Professional Documents
Culture Documents
ผูส้ อน
ความหลากหลายของภาษา ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ประภาษ เพ็งพุ่ม
ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์
การปรับใช้ภาษาและภาวะหลายภาษา ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566
ภาษา (Language)
ความรู้
ความคิดเห็น ระบบสัญลักษณ์
ความเป็ นสมมติ
อารมณ์ ความรูส้ กึ
สิง่ มีชวี ิตประเภทอื่นบนโลก ล้วนสื่อสารด้วยสัญชาตญาณ
แม้มนุ ษย์จะเรียกการสื่อสารของสัตว์หลายชนิดว่าเป็ น “ภาษาสัตว์”
เช่น ภาษาผึง้ ภาษาลิง หรือภาษาแมวก็ตาม แต่สตั ว์เหล่านี้ ไม่สามารถ
เปล่งเสียงพูดซึ่งเป็ นเสียงในภาษา และสัตว์เหล่านี้ไม่สามารถเรียนรู้
ภาษาอื่นใดทีต่ ่างไปจากเผ่าพันธุ์
ดังนัน้ เมื่อกล่าวถึงภาษาและการศึกษาภาษา เราจึงไม่ได้
หมายรวมถึงการศึกษาภาษาของสัตว์ แต่จากัดเฉพาะภาษาของมนุ ษย์
เท่านัน้
ภาษาเป็ นสมบัติสาคัญของมนุ ษยชาติ ดังจะพบว่านับแต่
อดีต ชนชาติใดมีการพัฒนาสังคมของตนไปสู่ความเจริญ ชนชาติ นนั ้
ย่อมต้องปรากฏหลักฐานสาคัญทีแ่ สดงถึงความรุ่งเรืองให้แก่คนรุ่น
หลังได้เรียนรู้ และหลักฐานชนิดหนึ่งทีม่ กั ค้นพบก็คือ ภาษา
ภาษาจึงเป็ นหลักฐานทางวัฒนธรรมทีส่ าคัญอย่างหนึ่ งที่
นักวิชาการให้ความสาคัญเมื่อต้องการศึกษาถึงกลุ่มชาติ พนั ธุต์ ่าง ๆ
**ชาวสุเมเรียนเป็ นชนชนาติแรกในเมโสโปเตเมียที่
รูจ้ กั การเขียนหนังสือตัง้ แต่ 3000 ปี ก่อนคริสตกาล
โดยการประดิษฐ์อกั ษรรูปลิม่ หรือทีเ่ รียกว่า คูนิ
ฟอร์ม (Cuneiform) ภายหลังได้ดดั แปลงแก้ไข มีการ
คิดเครือ่ งหมายต่างๆ เพือ่ ใช้แทนภาพ
หลักศิลาจารึกหลักที่ 1 หรือศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหงมหาราช
ซึง่ พบที่เนินปราสาทเมืองโบราณสุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง
ฯ จ.สุโขทัย บนศิลาปรากฏอักษรไทยสุโขทัย ภาษาไทย พ.ศ.1835
6
ภาษาในโลกนี้ ........โลกนี้ มีกี่ภาษา...?
