนเจ้ามารยาอย่างหมัน่ ไส้ หากไม่ใช่เรื่ องที่เขาเกริ่ นเป็ นเรื่ องที่ขา้ อยากรู ้ล่ะก็อย่าหวังว่า


ข้าจะง้อเขาขนาดนี้เลย ข้าขยับเข้าไปแล้วแล้วเริ่ มบีบนวดแขนให้เขา "ว่าแต่เรื่ องฮองเฮานี่เป็ นมาอย่างไรนะเพ
คะ"

ชินอ๋ องตอบเสี ยงกลั้วหัวเราะ ดูอารมณ์ดีหนักหนา "เมื่อเย็นเปิ่ นหวางได้รับรายงานสถานการณ์ในเมืองหลวง


ฮองเฮาและจางอี้หรู ร่วมมือกันปองร้ายมู่เสี ยนเฟย ทว่าแผนการไม่สาํ เร็ จ ส่ วนผลลัพธ์กเ็ ป็ นดังที่เปิ่ นหวางบอก
ในตอนแรก"

440
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

"ฮองเฮาเป็ นถึงประมุขวังหลัง นางไม่มีความจําเป็ นจะต้องกําจัดอาหนิงมิใช่หรื อเพคะ อยูๆ่ จะไปร่ วมมือกับ


จางอี้หรู ให้ตวั เองต้องตกที่นงั่ ลําบากทําไม"

“ไหนอวี้เอ๋ อร์เป็ นคนบอกเปิ่ นหวางเองมิใช่หรื อว่าไม่อาจดูเบาความริ ษยาของสตรี ฮองเฮาริ ษยาอาหนิงเป็ น


ทุนเดิมอยูแ่ ล้ว เมื่อมีโอกาสมีหรื อจะปล่อยผ่าน นางรู ้วา่ จางอี้หรู คิดจะแก้แค้นอาหนิง จึงส่ งเสริ มแผนการนี้ท้ งั
ทางตรงและทางอ้อม”

ข้าขมวดคิ้ว ก่อนจากมาทั้งฮ่องเต้และชินอ๋ องรับปากข้าเป็ นมัน่ เป็ นเหมาะว่าจะดูแลอาหนิง แล้วอยูด่ ีๆ ฮองเฮา


และจางอี้หรู จะหาโอกาสลงมือได้อย่างไร หรื อพวกเขาจงใจเปิ ดช่องให้อีกฝ่ ายลงมือ อีกอย่างฮองเฮากับจางอี้
หรู ไปรู ้จกั กันตอนไหน ก่อนหน้านี้ไทเฮาและฮองเฮาไม่ได้ญาติดีกนั ไม่น่าที่สองคนนี้จะมาร่ วมมือกันได้

“ท่านอ๋ องขุดหลุมล่อให้ฮองเฮามาติดกับหรื อเพคะ” ข้าคาดเดาทางที่น่าจะเป็ นไปได้มากที่สุด

“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง เผิงจวิน้ เพียงลองใจนาง หากนางไม่ได้คิดร้ายต่ออาหนิงย่อมพ้นผิด แต่เผอิญว่านาง


กลับมีใจมุ่งร้าย”

“ท่านอ๋ องวางแผนทั้งหมดนี้ เห็นชีวิตคนเป็ นของเล่นหรื อเพคะ หากท่านอ๋ องไม่เปิ ดโอกาสฮองเฮาคงไม่ถลําตัว


ลงมือทําชัว่ จางอี้หรู คงไม่ถึงกับต้องแลกชีวติ เพื่อล้างแค้นให้ครอบครัว ที่สาํ คัญท่านอ๋ องกลับเอาชีวิตของอา
หนิงเข้ามาเสี่ ยง” ข้าผละจากเขา รู ้สึกไม่ชอบใจแผนการเช่นนี้ ถึงแม้วา่ ข้าจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกบั ฮองเฮา
และจางอี้หรู แต่กอ็ ดรู ้สึกไม่ได้วา่ ไม่ยตุ ิธรรมกับพวกนางนัก เขาใช้ความแค้นของพวกนางเป็ นแรงจูงใจเพื่อ
ทําลายตัวพวกนางเอง ชินอ๋ องเป็ นผูจ้ ุดชนวนแล้วปล่อยให้แมงเม่าอย่างพวกนางบินมาเข้ากองเพลิง

“อวี้เอ๋ อร์เข้าใจผิดแล้ว เปิ่ นหวางเพียงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างฮองเฮาและจางอี้หรู เท่านั้น เหตุการณ์ที่


เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็ นพวกนางวางแผน” เขาว่าพลางดึงตัวข้ามากอดไว้ "เปิ่ นหวางไม่ใช่คนโหดร้ายถึงเพียง
นั้น"

ข้ามองเขาอย่างคาดคั้น ต้องการให้เขาอธิบายโดยละเอียดว่าไม่ได้ใช้วธิ ี ต่าํ ช้าเช่นนั้น เขาจึงเปิ ดปาก

441
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“จางอี้หรู ตอ้ งการล้างแค้นแต่ไม่มีโอกาส ฮองเฮามีโอกาสแต่ไม่กล้าลงมือ พวกนางต่างใช้ประโยชน์ซ่ ึ งกันและ
กัน ฮองเฮามีอาํ นาจในมือ มีคนให้ใช้สอยมากมาย การจะนําพิษจากภายนอกเข้ามาย่อมทําได้ง่ายดาย ในขณะที่
สนมตกยากอย่างจางอี้หรู เพียงแค่จะได้รับปันส่ วนข้าวของตามสิ ทธิ์กย็ ากแล้ว อย่าว่าแต่จะเสาะหาพิษเลย”

“พิษที่ฮองเฮาให้คนนําเข้ามามีฤทธิ์ร้ายแรง หากเข้าสู่ ร่างกายด้วยปริ มาณเพียงปลายเข็มก็ทาํ ให้ถึงแก่ชีวิตได้”

ข้าเบิกตากว้างอย่างประหวัน่ พรั่นพรึ ง รู ้สึกหวาดกลัวแทนอาหนิงขึ้นมา

"จางอี้หรู ต้ งั ใจจะสละชีวติ ตนเองอยูแ่ ล้ว นางสอบถามกิจวัตรของอาหนิ งจากคนของฮองเฮาเพื่อหาโอกาส


เข้าถึงตัว ปกติอาหนิงมักจะออกมาเดินเล่นทุกวันหลังอาหารเช้า เปิ่ นหวางและเผิงจวิน้ ให้คนจับตาดูจางอี้หรู อยู่
แล้ว เมื่อเห็นนางเข้าใกล้ตาํ หนักของอาหนิงจึงตรงเข้าจับกุม นางเคลือบพิษไว้ที่ปลายปิ่ น หากอาหนิงถูกปิ่ นนี้
แทงเข้าแม้เป็ นรอยข่วนเล็กๆ ก็อาจทําให้ถึงตายได้"

ข้าผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแรง เพิ่งรู ้วา่ เมื่อครู่ ขา้ กลั้นหายใจไว้นานเพียงใด

"จางอี้หรู รู้ดีวา่ โทษของการลอบปลงพระชนม์พระสนมเอกเป็ นเช่นไร โดยเฉพาะพระสนมเอกที่กาํ ลังตั้งครรภ์


มังกร โทษของนางมีเพียงสถานเดียว แทนที่จะต้องตายอย่างทรมาน นางได้บรรจุพิษชนิดเดียวกันนี้ไว้ในยา
ลูกกลอนแล้วอมไว้ในปาก เมื่อถูกจับกุมได้กก็ ดั เม็ดยาให้แตก นางสิ้ นใจในทันที"

"แล้วท่านอ๋ องรู ้ได้อย่างไรว่าฮองเฮาเป็ นผูอ้ ยูเ่ บื้องหลัง"

"คนที่ฮองเฮาใช้ให้ติดต่อกับจางอี้หรู เป็ นคนของเปิ่ นหวางเอง นางคิดว่าแผนการของตนเป็ นความลับ คิดจะยืม


มือจางอี้หรู ฆ่าคนโดยมือตัวเองไม่เปื้ อนเลือด พอจางอี้หรู ตายนางก็นึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว หารู ้ไม่
พยานหลักฐานทุกอย่างมัดตัวนางแน่นหนา"

"ท่านอ๋ องส่ งคนเข้าไปอยูข่ า้ งกายฮองเฮานานแล้วหรื อเพคะ เหตุใดเรื่ องอันตรายอย่างนี้ ฮองเฮาจึงเชื่อใจคนของ


ท่านอ๋ องได้เล่า"

"เพราะคนของข้าน่าเชื่อถืออย่างไรเล่า เจ้าเองก็รู้จกั เขา" เขาตอบยิม้ ๆ เมื่อเห็นข้าทําหน้าสงสัย "เกากงกง"

ข้าเบิกตากว้าง เกากงกงคือคนสนิทของไทเฮามิใช่หรื อ

442
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

"ไม่วา่ ผูใ้ ดย่อมแสวงหาสิ่ งที่ดีที่สุดให้กบั ตัวเอง ตั้งแต่ไทเฮาสิ้ นไป สถานะของเกากงกงสั่นคลอนไม่นอ้ ย เขา


จึงไม่ลงั เลแม้เพียงนิดยามเปิ่ นหวางเรี ยกใช้งานเขา นอกจากเขาแล้วจะมีผใู ้ ดเหมาะสมไปมากกว่านี้อีกเล่า จางอี้
หรู ยอ่ มคุน้ เคยกับเขาซึ่ งเป็ นข้ารับใช้เก่าแก่ของไทเฮา มีหรื อนางจะระแวงว่าเขาเป็ นอื่น ส่ วนฮองเฮานั้นย่อมไม่
ระแวงสงสัยว่าเขาจะจะทํางานให้กบั ข้าซึ่ งเป็ นศัตรู ตวั ฉกาจของตระกูลจาง"

ข้านึกถึงเกากงกง ยามไทเฮายังอยู่ เขาเป็ นที่ไว้วางใจของนาง กิจทั้งหลายของไทเฮาล้วนเป็ นเกากงกงจัดการ


ขันทีผนู ้ ้ ีเจนจัดเรื่ องราวในราชสํานักอีกทั้งยังมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ไม่แปลกที่จะตบตาได้ท้ งั ฮองเฮาและจาง
อี้หรู

