You are on page 1of 1302

1

กำรำบรักแม่ทพั เผด็จกำร
สองตำเขำได้ เ ห็ น ‘ถำนหวัน่ ชิ ง’ ธิ ดำของอัค ร
เสนำบดีอีกครัง้ นำงนัง่ อยู่บนหลังม้ำฝี เท้ ำดี แม้อำภรณ์ ที่สวม
จะไร้สี ส นั อี กทัง้ ผิว ยังขำวซี ดรำวหิมะ ทว่ ำกลับ ดูบริสุทธ์ ิ ผุด
ผ่องไร้จดุ ด่ำงพร้อย นับเป็ นคุณหนูตระกูลสูงที่ งำมหยำดฟ้ ำยิ่ง
กว่ำสตรีใด เมื่อเปรียบกับคนเบือ้ งล่ำงอย่ำง 'เซี่ ยเฉิงจู่' เขำช่ำง
ตำ่ ต้อย ยำกจนข้นแค้นจนสุดจะรับไหว

เขำนึ กสะเทือนใจกับภำพที่เห็นจนทัวทั ่ ง้ ร่ำงแทบไร้


เรี่ ย วแรงเดิ น ไปข้ ำ งหน้ ำ ภำยในใจเซี่ ย เฉิ งจู่อยำกจะตะโกน
ระบำยควำมน้ อยเนื้ อตำ่ ใจที่ท่วมท้นอยู่ในอก เขำเป็ นเพียงเด็ก
หนุ่มอนำถำวัยสิบสำมปี ที่มีจิตใจเย็นชำ ภำพตรงหน้ ำชัดเจนว่ำ
ผู้ที่ทำร้ำยมำรดำและน้ องชำยของเขำกลับมี ชีวิตสมบูรณ์ พูน
สุขเสียเหลือเกิน

เซี่ ยเฉิงจู่กำมือแน่ น สำบำนกับตัวเอง ต้ องมีสกั วัน


เขำจะให้ นำงได้ ชดใช้ ... เขำจะทำให้ ผิวขำวรำวหิมะที่ ข วำงหู
ขวำงตำนั น่ ต้ อ งด่ ำ งพร้ อ ยแปดเปื้ อนคิ ด ไม่ ถึ ง ว่ ำ สวรรค์จ ะ
ช่วยเหลือ วันที่รอคอยช่ำงมำถึงเร็วจริงๆ...

2
บทที่ 1 หยำดฟ้ ำมำสู่ดิน

่ ิ ง’ ธิดำของอัครเสนำบดีอีก
สองตำเขำได้เห็น ‘ถำนหวันช
ครัง้

นำงนัง่ อยู่บนหลังม้ำฝี เท้ำดี แม้อำภรณ์ ที่สวมจะไร้สีสนั


อีกทัง้ ผิวยังขำวซีดรำวหิมะ ทว่ำกลับดูบริสุทธ์ ิ ผุดผ่องไร้จดุ ด่ำง
พร้อย นับเป็ นคุณหนูตระกูลสูงที่งำมหยำดฟ้ ำยิ่งกว่ำสตรีใด

เมื่ อ เปรี ย บกับ คนเบื้อ งล่ ำ งอย่ ำ งเซี่ ย เฉิ งจู่ เขำช่ ำ งต่ำ
ต้อย ยำกจนข้นแค้นจนสุดจะรับไหว

เขำนึ กสะเทื อ นใจกับ ภำพที่ เ ห็น จนทัว่ ทัง้ ร่ ำ งแทบไร้


เรี่ยวแรงเดินไปข้ำงหน้ ำ

ภำยในใจเซี่ยเฉิงจู่อยำกจะตะโกนระบำยควำมน้ อยเนื้ อ
ต่ำใจที่ ท่วมท้ นอยู่ในอก เขำเป็ นเพี ยงเด็กหนุ่ มอนำถำวัยสิบ
สำมปี ที่ มีจิตใจเย็นชำ ภำพตรงหน้ ำชัดเจนว่ำผู้ที่ทำร้ำยมำรดำ
และน้ องชำยของเขำกลับมีชีวิตสมบูรณ์พนู สุขเสียเหลือเกิน

เซี่ยเฉิงจู่กำมือแน่ น สำบำนกับตัวเอง

3
ต้องมีสกั วัน เขำจะให้นำงได้ชดใช้... เขำจะทำให้ผิวขำว
รำวหิมะที่ขวำงหูขวำงตำนัน่ ต้องด่ำงพร้อยแปดเปื้ อน

คิดไม่ถึงว่ำสวรรค์จะช่วยเหลือ วันที่รอคอยช่ำงมำถึงเร็ว
จริงๆ...

รำชวงศ์ฉีชิง ปี ไท่สื่อที่สิบเอ็ด

อดี ตผู้มีอำนำจสูงสุดเหนื อคณะขุนนำงในรำชสำนั ก มี


เพียงอัครเสนำบดีถำนเฉิงจี้ผ้เู ป็ นหนึ่ งไม่มีสอง ทว่ำในคืนหนึ่ ง
เขำกลับถูกค้นบ้ำนและยึดทรัพย์โดยไม่ทนั ตัง้ ตัว ทัง้ ยังต้องโทษ
ถูกปลดออกจำกรำชกำรและถูกจองจำในคุกหลวง ญำติพี่น้อง
ทัง้ ตระกูลไม่ว่ำลูกเล็กเด็กแดงล้วนพ่วงโทษถูกเนรเทศไปยัง
ดินแดนห่ำงไกลโดยไม่มีละเว้น

คนตระกูล ถำนถูก ขับ ไล่ กะทัน หัน พวกเขำต้ อ งรี บ เร่ง


เดินทำงบนเส้นทำงที่ ยำกลำบำก ต้องทนทุกข์ทรมำนจำกกำร
โบยตี ข องเจ้ ำ หน้ ำ ที่ ข องรำชส ำนั ก ซ้ำ ยัง ต้ อ งมำเครำะห์ซ้ำ
กรรมซัด ต้องเผชิญหน้ ำกับโจรภูเขำที่กำเริบเสิบสำนกลุ่มหนึ่ ง
อีกด้วย

4
ในที่ สุ ด ผู้ไ ด้ ร บั บำดเจ็บ นั บ สิ บ คนก็จ บชี วิ ต ลงระหว่ ำ ง
ทำง สิ้นใจในต่ำงถิ่นที่มิใช่บำ้ นเกิดเมืองนอนของตัวเอง

ท่ำมกลำงอำกำศหนำวเหน็บของเหมันตฤดู

ถนนเก่ ำสำยหนึ่ ง มีทงั ้ เสี ยงฟำดแส้ และกลิ่นคำวเลือด


คละคลุ้ง บนรถม้ำซึ่ งถูกดัดแปลงเป็ นคุกหลังน้ อยมี สตรีนำง
หนึ่ งถูกคุมขังอยู่ภำยในพร้อมสำวใช้และคนในครอบครัว

นำงจ้องมองแส้ ย้อมสี เลือดที่ ฟำดคนในครอบครัว ตน


ครัง้ แล้วครัง้ เล่ำด้วยสำยตำแข็งกร้ำว ดวงตำหม่นแสงสลับทอ
ประกำยอัดแน่ นไว้ด้วยควำมอัปยศและคับแค้นใจยิ่ง

เหมือนนำงกำลังบอกว่ำ รอให้ถึงวันนัน้ ก่อนเถอะ หำก


นำงรอดไปได้เมื่อไร ควำมอัปยศอดสูในวันนี้ จะขอมอบคืนให้
เป็ นร้อยเท่ำ!

นำงตื่นขึน้ มำอีกครังเพรำะถู
้ กควำมเย็นยะเยือกของเม็ด
ฝนสำดใส่ สำยฝนในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มซำลง ไม่มีสิ่งของที่ พอจะ
ให้ใช้ควำมอบอุ่นได้เลย นำงทำได้เพียงเอนร่ำงพิงต้นไม้เปี ยก
ชื้นและขดตัวแน่ น สำยตำทอดมองกิ่งไม้แกว่งไกวตำมลมฝน

5
ควำมขมุกขมัวของม่ำนฝนอันไร้ขอบเขตทำให้ นำงตกอยู่ใน
ภวังค์ท่ำมกลำงควำมเงียบสงบ

อัครเสนำบดี... ขุนนำงขัน้ หนึ่ ง ข้ำรำชกำรฝ่ ำยพลเรือนผู้


เปี่ ยมไปด้วยอัจฉริยภำพ ทัง้ หมดนี้ คือตำแหน่ งของถำนเฉิงจี้
บิดำนำง

นอกจำกบิ ด ำของนำงจะเป็ นหัว หน้ ำขุน นำงชัน้ ผู้ใหญ่


แล้ว ถำนเฉิงจี้ยงั มีอีกฐำนะหนึ่ งนั น่ คือ ‘หนึ่ งในสำม’ ผู้สำเร็จ
รำชกำรแทนพระองค์ ซึ่ งอดี ตฮ่ องเต้ ได้ ฝำกฝั งให้ ช่วยบริหำร
รำชกำรแผ่นดินและสอนสังประมุ่ ของค์ใหม่ที่ยงั ทรงพระเยำว์
ทำให้ถำนเฉิงจี้มีอำนำจและอิทธิพลในรำชสำนักอย่ำงล้นเหลือ
มำกเสียจนสำมำรถยกใครขึน้ เป็ นฮ่องเต้ได้เลยทีเดียว

สิ่งที่ผอู้ ื่นไม่รู้ ถำนหวันช


่ ิ งกลับเข้ำใจอย่ำงถ่องแท้

ตัง้ แต่ โบรำณกำลมำ ผู้สำเร็จรำชกำรแทนพระองค์ส่วน


ใหญ่ล้วนต้องพบกับโศกนำฏกรรมเข้ำสักวัน

กำรที่ บิดำของนำงถือครองอำนำจอันยิ่งใหญ่จึงไม่ต่ำง
จำกกำรเดินย่องอยู่บนแผ่นน้ ำแข็งที่เปรำะบำง หำกไม่ระวังให้
ดีกจ็ ะดำดิ่งสู่หำยนะที่ไม่อำจพลิกฟื้ นคืนชีวิตขึน้ มำได้

6
ดังที่ประสบอยู่ตอนนี้

สองสำมปี ที่ ผ่ำนมำถำนหวันช ่ ิ งหำได้อกสันขวั


่ ญแขวน
เหมื อ นคนอื่ น ๆ นำงเฝ้ ำ ระดมสมองพยำยำมคิ ด หำทำงหนี
เพี ย รท ำอยู่ เ ช่ น นี้ เ รื่ อ ยมำ แต่ สุ ด ท้ ำ ยก็ย งั คงตกอยู่ ใ นควำม
รันทดอำดูรดุจเดิม

นำงไม่เคยละควำมพยำยำม ทว่ำสมมติฐำนต่ำงๆ นำนำ


ที่ พอกลันกรองออกมำได้
่ กลับยำกจะดำเนินกำร ที่ น่ำขันก็คือ
ก่อนหน้ ำนี้ บิดำได้กำหนดงำนมงคลสมรสให้ นำงกับบุตรชำย
ของผู้สำเร็จรำชกำรเจิ้งเอวี๋ ยน คำดไม่ถึงว่ ำคู่หมำยของนำง
จะต้องโทษถูกตัดหัวตำมบิดำของเขำไปด้วย

มันคงเป็ นโชคชะตำ เมื่อเที ยบกับเขำแล้วนำงยังมีชีวิต


อยู่ ท่ ำมกลำงควำมโชคดีที่ไม่น่ำยินดีนี้นำงได้แต่ตำหนิตัวเอง
ในใจ ถำนหวันช ่ ิ งรู้สึกหมดอำลัยตำยอยำก ไม่เหลือควำมคิด
อ่ำนใดๆ อีกต่อไปแล้ว

เวลำนี้ ก็เหมือนกัน นำงไม่อยำกคิดถึงสิ่งใดทัง้ นั น้ ทำ


เพียงกอดเข่ำเหม่อมองไปยังพำยุฝนด้ำนนอกอย่ำงซึ มเซำไม่
รูส้ ึกรูส้ ำ

7
“คุณ หนู เ จ้ ำ คะ คุณ หนู . ..” ร่ ำ งมอมแมมในชุ ด เสื้ อ ผ้ ำ
เปี ยกเปื้ อนยุ่งเหยิงที่ นอนห่ำงออกไปไม่ไกลนักคือลุ่ยจู สำวใช้
คนสนิทรู้สึกตัวตื่ นขึ้นจำกสภำพสลบไสลไม่ได้สติ แล้วพบว่ำ
ตัวเองยังคงอยู่ในชุดนักโทษเช่นเดียวกับหญิงสำวที่ นัง่ คุดคู้อยู่
ตรงโคนต้นไม้ นำงรีบคลำนไปหำคุณหนูของตนโดยไม่คำนึ งถึง
บำดแผลบนร่ำงกำยสักนิด

“คุณหนู คุณหนูไม่เป็ นอะไรใช่ไหม บำดเจ็บหรือไม่เจ้ำ


คะ?” น้ำเสียงนัน้ สันเครื
่ อพอๆ กับร่ำงที่กำลังสันสะท้
่ ำน

ลุ่ยจูกวำดสำยตำไปรอบๆ บริเวณ ไม่เห็นเจ้ำหน้ ำที่ ของ


รำชสำนั กหรือโจรภูเขำเลย ในยำมนี้ มีเพี ย งพวกนำงสองคน
เท่ำนัน้ จึงรู้สึกฉงนอยู่ไม่น้อย “นี่ พวกเรำ... พวกเขำ... คนพวก
นัน้ ล่ะ?...”

“อำจู พวกเรำหลอกคนพวกนัน้ สำเร็จและหนี ออกมำได้


่ ิ งลุกขึ้นนัง่ กุมมือสำวใช้เอำไว้และเผยรอยยิ้ม
แล้ว” ถำนหวันช
บำงๆ ออกมำในที่สดุ

ณ เวลำนี้ แม้จะเข้ำตำจนอยู่ในป่ ำเปลี่ยวแถบชำยแดน


แต่ในเมื่อร่ำงกำยเป็ นอิสระ ไม่ว่ำจะภูเขำ หินผำ หรือแม้แต่ไอ
ฝนอันขมุกขมัว มองแล้วก็ล้วนงดงำมไปเสียหมด
8
แผ่นฟ้ ำผืนดินกว้ำงใหญ่ช่ำงเจริญหูเจริญตำยิ่งนัก

“หนี ออกมำแล้วหรือ? หนี ออกมำแล้วจริงๆ ด้วย!” ลุ่ยจู


ถำมเองตอบเองด้ วยควำมตื่ นเต้ นรำวกับได้ ยกหินก้ อนใหญ่
ออกจำกอก ดวงตำแดงกำ่ สุดท้ำยก็มีน้ำตำไหลหยดลงมำ

ในที่ สุดคุณหนู กห็ นี ออกมำได้ ไม่มีผ้ใู ดเข้ำใจคุณหนู ดี


เท่ ำกับนำง คุณหนู หวันช ่ ิ งทัง้ ฉลำดหลักแหลมและอดทนเก่ง
เป็ นที่ สุด ในบรรดำลูกหลำนทัง้ หมดของตระกูลถำน ล้วนไม่มี
ผูใ้ ดโดดเด่นเกินหน้ ำคุณหนูของนำงสักคนเดียว

หลัง จำกที่ ร ำชส ำนั ก มี ร ำชโองกำรให้ ยึ ด บ้ ำ นและ


ทรัพย์สินของตระกูลถำน ทุกอย่ำงเกิดขึ้นกะทันหันจนไม่อำจ
เ ก็ บ กว ำดสิ่ งใดได้ ทั น บ รรด ำญำติ พี่ น้ อง ต่ ำง ถู ก ถอด
เครื่องประดับออกไปต่อหน้ ำต่อตำ ขนำดต่ำงหูกำไลชิ้นเล็กชิ้น
น้ อยก็ยงั ถูกดึงเก็บไปจนเกลี้ยง ทุกคนร้องไห้กนั ระงม มีเพียง
คุณหนู หวันช ่ ิ งเท่ ำนั น้ ที่ สงบนิ่งและเฝ้ ำรอดูสถำนกำรณ์ อย่ำง
อดทน

เจ้ำหน้ ำที่ ของรำชสำนั กได้รบั คำสัง่ ให้ นำตัวคนตระกูล


ถำนออกจำกเมื อ งโดยเร็ว ที่ สุด อย่ ำ งน้ อ ยก็ต้ อ งภำยในครึ่ ง
เดือน
9
กำรเดินทำงยิ่งไกลจำกฮ่องเต้ผ้สู ูงส่งเท่ำไร ระหว่ำงทำง
ก็ได้เห็นโฉมหน้ ำที่ แท้จริงของพวกเจ้ำหน้ ำที่ ในรำชสำนักมำก
ขึ้นเท่ำนัน้ โดยเฉพำะเมื่อเริ่มเข้ำสู่เขตเมืองเว่ยอันของแคว้นอี้
พวกเขำก็ยิ่ งท ำตัวระรำนเกินกว่ำเหตุ ทัง้ ยัง พ่ นวำจำเหยี ยด
หยำมเชือดเฉื อนอยู่ตลอดเวลำ

ขณะที่ อยู่แถวนอกเมืองซึ่งมีสภำพแวดล้อมที่ ไม่เลวแต่


จู่ๆ กลับมีโจรภูเขำปรำกฏตัวขึน้

่ ิ งกับนำงฉวยโอกำสนี้ กดั เม็ดยำลูกกลอน


คุณหนู หวันช
เล็กๆ ที่ซ่อนไว้ใต้ลิ้น เดิมทีคณ
ุ หนูใช้เงินสะสมกว่ำครึ่งลักลอบ
ติ ดสิ นบนซื้ อ มัน มำเพื่ อ เตรี ย มไว้ ใ ช้ ใ นคุ ก ยำนี้ จะช่ ว ยให้
สำมำรถกลัน้ หำยใจและแกล้งตำยได้ระยะหนึ่ ง ถ้ำหำกศพถูก
ลำกไปฝังก็อำจจะยังมีชีวิตรอดไปได้ ไม่นึกว่ำจะได้นำมำใช้ที่นี่
เสียก่อน

เรื่องอันตรำยล้วนผ่ำนไปแล้วทัง้ สิ้น ลุ่ยจูพนมมือพลำง


กล่ำวออกมำอย่ำงจริงใจ “ขอบคุณฟ้ ำดิน ต่อจำกนี้ ไปได้โปรด
ปกป้ องคุ้มครองคุณหนูของข้ำให้แคล้วคลำดปลอดภัย พ้นทุกข์
พ้นโศกด้วยเถิด...”

10
่ ิ งมองสำวใช้ ด้วยควำมรู้สึกซำบซึ้ง ทำให้ นึก
ถำนหวันช
ถึงสำวใช้ คนสนิทอี กสำมนำงที่ ตนช่วยเหลือโดยกำรบังคับให้
รีบแต่งออกจำกจวนไป มีเพียงลุ่ยจูเท่ำนัน้ ที่ไม่ว่ำเป็ นตำยร้ำยดี
อย่ำงไรก็จะขออยู่ข้ำงกำยนำงไม่ไปไหน

ตระกูลถำนเกิดเรื่องครำวนี้ เดิมที ลุ่ยจูต้องถูกส่ งตัวไป


ขำย แต่ ถำนหวันช ่ ิ งแอบนำเหรียญทองเล็กๆ ที่ สะสมไว้ช่วย
สำวใช้ ผ้ภู กั ดี กลับมำได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ยิ่งละอำยใจนั ก หญิง
สำวยื่นไปดึงมือของลุ่ยจูมำอีกครัง้ พลำงมองนำงอย่ำงละเอียด
แต่ ก่ อ นที่ เ ลี้ ย งดูก นั มำใบหน้ ำ นี้ เ คยอิ่ ม เต็ม ทุ ก วัน นี้ ก ลับ ถูก
ทรมำนเสียจนใบหน้ ำซูบตอบเหลือเท่ำฝ่ ำมือ ยังอุตส่ำห์มีแก่ใจ
นึ กถึงผูเ้ ป็ นนำยก่อน

ถำนหวันช่ ิ งเอ่ ยกับสำวใช้ ด้วยน้ ำเสี ยงอบอุ่น “ข้ำบอก


แต่แรกแล้วให้เจ้ำแต่งออกไปพร้อมคนอื่นๆ หำกติดตำมข้ำก็
ต้ องลำบำกเช่ นนี้ ตอนนี้ ตระกูลถำนไม่อยู่ในฐำนะจะเอ่ยปำก
อะไรได้ อี ก เพรำะล้ ว นเป็ นคนต้ อ งโทษ ในเมื่ อ พวกเรำหนี
ออกมำได้ ไม่มีฐำนะสูงตำ่ อะไรแล้ว เจ้ำกับข้ำเรียกขำนกันดุจพี่
น้ องเถิด เรำต่ำงพึ่งพำอำศัยกันและกัน เจ้ำว่ำดีหรือไม่?”

11
ลุ่ยจูได้ ยินดังนั น้ ขอบตำก็รื้นขึ้นด้วยควำมตื้นตัน นำง
เม้ ม ริ ม ฝี ปำกแล้ ว กล่ ำ วว่ ำ “คุณ หนู . ..บ่ ำ วจะกล้ ำ ได้ อ ย่ ำ งไร
ไม่ได้หรอกเจ้ำค่ะ”

สำยฝนในฤดูใ บไม้ ผ ลิ ย งั คงโปรยปรำยเหมื อ นจะไม่ มี


วันหยุด สองนำยบ่ำวไม่ทนรออี กต่ อไป ถึงแม้บริเวณนี้ จะพอ
ปกปิดอำพรำงกำยได้บำ้ ง แต่กอ็ ยู่ไม่ห่ำงจำกจุดที่เจ้ำหน้ ำที่รำช
สำนักกับโจรภูเขำปะทะกัน เกรงว่ำไม่ใครก็ใครอำจจะมำตำม
พวกนำงจนพบ

ถำนหวันช่ ิ ง อดที่ จะสงสัย ไม่ได้ ระหว่ ำงกำรเดิ น ทำงที่


เต็มไปด้วยภูเขำแห้งแล้งกันดำร เหตุใดพวกโจรจึงมำปล้นจี้ทำ
ร้ำยกลุ่มนักโทษซึ่งไม่มีทงั ้ เงินและเสบียงเล่ำ? แม้มีอีกหลำยสิ่ง
ชวนให้ประหลำดใจ แต่ตอนนี้ นำงไม่มีเวลำครุน่ คิดมำกนัก

หญิง สำวทัง้ สองเร่ง สวมชุด ของโจรภูเ ขำแล้ ว ขว้ ำ งชุ ด


นักโทษไว้ในพุ่มไม้บนเนิน ก่อนจะรีบร้อนจำกไป

่ ิ งกับลุ่ยจูไปได้ไม่นำน ตรงลำธำรสำย
หลังจำกถำนหวันช
เล็กระหว่ำงภูเขำปรำกฏทหำรม้ำจำนวนสิบนำย หนึ่ งในนัน้ เป็ น
ชำยหนุ่มสวมชุดเกรำะและหมวกเหล็ก ในมือถือดำบสีดำย้อม
เลือดข้นคลัก่
12
ทันที ที่เหล่ำทหำรม้ำมำถึงก็พยำยำมรัง้ บังเหี ยนให้หยุด
พวกเขำเห็นลำธำรที่คดเคี้ยวทอดยำวเปลี่ยนสี เนื่ องจำกเลือด
กับน้ ำฝนไหลกลืนเข้ำด้วยกัน มีทงั ้ ร่ำงนั กโทษ เจ้ำหน้ ำที่ ของ
รำชสำนักและโจรภูเขำตำยเกลื่อนกลำด

ทหำรม้ำเก้ำในสิบนำยกระโดดลงจำกหลังม้ำสีดำปลอด
ต่ ำ งแยกย้ ำ ยกัน พลิ ก ร่ ำ งศพเพื่ อ ตรวจลมหำยใจและส ำรวจ
โดยรอบ

“ข้ำได้ยินมำว่ำ ในบรรดำผู้สำเร็จรำชกำรทัง้ สำม...เจิ้ง


เอวี๋ยนถูกบันคอ ่ ส่วนหรันอี่ ชิงรับพระรำชทำนยำพิษให้ ฆ่ำตัว
ตำย และถำนเฉิงจี้ถกู ปลดออกจำกขุนนำงพร้อมกับถูกเนรเทศ
ทัง้ ครอบครัว หำกนับวันดูแล้ว วันนี้ พวกเขำต้ องเดินทำงผ่ำน
เมื อ งเว่ ย อัน นั ก โทษนี่ น่ ำ จะเป็ นกลุ่ ม คนของตระกูล ถำนนะ
ขอรับ” นำยทหำรลำดตระเวนผูห้ นึ่ งกล่ำวพลำงรวบบังเหียนมำ
จำกชำยหนุ่มในชุดเกรำะ

เขำครุ่นคิดอี กนิดก่อนจะเสนอว่ำ “ท่ ำนแม่ทพั อย่ำได้


คิดหวำดระแวงไปเลย หำกท่ำนมีควำมแค้นกับถำนเฉิงจี้ มิส้สู งั ่
ให้ทหำรเล็กๆ สักสิบกว่ำนำยสวมรอยเป็ นโจรภูเขำออกไปตำม
ล่ ำ จะได้ ต ั ด รำกถอนโคนไปเสี ย ที เ ดี ย ว” แล้ ว นำยทหำร
ลำดตระเวนผู้นัน้ ก็หนั หน้ ำไปส่งสัญญำณกับเพื่อนๆ ด้ำนหลัง
13
“ฟั งนะพวกเรำ ไล่ตำมพวกมัน หนึ่ งชี วิตก็อย่ำให้ เล็ดลอดไป
ได้!”

ไม่ ท ัน ได้ เ อ่ ย ปำกประจบต่ อ พริ บ ตำเดี ย วนำยทหำร


ลำดตระเวนปำกพล่อยวำจำเลื่อนเปื้ อนผู้นี้กถ็ กู ดำบในมือท่ำน
แม่ทพั ปลิดลมหำยใจไปอย่ำงเงียบกริบ แม้แต่เลือดก็ยงั ไม่กล้ำ
กระเซ็นให้เห็น

แม่ทพั หนุ่มหันกลับมำมองนำยทหำรม้ำด้ำนข้ำงตนด้วย
สีหน้ ำเย็นชำ ผูถ้ กู มองถึงกับใจเต้นระรัว รีบก้มหน้ ำหลบสำยตำ
ไปมองที่ หวั ม้ำพลำงกำมือแน่ น มีนำยทหำรสองสำมคนที่ เพิ่ง
ออกไปสำรวจ กำลังควบม้ำกลับมำรำยงำน “ใต้เท้ำขอรับ มีศพ
ชำยสิบเอ็ดศพ แต่ไม่พบศพที่เป็ นหญิงเลย”

“ใต้ เ ท้ ำ ดู จ ำกจ ำนวนน่ ำจะเหลื อ รอดไปได้ ส องคน


ขอรับ”

ไม่นำนนัก ทหำรม้ำนำยหนึ่ งก็อ้มุ สิ่งของบำงอย่ำงวิ่งเข้ำ


มำอย่ำงรวดเร็ว “มีเสื้อผ้ำถูกโยนไว้ทำงเหนื อตรงเนินเขำขอรับ
ที่ใต้ต้นไม้ยงั มีรอยเท้ำ ดูเหมือนจะเป็ นรอยเท้ำผูห้ ญิงเสียด้วย”

14
ใต้เท้ำในชุดเกรำะผู้รงั ้ ตำแหน่ งแม่ทพั ไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด
เพียงใช้ดำบในมือเสียบเข้ำที่เสื้อผ้ำ สะบัดเบำๆ จนคลี่ออก จึง
ได้เห็นอักษรตัวใหญ่บนชุดที่เปื้ อนครำบเลือด

เป็ นคำว่ำ ‘นักโทษ’

“ตำมไป!” แม่ ท ัพ หนุ่ ม กัด ฟั น แน่ น มองตัว อัก ษรด้ ว ย


สำยตำแข็งกร้ำว “ต่อให้พลิกภูเขำทัง้ ลูก ก็ต้องลำกนำงกลับมำ
ให้ข้ำ!”

15
บทที่ 2 ไล่ล่ำคนงำม

ฝนเทกระหน่ำแรงขึน้ เรือ่ ยๆ

ณ อำรำมร้ำงแห่งหนึ่ งกลำงไหล่เขำ ไฟตะเกียงดวงใหญ่


สว่ำงวำบขึน้

แสงสี ส้มนวลสลัวส่องสะท้อนลอดออกมำตำมรอยซ่อม
ปะบนหน้ ำต่ ำง ทว่ำ... ท่ ำมกลำงพำยุฝนที่ สะเทื อนไหวไปทัว่
ขุ น เขำจนมื ด ฟ้ ำมัว ดิ น บรรยำกำศกลั บ เงี ย บสงัด อย่ ำ ง
ประหลำด

หญิ ง สำวนำงหนึ่ งนั ง่ อยู่ ห น้ ำโต๊ ะ อำหำรเก่ ำ คร ่ำ คร่ ำ


ภำยใต้แสงสว่ำงวับแวม ถำนหวันช ่ ิ งกำลังเช็ดผมเปี ยกชื้นของ
ตนเงียบๆ พลันแว่วเสี ยงบำงอย่ำง นำงชะงักกำรเคลื่อนไหว
แล้วเงี่ยหูฟังอย่ำงอดไม่ได้ แต่นอกจำกเสียงพำยุฝนโหมแรงกับ
เสี ย งกิ่ ง ก้ ำ นใบที่ ฟ ำดกระทบกัน อยู่ด้ ำ นนอก นำงก็ไ ม่ ไ ด้ ยิ น
เสียงสิ่งอื่นใดอีก

“คุณหนู!” เท้ำเล็กๆ ของลุ่ยจูก้ำวเข้ำมำก่อนจะหันหลัง


ปิ ดประตู ผ ุพ งั ในมื อ ถื อ เพี ย งหวี ที่ เ ก่ ำ แล้ ว เล่ ม หนึ่ ง นำงถอด
รองเท้ ำ ออกอย่ ำ งคล่ อ งแคล่ ว พลำงบอกนำยสำวว่ ำ “บ่ ำ ว

16
ต่ อรองรำคำหวีกบั นักพรตหญิงที่ อยู่ที่นี่มำได้เล่มหนึ่ ง บ่ำวจะ
สำงผมให้คณุ หนูนะเจ้ำคะ”

พอได้ ยิ น ลุ่ ย จูก ล่ ำ วเช่ น นั ้น ถำนหวันช


่ ิ ง ก็เ พิ่ ง นึ ก ออก
อย่ำว่ำแต่หวีผมเลย นำงแทบจำไม่ได้แล้วว่ำสระผมครังสุ ้ ดท้ำย
เมื่อไร ชีวิตได้แต่ฝำกฝังวำสนำไว้กบั น้ำฝน หญิงสำววำงมือบน
ผ้ำฝ้ ำยหยำบสีจำงแล้วพยักหน้ ำ

ลุ่ยจูเคลื่อนกำยไปด้ำนหลังนำยสำว ค่อยๆ สำงผมอย่ำง


ระมัดระวัง กำรเดินทำงหนนี้ ผำ่ นไปไม่ถึงเดือนเสียด้วยซำ้ พวก
นำงกลับมี ใบหน้ ำสกปรกมอมแมม แม้แต่ ผมเผ้ำของคุณหนู
นำงยังไม่มีเวลำดูแลเอำใจใส่ ขณะที่ในใจวิตกกังวลอยู่นัน้ ปม
ยุ่งเหยิงบำงส่ วนบนศี รษะเจ้ำนำยก็ถกู สำงจนคลำยออกบ้ำง
แล้ว

นึ ก ถึ ง แต่ ก่ อ นเมื่ อ ครัง้ อยู่ จ วนตระกูล ถำน คุณ หนู ถ ูก


เลี้ยงมำรำวกับ ไข่ในหิน แต่ จำกนี้ ไปคงไม่ได้กลับเป็ นเหมือน
ก่ อน ลุ่ย จูรู้สึ กปวดใจจนฝ่ ำมื อแทบจะกำหวี ไ ม่ อยู่ ตัว เองยัง
ลำบำกถึงขนำดนี้ แล้วคุณหนูเล่ำ?

มือของนำงเคลื่อนไหวแผ่วลง “บ่ำวจะเกล้ำผมให้คณ
ุ หนู
นะเจ้ำคะ”
17
ถำนหวันช ่ ิ งนิ่งฟั งเสี ยงฝนอยู่นำน หำกในใจกลับไม่นิ่ง
เช่นที่ แสดงออก จัดแต่งทรงผมอย่ำงนัน้ หรือ หญิงสำวเอ่ยปำก
“เกล้ำไปก็แค่นัน้ ตอนนี้ สถำนะของพวกเรำเป็ นเช่นไร ไยต้อง
มำพิถีพิถนั กับเรื่องนี้ เหล่ำนี้ ด้วย” ให้ผ้คู นได้พบเห็นสภำพสิ้น
หวังน่ ำละเหี่ ยใจย่อมเป็ นกำรดี อย่ำงน้ อยก็เดินทำงรอนแรม
ต่ อ ไปได้ อ ย่ ำ งปลอดภัย นึ ก ถึ ง เรื่ อ งนี้ แ ล้ ว ก็อ ดต ำหนิ สำวใช้
ขึ้นมำไม่ได้ “มิใช่เคยบอกเจ้ำแล้วหรือ ต่อไปไม่ต้องเรียกข้ำว่ำ
คุณหนูอีก ทำไมยังไม่เปลี่ยนคำพูด?”

ลุ่ยจูที่อยู่ข้ำงหลัง ได้ แต่ รบั ปำก ไม่ได้ ใส่ ใจมำกนั ก คิด


เพี ย งว่ ำ ถึ ง อย่ ำ งไรก็เ รี ย กขำนกัน ในพื้ น ที่ ส่ ว นตัว จึ ง ไม่ ไ ด้
เคร่ง ครัด ตำมนำยสำว ยำมอยู่ต่ อหน้ ำผู้อื่ น จึ ง ค่ อยระวัง แต่
ถำนหวันช ่ ิ งเกรงว่ำสำวใช้ จะเผลอหลุดปำกเรียกให้ ใครได้ยิน
จนถูกสงสัยเอำได้

หญิง สำวทอดถอนใจ รู้ว่ ำลุ่ย จูไม่ เ ข้ ำใจเจตนำของตน


ร่ ำ งบำงหมุ น ตัว กลับ หลัง ก ำลัง จะดึ ง หวี ม ำจำกสำวใช้ ทว่ ำ
จัง หวะนั ้ น นำงเหมื อ นกั บ ได้ ยิ นเสี ย งบำงอย่ ำ ง มื อ พลั น
หยุดชะงัก

“คุณหนู ?” ลุ่ยจูไม่รู้อีโหน่ อีเหน่ ได้ แต่ มองตำมออกไป


ทำงนอกหน้ ำต่ำง
18
่ ิ งรีบออกเสียงปรำม เงี่ยหูฟังอย่ำงตัง้ ใจ
“ชู่...” ถำนหวันช
ด้ ำ นนอกยัง คงมี แ ต่ เ สี ย งซู่ ซ่ ำ ของพำยุ ฝ น ไร้ ส รรพเสี ย งอื่ น
แทรก นำงครุ่นคิดในใจแล้วหันไปถำมลุ่ยจู “เมื่อครู่ เจ้ำได้ยิน
เสียงอะไรหรือไม่?”

หวี ในมื อยังคงสำงผมไม่หยุด หำได้ ใส่ ใจกับสิ่งใดด้ ำน


นอก ผูถ้ กู ถำมได้แต่ส่ำยหน้ ำ “ไม่มีนะเจ้ำคะ”

“แล้ว...ก่อนเจ้ำจะเข้ำมำในห้ องเล่ำ ได้ยินเสี ยงม้ำร้อง


บ้ำงหรือไม่?”

“คุณ... คุณหนู...อย่ำทำให้บ่ำวกลัวสิเจ้ำคะ ข้ำงนอกนัน่


นอกจำกเสี ยงฝนแล้ว บ่ำวก็ไม่ได้ยินเสี ยงอะไรอี ก” ไม่มีเสี ยง
ใดเด่นชัดเป็ นพิเศษ ที่ นี่เป็ นอำรำมร้ำงบนเขำไร้ผ้คู น ภำยใน
อำรำมมีนักพรตหญิงวัยห้ำสิบปี อำศัยอยู่เพียงลำพังเท่ำนัน้ แค่
เสียงกึกกักเล็กน้ อยก็ชวนให้ขนลุกแล้ว

่ ิ งเห็นใบหน้ ำลุ่ยจูซีดเผือดจึงปลอบใจว่ำ “ข้ำ


ถำนหวันช
คงหูแว่วไปเอง”

“จริ ง ด้ ว ยเจ้ ำ ค่ ะ ” ลุ่ ย จูรี บ เออออส ำทับ “ฝนตกลงมำ


กระทบต้นไม้ใบหญ้ำกรวดหินต่ำงๆ พอรวมกันแล้วก็อำจจะมี

19
เสี ยงฟู่ ๆ ซู่ๆ กึกกักๆ แปลกไป หรืออำจจะเป็ นเสี ยงสัตว์ป่ำที่
ร้องเหมือนม้ำก็เป็ นไปได้นะเจ้ำคะ”

ลุ่ยจูในเวลำนี้ แม้แต่คำว่ำ ‘บ่ำว’ ก็เผลอพูดโพล่งออกมำ


จำกปำก ไม่แปลกที่ คุณหนูของนำงจะเป็ นกังวล อุตส่ำห์แกล้ง
ตำยจนหนี ออกมำได้ หำกต้ องถูกจับ กลับไปอี กรอบ ย่ อมไม่
แคล้วมีควำมผิดเพิ่มขึ้นอีกกระทง คือเป็ นนักโทษหลบหนี ของ
รำชสำนั ก ถึงเวลำนั น้ ต่ อให้ มีสกั กี่ ร้อยปำกก็ไม่อำจแก้ต่ำงได้
อีก

ดัง นั น้ เมื่ อกล่ ำวถึง เสี ย งฝี เท้ ำม้ ำ ควำมกลัว ท ำให้ ลุ่ ย จู
พยำยำมเลี่ยงไม่คิดไปว่ำนัน่ อำจจะเป็ นเสียงม้ำของทำงกำรซึ่ง
มำตำมหำพวกนำง

ส่ ว นถำนหวัน่ ชิ ง แม้ จ ะหนี ออกมำได้ แ ต่ ใ จก็ ย ัง ไม่


สำมำรถสงบ คนที่ใจไม่นิ่งก็มกั จะระแวงระวังหลัง หวำดผวำไป
เสียทุกสิ่ง แต่ที่สำวใช้ของนำงกล่ำวเมื่อครูก่ พ็ อมีเหตุผลอยู่บำ้ ง

จริงสิ นำงทัง้ สองเป็ นหญิง... ผู้หญิงนั บว่ำเป็ นสมำชิกที่


ไม่ได้มีค่ำอะไรมำกมำยของบ้ำนตระกูลถำน เมื่อมีกำรจับกุม
ใดๆ ก็ตำม ผู้ชำยและทำยำทชำยมักจะเป็ นเป้ ำหมำยหลักของ
กำรโค่นล้มและถอนรำกถอนโคน ส่วนผู้หญิงกลับไม่สำคัญเท่ำ
20
กำรที่ ทำงกำรจะส่ งคนมำไล่ตำมพวกนำงสองคนที่ เป็ นเพี ยง
หญิงสำวบอบบำงจึงเป็ นเรื่องที่ เป็ นไปไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ ฝนตก
หนัก ไหนจะมีอนั ตรำยจำกโจรภูเขำอีก

หูนำงอำจจะฟังผิดไปจริงๆ ก็เป็ นได้

พอคิดได้อย่ำงนี้ ใจของถำนหวันช ่ ิ งก็สงบลง นำงเลื่อน


สำยตำมองออกไปทำงประตูด้ำนนอก กระซิบถำมลุ่ยจูว่ำ “เจ้ำ
น่ ำจะเคยได้ ฟังอำจำรย์กล่ำวถึงเรื่องรำวของนั กพรตหญิงมำ
บ้ำงแล้ว ใช่หรือไม่?”

พูดถึงเรื่องนี้ ลุ่ยจูกร็ ีบพยักหน้ ำ ตอบกลับไปว่ำ “เจ้ำค่ะ


นักพรตหญิงท่ ำนนัน้ มิได้ตอบรับหรือปฏิเสธพวกเรำ เพียงพูด
แค่ว่ำจะช่วยพวกเรำคิดหำหนทำง”

“พวกเรำขอควำมช่ วยเหลือจำกผู้อื่น ไม่สมควรให้ เขำ


ช่วยเปล่ำ”

เมื่ อ กล่ ำ วจบถำนหวัน่ ชิ ง ก็ล้ ว งกระบอกสี เ หลื อ งทอง


เล็กๆ ออกมำจำกแขนเสื้อ ที่ จริงของสิ่งนี้ ไม่ใช่ อื่นใด แต่ เป็ น
กระบอกใส่ทองคำแท้

21
ตอนอยู่ในจวนตระกูลถำน ปกติบรรดำเจ้ำนำยใหญ่โต
มักจะตกรำงวัลบ่ำวรับใช้ เป็ นก้ อนเงินก้ อนทอง บ้ำงก็ให้ เท่ ำ
เมล็ดกวยจี๊หรือเมล็ดถัว่ บ้ำงก็ให้ รูปปั น้ หรือรูปแกะสลักสัตว์
มงคลเล็กๆ หรือสิ่งของมงคลอื่นๆ เพื่อเป็ นกำรปูนบำเหน็จ

่ ิ งชอบให้ช่ำงแกะสลักก้อนทองของนำงให้เป็ น
ถำนหวันช
เหรียญกษำปณ์ ทองคำ ตีอกั ษรสิริมงคลบนเหรียญแล้วห่อด้วย
กระดำษ เมื่ออยู่ในที่ ลบั บ่ำวรับใช้ ส่วนใหญ่ มกั จะเรี ยกมันว่ำ
‘เงินก้อน’ หรือ ‘เงินขนมเปี๊ ยะ’ ซึ่งคนเมืองนิยมทำเช่นนี้ กนั ไม่
น้ อยในช่วงระยะเวลำหนึ่ ง

เมื่อจวนตระกูลถำนเกิดเรื่อง ถำนหวันช
่ ิ งมีเวลำเพียงแค่
เก็บห่อเหรียญยัดใส่ในมวยผมดกหนำของตน โชคดีที่ไม่มีผ้ใู ด
ค้นเจอ

เดิ ม ที ใ นกระบอกเหลื อ ง ทองขนมเปี๊ ยะที่ ว่ ำ มี อยู่สี่ สิ บ


เหรียญ ถำนหวันช ่ ิ งนำออกมำไถ่ตวั ลุ่ยจูยี่สิบกว่ำเหรียญ ตอนนี้
จึงเหลืออยู่ไม่มำก นำงเขย่ำกระบอกในมือเบำๆ เพื่อคำดคะเน
น้ ำหนั กก่อนจะยัดทัง้ หมดใส่ มือของลุ่ยจูเพื่อให้ นำไปมอบแก่
นักพรตหญิงท่ำนนัน้

22
ลุ่ ย จู ส องจิ ต สองใจอยู่ บ้ ำ ง นำงตัด ใจไม่ ล งหำกจะยก
เหรียญให้ฝ่ำยนัน้ ไปทัง้ หมด แต่ดจู ำกท่ำทำงจริงจังของคุณหนู
แล้ว นำงจึงจำต้องนำทองขนมเปี๊ ยะเล็กๆ เหล่ำนี้ สอดเข้ำไปใน
แขนเสื้อของตน แล้วหมุนตัวเดินออกไป

เมื่อปรำศจำกสำวใช้ ถำนหวันช ่ ิ งจึงกลับมำครุ่นคิดเรื่อง


ของตัวเอง จริงอยู่ว่ำตอนนี้ นำงหนี ออกมำได้หลังจำกที่ แกล้ง
ตำย... แต่ ในเมื่อขึ้น ชื่ อว่ ำตำยแล้ ว บุต รสำวอัน ดับ หนึ่ ง ของ
ตระกูลถำนก็จะไม่มีตวั ตนบนโลกนี้ อีก เช่ นนั น้ แล้วระหว่ำงที่
เดินทำงรอนแรม นำงควรจะบอกผูอ้ ื่นว่ำตนเป็ นใครดีล่ะ?

หลังจำกที่ได้ทำควำมเข้ำใจอย่ำงจริงจังมำหลำยวัน นำง
เพิ่งตระหนักอย่ำงชัดแจ้งว่ำ ‘ระเบียบกำรควบคุมสำมะโนครัว’
ในช่วงเวลำนี้ เข้มงวดกวดขันยิ่งนัก

สำมะโนครัวคือรำยชื่อสมำชิกในบ้ำนที่ ต้องจ่ำยค่ำภำษี
ตำมกฎหมำย ทุ ก ๆ บ้ำ นจะต้ อ งแสดงรำยชื่ อ ส ำมะโนครัว ที่
ชัด เจน ครบถ้ ว นสมบู ร ณ์ แ ละโปร่ ง ใส เพื่ อ ให้ ท ำงรำชส ำนั ก
ตรวจสอบได้ทุกเมื่อ

ที่ จ ริ ง กำรจะท ำส ำมะโนครัว สัก ฉบับ นั น้ ไม่ ไ ด้ ย ำกเย็น


อะไร ทว่ำสถำนะปั จจุบนั ของนำงต่ ำงหำกที่ ทำให้ ทุกอย่ำงมัน
23
ยำก หำกนำงคิดจะหนี ไปอย่ำงปลอดภัย นำงจำเป็ นจะต้องมีใบ
สำมะโนครัวเพื่อรับรองฐำนะของตนเอง และเป็ นใบเบิกทำงใน
กำรเข้ำออกเมืองต่ำงๆ หำกไม่มี... แม้คิดจะเดินเพียงก้ำวเดียว
ก็ยงั ลำบำก

โชคดี ที่กำรเดินทำงในวันนี้ ไร้ผ้คู น ที่ แห่ งนี้ เป็ นอำรำม


ของนั กพรตหญิง ถ้ำหำกนำงบริจำคอย่ำงพอเหมำะพอควร ก็
อำจสำมำรถเปลี่ ยนสถำนะของตนและสำวใช้ ให้ เป็ นนั กพรต
หญิงสองรูปได้ ต่อไปพวกนำงก็พอจะอำศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งได้
เช่นคนทัวไป

ขณะที่ถำนหวันช ่ ิ งกำลังคิดอยู่นัน้ ลุ่ยจูกป็ ระคองถำดน้ ำ


ร้อนเข้ ำมำโดยมี นักพรตหญิง เดินตำมมำด้ ำนหลัง ที่ ผ่ำนมำ
ชี วิ ต ของท่ ำ นนั ก พรตคงประสบควำมยำกล ำบำกมำไม่ น้ อย
สตรีวยั ห้ำสิบกว่ำปี ผูน้ ี้ ดไู ม่ต่ำงจำกคนอำยุหกสิบ

นักพรตหญิงมองร่ำงบอบบำงที่ นัง่ อยู่ข้ำงโต๊ะอย่ำงสงบ


หลังจำกได้ล้ำงหน้ ำเช็ดผมจนสะอำดแล้วจึงพบว่ำแม่นำงผู้นี้มี
เรือนผมลื่นสลวยดุจกลุ่มไหม ผมแต่ละเส้นเรียงตัวลงมำตัดกับ
ผิวขำวละมุนละไม ทำให้ ผ้มู องรู้สึกเหมือนเห็นดวงไฟเจิด จ้ำ
ส่องสว่ำงอยู่ท่ำมกลำงห้องโกโรโกโสแห่งนี้ กไ็ ม่ปำน

24
ไม่ ต้ อ งเอ่ ย ปำกถำมก็รู้ว่ ำ สตรี ต รงหน้ ำมี ช ำติ ต ระกูล
สูงส่งสักเพียงใด

ส่ วนเด็กสำวอี กคนที่ เอำแต่ พูดจำวกวนเรื่องที่ น ำงกับ


ญำติ ส ำวถูก โจรภูเ ขำปล้ น ระหว่ ำ งกำรเดิ น ทำง ลัก ษณะกำร
พู ด จำดู ช่ ำงไม่ ป ระสี ประสำรำวกั บ คนห่ ำงสั ง คม ขำด
ประสบกำรณ์ ชีวิต วำงตัวเหมือนคนไม่เคยเห็นโลกภำยนอก
ดุจดังคนแก่
่ หตู ำฝ้ ำฟำงกระนัน้ ไม่แน่ ว่ำนำงคงเป็ นสำวใช้ ใน
เรือน

นั ก พรตหญิ งเดิ นตรงเข้ ำ ไปนั ง่ บนเตี ย งซอมซ่ อ ใน


ห้องพัก เห็นได้ชดั ว่ำหญิงงำมเจ้ำของห้องกำลังรู้สึกทดท้ อสิ้น
หวัง ครัน้ นึ กถึงตอนที่ สำวใช้ผ้นู ัน้ ยัดกษำปณ์ ทองคำให้กบั ตน
เมื่อครู่ เพี ยงสำมสี่ เหรียญก็น่ำจะหนั กถึงสองตำลึ งทอง หำก
เปลี่ ย นเป็ นเงิ น แล้ ว ก็อำจจะได้ ถึง สำมสิ บ หรือสี่ สิ บ ตำลึ ง เลย
ทีเดียว

ผู้ที่ มีฐ ำนะทำงสัง คมเท่ ำนั น้ จึง จะใจกว้ ำงเช่ น นี้ แม้ ใน
ยำมสิ้นหวังก็ยงั หว่ำนเงิน รำวเมล็ดถัว่ เม็ดเงินนั น้ เล่ ำ... คน
ทัวไปอำจสำมำรถใช้
่ จ่ำยในชีวิตประจำวันได้ถึงหนึ่ งหรือสองปี
ทีเดียว

25
“แม่ น ำง” แม่ ชี ผ มสี ด อกเลำสะอำดสะอ้ ำ นเอ่ ย เรี ย ก
พลำงหยิบกระดำษสองแผ่นออกมำจำกอกเสื้อ “อำรำมแห่ งนี้
เคยเฟื่ องฟูมำช่วงระยะเวลำหนึ่ ง ในช่วงเวลำเหล่ำนัน้ หำกแม่
นำงจะบริจำคเงิ น ด้ ว ยต้ องกำรท ำใบรับ รองกำรเป็ นนั ก พรต
หญิงสักใบก็ยงั ทำได้ยำกยิ่ง เพรำะอำรำมไม่สนั บสนุ นกำรรับ
บริ จ ำครู ป แบบนี้ แต่ ส องสำมปี มำนี้ เป็ นช่ ว งเวลำแห่ ง ภัย
สงครำม หำสันติสุขไม่ได้ ตรงชำยแดนก็มีพวกนอกด่ำนที่ ทงั ้
โหดร้ ำ ยและใจด ำอ ำมหิ ต ยิ่ ง กว่ ำ เสื อ นั บ วัน ผู้ค นก็ยิ่ ง พำกัน
หลบหนี ไปตัง้ รกรำกที่ อื่น อำรำมนี้ จึงกลำยเป็ นอำรำมร้ำงที่ มี
แต่ข้ำอำศัยอยู่เพียงผูเ้ ดียว”

กล่ำวจบ นักพรตหญิงหยิบห่อกระดำษเก่ำห่อหนึ่ งยื่นให้


หญิงสำว มือก็ลบู ประคำสวดมนต์

“ไม่ขอปิดบังแม่นำงทัง้ สอง กำรทำใบรับรองกำรบวชนัน้


ตัวข้ ำเองยังไร้ควำมสำมำรถและกำลัง จะมี ติดตัวก็เพี ย งแต่
ใบรับรองฐำนะที่ ผ้อู ื่นเคยทิ้งไว้ หลำยปี ที่ ผ่ำนมำในอำรำมแห่ง
นี้ มีทงั ้ คนป่ วยคนตำย เหลือไว้แต่กระดำษเหล่ำนี้ เท่ำนัน้ ถึงแม้
จะเป็ นของคนตำยแต่กถ็ ือว่ำเป็ นกระดำษที่ ได้มำอย่ำงบริสุทธ์ ิ
อีกทัง้ ยังเหมำะสมกับอำยุของแม่นำงทัง้ สอง ใบรับรองนี้ พอจะ
ช่วยให้ พวกเจ้ำหลีกหนี สงั คมได้ไม่ยำก หำกต้ องกำรแม่นำงก็
เอำไปใช้ได้เลย”
26
ถำนหวันช ่ ิ งรับเอำกระดำษบนโต๊ะที่นักพรตหญิงให้ไว้มำ
คลี่ ดู แม้ เ ป็ นเพี ย งกระดำษเก่ ำ ๆ แต่ ก็ มี บ ัน ทึ ก เกี่ ย วกั บ
ภูมิลำเนำ ชื่อเดิม อำยุ สำนัก วัด อำจำรย์ที่ทำกำรบวชให้อย่ำง
ครบถ้วน กำรสวมรอยหลักฐำนของคนตำยหำกไม่ได้ สืบค้ น
ประวัติเจ้ำของเดิมให้รอบคอบอำจเดือดร้อนเข้ำสักวัน แต่นำง
ก็ไม่มีทำงเลือก ขอเพียงไม่มีผ้ใู ดซักไซ้สืบถำม แล้วใครเลยจะ
ล่ ว งรู้ ที่ นี่ ห่ ำ งไกลจำกเมื อ งหลวง คนของทำงกำรไม่ น่ ำจะ
ตรวจสอบเข้มงวดถึงเพียงนัน้ หำกอยู่เงียบๆ อย่ำงระมัดระวัง
โดยไม่ทำตัวเป็ นที่สนใจของผูค้ น ก็คงจะอยู่ได้ไม่ยำกนัก

หญิงสำวรีบคำนับนักพรตหญิงทันที “บุญคุณซือไท่ ที่ให้


ชีวิตใหม่ ข้ำไม่รจู้ ะตอบแทนอย่ำงไรหมด”

เมื่อมีใบรับรองกำรออกบวชฉบับนี้ แล้ว ถำนหวันช ่ ิ งกับ


ลุ่ยจูก็เหมือนได้ เ กิด ใหม่ ในที่ สุดก็ได้ ใช้ ชีวิตเหมื อนคนอื่ น ๆ
เสียที

นั กพรตหญิงไม่กล้ำรับกำรคำนั บ รีบประคองถำนหวัน่
ชิงกับลุ่ยจูให้ ลุกขึ้น “แม่นำงทัง้ สองวำงใจเถิด ข้ำวำงแผนจะ
ธุดงค์ไปยังวัดอื่นอยู่แล้ว ข้ำอยู่ตวั คนเดี ยวไร้บุตรหลำนจึงไม่
จ ำเป็ นต้ อ งใช้ จ่ ำ ยอะไรมำกมำย เงิ น ที่ แ ม่ น ำงบริ จ ำคก็ ใ ห้

27
บริจำคเข้ำวัดตำมจำนวนเดิมพอ หำกจะว่ำกันตำมจริงแม่นำง
ต่ำงหำกคือผูอ้ ปุ ถัมภ์ของเรำ”

ถำนหวันช่ ิ งไม่ได้ใส่ ใจเงินทองที่ ตนบริจำคนั ก ทัง้ หมด


นัน้ เป็ นเงินเก็บของนำงเอง ตอนนี้ นำงมีใบรับรองกำรออกบวช
แล้ว ในที่ สุดก็สบำยใจไปเปลำะหนึ่ ง นำงขอบคุณนักพรตหญิง
อย่ำงจริงใจ หลังสนทนำกันอีกเล็กน้ อยจึงส่งนักพรตหญิงกลับ

ลุ่ยจูหมุนตัวเดินเข้ำมำหยิบกระดำษสกปรกบนโต๊ะขึน้ ดู
แล้ ว เบ้ปำก “คุณหนู นี่ เป็ นของคนตำยนะเจ้ำคะ ถ้ ำพวกเรำ
สวมชื่อคนตำย เรำจะมีเครำะห์หรือไม่หนอ”

่ ิ ง กลับ ไม่ใส่ ใ จ สำวใช้ ที่ เ ติ บ โตอยู่ในจวนไม่


ถำนหวันช
เคยออกไปใช้ ชีวิ ต ภำยนอก ไหนเลยจะรู้ว่ ำโลกนี้ มนั อยู่ย ำก
นำงเก็บกระดำษสกปรกลำ้ ค่ำเหล่ำนัน้ ไว้อย่ำงดี พลำงกล่ำวว่ำ
“แล้วเรำสองคนไม่ใช่คนที่ ตำยแล้วหรอกหรือ เรำล้วนตำยกัน
ไปแล้วคนละรอบ กระดำษเหล่ำนี้ จะทำให้เรำเป็ นคนขึ้นมำอีก
หน จะไม่คว้ำไว้เชียวหรือ?”

“เมื่อครู่ข้ำคุยกับซื อไท่ แล้วพบว่ำพวกเรำไม่คุ้นเคยกับ


ชีวิตในวัด อำจจะทำอะไรให้เป็ นพิรธุ ออกมำได้ ดังนัน้ พรุ่งนี้ เรำ

28
ควรจะออกเดินทำงไปพร้อมกับซือไท่ ท่ำนอำสำจะนำทำงให้”
กล่ำวจบนำงก็ปรำยตำไปยังประตูห้องเป็ นสัญญำณว่ำให้ปิด

ลุ่ยจูรีบตรงไปที่ ประตู สอดส่ องมองดูโดยรอบ แล้ วจึ ง


ประกบบำนประตูเข้ำมำ

หญิงสำวทัง้ สองยืนอยู่หน้ ำโต๊ะแคบ ถำนหวันช ่ ิ งใช้ น้ ำ


ร้อนลูบเรือนร่ำงและถอดผ้ำเอี๊ยมรัดรูปออก สีสนั ของผ้ำเอี๊ยม
มัวซัวดูไม่ได้ ถึงแม้จะปักลวดลำยดอกบัวและใบบัวเต็มไปหมด
แต่กลับหำควำมสวยงำมสักนิดก็ไม่มี อีกทัง้ เนื้ อผ้ำยังหนำ

ถำนหวันช ่ ิ งรับกรรไกรอันเล็กๆ มำจำกลุ่ยจู แล้วค่อยๆ


ผ่ำเอี๊ ยมที่ เย็บหนำถึงสองชัน้ นั น่ ออก เผยให้ เห็นแผ่นทองรูป
ใบไม้แผ่นบำงที่ยงั คงนอนนิ่งอยู่ในนัน้

ใบหน้ ำของลุ่ย จูย ำกที่ จะปกปิดควำมตื่ นเต้ นเอำไว้ ได้


เด็กสำวเบิกตำกว้ำงมองคุณหนู ของตน เอ่ ยปำกตะกุกตะกัก
ั ่ บ่ำวเย็บ พวกเรำ
“คุณ... คุณหนู เจ้ำคะ ตอนนัน้ ที่ คุณหนูสงให้
ทำกันเล่นๆ เท่ำนัน้ ไม่คิดเลยว่ำจะมีวนั ได้ใช้เข้ำจริงๆ! โชคดี
ุ หนูเคยชินกับกำรซ่อนเงินทองเอำไว้กบั ตัว ฟ้ ำเบือ้ ง
แท้ๆ ที่คณ
บนเมตตำเรำแล้ว”

29
เดิ ม นำงยัง เคยคิ ด ในใจว่ ำ คุ ณ หนู ข องตนช่ ำ งแปลก
ประหลำดแตกต่ ำ งจำกคนทัว่ ไปนั ก นำงไม่ เ ข้ ำ ใจว่ ำ เหตุ ใ ด
คุณหนู ถึงยอมยืน ยอมนั ง่ อย่ำงยำกลำบำก ด้วยกำรเย็บซ่ อน
แผ่น ทองไว้ ใ นเสื้ อ ผ้ำ แต่ ใ นเวลำนี้ น ำงกลับ ต้ อ งขอบคุณ ใน
ควำมประหลำดของคุณหนูแล้ว

ทัง้ สองไม่เอ่ยคำใด รีบนำใบไม้ทองคำเหล่ำนัน้ ออกมำ


นับรวมได้ทงั ้ หมดสำมสิบหกชิ้น น่ ำเสียดำยที่เสื้อเอี๊ยมตัวนี้ เล็ก
เกินไปสักหน่ อย เก็บได้สำมสิบหกชิ้นก็จำกัดแล้ว มำกกว่ำนี้ คง
ยิ่งหนักอึ้ง

เดิมถำนหวันช่ ิ งเพียงคิดว่ำจะเย็บไว้ใส่สิ่งของจำพวกตั ๋ว
เงิ นติ ดตั ว ยำมจ ำเป็ น ถึ ง แม้ ต ั ว๋ เงิ นจะเบำ แต่ ก็ ม ัก จะทิ้ ง
หลักฐำนที่ไปที่มำ เรียกว่ำใช้ไม่สะดวกเท่ำทองคำ

ลุ่ ย จู น ำใบไม้ ท องค ำทั ง้ หมดมำวำงลงบนมื อ อย่ ำ ง


ระมัดระวัง ลองคะเนน้ำหนักดู “เทียบกับที่ให้ท่ำนนักพรตหญิง
แล้ว ก้อนทองเหล่ำนี้ หนักกว่ำเหรียญกษำปณ์ ทองเล็กน้ อยนะ
เจ้ำคะ” น่ ำจะหนักประมำณห้ำถึงหกตำลึงต่อชิ้น

“ใช่ พอเปลี่ ย นเป็ นเงิ น หำกใช้ จ่ ำ ยอย่ ำ งรอบคอบก็


เพียงพอให้พวกเรำอยู่กนั ได้สกั ระยะหนึ่ ง”
30
แต่ ไ รมำคุ ณ หนู ข องนำงเคยสนใจเศษเงิ น เสี ย ที่ ไ หน
ตอนนี้ กลับต้ องมำคิดเรื่องกำรใช้ จ่ำยประหยัดรอบคอบ ลุ่ยจู
เพิ่งอยู่ในอำรมณ์ดีใจไม่เท่ำไรพลันเปลี่ยนเป็ นหดหู่อีกแล้ว

สำวใช้เกรงว่ำตนจะเผยควำมรูส้ ึกตรอมตรมออกมำให้ผู้
มีพระคุณเห็น จึงก้มหน้ ำก้มตำตัดเนื้ อผ้ำส่วนที่ ดีของเสื้อเอี๊ยม
ออกมำชิ้นหนึ่ ง ใช้เข็มที่ หยิบยืมมำเย็บถุงดอกบัวให้คณ ุ หนูใส่
ใบไม้ทองคำ

ถำนหวันช่ ิ งเหม่อมองบำนหน้ ำต่ ำงที่ ถกู ฝนซัดสำดจน


เปี ยก ควำมหนำวเหน็ บย่ำงกรำยเข้ำหำ กลิ่นรำที่ ฟูกเหม็นจน
แสบจมูก ห้องนอนแห่งนี้ เย็นเสี ยจนมือเท้ ำของนำงจวนเจียน
จะกลำยเป็ นน้ ำแข็ง บริเวณหน้ ำอกและผิวเนื้ อล้วนถูกควำม
เย็นยะเยือกเสี ยดแทงเข้ำไปถึงกระดูก แต่ หำกเที ยบกับสภำพ
ควำมเป็ นอยู่เ มื่อหลำยวัน ที่ ผ่ำนมำ นำงกลับ ยิ น ดี ใช้ ชีวิ ต ใน
สภำพเช่นนี้

คิ ด ถึ ง เรื่องต่ อจำกนี้ ดีกว่ำ... อำรมณ์ ข องหญิง สำวเริ่ม


ผ่ อ นคลำยลง เดิ มที คิ ดว่ ำ คื น นี้ คงนอนไม่ ห ลั บ ด้ ว ยยั ง
อ่อนเพลี ยจำกกำรเดินทำงอยู่ ทว่ำเพียงปิดตำ นำงกลับเข้ำสู่
ห้วงนิทรำได้อย่ำงง่ำยดำย

31
่ ิ งถลำเข้ำไปในดินแดนแห่งควำมฝันอย่ำงไม่
ถำนหวันช
รูต้ วั

นำงไม่รู้เลยว่ำมี ร่ำงสูง ใหญ่ ร่ำงหนึ่ ง กำลังนั ง่ นิ่ งอยู่บ น


หลังม้ำตรงสนำมด้ำนนอก ทัง้ ยังมีทหำรม้ำในชุดดำยืนล้อมอยู่
อีกหลำยนำย

่ วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ให้ทหำรรอบด้ำน
ร่ำงนัน้ ออกคำสังด้
พุ่งเข้ำไปจับคนในห้อง แต่แล้วเขำกลับเปลี่ยนใจในช่วงจังหวะ
สุดท้ำย

ชำยสวมชุดเกรำะและหมวกเหล็กขี่ ม้ำอ้อมกลับมำตรง
ต ำแหน่ งที่ มี ล ำแสงสี ส้ ม สำดออก เขำยกมื อ ขึ้ น ห้ ำ มทหำร
ทัง้ หมดเอำไว้ก่อน

ฝูงม้ำพอเจอฝนก็ร้สู ึกไม่สบำยตัว ส่งเสี ยงร้องออกมำสี่


ห้ำครัง้

แม่ทพั บนหลังม้ำจ้องมองผ่ำนสำยฝนไปที่ หน้ ำต่ำงอย่ำง


เย็น ชำ ไม่ พูด จำอยู่เ ป็ นนำนก่ อ นจะหัน กลับ มำสัง่ กำรทหำร
สอดแนมสองนำย เขำชี้ไปที่หน้ ำต่ำงแล้วกล่ำวด้วยน้ ำเสียงทุ้ม
ลึก “สะกดรอยตำมคนที่ พกั อยู่ข้ำงในอย่ำให้ คลำดสำยตำ ข้ำ

32
อยำกรู้เรื่องรำวทัง้ หมดของนำง สถำนที่ ที่นำงไป และแต่ละวัน
นำงทำอะไรบ้ำง”

33
บทที่ 3 ดิ้นรนหำทำงรอด

ค ่ำ คื น แห่ ง พำยุ ฝ นผ่ ำ นพ้ น ไป เสี ย งนกขับ ขำนอย่ ำ ง


ไพเรำะแว่วมำจำกนอกหน้ ำต่ำง

เมื่ อ วำนนั ก โทษสำวทัง้ สองเร่ ง รี บ เดิ น ทำงจนมำถึ ง


อำรำมร้ำงบนเชิงเขำ ยำมนั น้ ท้ องฟ้ ำมืดขมุกขมัว จึงมองไม่
เห็นสภำพอันแท้จริงของสถำนที่แห่งนี้ นัก กระทังแสงสว่ ่ ำงยำม
เช้ำเรื่อเรือง ทุกสิ่งรอบกำยจึงกระจ่ำงชัด อำรำมร้ำงแห่งนี้ เก่ำ
ครำ่ ทรุดโทรมไม่น้อย แม้ทำงรำชสำนักจะบริจำคปัจจัยให้บำ้ ง
ทว่ำแม้แต่ อิฐก็ยงั ไม่เพียงพอ ตัววัดจึงมีสีอื่นแซมดูน่ำเกลียด
กล่ำวได้ว่ำมีสภำพยำ่ แย่สุดทน โดยเฉพำะห้องด้ำนเพดำนเตี้ย
ทำงทิศใต้ที่เป็ นที่พำนักของนักพรตหญิงเมื่อคืนนี้

ท่ ำ นสู้ อุ ต ส่ ำ ห์ ย กที่ พ ัก ของตัว เองให้ พ วกนำง ทัง้ ยัง


จัดเตรียมสิ่งของจำเป็ นไว้ให้อย่ำงพร้อมสรรพ ส่วนตัวเองกลับ
ยอมอยู่ในห้องที่ชำรุดผุพงั ซำ้ ยังหลังคำรัว่

ลุ่ยจูยกถำดอำหำรเข้ำมำ เหลือบเห็นคำนหลังคำเอี ยง
จวนจะร่ ว งมิ ร่ ว งแหล่ จึ ง ส่ ำ ยหน้ ำไปมำ กล่ ำ วเสี ย งแผ่ ว เบำ
“คุณหนูเจ้ำคะ มิน่ำล่ะซื อไท่ ท่ำนนัน้ จึงบอกว่ำจะไป หำกบ่ำว

34
เป็ นนำง... ได้รบั ทองจำกเรำแล้วก็ไม่คิดจะอยู่ต่อเช่นกัน ที่ แท้
นำงก็ไม่ได้ดีอย่ำงที่เห็นสักเท่ำไร”

ลุ่ยจูทำเสี ยง “จิ๊!” พลำงวำงชำมลงบนโต๊ะ “เมื่อครู่บ่ำว


ออกไปเดินดูสกั พัก คำนทุกห้องล้วนเอียงกระเท่เร่ หำกปี นี้ หิมะ
ตกหนำ ไม่แน่ อำจจะถล่มลงมำทัง้ อำรำมก็ได้นะเจ้ำคะ”

่ ิ งได้ยินกลับไม่เห็นด้วย คำพูดเมื่อคำ่ วำนของ


ถำนหวันช
นักพรตหญิง บอกให้ร้วู ่ำฝ่ ำยนัน้ เข้ำใจดีในควำมทุกข์ยำกของ
หญิงสำวพลัดถิ่น หำกท่ำนนักพรตไม่เคยประสบพบเจอควำม
ยำกลำบำกด้ ว ยตนเองมำก่ อน ย่ อมไม่ มีว นั เข้ ำถึ ง จิต ใจของ
ผูอ้ ื่น

“หำกว่ำนำงแสวงหำผลประโยชน์ โลภในทรัพย์สินเงิน
ทอง มีหรือจะยอมทนตกระกำลำบำกอยู่คนเดี ยวเช่ นนี้ ” ถำน
่ ิ งเช็ดมือหลังจำกจัดควำมเรียบร้อยภำยในห้องพักอันน่ ำ
หวันช
สังเวชเรียบร้อย จำกนัน้ ก็นัง่ ลงแล้วมองอำหำรบนโต๊ะ

ในชำมปำกกว้ำงก้นแคบมีขนมข้ำวโพดทอด[1] เกรียมสี่
ห้ำชิ้น กับผักดองซี อิ๊วในจำนเล็กอีกใบ นอกเหนื อจำกนี้ กไ็ ม่มี
อะไรอีก

35
“ถังข้ำวสำรในห้องครัวว่ำงเปล่ำ เหลือเพียงข้ำวแดงไม่กี่
กำกับแป้ งข้ำวโพดในกระบวยสีดำเล็กๆ เจ้ำค่ะ ผักเค็มนี่ กข็ อด
จำกก้นไห ขนำดน้ำมันสักหยดก็ยงั ไม่มี” ลุ่ยจูบ่นว่ำคนบำงคน
กลำยๆ

“พอแล้ว มีของช่วยอุ่นท้องได้บ้ำงก็ดีแล้ว” ถำนหวันช ่ ิง


หยิ บขนมข้ ำ วโพดหยำบเหนี ยวขึ้ น มำกัด ค ำหนึ่ ง แล้ ว ใช้
ตะเกี ยบคี บก้ำนผักป่ ำดองเค็มซึ่ งดูไม่ออกว่ำเป็ นผักอะไรเข้ำ
ไปในปำก ค่อยๆ เคี้ยว

ุ หนูกินก้ำนผัก
ลุ่ยจูบ่นพอแล้วก็เลยต้องนัง่ ลง มองดูคณ
ที่ เค็มจัดและกัดแผ่นเกรียมดำนัน่ กลิ่นเหม็นบูดผสมปนเปกัน
อยู่ในขนมข้ำวโพดทอดโชยออกมำ สักพักนำงเริ่มทนไม่ไหว
ยกมือขึ้นนวดตำเบำๆ นึ กถึงแต่ ก่อนที่ คุณหนู สวมใส่ เ สื้ อผ้ำ
สวยงำม กินอำหำรชัน้ เลิศ คุณหนู ของนำงไม่ควรจะมี สภำพ
เช่นนี้ เลย

ถำนหวันช ่ ิ งขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนข้ำงๆ นัง่ น้ ำตำไหล มือ


เรียวที่ ถือตะเกี ยบชะงักค้ำง อดถำมอย่ำงแปลกใจไม่ได้ “แม้
อำหำรจะไม่ อร่อยลิ้น ชุ่มคอ แต่ เ จ้ำไม่ชอบถึ ง กับ ต้ องร้ อ งไห้
เชียวหรือ?”

36
ลุ่ยจูรีบปำดน้ ำตำ หยิบเอำขนมข้ำวโพดทอดมำหนึ่ งชิ้น
“คุณหนูยงั ทนกินได้ บ่ำวจะไม่ชอบได้อย่ำงไรเจ้ำคะ” กล่ำวจบ
ก็หกั ใจกัดเข้ำไปหนึ่ งคำ กลัดกลุ้มไปก็ไม่รจู้ ะโกรธผูใ้ ดดี

เมื่อกินอำหำรเรียบร้อยแล้ว นักพรตหญิงก็ค้นเอำเสื้อผ้ำ
ก่อนที่ ตนจะออกบวชมำมอบให้บำงส่วน ยำมนี้ ถำนหวันช ่ ิ งกับ
ลุ่ยจูยงั คงสวมชุดที่พวกนำงลอกครำบจำกร่ำงโจรภูเขำเมื่อวำน

ลุ่ยจูนำเสื้อผ้ำกลับมำที่ห้อง คลี่แต่ละชิ้นออกดูกล็ ้วนแต่


เป็ นผ้ ำ ฝ้ ำยเนื้ อ หยำบที่ มี ร อยปะชุ น แทบทัง้ สิ้ น บำงตัว ก็ถ กู
แมลงมอดเจำะเป็ นรูโ บ๋ ในสำยตำของสำวใช้ ผ้มู ี ห น้ ำ ที่ ดูแ ล
เสื้อผ้ำและเครื่องประดับเลิศหรูของคุณหนูมำโดยตลอด อดคิด
ไม่ได้ว่ำขนำดบ่ำวรับใช้ชนั ้ ตำ่ ของจวนยังสวมใส่ดีกว่ำนี้ สกั ร้อย
เท่ำ ของแบบนี้ คณ ุ หนูจะใส่ออกไปข้ำงนอกได้อย่ำงไร

แต่ ‘คุณหนู’ กลับพอใจ ถำนหวันช ่ ิ งคิดว่ำเสื้อผ้ำฝ้ ำยเนื้ อ


หยำบกับกำงเกงขำกว้ำงจะใช้อำพรำงรูปลักษณ์ ปิดบังสถำนะ
ของนำงได้ดีที่สุด เสื้อผ้ำเก่ำเก็บนี้ แค่ซีดอับกับมีกลิ่นเชื้อรำฉุน
จมูกเท่ำนัน้ ซักล้ำงให้สะอำดก็สวมใส่ได้แล้ว

คนเป็ นสำวใช้ อุ้ม เสื้ อ ผ้ำ ออกไปซัก อย่ ำ งคับ แค้ น ใจที่
ไม่ได้รบั ควำมเป็ นธรรม ขณะที่คนเป็ นนำยเดินตำมหำนักพรต
37
หญิงเพื่อสอบถำมทัวๆ่ ไปเกี่ ยวกับหัวเมืองต่ ำงๆ เพรำะหำก
พวกนำงออกจำกอำรำมร้ ำ งเชิ ง เขำแห่ ง นี้ ไ ปแล้ ว ก็ค วรต้ อ ง
วำงแผนว่ำจะตัง้ รกรำกอยู่ที่ใด

นักพรตหญิงไม่ได้คิดให้มำกควำม ตัง้ ใจเพียงมุ่งหน้ ำไป


ยังเมืองเว่ยอัน

ในแคว้นอี้อนั กว้ำงใหญ่ จะมีกเ็ พียงแผ่นดินของเมืองเว่ย


อั น ที่ ย ั ง คงสงบสุ ข อยู่ ที่ นั น่ ไม่ เ พี ย งแต่ มี ก ำแพงเมื อ งสู ง
ตระหง่ ำนแข็ง แรง ยัง มี แม่ท ัพ หัว เมืองและกองก ำลัง ทหำรที่
แข็งแกร่งรักษำกำรณ์ อยู่ มีกำรกล่ำวขวัญอย่ำงแพร่หลำยใน
ควำมอุดมสมบูรณ์ ของเมืองนี้ จนพ่อค้ ำแม่ขำยและชำวบ้ำน
จำนวนไม่น้อยต่ำงพำกันอพยพเข้ำไปขอพึ่งใบบุญท่ำนแม่ทพั

ซือไท่คิดว่ำหญิงสำวทัง้ สองควรตัง้ รกรำกอยู่ที่เมืองเว่ย


อันน่ ำจะเหมำะสมที่สุด จำกที่นี่ไปเว่ยอันไม่นับว่ำไกลนัก หำก
เดินเท้ำจะใช้เวลำสองวัน ถ้ำนัง่ เกวียนเทียมลำเดินทำงเพียงแค่
หนึ่ งวันก็ถึงแล้ว

่ ิ ง ไม่ มี ท ำงเลื อ กที่ ดี ก ว่ ำ นั ้น จึ ง ตัง้ ใจจะไปดู


ถำนหวันช
ลำดเลำก่ อนตัดสินใจลงหลักปั กฐำน ด้ วยในวัดไม่มีสิ่งใดให้

38
เป็ นเสบี ย งได้ อี ก จึ ง ไม่ อ ำจรอเวลำไปจนเที่ ย ง พวกนำงรี บ
เปลี่ยนเสื้อผ้ำที่ยงั ไม่แห้งดีและพร้อมออกเดินทำง

เส้นทำงลงเขำค่อนข้ำงรำบเรียบ หลังจำกข้ำมแม่น้ำสำย
หนึ่ งก็พบครอบครัวชำวนำแปดถึงสิบครอบครัวกระจัดกระจำย
อยู่ตำมริมฝั ง่ แม่น้ ำ แม้นักพรตหญิงจะพำนั กอยู่ในอำรำมบน
เขำตลอด แต่ กค็ ุ้นเคยกับผู้เฒ่ ำผู้แก่ในครอบครัวชำวนำเป็ น
อย่ำงมำก นัยว่ำชำวนำเหล่ำนี้ ล้วนเคยไปถวำยธูปที่ อำรำมบน
เขำมำแล้ว

จำนวนคนในหมู่บ้ำนมีไม่มำก สัตว์เลี้ยงที่ พออำศัยเป็ น


พำหนะในกำรเดิ น ทำงก็มีน้ อยเสี ย ยิ่ ง กว่ ำน้ อย นั กพรตหญิง
เสำะหำไปตำมบ้ำน ชักแม่น้ ำทัง้ ห้ำมำเกลี้ยกล่อม ว่ำจ้ำงด้วย
เศษเงินบำงส่วน ในที่ สุดก็ได้เกวียนเที ยมลำของผู้เฒ่ำอำยุหก
สิบกว่ำปี คนหนึ่ งไปส่ง

คืนนี้ ทงั ้ สำมยืมห้องโถงใหญ่ที่บำ้ นชำวนำครอบครัวหนึ่ ง


หลัง จำกถำนหวันช ่ ิ ง กับ ลุ่ย จูว ำงแผนกำรเดิ น ทำงส ำหรับ วัน
พรุ่งนี้ แล้ว เมื่อเข้ำมำถึงห้ องโถง พวกนำงก็รีบกล่ำวขอบคุณ
นักพรตหญิง

39
ในภำวะสงครำมเช่นนี้ หำกไม่ใช่ซือไท่ร้จู กั กับครอบครัว
ชำวนำ นำงทัง้ สองซึ่งเป็ นเพียงหญิงสำวแปลกหน้ ำคงไม่แคล้ว
ต้ องควักจ่ำยอี กไม่น้อยเพื่อประทังชี วิตสักมื้อ และใช่ ว่ำจะมี
ผู้ใดตกลงให้ ควำมช่วยเหลือโดยง่ำย ท่ ำนนั กพรตหญิงให้ กำร
อุปกำระถึงเพียงนี้ สมควรที่จะได้รบั กำรคำรวะ

คำ่ คืนนัน้ ทัง้ สำมพักด้วยกันที่ห้องนอนเล็กห้องหนึ่ ง เมื่อ


ได้รบั กำรคำรวะจำกพวกนำงนักพรตหญิงก็ร้สู ึกพอใจอย่ำงยิ่ง
คำพูดที่ มีให้แก่กนั ก็สนิทชิดเชื้อมำกขึ้น ไม่มีกำรแบ่งชนชัน้ ตำ่
ต้อยสูงส่ง นักบวชชรำเช่นนำงได้หวนคืนสู่โลกกว้ำงที่ ตนละทิ้ง
มำนำนโข เกรงว่ำจะเป็ นภำระให้ ผ้อู ื่ นตำหนิรำคำญ แต่ หญิง
สำวทัง้ สองหำได้คิดเช่นนัน้ ไม่ กลับให้กำรชี้แนะอย่ำงนอบน้ อม
ยินดี

วำจำและอำกัปกิริยำของถำนหวันช ่ ิ ง มองปรำดเดียวก็รู้
ว่ำเป็ นบุตรสำวตระกูลสูงที่ ได้รบั กำรเอำใจใส่ มำตัง้ แต่ เล็ก ดู
อย่ำงแม่นำงลุ่ยจูที่เป็ นเพียงสำวใช้ ต่อให้ลูบผงขี้เถ้ำทัง้ ตัวแล้ว
สวมใส่ชุดชำวนำก็ยงั ดูน่ำนับถือกว่ำชำวบ้ำนธรรมดำอยู่หลำย
ส่วน

บ่ำวไม่ว่ำแต่ผ้เู ป็ นนำยนี่ สิ... โฉมสะครำญปำนหยำดฟ้ ำ


ทีเดียว
40
นักพรตหญิงมองถำนหวันช ่ ิ งด้วยสำยตำกังวล แม้หญิง
สำวจะสวมเสื้ อ ผ้ ำ เนื้ อหยำบและลู บ ผงขี้ เ ถ้ ำ ที่ ใบหน้ ำ
เช่นเดียวกับบ่ำว แต่ลกั ษณะท่วงท่ำกำรเคลื่อนไหวเห็นที จะไม่
รอด

กำรแต่ งตัวอัปลักษณ์ ของนำงแฝงไว้ด้วยลักษณะสูงส่ ง


สง่ำงำมอยู่ภำยใน หำกอยู่ท่ำมกลำงครอบครัวชำวนำที่เห็นกัน
มำตัง้ แต่ เกิดจนเติบใหญ่ ก็พอจะให้ ช่วยรับสมอ้ ำงร่วมกัน ได้
บ้ำง ทว่ำย่อมไม่พ้นเป็ นที่สะดุดตำอยู่ดี

ซือไท่เอียงศีรษะครุน่ คิดสักครู่ ในที่สดุ ก็คิดเส้นสนกลใน


บำงอย่ ำงได้ นำงหยิ บ ผงขี้ธูปทำมือและลำคอคนงำมให้ เข้ ม
คลำ้ ยิ่งขึ้น พลำงชี้แนะให้ถำนหวันช ่ ิ งปรับลักษณะกำรเดินเหิน
เสียใหม่ ให้ผคู้ นได้พบเห็นนำงในครำบสตรีหลังค่อม ดีที่สุดคือ
หลังโค้ งกดต่ำจำกปกติสกั สำมส่ วน ค้ อมตัวงอเข่ ำเพิ่มควำม
นอบน้ อมอีกเล็กน้ อย ไม่ต้องเงยหน้ ำให้ผใู้ ดยลโฉม

โชคดี ที่ น อกจำกควำมงำมแล้ ว ถำนหวันช ่ ิ ง ยัง เฉลี ย ว


ฉลำดเรี ย นรู้ ไ ด้ ร วดเร็ ว อี ก ด้ ว ย ครู่ เ ดี ย วนำงก็ ส ำมำรถ
ปรับเปลี่ยนกิริยำและรูปลักษณ์ ของตนให้เป็ นไปตำมที่นักพรต
หญิงชี้แนะ

41
เช้ำวันต่อมำ ท้องฟ้ ำยังไม่สว่ำงนัก

ชำวนำเฒ่ ำเจ้ำของเกวี ยนป้ อนอำหำรลำจนอิ่มแต่ เ ช้ ำ


เพื่อจะได้รีบออกเดินทำง เมื่อรู้ว่ำจะมีคนเดินทำงไปเมืองเว่ย
อัน เพื่ อนบ้ำนสองแม่ลูกก็รีบมำอ้ อนวอนขอโดยสำรไปด้ ว ย
หนึ่ งเกวียนกับหกชีวิตเบียดกันเต็มพอดี

ผู้โดยสำรแม่ลูกอยู่ในหมู่บ้ำนที่ ทำกำรเกษตรห่ ำงจำก


ที่ นี่ สำมสิ บลี้ นำงสวมเสื้ อ แขนยำวสี แ ดงเก่ ำ ที่ ซัก จนสี ซี ด
ใบหน้ ำเหลื องปำนเที ยนไข ส่ วนบุตรชำยวัยสิบสองก็ตวั เล็ก
อวบเหมือนตุ๊กตำ ยิ่งบอกเล่ำถึงหมู่บ้ำนของตน ใบหน้ ำของ
หญิงที่ เป็ นแม่กย็ ิ่ งรันทด เบ้ำตำแดงกำ่ ผู้เฒ่ำเจ้ำของเกวียนได้
แต่ทอดถอนใจ

ด้วยไม่ว่ำจะเป็ นพวกนอกด่ำนที่ กำเริบเสิบสำน หรือมี


กองโจรภูเขำโผล่เข้ำมำในหมู่บำ้ นแห่งใดก็ตำม ผูค้ นในหมู่บำ้ น
แห่ ง นั ้น เป็ นอัน ต้ อ งโชคร้ ำ ย ประสบกับ หำยนะทุ ก รำยไป
หมู่บำ้ นของสองแม่ลกู ก็คงเป็ นเช่นเดียวกัน พวกนำงเล่ำว่ำตรง
ด้ำนหน้ ำหมู่บ้ำนมีหวั วัวที่ เพิ่งถูกฆ่ ำตัดคอได้ไม่นำนเสี ยบอยู่
โชคดี ที่ ส องแม่ ลู ก พอคุ้น ทำงอยู่ บ้ ำ งจึ ง หนี รอดมำได้ แต่ น่ ำ
เสียดำยที่คนอื่นๆ ในหมู่บำ้ นกลับไม่คิดจะหนี

42
“ท่ำนลุง เดรัจฉำนพวกนัน้ มำปล้นฆ่ำตัดหัววัวของพวก
เรำหมดแล้วนะ หมู่บ้ำนของท่ ำนห่ำงจำกหมู่บ้ำนของข้ำเพียง
เล็ก น้ อ ยเท่ ำ นั น้ …พวกท่ ำ นไม่ คิ ด จะย้ ำ ยหนี บ้ำ งหรื อ ?” นำง
ถำมพลำงซับน้ำตำ

“ท ำไมจะไม่ เ คยคิ ด เล่ ำ ” ผู้เ ฒ่ ำ สะบัด แส้ ล งบนหลัง ลำ


“แต่ แผ่นดินของบรรพบุรุษนี้ อยู่กนั มำตัง้ กี่ ชวอำยุ ั่ คน พ่อแม่
ปู่ ย่ ำ ของข้ ำ ทุ ก คนเกิ ดและตำยที่ ห มู่ บ้ ำ นนี้ ด้ ว ยกัน ทั ง้ สิ้ น
แผ่นดินเป็ นสิ่งสำคัญที่ เรำต้องรักษำไว้ ไหนเลยเพียงพูดว่ำให้
อพยพก็จ ะอพยพได้ ท ัน ที อี ก อย่ ำ ง...จะให้ ไ ปตัง้ ถิ่ น ฐำนอยู่
บ้ ำ นเมื อ งไหนเล่ ำ สมัย นี้ น่ ะ ทิ้ งบ้ ำ นไว้ แ ค่ ว ัน เดี ย วก็ อ ำจ
กลำยเป็ นผู้ลี้ภยั ไร้บ้ำนอย่ำงไม่ร้ตู วั ได้แล้ว เป็ นอย่ำงนี้ มิสู้อด
อยำกหิวตำยในบ้ำนตัวเอง ยังดีกว่ำอยู่แบบใช้ชีวิตไปวันๆ โดย
ไม่มีแผ่นดินบรรพบุรษุ ให้ดแู ล”

“ข้ำได้ ยินมำว่ำ มีผ้ลู ี้ภยั มำกมำยหนี ไปที่ เมืองเว่ ย อัน”


บุตรชำยที่ อวบกลมเหมือนตุ๊กตำของหญิงผู้นัน้ เอ่ยแทรกเสียง
เจื้อยแจ้ว “ที่ นัน่ มี กำแพงเมืองที่ ทงั ้ สูงทัง้ หนำ ไม่ต้องกลัวว่ ำ
พวกนอกด่ำนจะบุกเข้ำมำโจมตี มีทงั ้ ที่ นำ เครื่องไม้เครื่องมือ
และข้ ำ วปลำอำหำรเพี ย งพอตำมจ ำนวนคน อยำกออกมำ
จับจ่ำยก็ปลอดภัยไร้กงั วล แค่เข้ำไปในเมืองก็ได้อำหำรติดไม้
ติดมือแล้ว”
43
ผู้เฒ่ำที่ นัง่ อยู่ด้ำนหน้ ำเกวียนอดกล่ำวแทรกขึ้นมำไม่ได้
“อยำกได้กไ็ ด้รึ?” ผู้เฒ่ำแค่นเสี ยง “ที่ เว่ยอัน เด็กหนุ่ มของทุก
ครอบครัวล้วนถูกเกณฑ์ไปเป็ นทหำร ไม่ดีหรอก” ท่ ำนผู้เฒ่ ำ
ส่ำยหน้ ำไปมำเหมือนกลองรัว

หญิงที่เป็ นแม่จึงโพล่งขึน้ บ้ำง “ทำไมจะไม่ดีเล่ำ หำกโดน


ฆ่ ำตำยทัง้ หมู่บ้ำนนั น่ สิจึงจะเรียกว่ำไม่ดี ต้ องใช้ ชีวิตอย่ำงอก
สัน่ ขวัญ หำย หำกเป็ นทหำรแล้ ว ได้ กิ น อิ่ ม ใส่ ชุ ด อุ่น ๆ นั บ ว่ ำ
ดี กว่ำกันมำก ถ้ำหมู่บ้ำนของข้ำยังอยู่... ถ้ำยังอยู่...” กล่ำวไม่
ทันจบ นำงอดไม่ได้ที่จะขอบตำแดงรืน้ ฉ่ำขึน้ มำอีก

เด็กชำยตัวอ้วนกลมรีบปลอบ “ท่ำนแม่ ไม่ต้องร้อง ระวัง


ตำบวม”

“จริงสิแม่นำง พวกเจ้ำสองสำวคงมีญำติในเมืองเว่ยอัน
สินะ หำกวันข้ำงหน้ ำได้ลงหลักปักฐำนในเมืองนัน้ ผูค้ นต้องพำ
กันอิจฉำพวกเจ้ำแน่ เว่ยอันเป็ นเมืองที่ดี ข้ำได้ยินมำว่ำตรุษจีน
ปี ที่แล้วมีกำรแต่งตัง้ ท่ำนแม่ทพั หัวเมืองคนใหม่ เขำผูน้ ี้ ทงั ้ แกร่ง
กล้ำห้ำวหำญ เคยนำกองทหำรไปล่ำหัวพวกนอกด่ำนกว่ำแปด
ร้อยหัวเชียวนะ ช่ำงเก่งกล้ำสำมำรถเป็ นที่สดุ ”

44
“อ๋ อ ... ใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย !” เด็ก ชำยรี บ เอ่ ย นำมวี ร บุ รุษ ด้ ว ย
ศรัท ธำอย่ ำ งแรงกล้ ำ “ข้ ำ กับ ท่ ำ นแม่ ไ ด้ ยิ น ทุ ก คนพูด ถึ ง เขำ
พวกนั ้น ว่ ำ กองทัพ ของใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย องอำจหำญกล้ ำ ไม่ มี ผู้ใ ด
เปรียบ รบรำกับพวกนอกด่ำนจนหัวหน้ ำของพวกมันต้องหอบ
คนหลบหนี ทัง้ ยังแย่งเสบียงอำหำรของพวกมันมำตัง้ มำกมำย
ทุ ก คนต่ ำ งพูด กัน ว่ ำ ในเมื อ งและนอกเมื อ งเว่ ย อัน เป็ นเขำ
ทัง้ นั น้ แหละที่ ก้ำวขึ้นมำรักษำกำรณ์ ด้วยตัวเอง ทุกบ้ำนล้วน
วำงใจ”

“ไอ้หยำ อย่ำงนี้ กด็ ีน่ะสิ พวกเจ้ำเด็กสำวสองคนไปเมือง


นี้ นับว่ำมีวำสนำแท้ๆ ในภำวะสงครำมเช่นนี้ จะหำที่ ตงั ้ หลักได้
สักที่ ไม่ใช่เรือ่ งง่ำยเลยนำ...” ผูเ้ ฒ่ำกล่ำวด้วยควำมอิจฉำ

หญิง คนแม่พ ยำยำมปรับ สี หน้ ำ ให้ ดี ขึ้น พลำงกล่ ำวว่ ำ


“ข้ำก็ได้ยินพ่อค้ำหำบเร่ตำมทำงพูดมำไม่น้อย ตัง้ แต่ กองทัพ
ของใต้เท้ำเซี่ ยก้ำวขึน้ มำรักษำกำรณ์ อยู่ที่เมืองเว่ยอัน กลุ่มโจร
จ ำนวนมำกพำกัน หนี หั ว ซุ ก หั ว ซุ น อย่ ำ งกับ หนู ชำวบ้ ำ น
สำมำรถใช้ชีวิตได้อย่ำงปกติสขุ คนที่มีญำติอยู่ในเมืองเว่ยอันมี
ไม่ น้ อ ยที่ คิ ด จะอพยพครอบครัว มำยัง เมื อ งนี้ ข้ ำ เองก็อ บั จน
หนทำงจึงต้องบำกหน้ ำไปขออำศัยน้ องสำวที่ นัน่ เหมือนกัน ไม่
รู้ว่ำตอนนี้ นำงจะเป็ นอย่ำงไรบ้ำงแล้ว” ดูเหมือนว่ำใจของนำง
จะยังไม่สงบ แต่กม็ ีควำมหวัง
45
นั กพรตหญิงเงียบมำตลอดทำง มือเลื่อนลูกประคำอยู่
ตลอดเวลำ

ถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูกน็ ั ง่ เงียบอยู่ท้ำยเกวี ยนเช่ นกัน ได้


ยินแต่คำว่ำใต้เท้ำเซี่ยๆ ไม่ขำดปำก

่ ิ งอดไม่ไหว กระซิบถำมหญิงที่ แต่ งงำนแล้ว


ถำนหวันช
คนนั น้ เบำๆ “พี่ ส ะใภ้ ท่ ำนพอรู้ไหมว่ำใต้ เท้ ำผู้นัน้ ชื่ อเต็มชื่ อ
อะไร?”

“พวกเรำคนชนบทจะรู้ได้อย่ำงไรเล่ำ เพียงได้ยินคนเขำ
เรียกกันว่ำ ‘ใต้เท้ำเซี่ย’ คงแซ่เซี่ยน่ ะ”

หญิงนำงนั น้ เอ่ยปั ด แต่ ในใจกลับรู้สึกว่ำน้ ำเสี ยงที่ ถำม


ช่ ำงหวำนใสละมุนละไม ไพเรำะรำวกับเสี ยงนำงแอ่ นขับขำน
จึงอดไม่ได้ที่จะเบือนหน้ ำไปจับจ้องร่ำงบอบบำงท้ำยเกวียน

่ ิ งนั บเป็ นคุณหนู ใน


ช่ วงเวลำที่ อยู่เมืองหลวง ถำนหวันช
ห้องหอลับตำผู้คน นำงไม่เคยได้ยินใครบอกเล่ำเกี่ยวกับควำม
เฉลียวฉลำดลำ้ เลิศในกำรรบของคนแซ่เซี่ ยมำก่อน เขำอำจจะ
เป็ นคนท้องถิ่นของเว่ยอันกระมัง ควำมคิดพลันหวนกลับมำที่
ตัว เอง เดิ ม ที คุณ หนู ทุ ก คนของจวนตระกูล ถำนมัก ถูก จ ำกัด

46
พื้นที่ ไม่ให้ ออกไปเดินเล่นนอกจวนสักเท่ ำไร เพื่ อหลี กเลี่ ย ง
ผูค้ นที่อำจจะจดจำควำมงำมของใบหน้ ำพวกนำงได้

แต่กด็ ี... พอถึงครำวหลบหนี หำกถูกทำงกำรระดมกำลัง


พลตรวจค้น ยังจะมีผใู้ ดจำใบหน้ ำของนำงได้หรือ?

[1] ขนมข้ำวโพดทอด คือ ข้ำวโพดผสมแป้ งปัน้ เป็ นแผ่น


วงกลมแล้วนำไปทอด

47
บทที่ 4 ในเงือ้ มมือ

เมื่อเดินทำงผ่ำนชนบทมำได้ระยะหนึ่ งก็ถึงป้ อมทหำร

ทัง้ เกวียนวัว เกวียนม้ำ และคนเดินเท้ำจำนวนมำกมำย


ยืนต่อแถวรอเข้ำไป

แถวที่ ว่ำนี้ ยำวตลอดด้ำนข้ำงของภูเขำไปจนถึงกำแพง


ด้ำนในของเมืองเว่ยอัน เมื่องเที ยบกับภัยสงครำมและควำม
ยำกจนทัง้ ยังทำมำหำกินลำบำกแล้ว ผูค้ นเหล่ำนี้ ร้สู ึกเหมือนว่ำ
ตนกำลังค้ นพบแสงสว่ำงอยู่เบื้องหน้ ำ มองเข้ ำไปในเมืองจะ
เห็นที่ พกั อำศัยปลูกรวมกันในชัยภูมิอนั กว้ำงขวำง มีลำน้ ำคด
เคี้ ย วยำวเหยี ย ดขนำบข้ ำ ง เหมำะแก่ ก ำรตั ง้ รกรำกท ำ
กำรเกษตรและเลี้ยงสัตว์เสียเหลือเกิน

คนกลุ่มหนึ่ งกำลังถูกควบคุมตัว น่ ำจะเป็ นกลุ่มคนนอก


ด่ ำ นที่ แ ฝงตัว ลอบเข้ ำ เมื อ ง ผู้ค นที่ เ ห็น พำกัน ร้ อ งอุ ท ำนกัน
เกรียวกรำวด้วยควำมตื่นตะลึง

เมื่อทอดสำยตำมองไป แม้จะเป็ นฤดูใบไม้ร่วง แต่แม่น้ ำ


ลำธำรยังคงใสแจ๋ว มีพื้นที่รกร้ำงว่ำงเปล่ำที่ ยงั ไม่ได้หกั ร้ำงถำง
พง แม่น้ ำลำคลองหลำยสำยแยกสำขำกระจำยไปทัวให้ ่ ควำม

48
ชุ่ ม ชื่ น ในใจผู้ค นต่ ำ งจิ น ตนำกำรกัน ว่ ำ ขอเพี ย งมี ก ำลัง คน
จะต้องบุกเบิกถำงพงทำเป็ นที่นำ ทัง้ ปลูกพืชไร่เกษตรแปลงยำว
เพิ่มด้วย เท่ำนี้ กส็ ำมำรถดำเนินชีวิตอยู่ได้แล้ว

ไม่น่ำแปลกใจเลยที่ พวกคนเถื่อนนอกด่ำนอิจฉำริษยำ
อยำกได้ แผ่นดินนี้ มำครอบครอง สภำพแวดล้ อมของเมืองนี้
ช่ ำ งล ้ำ เลิ ศ อุ ด มไปด้ ว ยไปด้ ว ยดิ น น้ ำ สำมำรถผลิ ต เสบี ย ง
อำหำรได้จำนวนมำก

“ดูนัน่ ด้ำนในนั น้ มีคนกำลังบุ กเบิกถำงหญ้ ำกัน” กลุ่ม


คนตำมท้องถนนพบเจออะไรก็ตื่นเต้นพูดโพล่งออกมำทันที

“รอบเมืองมีทหำรคอยลำดตระเวนอยู่ใช่ไหม?”

“ได้ยินคนบอกว่ำ หลังจำกแม่ทพั หัวเมืองคนใหม่ได้รบั


ตำแหน่ ง เรื่องแรกที่ เขำทำคือสร้ำงป้ อมปรำกำรรอบเมืองเพิ่ม
ล้ อมรัว้ ที่ ดิ น ทัง้ ผืน ลูกพี่ ลูกน้ องสำยเลื อดห่ ำงๆ ของข้ ำก็อ ยู่
ด้ ำ นในนั น่ เขำบอกว่ ำ ก ำแพงเมื อ งทัง้ หมดใช้ น้ ำ ผสมข้ ำ ว
เหนี ยวเทหลอม สร้ำงเป็ นกำแพงสูงที่แข็งแกร่ง ชำวบ้ำนไม่ต้อง
คอยหวำดผวำว่ำพวกคนเถื่อนนอกด่ำนจะโจมตีได้อีก...”

49
ได้ฟังกลุ่มคนที่ สวมเสื้อขำดกะรุ่งกะริ่งคุยกันแล้วก็ต้อง
กลื น น้ ำลำย ข้ำวเหนี ยวเอ๋ย ข้ ำวเหนี ยว คนไม่ มีจะกิน กัน อยู่
แล้วดันเอำมำเทหลอมกำแพง ช่ำงน่ ำเสียดำยนัก!

เอำเถอะ จะอย่ำงไรแสงสว่ำงก็ปรำกฏอยู่ตรงหน้ ำแล้ว


หำกไม่ต้องประสบภัย จำกพวกคนเถื่อนนอกด่ ำน ประชำชน
ย่อมมีใจบุกป่ ำถำงพง ปลูกพืชไร่กำรเกษตรทัง้ ในและรอบเมือง
ได้อย่ำงสบำยใจ เมื่อมีอำหำรและที่ นำพรักพร้อมก็ไม่ต้องมำ
คอยห่วงกังวลว่ำจะอดตำย

“ผืนนำเหล่ำนี้ ใครจะบุกเบิกถำงที่ เท่ ำไรก็ได้ ใช่ ไหม?”


นัน่ ไม่ใช่จำนวนน้ อยๆ เลยนะ

“ตอนนี้ เมืองเว่ยอันเปิดรับผู้ลี้ภยั ไม่ปิดประตูใส่ ผ้ทู ี่ มำ


ขอพึ่งพิง ต่อให้อำศัยอยู่รอบนอกของเมืองก็ช่วยจัดหำที่ พกั ให้
อย่ำงเรียบร้อย ทัง้ ยังส่งอำหำรกับเสื้อผ้ำให้ทุกครอบครัวด้วย”

“นั น่ ต้ อ งใช้ เ งิ น เท่ ำ ไรกัน ท่ ำ นแม่ ท ัพ หัว เมื อ งของเว่ ย


อันมีควำมสำมำรถจริงๆ”

“นัน่ ก็ใช่ ได้ยินว่ำครำวที่แล้วท่ำนแม่ทพั หัวเมืองนำกอง


ทหำรม้ำบุกก่ อกวนซ่ องโจรกลุ่มหนึ่ ง แย่งทองคำ เงิน พลอย

50
ไข่มกุ กลับมำถึงสิบหีบ อีกทัง้ เสบียงอำหำรกับหญ้ำที่ใช้เลี้ยงวัว
แกะอี กหนึ่ งเกวียนใหญ่ ทัง้ หมดเขำล้วนโยนเข้ำค่ำยทหำรม้ำ
ตรงเขตชำยแดน ท่ ำ นแม่ ท ัพ หัว เมื อ งกล่ ำ วว่ ำ กำรท ำเช่ น นี้
เรียกว่ำใช้สงครำมเลี้ยงทหำร”

“คนเมืองเว่ยอันห้ำวหำญไปแล้ว”

“ใช่ มี ค นช ำนำญในกำรรบถึ ง เพี ย งนี้ เป็ นแม่ ท ั พ


รักษำกำรณ์ แน่ นอนว่ำประชำชนของเมืองนี้ ย่อมต้องห้ำวหำญ
หำกเป็ นข้ำ ข้ำก็เก่ง!”

หนึ่ งคนหนึ่ งคำพูด... น้ ำเสี ยงของคนเหล่ำนี้ ล้วนใฝ่ หำ


ควำมภำคภูมิใจ

ดูเหมือนว่ำเมืองเว่ยอันจะผ่ำนกำรบูรณะและปรับปรุง
มำครัง้ แล้ ว ครัง้ เล่ ำ ต่ อ ไปต้ อ งเป็ นหัว เมื อ งใหญ่ ที่ แ ข็ง แกร่ ง
อย่ำงแน่ นอน ในยำมนี้ เกวียนของผู้เฒ่ำยังโยกคลอนอย่ำงเป็ น
จังหวะ

่ ิ ง มองไปยัง ก ำแพงเมื อ งที่ ค ดเคี้ ย ว สดับ ฟั ง


ถำนหวันช
ถ้อยคำของกลุ่มคนเหล่ำนั น้ อย่ำงตื่ นตะลึงระคนชื่ นชม ในใจ
รู้สึ กว่ ำท่ ำนแม่ ท ัพ หัว เมืองผู้นั น้ เป็ นบุค คลที่ มีค วำมสำมำรถ

51
อย่ำงแท้จริง ไม่เพียงองอำจห้ำวหำญและชำนำญในกำรรบ ยัง
ซื่ อสัตย์มีสจั จะ กล้ำคิดกล้ำทำและปกครองผู้คนด้ วยเมตตำ
ธรรมอีก

มิ น่ ำ ถึ ง ได้ ใ จประชำชน ฟั ง จำกค ำพูด ของคนทัง้ หลำย


แล้ว ตอนนี้ เหล่ำอัจฉริยชนของแคว้นอี้น่ำจะมำรวมตัวกันอยู่ที่
เมืองเว่ยอันแล้ว

หญิงสำวไม่อยำกคิดเรื่องอื่นให้มำกนัก เวลำนี้ ขอเพียงมี


สถำนที่ ให้อำศัยอย่ำงปลอดภัยนำงก็พอใจแล้ว ในเมื่อมวลชน
ทัง้ หลำยชื่นชมผู้ปกครองขนำดนี้ เว่ยอันย่อมเหมำะสมที่ สุดที่
นำงจะตัง้ หลักดำเนินชี วิตต่อ ถำนหวันช่ ิ งหันไปยิ้มกับลุ่ยจู ใจ
พลันสงบลง

นำงเดินทำงล่วงมำครึง่ ค่อนวัน เพิ่งจะถึงประตูเมืองด้ำน


ในของเว่ยอันซึ่งเข้มงวดกวดขันกับผูเ้ ดินทำงเข้ำออกเป็ นอย่ำง
มำก กำแพงเมืองสูงรำวสี่ถึงห้ำฉื่ อ ตัง้ ตระหง่ำนจนผูค้ นต้องเงย
หน้ ำ มอง ยิ่ ง ไม่ ต้ อ งพูด ถึ ง ป้ อมปื นใหญ่ ที่ แ น่ น ขนั ด ทอดยำว
ตลอดเมือง ผูท้ ี่ได้เห็นต่ำงยำเกรงจนเนื้ อตัวสัน่ ต่อให้เป็ นคนที่
เคยไม่เชื่อฟังใครก็ต้องพำกันเข้ำแถวอย่ำงว่ำนอนสอนง่ำย

52
ใครก็ตำมที่ ต้องกำรเข้ำไปในเมืองล้วนต้ องผ่ำนประตู
หลักแห่งนี้ ทัง้ สองข้ำงของประตูเมืองมีทหำรประจำกำร ใช่ว่ำ
ผูใ้ ดก็สำมำรถเข้ำไปโดยง่ำยเสียเมื่อไร ผูล้ ี้ภยั บำงส่วนถูกลำกถู
ลู่ถกู งั ส่วนมำกเป็ นพวกที่ไม่มีสำมะโนครัวหรือหลักฐำนยืนยัน
ตัว ตน แม้ ค นเหล่ ำ นี้ จะถูก ห้ ำ มผ่ ำ นเข้ ำ ประตู เ มื อ งแต่ ก็ย ัง
สำมำรถรออยู่ด้ำนนอกได้ บรรดำพ่อค้ำวำณิชย์พ่อค้ำหำบเร่
หรื อ คนที่ ม ำเยี่ ย มเยื อ นญำติ ที่ ไ ด้ ร บั กำรตรวจสอบแล้ ว ไม่ มี
ปัญหำใดๆ ก็สำมำรถเข้ำเมืองได้อย่ำงสบำยใจ

นั ก พรตหญิ งบำกหน้ ำไปขออำศัย วัด อี ก ต ำบลหนึ่ ง


ดังนัน้ หลังจำกส่งถำนหวันช ่ ิ ง ลุ่ยจู และสองแม่ลูกถึงหน้ ำประตู
เมืองแล้ว ท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็บงั คับเกวียนจำกไป

กลำงเมืองมีผ้คู นมำกมำยเดินขวักไขว่ไปมำ ขณะที่ หน้ ำ


ประตูเมืองยังมีคนเข้ำแถวยำวเหยียด ต่ อแถวอยู่เป็ นนำนเพิ่ง
ถึงลำดับของสองแม่ลูกซึ่งยืนอยู่ก่อนถำนหวันช่ ิ งกับลุ่ยจู ทหำร
เฝ้ ำประตูเมืองมองดูครู่เดียวก็โบกมือเปิดทำงให้ ครัน้ ถึงครำว
ของถำนหวั น่ ชิ งกั บ ลุ่ ย จู ทหำรคนเดิ มกลั บ จดๆ จ้ อ งๆ
สำมะโนครัวสองแผ่นซ้ำแล้ว ซ้ำอี ก หรี่ ตำมองเขม็ง ไปที่ พ วก
นำงอยู่นำน

53
หญิงสำวอกสันขวั
่ ญหำยขึน้ มำฉับพลัน พึมพำในใจว่ำ ‘มี
ปัญหำกับสำมะโนครัวขนำดนัน้ เชียวหรือ ’ นำงค้อมตัวก้มหน้ ำ
ต่ ำ ลงไปอี ก รำวกับ วัน นี้ เป็ นวัน ที่ ห นำวเสี ย เหลื อ เกิ น แต่
หน้ ำผำกกลับซึมไปด้วยเหงื่อเย็น

ทหำรผู้นัน้ มองอย่ำงระแวงสงสัยอยู่ครู่หนึ่ งก่ อนจะส่ ง


สำมะโนครัวคืน แล้วโบกมือให้พวกนำงผ่ำนเข้ำเมือง จำกนัน้
กวักเรียกคนต่ อไปทำงด้ำนหลัง ชำวนำต่ ำงหมู่บ้ำนรีบส่งบัตร
ผ่ำนทำงให้ทนั ที

เมื่อหญิงสำวทัง้ สองรับสำมะโนครัวมำแล้ว ก็รีบเดินผ่ำน


ทหำรเฝ้ ำประตูเข้ำไปโดยไม่หนั กลับมำมอง กระทังออกมำไกล

พอสมควร ลุ่ยจูเพิ่งกล้ำสูดลมหำยใจเข้ำปอด มือของนำงตบ
บริเวณหน้ ำอกเบำๆ ปลอบขวัญตัวเอง “คุณหนู เมื่อครู่บ่ำว
ตกใจแทบแย่ กลัวว่ำทหำรที่ตรวจสำมะโนครัวสองแผ่นนัน้ จะดู
ออกว่ำพวกเรำเป็ น...”

ถำนหวันช่ ิ งกำลังยกชำยแขนเสื้อซับเหงื่อบนหน้ ำผำก


ได้ยินประโยคนี้ จึงทำเสียง “ชู่...” แล้วคว้ำสำวใช้ไว้พลำงมองไป
รอบๆ อย่ ำงร้อนใจ เห็นผู้คนที่ เดินผ่ำนไปผ่ำนมำไม่ได้ ใส่ ใจ
พวกนำง จึงชี้ หน้ ำผำกลุ่ยจูอย่ำงคำดโทษ กล่ำวเสี ยงเด็ดขำด
“จะพูดจะจำอะไรก็ระวังหน่ อย ต้องรูแ้ ละเข้ำใจไว้ด้วยว่ำกำแพง
54
มีหู หำกเจ้ำเอ่ยไม่ระวังปำกหำยนะจะมำถึงตัวได้ รู้หรือไม่เหตุ
ใดข้ำจึงไม่ค่อยพำเจ้ำออกไปเที่ ยวนอกจวน ก็เพรำะปำกของ
เจ้ำนัน่ แหละ”

นำยสำวจ้องเขม็งพลำงกดเสียงตำ่ ลง กำชับลุ่ยจูครังแล้
้ ว
ครัง้ เล่ำ “เจ้ำต้ องจำฐำนะของเรำตอนนี้ ให้แม่น!” เป็ นนักโทษ
หลบหนี ทัง้ ยังปลอมแปลงสำมะโนครัว หำกถูกจับได้ขึ้นมำจะ
เป็ นอย่ำงไร แม้แต่นำงยังไม่กล้ำคิด “หลังจำกนี้ ต่อไปไม่ว่ำจะ
เกิดอะไรขึน้ ต้องปิดปำกของเจ้ำให้สนิท หนี บหำงให้มิดชิดแล้ว
ทำตัวดีๆ เข้ำใจหรือไม่?”

“เจ้ำค่ะคุณหนู เมื่อครู่บ่ำวเพียงแต่ กลัวมำกจึงพลัง้ ปำก


พูดออกมำ ต่ อจำกนี้ บ่ำวรับประกันว่ำจะไม่ทำผิดซำ้ ซำกอี ก!”
ลุ่ยจูเข้ำใจแจ่มแจ้ง รีบยอมรับผิดและรับรองเป็ นมันเหมำะ

“ยังจะเรียกว่ำคุณหนูอีก!” ถำนหวันช ่ ิ งตวัดสำยตำมอง


สำวใช้แวบหนึ่ ง พวกนำงสองคนสวมเสื้อผ้ำเนื้ อหยำบเก่ำ แต่
ปำกยังกล้ำเรียกขำนกันไปมำว่ำคุณหนูอย่ำงนัน้ คุณหนูอย่ำง
นี้ หำกผูใ้ ดได้ยินเข้ำจะไม่เกิดควำมสงสัยหรอกหรือ

“พี่ ...พี่ สำว ข้ำเข้ำใจแล้ว ” ลุ่ยจูรบั คำอย่ำงไม่เต็มเสี ยง


นัก หลังจำกพ่อแม่ตำยจำกไปตัง้ แต่เยำว์วยั นำงก็ถกู ซื้อตัวเข้ำ
55
มำอยู่ ใ นจวนตระกูล ถำน หลำยปี มำนี้ เฝ้ ำติ ดตำมข้ ำ งกำย
คุณหนูไม่ห่ำง จนอำยุย่ำงเข้ำสิบห้ำ ปำกก็เรียกแต่คณ ุ หนูๆ มำ
จนชิน ใครจะคิดเล่ำว่ำวันหนึ่ งต้องมำเรียกขำนคุณหนูว่ำพี่สำว
หำกไม่ใช่ตระกูลถำนเกิดเรื่องขึ้น เกรงว่ำชี วิตนี้ คงไม่มีทำงได้
เรียกเป็ นแน่

ลึกๆ แล้วลุ่ยจูกอ็ ดรูส้ ึกดีใจมิได้

่ ิ ง มองมื อลุ่ย จูที่ กำชำยเสื้ อ ไว้


“ไปกัน เถอะ” ถำนหวันช
แน่ น

ตัง้ แต่ พ วกนำงหนี ออกมำได้ ลุ่ย จูก็เ ปลี่ ย นเป็ นคนพูด


มำกช่ ำ งติ เอำแต่ ก ล่ ำ วโทษคนนั น้ ต ำหนิ คนนี้ เมื่ อ เที ย บกับ
ตอนอยู่ที่จวน เรียกว่ำนิสยั เปลี่ยนไปเป็ นคนละคน

นำงอำจจะหวำดกลัวอนำคตอยู่กระมัง คิดได้ดงั นี้ ผ้เู ป็ น


นำยจึงยื่นมือไปจับมือของลุ่ยจูมำกุมไว้ พลำงส่งยิ้มให้ ทัง้ คู่เดิน
เข้ำเมืองไปด้วยกัน

เมื อ งเว่ ย อัน กว้ ำ งสุ ด ลู ก หูลู ก ตำ มี คูเ มื อ งและก ำแพง


เมื อ งที่ ก ว้ ำ งใหญ่ ไ พศำล มี ร้ำ นค้ ำ ต่ ำ งๆ กระจำยไปทัว่ กอง
กำลังป้ องกันชำยแดนดูเข้มแข็งเต็มภำคภูมิ หำกบ้ำนเมืองอยู่

56
ในช่ ว งสงบสุ ข เมื อ งนี้ ดู ท่ ำ จะร ่ำ รวยลื่ น ไหลปำนน้ ำ มัน เลย
ทีเดียว

มองไปที่ ใ จกลำงเมื อ งก็เ ห็น ก ำแพงอิ ฐ ก้ อ นใหญ่ สี เ ทำ


ครำม สิ่งปลูกสร้ำงทัง้ หมดในเมืองไม่ได้ดแู ย่อย่ำงเมืองอื่นๆ ที่
ผ่ำนมำ หำกไร้ซึ่งกำลังคนและทรัพย์สินเงินทองจำนวนมำก
เกรงว่ำคงไม่อำจทำได้

พอเข้ำมำในเมือง ใต้ ฝ่ำเท้ ำคื อถนนที่ ปูด้ ว ยแผ่นหินสี


เทำครำมสะอำดสะอ้ำน ถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูเพิ่งเข้ำเมืองเป็ น
ครัง้ แรก จ ำต้ อ งเดิ น ตำมหลัง คนอื่ น พวกนำงมองสอดส่ ำ ย
สำยตำสังเกตไปรอบๆ ริมถนนทัง้ สองข้ำงครึกครืน้ ไปด้วยโรง
น้ ำชำและร้ำนสุรำ มีพ่อค้ำหำบเร่กบั พ่อค้ำวำณิชย์จำกต่ ำงถิ่น
ไม่น้อยที่ ยืนตะโกนเรียกแขก สำเนี ยงของแต่ ละคนก็แตกต่ ำง
กันออกไป

“นึ กไม่ถึงว่ำจะได้มำอยู่หวั เมืองชำยแดนที่ เจริญรุ่งเรือง


ขนำดนี้ ...” แน่ นอนว่ำควำมเจริญไม่อำจเที ยบเท่ ำเมืองหลวง
แต่ กต็ ่ ำงจำกที่ จินตนำกำรเอำไว้มำก ลุ่ยจูมองซ้ ำยแลขวำไป
ตำมทำงเดิน ยำกที่ จะหยุดปำกของตนไม่ให้ อุทำนด้วยควำม
ตื่ นตะลึ ง ไม่รู้ว่ำลำนกำรแสดงตัง้ อยู่ต รงไหน ได้ ยินแต่ เสี ย ง
บรรเลงดนตรีดีดเป่ ำของคณะละคร สภำพอยู่เย็นเป็ นสุขเช่นนี้
57
ทำให้ สีหน้ ำของหญิงสำวทัง้ สองที่ อกสันขวั
่ ญหำยจำกกำรหนี
ตำยปรำกฏควำมสบำยใจออกมำ

เพิ่งจะใกล้เที่ยง ถำนหวันช
่ ิ งกับลุ่ยจูจึงยังไม่รีบร้อนหำที่
พัก ทัง้ สองเดินๆ หยุดๆ ทุกแห่งที่ น่ำสนใจในเมือง น่ ำแปลกที่
บริเวณโดยรอบแทบไม่มีของเล่น เรียกว่ำพบเห็นได้น้อยมำก
ทำงผ่ำนข้ำงหน้ ำนี้ ดูเหมือนจะเป็ นร้ำนค้ำที่ ดำเนินกิจกำรรับ
ฝำกเงินและแลกเปลี่ยนเงินตรำ

ถำนหวันช่ ิ งลำกลุ่ยจูเดินเข้ำไป หยิบเอำแผ่นทองใบไม้


ออกมำหนึ่ งชิ้น แลกเป็ นเงิน ได้ ส องพวง โดยนำงกับลุ่ยจูแบ่ง
เหรียญเงินกันคนละพวงสอดไว้ในชำยแขนเสื้อเพื่อเก็บไว้ใช้
จ่ำย

บนท้ อ งถนนค่ อ นข้ ำ งคึ ก คัก สิ่ ง ที่ ดึ ง ดูด พวกนำงที่ สุ ด


ไม่ใช่ ร้ำนอำหำรหรือโรงเตี๊ ยมที่ สีสนั ฉู ดฉำดสองข้ ำงทำง แต่
เป็ นกลิ่ น หอมของอำหำรรสเลิ ศ บนแผงร้ ำ นค้ ำ เล็ก ๆ กลิ่ น
เหล่ำนัน้ ลอยอวลเข้ำมำเตะจมูก ควันร้อนลอยสูงดังปุ ่ ยเมฆที่
เลือนรำงท่ำมกลำงควำมฝันอันรุ่งโรจน์ ช่ำงดึงดูดให้คนหิวจน
ท้องกิ่วท้องร้อง

58
สองสำมวันมำนี้ พวกนำงอำศัยพักอยู่ที่บำ้ นชำวนำ เรื่อง
ข้ำวยำปลำปิ้งไม่ต้องเอ่ยถึง เพียงอยำกจะกินให้อิ่มท้องยังยำก
หญิงสำวทัง้ สองจึงหิวบ้ำงโหยบ้ำงมำตลอด ตอนนี้ ได้ดมกลิ่น
หอมๆ ของอำหำร มีหรือจะทนควำมอยำกได้ จำต้องเก็บกิริยำ
ของสำวน้ อยลูกผูด้ ีโยนทิ้งไว้เสียก่อน

ลุ่ยจูจ้องร้ำนค้ำเล็กๆ นั น่ ตำเขม็งแล้วกลืนน้ ำลำย อด


ไม่ ไ ด้ ที่ จ ะดึ ง ชำยแขนเสื้ อ ของผู้เ ป็ นนำย นำงไม่ ก ล้ ำ บอกว่ ำ
อยำกกินอะไร มีเพียงปำกที่น่ำสงสำรร้องเรียก ‘พี่สำวๆ’ ให้หนั
มำสนใจ

ถำนหวัน่ ชิ งก็ใ ช่ ว่ ำ จะไม่ หิ ว ถูก ลุ่ ย จู ดึ ง เสื้ อ สองครัง้


ประจวบเหมำะกับเดินผ่ำนร้ำนขำยทังปิ่งแห่งหนึ่ งพอดี มองดู
แล้วน่ ำกินไม่น้อย พริบตำก็ถกู ลุ่ยจูลำกมำนัง่ ลงเสียแล้ว

ทังปิ่งก็คือก๋วยเตี๋ ยวที่ ถกู นวดเป็ นแผ่นกลม เนื้ อแป้ งไม่


ละเอียดแต่เวลำเคี้ยวนัน้ กลับนุ่ม วัตถุดิบที่ ว่ำถูกวำงลงในชำม
รำดตำมด้วยน้ ำแกง รสชำติยวน ั ่ ้ ำลำยคนนัก ยิ่งกลำงฤดูใบไม้
ร่วงเช่ นนี้ ได้ ซดน้ ำน้ ำแกงร้อนๆ สักชำมให้ กระเพำะอุ่นบ้ำง
นับว่ำไม่เลวที เดียว อีกทัง้ รำคำยังถูก หนึ่ งชำมเพียงสำมอีแปะ
เท่ ำ นั ้น จึ ง ไม่ น่ ำแปลกใจที่ ห น้ ำร้ ำ นจะมี ลู ก ค้ ำ มำยื น รออยู่
มำกมำย
59
ควำมหิวโหยก่อนหน้ ำนี้ แสนหฤโหด ถำนหวันช ่ ิ งยกชำม
ขึ้นแล้วมองอยู่ครู่หนึ่ ง แม้หน้ ำตำอำหำรจะไม่ชวนมอง แต่เมื่อ
น้ำแกงไหลลงท้อง ระดับควำมเร็วกลับไม่ช้ำและยังไม่ถึงอกถึง
ใจสักเท่ำไร

“อร่ อ ยมำก!” ลุ่ ย จูห ลุ ด ปำกออกมำทัน ที ที่ มื อ ทัง้ สอง


ประคองชำมลง

ในตระกูล ถำน นำงนั บ เป็ นสำวใช้ อ นั ดับ หนึ่ ง ข้ ำ งกำย


คุณหนู เชี่ ยวชำญในทุกสิ่ง ดูแลทัง้ ด้ำนอำหำรกำรกินเลิศหรู
และเสื้อผ้ำที่ งดงำมละเอียดอ่อน อำหำรของคุณหนูหนึ่ งมื้อถือ
เป็ นรำงวัลของพวกนำง ผูใ้ ดเล่ำจะคำดคิดว่ำในเช้ำของวันหนึ่ ง
จะได้มำนัง่ กินน้ำแกงกับก๋วยเตี๋ยวเส้นหยำบชำมนี้ ที่เกินควำม
คำดหมำยคื อ อำหำรในมื อ นี้ เอร็ ด อร่ อ ยเหลื อ หลำยใน
ควำมรูส้ ึกของนำง

ถำนหวัน่ ชิ ง น ำเงิ น หกอี แ ปะในชำยแขนเสื้ อ ส่ ง ให้ แ ก่


เจ้ำของร้ำนด้ วยท่ ำทำงเก้งก้ำง นำงไม่คุ้นชินกับกำรจ่ำยเงิน
พอหัน กลับ มำก็เ ห็น สำวใช้ ข องตนนั ง่ มองชำมน้ ำ แกงด้ ว ย
ใบหน้ ำโศกเศร้ำตำละห้อย อดไม่ได้ที่จะถอนหำยใจ

60
หำกลุ่ ย จูเ กิ ด มำเป็ นธิ ด ำของตระกูล ขุน นำง แล้ ว เกิ ด
ควำมรู้สึกโศกเศร้ำอำดูรจนหลังน ่ ้ ำตำในยำมตกอับ ก็คงเป็ น
เรื่ อ งปกติ ทว่ ำ ลุ่ ย จู ก ลับ เป็ นหนึ่ งในสี่ ส ำวใช้ ที่ อ ดทนและ
คล่องแคล่วที่ สุดคนหนึ่ งของถำนหวันช ่ ิ ง ทว่ำระยะนี้ นำงกลับ
หลังน ่ ้ ำตำอยู่บ่อยครัง้ ทัง้ ต้องผ่ำนกระบวนกำรคิดเสี ยก่อนจึง
จะเข้ ำ ใจถึ ง เหตุ ผ ลของควำมเปลี่ ย นแปลงหรื อ สิ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น
โดยเฉพำะช่ ว งเวลำนี้ นำงต้ อ งตกใจและเผชิ ญกับ ควำมอ
ยุติธรรมมำกมำย

แววตำของถำนหวันช ่ ิ งเปลี่ยนไปเมื่อมองร้ำนขนมข้ำงๆ
ในใจรู้สึ ก ลิ ง โลดขึ้น มำ นั ย น์ ต ำมี ป ระกำยวิ บ วับสะท้ อ นภำพ
ขนมไหว้พระจันทร์หอมกรุ่นที่ อยู่ตรงนัน้ ขำทัง้ สองข้ำงเคลื่อน
ตำมกลิ่นไป ขนมนี้ เหมือนกับถ้วยใบเล็กๆ ข้ำงบนมีรอยสลัก
ลำยดอกไม้สวยงำมกรุน่ กลิ่นเนื้ อ

กลิ่นหอมนัน้ ยัวน
่ ้ ำลำย ดึงดูดผู้คนมำห้อมล้อม ทว่ำคน
ซื้อกลับไม่มำก ด้วยขนมหอมน่ ำกินแต่รำคำสูงลิ่วถึงชิ้นละสอง
อี แปะ เสี่ ยวเอ้ อคนขำยบรรยำยรสชำติของขนมไม่หยุดปำก
บรรยำยถึงขัน้ ว่ำ...ชิ้นเนื้ อแกะเป็ นอย่ำงไร ชัน้ แป้ งของขนม
เป็ นอย่ำงไร

่ ิ งต้องเดินตรงเข้ำไปหำ
พูดเสียจนถำนหวันช
61
บทที่ 5 เมืองที่แข็งแกร่ง

ลุ่ยจูมองควำมว่ำงเปล่ำอยู่เป็ นนำน

ครัน้ เงยหน้ ำก็ตกใจเพรำะไม่เห็นคุณหนูแล้ว นำงรีบผุด


ลุ ก ขึ้ น ซ้ำ ยัง ชนเก้ ำ อี้ เ สี ย อี ก แต่ น ำงหำได้ ส นใจไม่ สอดส่ ำ ย
สำยตำมองไปทุกทิศทำงอย่ำงตื่นตระหนก กระทังเห็ ่ นเงำของ
ใครบำงคนกวักมือไหวๆ อยู่ข้ำงถนนก็รีบพุ่งไปทันที “คุณหนู
ท่ ำ นไปไหนมำ? มองไม่ เ ห็น คุณ หนู บ่ ำ วตกใจแทบแย่ ” มำ
แปลกที่ แ ปลกถิ่ น เช่ น นี้ หำกทัง้ คู่เ กิ ด พลัด หลงกัน แล้ ว จะท ำ
อย่ำงไรเล่ำ

นำยสำวไม่ตอบ แต่ยดั ห่อผ้ำฝ้ ำยเนื้ อหยำบสะอำดใส่ใน


มืออีกฝ่ ำย “กินซะ”

ลุ่ยจูรบั ผ้ำห่อมำ ข้ำงในคือขนมไหว้พระจันทร์ร้อนระอุที่


เพิ่งออกจำกเตำ ร้อนลวกมือจนเด็กสำวต้ องรีบพลิกห่ อผ้ำใน
มือกลับไปกลับมำ คำดว่ำคงเป็ นขนมของพวกคนเถื่อนนอก
ด่ำนเผ่ำซย่งหนู[1] เพรำะแม้แต่ลุ่ยจูเองก็ยงั ไม่เคยเห็นมำก่อน
รูส้ ึกเพียงว่ำขนมชิ้นนี้ หอมมำก

62
ลุ่ ย จูร อจนขนมเย็น ลงสัก หน่ อ ยจึ ง แบ่ ง ครึ่ ง ให้ คุ ณ หนู
นำงลองชิมแล้วคำหนึ่ ง อร่อยเกินกว่ำที่คิดเอำไว้มำกด้วยมันมี
รสชำติ ข องเนื้ อ! แป้ งด้ ำนนอกกรอบและไส้ ในหอมเนื้ อ แกะ
อร่ อ ยที่ สุ ด นำนแล้ ว ที่ น ำงไม่ ไ ด้ กิ น เนื้ อ อย่ ำ ว่ ำ แต่ เ นื้ อ เลย
แม้แต่ปลำก็ยงั ไม่ได้เห็นด้วยซำ้

“คุณ หนู นี่ คื อ อะไรเจ้ ำ คะ บ่ ำ วไม่ เ คยกิ น ขนมที่ ห อม


ขนำดนี้ มำก่อน” เด็กสำวเป็ นคนตะกละตะกลำม ตอนอยู่ที่จวน
ตระกูลถำนนำงก็เจริญอำหำรเสี ยจนใบหน้ ำกลมป่ อง แต่ ไหน
แต่ ไ รพอมี ข องกิ น อร่ อ ยๆ ลุ่ย จูไ ม่ เ คยปฏิ เ สธ หำกมี เ รื่ อ งไม่
สบำยใจอะไรขอเพียงมีของกินนำงจะลืมได้เร็วมำก และเป็ นไป
อย่ ำ งที่ ถ ำนหวัน่ ชิ ง คิ ด เมื่ อ ครู่ย ัง นั ง่ เศร้ ำ น้ ำ ตำไหลอยู่ เ ลย
ตอนนี้ หน้ ำบำนด้วยควำมปี ติยินดีขึน้ มำเชียว

“เขำเรี ย กว่ ำ ขนมไหว้ พ ระจัน ทร์ เป็ นของกิ น ของชน


เผ่ำซย่งหนู อย่ำมองว่ำมันเป็ นแค่ขนมย่ำงชิ้นเล็กๆ นะ ไส้ข้ำง
ในยัดเนื้ อแกะไว้มำกที เดียว ตอนอยู่ในเตำต้องย่ำงจนสุกแล้ว
เอำออกมำ เนื้ อแป้ งหอมน้ ำมันน่ ำกินมำก แต่ ต้องกินร้อนๆ
เย็นแล้วจะไม่อร่อย”

หญิ ง สำวมองลุ่ย จูล ะเลี ย ดกิ น พลำงมองขนมในห่ อผ้ำ


เกรงว่ ำ สำวใช้ จ ะละโมบจึ ง อดชี้ แ นะอี ก ไม่ ไ ด้ “ขนมนี้ ถึ ง แม้
63
รสชำติจะอร่อย แต่น้ำมันมำกเกินไป ครึ่งชิ้นก็พอแล้ว กินมำก
ไม่ดี ไม่เช่นนัน้ เจ้ำจะท้องเสียเอำได้”

“บ่ำ วเข้ ำ ใจแล้ ว เจ้ ำ ค่ ะ ” ถึ ง จะถูก คุณ หนู พูด เทศนำสัง่


สอน แต่ ในใจกลับคิดเพียงว่ำขนมก้อนนี้ คณ ุ หนูซื้อให้ ใบหน้ ำ
ลุ่ยจูหวำนเยิ้ม ยิ้มแก้มปริพลำงกัดกินขนมไม่พดู ไม่จำ

มีน้ ำแกงเส้นเติมท้องไว้แล้ว ทัง้ สองคนจึงไม่รีบร้อนกิน


ขนมให้ ห มด พำกัน เดิ น เที่ ย วเพื่ อ ส ำรวจเมื อ งอย่ ำ งละเอี ย ด
่ ิ นมำถึงครึ่งทำงจู่ๆ ก็เห็นผู้คนทะลักออกมำจำกถนน
กระทังเด
เบื้อ งหน้ ำ ปรำกฏทหำรสวมชุด เกรำะและหมวกเหล็กยื น อยู่
ทันใดนั น้ ก็ได้ยินเสี ยงใครบำงคนตะโกนออกมำ “ใต้ เท้ ำเซี่ ย!
รีบไปดูใต้เท้ำเซี่ยกัน!”

“ใต้เท้ำเซี่ยรึ? อยู่ที่ไหน?”

“ประตูเมืองทำงเหนื อ มี กองกำลังทหำรม้ำติดตำมมำ
ด้วย!”

“ได้ ยินมำว่ำท่ ำนยึดกองกำลังโจรเมืองใต้ มำได้ นับสิบ


ครอบครัว รีบไปดูเร็ว ประเดี๋ยวคนจะมำกกว่ำนี้ แล้วจะแทรก
เข้ำไปไม่ได้”

64
เพียงได้ยินชื่อใต้ เท้ ำเซี่ ยเท่ ำนัน้ ร้ำนค้ำใหญ่น้อยต่ ำงก็
เก็บของปิดร้ำนแทบทัง้ สิ้น ประชำชนโดยรอบหรือแม้แต่หญิงที่
แต่งงำนแล้วล้วนตำมเสียงเรียกมุ่งหน้ ำไปยังประตูทิศเหนื อ

ถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูมองตำมคนเหล่ ำนั น้ ไปด้ วยควำม


ประหลำดใจ เห็นใครต่ อใครพำกันตื่ นเต้ นดี ใจ บำงคนถึงขัน้
เบียดเสียดผู้อื่นไปทัง้ ที่กำลังหิ้วตะกร้ำหำบเข่งพะรุงพะรัง พวก
นำงเองก็โดนเบียดให้ อยู่ตรงกลำงระหว่ำงฝูงชนอย่ำงไม่อำจ
เลี่ยงได้ จะหยุดก็ไม่ใช่จะก้ำวเดินก็ไม่เชิง จำต้องไหลตำมผู้คน
ไปรวมกันที่ลำนประตูเมืองทำงเหนื อ

ในเมื อ งเว่ ย อัน มี ช ำวบ้ำ นท้ อ งถิ่ น อำศัย อยู่ ร วมกับ คน


นอกเมืองที่ ย้ำยเข้ ำมำท ำกำรค้ ำ แน่ นอนว่ ำเมื่อรวมกัน แล้ ว
จำนวนคนย่อมมีไม่น้อย และต่ ำงแห่ กนั มำที่ ประตูทำงเหนื อ
รำวๆ เจ็ดพันถึงแปดพันคน นับว่ำมืดฟ้ ำมัวดินเลยทีเดียว นี่ ยงั
ไม่ ร วมถึ ง ผู้ค นที่ ก ำลัง รี บ ร้ อ นตำมมำ หำกนั บ แล้ ว เกรงว่ ำ
อำจจะร่วมหมื่นคนขึน้ ไปก็เป็ นได้

ช่ำงเป็ นภำพที่ยิ่งใหญ่น่ำเกรงขำมเสียเหลือเกิน ทหำรม้ำ


ในชุดเกรำะจำนวนมำกรวมพลอยู่ที่หน้ ำประตู ส่วนพลทหำรใน
เมืองที่ไม่ได้สวมชุดเกรำะ อำยุรำวสำมสิบปี ทุกนำยเข้ำแถวรอ
อย่ำงเคำรพนบนอบ กองกำลังทหำรติดอำวุธดูแข็งกร้ำว ด้วย
65
ผ่ำนประสบกำรณ์ ในสนำมรบอันยำวนำนจึงมีกลิ่นอำยกดดัน
ผู้คน ชวนให้ชำวเมืองทัง้ หลำยกริ่งเกรงหวำดระแวงจนไม่กล้ำ
หุนหันพลันแล่น

ดัง นั ้น ถึ ง สถำนที่ แ ห่ ง นี้ จ ะเต็ม ไปด้ ว ยประชำชนที่ ม ำ


รวมตัวกันแน่ นขนัด แต่ ทุกคนกลับว่ำนอนสอนง่ำย ประพฤติ
ตัวเรียบร้อย ไร้เสียงเจี๊ยวจ๊ำวโหวกเหวกหรือเดินลำกเท้ำไปมำ
รำวกับถูกพลังอำนำจของกองทัพอันยิ่งใหญ่กดดันให้นิ่งเงียบ
ในทันใด

ถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูถกู กลุ่มคนเบียดจนแทบมองอะไรไม่


เห็น อยู่ที่ มุมหนึ่ ง หนแรกได้ ยิ น เสี ย งคนบำงกลุ่มตรงบริเวณ
ประตูเหนื อกำลังตะโกนด่ำทอ

“พวกโจรขี้ฉ้อ!”

“พวกเดรัจฉำนชัวร้
่ ำย!”

“ฆ่ำมัน!”

ด้ำนข้ำงมีคนสอบถำมคนข้ำงหน้ ำว่ำเกิดเรือ่ งอะไรขึน้

แล้วก็ได้คำตอบกลับมำมำกมำย
66
“มี คนก่ อกบฏในเมือง ใต้ เท้ ำเซี่ ยจึงเกณฑ์กำลังทหำร
จำกค่ำยไปกว่ำครึ่ง แต่ ในคนหมู่มำกมักจะมี พวกจิตใจต่ำช้ ำ
แฝงเร้น อย่ำงวันนี้ กม็ ีทหำรบำงกลุ่มฉกฉวยโอกำสตอนใต้เท้ำ
ไม่อยู่ เข้ำปล้นชิงเข่นฆ่ำชำวบ้ำนไปไม่น้อย แต่โชคไม่ดี เพิ่งจะ
หนี ออกจำกเมืองได้เพียงครึ่งทำงก็ถกู ทหำรม้ำของใต้เท้ำสกัด
กัน้ ไว้เสียแล้ว...”

“เมื่อครูผ่ ทู้ ี่แช่งด่ำก็คือพวกญำติพี่น้องของผูต้ ำย...เฮ้อ...


คนเรำนี่ น ะ พูด ว่ ำตำยก็ต ำย ดูอย่ ำงอ๋องเมื องใต้ ซิ หลำยวัน
ก่อนหน้ ำนี้ ข้ำยังพูดถึงเขำอยู่เลย ไม่คิดว่ำวันนี้ คนกลับไม่อยู่
แล้ว”

“ยังดีที่มีใต้เท้ำเซี่ ยรักษำควำมเป็ นธรรมให้พวกเรำ จับ


พวกโจรมัดกลับมำได้ ไม่เช่นนัน้ ละก็...คนคงตำยเปล่ำเป็ นแน่ ”

“ได้ยินมำว่ำรอบนี้ มีกองกำลังโจรแปดสิบกว่ำคนเชี ยว
นะ ไม่รวู้ ่ำใต้เท้ำเซี่ยจะจัดกำรกับพวกมันอย่ำงไร”

“ตอนนี้ ต้องจัดกำรกับพวกต๋ำจื่อ[2] นี่ ก่อน เดิมลูกน้ อง


ของใต้ เ ท้ ำ ก ำลัง ขำดแคลนก ำลัง พล จะฆ่ ำ ตำยก็เ สี ย ดำยจึ ง
ลงโทษโดยให้มำทำงำนแบกหำมในกองทัพแทน ครำวนี้ แม้ว่ำ
จะเลี่ ยงโทษตำยได้ แต่ โทษเป็ นนี่ เห็นที จะหนี ยำก แน่ นอนว่ำ
67
นอกจำกเป็ นทำสแบกหำมแล้ว คงโดนเหล่ำทหำรใช้กระบองตี
ระบำยแค้นให้กบั ครอบครัวผูต้ ำยเป็ นแน่ ”

“แบบนี้ ตีให้ ตำยไปเลยจะได้หลำบจำ จะได้ไม่มีโอกำส


เข่นฆ่ ำแย่งเงินใครอี ก เมื่อมำเป็ นทหำรแล้วไม่ใช่ ต้องปกป้ อง
รัก ษำเมื อ งเว่ ย อัน และประชำชนอย่ ำ งพวกเรำหรื อ กลับ มี
พฤติกรรมเช่นนี้ ช่ำงทำให้ผิดหวังเสียจริง”

ผู้ ค นโดยรอบต่ ำ งกระซิ บวิ พำกษ์ วิ จำรณ์ ก ั น อื้ อ อึ ง


จนกระทัง่ ได้ ยิ น น้ ำ เสี ย งเคร่ง ขรึม เย็น ชำดัง มำจำกประตู ทิ ศ
เหนื อ “ส ำหรับ พวกทหำรที่ ไ ร้ ย ำงอำย รัก ตัว กลัว ตำย กับ
ชำวบ้ำนแท้ ๆ ยังกล้ำทำตัวประหนึ่ งหมำป่ ำ ทหำรแบบนี้ เก็บ
เอำไว้ต่อจะมีประโยชน์ อะไร?”

ณ เวลำนี้ ทุกคนล้วนหันไปทำงต้ นเสี ย ง ที่ ประจักษ์ อยู่


เบือ้ งหน้ ำคือนำยทหำรในชุดเกรำะสีดำปลอดบนหลังม้ำ ชำยผู้
เต็มเปี่ ยมไปด้วยพละกำลัง เขำมีรปู ร่ำงสูงสง่ำ ประจวบเหมำะ
กับที่ แสงอำทิตย์ยำมนี้ สำดส่องมำทำงด้ำนหลังประตูเมือง อีก
ทัง้ เขำยัง อยู่ไ กลจนไม่ อ ำจเห็น ใบหน้ ำ ชัด เจน จึ ง ท ำให้ เ ขำดู
่ ่หน้ ำประตู
เหมือนรูปปัน้ ที่ตงั ้ มันอยู

68
น้ ำเสี ยงเย็นชำนัน้ กลับฟั งชัดถ้อยชัดคำ รึคนผู้นี้จะเป็ น
ใต้เท้ำเซี่ย ศูนย์รวมจิตใจของมวลชน?

่ ิง
แม้ใต้เท้ำเซี่ยท่ำนนี้ อำจจะไม่ได้อำยุน้อย แต่ถำนหวันช
ก็อดประหลำดใจไม่ได้ ด้วยนำงเข้ำใจว่ำผูป้ กครองเมืองเว่ยอัน
แห่ ง นี้ น่ ำ จะเป็ นคนมำกประสบกำรณ์ ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ ม กั เป็ นผู้
อำวุโส แต่ ผ้ทู ี่ อยู่เบื้องหน้ ำดูเ หมือนอำยุจะยังไม่ถึ งสำมสิ บ ปี
ด้วยซำ้

ขณะที่หญิงสำวกำลังตกอยู่ในห้วงควำมคิด ก็พลันได้ยิน
ชำยบนหลังม้ำตะโกนสังลู
่ กน้ องด้ำนหลังว่ำ “ทหำร! ตัดศีรษะ
ของสวะพวกนี้ ชดเชยเลือดเนื้ อให้ประชำชนที่ ตำยอย่ำงอนำถ
ด้วยฝี มือของพวกมัน”

พลทหำรด้ ำ นหลัง ไม่ ล งั เลสัก นิ ด ก้ ำ วไปข้ ำ งหน้ ำ หนึ่ ง


ก้ำว โจรที่ถกู มัดกองไว้กบั พืน้ ถูกลำกมำบนโต๊ะ จำกนัน้ พวกเขำ
ก็เงือ้ มือลงดำบทันที

ของเหลวแดงฉำนมำกมำยพุ่ง ทะลัก ดุจ น้ ำ พุ กระเซ็น


เต็มอำกำศ สำดลงพื้นเป็ นรอยแดงและมีไม่น้อยที่ กระเด็นโดน
หน้ ำชำวบ้ำนซึ่งยืนไม่ห่ำงนัก

69
อึ ด ใจนั ้น บรรยำกำศตรงประตู ท ำงฝั ง่ ทิ ศ เหนื อพลัน
เงียบกริบ ทัวทั ่ ง้ บริเวณล้วนไร้เสียง ทุกคนมองนิ่งไปที่ ศพ สอง
ขำชำหนึ บเหมือนตะคริวกินไปแล้วสองส่วน ไม่มีใครหน้ ำไหน
กล้ำร้องออกมำ มีเพียงเสียงรำ่ ไห้ขอชีวิตของกลุ่มโจร พวกมัน
ต่ ำงพำกันอ้ อนวอนโหยหวนกันระงมปำนผีสำง ขอให้ อีกฝ่ ำย
ยกโทษให้ แต่ ถึ ง อย่ ำ งนั ้น ปฏิ บัติ กำรนองเลื อ ดก็ย ัง มี อ ย่ ำ ง
ต่อเนื่ องโดยไม่มีผใู้ ดยับยัง้ ได้

ประชำชนคนธรรมดำคงยัง ไม่ เ คยเห็น ฉำกน่ ำ เวทนำ


เช่ น นี้ มำก่ อน โจรเกื อบหนึ่ งร้อยถูกกระชำกออกมำข้ ำงหน้ ำ
ต่ ำงสำรภำพและวิงวอนอย่ำงหวำดกลัวก่ อนตำย กะพริบตำ
กระวนกระวำยทัง้ ๆ ที่เลือดอำบหน้ ำ สุดท้ำยก็ไม่พ้นกลำยเป็ น
ศพ

ศพแล้ ว ศพเล่ ำ ศี ร ษะมำกมำยกองเกลื่ อ น เลื อ ดสำด


กระจำยไหลอำบขำโต๊ ะ ช่ ำ งเป็ นฉำกที่ ส ร้ ำ งควำมหวันไหว ่
สะเทื อ นใจแก่ ทุ ก คนถึ ง ขนำดไม่ ก ล้ ำ กระดุก กระดิ ก แม้ เ พี ย ง
เล็กน้ อย เพียงส้นเท้ำจะเสียดสีกนั ก็ยงั ไม่กล้ำ

เวลำนี้ เหล่ำทหำรเพชฌฆำตยืนอยู่ท่ำมกลำงทะเลเลือด
ดุจปี ศำจร้ำย ยิ่งใต้ เท้ ำเซี่ ยยิ่งดูเหมือนยมทูตจำกนรกภูมิ เขำ

70
สัง่ ล้ ำ งบำงนั ก โทษมำกมำยด้ ว ยท่ ำ ที สุ ขุ ม เย็ น ชำ และไร้
ควำมเห็นอกเห็นใจใดๆ

เมื่อกำรประหำรชี วิตเสร็จสิ้น ยมทูตเซี่ ยก็ควบม้ำอย่ำง


เชื่ อ งช้ ำ เนิ บนำบ อ้ อ ยอิ่ งอ้ อ มทะเลเลื อ ดมำเผชิ ญหน้ ำกับ
กองทัพทหำรที่ยืนอยู่เต็มลำนกว้ำง ชี้นิ้วไปที่ โต๊ะซึ่งเต็มไปด้วย
ศี ร ษะและซำกศพชุ่ ม ธำรเลื อ ดและกล่ ำ วว่ ำ “หำกมัน ผู้ใ ด
บังอำจสังหำรประชำชนของเมืองเว่ยอัน ก็จะเป็ นเหมือนร่ำงไร้
วิญญำณที่ลำนแห่งนี้ หวังว่ำต่อไปจะไม่มีใครกล้ำคิด ถ้ำเกิดผิด
ซ้ ำ รอยเดิ มอี ก ไม่ ว่ ำ มัน ผู้นั ้น จะเป็ นใคร จะไม่ มี ก ำรอภัย
เด็ดขำด ต้องตำยสถำนเดียว!”

ถำนหวันช่ ิ งกับลุ่ยจูค่อยๆ แทรกตัวออกจำกฝูงชน ท้อง


ไส้แข้งขำอ่อนปวกเปี ยกไปหมด อำหำรที่เพิ่งกินเข้ำไปพร้อมใจ
มำรวมอยู่ที่คอหอยแล้ว ถำนหวันช ่ ิ งอยำกรอให้เหล่ำทหำรจำก
ไปเสี ยก่อน แต่ ไม่อำจฝื นทนจำต้ องพิงมุมกำแพงขย้อนแป้ งที่
เพิ่งกินไปเมื่อครู.่ .. ออกมำ

ส่ วนลุ่ยจูแม้จะพอทนได้แต่กว็ ิ งเวียนศีรษะเช่ นกัน สอง


ขำอ่อนยวบเหมือนเส้นทังปิ่ง นำงปิดปำกตัวเอง มืออีกข้ำงลูบ
หลังให้ นำยสำว ปำกกลับอู้อี้เอ่ยถึงซำ้ อี ก “น่ ำกลัวมำกนะเจ้ำ
คะ ใต้เท้ำเซี่ยคนนัน้ ...เป็ นยมทูตที่โหดร้ำยทำรุณ ฆ่ำคนโดยไม่
71
กะพริบตำ ปี ศำจชัดๆ คิดๆ ดูแล้วก็อยำกให้เป็ นแค่ฝันร้ำย คุณ
หนู ...คุณหนู เจ้ำคะ พวกเรำไปจำกที่ นี่กนั เถอะ อย่ ำอำศัยอยู่
เมืองนี้ เลยนะ...”

่ ิ ง อำเจี ย นน้ ำ ดี อ อกมำหมดท้ อ งแล้ ว


ตอนนี้ ถ ำนหวันช
หญิ ง สำวเอนตัว พิ ง ก ำแพงอย่ ำ งอ่ อ นแรงพลำงโบกมื อ แล้ ว
กล่ำวว่ำ “ไม่ พวกเรำจะไม่ไป ยิ่งเข้มงวดยิ่งดี เรำต้ องอยู่ที่นี่
เท่ำนัน้ !”

เมื อ งเว่ ย อัน มี แ ม่ ท ัพ หัว เมื อ งที่ เ ข้ ม งวดในกฎระเบี ย บ


ทหำรจึงซื่อสัตย์สจุ ริต

ใต้เท้ำที่ เห็นอำณำประชำรำษฎร์สำคัญยืนอยู่ตรงหน้ ำนี้


่ ิง
แล้ว จะมีแห่งหนตำบลใดที่ปลอดภัยไปกว่ำที่ นี่อีก ถำนหวันช
สำรอกอำหำรออกมำจนหมด ไม่เพียงไม่ออกไปจำกเมืองนี้ ยัง
ตัง้ ใจแน่ วแน่ ที่จะตัง้ รกรำกที่เมืองนี้ เสียด้วยซำ้

และแน่ นอน...จะต้องหลบให้ไกลจำกเนินกองศพกับสำย
ธำรเลือดที่ เจิ่งนองอยู่ ณ ประตูทำงทิศเหนื อ สถำนที่ นี้อึมครึม
น่ ำสะพรึงกลัวรำวกับเป็ นปำกประตูนรก ต่อไป... ไม่ว่ำอย่ำงไร
นำงก็จะไม่เฉี ยดกรำยมำที่แห่งนี้ อีก

72
โชคดี ที่ ประตู ท ำงทิ ศเหนื อของเมื อ งเว่ ย อั น เป็ น
ทำงเข้ำออกของกองทัพเท่ ำนั น้ ประชำชนทัวไปจึ
่ งไม่อำจเข้ำ
ออกได้

ถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูเพิ่งเข้ำมำเมืองเว่ยอันเป็ นครัง้ แรก


แค่ครัง้ แรกก็ได้เห็นภำพสะเทือนขวัญแบบนี้ เสียแล้ว ใบหน้ ำจึง
ซีดเผือด แข้งขำอ่อนเปลี้ยไปหมด ผิดกับชำวบ้ำนที่พอจบเรื่อง
ทุกอย่ำงก็กลับสู่สภำวะปกติ พ่อค้ำหำบเร่กเ็ ดินขำยของต่อ คน
ปิดร้ำนก็เปิดร้ำนดำเนินกิจกำรของตนอีกครำ คนเดินตลำดก็
เดิ น จับ จ่ ำ ยกัน ต่ อ ไป ในเมื อ งยัง คงคึ ก คัก อย่ ำ งยิ่ ง หำได้ ร บั
ผลกระทบแม้แต่น้อย

สภำวะดัง กล่ ำ ว คนต่ ำ งถิ่ น อย่ ำ งพวกนำงไหนเลยจะ


เข้ำใจจิตใจของชำวบ้ำนในเมืองเว่ยอันได้ ชำวบ้ำนแต่ละคนทำ
รำวกับ ว่ ำ ฉำกประหำรในวัน นี้ ไม่ ไ ด้ บ นทอนจ
ั่ ิ ต ใจพวกเขำ
แม้แต่ น้ อย กลับ ยิ่ ง เลื่ อนบำรมี ข องใต้ เท้ ำเซี่ ย ในใจทุกคนให้
สูงส่งขึน้ เสียด้วยซำ้

บนท้ อ งถนน ทุ ก คนก ำลัง วิ พ ำกษ์ วิ จ ำรณ์ แ สดงควำม


คิดเห็นอย่ำงตื่นเต้นฮึกเหิม

73
ลุ่ยจูประคองคุณหนูของตนพลำงถำมอย่ำงตระหนกและ
งงงวย “คุณหนูเจ้ำคะ ได้ยินหรือไม่ พวกเขำคุยกันว่ำใต้เท้ำเซี่ย
เดิมเป็ นเพียงประชำชนธรรมดำเท่ำนัน้ แต่ จะเป็ นไปได้หรือที่
ลูกชำวบ้ำนธรรมดำจะสำมำรถรับรำชกำรทหำร” ทัง้ ยังดำรง
ตำแหน่ งเป็ นถึงแม่ทพั หัวเมืองอีกด้วย

แต่ไรมำข้ำรำชกำรล้วนต้องมีรำกฐำนมำจำกครอบครัว
ตระกูลขุนนำง ส่ วนประชำชนทัวไปนั ่ น้ ต่ อให้ มีควำมสำมำรถ
ไร้ จุด ด่ ำ งพร้ อ ย แต่ คุณ สมบัติ แ ค่ นี้ ก็ท ำได้ เ พี ย งสอบขุน นำง
ระดับเคอจวี่[3] เท่ำนัน้ หำกไม่มีเส้นสำย ไร้ผ้สู นับสนุน ไร้เงิน
ทองค่ ำน้ ำร้อนน้ ำชำขอเล่ำเรียน จะคุยถึงอนำคตที่ งดงำมได้
อย่ำงไร

ยิ่งไปกว่ ำนั น้ หำกเริ่มต้ นจำกพลทหำรชัน้ ประทวน[4]


กำรเลื่อนขึ้นหนึ่ งขัน้ มีเพียงต้องพึ่งพำปำฏิหำริยเ์ ท่ำนัน้ ดังนัน้
พอลุ่ยจูได้ยินจึงไม่อยำกจะเชื่อ

[1] ซย่งหนู เป็ นชนชำติที่เลี้ยงสัตว์ตำมเขตมองโกเลี ย


ในสมัยต้นรำชวงศ์ฮนั ่

74
[2] ต้ ำ จื่ อ คื อ กลุ่ ม ชนเผ่ ำ เวยอู๋ เ อ่ อ ใช้ ภ ำษำมองโก
ลในกำรสื่อสำร

[3] เคอจวี่ คือ ชื่อระบบกำรสอบคัดเลือกข้ำรำชกำรพล


เรือน บำงคนเรียกว่ำ กำรสอบจิ้นซื่ อ เคอจวี่เป็ นชื่ อระบบ คือ
สอบระดับอำเภอ มณฑล แล้วไปสอบรอบสุดท้ำยชิงตำแหน่ งจิ้
นซื่ อ หมำยถึง ได้เข้ำรับรำชกำรแน่ นอน (แต่ ยงั ไม่ใช่ ขุนนำง
ระดับสูง) จำกนัน้ ผู้ที่ได้จิ้นซื่ อต้ องไปสอบจอหงวน ที่ จดั ขึ้นใน
พระรำชวัง โดยฮ่องเต้เป็ นผู้ออกข้อสอบ ควบคุมกำรสอบ และ
คัดเลือกเอง อันดับ 1 เป็ นจอหงวน อันดับ 2 เป็ นป๋ำงเหยี่ ยน
และอัน ดับ 3 เป็ นทัน่ ฮวำ สำมอัน ดับ นี้ จึ ง จะได้ เ ป็ นขุน นำง
ระดับสูง

[4] ชัน้ ประทวน เป็ นพลทหำรยศตำ่ ที่สดุ

75
บทที่ 6 หาที่พกั

พอไม่ ไ ด้ ก ลิ่ น คาวเลื อ ดเหล่ า นั ้น แล้ ว ถานหวัน่ ชิ งก็


เริ่มมีเรี่ยวแรงขึน้ เล็กน้ อย

นางหัก ใจจัด ผมเผ้ า ให้ เ ข้ า ที่ เ ข้ า ทาง ไม่ ต้ อ งให้ ลุ่ ย จู


ประคองแล้ว

ลุ่ ย จู ย ัง คงตื่ น ตะลึ ง นึ กไม่ ถึ ง กับ ต าแหน่ งแม่ ท ั พ หั ว


เมืองที่ท่านผูน้ ัน้ ได้มา

หรือว่าเขาจะเอาชี วิตเข้าแลก จนได้ความดี ความชอบ


จากการออกรบ?