➢ โลกนี้มกี ี่ภาษา นอกจากภาษาไทยทีเ่ ป็ นภาษาแม่แล้ว เคยอยากรูไ้ หมว่าคนบนโลกนี้ใช้
กี่ภาษาในการสื่อสารกัน
จาก https://education.kapook.com/view121517.html
ในปัจจุบนั โลกแบ่งตระกูล
ภาษา ตามรูปนี้ครับ มีปัจจัย
ที่มีผลทาให้ตระกูลภาษาคน
คนขาว กระจายไปทั ่วโลก
เป็ นเพราะ ยุคล่าอาณานิคม
หรือเพราะปัจจัยอื่นใด
จากจานวนภาษาทังหมด
้ มีภาษาแม่ทเี่ ป็ นภาษาประจาชนชาติอยู่ 23 ภาษา
ภาษาสเปน (Spanish)
ภาษาสเปน (Spanish) เป็ นเป็ภาษาที
นภาษาที ่มีคนพู
ม่ คี นพู ดมากเป็
ดมากเป็ นอันอัดันบดัทีบ่ 4ที่ 4
และจั
และจัดดเป็เป็นน11ในใน66ภาษาทางการขององค์
ภาษาทางการขององค์กการสหประชาชาติ
ารสหประชาชาติภาษาสเปน
ภาษาสเปน
เป็เป็นนภาษาราชการของประเทศสเปน
ภาษาราชการของประเทศสเปนและเกื อบทุ
และเกื กประเทศในภู
อบทุ มิภมาคลาติ
กประเทศในภู ภิ าค น
อเมริ
ลาตินกาอเมริ
รวมทักางประเทศในทวี
้ รวมทังประเทศในทวี
้ ปแอฟริกปาด้ วย กภาษาสเปนมี
แอฟริ คนใช้ ทวั่ คโลก
าด้วย ภาษาสเปนมี นใช้ท ั ่ว
ประมาณ
โลกประมาณ 550 550
ล้ านคน
ล้านคน
ภาษาที่ประชากรโลกเรี
ระชากรโลกเรียยนรูนรู้ มม้ ากที
ากที่สส่ ดุ ุดคืคืออภาษาอั
ภาษาอังกฤษงกฤษโดยมี
โดย
คนเรี ยนภาษานี
มีคนเรียนภาษานี้ประมาณ
้ประมาณ1,500 1,500ล้ าล้นคนทัานคนทั ว่ โลก
่วโลกรองลงมาคื
รองลงมาอ
ภาษาฝรั ่งเศส่งเศส
คือ ภาษาฝรั มีคนเรี
มีคยนเรี
นทัยงหมด
้ นทังหมด
้ 82 ล้ า82นคนทั ว่ โลก ่วโลก
ล้านคนทั
Reino de España
ภาษาอั
ภาษาอังงกฤษ กฤษภาษาฝรั
ภาษาฝรั่งเศส
่ และภาษาสเปน
งเศส และภาษาสเปน
เป็ นภาษาที
ภาษาที่ถ่ถกู กู เผยแพร่
เผยแพร่ไปยั
ไปยังประเทศอื
งประเทศอืน่ ่นๆ ๆ
มากที่ส่สดุ ดุ เพราะอาณาจั
มากที เพราะอาณาจักกรที่ยิ่งใหญ่ และการ
ละการยึด
ยึดเอาประเทศต่
เอาประเทศต่าางง ๆ เป็ นอาณานิคมในอดีต
Western Punjabi, is a group of north-western Indo-Aryan
Percentage of native speakers of UN languages,
and percentage of non-UN language speakers
ภาษาทางการ 6 ภาษา
ในองค์ การสหประชาติ
ภาษาอังกฤษ ภาษาสากลของโลก
โดย LEE KUAN YEW
...สาเหตุที่ภาษาอังกฤษเป็ นภาษาที
ภาษาที่ ใ่ ใช้ช้กกันันอย่
อย่าางแพร่
งแพร่หหลายทั
ลายทั่ ว่ โลก
เม็กซิโก
อินโดนีเซีย มี 731 ภาษา แคเมอรูน
ออสเตรเลีย
มีประเทศละ 300 ภาษา
ไนจีเรีย มี 515 ภาษา
ภาษาฮังกาเรี ยน “เรียนหนึ่งเทอมตอนไปแลกเปลีย่ น
วัฒนธรรมทีบ่ ดู าเปสต์ ประเทศฮังการี บอกได้เลยว่า