"จะหลอกศัตรู ให้ตายใจ ใช้คนของศัตรู ยอ่ มดีที่สุด" เขาบอกข้า

"ท่านอ๋ อง แผนการนี้ท่านวางไว้นานแล้วหรื อ" ข้าอดถามขึ้นมาไม่ได้ เราสองคนออกจากเมืองหลวงมาได้สี่หา้


เดือนแล้ว เขาเอาเวลาไหนไปจัดการเรื่ องพวกนี้กนั

"จะว่าไปก็นานอยู"่ เขายกมือขึ้นเกาจมูกสี หน้าครุ่ นคิด ท่าทางเช่นนี้ทาํ ให้เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มขี้เล่น

"ตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ"

“ก็ต้ งั แต่ตอนที่ฮองเฮาหมายจะสอดมือเข้ามายุง่ เรื่ องภายในของเสิ่ นหยางกง ทําให้อวี้เอ๋ อร์ ของเปิ่ นหวางไม่


สบายใจด้วยเรื่ องไร้สาระ”

ข้านึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นที่ฮองเฮาพยายามจะกดดันให้ขา้ รับชายารองให้ชินอ๋ อง อดไม่ได้ตอ้ ง


หัวเราะคิก

“โธ่ ท่านอ๋ อง เรื่ องเพียงเท่านี้ เอง อวี้เอ๋ อร์เกือบลืมไปแล้วเสี ยด้วยซํ้า”

"ใครใช้ให้นางมาหาเรื่ องกวนใจอวี้เอ๋ อร์ก่อนกันเล่า นี่นบั ว่าเปิ่ นหวางยังปราณี นางจึงเพียงแค่โดนปลด หาก


นางทําให้อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งทุกข์ใจ ก็ไม่แน่วา่ ชีวิตนางจะรักษาเอาไว้ได้"

443
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าเร่ งเพิ่มแรงบีบนวดเขาอย่างเอาใจในทันที "อย่าให้ถึงเพียงนั้นเลยเพคะท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้เปราะบาง
ขนาดนั้นเสี ยหน่อย"

เขายิม้ แล้วเอนกายลงนอน "คราวนี้อวี้เอ๋ อร์คงจะหลับได้แล้วกระมัง"

ข้าก้มลงจุมพิตเขาที่หน้าผากเป็ นรางวัล ทว่าเขาเลื่อนมือมาจับใบหน้าข้าแล้วดึงไปจูบปาก ข้าดิ้นรนเล็กน้อย


กลัวว่าเขาจะเกินเลย ชินอ๋ องหัวเราะ เขาพูดงึมงําขณะปล่อยข้าให้เป็ นอิสระ

"อวี้เอ๋ อร์จะกลัวอะไร เปิ่ นหวางเป็ นฝ่ ายจะเข้านอนแต่เจ้าไม่ยอมให้นอนแท้ๆ"

"ท่านอ๋ องน่ะหรื อจะเข้านอนก่อนอวี้เอ๋ อร์ เมื่อครู่ ที่ทาํ เป็ นง่วงนอนก็เพราะจะแกล้งอวี้เอ๋ อร์ ต่างหากเล่า" ข้าว่า
พลางเอนกายลงนอนเคียงข้าง ทันใดนั้นก็บงั เกิดความคิด

“ท่านอ๋ องเพคะ ตําแหน่งฮองเฮาว่างลงแล้ว ท่านอ๋ องคิดว่าฮ่องเต้จะทรงแต่งตั้งผูใ้ ดหรื อเพคะ”

“ไม่รู้สิ เปิ่ นหวางเองก็เดาใจเผิงจวิน้ ไม่ถูกเช่นกัน”

ข้ามองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อถือเลยสักนิด อาหลานคู่น้ ีมีหรื อจะเดาใจกันไม่ถูก เขาเพียงแต่ยงั ไม่อยากบอกให้ขา้


รู ้เท่านั้น

..หวังว่าจะเป็ นอาหนิง..

ข้าคิดในใจแต่แล้วก็รีบปั ดความคิดนี้ทิ้งไป

ตําแหน่งฮองเฮามิใช่มีไว้สาํ หรับสตรี ที่รัก แต่มีไว้เพื่อฐานอํานาจต่างหากเล่า หากมิใช่คนจากตระกูลที่มี


อิทธิพล อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็ น เช่นนี้แล้วจะเป็ นอาหนิงไปได้อย่างไร

ชินอ๋ องดึงข้าเข้าไปซุกในอ้อมกอดแล้วเอ่ยเสี ยงดุ

"หลับเสี ย"

444
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้ารี บหลับตา ความคิดสับสนวุน่ วายของข้าจึงค่อยหยุดลง

445
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 63 : สมาชิกใหม่

หลังจากฮองเฮาโดนปลด ฮ่องเต้ยงั คงไม่ได้แต่งตั้งผูใ้ ดขึ้นแทน เรื่ องราวในวังหลังล้วนแล้วแต่ให้เฉิ นกุย้ เฟย


เป็ นผูด้ ูแลชัว่ คราว หลังจากนั้นไม่นานอาหนิงคลอดพระโอรส นางเขียนจดหมายถึงข้าหลายหน้ากระดาษ
พรรณนาถึงความรู ้สึกของนางยามได้เห็นหน้าลูก นางเคยปรารถนาจะให้เขาเป็ นหญิง แต่ครั้นเขาออกมาเป็ น
ชาย นางก็ยงั รู ้สึกยินดี ความหวาดหวัน่ ว่าเขาจะนําความยุง่ ยากมาให้กลับสู ญสลายไปหมด ในฐาะแม่คนหนึ่ง
นางรู ้สึกเข้มแข็งมีกาํ ลังใจที่จะฝ่ าฝันอุปสรรคและคอยปกป้องเขาจนเติบใหญ่

ไม่นึกไม่ฝันว่าฮ่องเต้จะวางเดิมพันไว้กบั เด็กคนนี้ หลังจากที่อาหนิงคลอดพระโอรส เขารอจนทําพิธีครบเดือน


แล้วจึงค่อยอาศัยเหตุน้ ีแต่งตั้งนางเป็ นฮองเฮา ข้ารู ้อาหนิงมิได้มกั ใหญ่ใฝ่ สู ง นางเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ
สุ ขกับลูกเท่านั้น แต่ในเมื่อฮ่องเต้หยิบยืน่ ตําแหน่งฮองเฮาอันเปรี ยบประดุจดาบอาญาสิ ทธิ์ให้ นางจะไม่หยิบ
ฉวยขึ้นมาใช้ป้องกันตัวและบุตรชายได้อย่างไร อาหนิงเป็ นสตรี ที่งดงามและเฉลียวฉลาด ย่อมรู ้ดีวา่ จะใช้
อํานาจในมืออย่างไร ความโปรดปรานย่อมเป็ นที่ปรารถนาของสตรี วงั หลัง ทว่าความโปรดปรานมิใช่ส่ิ งจีรัง
ยัง่ ยืน ตําแหน่งอํานาจย่อมมัน่ คงและเป็ นที่น่าปรารถนามากกว่า

เมื่อได้ยนิ ข่าว ข้าทั้งยินดีท้ งั ประหลาดใจ จากนี้ไปนางย่อมไม่ตอ้ งกังวลว่าจะถูกผูใ้ ดรังแก แต่กอ็ ดสงสัยไม่ได้


เมื่อคนส่ งสารกลับไปจึงหันไปถามชินอ๋ อง

“เหตุใดฮ่องเต้จึงทรงเลือกอาหนิงเป็ นฮองเฮาเล่าเพคะ มิใช่วา่ ตําแหน่งฮองเฮามีไว้สาํ หรับสตรี ตระกูลใหญ่


หรอกหรื อ”

“ยามนี้อาํ นาจเด็ดขาดอยูใ่ นมือเผิงจวิน้ ไม่จาํ เป็ นต้องอาศัยอิทธิพลของตระกูลใดมาคํ้าจุนราชบัลลังค์ เขาจะทํา


สิ่ งใดไม่จาํ เป็ นต้องมองหน้าผูใ้ ดอีกต่อไปแล้ว”

ข้ามองหน้าชินอ๋ องอย่างไม่อยากเชื่อ นับแต่ขา้ ได้เจอฮ่องเต้รวมถึงตระกูลจางถูกกวาดล้างไปใช้เวลาเพียงแค่


สามปี เท่านั้น เขายังเป็ นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งในสายตาข้า จะสามารถรวบรวมอํานาจเบ็ดเสร็ จเด็ดขาดได้ถึง
เพียงนี้ เชียวหรื อ

“ไม่น่าเชื่อว่าเพียงลําพังฮ่องเต้จะจัดการเรื่ องราวได้ดีถึงเพียงนี้ ” ข้าเปรยขึ้นมาเบาๆ

446
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ใช่วา่ ลําพังตัวฮ่องเต้ที่ไหนกันเล่า” เขากล่าวยิม้ ๆ พลางเอื้อมมือมาลูบแก้มข้า นํ้าเสี ยงติดจะน้อยใจที่ถูกลืม

ข้าลืมไปว่าอาหลานคู่น้ ีร่วมแรงร่ วมใจกันดีเพียงใด ยิง่ มีชินอ๋ องผูแ้ สนเจ้าเล่ห์เพทุบายอยูเ่ บื้องหลัง มีหรื อ


แผนการใดของฮ่องเต้จะไม่สาํ เร็ จ

“อ้อ อวี้เอ๋ อร์ ลืมไป ยังมีคนผูห้ นึ่ งที่มากอุบายเจ้าแผนการยิง่ กว่าฮ่องเต้เสี ยอีก”

เขาหัวเราะที่ขา้ พูดกระทบกระเทียบ “ถึงแม้อายุยงั น้อย แต่เผิงจวิน้ ก็สร้างศรัทธาแก่ผคู ้ น เขารักใคร่ ราษฏร ใส่


ใจงานบริ หาร ขุนนางสุ จริ ตย่อมสนับสนุน ส่ วนขั้วอํานาจต่างถูกบัน่ ทอน เพียงรวบอํานาจหน่วยสําคัญไว้ใน
มือ ตั้งหน่วยพิเศษคอยสอดส่ องดูแล จัดสรรกองกําลังที่ข้ ึนตรงต่อฮ่องเต้ เหล่าขุนนางย่อมหวาดระแวง ไม่กล้า
แอบทําอะไรใต้พระเนตรพระกรรณ ทั้งยังไม่อาจรวมตัวกันเป็ นกลุ่มก้อนได้อีก”

