Professional Documents
Culture Documents
com หน้า 28
E = + เป็ นปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบคายพลังงาน
E = - เป็ นปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบดูดพลังงาน
E = ผลรวมพลังงานยึดเหนี่ยวหลัง - ผลรวมของพลังงานยึดเหนี่ยวก่อน
E = พลังงานจลน์ตอนหลัง - พลังงานจลน์ตอนก่อน
20.2 กัมมันตภาพรังสี
20.2.1 การค้ นพบกัมมันตภาพรังสี
เบ็คเคอเรล ปิ แอร์ และมารี คูรี
ค้นพบว่าธาตุยเู รเนียม พบว่ามีธาตุอื่นสามารถปล่อยรังสี ออกมาได้
สามารถปล่อยรังสี ออกมาได้โดยบังเอิญ เช่น ทอเรี ยม พอโลเนียม เรเดียม
20.2.2 รังสี จากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังสี
การศึกษารังสี ที่แผ่ออกมากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังสี ในเวลาต่อมาพบว่า เมื่อให้รังสี ผา่ น
เข้าไปในบริ เวณที่มีสนามแม่เหล็ก จะมีแนวทางการเคลื่อนที่ดงั รู ป 20.1
20.2.3 การสลายและสมการการสลาย
เมื่อธาตุกมั มันตรังสี สลายตัวจะเปลี่ยนเป็ นธาตุใหม่ใช้หลักการ Balance สมการ
1. ผลบวกของเลขมวลตอนก่อน = ผลบวกของเลขมวลตอนหลัง
A ตอนก่อน = A ตอนหลัง
2. ผลบวกของเลขอะตอมตอนก่อน = ผลบวกของเลขอะตอมตอนหลัง
Z ตอนก่อน = Z ตอนหลัง
2.1. สมมติธาตุกมั มันตรังสี สลายตัวให้แอลฟา () 1 ตัว
A
ZX 4
2 He + A4
Z 2 Y
จะได้ธาตุเลขมวลลดลงจากเดิม 4 เลขอะตอมลดลง 2
2.2. สมมติธาตุกมั มันตรังสี สลายตัวให้บีตา บีตา ( - ) 1 ตัว
A
ZX 0
1 e + A
Z1Y
2. (O-NET 49) ไอโอดีน-128 มีค่าครึ่ งชีวิต 25 นาที ถ้าเริ่ มต้นมีไอโอดีน-128 อยู่ 400 มิลลิกรัม ไอโอดีน-
128 จะลดลงเหลือ 100 มิลลิกรัม เมื่อเวลาผ่านไปกี่นาที ( 50 นาที )
3. (O-NET 51) ไอโซโทปกัมมันตรังสี ของธาตุไอโอดีน – 128 มีครึ่ งชีวิต 25 นาที ถ้ามีไอโอดีน –128
ทั้งหมด 256 กรัม จะใช้เวลาเท่าไรจึงจะเหลือไอโอดีน –128 อยู่ 32 กรัม
1. 50 นาที 2. 1 ชัว่ โมง 15 นาที 3. 1 ชัว่ โมง 40 นาที 4. 3 ชัว่ โมง 20 นาที
5. (Ent) ธาตุไอโอดีน - 126 มีครึ่ งชีวิต 12 วัน นาย ข ได้รับธาตุไอโอดีน - 126 เข้าไปในร่ างกาย 16 กรัม
เป็ นเวลานานกี่วนั ไอโอดีน – 126 ในร่ างกายของนาย ข จึงลดลงเหลือ 2 กรัม
1. 12 วัน 2. 24 วัน 3. 36 วัน 4. 48 วัน
6. (Ent) ไอโซโทปของโซเดียม 1124 Na มีครึ่ งชีวิต 15 ชัว่ โมง จงหาว่าเวลาผ่านไป 75 ชัว่ โมง นิวเคลียส
ของไอโซโทปนี้จะสลายไปแล้วประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ของจํานวนสารที่ต้ งั ต้น ถ้าตอนเริ่ มแรกมีนิวเคลียส
ของไอโซโทปนี้มีค่า 5 คูรี
1. 75 % 2. 87 % 3. 94 % 4. 97 %
8. (Ent) สารกัมมันตรังสี โคบอลต์ - 60 สลายตัวให้รังสี บีตาและรังสี แกมมา โดยมีครึ่ งชีวิต 5.3 ปี จงหา
เปอร์เซ็นต์ของสารกัมมันตรังสี ที่เหลืออยูเ่ มื่อเวลาผ่านไป 15.9 ปี
1. 6.25 % 2. 12.5 % 3. 18.75 % 4. 25 %
20.2.5 กัมมันตภาพ
รัทเธอร์ฟอร์ดและซอดดีได้ต้ งั สมมติฐานเพื่อใช้อธิบายการสลายตัวของธาตุกมั มันตภาพรังสี ไว้ดงั นี้