สาหรับหนึ่งเทอมนัน้ แค่สามารถสังกาแฟได้่ ก็ถอื ว่าเก่ง
แล้ว” เพราะว่าภาษาฮังกาเรียนนัน้ แตกต่างจากภาษา
ประเทศรอบข้าง ไม่ได้มคี วามสัมพันธ์กบั กลุ่มภาษาทีใ่ ช้
รากศัพท์ละติน เช่น ภาษาฝรังเศส ่ อังกฤษ อิตา
เลียน ดังนัน้ คาศัพท์ต้องเรียนใหม่หมด จาใหม่หมด แถม
ยากมาก ๆ คือ กฎทีเ่ ติมคาศัพท์ prefix หน้ าคา หรือ
Suffix ด้านหลัง ทาให้คายาวไปเรือ่ ย ๆ แถมการเติมนัน้
ยังมีกฎทีต่ ้องให้เสียงสัมพันธ์กนั เป็ น Harmony คล้องจอง
สละสลวย คล้ายการร้องเพลง ภาษาฮังกาเรียนจึงทาให้
เป็ นภาษาทีแ่ ปลกประหลาด ยากสาหรับชาวเอเชีย และ
ชาวตะวันตกด้วยกัน
อันดับที่ 2
❖ สติกเกอร์ (stickers) หรือ อีโมติคอน (Emoticon) เป็ นภาษาสัญลักษณ์ทคี่ ุ้นเคย ด้วยการใช้เพือ่ พูดคุยแทน
การพิมพ์เป็ นข้อความ และสัญลักษณ์เหล่านี้ก็พฒั นาไปไกลถึงขันมี
้ เสียงประกอบแล้วด้วย ชุดของสัญลักษณ์
ต่าง ๆ ทีม่ จี ุดประสงค์เพื่อแสดงสีหน้าและอารมณ์ของมนุ ษย์
❖ ทุกวันนี้อีโมจิได้กลายเป็ นมากกว่าแค่เครื่องมือสื่อสารเ แต่ยงั ใช้แสดงอารมณ์ ความรูส้ กึ และเป็ นเหมือน
‘ภาษาภาพ’ ยอดนิยมของผูค้ นบนโลกออนไลน์ไปแล้ว และทีส่ าคัญอาจกล่าวได้ว่าเราทุกคนล้วนเป็ นส่วนหนึ่ง
ของ “วัฒนธรรมอีโมจิ” ตัง้ แต่ลมื ตาตื่นจนกระทั ่งเข้านอนก็คงไม่ผดิ เพราะไม่ว่าจะหิวไส้กิ่ ว รีบไปทางานตอน
เช้า ง่วงยามบ่าย หรือแม้แอบนัดหมายส่งสัญญาณแบบลับเฉพาะคนรูใ้ จ หลายคนก็ยงั ทามันผ่านอีโมจิ
สาหรับ “อีโมติคอน หรืออีโมจิ”
ออกแบบ และมีการนามาใช้ครังแรกในประเทศ
้
ญี่ป่ นุ โดยคุณ Shigetaka Kurita เป็ นผูค้ ิดค้น
แต่เดิมนัน้ “อีโมจิ” มีความหมายว่า ตัวหนังสือ
ภาพ โดยมาจากคาว่า เอะ (絵, “ภาพ") ผสม
กับคาว่า โมจิ (文字, “ตัวหนังสือ") นั ่นเอง
...ไม่ว่าจะเป็ นใคร ชาติไหน ก็สามารถสื่อสาร
พูดคุยกันได้ แต่ก็น่าคิดต่อไปอีกว่า สัญลักษณ์
เหล่านี้จะมีความซับซ้อนในการสื่อสารได้ใน
ระดับไหน เพราะบางอย่างมันก็ไม่สามารถ
สื่อสารให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ผ่านสัญลักษณ์เพียง
ตัวเดียว
สติกเกอร์ (Stickers) หรือ อีโมติคอน
(Emoticon) สามารถเป็ นภาษาสากลได้ใน
อนาคต........?????
ระวัง !!!!!!!
ความหมายของภาษา
❑ พจนานุกรมศั รมศัพท์ท์ภาษาศาสตร์
าษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์
(ภาษาศาสตร์ปประยุ
ระยุกกต์ต์)) ฉบั ราชบัณณฑิฑติ ตยสถาน
ฉบับบราชบั ยสถานพ.ศ.