“คาดว่าเขาคงเป็ นทะเยอทะยานคนหนึ่ ง” ถานหวันช ่ ิง


กระซิบตอบ “เจ้าดู เอาเองเถิด พวกชนเผ่าต๋ าจื่อ กับซย่งหนู
ถึ ง แม้ จ ะโหดร้ า ยและก าราบยาก แต่ ส าหรับ คนที่ มี ค วาม
สามารถ ย่อมมองว่านี่ เป็ นจังหวะและโอกาสอันดี”

“ที่ คุณหนูพูดก็ถกู นะเจ้าคะ หากไม่มีพวกต๋าจื่อกับซย่ง


หนู ไม่แน่ ว่าตอนนี้ เขาอาจเป็ นแค่คนเฝ้ าประตูเมือง ไม่ได้ดนู ่ า
เกรงขามเหมือนในวันนี้ ”
1
“วิ เ คราะห์อ ย่ า งนี้ ก็ไ ม่ ถ ูก ถึ ง มี โ อกาสก็ต้ อ งดูค นด้ ว ย
หากเขาไม่ ร ับ ฟั ง ความคิ ดเห็ น ของประชาชนโดยรอบ ใต้
เท้าเซี่ ยก็อาจจะไม่ได้ดารงตาแหน่ งนี้ คนอย่างเขาองอาจห้าว
หาญไร้ผ้ใู ดเปรียบ ขี่ม้ายิงธนู ไม่เป็ นสองรองใคร ทัง้ ยังเข้าใจ
ประชาชนจนได้รบั ความเคารพรักอย่างมาก ในเมื่อเจตนาร่วม
ของประชาชนเป็ นไปในทิศทางเดียวกัน หากเขาไม่ได้รบั การ
เลื่อนขัน้ นี่ สิแปลก”

“ไอ้หยา! คุณหนู พูดเหมือนกับชาวบ้านในตลาดเลย แต่


คุณหนูไม่ร้สู ึกหรือเจ้าคะว่าเขาหยาบคาย นึ กถึงเหตุการณ์ เมื่อ
ครู่แ ล้ ว บ่ า วยัง กลัว อยู่ เ ลยเจ้ า ค่ ะ เราไม่ ต้ อ งพู ด ถึ ง เขาแล้ ว
ดีกว่า”

ในยุ ค สมัย นี้ คนมัก ให้ ค วามส าคัญ กับ บุ๋น มากกว่ า บู๊
บรรดาหญิ ง ต่ า งพากัน นิ ยมชมชอบบุ ค คลที่ มี ค วามสามารถ
ด้านการประพันธ์ มากกว่าผูท้ ี่มีพละกาลัง ถึงแม้ล่ยุ จูจะเป็ นสาว
ใช้ แต่ความคิดเช่นนี้ กไ็ ด้หยังรากลึ
่ กในใจของนางเสียแล้ว

ลุ่ยจูที่ถกู เลี้ยงดูอยู่แต่ในจวนจะเข้าใจถ่องแท้เสี ยที่ ไหน


ประเทศจีนยิ่งใหญ่ได้ด้วยความยากลาบากของเหล่าแม่ทพั ที่ใช้
ความกล้ า หาญบุ ก ตะลุ ย แย่ ง แม่ น้ า คว้ า ภูเ ขาไว้ ใ นมื อ พวก
บัณฑิตอ่ านโคลงกลอน วันๆ เอาแต่ เขี ยนกวีมีความสามารถ
2
เพียงเล่นสาบัดสานวนหรือจะปกป้ องรักษาเมืองไว้ได้

ถานหวันช ่ ิ ง เพี ย งแต่ คิ ด ในใจไม่ ไ ด้ เ อ่ ย ความจริ ง เรื่ อ ง


นี้ ออกมา นางกล่าวกาชับสังสอนลุ ่ ่ยจูว่าตอนนี้ พวกตนอยู่ต่าง
ถิ่น มีบางคาพูดไม่ควรพูดตามอารมณ์ และควรหลีกเลี่ยงการ
ถูกคนได้ยิน ซึ่ งอาจนาภัยมาสู่ตน และแล้วทัง้ สองคนก็เริ่มคิด
หาที่ พ กั ในค ่า คื นนี้ มี เ พี ย งเวลานี้ ที่ ลุ่ย จูแสดงสี หน้ าดี อกดี ใ จ
ออกมา

โชคดี ที่คุณหนู ของนางรอบคอบ รู้จกั เก็บสะสมทองคา


ไม่เช่ นนั น้ แล้วพวกนางคงไม่ได้สามะโนครัวอันเป็ นหลักฐาน
แสดงตัวตนว่าเป็ นคนในหมู่บา้ นแถบชายแดน และย่อมไม่อาจ
สวมรอยปลอมแปลงเข้ามาในเมืองได้ เรียกว่าถ้าไม่มีเงินทองก็
ไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่

เมื่อคิดจะอยู่ในเมืองใหญ่เช่นนี้ การหาที่ อยู่ให้ตรงตาม


ความต้องการนัน้ ไม่ใช่เรือ่ งง่าย ต่อให้เดินหากันสามวันห้าวันก็
ใช่ว่าจะหาเจอ ดังนัน้ เรื่องนี้ จาต้องพึ่งพาพวกที่ เรียกตัวเองว่า
‘นายหน้ า’

นายหน้ าซื้อขายตามท้ องถนนนั น้ มี มาก โดยส่ วนใหญ่


มัก จะเป็ นหญิ ง ที่ แ ต่ ง งานแล้ ว แต่ ไ ม่ ไ ด้ ป ระกอบสัม มาอาชี พ
3
นอกจากการซื้อขายทาสแล้ว พวกนางก็จะผันตัวเองเป็ นคน
กลางแนะนา และประสานงานในการซื้ อขายทุกสิ่ง โดยมาก
มักจะเป็ นผู้ที่มีสายตาปราดเปรียว ปากปลิ้นปล้อน หูไวได้ยิน
่ ง้ แปดทิศ และล่วงรูข้ ่าวสารรวดเร็ว
ไปทัวทั

แต่ หากเจอนายหน้ าแล้วก็ไม่ร้วู ่าจะหลอกพวกนางหรือ


ไม่เพราะพวกนางดูแปลกหูแปลกตาอยู่เหมือนกัน

หญิ ง สาวทัง้ สองเดิ น สอบถามผู้ค นมาเรื่ อ ยๆ จนพบ


บ้านพักธรรมดาหลังหนึ่ ง ประตูบ้านเปิดอยู่ เผยให้ เห็นหญิงที่
แต่ ง งานแล้ ว สามถึ ง ห้ า คนก าลัง เคาะเมล็ด กวยจี๊ กระซิ บ
กระซาบพูด คุย กัน ถึ ง เรื่ อ งหยุ ม หยิ ม มโนสาเร่ จึ ง ได้ เ อ่ ย ถาม
“ที่นี่ใช่บา้ นของนายหน้ าจางหรือไม่?”

หญิงที่ แต่ งงานแล้วนางหนึ่ งอายุประมาณสี่ สิบปี ซึ่ งนั ง่


หันหลังให้ถานหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูพดู ขึ้นมาหนึ่ งประโยค “ไอ้โหยว!
มาค้าขายหรือ ข้าไม่พดู กับพวกเจ้าแล้ว”

นางทิ้งเปลือกเมล็ดกวยจี๊ ทนั ที แล้ วหันหน้ ามาต้ อนรับ


รูปร่างหน้ าตาของหญิงคนนี้ ดเู ฉลียวฉลาดปลิ้นปล้อนเป็ นที่สดุ

ยังไม่ทนั เดินเข้าไปหา นายหน้ าจางก็จบั สังเกตหญิงสาว

4
ทัง้ สองตัง้ แต่ จ ัง หวะแรกที่ พ วกนางเดิ น ถึ ง หน้ าประตู บ้ า น
นายหน้ าจางทาอาชี พนี้ มาร่วมสิบปี ดวงตาคู่นัน้ ปราดเปรียว
แสร้งจงใจนัง่ อยู่ใกล้ประตูเพื่อให้พวกนางได้สอบถามความ

ไม่รู้เพราะเหตุใดเด็กสาวสองคนนี้ จึงหน้ าตามอมแมม


เปื้ อนฝุ่ น ดูสกปรก กระนัน้ ก็ไม่อาจตบตานายหน้ าอย่างนางได้
ด้ ว ยองคาพยพทัง้ ห้ า บนใบหน้ า มี เ ค้ า งดงาม โดยเฉพาะคน
ด้านขวา หากได้ตบแป้ ง สักสองสามที วาดสี ตามรูปริมฝี ปาก
เขียนคิ้วจัดระเบียบอีกสักเล็กน้ อยก็สามารถขึน้ แท่นสาวงามได้
เลย อายุอานามดูแล้วยังไม่มาก น่ าจะไม่เกินยี่สิบ ชุดที่ สวมใส่
เก่าครา่ ครึประมาณว่าลาบากยากแค้น มาตามหานางถึงนี่ คง
อยากขายตัวแลกเงินสินะ

เรื่องอย่ างนี้ น ายหน้ าจางเห็น มานั กต่ อนั กแล้ ว ผู้หญิง


ที่ มาหานางส่ ว นใหญ่ ต่ างก็มาขายตัว เป็ นหญิง รับ ใช้ เป็ นอนุ
หรือไม่กน็ างโลม ไม่พ้นสามจาพวกนี้ หรอก

แต่ เ มื่ อ หญิ งสาวด้ า นขวาสอบถามเพื่ อ หาห้ อ งเช่ า


นายหน้ าจางก็ฉีกยิ้มรับและเริ่มสังเกตพวกนางอีกรอบ คนเช่า
ห้องส่วนใหญ่มกั เป็ นผู้ชาย น้ อยมากที่ จะมีลูกค้าเป็ นหญิงสาว
อายุน้อย พวกนางสองคนแต่งตัวดูไม่ใช่ชาวเมืองเว่ยอัน สภาพ
ก็อตั คัดขัดสน ไม่รวู้ ่าจะสามารถเช่าได้จริงหรือไม่
5
นายหน้ าจางกาลังครุ่นคิ ดในใจ ส่ ว นปากกลับตอบว่ า
“ห้องพักมีไม่มาก บ้านคนรวย บ้านชาวนา บ้านคนสูงศักด์ ิ คน
ต่าต้ อย ใกล้ไกลในเมืองนี้ ล้วนมีหมด ไม่ทราบว่าแม่นางสอง
ท่านอยากเช่าอะไรแบบไหน”

“พวกเราสองพี่น้องเพิ่งมาถึง ทรัพย์สินเงินทองมีไม่มาก
เพียงอยากหาที่พกั ที่มนคงปลอดภั
ั่ ย ไม่ต้องสวยหรูเหมือนบ้าน
คหบดี ขอเพียงมีห้องสองถึงสามห้อง อยู่ได้สองคน หากได้เป็ น
บ้านที่มีลานได้กจ็ ะยิ่งดีมาก”

นายหน้ าจางได้ยินดังนัน้ จึงรีบกล่าว “แม่นางมาตอนนี้ ก็


ดี เ ลย บัง เอิ ญ ข้ า มี ห้ อ งแบบนี้ อยู่ ใ นมื อ แต่ ร าคาเราต้ อ งมา
พูดคุยให้ชดั เจนสักหน่ อย ข้าไม่สนว่าสุดท้ายแล้วแม่นางจะหา
ที่อยู่ได้เหมาะสมหรือไม่ พวกเราคิดเงินค่าวิ่งเต้นครึ่งตาลึงเงิน
[ 1 ] ห้ามขาดแม้แต่เศษเดียว”

“ครึ่ง ตาลึ ง เงิน ! คาวิ่ ง เต้ นนี่ ไม่มากเกิน ไปหรือ ?” ลุ่ย จู


ทักท้วงตาพอง

ก่ อนหน้ านี้ คุณหนู แลกเปลี่ ยนทองใบไม้ หนึ่ ง แผ่นเป็ น


เงินประมาณสองตาลึงเงิน ต้ องหักลบไปตัง้ ครึ่งตาลึงทัง้ ๆ ที่
นายหน้ าแค่วิ่งเต้นเล็กๆ น้ อยๆ เท่านัน้ คุ้มกันเสียที่ไหน
6
เมื่อครัง้ ที่ ยงั รับใช้อยู่ในจวนตระกูลถาน โดยปกตินางก็
จะมองข้ามเงินเล็กน้ อยเหล่านี้ แต่ปัจจุบนั นางกับคุณหนูมีเงิน
ติดตัวมาจานวนจาากัด ใช้ หนึ่ งอี แปะก็น้อยไปหนึ่ งอี แปะ พอ
ต้องจ่ายครึง่ ตาลึงไปอย่างง่ายๆ ลุ่ยจูกร็ สู้ ึกปวดใจขึน้ มา

“นี่ แม่นาง ยุคสงครามอะไรก็แพงหมดนัน่ แหละ ตอนนี้ มี


คนต่างถิ่นย้ายเข้ามาในเมืองเว่ยอันมากขึน้ เรือ่ ยๆ คนมากข้าว
ปลาอาหารก็แ พงขึ้ น น้ า ดื่ ม ก็ย งั ต้ อ งใช้ เ งิ น พวกเราล าบาก
วิ่งเต้ นทางานเล็กๆ น้ อยๆ ก็จริงแต่ กาไรก็ใช่ว่าจะดี เมื่อก่อน
เช่าบ้านหนึ่ งเดือนเกือบแปดร้อยอีแปะ ตอนนี้ ขึ้นถึงหนึ่ ง ตาลึง
เงิน ข้าต้ องคอยเดินหาเป็ นเพื่อนลูกค้าอยู่หลายรอบ รองเท้ า
ก็เสี ยดสี กนั จนเปื่ อยยุ่ยไปหมด หากไม่เชื่ อ แม่นางจะลองไป
เดินหาเอาเองก็ได้นะ จะได้ร้วู ่าข้า...นายหน้ าจางให้ราคาเป็ น
ธรรมกับพวกเจ้าหรือไม่”

“ความเป็ นธรรมรึ ? ดูก็รู้ว่ า เจ้ า อยากได้ ม ากกว่ า นี้ !”


ริมฝี ปากลุ่ยจูบน่ พึมพ่าด้วยความไม่พอใจ

่ ิ งเตรียมใจมาก่อนแล้ว กล่าวแทรกขึ้นมาว่า
ถานหวันช
“ไม่ต้องหรอก ข้าขอต้องรบกวนนายหน้ าจางด้วย”

เห็ น ทั ้ง สองน าเงิ นครึ่ ง ต าลึ ง ออกมาแสดงให้ เ ห็ น


7
นายหน้ าจางก็ดีใจเป็ นล้นพ้น รีบตอบกลับอย่ างมี น้ าใจ “แม่
นางวางใจเถอะ มี อีกถนนสองสามเส้ นที่ ยงั เหลื อบ้านว่างอยู่
จะต้องหาที่อยู่ให้แม่นางพอใจจนได้”

พื้นที่ กว้างใหญ่ของเมืองเว่ยอัน ครอบคลุมถนนสี่ สาย


หกตรอก ถนนหลักย่านที่ พกั อาศัยมีสามสายคือถนนตงเหมิน
ถนนกู่เหมิน และถนนหนานเหมินซึ่ งใกล้กบั กาแพงประตูทิศ
เหนื อของเมือง อันเป็ นสถานที่ตงั ้ มันและรั
่ กษาการของกองทัพ
ในวันปกติ

นายหน้ าจางขยับปากอยู่ตลอด เดินไปถึงไหนพูดถึงนัน่


่ ิ ง กับ ลุ่ย จูก็ต ัง้ ใจฟั ง อย่ า งละเอี ย ด พบว่ า ที่ พ กั ตาม
ถานหวันช
ถนนในเมืองแต่ละแห่งราคาล้วนใกล้เคียงกัน

ถนนตงเหมิ นคื อ ที่ พ ัก ย่ า นคนรวย ถนนกู่เ หมิ นคื อ


สถานที่ กักตุนเสบียงอาหาร ร้านข้าวสาร และคลังสินค้าล้วน
รวมกัน อยู่ที่ ถ นนสายนี้ ครัน้ ถึ ง วัน เก็บ เสบีย งของทหารก็จะ
คึกคักอย่างมาก เกวียนม้าส่วนใหญ่มกั เข้าออกถนนสายนี้ เพื่อ
ขนส่งลาเลียงสินค้า

ส่วนถนนเป่ ยเหมินไม่ต้องพูดถึง เป็ นสถานที่ที่ประชาชน


ในเมืองส่วนใหญ่มกั จะมารวมตัวกัน นอกจากถนนสามสายนี้
8
ยังแบ่งเป็ นตรอกเล็กๆ เช่น ตรอกเหมินเซี่ย หรือตรอกเตี่ยนซู

สถานที่ ซึ่งนายหน้ าจางอยู่คือถนนหนานเหมิน เดินไป


อีกสองสามตรอกก็จะเจอตลาด โดยจะมีถนนย่อยสองสายอยู่
เชื่อมติด ตามท้องถนนเต็มไปด้วยโรงน้าชา บ้ านพัก โรงเตี๊ ยม
โรงจ าน า และโรงงานหัต ถกรรมกระจายตัว อยู่ ป ระปราย มี
พ่อค้าหาบเร่โห่รอ้ งขายของเดินสวนกันไปมาไม่ขาดสาย

ฟากนี้ มี บ้า นว่ า งอยู่ เว้ น ระยะไม่ ห่ า งมาก ขนาดก าลัง


พอดี พอเห็นว่านายหน้ าจางพามาดู เจ้าของบ้านก็หยุดคุยด้วย
เพื่ อ โอ้ อ วดสรรพคุ ณ ของบ้ า นอยู่ พ ัก ใหญ่ เ พื่ อ ให้ ลู ก ค้ า ได้
ตัด สิ น ใจ จุด เด่ น ที่ เ ห็น ง่ายคื อ การคมนาคมสะดวก เข้าออก
สบาย เป็ นบ้านที่อยู่แบบครอบครัวเดี่ยวซา้ ยังใกล้กบั ตลาดนัด
ดีงามไปหมด แต่คนมากเกินไปมักนามาซึ่งความวุ่นวาย

ถานหวันช ่ ิ งยืนอยู่หน้ าประตู กวาดตามองบริเวณรอบๆ


อีกฝ่ ายยังไม่ทนั ได้ถาม นางก็ส่ายหน้ าแล้ว

บ้ า นหลัง นี้ นั บ ว่ า สะดวกมากที เ ดี ย ว เสี ย แต่ ค่ อ นข้ า ง


อึ กทึ ก ด้ ว ยฐานะนั กบวชที่ พวกนางสวมรอยอยู่นัน้ จาต้ องรัก
สันโดษ การเลือกอยู่สถานที่ ที่ขดั กับหลักศาสนาเช่ นนี้ ถือเป็ น
ข้อบกพร่องที่ อาจเปิดโปงจุดอ่อนของพวกนางได้ โลกใบนี้ เต็ม
9
ไปด้วยคนประเภทที่ ชอบกลับดาเป็ นขาว กลับขาวเป็ นดา ยุให้
ราตาให้ รวั ่ ชอบนินทาคนอื่นลับหลัง ถ้าพวกนางพักอาศัยอยู่
กันเงียบๆ ที่นี่ ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการจับผิด

นายหน้ าจางคิดว่าสองพี่น้องน่ าจะชอบความเงียบสงบ


จึงหาบ้านหลังเล็กๆ ห่างไกลจากตลาดให้ รอบๆ ยังมีบ้านว่าง
อยู่อีกสี่ถึงห้าหลัง ผูค้ นสัญจรไม่มาก

ถานหวันช ่ ิ ง ยัง คงส่ ายหน้ า ที่ นี่ เ งี ย บสงบก็จริง แต่ น าง


และลุ่ยจูเป็ นผู้หญิง ห่างไกลผู้คนเกินไปเช่นนี้ ไม่เหมาะที่ จะพัก
อาศัย เพราะหากมี โ จรขโมยเข้ า มา คงยากที่ จ ะขอความ
ช่วยเหลือจากใครได้

เพื่ อ ไม่ ต้ อ งจ าใจเดิ น มาก ถานหวัน่ ชิ งจึ ง บอกความ


ต้ องการของตนอย่างละเอี ยดให้แก่นายหน้ าจางฟั ง นายหน้ า
จางเองก็อยากทาหน้ าที่ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ขบคิดสักครู่แล้วจึง
กล่ า วว่ า “ที่ จ ริ งมี บ้ า นหลัง หนึ่ งที่ อ ยู่ ใ กล้ ถ นนเป่ ยเหมิ น
สอดคล้องกับความต้องการของแม่นาง ไม่ไกลจากตลาด และ
ถึงแม้จะมี บ้านคนอยู่บ้าง แต่ ก็เ งี ย บสงบที เ ดี ย ว ทหารมัก จะ
เดินทัพผ่านถนนเส้นนี้ เพราะฉะนัน้ นอกจากจะไม่มีโจรปล้นฆ่า
แล้ ว แม่ น างทัง้ สองก็ไ ม่ ต้ อ งกัง วลเรื่ อ งนั ก ย่ อ งเบาอี ก ด้ ว ย
อาจจะไกลถนนสายหลัก อยู่ ส ัก หน่ อย แต่ บ ริ เ วณใกล้ ๆ ก็มี
10
ตรอกเล็กอยู่ เส้นหนึ่ ง เปิดทัง้ กลางวันและกลางคืน คึกคักไม่
น้ อย พวกร้านกินดื่มและของใช้ แผงลอยมีครบครัน ทัง้ ถูกทัง้
สะดวก แต่ราคาเช่าพักนี่ สิ...”

“พูดต่อไปสิ”

“ไม่ขอปิดบังแม่นางทัง้ สอง บ้านพักนัน่ ดีอย่างยิ่ง เครื่อง


เรือนครบครัน สามห้องนอนและมีลานเล็กๆ อีกต่างหาก ก่อน
หน้ านี้ เคยมีครอบครัวพ่อค้าเช่าอยู่ ต่อมาพวกเขาย้ายไปอยู่บน
ถนนกู่เหมินบ้านก็เลยว่าง สถานที่ ดีๆ แบบนี้ ค่าเช่ าจึงมีราคา
เดียว ไม่สามารถต่อรองได้...สองตาลึงเงินต่อเดือน”

“สองตาลึงเงินต่ อหนึ่ งเดือน!” ลุ่ยจูที่นิ่งเงี ยบอยู่ข้างๆ


มาโดยตลอด ฟั งจบก็เริ่มตาพองลุกวาวอี กหน หนึ่ งเดือนสอง
ตาลึง หนึ่ งปี ยี่ สิบสี่ ตาลึง จะเอาเงินที่ ไหนมาจ่ายกัน นี่ มนั เอา
ชีวิตกันชัดๆ! นางกับคุณหนูมีเงินที่ แลกมาติดตัวอยู่แค่หกสิบ
กว่าตาลึงเท่านัน้ ให้แบ่งออกหนึ่ งในสามส่วนไม่มากไปหน่ อยรึ
ทัง้ ยังต้องกินต้องใช้จ่าย เงินที่เหลืออยู่จะพอใช้ที่ไหนกัน!

“พี่สาว พวกเรากลับไปดูบา้ นที่ดกู นั ครังแรกเถอะ?”


้ ลุ่ยจู
กล่าว ก่อนจะหันไปมองนายหน้ าจาง

11
่ ิ งคานวณในใจ บ้านพักสองแห่งที่ ดูก่อนหน้ า
ถานหวันช
นัน้ แห่งแรกเสี่ยงต่อการถูกค้นพบสถานะ อีกแห่งก็เสี่ยงถูกโจร
ขึน้ บ้าน ล้วนอาศัยไม่ได้ทงั ้ สองแห่ง

ในความเป็ นจริ ง สิ่ ง ส าคัญ ที่ สุด ในตอนนี้ ไ ม่ ใ ช่ เ งิ น แต่


เป็ นความปลอดภัย ถึงเงินเหลือแต่จะมีประโยชน์ อะไรถ้าชี วิต
ตกอยู่ในอันตราย หญิงสาวใคร่ครวญอยู่สกั พัก จึงให้นายหน้ า
จางพาไปดูบา้ นหลังสุดท้าย

นายหน้ าจางคาดไม่ถึง ลอบมองสี หน้ าลูกค้ าแล้วก็หนั


หลังเดินต่อ...สองคนนี้ ไม่เพียงจ่ายครึ่งตาลึงค่าเหนื่ อยของนาง
ได้ ยังสามารถจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละสองตาลึงเงินได้อีกด้วย
มองคนจะมองแค่ภายนอกไม่ได้เสียแล้ว

บ้านเช่ าหลังสุดท้ าย เมื่อตรวจดูรายละเอี ยดแล้วถือว่า


ผ่าน แม้จะมีขนาดเล็กแต่ กม็ ีอุปกรณ์ ภายในครบครัน มันเป็ น
บ้านสามห้ องนอน มี ห้องน้ า เล็กๆ สาหรับล้างมือล้ างหน้ า มี
ห้องครัวที่ อุปกรณ์ พรังพร้่ อม มีลานในบ้านซึ่งขาดการดูแลมา
นานแล้ว ทาความสะอาดสักหน่ อยก็พอใช้ ได้ ดอกไม้ต้นหญ้า
แห้ ง ตายก็จ ริ ง แต่ ย ัง มี ต้ น ท้ อ สองสามต้ น เหลื อ อยู่ ก าแพง
อาจไม่สงู นักแต่กด็ แู ข็งแรงดี

12
่ ่ นายหน้ าจางเกริ่นไว้ทงั ้ หมด ที่ นี่ห่าง
ทุกอย่างเป็ นดังที
จากถนนเป่ ยเหมินเพียงแค่ตรอกกัน้ เท่านัน้ พวกนางมาอยู่ใต้
หนังตาของท่านแม่ทพั หัวเมือง คงไม่มีใครกล้ามาทาผิดคิดร้าย
แน่ เรือ่ งความปลอดภัยจึงไม่ต้องพูดถึง

หลังจากดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ถานหวันช่ ิ งมองเมิน


ไม่สนใจลุ่ยจูที่เอ่ยห้ามและส่งสายตาอ้อนวอนมา นางนั บเงิน
ในมือจนครบก็จ่ายไป เป็ นอันตกลงกันเป็ นที่เรียบร้อย

นายหน้ าจางรับเอาเงิน ครึ่งตาลึ งของตนมา หน้ า บาน


เป็ นกระด้ง ส่ วนผู้เช่าบ้านก็ดูจะพอใจไม่น้อย เพราะทรัพย์สิน
ในบ้านยังคงสภาพดี อะไรก็ไม่ต้องซื้อใหม่ มีเพียงฟูกนอนกับ
ผ้าห่ม รวมถึงกระบวยถ้วยชามในครัวที่ต้องเตรียมเอง

เมื่อส่งนายหน้ าจางและนัดแนะพูดคุยกับเจ้าของบ้านถึง
วันที่ในการเก็บเงินแต่ละเดือนเรียบร้อยแล้ว ในที่สดุ ทัง้ สองคน
ก็ได้เข้าไปอาศัย

ช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทัง้ สองใช้เวลากับบ้านหลัง


ใหม่ทงั ้ วันเพิ่งได้มีโอกาสพักผ่อน ถานหวันช ่ ิ งจะล้มมิล้มแหล่
รู้สึ ก ว่ า สองขาแข็ง ชาเหมื อ นไส้ ดิ น สอ ลุ่ ย จู อ ดไม่ ไ ด้ จึ ง ช่ ว ย
ประคองให้คณ ุ หนูของตนนัง่ ลงบนเก้าอี้ในห้อง ก่อนจะออกไป
13
เดิ นดู ห น้ าบ้ า น หลัง บ้ า นและกลับ มาเล่ า ว่ า ยัง ขาดเหลื อ
อะไรบ้าง

่ ิ งเพิ่งได้พกั ก็ถกู เสียงรายงานของลุ่ยจูรบกวน


ถานหวันช
จนสมองปวดจี๊ดขึ้นมา ทนไม่ไหวจาต้องขอให้ ลุ่ยจูออกไปข้าง
นอก

นางนวดคลึ ง ศี ร ษะต่ อ อี ก สัก ครู่ จึ ง น่ าถุง ดอกบัว เท


ทองคาใบไม้ที่เหลืออยู่ออกมานับในใจ

ใบหน้ างามปรากฏความกลัดกลุ้ม ทองคาใบไม้เหล่านี้


เปลี่ยนเป็ นเงินได้มากมายแต่นางใช้คล่องมือเกินไปสักหน่ อย
หลังจากจัดการซื้อของใช้ที่ยงั ขาดเข้ามาในบ้านหลังนี้ แล้ว นาง
จะต้องเก็บไว้จ่ายค่าเช่าอีก ถ้าไม่มีรายรับเข้ามาบ้าง ปี หน้ าที่จะ
ถึงนี้ นางกับลุ่ยจูคงไม่แคล้วต้องกินลมแทนข้าวกระมัง

[ 1 ] 10 ตาลึงเงิน เท่ากับ 1 ตาลึงทอง

14
บทที่ 7 ใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน

ผ้าห่มสาหรับฤดูหนาว ต้องใช้ผ้าฝ้ ายเนื้ อหนาม้วนใหญ่


อย่างดีจึงจะอุ่นพอ

ร้านผ้าตัง้ อยู่ในตรอกใกล้ บ้าน ราคาฝ้ ายสูง กว่ า ราคา


มาตรฐานแต่พวกนางก็จาต้องซื้อถึงสิบม้วนเต็ม ที่ ราคาตา่ สุด
ก็เป็ นผ้าเนื้ อหยาบลายดอกบัวไร้สีสนั แต่ ราคากลับปาเข้าไป
สองตาลึงเงินแล้ว

ทัง้ หมอนหนุ น ผ้ า ห่ ม และฟู ก รวมกัน สองชุ ด รายการ


เดี ย วต้ อ งจ่ า ยไปถึ ง ห้ า ต าลึ ง เงิ น เถ้ า แก่ ช ัก แม่ น้ า ทั ้ งห้ า มา
อธิบายให้ ลุ่ยจูที่ไม่ยอมง่ายๆ ฟั ง สุดท้ ายต้ องยอมให้ เด็กใน
ร้านช่ วยแบกผ้าทอมาส่ งอี กสองม้วนเล็ก นางจึงยอมจ่ายแต่
โดยดี

เด็กในร้านที่ แบกกองผ้าห่มกับฟูกสองชุดออกไปส่ง ยัง


ไม่ทนั ถึงที่กลับไม่ยอมไปต่อ ลุ่ยจูซึ่งเป็ นผูห้ ญิงตัวเล็กๆ จึงต้อง
จาใจระงับอารมณ์ หยิบเงินส่งให้อีกหนึ่ งเหรียญ ว่าจ้างพวกเขา
ให้ไปส่งจนถึงบ้าน

1
ถานหวัน่ ชิ ง อยู่ ใ นห้ อ งนอน ก าลัง ปั ด กวาดเตี ย งและ
เตาผิง เพื่ อจุด ไฟให้ ค วามอบอุ่น ในฤดูหนาว หญิง สาวเร่ง ปั ด
กวาดทาความสะอาดฝุ่ นของห้องทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็ นห้อง
ของลุ่ยจู เรียบร้อยแล้วก็เปิดหน้ าต่างให้ลมผ่าน ไม่นานนักฟูก
กับผ้าห่มก็ถกู นาามาส่งถึงบ้าน

ขณะช่วยปูฟูกจัดผ้าห่ม ลุ่ยจูยงั บ่นไม่หยุดปาก “ร้านผ้า


นัน่ มีผ้าน้ อยมากเจ้าค่ะ สีหนึ่ งมีแค่ไม่กี่ม้วน มีแต่สีแก่ๆ ทัง้ นัน้
ทาปลอกผ้าห่ มแล้วดูไม่สดใสเอาเสี ยเลย มองแล้วขัดหูขดั ตา
ไปหมด” บ่นไปก็ปรายตามองสีหน้ าของคุณหนูไปพลาง

แต่ ก่อนคุณหนู ข องนางวัน ๆ มี แต่ เ สพสุข อยู่กบั ความ


หรูหรา จะทนกับข้าวของโกโรโกโสได้รึ ตอนอยู่ในตระกูลถาน
ผ้าทอเนื้ อหยาบเช่นนี้ มีไว้สาหรับบ่าวรับใช้เท่านัน้ ขนาดพรมที่
เดินยา่ หน้ าห้องของคุณหนูยงั ละเอียดเกลี้ยงเกลากว่านี้ สกั ร้อย
เท่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อมานางก็ลงั เลไม่น้อย กังวลว่าคุณหนูจะ
รับไม่ได้

สภาพชี วิตจากที่ เคยหรูหราต้องเปลี่ยนเป็ นกินอยู่อย่าง


อัตคัด ดวงชะตาพลิกฟ้ าพลิกดินเช่นนี้ กม็ ีด้วยหรือ? ขนาดนาง
เป็ นแค่บ่าวรับใช้ยงั ‘สะเทือนอารมณ์ เศร้าเสียใจ’ อยู่บ่อยครัง้
ไม่ร้วู ่าในใจของคุณหนูจะรู้สึกเสี ยใจสักเพียงใด ความรู้สึกใน
2
ก้นบึง้ ของหัวใจคุณหนูต้องหนักหน่ วงกว่านางเป็ นแน่

เด็กสาวยังคงประเมินคุณหนู ของตนต่าไป ใบหน้ าของ


ถานหวันช ่ ิ งไม่แสดงอารมณ์ สลดหดหู่ใดๆ ให้เห็น ทัง้ ยังไม่ได้
รูส้ ึกโศกเศร้าอาลัยอาวรณ์สกั นิด

สองสามวันมานี้ นางมีเพียงสีหน้ าอ่อนเพลียเท่านัน้ หญิง


สาวใช้ มื อ ลู บ บนฟู ก กับ ผ้ า ห่ ม ที่ ท ัง้ หนาและยับ ยุ่ ง ถึ ง แม้ ผ้ า
ทอนี้ จะเป็ นผ้ า ฝ้ ายปั น่ ทอออกมาเป็ นผื น แบบลวกๆ ยัง
หลงเหลือสี ฝ้ายเดิมอยู่บ้าง แต่ โดยรวมแล้วกลับแข็งแรงและ
สะอาดทีเดียว ไม่มีคราบเหลืองสกปรก น่ าจะไม่เคยผ่านการใช้
งานมาก่อน

ถานหวันช ่ ิ งดึงสติกลับมาแล้วกล่าวว่า “จับดูแล้วรู้สึกว่า


นุ่มมือดี ใยฝ้ ายนี่ น่าจะเพิ่งเก็บในปี นี้ ราคาก็ไม่นับว่าทาร้ายคน
จนนัก ตอนกลางคืนคงหลับได้สบายเชียวล่ะ”

ที่ นี่มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากใยฝ้ ายน้ อย อี กทัง้ คนปลูกก็


น้ อย และสถานที่ ปลูกก็อยู่ในเขตชายแดน ในช่ วงที่ บ้านเมือง
ลุกเป็ นไฟ ประชาชนระสา่ ระสาย ของใช้จาเป็ นเหล่านี้ เมื่อเทียบ
กับในเมืองหลวงย่อมมีราคาสูงกว่าเป็ นเรื่องปกติ ถานหวันช ่ ิง
ก าลัง คิ ด ว่ า อี ก ไม่ กี่ เ ดื อ นข้ า งหน้ าหากการเงิ น ฝื ดเคื อ ง แต่
3
อากาศอบอุ่ น นางอาจนาผ้าห่ มผ้าฝ้ ายเหล่านี้ มาเปลี่ยนเป็ น
เงินด่วนใช้สอยได้

ลุ่ยจูเห็นใบหน้ าคุณหนูไร้ซึ่งความเศร้าสลดใจจึงค่อยๆ
ปล่อยวางลง

สิ่ ง ของมี ม ากมายที่ ต้ อ งหาซื้ อ ในระยะเวลาอัน สัน้ ไม่


สามารถจับ จ่ า ยได้ ทัน พวกนางจึ ง เลื อ กซื้ อ เฉพาะข้ า วของที่
สาคัญก่อน เช่ นฟื น ข้าวสาร อาหารแห้ง โชคดี ที่ตลาดอยู่ใกล้
บ้านจึงเบาแรงไปได้มากทีเดียว

ตลาดเล็กๆ แห่งนี้ คึกคักเกินความคาดหมาย แต่ละร้าน


วางของขายริมถนนติดๆ กันจนแทบไม่เหลือช่องว่าง คนเดิน
ซื้อของขวัก ไขว่จอแจ บ้างก็เบียดเสี ยดเยียดยัด มีเด็กๆ เดิน
หยอกล้อกันไปมาในกลุ่มคน โดยไม่กงั วลเลยว่าอาจจะถูกคน
แปลกหน้ าหรือพ่อค้าหาบเร่ลกั พาตัวไป

ลุ่ยจูพบตลาดที่นายหน้ าจางบอกไว้ นางทัง้ ตื่นเต้นและดี


ใจ มันอยู่ใกล้อย่างที่ อีกฝ่ ายบอกไว้จริงๆ วันธรรมดาสามารถ
หาสินค้ าเบ็ดเตล็ดประจาวันในตลาดเล็กๆ แห่ งนี้ ได้ ทงั ้ หมด
เดินเพี ยงเที่ ยวเดี ยว ไม่ว่าของเล็กหรือใหญ่ ล้วนซื้ อหามาได้
ครบ สะดวกสบายยิ่งนัก
4
ที่ เชิงกาแพงมีฟืนตัดอย่างเกลี้ยงเกลาวางเรียงขายมัด
ใหญ่ เป็ นฟื นยาวกองซ้ อนๆ กัน ส่ วนฟื นสัน้ ก็มดั รวมกันเป็ น
ระเบี ย บเรี ย บร้ อ ย จัด วางให้ ค นเลื อ กได้ ส ะดวก ใบหน้ า ลุ่ ย จู
เปล่งประกาย รีบเดินไปซื้อฟื นกับชาวนาเป็ นอย่างแรก ทัง้ ยัง
ขอให้พวกเขาเอาไปส่งที่บ้าน พอนางซื้อเข็ม ด้าย น้ามัน เกลือ
และของเล็กๆ น้ อยๆ ครบแล้ ว ก็ถือโอกาสนี้ บอกให้ ชาวนา
เดินตามกลับไปด้วย

ระหว่างทางนางยังแวะร้านข้าวสาร ซื้อแบบที่ ชงไว้ ั ่ แล้ว


มาสองชัง[่ 1 ] ครึ่ง ตามด้วยแป้ งข้าวเจ้า เนื้ อ พุทราแดง และ
ข้าวเหลืองเม็ดเล็กอีกสองสามห่อถือติดมือกลับไปด้วย

่ ิ ง กาลัง จัด เก็บ ห้ อ งครัว อยู่


เมื่ อกลับ ถึง บ้าน ถานหวันช
เห็นชาวนาขายฟื นเดินเข้ามาจึงบอกให้เขาวางไว้มุมห้องครัว
สายตาของลุ่ ย จูดูพ อใจมาก ฟื นไม่ กี่ ห าบนี้ ก ลับ เป็ นฟื นที่ มี
คุณภาพ ทัง้ หมดเป็ นไม้เ ก่ าตัดแต่ งเรียบร้อย ดูแล้วน่ าจะเผา
ไหม้ทนทานดีและมีน้าหนักมากทีเดียว

่ ิ งไม่ลืมถามที่ อยู่ของชาวนาเอาไว้ เผื่อว่าวัน


ถานหวันช
หลังอาจจะต้องไปซื้อฟื นที่ตลาดทุกวัน โดยเฉพาะฤดูหนาวต้อง
ใช้ ฟื นจ านวนมาก สิ่ ง ที่ จ าเป็ นต้ อ งใช้ ก็อ ยากจะเตรี ย มไว้ แต่
เนิ่นๆ
5
ครัน้ ชาวนาขายฟื นได้ฟั งก็ดีใจจนถูฝ่ามือไปมา รีบตอบ
ตกลงทัน ที หากมี ค นสัง่ จองฟื นล่ ว งหน้ าเช่ น นี้ ทุ ก วัน เขาก็
ประหยัดเวลาได้โข ไม่ต้องหาบไปขายที่ตลาด

ทัง้ สองยุ่งมากจนถึงตอนนี้ ท้ องฟ้ าเริ่มอ่ อนแสงลงแล้ว


คนหนึ่ งเป็ นคุณหนูสูงศักด์ ิ กี่ปีมาแล้วไม่ร้วู ่าเคยจุดไฟหรือไม่
อีกคนเป็ นบ่าวรับใช้ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่คณ ุ หนู เมื่อก่อนลุ่ยจู
ก็เป็ นเพียงคนดูแลแทบไม่เคยลงมือทาครัวหรือเย็บปักถักร้อย
เอง ตอนนี้ จึงได้แต่หวั หมุนอยู่ในครัว เร่งรีบจนทาอะไรไม่ถกู

ตรงประตูหน้ าบ้านมีบ่อน้ าอยู่ สะดวกตักขึ้นมาใช้ ดี ที่


เจ้าของบ้านคนเก่าเหลือหม้อปากแหว่งไว้ให้ใบหนึ่ ง เป็ นหม้อ
เหล็กที่ ผ่านการใช้ งานมาแล้วอย่างยาวนาน เอาแปรงขัดจน
สะอาดก็ใช้ไปพลางๆ ก่อนได้ ทัง้ นายบ่าวจึงช่วยกันจุดไฟและ
ยกหม้อขึน้ ตัง้ เตา

อาหารคา่ มือ้ นี้ ได้ข้าวต้มร้อนผสมข้าวเหลืองกับพุทรา สี


เหลืองแดงสลับกัน กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย หวานนุ่มยิ่งนัก

ในครัวยังเหลือฟื น ต้มน้ าสองสามกระบวยแล้วเทลงใน


อ่าง พอใช้สระผมและเช็ดตัวง่ายๆ

6
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมา ข้างนอกหนาวถึงกระดูก ลุ่ยจูดบั
ไฟเสร็จจัดเก็บอะไรเรียบร้อยก็รีบกลับไปห้องนอนของตนทาง
ทิศตะวันออก เพียงเปิดประตูด้านในก็มีลมอุ่นพัดเข้ามาปะทะ
หน้ า

ถานหวันช่ ิ งทาความสะอาดร่างกายเสร็จก่อน กาลังนัง่


คลุมผ้าฝ้ ายสีขาวผืนใหม่ กิริยานุ่มนวล ผมที่เพิ่งสระคลุมสยาย
พาดไหล่ไปด้านหลังเริ่มแห้งบ้างแล้ว แม้ยุ่งเป็ นกระเซิงทว่าดา
ขลับเงางาม เมื่อขจัด ฝุ่ นธูปสกปรกที่ มอมแมมบนใบหน้ าและ
ความเชยแบบบ้านนอกออกไป สีผิวขาวหิมะราวเครื่องปั น้ ดิน
เผาเจือสีชาดก็ปรากฏ

อาจเป็ นเพราะฟื นเผาไหม้มากเกินไป ทาให้ภายในห้อง


เริ่มร้อนจนใบหน้ าของถานหวันช ่ ิ งแดงจัด บนร่างของนางสวม
ชุดสีเทาสบายๆ เพียงตัวเดียว กาลังนัง่ เอ้อระเหยอยู่กลางห้อง
อย่างไร้ความกังวล

ลุ่ย จูรู้ว่ าคุณหนู เ หนื่ อย นางจึง ย้ ายเชิง เที ย นไปไว้ ไ กล


หน่ อย หลังจากนัน้ จึงไปช่วยประคองร่างบอบบางให้เอนตัวลง
นอน “ดึกมากแล้ว คุณหนูรีบนอนพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ”

่ ิ งง่วงงุนจนตาจะลืมไม่ขึน้ อยู่ก่อนแล้ว จึงพยัก


ถานหวันช
7
หน้ าพลางนอนลงอย่างว่าง่าย นางได้รบั การถ่ายทอดสี ผิวขาว
ผ่องอย่างเป็ นธรรมชาติมาจากมารดา เป็ นผิวขาวเปราะบาง
เนี ยนละเอี ยดเหมือนเครื่องปั น้ ดินเผา ตอนอยู่ที่จวนตระกูล
ถานผิวพรรณของนางยังดีอยู่ ทว่าตัง้ แต่ถกู เนรเทศกลับหมอง
คลา้ ลงมาก

หากไม่ใช่ เพราะทุกวันนางบารุงรักษาตัวเองทุก วิถีทาง


ไหนเลยจะยืนหยัดมาได้ถึงทุกวันนี้

คา่ คื นนี้ คุณหนู ผ่อนคลายลงมาก รู้สึกเพี ยงว่าร่างกาย


เหนื่ อยล้าอ่อนเพลียเกินจะบรรยาย ร่างกายอุ่น ผิวแก้มก็ร้อน
แดง หลังจากเอนตัวลงก็นอนหลับใหลไม่ได้สติ

ลุ่ยจูกาลังจัดผ้าห่มให้คณ ุ หนู พลันเห็นมือเล็กๆ โผล่พ้น


ออกมานอกผ้าห่ ม ตรงอุ้ง มือมี บ าดแผลสองแห่ ง ซึ่ ง เริ่มบวม
แดง หลัง มื อและแขนก็มีรอยแผลไม่ ลึกนั กอี กสามสี่ รอย แต่
อย่างนัน้ ก็ยงั ทาชัน้ ผิวบวมแดงขึน้ มา

เด็กสาวราวกับถูกฟื นร้อนทิ่มแทงจิตใจ คุณหนู เกิดมา


ผิวเนี ยนนุ่ มกว่าใคร หากไม่เอาใจใส่ กจ็ ะเกิดบาดแผลได้ง่าย
ร่องรอยอย่างนี้ ถ้าอยู่บนหลังมือตน แม้ไม่น่ามองแต่วนั สองวัน
ก็จางหายแล้ว ทว่าพอมาอยู่บนผิวขาวๆ ของคุณหนู มันมักจะ
8
ดูสยดสยองและร้ายแรงยิ่งกว่า

คนอื่นจะมารู้เ ท่ านางได้อย่างไร ตัง้ แต่ เล็กจนเติบใหญ่


คุณหนู เคยลาบากอย่างนี้ เสี ยที่ ไหน ระหว่างทางที่ ถกู เนรเทศ
ต้องอาศัยความพยายามอย่างมากที่จะทาใจกว้างเพื่อให้ปล่อย
วางความทุ ก ข์ท รมานลง นางกลัว เหลื อ เกิ น ว่ า คุณ หนู จ ะยื น
หยัดต่ อไปไม่ไหวจนป่ วยหนักกลางทาง และดับสูญกลายเป็ น
วิญญาณไปเสี ยก่อนตัง้ แต่ เริ่มเดินทาง กังวลสารพัดเกี่ ยวกับ
คุณหนูจนปลงไม่ตกวางไม่ลง กลัวคุณหนูจะ...

ดัง นั ้น นางจึ ง ติ ดตามไปทุ ก ที่ พยายามปกป้ องดู แ ล


คุณหนู แต่สาวใช้หญิงคนหนึ่ งจะสามารถปกป้ องคุ้มครองได้สกั
เท่าไรเชียว

นางมองไปเห็น ฝ่ าเท้ า ขาวนุ่ ม นิ่ มของคุณ หนู เ ริ่ ม กลัด


หนองอย่างน่ าสยดสยอง เห็นได้ชดั ว่านิ้วเท้าขาวผ่องเหล่านัน้
ผ่านการเสียดสี หนองบวมพองราวกับจะแตกออกเสียให้ได้ ไม่
รูว้ ่าที่ผา่ นมาเจ็บปวดไปกี่มากน้ อย

ลุ่ยจูรีบหยิบเข็มมาอังในเปลวไฟ พลิกไปมาแล้วรีบเข้า
มาบ่งหนองให้แตกโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ ายรู้สึกเจ็บ ไม่มียาให้ใส่ คืน
นี้ คงทาได้แค่เพียงใช้ผ้าฝ้ ายเช็ดแผลให้ สะอาด ก่อนจะพันปิด
9
ให้เรียบร้อย

ใบหน้ าของถานหวันช ่ ิ งเห่อร้อน ตอนแรกลุ่ยจูเข้าใจว่า


คงเป็ นเพราะไฟใต้ เตี ยงทาให้ ร้อน ได้นอนหลับสักตื่ นคงจะดี
ขึ้น แต่ เหตุการณ์ กลับไม่เป็ นเช่ นนั น้ พอเช้ ามาจึงพบว่ านาย
สาวหลับสนิทเพราะพิษไข้ ลุ่ยจูขวัญเสีย วิ่งถามไถ่ผ้คู นและรีบ
ไปเชิ ญ หมอมาดู อ าการ ท่ า นหมอให้ ดื่ ม ยาติ ดต่ อ กัน ไปอี ก
สามสี่วนั

ถานหวันช ่ ิ งถูกสาวใช้ประคบประหงมราวกับไข่ในหินก็
จริง แต่ สถานะของนางตอนนี้ ไม่เหมือนก่อน เงินที่ มีอยู่อตั คัด
ขัดสน ทุกสิ่งล้วนต้องคานวณอย่างละเอียดรอบคอบ โชคร้ายที่
คืนหนึ่ งกลับพบว่าหลังคาบ้านรัวจนฝนสาด ่ คนก็เพิ่งหายป่ วย
กลับ ต้ อ งจ่ า ยค่ า ซ่ อ มหลัง คาไปอี ก สิ บ ตาลึ ง หากเป็ นอย่ า งนี้
ต่ อ ไป นางกับ ลุ่ ย จู ไม่ รู้ว่ า จะสามารถทนความยากล าบาก
ต่อไปได้หรือไม่

แล้วจะให้นางนัง่ นอนอยู่เฉยๆ ได้ร?ึ

หญิงสาวไม่ยอมให้ลุ่ยจูซื้อข้าวขาวอย่างดี ราคาแพงมา
บารุงบาเรอตนแล้ว แต่ให้ซื้อข้าวแดงราคาถูกมาแทน สามารถ
ประหยัดได้เล็กน้ อยก็ยงั ดี แม้ข้าวแดงจะหยาบไปบ้างทว่าบารุง
10
ร่างกายดีกว่าข้าวขาวเสียอีก ข้าวขาวก็แค่เนื้ อละเอียดมีเปลือก
สี ล าาเที ย นห่ อ หุ้ม อยู่ ช ัน้ นอกเท่ า นั ้น นอกจากข้ า วแดงจะมี
คุณประโยชน์ และราคาถูกกว่า ยังทาให้ผ้กู ิ นอิ่มง่าย ไม่ต้องซื้อ
ปริมาณมากเป็ นเท่าตัวดังเช่นข้าวขาวอีกด้วย

เมื่อมีข้าวเก็บไว้ครึง่ โอ่ง ปัญหาต่อมาก็คือผัก ไม่เพียงแต่


หาซื้อควรต้องปลูกเองด้วย แต่ในยามนี้ เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจึงมี
ผักไม่กี่อย่างที่ ราคาถูก พอหามาปลูกได้ นอกนัน้ ล้วนราคาสูง
กว่ า ปกติ ทั ง้ สิ้ น ปกติ บ้ า นอื่ น ก็ จ ะดองผัก ดองเต้ า เจี้ ย วไว้
ล่วงหน้ าก่ อนและอาศัยผักดองในการด่ ารงชี วิตตลอดทัง้ ฤดู
หนาว คิดจะซื้ อผัก ซื้อเต้ าเจี้ยวมาหมักเอาตอนนี้ เรียกว่าไม่
คุ้มค่าอย่างยิ่ง

ดังนั น้ ถานหวันช ่ ิ งจึงคิดทาแปลงปลูกผักเล็กๆ ในลาน


บ้ า นที่ ทิ้ งว่ า งอยู่ และให้ ลุ่ ย จู ไ ปซื้ อ เมล็ ด ผัก จ าพวกดอก
กะหลา่ ปลี กบั ผักกาดประจาฤดูมา ตอนนี้ เป็ นปลายฤดูใบไม้
ร่วง ยังพอมีผกั ที่สามารถปลูกได้

มีอยู่วนั หนึ่ ง กองทัพทหารม้าและพลทหารอี กไม่กี่นาย


ยาตราทัพ จากประตู ก่ ูเ ฉิ งก าลัง เดิ น ทางกลับ สู่ ป ระตู ท างทิ ศ
เหนื อ พอผู้นาทัพควบม้าผ่านบ้านคนมาได้ไม่กี่หลัง บังเหี ยน
ม้าก็ถกู รัง้ กะทันหันราวกับ มองเห็นอะไรสักอย่าง ก่อนจะเอี้ยว
11
ตัวกลับไปยัง ‘บ้านหลังหนึ่ ง’ ที่เพิ่งควบม้าผ่าน

คนที่ นั ง่ อยู่ บ นหลัง ม้ า มองข้ า มผ่ า นก าแพงที่ ไ ม่ สู ง นั ก


สามารถเห็นภายในบ้านหลังเล็กได้อย่างชัดเจน เขาเห็นหญิง
สาวชาวบ้านร่างบางสวมชุดสีซีด กาลังมองอย่างอิ่มอกอิ่มใจไป
ยั ง พื้ น ดิ นว่ า งเปล่ า ตรงหน้ า นางค่ อ ยๆ ใช้ อุ ป กรณ์ ทาง
การเกษตรเก่ า ๆ บิ ด เบี้ย วขุด ร่ อ งน้ า ขุด เสร็จ ก็ป ลู ก ผัก ด้ ว ย
ท่าทางเก้งก้าง บางครัง้ ก็ถกู ใบหญ้าแข็งๆ แทงเข้าที่ นิ้วมือบาง
นุ่มนิ่ม พอดึงออกมาได้ หยดเลือดกลมเล็กก็ไหลออกมา

ไม่มีเสี ยงร้องออกมาจากร่างนั น้ อย่ างที่ จินตนาการไว้


และยิ่ ง ไม่ มี สี ห น้ า ซี ด เซี ย วสะทกสะท้ า นกับ บาดแผลที่ ไ ด้ ร บั
หญิงสาวเพี ยงแค่มองแล้วซุกแผลเข้าไว้ในปากดูดห้ ามเลือด
อย่างไม่ใส่ใจ จากนัน้ ก็นาอุปกรณ์การเกษตรมาพรวนดินต่อ

คนบนหลัง ม้ า นั ง่ มองเงี ย บๆ ยิ่ ง มองคิ้ ว ยิ่ ง ขมวดมุ่ น


เป็ นปม

ลุ่ยจูหิ้วของที่ซื้อมาจากตลาด กาลังเร่งรีบกลับบ้าน

เมื่อใกล้ถึงบ้านที่ ตนเช่ ากลับเห็นเงาวูบไหวของม้าบน


ถนน ในเมืองนี้ ผ้ทู ี่ ขี่ม้าได้ย่อมไม่ใช่ ประชาชนคนธรรมดาแน่

12
ไหนจะชุดเกราะสี ดานั น่ อี กเล่า นอกจากทหารแล้วยังจะเป็ น
ใครไปได้ แต่พวกเขามาหยุดทาอะไรในตรอกเล็กๆ เช่นนี้ และ
ยังจงใจหยุดแถวหน้ าบ้านที่นางอาศัยอยู่กบั คุณหนูเสียด้วย!

่ ดใจนัน้ ลุ่ยจูไม่อาจเสียเวลาคิดถึงสิ่งใด รู้สึกเหมือน


ชัวอึ
มีเลือดหลังลงมากองอยู
่ ่ตรงฝ่ ามือที่หิ้วของจนร้อนผ่าว นางรีบ
วิ่งขาสันตรงเข้
่ าบ้าน ครัน้ พอมาถึงกลับช้าไปหนึ่ งก้าว เห็นหาง
ม้าไม่กี่ตวั นัน้ แกว่งไหวๆ อยู่หลังมุมกาแพง เสียงกีบเท้าค่อยๆ
ห่างออกไปเรือ่ ยๆ

แค่นึกถึงตอนที่ ตนออกไปข้างนอกโดยที่ คณ ุ หนูยงั นอน


หลับสนิทอยู่ในห้อง ลุ่ยจูกร็ ้อนใจเสียแล้ว นางรีบผลักประตูพ่งุ
เข้าไปข้างในทันที

ปรากฏว่ าเห็นคุณหนู อยู่ตรงบริเวณกาแพง สวมเพี ยง


เสื้อผ้าเนื้ อบางกาลังขุดดินเหงื่อท่วมกาย คาดว่าคุณหนูคงรีบ
ร้อนลุกขึ้นจากเตี ยง เรือนผมดาขลับยาวสลายจึงผูกด้ วยผ้า
ฝ้ ายไว้อย่างง่ายๆ นางกาลังก้มหน้ าก้มตาโดยมีจอบเล็กๆ อยู่
ในมือ ตัง้ ทาขุดหน้ าดินที่แห้งแข็ง ขุดได้ลึกบ้างตื้นบ้างเป็ นหลุม
ขรุขระ

แปลงปลูกผักนั น้ เดิมที เต็มไปด้ วยวัชพืชและต้ นหญ้า


13
หลากหลายแข่ งกันขึ้นสูงผสมปนเปมัวไปหมด ่ แต่ ตอนนี้ ทุก
อย่ า งกลับ ไปกองรวมกัน อยู่ด้ า นข้ าง ไม่ รู้แ ปลงเพาะที่ ว่ าถูก
จัดการให้สะอาดตัง้ แต่ตอนไหน

ถานหวันช ่ ิ งได้ ยินเสี ยงประตูถกู ผลักเปิดก็เ งยหน้ า ขึ้น


มอง เห็นลุ่ยจูดทู าทางลุกลี้ลุกลน หญิงสาวจึงตาหนิเบาๆ “เจ้า
ออกไปทาอะไรมา? ทาไมชะโงกหน้ าเยี่ ยมๆ มองๆ อยู่อย่าง
นัน้ ดูลุกลี้ลุกลนชอบกล”

เด็กสาวยังคงยืนอา้ อึ้งอยู่ที่เดิม มองไปยังคุณหนู อย่าง


ไม่รจู้ ะบอกอีกฝ่ ายอย่างไร

ท่ ามกลางท้ องฟ้ าปลอดโปร่งยามกลางวัน แสงอาทิตย์


ลอดผ่านกิ่งท้ อสองสามกิ่งที่ มีใบอยู่หร็อมแหร็ม แสงแดดอุ่น
ประพรมลงบนเรือนร่างของคุณหนูในชุดแพรต่วนสีเงินเหลือบ
ทองซี ดเก่ า แก้ มนวลเพี ยงผัดแป้ งสี ชาดบางเบา ใบหน้ าของ
นางดูเ รี ย บง่ า ยเหมื อ นชาวบ้า นธรรมดา เที ย บกับ ตอนอยู่ ที่
จวนตระกูลถานซึ่ งทัวร่ ่ างประดับประดาด้วยดิ้นเงินดิ้นทองดู
หรูห ราโดดเด่ น ใบหน้ าในยามนี้ กลับ มองแล้ ว ใสสะอาด ดู
งดงามจับตายิ่งกว่าในอดีตเสียอีก

โดยเฉพาะเมื่อแสงส่องกระทบลงมา อะไรที่ เคยเห็นว่า


14
เล็กกลับดูชดั เจนขึ้น ผิวที่ ขาวราวหิมะเนี ยนละเอี ยดอยู่แล้ ว
พลันผุดผาดสะอาดตา ปากและพวงแก้มถูกบ่มจนอมชมพูระ
เรือ่ เปล่งปลังปานดอกท้
่ อ ขับให้ดสู ดใสกว่าเดิม แม้ในยามนี้ จะ
มีเม็ดเหงื่อเกาะพราวเต็มหน้ าผากก็ตาม

[ 1 ] 1 ชัง่ (จิน) เทากับ 500 กรัม

15
บทที่ 8 อดออม

ลุ่ยจูยืนอยู่ประตูทางเข้า มองภาพตรงหน้ านิ่งงัน ทาไม


คุณหนูจึงมีใบหน้ าที่ ขาวสะอาดอวบอิ่มมีน้ ามีนวลเช่ นนี้ แก้ม
สองข้างกระจางใส รับกับเส้ นผมดาเงางามปานท้ องฟ้ ายาม
ราตรี ช่างงดงามราวกับภาพวาด

ลุ่ ย จู นึ กถึ ง เหตุ ก ารณ์ ที่ เ พิ่ งผ่ า นมาสดๆ ร้ อ นๆ จู่ ๆ


ความกัง วลกระวนกระวายก็ท ะลัก ล้ น จากก้ น บึ้ง ของหัว ใจ
ภาวนาอย่าให้ผใู้ ดก็ตามมาสนใจคุณหนูเลย เช่นเดียวกับทหาร
ม้าในชุดเกราะสี ดาเมื่อครู่...ขอให้เพียงแค่เดินทางผ่านมาแล้ว
ผ่านเลยไปเท่านัน้ เถิด

เด็กสาวยังคงตะลึง งันอยู่ในห้ วงความคิด ถานหวันช ่ ิง


ต้ อ งเรี ย กอยู่ ห ลายครานางจึ ง ได้ ส ติ ก ลับ คื น ตอนนี้ ลุ่ ย จูเ พิ่ ง
สนใจว่าคุณหนูถือสิ่งใดไว้ในมือ และกาลังทาอะไรอยู่

นางแทบกระโดดเร่ า ๆ อดไม่ ไ หวร้ อ งเรี ย กออกมาว่ า


“คุณหนู !” รีบตรงเข้าไปหา สองมือประคองนิ้วมือนายสาวที่
ถอนหญ้าจนได้แผล ยา่ เท้าไปมาอย่างขัดใจ

1
“คุณหนู ถ้าท่านรู้สึกคับแค้นใจ ก็ทาเหมือนเวลาปกติที่
ท่ องกลอน วาดภาพเขียนสิเจ้าคะ อย่าได้ทาร้ายตัวเองเช่ นนี้ !
คุณ หนู ท าอย่ า งนี้ บ่า วไม่ ส บายใจเลย” มื อ บอบบางอ่ อ นนุ่ ม
เหมาะกับความลาบากลาบนใช้ แรงงานกับการเพาะปลูกเฉก
เช่นชาวนาที่ไหนกันเล่า ไข้ที่เพิ่งลดก็อาจจะหวนเจ็บป่ วยขึน้ มา
อีกเพราะต้องลมหนาว

พอคิดถึงเรื่องนี้ ลุ่ยจูยิ่งกังวลจนน้ าตาร่วง ถานหวันช


่ ิง
ถอนหายใจ เดินไปห้องครัวเพื่อล้างมือกับน้ าอุ่นแล้วเช็ดด้วย
ผ้าฝ้ ายขาวสะอาด

หลายวันมานี้ น างป่ วย ลุ่ยจูยุ่งทัง้ เรื่องข้ างนอกและใน


บ้านแต่ เ พี ย งลาพัง ไม่เ พี ย งต้ องหาอาหารทุ กมื้อในทุ กๆ วัน
ยังต้องเหน็ ดเหนื่ อยกับการซักผ้าลงแป้ งและจัดซื้อ ของใช้ ช่วง
นี้ อากาศเริ่ ม เย็น มากขึ้ น ทุ ก ที เข้ า หน้ าหนาวก็จ าเป็ นต้ อ ง
เตรียมสิ่งของไว้มากมาย แต่ละอย่างหลากหลายเสี ยจนทาให้
ลุ่ยจูวุ่นวายหัวหมุน ขณะที่ นางกลับอยู่แต่ ในห้ องนอนอบอุ่น
งานเล็กงานน้ อยก็ช่วยอะไรไม่ได้

ตอนนี้ อาการป่ วยของนางหายดีแล้ว หญิงสาวจึงอยาก


หาอะไรทา อย่างเช่นแบ่งพื้นที่ ลานบ้านออกเป็ นสองส่ วน คิด
ว่าการได้ยืดเส้นยืดสายออกแรงทาอะไรเสียบ้างนาจะดีกบั เอ็น
2
และกระดูก ใครอยากจะให้ตวั เองป่ วยกันล่ะ อีกอย่างนางจาได้
ว่ า ครัง้ หนึ่ ง ลุ่ย จูเ คยถูก งู ก ดั ต่ อ ให้ ผ่า นมานานแค่ ไ หนลุ่ ย จูก็
ยังเกลียดหญ้าเกลียดเชือกอยู่นัน่ เอง นางต้องคอยดูแลอีกฝ่ าย
เหมือนกัน แล้วงานเล็กๆ น้ อยๆ แค่นี้กลับไม่ยอมให้ นางทา
เชียวรึ?

ใครเล่ า จะไม่ ป รารถนาใช้ ชี วิ ตสุ ข สบาย แต่ ด้ ว ย


สถานการณ์ ตอนนี้ ไม่มีเวลาและเงื่อนไขให้ เสวยสุข ทุกอย่าง
เปลี่ยนไปแล้ว ควรคิดหาวิธีทางานเพื่อหาเลี้ยงชีพต่างหาก

เมื่อเห็นถานหวันช่ ิ งเข้าครัว ลุ่ยจูก็ตามเจ้านายเข้ าไป


โดยไม่ได้เอ่ยอะไร นางรู้ตวั ว่าเมื่อครู่ขึ้นเสียงไปหน่ อยจึงอยาก
ประจบเอาใจนายสาว รีบ นาของที่ ตนซื้อจากตลาดออกมา มี
ชุดยาของคุณหนูด้วย หมอบอกว่าพื้นฐานสุขภาพของคุณหนู
แข็งแรงดีอยู่แล้ว อาจเจ็บป่ วยเหนื่ อยล้าไปบ้าง แต่ กินยาครบ
สามชุ ด รับ รองว่ า อาการป่ วยจะหายเป็ นปลิ ด ทิ้ ง ซึ่ ง นี่ ก็เ ป็ น
ชุดสุดท้ายแล้ว

ตามด้วยแม่ไก่อีกครึง่ ตัว ด้านบนยังมีเลือดติดอยู่

หลายวันมานี้ นางวิ่งไปมาที่ ตลาด ย่อมรู้จกั คนไม่น้อย


แม้คนเหล่านี้ จะเป็ นเพียงชาวบ้านร้านตลาด พูดจาหยาบคาย
3
ไร้มารยาท แต่กม็ ีความกระตือรือร้นในการทามาหากิน

บนถนนมียายแก่ผ้หู นึ่ งขายขนมเปี๊ ยะโรยงาย่างบนเตา


ร้ อ น ยายแก่ บ อกนางว่ า แม่ ไ ก่ นั ้น ใช้ บ ารุง ร่ า งกายได้ ดี ที่ สุ ด
โดยเฉพาะผู้หญิง พอดี กบั ที่ บ้านของยายแก่ต้องการซื้อแม่ไก่
สักหนึ่ งตัวครึ่ง จึงแบ่งขายให้นางครึ่งตัว นั บว่าเป็ นราคาที่ ถกู
มาก แปดอีแปะเท่านัน้ นางวางแผนไว้ว่าจะตุ๋นให้คณ ุ หนูบารุง
ร่างกายเที่ยงนี้ สกั หน่ อย

ตามด้ ว ยของห่ อ ชื้ น ๆ ข้ า งในคื อ ปลาหลี ฮื้ อ [ 1 ] “มี


คนขายอยู่ในตลาด บอกว่าสดมากเจ้าค่ ะ บ่าวดูแล้ว ตัวนี้ หวั
ใหญ่ ดี อี กอย่ าง ปลาที่ นี่ถกู กว่าเมืองหลวงมากเลยนะเจ้าคะ
แหล่ ง น้ า ที่ นี่ อุด มสมบูรณ์ มี ชาวประมงไม่ น้ อยอาศัย อยู่ต าม
แม่น้ าที่ เป็ นเส้ นทางเดินเรือ ตัวนี้ เพิ่งจับมาเมื่อเช้ าเอง ตอน
แรกบ่าวว่าจะทาปลาหลีฮื้อฝานเนื้ อบางที่คณ ุ หนูชอบกิน แต่น่า
เสี ยดายที่ เครื่องครัวของเราทาได้แค่ต้มน้ าแกง...” ลุ่ยจูยิ่งพูด
เสียงยิ่งแผ่วลง

พ่ อ ครัว ของตระกูล ถานมี ชื่ อ เสี ย งด้ า นการหัน่ ผัก ให้ มี


ลักษณะและลวดลายแบบต่ างๆ ทัง้ ยังฝานเนื้ อปลาเป็ นแผ่น
บางปานผ้าโปร่ง แซะออกจากกระดูกเหมือนสายลมเต้นระบา
พัดผ่าน ถ้าหากนางลงมือทาเอง วิธีการหันเนื ่ ้ อปลาของนางคง
4
ได้ทาได้แค่ปล่อยไก่ให้คณ
ุ หนูหวั เราะ

“ใครบอกว่าข้าชอบกินปลาหลีฮื้อฝานเนื้ อบาง? แค่หนั ่


ให้ดนู ่ ากินก็พอแล้ว ปลาต้มก็ดี น้าแกงยังมีรสชาติของเนื้ อปลา
ติดอยู่ด้วย” ถานหวันช ่ ิ งพูดกลัว้ หัวเราะ และเสริมเพิ่มเมื่อนึ ก
อะไรบางอย่ า งได้ “ของพวกนี้ อ ย่ า ท ากิ น หมดในคราวเดี ย ว
อย่างไรเราสองคนก็ไม่ได้กินกันมากขนาดนัน้ เหลือเอาไว้มื้อ
อื่ น บ้ า ง จ าไว้ ว่ า ต้ อ งเก็บ ใส่ อ่ า งดี ๆ ปิ ดฝาให้ มิ ด ชิ ด ช่ ว งนี้
อากาศหนาว เราสามารถเก็บ นานสักหน่ อยได้ ขอเพี ย งเก็บ
อย่างระมัดระวังอย่าให้แมวกับหนูมาเยือนก็พอ”

ลุ่ยจูได้ฟัง ได้ทงั ้ ข้อคิดและวิธีการ อดรูส้ ึกไม่ได้ว่าคุณหนู


ตอนอยู่ที่จวนตระกูลถานกับคุณหนูในตอนนี้ ช่างแตกต่ างกัน
อย่างยิ่ง เมื่อก่อนคุณหนูเป็ นถึงบุตรีของฮูหยินใหญ่ตระกูลสูง
มีอาหารรสเลิศเสื้อผ้าหรูหราให้ กินใช้ อย่างสุร่ยุ สุร่าย ใช้ ชีวิต
ฟุ่ มเฟื อยนั ก ไม่เคยต้ องมากังวลกับค่าใช้ จ่ายใดๆ แต่ เวลานี้
คุณ หนู ก ลับ ค านวณทุ ก สิ่ ง อย่ า งละเอี ย ดถี่ ถ้ ว นยิ่ ง กว่ า นางที่
เป็ นสาวใช้ เสี ยอี ก คุณหนู พูดถึงเรื่องเก็บปลาได้นานกี่ วนั ไม่
ต้องเน้ นคุณภาพว่าต้องสดใหม่ ขอเพียงประหยัดค่าอาหารได้
บ้างสักเล็กน้ อยก็ยงั ดี ทาไมคุณหนูถึงทาให้นางประหลาดใจได้
เสมอเลยนะ พอคิดถึงว่าชะตาชี วิตของคุณหนู ราวกับ ถูกบีบ
บังคับให้จาต้องเป็ นเช่นนี้ เท่านัน้ ลุ่ยจูกเ็ จ็บปวดใจขึน้ มาอีก
5
่ ิ งไม่สนใจลุ่ยจูที่ รู้สึกรันทดและเกิดความเห็น
ถานหวันช
อกเห็นใจให้นาง กลับเอ่ยถามพลางจิ้มนิ้วลงบนอีกห่อ “แล้วนี่
คืออะไร?”

“นี่ หรื อ เจ้ า คะ...หนุ่ มขายปลาให้ ม าเจ้ า ค่ ะ เป็ น ‘ปลา


รสชาติดี’ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เ อาเงิน บ่าวก็เลยถือกลับ มา
ด้วย ลองดูว่าจะต้มน้าแกงได้ไหม”

ที่ เรียกว่า ‘ปลารสชาติดี’ เนื่ องจากชาวประมงมัก ช้ อน


ติดมือมาได้โดยบังเอิญ ของจาพวกกุ้งปูปลาเล็กๆ ที่ยงั ไม่มีเนื้ อ
อะไรมากมาย ไม่ค้มุ ค่าเงิน บางที พวกเขาก็มกั จะขายครึ่งแถม
ครึ่ง หรือมีคนขอซื้อถูกหน่ อยก็ขายแล้ว ถึงแม้จะไม่ค่อยมีเนื้ อ
แต่ ส่าหรับคนจน ขอเพียงเทลงในหม้อเติมผักเข้าไปก็เป็ นต้ ม
น้าแกงแสนอร่อยกินทัง้ ครอบครัวได้แล้ว

ปลารสชาติดีได้ลงไปอยู่ในอ่างเรียบร้อย ถานหวันช ่ ิ งยัง


อยู่ในครัวเหลือบไปเห็นหมึกยักษ์สี่ห้าตัว ไม่รวู้ ่านานเท่าไรแล้ว
ที่ไม่ได้เห็นเจ้าสิ่งนี้ ซึ่งปกติกไ็ ม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก

“คุณหนู ท่านเรียกของสิ่งนี้ ว่าหมึกยักษ์ร?ึ หนุ่มขายปลา


ก็เรียกมันว่าหมึกยักษ์เช่นกันเจ้าค่ะ...ไม่ผิดแน่ ปลาอะไรหนอ
ตัวยาวแปลกประหลาดแถมยังมีรากแปดสายติดตัวมาด้วย เขา
6
บอกว่ าตอนกินให้ ตดั ขามันออก ส่ วนกลมๆ ตรงกลางก็ ให้
โยนทิ้ง ไม่อย่างนั น้ กินแล้วปากจะเปลี่ ยนเป็ นสี ดา อาจเปื่ อย
และหลุดได้” ลุ่ยจูเบะปาก “บ่าวไม่เคยเจออะไรขี้เหร่อปั ลักษณ์
อย่างนี้ มาก่อนเลยเจ้าค่ะ จะกินอย่างไรกัน? ต้ องตัดทิ้งเกือบ
หมดอย่างนัน้ หรือ”

ทัน ที ที่ เ ห็น เจ้ า สิ่ ง นี้ ถานหวันช


่ ิ ง ก็คิ ด บางอย่ า งได้ นึ ก
อยากกินของอร่อยขึน้ มาจึงรีบร้องบอกลุ่ยจู “อย่าทิ้งนะ”

จากนั ้น นางก็ห าชามเปล่ า มาใส่ ห มึ ก ยัก ษ์ ห้ า หกตัว ที่


พยายามตะเกียกตะกายออกมาด้วยตัวเอง

่ ิ งอธิบายง่ายๆ ไม่ซบั ซ้ อนว่า “เจ้าตัวนี้ กินได้


ถานหวันช
ตอนเที่ ยงเราจะทาลูกชิ้นหมึกทอดกัน อย่าไปมองว่ามันขี้ริ้วขี้
เหร่ ทาออกมาแล้วรับรองว่าอร่อยมาก”

“ลูกชิ้นหมึกทอดหรือเจ้าคะ?” ลุ่ยจูทาหน้ างุนงง มันเป็ น


อย่างไรกัน? “แต่ ว่า...คุณหนู ชายผู้นัน้ บอกว่ าหัวของมันกิน
ไม่ได้นะเจ้าคะ ข้างในก็มีพิษด้วย ปากจะเปลี่ยนเป็ นสี ดาแล้ว
เปื่ อยยุ่ยได้”

ลุ่ยจูอดไม่ได้ที่จะเตือนอีกรอบ เมื่อเห็นคุณหนูยื่นมือไป

7
หยิบส่วนหัวของปลาหน้ าตาประหลาดนัน่

คนเรามักจะรู้สึกกลัวอะไรก็ตามที่ มีสี ดาเป็ นส่ วนใหญ่


แต่ถานหวันช ่ ิ งไม่ได้อธิบาย เพียงกล่าวว่า “นัน่ เพราะพวกเขา
ไม่เข้าใจ เจ้าดูนี่...เพียงแค่เอาถุงน้ าหมึกสี ดาสองอันนี้ ออกมา
พิษก็ไม่มีแล้ว เหลือแต่ เนื้ อที่ กินได้” หญิงสาวดึงถุงเล็กๆ ข้าง
ในตัว หมึ ก ออกมา ส่ ง ให้ ลุ่ ย จู ดู น้ า หมึ ก สี ด าบนฝ่ ามื อ “พิ ษ
ทัง้ หมดของมันอยู่แต่ในถุงหมึกนี้ เท่านัน้ ”

ลุ่ยจูตื่นเต้นเป็ นการใหญ่ คิดเงียบๆ ในใจว่าคุณหนูร้จู ริง


ที เดียว ทันที ที่นึกถึงคาพูดที่ คณ
ุ หนูกล่าวว่า ‘อร่อยมาก’ นางก็
อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝี ปาก เหลือบมองไปที่ชามข้างกาย “คุณหนู
อร่อยขนาดนัน้ จริงๆ หรือเจ้าคะ?”

่ ิ งรู้ว่าลุ่ยจูอยากกินจนน้ าลายสอ ก็ปรายตา


ถานหวันช
มองอี กฝ่ ายแวบหนึ่ ง “ทาเสร็จ เจ้าก็รู้เอง” จากนัน้ ก็สงความ
ั่
ต่ อ “วางปลาหมึ ก ไว้ แล้ ว ไปเอาแป้ งหมี่ ก บั เครื่ อ งปรุง รสมา
ก่อน”

ขอเพียงมีของอร่อยกินมือเท้าของลุ่ยจู ก็กระฉับกระเฉง
คล่ อ งแคล่ ว วัต ถุดิ บ ที่ พ อมี ก็มี อ ยู่ ไ ม่ กี่ อ ย่ า ง ทัง้ ยัง มี ป ริ ม าณ
จากัด
8
ถานหวันช ่ ิ ง จัด การหัน่ หมึ ก ยัก ษ์ อ อกมาเป็ นแว่ น วงๆ
แล้ ว น ามาล้ า งท าความสะอาด ใช้ แ ป้ งหมี่ ผ สมเนื้ อไก่ ส ับ
ละเอี ย ด ปรุง รสด้ ว ยเกลื อ กับ พริ ก ไทยแล้ ว ยัด ใส่ ใ นวงหมึ ก
จากนัน้ แตะน้ามันลงบนฝ่ ามือขาวนุ่มของตนเล็กน้ อยแล้วถูฝ่า
มือไปมา หยิบหมึกลงชุบไข่ที่ตีจนฟูฟ่อง ลงทอดในน้ามันเดือด
จนกลายเป็ นสีเหลืองทอง แล้วจึงช้อนขึน้

ท าไม่ ย ากอย่ า งที่ คิ ด แม้ ว ตั ถุดิ บ ไม่ ค รบแต่ เ นื้ อ หมึ ก มี


ความสดใหม่ กาลังไฟแรงพอเหมาะ คาดว่าน่ าจะอร่อยที เดียว
เป็ นลูกชิ้นหมึกยักษ์รสชาติอร่อยที่ ข้างนอกกรุบกรอบ ข้างใน
เนื้ อนุ่ม หอมกรุน่ ยัวน
่ ้าลาย

“ทาไมถึงอร่อยอย่างนี้ !” ลุ่ยจูนัง่ อยู่บนตังเล็


่ กๆ กาลังใช้
สองมือประคองชาม แม้ถกู ลวกจนน้ า ตาเอ่ อ คลอแต่ ก็ย งั รี บ
ร้อนยัดของอร่อยเข้าปาก

ถานหวันช่ ิ งเองก็ร้สู ึกว่ารสชาติไม่เลว อีกทัง้ หมึกยักษ์ที่


ได้มาเนื้ อหนาดีเป็ นพิเศษ

วันต่อมา ถานหวันช่ ิ งตื่นแต่เช้าตรู่พร้อมหลุดเสียงคราง


ออกมาอย่างเกียจคร้าน เมื่อคืนพวกนางแทบไม่ได้นอนทัง้ คืน

9
ใช่ แล้ว...เอาแต่ กินอย่างตะกละด้วยห่ างจากของอร่อย
มาแรมปี กินเท่ าไรก็เหมือนไม่พอ แล้วจะข่ มตานอนหลับได้
อย่างไร

ออกไปข้างนอกดีกว่า...

ตัง้ แต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ถานหวันช ่ ิ งก็อยู่แต่ในบ้านตลอดยัง


ไม่เคยออกไปไหน ลุ่ยจูมกั พูดถึงตลาดในตรอกใกล้ๆ จึงคิดว่า
จะเดินไปที่ นัน่ สักหน่ อย เผื่อว่ามีลู่ทางเพิ่มทรัพย์สินเงินทองได้
บ้าง

เห็น ถานหวัน่ ชิ ง ก าลัง จัด การของหน้ าโต๊ ะ เตรี ย มจะ


ออกไปข้างนอก ลุ่ยจูอยากเอ่ยปากห้าม อีกใจก็คิดได้ว่าหลาย
วันมานี้ คุณหนู ข ลุกอยู่แต่ ในบ้าน เกรงว่ าจะเหงา ได้ ออกไป
เดินเล่นข้างนอกอาจจะรูส้ ึกดีขึน้ บ้าง

วันนี้ อากาศไม่เลวนั ก ข้างนอกค่ อนข้างอบอุ่น ไม่ต้อง


กังวลเรื่องหนาว คิดได้ดงั นัน้ ลุ่ยจูจึงเดินเข้าไปช่ วยคุณหนู จดั
ของ

เครื่องประดับที่ เคยมีไม่จาเป็ นต้ องคิดถึงมันอี ก เพราะ


จวนตระกูลถานถูกค้นบ้านยึดทรัพย์ไปจนหมดแล้ว ถึงอย่าง

10
นัน้ ลุ่ยจูกค็ ิ ดอยากจะใช้ทองใบไม้เปลี่ยนเป็ นก้อนเงิน แล้วหา
ช่างเครื่องเงินประกอบปิ่นปั กผมเรียบๆ สักอันมอบให้คุณหนู
แต่ นายสาวกลับบอกว่าไม่ต้อง นางขอให้ ลุ่ยจูซื้อปิ่นไม้มาให้
แทน ในตลาดพอมี ช่ า งฝี มื อ ดี อ ยู่ บ้ า ง ปิ่ นไม้ อ ัน หนึ่ งราคา
สามเหรียญทองแดง ก็ใช้ปักผมให้แน่ นได้เหมือนกัน

ในห้องเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงเสียดสีของเนื้ อผ้าเวลา


่ ิ งนัง่ นิ่งปล่อยให้สาวใช้สางผมให้อย่าง
ที่ล่ยุ จูขยับตัว ถานหวันช
เคยชิน เสร็จแล้ ว ก็หยิ บ ปิ่นไม้แบบเรี ย บง่ ายที่ ว างอยู่บ นโต๊ะ
แล้วปักลงไป

เรือนร่างของหญิงสาวในยามนี้ ปราศจากแป้ งหรือเครื่อง


ประทิ น ผิ ว ใดๆ แต่ ก ลับ มี ก ลิ่ น หอมกรุ่น ติ ด ตัว ในแบบที่ ลุ่ ย จู
คุ้นเคยและรู้ว่ามันเป็ นกลิ่นที่ติดตัวคุณหนูมาตัง้ แต่เกิด เมื่อได้
สัมผัสกลิ่นที่ ค้นุ เคยและได้ทาเรื่องที่ตนคุ้นชิน ชัวพร ่ ิ บตานัน้ ...
พลัน เกิ ด ภาพลวงตาว่ า นางก าลัง ท าผมให้ คุณ หนู อ ยู่ ใ นจวน
ตระกูลถาน

ครัน้ มี แ สงสว่ า งส่ อ งวาบผ่ า นเข้ า มา สติ ของลุ่ ย จู ก็


กลับมายังบ้านเช่าหลังน้ อย นางเริ่มทาทรงผมให้คณ ุ หนูโดยใช้
ชิ้นผ้าเนื้ อหยาบสี น้ าเงินลายดอกคาดผมง่ายๆ แบบสาวบ้าน
นอกทัวไป่ พอเสร็จแล้วก็ถึงกับถอนหายใจ
11
“คุณหนูเจ้าคะ”

่ ิ งเอียงศีรษะหันมามอง
ถานหวันช

“ข้าเห็นครอบครัวยากจนแถวตลาด ออกจากบ้านที ยงั


แต่ งตัวดูดี แม้แต่ หญิงชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ แต่ งงานแล้วก็ยงั
แต่งตัวดี แต่เรากลับแต่งตัวเน้ นไปทางขี้เหร่...”

แม้นางจะเข้าใจเหตุผลชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องระมัดระวัง
ตัว ทว่าในใจก็ยงั คงรู้สึกไม่เป็ นธรรม คิดอยากจะโยนผ้าเก่ า
อัปลักษณ์ บนศีรษะของคุณหนู ลงส้ วมเสี ยให้ ร้แู ล้วรู้รอด และ
ไม่ใช่แค่ผา้ รัดผมเท่านัน้ ที่ท่านางหงุดหงิดใจเช่นนี้

ถานหวันช่ ิ งหันหน้ ากลับ แล้วยกมือแตะปิ่นปั กผมสลัก


รูปดอกเหมยบนศีรษะ เอ่ยกระซิบกับตัวเองเสียงแผ่ว “อย่าลืม
ว่าคนเหล่านัน้ เป็ นประชาชนธรรมดา แต่ พวกเราเป็ นนั กโทษ
เจ้าลืมไปแล้วหรือ?”

ประโยคนี้ ก ลบความรู้สึ ก ไม่ เ ป็ นธรรมที่ สุ ม อยู่ เ ต็ม อก


ของลุ่ยจูได้ชะงัด

ใช่แล้ว! พวกนางเป็ นนักโทษ ไม่เพียงเท่านัน้ แต่ยงั เป็ น

12
นักโทษที่กาลังหลบหนี ลุ่ยจูจึงไม่กล้าเอ่ยสิ่งอื่นใดอีก เช็ดหัวตา
แล้วรีบขยับปิ่นไม้ตรงโคนผมให้แน่ น

ใครเล่าจะไม่อาลัยอาวรณ์ ชีวิตที่เคยเฟื่ องฟูรา่ รวยเปี่ ยม


วาสนา หลังจากที่ ตระกูลถานเกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ฐานะและ
สภาพแวดล้ อมที่ พวกนางประสบช่ างแตกต่ างกันโดยสิ้นเชิง
ั น้
เป็ นใครก็รบั ไม่ได้ท้งนั

เมื่ อ ทัง้ สองเดิ น ออกไปข้ า งนอก จัง หวะเดี ย วกัน หน้ า


ประตูของบ้านข้างๆ ก็มีเกี้ยวสี เขียวคันเล็กจอดอยู่ หญิงสาว
หน้ าตาสะสวยกับหญิงรับใช้ เดินออกมาจากในบ้าน ลักษณะ
ท่าทางของหญิงสาวอายุน่าจะไม่เกินยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ ปาก
แก้มแต้มสีชาดจนแดงกา่ สวมเสื้อตัวใหญ่สีอิงเถา[ 2 ]คู่กบั ชุด
ยาวโปร่งบาง ชายเสื้อย่นเป็ นลอนคลื่นจนถึงอกเสื้อ รองเท้ า
ปักลายผลทับทิมสีสดดึงดูดสายตา นางมองมาทาง

่ ิ งกับ ลุ่ย จู ดวงตากลมโตทอประกายวูบไหว


ถานหวันช
แววตาของหญิงผู้นัน้ ประเมินพวกนางจากศี รษะจรดเท้ าแวบ
หนึ่ ง ก่อนจะหันกายกลับเข้าไปในเกี้ยวสี เขียว สาวใช้ สองคน
ปิดประตูเสร็จก็เดินตามหลังเกี้ยวแล้วห่างออกไปทีละน้ อย

หญิงสาวในเกี้ยวหยิบคันฉ่ องทองแดงสลักลายดอกไม้
13
อันเล็กมาส่องใบหน้ า กดผ้าซับตรงริมฝี ปากสีแดงชาด จัดต่าง
หูทองบริสุทธ์ ิ ร้อยรัดด้วยลูกตุ้มไข่มกุ ครัน้ นึ กถึงอะไรบางอย่าง
จึงเปิดม่านออก หันไปถามสาวใช้ ที่อยู่ข้างเกี้ยว “สองคนเมื่อ
ครูเ่ ป็ นใครกัน?”

หญิงรับใช้รีบตอบกลับทันที “ได้ยินว่าเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่
บ้านหลังข้างๆ ได้ไม่กี่วนั เจ้าค่ะ”

หญิงผู้เป็ นนายขมวดคิ้วเรียว บ่นพึมพาอย่างไม่ยินดียิน


ร้าย “คนจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็ย้ายมาอยู่ใกล้ ที่พกั ของเรา? ดู
การแต่ ง ตัว แล้ ว ก็ ใ ช่ ว่ า จะดี เดี๋ ย วสัก ครู่ ข้ า จะต้ อ งปรึ ก ษา
ประเด็นนี้ กบั นายท่าน ดูว่าพวกเราจะสามารถย้ายไปพักที่ถนน
ตงเหมินได้หรือไม่ ที่นัน่ น่ าจะดีกว่า” กล่าวจบก็ปล่อยม่านลง

หญิงรับใช้ที่อยู่ด้านนอกเบ้ปาก แน่ นอนว่าถนนตงเหมิน


เป็ นสถานที่ ดี แต่ ต้องมีเงินและอานาจถึงจะอาศัยอยู่ในที่ ดีๆ
เช่นนัน้ ได้

ฝั ง่ ลุ่ยจูกเ็ บ้ปากเช่ นกัน “คุณหนู ร้หู รือไม่เจ้าคะว่าคนที่


พักข้างบ้านเราเป็ นใคร?...ก็แค่ นางเล็กๆ ที่ เ ถ้ า แก่ ต๊อกต๋ อย
เลี้ยงดูไว้นอกบ้าน หลบหูหลบตาผู้อื่น ทาอย่างกับตัวเองเป็ น
คุณหนูตระกูลผูด้ ี น่ าตลกสิ้นดี”
14
ลุ่ยจูเหลือบมองไปทางที่ อีกฝ่ ายจากไปแล้วเอ่ยต่ อ “ถ้า
หากรูก้ ่อนว่ามีคนสถานะอย่างนี้ มาพักอยู่ใกล้ๆ เราจะได้ไม่เช่า
บ้านนี้ เสียแต่แรก ทาทางข่มคนไม่น้อยทีเดียว”

“แล้วพวกเรามีสถานะอะไรล่ะ?” ถานหวันช่ ิ งกระซิบถาม


กลับไปเพียงหนึ่ งประโยค ทว่า ‘สถานะ’ สองคานี้ เน้ นเสียงหนัก
ชัดเจน

ลุ่ยจูรีบมองไปรอบๆ เห็นไม่มีผ้ใู ด จาใจป้ องมือกระซิบ


ขออภัยคุณหนูของตน “บ่าวรูแ้ ล้วเจ้าค่ะ”

ลุ่ยจูหน้ าม่อยคอตกไปเลย ใช่แล้ว...นางรู้สถานะตัวเอง


รูว้ ่าตอนนี้ นางกับคุณหนูไม่อาจล่วงเกินใครหน้ าไหนได้

ถานหวันช ่ ิ งยิ้มแล้วดึงมือนาง “เอาเถอะ ข้าเตือนเจ้าทุก


วัน ในที่สดุ ก็เข้าหูเสียที”

[ 1 ] ปลาหลีฮื้อ - ปลาคาร์ป

[ 2 ] อิงเถา : ผลเชอร์รีj

15
9 กองทัพทหารม้า

กล่าวถึงตลาดในตรอกเล็กๆ ข้างที่ พกั แท้ จริงคือศูนย์


รวมการดาเนินกิจการค้าขายย่านหนึ่ ง ครอบคลุมถนนสามสิบ
จัง้ ขนาบด้วยบ้านพักเรียงรายเป็ นตับ สองฟากฝัง่ มีทงั ้ โรงเตี๊ยม
ร้านอาหาร โรงรับ จานา ร้านข้าวสาร และร้านเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
อย่างครบครัน

แม้ จ ะต่ า งจากตลาดใหญ่ ข องตรอกอื่ น ที่ ค้ า จ าพวกวัว


แกะ ม้า หนั งสัตว์ และสินค้าหลัก ๆ ในชี วิตประจาวันอี กเป็ น
จานวนมาก แต่ระดับความคึกคักกลับโดดเด่นไม่น้อย

เพราะที่ นี่ ใ กล้ ก ับ ถนนใหญ่ เ ป่ ยเหมิ น เที ย บความเป็ น


ระเบียบเรียบร้อยกับที่ อื่นแล้ว สถานที่ นี้ดีกว่ามาก ไม่มีขโมย
หรือนักเลงหัวไม้มาก่อเรือ่ งให้เสียอารมณ์ สองข้างทางโดยรอบ
ล้วนเป็ นแหล่งบ้านพักของพ่อค้าต่างถิ่น

หญิ ง สาวทัง้ สองใช้ เ ส้ น ทางเดิ น เท้ า เพี ย งสองเค่ อ ก็ถึ ง


ตลาด ผู้ค นเดิ น กัน ขวัก ไขว่ สื่ อ สารต่ า งส าเนี ย ง บ้า งก าลัง ดู
สิ น ค้ า เสื้ อ ผ้า อาภรณ์ ชาวบ้า นและทหารจากนอกเมื อ งหาบ
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเข้ามาขาย นายพรานก็นาสัตว์ป่าเข้า

1
มาวางแผง รวมไปถึ ง บรรดาพ่ อ ค้ า หาบเร่ ข ายสิ น ค้ า เล็ก ๆ
จิปาถะก็มีอีกมากมาย มีตงั ้ แต่อปุ กรณ์ ตดั เย็บไปจนถึงตลับผง
แป้ งสีชาด

จริงอยู่ ย่านนี้ อาจไม่มีร้านค้าใหญ่โต ส่วนใหญ่เป็ นร้าน


แผงลอยเบ็ดเตล็ดเล็กๆ แต่ ราคาก็เอื้อประโยชน์ ให้ ชาวบ้าน
อย่ างแท้ จริง ประชาชนสามารถซื้ อสิ น ค้ า สดใหม่ ไ ด้ ในราคา
ย่อมเยา ผู้คนมาเดินจับจ่ายกันมากมาย แม้แต่บรรดาทหารยัง
มีเวลาว่างมานัง่ รา่ สุรา พูดคุยโหวกเหวกหัวเราะกันอย่างสบาย
อกสบายใจ

มิหนาซา้ พอพวกทหารดื่มเสร็จก็ต้องจ่ายเงิน ทาเอาพ่อ


ค้ าขายสุราหาบเร่ถึงกับตกใจไม่น้อย ต่ อมาจึงรู้ว่าเป็ นคาสัง่
จากใต้เท้าเซี่ย มีกฎว่าทหารหัวเมืองทัง้ หลายหากคิดจะซื้อข้าว
ของใดๆ ล้วนต้องจ่ายเงินทัง้ สิ้น ห้ามรังแกระรานประชาชนใน
เมืองเว่ ย อัน เมื่อ ชาวบ้านได้ ยิ น ดัง นั น้ จึ ง พากัน สรรเสริ ญ ยก
ใหญ่ ต่างซาบซึ้งในบุญคุณของแม่ทพั หัวเมืองเป็ นอย่างยิ่ง

ลุ่ยจูเห็นว่าตลาดที่ นี่ปลอดภัยมาก นางจึงเบาใจที่ จะพา


คุณหนูมาเดินเล่น

่ ิ ง กับ ลุ่ย จู เดิ น ดูข องไปตามทางเท้ า กระทัง่


ถานหวันช
2
เห็นร้านขายกาไลหยก แม้คุณภาพหยกจะไม่ถึงขัน้ ดี ที่สุด แต่
เมื่อเที ยบราคากับร้านขายเครื่องประดับก็ถือว่าค่อนข้างถูก มี
หญิงที่ แต่งงานแล้วจานวนไม่น้อยพากันมามุงดูอยู่รอบบริเวณ
แต่สดุ ท้ายก็ไม่รวู้ ่าผูใ้ ดซื้อกลับไป

พวกนางเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่ อย แต่ กลับมิได้อ้อยส้อย


่ ิ งลอบสังเกตและประเมินสิ่งต่างๆ
อย่างที่ แสดงออก ถานหวันช
ที่พบเห็นอย่างละเอียด

ฝั ง่ ลุ่ย จูที่ เ ดิ น อยู่ข้ า งๆ กาลัง พูด คุย อย่ า งดี อ กดี ใ จ แต่
ก่ อ นตอนอยู่ จ วนตระกูล ถาน นางเป็ นสาวรับ ใช้ ที่ อ ยู่ แ ต่ ใ น
จวนเป็ นส่วนใหญ่ เวลาที่ในจวนต้องการอะไร เพียงแค่เอ่ยปาก
บรรดาเถ้าแก่ห้างร้านใหญ่ในเมืองหลวงก็ยินดีหอบข้าวของมา
เยี่ยมถึงในจวนเพื่อให้ฮหู ยินและคุณหนูเลือกตามอาเภอใจ

ณ เวลานัน้ คุณหนูแทบไม่ได้ใส่ใจบรรดาผ้าสิ่งทอ เครื่อง


ประดับ ล้วนเป็ นความสามารถของลุ่ยจูในการคัดสรรให้ทงั ้ สิ้น
แต่เวลานี้ กลับสนุกและได้บรรยากาศยิ่งกว่า

เจ้าของร้านวางของให้นางเลือกกับมือ พวกชาวบ้านใน
ตลาดก็พากันส่งเสียงพูดคุยเกี่ยวกับสินค้ากันอย่างสนุกสนาน
สินค้ าก็ราคาเป็ นมิตร สิบชิ้นแค่ แปดเหรี ยญทองแดงเท่ านั น้
3
ตอนนี้ ล่ยุ จูจึงสบายใจและมีความสุขมาก

กลุ่ ม คนหลัง่ ไหลมาอย่ า งมื ด ฟ้ ามัว ดิ น ลุ่ ย จู เ กรงว่ า


คุณหนูจะถูกเดินเบียดจนพลัดหลงจึงดึงมือของอีกฝ่ ายไว้แน่ น
มือของคุณหนู ก็กาลังจับนางไว้เช่ นกัน ทัง้ สองพูดคุยยิ้มแย้ม
เหมื อ นพี่ ส าวน้ อ งสาวทัว่ ไป มี บ างครัง้ ที่ ห ยุ ด ดูง านช่ า งฝี มื อ
พื้นเมืองซึ่ งไม่เคยเห็นในเมืองหลวงมาก่อน ก็กล่าวชมไม่ขาด
ปาก

ครัน้ เดินไปถึงแผงลอยหาบเร่เล็กๆ ที่เงียบเหงาแห่งหนึ่ ง


ถานหวันช ่ ิ งก็หยุดเท้ าแล้วมองดู ในแผงเบ็ดเตล็ดวางขายพัด
กระดาษที่ ใช้ในฤดูร้อน ทว่ายามนี้ อากาศหนาวอย่างยิ่ง ไม่ว่า
ใครล้วนสวมเสื้อกัน หนาวกันหมด ใครจะใช้ พดั เล่า ไม่เงียบสิ
แปลก พ่อค้าหาบเร่ผ้นู ั น้ นาพัดฤดูร้อนเข้ามาขายจานวนมาก
อาจจะเงินขาดมือ จึงนามาเทขายราคาถูกเช่นนี้ เดิมพัดสี ขาว
ด้ามหนึ่ งมีราคาแปดถึงเก้าอีแปะ ตอนนี้ ให้ห้าอีแปะก็ขาย ถาน
หวันช่ ิ งนัง่ ยองๆ หยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็ นงานคุณภาพหยาบทา
ขึน้ มาแบบลวกๆ คุณภาพกระดาษด้านหน้ าพัดก็ไม่ดี สีขาวว่าง
เปล่าทัง้ สองด้าน โดยรวมแล้วธรรมดาออกจะเชย ไม่มีลวดลาย
ทัศนี ยภาพหรือการประดับประดาเสริมแต่ง ว่างเปล่าอย่างมาก

“ทาไมไม่เขียนคาขวัญหรือวาดรูปบนหน้ าพัดล่ะ?” นาง


4
พลิกไปมาสักพักจึงถามออกไป

พ่อค้ากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นมีคนถามก็ตอบแบบ
ขอไปที “ด้ ามนี้ สีขาวอยู่แล้ว ซื้อกลับไปเขี ยนเอาเอง หรือหา
คนวาดให้ ไม่สะดวกกว่าหรือ ถ้าอยากได้พดั มีภาพวาดสวยๆ
ราคาอาจจะสูงสักหน่ อย แต่ ค่าตอบแทนให้ นักวาดจนๆ ก็ไม่
น่ าเกินสองตาลึง ถ้าภาพไม่สวยก็ขายไม่ออก จะกลายเป็ นเสีย
ของเปล่าๆ ข้าแค่ทาการค้าเล็กๆ สิ้นเปลืองไปก็ไม่ค้มุ เงิน”

“แม่ น างถูก ใจพัด สี ข าวหรื อ ?” พ่ อ ค้ า ถามอย่ า งไม่ คิ ด


อะไรและไม่ ไ ด้ ใ ส่ ใ จหญิ ง สาวที่ อ ยู่ต รงหน้ า ยัง คงนั ง่ ก้ ม หน้ า
สายตามองตา่ เห็นเสื้อผ้านางแล้วดูขดั ตา ครัน้ พอเงยหน้ าถาม
ลูกค้ าอย่ างเคยชิน พ่ อค้ าหาบเร่ผ้นู ั น้ ถึง กับกะพริบตาปริบๆ
จากที่ นัง่ เอ้ อระเหยอยู่กล็ ุกขึ้นยืน พึมพากับตัวเองในใจว่ าไม่
เคยเห็นหญิงคนไหนจะงดงามได้ถึงเพียงนี้ มาก่อน แล้วยังอยู่
ห่างแค่เอื้อม เขาถึงกับพูดติดอ่างไม่เป็ นตัวของตัวเอง

“หาก...แม่น างถูกใจ ข้ า...ข้ าขายให้ เจ้ าราคาถูกได้ นะ


หนึ่ งด้ามสี่...สี่อีแปะดีไหม?” กล่าวจบจึงหยิบมาหนึ่ งด้าม “ด้าม
นี้ ไม่คิดเงิน ให้...ให้แม่นาง”

“ชิ...” ลุ่ยจูที่อยู่ข้างๆ เห็นพ่อค้ากาลังจ้องมองคุณหนูจึง


5
เลิกคิ้วสูง ผลก็คือเห็นเขาหน้ าแดงเป็ นลูกต่าลึง แล้วยังท่าทาง
ติดอ่างนัน่ อีก เหมือนลิงผสมม้าไม่มีผิด นางอดหัวเราะออกมา
ไม่ได้

่ ิ งรีบก้มหน้ าปิดปากเงียบ ก่อนจะตอบกลับไป


ถานหวันช
“ไม่ต้องหรอก เจ้านั บว่าพัดพวกนี้ มีจานวนเท่ าไร ห่ อรวมกัน
ข้าเหมาทัง้ หมด”

คราแรกลุ่ยจูไม่คิดว่าคุณหนูจะซื้อ เพียงแค่ถามดูเท่านัน้
จึงตกใจกระซิบถามว่า “มัน...มันจะไม่มากไปหรือเจ้าคะ ซื้อ
กลับไปแล้วจะขายให้ใคร?” และใบพัดขาวๆ เปล่าๆ จะขายได้
ดี ข นาดนั น้ เชี ย วหรื อ ชาวนาธรรมดาทัว่ ไปที่ ไ หนจะซื้ อ ของ
แบบนี้ ไม่แข็งแรงซา้ ยังใช้ไม่ทน มีแต่หญิงที่ แต่งงานแล้วใช้ไว้
ป้ องแดด พัดกระดาษแบบนี้ ส่วนใหญ่ผชู้ ายใช้กนั หากมิใช่พวก
บัณฑิตก็ต้องเป็ นนักประพันธ์จึงจะนิยมใช้พดั แบบนี้

่ ิ ง ตอบ
“ซื้ อ ไปเขี ย นค าขวัญ และวาดภาพ” ถานหวันช
กลับไปหนึ่ งประโยค

ลุ่ยจูกาลังจะกล่าวบางอย่างก็หบุ ปากทันที

จริงสิ ...ในช่วงระยะเวลาสัน้ ๆ นี้ พวกนางไม่มีรายรับเลย

6
แล้วเรือ่ งเงินก็เป็ นเรือ่ งใหญ่เสียด้วย

หนุ่มขายปลาคนเมื่อวานยังอยู่ตาแหน่ งเดิม ลุ่ยจูตาลุก


วาว รีบดึงคุณหนูเดินตรงไปที่นัน่ หนุ่มขายปลาอายุราวยี่สิบปี
มีรูปร่างที่ ทาให้ คนรักคนหลง ตาโตคิ้วดก ตอนที่ หญิงสาวทัง้
สองเดิ น มาถึ ง เขาก าลัง ตะโกนลากเสี ย งยาวว่ า “ปลาสดๆ
ใหม่ ๆ เพิ่ ง ส่ ง มาถึง แต่ ละตัว ยัง มี ชีวิ ต ซื้ อปลาใหญ่ แถมปลา
เล็ก ขายถูกๆ”

กาลังจะตะโกนต่อ พลันเห็นหญิงสาวสองคนเดินเข้ามา
เสี ยก่อน เขาจาลุ่ยจูได้ เป็ นแม่นางที่ เคยมาซื้อปลาที่ ร้านของ
เขา “วัน นี้ ก็ม าซื้ อ ปลาอี ก หรื อ ?” เพิ่ ง จะเอ่ ย ปากทัก ทาย ก็
เหลือบเห็นหญิงสาวอีกคนเดินมากับนางด้วย

ชายขายปลาสมองว่ า งเปล่ า ทัน ใด มองตะลึ ง งัน อยู่


่ ่ยจูตวาด ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจึง
เช่นนัน้ อยู่นานกระทังลุ
กลับมา ไม่ร้วู ่าเหตุใดจึงหน้ าแดงกา่ กล่าวอ้อมแอ้มอย่างเขิน
อาย “แม่นาง ซื้อ...ซื้อปลาหรือ?”

“นอกจากปลาแล้วยังมีอะไรขายอีกหรือ?” ลุ่ยจูมองชาย
หนุ่ มนิ่ง แต่ เมื่อคิดถึงลูกชิ้นปลาประหลาดสดใหม่หอมกรุ่นที่
คุณหนูทาเมื่อวานแล้ว นางก็นัง่ ยองๆ พลิกหมึกยักษ์ในเข่งไป
7
มา ไม่นานนักก็เลือกออกมาไม่น้อย รีบส่งให้ชายหนุ่มเก็บเงิน
จะได้ไปกัน

ชายหนุ่มผูน้ ัน้ กลับบอกว่าปกติไม่ค่อยมีคนกินหมึกยักษ์


หากพวกนางต้องการเขาก็ขอมอบให้โดยไม่คิดเงิน

ลุ่ยจูมองคุณหนู แวบหนึ่ ง เห็นคุณหนู พยักหน้ า นางจึง


เอาปลาหมึกยักษ์ใส่ตะกร้าแล้วอุ้มขึน้ อย่างดีใจ ของไม่จ่ายเงิน
ผูใ้ ดจะไม่ชอบเล่า

่ ิ งเดินไปดูปลาที่ ถงั ข้างหน้ า ปลาตัวหนึ่ งพลัน


ถานหวันช
ก ร ะ โ ด ด แ ต่ มื อ เ ท้ า ข อ ง พ่ อ ค้ า ห นุ่ ม ป ร า ด เ ป รี ย ว
คล่องแคล่วยิ่งนัก เขารีบมัดปลาตัวนัน้ ปากไม่เอ่ยอะไรได้แต่
ยื่นปลาให้ถานหวันช ่ ิ งด้วยใบหน้ าแดงระเรื่อ เห็นอีกฝ่ ายยังนิ่ง
จึงกล่าวเสริม “ได้ยินว่าไม่กี่วนั ก่อนหน้ าแม่นางป่ วยไข้ ปลานี้
ข้าให้แม่นางไปต้มน้าแกงดื่มนะ”

ถานหวันช ่ ิ ง ประหลาดใจจึง มองเขาอี กคน แน่ น อนว่ า


นางไม่ต้องการของที่ ได้เปล่า หมึกยักษ์พวกนัน้ ขายไม่ออก ใจ
ดี ใ ห้ พ วกนางมาก็พ อเข้ า ใจอยู่ แต่ ใ จนางไม่ ช อบเอารัด เอา
เปรี ย บผู้อื่ น จึ ง หวัง จะซื้ อ ปลาถื อ กลับ ไปด้ ว ย เพราะอาชี พ
ชาวประมงไม่รา่ รวยนัก ต้องกังวลกับอันตรายสารพัด แต่นี่เขา
8
ให้หมึกแล้วยังจะแถมปลาอีก

พ่ อค้ าหนุ่ มขายปลาผู้นี้ซื่อตรงมาก ดื้อรัน้ ไม่รบั เงินไม่


พอ ท้ายที่สดุ ยังยกปลาตัวเล็กให้พวกนางอีกสองตัว

ระหว่างที่ เดินกลับบ้าน ลุ่ยจูและถานหวันช


่ ิ งกล่าวถึงพ่อ
ค้าขายปลาเมื่อครู่ ถานหวันช ่ ิ งโพล่งถามออกมา “ทาไมเขารู้ว่า
ข้าป่ วย?”

“อ๋อ เมื่อวานตอนซื้ อปลา บ่าวเผลอพูดออกมาเจ้ า ค่ ะ


แค่คิดอยากให้เขาลดราคาสักหน่ อย ที่ จริงแล้วพ่อค้าปลาผู้นัน้
ก็เ ป็ นคนใช้ ได้ ไม่เ ลว เก็บ เงิ น เพี ย งไม่กี่ อีแปะแล้ ว ยังให้ ห มึ ก
ยัก ษ์ ม าไม่ น้ อ ย ไม่ อ ย่ า งนั ้น บ่า วคงไม่ ล ากคุณ หนู ม า เพราะ
ข้างหน้ ายังมี คนขายปลาอี กถมไป จะซื้ อที่ ไหนก็ได้ ” ลุ่ยจูหิ้ว
ของ ก่อนจะเอาปลาในมือของนายสาวมาวางลงในตะกร้า

่ ิ งสังซื
จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ ถานหวันช ่ ้อหมึกยักษ์อีก จึงอด
ถามไม่ได้ “อ้ อ คุณหนู เจ้าคะ เมื่อครู่ท่านสังจองหมึ
่ กยักษ์กบั
เขามากมายขนาดนัน้ จะเอาไปทาอะไรหรือ? พวกเรากินกันไม่
หมดหรอก” คนสองคนกินได้อย่างมากก็สิบกว่าชังเท่ ่ านัน้

พ่อค้าขายปลาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน เมื่อครู่เขายังบอก

9
ว่า “ข้ารู้ตาแหน่ งที่ มีหมึกยักษ์ จานวนมาก ของพวกนี้ ขายไม่
ค่ อยได้ ราคา ไม่มีค นมาช้ อนเอาไป หากแม่ น างต้ องการ ข้ า
เพี ย งช้ อ นขึ้น มามากหน่ อ ยก็ไ ด้ แ ล้ ว ยกให้ แ ม่ น างหมดเลย”
ขนาดราคาก็ตกลงกันง่ายดาย

ถานหวันช ่ ิ งก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ มาก่ อนหน้ า เพราะเดิมที


นางยัง คิ ด ไม่ อ อกว่ า จะท ามาหาเลี้ ย งชี พ ด้ ว ยอะไร ประจวบ
เหมาะกับหมึกยักษ์ของที่นี่ราคาถูกจนถึงขัน้ มอบให้เปล่าๆ ยัง
ไหว ทัง้ ได้ ยินพ่อค้าขายปลากล่าวถึงสถานที่ ที่ช้อนหมึกยักษ์
อวบๆ ได้จานวนมาก จึงเริ่มสนใจจะค้าขายขึน้ มา

นับวันอากาศยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ ถึงฤดูหนาวจะหาปลา
ได้ยาก แต่กลับช้อนหมึกยักษ์ได้มาก นางควรใช้ประโยชน์ จาก
อากาศเย็นนี้ แช่ แข็งหมึกที่ ได้ มาเพื่อทาลูกชิ้นปลาหมึกออก
ขายตามท้ องตลาด ไม่รู้ว่ าจะได้ หรือไม่ นางคิ ด ว่ าแม้จะเป็ น
ของราคาถูก กาไรอาจได้ ไ ม่ม าก แต่ ถ้ าอยากเก็บ เงิ น เผื่ อ ไว้
สาหรับหน้ าหนาวจริงๆ แล้วละก็ แปดต่ าลึงหรือสิบตาลึงก็ยงั
ต้องกาให้แน่ น

หลังกลับไปถึงบ้าน ลุ่ยจูกินหมึกยักษ์เนื้ อนุ่มหอมกรอบ


ไปพลางปรึกษาหารือกับถานหวันช ่ ิ งไปพลาง นางรู้สึกว่าเรื่องนี้
สามารถท าได้ หญิ ง ที่ แ ต่ ง งานแล้ ว จ านวนมากต่ า งพากัน ทา
10
การค้ าตามท้ องตลาด ต่ างก็เป็ นชาวบ้านธรรมดา มี อิสระใน
การนาของในบ้านมาขาย ใครๆ ก็ขายได้ พวกนางก็ต้องขายได้
แน่ นอน

อากาศในฤดูหนาวก็ไม่ใช่ ปัญหา แค่ ซื้อเตาย่างสักเตา


ท าสถานที่ ข ายให้ ดึ ง ดูด ผู้ซื้ อ อี ก ทัง้ ลูก ชิ้ น หมึ ก ยัก ษ์ ย งั อร่อย
ขนาดนี้ นางไม่เชื่อว่าจะไม่มีคนมาซื้อ

สองสามวันต่ อมา ลุ่ยจูกลับมาบ้านอย่างตื่ นเต้ นดี อกดี


ใจ ถานหวัน่ ชิ งก าลัง นั ง่ พลิ ก ดู ส มุ ด ภาพวาดในมื อ ซึ่ ง เก็บ
ออกมาจากใต้เสื่อในห้องทางทิศตะวันตกเมื่อสองสามวันก่อน

“คุณหนู บ่าวเกริ่นกับยายขายขนมไว้แล้ว บ้านนางมีเตา


เก่าให้พวกเรายืมใช้ แต่ถ่านไฟเราต้องเตรียมเอง อ้อ...อีกอย่าง
คนขายปลาบอกว่าพรุ่งนี้ เช้าให้ไปเอาปลากับเขาได้เลยเจ้าค่ะ
เขาบอกว่าช้ อนแหได้ปลาหมึกยักษ์สิบกว่าชังแน่
่ ะ พอดี กบั ที่
พวกเราต้องใช้เลยนะเจ้าคะ”

่ ิ ง เอ่ ย ถามอย่ า ง
“เขาไม่ พูด ถึ ง ราคาหรื อ ?” ถานหวันช
นุ่มนวล พลางพลิกดูภาพวาดหน้ าถัดไป

“เขาบอกว่าช้อนได้มาพร้อมกับปลาอยู่แล้ว ไม่คิดราคา

11
คางวดอะไร พวกเราให้ค่าวิ่งเต้นเขายี่สิบอีแปะก็พอเจ้าค่ะ”

“ยี่ สิ บ อี แ ปะ?” มื อ บางหยุด ชะงัก ถานหวันช


่ ิ ง เงยหน้ า
มองลุ่ยจู “น้ อยเกินไป หมึกหนึ่ งชังมี่ ราคาแทบไม่ถึงหนึ่ งอีแปะ
ไม่ต้องพูดถึงตอนช้ อนจับ เฉพาะค่าธรรมเนี ยมในการขนเข้า
มาขายในเมืองก็ยงั ไม่พอ ถึงแม้เราจะลาบาก แต่ ไม่ถึงกับต้อง
เบียดเบียนเงินคนขายปลาที่ ได้มาอย่างยากเย็นหรอกกระมัง”
นางครุ่นคิด วางภาพวาดที่ อยู่ ในมือลงแล้วกล่าวว่า “พรุ่งนี้ ให้
เจ้าไปทาข้อตกลงกับเขาเสียใหม่...เอาแบบนี้ กแ็ ล้วกัน” การค้า
ขายจะยาวนานได้ ต่างฝ่ ายต้องเอื้อประโยชน์ แก่กนั จึงจะถูก

วันต่ อมา ถานหวันช ่ ิ งมารับหมึกยักษ์ ด้วยตัวเอง หนุ่ ม


ขายปลายัง คงยื น ยัน ว่ า ต้ อ งการเงิ น แค่ ยี่ สิ บอี แ ปะ หากให้
มากกว่ า นั ้น เขาไม่ ข อรับ สุ ด ท้ า ยหญิ ง สาวจึ ง จ าใจคื น หมึ ก
กลับไป หนุ่มขายปลาร้อนใจจนทาอะไรไม่ถกู เพราะความงาม
ดุจภาพวาดกับมือขาวผ่องปานรากบัวของนางทาให้เขาอยาก
ให้ น างมาหาบ่อ ยๆ เขารี บ รับ ถุง เงิ น จ านวนสามสิ บ อี แ ปะไว้
ก่ อ นที่ อี ก ฝ่ ายจะเปลี่ ย นใจ และก าหนดการซื้ อ ขายครัง้
ต่อไปที่ราคาห้าอีแปะต่อหนึ่ งชัง่

เมื่อหญิงงามยกของจากไป เขาเพิ่งนึ กอะไรออก รีบช้อน


ปลาตัวหนึ่ งออกมาร้อยเชือก แล้วเร่งตามไปยื่นให้ตรงหน้ า
12
่ ิ ง ไม่อาจรับ ปลาตัว นี้ ไว้ แต่ น างรู้ดี ว่ ายื น กี ด
ถานหวันช
ขวางทางคนเดินไปมาอย่างนี้ ไม่เหมาะสมนัก จึงลังเลอยู่สกั พัก
ก่อนรับปลาจากมือของเขา

ยังไม่ทนั ได้กล่าวคาขอบคุณ ในตลาดก็เกิดความวุ่นวาย


ม้าฝูงหนึ่ งกาลังวิ่งมาทางนี้ ตรอกนี้ กว้างก็จริงแต่ที่คาดไม่ถึงก็
คือผูม้ าเยือนจะเป็ นถึงแม่ทพั หัวเมือง

ความวุ่นวายบนถนนเกิดขึ้นกะทันหัน ผู้คนส่วนใหญ่พา
กันหลีกทางให้ขบวนม้า พ่อค้าแม่ขายต่างก็พากันคุกเข่าลงบน
พืน้ ถนน

กลุ่ ม คนเบี ย ดเสี ย ดเยี ย ดยัด จนถานหวัน่ ชิ ง ไม่ แ คล้ ว


ได้ ร บั ผลกระทบไปด้ ว ย มื อ ทัง้ สองข้า งของนางถื อ ของพะรุง
พะรัง ข้างหนึ่ งหิ้วตะกร้าไม้ไผ่บรรจุหมึกยักษ์สิบชัง่ อี กข้างถือ
มัดปลาตัวยาวที่รบั มาจากหนุ่มขายปลา เมื่อขบวนม้าดังกล่าว
ใกล้เข้ามา คนข้างหลังที่ อยากเห็นหน้ าใต้ เท้ าเซี่ ยก็พยายาม
เบียดมาด้านหน้ า ทัง้ ผลักทัง้ ดัน ร่างบอบบางของนางทรงตัวไม่
อยู่ จึงชนเข้ากับหญิงคนข้างๆ ของในมือตกกระจาย

่ ิ ง กระวี ก ระวาดประคองหญิง ผู้นั น้ ให้ ลุก ขึ้น


ถานหวันช
หลังขอโทษขอโพยแล้วจึงรีบเก็บของใส่ในตะกร้า ทว่าของใน
13
ตะกร้าพลิกควา่ ลงพื้นหมดแล้ว หมึกยักษ์สาดออกมา เปี ยกไป
ทัวถนนสี
่ ครามที่เว้นว่างไว้ให้ใต้เท้าเซี่ยควบม้าผ่าน

ไหนเลยม้ า ของใต้ เ ท้ า จะยอมหลบ กี บ เท้ า ย่่ า ลงบน


ตะกร้าของนางพอดี

่ ิ งยืนอยู่ริมถนนห่ างแค่เอื้อม ใกล้จนได้ กลิ่น


ถานหวันช
หนังอานม้า หญิงสาวก้มหน้ าลงตา่ ยืนตะลึงงันมองกีบเท้ าม้า
เหยี ยบปลาหมึกขาวอวบที่ กระจายเฉอะแฉะอยู่บนพื้น ในใจ
นางกระสับ กระส่ ายด้ ว ยความเสี ยดายแต่ ไม่ กล้ าเอ่ ย ปากส่ ง
เสียงห้าม

สายตาคนบนหลัง ม้ า ตกลงที่ ร่า งหญิ ง สาว เอาแต่ จ้อง


ใบหน้ าที่ก้มตา่

14
10 เหยียบยำ่ ซำ้ เติม

ม้ ำ ของใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย เกิ ด ไปเหยี ย บบำงอย่ ำ งเข้ ำ จึ ง หยุ ด


วิ่ง

คนทัง้ หลำยเพิ่งจะมองเห็นตะกร้ำกับหมึกยักษ์ที่กระจำย
เกลื่อนอยู่บนถนน บำงคนกลำวว่ำ “ยังมี คนกินเจ้ำสิ่งนี้ ด้วย
หรือ ครอบครัวไหนกัน...เฮ้อ ลำบำกยำกแค้นแล้วยังทำกับข้ำว
ไม่เป็ นอีก น่ ำสงสำรจริงๆ”

“ของสำดไปบนถนนอย่ำงนัน้ ม้ำของใต้เท้ำก็เดินไม่ได้สิ
เนี่ ย”

“ใต้เท้ำ ข้ำมีปลำมำกมำย อยำกให้ ท่ำนเอำกลับไปบำรุง


ร่ำงกำย รับไว้เถอะเจ้ำค่ะ”

“ข้ำมีไข่ ขอมอบให้ใต้เท้ำ...”

“ใต้เท้ำเซี่ ย ท่ำนช่วยครอบครัวเล็กๆ ของเรำไว้ ไม่ร้จู ะ


ตอบแทนอย่ำงไรหมด ข้ำกรำบคำรวะท่ำน...”

“ใต้เท้ำ...”
1
ใต้ เท้ ำเซี่ ยได้ยินเสี ยงไพร่ฟ้ำประชำชนที่ ต่ำงโค้งคำนั บ
ให้ ต น จึ ง ควบม้ำเดิ น ผ่ำนไปอย่ ำงไม่รีบ ร้อน ม้ ำ ของเขำเดิ น
อย่ ำ งเชื่ อ งช้ ำ จนเมื่ อ ออกจำกฝูง ชนไปได้ ส ัก พัก แล้ ว เขำจึ ง
เบือนหน้ ำกลับมำมองทำงด้ำนหลัง

มี เ สี ย งกู่ร้ อ งอย่ ำ งคึ ก คัก ของชำวบ้ ำ น ทุ ก คนก ำลัง มี


ควำมสุข เหลือเพียงหญิงสำวผูน้ ัน้ ...นำงกำลังคุกเข่ำก้มหน้ ำก้ม
ตำใช้ สองมือประคองหมึกที่ ยงั ดี ใส่ ในตะกร้ำ รำวกับหมึกน่ ำ
เกลียดที่พนื้ นัน่ เป็ นดังหยกหรื
่ อทองคำก็ไม่ปำน

ทหำรข้ ำงกำยใต้ เท้ ำเซี่ ยไม่เอ่ ยคำใด เพี ยงตำมใต้ เท้ ำ


ออกจำกตรอกไปเงียบๆ ไม่ร้วู ่ำเพรำะอะไรวันนี้ ใต้เท้ำที่ ไม่เคย
ชอบควำมครึกครื้นกลับหยุดอยู่หน้ ำตลำดแห่ งนี้ ซำ้ ยังบังคับ
ม้ำเดินเข้ำมำในตรอกแคบ

ประชำชนต่ ำงพำกันเปล่งเสี ยงร้องเรียกด้วยควำมดี ใจ


ใต้เท้ำเซี่ยยิ้มตอบจำงๆ

แต่ พ อออกมำจำกตรอกได้ จู่ ๆ ใบหน้ ำของใต้ เ ท้ ำ ก็


เปลี่ยนไป

ประตู ท ำงทิ ศเหนื อของเมื อ งเว่ ย อัน ถูก ตัง้ เป็ นค่ ำ ย

2
ทหำรม้ำ ถนนทัง้ หมดในเมืองมี ทหำรรักษำกำรณ์ เกื อบแปด
ร้อยนำย ส่ วนทหำรที่ เหลืออี กหนึ่ งพันนำยคอยปกป้ องอยู่ใน
ค่ำยนอกเมือง พอใต้ เท้ ำเซี่ ยกลับมำยัง ค่ ำยทหำร พลิกตัวลง
จ ำ ก ห ลั ง ม้ ำ ไ ด้ ก็ ตี สี ห น้ ำ เ ค ร่ ง ข รึ ม เ ดิ น เ ข้ ำ ไ ป ยั ง เ ข ต
กองบัญชำกำร

เจ้ำหน้ ำที่ อำลักษณ์ ฉงถิงเชี่ ยนกำลังเดินสวนออกมำ


พอดี ทันที ที่พบรองแม่ทพั หวังจี้กบั ลูกน้ อง จึงอดไม่ได้ที่จะถำม
“ใต้เท้ำเซี่ยสีหน้ ำไม่ใคร่จะดี เกิดเรือ่ งอะไรขึน้ รึ?”

นำยกองกัวซิ่งกับขุนพลตู้เหอพำกันส่ำยหน้ ำ รองแม่ทพั
หวังจี้กลับลูบจมูก “อี กไม่กี่วนั จะถึงวันไหว้สุสำนฮูหยินผู้เฒ่ ำ
อำจเป็ นไปได้ว่ำเรือ่ งนี้ ทำให้ใต้เท้ำหวนนึ กย้อนไปถึงอดีต”

ฉงถิ ง เชี่ ย นเพิ่ ง จะนึ กขึ้ น มำได้ จริ ง สิ . ..มำรดำของใต้


เท้ ำเซี่ ยลำโลกไปเมื่อสองปี ก่อน ต่ อให้ ทำงำนหนั ก แต่ ลูกคน
ไหนจะลืมวันครบรอบวันตำยของมำรดำได้ ใต้เท้ำเซี่ยอำจเป็ น
นำยทหำรที่ มี นิ สัย หยำบกระด้ ำ งก็จ ริ ง แต่ ก็เ ป็ นชำยหนุ่ ม ที่
กตัญญูรคู้ ณุ คนหนึ่ ง

คนทัง้ สำมทักทำยเจ้ำหน้ ำที่ อำลักษณ์ เรียบร้อยแล้วจึง


เดินเข้ำไปในกองบัญชำกำร พบว่ำใต้ เท้ ำเซี่ ยเฉิงจู่กำลังนัง่ รอ
3
อยู่แล้ ว สี หน้ ำของเขำอึ มครึม ในมือถือหนั งสื อรำชกำรฉบับ
หนึ่ ง

ทัง้ สำมไม่กล้ำกวนน้ ำให้ข่นุ ต่ ำงพำกันสงบปำกสงบคำ


พวกเขำกั บ ใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย ร่ ว มงำนและสนิ ทสนมกัน มำเป็ น
เวลำนำน หลำยปี มำนี้ ใต้เท้ำยกทัพจับศึก ไปทัวสำรท
่ ิ ศ ควำมดี
ควำมชอบทำงทหำรสุดคณำนับ พวกเขำเองก็ร่วมรบเคี ยงบ่ำ
เคียงไหล่กบั ใต้เท้ำ เรียกได้ว่ำควำมสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อถึงขัน้
ตำยแทนกันได้

หวังจี้ดื่มชำเย็นชืดพลำงหรี่ตำมองสีหน้ ำของคนที่ นัง่ อยู่


ตัวโต๊ะ แต่ด้ำนหลัง...กัวซิ่งกับตู้เหอกลับส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊ำวจน
เขำต้องกระแอมเตือนไปครำหนึ่ ง เซี่ยเฉิงจู่วำงหนังสือรำชกำร
ลงบนโต๊ะแล้วปรำยตำมองไปยังกัวซิ่งกับตู้เหอ

เซี่ ยเฉิงจู่เลิกคิ้ว “ฤดูหนำวใกล้เข้ำมำแล้ว จนทุก วันนี้


ค่ำยทหำรก็ยงั สร้ำงไม่เสร็จ พวกเจ้ำยังมี อำรมณ์ จิบชำอยู่อีก
รึ?”

ถูกท่ ำนแม่ทพั ใช้สำยตำเย็นชำไม่ต่ำงจำกสำยลมในฤดู


ใบไม้ร่วงกวำดมอง กัวซิ่งกับตู้เหอก็สะท้ ำนขึ้นมำในอก รู้สึก
ลำบำกใจไม่น้อย ทำได้เพียงเก็บเท้ำที่พวกตนวำงพำดบนม้ำนัง่
4
ตัวยำวลงวำงบนพืน้ !

ค่ำยทหำรยังสร้ำงไม่เสร็จ ไม่ใช่เพรำะว่ำทหำรใต้ บงั คับ


บัญ ชำของพวกเขำไม่ ร่ว มแรงร่ว มใจ แต่ ส ำเหตุ ห ลัก มำจำก
ค่ำใช้จ่ำยมีมำกกว่ำรำยรับ! จะกระทำกำรใดหำกขำดวัตถุดิบก็
ยำกที่ จะทำให้ส่ำเร็จลุล่วง ไม่มีเงินแล้วจะให้พวกเขำเอำอะไร
มำสร้ำง?

แต่ ทงั ้ สองก็ร้วู ่ำใต้ เท้ ำมีแรงกดดันอันหนั กอึ้งอยู่บนบ่ำ


ตอนนี้ ภำพลักษณ์ของเว่ยอันดูดีกว่ำแต่ก่อนมำก คนอื่นอำจไม่
รู้แต่ พวกเขำรู้ชดั เจนที เดี ยว เพรำะตอนที่ รบั ช่ วงมำนั น้ เมือง
เว่ยอันแห่งนี้ เหลือเพียงเปลือกนอกที่ว่ำงเปล่ำ ตอนที่หยิบสมุด
กำรเงินมำตรวจสอบครัง้ แรก พวกเขำพบว่ำเงินในคลังทหำร
ทัง้ หมดมีอยู่แค่หนึ่ งพันแปดร้อยตำลึงเงินเท่ำนัน้

หำกจะพูด ถึ ง คูเมื อ งและกำแพงเมื องแล้ ว เงิ น แค่ นี้ จะ


พอที่ ไหน อย่ำงดีกจ็ ่ำยได้แค่เงินเดือนและเสบียงสำหรับทหำร
ให้ พอกินพอใช้ ไปอี กหนึ่ งเดือน ในเมืองต้ องเลี้ยงดูทหำรเป็ น
พันนำย ต้องฝึ กม้ำศึก นอกเมืองก็ต้องก่ออิฐก่อกำแพงเมือง ยัง
มีผนื นำมำกมำยที่ ถูกปล่อยให้รกร้ำงว่ำงเปล่ำมำนำน ต้องกำร
คนมำบุ ก เบิ ก ถำกถำง อุป กรณ์ เ ครื่อ งมื อ เครื่ อ งใช้ แ ละอำวุธ
ยุทโธปกรณ์ ค่อยๆ ร่อยหรอไปเพรำะได้รบั ควำมเสี ยหำยจำก
5
กำรออกรบแต่ ละครัง้ ก็กองไว้รอซ่ อม ควำมกดดันทัง้ หมดจึง
ล้วนทับถมลงบนบ่ำของแม่ทพั หัวเมืองทัง้ สิ้น

ปี ที่ ผ่ำนมำนี้ ทหำรออกจำกเมืองไปปรำบโจรผู้ร้ำยตัง้


เท่ ำไร ทรัพย์สินเงินทองและเสบียงอำหำรที่ ได้ รบั มำทัง้ หมด
ล้วนโยนเข้ำไปในภำรกิจเหล่ำนัน้ ทัง้ ยังมีอปุ สรรคหลำกหลำย
ประกำรให้ต้องคอยแก้ เรียกได้ ว่ำบ้ำนเมืองที่ มีประชำชนต้ อง
เลี้ยงดูเปรียบเหมือนโพรงที่ถมเติมเท่ำไรก็ไม่มีวนั เต็ม

ตำแหน่ งของใต้เท้ำเซี่ย ภำยนอกดูเหมือนสุขสบำย ทว่ำ


ภำยในกลับ อยู่ ใ นฐำนะที่ น่ ำหวำดกลัว และอัน ตรำยที่ สุ ด มี
ปั ญ หำมำกมำยเบี ย ดอัด กัน อยู่ ใ นนั ้น จนไม่ อ ำจหำค ำใดมำ
อธิบำยได้ จะมีสกั กี่ คนที่ ต้องครุ่นคิดหำทำงรอดให้ บ้ำนเมือง
อยู่ตลอดเวลำอย่ำงใต้เท้ำเซี่ย

นำยกองกัว ซิ่ งกับ ขุน พลตู้ เ หอเห็ น บรรยำกำศชัก จะ


ยำ่ แย่ จึงรีบลุกขึน้ เอ่ยปำกขอตัว หนี เอำตัวรอดออกจำกห้องไป

ในมื อ ของรองแม่ ท ัพ หวัง จี้ย งั คงถื อ ถ้ ว ยชำค้ ำ งเติ่ ง อยู่


เช่นนั น้ เห็นเจ้ำเด็กสองคนนัน้ วิ่งเร็วปำนกระต่ ำย ในใจจึงอด
ไม่ได้ที่จะก่นด่ำไล่หลังไปเงียบๆ

6
่ ิ บตำเดียวก็เหลือเพียงข้ำกับท่ำนแม่ทพั เสียแล้ว”
“ชัวพร
เขำวำงถ้วยชำลงแล้วกล่ำวต่อว่ำ “ก็ดี ข้ำมีเรือ่ งที่อยำกจะเรียน
ถำมอยู่พอดี”

เซี่ ยเฉิงจู่ร้วู ่ำอี กฝ่ ำยกำลังจะเอ่ยปำกเรื่องอะไร จึงสวน


กลับไปตรงๆ “อย่ำมำยุ่ง!”

“ไม่ให้ยุ่งคงไม่ได้!” รองแม่ทพั หวังจี้ลำกเก้ำอี้เข้ำมำนั ง่


ใกล้ ก ว่ ำ เดิ ม “ข้ ำ คำดว่ ำ ใต้ เ ท้ ำ คงพบหญิ ง สำวผู้นั ้น แล้ ว ใช่
หรือไม่?”

เซี่ ยเฉิงจู่ส่งสำยตำดุดนั เป็ นเชิงเตือนสหำยไม่ให้เข้ำมำ


ยุ่งกับเรือ่ งนี้

หวังจี้หำได้หวำดกลัวไม่ เขำยังคงตี สีหน้ ำเรื่อยเฉื่ อยพ่น


วำจำน่ ำตำยออกมำ “ข้ำไม่เข้ำใจว่ำใต้เท้ำคิดอะไรอยู่ นำงเป็ น
เพียงนักโทษหญิงไร้หลักแหล่ง ที่ ตอนนี้ กร็ ะหกระเหินมำตกอยู่
กลำงกำมือของใต้ เท้ ำแล้ว ข้ำรู้ดีว่ำมีแค้นก็ต้องชำระ อำฆำต
ใครก็ต้องตอบแทนให้สำสม แต่ ท่ำนจะทำอะไรทำไมไม่รีบลง
มือเล่ำ ปล่อยให้เวลำล่วงเลยมำนำนถึงขนำดนี้ ข้ำไม่ร้วู ่ำท่ ำน
กำลังรออะไรอยู่กนั แน่ ?” หวังจี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ งจึงหลุดปำก
ออกมำ “หรือว่ำใต้เท้ำกำลังลังเล?”
7
พู่กนั ที่ อยู่ในมือของเซี่ ยเฉิงจู่หล่นลงบนโต๊ะ กำลังจะตัง้
ท่ำไล่เจ้ำคนกวนประสำทออกไป พอดีกลับมีเสียงฝี เท้ำก้ำวเข้ำ
มำ ผู้มำใหม่ตะโกนถำมเสี ยงดังว่ำ “นั กโทษหญิงอะไรกัน ใต้
เท้ำเซี่ยมีแค้นกับผู้ใดหรือขอรับ ข้ำไปจัดกำรสะสำงให้ดีหรือไม่
ฮ่ำๆๆ”

ผู้ที่เดินเข้ำมำมีรูปร่ำงอ้ วนท้ วม อำยุห้ำสิบปี ตำเล็ก หู


ใหญ่ ผิวหน้ ำบำงอิ่มเอิบเป็ นเงำวำวไปทัง้ ใบหน้ ำ เมื่อเดินเข้ำ
มำเห็นแม่ทพั หัวเมืองนัง่ อยู่หลังโต๊ะหนังสือ จึงกล่ำวประจบเอำ
ใจ “เมื่อครู่ได้ยินท่ ำนแม่ทพั เอ่ยถึงนักโทษหญิง หำกฆ่ ำตำยก็
เสียดำยแย่ ในเมื่อเป็ นนักโทษหญิง มิสู้ส่งไปเป็ นโสเภณี ในค่ำย
เพื่อปลอบขวัญเหล่ำทหำรของเรำ ทำเช่ นนี้ เทำกับยิงธนูดอก
เดียวได้นกสองตัว ใต้เท้ำคิดเห็นเป็ นอย่ำงไร?”

โถงประชุมเงียบสงัดในทันใด หวังจี้รีบลำกเก้ำอี้ออกห่ำง
พลำงหรี่ตำมองหัวกลมๆ หูกำงๆ ของเฉำเหวินจงผูเ้ ลื่อนเปื้ อน
ผรุสวำทในใจเป็ นร้อยรอบ

เซี่ ยเฉิงจู่เองก็มองเฉำเหวินจงเขม็ง ใบหน้ ำมีเงำทะมึน


ซ้อนทับจำงๆ ทำให้ดเู ข้มขรึมกว่ำเดิมอีกหลำยเท่ำ “เฉำเหวิน
จง ถ้ำเจ้ำว่ำงนักน่ ำจะช่วยกองทัพหำทำงรับมือกับกำรเก็บภำษี
ของรำชสำนั ก ไม่ดีกว่ำหรือ?” กล่ ำวจบก็หยิบเอกสำรในมื อ
8
แล้วโยนส่งไปให้

เฉำเหวินจงตกใจ หยิบขึ้นมำดูแล้ วร้องออกมำไม่เป็ น


ภำษำ เสบียงของทหำรในปี นี้ ขำดแคลนหนัก กองทัพกำลังขัด
สน ยังจะถูกรำชสำนักเรียกเก็บภำษี อีกตัง้ สำมร้อยตำลึงเงิน

เซี่ ย เฉิ งจู่ก ล่ ำ วต่ อ “ว่ ำ อย่ ำ งไร ในฐำนะที่ เ จ้ ำ เป็ นคน
ควบคุม บัญ ชี ก องทัพ ปั ญ หำแบบนี้ เคยคิ ด จะหำทำงแก้ บ้ำ ง
ไหม?”

เฉำจื อ โจวไม่ ว ำงเฉย รี บ ก้ ม ศี ร ษะทัน ที “ไม่ ใ ช่ ข้ ำ ปั ด


ภำระหน้ ำที่รบั ผิดชอบนะขอรับ เพียงแต่สถำนกำรณ์ ในปี นี้ ไม่สู้
ดีนัก เสบียงก็ต้องหำ เงินเดือนทหำรก็ต้องจ่ำย ข้ำไม่มีวิธีรบั มือ
จริงๆ ที่มำพบวันนี้ กเ็ พื่อปรึกษำหำรือเรื่องนี้ กบั ใต้เท้ำขอรับ”

เซี่ ย เฉิ งจู่นิ่ งเงี ย บไม่ เ อ่ ย ปำก มองเฉำเหวิ น จงอยู่ เ ป็ น


นำนก็ก ล่ ำวเนิ บนำบออกมำ “เจ้ำไม่ต้ องตื่ น ตระหนกไป แค่
สำมร้อยต่ ำลึงเงิน...เล็กน้ อยถึงเพียงนัน้ ข้ำยังพอมีปัญญำหำ
มำให้ แต่ต่อจำกนี้ ไปเรำอำจต้องใช้จ่ำยให้ประหยัดมำกขึน้ ”

“ขอบคุ ณ ใต้ เ ท้ ำ ที่ เ ห็น ใจขอรับ ” เฉำเหวิ น จงเห็น ว่ ำ


ค ำพู ด ของเซี่ ย เฉิ งจู่ ล ะมุ น ละม่ อ มลงก็ รู้ สึ ก ว่ ำ เกิ นควำม

9
คำดหมำย แต่สีหน้ ำยังแสร้งเป็ นกังวล “แต่ว่ำตอนนี้ อำกำศเริ่ม
เย็นแล้ว คงมีปัญหำเรื่องรวบรวมภำษี แน่ ไม่ทรำบว่ำใต้เท้ำพอ
มีอะไรชี้แนะบ้ำงหรือไม่?”

เขำกล่ำวพลำงคิดเงียบๆ ในใจว่ำ แม่ทพั หัวเมืองผูน้ ี้ อำยุ


ยังน้ อย แต่ กลับเฉลียวฉลำดมำกเล่ห์ ทำให้ยกั ยอกเงินได้ยำก
เหลื อ เกิ น คิ ด ๆ ไปแล้ ว นึ ก ถึ ง ก้ อ นทองที่ แ อบซื้ อ เข้ ำ ค่ ำ ยมำ
จำนวนไม่น้อย แววตำของเฉำเหวินจงสันไหวขึ ่ ้นมำด้วยควำม
ละโมบ ชิ...มีหรือที่คนอย่ำงข้ำ--เฉำเหวินจง ต้องกำรสิ่งใดแล้ว
จะคิดหำวิธีไม่ได้

ขณะเฉำเหวิน จงกำลังประเมินฝ่ ำยตรงข้ ำม เซี่ ย เฉิงจู่


กลับไม่ได้จ้องมองสีหน้ ำของตำเฒ่ำเจ้ำเล่ห์ เขำสนใจกำรแต่ง
กำยของอีกฝ่ ำยมำกกว่ำ แม่ทพั หนุ่มกำลังสังเกตเสื้อคลุมไหม
ทองตัว ยำวของเฉำเหวินจง คอเสื้ อทอจำกไหมปี กจักจันที ่ ่ มี
มูลค่ำสูง กลิ่นอำยของคนที่อยู่ดีกินดีแผ่ออกมำให้เห็นจำงๆ

ฮึ...ธรรมชำติของโจรโดยแท้

อีกฟำกหนึ่ ง

หลังจำกเก็บหมึกยักษ์ที่เปื่ อยยุ่ยไม่มีชิ้นดีแล้ว ถำนหวัน่

10
ชิ งกับ ลุ่ ย จู ก็ก ล่ ำ วขอบคุ ณ ชำยหำบเร่ ข ำยปลำ ก่ อ นจะถื อ
ตะกร้ำสำนเดินกลับบ้ำน

ระหว่ำงทำงลุ่ยจูบ่นอย่ำงไม่พอใจ “น่ ำแปลกนะเจ้ำคะ


ทำไมใต้เท้ำเซี่ยผูน้ ัน้ ซ้ำยก็ไม่ไป ขวำก็ไม่เดินเหมือนจงใจวิ่งมำ
หยุ ด ตรงที่ ป ลำหมึ ก หกกระจำย เข่ ง ตะกร้ ำ นอนขวำงอยู่
ตรงหน้ ำก็ไม่เหยียบแตก รถขำยสุรำที่ อยู่ด้ำนหลังก็ไม่ถอยไป
ชน กลับมำเหยียบหมึกของเรำจนเละเสียนี่ บังคับม้ำให้เหยียบ
เต็มที่ทงั ้ สำมสี่เท้ำเสียด้วย น่ ำเสียดำยที่ เหลือหมึกอยู่แค่หกชัง่
เอง...น้ อยนิดนัก”

่ ิ งครุ่นคิดตำมพลำงขมวดคิ้ว แม้เหตุผลต่ำงๆ
ถำนหวันช
นำนำจะบอกว่ ำ เป็ นไปไม่ ไ ด้ แต่ ใ นใจกลับ รู้ สึ ก แปลกอยู่
เหมือนกัน

รอคนขี้ประจบเดินพ้นห้ องไปแล้ว หวังจี้กเ็ อ่ยตำมหลัง


“เฉำเหวินจงผู้นี้วนั ๆ ได้แต่กินดื่ม มิน่ำเล่ำจึงดูเหมือนคหบดีที่
เกียจคร้ำน ละโมบโลภมำกแม้กระทังเสบี ่ ยงของทหำรก็ยงั กล้ำ
ยักยอก ข้ำล่ะไม่อยำกเชื่อจริงๆ” พูดถึงตรงนี้ กร็ ีบกล่ำวกับเซี่ย
เฉิงจู่ต่อว่ำ “ใต้ เท้ ำจำได้หรือไม่? วันแรกที่ มำรับตำแหน่ งแม่
ทัพหัวเมือง บัญชี ของกองทัพเหลือเงินอยู่แค่หนึ่ งพันสองร้อย
กว่ำตำลึงเท่ ำนั น้ สมุดบัญชี มี แต่ รูรวั ่ เสบียงอำหำรส่ วนใหญ่
11
หำยไปอย่ำงไร้ร่องรอย ข้ำว่ำเมืองใหญ่ๆ อี กแปดแห่ งก็คงถูก
เขำกระทำเช่ นเดียวกัน หำกปล่อยตัวหำยนะเช่ นนี้ ไว้ เกรงว่ำ
ต่ อไปไม่เพียงช่ วยพวกเรำไม่ได้ ยังอำจก่อเรื่องวุ่นวำยไม่ร้จู บ
ใต้เท้ำ...คนที่ ถ่วงควำมเจริญเก็บไว้กไ็ ร้ประโยชน์ ควรกำจัดให้
เร็วที่สดุ ”

สี ห น้ ำ เซี่ ย เฉิ งจู่ข รึ ม ลง แววตำไหวระริ ก “จะบุ่ ม บ่ ำ ม


ไม่ได้ เขำเป็ นขุนนำงของรำชสำนั ก ถ้ำหำกคนของเว่ยอันหำ
เรือ่ งเขำ ประชำชนในเมืองของเรำก็ต้องรับผิดชอบ”

“อยู่ในเมืองทำไม่ได้ เช่นนัน้ ก็ต้องหำโอกำสลงมือตอนที่


มันออกไปจำกเมืองสิขอรับ” หลำยวันมำนี้ หวังจี้ไม่ได้นำกอง
กำลังทหำรออกไปสู้รบ จึงรู้สึกคันไม้คนั มือ

“อย่ำปำกเปรำะไป ค่ำพูดเหล่ำนี้ หำกใครมำได้ยินเข้ำจะ


คิดว่ำเรำวำงแผนสังหำรขุนนำงของรำชสำนักอย่ำงลับๆ อำจ
ต้องโทษได้!” แม้สำยตำจะจดจ้องที่ หนังสือ แต่ปำกของเซี่ยเฉิง
จู่กลับขยับด้วยน้ ำเสี ยงรำบเรียบไม่เร็วไม่ช้ำ “วิธีรบั มือกับคน
อย่ำงเฉำเหวินจงไม่ใช่ว่ำจะไม่มี แต่ต้องทำอย่ำงค่อยเป็ นค่อย
ไป คนเช่ น มัน เพี ย งแค่ ล อบไปยกก้ อ นเงิ น ก้ อ นทองที่ ม ัน
แอบซุกซ่อนไว้ เท่ำนี้ ชีวิตของมันก็อยู่ไม่เป็ นสุขแล้ว”

12
เซี่ ยเฉิงจู่กล่ำวจบก็สงต่
ั ่ อ “จงส่งคนไปสืบดูว่ำเฉำเหวิน
จงดำรงตำแหน่ งจือโจวมำกี่ ปี ยักยอกภำษี และเลื อดเนื้ อของ
ประชำชนไปเท่ ำไรแล้ว เงินก้อนนี้ สู้เอำมำให้ ข้ำใช้ ในกองทัพ
ของเรำยังจะดีกว่ำ”

หวัง จี้ รี บ รับ น้ ำ ใจนี้ ทัน ที “ใต้ เ ท้ ำ เฉลี ย วฉลำดนั ก ยึ ด


ทรัพย์สินเงินทองของมันมำสร้ำงกำแพงเมือง เป็ นกำรใช้ เงิน
ภำษี ประชำชนเพื่อประชำชนโดยแท้ ” พอกลำวจบประโยคเขำก็
รีบออกไป นึ กทนไม่ไหวอยำกเห็นสี หน้ ำทำทำงหวำดผวำของ
เจ้ำหมูอ้วนเต็มแก่หลังจำกหวังจี้ออกไป ติงเว่ยและจิ่วอันก็ถกู
เรียกตัวเข้ำมำ ทัง้ สองเป็ นคนที่ เซี่ ยเฉิงจู่ใช้ ให้ สะกดรอยตำม
ธิดำของอัครเสนำบดีถำนเฉิงจี้ เมื่อทัง้ สองมำถึงก็รำยงำนสิ่งที่
ตนเองรับรู้ออกมำทัง้ หมด โดยมำกก็เป็ นเรื่องหยุมหยิมจิปำถะ
อย่ำงเช่น...

‘พวกนำงเช่ำบ้ำนอยู่ฝัง่ เหนื อของเมือง’

‘เพียงย้ำยเข้ำไปก็ป่วยทันที’

‘ดูเ หมื อ นว่ ำ เงิ น ที่ มี จ ะใช้ จ่ ำ ยหมดแล้ ว ชี วิ ต แต่ ล ะวัน


ลำบำกยำกแค้นแสนเข็ญ ต้ องเปลี่ ยนจำกข้ำวขำวมำกินข้ำว
แดง ที่ลำนบ้ำนยังต้องทำแปลงผักแทนกำรปลูกดอกไม้’
13
‘หญิงสำวทัง้ สองชอบกินปลำ แต่ ซื้อเพี ยงจำนวนน้ อย
เริ่มใช้หมึกยักษ์รำคำถูกทำเป็ นอำหำร และยังเตรียมเก็บสะสม
ไว้เป็ นจำนวนมำกเพื่อทำกำรค้ำ’

ทุกเรื่องที่ เล่ำล้วนเป็ นเรื่องจุกจิกหยุมหยิม เซี่ ยเฉิงจู่รบั


ฟังอย่ำงเงียบๆ ไม่กล่ำวสิ่งใด

คนในห้ องไม่ร้เู ลยว่ำหวังจี้ที่คิดว่ำเดินจำกไปนำนแล้ว


กลับยืนแอบฟั งอยู่ด้ำนนอก เขำไม่เข้ำใจจริงๆ ว่ำใต้เท้ำกำลัง
คิดจะทำอะไรอยู่ หญิงงำมหยำดเยิ้มปำนนั น้ หำกว่ำต้ องกำร
แค่ เ อ่ ย ปำกค ำเดี ยวก็สำมำรถเอำนำงมำเป็ นของตนได้ แล้ ว
เหตุใดต้องไปตำมสืบให้มำกเรื่อง

แต่ ถึ ง อย่ ำงไรนั น่ ก็เ ป็ นเรื่องส่ ว นตัว ของใต้ เ ท้ ำ เขำไม่


ถนัดไปวุ่นวำยด้วย

หวังจีส้ ะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจำกไป

14
11 มองหาลู่ทาง

่ ิ งและลุ่ยจูกลับถึงบ้านก็หนาวจวนจะแข็ง
ถานหวันช

“คุณหนู นั บ วัน อากาศยิ่ ง หนาวนะเจ้ าคะ แทบจะสวม


รองเท้าไม่ได้อยู่แล้ว” ลุ่ยจูกล่าวพลางยา่ เท้าไปมาอยู่สกั ครูแ่ ล้ว
จึงหยิบเอาฟื นเล็กใหญ่ที่ซื้อจากชาวนามาผ่า นางยัดฟื นสอง
สามท่อนเข้าไปในช่องไฟ ไม่นานห้องครัวก็ เริ่มมีความอบอุ่น
แผ่กระจาย ละลายบรรยากาศที่เย็นยะเยือกให้หมดไป

ขณะที่ ส าวใช้ ก าลัง กัง วลเรื่ อ งรองเท้ า นายสาวกลับ


กาลังมองแปลงผักเล็กๆ ที่ ปลูกไว้ตรงลานบ้านอย่างกลัดกลุ้ม
สองตาของนางมองหิมะแรกโปรย หน่ อผัก เพิ่ ง จะเติบโตเทา
นิ้วหัวแม่มือ ถึงแม้จะเป็ นผักในฤดูใบไม้ร่วงที่ยิ่งหนาวยิ่งโตเร็ว
แต่กลับมีหิมะตกเสียอย่างนี้ มนั จะทนไหวรึ

ถานหวันช่ ิ งน่ าปลาหลูมาปล่อยลงอ่าง “เดี๋ยวสักพักเจ้า


ไปเก็บหน่ อผักนะ ตอนเที่ยงกินเกี๊ยวปลากัน”

ลุ่ยจูตอบรับ นึ กถึงเกี๊ยวเกลี้ยงเกลาเป็ นมันลื่น เนื้ อปลา


ขาวๆ ผักสีเขียวๆ และน้่ าแกงร้อนสดใหม่ เด็กสาววาดภาพไฟ

1
ในเตาและกลืนน้าลายลงคอ ตัง้ แต่ออกจากจวนตระกูลถาน ไม่
รูว้ ่านานเทาไรแล้วที่ไม่ได้กิน

เมื่ออดรนทนไม่ไหวลุ่ยจูกห็ ยิบตะกร้าวิ่งไปทางลานบ้าน
ถานหวันช่ ิ ง เทหมึ ก ที่ เ หลื อ รอดกลับ มาลงในอ่ า ง ในช่ ว งฤดู
หนาวอาหารมักเสี ยยาก ปล่อยไว้สามถึงห้าวันก็ยงั ไม่มีปัญหา
แต่ต้องนามาแขวนไว้ในที่รม่ ตรงชายคาบ้าน

น่ าเสี ยดาย หมึกยักษ์ตงั ้ สิบกว่าชัง่ เหลืออยู่เพียงหกชัง่


หน่ อยๆ เทานัน้

เก็บผักเสร็จแล้ วสาวใช้ จึงกลับมาที่ ห้องครัว เห็น ถาน


่ ิ ง กาลัง ล้ างปลาหลู ลุ่ย จูรีบ แย่ ง มาทาเอง ปากก็เ อ่ ย ว่ า
หวันช
คุณหนู เพิ่งหายป่ วยไม่ควรโดนน้ าเย็น เมื่อก่ อนถึงแม้ลุ่ยจูจะ
ไม่ใช่ สาวใช้ ในครัว แต่ ด้วยนิสัยรักการกินเป็ นชี วิตจิตใจ นาง
มัก เตร็ด เตร่ เ ข้ า ครัว สรรหาของอร่ อ ยเข้ า ปากอยู่ เ สมอ จึ ง มี
พรสวรรค์และฝี มือพอตัว

ลุ่ยจูม้วนชายแขนเสื้อ ช้อนของที่ ต้มอยู่ขึ้นมา ถานหวัน่


ชิงผันตัวไปเป็ นลูกมืออยู่ข้างๆ

2
สองคนช่ ว ยกัน ชิ ม ดี ก ว่ า ชิ ม คนเดี ย ว ช่ ว งเหมัน ต์ อ ัน
หนาวเหน็ บได้ลิ้มรสเกี๊ยวร้อนๆ สักชาม ถือเป็ นการเสพสุขที่
เหนื อคาบรรยายแล้ว

เกี๊ ยวชามเล็กหอมฟุ้งถูกยกมาวางไว้บนโต๊ะ น้ า แกงใส


โรยหอมซอยเขี ย ว น้ า มัน ปลาลอยบางๆ อยู่ ช นั ้ ข้ า งบนดูน่ า
อร่อย

่ ิ งค่อยๆ ตักน้ าเกี๊ยวร้อนเข้าปาก รู้สึก เหมือน


ถานหวันช
ว่ าตุ่มรับ รสชาติ กาลัง แตกตัวดี ด เด้ งอยู่ที่ ปลายลิ้น สดอร่อย
เป็ นที่สุด หญิงสาวไม่ตระหนี่ คาชื่นชมเยินยอแม้แต่น้อย ทาให้
ลุ่ยจูสงวนทาที ต่อไปไม่ไหว หน้ าบานเป็ นกระด้งด้วยความปี ติ
ยิ น ดี หากค าชมนี้ ได้ ฟั ง ตอนที่ อ ยู่ ใ นจวนอาจรู้ สึ ก ไม่ ค่ อ ย
สลักสาคัญนัก แต่ประโยคแสนธรรมดาของคุณหนูในยามนี้ ได้
จุดประกายแรงกล้าในการมุมานะทาอาหารให้แก่นาง

ถานหวันช่ ิ งเพิ่งกินเสร็จไปหนึ่ งชาม แต่ เกี๊ยวกลับตกลง


ท้ องลุ่ยจูถึงสามชามแล้ว บ่าวอย่างลุ่ยจูรู้ใจคุณหนู ดี แม้จะมี
ของอร่ อ ยแต่ คุณ หนู ก็จ ะไม่ กิ น มาก เมื่ อ เห็น คุณ หนู ว างชาม
นางจึงจัด การเก็บน้ า กับน้ า แกงทัง้ หมดเอาไว้ ใช้ ทาต่ อในมื้อ
หน้ า

3
อาหารมื้ อ เที่ ย งผ่า นไป คุณ หนู ที่ เ คยงี บ ตอนกลางวัน
ตามความเคยชินเดิมกลับดึงดันฝื นความง่วง

หญิงสาวกับลุ่ยจูชวนกันขีดๆ เขียนๆ คิดคานวณต้นทุน


ลงบนกระดาษ

“คุณหนู หมายถึงใช้ไม้ไผ่เซี ยมซี ช้วน[ 1 ] ลูกชิ้นใช่ ไหม


เจ้ า คะ?” ลุ่ ย จูค รุ่น คิ ด สัก ครู่ แววตาพลัน ทอประกายเจิ ด จ้ า
ทาไมนางคิดไม่ถึงนะ ใช่ แล้ว! ช้ วนร้อยเป็ นพวงหยิบง่ายกิน
สะดวก ไม่จาเป็ นต้องคิดหาบรรจุภณ ั ฑ์อีก

“ใช่ ต้องซื้อไม้ไผ่เซี ยมซี พวกนี้ เจ้าไปถามดูที่ตลาดว่ามี


พ่ อ ค้ า หาบเร่ ข ายถัง หูลู่ [ 2 ] บ้ า งหรื อ ไม่ หารื อ กับ เขาว่ า จะ
สามารถเจียดขายให้เราได้ไหม จ่ายให้เขามากสักหน่ อย...แล้ว
ก็หาซื้อแป้ งขาว ถ่าน น้ ามัน ฟื น และวัตถุดิบในการปรุงหมึก
ยักษ์มาเพิ่มด้วย...”

“เจ้าค่ะ”

นิ้วมือปานหยกแดงของถานหวันช ่ ิ งกาลังคา้ ยันหน้ าผาก


คิ้วขมวดบางเบา มืออีกข้างกาลังขีดเขียนพลางพินิจพิเคราะห์

4
“คุณหนู มีอะไรอี กไหมเจ้าคะ?” ถึงแม้ลุ่ยจูจะรู้หนั งสื อ
แต่ไม่นับว่าฉลาด นางขี้เกียจใช้สมองจึงได้แต่นัง่ รอคุณหนูคิด
ผลรวมออกมา

“รอบหนึ่ งเราสามารถทาลูกชิ้นได้ สักสี่ร้อยลูก หนึ่ งช้วน


มีห้าลูก เราจะทาได้สกั แปดสิบช้วน หากขายช้วนละสองอีแปะ
ก็ จ ะได้ หนึ่ ง ร้ อ ย หกสิ บ อี แปะ ต้ น ทุ น คื อส ามสิ บ อี แปะ
โดยประมาณ” ถ้าขายช้วนละหนึ่ งอีแปะจะได้ไม่ค้มุ เหนื่ อย จึง
คิดช้ วนละสองอี แปะ เพราะเงินทุนมีจากัด ผลรวมนี้ ถึงแม้จะ
เป็ นเพียงการคาดการณ์ เท่านัน้ แต่อีกใจก็อดคิดย้อนแย้งตาง
ออกไปไม่ได้

“วัน หนึ่ งขายได้ ส ัก สี่ สิ บ ช้ ว นก็ย ัง ดี ได้ ก าไรสัก ห้ า สิ บ


อี แปะก็พอแล้ว ” เพี ยงแต่ ไม่รู้ว่าสี่ สิบช้ วนจะขายออกหรือไม่
ถานหวันช่ ิ งวางพู่กนั ถอนหายใจเงียบๆ...

รึว่านางไร้เดียงสาจนเกินไป ถึงขนาดฝากฝังชี วิตไว้กบั


ลูกชิ้นหมึกและเฝ้ ารออย่างมีความหวัง

ท่าทางของนางตรงข้ามกับสีหน้ าท่าทางของลุ่ยจู “ขายสี่


สิ บ ช้ ว นได้ กาไรถึง ห้ าสิ บ อี แปะเชี ย วหรือเจ้ า คะ?” นางรี บก้ ม
หน้ านับ
5
“ที่ตลาดขนมเปี๊ ยะหนึ่ งชิ้นสองอีแปะ ในหนึ่ งวันสามารถ
ขายได้ สี่ ถึ ง ห้ าร้อยชิ้น ถ้าเราขายได้ อย่ างนั น้ บ้าง สักวัน ละสี่
ร้อยช้วน หักทุนแล้วก็จะได้ห้าร้อยอีแปะ!” หนึ่ งวันตัง้ ครึ่งตาลึง
เงิน! สิบวันก็ห้าตาลึง! เช่นนัน้ ในหนึ่ งเดือนก็ได้ถึงสิบห้าตาลึง
เงินใช่หรือไม่!!!

ถานหวันช่ ิ งมองใบหน้ าผู้ที่เป็ นดังน้


่ องสาว ฝ่ ายนั น้ ดูดี
อกดีใจตื่นเต้นดวงตาเปล่งประกายวาววับ

นางก็ใช้ นิ้ วมือเรี ย วคลึ ง ปลายหางคิ้ ว ครึ่ง ตาลึ งรึ ? ถ้ า


หากขายดีขนาดนัน้ จริงๆ ทุกวันยายเฒ่าที่ ขายขนมเปี๊ ยะจะยัง
ได้กาไรแค่พอค่าถ่านหรอกหรือ?