“ถึงแม้ฮ่องเต้จะรวบอํานาจไว้ในมือ แต่การมีฮองเฮาจากตระกูลใหญ่มีตรงไหนไม่ดีหรื อเพคะ อิทธิพลจาก


ตระกูลนางจะยิง่ ส่ งเสริ มพระบารมีของฝ่ าบาทยิง่ ขึ้นไปอีกมิใช่หรื อ” ข้าแย้งเขา

“ยามฮ่องเต้เข้มแข็ง ยิง่ มีฮองเฮาที่มาจากตระกูลใหญ่ไม่นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีนกั หากส่ งเสริ มสตรี เหล่านี้ข้ ึนเป็ น
ใหญ่ เท่ากับไปเพิ่มความได้เปรี ยบให้กบั ตระกูลพวกนาง นากวันใดพวกนางนึกทะเยอทะยานอยากจะส่ งเสริ ม
ตระกูลตนเองขึ้นมาอย่างเช่นจางไทเฮา รังแต่จะเป็ นศึกภายในให้น่าปวดหัวขึ้นมาอีก แต่ตระกูลที่ทรงอิทธิพล
เหล่านี้จะละเลยก็มิได้ สิ่ งที่เผิงจวิน้ ทําคือรั้งเอาไว้ใกล้ตา แต่งตั้งพระสนมเอกจากตระกูลใหญ่ไว้คานอํานาจกัน
อย่างเช่นเซี ยวเต๋ อเฟยและเฉิ นกุย้ เฟยอย่างไรกันเล่า” เขาอธิบาย

“ถ้าเช่นนั้นจะบอกว่าอาหนิ งเป็ นผูเ้ ฒ่าหาปลาก็คงไม่ผดิ นัก นางเพียงอยูเ่ ฉยๆ อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่โชค


ใหญ่กลับตกใส่ หวั ” ข้าเอ่ยด้วยรอยยิม้ นึกดีใจที่ฮ่องเต้ให้ความสําคัญกับนาง

“เผิงจวิน้ คงต้องการให้นางปกครองวังหลังโดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสี ยใดๆ นางไม่มีครอบครัวหลงเหลืออยูอ่ ีก


แล้วไม่ใช่หรื อ ย่อมเหมาะสมเป็ นอย่างยิง่ ”

“เช่นนั้นลูกชายของอาหนิงก็…”

447
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่มีสิ่งใดแน่นอนหรอกอวี้เอ๋ อร์ อนาคตไม่อาจคาดเดา” เขาเอ่ยเสี ยงเรี ยบ ดับความหวังข้าที่วา่ ฮ่องเต้จะ
แต่งตั้งลูกชายอาหนิงเป็ นรัชทายาท ข้าเข้าใจ เล่ห์กลในวังหลังไม่ธรรมดา กว่าองค์ชายผูห้ นึ่ งจะเติบใหญ่ได้
ย่อมต้องผ่านอะไรมามากมายนัก อย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรเสี ยดีกว่า

ฤดูหนาวปี นี้ทารุ ณยิง่ นัก หิ มะตกหนาจนภายนอกขาวโพลนไปหมด ตามหน้าต่างความอบอุ่นจากกระถางไฟ


ภายในห้องปะทะกับอากาศหนาวเย็นภายนอกทําให้เกิดเป็ นไอนํ้าจับตัวเป็ นนํ้าแข็งทิ้งตัวลงเป็ นแท่งนํ้าแข็ง
แหลมๆ ราวกับหิ นย้อย ตอนหิ มะตกใหม่ๆ เนื้อหิ มะทั้งเบาทั้งนุ่ม แรกๆ ชินอ๋ องพาข้าออกไปเดินเล่นในสวน
บ้าง แต่นานวันเข้าหิ มะตกลงมาไม่หยุดหย่อน ทับถมจนกระทัง่ เป็ นชั้นหนาบนพื้นดิน ข้าได้แต่เก็บตัวอยูใ่ น
เรื อนอันอบอุ่น ที่นี่ไม่มีเตาร้อนใต้พ้ืนเหมือนกับที่วงั เสิ่ นหยางกง ชินอ๋ องจึงให้คนยกกระถางไฟเข้ามาวาง
หลายใบ ข้าอุ่นสบายแต่ชินอ๋ องกลับมีเหงื่อซึ ม ทว่าเขาก็ไม่ได้ปริ ปากบ่นแถมยังอดทนอยูเ่ ป็ นเพื่อนข้าในห้อง
ครรภ์ของข้ามองเห็นไม่ชดั นักแม้จะย่างเข้าเดือนที่หก รู ปทรงจึงยังคงสมส่ วนงามตาไม่ได้ดูอุย้ อ้าย แต่ขา้ รู ้สึก
ไม่สบายกายอยูบ่ า้ งยามต้องนัง่ นอนนานๆ ข้าอ่านหนังสื อเสี ยจนเบื่อจึงวางหนังสื อลงแล้วขยับกายลุกขึ้นจาก
ตัง่ ชินอ๋ องละสายตาจากงานตรงหน้า ปรายตาขึ้นมอง

“อวี้เอ๋ อร์ จะไปยกนํ้าชามาให้ท่านอ๋ องเพคะ” ข้าบอกเขา

“มีอะไรก็ให้ขา้ รับใช้ทาํ เถิด อวี้เอ๋ อร์อย่าลําบากเลย” เขาวางพูก่ นั ไว้กบั โต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “เบื่อหรื อ” เขาถามข้า
มุมปากมีรอยยิม้

ข้าพยักหน้าเบาๆ เขาเดินมากอดข้าไว้ในอ้อมแขนพลางก้มลงจูบที่เรื อนผม

“หากอากาศภายนอกไม่หนาวเย็นถึงเพียงนี้ เปิ่ นหวางคงจะพาเจ้าไปเที่ยวเล่น แต่ในเมื่อไม่อาจออกไปข้างนอก


ได้ เจ้าก็นอนพักเสี ยเถิด”

ข้านิ่วหน้า “อวี้เอ๋ อร์ นอนเสี ยจนไม่อาจหลับตาลงได้อีกแล้วเพคะ”

“ถ้าเช่นนั้นมานัง่ ทํางานกับเปิ่ นหวางเถิด” กล่าวจบเขาก็อุม้ ข้าเดินกลับนัง่ ตักเขาที่โต๊ะเขียนหนังสื อ

“ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์มาเกะกะเสี ยเปล่าๆ ปล่อยให้อวี้เอ๋ อร์เดินออกไปหาอะไรทําสักหน่อยก็ได้กระมัง”

448
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ไม่ได้” เขาเอ่ยนํ้าเสี ยงหนักแน่น “อวี้เอ๋ อร์ไม่ประมาณกําลังตน ปล่อยไกลหูไกลตาไม่ได้ ประเดี๋ยวก็ไม่ถนอม
ร่ างกาย ทํางานเสี ยจนเหน็ดเหนื่อย จําที่หมอหลวงเตือนมิได้หรื อ” เขาเอ่ยกับข้าราวกับเป็ นผูค้ ุม ข้าได้แต่กรอก
ตา

“ไม่ประมาณกําลังตรงไหนเพคะ อวี้เอ๋ อร์ เพียงแค่ตระเตรี ยมอาหารและทําความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ”

“เจ้าเป็ นเสี ยอย่างนี้ เปิ่ นหวางจึงไม่อาจวางใจต้องมานัง่ ควบคุมเช่นนี้อย่างไรเล่า” เขาเอ่ยด้วยนํ้าเสี ยงเอ็นดูแล้ว


หอมแก้มข้าฟอดใหญ่อย่างอดใจไม่ไหว “เอาล่ะ อย่าดื้ออีกเลย นัง่ ตักเปิ่ นหวางเช่นนี้กอ็ ุ่นดีมิใช่หรื อ”

“อยูอ่ ย่างนี้น่าเบื่อกว่านอนอ่านหนังสื อบนเตียงเสี ยอีก” ข้าบ่นอุบอิบแล้วขยับตัว ทําท่าจะลงจากตักเขา แต่เขา


ไม่ยอมปล่อย สุ ดท้ายข้าจึงดิ้นรนมากขึ้น

ข้าลืมไปว่าชินอ๋ องเป็ นคนที่ปลุกเร้าได้ง่ายเพียงใด แค่ได้ใกล้ชิดร่ างกายหอมนุ่มนิ่ มของข้า เขาก็มกั ลืมตัวไป


เสี ยทุกครั้ง ลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้น บั้นท้ายงามงอนของข้าสัมผัสได้วา่ เขามีปฏิกิริยาตอบสนอง ดวง
หน้าจึงแดงซ่านขึ้นมาในทันใด

“ท่านอ๋ อง!”