พ.ศ.2553 ได้นาิ ย233-234)
2553(หน้ ามของคา
ว่ได้าน“ภาษา”
ิยามของไว้ภาษา
5 ลักษณะ
ไว้ 5 ลัดักงนีษณะ
้ ... ดังนี.้ ..
1.
1. ระบบสัญลักษณ์ท่มี นุษย์ย์ใช้ช้ส่อื สาร
ภาษา (Language)
ส่วนที่ไม่มคี ความหมาย
วามหมาย ส่วนที่มีความหมาย
เสียยงง มีมีจจานวนจ
เสี านวนจากัด (พยัญชนะ สระ วรรณยุกกต์ต์)) เป็ นส่วนซึ่งมีจานวนไม่รจู้ บ ได้แก่ คา วลี ประโยค
ประกอบกันนเป็เป็นนส่วนที่มีความหมายซึ่งงมีมีจานวนไม่
ประกอบกั านวนไม่รร้ จู จู้ บบ และสัมพันธสาร (ข้อความ)
ภาษากะเทย ภาษาวัยรุ่น
ภาษาผูช้ าย ภาษาเด็ก
ราชการ ภาษาย่อยสังคม
ภาษาเขียน ภาษาผูห้ ญิง ภาษาคนแก่ ภาษาโฆษณา
การสอน ทางการ
ภาษาแพทย์
วัจนลีลา วิธภาษา ทาเนียบภาษา
ประชุม กึ่งทางการ
ภาษากฎหมาย
สื่อ ไม่เป็ นทางการ กลาง ลาว ภาษาพระ
ภาษาถิ่น
พูด ละครทีวี ตลาด คาเมือง ปักษ์ใต้
5. ระบบการสื่อสารอื่น ๆ ที่ไม่ใช้สญั ลักษณ์
เหมือนในคาจากัดความที่ 1-4 เช่น ภาษามือ
(sign language) ภาษากาย ภาษารูปภาพ
ภาษาสัตว์
คาว่าภาษาข้างต้นมีความหมายกว้าง ตัง้ แต่ภาษาของมนุ ษยชาติ ทีเ่ กิดขึน้ อย่างเป็ นธรรมชาติ ภาษา
ทีม่ นุ ษย์ตงั ้ ใจประดิษฐ์ขนึ้ อย่างภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาในบริบทการใช้ และหมายรวมถึงภาษาสัตว์
ระบบสัญลักษณ์ในเชิงคาพูด หรือเชิงการเขียนที่
มนุ ษย์เท่านัน้ กาหนดขึน้
ใช้เป็ นเครื่องมือในการสื่อความหมายต่อกันและกัน
คุณสมบัติของภาษา
ภาษาเป็ นระบบสัญลักษณ์ทมี่ นุ ษย์สร้างขึน้ เพื่อสื่อความหมาย
ภาษามีระบบและกฎเกณฑ์ทแี่ น่ นอน
ภาษาเกี่ยวข้องกับบริบทซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตีความ
ภาษาเป็ นเรื่องทีต่ ้องเรียนรู้ ไม่สามารถเกิดขึน้ ได้โดยกาเนิดหรือสัญชาตญาณ
ภาษาเป็ นเรื่องของปฏิสมั พันธ์และมีความเป็ นพลวัต
ภาษาเปลีย่ นแปลงไปตามกาลเวลา ภาษามีผลิตภาวะทีส่ ร้างสรรค์ไม่จบสิน้
ภาษาทุกภาษามีลกั ษณะบางประการทีม่ อี ยู่ร่วมกัน เรียกว่า สากลลักษณ์ภาษา (language universal)
จากคุณสมบัตขิ องภาษาข้างต้นทาให้........