ลุ่ยจูมองเพียงด้านดี แต่มองไม่เห็นข้อเท็จจริงเลยสักนิด
หญิงสาวไม่อยากโจมตี ความกระตื อรือร้นของลุ่ยจูให้ พงั ราบ
นางยื่นมือไปลูบคลาหมอนที่ วางไว้บนผ้าปู อุ่น ปิดเปลือกตา
พริ้มลงพลางเอ่ยเตือนอีกฝ่ ายกลายๆ “ข้าวกับหมี่ของที่ นี่แพง
เอาการ เราจะได้ กาไรสักกี่ มากน้ อย ถือว่าทดลองทาดูก่อนก็
แล้วกัน อย่างไรเสียก็ควรคิดหาหนทางอื่นเผือ่ เอาไว้บา้ ง”

ในยามนี้ ลุ่ ย จูห าได้ ฟั ง ความหมายของค าพูด นั ้น ออก


เห็นคุณหนู ง่วงจนตาแทบปิด จึงเอ่ยว่า “คุณหนูนอนกลางวัน
6
นะเจ้าคะ บ่าวจะไปตลาดซื้อไม้เสียบลูกชิ้น”

กล่ า วจบจึ ง ลุ ก เดิ น รวดเร็ว ไปที่ ป ระตู หัน กลับ มามอง


คุณหนูที่นอนบนเตียงอุ่น ร่างคลุมด้วยผ้าห่มบางเรียบร้อย ผม
แผ่สยายบนหมอน ลมหายใจขึน้ ลงสมา่ เสมอ

เห็นคุณหนูหลับลึกไปแล้ว นางจึงค่อยๆ ย่องเท้าเบามือ


เบาออกไปข้างนอก

วันต่อมาฟ้ ายังไม่ทนั สว่าง

ลุ่ยจูซึ่งคิดถึงแต่เรื่องตัง้ ร้านแผงลอยอยู่ตลอดเวลา รีบ


ตื่ นแต่ เช้ ามืดวิ่งไปยังห้ องครัว เห็นแบบนี้ แล้วถานหวันช่ ิ ง จะ
หลับต่อได้อย่างไร นางจึงเดินเข้าห้องครัวตามไปด้วย

ลุ่ยจูเคยทาลูกชิ้นหมึกทอดเพียงไม่กี่ครัง้ แต่ฝีมือชานาญ
ไร้ที่ เ ปรี ย บ เพื่ อประหยัด ทัง้ ถ่านและเวลาในการทอดนางจึง
ปรับกรรมวิธีเล็กน้ อย โดยสับหมึกให้ ละเอี ยดเป็ นชิ้นเล็กชิ้น
น้ อยเหมือนเม็ดข้าว ใส่วตั ถุดิบอื่นๆ กับเครื่องปรุงแล้วปัน้ เป็ น
ก้ อนกลมเท่ าๆ กัน ผ่านน้ ามันจนเหลื องกรอบดี แล้ วจึ ง ช้ อน
ออกจากหม้อ เสียบไม้ช้วนละห้าลูก วางไว้ในตะกร้าไม้ไผ่สาน
แล้วคลุมด้วยผ้าฝ้ ายสะอาด

7
ก่ อนออกจากบ้าน ลุ่ย จูก็นึ กอะไรขึ้น มาได้ นางอุท าน
ออกมาคาหนึ่ ง หมุนตัวกลับมาหานายสาว

“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวว่าคาเรียก ‘ลูกชิ้นหมึกยักษ์’ ออกจะ


หยาบไปสักหน่ อย ตัง้ ชื่ อใหม่ให้ ฟังสุภาพน่ ากินดี กว่าไหมเจ้า
คะ”

ถานหวันช่ ิ งกลอกตา นึ กถึงตอนทาลูกชิ้นหมึกยักษ์ สี


ของมันขาวคล้ายเม็ดหยกที่ตกอยู่ในถาด นางจึงกล่าวว่า “หาก
ใครถาม เจ้าก็บอกว่า ‘หยกย่าง’ ก็แล้วกัน”

“หยกย่ า ง?” ลุ่ย จูคิ ด ว่ า ฟั ง แล้ ว รื่ น หูม าก! นางรี บ แบก
ตะกร้าสานไม้ไผ่ออกจากบ้านอย่างดีใจ

แต่ พ อกลับ มาถึ ง บ้ า นตอนค่า ถานหวัน่ ชิ ง ก าลัง เก็บ


กวาดใบไม้อย่างเอื่อยเฉื่ อย เห็นลุ่ยจูถือตะกร้าหน้ าม่อยคอตก
อย่างกับมะเขือเข้ามา

ภายในตะกร้ามีลกู ชิ้นหมึกเหลือมากกว่าครึง่ ทีเดียว

ลุ่ยจูน่าถุงออกมาเท มีเพียงเหรียญทองแดงน่ าเวทนาอยู่


เพี ยงไม่กี่เหรียญ แม้แต่ ต้นทุนที่ จ่ายออกไปยังหาคืนกลับมา

8
ไม่ได้

ผลออกมาชัดอย่างนี้ ใจของลุ่ยจูไม่อาจยอมรับ นางนัง่


คับแค้นขุ่นเคืองอยู่อย่างนัน้ ...

คนกินล้วนบอกชัดเจนว่าอร่อย หนึ่ งช้ วนแค่สองอี แปะ


เที ยบกันแล้วลูกกวาดในเมืองหลวงยังราคาแพงกว่านี้ เป็ นสิบ
เท าด้ ว ยซ้า นางเชื่ อ ไม่ ล งว่ า ของกิ น อร่ อ ยปานนี้ จะไม่ มี ค น
ซื้อ

อาจเป็ นไปได้ ว่าขายวันแรก คนยังรู้จกั ไม่มากนั กของ


เหลื อ หากทิ้ งไว้ ห นึ่ งวั น ก็ ไ ม่ ส ดแล้ ว อาหารเย็ น มื้ อ นี้ จึ ง
กลายเป็ นโจ๊กลูกหยกกับตุ๋นเต้ าหู้โรยลูกย่างลอยน้ าแกง ส่ วน
‘หยกย่าง’ ที่ เหลือจากการขายทัง้ หมดก็ผดั เป็ นกับข้าว โชคดีที่
ข้ างในลูกหยกทัง้ หมดนี้ เป็ นเนื้ อหมึกยักษ์ที่อดุ มไปด้วยโปรตีน
เป็ นของบารุงร่างกายชัน้ ดี กินมากหน่ อยก็ไม่เป็ นไร

่ ิ งกินอาหารไปเงียบๆ ไม่พดู ถึงการค้าของลุ่ย


ถานหวันช
จูแม้แต่น้อย

วันต่อมา ลุ่ยจูคลานออกมาจากเตียงแต่เช้า รอบนี้ นางมี


ประสบการณ์ แล้ วจึง ทาน้ อยลง ทันที ที่ท้องฟ้ าสว่ างนางก็ถือ

9
ตะกร้าสานไม้ไผ่ไปที่ตลาดเช่นเมื่อวาน กลับมาตอนคา่ ก็ยงั คง
เหลือลูกชิ้นอี กสิบกว่าช้วน ลุ่ยจูนัง่ ลงบนเตี ยงอุ่นพร้อมกับนับ
จานวนกลับไปกลับมาหลายตลบ

ในมือของถานหวันช ่ ิ งมีสมุดภาพวาด นางปรายตามอง


ลุ่ยจูแวบหนึ่ ง เหรียญในมือลุ่ยจูมีอยู่สี่สิบเหรี ยญเห็นจะได้ ...
มากกว่าเมื่อวานเสียอีก

นางไม่ เ อ่ ย อะไร เพี ย งมองลุ่ย จูนั บ จ านวนซ้า ไปซ้า มา


ก่อนจะสอดถุงเหรียญเก็บไว้ในเสื้อแล้วกลับไปห้องของตน

เช้าวันที่สามนางก็ไปอีก

การค้าของลุ่ยจูยงั คงไม่กระเตื้องขึ้น ความรู้สึกผิดหวัง


เสียดายเกิดขึ้นติดต่อกันเป็ นเวลาหลายวัน ทุกๆ วันได้เงินมา
เพี ย งไม่ กี่เ หรี ย ญ นางไม่ส บายใจเป็ นอย่ างมาก อดที่ จะถาม
คุณหนูไม่ได้ “ทุกคนที่เคยกินล้วนชมว่าอร่อย แล้วเหตุใดถึงไม่
มีคนซื้อ ขายก็ใช่ว่าจะแพง แค่สองอีแปะเอง”

ถานหวันช่ ิ งเอี ยงหน้ ามองสาวใช้ แวบหนึ่ ง ก่ อนจะวาง


สมุดภาพลงแล้วกล่าวว่า “ขนมเปี๊ ยะย่างร้านข้างๆ ขายดี กว่า
เจ้าใช่หรือไม่?”

10
ลุ่ยจูพยักหน้ าอย่างหงอยเหงาเศร้าซึ ม เอ่ยด้วยอารมณ์
กลัดกลุ้ม “ขนมเปี๊ ยะของยายเฒ่ าอร่อยที่ ไหนกัน แข็งติดฟั น
ฝื ดคอ ไร้รสชาติ กินติดกันสองวันก็เต็มกลืนแล้วเจ้าค่ะ บ่าวกับ
คุณหนูทาลูกหยกใช้น้ ามันทอดเต็มที่ กัดออกมาแต่ละคา ข้าง
ในล้วนเป็ นเนื้ อหมึกสดฉ่ าหอมกรุ่น ขายสองอี แปะเหมือนกัน
แล้วทาไมเที ยบขนมเปี๊ ยะแป้ งย่างนั น่ ไม่ได้ ล่ะเจ้าคะ บ่าวคิด
อย่างไรก็คิดไม่ออก...” ลุ่ยจูถกู ความกลัดกลุ้มระคนสงสัยโจมตี
จนหนักใจ เริ่มแคลงใจในรสมือของตนเสียแล้ว

ถานหวันช่ ิ งหัวเราะแล้วส่ายหน้ า ตัง้ ร้านสามวันแล้วก็ยงั


ไม่เข้าใจอีกหรือ? นางยิ้มก่อนจะเฉลย “นัน่ เพราะว่าขนมเปี๊ ยะ
ย่างกินอิ่มท้องน่ ะสิ”

ลุ่ ย จูม องคุณ หนู ด้ ว ยความสงสัย อยู่ ค รู่ห นึ่ ง จึ ง ค่ อ ยๆ


เข้าใจอย่างชัดแจ้ง

นางเข้ าไปอยู่ในจวนตระกูลถานตัง้ แต่ เ ด็ก แม้ จะเป็ น


บ่า วรับ ใช้ แต่ ก็ร บั ใช้ อ ยู่ ใ นตระกูล ใหญ่ แ ละติ ด ตามข้ า งกาย
คุณหนู ปั จจัยสี่ ทงั ้ หลายล้วนสมบูรณ์ พร้อม ทัง้ ยังอาศัยอยู่แต่
ในจวน ไหนเลยจะเข้าอกเข้าใจความยากลาบากของคนที่ จะ
จ่ายออกไปสักเศษตาลึงหรือแม้แต่หนึ่ งอี แปะก็ยงั ต้ องคิดแล้ว
คิดอีก หากมีของราคาถูกที่ กินแล้วอิ่มท้องย่อมคุ้มค่ากว่ามาก
11
ส่วนรสชาติจะอร่อยหรือไม่ถือเป็ นเรือ่ งรอง

ที่ ต ลาดแห่ ง นี้ ส่ ว นใหญ่ เ ป็ นคนในครอบครัว ทหารที่


อาศัยอยู่นอกเมืองนาของมาวางขายกัน ตลาดนัดส่วนมากก็มี
แต่ชาวบ้านหาเช้ากินคา่ มาจับจ่ายแลกเปลี่ยนสิ่งจาเป็ น ไม่ได้มี
คนรา่ รวยเงินทองเข้ามาเดินซื้อ คาดว่ารายรับของทุกคนคงจะ
น้ อยพอกัน ถ้าเป็ นถนนหนานเหมินหรือย่านตลาดที่ครอบครัว
พ่ อ ค้ า อาศัย อยู่ ก็อ าจจะพอขายได้ บ้ า ง แต่ ร ะยะทางที่ นั น่ ก็
ห่ างไกลจากบ้านพักของพวกนางมากพอสมควร ถานหวันช ่ ิง
ไม่อาจปล่อยให้ล่ยุ จูไปคนเดียวได้

ในที่ สุดลุ่ยจูกเ็ ข้าใจถึงสาเหตุ ถึงกระนัน้ นางก็ปลงไม่ตก


ตอนนี้ คณ ุ หนูมีเงินติดตัวไม่ถึงสิบตาลึง ทองใบไม้ที่แลกมาแต่
แรกนัน้ ไม่เหลือตัง้ นานแล้ว ยิ่งเข้าหน้ าหนาว ยิ่งไม่ควรงอมือ
งอเท้ านั ง่ นอนกิน สมบัติ เ ก่ า จนหมด ลุ่ย จูเ คยคิ ด ว่ าพวกนาง
น่ าจะทางานเย็บปักถักร้อยเพื่อดารงชีพ แต่พอสอบถามและได้
ฟั งว่าอาชีพเย็บปักถักร้อยได้ราคาค่างวดตา่ กว่ามากเมื่อเที ยบ
กับที่ เมืองหลวง เว้นแต่ เป็ นงานฝี มือระดับเยี่ยมยอด ซึ่ งไม่ว่า
อย่างไหนก็ต้องเหนื่ อยสายตัวแทบขาดเพื่อแลกกับกาไรเพียง
น้ อยนิดในแต่ละวัน

นอกจากนี้ งานเย็บปักถักร้อยในภาวะสงครามมักขายไม่
12
ค่อยดี นอกจากวัสดุจะแพง คนซื้อก็มีน้อยยิ่งกว่าน้ อย ผ้าลาย
ดอกไม้ราคาสองสามอี แปะยังขายดี เป็ นเทน้ าเทท่ ามากว่าอี ก
และสาคัญที่สุดคือ คุณหนู ไม่ยอมให้ลุ่ยจูทางานเย็บปักถักร้อย
ทุกวัน เพราะเกรงว่าจะสายตาเสียและเหนื่ อยมากเกินไป

ตอนนี้ มาคิดดูแล้วก็ทาได้แค่ขายลูกชิ้นต่อ ทุนรอนไม่สูง


คนไม่ เ หนื่ อ ย ทัว่ ทัง้ ตลาดมี น างเจ้ า เดี ย ว ไม่ มี ค นคิ ด จะแย่ ง
การค้ า ของนางแน่ แม้ ใ นแต่ ล ะวัน จะได้ ก าไรเล็ก น้ อย แต่
นอกจากลูกชิ้นหมึกแล้วก็ไม่มีอะไรที่ นางจะทาขายได้ ดังนั น้
จนดึกดื่น ลุ่ยจูจึงยังคงนอนพลิกตัวกลับไปกลับมาเหมือนพลิก
ขนมเบือ้ งอยู่บนเตียงทัง้ คืน

เช้ามืดวันต่อมา

ลุ่ยจูกล็ ุกขึ้นทาหยกย่างเหมือนเคย อย่างมากก็แค่ขาย


ถูกลงหน่ อย หนึ่ งวันได้สามสิบหรือสี่สิบอีแปะก็คือเงิน

หลายวัน มานี้ ลุ่ ย จู คุ้ น เคยกับ ความคึ ก คัก ของตลาด


กลายเป็ นอยู่บ้านไม่ติดคิดแต่ อยากจะออกรา่ ไป เห็นนางเป็ น
แบบนี้ แล้วถานหวันช่ ิ งก็ไม่ได้ห้ามปรามขัดขวาง เพี ยงแต่ คิด
บางอย่างได้จึงเรียกลุ่ยจูเอาไว้ก่อน นายสาวให้ล่ยุ จูหาบน้าแกง
ไปด้วย ใช้ กระบอกบรรจุน้ าแกงวางอุ่นไว้บนตะแกรงเตา ใคร
13
ซื้อลูกชิ้น ก็ส่งน้าแกงร้อนหนึ่ งชามให้เขาอุ่นกระเพาะไปด้วย

เพี ยงน้ าต้ มปรุงรส ใส่ เกลือ โรยหอมเท่ านั น้ ค่ าใช้ จ่าย
ไม่ได้มากมายอะไร

ลุ่ยจูยงั ไม่เข้าใจนัก นางแค่ย่างลูกหยกช้ วนขายเท่ านัน้


จะเกี่ยวอะไรกับน้ าแกงเล่า? ทัง้ ยังไม่เก็บเงินอี กด้วย? นี่ ไม่ใช่
แผงขายอาหารประเภทเกี๊ยวสัก หน่ อย นางไม่ร้วู ่าทาเพื่ออะไร
แต่ในเมื่อคุณหนูออกปาก สิ่งใดที่ทาให้ยงั พอมีหวัง ช่วยให้รอด
พ้นจากวิกฤตินี้ได้ สุดท้ายก็ต้องลองทาอยู่ดี

ที่ จ ริ ง แค่ ต้ ม น้ า ปรุ ง เกลื อ ใส่ ลู ก ชิ้ น หมึ ก ยัก ษ์ ที่ เ หลื อ
กลับมาลงตุ๋นตามที่ คุณหนูบอก โรยตกแต่ งด้วยน้ ามันที่ เหลือ
จากการทอดลูกชิ้นกับต้ นหอมซอย เท่ านี้ กไ็ ด้น้ าแกงสดใหม่
แล้ว ถึงจะคล้ายการล้างหม้อหน่ อยๆ แต่ ดูแล้วสี สนั น่ ากินไม่
หยอก

เด็กสาวตัวเท่ านี้ แต่ มี แรงเท่ าเสื อ ลุ่ย จูย กหาบเล็ก ขึ้น


ไหล่ แล้วเดินออกไปอย่างสุขมุ มันคง่

ตอนเที่ ยงประตูบ้านถูกผลักเข้ามา ลุ่ยจูวางหาบที่ ว่าง


เปล่าแล้ววิ่งไปในห้อง ตื่นเต้นดีใจกุมมือของคุณหนูเขย่าเบาๆ

14
แล้วเอ่ ยว่ า “คุณหนู ๆ สี่ สิบช้ วนเจ้าค่ ะ...บ่าวขายหมดเกลี้ยง
เลย ขายหมดตัง้ แต่ช่วงเช้าแล้ว เพราะวิธีการของคุณหนูแท้ ๆ
คนที่ ซื้อขนมเปี๊ ยะส่ วนมากจะมาหาข้าดื่ มน้ าแกงกลัว้ คอกัน
ทัง้ นัน้ ”

แผงของนางอยู่ข้างๆ ร้านยายขายขนมเปี๊ ยะ คนที่ ซื้อ


ขนมเปี๊ ยะมีมาก ส่วนแผงขายลูกหยกของนางมีคนถามไถ่บ้าง
แต่กลับเงียบเชียบไร้ลูกค้า ทว่าเช้านี้ หลังจากที่เทน้าแกงร้อนๆ
ใส่ ก ระบอกตัง้ ไว้ บ นเตาอุ่ น ผู้ค นแถวนั ้น ก็เ ริ่ ม มามอง นาง
โฆษณาว่าซื้ อลูกหยกหนึ่ งช้ วนแถมน้ า แกงหนึ่ งชาม แรกๆ มี
คนไม่ น้ อยที่ แทะกินขนมเปี๊ ยะหมดแล้ ว อยากดื่ มน้ า แกง พอ
บอกว่ า ขายลู ก ชิ้ น พ่ ว งไปด้ ว ยพวกเขาก็ถ อยห่ า ง แต่ ก็มี ค น
บางส่ วนที่ กระหายน้ า เพื่อน้ าแกงแล้วจึงต้ องซื้อ ลูกชิ้นติดไป
ด้วย

[ 1 ] ช้วน - สิ่งที่ เสี ยบไม้เรียงกันและเหลือด้านปลายไว้


จับ (ประมาณเดียวกับ ลูกชิ้นเสียบไม้ หรือบาร์บีคิว เป็ นต้น)

[ 2 ] ถังหูลู่ - ผลไม้เคลือบน้่ าตาลเสียบไม้เรียงกัน

15
12 เริ่มต้นค้าขาย

เป็ นอั น ว่ า ลู ก หยกย่ า งของลุ่ ย จู ข ายหมดสี่ สิ บช้ ว น


ภายในช่วงเช้า

ล้ ว นเป็ นลูก ค้ า ที่ ม าซื้ อ ขนมเปี๊ ยะเป็ นส่ ว นใหญ่ ขนาด


ยายขายขนมเปี๊ ยะยังกล่าวชมเชยกิจการเล็กๆ ของนาง ยาย
เฒ่าเห็นดีเห็นงามเป็ นอย่างมาก ด้วยว่าขนมเปี๊ ยะนัน้ ถึงแม้จะ
กินอิ่ม แต่กแ็ ห้งฝื ดคอ หากได้ดื่มน้ าแกงร้อนๆ สักชามจะรู้สึก
ดีไม่น้อย อีกทัง้ น้าแกงของลุ่ยจูไม่ได้ดื่มยาก คนที่ซื้อยังรู้สึกถึง
กลิ่ น หอมกรุ่น รสชาติ กลมกล่ อ มและสดอร่ อ ยมากที เ ดี ย ว
แม้แต่ยายขายขนมเปี๊ ยะที่แผงขายเชื่อมกันอยู่ยงั อุดหนุน ลุ่ยจู
จึงแถมน้ าแกงให้ เป็ นพิเศษ วันนี้ ขนมเปี๊ ยะของยายจึงขายได้
มากเช่นเดียวกัน

จริงๆ ลุ่ยจูไม่เคยนึ กถึงข้อนี้ มาก่อนเลย กระทังคุ ่ ณหนู


โพล่งบอกนางตอนเช้าให้นาน้ าแกงไปแถมด้ วย ดังนัน้ กิจการ
เล็กๆ ของลุ่ยจู จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครัง้ ยิ่งใหญ่ ของแถม
อย่างน้ าล้างหม้อกลับได้รบั ความนิยมเสี ยยิ่งกว่าลูกชิ้น นี่ มนั
เป็ นค่ า นิ ยมของสัง คมอะไรกัน แน่ ? ลุ่ ย จู ท ัง้ ร้ อ งตะโกนทัง้
อาเจียนน้าดีขมออกมา อันเป็ นผลกระทบจากอารมณ์ดีอกดีใจ
1
อย่างล้นเหลือของนาง

เหรียญทองแดงที่ อยู่ในเสื้อถูกเทออกมาจนหมด เพียง


แค่แปดสิบเหรียญเทานั น้ แต่ ส่าหรับลุ่ยจูมนั เต็มเปี่ ยมไปด้วย
ความพึงพอใจ การค้าของนางดีกว่าสองสามวันก่อนที่ แทบจะ
ไม่มีคนถามหา ทาเอาเด็กสาวปลืม้ ปริ่มไปไม่รเู้ ทาไร

ถานหวันช ่ ิ งมองดูลุ่ยจูเวียนนั บเหรียญทองแดงซ้าแล้ว


ซ้าอี ก ยิ้มน้ อยยิ้มใหญ่ไม่หบุ ทาทางยิ่งนั บยิ่งมี ความสุข ลุ่ยจู
ไม่ใช่ คนที่ เห็นแก่เงิน แต่ นางตื่ นเต้ นที่ หาเงินได้ด้วยน้ าพักน้ า
แรงของตัวเอง

ต่ อมาลุ่ย จูก็ข ายลูกหยกย่ างแถมน้ า แกงมาโดยตลอด


นานวันเข้าก็สามารถเก็บเงินได้ถึงหนึ่ งร้อยสี่ สิบห้าอี แปะ ขาย
ได้น้อยที่สุดคือห้าสิบหรือหกสิบอีแปะ รายรับเช่นนี้ นับว่าดีกว่า
แต่ ก่อนมาก หากไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย หนึ่ งเดือนจะ
สามารถหาได้ ถึงสองตาลึงเงิน ลูกชิ้นไม่เหมือนขนมเปี๊ ยะย่าง
เพราะหมึกยักษ์สิบชังท ่ าลูกหยกได้มากพอสมควร ต้นทุนน้ อย
กาไรสูง ดังนัน้ รายได้เทาที่เป็ นอยู่นี้กท็ าให้อ่นุ ใจบ้างแล้ว

ลุ่ ย จูเ ฝ้ าตลาดที่ คึ ก คัก ทัง้ วัน ทุ ก คนต่ า งก าลัง ค้ า ขาย


แลกเปลี่ ย น ความคิ ด ของนางเริ่ ม ไหวคลอน วัน ทัง้ วัน ต้ อ ง
2
เหน็ดเหนื่ อยขายของพวกนี้ เพื่ออะไร ท้ายที่สุดนางกับคุณหนูก็
มีแค่สองปากสองท้อง แต่ค่าเช่าบ้านมีถึงเดือนละสองตาลึงเงิน
เงินที่หาได้ใช่ว่าจะพอใช้ที่ไหนกัน?

ครัน้ มองไปก็เ ห็น คนขายปิ่ นปั ก มวยผม ถุง หอมและ


กระบอกไม้ ไ ผ่ ส านราคาถูก ส าหรับ ใส่ ป ากกาดิ นสอ ของ
เบ็ดเตล็ด

งานฝี มื อประเภทแมลงปอไม้ ไ ผ่ถื อว่ า ท าเงิ น ได้ ไ ม่ เ ลว


บางคนมาสังจองงานฝี
่ มือกับครอบครัวชาวนาที่ ตงั ้ แผงขายอยู่
ข้างแผงของนาง สิ่งเหล่านัน้ ล้วนไม่ใช่สิ่งของที่ค้มุ กับมูลค่าเงิน
ได้กาไรเพียงวันละสิบถึงยี่สิบอี แปะเทานัน้ แต่ ข้อดี คือไม่ต้อง
มานั ง่ หน้ ามัน ย่ างลูกหยกอยู่ต ลอดเวลา แค่ เ อาตัว อย่ างวาง
เรียงๆ เอาไว้ เมื่อมีคนสนใจถามไถ่ค่อยลงมือทา

ทัง้ วันลุ่ยจูย่งุ จนหัวหมุนเพื่อการดารงชีพ

่ ิ งอยู่ที่บา้ นก็ไม่ได้วางเฉย นางดูสมุดภาพเสร็จ


ถานหวันช
ก็วาดภาพลงบนใบพัดสีขาวเจ็ดแปดอันที่ซื้อกลับมาคราวก่อน
ครุ่นคิดทบทวนหลายตลบ จากนัน้ จึงใช้ถ่านดาที่ ตดั มาจากใน
ครัว ร่างลวดลายเส้นเบาๆ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ภาพไร้เดียงสา
ของเด็กน้ อยที่ กาลังกระโดดโลดเต้ นอยู่ข้างกอบัว พัดใบขาว
3
เรียบๆ กลายเป็ นภาพเขียนที่มีชีวิตชีวาน่ าสนใจขึน้ มา

เป็ นอี กวันที่ ลุ่ยจูกลับมาถึงบ้านตอนคา่ นางเห็นคุณหนู


ตัง้ แต่ประตูหน้ า กาลังนัง่ เหม่ออย่างเดียวดายอยู่ที่ริมหน้ าต่าง
บางครัง้ ก็ก้มหน้ าลงปั ก ดอกไม้ผ้า นางทาอย่างตัง้ ใจมิได้หยุด
พัก ดอกแล้วดอกเล่า

ลุ่ยจูไม่ร้วู ่าทาไมน้ าตาจึงไหลออกมา นางเดินเข้าไปใน


ห้ องอย่ างเงี ย บๆ ดึ ง มือคุณหนู มามอง เห็น นิ้ วมื อ นุ่ มเต็ม ไป
ด้ ว ยแผลและร่ อ งรอยเสี ย ดสี จ นแตกด้ า น เพี ย งเพื่ อ ดอกไม้
ประดับ ศี ร ษะซึ่ ง ขายได้ เ พี ย งวัน ละสิ บ อี แ ปะคุณ หนู ข องนาง
ถึงกับต้อง...

ลุ่ยจูปวดใจจนยากจะทนไหว

“คุณหนู วันนี้ พอเถิดนะเจ้าคะ” ลุ่ยจูแย่งเศษผ้าพวกนัน้


มาแล้วโยนเข้าไปในถุง

่ ิ งยังถือเข็มค้างอยู่ตรงปลายนิ้ว เห็นลุ่ยจูเริ่ม
ถานหวันช
บ่อน้ าตาแตก จึงยิ้มพลางเอ่ยว่า “ไม่กี่รเู ข็มก็พอแล้วหรือ ใคร
เห็นคงตกใจแย่” ลุ่ยจูเอาแต่บ่น นางก็แค่อยากทดลองทาอะไร
นิดหน่ อยเทานัน้

4
ลุ่ยจูเห็นคุณหนูเอ้อระเหยลอยชายไม่สนใจที่ ตนพูด ใน
ที่ สุดจึงกัดฟั นแล้วกล่าวว่า “วันนี้ ข้าขนสินค้าไปขายมากมาย
ยุ่ ง เกิ น ไปจนดูแลคนเดี ย วไม่ ไ หว พรุ่ง นี้ คุณ หนู ไ ปขายของที่
ตลาดกับข้าดีไหมเจ้าคะ”

แท้จริงแล้วลุ่ยจูไม่อยากให้คณ
ุ หนูออกไปข้างนอกสักนิด
ในภาวะสงครามเช่นนี้ ฐานะของพวกนางอย่างนี้ หากมีเรื่องมี
ราวเกิดขึน้ คงไม่เป็ นการดี

่ ิ งเองก็คิดเช่นเดียวกัน ถ้าไม่จาเป็ นต้ องออก


ถานหวันช
จากบ้านนางก็จะไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว

เมื่อลุ่ยจูกล่าวออกมา หญิงสาวก็คดั ค้านแล้วพูดว่า “ถ้า


ยุ่งก็ขายให้น้อยลงสิ”

“คุ ณ หนู ฟั ง บ่ า วพู ด สัก นิ ดเถิ ด เจ้ า คะ” ลุ่ ย จู รี บ เข้ า มา


ประชิดนายสาวแล้วเอ่ย “ข้าทราบว่าคุณหนูกงั วลเรื่องอะไร ที่
จริงข้ าเองก็กงั วลอยู่เ หมือนกัน แต่ เทาที่ เฝ้ าสังเกตตลาดอยู่
ตลอด เวลานี้ เราสามารถวางใจได้มากทีเดียว ถึงแม้ไม่ร้วู ่าเหตุ
ใดวันนัน้ ใต้เท้าเซี่ยจึงมาหยุดอยู่หน้ าประตูบา้ นเรา แต่ว่าตรอก
นี้ ใกล้ประตูเหนื ออันเป็ นที่ ตงั ้ มันของค่
่ ายทหาร ยิ่งช่ วงนี้ มีคน
มาคัดเลือกเป็ นทหารกันมาก หัวตรอกยันท้ายตรอกแทบไม่มี
5
ใครกล้าทาตัวเป็ นนั กเลงโต ขนาดคนทะเลาะกันยังมี ให้ เห็น
น้ อยมาก โดยรวมแล้วในเรื่องความปลอดภัยนัน้ คุณหนูวางใจ
ได้ เราออกไปข้ า งนอกด้ ว ยกัน เถอะนะเจ้ า คะ ไม่ เ ป็ นอะไร
หรอก”

ณ วัน นี้ นางไม่ มี ว าสนารุ่ ง เรื อ งและมี ชื่ อ เสี ย งของ


ครอบครัวขุนนางอี ก ปราศจากเสื้อผ้าอันสวยงามตระการตา
กินไม่อิ่มท้ อง ใช้ ชีวิตลาบากยากจน คอยคิดกังวลกับหนทาง
ข้างหน้ าตลอดเวลา ยังต้องประคับประคองศักด์ ิ ศรีมิให้ใครเดิน
ผ่านแล้วต้องยิ้มเยาะอีกต่างหาก

เวลานี้ พวกนางตึงเครียดอย่างมาก เงินทองหายาก นาง


ไม่ควรเห็นแก่ตวั นาความกดดันในการหาเลี้ยงชีพของคนสอง
คนไปฝากไว้ที่ล่ยุ จูคนเดียว

ถานหวันช ่ ิ งวางเข็มเรียบร้อยแล้วจึงหันกลับมา ยื่นมือ


ดึงลุ่ยจูเข้ามาใกล้ มองตอบพลางยิ้มเล็กน้ อย “เช่ นนัน้ ก็ดี ข้า
กาลังคิดอยากออกไปข้างนอกพอดี เชี ยว ถึงเวลาเจ้าห้ ามเอา
แต่เก็บเงินนะ ข้าไม่ค่อยกระฉับกระเฉง เจ้าให้ไปช่วยจะยิ่งเพิ่ม
ภาระให้เจ้าอีก”

ลุ่ยจูได้ยินคุณหนูเอ่ยเช่นนัน้ จึงหัวเราะกล่าวยิ้มๆ
6
“ทาไมจะไม่ชอบล่ะเจ้าคะ คุณหนู ทาอะไรล้วนดี กว่าข้า
ทุ ก อย่ า ง คุ ณ หนู ไ ม่ โ ทษข้ า นะเจ้ า คะ ที่ จ ริ ง ข้ า ก็ไ ม่ อ ยากให้
คุณหนูออกไป แต่วนั นี้ เห็นคุณหนูอยู่ในบ้านคนเดียวโดดเดี่ยว
เดียวดาย มีเพียงต้นไม้แห้งเหี่ยวใบโกร๋นไม่กี่ต้นเป็ นเพื่อน ไม่
มีคนคุยด้วย ข้าไม่สบายใจจริงๆ”

และก็ ห่ ว งกั ง วลว่ า คุ ณ หนู อยู่ บ้ า นคนเดี ยวจะคิ ด


เหลวไหล ทัง้ เรื่องตระกูลถาน เรื่องนายทาน ในอดี ต คุณหนู
นั บเป็ นหญิงงามอันดับหนึ่ งของเมืองหลวง แต่ ปัจจุบนั กลับมี
สภาพความเป็ นอยู่น่าเศร้าชวนให้ ท้อแท้สิ้นหวัง และวันทัง้ วัน
เอาแต่ มองต้ นท้ อใบโกร๋นนอกหน้ าต่ างนั น่ มองแล้วยิ่งทาให้
คนเห็นภาพคิดถึงอดีต นางจึงอยากให้คณ ุ หนูทาอะไรสักอย่าง
วุ่นวายกับการทางานก็ยงั ดีกว่ามานัง่ กลุ้มใจ

่ ิ งเห็นท่าทางของลุ่ยจูกไ็ ด้แต่ส่ายหน้ า
ถานหวันช

พูดกลัว้ หัวเราะ “ทาไมถึงกลายเป็ นผีร้องไห้ ไปอี ก แล้ว


ล่ะ? แต่ก่อนก็ไม่เห็นเจ้าจะเป็ นแบบนี้ อย่าร้องเลย เอาเงินที่หา
ได้วนั นี้ ออกมานับสิว่าได้ก่าไรเท่าไรแล้ว?”

พูดถึงเงินลุ่ยจูกพ็ ลันมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที เงินที่ เพิ่มมา


วัน นี้ ในที่ สุ ด ก็ร วมกัน ครบสองต าลึ ง เงิ น นางรี บ เอาถุง ห่ อ
7
ดอกบัวเทออกมานับ และไปหยิบถุงบรรจุเหรียญทองแดงอัน
หนักอึ้งจากครัวออกมาเทรวมด้วย

ท้องฟ้ าค่อยๆ เปลี่ยนสีจนในห้องเหลือเพียงแสงสลัว นิ้ว


สี หยกนุ่มนิ่มเรียวยาวดังต้
่ นหอมของถานหวันช ่ ิ งจุดไฟในโคม
เล็กๆ ภายในห้องไม่มีเสี ยงอื่นใดนองจากเสี ยงเหรียญกระทบ
กันเบาๆ

ในที่ สุด ลุ่ย จูก็ประคองเหรี ยญทองแดงจานวนหนึ่ ง พัน


เหรียญไว้บนฝ่ ามืออย่างตื่นเต้นดีใจ นี่ เป็ นเงิน

ก้ อ นแรกจากการขายของมาหลายวัน ของนาง แม้ จ ะ


มีจ่านวนไม่มากแต่กลับรูส้ ึกภาคภูมิใจจนไม่อยากปล่อยมือ

อาหารเย็นวันนี้ คือน้่ าแกงกับโจ๊กหมึกยักษ์ กินกันเสร็จก็


อาบน้ า สระผม ลุ่ย จูช่ว ยถานหวันช่ ิ ง เช็ด ผมเปี ยกชื้ น จนแห้ ง
สนิท นางนัง่ บนเตี ยงอุ่นกับคุณหนูสกั พักใหญ่จึงขอตัวกลับไป
นอน

ยา่ รุ่งต่อมาฟ้ ายังไม่สว่างหญิงสาวทัง้ สองก็ตื่นเรียบร้อย


แล้ว แต่ ก่อนถานหวันช ่ ิ งเป็ นคนตื่ นสาย นางหลับอย่างเต็มที่
และมักตื่นขึน้ เองโดยไม่ต้องมีใครปลุก ทว่าตัง้ แต่ช่วยลุ่ยจูขาย

8
ของ หญิงสาวก็ไม่เคยนอนอิ่มอีกเลย เมื่อมาถึงห้องครัวนางก็
รีบล้างหน้ าล้างมือแล้วเริ่มทางาน

ใช้ เ วลาไม่ น านนั ก น้ า มัน ในหม้ อ ก็ร้ อ น ลุ่ ย จู ก ลัว ว่ า


คุณหนูจะโดนน้ามันกระเด็นใส่จึงรีบแย่งลูกชิ้นมาทอดเอง เมื่อ
ลูกชิ้นลงหม้อแล้ว นางก็ก้มมองช่องไฟข้างๆ แล้วหยิบฟื นมา
เติมเชื้อ

พอไฟเริ่มร้อน หน้ าผากนวลของถานหวันช ่ ิ งมีเหงื่อซึ ม


ออกมาเล็กน้ อย ปอยผมละเอียดลื่นหลุดลงมา แสงส่องสะท้อน
จากเปลวไฟ ทาให้ชุดบาง ๆ ที่นางสวมยากจะอ่าพรางเรือนร่าง
เห็ น อย่ า งนั ้น แล้ ว ลุ่ ย จู ที่ ช้ อ นลู ก ชิ้ น อยู่ ก็นึ กร้ อ นใจ รู ป ร่ า ง
หน้ าตาของคุณหนู งดงามเป็ นเอก หากยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน
ย่อมต้ องโดดเด่นแน่ ขนาดพ่อค้าหาบเร่ขายปลายังติดใจถาม
ถึงคุณหนูอยู่บอ่ ยๆ

นางเริ่มรู้สึ กเสี ย ใจขึ้น มาหน่ อยๆ แล้ ว แต่ ก็เ พี ย งแวบ


เดียวเท่านัน้

ลูกชิ้นที่ ทอดเสร็จถูกถานหวันช่ ิ งเสี ยบร้อยรวมกันเป็ น


ช้วนวางไว้ในตะกร้า ด้านลุ่ยจูกเ็ ติมน้าลงหม้อน้ามันต้มน้าแกง
พอตระเตรียมของขายเรียบร้อย
9
แล้ ว สองนายบ่า ยก็เ ดิ น ไปตลาดด้ ว ยกัน มื อ ของถาน
่ ิ งถือตะกร้าสานจานไม้ไผ่ที่คลุมด้วยผ้าอย่างมิดชิด
หวันช

หญิงสาวภาวนาขออย่าให้ มีเรื่องเหมือนตอนที่ มาครา


ก่อน แต่ยิ่งเดินกลับยิ่งมีสีหน้ าแย่ลงเรือ่ ยๆ

ทาไมวันนี้ ตรงปากตรอกถึงมีทหารยืนเฝ้ ายามมากกว่า


สองคนล่ะ? ตลาดเช้ าของวันนี้ เต็มไปด้วยทหารลาดตระเวน
พอเห็นว่าพวกนางหยิบของออกมาวางขาย ทหารลาดตระเวน
ที่เดินผ่านไปแล้วสองนายก็เดินย้อนกลับมาทันที

่ ิ งจัดการล้างกระบอกน้่ าแกงด้วย
มาจับโจรรึ? ถานหวันช
น้ า สะอาด แล้ ว วางกระบอกน้ า แกงเรี ย งบนตะแกรงเตา
เพื่อให้สะดวกต่อคนที่มารับไปดื่ม

“ไม่ร้วู ่าใต้ เท้ าเซี่ ยคิดอย่างไร ถนนสายนี้ สนั ้ จะตาย ส่ ง


ทหารมาตัง้ มากมายทาไมกัน” ลุ่ยจูบน่ พึมพา

นางเกิ ดความ รู้ สึ ก ไม่ พ อใจใต้ เ ท้ า เซี่ ย ที่ นี่ มี ท หาร


ลาดตระเวนเดินสวนกันไปมาหลายนาย นางเพิ่งจะสานึ กได้ว่า
ตนไม่ ค วรให้ คุณ หนู ม า ลุ่ ย จูห ยิ บ เงิ น ออกมาจากถุง ดอกบัว
จานวนหนึ่ ง แล้วยัดที่เหลือใส่ในมือคุณหนู “เมื่อวานข้าสังเย็ ่ บ

10
ถุงดอกบัวเอาไว้เจ้าค่ะ ข้าเดินไปเอาสักเดี๋ยวก็คงกลับ คุณหนู
ระวังเตาไฟนะเจ้าคะ อยู่ให้ห่างออกมาอีกหน่ อยเถิด”

เตาไฟนี้ ประกอบออกมาอย่างลวกๆ มีไว้แค่ย่างลูกชิ้น


และอัง กระบอกอุ่น น้ า แกงเท่ า นั น้ น้ า แกงในหม้ อ ยัง ร้ อนอยู่
ถานหวันช ่ ิ งเห็นไฟเริ่มอ่อน จึงคีบถ่านอย่างระมัดระวังแล้วโยน
ใส่เข้าไปในเตาสองก้อน

ยายขายขนมเปี๊ ยะแผงข้างๆ เพิ่งเห็นถานหวันช


่ ิ งเป็ น
ครัง้ แรก จึงเขม้นมองนางไม่วางตาอยู่เป็ นนาน

ในปากก็อุท านไอ้ โ หยว ไอ้ โ หยว ออกมา ซ้า ยัง พึ ม พ า


ว่าแม่นางผูน้ ี้ รปู งามมากจริงๆ

เห็ น ถานหวัน่ ชิ งหัน มายิ้ ม ตอบ ยายเฒ่ า ก็โ พล่ ง ถาม


“แม่นาง มีครอบครัวหรือยัง?” ในใจนางคิดว่า หลานชายที่บา้ น
ของตนอายุ สิ บ เจ็ด ยัง ไม่ มี เ มี ย ถึ ง แม้ ใ นใจจะรู้ว่ า หญิ ง สาว
งดงามขนาดนี้ มีหรือจะมองหลานชายของตน แต่ ขอเพี ยงได้
ถามก็ถือว่าไม่เลวแล้ว อาจจะมีบพุ เพสันนิวาสต่อกันก็ได้

ส่วนร้านของลุ่ยจูกไ็ ม่ร้วู ่าเกิดอะไร เช้านี้ การค้าของนาง


ดี เ ป็ นพิ เ ศษ บริเ วณรอบๆ แผงลูกหยกย่ างมี ผ้คู นมามุ ง มาก

11
กว่าเดิม ลุ่ยจูมวั แต่ ยุ่งเลือกถุงดอกบัว พอเดินกลับมาจึงรู้ต้น
สายปลายเหตุ

ไม่ว่าจะเป็ นสมัยไหน ผู้ชายพอเห็นหญิงงามล้วนขยับขา


ไปไหนไม่ได้ ยิ่งตลาดเล็กๆ อย่างนี้ ไม่ร้เู มื่อไรจะได้เห็นหญิง
งามเช่นนี้ ปรากฏตัวขึน้ อีก ทว่าต่อให้

ไปถึงตลาดใหญ่กย็ งั ไม่เคยเจอคนที่ งามเที ยบเคี ยงแม่


นางผู้นี้มาก่อน ขนาดสวมเสื้อผ้าเนื้ อหยาบดูขดั หูขดั ตา แต่พอ
ได้เห็นหน้ าเข้าเทานัน้ ขาของแต่ละคนก็ไม่อยากเคลื่อนย้ายไป
ไหน

ไม่ร้วู ่าเพราะมีหญิงงามยืนขายอยู่หรือเปล่า จึงไม่มีใคร


กล้าต่ อราคาสักคน แม้แต่ ตอนที่ มีพ่อค้ าหาบถุงดอกไม้หอม
ผ่ า นมา นางจะขอซื้ อ กลับ มี ค นยื้ อ แย่ ง กัน จ่ า ยเงิ น เพื่ อ เอา
ดอกไม้มาให้วางไว้บนแผงของนาง บอกว่ามอบให้หญิงงามเสีย
นี่

ถานหวัน่ ชิ งไม่ ต อบอะไร ก้ ม หน้ าก้ ม ตาเลื อ กสิ นค้ า


และพยายามไม่พดู คุยกับผูอ้ ื่นมากนัก

ลูกชิ้นย่างขายหมดตัง้ แต่ยงั ไม่ทนั เที่ ยง ลุ่ยจูกลับมานับ

12
เงินจนมือไม้อ่อนปวกเปี ยก วันนี้ เกินความคาดหมายของนาง
เพราะเป็ นวันที่ ขายของได้กาไรมากที่ สุด ตัง้ สี่ ร้อยกว่าอี แปะ
เพียงแค่ช่วงเช้า

ก็ได้เกือบครึ่งตาลึงเงินแล้ว สองตาลุ่ยจูเปล่งประกาย ไม่


ถึงครึ่งวันแต่ กลับขายได้เท่ ากับรายรับรวมของนางถึงสองวัน
นึ กไม่ถึงว่ากาไรจะดีงามเกินคาดเช่นนี้

วันต่ อมาลุ่ยจูตระเตรียมสินค้าไว้มากหน่ อย เพราะจู่ๆ


่ ิ บตา ครัน้ พอลูกหยกย่างโด่ง
การค้าของนางก็ร่งุ เรืองในชัวพร
ดังติดตลาดเล็กๆ กับเขาบ้าง ก็มีทหารสามสี่นายเดินเข้ามา

หนึ่ งในนัน้ สวมเพียงชุดลาลอง มีดาบแนบติดมาระหว่าง


เอว ตาดุ ข นคิ้ ว แน่ น วางตัว ราวกับ เป็ นหัว หน้ าของทหาร
ทัง้ หมด เขาสะบัดเสื้อคลุมยาวแล้ว นั ง่ ลงข้างๆ เตาไฟ ปิดกัน้
ผู้คนที่ จะเข้ามากินดื่ม ใบหน้ าเคร่งขรึมเย็นชา สายตาจดจ้อง
ไปยังถานหวันช ่ ิ งไม่กะพริบ เขามองนางกาลังเทน้าแกงสดใหม่
ใส่ กระบอกด้ ว ยตัว เอง มือเรี ย วที่ ประคองชามอยู่มีสี ข าวอม
ชมพูด้วยแรงลมหนาว แม้แต่เล็บมือก็ยงั เป็ นสีชมพูอ่อน

่ ิ งไม่สบาย
สายตาประหนึ่ งแทงทะลุเช่นนี้ ทาให้ถานหวันช
ใจเล็กน้ อย นางอาศัยยกกระบอกน้ า แกงปิดหน้ าแล้วเอี ยงตัว
13
หลบสายตาทิ่มแทงของคนผูน้ ัน้

ลุ่ ย จู ที่ อ ยู่ ข้ า งๆ สัง เกตเห็น นานแล้ ว นายทหารที่ ม า


ทัง้ หมดนี่ ไม่กินลูกหยกย่าง เพียงซดน้าแกงร้อน โดยเฉพาะคน
ที่วางตัวเป็ นหัวหน้ า สองตาเอาแต่จ้องมองคุณหนู ดื่มหนึ่ งชาม
ก็เทให้อีกชาม จนถึงชามที่สามก็ยงั ไม่ไปอีก

ลุ่ ย จู โ มโหกัด ฟั น แน่ น จะจงใจนั ง่ อยู่ ต รงนี้ ไม่ ไ ปไหน


เลยหรือ นางเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไล่พวกเขาเสียด้วย

14
13 ทางตัน

ในระหว่างนัน้ ก็มีคนมาซื้อลูกหยกย่าง

ผู้ที่ ม าซื้ อ เห็ น ถานหวัน่ ชิ งงดงามจึ ง จับ จ้ อ งนางด้ ว ย


สายตาหลงใหล ขณะที่ กาลังจะจายเงิ น ก็ทาหน้ า ทะเล้ น ด้ วย
ท่าทางอารมณ์ ดี ฉวยโอกาสตอนที่ ยื่นเงินเข้าใกล้หญิงสาว จง
ใจให้ปลายนิ้วสัมผัสกับนิ้วของนาง

ถานหวัน่ ชิ งรี บ ก้ ม หน้ า ชัก มื อ กลับ เข้ า ไปซ่ อ นไว้ ใ น


ชายเสื้อ สาหรับนางมันเป็ นการกระทาที่น่ารังเกียจเกินจะรับได้
หญิงสาวหันไปจัดช้วนลูกชิ้นและกระบอกน้ าแกงโดยไม่สนใจ
อีกฝ่ าย กระทังชายผู
่ ้นัน้ กินเสร็จแล้วลุกขึ้น เหล่าทหารก็ยงั คง
นัง่ นิ่งไม่ไปไหน

ไม่รวู้ ่าเป็ นภาพลวงตาหรือไม่

สายตาของนายทหารที่ นัง่ อยู่ตรงข้ามเพิ่มความเย็นชา


และมื ด ครึ้ ม ยิ่ ง กว่ า เดิ ม เป็ นสายตาเต็ ม เปี่ ยมไปด้ ว ยพลัง
อานาจที่ ทาให้ คนไม่อาจมองข้าม หนาซ้ายังดูเหมือนว่าพลัง
เหล่านัน้ จะส่งผ่านไปยังร่างของทหารที่ ติดตามเขามาด้วย ทา

1
ให้ท่าทางของทหารกลุ่มนี้ ขดั กันกับผูค้ นที่เดินอยู่โดยรอบอย่าง
ชัดเจน

ผู้ที่ นั ง่ อยู่ ร าวกับ แผ่ ไ อเย็น หนาวสะท้ า นออกมา จน


ขนาดคนขายของรายรอบยังรู้สึกและมองออกถึง ความเงียบ
เชียบอย่างผิดปกติบริเวณนี้

ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มาถึงก็นัง่ นิ่งไม่พดู ไม่จา ทา


ให้บรรยากาศกลืนไม่ เข้าคายไม่ออกเสียเหลือเกิน

ด้ วยสถานะจอมปลอมของนางกั บ ลุ่ ยจู พอเห็ น


นายทหารนอกเครื่องแบบผู้นี้จึงทาให้ขาดความมันใจและหวั
่ น่
กลัวอยู่มาก

เพราะไม่ว่าจะดูอย่างไรผู้ที่นัง่ อยู่ตรงข้ามนี้ กไ็ ม่น่าใช่พล


ทหารธรรมดา น่ าจะเป็ นนายทหารที่ มียศสูง เพียงแต่ ไม่ร้วู ่ามี
ตาแหน่ งอะไรในกองทัพภายใต้การบังคับบัญชาของใต้เท้าเซี่ย
แม้ ใ นใจจะเต็ม ไปด้ ว ยความสงสัย แต่ ก็ไ ม่ ส ามารถล่ ว งเกิ น
จนอาจทาให้ผิดใจกับเขาได้

ลุ่ยจูเองก็ได้แต่แอบก่นด่าอีกฝ่ ายอยู่ในใจ ทาไมถึงดื้อไม่


ยอมไปอีกนะ นางเองก็ไม่กล้าออกปากขับไล่ ทัง้ ยังไม่กล้าชักสี

2
หน้ าให้อีกฝ่ ายเห็นด้วย จาต้องแสร้งก้มไปหยิบถ่านเหมือนว่า
กาลังทางานแล้วหาเรือ่ งคุยกับร้านข้างๆ ไปเรื่อยเปื่ อย

ถานหวันช ่ ิ งที่ ยุ่งมาตัง้ แต่เช้ามืด ตอนนี้ ร้สู ึ กอ่อนระโหย


โรยแรงเป็ นที่ สุด นางหิวจนท้ องร้องประท้ วง ถ้าเป็ นยามปกติ
นางคงได้ พ กั ไปตัง้ นานแล้ ว อย่ า งน้ อ ยก็ไ ด้ นั ง่ ซดน้ า แกงสัก
หน่ อยให้ ชุ่มคอกระเพาะอุ่น ทว่าทหารตรงหน้ า ทาให้ ไม่ อ าจ
วางใจ จึงได้แต่ตงั ้ สติให้มนคอยรั
ั่ บมือกับสถานการณ์อึมครึมนี้

หญิงสาวก้มหน้ าคนน้าแกงเงียบๆ อาพรางสายตากังวล


แกมตื่ น ตระหนกของตน พยายามบอกตัว เองไม่ ใ ห้ คิ ด มาก
เพราะที่ผา่ นมาหลังจากพวกนางเข้าเมืองก็ไม่ได้มีเหตุร้ายอะไร
เกิดขึน้

ถึงนางกับลุ่ยจูจะไม่ได้ซ่อนตัวแต่ กถ็ ือว่าไม่ต่างกันนั ก


เพราะแต่ ไ หนแต่ ไ รมาพวกนางก็ไ ปกลับ เพี ย งแค่ ที่ บ้ า นกับ
ตลาดนัด ไม่เคยทาตัวมีปัญหา ไม่เคยทะเลาะวิวาทมีเรื่องหรือ
มีปากเสี ยงผิดใจกับผู้ใด ไม่ได้แสดงพิรุธอะไรออกมา พอคิด
่ ิ งจึงปลงตกและปล่อยวางลงได้บา้ ง
มาถึงตรงนี้ ถานหวันช

ทัง้ อากาศร้อนทัง้ ความกดดันในใจทาให้เหงื่อผุดพราว


จอนผมที่ขมับของหญิงสาวมีเหงื่อชื้นบาง นางยกมือเปื้ อนถ่าน
3
ขึ้นเช็ดเหงื่อทาให้ใบหน้ าเปรอะเปื้ อนคราบดาดูขะมุกขะมอม
เล็กน้ อย จนดูคล้ายสีหน้ ากาลังหม่นหมองเพราะสิ้นหวัง

น้ า แกงอุ่ น เสร็ จ อี ก รอบแล้ ว ถานหวั น่ ชิ งประคอง


กระบอกร้ อ นขึ้ น มา แล้ ว ค่ อ ยๆ เทน้ า แกงลงชามเปล่ า ช้ า ๆ
ก่อนจะหยิบเหล็กคีบเขี่ยถ่านในเตาไฟอย่างระมัดระวัง พลันได้
ยินเสียงผูช้ ายสายตาเย็นชาที่นัง่ นิ่งเงียบมานานเอ่ยปาก

“จางเซี่ยน!”

“ขอรับ!” นายทหารที่อยู่ด้านขวาลุกออกมาทันที

ผู้ชายคนนัน้ เอ่ยเสียงเรียบ ราวกับพูดให้จางเซี่ ยนได้ยิน


คนเดี ย ว แต่ หญิง สาวอยู่ใกล้ ปานนั น้ จึ ง เหมื อนพูดให้ น างฟั ง
ด้วย น้าเสียงที่เอ่ยเนิบช้า

“เพื่อป้ องกันคนที่ หลบเลี่ ยงภาษี ที่นาและภาษี แรงงาน


ตัง้ แต่ บดั นี้ เป็ นต้ นไปให้ ต รวจสอบสามะโนครัวของประชากร
ทัง้ หมดที่ เข้าออก ‘ตลาด’ ให้เปรียบเที ยบโฉมหน้ ากับอายุบน
สามะโนครัวด้วย หากพบว่ามีการหลบเลี่ยงภาษี ที่นาและภาษี
แรงงาน หรือสวมชื่อแทนที่ สามะโนครัวผู้อื่น ให้ต้องโทษอย่าง
หนักโดยไม่มีการผ่อนผัน”

4
่ ่ ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้ายสัน้ ๆ แต่
เขาหยุดชะงักชัวครู
เน้ นยา้ ชัดเจนทุกถ้อยคา “นักบวชนักพรตก็ไม่มีข้อยกเว้น!”

ทันที ที่ถานหวันช ่ ิ งได้ยินคาว่า ‘สวมชื่อแทนที่ ’ นางก็กา


เหล็กคีบถ่านในมือแน่ น ประโยคสุดท้ายยิ่งทาให้มือที่กาลังเขี่ย
ถ่านในเตาไฟสันสะท้่ า นอย่ างห้ ามไม่ อยู่ เศษถ่ านถูกเผาจน
ปะทุ สะเก็ดไฟกระเด็นตกลงมาที่ ข้อมือนาง ชายสี หน้ าเย็นชา
เห็นภาพนี้ เข้าก็ลุกขึน้ ทันควัน

โชคดีที่มีชายเสื้อกัน้ ไว้ สะเก็ดไฟจึงเพียงเผาผ้าจนไหม้


เป็ นรู ไม่ได้ หล่นลงบนข้อมือโดยตรง ถานหวันช ่ ิ งไม่ได้ สนใจ
นางเม้มริมฝี ปากแน่ นแล้วเงยหน้ าขึ้นพลางมองไปยังชายผู้นัน้
ด้วยสายตาสันไหว ่ เป็ นครัง้ แรกที่ นางได้มองหน้ านายทหารผู้
นัน้ อย่างละเอียด

พลังอานาจในตัวคนช่างเป็ นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ก่อน


หน้ าที่ ก้มศีรษะรับปากรับคา ไร้ซึ่งจิตใจที่ หยิ่งทะนงในศักด์ ิ ศรี
ท าเพี ย งส่ ง ชามน้ า แกงให้ บ รรดาลู ก ค้ า ก็ดูเ ฉกเช่ น ชาวบ้ า น
ธรรมดาทัวไป ่ ทว่าเพียงพริบตาที่เงยหน้ าหลังเหยียดตรง กลับ
เผยให้เห็นความสง่างามสูงส่ง จนคนอยู่ใกล้ร้สู ึกได้ถึงความตา่
ต้อยของตัวเอง

5
ทหารหลายนายในที่ นัน้ รู้สึกราวกับว่าพวกตนกาลังเจอ
เทพธิดา เมื่อหญิงสาวที่ อยู่ในชุดเสื้อผ้าเนื้ อหยาบตรงหน้ าเงย
ขึ้นมามอง โฉมสะคราญที่ งดงามเป็ นเอกขนาดนี้ ยากที่ ใครจะ
มองผ่านไปได้ หากเที ยบกับหญิงอื่นนับว่านางโดดเด่นจับตาก
ว่ามาก แล้วเหตุใดหญิงงามถึงมาอยู่ในตลาดเช่นนี้ ได้?

่ ิ งกาลังมองคนที่อยู่ตรงข้ามกับตน บุรษุ ผูน้ ัน้ ก็


ถานหวันช
กาลังจ้องมองนางเช่นกัน สายตาดาขลับดุจน้าหมึกไม่ต่างจาก
ความมืดใต้ท้องทะเลลึก ใบหน้ าเย็นชาเมินเฉย ยากจะคาดเดา
ความคิด ไม่ว่าถานหวันช ่ ิ งจะพยายามประเมินมองอย่างไร ก็
ยังเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ ายต้องการอะไรกันแน่

จนกระทังคนฝั
่ ง่ ตรงข้ามหยุดสงครามเย็น เขาลุก ขึ้นยืน
แล้วเดินนากลุ่มทหารจากไป

่ ิ งกาเหล็กคี บเย็นเฉี ยบในมือแน่ นขึ้น อาศัย


ถานหวันช
ความเย็นกดความกังวลลงไปยังก้นบึง้ ของหัวใจ

เห็ น ได้ ช ัด ว่ า ลุ่ ย จู ก็ ไ ด้ ยิ น ค าพู ด ของคนผู้นั ้น ชัด เจน


เช่ นกัน นางตกใจจนใบหน้ าขาวซี ด ยืนนิ่งที่ เดิมไม่กล้ าขยับ
เขยือ้ นอยู่นาน

6
่ ิ ง ก็คิ ด บางอย่ า งได้ นางรี บ วาง
ตอนนั ้น เองถานหวันช
เหล็กคีบลงทันที หันไปหยิบถังไม้มาวางใกล้ๆ ตัวโยนกระบอก
น้ าแกงกับชามลงถังแล้วดับไฟอย่างรวดเร็ว พลางกระซิบกับ
ลุ่ยจูที่กาลังเหม่อลอย

“อาจู พวกเราอาจจะถูก เปิ ดเผยตัว ตนแล้ ว ต้ อ งรี บ


กลับไปบ้านเดี๋ยวนี้ เลย เร็ว!” พวกนางต้องรีบ ไม่สามารถรัง้ อยู่
ได้แม้แต่อึดใจเดียว

เสียงถานหวันช ่ ิ งเบามาก ทว่าลุ่ยจูกลับตื่นตกใจราวกั บ


ได้ ยินเสี ยงกึ กก้ องปานฟ้ าร้อง สี หน้ าเปลี่ ยนเป็ นซี ดขาว เก็บ
ข้าวของตามถานหวันช ่ ิ งด้วยความเร่งรีบ กระทังถ่
่ านที่เหลือตัง้
ครึ่งถังก็ยงั ทิ้งไว้ไม่ได้เอากลับไปด้วย ทาประหนึ่ งกาลังหนี ออก
จากตลาด

ระหว่ า งทางกลับ ไม่ มี ใ ครพูด อะไร ลุ่ ย จู รู้สึ ก อึ ด อัด ใจ


ทาท่าอยากจะพูดหลายครัง้ แต่กห็ ยุดชะงักไปทุกรอบ นางเห็นสี
หน้ าจริงจังและหนั กแน่ นของคุณหนู ก็นึกถึงคาที่ อีกฝ่ ายเคย
บอกไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามห้ามพูดเรื่องฐานะที่แท้จริงนอกบ้าน
อย่ า งเด็ด ขาด นางเกื อ บจะพูด โพล่ ง ออกไปแต่ นึ กขึ้ น มาได้
เสียก่อน จึงรีบกลืนคาพูดลงคอไปได้ทนั

7
ปกติ การเดิน เท้ ากลับที่ พกั ใช้ เวลาสัน้ ๆ เพี ย งสองเค่ อ
แต่ครานี้ พวกนางกลับรู้สึกว่าระยะทางช่างยาวไกลจนอยากจะ
มีขามากกว่าสองขาใจจะขาด ทันทีที่เข้าไปในบ้าน ถานหวันช ่ ิง
ก็วางถังไม้ลง เดินตรงไปที่ ห้องครัวโดยไม่พูดไม่จาแล้วไปนั ง่
ยองๆ เปิดตู้กบั ข้าว หยิบเงินเก็บที่ เหลือจากการน่ าใบไม้ทอง
ไปแลกออกมา

จากนั น้ นางก็ไปเปิดไห หยิบเหรี ยญด้ านในออกมาห่ อ


ด้วยผ้าเช็ดหน้ าพร้อมกับเอ่ ยเร่งลุ่ยจู “อาจู เจ้าไปเก็บเสื้อผ้า
เดี๋ยวนี้ พวกเราต้องรีบออกจากเมือง ของที่เกินความจาเป็ นไม่
ต้องเอาติดตัวไป เร็วเข้า!”

สาวใช้ รี บ ท าตามค าสัง่ ทัน ที โ ดยไม่ แ ม้ แ ต่ จ ะหยุ ด คิ ด


ใบหน้ ายังคงซี ดเผือด นางหยิบผ้าออกมาด้วยมือที่ สนเทา ั่ เอา
เสื้อผ้าของคุณหนูและของตัวเองวางบนผ้า แบบลวกๆ แล้วมัด
ห่อผ้าสองสามทบ

ลุ่ยจูเห็นคุณหนูหยิบแต่ เงิน อะไรอื่นล้วนไม่เอาไปด้วย


สักอย่าง จึงรีบคว้าห่อผ้าแล้ววิ่งตามหลังเจ้านายไป

ตอนเดินออกจากบ้าน ลุ่ยจูอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง
ด้วยทาทางล่าบากใจและอาลัยอาวรณ์ อ่ างข้าวยังมีข้าวสาร
8
เก็บไว้เต็ม ฟื นในห้องครัวก็มาก ชายคาบ้านแขวนหมึกยักษ์ไว้
ในไหก็บรรจุน้ ามันไว้เต็มเช่นกัน ทัง้ หมดทัง้ มวลล้วนเป็ นสิ่งที่
พวกนางเก็บ สะสมที ล ะเล็ก ละน้ อย เพราะเข้ า ใจว่ า ที่ นี่ คื อ
สถานที่พกั พิงแห่งสุดท้ายของชีวิตที่ปลอดภัยที่สดุ สาหรับ

พวกตน แต่ ตอนนี้ กลับต้ องทิ้งไว้ ถึงคุณหนู จะตัดใจทิ้ง


ได้ลง แต่นางนัน้ กลับเจ็บปวดและอัดอัน้ ตันใจนัก

่ ิ งไร้รอยยิ้ม แม้ท่าทางภายนอก
ยามนี้ ใบหน้ าถานหวันช
จะแข็งแกร่งไม่สะทกสะท้าน แต่ในดวงตากลับแห้งผากอย่างไม่
อาจเก็บงาซ่อนเร้นความกังวล

ลุ่ยจูยงั มองสถานการณ์ ไม่ชดั เจน นางก้าวไปเดินข้างๆ


คุณหนู ของตนพลางกระซิบประหนึ่ ง อธิบายให้ ตวั เองฟั งเสี ย
มากกว่ า “น่ าขัน สิ้ น ดี น ะเจ้าคะ ข้ านึ กว่ านายทหารผู้นั น้ เป็ น
ผู้ใต้ บงั คับบัญชาของใต้ เท้ าเซี่ ย คิดไม่ถึงว่าจะเป็ นท่ านแม่ทพั
หัวเมืองมาเอง”

“เจ้าก็ได้ยินที่ เขาพูดทัง้ หมดแล้ว นั บแต่ นี้เป็ นต้ นไปให้


ตรวจสอบสามะโนครัวทุกคน ไม่ว่าจะเป็ นชาวนา พ่อค้าแม่ค้า
หรือประชาชนคนทัวไปก็
่ ตาม หนาซ้าแม่ทพั หัวเมืองนั น่ กลับ
กาหนดนักพรตนักบวชรวมอยู่ด้วย”
9
แท้ จริงแล้วตัง้ แต่ อดี ต การจัดเก็บภาษี ล้วนเต็มไปด้วย
ช่องโหว่ วิธีหลีกเลี่ยงภาษี มีมากมาย การเป็ นนักบวชก็เป็ นหนึ่ ง
ในนัน้ แต่เมื่อเทียบกับพวกขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บงั หลวงแล้ว วิธี
เหล่านัน้ ถือเป็ นเรื่องเล็กน้ อยไปเลย ไม่ค้มุ ค่าที่จะเอาผิด ต่อให้
พวกนางมาจากอารามจริงแต่จะไปหาใครมาช่วยยืนยันตัวตน
ได้เล่า เมื่อมีการจงใจตรวจสอบฐานะ จะช้าหรือเร็วก็ย่อมต้อง
ส่อพิรธุ อยู่ดี

“ดังนั น้ อาจกล่าวได้ว่านี่ เป็ นโอกาสเดี ยวของพวกเราที่


จะออกจากเมือง พวกเราถึงต้องรีบอย่างที่ สุด ไม่อย่างนัน้ หาก
ถูกตรวจสอบขึน้ มาวันใดวันหนึ่ ง เจ้ากับข้าต้องกลับเข้าคุกเป็ น
นักโทษอีกรอบแน่ ”

่ ิ งอธิบายกระชับอย่างรวดเร็ว
ถานหวันช

ลุ่ยจูกไ็ ด้ แต่ ฟัง ทว่ายิ่งได้ฟังก็ยิ่งตื่ นกลัวเข้าไปใหญ่จน


ริมฝี ปากสันระร
่ ิ ก แต่จะโทษนางก็ไม่ได้ เพราะหากพูดถึงคุกคง
มีน้อยคนนักที่จะไม่กลัว

เริ่ มแรกเมื่ อ นายท่ า นตระกู ล ถานได้ ร ับ โทษถูก ยึ ด


ทรัพย์สิน สมาชิกในครอบครัวที่ เป็ นหญิงก็มีคนคุมมาคอยเฝ้ า
ไม่เคยเข้าคุกตะราง ดังนัน้ ยามนี้ ถ้าเป็ นจริงดังที่ คุณหนู กล่าว
10
พวกเราก็คงหนี ไม่พ้นเข้าคุกตะรางแน่ แล้ ว ซึ่ ง มัน น่ า กลัวยิ่ง
กว่าเรื่องความตายเป็ นไหนๆ เพียงแค่คิดมือเท้าก็แทบจะเป็ น
อัมพาตแล้ว

่ ิ งสังเกตเห็นลุ่ยจูมีท่าที แปลกๆ จึงยื่น


“อาจู!” ถานหวันช
มือไปกุมมือของนางไว้แล้วออกแรงบีบ ในใจรู้ว่าตัวเองใจร้อน
และพูดมากเกินไป หญิงสาวกล่าวปลอบอี กฝ่ ายด้วยน้ า เสี ยง
จริงจังหนักแน่ นแบบไม่สะทกสะท้าน

“เจ้าไม่ต้องกลัวนะ หนทางข้างหน้ ายังไม่ถึงกับตี บตัน


พวกเรายังมีหนทางแก้ไข ตอนนี้ พวกเราจะหยุด กลางคันไม่ได้
เจ้าต้ องตัง้ สติไว้ ใกล้ถึงประตูเมืองแล้ว พอพ้นเมืองนี้ ไปพวก
เราก็จะปลอดภัย”

กระบอกตาของลุ่ยจูเริ่มแดง แววตาหวันไหวด้ ่ วยความ


หวาดกลัว นางพยายามพยัก หน้ า กลัน้ น้ า ตาเอาไว้ ใ นอก
“คุณ หนู อ ย่ า ได้ ก งั วล ข้ า เข้ า ใจแล้ ว ข้ า จะไม่ ส่ อ พิ รุธ ออกมา
เด็ดขาด”

นางเช็ดใบหน้ ากล่าวอีกว่า “ถ้าคราวนี้ พวกเราออกนอก


เมื อ งไปได้ บ่า วว่ า พวกเราสู้ห าวัด วาอารามสัก แห่ ง เพื่ อบวช
จริงๆ แล้วเอาใบรับรองการบวชที่ถกู ต้องมา ยังดีกว่าต้องคอย
11
หวาดวิตกอกสันขวั
่ ญหายทุกวันอย่างนี้ ”

ถานหวันช่ ิ งได้ยินลุ่ยจูกล่าวเช่นนัน้ ก็ร้สู ึกหนักใจอยู่บ้าง


นางพยักหน้ ายิ้มรับ...นับว่าเป็ นทางออกอย่างหนึ่ ง

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ผู้นั ้น พูด ออกมาเหมื อ นไม่ ไ ด้ ต ัง้ ใจ แต่ ก าร


ที่ นางมีทาที ตื่นตูมรีบร้อนก็ไม่ต่างจากการเปิดโปงตัวเอง เมื่อ
คิ ด ถึ ง เหตุ ก ารณ์ นั น้ อย่ า งถี่ ถ้ ว น ยิ่ ง รู้สึ ก ว่ า มัน บัง เอิ ญ เกิ น ไป
หรือไม่

คนที่ เอาแต่ ดื่มน้ าแกงอาจจะแค่พูดโพล่งออกมาอย่ าง


นัน้ เองหรือเปล่า เป็ นไปได้ไหมว่านางจะคิดมากเกินไป

ทว่าตอนนี้ นางไม่มีเวลาวิเคราะห์เรื่องพวกนี้ แล้ว เพราะ


ไม่ว่าจะคิดมากหรือไม่กต็ ้องเร่งหนี จากที่นี่ ยิ่งเร็วยิ่งดี

เมื่อใกล้ถึงประตูทางทิศใต้ กเ็ ห็นกองทหารเฝ้ าอยู่หน้ า


ประตู ใบหน้ าของถานหวันช ่ ิ งถึงกับเปลี่ ยนสี ด้วยความงุนงง
ก่อนหน้ าที่ วางแผนไว้มากมายตอนนี้ กลับสูญสลายกลายเป็ น
หมอกควัน ประตูทิ ศใต้ อดั แน่ นไปด้ วยทหาร หากจะออกไป
ต้องแสดงสามะโนครัว หนังสือแนะนาก็ใช้ไม่ได้

12
่ ิ ง พอมองเห็นก็ยิ่งหนาว
ลุ่ยจูหยุดฝี เท้ าตามถานหวันช
สะท้านในใจ ตื่นตระหนกอย่างห้ามไม่อยู่

“ทา ไมตอนนี้ จะออกจากเมืองยังต้องตรวจสามะโนครัว


ด้วย นี่ ...นี่ พวกเราจะทาอย่างไรดีเจ้าคะ?”

ถานหวัน่ ชิ ง กัด ฟั น แน่ น ดึ ง ลุ่ ย จู ย้ า ยข้ า มฟากไปทาง


ประตู ทิ ศ ตะวัน ออก พอไปถึ ง ก็พ บเหตุ ก ารณ์ แ บบเดี ย วกัน
แม้แต่ ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่เป็ นขุนนางก็ยงั ต้ องลงจากหลังม้า
เพื่อแสดงป้ ายฐานะ คิดจะปะปนอยู่ในกลุ่มผู้คนเพื่อออกนอก
เมืองทาได้ยากยิ่ง

สุดท้ายพวกนางจึงไปประตูเมืองซึ่งเป็ นถนนขนส่งสินค้า
และอาหาร ประตูนี้ ก็ไ ม่ ไ ด้ ป ล่ อ ยปละละเลยเช่ น กัน มี ท หาร
กวดขันอย่างเข้มงวดโดยไม่พดู ไม่จา

ตอนที่พวกนางเร่งรีบไปถึง พอดีกบั ที่มีทหารถืออาวุธกด


พ่ อค้ าต่ างเมื องลงกับ พื้น เหตุการณ์ รุน แรงเกิด ขึ้น กะทัน หัน
จากนั ้น พ่ อ ค้ า ก็ถ ูก พลทหารลากเข้ า ไปในกรงขัง นั ก โทษที่
เคลื่อนไปตามถนนมุ่งเข้าเมือง

จังหวะที่ กลุ่มชายอามหิตเดินผ่านพวกนางไป หญิงทัง้

13
สองก็เห็นคราบเลือดเกรอะกรังบนร่างของพ่อค้าผู้นัน้ แล้วยัง
ทิ้งรอยเลือดหยดเป็ นทางยาวไปตามถนนอีกด้วย

ลุ่ยจูถึงกับตัวสันสะท้
่ าน ดึงคุณหนูถอยกรูดออกมาด้วย
ท่าทางเสียขวัญ อยากจะอยู่ให้ห่างจนใจจะขาด

ถานหวันช ่ ิ งเห็นฉากนี้ จิตใจพลันหนั กอึ้ง ประตูทางทิศ


เหนื อเป็ นที่ ตงั ้ ของค่ายทหารม้า ห้ามไปเด็ดขาดเพราะออกไป
ไม่ได้แน่ นอน พอถึงตอนนี้ นางก็เริ่มเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าพวก
ตนมาช้าไปก้าวหนึ่ ง ทุกประตูเมืองล้วนผ่านออกไปไม่ได้เลย
และใบสามะโนครัวนั กพรตหญิงในห่ อผ้าก็ไม่ควรนาออกมา
แสดงตัวเป็ นอย่างยิ่ง

หญิ ง สาวทัง้ สองไร้ ที่ ไ ป ไร้ ค วามหวัง ที่ จ ะได้ อ อกนอก


เมือง จาต้องวกกลับไปตัง้ หลักที่บา้ น

14
14 ไม่ยอมจำนน

เมื่ อวำนนำงยัง รู้สึ กว่ ำ ห้ องสว่ ำงอบอุ่น เวลำนี้ เ หมื อ น


ควำมมืดสลัวค่อยๆ คืบคลำนเข้ำมำที ละเล็กที ละน้ อย อำกำศ
พลันหนำวเหน็บดุจอุโมงค์ที่เก็บน้ำแข็ง

่ ิ งอ่ อนระโหยโรยแรง ร่ำงกำยและ


สี หน้ ำของถำนหวันช
จิตใจเหนื่ อยล้ำอย่ำงมำก นำงทิ้งร่ำงอ่อนแรงลงบนที่ นอน ใน
หัวสมองคิดถึงแต่ค่ำพูดไม่กี่ประโยคของใต้เท้ำเซี่ยซำ้ ไปซำ้ มำ

ภำษี ที่นำ พ่อค้ำแม่ค้ำ ตรวจสอบสำมะโนครัว รวมไปถึง


นักบวชนักพรต? แล้วยัง...ตลำดทุกแห่ง

จู่ ๆ ถำนหวัน่ ชิ งก็ คิ ดบำงอย่ ำ งออก ประโยคที่ น ำง


มองข้ำมไป ตอนนัน้ เขำเอ่ยถึงตลำดทุกแห่ง แต่ไม่ได้พดู ถึงทัว่
ทัง้ เมือง เขำพุ่งเป้ ำไปที่เกษตรกร พ่อค้ำวำณิชย์ที่หลีกเลี่ยงกำร
จ่ ำ ยภำษี อ ำกร แล้ ว ท ำไมถึ ง ต้ อ งเอ่ ย เพิ่ มเรื่ อ งตรวจสอบ
สำมะโนครัวนักบวชนักพรตเข้ำไปด้วย?

จำกกำรคำดคะเนของนำง ชำวบ้ำนที่ ตงั ้ ถิ่นฐำนอยู่ใน


เมืองมีไม่ถึงหมื่น...ประมำณแปดพันได้ ไม่นับจำนวนคนที่ เข้ำ

1
มำในเมื อ งทุ ก วัน หำกจะต้ อ งซัก ถำมและสอบสวนทัง้ หมด
จริงๆ คงต้องใช้เวลำและใช้ทหำรเป็ นจำนวนมำก คงไม่ใช่เรือ่ ง
ที่จะทำได้ในระยะเวลำอันสัน้

นำงพยำยำมครุ่น คิ ด แบบแม่ ท ัพ หัว เมื อ ง ได้ แ ต่ ค ำด


เดำควำมคิดและควำมต้องกำรของเขำ

เขำต้องกำรจัดกำรเรื่องภำษี ? เป็ นเพรำะเสบียงงัน้ หรือ?

สถำนที่ แ ห่ ง นี้ เป็ นเสบี ย งอำหำรของเมื อ ง อำหำร


เปลี่ยนเป็ นเงิน หำกขำดเงินเท่ำกับขำดเสบียงอำหำร หำกเริ่ม
จับเรื่องภำษี เกรงว่ำตอนนี้ เงินในคลังของเมืองเว่ยอันคงขำด
แคลนไม่น้อย ใต้เท้ำเซี่ยจึงต้องเลือกทำเช่นนี้

เขำไม่ ไ ด้ มุ่ ง เน้ นเฉพำะเจำะจงไปที่ ต ัว บุ ค คล แต่ เ ป็ น


พ่อค้ำแม่ค้ำในตลำดเป็ นส่วนใหญ่ รวมไปถึงกลุ่มที่ มีแนวโน้ ม
จะหลบเลี่ยงภำษี ดังนั น้ วันนี้ พอเขำมำที่ ตลำดจึงเอ่ ยประโยค
นั น้ ออกมำ กำรขนส่ งเสบียงอำหำรเข้ำมำในเมืองจึงเข้มงวด
เป็ นอย่ำงยิ่ง

พอคิดได้ดงั นี้ ใจของนำงก็เริ่มผ่อนคลำยลง สถำนะของ


ตนกับลุ่ยจูยงั ไม่ได้ถกู เปิดโปงแต่อย่ำงใด เป็ นนำงที่ ตกใจและ

2
คิดมำกเกินไป หญิงสำวอดไม่ได้ที่จะนวดขมับตัวเอง

หำกเป็ นเรื่องแค่ นี้จริงก็คงดี ไม่น้อย จำกนี้ พวกนำงคง


ต้ องดำเนินชี วิตไปตำมปกติ ทัง้ ยังต้ องดูสถำนกำรณ์ ไปอีกสัก
วันสองวัน รอฟั งข่ำวว่ำทหำรรักษำประตูเมืองจะผ่อนปรนเรื่อง
กฎระเบียบลง

เมื่อใด พอถึงตอนนั น้ กำรออกจำกเมืองก็น่ำจะง่ำยขึ้น


ดังนัน้ สิ่งที่ควรทำก็คือพยำยำมทนล่ำบำกไปอีกสักระยะ

ทว่ำระยะนี้ คงไม่อำจออกไปตัง้ แผงขำยของได้ ซึ่ งก็ถือ


เป็ นเรื่องดีเพรำะจะได้ไม่ต้องคอยหวำดวิตกจนจิตใจไม่สงบสุข
แต่ หำกต้ องว่ ำ งเว้ น กำรท ำงำนไปนำนๆ ก็ย่ อมไม่ ดี แน่ เมื่ อ
จิตใจเริ่มผ่อนคลำย ท้องก็เริ่มหิวขึน้ มำ

ตอนที่ ถ ำนหวันช่ ิ ง ลื มตำขึ้น ก็เ ห็น ลุ่ย จูยื นอยู่ข้ ำงเตี ยง


ดวงตำแดงกำ่ กำลั งมองมำที่ นำงรำวกับอยำกจะเรียกแต่ กไ็ ม่
กล้ำ ได้แต่รอ้ งไห้สะอึกสะอื้น ไม่พดู อะไรแม้แต่คำเดียว ใบหน้ ำ
ซีดเผือดประหนึ่ งวันนี้ เป็ นวันสิ้นโลกก็ไม่ปำน

เมื่อเห็นนำยสำวลืมตำขึน้ ลุ่ยจูกย็ ิ้ มออกมำเล็กน้ อย ทว่ำ


ใบหน้ ำกลับดูเหยเกนัก ไม่น่ำมองยิ่งกว่ำตอนที่ร้องไห้เสียอีก

3
ลุ่ยจูปีนขึน้ มำนัง่ ด้ำนข้ำงบนเตียงพลำงเอ่ยถำม “คุณหนู
ท่ ำนคิดวิธีได้แล้วใช่หรือไม่? พวกเรำต้ องทำอย่ำงไรจึงจะหนี
ออกไปจำกเมืองนี้ ได้เจ้ำคะ?”

่ ิ งไม่ได้ตอบคำถำมที่ แฝงด้วยควำมหวังอย่ำง
ถำนหวันช
เต็มเปี่ ยมของลุ่ยจู เพียงแค่กล่ำวด้วยเสียงแหบแห้ง “ในครัวมี
หมี่บำ้ งไหม? ทำมำสักชำมเถอะ ข้ำหิวจนไม่มีแรงจะพูดแล้ว”

เพี ย งไม่ น ำนมื อ ขำวก็ว ำงชำมหอมฟุ้งลงบนโต๊ะ อย่ ำ ง


รวดเร็ ว ทั น ใจ ฝี มื อ ของลุ่ ย จู ใ นตอนนี้ ยำกจะหำคนมำ
เที ย บเที ย ม สี ส ัน รสชำติ ยิ่ ง ไม่ ต้ อ งพูด ถึ ง อร่ อ ยอย่ ำ บอกใคร
เชี ยว ลุ่ยจูวำงชำมลง จำกนัน้ ก็เดินไปประคองคุณหนู ของตน
ลงจำกเตียง

นำงรู้ว่ำร่ำงกำยคุณหนูเหนื่ อยล้ำและอ่อนระโหยโรยแรง
ง่ำย ตำมธรรมดำแล้วต้องพักผ่อนให้มำก แต่ สองวันนี้ กำรค้ำ
เจริญรุง่ เรือง ขำยดีเป็ นอย่ำงมำก คุณหนูย่อมต้องเหน็ ดเหนื่ อย
หน่ ำซ้ ำ ยัง ต้ อ งตกใจจนขวัญ เสี ย กับ เรื่ อ งที่ เ กิ ดขึ้ น เมื่ อ ครู่
หน้ ำตำท่ำทำงจึงเผยให้ เห็นอย่ำงชัดเจนว่ำอ่อนล้ำเพียงใด

ลุ่ยจูพยำยำมที่ จะไม่กงั วลเรื่องคุณหนูให้มำกนัก แต่ พอ


เห็นคุณหนูกำลังกินอำกำรด้วยสภำพหมดสง่ำรำศี นำงยิ่งกิน
4
ไม่ลงแม้สกั ครึง่ คำ

ถำนหวั น่ ชิ งพยำยำมตั ง้ สติ เรี ย กควำมแข็ ง แกร่ ง


คื น กลั บ มำ พ อเ ห็ น ลุ่ ย จู ไ ม่ กิ น อ ำห ำร น ำง ก็ ไ ม่ บั ง คั บ
ท ำเพี ย งหยิ บ ตะเกี ย บแล้ ว คี บ หมี่ ใ ส่ เ ข้ ำ ไปในปำก...จื ด สนิ ท
น่ ำจะลืมเติมเกลือ ทว่ำหญิงสำวก็ไม่ได้ บ่นหรือว่ำกล่ำวอะไร
กินให้ท้องอิ่มก่อนแล้วค่อยคุยกัน

พอท้ องอุ่นกระเพำะอิ่มแล้ว สี หน้ ำของถำนหวันช ่ ิ งก็ดดู ี


ขึน้ เล็กน้ อย นำงหันไปมองลุ่ยจูที่อำรมณ์ ยงั ไม่สงบ ก่อนจะเดิน
ไปปิดประตูใหญ่หน้ ำบ้ำน

ด้ำนนอกประตูดเู หมือนจะมีทหำรกองหนึ่ งเดินผ่ำน เมื่อ


กลับ เข้ ำ มำก็เ ห็น ใบหน้ ำของลุ่ ย จูซี ด ขำวไปสำมส่ ว นเพรำะ
ตกใจจนขวัญหำย

เพี ย งลุ่ย จูคิ ด ถึ ง เวลำที่ ท หำรพุ่ง เข้ ำ มำแล้ ว ควบคุมตัว


พวกนำงไปใส่ คุกใส่ ตำรำงก็หวำดกลัวยิ่งแล้ว จำกที่ เห็นด้วย
สำยตำตัวเองวันนี้ แค่พ่อค้ำคนนัน้ ขัดขืนกำรตรวจสอบก็ถกู ตี
จนต้ อ งส่ ง เสี ย งร้ อ งอย่ ำ งน่ ำ เวทนำ ถ้ ำ เปลี่ ย นมำเป็ นผู้ห ญิ ง
ภำยใต้ แรงกดดันที่ หนั กอึ้งขนำดนั น้ อำจจะเป็ นลมล้มพับไป
นำนแล้ว
5
ถำนหวันช ่ ิ งเดินไปนัง่ บนเตียงแล้วเริ่มใคร่ครวญอีกครัง้
กระทัง่ ถึ ง ตอนนี้ ลุ่ ย จูก็ย ัง ไม่ อ ำจสงบใจลงได้ นำงตกอยู่ ใ น
อำกำรตื่ นตระหนกและหวำดผวำเรื่อยมำ ผู้เป็ นนำยจึงกล่ำว
ปลอบเด็กสำวว่ำ “เจ้ำไม่ต้องตกใจ พวกเรำจำเป็ นต้องออกจำก
ตลำด ช่ ว งนี้ เ รำต้ องซ่ อนตัว หลี กเลี่ ย งกำรสอบสวนไปก่ อ น
โชคดีที่ไม่น่ำจะมีใครมำหำเรำถึงบ้ำน”

จำกนัน้ นำงก็หยุดไปครู่หนึ่ งก่อนเอ่ยต่อว่ำ “ถึงจะยังคิด


หำวิธีไม่ได้ แต่เมื่อครู่ที่พวกเรำเดินผ่ำนประตูใหญ่สำมแห่ง ทัง้
ประตู เ มื อ งและประตู ท ำงทิ ศใต้ ล้ ว นมี ด่ ำนตรว จสอบ
ส ำมะโนครัว อย่ ำ งเข้ ม งวด มี เ พี ย งกำรเข้ ำ ออกประตู ทิ ศ
ตะวันออกเท่ ำนัน้ ที่ อำศัยเพียงป้ ำยชื่ อ ดูเหมือนกำรสอบสวน
จะมีกำรแบ่งระดับควำมเข้มงวด ถนนใหญ่ตงเหมินมีแต่ พวก
เศรษฐี ขุนนำงและบรรดำผูม้ ียศศักด์ ิ อำศัยอยู่ ทำให้พวกทหำร
ไม่ อ ำจดึ ง ดั น จนเกิ ดเรื่ อ งขั ด แย้ ง กั น ตำมมำ ดั ง นั ้ น กำร
ตรวจสอบคนเหล่ำนัน้ จึงไม่ได้เข้มงวดนัก พวกเรำลองออกไป
สำรวจถนนตงเหมินดูก่อน ถนนเส้นนัน้ น่ ำจะปลอดภัยอยู่บำ้ ง”

ถึงกำรย้ำยที่ อยู่จะไม่ใช่ วิธีที่ดีที่สุดแต่ กพ็ อช่ วยให้ พวก


นำงปลอดภัย ถึง อย่ ำงนั น้ ก็ไม่ ทำให้ ลุ่ย จูส บำยใจขึ้น สองตำ
กลับแดงกำ่ ยิ่งกว่ำเดิมด้วยซำ้ นำงเช็ดน้ ำตำพลำงเอ่ยเหมือน
ตนไม่ได้รบั ควำมเป็ นธรรม
6
“คุณหนู ใต้ เท้ ำเซี่ ยนั น่ ใช่ คนที่ มีควำมแค้ นกับพวกเรำ
หรือไม่ เรำขำยของอยู่ดีๆ เหตุใดพอเขำมำ แม้แต่ ตลำดนั ด
พวกเรำก็ไปไม่ได้เสียอย่ำงนัน้ คุณหนูบอกว่ำอำจต้องย้ำยไปที่
ตงเหมิน แต่ ถ้ำพวกเรำไปแล้ว หนึ่ งคือไม่เหลือเงินติดตัว สอง
คือไม่ร้จู ะค้ำขำยอะไร หำกทำกำรค้ำขำยไม่ได้กไ็ ม่ร้วู ่ำจะเอำ
อะไรมำเลี้ยงร่ำงกำยและจิตวิญญำณแล้ว หำกเป็ นเช่นนัน้ เกรง
ว่ ำ พวกเรำคงต้ อ งอดอำหำรแข็ง ตำยอยู่ บ นถนนเสี ย ก่ อ น
เป็ นแน่ ...”

ถนนใหญ่ ต งเหมิ น เมื อ งเว่ ย อัน ผู้ค นหลัง่ ไหลเข้ ำ มำ


อย่ำงมืดฟ้ ำมัวดิน แม้จำนวนผู้คนจะเที ยบไม่ได้กบั ถนนหนำน
เหมิน แต่ กย็ งั มำกมำยจนไหล่แทบจะเบียดเสี ยดกันยำมเดิน
สวน

คนส่วนใหญ่เป็ นคหบดี พ่อค้ำรำ่ รวย ไม่กเ็ ป็ นผูม้ ียศศักด์ ิ


มีอิทธิพล แสดงให้เห็นถึงควำมโอ่อ่ำหรูหรำของย่ำนนี้ ไม่น้อย
ตรอกที่อยู่ใกล้ๆ เป็ นย่ำนที่เต็มไปด้วยงำนศิลปะ มีทงั ้ ภำพวำด
และภำพอักษร

ผู้ค นที่ เ ข้ ำ ออกตลำดแห่ ง นี้ โ ดยมำกจะเป็ นคนรวยซึ่ ง


อำศัย อยู่ที่ ถ นนตงเหมิ น และตลำดนี้ เ ป็ นเหมื อ นศูน ย์รวมที่
เหล่ำบัณฑิต คนมีกำรศึกษำรวมไปถึงพวกช่ ำงฝี มือแวะเวียน
7
มำไม่ได้ขำด

ในตรอกแห่งนี้ มีอำคำรในลักษณะเป็ นห้องแถวติดๆ กัน


สิบกว่ำร้ำน ทุกร้ำนจะแขวนบทกวีต่ำงๆ แล้วยังมีห้องใหญ่ ที่
เป็ นศูนย์รวมของคนที่ มีปัญญำ ในร้ำนมี กำรประดับภำพวำด
ภำพอักษรของคนที่ มีชื่อเสี ยง อีกทัง้ ยังขำยเครื่องมือเครื่องใช้
ไม่ว่ำจะเป็ นกระดำษ หมึก พู่กนั ภำพจิตรกรรม รวมไปถึงงำน
ฝี มือของศิลปินทัง้ หลำยก็ถกู น่ ำมำจัดแสดงไว้ที่ร้ำนด้วย อีกทัง้
ยังมีกำรรับทำลวดลำยบนพัด กิจกำรค้ำขำยเจริญรุง่ เรืองยิ่งนัก

เมื่อถำนหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูเดินเข้ำมำยังห้องขำยภำพอักษร
ของร้ำน ‘จี๋เสี ยนฝัง’ ก็เห็นบัณฑิตสวมเสื้อคลุมผ้ำต่ วนตัวยำว
เก่ำๆ สวนออกมำจำกด้ำนใน สี หน้ ำของเขำเต็มไปด้วยควำม
โกรธเคืองไม่พอใจ ในมือถือม้วนภำพเดินหุนหันออกไป

ถำนหวัน่ ชิ ง หัน กลับ ไปมองอี ก ฝ่ ำยแวบหนึ่ งแล้ ว เกิ ด


อำกำรลังเล นำงเพิ่งจะก้ำวเข้ำไปในห้องพร้อมลุ่ยจูได้เพียงก้ำว
เดี ย วก็ ไ ด้ ยิ น เถ้ ำ แก่ เ จ้ ำ ของร้ ำ นบ่ น พึ ม พ ำเสี ย งเบำ ฟั ง ไม่
ถนัดนัก

“คิดว่ำตัวเองเป็ นถังเหวียนชิงหรืออย่ำงไร? แค่รปู นกรูป


ดอกไม้กอ็ ยำกได้รำคำห้ำตำลึง มีคนซื้อสิแปลก”
8
ไม่ว่ำจะเป็ นกำรขำยภำพอักษรหรือภำพวำดเพื่อยังชี พ
นั น้ ต้ องเป็ นบัณฑิตที่ มีชื่อเสี ยงเท่ ำนั น้ จึงจะหำเงินได้สะดวก
แต่ถึงอย่ำงไรตรอกแห่งนี้ ถือเป็ นแหล่งที่ดีที่สดุ

แต่ ใช่ ว่ ำภำพที่ น ำมำทั ้ งหมดจะถูกซื้ อ ต้ องให้ เ จ้ำของ


ร้ำนดูด้วยว่ำจะรับหรือไม่ หำกเป็ นภำพอักษรของคนที่ ไม่มีชื่อ
เสี ยง รำคำก็จะน่ ำเวทนำนั ก บำงครัง้ เตรียมมำสิบภำพก็ยงั รับ
ซื้อไม่ถึงครึง่ ดังนัน้ หำกเป็ นปัญญำชนที่ไร้ควำมสำมำรถไม่อำจ
เขียนบทประพันธ์ได้ ชีวิตก็ยำกที่จะลืมตำอ้ำปำก

ทันทีที่มีคนเดินเข้ำมำ เถ้ำแก่กร็ ีบเดินเข้ำไปทักทำย เขำ


เห็นผู้คนมำไม่น้อย ทำงำนเกี่ยวกับกำรพบปะผู้คนมำนำน ไม่
ว่ำผู้ที่เข้ำมำจะเป็ นพ่อค้ำหรือขุนนำง คนดี หรือคนเลว สูงส่ ง
หรื อ ต่ ำ เตี้ ย เรี่ ย ดิ น จนหรื อ รวย เป็ นชำวบ้ ำ นทัว่ ไปหรื อ มี
ตำแหน่ งฐำนะก็ล้วนเห็นทะลุปรุโปร่งเข้ำไปถึงในกระดูก

หญิงสำวสองคนที่ เดินเข้ำมำนี้ แม้อยู่ในเสื้อผ้ำอำภรณ์


เก่ ำหยำบ แต่ งกำยเรียบง่ำย แต่ กำรก้ ำวย่ ำงแผ่วเบำไร้เสี ยง
ท่ วงท่ ำงดงำมชดช้ อย อำกัปกิริยำนุ่ มนวลและเหมำะสม ดูไม่
ฝื นเกร็งแม้แต่น้อย ช่ำงเจริญหูเจริญตำ ลักษณะไร้แววเก้อเขิน
ดูท่ำว่ำคงจะไม่ใช่ครำแรกที่พวกนำงเดินตลำดภำพเขียน ทัง้ ยัง
ไม่ใช่ กิริยำท่ ำทำงที่ ชำวบ้ำนทัวไปจะเลี
่ ยนแบบได้ โดยเฉพำะ
9
แม่นำงที่อยู่ฝัง่ ขวำ

เขำเปิดร้ำนขำยภำพศิลปะมำร่วมสิบปี แม้ไม่เคยเรียน
หนั งสื อ ไม่เคยจรดพู่กนั แต่ กด็ ูภำพเป็ น ด้ วยทุกวันได้รบั กำร
กล่ อ มเกลำ ต้ อ งหยิ บ จับ ขยับ ภำพวำดงดงำมเหล่ ำ นี้ ไ ม่ รู้ต ัง้
เท่ำไร สัมผัสด้ำนควำมสวยควำมงำมย่อมดีเยี่ยม

หญิงสำวที่อยู่ต่อหน้ ำนี้ ทำให้เขำเกิดควำมรู้สึกบำงอย่ำง


หำกบอกว่ำนำงเหมือนดังสตรี ่ ในภำพวำดก็ยงั ยำกที่ จะอธิบำย
ใ ห้ เ ข้ ำ ใ จ ค ว ำ ม รู้ สึ ก เ ฉ ก เ ช่ น ที่ มี ต่ อ ถั ง เ ห วี ย น ชิ ง ผู้ มี
ควำมสำมำรถในกำรเรียงร้อยถ้อยค่ำประพันธ์สำนวน และมี
ควำมคิดทำงด้ำนศิลปะที่ เลิศลำ้ ไม่เป็ นสองรองใคร จนผู้คน
อำลัยอำวรณ์เฝ้ ำรอคอยให้คนผูน้ ี้ กลับมำ

ตอนนี้ เถ้ำแก่ร้ำนได้แต่ ยืนเหม่ออยู่ที่เดิม เวลำผ่ำนไป


เนิ่นนำนก็ยงั ไม่ขยับเขยือ้ นเคลื่อนไหว

่ ิ งคุ้นชินกับกำรที่ มีคนประเมินมองตนเองอยู่
ถำนหวันช
แล้ว จึงเดินไปที่ชนั ้ วำงกระดำษเนื้ อนิ่มที่ใช้สำหรับกำรวำดภำพ
พู่กนั และหมึก นำงมองของเหล่ำนี้ อย่ำงละเอี ยดชัวครู ่ ่ กระทัง่
รู้สึกว่ ำชำยเจ้ำของร้ำนน่ ำจะมองตนพอแล้ ว จึงโบกมือเรี ยก
อย่ำงเป็ นธรรมชำติ ให้เขำห่อกระดำษเนื้ อนิ่มกับแท่งหมึกให้
10
ในร้ำนนี้ นอกจำกภำพวำดแล้ว สี ย้อมกับกระดำษเนื้ อ
นิ่มที่ใช้ในกำรวำดภำพยังแพงกว่ำปกติถึงสองเท่ำ กระนัน้ หญิง
สำวก็จำต้องซื้อ

ในร้ำนมีเพียงชำดหรือตะกัวแดง[ ่ 1 ] พืชสีเหลืองดอกไม้
สี เขียว ผงดินเหลือง[ 2 ] และผงผสำน[ 3 ] นำงให้ เถ้ำแก่หยิบ
ทุกอย่ำง กำรนำสีย้อมเหล่ำนี้ มำใช้นับว่ำไม่เลวนัก สี แดง สี น้ ำ
เงิน สีเหลือง สีดำ ทัง้ สี่สีหลักนี้ สำมำรถใช้ผสมกันในอัตรำส่วน
ที่เหมำะสมเป็ นสีอื่นได้ ทว่ำแต่ละครัง้ ต้องผสมกันในปริมำณที่
พอใช้

ตอนจ่ำยเงิน ลุ่ยจูหยิบเงินออกมำสองตำลึ งเงินด้ วยสี


หน้ ำเจ็บปวดใจ ตำมปกติเฉพำะกระดำษ หมึกและสีย้อมก็แพง
อยู่แล้ว ตอนนี้ ยงั ต้องเพิ่มเงินมำกขึน้ ไปอีก

ถำนหวันช่ ิ งได้ทำใจไว้ก่อนหน้ ำแล้ว แต่ด้วยควำมกังวล


ว่ำเงินที่ เก็บสะสมมำได้ จะหมดเสี ยก่ อน ตอนนี้ จึงไม่มีวิธีอื่น
หำกอยำกจะย้ำยจำกถนนเป่ ยเหมินมำที่ ตงเหมิน ด้วยสภำพที่
เป็ นอยู่ทำให้ไม่อำจเดินหน้ ำหรือถอยหลังได้ หนำซำ้ เงินที่ มียงั
ต้องใช้อย่ำงประหยัด เมื่อไม่มีทำงเลือกจึงต้ องพยำยำมลองดู
สักตัง้

11
ลุ่ ย จู ฉ วยโอกำสรับ ของจำกลู ก จ้ ำ งชำยแทนนำยสำว
ขณะที่ถำนหวันช ่ ิ งอ่ำนคำมงคลบนภำพอักษรที่แขวนในร้ำน

ตอนอำศัย อยู่ ใ นเมื อ งหลวงนำงมี เ งิ น ติ ด ตัว มำกมำย


หลัง มำรดำถึ ง แก่ ก รรมก็เ หลื อ สิ น เดิ ม ไว้ ใ ห้ ไ ม่ น้ อย เรี ย กว่ ำ
เพียงพอใช้ไปนับร้อยปี ทำให้แต่ก่อนนำงไม่จำเป็ นต้องใช้วิชำ
วำดภำพในกำรดำเนินชี วิต อีกทัง้ ในจวนมีเรื่องให้ ทำมำกมำย
จึงมีเวลำวำดภำพน้ อยมำก ใครจะคิดว่ำอยู่มำวันหนึ่ งจะตกอับ
ถึงกับต้องน่ ำควำมสำมำรถดัง้ เดิมมำเลี้ยงชีพ

ภำยในร้ ำ น ภำพแขวนส่ ว นใหญ่ เ ป็ นภำพภูเ ขำ แม่ น้ ำ


ดอกไม้ แ ละนกซึ่ ง เป็ นภำพวำดฝี พู่ ก ัน ส่ ว นกำรวำดแบบ
เน้ น หนั กในรำยละเอี ย ดไม่ค่อยมี ให้ เห็น ดูทำควำมต้ องกำร
พวกภำพเหมือนจะน้ อยมำก อย่ำงภำพอิสตรีในวังก็มีเพียงสอง
ภำพเท่ำนัน้

่ ิ งมองภำพหญิงสำวชำววังสองภำพนัน้ อยู่นำน
ถำนหวันช
เพื่อจดจำกำรลงสีและลักษณะพิเศษไว้ในใจ

ช่ วงนี้ เหล่ำปั ญญำชนที่ ไม่สำมำรถเขียนบทประพันธ์ได้


ต่ ำ งก็นิ ยมวำดภำพภูเ ขำ แม่ น้ ำ นกและป่ ำไม้ ส่ ว นใหญ่ จ ะ
เน้ นหนักด้ำนลักษณะทำงธรรมชำติอนั มีเสน่ หน์ ่ ำพิสมัยซึ่งล้วน
12
เป็ นภำพวำดฝี พู่กนั

นำงเข้ำใจว่ำกำรวำดภำพเหมือนจริงน่ ำจะยังขำดผู้ที่มี
ฝี มือ หรืออำจเพรำะเป็ นงำนที่ มีควำมยุ่งยำกจึงไม่ค่อยมีใคร
อยำกจะวำดมำกนั ก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำรจัดกำรรำยละเอี ยด
วิธีแรเงำต่ำงๆ นำนำเพื่อให้เกิดเป็ นภำพหลำยมิติ รวมถึงกำร
ใช้แสงเงำเพื่อแสดงถึงควำมสว่ำงและควำมมืด

แต่ ภ ำพหญิ งชำววัง สองรู ป นี้ สวยงำมประณี ตและ


พิ ถี พิ ถ นั อย่ ำงมำก ช่ ำงงดงำมเรี ย บง่ำยและมี ท่ ว งท่ ำชดช้ อย
เป็ นอย่ำงยิ่ง ถึงจะเป็ นเพียงแค่ภำพลำยเส้นที่ มีมิติน้อย แต่คน
วำดก็ส ำมำรถสื่ อ ถึ ง อำรมณ์ อ อกมำได้ อ ย่ ำ งยอดเยี่ ย มและ
ลึกซึ้ง

ลู ก จ้ ำ งชำยเดิ น ตำมมำส่ ง จนกระทัง่ หญิ ง สำวทัง้ สอง


ออกไปจำกร้ำน ทัง้ ที่ ทงั ้ คู่เดินห่ำงไปไกลแล้วสำยตำของเขำก็
ยังมองตำมอยู่อย่ำงนัน้ อีกนำน ก่อนจะเดินซึมเซำกลับเข้ำไป
ทำงำนดังเดิม

13
[ 1 ] สี ชำดหรือตะกัวแดง
่ หรือสำรชินนำบำร์ แร่โบรำณ
ที่ ะปนกับแร่ดีบุก เป็ นสำรสีแดง ละลำยในกรดดินประสิว หนัก
และวำวคล้ำยเพชร

[ 2 ] สีดินเหลือง หรือสำรแร่โอเคอร์ เป็ นดินธรรมชำติที่


มีส่วนผสมของเฟอร์ริคอ็อกไซด์กบั แร่เงิน จึงมีตงั ้ แต่ สีเหลือง
ส้ ม ไปจนถึงน้ ำ ตำลและแดง ซึ่ ง ขึ้นอยู่กบั จำนวนของแร่เงินที่
ผสมอยู่

[ 3 ] ผงผสำน หรือตัวผสำน ทำหน้ ำที่ เป็ นตัว ละลำยสี


และผสำนให้ผงสีหรือหมึกแข็งตัว

14
15 ภาพสาวงาม

การเดินทางกลับที่พกั เป็ นปกติดงั เช่นตอนขามา

นานมากแล้ ว ที่ ถ านหวันช่ ิ ง แทบไม่ ไ ด้ อ อกจากบ้า น มี


เพียงไม่กี่วนั หลังที่ ไปตลาดกับลุ่ยจูเทานัน้ ทัง้ สองเดินไปตาม
ถนนด้ วยความระแวดระวัง รู้อยู่แก่ ใจว่ าพวกตนยังคงอยู่ใน
สถานการณ์ คบั ขัน แต่ ในเมื่อเป็ นเรื่องจาเป็ นก็ต้องยอมเสี่ ยง
กันบ้าง

อากาศในวันนี้ หนาวเหน็ บกว่าวันก่อนๆ ทาให้ มีพ่อค้า


หาบเร่ขายของน้ อย ทัง้ สองเดินไปตามทางอย่างราบรื่น ท้ อง
ถนนยัง คงเหมื อ นเดิ ม ไม่ มี ก ารเปลี่ ย นแปลง ไม่ มี ก องก าลัง
ทหารเดินพลุกพล่าน ทาให้คนที่สญ ั จรไปมาหายใจโล่ง

ชัดเจนว่ ายามนี้ เหล่าทหารจะตรวจสอบอย่ างเข้ มงวด


เฉพาะที่ ป ระตู เ มื อ งเท่ า นั ้น ไม่ ไ ด้ มี เ หตุ ก ารณ์ น าหวาดหวัน่
เกิดขึน้ แต่อย่างใด

ดูเหมือนสภาพการณ์ จะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ นางและลุ่ย


จูจินตนาการไว้

พอคิดอย่างนี้ หญิงทัง้ สองที่ อุ้มข้าวของที่ ซื้อมาในอ้ อม

1
แขนไว้แน่ นจึงผ่อนคลายลง ถึงอย่างนัน้ ก็มิได้ชะลอฝี เท้าแม้แต่
ครึง่ ก้าว

ตลอดทางได้ ยิ น คนเดิ น ถนนวิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ ก ัน ตาม


ประสา คาพูดส่ วนมากเป็ นการสรรเสริญชื่ นชมท่ านแม่ทพั หัว
เมืองทัง้ สิ้น สาหรับชาวเมืองเว่ยอันแล้ว พวกพ่อค้าต่างถิ่นกับผู้
ลี้ภยั ต่างเมืองทาให้ชีวิตของพวกเขาไม่สะดวกอย่างมาก

พ่ อ ค้ า ต่ า งถิ่ นมัก จะฉวยโอกาสขึ้ น ราคาสิ นค้ า ตาม


อ าเภอใจ ท าให้ ข้ า วสาร อาหารแห้ ง น้ า มัน และผ้า ต่ า งๆ ใน
เมืองมีราคาแพง

ใต้ เท้ าเซี่ ยจึงเข้ามาจัดการความทุ กข์ยากให้ ประชาชน


เขาจัดสรรที่ ดินนอกเมืองให้ ชาวบ้านนาไปหักร้างถางพงเพื่อ
ปลู ก พื ช เป็ นเสบี ย งอาหาร อี ก ทั ง้ ยัง เป็ นการแก้ ไ ขปั ญ หา
ประชากรในเมืองที่หนาแน่ นขึน้ มาก

ดังนั น้ การสารวจสามะโนครัวใหม่ครัง้ นี้ จึงมุ่งเน้ น ไปที่


พ่ อ ค้ า ต่ า งถิ่ น ที่ เ ข้ า มาท าการค้ า ขายกับ พ่ อ ค้ า ร้ า นใหญ่ ๆ
เท่านัน้ ประชาชนที่ อาศัยอยู่ในเมืองไม่มีส่วนพัวพันหรือได้รบั
ผลกระทบอะไรเลย

ตอนนี้ ในตลาดจึงเริ่มมีทหารปรากฏให้เห็น พวกเขาเข้า


2
มาตรวจสอบและจัด การเรื่ อ งพ่ อ ค้ า ต่ า งถิ่ น อย่ า งเข้ ม งวด
กวดขัน ทว่าไม่ได้มารบกวนคนที่เดินซื้อของในตลาดแต่อย่าง
ใด ชาวเมืองจึงไม่ได้รสู้ ึกหวาดกลัว ซา้ ยังปรบมือสนับสนุน ร้อง
ตะโกนว่าดีอีกต่างหาก

่ ิ งกับลุ่ยจูได้ยินคาพูดวิพากษ์วิจารณ์ เหล่านี้ ก็
ถานหวันช
หันมาสบตากัน แอบรูส้ ึกโล่งใจ

ถ้าหากมุ่งเน้ นเพียงคนที่ เข้าออกจากเมือง เช่ นนัน้ พวก


นางที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเมืองก็ไม่มีอนั ตรายอะไรน่ ะสิ ?

แต่เมื่อวานใต้เท้าเซี่ยพูดอยู่ว่าให้ตรวจสอบสามะโนครัว
คนที่ เข้าออกตลาดอย่างเคร่งครัด ถ้าเป็ นจริงอย่างที่ ว่า พวก
นางก็ยงั ไม่ได้เก็บข้าวของไปไหนเลย

นึ กถึงถนนไม่กี่สายในเมืองเว่ยอัน ประตูใหญ่ทุกแห่งที่ มี
การเฝ้ ารักษาอย่างเข้มงวด หญิงสาวก็ขมวดคิ้วแน่ น รู้สึกว่ามี
บางอย่างที่ไม่ถกู ต้องนัก แต่กน็ ึ กไม่ออกว่าอะไร

อย่างไรก็ตาม นางตัดสินใจแน่ วแน่ แล้วว่าจะพาลุ่ยจูย้าย


ไปอยู่ที่ตงเหมิน

3
ตอนแรกนางเลือกอยู่แถวถนนเป่ ยเหมินเพราะใกล้ค่าย
ทหาร พวกนางที่เป็ นหญิงจะได้อยู่อย่างปลอดภัยไร้กงั วล

ทว่ าความคิดในเวลานี้ แตกต่ างไปจากเดิมโดยสิ้ น เชิง


แท้ จริงแล้วการอยู่ใกล้ค่ายทหารกลับน่ ากลัวที่ สุด โดยเฉพาะ
เมื่อพวกนางมี สถานะเป็ นนั กโทษหลบหนี จึงดูค ล้ ายกับเป็ น
การต้อนแกะเข้าปากเสือ ไม่ร้จู ริงๆ ว่าตอนนัน้ ตนตัดสินใจไป
ได้อย่างไร มาสานึ กเสียใจภายหลังก็สายเสียแล้ว

เมื่อนาข้าวของกลับมาถึงบ้าน ทัง้ สองก็จดั แจงปิดประตู


ใหญ่

ลุ่ยจูแยกไปอุ่นโจ๊กเนื้ อปลาแล้วตักมาให้เจ้านาย

่ ิ งรีบกินโจ๊กจนหมดแล้วกลับเข้าไปในห้องพัก
ถานหวันช

เมื่อเข้ ามาในห้ อง หญิงสาวนาพู่กนั หมึก สี ย้อมต่ างๆ


วางบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย ก่อนจะนัง่ ลงบนเก้าอี้ข้างหน้ าต่างซึ่ง
มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา

นางยื่นมือไปหยิบกระดาษนิ่มมากางบนโต๊ะ เหลาถ่าน
ดาให้แหลมจนเหมือนดินสอ จากนัน้ ก็มองนิ่งไปที่ กระดาษว่าง
เปล่าตรงหน้ า ครุ่นคิดอยู่นานจึงค่อยๆ จรดแท่ งถ่าน มือเรียว

4
เคลื่อนไหวช้าๆ ร่างลายเส้นลงบนกระดาษจนเกิดเป็ นเค้าโครง

ถานหวันช่ ิ งเข้าใจความชานาญรวมไปถึงจุดเด่นจุดด้อย
ในการวาดภาพของตนเป็ นอย่างดี หญิงสาวชะงักมือครู่หนึ่ ง
เมื่ อ นึ กไปถึ ง ภาพที่ ต นเคยวาด ก่ อ นจะไพล่ ไ ปนึ กถึ ง ภาพที่
วางขายในร้าน แล้วตัง้ ใจวาดภาพทิวทัศน์ ต่อ

ถึ ง จะคิ ด อย่ า งนั น้ แต่ ค วามจริ ง แล้ ว นางเชี่ ย วชาญการ


วาดภาพคนมากกว่า ปกติแล้วทิวทัศน์ เป็ นเพียงส่ วนแต่ งเติม
ในภาพเท่ านั น้ นางคิดไปคิดมาก็คิดไม่ตก จะเลือกความนิยม
หรือสิ่งที่ ตนถนั ดดี สุดท้ ายก็คิดว่าความได้ เปรี ยบไม่สู้ค วาม
กล้าหาญ

ถานหวันช่ ิ งเริ่มวาดเค้าโครงตามที่ ใจคิดอย่างรวดเร็ว


นางไม่เคยวาดภาพทิวทัศน์ อย่างละเอี ยดมาก่ อน เฉพาะการ
ผสมสี ก็ย ากแล้ ว จึ ง ตัด สิ น ใจท าตามแบบคนอื่ น โดยการร่าง
ภาพลายเส้นขึน้ มา

นางลงมื อ อย่ า งรวดเร็ว ไม่ น านก็ไ ด้ โ ครงร่ า งคร่ า วๆ


ภาพวาดหน้ าตาของหญิงในวังส่วนใหญ่จะหน้ าผากแคบ มีทงั ้
ใบหน้ าลูกตุ้มตาชัง่ ใบหน้ าลูกฟั กคางใหญ่ ดูแล้วอวบอิ่มมาก
เกินไป อีกแบบคือใบหน้ าแบบเม็ดกวยจี๊ซึ่งดูผอมจนรู้สึกว่าไม่
แข็งแรง ไม่เป็ นมงคล ดังนัน้ นางจึงหยิบทัง้ สองแบบมารวมกัน
5
คื อ ไม่ อ้ ว นไม่ ผ อม...ต้ อ งเป็ นใบหน้ าไข่ ห่ า นเรี ย วเล็ก จึ ง จะ
ออกมาสวยงาม

หญิงสาวมองประเมินภาพร่างตรงหน้ า ก่ อนที่ นิ้วเรียว


ขาวประดุจหยกจะหยิบดินสอถ่านมาต่ อเติมรายละเอี ยดของ
อวัยวะทัง้ ห้าอย่างประณี ต ละมุนละไม

ลูกตาดาของบุคคลในภาพต้องสื่อให้เห็นถึงจิตวิญญาณ
พูดได้ว่าเป็ นลายเส้นที่ละเอียด ดวงตากระจ่างสดใส เป็ นงานที่
ใช้เวลาและความพิถีพิถนั อย่างมาก

นางไม่ร้วู ่าใช้ เวลาไปนานเท่ าไร แต่ วาดจนลืมเวลากิน


เวลานอนเลยทีเดียว ในที่สดุ นางก็ตดั ใจวางพู่กนั ลง เดินไปเอน
ร่างลงบนที่นอนแล้วหลับลึก

ยามเช้ าที่ ห้องครัว ลุ่ยจูต้มโจ๊กหวานและน้ าแกงลูกชิ้น


รวมมิตรที่ มีส่วนผสมหลายอย่าง จากนัน้ ก็ประคองถาดอาหาร
พร้อมกับเดินด้วยฝี เท้าแผ่วเบาเข้ามาในห้อง

นางเห็นคุณหนู นอนหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเตี ยง หน้ าอก


กระเพื่อมขึน้ ลงเบาๆ ชัดเจนว่าต้องนอนหลับลึกแน่ เด็กสาวจึง
วางถาดอาหารไว้ข้างๆ อย่างเบามือแล้วดึ งผ้าห่ มมาคลุมให้
คุณหนู
6
นางเดิ น ไปเก็บ ของที่ ว างระเกะระกะบนโต๊ ะ ให้ อ ย่ า ง
่ ่ม้วนภาพออกดู ลุ่ยจูกต็ ้ องเบิกตาโตค้าง
เงียบๆ จนกระทังคลี
มองคนในภาพอย่างตะลึงงันเป็ นนาน...

“งามมาก! ช่างเป็ นภาพคนที่งดงามมากจริงๆ ทัง้ งดงาม


ทัง้ ละเอียดอ่อน นับเป็ นผลงานชัน้ หนึ่ ง!”

ร้านจี๋เสียนฝัง

เถ้าแก่สวี่ที่มีลกั ษณะทาทางสง่างามมีราศีกางม้วนภาพ
ในมือออกจากนัน้ ก็นิ่งงัน สายตาถูกดึงดูดไปอยู่ที่ภาพทันที เขา
ลูบคลาหนวดเครา หรี่ดวงตาเพ่งพิศอย่างละเอียด มองอยู่นาน
พอสมควร ในใจก็แอบชื่นชมในความสมจริง

เถ้าแก่พยักหน้ าเล็กน้ อยแล้วให้คนคลี่เปิดอี กภาพ ภาพ


แรกเมื่ อครู่ใช้ สี ส นั สดใสดูส ว่ างละลานตา ส่ ว นภาพที่ ส องใช้
สี ส ัน ไม่ จ ดั จ้ า นดูสุ ภ าพสบายตา ส่ ง ให้ เ ห็น ถึ ง ความละเอี ย ด
ประณี ต การเก็ บ สี เ ก็ บ รายละเอี ย ดในภาพช่ า งยอดเยี่ ย ม
ภาพวาดช่างดูมีเสน่ หน์ ่ าดื่มดา่ เหลือประมาณ

รูปแบบลายเส้นเป็ นแบบเดียวกัน แม้สีที่ ใช้ จะแตกต่ าง


แต่กบ็ ่งบอกได้ถึงความสามารถของผู้วาด ทัง้ ยังสามารถผสมสี
พิเศษซึ่ งเป็ นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวอย่างที่ คนดูนึกไม่ถึงได้ อีก
7
ด้วย

ความสามารถขนาดนี้ หายากมากจริงๆ

เขามองหญิงงามในภาพวาดด้านซ้ายก็สวยงามเป็ นเอก
ส่ วนหญิงงามในภาพวาดด้านขวาก็ดูปราดเปรียวร่าเริง ฝี มือ
พอฟั ดพอเหวี่ยงกันทัง้ สองภาพ ต่างก็งดงามจนทาให้คนไม่อาจ
ละสายตา รูปแบบในการวาดภาพเช่ น นี้ เ ป็ นภาพเสมื อนจริง
อย่างชัดเจน ความสวยงามในภาพมีมากมายจนบรรยายไม่ถกู

เถ้ า แก่ ลู บ หนวดเคราแล้ ว มองซ้ า ยมองขวา กระทัง่


ลูกจ้างชายใกล้ๆ สะกิดเตื อน จึงนึ กขึ้นได้ว่าคนที่ มาขายภาพ
ยังยืนอยู่ข้างๆ ทว่าแม่นางทัง้ สองก็มิได้ส่งเสียงเร่งรัดแต่อย่าง
ใด

“ทาให้แม่นางทัง้ สองรอนานแล้ว ร้านเราตัดสินใจรับรูป


หญิ ง งามทัง้ สองภาพนี้ เพี ย งแต่ ไ ม่ รู้ว่ า แม่ น างต้ อ งการราคา
เท่าไร?” เถ้าแก่สวี่ถามด้วยน้าเสียงเกรงใจอย่างที่สดุ

หญิงทัง้ สองไม่ใช่ใครอื่น เป็ นถานหวันช


่ ิ งกับลุ่ยจูที่ขดั สน
เงินทองนัน่ เอง ทัง้ สองภาพที่อยู่ในมือของเถ้าแก่เป็ นภาพที่นาง
เร่งวาดติดต่อกันสองวัน ทัง้ ยังติดภาพลงบนกระดาษแข็งอย่าง
เรียบร้อย
8
่ ิ งวาดด้วยจิตใจร้อนรนกระวนกระวายนี้
ภาพที่ถานหวันช
สาหรับนางแล้วไม่นับว่าเป็ นผลงานชัน้ เยี่ยมได้เลย

เมื่อก่อนพรสวรรค์ด้านศิลปะและสติปัญญาของนางเคย
โดดเด่นเป็ นหนึ่ ง หญิงสาวฝึ กจนพื้นฐานแน่ น สามารถนาเอา
ความสามารถและเทคนิคมาใช้เลี้ยงชีพดาเนินชีวิตได้ แม้จะลง
พู่กนั ไปตามอารมณ์ ทว่าการสัมผัสและการรับรู้ถึงความงามก็
ไม่ ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ไม่ ว่ า จะเป็ นยุ ค โบราณหรื อ สมัย ปั จ จุ บ ัน ที่ จ ริ ง แล้ ว


เทคนิคในการวาดภาพสองภาพนี้ ยงั ไม่ถึ งกับเรี ยกได้ ว่ ามาก
ฝี มือ ทว่านางทาให้ภาพสะดุดตาด้วยการออกแบบเค้าโครงการ
ใช้สีที่เป็ นเอกลักษณ์ พิเศษเฉพาะตัว ไม่จากัดความคิดแบบคน
ในยุคสมัยนี้

ไม่จาเป็ นต้องวาดภาพเหมือนของบุคคลหรือทิวทัศน์ ไม่


ต้ องคล้อยตามการวาดภาพทิวทัศน์ แบบสมัยโบราณ นางแค่
ต้องดัดแปลงเล็กน้ อย ใส่ความเป็ นตัวเองลงไปในภาพเหล่านัน้

ไม่ มี ผู้ใ ดเข้ า ใจเรื่ อ งนี้ ม ากกว่ า นาง จะวาดอย่ า งไรให้


ดวงตาดูเหมือนมีชีวิตจนราวกับจะมองซ้ ายมองขวาได้ วาดสี
หน้ าให้เต็มไปด้วยความประทับใจ หรือวาดให้เสื้อผ้าอาภรณ์ ดู
โดดเด่นมีมิติกว่าที่ เคย การใช้สีตามลาดับขัน้ ตอนของเนื้ อหา
9
การเพิ่มรายละเอียดของแสงเงา การแรเงาให้เป็ นภาพสามมิติ
จนทาให้เกิดภาพสวยงามสะดุดตาที่สดุ ของที่สดุ ได้

เวลานี้ คนมีความสามารถในการประพันธ์บทกลอนและ
การวาดภาพทิวทัศน์ มีถมไป ขาดแคลนแต่การวาดภาพเสมือน
จริงเท่ านั น้ ในขณะเดี ยวกันหากให้ ความสนใจกับการวาดให้
เหมื อนจริง จนเกิน ไป แม้จะเป็ นที่ ถ กู อกถูกใจผู้ค น แต่ ก็อาจ
ทาลายเสน่ ห์ของภาพวาดให้ด้อยลงเช่นกัน ดังนัน้ มีเพียงการ
วาดภาพ เหมือนจริงร่วมกับการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกลง
ไปในภาพเท่านัน้ จึงจะปรากฏผลลัพธ์ที่งดงามที่สดุ ได้

ในใจถานหวันช ่ ิ งรู้ดีว่าตัวเองนั น้ ใช้ เทคนิค แต่ สาหรับ


เถ้ า แก่ ส วี่ ที่ ไ ม่ เ คยเห็น วิ ธี ก ารวาดภาพเช่ น นี้ ม าก่ อ นจึ ง รู้สึ ก
ประหลาดใจระคนชื่นชมกับความสวยงามและความแปลกใหม่

ถานหวันช่ ิ งไม่ได้เร่งรัด ได้แต่ ยืนอยู่ตรงนัน้ สายตาจับ


จ้องไปที่ ภาพวาดและถือโอกาสสังเกตสีหน้ าของเถ้าแก่ไปด้วย
ทาให้นางแน่ ใจว่าตัวเองนัน้ มาถูกทางแล้ว

ถึงภาพนี้ จะมีส่วนคล้ายภาพอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ กเ็ ปี่ ยมไป


ด้วยเอกลักษณ์ ของตนเองที่ ผ้คู นยอมรับได้ พอได้ยินเจ้าของ
ร้านเอ่ยปากว่าต้องการรับภาพทัง้ สองไว้ นางจึงรู้ว่าตนเองเดิม
พันถูกแล้ว
10
ถึงแม้ก่อนหน้ านี้ จะเคยสอบถามคร่าวๆ แต่ ราคาของ
ร้ า นก็ย งั ดูเ หมื อ นไม่ ช ัด เจน ตัว นางเองก็ไ ม่ มี ป ระสบการณ์
เช่ น กัน จึ ง ต้ อ งสอบถามกับ เถ้ า แก่ ต ามตรง “ไม่ ท ราบว่ า ใช้
มาตรฐานอะไรมาวัดหรือ?”

เถ้าแก่ สวี่ มองแม่นางตรงหน้ า หญิงสาวมี รูปร่างอรชร


อ้ อ นแอ้ น เป็ นสาวงามที่ เ พริ ศ พริ้ ง ราวกับ จิ ต รกรมื อ หนึ่ ง
เสกสรรปั ้น แต่ ง ผิ ว พรรณขาวผุด ผาด ท่ า ทางนุ่ ม นวลละมุ น
ละไม ทาให้ผ้คู นไม่กล้าที่ จะเมินเฉยต่ อนางได้ อีกทัง้ ผลงานที่
หญิ ง งามผู้นี้ น ามาก็ย อดเยี่ ย ม เขาอายุ ปู น นี้ แล้ ว กลับ ไม่ มี
ความสามารถในการวาดเลยด้วยซา้

หญิ ง งามวาดหญิ ง งาม เป็ นค าพูด ที่ ไ พเราะและดี ง าม


เหลือเกิน

หญิงงามเช่นนี้ ความสามารถระดับนี้ ทาให้เถ้าแก่สวี่ไม่


มีเจตนาหลอกลวงหรือปิดบังอะไร จึงบอกกับนางด้วยความ
สัต ย์ จ ริ ง “แม่ น าง จี๋ เ สี ย นฝั ง รับ ผลงานทัง้ ภาพอัก ษรและ
ภาพวาด อย่ า งแรกเลยเราไม่ ไ ด้ คิ ด เงิ น ตามชนิ ดของภาพ
เพียงแต่คิดมูลค่าตามความยาวและขนาด ยิ่งกว้างราคาก็ยิ่งสูง
ภาพของแม่นางความยาวไม่มาก ก็อาจจะได้น้อยสักหน่ อย”

่ ิ งได้ยินก็ตะลึงงัน คิดในใจว่าเวลานี้ การขาย


ถานหวันช
11
ภาพวาดและภาพอักษรตีราคากันเช่นนี้ หรือ!

แน่ นอนว่านี่ เป็ นเพี ยงผลงานของศิลปินที่ ไม่มีชื่อเสี ยง


แล้วหากเป็ นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงหรือผูเ้ ชี่ยวชาญเล่า จะไม่มี
วิธีอื่นในการประเมินมูลค่าเลยหรือ

“ภาพวาดและภาพอัก ษรของคนที่ มี ชื่ อ เสี ย งล้ ว นมี


ค่าตอบแทนตามมาตรฐาน จี๋ เสี ยนฝั งเป็ นร้านที่ พอมี ชื่อเสี ยง
อยู่บ้าง เราตี ราคาที่ ภาพขนาดใหญ่ห้าตาลึง ภาพขนาดกลาง
สามตาลึง และภาพขนาดเล็กหนึ่ งตาลึง ทัง้ สองภาพของแม่นาง
นับว่าเป็ นภาพขนาดกลาง ข้าเถ้าแก่สวี่ตดั สินใจเองแล้วกัน...
หนึ่ งภาพคิดสามตาลึง แม่นางว่าอย่างไร?”

่ ิ งยังคงนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยคาใด
ถานหวันช

“ข้ าไม่ ได้ ปิดบัง แม่น างเลยนะ นี่ เ ป็ นราคาสูง ที่ สุดแล้ว
หากไม่เชื่อแม่นางสามารถสอบถามร้านค้าตามถนนเส้นนี้ เองก็
ได้ มีเพียงจี๋เสียนฝังที่ให้ราคาขนาดนี้ ”

พอเห็นหญิงสาวมีอาการลังเลเล็กน้ อย เถ้าแก่สวี่รีบลาก
เสียงตา่ ระบายความทุกข์ “แม่นาง นามของท่านไม่ได้มีชื่อเสียง
อะไร หนึ่ งภาพสามตาลึงก็ควรดีใจแล้วนะ อีกทัง้ สองภาพนี้ กไ็ ม่
รู้จะขายได้เมื่อไร หากคิดดูดีๆ พวกเราอาจขาดทุนก็ได้ แล้ว
12
ท่านยังลังเลอะไรอยู่เล่า...”

ถานหวันช่ ิ งเห็นเจ้าของร้านอายุเกือบห้าสิบ ขอให้คนอื่น


ขายภาพให้ ด้ ว ยใบหน้ าที่ เ ปี่ ยมทุ กข์ก็รู้สึ กข าไม่ น้ อย เห็น แก่
ความจริงใจในคาพูดของอีกฝ่ ายและไม่ต้องการยุ่งยากวุ่นวาย
หญิง สาวจึ ง ตอบด้ ว ยน้ า เสี ยงสุภ าพ “ก็ได้ ถ้ าเช่ น นั น้ ก็ต กลง
ตามราคาที่พดู เมื่อครู่ ต้องรบกวนเถ้าแก่แล้ว”

“ไอ้ ห ยา! ไม่ ร บกวนๆ แม่ น างรอสัก ครู่” เถ้ า แก่ ส วี่ รี บ
รับคาติดต่ อกัน หันไปส่ งภาพให้ ลูกจ้างแล้วกาชับให้ เก็บเป็ น
อย่างดี จากนัน้ ก็หยิบเงินมามอบให้ล่ยุ จู

เถ้าแก่ เอ่ ยวาจาเกรงใจออกมายกใหญ่ ทัง้ ยังกาชับ ให้


เก็บเงินดี ๆ ระวังหาย แล้วเดินนาเพื่อไปส่ งหญิงสาวทัง้ สองที่
ประตู

ลุ่ยจูหนั กลับไปมองเจ้าของร้านแวบหนึ่ งแล้วหันกลับมา


ลูบคลาถุงเงินที่ เก็บไว้ในแขนเสื้อด้ วยความรู้สึกตื่ น เต้ น ดี ใจ
ก่ อนหันไปเอ่ ยกับคุณหนู “ลาบากลาบนตัง้ แผงขายของครึ่ง
ค่ อ นเดื อ น เที ย บความคุ้ม ค าไม่ เ ท่ า กับ กระดาษสองแผ่ น ได้
เลย”

13
ใช่ แล้ว ยุ่งตัง้ แต่ เช้าจรดเย็น ยังไม่เท่ ากระดาษเบาหวิว
สองแผ่น

่ ิ งตอบยิ้มๆ
“จะเหมือนกันได้อย่างไร” ถานหวันช

ลุ่ยจูจึงพูดต่ อว่า “ของหายากมีน้อยราคาแพง แผงขาย


ของใครก็ไปได้ แต่ภาพวาดไม่ใช่ทุกคนจะซื้อได้”

ขณะที่ พูดลุ่ยจูกย็ งั รู้สึกว่าการขายภาพขาดทุนย่ อยยับ


เพราะถ้าภาพนี้ วางขายในเมืองหลวง เพียงภาพเดียวก็สามารถ
เรียกราคาได้ แปดสิบถึงหนึ่ งร้อยตาลึงเลยที เดี ยว แต่ นางไม่
กล้ าพูด เกรงว่ าหากพูด ขึ้น มาแล้ วอาจจะทาให้ คุณหนู นึกถึง
เรือ่ งราวตอนอยู่เมืองหลวงก็เป็ นได้

ถานหวันช่ ิ ง แค่ พูด ไปเรื่อ ยเปื่ อย ไม่ คิ ด ว่ า ลุ่ ย จูจ ะตอบ


กลับ จึงมองอี กฝ่ ายด้วยความประหลาดใจ “ทราบว่าของหา
ยากมีน้อยราคาแพง ไม่เลวนี่ !”

ลุ่ยจูตอบเสี ยงแผ่ว สี หน้ าขัดเขิน “บ่าวโง่เขลานั ก วันๆ


ได้ ฟั ง แต่ ที่ น ายท่ า นกับ คุณ หนู แ ปลความตัว อัก ษร จึ ง พอได้
เรียนรูม้ าบ้างเจ้าค่ะ...”

14
16 เซียนดอกท้อ

ครัน้ ส่งหญิงทัง้ สองเรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่สวี่กก็ ลับเข้ามา


ในร้าน

เขารีบเรียกให้ลูกจ้างนารูปที่เก็บไว้ออกมาเปิดดูอีกครัง้
พอได้มองอย่างละเอียดอยู่สกั ครู่ สีหน้ าก็เผยให้เห็นถึงความพึง
พอใจ เสียดายอย่างเดียวที่รปู เล็กเกินไป หากนาไปแขวนจะไม่
เด่ น พอ คงต้ อ งเปลี่ ย นเป็ นใช้ ก รอบให้ ใ หญ่ ขึ้ น ส่ ว นกรอบก็
เปลี่ยนจากไม้เป็ นหยกหรืองาช้ าง แล้วใช้ ผ้าแพรด่วนเดินดิ้น
ทองเป็ นพื้นรองภาพไว้ ก็จะสามารถขายได้ราคาดี กาไรต้ อง
มากกว่าที่ซื้อมาสามตาลึงหลายเทา

่ ลูกจ้างทาตามที่ คิด จากนัน้ ก็ให้ นาไป


เถ้าแก่สวี่จึงสังให้
แขวนแสดงไว้ในตาแหน่ งที่เห็นชัดเจน

โชคดีที่ร้านจี๋เสียนฝังอยู่ในทาเลที่ เหมาะสม แล้วยังเป็ น


ร้านที่ มีชื่อเสียง อีกทัง้ รูปภาพและหนังสือล้วนมีคณ
ุ ภาพ ซา้ ยัง
รับประกันอย่างดีจึงมีคนเข้าออกไม่น้อย

หลังจากถานหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูจากไปไม่นาน ก็มีหญิงสาว


สามคนเดินหยอกเย้ากันเข้ามาในร้าน หญิงทัง้ สามแต่ งกาย
คล้ ายๆ กัน ในชุด ที่ วิ จิต รงดงาม หนึ่ ง ในนั น้ สวมเสื้อคลุมขน
1
จิ้งจอก กระโปรงผ้าแพรไหม อาภรณ์ ที่สวมใส่ แสดงถึงฐานะที่
รา่ รวยเปี่ ยมวาสนา

พอเห็นลูกค้าเดินเข้ามา ใบหน้ าเถ้าแก่สวี่กอ็ ิ่ มเอิบ เผย


รอยยิ้มกว้าง เขารีบเดินไปต้อนรับผู้มาใหม่ด้วยตนเองด้วยทา
ที กระตื อรือร้น การที่ เขามี ทาทางเช่ นนี้ ย่อมไม่แปลก เพราะ
หญิงสาวสามคนนี้ เป็ นเจ้าแห่ งโชคลาภของแท้ บรรดาพ่ อค้ า
น้ อยใหญ่ในเมืองเว่ยอันไม่มีผใู้ ดไม่รจู้ กั บ้านสกุลชวี

บ้ า นสกุล ชวี ท าการค้ า ผ้ า แพรและสิ่ ง ทอซึ่ ง ใหญ่ โ ตไม่


น้ อย ร้านใหญ่ ตงั ้ อยู่ที่เมืองอี้ โจวและมี ร้านสาขาอี กมากมาย
แม้แต่ในเมืองหลวงก็มีร้านสาขาของสกุลชวีเช่นกัน ตระกูลนี้ มี
ถิ่ น ฐานอยู่ในเมืองอี้ โ จว ทว่ าตอนนี้ มาพักอยู่ในเมื องเว่ ยอัน
ชัวคราว
่ พวกเขาทาการค้าแบบกล้าได้กล้าเสียและใจกว้างจน
กิจการใหญ่โตก้าวหน้ า ในเมืองเว่ยอันไม่มีผ้ใู ดล่วงรู้ว่าแม่ทพั
หัวเมืองกับบ้านสกุลชวีมีความสัมพันธ์แบบใดต่อกัน

ครอบครัว พ่ อ ค้ า ส่ ว นมากจะนิ ยมใช้ ภ าพวาดหรื อ


ภาพอักษรของคนที่มีชื่อเสียงไปประดับที่ร้านและคฤหาสน์ ของ
ตน ครอบครัวชวีกเ็ ช่นกัน ไม่ว่าจะเป็ นนายท่านหรือสมาชิกคน
อื่ นในครอบครัว ต่ างก็ชอบมาเลือกซื้ อของที่ ร้านขายภาพอยู่
เสมอ

2
เมื่อเข้ามาในร้าน หญิงที่ สวมเสื้อที่ ทาจากผ้าแพรต่ วน
แขนยาวสี ชมพูกเ็ ห็นภาพสาวงามในอิริยาบถพักผ่อนที่ แขวน
อยู่กลางห้ องเป็ นอันดับแรก มิใช่เพียงนางเท่ านัน้ ที่ หยุดดู คน
อื่ น ๆ ก็เ ดิ น ไปใต้ ภ าพนั น้ เช่ น กัน ต่ า งจับ จ้ อ งอย่ า งสัง เกตใน
รายละเอี ยด หญิงในภาพช่ างชวนให้ จิตใจหวันไหวเป็ ่ นอย่ าง
มาก

ไม่เพียงแต่ผชู้ ายเท่านัน้ ผูห้ ญิงด้วยกันเมื่อเห็นยังใจเต้น


โครมคราม

“ ภ า พ ลั ก ษ ณ ะ นี้ ไ ม่ เ ค ย เ ห็ น ที่ ไ ห น ม า ก่ อ น เ ล ย
รายละเอี ย ดในภาพแม้ แ ต่ เ ส้ น ผมของหญิ ง งามก็ถ่ า ยทอด
ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ เป็ นลายเส้นที่ ประณี ตงดงามเหนื อคา
บรรยาย ทัง้ ให้ ค วามรู้สึ ก ถึ ง ความงามที่ เ ป็ นธรรมชาติ ช่ า ง
เหมือนของจริงเหลือเกิน”

“ข้าดูไม่ผิดพลาดใช่ หรือไม่ ต่ างหูไข่มุกวาดออกมาได้


แวววาวราวกับสามารถจับต้องได้เลยทีเดียว”

ภาพที่ ทุ ก คนเอ่ ย ถึ ง เป็ นภาพที่ แ สดงถึ ง ช่ ว งเวลาการ


พักผ่อนตอนกลางวันของหญิงงามคนหนึ่ ง นางนั ง่ อยู่บนโขด
หิ น ตรงใจกลางภาพด้ ว ยท่ า ทางเกี ย จคร้ า น มื อ หนึ่ งถื อ พัด
สายตาจับจ้องไปยังนกบนกิ่งไม้อย่างเฉื่ อยชา
3
ผู้วาดสามารถพรรณนารายละเอี ยดในภาพออกมาได้
อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็ นหญิงงามท่าทางเกียจคร้านที่ นัง่ อยู่
บนโขดหินโดยมีผ้าหยาบสีน้าตาลรองพื้นไว้ นางสวมกระโปรง
ผ้าโปร่งสีขาวตัวยาวที่ไหวพลิ้วราวสายน้า เสื้อที่สวมใส่สีฟ้ากุน๊
ขอบด้วยสีแดง ด้านหลังโขดหินที่นางนัง่ มีใบกล้วยน้าว้าสีเขียว
ยื่นออกมาหนึ่ งก้าน

เพียงสามสี ขาวฟ้ าแดงง่ายๆ เช่นนี้ แล้วข้างหลังยังเพิ่มสี


เขียวของใบกล้วยก็สามารถขับให้ผิวและชุดที่ หญิงงามสวมใส่
ดูแจ่มกระจ่าง ท่าทีที่แสนเกียจคร้านกลับไม่ทาลายความสดใส
แม้แต่น้อย ไข่มุกกลมราวพระจันทร์ที่ห้อยข้างหูช่างดูสะดุดตา
เรือนผมดาขลับยิ่งเน้ นให้ กาไลข้อมือหยกดูแวววาว พอผู้ชม
กวาดตามองภาพต่ อก็เ ห็น ว่ าด้ านข้ างโขดหิน มี จานใส่ ผ ลอิ ง
เถาสองสามลู ก วางอยู่ด้ ว ย ผลไม้ ถ กู วาดออกมาได้ ส วยงาม
ที่สดุ

หญิงสาวสกุลชวีที่สวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสี ม่วงกาลังดู
ภาพอย่ างละเอี ยดเช่ นกัน จากนั น้ นางก็เรี ยกเถ้าแก่ สวี่ มาสัง่
ความ “ข้าต้องการรูปนี้ ช่วยห่อให้ด้วย”

เถ้าแก่สวี่รอคอยอยู่นานแล้ว ทันทีที่ได้ยินคาสังดวงตาก็

เปล่งประกาย รีบตะโกนเรียกลูกจ้างแล้วปรับสี หน้ าท่ าทางให้

4
เป็ นปกติ หยิ บ รูป ลงมาจากผนั ง ด้ ว ยความระมัด ระวัง แล้ ว
จัดการดูแลให้คนห่อภาพจนเรียบร้อย

หญิงที่ มาด้วยกันยังดูไม่เสร็จ กลับถูกหญิงสาวสวมเสื้อ


ขนจิ้งจอกสี ม่วงแย่งซื้อภาพไปแล้ว สีหน้ าแต่ละคนจึงฉายแวว
หงุดหงิด

“ท่ านพี่จะไม่ถามราคาสักหน่ อยหรือ?” หญิงสาวที่ สวม


แพรต่ ว นสี ช มพูห ัน ไปทางเถ้ า แก่ ส วี่ แ ล้ ว ถามว่ า “รูป นี้ ร าคา
เท่าไร ผูท้ ี่วาดมีนามว่าอะไร?”

ใบหน้ าเถ้าแก่สวี่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแล้วตอบกลับว่า
“นามของคนผู้นี้คือ ‘เซี ยนดอกท้อ’ ถึงแม้นามจะไม่โด่งดัง แต่
แม่ น างทัง้ หลายก็ไ ด้ เ ห็น แล้ ว ว่ า ภาพวาดช่ า งยอดเยี่ ย มนั ก
ตอนนี้ หนึ่ งรูปเพียงสามสิบตาลึง รอวันหน้ าหากสมญานามดัง
แล้ ว ราคาห้ า สิ บ ต าลึ ง ก็ห าซื้ อ ไม่ ไ ด้ หากแม่ น างน าไปวัน นี้
อย่างน้ อยก็ถือเป็ นของเก็บสะสมไว้ก่อน...”

“โห ดูเจ้าพูดเข้าสิ อย่างกับว่าเราซื้ อภาพไปเก็บไว้ เก็ง


กาไรงัน้ แหละ แค่สามสิบตาลึงไม่ถือว่าแพงหรอก” หญิ งสาวผู้
สวมชุดแพรต่วนสีชมพูพดู เพียงแค่นี้แล้วไม่ได้เอ่ยอะไรอีก

พวกนางพากันหันไปดูอี กภาพ ภาพนี้ มีสี ส นั สดใสกว่ า


5
ภาพเมื่อครู่ เป็ นภาพหญิงสาวกาลังอุ้มผีผา เสื้อที่ คลุมไหล่มีสี
แดงราวกับเปลวไฟ ใบหน้ าที่แต่งเติมอย่างงดงามจับตาแฝงไว้
ด้ ว ยความเงี ย บเหงาและอ้ า งว้ า ง นางมองไปข้ า งหน้ าด้ ว ย
สายตาอาลัยอาวรณ์ สายลมพัดผ่านเส้นผมให้พลิ้วไหว เสื้อผ้า
โบกสะบัดตามแรงลม ทาให้ คนที่ มองรับรู้ได้ถึงสายลมหนาว
ทิ ว ทัศ น์ โ ดยรอบเต็ม ไปด้ ว ยหมู่ เ มฆสี ฟ้ า ท าให้ รู้สึ ก ถึ ง การ
เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว

ภาพนี้ กถ็ กู หญิงสาวที่ สวมเสื้อคลุมไหล่ขนจิ้งจอกสี ม่วง


แย่งซื้อไปเช่นเดียวกัน ทาให้คนอื่นๆ เกิดความไม่พอใจ แต่พอ
คิดถึงสถานะของหญิงสาวผูน้ ี้ แล้วก็จาต้องไปดูภาพอื่นแทน

“รูปภาพทัง้ สองต่างก็เป็ นของเซี ยนดอกท้อหรือ ?” หญิง


สาวในชุดคลุมขนจิ้งจอกสี ม่วงมองเห็นการลงนามในภาพจึง
อุทานด้วยความประหลาดใจ แล้วถามต่อ “ดูจากลายมือ แม้จะ
หนักแน่ นแต่กลับนุ่มละมุนนัก จิตรกรเป็ นหญิงใช่หรือไม่?”

เถ้าแก่สวี่ยอมรับตามตรง “ถูกต้อง”

นางเอ่ ย ต่ อ ด้ ว ยท่ า ทางเหมื อ นไม่ อ ยากจะเชื่ อ “นี่ เป็ น


เรื่องยากจะพานพบจริงๆ จิตรกรหญิงผูม้ ากด้วยความสามารถ
นางช่ างเก่งกาจเหลือเกิน หากมีโอกาสข้าอยากให้เถ้าแก่สวี่นัด
ให้นางกับข้าได้พบกันสักครัง” ้
6
หลังจากคนอื่นๆ มองภาพวาดที่ เหลือในร้าน ต่ างก็คิด
ว่าไม่สวยสะดุดตาเหมือนสองภาพก่อนหน้ านี้ ดูอยู่นานก็หาได้
พบภาพที่ ถกู อกถูกใจไม่ จาต้ องกลับไปด้ วยความขุ่นเคื องใจ
เป็ นอย่างยิ่ง

พอลูกค้าออกไปกันแล้ว เถ้าแก่สวี่กฮ็ มั เพลงเบาๆ พลาง


จัดของในตู้สินค้าด้วยทาทางชื่นมื่น ลูกจ้างสองคนในร้านมอง
ท่าทีอีกฝ่ ายแล้วก็ต้องแอบส่ายหน้ าในใจ

เถ้าแก่เพิ่งซื้อสองภาพนี้ มาแท้ ๆ เขายังไม่ทนั ได้นัง่ ลงก็


ขายภาพเหล่านี้ ได้หกสิบตาลึงแล้ว ได้กาไรตัง้ ห้าสิบกว่าตาลึง
เรือ่ งแบบนี้ ช่างยากจะยอมรับ!

ทางด้านถานหวันช่ ิ งและลุ่ยจู พอสองสาวกลับมาถึงบ้าน


ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

่ ิ งที่ เหน็ ดเหนื่ อยมาสองวันแล้ วเดินกลับเข้า


ถานหวันช
ห้องแล้วถอดเสื้อคลุม จากนัน้ นางก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วย
ท่าทางผ่อนคลาย

ตอนนี้ เป็ นโอกาสอันดีของทัง้ สองในการเก็บเงิน เพราะ


เสบียงอาหารรวมทัง้ ข้าวสารในบ้านมีเพียงพอยังไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ในเร็วๆ นี้
7
แต่ลุ่ยจูที่เห็นท่าทางอ่อนล้าของคุณหนูกลับรู้สึกปวดใจ
นางถือโอกาสตอนที่ อีกฝ่ ายหลับออกไปตลาดเงียบๆ เพื่อซื้อ
เป็ ดกับปลามาบารุงร่างกายให้เจ้านาย ลุ่ยจูยกปลานึ่ ง น้ าแกง
เป็ ด โจ๊กที่ย่อยง่ายและขนมที่ซื้อติดมือกลับมาด้วยขึน้ ตัง้ โต๊ะ

่ ิ งที่เพิ่งตื่นถึงกับกุมขมับ นางไม่ต้องการให้ล่ยุ
ถานหวันช
จูใช้จ่ายอย่างสุร่ยุ สุร่าย ทว่าในเมื่ออีกฝ่ ายซื้อมาแล้วถึงตาหนิ
ไปก็ไร้ประโยชน์ จึงทาเพียงนัง่ ลงข้างโต๊ะแล้วกินอาหาร

นางตักน้าแกงหอมกรุน่ เข้าปาก รสชาติอร่อยมาก อีกทัง้


บนโต๊ะยังมีขนมที่นางชอบกิน หญิงสาวละเลียดกินทีละคา เป็ น
รสชาติที่เกินความคาดหมายจนต้องประทับไว้ในความทรงจา

ค่ายทหาร

ชายผูห้ นึ่ งในชุดคลุมตัวยาวสีด่ายกหอกเหล็กยาวเก้าฉื่ อ


ในมือขึ้นแล้วขว้างไปข้างหน้ าสุดแรง หอกยาวพุ่งแหวกอากาศ
ราวกับมังกรดุร้ายที่ ทะยานออกจากถา้ มองเห็นเพียงพู่สีแดง
บนหัวหอกที่สนไหวอยู
ั่ ่ไกลๆ

เขาเคลื่ อ นไหวอย่ า งรวดเร็ ว เห็ น ได้ ช ั ด ถึ ง ความ


โหดเหี้ยมและแม่นยา

8
พอได้เห็นภาพนี้ คนที่ กาลังนาเรื่องมารายงานจึง ขวัญ
หาย ไม่กล้าเดินไปข้างหน้ าแม้แต่ครึง่ ก้าว

สายตาชายหนุ่มเหลือบเห็นเงาคนตรงมุมกาแพง จึงเดิน
ไปเก็บหอกที่ ปักอยู่บนกาแพงอี กฟาก แล้วหัน มามองคนที่ ยืน
รออยู่

ตอนนี้ เป็ นฤดูเหมันต์ อากาศหนาวจัด ทว่าทัวทั


่ ง้ ร่างของ
ชายหนุ่มที่ ถือหอกกลับเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แผ่นหลังในชุด
คลุมตัวยาวเปี ยกชุ่มอย่างเห็นได้ชดั

คนที่ ยืนอยู่มุมกาแพงเป็ นหญิงแต่ งงานแล้ววัยสี่ สิบ พอ


นางเห็น ชายหนุ่ ม แล้ ว ก็รู้สึ ก อึ ด อัด ใจ เซี่ ย เฉิ งจู่เ ห็น ลัก ษณะ
ท่ าทางที่ หวาดกลัวจนหัวหด คิ้วเข้มพลันขมวดแน่ นอย่างไม่
พอใจ

เขายื่ น มื อไปรับ ผ้าเช็ด หน้ าผ้าฝ้ ายที่ พ ลทหารส่ ง ให้ ม า


เช็ดใบหน้ า แล้วถามขึน้ “เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง?”

หญิ ง ที่ แ ต่ ง งานแล้ ว รี บ ตอบอย่ า งประหม่ า “เรี ย บร้ อ ย


แล้วเจ้าค่ะ ธูปเที ยน กระดาษ เครื่องเซ่ นไหว้ของฮูหยินผู้เฒ่ า
ได้ตระเตรียมครบแล้วเจ้าค่ะ”

9
ใต้เท้าเซี่ยขานรับเป็ นเชิงรับรู้ แล้วถามอีกว่า “ฝูอินล่ะ?”

“คุณชายน้ อยตื่นแล้ว กาลังกินอาหารเช้าอยู่เจ้าค่ะ”

เซี่ ยเฉิงจู่พยักหน้ า หยิบเสื้อคลุมมาสวมลวกๆ แล้วเดิน


เข้าไปในโรงอาหาร

ถึ ง จะเป็ นแม่ท ัพ หัว เมือ งก็ไ ม่ ได้ กิน อาหารชัน้ ดี เ ลิ ศ รส


อาหารการกินของเขาไม่ต่างจากของพลทหาร

ที่ จริงโรงอาหารของค่ ายเปรียบเสมือนหม้อข้ าวขนาด


ใหญ่ แต่มีหม้อข้าวใหญ่แล้วจะมีประโยชน์ อะไร? ในเมื่อตอนนี้
เงินในคลังว่างเปล่า สถานภาพทางการเงินยา่ แย่ แต่ ละมื้อมี
เพี ย งข้ า วกั บ แป้ งหมี่ ข าว เนื้ อหรื อ พวกของคาวได้ แค่
จินตนาการเท่านัน้ ยามนี้ ไม่ว่าอะไรหากสามารถกินจนอิ่มท้อง
ไม่หิวได้กน็ ับว่าดีแล้ว

ถึ ง แม่ ท ัพ หัว เมื อ งจะกิ น อาหารแบบเดี ย วกับ ทหารชัน้


ประทวน ทว่าปริมาณก็มากพอ เพราะใครหิวก็ไม่เท่าใต้เท้าหิว

ทว่าถึงกับต้องกินขนมแป้ งข้าวแดงอย่างนัน้ รึ?

อาศัยอะไรมาให้ใต้เท้าเซี่ยกินขนมที่ทาจากแป้ งข้าวแดง
ไม่ใช่ขนมจากแป้ งหมี่ขาวที่มีรสชาติอร่อยและเนื้ อนุ่มเล่า?
10
สถานการณ์ ในตอนนี้ ทาให้ ผ้ทู ี่ มีหน้ าที่ หุง หาอาหารใน
กองทัพลาบากใจ ด้วยไม่มีวตั ถุดิบในการปรุงอาหาร จาต้องใช้
น้ามันทอดแป้ งข้าวแดงแทน ยังดีที่ใต้เท้าเซี่ยกลืนลงคอได้ น้า
แกงก็เป็ นน้าแกงใสชามใหญ่ แล้วเพิ่มซาลาเปาสีขาวไส้เนื้ อหมู
อีกหนึ่ งจาน ซาลาเปานี้ มีเพียงแม่ทพั หัวเมืองเท่านัน้ ที่ได้รบั

ใต้เท้าเซี่ยกลับกินแค่ขนมแป้ งข้าวแดงกับน้าแกง โดยไม่


แตะต้ องซาลาเปาเลยสักลูก พอกินอาหารเช้ าเสร็จก็เดินออก
จากโรงอาหาร เรียกเจ้าหน้ าที่อาลักษณ์มาหาทันที

“ออกไปปราบโจรคราวนี้ ตรวจสอบหรื อ ยัง ว่ า ได้


ทรัพย์สินมาเท่าไร?”

ฉงถิ ง เชี่ ย นตอบด้ ว ยสี ห น้ าอมทุ ก ข์ “เดี๋ ย วนี้ พ วกโจร


ผู้ร้ายเจ้ าเล่ ห์มาก ก่ อนถูกใต้ เ ท้ าโจมตี จนกระจัด กระจายได้
ลักลอบเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหนี ไปก่อนแล้ว ในซ่องโจรจึงเหลือ
เพียงบางส่วนเท่านัน้ ใต้เท้านาทัพไปทลายซ่องโจรสองแห่ง ได้
ทรัพย์สินรวมกันแล้วยังไม่ถึงสี่ร้อยตาลึง...นับว่าน้ อยเหลือเกิน
อาจจะต้องลดค่าอาหารของทหารไปสักเดือน”

ใต้เท้าเซี่ยชะงักเท้า หันมามองอีกฝ่ ายแวบหนึ่ ง

“เรื่องอาหารของทหารข้ าคิ ด เอาไว้ แล้ ว เป็ นสิ่ ง ที่ ต้ อง


11
แก้ ไขอย่ างเร่ง ด่ ว น เจ้า น าเงิ น หนึ่ ง ตาลึ งไปซื้ อเนื้ อมา จากนี้
ทุกๆ เดือนต้องมีอาหารคาวอย่างน้ อยสองครัง” ้

“ใต้เท้า...” ฉงถิงเชี่ยนเอ่ยเสียงอ่อยขึน้ มาทันใด แน่ นอน


ว่าเรื่องปากท้องเป็ นเรื่องเร่งด่วนและสาคัญ โดยเฉพาะการกิน
อิ่มสวมชุดอุ่นเป็ นรายจ่ายที่ มากที่ สุด แล้วนี่ ยงั สังเพ
่ ิ่ มอาหาร
ประเภทเนื้ อเข้าไปอีก...เนื้ อไม่ใช่ราคาถูกๆ นะ เขาคิดว่ายามนี้
ควรจะประหยัดเสียมากกว่า

เซี่ ยเฉิงจู่ยกมือขัดจังหวะก่อนอีกฝ่ ายจะได้พดู จบ “พวก


เขาทุ่มเทกาลังต่อสู้เคียงข้างข้า วันปกติจะต้องฝึ กซ้อม แล้วยัง
ต้ อ งสร้ า งก าแพงเมื อ งขุด คูค ลองส่ ง น้ า สู ญ เสี ย พลัง งานไป
มากมาย แม้สถานการณ์ การเงินในคลังจะคับขันเพียงใด เรื่อง
ปากท้ องของทหารก็ไม่ อาจละเลยได้ เนื้ อก็ห้ามสักแต่ ว่ าซื้ อ
ต้องเป็ นเนื้ ออย่างดีจะได้เพียงพอต่อการบารุงร่างกาย”

ทหารหากไม่มีแรงฝึ กซ้อมก็ยากที่จะต่อสู้ชนะข้าศึก แล้ว


จะเอ่ยถึงการปกป้ องและรักษาบ้านเมืองได้อย่างไร

เมื่อเห็นใต้เท้าเซี่ยมีความคิดที่แน่ วแน่ มนคง


ั ่ ฉงถิงเชี่ยน
จึ ง เลิ ก ทัด ทาน ทว่ า ก็ย ัง ไม่ ว ายกัง วลว่ า จะหาเงิ น มาใช้ จ่ า ย
เพียงพอได้อย่างไร ปั จจุบนั นี้ แม้จะยังมีโจรมีขโมยอยู่แต่ ก็ไม่
มากนั ก การสร้างกาแพงเมืองด้านนอกจาต้ องชะลอชัวคราว ่
12
เพราะอี กราวยี่ สิบวันก็จะถึงตรุษจีนแล้ว หลังจากนั น้ อี กสาม
เดือนก็จะเป็ นฤดูใบไม้ผลิซึ่งต้องการแรงงานจานวนมากมาทา
การเพาะปลูก พวกเขาต้องให้ผ้ลู ี้ภยั ช่วยกันหักร้างถางพงเพื่อ
ทาไร่ไถนา ซึ่งเงินทุนค่าใช้จ่ายก็ต้องมากตามไปด้วย

เขาไม่ร้จู ริงๆ ว่าใต้ เท้ าจะรวบรวมเงินอย่างไรจึงจะพอ


ทัง้ การหาแรงงานมาหัก ร้ า งถางพงที่ น าว่ า งเปล่ า ทัง้ เสบี ย ง
อาหารในคลัง ที่ ลดน้ อยลงทุกวัน เงิ น ไม่ ส ามารถหาได้ ง่ายๆ
ภายในวันเดียวเสี ยหน่ อย อย่าว่าแต่แม่ทพั หัวเมืองเลย ขนาด
เขาที่ทางานมาหลายปี พยายามคิดจนหัวจะแตกแล้วแต่กย็ งั คิด
ไม่ออก

13
17 สร้างชื่อ

เซี่ ยเฉิงจู่เห็นแม่นมอุ้มฝูอินเข้ามา จึงเดินไปรับเด็กชาย


ด้วยตนเอง

ฝูอินอายุห้าขวบ เขาตัวเล็กมาก มีดวงตากลมโตแต่กลับ


ไม่ปราดเปรียวว่องไวเหมือนเด็กปกติทวไป ั ่ ลักษณะท่ าทางดู
เหม่อลอย มือเล็กๆ จับเซี่ยเฉิงจู่อย่างต้องการที่พึ่งพิง

เซี่ยเฉิงจู่ใช้แขนข้างเดียวอุ้มน้ องชายแล้วโจนตัวขึน้ หลัง


ม้า ให้ แม่ น มนางนั น้ ไปเตรี ย มของเซ่ น ไหว้ ม าให้ ครัง้ นี้ ค นที่
ติดตามออกไปนอกเมืองด้วยมี สองคนคือ ฉงถิงเชี่ ยนกับจาง
เซี่ยน

สุสานของฮูหยินผู้เฒ่ าตระกูลเซี่ ยถูกย้ ายไปนอกเมือง


นานแล้ว จากประตูเมืองต้องควบม้าสิบลี้จึงจะถึง แต่อ้อมแขน
เซี่ยเฉิงจู่มีเด็กชายที่อาจจะตกใจกลัวได้ เขาจึงไม่ได้ควบม้าเร็ว
นัก

ฉงถิงเชี่ ยนกับจางเซี่ ยนมองใต้ เท้ าของตนที่ กาลัง โอบ


ประคองน้ อ งชายอายุ น้ อ ยด้ ว ยแขนข้ า งเดี ย ว มื อ อี ก ข้ า งดึ ง

1
เชือกบังเหียน สีหน้ าเฉยเมยตลอดทาง แล้วก็แอบถอนหายใจ

ประวัติของใต้เท้าเซี่ ยพวกเขารู้เพียงบางส่วน ตอนแรก


เขาเป็ นเพี ยงผู้ลี้ภยั ที่ เร่ร่อน ขออาหารกลางวันจากทหารเพื่อ
เลี้ยงครอบครัว พอเขาอายุสิบสามก็เข้ามาเป็ นทหาร จากนัน้ ก็
สังสมประสบการณ์
่ จนได้ เลื่อนตาแหน่ งเป็ นนายทหารกระทัง่
ได้เป็ นผู้ปกครองเมืองในที่สุด เดิมทีใต้เท้าต้องการเสวยสุขกับ
มารดา แต่ น่ า เสี ย ดายสองปี ก่ อ น ระหว่ า งการเดิ น ทาง โรค
เก่ า ของฮูห ยิ น ผู้เ ฒ่ า ก็กาเริ บ ไม่ มี ท ัง้ หมอทัง้ ยาในการรัก ษา
นางจึงลาโลกไป เหลือไว้เพียงเด็กปั ญญาอ่อนคนหนึ่ ง เด็กคน
นั น้ ตอนนี้ อายุห้าขวบแล้ ว แต่ ย งั พูด ไม่ เ ป็ น ขนาดให้ เ รี ย กใต้
เท้าเซี่ ยว่าพี่ชายก็ยงั ทาไม่ได้ ทาให้คนเป็ นพี่ร้สู ึกเจ็บปวดใจยิ่ง
นัก

วัน นี้ ฟ้ าครึ้ ม อากาศหนาวเหน็ บ เสี ย ดแทงเข้ า ไปถึ ง


กระดูก ลมพายุกพ็ ดั แรง ใต้เท้าเซี่ ยใช้เสื้อคลุมห่ อตัวน้ องชาย
ตัวน้ อยที่ คาว่าหนาวแค่คาเดี ยวก็พูดไม่เป็ น ได้แต่ เหม่อลอย
อยู่ใต้ ผ้าคลุมของเขา หลังจากที่ เด็กชายรู้สึกตัวก็เงยหน้ ามอง
คนที่กอดตนอยู่เป็ นนาน ก่อนจะก้มหน้ ามองม้าที่ใต้รา่ ง

ฉงถิงเชี่ยนกับจางเซี่ยนที่อยู่ด้านหลังเห็นแล้วก็ต้องถอน
หายใจซา้ ๆ พลางเบนสายตาไปทางอื่น
2
การที่ ทงั ้ สองเดินทางมาด้วยในครัง้ นี้ เพราะต้ องการถือ
โอกาสสารวจนอกเมืองไปด้วย ยามนี้ ทงั ้ คลองส่งน้าและคูเมือง
ยัง สร้ า งไม่ เ สร็ จ ปริ มาณน้ า ที่ ใ ช้ ย ัง ไม่ เ พี ย งพอ ผื น ดิ นก็
แตกระแหงแห้งแล้ง จาเป็ นต้องบุกเบิกขึ้นมาใหม่ ซึ่ งก็ต้องใช้
น้ า ด้ ว ยเช่ น กัน การขุด คลองส่ ง น้ า ครัง้ นี้ จึ ง เป็ นงานใหญ่ ทัง้
ค่าจ้าง ค่าอุปกรณ์ ต้องใช้เงินจานวนมาก แล้วยังค่าเมล็ดพันธุ์
ในการทาการเพราะปลูกอีก

คณะเดินทางทัง้ กลุ่มผ่านบริเวณที่ เป็ นที่ อยู่อาศัย นอก


เมื อ งทางทิ ศ ตะวัน ออก พื้น ที่ นี้ มี ผ้ลู ี้ ภ ยั กว่ า หนึ่ ง ร้ อ ยสามสิ บ
ครัวเรือน มีสิบครอบครัวที่มาอยู่ก่อนแล้วเริ่มสร้างบ้านของตน
เรี ย งเป็ นแถว แต่ สิ บ หลัง ต่ อ มาน่ า จะขาดแคลนทุ น ทรัพ ย์จึง
อาศัยกาแพงสร้างเป็ นเพิงกระท่อมด้วยหญ้าคา เพิงหญ้าคาจะ
ต้านทานอากาศหนาวยะเยือกในฤดูหนาวได้อย่างไร?