ข้าร้องอย่างเขินอาย วงแขนของเขากอดเกี่ยวข้าไว้แน่น ใบหน้าซุกซบลงมาตรงซอกคอ

“อวี้เอ๋ อร์รู้ท้ งั รู ้วา่ เปิ่ นหวางต้องอดกลั้นเพียงใด เจ้ายังจะใจดําคิดกลัน่ แกล้งเปิ่ นหวางอีกหรื อ” นํ้าเสี ยงอูอ้ ้ ีที่ดงั
ขึ้นริ มหูฟังดูแหบพร่ า ข้าขนลุกชันไปทั้งกาย

“อวี้เอ๋ อร์ไม่ได้เป็ นฝ่ ายเริ่ มเสี ยหน่อย เป็ นท่านอ๋ องต่างหากที่จบั อวี้เอ๋ อร์มานัง่ ตรงนี้ ” ข้าแย้งเสี ยงสั่น

“เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์ วา่ นอนที่เตียงสบายกว่า งั้นเราไปที่เตียงกันเถอะ”

เขาอุม้ ข้าที่มีท่าทีประท้วงไปที่เตียงอย่างง่ายดาย แม้ขา้ จะโต้แย้งอย่างไรก็ไร้ผล สุ ดท้ายก็ได้แต่ปล่อยกายปล่อย


ใจไปตามเขา

449
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ครู่ ใหญ่ถดั มา ข้าชําเลืองเขานัยน์ตาขวาง เขาไม่มีท่าทางสะทกสะท้านสักนิด มีเพียงสี หน้าอิ่มเอมใจ จัดเสื้ อผ้า
ให้ขา้ อย่างอารมณ์ดี

“ท่านอ๋ องไม่ให้อวี้เอ๋ อร์ เย็บผ้า ไม่ให้ทาํ งาน เพราะกลัวเหนื่อย แต่ทาํ อย่างนี้อวี้เอ๋ อร์ไม่เหนื่อยยิง่ กว่าหรื อเพคะ”

“อวี้เอ๋ อร์อย่ากังวลไปเลย เปิ่ นหวางปรึ กษาท่านหมอแล้ว ย่อมไม่เป็ นอันตรายต่อทารกในครรภ์”

ข้ากัดริ มฝี ปาก ต่อว่าเขาอย่างขัดเคืองใจ “ท่านอ๋ องปรึ กษาท่านหมอก็เพียงใช้เป็ นข้ออ้างไม่ให้อวี้เอ๋ อร์ปฏิเสธ


หากท่านอ๋ องต้องการให้ท่านหมอตอบว่าได้ ท่านหมอจะกล้าส่ ายหน้าหรื อ” ชินอ๋ องได้ฟังคําตัดพ้อของข้าก็
หัวเราะ

“อวี้เอ๋ อร์คิดมากไปแล้ว ท่านหมอไม่อาจเสี่ ยงต่อสุ ขภาพของอวี้เอ๋ อร์เพียงเพื่อให้เปิ่ นหวางได้รับความพึงพอใจ


หรอก” เขาชําระกายและจัดเสื้ อผ้าให้ขา้ เรี ยบร้อยดีแล้ว แต่ยงั คงไม่ลุกไปไหน กลับลงมือนวดขานวดเท้าให้ขา้
อย่างเบามือ

“ท่านอ๋ องจะทําอะไรเพคะ” ข้าร้องเสี ยงหลง กลัวว่าเขาจะเล่นลวดลายอะไรขึ้นมาอีก

“เปิ่ นหวางจะนวดเท้าให้เจ้า ท่านหมอบอกว่าคนท้องมักจะมีอาการเท้าบวม เปิ่ นหวางนวดให้เจ้าเลือดลมจะได้


เดินได้สะดวก”

ข้ารู ้สึกกระดากใจ สถานะของเขาสู งส่ งเพียงไรข้าจะไม่รู้หรื อ แม้คนภายนอกจะมองว่าข้าเป็ นสตรี แสนงอนเอา


แต่ใจ แต่เมื่ออยูก่ นั ตามลําพังข้าไม่เคยเรี ยกร้องให้เขามาคอยเอาใจ จะกล้าใช้ให้เขาทํางานของบ่าวไพร่ เช่นนี้ได้
อย่างไร ข้าพยายามจะชักเท้าหนี แต่เขากลับยึดไว้แน่นแล้วลงมือกดปลายนิ้วร้อนผ่าวไปตามฝ่ าเท้า บีบนวดเท้า
เนียนนุ่มด้วยนํ้าหนักมือกําลังพอดี

“เรื่ องแบบนี้ให้หมิงจูเป็ นคนดูแลเถิดเพคะ ท่านอ๋ องอย่าลําบากเลย”

“เปิ่ นหวางเป็ นสามีของเจ้า ลูกในท้องก็ลูกของพวกเรา เหตุใดเปิ่ นหวางจะดูแลภรรยาตัวเองบ้างมิได้เล่า”

ข้ายิม้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในจิตใจ ความโกรธเคืองที่ถูกเขาเอาเปรี ยบเมื่อครู่ ค่อยจางหาย เอ่ยกับเขาด้วย


แววตาอบอุ่นรักใคร่ “หากลูกได้รู้วา่ บิดาเขาเป็ นคนอ่อนโยนถึงเพียงนี้คงจะดีใจมากเพคะ”

450
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา

เขาก้มลงมาจุมพิตข้าแทนคําตอบ

ปลายฤดูใบไม้ผลิปีถัดมา ข้าให้กาํ เนิดทารกเพศชายสองคน ยังความปลาบปลื้มให้แก่ชินอ๋ องเป็ นอันมาก วัน


หนึ่งขณะที่เราสองคนจ้องมองทารกที่กาํ ลังหลับใหลอย่างเป็ นสุ ขในห่อผ้าอุ่นหนา เขาก็เอ่ยกับข้า

“เปิ่ นหวางหมดห่วงแล้ว อวี้เอ๋ อร์ มีทายาทถึงสองคน หากสิ้ นเปิ่ นหวางไป เจ้าย่อมมีคนให้พ่ งึ พา”

ข้ายิม้ พลางทุบเขาไปทีหนึ่ง “พูดอะไรไม่เป็ นมงคลอย่างนั้นเพคะ ยิง่ มีทายาทแล้วอวี้เอ๋ อร์ยงิ่ ต้องพึ่งพาท่านอ๋ อง


ต่างหากเล่า ไม่เช่นนั้นจะเลี้ยงดูให้เขาเติบใหญ่เป็ นบุรุษที่ดีได้อย่างไร"

"มารดาย่อมสําคัญไม่แพ้บิดา อวี้เอ๋ อร์ ลูกของพวกเราช่างรู ้ใจบิดานัก สองปี ที่อวี้เอ๋ อร์ไม่อาจมีบุตร พอร่ างกาย
ของเจ้าพร้อม พวกเขาก็มาทีเดียวถึงสองคนราวกับจะชดเชยช่วงเวลาสองปี ให้พวกเรากระนั้น" ชินอ๋ องกล่าว
ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิม้ เราสองคนจ้องมองทารกทั้งสองที่ตวั เล็กจ้อยราวกับลูกแมวแรกเกิดอย่างเงียบๆ
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุ ขสงบ ครู่ หนึ่งชินอ๋ องจึงเอ่ย

“มิน่าตอนเจ้าตั้งครรภ์หมอหลวงจึงว่าชีพจรเต้นสับสน ที่แท้ในครรภ์เจ้ามีทารกอยูถ่ ึงสองคน”

ข้าหัวเราะ “ไม่เพียงพวกเขาจะต้องอดทนกับมารดาที่ไม่รู้วา่ ตัวเองตั้งครรภ์ พาพวกเขาระหกระเหิ นเดินทางไป


ทัว่ พวกเขายังต้องเบียดเสี ยดอยูใ่ นครรภ์ดว้ ยกันถึงเก้าเดือน”

“พวกเขาเป็ นเด็กผูช้ าย สมควรแล้วที่จะอดทนต่อความยากลําบากโดยไม่ปริ ปากบ่นมิใช่หรื อ” ชินอ๋ องกล่าว


ยิม้ ๆ

ข้านึกถึงตอนคลอด พวกเขาต่างเป็ นเด็กคลอดง่าย ตอนที่คลอดเสวียนอู่ออกมาแล้ว หมอตําแยกําลังจะอุม้ เขามา


ให้ขา้ ดู ข้าก็กลับเจ็บท้องขึ้นมาอีก ยามนั้นในห้องคลอดบังเกิดความโกลาหลขึ้นมาอีกครั้ง

451
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“ยังมีอีกคนหนึ่ง” หมอตําแยว่าก่อนลงมือทําหน้าที่อีกครั้ง คราวนี้ ขา้ ใช้พละกําลังที่เหลือทั้งหมดเพื่อคลอดอีก
คน หลังจากคลอดเสวียนเยว่สาํ เร็ จ ข้าก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย พอฟื้ นขึ้นมาจึงค่อยรู ้วา่ พวกเขาปลอดภัย
ทั้งคู่

เสวียนอู่ผพู ้ ี่มีใบหน้าคล้ายคลึงข้าแต่มีดวงตาเหมือนชินอ๋ อง โตไปคงเป็ นบุรุษรู ปงาม เขาเป็ นบุตรชายคนโตจึง


มีบรรดาศักดิ์ต้ งั แต่เกิด ส่ วนเสวียนเยว่คนน้องมีใบหน้าราวกับโขกชินอ๋ องออกมาทุกประการ แม้แต่แม่นมที่
เคยเลี้ยงดูชินอ๋ องมายังออกปาก เวลาข้าอุม้ คนใดคนหนึ่ง อีกคนจะร้องไห้ข้ ึนมาอย่างออดอ้อน ข้าไม่รู้วา่ เป็ น
เรื่ องบังเอิญหรื อไม่ที่ทารกตัวน้อยเช่นนี้จะรู ้ความ ชินอ๋ องเห็นแล้วได้แต่หวั เราะแล้วรับอีกคนจากอ้อมอกของ
แม่นมมาอุม้ ไว้อย่างปลอบประโลมแล้วกล่าวว่า "เจ้ายังมีบิดา บิดาก็รักเจ้าเช่นกัน" เขาจึงจะค่อยหยุดร้องไห้
ด้วยเหตุน้ ีแม้จะมีแม่นมหลายคน ข้าและชินอ๋ องก็ยงั เหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกไม่นอ้ ย

หลังจากคลอดได้สามเดือน พวกเราจึงค่อยเดินทางไปยังเมืองจี้เจียง จวนของชินอ๋ องถูกปลูกสร้างเตรี ยมไว้


ตั้งแต่ยดึ เมืองได้ เป็ นที่แน่นอนว่าอาณาเขตปกครองของชินอ๋ องย่อมเป็ นเมืองที่มงั่ คัง่ แห่งนี้ ค่ายทหารตั้งอยูไ่ ม่
ไกลจากนอกกําแพงเมือง เป็ นดัง่ ปราการป้องกันเมืองจากข้าศึกที่คิดมารุ กราน

เมืองจี้เจียงอยูห่ ่างไกลจากเมืองหลวงมากมายนัก แต่เนื่องด้วยเคยเป็ นหัวเมืองหลักของแคว้นเว่ยจึงมีความ