1) การไม่ออกเสียง “ร” ปั จจุบนั เสียง “ร” /r/ เป็ นปั ญหาที่สาคัญที่สดุ ในการออกเสียงภาษาไทย เช่น
ลัก (รัก) โลงเลียน (โรงเรียน) ลุกลาน (รุกราน) ล่าลวย (ร่ารวย)
2
3
คณะรัฐมนตรี ในสมัย ฯพณฯ ชวน หลีกภัย เป็ นนายกรัฐมนตรี ได้มมี ติเมือ่ วันอังคารที่ 13
กรกฎาคม พ.ศ. 2542 เห็นชอบให้วนั ที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็ นวันภาษาไทยแห่งชาติ
มีวตั ถุประสงค์ ดังนี้
โดยหูของคนปกติจะสามารถ
รับเสียงทีม่ คี วามดังของเสียง
ต่าสุด 0 เดซิเบล (decibel:dB)
และสูงสุด 120 dB
(ความถี่ของคลื่นเสียง ตัง้ แต่
20-20,000 เฮิรตซ์) ระดับ
เสียงทีม่ คี วามปลอดภัยใน
การได้ยนิ สาหรับมนุ ษย์ คือ
ความดังประมาณ 75 dB หรือ
น้อยกว่า
สากลลักษณ์ของภาษา
(language universal)
ลักษณะของภาษาแบ่งตาม การใช้ถ้อยคา - ไม่ใช้ถ้อยคา
- วัจนภาษา
- อวัจนภาษา
วัจนภาษา (Verbal Language) เป็ นระบบการสื่อสารด้วย
ระบบเสียงรวมถึงภาษาเขียนที่ใช้ส่อื ความหมายเป็ นตัวอักษร
เครื่องหมาย รหัส
ระบบเสียงในภาษาไทยประกอบด้วยเสียงแท้ (สระ)
เสียงแปร (พยัญชนะ) และเสียงดนตรี (วรรณยุกต์) รวมกัน
เป็ นพยางค์ คา กลุ่มคา ประโยค ข้อความ เรื่องราว
ตัวอย่างการสื่อสารด้วยวัจนภาษา
Page 66
Page 67
ล้อเลียน (Bully) เพื่อนลาว
Page 68
อย่ากลัวภาษาอังกฤษ อาจารย์อดัมจะว่าอย่างไร.....?
Page 69
อวัจนภาษา (Non-Verbal Language) แบ่งได้เป็ น 4 ประเภท
1. ภาษาสัญลักษณ์ เป็ นการสื่อความหมายแทนสิ่งใดสิ่งหนึ่ ง
เช่น มาจากตัว V คาว่า victory คือ ชัยชนะ
Page 70
Page 71
Page 72
2. ภาษาการกระทา แสดงออกเป็ นบุคลิกภาพ หรือการกระทาต่าง ๆ
เพื่อบ่งบอกถึงอารมณ์ ความรู้สึก หรือวัฒนธรรม
Page 73
มารยาทที่ ไม่ควรทา ในประเทศต่าง ๆ
Page 74
3. Brasil : ห้าม "OK" (Don't use the
"OK" Gesture) เพราะเป็ นการแสดง
อากัปกิริยาเทียบเท่าได้กบั “Fuck
You” ในอเมริกา (โชว์/ชูนิ้วกลาง)
Page 75
4. China : ห้ามให้ "ร่ม" หรือ "นาฬิกา" เป็ นของขวัญ เพราะ "นาฬิกา" ใน
ภาษาจีนจะออกเสียง "ซี่วจง" ซึ่งไปคล้ายกับ คาว่า "ซุ่ยจง" ที่แปลว่า ดูใจ
ครังสุ