คนเหล่านี้ เข้ามาอยู่ในเมืองเว่ยอันทัง้ ครอบครัว ไม่ว่า


ชายหรือหญิงล้วนสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น แม้แต่ ถงุ เท้ าผ้าฝ้ ายกับ
รองเท้าสาหรับหน้ าหนาวก็ไม่มีใส่ ขณะที่ คนทัง้ สี่ขี่ม้าผ่าน บาง
คนก็ถึงกับหลบหน้ าหลบตา

พวกเขาขี่ม้าผ่านไปพบอีกครอบครัวที่กาลังต้มบางอย่าง
อยู่หน้ าประตู ในหม้อคือรากต้นไม้นามาต้มกับราข้าว ได้กลิ่น
3
สมุนไพรอ่อนลอยมาตามลม ดมจากกลิ่นแล้วคงยากที่จะกินลง
ท้องได้

เซี่ยเฉิงจู่ขมวดคิ้วแต่ไม่เอ่ยคาใด เมื่อออกจากย่านที่พกั
อาศัย แห่ ง นั ้น แล้ ว เขาจึ ง ชี้ ก ลับ ไปแล้ ว ถามจางเซี่ ย น “คน
เหล่านี้ อยู่กนั อย่างไร? ข้าให้กวั ซิ่งกับตู้เหอมาดูแลกลุ่มผู้ลี้ภยั
ที่นี่ พวกเขาจัดการแบบนี้ หรือ?”

จางเซี่ ยนรีบเอามือทัง้ สองประสานกันเพื่อแสดงความ


เคารพก่อนจะตอบ “ใต้เท้า ที่จริงไม่อาจโทษพวกเขาได้ ตอนนี้
ขนาดหินที่นาไปสร้างกาแพงเมืองยังไม่พอเลย จึงยากที่จะแบ่ง
มาสร้างบ้านให้ ประชาชน จาต้ องสร้างด้วยหญ้ าหนาๆ ให้ อยู่
อาศัยกันไปก่ อน สองคนนั น้ พยายามให้ คนนาเอาหญ้าคามา
มัดอย่ างหนาแน่ น คิดว่าฤดูหนาวคงพอประทังความลาบาก
ยากเข็ญไปได้บา้ ง”

สภาพอากาศตอนนี้ หนาวยะเยือก ผืนดินแห้งแข็ง ถึงจะ


มีหินแต่กไ็ ม่อาจสร้างบ้านได้ทนั

ฉงถิงเชี่ ยนกับจางเซี่ ยนควบม้าตามหลังเซี่ ยเฉิงจู่อย่าง


ช้ าๆ เห็นแต่ แผ่นหลังของอี กฝ่ าย ไม่อาจเห็นสี หน้ าแต่ พอจะ
คาดเดาได้ว่าคงไม่ดีอย่างยิ่ง ผ่านไปพักใหญ่ใต้ เท้ าเซี่ ยก็ถอน
4
หายใจเบาๆ น้าเสียงเหมือนกับเหนื่ อยอ่อน

“ถ้าหากคนที่ บากหน้ ามาขออาศัยที่ เมืองเว่ยอันหิวตาย


หรือแข็งตาย ต่อไปผูใ้ ดจะกล้าย้ายครอบครัวมาอยู่เมืองนี้ พวก
เจ้าเอาเงินสองร้อยตาลึงจัดการหาผ้า ฝ้ ายกับรองเท้ าผ้าฝ้ าย
ส่ ง ไป แล้ ว แบ่ง เงิ น ให้ ทุก ครอบครัวสักเล็กน้ อย ฟื นสามหาบ
ส่ วนหลังคาให้ มุงหญ้ าคาเพิ่มอี กชัน้ ให้ มนคง
ั่ ไม่ว่าอย่ างไรก็
ต้องรักษาชีวิตของพวกเขา”

ทัง้ สองคนรีบตอบรับทันที แต่ในใจกลับคิดคานวณอย่าง


รวดเร็ว หนึ่ งร้อยสามสิบกว่าครัวเรือน ไม่ใช่จานวนน้ อยๆ แค่
ครอบครัวเดี ยวก็เดือดร้อนแล้ว ให้ เงินทุกครอบครัว ฟื นสาม
หาบ แล้วยังมีผ้าฝ้ ายกับ รองเท้ าผ้าฝ้ ายสาหรับทุกคนอี ก ของ
ต่ างๆ นานาเหล่านี้ รวมกันแล้วไม่ใช่ ว่าเงินสองร้อยตาลึงจะ
สามารถทาได้ คานวณอย่างไรก็เกินสองร้อยตาลึงอยู่ดี

ครัง้ นี้ ...ต้องหา ‘เงินปราบโจร’ มาเพิ่มแน่ นอน

วันนี้ เป็ นวันครบรอบวันตายของมารดาใต้เท้าเซี่ย จิตใจ


ของใต้เท้าจึงไม่สงบนัก พวกเขาไม่อยากเพิ่มความไม่สบายใจ
ให้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงพวกเขาจะไม่พูด เกรงว่าในใจใต้
เท้าก็กาลังคานวณตัวเลขอยู่เช่นกัน
5
หลุมฝังศพของฮูหยินผู้เฒ่าเงียบสงบอย่างเห็นได้ชดั ใต้
เท้ าเซี่ ยลงจากหลังม้า วางน้ องชายลงบนพื้น โดยไม่เอ่ยสักคา
ชายหนุ่ ม หยิ บ พลัวมาท
่ าความสะอาดวัช พื ช รอบบริ เ วณนั น้
แล้วเพิ่มดินกลบลงบนหลุมฝัง

เด็กน้ อยฝูอินวัยห้าขวบไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้ าและ


สภาพแวดล้ อม เด็กชายที่ ปัญญาอ่ อนจาได้ แต่ ใต้ เท้ าเซี่ ย ไม่
รู้จกั ฉงถิงเชี่ยนกับจางเซี่ยน ครัน้ พอแปลกที่ทางเด็กชายก็ร้สู ึก
กลัว จึงเดินตุปัดตุเป๋ไปอยู่ข้ างๆ ใต้ เท้ า มือจับที่ มุมเสื้ อของ
พี่ชายไม่ยอมปล่อย

่ ่ยเฉิงจู่โยนพลัวในมื
จนกระทังเซี ่ อไว้ริมสุสาน จากนัน้ นา
ของในตะกร้าที่ เ ตรี ย มไว้ อย่างหมันโถว
่ หม่ าฉื่ อ และอาหาร
มังสวิรตั ิ ออกมาวางตรงหน้ าหลุมฝังศพ แล้วเสียบกระดาษไว้ที่
ต้นไผ่เล็กๆ ซึ่งมีลูกบอลกระดาษห้อยอยู่ ก่อนจะดึงฝูอินเข้ามา
ให้เด็กชายคารวะหน้ าหลุมฝังศพ

ตอนที่ มารดาจากไป ฝูอินยังเล็กนั ก นอกจากนี้ เขายัง


เป็ นเด็กที่ มีปัญหาทางสมอง เกรงว่าเด็กชายผู้นี้จะจามารดาที่
รักเขามากที่สดุ ไม่ได้ด้วยซา้

เพราะฝูอินมีการทรงตัวที่ ไม่ดีจึงถูกใต้ เท้ าเซี่ ยกดไว้กบั


6
พื้นดินที่ ทงั ้ แข็งและเย็น เด็กชายก้มลงคารวะพร้อมกับยื่นมือ
จะไปหยิบหม่าฉื่ อที่อยู่ใกล้ๆ

ขนมสีดามีงาน่ าอร่อยนัก...

ทว่ามือเด็กชายถูกใต้เท้าเซี่ยดึงกลับมา เป็ นเช่นนี้ สามสี่


ครัง้ เด็กชายก็เลยร้องไห้ เขาถูกกดให้คารวะจนครบสามครังจึ ้ ง
สามารถหยิบขนมมาได้ จากนัน้ ก็ยดั ใส่ปากอย่างรวดเร็ว

จวบจนใต้ เท้ าเซี่ ยทาพิธีเซ่ นไหว้เผากระดาษเสร็จเรียบ


ร้อยแล้ ว เขาก็ใช้ แขนหนี บฝูอินที่ กาลังเอร็ดอร่อยกับการกิน
ขนมขึน้ บนหลังม้า แล้วควบกลับไปทางเดิม

ทันที ที่กลับถึงค่ายทหาร ใต้ เท้ าเซี่ ยผู้ไม่ชื่นชอบการดื่ม


สุรา แต่คืนนี้ ไม่ร้เู พราะอะไร เขาถึงนัง่ ในห้องตามลาพังดื่มสุรา
ราวกับว่ามันเป็ นเพียงน้าเปล่า

วัน ต่ อ มาเซี่ ย เฉิ งจู่ก็ก ระโดดขึ้น หลัง ม้ า ออกจากค่ า ย


ทหารไป

จี๋เสียนฝัง

ภาพเขียนโบราณ ‘คืนจันทร์เพ็ญ’ ที่ ติดอยู่บนผนังดึงดูด


7
สายตาผู้คนที่ มีความสามารถด้านศิลปะให้ เข้ามาสังเกตและ
ศึกษากันอยู่ไม่น้อย

‘คื น จัน ทร์ เ พ็ญ ’...เพี ย งแค่ ไ ด้ อ่ า นชื่ อ ก็ คิ ดโยงไปถึ ง


ความหมายของภาพ อันประกอบด้วยคา่ คืนที่ พระจันทร์เต็ม
ดวง กระแสน้าขึน้ และคนผูห้ นึ่ ง

เหล่าบัณฑิตมองลายเส้นที่ม้วนขึน้ แสดงถึงเกลียวคลื่นที่
แตกกระเซ็นเป็ นฟองฝอย ทัง้ ภาพวาดใช้ เพี ยงแค่ สีดา สี ขาว
และสี น้ าเงินเท่านัน้ แต่กลับให้ความรู้สึกสมจริงอย่างมาก จน
ทาให้พวกเขาเกิดความประหลาดใจ

“นี่ เ ป็ นวิ ธี ว าดแบบใดกัน ? ข้ า ไม่ อ าจน าภาพก่ อ นๆ ที่


เคยพบมาเปรี ย บเที ย บได้ เ ลย ภาพนี้ ว าดจนเหมื อ นได้ เ ห็น
ระลอกคลื่นน้าที่เคลื่อนไหว ช่างเป็ นภาพวาดที่ แปลกนัก ข้าไม่
เคยเห็นมาก่อนในชีวิต พี่หลี่ท่านเคยเห็นหรือไม่?”

ั ฑิตผู้หนึ่ งในชุดเสื้อคลุมตัวยาวสี ขาว ยังคงจับ


ว่าที่ บณ
จ้องภาพวาดบนผนังไม่วางตา แม้จะถูกคนข้างๆ เอ่ยถาม

“ข้าเองก็มีความรู้แค่งูๆ ปลาๆ นี่ เป็ นครัง้ แรกที่ ได้ เห็น


ภาพศิลปะแบบนี้ ” ผูถ้ กู ถามตอบอย่างละอายใจ

8
“ข้ารู้ว่ามีการวาดตามแบบใยแมงมุม ลายเส้นลื่นไหลไม่
ขัดเขิน แล้วยังมีวิธีการวาดอีกกว่าสิบชนิด แต่ไม่เคยเห็นศิลปะ
และลีลาการวาดที่เหมือนจริงขนาดนี้ มาก่อน” เดิมทีกถ็ ือว่าเขา
เชี่ ย วชาญวิ ธี ก ารวาดลายเส้ น ทุ ก ชนิ ดอยู่ แ ล้ ว ได้ พ บเห็น มา
หลากหลาย ตอนนี้ กลับดูไม่ออกว่าใช้วิธีใดในการวาด ราวกับ
ว่าไม่เคยมีวิธีการวาดแบบนี้

"ภาพนี้ แ ม้ จ ะบอกว่ า เป็ นศิ ล ปะการวาดที่ เ น้ น หนั ก ใน


รายละเอียด แต่กลับมีองค์ประกอบบนภาพน้ อย หากบอกว่านี่
เป็ นการวาดพู่กนั เสี่ยอี้ แต่วิธีการวาดก็ไม่เหมือนกับภาพข้างๆ
เลย ภาพนี้ ใช้ สีเป็ นส่วนมากแต่ลายเส้นน้ อยนัก ทาให้ผ้ทู ี่ มอง
เข้าถึงอารมณ์ ได้อย่างลึกซึ้งและมีแรงดึงดูดยิ่ง ราวกับทิวทัศน์
ในภาพปรากฏขึ้นตรงหน้ า ได้ยินกระทังเสี ่ ยงระลอกคลื่น เป็ น
ศิลปะการวาดภาพที่ ทาให้คนประหลาดและซาบซึ้งประทับใจ
ในคราเดียวกัน เกรงว่าน่ าจะเป็ นหนึ่ งไม่เป็ นสองรองใคร หรือ
เซียนดอกท้อผูน้ ี้ เป็ นคนริเริ่มวิธีการวาดขึน้ มาเองกันนะ"

ผู้คนมากมายเอ่ยชื่ นชมเสี ยงดังไม่ขาดสาย ภาพขนาด


กลางตัง้ ตระหง่านอย่างงดงามและน่ าตื่ นตาตื่ นใจ ใช้ สีดาน้ า
เงินและขาวเพี ยงสามสี โดยใช้ สีอ่อนตัดสี เข้มออกมาให้ เห็น
เด่ น ชัด แค่ ส ามสี แ ต่ ก ลับ สามารถสร้า งจิ น ตนาการขึ้น มาได้
แบบไร้ขอบเขต ให้ ความรู้สึกเลอเลิศลึกลา้ เป็ นที่ สุด สี สนั ของ
9
พระจัน ทร์คื น วัน เพ็ญ และคลื่ น ทะเลที่ สื่ อ ออกมาสร้ า งความ
ประทับใจให้ผพู้ บเห็นเป็ นอันมาก

ในภาพ หมู่เมฆราวกับเหลื่อมซ้อนกันเป็ นชัน้ ๆ ลายเส้น


และเฉดสี เล่นระดับชัน้ เมฆให้เปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้า
จนไม่สามารถหยังถึ ่ ง ท่ามกลางชัน้ เมฆมีแสงสีเงินสว่างวาบดุจ
น้ า ค้ า งแข็ง ท้ อ งทะเลสะท้ อ นแสงจัน ทร์ เห็ น ระลอกคลื่ น
ระยิบระยับ

บนโขดหินมีแผ่นหลังของใครคนหนึ่ ง สวมชุดขาวมือคา้
อยู่บนหิน กาลังเงยหน้ าชมจันทร์ คนที่มองภาพต่างก็นาตัวเอง
เข้าไปแทนที่ เงาของรูปร่างในภาพนั น้ ทาให้ เกิดความเข้ าใจ
และซาบซึ้งจนบางคนถึงกับตกอยู่ในภวังค์ เหมือนกับพวกเขา
อยู่ ใ นค ่า คื น ที่ มื ด มน ได้ ยิ น เสี ย งเกลี ย วคลื่ น ดัง มาไม่ ข าด
สาย สายตาจับจ้ องดวงจันทร์บนท้ องฟ้ าที่ ไร้ขอบเขต อยู่คน
เดียวอย่างเปล่าเปลี่ยว ลิ้มรสความโดดเดี่ยวเดียวดาย ณ ที่โล่ง
กว้างแห่งนัน้ เพียงลาพัง

เวลาผ่านไปนานในที่สุดก็มีคนมองเส้นสนกลในออก “ที่
แท้วิธีการวาดภาพเสมือนจริงนี้ ความสว่างของดวงจันทร์และ
ท้องทะเลก็มีความสัมพันธ์กนั นัน่ เอง!”

10
ทุ ก คนพากัน มองอย่ า งละเอี ย ดอี ก ครัง้ ...เป็ นเช่ น นั ้น
จริงๆ แสงสว่างของดวงจันทร์นัน้ สะท้ อนอยู่บนท้ องทะเล ทา
ให้ ภาพน้ าทะเลแสดงความกว้าง ลึก และไกลออกไป วิธีการ
วาดแบบใช้แสงและเงาแบบนี้ ช่างน่ าอัศจรรย์ยิ่งนัก

นอกจากคนกับเงาที่ตกกระทบบนพืน้ จะทาให้เหมือนคน
จริงๆ แล้ ว ยังเป็ นวิธีการวาดที่ รวมองค์ประกอบเข้าด้วยกัน
ภาพคนกับเงารวมเข้าด้วยกันเป็ นหนึ่ ง ให้ความรูส้ ึกที่สมจริง

“ที่แท้กเ็ ป็ นเช่นนี้ พี่หลิน ท่านลองดูภาพดีๆ สิ แสงจันทร์


ที่ ส่ อ งสะท้ อ นกับ คลื่ น ทะเลไปในทิ ศ ทางเดี ย วกัน ท าให้ เ ห็น
เหมือนมีชีวิต ราวกับคลื่นทะเลนัน้ เคลื่อนไหวจริงๆ หากมอง
การจัดการแต่ ละจุดในภาพอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทัง้ วิธีการวาด
คลื่นทะเล คนและเงาคน รวมถึงเสื้อคลุมยาวที่ คนในภาพสวม
ใส่ ที่ ใ ช้ เ พี ย งไม่ กี่ เ ฉดสี กลับ ท่ า ให้ ท ัว่ ทุ ก แห่ ง ของภาพวาด
นี้ น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก”

“องค์ประกอบภายในภาพนี้ มีเพียงแค่ ดวงจันทร์ ระลอก


คลื่ น น้ า และคนที่ ดู เ รี ย บง่ า ยเท่ า นั ้น ทว่ า ทั ง้ ภาพกลับ ให้
ความรู้สึกที่ ไม่ธรรมดา! ข้าคิดว่าการอธิบายรายละเอี ยดของ
ภาพและวิธีการของจิตรกรช่างน่ าประทับใจยิ่งนัก ทัง้ ยังแสดง
ให้ เห็นถึงรูปแบบวิธีการวาดภาพเสมือนจริงที่ เป็ นเอกลักษณ์
11
อีกด้วย”

“ความหมายของพี่หลินคือ...?”

“เกรงว่าศิลปะการวาดภาพของเซี ยนดอกท้ อท่ านนี้ จะ


ชานาญการวาดภาพที่สมบูรณ์ แบบที่สุด ไม่สามารถคาดเดาได้
เลย น่ าขันที่ ข้าเคยคิดว่า ศิลปะการวาดภาพเริ่มจะด้อยลง ไม่
สามารถขึ้น แท่ น ตัง้ โต๊ะ ได้ ตอนนี้ ดูเ หมื อ นข้ า จะต้ อ งเปลี่ ย น
ความคิด เมื่อได้เห็นภาพวาดที่น่าทึ่งภาพนี้ ”

ความมหัศจรรย์ของภาพนี้ ดึงดูดผู้คนมากมายให้ อยาก


ครอบครองเป็ นเจ้าของ หลายๆ คนคิดจะน่ าภาพกลับไปบ้าน
ด้วย

ภาพนี้ เ ปิ ดราคาเริ่ ม ต้ น ที่ ห้ า สิ บ ต าลึ ง ปรากฏว่ า ผู้ค น


มากมายต่างยินยอมที่ จะเข้าแย่งชิง มีคนให้ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากราคาห้ าสิบตาลึงก็ขึ้นไปถึงแปดสิบตาลึง เถ้าแก่สวี่ถึงกับ
่ ิ ก ดึงหนวดเคราจนแทบจะหลุด
มือสันระร

ในที่ สุดเจ้าของภาพคนใหม่กเ็ อาม้วนภาพราคาแปดสิบ


ตาลึงกลับไป

12
หลัง จากส่ ง บรรดาลู ก ค้ า ออกจากร้ า นกัน หมดแล้ ว
เถ้าแก่สวี่กร็ ีบเรียกเด็กในร้านสองคนมาหา “ภาพที่ ขายไปเมื่อ
ครู่ ตอนข้ารับมาจ่ายเงินไปเท่าไร?”

ลูกจ้างร้านสองคนท่าท่าคิด ก่อนจะตอบกลับมา “เถ้าแก่


หยอกพวกเราอยู่หรือเปล่า นัน่ มันเรือ่ งเมื่อคืนก่อน ภาพนี้ ไม่ใช่
ท่ านเป็ นคนจัดการเก็บเองหรือ ท่ านให้ เงินแม่น างคนนั น้ ไป
แปดตาลึงเงิน...”

“แปดตาลึง!!!” เถ้าแก่สวี่ลูบหน้ าอกตนเอง “ไอ้หยา! เหตุ


ใดข้าถึงให้นางแค่แปดตาลึงล่ะ?”

สองลูกจ้ างได้ ยินแล้ วเกิดความรู้สึกไม่ สบายใจ “แปด


ตาลึงก็ถกู ต้ องแล้วนะขอรับ ถ้าตามราคาที่ ตกลงกันไว้ ขนาด
ของภาพนั ้น อยู่ ที่ ห้ า ต าลึ ง แต่ เ ถ้ า แก่ ย งั ให้ เ พิ่ ม อี ก สามต าลึ ง
ด้วย”

“ไอ้ โ ง่ ! ...โง่ ท ัง้ สองคน!” เถ้ า แก่ ส วี่ ชี้ ไ ปที่ ลู ก จ้ า งพลาง
กล่าวเสี ยงดัง “ทาไมพวกเจ้าไม่คิดกันบ้าง ข้าถามหน่ อย ก่อน
หน้ านี้ แม่นางผู้นัน้ ขายภาพให้ร้านเรากี่ภาพแล้ว? พวกเราขาย
ไปได้เท่าไร?”

13
“ก่อนหน้ านัน้ สองภาพ ท่านให้หกตาลึงเงิน ร้านขายได้
หกสิบตาลึงเงิน รอบที่ สองภาพใหญ่สวยงามและภาพเล็กอี ก
หนึ่ งภาพ ท่านคิดให้นางรวมเจ็ดตาลึงเงิน ตามที่ กาหนดไว้คือ
ภาพใหญ่ห้าตาลึง ภาพเล็กหนึ่ งตาลึง แต่ท่านให้เพิ่มหนึ่ งตาลึง
ขายเปลี่ยนมือหกสิบห้าตาลึง ครัง้ ที่ สามนี้ ถึงจะเป็ นภาพขนาด
กลาง แต่ท่านก็ให้นางแปดตาลึง แล้วขายไปแปด...สิบ...ตาลึง”

ลูกจ้างสองคนพูดไล่รายละเอี ยด ยิ่งพูดเสี ยงยิ่งแผ่วลง


ถึงพวกเขาจะเป็ นลูกจ้างร้านและทาตามคาสังเถ้ ่ า แก่ มาโดย
ตลอด แต่คราวนี้ เอ่ยออกมาจากก้นบึง้ ของหัวใจโดยที่ไม่ได้นัด
หมายมาก่ อน “แย่! แย่จริงๆ! แม่นางผู้นัน้ ลาบากลาบนวาด
ภาพมาตัง้ หลายภาพ เก็บ เงิ น รวมกัน ทัง้ หมดแล้ วยัง ไม่เท่ าที่
ร้านขายไปภาพเดียวเลย...”

เจ้าของร้านจี๋เสียนฝังเอ่ยอย่างร้อนใจดังไฟสุมทรวง “ข้า
ท่าอย่างนัน้ จริงรึ ทัง้ ภาพที่ส่งมาก่อนหน้ า กับภาพที่ขายในวันนี้
ได้เงินรวมกันแล้วไม่เท่าภาพเดียวหมายความว่าอะไร?”

“แล้วหมายความว่าอะไรล่ะขอรับ?”

“หมายความว่ าข้ าให้ เ งิ น นางน้ อยไปนะสิ ! ” เถ้ า แก่ ส วี่


เดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ “ไม่ได้ๆ จะพูดอย่างไรให้เทพ
14
เจ้าแห่ งโชคลาภมาเป็ นพวกของเรา” เขารีบหันหน้ าไปกาชับ
ลูกจ้างเสียงหนักแน่ น

“คราวหน้ า หากแม่นางผู้นัน้ มาอี ก ภาพของนาง...ไม่ว่า


จะเป็ นภาพอะไร เกณฑ์ที่ห้า ตาลึงให้ เปลี่ ยนเป็ นยี่ สิบตาลึง...
ไม่ๆ ให้ยี่สิบห้าตาลึงเลยแล้วกัน”

15
18 พานพบอีกครา

ภาพ ‘ป้ อนนกพิราบ’ ในมือของถานหวันช


่ ิ งเพิ่งวาดเสร็จ

นางยกขึ้นมาดูรายละเอี ยดและสี สนั โดยอาศัยแสงจาก


นอกหน้ าตาง จังหวะนัน้ เองลุ่ยจูกก็ ลับมาจากข้างนอก เด็กสาว
เดินมานัง่ ลงข้างๆ แล้วพูดด้วยท่าทางดีอกดีใจ

“คุณหนู วันนี้ ข้าเดินผ่านจี๋เสี ยนฝั งเลยแวะเข้ าไปดูสกั


หน่ อย ภาพของคุณหนูขายไปแล้วนะเจ้าคะ เถ้าแก่นัน่ ยังพูดว่า
...”

่ ิ งก็ผินหน้ าไปมอง “พูด


เห็นลุ่ยจูหยุดชะงักลง ถานหวันช
ว่าอะไร?”

“เถ้ า แก่ พูด ว่ า หากคุณ หนู มี ภ าพอื่ น อี ก ก็ใ ห้ ส่ ง ไปที่ เ ขา


หนึ่ งภาพให้ยี่สิบห้าตาลึง ราคาดีมากนะเจ้าคะ ต่อไปคุณหนูจะ
ไม่เสียเปรียบแล้ว”

ยี่สิบห้าตาลึง? ถานหวันช ่ ิ งตะลึงงัน ไม่คิดว่าราคาจะขึ้น


ไวเพียงนี้ สองวันก่อนหนึ่ งภาพยังหกตาลึงอยู่เลย นี่ เพิ่งผ่านไป
ไม่นานกลับขึ้นเป็ นสี่ เท่า เจ้าของร้านตัง้ ราคาให้สูงขนาดนี้ คง
1
กลัวว่านางจะขายภาพให้ คนอื่น ภาพที่ ขายไปก่อนหน้ าคิดว่า
น่ าจะทากาไรให้เขาไม่น้อยทีเดียว

่ ิ ง จะรี บ ขายกลับ ม้ ว นภาพ ‘ป้ อน


ทว่ า แทนที่ ถ านหวันช
นกพิราบ’ วางไว้ข้างๆ

“คุณหนู ข้าจะน่ าไปติดบนกระดาษแข็งนะเจ้าคะ”

“ยังไม่ต้องรีบหรอก”

“ทาไมล่ะเจ้าคะ? เถ้าแก่สวี่ เจ้าของร้านจี๋ เสี ยนฝั งนั น่ ดู


รีบร้อนมาก เขาถามข้าตัง้ หลายรอบ ยา้ แล้วยา้ อี กว่าหนึ่ งภาพ
ให้ยี่สิบห้าตาลึง”

“ก็เพราะว่าเขารีบน่ ะสิ ดังนัน้ เราจึงไม่ต้องรีบ”

ถานหวันช ่ ิ งเอ่ยเสียงเนิบ เห็นลุ่ยจูยงั ไม่เข้าใจจึงอธิบาย


อย่ า งอดทน “วัน ก่ อ นเจ้ า เคยพู ด ว่ า ของหายากก็ ยิ่ งแพง
เพราะว่าภาพของข้าเป็ นของหายาก ราคาจึงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อี กทัง้ ตอนนี้ ข้าก็เหนื่ อยแล้ว” กล่าวจบนางก็เริ่มเก็บอุปกรณ์
ต่างๆ ที่ใช้วาดภาพให้เข้าที่เข้าทาง

2
ลุ่ยจูเพิ่งจะเข้าใจ นางรีบแย่งพู่กนั จากมือนายสาวแล้ว
เก็บของให้แทนเพื่อที่อีกฝ่ ายจะได้ไปพักผ่อนได้เร็วขึน้ เมื่อเก็บ
ของบนโต๊ะจนเรียบร้อยแล้วลุ่ยจูกร็ ีบน่ าภาพป้ อนนกพิราบมา
ติ ด ลงบนกระดาษแข็ง ด้ ว ยความระมัด ระวัง เพราะกลัว ว่ า จะ
เสียหาย เหมือนกับว่ามันเป็ นของที่บอบบางขาดง่าย

่ ิ งแล้ว การวาดภาพเช่นนี้ ไม่ยาก


สาหรับถานหวันช

เพราะนางแค่วาดไปตามอารมณ์ เรื่องที่ ยากคือการใช้สี


เนื่ องจากสีมีน้อยเหลือเกิน นอกจากสีแดงแล้วส่วนมากจะเป็ น
สี จืดที่ ยากจะผสมหรือปรับเปลี่ยน การไม่มีสีเข้มให้ ใช้ ในการ
วาดภาพถื อ เป็ นข้ อ จ ากัด ที่ ส าคัญ อย่ า งหนึ่ งของจิ ต รกรเลย
ทีเดียว

การที่ ภาพขายดีถือว่าไม่ผิดไปจากการคาดการณ์ ทาไม


ถึงจะไม่ขายดี ล่ะ ในเมื่อยุคสมัยนี้ ยงั ไม่มีคนเชี่ ยวชาญวิธีวาด
ภาพแบบนี้ องค์ประกอบทัง้ หมดของภาพผ่านการใคร่ค รวญ
และวางแบบมาอย่ า งดี อย่ า งภาพคนก็ต้ อ งดู ว่ า ควรวางไว้
ต าแหน่ ง ใดถึ ง จะเป็ นจุด รวมสายตาได้ หรื อ ว่ า ตรงไหนควร
เหลือพื้นที่ สีขาว ตรงไหนควรเติมสี ให้เต็ม การแบ่งแยกสี เพื่อ
สร้างมิติของภาพ สิ่งเหล่านี้ จิตรกรส่วนมากของยุคนี้ ยงั ไม่ร้จู กั
หญิงสาวจึงถือโอกาสนามาใช้ให้เป็ นประโยชน์
3
อย่ า งไรก็ต ามจุ ด ส าคัญ ของการขายภาพก็คื อ ขอแค่
ให้คนที่ซื้อภาพชอบแล้วกัน

หญิงสาวอยากจะออกไปเดินเล่น แต่เพราะหลายวันมานี้
ใช้ ก าลัง ไปมากจึ ง รู้สึ ก อ่ อ นเพลี ย ร่ า งกายที่ น างอาศัย อยู่ นี้
ค่อนข้างอ่อนแอ รับความเหนื่ อยล้ามากไม่ไหว จาต้องเอนตัว
นอนพักสักครู่ ก่อนปิดเปลือกตาลง นางให้ล่ยุ จูไปสอบถามแถว
ถนนตงเหมินว่ามีบ้านให้เช่าหรือไม่ หลายวันมานี้ ขายภาพได้
เงินมากกว่ายี่ สิบตาลึงแล้ว พอสาหรับการเช่ าบ้านเล็กๆ สัก
หลัง

เวลาเช้าในฤดูเหมันต์ แดดอุ่นกาลังดี นกที่ อยู่บนต้นไม้


นอกหน้ าต่างส่งเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะ ถานหวันช่ ิ งวางแผนว่า
จะนอนสักงีบ เพียงกาลังเคลิ้มๆ ก็ได้ยินเสี ยงเคาะประตูดงั ขึ้น
จากนัน้ นางก็หลับไม่ลงเสียแล้ว

จากที่กาลังเคลิ้มหลับ ถานหวันช
่ ิ งพลันตกใจตื่น

ลุ่ยจูกาลังเอาผ้าห่มนวมไปตากแดดไม่ใช่หรือ ถานหวัน่
ชิงลุกขึน้ นัง่ ยังคงตาปรือมีอาการสะลึมสะลือ นางคิดว่าตนเอง
ตะโกนเรี ยกลุ่ยจู ทว่าความจริงแล้วเสี ยงที่ เล็ดลอดออกจาก
ปากกลับแผ่วเบาราวกระซิบ พอไร้คนขานรับจึงคิดได้ว่าลุ่ยจู
4
คงออกไปข้างนอกแล้ว

เสียงห่วงเคาะประตูดงั อีกสามครัง้ ถึงผูท้ ี่มาจะลงน้าหนัก


ั ชาตญาณก็เตื อนนางว่าควรจะระวังไว้ หญิง
มือไม่แรง แต่ สญ
สาวลังเลมี ท่าทางสองจิตสองใจ ก่อนจะค่ อยๆ แง้มหน้ าต่ าง
ชะเง้อมองออกไปข้างนอก

พอเปิดหน้ าต่ างออก ความอบอุ่นรอบข้างคล้ายกับถูก


สายลมกลืนหาย ไอเย็นจางๆ พุ่งเข้ามาแทนที่ ถานหวันช ่ ิ งที่
สวมชุดบางเบารับรูไ้ ด้ถึงความหนาวเย็นที่ทะลักเข้ามา

แสงอาทิตย์ตกกระทบหลังมือที่ ขาวราวหิมะ ตอนที่ นาง


แง้มหน้ าต่างบานเล็ก ก็ได้ยินห่วงประตูด้านนอกดังขึ้นอีกสาม
ครัง้

คนที่อยู่ด้านนอกไม่น่าใช่ล่ยุ จู...

บ้านหลังนี้ มีหญิงสาวพักอาศัยอยู่ด้วยกันเพี ยงสองคน


ดังนั น้ เพื่อความปลอดภัย ประตูใหญ่หน้ าบ้านจึงถูกปิดอย่ าง
แน่ น หนาเสมอ แม้แต่ ต อนที่ พ วกนางอยู่บ้านก็จ ะลันดาลลง่
กลอนไว้ตลอด ถึงที่ นี่จะอยู่ไม่ห่างจากประตูทางเหนื อซึ่ งเป็ น
ที่ ต งั ้ ของค่ ายทหาร ทาให้ บ ริเ วณโดยรอบสงบเรี ย บร้อยมาก

5
่ ิ งก็ไม่กล้าเปิดประตูอยู่ดี
กระนัน้ ถานหวันช

วันนี้ ลุ่ยจูออกไปข้างนอก คงต้องคล้องแม่กญ ุ แจที่ ประตู


ใหญ่อย่างที่ เคยปฏิบตั ิ เสมอ เพราะอี กฝ่ ายรู้ดีว่าในบ้านเหลือ
่ ิ งเพียงล่าพัง
ถานหวันช

หรือตอนออกไปลุ่ยจูจะลืมลูกกุญแจ?

ลุ่ ย จูยิ่ ง เป็ นคนสะเพร่ า เรื่ อ งท านองนี้ ใช่ ว่ า จะเป็ นไป


ไม่ได้

หญิงสาวจึงรีบร้อนลุกขึน้ มาสวมเสื้อคลุมแขนยาวอีกชัน้
แล้วเดินไปเปิดประตูบา้ น

ทัน ที ที่ ประตูเปิดออก ลมหนาวก็ปะทะใบหน้ า นางรีบ


เก็บมือเข้าไปในแขนเสื้อ อาจเป็ นเพราะเพิ่งลุกออกจากเตี ยง
อุ่ น จึ ง รู้ สึ ก ว่ า ความหนาวนี้ รุ น แรงนั ก แต่ เ ดิ ม ร่ า งกายของ
ถานหวันช ่ ิ งก็ไม่ถกู กับความหนาวอยู่แล้ว ใบหน้ าที่ แดงระเรื่อ
จากความอุ่นร้อนภายในห้ องถูกความหนาวเย็นแทรกซึ มจน
กลับมาขาวดุจหิมะดังเดิม

6
่ ิ งเดินไปที่ ประตูใหญ่ที่ยามนี้ เสี ยงเคาะประตู
ถานหวันช
หยุดลงแล้ว

“อาจู! ” นางเอ่ ย เรี ย ก คนข้ า งนอกกลับ ไม่ ข านรับ คิ้ ว


เรียวขมวดฉับ หากไม่ใช่ล่ยุ จู ถ้าอย่างนัน้ เป็ นใครกันล่ะ?

ตอนนี้ น างอยู่ค นเดี ย ว ยามปกติ น อกจากที่ จี๋ เ สี ย นฝั ง


แล้วนางก็ไม่ได้ไปมาหาสู่ผใู้ ด แทบไม่ปรากฏตัวในวงสังคมเลย
ด้วยซา้ แล้วจะมีคนมาหาถึงประตูบ้านได้ อย่างไร ถานหวันช ่ ิง
ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ไพล่นึกไปถึงค่าพูดของลุ่ยจูก่อนหน้ านี้

หรือเถ้าแก่สวี่จะรอไม่ไหวจึงให้ลูกจ้างมาตาม แต่ เขารู้


ได้อย่างไรว่านางอยู่บา้ นไหน? ถึงแม้เถ้าแก่สวี่จะเป็ นคนรักเงิน
เพียงใดแต่ก็ ไม่น่าจะทาเรือ่ งไร้มารยาทเช่นนี้ หรอก...

ในเมื่อฝัง่ ตรงข้ามไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง นางจึงยืนนิ่ง


อยู่ที่เดิม ไม่ได้ส่งเสียงเรียกอีก ในใจมัวแต่คิดระแวงสงสัยจึงไม่
สงบนัก

ทัน ใดนั ้น เสี ย งเยี ย บเย็น พลัน ดัง มาจากด้ า นนอก แม้
เสียงนัน้ จะไม่ดงั มากแต่กย็ งั ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคา

7
“คุณหนู ถาน ข้าอยากจะปรึกษากับเจ้าเรื่องหนึ่ ง เข้าไป
คุยข้างในได้หรือไม่?”

คุณหนูถาน!

่ ิ งคงไม่ใส่ใจกับคนที่ อยู่นอกประตูเท่าใด หาก


ถานหวันช
ไม่ใช่เพราะถูกอีกฝ่ ายเรียกชื่อที่แท้จริง สองแก้มนางปราศจาก
สี เ ลื อ ด ใบหน้ าซี ด เผื อ ด ความเหน็ บ หนาวแผ่ ซ่ า นไปทั ว่
สรรพางค์กาย รูส้ ึกเย็นวาบตัง้ แต่หวั จรดปลายเท้า

ตอนที่ นางกับลุ่ยจูถกู โจรภูเขาดักปล้นครานัน้ นางแอบ


กินยาเพื่อแกล้งตาย สาเหตุที่ต้องเลือกวิธีไม่ปลอดภัย เพราะ
ในยามนั น้ พวกนางกาลัง ตกอยู่ในสถานการณ์ ค บั ขัน คนใน
ขบวนนักโทษตายเกลื่อนกลาดราวใบไม้ร่วง รวมไปถึงผู้ที่ราช
ส านั ก ส่ ง มาคุ ม ตัว นั ก โทษที่ จ้ อ งจะล่ ว งเกิ น นางก็จ บชี วิ ต ลง
เช่นกัน

หญิงสาวจึงคิดว่านั น่ อาจเป็ นโอกาสเดี ยวที่ พวกตนจะ


หนี รอดได้ เพราะหากถูกจับตัวไป ชะตากรรมคงจะเลวร้ายยิ่ง
กว่าตายเสี ยอี ก ตอนนั น้ ไม่มีใครสามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์
นางได้แต่ต้องลองเสี่ยงดูสกั ครัง้

8
หญิงสาวคิดเพียงว่าโจรภูเขาที่มาดักปล้น ไม่น่าจะสนใจ
กับนักโทษที่หมดลมหายใจ แต่ถึงจะไม่ใช่โจร แม้กระทังคนของ

ราชสานักเองก็คงไม่มีใครมาตามหานักโทษตัวเล็กๆ สองคนที่
ถูกเนรเทศกับโจรภูเขาหรอกกระมัง

การเดิมพันชีวิตครานัน้ ...สุดท้ายพวกนางก็ทาสาเร็จ

นางกับ ลุ่ ย จู ห นี ออกมาได้ ทัง้ ที่ ไ ม่ เ ข้ า ใจเหตุ ก ารณ์ ที่


เกิดขึ้นนัก ตลอดเวลาที่ ผ่านมานางคิดอยู่ว่าอาจจะถูกเปิดโปง
เข้าสักวัน จึงพยายามระมัดระวังตัวตลอด ขณะที่ เดินทางมา
เริ่มชีวิตใหม่ที่เมืองเว่ยอัน พวกนางก็ซื้อใบรับรองการบวชสอง
ใบที่เป็ นของนักพรตหญิง

‘แซ่เซิ่น’ กับ ‘แซ่หยาง’ มีแต่แม่นางเซิ่นกับแม่นางหยาง


ไม่เคยเอ่ยถึงแซ่ถานกับผู้ใดสักคนเดียว แล้วคนข้างนอกประตู
รูไ้ ด้อย่างไร?

แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นสาดส่องลงมากระทบแผ่นหลังและ
ไหล่ ข องนาง ซึ ม ผ่า นเนื้ อ ผ้า หยาบลงไป ทัง้ ที่ ห ญิ ง สาวน่ า จะ
อบอุ่นแต่ส่วนลึกในหัวใจกลับเหน็ บหนาวอย่างประหลาด ราว
กับถูกไอเย็นแทรกเข้ามาแทนที่ แล้วขับไล่ความอบอุ่นให้ จาง
หายไป จนถานหวันช ่ ิ งไม่รสู้ ึกถึงไอแดดแม้แต่น้อย
9
“คุณชาย ท่ านคงจาผิดคนแล้ว ที่ นี่ไม่มีคนแซ่ ถาน” แม้
ในใจจะหวาดกลัวปนสงสัย ทว่าถานหวันช ่ ิ งกลับปฏิเสธโดยไม่
ลังเลเลยสักนิด

“อืม...ไม่มีคนแซ่ถานงัน้ หรือ?” คนข้างนอกเอ่ยเสียงทุ้ม


ตา่ ในลาคอเบาๆ ประโยคต่อมากลับเพิ่มระดับเสียงดังขึ้น “ถ้า
เช่นนัน้ ข้ามาตามหานักพรตหญิงสองท่านที่ อาศัยอยู่ที่นี่ ...เซิ่น
เจินจูกบั หยางกุ้ยจือ แม่นางพอจะรูจ้ กั หรือไม่?”

ทัน ที ที่ ไ ด้ ยิ น ประโยคนี้ ถานหวัน่ ชิ งก็ก ามื อ แน่ น คิ้ ว


ขมวดมุ่นอยู่นานก็ยงั ไม่ได้ตอบกลับไป

เขาไม่เพี ยงรู้ว่านางแซ่ ถาน แต่ เขารู้ชื่อนางกับลุ่ยจูใน


สามะโนครัวปลอมด้วย คนผู้นี้เป็ นใครกันแน่ เขามาหานางถึง
บ้านต้องการอะไร?

เมื่อนึ กถึงว่าถูกคนอื่นล่วงรู้ฐานะของตน หญิงสาวพลัน


รูส้ ึกหายใจติดขัดขึน้ มาทันควัน

นางควรจะหยังเช ่ ิ งอีกฝ่ ายดูก่อนดีไหม หญิงสาวครุ่นคิด


เงียบๆ ครู่หนึ่ ง จากนัน้ ก็ถามขึ้นด้วยน้ าเสียงจริงจัง “ท่านเป็ น
ใคร?”

10
ตอนที่ ออกจากห้องนอนนางสวมแค่ชุดสีขาวกับรองเท้า
ผ้าฝ้ ายอ่อนนุ่มเท่านัน้ เพราะรีบร้อนจึงหยิบเพียงเสื้อคลุมแขน
ยาวมาใส่อีกชัน้ เวลานี้ เท้าที่ เย็นเฉี ยบถอยหลังครึ่งก้าวพร้อม
กับรอคอยคาตอบ ฝ่ าเท้านางเหยียบลงบนใบไม้แห้งเกิดเป็ น
เสียงดังกรอบแกรบ

ผู้ ที่ อยู่ อี กฟากประตู ต อบด้ วยน้ าเสี ยงราบเ รี ย บ


“ผูป้ กครองเมืองเว่ยอันคนปัจจุบนั --เซี่ยเฉิงจู่”

ได้ยินเพียงเท่านัน้ ถานหวันช
่ ิ งก๊อกสันขวั
่ ญหาย นางสูด
ลมหายใจลึก รับอากาศเย็นอันหนาวยะเยือกเข้าไปเต็มปอด
หัว สมองจึ ง ปลอดโปร่ ง โล่ ง ในทัน ใด นางเอ่ ย ด้ ว ยน้ า เสี ย ง
นุ่ มนวลลงอี กหลายระดับ พยายามบังคับตัวเองให้ ผ่อนคลาย
ลง “ที่แท้กใ็ ต้เท้าเซี่ย”

ทุกคนให้การยกย่องสรรเสริญในความซื่อสัตย์สจุ ริตและ
ความตรงไปตรงมาของชายผู้นี้ อี กทัง้ เขายังเป็ นวี รบุรุษห้ าว
หาญที่เข้าใจและเห็นใจประชาชน ดังนัน้ เขาคงไม่จงใจมาสร้าง
ความลาบากใจให้แก่หญิงสาวหรอกกระมัง

“ไม่ทราบว่ามีเรื่องใดที่ท่าให้ใต้เท้าต้องมาถึงที่นี่หรือเจ้า
คะ?”
11
“เข้าบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกัน!” อี กฝ่ ายเอ่ ยเหมือนตัด
ความราคาญ

ถึ ง ถานหวั น่ ชิ งจะไม่ ใ ช่ ค นหั ว เก่ า ที่ ยึ ด มั น่ ในขนบ


ธรรมเนี ยมจนเข้ากระดูก แต่ สถานการณ์ เช่ นนี้ นางกลับเอ่ ย
อ้ างนามาใช้ “ตัง้ แต่ โบราณมาหญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน ข้า
เป็ นหญิงชาวบ้านไม่สะดวกที่ จะพบกับใต้เท้าโดยลาพัง หากว่า
มีธรุ ะก็คยุ กันตรงนี้ เถอะเจ้าค่ะ ข้าพร้อมจะรับฟังแล้ว”

คนอี ก ฟากที่ ถ กู กัน้ ด้ ว ยประตูใ หญ่ เ งี ย บกริ บ ไปสัก พัก


ก่อนจะเอ่ยขึน้ ด้วยน้่ าเสียงเย็นชา “ก็ดี ถ้าอย่างนัน้ ข้าจะพูดกับ
เจ้ า เรื่ อ งอดี ต ผู้ ส าเร็จ ราชการถานเฉิ งจี้ หลัง ถูก ปลดจาก
ต าแหน่ ง และต้ อ งโทษเนรเทศ ระหว่ า งทางที่ ถ กู โจรภูเ ขาดัก
ปล้น บุตรสาวของเขากับหญิงรับใช้ที่ชื่อลุ่ยจูกลับหายตัวไปโดย
ไม่มีผใู้ ดล่วงรูว้ ่าอยู่ที่ไหน...”

“ช้าก่อน!” ถานหวันช่ ิ งรีบร้องห้ามเสียงสูง แทรกคาพูดที่


เน้ นหนักของอีกฝ่ ายทันที

“คุณ หนู ถ านยัง อยากฟั ง อยู่ห รือ ไม่ ?” หญิ ง สาวกัด ฟั น


แน่ น ตัดสินใจเอ่ยขึน้ มา “ข้าจะไปเอากุญแจ”

12
ร่างบอบบางวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนอย่างว่องไว ควาน
หากุญแจทองแดงในตู้ มือนางสันเทาเล็
่ กน้ อยจนต้องใช้อีกมือ
ช่วยประคองไว้ เป็ นนานกว่าจะหยิบกุญแจได้แล้วจึงเดินกลับ
ออกมา

บ้านเช่ าที่ เป็ นของพ่อค้าผู้รา่ รวยหลังนี้ มีประตูบ้านเป็ น


ทรงสูง สร้างเลี ยนแบบบ้านของชนชัน้ สูง แต่ เพราะตัวบ้านมี
ขนาดเล็กราวกับว่าไม่มีเงินมากพอจะทาให้โอ่อ่ามากกว่านี้ จึง
ดูผิดสัดส่ วนขัดแย้งกันอยู่บ้าง มีเพียงต้ นท้ อหน้ าประตูที่ถาน
หวันช่ ิ งชอบที่ สุดรอจนเดือนห้าปี หน้ า ดอกท้อสีชมพูคงจะออก
ดอกแผ่กิ่งก้านมาถึงหน้ าต่าง ดอกไม้หอมทัศนี ยภาพสวยงาม
ยามที่ น างอยู่ในห้ องเมื่อมองออกไปนอกหน้ า ต่ างก็สามารถ
เอื้อมมือไปเด็ดดอกท้ อได้สบาย นางจึงใช้ ชื่อ ‘เซี ยนดอกท้ อ ’
มาตัง้ เป็ นนามแฝง

บนพื้ น ปูหิ น เป็ นทางคดเคี้ ย วไปจนถึ ง หน้ าประตู ใ หญ่


มองดูไกลๆ คล้ายสระน้ า เล็กๆ ท่ ามกลางธรรมชาติ ฤดูร้อน
หลัง ฝนตกก็ไ ม่ ต้ อ งเดิ น ย ่า ดิ น โคลนให้ เ ปรอะเปื้ อนเท้ า ฤดู
หนาวก็สะอาดสะอ้ าน แต่ ก่อนเวลาเดินนางจะค่ อยๆ ชื่ นชม
บรรยากาศโดยรอบ แต่ยามนี้ อารมณ์ ของนางยากจะหาความ
สาราญท่ามกลางความวิตกกังวลได้

13
บานประตูที่คล้องแม่กญ ุ แจอย่างแน่ นหนาถูกเปิดออก
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาด้วยท่ าทางงามสง่าน่ าเกรง
ขาม เขายืนรับลมหนาวมาครู่ใหญ่ แล้ว ลมหายใจจึงมีไอเย็น
จางๆ ลอยออกมาปะทะใบหน้ า

นี่ คื อ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย อย่ า งแน่ นอนไร้ ข้ อ กัง ขา วัน นั ้น เขา


จัดการพวกโจรที่ ปล้นฆ่ าประชาชน ทาให้ประตูทางเหนื อย้อม
ไปด้วยเลือดที่ไหลนองปานแม่น้า

ถานหวันช ่ ิ งกวาดตามองอี กฝ่ ายอย่างรวดเร็ว ก่ อนจะ


หลุบตามองพื้นอย่างมีมารยาท คนตรงข้ามก็ประเมินมองนาง
แวบหนึ่ งเช่นกัน “เราไม่ได้พบกันนานเลยนะ คุณหนูถาน”

เขาบอกว่า...ไม่ได้พบกันนาน?

นานแล้วที่ไม่ได้เจอกันอย่างนัน้ หรือ?

่ ิ งถึงกับนิ่งงันไปพักใหญ่ สุดท้ายก็เอ่ยขึ้น “วัน


ถานหวันช
นัน้ ที่ตลาด ข้ามีตาหามีแววไม่ จาใต้เท้าไม่ได้จริงๆ...”

เซี่ ยเฉิงจู่เอ่ ยตัดบทด้วยน้ าเสี ยงแข็งกระด้าง “ในปี นั น้


คุณหนูใหญ่ตระกูลถานมีหน้ ามีตายิ่งกว่าองค์หญิงหรงหันเสี ย

14
อีก หาได้สนใจผูใ้ ดที่ไม่เกี่ยวข้อง”

เขายังกล่าวต่ อไปอี ก “ถึงจะเคยใช้แส้หวดผู้ใด ก็คงลืม


สิ้นไม่เหลือความทรงจาอะไรแล้ว”

15
19 ความหลังฝังใจ

ในปี นั ้น ถานเฉิ งจี้ เ ป็ นหัว หน้ าคณะผู้ส าเร็จ ราชการ


แทนพระองค์ของขุนนางใหญ่ทงั ้ สาม

เขาแต่งฮูหยินคนแรกเป็ นหญิงงามในเมืองหลวง ลูกของ


นางก็งดงามเหมือนมารดาไม่มีผิด เมื่ออยู่ต่อหน้ าผู้คนแม้แต่
องค์หญิงหรงหันยังดูด้อยกว่า ความงามของนางกินขาดถึงสาม
ส่วนจึงนับเป็ นสาวงามอันดับหนึ่ งของเมืองหลวง

ครัน้ ถานหวัน่ ชิ งอายุ สิ บห้ า ปี ก็ไ ด้ ท าการหมัน้ หมาย


จากนัน้ หญิงสาวก็ออกจากจวนน้ อยมาก นางมีน้องสาวสองคน
ที่ มีรูปโฉมงดงามเช่ นกัน ทาให้ ชื่อเสี ยงของคุณหนู ในห้ องหอ
อย่างถานหวันช ่ ิ งค่อยๆ ซาไป

วัน นี้ โ ชคดี นั ก ที่ ไ ด้ พ บหน้ า นาง หญิ ง สาวที่ มี ค วามงาม


เป็ นธรรมชาติ ช่ า งเป็ นโฉมสะคราญที่ ง ามพิ ลาสราวกับ
ภาพวาดก็ไม่ปาน

น่ าเสี ยดายที่ มีชะตาชี วิตที่ แสนโชคร้าย ทัง้ ที่ ก่อนหน้ านี้


ถานเฉิงจี้พยายามปกป้ องบุตรสาวคนนี้ จนถึงที่ สุด เพราะนาง

1
เป็ นสายเลือดคนเดียวที่ ฮหู ยินคนก่อนเหลือไว้ให้ เขาจึงทัง้ รัก
และเอ็นดูนางมาก ขนาดงานมงคลสมรสยังอุต สาห์พยายาม
เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนนางอายุจะยี่สิบเข้าไปแล้ว

เดิ มถานหวันช ่ ิ ง ยืนก้ มหน้ ารอฟั ง อยู่แล้ ว ทัน ที ที่ได้ ยิน


ประโยคดังกล่าวก็ตกใจเงยหน้ าขึ้นมา สายตาจับจ้องไปยังแม่
ทัพหัวเมือง ซึ่ งอีกฝ่ ายก็ไม่ได้หลบตา แต่ กาลังเพ่งมองนางอยู่
เช่นกัน

บุรษุ ตรงหน้ านางเป็ นผู้มากความสามารถ ท่ าทางเปี่ ยม


อานาจ เขายืนนิ่งหลังเหยียดตรงด้วยสีหน้ าไร้

อารมณ์ ริ ม ฝี ปากบางเม้ ม แน่ น รูป คิ้ ว รับ กับ ดัง้ จมู ก ที่
โด่งเป็ นสัน ดวงตาทัง้ สองยิ่งมองยิ่งเหมือนแสงดาวสุกสกาว
ท่ามกลางท้ องฟ้ าที่ ดามืดปานน้ าหมึก เรื่องที่ เขาเอ่ยขึ้นมานัน้
กระตุ้นความทรงจาในส่วนลึกให้ผดุ ขึน้ มา

โดนแส้หวดเมื่อหลายปี ก่อน หรือว่า...เรื่องเมื่อห้าปี ก่อน


งัน้ รึ?

เวลามัน เนิ่ นนานมากแล้ ว จนนางจ าคนที่ ถ ูก แส้ ฟ าด


ได้ ไ ม่ ช ัด เจน แต่ ก ลับ จ าดวงตาคู่นั ้น ได้ . ..ปลายแส้ ส ะบัด ไป

2
กระทบใบหน้ าของเขาจนเลือดกระเซ็นเป็ นดวง

่ ิ ง หวาดกลัว ขึ้น มาบ้ า งแล้ ว นางเบือ น


ในใจถานหวันช
หน้ าไปทางอื่น หลบสายตาจากใบหน้ าเย็นชาถมึงทึงที่ จบั จ้อง
ตนอยู่ บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบไร้สรรพเสี ยงไปชัวเวลา ่
หนึ่ ง

“เข้าไปคุยในบ้านสิ”

“อย่าเลย มีอะไรก็คยุ กันตรงนี้ เถอะเจ้าค่ะ!”

เซี่ ยเฉิงจู่เห็นหญิงสาวที่ อยู่ตรงหน้ าแล้วอยากจะแกล้ง


ต่อนัก แต่สีหน้ านางจริงจังหนักแน่ น ตัง้ ท่าปกป้ องตัวเอง ทาให้
เขาต้องเก็บความคิดนัน้ เอาไว้ก่อน

“เรื่องที่ จะพูดทัง้ หมดมีความเกี่ยวพันกับถานเฉิงจี้อย่าง


มาก ถ้ า หากไม่ เ กรงว่ า เรื่ อ งจะรัวไหลเนื
่ ่ อ งจากหน้ าต่ า งมี หู
ประตูมีช่องละก็...คุยกันตรงนี้ กไ็ ด้”

ถานหวันช ่ ิ งรู้ว่าคนผูน้ ี้ ไม่ได้มาดีแน่ อย่างไรวันนี้ มนั ก็ไม่


ดีอยู่แล้ว ก็ถือโอกาสเผชิญหน้ าให้ร้แู ล้วรู้รอดไปเลยละกัน พอ
คิดแบบนี้ นางก็เอ่ยเสียงเบา “เชิญเจ้าค่ะ”

3
หญิงสาวเชื้อเชิญอีกฝ่ ายให้เข้าไปด้านใน ด้วยปรารถนา
อยากจะพูดคุยให้จบสิ้นเรื่องราว ไหนๆ นางก็ไม่มีทางตกตา่ ไป
มากกว่านี้ แล้ว

หญิ งสาวเดิ นน าเข้ า ไปในบ้ า น โดยมี ช ายหนุ่ มเดิ น


ตามหลัง เขากวาดตาสารวจร่างบอบบางตัง้ แต่ศีรษะจรดปลาย
เท้า

ไม่มีสิ่งของมีค่าเลย แม้แต่ ปิ่นไม้สกั อันบนศี รษะก็ไม่มี


เส้นผมยาวสลวยเพียงมัดรวบไว้ข้างหลังเท่านัน้ รองเท้าทาจาก
ใยฝ้ ายบางยากจะใช้กนั หนาวได้ เสื้อผ้าฝ้ ายเนื้ อหยาบสีขาว ดูก็
รูว้ ่าถูกสวมใส่มาแล้วหลายครัง้ ซา้ ชายเสื้อยังเปื่ อยยุ่ยอีกด้วย

พอมองเข้าไปด้านในก็พบว่าห้ องเล็กมากที เดี ยว แต่ มี


แสงแดดส่องถึงอย่างเพียงพอ

ภายในสะอาดสะอ้านจัดเก็บข้าวของได้เรียบร้อยยิ่งนั ก
เหมือนมีกลิ่นหอมอ่อนๆ กาจายอยู่ทวบ้ั ่ าน ฝัง่ ที่ชิดกับหน้ าต่าง
บานเล็กมีเตี ยงทาด้วยอิฐยาวที่ ค่อนข้างเตี้ย บนเตี ยงปูผ้าฝ้ าย
หนาเอาไว้ และมี ห มอนกลมใบเล็ก วางอยู่ ห นึ่ งใบ ทัง้ หมด
โดยรวมคือสะอาดหมดจด

4
อีกด้านหนึ่ งของปลายเตียงตัง้ โต๊ะเล็กๆ บนโต๊ะวางจาน
ฝนหมึกกับกล่องใส่ดินสอพู่กนั ที่ ทาจากไม้ไผ่ราคาถูก มีพ่กู นั ที่
ท าเองหลายด้ า มเสี ย บอยู่ ใ นนั ้น ริ มโต๊ ะ ด้ า นหนึ่ งตั ง้ โคม
ทองเหลื อ งสภาพเก่ า มากที เ ดี ย ว ใกล้ ก ัน นั ้น คื อ กรรไกร
ทองเหลืองเล็กๆ สาหรับตัดไส้ เที ยน แล้วยังมีขนมปิ้งจานเล็ก
วางไว้อีกด้วย

ถานหวันช่ ิ ง เดิ น น าเข้ า ไปโดยไม่ ไ ด้ ห ัน มามองอี ก ฝ่ าย


ตรงไปจัดเก็บที่ นอน “ท่ านต้ องการพูดอะไร? แล้วมีเรื่องใดที่
เกี่ยวพันกับบิดาข้า?”

“เจ้าก็น่าจะรู้ว่าเพราะอะไรตระกูลถานถึงถูกตัดสินโทษ
ให้เนรเทศ ส่วนตระกูลเจิ้งกับตระกูลหรันกลับได้รบั โทษตายยก
ครอบครัว?” เขาไม่ได้ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ยังคงยืนอยู่ที่ปาก
ประตู ขณะที่ เ อ่ ย สายตากลับ ไปหยุ ด ที่ ข นมแล้ ว ขมวดคิ้ ว
เล็กน้ อย

ขนมปิ้งนัน่ ทาจากข้าวกล้องแบบลวกๆ แล้วตัดแบ่งเป็ น


ชิ้น เมื่อนาเข้าปากแล้วกลืนลงไปอาจจะทาให้คนสาลักตายได้
เลย เป็ นขนมปิ้งที่ มีขายดาษดื่นในตลาดและราคาถูกที่ สุด ซึ่ง
ยอดขายก็ยา่ แย่ที่สดุ พอกัน

5
คนที่ เ คยกิ น ต่ า งก็รู้ว่ า รสชาติ ม นั แสนจะธรรมดา หา
ความอร่อยไม่ได้ แต่สามารถช่วยให้หายหิวได้ ตอนที่ถานหวัน่
ชิง ยุ่ง จนแม้ แต่ ข้ าวก็ไม่ส นใจกิน นางมักกัด ขนมนี้ ไว้ ในปาก
เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปก็อิ่มกระเพาะได้เป็ นครึ่งวัน และถ้าหาก
ค่อยๆ เคี้ยว มันก็จะส่ งกลิ่นหอมอบอวลในปาก กินบ่อยครัง้
เข้าจึงกลายเป็ นชอบเสียแล้ว อีกทัง้ ข้าวกล้องนี้ ย ั งอุดมไปด้วย
สารอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย

แต่ ในสายตาของลุ่ยจูกลับมองว่าเป็ นอาหารหมู ทาไม


คุณหนู ถึงชอบกินของแบบนี้ ไม่รู้ว่าถานหวันช
่ ิ งต้ องทนเสี ยง
บ่นมากี่รอบแล้ว

่ ิ งวางหมอนกลมแล้วชะงักงัน ในใจเคยคิดถึง
ถานหวันช
เรื่องที่ เขากล่าวเช่นกัน ตอนที่ ฮ่องเต้เป็ นเด็กน้ อยไร้ซึ่งอานาจ
ต้ องทนอดกลัน้ กับบรรดาผู้คนที่ ชี้ นิ้วสอนสังจนเต
่ ิ บ ใหญ่ ใน
คณะผูส้ าเร็จราชการแทนพระองค์ทงั ้ สาม ผูท้ ี่ เป็ นหัวหน้ าที่ควร
ได้ รบั การลงโทษสถานหนั ก กลับกลายเป็ นครอบครัว ที่ ร อด
ชีวิตเพียงตระกูลเดียว

ถานเฉิ งจี้ เ ข้ า รับ หน้ าที่ ต ามราชโองการที่ อ ดี ต ฮ่ อ งเต้


ได้ ร ับ สั ง่ เอาไว้ ก่ อ นเสด็ จ สวรรคต เขาเป็ นคนที่ มี ค วาม
รับผิดชอบและรอบคอบ ไม่ทาตัวเกียจคร้าน เป็ นหนึ่ งในสาม
6
ขุนนางที่ สงสอนและตั
ั่ กเตื อน รวมถึง เข้ มงวดกับฮ่ องเต้ อ งค์
น้ อยมากที่ สุ ด หากจะพู ด ตามตรงฮ่ อ งเต้ น้ อยเองก็เ กลี ย ด
หัวหน้ าขุนนางผู้นี้มากที่สุดเช่นกัน ดังนัน้ เมื่อฮ่องเต้ปีกกล้าขา
แข็งแล้ว คนแรกที่จะกาจัดย่อมต้องเป็ นเขา

ถึงแม้ว่าตนเองจะเคยพูดเตื อนบิดาเป็ นนั ยๆ มาตลอด


ว่าฮ่ องเต้ หนุ่ มนั น้ ครึ่งหนึ่ งเป็ นวีรบุรุษและอี กครึ่งเหมือนเสื อ
หนุ่มที่ ดรุ ้าย ดังนัน้ หากทาการใดต้องระมัดระวังและรอบคอบ
อยู่เสมอ

เพราะเท่าที่นางรู้ ฮ่องเต้หนุ่มมีท่าทางยโสโอหังและมอง
ว่ าตนนั น้ สูง ส่ ง ความร้อนรุ่มที่ ซ่อนอยู่ในใจย่ อมเป็ นบ่อเกิด
แห่งหายนะในภายภาคหน้ า

ทว่ า ในราชส านั ก เต็ ม ไปด้ ว ยขุ น นางที่ ช่ า งประจบ


ประแจง คาพูดของถานหวันช ่ ิ งจึงมีน้าหนักน้ อย สุดท้ายนางจึง
ต้ องคิดหาวิธีโดยให้ บิดานาของเล่นแปลกใหม่เข้าวังไปถวาย
ฝ่ าบาทอยู่เสมอ เป็ นของเล่นที่ทาให้เพลิดเพลินในยามว่าง

แน่ นอนว่าของเล่นเหล่านี้ นางไม่ได้ ไปเฟ้ นหามาจากที่


ไหน นางเพียงให้คนทาออกมาตามแบบที่ตนคิดไว้ ซึ่งสามารถ
ซื้ อใจฮ่ องเต้ ได้ มากโข นางคิ ด แค่ ว่ า การทาเช่ น นี้ อาจจะเป็ น
7
ประโยชน์ ได้ในสักวันหนึ่ งเมื่อสถานะของตระกูลยา่ แย่ลง เพียง
หวังว่าฮ่องเต้จะนึ กถึงบิดาของนางสักเล็กน้ อย นึ กถึงวันที่ เคย
ได้รบั ของเล่นที่ ประณี ตงดงามหลายอย่างเพื่อเป็ นการเอาใจ
พระองค์ เผือ่ จะลงมือกับบิดาของนางอย่างปรานี

ถานหวัน่ ชิ งไม่ รู้ ว่ า วิ ธี นี้ จะส าเร็จ หรื อ ไม่ แต่ บ รรดา
ผู้สาเร็จราชการแทนทัง้ สามก็เหลือเพียงชี วิตคนในครอบครัว
ของถานเฉิงจีต้ ระกูลเดียวเท่านัน้

หลังจากหญิงสาวนิ่งคิดตามคาพูดอี กฝ่ ายอยู่ครู่หนึ่ งก็


ถามว่า “เพราะอะไร?”

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่ตอบ กลับเดินเข้ามาด้านใน ยื่นมือไปหยิบ


ขนมที่ ตดั เป็ นชิ้นๆ บนจานใส่เข้าไปในปาก ไม่มีรสหวานอะไร
เลย มีแต่ รสชาติของข้าวเนื้ อหยาบที่ ติดลิ้น แต่ พอกลืนเข้าไป
แล้วกลับรูส้ ึกได้ชดั เจนถึงขนมที่ ลื่นผ่านคอ

“คิดไม่ถึงว่าคุณหนูที่ถกู ทะนุถนอมมาตัง้ แต่ เด็ก อยู่ใน


ตระกูลที่มีฐานะและมีชื่อเสียง ทัง้ ยังคุ้นเคยแต่กบั อาหารรสเลิศ
ก็สามารถกลืนอาหารง่ายๆ หยาบๆ ได้ด้วย”

8
“สภาพความเป็ นอยู่ของข้าตกต่ายา่ แย่ ใต้ เท้ าน่ าจะดี
ใจ”

ถานหวันช ่ ิ ง จัด ของเรี ย บร้อยแล้ ว ก็หนั ร่างกลับ มา แต่


ก่อนอาหารรสเลิศเสื้อผ้าอาภรณ์ หรูหรา ตอนนี้ เสื้อผ้าอาหาร
ล้วนหยาบและเรียบง่าย ถูกคนที่เคยรูจ้ กั พบเข้าก็ยากที่จะทาใจ
หน่ าซา้ ศัตรูค่แู ค้นก็รไู้ วเหลือเกิน

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่ตอบกลับเอ่ยต่อ “ได้ยินว่าช่วงนี้ ในเมืองเว่ย


อันมีจิตรกรท่ านหนึ่ งนาม ‘เซี ยนดอกท้ อ’ ศิลปะการวาดภาพ
งดงามน่ าทึ่ งนั ก ที่ แท้ กม็ ีการดาเนินชี วิตเรียบง่ายเช่ นนี้ เอง...
ทาไมเจ้าถึงยังกินอาหารชาวนาอย่างนี้ อยู่อีกเล่า?”

ชาวนาแล้ ว อย่ า งไร...ชาวนาถึง ต้ อ งกร างานหนั ก ทว่ า


แทบไม่เคยลิ้มรสการเจ็บป่ วย

แต่ก่อนนางก็กินอาหารที่ ทาง่ายๆ แบบหยาบๆ บ่อยไป


เพียงแต่อาหารพวกธัญพืชของจวนตระกูลถานสามารถปรุงได้
ประณี ตละเอียดอ่อนกว่านี้ เท่านัน้ เอง

่ ิ งไม่
“เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับใต้ เท้าเซี่ ยนะเจ้าคะ” ถานหวันช
คิดจะเอ่ยหัวข้อสนทนานี้ ต่อ

9
“ใช่ ...ไม่เกี่ยวข้องกับข้าเลย ตระกูลถานมีทรัพย์สินเงิน
ทองเก็บไว้จานวนมาก แต่เจ้ากลับมีสภาพแบบสวมเสื้อหยาบ
กิ นอาหารรสจื ด เคยคิ ดว่ า ไม่ ไ ด้ ร ับ ความเป็ นธรรมบ้ า ง
หรือไม่?”

“ทรัพ ย์สิ น เงิ น ทองอะไร ท่ า นต้ อ งการพู ด เรื่ อ งใดกัน


แน่ ?”

เซี่ ยเฉิงจู่เดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของนาง ก่อนเอ่ยเสียง


ตา่ “ข้าต้องการพูดเรื่องใด...เจ้าไม่เข้าใจจริงหรือ? จวนของเจิ้ง
เอวี๋ยนถูกยึดทรัพย์สินไปหนึ่ งล้านกับหนึ่ งหมื่นหนึ่ งพันหกร้อย
ต าลึ ง เงิ น คลัง ทองส่ ว นตัว ของหรัน อี่ ชิ ง มี ห นึ่ ง หมื่ น สามพัน
ตาลึงทองกับที่ ดินอีกหนึ่ งพันสองร้อย แต่จวนตระกูลถาน รวม
ทัง้ หมดได้มาแค่โฉนดที่ ดินร้อยกว่า ทรัพย์สินรวมกันแล้วมีไม่
ถึงหกแสนตาลึงเงิน หรือจะกล่าวว่าใต้เท้ าถานเป็ นขุนนางที่ ดี
ซื่อสัตย์สจุ ริต...”

เขาก้ มศี รษะมองหญิงสาวที่ ยืนนิ่งอยู่ตรงนั น้ คล้ ายว่ า


นางจะขมวดคิ้วเล็กน้ อย ชายหนุ่มกระแอมเบาๆ ครัง้ หนึ่ งก่อน
จะเอ่ยต่อ "ข้าจาได้ว่าหลายปี ก่อน ม้าฝี เท้าดีของเจ้าราคาแพง
มาก เกรงว่ าน่ าจะเป็ นหนึ่ งในม้าสายเลือดดี ของจวนตระกูล
ถาน แม้อาจไม่ถึงร้อยแต่กม็ ีหลายสิบตัว แต่พอยึดทรัพย์ทาไม
10
ถึงเหลือแค่สิบตัว อีกทัง้ ไม่มีม้าของเจ้า?

หากจะกล่าวอ้างตามที่ยึดได้ ในคลังของจวนตระกูลถาน
วางทรัพย์สินไว้แค่กระถางทองแดงพระราชทาน ต้นหินปะการัง
ทองแกะสลักและของมี ค่าอี กไม่มาก รวมแล้วก็ประมาณแสน
ตาลึง ทัง้ ที่ ตระกูลถานเปิดโรงจานา ร้านเครื่องลายคราม ร้าน
เครื่องหยก และกิจการอื่นๆ ทว่าค้นทุกห้องแล้วได้แค่เงินแท่ง
กับ ตั ๋วเงิ น สิ บ ใบ นอกจากที่ น ากับ สิ่ ง ของพระราชทาน ก็ค วร
ต้ องมีเครื่องประดับเป็ นจานวนมาก ทว่าค้นดูทุกห้ องกลับไม่
พบ คนอื่ นเข้าใจว่าทรัพย์สินภายในจวนตระกูลถานพูดนาไป
สงเคราะห์ ผู้ป ระสบภัย จนว่ า งเปล่ า แต่ ข้ า กลับ คิ ด ว่ า ข้ า งใน
จะต้ องมีอุโมงค์อะไรสักอย่าง หรืออาจมีที่ซ่อนอื่นซึ่ งเป็ นคลัง
ลับส่วนตัวเป็ นแน่ เพียงแต่คนที่ยึดทรัพย์ยงั ค้นไม่พบ"

แววตาถานหวันช ่ ิ งสันไหว
่ “ข้าเป็ นเพียงบุตรสาวคนหนึ่ ง
ของถานเฉิงจีเ้ ท่านัน้ เรือ่ งอย่างนี้ ข้าจะรูไ้ ด้อย่างไร?”

นางเดินไปยังด้านหน้ าโต๊ะกลมเพื่อหยิบป้ านน้ าชา เซี่ ย


เฉิงจู่เดินไปหยุดอยู่ข้างๆ จับข้อมือบอบบางของนางเอาไว้

“เมื่ อวานเป็ นวันครบรอบวันตายของมารดาข้ า เจ้า ก็


น่ าจะรูว้ ่ามารดาข้าตายอย่างไร?” เขากามือนางแน่ น
11
“ปล่อยนะ!” หญิงสาวพยายามสะบัดมือออก

“หยิ่งผยอง เที่ยวใช้อานาจบาตรใหญ่ อวดดี ไม่ให้เกียรติ


ผู้อื่น มองชี วิตคนเหมือนสิ่งปฏิกลู ตระกูลสูงส่ งสังสอนอบรม

กันมาเช่ นนี้ หรือ ตอนนี้ เจ้าคงได้ ชิมรสชาตินัน้ แล้ วสิ?...ห้ าปี
ก่อน เจ้าควบม้าไปบนถนนอย่างอึกทึ กครึกโครม มารดาของ
ข้าหลบหลี กไม่ทนั ตอนนั น้ นางตัง้ ครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ข้า
เข้าไปขัดขวางแส้ของเจ้า แต่เจ้ากลับหวดข้าสามครังจนผ ้ ิ วเนื้ อ
ข้าแตก เลื อดที่ หลังไหลท
่ าให้ นางตกใจจนครรภ์ได้ รบั ความ
กระทบกระเทือนยากจะเยียวยา บัญชี นี้...เจ้าวางแผนจะชดใช้
คืนอย่างไร?”

ถานหวันช ่ ิ ง เม้มปาก แล้ ว หัน มาพูด กับ เขา "แม่ ท ัพ หัว


เมืองช่างไม่มีความเที่ ยงธรรมเสียเลย ข้าหวดท่านสามครัง้ ก็ดี
หรือจะเป็ นการตายของมารดาท่านก็ดี ล้วนเป็ นเพราะข้าหรือ?
หากตอนนัน้ ไม่มีข้า เกรงว่ามารดาของท่านจะตายก่อนโดนแส้
เสี ยด้วยซ้า เรื่องในปี นั น้ หากจะบอกว่าใครถูกหรือผิด ก็ต้อง
มองกันให้ชดั เจน แต่หากท่านต้องการโทษข้า เช่นนัน้ ข้าก็ไม่มี
อะไรจะพูดอี ก อยากจะลากข้าเข้าคุก ตะราง หรือจะให้ข้าเป็ น
หญิงคณิกาในค่ายทหาร ทัง้ หมดแล้วแต่ท่านจะคิดแล้วกัน"

12
นางยิ้มขื่นอย่างเจ็บปวด “นักโทษหญิงก็เป็ นได้แค่ผทู้ ี่ถกู
เหยียบยา่ เท่านัน้ ถึงอย่างไรก็เป็ นแค่ชีวิตหนึ่ ง ข้ามีคืนให้พวก
ท่านได้เท่านี้ แหละ”

่ ิ งสะบัดหน้ า นางมีจุดอ่ อนอยู่ที่มือ แม้จะอก


ถานหวันช
่ ญหายแต่ กร็ ู้ดีว่าไม่ควรเปิดเผยตอนนี้ ได้ แต่ อดทนต่ อ
สันขวั
ความเจ็บปวด มือของใต้ เท้ าเซี่ ยเพิ่มแรงบีบมากขึ้นไปอี ก ทา
ให้ หญิงสาวถึงกับหน้ านิ่ว นางทนเจ็บจนพวงแก้มมีเหงื่อไหล
ซึม สายตามองไปยังนอกหน้ าต่างพลางกล่าวเสียงสัน่

“ใต้ เ ท้ า เซี่ ย อดทนลงโทษให้ แ ยกส่ ว นข้ า ไม่ ไ หวแล้ ว


หรื อ ? จะหัก ข้ อ มื อ ข้ า ให้ ข าดหรื อ จะบี บ กระดู ก ให้ แ ตกเสี ย
ตอนนี้ ล่ะ?”

สิ้นเสียงของหญิงสาว แรงที่ข้อมือก็คลายลง แล้วจู่ๆ เขา


ก็ลากนางออกไป

ม้าที่ ยืนอยู่ด้านนอกประตูใหญ่ มีขนสี ดามันเงาวาววับ


น่ าจะเป็ นม้าสายพันธุ์ดี กีบเท้ าทัง้ สี่ แข็งแรง มันยกหัวขึ้นแล้ว
พ่ น ลมออกทางจมู ก สะบัด หางอย่ า งอวดดี โ อหัง ท่ า ทางดู
ล าพองยิ่ ง นั ก น่ าจะฝึ กหนั ก และผ่ า นสนามรบมาหลายร้ อ ย
สนามแล้ว
13
ม้ า ลัก ษณะนี้ ปกติ จ ะไม่ ย อมให้ ค นอื่ น ขึ้ น นั ง่ นอกจาก
เจ้าของเท่านัน้

ทว่าตอนที่ เซี่ ยเฉิงจู่พานางขึ้นหลังม้า มันกลับเชื่องมาก


่ ิ งแอบขบกรามแน่ น สีหน้ าแดงกา่ คิดในใจถึงปี นัน้ ...
ถานหวันช
นางยังเด็กอายุแค่สิบกว่าปี เท่านัน้ เอง...

คนผูน้ ี้ มาเพื่อแก้แค้นจริงๆ ใช่ไหม?

่ ิ งสุดจะหยังถึ
ถานหวันช ่ งเหตุผลของอีกฝ่ าย ถ้าหากศัตรู
เข้าหาเพื่ อหวังแก้ แค้ น นางคงอยู่ที่นี่ไม่ได้ อย่ างปลอดภัย มา
หลายเดือน เมืองเว่ยอันเป็ นเขตที่ อยู่ในการดูแลของเขา หาก
อีกฝ่ ายต้องการแก้แค้นจริงๆ มีหรือที่หญิงสาวมือเปล่าไร้อาวุธ
จะรอดไปได้ หากเขาจะคิดบัญชีย่อมทาได้ง่ายมาก แต่กลับไม่
ลงมือ

หญิงสาวกาลังนึ กถึงเรื่องราวของชายผู้นี้ตามที่ ตนเคย


ได้ ยิ น มา คนผู้นี้ เ ที่ ย งธรรมไม่เ คยมี ข้ อด่ า งพร้ อย อย่ างน้ อ ย
ที่ สุดก็เป็ นขุนนางดีที่คานึ งถึงประชาชนด้วยความจริงใจ หาก
จะบอกว่ า ไม่ ใ ช่ วี ร บุรุษ แต่ ก็ห าใช่ ค นต้ อ ยต่า ไม่ การที่ เ ขาจะ
รังแกระรานอิสตรีไปทัง้ ชีวิต เกรงว่าเขาคงไม่กล้าทาแน่

14
แต่แบบนี้ มนั หมายความว่าอย่างไรเล่า?

นางมองเซี่ ย เฉิงจู่พ ลิกตัว ขึ้น หลัง ม้ าตามมา รอให้ เ ขา


เปิ ดปากพู ด ทว่ า มื อ ใหญ่ ก ลับ ข้ า มผ่ า นตัว นางมาจับ เชื อ ก
บัง เหี ย น ขาทัง้ คู่ ห นี บที่ ท้ อ งม้ า จากนั ้น ม้ า คู่ ใ จก็พุ่ ง ทะยาน
ออกไปราวลูกศร

15
20 หนี้ แค้น

ความสามารถในการขี่ ม้าของใต้ เท้ าเซี่ ยนั น้ ยอดเยี่ ยม


เหนื อชัน้

ในสมัย โบราณ บรรดาตระกูล ที่ ร ่า รวยและมี ย ศถา


บรรดาศักด์ ิ โดยมากจะนิยมท่ากิจกรรมเพื่อการพักผ่อนหย่อน
ใจ แต่ไม่ชื่นชอบการออกกาลังกาย

การเตะลูกขนไก่ หรือปิดตาหาคนล้วนเป็ นเรื่องที่ ทากัน


ตัง้ แต่สิบขวบ

่ ิ งมีรปู ร่างบอบบางเช่นเดียวกับมารดา อีกทัง้


ถานหวันช
ร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรง สามวันปวดหัว ห้ าวันป่ วยออดๆ
แอดๆ แต่ กลับมีความงามเป็ นเลิศราวกับตุ๊กตาที่ ทาจากแก้ว
นางจึงถูกประคบประหงมเลี้ยงดูเป็ นอย่างดีในจวนตระกูลถาน
มาตัง้ แต่เด็ก

ร่างกายได้รบั การทะนุถนอมเอาใจจนเปราะบาง หลายปี


มานี้ หญิงสาวพยายามหาวิธีดูแลและบารุงร่างกายของตนให้
แข็งแรงขึน้

1
เมื่อเห็นพวกสตรีสูงศักด์ ิ ในเมืองหลวงมีการแข่งขันขี่ม้า
โปโลซึ่งถือว่าเป็ นกีฬาของฮ่องเต้ นางก็เกิดความสนใจ ถึงจะรู้
ดีว่าตนเองคงไม่สามารถเล่นขี่ม้าโปโลได้ แต่นางก็ยงั ฝึ กขี่ม้าได้

เพื่อให้ ได้เรียนขี่ม้า นางต้ องอดทนต่ อการดูถกู จากคน


มากมายทว่าในที่สดุ ก็ขี่ม้าเป็ น นับแต่นัน้ เป็ นต้นมา ในยามว่าง
นางก็จะขี่ม้าเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ แม้ไม่อาจพูดได้ว่ามีฝีมือ
การขี่ ที่ยอดเยี่ ยม แต่ การออกกาลังกายเช่ นนี้ ก็ดีกบั ร่างกาย
มากจริงๆ โชคดีที่นางดึงดันจนขี่ม้าได้ ไม่อย่างนัน้ ก็ไม่ร้วู ่าจะ
กัดฟั นฝื นทนตอนที่ อยู่บนเส้ นทางที่ ถกู เนรเทศได้ นานขนาด
ไหน

การขี่ม้าหากต้องนัง่ บนหลังม้าเป็ นเวลานาน จาเป็ นต้อง


มีอานม้าที่ ดี แต่การนัง่ บนหลังม้าโดยที่ไม่มีอานให้จบั และไม่มี
บังโกลนให้ เหยี ยบเช่ นนี้ จึงไม่ค่อยสะดวกนั ก อี กทัง้ หญิงสาว
ต้องระวัง พยายามรักษาระยะห่างกับคนข้างหลังจนเกือบจะนัง่
ตัวเกร็งแข็งทื่ออยู่แล้ว

ยิ่ งอี ก ฝ่ ายควบม้ า เร็ ว ขึ้ น นางก็ ยิ่ งมี ท่ า ทางกระสับ


กระสาย ทาได้ แค่จบั ขนแผงคอม้าไว้แน่ นเมื่อตกใจ ทว่าชาย
หนุ่ มกลับมีท่วงท่ ามันคงแน่
่ วแน่ ไม่มีท่าทางแข็งเกร็งหรือไม่
สะดวกสบายเลยสักนิด
2
ฝี มือแบบนี้ ความชานาญขนาดนี้ เกรงว่าจะเกิดจากการ
สังสมประสบการณ์
่ มานาน ถานหวันช ่ ิ งพอจะรู้เรื่องนี้ มาบ้าง
ความเชี่ ยวชาญในการขี่ม้าขัน้ สูงสุดคือคนกับม้ารวมเป็ นหนึ่ ง
ส่ ว นม้ า ตัว นี้ ลัก ษณะท่ า ทางดู แ สนรู้ น่ าจะผ่ า นศึ ก ร่ ว มกับ
เจ้าของมาหลายสมรภูมิจึงเชื่อใจและรูใ้ จกัน

ซึ่งนัน่ ย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสัน้ เซี่ย


เฉิงจู่ไม่ได้ ควบม้าตรงไปที่ ประตูทางเหนื อ แต่ อ้อมผ่านถนน
ใหญ่ไปตามถนนสายเล็กที่เงียบเชียบสู่ถนนกู่เหมินที่มีผคู้ นบาง
ตา แล้วออกไปทางประตูตะวันตก

วันนี้ ประตูฝัง่ ตะวันตกมีเกวียน รถม้าและผู้คนเข้า ออก


ไม่มาก ทหารรักษาการณ์ ที่เฝ้ าประตูสองนายจึงทางานอย่าง
สบายเลยที เดี ยว พอทัง้ สองเห็นแม่ทพั หัวเมืองควบม้ามาถึงก็
กล่าวทักทาย แล้วก็ต้องแปลกใจที่วนั นี้ ใต้เท้าเซี่ยผูช้ ื่นชอบการ
ขัดสี ฉวีวรรณม้าวัน ละสามครัง้ กลับมีหญิงสาวนั ง่ มาด้วย แต่
ละคนเบิกตาโตค้าง จ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา

พวกเขามองตามจนกระทังฝุ่ ่ นเบือ้ งหลังม้าจางหายจึงดึง


สายตากลับ จากนั ้น ทัง้ สองก็ใ ช้ มื อ ขยี้ ต าแล้ ว หัน มาสบตา
กันเอง

3
“เจ้าม้าตัวนั น้ เป็ นม้าที่ ช่วยชี วิตใต้ เท้ าไว้นี่! แล้วก็เป็ น
สมบัติของใต้เท้าด้วย! นอกจากเจ้าของแล้ว มันไม่เคยยอมให้
คนอื่นแตะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรือ่ งขี่...”

“ใช่ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าให้ผ้หู ญิงขี่ด้วย!” ทหารอีกนาย


เอ่ยแทรก เหมือนอยากแสดงความคิดเห็นเต็มที่ อย่างอดใจไม่
ไหวแล้ว

“เจ้ า มองเห็น หน้ า นางหรือ ไม่ ?” ทหารคนแรกกระซิ บ


ถาม

“ไม่เลย แม่นางคนนัน้ ก้มหน้ าตอนที่ ผ่านประตูเมือง ทัง้


ใต้เท้ายังใช้แขนบังนางไว้อีกต่างหาก”

“ท าไมต้ อ งท าลึ ก ลับ ซับ ซ้ อ นขนาดนี้ นะ หรื อ จะเป็ น


คุณหนูใหญ่ตระกูลชวี?”

“ไม่น่าจะใช่ ?” คนพูดเบ้ปาก ตระกูลชวีมีบุญคุณ ต่ อใต้


เท้ าแค่ช่วงแรกๆ เท่ านั น้ ต่ อมาก็พยายามยัดเยียดลูกสาวให้
ไม่ได้ สนใจเลยว่าใต้ เท้ าจะชอบพอหรือเปล่ า “ได้ ยินว่าคราว
ก่อนที่ คณุ หนูใหญ่ตระกูลชวีขี่ม้ามาพบใต้เท้า นางรอนานเป็ น
ครึง่ ค่อนวันก็ไม่ได้พบ ถ้าใต้เท้าชอบนางจริงจะหลบเลี่ยงไม่พบ

4
หรือ? ขนาดหน้ ายังไม่โผล่ให้ เห็น แล้วใต้ เท้ าจะให้ ผ้หู ญิง คน
นัน้ มาแตะม้าศึกของรักของหวงได้อย่างไร”

“หากไม่ ใช่ คุณหนู ใหญ่ ตระกูลชวี ถ้ าเช่ น นั น้ ผู้หญิงบน


หลังม้าเมื่อครู่นี้เป็ นใครเล่ า? เห็นตอนใต้ เท้ าออกจากประตู
เมืองหรือไม่ ท่าทางดูปกป้ องนางมากเลยนะ”

“กลับค่ ายแล้วค่อยไปสอบถามใต้ เท้ าเว่ ยกันดี กว่า ใต้


เท้าเว่ยจะต้องรูแ้ น่ ”

ใครว่าผู้ชายไม่นินทา โดยเฉพาะผู้ชายในค่ายทหารที่ ไม่


ค่ อยได้ พ บอิส ตรี บ่อยนั ก แม้ส ตรี น างนั น้ อาจจะขี้ เ หร่ แต่ ข อ
เพียงได้พดู ถึงก็รสู้ ึกกระชุ่มกระชวยไม่น้อย

พอออกจากประตูเมืองมาแล้ว เบือ้ งหน้ าก็เป็ นทิวทัศน์ ที่


ยาวไกลไร้จดุ สิ้นสุด

เทื อ กเขาสี เ ขี ย วลดหลัน่ เป็ นชัน้ ทอดตัว ยาวเหยี ย ด


ท้ องฟ้ าเหนื อยอดเขาเป็ นสี ฟ้ าเข้มกระจ่ างตาปราศจากก้ อน
เมฆ ส่วนด้านล่างเป็ นผืนป่ ากว้างใหญ่สดุ ลูกหูลูกตา และเพราะ
เป็ นช่วงฤดูหนาว ต้นหญ้าจึงเหี่ ยวแห้ง เห็นต้ นไม้ขึ้นห่างกันดู
บางตา ถึงจะมีบ้านกระจายเป็ นหย่อมๆ แต่กย็ งั เห็นที่ โล่งกว้าง

5
ได้อย่างชัดเจน ยิ่งมองไกลออกไปยิ่งรับรู้ได้ถึงความเงียบสงัด
วังเวง

ทัศนี ยภาพเบือ้ งหน้ าก่อให้เกิดความรู้สึกหวันไหวย


่ ิ่ งนัก
เมื่ อ ไม่ มี ก าแพงเมื อ งสู ง ตระหง่ า นมาปิ ดกัน้ ทางลม สายลม
หนาวที่พดั ผ่านจึงปะทะกับใบหน้ า ไอเย็นบาดสองแก้มนวลราว
กับมีดกรีด ยิ่งม้าควบตะบึงด้วยความรวดเร็ว ชายกระโปรงก็
สะบัดไปตามแรงลม

เสื้ อคลุมยาวบนร่างไม่อาจปกป้ องหญิงสาวจากความ


เหน็บหนาวที่เสียดแทงไปถึงกระดูกได้เลย

เซี่ยเฉิงจู่กมุ บังเหียนด้วยมือเพียงข้างเดียว สายตากวาด


มองซ้ า ยขวา สุ ด ท้ า ยมาหยุ ด ที่ ร่ า งบอบบางของหญิ งสาว
ด้ า นหน้ า ตัง้ แต่ เ จ้ า ม้ า ตัว นี้ เริ่ ม วิ่ ง กระทัง่ พุ่ง ทะยานออกไป
เพราะเขาหนี บท้องมันไว้จึงยังทรงตัว ได้ดี ส่วนนางดูนัง่ ลาบาก
กว่ า ถึ ง กระนั น้ หญิ ง สาวก็พ ยายามปรับ สี ห น้ า ท่ า ทางให้ เ ป็ น
ปกติ

จากนั น้ นางก็นัง่ หลังตรง เอนตัวไปข้างหน้ าตลอดทาง


ตัง้ ใจเว้ น ช่ อ งว่ า งให้ ห่ า งจากตัว เขา แม้ จ ะท าได้ เ พี ย งระยะ
กระดาษลอดผ่านก็ดเู หมือนนางจะพอใจแล้ว
6
เมื่ อ อยู่ ใ กล้ ชิ ด กัน เพี ย งนี้ รวมไปถึ ง ลัก ษณะท่ า ทางที่
แสดงออกยิ่งทาให้เห็นความงามของนางอย่างชัดเจนหนาซา้
ยังแผ่ขยายมากขึน้ อีกหลายระดับ

ถานหวันช ่ ิ งนั ง่ บนหลังม้าที่ ไม่มีท งั ้ อานและห่ วงยึ ด มือ


ด้านล่างก็โล่งว่างไม่มีที่ให้ เท้ าเหยียบ การทรงตัวอยู่ได้นับว่า
กินแรงนางอย่างมาก ยามนี้ หญิงสาวทาได้เพียงยึดแผงคอม้า
เอาไว้ ใ ห้ ม นเพื
ั ่ ่ อ ค้า ยัน ร่ า งกายให้ ส มดุล กัน การนั ง่ อย่ า งไม่
สะดวกสบายเป็ นเวลานานทาให้ ส องขาเริ่มสันระร ่ ิ ก นางไม่
เข้าใจว่าใต้เท้าเซี่ยผู้นี้พานางออกมาทาไม ท่าทางของเขาดูไม่
ออกว่าจะคุกคามหรือจะหยอกล้อ ไม่ใช่ ว่าจะน่ านางมาทิ้งใน
ป่ าเปลี่ยวเพื่อระบายความแค้นหรอกนะ? มันจะเป็ นวิธีที่เด็ก
เกินไปหน่ อยไหม?

เมื่อพ้นประตูเมืองออกมาไกลสักระยะหนึ่ งแล้ว เขาก็ยงั


ไม่เอ่ยอะไรออกมาเลยสักคา ถึงนางจะคาดเดาท่าที ของเขาไม่
ออก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้เขามีโอกาสได้กระทาการที่
เสื่อมเสียเกียรติแก่นางอย่างเด็ดขาด

เดิมที เซี่ ยเฉิงจู่กใ็ จจดจ่อที่ ถานหวันช


่ ิ งอยู่แล้ว ยิ่งเห็นสี
หน้ าครุ่นคิดของนางราวกับพยายามหาวิธีหลบเลี่ยงเขาให้ได้
แววตาชายหนุ่มก็เข้มขึ้น เขายกมุมปากเล็กน้ อย สายตาเลื่อน
7
ไปจับจ้องมือเรียวขาวผ่องที่ กาลังเกาะกุมขนแผงคอม้ าแน่ น
มือแกร่งที่ จบั บังเหี ยนอยู่พลันกระตุก ทัง้ ที่ ชายหนุ่มไม่ได้ขยับ
ตัวแต่ความเร็วของม้ากลับลดลง

่ งพื้นที่ ราบบนภูเขา ลมหนาวยิ่งพัดแรง สาหรับ


กระทังถึ
ถานหวัน่ ชิ ง ที่ ต้ อ งทนสู้ ก ับ ความเหน็ บ หนาวจึ ง รู้สึ ก เหมื อ น
ตัวเองกาลังถูกลงโทษอย่างทารุณโหดร้าย ร่างบอบบางที่ สวม
ใส่ แ ค่ ชุ ด กระโปรงตัว ยาวกับ เสื้ อ คลุ ม ผ้า ฝ้ า ยถึ ง กับ หนาวยะ
เยือกไปถึงกระดูก ไม่นานทัง้ ร่างก็เย็นเยียบไร้ความรูส้ ึกราวกับ
ไม่ใช่ตวั เอง

นางนัง่ หลังตรง เอนตัวไปด้านหน้ ามาตลอดทาง โชคดีที่


นางเรียนรูก้ ารขี่ม้ามาก่อนทาให้ทรงตัวได้

อย่างสมดุล ไม่เช่นนัน้ นางคงตกจากหลังม้าไปนานแล้ว


ยิ่ ง ตอนที่ ขึ้น เขาหรือลงเขายิ่ ง นั ง่ ลาบาก หนาซ้า อากาศก็ท วี
ความหนาวมากยิ่งขึน้ เรื่อยๆ ไม่ร้วู ่าตนเองจะอดทนได้นานแค่
ไหน

หากจะเที ยบกับความหนาวของอากาศภายนอก ก้นบึง้


หัวใจของถานหวันช่ ิ งกลับเหน็ บหนาวกว่านั น้ มากนั ก เพราะ
นางเห็นค่ายทหารที่ปลูกเป็ นเรือนหลังเล็กเรียบง่ายแต่ไกล
8
ออกจากตัวเมืองแล้วงัน้ รึ? หรือว่าเขาจะนานางไปส่งไว้
ที่ นัน่ ? ใบหน้ าหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนสี เล็กน้ อย หญิงนักโทษเมื่อ
เข้าไปอยู่ในค่ายทหารชายแดน ย่อมมีชะตากรรมที่ รนั ทดน่ า
เวทนามหาศาล เพราะการเป็ นหญิง คณิกาในค่ ายทหารเป็ น
เรือ่ งที่ทุกข์ทรมานอย่างที่สดุ

ใบหน้ า งามเผยความหวาดกลัว ออกมาทัน ที คิ้ ว เรี ย ว


ขมวดแน่ น ในใจสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าถ้าตัวเองต้ องตกอยู่ใน
สภาพแบบนัน้ แล้วจะเป็ นอย่างไร

เขาจงเกลียดจงชังนางมากเลยหรือ ? หรือว่านางจะมอง
เขาผิดไป?

เขาต้องการเรียกร้องความเป็ นธรรมให้กบั ตัวเองหรือ?


ความชิ ง ชัง ฝั ง รากลึ ก ในใจเขาจนต้ อ งการจะแก้ แ ค้ น นางใช่
ไหม? สรุปแล้วเขาต้องการชีวิตนางหรืออย่างไร?

ชายที่ ยืนอยู่เหนื อมวลชนอย่างหยิ่งผยอง เหยียบยา่ อยู่


ในโคลนตมที่ เต็มไปด้ วยความสกปรกและโหดเหี้ ยมมานาน
ผู้ชายที่เปี่ ยมไปด้วยความสามารถและสติปัญญาจะไม่สามารถ
ปล่อยวางความเกลียดชังแต่เก่าก่อนได้เลยหรือ?

9
ถานหวัน่ ชิ ง ยิ่ ง คิ ด ก็ยิ่ ง รู้สึ ก เหมื อ นตัว เองก าลัง นั ง่ อยู่
บนกองไฟ จึงสูญเสียการทรงตัว

จังหวะนัน้ เอง กีบเท้าหน้ าของม้าก็เหมือนเหยียบเข้ากับ


บางอย่าง ทาให้มนั ยกขาหน้ าขึ้นจนคนบนหลังม้าหงายเอนไป
ข้างหลัง ถานหวันช ่ ิ งที่ นัง่ อย่างไม่มนคงจึ
ั่ งไหลลื่น จะตกจาก
หลังม้า ทว่ามีอ้อมแขนแข็งแกร่งโอบล้อมนางไว้ได้ทนั สองมือ
ชายหนุ่ มเลื่ อ นไปจับ เอวเล็ก บางไว้ แ ล้ ว ออกแรงดึ ง นางให้
กลับมานัง่ ก่อนจะชักมือกลับไปกุมบังเหียนตามเดิม

ชัวขณะที
่ ่ ร่างสัมผัสกัน แม้จะมีเสื้อคลุมตัวนอกขวางกัน้
ทว่ า ชายหนุ่ ม ก็ร บั รู้ไ ด้ ว่ า ร่ า งของนางเย็น เฉี ยบปานน้ า แข็ง
่ ิ งกลับมานัง่ บนหลังม้าได้แล้วก็ร้สู ึกได้ว่าแผ่น
ทันที ที่ถานหวันช
หลังของนางอบอุ่นราวกับได้ผิงอยู่ข้างเตาไฟ จากนัน้ ความอุ่น
ร้อนก็กระจายไปทัวร่ ่ างโดยเฉพาะบริเวณเอวที่เคยมีฝ่ามื อแข็ง
แกร่งวางไว้

ความอบอุ่นนี้ ทาให้จิตใจของหญิงสาวสันไหว ่ ก่อนหน้ า


นี้ มือของนางจับขนแผงคอม้าไว้แน่ น เมื่อเกิดเหตุวุ่นวายเมื่อ
ครู่จึง เผลอเกาะแขนของเขาเอาไว้ เดิ มที ก็อยากจะเอาออก
ทว่าแม้ใต้ เท้ าเซี่ ยจะสวมชุดน้ อยชิ้น มี เพี ยงชุดคลุมชัน้ เดี ยว
แต่ร่างกายกลับไม่หนาวเย็นเลยสักนิด เมื่อมือที่ แข็งเย็นสัมผัส
10
กับ ไออุ่น ที่ แ ผ่ซ่ า นออกมาจากผิ ว กายใต้ เ นื้ อ ผ้ า ก็เ กิ ด ความ
อาลัยอาวรณ์จนยากจะปล่อยมือ

ถานหวันช ่ ิ ง สู ด ลมหายใจเข้ า ลึ ก เบนหน้ า ไปทางชาย


หนุ่ม น่ าเสียดายที่มองเห็นแค่หวั ไหล่ของเขาเท่านัน้ นางแสร้ง
ทาเป็ นไม่สนใจแล้วถามเสี ยงเบา “ใต้เท้ าเซี่ ย ท่ านต้ องการจะ
พาข้าไปที่ไหนกันแน่ ?”

เมื่ อรับ รู้ได้ ว่ าหญิง สาวผิว ขาวราวหิม ะอี ก ทัง้ เนี ยนนุ่ ม
ปานหยกตรงหน้ า กาลังจับแขนของเขาอยู่ แม้นางจะแสดงสี
หน้ าเป็ นปกติ น้าเสียงที่เอ่ยออกมานัน้ กระจ่างใสเป็ นธรรมชาติ
ท่ วงท่ านองนุ่ มนวลไม่แข็งกระด้าง แต่ มือของเขากลับค่ อยๆ
กาบังเหียนม้าแน่ นขึน้

“ใต้เท้า ท่านไม่ต้องนัง่ ชิดข้าขนาดนัน้ ก็ได้ ” น้าเสียงนาง


ยังคงนุ่มนวล

มือของเซี่ยเฉิงจู่ผอ่ นคลายลง เขานิ่งเงียบไปสักพัก ก่อน


จะกล่าวเสี ยงเนื อย “ถ้าหากตกจากหลังม้าอี ก ครัง้ ยังจะให้ข้า
ช่วยอีกไหม?”

“หากใต้เท้าจะพาข้าไปยังค่ายทหาร ให้ข้าตกจากหลังม้า

11
เสียยังดีกว่า จากนัน้ ก็ให้กีบเท้าม้าเหยียบยา่ ลงมาแรงๆ ปัญหา
ต่างๆ จะได้พลอยสิ้นสุดไปด้วย”

หญิงสาวรู้สึกว่าแขนแข็งแกร่งที่ โอบล้ อมตัวนางอยู่ยิ่ง


แนบชิ ด มากกว่ า เดิ ม ได้ ยิ น เขาส่ ง เสี ย งฮึ ด ฮัด ออกจมู ก แล้ ว
กระตุ้นม้าไปในทิศทางตรงกันข้ามกับค่ายทหาร ทาให้หญิงสาว
เบาใจไปเปลาะหนึ่ ง ในใจรูส้ ึกดีขึน้ ไม่น้อย

ชายหนุ่มที่ อยู่ด้านหลังคนนี้ เพราะขี่ม้ายกทัพจับศึกมา


เป็ นเวลานาน รูปร่างจึงสูงตระหง่านกายาและแข็งแกร่ง เมื่ออยู่
บนหลังม้าก็เหมือนพร้อมจะรบพุ่งได้ตลอดเวลา

่ ิ งจึงรู้สึกประหนึ่ งแผ่นหลังตนชนกับหิน
ยามนี้ ถานหวันช
ผา นางไม่ใช่ สาวน้ อย มีหรือจะไม่รู้ว่ากล้ามเนื้ อหนั น่ แน่ นทัง้
ร่างของเขาสวมเพียงชุดผ้าฝ้ ายเนื้ อหนา นางยังสัมผัสได้ถึงการ
ขยับเขยือ้ นของกล้ามเนื้ อบนร่างอีกฝ่ ายด้วย

นี่ คื อ บุรุษ ที่ มี รูป ลัก ษณ์ ส มบูร ณ์ แ บบที่ สุ ด ส าหรับ ถาน
่ ิ งแล้ ว เมื่อห้ าปี ก่ อนเขาก็ไม่ต่างจากเด็กมุทะลุคนหนึ่ ง
หวันช
ใบหน้ าอ่ อนเยาว์ไม่ร้คู วาม ไม่ร้ทู งั ้ หนั กเบา ดี หรือเลว แทนที่
เขาจะดึงมารดาให้ห่างเพื่อรักษาชีวิต แต่กลับยืนดือ้ รันอยู ้ ่กลาง
ถนน ตีไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไปจนเกือบจะตายแทบเท้าม้าแล้ว
12
พอนั บ ดู อ ายุ เกรงว่ า ยามนี้ อี ก ฝ่ ายจะไม่ ถึ ง ยี่ สิ บ หรื อ
อาจจะเด็กกว่านั น้ คนมักพูดกันว่า ‘รังแกผู้ใหญ่ ไม่เท่ ารังแก
เด็ก’ เพราะผูใ้ หญ่นัน้ แก่ใกล้ตาย แต่เด็กนับวันก็ยิ่งโต ไม่แน่ ว่า
อาจจะหาโอกาสแก้ แ ค้ น คื น ในภายหลัง ก็เ ป็ นได้ ซึ่ ง ตอนนี้ ก็
พิสจู น์ ได้ว่าคาพูดนี้ เป็ นเรือ่ งจริงไม่ใช่เรือ่ งล้อเล่น นางเองก็เป็ น
ผู้ใหญ่ เป็ นคนสองภพสองชาติ กลับถูกเด็กทาให้ ตื่นตระหนก
จนตกตะลึงพรึงเพริด มือเท้ าอ่อนแรงไปหมด ถึงกับเสี ยศูนย์
เลยทีเดียว

ในความคิดนางแล้ว การนั ง่ บนหลังม้าตัวเดี ยวกัน ไม่


นับว่าเป็ นเรื่องหนักหนา แต่สาหรับที่ นี่ชายหญิงไม่ควรชิดใกล้
ในยุ ค สมั ย ที่ ยึ ด ถื อ ขนบธรรมเนี ยม ประเพณี เป็ นหลั ก
พฤติกรรมเช่นนี้ กท็ าให้นางเสื่อมเสียได้แล้ว

แต่ ก็นั น่ แหละ ตอนนี้ น างเป็ นหญิ ง นั ก โทษนี่ นา ไม่ ใ ช่


คุณหนู ในตระกูลใหญ่ที่มีฐานะหรือชื่ อเสี ยงแต่ อย่างใด จะไป
ไหนก็ต้องพยายามปิดบังตัวตน หลบผู้คนราวกับหนู ไม่ว่าใคร
ก็ล้วนรังแกเหยี ยบยา่ ได้ ทงั ้ นั น้ ทัง้ เด็กทัง้ ผู้ใหญ่ กส็ ามารถบีบ
นางให้เหมือนตายทัง้ เป็ นได้

ดอกไม้บนต้ นถึงจะอยู่บนยอดที่ สูงเพียงใด แต่ เมื่อร่วง


โรยสู่ผนื ดิน ทุกคนก็สามารถเก็บหรือไม่กเ็ หยียบยา่ ได้
13
เช่ น เดี ย วกัน คนธรรมดาคนหนึ่ ง ก็ส ามารถชาระแค้ น
แทนมารดาของตนได้ เมื่อนางตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้ว ยังจะ
มีหน้ าเรียกร้องความเป็ นธรรมจากใครได้อีก

่ ิ งครุ่นคิดด้ วยความหดหู่ใจ กระทังทนเงี


ถานหวันช ่ ยบ
ต่อไปไม่ไหว จึงเอ่ยถามคนข้างหลัง “ใต้เท้าเซี่ย ท่านเห็นว่าข้า
เป็ นเพียงเชลย จะพาไปไหนจึงไม่ต้องบอกอะไรเลยงัน้ หรือ?”

“ข้างหน้ าคือสุสานตระกูลเซี่ ย ” เขาเอ่ยเสี ยงเรียบ มือที่


กาบังเหียนกระชับแน่ นขึน้ อ้อมแขนยังโอบล้อมตัวนางเช่นเดิม
ขณะที่ม้าควบตรงไปข้างหน้ า

พอได้ ยินคาตอบ ถานหวันช


่ ิ งก็เอามือที่ วางไว้บนแขน
ของเขาลง

สุสานตระกูลเซี่ ย? เขาจะสังหารนางต่ อหน้ าหลุมฝั งศพ


ของมารดาอย่างนัน้ รึ หรือจะให้นางก้มหัวคารวะร้องห่มร้องไห้
เพื่อสานึ กผิด นางหันหน้ าไปทางเขา เอ่ยเสียงหนัก

“ปล่อยข้าลง!”

14
21 สถานการณ์ลาบาก

“ที่ แ ถบนี้ ไม่ ไ ด้ มี แ ค่ สุ ส านของตระกูล เซี่ ย หรอก ยัง มี


สุสานของชาวบ้านผูบ้ ริสทุ ธ์ ิ อีกด้วย”

กล่าวจบเซี่ ยเฉิงจู่กร็ งั ้ เชือกบังเหี ยนม้าให้ หยุด ชี้ไปทาง


เนินเขาเตี้ยๆ ที่ไม่ไกลนัก

มองจากตาแหน่ งนี้ หลุมฝังศพมากมายที่ อยู่บนเนินเขา


นัน้ โดยมากจะไม่มีชื่อ

บางแห่งก็มีผหู้ ญิงนัง่ คุกเข่าอยู่พลางทาความสะอาดรอบ


หลุมฝังศพ ใบหน้ าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสี ยใจ บางคนก็
ก้มหน้ าร้องไห้ เผากระดาษในมือแล้วปล่อยให้สายลมพัดพาไป

กระดาษที่ลุกไหม้เกินครึ่งปลิวไปตามแรงลม มองเผินๆ
คล้ายผีเสื้อที่บินวนอยู่ในอากาศ เถ้ากระดาษ

ล่องลอยกระจายเต็มฟ้ า...

“วันนั น้ เมืองเว่ยอันถูกข้าศึกจู่โจม ในเมืองเต็มไปด้วย


เขม่าและควันไฟหนาแน่ นจนแทบมองไม่เห็น อดีตผู้ปกครอง
1
หลบหนี ออกจากเมืองทางประตูทิศเหนื อ พลทหารถูกตีพ่ายจน
แตกฉานซ่านเซ็น ชาวบ้านต่างหวาดผวาไร้ที่พึ่ง พวกเผ่าต๋าได้
โอกาสอวดแสนยานุ ภ าพ ปิ ดประตู เ มื อ งทัง้ สี่ ด้ า นเพื่ อ ปล้ น
ฆ่าแย่งชิงข้าวของตามใจชอบ เห็นคนก็ตดั หัวสังหาร เห็นบ้าน
ก็เผาจนวอดวาย เกิดการสังหารหมู่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ ใหญ่ ทัวทั ่ ง้
เมื อ งเต็ม ไปด้ ว ยเสี ย งกรี ด ร้ อ งโหยหวนอย่ า งน่ าเวทนาของ
ชาวบ้าน”

น้าเสียงของคนด้านหลังหนักหน่ วง เหมือนกาลังหวนนึ ก
ถึงเหตุการณ์ ในวันนั น้ คาพูด ทัง้ จริง จังและหนั กแน่ น เขานิ่ง
่ ่แล้วเอ่ยต่อ “ขณะที่ เมืองถูกเผา ข้าเพิ่งนาทหาร
เงียบไปชัวครู
กองหนุนเร่งรุดมาถึง พบศพชาวบ้านเกลื่อนกลาดทัง้ นอกเมือง
และในเมือง มีศีรษะกลิ้งไปทัวทุ
่ กหนแห่ง พวกทหารใช้เวลาถึง
สามวันช่ วยกันฝังกลบ ผืนแผ่นดินนี้ มีสุสานของชาวบ้านหนึ่ ง
พันแปดร้อยหลุม ส่วนใหญ่ในนัน้ แม้แต่ชื่อก็ยงั ไม่ร”ู้

สุสานเหล่านัน้ อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายแถบพื้นที่ รก
ร้างแถบชานเมือง บริเวณโดยรอบมีแต่ เสี ยงรา่ ไห้ ตลอดเวลา
แทรกด้ ว ยเสี ยงอี กาดาที่ เหมือนกับ กาลังครา่ ครวญโหยหวน
เช่นกัน เมื่อรวมกับสายลมที่พดั หวีดหวิวพาให้ต้นไม้เสียดสีกนั
จนเกิดเสียง ยิ่งทาให้บรรยากาศดูเศร้าสร้อยและน่ าหดหู่ใจ

2
ถานหวันช ่ ิ งนิ่งฟั งคาพูดของคนข้างหลัง ดวงตามองไป
ยัง ภาพเบื้อ งหน้ า ด้ ว ยความรู้สึ ก สะเทื อ นใจ ประหนึ่ ง เข้ า ถึ ง
ความเศร้าสลดและความทุกข์ระทม จนพาให้จิตใจหนักหน่ วง
จากเหตุการณ์เหล่านัน้

ในขณะเดียวกัน นางก็นึกถึงความเคารพเลื่อมใสที่ ชาว


เว่ ย อัน มี ต่ อ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ผู้นี้ อ ย่ า งมากมายท่ ว มท้ น ทัง้ หมดนั ้น
ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ ไ ด้ ม าโดยไม่ มี มู ล เพราะถึ ง เขาอายุ ย ัง น้ อย รับ
ราชการทหารตัง้ แต่เพิ่งแตกเนื้ อหนุ่ม ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่
กาลังจะเสี ยเมือง เขากลับ นากาลังทหารเข้าเมืองเพื่อเข่นฆ่ า
และขับไล่พวกเผ่าต๋าออกไป

ในยามที่ พายุใหญ่โหมกระหน่่ าจนกระทังคฤหาสน์ ่ หลัง


ใหญ่ ก็ ย ัง ประคองไว้ ไ ม่ อ ยู่ เขากลับ เข้ า มาช่ ว ยประชาชน
ท่ ามกลางวิกฤตจากการไล่ล่าสังหารและเปลวเพลิงทุกหย่อม
หญ้า

มิ น่ าเล่ า พอประชาชนในเมื อ งเว่ ย อัน เห็ น เขาต่ า งก็


คุกเข่าลงคารวะ หากไม่มีความองอาจห้ าวหาญของเขาในวัน
นัน้ เมืองเว่ยอันแห่งนี้ คงกลายเป็ นซากปรักหักพังไปแล้ว

3
จากชายผูห้ นึ่ งซึ่งเป็ นเพียงประชาชนธรรมดา ไม่ได้มีคน
หนุนหลัง ไม่มียศถาบรรดาศักด์ ิ หรืออานาจใดๆ ทว่าหลังจาก
เข้ามาเป็ นทหารกลับทาให้กองกาลังที่ ตนดูแลมีความเหนื อชัน้
สะสมความดีความชอบจากการสู้รบ เพียรพยายามด้วยตนเอง
จนได้มาซึ่งตาแหน่ งผูป้ กครอง โดยไม่ได้อาศัยโชคใดๆ ทัง้ สิ้น

ความองอาจห้ า วหาญ ความฉลาดหลัก แหลม มอง


สถานการณ์ ขาดและวางแผนการได้อย่างลึกลา้ อีกทัง้ ไม่หวัน่
กลัวที่ จะเสี ยสละตน ยืนหยัดอย่างทรหดไม่ท้อถอยง่ายๆ นั น่
คือสิ่งที่ชายผูน้ ี้ มี

แม้ ใ นใจของถานหวัน่ ชิ ง ไม่ เ คยรู้สึ ก ซาบซึ้ ง กับ ค าว่ า


วีรบุรษุ มาก่อน แต่กต็ ้องยอมรับว่าชายผู้นี้ทาเพื่อประเทศชาติ
และประชาชน เขามีจิตใจมุ่งมันไม่ ่ ท้อถอย ยืนหยัดเพื่อทุกคน
ที่นี่ ดังนัน้ คงสามารถเอ่ยได้เต็มปากว่าหนุ่มอัจฉริยะผูน้ ี้ มีความ
หาญกล้าราวกับวี รบุรุษก็ไม่ปาน สมควรแล้วที่ ผ้คู นให้ ความ
เคารพเลื่อมใส

เซี่ ยเฉิงจู่นัง่ บนหลังม้าเงียบๆ ก้มมองถานหวันช


่ ิ งที่ นิ่ง
ฟังคาพูดของเขา แต่กลับไม่รวู้ ่านางกาลังคิดอะไรอยู่

4
สายตาคมจับ จ้ อ งอยู่ ที่ ห ญิ ง สาว ผิ ว ของนางยามต้ อ ง
แสงอาทิตย์ไม่มีรอยตาหนิให้เห็นแม้แต่ น้อย ช่ างขาวกระจ่าง
ใสดุจดังเพชรที่ผา่ นการเจียระไนจนแวววาว ยากที่จะมีใครเกิด
ความรูส้ ึกไม่ดีต่อนางได้

ไม่ร้วู ่าต้องเลี้ยงด้วยสิ่งใด คนถึงจะออกมางดงามหวาน


หยาดเยิ้ มปานนี้ คาดว่ าครอบครัว ที่ รา่ รวยคงยิน ยอมทาทุก
วิถีทาง ทว่ารูปโฉมภายนอกล้วนหลอกลวงโกหกคน ถ้าหากเขา
ไม่เคยเห็นกับตาตนเองเมื่อห้ าปี ก่อน บรรดาคุณหนู ของจวน
ตระกูล ถานควบม้ า มาตามท้ อ งถนน นางคื อ ผู้ที่ ขี่ ม้ า ตัว ใหญ่
ที่สดุ เส้นผมดกดาถูกมัดรวบตามแบบทรงผมผูช้ าย ท่าทางเย็น
ยะเยือกของนางยามหยุดอยู่ตรงหน้ าเขา เขาเองก็ไม่อยากเชื่อ
ว่าเป็ นคนเดียวกับหญิงสาวที่อยู่เบือ้ งหน้ าในตอนนี้

ถานหวันช ่ ิ งเงยหน้ าขึ้น แล้วหันมองไปทางสุสาน นาง


ลังเลครู่หนึ่ งก่อนจะวางมือลงบนแขนของเขา ราวกับจะบอกว่า
ไปกันได้แล้ว

พอเห็นอย่างนี้ ...ลักษณะท่ าทางของนางก็ใกล้เคี ยงกับ


เมื่อห้าปี ก่อนเล็กน้ อย

5
แทนที่ จ ะจับ นางมัด แล้ ว ลากด้ ว ยเชื อ กให้ ส าสม แต่
สายตาของเซี่ ยเฉิงจู่กลับมองนางอย่างอบอุ่นและหวันไหว ่ เขา
รัง้ เชือกบังเหียนไปอีกทาง ไม่ใช่ทางไปสุสานที่หนาวเหน็ บแห่ง
นัน้ แต่กลับพานางไปทางประตูเมือง

ระหว่างทางผ่านครอบครัวทหารหลายร้อยหลังคาเรือน
คนเหล่านี้ เคยเป็ นผู้ลี้ภยั มาก่อน ทว่าหลังจากเข้ามาเป็ นทหาร
ก็พากันสร้างบ้านอยู่นอกเมืองเว่ยอัน ร้อยครอบครัวแรกที่ มา
อยู่ ก่ อ นได้ พ กั บ้า นดี ห น่ อ ย ส่ ว นคนที่ ม าช้ า ก็ย งั พอทัน ได้ ต ัด
ต้นไม้ทาคานทาโครงหลังคา

พวกเขาก่ อ ผนั ง บ้ า นทัง้ สี่ ด้ า นด้ ว ยอิ ฐ ที่ ท ามาจากดิ น


อย่างลวกๆ จากนั น้ ก็มุงหลังคาด้วยหญ้ าคาซึ่ งพอจะบรรเทา
อากาศที่หนาวเย็นไปได้บา้ ง

แต่กม็ ีอีกหลายครอบครัวที่เพิ่งมาได้ไม่นาน ไม่สามารถ


ขุดดินโคลนได้เพราะอากาศหนาวจนแข็ง จึงไม่มีอิฐมาก่อเป็ น
ตัวบ้าน จาต้ องเก็บไม้มามัดรวบบัง ลมไปพลางๆ กลางคื นก็
อาศัยก่อฟื นผิงไฟให้ความอบอุ่น อดทนจนกว่าจะผ่านพ้นฤดู
หนาวไป

6
ที่ พ กั อาศัย ของทหารที่ พ บเจอตลอดทางจะมี รูป แบบ
เช่นเดียวกันทัง้ หมด ผู้หญิงและเด็กๆ ถึงจะสวมใส่เสื้อผ้าครบ
แต่ เ สื้ อ ผ้ า ก็ เ ก่ า จนเปื่ อยยุ่ ย บางคนก็ ส วมใส่ เ สื้ อ ผ้ า ขาด
กะรุ่งกะริ่ง ผู้หญิงบางคนนั ง่ ก้ มหน้ าขุดอะไรบางอย่ าง ใกล้ ๆ
กัน มี เ ด็ก ชายหลายสิ บ คนวิ่ ง เล่ น ไปมา ทว่ า เด็ก แต่ ล ะคนก็ดู
ผอมเสียเหลือเกิน

เซี่ ยเฉิงจู่ เห็นถานหวันช


่ ิ งกาลังมองไปทางเด็กเหล่านัน้
ก็ เ อ่ ย เสี ยงต่ า “เมื อ งเว่ ย อั น ดู แ ล้ ว เหมื อ นเป็ นเมื อ งที่
เจริญรุ่งเรืองแต่ตามจริงแล้วเป็ นแค่เปลือก เพราะถึงข้าจะเป็ น
ผู้ดูแลเมือง ทว่าตอนนี้ แม้แต่ ทหารแค่สองร้อยครอบครัวก็ยงั
จัดหาที่ พกั ให้ ไม่ถ้วนทัว่ หลังจากที่ ผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้วยัง
ไม่รวู้ ่าจะเหลือรอดสักกี่ครอบครัวกัน”

พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็ทอดสายตามองบ้านที่ ทาจากหญ้า


ชัน้ เดียวยาวเหยียดเป็ นทิวแถว พวกเขาพยายามจะสร้างที่ พกั
ด้วยหญ้าคาหนา แต่ถ้าลมหนาวรุนแรงขึ้น เพียงแค่หญ้าคากัน้
ก็ย งั ถื อ ว่ า บางไป ลมแรงจากด้ า นนอกกับ สายลมเบาบางที่
แทรกเข้าไปในบ้านได้ แล้วมันจะแตกต่างตรงไหนกัน

ถานหวันช ่ ิ งเม้มริมฝี ปาก ก่อนถามด้วยความสงสัย “ใน


เมื่อเป็ นเช่ นนี้ ทาไมใต้ เท้ าถึงรีบร้อนสร้างกาแพงเมืองล่ะเจ้า
7
คะ?” เก็บเงินไว้สร้างที่พกั ให้ชาวบ้านที่ประสบภัยไม่ดีกว่าหรือ

“พวกต๋ า แถบชายแดนโหดเหี้ ย มอ ามหิ ต ชอบวาง


อานาจบาตรใหญ่เพราะถือว่าตนมีกาลังคนมาก หากพวกมัน
น าทัพ มาโจมตี เ มื อ งนี้ อี ก ครัง้ ก็ค งยากที่ จ ะรัก ษาเมื อ งไว้ ไ ด้
เรื่ อ งงานก่ อ สร้ า งที่ น อกเมื อ งจึ ง เป็ นเรื่ อ งเร่ ง ด่ ว น...ทัง้ ต้ อ ง
ก่ อสร้างกาแพงเมือง จัดวางป้ อมปราการทหาร อี กทัง้ ต้ องมี
หน่ วยรักษาการณ์เพื่อปกป้ องเมืองและอื่นๆ อีกมาก”

ถานหวัน่ ชิ ง มองไปยัง สิ่ ง ก่ อ สร้ า งที่ ท าไปได้ เ พี ย งครึ่ ง


กาแพงเมืองสูงที่ ทอดตัวยาวเหยี ยด ในใจก็รู้ว่าไม่ใช่ แค่ หนึ่ ง
หมื่นสองหมื่นตาลึงเงินถึงจะสามารถทาได้ “กาแพงเมืองก็ยงั
สร้างไม่เสร็จ และใต้ เท้ าก็ร้ดู ีว่าไม่อาจทาทัง้ หมดควบคู่กนั ไป
ได้ แล้วเหตุใดถึงต้องแบกรับเอาไว้ด้วยเล่า?”

ยิ่ ง แบกรับ คนจานวนมากเอาไว้ ยิ่ ง ทาให้ พ วกเขาต้ อง


เผชิญกับสภาพไม่หนาวตายก็คงหิวตาย อันนี้ ไม่ยิ่งเหี้ ยมโหด
กว่าหรือ

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่เอ่ยอะไร แต่ กลับบังคับม้าให้ วิ่งต่ อ ทหารที่


อยู่ไกลๆ สามสี่ คนเห็นม้าของใต้ เท้ าตนเองก็รีบวิ่งเข้ามาหา
แต่ถกู เขาโบกมือไล่ เนื่ องจากเขาไม่คิดจะเข้าประตูใหญ่ กลับ
8
ควบม้าอ้อมไปยังนอกเมืองที่ อยู่ไม่ไกลอี กด้าน ระหว่างทางมี
สภาพรกร้างและวังเวง

ตอนที่ ถานหวันช ่ ิ งนัง่ เกวียนจากอารามร้างบนเขามาถึง


บริ เ วณนี้ ใช้ เ วลาหนึ่ งวัน ตอนนั ้น ก าลัง เข้ า สู่ ฤ ดู ใ บไม้ ร่ ว ง
ทิ ว ทัศ น์ แ ถบนี้ ย งั คงเขี ย วขจี แต่ ต อนนี้ ก ลับ เห็น แต่ สี เ หลื อ ง
ต้นหญ้าเหี่ยวเฉา ผืนดินเสื่อมโทรม รอบด้านเวิ้งว้างอย่างที่สดุ

บริ เ วณนี้ ลมแรงมาก มื อ และเท้ า ของถานหวัน่ ชิ ง ซึ่ ง


หนาวเย็นอยู่ก่อนแล้ว มิหนาซ้ายังนั ง่ อยู่ด้านหน้ าจึงยิ่งหนาว
มากขึ้นไปอี ก ยังดี ที่พอได้อาศัยไออุ่นจากคนด้านหลัง จะมีก็
แต่ขาที่แข็งจนชาแทบไม่รสู้ ึกแล้ว

ม้าควบผ่านกาแพงเมืองที่ ยงั สร้างไม่เสร็จ ห่ างจากตัว


เมืองมาอีกไกล จนไปหยุดอยู่ที่เนินดินแห่งหนึ่ ง

่ ิ งถึงกับต้องตกใจ
ภาพที่เห็นตรงหน้ าทาให้ถานหวันช

เบื้องล่างมีสิ่งก่อสร้างรูปสี่ เหลี่ยมเป็ นกาแพงสูงราวห้ า


ฉื่ อสี่ด้าน มีประตูเข้าออกสองทาง ด้านในมีหลุมกระจัดกระจาย
อยู่หลายขนาด บางหลุมตื้นบางหลุมลึก บางหลุมเล็กบางหลุม
ใหญ่ ทัง้ นอกหลุมและในหลุมต่างก็มีผปู้ ระสบภัยพักอยู่เต็ม คน

9
จานวนมากเดินไปมาอย่างเนื องแน่ น น่ าจะมากกว่าสี่ ห้าร้อย
คนด้วยซา้ ไม่ว่าจะเป็ นชาย หญิง คนแก่หรือว่าเด็ก ใบหน้ าทุก
คนล้วนซีดเหลืองและสกปรกมอมแมม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
เสื้อผ้าที่ สวมใส่อยู่ในสภาพเก่าขาดหลุดลุ่ย แต่ละคนผอมมาก
จนเรียกได้ว่าเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก บางคนก็กาลังไอ บาง
คนก็ขดุ ดินอยู่

ถานหวั น่ ชิ งนิ่ งงัน อยู่ น าน ก่ อ นจะหั น ขวั บ ไปมอง


ผูป้ กครองเมืองที่นัง่ อยู่ด้านหลัง

นางเห็นแค่ ปลายคางที่ เริ่มมี ไรหนวดเท่ านั น้ แสดงให้


เห็นว่าเขาคงยุ่งมากจนไม่มีเวลาจัดการกับตนเอง

ก็แน่ ล่ะสิ...ไม่ต้องพูดถึงหน้ าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบคนทัง้


เมืองหรอก ขนาดตัวนางเองได้เห็นภาพแบบนี้ ยังตกใจสุดขีด
เกิดความสงสารขึน้ มาจับใจ ทัง้ สองอยู่ห่างจากบริเวณดังกล่าว
ไม่ไกลนัก

สายตาชายหนุ่ มก าลัง มองไปที่ ภ าพเหล่ า นั ้น สายลม


หนาวพัดผ่านเสื้อผ้า ทว่าเขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย นาง
ถอนหายใจเบาๆ แต่เขาก็ไม่เอ่ยอะไร ยังคงมีเพียงความเงียบ
งัน
10
ถานหวัน่ ชิ งไม่ ไ ด้ ม องเขานานนั ก นางเลื่ อ นสายตา
กลับไปมองภาพผูค้ นที่อยู่กนั อย่างแออัดเบียดเสียด คนเหล่านี้
คงไม่มีที่ไปและคงไม่มีบา้ นให้กลับ ทาให้นึกถึงตนเองกับลุ่ยจูที่
เดินทางมาถึงเมืองนี้ คราแรก เวลานัน้ พวกนางก็อบั จนและไร้
ทางออก มีแต่ความวิตกกังวลและไร้ที่ไป

โลกนี้ กว้างใหญ่ไพศาล ทว่ากลับไม่มีสถานที่ ให้อยู่อาศัย


ความรู้สึกแบบนัน้ ช่างเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและหดหู่ นาง
เองก็เคยผ่านสภาพเช่นนี้ มาแล้ว

ไม่เพียงแต่อากาศที่ หนาวเหน็ บ ทว่าผู้คนก็ยงั ปฏิบตั ิ ต่อ


กันด้วยความเย็นชา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อกัน นางไม่กล้า
จินตนาการเลยว่า ในบรรดาผู้คนที่ มาอาศัยนอกเมืองกันเป็ น
จานวนมากนี้ จะมี ส กั กี่ ค นที่ ได้ ยิ น ชื่ อเสี ย งของใต้ เ ท้ าเซี่ ย จึ ง
ตัดสินใจบากหน้ ามาพึ่งเขา ไม่ร้วู ่าพวกลี้ภยั อีกเท่าไรที่ ถกู พวก
คนเถื่อนทาลายบ้านเรือน หรือบางที พวกนั น้ อาจจะจงใจบีบ
บังคับให้ชาวบ้านมารวมตัวกันที่เมืองนี้ เพื่อ สร้างความลาบาก
ให้กบั ใต้เท้าเซี่ย

หญิงสาวพอจะมองเห็นสิ่งที่ อาจเกิดขึ้นได้ หากชาวบ้าน


ที่ ป ระสบภัย พร้ อ มกัน มาตายที่ ป ระตู เ มื อ ง ใต้ เ ท้ า เซี่ ย จะ
เดือดร้อนสักแค่ไหน หรือหากพวกคนเถื่อนอาศัยโอกาสนี้ สวม
11
รอยเป็ นชาวบ้ า นเพื่ อ ลอบเข้ า เมื อ ง ไม่ เ พี ย งใต้ เ ท้ า เซี่ ย จะ
สูญเสียเมืองทัง้ เมือง แม้แต่คนในครอบครัวตนเอง เขาก็คงไม่
อาจรักษาไว้ได้

เมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้ กเ็ ข้าใจทันที ใต้เท้าเซี่ ยผู้นี้ไม่ว่าจะ


เดินหน้ าหรือถอยหลังล้วนลาบากทัง้ สิ้น

นี่ คือคาตอบของเขาสาหรับคาถามที่ นางถามไปเมื่อครู่


งัน้ หรือ?

ทว่าถึงเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ ที่ยากลาบากเพียงนี้
แต่ชายหนุ่มกลับทาได้ดีมาก

มีทหารหลายนายกาลังขุดหลุมให้ชาวบ้านได้พกั อาศัย
บางนายก็กาลังสร้างที่ พกั บางนายก็กาลังออกไปหาฟื น ทหาร
ทุกนายต่างช่วยเหลือผูล้ ี้ภยั อย่างเต็มที่จนสุดกาลัง

ถานหวันช่ ิ งอาศัยชัยภูมิบนเนินสูง ประเมินหลุมโพรงตื้น


ลึกที่ ขุดไว้แล้วอย่างละเอี ยด ดูเหมือนมันจะใช้ หลบลมหนาว
และให้ ค วามอบอุ่ น ได้ ดี พ อควร หลุ ม ลึ ก ประมาณแปดฉื่ อ
ด้ า นบนใช้ ต้ น ไม้ ท าเป็ นคานแล้ ว มุ ง ด้ ว ยหญ้ า คาผสมกิ่ ง ไม้
จากนัน้ ก็ฉาบด้วยดินโคลน

12
แล้วรอให้ แห้ ง กลายเป็ นห้ องดินหนึ่ งห้ อง พอจะกัน้ ลม
กัน้ หิมะและรักษาความอบอุ่นได้บ้าง ถานหวันช ่ ิ งมองไม่เห็น
ข้างใน แต่น่าจะมีการก่อฟื นหรือเตาไฟ เพราะหากหิมะตกหนัก
จนปกคลุมดิน จะได้ช่วยให้ด้านในอบอุ่น

วิธีนี้น่าจะเป็ นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว เซี่ ยเฉิงจู่เห็นสี หน้ านางก็


อธิบายว่า “ศึกษาจากพวกต๋าตอนรบในสนามรบน่ ะ ทว่าการ
ทาแบบนี้ กแ็ ค่ไล่ความหนาวได้ แต่ไม่อาจอิ่มท้อง”

เป็ นวิธีไล่ความหนาวอย่างง่ายๆ ไม่ต้องจ่ายเงิน ใช้ แค่


แรงทหาร แต่ ว่ า อาหารการกิ น ของคนจ านวนเฉี ยดพัน นั ้น
สิ้นเปลืองขนานใหญ่ จนไม่อาจนามาเปรียบเทียบกันได้เลย

นอกกาแพงมีชนั ้ วางหม้ออยู่ไม่กี่ใบ เกรงว่าช่ วงเวลานี้


คงต้องพึ่งข้าวและเสบียงอาหารจากในเมืองมาแจกจ่ายให้ แม้
จะสามารถแก้ ไขได้ชวคราว
ั่ แต่ ฤดูใบไม้ผลิยงั ห่ างไกลอี กตัง้
สามสี่ เดือน มีแต่ รายจ่ายแต่ไม่มีรายรับแบบนี้ แม่ทพั หัวเมือง
เมืองท่านนี้ จะสามารถยืนหยัดได้นานแค่ไหน?

ในเมื่อเสบียงอาหารก็ร่อยหรอลงทุกวัน อีกทัง้ คลังเมือง


ก็ยงั ว่างเปล่า

13
22 ยากจะตัดสินใจ

เซี่ ย เฉิ งจู่ม องไปยัง ทหารที่ ก าลัง ท างาน ไม่ ว่ า จะเป็ น


ทหารหรือชาวบ้าน ทุกคนต่างพยายามกันเต็มที่เพื่อยืนหยัดให้
มีชีวิตอยู่จนผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวอันแสนยะเยือกไปให้ได้

เขากวาดตามองไปโดยรอบ แม้ สี ห น้ า ชายหนุ่ ม จะยัง


ราบเรียบ ทว่าน้าเสียงกลับบ่งบอกถึงความมุ่งมัน่

“คนอื่ น อาจจะวางเฉยได้ แต่ ข้ า เซี่ ย เฉิ งจู่ท าไม่ ไ ด้ ข้ า


ต้องการแค่ให้พวกเขาอดทนจนผ่านความหนาวเหน็ บนี้ ไป พอ
เข้าฤดูใบไม้ผลิ ชาวบ้านทัง้ พันคนนี้ กจ็ ะสามารถบุกเบิกที่ดินรก
ร้างขนาดใหญ่นัน้ ได้”

หากมีที่นาย่อมมีธญ ั พืช และธัญพืชล้วนนามาซึ่งเงินทอง


เขามองไปยัง กาแพงเมืองไกลๆ ซึ่ งยังสร้างไม่เสร็จ “ไม่เพียง
ต้องสร้างเมืองเท่านัน้ ยังต้องตัง้ ป้ อมปราการ และขุดแม่น้ าลา
ธารให้สายน้ าไหลเข้ามาล้อมรอบคูเมือง หากมีทงั ้ คูเมือ งและ
ป้ อมปราการสูงพวกต๋าหน้ าไหนจะกล้ากาเริบเสิบสาน พวกมัน
อย่าได้ฝันจะโจมตีเมืองอีกเลย”

1
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปยังหญิงสาวที่นัง่ ด้านหน้ า ดู
เหมื อนว่ าถานหวันช่ ิ งกาลัง ใคร่ครวญคาพูด ของเขาอยู่ ชาย
หนุ่มจึงเอ่ยต่อด้วยน้าเสียงทุ้มตา่

“เดิ ม ที ผื น ดิ น แห่ ง นี้ อุ ด มสมบู ร ณ์ เ พราะมี แ ม่ น้ า ทว่ า


ผู้ปกครองเมืองกลับปล่อยให้พื้นที่ รกร้างว่างเปล่าจนหญ้าขึ้น
สูง หนาซา้ ยังเก็บภาษี ราษฎรมากขึ้น ทุกปี แล้วเอาเงินที่ ได้มา
เข้ากระเป๋าตัวเอง ขุนนางกินอยู่อย่างสบาย ใช้ จ่ายฟุ่ มเฟื อย
สวมเสื้อผ้าหรูหราราคาแพง แต่พวกชาวบ้านกลับหิวโหย ขาด
แคลนเสื้ อ ผ้ า ทั ง้ ที่ เมื อ งอยู่ แ ถบชายแดนแต่ ก ลับ มี ก าลัง
ทหารเพี ย งน้ อยนิ ด เมื่อพวกต๋ าบุกมาโจมตี เ มื อ ง ผู้ปกครอง
เมื อ งก็ ห อบทรัพ ย์ สิ นหลบหนี ทิ้ งก าลัง ทหารหกร้ อ ยและ
ประชาชนให้ผจญชะตากรรมด้วยตนเอง แม้แต่ข้าวก็ยงั ไม่มีกิน
ช่างเป็ นเรือ่ งที่น่าอัปยศอดสูเหลือเกิน”

ถึงใต้ เท้ าเซี่ ยจะพูดด้วยเสี ยงที่ ไม่ดงั แต่ นางกลับได้ยิน


ชัดเจนทุกคา อีกทัง้ ยังรับรู้ได้ถึงความคับแค้น ความอัดอัน้ ตัน
ใจและความผิดหวังที่แฝงอยู่

คนกลุ่มหนึ่ งปี นขึ้นมาจากบ้านหลุมดินแล้วเดินตรงมาที่


ทัง้ สองอยู่ พอเห็นหนึ่ งชายหนึ่ งหญิงที่ มีท่าทางสูงศักด์ ิ บนหลัง
ม้าก็ได้แต่มองด้วยสายตาประหลาดใจ
2
ส่ ว นใหญ่ เ ป็ นเด็ก อายุ สิ บ ขวบ สวมใส่ เ สื้ อ ผ้ า ขาดวิ่ น
หน้ าตามอมแมมไปด้วยฝุ่ น รูปร่างผอมโซ ในแววตาไร้ความร่า
เริงเฉกเช่นเด็กทัวไป

ใต้เท้าเซี่ยมองไปที่เด็กเหล่านัน้ ด้วยท่าทางเรียบนิ่ง

“ปี นี้ ฟ้าฝนแห้งแล้ง ข้าได้ถวายรายงานไปยังฮ่องเต้ ผ่าน


ไปครึ่งปี ทัง้ เสบียงอาหารทัง้ เสื้อผ้าของราษฎรก็ ยงั ไม่มีส่งมา
ในขณะที่ ผู้มี ย ศถาบรรดาศัก ด์ ิ ในเมื อ งหลวงกิ น อยู่ อ ย่ า งสุ ข
สบาย”

ชายหนุ่มเบนสายตามามองถานหวันช ่ ิ งอี กครัง้ แล้วเอ่ย


ช้าๆ "แม้แต่จวนขุนนางใหญ่ที่เคยมอบเงินทองนับหมืน่ ให้ ราช
สานั กนาไปช่ วยผู้ประสบภัยที่ ชายแดน แต่ พอถูกค้นบ้านเพื่อ
ยึ ด ทรัพ ย์ ก ลับ เจอเงิ น เพี ย งแค่ ห กแสน ทัง้ ที่ ค วรต้ อ งโทษ
ประหาร แต่ กลับถูกลดโทษเหลือเพียงการเนรเทศ แต่ ถ้ามีสกั
วันที่ จวนตระกูลถานถูกรื้อแล้วสร้างใหม่ จากนัน้ ก็ถกู พบว่ามี
ทรัพ ย์สิ น เงิ น ทองมากมายมหาศาลซ่ อ นไว้ เมื่ อ ถึ ง เวลานั ้น
ฮ่องเต้ย่อมโกรธเคือง อาจจะสังประหารชี
่ วิตตระกูลถานเจ็ดชัว่
โคตรทันที ก็เป็ นได้ ทุกคนต่ างก็หวงแหนในทรัพย์สินเงินทอง
ของตน ถึงเงินนัน้ จะสามารถช่วยพสกนิกรจากภัยพิบตั ิ ได้ แต่
พวกเขาก็ยงั เลือกที่ จะซ่ อนมันไว้อยู่ดี แม้จะรู้ว่าอาจต้ องแลก
3
ด้วยชีวิตของคนในครอบครัว"

ถานหวันช่ ิ งได้ยินคาพูดของอี กฝ่ ายก็ตกใจ เพราะที่ เขา


พูดนับว่ามีเหตุผล คิ้วเรียวงามขมวดแน่ น มือที่ จบั แขนอีกฝ่ าย
ไว้ลดลงมาวางบนหน้ าขาตัวเอง

นางเองก็พอรู้ว่าตระกูลถานมีเงินมากเพียงใด เมื่อได้ยิน
ว่าในคลังที่ จวนถูกกวาดจนเกลี้ยง แต่รวมกันแล้วมีเงินแค่หก
แสนตาลึงก็ทาให้เกิดความสงสัย เพราะเท่าที่ นางจาได้ ก่อนที่
มารดาจะตายจากไปเคยบอกว่าบรรพบุรษุ สามรุ่นของตระกูล
ถานนัน้ สะสมโฉนดที่ ดินมาเป็ นเวลานานนับร้อยปี มิใช่แค่ชวั ่
ประเดี๋ยวประด๋าว ต่อมาเมื่อบิดาของนางเข้ารับราชการเป็ นขุน
นาง ทรัพย์สินเงินทองนั บวันก็ยิ่งเพิ่มพูน โดยเฉพาะเหล่ าข้า
ราชสานักมักจะส่งเงินมาเป็ นของกานัลให้ เกรงว่าน่ าจะยัดเข้า
คลังจนเต็ม สุดท้ายแล้วทาไมจึงว่างเปล่าได้เล่า?

ถานหวันช่ ิ งนึ กไปถึงมารดาเลี้ยงแซ่ต่ง แต่มนั ก็แค่ความ


สงสัยเท่านัน้

ขณะที่ ห ญิ ง สาวกาลัง ครุ่น คิ ด เซี่ ย เฉิ งจู่ก็ไ ม่ ไ ด้ รี บ ร้อน


กลับควบม้าไปช้าๆ ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่นาง เมื่อไร้ซึ่ง
หนทางหลบหลีก หญิงสาวจึงได้แต่ต้องเผชิญหน้ า
4
นางยิ้ ม เซี ย วแล้ ว เอ่ ย เสี ย งแผ่ว “ใต้ เ ท้ า คิ ด อย่ า งไรข้ า
เข้าใจแล้ว วิธีแข็งอ่อนทัง้ สองอย่างก็ล้วนใช้แล้ว ชัดเจนว่าท่าน
ตัง้ ใจทาเพื่อประชาชน แต่. ..” นางหยุดไปครูห่ นึ่ งแล้วพูดต่อ

“ข้าอยู่จวนตระกูลถานก็จริง ถึงทุกคนจะรับรู้ว่าข้าเป็ น
บุ ต รสาวที่ เ กิ ด จากฮูห ยิ น คนแรก แต่ ข้ า นั ้น ไม่ มี ม ารดาคอย
ปกป้ องคุ้มครอง เมื่อสูญเสี ยมารดา ชี วิต ของลูกสาวก็จบสิ้น
ทรัพ ย์สิ น ของตระกูล ถานข้ า จะแตะต้ อ งได้ อ ย่ า งไร? ขนาด
มารดาผู้ให้ กาเนิดเหลือสินเดิมไว้ให้ข้า แต่เพราะตอนเด็กไม่รู้
เรื่องรู้ราวอี กทัง้ ไม่มีคนปกป้ อง จึงถูกคนละโมบแย่งชิงไปกว่า
ครึง่ ส่วนเรือ่ งทรัพย์สินที่ใต้เท้าพูดนัน้ ข้าไม่รจู้ ริงๆ”

สายตาของถานหวันช ่ ิ งทอดมองไปยังท้องฟ้ าที่กว้างไกล


ท้ องฟ้ าวัน นี้ สดใส แม้จะประสบแต่ เ รื่องไม่ ดี ก็ย งั รู้สึกว่ าภาพ
ตรงหน้ ายามนี้ สวยงามยิ่งนัก

นางกล่าวต่อไปอีก "แต่ก่อนมารดาของข้าเหลือสินเดิม
จานวนหนึ่ งไว้ให้ ถึงข้าอยากจะนามันมาด้วยแต่ กเ็ อามาได้ไม่
ถึงครึ่ง แต่ข้าวางแผนจัดการทรัพย์สินส่วนตัวมาหลายปี โดยที่
ซื้อโฉนดที่นามาเป็ นของตนเองในราคาแปดพันตาลึงแล้วซ่อน
ไว้ ใ นกระบอกเงิ น จากนั ้น ก็ ฝั ง เอาไว้ ใ นห้ อ งนอนทางฝั ง่
ตะวันออก อยู่ตรงเสาปลายเตียงฝัง่ มุมกาแพงใต้กระดานหินสี
5
เขี ย ว ยามนี้ ข้ า เป็ นแค่ นั ก โทษหญิ ง คนหนึ่ ง เกรงว่ า คงไม่ มี
โอกาสกลับไปเมืองหลวงอี ก ถึงมีสมบัติฝังในดินก็คงนามาใช้
ไม่ได้ ถ้าหากมันยังไม่ถกู ทางการยึดไปและใต้ เท้ ายังต้ องการ
ท่านก็ไปเอาด้วยตนเองเถอะ"

่ ิ งกล่าวจบก็เม้มปากแน่ น ไม่อยากจะพูดอะไร
ถานหวันช
อีก

เซี่ ยเฉิงจู่ฟังนางพูดจนจบโดยไม่เอ่ยคาใดทาให้ บริเวณ


โดยรอบเงียบเชียบ ได้ยินเพียงเสียงฝี เท้าม้าก้าวไปช้าๆ

ทันใดนัน้ เองจากที่ม้าวิ่งเหยาะๆ กลับควบเร็วขึน้ เจ้าม้า


พาทัง้ สองวิ่ ง ตะบึง อย่ า งรวดเร็ว ไปตามเส้ น ทาง มุ่ ง หน้ า เข้ า
เมื อ ง มัน ตื่ น ตัว เต็ม ที่ ร าวกับ กาลัง พุ่ง เข้ า สู่ ส นามรบอย่ า งไร
อย่ า งนั ้น ด้ ว ยความเร็ว ระดับ นี้ ท าให้ ห ญิ งสาวเกิ ดความ
หวาดกลัว จึงยื่นมือไปจับแขนอีกฝ่ ายไว้โดยไม่รตู้ วั

ถานหวันช ่ ิ งหันหน้ าไปหาชายหนุ่ ม ตัง้ ใจจะบอกให้ เขา


หยุดม้า แต่เมื่อเห็นสีหน้ าไร้อารมณ์ของอีกฝ่ ายก็เปลี่ยนใจ

เมื่อครู่นี้ยงั มีท่าทางดี ๆ อยู่เลย ทาไมตอนนี้ ถึงกลับมา


ท่าตัวเย็นชาอีกแล้วเล่า

6
่ ิ ง ถึ ง กับ ตะลึ ง งัน ที่ ค วามอ่ อ นโยนกลายเป็ น
ถานหวันช
แข็งกระด้างในฉับพลัน

เพราะนางพูด ถึง เรื่องเงิ น งัน้ หรือ ? ทาไมมัน ถึ ง ยุ่ง ยาก


เหลือเกิน ไม่ว่าเขาจะใช้ ไม้ตีนางหรือจะใช้ ถ้อยค่าข่มขู่ นางก็
ไม่สามารถบอกได้มากกว่านี้ เพราะนางได้พดู ออกไปหมดแล้ว
ไม่เหลือเก็บไว้แม้แต่ครึง่ เดียว

สายลมหนาวพัดมาปะทะใบหน้ าจนถานหวันช ่ ิ งแทบลืม


ตาไม่ ขึ้ น ทั ง้ ร่ า งพลัน รู้ สึ ก เย็น เยี ย บขึ้ น มาอี ก ครัง้ ภายใต้
ความเร็วมากขนาดนี้ ยิ่งยากที่ จะฝื นไม่ให้ร่างของทัง้ สองแนบ
ชิดกัน

เห็นหญิงสาวตรงหน้ ามีท่าทางหนาวสันแต่ ่ ไม่กล้าเอน


ตัวมาพิงเขา มือที่ กมุ บังเหี ยนข้างหนึ่ งก็ค่อยๆ คลายออกแล้ว
เปลี่ยนมาโอบนางไว้แน่ น เขาออกแรงกระชับร่างบอบบางให้
เข้ ามาอยู่ในอ้ อมกอด สองเท้ า กระตุ้นที่ สี ข้างม้า ทาให้ มนั ส่ ง
เสียงร้องเหมือนตอบรับ ก่อนจะวิ่งห้อด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นไป
อีก

ถ้าคิดจะทาแบบนี้ ทาไมเขาไม่ติดปี กบนตัวม้าแล้วให้มนั


บินไปเสียเลยเล่า! หญิงสาวได้แค่คิดด้วยความอึดอัดใจ
7
ถานหวันช่ ิ งไม่รู้ว่ากลับเข้าเมืองมาได้ อย่ างไร พอนาง
รูต้ วั อีกทีม้าก็หยุดอยู่ที่หน้ าประตูบา้ นแล้ว

่ ญหายเดินไปเดินมาตรงหน้ าประตู
ลุ่ยจูที่กาลังอกสันขวั
พอได้ ยินเสี ยงฝี เท้ าม้าเข้ามาใกล้ก็รีบหันไปมอง เห็นคุณหนู
ของตนถูกผู้ชายคนหนึ่ งกอดกลางวันแสกๆ บ่าวคนสนิทตกใจ
จนแทบจะกรีดร้อง

เซี่ยเฉิงจู่พลิกตัวลงจากหลังม้าแล้วยื่นมือไปรับหญิงสาว
ลงมา

ถานหวัน่ ชิ งมองมื อ ข้ า งนั ้น อยู่ น านก่ อ นจะตัด สิ นใจ


วางมื อ ตนเองลงไป ชายหนุ่ ม กุม มื อ ขาวเนี ยนนุ่ ม ดุจ หิ ม ะไว้
แน่ น อุ้มนางลงมาจากหลังม้า พอเท้าเหยียบพืน้ ได้ นางก็สะบัด
มือออกแล้วเดินจากไปโดยไม่หนั กลับมามอง

ลุ่ ย จู รี บ วิ่ ง ตามนายสาวเข้ า ไปในบ้ า นแล้ ว ปิ ดประตู


ตามหลังดังปัง

วิธีขบั ไล่ความหนาวที่ ดีที่สุดก็คือการกินเครื่องในแพะ


ต้ม

8
เวลาเดียวกันในมุมหนึ่ งของจวนผู้ปกครองเมือง มี ชาย
หกคนก าลัง นั ง่ อยู่บ นพื้น เบื้อ งหน้ า พวกเขามี ก องไฟเผาก้ น
หม้อที่วางไว้จนแดงฉาน เปลวไฟแลบออกมาเผาอิฐที่ ใช้บงั ลม
เสี ย งฟื นที่ เ ผาไม้ดงั เปรี๊ ยะแทรกมาเป็ นระยะ เดิ มที บ ริเวณนี้
ค่อนข้างเหน็ บหนาว แต่ เมื่อมีกองไฟก็ทาให้ กลุ่มคนที่ นัง่ ราย
รอบรูส้ ึกอบอุ่นไปพร้อมกับน้่ าในหม้อที่กาลังเดือด

ทุ ก คนจับ จ้ อ งไปที่ ห ม้ อ กัน ตาเขม็ง น้ า แกงเนื้ อ แพะที่


เดื อ ดปุ ด ๆ ส่ ง กลิ่ น หอมให้ ข จรขจายไปทัว่ คนทัง้ หกกลื น
น้ าลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้ าแกงได้ที่พวกเขาก็เริ่มแบ่งสันปั น
ส่วนกัน ชายหกคนนี้ กค็ ือเว่ยหวังจี้ กัวซิ่ง ตู้เหอ และจางเซี่ ยน
กับทหารที่เป็ นลูกน้ องอีกสองนาย

“โอ....กลิ่นหอมยัวน
่ ้ าลายจริงๆ ข้ าทนกินแป้ งมาหนึ่ ง
เดือนจนปากจืดไปหมดแล้ว ” กัวซิ่งหยิบทัพพีมาคนน้ าแกงใน
หม้อ ก่อนจะตักใส่ชามให้แต่ละคน

หวังจี้มือหนึ่ งก็ยกน้าแกงขึน้ มากิน อีกมือก็เทสุราลงชาม


แล้วยกขึ้นดื่ม เขาหัวเราะร่าก่อนเอ่ยกับจางเซี่ ยนและลูกน้ อง
ทัง้ สอง “ครานี้ ต้องขอบคุณพี่ ใหญ่ จางเซี่ ยนกับพี่ น้องทัง้ สอง
ไม่อย่างนัน้ พวกเราคงไม่ได้ดื่มน้ าแกงเนื้ อแพะอย่างสาราญใจ
กันขนาดนี้ ”
9
จู่ๆ ได้รบั คาขอบคุณจากรองแม่ทพั ใบหน้ าลูกน้ องของ
จางเซี่ ยนจึงแดงกา่ ไม่กล้ายกชามขึ้นมาดื่มกิน ทว่าจางเซี่ ยน
กลับกินน้าแกงจนหมดชามแล้วกล่าวว่า

“ถื อ ว่ า เป็ นโชคดี ข องพวกเรา คิ ด ไม่ ถึ ง ว่ า บนเนิ นเขา


เล็กๆ จะได้พบกับแพะป่ าดวงกุดตัวหนึ่ ง ตอนที่ พวกข้าจับได้
มันกาลังกระโจนเข้าใส่กระต่ายอยู่เชี ยว น่ าเสี ยดายที่ มนั ผอม
ไปสักหน่ อย”

เนื้ อแพะหนึ่ งตัว ทาได้แค่น้ าแกงหนึ่ งหม้อที่ ตงั ้ ตรงหน้ า


เท่านัน้

จางเซี่ ย นเหมื อ นคิ ด บางเรื่ อ งได้ จึ ง กระซิ บ ถามพรรค


พวก “พวกเราอยู่ในจวนของใต้เท้าเซี่ ยอย่างนี้ ใต้เท้าจะไม่ต่อ
ว่าใช่ไหม?”