1. ธาตุกมั มันตรังสี จะแตกตัวออกให้อนุภาคแอลฟาหรื อบีตาได้สารใหม่ และสารใหม่ที่
เกิดขึ้นนี้อาจจะมีการแผ่กมั มันตภาพรังสี ต่อไปได้อีก
2. ในการสลายตัวของธาตุกมั มันตรั งสี เราไม่สามารถจะบอกได้ว่านิ วเคลี ยสใดจะสลาย
ก่อนหรื อหลังแต่เราสามารถบอกได้เพียงว่านิวเคลียสทุกตัวมีความน่าจะเป็ นที่จะสลายตัวเท่ากันหมดและ
อัตราการสลายจะขึ้นอยูก่ บั จํานวนนิวเคลียส ( นิวเคลียสที่พร้อมจะสลาย ) ในขณะนั้น
ถ้าที่เวลา t1 ให้ธาตุกมั มันตรังสี มีจาํ นวนนิวเคลียสอยู่ N1
และที่เวลา t2 ให้ธาตุกมั มันตรังสี มีจาํ นวนนิวเคลียสอยู่ N2
อัตราการลดของนิวเคลียส = N = N 2 N1
t t 2 t1
โดย = N2 - N1 = การเปลี่ยนแปลงของนิวเคลียส
ΔN
t = t2 - t1 = เวลาที่ผา่ นไป
จากสมมติฐานข้อ 2 จะได้อธิบายอัตราการสลายขึ้นอยูก่ บั จํานวนนิวเคลียสที่มีอยูข่ ณะนั้น
- ΔN N
Δt
- ΔN = A = N ……………(20.4)
Δt
โดย = ค่าคงที่ของการสลายตัว
N = จํานวนนิวเคลียสของธาตุกมั มันตภาพรังสี ที่มีอยูข่ ณะนั้น
- ΔN = A = อัตราการสลายตัวของนิวเคลียส มีเครื่ องหมายเป็ นลบแสดงว่าเป็ นอัตราการลด
Δt
หน่ วยกัมมันตรังสี
10
1 คูรี(ci) = 3.7 10 เบ็คเคอเรล (Bq )
กัมมันตภาพ จํานวนนิวเคลียสของ
เวลาครึ่ งชีวิต ( T )
(อัตราการสลายตัว A) ธาตุกมั มันตรังสี ที่เหลืออยู่
t
ln2
A λN N 1 t1/2 t1/2
λ
No 2
0.693
g N t1/2
o λ
m NA
2. (Ent) ธาตุกมั มันตรังสี จาํ นวนหนึ่ง มีกมั มันภาพ 1 ไมโครคูรี และมีครึ่ งชีวิตเท่ากับ 1,000 วินาที
จํานวนนิวเคลียสกัมมันตรังสี ขณะนั้นเป็ นเท่าใด (1 คูรี = 3.7 10 10 เบ็คเคอเรล )
1. 3.7 10 7 2. 5.3 10 7 3. 3.7 10 9 4. 5.3 10 9
4. (Ent) ไอโอดีน - 131 มีคา่ คงตัวของการสลายตัวเท่ากับ 0.087 ต่อวัน ถ้ามี ไอโอดีน - 131 อยู่ 10 กรัม
ตอนเริ่ มต้นเมื่อเวลาผ่านไป 24 วัน จะมี ไอโอดีน - 131 เหลืออยูเ่ ท่าใด
1. 0.63 กรัม 2. 1.25 กรัม 3. 2.50 กรัม 4. 5.00 กรัม
เอกสารประกอบการสอนรายวิชาฟิ สิ กส์ เรื่ องฟิ สิ กส์นิวเคลียร์ เรี ยบเรี ยงโดยครู บุญเกิด ยศรุ่ งเรื อง www.krukird.com หน้า 39
รู ป 20.3 การเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
ตัวอย่างของปฏิกิริยาฟิ วชันที่เกิดขึ้นบนดาวฤกษ์
1H + 1H
1 1
21 H 1 e 0 0.4 MeV
1H + 1H
2 2
23 He + 01 n + 5.5 MeV
5. (Ent)จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ 21 H + X 4
2 He+ n X ควรเป็ นอนุภาคใด
1. อิเล็กตรอน 2. โปรตอน 3. ดิวเทอรอน 4. ทริ ทอน
6. (Ent)จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ 147 N + 11 H 7N + X
15
X คืออนุภาคใด
1. อิเล็กตรอน 2. โปรตอน 3. นิวตรอน 4. โพซิตรอน
7. (Ent)จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ 19880 Hg (n , y) 19779 Au ถามว่า y คืออนุภาคใด
1. อนุภาคแอลฟา 2. โปรตอน 3. ดิวเทอรอน 4. ทริ ทอน
20.4 ประโยชน์ อันตราย และการป้ องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
20.4.1 ประโยชน์ ของกัมมันตภาพรังสี
1. ทางอุตสาหกรรม ใช้หารอยรั่วของท่อ รอยร้าวของแผ่นโลหะ หรื อใช้ควบคุมความหนาแน่น