้ ดท้าย มันเป็ นเรื่องอัปมงคลอย่างมาก ส่วน "ร่ม" จะออกเสียงคล้ายกับ
คาที่มีความหมาย "กระจัดกระจาย" ซึ่งเป็ นความหมายไม่ดี คนจีนเลยไม่
ชอบจริง ๆ แล้วของต้องห้าม ที่ไม่ควรให้ชาวจีนเป็ นของขวัญ ยังมี สาลี่ ที่
เหมือนการแช่ง ผ้าเช็ดหน้ า ที่คนจีนถือเพราะมันเป็ นผ้าไว้ซบั น้ าตา
Page 76
• 5. Vietnam : ห้ามรับของมือเดียว (โดยเฉพาะ • 6. Hungary : ห้ามชนแก้วเบียร์ หรือ
มือซ้าย) มีหลายประเทศที่มีข้อห้าม หรือธรรม เหล้า เป็ นวัฒนธรรมที่ สืบเนื่องมาจาก
เนี ยมปฏิบตั ิ ข้อนี้ เพราะ "มือซ้าย" เป็ นมือ ประวัตศาสตร์สมัยออสเตรียที่ บกุ มา
ทาสงครามกับฮังการี และในครัง้ นัน้
สาหรับชาระล้าง เป็ นมือสกปรก จึงไม่ควรรับ ออสเตรียเป็ นฝ่ ายชนะ และได้ประหาร
สิ่งของใด ๆ หรือหากจะใช้ ต้องใช้พร้อมกัน ชี วิตแม่ทัพของฮังการี และฉลองด้วย
สองมือในการรับของ การดื่มเบียร์ มีการชนแก้วกันอย่าง
สะใจ ทาให้ชาวฮังการีเกลียดการ
ชนแก้วและเป็ นธรรมเนี ยมปฏิบตั ิ
มาจนถึงทุกวันนี้
Page 77
เพราะเขาอาจเป็ น Host ที่ แปลว่าผู้
ชวนชวนนัง่ กินนัง่ ดริ๊งค์ คอยคุยเป็ น
เพื่อนให้หญิงสาวผ่อนคลายหรือรู้สึก
สนุก มักปรากฏตัวตอนกลางคืน มี
ลักษณะเด่นคือไว้ผมยาว ๆ ปลาย
เป็ ดนิด ๆ ทาผมฟูให้ดหู วั ทุย กันคิ้ว
ชอบใส่สูทหรือโค้ตยาว ๆ หน้าตา
ไม่ได้ดดู ีมาก แต่ดมู นั ใจในตัวเองสุด
ๆ หากคนแบบนี้ เข้ามาทักหรือมาชม
ว่าคุณน่ ารัก อย่าเคลิ้มจนหลงไป
7. ญี่ปนุ่ : อย่าดีใจถ้ามีหนุ่มหล่อมาทัก นัง่ ดริ๊งค์ที่ร้านกับเขาเชียว เพราะ
นอกว่าจะเสียค่าค็อกเทลแก้วละเป็ น
พันแล้วยังต้องเลี้ยง Host อีกด้วย
Page 78
3. ภาษาวัตถุและสภาพแวดล้อม เป็ นอวัจนภาษาที่ สื่อความหมายในตัวเอง
ช่วยให้รู้และเข้าใจสถานภาพ ความรู้สึกนึ กคิดและสังคมของบุคคล เช่น เวลา สถานที่
เสื้อผ้า เครื่องประดับ การแต่งกาย ช่องว่างระหว่างผู้พูด/ผู้ฟัง ความเป็ น / ไม่เป็ นทางการ
เป็ นต้น
Page 79
การแต่ งกายของนิสิต กาลเทศะและความเหมาะควร
Page 81
4. อวัจนภาษาเขียน คือลักษณะต่าง ๆ ของตัวอักษรหรือลายมือ
ที่เขียน ลายเซ็น มีความเป็ นระเบียบเรียบร้อย ขาดระเบียบ สะอาด
หรือสกปรก
นี่ ก.็ ..ลายมืออออออ......