หวังจีเ้ ช็ดปากจนเรียบร้อย ก่อนจะโบกมือเหมือนบอกว่า


ไม่ต้องใส่ ใจแล้วตอบว่า “เจ้าวางใจเถอะ เรื่องนี้ กแ็ ค่เรื่องเล็ก
ไม่สาคัญอะไรหรอก แต่ก่อนตอนที่ ตามจับโจร ป่ าลึกพวกข้าก็
เคยเข้าไป หากพูดถึงฝี มือการล่าสัตว์ พวกเราสิบคนยังเทียบใต้
เท้าคนเดียวไม่ได้เลย”

10
ทุกคนหัวเราะเห็นด้วย ไม่มีผใู้ ดคัดค้าน โดยเฉพาะกัวซิ่ง
กับตู้เหอที่ อยู่ข้างๆ ยังพยักหน้ าไม่หยุด ทัง้ สองคนนี้ ได้รบั การ
แนะน าสัง่ สอนจากเซี่ ย เฉิ งจู่ ม าตลอด ครัง้ หนึ่ งพวกเขาได้
ติ ด ตามใต้ เ ท้ าเข้ าไปในป่ าลึ กของเผ่าต๋ า ตอนที่ ออกมากลับ
พบว่าเอวพวกตนหนาเป็ นชัน้ ๆ อ้วนท้วนสมบูรณ์ กนั ถ้วนหน้ า
เพราะฝี มือหอกของใต้เท้าที่ยอดเยี่ยมลา้ ลึก

เรื่องฝี มือหอกเป็ นอีกเรื่องที่ทุกคนรู้กนั ดี ถ้า ไม่อย่างนัน้


ทัง้ หกคนนี้ คงไม่ได้มีชีวิตรอดออกมาจากสนามรบ และนี่ เป็ น
หนึ่ งในสาเหตุที่ทาให้พวกเขายอมเชื่อฟั งคนที่ มีอายุและฐานะ
ด้อยกว่าตนเอง พวกเขาติดตามใต้เท้ามานานจนเกือบจะลืมไป
แล้ ว ว่ า ตอนนี้ ใต้ เ ท้ า ยัง อายุ ไ ม่ เ ต็ม ยี่ สิ บ ด้ ว ยซ้า นั บ ว่ า หนุ่ ม
กว่าทุกคนในที่ นี้ ตู้เหอที่ เพิ่งจะอายุยี่สิบสองปี เต็มก็นึกไม่ถึง
เช่นกัน

พอทหารสองนายดื่ ม สุ ร ากัน จนได้ ที่ แ ล้ ว ก็เ หมื อ นนึ ก


บางอย่างขึน้ มาได้ รีบโพล่งออกมาทันที “เอ๊ะ! เมื่อรุ่งเช้าใต้เท้า
ไปไหนหรือขอรับ? นายทหารรักษาการณ์ ประตูเมืองสองคนที่
เพิ่งกลับมาที่ ค่ายพูดถึงตลอดเลย พวกนั น้ บอกว่ าเมื่อเช้ าใต้
เท้ าขี่ม้าด่าตัวโปรดออกจากเมือง บนหลังม้ายังมีคนผู้หนึ่ งนัง่
อยู่ด้านหน้ าด้วย เป็ นหญิงงามหน้ าตาสะสวย ไม่ร้วู ่าเป็ นเรื่อง
จริงหรือเท็จ?”
11
เมื่อคาพูดนี้ ถกู เอ่ยออกมา หวังจี้ จางเซี่ ยน และคนอื่นๆ
ล้วนมีท่าทางดีอกดีใจ ต่างหันมามองหน้ ากันด้วยความรู้สึกไม่
อยากจะเชื่อ ขนาดกัวซิ่งยังไม่รีบร้อนเติมน้าแกง

พอรับรูไ้ ด้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ทหารสองนายก็รสู้ ึก


กระวนกระวายใจไม่น้อย ไม่รวู้ ่าประโยคที่ตนเพิ่งพูดออกไปนัน้
ผิดตรงไหน จึงได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าพูดต่อ กลับเป็ นจางเซี่ยนที่
เอ่ยขึน้ มาก่อน “ไม่รวู้ ่าใต้เท้าคิดอย่างไรกันแน่ ?”

เปลวไฟเผาไหม้ฟืนเกิดเสียงปะทุติดต่อกันดังออกมา

นอกจากทหารสองนายที่ถามแล้ว สี่คนเหลือต่างติดตาม
เซี่ยเฉิงจู่มานานจนกระทังกลายเป็
่ นคนสนิทที่ ไว้เนื้ อเชื่อใจกัน
มาจนถึงปั จจุบนั ทัง้ ยังเป็ นเพื่อนร่วมเป็ นร่วมตายกันอี กด้วย
ดังนั น้ เรื่องปล้นนั กโทษในระหว่างทางที่ ใต้ เท้ าเป็ นผู้วางแผน
ย่อมปิดบังพวกเขาไม่ได้อยู่แล้ว

หวังจี้แหงนหน้ าขึ้นก่อนกระดกสุราลงคอ แล้วพูดเสี ยง


กลัว้ หัวเราะ “คิดอย่างไรน่ ะหรือ?” เขาส่ายศีรษะพลางเอ่ยต่ อ
“ถ้าหากครอบครัวหญิงงามยังไม่ประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ มี
หรือหญิงสาวที่ อ่อนโยนในตระกูลสูงศักด์ ิ รูปร่างบอบบางน่ า
ทะนุถนอมปานนัน้ จะมาตกอยู่ในกามือของใต้เท้าเราแบบนี้ ได้
12
เขาปล่อยให้นางระเหเร่ร่อนจนมาอยู่ตรงหน้ า แต่ยงั ไม่ร้จู ะทา
อย่างไรต่อน่ ะสิ”

จู่ๆ ก็มีสิ่งที่ไม่อาจร้องขอมาตกอยู่ในมือของตนอย่างไม่
คาดคิด ควรจะทะนุถนอมนางอย่างดี หรือควรทรมานนางด้วย
วิธีการร้อยแปดพันเก้าจึงจะดีล่ะ...

แค่นี้ยงั ต้องคิดอีกหรือ?

เมื่อกล่าวจบหวังจี้กไ็ ม่ได้เอ่ยคาใดต่อ ได้แต่คีบเนื้ อแพะ


เข้าปาก เคี้ยวอย่างเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสความอร่อย

13
23 เตรียมหนี

หนึ่ งในลูกน้ องจางเซี่ ยนตัง้ ข้อสังเกตก่ อนจะถามอย่าง


สงสัย

“ใต้เท้าเซี่ยทัง้ กล้าหาญและฉลาดหลักแหลม แต่กลับไม่


เคยแต่งภรรยาหรือมีอนุ แม้แต่นางคณิกาก็ไม่เคยเรียกหา สุรา
ยิ่งแตะน้ อยมาก ทหารหลายนายมักจะพูดเรื่องนี้ กนั อย่างลับๆ
ว่าเพราะใต้ เท้ าอายุยงั น้ อยก็เลยไม่คิดเรื่องพวกนี้ แล้วเหตุใด
ใต้ เท้ าจึงมี นางในดวงใจเสี ยแล้วเล่า? หรือว่ าครบกาหนดไว้
ทุกข์สามปี ให้ฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ตอนนี้ ใต้ เท้ าจึงต้ องการจะแต่ ง
ภรรยาหรือขอรับ?”

หากใต้ เ ท้ า จะแต่ ง ภรรยาจริ ง ย่ อ มเป็ นเรื่ อ งน่ ายิ น ดี


เพื่อนทหารอีกคนฟังถ้อยคายืดยาวจนจบก็หวั เราะ

แล้วเอ่ยเสริม “เพียงแค่ไม่ร้วู ่านางในดวงใจของใต้ เท้ า


อยู่ที่ใด? หรือจะเป็ นแม่นางชวีคนนัน้ ?”

บรรดาเศรษฐี ในเมืองก็มีแค่ตระกูลชวีที่มีความสัมพันธ์
อันดีกบั ใต้เท้าเซี่ย ซา้ ตระกูลชวีกแ็ ทบจะประเคนบุตรีให้ใต้เท้า

1
อยู่แล้ว เรือ่ งนี้ ไม่มีใครไม่รู้

“เฮอะ! ใต้เท้าเป็ นถึงขุนนางราชสานัก ทัง้ รูปร่างสง่างาม


ท่ า ทางก็น่ าเกรงขาม แล้ ว จะแต่ ง กับ ลู ก สาวของครอบครัว
พ่อค้าได้อย่างไร ขี้คร้านคนจะหัวเราะเยาะ” กัวซิ่งแย้ง เทสุรา
จนเต็มชามอีกรอบแล้วดื่มอึกใหญ่

“หากไม่ใช่ตระกูลชวี ถ้าอย่างนัน้ จะเป็ นบุตรสาวตระกูล


ใด?” นายทหารครุ่นคิด นึ กไม่ออกว่ายังจะมีตระกูลไหนอีกที่ มี
บุตรสาวในวัยออกเรือน กัวซิ่งที่อยู่ภายใต้ฤทธ์ ิ สุรา เห็นท่าทาง
อีกฝ่ ายก็เตรียมจะไขข้อสงสัย

“ก็เป็ น...”

“ใต้เท้า!”

เว่ ย หวัง จี้ก บั จางเซี่ ย นยื น ขึ้น เอ่ ย ทัก คนที่ เ พิ่ ง เดิ น เข้า
ประตู ม า กัว ซิ่ ง ที่ ต ัง้ ท่ า จะพูด รี บ หุบ ปากลงแล้ ว ลุ ก พรวด คน
อื่นๆ ก็ลกุ ขึน้ ยืนเช่นกัน

เซี่ ย เฉิ งจู่ก วาดตามองชายทัง้ หกด้ ว ยสี ห น้ า เคร่ ง ขรึ ม


ก่อนจะเดินผ่านเลยไปอย่างไม่ใส่ใจ เพราะปกติแล้วเขาก็ไม่ได้

2
ยึดถือกฎเกณฑ์อะไรมากมาย เพียงแต่อคติกบั พวกที่ ไร้ความ
รับผิดชอบและเห็นแก่ความสะดวกสบายส่วนตัว...

อย่างเช่นจวนส่วนตัวนี้ ที่สร้างอย่างใหญ่โตโอ่อ่า กาแพง


ก่อด้วยหินขาว ด้านหลังจวนมีสระน้ าและน้ าตกเที ยม ต้ นสน
เรี ย งราย ถึ ง จะอยู่ท่ า มกลางฤดูห นาวแต่ ก็เ ต็มไปด้ ว ยต้ น ไม้
เขียวชอุ่ม หลังจากเซี่ ยเฉิงจู่เข้ามาปกครองเมืองเว่ยอัน เขาก็
เปลี่ยนจวน

ส่ วนตัวให้เป็ นจวนผู้ปกครอง ทหารส่ วนใหญ่คุ้นชินกับ


ความมุทะลุดดุ นั ไม่เข้าใจสายลมดอกไม้พระจันทร์หรือแม่น้ า
อะไรนัก มุมจวนตรงนี้ เมื่อมีกองฟื นแห้งและกลุ่มคนที่ก่อไฟนัง่
ล้อมวงก็ทาให้เสียทัศนี ยภาพที่สวยงามไปมากทีเดียว

เซี่ ยเฉิงจู่เดินไปตามทาง ผ่านลานบ้านไปที่ ห้องโถงใหญ่


แล้ ว ก้ า วสู่ ห้ อ งหนั ง สื อ เขานั ง่ ลงบนเก้ า อี้ ห น้ าโต๊ ะ หิ นอ่ อ น
เงียบๆ ขมวดคิ้วแน่ น ไม่นานก็เรียกจางเซี่ยนให้เข้ามา

“ใต้ เ ท้ า !” พอจางเซี่ ย นเข้ า มาในห้ อ งหนั ง สื อ ก็ก ุม มื อ


คานับ ในใจยังคงกังวลเล็กน้ อย

3
“หนึ่ งในลูกน้ องของเจ้า มีคนขุดสุสานฝี มือดีใช่หรือไม่?”
เซี่ยเฉิงจู่ถามเสียงเรียบ

ขุดสุสาน! จางเซี่ยนได้ยินก็ตะลึงงัน

การขุดหลุมศพแล้วขโมยเป็ นเรือ่ งที่พวกโจรทากัน แต่ใต้


เท้ากลับถามหาคนชานาญ ทว่าบรรดาทหารในสังกัดของเขาก็
มาจากกลุ่มคนที่ ทาตัวแหกกฎอย่างที่ สุด บางคนก็เคยเป็ นนัก
ย่องเบามาก่อน หลายๆ คนก็มาจากพวกลัทธิ ทว่าพวกเขาต่าง
มี จิ ต ใจกล้ า หาญและกล้ า ได้ ก ล้ า เสี ย อี ก ทัง้ สมัค รใจเข้ า ร่ ว ม
ปราบปรามพวกต๋าที่โหดเหี้ยม

ยามนี้ ใต้เท้าจะไม่ปล้นพวกโจร แต่ วางแผนจะขโมยขุด


สุสานของอดี ตฮ่องเต้ แทนงัน้ รึ? นี่ ถือว่าเป็ นวิธีหาเงินที่ นับว่า
ใช้ได้ แต่น่าเสียดาย เงินที่ได้จากสุสานฮ่องเต้มนั ไม่ใช่เงินที่ดี

ในใจจางเซี่ยนรู้ว่าตอนนี้ ใต้เท้ากลัดกลุ้มเรื่องเงิน พอได้


ยินคาถามนี้ เขาก็ครุ่นคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนตอบว่า “มี
คนหนึ่ งขอรับชื่อหลี่เฉา เขาไม่เพียงแต่สนั ทัดในการขุดหลุมฝัง
ศพหรือตรวจสอบ หลุมที่ขดุ เท่านัน้ ยังเคยทะลวงกาแพงเข้าไป
อีก มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก”

4
ครอบครัวของหลี่เฉาถูกพวกต๋าฆ่ าตายยกบ้าน หลี่เฉา
จึงปรารถนาจะดื่มเลือดพวกต๋าอย่างยิ่ง คนบ้าเลือดแบบนี้ หา
ยากมาก ประจวบเหมาะกับที่ ชายแดนขาดทหาร เขาจึงเข้ามา
สมัค ร คนพวกนี้ ชอบคัน ไม้ ค ัน มื อ เกิ นเหตุ ยัง ดี ที่ ไ ม่ ไ ด้ มี
เหตุการณ์ย่งุ ยากมากมายขนาดทาให้จางเซี่ยนทนไม่ไหว

“แล้วมีช่างทากุญแจไหม?”

ช่างทากุญแจ? สุสานนี้ มีกญ


ุ แจหรือ?

จางเซี่ ยนรีบตอบ “ช่ างทากุญแจไม่มีขอรับ แต่ มีทหาร


นายหนึ่ ง ตอนที่ ยงั ไม่ได้ เข้าเป็ นทหารได้ รบั สมญานามว่ ายา่
เช้ าตรู่” การที่ ถ กู เรี ย กว่ าย ่าเช้ าตรู่ นั น่ เพราะแอบขโมยของ
ตัง้ แต่ฟ้ายังไม่สว่าง

เขานิ่ งคิ ด อยู่ ค รู่ห นึ่ งก่ อ นอธิ บ ายต่ อ “ถึ ง จะท ากุญ แจ
ไม่ได้ แต่ ถ้าใต้ เท้ าอยากหาคนไขกุญแจ ทหารนายนี้ กช็ านาญ
มาก...”

ฟังมาถึงตรงนี้ คิ้วของเซี่ยเฉิงจู่กก็ ระตุก ลูกน้ องจางเซี่ยน


ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่หลากหลาย มีฝีมือและความสามารถ
มากมาย ถึงจะดูว่าเป็ นฝี มือในเรื่องที่ ไม่เข้าท่า ทว่าตอนสาคัญ

5
ก็สามารถนามาเรียกใช้ได้ดีทีเดียว

“เจ้าพาสองคนนัน้ มาที่ ห้องหนังสือ ข้ามีเรื่องจะสังการ”



เขาพูดเสริมขึน้ มาอีก “เจ้ากับกัวซิ่งก็เข้ามาด้วย”

“ขอรับ!”

หลังจากจางเซี่ยนออกไป เซี่ยเฉิงจู่กห็ ยิบกระดาษมาวาง


ไว้บนโต๊ะ

ไม่ มี ใ ครรู้ว่ า สี่ ค นที่ เ ข้ า มาในห้ อ งหนั ง สื อ ได้ ร บั ค าสัง่


อะไรบ้ า ง ทั ้ง หมดพู ด คุ ย กั น จนถึ ง เที่ ยงวั น ในที่ สุ ด การ
ปรึกษาหารือก็จบลง ได้ยินเสียงคนทัง้ สี่ดงั ออกมาด้วยถ้อยคา
ขึงขังและหนักแน่ น

“พวกข้าเต็มใจอุทิศแรงให้ใต้เท้าขอรับ!”

เมื่อถานหวันช่ ิ งกลับถึงบ้านก็นัง่ เอกเขนกอยู่บนฟูกนุ่ม


ในมื อถื อขนมชิ้น เล็กจนเที่ ย งกว่ า แล้ ว ก็ย งั ไม่ ได้ ส่ ง เข้ า ไปใน
ปากเลยสักคา นางไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ ทาท่ าเหมือนครุ่นคิด
บางอย่าง สีหน้ าดูไม่สบายใจ

6
ส่วนลุ่ยจูที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้ าเหมือนฟ้ าจะถล่ม เกือบจะ
ร้องไห้อยู่รอมร่อ “คุณหนู...”

่ ิ งยังคงตกอยู่ภวังค์ความคิดจึงไม่ได้ตอบกลับ
ถานหวันช

ลุ่ยจูทนไม่ไหว นัง่ ลงข้างๆ เจ้านายแล้วพูดด้วยน้ าเสียง


สันเครื
่ อ

"คุณหนู ท่านเป็ นอะไรกันแน่ ? เกิดเรื่องอะไรขึน้ หรือเจ้า


คะ? ตอนข้าออกไปก็ลนดาลประตู ั่ ดีแล้ว กลับมาถึงทาไมประตู
จึงเปิดออกทัง้ ที่กญุ แจก็ไม่ได้เสีย...แล้วพอคุณหนูกลับมา ทาไม
ถึงขี่ม้ามากับผู้ชายล่ะเจ้าคะ คนผู้นัน้ เป็ นใคร ข้ามองดูท่าทาง
เขาน่ าจะใช่ ...ท่ านผู้นัน้ ...จริงๆ ใช่ ไหมเจ้าคะ เป็ นใต้ เท้ าเซี่ ย
หรือเจ้าคะ? เขาเป็ นผู้ปกครองเมืองทาไมถึง...ถึงทาเรื่องอย่าง
นี้ ออกมาได้...คุณหนู นับแต่โบราณมาชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด
กัน เขาทาตัวไม่เหมาะสมสักนิด หาก...หากเขาทาแบบนี้ จะทา
ให้คณ ุ หนูแปดเปื้ อนนะเจ้าคะ ผูค้ นก็จะนินทาว่าร้ายเอาได้ แล้ว
หากเขา..."

ถานหวันช ่ ิ งถูกเสี ยงดังของลุ่ยจูสอดแทรกเข้ามาในหัว


จนสมองแทบแตก นางดึงสติกลับมา วางขนมในมือกลับลงบน
จาน จากนั น้ ก็ใช้นิ้วคลึงหน้ าผากพลางกล่าวอย่างจนใจ “อาจู
7
ตอนนี้ ข้ า เหนื่ อยมากเลย เจ้ า ให้ ข้ า ผ่ อ นคลายสัก หน่ อยได้
ไหม?”

ลุ่ ย จูหุบ ปากทัน ที แต่ ย งั นั ง่ เบะปากอยู่ ต รงนั ้น หยาด


น้ าตาเอ่อคลอ ในใจยังร้อนรนไม่หาย ชายผู้นัน้ พาคุณหนูไปที่
ใดมา? ทาอะไรกับคุณหนูบา้ ง? ไม่ใช่ว่า...ไม่ใช่ว่า...

ลุ่ยจูยิ่งคิดก็ยิ่งเนื้ อตัวสันเทา

เมื่ อ ก่ อ นในจวนตระกูล ถาน ใครจะกล้ า ท ากับ คุณ หนู


อย่างไร้มารยาท หากผู้ใดทาตัวอันธพาลก็คงโดนตีตายไปนาน
แล้ ว แต่ ตอนนี้ กลั บ ต้ องยอมรั บ ความทุ ก ข์ ท รมานใน
สภาพแวดล้ อ มที่ ย ากล าบาก ระหว่ า งการเดิ น ทางตอนที่ ถ กู
เนรเทศ พวกเจ้าหน้ าที่ คมุ ตัวนักโทษก็ทาท่าน้ าลายไหลยืดกับ
คุณหนู มือที่สมั ผัสใบหน้ าคุณหนูช่างน่ ารังเกียจที่สดุ

ยิ่งคิดลุ่ยจูกย็ ิ่ งโศกเศร้าเสียใจ อีกฝ่ ายเป็ นคุณหนูในจวน


ตระกูลถานมายี่สิบปี คุณชายตระกูลเจิ้งชอบพอนางมากขนาด
ไหน ทัง้ ยัง หมัน้ กัน เรี ย บร้ อ ยก็ย ัง ไม่ เ คยจับ มื อ เลยสัก ครัง้
ตอนนี้ กลับถูกแม่ทพั หัวเมืองต้อยตา่ ทาให้ด้อยค่าไปแล้วหรือ?

8
ถึงบ่าวคนสนิทจะหวาดกลัวกับความคิดนี้ อยู่บ้าง ทว่า
คุณหนู กลับยังนิ่งเฉยอยู่ได้ หรือว่าเป็ นนางเองที่ ออกไปแล้ว
ไม่ได้ลนดาลประตู
ั่ ให้ดี จึงมีคนเข้ามาได้ คนผูน้ ัน้ อาจจะทาร้าย
คุณหนู ทามิดีมิรา้ ย...

่ ิง
ลุ่ยจูไม่พูด แต่กลับนัง่ ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนถานหวันช
ถึงกับถอนใจยาว

“ไม่มีเรื่องอะไรทัง้ นั น้ แหละ เจ้าอย่าได้ คิดมากไปสิ ข้า


เป็ นคนเปิดประตูให้เขาเอง”

“เพราะอะไรเจ้าคะ?”

จบประโยคหนึ่ งก็ยงั ต้องอธิบายอีกหลายประโยค

ตอนนี้ ถานหวัน่ ชิ ง มี เ รื่ อ งในใจเต็ ม ท้ อ งแต่ ไ ม่ ไ ด้ เ อ่ ย


ออกมา นางมองลุ่ยจูอยู่เป็ นนาน อีกฝ่ ายเพิ่งจะเป็ นสาวสิบห้า
เท่านัน้ คงต้องปลอบขวัญกันหน่ อย “อาจู ข้าหิวแล้ว ทาโจ๊กให้
ข้าสักชามสิ”

ให้ ข้าได้ มีเวลาครุ่นคิด หลังได้กินอิ่มแล้วจะได้ อธิบ าย


กับเจ้าให้จบๆ ไป

9
ลุ่ยจูเช็ดน้าตาแล้วเดินไปที่ครัว ในที่ สุดห้องก็คืนสู่ความ
สงบดังเดิม ถานหวันช ่ ิ งเอนตัวพิงหัวเตี ยง ชายแขนเสื้อเลื่อน
ลงมาเผยให้ เห็นรอยแดงเป็ นปื้ นรูปนิ้วตรงข้อมือ ผิวของนาง
บอบบางกว่าคนอื่นมาตัง้ แต่เด็กจึงได้รบั การเลี้ยงดูมาอย่างดี
แค่ ใช้ แรงเล็กน้ อยก็เกิดรอยเป็ นปื้ น ผิว ขาวสว่ างใสยิ่ง ทาให้
เห็นรอยนิ้วโหดร้ายบนข้อมือชัดเจน

นางดึ งชายแขนเสื้อลง หวนคิดถึงตอนขากลับ ม้าที่ วิ่ง


เร็วทาให้นางตกใจกลัวจนเกือบลืมคนข้างหลัง พอคิดถึงตอนที่
ม้าหยุด เขาก็พรวดพราดลงจากม้าอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ

ถึ ง เสื้ อ ผ้ า รับ ลมหนาวของเขาจะค่ อ นข้ า งหนา แต่


สถานการณ์ ตอนนัน้ ก็ล่อแหลมและคลุมเครืออยู่ ชายหนุ่มจับ
มื อ โ อ บ เ อ ว แ ล้ ว อุ้ ม น า ง ล ง ห า ก เ ป็ น ห ญิ ง ธ ร ร ม ด า ไ ร้
ประสบการณ์ ย่ อ มไม่ เ ข้ า ใจ แต่ ส าหรับ นางแล้ ว เข้ า ใจ
สถานการณ์ นัน้ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แล้วทาไมยามลงจากหลัง
ม้า นางถึงต้องอดทน ไม่พดู อะไรด้วยเล่า

นัน่ เพราะหญิงสาวรู้ว่าเขาใจร้อนและวู่วาม หากเป็ นสาว


อื่นเจอเรื่องแบบนี้ เข้าสีหน้ าคงแดงระเรื่อ เขาอยากให้นางเขิน
อายตายอย่างนัน้ หรือ?

10
ถานหวันช่ ิ ง ไพล่ ไ ปนึ กถึง ฤดูหนาวปี นั น้ เมื่ อห้ าปี ก่ อ น
หยาดเลือดที่ หยดย้อย เด็กหนุ่มสายตาดื้อรัน้ ที่ กาลังห้ามเลือด
ให้มารดา

กรรมตามสนองกระนัน้ หรือ?

หญิงสาวรู้ดีว่าไม่ควรมีความคิดแบบนี้ แม้แต่ตวั นางเอง


ตอนที่ มาอยู่ภพนี้ กต็ ้องอดทนต่อความทุกข์ยากลาบากในร่าง
คนอื่น ต้ องฝื นก้มศีรษะให้กบั บางคนจนถึงขัน้ คุกเข่าลงกราบ
ไม่กล้ า ทาตามอ าเภอใจอยู่ช วั ่ เวลาหนึ่ ง แล้ ว เด็กคนนั น้ เอา
ความหยิ่งในศักด์ ิ ศรีมาจากไหน ที่ ถนนวันนัน้ ข้าทาตัวชัดเจน
กับเจ้าว่าไม่ยอมศิโรราบลงให้

แต่ น างเป็ นแค่ คุ ณ หนู ใ นห้ อ งหอจึ ง คิ ด น้ อยไปจริ ง ๆ


่ การณ์อนั ตรายที่กาลังเกิดขึน้
ไม่รกู้ ระทังเหตุ

่ นหนึ่ งที่ นางถูกพวกทางการไล่ ไม่ต่างจากสอง


กระทังวั
แม่ลูกที่ โดนแส้ของนางอย่างเลือดเย็น บางครัง้ นางเองก็คิดว่า
สายตาของตนยามที่ มองเด็กหนุ่มคนนั น้ จะเหมือนที่ เขามอง
นางในตอนนี้ หรื อ ไม่ เจ้ า หน้ าที่ ร าชส านั ก พวกนั ้น ก็ค งมอง
นางในแบบเดียวกัน

11
หากสายตาของนางวันนัน้ เป็ นเหมือนพวกเขาแล้วละก็...

‘เจ้ายังเข้าใจว่าตัวเองเป็ นธิดาของอัครมหาเสนาบดีอีก
รึ? ถึงทาตัวไม่ร้ดู ีชวั ่ ไม่ร้เู ลยหรือไงว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร
เฮอะ! เจ้ามันก็แค่นักโทษคนหนึ่ ง ข้าจะแนะวิธีที่เจ้าจะไต่ เต้ า
ขึ้ น มาเป็ นใหญ่ เ ป็ นโตอี ก ครัง้ ให้ เ อาไหม ตามใจพวกข้ า สิ !
ระหว่างการเดินทางจะได้กินดื่มอย่างเพียงพอ แล้วพวกข้ายัง
จะปฏิบตั ิ ต่อเจ้าอย่างดีด้วย’

ทุ ก ประโยคทุ ก ค าพู ด ล้ ว นยั ว่ เย้ า และเหน็ บแนม


ตลอดเวลา ฐานะนางต่า ต้ อ ยเหมื อ นฝุ่ นธุลี ดิ น ไร้ ค ายิ่ ง กว่ า
หนอน

เด็กหนุ่มตรงหน้ าที่ยืนบังมารดาแล้วเอามือจับแส้ ทาท่า


ราวกับว่าจะทวงความเป็ นธรรมแทนมารดา ตอนนั น้ มารดา
ของเขากาลังตัง้ ครรภ์ เขาถึงโกรธแค้น มาก เขาไม่ได้สู้เพราะ
หยิ่ ง ในศัก ด์ ิ ศรี แต่ โ กรธเป็ นฟื นเป็ นไฟเพราะร่ า งกายของ
มารดาบอบชา้ เป็ นนางเองที่ หยามเด็กหนุ่ มวัยเยาว์ที่ยืดอกสู้
อย่างกล้าหาญเพื่อมารดา

หญิงสาวเพิ่งทราบภายหลังก็ร้วู ่าตัวเองผิดไปแล้ว ตอน


นัน้ นางลืมคิดไปว่าเหตุใดผู้หญิงคนนัน้ ถึงไม่หลบม้า คนทัวไป

12
จะยื น ทื่ อ ทรมานเนื้ อหนั ง ตัว เองท าไม เป็ นเพราะอี ก ฝ่ าย
ตัง้ ครรภ์และได้รบั ความตกใจจนขวัญหาย แส้นัน่ ...ทาให้ชีวิต
อี ก ฝ่ ายต้ อ งล าบาก นางมารู้ที ห ลัง เอาตอนนี้ หัว ใจก็ส นั ่ ไหว
อย่างรูส้ ึกผิดขึน้ มาทันที

หญิงที่มีอายุมากกว่ารังแกเด็กวัยเยาว์ยากจน

เพราะนางเคยสบประมาทเหยี ย ดหยามเด็ ก หนุ่ ม


คนหนึ่ ง จึงต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ไม่ดีเช่นนี้

่ ิ งคิดเรื่องที่ เกิดขึ้นวันนี้ อย่างละเอี ยด ทุกคา


ถานหวันช
ทุกประโยคค่อยๆ ไขปมออกมา ตอนที่นางเริ่มหนี กระทังตอน ่
ที่ พวกนางเดินทางมาชายแดน นางรู้สึกเหมือนว่าถูกคนจับตา
มองอยู่ คล้ ายวิธีแมวต้ อนจับหนู กลันแกล้ ่ งครัง้ แล้ วครัง้ เล่ า
และเฝ้ าติดตามดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา สุดท้ายชายผูน้ ัน้
ก็ต้อนรับนางด้วยความหนาวเหน็ บเย็นชา ไร้ซึ่งความเห็นอก
เห็นใจ

ทัง้ ที่ น างรู้ว่ า ตัว เองผิ ด ทว่ า ใจกลับ ยัง ไม่ ย อมรับ ผลที่
ตามมาเพื่อยุติความอาฆาตแค้นพยาบาทของเขา

13
ตอนนัน้ เองลุ่ยจูกถ็ ือชามโจ๊กผสมพุทราแดงเข้ามาแล้ว
นาไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปประคองถานหวันช ่ ิ งให้ ลุกขึ้น
นางมองคุณ หนู กิ น ข้ า วพร้ อ มกับ สู ด จมู ก สองตาแดงระเรื่ อ
จิ ต ใจยัง คงกระวนกระวายและตื่ น กลัว เด็ก สาวรอกระทัง่
คุณหนูกินอาหารเสร็จแล้ววางชามลง

เมื่อห้ าปี ก่อน ลุ่ยจูอายุสิบขวบ เพิ่งเข้ามาอยู่ในจวนได้


สองปี น้ อยมากที่ถานหวันช ่ ิ งจะให้นางติดตามออกไปข้างนอก
ลุ่ยจูจึงไม่ร้เู รื่องที่ เกิดขึ้นวันนัน้ อี กทัง้ ถานหวันช
่ ิ งก็ไม่ได้บอก
นาง ได้แต่บอกว่าเซี่ยเฉิงจู่รฐู้ านะของพวกนางแล้ว

พอได้ยินลุ่ยจูพลันตกใจมือเท้าอ่อนแรง นัง่ ตัวสันงั ่ นงก


อยู่ตรงนัน้ นางและคุณหนูหนี ออกมาได้แล้ว สิ่งที่ น่ากลัวที่ สุด
หาใช่ พวกโจร แต่ เป็ นคนที่ รู้สถานะนั กโทษหญิงของพวกนาง
ตอนนี้ ยิ่งกลัวอะไร สิ่งนัน้ ก็ยิ่งเข้ามาใกล้ เมื่อแม่ทพั หัวเมืองรู้
แล้ว กลัวว่าจะมีคาสังให้
่ ลากพวกนางเข้าคุกอี ก แล้วจะไม่ให้
นางกลัวได้อย่างไร

ถานหวันช ่ ิ งเห็นสีหน้ าซี ดเซี ยวไร้เลือดกับท่าทางมือเท้า


อ่ อนแรงของเด็กสาว ก็มนใจว่ ั่ าการที่ ต นไม่ ได้ บ อกให้ ลุ่ ย จูรู้
ทัง้ หมดนัน้ ถูกต้องแล้ว เพราะหากอีก ฝ่ ายรู้มูลเหตุระหว่างเขา
กับนางเมื่อห้ าปี ก่อน เกรงว่าเด็กสาวคงเป็ นลมล้มพับเป็ นแน่
14
หรืออาจจะโขกศีรษะกับก้อนหินให้ร้แู ล้วรู้รอด เพื่อหลี กเลี่ยง
การต้องกลับไปรับความทุกข์ทรมานในคุกอีก

“ลุ่ยจู คราวนี้ พวกเราต้องไปจริงๆ แล้วล่ะ” นางมองไป


ยังเงากิ่งก้านต้นท้อนอกหน้ าต่าง พลางถอนหายใจ “แผ่นดินนี้
กว้างใหญ่ไพศาล แต่กลับไม่มีที่จะให้ไป...” นางรู้สึกเหนื่ อยล้า
แค่ อ ยากจะหาที่ ส งบเพื่ อ พัก ผ่ อ น อายุ ข นาดนี้ ยัง ต้ อ งระเห
เร่รอ่ น ชีวิตไม่สงบเอาเสียเลย

อายุ ข นาดนี้ ? คิ ดไปคิ ดมาก็น่ าขัน สิ้ น ดี น่ าเสี ย ดาย


ประสบการณ์ มากมาย แค่อยากจะใช้ ชีวิตสงบเงียบเรียบง่าย
แบบคนธรรมดาสามัญ...ก็ยงั ไม่ได้

“อาจู” นายสาวร้องเรียก

“คะ...คุณหนู” จิตใจลุ่ยจูยงั กระเจิดกระเจิงกู่ไม่กลับ

“อีกสักครู่ เจ้าเอาภาพ ‘ป้ อนนกพิราบ’ ไปติดบนกระดาษ


่ ิ งสังงาน
แข็ง หากเรียบร้อยแล้วก็เอาไปที่จี๋เสียนฝัง” ถานหวันช ่

“ตอนนี้ พวกเรามีเงินเก็บเท่าไรแล้ว?”

15
ลุ่ยจูเช็ดน้ าตาก่อนตอบว่า “ยังเหลือยี่ สิบเอ็ดตาลึงเจ้า
ค่ะ และมีเงินบิ่นอีกห้าหกก้อน”

“หลังจากที่ ได้ยี่สิบห้าตาลึงจากเถ้าแก่สวี่ เราก็จะมีสี่สิบ


กว่าตาลึง จากไปครานี้ กไ็ ม่อตั คัดขัดสนเหมือนตอนที่ หนี ครา
ก่อน” ถานหวันช ่ ิ งยิ้มให้ความสุขกับความทุกข์อนั คุ้นชิน ปรับสี
หน้ าเป็ นปกติแล้วเอ่ยต่อ

“เจ้าเอาเงินจากเถ้าแก่สวี่แล้วแวะไปเปลี่ยนเงินเป็ นทอง
แท่งหรือทองใบไม้เพื่อความสะดวก แล้วลองสอบถามดูว่าช่วง
นี้ มีเกวียนขนของออกจากเมืองหรือไม่...”

“เกวียน?” ลุ่ยจูเอ่ยเสียงสูงขึน้ ทันที

“อาจู! เจ้ า เบาเสี ย งหน่ อ ย ตัง้ แต่ พ วกเราหนี ออกมาก็


อาจจะถูกสะกดรอยตาม หรือบางทีอาจจะมีใครซุ่มดูอยู่”

ลุ่ยจูตกใจตาลีตาเหลือกรีบปิดปากแน่ น พยักหน้ าหงึกๆ


ขอบตาแดงกา่ น่ าสงสาร

ถานหวันช ่ ิ งยกมือลูบผมอี กฝ่ าย ลุ่ยจูอายุเพิ่งจะสิบห้ า


อยู่กบั นางก็ยงั เป็ นเด็กอยู่วนั ยังคา่ กลับต้ องพลอยมาลาบาก

16
กับนางด้วย

“หากเป็ นเกวียนที่ออกจากเมืองช่วงฟ้ าสางจะดีที่สุด ถ้า


สอบถามได้ความแล้วก็หาคนคุมงาน ยัดตาลึงเงินให้เขาไป เจ้า
ไม่ต้องตระหนี่ แต่ ก็ไม่ต้องใจกว้าง ให้ เขาอนุ ญาตให้ พวกเรา
ซ่อนอยู่ในเกวียนแล้วพาพวกเราออกจากเมือง”

ลุ่ยจูที่กาลังฟังอยู่รีบพยักหน้ ารับ

“ขอเพี ยงพวกเราออกจากเมืองเว่ยอันได้ เจ้าก็ไม่ต้อง


กังวลใจแล้ ว กว่าใต้ เท้ าเซี่ ยจะรู้ เจ้ากับข้ าก็คงนั ง่ เรือออกไป
แล้ว เขาไม่สามารถปล่อยเมืองเว่ยอันแล้วออกตามไล่ล่าพวก
เราแน่ ”

เมื่อได้ฟังคาพูดนี้ ล่ยุ จูกอ็ กสันขวั


่ ญหายไปหมด ในที่สุดก็
สงบใจลงได้ อดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ “คุณหนู ถ้าพวกเราออก
จากที่นี่แล้วจะไปที่ไหนล่ะเจ้าคะ”

“ในเมื่ อ เราไม่ คุ้น เคยทัง้ คนและสถานที่ ไปวัด ตามที่


อาจารย์เคยบอกก่อนเถอะ ไว้ค่อยลองสอบถามคนบนเรือแล้ว
กัน”

17
นั กพรตหญิงท่ านนั น้ เป็ นคนดี ทีเดี ยว ลุ่ยจูจึงพยักหน้ า
วางใจ รีบเอ่ยเสียงเบาที่สดุ อย่างตื่นเต้น “หากว่ามีคนกาลังจ้อง
มองข้ า กับ คุ ณ หนู อ ยู่ ถ้ า อย่ า งนั ้น พวกเราจะออกจากเมื อ ง
อย่างไรล่ะเจ้าคะ?”

“เจ้าไม่ต้องกังวลใจ ข้ามีวิธี เจ้าไปก่ อนเถอะ เมื่อออก


จากบ้านจาไว้ว่าต้องเช็ดน้าตาให้เรียบร้อย อย่าให้คนสงสัย”

ลุ่ยจูขานรับ รีบเอาชายเสื้อเช็ดที่ หางตา นางค่อยมีกระ


จิตกระใจขึน้ มาบ้างแล้ว เด็กสาววิ่งไปล้างหน้ าในห้องครัว ปรับ
สี หน้ าไม่ให้ ตื่นเต้ น แล้วรีบหยิบภาพที่ ตนติดบนกระดาษแข็ง
แล้วออกจากบ้านไป

18
24 ความจริง

คนที่ ชื่ น ชอบการวาดภาพและคัด อัก ษรมัก มี ค วาม


อดทนสูง จะไม่ค่อยระเบิดอารมณ์ กนั บ่อยๆ แต่กม็ ีอยู่บ้าง คน
เช่นนี้ จะค่อยๆ เขียนภาพอย่างมีความสุขเพื่อฆ่ าเวลาให้ หมด
ไป

ลักษณะนิสัยของถานหวันช ่ ิ งก็เช่นกัน น้ อยครัง้ ที่นางจะ


ฉุนเฉี ยวเดือดเป็ นฟื นเป็ นไฟ ปกติแล้วจึงไม่ใช่คนที่จะเอาแส้ไป
เฆี่ยนตีผใู้ ดจนเห็นเลือด การกระทาที่รนุ แรงแบบนัน้ ความจริง
แล้วในชีวิตของนางหาได้ยากมาก

และตอนนัน้ เป็ นแค่ครังเดี


้ ยว

เมื่อหวนคิดถึงอดี ต ความทรงจาในเหตุการณ์ บนถนน


สายเกาวันนัน้ ยังคงชัดเจน

สภาพอากาศหนาวเหน็บในเหมันตฤดู บนถนนสายหนึ่ ง
แส้เงินที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉานเป็ นความทรงจาที่ฝังลึก

เมื่อนึ กถึงขึน้ มาอีก แม้ว่าปากของนางจะยืนยันมาตลอด


ว่าไม่ยอมรับ แต่ ในใจรู้ดีและเข้าใจอย่างชัดเจนว่าตอนที่ ฟาด
1
แส้ ตนกาลังคิดอะไร เรื่องราวเหล่านั น้ ย่ อมเป็ นนางเองที่ ทา
ผิดพลาดไป

นางไม่ร้วู ่าเหตุใดตอนนัน้ จึงควบคุมอารมณ์ตวั เองไม่อยู่


เรื่องราวในอดีตทัง้ หมดถาโถมเข้าใส่อย่างไร้ทางระบายออกได้
จริงๆ

ยิ่งไม่มีคนอยู่ข้างๆ ความเงียบสงบก็เข้ามาโอบล้อม ต่อ


หน้ าถานหวัน่ ชิ ง เป็ นคนเปิ ดเผยตรงไปตรงมา ไม่ คิ ด จะหา
ข้ออ้างอะไรให้กบั ตัวเองทัง้ นัน้ แต่จิตใต้สานึ กกลับพยายามหา
เหตุผลมาแก้ตวั ที่ตนเองทาผิดพลาด ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็ น
เรือ่ งที่ไม่น่าจดจาสักนิดเดียว

ปี นั น้ ภายในจวนตระกูลถาน แม้โ ฉมหน้ าภายนอกจะ


เจริญรุ่งเรืองประหนึ่ งแพรปักดิ้นแวววับ ทว่าความเป็ นจริงแล้ว
คนอื่นล้วนเห็นเพียงแค่เปลือก

ทุกข์หรือสุขมีเพี ยงตัวนางเองเท่ านั น้ ที่ รู้ เพราะจิตใจที่


เต็ ม ไปด้ ว ยความคับ แค้ น ใจ ท าให้ ทุ ก ๆ วัน ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งง่ า ย
สาหรับนางที่จะผ่านไปได้เลย

2
ตอนที่ ถานหวันช่ ิ งเป็ นเพียงเด็กหญิงอายุสามขวบ ไม่รู้
เรื่องรู้ราว ไม่มีมารดาผู้ให้ กาเนิดคอยปกป้ องคุ้มครอง บิดาก็
แสดงออกว่ า ยากที่ จ ะลื ม ภรรยาเก่ า ได้ และรัก นางที่ เ ป็ น
สายเลือ ดของภรรยาคนก่ อนมาก ทว่าในใจของถานหวันช ่ ิง
กลับมีแต่คาว่า...ไม่จริงใจ จอมปลอม เพราะต่อมาไม่นานนางก็
มีแม่เลี้ยง อี กฝ่ ายดูเหมือนจะเป็ นคนอบอุ่น มีท่าทางนุ่ มนวล
อ่อนหวาน แต่กลับไม่เคยสนใจจะดูแลนางด้วยซา้

ถึงบิดาจะรักและทะนุถนอมนางอย่างจริงใจ แต่ความรัก
นัน้ ก็ไม่ได้ทาให้นางมีวาสนาขึ้นมาได้ ถานหวันช ่ ิ งติดตามบิดา
ทุกวัน ใช้ ความคิดเพื่อเอาอกเอาใจเขาต่ างๆ นานา มี ความ
กตัญญู แต่แล้วสิ่งที่นางได้รบั ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากบุตรและ
บุตรีคนอื่นมากนัก

โชคดี ที่ ต ระกูล ต่ ง ของมารดาเลี้ ย งถึ ง แม้ จ ะละโมบใน


ทรัพย์สิน แต่กไ็ ม่ได้ปฏิบตั ิ ต่อถานหวันช
่ ิ งอย่างเหี้ยมโหดดุร้าย
คงคิดว่านางเป็ นแค่เด็กธรรมดา จึงกาหนดงานหมัน้ ให้โดยไม่
ถามไถ่ นางไม่อาจปฏิเสธได้ จาต้องหมัน้ แต่โดยดี

หลายปี ต่อมาแม่เลี้ยงก็อิจฉาตาร้อน เอาสินเดิมที่มารดา


ของนางทิ้ ง ไว้ ใ ห้ ไ ป อี ก ทัง้ ยัง อมเงิ น ส่ ว นตัว ของนางอี ก ด้ ว ย
จากนั น้ เงิ น ทองในจวนตระกูล ถานที่ เ คยมี อ ยู่ อ ย่ า งเพี ย งพอ
3
กลับ หายไปมากมาย จวนตระกูล ถานจึ ง เอาของชิ้ น ใหญ่ ที่
สามารถเก็บไว้ได้เข้าคลัง ส่วนพวกเงินทองหยกกลับยากที่ จะ
สืบหาว่าหายไปไหน

ถานหวัน่ ชิ ง ในตอนนั ้น ยัง ไม่ โ ตสัก เท่ า ไร ในใจหาได้


สนใจเรื่องในจวนไม่ เพราะทุกวันนางต้ องอยู่กบั ความอกสัน่
ขวัญหาย ต้ องคอยระมัดระวัง เหมือนตัวเองเป็ นตักแตนที ๊ ่ ถกู
ร้อยเป็ นพวงเส้ นหนึ่ ง แขวนห้ อยแกว่งไกวอยู่ภายในห้ อง ไม่
เคยรูจ้ ดุ จบของตนเองและโชคชะตาของจวน

แต่ นางก็ ย ั ง รั บ รู้ เ รื่ อ งราวบางอย่ า งที่ เกิ ดขึ้ น บ้ า ง


อย่ า งเช่ น มี พ วกขุน นางเข้ า หาบิ ด าของนางเพื่ อ หวัง ประจบ
สอพลอ และบิดาก็หลงละเมอไปกับการป้ อยอเหล่านัน้

ส่ วนมารดาเลี้ยงของนางได้ให้ กาเนิดบุตรชายหนึ่ งคน


และธิดาสองคน

ยามนัน้ ถานหวันช ่ ิ งอายุสิบห้า น้ องชายต่ างมารดาถาน


หมิ ง อวี้ เ พิ่ ง จะสิ บขวบ เขาถูก เลี้ ย งดู ม าแบบคนที่ มี อ านาจ
วาสนา ชอบใช้ อานาจบาตรใหญ่ อาละวาดระรานคนอื่นไปทัว่
ทัง้ ยังไม่มีน้ าอดน้ าทน เขามักจะมีคาพูดติดปากอันแสนโอหัง
เย่อหยิ่งว่า
4
‘แม้แต่ฮ่องเต้ยงั ต้องฟั งบิดาของข้า นอกจากบิดาของข้า
ใครจะกล้ามาทาอะไรข้า’

ส่ ว นน้ อ งสาวต่ า งมารดาถานจิ่ ง เอี๋ ย น อายุ แ ค่ ห กขวบ


กลับก่ อเรื่องใหญ่ แม้น้องสาวจะเป็ นคนสร้างเรื่อง ทว่ าเวลา
ชาวบ้านก่นด่าก็มกั จะเหมารวมว่า ธิดาของถานเฉิงจี้ที่ทาตัว
สุภาพเรียบร้อย กลับควบม้าเหยียบคนจนตาย

เพราะเรื่องนี้ บิดาจึงถูกกดดัน ทาให้วนั นัน้ เขากลับจวน


อย่างโมโหโทโส

เขาสังลงโทษกั
่ กบริเวณลูกสาวทัง้ หมด บรรดาน้ องสาว
ของนางต่างร้องไห้ น้าตาแทบเป็ นสายเลือด นานเป็ นครึง่ เดือน
กว่าบิดาจะยกเลิกคาสัง่ ยอมให้ออกจากจวนได้อีกครัง้ แต่ต้อง
มีสาวใช้คอยติดตามไปเป็ นเพื่อน

แล้วนางกับใต้ เท้ าเซี่ ยก็มีความกินแหนงแคลงใจกันใน


วันนัน้ นัน่ เอง

เช้าตรู่วนั นัน้ อากาศหนาวผิดปกติ ระดับความหนาวแค่


เอ่ ยก็มีไอออกมาจากปากแล้ว ฟ้ าเพิ่งสว่าง ถานหวันช ่ ิ งก็ถกู
บังคับให้ ออกจากจวน นางยังหลับไม่เต็มอิ่มทัง้ ต้ องทนหนาว

5
จาได้ว่าเป็ นวันที่แย่ที่สดุ

ถานเหวินอี๋กบั ถานจิ่งเอี๋ยนที่ถกู ขังมาเป็ นเวลานาน เพิ่ง


จะได้ออกจากจวน ก็เหมือนม้าป่ าที่ ถกู แก้เชือกไร้ การควบคุม
หน าซ้า หนึ่ ง ในนั น้ ก็เ คยเหยี ย บยายเฒ่ า ขอทานคนหนึ่ งตาย
มาแล้ว

เดิมที ถานหวันช่ ิ งก็ไม่อยากไปด้วย ทว่านางก็เข้าใจดีว่า


หากให้ทงั ้ สองไปกันเอง แม้จะให้พวกบ่าวติดตามไปด้วยก็เป็ น
เรื่องอันตราย อีกทัง้ หากเกิดเรื่องร้ายขึน้ บิดาอาจจะสั ่ งลงโทษ
ในความผิดที่ นางไม่ได้ ก่อเหมือนเมื่อครัง้ ก่ อนที่ ผ่านมา เพื่อ
ไม่ให้ เกิดเรื่องน่ าเวทนาขึ้นอี ก นางจึงต้ องติดตามเด็กสาวทัง้
สองออกไป

ยามฟ้ าสาง เมฆหมอกเลือนราง ทว่าถนนกลับคึกคักไป


ด้ ว ยเสี ย งฝี เท้ า ม้ า นั บ สิ บตั ว ตามด้ ว ยฝุ่ นฟุ้ งตลบไล่ ห ลัง
น้ องสาวทัง้ สองควบม้าเร็วมากจนนางตะโกนสังให้ ่ หยุด ทว่าทัง้
คู่กลับไม่ฟัง ยังดึงดันท่าตามใจตนเองแบบไร้เหตุผล สองคนที่
กาลังแข่งขันกันยิ่งสะบัดแส้ลงบนตัวม้า ให้มนั วิ่งเร็วขึน้ ไปอีก

่ ิ งก็กาลังขี่ ม้าอยู่เช่ นกัน สองแก้ มถูก


ยามนั น้ ถานหวันช
ลมหนาวบาดจนปวดแปลบ อีกทัง้ ขาอ่อนด้านในก็เริ่มเจ็บจาก
6
การเสี ยดสี นางจึงขี่ม้าไปช้ าๆ เห็นเพียงเสื้อคลุมพาดไหล่ขน
จิ้งจอกของน้ องสาวทัง้ สองที่ถกู สายลมพัดจนโบกสะบัดไปตาม
แรงลมอยู่ไกลลิบเบือ้ งหน้ า

ถานหวันช ่ ิ ง ไม่ อ าจไล่ ต ามพวกนางได้ ท ัน จึ ง ยากที่ จ ะ


ควบคุมสถานการณ์ที่ย่งุ เหยิง แล้วเหตุร้ายที่นางไม่อยากจะนึ ก
ถึงก็เกิดขึน้ ในช่วงนัน้ เอง

ทัน ที ที่ น้ อ งสาวทัง้ สองของนางเลี้ ย วเข้ า ถนนสายเก่ า


ผู้ค นที่ เ ดิ น อยู่ท ัว่ ทุก หนแห่ ง ต่ า งตกใจจนขวัญ หาย พากัน ส่ ง
เสียงกรีดร้องพร้อมกับวิ่งหนี

ถานหวันช่ ิ งที่ ขี่ม้าตามหลังอยากจะหยุดทัง้ สองแต่ ก็ไร้


วิธี รอบด้านมีแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายจนนางจาต้องควบม้า
เร็วขึ้นเพื่อไล่ตามสองสาวที่ กาลังเล่นสนุกได้ทนั ทว่าสุดท้ายก็
ต้องรัง้ บังเหียนม้าเอาไว้

เหตุการณ์ตอนนัน้ ...

มีหญิงคนหนึ่ งสวมชุดเสื้อผ้าเนื้ อหยาบถูกผูค้ นชนล้มกับ


พื้น คนอื่ นต่ างก็หลบออกไปให้ ห่างทางม้าวิ่ง แต่ นางเหมือน
เสียขวัญ ได้แต่นัง่ ทื่ออยู่บนถนน

7
ม้าของจิ่งเอี๋ ยนมาหยุดตรงหน้ านาง เด็กหญิงที่ ท่าทาง
ยิ่งใหญ่คบั ฟ้ าผู้นี้เคยมีเรื่องเหยียบยายเฒ่าตายมาก่อน ตอนนี้
ยิ่งกาเริบเสิบสานบังคับม้าให้ยกขาหน้ าอยู่เหนื อศีรษะของหญิง
ผู้นั ้น ถานหวัน่ ชิ งรู้ ว่ า นั น่ เป็ นการโอ้ อ วดวิ ธี บ ัง คับ ม้ า ของ
น้ องสาวจึงรีบหวดแส้ไล่หญิงผู้นัน้ อย่างไม่มีการลังเล แส้เงินที่
เป็ นของขวัญ จากมารดาฟาดลงยัง คนที่ นั ง่ อยู่ ใ ต้ ม้ า เพื่ อ
หวังจะให้อีกฝ่ ายหลบออกไปจากทาง

ทว่ า แส้ ที่ ไ ม่ ช านาญคุ้ น มื อ ซ้ า ยัง ควบคุ ม ทิ ศทางได้


ไม่ดี ทาให้ หญิงนางนั น้ ตกใจกลิ้งไปกับพื้น ทัวร่ ่ างเต็มไปด้วย
ฝุ่ นสี เ หลื อง ถานจิ่ง เอี๋ ย นชักม้าขึ้น มาด้ านหน้ า ดังนั น้ ตอนนี้
ข้างหน้ าของถานหวันช ่ ิ งมีจิ่งเอี๋ ยนขวาง ครัน้ จะถอยหลัง ข้าง
หลังก็มีม้าที่ สาวใช้ นัง่ ติดตามมานั บสิบตัว แต่ หญิงผู้นัน้ กลับ
ยัง คงนอนคว ่า หน้ า อยู่บ นพื้น โดยมี เ สี ย งกี บ เท้ า ม้ า กุบ กับ อยู่
ใกล้ๆ ยังไม่รีบหลบไปอีก

ครัน้ เห็นม้าตนเองจะไปเหยียบบนร่างอีกฝ่ ายเข้า ตัวนาง


เองก็หลบไม่ได้ ถานหวันช่ ิ งจึงต้องยกแส้ขึน้ อีกครัง้

ตอนที่ฟาดไปนัน้ ปลายแส้กลับถูกเด็กชาวบ้านจับเอาไว้
ด้วยมือเปล่า

8
สถานการณ์ ตอนนัน้ สับสนยุ่งเหยิง จานวนม้าตามท้ าย
มาเป็ นสิบ โชคดีที่เหล่าม้าปราดเปรียวสามารถเปลี่ยนทางหลบ
ขณะจะชนได้ทนั เพราะสาวใช้บนหลังม้าไม่กล้าชนคุณหนูใหญ่
จึงยอมให้ทงั ้ คนและม้าล้มลงกับพืน้ จนได้รบั บาดเจ็บถ้วนหน้ า

จริ ง ๆ แล้ ว ในตอนนั ้น ถานหวัน่ ชิ งไม่ รู้ ว่ า ควรจะท า


อย่างไร ในใจนางทัง้ หวาดกลัวทัง้ วุ่นวายใจจนยากจะระงับ นาง
รู้สึกเอือมระอาและเบื่อหน่ ายความหนาวเย็นอยู่ก่อนแล้ว อี ก
ทัง้ น้ องสาวสองคนก็ยงั ดื้อรัน้ ไม่เชื่อฟั ง ทาให้นางอัดอัน้ ตันใจ
แต่ ไม่ มีท างจะระบายออกมาได้ นางรู้สึกอับจนที่ ไม่ สามารถ
ควบคุมสถานการณ์ ใดๆ ได้เลย แล้วยังถูกสายตาเด็กหนุ่มคน
นัน้ มองอย่างโกรธแค้นยัวให้่ เกิดโทสะขึน้ มาอีก

นางดึงแส้กลับมาจากมือเขาแล้วฟาดออกไป กว่าจะได้
สติคืนกลับมาก็ฟาดไปสามครังแล้
้ ว

ถึ ง จะไม่ ไ ด้ อ อกแรง แต่ แ ส้ เ งิ นก็ ท าให้ ผิ วเนื้ อเปิ ด


เหวอะหวะ เลือดสดๆ ไหลย้อยลงมา

แส้ในมือเปื้ อนเลือดผูอ้ ื่นไปแล้วจริงๆ!

9
นางในตอนนัน้ นัง่ อยู่บนหลังม้า มองดูคนผู้หนึ่ งที่ ยืนอยู่
ข้างล่างจากที่ สูงกว่าอีกฝ่ ายเป็ นแค่เด็กคนหนึ่ ง แต่สายตาของ
เขาที่ ม องมายัง ตนนั ้น เต็ม ไปด้ ว ยอัป ยศอดสู แ ละโกรธแค้ น
สายตาแบบนัน้ ท่าให้นางเกิดความละอายใจอย่างยิ่ง

หลังเที่ ยงอันเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว ได้ยินเพียงเสียงสาย


ลมหนาวพัดผ่าน ใบไม้ที่ทงั ้ เหลืองและแห้งเฉาต้ องสายลมจน
หลุดร่วงหมุนเคว้งคว้างลงจากต้นไม้ บรรยากาศโดยรอบเงียบ
สงัดวังเวง

ร่างบอบบางเอนตัวอยู่บนเตียงอุ่น ในใจมีเรื่องมากมาย
เต็มไปหมด ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะข่มตาหลับลงได้

ในความฝันของนาง มี เพียงความหนาวเย็นที่ แผ่ซ่านไป


ทัวสรรพางค์
่ กาย ราวกับว่าถูกคนเอาความหนาวสะท้ านของ
สายน้าที่ ไหลลงจากภูเขามาทิ่มแทงกระดูก ตามมาด้วยอาการ
ปวดแสบปวดร้อน พร้อมกับเสี ยงหัวเราะไม่ไยดี แทรกเข้ามา
อย่างเลือนราง ทัง้ หมดนี้ ทาให้นางหายใจไม่ทวท้
ั ่ องเสียเลย

หญิ ง สาวพยายามก้ า วขาทัง้ สองข้ า ง ไม่ ก ล้ า ที่ จ ะหยุด


จาต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและน้าตาที่หลังไหล ่ บอกตัวเอง
ว่ายังมีโอกาส ห้ามล้มลงเพียงเพราะความเจ็บปวดอันน้ อยนิด
10
แค่นี้

ไม่ล้ม ไม่ล้ม...

นางสูดลมหายใจเฮือก ตกใจตื่ นจากภวังค์ฝัน เหงื่อ ชื้น


่ นหลัง และเกาะพราวเต็มหน้ าผากมน หญิงสาวเปิด
ซึ มทัวแผ่
เปลื อกตาออกแล้วค่ อยๆ สูดลมหายใจ จนเวลาผ่านไปนาน
พอสมควรจึงลุกขึน้ ไปมองนอกหน้ าต่าง

เมื่อเช้ าท้ องฟ้ าสี ค รามยัง มี ส ายหมอกจางอยู่ร าไร หมู่


เมฆกระจายกัน อย่ า งหนาแน่ น พอถึ ง ช่ ว งเวลากลางวัน
บรรยากาศก็ยงั ดูอึมครึม ไม่ต่างจากความหนักหน่ วงในใจนาง

ความฝันแบบนี้ หรือว่ากาลังบ่งบอกถึงความกังวลลึกๆ
ที่ ตนมีอยู่ ร่างกายที่ อ่อนแอเปราะบางนี้ แม้จะสวยงามแต่ กลับ
ไร้ประโยชน์ ไม่ต้องเอ่ยถึงการชาระแค้นคืนร้อยเท่ าเพราะแส้
เป็ นต้นเหตุหรอก

่ ิ งเช็ดหยาดเหงื่อบน
ยามนี้ ลุ่ยจูยงั ไม่กลับมา ถานหวันช
หน้ าผากแล้ ว พยายามตัง้ สติ อีกครัง้ จากนั น้ ก็ไปหยิ บ เสื้ อ ผ้า
ออกจากตู้ไม้หลังเล็กมาจัดเตรียมสัมภาระ

11
แต่ กลับนึ กบางอย่างได้ นางก็รีบสวมรองเท้ าแล้ว ออก
จากบ้านไป

หญิงสาวเดินไปตามทางหินที่ คดเคี้ยวยาวเหยียด กวาด


สายตามองไปยัง กาแพงอิฐข้ างนอกอย่ างระมัดระวัง กระทัง่
เดินมาถึงมุมห้องครัวที่วางหาบฟื น หลังจากมองดูสกั พักก็เดิน
กลับเข้าห้ องนอน นางหยิบผ้าฝ้ ายที่ ลุ่ยจูซื้อไว้ เพื่ อเตรี ยมทา
เสื้อคลุมยาวมาดู จากนั น้ ก็ใช้ กรรไกรตัดแล้วฉี กเป็ นเส้ นโดย
ไม่มีท่าทางลังเลแม้แต่น้อย

ตอนที่ ลุ่ยจูกลับมา ถานหวันช่ ิ งที่กาลังนัง่ อยู่บนตังเพล


่ ิน
จนลื ม ตั ว พอเห็ น อี กฝ่ ายก็ ต กใจก่ อ นถามเสี ยงเบาว่ า
“เรียบร้อยใช่ไหม?”

ลุ่ยจูก้าวเข้ามาอย่างว่องไว ท่ าทางดูร้อนรนจนหายใจ
เกือบไม่ทนั นางอุ้มห่อผ้าเก่าเดินมาหาพร้อมพยักหน้ ารับถี่ๆ
แล้วเอาห่ อผ้านั น้ วางบนโต๊ะ จากนั น้ ก็แกะห่ อผ้าออก เผยให้
เห็นทองแท่งเหลืองอร่ามตาอยู่ด้านใน

นางออกไปท าตามที่ คุณ หนู ส งั ่ โดยเอาเงิ น สี่ สิ บ ต าลึ ง


เปลี่ ย นเป็ นทองสี่ ตาลึ ง ส่ ว นเงิ น ที่ เ หลื อ แลกเป็ นเงิ น บิ่ น และ
เหรียญอีแปะ เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบใช้ระหว่างทาง
12
่ ิ งพยักหน้ า หยิบถุงออกมาจากชายเสื้อทัง้ สอง
ถานหวันช
ข้างแล้วเอาเงินบิ่นแยกใส่ในนัน้ พลางถอนหายใจยาวก่อนถาม
ต่อ “เจ้าหาคนพาพวกเราออกนอกเมืองได้ไหม?”

“ได้แล้วเจ้าค่ะคุณหนู ข้าหาได้แล้ว แต่ ไม่ใช่ เกวี ยนขน


เสบี ย งอาหาร แต่ เ ป็ นเกวี ย นขนผ้า พับ เจ้ า ค่ ะ ” ลุ่ ย จูรี บ นั ง่ ลง
แล้วเอ่ยเสียงเบา

“ผ้าพับ?”

“เจ้าค่ะ” ลุ่ยจูกดเสี ยงต่าลงอี ก “ข้าสอบถามกับ เถ้าแก่


สวี่ เขากับ ร้ า นแพรต่ ว นตระกูล ชวี มี ค วามสัม พัน ธ์ก นั ดี ม าก
ทีเดียว เขาบอกว่าทุกวันนี้ ตระกูลชวีอาศัยใบบุญของใต้เท้าเซี่ย
เพื่อช่ วยลาเลี ยงผ้าเข้าเมืองแล้วแบ่งไว้ ที่ร้านผ้า แต่ ยงั เหลื อ
เกวียนอี กหลายคัน พวกเขาจึงวางแผนจะขนผ้าไปที่ เมืองอื่น
ต่อ”

พอได้ยินคาว่าใต้เท้าเซี่ ย ถานหวันช
่ ิ งก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ ง
คิ้วค่อยๆ ขมวดเป็ นปมแน่ น “การขนส่ งครัง้ นี้ มีทหารตามไป
ด้วยหรือ?”

13
“คุณหนูวางใจได้ ข้าสอบถามมาชัดเจนแล้ว ไม่มีเจ้าค่ะ
พวกเขานาผ้าเข้าเมืองได้อย่างสะดวกราบรื่นเพราะน้ าใจของ
ใต้เท้าเซี่ ย ใครๆ ก็ร้วู ่าทุกครัง้ ตระกูลชวีจะให้ใต้เท้าช่วยเหลือ
ตลอด ได้ยินว่าครานี้ จ้างคนคุ้มกันด้วย ข้าให้เถ้าแก่สวี่พาไปหา
ผู้ที่ คุม กองเกวี ย น พอคุย ด้ ว ยแล้ ว รู้สึ ก ว่ า ผู้คุม คนนั ้น ดี ม าก
ที เดี ย ว ข้ าแค่ บ อกว่ าจะไปหาญาติ แต่ กลัว ว่ าระหว่ างทางจะ
ไม่ปลอดภัย จึงอยากโดยสารเกวียนไปด้วย จากนัน้ ก็ยดั เงินให้
ไปสองตาลึ ง เขาไม่ได้ ถ ามถึง ฐานะของพวกเราก็ต อบตกลง
แล้ว...”

่ ดูจากท่าที ของชายผู้นัน้ นางคิดว่า


ลุ่ยจูตอบอย่างมันใจ
คงไม่ใช่หลุมพรางสาหรับจับคนแน่ นอน การให้หญิงสองคนนัง่
โดยสารไปด้ ว ยโดยแลกกับ เงิ น สองต าลึ ง ใครบ้ า งจะไม่ เ อา
เพราะแค่ให้อาศัยเกวียนไปเท่านัน้ ไม่ได้เหนื่ อยยากแต่อย่างใด
ทว่าแม้จะคิดเช่นนัน้ แต่ ลึกๆ ในใจนางก็ยงั อดระแวงเล็กน้ อย
ไม่ได้

ถานหวั น่ ชิ งอยู่ ที่ นี่ มานานพอควร ได้ ยิ นเกี่ ย วกั บ


ตระกูลชวีมามาก ทัง้ คฤหาสน์ ใหญ่ โอ่อ่าแล้วยังชื่อเสียงที่รา่ ลือ
นางจึงไม่สงสัยอะไร ได้แต่เอ่ยว่า

“เถ้าแก่สวี่กร็ เู้ รือ่ งนี้ ด้วยหรือ?”


14
“เขารูแ้ ค่ว่าคุณหนูจะซื้อผ้าเจ้าค่ะ ไม่รเู้ รือ่ งราวอื่นๆ”

่ ิ งจึงวางใจ ค่ อยๆ ปิดถุงที่ มี


เมื่อฟั งถึงตรงนี้ ถานหวันช
เงินใส่อยู่เต็มแล้ววางลงบนโต๊ะ

“พรุง่ นี้ ออกเดินทางใช่ไหม ตอนไหนรึ?”

พอคิดถึงการเดินทาง ลุ่ยจูกอ็ ดเครียดขึ้นมาไม่ได้ นาง


เริ่มตัวสันจึ
่ งรีบสูดลมหายใจ แล้วตอบกลับอย่างคล่องแคล่ว
“ผู้คุมคนนั น้ บอกว่าพรุ่งนี้ จะรีบไปให้ทนั เรือข้ามฟากตอนเช้า
จึงตัง้ ใจจะออกเดินทางยามโฉ่ ว[ 1 ] ให้พวกเราไปรอที่ เกวียน
เลยเจ้าค่ะ”

“เจ้าดูแล้วคนคุมผูน้ ัน้ น่ าเชื่อถือไหม?”

“เถ้าแก่สวี่บอกว่าเขาทางานกับตระกูลชวีมายี่สิบกว่าปี
แล้ว เป็ นคนดีและเป็ นที่ โปรดปรานของเจ้านายมาก แต่ข้ากลับ
รูส้ ึกว่าเขาช่างพูดช่างเจรจาแล้วก็ละโมบเงินเล็กๆ น้ อยๆ”

“ถ้าหากเขาซื่อตรงไม่โลภ พวกเราก็โดยสารเกวียนของ
ตระกูลชวีออกจากเมืองไม่ได้หรอก” ถานหวันช ่ ิ งตอบอย่างไม่
ยี่หระต่อเรือ่ งนี้

15
ลุ่ยจูนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงเอ่ยอย่างเป็ นกังวล “คุณหนู
ข้ากลัวว่าหากถึงประตูเมืองแต่กลับออกไปไม่ได้ แล้วพวกเรา
จะท าอย่ า งไรเจ้ า คะ? หลายวัน มานี้ ประตู เ มื อ งตรวจสอบ
สามะโนครัวเข้มงวดมาก...”

บางทีอาจจะถูกค้นเกวียนก็เป็ นได้ แล้วชีวิตของพวกนาง


จะรอดพ้นไปได้อย่างไร

ถานหวันช ่ ิ งถอนหายใจ แล้วกล่าวเสี ยงเรียบ “หากเป็ น


อย่างนั น้ ก็คงสุดแต่ โชคชะตาแล้วล่ะ ประตูเมืองมีสี่ด้าน มีแค่
ประตูนี้ที่มีเกวียนขนพวกเสบียงอาหารและสินค้าผ่าน เวลาเช้า
ขนาดนั น้ อี ก ทัง้ ถ้ า ดูจ ากความสัม พัน ธ์ข องตระกูล ชวี และใต้
เท้ าเซี่ ย แล้ ว บางที อาจจะไม่เลวร้ายอย่ างที่ คิดก็ได้ เราจะใช้
โอกาสนี้ ลอบออกนอกเมือง”

[ 1 ] ยามโฉ่ ว ช่วงเวลา 01.00 - 02.59 น.

16
25 ซ่อนตัวในเกวียน

ท้องฟ้ ามืดเร็วมาก

ปกติเวลานี้ ในครัวจะจุดไฟ เตรียมทากับข้าวกันแล้ว แต่


ยามนี้ หญิง สาวสองคนในห้ องไม่มีจิตใจจะทาอะไร และไม่ มี
อารมณ์อยากกินอะไรทัง้ นัน้

่ ิ งมองไปนอกหน้ าต่ างครัง้ แล้วครัง้ เล่า เรียก


ถานหวันช
สติกลับคืนมาแล้วบอกกับลุ่ยจูว่า “เจ้าไปจุดไฟในครัวเถอะ จะ
ได้ไม่มีใครสงสัย”

ลุ่ ย จู ลุ ก ขึ้ น ไปที่ ห้ อ งครัว หลัง จากจุ ด ไฟแล้ ว นางจึ ง


ตัดสินใจลงมือทาาอาหาร ทาาไปก็กลัน้ น้ า ตาไป หลังจากทา
บะหมี่ เสร็จก็ไปเช็ดหน้ าเช็ดตา ปรับอารมณ์ ใหม่แล้วประคอง
ชามหมี่ไปในห้องนอนทัง้ ที่ขอบตายังคงแดงอยู่

่ ิ งแสร้งหยิบตะเกียบขึน้ มา ฝื นกินไปได้แค่สอง
ถานหวันช
คาก็วางตะเกียบ เพราะกลืนอาหารไม่ลงจริงๆ

ลุ่ยจูยงั คงว้าวุ่นใจ นางไม่เคยออกไปไหนไกลจากจวน


ตระกูลถาน พอวันหนึ่ งได้ ออกจากกาแพงจวน โลกภายนอก
1
ล้วนเป็ นสิ่งที่ แปลกประหลาด การต้องเดินทางไม่มีที่สิ้นสุด ใช้
ชีวิตแบบล่องลอยช่างเป็ นเรือ่ งน่ ารันทด

ท้ อ งฟ้ าข้ า งนอกยิ่ ง มื ด ลงเรื่ อ ยๆ ในห้ อ งเห็น เพี ย งเงา


เลือนราง ทัง้ สองคนนั ง่ กันเงี ยบๆ อยู่นานถึงเพิ่งคิดได้ ว่ ายัง
ไม่ได้จดุ เทียน ลุ่ยจูจึงรีบจุดเทียนด้วยท่าทางลนลาน

เปลวไฟบนเชิงเทียนสันไหว ่ ท่ามกลางความมืดมีแสงไฟ
อบอุ่นเกิดขึน้ ไม่ร้วู ่านัง่ เหม่อลอยกันนานเท่าไร เป็ นลุ่ยจูที่เดิน
ไปหยิบเสื้อกันหนาวจากในตู้ออกมา “วันนี้ ตอนบ่ายลมพัดแรง
พรุ่งนี้ อาจจะเกิดพายุหิมะ คุณหนู ยิ่งทนหนาวไม่ได้ ต้ องสวม
เสื้อหนาๆ นะเจ้าคะ”

โชคดี ที่ น างตระเตรี ย มไว้ ก่ อ น พอช่ ว งที่ อ ากาศหนาว


มากมาถึง ก็เอาเสื้อกันหนาวออกมาสวมได้ทนั ที

ตอนนี้ พวกนางไม่ค่อยมีเงินนั ก ซื้อผ้าฝ้ ายหยาบที่ ร้าน


ผ้ามาหนึ่ งพับในราคาสิบอีแปะ นึ กถึงตอนอยู่จวนตระกูลถาน
ยามเข้าหน้ าหนาวมีทงั ้ แพรต่วนและผ้าลูกไม้หลากสี สนั ส่งเข้า
จวนมาให้ บรรดาคุณหนู เ ลื อก ขนจิ้ง จอกนุ่ มอุ่น เนื้ อละเอี ยด
เทียบกับตอนนี้ ของในมือกลับกลายเป็ นของคนยากจนข้นแค้น

2
อารมณ์ ข องคนที่ เ คยอยู่สูง แล้ ว กลับ ตกต่า รสชาติ มนั
เป็ นเช่นนี้ หรือ ลุ่ยจูที่ขอบตาแดงเดินมาสวมเสื้อคลุมให้คณุ หนู
ของตน

ถานหวันช่ ิ งขยับตัวไปแง้มหน้ าต่ างออกเป็ นช่ องเล็กๆ


ด้านนอกมืดสลัวและหนาวเหน็บ นางเงี่ยหูฟังเสียงลมดูเหมือน
จะพัดแรงยิ่งกว่าตอนกลางวัน พายุหิมะน่ าจะมาแล้วจริงๆ แวว
ตาของนางพลันสันไหว่ อธิษฐานเงียบๆ ให้ฟ้าเบือ้ งบนช่วย

ลุ่ยจูที่เพิ่งสวมเสื้อกันหนาวเสร็จ เดินไปหยิบทองแท่ ง
แล้วซ่ อนไว้ ในเสื้อกันหนาวคนละสองแท่ ง หลังเป่ าเที ยนดับ
แล้ว สองนายบ่าวยอมทนนัง่ อยู่ในที่มืดสลัว

ออกจากเมืองยามโฉ่ ว พวกนางต้ องออกจากบ้านก่อน


ล่วงหน้ าในยามจื่อ[ 1 ] เพราะกลัวว่าจะหลับเพลินจนเลยเวลา
ทัง้ สองจึงไม่กล้านอน

่ ิ งบอกวิธีออกจากบ้านกับลุ่ยจูเบาๆ ยามคา่
ถานหวันช
คืนที่ เงียบสงัด ต้องระวังทัง้ เสี ยงและการกระทา ทว่าคา่ นี้ สาย
ลมกลับ โหมพัด อย่ างบ้าคลัง่ ย่ อมจะช่ ว ยบดบังพวกนางจาก
สายตาผูค้ นได้มาก

3
ช่วงบ่ายที่ ผ่านมาหญิงสาวตรวจดูรอบบ้านโดยละเอียด
ลานด้านซ้ายติดกับบ้านคน ด้านขวาติดกับกาแพง หากมีทหาร
คอยจับตามองพวกนางอย่างลับๆ อย่างมากคงแค่เดินไปเดิน
มาอยู่แถวประตูใหญ่ทางด้านหน้ า คงไม่ถึงกับปี นกาแพงบ้าน
เข้ามาสอดส่องคนด้านใน

โดยเฉพาะกลางดึกที่ลมแรงหิมะตกหนักแบบนี้ เมื่อพวก
นางดับไฟแล้ว คาดว่าคนที่ คอยเฝ้ าอาจจะหาสถานที่ หลบเพื่อ
พักผ่อน

ก็แค่ หญิงสาวสองคน คงไม่เฝ้ าแบบไม่หลับไม่น อนทัง้


คืนเหมือนกับสอดแนมข้าศึกหรอกกระมัง

พอคิดอย่างนี้ ถานหวันช
่ ิ งรู้สึกโล่งใจขึน้ มาบ้าง นัง่ คุยกับ
ลุ่ยจูเพื่อรอเวลา

จังหวะหนึ่ ง ลุ่ยจูกพ็ ูดขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าในเมืองเว่ย


อั น มี ส านั ก ศึ ก ษาที่ ร ับ ศิ ษย์ ผู้ ห ญิ งด้ ว ย ที่ นั น่ มุ่ ง เน้ นเรื่ อ ง
คุณธรรมของสตรีและศิลปะอี กหลายแขนงโดยเฉพาะดนตรี
หมากรุก วาดภาพ และเย็บ ปั ก ถัก ร้อ ย แม้ แ ต่ บ รรดาคุณ หนู
เยาว์ว ยั ของตระกูล ชวี ก็เ รี ย นอยู่ เถ้ า แก่ ส วี่ ก บั บัณ ฑิ ต ที่ เ ปิ ด
สานักศึกษามีความคุ้นเคยกัน บัณฑิตผูน้ ัน้ ถามเขาว่า รูจ้ กั หญิง
4
สาวที่ ช านาญการวาดภาพหรื อ ไม่ ? ส านั ก ศึ ก ษาขาดผู้
เชี่ยวชาญหนึ่ งคน เถ้าแก่สวี่สอบถามกับข้าว่าคุณหนูสนใจไหม
หนึ่ งเดือนได้สามตาลึงเงิน น่ าขันจริง! ภาพวาดของคุณหนู แค่
ภาพเดียวก็ขายได้ตงั ้ ยี่สิบห้าตาลึงแล้ว”

ถานหวัน่ ชิ งได้ แ ต่ ยิ้ ม เรื่ อ งการสอนวาดภาพให้ ก ับ


เด็กหญิงนี้ นางสนใจมาก ไม่ได้เกี่ ยวกับเงินแต่ เพราะได้ ผ่อน
คลายอารมณ์ ทว่าตอนนี้ พวกนางกาลังจะไปจากที่ นี่แล้ว พูด
เรือ่ งนี้ ไปก็ไม่มีประโยชน์

ยิ่งนานก็ยิ่งดึกมากขึ้น ปกติช่วงเวลานี้ ถานหวันช


่ ิ งหลับ
ลึกเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว แต่ คืนนี้ ต้องบังคับหนั งตาให้ ลืมไว้
ตลอดเวลา จนได้ยินลุ่ยจูเอ่ยถึงใต้เท้าเซี่ย

“คุณหนู ใต้ เท้ าเซี่ ยผู้นัน้ ข้าเคยคิดว่าเขาน่ าจะมีชีวิตที่


เปี่ ยมสุข แต่วนั นี้ เพิ่งรู้ว่าชีวิตของเขาน่ าเศร้านัก ได้ยินว่าบิดา
ตายก่อนได้สมัครเป็ นทหาร มารดากลายเป็ นม่าย ต้ องอาศัย
เขาคอยดูแลหาเลี้ยง แล้ว เขาก็มีน้องชายที่ เกิดมาปั ญญาอ่อน
อีกด้วย”

ตอนแรกถานหวันช ่ ิ งก็ยงั นัง่ ตาปรืออยู่ พอได้ยินลุ่ยจูพดู


ก็ตาโตทันที หันมามองบ่าวคนสนิทด้วยท่าทางตกใจ
5
“น้ องชาย?”

“ใช่เจ้าค่ะ ได้ยินคนบอกว่าเพิ่งจะห้าขวบ มารดาของเขา


ก็ป่วยตายไปแล้ว เหลือเขากับน้ องชายแค่สองคน น้ องชายห้า
ขวบแล้วยังพูดไม่เป็ น ท่ านหมอบอกว่ามารดาของใต้ เท้ าเซี่ ย
ร่างกายอ่ อนแอ ไม่ได้ รกั ษาครรภ์ให้ ดี เพราะเคยตกใจอย่ าง
มากทาให้เด็กที่คลอดออกมาไม่ปกติ...”

น้ องชายห้าขวบ? ทา

ไมถึงบังเอิญขนาดนี้ ไม่นะ!

ความบังเอิญนัน้ ...

ส่วนที่เหลือนางไม่ได้ฟัง ตื่นตระหนกอยู่เป็ นนานจนกู่ไม่


กลับ ได้แต่นึกถึงแส้เมื่อห้าปี ก่อน ในใจไม่อาจสงบลงได้เลย

เวลาผ่านไปช้าๆ จนกระทังยามจื
่ ่อ น้ าตาลุ่ยจูจวนเจียน
จะหยด น้าเสียงสะอึกสะอื้นอาลัยอาวรณ์ “คุณหนู พวกเราต้อง
ไปแล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?”

่ ิ งได้ยินเสียงลมจากข้างนอกหน้ าต่าง นางกัด


ถานหวันช
ริมฝี ปากแล้วเอ่ยว่า “ต้องไป! จาเป็ นต้องไป! รอไม่ได้แม้แต่อึด
6
ใจเดียว”

ในคืนฤดูหนาวที่สายลมพัดกระหน่าอย่างบ้าคลัง่ ซึมลึก
เข้าไปถึงด้านในเสื้อผ้า อากาศหนาวจนริมฝี ปากเย็นเยียบ

ค ่า คื น แบบนี้ ทุ ก บ้ า นล้ ว นปิ ดหน้ าต่ า งแน่ นหนา ไม่ มี


แม้แต่แสงไฟ เล็ดลอดออกมาให้ เห็นลุ่ยจูใช้ผ้าเช็ดหน้ ามาห่อ
ขนมอย่างรีบร้อนแล้วยัดเข้าในห่อผ้า จากนัน้ ก็ตามคุณหนูไป
ข้างกาแพงที่มีหาบฟื นวางอยู่

โชคดีที่กาแพงสร้างไม่สูงมาก ใช้ตงเหยี
ั ่ ยบก็ปีนขึน้ ไปได้
พอดิบพอดี

ถานหวันช ่ ิ งนาเชื อกที่ ทาจากเศษผ้ามัดเข้าด้ วยกัน มา


พาดลงบนกาแพง ให้ลุ่ยจูเหยียบตังแล้ ่ วพลิกตัวข้ามกาแพงไป
โดยที่ จบั ปลายเชื อกด้ านไว้ ส่ วนปลายอี กด้ านตนเป็ นคนถือ
จากนัน้ ก็ให้ล่ยุ จูค่อยๆ ปล่อยตัวลงบนพืน้ ฝัง่ ตรงข้าม

พอเท้าแตะพืน้ ได้ เด็กสาวก็อทุ านออกมา มีไอเย็น พุ่งมา


จากปาก ลุ่ยจูกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มีแม้แต่ เงาคน คาดว่า
แต่ละบ้านคงนอนฝันหวานกันอยู่ เพราะตอนนี้ เป็ นช่วงเวลาที่
ทุกคนน่ าจะหลับสนิท ได้ยินแต่เสียงลมที่พดั แรง

7
นางรี บ ใช้ ป ลายเชื อ กผ้ า มัด เข้ า กับ ต้ น ฮวายจนแน่ น
จากนั น้ ก็บอกคุณหนู ให้ เหยียบตังขึ ่ ้นมาได้ ถานหวันช ่ ิ งอาศัย
ดึ งเชื อกช่ วยพาตัวเองปี นข้ามไป โดยมี ลุ่ยจูรอรับอยู่อีกฟาก
ของกาแพง

กระทังสองนายบ่
่ าวอยู่อีกฟากกาแพงแล้ว ลุ่ยจูกย็ งั ไม่
วายมีหน้ าอาลัยอาวรณ์ระคนตื่นเต้น

ออกมาได้ง่ายขนาดนี้ เชียว?

ในเมื่ อ ออกจากบ้า นได้ แ ล้ ว สองนายบ่ า วหรื อ จะกล้ า


โอ้เอ้อีก รีบเอาเชือกโยนกลับเข้าไปในกาแพงแล้วเดินไปตาม
เส้นทางเล็กๆ ไม่หยุด มุ่งหน้ าไปที่เกวียนของจวนตระกูลชวี

ลมหนาวพัดมาเป็ นระยะ ในคา่ คืนที่ หนาวเหน็ บ ปานนี้


แม้แต่ ขอทานก็ไม่เห็นแม้เงา ทว่ามุมถนนแห่ งหนึ่ งกลับมีคน
สองคนหอบถุงผ้าอย่างรีบเร่ง ยา่ เท้าไปข้างหน้ าโดยไม่หยุดพัก

แต่ละคนต่างคิดว่าเวลาช่างผ่านไปเชื่องช้าและยาวนาน
ในคราเดียวกัน ตอนนี้ สถานที่อาบน้าสาธารณะเปิดแล้ว ได้ยิน
เสี ย งชายหนุ่ มแว่ ว มา หญิ ง ทัง้ คู่พ ลัน รู้สึ ก หนาวยะเยื อ กทัว่
สรรพางค์ ก าย ถานหวัน่ ชิ งกับ ลุ่ ย จู รี บ เร่ ง ฝี เท้ า มากยิ่ ง ขึ้ น

8
จนกระทังพวกนางเร
่ ิ่ มได้ยินเสียงกีบเท้าม้าดังมาแต่ไกล

หญิงสาวทัง้ สองเดินจวนใกล้จะถึงแล้ว อาศัยแสงไฟดวง


เล็กข้างถนนทาให้เห็นขบวนเกวียนที่ยาวมากอยู่เบือ้ งหน้ า แต่
ละเกวียนมีเพิง ลักษณะเป็ นกองเกวียนขนาดใหญ่ที่เชี่ ยวชาญ
การขนส่งสินค้า เพราะผ้าไม่เหมือนสินค้าอื่น ระหว่างทางหาก
เปี ยกชื้นก็จะขายไม่ได้ราคา บนเกวียนจึงมีเพิงไม่ต้องกลัวหิมะ

คนบัง คับ ม้ า ที่ อ ยู่ด้ า นหน้ า เห็น หญิ ง สองคนยื น อยู่บ น


ถนนก็เกิดความสงสัยว่าดึกดื่นค่อนคืนยามสายลมหนาวแทง
ลึ กถึ งกระดูกมายืน ทาอะไรกัน จนกระทัง่ เกวี ย นเล่ มสุดท้ าย
ผ่านมาก็มีคนกวักมือเรียกพวกนาง

“เร็วๆ เข้า ไอ้ หยา! วันนี้ อากาศหนาวนั ก ข้ าคิดว่ าแม่


นางสองคนมาไม่ ไ ด้ เ สี ย แล้ ว ที่ ไ หนได้ . ..ในเมื่ อ มาแล้ ว ก็รี บ
ขึ้นมาเถิด เกวียนผ้าฝ้ ายเล่มสุดท้ายข้าตัง้ ใจบรรจุแค่แปดส่วน
แม่นางแค่ดนั ม้วนผ้าออกมาเล็กน้ อย ลาบากกันหน่ อยนะ เข้า
ไปนั ง่ ยองๆ รอจนออกจากประตู เ มื อ งแล้ ว หากเจอสถานที่
เหมาะสม ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าลงอย่างเงียบๆ ตามที่ สญ ั ญา
กันไว้ ข้าสงสารพวกเจ้าก็เลยตอบตกลงไป ทว่าเรือ่ งนี้ ให้คนอื่น
รูไ้ ม่ได้ พวกเจ้าก็อย่าปากโป้ งเลยเชียว”

9
ถานหวันช ่ ิ ง กับ ลุ่ ย จูไ ด้ ยิ น ดัง นั น้ ก็ม องตากัน แวบหนึ่ ง
ก่อนพยักหน้ ารับคาด้วยความยินดี ในเมื่อคนผู้นี้แอบพาพวก
นางออกนอกเมืองได้ ต้องเป็ นคนที่ ค้นุ เคยเป็ นอย่างดีกบั ทหาร
ของแม่ทพั หัวเมืองแน่ เป็ นโอกาสที่ พวกนางยากจะคิดฝั นมา
ก่อน

ผู้คุมคนนั น้ เดินไปที่ ท้ายเกวี ยนแล้วเลื่อนม้วนผ้า ออก


เผยให้ เ ห็ น ช่ อ งว่ า งเล็ก ๆ ถานหวัน่ ชิ งกับ ลุ่ ย จู ถึ ง กับ ชะงัก
เล็กน้ อยแต่ กไ็ ม่ลงั เลที่ จะก้มหัวแล้วมุดเข้าไป เมื่อทัง้ คู่เข้าไป
เรียบร้อย ผูค้ มุ ก็เลื่อนม้วนผ้ากลับดังเดิม ปัดฝุ่ นบนมือแล้วเดิน
ั ่ กหนุ่มด้วยน้าเสียง
อ้อมเกวียนไปนัง่ ประจาที่ พอนัง่ ลงได้กส็ งเด็
ติดจะราคาญ

“รีบไป อย่ามัวแต่โอ้เอ้ ฟ้ าใกล้สว่างแล้ว!”

ความหนาวเหน็ บในคา่ คืนนี้ ทิ่มแทงเข้ากระดูก กลุ่มคน


กาลังลากเกวียนผ้าไปตามถนนอย่างยิ่งใหญ่ มุ่งสู่ประตูทางทิศ
ตะวัน ตก ลมพายุพ ดั กระหน่ า ใส่ เ พิ ง เกวี ย น คนบัง คับ ม้ า เร่ ง
ความเร็วขึน้ ไปอีก เกวียนหลายเล่ม

ก็เริ่มวิ่งเร็วขึ้นท่ามกลางความหนาวเหน็ บ ถานหวันช
่ ิง
ซึ่ งหลบซ่ อนอยู่ในเพิงถึงกับร้องโอดโอยเบาๆ เพราะเจ็บจาก
10
แรงกระแทก กระดูกนางประหนึ่ ง ทาจากแก้ ว จึงรู้สึกทรมาน
มาก อีกทัง้ รูส้ ึกหนาวยะเยือกปานเอามีดแหลมคมมาทิ่มแทง

ลุ่ยจูที่อยู่ใกล้ๆ ได้ ยินก็กอดเข่าคุณหนู ไว้ แน่ น ฟั นบน


ล่างของคุณหนู กระทบกันกึกกึกดูน่าสงสารเหลือเกิน ตัวนาง
เองก็น่าสงสารเช่นกัน

ลมพายุ พ ัด ลอดเข้ า มาด้ า นใน แม้ แ ต่ มื อ และเท้ า ก็ไ ร้


ความรู้สึกแล้ว สถานการณ์ นี้คุณหนูต้องทนหนาวยิ่งกว่านาง
เสียอีก

ลุ่ยจูรีบเอาเสื้อกันหนาวในห่ อผ้าออกมา คลุมไว้บนขา


ของถานหวันช ่ ิ ง แต่ กเ็ ท่ านั น้ ...มันไม่ได้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น
แม้แต่น้อย

่ ิ ง พ่ น ลมหายใจทางจมู ก เป็ นไอหมอกสี ข าว


ถานหวันช
ร่างกายสันเทาเพราะความหนาว
่ ในใจกลับสบายใจไปเปลาะ
หนึ่ งเพราะดูเหมือนว่าขบวนเกวียนได้ออกจากเมืองมาอย่าง
ราบรื่นแล้ว ถึงกระนัน้ ในใจก็ยงั กระสับกระสาย นางอดทนต่อ
ความหนาวเหน็ บ ยกมุมผ้าคลุมออกเล็กน้ อยเพื่อทอดสายตา
มองไปยังด้านนอก

11
ท้องฟ้ ายังมืดสลัวอยู่เช่นเคย แต่สามารถมองเห็นกาแพง
กับบ้านคนที่ อยู่รอบๆ ได้ถนั ดตา รวมทัง้ ที่ รกร้างซึ่ งยังไม่ ได้
ถางพงนัน่ ด้วย

่ ิ งกระซิบข้างหู
“ลุ่ยจู เราออกจากเมืองแล้ว” ถานหวันช
ลุ่ยจู

เด็กสาวได้ยินดวงตาก็ เป็ นประกายด้วยความตื่นเต้นดี


ใจ บ่งบอกถึงอารมณ์ ตอนนี้ ว่าโล่งอกมากเพียงใด ลุ่ยจูลูบอก
ตนเองในความมืดสลัว จากนัน้ ก็ใช้สองมือจับมือคุณหนู แน่ น
แล้วถูไปมาเพื่อให้ความอบอุ่นแม้แค่เพียงเล็กน้ อยก็ยงั ดี

่ ิ งนัง่ ชิดติดกับลุ่ยจู อาศัยไออุ่นของกันและกัน


ถานหวันช
ยืนหยัดต่อไป

เมื่อออกจากเมืองมาแล้ว ขบวนเกวียนมุ่งทะยานสู่นอก
เมือง

ผู้คุมกับเด็กหนุ่ มที่ บงั คับม้านั ง่ อยู่ด้านหน้ าเกวี ยนที่ รงั ้


ท้ ายขบวน การออกเดินทางไปต่ างถิ่นในช่ วงที่ อากาศหนาว
เช่ น นี้ ดูเ หมื อ นเด็ก หนุ่ มจะมี ป ระสบการณ์ ใ นการรับ มื อ กับ
ความหนาวเป็ นอย่างดี

12
เพราะเขาถือไหสุราหูใหญ่ราคาถูกติดตัวมาด้วย ระหว่าง
ทางก็พดู คุยกันไปจิบสุราแก้หนาวกันไปกับผู้คมุ ข้างในเกวียน
ถานหวันช่ ิ งยังคงถูกลุ่ยจูถฝู ่ ามือ

่ ยินเสียงพูดคุยจากคนทัง้ สองที่ อยู่ด้านหน้ าดัง


กระทังได้
ไม่หยุดหย่อน จึงตัง้ ใจเงี่ยหูฟัง

“เฮอะ! ข้าคิดว่ารับงานนี้ แล้วจะดีเสี ยอี ก” ผู้คุมบ่นด้วย


น้่ าเสี ยงอัดอัน้ ตันใจ “หากรู้ว่าอากาศจะเลวร้ายขนาดนี้ สู้อยู่
บ้านกับลูกเมียยังสบายอกสบายใจเสียกว่า!”

เด็กหนุ่ มขับ เกวี ยนพูด ประจบว่ า “ถึ งพายุหิมะจะหนั ก


หน่ อย แต่ เที่ ยวนี้ นายท่านให้รางวัลผู้คมุ แปดตาลึง เก็บเงินได้
มากกว่าพวกขุนนางเล็กๆ เสียอีกนะขอรับ”

ไม่รผู้ คู้ มุ ตอบว่าอะไร ได้ยินเพียงเสียงเด็กหนุ่มเลี้ยงม้าที่


ดังขึ้นแข่งกับสายลมแรง “ข้าไม่ปิดบังผู้คมุ นะขอรับ นี่ เป็ นครัง้
แรกที่ ข้าทางานข้างนอก แล้วต้ องขับเกวี ยนอย่างอกสันขวั ่ ญ
แขวนอยู่ตลอด ถึงจะมีท่านนั ง่ มาด้วย แต่ ข้าเคยได้ยินว่าข้าง
นอกไม่ ส งบนั ก หลายแห่ ง ถูก โจรต๋ า ลอบจู่ โ จม ไม่ รู้ว่ า ทาง
ข้างหน้ า จะต้ องเจอะเจออะไร หนั ง ตาขวาข้ ากระตุก ไม่ ห ยุ ด
เลย รูส้ ึกโหวงเหวงในอกชอบกล”
13
“จะกลัวอะไร? ผู้คุ้มกันที่ อยู่ข้างหน้ าพวกนัน้ ไม่มีความ
สามารถเลยรึ ? ดู เ จ้ า สิ ช่ า งขี้ ข ลาดนั ก ยั ง จะมี ห น้ าเลี้ ย ง
ครอบครัวได้หรือ” ผูค้ มุ เยาะเย้ย

“ไม่ใช่ข้าวิตกเกินไป แต่เพราะพวกเราออกมานอกเมือง
แล้ว หนาซา้ หนทางก็ยงั อีกยาวไกล...”

“เจ้าวางใจเถอะ ห้ามพูดเรือ่ งไม่ดีในสถานที่แบบนี้ รอบๆ


เมืองเว่ยอันสามสิบลี้ไม่มีโจรผู้ร้ายหรอก ถูกลูกน้ องใต้เท้าเซี่ ย
กวาดล้างจนเกลี้ยงแล้ว ใครหน้ าไหนจะกล้ามาที่นี่อีก ถนนเส้น
นี้ ข้าเที ยวไปเที ยวมาไปท่ าข้ามฟากมาหกเจ็ดเที่ ยวแล้ว เรื่อง
นิดเดียวก็ยงั ไม่มี เจ้าสบายใจเถอะ ข้ารับรองว่าไม่เกิดเรือ่ งแน่ ”

พายุล มแรงรวมกับ เสี ย งล้ อที่ วิ่ ง ไปบนถนน ทาให้ ถ าน


่ ิ งได้ยินบทสนทนาเพียงบางครัง้ ถึงไม่ปะติดปะต่ อ แต่ ก็
หวันช
พอเข้าใจได้ไม่ยาก

สินค้าเที่ยวนี้ มีผา้ ห้าเกวียนโดยมีผคู้ ้มุ กันติดตามมาด้วย


ถึงแม้เส้นทางไปท่าข้ามฟากจะค่อนข้างรกร้าง แต่รงั โจรแถวนี้
ถูกใต้เท้าเซี่ยนาทัพมาปราบปรามแล้ว ผู้คมุ คนนี้ เทียวไปเทียว
มาเป็ นปี ไม่เคยมีปัญหาอะไร

14
สรุปได้ว่ามากับเกวียนรอบนี้ รับประกันความปลอดภัย
ได้ ไม่น่าจะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ขอแค่ส่งนางให้ ถึงท่ าเรือ
ข้ามฟากก็พอ

่ ิ งแอบชั ่ งใจเงี ยบๆ ตอนนี้ ประมาณยามอิ๋น


ถานหวันช
[ 2 ] น่ าจะถึงท่ าข้ามฟากประมาณกลางยามเฉิน[ 3 ] ช่ วงหลัง
มานี้ พวกนางไม่ได้ไปขายของที่ ตลาด ดังนัน้ นางกับลุ่ยจูจะไม่
ค่อยตื่นกันแต่เช้า

โดยเฉพาะช่วงนี้ ที่หนาวมาก นางจึงค่อนข้างจะตื่ นสาย


กว่าทหารที่ ใต้เท้าเซี่ ยส่งมาเฝ้ าพวกนางจะรู้ถึงความผิดปกติก็
คงต้นยามเฉิน หากพวกเขาขี่ม้าไล่ตามมาจากเมืองเว่ยอัน เร็ว
สุดก็ใช้ เวลาถึงหนึ่ งชัวยาม
่ ถึงตอนนั น้ นางกับลุ่ยจูกค็ งลงเรือ
ปะปนไปกับผู้คนเรียบร้อยแล้ว เปรียบเสมือนน้ า หยดลงทะเล
ร่องรอยค่อยๆ หายไป ยากที่จะตามจับ

่ ิ งก็ถอนหายใจโล่งอก ใน
เพียงนึ กถึงเวลานัน้ ถานหวันช
ที่ สุดก็เบาใจลงได้ นางบอกตัวเองเงียบๆ ให้ อดทนรออี กแค่
สองชัวยามเท่
่ านัน้

หลังจากไปที่ แห่ งใหม่แล้ว นางจะต้ องเพิ่มความระมัด


ระวังรอบคอบให้มากขึ้น ต่อไปจะต้องรู้อะไรควรทาไม่ควรทา
15
เพราะว่าครัง้ ต่อไป พวกนางอาจไม่มีโอกาสดีอย่างนี้ อีกแล้ว

[ 1 ] ยามจื่อ ช่วงเวลา 23.00 - 00.59 น.

[ 2 ] ยามอิ๋น ช่วงเวลา 03.00 - 04.59 น.

[ 3 ] ยามเฉิน ช่วงเวลา 07.00 - 08.59 น.

16
26 โจรต๋า

เวลาผ่านไป พายุหิมะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึน้ เรือ่ ยๆ

หลังจากออกจากเมืองก็เข้าสู่ เส้ นทางบนภูเขา ตอนนี้


ท้องฟ้ าเริ่มสว่างแล้ว บนท้องถนนไม่ได้มีแค่ขบวนเกวียนที่สอง
นายบ่าวซ่อนตัวอยู่ แต่มีพ่อค้าต่างถิ่น และประชาชนที่เดินทาง
ไปท่าเรือข้ามฟากเช่นเดียวกัน

ถานหวันช่ ิ งเป็ นกังวลไม่น้อย สภาพอากาศแบบนี้ ไม่ร้วู ่า


ที่ ท่ าเรือข้ ามฟากจะมี เ รือออกหรือไม่ แต่ เ ห็น ว่ าผู้คุมกับเด็ก
หนุ่มที่ ขบั เกวียนไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ อาจเป็ นไปได้ว่ามีเรือออก
อยู่แล้ว

ในเกวี ย นมี ก องผ้า จ านวนมากเหลื อ เพี ย งช่ อ งว่ า งคับ


แคบแค่ พ อให้ ค นขดขางอเท้ า เท่ า นั ้น แต่ แ สร้ ง ท าเหมื อ นว่ า
บรรจุผา้ มาเต็มคันรถ พวกนางสองคนนัง่ เบียดกันเหมือนอยู่ใน
โพรงหนู ทัง้ ลาบากและทรมานที่สุด ถึงกระนัน้ ก็ไม่กล้าส่งเสียง
ได้แต่กดั ฟันอดทนนัง่ ขดตัวกันต่อไป

ไม่ร้วู ่านานเท่าไรแล้ว คล้ายกับว่าหนทางบนภูเขาจะไม่


ค่อยดีนัก ล้อรถสะดุดทาให้เกวียนโคลงเคลงไปมา ถานหวันช ่ ิง
ที่ พ ลิ ก ตัว ไม่ ไ ด้ ร าวกับ ถูก จับ ใส่ ไ ว้ ใ นกล่ อ งแล้ ว มี ค นจับ เขย่ า
1
หญิงสาวได้แต่ อดทนสกัดกัน้ เสี ยงร้อง ใช้มือจับราวไม้ ไผ่ที่อยู่
ด้านหลังเอาไว้เพื่อช่วยทรงตัว

จนกระทั ่ งผ่านเส้นทางบนภูเขาเข้าสู่ เส้นทางราบเรียบ


จึงรูส้ ึกดีขนึ้ บ้าง

่ ิง
“ใกล้จะถึงท่ าเรือข้ามฟากแล้วหรือยังนะ” ถานหวันช
กาลังคานวณเวลา ค่อยๆ ขยับตัวไปเปิดผ้า

ออกเล็กน้ อย แสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามา ตอนนี้


น่ าจะราวๆ ยามเหมา[ 1 ] กระมัง

“คุณหนู บนถนนมีคนมากขึ้นนะเจ้าคะ ดูเหมือนจะเป็ น


เกวี ยนขนเสบียงอาหาร แต่ ไม่รู้ว่าสินค้ าของใคร ดูเร่งรี บไป
ท่าเรือข้ามฟากเหมือนกัน” สองคนกระซิบกันเสี ยงเบา เพราะ
มองสถานการณ์ ภายนอกได้ไม่ชดั เจน จึงต้ องอาศัยเงี่ยหูฟังผู้
คุมกับเด็กหนุ่มสนทนากัน

พวกเขาพูดกันว่าดูจากความแรงลมแล้ว เรือน่ าจะออก


จากท่าได้ ไม่มีอะไรน่ าเป็ นห่วง พอถานหวันช ่ ิ งได้ยินก็คิดว่าถึง
ตอนนี้ คนที่ เฝ้ าพวกนางอยู่คงรู้ว่าคนในบ้านได้หนี ไปแล้ว แต่
กว่าเรื่องจะถึงหูเซี่ยเฉิงจู่กย็ ากที่จะตามจับนางได้ทนั ทาให้เบา
ใจลงทันที
2
พอความตึ งเครียดลดลงนางก็เริ่มหิว เพราะเมื่อคืนได้
กินหมี่ไปแค่สองคา ลุ่ยจูรีบเปิดห่อผ้าหยิบผ้าเช็ดหน้ าที่ห่อขนม
เข่งและแป้ งทอดกรอบออกมาให้เจ้านายเป็ นอาหารมือ้ เช้า

“คุ ณ หนู กิ นหน่ อยนะเจ้ า คะ รองท้ อ งไปก่ อ น ถ้ า


ไม่อย่างนัน้ จะไม่มีแรงขึน้ เรือนะเจ้าคะ”

ความเหน็ ดเหนื่ อยเมื่อยล้าของถานหวันช ่ ิ งแสดงให้เห็น


บนใบหน้ าอย่างเห็นได้ชดั นางรูว้ ่าลุ่ยจูดอู อกจึงพยักหน้ ารับ ถึง
ขนมเข่งจะถูกเก็บไว้นานจนแข็ง แต่ยามที่ ท้องหิวโหยก็ไม่อาจ
เลือกกินได้ นางไม่สนใจว่ามือจะสกปรก ยื่นไปหยิบมาชิ้นหนึ่ ง
แล้วใส่ เข้ าไปในปาก ต้ องใช้ แรงกัดถึงสามครัง้ จึงจะเคี้ ย วได้
เพราะอากาศที่ เ ย็น ยะเยื อ ก มัน จึ ง แข็ง ขนาดนี้ ถานหวันช ่ ิง
กินได้ แค่ สองคาก็พอ นางเข้าใจแจ่มแจ้ง ในสมัยโบราณที่ ไม่
สามารถซ่อมเสริมแต่งฟันได้ ฟันทัง้ ปากต้องอยู่กบั เราไปตลอด
ชีวิต ไม่อาจปล่อยให้มนั เสียหาย ดังนัน้ นางจึงต้องใส่ใจตัวเอง

ลุ่ยจูเข้าใจและรู้ใจคุณหนูอย่างดี จึงรีบส่งแป้ งทอดกรอบ


ให้ ขนมนี้ นางเลียนแบบพ่อครัวของจวนตระกูลถาน ทาขนม
แป้ งกรอบออกมาขนาดเท่าฝ่ ามือ ถึงรสชาติจะไม่เท่ าไร อย่าง
น้ อยก็ย งั พอจะบิ เ ข้ า ปากได้ ถึง จะแข็ง อยู่บ้างแต่ พ ออมไว้ ใ น
ปากก็จะนิ่มลง ดังนัน้ สองสาวจึงนัง่ กินกันเงียบๆ ขนมแป้ งทอด

3
พอจะปลอบขวัญท้ องที่ หิวโหยได้บ้าง ทาให้ มีเรี่ยวแรงขึ้นมา
หน่ อย

พอกิ น เสร็จ พวกนางก็ห่ อ ขนมที่ เ หลื อ ด้ ว ยผ้า เช็ด หน้ า


แล้วเก็บอย่างเรียบร้อย ถานหวันช่ ิ งคิดจะยื่นมือไปเปิดมุมผ้า
ออกดูว่าตอนนี้ เดินทางถึงไหนแล้ว

ทว่ า จู่ๆ ก็ไ ด้ ยิ น ม้ า ร้อ งดัง แว่ ว มา ตามด้ ว ยเสี ย งฝี เท้ า
กึกก้องที่ดงั กระชัน้ เข้ามาเรือ่ ยๆ ทาให้ใจถานหวันช ่ ิ งที่สงบแล้ว
่ ิ กขึน้ มาอีก ความรูส้ ึกสังหรณ์ใจไม่ดีเริ่มล้นทะลัก
พลันสันระร

ทันใดนั น้ นางก็ได้ยินเสี ยงเหมือนของตกดังมาจากทาง


หัว เกวี ย น เสี ย งผู้คุม ร้ อ งตะโกนลันด้
่ ว ยความตกใจก่ อ นพูด
เสี ย งอึ ก อัก “ปะ...เป็ นพวก...สวรรค์! ท าไมจึ ง มี พ วกต๋ า มาก
ขนาดนี้ พวกมันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แย่แล้ว! พวกมันมาปล้น
เกวียนเสบียงอาหารข้างหน้ านี่ นา เร็ว! หันเกวียนกลับเดี๋ยวนี้ !”

เด็กหนุ่มเคยเห็นสภาพการณ์ แบบนี้ ที่ไหน เขาตกใจจน


่ กผู้คมุ ตะโกนใส่จึงคืนสติกลับมา เขา
แส้ในมือหล่น จนกระทังถู
ฟาดแส้ใส่ม้าอย่างแรง สังให้
่ มนั หันหัวกลับ

พวกต๋ า นั บ สิ บ ขี่ ม้ า ไล่ ค นเหมื อ นต้ อ นวัว ต้ อ นแกะ บน


ถนนเต็มไปด้วยเสี ยงผู้คนกรีดร้อง พากันวิ่งหนี จนเหตุการณ์
4
ชุลมุน มีผ้เู ฒ่าและเด็กในครอบครัวหนึ่ งหวาดกลัวมือเท้าอ่อน
แรงล้มลงกับพืน้ กลับถูกกีบเท้าม้าเหยียบยา่

ประชาชนเหล่านี้ เคยเจอเรื่องนองเลือดเสี ยที่ ไหน พอ


เห็ น โจรขี่ ม้ า พุ่ ง มาทางตนเอง แววตาก็ ฉ ายชั ด ถึ ง ความ
หวาดกลัวสุดขีด ต่างกรีดร้องวิ่งหนี กระจัดกระจายไปทุกทิศทุก
ทาง

แต่ เท้ าคนวิ่งหรือจะไวเท่ าฝี เท้ าม้า ผู้คนจึงถูกตี โอบได้


ง่าย คนที่ดแู ลเกวียนเสบียงอาหารหนี ไม่ทนั ได้ยินเสียงพวกต๋า
หัวเราะดังกระหึ่มก่อนใช้ดาบฟันลงมา

หญิงสาววัยเยาว์ถกู พวกต๋าขี่ม้าเข้าโอบล้อม พูดจาจาบ


จ้วงด้วยถ้อยคาหยาบคาย

ถานหวันช ่ ิ ง เห็น ฉากเหล่ า นั น้ แล้ ว มื อ ที่ จ บั มุ ม ผ้า ก็ส นั ่


เทิ้ม มิใช่บอกว่าโจรร้ายแถวนี้ ถกู ปราบปรามจนหมดแล้วหรือ?
ทาไมถึงมีพวกต๋าอยู่แถวนี้ ได้! ในประวัติศาสตร์ มีชนกลุ่มน้ อย
ที่ เรียกว่าต๋าจื่อ อาศัยอยู่ในเขตใต้ อีกทัง้ เป็ นปรปักษ์กบั แคว้น
อี้

ชนกลุ่ ม น้ อยเผ่ า ต๋ า ไม่ ใ ช่ โ จรผู้ร้ า ยธรรมดา พวกเขา


สันทัด ในการขี่ ม้า ยิ งธนู และฟั น ดาบ คนเหล่ านี้ มีพละกาลัง
5
มาก ชอบต่ อสู้รบราฆ่ าฟั น ไม่ว่าจะถอยหรือเดินหน้ าก็ว่องไว
ปราดเปรียวไปมาดุจสายลม เป็ นโจรร้ายที่ยากจะจัดการ

ท้องฟ้ าเบือ้ งบนยังคงมีหิมะโปรยปรายลงมา ปุยหิมะฟุ้ง


กระจายไปทัว่ ทว่าฉากบนพื้นดินกลับน่ าเศร้าสลดอย่างยิ่งจน
ทนมองแทบไม่ไหว ถึงถานหวันช ่ ิ งจะดูเรียบนิ่ง แต่ใบหน้ ากลับ
ซี ดเซี ยว นางนึ กไม่ถึงมาก่อนว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์ เช่นนี้
ด้วยตนเอง ซา้ ยังอยู่ใกล้กบั ท่าเรือข้ามฟากอีกด้วย

คนด้ านนอกที่ ถกู จับได้ต่างส่ งเสี ยงกรีดร้องอย่ างหมด


หวัง ทาให้จิตใจของนางถูกความหฤโหดตรึงไว้แน่ น ไม่มีคนมา
ช่วยพวกเขา ทุกคนถูกล้อมเหมือนเป็ นไก่แพะวัวอย่างไรอย่าง
นัน้ เรียวแส้หวดไล่ใส่กลางฝูงชน

แม้เกวียนของตระกูลชวีจะหันหัวกลับไปแล้ว แต่ เพราะ


มันเป็ นเกวี ยนสินค้าจะเคลื่อนที่ ได้เร็วเหมือนขี่ ม้าได้ อย่ างไร
ในที่ สุดพวกต๋าก็ตามมาทันอยู่ดี บางคนกระโดดลงจากเกวียน
เพื่อหนี ตาย บางคนตกใจแทบบ้า ผูท้ ี่ค้มุ กันสินค้าพยายามต่อสู้
อย่างเต็มที่แต่กแ็ พ้พ่าย ไม่นานก็ถกู ฆ่าโดยที่ตวั กับหัวแยกออก
จากกัน

ชายสองคนที่ นัง่ หน้ าเกวี ยนที่ ส องนายบ่าวซ่ อนตัว อยู่


ตกใจร้ อ งเสี ย งดัง ลัน่ พยายามเร่ง ม้ า ให้ วิ่ ง เร็ว ขึ้น ไปอี ก เด็ก
6
หนุ่มปลดแอกออกจากเกวียนเพื่อให้ง่ายต่ อการหนี แต่ถกู โจร
ด้านหลังไล่ตามแล้วยิงธนูเข้าใส่ ลูกศรแทงทะลุหวั ไม่มีโอกาส
ได้รอ้ งแม้แต่ครึง่ คาก็รว่ งลงพืน้ เหมือนของไร้ค่า

ผู้คุมที่ นัง่ อยู่ข้างๆ เห็นฉากนี้ ก็เบิกตาโพลงด้ วยความ


ตกใจสุดขีด กลิ้งตกลงพื้นอย่างรวดเร็วตามมาอี กคนโดยไม่รู้
ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายไปแล้ว

เมื่อโจรผู้นัน้ ขี่ ม้ากลับมาทางเกวี ยนที่ สองสาวซ่ อนอยู่


ถานหวันช่ ิ งก็รีบปิดผ้าลงด้วยมือที่สนเทา
ั่ นางหายใจหอบถี่ หัว
ใจเต้ น ระรัว ด้ ว ยความหวาดกลัว ทว่ า พยายามสงบนิ่ งไม่
เคลื่อนไหวให้เกิดพิรธุ จนอีกฝ่ ายจับได้

หญิงสาวได้ยินเสียงฝี เท้าม้าหลายตัวที่ด้านนอกกาลังไล่
ตามเกวียนที่ แตกกระเจิง ทว่าพวกนางกลับหนี ไม่ได้ ให้อยู่บน
เกวียนก็มีแต่ตาย แต่ถ้ากระโดดลงจากเกวียนก็ยงั เป็ นทางตัน
ที่ไร้ทางออก

“ลุ่ยจู?” นางหันไปมองเด็กสาวข้างๆ ก็เห็นเพี ยงแผ่น


หลัง ลุ่ยจูกาลังเปิดมุมผ้า แอบมองพวกต๋ าควบม้าไล่ฆ่าผู้คน
โดยไม่มีละเว้น เลือดสาดกระเซ็นไปทัวทุ ่ กหนแห่ ง บางคนก็
กาลังไล่ตามจับผู้หญิง ช่วงเวลานัน้ ลุ่ยจูตกใจจนหวาดผวาดัง่
ร่างไร้วิญญาณ จวนเจียนจะอ้าปากกรีดร้อง แต่ก่อนที่ จะได้ทา
7
เช่ น นั ้น ถานหวัน่ ชิ งก็เ อื้ อ มมื อ มาปิ ดปากเด็ก สาวไว้ อ ย่ า ง
รวดเร็ว

ลุ่ยจูเบิกตาโพลงมองคุณหนู เห็นเพียงเสี้ยวหน้ าจริงจัง


หนั กแน่ นที่ กาลังมองออกไปด้ านนอก ริมฝี ปากบางสันระร ่ ิก
ด้ วยความหวาดหวัน่ คุณหนู ก็กลัว มากเช่ นกัน ถึงจะอุดปาก
ั ่ ิ้ ม ลุ่ยจูร้ดู ีว่านี่ ไม่ใช่อาการสันเพราะ
นางไว้แต่มืออีกฝ่ ายก็สนเท ่
ความหนาวเหน็บ

ถานหวันช ่ ิ งหวาดกลัวสุดขีดจนสมองขาวโพลน บนโลก


ใบนี้ สิ่ ง ที่ น่ ากลัวที่ สุด ไม่ใช่ ค วามตาย แต่ คื อความหวาดกลัว
ก่ อ นตาย ไม่ เ คยมี ส ัก เสี้ ย วขณะที่ จ ะรู้สึ ก ถึ ง อัน ตรายเข้ า มา
ประชิดถึงเพียงนี้ หากจะนับตอนต้องโทษทัง้ ตระกูลก็ยงั ไม่เคย
รูส้ ึกแบบนี้ เลย

หญิงสาวพยายามกวาดสายตามองสภาพการณ์ ภายนอก
อย่างรวดเร็ว มือเท้ าสาละวนกับการดึงลากผ้าที่ พบั อยู่มาอุด
ช่ องที่ ท้ายรถ นางใช้ แรงดึ งลุ่ยจูพากันคลานเข้าไปซุกแทนที่
กองผ้า ร่างกายโค้งงอจนน่ าจะปวดแปลบ แต่ กลับไม่ร้สู ึ กเจ็บ
เพราะความหวาดกลัวทาให้ลืมสิ้นความเจ็บปวด

พวกต๋าดึงเชือกบังเหียนม้าให้หยุด ร้องตะโกนกับ พรรค


่ ิ งฟังไม่เข้าใจ
พวกด้วยภาษาที่ถานหวันช
8
ต่อมาเกวียนม้าก็ถกู ลากให้หนั หัว และอีกหลายคันก็ถกู
ลากตามไล่หลังมา โดยมีพวกต๋านับสิบควบม้าห้อมล้อมขบวน
เกวียนไปตลอดทาง พวกมันส่ งเสี ยงโห่ ร้องอย่างภาคภูมิใจ มี
คนหนึ่ ง กระโดดลงจากม้ า เปิ ดผ้ า คลุ ม เพิ ง เกวี ย นออกด้ ว ย
ท่าทางปี ติยินดี ยิ่งเห็นผ้าแพรต่วนเป็ นตับบรรจุอยู่ภายในก็ยิ่ง
ร้ องตะโกน หัวเราะลันทั ่ นที

ต่ อมาพวกต๋าหลายสิบคนก็ช่วยกันเปิดผ้าคลุมเกวี ยน
ออกที ละเล่ม ดูเหมือนว่าสองเกวียนแรกจะเป็ นเกวียนผ้าแพร
ต่วน อีกสามทางด้านหลังเป็ นผ้าฝ้ ายราคาแพง เมื่อถานหวันช ่ ิง
ได้ยินเสียงคนเดินมาทางเกวียนที่พวกนางซ่อนตัวอยู่ หญิงสาว
ยิ่งก้มศี รษะลงต่าทันที หัวใจแทบหยุดเต้ น กระทังพวกต๋
่ าคน
หนึ่ งเลิกผ้าออก เห็นกองผ้าฝ้ ายสีเหลืองตุ่นเนื้ อหยาบจึงปิดผ้า
คลุมลงดังเดิมอย่างไม่สนใจ

ความมื ด กลับ มาเยื อ นอี ก ครัง้ เมื่ อ ผ้ า คลุ ม ปิ ดลง ถาน


่ ิ งคลานออกมาจากกองผ้าหลังจากที่ กลัน้ หายใจอยู่เป็ น
หวันช
นาน นางรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเพิ่งตายแล้วฟื้ น เหงื่อไหลซึมทัว่
ร่าง

กลุ่มคนที่ต่อต้านล้วนโดนฆ่าตาย ถูกจับไปเป็ นเชลยก็มี


หลัง จากปล้ น ฆ่ าแล้ ว พวกต๋ าได้ เชลยชายหญิง สิบ กว่ าคนได้

9
แล้วยังได้ผา้ พับกับเสบียงอาหารอีกหลายเกวียน เรียกว่าได้ทุก
่ างภาคภูมิใจ
อย่างครบครัน ระหว่างทางก็พดู คุยเสียงดังลันอย่
ร้องตะโกนด้วยความยินดีที่ยึดอาวุธจากเชลยมาได้เป็ นจานวน
มาก

ถานหวันช่ ิ งกับลุ่ยจูหลบอยู่ในกองผ้า จะก้าวไปข้างหน้ า


หรือถอยหลังก็ไม่ได้ โชคดีที่ยงั ไม่ถกู ค้นเจอ แต่ไม่ว่าจะถูกเจอ
ตัวก่อนหรือหลัง พวกนางก็ถือว่าตกอยู่ในกามือพวกต๋า ขบวน
ปล้นเกวียนพาผู้คนไปไกลมากขึ้น ยิ่งเดินก็ยิ่งไม่เห็นบ้านที่ มี
ผูค้ นอาศัย เพราะมันเป็ นเส้นทางไปซ่องโจร

หญิ งสาวทั ้ง สองนั ่ง คุ ด คู้ อ ยู่ ใ นเกวี ย น เนื้ อตั ว สั น่


ตลอดเวลา ทุกครัง้ ที่ได้ยินเสียงพูดคุยในระยะประชิด พวกนาง
ยิ่งหวาดกลัวจนไม่กล้ากระดุกกระดิก ประหนึ่ งว่าเป็ นหนูเล็กๆ
สองตัวที่ถกู อุดอยู่ในโพรง น่ าสังเวชใจเป็ นที่สดุ ...

หลายวันมานี้ ในค่ายทหาร มีอาหารประเภทเนื้ อเพียงพอ

พลทหารสามสี่นายเดินออกจากโรงครัวยังเช็ดปากพลาง
ลูบพุง ในที่สุดก็ได้กินกระดูกซี่โครงคนละสองชิ้น แต่ละนายอิ่ม
หนาสาราญกันเต็มที่ เพราะครึ่งปี มาแล้วที่ แทบไม่ได้เจอเนื้ อ
เลย วันก่อนตื่นเต้นดีใจที่ ได้กินซาลาเปาไส้เนื้ อหนึ่ งมือ้ ข้างใน
มีเนื้ อมากผักน้ อย หอมกรุน่ อย่างยิ่ง! ถึงอกถึงใจที่สดุ !
10
ทว่ า หวัง จี้ ก ลับ มี สี ห น้ ากลัด กลุ้ ม หลัง จากตรวจสอบ
เสบียงอาหารในค่ายจึงพูดกับเซี่ ยเฉิงจู่ด้วยความอัดอัน้ ตันใจ
“หลายวันมานี้ เจ้าพวกนัน้ ได้กินอิ่มอย่างเอร็ดอร่อยกันเต็มที่
ข้ า วที่ แ จกจ่ า ยก็ท าให้ เ งิ น เดื อ นหายไปกว่ า ครึ่ ง ถ้ า หากไม่ มี
รายได้เข้ามาเลยละก็...ทุกคนจะได้ดื่มกินลมกันล่ะคราวนี้ ”

เมื่อเอ่ยจบก็เห็นสีหน้ าของเซี่ยเฉิงจู่ไม่ค่อยดีเช่นกัน รูว้ ่า


สองสามวันมานี้ ใต้ เท้ ากังวลยิ่งกว่าเขาเสี ยอี ก จึงไม่อยากจะ
ราดน้ามันใส่กองไฟ จาต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนาใหม่ “เมื่อวาน
ได้ยินว่าห่ างออกไปสามสิบลี้มีพวกต๋าปรากฏตัว ปล้นฆ่ าและ
จับตัวเชลยศึกไป ใต้ เท้าต้องการให้ทหารไปสืบเรื่องสักหน่ อย
ไหมขอรับ”

เซี่ ยเฉิงจู่ขมวดคิ้ว ปิดสมุดบัญชี เล่มบางในมือ “ปล้นที่


ไหน?”

“ตามรายงานก็แถวๆ ท่าเรือข้ามฟากขอรับ”

เซี่ ยเฉิงจู่ครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะวางสมุดบัญชี เล่มบางลง


“ส่งคนไปก่อน บอกให้สืบหาแหล่งกบดานโสโครกของพวกมัน
ด้วย ท่าเรือข้ามฟากเป็ นที่ ขนส่งลาเลียงสินค้าของสองเมือง ปี
หน้ าข้าจะสร้างป้ อมปราการแถวท่ าเรือข้ามฟากไกลโพ้นนั น่
แล้วส่งทหารใหม่ไปรักษาการณ์”
11
หวังจี้อยากจะบอกเหลือเกิน ‘ตอนนี้ แม้แต่เงินค่าอาหาร
ก็ยงั ไม่มีงบประมาณ เรื่องจะสร้างปราการนอกเมืองปี หน้ า...ที่
พูดมาไม่แคล้วว่างเปล่าหรอกหรือ?’ แต่ เขาไม่กล้าพูด ได้แต่
เอ่ ยว่ า “ครอบครัวของทหารนายหนึ่ งเกิดเรื่อง ถูกเผ่าต๋ าฆ่ า
แล้ ว จุด ไฟเผาทัง้ หมู่ บ้า น จับ เอาตัว พี่ ส าวของเขาไป ตอนนี้
ทหารนายนัน้ ขอบตาแดงกา่ ส่งเสี ยงเอะอะโวยวายอยู่ในค่าย
พรรคพวกสี่ ห้าคนช่ วยกันรัง้ ไว้กแ็ ทบฉุ ดไม่อยู่” เขาขบกราม
แน่ น พูดเสี ยงลอดไรฟั น “พวกต๋าสมควรตาย พวกเราจะยอม
ให้มนั กระทาเช่นนี้ ไม่ได้นะขอรับ พวกมันโจมตีตรงจุดอ่อนของ
เรา หากประชาชนตกอยู่ ใ นมื อ ของพวกมัน คงประสบแต่
หายนะ”

เขากั บ ใต้ เ ท้ า เคยส่ ง คนไปท่ า ลายรัง พวกต๋ า เห็ น


ประชาชนเว่ยอันถูกทรมานจานวนมาก พวกต๋ารวมตัวกันปล้น
เป็ นกลุ่ ม เล็ก ๆ ราวสิ บ ยี่ สิ บ คน พวกมัน จะไม่ เ ลี้ ย งเชลยไว้
แม้แต่กบั ผูห้ ญิงมันก็ทรมานด้วย

บางครัง้ ที่บกุ เข้าไปในรังพวกต๋า พวกเขาแทบไม่สามารถ


มองภาพอัน น่ าสลดได้ มี ค นเคี ย ดแค้ น อยากจะพุ่ง เข้ าไปแล่
เนื้ อพวกมันออกเป็ นชิ้นๆ ครอบครัวไหนเลยจะไม่มีภรรยาหรือ
ลูกสาว ใครไหนเล่าจะไม่มีพ่อแม่ และใครไหนกันจะอยากมอง
ญาติ สนิ ทมิ ต รสหายถูก ท าร้ า ยจนไม่ เ ป็ นผู้เ ป็ นคนต่ อ หน้ า
12
ต่อตา

เซี่ยเฉิงจู่รีบลุกขึน้ ยืน คิ้วขมวดแน่ น เอ่ยเสียงเข้ม “ทาไม


ไม่พูดให้ เร็วกว่านี้ ? รีบส่งกองทหารม้าไป ข้าจะเป็ นคนนาทัพ
เอง” เขานึ กบางอย่างขึ้นได้ จึงเอ่ยต่ อ “ทหารผู้นัน้ สังกัดค่าย
ไหน พาเขาไปด้วย เตรียมม้าแล้วออกเดินทางพร้อมกัน”

นี่ ยงั หารังมันไม่เจอเลยไม่ใช่ รึ? ถ้าหากหาเจอ ตนก็คง


นาคนพุ่งเข้าไปแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้ หรอก แต่นี่ใต้เท้าจะ
น่ าทัพด้วยตัวเอง หวังจีส้ ่ายหัวทันที

พี่สาวของพลทหารเกิดเรื่อง ทาไมใต้เท้าต้องยอมให้ร่วม
ออกหน้ า ด้ ว ย ถ้ า พรุ่ง นี้ ห ากมี สิ บ คนเกิ ด เรื่ อ ง แล้ ว ใต้ เ ท้ า จะ
จัดการอย่างไร?

แต่ นัน่ แหละ หากไม่ใช่ อุปนิสัยแบบนี้ ใครจะยอมตาย


เพื่อเขา

[ 1 ] ยามเหมา ช่วงเวลา 05.00 - 06.59 น.

13
27 จับได้แล้ว!

เซี่ยเฉิงจู่ก้าวยาวๆ ไปที่ประตู โดยมีหวังจี้ เดินตามหลัง

ทันใดนัน้ เองก็มีคนผูห้ นึ่ งปรากฏกายขึน้ ขวางหน้ าก่อนที่


ทัง้ สองจะก้ าวพ้นประตู จากนั น้ ผู้มาใหม่กร็ ี บคุกเข่า รายงาน
ด้วยน้าเสียงสันเทา

"ใต้เท้า แม่นางเซิ่นไม่อยู่แล้ว หายตัวไปทัง้ นางและสาว


ใช้เลยขอรับ ตอนยามเฉินข้าเห็นประตูยงั ปิดเงียบ ทัง้ ที่ปกติแม่
นางจะลุกขึ้นมาแล้ว แต่ วนั นี้ กลับไม่มีเสี ยงเคลื่ อนไหวดังมา
จากด้านใน ข้ารู้สึกเอะใจจึงปี นกาแพงเข้าไปดู พบว่าในบ้าน
ว่างเปล่าไม่มีใครเลยสักคน หลังกาแพงมีเชือกผ้ากับตังตั ่ วหนึ่ ง
เกรงว่าพวกนางน่ าจะปี นกาแพงหนี ไปตัง้ แต่ เมื่อคืนขอรับ ข้า
ไปสอบถามมาทุกประตูเมืองแล้ว จึงรู้ว่าแม่นางเซิ่นกับสาวใช้
นัง่ เกวียนขนลาเลียงผ้าพับของตระกูลชวีออกไปเมื่อยามโฉ่ ว
ผ่านทางประตูตะวันออก หากคานวณจากเวลาตอนนี้ พวกนาง
น่ าจะถึงท่าเรือข้ามฟากแล้ว เรื่องนี้ เป็ นความผิดของข้าเอง ข้า
ประมาทเลินเล่ออย่างใหญ่หลวง ขอใต้ เท้ าใต้ โปรดสังลงโทษ ่
ด้วยเถอะขอรับ"

1
หลังเซี่ ยเฉิงจู่ได้ยินก็เม้มริมฝี ปากแน่ น ใบหน้ าเคร่งขรึม
ขึ้นมาทันที ทว่ายังไม่ทนั ได้เอ่ยปาก ทางด้านนอกก็มีเสี ยงพลุ
สัญญาณแว่วมาแต่ ไกล เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นท่ าให้หลายคนตื่ น
ตระหนก เพราะมันคือพลุสญ ั ญาณบอกว่ามีศตั รูประชิดเมือง

จังหวะนัน้ เองตู้เหอก็รีบร้อนเข้ามาจากข้างนอก พอเห็น


ใต้เท้าเซี่ ยก็ทาความเคารพแล้วเอ่ยรายงาน “เรียนใต้เท้า ใกล้
กับท่ าเรือข้ามฟากมีพลุสญ ั ญาณดัง ขึ้นสามครัง้ ม้าเร็วส่ งสาร
มาว่าวันนี้ ตอนเช้ าพวกต๋ากลุ่มใหญ่ขี่ม้าลงมาจากเขาทางทิศ
ตะวันตกแล้วพุ่งตรงไปที่ ท่าเรือข้ามฟาก ปล้นพ่อค้าขนเสบียง
อาหารไปสี่ เ กวี ย น แล้ ว ยัง ปล้ น ผ้ า พับ ของตระกูล ชวี อี ก ห้ า
เกวียน ตอนนี้ ที่นัน่ มีแต่ ศพเกลื่อนกลาด ส่ วนคนที่ เหลือรอด
ถูกจับไปเป็ นเชลยขอรับ!”

เซี่ ยเฉิงจู่ฟังถึงตรงนี้ กร็ ีบหันไปจ้องจัวจ ่ ิ้ นที่ นัง่ อยู่บนพื้น


แล้ ว ถามเสี ย งช้ า ชัด “เมื่ อ ครู่เ จ้ า บอกว่ า นางนั ง่ เกวี ย นของ
ใคร?”

“เรียนใต้เท้า” จัวจ ่ ิ้นประสานมือท่าความเคารพ แล้วเค้น


แรงเอ่ ย ขึ้ น อี ก ครัง้ “วัน นี่ ยามโฉ่ วนางนั ง่ ไปกับ เกวี ย นของ
ตระกูล ชวี จากรายงานสถานที่ เ กิ ด เหตุ เ มื่ อ ครู่. ..” เขาหยุ ด
เล็กน้ อย กลืนน้าลายลงคออึกใหญ่แล้วเอ่ยต่อ “เกรงว่าแม่นาง
2
เซิ่นน่ าจะนัง่ เกวียนเล่มนัน้ ...”

เซี่ ยเฉิงจู่กามือแน่ นจนได้ยินเสี ยงกระดูกลัน่ ยกเท้ าถีบ


คนที่นัง่ คุกเข่าอยู่บนพืน้ จนหงายหลัง เขาไม่เอ่ยอะไรอีกรีบเดิน
จากไปอย่างรวดเร็วราวพายุ ทุกคนได้แต่มองตามหลังใต้เท้าที่
มีสีหน้ าท่าทางน่ าหวาดกลัว

ตู้เหอเองก็มองตามหลังอี กฝ่ ายด้วยความประหลาดใจ


ถึงใต้เท้าจะอายุยงั น้ อยแต่มากด้วยประสบการณ์ น้ อยครัง้ ที่จะ
คุมสติไม่อยู่ แม้แต่ เส้ นโลหิตที่ อยู่ใต้ ผิวหนั งก็ปูดโปนออกมา
อย่างเห็นได้ชดั

“ใต้เท้าคือว่า...”

หน้ าตาหวังจี้เคร่งขรึมเอาจริงเอาจังอย่างไม่ค่อยปรากฏ
ให้เห็น มองเซี่ ยเฉิงจู่ที่เดินหายไปจากสายตาก่อนจะหันมาเอ่ย
่ ิ้ นที่ พยายามลุกขึ้นจากพื้น “เจ้าก็อย่าถือสาใต้ เท้ าเลย
กับจัวจ
เกรงว่ า ตอนนี้ ตับ ม้ า มของเขาคงเจ็บ ปวดเจี ย นแตกแล้ ว
อุตส่าห์ทะนุถนอมมาตัง้ นาน ไม่เคยคิดตัดใจและไม่ยอมละทิ้ง
พอตกไปอยู่ในมือของพวกต๋า เจ้าก็คิดดูสิว่าจิตใจเขาจะเป็ น
เช่นไร”

3
เกวียนเลี้ยวไปตามเส้นทางสายเล็กที่ คดเคี้ยวเข้าไปใน
ป่ าที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้เขียวชอุ่ม

ไม่ร้วู ่าพวกต๋าเหล่านี้ บงั คับม้าลากเกวียนเข้ามาข้างใน


ได้อย่างไร ยามนี้ หญิงสาวสองคนที่แอบอยู่ในเกวียนรูส้ ึกอกสัน่
ขวัญหาย เพราะหากถูกจับได้คงสาหัสสากรรจ์น่าดู

ยามนี้ หน้ าผากของถานหวันช ่ ิ งปวดแสบปวดร้อนจาก


การเสี ย ดสี ก ับ กองผ้ า ในเกวี ย น คาดว่ า ผิ ว คงถลอกแน่ แ ล้ ว
เพราะก่อนหน้ านี้ เกวียนที่พวกนางซ่อนตัวเกือบพลิกควา่ หลาย
ครัง้ จนเกือบกลัน้ เสียงร้องไว้ไม่อยู่ โชคดีที่ได้เสี ยงม้าร้องกลบ
จึงสามารถผ่านพ้นมาได้ กระทังเกวี ่ ยนเข้ามาในป่ าใหญ่ ขบวน
เดินทางก็หยุดลง

ชาวต๋ากลุ่มนี้ มีจ่านวนไม่มาก พวกมันกบดานอยู่ในผืน


ป่ าแห่งนี้ ที่ได้มาจากการแย่งชิง

เดิ ม ป่ าแห่ ง นี้ เป็ นที่ อ าศัย ของชาวบ้า นกลุ่ ม หนึ่ ง ด้ ว ย


สภาพดิ นที่ ดี ท่ า ให้ พื้ น ที่ ที่ ท่ าการเพาะปลู ก ค่ อ นข้ า งอุ ด ม
สมบูรณ์ ส่ ว นชาวต๋ ากลุ่มนี้ เ ป็ นพวกไม่ มี ที่อยู่อาศัยเป็ นหลัก
แหล่ง ย้ายถิ่นฐานไปเรือ่ ย พอเดินทางมาพบเข้าก็ถกู ดึงดูดด้วย
ทุ่งข้าวเหลืองอร่าม พวกมันอาศัยว่าตนแข็งแกร่งกว่าแย่งชิง
4
ถิ่นฐานมาจากชาวบ้านที่อ่อนแอ

หลังจากขบวนเกวี ยนจอดสนิท บรรยากาศรอบกายก็


เงี ย บกริบ จนน่ าแปลกใจ ถานหวันช ่ ิ ง ได้ แต่ ข ดตัวอยู่กบั ลุ่ยจู
สองคนภายใต้ กองผ้า แม้แต่ อากาศก็ยงั ไม่กล้าสูดหายใจแรง
นั ก ด้านนอกได้ยินเสี ยงสัตว์ป่ากู่ร้อง สายลมหนาวแทรกเข้า
มาในเกวียนท่าให้อากาศเย็นเยียบเสียดแทงลึกถึงกระดูก

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรสายลมก็ยิ่งพัดแรงยิ่งขึ้น หิมะ
ที่ ตกหนั กกลบรอยเท้ าของทัง้ คนทัง้ ม้าจนหมดสิ้น เห็นเพี ยง
หิมะที่ขาวโพลนไปทัง้ ผืนป่ า

เพราะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ทาให้เมื่อพวกต๋ามาถึง
จุดหมายก็ไม่ได้รีบร้อนตรวจนั บของที่ ปล้นมาได้ พวกมันน่ า
เกวียนไปจอดรวมกันตรงลานกว้างแล้ว เข้าไปรับความอบอุ่น
ในกระโจม โดยที่เหลือคนสองคนเฝ้ าเกวียนที่ ปล้นมาหลายสิบ
คัน

ถานหวันช่ ิ งไม่ร้วู ่าตนเองนัง่ คุดคู้ในเกวียนมานานเท่าไร


แล้ว พอไม่ได้ยินเสียงใดๆ หญิงสาวจึงคิดจะแอบดูสถานการณ์
ภายนอก นางพยายามบังคับมือของตนไม่ให้สนขณะยื ั่ ่นไปเปิด
ชายผ้าคลุม เพิ่งจะแง้มผ้าออกได้แวบเดียวก็ต้องรีบปิดผ้าคลุม
5
ลงทันที

ห่างจากเกวียนไปไม่ไกล มีชายคนหนึ่ งกาลังก้มตัวลงผูก


เชื อกรองเท้ า ที่ ท่าจากหนั งกวาง น่ าจะเป็ นพวกที่ เหลือไว้เฝ้ า
เกวี ยนสินค้ า คนพวกนี้ ไม่ได้ ยืนอยู่กบั ที่ แต่ เดิ นตรวจตราไป
รอบๆ

ตอนนี้ พวกโจรเข้าไปอยู่ในกระโจมเสียส่วนใหญ่ เกวียน


ที่ พวกนางซ่อนตัวจอดอยู่ท่ามกลางป่ าแบบนี้ นับว่าเป็ นโอกาส
่ ิ งไม่
ดี ที่จะหนี แต่ เพราะมียามเฝ้ าอยู่สองคน ทาให้ ถานหวันช
กล้าแม้แต่ จะโผล่ศีรษะออกไปแอบดู จึงต้ องตกอยู่ในสภาพที่
อับจนหนทางอีกครัง้

หญิงสาวเงี่ ยหูฟังเสี ยงฝี เท้ าโจรสองคนที่ ยา่ ไปบนหิมะ


ลุ่ยจูที่อยู่ข้างหลัง ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่ น ใบหน้ าจวนจะ
ร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ เห็นคุณหนูส่ายหน้ าให้ นางก็ยิ่งต้ อง
อดกลัน้ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสี ยงดัง สองนายบ่าวได้แต่ นัง่
ตัวแข็งทื่ อ ไม่กล้าขยับเขยื้อน ช่างไม่สบายตัวและไม่สบายใจ
เอาเสียเลย

โชคดี ที่ในใจยังพอมี ความหวังที่ จะหนี เอาชี วิตรอด จึง


ต้องฝื นอดทนต่อไป
6
ร่างกายถานหวันช่ ิ งบอบบางอ่อนแอมาแต่ เดิม นางไม่
สามารถทนความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูกเช่นนี้ ได้ เพราะผิว
ของนางปริแตกง่าย ยามปกติหญิงสาวจึงมักจะหลีกเลี่ยงที่ จะ
เผชิญกับท้องฟ้ ามืดครึม้ และอากาศหนาว แต่วนั นี้ อากาศหนาว
เย็นที่ สุด ทว่านางกลับตกอยู่ในสถานการณ์ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ได้ แม้ จ ะสวมเสื้ อ หนาก็ไ ม่ ไ ด้ ช่ ว ยอะไร สภาวะในตอนนี้ จึ ง
เหมือนเป็ นการลงโทษที่โหดร้ายทารุณที่ สุด ทว่าในใจนางกลับ
ภาวนาให้หิมะตกตลอดไป

เพราะเมื่ อ ใดที่ หิ มะหยุ ด ตก ท้ อ งฟ้ าปลอดโปร่ ง นั น่


หมายถึงช่ วงเวลาเหมาะเจาะที่ คนในกระโจมจะออกมาตรวจ
นับของในกองเกวียน นางไม่อยากคิดว่าหากตนกับลุ่ยจูถกู พบ
จะเป็ นอย่างไร ฉากที่ พวกตนถูกคนพวกนั ้ นลากออกมาจาก
เกวียนจะต้องเหมือนกับเหตุการณ์ที่เห็นก่อนหน้ านี้ แน่

ถานหวัน่ ชิ ง พยายามคิ ด หาทางออกจากเกวี ย นให้ ไ ด้


โดยเร็วที่สุด ขอเพียงออกไปได้ แล้ววิ่งไปซ่อนตัวที่พงหญ้าแห้ง
ใกล้ๆ โอกาสรอดของพวกนางก็จะมากขึ้น หญิงสาวจึงแนบหู
คอยฟั งเสี ยงอย่างตัง้ ใจ ไม่กล้าขยับมากเพราะกลัวจะเผยพิรธุ
ให้คนข้างนอกได้ยิน

7
หิมะตกหนักตัง้ แต่เช้ายันคา่ กว่าจะหยุดตกท้องฟ้ าก็มืด
แล้ว ดวงจันทร์กลมโตแขวนอยู่กลางท้องฟ้ า สาดแสงลงมาส่อง
ลอดผืนผ้าเผยให้เห็นใบหน้ าซีดเผือด

ตอนนี้ สองสาวยังคงปลอดภัยอยู่ในเกวียน เพราะยังไม่มี


ใครออกมาตรวจนั บ ของที่ ป ล้ น ได้ มี เ พี ย งแต่ ค นที่ อ ยู่ น อก
กระโจมก่อกองไฟอยู่กลางแจ้ง

ยามนี้ ชายสองคนที่ นัง่ ข้างกองไฟกาลังร้องราทาเพลง


กันเสียงดัง บางครัง้ ก็ได้ยินเสียงชามในมือกระทบกัน ถานหวัน่
ชิงได้แต่นัง่ ฟังในสภาพจนมุม

หญิงสาวนัง่ ฟั งเสียงฝี เท้าชายสองคนนี้ มาทัง้ วัน นางคิด


ไว้ว่าหากทัง้ สองออกห่างจากเกวียนเมื่อไรจะต้องรีบหนี ออกไป
ทันที ไม่เช่นนัน้ ก็คงต้องตายอยู่ที่นี่แน่

สองสาวอาศัย ช่ ว งที่ พ วกต๋ า ร้ อ งเพลงกัน เสี ย งดัง แอบ


ขยับพับผ้าออกอย่างเบามือ ในที่ สุดกองผ้าก็ถกู เปิดออกเป็ น
ช่องพอให้ คนลอดออกไปได้ ทว่าการทาแบบนี้ กย็ ิ่ งทาให้ พวก
นางต้องทนหนาวยิ่งกว่าเดิม

8
ถานหวันช ่ ิ งนัง่ รอโอกาสด้วยจิตใจที่สบั สนวุ่นวาย สภาพ
หญิงสาวยามนี้ เสื้อผ้ายับย่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง แผลที่หน้ าผากเจ็บ
จนกลายเป็ นชาไปนานแล้ว รอยเลือดเมื่ออยู่บนผิวที่ ขาวราว
หิมะทาให้ดนู ่ าสยดสยองมากขึน้ ไปอีก

หญิ ง สาวได้ ยิ น เสี ย งแว่ ว มาแต่ ไ กลก็ล อบเปิ ดผ้ า คลุ ม


ออกแล้วมองไปด้านนอก เห็นผูช้ ายที่มีท่าทางมึนเมากาลังเดิน
ลูบปากเข้าไปในกระโจมหลังหนึ่ ง จากนัน้ ก็ได้ยินเสียงหญิงสาว
ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังแว่วออกมา

จังหวะนัน้ เองก็มีเสียงตะโกนออกมาจากกระโจมอีกหลัง
ดูเหมือนว่าคนที่ อยู่ด้านในจะส่งเสี ยงเรียกคนที่ นัง่ เฝ้ าเกวียน
ให้เข้าไปดื่มสุราด้วยกัน

ชายสองคนนัน้ มองหน้ ากันด้วยท่าทางลังเล แต่พอคิดว่า


ดื่มแค่ ชามสองชามเท่ านั น้ จึงพากันลุกขึ้นแล้วสาวเท้ าไปหา
พรรคพวก

่ ิ งที่กลับมาเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก
ถานหวันช
เหมือนเดิม พอได้ยินเสียงฝี เท้าของทัง้ สองห่างไปเรื่อยๆ หัวใจ
พลันเต้ นแรงประหนึ่ งจะทะลุออกมาจากอก นางจับมือลุ่ยจูที่
อยู่ด้านหลังแน่ น
9
หลังจากเฝ้ ารอมาทัง้ วันจึงนับเป็ นโอกาสครัง้ แรกของทัง้
คู่ พวกนางขยับเข้าไปใกล้ปลายเกวี ยน จากนั น้ ก็กดั ฟั นแง้ม
ชายผ้าคลุมขึน้ แล้วมองออกไป

ภายใต้ แสงจันทร์นวลสว่างหลังหิมะตก เห็นเพียงความ


ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตาทัวทั ่ ง้ ผืนดิน ราวกับโลกนี้ สร้างด้วยเงิน
บริเวณโดยรอบมีแต่เสียงม้าพ่นลมออกทางจมูกและเสียงฝี เท้า
ม้ายา่ ไปมากับที่ไม่มีคน!

่ ิ ง รู้ว่ านี่ เ ป็ นโอกาสอัน ล้่ าค่ า หากผิด พลาดก็


ถานหวันช
ยากจะหาโอกาสดีๆ เช่นนี้ ได้อีก นางรีบเลิกผ้าคลุมขึ้นโดยไม่
ลังเลแล้วก้าวออกไป ทว่าร่างที่นัง่ คุดคู้มาทัง้ วันกลับแข็งทื่อ ทัง้
ที่ตงั ้ ใจจะคลานออกจากรถ แต่แข้งขากลับอ่อน สุดท้ายกลับล้ม
ลงไปอยู่ด้านข้างเกวียนแทน

โชคดี ที่ ใ ต้ ร่ า งมี หิ ม ะหนานุ่ ม ส่ ว นคนที่ อ ยู่ ใ นกระโจม


สนใจแต่เนื้ อกับสุราในมือ หาได้มองรอบข้างไม่

ถานหวัน่ ชิ ง กระแทกกับ พื้ น สี ห น้ าพลัน บิ ด เบี้ ย วด้ ว ย


ความเจ็บ ปวด แต่ ก ลับ ไม่ ก ล้ า ส่ ง เสี ย งแม้ แ ต่ น้ อ ย หญิ ง สาว
พยายามอดทนแม้น้าตาจะเอ่อคลอขอบตาที่ ร้อนผ่าวแล้วพยุง
ตัวลุกขึน้ มาจากพืน้ นางอาศัยเงาเกวียนบังร่างของตน จากนัน้
10
ก็เอื้อมมือไปดึงลุ่ยจูที่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ให้ลงมา

พวกต๋าอยู่ห่างไปไม่ไกล หากพวกมันหันมาสักนิดก็คง
เห็นพวกนาง ภายใต้สถานการณ์ เช่นนี้ ท่าให้ลุ่ยจูขวัญหนี ดีฝ่อ
แล้วจะให้มือเท้ารวดเร็วปราดเปรียวได้ อย่างไร นางก็ร้สู ึกกลัว
จนลนลาน เท้ ายังไม่ทนั แตะพื้น ร่างกายก็อ่อนยวบล้มลงบน
หิมะทัง้ ตัว

เด็กสาวยังไม่ทนั ได้ลุกขึ้น พลันได้ยินเสี ยงฝี เท้ าคนเดิน


เข้ามาใกล้

สองนายบ่าวหันมองหน้ ากัน คิดว่าพวกตนต้องถูกจับได้


แน่ แล้ว สถานการณ์ ยิ่งชวนให้ตกใจจนร่างกายอ่อนปวกเปี ยก
ลุ่ยจูยงั นอนนิ่งเนื้ อตัวสันเทาอยู
่ ่ที่พื้นหิมะ ถานหวันช
่ ิ งได้ สติ
ขึ้นมาก่อน รีบลากลุ่ยจูให้คลานเข้าไปใต้ท้องเกวียนพร้อมกับ
ตน กระทังคนผู
่ ้นัน้ เดินมาถึง ทัง้ สองก็เข้าไปนอนควา่ แนบพื้น
อยู่ใต้ท้องเกวียนเรียบร้อยแล้ว

คนผูน้ ัน้ ไม่ได้เดินเข้ามาใกล้เกวียน แต่กลับเดินเลยไปที่


กอหญ้าแห้ งเหี่ ยวไม่ไกลนัก จากนั น้ ก็รีบถอดกางเกงลงอย่าง
เร่งด่วน

11
พอได้ ยิ นเสี ย งเหมื อ นปล่ อ ยน้ า ถานหวั น่ ชิ งที่ ตื่ น
ตระหนกอยู่กว็ างใจลงบ้าง นางซ่ อนตัวอยู่ในความมืด มีลุ่ยจู
ซึ่งตกใจอย่างรุนแรงซุกอยู่ด้านข้าง

่ ิ งคิดว่าไม่ดีแน่ ถ้ายังนอนหลบอยู่ตรงนี้ เพราะ


ถานหวันช
หิมะค่อยๆ ละลายกลายเป็ นน้ าแล้วซึมเข้าในเสื้อผ้า เดิมพวก
นางก็หนาวจับจิตอยู่แล้วตอนนี้ ยิ่งสันระร
่ ิ กไปทัง้ ตัว ทาไมถึงไม่
ไปสักทีนะ..

ชายชาวต๋าผู้นัน้ ปล่อยน้ าอยู่นาน ไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดเสีย


ที ผ่านไปครู่หนึ่ งกว่าเขาจะยกกางเกงขึ้น จากนั น้ ก็เดินโซซัด
โซเซกลับไป แต่เมื่อเดินถึงเกวียนเล่มหนึ่ ง ฝี เท้ากลับหยุดชะงัก
ลง

เขามองบนพื้นด้วยสายตาเหมือนไม่แน่ ใจว่าตนเมาจน
ตาฝาดหรือไม่ เขาปล่อยเสียงเรอแล้วอาศัยแสงจากดวงจันทร์
เพ่งมองอีกที

บนพื้นหิมะมีร่องรอยผิดปกติ นอกจากรอยรองเท้ าลุย


หิมะแล้วทาไมถึงมีรอยเท้าเล็กๆ ด้วย?

12
ชายผู้นัน้ นัง่ ยองๆ ลงกับพื้นแล้วเอาฝ่ ามือของตนมาวัด
ข้างๆ จากนัน้ เขาก็สร่างเมาทันที นี่ มนั รอยเท้าของผู้หญิงชัดๆ
นอกจากรอยเท้ าแล้ วยังมี รอยลากไปบนหิมะที่ เ หมื อนจะไป
สิ้นสุดลงใต้ท้องเกวียน...

จู่ๆ ดวงตาคนเถื่อนก็เบิกโพลง เขารีบสาวเท้าก้าวเข้าไป


แขนยาวๆ ยื่ น เข้าไปใต้ ท้องเกวี ยนแล้ ว ควานหา จับได้ แขน
อ่อนนิ่มไร้กระดูกก็ลากออกมาโดยไม่ต้องใช้แรงเลยสักนิด

พอลากคนออกจากใต้ ท้องเกวี ยนได้ ก็อาศัยแสงสว่ าง


จากดวงจัน ทร์เ พ่ ง มอง แต่ แ ล้ ว ก็ต้ อ งตกตะลึ ง เมื่ อ เห็น ภาพ
ตรงหน้ า...สาวงามไร้ที่ติที่มีเส้ นผมดาขลับอี กทัง้ ผิวพรรณยัง
ขาวผ่องเป็ นยองใย

เขาไม่ได้เมาจนเห็นผิดเพี้ยนไปใช่หรือไม่?

มือที่ กาแขนหญิง สาวพลัน กระชับ แน่ น ช่ ว งที่ ลากนาง


ออกมาทาให้ ชายเสื้อเลิกขึ้นจนเผยผิวขาวนวลเนี ยน ผิวเนื้ อ
ช่ างนุ่ มนิ่มเหมือนจับต้ องผ้าฝ้ ายที่ น่ ุ มละมุน ชายผู้นัน้ ราวกับ
ตกอยู่ในฝันหวานก็ไม่ปาน ประหนึ่ งว่าจับได้เทพธิดาที่ หล่นลง
มาจากฟากฟ้ า เขาเหม่อมองเป็ นนานก่อนจะแสยะยิ้ม นางมอง
ริมฝี ปากเขาขยับเป็ นคาพูดรัวเร็ว
13
ถึ ง แม้ จ ะฟั ง ไม่ เ ข้ า ใจ แต่ ถ านหวัน่ ชิ ง ก็รู้สึ ก หวาดกลัว
อย่างยิ่งตัง้ แต่ตอนที่ถกู ลากออกมาแล้ว คาพูดสุดท้ายที่นางฟัง
เข้าใจกลับกลายเป็ นคาที่ไม่อยากได้ยิน ชายผูน้ ี้ พดู ว่า...

จับได้แล้ว!

นางรู้สึกได้ว่าทัง้ ผืนฟ้ าและแผ่นดินพลันหมุนเคว้งราว


กับโลกกลับตาลปั ตร แขนที่ ถกู จับเหมือนจะขาดรอนๆ ในใจ
สิ้ น หวัง จนแทบจะหยุด เต้ น ส่ ว นเจ้าคนเถื่ อนกาลัง พูด พล่ าม
อย่างดีอกดีใจ

คา่ คืนของนางพลันเหน็บหนาวยิ่งกว่าที่เคย

14
28 บุกรังโจร

ทัน ใดนั ้น เองก็มี ลู ก ธนู พุ่ง แหวกอากาศเข้ า มาในค่ า ย


โจรอย่างรวดเร็ว

ตามมาด้ ว ยเสี ย งร้ อ งโหยหวนดัง ลัน่ เสี ย งหั ว เราะ


ครึกครืน้ ของพวกต๋าที่ กาลังเมามายพลันหยุดชะงัก ได้ยินเพียง
เสียงเหี้ยมดังก้อง

“ฆ่า!”

เสี ยงกู่ร้องดังมาจากในป่ าพร้อมกับห่าธนูที่พ่งุ เข้ามาไม่


ขาดสาย เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดดัง อย่างต่อเนื่ อง
บนพืน้ หิมะเต็มไปด้วยลูกศรมากเกินจะนับ จังหวะนัน้ เองทหาร
นับสิบนายพร้อมอาวุธครบมือก็พ่งุ ทะยานออกมาจากความมืด

ทันที ที่เห็นคนจู่โจม ชายชาวต๋าผู้นัน้ ก็ไม่สนใจถานหวัน่


ชิงอีก รีบชักดาบขึน้ มาแล้ววิ่งเข้าไปร่วมวงต่อสู้

พอตัวเองเป็ นอิสระ หญิงสาวก็รีบมุดกลับเข้าไปใต้ ท้อง


เกวี ยน รอดพ้ นห่ าธนู ที่ปักลงมาที่ ข้างเกวี ยนได้ พอดี นางรีบ
ถอยกรูดเข้ าไปด้ านใน หยุดอยู่ข้างลุ่ยจูก่อนจะฟุบตัวกับพื้น
1
หิมะแล้วหอบหายใจ

เมื่อหญิงสาวหันหน้ าไปมองคนสนิทก็พบว่าเด็กสาวสลบ
ไปแล้ว เป็ นเพราะลุ่ยจูอยู่กบั ความหวาดกลัวมาทัง้ วัน พอเห็น
นางถูกลากออกไปคงตกใจสุดขีดจึงสลบไปในที่สดุ

ทัง้ สองฝ่ ายฟาดฟั น กัน อย่ า งดุเ ดื อ ด ได้ ยิ น เสี ย งอาวุธ


ปะทะกันดังตลอดเวลา แทรกด้วยเสี ยงร้องโหยหวนและเสี ยง
กรีดร้องของผูห้ ญิง

เพราะทหารจู่โจมโดยฉับพลัน พวกโจรจึงไม่มีโอกาสได้
ตัง้ ตัว กอปรกับ ยัง เมามาย ไหนเลยจะต้ า นทานการรุก อย่ าง
หนักหน่ วงครัง้ นี้ ได้ ทาให้พวกต๋าทัง้ บาดเจ็บและตายเกินครึ่ง ที่
เหลือถึงจะยังสู้ต่อแต่กเ็ ป็ นความพยายามที่ไร้ประโยชน์

หอกด้ า มยาวพลิ กพลิ้ ว ไหลลื่ น ราวเมฆาเคลื่ อนคล้ อย


หลายชีวิตจบลงภายใต้คมหอก โจรนับสิบตางแตกพ่ายถอยไม่
เป็ นขบวน เดิ ม พวกต๋ า เป็ นคนไม่ ก ลัว การสู้ร บ แต่ พ อได้ ยิ น
ทหารเรียกคนถือหอกว่าใต้ เท้ าเซี่ ย ก็เกิดความหวาดกลัวดัง่
เจอผี ส างเทวดา แค่ แ รงของเขาคนเดี ย วก็ส ามารถจัด การ
พวกต๋าได้หลายสิบคน แม่ทพั หัวเมืองเซี่ ยเฉิงจู่มุทะลุดดุ นั และ
โหดร้ายเช่นนี้ เองหรือ ไม่แปลกใจที่ เขามีชื่อเสี ยงทางด้านการ
2
รบและไม่เคยพ่ายให้สงครามใด

เพียงไม่นานเหล่าทหารก็จดั การพวกต๋าทัง้ หมดได้พวกที่


ถูกจับเป็ นเชลยราวสามสิบคน ที่เหลือไม่ตายก็บาดเจ็บ ใต้เท้า
นาเหล่าทหารติดตามโจรกลุ่มนี้ มาทัง้ วัน ทุกคนจึงทัง้ เหนื่ อยทัง้
หิว ตอนนี้ ได้รบั ชัยชนะแล้ว

จึ ง พากัน ชู อ าวุธ ขึ้น ฟ้ า ส่ ง เสี ย งตะโกนก้ อ งดัง ลันด้


่ วย
ความฮึกเหิม

หวัง จี้ น าคนไปตรวจนั บ ทรัพ ย์สิ น ที่ พ วกต๋ า ปล้ น มาได้


ส่วนเซี่ยเฉิงจู่ที่ยงั สวมชุดเกราะกับหมวกเหล็กกลับสาวเท้าเข้า
ไปในกระโจม พอม่านกระโจมถูกเปิดออก เสียงกรีดร้องก็ดงั ขึน้
จากผู้หญิงที่ ถกู จับไว้ด้านใน มีทหารนายหนึ่ งลากชาวต๋าที่ตาย
แล้วออกไปจากกระโจมหลังนี้

ใต้ เท้ าเซี่ ยกวาดตามองผู้หญิงเหล่านั น้ เมื่อไม่พบคนที่


ต้องการก็เดินไปกระโจมอื่น พอเชลยหญิงเห็นใต้เท้าเซี่ ยเข้ามา
ทุกคนตางก็สานึ กในบุญคุณพากันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องไห้
เงียบๆ

3
ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยก็ไม่ได้พูดคาใด สี หน้ ายังคงเคร่งเครียด
สายตากวาดมองไปที่ กลุ่มผู้หญิงตรงหน้ าก็ยงั ไม่เห็นเงาคนที่
คุ้นเคย ในใจตอนนี้ จึงยากที่จะปกปิดอารมณ์โกรธได้

เมื่อออกจากกระโจม เขาก็สาวเท้าเข้าไปหาพวกต๋า ที่ถกู


จับมัดเป็ นเชลย แล้วขยุ้มคอเสื้อหนึ่ งในนัน้ ก่อนถามว่า “ผูห้ ญิง
ยังขาดอี กสองคน เจ้าเอาพวกนางไปซ่ อนไว้ ที่ไหน? บอกมา
เดี๋ยวนี้ !”