เจริ ญไม่นอ้ ย จัดเป็ นหัวเมืองขนาดใหญ่ เป็ นที่พาํ นักของคหบดีผมู ้ งั่ คัง่ และเป็ นศูนย์กลางการค้าขายของแคว้น
ต่างๆ ชินอ๋ องยึดเมืองนี้มาได้นบั เป็ นความสําเร็ จที่ยงิ่ ใหญ่ของแคว้นเยีย่ ด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์ และเพื่อ
เป็ นการบําเหน็จให้กบั ความดีความชอบในครั้งนี้ ฮ่องเต้จึงมอบหมายให้ชินอ๋ องเป็ นผูป้ กครอง ไม่จาํ เป็ น
จะต้องกล่าวว่าผลประโยชน์ของเมืองนี้มากมายมหาศาลขนาดไหน ถึงขั้นที่วา่ ส่ วยอากรจากจี้เจียงเมืองเดียว
แทบจะเท่ากับครึ่ งหนึ่งที่แคว้นเยีย่ รวบรวมได้ในแต่ละปี แคว้นเว่ยซึ่ งสู ญเสี ยจี้เจียงไปคงได้แต่นงั่ ขบเขี้ยวเคี้ยว
ฟันด้วยความคับแค้นใจ

ระหว่างเดินทางรอนแรมพวกเราสี่ คนพ่อแม่ลูกอยูด่ ว้ ยกันตลอดเวลา เข้านอนด้วยกันทุกคืน ข้าไม่ตอ้ งการให้


ลูกไกลหู ไกลตาในยามที่อยูต่ ่างถิ่น ทว่าเมื่อมาเมืองจี้เจียงแล้ว ดูเหมือนชินอ๋ องจะไม่ตอ้ งการให้เป็ นเช่นนั้น

“ท่านอ๋ องเพคะ ให้พวกเขานอนที่นี่ดว้ ยกันเถิด”

452
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้าอ้อนวอนเขายามที่แม่นมมาอุม้ เสวียนอู่และเสวียนเยว่ออกไป ข้าคิดถึงไออุ่นและกลิ่นเด็กหอมกรุ่ นที่ติดกาย
พวกเขา ข้าคุน้ เคยที่มีพวกเขานอนอยูข่ า้ งกาย

“อวี้เอ๋ อร์ ให้พวกเขานอนในห้องของตนเองเถิด หากไม่ฝึกตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อพวกเขาเติบใหญ่รู้ความ ย่อมสาย


ไปเสี ยแล้วด้วยว่าไม่เคยฝึ กมาตั้งแต่ตน้ ”

“ถึงตอนนั้นค่อยฝึ กพวกเขาก็ยงั ได้นี่เพคะ” ข้ายังคงอ้อนวอน

“ธรรมเนียมปฏิบตั ิเช่นนี้ ในวังไม่เคยมีมาก่อน ยามวิกาลย่อมเป็ นหน้าที่ของแม่นมดูแล เจ้าอย่ากังวลไปเลย”


เขาว่าพลางยกแขนขึ้นมากันข้าไว้ไม่ให้แย่งลูกมาจากอ้อมแขนของแม่นม ข้าได้แต่มองตามเสวียนอู่และ
เสวียนเย่ที่ถูกแม่นมอุม้ ออกไป

ข้าหันมามองเขานํ้าตาคลอแล้วล้มตัวลงนอนไม่ได้เอ่ยคําอีก แผ่นหลังบอบบางของข้าหันให้เขา เห็นเพียงเส้น


สายโค้งเว้าที่ดูเหิ นห่าง ชินอ๋ องขยับเข้ามานอนซ้อนอยูเ่ บื้องหลังแล้วคลอเคลียข้าอย่างเสน่หา

“โกรธข้าหรื อ” เขาถามเสี ยงอ่อน ปลายจมูกจรดบนบนลําคอระหงที่แสนอ่อนไหว ข้ากลั้นหายใจไม่ตอบ เพียง


นอนนิ่งอยูเ่ ช่นนั้น

“อวี้เอ๋ อร์รักและเป็ นห่วงลูกมากเหลือเกิน มากเสี ยจนคนเป็ นพ่อชักจะน้อยใจเสี ยแล้ว”

คําพูดของเขาทําให้ขา้ นึกขึ้นได้ ตั้งแต่คลอด ชินอ๋ องก็ช่วยข้าเลี้ยงดูบุตรโดยไม่ปริ ปากบ่น ไม่เคยเรี ยกร้องให้ขา้


ปรนนิบตั ิเขา ยามที่ลูกร้องกลางดึกมักจะลุกขึ้นมาช่วยปลอบ ข้าเคยชินที่เขาเป็ นเช่นนี้จนลืมไปว่าเขาเองก็
ต้องการให้ขา้ เอาใจใส่ เช่นกัน ข้าไม่อาจฝื นทําเย็นชาได้ต่อไปได้ แต่ความคิดที่วา่ เขากําลังอิจฉาบุตรชายของ
ตัวเองก็ทาํ ให้ขา้ หัวเราะคิกออกมา ข้าพลิกกายกลับมา ใบหน้ากระจ่างสดใสด้วยรอยยิม้ พอชินอ๋ องเห็นเข้าก็ตก
ตะลึงมองจนตาลอย

“ท่านอ๋ องจะน้อยใจด้วยเรื่ องใดกัน มิใช่วา่ เสวียนอู่และเสวียนเยว่เป็ นบุตรชายของท่านหรอกหรื อ” ข้ากล่าว


พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าเขาอย่างปลอบประโลม ใบหน้าเขาแลดูงดงามใต้แสงเทียน "ที่ผา่ นมาท่านอ๋ อง
ช่วยอวี้เอ๋ อร์ดูแลพวกเขาเป็ นอย่างดี อวี้เอ๋ อร์จะขอชดเชยให้" ข้ากล่าวพลางหลุบตาลงอย่างเอียงอาย เอื้อมมือไป
ลูบไล้แผงอกเขาเบาๆ ร่ างสู งใหญ่นิ่งขึงไป สัมผัสได้เพียงอาการสั่นสะท้าน

453
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
"อวี้เอ๋ อร์กล่าวเช่นนี้แน่ใจหรื อ จะมากล่าวโทษว่าเปิ่ นหวางรังแกในภายหลังไม่ได้หรอกนะ" เขากล่าวเตือนข้า
เสี ยงทุม้ ตํ่า

ข้ายันกายลุกขึ้นนัง่ มุมปากมีรอยยิม้ งดงาม ข้าไม่เอ่ยคํา เพียงยกมือขึ้นแหวกสาบเสื้ อออก เผยให้เห็นหัวไหล่


นวลเนียนและเนินอกรําไร ลมหายใจของเขาชะงักไป ดวงตาคมคู่น้ นั วาววามราวกับพยัคฆ์จบั จ้องเหยือ่ เขา
พลิกกายเพียงคราหนึ่งโลกทั้งใบก็ราวกับหมุนตลบ ข้ากลับเป็ นฝ่ ายอยูใ่ ต้ร่างเขา

“อวี้เอ๋ อร์ เปิ่ นหวางเคยบอกว่าชอบลูกสาว เจ้ามีลูกชายให้เปิ่ นหวางแล้ว อย่าลืมมีลูกสาวให้เปิ่ นหวางอีกสัก


หลายคน” เขากระซิ บบอกข้ายามก้มลงมาจุมพิต

“ท่านอ๋ องจะไม่ให้อวี้เอ๋ อร์พกั บ้างเลยหรื อเพคะ” ข้าเอ่ยยามเบี่ยงใบหน้าหนีจุมพิตเขา

“อวี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเสี ยหน่อย ล้วนแล้วแต่เป็ นเปิ่ นหวางที่ลงมือทั้งนั้น” เขาเอ่ยออกมาหน้าตาย


ทําราวกับว่าข้าต่างหากที่เป็ นคนกินแรงเขา

“ท่านอ๋ อง!” ข้าหน้าแดง ทุบไหล่เขาแรงๆ ไปทีหนึ่ง "ข้าต่างหากที่เป็ นคนตั้งท้อง ท่านอ๋ องไม่ได้มาลําบากอุม้


ท้องกับข้าเสี ยหน่อย"

เขาหัวเราะไม่ตอบข้า คํ่าคืนนั้นเราสองคนต่างผ่านราตรี วสันต์อนั แสนสุ ข

454
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ตอนที่ 64 : ปิ ดฉาก

ระยะหลังข้ามักจะใช้เวลาส่ วนใหญ่อยูใ่ นห้องอักษรกับชินอ๋ อง แรกเริ่ มเขาเพียงชวนให้ขา้ ไปนัง่ เป็ น


เพื่อนตอนเขาทํางาน ยามนั้นเขาหมกตัวอยูใ่ นห้องอักษรเกือบทั้งวันจนข้าแทบไม่ได้เห็นหน้า ตอนนั้น
เราสองคนมาถึงเมืองจี้เจียงใหม่ๆ ชินอ๋ องต้องจัดวางระบบในเมืองใหม่ท้ งั หมดให้สอดคล้องกับรู ป
แบบราชการของราชสํานักแคว้นเยีย่ เขามักให้ขา้ อยูใ่ กล้ๆ ยามเขาสะสางงาน แรกๆ ข้ามักหา
งานจิปาถะจําพวกเย็บปักถักร้อยคัดอักษรมานัง่ ทําใกล้ๆ ครั้นข้าเห็นเขาตรากตรําอ่านเอกสารทั้งวัน
ประกอบกับรู ้สึกเบื่อจึงเอ่ยปากไปโดยไม่ทนั คิดอะไรว่าอยากจะช่วยเขาแบ่งเบาภาระบ้าง เขาเพียง
ได้ยนิ ข้าเสนอตัวก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกสนุก

“อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งการช่วยเปิ่ นหวางสะสางงานเอกสารเหล่านี้หรื อ”

“เพคะ แต่หากท่านอ๋ องเห็นว่าไม่สมควร..” ข้านึกขึ้นได้วา่ ไม่ควร เกรงว่าเขาจะคิดตําหนิที่ขา้ ก้าว


ก่ายเรื่ องราวนอกเหนือไปจากเรื อนหลังจึงรี บถอย ทว่าเขากลับเห็นดีดว้ ย

“หากเป็ นสิ่ งที่อวี้เอ๋ อร์ตอ้ งการ จะไม่สมควรได้อย่างไร มานัง่ ตรงนี้เถิด เปิ่ นหวางจะบอกให้วา่ เจ้า
ต้องทําอะไรบ้าง”

ข้าเรี ยนรู ้สิ่งที่เขาถ่ายทอดอย่างตั้งใจ งานแรกชิ้นแรกที่เขาให้ขา้ ทําเป็ นงานง่ายๆ เพียงศึกษาราย