ลายมือหมอ
Page 85
การปรับใช้ภาษาและภาวะหลายภาษา
ความหลากหลายของภาษาและชาติพัน์ในประเทศไทย
ธุ
ความสัมพัน์เชิ
ธ งเชื้อสายหรือตระกูลภาษา คุณสมบัติและหน
์าที่ของภาษาในสังคมไทย
1. ความหลากหลายของภาษาและชาติพนั ธุใ์ นประเทศไทย
ประเทศไทยเป็ นดินแดนทีม่ คี วามหลากหลายชับซ้อนของทางภาษาและชาติพนั ธุ์ มีภาษาทัง้ หมด 70
กลุ่มภาษา โดยแต่ละกลุ่มนัน้ อยู่ในตระกูลภาษา 5 ตระกูล คือ ไท ออสโตรเอเชียติก จีน-ทิเบต, ม้ง-เมีย่ น และ
ออสโตรเนเชียน
ภาษาต่าง ๆ นัน้ มีความสัมพันธ์เชิงสังคมเป็ นระดับชัน้ กล่าวคือ ภาษาไทยมาตรฐานอยูใ่ น ระดับ
สูงสุด เป็ นภาษาที่ใช้ในการศึกษาและสื่อสารมวลชน รองมาได้แก่ภาษาไทยถิน่ ด้านภูมภิ าค ได้แก่ ภาษาคาเมือง
ภาษาลาวอีสาน ภาษาปักษ์ใต้ และภาษาไทย (กลาง) ซึง่ ใช้เป็ นภาษากลางของคนกลุ่มชาติพนั ธุย์ ่อย ต่าง ๆ ใน
พืน้ ที่ ส่วนภาษาของชุมชนท้องถิน่ จัดเป็ นภาษาพลัดถิน่ ภาษาในเมือง ภาษาตามแนวชายแดน และภาษาในวง
ล้อม
คนกลุ่มชาติพนั ธุส์ ่วนมากมักจะสามารถใช้ภาษาสองภาษาหรือสามภาษาในสถานการณ์ที่ต่างกัน
อิทธิพลของโลกภิวตั น์และนโยบายภาษาของประเทศมีส่วนทาให้ภาษาต่าง ๆ อยู่ในภาวะถดถอย ในขณะนี้มอี ย่าง
น้อยถึง 14 ภาษาที่กาลังอยู่ในภาวะวิกฤตใกล้สูญ แต่อย่างไรก็ตามมีความพยายามจากบางกลุ่มชนทีย่ งั มีพลังและ
ความพยายามทีจ่ ะสงวนรักษาภาษาของตนไว้ ส่วนในเขตชายแดนยังมีกลุ่มชาติพนั ธุข์ นาดใหญ่ยงั คงต่อสูด้ นิ้ รนที่
จะดารงตนอย่างมีศกั ดิตรี์ ในสังคมไทย
ความสัมพัน์เชิ
ธ งเชื้อสายหรือตระกูลภาษา
2. ซึ่งแบ
่งเป
่นตระกูลใหญ
่ๆ ่
ได 5 ตระกูล ่แก
ได ่
01 ตระกูลไท 24 กลุ่ม
02 ตระกูลออสโตรเอเชียติก 22 กลุ่ม
03 ตระกูลออสโตรเนเชียน 3 กลุ่ม
- - - - ภาษาพิดจิ้น สถานการณ
์เฉพาะ, หมู
์เกาะ
เกณฑ์ดงั กล่าวถือเป็ นสากลและสามารถนามาจาแนกภาษาในสังคมได้ออกเป็ น
7 ประเภท ได้แก่
(1) ภาษามาตรฐาน (standard language) มีคณ ุ สมบัตคิ รบทุกข้อ
(2) ภาษาคลาสสิก (classical language) มีคณ ุ สมบัตเิ หมือนภาษามาตรฐาน
ทุกอย่างยกเว้นความมีชวี ติ
(3) ภาษาประดิษฐ์ (artificial language) ไม่มชี วี ติ และไม่มปี ระวัตคิ วามเป็ นมา