ทว่าต๋าคนนัน้ ฟั งไม่เข้าใจ ได้แต่ รา่ ร้องด้วยภาษาที่ ไม่มี


ใครแปลออก

ใต้เท้าเซี่ ยพลันโกรธจัด ยิ่งเมื่อนึ กถึงบรรดาหญิงสาวใน


กระโจมที่ ได้รบั ความอัปยศอดสูเพราะต๋าพวกนี้ อี กทัง้ นึ กถึง
หญิงสาวที่ ตนตามหา นางเคยแต่ถกู เอาใจจนเปราะบาง จะหนี
พ้นเงือ้ มมือพวกมันได้อย่างไร อารมณ์ ชายหนุ่มยิ่งเดือดพล่าน
เจ้าต๋าผู้นัน้ จึงถูกกระทืบจนกระอักเลือดตายในที่ สุด ศพถูกทิ้ง
ไว้อย่างไม่ไยดี

ดวงตาของเซี่ ย เฉิ งจู่ แ ดงก่า ดุ จ เลื อ ด หัน ไปดึ ง กระบี่


ออกมาจากนายทหารข้างๆ ทันใดนัน้ เองก็ได้เสี ยงทหารนาย
หนึ่ งรายงานขึน้ มา
4
“ใต้เท้า! พบเกวียนของตระกูลชวีแล้วขอรับ”

ถานหวันช ่ ิ งที่อยู่ใต้ท้องเกวียนยังไม่แน่ ใจในชะตากรรม


ตัว เอง ส่ ว นลุ่ ย จูก็ย งั สลบอยู่ ไม่ ว่ า จะตี แ ก้ ม หรื อ หยิ ก ล าตัว
อย่างไรก็ไร้วี่แววว่าจะฟื้ น คาดว่านางคงหวาดกลัวมากเพราะ
ผ่านไปสองเค่อแล้วก็ยงั ไม่ตื่นสักที ถานหวันช ่ ิ งจึงได้แต่เฝ้ าลุ่ย
จู อ ยู่ ใ ต้ ท้ อ งเกวี ย น แล้ ว กวาดตามองไปรอบๆ ด้ ว ยสี ห น้ า
ลุกลี้ลุกลน

จนกระทัง่ เห็น กระโจมที่ อ ยู่ ห่ า งไปไม่ ไ กลคล้ า ยกับ มี


ทหารหลายนายเดินออกมา แล้วยังได้ยินเสียงเซี่ ยเฉิงจู่ดงั แว่ว
มาอีกด้วย ในใจจึงสงบลงได้

การวางแผนหนี พวกต๋าครัง้ นี้ ทาให้ นางเข้าใจเรื่องหนึ่ ง


อย่างแจ่มแจ้ง ถึงลุ่ยจูจะไม่สลบ แม้พวกนางจะหนี ไปได้อย่าง
ราบรื่น แต่จะเดินข้ามป่ ายามคา่ คืนในสภาพอากาศหนาวไปได้
อย่างไร เพราะหากจะพูดถึงเรี่ยวแรงกาลังกายตอนนี้ ...อย่าว่า
แต่เดินทางเลย ขนาดแรงจะลุกก็ยงั ไม่มี

นางทั ง้ หนาวทัง้ หิ วทัง้ เหนื่ อยและอ่ อ นล้ า ถึ ง จะหนี


ออกไปได้แต่กค็ งแข็งตายในป่ านัน่ เอง

5
เซี่ยเฉิงจู่รีบสาวเท้าไปที่เกวียนขนผ้า เลิกผ้าคลุมเกวียน
ออกที ละเล่ม เมื่อหนึ่ งในนั น้ มีกลิ่นหอมอบอวลที่ คุ้นเคยลอย
มาแตะจมูก สี หน้ าของเขาก็เริ่มเปลี่ยน สายตาเฉี ยบคมกวาด
มองกองผ้าฝ้ ายด้านใน แล้วหยุดลงที่ ผ้าสี ฟ้าที่ ตกอยู่มุมหนึ่ ง
ด้านข้างมี เสื้อผูห้ ญิงอีกชุดหนึ่ ง

เสื้อสี ขาวนัน้ ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ชายหนุ่มกาลังจะยื่น


มือไปสัมผัส แต่กลับรูส้ ึกถึงแรงกระตุกที่ชายเสื้อจึงก้มหน้ ามอง
เห็นมือเรียวข้างหนึ่ งจับชายเสื้อคลุมของตนไว้แน่ น

“ใต้เท้า” เสี ยงแผ่วเบาดังแว่วมาจากใต้ท้องเกวียน ดวง


ตาเซี่ยเฉิงจู่พลันไหววูบ เขาค่อยๆ ถอยเท้าครึ่งก้าว วางมือบน
หัวเข่าแล้วนัง่ ยองๆ อาศัยแสงจากดวงจันทร์จึงเห็นหญิงสาว
นอนควา่ หน้ าอยู่ใต้ท้องเกวียน

เพราะว่านอนราบบนหิมะมานานทาให้เสื้อกันหนาวบน
ร่างนางเปี ยกชื้น ถานหวันช ่ ิ งรู้ดีว่าหน้ าตาท่ าทางตัวเองดูน่า
เวทนาเพี ย งใด นางหนาวจนตัว สัน่ สะท้ า น ยิ่ ง ไม่ ต้ อ งพูด ถึ ง
หน้ าผากที่ มีรอยเลือดแห้ งกรัง ซ้า ยังถูกอี กฝ่ ายพบในสภาพนี้
อี ก ถึ ง แม้ น างจะรู้สึ ก อับ อายขายหน้ า แต่ ก ลับ ต้ อ งรอความ
ช่วยเหลือจากคนตรงหน้ า

6
เพราะนางไม่มีแรงเหลื อคลานออกจากใต้ ท้องเกวี ยน
แล้ว

โดยไม่รอให้หญิงสาวเอ่ยปากร้องขอ มือแข็งแกร่งก็ช้อน
ร่างบอบบางเข้ ามาหาแล้วกอดไว้แน่ น สาหรับถานหวันช ่ ิ งที่
หนาวสุดขีดแล้ว อ้อมกอดนี้ เป็ นดังเตาผ
่ ิ งในฤดูหนาว ทัง้ อบอุ่น
และร้อนผะผ่าว...อุ่นเข้าไปถึงในหัวใจ

การสู้ ก ัน ครานี้ ฝ่ ายทหารกุม ชัย ชนะอย่ า งเบ็ด เสร็จ


เด็ดขาด

ถึงพวกต๋ าจะตกเป็ นฝ่ ายแพ้พ่าย แต่ ความบ้าบิ่นก็ยงั มี


อยู่เต็มเปี่ ยม พวกโจรยังพยายามกระโจนใส่เหล่าทหารอย่างไม่
ลดละ มี ทหารไม่น้อยที่ ได้ รบั บาดเจ็บ แล้วถูกยกเข้าไปรักษา
บาดแผลในกระโจม

ด้วยเดินทางรอนแรมมาเป็ นวัน เหล่าทหารจึงหิวจนไส้


กิ่ว ตอนนี้ กม็ ีลาภปากมาอยู่ตรงหน้ าแล้ว กองไฟสามกองถูก
สุมขึ้นหน้ ากระโจม บนนัน้ แขวนหม้อน้าแกงเนื้ อร้อนไว้สองใบ
แล้วยังค้นเจอกระสอบเกลือ เนื้ อแห้ง กับขนมเปี๊ ยะเนื้ อย่างที่
ผึง่ ลมไว้อีกหลายร้อยชิ้น

7
ขนมเปี๊ ยะเนื้ อเป็ นอาหารที่ สะดวกที่ สุด โดยมากจะกิน
แล้ ว ซดน้ า แกงตาม หรื อ จะย่ า งบนไฟให้ ร้ อ นก่ อ นก็ไ ด้ เป็ น
อาหารที่อิ่มท้องที่สดุ

ตอนที่ ซุ่ มอยู่กลางป่ าทหารทัง้ สามหมู่ต้องทนดมกลิ่น


หอมนี้ มานาน พวกเขาจึง ทัง้ หนาวเหน็ บ และหิว โหย พอเห็น
ของกินเป็ นขนมเปี๊ ยะกับเนื้ อแห้งก็รี่เข้าใส่ กัดคาใหญ่แล้วกิน
ไม่หยุด อาหารของพวกต๋าถึงจะไม่ละเอียดประณี ตและไม่ค่อย
มีรสชาติ แต่ กลับเป็ นของกินแก้หิวของทหารเวลาทาสงคราม
ได้ดี

หลังหิมะตกอากาศยิ่งหนาวขึน้ ขนาดลมหายใจยังมีไอสี
ขาวออกมา แม้ทหารจะสวมเสื้อกันหนาวหนาทัง้ ยังมีเสื้อเกราะ
ทับอยู่ ถึงกระนัน้ ก็ยงั หนาวสันไปถึ
่ งกระดูก

ทหารเหล่านี้ มากประสบการณ์ พวกเขารู้ดีว่าการหยุด


พักผ่อนเพื่อฟื้ นฟูกาลังต้องทาอย่างรีบด่วน ไม่ควรรัง้ อยู่แถวนี้
นานเกินไป เพราะพวกคนเถื่อนอยู่กระจัดกระจายกันเป็ นกลุ่ม
เล็ก ๆ หากมี ก ลุ่ ม อื่ น อยู่ แ ถวนี้ แล้ ว ลงมื อ จู่โ จมพวกเขาก็จ ะ
กลายเป็ นเรือ่ งตึงมืออย่างมาก

ดั ง นั ้ น ต้ องฉกฉวยโอกาสตอนที่ ฟ้ ายั ง ไม่ มื ด มาก


8
แสงจันทร์ยงั คงส่องสว่าง รีบเก็บของให้เรียบร้อยแล้ว ควบม้า
ออกจากป่ าแถวนี้ จะปลอดภัยที่สดุ

ด้ ว ยเหตุนี้ทุกคนจึงเข้ า ๆ ออกๆ ในกระโจมหอมกรุ่น


เพื่อรีบเติมอาหารลงท้อง จากนัน้ ก็ป้อนหญ้าให้ม้าจนอิ่ม หวังจี้
รีบเรียกทหารเข้ามาในกระโจมเพิ่มเพื่อช่วยกันตรวจนับสิ่งของ
ที่พวกต๋าปล้นมาอย่างรวดเร็ว

หากประเมินจากค่ายโจรนี้ แล้ว คิดว่าพวกคนเถื่อนคงใช้


เวลาพักที่ นี่ได้ไม่นานเพราะมีกระโจมแค่สามหลัง นอกจากนัน้
ยังพบอาวุธสิบกว่าชิ้น ด้านหลังป่ ามีม้าและวัวที่ ปล้นมาได้ถกู
มัดผูกไว้กบั ต้ น ไม้รวมสิบกว่าตัว กลางกระโจมมี ผ้าแพรต่ วน
กับเสบียงอาหารที่ ปล้นมาได้เป็ นจานวนมาก กองพะเนินเกิน
กว่าครึ่งกระโจม สองอย่างนี้ เป็ นของที่พวกคนเถื่อนขาดแคลน
และใช้ประโยชน์ มากที่สุด นอกนัน้ ก็เป็ นของปลีกย่อยอื่นเล็กๆ
น้ อยๆ

จากนัน้ ทหารก็รอื้ กองเสื้อผ้าที่วางอยู่บนกล่องเหล็กออก


ก่อนจะเปิดกล่อง ทันใดนัน้ ดวงตาหวังจี้กเ็ ป็ นประกายเรืองรอง
เพราะมั น เป็ นกล่ อ งสมบัติ ไม่ รู้ ว่ า พวกโจรแย่ ง เงิ นทอง
เครื่องประดับจากครอบครัว รา่ รวยที่ ไหนมา เขานัง่ ยองๆ ยื่น
มือลงไปคัดแยกดู จึงพบว่ามีเงินแท่งเล็กแท่งใหญ่อยู่มากมาย
9
มีไข่มุกกับหยกปะปนด้วยบางส่วน อี กทัง้ ยังมีทองแท่ งเหลือง
อร่ามอยู่ในนัน้ อีกด้วย

หวังจี้ดีใจเป็ นล้นพ้น ตอนนี้ คลังในเมืองแม้แต่หนูกไ็ ม่มี


ที่ซ่อนแล้ว ว่างเปล่าและสะอาดเอี่ยมกว่าใบหน้ าของทหารเสีย
อีก เขาจ้องมองเงินเดือนครัง้ ต่อไปของพลทหารกว่าพันนายที่
ท้องยังหิวโหยด้วยแววตาวาววับ

ไม่นึกไม่ฝันว่าการมาบุกรังพวกคนเถื่อนในวันนี้ จะเกิน
ความคาดหมายอย่ า งมาก เขาคิ ด ว่ า พวกต๋ า คงปล้ น พ่ อ ค้ า
รา่ รวยสักคนมา เพราะถึงเงินทองของมีค่าเหล่านี้ จะผสมปนเป
กัน แต่ เ มื่ อ มองอย่ า งนี้ แ ล้ ว ก็ส ามารถประเมิ น ได้ ค ร่ า วๆ ว่ า
ประมาณสามร้อยห้าสิบตาลึง แม้จะเป็ นจานวนไม่มากแต่กย็ งั
นับว่าดีกว่าไม่มี เปลี่ยนเป็ นข้าวปลาอาหารก็น่าจะพอให้ทหาร
ทัง้ ค่ายได้สกั สองเดือน...ในที่สดุ ฝนก็ตกทันกาล

พวกคนเถื่อนให้ความสาคัญกับเรื่องอาหารการกินและ
เสื้อผ้าที่ สวมใส่ จึงไม่ได้ ใส่ ใจทรัพย์สินเงินทองเหล่ านี้ ได้ แต่
โยนใส่กล่องวางไว้ตรงมุมซึ่งมีเสื้อผ้าอาภรณ์ กองอยู่ ถ้าหากไม่
พลิกดูให้ละเอียดก็คงหาไม่เจอ

10
หวังจี้ ให้คนยกกล่องขึ้นเกวียน แล้วส่งคนไปรายงานใต้
เท้า

ณ เวลานี้ ใต้เท้าเซี่ยเอาหญิงสาวออกจากใต้ท้องเกวียน
แล้วกอดนางไว้แน่ น

ถานหวัน่ ชิ ง พยายามขื น ตัว ไปทางด้ า นหลัง เล็ก น้ อย


เพราะเมื่อได้สมั ผัสเสื้อเกราะเหล็กเย็นเยียบบนร่างเขา ยิ่งทา
ให้นางสันเทารุ
่ นแรง

เสื้อเกราะที่เปี ยกโชกจากพายุหิมะมาทัง้ วัน ยามนี้ มีหิมะ


เกาะหนาจนกลายเป็ นน้ า ค้างแข็งวาววับบนผิวเกราะ เพียงแค่
สัมผัสก็ทาให้หนาวยะเยือก เดิมทีหญิงสาวก็เจ็บปวดจากความ
หนาวเหน็ บจนสุดที่ จะทนอยู่แ ล้ ว พอปะทะกับ เกราะเคลื อ บ
น้าค้างแข็งเช่นนี้ อีกจึงยากจะทานไหว...

เซี่ ยเฉิงจู่ก้มมองหญิงสาวแล้วก็ต้องชะงัก ก่ อนจะเบน


สายตามองเสื้ อเกราะของตน แสงจันทร์นวลอ่ อนสะท้ อนให้
เห็นคราบเลือดบนเสื้อเกราะที่ เย็นเฉี ยบ เขาใช้มืออีกข้างแกะ
เสื้อเกราะออกแล้วโยนเข้าไปในเกวียน

11
คนที่ ฝึกยุทธ์มาเป็ นระยะเวลานาน ร่างกายเต็มเปี่ ยมไป
ด้ วยพลัง เลื อดที่ ไหลเวี ยนในร่างอบอุ่นแม้จะเป็ นวันที่ หนาว
เหน็ บ ดังนัน้ ตอนนี้ บนร่างแม่ทพั หนุ่มแม้จะเหลือเพียงเสื้อคลุม
ยาวสีดาก็ไม่รสู้ ึกหนาวแม้แต่น้อย

่ ิ งมีสติรบั รู้อยู่ตลอดแม้ร่างกายจะ
ก่อนหน้ านี้ ถานหวันช
อ่ อ นแรงมากแล้ ว ทว่ า เพี ย งแค่ รู้ว่ ามี ค นมาช่ ว ย เปลื อ กตาก็
หนั กหน่ วงขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาจควบคุมต่ อไปได้อีก แต่ ริมฝี ปาก
ทันได้เอ่ยออกมาสองคา

“ลุ่ยจู...”

เสี ยงของนางแผ่วเบาราวกับยุงบิน ก่อนที่ สติจะถลาเข้า


สู่ความอบอุ่นที่ โอบล้อมร่างไว้ซึ่งเป็ นเรื่องสุดท้ายที่ จาได้เลือน
ราง จากนัน้ จิตใต้สานึ กก็ค่อยๆ ดับลง

เซี่ ยเฉิงจู่ได้ยินแล้ว เขาหาเสื้อตัวใหญ่มาห่มให้นางแล้ว


อุ้มขึ้น เส้นผมยาวดาขลับของหญิงสาวระไปกับท่ อนแขนชาย
หนุ่ม ฝ่ ามือใหญ่ค่อยๆ เกลี่ยผมให้นางแล้วจับใบหน้ าเล็กซุกไว้
กับซอกคอของตน ก่อนจะรีบเรียกทหารที่ อยู่บริเวณใกล้ๆ มา
เอาผูห้ ญิงอีกคนที่อยู่ใต้ท้องเกวียนไปส่งในกระโจม

12
ในยามนี้ อ้อมแขนแข็ง แกร่ง ของเขามี ร่างอ่ อนนุ่ ม บน
ซอกคอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นแผ่วเบา มุมปากที่เม้มแน่ นมา
ตลอดทัง้ วัน ผ่ อ นคลายลงในที่ สุ ด เขายื น อยู่ ท่ า มกลางแสง
จันทร์ เหมือนเก็บหัวใจที่หล่นหายกลับคืนมาได้ จึงไม่อาจห้าม
ลาแขนของตนไม่ให้กระชับอ้อมกอดให้แน่ นขึ้น แล้วมุ่งไปทาง
กระโจม

ทันที ที่เปิดผ้าคลุมกระโจมออก หญิงสาวที่ พวกคนเถื่อน


จับมาเป็ นเชลยหลายสิบคน พอเห็นใต้เท้ าเซี่ ยเข้ามาต่ างก็รีบ
ลุกขึ้นฉั บพลันแล้วเบียดกันคุกเข่าลงพื้น ใบหน้ าทุกคนเปื้ อน
คราบน้าตา ต่างเอ่ยขอบคุณใต้เท้าอย่างซาบซึ้งใจ

เซี่ ย เฉิ งจู่ ไ ด้ ฟั ง หวัง จี้ ร ายงานเรื่ อ งเงิ น ในกล่ อ งเหล็ก


ตรงหน้ า ก็ช าเลื อ งมองเพี ย งแวบเดี ย ว แล้ ว กวาดตามองคน
อื่นๆ ในกระโจม ก่อนสังว่ ่ า “เอาออกมาสองร้อยตาลึง จัดการ
มอบให้ครอบครัวทหารที่บาดเจ็บและล้มตาย แล้วอีกร้อยตาลึง
แบ่ง ให้ ท หารที่ ติ ด ตามข้ า มาฆ่ า ศัต รู จากนั น้ เอาข้ า วที่ อ ยู่ ใ น
กระโจมแจกให้ ท หารคนละสองกระสอบ ผ้ า แพรคนละพับ
จากนัน้ เอาเงินกับข้าวของแบ่งให้สตรีเหล่านี้ ด้วย”

ใต้ เท้ าใจป้ าแจกจ่ายไปทัวแทนที


่ ่ จะใช้ เงินอย่างตระหนี่
พอจ่ายเงินออกไปสามร้อยตาลึง เงินในกล่องก็แทบหมด เงิน
13
ห้ าสิบกว่าตาลึงที่ เหลือจะทาอะไรได้ ? ความกดดันของหวังจี้
เรื่องคลัง เงิ น ที่ เ พิ่ ง จะผ่อนคลายลงกลับ พุ่ง สูง ขึ้น อี กครัง้ เขา
อยากจะร้ อ งไห้ แ ต่ ก ลับ ไม่ มี น้ า ตาสัก หยด จ าต้ อ งปลอบใจ
ตัวเองไปพลางๆ...

ช่ างเถอะ...ช่ างเถอะ ถือว่ายังโชคดี ที่พบเสบียงอาหาร


ครึ่งกระโจมพร้อมผ้าแพรต่วนอีกมากที เดียว ถึงจะแบ่งไปแล้ว
ก็ยงั เหลืออีกโข

ลุ่ยจูที่สลบไสลไม่ได้สติถกู ทหารนามาส่งที่กระโจมพร้อม
กับหญิงเชลยกลุ่มหนึ่ ง ในกระโจมของคนเถื่อนมีเสื้อขนสัตว์
และเสื้ อ หนั ง อยู่ ห ลายตัว จึ ง พอจะใช้ ก ัน หนาวได้ อ ย่ า งไม่ มี
ปัญหา

ทหารม้ า ที่ ก ระจายกั น ส ารวจรอบค่ า ยโจรกลับ มา


รวมกลุ่มกันอย่างว่องไว แล้วเอาสิ่งของมี ค่าที่ บรรจุลงกล่ อง
แล้ ว ทัง้ หมดขนไปใส่ เ กวี ย น เมื่ อ ทุ ก อย่ า งเตรี ย มพร้ อ มเสร็จ
สรรพ พวกเขาก็ดบั กองไฟ จากนัน้ ทัง้ หมดก็พากันลงเขา

14
29 ในรังนอน

แสงจันทร์เย็นเยียบสาดส่องกระทบกับพื้นหิมะสะท้ อน
แสงจนแสบตา

การลงเขาครัง้ นี้ นับว่ายากลาบากกว่าตอนขึ้นเขามาก


เพราะพื้นดินถูกทับถมด้วยหิมะตื้นหนาไม่เท่ ากั น ทาให้ ต้อง
บังคับ ม้ าอย่ างระมัด ระวัง โดยเฉพาะม้าที่ ลากเกวี ยน เพราะ
หากเกิดสะดุดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็ นคนหรือม้า แน่ นอนว่ าต้ อง
สร้างความบาดเจ็บหรืออาจจะถึงตายได้

แม้จะเป็ นเช่นนัน้ พวกเขาก็ยงั ต้องออกเดินทาง โชคดีที่


เวลานี้ ยงั มี แสงสว่างจากดวงจันทร์ช่วยสาดส่ อง ถึงกระนั น้ ก็
ต้องเดินทางกันอย่างระมัดระวังยิ่ง

ท่ ามกลางภูเ ขาหิมะ เงาของกลุ่มคนทอดยาวบนพื้นที่


ขาวโพลนกว้ างใหญ่ สุดลูกหูลูกตา หากมองไกลๆ จะเห็นแค่
เสื้อคลุมสีแดงสดที่สะบัดไปตามแรงลม

ถานหวันช ่ ิ ง ตื่ น ขึ้น มาด้ ว ยความรู้สึ กสับ สนมึ น งง สิ่ ง ที่


เป็ นรับรู้เป็ นอย่างแรกก็คืออาการเจ็บปวดตามเนื้ อ ตัวที่ ทาให้

1
ไม่สบายเป็ นอย่างยิ่ง ซึ่งเกิดจากความหนาวที่ ยงั ตกค้างอยู่ใน
ร่างกาย

หญิงสาวพยายามเปิดเปลือกตาที่ประหนึ่ งว่าหนักสักพัน
ชัง่ ทว่าทาอย่างไรก็ลืมตาไม่ขึ้น หน้ าผากสัมผัสถึงเกล็ดหิมะ
เล็กๆ ที่ โปรยปรายลงมาต้ องผิว นางฝื นประคองตัวเองให้ลุก
แต่ ก ลับ รู้สึ ก วิ ง เวี ย นหน้ า มื ด รับ รู้ไ ด้ ว่ า ผ้า ที่ ห่ ม คลุ ม ตัว กาลัง
เลื่อนลง

เมื่อลืมตาขึ้นมาได้กเ็ ห็นภาพเลือนรางของกลุ่มทหารม้า
ที่กาลังเคลื่อนที่ผา่ นป่ า พอเหลือบมองไปด้านหลังก็เห็นเกวียน
ตามมาเป็ นแถว ตัวนางเองก็นั ง่ โอนเอนเหมือนกาลัง อยู่ บ น
หลังม้าก็ไม่ปาน จังหวะหนึ่ งที่ ม้าผ่านต้ นไม้ใหญ่ หิมะที่ ทบั ถม
บนต้นก็รว่ งลงมากระทบใบหน้ าและลาคอของนาง

ถานหวันช ่ ิ งตัวสันสะท้
่ านด้วยความเหน็ บหนาว จนคนผู้
นัน้ รับรูถ้ ึงท่าทางของนางจึงยื่นมือดึงผ้ามาคลุมให้ตามเดิม

ผูท้ ี่ห่มผ้าให้นางอย่างมิดชิดคนนี้ คือใครกัน?

นางอิงแอบแนบชิดแหล่งความร้อนที่ กาจายอยู่ พอได้


ซบใบหน้ าลงไปก็รบั รู้ได้ถึงไออุ่น ขับไล่ความหนาวเย็นเมื่อครู่

2
ให้จางหายไปจนสิ้น นางได้แต่พึมพาเสียงเบาอย่างพอใจ

นานมากแล้ ว ที่ ไม่ ได้ รบั รู้ถึง ความอุ่น สบายเช่ น นี้ นาง
เลื่อนมือไปวางบนแหล่งความร้อนด้านบนเบาๆ ซุกหน้ าเข้าไป
ใกล้ ยิ่ ง ขึ้ น รับ รู้ไ ด้ ถึ ง ความแข็ง แกร่ ง และแบนราบที่ มี ไ ออุ่น
แผ่ซ่านออกมาอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน ดีจริงๆ...

่ ิ งแนบหน้ าลงบนพื้นที่อนั อบอุ่น พยายามเปิด


ถานหวันช
เปลือกตาที่ หรี่ปรือขึ้นอีกครัง้ เพื่อจะมองให้ชดั เจน แต่จ่ๆ
ู นาง
ก็นึกถึงบางคนได้จึงเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา

“ใต้เท้าเซี่ย?”

ทว่าอี กฝ่ ายไม่ได้เอ่ ยอะไร ไม่รู้ว่าเขาได้ ยินหรือไม่ แต่


อ้อมแขนอบอุ่นกลับโอบกอดนางแน่ นขึ้น รัง้ ใบหน้ าเล็กให้ซุก
ลงใต้คางของตน

ในป่ ายามราตรี บางครัง้ ก็มีลมหนาวแผดเสียงหวีด หวิว


ดังแว่วมา เสี ยงผ้าคลุมผืนใหญ่ที่สะบัดไปตามแรงลม การโยก
คลอนของม้า รวมไปถึงใบหน้ าที่แนบชิดจนหูได้ยินกระทังเสี ่ ยง
เต้นของหัวใจ ทัง้ หมดนี้ น่าจะทาให้เกิดความรู้สึกที่ ไม่สงบ ทว่า
ตอนนี้ แค่ถานหวันช่ ิ งจดจ่ออยู่ที่ผทู้ ี่ให้ความอบอุ่นแก่นางเพียง

3
อย่ า งเดี ย ว ก็บ งั เกิ ด ความสงบที่ สุด แล้ ว ส าหรับ นาง นั บ เป็ น
ช่วงเวลาที่นางอ่อนแอและเปราะบางอย่างที่สดุ

เซี่ ยเฉิงจู่จบั เชือกบังเหี ยนไว้มือหนึ่ ง ส่วนอี กมือโอบคน


ในอ้ อมกอดแน่ น หากเที ยบกับระดับความเร็วตอนขามา เขา
พยายามให้ม้าก้าวช้าที่สดุ แล้ว

เขาก้ มหน้ ามองคนงามที่ ปิดตาหลับ ลึ ก ใบหน้ าซุ ก ซบ


แนบกับซอกคอของเขา คิ้วเรียวคมผิวขาวเนี ยนปานหิมะ ก่อน
จะหายใจลึกสูดกลิ่นหอมที่ค้นุ เคยเข้าไป

เพราะว่าเดินทางไปช้าๆ เวลาผ่านไปสองชัวยามก็ ่ ยงั คง


อยู่ในป่ า ระยะทางเพิ่งได้หนึ่ งในสามเท่านัน้ ระหว่างทางลาบาก
ยากเข็ญ อีกทัง้ เรี่ยวแรงของแต่ละคนที่เคยมีก่อนหน้ าก็ค่อยๆ
ลดน้ อ ยถอยลง ถึ ง กระนั ้น ก็ย งั ต้ อ งยื น หยัด กัน ต่ อ ไป แม้ จ ะ
เหน็ดเหนื่ อยสักเพียงใดก็ตาม

เขาก้มลงมองคนในอ้อมกอดอีกครัง้ สายตาเริ่มฉายแวว
วิตกกังวล

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย หรี่ ต าอย่ า งครุ่น คิ ด กวาดตามองไปชัย ภูมิ


โดยรอบ เห็นเนินเขาที่พอจะอาศัยบังลมได้ จากนัน้ ก็แหงนหน้ า

4
มองดวงจันทร์ ดูแล้วเวลาน่ าจะราวยามไฮ่[ 1 ] จึงสังให้
่ ทุกคน
หยุดพักผ่อน

บริ เ วณใต้ เ นิ นเขาเป็ นที่ ร าบ เขาชัก ดาบออกมาเพื่ อ


สารวจพื้นที่ บนพื้นมีหิมะหนาไร้รอยเท้าคน ด้านล่างหิมะเป็ น
ใบไม้แห้งที่รว่ งหล่นทับถมกัน ชัน้ ล่างสุดเป็ นดินโคลนนิ่ม

เซี่ ยเฉิงจู่ใช้ดาบทิ่มลงไปในดินซึ่งสามารถลงไปได้ลึกถึง
กลางดาบ เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเขาก็ให้ ทหารขนอาวุธ
ของพวกคนเถื่ อนออกมา จากนั น้ ก็ ว างแผนขุด หิ มะแล้ ว เอา
ใบไม้แห้งออก ทหารสามนายช่วยกันขุดลงไป ราวหนึ่ งเค่อก็ขดุ
ได้หลุมสี่เหลี่ยมลึกหนึ่ งวา จากนัน้ เหล่าทหารก็ช่วยกันขุดหลุม
อื่นๆ ต่อ

บางหลุมใต้ใบไม้แห้งเป็ นชัน้ ดินแข็ง พวกทหารจึงต้องใช้


แรงในการขุดมาก ทว่าทหารเหล่านี้ เคยขุดดินทาบ้านแบบนี้ ให้
ผู้ลี้ภยั มาก่อนจึงมีความเชี่ ยวชาญไม่น้อย สุดท้ายก็ได้หลุมทัง้
เล็กและใหญ่อีกหลายหลุม

จากนัน้ พวกเขาก็ไปตัดกิ่งไม้แห้งในป่ ามาบังที่ ปากหลุม


แล้วกางกระโจมขึน้ มา เกิดเป็ นห้องแบบง่ายๆ ให้อาศัยพักผ่อน
ชัวคราว

5
กลางป่ าย่อมไม่ขาดแคลนวัสดุจดุ ไฟ พวกเขาจึงใช้หญ้า
แห้งก่อกองไฟเพื่อช่วยขับไล่อากาศหนาวชื้น

ผ่านไปสองชัวยาม
่ ทหารส่วนหนึ่ งถูกจัดเป็ นเวรยามให้
อยู่ เฝ้ ารักษาการณ์ ส่วนทหารที่บาดเจ็บรวมทัง้ ผู้หญิงที่ ช่วยมา
ได้หลายสิบคนต่างก็เข้าไปพักผ่อนในบ้านดินที่ขดุ แบบหยาบๆ

ยามนี้ ลุ่ยจูตื่นขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะโมโหที่ คุณหนู ถกู คน


เถื่ อ นอุ้ ม กอดอยู่ บ นหลัง ม้ า แต่ พ อวิ่ ง ไปหาคุ ณ หนู ก็ถ ูก ใต้
เท้าเซี่ ยถลึงตามองลงมา ทาให้นางไม่กล้ามีเรื่องกับเขา ได้แต่
เบิกตามองอี กฝ่ ายอุ้มคุณหนู ซึ่งหลับอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
ไป ยิ่งเห็นเขาอุ้มคุณหนูเข้าไปในบ้านชัวคราวก็ ่ ยิ่งไม่สบายใจ
เอาเสียเลย

ด้ านนอกทัง้ หิมะทัง้ น้ าแข็งได้แผ่ปกคลุมไปทัว่ อากาศ


หนาวเย็นจับจิต แต่ ใต้ ดินกลับอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ฟื น
แห้งถูกโยนเข้าไปในปล่องดินทางด้านหลัง สักพักเปลวไฟก็ลุก
ไหม้อย่างรวดเร็วจนได้ยินเสี ยงปะทุมาจากท่ อนฟื น สักพักรัง
ดินก็อบอวลไปด้วยความอุ่น

บ้านเล็กหลังนี้ อยู่ได้แค่สองคน บรรยากาศเปี่ ยมล้นไป


ด้วยความอบอุ่นที่หมุนเวียน
6
ใต้ ร่างบอบบางปูด้วยหนั งขนสัตว์อ่อนนุ่ ม ถานหวันช ่ ิง
ยังไม่ฟื้น แม้มีความอุ่นแสนสบายแต่ คิ้วเรียวกลับขมวดแน่ น
ด้วยหลังจากอุ่นแล้วก็รสู้ ึกคันทัง้ มือและเท้าจนทนไม่ไหว จิตใต้
่ ถเู บาๆ บนขนสัตว์ ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีนัก
สานึ กสังให้

จนกระทังมี่ ใครคนหนึ่ งเอามือมาบีบที่ มือของนางด้วย


แรงที่ กาลังดี สักพักหนึ่ งเท้าก็ถกู กุมไว้เช่นกัน จากนัน้ นิ้วเท้าก็
ถูกนวดอย่างระมัดระวังและอ่อนโยน คนผู้นี้ช่างมีน้ าใจต่อนาง
จริงๆ ตอนแรกทัง้ คันทัง้ เจ็บ ทว่าเวลานี้ กลับสบายเป็ นที่ สุด
ฝี มือสปาเท้าเจ้าไหนกันนะที่ทาให้สบายอกสบายใจอย่างแปลก
ประหลาดแบบนี้ นางไม่ เ คยรู้สึ ก ดี ข นาดนี้ ม าก่ อ น ในใจคิ ด
เพี ย งว่ า ก่ อนไปนางจะต้ องให้ ทิ ปกับ พนั กงานมากฝี มือคนนี้
เยอะๆ สักหน่ อยแล้ ว ใช่ ว่ าจะได้ เ สวยสุข มี ค นมาบี บ นวดให้
เช่นนี้ ทุกวัน

ใบหน้ าของหญิงสาวแดงเปล่งปลัง่ มุมปากยกขึ้นคล้าย


กาลังคิดถึงอะไรสักอย่าง แล้วก็หลับไปอย่างรูส้ ึกปลอดภัย

ใต้เท้าเซี่ยกาลังนัง่ อยู่ข้างๆ ในมือกุมเท้าสวยงามและผิว


เนี ย นละเอี ย ดข้างหนึ่ งไว้ คิ้ ว ขมวดเล็กน้ อย เมื่อเห็น เท้ าที่ มี
รูปลักษณ์ สวยงามสมบูรณ์ ขาวผ่องปานหิมะ อี กทัง้ เนี ยนนุ่ ม
เหมื อนหยกแกะสลัก ทว่ า สภาพกลับ ดูแย่ มาก บนหลัง เท้ ามี
7
รอยแผลที่ เกิดจากการได้รบั ความหนาวเย็นจนเห็นได้ชดั แม้
แผลจะไม่ลึกมากแต่บวมแดงเหมือนลูกท้ อ เมื่ออาการเหล่านี้
มาอยู่บนเท้าบอบบางก็ยิ่งทาให้ดนู ่ าสยดสยองมากขึน้

ข้อนิ้วกลมละเอียดมีรอยแผลสีชมพูหลายแห่ง ชายหนุ่ม
นวดให้ อ ย่ า งนุ่ มนวลเบามื อ นางจึ ง สงบลง ถ้ า หากหยุ ด ชัว่
ประเดี๋ยวเดียวก็จะคันคะเยอขึน้ มาอีก

ไม่ เ พี ย งแต่ มื อ ทัง้ เท้ า ใบหู ปลายคางล้ ว นมี ร อยแดง


จางๆ แม้แต่ หวั เข่าก็มีรอยเขียวชา้ ขนาดใหญ่ ไม่ร้วู ่านางต้ อง
นัง่ คุกเข่าอยู่บนแผ่นกระดานนานเพียงใด คิ้วใต้เท้าเซี่ ยขมวด
เป็ นปมแน่ น ทว่ามือกลับยิ่งนวดคลึงเบาๆ จนกระทังนางหลั ่ บ
ฝันหวาน เมื่อเขารับรูไ้ ด้ว่านางไม่เจ็บปวดอีกแล้วจึงละมือออก

ด้านนอกเงียบสงัด มีเพียงปล่องดินด้านหลังที่ เปลวไฟ


กาลังเผาไหม้ ในความมืดมิด อาศัยแสงไฟก็สามารถมองเห็น
ขนสัต ว์สี ด าท่ ามกลางความสลัว คนงามปานหยกนอนหลับ
อย่างสบายบนเสื่อไม้ไผ่หอม ช่างเป็ นภาพที่ สวยงามเหลือเกิน
จนอยากจะเก็บหญิงสาวซ่ อนไว้ลึกที่ สุด ไม่ให้ ใครหน้ าไหนได้
เห็น

8
เวลาผ่านไปจนดึกดื่น ทว่าสายตาใต้ เท้ าเซี่ ยยังสะท้ อน
แสงสว่างวาบ เขาจับจ้องภาพตรงหน้ าตาไม่กะพริบ ยิ่งนานยิ่ง
เผยให้เห็นสายตาที่ อ่อนโยน ไม่ร้วู ่าเวลาผ่านไปอี กนานเท่าไร
ในความมืดสลัวเขาก็ค่อยๆ บีบนิ้วมือหยกเรียวยาว จรดมุม
ปากลงเบาๆ ประทับสัมผัสอันอ่อนโยนไว้...

หลัง เที่ ย งคื น แสงสว่ า งของกองไฟเริ่ ม อ่ อ นลง ความ


อบอุ่นในห้ องเล็กก็ถกู อากาศที่ หนาวเย็นค่อยๆ เข้ามาแทนที่
บนร่างของถานหวันช ่ ิ งเต็มไปด้วยรอยฟกชา้ ดาเขียวจากความ
หนาวเย็น จึ ง หลับ ไม่ ค่ อ ยสบายสัก เท่ า ไร จิ ต ใต้ ส านึ กสัง่ ให้
แสวงหาความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา โหยหาอ้อมกอดก่อนหน้ าที่
อุ่นพอๆ กับน้าแกงฟักทอง เมื่อได้สมั ผัสความอุ่นร้อนแล้วนาง
ก็เหนี่ ยวรัง้ ไว้อย่างแนบแน่ น

ความอบอุ่น ที่ ส มั ผัส ได้ ดี ก ว่ าครัง้ ไหนๆ การที่ มี ค วาม


ร้อนเพียงพอในคืนอันเหน็บหนาว เป็ นสิ่งที่หญิงสาวต้องการจึง
รูส้ ึกพึงพอใจเป็ นอย่างมาก

จนกระทังนางสั
่ มผัสได้กบั อะไรบางอย่าง ความรู้สึกเจ็บ
แปลบน่ าราคาญตามเนื้ อตัว ทาให้ ถานหวันช ่ ิ งย่นคิ้วอย่ างไม่
พอใจ ในความฝันนางยื่นมือไปปั ดเจ้าสิ่งนัน้ ออกครัง้ แล้วครัง้
เล่ า ทว่ า เหมื อ นถูก ก่ อ กวนไม่ สิ้ น สุ ด จนเริ่ ม เบื่ อ หน่ าย นาง
9
อยากจะนอนแต่กลับมีคนมาคอยรังควานถึงในฝัน คิ้วเรียวงาม
ขมวดมุ่นอย่างนึ กราคาญ จาต้องยอมหลีกหนี ความอบอุ่นอัน
แสนสบายไปยังที่ หนาวเย็น เพื่อหลี กเลี่ ยงการก่อกวนนั น้ แต่
โดยดี

แต่เพียงร่างบอบบางขยับออกก็ถกู คนหยาบคายลากเข้า
มาชิด บางที อาจจะใช้ แรงมากไปสักหน่ อย หรืออาจเพราะหัว
เข่าที่ บอบช้า ไปเสี ยดสี กบั อะไรเข้า ทาให้ นางสะลึมสะลือตื่ น
จากการหลับสนิทขึน้ มา

เวลานี้ ส ติ ส มั ปชัญญะของนางกลับ คื นมาอย่ างชัดเจน


ที เดี ยว นางรับรู้ได้ว่าตนเองกาลังนอนอยู่ในอ้อมกอดบนร่าง
แข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยลมหายใจหนักหน่ วง

บ้านเล็กในโพรงดินแคบๆ ลมหายใจที่เป่ ารดเส้นผมของ


นาง ท่อนขาแข็งแรงที่ ร้อนผะผ่าว ทัง้ หมดนี้ ล้วนทาให้นางรู้ว่า
คนใต้ ร่างกาลังทาอะไร แม้เขาจะอาพรางมันไว้อย่างดี แล้วก็
ตาม

แต่ถานหวันช ่ ิ งเป็ นใคร แท้จริงแล้วนางหาใช่หญิงสาวที่


ถูก เลี้ ย งให้ อ ยู่ แ ต่ ใ นบ้ า น มิ ใ ช่ ห ญิ ง สาวไร้ เ ดี ย งสาที่ ไ ม่ รู้ จ ัก
ความสัมพันธ์ชายหญิง หลังจากที่ ค่อยๆ ครุ่นคิดก็ยิ่งชัดเจน
10
มากขึน้ นี่ เป็ นเรือ่ งที่นางไม่อยากพบเป็ นที่สดุ โดยเฉพาะกับคน
ผู้นี้ คนที่ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่ มีต่อนางอย่ างล้น
เอ่อ สีหน้ าหญิงสาวตอนนี้ จึงไม่ใคร่ดีนัก

่ ิ งก็ไม่ได้รีบลุกหลบในทันที ได้แต่
ถึงอย่างนัน้ ถานหวันช
เก็บงาความโกรธไว้ในใจ แสร้งทาท่าเหมือนนอนหลับสนิทอยู่
ที่เดิมโดยไม่กระดุกกระดิก

ยามนี้ ทาได้เพียงพยายามอดทนให้ถึงที่ สุด เพราะถึงจะ


่ อีกฝ่ ายเกิดโทสะก็คงทาให้ ใต้ เท้ าเซี่ ย ที่ ตีสี
ต่ อต้ านหรือยัวให้
หน้ านิ่งขรึมตกใจไม่ได้ และไม่ใช่เรื่องที่ ฉลาดทัง้ สิ้น นางจึงได้
แต่นึกขุ่นเคืองอยู่ในใจเท่านัน้

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน มือที่ โอบรอบเอวของหญิงสาวก็


่ ิ งฉวยโอกาสผลัก
ผ่อนคลายลงในที่สุด ตอนนัน้ เองที่ถานหวันช
เขาออกแล้วลุกขึน้

นางไม่ รู้ว่ า ตอนนี้ กี่ ช วั ่ ยามแล้ ว เหตุ ใ ดรอบกายจึ ง มื ด


สลัว เช่ น นี้ ดูเ หมือนว่ าทางฝั ง่ ขวาจะมี แสงสว่ างจากเปลวไฟ
ลอดออกมา จึงสามารถมองเห็นสิ่งของรอบด้านได้ นอกจากผ้า
ขนสัตว์อ่อนนุ่ มที่ ปูนอนและห่ มคลุม บริเวณรอบๆ ล้วนเป็ น
ผนังดินเหนี ยวขรุขระเป็ นหลุมเป็ นบ่อ ที่นี่คือที่ไหนกัน?
11
แต่นางไม่ได้เอ่ยถาม เพียงมองเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่อยู่ ทัง้
ข้างบนข้างล่างยังคงเรียบร้อยดี ความโกรธขึ้ง เมื่อครู่จึงค่ อย
ทุเลาลง และในห้ องแคบๆ นี้ กไ็ ม่ได้มีกลิ่นที่ แย่นัก แต่ กไ็ ม่ใช่
กลิ่นที่ อยากจะดอมดม เพราะเป็ นกลิ่นสาบของผู้ชายที่ ไม่อาจ
หลบเลี่ ยงได้ ดังนั น้ นางจึงได้แต่ ลูบหน้ าอกของตนขึ้นลงเพื่อ
สงบใจ เมื่อ ระงับอารมณ์ ลงได้ นางก็เบนสายตามองคนที่ ยงั
นอนอยู่

เสื้อคลุมยาวของใต้เท้าเซี่ยเปิดออกเล็กน้ อย เผยให้เห็น
แผงอกแข็งแกร่งกายาลา่ สัน แล้วยังมีกล้ามเนื้ อท้องแกร่งที่ อยู่
ภายใต้ เสื้อคลุม ขณะที่ นางมองก็เห็นสี หน้ าของเขาฉายแววดุ
ร้ายเหี้ยมเกรียม

ความจริงแล้วถานหวันช
่ ิ งไม่ใช่คนที่น่ ุมนวลอ่อนโยน สิ่ง
ที่ ไหลเวียนอยู่ในกระดูกของนางแตกต่างไปจากเมื่อตอนเด็ก
มาก ถึงจะบอกว่านางเป็ นหญิงสาวที่ ได้ รบั การกล่อมเกลาใน
เรื่ อ งคุณ ธรรมของสตรี แต่ ท ัง้ หมดนั น่ รวมถึ ง ท่ า ทางประนี
ประนอมก็เ ป็ นเพี ย งฉากหน้ าของตัว ตนที่ น างข่ ม บัง คับ ไว้
เท่านัน้

ดังนั น้ ยามสายตานางคล้ายมองมาจากที่ สูงด้วยสี หน้ า


เคร่ ง ขรึ ม ก็เ ผยท่ า ทางทรงอ านาจราวกับ คนที่ สู ง ส่ ง มาแต่
12
ก าเนิ ด สายตาที่ ค มกริ บ ประหนึ่ งจะท าให้ ร่ า งอี ก ฝ่ ายขาด
กะรุ่ง กะริ่ ง จากนั ้น ถานหวันช
่ ิ ง ก็เ อ่ ย ด้ ว ยน้ า เสี ย งนุ่ มนวลที่
ขัดกันกับสีหน้ า

“การช่ วยเหลื อของใต้ เท้ า ทาให้ ข้ าซาบซึ้ ง ใจยิ่งนั ก ข้า


เป็ นแค่หญิงชาวบ้านคนหนึ่ งที่ ร้ดู ีว่า ใต้เท้ าเป็ นผู้เสี ยสละยอม
หลังเลื
่ อดให้ แก่แว่นแคว้น ช่วยเหลืออาณาประชาราษฎร์จาก
มหันตภัยที่เลวร้ายจนกลับกลายเป็ นดี บุรษุ เช่นท่านวันหน้ าคง
เหมาะกับหญิงวัยกาดัดอายุสิบหก หญิงสาวแรกแย้มที่ เหมือน
ดอกไม้ที่เพิ่งผลิบาน หวันช
่ ิ งอายุมากแล้ว อีกทัง้ ยังเป็ นนักโทษ
หญิง ไม่กล้าทาให้ใต้เท้าด่างพร้อย”

นางหยุดไปชัวครู ่ ่ เลียนแบบชายชาตรีโดยประสานมือ
เข้าหากัน แล้วเอ่ยต่อว่า “ก่อนหน้ านัน้ ข้าได้บอกที่ ซ่อนเงินให้
ใต้เท้าไปแล้ว นอกจากความซาบซึ้งใจในความรักที่ใต้เท้ามีต่อ
อาณาประชาราษฎร์แล้ว ข้าก็ตงั ้ ใจจะขอร้องและวิงวอน...ถาน
หวันช่ ิ งในปี นัน้ ได้ตายไปแล้ว ปั จจุบนั นี้ เหลือเพียงเซิ่นเจินจู...
หญิงธรรมดาสามัญที่มีสภาพน่ าสังเวช ความแค้นอันใหญ่หลวง
ของใต้เท้าข้าได้ตอบแทนอย่างเหมาะสมแล้ว ขอความเมตตา
ใต้ เท้ าเซี่ ยช่ วยลดหย่อนผ่อนผัน ปล่อยหญิงสาวชาวบ้านผู้นี้
เถิดเจ้าค่ะ”

13
พูดจบก็ไม่ได้ดูสีหน้ าของคนตรงข้าม รีบร้อนปลดเสื้อ
ขนสัตว์ออกจากตัวแล้วเดินผละไป

[ 1 ] ยามไฮ่ ช่วงเวลา 21.00 - 22.59 น.

14
30 แผนเกี่ยวดอง

บรรยากาศหลังหิมะตกยังคงหนาวกว่าปกติ จนกระทัง่
พระอาทิตย์ขึ้น ความอบอุ่นของแสงอาทิตย์จึงขับไล่ความอึม
ครึมและความหนาวเย็นไปได้มาก

ทหารม้าหลายสิบนายพักผ่อนเต็มอิ่มตลอดคื น ทาให้
จิตใจกลับมาฮึกเหิมกระชุ่มกระชวย แต่ละคนลุกออกจากบ้าน
หลุมดินมาฝึ กกันตัง้ แต่ต้นยามเหมาจนล่วงเข้ายามเฉินก่อนไป
จัดเตรียมอาหาร

เพราะรองแม่ทพั หวังจี้สงก ั ่ าชับซา้ แล้วซา้ เลา ทาให้ไม่มี


ใครหน้ าไหนกล้าย่างกรายไปรบกวนแถว ‘บ้านหลังเล็ก’ ของ
แม่ทพั หัวเมืองที่อยู่ในพืน้ ที่ว่างห่างไปอีกฟาก ทุกคนช่วยกันก่อ
ไฟต้มน้าแกงเนื้ อแห้งสองหม้อใหญ่ ความร้อนช่วยให้เนื้ อย่างที่
แข็งอ่อนนุ่ม เพียงยัดเข้าปากก็จะได้กลิ่นเนื้ อแกะหอมเต็มคา

เหลาทหารไม่ได้ กิน อาหารมากมายเช่ น นี้ มานานแล้ว


อาหารของพวกคนเถื่อนนี่ กไ็ ม่ได้เลวร้ายอะไร โดยเฉพาะใน
ยามที่ อากาศหนาวเย็น การได้ซดน้ า แกงเนื้ อแกะร้อนๆ กินคู่
กับขนมแป้ งกรอบย่าง ถือว่าเป็ นการเสพสุขที่ ยอดเยี่ ยมมาก

1
อย่างหนึ่ ง

หวังจี้ทงั ้ กินทัง้ พูดคุยเสี ยงดังกับเหลาทหาร แต่ กย็ งั อด


ไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังบ้านเล็กอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง นึ กถึง
เมื่อคืนที่ ใต้เท้าคงจะสมดังใจอย่างเต็มที่ ในที่ สุดก็ได้ลิ้มรสเสีย
ที ต่อแต่นี้กม็ ิ ต้องบาเพ็ญตบะเหมือนเช่นในอดีตที่ผา่ นมา

ทว่าเขาไม่นึกไม่ฝันว่าสถานการณ์ ระหว่างเดินทางกลับ
จะยา่ แย่กว่าที่ คิด เพราะหญิงสาวไม่แม้แต่ จะปรายตามามอง
ซา้ ยังทาตัวห่างเหินไม่ยอมให้ใต้เท้าแตะต้อง ถึงขนาดเดินขึ้น
ไปนัง่ บนเกวียนแทน อย่างนี้ กจ็ บเห่กนั พอดี!

อารมณ์ ของใต้ เท้ าอึมครึมใบหน้ าก็มืดครึ้ม แค่ชาเลือง


มองนางเพียงแวบเดียวก็พลิกตัวขึ้นหลังม้า แววตาเย็นชาทอด
มองถนนเบื้อ งหน้ า จากนั ้น ก็ไ ม่ เ อ่ ย ค าใด ได้ แ ต่ เ ร่ ง ควบม้ า
ทะยานออกไป แต่ ก่อนขึ้นบนภูเขาใช้ เวลาถึงหนึ่ งชัวยาม ่ แต่
รอบนี้ เพียงครึ่งชัวยามเท่
่ านัน้

เกวี ยนโยกคลอนจนเกือบเทกระจาดเพราะหนทางคด
เคี้ยว

2
่ ิง
ขบวนทหารลาบากลาบนสุดจะรับได้ สาหรับถานหวันช
แล้ว ถนนคดเคี้ยวเช่นนี้ ยิ่ง

กระทบบาดแผลและร่างกายที่ บอบชา้ ความรู้สึกยามนี้


ไม่อาจเรียกว่าเจ็บปวดแต่ต้องบอกว่าสะบักสะบอมเจียนตาย
ใบหน้ างามซี ดเซี ยวไร้สีเลือด โชคดี ที่ในเพิงเกวี ยนได้ รบั การ
ปรับปรุงโดยแขวนหนังและผ้าขนสัตว์ไว้รอบๆ เพื่อบังลมหนาว
ทัง้ ยังปูพื้นจนหนานุ่ มสบาย เมื่อมีหญิงสาวหลายคนนั ง่ เบียด
ชิดจึงไม่กระแทกกระทัน้ เท่ากับตอนที่อยู่ในเกวียนขนผ้า

เมื่อวานลุ่ยจูอกสันขวั
่ ญหายตลอดคืน ครัน้ เห็นคุณหนู
นัง่ อยู่ตรงหน้ าจึงลอบมองอย่างละเอียด พบว่าผิวเนื้ อขาวนวล
เนี ยนทัง้ ที่คาง ลาคอ นิ้วมือ และอีกหลายตาแหน่ งเป็ นรอยแดง
ดวงเล็กๆ ลุ่ยจูเข้าใจว่าคงเหมือนครัง้ ก่อนๆ ที่ ยามถึงช่วงฤดู
หนาวคราใดคุณหนูกม็ กั ได้รบั บาดเจ็บจากความหนาวเย็น ง่าย
กว่าคนปกติ

ใครจะรู้ว่ าการได้ รบั ความทุกข์ท รมานจากพวกคนป่ า


เถื่อนครานี้ ทาให้เกิดบาดแผลหลายแห่งทัวทั ่ ง้ ร่างกาย เวลานี้
ก็ไม่มีหมอจัดยาให้ เสี ยด้วย แล้วยังต้ องทนหนาวในรถม้าอี ก
ถึงตนจะเจ็บปวดใจเพียงใดแต่ กท็ าได้เพียงนวดมือให้คุณหนู
หมดคาพูดจะเอื้อนเอ่ย
3
ในขณะที่ ถ านหวัน่ ชิ งนั ง่ ถอนหายใจยาว แล้ ว นึ กถึ ง
เหตุการณ์ก่อนหน้ า ตอนที่พดู กับชายผูน้ ัน้ นางได้พยายามแล้ว
ที่ จะไม่พ่นคาร้ายกาจออกไป เพราะอาจสร้างความบาดหมาง
ให้มากขึ้นได้ ถึงผลที่ ได้อาจจะไม่แตกต่ างกันก็ตาม ต่ อจากนี้
นางก็ไม่ร้วู ่าหนทางข้างหน้ าจะเดินต่อไปอย่างไร เพราะนางก็
เป็ นแค่ชาวบ้านยากจนคนหนึ่ ง จะปล่อยชี วิตตัวเองต้ องคอย
่ ญกระเจิงทุกเช้าคา่ ไปตลอดก็คงไม่ได้
อกสันขวั

เฮ้ อ...ทาไมชี วิ ต ถึง ยากล าบากขนาดนี้ น ะ สายตาของ


ถานหวันช่ ิ งเริ่มพร่ามัว นางทัง้ อ่อนเพลียและเกียจคร้านเพราะ
นอนหลับไม่เต็มที่ หญิงสาวพยายามมองผ่านช่องหนังที่ มีแสง
สว่างลอดเข้ามา ดูขบวนที่ คดเคี้ยวยาวเหยียด นางชักมือจาก
ไออุ่นของลุ่ยจูพลางแย้มเปิดแผ่นหนัง เพื่อมองออกไปข้างนอก
ได้ถนัด

สายลมเย็นโชยมาเอื่อยๆ ต้นหลีหลายต้ นเริ่มออกดอก


ผลิบาน

องค์ประกอบของภาพตรงหน้ าลงตัวมาก ผืนป่ าเต็มไป


ด้ ว ยต้ น ไม้ ที่ ออกดอก ทุกกิ่ง ก้ านมี ด อกบานสะพรังปานห
่ ิ มะ
ขาวโพลน สายลมที่โกรกตลอดทัง้ คืน พัดกลีบดอกปลิวกระจาย
จนเต็ ม พื้ น มี แ สงแดดอุ่ น สาดส่ อ งลงมากระทบหิ มะ เป็ น
4
ประกายระยิบระยับ ดอกไม้ดุจดังหิมะ หิมะดุจดังดอกไม้ เป็ น
ทัศนี ยภาพที่งดงามราวภาพวาดเหลือเกิน

น่ าเสี ยดาย ทัง้ ดอกไม้และหิมะต่ างก็ไม่ยงยื


ั ่ นทัง้ คู่ ต่ าง
ร่วงหล่นแล้วสลายอย่างง่ายดาย งดงามได้เพียงไม่นานเท่านัน้
ถานหวันช่ ิ งขมวดคิ้ว ในใจมี แต่ ความกังวล ไม่รู้จะพาตัวเอง
ออกจากความเศร้าหมองที่กาลังรูส้ ึกได้อย่างไร

หญิ งสาวหลายคนในเกวี ย นเล่ ม เดี ย วกัน ก็ มี สี ห น้ า


เจ็บปวดทุกข์ทรมาน บางคนยังร้องไห้ด้วยความเสี ยใจจนตัว
สันสะท้
่ าน พวกนางถูกกลุ่มคนเถื่อนที่มีกาลังมากฉุดเอาตัวมา
โชคดีที่แม่ทพั หัวเมืองและเหล่าทหารมาช่วยเหลือไว้ พอได้รบั
อิสระแล้ วก็เป็ นดังที่ เห็น ฉากในวันนั น้ คงสร้างรอยแผลเป็ น
ตราบาปไปตลอดชีวิต

บางคนในนี้ ไร้ที่พกั อาศัย บางคนก็จากบ้านมาหลายวัน


จนยากจะมองหน้ าญาติพี่น้องได้ แต่ละคนต่างโศกเศร้าอย่างที่
ไม่รวู้ ่าจะดีขึน้ เมื่อไร

่ ิ ง ขึ้น มานั ง่ บนเกวี ย นก็ไ ด้ เ ห็น สี ห น้ า


ตอนที่ ถ านหวันช
หญิงสาวที่ ไม่ต่างกัน หลายคนยังคงน้ าตาไหล บ้างก็พยายาม
กลัน้ น้ าตาไม่ให้ไหล บางคนเหม่อลอยเหมือนไม่รบั รู้เรื่องใดๆ
5
ทุกคนดูน่าสงสารยิ่งนั ก ผู้หญิงเหล่ านี้ รูปโฉมงดงามไม่น้อย
ผิวพรรณสะอาดสะอ้ าน แต่ กลับถูกพวกคนเถื่อนทาให้ เสื่ อม
เสีย จิตใจพวกนางบอบชา้ น่ าเวทนา สีหน้ าแต่ละคนทุกข์ทนขม
ขื่น บางคนก็พยายามคิดหาทางออกให้ตวั เองในวันข้างหน้ า

กว่าขบวนทหารเกราะเหล็กจะเดินทางจากเขาลงมาถึง
พื้นราบ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นสูงล่วงเข้ายามซื่ อแล้ ว ใต้ เท้ าเซี่ ยมี
่ หยุดพักกันสักครู่ พลทหารหลายนายเหน็ ดเหนื่ อยรีบ
คาสังให้
ทรุดตัวลงนัง่ กับพืน้ เพราะต้องเดินบนภูเขา กาลังกายจึงค่อยๆ
ถดถอยลงไป อี ก ทัง้ ตอนนี้ ท้ อ งก็หิ ว โหยจนร้ อ งประท้ ว งแล้ ว
ทหารบางส่วนจึงตัง้ หม้ออุ่นอาหาร

หญิงสาวในรถก็ได้รบั การแบ่งปั นขนมแป้ งกรอบกับน้ า


แกงอุ่นๆ เช่นกัน นอกจากนี้ กย็ งั มีโจ๊กที่ มีกลิ่นหอมชวนให้คน
น้าลายสออีกคนละชาม พวกนางคิดไม่ถึงว่าจะได้รบั สิทธิพิเศษ
ไม่เพียงแต่

ขนมปังกับน้าแกงเนื้ อ ยังมีโจ๊กร้อนๆ ให้ซดอีกด้วย โจ๊ก


นี้ ต้ ม ได้ ข้ น มาก แล้ ว ยัง เติ มเนื้ อหัน่ เป็ นชิ้ น เล็ก สุ ด แสนจะ
เอร็ดอร่อย พอกินเสร็จทุกคนก็ลงจากเกวียนไปขอบคุณใต้เท้า
เซี่ย

6
ทว่ าถานหวันช่ ิ ง ไม่ส นใจ มี เ พี ย งนางที่ ย งั นั ง่ ขี้ เ กี ย จไม่
ขยับเขยือ้ นเคลื่อนไหว พอลุ่ยจูประคองชามโจ๊กมาให้ หญิงสาว
กลับส่ ายหน้ า เพราะตลอดทางคดเคี้ยวที่ ยาวเหยียด ร่างนาง
ถูกโยกคลอนไปถึงกระเพาะอาหาร ไหนเลยจะกินลง หากฝื น
กินเข้าไปไม่แคล้วต้องขย้อนออกมาแน่

ลุ่ยจูเกลี้ยกล่อมซ้าแล้วซ้าอี กก็ยงั ไร้ผล จาต้ องเอาโจ๊ก


กับขนมแป้ งกรอบในมือไปส่งคืนเพื่อให้กบั คนอื่นแทน

เมื่อเห็นชามที่ประคองไปแล้วถูกส่งกลับมาแบบเต็มชาม
อยู่เช่ นเดิม หวังจี้กม็ องด้วยความสงสัย เขารู้ได้เลยว่าหากใต้
เท้ าเห็นแล้วต้ องปวดใจเป็ นแน่ จึงอดที่ จะหันไปมองเซี่ ยเฉิงจู่
ไม่ได้

เซี่ ยเฉิงจู่หยิบชามโจ๊กขึ้นมาถือไว้แน่ น เขาไม่เอ่ยคาใด


ทาเพียงกินโจ๊กชามสุดท้ายจนหมดจากนัน้ ก็ลุกขึน้ แล้วหมุนตัว
เดินไปที่ ม้าด้วยจังหวะก้าวเท้ ารวดเร็ว หวังจี้ร้สู ึ กได้ว่าใต้ เท้ า
กาลังไม่พอใจ

เหล่าทหารม้ากับขบวนเกวียนเร่งเดินทางกลับ ในที่สุดก็
มาถึงเมืองเว่ยอัน

7
หน้ าประตูเมืองมีคนมายืนออกันอย่างหนาแน่ น เพราะ
ต่างรู้ว่าใต้ เท้ านาทัพไปปราบโจร ส่วนในเมืองก็เต็มไปด้วยไป
ด้วยประชาชนที่กาลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรือ่ งนี้ ซา้ แล้วซา้ เล่า

เมื่อวานหิมะตกหนักทัวทั
่ ง้ ภูเขา รอมาทัง้ คืนใต้ เท้ าก็ยงั
ไม่กลับ เหล่าทหารจึงกังวลว่าใต้เท้าอาจจะเกิดเรื่อง จนกระทัง่
มีคนเพ่งมองจากที่สงู เห็นม้าของใต้เท้านาขบวนกลับเมือง

ประชาชนในเมืองจานวนมากรีบกรูกนั ออกมาต้ อนรับ


รวมทัง้ ตระกูลชวี ตระกูลซื อ และบรรดาพ่อค้าอี กหลายร้านก็
มารวมตัวที่นี่เช่นกัน แต่ละคนชื่นชมสรรเสริญใต้เท้าไม่หยุด

เมื่ อ เห็น เกวี ย นผ้า ห้ า เล่ ม ของตน และรถเสบี ย งข้ า วสี่


เกวียนใหญ่ที่ถกู พวกคนเถื่อนปล้นเอาไป แต่กลับได้คืนมาครบ
ดังเดิม ตระกูลชวีกบั ตระกูลซือก็มองด้วยความปลืม้ ปี ติ ออกมา
รอหน้ าประตูใหญ่ จนกระทังใต้ ่ เท้ าเซี่ ยพลิกตัวลงจากม้าก็พา
กันทาการคารวะอย่างนอบน้ อม

นี่ ไม่ ใ ช่ แ ค่ เ รื่ อ งเกวี ย นผ้ า พับ กับ ข้ า วสารเท่ า นั ้น แต่


เหตุการณ์ ครัง้ นี้ แสดงให้เห็นว่ามีใต้เท้าคอยคุ้มครองอยู่ ต่อไป
การค้าของพวกเขาก็จะสงบเรียบร้อยเสียที พ่อค้าเหล่านี้ ไม่ใส่
ใจว่ า อี ก ฝ่ ายอายุน้ อยกว่ า พวกเขาต่ า งคารวะซ้า แล้ ว ซ้า เล่ า
8
อย่างสานึ กในบุญคุณจนเอื้อนเอ่ยออกมาเป็ นคาพูดไม่ได้

“รีบลุกขึ้นเถิด พวกท่านไม่ควรทาแบบนี้ ” เซี่ ยเฉิงจู่บอก


คนที่คกุ เข่าให้ลุกขึน้ แล้วให้ทหารด้านหลังนาเสบียงอาหารกับ
ผ้าพับส่ งคืนตามจานวนเดิม ทว่า สองตระกูลรีบบอกปั ดทันที
ตัง้ ใจจะมอบเกวียนให้แก่ใต้เท้า เพื่อให้ทหารใช้สอย เซี่ ยเฉิงจู่
จึงเอ่ยว่าถ้าเดือดร้อนต้ องการใช้ จะไปบอกด้วยตนเอง แต่ ไม่
ควรทาเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ต้องมอบของคืน

หลังจากสองตระกูลรับของคืนแล้ว ตระกูลชวีกม็ องคนที่


อยู่เบื้องหน้ าอย่างชื่ นชม กล่าวกับเซี่ ยเฉิงจู่ด้วยน้ าเสี ยงสนิท
ชิดเชื้อ “ใต้ เท้ าและทหารทุกนายลาบากเพื่อประชาชน ข้ากับ
คนบ้านเดียวกันทัง้ หลายนี้ ไม่ร้จู ะตอบแทนใต้เท้าอย่างไร ก่อน
ใต้ เท้ ากลับเข้าเมือง ข้ากับเถ้าแก่ซือได้เหมาหอหงฝูเพื่อเลี้ยง
ต้ อนรับใต้ เท้ ากับทหารผู้กล้าทุกนาย พวกเราปรารถนาให้ ใต้
เท้ารับสิ่งตอบแทนนี้ ด้วย ไม่เช่นนัน้ ข้าคงไม่สบายใจ”

เจ้าของร้านตระกูลซือรีบพูดจาสนับสนุน ทัง้ น้าเสียงและ


ท่าทางแสดงถึงความมีน้าใจที่ตรงกัน

คุณหนู รองที่ ยืนอยู่ด้านหลังเถ้าแก่ ตระกูลชวี มาตลอด


เดินเยือ้ งย่างมาหยุดข้างหน้ า นางอายุสิบหกอยู่ในวัยสดใส มีสี
9
หน้ าอ่ อนโยนรับกับคิ้วที่ โค้งเรียว รูปร่างอรชรอ้ อนแอ้ นกิริยา
ท่ า ทางดูน่ ุ ม นวลอ่ อ นหวาน นางก้ ม หน้ า ยื น อยู่ ข้ า งบิ ด าแล้ ว
ยอบตัว อย่ า งแช่ ม ช้ อ ย เอ่ ย เสี ย งหวานหยาดเยิ้ ม “ใต้ เ ท้ า
นี่ เป็ นน้าใจของบิดาข้า หวังเป็ นอย่างยิ่งว่าใต้เท้าจะตอบรับ”

ตามปกติเซี่ ยเฉิงจู่จะราคาญพวกพ่อค้ารา่ รวยจึงปฏิเสธ


มาโดยตลอด คราวนี้ ก็เ ช่ น กัน ครัน้ จะเอ่ ย ปาก สายตากลับ
มองเห็นคนอี กฟากที่ เพิ่งลงจากเกวียน ใบหน้ านางเย็นชาดุจ
น้าแข็ง หางตาแฝงแววเหยียดหยามขณะกาลังจะเดินเข้าเมือง
ไป เขาพลันนึ กถึงคาพูดของนางตอนที่ อยู่ในบ้านดิน แววตาก็
เปลี่ ยนเป็ นเกรี้ยวกราด เขาเม้มริมฝี ปากแน่ น เปลี่ ยนคาพูด
ทันที “ได้ เชิญนาทาง”

เอ่ยจบก็พลิกตัวขึน้ หลังม้าทันที

ตระกูลชวีกบั ตระกูลซื อ ได้ยินคาตอบดังใจปรารถนาก็


ปลาบปลื้มกันใหญ่ ใต้ เท้ าเซี่ ยเป็ นบุคคลที่ เชิญยากที่ สุด ปกติ
มักไม่ค่อยผูกสัมพันธ์กบั ผู้มีฐานะรา่ รวย เก้าครัง้ สิบครัง้ ก็เชิญ
ไม่ ไ ด้ วัน นี้ ต่ อ หน้ าชาวเว่ ย อัน กลับ ตอบรับ อย่ า งไม่ ค าดฝั น
ตระกูลชวี คิดแล้วสายตาก็เปล่ง ประกายวาบ มองบุตรสาวที่
สวยบอบบางของตนพลางเก็บความปลืม้ ปี ติยินดีไว้ในใจ รีบสัง่
ลูกน้ องให้นาทางไปก่อน
10
่ ิ งกาลังจะเดินเข้าประตูเมือง ได้ยินเสี ยงฝี เท้า
ถานหวันช
ม้าดุเดือดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ประหนึ่ งจะพุ่งชน สองสาวพากัน
หลบหลีก ชายผ้าถูกลมพัดจนพลิ้วไหว ฝุ่ นฟุ้งตลบตามหลังไวๆ

“จะรีบไปตายหรืออย่างไร!” ลุ่ยจูระงับปากไม่ได้จึงโพล่ง
ออกมา สายตาจ้องมองตามหลังใต้เท้าที่สร้างความวุ่นวายให้

ชวี เ ซิ่ ง เฟิ งเป็ นผู้น าตระกูล ชวี ค นปั จ จุบ นั เขาสื บ ทอด
ธุรกิจการค้าจากบรรพบุรษุ เป็ นรุ่นที่สาม แม้ว่าในรุ่นเขาการค้า
จะเจริญรุ่งเรืองแต่ กเ็ พิ่งอยู่ตวั ได้ไม่นาน เขาที่ ร้ดู ี ว่าแม้ยามนี้
กิจการครอบครัวจะใหญ่โต แต่พอถึงรุ่นลูกอาจจะเกิดเหตุพลิก
ผันก็เป็ นได้ ดังนัน้ เพื่อรักษากิจการครอบครัวเอาไว้ เขาจึงย้าย
จากเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองอี้โจว เพื่อดาเนินชีวิตแบบเรียบง่าย

หลายปี ก่อน เขาได้รู้จกั กับเซี่ ยเฉิงจู่แบบคาดไม่ถึง ซึ่ ง


เวลานัน้ อีกฝ่ ายยังเป็ นเพียงหัวหน้ าทหารเล็กๆ เด็กหนุ่มผูน้ ัน้ มี
ดวงตาที่ฉายแววมุ่งมัน่ จมูกโด่งเป็ นสัน รูปร่างสูงใหญ่ดอู งอาจ
ผึง่ ผาย การกระท่าเด็ดเดี่ยวเฉี ยบขาด อีกทัง้ ยังมีความสุขมุ ทา
ให้เขาซึ่งมีประสบการณ์ในการมองคนมาหลายปี รูส้ ึกว่าคนที่มี
จิ ต ใจเช่ น นี้ . ..คนที่ ส ามารถมี ชี วิ ต อยู่ ท่ า มกลางสงครามอัน
วุ่นวายได้ ย่อมเป็ นคนที่เหนื อกว่าผูอ้ ื่น เขาจึงใช้ทงั ้ เงินทองและ
ความสัมพันธ์ซื้อใจเซี่ยเฉิงจู่ โดยการเชิญหมอมารักษาฮูหยินผู้
11
เฒ่า เซี่ ยเฉิงจู่ขอบคุณเขาแทนมารดาที่ ช่วยรักษาให้ รอดจาก
อาการเจ็บ ป่ วย แม้ ท้ า ยที่ สุด แล้ ว จะไม่ อ าจรัก ษาชี วิ ต ไว้ ได้ ก็
ตาม แต่กส็ ามารถยือ้ ชีวิตไว้ได้นานสองนาน

เขามองคนไม่ ผิ ด จริ ง ๆ เพี ย งบุ ญ คุณ เล็ก น้ อ ยครานั น้


จากทหารต๊อกต๋อยในวันนัน้ กลับกลายเป็ นผู้ปกครองเมืองใน
วันนี้ และปฏิบตั ิ ต่อเขาอย่างโอบอ้อมอารีมากทีเดียว

ตอนที่เขานาครอบครัวเล็กๆ ย้ายมาอยู่เมืองเว่ยอัน เซี่ย


เฉิงจู่กร็ ีบตอบแทนบุญคุณโดยให้ความสะดวกแก่เขามากมาย
อีกทัง้ ยังใช้ผ้าของเขาทาชุดให้กบั ทหารในกองทัพ แม้เขาจะได้
ก าไรไม่ ม าก แต่ เ พราะใต้ เ ท้ า เซี่ ย เขาจึ ง เก็ บ เงิ นได้ ม าก
พอสมควร จนทุ ก วั น นี้ ก็ ย ั ง ไม่ มี ผู้ ใ ดล่ ว งรู้ ต้ นเหตุ แ ห่ ง
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับใต้เท้าเซี่ยเลย

ทหารหนุ่มองอาจห้าวหาญคนนี้ มีลกั ษณะนิสยั เงียบขรึม


ใจกล้าและไม่คยุ โม้โอ้อวด ยิ่งมองเขาก็ยิ่งชื่นชอบ ยิ่งนานวันก็
ยิ่งชื่นชม บางครัง้ ก็เคยคิดว่าถ้าเกิดตนมีบุตรที่ มีความหยิ่งใน
ศักด์ ิ ศรีเช่นนี้ กค็ งจะดีมาก

ต่อมาเขาก็คิดว่า บิดามารดาของเซี่ยเฉิงจู่จากไปแล้วทัง้
คู่ เรื่องแต่ งงานจึงไม่มีผ้ตู ดั สินใจได้ ดังนัน้ เขาจึงอยากให้เซี่ ย
12
เฉิงจู่มาแต่ งงานกับบุตรสาวของตน แม้บุตรชายทัง้ หลายของ
เขาจะไม่ได้เป็ นบุคคลที่ มีความสามารถ แต่ บุตรสาวแต่ ละคน
รูปโฉมงดงาม โดยเฉพาะบุตรสาวคนโต ทว่ าใต้ เท้ าเซี่ ยกลับ
มิได้มีใจแม้แต่น้อย ทาให้เขารูส้ ึกท้อแท้ใจในตอนแรก

ทว่ า วัน นี้ พอบุ ต รสาวคนเล็ก ของตนมาแสดงความ


คารวะตรงหน้ าในชุดงดงาม บนเสื้อปั กลายดอกไม้ กระโปรง
ปักไข่มุกขาวจากทะเลสาบ วาจาช่างฉอเลาะออดอ้อน จู่ๆ ชาย
หนุ่มก็เกิดความประทับใจแล้วยอมรับคาเชิญขึน้ มา

ตอนนัน้ เขาเห็นอยู่แล้วว่าสายตาของใต้เท้ าเซี่ ยปฏิเสธ


อย่างชัดเจน สักพักกลับเปลี่ยนความคิดกะทันหัน พอคิดไปคิด
มา อาจเป็ นเพราะคาพูดของบุตรสาวคนเล็กที่ ทาให้ใต้เท้ าเห็น
ด้วย นี่ มิใช่ หมายความว่าอี กฝ่ ายพอใจบุตรสาวของตนหรอก
หรือ

ชวีเซิ่งเฟิงที่อายุล่วงเลยสี่สิบปี ยิ่งคิดก็ยิ่งปลืม้ ใจ คนหนึ่ ง


หนุ่มแน่ นคึกคักมีชีวิตชีวา อีกคนสะสวยงดงาม ช่างเหมาะสม
กันยิ่งนัก เขาเป็ นพ่อค้า หากได้เกี่ยวดองเป็ นญาติกบั ขุนนางจะ
เป็ นเรื่องน่ ายินดีมากที เดียว พอคิดได้ดงั นี้ จึงรีบสาวเท้าให้เร็ว
ขึน้

13
เขาไม่ได้เพ้อฝันเกินตัวที่จะให้บุตรสาวคนที่ สองของตน
เป็ นฮูหยินของแม่ทพั หัวเมือง ขอเพียงได้เกี่ยวดองกับสกุลเซี่ ย
ถึงจะให้บตุ รสาวเป็ นแค่อนุภรรยาเขาก็ยอมทัง้ นัน้ โอกาสเช่นนี้
ไม่ได้มีมาง่ายๆ ในใจชวีเซิ่งเฟิงคิดอย่างลิงโลด

ตามที่ได้ยินมา ใต้เท้าเซี่ยเป็ นผูเ้ คร่งครัดในระเบียบวินัย


น้ อยครัง้ ที่จะไปสถานที่ประโลมโลกของชายหญิง และไม่ใช่คน
เจ้าชู้ หากไม่มีผชู้ กั ใยอยู่เบือ้ งหลัง เกรงว่าอีกฝ่ ายคงตัง้ ใจจะยือ้
เรื่ อ งคู่ค รองออกไปอี ก นาน แต่ ช วี เ ซิ่ ง เฟิ งทนรอไม่ ไ หวแล้ ว
ดังนัน้ เขาต้องคิดหาวิธีบางอย่างจึงจะถูก

14
31 โกรธ

่ ิ งมองอาชาดาตัวนัน้ จนลับตาด้วยใจที่ เต้นไม่


ถานหวันช
เป็ นสา่

นางดึงแขนลุ่ยจูแล้วหมุนกายไปอี กทาง เตรียมจะออก


นอกเมื อง ทว่ าเพี ยงก้ าวเท้ าได้ แค่ สองก้ าวก็มีคนยื่ นแขนมา
ขวางหน้ าไว้ แล้วเอ่ยว่า

“แม่นางเซิ่น ใต้เท้ามีบญ ั ชาห้ามไม่ให้เจ้าออกนอกเมือง


แม้แต่ครึง่ ก้าว ไม่เช่นนัน้ จะประกาศจับ เชิญกลับเถอะ”

ถานหวัน่ ชิ งได้ ยิ น ค านั ้น ก็ก้ า วถอยหลัง เหลื อ บมอง


แขนที่ กางกัน้ แล้วเบนสายตาไปมองคนผู้นัน้ ก่อนจะทาเป็ นไม่
รูไ้ ม่ชี้แล้วหันหลังเดินกลับเข้าเมือง

ลุ่ยจูตามหลังไปด้วยความหงุดหงิดและกังวล

จนกระทังไม่่ เห็นทหารผู้นัน้ แล้วจึงรีบเดินไปใกล้คณ ุ หนู


ถามอย่ า งไม่ ส บายใจ “คุ ณ หนู เ จ้ า คะ เมื่ อ ครู่ เ ขาพู ด ว่ า จะ
ประกาศจับ? แปลกจริงๆ นะเจ้าคะ”

1
เพราะถ้ า หากจะจับ ก็ค งจับ ไปนานแล้ ว ย่ อ มไม่ ป ล่ อ ย
เอาไว้ แบบนี้ ตอนนี้ กลับมาบอกว่าจะจับคุณหนู ถ้ าออกนอก
เมือง ทัง้ ยังข่มขู่ด้วยการบอกว่าจะติดประกาศอีก ทาให้นางไม่
เข้าใจจริงๆ

“ไม่รวู้ ่าเขาต้องการจะทาอะไรกันแน่ นะเจ้าคะ?”

“เจ้าเคยเห็นแมวจับหนูไหม?” ถานหวันช ่ ิ งกระซิบถาม


เสี ยงต่า จากนั น้ ก็ชี้นิ้วไปที่ รูตรงมุมกาแพง “เขาต้ องการเก็บ
พวกเราไว้ ใกล้ ส ายตาตัวเอง ถึงแม้จะบินหนี ก็ย งั ติดกรงเล็บ
เฝ้ าทรมานฝ่ ายตรงข้ามจนลมหายใจเฮื อกสุดท้ าย กาให้ ตาย
อยู่ในกรงเล็บแล้วค่อยกลืนลงท้อง”

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอย่าได้ล้อข้าเล่นเลย” ลุ่ยจูได้ยินการ


ขู่เปรียบเที ยบ สีหน้ าก็เปลี่ยนไป “ถ้าอย่างนัน้ พวกเราก็เป็ นหนู
หรือเจ้าคะ? จะเทียบกันได้อย่างไร?”

่ ิ งเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ตอนนี้ พวกเราเทียบไม่ได้


ถานหวันช
กระทังหนู
่ หนูมนั ยังมีรใู ห้หลบ แต่พวกเราแม้แต่ที่จะหลบซ่อน
ก็ไม่มี”

2
“สิ่ งที่ คุ ณ หนู พู ด มาทัง้ หมดเหมื อ นกับ ว่ า ใต้ เ ท้ า เซี่ ย
ต้องการทรมานพวกเรา เพราะอะไรเจ้าคะ?”

เพราะอะไร?

ถานหวันช ่ ิ งนึ กไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปี ก่อนโดยไม่ได้


ตัง้ ใจ ในใจลึ ก ๆ รู้สึ ก หดหู่เ หลื อ เกิ น นางอยากบอกลุ่ ย จูว่ า
ไม่ใช่ เขาต้ องการทรมานพวกเรา แต่ เป็ นนางคนเดี ยวเท่ านัน้
เจ้าไม่ได้ พวั พันอะไรด้วย แต่ เห็นสี หน้ าตื่ นตระหนกของลุ่ยจู
แล้วก็เอ่ยปากออกมาไม่ได้อยู่ดี

ในที่ สุดทัง้ สองก็กลับถึงบ้านที่อยู่มาเกือบสองเดือน เมื่อ


ยืนตรงหน้ าประตู สองนายบ่าวรูส้ ึกผิดหวังจนจิตใจห่อเหี่ยว

จากไปแค่วนั สองวันได้ประสบการณ์ ที่ทาให้ ตกใจมาก


เหลือเกิน เรียกว่าทัง้ วันทัง้ คืนเลยทีเดียว

ในครัวเริ่มก่อไฟกันใหม่อีกครัง้ ความอบอุ่นหมุนเวียน
ไปทัว่ เตี ย ง สุ ด ท้ า ยก็ห นี ไม่ ร อด เงิ น ที่ ติ ดตัว ไปยัง อยู่ ค รบ
เนื่ องจากความทุ ก ข์ ที่ ไ ด้ ร ับ ครานี้ ท าให้ ท ั ง้ สองไม่ คิ ดจะ
ประหยัดฟื นดังแต่ก่อน

3
ด้ านนอกอากาศยัง คงหนาวเย็น หิมะกองเต็มพื้นและ
เกาะตามต้ น ไม้ ทว่ า ยัง ดี ที่ ใ นห้ อ งอบอุ่น เหมื อ นฤดูใ บไม้ ผ ลิ
กลางห้ องนอนเล็กๆ ถ่านไฟสองถาดกาลังเผาหม้อน้ าสะอาด
สองใบจนร้อน เสร็จแล้วจึงเทลงอ่างน้า

เมื่อลุ่ยจูอาบน้ าเสร็จก็ช่วยคุณหนู ถหู ลัง นางยิ่งเห็นยิ่ง


เจ็บปวดใจจนอดพึมพาไม่ได้ว่าผิวของคุณหนูทามาจากเต้าหู้
หากไม่ได้ช่วยอาบน้าให้คงมองไม่เห็นร่องรอย เพราะท่ามกลาง
ไอร้อนที่ พวยพุ่ง รอยแผลที่ เคยมีบนร่างกายกลับเด่นชัดทันตา
ประหนึ่ งหิมะขาวมีรอยโสมมแต้มเป็ นดวงเต็มไปหมด ดูไปแล้ว
น่ าสยดสยองยิ่ง นางเห็นรอยนิ้วมือจางๆ ข้างเอวคุณหนูด้วย

ลุ่ยจูไม่กล้าถามคุณหนูว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึน้ บ้าง เพราะ


ตอนที่คนเถื่อนเซี่ยอุ้มคุณหนูเข้าไปนัน้ คุณหนู หลับสนิท คิดว่า
ใต้เท้าเซี่ยผูน้ ัน้ คงไม่ฉกฉวยโอกาสหรอกนะ

แต่ว่า...

สายตาของลุ่ยจูสบั สนเล็กน้ อย เด็กสาวมองถานหวันช่ ิง


ที่ นัง่ ในอ่ างน้ าอุ่น สองแขนพาดกับขอบอ่ างอย่ างสบาย นาง
นวดหลังให้คณ ุ หนูเงียบๆ ผมดาขลับปล่อยสยาย เรือนร่างขาว
ผ่ อ งโค้ ง เว้ า ราวดอกท้ อ ก็ไ ม่ ป าน สวยงามจนคนอดไม่ ไ ด้ ที่
4
อยากจะทาให้ด่างพร้อย ผมดาขลับตัดกับผิวขาวผ่อง มองแล้ว
ให้ความรูส้ ึกรุนแรงจนทาให้คนกลืนน้าลายอยู่ตลอด...

สะอาดมากเชียวล่ะ สะอาดหมดจดเสี ยจนไม่ว่าใครเห็น


เป็ นต้องอยากเกี้ยวพาราสี อยากจะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างนี้ ตอน
ที่ นางกาลังบีบนวด นางเองที่ เป็ นหญิงก็ยงั คิดแบบนี้ แล้วชาย
ใดเล่าเมื่อเห็นคุณหนูแล้วจะไม่คิด

ในใจลุ่ยจูคิดว่า ถึงจะปฏิเสธอย่างไร แต่ คุณหนู กบั แม่


ทัพหัวเมืองก็ใกล้ชิดกันถึงเพี ยงนั น้ แล้ว ตอนที่ อยู่ในกระโจม
คนเถื่อน ทุกคนล้วนเห็นว่าเขาอุ้มคุณหนูขึ้นหลังม้า และต่างก็
เห็นว่าเขากับคุณหนูนอนที่เดียวกันตามลาพัง

ถึงจะยังไม่เกิดอะไร แต่อย่างไร...อย่างไรก็มีรอยจุมพิต
บนผิวนวลแล้ว ต่อให้ล่ยุ จูไม่อยากยอมรับแต่กไ็ ม่อาจทาได้

พอนึ กถึงยามนี้ ที่คณุ หนูลาบากยากแค้นและโดดเดี่ยวไร้


ที่ พึ่งพิง หากใต้ เท้ าเซี่ ยผู้นัน้ ชอบพอคุณหนู จริงก็อาจแต่ งเข้า
จวน ถ้าเป็ นเช่นนัน้ ต่อจากนี้ คณ ุ หนูกจ็ ะมีชีวิตที่ดีขึน้ หน่ อย

ตัง้ แต่ กลับมาจากการเดินทาง ลุ่ยจูกเ็ อาแต่ คิดวนเวียน


เรือ่ งนี้ ไม่หยุด...ทว่าได้เพียงแค่คิด แต่ไม่กล้าเอ่ยปากออกมา

5
ลุ่ ย จู เ ช็ด หลัง ให้ คุ ณ หนู เ บาๆ รอยบนหลัง ขาวนวลมี
มากมายจนไม่รวู้ ่ารอยไหนเป็ นรอยที่ชายผูน้ ัน้ ทิ้งไว้

ใต้เท้านัน่ สมควรตายไปซะ!

เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะดาแช่ง เหตุใดเขาจึงบังคับคุณหนู
ได้ลงคอ คิดถึงตรงนี้ ทีไรอารมณ์ กค็ ุกรุ่นขึ้นมาทุกที โมโหจน
ยากจะยอมรับได้

รอยตามตัวบางรอยก็เริ่มจางแล้ว บนแผ่นหลังก็เหลือ
แต่รอยสีชมพูระเรื่อ ยิ่งคุณหนูไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ลุ่ยจูยิ่งกัด
ฟั นด้วยความเคียดแค้ นในอก กระนัน้ นางเองก็ยงั ไม่กล้าเอ่ ย
ทาได้แค่เพียงหยิบเสื้อสะอาดมาผลัดเปลี่ยนให้

่ ิ ง ก็น อนลงบน
พออยู่ใ นเสื้ อ ผ้า ชุด ใหม่ แ ล้ ว ถานหวันช
เตียงอุ่นโดยมีล่ยุ จูช่วยนวดหน้ าผาก “คุณหนู ร่างกายคุณหนูดี
ขึน้ มากแล้วนะเจ้าคะ ไม่มีไข้แล้ว”

ครัง้ ที่ แล้ว หลังจากลอบหนี ออกมาได้จากเมื่อครัง้ ที่ ถกู


เนรเทศ คุณหนูกป็ ่ วยหนักอยู่พกั หนึ่ ง ทาให้นางตกใจแทบแย่
ครัง้ นี้ มีไข้อ่อนๆ ไม่ได้หนักอย่างคราวแรก

6
ตอนที่ อาบน้ าถานหวันช ่ ิ งเกือบลืมตาไม่ขึ้น พอได้นอน
เปลื อกตาก็ค ้า ยันไม่อยู่ นางคิ ด เพี ย งว่าตนอาจจะกิน อาหาร
มากไป อีกทัง้ วันนี้ กล็ าบากหนักหน่ วงเอาการ หากได้พกั ผ่อน
สักหน่ อยคงจะดีขึน้

กลับเป็ นลุ่ยจูที่กงั วลใจกับท่าทางอ่อนเพลียของคุณหนู


เกรงแต่ ว่ า จะเป็ นอาการป่ วยไข้ ที่ ย งั แสดงให้ เ ห็น ไม่ เ ด่ น ชัด
ตอนนี้ พวกนางยังพอมี เงินติดตัวอยู่บ้าง พรุ่งนี้ ตนจะไปตาม
หมอมาดูอาการของคุณหนู หากได้ กิน ยาสักสองชุด คุณหนู
น่ าจะดีขึน้ ได้

เมื่อได้ ยินเสี ยงลมหายใจสมา่ เสมอที่ บ่งบอกว่าคุณหนู


นอนหลับไปแล้ว เด็กสาวก็หยิบผ้าห่มมาคลุมให้ก่อนจะตรงไป
ที่ครัว จากนัน้ ก็ไปกวาดหิมะและทาความสะอาดลานบ้าน

หอหงฝูตงั ้ อยู่บริเวณถนนหนานเหมินเชื่ อมกับถนนตง


เหมินซึ่งเป็ นทาเลที่ดีที่สุด มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า ตัง้ แต่ชนั ้ บนลง
ล่างมีทงั ้ สิ้นหกชัน้ ทัง้ อาหารและสุราในหอล้วนเลิศรส รา่ ลือกัน
ว่าฝี มือพ่ อครัวสื บทอดจากบรรพบุรุษมาสามรุ่น โดยที่ บรรพ
บุรษุ รุ่นปู่ เคยรับราชการในวังมาก่อน ฮ่องเต้ได้ลิ้มลองฝี มือทุก
รายการยังออกปากชมว่ า อร่อ ย ทัง้ หมดนี้ ล้ว นเป็ นเหตุ ผ ลที่
กิจการของหอนี้ รงุ่ เรืองทุกวัน
7
หน้ าหอมีการสร้างสะพานหินให้คนสัญจร เชิงสะพานมี
ศาลาตัง้ อยู่ทาให้ทศั นี ยภาพงดงามเป็ นที่ สุด ที่ นัน่ จึงมีคนและ
ม้าขวักไขว่ไปมาไม่ขาดสาย

เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในหอสุรา ก็จะได้ดื่มสุราพร้อมกับกิน
อาหารดีๆ ท่ามกลางบทเพลงที่ขบั กล่อม มองกลุ่มคนหลังไหล ่
เข้ามาอย่ างมืดฟ้ ามัวดิน ช่ างเป็ นภาพที่ ดึงดูดความสนใจได้
เป็ นอย่างดี

ชวีเซิ่นเฟิงเหมาชัน้ สองของหอหงฝู รูปแบบการตกแต่ง


ภายในชัน้ นี้ ดูส ง่ า งามรโหฐาน บรรยากาศน่ า อภิ ร มย์ไ ม่ เ ลว
ที เดี ยว พรมขนแกะสี แดงดุจเลือดถูกปู อยู่ใกล้หน้ าต่ าง มีโต๊ะ
เก้าอี้ ไม้หนานมู่เกลี้ยงเกลาสิบหกชุด เพดานห้ องโถงประดับ
ภาพมังกรบิน ผนังทิศตะวันตกแขวนภาพภูเขาและสายน้ า ที่ ใช้
การวาดลายเส้นนุ่มนวลละมุนละไมบนเนื้ อผ้าไหม

แต่ น่ า เสี ย ดาย เมื่ อ เหล่ า ทหารโผงผางที่ ไ ม่ ไ ด้ ร า่ เรี ย น


หนังสือพวกนี้ มาก็หาได้มีสายตาที่จะชื่นชม ทุกนายต่างจับจ้อง
เพียงสุราชัน้ ดีและอาหารรสเลิศตรงหน้ า ทัง้ ดื่มทัง้ กินกันอย่าง
มูมมาม

8
ใต้ เท้ าเซี่ ยกับคนสนิทไม่กี่คนอยู่ในห้ องส่ วนตัวอี กห้ อง
ใต้ เท้ าเซี่ ยซึ่ งแต่ ก่อนไม่ดื่มสุรา วันนี้ ไม่รู้ว่าอารมณ์ ไม่ดีหรือ
อารมณ์ ดีเกินไปกันแน่ เพราะเขารับคาเชิญชวนจากชวีเซิ่งเฟิง
กับเถ้าแก่ซือและอีกหลายคนให้ดื่มสุรา เรียกว่าชนกันชามต่ อ
ชามเลยทีเดียว

เมื่อมีคนเทสุราลงชามให้ ใต้เท้าก็แหงนหน้ ากระดกอึกๆ


หวังจี้กบั คนอื่นเห็นใต้เท้าปล่อยตัวจึงทาตัวตามสบายมากขึ้น
ทัง้ ที่ก่อนหน้ ายังเก้ๆ กังๆ ขัดเขินอยู่บา้ ง

ในห้องมีพร้อมสรรพทัง้ สุรา อาหาร ดนตรีเพื่อเพิ่มความ


สนุกสนานแล้วยังมีหญิงงาม

หญิงงามนี้ มีทงั ้ ขายศิลปะไม่ขายเรือนร่าง แล้วก็มีทงั ้ ขาย


ร่างพร้อมกับศิลปะ พอพวกนางเห็นใต้เท้ าเซี่ ยวางมือจากสุรา
อาหารก็รีบตรงเข้ามาหาเหล่าบุรษุ ทันที

บุ รุ ษ ในที่ นี้ ล้ ว นเป็ นชายหนุ่ มวัย ฉกรรจ์ แต่ ล ะคนมี


พละกาลังทัง้ ยังแข็งแกร่งและหล่อเหลา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่าง
องอาจผึ่งผายและหน้ าตาหล่อเหลาของใต้เท้าที่ อยู่ตรงกลางผู้
นัน้

9
ใครไหนเลยจะไม่อยากสานสัมพันธ์กบั ใต้ เท้ าผู้กล้ าซึ่ ง
เต็มเปี่ ยมไปด้วยความห้ าวหาญทัง้ ยังหนุ่ มแน่ นกันเล่า ได้ยิน
มาว่าเขายังไม่ได้แต่งเมียร่วมเรียงเคียงหมอน ผูห้ ญิงข้างกายก็
ไม่มีมาเกาะแกะ จิตใจหญิงสาวทัง้ เมืองต่ างรอชายโสดผู้นี้มา
ขอแต่งงาน

หญิงแต่ ละนางต่ างงัดทุกความสามารถ พาเรือนร่างมา


ร่ายราตรงหน้ าแล้วยังส่ งสายตาหยาดเยิ้มมาให้ กระทังบุ
่ ร ุษ
หลายคนในห้องถูกกระตุ้นจนต่อต้านความงามบาดตาอย่างนี้
ไม่ไหว

หญิงสาวที่ นัง่ อยู่ข้างๆ ใต้เท้าเซี่ ยมีโฉมหน้ างดงามเป็ น


ที่ สุด ยิ่งได้แต่งตัวประดับเสริมแต่งก็ทาให้ผ้หู ญิงทุกคนในห้อง
ไม่มีใครเที ยบกับนางได้ เริ่มแรกนางเลือกที่ จะนัง่ เงียบๆ อย่าง
สงบเสงี่ ย มเจี ย มตัว แต่ เ พี ย รส่ ง สายตาหวานฉ่ า ามาให้ ช าย
หนุ่มข้ างๆ ตลอดเวลา นางเห็นเขายกชามสุรากระดกลงท้อง
ครัง้ แล้วครัง้ เล่าจนเริ่มจะมึนเมาบ้างแล้ว

นางมองประเมินแม่ทพั หัวเมืองตรงหน้ า ช่างเป็ นวีรบุรษุ


ตัง้ แต่ อายุยงั น้ อยจริงๆ ทัง้ หนุ่มแน่ นและรูปงามที่ หนึ่ งไม่เป็ น
สองรองใคร เหมือนกับที่มารดาได้พดู ไว้ไม่มีผิด ชายผูน้ ี้ อกผาย
ไหล่ผงึ่ รูปร่างสูงใหญ่
10
นางหยุดคิดพลางยื่นมือไปจับแขนของใต้เท้าเบาๆ ด้วย
ใบหน้ าขัดเขินน่ ารักจนทาให้คนที่เห็นอดรักใคร่เอ็นดูไม่ได้

ครัน้ เห็นคนรอบข้างต่างกาลังสนใจกับหญิงงาม นางจึง


ใช้ โ อกาสตอนที่ ใ ต้ เ ท้ า ประคองชามค่ อ ยๆ วางมื อ ลงบนอก
แกร่งของเขา แค่สมั ผัสนางก็ร้ไู ด้ถึงพละกาลังที่ซ่อนอยู่ มารดา
บอกว่าผูช้ ายเช่นเขาสามารถปกป้ องหญิงที่รกั จากการถูกรังแก
ได้

จิตใจของนางพลันสันไหว
่ ค่อยๆ เอนร่างแอบอิงอยู่ใน
อ้อมกอดของชายหนุ่ม ลูบไล้ผิวแข็งแกร่งด้วยใบหน้ าที่ แดงกา่
ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือลงไป จนกระทังแตะเอวเกลี
่ ้ยงเกลา

จู่ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อมือของตนก็ถกู แรงบีบรังให้


้ หยุด

หญิงสาวเงยหน้ ามองอีกฝ่ ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ สายตา


ไล่จากแผงอกที่ ติดดุมเสื้อไม่เรียบร้อยจนไปสบกับสายตามึน
เมา นางมองเขานิ่ง ดวงตาเริ่มฉายแววสับสนวุ่นวาย เขาจับมือ
นางไว้แน่ นแล้วค่อยยกมันขึน้ จรดริมฝี ปาก

สายตานั น้ มองนางราวกับสิ่งของมีคาที่ น่าทะนุ ถนอมก็


ไม่ปาน ใบหน้ าหญิงสาวยิ่งแดงกา่ มากขึ้น หัวใจในอกด้านซ้าย

11
เต้นระรัวตลอดเวลา

กลิ่ น ต้ น กานพลู ฟ้ ุ งกระจายเข้ า จมู ก ท าให้ ใ ต้ เ ท้ า เซี่ ย


ขมวดคิ้วเล็กน้ อย ดึงจิตใจที่ล่องลอยเคลิบเคลิ้มให้กลับมา

ครัน้ เห็นคนตรงหน้ า ใบหน้ าเม็ดบัวที่แดงปลังเพราะแป้


่ ง
สีชาด สายตาที่ครึม้ มัวในตอนแรกเพราะความมึนเมากลับแจ่ม
ชัดขึน้ มาทันที สีหน้ าใต้เท้าแปรเปลี่ยนเป็ นขุ่นเคืองในทันใด

“คุณหนูชวี”

เขาทิ้งมืออีกฝ่ ายลงอย่างไม่มีความอาลัยอาวรณ์ แม้แต่


น้ อย กล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็นเยียบเช่นเดียวกับใบหน้ าที่ เย็นชา
“เชิญกลับเถิด ที่นี่ไม่ใช่ที่ซึ่งบุตรสาวตระกูลชวีควรจะมาอยู่”

ไม่ รู้ ว่ า ชวี เ ซิ่ งเฟิ งคิ ด วางแผนอะไร? แต่ ช ายหนุ่ มไม่
จาเป็ นต้องคิดให้ยุ่งยาก ในเมื่อมันชัดเจนขนาดนี้ เขาไม่อยาก
ทาลายมิตรภาพเก่าก่อน แต่ไม่นึกเลยว่าเถ้าแก่ชวีจะไม่สนใจ
หน้ าตาและชื่อเสียง กล้าส่งบุตรสาวมาสถานที่ อโคจรเช่นนี้ ได้
อีกฝ่ ายคงคาดหวังว่าจะมอบนางให้แก่เขา คงอยากจะบังคับให้
เขายอมศิ โ รราบ หากเขาเป็ นพวกเมาหย่ า เปหรื อ เป็ นทาส
ตัณหามากกามารมณ์กว็ ่าไปอย่าง...

12
ใต้ เ ท้ าปรายตามองลูกน้ องคนสนิ ทซึ่ ง อยู่ในที่ นั น้ ด้ วย
แต่ละคนมีหญิงงามข้างกายมากมาย แม่นางเหล่านัน้ กาลังทา
ท่าทางเอียงอายมากด้วยจริต ทุกนางล้วนมีเสน่ ห์ยวยวน ั่ ฝ่ าย
หญิงมีใบหน้ าแดงกา่ ด้วยเลือดฝาด กาลังแสร้งรัง้ ตัวออกจาก
อ้อมกอดซึ่ งเป็ นศิลปะอย่างหนึ่ งของหญิงคณิกา ส่ วนคนของ
เขาปากก็เ รี ย กเด็กดี แ ล้ วก้ ม หน้ า ลงบดจูบ หญิง สาวบนตัก ก็
จูบ ตอบอย่ า งร้ อ นแรงต่ อ หน้ า ธารกานั ล แล้ ว เอ่ ย วาจาลามก
สัปดน ลูกน้ องทุกคนต่างอยู่ในอาการลุ่มหลงมัวเมา

เมื่ อ ก่ อ นเขายัง พอหลับ หูห ลับ ตาแสร้ ง ท าเป็ นไม่ รู้ไ ด้


เพราะทหารพวกนัน้ วันทัง้ วันอยู่แต่กบั ดาบเปื้ อนเลือด ใช้ชีวิต
แบบไม่รวู้ ่าจะตายวันตายพรุง่ ไม่ค่อยได้สนุกสนานรืน่ เริงนัก

แต่ ต อนนี้ ดูเ หมือนว่ า แต่ ละคนกลับ ถูกสุราและอิส ตรี


ครอบงาจนสิ้น ไม่เหลือเค้าทหารอยู่เลย

ส่ วนกลุ่มบุรุษที่ ไม่รู้ตวั ว่าถูกใต้ เท้ าจับจ้องอยู่ ตามจริง


แล้วเมื่อครู่พวกเขาได้แต่กินดื่ม พยายามทนต่อการกระตุ้นเร้า
จากบรรดาหญิงสาว ทัง้ ที่คนั ไม้คนั มืออยากจะลูบคลาบ้ าง แต่
เมื่อเห็นใต้เท้าดูท่าจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ใครจะกล้าสนุกได้ลงคอ
จึงได้แต่ปัน้ หน้ าสมาคมกันต่อไป

13
แต่พอเห็นผูห้ ญิงข้างกายลงไปอิงแอบแนบร่างกับใต้เท้า
ทุกคนจึงผ่อนคลายลง ใจกล้าขึน้ มาทันที คิดเพียงว่าในที่สุดใต้
เท้าของพวกตนก็เริ่มจะเปิดหูเปิดตาบ้างแล้ว

ผลปรากฏว่ า บรรยากาศที่ เ พิ่ ง เป็ นไปได้ ด้ ว ยดี แต่ จู่ๆ


แววตาของเซี่ ย เฉิงจู่กลับ เปลี่ ย นไป ทิ้ ง สาวงามในมื อโดยไม่
เอื้อนเอ่ยใดๆ ซา้ ยังเพ่งดวงตาดุจเหยี่ยวมามองพวกเขา

สายตาคมดุจบั จ้องลูกน้ องที่ กาลังถูกสาวๆ กล่อมให้ดื่ม


ด้วยความไม่พอใจ!

14
32 ข่าวดี

จัง หวะนั ้น เองก็ มี ค นผู้ห นึ่ งผลุ น ผลัน เข้ า มาในห้ อ ง


เขาตรงไปหยุดยืนข้างเซี่ยเฉิงจู่ แล้วป้ องปากกระซิบ

“จริง หรือ?” สี หน้ าเซี่ ย เฉิงจู่ผ่อนคลายลง ดวงตาฉาย


แววประหลาดใจและตกใจระคนกัน ชายหนุ่ มยื ด ตัว ลุ ก ขึ้ น
สะบัดเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป

ใต้เท้าจากไปโดยไม่ทิ้งคาใดไว้เลย บรรดาลูกน้ องก็ไม่รู้


ว่าเกิดเรือ่ งอะไรขึน้ แต่เมื่อคิดอีกทีหากใต้เท้ามิได้เอ่ยปากก็คง
เป็ นเรื่ อ งส่ ว นตัว กอปรกับ ทุ ก คนยัง อาลัย อาวรณ์ สุ ร าชัน้ ดี
อาหารเลิศรส และเนื้ อนุ่ ม หอมกรุ่น ในอ้ อมกอด จึ ง มี ท่ าทาง
ละล้าละลังกันครูห่ นึ่ งก่อนจะนัง่ แหมะดื่มสุราดังเดิม

ตอนนี้ ชวีรวอวั ่ ิ๋ นเหมือนมีน้ าเย็นสาดใส่ หน้ าโครมใหญ่


ใจเพิ่งจะลิงโลดอยู่แท้ๆ แต่กลับเหมือนถูกแช่แข็งในชัวพร ่ ิ บตา
นางอยากจะร้องเรียกใต้เท้าให้หยุด อยากจะลูบแผงอกเขาแล้ว
ถาม...เมื่อครู่นัน้ ใช่หรือไม่ที่พวกเรา...ทว่าใต้ เท้ ารวดเร็วปาน
สายลม แม้แต่สายตาก็ไม่เหลือบแลมาที่ นางเลยสักนิด ราวกับ
ว่าอารมณ์ลึกซึ้งเมื่อครูเ่ ป็ นเพียงภาพฝันที่นางคิดไปเอง

1
เป็ นไปไม่ ไ ด้ ! มัน ชัด เจนออกปานนั ้น ว่ า เขาชอบข้ า !
แน่ นอนว่านางไม่ได้มองพลาดไป แล้วเหตุใดจึงต้องทาเมินเฉย
ไร้เยื่อใยต่อกันเช่นนัน้ ด้วยเล่า

ทหารนายหนึ่ งที่ ดื่มกินห่างออกไปไม่ไกลนัก เห็นแล้วก็


ส่ า ยหน้ า อย่ า งระอาพลางหัว เราะเยาะ คิ ด ว่ า ใต้ เ ท้ า ชอบเจ้า
จริงๆ น่ ะหรือ?

เขานึ กถึงเหตุการณ์ บุกช่ วยคนจากพวกต๋า คราแรกใต้


เท้ า ก็ค อยปกป้ องคนในอ้ อ มแขนบนหลัง ม้ า ตัว เดี ย วกัน ใน
บ้ านดิ น หลัง เล็ก ก็ค อยดู แ ลไม่ ห่ า ง ระหว่ า งเดิ นทางเรื่ อ ง
เล็กน้ อยเพียงใดก็ดแู ลไม่ขาดตกบกพร่อง แม้แต่ความเร็วหรือ
ช้าในการเดินทางก็ยงั ควบคุม ในเกวียนก็สงให้ ั ่ เอาผ้าขนสัตว์
ไปคลุมไว้ มากมาย ทัง้ กลัวคนจะหนาวจะหิว ทุกคนเห็นแล้ว
สายตาพลัน เป็ นประกายวาววับ ที่ แ ท้ ใ ต้ เ ท้ า ก็มี ค นที่ นึ กถึ ง
ตลอดเวลาอย่างชัดเจน

เมื่อก่อนนัน้ ใต้เท้าผูน้ ี้ ไร้เยื่อใยเป็ นที่สดุ ชอบหรือไม่ชอบ


ก็มกั เก็บซ่ อนความรู้สึกไว้ภายใน คนที่ คิดถึงคะนึ งหาก็ไม่เคย
เปิ ดเผยให้ ผู้ใ ดได้ เ ห็น มาก่ อ น ยิ่ ง สถานเริ ง รมย์เ ช่ น นี้ ก็แ ทบ
ไม่ได้ย่างเข้ามา

2
เจ้าอยากให้เขานิยมชมชอบเช่นนัน้ หรือ อย่าได้คิดเพ้อ
เจ้อไปเลย มันก็แค่เรื่องจอมปลอม เพราะในใจเขาหาได้มีเจ้า
ไม่ ยิ่ ง เจ้ า เลื อ กที่ จ ะนั ง่ ตรงนี้ ก็ยิ่ ง ท าให้ ค นมองอย่ า งเหยี ย ด
หยาม หากเจ้ า เป็ นคนที่ ใ ต้ เ ท้ า ไว้ ห น้ า เขาอาจใจอ่ อ นเพื่ อ
ชื่ อเสี ยงของเจ้าอยู่บ้าง ทว่าคนที่ มีทิฐิใจแข็งดังเหล็กกล้าเช่ น
เขา เมื่ อ ในใจไม่ มี เ จ้ า ต่ อ ให้ พ ยายามไขว่ ค ว้ า เพี ย งใดก็ไ ร้
ประโยชน์ อย่างไรก็เป็ นได้แค่หญ้าที่ไม่อยู่ในสายตา

บทเรียนนี้ แม่นางน้ อย...วันหน้ าก็จดจาไว้ให้ดีๆ แล้วกัน

แต่ท่าทางขวัญหายในยามนี้ กน็ ่ ามองใช่ย่อย นางยื่นมือ


ไปหยิบสุรามารินใส่จอกทัง้ ที่ น้ าตาคลอเบ้า นายทหารหนุ่มใจ
กล้าและหวังดี จึงหยิบจอกสุรามาจากมือหญิงงาม แต่ กลับถูก
นางตบหน้ าเสียอย่างนัน้

“ไสหัวไปให้พ้น! อย่าได้เอามือโสมมมาแตะต้องข้า”

โอ้ … มือข้าสกปรก แล้ วมือเจ้าที่ ลูบคลาใต้ เ ท้ าเมื่อ ครู่


สะอาดอย่างนัน้ หรือ?

นายทหารหนุ่มวัยยี่สิบ ฆ่าฟั นศัตรูในสนามรบมานับไม่


ถ้วน จะยอมให้ คนตบหน้ าระบายอารมณ์ เล่นหรือ? ในใจชาย

3
หนุ่ มจึงโกรธเกรี้ยว คิ้วกระตุกในฉั บพลัน...ถึงจะเป็ นคุณหนู
สกุลชวีข้าก็ไม่สนแล้ว! เขารวบนางไว้ในอ้อมกอดแล้วหัวเราะ
ชอบใจ “นิสัยฉุ นเฉี ยวแบบนี้ ข้าชอบ ในเมื่อใต้ เท้ าไม่เอาเจ้า
เช่นนัน้ ก็เป็ นของข้าเสียเถอะ!”

ตระกูลชวี แล้ว อย่ างไร! เขากลัวเสี ยที่ ไหน หากใต้ เ ท้ า


ถามก็ตอบไปว่าเขาดื่มจนเมาไม่รู้เรื่องอะไรทัง้ นั น้ แค่ นี้กจ็ บ
โทษสูงสุดก็แค่ถกู กระบองทหารตี สิบกว่าที หากแลกกับได้จูบ
ได้ดอมดมกลิ่นหอมก็ถือว่าคุ้มค่านัก พอได้ยลโฉมงามร่างเล็ก
ใกล้ๆ แม้ไม่งดงามสุภาพเยือกเย็นเท่ าหญิงสาวที่ ใต้ เท้ าชอบ
แต่ ดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่ อยก็น่าเอ็นดูไม่น้อย จึงอด
ไม่ได้ที่จะกอดจูบลูบคลานางทันที

ตอนนี้ ชวีเซิ่นเฟิงที่ วางแผนไว้เรียบร้อย รู้ดีว่าบุตรสาว


คนเล็ก ของตนอยู่ ก ับ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ข้ า งใน จึ ง เจตนาเดิ น หลบ
ออกมาเพื่อเปิดทางให้ จนกระทังเห็ ่ นใต้เท้าเดินออกมาแล้วจึง
รีบร้อนเข้าไปดู คาดไม่ถึงเลยว่าจะเจอภาพบุตรสาวคนเล็กที่
ใบหน้ าเต็ม ไปด้ ว ยคราบน้ า ตา ก าลัง ถูก ลู ก น้ องของใต้ เ ท้ า
ล่วงเกินราวกับนางคณิกา เหมือนหญิงไร้ค่าราคาถูกก็ไม่ปาน

เมื่อเซี่ ยเฉิงจู่ได้ยินทหารรายงานก็ออกจากหอหงฝู ตรง


ดิ่งกลับค่ายทหารทันที
4
ในโรงครัวของค่ ายทหาร ยามนี้ ผ้ทู ี่ ดูแลครัว กาลัง วาง
อาหารเรียงรายลงบนโต๊ะ

เนื่ องจากเมื่ อ ช่ ว งเช้ า ทหารล่ า สั ต ว์ ใ นภู เ ขามาได้


นอกจากมีเนื้ อวัวเนื้ อควายแล้วยังมีเนื้ ออื่นๆ ติดมาด้วย ดังนัน้
ใต้ เท้ าจึงมี คาสังให้่ ทาอาหารประเภทเนื้ อ เป็ นมื้อกลางวัน ให้
เหล่ าทหาร เพราะในพื้นที่ ที่มีหิมะปกคลุมหนา หากไม่ได้ กิน
เนื้ อ กัน เสี ย บ้ า ง เกรงว่ า จะทนยื น เฝ้ ารัก ษาการณ์ ท่ า มกลาง
ความหนาวเหน็บไม่ไหว

ทว่ า คนที่ ท าหน้ าที่ หุ ง หาอาหารได้ ใ ช้ เ นื้ อแค่ เ พี ย ง


บางส่ วน ดังนั น้ เมื่อจางเซี่ ยนกับกัวซิ่งซึ่ งรี บร้อนกลับมาจาก
เมืองหลวงพร้อมกับลูกน้ องอีกสองนายมาถึงค่ายท้องก็ร้องหิว
พอเห็นเนื้ อเข้าจึงให้โรงครัวตัง้ หม้อจุดถ่านไฟแล้วพวกเขาก็มา
นั ง่ รวมกัน อยู่ ที่ โ ต๊ ะ รออาหารในหม้ อ ที่ ก าลัง เดื อ ดพล่ า น
จากนัน้ ก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้ อขึน้ มากินอย่างหิวโหย

ตอนที่ ใต้ เท้ าเดินเข้ามาจึงได้กลิ่นเนื้ อหอมกรุ่นอบอวล


อยู่ในห้อง

ครัน้ ทัง้ สี่เห็นเซี่ยเฉิงจู่ สีหน้ าของพวกเขาก็ไม่อาจปกปิด


ความปี ติ ยิ น ดี เ อาไว้ ไ ด้ ทัง้ หมดรี บ วางตะเกี ย บแล้ ว ตรงไป
5
คารวะ กล่าวด้วยน้ าเสียงตื่นเต้น “ใต้เท้าการเดินทางครัง้ นี้ ไม่
ทาให้เสียหน้ าเรือ่ งที่ใต้เท้าสังเลยขอรั
่ บ”

เซี่ยเฉิงจู่ก้าวเข้าไปประคองคนทัง้ สี่ให้ลุกขึน้ “สองวันมา


นี้ หิมะตกหนัก พวกเจ้ารีบกลับมาคงลาบากไม่น้อย เรือ่ งนี้ ไม่ได้
รีบร้อน กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยคุยกัน”

จางเซี่ ยนกับกัวซิ่งรีบกล่าว “อิ่มแล้วขอรับ ใต้เท้าวางใจ


พวกเราไม่ทรมานตัวเองแน่ ”

เพียงทุกคนเห็นสีหน้ าใต้เท้าที่ แม้จะยังสุขมุ แต่กย็ ากจะ


ปกปิดประกายในดวงตาได้ ปากอาจจะว่าเอ่ยไม่รีบทว่าในใจ
นัน้ คงร้อนรนนัก แล้วพวกเขาจะไม่รีบได้อย่างไร

ทัง้ ค่าใช้จ่ายกับเสบียงอาหารที่ต้องกินต้องใช้ทุกวันของ
ทหารทัง้ ค่ายราวสองพันกว่านาย ใต้เท้าต้องรับภาระหนักอึ้งไว้
ทัง้ สองบ่ า ตอนกลับ มาเห็น ผู้ลี้ ภ ัย นอกเมื อ งเฉี ยดแสนคน
กระมัง แล้วยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่ อง คนเหล่านี้ ไม่ว่า
จะมี ชี วิ ตอยู่ ห รื อ ตายแล้ ว ก็ ย ัง เป็ นภาระของใต้ เ ท้ า อยู่ ดี
ค่าใช้จ่ายและเสบียงที่เคยมากโขก็ค่อยๆ ร่อยหรอลง

6
พอกลับมาก็ยงั ได้ยินตู้เหอบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าหากพวก
เขารอนแรมนานกว่านี้ สกั หน่ อย คลังเสบียงก็คงต้องแห้งขอด
แม้แต่น้ามันก็เหือดแห้ง

“ก็ได้” เซี่ ยเฉิงจู่พยักหน้ า ก่อนจะสังให้


่ พ่อครัวเติมเนื้ อ
และข้าวอี กมากๆ แล้วให้ ลูกน้ องสองนายที่ เหน็ ด เหนื่ อยจาก
การเดินทางกินให้ อิ่ม ส่ วนจางเซี่ ยนกับกัวซิ่งเดินตามใต้ เท้ า
ออกไปที่คลังด้วยกัน

แต่ก่อนในคลังที่กว้างขวางนัน้ ว่างเปล่า ทว่าเวลานี้ กลับ


มีเกวี ยนใหญ่ขนเสบียงอาหารนั บสิบเล่ม จางเซี่ ยนและกัวซิ่ง
ช่วยกันแก้ปมเชือกที่ มดั ผ้าคลุมแต่ ละเกวียนออก บนนัน้ ล้วน
เต็มไปด้วยอาหาร ข้าวสารและหี บใหญ่อีกสิบกว่าใบ และเมื่อ
ไขกุญแจบนหี บใหญ่ออก ในโถงคลังพลันสว่างขึ้นมาฉั บพลัน
ของที่ อ ยู่ข้ า งในทัง้ หมดเป็ นทองค าเหลื อ งอร่ า ม และเงิ น อี ก
มากมายมหาศาล

"ทัง้ หมดเป็ นเงินทองและของมี ค่าอย่ างที่ ใต้ เท้ าคิ ด ไว้


พอพวกเราแอบเข้าจวนถานได้ก็ทาการค้นหาอย่างละเอียด ใช้
เวลาสองวันในที่สุดก็พบอุโมงค์แห่งหนึ่ งอยู่ใต้ภเู ขาจาลองที่ ไม่
สะดุดตา อุโมงค์นัน้ อยู่ใต้คลังน้าแข็งซึ่งมีทางเข้าออกตามปกติ
มิน่าพวกเจ้าหน้ าที่ ยึดทรัพย์ถึงหาไม่เจอ เพราะมันถูกอาพราง
7
ไว้อย่างมิดชิด พวกเจ้าหน้ าที่ คงเข้าใจว่าเป็ นแค่ ที่ส่งลาเลียง
น้าแข็งก้อนธรรมดา ไม่คิดเลยว่าจะมีอโุ มงค์ซ่อนอยู่ด้วย

่ าถานเฉิงจี้เป็ นข้าราชการที่ซื่อสัตย์สจุ ริต


ฮ่องเต้มีรบั สังว่
ทรัพย์สินในจวนจึงมี ไม่มาก ถ้าหากถูกพบว่ ามี คลังใต้ ดินซุก
ซ่ อ นเงิ น ทองและของมี ค่ า จ านวนมหาศาลไว้ เกรงว่ า คงจะ
ได้รบั โทษหนักยิ่งกว่าตระกูลเจิ้งกับตระกูลหรันหลายเท่านัก"

กัว ซิ่ ง ยัง รายงานต่ อ ไป “ตอนที่ ข้ า กับ ลู ก น้ อ งของจาง


เซี่ ยนเจอที่ นัน่ มีทงั ้ ทองและเงินอยู่ในหีบใหญ่หลายใบ บางหีบ
ถึงกับล้นทะลักออกมา ในห้องเต็มไปด้วยแสงสว่างเรืองรอง ยิ่ง
ไปกว่านั น้ ยังมีทองคาที่ หล่อเป็ นเมล็ดฟั กทองและลูกฟั กทอง
ใหญ่ๆ ทัง้ นั น้ รูปแบบก็สวยงาม พอได้เห็นข้าวของคนรา่ รวย
พวกนี้ แล้วมาคิดดู ประชาชนหลายแคว้นต้ องหิวโหยอดตาย
แต่ขนุ นางในเมืองหลวงเหล่านี้ กลับซ่อนเงินทองมากมายไว้ใช้
ส่วนตัว ทัง้ ที่สามารถช่วยได้ตงั ้ หลายชีวิต ช่างน่ าชิงชังนัก!”

หากว่าคนไม่ร้จู กั ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่ตนเอง ฟ้ าดินคง


ไม่ ยิ น ยอมเป็ นแน่ แท้ ทว่ า ใครไหนเล่ า จะสนใจเรื่ อ งความ
เป็ นอยู่คนอื่น ตัง้ แต่โบราณมาก็เป็ นเช่นนี้

8
จางเซี่ ยนกล่าวขึ้นบ้าง “ใต้ เท้ า พวกเราตรวจสอบแล้ว
เงินมีทงั ้ หมดสามแสนแปดหมื่นตาลึง โฉนดที่ ดินหนึ่ งร้อยฉิ่ง
หากพูดตามตรงแล้วมีมากกว่าสองตระกูลนั น่ โขที เดี ยว นี่ ยงั
นับว่าเป็ นเล็กน้ อยเพราะในอุโมงค์มีสมุดบัญชีวางไว้ รายรับทุก
อีแปะที่เข้าบัญชีมีจดบันทึกไว้ชดั เจนมาก ล้วนเป็ นสิ่งของที่ ถกู
ส่งมาให้ จากบันทึกน่ าจะได้รบั มายาวนานพอควรเลยขอรับ”

กล่าวจบเขาก็หยิบสมุดบัญชีออกมาส่งให้ใต้เท้าเซี่ ยเฉิง
จู่รบั มาเปิดดูอย่างละเอียด

ระหว่างนัน้ จางเซี่ ยนก็รายงานไปด้วย “เงินทองจานวน


มากขนาดนี้ การน าเอาออกมาไม่ ง่ า ยนั ก ตลอดทางที่ ข น
ลาเลียงกลับมา ข้ากับกัวซิ่งจ้างสานักคุ้มกันที่มีชื่อเสียงที่สุดใน
เมืองหลวงมาจนถึงเมืองอี้ โจว จ่ายไปทัง้ สิ้นเกือบห้ าพันตาลึง
แล้วยังต้องตบตาคนอื่นด้วยการซื้อข้าวสารเป็ นจานวนมาก ซึ่ง
ข้าวของในเมืองก็แพงกว่าที่นี่”

แน่ นอนว่าตอนแรกพวกเขาไม่ได้ไตร่ตรองมาก่อนว่าจะ
ตบตาผูอ้ ื่นอย่างไร อีกทัง้ หีบแต่ละใบก็ยวใจคนทั
ั่ วไปนั
่ ก

“ส่ ว นบรรดาโฉนดที่ ดิ น พวกเราไม่ มี วิ ธี จ ดั การจริ ง ๆ


พวกมันมีจานวนไม่น้อยเลย หากขายทัง้ หมดในวันเดียวเกรง
9
ว่าจะทาให้ผคู้ นแตกตื่น จึงได้แต่นากลับมาด้วยขอรับ”

“พวกเจ้าทาได้ดีมาก” เซี่ ยเฉิงจู่วางสมุดบัญชี ลงข้างๆ


ถอนหายใจเฮือกหนึ่ ง “บุญคุณครัง้ นี้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าใน
เมืองเว่ ย อัน ล้ ว นเป็ นหนี้ พ วกเจ้ า แต่ เ นื่ องจากเรื่ องนี้ ไ ม่ อ าจ
แพร่งพรายได้ ข้าจึงได้แต่ เป็ นตัวแทนพวกเขากล่ าวประโยค
หนึ่ ง ...ขอบคุณ อย่ า งสุด ซึ้ ง บุญ คุณ นี้ ย ากจะลื ม เลื อ นไปชัวน ่ ิ
รันดร์”

เมื่อเห็นแม่ทพั หัวเมืองโค้งกายคารวะพวกเขา ทัง้ สองก็


อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงพื้น เอ่ยด้วยใบหน้ าละอายใจ “ทัง้ หมด
เป็ นเพราะพวกเรารับ คาบัญชาจากใต้ เท้ า พวกเราเป็ นเพี ยง
ทหารเล็กๆ ที่วิ่งแทนเท่านัน้ ความดีความชอบครัง้ นี้ ไม่สมควร
รับไว้อย่างยิ่ง”

ทรัพย์สินหลายแสนตาลึงถูกลาเลียงมาจากจวนตระกูล
ถาน จะต้ องผ่านเมืองหลวง อี กทัง้ โจรตามทางมากมายนั บไม่
ถ้ ว น การขนส่ ง ล าเลี ย งยากแค่ ไ หนไม่ อ าจรู้ไ ด้ ทว่ า พวกเขา
สามารถลากกลับมาได้มากมายทัง้ ที่ต้องเผชิญกับหิมะตกหนัก
ย่อมเป็ นเพราะความสามารถของคนกลุ่มนี้ ล้วนๆ ในสภาวะ
เช่นนี้ ทรัพย์สินเงินทองจานวนมากอาจทาให้จิตใจคนหวันไหว ่
สันคลอน
่ ทัง้ พวกผูค้ ้มุ กันแปลกหน้ าอาจฉกฉวยโอกาสแย่งเอา
10
ไปได้

ถือว่าพวกเขากล้าหาญและเสี่ ยงชี วิตมากเหลือเกิน แต่


ใต้ เ ท้ าไม่ ได้ ต่ อความต่ อ ได้ แต่ ประคองพวกเขาลุก ขึ้น พลาง
กล่ า วขอบคุ ณ อี ก ครัง้ เขาตัง้ ใจว่ า หากการถางพงท าที่ น า
เรียบร้อยแล้ว จะต้องปูนบาเหน็ จให้พวกเขาอย่างงาม แน่ นอน
ว่าย่อมไม่ใช่จานวนเพียงหนึ่ งหรือสองไร่

เซี่ ยเฉิงจู่หนั กลับไปมองทรัพย์สินกว่าสิบเกวี ยน ในใจ


ลึกๆ คลายความกังวลลงไปเปลาะหนึ่ ง

ปี หน้ าจะได้ก่อสร้างกาแพงนอกเมือง สร้างป้ อมปราการ


และสร้างปื นใหญ่เพื่อคุ้มกันเมือง อาวุธของทหารเกือบสองพัน
นายก็จาเป็ นต้องตีขึ้นมาใหม่ อีกทัง้ ต้องจัดหาที่พกั ให้ชาวบ้าน
ให้ เรียบร้อย พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็จะเริ่มสร้างบ้านพักทัง้ นอก
เมืองและในเมือง จากนัน้ ก็ขดุ คลองส่งน้ าเข้าที่ นา ทัง้ หมดทัง้
มวลล้วนต้องอาศัยเงิน การนาเงินสามแสนตาลึงมาทาทัง้ หมด
นัน้ เกรงว่าจะไม่พอ แต่กส็ ามารถแก้ปัญหาในส่วนที่สาคัญที่สุด
ได้เป็ นอย่างดี

ขอเพี ยงนอกเมืองแข็งแรงแน่ นหนา ส่ วนที่ นาก็ค่อยๆ


หักร้างถางพงไป คิดว่าพอถึงฤดูใบไม้ร่วง พื้นที่ ที่เคยว่างสุดลูก
11
หูลูกตาจะกลายเป็ นลานข้าวสาลีละลานตา พอลมพัดผ่านก็จะ
ได้ เห็น ระลอกคลื่ น ของทุ่ง ข้ าวสาลี ประชาชนอยู่เ ย็น เป็ นสุข
เสบีย งอาหารเพี ย งพอ คงจะเป็ นปรากฏการณ์ ที่ ยิ่ ง ใหญ่ แ ละ
งดงาม

จางเซี่ ยนและกัวซิ่งต่างมองใต้เท้ า จิตใจพลันเกิดความ


ฮึกเหิม ใครบ้างจะไม่คบั แค้นต่อความเหน็ ดเหนื่ อย แต่ทงั ้ หมด
ก็เพื่อชี วิตที่ ดีขึ้น คาพูดของใต้เท้าลา้ ค่านักเพราะเป็ นคาพูดที่
ออกมาจากใจ อี ก ทัง้ บ่ ง บอกว่ า เข้ า ใจความล าบากในการ
เดินทางของพวกเขาเป็ นอย่างดี

การเดิ น ทางครัง้ นี้ ทัง้ ล าบากและทรมาน ต้ อ งเผชิ ญ


ความเหน็ บหนาวสะท้านเข้าถึงกระดูก ซา้ ยังต้องเดินทางทวน
ลมตลอดทาง นั ง่ อยู่หน้ าเกวียนก็ต้องโดนลมหนาวปะทะหน้ า
แม้จะสวมใส่เสื้อผ้ามากชิ้นก็ยงั สันเท ่ ิ้ มอยู่ดี ขนาดพวกสานั ก
คุ้มกันที่มีประสบการณ์ ในการติดตามขบวนขนส่งสินค้ายังร้อง
ตะโกนด้วยความทุกข์ระทม บางคนถึงกับบ่นว่าเสียใจที่รบั งาน
นี้ สุดท้ายก็ได้แต่กดั ฟั นทนต่อไป หลังจากที่ เอาของกลับมาได้
แล้วหลายคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ต่างพบว่าเนื้ อผ้าดึงผิวหนั งลอก
ออกไปจนต้องส่งเสียงโอดโอยกันยกใหญ่

12
ครัน้ เห็นใต้เท้าพลิกเงินทองและหยกบางส่วนในหีบขึน้ ดู
กัวซิ่งก็เดินมาตรงหน้ าแล้วเอ่ยเสียงเบา “ใต้เท้า เรือนที่ ฮหู ยิน
ใหญ่อยู่นัน้ ไม่ธรรมดาเลย ทรัพย์สินเงินทองในอุโมงค์ของนาง
ทัง้ หมดเป็ นสมบัติของสามี แล้วยังมี คลังส่ วนตัวอี กต่ างหาก
ทัง้ หมดมีบนั ทึกไว้ในสมุดบัญชียาวเหยียดเป็ นการเฉพาะ นาง
เก็บ สมบัติ มากมายมานานหลายปี ในห้ องส่ ว นตัว ช่ างน่ าทึ่ ง
มาก หากถูกทางการค้นและยึดไปได้ เกรงว่าตระกูลถานคงได้
ตายกันหมดแน่ เรื่องนี้ นั บว่านางบังเอิญวางแผนถูกทางการ
ซ่ อนเงินกลายเป็ นการช่วยชี วิตไว้ แต่ สุดท้ ายก็ยงั พลาดท่ าให้
ใต้เท้าของพวกเรา”

เซี่ ย เฉิ งจู่ไ ม่ ไ ด้ ป ริ ป ากพูด ต่ อ ประเด็น เอี้ ย วตัว มาถาม


อย่างนึ กบางอย่างได้ “ได้ค้นฝัง่ ตะวันออกหรือไม่?”

“ค้นแล้วขอรับ แต่ ว่า...” เขากระซิบเสี ยงเบา เซี่ ย เฉิงจู่


ขมวดคิ้วเล็กน้ อยก่อนจะคลายออกทันที

13
33 เจ้าของบ้านคนใหม่

ภาพ ‘ป้ อนนกพิราบ’ แขวนอยู่บนผนังในห้องโถง รูปแบบ


การวาดดูน่ ุมนวลละมุนละไมและเต็มเปี่ ยมไปด้วยชีวิตชีวา ดูมี
ความหมายลึกซึ้ง สตรีที่อยู่กลางภาพมีแววตากระจ่างใส ฟั น
ขาว พวงแก้มแดงอมชมพู เปล่งปลัง่ บ่งบอกถึงความร่าเริงและ
ปราดเปรี ย ว เบื้อ งหน้ า ภาพวาดมี บุรุษ ผู้ห นึ่ ง ยื น อยู่ เขาอายุ
ราวสี่สิบอยู่ในชุดเสื้อคลุมตัวยาวสีน้าเงิน

บัณฑิตซ่งสังเกตภาพหญิงสาวพลางครุ่นคิดพิจารณานิ่ง
อยู่เป็ นนาน จนกระทังคนเป็
่ นภรรยาก้าวเข้ามา

ซ่ งฮูหยินที่ เพิ่งเดินเข้ามาในห้ องโถง เห็นสามี จ้องมอง


ภาพด้วยความสนอกสนใจมานานกว่าครึ่งชัวยามแล้ ่ ว อี กทัง้
หญิงสาวในภาพก็งดงามชดช้อย ทาให้นางอดรู้สึกหึงหวงไม่ได้
จึงปรายตามองสามีแล้วบ่นพึมพา

“ดูอยู่นัน่ แหละ ไม่ใช่ว่าสตรีในภาพจะเป็ นหญิงในดวงใจ


ของท่านหรอกนะ ดูนานๆ ระวังจะโดนทิ่มตา” บ่นจบนางก็เอา
หนังสือของสามีไปวางบนโต๊ะ

1
“เจ้ า จะไปเข้ า ใจอะไร” บัณ ฑิ ต ซ่ ง เอ่ ย ตัด บท ไม่ อ ยาก
ทะเลาะกับภรรยา

ทว่าเขายิ่งจับสังเกตภาพก็ยิ่งพบว่ามันน่ าอัศจรรย์ ภาพนี้


ซ่ อนองค์ประกอบทางศิลปะไว้อย่างลึกซึ้งทาให้ เขาเผลอมอง
อยู่นานจนหลงลื มเวลา แต่ ตอนนี้ เขาคันปากอยากจะพูดกับ
ใครสักคน จึงกวักมือเรียกภรรยา “เจ้ามาดูสิ”

เขาชี้ ช วนให้ น างดูด้ ว ยใบหน้ า บานเป็ นกระด้ ง “ภาพ


ธรรมดาทัวไป ่ คนในภาพส่วนใหญ่จะมีรปู ร่างคล้ายๆ กัน และ
ดู ก้า กึ่ ง ระหว่ า งคนและเทพ” เขาพยายามยกตัว อย่ า งเพื่ อ
เปรียบเที ยบให้อีกฝ่ ายเข้าใจภาพวาดทัวๆ ่ ไป ถึงจะมีฝีพู่กนั ที่
งดงามชดช้อย แต่กข็ าดหลักการ ได้แต่วาดไปตามความพอใจ

“ส่ วนภาพนี้ เจ้าลองดูสิ เจ้าเห็นหรือไม่? ไม่เพี ยงใช้ น้ า


หมึกบางและเข้ม ทว่าองค์ประกอบทัง้ หมดของภาพยังงดงาม
รับกันได้ดี มองผิวเผินจะเห็นว่าหญิงในภาพร่าเริงสดใสราวกับ
มีชีวิต หากมองให้ละเอียดอีกครัง้ ก็อาจคิดว่านางเป็ นเทพธิดา
หาใช่มนุษย์ เพียงแค่นี้กบ็ ง่ บอกว่าแม้แต่การใช้ลายเส้นวาดคน
ก็ยงั พลิกแพลง เป็ นผลงานที่ไม่ธรรมดาเลย”

2
บรรพบุรุษของซ่ งฮูหยินเป็ นนั กปราชญ์ขนั ้ ห้ าในปลาย
ราชวงศ์ถ งั แต่ เ พราะเป็ นคนเปิ ดเผยมี นิ สัย ซื่ อ ตรง จึ ง เผลอ
ล่วงเกินจนผิดใจกับขุนนางคนอื่นเข้าทาให้ถกู ลดขัน้ ลงมา เขา
จึงย้ายมาอยู่แคว้นอี้ ต่อมาก็แต่งเข้าสกุลซ่ง ทาให้ซ่งฮูหยินถูก
กล่อมเกลามาไม่น้อย นางจึงเป็ นหญิงที่ มีความรู้และชอบวาด
ภาพคนหนึ่ ง

เมื่อได้พิจารณาภาพด้วยสายตาตัวเอง จึงเข้าใจว่าทาไม
สามี จึงจ้องมองอยู่เป็ นนานสองนาน เพราะเพี ยงนางได้ มอง
ภาพนี้ อ ย่ า งจริ ง จัง ก็ยื น มองนิ่ งๆ อย่ า งไม่ อ าจละสายตาได้
เช่นกัน

หากจะให้ พูด ถึ ง ภาพ ‘ป้ อนนกพิ ร าบ’ ภาพนี้ ไ ม่ ไ ด้ เ น้ น


เรื่องความหรูหราแต่อย่างใด เป็ นเพียงภาพหญิงสาวคนหนึ่ งใน
ชุดขาว สวมเสื้อคลุมตัวนอกสี เทา มือหนึ่ งถือชามอาหาร อี ก
มือยื่นไปบนท้องฟ้ าที่ มีนกพิราบขาวมากมายกระพือปี กบินอยู่
ขนนกขาวสะอาดกางออกเหมือนพัด ท่าทางราวกับมีชีวิต บาง
ตัว บิ น มาที่ ปลายนิ้วเรี ยวของนาง ใช้ ปากจิกอาหารประหนึ่ ง
ออดอ้อน

3
การถ่ายทอดและการสื่อความหมายในภาพทาได้อย่าง
ยอดเยี่ยม ทาให้คนเห็นนึ กทึ่งจนยากจะลืม เลือน ไม่ว่าจะเป็ น
คนหรือนกพิราบ ต่างก็มีชีวิตชีวาสวยงามเป็ นที่สดุ

ถ้ า มองเฉพาะเจาะจงไปที่ หญิ งชาววั ง ในภาพ แม้


รูปลักษณ์ นางจะไม่ได้ผิดแผกแตกต่ างจากภาพอื่ นที่ เคยเห็น
แต่กลับเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทาให้คนมองอยากจะยื่น
มือไปสัมผัส ถึงขนาดเดินห่ างออกมาแล้วก็ยงั ไม่วายต้ องหัน
กลับไปมองซา้

ช่ างเป็ นภาพที่ มีรายละเอี ยดมากจริง ๆ แม้แต่ ขนนกก็


ละเอียดทุกเส้นราวกับสามารถสัมผัสได้จริง

“นี่ เป็ นการวาดภาพโดยการเน้ นหนักที่รายละเอียดอย่าง


นัน้ หรือ”

เมื่อบัณฑิตซ่งได้ยินคาพูดของภรรยา เขาก็พิจารณาภาพ
ตรงหน้ าอีกครัง้ จึงพบว่าสิ่งที่ทาให้ภาพนี้ ตรึงตาตรึงใจไม่ใช่แค่
เพียงรายละเอียดที่จิตรกรใส่ลงไป เพราะหากสังเกตให้ดีจะรู้ว่า
ในภาพมี ท ัง้ ส่ ว นที่ มื ด และสว่ า ง ซึ่ ง เป็ นตั ว ขับ เน้ นให้ ก าร
ถ่ายทอดอารมณ์ความรูส้ ึกของภาพยิ่งลึกซึ้ง

4
เขาจึงชี้บางส่วนให้ภรรยาดู ซ่งฮูหยินก็เห็นด้วยในทันที
วิ ธี การใช้ แสงเงาที่ แฝงอยู่ในภาพช่ างยอดเยี่ ย มจนดูไ ม่ อ อก
สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็ นธรรมชาติ จิตรกรที่ วาด
ทาได้อย่างไร?

บัณฑิตซ่ งเห็นแล้วก็สนใจอยากจะลองทาตามบ้าง แต่


จนใจที่ ไร้ผ้ชู ี้ แนะ เขาไม่เข้าใจเคล็ดลับของการใช้ ความสว่าง
และความมืด ทาให้การลอกเลียนแบบเป็ นเรือ่ งที่ทาได้ยากยิ่ง

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ งก็คือ เขาเลียนแบบภาพวาดที่ มีคน


และนกได้ แต่ ไม่อาจลอกเลี ยนวิธี และรูปแบบในการวาดได้
เรื่อ งเหล่ า นี้ เ ป็ นความสามารถที่ ไ ม่ อ าจใช้ เ วลาสัน้ ๆ ในการ
เรียนรู้

ตามจริง แล้ ว มัน เป็ นการผสมผสานกัน ระหว่ างการลง


รายละเอียดในภาพแบบงานยุคเกา กับการเล่นแสงเงาแบบงาน
ยุคใหม่ ตอนที่ ถานหวันช ่ ิ งวาดภาพนี้ นางพยายามครุ่นคิดให้
ทัง้ สองอย่างสมดุลกัน ดึงส่วนที่ดีในงานสมัยเกามารวมกับส่วน
ที่ดีในงานสมัยใหม่ที่ตนคุ้นเคย ทาให้เกิดเป็ นภาพนี้ ขึน้ มา

หลังจากซ่งฮูหยินดูภาพได้สกั พักก็เปรยออกมา “สานัก


ศึกษาของเราเปิดมาได้หนึ่ งเดือนแล้ว ใต้เท้าเซี่ ยก็ส่งน้ องชาย
5
มาให้ช่วยดูแล โชคดีหน่ อยที่ พวกเรามีใต้เท้าให้การสนับสนุน
หลายวัน มานี้ พ วกพ่ อ ค้ า ก็ส่ ง ลู ก หลานเข้ า มาเรี ย น ในที่ สุ ด
ห้องเรียนที่เคยมีแค่สองสามคนก็ไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว”

ในใจนางรู้ดีว่าทัง้ หมดเป็ นเพราะชื่อเสียงของใต้เท้าเซี่ ย


ไม่ อ ย่ า งนั น้ หลัง เปิ ดส านั ก ศึ ก ษาได้ เ พี ย งสองสามวัน ชื่ อก็ค ง
เลือนหายไปไม่มีใครรูจ้ กั และไม่คึกคักอย่างที่เป็ นในตอนนี้

“สมควรที่ เราต้ องขอบคุณใต้ เท้ า ” บัณฑิตซ่ งพยักหน้ า


แต่สายตายังไม่ละจากภาพวาด

ดวงตาหญิ ง สาวในภาพเป็ นประกายหวานฉ่ า ราวกับ


กะพริบได้ ริมฝี ปากแดงระเรื่อ ทาให้ผ้ทู ี่เห็นอดชมชอบไม่ได้ ที่
ส าคัญ ไม่ รู้ว่ า สี แ ดงชาดที่ ใ ช้ นั ้น ผสมอย่ า งไร จึ ง สดใหม่ แ ละ
สวยงามอย่างยิ่ง

จู่ๆ เขาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันไปกาชับกับภรรยา
“ใต้ เ ท้ า ฝากฝั ง เรื่ อ งหนึ่ ง ไว้ ก บั เจ้ า อย่ า ได้ ท าธุร ะของใต้ เ ท้ า
ผิดพลาดเชียวนะ”

“มันแน่ อยู่แล้ว ข้าเคยทาเรื่องผิดพลาดเสี ยที่ ไหนเล่า”


ซ่งฮูหยินเอ่ยอย่างมันใจ

6
บัณ ฑิ ต ซ่ ง มองไปยัง ภาพนั ้น อี ก ครัง้ มองแล้ ว มองเล่ า
ก่อนจะถอนหายใจ “นึ กไม่ถึงว่าเซียนดอกท้อจะเป็ นผูห้ ญิง ครัง้
แรกที่ ได้ยินคนรา่ ลือกันข้าก็ยงั ไม่เชื่ อ อายุยงั น้ อยกลับมีฝีมือ
วาดภาพได้อย่างยอดเยี่ยมลึกลา้ ช่างมีพรสวรรค์เหลือเกิน เป็ น
ผู้หญิง ที่ หายากและแปลกประหลาดมาก หากว่ าเชิญนางมา
สอนที่ ส านั ก ศึ ก ษาของเราได้ ต้ อ งมี ค นมาเรี ย นกัน มากขึ้ น
แน่ ๆ”

ตอนที่ พวกเขาคิดจะเปิดสานักศึกษา โชคดี ที่ได้รบั การ


สนับสนุนจากใต้เท้าเซี่ ย พวกเขาจึงออกเงินแค่สามตาลึงก็ได้
เปิดโรงเรียนของตัวเองขึ้นมา แต่ หนึ่ งเดือนก็ยงั เก็บเงินได้ไม่
ถึ ง สิ บ ต าลึ ง ทัง้ ที่ ค่ า ใช้ จ่ า ยแต่ ล ะเดื อ นต้ อ งมี อ ย่ า งน้ อยสาม
ตาลึง ดังนั น้ ส่ วนที่ ขาดจึงเป็ นใต้ เท้ าเช่ นเคยที่ คอยมาเติมให้
เต็ม ไม่อย่างนัน้ คงเลี้ยงคนไม่ไหว

ซ่งฮูหยินได้ยินดังนัน้ ก็ถอนใจบ้าง “ท่านไม่รอู้ ะไร ตอนนี้


ภาพของเซียนดอกท้อราคาขึน้ ถึงไหนแล้ว”

บัณฑิตซ่ งที่ มองภาพพลางลูบเคราสัน้ ๆ อยู่หนั หน้ ามา


มองภรรยา ได้ยินซ่งฮูหยินพูดกลัว้ หัวเราะ

7
“อย่างภาพนกกับดอกไม้ที่ข้าได้ยินมาว่าวาดได้สวยงาม
มาก มีคนหนึ่ งมาขอซื้อด้วยราคาหนึ่ งร้อยตาลึง แต่ ตระกูลชวี
บอกสองร้อยตาลึงก็ไม่ขาย เถ้าแก่ชวีบอกว่าช่ วงนี้ เซี ยนดอก
ท้อหยุดวาดภาพทาให้ราคาขึ้น ตอนนี้ จึงมีคนมาถามหาขอซื้อ
ภาพของนางอยู่ไม่ขาด ตอนที่ เถ้าแก่ชวีพูดกับข้า ได้แต่ บ่นว่า
ขายไม่ได้ราคา แต่ ข้าไม่เชื่อหรอก คนเจ้าเล่ห์แบบนัน้ จะยอม
ขาดทุนได้อย่างไร ที่ ไม่ยอมขายเพราะคิดว่าราคาน้ อยเกินไป
เสียมากกว่า”

บัณฑิตซ่งเข้าใจความหมายในคาพูดภรรยา จึงเอ่ยเพียง
ว่า “เจ้าไปเชิญคนมาให้ ได้ก่อนค่ อยว่ากัน แต่ หากเชิญมาได้
แล้ว ใต้เท้ากลับอยากให้ปกปิดเรือ่ งนี้ ไว้ เจ้าจะทาอย่างไร?”

ซ่งฮูหยินกาลังครุน่ คิดอยู่ พอถูกถามเช่นนี้ ความคิดพลัน


สะดุด ลง สี ห น้ า ไม่ ยิ น ดี เ ท่ า ไร ปากก็อ ดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะพูด “นี่ มัน
ทะแม่งๆ ชักจะอย่างไรเสียแล้ว ใต้เท้าสังให้ ่ คนเอาตลับยาขี้ผงึ้
สาหรับรักษาบาดแผลจากความหนาวมาให้ข้า แล้วบอกให้ข้า
มอบให้กบั นาง ซา้ ยังไม่ให้บอกว่ามาจากเขาอี กด้วย ท่ านว่า...
ใต้เท้ากับเซียนดอกท้อนางนี้ ...”

8
“มันไม่ใช่เรื่องที่ เจ้าสมควรเอ่ย” บัณฑิตซ่ งตัดบททันที
แล้วยังพูดเสริมอีกว่า “เพราะนางเป็ นคนที่ มีฝีมือการวาดภาพ
ที่น่าทึ่ง ใต้เท้าจึงเลื่อมใสศรัทธาเป็ นพิเศษก็แค่นัน้ ”

เลื่อมใสศรัทธา! ก็คงแค่เห็นหญิงสาวในภาพสวยก็เลย
นึ กว่าคนวาดจะงดงามด้วยกระมัง

แต่คนที่วาดภาพหญิงงามนัน้ จะสวยเหมือนภาพที่ตวั เอง


วาดเชียวหรือ?

ซ่งฮูหยินอดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก แล้วเดินออกไปอย่างไม่สบ
อารมณ์ นัก นึ กบ่นสามีในใจ อายุอานามก็สี่สิบแล้วยังหลงใหล
มัวเมากับสาวสวยในรูป ไม่กลัวคนจะหัวเราะเยาะกระนัน้ รึ

นางเชื่ อ ว่ า พวกที่ เ ชี่ ย วชาญการวาดภาพก็ เ ป็ นแบบ


เดี ยวกับผู้คงแก่เรียน เก้าในสิบจะทัง้ อายุมากทัง้ ขี้เหร่ ดังนั น้
หญิงที่วาดภาพได้สวยงามจนน่ าตกตะลึงผูน้ ี้ ถ้าไม่ขี้เหร่กแ็ ปลก
แล้วล่ะ

แต่ ก็อ ย่ า งว่ า ใต้ เ ท้ า จะฝากฝั ง ให้ ส่ ง ยาขี้ ผึ้ง นี้ แก่ ห ญิ ง
ขี้เหร่อย่างนัน้ หรือ? ก็ไม่น่าเป็ นไปได้เหมือนกัน

9
ลุ่ยจูเพิ่งกลับมาจากด้านนอก หลังจากปิดประตูใหญ่ ที่
หน้ าบ้านเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินถูมือเข้ามาในห้ อง เห็นถาน
่ ิ งนัง่ หลังพิงหน้ าต่างพลางพลิกหน้ าหนังสือในมือ ก็นาเงิน
หวันช
สองตาลึงออกจากชายเสื้อวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเอ่ย

“คุ ณ หนู เ จ้ า คะ เมื่ อ เช้ า ข้ า ไปจ่ า ยเงิ น ค่ า เช่ า บ้ า น แต่


เจ้าของบอกว่าขายบ้านหลังนี้ ไปแล้ว จึงไม่สามารถรับเงินที่เรา
จ่ายได้เจ้าค่ะ”

ถานหวัน่ ชิ งฟั ง จบก็ปิ ดหนั ง สื อ เงยหน้ ามามองด้ ว ย


ท่าทางตื่ นตกใจ “ขายไปแล้ว! ขายให้ผ้ใู ดงัน้ รึ ?” แล้วทาไมถึง
ไม่ให้ใครมาบอกกล่าวกันสักคา?

พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ลุ่ยจูพลันโมโหขึ้นมา “เขาบอกว่าขาย


ให้ใต้เท้าเซี่ยผูป้ กครองเมือง ต่อไปบ้านนี้ กจ็ ะเปลี่ยนเป็ น ‘บ้าน
เซี่ย’ แล้วเขายังบอกอีกนะเจ้าคะว่าให้พวกเราเอาเงินค่าเช่าไป
ส่งใต้เท้าเซี่ยได้เลย”

สี หน้ าลุ่ยจูเปลี่ยนเป็ นงุนงงจนเห็นได้ชดั นางอยากรู้ว่า


เกิ ด อะไรขึ้ น กัน แน่ จึ ง อดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะเอ่ ย ถาม “คุณ หนู เ จ้ า คะ
ต่อไปพวกเราต้องเอาเงินไปให้ใต้เท้าเซี่ยหรือเจ้าคะ?”

10
ถานหวันช ่ ิ งค่อยๆ ยืดตัวตรง เอาหนั งสื อในมือวางลง
บนโต๊ะ “ไม่ต้องหรอก” นางเอ่ยเสี ยงเนื อย “ไม่จาเป็ นต้ องรีบ
เอาไปให้ หากภายหน้ าเขาอยากได้ ถ้าเขามาเอาก็ค่อยให้ไป”

แม้คุณหนูจะบอกเช่นนี้ แต่ ถ้อยคากลับเบาหวิวเหมือน


เมฆที่ ล่ อ งลอย ลุ่ ย จู ดู อ อกว่ า คุ ณ หนู ไ ม่ ส บายใจนั ก ขนาด
หนังสือยังอ่านต่อไม่ได้ แล้วจะสบายใจที่ไหนกัน

ถานหวันช ่ ิ ง นั ง่ หน้ าเครี ย ด คิ้ ว ขมวดแน่ น เมื่ อคื น นาง


หลับ ไม่ ส บายเท่ า ที่ ค วร ไม่ รู้เ ป็ นเพราะเตี ย งอุ่น เกิ น ไป หรื อ
เพราะฟ้ าสว่างแล้วแต่ กลับไร้แสงแดดสาดส่ องกันแน่ แต่ เมื่อ
คื น นอนพลิ ก กระสับ กระส่ า ยไปมาตลอด คล้ า ยกับ ว่ า ได้ ยิ น
เสี ยงกี บเท้ าม้าและเสี ยงหัวเราะลันของพวกคนเถื
่ ่อน ทัง้ ยังมี
เสียงล้อรถม้าลากเกวียนบดไปตามทาง

เสียงดังกล่าวปรากฏอยู่ในความฝันซา้ แล้วซา้ เล่า

สุ ด ท้ า ยก็ฝั น ถึ ง เรื่อ งราวเมื่ อ หลายปี ก่ อ น หยดเลื อ ดที่


สาดกระเซ็นท่ามกลางเสียงร้องของม้าและกีบเท้าม้าที่ยา่ ไปมา
คนที่วิ่งกันวุ่นวายโกลาหล และใบหน้ าของหญิงนางหนึ่ งที่ กาลัง
คลาน

11
เสี้ยวเวลานัน้ ในใจถานหวันช ่ ิ งกล่าวโทษนางที่ ไม่ยอม
หลบหลีกเหมือนคนอื่น โทษนางที่ น่าความยุ่งยากมาสู่ตน แต่
ไม่เคยคิดมาก่อนว่านางกาลังตัง้ ครรภ์ มาถึงตอนนี้ หญิงสาวจึง
คิดได้ว่าที่ นางไม่กล้าวิ่งหนี คงเพราะกลัวจะกระทบกระเทื อน
กับบุตรในครรภ์

ทันใดนัน้ เอง ถานหวันช ่ ิ งก็ต้องนัง่ ตัวงอเมื่ออาการปวด


ท้ องกาเริบ ขึ้น วัน นี้ ท งั ้ วันยัง ไม่มีข้ าวตกถึง ท้ องสักเม็ด หญิง
สาวรีบมองบนโต๊ะ เห็นขนมชิ้นเล็กที่ล่ยุ จูน่ามาวางให้เมื่อเช้าก็
ยื่นมือไปหยิบเข้าปากแล้วกลืนลงไป เพื่อที่จะทาให้ท้องไม่ว่าง

“คุ ณ หนู ” ลุ่ ย จู เ ริ่ ม กัง วลเมื่ อ จู่ ๆ คุ ณ หนู ก็ ลุ ก ขึ้ น มา


หยิ บ ขนมเข้ าปาก หรือค าพูดของนางเมื่ อครู่จะทาให้ คุณหนู
เครียดเกินไป?

พอนึ กถึงประสบการณ์ และความทุกข์ทรมานที่ ผ่านมาก็


เกรงว่าตนจะเอาน้ามันมาสาดใส่กองไฟ เด็กสาวจึงรีบเอ่ยเพื่อ
ปลอบใจทันที

"เรื่องที่ ข้าพูดเมื่อครู่ คุณหนูอย่าเก็บมาใส่ ใจเลยนะเจ้า


คะ การที่ใต้เท้าเซี่ยซื้อบ้านนี้ อาจจะเป็ นเรื่องบังเอิญก็ได้ เพราะ
ตรงนี้ ห่างจากประตูทิศเหนื อเพียงแค่เอื้อม หากเขาจะซื้อบ้าน
12
เช่าหลังนี้ กเ็ ป็ นเรื่องธรรมดา บางทีอาจจะแค่ไม่ทนั ได้บอกพวก
เราเท่านัน้ เอง

และใช่ ว่ า บ้า นหลัง นี้ จ ะดี เ สี ย เมื่ อ ไร คราวก่ อ นคุณ หนู


บอกว่าอยากย้ายไปตงเหมิน ข้าแวะไปดูบ้านแถวนั น้ มาแล้ว
เจ้าค่ะ ดีกว่าที่นี่มากเลย ในตัวบ้านมีห้องให้เก็บของได้ มีแปลง
เพาะดอกไม้ ไม่แคบและไม่ทรุดโทรมเหมือนที่ นี่ แม้แต่เตี ยงก็
ยังอุ่นและใหญ่กว่า ที่นี่แม้แต่น้าใช้กย็ งั รสฝาด ทว่าที่นัน่ เป็ นน้า
มาจากภูเขาด้ วยนะเจ้าคะ ใสสะอาดเหมือนกับที่ คุณหนู เ คย
ใช้แต่ก่อนเลย..."

ยิ่งพูดเสียงนางก็ยิ่งเบาลงทุกที สุดท้ายลุ่ยจูกไ็ ม่สามารถ


พูดอะไรได้อีก แอบชาเลืองมองคุณหนู จากนัน้ ก็รีบเปลี่ยนเรื่อง
“มีโจ๊กอุ่นอยู่ที่เตา ข้าไปยกมาให้คณ ุ หนูนะเจ้าคะ” พูดแล้วนาง
ก็ตงั ้ ท่าจะเดินออกไป ทว่าเจ้านายกลับรังไว้ ้ เสียก่อน

“อาจู ” ถานหวัน่ ชิ งร้ อ งเรี ย กเบาๆ “ไม่ ต้ อ งเอาโจ๊ ก


มาแล้ว เจ้าไปหาบ้านเช่าหลังใหม่ พวกเราต้องรีบย้ายออกจาก
ที่นี่ ก่อนที่คนอื่นจะมาบ้านหลังนี้ ”

ลุ่ยจูกลับคิดว่า...พักที่ บ้านใต้เท้าเซี่ ยแล้วจะเป็ นอะไรไป


แต่ ห ลัง ฟั ง จบก็รี บ ตอบรับ ค า “ข้ า จะไปดู เ ดี๋ ย วนี้ เลยเจ้ า ค่ ะ
13
ตอนนี้ ภาพเขียนของคุณหนูขายดี เป็ นเทน้าเทท่า พวกเราพอมี
เงินติดตัวอยู่บา้ ง ต้องได้ที่พกั ที่ดีกว่านี้ แน่ นอนเจ้าค่ะ”

ทว่านายสาวกลับส่ายหน้ า นางไม่ได้สนใจฝี มือวาดภาพ


ที่นาออกมาเลี้ยงชีพตัวเองนัก เพราะไม่มีใครเข้าใจเรื่องสีย้อม
ดีเท่านาง หนึ่ งในนัน้ มีสารตะกัวจ ่ านวนมากรวมอยู่ด้วย นางจึง
ต้ อ งใช้ ร ะยะเวลาให้ ส ัน้ ที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะท าได้ ใ นการวาดภาพ
เพราะถ้าใช้ เวลานานอาจจะเป็ นผลเสี ยกับร่างกายของตัวเอง
ได้

คนที่นี่ส่วนใหญ่ยงั ไม่รเู้ รือ่ งพวกนี้ จึงเป็ นเหตุให้นักเขียน


ภาพบางคนถึงกับป่ วยหรืออาจเสียชีวิตได้ ตัวนางเองในชาติที่
แล้วก็มีสุขภาพที่ ไม่ดีเพราะเหตุนี้เช่ นกัน ทาให้ นางต้ องดูแล
และใส่ใจร่างที่อ่อนแอแต่เดิมนี้ ให้มาก

ทว่าเรือ่ งสีหรือสารพิษพวกนี้ ยากจะอธิบายแก่ล่ยุ จู จึงได้


แต่บอกไปว่า “ไม่ต้องดีนักก็ได้ ขอแค่พกั อยู่ได้กพ็ อ”

ลุ่ยจูไม่เอ่ยค้านแต่อย่างใด นางรีบตอบรับแล้วเปิดม่าน
เดินออกไป

14
34 จวนตระกูลเซี่ย

่ ิ งยังคงนัง่ อยู่หน้ าโต๊ะ ไม่มีแก่ใจจะอ่านหนังสือ


ถานหวันช
อีกแล้ว

ยามนี้ จิตใจนางหนักหน่ วงไม่สบายใจ ได้แต่ ครุ่นคิดว่า


ควรจะทาอย่างไรต่อไปดี

ทันใดนัน้ ก็ได้ยินเสียงตกใจของลุ่ยจูดงั มาจากข้างนอก

“พวกเจ้าเป็ นใคร!”