ละเอียดการจัดเก็บภาษีอากรแล้วทําสรุ ปออกมา รู ปแบบการทําบัญชีของนายทะเบียนในยุคสมัยนั้นเข้า
ใจยากไม่นอ้ ย เนื่องจากต้องการประหยัดหน้ากระดาษ จึงเขียนตัวหนังสื อติดกันเป็ นพรื ดทั้งรายชื่อ
ร้านค้าและจํานวนอากรที่ตอ้ งเสี ย อีกทั้งยังไม่มีการจัดหมวดหมู่ เป็ นเพียงการจดบันทึกว่าใครจ่าย
เท่าไหร่ การจะนําข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์จึงยากลําบากไม่นอ้ ย

“เปิ่ นหวางต้องการรู ้วา่ จํานวนพ่อค้าในเมืองมีอยูเ่ ท่าใด ปี ก่อนๆ จี้เจียงเก็บอากรได้เท่าใด จากนั้น


จึงค่อยวางแผนบริ หารการคลัง ปกติงานเหล่านี้ เปิ่ นหวางให้เฉิ นซี ช่วยได้ แต่วา่ ระยะนี้ เขาเองก็มี
งานล้นมือเช่นกัน เปิ่ นหวางจึงต้องลงมือทําเอง”

ข้าพยักหน้ารับ จากนั้นก็นาํ บัญชีมานัง่ คัดลอกใหม่โดยจัดเรี ยงเป็ นแถวให้อ่านง่ายโดยมีรายละเอียดคือ


ชื่อร้านค้า ประเภทสิ นค้าที่ขาย จํานวนอากรที่จ่ายสามปี ย้อนหลัง เขามองมาอย่างสนใจ ครั้นเข้าใจ

455
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ข้อมูลที่ขา้ จัดใหม่ในรู ปแบบตารางก็เอ่ยชมอย่างยินดี

“วิธีการของอวี้เอ๋ อร์ ช่างลํ้าเลิศนัก คราวนี้เปิ่ นหวางสามารถไล่ดูเปรี ยบเทียบกันได้อย่างรวดเร็ ว ดู


เหมือนว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญเรื่ องจัดระเบียบงานพวกนี้ไม่นอ้ ย”

“อวี้เอ๋ อร์เพียงแต่เคยเห็นผ่านหู ผา่ นตามาบ้าง หาได้เชี่ยวชาญหรอกเพคะ” ข้าตอบยิม้ ๆ ไม่ได้เอ่ย


ถึงวิธีการจัดการข้อมูลจํานวนมหาศาลในยุคสมัยที่ขา้ จากมา สิ่ งเหล่านี้ไม่นบั ว่ากระไรเลย

“เปิ่ นหวางจะให้คนเปลี่ยนมาจดบันทึกข้อมูลตามอย่างเจ้า”

บางครั้งข้าช่วยเขาอ่านและสรุ ปฎีกาที่มีคนส่ งมา ข้าจะเขียนสรุ ปเนื้อหาคร่ าวๆ ในสามประโยครวม


ถึงสิ่ งที่ตอ้ งการให้เขาพิจารณา วิธีน้ ีทาํ ให้เขาประหยัดเวลาในการอ่านไปได้มากทีเดียว สุ ดท้ายเขา
จึงยึดถือข้าเป็ นผูช้ ่วยฝ่ ายอักษรในห้องทํางานไปเสี ย

วันหนึ่ งสายลับของเขามารายงานข่าวขณะที่เรานัง่ อยูด่ ว้ ยกัน ตอนแรกคนของเขามีท่าทางลังเลเมื่อ


เห็นข้าอยูด่ ว้ ย ข้าจึงลุกขึ้นยืน ทําท่าจะก้าวออกไปจากห้อง ทว่าชินอ๋ องคว้าแขนข้าไว้แล้วดึงให้นงั่ ลง

“รายงานมาเถิด ต่อหน้าหวางเฟยของข้าไม่มีสิ่งใดเป็ นความลับ”

“เรี ยนท่านอ๋ อง ยามนี้แคว้นเว่ยแต่งตั้งรัชทายาทองค์ใหม่แล้วพะย่ะค่ะ”

“เกิดอะไรขึ้นกับเว่ยหงอิ่นอย่างนั้นหรื อ” ชินอ๋ องถามด้วนสี หน้าสนอกสนใจ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้


ประหลาดใจกับข่าวที่เพิ่งได้ยนิ นี้เลย

“เว่ยหงอิ่นรัชทาทพระองค์ก่อนบัดนี้เป็ นเพียงคนสติวปิ ลาส ถูกขังอยูใ่ นตําหนักเดิม มีเพียงข้ารับใช้ผู ้


ซื่ อสัตย์สองคนคอยดูแลพะย่ะค่ะ”

“แล้วเจ้าได้ข่าวอะไรมาอีกบ้าง อยูด่ ีๆ เว่ยหงอิ่นเสี ยสติข้ ึนมาได้อย่างไร”

“เรื่ องนี้จะว่าไปก็มีเงื่อนงําอยูพ่ ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้เว่ยหงอิ่นเพียงสู ญเสี ยความสามารถในการพูด


เหมือนคนปกติ ทว่ายังคงอยูเ่ บื้องหลังความเคลื่อนไหวสําคัญในแคว้นเว่ย รวมถึงเป็ นผูส้ นับสนุนใต้

456
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เท้าจางผูล้ ่วงลับ แต่อยูด่ ีๆ ก็กลับคลุม้ คลัง่ ขึ้นมาในราตรี หนึ่ ง เขาประสาทหลอน มองเห็นในสิ่ งที่คน
อื่นมองไม่เห็น แรกเริ่ มในวังมีการตรวจหาสารพิษกันยกใหญ่ดว้ ยเชื่อว่าเขาถูกวางยา ทว่าตรวจหา
ไม่พบ อาการของเขาดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับพิษใดๆ”

“เหตุใดจึงกล่าวกันเช่นนั้น”

“เพราะโรคของเขาดูเหมือนจะเกิดจากอาการทางใจมากกว่าทางกายพะย่ะค่ะ เขาเห็นสตรี ผหู ้ นึ่ง


ตะโกนเรี ยกชื่อนางด้วยความหวาดกลัวตลอดเวลา ทั้งก่นด่าและสาปแช่ง เขาคลุม้ คลัง่ ว่านางจะเข้า
มาทําร้าย อีกทั้งยังมีท่าทางเจ็บปวดทรมานปางตาย บางครั้งเขาถึงกับกรี ดร้องดิ้นรนจนหมดสติไป
คนในวังเชื่อกันว่าอาจเป็ นการกระทําของภูติผปี ี ศาจ จึงเชิญนักพรตมาทําพิธีปัดเป่ า แต่ไม่ได้ผล
เว่ยหงอิ่นไม่มีท่าว่าจะดีข้ ึน อาการของเขามีแต่จะแย่ลงเรื่ อยๆ ไม่อาจกินไม่อาจนอนจนร่ างกายผ่าย
ผอม ไม่วา่ ผูใ้ ดก็ลว้ นจนปัญญาพะย่ะค่ะ แม้ฮองเฮาผูเ้ ป็ นมารดาของเขาจะไม่ยนิ ดีแต่สุดท้ายก็จาํ ต้อง
ยอมให้มีการแต่งตั้งรัชทายาทพระองค์ใหม่”

ข้ายั้งปากไว้ไม่ทนั จึงเอ่ยถาม

“สตรี ที่เว่ยหงอิ่นเอ่ยถึงชื่ออะไรหรื อ”

“ลวีอ่ ี่พะย่ะค่ะ ทว่าไม่มีผใู ้ ดทราบว่าสตรี ผนู ้ ้ ีเป็ นใคร สื บหาจนทัว่ แคว้นก็ยงั ไม่พบสตรี ที่มีนามนี้ ฟังดู
ออกจะโบราณอยูส่ ักหน่อย สื บหาอย่างไรก็ไม่อาจหาความเกี่ยวข้องกับเว่ยหงอิ่นได้ ไม่รู้วา่ อยูๆ่ เขา
เอ่ยนามนี้ข้ ึนมาได้อย่างไร”

พูก่ นั ในมือข้าตกลงบนโต๊ะ เลอะกระดาษที่ขา้ กําลังเขียนค้างไว้ ชินอ๋ องหันไปสอบถามข่าวคราวอื่นอีก


เล็กน้อยก็อนุญาตให้เขาออกไปได้ ข้าหยิบพูก่ นั ขึ้นเสี ยบไว้บนแท่นด้วยมืออันสั่นเทา รู ้สึกหนาวเยือกขึ้น
มาอย่างบอกไม่ถูก หันไปมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคําถาม

“ท่านอ๋ อง.. เมื่อครู่ อวี้เอ๋ อร์ฟังผิดไปหรื อไม่ เหตุใด..เหตุใดจึงเป็ นลวีอ่ ี่ไปได้ นางถูกผนึกไว้ในคุก
หลวงมิใช่หรื อ ท่านอ๋ องยังเคยบอกไว้วา่ จะให้นกั พรตทําพิธีผนึกวิญญาณนางกํากับไว้อีกชั้นหนึ่ ง”

“อวี้เอ๋ อร์ เรื่ องนี้เปิ่ นหวางไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังเพราะเกรงว่าเจ้าจะกลัว หลังกลับจากวัดกว่างจี๋ซื่อ


ในครานั้น เปิ่ นหวางเชิญนักพรตมาทําพิธี ทว่าฤกษ์ยามยังไม่เหมาะสมเนื่องจากใกล้จะถึงเดือนเจ็ด

457
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ซึ่ งเป็ นเทศกาลซันหยวน ไม่สมควรทําสิ่ งอัปมงคล เปิ่ นหวางจึงได้แต่รอเวลา”

เทศกาลซันหยวนตามความเชื่อดั้งเดิมถือเป็ นเดือนปล่อยผี เทพตี้กวนซึ่ งเป็ นผูเ้ ฝ้าประตูนรกจะปล่อย


วิญญาณให้กลับสู่ โลกมนุษย์เพื่อรับของเซ่นไหว้ แม้จะไม่ได้มีความเชื่อในเรื่ องนี้ มากนักแต่ขา้ และชิน
อ๋ องก็ยงั คงเซ่นไหว้ตามประเพณี ทําพิธีเทกระจาด ตั้งใจอุทิศส่ วนกุศลให้แก่วญิ ญาณเร่ ร่อน ข้าไม่รู้
เรื่ องเลยสักนิดว่าตอนนั้นเขาได้เชิญนักพรตไว้แล้ว หลังจากกลับจากสุ สานของเจิ้งอูแ่ ละซี ยนิ ข้าก็ลืม
เรื่ องนี้ไปเสี ยสนิท