แต่มคี วามเป็ นมาตรฐาน และความเป็ นเอกเทศ
(4) ภาษาท้ องถิ่น (vernacular language) เกือบเหมือนภาษามาตรฐาน
ต่างกันตรงทีภ่ าษาท้องถิน่ ไม่มคี วามเป็ นมาตรฐาน
(5) ภาษาย่อย (dialect language) มีประวัตคิ วามเป็ นมาและมีชวี ติ แต่ไม่ม ี
ความเป็ นมาตรฐาน และความเป็ นเอกเทศ
(6) ภาษาครี โอล (cleole) มีคณ ุ สมบัตอิ ย่างเดียวคือความมีชวี ติ
(7) ภาษาพิดจิน (pidgin) ไม่มคี ณ ุ สมบัตใิ ดเลย เกิดขึ้นอย่างฉับพลันด้วยความ
จาเป็ นในการสือ่ สาร
เมื่อ่เกณฑ
ใช ่ดังกล
่าวกับภาษาในสังคมไทยแล ่ว สามารถแสดงตัวอย
่าง “ภาษาใน
สังคมไทยจาแนกตามเกณฑ ่คุณสมบัติ” ดังนี้
ประเภท ตัวอย์างภาษาในสังคมไทย
ภาษามาตรฐาน ภาษาไทยมาตรฐาน, ภาษาที่เรียนเป ่นภาษาต่าง
ประเทศ ่น เช ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน
ภาษาคลาสสิก ภาษาบาลี และ สันสกฤต
ภาษาประดิษ์ฐ ภาษาเบสิก, ภาษาฟอร ่แทรน, ภาษาคอมพิวเตอร ่ต
่าง ๆ
ภาษาท
์องถิ่น ภาษาม ่ง, กระเหรี่ยง, เขมร, มาเลย
่, ไทใหญ
่
ภาษาย
์อย ภาษาไทยถิ่นภาคต ่าง ๆ, ภาษาย่อยสังคม ่น
เช ภาษาผู
่หญิง,
ภาษาเด็ก, ภาษาคนมีการศึกษา
ภาษาครีโอล ยัง่พบหลั
ไม กฐานว
่ามีในประเทศไทย
ภาษาพิดจิ้น ภาษาอังกฤษของคนขายของแผงลอย, ภาษาของผู ่ใช
่แรงงาน
ที่มีนายจ
่างเป ่นชาวต
่างประเทศ, คนขับแท็กซี่
ภาษาครีโอล (อังกฤษ: creole language) เป็ นภาษาธรรมชาติทพี่ ฒั นาหรือ
ดัดแปลงมาจากการผสมกันของภาษาตัง้ แต่สองภาษาขึน้ ไป ซึ่งแตกต่างกับ
ภาษาพิดจินทีม่ คี วามซับซ้อนของไวยากรณ์น้อยลงมากเมื่อเทียบกับภาษาที่
นามาดัดแปลง ภาษาครีโอลมีความซับซ้อนทางภาษามากกว่าภาษาต้นตอ
เพราะได้รบั อิทธิพลจากทังสองภาษา
้ ทังยั
้ งมีระบบไวยากรณ์ทคี่ งที่ มีคาศัพท์
จานวนมาก และมีผพู้ ดู เป็ นภาษาแม่ ซึ่งทาให้ภาษาครีโอลแตกต่างจาก
ภาษาพิดจินพอสมควร
❖จะสังเกตได้ว่าในจานวนภาษาทังหมดในสั
้ งคมไทย ภาษาไทยมาตรฐาน
ทาหน้าทีม่ ากทีส่ ุด โดยเฉพาะหน้าทีท่ สี่ าคัญ เช่นเป็ น ภาษาราชการ
ภาษาการศึกษา ภาษากลางในประเทศ ภาษาวรรณกรรม และแม้แต่
ภาษาศาสนา ส่วนหน้าทีอ่ ่นื ๆ ก็แบ่งกันไปในภาษาอื่น ๆ ดัง สรุป
ประเภทของภาษาตามหน้าที่ ดังนี้
สรุป ภาษาในสังคมไทยจาแนกประเภทตามหน้ าที่