ตามมาด้วยเสียงฝี เท้าคนจานวนมากกาลังเดินเข้ามาใน
ลานบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่ งดังขึ้น “พวกเราเป็ นเจ้าหน้ าที่
ยามนี้ ได้รบั มอบหมายให้ มาตรวจสอบสามะโนครัวทัง้ หมดใน
เมือง เอาสามะโนครัวของคนในบ้านออกมา พวกเจ้ามี กนั กี่
คน? ไม่ ว่ า เด็ก หรื อ คนแก่ ก็นั บ รวมด้ ว ย ห้ า มขาดแม้ แ ต่ ค น
เดียว!”

กล่าวจบคนผู้นัน้ ก็เอาสมุดหนาในมือออกมา แล้วพลิก


เปิดทีละหน้ า

1
ลุ่ยจูยืนมองกลุ่มเจ้าหน้ าที่ ที่เดินเข้ามาจนถึงลานบ้าน
อย่างทาอะไรไม่ถกู คนที่พดู ใส่ชุดเจ้าหน้ าที่ สีน้าเงินสวมหมวก
ดา ส่วนคนอื่นๆ ราวสิบคนต่างพกดาบสัน้ ยิ่งได้ยินอีกฝ่ ายสัง่
ให้ นาสามะโนครัวออกมา ร่างเด็กสาวก็ยิ่งสันเทาด้ ่ วยความ
หวาดกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ

ทาอย่างไรดี?

จังหวะนัน้ เองประตูบ้านก็เปิดออก เด็กสาวจึงวิ่งไปหลบ


ด้านหลังคุณหนูทนั ที

เดิมถานหวันช่ ิ งนิ่งฟั งอยู่ในห้องด้วยหัวใจที่ สนระรั


ั่ ว พอ
ตัง้ สติได้กร็ ีบไปหยิบกระดาษในตู้มาใส่ ไว้ในชายเสื้อ ก่อนจะ
สวมรองเท้าแล้วผลักประตูออกมา

สาหรับพวกเจ้าหน้ าที่ เหมันตฤดูที่หนาวจับจิตยังต้ อง


ออกมาตรวจสอบสามะโนครัวทีละบ้าน จึงไม่ใช่งานง่ายดายนัก
อี ก ทัง้ ต้ อ งตรวจสอบทัง้ ผู้ที่ อ าศัย อยู่ ใ นเมื อ งและผู้ลี้ ภ ยั ที่ อ ยู่
นอกเมือง รวมไปถึงร้านค้ า ต่ างๆ จึงนั บว่ าใช้ เวลาเป็ นอย่าง
มาก ดังนั น้ หากผู้พกั อาศัยเป็ นชาวบ้านทัวไป ่ ก็จะแค่ซกั ถาม
ธรรมดา แต่ ถ้ า เป็ นหญิ ง งามก็อ าจแค่ มี เ สี ย งอื้ อ อึ ง กัน บ้ า ง
เท่านัน้
2
พอเจ้าหน้ าที่ ทงั ้ หลายได้ ยินเสี ยงประตูเปิดก็หนั ไปมอง
เห็นหญิงสาวรูปร่างบอบบาง ใบหน้ างดงามดังดอกไม้ ่ แรกแย้ม
ผิวพรรณละเอียดราวหยกขาวไร้ที่ติ ก็พากันเหม่อลอย จับจ้อง
คนตรงหน้ าตาไม่กะพริบเพื่อให้แน่ ใจว่าพวกตนไม่ได้มองผิด
ไป

ตัง้ แต่ได้ยินคาว่า ‘เจ้าหน้ าที่ ’ ใจของถานหวันช ่ ิ งก็ตกไป


อยู่ ที่ ต าตุ่ ม แล้ ว ยิ่ ง เห็น กลุ่ ม คนที่ ม ามี รูป ร่ า งสู ง ใหญ่ ล ่า สัน ดู
คล้ า ยกับ ปี ศาจชัว่ ร้ า ย ในใจก็รู้สึ ก เหมื อ นมี เ งามื ด เข้ า มาปก
คลุม เป็ นความรู้สึกเช่นเดียวกับตอนที่ พบเจ้าหน้ าที่ ที่ควบคุม
พวกตนตอนถูกเนรเทศ ยามนัน้ นางหวาดกลัวจนจับขัว้ หัวใจ
มาถึงตอนนี้ จึงแทบไม่อยากนึ กถึงอีกแล้ว

หญิงสาวพยายามข่มใจ แสดงท่าทางเป็ นปกติ จากนัน้ ก็


เหลือบมองข้าราชการซึ่งน่ าจะอยู่ขนั ้ สี่หรือขึน้ ห้าแวบหนึ่ ง ก่อน
จะหันไปมองผู้จดบันทึ ก เห็น หน้ าปกสมุดเล่ มหนาในมื อเขา
เขียนว่า ‘เว่ยอันโดยสังเขป’ ด้านในมีการลงบันทึกเอาไว้...

จางเหวินอู่ ความสูงเจ็ดฉื่ อสองชุ่น ผิวดา... ข้อมูลมีทงั ้


ชื่ อสกุล อายุ ความสูง สี ผิว มีสถานะไหน อยู่ตาบลใด อาเภอ
อะไร นับว่าถูกจดไว้อย่างละเอียด

3
ภายใต้ เหตุการณ์ เช่ นนี้ ไม่ง่ายเลยที่ จะบอกปั ดหรือขอ
เลื่อนออกไป หญิงสาวจาเป็ นต้ องคารวะอี กฝ่ าย จากนั น้ ก็ยืด
ตัวตรง เอ่ ยเสี ยงนุ่ มนวล “ท่ านเจ้าหน้ าที่ พวกเราสองพี่ น้อง
ไม่ใช่ชาวเว่ยอัน สองเดือนก่อนประสบภัยพิบตั ิ จึงได้ย้ายมาอยู่
ที่ นี่ ไม่ รู้ว่ าในเมืองมี การตรวจสอบสามะโนครัว จนเมื่อได้ มี
โอกาสมาตัง้ ถิ่นฐานในเมืองเว่ยอันแห่งนี้ แล้ว”

พอได้ยินเสี ยงที่ ออกจากริมฝี ปากแดงอวบอิ่ม ทุกคนก็


รู้สึกราวกับกระดูกไร้เรี่ยวแรง มันช่างไพเราะเพราะพริ้งเสียจริง
ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงหางเสียงที่น่ ุมนวล แตกต่างจากบ้านอื่นที่พอ
ถามมากๆ ใบหน้ าก็จะบ่งบอกถึงความราคาญ ซา้ ยังจิกตาใส่
บางคนก็ถึงกับก่นด่าพวกเขาเสียงดังอีกด้วย

หลังจากนิ่งเงียบกันไปสักครู่ หัวหน้ าเจ้าหน้ าที่ กเ็ ริ่มเอ่ย


ปาก “ขอเพียงแม่นางมีสามะโนครัวก็พอ ทางการแค่ต้องการ
ตรวจสอบคนที่ ห ลี ก เลี่ ย งการเสี ย ภาษี เ ท่ านั น้ จึ ง จาเป็ นต้ อ ง
ส ารวจส ามะโนประชากรทัง้ หมด ใครที่ ห ลี ก เลี่ ย งภาษี จ ะถูก
ส่งไปนอกเมือง ปี หน้ าจะได้บุกเบิกถางพงที่รกร้าง ส่วนพวกเจ้า
เป็ นเพี ย งหญิง สาวและในบ้านไม่ มีผ้ชู าย หากมี ส ามะโนครัว
เรียบร้อย การจะอยู่ในเมืองต่อก็ไม่เป็ นปัญหาแต่อย่างใด”

4
น้าเสียงยามนี้ กบั ตอนที่เข้ามาแตกต่างกันราวฟ้ ากับดิน
แต่ ก็เ ชื่ อถื อ ได้ เพราะออกมาจากปากเจ้ าหน้ าที่ หน้ าโหดคน
นัน้ เอง

่ ิ งมองคนเหล่านั น้ ด้วย
เป็ นอย่างนี้ เองหรือ? ถานหวันช
ความสงสัย สายตายังคงสันไหว่ คนทัง้ สิบก็จ้องหญิงงามกลับ
ดวงตานางช่างเหมือนพระจันทร์กลางน้า ไม่ว่าจะมองซ้ายหรือ
แลขวาก็เปล่งประกายมากทีเดียว

ถานหวันช่ ิ งนึ กไปถึงเซี่ยเฉิงจู่ หากเขาต้องการจับคน ไย


ต้องทาเรื่องยุ่งยากถึงเพียงนี้ ด้วยเล่า ดังนัน้ จึงโล่งใจไปเปลาะ
หนึ่ ง หญิงสาวหยิบกระดาษสองแผ่นที่ เก่ าจนเหลืองออกจาก
ชายเสื้อ ส่งให้เจ้าหน้ าที่ซึ่งเป็ นคนจดบันทึก

กระดาษเก่าเหลืองสองแผ่นตัดกับนิ้วมือเรียวขาวอย่าง
ชัดเจน ยิ่งขับเน้ นผิวให้ดูขาวผ่องราวหิมะ จนคนที่ เห็นไม่อาจ
ละสายตา เจ้าหน้ าที่ถึงกับตะลึงงันก่อนจะตัง้ สติได้ จากนัน้ ก็รบั
กระดาษนั ้ น มาแล้ ว รี บ เปิ ดดู ขณะที่ จ ะบัน ทึ ก พอเห็ น ว่ า
สามะโนครัวทัง้ สองคือใบรับรองการบวช สีหน้ าก็เปลี่ยนไป

เหตุใดจึงเป็ นนักบวชหญิงได้เล่า?

5
หัว หน้ า เจ้ า หน้ าที่ ก็เ ห็น เช่ น กัน ถึ ง กับ หน้ า สลดลงเลย
ที เดี ยว เขาอ่านสามะโนครัวนัน้ อี กรอบ จากนัน้ ก็เบิกตาโพลง
จ้องมองหญิงสาวอี กครัง้ ก่อนจะเกิดความคิดขึ้นมาบางอย่าง
ดวงตาพลันวูบไหวอย่างห้ามไม่อยู่ เขาหรี่ตามองประเมินหญิง
สาวตัง้ แต่ หวั จรดเท้ า ยิ่งมองนานยิ่งเห็นความอัปลักษณ์ ในสี
หน้ าและแววตา จากนัน้ ก็วางท่าใหญ่โตเอ่ยขึน้ ว่า

"พวกเจ้าเป็ นนักบวชหญิงงัน้ รึ? ถ้าอย่างนัน้ ก็ไม่ได้การ


แล้ว ในเมืองมีคนนับสิบซื้อขายสามะโนครัวของนั กบวชหญิง
ปลอมตัวเป็ นนักบวชเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ข้าดูแล้ว แม่
นางทัง้ สองผมดกดาเต็มหัวกลับใช้ สามะโนครัวของนักบวช ดู
แล้ ว แปลกพิ ลึ ก จริ ง ๆ ทว่ า ปกติ ค นที่ ซื้ อ สู ติ บ ตั รมัก เป็ นชาย
ฉกรรจ์ เพิ่ ง เคยเห็น ผู้หญิง สองคนใช้ สูติ บ ตั รปลอม...ถ้ า เป็ น
เช่นนัน้ ทาไมพวกเจ้าต้องปกปิดฐานะที่แท้จริงด้วยเล่า?"

จู่ๆ น้าเสียงของอีกฝ่ ายก็เปลี่ยนไป หนาซา้ สีหน้ าท่าทาง


ก็เปลี่ยนไปด้วย ทาให้ถานหวันช ่ ิ งรู้สึกสังหรณ์ ใจไม่ดี ยิ่งได้ยิน
คาถามว่าทาไมต้ องปกปิดสถานะ ก็ไม่ต่างจากคาว่า ‘นักโทษ
หลบหนี ’ สัก เท่ า ไร หญิ ง สาวรี บ ก้ ม หน้ าลงเพื่ อ ซ่ อ นความ
หวาดกลัวในแววตา

6
“พวกข้าไม่ได้ปลอมแปลงสูติบตั ร แต่เป็ นเพราะอารามที่
พวกเราเคยอาศัยอยู่ถล่มลงมา ทุกคนต่ างรีบเก็บของ หวังจะ
เดินทางมาเมืองเว่ยอัน ทว่าพวกเราเพิ่งเข้ามาอาศัยเมืองนี้ ได้
ไม่นาน จึงยังไม่ได้ให้ เจ้าหน้ าที่ แก้ไขสถานภาพการบวช หาก
ท่านไม่เชื่อก็ไปสอบถามแถวอ่าวหนิวโถวก็ได้ว่าอารามน้ าเต้า
ถล่มลงมาจริงหรือไม่”

“ฮึ ในเมื่อเป็ นนักบวชแต่กลับไม่โกนผมบวช หรือเจ้าจะ


บอกว่ าเพราะบ าเพ็ญเพี ยรไม่สาเร็จอย่ างนั น้ รึ? เหตุผลปลิ้น
ปล้อนสิ้นดี ประโยคนี้ เอาไว้พดู แก้ตวั ในคุกเถอะ เด็กๆ คลุมตัว
พวกนางไปฝ่ ายสอบสวน!”

หัวหน้ าเจ้าหน้ าที่ ไม่ได้รอให้นางเอ่ยสิ่งใดอี ก ได้แต่ โบก


มือให้สญั ญาณ คนจดบันทึกเห็นสีหน้ าหวาดหวันของหญ ่ ิ งสาว
ก็สงสารยิ่งนัก หัวใจดังถูกบีบรัด เพราะยังไม่มีหลักฐานเลยว่า
นางผิดจริงหรือไม่ จึงไม่สมควรถูกคุมตัวเข้าคุกตะราง หากจะ
ว่าไปแล้วถ้าไม่ได้รบั โทษประหารก็ไม่ค่อยมีผ้หู ญิงคนใดถูกจับ
เข้าคุก เพราะเมื่อเข้าไปแล้ว เจอกับสภาพแวดล้อมด้านในก็
ยากจะออกมาแบบปกติ ไ ด้ หากไม่ พิ ก ารก็ต ายอยู่ ใ นนั ้น นี่
มันไม่เกินไปหน่ อยหรือ? เขาจึงเอ่ยเตือน

7
่ ให้ส่งตัวผู้ที่หนี ภาษี ไปอยู่นอกเมือง เพื่อ
“เบือ้ งบนสังแค่
ปี หน้ า จะได้ บุ ก เบิ ก ถางพง ไม่ ไ ด้ บ อกให้ เ ข้ า คุก สัก หน่ อ ยนะ
ขอรับ”

หัวหน้ าเจ้าหน้ าที่ ผ้นู ั น้ กลับตวัดสายตามองผู้จดบันทึ ก


“พวกนางเป็ นหญิง ให้ไปอยู่นอกเมืองก็หกั ร้างถางพงไม่ได้ ถึง
อย่างไรข้าก็สงสัยฐานะของพวกเจ้าว่าต้องสกปรกโสมมเป็ นแน่
แท้ จึงต้องปลอมแปลงสูติบตั ร ไม่แน่ ว่าอาจจะเป็ นนักโทษที่ถกู
เนรเทศจากราชสานักก็เป็ นได้ เป็ นธรรมดาที่ต้องตรวจสอบให้
ชัดเจน”

โดยเฉพาะบุคลิกท่ าทางของนางไม่เหมือนหญิงชาวนา
อาจเป็ นคุณหนูของขุนนางที่ถกู ต้องโทษเนรเทศก็เป็ นได้ นับว่า
เป็ นโอกาสที่ ดี สาหรับเขา พอจับนางเข้าตะรางก็จะได้ทาตาม
อ าเภอใจ หญิ ง งามหยาดเยิ้ ม ราวเทพธิ ด าจากสวรรค์เ ช่ น นี้
ไม่ใช่จะพบเจอกันได้ง่ายๆ

ยิ่ งตอนนี้ มี ข้ อ อ้ า งเต็ ม ปากเต็ ม ค าให้ น ามาใช้ นาง


อุตส่ าห์ซดั เซพเนจรมาถึงนี่ พอถูกคุมตัวเข้าคุกก็ไม่มีผ้ใู ดให้
ร้องทุ กข์ข อความเป็ นธรรม เท่ ากับ พวกนางอยู่ในกามื อ เขา
โอกาสดีเช่นนี้ หากไม่ใช้คงเสียดายแย่

8
เรื่องทานองนี้ ไม่รู้ว่ าหัว หน้ าเจ้ าหน้ าที่ ผ้นู ี้ ทามากี่ ค รัง้
แล้ว พอเห็นคนก็เกิดอยากได้จนทนไม่ไหว จึงรีบสังให้ ่ จบั กุม
เพราะแม้ เ ขาจะเป็ นขุน นางเล็ก ๆ แต่ ข อเพี ย งหญิ ง สาวถึ ง
เรื อ นจ าที่ เ ป็ นขอบเขตอ านาจของเขา คนมี อ านาจทัง้ หลาย
แหล่กย็ งั เข้ามายุ่งไม่ได้ และเขาก็คงไม่ปล่อยให้ พวกนางได้มี
โอกาสเรียกร้องความเป็ นธรรมให้ตวั เองเด็ดขาด

เจ้ า หน้ าที่ ส องคนข้ า งหลัง เตรี ย มท าตามค าสัง่ ของ


หัวหน้ า ตัง้ ท่าจะเข้ามาจับแขนถานหวันช ่ ิ งเพื่อจับกุมตัว

หญิงสาวตกใจใบหน้ าซี ดเผือด เจ้าหน้ าที่ ผ้นู ัน้ มองด้วย


ดวงตาเป็ นประกายพร้อมกับแสยะยิ้ม ท่าทางที่ แสดงออกเห็น
เจตนาชัด เจน ถึ ง จะไม่ พูด ก็เ ข้ า ใจในทัน ที ว่ า ต้ อ งคิ ด สกปรก
โสมม ในใจหญิงสาวเกิดความแค้นเคืองระคนตกใจ นางถอย
หลังกรูดไปหลายก้ าว แม้แต่ หน้ าผากมนยังมี เ หงื่ อซึ ม ยิ่งไม่
ต้องเอ่ยถึงลุ่ยจู เพราะนางตกใจจนก้าวขาไม่ออกแล้ว

เจ้ าหน้ าที่ กลุ่มนั น้ โอบล้ อ มพวกนางอยู่ ที่ ล านบ้า น แต่


ขณะที่กาลังจะจับหญิงสาวตรงหน้ านัน้ ...

หน้ าประตูใหญ่กม็ ีเสียงตวาดดังลันแทรกเข้


่ ามา

9
“ช่างกล้านัก! พวกเจ้าตาบอดหรืออย่างไร กินดีหมีหวั ใจ
เสือมางัน้ รึ! แม้แต่จวนของใต้เท้าเซี่ยยังกล้าบุกรุก!”

“เซี่ ย? จวนเซี่ ย!” จวนของใต้ เท้ าเซี่ ยงัน้ รึ ? พวกเขาหัน


ไปมองหน้ าประตูใหญ่เป็ นตาเดียว เห็นตู้เหอกาลังเดินเข้ามา
ด้วยสีหน้ ากราดเกรีย้ วก็พากันหยุดชะงัก พวกเจ้าหน้ าที่ล้วนจา
เขาได้ดี เพราะขุนพลตู้เป็ นหนึ่ งในคนสนิทของแม่ทพั หัวเมือง
ตามธรรมเนี ยมแล้วพวกเขาต้องประจบคนเหล่านี้ ไว้

แต่เมื่อครู่...พอนึ กถึงคาพูดของขุนพลตู้อีกครัง้ รวมไปถึง


สีหน้ าโกรธขึ้งของเขา ก็ทาให้พวกเจ้าหน้ าที่ได้สติ ถ้าเช่นนัน้ ...
ที่ นี่กค็ ือบ้านของแม่ทพั หัวเมืองเมืองสินะ แล้วคนที่ พกั ในบ้าน
ใต้เท้าก็เป็ น...

ทุ ก คนที่ ยื น อยู่ ที่ นั น่ รู้สึ ก ว่ า ตัว เองเพิ่ ง รอดพ้ น จากคม


หอกคมดาบแบบเฉี ยดฉิว เกือบจะน้ าตาไหลพรากด้วยความ
ซาบซึ้งใจที่มีคนมาป่ าวประกาศได้ทนั ท่วงที

พอคิ ด มาถึ ง ตรงนี้ ห ัว หน้ า เจ้ า หน้ า ที่ ซึ่ ง ต้ อ งการจับ กุม
นางเข้าตะรางให้ได้ สีหน้ าก็พลันเปลี่ยนไป เขากันไปมองหญิง
งามอี ก ครัง้ ก็ เ ห็ น ริ มฝี ปากบางยัง คงสั น่ ระริ กด้ ว ยความ
หวาดกลัว
10
นางเป็ น...เป็ นสมาชิกหญิงในครอบครัวของใต้เท้าเซี่ย!

สวรรค์! เหตุใดเมื่อครู่นางถึงไม่บอกเล่า? แล้วยังเอาสูติ


บัต รนั ก บวชหญิ ง ออกมา ไม่ ใ ช่ ว่ า ต้ อ งการเอาชี วิ ต พวกเขา
หรอกหรือ?

“แต่นี่มนั ...” สามะโนครัวสองใบที่อยู่ในมือเป็ นใบรับรอง


ของนั กพรตหญิงนะ กลุ่มคนมองหน้ ากันไปมา ไม่เคยนึ กมา
ก่อนว่าเหตุการณ์ จะกลับตาลปัตรอย่างนี้ ทุกคนได้แต่งุนงง ไม่
มีใครกล้าแตะต้องนางอีก

ตู้เหอก้ าวเข้าไปดึ งใบสามะโนครัวสองฉบับมาจากมือ


เจ้าหน้ าที่ แล้วแผดเสียงใส่กลุ่มคนที่ ยืนขวางหูขวางตา “ยังจะ
ยืนเซ่ ออยู่ที่นี่ทาไม? จะไปไหนก็รีบไปซะ ถ้าไม่อยากตายก็รีบ
ไสหัวไปเลย”

ทั น ที ที่ เ ขาพู ด จบ เหล่ า เจ้ า หน้ าที่ ก็ ห ายวับ ไปในชัว่


พริบตาไม่เห็นแม้แต่เงา

น่ าขัน สิ้ นดี ! ครัง้ ที่ แ ล้ ว มี ท หารกลุ่ ม หนึ่ งท าตั ว เป็ น


อันธพาลวางแผนก่อกบฏอย่างลับๆ โดยมีพวกเจ้าหน้ าที่ บาง
คนถือโอกาสผสมโรงไปด้วย สุดท้ายก็ถกู จับได้แล้วถูกลากไป

11
ประตูทิศเหนื อ คนที่มีสถานะเป็ นหัวหน้ าได้รบั โทษประหาร ทา
ให้ใครหลายคนพอเห็นใต้เท้าก็ยิ่งกว่าหนูเห็นแมว ไม่มีใครกล้า
หือ

เดิมที ใบหน้ าของตู้เหอก็ค่อนข้างดุดนั โหดร้ายอยู่แล้ว


ตอนที่จ้องมองคนจึงน่ ากลัวมาก ทว่าหน้ าโหดถมึงทึงพอหันมา
หาถานหวันช ่ ิ งกลับส่ งยิ้มให้ “ถ้าเช่ นนั น้ แม่นางก็พกั ผ่อนเถิด
ข้ าไล่ ต ะเพิ ด พวกนั น้ ไปหมดแล้ ว สักครู่ข้ าจะแขวนป้ ายจวน
ตระกูลเซี่ย ต่อไปเจ้าหน้ าที่พวกนี้ กจ็ ะไม่มารบกวนอีก”

กล่ าวจบเขาก็ เก็บ กระดาษสองแผ่น นั น้ ไว้ ในชายเสื้ อ


ก่อนจะเดินออกไป

่ ิ งที่ เพิ่งรวบรวมสติได้ เห็นเขาเก็บ


“ใต้เท้าตู้” ถานหวันช
สามะโนครัวไปจึงรีบเอ่ยปาก นางจาเขาได้ เคยได้ยินเซี่ ยเฉิงจู่
เรียกเขาว่า ตู้เหอ

“ใต้เท้างัน้ รึ? ตาแหน่ งนี้ ข้ามิกล้ารับ แม่นางเรียกข้าว่าตู้


เหอก็พอแล้ว ” ไหนเลยเขาจะกล้าให้ ว่าที่ ฮูหยินของแม่ทพั หัว
เมืองเรียกเขาว่าใต้ เท้ า จึงรีบแก้ไขในทันที ทัง้ ที่ ไม่ค่อยได้พบ
กัน ทว่านางกลับจดจาเขาได้แม่นทีเดียว

12
“สูติบตั รนั ่ น ...” นางชี้ไปที่ชายเสื้อของเขา กระดาษสอง
แผ่นนั น้ นางจ่ายไปมาก กว่าจะได้มาไม่ใช่ ง่ายๆ อนาคตอาจ
ต้องใช้มนั อีก มีสิ่งนี้ ไว้ย่อมสบายใจกว่า

ตู้เหอเอ่ยอย่างลาบากใจ “นี่ เป็ นคาสังของใต้


่ เท้ า จะช้า
หรือเร็วก็ต้องเก็บอยู่ดี เพราะใต้เท้าเป็ นห่วงว่าแม่นางจะหนี ไป
ป่ าเขาลาเนาไพร เกรงจะเผลอเข้าไปในรังโจรอีก ตอนนี้ ใต้เท้า
ก าลัง ยุ่ ง กับ การจัด การเรื่ อ งผู้ป ระสบภัย นอกเมื อ ง อาจไม่ มี
กาลังวังชาไปช่วยเหลือแม่นางได้ ข้าไม่กล้าพูดอะไรมากกว่านี้
เอาเป็ นว่าขอเพียงท่ านไม่ออกจากเมืองนี้ จะไม่มีใครมาทาให้
แม่นางต้องลาบากใจแน่ นอน”

เขานึ ก อะไรขึ้น มาได้ จึ ง เอ่ ย ต่ อ “เมื่ อ ครู่เ ป็ นเรื่ อ งเกิ น


ความคาดหมาย ที่ จริงป้ ายจวนตระกูลเซี่ ยทาเสร็จตัง้ แต่ เมื่อ
วาน แต่เป็ นเพราะข้าสะเพร่าเลินเล่อ ลืมเอามาแขวน เดี๋ยวข้า
จะติ ด ป้ ายเหนื อประตู ใ หญ่ ต่ อ ไปนอกจากใต้ เ ท้ า เซี่ ย พวก
เจ้าหน้ าที่ตวั เล็กๆ จะไม่มีใครกล้าเข้ามาในนี้ อีก แม่นางวางใจ
ได้ อยู่ที่นี่ได้อย่างสงบแน่ นอน”

กล่าวจบตู้เหอก็สาวเท้าก้าวยาวๆ ออกไป แล้วเอาป้ าย


เดิ มลงมา จากนั ้น ก็ ติ ดป้ ายใหม่ แ ทน พอแขวนป้ ายเสร็จ
เรียบร้อยก็พาตัวเองจากไป
13
หลังจากได้ยินเสี ยงฝี เท้ าม้าจากไปแล้ว ถานหวันช ่ ิ งกับ
ลุ่ยจูกก็ ลับเข้ าไปในบ้านด้วยแข้งขาที่ อ่อนแรง ลุ่ยจูนัง่ นิ่งอยู่
เป็ นนานก็ยงั ไม่ได้สติกลับคืน ครัง้ นี้ เด็กสาวไม่ร้องไห้ เลยสัก
นิ ด เพราะเห็น สี ห น้ า ของคุณ หนู ก็ร้ อ งไม่ อ อกแล้ ว คุณ หนู มี
ท่าทางโกรธจัด ซึ่งถือว่าน้ อยครัง้ นักที่นางจะโมโห ลุ่ยจูจึงเกรง
ว่าถ้าร้องไห้แล้วคุณหนูจะต้องราคาญแล้วชี้ให้ตนออกไปแน่

ถานหวัน่ ชิ งนั ง่ นิ่ ง ในใจสับ สนวุ่ น วายและเดื อ ดจัด


ตอนนี้ แม้แต่สามะโนครัวก็ไม่มีแล้ว การเข้าออกเมืองก็เท่ากับ
หมดหนทาง หากจะย้ายบ้านไปที่ อื่นก็ย้ายไม่ได้ เขาต้องทาให้
นางจนมุมขนาดนี้ เชียวหรือ ? จะฆ่าแกงกันให้ตายเลยหรือไร?
แล้วยังจะ...ป้ าย ‘จวนตระกูลเซี่ย’ นี่ ด้วย

่ ิ กจนต้องเหลือบมอง
มือของนางที่ วางอยู่ตรงหน้ าสันระร
แล้ ว ต าหนิ ตัว เอง แม้ ว่ า เขาจะมี เ จตนาคุก คาม ก็แ ล้ ว ท าไม
จะต้องตื่นตระหนกขนาดนี้ ด้วยเล่า?

เขาคงอยากเห็นนางขอร้องให้ยกโทษให้ อยากเห็น นาง


ร้องไห้ครา่ ครวญ คิดว่าเขาจะทาอย่างไรก็ได้เพราะนางก็ไม่ใช่
คุณหนูรา่ รวยมีเงินมากมายอีกแล้ว

14
ถ้านี่ คือการชาระแค้น นางก็ไม่กลัว นึ กถึงห้าปี ก่อน เด็ก
ที่ไม่ร้ฟู ้ าสูงแผ่นดินตา่ ยืนอยู่บนถนน ความสูงยังไม่เท่านางเลย
ปัจจุบนั นี้ ทงั ้ หมดกลับกัน เมื่ออยู่ต่อหน้ าเขากลายเป็ นนางที่ตา่
เตี้ยเรี่ยดินกว่ามาก

อยากจะให้นางลิ้มรสสถานะอันอัปยศอดสูใช่ไหม? เด็ก
มากจริงๆ คิดว่านางจะแคร์หรือไร?

ถานหวันช่ ิ งหัวเราะเบาๆ ทว่าสองมือกลับกาแน่ น พร้อม


กับกัดฟันอย่างคับแค้นใจ

15
35 คืนสถานะ

สองวันมานี้ เซี่ ยเฉิงจู่นากาลังทหารออกไปตัง้ แต่ ร่งุ เช้า


ทุกวัน

เขาได้ ทาการจัดหาที่ พกั นอกเมืองให้ กบั ผู้ประสบภัยที่


เพิ่มขึ้นเฉี ยดพัน อีกทัง้ นาเสบียงอาหารและเสื้อผ้ากันหนาวไป
มอบให้

จากนั น้ ก็ส งั ่ ให้ ท หารก่ อ อิ ฐ มุง กระเบื้อ งหลัง คาและทา


เตาเผา เพื่ อ สร้ า งเป็ นโรงหลอมเหล็ก ตรงลานกว้ า ง ก่ อ นจะ
เรียกตัวช่างตีเหล็กฝี มือดีหลายคนให้มาทาอาวุธใหม่

เพื่อให้งานทัง้ หมดดาเนินไปตามแผนงานที่ เขียนไว้ จึง


ต้องใช้กาลังคนและเงินมหาศาล ชายหนุ่มจึงวุ่นทัง้ วัน กว่าจะ
กลับเข้าเมืองก็คา่ มืดแล้ว แม้แต่เวลาจะกินข้าวก็แทบไม่มี

เซี่ ยเฉิงจู่เพิ่งสังงานลู
่ กน้ องเรื่องสร้างเตาเผาในวันพรุ่งนี้
เสร็จก็นัง่ ลงพักได้สกั ครู่ ยังไม่ทนั หายเหนื่ อย ตู้เหอก็เดินเข้ามา
อย่างรีบร้อนแล้วก้มตัวลงกระซิบข้างหู

1
หลังฟั งจบ สีหน้ าชายหนุ่มก็แปรเปลี่ยนเป็ นเงียบขรึมลง
กว่าเดิมทันควัน เขามองตู้เหอแล้วเอ่ยเสียงเรียบ น้าเสียงไม่ได้
บ่งบอกถึงการตาหนิใดๆ “เรื่องนี้ ข้าสังเจ้
่ าไปสองวันก่อน แล้ว
ทาไมถึงมาทาเอาวันนี้ ?”

ตู้ เ หอรู้ ต ั ว เองว่ า ลื ม เรื่ อ งนี้ ไปเสี ย สนิ ทจนเกื อ บจะ


กลายเป็ นความผิดใหญ่หลวง “ทัง้ หมดเป็ นเพราะข้า ประมาท
เอง ขอให้ใต้เท้าลงโทษด้วยเถิด” เขาเอ่ยรับผิดก่อนจะชาเลือง
มองสีหน้ าใต้เท้า อีกฝ่ ายไม่เพียงไม่ต่อว่า กลับไม่เอ่ยอะไรด้วย
ซ้า แต่ ไ ม่ รู้เ พราะอะไร ในใจเขากลับ กัง วลยิ่ ง กว่ า เดิ ม จึ ง ได้
รายงานต่อ

“เมื่อบ่ายตอนที่ หวั หน้ าเจ้าหน้ าที่ คนนั น้ พูดเรื่องจะจับ


นางเข้าคุก ข้าเห็นคุณหนูถานตกใจจนขวัญผวา ขนาดเดินยัง
แข้ ง ขาอ่ อ น หากใต้ เ ท้ า ไม่ ส บายใจก็ไ ปดูน างให้ ม นใจเถอะ
ั่
ขอรับ”

ผู้หญิงทัวไปหากได้
่ ยินคาว่า ‘เข้าคุก’ หลายคนล้วนยอม
วิ่งเอาศีรษะชนกาแพงตายมากกว่าก้าวเท้าเข้าไปในนัน้ ยังดีที่
ถึงนางจะตกใจเสียขวัญจนขาอ่อนแรงแต่จิตใจก็ยงั เข้มแข็ง

2
นั กโทษหญิงที่ ถกู จองจาในคุกถือว่ ามี ราคี ส่ วนมากจะ
กลายเป็ นของเล่นให้พวกเจ้าหน้ าที่ ในนัน้ หาความสุขบนเรือน
ร่าง ยิ่งหากเป็ นนักโทษหญิงที่ พอจะสวยอยู่บ้าง ชะตากรรมยิ่ง
ดามืด เพราะทุกคนจะพากันยา่ ยี คนนี้ ออกไป คนใหม่กเ็ ข้ามา
ไม่ว่างเว้น ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ความโหดร้ายทารุณใน
สถานที่แห่งนี้ ไม่ต่างจากการแล่เนื้ อเถือหนัง

เพียงแค่คิดว่าหากไปช้าเพียงก้าวเดียว สีหน้ าใต้เท้าก็ไม่


น่ ามองเป็ นที่สดุ

แม่ ท ัพ หนุ่ มลุกขึ้นจะเดิน ออกไปด้ านนอกโดยยังไม่ได้


เอ่ยอะไรแม้สกั คา ครัน้ พอเดินได้ครึ่งทาง ก็เอี้ยวตัวกลับมาสัง่
ตู้เหอ “วันนี้ ไปที่กรมของเจ้าหน้ าที่ คนนัน้ จับมาลงโทษโบยคน
ละหนึ่ งร้อยครัง้ แล้วเอาตัวพวกมันไปบุกเบิกถางดินนอกเมือง
ต่ อไปในเรือนจานั กโทษหญิง ให้ ใช้ ผ้คู ุมหญิงเฝ้ ารักษาการณ์
เท่านัน้ ห้ามมิให้ลงโทษใครพรา่ เพรื่อ หากผู้ใดกล้าฝ่ าฝื นก็ตดั
หัวซะ ดูสิยงั จะมีใครกล้าอีกไหม!”

กล่าวจบก็สะบัดเสื้อคลุมแล้วเดินจากไป

ภายในใจตู้เหอยินดี กบั ความโชคร้ายของผู้อื่นอยู่บ้าง


เพราะครัง้ ก่อนที่ทหารบางนายวางแผนก่อกบฏก็มีคนพวกนี้ ถือ
3
โอกาสผสมโรงไปด้วย ทาให้ใต้เท้าโกรธเป็ นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่
เพราะงานยุ่งรัดตัว หลังจัดการลงโทษพวกทหาร เรือ่ งนี้ กถ็ กู พัก
ไว้ชวคราว
ั่ ไม่คิดไม่ฝันว่าเทพเจ้าซิ่วจะรังเกี ยจที่ พวกขยะนั น่
อายุยืนเกินไป จึงดลใจให้พวกมันเอาตัวเองมาส่งถึงประตู

แม้การลงโทษโดยการโบยด้วยไม้หนึ่ งร้อยครัง้ จะรุนแรง


สักหน่ อย แต่กถ็ ือว่าไม่เลวเลยทีเดียว พวกเจ้าหน้ าที่ ในนัน้ ช่าง
วุ่นวาย ทาตัวเลวทรามมาไม่ร้กู ี่ปี หากคัดออกมาดูทีละคนจะ
เห็นว่าไม่มีใครดีเลยสักคน ต่ อให้ ตีจนตายในนัน้ ก็ไม่มีคนมา
เรียกร้องขอความเป็ นธรรมให้

นี่ คือบทลงโทษที่ทาให้ใต้เท้าเดือดจัดใช่ไหม?

ท้องฟ้ าค่อยๆ สลัวลง ลุ่ยจูจึงจุดเที ยนทาให้ในห้องสว่าง


ขึ้น มา จากนั น้ ก็เ ดิ น ไปหยิ บ อาหารค ่า มาวางบนโต๊ะ ให้ เห็น
คุ ณ หนู ย ัง คงอยู่ ใ นอิ ริ ย าบถเดิ ม คื อ นั ง่ ถื อ หนั ง สื อ อยู่ ที่ ริ ม
หน้ าต่ าง ทว่าจิตใจเหมือนกับไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะนางมักจะ
เหลือบมองไปที่ ประตูใหญ่เป็ นระยะ คุณหนู นัง่ เหม่ออยู่อย่าง
นัน้ ตัง้ แต่ดวงอาทิตย์แขวนอยู่เหนื อศีรษะ จนกระทังตกด ่ ิน

แม้ ลุ่ ย จูจ ะยุ่ ง กับ การท างาน แต่ ก็ม องออกว่ า เจ้ า นาย
กาลังรอคนอยู่ แต่เมื่อคุณหนูไม่พดู นางหรือจะกล้าถาม
4
หลังจากลูกน้ องของใต้ เท้ าเซี่ ยขี่ ม้ากลับไป เด็กสาวจึง
กล้ า ไปมองแถวหน้ าประตู ที่ แ ท้ เ หนื อประตู ไ ด้ ต อกป้ ายไม้
แขวนเอาไว้ บนป้ ายเขียนว่า ‘จวนตระกูลเซี่ย’ ถึงป้ ายจะทามา
แบบหยาบๆ ดู ก็รู้ ว่ า เน้ นการใช้ ง านเพี ย งอย่ า งเดี ย ว ทว่ า
ตัวอักษรกลับมี ขนาดใหญ่ดูโดดเด่น ขอเพี ยงตาไม่บอดย่ อม
มองเห็นได้ทนั ที

ลุ่ยจูยืนมองสักพักจากนัน้ ก็เบ้ปาก ตัง้ ท่าจะเดินกลับเข้า


ไปในบ้าน เพี ยงขยับตัวก็เห็นหญิงบ้านใกล้เรือนเคี ยงคนนั น้
กาลังลงจากเกี้ยวพร้อมหญิงรับใช้สองคน

ทัง้ สามยื น อยู่ ที่ ป ระตู ห น้ าบ้ า นของตน เห็น หญิ ง จาก
ครอบครัวยากจนยืนอยู่อีกฟาก ไม่ร้วู ่ากาลังมองอะไร ทัง้ สาม
จึงเชิดหน้ าใส่ แล้วมองตามไป จึงเห็นว่าเป็ นป้ ายไม้ที่ยงั ไม่ได้
ขัดเสี้ยนออกด้วยซา้ บนนัน้ ยังเขียนอักษรที่ดเู หมือนจะเป็ นชื่อ
บ้าน

ป้ ายอะไรช่างกระจอกเสียจริง! หญิงทัง้ สามอดไม่ได้ที่จะ


ใช้ผา้ ปิดปากแล้วหัวเราะเยาะ

5
แต่ เ มื่ อ เห็น ว่ า เด็ก สาวในชุ ด เสื้ อ ผ้ า เก่ า ก าลัง จับ จ้ อ ง
มายังพวกตน นางก็กระแอมเบาๆ คิดจะถามสักคาว่าบ้านหลัง
นี้ มีชื่อว่าอะไร ทว่าเมื่อมองให้ดีกไ็ ด้คาตอบโดยยังไม่ต้องถาม

จวนตระกูลเซี่ย! เป็ นไปได้อย่างไร?

ในเมืองเว่ยอันนี้ คนแซ่เซี่ยก็มีไม่มาก และคนที่มีชื่อเสียง


เพี ยงหนึ่ งเดี ยวก็คือท่ านแม่ทพั หัวเมือง ทาให้ นางนึ กถึงเรื่อง
เมื่อหลายวันก่อนขึน้ มาได้

ตอนนัน้ จู่ๆ เด็กในบ้านก็วิ่งมาบอกว่า เหมือนกับเห็นแม่


ทัพหัวเมืองมาที่ บ้านใกล้เรือนเคี ยง ทว่านางไม่เชื่ อพร้อมทัง้
ตาหนิกลับไป แต่ มาวันนี้ กลับมี ป้ายจวนตระกูลเซี่ ยแขวนไว้
แล้ว

เรื่องราวในใต้หล้าจะมีความบังเอิญขนาดนัน้ เลยหรือ?
แสดงว่าที่พวกเด็กๆ พูดเป็ นเรือ่ งจริงอย่างนัน้ รึ?

พอนึ กมาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็ชกั จะยิ้มไม่ออก นางจึงเริ่ม


ประเมินลุ่ยจูใหม่ตงั ้ แต่ ศีรษะจรดเท้ าอย่างจริงจัง เมื่อดูแล้วก็
รู้สึกว่าไม่เหมือนกับที่ เคยได้ยินมา จึงรีบถามเพื่อคลายความ
สงสัยของตัวเองทันที

6
“บ้ า นหลัง นี้ เดิ มที แ ซ่ เ จิ้ ง ท าไมถึ ง เปลี่ ย นเป็ นจวน
ตระกูลเซี่ ยล่ะ? หรือว่าพวกเขาขายให้ พวกเจ้าแล้ว? ถ้าอย่าง
นัน้ พวกเจ้าแซ่เซี่ยงัน้ หรือ? แล้วเป็ นเซี่ยไหนกัน?”

“เอ๊ะ! ทาไมข้าต้ องบอกเจ้าด้วยเล่า เซี่ ยไหนก็เบิกตาดู


เอาเองสิ?” ลุ่ยจูกลอกตาใส่ ทาเป็ นไม่สนใจ ผู้หญิงบ้านตรง
ข้ามชอบมองพวกตนด้วยสายตาดูถกู เหยียดหยาม ทัง้ ที่ตวั เอง
ก็เป็ นบ้านเล็กของพ่อค้า พอมาวันนี้ ท่าที มาถามไถ่ คิดว่านาง
ต้องสนใจหรือไรกัน

ลุ่ยจูจึงคร้านที่ จะตอบกลับ ไหนๆ ตอนนี้ สถานะนางกับ


คุณหนู ก็เ ปิดเผยแล้ ว แม้แต่ แม่ท ัพ หัว เมื องยัง รู้แล้ ว มี อะไรที่
ต้องกลัวอีก เด็กสาวจึงเดินเข้าบ้านแล้วปิดประตูตามหลังแบบ
ไม่แยแส

ทาเอาสาวงามปากแดงถึงกับหน้ าตาบิดเบีย้ วด้วยความ


โกรธเคือง เป็ นแค่สามัญชนกลับทาตัวไร้มารยาทสิ้นดี เด็กรับ
ใช้ ส องคนเห็น เจ้ า นายโกรธก็พูด ปลอบประโลมกัน พัก หนึ่ ง
จากนั น้ คนเป็ นนายก็เดินกระฟั ดกระเฟี ยดเข้าบ้าน ปล่อยให้
บ่าวทัง้ สองปิดประตูใหญ่ตามหลัง

7
จังหวะนัน้ เองจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝี เท้าม้าดังแว่วเข้ามาจาก
ด้ านนอก ตอนนี้ ฟ้าก็ยงั ไม่มืดมาก แต่ ประตูเหนื อที่ เป็ นที่ ตงั ้
ของค่ ายทหารปิดหมดแล้วนี่ ทาไมจึงมี เสี ยงกี บเท้ าม้าได้เล่า
แปลกจริง...

เด็กสาวทัง้ สองจึงยืนรีรออยู่หน้ าประตู

ไม่ น านก็เ ห็น ขายาวคู่ห นึ่ ง ควบม้ า เข้ า มาหยุ ด อยู่ ห น้ า


ประตูของเพื่อนบ้าน คนบนหลังม้าสวมชุดเสื้อคลุมสีดา เข็มขัด
คาดเอวสีเทา สวมรองเท้าแบบยาวสี ดา การเย็บปักตรงคอเสื้อ
และชายแขนเสื้ออีกทัง้ เข็มขัดเป็ นรูปแบบง่ายๆ เขาดึงบังเหียน
ม้าให้ หยุด แล้ ว หันไปมองป้ ายชื่ อที่ แ ขวนหน้ าบ้าน จากนั น้ ก็
พลิกตัวลงจากหลังม้าด้วยท่าทางปราดเปรียวว่องไว

การเคลื่อนไหวช่างเป็ นไปอย่างสง่างามไร้ที่เปรียบ

รูปร่างสูงใหญ่กายา อาศัยท้องฟ้ าที่ ยงั ไม่มืดสนิท ทาให้


เห็นดวงตาคมกริบ และริมฝี ปากบางที่เม้มน้ อยๆ

เด็กรับใช้สองนางที่ยืนอยู่หน้ าประตูจ้องมองด้วยหัวใจที่
เต้นโครมครามตลอดเวลา สายตาของชายผู้นัน้ คมดุราวกับนก
เหยี่ยว ท่าทางองอาจเยือกเย็นประหนึ่ งจะข่มขวัญผูค้ นได้

8
หลังจากที่ชายหนุ่มลงจากม้าก็ก้าวเท้าไปหน้ าประตูใหญ่
มือที่ ยื่นออกไปหมายเคาะประตูชะงัก เล็กน้ อย ก่อนจะเคาะลง
ไป สายตาจับจ้องอยู่ที่ป้ายชื่อที่ แขวนไว้ แล้วยื่นมือไปลูบคลา
เงียบๆ

ครัน้ ได้ยินเสียงเคาะประตูจากข้างนอก ถานหวันช ่ ิ งที่กิน


โจ๊กไปได้สองคาก็วางชามลงทันใด เร่งให้ล่ยุ จูไปเปิดประตู เด็ก
สาวประหลาดใจอย่างมาก ปกติเวลานี้ หากมีคนมาเคาะบ้าน
พวกนางจะตกใจจนแทบขวัญหาย แต่ทาไมวันนี้ คณ ุ หนูกลับสัง่
ให้นางรีบไปเปิด หรือนางจะรูว้ ่าคนที่อยู่ด้านนอกเป็ นใคร?

เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของคุณหนู เด็กสาวจึงได้แต่คาด
เดาว่าคนผู้นัน้ ต้องเป็ นใต้เท้าเซี่ย เพราะป้ ายชื่อสกุลเซี่ยแขวน
หราออกอย่างนัน้ นอกจากเขาคงไม่มีใครกล้ามาหรอก

เด็กสาวเร่งรุดไปเปิดประตู แล้วก็เป็ นไปอย่างที่ คิดไว้ไม่


มีผิด ทัง้ ยังมีอาชาขนมันวาวสีดาของเขาตัวนัน้ ยืนอยู่ข้างนอก
ด้วย

หากไม่ เ คยถูก เขาช่ ว ยชี วิ ต มาจากพวกคนเถื่ อ น นาง


อาจจะแง้มประตูแล้วบอกว่า คุณหนู หลับแล้ว มี เรื่องอะไรไว้
ค่ อ ยคุ ย กัน พรุ่ง นี้ หรื อ อาจจะไม่ เ ปิ ดประตู เ ลยด้ ว ยซ้า ทว่ า
9
ตอนนี้ น างกับ คุณ หนู ไ ด้ ร บั การช่ ว ยเหลื อ จากเขา ซ้า ยัง อยู่
ชายคาบ้านเขาด้วย แล้วจะกล้าไล่เจ้าของออกจากบ้านตนเอง
ได้อย่างไร

พอลุ่ยจูเห็นคนตรงข้ามมีสีหน้ าเคร่งขรึม โดยเฉพาะเมื่อ


ได้สบกับดวงตาที่ เฉี ยบขาดคู่นัน้ นางก็ตกใจจนทุกอย่างที่ เคย
คิดไว้ปลิวหายไปหมด ท่าทางเหมือนหนูเห็นแมวอย่างไรอย่าง
นั ้น นางรี บ หลบไปด้ า นข้ า ง หลี ก ให้ อี ก ฝ่ ายเข้ า มาในบ้ า น
จากนัน้ ค่อยๆ งับประตูตามหลังเบาๆ

ดูท่ า ทางเขาสิ อย่ า งกับ ปี ศาจชัว่ ร้ า ยตนหนึ่ ง ก็ไ ม่ ป าน


เดิ มที สี หน้ าคุณหนู ที่ โกรธช่ วงสายๆ ก็ไม่ น่ ามองอยู่แล้ ว แต่
หากเอามาเปรียบกันกลับเที ยบไม่ติดสักกระผีกเดี ยว ช่ างน่ า
กลัวเหลือเกิน

ส่วนบ้านตรงข้ามที่ยงั ปิดประตูใหญ่ไม่เรียบร้อย เจ้านาย


กับสาวใช้ สองคนที่ เพิ่งเห็น ฉากนั น้ ก็ได้ แต่ ชะงักค้ างอยู่ กบั ที่
ราวกับเท้าถูกตอกลิ่มให้ยืนอยู่ตรงประตู ไม่ขยับเขยือ้ นอยู่นาน
สีหน้ าแต่ละคนดูหวาดผวาอย่างชัดเจน

ชายหนุ่ มร่างสูงใหญ่ คนเมื่อครู่ ใช่ ใต้ เท้ าเซี่ ยจริงๆ ถ้า


เช่ น นั ้น บ้ า นตรงข้ า มก็เ ป็ นจวนตระกูล เซี่ ย แต่ ว่ า ท าไมจวน
10
ตระกูลเซี่ ยถึงได้มีหญิงสาวยากจนสองคนมาร่วมอาศัยอยู่ด้วย
เล่า?

อี ก ทัง้ บ้ า นหลัง นี้ เดิ ม เป็ นบ้ า นสกุล เจิ้ ง แล้ ว ท าไมถึ ง
เปลี่ยนเป็ นสกุลเซี่ยได้ สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึน้ กันแน่

เป็ นเพื่อนบ้านกับใต้ เท้ างัน้ หรือ...หญิงงามปากแดงคิด


เพียงจะเดินมาดูว่าทาไมบ่าวทัง้ สองไม่เดินตามเข้าไปเสียที แต่
กลับมาเห็นภาพใต้เท้าเซี่ยเดินเข้าบ้านตรงข้าม ไม่ทนั มีเวลาให้
ตระหนกตกใจเสี ยด้วยซ้า นางกัดริมฝี ปากล่าง ในใจเริ่มรู้สึก
กังวลขึน้ มาบ้างแล้ว

เซี่ ยเฉิงจู่เดินเข้าไปในบ้านแบบคนที่ รู้ท างเป็ นอย่ างดี


ตอนที่ ย กมื อ เปิ ดม่ า นเข้ า มาในห้ อ งก็เ ห็ น หญิ ง สาวท่ า ทาง
งดงามอ่ อนช้ อย ผิวขาวเนี ยนนุ่ มนวล ยืนอยู่ข้างโต๊ะ เมื่อเขา
เข้ามา ดวงตาของนางก็จบั จ้องมา แสงเที ยนที่ ส่องสว่างเที ยบ
ไม่ได้กบั ประกายในแววตาคู่งามที่ ท่าให้ใจของเขาสันไหว ่ ชาย
หนุ่มได้แต่ยืนจ้องนางนิ่งเหมือนไม่อาจละสายตาไปได้

ทันที ที่ชายหนุ่ มเปิดม่านเดินเข้ ามาในห้ องนอนขนาด


เล็ก ท าให้ ห้ อ งกลับ ยิ่ ง คับ แคบไปถนั ด ตา ราวกับ ว่ า อากาศ
หายใจไม่เพียงพอต่อความต้องการ
11
่ ิ งมองเขาแวบหนึ่ งก็ดึงสายตากลับมา แววตา
ถานหวันช
ของเขาเกื อบจะทาให้ นางคิดว่าอี กฝ่ ายชอบพอตน หากไม่ มี
เรือ่ งเลวร้ายเมื่อห้าปี ก่อน หญิงสาวก็คงคิดว่าเป็ นเช่นนัน้ จริงๆ

ชายผู้นัน้ ไม่ได้หยุดที่ หน้ าประตู แต่ กลับเดินตรงเข้ามา


หาด้วยท่ าทางคุกคาม จนถานหวันช ่ ิ งเกือบจะถอยหลังหนี อยู่
แล้ว ทว่าหญิงสาวข่มอารมณ์ไว้ได้ทนั จึงเอ่ยทักขึน้

“ใต้เท้าเซี่ย”

เสี ยงนี้ ทาให้ คนตรงข้ามชะงักเท้ าในที่ สุด เขาหยุด ห่ าง


จากตัวนางประมาณสองก้าว

เซี่ ยเฉิงจู่รบั รู้ได้ถึงน้ าเสี ยงที่ เหินห่างเย็นชา ก็เพิ่งคิดได้


ว่าท่ าทางของตนดูน่าหวาดหวันเพี ่ ยงใด สี หน้ าพลันเปลี่ยนไป
อย่างยากจะคาดเดา จากนั น้ เขาก็นัง่ ลงบนเตี ยงแทน สายตา
เหลือบเห็นชามโจ๊กที่ ยงั ไม่พร่องบนโต๊ะ คิ้วก็ขมวดแน่ นแล้ ว
ถามขึน้

“เจ้ายังไม่ได้กินข้าวอีกหรือ?”

“กินเสร็จแล้วเจ้าค่ะ” ถานหวันช
่ ิ งตอบกลับเสียงเบา

12
พอนางเอ่ ย ปาก ในห้ อ งเหมื อ นได้ ยิ น เสี ย งน้ า พุ ไ หล
กระทบหิน ช่างไพเราะเสียจริง น้าเสียงของเซี่ยเฉิงจู่จึงนุ่มนวล
ลงอี กหลายระดับ สายตาจับจ้องไปยังนางที่ อยู่ใกล้ๆ จากนัน้
มือขวาก็ค่อยๆ เคลื่อนมาวางไว้ที่เข่าแล้วกดเอาไว้

“ทาไมเจ้ากินน้ อยอย่างนี้ หรือเป็ นเพราะเรื่องตรวจสอบ


สามะโนครัวเมื่อเช้า?” เขามองร่างบอบบางที่ ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ย
ยา้ เรื่องความปลอดภัยให้ กบั หญิงสาว “ยามนี้ ทงั ้ คนในเมือง
และคนต่ างเมืองต่ างปนเปกันวุ่นวาย จาเป็ นต้ องสะสางเรื่อง
ส ามะโนครัว ใหม่ เพื่ อ หลี ก เลี่ ย งความเสี ย หายที่ อ าจเกิ ด ขึ้น
ไม่ได้ มุ่งร้ายกับใคร...” ประโยคต่ อมายิ่งอ่ อนโยนลงกว่าเดิม
“เจ้าวางใจได้วนั ข้างหน้ าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อีก”

อาจเป็ นเพราะอยู่ท่ามกลางแสงเที ยน ใบหน้ าที่ ปกติจะ


เคร่งขรึมจึงแปรเปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึน้ มาบ้าง

ถานหวัน่ ชิ ง แอบมองเขาอย่ า งละเอี ย ดคราหนึ่ งด้ ว ย


ความประหลาดใจ ตัง้ แต่กลับเข้ามาในเมืองวันนัน้ แค่มองก็รู้
ว่าอี กฝ่ ายไม่ใคร่จะสบอารมณ์ เท่ าไรนั ก วันนี้ กลับพูดจาดี ผิด
แผกไปจากเดิมมาก แต่เป็ นอย่างนี้ กด็ ีเหมือนกัน

13
นางหมกมุ่นอยู่กบั ความเคืองโกรธตลอดช่วงบ่าย จนถึง
ตอนนี้ จึ ง ค่ อ ยๆ ใจเย็น ลง จึ ง มี เ วลาครุ่ น คิ ด สิ่ งที่ ตู้ เ หอพู ด
นอกจากใต้เท้าเซี่ยก็ไม่ผใู้ ดกล้าเข้ามา...

แล้วมันหมายความว่ากระไร?

น าง ไม่ ใ ช่ ผู้ ห ญิ ง ใน ต ระ กู ล เ ซี่ ย แต่ เ ข ากลั บ เ ก็ บ


สามะโนครัวของนาง แล้วยังเลี้ยงไว้ในบ้านอีก

ไม่ว่าจะคิดไปทางไหน ตัง้ แต่ ฉากที่ เขาพูดในตลาดวัน


นั ้น กระทัง่ มาถึ ง การไล่ ต้ อ นให้ น างจนมุ ม พอนางมี เ วลา
ใคร่ครวญทาให้ถานหวันช ่ ิ งรูแ้ ละเข้าใจฐานะตนเองได้ทนั ที

กอปรกับ นางและใต้ เ ท้ า เซี่ ย มี ป ระสบการณ์ เ ลวร้ า ย


ร่ ว มกัน เมื่ อ ห้ า ปี ก่ อ น ความโกรธแค้ น ชิ ง ชัง ทัง้ เก่ า และใหม่
ปนเปกันจนนางไม่อยากจะเก็บมาคิดอี กแล้ว เพราะมันทาให้
นางดาเนินชีวิตต่อไปอย่างยากลาบาก

หญิ งสาวรู้ ว่ า คนข้ า งๆ ก็ ต้ อ งอดทนมานานเช่ น กัน


ในขณะที่ คนอื่นเดินกินเที่ ยวเล่น ทว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้
มาตัง้ นานแล้ว วันนัน้ ในบ้านดินพอได้โอกาสหยอกเย้าจึงไม่รอ
ช้าที่จะทามัน ส่วนนางก็ยงั สาดคาพูดชนิดที่ยากจะรับได้ใส่หน้ า

14
เขาก่อนจากมาอย่างสง่าผ่าเผย ตอนนี้ สิ่งที่ นางปรารถนาก็คือ
การกลับ ไปยัง ชายแดน แล้ ว ฟื้ นสถานะเป็ นนั ก โทษหญิ ง
ตามเดิม ไปบุกเบิกถางพงปลูกข้าวใช้ชีวิตกับบิดา

่ ิ งอดทนรอเซี่ ยเฉิงจู่มาครึ่งค่อนวัน ก็
ดังนัน้ ที่ ถานหวันช
เพื่อพูดกับเขาเรื่องนี้ นางถอยเท้าไปหนึ่ งก้าว จ้องมองคนที่ นัง่
อยู่ โดยใต้เท้าเซี่ ยก็จ้องมองนางอยู่ตลอดเช่นกัน จากนัน้ หญิง
สาวก็เอ่ยอย่างไม่ลงั เลเลยสักนิด

“หลายวันมานี้ ข้าเห็นบิดา กังวลความเป็ นอยู่ของเขา จึง


อยากขอร้องใต้ เท้ าคืนสถานะและสามะโนครัว ให้ข้าได้ไปหา
บิดาที่ ชายแดน เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ าพร้อมตากัน หวังว่าใต้
เท้าจะอนุญาต”

15
36 ไม่เป็ นธรรม

วันนี้ เซี่ยเฉิงจู่แค่ต้องการมาดูถานหวันช
่ ิ งด้วยตาตนเอง

เมื่อเห็นว่าหญิงตรงหน้ าไม่เป็ นอะไร ยังคงสบายดี หัวใจ


ที่บีบรัดในตอนแรกก็ค่อยๆ คลายลง

เขามองนางอย่ า งละเอี ย ด สายตาไม่ ไ ด้ เ บนไปจาก


ใบหน้ างดงาม ดูเหมือนนางจะผอมเกินไป รูปร่างบอบบางราว
จะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ผิวที่ขาวราวกระดาษนวลเนี ยนดังหยก
ใส จาต้ องทะนุ ถนอมโอบอุ้มราวกับของลา้ คา ใครเลยจะกล้า
ร้ายกาจกับนางได้ลง

หญิ งสาวยื น อยู่ ด้ า นข้ า ง ใกล้ ก ั น เพี ย งแค่ มื อ เอื้ อ ม


ชายหนุ่มจึงได้แต่หกั ห้ามใจ กดมือไว้กบั เข่าแน่ น เป็ นนานกว่า
จะละสายตาออกมาได้ โดยที่ อี ก ฝ่ ายไม่ รู้ เ ลยว่ า ท าให้ เ ขา
หวันไหวเพี
่ ยงใด เซี่ยเฉิงจู่จึงได้แต่แอบถอนใจ

ดีแล้ว...แค่นางอยู่ข้างกายเขาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว

ในห้ อ งพลัน เงี ย บงัน ไปครู่ห นึ่ ง สุ ด ท้ า ยเป็ นนางที่ เ อ่ ย


ขึน้ มา ทว่าคาพูดนัน้ ชัดเจนว่าไม่ต้องการรับน้าใจจากเขา
1
โดยเฉพาะเมื่ อ นางเรี ย กเขาว่ า ‘ใต้ เ ท้ า’ ด้ ว ยน้ า เสี ย ง
ราบเรี ยบ แสดงถึงการเมินเฉยใส่ อย่างเห็นได้ ชดั สี หน้ า ‘ใต้
เท้ า’ จึงแปรเปลี่ยนเป็ นเย็นชาทันที โทสะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นใน
ดวงตา

แววตาชายหนุ่ มเป็ นประกายวูบ หนึ่ ง ก่ อนจะเอ่ ย ด้ ว ย


น้าเสียงเยียบเย็น “เจ้าอยู่ที่นี่ไม่สบายงัน้ หรือ? ถ้าอยู่ที่นี่แล้วทา
ให้เจ้าไม่สบายใจ จะเปลี่ยนที่พกั ก็ได้นะ”

เปลวเทียนวูบไหวโดยไร้สายลมพัด อางไฟริมประตูสร้าง
ความอบอุ่นให้ กบั ในห้อง ทว่าบรรยากาศระหว่างทัง้ สองกลับ
เริ่มอึมครึม

ถานหวันช่ ิ ง เห็น สี ห น้ า ที่ เ ปลี่ ย นไปของเขาก็รู้ไ ด้ ว่ า อี ก


ฝ่ ายไม่พอใจ นางไม่อาจปล่อยประเด็นนี้ ให้ ผ่านไปได้ แต่ ก็จ
จาต้ องพูดเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ ลง “จากสถานะของข้า
แค่มีหลังคาคุ้มหัวก็เกินคาดหวังแล้ว จะกล้าไม่พอใจได้อย่างไร
...”

พูดมาถึงตรงนี้ นางก็เหลือ บมองอี กฝ่ าย พอเห็น สายตา


ของชายหนุ่มดูเหมือนจะอ่อนลง จึงพูดต่อเสียงเนิบช้า

2
“แต่ ใต้ เท้ า ข้าเป็ นนักโทษหญิง หากอาศัยอยู่ที่นี่กใ็ ช่ว่า
จะอยู่ได้นาน อีกทัง้ หากให้ข้าอยู่บา้ นใต้เท้าก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อ
ชื่ อ เสี ย งของท่ า นด้ ว ย ข้ า รู้ว่ า ใต้ เ ท้ า เป็ นขุน นางสัต ย์ซื่ อ มื อ
สะอาด ไม่ควรต้องด่างพร้อยเพราะเรื่องนี้ ดังนัน้ ท่านไม่ควรใช้
วิธีกลันแกล้
่ งให้ คนอื่ นลาบากใจ ท่ านควรคื นใบสามะโนครัว
ให้ กบั ข้า ปล่ อยให้ ข้ าไปอยู่พ ร้อมหน้ ากับ ครอบครัว ไม่ ดี กว่ า
หรือ...” น้าเสียงที่เอ่ยนุ่มนวล คาพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เต็มไป
ด้วยเหตุผล

ทว่ากลับทาให้สีหน้ าเซี่ ยเฉิงจู่ยิ่งมืดครึม้ มากกว่าเดิมอีก


หลายเท่า ในแววตาปรากฏความไม่ยินยอมอย่างเด่นชัด

“ข้าไม่ได้กลันแกล้
่ งคน แต่ชกั จะอยากเห็นเหมือนกันว่า
เจ้าคิดว่าข้าแกล้งใคร?” เขาลุกจากเตียง เดินไปหานางแล้วก้ม
ลงถาม “เจ้ า คงไม่ คิ ด ว่ า ข้ า ลื ม เรื่ อ งที่ เ จ้ า เคยท าไว้ ก ับ ข้ า ใช่
ไหม?”

ถานหวันช ่ ิ งนิ่งเงียบไปชัวครู
่ ่ หลุบสายตาลงแล้วเม้มริม
ฝี ปากแน่ น ทว่าแทนที่จะตอบ นางกลับย้อนถามกลับไป “ได้ยิน
มาว่ าใต้ เ ท้ าให้ การอนุ เคราะห์แก่ ผ้ปู ระสบภัย ที่ อยู่น อกเมือง
คาดว่ า ท่ า นคงส่ ง คนไปที่ จ วนถานแล้ ว ไม่ รู้ว่ า ท่ า นได้ ‘ของ
เหล่านัน้ ’ มาอย่างราบรืน่ ดีหรือไม่?”
3
ค าถามนี้ ทาให้ ในใจใต้ เท้ ายิ่งคุกรุ่น เขาขยับ เข้ าไปหา
นางอีกก้าว “ข้าก็อยากจะขายโฉนดที่ ดินผืนนัน้ แล้วเอามาทา
ประโยชน์ ให้ชาวบ้านอยู่หรอกนะ เพราะไม่ใช่มีแต่พวกตระกูล
สูงศักด์ ิ และมังคั ่ านัน้ ที่ชีวิตจะมีคา...” ขณะที่พดู สายตาชาย
่ งเท่
หนุ่มจับจ้องมาที่ นางตลอด “แต่เจ้าไม่คิดบ้างเลยหรือว่าโฉนด
ที่ ดินที่ ตวั เองซ่ อนไว้ในห้ องนอนจะถูกทางการยึ ด ไปตัง้ นาน
แล้ว ตอนนี้ ไม่มีโฉนดที่ ดินมาต่ อรองแล้ ว เจ้าจะเอาอะไรมา
แลกเปลี่ยนดีล่ะ?”

หญิงสาวได้ยินคาพูดประชดประชัน ในใจก็กรุ่นโกรธไม่
แพ้ ก ัน ยิ่ ง ได้ ฟั ง ว่ า สมบัติ ส่ ว นตัว ของตนถูก ยึ ด ไปแล้ ว ก็ไ ม่
อยากจะเชื่อ นางจึงจ้องอีกฝ่ ายตาเขม็ง สีหน้ าเขาเจ้าเล่หข์ นาด
นี้ จะให้นางเชื่อได้อย่างไร

สถานที่ ซ่ อ นนั ้น อ าพรางไว้ มิ ด ชิ ด มาก ถึ ง จะยกปลาย


เตียงขึน้ ก็ไม่อาจเห็นช่องลับได้ หากนางไม่บอกตาแหน่ ง ต่อให้
รือ้ ทัง้ ห้องก็ใช่ว่าจะหาเจอกันได้โดยง่าย ทว่าสุดท้ายก็อดไม่ได้
ที่ จะถาม “ในเมื่อหาโฉนดที่ ดินไม่พบ แล้วท่ านได้เงินจากไหน
มาจัด เตรี ย มที่ อ ยู่ แ ละข้ า วของให้ ก ับ ประชาชนที่ ป ระสบภัย
นอกเมือง?”

4
พอเห็นว่านางไม่เชื่อ เซี่ยเฉิงจู่กค็ ารามเสียงฮึ่มฮัมอย่่ าง
ไม่ พ อใจ ตอบกลับ เสี ย งเข้ ม “ก็แ ค่ โ ฉนดที่ น าไม่ กี่ ผื น ข้ า จะ
ปิดบังเจ้าไปทาไม” สายตาที่ มองมาเปลี่ยนเป็ นแข็งกร้าวและ
เยือกเย็น “ข้าได้ส่งคนไปเมืองหลวงจริง เพราะข้าไม่เชื่อว่าใน
จวนถานจะไม่มีที่ซ่อนลับ!”

เขายิ้มมุมปาก “พวกขุนนางใหญ่ในราชสานักก็เหมือนๆ
กันทัง้ หมด จวนเจิ้งกับจวนหรันพบทรัพย์สินเป็ นแสน แต่ คลัง
ของบิดาเจ้ากลับสะอาดขนาดหนูสกั ตัวก็ไม่มี เรื่องนี้ ฮ่องเต้เชื่อ
เสียสนิทใจ แต่ข้าไม่เชื่อว่าในน้าใสจะไม่มีปลา หากเขาบริสุทธ์ ิ
ซื่อตรงจริง ก็แสดงว่ามีแต่ใต้เท้าเจิ้งและใต้เท้าหรันที่ หาญกล้า
งัน้ หรือ?”

่ ิ งได้ยินก็สะดุ้ง ไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยต่อ นางก็รู้


ถานหวันช
แก่ใจดีกว่าใคร หลายปี มานี้ คนในจวนตระกูลถานใช้ชีวิตอย่าง
ฟุ้งเฟ้ อ...

หรือว่าเขาจะพบทรัพย์สินเหล่านัน้ แล้ว?

นางจ าได้ ว่ า ก่ อ นหน้ า นี้ ต อนที่ ใ นเมื อ งหลวงแห้ ง แล้ ง


ข้าวสักเม็ดก็ไม่มีให้เก็บเกี่ยว บิดาเคยเอาเงินทองจากคลังใน
จวนออกมาช่ ว ยเหลื อ ซึ่ ง เรื่องนั น้ ทาให้ ฮูหยิ น ใหญ่ ถึ ง กับ ล้ ม
5
ป่ วยไปหลายวัน ดังนั น้ พอได้ ยินว่าพบเจอทรัพย์สินถูกยึ ดไม่
มาก นางจึงโล่งใจอยู่บา้ ง

แต่ ค าพู ด ของคนตรงหน้ ายิ่ งท าให้ น างกลัด กลุ้ ม ใจ


ตระกูลถานตอนนี้ แทบจะล่มจมอยู่แล้ว แต่ละคนเหลือเพียงแค่
ชี วิต หากถูกคนอื่นล่วงรู้ว่าตระกูลถานซ่ อนทรัพย์สินเงินทอง
จานวนมากไว้ ในจวน ก็อาจทาให้ ฮ่องเต้ โ กรธจัด จนบัน ดาล
โทสะ โทษที่ได้รบั ย่อมไม่พ้นความตาย

หากรังถูกควา่ ก็ยากที่ไข่ในรังจะอยู่รอดปลอดภัยได้

ถ้าตระกูลถานต้องสูญสลาย แล้วตัวนางเองก็คงยากจะมี
ชีวิตอยู่ได้เช่นกัน หรือหากยังอยู่ได้กค็ งลาบากยากเข็ญ พอคิด
มาถึงตรงนี้ นางก็ขมวดคิ้วแน่ น ต้ องการเวลาเพื่อสงบใจและ
ใคร่ครวญอย่างละเอียด

แต่อีกฝ่ ายกลับไม่ยอมให้นางได้มีเวลา เพราะเขาเอ่ยต่อ


อย่างไม่อ้อมค้อม “ที่ แท้ คลังลับของจวนถานก็แอบซ่ อนไว้ใน
อุโมงค์เก็บน้าแข็งที่อยู่ใต้ภเู ขาจาลอง ในนัน้ มีเงินทองที่ซ่อนไว้
ราวสามแสนหกหมื่น ทัง้ หมดเป็ นของส่ วนตัวที่ ฮูหยินเก็บมา
หลายปี ในนั น้ ยังมีโฉนดที่ นาหลายร้อยไร่ แล้วยังมีสมุดบัญชี
แสดงรายการทรัพย์สินอีกด้วย นางช่างฉลาดเสียจริง สามารถ
6
ปิ ดบัง เรื่ อ งนี้ จ ากคนอื่ น ๆ ในจวนได้ โ ดยไม่ มี ใ ครรู้แ ม้ แ ต่ ค น
เดียว ทรัพย์สินและสิ่งของทัง้ หมดรวมแล้วนับล้าน ตอนนี้ สมุด
บัญชี อยู่ในมือข้า ถ้าหากข้อมูลเหล่านี้ ล่วงรู้ไปถึงหูฮ่องเต้ ไม่รู้
ว่าฮ่องเต้ จะยังปรานี ให้กบั อดีตคนสนิทอยู่หรือไม่ หรือเจ้าคิด
ว่าไง?”

คิ ด อย่ างไรน่ ะหรือ ? โทษตบตาและหลอกลวงเบื้องสูง


เป็ นความผิด สถานหนั ก มี แต่ ต้ องรับ โทษตัด หัว เก้ า ชัวโคตร

เท่านัน้ !

ตอนนี้ ถานหวันช่ ิ งอกสันขวั


่ ญหายไปหมด เรื่องราวที่ตน
ได้รบั รู้ชกั จะเลวร้ายลงไปทุกที แล้ว ปั ญหาเก่ายังไม่สะสางก็มี
ปั ญหาใหม่และร้ายแรงเข้ามาแทรก จะโทษฮูหยินใหญ่ที่ซ่อน
ทรัพย์สมบัติพวกนี้ ไว้กท็ าได้ไม่เต็มปาก เพราะหากนางไม่ซ่อน
ตระกูลถานก็คงมอดม้วยไปนานแล้ว

ถานหวัน่ ชิ ง รู้สึ ก ว่ า ตนถูก ค าพูด ของเขากดดัน จนคิ ด


ไม่ตก จึงอยากจะไปสงบสติอารมณ์ ข้างนอก ทว่ าแค่ นางหัน
หลัง เขาก็คว้าข้อมือเอาไว้ พอหญิงสาวพยายามดิ้นรนชักมือ
กลับ เขาก็ยิ่งยึดมือนางไว้แน่ น

“ปล่อยมือข้านะ!”
7
“เจ้าจะไปไหน? ยังอยากจะตามไปอยู่กบั บิดาที่ ชายแดน
อีกงัน้ รึ?”

ค าพูด ของอี กฝ่ าย ยิ่ ง ทาให้ ค วามโกรธสุมแน่ น เต็ม อก


แม้ว่านางจะพยายามดิ้นรนเท่าไรก็ไม่อาจหลุดรอดจากมืออีก
ฝ่ ายได้ เขายังคงยืนนิ่งไม่สะทกสะท้านราวกับก้อนหินใหญ่ที่ไม่
มีวนั ไหวเอน ส่วนนางเพียงใช้แรงแค่นี้กเ็ หงื่อตกแล้ว สภาพไร้
ทางสู้ทาให้หญิงสาวทนไม่ไหวจึงเงยหน้ าขึ้นสบตาอย่างกราด
เกรีย้ ว

“ที่แท้ท่านก็เจตนาแก้แค้นเรือ่ งเมื่อห้าปี ก่อน!”

“เพราะว่าเจ้าติดค้างข้าต่างหาก!”

ประโยคนี้ ทาให้นางจุกจนเป็ นใบ้พดู ไม่ออก ได้แต่กดั ฟัน


หันหน้ าไปทางอื่น “แต่มารดาของข้ากลับไม่เคยโทษเจ้า เจ้าไม่
รู้หรอกว่านางแก้ต่างแทนเจ้ามากมายขนาดไหน?” เห็นนางไม่
พูด เขาก็ยื่นหน้ าไปกระซิบชิดริมหูแค่ขยับเข้าใกล้ กลิ่นหอมที่
คุ้นเคยก็ท่าให้เสียงเขาแหบพร่า ถานหวันช ่ ิ งกลับเอียงตัวหลบ
เพื่ อ สร้ า งระยะห่ า ง ชายหนุ่ มยัง คงพูด ต่ อ “แต่ ข้ า จะยอมได้
อย่างไร กลุ่มคนยศศักด์ ิ สูงส่ งแต่ คิดจะเอาชี วิตมารดาข้า ถือ
อภิสิทธ์ ิ ควบม้าบนถนนที่มีผ้คู นมากมาย ทาให้นางตกใจจนลุก
8
ไม่ ขึ้ น ทว่ า ไม่ เ พี ย งไม่ ดึ ง บัง เหี ย นม้ า ให้ ห ยุ ด แต่ พ อเห็น นาง
เกะกะขวางทางก็ถึ ง กับ ฟาดแส้ ใ ส่ หากเจ้ า เป็ นข้ า เจ้ า จะท า
อย่างไร?”

“เวลานั น้ มันสับสนยุ่งเหยิง หากข้ าไม่ลงแส้ กบั มารดา


ของท่ า น นางก็ต้ อ งกลายเป็ นศพอยู่ ใ ต้ เ ท้ า ม้ า ไปแล้ ว หาก
เปลี่ ย นท่ า นเป็ นข้ า ท่ า นจะท าเช่ น ไร?” ถานหวัน่ ชิ งยัง คง
พยายามดึงมือกลับแต่กไ็ ม่หลุด “ปล่อยมือข้านะ!”

ทว่าเซี่ยเฉิงจู่กลับยิ่งกามือนางแน่ นกว่าเดิม “เจ้าจะบอก


ว่า การที่ พวกเจ้าขี่ม้าแข่งกันในตลาดจนเกือบเหยียบผู้คน แต่
กลายเป็ นความผิดของมารดาข้าที่ไม่ยอมหลบงัน้ รึ?”

“ท่ า นรู้ไ ด้ อ ย่ า งไรว่ า เป็ นข้ า ที่ อ ยากออกมาขี่ ม้ า ในวัน


นั น้ ? นั น่ เพราะข้าหาเหตุผลมาอ้างไม่ยอมออกจากจวนไม่ได้
ต่ างหากเล่า หากข้าไม่ตวัดแส้ ใส่ มารดาท่ าน นางก็คงถูกม้ า
เหยียบไปแล้ว”

่ ิ ง ซี ด เซี ย วอย่ างยิ่ ง นางเอ่ ย เสี ย งลอด


สี หน้ าถานหวันช
ไรฟั น “มารดาของท่ า นแก้ ต่ า งแทนข้ า นั น่ เพราะนางรู้ ถึ ง
อัน ตรายในขณะนั ้น หากไม่ เ พราะข้ า นางก็ ค งถูก ม้ า ของ
น้ องสาวข้าเหยียบ เหตุการณ์ ในตอนนัน้ ไม่ว่าจะตกใจหรือจะ
9
แท้งลูก นางก็คงต้องเลือกสัก ทาง ไม่ว่าอย่างไรก็คงดีกว่าต้อง
จบชีวิต ท่านกล่าวโทษข้าเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผล ท่านเอาแต่จดจา
ความแค้นที่ข้าลงแส้กบั มารดาของท่านเท่านัน้ ”

เมื่อชายหนุ่ มฟั งจบจึงค่อยๆ ไตร่ตรองตามคาพูดของ


นาง เป็ นนานกว่าจะคลายมือออกจากข้อมือนุ่ มที่ ตนกาแน่ น
“หากไม่เพราะเหตุผลนัน้ เจ้าคิดว่าตัวเองยังจะอยู่ที่นี่ได้อย่าง
ปลอดภัยหรือ ฐานะแต่ เดิมอาจจะไม่มีใครกล้าหักหาญกับเจ้า
แต่ว่าตอนนี้ ต่างออกไป ข้าไม่เคยเห็นคนที่ อยากไปลาบากลา
บนดิ้นรนจะไปชายแดนเพื่อทาไร่ทานา ดูมือที่ ดูแลแสนยาก
ของเจ้าสิ แค่แตะนิดแตะหน่ อยก็แดงเป็ นปื้ นแล้ว ยังกล้าบอก
ว่าจะไปชายแดนหักร้างถางพงอีก? ข้าว่าเจ้าทาได้ไม่กี่วนั มือก็
คงพองไปด้วยเลือด จากนั น้ ก็จะเจ็บปวดจนนอนไม่หลับเสี ย
มากกว่า”

เขาลูบคลาเบาๆ ตรงข้อมือที่ ตนกาเมื่อครู่ น้ าเสียงแข็ง


กระด้ างเปลี่ ย นเป็ นอ่ อนลง มือใหญ่ ย งั คงกุมข้ อ มื อ นาง เอ่ ย
เสี ยงจริงจัง “เราจะไม่เอ่ยเรื่องนี้ ชวคราว
ั่ แต่ วนั นัน้ เจ้าลงแส้ตี
ข้ า สามครัง้ มัน เจ็บ ปวดหัว ใจ เลื อ ดสดๆ ไหลย้ อ ย ปลายแส้
เกือบจะทาให้ดวงตาข้าแตก นี่ คือสิ่งที่เจ้าติดค้างข้า แต่เจ้ากลับ
จาไม่ได้ ต่ อไปเจ้าจะต้ องโดนขังเพื่อจะได้ จดจาไว้ในใจถึงจะ
ถูก” จากนัน้ เขาก็เลื่อนนิ้วนางไปวางที่หางตาตัวเอง
10
เมื่อนิ้วมือได้ สมั ผัส ใบหน้ าเขา ถานหวันช ่ ิ งจึงเงยหน้ า
มอง เรื่องนี้ เขาไม่เคยเอ่ ยมาก่อนและนางเองก็ไม่เคยสังเกต
แต่พอเขาบอกจึงสังเกตเห็น เป็ นรอยจางๆ ตรงหางตาด้านขวา
เหมือนรอยแผลเป็ น แต่ เพราะว่านานแล้วจึงถูกสี ผิวปิดบังทา
ให้ เห็นไม่ชดั เจน แต่ รอยแผลเป็ นนั น่ บ่งชี้ ว่าอี กเพียงนิดเดี ยว
ดวงตาของเขาก็อาจจะบอดได้ มิน่าเล่าเขาจึงชิงชังนางถึงเพียง
นี้

จิตใจของหญิงสาวพลันเหม่อลอย ทาไมปี นัน้ นางถึงทา


เรื่องผิดพลาดได้ขนาดนี้ แค่ชวระยะเวลาสั
ั่ น้ ๆ กลับกลายเป็ น
การทาร้ายสองแม่ลกู อย่างไม่เป็ นธรรม ไม่มีวิธีที่ทาให้นางหลีก
หนี ความละอายแก่ใจได้จริงๆ หรือ? นางต้องชดใช้อย่างไร?

หญิงสาวครุ่นคิดอยู่นานแต่เหมือนไร้ทางออก จิตใจเริ่ม
อ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง

ช่างเถอะ...ช่างมัน หากเขาต้องการแบบนี้ ...

ถานหวั น่ ชิ งถู ก ชายหนุ่ มประคองมานั ง่ ลงที่ เตี ยง


หลัง จากใคร่ ค รวญเรื่องราวซ้า แล้ วซ้า เล่ า นางก็เ อ่ ย ขึ้น ด้ ว ย
น้ า เสี ย งเย็น ชา “ก็ได้ ถ้าเช่ น นั น้ ก็ทาตามความต้ องการของ
ท่าน แต่ข้ามีเงื่อนไข ข้าจะไม่ขายร่างกายให้ท่านและจะไม่เป็ น
11
อนุภรรยา ชัวชี ่ วิตที่ เหลืออยู่ของข้าจะไม่เข้าตระกูลเซี่ ยอย่าง
แน่ นอน ท่านไม่ต้องเอาเงินทองมาเลี้ยงดูข้า แล้วก็ห้ามด่าห้าม
ตี ข้า อี กทัง้ ไม่สามารถส่งต่อข้าให้คนอื่นอี กด้วย รอจนท่ านจัด
งานแต่ งงานเมื่อไร วันนั น้ ข้าจะเป็ นคนไปเอง ทัง้ หมดนี้ ท่าน
ต้องท่าเป็ นลายลักษณ์อกั ษรมาด้วย”

นางพูดจบแล้วก็รออยู่นานจึงเงยหน้ าขึ้น เห็นคนข้างๆ


เริ่มมีสีหน้ ามืดครึม้ เพราะความโมโหอีกแล้ว ชัวชี
่ วิตที่ เหลืออยู่
จะไม่เข้าตระกูลเซี่ย!

ลุ่ ย จูที่ ก าลัง เดิ น ผ่า นหน้ า ต่ า งด้ า นนอก ได้ ยิ น เสี ย งใต้
เท้ าเซี่ ย แผดเสี ยงคารามใส่ คุณหนู ด งั ลัน่ “เจ้ายอมกล ้า กลื น
ความอยุติธรรมเพื่อรักษาหน้ าขนาดนัน้ เชียว ตระกูลเซี่ ยไม่ใช่
ใครที่ ไหนก็สามารถเข้าได้!” พูดจบเขาก็กวาดข้าวของบนโต๊ะ
ลงพืน้ เกิดเสียงดังโครมคราม

จากนั ้น ก็เ ดิ น พรวดพราดออกมาจากด้ า นในด้ ว ยแรง


โกรธ ลุ่ยจูร้หู น้ าที่ตวั เองดีจึงรีบไปยืนข้างกาแพง หลบเข้าไปใน
มุมมืด

ปัง!

12
นางได้ยินเสียงปิดประตูใหญ่ดงั ตามหลังอย่างแรง แสดง
ถึงอารมณ์โกรธที่หาทางระบายออกไม่ได้จึงต้องไปลงกับประตู

13
37 ดับร้อน

ลุ่ยจูรีบวิ่งไปปิดประตูให้ดีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน จากนัน้
ก็เดินกลับเข้าไปในห้ องคุณหนู ของตน เห็นชามโจ๊กแตกเป็ น
เสี่ยงกระจายไปทัวพื ่ น้ โชคดีที่โจ๊กเย็นแล้ว มิเช่นนัน้ อาจจะลวก
ผิวคนได้

นางเห็ น คุ ณ หนู ก าลั ง นั ง่ เก็ บ เศษกระเบื้ อ งอยู่ จึ ง


เดินไปดึงแขนเจ้านายออกมา “คุณหนู ทาอย่างนี้ ไม่ได้นะเจ้า
คะ เศษกระเบื้องคมไม่ควรใช้ มือแตะเจ้าค่ะ” โดยเฉพาะมือที่
ต้องจับพู่กนั

พอเอ่ยจบเด็กสาวก็ใช้ผา้ เช็ดหน้ าเก็บเศษกระเบือ้ งอย่าง


ว่องไว จากนัน้ ก็เช็ดพื้นจนสะอาดแล้วนาไปทิ้ง ตอนที่ นางเดิน
เข้ามาอีกครัง้ ก็เห็นคุณหนูที่มีท่าทางหมดอาลัยตายอยากเมื่อ
ครูก่ ลับไปนัง่ ลงบนเตียงแล้ว

ในมื อหญิง สาวมี หมันโถวหนึ


่ ่ ง ลูก กิน พร้อมกับ น้ าแกง
อย่างเชื่องช้า

1
ลุ่ยจูมองคุณหนูกแ็ อบนึ กชมในใจไม่ได้ว่า คุณหนูช่างมี
จิตใจกล้าหาญเหลือเกิน ท่าทางของใต้เท้าเซี่ ยที่กระแทกประตู
ตอนจากไปน่ ากลัว มาก แสดงออกถึ ง ความไม่ พ อใจอย่ า ง
ชัดเจน ถึ ง เขาจะเป็ นแค่ ผ้ปู กครองเมืองเล็กๆ หากเที ย บกับ
พวกขุนนางราชสานักตาแหน่ งอาจจะด้อยกว่า แต่ตามจริงแล้ว
ไม่อาจเปรียบกันได้ ดังคาพูดที่ ว่า มังกรแข็งแกร่งก็ไม่เท่ างูใน
พื้ น ที่ และเมื อ งเว่ ย อัน แห่ ง นี้ เ ป็ นพื้ น ที่ ซึ่ ง เขามี อ านาจอย่ า ง
เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตอนนี้ คณ ุ หนูมีเรื่องผิดใจกับเขาแต่กลับยังมี
กะจิตกะใจกินข้าวได้

่ ิ งกาลังกินน้ าแกงเย็นชืดก็อดเดิน
เด็กสาวเห็นถานหวันช
ไปหาแล้วเสนอตัวไม่ได้ “น้ าแกงเย็นหมดแล้ว ข้าเอาไปอุ่นใน
ครัวให้นะเจ้าคะ”

ถานหวันช ่ ิ งปรายตามองลุ่ยจู ก่อนจะยกมือแตะชาม “ไม่


ต้องหรอก น้าแกงอุ่นกาลังดี เจ้ายังมัวยืนอยู่ทาไม มานัง่ ลงกิน
ข้าวกันเถอะ” หญิงสาวเอ่ยชวนเสียงนุ่มนวล ท่าราวกับว่าเรื่อง
เมื่อครูไ่ ม่เคยเกิดขึน้ กระนัน้ สีหน้ าไม่มีความผิดปกติใดๆ

ลุ่ยจูลงั เลเล็กน้ อยแล้วเดินไปนั ง่ ตรงหน้ าโต๊ะ ตอนที่ ใต้


เท้ าเซี่ ยมาถึง นางกาลังจะเดินตามเข้ามาในห้ อง แต่ เขากลับ
ยื่นมือกันไว้เป็ นการสังกลายๆ่ ว่าให้รอด้านนอก อีกทัง้ คุณหนู
2
ก็ไม่ได้ เรี ยกนาง ลุ่ยจูจึงต้ องวิ่งเข้าห้ องครัวเพื่ อรับไออุ่น แต่
นางรออยู่นานจนกระทังรู ่ ้สึกไม่สบายใจจึงเดินออกมา คาดไม่
ถึง ว่ าพอไปถึ ง หน้ าต่ า งจะได้ ยิ น เสี ย งกราดเกรี้ย วของใต้ เ ท้ า
ประโยคเหล่านัน้ ช่างทาให้คนคิดไปต่างๆ นานาเสียจริง

อะไรที่ เรียกว่ากลา้ กลืนฝื นทนเพื่อรักษาหน้ าตา อะไรที่


เรียกว่าไม่ใช่ใครที่ไหนก็สามารถเข้าตระกูลเซี่ยได้?

ทัง้ หมดนัน้ หมายความว่าอย่างไร...

ลุ่ยจูมองคุณหนู ที่ยงั คงตักน้ าแกงเข้าปากราวกับ จิตใจ


จดจ่ อ อยู่ที่ ข องกิ น บนโต๊ะ แล้ ว จึ ง ยื่ น มื อ ไปหยิ บ หมันโถวเข้
่ า
ปากบ้ า ง แต่ ก ลับ กลื น ไม่ ล ง ความสงสัย อัด แน่ นเต็ ม ท้ อ ง
สุ ด ท้ า ยจึ ง ขยั บ เข้ า ไปใกล้ ๆ คุ ณ หนู แล้ ว เอ่ ย ถามอย่ า ง
ระมัดระวังคาพูด

“คุณหนู ทาไมตอนที่ ใต้ เท้ าเซี่ ยออกไปถึงได้ โกรธเป็ น


ฟื นเป็ นไฟปานนัน้ เขาต้องการแต่งคุณหนูเข้าตระกูลเซี่ ยหรือ
เจ้าคะ? แล้วคุณหนูกป็ ฏิเสธใช่ไหมเจ้าคะ?”

ช้ อ นในมื อ ถานหวัน่ ชิ งหยุ ด ชะงัก หัน มามองลุ่ ย จู ที่


ดวงตาใสแจ๋วรอคาตอบ ก่อนเอ่ยด้วยเสี ยงนุ่มนวล “เจ้าคิดว่า

3
ผูป้ กครองหนุ่มแน่ นขัน้ ห้าจะแต่งกับนักโทษหญิงงัน้ หรือ?” นาง
ส่ ง เสี ย งฮึ อ อกมาเบาๆ “เพื่ อ ผู้ห ญิ ง คนเดี ย ว เขาจะถึ ง กับ ทิ้ ง
อนาคตทางทหารของตนเองเลยหรือ?”

ลุ่ยจูฟังจบก็ตะลึงงัน แล้วพยายามปรับสีหน้ าให้เป็ นปกติ


“เขาก็เป็ นแค่ขนุ นางขัน้ ห้าตัวเล็กๆ ที่ดแู ลหัวเมืองอันห่างไกล
มีสิ่งใดที่ท่านสมควรจะแต่งให้ คุณหนูเจ้าคะ คือว่า...”

“อาจู” ถานหวันช ่ ิ ง เอ่ ย ขัด ขึ้น มาก่ อน นางวางช้ อ นลง


แล้วจ้องหน้ าอีกฝ่ าย อธิบายอย่างใจเย็น “พวกเราต่างก็ร้อู ยู่แก่
ใจว่าตอนนี้ ตระกูลถานไม่เหมือนแต่ ก่อนแล้ว ยามนี้ พวกเรา
เป็ นแค่คนเร่ร่อนไร้ที่ปลอดภัยให้อาศัย เป็ นแค่นักโทษหลบหนี
ทางการที่ น่าเวทนา หนาซ้ายังต้ องมาอาศัยคนอื่ นให้ ปกป้ อง
คุ้มครอง”

ลุ่ยจูอ้าปากค้างเป็ นนาน ไม่สามารถเอ่ยคาใดได้เลย ได้


แต่มองคุณหนูกินอาหารต่อ พออีกฝ่ ายเอ่ยชื่นชมว่านางต้มน้ า
แกงปลาอร่อย อาการลิงโลดดีใจจึงเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว

ทว่าเด็กสาวไม่ได้รบั รู้ถึงรสชาติของอาหารนัก ได้แต่คิด


ว่าหากสถานะของคุณหนูเป็ นเหมือนเมื่อก่อน นางคงคิดว่าใต้
เท้าจะต้องชอบคุณหนูอย่างแน่ นอน เพราะวันนัน้ ตอนที่เขาอุ้ม
4
คุณหนูขึ้นหลังม้า ดูมีน้ าใจและทะนุถนอมออกปานนัน้ พอหัน
มาดูสีหน้ าคุณหนู กอปรกับคิดถึงประโยคที่ ใต้ เท้ าพูดก่อนจะ
จากไป ถึงคุณหนูจะพยายามแก้ต่างอย่างไรนางก็ไม่เชื่อ

ถ้ าเช่ น นั น้ มี เ หตุผลอะไรที่ ทาให้ ใต้ เท้ าเซี่ ยโกรธจัด จน


ต้องกระแทกประตูก่อนจากไป?

ลุ่ ย จู ค รุ่ น คิ ดอยู่ น านพอสมควร พยายามนึ กถึ ง สิ่ งที่


เป็ นไปได้ จากนัน้ ก็ต้องเบิกตาโพลงแล้วจับจ้องไปยังคุณหนู

เขาไม่ได้อยากแต่งคุณหนูเป็ นภรรยา แต่ต้องการให้เป็ น


อนุภรรยา!

ดังนัน้ พอถูกคุณหนูปฏิเสธก็เลย...

เมื่อกินข้าวเสร็จและเก็บโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ถานหวันช
่ ิ งก็
ไปล้างหน้ าบ้วนปาก เปลี่ ยนเป็ นสวมเสื้อคลุมยาวสี ขาวแล้ว
กลับมานัง่ บนเตียง

ในห้องเงียบสงัดไร้เสียง หญิงสาวใช้กรรไกรตัดไส้เทียน
ที่ยาวออก สายตาก็จบั จ้องไปที่แสงเทียนด้วยท่าทางเหม่อลอย
ราวกับมีหลายเรือ่ งให้ครุน่ คิด

5
นั กโทษหญิงในเมืองหลวงส่วนใหญ่จะถูกเนรเทศไปหอ
นางโลม กลายเป็ นหญิงคณิกาที่ตา่ ต้อยด้อยค่า หากถูกเนรเทศ
มาชายแดนก็คงกลายเป็ นบ่าวรับใช้หรือไม่กเ็ ป็ นหญิงคณิกาอยู่
ดี ดัง นั ้น คนที่ โ ชคดี ส ามารถมี ที่ อ ยู่ อ าศัย ให้ พ ัก พิ ง ได้ อ ย่ า ง
ปลอดภัยโดยไม่ต้องวิตกกังวลจึงนับว่ามีน้อยมาก

ทว่าความโชคดีคงไม่อาจอยู่ยาวนานตลอดไป นางไม่รู้
ว่าหนทางข้างหน้ าจะเป็ นอย่างไร หวังว่าความเป็ นจริงที่พบเจอ
คงจะไม่ยา่ แย่ เท่ากับที่จินตนาการเอาไว้

บุรษุ ที่ อยู่ในวัยหนุ่มแน่ น อีกทัง้ มีความองอาจห้าวหาญ


อย่างยิ่ง ทัง้ ที่ไม่เคยสอบขุนนางระดับเคอจวี่ ไม่เคยมีคนให้การ
เสนอแนะ ไม่มีญาติอาวุโสเป็ นร่มไม้ให้ร่มเงา ทว่าสามารถพา
ตัว เองมาจนถึ ง ต าแหน่ ง ขุน นางขัน้ ห้ า ได้ ดัง นั น้ ย่ อ มไม่ ต้ อ ง
กัง ขาในความสามารถและศัก ยภาพที่ แ ฝงเร้ น ในตัว เขา คน
เช่นนี้ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบสูง รักษาสัจจะ และพึ่งพิงได้

ทว่าการให้พึ่งพิงนี้ จะจากัดเวลาไว้นานเท่ าไร นางก็อด


คิดไม่ได้เลย

ส าหรับ ชายหนุ่ ม ผู้นั ้น อนาคตของเขาเพิ่ ง จะเริ่ ม เขา


สามารถเลือกผืนป่ าเขียวชอุ่มที่ ใดก็ได้ บางที นางอาจจะพึ่งพิง
6
เขาได้แค่ชวคราว
ั่ ตามธรรมชาติของผูช้ ายชอบเป็ นผูพ้ ิ ชิต หาก
ความพึงพอใจในช่วงแรกหมดไปซึ่งก็คงอีกไม่นาน เพราะนาง
เองก็มีอายุมากขึ้นทุกวัน อีกทั ้ งไม่มีฐานะเป็ นถึงบุตรสาวอัคร
เสนาบดีเหมือนแต่ก่อน อีกไม่นานก็คงถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

นางไม่มีอะไรเลย มีเพียงแต่ตวั เท่านัน้ นางแค่ต้องการมี


ชี วิตอย่างสงบและมันคงให้
่ นานที่ สุด ทว่าหากต่ อไปไร้ซึ่งคน
คอยให้การคุ้มครอง นางก็ต้องหาสถานที่ เหมาะกับตัวเองเพื่อ
ใช้ชีวิตต่อไป

หญิ ง สาวครุ่น คิ ด อยู่ เ ป็ นนาน ก่ อ นจะถอนหายใจยาว


ยามนี้ นางเหมือนคนเข้าตาจน ขอเพียงเหลือหนทางให้เดินได้ก็
พอแล้ว...

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย กลับ จวนด้ ว ยอารมณ์ ที่ คุกรุ่น พอเข้ า มาใน


จวนผูป้ กครองเห็นลานกว้างเต็มไปด้วยกล่องสีแดงทัง้ เล็กใหญ่
ก็หยุดเท้าลง ทหารหลายนายขยับตัวทาความเคารพ เจ้าหน้ าที่
อาลักษณ์ที่ถือสมุดบัญชีอยู่เห็นเขาเข้า ก็รีบเข้ามาคารวะ

“คารวะใต้เท้า”

7
“มี เรื่องอะไร?” เซี่ ยเฉิงจู่กวาดตามองสิ่งของเหล่านั น้
แล้วจึงถาม “ทหารที่เป็ นลูกน้ องของตู้เหอจะแต่งงานกับคุณหนู
รองตระกูล ชวี ข อรับ พรุ่ง นี้ ก็ห มัน้ แล้ ว คนสกุล ชวี ส่ ง ของมา
มากมาย พวกเราจึงอยากจะยืมลานกว้างด้านหลังจวนเพื่อใช้
เก็บของสักคืนหนึ่ ง พรุง่ นี้ กจ็ ะยกออกไปแล้วขอรับ”

ในงานเลี้ยงครัง้ ก่อน นายทหารผูน้ ัน้ ได้ล่วงเกินบุตรสาว


ตระกูล ชวี เรื่ อ งนี้ ไม่ ว่ า ใครต่ า งก็ เ ห็ น คุ ณ หนู ร องสกุล ชวี
พยายามฆ่ าตัวตายเพื่อหนี อาย ส่วนเถ้าแก่ชวีผ้เู ป็ นพ่อก็โกรธ
มากจนเกือบจะตัดสัมพันธ์กบั กองทัพ เขามาถามหาใต้เท้าอยู่
หลายครัง้ แต่ ใต้ เท้ าก็ไม่อยู่ ในที่ สุด เถ้าแก่ชวี ต้องจาใจยกลูก
สาวให้นายทหารผูน้ ัน้ เพื่อแก้หน้ า แม้แต่ของหมัน้ ก็เตรียมไว้ให้
เรียบร้อยแล้ว โดยสังให้ ่ คนยกมาตัง้ แต่เมื่อคืน เหมือนกับจะให้
รีบๆ แต่ ง ส่ วนนายทหารผู้นัน้ ตัวคนเดี ยว ซ้า ยังเติบโตมาใน
ค่ายทหาร งานมงคลสมรสจึงไม่มีคนคอยจัดการให้ จาต้องตก
เป็ นหน้ าที่ ของฉงถิงเชี่ ยนซึ่งมีอาวุโสกว่าตู้เหอเป็ นผู้ออกหน้ า
แทน

ถึงเซี่ ยเฉิงจู่จะไม่ได้สนใจคุณหนูสกุลชวีแม้แต่น้อย ทว่า


พอได้ยินคาว่าแต่ งงานสี หน้ าก็พลันมืดครึ้ม ดวงตากวาดมอง
ของสาหรับงานมงคลสมรสเหล่านัน้ อย่างขัดหูขดั ตา ก่อนจะส่ง
เชือกบังเหียนให้ทหารแล้วหันหลังกลับเข้าไปในจวน
8
เมื่อลูกน้ องภายใต้การบังคับบัญชาของตนกาลังจะสมรส
ตู้ เ หอก็มี สี ห น้ าเปล่ ง ปลัง่ ไปด้ ว ยความยิ น ดี พอเขาเห็น ใต้
เท้ าเซี่ ยก็เดินรี่เข้ามาหา “ใต้ เท้ า เจ้าสื อจะแต่ งงานกับคุณหนู
รองสกุลชวีแล้วขอรับ พรุ่งนี้ จะทาการหมัน้ หมาย เรื่องนี้ หากจะ
ว่าไปก็อาจกล่าวได้ว่ามีใต้เท้าช่วยส่งเสริม ไม่เช่นนัน้ วาสนาคง
ไม่สบั เปลี่ ยนมาที่ เขา อี กทัง้ คุณหนู รองสกุลชวียงั งดงามปาน
เทพธิดา มีแต่คนบอกว่าเจ้าสือเป็ นหนูตกถังข้าวสาร โชคดีที่ได้
แต่งงานกับนาง”

เพราะเซี่ ยเฉิงจู่ยืนหันหลังให้แสง ตู้เหอจึงไม่เห็นสี หน้ า


บึ้งตึ งของชายหนุ่ม ยังคงพล่ามต่ อ "ตอนนี้ แม้แต่ ลูกน้ องก็จะ
สมรสแล้ว ใต้ เท้ าเองก็ต้องรีบนะขอรับ ท่ านเอานางไปไว้ข้าง
นอกแบบนัน้ ไม่ใช่เรือ่ งที่ดีเลย อีกทัง้ นางก็งดงามยิ่งกว่าคุณหนู
รองมาก หรือไม่...ใต้เท้าก็ควรอาศัยงานมงคลนี้ รีบกาหนดของ
ตนเองเลยดีไหม?”

“ความจริงในจวนนี้ กเ็ งียบเหงาเอาการอยู่ ควรมีผ้หู ญิง


สัก คนถึ ง จะถูก ใต้ เ ท้ า รู้ห รือ ไม่ ว่ า ประโยชน์ ข องการมี ผ้หู ญิง
มาร่วมอาศัยในชายคาเดี ยวกันจะทาให้ ทวทั ั ่ ง้ จวนอบอวลไป
ด้ ว ยบรรยากาศอบอุ่ น ถึ ง ข้ า พู ด ไปก็ค งยากจะเชื่ อ ความ
มหัศจรรย์นัน้ ใต้เท้าจะต้องลองสัมผัสด้วยตนเอง..."

9
เซี่ ยเฉิงจู่กดั ฟั นแน่ นเพื่อข่มอารมณ์ เดินเข้าไปในห้ อง
แล้วปิดประตูตามหลังดังปัง ปล่อยให้ตู้เหอคุยอยู่คนเดียวด้าน
นอก

พออยู่คนเดี ยวชายหนุ่ มก็บนั ดาลโทสะ ถี บของที่ ขวาง


หน้ าตรงประตูเต็มแรง เก้าอี้พบั รูปจันทร์เสี้ ยวที่ น่าสงสารถูก
เท้าถีบออกไปกระแทกผนังห้องจนแตกหักกระจัดกระจาย

เขาเดินเข้าไปในห้องอาบน้ า ทึ้งเสื้อผ้าบนร่างออกด้วย
ท่ าทางโกรธจัด ตักน้ าราดหัวโครมใหญ่ สายน้ าไหลผ่านร่าง
เปลือยเปล่ากายา หยดน้ าเม็ดเล็กไหลจากบ่าผ่านกล้ ามเนื้ อ
หน้ าท้ องลงสู่ขายาวแข็งแรง ชายหนุ่ มยืนหอบพิงผนั งห้ องอยู่
นาน กั ด ฟั น กรอด แล้ ว ก้ ม มองพื้ น ได้ แ ต่ เ ย้ ย หยั น ในใจ
คิดว่าข้าหาผูห้ ญิงไม่ได้งนั ้ รึ ถึงต้องมาขอเจ้า!

ตู้เ หอที่ ถ กู ปิดประตูใส่ หน้ าให้ อยู่ด้านนอก ได้ ยิ นเสี ยง


ข้าวของอะไรสักอย่างโดนถีบดังโครม จากนัน้ ก็ได้ยินเสียงสาด
น้ ากระทบพื้นก็ประหลาดใจไม่น้อย เขาครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจ
ใต้ เท้ าเพิ่งกลับมาจากที่ ไหนกัน แล้วโกรธเคืองผู้ใด ถึงได้ถีบ
เก้าอี้แล้วสาดน้าเย็นดับร้อนเช่นนัน้

10
ผ่านไปสักพัก พออาการวู่วามดับลง ใต้เท้าเซี่ยก็ออกมา
จากห้องด้วยสีหน้ าเรียบตึงเหมือนตอนที่ลงจากภูเขาในวันนัน้
เขาเดินผ่านประตูห้องโถงเข้ามา เห็นตู้เหอ กัวซิ่ง ฉงถิงเชี่ ยน
และเจ้าสือกาลังคุยกันอยู่ที่โต๊ะ

“ไม่ควรให้พ่อตาส่งของหมัน้ มาแต่ ฝ่ายเดี ยว เจ้าก็ต้อง


ส่ ง ของเล็ก น้ อ ยให้ ก บั คุณ หนู ร องสกุล ชวี ด้ ว ย รี บ เลื อ กเสี ย สิ
ของพวกนี้ เป็ นของเมียข้า เป็ นงานจากช่างฝี มือที่ดีที่สดุ ในเมือง
เชี ยวนะ นางนาเงินไปวางมัดจาเอาไว้แล้วยังมีชื่อเสียงของใต้
เท้าเป็ นตัวรับประกัน ข้าถึงนาของมาให้เจ้าดูได้ มีแต่ลวดลาย
ใหม่ๆ ทัง้ นั น้ รับรองว่าในเมืองนี้ ยงั ไม่มีใครมี ผู้หญิงน่ ะชอบ
เงินทองและอะไรที่ มนั เปล่งแสงกะพริบระยิบระยับเหล่านี้ มาก
เลย เจ้าเลือกก่อนแล้วค่อยจ่ายละกัน นี่ ขนาดเมียข้ายังบอกว่า
ชอบเลยนะ”

“ของผู้ห ญิ ง นี่ ข้ า ไม่ เ ข้ า ใจหรอก แล้ ว จะเลื อ กเป็ นได้


อย่างไร” เจ้าสือเกาหัว มองเครือ่ งประดับตรงหน้ าจนตาลาย

“ฮ่าๆๆ ดูกร็ ้เู ลยว่าเจ้าไม่เคยมอบของให้ผหู้ ญิง เช่ นนัน้


ก็เรียนรู้จากข้าไว้ เลือกอันนี้ เลย ! เครื่องประดับทองนี่ พอหยิบ
ขึ้นมาแล้วทัง้ หนักแล้วก็เหมาะมือ ดูค้มุ ค่ากับเงินดี เลือกอันนี้
รับรองว่าผูห้ ญิงต้องชอบ!”
11
“ไปห่างๆ เลย เจ้าเลือกแบบนัน้ ได้ที่ไหน คุณหนูสกุลชวี
นะไม่ ใช่ หญิง คณิกาในหอนางโลมที่ มีสายตาตื้ นเขินพวกนั น้
เจ้าต้องเลือกของที่ประณี ตงดงามหน่ อยผู้หญิงถึงจะชอบ เจ้าดู
นี่ ! อันนี้ ไม่เลว พี่สะใภ้ของเจ้าชมไม่ขาดปากทีเดียว...”

“พี่ต้นู ี่ รอบรูม้ าก...”

“เฮอะ! เพราะมัน ประณี ตงดงามที่ สุ ด ชุ ด นี้ ช่ า งฝี มื อ


แกะสลักอย่างละเอียดลออ ใช้เวลาทานานเป็ นครึ่งเดือน เป็ น
ชุดที่แพงที่สุดในนี้ รูปแบบก็ใหม่ที่สุดด้วย น้ อยกว่าร้อยตาลึงก็
ไม่ขาย”

“ร้อยตาลึง! พี่ ตู้ ท่ านพูดล้อข้าเล่นใช่ ไหม ทัง้ หมดนี่ ยงั


หนักไม่ถึงสองตาลึงด้วยซา้ ใช้ทองนิดเดียวกลับมีค่าร้อยตาลึง
เชี ยว? จะปล้นกันหรือไร!” เจ้าสือจ้องของตรงหน้ าตาเขม็ง นี่
เขาต้องใช้เงินที่หามาชัวชี่ วิตเพื่อเครือ่ งประดับไม่กี่ชิ้นหรือ?

“ของพวกนี้ เขาขายฝี มือ เจ้าเห็นแม่นางบ้านไหนสวม


ทองแท่งกันบ้างหา? ช่างไม่ร้เู รื่องอะไรบ้างเลย ผู้หญิงเขาชอบ
กันอย่างนี้ อีกอย่างนะ! สกุลชวีคือใคร เจ้าส่งเครื่องประดับสิบ
ตาลึ งยี่ สิบตาลึงไปให้ ครอบครัวนัน้ ก็คงมองเป็ นของไร้ราคา
จะกล้าหยิบออกมาใช้ไหม และที่ สาคัญ...คนบ้านนัน้ แม้แต่ของ
12
หมัน้ เขาก็เ ตรี ย มให้ เ จ้ า เรี ย บร้อ ยแล้ ว นี่ เจ้ า แค่ ส่ ง ของเล็กๆ
น้ อยๆ กลับไป...ฟังข้านะ เอาชุดนี้ ไป อย่าให้ใครดูถกู เจ้าได้”

ตู้เหอต้องการยัดเยียดเครื่องประดับในมือชุดนัน้ ให้ เจ้า


สือเลือกแบบจายอม แต่เจ้าสือก็ยงั ไม่รบั

่ เซี่ยเฉิงจู่กย็ ื่นมือมาหยิบเครื่องประดับชุดนัน้ ไปพิศดู


จูๆ
สายตาเคร่งขรึมมองอย่างละเอี ยดอยู่นาน ขณะที่ ลูกน้ องทัง้
สามมองเขาอย่างตะลึงงัน ชายหนุ่มก็เอ่ยเสียงเรียบเป็ นการตัด
บท

“เลือกอันอื่นเถอะ ข้าต้องการชิ้นนี้ ”

13
38 ทุ่มสุดตัว

เพราะเซี่ยเฉิงจู่เพิ่งอาบน้าเสร็จ เส้นผมจึงยังคงเปี ยกชื้น

ยามนี้ เ ขาไม่ได้ อยู่ในเครื่องแบบทหาร แต่ ส วมเสื้ อตัว


ยาวชายเสื้อกว้างสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวแกมน้ าเงิน
อ่ อ นลัก ษณะเหมื อ นลายเมฆ ขับ เน้ นให้ รู ป ร่ า งดู ส ง่ า งาม
สมบูรณ์ แบบ ราวกับสวรรค์บรรจงสร้างให้ชายผู้นี้ไร้ที่ติ ผู้ชาย
ด้วยกันเห็นยังคิดว่าสวรรค์ช่างลาเอียงให้กบั เขาจริงๆ

ไม่ร้วู ่าเป็ นเพราะเขาเพิ่งผ่านน้ าเย็นมาหรืออย่างไร ถึง


ทาให้คนที่อยู่ในระยะหนึ่ งศอกต่างก็รสู้ ึกหนาวสะท้าน หรืออาจ
เป็ นเพราะสี หน้ าเคร่งขรึมเย็นชากับท่ าทางเรียบนิ่ง ซึ่ งพอทุก
คนเห็นแล้วก็รไู้ ด้ว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดี

ดังนัน้ หากใต้เท้าอยากได้ ใครจะกล้าแย่งเขากันเล่า!

ความเงียบงันและอึมครึมพลันคืบคลานเข้ามา เจ้าสือมี
อาการประหม่า เหมือนคนขาดความมันใจ ่ ด้วยรูอ้ ยู่แล้วว่าเดิม
นัน้ ชวีเซิ่งเฟิงคิดจะมอบคุณหนูรองชวีให้ใต้เท้า แต่กลับเป็ นตน

1
ที่คว้านางมาแทน ก็ใครเล่าจะคิดว่าแค่ดึงนางมานัง่ ตักแล้วลูบ
คลาตามอาเภอใจในวันนัน้ จะส่งผลให้ได้แต่งกับสาวงามเช่นนี้

แม้ภายในใจจะยินดีมีความสุข แต่เวลานี้ เมื่อเห็นสี หน้ า


และท่าทางของใต้เท้า ต่อให้อยู่ในฤดูเหมันต์เดือนสิบสองที่ถือ
ว่าหนาวเย็นที่สดุ ก็ยงั ทาให้หน้ าผากมีเหงื่อซึมออกมาได้

เจ้าสือรีบลุกยืน ตอบเสี ยงตะกุกตะกัก “ใต้ ...ใต้ เท้ าเอา


ไปเถอะขอรับ ชุดนี้ เหมาะสมกับใต้เท้าอย่างมาก...”

ฉงถิงเชี่ ยนได้ยินคาพูดประหลาดของทหารหนุ่มก็รีบใช้
ศอกกระทุ้ง เจ้าสือจึงรีบแก้ไขคาพูดตัวเองใหม่ แต่เหมือนจะยิ่ง
หนักกว่าเดิม

“ไม่...ไม่...ไม่เหมาะกับใต้เท้า ตะ...แต่เหมาะกับฮูหยิน...
เหมาะกับฮูหยินอย่างยิ่ง ฮูหยิน...”

ใต้ เ ท้ าเซี่ ยกระแอมคราหนึ่ ง แล้ ว หัน ไปบอกกับ ฉงถิ ง


เชี่ยนแค่สนั ้ ๆ

“หักเงินเบีย้ เลี้ยงของข้า”

2
ก ล่ า ว จ บ เ ข า ก็ เ ดิ น ไ ป ห้ อ ง ห นั ง สื อ พ ร้ อ ม ก ล่ อ ง
เครื่องประดับในมือ ทุกคนกลัน้ หายใจมองตามหลังใต้เท้า รอ
จนไม่เห็นเงาชายหนุ่ม แต่ละคนก็มีท่าทางเหมือนเพิ่งรอดพ้น
วิกฤต เจ้าสือถึงกับยกชายเสื้อขึน้ เช็ดหน้ าผาก

เมื่ อ เห็น ว่ า เซี่ ย เฉิ งจู่เ ข้ า ไปในห้ อ ง ตู้ เ หอหัน หน้ า กลับ
มาแล้วตบหัวลูกน้ องของตน

“เจ้าน่ ะเดินเหยียบขี้หมาแล้วโชคดี...รูห้ รือเปล่าว่าเพราะ


อะไร? ถ้ าไม่ ใช่ ใต้ เ ท้ า ป่ านนี้ เ จ้าคงถูกลากไปโบยหน้ าประตู
ค่ายสักหนึ่ งร้อยครัง้ แล้วดูว่ายังมีชีวิตหรือไม่ค่อยว่ากันอี กที
จะมีโอกาสได้แต่งเมียแบบนี้ ไหม?”

เขากระแอมแล้ ว พู ด ต่ อ “เจ้ า ไม่ เ คยรู้ ค วามสัม พัน ธ์


ระหว่างใต้ เท้ ากับตระกูลชวีเลยรึ? หากไม่ใช่ เพราะเขาเจตนา
จะหลบหน้ าจนสกุลชวีรอ้ งเรียนไม่ได้ ทาให้เถ้าแก่ชวีไม่มีวิธีอื่น
ต้ องจาใจให้ บุตรสาวแต่ งให้ เจ้า หาไม่แล้ว ...เรื่องที่ เจ้าทากับ
บุตรสาวของครอบครัวนัน้ ชัวชี ่ วิตนี้ กอ็ ย่าหมายว่าจะได้กราบ
ไหว้ฟ้าดินเลย!”

3
เจ้ า สื อ พยัก หน้ า หงึ ก หงัก สรุป ได้ ว่ า ใต้ เ ท้ า ไม่ ต้ อ งการ
คุณหนูรองก็พอแล้ว เขาเองก็ร้ตู วั ดี ลาพังแค่ตวั เขาคงไม่มีวนั
ได้แต่งกับนาง

สาหรับเขาแล้วบุญคุณของใต้เท้าเซี่ ยช่างล้นเหลือ ปี นัน้


หากไม่ได้เซี่ ยเฉิงจู่ช่วยเขาออกมาจากวงล้อมของศัตรู ซ้ายัง
พาดตัวเขาไว้บนหลังม้าแล้วพาหนี ป่ านนี้ เขาก็คงอยู่ใต้ ดินใน
หลุมฝังศพที่ ไหนสักแห่ง ครัง้ นี้ แม้แต่งานมงคลสมรสก็เป็ นใต้
เท้ า หนุ น น าอี ก เช่ น เคย พอคิ ด มาถึ ง ตรงนี้ เจ้ า สื อ ก็อ ดเปรย
ขึน้ มาไม่ได้

“ข้าไม่รจู้ ริงๆ ว่าจะตอบแทนใต้เท้าอย่างไร?”

“เอาล่ะๆ ดูสีหน้ าเจ้าสิ จะแต่งงานอยู่แล้วยังทาตัวหดหู่


อยู่ได้ ไหนๆ ใต้เท้าก็ไปแล้ว เจ้าก็รีบนัง่ ลงแล้วเลือกๆ ไปซะ”

ตู้เหอพูดจบ กัวซิ่งก็ใช้ เท้ าเตะเขาที่ ใต้ โต๊ะ แล้วกระซิบ


ถาม “ใต้เท้าจะเอาเครือ่ งประดับนัน่ ไปมอบให้ใครหรือ?”

“เจ้าคิดว่าใครล่ะ?” ทัง้ ที่รกู้ ย็ งั จะถาม

4
กัวซิ่งนิ่งเงียบสักพัก จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น “เงินของใต้เท้าที่ มีอยู่
ในมือยิ่งขาดแคลน จะเอาเงินเก็บที่ไหนมาจ่าย? เบีย้ เลี้ยงหนึ่ ง
ปี กับข้าวของที่ ได้จากราชสานักรวมกันก็แค่หนึ่ งร้อยตาลึง ถ้า
หักหมดแล้ว ใต้เท้าจะทาอย่างไร?”

แม้ ว นั ๆ ใต้ เ ท้ า จะกิ น ใช้ อ ยู่ ใ นค่ า ย เงิ น ก็ไ ม่ ไ ด้ จ บั จ่ า ย


อะไร แต่กไ็ ม่ใช่ว่าปี หนึ่ งๆ จะไม่ใช้เลย แต่เพื่อซื้อเครือ่ งประดับ
นี้ ใต้ เ ท้ า กลับ ยอมทุ่ ม หมดหน้ าตัก แม้ จ ะมี เ งิ น เข้ า คลัง เป็ น
จานวนมากแต่ ใต้ เท้ าก็ไม่เคยหยิบมาใช้ ส่วนตัว แม้แต่ อีแ ปะ
เดียว ทุกอย่างถูกบันทึกลงในบัญชีอย่างโปร่งใส

“เจ้าจะไปรู้อะไร?” ตู้เหอเหลือบมองประตูห้องหนั งสื อ


แล้วก็ตบไหล่ กวั ซิ่งที่ อยู่ใกล้ ๆ กระซิบตอบเสี ยงเบา “ใต้ เท้ า
ของพวกเรามีเรือ่ งให้ต้องคิดมาก เจ้าเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ วันๆ ใน
ใจใต้ เ ท้ า ล้ ว นแต่ เ ป็ นกัง วล มี เ งิ น ในมื อ มากน้ อ ยเท่ า ไรก็อ ด
ไม่ได้ที่จะให้นาง น่ าเสียดายยังไม่ได้แต่งเสียที...”

ถึงแม้ตอนนี้ คณ
ุ หนูถานจะตกที่ นัง่ ลาบาก ครอบครัวถูก
ยึดทรัพย์แล้วต้องโทษเนรเทศ แต่นางก็เคยเป็ นถึงบุตรสาวของ
หัวหน้ าผู้สาเร็จราชการแผ่นดิน มุมมองความคิดไม่อาจเที ยบ
กับ หญิ ง ธรรมดาสามัญ ได้ เซี่ ย เฉิ งจู่อ ยากได้ น างก็ไ ม่ รู้ว่ า จะ
ยากลาบากสักแค่ไหน เขาช่างเป็ นใต้เท้าที่น่าสงสารนัก
5
“สองวัน ก่ อ นไม่ ใ ช่ ใ ห้ ข้ าไปยึ ด สามะโนครัว ปลอมของ
หญิงผู้นัน้ มาหรือ? สามะโนครัวใบนั น้ ถูกจัดการจนเรียบร้อย
ข้าได้คืนมาเมื่อวานยังแอบพลิกดู ชื่อก็เป็ นชื่อตามที่ นางบอก
รูปวาดก็เหมือนนางอี ก ไม่มีข้อพิรุธแม้แต่ น้อย แต่ ตอนนี้ ใบ
สามะโนครัวไปอยู่ในมือใต้เท้าแล้ว เขาเก็บไว้อย่างดี ดูท่าแล้ว
ใต้เท้าก็คงอยากให้ถกู ต้องตามหลักทานองคลองธรรม” พูดถึง
ตรงนี้ กก็ ระทุ้งศอกใส่กวั ซิ่งกลับบ้าง “ตอนนี้ มีเรื่องราวให้ต้อง
ตระเตรียมมากมาย พวกเราทาเป็ นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็
พอ”

กัวซิ่งได้ยินดังนัน้ ก็ตะลึงงัน แสดงว่าเรือ่ งราวดีๆ คงใกล้


เข้ามาแล้วสิ?

กัวซิ่งกับตู้เหอมองหน้ าก็ร้กู นั โดยไม่ต้องบอกกล่าว ทัง้


สองต่างก็หวั เราะร่า แต่ในใจก็รสู้ ึกว่า...มันจะช้าเกินไปไหม

“ข้าคิดว่า ใต้เท้าน่ ะทัง้ ให้ทงั ้ ดูแลนางจนเคยชิน ขึน้ ชื่อว่า


ผู้หญิง ไม่ว่าแต่ ก่อนจะมีฐานะอย่างไร อานาจคับฟ้ าแค่ไหนก็
ช่างเถอะ พออยู่กนั สองต่อสองก็จดั การนางให้อยู่หมัด รุนแรง
กับนางหน่ อยขี้คร้านจะเชื่อง”

6
ตู้ เ หอได้ ยิ น กัว ซิ่ ง เอ่ ย ก็ห ัว เราะเสี ย งเย็น “นั น่ มัน ผิ ว
เนี ยนละเอี ย ดนุ่ ม หากเปลี่ ย นมาอยู่ ใ นมื อ เจ้ า เจ้ า จะท าลง
หรือ?”

ของใคร...ใครก็รกั

ถึงตอนนี้ กวั ซิ่งก็ไร้เสี ยงเป็ นใบ้ไปฉับพลัน หากตัวเองมี


หญิงที่ชอบทัง้ งดงามและสูงศักด์ ิ เกรงว่าเขาก็คงจะคุยโวโอ้อวด
ยิ่งกว่าใต้เท้าน่ ะสิ แม้แต่ปลายก้อยก็ไม่ยอมให้ใครแตะ

ความจริงแล้วพวกเขาเป็ นทหาร อย่าได้มองแต่ความป่ า


เถื่อนดุรา้ ย คนนอกล้วนเข้าใจว่าพวกเขาเป็ นผูช้ ายที่หยาบคาย
มุท ะลุ ดุด นั ผู้ห ญิ ง เห็น เข้ า ก็ห ลี ก เลี่ ย งด้ ว ยความตกใจ จึ ง ไม่
ค่ อยได้ แต่ ง เมี ยกัน ง่ายๆ แต่ ค วามจริงแล้ ว หากได้ ร่ว มเรี ยง
เคียงหมอนกับใคร ส่วนใหญ่เก้าในสิบจะรักเมียมาก

ผู้ช ายที่ แ ท้ จ ริ ง จะไม่ โ หดร้ า ยกับ ผู้ห ญิ ง คนที่ ท าเรื่ อ ง


เหล่านัน้ ล้วนเป็ นคนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถ!

เพราะตู้ เ หอกับ กัว ซิ่ ง คุย กัน เบามาก แม้ ก ระทัง่ ฉงถิ ง
เชี่ยนกับเจ้าสือที่ห่างกันแค่เอื้อมก็ยงั ไม่ได้ยิน ทัง้ สองสบตากัน

7
แวบหนึ่ ง อยากจะซักถามว่ากระซิบอะไรกัน ทว่ากัวซิ่งกลับหัน
มาเห็นแล้วชิงเอ่ยขึน้ มาก่อน

“เร็วๆ เข้า มัวกระซิบอะไรกันอยู่ เห็นไหมว่าพี่ ตู้จะรีบ


กลับบ้านไปหาลูกหาเมี ยแล้ว พวกเจ้าเคยได้ ยินไหมว่ าเวลา
ช่วงกลางคืนแพงกว่าทองคาเสียอีก”

“เป็ นราตรี ใ นวสัน ตฤดูที่ ล ้า ค่ า มาก” ฉงถิ ง เชี่ ย นที่ อ ยู่


ด้านข้างเอ่ยขึน้ บ้าง

“ใช่ๆๆๆ ลา้ ค่ามาก” กัวซิ่งพยักหน้ า หันไปบอกเจ้าสือ


“เจ้าจะรออะไร อย่ามัวรบกวนพี่ตู้อยู่เลย เขาต้องรีบกลับบ้าน
ไปนวดให้เมีย รีบๆ เลือกสักอันเร็ว!”

สุดท้ายแล้วพอโดนเร่งรัด เจ้าสือก็เลยเลือกทองที่ทงั ้ เนื้ อ


หยาบและหนักที่ สุด สร้อยทองหยาบหนักจนแทบจะทาให้ คน
ใส่ ค อขาดได้ แน่ นอนว่ า คุ ณ หนู ร องเห็น แล้ ว ก็เ มิ น หน้ าหนี
พร้อมกับทาปากยื่น ใส่ทนั ที ตงั ้ ใจแน่ วแน่ ว่าจะไม่มีวนั ใส่อย่าง
เด็ดขาด

ในห้องหนังสือ

8
เซี่ ยเฉิงจู่นัง่ อยู่หน้ าโต๊ะลายดอกหลี ในมือถือกล่ องใส่
เครื่องประดับ พอเปิดออกของด้านในก็กระทบกับแสงเที ยน
เกิด เป็ นประกายวูบ วาบ เครื่องประดับ ทองฝั งหยกถูก ทาขึ้น
อย่างประณี ตงดงาม เนื้ อหยกไร้ตาหนิ มีทงั ้ สีชมพูอ่อน สีฟ้าน้ า
ทะเล สีแดงกุหลาบและสีเหลือง ทัง้ สี่สีส่องแสงประชันกันซึ่งเข้า
กันได้ดีกบั เส้นสีทอง

นางจะชอบไหม? น่ าจะชอบนะ...

เขามองอยู่เ ป็ นนาน จากนั น้ ก็ยื่ น มื อ อย่ า งไม่ ม นใจไป


ั่
หยิบสร้อยข้ อเท้ าขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้ วพันรอบนิ้ว เส้ น
ทองดูแล้วเปราะบางมาก ราวกับว่าเพี ยงแตะเบาๆ ก็จะขาด
ออกจากกัน เหมือนกับนางก็ไม่ปาน ช่างลา้ คามากเหลือเกิน...
มากจนเขาไม่กล้าแม้แต่จะใช้แรงกับนาง

ชายหนุ่มมองหยกสี่สีบนตัวสร้อย อดนึ กถึงคา่ คืนที่ หิมะ


ตกท่ า มกลางป่ าเขาไม่ ไ ด้ ตอนที่ อ ยู่ ใ นห้ อ งดิ น ที่ ส ร้ า งแบบ
หยาบๆ ภายใต้เปลวไฟที่ลุกไหม้ เท้าขาวอมชมพูปานเนื้ อหยก
เป็ นแผลเพราะอากาศหนาวจนน่ าเวทนา พอคิดว่าหากใส่สร้อย
เส้ น นี้ ไว้ ที่ ข้ อ เท้ า บอบบางนั น่ ก็ ไ ม่ รู้ ว่ า จะออกมาเป็ นภาพ
อย่างไร เขาอดใจไม่ได้ที่จะลูบไล้สร้อยหยกเบาๆ ความทรงจา

9
ถึงผิวสัมผัสที่ น่ ุมเนี ยนเกลี้ยงเกลาผุดขึ้นเป็ นสาย มุมปากชาย
หนุ่มค่อยๆ คลายลง

แต่พอนึ กถึงคาพูดราวกับให้ทานแก่เขาเมื่อวาน น้าเสียง


นางเสียดแทงเข้ากระดูก เวลานัน้ เขาอดทนไม่ไหวจริงๆ ในอก
ร้อนรุ่มราวกับว่าถูกคนเอาเท้ามาเหยียบ เขาห้ามตัวเองไม่อยู่
เผลอบีบข้อมือบอบบางรุนแรงเกินไป

ยามนี้ พอได้ ส ติ ดัง มื อ ถูก ของร้ อ นลวก ชายหนุ่ มโยน


สร้ อยข้ อเท้ ากลับ เข้ าไปในกล่ องดัง เดิ มแล้ ว ปิดลงทัน ที ทว่ า
กลับละสายตาออกไปไม่ได้ สุดท้ายก็ชกั จะนัง่ ไม่ติดจึงต้ องลุก
เดิ น ออกจากห้ องหนั ง สื อ พาตัว เองให้ ออกห่ า งเพื่ อ ไม่ ใ ห้ คิ ด
ฟุ้งซ่าน

อากาศยามรุ่งอรุณหนาวมาก แต่กเ็ ป็ นอากาศที่ บริสุทธ์ ิ


ทว่าทุกบ้านก็ไม่ได้สดชื่นเหมือนอากาศภายนอก

ในห้ องครัวอันเงียบสงัด ลุ่ยจูลุกขึ้นมาก่ อไฟตัง้ แต่ เช้ า


ยามนี้ นางกาลังช้อนแตงกวาหมักกับมะเขือ เปรี้ยวที่ หมักดอง
ในไหตัง้ แต่ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงออกมาใส่ จานใบเล็ก แล้ วจึงปิด
ปากไหให้แน่ นหนาตามเดิม

10
ต่อมาเด็กสาวก็เอี้ยวตัวไปเปิดฝาหม้อใบหนึ่ งออกดู ข้าว
เหนี ยวข้างในส่งกลิ่นหอมโชยออกมา ส่วนอีกเตามีหม้อน้าแกง
ที่ นางหันมะเขื
่ อยาวใส่ลงไป พอเห็นทุกอย่างเรียบร้อยดี นางก็
หันไปหันผั ่ กดองเป็ นชิ้นเล็กๆ ใส่ในจานเตรียมไว้

ทัง้ หมดนี้ เ ป็ นอาหารที่ คุณ หนู ช อบมากเป็ นพิ เ ศษ แต่


ก่อนตอนอยู่ที่จวน คุณหนูกจ็ ะให้สาวใช้ไปเอาผักในไหออกมา
อย่างละเล็กละน้ อย ผักพวกนัน้ อร่อยมากที เดียว หากเป็ นหน้ า
ร้อนก็สามารถนามาทาอาหารได้หลากหลาย น่ าเสียดายที่ฝีมือ
ของนางเที ย บไม่ ไ ด้ ก ับ พ่ อ ครัว ตระกูล ถาน แต่ ป กติ มื้ อ เช้ า
คุณหนูกจ็ ะกินอาหารได้น้อยอยู่แล้ว

เมื่อเห็นท้องฟ้ าด้านนอกเริ่มสว่าง ลุ่ยจูกร็ ีบดับไฟในเตา


แล้วเดินไปดูคุณหนูในห้องนอนก็เห็นว่าอี กฝ่ ายยังไม่ตื่น เด็ก
สาวจึงกลับเข้ามาในครัวอี กครัง้ เพื่อ หยิบเงินในไหที่ มีอยู่ราว
ยี่สิบกว่าเหรียญ

หากเป็ นครอบครัวทัวไป ่ มือ้ เช้ามักจะเป็ นข้าวต้มหรือไม่


ก็อาหารที่ เหลือจากเมื่อคืน หรืออาจจะแค่หมันโถวสั ่ กลูก ทว่า
ลุ่ย จูถ กู เลี้ ย งดูในจวนตัง้ แต่ เ ล็ก อยู่ข้ างกายคุณหนู มาตลอด
อาหารทัง้ เช้ า กลางวัน เย็น สามเวลาไม่ มี ข าดตกบกพร่ อ ง

11
อาหารแต่ ละมื้อหลากหลายสับเปลี่ ยนไปทุกวัน จึงไม่อาจทา
แบบขอไปทีได้

ตอนแรกที่ นางกับคุณหนู หนี มาได้ เงินทองก็แทบไม่มี


ต้ องใช้ จ่ายอย่ างอัตคัดขัดสน ต้ องทนกินขนมแป้ งแข็งๆ พอ
ตอนนี้ มีเงินแล้วจึงอยากจะประหยัด แต่ถึงอย่างไรนางก็คิดว่า
ไม่ควรตระหนี่ เรื่องกินมากนัก อย่างขนมแป้ งแข็งนัน้ ทุกครัง้ ที่
คุ ณ หนู ต้ อ งกิ น ถึ ง ปากอี ก ฝ่ ายจะไม่ พู ด แต่ สี ห น้ าก็ ฟ้ อง
หมดแล้ว

เด็กสาวเดินออกจากบ้านอย่างเงียบเชียบ ปิดประตูใหญ่
ตามหลังอย่างระมัดระวัง ตรวจซ้าถึงสองรอบให้ มนใจว่
ั่ าปิด
สนิทดีแล้วก็รีบตรงไปตลาด

เส้นทางจากบ้านไปตลาดไม่ไกลมาก พอเลี้ยวเข้าไปก็ได้
กลิ่ น หอมของอาหารลอยมาตามลม ยามนี้ เป็ นช่ ว งเวลาที่
ตลาดคึกคักที่สดุ

ลุ่ย จูเ ลี้ ย วเข้ า ไปในร้ า ยขายน้ า เต้ า หู้เ หมื อ นคนคุ้น ชิ น
เส้ น ทาง หลัง จ่ า ยไปหกอี แ ปะก็ไ ด้ น้ า เต้ า หู้ส ดใหม่ นางเห็น
พ่อค้ากาลังเอาขนมต้นหอมออกมาจากอีก หม้อ ช่างหอมหวน
ชวนน้ าลายสอ จึงซื้อมาแผ่นหนึ่ ง จากนัน้ ก็ไปซื้อซาลาเปาลูก
12
เล็กที่ มีสีสนั หลากหลายมาหนึ่ งเข่ง ถึงซาลาเปาจะลูกเล็กมาก
แต่กลิ่นเย้ายวนใจที่ สุดจึงขายดิบขายดี หนึ่ งเข่งได้ไส้เนื้ อสาม
ลูกกับไส้ผกั สาม พอซื้อเสร็จนางก็เบียดออกไป หลบให้คนใหม่
เข้ามาซื้อต่อ

เด็ก สาวเดิ น ผ่า นร้า นขายน้ า ตาลกับ งา จึ ง นึ ก ได้ ว่ า ใน


ครัวหมดเกลี้ยงแล้วจึงใช้เงินที่เหลือซื้องากับน้าตาลถุงเล็ก

สุ ด ท้ า ยนางก็ไ ด้ ข องมาเต็ม ตะกร้ า แต่ จ่ า ยไปแค่ ยี่ สิ บ


เหรียญ ซึ่ งเกินความคาดหมายจริงๆ หากไม่ได้ออกจากจวน
นางคงไม่รวู้ ่าเงินเท่านี้ กซ็ ื้อของได้มากมาย

ลุ่ ย จูใ นยามนี้ ส ามารถปะปนอยู่ ท่ า มกลางชาวบ้ า นได้


อย่างไม่ขดั เขิน เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนทัวไปได้
่ อย่างดี เด็ก
สาวเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองออกจากบ้านมานานแล้ว จึงนึ กเป็ นห่วง
คุณหนู ขึ้นมา เพราะเดี๋ ยวนี้ มี เหตุไม่คาดฝั นเกิดขึ้นได้ ทุกเมื่อ
แม้เด็กสาวจะยังเบิกบานใจกับการซื้อของ แต่ กร็ ้ตู วั ว่าควรรีบ
กลับได้แล้ว

ความจริงหากไม่มี เหตุการณ์ ที่แม่ทพั หัวเมืองกระแทก


ประตูกลับไปเมื่อคืน นางคงจะยิ่งเบิกบานใจมากกว่านี้

13
39 แขกผูม้ าเยือน

ตอนที่ ลุ่ยจูกลับมาถึงบ้านฟ้ าก็สว่างพอดี นางไขประตู


เข้าไปในบ้านก็เห็นคุณหนูกาลังเปิด

หน้ าต่างบานเล็ก จึงรู้ว่าคุณหนูตื่นนานแล้ว เด็กสาวรีบ


เข้าไปห้องครัว สักพักก็ยกถาดที่ มีอาหารหลากหลายชนิดเข้า
ไปในห้อง

ทันที ที่แหวกม่านประตูเข้าไป กลิ่นหอมและไออุ่นก็โชย


ออกมาต้อนรับ

เด็กรับใช้ที่คอยปรนนิบัติข้างกายคุณหนูทุกคนล้วนรู้ว่า
คุณหนู มีกลิ่นกายหอมเฉพาะตัวมาตัง้ แต่ เกิด ยิ่งอายุมากขึ้น
กลิ่นหอมก็มากตามไปด้วย ตอนเล็กกลิ่นยังไม่ชดั เจนเสียด้วย
ซา้ มันเป็ นเอกลักษณ์ ที่พิเศษ ได้ยินมาว่าตอนที่ ฮหู ยินคนก่อน
ยังมีชีวิตก็มีกลิ่นเช่นนี้ เหมือนกัน แต่เป็ นกลิ่นหอมเย็น เพราะฮู
หยิ น มี บุ ต รยาก อายุ ใ กล้ ส ามสิ บ ถึ ง เพิ่ ง ได้ บุ ต รสาวมาก็คื อ
คุณหนู นางจึงดูแลบุตรสาวอย่างประคบประหงม ไม่ยอมให้
ห่างกาย จนกระทังฮู ่ หยินลาโลกนี้ ไป

1
เรื่องกลิ่นกายหอมของคุณหนูมีคนรู้น้อย เป็ นความลับ
ส่ วนตัวที่ ไม่เคยบอกแม้แต่ กบั นายท่ าน ฮูหยินคนใหม่ซึ่งเป็ น
มารดาเลี้ยงก็ไม่ร้เู ช่นกัน แค่ความงามที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบก็
เรียกความริษยามากแล้ว หากพ่วงด้วยกลิ่นกายหอมเข้าไปอีก
จะทาให้คนอิจฉาสักเพียงใด

คนรอบตัว ที่ ไ ด้ ก ลิ่ น ส่ ว นมากจะเข้ า ใจว่ า คุ ณ หนู ใ ช้


เครื่ อ งหอม กระทัง่ คุณ หนู ร องในจวนก็เ คยเลี ย บเคี ย งถาม
คุณหนู บอกเพี ยงว่าเป็ นเครื่องหอมที่ มารดาให้ ไว้ และมีเพียง
แค่ตลับเดียวเท่านัน้

ถึงจะเปิดหน้ าต่ างบานเล็กแล้ว แต่ ในห้ องก็ยงั เหลือไอ


อุ่นจากกระถางไฟ ยามนี้ คณ ุ หนูผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ทว่ายัง
ไม่ได้สวมถุงเท้า จึงได้เห็นเท้าขาวอมชมพูดนู ่ ุมเนี ยน

หญิ ง สาวก าลัง ก้ ม ตัว ตัก น้ า ล้ า งหน้ าล้ า งตา ทุ ก กิ ริ ย า


ท่ า ทางดู อ่ อ นหวานแช่ ม ช้ อ ย ผ้ า ห่ ม ถูก พับ เก็ บ บนตู้ อ ย่ า ง
เรียบร้อย โต๊ะก็ถกู ย้ายมาข้างเตี ยงแล้วเช่ นกัน บริเวณรอบๆ
ถูก เก็บ กวาดจนสะอาด ทัง้ หมดเป็ นนิ สัย ที่ ถ ูก บ่ ม เพาะให้ มี
ระเบียบวินัยตัง้ แต่อยู่ในจวน

2
เมื่อลุ่ยจูเข้ามาก็ร้องเรียกคุณหนู เสี ยงเบา “คุณหนู กิน
ข้าวเจ้าค่ะ”

จากนั น้ ก็วางถาดลงบนโต๊ะ ได้ยินเสี ยงเจ้านายขานรับ


กลับมาเบาๆ

ลุ่ยจูรีบ เดินไปปิดหน้ าต่ าง อดบ่นขึ้นมาไม่ได้ “คุณหนู


หิมะด้านนอกยังไม่ละลาย อากาศยังหนาวอยู่เลย ทาไมถึงรีบ
เปิดหน้ าต่างล่ะเจ้าคะ หากเป็ นหวัดขึน้ มาจะท่าอย่างไร?”

ถานหวันช่ ิ ง ใช้ ปิ่นไม้ รวบผมไว้อย่ างหลวมๆ หลังจาก


ล้างหน้ าบ้วนปากแล้ว นางก็หยิบผ้าฝ้ ายมาซับหน้ า แล้วนาผ้า
ไปพาดกับพนักเก้าอี้ ก่อนจะหันมาตอบเสี ยงนุ่มนวล “อากาศ
ตอนเช้าบริสุทธ์ ิ สดชื่น ดีกบั ร่างกาย พอดวงอาทิตย์ขึ้นสูงกลิ่น
ต่างๆ นานาก็จะผสมปนเปกันไปหมด”

ลุ่ยจูทาหน้ ามุ่ย นางไม่เคยโต้แย้งแล้วเอาชนะคุณหนูได้


เลย คุณหนูมกั จะมีเหตุผลที่ทาให้นางเป็ นใบ้พดู ไม่ออกได้เสมอ
อย่างเรื่องพวกนี้ ที่คนอื่นมักจะชอบเครื่องประดับ เสื้อผ้าสวยๆ
งามๆ แต่คณ ุ หนูชอบสูดอากาศบริสทุ ธ์ ิ

3
เด็กสาวไม่อาจพูดอะไรต่ อได้ จึงทาเพียงยกอาหารจาก
ถาดมาวางลงบนโต๊ะ

ถานหวันช ่ ิ งเดินมานัง่ หน้ าโต๊ะกลม หยิบขวดกระเบือ้ งใบ


เล็กมาเปิดจุกออก เทของเหลวด้านในใส่ มือเล็กน้ อย ก่อนจะ
ปิดจุกกลับดังเดิม นางค่อยๆ ใช้นิ้วนวดของเหลวเหนี ยวข้นบน
ฝ่ ามื อ จากนั ้น ก็บ รรจงแตะลงบนใบหน้ า ทัน ใดนั ้น เองกลิ่ น
ดอกไม้หอมกรุน่ ก็กาจายออกมา

เครื่ อ งประทิ นผิ ว และเครื่ อ งหอมของหญิ ง สาวในรัช


สมัย ฉี ซิ น เป็ นสิ่ ง ที่ เ ฟื่ องฟูม าก มี ท ัง้ แป้ งสี ช าดและแป้ งหอม
หลากหลายชนิด ซึ่งจะแตกต่างกันทัง้ สี กลิ่นและเนื้ อแป้ ง

ลุ่ยจูเลือกอยู่นานมากกว่าจะซื้อจากตลาดมาหนึ่ งขวด
เครื่องประทินผิวนี้ ทามาจากกลี บดอกไม้ ถึงไม่อาจเที ยบกับ
ของที่ วางขายตามเมืองหลวง แต่กน็ ับว่าให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
อยู่มาก

ถานหวัน่ ชิ งผิ วเรี ย บเนี ยนละเอี ย ดตามธรรมชาติ


นอกจากหมันบ ่ ารุงดูแลรักษาภายนอกมาหลายปี นางยังใส่ใจ
บารุงเลือดเสริมอีกด้วย ทาให้หญิงสาวมีผิวขาวและริมฝี ปากที่

4
แดงระเรื่ อ ตอนออกจากบ้า นจึ ง ไม่ จ าเป็ นต้ อ งแต่ ง เติ ม ใดๆ
มากมายแค่ทาแป้ งเล็กน้ อยก็พอแล้ว

ลุ่ยจูมองคุณหนู ที่เดินไปสวมรองเท้ าโดยไม่ใส่ ถงุ เท้ าก็


ขมวดคิ้ ว ยิ่ ง เจ้ านายเดิน มานั ง่ ข้างๆ ทาให้ เ ห็น ส้ น เท้ าที่ เป็ น
รอยแดงจากอากาศหนาวเมื่อหลายวัน ก่อน เด็กสาวก็อดบ่น
อีกครัง้ ไม่ได้

“เจ้าของร้านขายยานั น่ บอกว่ าเอายารักษาแผลที่ เ กิด


จากอากาศหนาวมากเกินไปมาให้ ไม่เห็นจะจริงเลยสักนิด ดูสิ!
คุณหนูทามาสองวันแล้วยังไม่เห็นจะดีขึ้นเลย เที ยบกับยาขี้ผึง้
ในเมื อ งหลวงแล้ ว ห่ า งไกลกัน ลิ บ ลับ มิ น่ าล่ ะ ถึ ง ขายแค่ ส อง
ตาลึงเงิน”

่ ิ ง ไม่ ไ ด้ ส นใจ ท าเพี ย งดึ ง ผ้า ห่ ม มาคลุ ม


ทว่ า ถานหวันช
ปลายเท้า แล้วมองไปยังจานอาหารหลากหลายที่ วางเรียงราย
บนโต๊ะ แต่ ละจานมีสีสนั น่ ากินมาก นับว่าฝี มือการจัดวางของ
ลุ่ยจูก้าวหน้ าขึน้

การกินอาหารไม่ใช่ แค่ ใช้ ปากอย่ างเดี ยว สิ่งสาคัญ อี ก


อย่างก็คือความพึงพอใจของสายตา สีสนั น่ ากินก็เป็ นความสุข
อย่างหนึ่ ง อาหารรสเลิศก็เป็ นความสุขเช่นกัน
5
ถานหวัน่ ชิ ง เป็ นคนที่ มี ค วามรู้สึ ก ไวต่ อ สิ่ ง ของสวยๆ
งามๆ ซึ่ งเป็ นที่ มาของการฝึ กเขี ยนภาพ นั น่ เพราะนางสนใจ
‘ของจริง’ ตามธรรมชาติ ไม่ใช่สกั แต่ ว่าชื่ นชอบภาพวาดเพียง
อย่างเดียว

ไม่ว่าจะเป็ นผืนป่ า ต้นท้อที่เบ่งบานเต็มไปด้วยสีชมพู กิ่ง


ก้านแกว่งไกวตามแรงลม ทัศนี ยภาพที่ งดงามทัง้ หมดล้วนเป็ น
สิ่งที่นางชื่นชอบ

ดัง นั ้น ถานหวัน่ ชิ ง จึ ง มัก จะดูห น้ าตาอาหารก่ อ นเป็ น


อันดับแรก

นางหยิบตะเกียบขึ้นมา เห็นจานข้าวม้วนที่ ตนชอบมาก


เป็ นพิเศษ จึงคีบขึ้นมากินหนึ่ งชิ้น ข้าวม้วนที่ ลุ่ยจูทาข้างในห่อ
ด้วยแตงกวาเส้น มะเขือเปรี้ยว กับ แผ่นไข่ไก่ พอมองดูจึงเห็น
เป็ นสีขาว ม่วง เหลือง และเขียวอยู่รวมกันแล้วดูเพลินตา

ในชามกระเบือ้ งอีกใบมีน้ า เต้าหู้สีเหลืองนวล ด้านบนมี


ฟองเต้าหู้ลอยอยู่ เมื่อดื่มเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมหวานทันที

“ใส่ น้ า ตาลงาด้ วยหรื อ ?” ถานหวันช ่ ิ ง ถามอย่ า งสนใจ


นางเพิ่งดื่มเข้าไปหนึ่ งอึกก็รสู้ ึกได้ว่ากลิ่นไม่เหมือนทุกครัง้

6
ลุ่ยจูที่หิวมากกาลังกัดขนมแป้ งกรอบสีเหลือง พอได้ยิน
คุณหนู ถามก็รีบกลืนลงไป “น้ าตาลในครัวใช้ หมดแล้วเจ้าค่ะ
ข้าเลยแวะซื้อที่ตลาด เป็ นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

ถานหวันช ่ ิ งพยักหน้ า “หอมมาก หอมอร่อยลื่นคอ” นาง


ดื่มเพิ่มอีกหนึ่ งอึกก่อนวางชามลง แล้วกินข้าวม้วนต่อ

ส่วนอีกจานมีซาลาเปาลูกเล็กๆ หลากสีวางเรียงกันเป็ น
วงกลม ซึ่ ง หญิง สาวชื่ น ชอบไส้ ผกั มากกว่ าไส้ เ นื้ อ ทัง้ สองกิน
อาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยมากทีเดียว

ลุ่ย จูเ ห็น คุณหนู กินช้ าๆ อย่ างสบายใจไม่ รีบ ร้อน ทว่ า
ภายใต้ความอารมณ์ ดีนัน้ นางกลับรับรู้ได้ถึง ความรู้สึกที่ หนัก
อึ้ง ของคุณหนู ทัง้ ที่ เ มื่อวานแม่ท ัพ หัว เมื องเดิ น ปึ งปั ง ออกไป
ขนาดนัน้ แล้วทาไมคุณหนูถึงยังใจเย็นอยู่ได้นะ

อีกทัง้ คุณหนูกเ็ คยพูดว่าฐานะของพวกนางไม่เหมือนแต่


ก่ อนแล้ ว ไปไหนก็ต้ องระมัด ระวัง แต่ ต อนนี้ แม่ ท ัพ หัว เมื อง
โกรธหนักขนาดนัน้ คุณหนูยงั ทาเหมือนไม่เก็บมาใส่ใจ และไม่
พูดเรื่องย้ ายบ้านหรือ หลบซ่ อนอี กด้ ว ย หน าซ้า คุณหนู ย งั ไม่
เพี ยงหลับ สนิท แม้แต่ อาหารเช้ าก็กินได้ มากกว่าทุกที เสี ยอี ก
ทาให้นางมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
7
ขณะที่ ลุ่ ย จูวิ ต กกัง วลอย่ า งเห็น ได้ ช ัด แต่ ถ านหวันช่ ิง
กลับ ดูส งบนิ่ ง เพราะหญิ ง สาวรู้ดี ว่ า เซี่ ย เฉิ งจู่จ ะไม่ ล งมื อ กับ
ผู้ห ญิ ง ตัว เล็ก ไร้ เ รี่ ย วแรงอย่ า งพวกนาง อี ก ทัง้ หลัง จากผ่ า น
เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ มาก็เห็นได้ชดั ว่า แม่ทพั หัวเมืองหนุ่มผูน้ ี้ ไม่
ว่าอย่างไรก็ยงั มีอารมณ์ หนุ หันพลันแล่น มีความยโสโอหังซึ่ ง
เป็ นปกติของชายชาตรี ทว่าเขาไม่หยามเหยี ยดหรือฉกฉวย
โอกาสกับผูห้ ญิงที่ไร้ทางสู้

พอได้ร้ถู ึงพืน้ นิสยั ข้อนี้ ของเขาแล้ว นางก็ไม่นึกเกรงกลัว


อีก แต่ว่า...เขาสะบัดชายเสื้อแล้วจากไปอย่างโกรธเคืองขนาด
นัน้ ไม่รวู้ ่าโมโหเรือ่ งอะไร?

เป็ นเพราะถูกนางเปิดโปงความในใจใช่ไหม? หรือเพราะ


นางเอ่ยเรือ่ งการเขียนเป็ นลายลักษณ์อกั ษร?

หรือไม่ใช่ทงั ้ สองอย่าง...

แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลเหล่านี้ นางก็ไม่ร้จู ะคิดอย่างไร


ต่อแล้ว เพราะตอนนี้ นางยากจนเหลือแต่ตวั ไม่มีสิ่งใดจะมอบ
ให้ได้ ถ้ามี ...นางจะยอมน่ ามันออกมาเพื่อรักษาชีวิตของตนกับ
ลุ่ยจูเลย

8
หลังเสร็จสิ้นมื้อเช้าและเก็บโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ถานหวัน่
ชิงจึงหยิบถุงเท้ าถักสี ขาวมาสวม จากนั น้ ก็วางพู่กนั หมึกและ
กระดาษลงบนโต๊ะ ตัง้ ใจจะวาดภาพ ขณะที่กาลังจรดปลายพู่กนั
ลงบนกระดาษก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดงั เข้ามา

ลุ่ ย จู ซึ่ ง ถื อ เข็ม กับ ด้ า ยนั ง่ เย็บ ผ้ า เป็ นเพื่ อ นอยู่ ข้ า งๆ


่ ิ ก เงยหน้ ามองไปยังคุณหนู
ถึงกับมือสันระร

“ไปดูสิ” ถานหวันช
่ ิ งสังด้
่ วยสีหน้ าเรียบนิ่ง

ลุ่ยจูจึงตัดใจวางเข็มและด้ายในมือลงแล้วเดินออกไป

่ ิ งหยิบก้อนหินมาวางทับตรงมุมกระดาษ ใช้
ถานหวันช
พู่กนั ร่างภาพคร่าวๆ ในยุคสมัยนี้ มีเพียงพู่กนั อย่างเดี ยวที่ ใช้
วาดเขียน หากวาดผิดก็ไม่สามารถลบได้ ดังนัน้ ตอนวาดต้องมี
สมาธิ จดจ่ อ กับ สิ่ งที่ ท าเพื่ อ หลี ก เลี่ ย งความผิ ด พลาดที่ อ าจ
ตามมา

ไม่นานลุ่ยจูกเ็ ดินกลับเข้ามา ใบหน้ าเจือความราคาญอยู่


บ้าง

9
่ ิ งกาลังวาดกลีบดอกเหมยติดพันจึงไม่ได้เงย
ถานหวันช
หน้ าขึน้ เพียงรับรูไ้ ด้ว่ามีเสียงลุ่ยจูเดินเข้ามาคนเดียวก็เอ่ยถาม
“ใครมาเคาะประตูงนั ้ หรือ? ไม่ได้เชิญเข้ามารึ?”

ลุ่ยจูกลับมานัง่ ที่เดิม แล้วรายงานตามตรงอย่างไม่ปิดบัง


“เป็ นเพื่ อ นบ้ า นเจ้ า ค่ ะ นางบอกว่ า อยากจะมาเยี่ ย มเยี ย น
คุ ณ หนู น่ าขัน สิ้ น ดี พวกเราเข้ า มาอยู่ ที่ นี่ ได้ ส องเดื อ นแล้ ว
ตามปกติ เจอหน้ า นางก็ไ ม่อ ยากทักทาย ตอนนี้ อ ยู่ดี ๆ ก็ม า
เคาะประตู แ ล้ ว บอกอยากเยี่ ย มเยื อ น แค่ ดู ก็รู้ ว่ า พวกนาง
ต้ องการมาสื บข่าว ข้าก็เลยบอกว่าคุณหนู ไม่พบแขก ส่ งพวก
นางกลับไปแล้ว”

ถานหวันช ่ ิ งเพี ยงรับคาเบาๆ แล้ววาดต่ อโดยไม่ส ะดุด


ลายเส้นลื่นไหลเป็ นธรรมชาติ ก่อนจะเอ่ยปากต่อ “ไม่ให้เข้ามา
ก็ไม่เป็ นไร แต่ คาพูดเจ้าต้องอ่อนน้ อมสักหน่ อย อย่าทาให้คน
อื่นระคายหู”

ลุ่ยจูตอบรับคราหนึ่ ง ในใจยังไม่คล้อยตาม เจตนาของ


อีกฝ่ ายไม่ดีเท่าไร แล้วจะให้ความเกรงใจไปเพื่ออะไร? ไม่ต่อย
เข้าให้กน็ ับว่าดีแค่ไหนแล้ว

10
ถานหวัน่ ชิ ง ไม่ ไ ด้ พูด อะไรต่ อ จิ ต ใจจดจ่ อ อยู่ ก ับ ดอก
เหมยที่ กาลังวาดกิ่งก้าน ก็ได้ยินเสี ยงเคาะประตูดงั ขึ้นมาอี ก
รอบ

ลุ่ยจูเพิ่งจะเรียกสติกลับมาได้แล้วเริ่มลงเข็มเย็บผ้าที่ ทา
ค้าง เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูกอ็ ดไม่ได้ที่จะบ่น “ตัง้ แต่แขวน
ป้ ายแซ่เซี่ ยนี่ ช่างมีแต่คนมายุ่มย่ามเสียจริง แต่ก่อนไม่เคยจะ
ได้ยินเสี ยงหน้ าประตู วันนี้ กลับมีคนมายืนเคาะแต่ เช้ าตัง้ สอง
รอบ หากยังเป็ นเพื่อนบ้านอีกละก็ อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้ว
กัน คุณหนู จะได้วาดภาพอย่างสงบเสี ยที ” พอเอ่ ยจบก็กดั ฟั น
กรอดก้าวลงจากเตียงแล้วเดินออกไปอีกรอบ

ไม่นานนั ก ถานหวันช่ ิ งก็ต้องตกใจจนวางพู่กนั เพราะ


แว่วเสียงคนคุยกันอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อครูเ่ พิ่งจะบอกว่าจะให้นาง
วาดภาพอย่ างสงบมิใช่ หรือ แล้วทาไมให้ คนเข้ ามาเสี ยอย่ าง
นัน้ ?