ของแผ่นโลหะ
2. ทางการเกษตร ใช้ปรับปรุ งพันธุ์พืช วิจยั ปุ๋ ย ( 3215 P ) วิจยั โคนม ( 13153 I ) การถนอมอาหาร หรื อ
ศึกษาการปรุ งอาหารของพืช
3. ทางการแพทย์ ใช้รักษาโรคมะเร็ ง ( 2760 Co ) ตรวจการไหลเวียนของโลหิ ต ( 2411 Na )
4. การหาวัตถุโบราณ หรื อการหาอายุโลก จะใช้คาร์บอน – 14 และยูเรเนียม (Uranium-lead
dating)
20.4.2 อันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
กัมมันตภาพรังสี เมื่อผ่านเข้าไปในเนื้อเยือ่ ของสิ่ งมีชีวิตทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเนื้อเยือ่
ทําให้เนื้อเยือ่ ตายทันที หรื อมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทําให้เกิดโรคมะเร็ ง
20.5 ฟิ สิ กส์อนุภาค
ในการศึกษาองค์ประกอบพื้นฐานของสสาร นอกจาก โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน นัก
ฟิ สิ กส์ยงั ได้มีการค้นพบอนุภาคอื่น ๆ อีกเป็ นจํานวนมาก โดยอาศัยเครื่ องมือที่สาํ คัญ 2 ชนิด คือ เครื่ องเร่ ง
อนุภาค(particle accelerator) และ เครื่ องตรวจวัดอนุภาค (particle detector) เช่น การใช้เครื่ องตรวจวัด
อนุภาคห้องหมอก (cloud chamber) ค้นพบโพซิตรอน (positron) ซึ่งเป็ นปฏิยานุภาค (antiparticle)
ของอิเล็กตรอน หรื อ การใช้เครื่ องเร่ งอนุภาคแนวตรงที่ยาวกว่า 3.2 กิโลเมตรค้นพบควาร์ก (quark)
อนุภาคที่นกั ฟิ สิ กส์คน้ พบ มีท้ งั อนุภาคที่ไม่มีองค์ประกอบภายใน เรี ยกว่า อนุภาคมูลฐาน
(elementary particle) และ อนุภาคที่มีองค์ประกอบภายใน ซึ่ ง สาขาทางฟิ สิ กส์ที่ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ
ของอนุภาคต่าง ๆ และอันตรกิริยาที่อนุภาคเหล่านี้มีต่อกัน เรี ยกว่าสาขา ฟิ สิ กส์อนุภาค (particle physics)
แนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ ที่ใช้อธิบายพฤติกรรมและอันตรกิริยาระหว่างอนุภาคต่าง ๆ ได้รวบรวม
ไว้ในแบบจําลองที่เรี ยกว่า แบบจําลองมาตรฐาน (the Standard Model) ซึ่งได้แบ่งอนุภาคมูลฐานออกเป็ น
3 กลุ่ม ได้แก่ อนุภาคสสาร (matter particle) อนุภาคสื่ อแรง (force-carrier particle) และ อนุภาคฮิกซ์โบ
ซอน (Higgs boson)ในแบบจําลองมาตรฐาน ภายในโปรตอนและนิวตรอนประกอบด้วยควาร์ก (quark) ที่
มีการแลกเปลี่ยนกลูออน (gluon) ระหว่างกัน ทําให้เกิดแรงเข้ม (strong force) ที่ยดึ เหนี่ยวให้ควาร์กอยู่
รวมกันโดยผลข้างเคียงของแรงเข้มระหว่างควาร์กทําให้มีแรงนิวเคลียร์ที่ยดึ เหนี่ยวนิวคลีออนให้อยู่
รวมกันในนิวเคลียส ส่ วนการสลายให้บีตาเป็ นกระบวนการที่ควาร์กในนิวคลีออนมีการเปลี่ยนชนิด โดยมี
แรงอ่อน(weak force) มาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ แรงอ่อนมีดบั เบิลยูโบซอน (W-boson) และซีโบซอน (Z-boson)
เป็ นอนุภาคสื่ อแรงการค้นคว้าวิจยั ด้านฟิ สิ กส์อนุภาค ได้นาํ ไปสู่ การประยุกต์ใช้ในด้าน ๆ ต่าง เช่น ด้าน
การแพทย์ดา้ นอุตสาหกรรม ด้านความปลอดภัย และ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