“แต่สุดท้ายท่านอ๋ องก็ไม่ได้ให้นกั พรตทําพิธีใช่หรื อไม่เพคะ เหตุใดท่านอ๋ องจึงเปลี่ยนใจเล่า” ข้าคาดเดา

ิ ญาณเท่าใดนัก ที่ต้ งั ใจจะทําพิธีผนึกวิญญาณไว้ก็


“อวี้เอ๋ อร์ ปกติเปิ่ นหวางมิใช่คนเชื่อเรื่ องภูติผีวญ
เพราะเห็นเจ้ากลัวจึงทําเพื่อความสบายใจของเจ้าเท่านั้น แต่วา่ หลังจากเปิ่ นหวางตระเตรี ยม
ทุกอย่างพร้อมแล้ว เปิ่ นหวางก็ฝันเห็นสตรี ผหู ้ นึ่ ง เจ้าคงเดาได้กระมังว่าเป็ นใคร นางบอกว่าผนึก
เดิมที่องค์ชายสี่ ลงไว้กาํ ลังจะคลายออกในไม่ชา้ นางขอร้องให้เปิ่ นหวางอย่าได้ทาํ พิธีปิดผนึกซํ้าเลย”

“ท่านอ๋ องรู ้สึกเวทนานางจึงได้ละเว้นอย่างนั้นหรื อเพคะ” ข้าถามด้วยนํ้าเสี ยงกังขา

เขาเพียงยิม้ พลางกล่าว “นางบอกว่าเมื่อไม่นานมานี้ผทู ้ ี่อดีตชาติเคยเป็ นองค์ชายสี่ ได้แวะเวียนมาที่


วังหลวง แม้จะเพียงไม่นานแต่นางก็สัมผัสถึงกระแสวิญญาณของเขาได้ โอกาสจะได้เจอโจทย์เก่า
เช่นนี้มีเพียงหนึ่ งในหมื่น หากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว ไม่รู้จะต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกกี่ชาติจึงจะพาน
พบ นางจึงขอร้องข้า ขอเพียงนางได้แก้แค้น นางยอมตกนรกหมกไหม้ เปิ่ นหวางเห็นความตั้งใจจริ ง
ของนางก็รู้สึกเห็นใจ”

“ท่านอ๋ องรู ้สึกเห็นใจนางหรื อรู ้วา่ คนที่นางจะไปจัดการเป็ นใครกันแน่เพคะ” ข้าเอ่ยดักคอเขา เขา


ได้แต่หวั เราะในลําคอ

“อวี้เอ๋ อร์ เจ้าช่างรู ้ใจเปิ่ นหวางเหลือเกิน แม้จะเป็ นเพียงวิญญาณ ลวีอ่ ี่ผนู ้ ้ ี กย็ งั คงหลักแหลมเช่นเดิม
นางรู ้วา่ เหตุผลเดียวที่เปิ่ นหวางจะปล่อยนางไปนั้นคืออะไร นางหยิบยกมากล่าวได้อย่างถูกจังหวะนัก”

ข้าไม่ได้มีความคิดจะกักขังดวงวิญญาณของลวี่อี่แต่แรกอยูแ่ ล้ว ได้ยนิ ว่านางเป็ นอิสระก็รู้สึกโล่งใจเจือ


เวทนา ทว่าได้ฟังเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นกับเว่ยหงอิ่นก็รู้สึกหดหู่ใจ ข้าไม่ยนิ ดีในความทุกข์ของผูอ้ ื่นแม้

458
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
ว่าคนผูน้ ้ นั จะเป็ นศัตรู

“อวี้เอ๋ อร์อย่าไม่สบายใจไปเลย เรื่ องนี้เราไม่อาจเข้าไปเกี่ยวข้อง เปิ่ นหวางไม่กกั ขังดวงวิญญาณ


ของลวีอ่ ี่ นับว่าไม่ผกู เวรกับนาง ทําให้นางไม่ตอ้ งถูกจองจําโดยไม่มีที่สิ้นสุ ด เรื่ องอื่นนั้นสุ ดแท้แต่โชค
ชะตา"

“ท่านอ๋ องทําถูกแล้วเพคะ อวี้เอ๋ อร์เพียงเสี ยดายที่ลวีอ่ ี่ยงั คงไม่อาจปล่อยวางความแค้น ตามไปล้าง


ผลาญเว่ยหงอิ่นหรื ออดีตองค์ชายสี่ จนวอดวายไปด้วยกัน”

“เว่ยหงอิ่นร้ายกาจทะเยอทะยานนัก หากเขาได้ข้ ึนครองราชย์เปิ่ นหวางคงไม่อาจข่มตาหลับสักคืน


ด้วยว่าเขาเป็ นศัตรู ที่ร้ายกาจ อีกทั้งเขายังมีความแค้นใหญ่หลวงต่อเปิ่ นหวาง ย่อมต้องหนุนฟื นแข็ง
ชิมดีขม รอวันชําระแค้น สติปัญญาคนผูน้ ้ ีไม่อาจดูเบา เปิ่ นหวางคงต้องขับเคี่ยวกับเขาพอดู ทําเช่นนี้
ไม่เพียงเป็ นการช่วยเหลือลวีอ่ ี่ปลดปล่อยนางไป ยังเป็ นการกําจัดเสี้ ยนหนามอันเป็ นอริ ราชศัตรู อีก
ทางหนึ่ งด้วยมิใช่หรื อ”

ที่เขากล่าวมาข้าไม่อาจโต้แย้งได้ ได้แต่สะท้านสะเทือนในใจ ท้ายที่สุดแล้วเราต่างผูกเวรกันไม่รู้จกั


จบสิ้ นเพียงแค่เปลี่ยนผูล้ งมือ แต่อย่างน้อยการที่ชินอ๋ องไม่ให้นกั พรตจองจํานางอาจเป็ นทางเลือกที่ถูก
ต้อง มิเช่นนั้นแรงพยาบาทของนางอาจจะมาตกอยูท่ ี่เราสองคนแทนก็เป็ นได้ ข้ายอมรับแต่โดยดีวา่ ไม่
ต้องการข้องเกี่ยวกับคนเช่นลวีอ่ ี่ นางอันตรายเกินไป

"แล้วรัชทายาทพระองค์ใหม่จะคิดยกทัพมายึดจี้เจียงคืนและก่อสงครามกับแคว้นเยีย่ ของเราอีกหรื อไม่


เพคะ" ข้าถามอย่างเป็ นห่วง เขาเป็ นพ่อคนแล้ว ข้าย่อมไม่อยากให้เขาไปรบทัพจับศึกไกลๆ ที่ไหนอีก

"รัชทายาทพระองค์ใหม่ไม่ทะเยอทะยาน อีกทั้งไม่ได้มีความแค้นต่อเปิ่ นหวาง ระหว่างสองแคว้นคง


สงบศึกไปอีกพักใหญ่ แคว้นเว่ยคงต้องเร่ งฟื้ นฟูอีกหลายสิ บปี กว่าจะสร้างกองทัพจนสามารถทําศึกได้อีก
ครั้ง อวี้เอ๋ อร์ วางใจเถิด"

"อวี้เอ๋ อร์ กห็ วังเช่นนั้นเพคะ บุตรยังต้องการบิดา ภรรยาก็ตอ้ งการสามี ท่านอ๋ องอย่าจากอวี้เอ๋ อร์ กบั
ลูกไปไหนนะเพคะ" ข้ากอดเขาพลางกล่าวอย่างออดอ้อน

เขาหัวเราะพลางกอดข้าตอบแนบแน่น “สามีกต็ อ้ งการเจ้าและลูกๆ เช่นกัน ไว้สะสางงานเรี ยบร้อย

459
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
แล้วเราพาลูกๆ ไปเที่ยวชมเมืองจี้เจียงกันเถอะ”

ข้าซุกกายในอ้อมกอดเขา เราสองคนยิม้ ให้แก่กนั อย่างมีความสุ ข

....................

เสวียนเฟิ งลอบมองคนที่นงั่ อ่านเขียนเอกสารอย่างขะมักเขม้นด้วยสายตารักใคร่ อวี้เอ๋ อร์ยงิ่ คลอด


บุตรแล้วยิง่ อ่อนหวานงดงามกว่าเดิม เรื อนร่ างของนางยังคงอ้อนแอ้นเหมือนสาวรุ่ น ทว่าอิ่มเอิบ
เปล่งปลัง่ ราวกับผลท้อสุ ก ไม่รู้วา่ เป็ นเพราะตัวยาของหมอเหอหรื อไม่ แม้จะผ่านการมีบุตรแล้วแต่
ร่ างกายของนางยังคงสดใหม่ราวกับสตรี ในห้องหอ

เสวียนอู่และเสวียนเยว่ยงิ่ เติบโตก็ยงิ่ ฉายแววเฉลียวฉลาด อีกทั้งยังทําท่าจะแย่งชิงความสนใจของอ


วี้เอ๋ อร์ไปจากเขาผูเ้ ป็ นบิดา โชคดีที่เขาดําริ ให้อ๋องน้อยทั้งสองแยกห้องนอนตั้งแต่ตอนมาถึงจี้เจียง
ใหม่ๆ ไม่เช่นนั้นป่ านนี้ นางคงจะมัวแต่ดูแลบุตรจนละเลยเขา เด็กน้อยทั้งสองน่ารักใช่นอ้ ยเสี ยเมื่อ
ไหร่ คนหนึ่งเหมือนนาง คนหนึ่ งเหมือนเขา แถมยังช่างจํานรรจา มักใช้คาํ ศัพท์ยากๆ ที่จาํ มาจาก
อาจารย์ วางท่าราวกับเป็ นบัณฑิตคงแก่เรี ยน ใครได้พบเห็นต่างก็รักใคร่ หากโตกว่านี้คงจะซุ กซนมิใช่นอ้ ย

เขายังคงจดจําสัญญาที่เคยให้ไว้กบั ตัวเองได้วา่ จะทําให้นางเป็ นสตรี ที่โชคดีที่สุด เขาจึงยอมตามใจ


นางทุกเรื่ อง ขอเพียงนางพยักหน้า ทุกสิ่ งเขาก็พร้อมประเคนให้ สตรี ในเมืองต่างพากันอิจฉา มอง
ชินอ๋ องปฏิบตั ิต่อชินหวางเฟยแล้วได้แต่หนั กลับไปมองสามีตนเองแล้วส่ ายหน้า อวี้เอ๋ อร์ยอ่ มรู ้วา่ สถานะ
นางในใจเขานั้นสู งส่ งเพียงไร ทว่ามีเพียงเรื่ องเดียวที่เขาไม่อาจตามใจ

เสวียนเฟิ งไม่เคยเหลียวแลสตรี อื่น ความปรารถนาที่เขามีต่อนางไม่เคยจืดจาง ทว่านางเป็ นเพียง


สตรี บอบบางเรี่ ยวแรงน้อย เรื่ องนี้จึงเป็ นปัญหาระหว่างสองสามีภรรยาอยูบ่ า้ ง เขายอมให้นางปั้นปึ่ ง
แง่งอนแต่แน่นอนว่ากิจกรรมยามคํ่าคืนย่อมไม่อาจละเว้น มิใยว่านางจะบ่ายเบี่ยงเกี่ยงงอนอย่างไร
เขาก็มกั จะปลุกเร้าจนนางต้องคล้อยตาม ลงท้ายด้วยนางหลับใหลไปอย่างเหนื่อยอ่อนทุกราตรี จนถึง
ยามสายของอีกวัน กระนั้นอวี้เอ๋ อร์ กไ็ ม่เคยเอ่ยถึงเรื่ องชายารองขึ้นมาอีกตั้งแต่เขาจัดการฮองเฮา
ไปครานั้น

460
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
เสวียนเฟิ งเชิญอาจารย์มาอบรมสั่งสอนบุตรชายตั้งแต่พวกเขาอายุได้เพียงสองสามขวบ เขาอธิ บาย
ให้อวี้เอ๋ อร์ฟังว่าเชื้อพระวงศ์ลว้ นแล้วแต่เป็ นเช่นนี้ ต่างมีชีวติ ที่ยากลําบาก มิได้มีวยั เด็กที่สนุกสนาน
เหมือนคนอื่นเขาเพราะต้องแบกรับภาระหน้าที่อนั ยิง่ ใหญ่ แม้นางจะมีท่าทางไม่เห็นด้วยแต่กไ็ ม่อาจขัด
เขา นางเข้าใจ ชีวติ ที่สุขสบายนี้ ตอ้ งแลกมาด้วยอะไรบ้าง ยามเลิกเรี ยนในแต่ละวัน นางมักจะถาม
เสวียนอู่และเสวียนเยว่อย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดพวกเขาไว้ในอ้อมแขนละมุนว่าพวกเขาเหนื่อย
หรื อไม่ เท่านี้ กเ็ พียงพอที่จะทําให้เด็กชายทั้งสองกระตือรื อล้นกับการเล่าเรี ยนเพื่อเอาใจมารดา เส
วียนเฟิ งยิม้ พลางคิดในใจ ช่างเด็กเสี ยจริ งๆ

ครั้นบุตรชายทั้งสองต่างต้องเล่าเรี ยน เวลาส่ วนใหญ่ของนางจึงมีเพียงเขา เสวียนเฟิ งลอบยิม้ ให้กบั


ความสําเร็ จเล็กๆ น้อยๆ ของตน แรกเริ่ มนางเพียงต้องการอยูเ่ ป็ นเพื่อนและเป็ นกําลังใจให้เขา
เมื่อเห็นเขาจมปลักอยูก่ บั กองเอกสารทั้งวัน ครั้งหนึ่งนางเอ่ยปากอยากช่วยเขาแบ่งเบาภาระ เขา
ยึดถือคําพูดนางอย่างจริ งจังและมอบหมายงานให้นางอย่างยินดี แรกเริ่ มเขาเพียงแค่อยากเอาใจ
แต่ครั้นได้เห็นฝี มือนาง เขาก็รู้ได้วา่ หวางเฟยของเขาสติปัญญาลํ้าเลิศนัก แม้ไม่เคยถูกฝึ กให้ทาํ งาน
เอกสารเหล่านี้แต่นางสามารถจัดการงานได้ดีกว่าลูกน้องของเขาเสี ยอีก

การตัดสิ นใจต่างๆ ไม่วา่ จะเป็ นข้อราชการหรื อเรื่ องราวในจวน เขามักยกให้นางเป็ นผูช้ ้ ีขาดจนผูค้ น
เอาไปรํ่าลือกันว่าชินอ๋ องกลัวภรรยา แต่เขาไม่สนใจสักนิด นัน่ เป็ นเพียงคําพูดของคนขี้อิจฉา คน
เหล่านั้นมีใครได้ภรรยาที่ประเสริ ฐอย่างเขาบ้างเล่า หากเลือกได้คนพวกนั้นก็ลว้ นแล้วแต่อยากมีศรี
ภรรยาอย่างเขาทั้งนั้นมิใช่หรื อ

เรื่ องลูกสาว อันที่จริ งแล้วเป็ นเพียงข้ออ้าง เสวียนเฟิ งเป็ นคนรักเด็ก จะเห็นได้วา่ บรรดาองค์ชาย
องค์หญิงซึ่ งเป็ นโอรสธิ ดาของฮ่องเต้พระองค์ก่อนล้วนแล้วแต่สนิทสนมรักใคร่ เขาทั้งนั้น ไม่วา่ จะลูก
ชายหรื อลูกสาว ขอเพียงเป็ นลูกของอวี้เอ๋ อร์เขาย่อมรักทั้งนั้น แต่ที่เขาออกปากบอกนางไปว่าอยาก
ได้ลูกสาว ส่ วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากไม่ตอ้ งการให้นางถูกกดดันด้วยเรื่ องให้กาํ เนิดบุตรชาย สตรี ที่
สมรสแล้วล้วนแต่ถูกคาดหวังด้วยเรื่ องทายาทสื บสกุล เขาไม่ตอ้ งการให้อวี้เอ๋ อร์กงั วลใจด้วยเรื่ องนั้น
จึงหยิบยกเรื่ องนี้ ข้ ึนมาอ้าง นอกจากเหตุผลข้างต้นแล้ว หลังจากอวี้เอ๋ อร์ให้กาํ เนิดบุตรชายฝาแฝด
เขายังสามารถใช้ขอ้ อ้างนี้ใกล้ชิดนางตามที่ใจต้องการอีกด้วย เสวียนเฟิ งยิม้ ขณะมองนางกรอกตาคิด
หาหนทางบ่ายเบี่ยงเขาในคํ่าคืนนี้

“ท่านอ๋ อง ช่วงนี้งานในจวนยังยุง่ อยูเ่ ลย เราอย่าเพิ่ง..” เขารู ้วา่ นางจะพูดอะไรต่อจึงรี บขัดขึ้น

461
หยกผลาญใจ
ผู้แต่ ง : กริ นดา
“พรุ่ งนี้เจ้าไม่ตอ้ งไปช่วยงานเปิ่ นหวางก็ได้ แต่คืนนี้ช่วยให้เปิ่ นหวางสมปรารถนาก่อนเถิด เจ้ายังติด
ค้างลูกสาวเปิ่ นหวางอยูอ่ ีกหลายคน จําไม่ได้หรื อ” เขากล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่ได้บอกนางไปว่า
ตระกูลเขาไม่ค่อยมีลูกสาวกันสักเท่าไหร่ กว่านางจะทําให้ความปรารถนาเขาเป็ นจริ ง เห็นทีได้มีลูก
ชายเต็มบ้านก่อนเป็ นแน่

"ท่านอ๋ อง อวี้เอ๋ อร์ ไม่ได้อยากหยุดงานเสี ยหน่อย..อุบ๊ " คําพูดของนางถูกปิ ดด้วยจุมพิตอ่อนหวาน

"งานหลักของเจ้าก็อยูต่ รงหน้านี่ไงเล่าอวี้เอ๋ อร์ ลืมแล้วหรื อหวางเฟยของข้า" เขากล่าวหลังจากนั้น


ระหว่างคนทั้งคู่กไ็ ร้ซ่ ึ งวาจา เขาพานางลอยละล่องไปสู่ หว้ งฝันอันแสนสุ ข

...............................................จบบริ บูรณ์....................................................

ติดตามตอนพิเศษอีก 2 ตอนได้ในรู ปเล่มนะเจ้าคะ

ความในใจของผู้เขียน

ก่อนอื่นขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ร่วมร้องไห้ไปด้วยกันกับนิยายเรื่ องนี้ นะคะ ตอนเริ่ มเรื่ องกริ นดาไม่ได้คิด


จะเขียนเรื่ องเศร้า ตั้งใจจะเขียนเรื่ องราวเกี่ยวกับความรักและอํานาจ แต่กอ็ ย่างที่นกั เขียนหลายคนว่าไว้ พอ
เขียนเรื่ องไปแล้วความรู ้สึกผูกพันกับตัวละครจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาจนแทบจะเรี ยกได้วา่ เข้าไปอยูใ่ นความคิด
ของตัวละคร ไปๆมาๆ ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่ องมันจะเศร้าขนาดนี้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ทาํ ให้เสี ยนํ้าตา อย่าง
น้อยในตอนท้ายเรื่ อง กริ นดาก็พยายามจะเขียนให้ผอ่ นคลายมากขึ้น

หากไม่มีผอู ้ ่านทุกท่าน นิยายเรื่ องนี้คงไม่สามารถดําเนินมาถึงจุดจบได้ อาจจะล้มเลิกไปเสี ยก่อน แต่เพราะรู ้วา่


มีคนรออ่านจึงมีกาํ ลังใจที่จะเขียนต่อ กริ นดาดีใจที่ได้รู้วา่ มีคนติดตามอ่านงานชิ้นนี้รวมถึงคอมเมนท์ที่ได้รับ
จากผูอ้ ่านทุกท่านค่ะ ท้ายที่สุดถ้าใครคิดจะช่วยอุดหนุนนิยายเรื่ องนี้ กริ นดาก็ขอขอบคุณมากๆ เช่นกันค่ะ

พบกันใหม่ในนิยายเรื่ องหน้านะคะ

462

You might also like