หญิ ง สาวลงจากเตี ย งแล้ ว สวมรองเท้ า ตัง้ ใจจะเดิ น


ออกไปดู ก็เห็นลุ่ยจูเดินนาหญิงงดงามนางหนึ่ งอายุราวสามสิบ
กว่าเข้ามา หญิงผู้นัน้ เห็นถานหวันช
่ ิ งก็ตกตะลึง สองเท้าชะงัก
งันในทันใด

11
ก่อนมาที่ นี่นางนึ กภาพไว้หลายอย่างมาก คาดไม่ถึงว่า
พอได้พบกันจริงๆ ตนก็ถึงกับตะลึงงัน

ผู้หญิงตรงหน้ ามีใบหน้ างดงามไร้ที่ติ พวงแก้มสองข้าง


แดงระเรื่ อ ด้ ว ยเลื อ ดฝาด ผมด าขลับ รวบมัด อย่ า งง่ า ยๆ ทัง้
ผิวพรรณที่ขาวเนี ยนละเอียดราวกระเบือ้ งเคลือบ

ถึงแม้อีกฝ่ ายจะสวมใส่เพียงเสื้อผ้าซีดเก่าธรรมดา ไม่ใช่


อาภรณ์ ถกั ทอเลิศหรูแต่ อย่างใด มีเพี ยงเข็มขัดสี เขี ยวรัดเอว
คอดกิ่ ว แต่ ก็เ ผยให้ เ ห็น เรื อ นร่ า งอ่ อ นหวานแช่ ม ช้ อ ยอย่ า ง
ชัดเจน ทัง้ ที่ มนั ไม่ใช่เข็มขัดที่ วิเศษวิโส แต่ พออยู่บนตัวนางก็
เหมือนมีสีเขียวแซมอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ช่างดูเหมาะเจาะเข้า
กัน จนท าให้ พู ด ไม่ อ อก ไม่ ว่ า ใครก็ ไ ม่ อ าจมองข้ า มความ
สวยงามนี้ ไปได้

หญิ ง ผู้นั ้น กะพริ บ ตาปริ บ ๆ สู ด ลมหายใจเข้ า ลึ ก มอง


ประเมินคนตรงหน้ าอีกครังพร้ ้ อมกับส่งยิ้มไปให้

“คุณหนู นี่ คือซ่ งฮูหยินจากหออักษรป่ าไผ่ คนที่ บอกว่า


จะเชิญคุณหนูไปเป็ นอาจารย์ที่สานักศึกษาน่ ะเจ้าค่ะ” ลุ่ยจูเอ่ย
แนะนา

12
่ ิ งรีบเดินมาข้างหน้ า เอ่ยด้วยน้ าเสียงอ่อนนุ่ม
ถานหวันช
“ข้าเพิ่งจะหัดเรียนเขียนวาด มิกล้ารับคาว่าอาจารย์หรอกเจ้า
ค่ะ” เอ่ยจบก็เดินนาซ่งฮูหยินไปที่เก้าอี้ ลุ่ยจูจึงไปเตรียมชา

บ้านหลังนี้ เล็กมาก เพียงซ่งฮูหยินกวาดตามองแวบเดียว


ก็เห็นทัวแล้
่ ว ไม่มีห้องสาหรับรับรองแขกเป็ นการเฉพาะ อีกทัง้
ไม่ มี เ ตาผิ ง ให้ ค วามอบอุ่น จึ ง ใช้ ห้ อ งนอนเป็ นที่ ร บั แขกแทน
เพราะถึงพื้นที่ จะไม่กว้างแต่ยงั พอมีโต๊ะเก้าอี้ ทว่าสภาพเก้าอี้ก็
เก่าครา่ บ่งบอกว่าใช้มานาน มีตู้หนึ่ งใบ และโต๊ะที่ อยู่ข้างเตี ยง
หนึ่ งตัว

บนโต๊ะปูกระดาษวาดรูปไว้ อยู่ แสดงว่ าก่ อนหน้ านี้ อีก


ฝ่ ายคงกาลังวาดภาพ ตาแหน่ งที่จดั วางโต๊ะช่างเหมาะสม เพราะ
อยู่ข้ างหน้ าต่ า งที่ มีแสงแดดส่ องถึง ตรงขอบหน้ าต่ างยัง วาง
แจกันที่ปักดอกเหมยสีแดงหนึ่ งกิ่ง

ถึงของที่ ใช้ในการตกแต่ งห้ องจะไม่ได้หรูหรา ทว่ากลับ


จัดวางได้อย่างสบายตาเป็ นธรรมชาติ ราวกับของทุกชิ้นอยู่ใน
ตาแหน่ งที่ เหมาะที่ ควรแล้ว แต่ ละชิ้นให้ ความรู้สึกโดดเด่นไม่
แพ้กนั

13
ดอกเหมยกิ่งนั น้ ลุ่ยจูเป็ นคนเด็ดมาจากต้ นดอกเหมย
มุมกาแพงตัง้ แต่เมื่อวาน หลังหิมะตกดอกเหมยจะงดงามมาก
ที่สุด นางนามาเสียบไว้ในแจกันเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นสบายตา
ให้ กบั ห้ อง ตอนแรกช่ อดอกไม้ยงั ตูมอยู่ เพี ยงชัวข้
่ ามคื นต่ าง
ออกบานสะพรังประชั
่ นกัน พอเข้าใกล้กจ็ ะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ

นางไม่ได้มองภาพบนโต๊ะนัน้ ผิดไปใช่หรือไม่? ซ่งฮูหยิน


จ้องภาพบนโต๊ะด้วยอาการตื่นตะลึง

ภาพนัน้ เป็ นภาพแจกันดอกเหมย ถึงแม้นางจะไม่ชานาญ


เรื่องภาพวาด แต่กร็ ้วู ่าทัง้ แจกันและดอกเหมยนัน้ โดดเด่นดุจมี
ชี วิ ต กิ่ ง ก้ า นยาวออกไปจนจรดขอบกระดาษ การจัด วาง
ระดับสูงเตี้ ยของกิ่งก้านผสมผสานกันได้อย่างมีเสน่ ห์ชวนให้
หลงใหล เค้า โครงลายเส้ นดูมีชีวิตชี วาและพลิ้วไหว ถึงแม้จะ
เป็ นแค่ภาพดอกไม้ในแจกันธรรมดาๆ แต่การวางเค้าโครงช่าง
สมบูรณ์ แบบและไม่เบียดกันจนเกินงาม ทาให้ดูมีรสนิยมเป็ น
ที่ สุด เมื่อเที ยบกับของจริงแล้ว ยิ่งให้ ความรู้สึกงดงามและลึก
ลา้ มากยิ่งขึน้

นางใช้เวลาไม่นานก็เชื่ออย่างสนิทใจ คนตรงหน้ าคือผู้ที่


ใช้นามแฝง ‘เซียนดอกท้อ’ แน่ นอน

14
40 งานใหม่

ซ่ ง ฮูหยิ น มองสาวงามตรงหน้ าด้ ว ยสายตาชื่ น ชม นาง


่ าสตรีผนู้ ี้ ต้องมาจากตระกูลสูงศักด์ ิ อย่าง
มันใจว่

แน่ น อน จึ ง ไม่ ส มควรจะอยู่ ใ นบ้ า นหลัง เล็ก เช่ น นี้ ถ้ า


อย่างนัน้ เกิดอะไรขึ้นกันเล่า? นางคิดดูแล้วก็คาดว่าอีกฝ่ ายคง
ประสบกับเคราะห์กรรมบางอย่างกระมัง

พอนึ กถึงความสัมพันธ์ระหว่างสตรีผนู้ ี้ กบั แม่ทพั หัวเมือง


ในความเวทนาสงสารจึงแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและเอ็นดู “แม่
นางนับว่าเหมาะสมที่สดุ แล้ว เรื่องนี้ ข้ากับบัณฑิตซ่งล้วนรู้ดี ใน
เมื่อท่ านคือเซี ยนดอกท้อ ฝี มือการวาดภาพระดับแม่นาง หาก
ยังไม่สามารถเรียกขานว่าอาจารย์ได้ แล้วจะมีผใู้ ดเหมาะสมอีก
เล่า”

ถานหวันช ่ ิ งฟั งจบแล้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้ อย ทาไม


อีกฝ่ ายจึงรู้เรื่องที่ ตนคือเซี ยนดอกท้อ ? หญิงสาวไพล่นึกไปถึง
เถ้าแก่สวี่ กบั ชายหนุ่ มที่ ดูแลร้านสองคนนั น้ ถึงลุ่ยจูจะเคยยา้
กับเจ้าของร้านว่าให้ปกป้ องสถานะนางแล้วก็ตาม แต่บนโลกนี้

1
ไม่มีกาแพงใดที่ลมไม่ทะลุผา่ น การจะมีคนสืบเสาะมาได้กไ็ ม่ใช่
เรือ่ งน่ าแปลกใจแต่อย่างใด

ในยุคนี้ การที่ ผ้หู ญิงจะเป็ นอาจารย์ ไม่ใช่ เรื่องที่ สะดวก


ราบรื่นสักเท่ าไร หลังจากถานหวันช ่ ิ งคิดดูแล้ว จึงตัดสินใจจะ
ปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ซ่งฮูหยิน...”

ทว่าเพิ่งเอ่ยได้คาเดียว ซ่ งฮูหยินกลับพูดดักขึ้นมาก่อน
เหมือนกับจะรูถ้ ึงความลาบากใจของอีกฝ่ าย “แม่นางจะรีบร้อน
ปฏิเสธไปไย ในสานักศึกษาแยกชายหญิงอย่างชัดเจน บัณฑิต
ซ่ งดูแลลูกศิษย์ชายที่ หอตะวันตก ส่ วนข้าดูแลลูกศิษย์หญิงที่
หอใต้ เข้าออกประตูคนละฝัง่ แม่นางแค่สอนพวกเด็กชายและ
เด็กหญิงให้วาดภาพในห้องเรียนวันละสองชัวยามเท่ ่ านัน้ จะไม่
มีผชู้ ายมารบกวนแน่ นอน”

ระหว่างนี้ ลุ่ยจูกย็ กถาดน้ าชาเข้ามา เป็ นเพียงชาดอกไม้


ราคาถูกที่ถานหวันช่ ิ งชอบดื่ม ถึงจะไม่ใช่ชาชัน้ เลิศแต่กลิ่นก็ทา
ให้คนเป็ นสุขได้

2
ซ่งฮูหยินเป็ นนักดื่มชา ทว่าเมื่อเห็นชาดอกไม้ราคาถูกก็
ไม่ได้มองเมิน นางหยิบถ้วยขึ้นมาจิบชาคาหนึ่ งแล้วเอ่ยต่ อว่า
“ทางเราจะให้ เบี้ยเลี้ยงแม่นางเดือนละสิบตาลึง วันเทศกาลมี
ของกานัลมอบให้อีกต่างหาก ไม่ทราบว่าแม่นางมีความคิดเห็น
เช่ น ไร?” กล่ าวจบก็ส งั เกตท่ าทางของคนตรงหน้ าเมื่ อได้ ยิน
ข้อเสนอ

เห็นได้ชดั ว่าจิตใจของนางหาได้หวันไหวไม่
่ ...ซ่ งฮูหยิน
จึ ง แอบถอนหายใจเงี ย บๆ เป็ นไปอย่ า งที่ คิ ด นางไม่ ใ ช่ ค น
ธรรมดาที่จะตาโตกับเงินเพียงเท่านี้

เบี้ยเลี้ยงเดือนละสิบตาลึง หากเปลี่ ยนเป็ นให้ อาจารย์


ระดับอาวุโส แน่ นอนว่าพวกเขาจะต้ องรี บตอบรับไปตัง้ นาน
แล้ว ส่วนอาจารย์ทวไปได้
ั่ รบั สามตาลึงก็พอใจแล้ว สาหรับคน
ที่มีฐานะหน่ อยก็อาจเพิ่มเป็ นห้าหรือหกตาลึง

“ข้ า ขอกล่ า วตามตรงอย่ า งไม่ ปิ ดบัง ภาพวาดทุ ก ภาพ


ของแม่ น างงดงามมาก ปั จจุบ นั ราคาขึ้น ไปถึ ง สองร้อยตาลึง
แล้ว ทว่าตอนที่ท่านขายไป ใช่ว่าเถ้าแก่เจ้าของร้านจะรับซื้อใน
ราคาสองร้อยตาลึงเสียเมื่อไร มาถึงตอนนี้ กไ็ ม่ร้วู ่าแม่นางโดน
กดขี่ราคาไปมากเพียงใดแล้ว”

3
ซ่งฮูหยินมองห้องเล็กๆ รวมไปถึงเครื่องเรือนสภาพเก่า
อีกทัง้ น้าชาราคาถูกก็ร้ไู ด้ทนั ทีว่าหญิงทัง้ สองจะต้องขาดแคลน
เงินทอง หนาซา้ พวกนางก็คงไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองด้วยการ
ขายภาพวาดเป็ นหลักได้

พอถานหวันช ่ ิ งได้ยินมาถึงตรงนี้ จิตใจก็ไหวหวันไม่


่ น้อย
นางค่อยๆ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนอี กครัง้ หากทุกเดือนวาดได้
แค่หนึ่ งภาพ มันก็พอสาหรับการใช้ จ่ายในชี วิตประจาวันของ
นางกับลุ่ยจู แต่ สถานการณ์ ตอนนี้ นางไม่สามารถวางแผนทา
อะไรได้ มากมายเหมือนเมื่อก่ อน หากจะเตรี ย มเงิ น ไว้ บ้า งก็
ไม่ใช่เรือ่ งเสียหาย

หากคิ ด ดูดี ๆ ภาพที่ น างขายไปทัง้ หมดได้ เ งิ น รวมกัน


เพียงสิบห้าตาลึงเท่านัน้ ...

เมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบด้วยท่าทางครุ่นคิด ซ่งฮูหยินก็
ไม่ ไ ด้ เ ร่ ง รัด ได้ แ ต่ ม องไปยัง มื อ ของอี ก ฝ่ ายที่ ว างอยู่ บ นโต๊ ะ
อย่างพินิจพิเคราะห์

ผิวขาวราวหิมะ นิ้วเรียวยาวราวต้นหอม เล็บมือแวววาว


ชุ่มชื้นเหมือนกลีบดอกไม้สีชมพู ผิวเนื้ อก็ดูน่ ุมนวลชุ่มฉ่ า ช่าง
บอบบางน่ าทะนุถนอมไปทัง้ ร่าง
4
ซ่งฮูหยินผ่านช่วงอายุยี่สิบมาสองรอบ ตัวนางเองก็มีผิว
ขาว มือทัง้ สองก็บอบบางงดงามเพราะได้รบั การดูแลรักษามา
อย่างดี แต่ หากเปรียบเที ยบกับอี กฝ่ ายแล้วก็ยงั ถือว่าห่ างไกล
กันลิบลับ หญิงผูน้ ี้ ช่างทาให้ผอู้ ื่นอดอิจฉาไม่ได้จริงๆ

่ ิ งไม่ได้ครุ่นคิดอยู่นานนั ก สุดท้ ายนางก็ตอบ


ถานหวันช
ตกลง นางจะสอนการวาดภาพเท่านัน้ ตามจริงแล้วการได้สอน
เด็กหญิงและเด็กชายเป็ นสิ่งที่ ตนชื่ นชอบ ถึงจะอยู่ในช่ วงฤดู
หนาวที่ไม่น่าจะออกจากบ้านแต่นางก็คงอยู่ในรังไหมอบอุ่นทุก
วันไม่ได้

ในเมื่อซ่ งฮูหยินมี น้ าใจถึงเพี ยงนี้ และงานที่ อีกฝ่ ายมา


เสนอให้ กไ็ ม่ใช่ เรื่องเลวร้ายแต่ อย่างใด นางจึงตัดสินใจจะรับ
ทา

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตอบตกลง ซ่งฮูหยินก็ดีใจเป็ นอย่าง


มาก ทว่ าก่ อนที่ จะลุกขึ้นแล้วขอตัวกลับ นางก็นึกอะไรได้ จึง
หยิบของจากด้านในแขนเสื้อออกมา “ได้ยินมาว่าสองวันก่อน
แม่นางได้รบั แผลจากความหนาวเย็น พอดีข้ามียาขี้ผึ้งอย่างดี
ตลับหนึ่ งจึงอยากจะให้ แม่นางรับไว้ ท่ านอย่าได้ปฏิเสธให้ คน
ต้องเจ็บปวดใจเลยนะ”

5
เรือ่ งการบาดเจ็บเป็ นแผลเพราะอากาศหนาว ถือว่ามีคน
รู้น้ อ ยมากที เ ดี ย ว และพวกนางก็ไ ม่ เ คยไปพูด ที่ ไ หนมาก่ อน
แล้วซ่งฮูหยินรูไ้ ด้อย่างไรกัน

ในใจถานหวันช ่ ิ ง นึ กสงสัย เพี ย งมองปราดเดี ยวก็เห็น


เป็ นตลับยาขี้ผงึ้ สีม่วง อะไรจะบังเอิญปานนัน้ ?

อี ก ทัง้ นางยัง รู้สึ ก ว่ า ค าพู ด ของอี ก ฝ่ ายฟั ง แล้ ว แปลก


ประหลาด แต่ ก็ไ ม่ ไ ด้ ผ ลัก ไสความหวัง ดี ข องซ่ ง ฮูห ยิ น จึ ง รับ
น้าใจนี้ เอาไว้

เมื่อเที ยบกับตลาดริมทางเดินแถวถนนเป่ ยเหมิน ตลาด


แถบถนนตงเหมินนัน้ ใหญ่กว่ากันมาก ระหว่างถนนตงเหมินไป
ทางด้านใต้ จะมีสะพานเชื่ อมอยู่ บ้านเรือนสองข้างทางจะวาง
รูปปั น้ กิเลนไว้ สองฟากประตู มี ทงั ้ โรงน้ า ชา โรงเตี๊ ยม โรงรับ
จานาแล้วยังมีร้านรองเท้า ร้านเนื้ อ ตึกที่ ทาการของข้าราชการ
และอี ก มากมาย ถื อ ว่ า มี ทุ ก อย่ า งครบครัน แต่ ล ะร้ า นจะจัด
แสดงสิ นค้ า ของตนอยู่ ด้ า นหน้ า ไม่ ว่ า จะเป็ นผ้ า แพรต่ ว น
เครื่องประดับ เครื่องประทินผิว ธูปและตะเกียง หรือแม้กระทัง่
ม้ากระดาษ ดังนัน้ บนท้องถนนในตลาดจึงมีผ้คู นคลาคลา่ เดิน
ขวักไขว่ไปมาจนตาลายไปหมด

6
่ ิ งสวมเสื้อกันหนาวตัวยาวที่ เป็ นผ้าเนื้ อ หนา
ถานหวันช
ทัง้ ที่ ก่อนออกจากบ้านลุ่ยจูอยากจะให้คุณหนูสวมเสื้อคลุมผ้า
แพรตัวยาวที่ ตนเพิ่งเย็บเสร็จ ทว่าหญิงสาวกลับปฏิเสธ แล้วใส่
ชุดที่ เด็กสาวมองแล้วขัด หูขดั ตาชุดนี้ ออกมาแทน ทาให้ ลุ่ยจู
จาต้องเอาชุดที่ตนเตรียมให้กลับไปเก็บในห้อง

ตอนนี้ ท ัง้ สองกาลัง เดิ น อยู่บ นถนนตงเหมิ น เห็น หญิง


สาวจานวนมากสวมเสื้อคลุมยาวสีสนั สดใสแตกต่างกันไป มีทงั ้
สีแดง สีฟ้าน้าทะเล สีเขียวอ่อน และสีน้าตาลแดงซึ่งทาให้นึกถึง
ฤดูใบไม้ร่วง เนื้ อผ้าที่ ใช้ตดั ชุดโดยมากจะเป็ นผ้าแพรต่วนโปร่ง
บางที่ เ หนี ยวและทน อี ก ทัง้ ยัง ใช้ ผ้ า พัน คอขนสัต ว์ฟู น่ ุ มกัน
หมด มองแล้วช่างละลานตา จนทาให้สองสาวคิดว่าพวกตนคง
ไม่ได้ออกมาเดินตลาดนานมากแล้ว จึงไม่ร้วู ่าตลาดกลางเมือง
จะคึกคักและรุง่ เรืองเพียงนี้

ลุ่ยจูเดินไปพลางบ่นไป “คุณหนูจะกังวลทาไมหากต้ อง
สวมผ้าแพรต่วนออกจากบ้าน เห็นไหมใครๆ เขาก็ใส่กนั ทัง้ นัน้
เต็มท้องถนนไปหมดเลย”

ส าหรับ เรื่องนี้ เ ด็กสาวเข้ าใจดี กว่ าคุณ หนู ข องตนมาก


บางคนในตลาดจะมองผู้อื่น อย่างเหยี ยดๆ ไม่รู้ว่ากว่ าจะซื้ อ
ของเสร็จพวกตนจะถูกมองประเมิน ไปกี่ ค รัง้ แล้ ว ความรู้สึ ก
7
เช่ นนั น้ ช่ างไม่น่าอภิรมย์เอาเสี ยเลย นางกลัวว่าคุณหนูจะทน
ต่อสายตาเหล่านี้ ไม่ได้ จึงได้เตรียมชุดที่ เหมาะสมกับการออก
จากบ้านให้

ลุ่ยจูหนั มามองชุดที่ คุณหนูสวมใส่ ออกจากบ้านอี กครัง้


แล้วก็ต้องถอนใจเฮื อกใหญ่ วันนี้ ที่พวกนางออกมาข้างนอก
เพราะตัง้ ใจจะหาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กบั คุณหนู เพราะเสื้อผ้าที่
อี กฝ่ ายมี นั น้ ไม่อยู่ ในสภาพที่ จะสามารถใส่ ไปสอนหนั งสื อที่
สานักศึกษาได้

ถานหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูเดินดูสินค้าในตลาด โชคดีที่อากาศ


ค่อนข้างดีไม่ค่อยหนาวเท่าไร ทัง้ สองจึงเดินได้นานหน่ อย

ถนนเส้ นนี้ มีร้านค้าทัง้ สองข้างทาง เต็มไปด้วยผ้า แพร


พ รรณมากม าย แ ต่ ละร้านจะมี เนื้ อ ผ้า หลากหลายให้ เ ลื อ ก
และสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ตดั เป็ นชุดตามแบบที่ ต้องการ
ได้ ซึ่ งผ้าของยุคสมัยนี้ จะเป็ นงานทามือออกมาที ละชิ้น ไม่ใช่
งานล็อตใหญ่ตามแบบในปัจจุบนั

แม้ลุ่ยจูจะตัดเย็บเสื้อผ้าเป็ น แต่ฝีมือการเย็บปั กถักร้อย


ค่อนข้างธรรมดา อี กทัง้ ไม่รวดเร็วชาชานาญ หากช่ างตัดเสื้อ
หญิง ตามร้านใช้ เ วลาตัด เย็บ เสื้ อผ้า สามวัน นางต้ องใช้ เ วลา
8
แปดถึงสิบวันขึน้ ไปจึงจะเสร็จ และถานหวันช ่ ิ งก็ไม่ค่อยจะยอม
สวมชุดที่ นางตัดสักเท่าไร ท่าให้ลุ่ยจูไม่มีกะจิตกะใจจะจับเข็ม
กับด้ายอีกแล้ว

หลังจากทัง้ สองเดินดูในตลาดได้สกั พัก ก็ตดั สินว่าจะหา


ซื้ อเป็ นเสื้ อผ้า สาเร็จรูป ตอนที่ อยู่เ มืองหลวงร้านแบบนี้ จะมี
ค่อนข้างมาก แต่ละชุดจะถูกวางเรียงรายไว้บนโต๊ะเป็ นอย่างดี
เพื่ อ ให้ ค นเลื อ ก หากผู้ใ ดเลื อ กแล้ ว ลองสวมใส่ ไ ด้ พ อดี ก็ซื้ อ
กลับไป แต่ หากไม่พอดี กจ็ ะมี ช่างตัดเย็บเสื้อผ้ามาวัดตัวแล้ว
แก้ไขให้ ทาให้การเลือกซื้อเป็ นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว

ทว่าร้านเสื้อผ้าสาเร็จรูปอย่างนี้ เมืองเว่ยอันกลับมีน้อย
มาก หลังจากเดินทัวตลาดได้
่ รอบหนึ่ งก็เจอร้านที่ อยู่ในตรอก
แคบลับ ตาคนอยู่ ร้ า นเดี ย ว ในร้ า นมี ท ัง้ เสื้ อ ผ้ า ชุ ด ใหม่ แ ละ
เสื้อผ้าที่ผา่ นการใช้แล้ว แบ่งฟากขวาซ้ายอย่างชัดเจน อีกทัง้ ยัง
จัดเก็บได้อย่างสะอาดสะอ้าน

ร้านประเภทนี้ ถึงแม้จะบอกว่าเป็ นร้านเสื้อผ้าสาเร็จรูป


แต่ ความจริงแล้วเป็ นร้านขายเสื้อผ้าเก่ ามากกว่า ข้างในเป็ น
โรงรับจานาเสื้อผ้าซึ่งส่วนใหญ่จะรับมาจากครอบครัวรา่ รวยที่
คัดเสื้อผ้าเก่าออกมาขาย รวมถึงชาวนาที่ ทอผ้าเนื้ อหยาบก็จะ
นามาขายต่อในราคาถูก
9
เมื่อลุ่ยจูเดินเข้าไปแล้วเห็นเสื้อผ้าเก่าที่ คนอื่นเคยสวม
มาก่อนก็อยากจะลากคุณหนูออกไปเสี ยเดี๋ ยวนัน้ นางกระซิบ
เบาๆ ว่า “คุณหนู พวกเราไม่ควรซื้อของพวกนี้ นะเจ้าคะ ใครดู
ก็ร้วู ่าเสื้อผ้าพวกนี้ เคยถูกสวมใส่มาก่อน และหากเป็ นชุดที่ เอา
มาจากคนตาย นัน่ จะไม่ยิ่งเป็ นเคราะห์ร้ายหรือเจ้าคะ พวกเรา
ไปเลือกเนื้ อผ้าที่ ดีๆ สักหน่ อยก็ได้ ข้าจะอดหลับอดนอนทาให้
คุณหนูเองเจ้าค่ะ”

่ ิ งที่กาลังมองอยู่กร็ ้สู ึกว่าเสื้อผ้าเก่าเหล่านี้ ดไู ม่


ถานหวันช
เหมาะสมและไม่เรียบร้อยพอที่จะใส่ไปสอนหนังสือ จึงหันหลัง
กลับเตรียมจะเดินออกไป

จังหวะนั น้ เองเถ้าแก่เนี้ ยในชุดเสื้อกันหนาวสี เขียวลาย


ดอก อายุราวสี่ สิบกว่าก็เดินออกมาจากข้างใน เห็นหญิงสาว
สองคนก็ทกั ทายต้อนรับด้วยความยินดี “แม่นางทัง้ สองมาซื้อ
เสื้อผ้าหรือ? ซื้อให้ใครล่ะ? เข้ามาเลือกข้างในได้เลย ร้านของ
เรามี ทงั ้ ชุด ผู้ชายและชุด ผู้หญิ ง ไม่ว่ าจะเป็ นคนอ้ ว นคนผอม
เด็กเล็กหรือคนแก่ เสื้อผ้าแบบใดเราล้วนมีทงั ้ หมด อีกทัง้ ราคา
ยังยุติธรรม คุ้มค่ากว่าซื้อผ้าใหม่ไปตัดเย็บเองเสียอีกนะ”

ในเมื่อมีคนยินดีออกมาต้อนรับ ถานหวันช ่ ิ งจึงถามไปว่า


“ไม่รวู้ ่าในร้านมีเสื้อผ้าสาเร็จรูปที่ตดั เย็บขึน้ มาใหม่หรือไม่?”
10
พอเถ้ า แก่ เ นี้ ยเดิ น เข้ า มาใกล้ ก็ม องหญิ ง สาวทัง้ สอง
ปราดเดียวจากศีรษะจรดเท้า โดยมองถานหวันช ่ ิ งนานกว่าสัก
หน่ อย จากนัน้ ก็ตอบว่า “ย่อมมีอยู่แล้ว ข้าเป็ นช่างตัดเย็บ รับ
งานเย็บปักถักร้อยทุกวัน”

กล่าวจบก็หนั กลับเข้าไปหยิบตะกร้าสานใบหนึ่ งออกมา


ในนั น้ บรรจุเสื้อผ้าอยู่เต็ม “แม่นางอาจจะสนใจเสื้อผ้าเหล่านี้
ร้านรับจานาได้นาผ้ามาให้ข้าตัดเย็บ บางชุดทาจากผ้าขนสัตว์
มีเสื้อผ้าของทัง้ ผู้หญิงและผู้ชายแต่กไ็ ม่มากนัก เจ้าลองดูสิว่ามี
ที่ตนเองสวมใส่ได้บา้ งหรือไม่?”

ถานหวันช ่ ิ งกับลุ่ย จูสบตากัน แวบหนึ่ งแต่ ไม่ได้ ปฏิเ สธ


ก้ ม หน้ าก้ ม ตาเลื อ กเสื้ อ ผ้ า ในตะกร้ า ขึ้ น มาดู ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น
เสื้อผ้าผูช้ ายที่พบั ไว้อย่างดี ทว่าเสื้อผ้าผูห้ ญิงมีน้อยมาก

เถ้าแก่ เนี้ ยคนนั น้ อธิบายว่า “แม่นางอย่ าได้ ใส่ ใจ ของ


พวกนี้ ข้าทายามว่าง พวกเจ้าแค่เลือกขนาดให้เหมาะกับตัวเอง
ก็พ อ เพราะหากขายไม่ อ อก ปกติ แ ล้ ว พวกข้ า ก็จ ะเก็บ ไว้ ใ ส่
กันเอง” กล่าวจบก็หยิบกระโปรงผู้หญิงขึ้นมาหนึ่ งตัว “เจ้าดูสิ
ใช้ผา้ ขนสัตว์เนื้ อหนาตัดเย็บอย่างดี เหมาะสาหรับสวมใส่ช่วงนี้
ใส่แล้วอุ่นดีนะ”

11
กระโปรงที่ เ จ้ า ของร้ า นพยายามน าเสนอเป็ นแบบ
่ ลุ่ยจูมองแค่แวบเดียวก็ไม่อยากจะมองซา้ นาง
ธรรมดาทัวไป
แอบดึงแขนเสื้อของคุณหนูไม่หยุด

ถานหวันช ่ ิ งยังคงพิจารณาชุดตรงหน้ า หากเที ยบเรื่อง


การตัด เย็บ แล้ ว เสื้ อ ผ้า ผู้ช ายจะดูดี ก ว่ า เสื้ อ ผ้ า ผู้ห ญิ ง อยู่ ม าก
รูปแบบของแต่ละชุดก็แตกต่างกัน เนื้ อผ้าเก่าหรือว่าใหม่เพียง
ใช้มือลูบก็จะรูส้ ึกได้

นางหยิบเสื้อและกางเกงสาหรับใส่ ในฤดูหนาวออกมา
ผ้าชัน้ นอกกับชัน้ ในถูกเย็บอย่างดี พอลูบแล้วผิวเรียบลื่นนุ่มมือ
หญิงสาวจึงพิจารณาอย่างละเอียด ตัวเสื้อบุด้วยปุยฝ้ ายไว้ด้าน
ใน ส่ ว นกางเกงเป็ นแบบเย็บ สองชัน้ โดยใช้ ก ามะหยี่ กุ๊น ตรง
ปลายขากางเกง แต่งเพิ่มด้วยขนสัตว์น่ ุมนิ่ม พอลองจับดูแล้ว
รูส้ ึกอุ่นมือ

ถานหวันช่ ิ งครุ่นคิดสักพักก็ตดั สินใจเลื อกชุดผู้ชายมา


สองชุดแล้วสอบถามราคา เถ้าแก่เนี้ ยมีท่าทางเสียดายเล็กน้ อย
นางเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "แม่นางมีสายตาดีมาก สองชุดนี้ ข้า
ใช้ แรงและใช้ เวลาในการทานานมาก เดิมที ข้าคิดจะส่ งให้ ลูก
ชายที่ไปเรียนยังต่างถิ่น แต่จนใจที่ระยะทางห่างกันไกลมาก จึง
ยังหาคนฝากไปให้เขาไม่ได้
12
ผ้าขนสัตว์เหล่านี้ ข้ าตัง้ ใจเลื อกมาอย่ างดี ทัง้ หนาและ
ทนทานสวมใส่สบายจริงๆ หากแม่นางต้องการแล้วละก็ ราคา
งานช่างฝี มือแน่ นอนว่าต้องสูงกว่าผ้าทัวไป..."
่ เถ้าแก่เนี้ ยกล่าว
จากนัน้ ก็บอกราคา

ถานหวัน่ ชิ งไม่ ไ ด้ ต่ อ รองราคาเลยสัก ค าก็ส่ ง เสื้ อ ผ้ า


เหล่านั น้ ให้ อีกฝ่ ายไปห่อแล้ว ส่วนลุ่ยจูที่อยู่ด้านข้างก็มีหน้ าที่
จ่ายเงินให้โดยไม่พดู อะไรสักคา

13
41 ของบำรุงชัน้ เลิศ

หลังจำกออกมำจำกร้ำน

ลุ่ยจูกม็ องคุณหนูของตนด้วยสำยตำประหลำดใจระคน
ตกใจ อดไม่ได้ที่จะถำม “คุณหนูเจ้ำคะ พวกเรำซื้อเสื้อผ้ำผูช้ ำย
มำทำอะไร ถ้ำหำกจะไปสอนที่ สำนักศึกษำ จะ...จะสวมอย่ำงนี้
ไปไม่ได้นะเจ้ำคะ” ผู้หญิงสวมเสื้อผู้ชำย นี่ ...นี่ ...แม้แต่คิดนำงก็
ยังไม่กล้ำเลย

“ใส่ อ ย่ ำ งนี้ สะดวกกว่ ำ แต่ ดูแ ล้ ว ขนำดยัง ไม่ พ อดี ส ัก


เท่ำไร กลับถึงบ้ำนแล้วเจ้ำก็ช่วยแก้ไขให้ด้วย”

ผู้ชำยไม่สำมำรถสวมเสื้อผ้ำผู้หญิงได้ แต่ผ้หู ญิงสำมำรถ


สวมเสื้อผู้ชำยได้ และหำกออกไปข้ำงนอกจะยิ่งสะดวกมำก นี่
คือควำมคิดของถำนหวันช ่ ิง

ลุ่ยจูจำต้องตอบรับ พอนึ กถึงภำพของคุณหนู ยำมที่ สวม


ใส่ เสื้อผู้ชำยแล้วก็ต้องถอนใจ คิดเพี ยงว่ำเมื่อกลับไปถึงบ้ำน
แล้ ว จะแก้ ไ ขอย่ ำ งไรให้ ดูดี โดยเฉพำะสี ส ัน ของเสื้ อ ผ้ ำ ที่ ชุ ด
ผูช้ ำยจะอ่อนกว่ำชุดของผูห้ ญิง

1
เนื่ องจำกตำแหน่ งที่ตงั ้ ของร้ำนเสื้อผ้ำสำเร็จรูปค่อนข้ำง
เปลี่ยว พอหญิงสำวทัง้ สองก้ำวออกมำแล้วเลี้ยวเข้ำตรอกเล็กๆ
ก็ปะทะเข้ำกับคนที่ มีกลิ่นสุรำคละคลุ้งไปทัวร่ ่ ำง ชำยหนุ่มผู้นี้ดู
ท่ ำทำงเลือดร้อน มี บ่ำวรับใช้ คอยติดตำมประคับประคองอยู่
ข้ำงๆ ไม่ห่ำง แค่มองปรำดเดี ยวก็ร้วู ่ำเมำมำก ทันที ที่อีกฝ่ ำย
มองเห็น หญิง สำวเดิ น มำก็ต ำเบิ กโพลงแล้ ว สำวเท้ ำพุ่ง มำหำ
มองประเมินหญิงงำมตรงหน้ ำแล้วเอ่ยวำจำหยอกล้ออย่ำงคึก
คะนอง

“โอ้ โ ฮ เป็ นแม่ ห ญิ ง บ้ำ นไหนกัน นะ เกิ ด มำช่ ำ งงดงำม


เพี ยงนี้ ข้ำเห็นแล้วหลงรักเลย มำ...มำดื่มสุรำเป็ นเพื่อนสำมี
หน่ อย...” กล่ำวจบก็ยื่นมือมำลูบมือนุ่มนิ่มของสำวงำม

ชำยหนุ่มขี้เมำผู้นี้เพิ่งเดินออกมำจำกหอนำงโลมโดยรำ่
สุรำมำเต็มที่ เดิมทีเขำคิดจะกลับทำงตรอกนี้ เพรำะมีคนสัญจร
น้ อย ไม่คิดเลยว่ำจะโชคดีได้มำเจอหญิงงำม เมื่อครู่ตอนที่ อยู่
ในหอนำงโลมถึ ง จะมี ห ญิ ง ให้ โ อบกอดทัง้ ซ้ ำ ยขวำ แต่ ทุ ก คน
กลับดูธรรมดำไปเลยหำกเทียบกับนำงผูน้ ี้

ฝ่ ำยเด็กรับใช้ข้ำงกำยก็มกั จะเข้ำหอนำงโลมกับ เจ้ำนำย


เป็ นประจำ พืน้ นิสัยก็หยำบช้ำไม่น้อย เวลำนี้ จึงช่วยเจ้ำนำยปิด

2
ทำงไม่ให้สองสำวเดินผ่ำน อำศัยว่ำตรอกนี้ แทบไม่มีคนเดินไป
่ ำหญิงสำวตำมอำเภอใจ
มำเอ่ยวำจำยัวเย้

่ ิ งเห็นสถำนกำรณ์ กร็ ้วู ่ำตัวเองโชคไม่ดีแล้ว จึง


ถำนหวันช
ถอยหลังกรูดไปหลำยก้ำว ทว่ำชำยทัง้ สองกลับรุกเข้ำประชิด
ตัวไม่หยุด ส่วนคนอื่นๆ ที่ เข้ำมำในตรอกเมื่อเห็นเหตุกำรณ์ ก็
พำกันเดินเลี่ยงไป พอหญิงสำวมองไปรอบๆ ก็เห็นว่ำไม่มีใครที่
จะขอควำมช่วยเหลือได้จึงจับมือลุ่ยจู พยำยำมเดินอ้อมชำยทัง้
สองเพื่อจะรีบออกจำกตรอกให้เร็วที่สดุ

ทว่ำชำยผู้นัน้ กับบ่ำวกลับขยับตำม ดักซ้ ำยดักขวำแล้ว


ยื่นแขนกันพวกนำงไว้

“น้ องสำวคนสวยจะรีบไปไหน”

่ ิ งเห็นเหตุกำรณ์ เริ่มยำ่ แย่ลงทุกที กด็ ึงมือลุ่ยจู


ถำนหวันช
หันหลังกลับเพื่อเดินย้อนไปทำงเดิม ชำยทัง้ สองรีบเดินตำมมำ
ติดๆ มองตำมหลังหญิง

สำวด้วยสำยตำจำบจ้วง ปำกก็พดู จำแทะโลมไม่หยุด ฟั ง


แล้วชวนให้สะอิดสะเอียน โดยเฉพำะสำยตำของเด็กรับใช้

3
พวกนำงเดินหนี จนมำถึงหน้ ำประตูร้ำนน้ ำชำที่ ต อนนี้
ปิดร้ำนไปแล้ว ชำยที่เป็ นเจ้ำนำยตำมมำจนทันก็ยื่นมือออกมำ
หมำยจะดึงหญิงงำมเข้ำไปหอมแก้มสักฟอดใหญ่ ถำนหวันช ่ ิง
เห็นอีกฝ่ ำยยื่นมือมำทำงตนก็ตกใจ รีบยกห่อผ้ำขึน้ มำบังไว้

“ตุ้บ!”

คุณชำยอันธพำลถูกถีบจนล้มลงกระแทกกับพื้น โดยไม่
ทันได้ตงั ้ ตัว

ชำยร่ำงผอมสีหน้ ำไร้อำรมณ์คนหนึ่ งหันไปมองหญิงสำว


ที่ ยืนข้ำงกำแพงด้วยสี หน้ ำซี ดเซี ยว จำกนัน้ ก็ค้อมตัวประสำน
มือคำรวะแล้วเอ่ ยว่ำ “สถำนที่ เช่ นนี้ ไม่เหมำะสมที่ จะอยู่นำน
เชิญแม่นำงทัง้ สองออกจำกที่นี่โดยเร็วเถิด”

่ ิ งจำคนผู้นี้ได้ เขำคื อคนที่ เจอกันหน้ ำ ประตู


ถำนหวันช
เมืองในตอนนัน้ เป็ นคนที่กนั ้ ไม่ให้พวกนำงออกจำกเมือง เมื่อรู้
ว่ำผู้มำช่วยเหลือเป็ นลูกน้ องของเซี่ ยเฉิงจู่ จิตใจที่ ตื่นตระหนก
ในตอนแรกก็สงบลง สองสำวพำกันออกจำกตรอกอย่ำงว่องไว

บ่ำวรับใช้เห็นเจ้ำนำยของตนถูกถีบจนล้มไปกองกับพื้น
ก็ตกใจ หันไปชี้ หน้ ำคนที่ มำใหม่ “เจ้ำ...เจ้ ำน่ ำจะไม่ รู้สิ น ะว่ ำ

4
คุณชำยของข้ำเป็ นใคร? นี่ คุณชำยเฉำ--บุตรของท่ ำนเฉำจือ
โจว เจ้ำหำเรือ่ งใส่ตวั ซะแล้ว...”

จัว่ เวิ่ น ตวัด เท้ ำ ซ้ ำ ยไปปิ ดปำกเด็ ก รับ ใช้ ใ ห้ ห ยุ ด พู ด


จำกนัน้ ก็ลำกตัวคุณชำยขี้เมำที่ตกใจกลัวจนหน้ ำซีดนอนแผ่อยู่
ที่พนื้ ขึน้ มำ

“เจ้ำกล้ำทำข้ำรึ! เจ้ำมันหมำตำบอด ข้ำคือเฉำจิ่น บิดำ


ข้ำคือผู้ที่ทุกคนยำเกรง--เฉำเหวินจง...” คุณชำยเฉำยังพูดไม่
ทันจบก็ต้องส่งเสียงร้องโหยหวนอย่ำงน่ ำเวทนำขึน้ มำเสียก่อน

่ ิ่ นเตะต่อยอีกฝ่ ำยอย่ำงไม่มีควำมเกรงใจแม้แต่น้อย
จัวเว
เขำเพียงชกท้องคุณชำยจอมโวไปสองครัง้ ถีบไปอีกหนึ่ งที เจ้ำ
หนุ่ มนั น่ ก็ตวั อ่ อนลงไปนอนกลิ้ง กับพื้น แล้ว เฉำจือโจวงัน้ รึ ?
เจ้ำคนที่ ศีรษะมันเยิ้มรู้แต่ ประจบประแจงละโมบโลภมำกคน
นัน้ น่ ะหรือ มันเคยอยู่ในสำยตำใต้เท้ำเสียที่ไหน

่ ิ่ นปั ดฝุ่ นตรงชำยแขนเสื้อ เดินไปตบหัวอี กฝ่ ำยคน


จัวเว
ละที “นั บว่ำเป็ นควำมโชคดี ของพวกเจ้ำที่ เจอข้ำ หำกเป็ นใต้
เท้ำเซี่ยอยู่ที่นี่ในวันนี้ พวกเจ้ำคงไม่เจอแค่มือกับเท้ำ แต่อำจจะ
เจอตัวเองถูกแขวนคอในสภำพล่อนจ้อนหน้ ำประตูเมืองให้ทุก
คนได้ชื่นชมเป็ นขวัญตำ!” กล่ำวมำถึงตรงนี้ เขำก็ยืดตัวตรง
5
“เจ้ำหนู รู้จกั รักษำเนื้ อรักษำตัวหน่ อย หำกกล้ำแตะคน
ของใต้เท้ำอีก ชีวิตน้ อยๆ ของเจ้ำคงยำกจะรักษำไว้ ถึงแม้บิดำ
เจ้ำจะเป็ นขุนนำงรำชสำนักก็เถอะ”

สุดท้ำยเขำก็เหยียบเป้ ำกำงเกงของอีกฝ่ ำยด้วยสี หน้ ำไร้


อำรมณ์ “หรือเจ้ำอยำกจะให้คนเย้ยหยันทุกวันว่ำเป็ นคนไร้ลูก
ไร้หลำนและไร้คนรุ่นหลังให้สืบสกุล...” พูดจบเขำก็ก้ำวยำ่ ไป
บนขำคุณชำยเฉำแล้ว เดินผ่ำนไป เพียงไม่กี่ก้ำวก็หำยไปจำก
ตรอกแล้ว

คุณชำยเฉำถูกซ้อมจนเลือดกบปำก ใบหน้ ำบวมเหมือน


หัวหมู ร้องเสียงโหยหวนอย่ำงน่ ำเวทนำ ยำมนี้ เขำรู้สึกปวดร้ำว
ตรงกล่องดวงใจเลยไปถึงหน้ ำขำ ริมฝี ปำกสันระร
่ ิ กด้วยควำม
กลัว

ใต้เท้ำเซี่ยงัน้ หรือ?

แม่ ท ั พ หั ว เมื อ ง--ผู้ป กครองเมื อ งเว่ ย อัน ที่ ฆ่ ำ คนไม่


กะพริบตำคนนัน้ น่ ะหรือ? คนที่ ทำให้บิดำของเขำโกรธหน้ ำดำ
หน้ ำแดงแต่ไม่รจู้ ะทำอย่ำงไร...เซี่ยเฉิงจู่คนนัน้ !

6
บ้ำไปแล้ว! เขำแค่ล้อเล่นกับหญิงสำวบนท้ องถนนแล้ว
เหตุใดจึงไปก่อกวนเจ้ำปี ศำจตนนัน้ ด้วยเล่ำ!

พอนึ กถึ ง สี หน้ ำท่ ำทำงตอนที่ อี กฝ่ ำยบอกว่ ำ ไม่ มี


ลูกหลำนและคนรุ่นหลังให้ สืบทำยำทเมื่อครู่ ใบหน้ ำคุณชำย
เฉำก็เผยให้เห็นควำมเข็ดขยำดและควำมหวำดกลัวสุดขีด เขำ
มักจะไปที่ หอนำงโลมแล้วพูดจำเย้ยหยันเซี่ ยเฉิงจู่เสี ยงดังลับ
หลังเสมอ ก่อนหน้ ำนี้ กย็ งั พูดว่ำเซี่ยเฉิงจู่อำยุขนำดนี้ ยงั หำเมีย
แต่ งไม่ได้ เพรำะเลี้ยงผู้หญิงไม่รอด ยืนด้ วยลำแข้ งตัวเองไม่
ไหว ไม่เหมำะจะเป็ นชำยชำตรี แล้วยังฉวยโอกำสเหยียดหยัน
สองพี่ น้องสกุลเซี่ ยที่ คนหนึ่ งเป็ นขันที ส่ วนอี กคนปั ญญำอ่ อน
ช่ ำงเข้ำกันดี เหลือเกิน จำกนั น้ ก็หวั เรำะขบขันเสี ยงดังลันหอ ่
เรื่องทัง้ หมดนี้ ไปถึงหูอีกฝ่ ำยรวดเร็วเพียงนี้ เชียวหรือ? ครัน้ พอ
นึ กถึงหญิงงดงำมสูงส่ งประดุจหยกลำ้ ค่ ำนำงนั น้ ...หรือว่ ำ จะ
เป็ นเพรำะนำง? หรือว่ำนำงจะเป็ น...กับเซี่ยเฉิงจู่

หำกเป็ นจริง ขะ...ข้ำก็ซวยแล้วสิ ล้อเล่นกับผูห้ ญิงของใต้


เท้ำเซี่ย ยะ...แย่แน่ ...

ุ ชำยเฉำถึงกับขวัญกระเจิง ตกใจจนตำเหลือก
ตอนนี้ คณ
โปนก่อนจะเป็ นลมล้มพับลงไป

7
เมื่ อ เดิ น ออกมำพ้ น จำกตรอก หญิ ง สำวทัง้ สองก็ห ัน
กลับไปมองอีกครัง้ พอไม่เห็นใครไล่ตำมมำ จังหวะกำรก้ำวเดิน
จึงค่อยช้ ำลง แม้จะรู้ว่ำคนผู้นัน้ คงไม่ไล่ตำมมำอี กเป็ นแน่ แต่
พวกนำงก็ไม่มีอำรมณ์จะเดินเล่นต่อแล้วจึงรีบกลับบ้ำน

ทันที ที่ลุ่ยจูปิดประตูบ้ำนเรียบร้อย นำงก็เป่ ำปำกโล่งอก


หนึ่ งที จำกนั น้ ก็เดินเข้ำไปในครัวจัดขนมเรียงใส่ จำนไปไว้ใน
ห้องนอนเพื่อให้คณ ุ หนูหยิบกินรองท้องเวลำหิว

ตอนที่ นำงเดินเข้ำไป คุณหนู กถ็ อดเสื้อคลุมแล้ว ล้มตัว


ลงนอนบนเตี ยงแล้ว คุณหนู ช่ำงจิตใจเข้มแข็งจริงๆ ทัง้ ที่ เจอ
เรือ่ งเช่นนี้ ยงั กินอิ่มนอนหลับตำมปกติ

ลุ่ยจูไม่รจู้ ะเอ่ยอย่ำงไร ได้แต่นำชุดที่อยู่ในห่อผ้ำออกมำ

เวลำนี้ เด็กสำวรู้สึกว่ำต้ องเป็ นเพรำะเสื้อผ้ำผู้ชำยแน่ ที่


ทำให้เกิดเรื่องร้ำย จึงรีบคลี่เสื้อออกดูแล้ววำงแผนแก้ไขขนำด
นำงก้มหน้ ำก้มตำทำงำนอย่ำงตัง้ ใจ

แสงแดดหลัง เที่ ย งค่ อ นข้ ำ งอบอุ่น ช่ ว งนี้ ร่ ำ งกำยถำน


หวันช ่ ิ งไม่ได้พกั เท่ำที่ควรจึงรู้สึกเหนื่ อยล้ำอ่อนแรง กอปรกับมี
เรือ่ งให้ครุน่ คิดมำกมำยทำให้นอนหลับไม่สนิท

8
ถ่ำนไฟมอดหรือยังนะ? เตี ยงยังอุ่นไหม นำงรู้สึกเย็น...
เย็นนิดหน่ อย สิ่งที่ หญิงสำวกลัวที่ สุดคือควำมหนำวเหน็ บ ใน
ควำมคิดที่ รำงเลือน นำงได้ยินเสียงลุ่ยจูแว่วมำ อีกฝ่ ำยเพิ่มไฟ
หรือยัง...

่ ิ งพยำยำมจะเปิดเปลือกตำแต่หนังตำ
ถำนหวันช

กลับหนักอึ้ง ทำไมจึงลืมตำไม่ขึน้ ทัง้ ยังหลับไม่สนิทด้วย


ท่ ำ มกลำงควำมรู้ สึ ก ที่ พ ร่ ำ เลื อ นก็เ หมื อ นมี ค นเดิ นเข้ ำ มำ
จังหวะก้ำวเท้ำทัง้ คุ้นเคยและแปลกหู คนผู้นัน้ เดินมำหยุดที่ ริม
เตียง ได้ยินเสียงลุ่ยจูแว่วมำอีกครัง้

“หลำยวันมำนี้ ร่ำงกำยของคุณหนูเหนื่ อยล้ำ ดึกดื่นเที่ยง


คืนยังหลับไม่สนิท ก่อนหน้ ำนี้ กป็ ่ วยหนัก จึงอ่อนเพลียเมื่อยล้ำ
มำตลอด ใต้ตำก็คลำ้ ไปหมดแล้วเจ้ำค่ะ...”

ขณะที่เสียงพูดพยำยำมแทรกเข้ำมำในประสำทรับรู้ นำง
ก็สมั ผัสได้ถึงมือที่ ลูบไล้แก้มบนแก้มตนอย่ำงแผ่วเบำ รำวกับ
ว่ำเป็ นขนนกที่ น่ ุมสบำยอย่ำงยิ่งจนนำงรู้สึกอบอุ่น ไม่ร้วู ่ำเวลำ
ผ่ำนไปนำนเท่ำไร สุดท้ำยจิตใจนำงก็ค่อยๆ สงบลง ไม่รวู้ ่ำหลับ
ลึกไปตัง้ แต่ตอนไหน

9
พอรู้สึกว่ำหญิงสำวนอนหลับสนิทแล้ว มือใหญ่กถ็ กู ชัก
กลับ จำกนัน้ เจ้ำของมือก็เดินออกไปอย่ำงเงียบเชียบ

ถำนหวันช ่ ิ งสะลึมสะลือตื่นขึน้ มำจำกควำมฝัน รำวกับได้


กลิ่นหอมกรุ่นเข้มข้นเป็ นพิเศษ ในห้องที่ ดสู ลัวรำง นำงค่อยๆ
ลุกขึน้ มำนัง่ แล้ว

มองไปนอกหน้ ำต่ ำง ตอนนี้ ท้องฟ้ ำด้ำนนอกมืดลงแล้ว


เหมือนจะมีหิมะตกปรอยๆ

นึ กไม่ถึงเลยว่ำจะได้นอนช่ วงบ่ำยจนเต็มอิ่ม หญิงสำว


กวำดตำมองไปโดยรอบ เห็นเสื้อผ้ำที่ เย็บค้ำงไว้วำงอยู่ไม่ไกลก็
ส่งเสี ยงเรียกลุ่ยจู ทว่ำไม่มีเสี ยงตอบกลับ เด็กสำวไม่ได้อยู่ใน
ห้องแล้วหรือ? รึว่ำจะอยู่ในห้องครัว

่ ิ งตื่นขึน้ มำในสภำพเหงื่อชื้นไปทัง้ ร่ำง แสดงว่ำ


ถำนหวันช
ถ่ำนไฟยังติดดี ทันใดนัน้ เองนำงก็ได้กลิ่นหอมลอยมำตำมลม
ในครัวทำอะไร ทำไมจึงหอมขนำดนี้ ?

มัน เป็ นกลิ่ น หอมของน้ ำ นม ปะปนด้ ว ยกลิ่ น หอมของ


เนื้ อ ลุ่ยจูกำลังทำน้ ำแกงข้นหรืออย่ำงไร? แม้จะชอบกินเนื้ อ
แต่ นำงก็กินได้ ไม่มำก ทว่ำกลิ่นเนื้ อที่ หอมถึงเพี ยงนี้ ไม่น่ ำจะ

10
ลอยออกมำจำกครัวพวกตนได้ ยิ่งกลิ่นเข้มข้นระดับนี้ ต้ องใช้
เวลำทำนำนเท่ำไร? แล้วกลิ่นหอมของน้ำนมนี่ มำจำกไหน?

หญิงสำวกำลังครุ่นคิดก็ได้ยินเสียงดังมำจำกลำนบ้ำนที่
ทำให้ตื่นเต็มตำในที่สดุ

“แบ๊ะๆ”

เมื่ อ ครู่คื อ อะไร? เสี ย งแพะงัน้ รึ ? นำงชะงัก ไปครู่ห นึ่ ง


แน่ ใจว่ำตนไม่ได้ฟังผิดจึงเลิกผ้ำห่มออก ลุกไปนัง่ ข้ำงหน้ ำต่ำง
จำกนัน้ ก็เปิดหน้ ำต่ำงออกแล้วทอดสำยตำมองไปยังด้ำนนอก

เมื่อมองไปตำมเสียงก็เห็นว่ำตรงลำนบ้ำนใกล้กบั กำแพง
มี แ พะสองตัว ก ำลัง นอนบนหญ้ ำ แห้ ง หนำ ตัว หนึ่ งขนสี ข ำว
โพลน อีกตัวขนสีม่วง...

่ ิ งเพ่งมองอยู่นำนเพื่อให้แน่ ใจว่ำตำ
ขนสีม่วง! ถำนหวันช
ไม่ฝำด

ขณะที่ หญิงสำวยังครุ่นคิดอย่ำงสงสัยก็ได้ยินฝี เท้ ำเดิน


ออกมำจำกในครัว เป็ นย่ ำงก้ ำวที่ หนั กแน่ น บ่ง บอกถึ ง ควำม

11
สุขุมเยื อกเย็น และมี พ ลัง นั น่ ไม่ใช่ ลุ่ย จูแน่ น อน ในบ้ำนมี ค น
นอกด้วยหรือ?

่ ิ ง เกิ ด ควำมหวำดกลัว ขึ้น ในใจ นำงรี บ ผลัก


ถำนหวันช
หน้ ำต่ ำงออกกว้ำงโดยไม่ทนั คิดแล้วชะเง้อมองไปยังห้ องครัว
เพียงกวำดตำมองรอบเดียวก็ปิดหน้ ำต่ำงลง

ทำไมถึงเป็ นเขำ?

นำงนิ่ งงัน ไปครู่ห นึ่ ง ก่ อ นจะขยับ ไปจุ ด เที ย นบนโต๊ ะ


จังหวะนัน้ เองนำงก็ได้ยินเสียงฝี เท้ำแว่วเข้ำมำ

ผ้ำม่ำนถูกเปิดออก เป็ นลุ่ยจูที่ยกตะกร้ำอำหำรเข้ำมำใน


ห้อง

ลุ่ ย จู เ ห็น เจ้ ำ นำยตื่ น แล้ ว ก็รี บ เอ่ ย “คุ ณ หนู ท่ ำ นนอน
ตลอดช่วงบ่ำยเลยเจ้ำค่ะ”

พูดจบพลำงวำงตะกร้ำอำหำรลงบนโต๊ะ ถำนหวันช ่ ิ งมอง


เลยไปทำงด้ำนหลังของนำง “มีคนมำหรือ? ทำไมไม่เรียกข้ำ?”

“ใต้ เท้ ำเซี่ ยน่ ะเจ้ำค่ ะ หลังจำกคุณหนู ล้มตัวลงนอนไม่


นำน เขำก็เข้ำมำ พอเห็นคุณหนูนอนหลับลึกก็ไม่ให้ข้ำปลุกเจ้ำ
12
ค่ะ” นำงรีบจัดกำรกับผมเผ้ำที่ย่งุ เหยิงเล็กน้ อยของถำนหวันช ่ ิง
แล้วหันกลับไปมองด้ำนนอก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบำ “ครัง้ ก่อนใต้
เท้ ำ เซี่ ย เพิ่ ง ทะเลำะกับ คุ ณ หนู แ ล้ ว กระแทกประตู อ อกจำก
บ้ำนไป ข้ำก็เลยบอกเขำว่ำคุณหนูไม่ค่อยสบำย อำกำรป่ วยแต่
เดิมก็เป็ นโรคเรือ้ รังจึงต้องกำรพักผ่อน ทว่ำข้ำพูดไม่ทนั จบเขำ
ก็เดินออกไปแล้ว หลังจำกนัน้ ไม่นำนเขำก็กลับเข้ำมำ...”

่ ิ งเริ่มเข้ำใจอะไรบำงอย่ำง “แพะที่ ด้ำนนอก


ถำนหวันช
เขำเอำมำใช่ไหม?”

“ใช่ แล้วเจ้ำค่ะ ใต้ เท้ ำเซี่ ยให้ คนนำแพะมำผูกไว้ที่นี่ ได้


ยินว่ำเพิ่งได้มำจำกรังพวกต๋ำเมื่อวำน เขำตัง้ ใจนำกลับมำให้
คุณหนูเพื่อบำรุงร่ำงกำย...” ลุ่ยจูรีบเปิดฝำตะกร้ำ ค่ อยๆ หยิบ
นมแพะออกมำอย่ำงระมัดระวัง เพียงเปิดตะกร้ำกลิ่นหอมของ
น้ำนมก็ปะทะกับจมูก

ถำนหวันช ่ ิ งมองแวบหนึ่ งก็ถึงกับตะลึงงัน น้ ำนมชำมนัน้


ไม่ใช่น้ำนมแพะสีขำว แต่กลับเป็ นสีม่วงอ่อนแล้วมีฟองนมลอย
อยู่ ท ำให้ นึ ก ไปถึ ง แพะขนสี ม่ ว งที่ อ ยู่ ด้ ำ นนอก จึ ง เอ่ ย อยำก
ตกใจ

“นี่ เป็ น...นมม่วง!”


13
ลุ่ยจูรีบพยักหน้ ำถี่ด้วยอำกำรตื่นเต้น นมม่วงเป็ นของดี
มำก เหมำะสำหรับบำรุงและเสริมสร้ำงร่ำงกำย ตอนอยู่ในเมือง
หลวงก็เคยได้ยินเรื่องอัศจรรย์นี้อยู่บ้ำง แม้แต่ฮ่องเต้องค์น้อย
ยังต้องดื่มทุกวัน แต่เพรำะแพะชนิดนี้ มีจำนวนน้ อยและหำยำก
ปริ ม ำณนมม่ ว งจึ ง มี น้ อยตำมไปด้ ว ย ไม่ เ คยนึ กเลยว่ ำ เขต
ชำยแดนแห่ งนี้ จะมี แพะม่วงอยู่หนึ่ งตัว นอกจำกนี้ นมม่วงยัง
สำมำรถรักษำโรคหนำวเย็นของคุณหนูได้เป็ นอย่ำงดี

กลิ่ น หอมกรุ่น ดึ ง ดูด ใจอย่ ำ งมำก ทว่ ำ ถำนหวันช


่ ิ งทำ
เพียงรับมำแล้ววำงลงบนโต๊ะ ยังไม่ได้ดื่มทันที

“ใต้เท้ำเซี่ยยังเอำเนื้ อกวำงกับเอ็นกวำงมำให้ ด้วยเจ้ำค่ะ


ล้วนเป็ นของดี และสดใหม่เหมำะกับกำรบำรุงร่ำงกำยคุณหนู
เป็ นที่ สุด โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง...เขำยังเอำรังนกนำงแอ่นชัน้ ดีมำ
ให้อีกหนึ่ งห่อ เพียงพอสำหรับให้คณ ุ หนูกินจนถึงเดือนหน้ ำเลย
นะเจ้ำคะ...”

ตอนที่ คุ ณ หนู อ ยู่ ใ นจวนจะกิ นรัง นกนำงแอ่ น บ ำรุ ง


ร่ำงกำยอยู่เสมอ ทว่ำตอนนี้ อย่ำว่ำแต่ ลิ้มรสเลย แม้กลิ่นก็ยงั
ไม่ได้ดม เพรำะรังนกนำงแอ่นใช่ว่ำเพียงแค่มีเงินก็จะหำซื้อมำ
ได้

14
ลุ่ยจูทยอยนำอำหำรออกมำวำงเรียงบนโต๊ะ พร้อมกับ
เล่ำต่ อด้วยเสี ยงแผ่วเบำ “พอข้ำบอกว่ำร่ำงกำยคุณหนูยงั ไม่ดี
ใต้ เท้ ำเซี่ ยก็รีบกลับไปแล้วเอำของมำกมำยพวกนี้ มำให้ ดูเขำ
ปฏิบตั ิ ต่อคุณหนูด้วยควำมจริงใจเป็ นที่สดุ ...” นำงหยิบถ้วยเนื้ อ
กวำงผสมเอ็น กวำงตุ๋น ออกมำพลำงกระซิ บ “ตอนที่ คุณ หนู
หลับ ใต้ เท้ ำลงมือตุ๋นด้วยตัวเองอยู่ในครัวถึงสองชัวยำมเชี
่ ยว
นะเจ้ำคะ ทัง้ เนื้ อและเอ็นล้วนเปื่ อยจนนุ่ม จำกนัน้ ก็สงข้
ั ่ ำตักใส่
ถ้วยมำให้”

ปกติ แ ล้ ว บุรุษ จะห่ ำ งเหิ น จำกห้ อ งครัว ทว่ ำ ส ำหรับ ใต้


เท้ ำ เซี่ ย ไม่ ว่ ำ จะเป็ นอำหำรที่ ทำจำกเนื้ อ สัต ว์ห รื อ จำกผักก็ดู
ชำนำญทัง้ หมด ไม่เพียงแค่เข้ำห้องครัว เขำยังใช้อปุ กรณ์ ต่ำงๆ
ได้ อย่ำงคล่ องแคล่ว ฝี มือกำรใช้ มีดหันเอ็ ่ น ก็เชี่ ยวชำญอย่ ำง
มำก ถึงลุ่ยจูจะชอบผู้ชำยแบบคงแก่เรียน แต่พอได้เห็นอย่ำงนี้
ก็ดเู พลินตำไม่น้อย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชม

“ข้ ำ เพิ่ ง เคยเห็น เขำท ำท่ ำ ทำงแบบนั น้ รำวกับ ว่ ำ ชอบ


คุณหนูมำก ไม่เหมือนกับ . . . ” ท่ำทำงไม่เหมือนกับต้องกำรให้
คุณหนูเป็ นอนุภรรยำ

ถ้ำเขำแค่ต้องกำรให้คณ
ุ หนูเป็ นอนุภรรยำ ไหนเลยจะทำ
ด้ ว ยใจขนำดนี้ หรือ หำกแค่ ต้ อ งกำรเอำไว้ เ ป็ นของเล่ น ผ่อน
15
คลำยอำรมณ์ เหตุใดจึงต้ องหำของลำ้ ค่ำมำมอบให้ สิ้นเปลือง
ด้วยเล่ำ?

่ ิ งนั ง่ ฟั งอย่ำงนิ่งเงียบ ขมวดคิ้วเล็กน้ อย ทว่ำ


ถำนหวันช
ไม่พดู อะไรสักคำ ได้แต่ขยับไปริมเตียงแล้วหยิบรองเท้ำมำสวม

“คุณหนู อย่ำเพิ่งเจ้ำค่ะ” ลุ่ยจูเห็นเจ้ำนำยยังไม่สวมถุง


เท้ ำก็รีบทักท้ วง ทัง้ สองช่ วยกันหำถุงเท้ ำ โดยไม่รู้เลยว่ำมีคน
เปิดม่ำนประตูเข้ำมำแล้ว

16
42 ร่วมโต๊ะ

ตอนที่ เซี่ ยเฉิงจู่เปิดผ้าม่านก็เห็นเท้าขาวผ่องห้อยลงมา


จากขอบเตียง สองขาชายหนุ่มพลันชะงักอยู่หน้ าประตู มือรวบ
จับผ้าม่านไว้ ไม่อาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้ า

เท้าคู่นัน้ ช่างขาวกระจ่างราวหิมะต้นฤดู นิ้วเท้าเล็กอวบ


อิ่ ม สี ข าวอมชมพู ดูง ดงามนวลเนี ยนจนอยากจะกุม เล่ น ไม่
ปล่อยให้ห่างมือ

ยามนี้ ถานหวันช่ ิ งที่ คุกเข่าอยู่บนเตี ยงกาลังพลิกผ้าห่ ม


เพื่อหาของ เพราะนางหันหลังให้ ประตูจึงไม่ทนั เห็นผู้มาใหม่
จู่ๆ ก็รู้สึกได้ ถึงสายตาที่ จบั จ้องมายัง ตนก็รีบหันไปมองทันที
พอเห็นเซี่ยเฉิงจู่ หญิงสาวก็รีบพลิกร่างกลับ หยิบผ้าห่มมาคลุม
เท้าไว้อย่างมิดชิด

ในที่สุดลุ่ยจูกห็ าถุงเท้าสีขาวที่ถกู ผ้าห่มทับไว้เจอ นางรีบ


หยิบขึ้นมา ตัง้ ใจจะหันไปบอกให้คุณหนูสวม ทว่าทันที ที่เอี้ยว
ตัวกลับ ก็เหลือบเห็นใต้เท้าเซี่ยกาลังปล่อยมือจากผ้าม่านแล้ว
ก้าวเท้าเข้ามา ทาให้ถ้อยคาที่ ต้องการพูดถูกกลืนกลับลงไปใน
คอจนหมด

1
เพี ย งมี ค นเพิ่ มแค่ ค นเดี ย ว กลับ ท าให้ ห้ อ งเย็ น ขึ้ น
กว่าเดิมได้เสียอย่างนัน้ ในหัวลุ่ยจูกลับว่างเปล่า ลืมไปหมดไม่
ว่าจะเรื่องถุงเท้าหรือรองเท้า นางจ้องมองไปที่ใต้เท้าเซี่ย ก็เห็น
ว่าอีกฝ่ ายกาลังมองมาที่ คณ ุ หนู ของตนอย่างไม่ปิดบัง เด็กสาว
หันมองคนทัง้ สองไปมาซ้ายที ขวาที จากนัน้ ก็แอบยัดถุงเท้าใส่
ในมือคุณหนู แล้วโพล่งออกมา

“ในห้องเริ่มเย็นแล้ว ข้าจะไปเอาถ่านไฟมาสักหน่ อย”

กล่าวจบก็ออกไปโดยไม่รอนายสาวอนุ ญาต เห็น เพียง


ผ้าม่านประตูที่แกว่งไกวตามหลัง หากว่าเปลี่ยนเป็ นก่อนหน้ านี้
นางคงไม่ ย อมปล่ อ ยให้ คุณ หนู อ ยู่ ใ นห้ อ งกับ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ตาม
ล าพัง แน่ น อน แต่ เ มื่ อ นึ กถึ ง เรื่ อ งบนภูเ ขาในวัน นั ้น รวมทัง้
เหตุการณ์ ทงั ้ หมดในวันนี้ ก็ทาให้ จิตใจนางเริ่มสันคลอน ่ ทัง้ ที่
นางไม่ใช่คนตื้นเขิน ประเภทที่ มีใครให้ของเล็กๆ น้ อยๆ หรือ
ทาดีด้วยหน่ อยก็จะรูส้ ึกว่าอีกฝ่ ายเป็ นคนดีได้

เพราะหากมองด้วยใจเป็ นกลาง นางก็เห็นความมีน้ าใจ


ของเขาอยู่ไม่น้อย ชายผู้นี้ไม่เพี ยงนาของกินมากมายที่ ล้วน
เป็ นประโยชน์ ต่อร่างกายที่ อ่อนแอของคุณหนูมาให้ เขายังลง
มือทาอาหารให้ คุณหนู ด้วยตนเองอี กต่ างหาก อี กทัง้ ยังไปมา
หาสู่กบั คุณหนูอย่างเปิดเผย
2
หลังจากที่ สาวใช้ออกไปแล้ว เซี่ ยเฉิงจู่กเ็ ดินมาหยุดอยู่
ข้างเตี ยง สะบัดชายเสื้อคลุมแล้วนั ง่ ลง “แผลหายดี แล้วหรือ
ยัง?” เขาเอ่ยทาลายความเงียบสงบ

ภายใต้แสงจากเปลวเทียนที่ วบู ไหว ทาให้เห็นเหลี่ยมมุม


บนใบหน้ าที่ดอู บอุ่นอ่อนโยน

“ดี มากแล้ว” ถานหวันช ่ ิ งเห็นเขาเอาแต่ จดจ้องขาของ


ตนที่อยู่ใต้ผา้ ห่ม ก็รีบหดขากลับมาไว้ข้างตัว

ความเงียบงันดาเนินไปสักพัก จู่ๆ เขาก็ลกุ ขึน้ เดินมานัง่


ลงข้างกายนาง ห่างกันแค่มือเอื้อมจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากกาย
่ ิ งยังคงตัง้ ตัวไม่ติดก็ได้ยินเสี ยงกลัว้ หัวเราะ
อีกฝ่ าย ถานหวันช
ดังอยู่ข้างหู

“ให้ข้าดูหน่ อยนะ”

ในความคิดของถานหวันช ่ ิ ง เซี่ยเฉิงจู่ผนู้ ี้ พืน้ นิสัยเป็ นคน


สุขมุ เยือกเย็น ใกล้เคียงกับคาว่าสุภาพบุรษุ ถึงแม้จะเผด็จการ
ไร้เหตุผลไปบ้าง แต่เขาก็คงไม่บีบบังคับคนอื่น ไม่อย่างนัน้ ด้วย
ฐานะนักโทษของนาง

3
ในตอนนี้ หากเขาไม่ไว้หน้ าและไม่เหลือทางรอดไว้ให้
นางก็คงจนมุมกลายเป็ นเบีย้ ล่างไปนานแล้ว

ดัง นั ้น เมื่ อ เห็ น เขามาในวัน นี้ นางก็ เ ข้ า ใจว่ า เขาคง


ต้ องการมาเจรจาเพื่อเอาคาตอบเรื่องที่ คุยกันครัง้ ก่ อน และ
จากนิสัยของเขาที่นางได้ประเมินไว้ หญิงสาวจึงมีความหวังว่า
เขาจะยอมรับฟังเหตุผลและคาอธิบายของตน

แต่ นึ ก ไม่ ถึ ง ว่ า นางยัง ไม่ ท ัน ได้ พูด อะไร เขาก็ม านั ง่ ลง


ข้างๆ แล้วยื่นมือเข้ามาในผ้าห่มแล้ว หญิงสาวยังไม่ทนั ตัง้ ตัว
ถึงกับตกใจจนต้องส่งเสียงร้องเตือน “ใต้เท้าเซี่ย!”

ทว่าอีกฝ่ ายกลับไม่หยุดมือง่ายๆ นางจึงตวาดอีกครัง้ ไม่


หลงเหลือความเกรงใจอีกต่อไป “เซี่ยเฉิงจู่!”

เพียงชื่อของตนหลุดออกจากปากสาวงาม เซี่ยเฉิงจู่กร็ ีบ
ดึงมือกลับ ไม่อยากดูแผลบนเท้าของนางอีก

ถานหวันช่ ิ งไม่เอ่ยอะไรต่อ ทาเพียงสวมถุงเท้าอย่างรีบ


ร้อน แล้ วหยิบรองเท้ ามาสวมด้ วยหวังจะลุกขึ้น เซี่ ยเฉิงจู่ลุก
จากเตียงไปคว้ามือนางได้ทนั “เจ้าจะไปไหน?”

4
หญิ ง สาวถูก รัง้ ไว้ จึ ง หัน กลับ มามองคนตัว โต เขาไร้
มารยาทกับนางหลายครัง้ แล้ว หากไม่มองอย่างจาบจ้วง ก็ชอบ
จับมือถือแขน ทาตัวเหมือนอันธพาลบนถนนก็ไม่ปาน พอเขา
ทาท่ าทางอย่างนี้ กไ็ ม่เหมือนขุนนางที่ ตงั ้ หน้ าตัง้ ตาทางานเลย
สักนิด เพราะคนที่ เป็ นเจ้าคนนายคน หนาซา้ เป็ นถึงแม่ทพั จะ
ทาตัวอารมณ์ ไม่คงเส้นคงวาแบบนี้ ได้หรือ ชายผู้นี้เดี๋ยวดีเดี๋ยว
ร้าย สมองมีปัญหาหรืออย่างไร

ถานหวันช่ ิ งนิ่งเงียบไปสักพัก กระทังสงบจ


่ ิ ตสงบใจได้ จึง
เอ่ยช้ าๆ “ใต้ เท้ าปล่อยมือข้าเถอะ ข้าจะไปไหนได้” จากนั น้ ก็
เหลือบมองอาหารบนโต๊ะ “ข้าแค่จะไปล้างมือข้างนอก”

นางพูดจบก็ดึงแขนเสื้อออก ใครจะไปนึ กว่าใต้เท้าจะเอ่ย


สิ่งที่ เกินความคาดหมายออกมา “เจ้าอย่าออกไปเลย เดี๋ยวจะ
โดนอากาศหนาว”

ชายหนุ่ มพูดจบก็หนั มองไปรอบๆ กระทังเห็่ นอ่ างน้ าที่


มุมห้องก็ก้าวอาดๆ ไปหา เขาเทน้ า จากถังใส่อ่าง หยิบผ้าเช็ด
มือมาผืนหนึ่ งแล้วเดินกลับมาหานาง

5
ถานหวันช ่ ิ งเพ่งมองอ่างน้ าตรงหน้ า แล้วมองเลยไปยัง
ชายหนุ่ ม ร่ า งสู ง กว่ า แปดฉื่ อ อยู่ น านพอสมควร ก่ อ นเอ่ ย ขึ้ น
“รบกวนใต้เท้าเซี่ยเกินไปแล้ว”

เพื่อเป็ นการไว้หน้ าเขา นางจึงล้างมือในอ่างน้ าที่ เขายก


มาให้ จากนั น้ ก็เช็ดมือจนแห้ ง แล้วค่ อยช้ อนตาขึ้นมองคนที่
คอยประคองอ่างน้าให้ตน

ใบหน้ าอีกฝ่ ายไม่มีความรู้สึกอดสู ใดๆ ที่ ต้องปรนนิบัติ


หญิงสาว หรือเขารอให้ ตวั เองอัดอัน้ ตันใจเต็มที่ แล้ วค่ อยคิด
บัญชีกบั นางที หลัง ถึงสีหน้ าของเขาจะดูธรรมดา แต่ว่าสายตา
...คงไม่ต้องเอ่ยถึง!

จนกระทังเขาประคองอ่
่ างน้าออกไป ถานหวันช่ ิ งจึงถอด
รองเท้าแล้วกลับไปนัง่ รวบขาอยู่บนเตียง นางมองอาหารที่วาง
อยู่บนโต๊ะ กลิ่นหอมของน้านมสีม่วงทาให้คนน้าลายสอได้เลย

ความจริงแล้วนางหิวมาก หญิงสาวจึงหยิบช้ อนมาตัก


ฟองนมชัน้ บนเข้าปาก ในนมม่วงใส่ดอกมะลิด้วยจึงช่ วยกลบ
กลิ่นคาวของนมแพะ อี กทัง้ ยังเติมน้ าตาลกรวดเล็กน้ อยเพื่อ
เพิ่มรสชาติ ฟองนมนุ่ มละมุนลื่นคอกว่าที่ คิด เป็ นน้ านมที่ สด
ใหม่อร่อยเป็ นที่สุด ตอนที่อยู่ในจวนตระกูลถานถึงแม้จะกินอยู่
6
อย่างฟุ่ มเฟื อยหรูหรา แต่ของเหล่านี้ กลับไม่เคยได้เห็นหรือได้
กลิ่น พอวันนี้ ได้ลิ้มรสจึงอดไม่ได้ที่จะก้มหน้ าตักใส่ปากอีกครึ่ง
ช้อน

เซี่ ย เฉิ งจู่อ อกมาล้ า งมื อ อยู่ด้ า นนอก พลางหัน ไปมอง


หญิงสาวผ่านทางหน้ าต่าง เห็นนางนัง่ อยู่ริมหน้ าต่างเพียงลาพัง
ภายใต้ แสงเที ยน กาลังกัดช้ อนด้วยท่ าทางอิ่มเอมกับการกิน
อาหาร

ภาพหญิงสาวท่ าทางอิสระและเงียบสงบที่ นัง่ อยู่ในห้อง


โดยมี ฉ ากเป็ นหิ มะตกที่ น อกหน้ าต่ า ง ท าให้ ส ายตาที่ ม อง
แปรเปลี่ยนเป็ นอบอุ่นทันที ทัง้ ที่ เมื่อครู่ยงั รู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่
น้ อ ยที่ น างท าท่ า ที เ มิน เฉยใส่ ทว่ า ยามนี้ อ ะไรล้ ว นดี หมดทุ ก
อย่ าง เขาได้ แต่ ซึมซับ ภาพตรงหน้ าไว้แล้ ว ประทับลงในห้ อ ง
หัวใจ

ถานหวันช ่ ิ งรู้ดีว่าแพะสีม่วงในยุคสมัยตนนัน้ สูญพันธุไ์ ป


นานแล้ว ทว่ามันหายไปตัง้ แต่ เมื่อไรแม้แต่ บนั ทึ กก็ไม่มีจดไว้
แต่วนั นี้ มีวาสนาได้ดื่มสิ่งลา้ ค่าที่มี

น้ อยและหายาก หญิงสาวจึงค่อยๆ ละเลียดชิม คิดไม่ถึง


เลยว่าที่ ด่านชายแดนจะมีอากาศบริสุทธ์ ิ มีพืชพันธุ์ธญ
ั ญาหาร
7
ที่อดุ มสมบูรณ์ เหมาะกับการบารุงร่างกาย อีกทัง้ มีน้ านมม่วงที่
ดื่มแล้วรู้สึกหวานเป็ นพิเศษ นางลิ้มรสช้าๆ รู้สึกดีกบั รสสัมผัส
ที่ปลายลิ้นที่เต็มไปด้วยกลิ่นนมสดแท้และเข้มข้น

ในสายตาเซี่ ยเฉิงจู่ หญิงสาวผอมไปมาก การเดินทาง


จากเมืองหลวงจนถึงที่ นี่นางคงลาบากไม่น้อย ในความทรงจา
ของเขา ตอนที่นางนัง่ อยู่บนหลังม้าที่ถนนในปี นัน้ ใบหน้ ารูปไข่
ยังอิ่มเอิบ ท่าทางนัง่ บนหลังม้าดูงามสง่าและสงบเยือกเย็น...

ความคิ ด ชายหนุ่ ม ชะงัก ลง เขายื น นิ่ งอยู่ ส กั ครู่แ ล้ ว จึง


เดินกลับเข้าไปในห้อง ยกเทียนให้ห่างออกจากหญิงสาวอี กสัก
หน่ อยแล้วเอ่ยขึน้

“วันนี้ ข้าเพิ่งล่ากวางมาได้ ตอนกลับมาก็เอาไปไว้ในโรง


ครัวทหาร พอกลับเข้าไปอี กที กลายเป็ นทัง้ เนื้ อทัง้ กระดูกถูก
แยกส่ ว นเรี ย บร้ อ ยแล้ ว โชคดี ที่ ย ัง เหลื อ เอ็น กับ เนื้ ออยู่ อี ก
เล็กน้ อย จึงตุ๋นได้แค่ถ้วยเล็กๆ เอ็นเป็ นส่วนที่ บารุงร่างกายได้
ดีที่สุด เจ้าก็กินให้มากหน่ อย” พูดจบเขาก็ใช้ช้อนตักน้ าแกงใส่
ถ้วย แล้วเลื่อนไปไว้ข้างมือของนาง

ถานหวั น่ ชิ งไม่ ช อบกิ นของที่ มี น้ ามั น เลี่ ย นๆ ใน


ตอนกลางคื น แต่ นางจาคาที่ ลุ่ยจูพูด ไว้ ก่อนหน้ านี้ ได้ ว่า ถ้ ว ย
8
เล็กๆ นี้ ‘ใต้ เท้ าลงมือตุ๋นด้วยตัวเองอยู่ในครัวถึงสองชัวยาม

เชียวนะ’ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไว้หน้ าแม่ทพั หัวเมืองสักหน่ อย

“ใต้เท้ากล่าวหนักเกินไปแล้ว ข้าได้ยินว่าเมื่อช่วงบ่ายใต้
เท้ า เอาของมาให้ ต ัง้ มากมายหลายอย่ า ง ความจริ ง ไม่ น่ า
สิ้นเปลืองเช่นนี้ เลยเจ้าค่ะ”

นางยื่นมือไปรับถ้วยเอ็นกวางตุ๋น นิ้วมือขาวเล็กวางอยู่
บนถ้วยสี น้ าเงินอ่อนยิ่งขับเน้ นให้นิ้วดูโดดเด่น เล็บสี ชมพูราว
กลี บ ดอกไม้ อี ก ทัง้ มื อ ก็ข าวนุ่ ม นิ่ มราวไร้ ก ระดูก ยามที่ แ สง
เที ยนสลัวตกกระทบผิวนวลเนี ยนให้ความรู้สึกว่าผิวนัน้ ใสจน
เกื อบโปร่งแสง ชวนให้ อยากกอบกุมมือเล็กละเอี ยดลออนั น้
เอาไว้ เพื่อหักห้ามความคิด เขาจึงกุมมือตัวเองแล้ววางลงบน
โต๊ะ

พอถานหวันช ่ ิ งเห็นถ้วยกระเบือ้ งเคลือบเล็กๆ ตรงหน้ า


ที่ นอกจากจะมีเนื้ อกวางและเอ็นกวางแล้วยังมีเมล็ดบัว พุทรา
แดง เก๋ากี้ ลาไย และของบารุงเลือดอื่ นๆ ก็เงยหน้ ามองชาย
หนุ่ มด้ วยความประหลาดใจ เกรงว่านอกจากพ่อครัวกับท่ าน
หมอแล้ ว คงจะมี ผู้ ช ายไม่ กี่ ค นที่ จะเชี่ ย วชาญเรื่ อ งของ
บารุงร่างกายเป็ นอย่างดีเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากเหลือเกิน

9
นางมองไปยังชามน้ านมม่วง น้ านมแพะบารุงร่างกายที่
อ่อนแอและความหนาวจากภายใน

ส่ ว นน้ า แกงเอ็ น กวางในชามกระเบื้ อ งก็ เ สริ ม สร้ า ง


ร่างกายให้แข็งแรง เพิ่มกาลังวังชา บารุงอวัยวะภายในทัง้ ห้า

่ ิ งอดนึ กถึงร่างกายที่ อ่อนแอและโรคเกี่ยวกับ


ถานหวันช
เลือดลมของมารดาเซี่ ยเฉิงจู่ไม่ได้ นางน่ าจะเป็ นเหตุผลที่ทาให้
เขาลงครัว ทาน้ าแกงจนชา่ ชอง ยามนั น้ เขาคงต้ องเรียนรู้และ
ฝึ กฝนมามากทีเดียว

พอคิดถึงมาตรงนี้ ช้อนในมือถานหวันช ่ ิ งก็หยุดลง ที่ผา่ น


มามี หลายเรื่องราวที่ ทาให้ นางเหนื่ อยและท้ อแท้ โดยเฉพาะ
เรื่องในปี นัน้ ทว่ายามนี้ ชดั เจนแล้วว่าไม่ได้มีแต่ นางที่ ต้องทน
ทุกข์

หญิง สาวเงยหน้ า มองเซี่ ย เฉิ งจู่อีกครัง้ ชายตรงหน้ า มี


ดวงตาด าขลับ คมเข้ ม เป็ นประกาย ปลายคางยัง ไม่ ไ ด้ โ กน
หนวดเคราเลยด้วยซา้ น่ าจะเป็ นเพราะหลายวันที่ผา่ นมามัวแต่
ยุ่งกับงานจนไม่ได้พกั ผ่อน ท่าทางของเขาชวนให้จิตใจอ่อนไหว
สายตานางจึงอ่อนลง แล้วเอ่ยขึน้

10
“ถ้าหากใต้เท้าไม่รีบกลับจวนก็กินข้าวด้วยกันสิ อาหาร
เหล่านี้ ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก น่ าเสียดายของ”

ถ้าหากเก็บของไว้ข้ามคืน รสชาติสดใหม่กจ็ ะอันตรธาน


ไปหมด อีกทัง้ นานปานนี้ แล้วลุ่ยจูกไ็ ม่เข้ามาเสียที หรือว่าหลบ
คนอยู่ในห้องครัว นางคงไม่เข้ามากินด้วยแล้วกระมัง

จิตใจเซี่ ยเฉิงจู่ยงั คงจดจ่ออยู่ที่หญิงสาว เฝ้ ามองนางทุก


กิริยาและท่ าทาง พอริมฝี ปากแดงชุ่มชื้นเอื้อนเอ่ย แล้วเขาจะ
ปฏิเ สธได้ อย่ างไร ชายหนุ่ มคาดไม่ถึง ว่ าตนเองจะได้ ร บั การ
ต้อนรับด้วยดวงตากระจ่างใส

อี กทัง้ นางยังชวนเขากินอาหารด้ วยท่ าทางนุ่ มนวล ใจ


ชายหนุ่มพลันอ่อนยวบลงอีกหลายส่วน พยายามบังคับตัวเอง
ไม่ให้หนั ไปมองนางอีก

“ในเมื่อเจ้าออกปากเช่นนี้ กข็ อบคุณแล้วกัน” เซี่ ยเฉิงจู่


หยิบชามกับตะเกียบที่เตรียมไว้บนโต๊ะอีกชุดหนึ่ งขึน้ มา

ท่ าทางชายหนุ่ มดูเก้ๆ กังๆ ผิดกับถานหวันช ่ ิ งที่ มีท่าที


ผ่อนคลายมากกว่าด้วยซา้ เซี่ยเฉิงจู่ใช้ช้อนแบ่งน้าแกงเนื้ อแกะ
มาไว้ในชามของตน แล้วทัง้ หมดก็หายไปจากชามอย่างรวดเร็ว

11
ถานหวัน่ ชิ ง จึ ง ดัน ถ้ ว ยน้ า แกงไปทางเขาอี ก “ใต้ เ ท้ า
อย่าได้ เกรงใจ บ้านนี้ เป็ นของท่ าน ถ้วยชามพวกนี้ กเ็ ป็ นท่ าน
ที่ น ามา แม้ ก ระทัง่ เนื้ อ กวางก็ล้ วนเป็ นของท่ า น หากจะเอ่ ย
ขอบคุณ ข้ า ต่ า งหากที่ ต้ อ งเป็ นคนเอ่ ย ขอบคุณ ใต้ เ ท้ า ที่ มอบ
อาหารชัน้ เลิศและเอร็ดอร่อยเช่ นนี้ ให้” น้ าเสี ยงของหญิงสาว
นุ่มนวลละมุนละไมเป็ น

ธรรมชาติ ช่ า งไพเราะน่ าฟั ง ชายหนุ่ มได้ ยิ น ก็รู้สึ ก มี


ความสุข เขามองหน้ านางนิ่ง คาพูดแบบเบาสบายของนางกลับ
ซึม เข้าไปถึงหัวใจคนฟั ง ทาให้บรรยากาศรอบกายเริ่มอบอุ่น
ขับไล่ความหนาวเหน็บในยามราตรีให้เลือนหาย

เพราะเขารู้ว่านางไม่ชอบกินเนื้ อ ใต้ เ ท้ าเซี่ ยจึ ง ตักเอา


เอ็นกวางในถ้วยทัง้ หมดให้ นาง แล้วตักเอาพวกเนื้ อ กระดูก
และสิ่งที่นางไม่ชอบกิน ใส่ในชามของตนแทน

ถานหวันช ่ ิ งไม่ได้ปฏิเสธเอ็นที่เขาแบ่งใส่ชามให้ ทว่านาง


ไม่ค่อยเจริญอาหารสักเท่าไรจึงกินน้ าแกงได้แค่ไม่กี่คากับโจ๊ก
ครึง่ ชามเท่านัน้

ที่ผา่ นมานางไม่เคยต้องดิ้นรนหาอาหารสามมือ้

12
เพื่อให้ ตวั เองอิ่มท้องก็ได้กินแต่ อาหารชัน้ เลิศมาตลอด
ท าให้ น างกิ น อาหารค่ อ นข้ า งช้ า หน าซ้า กิ น ได้ ไ ม่ ม ากก็ว าง
ตะเกียบแล้ว แต่ชายหนุ่มตรงหน้ ากลับตรงกันข้าม เขามีขนาด
ร่างกายใหญ่โตที่ต้องใช้อาหารหล่อเลี้ยงจานวนมาก ชายหนุ่ม
จึง กิน อาหารรวดเร็วอย่างเอร็ดอร่อย กิน อยู่น านก็ยงั ไม่วาง
ตะเกียบ

โชคดี ที่ลุ่ยจูเตรียมโจ๊กไว้มาก เพราะถานหวันช ่ ิ งกินแค่


ครึ่งชาม ส่ วนที่ เหลือทัง้ หมดก็ลงกระเพาะของเขาไป อี กฝ่ าย
เจริญอาหารดีมาก อาหารทุกจานเขาจัดการจนเกลี้ยง หลังจาก
กินอิ่มแล้วเขาก็วางตะเกียบลงแล้วนั ง่ นิ่งครู่หนึ่ งราวกับกาลัง
ครุน่ คิด

บรรยากาศในห้ อ งเงี ย บไปพัก หนึ่ ง ก่ อ นที่ เ ขาจะหยิ บ


กระดาษสองแผ่ น ออกมาจากแขนเสื้ อ แล้ ว วางลงบนโต๊ ะ
จากนัน้ ก็เลื่อนไปให้นาง

ถานหวันช ่ ิ งมองประเมินชายหนุ่ม ก่อนจะหยิบกระดาษ


ขึน้ มา เมื่อได้เห็นเนื้ อหาด้านในก็ต้องตะลึงงันทันที

13
43 ปฏิเสธ

เซี่ยเฉิงจู่เอ่ยทำลำยควำมเงียบขึน้ มำ

“บิ ด ำมำรดำของข้ ำ ตำยจำกไปแล้ ว ข้ ำ งกำยข้ ำ เหลื อ


เพียงน้ องชำยร่วมอุทรคนเดียว หำกว่ำเจ้ำยินยอม...” เขำหยุด
ไปครูห่ นึ่ ง สำยตำแวววำวมองไปยังหญิงสำว

“หำกว่ำเจ้ำยินยอมพร้อมใจ อี กสองวันข้ำจะให้ คนเอำ


ของหมัน้ ที่ เตรียมไว้ม ำส่ งให้ ข้ำจะแต่ งเจ้ำเข้ำจวน เนื่ องจำก
เวลำมี น้ อ ยคงต้ อ งจัด งำนอย่ ำ งง่ ำ ยๆ ช่ ว งนี้ เ จ้ ำ ก็พ กั อยู่ ที่ นี่
เพรำะถึงอย่ำงไรควำมเป็ นอยู่กด็ ีกว่ำด้ำนนอกมำก”

ตอนที่ เขำออกจำกที่ นี่ไปครำก่อน ในใจก็เป็ นกังวลห่วง


นำงตลอดเวลำจนกระทังกลั ่ บมำจำกซ่องโจร ทว่ำทันที ที่มำถึง
่ ิ่ นก็รำยงำนเรื่องที่ เกิดขึ้นเมื่อเช้ ำ เขำจึงรีบถ่อมำที่ นี่ ไม่
จัวเว
ต้ อ งพู ด ถึ ง ข้ ำ วเที่ ย งที่ ย ัง ไม่ ไ ด้ กิ น กระทัง่ เสื้ อ ผ้ ำ ก็ย ัง ไม่ ไ ด้
เปลี่ยน ทัวร่
่ ำงจึงเต็มไปด้วยฝุ่ น

1
เมื่อชำยหนุ่ มมำถึงนำงก็เข้ำสู่ห้วงนิทรำไปแล้ว เขำได้
แต่นัง่ ลงข้ำงๆ มองแสงแดดยำมบ่ำยส่องใบหน้ ำนวล ผิวพรรณ
นำงช่ำงโปร่งใสรำวกับจะเลือนหำยไปได้ทุกเมื่อ

ยำมนั ้น เขำได้ แ ต่ ถ อนหำยใจโล่ ง อก ในใจไม่ อ ยำก


รบกวนให้นำงตื่น แต่กอ็ ดยื่นมือไปสัมผัสผมนุ่มสลวยนัน้ ไม่ได้
ใต้ดวงตำนำงเห็นรอยคลำ้ จำงๆ เหมือนคนพักผ่อนไม่พอ นำง
นอนอย่ ำ งสงบนิ่ ง ไร้ ก ำรระแวดระวัง และป้ องกัน ตัว ท ำให้
ควำมรู้สึกหวงแหนพลันผุดพลุ่งขึ้นมำในใจ แล้ วค่ อยๆ ผ่อน
คลำยลงในที่ สุด เขำถอนใจอี กครัง้ ตัดสินใจอย่ำงแน่ วแน่ ได้
โดยพลัน

เวลำนี้ แสงจำกเปลวเที ยนสำดส่องไปถึงเพดำนห้อง ขับ


ไล่ควำมมืดมนด้วยแสงนวลที่ อบอุ่น กระทบกับร่ำงอรชรที่ นัง่
อย่ำงสงบเงียบเรียบร้อย

หลังจำกที่เขำเอ่ยจบ คนในห้องก็นิ่งงันอยู่เป็ นนำน

่ ิ งถือกระดำษสองแผ่นไว้ในมือ ฟังน้ำเสียงเนิบ
ถำนหวันช
นำบของเขำพร้อมกับไล่สำยตำอ่ ำนทุกตัวอักษรบนกระดำษ
อย่ำงละเอียด ชัวขณะหนึ
่ ่ งก็เกิดควำมรู้สึกที่ยำกจะบรรยำยขึน้
ในใจ
2
ภำยใต้แสงเทียน กระดำษในมือเป็ นสำมะโนครัวที่จดั ทำ
ขึน้ มำใหม่

‘ไท้สื่อปี ที่สิบ สำมะโนครัวของ เซิ่นจิ่งเสียงและเซิ่นอู้เปิ่น


...หญิงชื่ อ เซิ่นเจินจู เกิดปี ที่ หก หญิง ชื่อ เซิ่นฉำงหย่ง เกิดปี ที่
แปด ...ลบชื่อออกสมำชิกในครอบครัวลบชื่ อสมำชิกชำยออก
สองคน เจ้ำบ้ำนเซิ่นจิ่งเสี ยงป่ วยตำยปี ไท้ สื่อที่ เ ก้ ำและเซิ่น อู้
เปิ่นป่ วยตำยปี ไท้ สื่อที่ แปด ... ปั จจุบนั สมำชิก หนึ่ งคน หญิงที่
แต่ งงานแล้ว หนึ่ งคน’ นี่ คือหลักฐำนทะเบียนบ้ำนของตระกูล
เซิ่น

สมำชิ ก ทัง้ หมดแปดคนเหลื อ เพี ย งเซิ่ น เจิ น จูค นเดี ย ว


ร่องรอยทัง้ หมดรวมทัง้ สำมะโนครัวของนักพรตหญิงล้วนทำได้
อย่ ำ งใสสะอำด ถ้ ำ เช่ น นี้ นำงก็ส ำมำรถเข้ ำ ออกแคว้ น อี้ ไ ด้
ตำมปกติ ไม่ต้องกังวลใจว่ำจะถูกทหำรรักษำกำรณ์เข้ำมำขวำง
ในเมื่ อ มี ใ บรับ รองที่ ถ กู ต้ อ งตำมและประทับ ตรำเรี ย บร้ อ ยก็
เท่ำกับสำมำรถล้ำงสถำนะปลอมที่มีอยู่แต่เดิมได้แล้ว และนำง
ก็สำมำรถอยู่ที่นี่ได้ อย่ำงสงบปลอดภัย รวมถึงฐำนะของเซิ่น
เจิ น จู ที่ แ ต่ ง งำนแล้ ว ...ก็ส ำมำรถด ำเนิ นชี วิ ต ต่ อ ไปได้ อ ย่ ำ ง
เปิดเผย

3
นี่ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ระดำษที่ ไ ด้ ร บั กำรจัด กำรส ำมะโนครัว มำ
อย่ำงตัง้ ใจ แต่สถำนะใหม่นี้นำงจะปลอดภัยที่สดุ ด้วย

่ ิ งเคยคิดว่ำ กำรที่ เซี่ ยเฉิงจู่ยึดใบสำมะโนครัว


ถำนหวันช
ของนำงไปก็เพื่อกักบริเวณ ทำให้นำงไม่อำจไปไหนได้เพื่อตัว
เขำเองจะได้แก้แค้น จนนำงต้องอยู่อย่ำงหวำดหวันด้ ่ วยควำม
หวำดกลัว คุ ก ตะรำงและยำกจะหลบหนี ไม่ มี โ อกำสได้ เ งย
หน้ ำอ้ ำปำกเป็ นไทแก่ ตวั ดังนั น้ นำงจึงพยำยำมปล่ อยวำงใน
หลำยเรือ่ ง หวังแค่สดุ ท้ำยแล้วขอให้ตนได้เป็ นอิสระเท่ำนัน้

นึ กไม่ถึงว่ำทัง้ ที่ในอดีตนำงเคยลงมือกับเขำจนทำให้อีก
ฝ่ ำยโกรธเคื องมำยำวนำน แต่ เขำกลับเตรียมสำมะโนครัวให้
อย่ำงดี อีกทัง้ ยังเตรียมของหมัน้ พร้อมจะพำนำงเข้ำจวน

เรือ่ งนี้ ทำให้หญิงสำวตะลึงงันไปครูใ่ หญ่

นำงมองใบสำมะโนครัวของตนกับลุ่ยจูเงี ยบๆ ประวัติ


ของลุ่ ย จู ก็ ถ ูก ท ำขึ้ น มำใหม่ ใ นแบบเดี ย วกัน หญิ งสำวก ำ
กระดำษสองแผ่นนัน้ ไว้แน่ น ส่วนอีกฝ่ ำยก็รอคอยให้ นำงตอบ
ตกลง

4
เขำคงต้ องลงมือลงแรงในเรื่องนี้ ไปไม่น้อย ถำนหวันช่ ิง
ลอบมองชำยหนุ่ม เขำยังคงอยู่ในชุดเกรำะเหล็ก รองเท้ ำเต็ม
ไปด้วยฝุ่ น สี หน้ ำท่ำทำงบ่งบอกถึงควำมเหน็ ดเหนื่ อยจำกกำร
เดินทำง แต่ยงั คงเยือกเย็นอดทนและ...จริงใจ

ถำนหวันช่ ิ งหลุบตำลง ในใจนึ กลังเล สุดท้ ำยก็เอ่ยขึน้ มำ


“ข้ำเคยพูดไปแล้ว ใต้เท้ำเป็ นวีรบุรษุ มีคณ
ุ ธรรมสูงส่ง อีกทัง้ ยัง
หนุ่มแน่ น ท่ำนหำผูห้ ญิงดีๆ สักคนแต่งด้วยเถิด นักโทษหญิงไม่
เหมำะสมกับใต้ เท้ำแม้แต่น้อย” เอ่ยจบก็เอำกระดำษวำงไว้บน
โต๊ะ “ใต้เท้ำควรจะมีบพุ เพสันนิวำสที่ดีกว่ำนี้ ”

เมื่อประโยคนี้ กระทบหู เส้นเลือดตรงขมับของใต้เท้ำเซี่ย


ก็เต้นตุบๆ อย่ำงห้ำมไม่อยู่

“เจ้ำคิดว่ำข้ำไม่เหมำะกับเจ้ำ?”

่ ิ ง ถึง กับ ชะงัก เงยหน้ ำ มองไปที่ เ ขำก่ อนเอ่ ย


ถำนหวันช
ด้วยน้ำเสียงรำบเรียบ “ใต้เท้ำเลอะเลือนแล้ว ข้ำบอกไปแล้วว่ำ
ข้ำเป็ นนักโทษหญิง ส่วนใต้เท้ำเป็ นขุนนำงในรำชสำนัก เป็ นข้ำ
เองที่ไม่เหมำะกับท่ำน”

5
เซี่ยเฉิงจู่กำมือที่วำงอยู่บนโต๊ะแน่ น เส้นเลือดปูดโปนจน
เห็นได้ ชดั เขำเพ่งมองนำงนิ่งนำน จำกนั น้ ก็สูดลมหำยใจลึก
เพื่อข่มอำรมณ์

“พอแล้ว! ข้ำได้แก้สำมะโนครัวให้เจ้ำ ครอบครัวเซิ่นตำย


ไปหมดแล้ ว ไม่ เ หลื อ แม้ ส ัก หนึ่ งชี วิ ต วัน หลัง หำกมี ค นถำม
ขึ้นมำก็ไม่เหลือใครที่ จะพูดได้ สองวันหลังจำกนี้ จะมีแม่สื่อมำ
หำ ไม่ ว่ ำ อย่ ำ งไรเจ้ ำ ต้ อ งตอบรับ ทุ ก อย่ ำ งข้ ำ จัด เตรี ย มไว้
เรียบร้อยแล้ว...”

ใบหน้ ำนุ่มนวลของถำนหวันช ่ ิ งค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นเฉยชำ


“ใต้เท้ำเซี่ ย! อยำกให้ข้ำพูดให้เข้ำใจกว่ำนี้ หรือไม่? หำกใต้เท้ ำ
จะดำเนินกำรเช่นนี้ ให้ได้ ข้ำก็จะหนี ออกจำกที่ นี่ สำมะโนครัว
สองใบนี้ ข้ำขอรับไว้เอง”

กล่ำวจบก็ม้วนกระดำษเก็บเข้ำไปในแขนเสื้อ

“เจ้ ำ กล้ ำ รึ ! ” ใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย ลุ ก ขึ้ น ฟำดฝ่ ำมื อ ลงกับ โต๊ ะ


แรงสันสะเทื
่ อนทำให้จำนชำมกลิ้งตกลงพืน้

“ถูกใต้ เท้ ำกักขังยังไม่พอ ตอนนี้ แม้แต่ เรื่องสมรสก็ยงั


บังคับอีกรึ” ถำนหวันช่ ิ งตอบกลับอย่ำงไม่หวันกลั
่ ว จ้องอีกฝ่ ำย

6
ตำไม่กะพริบ “เมืองเว่ยอันรำษฎรทุกคนรวมไปถึงทหำรทุกหมู่
เหล่ำต่ ำงก็มองว่ำใต้ เท้ ำเป็ นวีรบุรุษ หำกพวกเขำรู้ว่ำใต้ เท้ ำขู่
เข็ญบังคับหญิงสำมัญชนที่ ไม่เต็มใจ ไม่รู้ว่ำพวกเขำจะคิดกัน
อย่ำงไร?”

“กักขัง?” ได้ยินสองคำนี้ แสงเทียนสลัวก็ไม่อำจอำพรำง


ใบหน้ ำ บึ้งตึ งของชำยหนุ่ มได้ เขำจ้องใบหน้ ำนวลเนี ย นของ
หญิงสำวมำตัง้ แต่นำงเริ่มเอ่ย คำพูดที่ พรังพรู
่ ออกมำแต่ ละคำ
นัน้ รำวกับตบบ้องหูเขำจนชำหนึ บมำถึงใบหน้ ำ เขำมองลึกเขำ้
ไปในดวงตำหญิงสำว...

ไม่เต็มใจ ไม่ยินยอม ไม่ต้องกำร...ทัง้ หมดล้วนถูกเขียน


ไว้ในแววตำนำง ในเวลำนี้ รำวกับมีคนใช้แรงมหำศำลบีบเข้ำที่
หัวใจจนปวดแปลบ

“ข้ำกักขังเจ้ำ? แค่เจ้ำออกจำกประตูกพ็ บเจอคนเลวชำติ


แล้ว หำกข้ำปล่อยเจ้ำให้เป็ นอิสระออกจำกเว่ยอันได้ เจ้ำคิดว่ำ
จะสำมำรถไปได้ ไกลสักแค่ ไหนกัน” สี หน้ ำของเขำแข็งกร้ ำว
พูดเสี ยงลอดไรฟั นด้วยควำมแค้นเคือง “ถูกโจรจับตัวไปครัง้
หนึ่ งแล้ว บทเรียนครำนัน้ ยังลิ้มลองไม่พออีกรึ...”

7
“ใต้เท้ำเป็ นผู้ปกครองเมือง ข้ำก้ำวไม่ถึงฉื่ อก็หลีกไม่พ้น
กำรควบคุมของใต้เท้ ำอยู่แล้ว ท่ำนจะกังวลอะไรเล่ำ? แต่ หำก
ว่ ำข้ ำหนี ออกจำกเมืองเว่ย อันได้ ก็จะไม่ขอรบกวนใต้ เ ท้ ำ ให้
ต้องเปลืองสมอง ข้ำจะระมัดระวังตัวเอง”

พู ด จบถำนหวั น่ ชิ งก็ ล งจำกเตี ย งแล้ ว สวมรองเท้ ำ


เมื่อเห็นว่ำนำงกำลังจะเดินออกไป เซี่ ยเฉิงจู่กย็ ื่นมือไปกัน้ ไว้
ก้มใบหน้ ำเย็นชำลงมำประชิด “จะไปไหน? เอำสำมะโนครัวมำ
ให้ข้ำก่อน ข้ำไม่อนุญำตให้เจ้ำออกจำกเมืองเว่ยอัน”

“เดิมที มนั ก็เป็ นของข้ำอยู่แล้ว ท่ ำนคืนให้ข้ำแล้ว ยังจะ


เอำไปอี กหรือ ? ไร้เหตุผลสิ้นดี ” ถำนหวันช ่ ิ งหนี บแขนเสื้อไว้
แน่ น

“อย่ำบังคับให้ข้ำต้องใช้กำลัง”

เมื่อเห็นนำงเบี่ยงกำยหลบ เขำก็ยื่นมือไปคว้ำแขนของ
หญิงสำวไว้ อีกมือพยำยำมดึงใบรับรองสองแผ่นออกมำเพรำะ
เกรงว่ำนำงจะทำเหมือนครำวก่อนหลบหนี ออกไปนอกเมือง
อย่ำงมีชนั ้ เชิงจนเขำเองก็คำดไม่ถึง

8
ถำนหวันช่ ิ งปกป้ องกระดำษสำคัญด้วยควำมมุ่งมัน่ หญิง
สำวนึ กไม่ถึงว่ำเขำจะลงมือจริงๆ ถึงกับยือ้ แย่งของจำกนำง จึง
เอ่ยด้วยควำมโมโห น้ำเสียงเหน็บแนมถำกถำง

“มีเรื่องใดที่ใต้เท้ ำไม่กล้ำบ้ำงเล่ำ ปล้นโจรภูเขำบังคับให้


หญิงชำวบ้ำนแต่งงำนด้วย ตอนนี้ ยงั อยำกจะปล้นของในมือข้ำ
ท่ ำนก็เป็ นแค่ขุนนำงที่ ชอบยึดเอำของของศัตรูที่พ่ำยแพ้อยู่ดี
...”

แต่ ละคำที่ ออกมำจำกริมฝี ปำกแดงตรงหน้ ำแทบจะทำ


ให้คนเส้นเลือดแตกได้เลย มือของเซี่ยเฉิงจู่ยิ่งกำแน่ นกว่ำเดิม
อดไม่ได้จึงดึงนำงเข้ำมำหำ ร่ำงบอบบำงแทบจะปลิวเข้ำมำใน
อ้อมแขน ทว่ำในใจยังไม่วำยห่วง เกรงว่ำนำงจะเจ็บ

เมื่อไม่อำจทำอะไรได้ ชำยหนุ่ มจึงได้ แต่ ขบเขี้ยวเคี้ยว


ฟั น “เจ้ำไม่ยอมแต่ งกับข้ำ แล้วเจ้ำจะแต่ งกับใคร! เจ้ ำคิดว่ ำ
ตัว เองยัง เป็ นคุณ หนู ใ หญ่ แ ห่ ง จวนตระกูล ถำนอย่ ำ งนั น้ หรือ
ช่ำงไม่ดสู ภำพตัวเองบ้ำงเลย แค่ก้ำวเท้ำออกจำกเมืองผู้ชำยก็
อยำกจะยื้ อ แย่ ง เจ้ ำ แต่ ทุ ก คนไม่ ไ ด้ อ ยำกจะตบแต่ ง กับ เจ้ ำ
หรอกนะ”

9
สองแก้ ม ถำนหวัน่ ชิ งพลัน แดงก่ำ ด้ ว ยควำมอับ อำย
ดวงตำวำววับเป็ นประกำย ไม่ร้วู ่ำเพรำะโกรธหรือโมโห พอถูก
เขำกุมแขนไว้แน่ น ผิวบอบบำงจึงเริ่มแดง

พอได้ยินอีกฝ่ ำยพูด เสี ยงของนำงยิ่งเบำและนุ่มนวลลง


หลำยส่ วน พลำงจ้องเข้ ำไปในดวงตำของเขำ เอ่ ยเสี ยงเรียบ
“แล้วจะทำไม? ถึงจะเคยเป็ นบุตรสำวของอัครเสนำบดี แล้ว
ตอนนี้ เป็ นเพียงคุณหนูตกอับ แต่จะเที ยบไม่ได้กบั ข้ำรำชกำร
ชัน้ เล็กๆ เชียวรึ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เข้ำ รำวกับถูกกำปัน้ ชกอย่ำงรุนแรง


่ ิ บตำก็ยำกจะประเมินว่ำสี หน้ ำน่ ำกลัวและสำยตำที่ จ้อง
ชัวพร
มองนำงนัน้ แฝงไว้ด้วยควำมกรุ่นโกรธหรือควำมอัปยศอดสูใน
ตัวเองกันแน่ มันทำให้เขำควบคุมแรงไม่อยู่ดึงนำงเข้ำมำแนบ
ชิด แล้วเอ่ยเสียงลอดไรฟัน

“เจำ้ อย่ำคิดว่ำข้ำไม่กล้ำ...”

พูดยังไม่ทนั จบ ลุ่ยจูที่ออกไปเอำก้อนถ่ำนก็เปิดม่ำนเข้ำ
มำ นำงตกใจจนมือสันระร ่ ิ ก ทำให้ก้อนถ่ำนในถำดหล่นลงพื้น
เมื่อได้ยินเสี ยงของหล่น เซี่ ยเฉิงจู่กเ็ หมือนได้สติ รีบคลำยมือ
ออกทันที
10
สีหน้ ำของเขำตอนนี้ ดนู ่ ำกลัว แต่ถึงจะโกรธอย่ำงไรก็ไม่
เหมือนครัง้ ก่อนที่โมโหจัดจนสะบัดชำยเสื้อเดินหนี ไป

ครัง้ นี้ เขำได้แต่ยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แววตำถำน


่ ิ งพลันสันไหว
หวันช ่ เมื่อเขำชิงใบสำมะโนครัวสองแผ่นไปจำก
นำงได้ ใต้เท้ ำเซี่ ยผู้มีประสบกำรณ์ สู้รบนับร้อยสนำม แรงย่อม
มำกกว่ำผู้หญิงตัวเล็กๆ โดยไม่ต้องเปรียบด้วยซำ้ เขำเม้มปำก
แน่ น สีหน้ ำบึง้ ตึง รีบยัดกระดำษไว้ในอกเสื้อภำยใต้ชุดเกรำะ

ลุ่ยจูย่อตัวลงนัง่ ยองๆ เก็บก้อนถ่ำนที่ หล่นลงพื้นใส่ถำด


อย่ำงรวดเร็ว ภำพเหตุก ำรณ์ เมื่อครู่ทำให้ นำงตกใจจนตัวสัน่
เพิ่ ง จะเก็บ ถ่ ำ นได้ ไ ม่ กี่ ก้ อ นก็เ หลื อ บเห็น ใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย เดิ น มำ
ตรงหน้ ำ

“ตะ...ใต้เท้ำเซี่ย...” นำงเงยศีรษะขึน้ มอง

“เจ้ำเอำผำ้ ห่มไปส่งให้ ข้ำที่ ห้องทำงตะวันตก ข้ำจะค้ำง


ที่นี่” เขำสังเสี
่ ยงห้วน หลังเหยียดตรง ถึงกับเฝ้ ำด้วยตัวเองเลย
หรื อ ... แต่ นี่ ม นั บ้ำ นของเขำนี่ น ำ ใครจะกล้ ำ ไล่ เ จ้ ำ ของบ้ ำ น
ออกไปได้

11
ลุ่ย จูกำลังจะตอบรับคำ ทว่ ำถำนหวันช ่ ิ ง กลับ เอ่ ย ด้ ว ย
น้ ำ เสี ย งเย็น เยี ย บ “ในบ้ำ นไม่ มี ผ้ำ ห่ ม แล้ ว หำกใต้ เ ท้ ำ อยำก
พักผ่อนก็เชิญกลับไปที่จวน”

“คะ...คุณหนู...” น้ ำเสี ยงของคุณหนูหวำนนุ่มละมุน ต่ อ


ให้โกรธเพียงใด เสียงที่เปล่งออกมำก็ยงั ไพเรำะอยู่ดี

ทว่ำพอใต้ เท้ ำเซี่ ยซึ่ งยืนอยู่หน้ ำประตูได้ยินเช่ นนี้ กลับ


ยิ่งมีสีหน้ ำตึงเครียดเพิ่มควำมถมึงทึงขึน้ กว่ำเดิมเสียอีก “จุดไฟ
ใต้เตียงตรงห้องตะวันตกด้วย”

เหมำะแล้วหรือที่ท่ำนจะนอนค้ำงอ้ำงแรมที่นี่?

ลุ่ยจูเพิ่งจะตอบรับและหยัดกำยขึน้ ถำนหวันช ่ ิ งก็ถอยไป


นั ง่ ที่ ข อบเตี ย ง เอ่ ย ด้ ว ยน้ ำ เสี ย งไม่ยี่ หระ “ห้ องนั น้ มี ข้ ำวของ
ปะปนกันหลำยอย่ำง เตำก็ไม่เคยได้ทำควำมสะอำด ถ่ำนก็ใช้
หมดแล้ ว และไม่มีฟื นจะเผำอี กแล้ ว ด้ ว ย เชิญใต้ เ ท้ ำไปที่ อื่ น
อย่ำได้ทำให้ข้ำลำบำกใจ”

ลุ่ยจูที่ห่ำงกับใต้เท้ำเซี่ยแค่เอื้อม เห็นอย่ำงชัดเจนว่ำเขำ
ได้ยินคำพูดของคุณหนู มือข้ำงตัวชำยหนุ่มค่อยๆ กำแน่ นเข้ำ
หำกันจนเกิดเสียงดังกร็อบ

12
ก่อนที่แม่ทพั หัวเมืองจะโกรธมำกไปกว่ำนี้ เด็กสำวจึงรีบ
เอ่ยเสียงละลำ่ ละลัก “ฟื น...ฟื นยังเหลืออยู่เจ้ำค่ะ ข้ำจะไปก่อไฟ
...”

“ไม่ต้องแล้ว!” ใต้เท้ำเซี่ยเค้นเสียงออกจำกลำคอ สีหน้ ำ


ดำทะมึนเหมือนถ่ำน ก่อนจะก้ำวข้ำมธรณี ประตู เดินตรงไปที่
ห้องทำงตะวันตก

หลังจำกได้ ยิ น เสี ย งประตูปิ ดดัง โครม ลุ่ย จูจึง ประคอง


ถำดไปวำงบนโต๊ะ ก่ อ นจะรี บ มำหำคุณ หนู ที่ นั ง่ เงี ย บๆ ด้ ว ย
ท่ำทำงเหม่อลอย

“คุ ณ หนู เ จ้ ำ คะ เรื่ อ งของคุ ณ หนู ก ับ ใต้ เ ท้ ำ ข้ ำ ได้ ยิ น


หมดแล้ ว ว่ ำ ใต้ เ ท้ำ ยิ น ดี จ ะแต่ ง คุณ หนู เ ข้ ำ จวน แต่ คุณ หนู . ..
เพรำะอะไรเจำ้ คะ?” นำงรู้ว่ำนำยสำวไม่ใช่คนใจดำถึงเพียงนัน้
ก่อนหน้ ำก็เคยมีคนมำขอแต่งงำน ถึงอีกฝ่ ำยจะไม่ชอบคนผูน้ ัน้
เพียงใด ก็ไม่เคยแม้แต่ จะเอ่ยถ้อยคำเหยียบยำ่ จิตใจผู้อื่นเลย
ไม่เคยสักครัง้ ที่จะใช้ถ้อยคำโหดร้ำยเช่นนี้

สถำนะปั จจุบนั ของคุณหนู ไม่เหมือนแต่ ก่อนแล้ว จวน


ตระกูล ถำนล่ ม สลำย เรื่ อ งกำรแต่ ง งำนกับ ตระกูล เจิ้ ง ก็เ ป็ น
โมฆะเพรำะตระกูล เจิ้ ง ต้ อ งโทษยึ ด ทรัพ ย์แ ละตัด หัว ในตัว
13
คุณหนู หำกไม่นับอำยุที่เลยวัยรุ่นกำดัดแล้ วนั บว่ ำดี ทุกอย่ำง
ยกเว้นเรือ่ งสถำนะ

ุ หนูเป็ นเพียงหญิงชำวบ้ำน คุณชำยบำงตระกูล


ตอนนี้ คณ
ก็ไม่ยินยอมตบแต่งอย่ำงถูกต้องเปิดเผย ส่วนคนที่ เห็นค่ำของ
คุณหนู โดยมำกก็ไม่แคล้ ว อยำกจะตบแต่ ง เป็ นอนุ เ ก็บ ไว้ ใ น
จวนอย่ำงลับๆ เท่ำนัน้

ในขณะที่ ใต้เทำ้ เซี่ ย ถึงแม้ตอนนี้ จะเป็ นเพี ยงผู้ปกครอง


เมืองเล็กๆ และอ่ อนวัยกว่ำคุณหนู เล็กน้ อย ทว่ำอนำคตของ
เขำไม่อำจประเมินได้ แต่เขำก็ยงั ยินดีแต่ งคุณหนูเข้ำจวน คน
คนหนึ่ งสำมำรถมีที่ซุกหัวนอนอันมันคงปลอดภั
่ ยได้ย่อมเป็ น
เรือ่ งดีไม่น้อย

บิดำมำรดำบังเกิดเกล้ำของใต้เท้ำเซี่ยก็ไม่อยู่แล้วมีเพียง
น้ องชำยหนึ่ งคนเท่ำนัน้ คุณหนูแต่งเข้ำบ้ำนนี้ ไม่น่ำจะถูกรังแก
และไม่น่ำจะลำบำกอะไร จวนผู้ปกครองเมืองเล็กๆ ในแคว้น
ติดชำยแดนอำจไม่รำ่ รวยหรูหรำเหมือนจวนตระกูลถำน แต่มี
ผู้ชำยมำถ่อมำดูแลถึงประตูบ้ำน เที ยบกับที่ พวกนำงต้องระเห
เร่ร่อนสองคน ทุกวันมีแต่ ควำมหวำดหวัน่ รอดวันนี้ ก็ไม่รู้ว่ำ
พรุง่ นี้ จะดีขึน้ หรือไม่

14
แต่ คุณหนู กลับกวนน้ ำให้ ข่นุ เสี ยแล้ว... คุณหนู ชิงชังใต้
เท้าเซี่ยจนต้องทำเพียงนี้ เชียวหรือ?

“คุณหนู คุณหนูเจ้ำคะ...”

่ ิ ง ถูก ลุ่ ย จูเ รี ย กกรอกหูจ นรู้สึ ก ระอำใจ ทว่ ำ


ถำนหวันช
สำยตำกลับมองเหม่อไปอีกฟำกห้องที่ แสงเที ยนสำดส่องไม่ถึง
จำกนัน้ ก็ถอนหำยใจยำว แล้วเอ่ยกับตนเอง

“ข้ำทำร้ำยเขำไปแล้วครัง้ หนึ่ ง จะให้ ทำร้ำยเขำอี กเป็ น


ครัง้ ที่สองหรือ...”

เสี ยงพูดนั น้ เบำมำกจนลุ่ยจูฟังไม่ชดั เจน “อะไรนะเจ้ำ


คะ? คุณหนูพดู ว่ำอะไร?”

ถำนหวัน่ ชิ งหัน กลับ มำมองลุ่ ย จู ตอบเพี ย งว่ ำ “เขำ


สำมำรถแต่งกับใครก็ได้ แต่ไม่อำจแต่งกับคุณหนูของเจ้ำ”

15
44 ชายคาเดียวกัน

หญิ ง สาวขยับ นั ง่ ตัว ตรง เอ่ ย เสี ย งอ่ อ นราวกับ พู ด ให้


ตัวเองฟัง

“ถึ ง จะแก้ ส ามะโนครัว แล้ ว อย่ า งไรเล่ า ? นอกจากจะ


ปิดบัง หลบหน้ าหลบตาไปตลอดชี วิ ต ไม่ อย่ างนั น้ ก็จะถูกคน
สงสัยได้อยู่ดี แล้วหากว่าวันหนึ่ งทางการตรวจเจอว่าเขาแต่ ง
นักโทษเป็ นภรรยา...”

ลุ่ ย จูรี บ เอ่ ย “คุณ หนู ไม่ น่ า เป็ นไปได้ น ะเจ้ า คะ ที่ นี่ คื อ
ชายแดน ไม่มีผ้ใู ดล่วงรู้หรอกเจ้าค่ะ พวกคนในเมืองหลวงไม่
น่ าจะตามมาถึงที่นี่”

่ ิ งยิ้ม “อาจู คนอย่างเขาไม่เป็ นผูป้ กครองเมือง


ถานหวันช
ไปตลอดกาลหรอก”

“แต่ว่า...”

“แล้วไยเราต้ องไปทาร้ายเขาครัง้ แล้ วครัง้ เล่ าด้ วย ขอ


เพียงพวกเรามีหลังคาคุ้มหัวก็พอแล้ว ไม่จาเป็ นต้ องให้คนอื่ น
มาเดื อดร้อน แค่ อยู่รอดปลอดภัยไปวันๆ ก็ดีมากแล้ว ถึงจะ
1
หวาดกลัวเพียงใด พวกเราก็ทาได้เท่านี้ ไม่อาจทาอย่างอื่นได้
...”

ลุ่ยจูฟังแล้ว ไม่ร้เู พราะเหตุใดในใจถึงปวดร้าว น้าตาไหล


ร่วงลงมา อดไม่ได้ที่จะสะอื้นไห้

่ ิ งได้ยินเสียงร้องไห้ยิ่งปวดขมับกว่าเดิม
ถานหวันช

ลุ่ยจูเอี้ ยวตัวไปหยิบผ้าห่ ม พอหันกลับมาก็เห็นคุณหนู


ล้มตัวลงนอนแล้วแต่ ยงั ลืมตาอยู่ นางเดินไปที่ ขอบเตี ยง ยก
แขนเสื้อเช็ดคราบน้าตาแล้วเอ่ยเสียงเบา

“คุณหนูเจ้าคะ ใต้เท้าเซี่ยยังไม่กลับไป ตอนพวกเราย้าย


เข้ามาอยู่ที่นี่ ห้องทางตะวันตกนัน่ ยังไม่เคยจุดไฟเลย ถึงแม้จะ
ทาความสะอาดแล้ว แต่หนาวมากนะเจ้าคะ ห้องนัน้ เย็นอย่าง
กับก้อนน้าแข็งก็ไม่ปานแล้วเขาจะนอนได้อย่างไร”

ถานหวัน่ ชิ งนอนหนุ น หมอน เงี ย บอยู่ ส ั ก พัก ก็ เ อ่ ย


เสียงแผ่ว “อีกสักครู่ เจ้าเอาผ้าห่มไปส่งให้เขา”

“พวกเราไม่ มี ผ้ า ห่ ม แล้ ว เอาไปให้ เ ขาผื น หนึ่ ง ช่ ว ง


กลางดึกข้ามานอนเบียดกับคุณหนูนะเจ้าคะ”

2
“อืม” ถานหวันช ่ ิ งไม่เอ่ยคาใดอี ก ลุ่ยจูจึงเปิดตู้หยิบผ้า
ห่มที่ มีกลิ่นหอมจางๆ ออกมา ผ้าห่มนี้ นางตากแดดเรียบร้อย
แล้ว ใต้เท้าเซี่ยน่ าจะพอใจ

่ ิ งก็เอ่ยขึ้นอี ก
ตอนที่ กาลังหอบผ้าห่ มออกไป ถานหวันช
ครัง้ “ในห้องไม่ได้ก่อไฟ เกรงว่าอากาศจะชื้นมาก เดี๋ยวเจ้าใช้
เตาในห้องปี กข้างๆ ละกันนะ”

เมื่อได้ยินคาพูดนี้ ดวงตาลุ่ยจูกเ็ ป็ นประกาย เด็กสาวยิ้ม


กว้าง รีบตอบรับฉับไว แล้วเอาผ้าห่มของคุณหนูไปส่ง

เมื่อลุ่ยจูนาผ้าห่ มมาถึงห้ องฝั ง่ ตะวันตก พอผลักประตู


เข้าไปก็เห็นใต้เท้าเซี่ยยืนอยู่ในห้อง

ท่ า มกลางความมื ด สลัว ไม่ รู้ว่ า ก าลัง ครุ่น คิ ด อะไรอยู่


ใบหน้ าถึงดูตึงเครียด ดวงตาเย็นเยียบหันขวับทันที ที่ลุ่ยจูก้าว
เข้ามาสายตาราวกับจะเสียดแทงผูค้ นได้

เด็ก สาวที่ ห อบผ้า ห่ ม เต็ม อ้ อ มแขน เห็น อย่ า งนั น้ ก็อ ด


ไม่ได้ที่จะทาใจดีสู้

3
สภาวะอึมครึมระหว่างคุณหนูกบั ใต้เท้าเซี่ยไม่ร้จู ะลงเอย
อย่างไร แต่สาหรับชายผู้นี้ ยามปกติไม่ว่ารูปโฉมภายนอกของ
เขาจะเป็ นอย่างไร ทว่าดวงตาก็ยงั เหี้ยมโหดกว่าคนปกติมากโข
พอถูกอีกฝ่ ายจ้องมองมาจึงทาเอาลุ่ยจูอกสันขวั
่ ญแขวนไม่หยุด

เพียงเด็กสาวเหลือบมองเขาแค่แวบเดียว หัวใจพลันเต้น
โลดราวกับจะหลุดออกมาจากอก สาหรับใต้ เท้ าเซี่ ยแล้ว นาง
ยอมรับ ว่ า ตนหวาดกลัว เขาอยู่ ม าก ไม่ รู้ว่ า เหตุ ใ ดคุ ณ หนู ที่
นุ่มนวลและอ่อนแอถึงกล้าโต้แย้งกับปี ศาจร้ายตรงหน้ านี้ ได้

เด็กสาวไม่อยากจิน ตนาการภาพที่ คุณหนู ถ กู ทุ บ ตี ไม่


ต้องเอ่ยถึงว่าปี ศาจเช่นเขาจะชักดาบออกมาจากนัน้ ก็ตวัดฉับ
เดียว ชีวิตคุณหนูกแ็ ดดิ้นสิ้นชีพแล้ว

ยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว ลุ่ยจูรีบทาความสะอาดห้องอย่างไว
ว่องเพราะใจอยากจะหนี แทบตาย นางจัดการห้องอย่างรวดเร็ว
จากนั น้ ก็สะบัดผ้าห่ มนุ่ มออกจนได้กลิ่นหอมอุ่นๆ รวยรินมา
จากเนื้ อผ้า แล้วพับวางลงบนเตียง

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ใต้เท้ารีบพักผ่อนเถิด” ริมฝี ปากที่


่ ิ ก ภายในห้องหนาวเหน็ บเป็ นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมี
เอ่ยสันระร

4
ใต้ เท้ าเซี่ ยยืนอยู่ตรงนี้ ยิ่งหนาวยะเยือกกว่าเดิมหลายเท่ า ฝ่ า
เท้าเล็กกาลังเตรียมเผ่นแน่ บออกจากห้อง

คาดไม่ถึงว่าใต้เท้าที่ ยืนเงียบเชี ยบจะเอ่ยปากกะทันหัน


“ไหนบอกว่าไม่มีผา้ ห่มแล้ว?”

“เจ้ า ค่ ะ ไม่ มี ผ้ า ห่ ม เหลื อ แต่ คุ ณ หนู บ อกว่ า ห้ อ งทาง


ตะวันตกไม่มีคนใช้มานานแล้ว กลางคืนจึงหนาวมาก เกรงว่า
ใต้ เท้ าจะหนาวก็เลยแบ่งผ้าห่ มมาให้ ใต้ เท้ าผืนหนึ่ ง แล้วนอน
เบียดกับข้าเอาเจ้าค่ะ...”

พอประโยคนี้ จบลง ความหนาวเย็นกลับค่ อยๆ อบอุ่น


ขึน้ มาฉับพลัน

“ผ้าห่ มของเจ้าหรือ?” เสี ยงถามมาจากชายที่ ยืนนิ่งราว


รูปสลักหิน

“เป็ น...เป็ นของคุณหนูเจ้าค่ะ...”

่ ายตรงข้ามโบกมือไล่ ลุ่ยจูจึงเห็นว่าใต้ เท้าขยับ


กระทังฝ่
ตัวเหมือนจะเดินไปที่ เตี ยง บ่งบอกว่าต้ องการจะพักผ่อน เด็ก
สาวลอบเป่ าลมออกจากปากเบาๆ พลางนึ กถึงวันแรกที่นางกับ

5
คุณหนู มาถึง เมืองเว่ยอัน ชายผู้นี้ยืนอยู่ที่ประตูเหนื อใกล้ กบั
กองเลือดและศีรษะนับร้อยศพ ท่ าทางดุจพญายมเย็นชาผู้นัน้
ทัง้ เหี้ยมโหดและไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้สกั เศษเสี้ยว

ความจริง แล้ ว ปี กของห้ องฝั ง่ ตะวัน ตกไม่ ได้ ใช้ ส อยมา


เป็ นเวลานาน เดิมทีตงั ้ ใจจะใช้เป็ นห้องเก็บฟื นสาหรับฤดูหนาว
ยามนี้ ลุ่ยจูหยิบฟื นออกมายัดใส่เตาอย่างรวดเร็วแล้วเติมถ่าน
เล็กน้ อย ก็เพียงพอสาหรับให้ความอบอุ่นในคา่ คืนนี้ เมื่อเสร็จ
สิ้นภารกิจนางก็เดินกลับห้องนอนด้วยท่าทางสบายใจ

ยามนี้ ห้องฝัง่ ตะวันตกมีคนมาพักหนึ่ งคนหนาซา้ ยังเป็ น


บุรษุ ซึ่งตามจริงแล้วก็ไม่เหมาะสมสักเท่าไร ถึงชายผูน้ ัน้ จะเป็ น
แม่ทพั หัวเมืองที่ ใบหน้ าหล่อเหลา ท่ าทางสง่างาม ไม่ใช่ โจรที่
ไหนก็ตาม แต่ ลุ่ยจูก็ยงั อดขลาดกลัว ไม่ ได้ อยู่ดี พอเข้ ามาใน
ห้อง นางจึงเอาเชือกมามัดประตูไว้อีกรอบ

ในห้ อ งนอน คุ ณ หนู ห ลับ ไปเรี ย บร้ อ ยแล้ ว เหลื อ ที่


ด้านข้างไว้ให้ นาง ลุ่ยจูย่องเข้าไปจ้องใกล้ๆ เห็นว่าอี กฝ่ ายยัง
หลับ ไม่ ส นิ ท ยิ่ ง ไม่ ก ล้ า ท าเสี ย งให้ ต กใจตื่ น จึ ง พยายามถอด
รองเท้าและเสื้อชัน้ นอกออกเบาๆ ก่อนจะขดตัวเข้าไปในผ้าห่ม
ขณะกาลังจะเป่ าเที ยนก็เห็นว่ามีน้ าตาเที ยนไหลหยดเป็ นเส้น
ในใจไพล่นึกถึงประโยคหนึ่ ง...ใครจะรู้บ้างว่าเที ยนที่ บริสุทธ์ ิ ยัง
6
หลัง่ น้ า ตาจนท้ อ งฟ้ าสว่ า งได้ เ ปรี ย บกับ ใจคนเรา ไยจะไม่
สามารถหลังน ่ ้าตาได้ทงั ้ กลางวันและกลางคืนเล่า

นางนวดขมับของตนเล็กน้ อย ถอนหายใจยาวแล้วเป่ า
เทียนไขให้ดบั

ช่ ว งเหมัน ตฤดู ยามค ่า คื น ยาวนานกว่ า กลางวัน มาก


ความเหน็ บหนาวทิ่มแทงกระดูก ในห้องอันเงียบสงัดฟื นไม้ผิว
ตะปุ่ มตะป่ าลุกไหม้อยู่ในเตาเผา เผยให้ เ ห็น แสงสว่ างสี แดง
ฉาน ความอบอุ่นอบอวลไปทัวห้ ่ องนอนทาให้หลับสบายตลอด
คา่ คืน

ยามฟ้ าสาง ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้ า ลุ่ยจูกลับจาก


การจับจ่ายซื้อของมาทาอาหารแล้ว นางกาลังป้ อนหญ้าให้แพะ
ที่อยู่ข้างกาแพง เมื่อเข้ามาในห้องนอน ก็เห็นคุณหนูกาลังสวม
ใส่อาภรณ์อยู่หน้ าคันฉ่ อง

่ ิ งต้องไปหออักษรป่ าไผ่ตามที่ได้พดู จาตก


วันนี้ ถานหวันช
ลงกับซ่ งฮูหยินไว้ นางรีบเข้าไปช่วยเจ้านายสวมเสื้อผ้า ยังดีที่
เสื้อผ้าผู้ชายสวมใส่ง่ายกว่าเสื้อผ้าผู้หญิง อีกทัง้ เมื่อวานนางได้
แก้ขนาดแล้ว ทาให้คณ ุ หนูใส่ได้พอดี

7
่ ิ งจัดชายแขนเสื้อให้
“ฝี มือก้าวหน้ าขึ้นแล้ว ” ถานหวันช
เรียบร้อยพลางเอ่ยปากชื่นชม

ลุ่ ย จู เ อ่ ย ด้ ว ยน้ า เสี ย งภาคภูมิ ใ จ “วัน ไหนคุณ หนู ว าด


ภาพเหมือนให้ข้า ข้าจะปักลายให้คณ ุ หนูทวอกสั
ั่ กชุด”

ถานหวันช ่ ิ งปรายตามองอีกฝ่ ายแวบหนึ่ ง แล้วต้ องส่าย


หน้ า เด็กคนนี้ พูดเหมือนกับเป็ นเรื่องง่าย ด้วยฝี มือนางตอนนี้
อย่ า ว่ า แต่ ปั ก ลายทัว่ อกเลย ดอกไม้ ส ัก ดอกก็ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งง่ า ย
ขนาดนัน้

หลังจากสวมเสื้อตัวในก็ตามด้ว ยเสื้อคลุมสี ขาวตัวยาว


เนื้ อหนาทับไว้ด้านนอก แล้วผูกตรงช่วงอก รองเท้าแบบยาวบุ
ด้วยใยฝ้ ายเนื้ อหยาบ ดูเผินๆ เหมือนชุดคลุมสี ขาวของสานัก
ปราชญ์ขงจื๊อ รูปร่างลักษณะคล้ายนักผู้คงแก่เรียนเจ็ดถึงแปด
ส่วน

เรือนผมดาขลับยาวสยายถูกรวบไว้ บนศี รษะเฉกเช่ น


ทรงผมบุ รุ ษ แล้ ว ใช้ ผ้ า สี เ งิ น ผูก ทับ ลุ่ ย จู ม องคนในคัน ฉ่ อง
ทองแดงอี ก ครัง้ ใบหน้ าและล าคอระหงอี ก ทัง้ เรื อ นร่ า งที่ ดู
ประหนึ่ งบุรษุ ผูอ้ งอาจก็ไม่ปาน

8
ขนาดลุ่ยจูเห็นแล้วยังตะลึงงัน นางจ้องมองเจ้านายของ
ตนอยู่อย่ างนั น้ ไม่เคยนึ กมาก่ อนเลยว่ าคุณหนู แต่ งเป็ นชาย
แล้วจะดูดีถึงเพียงนี้ เด็กสาวมองผูค้ งแก่เรียนที่ใบหน้ าขาวนวล
ท่าทางงามสง่า เป็ นภาพที่สมบูรณ์แบบในสายตาของนางอย่าง
มาก ท าให้ ใ บหน้ ารู ป ไข่ ข องลุ่ ย จู แ ดงระเรื่ อ อย่ า งไม่ อ าจ
ควบคุมได้

ยามที่ คุณหนู แต่ งกายแบบหญิง ลุ่ยจูสามารถพูด ได้ ว่า


ช่ า งละมุ น ละไมอบอุ่ น ยิ่ งนั ก แต่ ห ากแต่ ง ตั ว เป็ นชาย ก็
กลายเป็ นคนที่ ดู ท รงคุ ณ วุ ฒิ แล้ ว ยัง ดู ส ง่ า งามแกมขี้ เ ล่ น
โดยเฉพาะเวลาที่ มองมายังตนด้วยหางตา สามารถทาให้หวั ใจ
คนเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ได้เลยทีเดียว

ถานหวันช ่ ิ งปัดปอยผมบนหน้ าผากออก ค่อยๆ เขียนไล่


จากหัวคิ้วจรดหางคิ้ว จนได้คิ้วทรงดาบแหลมคม จากนัน้ นางก็
วางพู่กนั ลงแล้วหยัดกายขึ้นยืน อาภรณ์ บนกายขยับตามการ
เคลื่อนไหว เส้นผมที่ รวบมัดไว้ช่วยให้ร้สู ึกโล่งสบายและสดชื่น
พอนางหันกลับไปมอง ก็เห็นลุ่ยจูเหม่อมองนางอย่างโง่งมผิด
แผกจากปกติ หลังจากที่กวาดตามองลุ่ยจูครู่หนึ่ งก็เดินไปนัง่ ลง
ที่ โ ต๊ ะ ด้ า นข้ า ง ยกถ้ ว ยใส่ น้ า เต้ า หู้ขึ้ น มาจิ บ หนึ่ งค าแล้ ว เบน
สายตาไปที่ประตู

9
“คนล่ะ?”

ลุ่ยจูยงั คงเหม่อมองเจ้านายด้วยอาการเคลิบเคลิ้มงุนงง
“คนที่ ไ หน?” ถามจบถึ ง เพิ่ ง ได้ ส ติ “อ๋ อ ...” แล้ ว รี บ เอ่ ย ตอบ
คุณหนู “ใต้เท้าเซี่ย ออกไปตัง้ แต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยเจ้าค่ะ”

จากนัน้ ก็เหมือนนึ กบางอย่างได้ เด็กสาวรีบเดินไปที่ต้ไู ม้


แล้วหยิบบางสิ่งออกมา “ก่อนที่ จะไปเขาฝากสิ่งนี้ ไว้ให้คุณหนู
เจ้าค่ะ”

ถานหวันช่ ิ งวางถ้วยลง เห็นเด็กสาวส่งกล่องยาวมาให้ก็


ยื่ น มื อ ไปรับ นางชัง่ ใจอยู่เ ล็ก น้ อ ยก่ อ นเปิ ดฝาออก แสงจาก
หยกสี่สีฉายประกายออกมาจากด้านใน ช่างสว่างและดูบริสุทธ์ ิ
ชวนให้คนหลงใหล เครือ่ งประดับงดงามและประณี ตขนาดนี้ ทา
ให้นางแทบไม่อยากวาง

“ใต้เท้ายังบอกอีกว่า ของสิ่งนี้ เขาใช้เงินเบีย้ เลี้ยงตนเอง


ซื้อมา หากคุณหนูชอบก็จงเก็บไว้ ถ้าไม่ชอบก็ขว้างทิ้งไปเสีย”
เอ่ยจบก็มองสีหน้ าของคุณหนู

่ ิ ง นิ่ งเงี ย บสัก พัก แล้ ว ปิ ดมัน ลงวางไว้ ข้ า งๆ


ถานหวันช
“กินข้าวเถอะ”

10
ลุ่ ย จูรี บ นั ง่ ลงโดยพลัน มองคุณ หนู อ ย่ า งจับ สัง เกตไป
พลาง หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารไปพลาง กินได้ไม่เท่ าไรก็
อดรนทนไม่ไหว “คุณหนูเจ้าคะ ข้าว่าใต้ เท้าเซี่ ยผู้นัน้ ดูเหมือน
จะชอบคุณหนูมากๆ เลยนะเจ้าคะ”

ถานหวันช่ ิ ง ที่ ก าลัง คี บ แป้ งทอดขึ้น มาพลัน หยุด ชะงัก


วางมันลงแล้วเบนไปคีบมะเขือดองชิ้นหนึ่ งใส่ปาก รอจนกลืน
ลงคอแล้วจึงเอ่ย “เพิ่งจะผ่านไปชัวข้ ่ ามคืน เมื่อวานเจ้าไม่ได้ยิน
ที่ข้าพูดหรือ?”

“แต่ว่า ตอนนี้ มีสามะโนครัวใหม่แล้ว ขอเพียงคุณหนูอยู่


อย่างระมัดระวัง ย่อมต้องมีทางออกเสมอนะเจ้าคะ”

ถานหวันช ่ ิ งหันไปคี บมะเขือม่วง “เจ้ายังไม่รู้แน่ ชดั สัก


หน่ อย ชอบงัน้ รึ? ไม่ใช่จะวัดได้ด้วยคาพูด” เอ่ยถึงตรงนี้ นางก็
มองไปยังลุ่ยจู

“วันนี้ เขารักใคร่ชอบพอ แล้วพรุ่งนี้ เล่า ต่อจากนี้ เล่า เจ้า


แน่ ใจหรือว่าเขาจะชอบคุณหนูของเจ้าได้ตลอดไป? ถ้าหากวัน
หนึ่ งเขาไม่ชอบ แล้วหันเหไปชอบคนอื่นแทน เขาจะปฏิบตั ิ ต่อ
คุณหนูของเจ้าอย่างไร? เคยคานึ งถึงบ้างไหม?”

11
ถานหวันช ่ ิ งยังกล่าวต่ อ "ตอนนี้ เขาเป็ นแค่ ผ้ปู กครอง
เมืองเล็กๆ อายุน้อยหุนหันพลันแล่น จึงบอกว่าจะสมรสกับข้า
ถ้าเกิด วัน หนึ่ ง หนทางด้ านการทหารของเขายาวไกล ได้ รบั
ตาแหน่ งสูงขึ้น เข้าไปประจาการในเมืองหลวง และเข้าไปใน
ราชส านัก ด้วยสถานะนักโทษหญิงเช่นข้า อาจจะเป็ นตัวถ่วง
ความเจริญของเขาโดยไม่ร้ตู วั หากถึงเวลานัน้ เจ้ายังอยากจะ
ให้หนทางอันรุ่งโรจน์ ของขุนนางในวัยหนุ่มแน่ นต้ องดับสิ้นลง
อยากจะให้ เ ขาที่ เ ติบใหญ่ อย่างสง่างามต้ องจบลงเพราะแต่ ง
ภรรยาอย่างข้างัน้ หรือ?

หากแต่งไปแล้ว เขาอาจจะเสียใจในภายหลัง อาจจะซ่อน


เร้นความรู้สึก อาจจะมองว่าข้าเป็ นคนที่ ขวางหูขวางตา แล้ว
เขาก็จะรักง่ายหน่ ายเร็ว หากวันหนึ่ งไม่ชอบพอข้าแล้ว สถานะ
ของข้าก็เหมือนลูกไก่อยู่ในกามือ เขาจะล่ามโซ่กกั ขังข้าเมื่อไร
ก็ได้ หากถึงวันนัน้ ชีวิตคุณหนูของเจ้ายิ่งจะโศกเศร้าน่ าเวทนา
กว่านี้ นัก..."

ลุ่ยจูที่กาลังมองคุณหนูอยู่ ได้ยินคาพูดเหล่านี้ กอ็ ดนึ กถึง


สายตาที่ ราวจะแผดเผาคนให้ ตายและท่ าทางของใต้ เท้ าเมื่อ
คืนไม่ได้ หัวใจดวงน้ อยพลันสันสะท้
่ านด้วยความหวาดหวัน่
นางอดคิดไม่ได้ว่า ตอนที่เขาชื่นชอบยังน่ ากลัวขนาดนี้ หากวัน
หนึ่ งเขาไม่ชอบขึ้นมาเล่า จะเป็ นดังที่ ่ คุณหนูกล่าวหรือไม่ เมื่อ
12
ถึงตอนนัน้ จะวอนขอให้ฟ้าช่วยเหลือก็คงไร้คาตอบ วอนขอดิน
ก็คงไร้ประตู เรือนร่างคุณหนู บอบบางปานนั น้ ไม่ต้องวางยา
พิษทรมานเสี ยให้ยุ่งยาก เพียงฝ่ ามือเดียวก็ทาให้หยกบางใสนี้
แตกกระจาย ทาให้ดอกไม้รว่ งโรยในชัวพร ่ ิ บตา

ยิ่ ง คิ ด ลุ่ย จูก็ห วาดวิ ต กจนเหงื่ อ ซึ ม ไปทัว่ ร่ า ง สติ เ ลื่ อ น


ลอยโดยพลัน นางจดจ้องที่ชามพลางคีบอาหารเข้าปาก กว่าจะ
กลืนลงไปได้กฝ็ ื ดคอนัก สุดท้ ายก็เอ่ยด้วยอาการหน้ าม่อยคอ
ตกราวสุนัขหงอย

“อย่างนั น้ จะทาเช่ นไรเจ้าคะ ตอนนี้ พวกเราจะหนี กห็ นี


ไม่พ้น ใต้เท้าเซี่ยผูน้ ัน้ ...หากเขาไม่มีชื่อเสียงและฐานะแล้วละก็
...” นางกลืนน้ าลายลงคออึ กใหญ่ แล้วพูดต่ อ “คุณหนู เจ้าคะ
ท่ า น...ท่ า นกับ เขาไม่ รู้ว่ า จะเป็ นอย่ า งไรนะเจ้ า คะ หากไม่ มี
ตาแหน่ งใดๆ เลย นี่ ...นี่ มนั จะไม่แย่ไปกว่าเดิมหรือ...”

ถานหวันช่ ิ ง ตักโจ๊กเข้ า ปาก เนื้ อปลาสดใหม่ หอมกรุ่น


เต็มปากเต็มคา รสชาติอร่อยเลิศลา้ ผ่านไปนานจึงเอ่ ยเสี ยง
เนิบ "ฐานะชื่อเสียงต่างก็เป็ นสิ่งที่ทาให้เกิดความยุ่งยากลาบาก
ใจ ถ้าไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็ นอิสรเสรีได้...มันก็แค่เท่านัน้

13
เกี้ยวของหออักษรป่ าไผ่มาหยุดตรงหน้ าประตูบ้านแต่
เช้ า ตรู่ ถานหวัน่ ชิ งกับ ลุ่ ย จู ส บตากัน ด้ ว ยความแปลกใจ
นั กปราชญ์คนอื่นในเมืองหลวงที่ สอนในสานั กศึกษาก็ไม่เห็น
จะมีเกี้ยวเล็กมาตามรับตามส่งเช่นนี้

เมื่อสอบถามกับชายแบกเกี้ยวจึงได้ ความว่า ซ่ งฮูหยิน


เป็ นกังวล เกรงว่านางจะหาหออักษรป่ าไผ่ไม่เจอ จึงตัง้ ใจให้คน
แบกเกี้ยวไปรับมาก่อน

“ซ่ งฮูหยินช่ างเป็ นคนที่ มีเมตตา อี กทัง้ สุภาพอ่ อนโยน


จริงๆ นะเจ้าคะ” ลุ่ยจูเอ่ยชมเมื่อได้ยินคนแบกเกี้ยวกล่าวจบ
นางรีบปิดประตูลนดาลคล้
ั่ องกุญแจเรียบร้อย ด้วยต้องการจะ
ไปส านั ก ศึ ก ษาพร้อ มคุณ หนู ปรากฏว่ า ถูก ถานหวันช ่ ิ ง ไล่ ใ ห้
กลับเข้าไปในบ้าน ชาวบ้านธรรมดาที่ ไหนออกจากบ้านต้ อง
พ่วงเด็กรับใช้ ไปด้วย อายขายหน้ าคนแบกเกี้ยวให้ข บขันเล่น
เปล่าๆ

ระยะทางจากบ้านไปสานักศึกษาไม่ได้ไกลมาก เมื่อใกล้
จะถึงถนนตงเหมินก็ผ่านตลาดแห่ งหนึ่ ง ถานหวันช ่ ิ งซึ่ งนั ง่ ใน
เกี้ ย วแหวกม่ า นออกเล็ก น้ อ ย เห็น คนชราคนหนึ่ ง หาบขนม
หวานเดินอยู่ข้างทาง บนหาบมีขนมหวานชิ้นเล็กเสี ยบไม้เต็ม

14
ไปหมด ขนมทาออกมาได้น่ารักฝี มือช่ างประณี ตงดงามอย่าง
ยิ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะร้องเรียกให้คนแบกเกี้ยวหยุด

หญิงสาวลงเกี้ยวแล้วเดินไปหาคนขายด้วยท่าทางสนอก
สนใจไม่ น้ อ ย นางหยิ บ เงิ น ออกมาซื้ อ ขนมไปหลายสิ บ ไม้ มี
หลากสี หลายรูปแบบ มีทงั ้ ลิงน้ อย กวางน้ อย ปลาทอง หนู ห่อ
ด้วยกระดาษอย่างเรียบร้อย จากนัน้ จึงกลับขึน้ เกี้ยว

15
45 ฝูอิน

หออักษรป่ าไผ่แห่งนี้ เป็ นที่ ลบั ตาคนเล็กน้ อย เดิมที เป็ น


บ้านสาหรับอยู่อาศัยธรรมดา ทว่าบัณฑิตซ่งกับภรรยาได้ปลูก
ต้นไม้ทงั ้ ด้านหน้ าและด้านหลัง ทัง้ บูรณะและก่อกาแพงขึน้ ใหม่
แบ่งเป็ นสองฝัง่ ประตู

่ ิ ง มาถึง ด้ านหลัง สถานศึ กษาแห่ งนี้ ก็นึก


เมื่ อถานหวันช
พอใจกับความเงียบสงบ ถึงจะไม่ใช่สิ่งก่อสร้างที่ โอ่อ่าสง่างาม
แต่กลับมีกลิ่นอายโบราณ ปากทางเข้าประตูมีก้านดอกเหมยสี
แดงยื่นออกมาทางกาแพง ราวกับอยากให้ คนตัดเอาไป ภาพ
โดยรวมดูงดงามมากจนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอยู่ครูใ่ หญ่

ทันที ที่นางลงจากเกี้ ยวก็มีเด็กชายออกมาต้ อนรับด้วย


ความยินดี พร้อมทัง้ นาทางไปยังด้านหน้ า จากประตูสีเขียวลาย
ไผ่เข้าไป มีหินสี ครามปูเป็ นทางเดินเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยป่ า
ไผ่ต้นเล็ก ดูเงียบสงบเหมือนไม่เคยมีคนย่างกรายผ่านมาก่อน

เด็กชายตัวเล็กเอ่ยด้วยท่ าทางนอบน้ อมเปี่ ยมมารยาท


“ที่นี่คือเรือนสอนของซ่งฮูหยินขอรับ หากจะไปหอเรียนบัณฑิต
ซ่ ง ก็จ ะผ่ า นป่ าไผ่ต รงนี้ คนที่ ม าเรื อ นแห่ ง นี้ ส่ ว นใหญ่ จ ะเป็ น

1
เด็กหญิง ของครอบครัว รา่ รวย ตอนนี้ ฮูหยิ น คงกาลังสอนใน
ห้องเรียน เชิญท่านอาจารย์ไปห้องน้าชา ดื่มชาร้อนและพักผ่อน
ให้สบายก่อนนะขอรับ”

่ ิ ง เดิ น ผ่า นป่ าไผ่ต้ น เล็ก พลางมองประเมิ น


ถานหวันช
รอบๆ อย่ า งละเอี ย ด พร้ อ มกับ ฟั ง เสี ย งเด็ ก ชายอธิ บาย
เจื้อยแจ้ว จากนัน้ นางก็พึมพาเสียงเบากับตัวเอง “พูดเก่งจริง”
แล้วเดินตามเด็กน้ อยไปยังห้องรับแขก

ซ่งฮูหยินเป็ นคนที่ มีรสนิยมอย่างเห็นได้ชดั ระหว่างทาง


ที่เดินมา แม้จะเป็ นสิ่งของธรรมดา กลับตกแต่งจัดวางได้อย่าง
งดงามยิ่งนัก อีกฝ่ ายคงดูแลเอาใจใส่เป็ นอย่างดี

ตามที่เด็กชายพูด เดิมทีห้องชานี้ เป็ นห้องรับแขกในสวน


ดอกไม้ กลางห้องมีกระถางสี เขียวสดใสราวสามถึงห้ากระถาง
บนผนังแขวนภาพภูเขาดอกเหมยที่ วาดด้วยหมึกดา ถานหวัน่
ชิงมองอย่างละเอียดรอบหนึ่ งก็ดอู อกเลยว่าเป็ นฝี มือของผู้ชาย
ตามที่เด็กชายอธิบาย ภาพทัง้ หมดเป็ นฝี มือของบัณฑิตซ่ง

ถานหวันช่ ิ งเพิ่งนัง่ ได้ไม่นาน จิบชาไปเพียงค่อนถ้วย ซ่ง


ฮูหยินก็รีบร้อนเดินออกมาจากห้องเรียน เห็น หญิงสาวในห้อง

2
ชากาลังพูดคุยกับเด็กชาย ดวงตาก็เปล่งประกายทันที แล้วรีบ
เดินตรงมาหา

“ซ่ งฮูหยิน” ถานหวันช


่ ิ งวางถ้วยชาลงแล้วลุกขึ้นกล่าว
ทักทาย

“แม่นางเซิ่น เจ้ามาพอดี ข้าสอนติดต่ อกันสองชัน้ เรียน


ปากลิ้ น แห้ ง ผากที เ ดี ย ว คาบต่ อ ไปคื อ การวาดภาพและคัด
ลายมือ โชคดีที่มีเจ้ามาสอนร่วม”

กล่ า วจบก็ส ัง เกตคนที่ ยื น ขึ้น จากศี ร ษะจรดปลายเท้ า


ใบหน้ าเผยอรอยยิ้มออกมา เริ่มเอ่ยด้วยน้ าเสียงอย่างคนสนิท
ชิดใกล้ “พูดตามตรงนะ ตอนแม่นางแต่งอย่างหญิงสาวก็ทาให้
คนอิ จ ฉาพออยู่ แ ล้ ว พอแต่ ง เป็ นชายยิ่ ง ชวนให้ ต กตะลึ ง ใน
ความสง่างาม ทัง้ งดงามทัง้ ปราดเปรียว แม้แต่ข้าซึ่งเป็ นหญิงที่
แต่งงานแล้ว เห็นเช่นนี้ ยงั ไม่อาจห้ามใจมิให้สนไหวได้
ั่ เลย”

ถานหวัน่ ชิ งยิ้ ม แย้ ม “แต่ ง แบบนี้ เพื่ อ ความสะดวก


เท่านัน้ กลับทาให้ซ่งฮูหยินขบขันเสียแล้ว”

“ขาเจ้าเสียที่ไหน ข้าชมเจ้าต่างหาก”

3
พอทัง้ สองคนนัง่ ลงเรียบร้อยแล้ว ซ่งฮูหยินที่กระหายน้า
มากก็รีบหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วเอ่ยต่ อ "แม่นางมาที่ นี่กท็ า
ตัวตามสบายเหมือนเป็ นบ้านของตัวเองเถิด ที่ นี่ไม่มีคนนอก
ลูกศิษย์ที่อยู่หอเรียนด้านหน้ ากับหอเรียนด้านในก็ไม่ได้เดิน
ผ่านทางนี้ จึงสงบเงียบมาก นอกจากเจ้าแล้วยังมีอาจารย์หญิงที่
สอนกลอนและพิณอี กคนหนึ่ ง น่ าจะอายุมากกว่าเจ้าเล็กน้ อย
แต่วนั นี้ นางไม่ได้มา เมื่อมาแล้วข้าจะแนะนาให้เจ้ารูจ้ กั

เรือนสอนยังเปิดไม่ถึงสองเดื อน เด็กหญิง ยัง ไม่ มากมี


ทัง้ หมดสิบหกคน ส่วนใหญ่เป็ นเด็กอายุสิบขวบลงไป เพียงสอน
ให้วาดภาพขีดเขียนง่ายๆ เท่ านัน้ เจ้าสอนสองชัวยามในช่
่ วง
เช้าของทุกวัน หากเลิกสายหน่ อยก็ให้กินมือ้ เที่ ยงที่ นี่ แม่นางมี
ความต้องการอย่างอื่นอีกหรือไม่?"

ถานหวันช ่ ิ งได้ยินก็ชะงักเล็กน้ อย เลิกคิ้วสูง เพิ่งจะเปิด


ได้ไม่ถึงสองเดือน? บวกกับจานวนเด็กเล็กที่ น้อยเช่นนี้ อี กทัง้
สอนแค่ ส องชัว่ ยาม เวลาที่ เ หลื อ ก็ท าตัว ตามสบาย กลับ มี
เงินเดือนตอบแทนถึงสิบตาลึง นี่ มนั ไม่สูงไปหน่ อยหรือ พอคิด
ถี่ถ้วนก็ร้สู ึกว่าไม่เหมาะนัก แต่เมื่อนึ กถึงที่ ซ่งฮูหยินกล่าวเรื่อง
ขายภาพ จึง ข่ มความสงสัยในใจเอาไว้ก่อน “ไม่มีแล้ วเจ้าค่ ะ
เอาตามที่ฮหู ยินกล่าวเถิด”

4
ซ่งฮูหยินดีใจเหลือล้น เรือนสอนนี้ มีแต่นางที่ ดแู ลอยู่คน
เดียว แล้วยังต้ องสอนดนตรีกบั หนังสืออี กด้วย แม้คนจะน้ อย
แต่ พ อยุ่ง ขึ้น มาก็ทาเอาหัวหมุนได้ เหมือนกัน ตอนนี้ มีคนมา
เพิ่มแล้ว พอได้มีเวลาหายใจหายคอมากหน่ อย

่ ิ งนัง่ ได้สกั พักซ่งฮูหยินก็นานางไปที่ห้องเรียน


ถานหวันช

ในห้ อ งกว้ า งขวางมาก เมื่ อ เข้ า มาแล้ ว แทบจะไม่ รู้สึ ก


หนาวเลย มี เ ด็กหญิง ตัวกลมอายุราวห้ าหกขวบกลุ่มหนึ่ งนั ง่
ล้ อ มเป็ นวงกลมบนผ้ า ปู บางคนก็ปี นขึ้ น โต๊ ะ แต่ ล ะคนอ้ ว น
จา้ มา่ ใบหน้ าอวบอิ่มแก้มยุ้ยดูน่ารักน่ าชังยิ่งนัก

พอซ่ งฮูหยินเดินเข้ามา เด็กตัวเล็กสิบกว่าชี วิตก็รีบจัด


เสื้ อ ผ้ า ให้ อ ยู่ ใ นสภาพเรี ย บร้ อ ยแล้ ว นั ง่ คุก เข่ า อย่ า งรวดเร็ว
แสดงให้ เห็นอย่างชัดเจนว่ากลัวอาจารย์ลงโทษกันสุดชี วิต แต่
สายตากลับจับจ้องมายังหญิงสาวแปลกหน้ า

ซ่ งฮูหยินพานางมาดูตู้หนั งสือที่ เกี่ ยวกับสตรี มี ทงั ้ แบบ


ฝึ กเขียนหนังสือและให้ค้นคว้าประกอบ

หลังจากส่งซ่งฮูหยินออกจากห้องแล้ว ถานหวันช ่ ิ งก็หนั


กลับมา นางอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นเด็กหญิงกลุ่มหนึ่ งแอบ

5
เล่นซุกซนเมื่อคล้อยหลังพวกนาง หญิงสาวชอบเด็กๆ มาก ใน
ปี นัน้ ที่ มารดาเลี้ยงคลอดน้ องสาวสองคน นางก็มกั จะแอบไปดู
บ่อยๆ

ถานหวันช ่ ิ งพลิกดูสมุดภาพบนโต๊ะหนังสือที่ มีคนวางไว้


ให้ ในสมุดภาพไม่มีอะไรน่ าสนใจนัก งานนี้ ถือเป็ นงานอดิเรกที่
ไม่ จ าเป็ นต้ อ งท า แต่ ก ลับ เป็ นงานที่ น างชอบและมี ค วามสุ ข
โดยเฉพาะกับพวกเด็กตัวเล็กๆ ปานหัวไช้เท้าเหล่านี้ ที่นางต้อง
สอนให้ เขี ยนและวาด ความรู้สึกหญิงสาวยามนี้ เหมือนกาลัง
แต่งแต้มดอกไม้ลงบนผ้าดิ้นเงินดิ้นทอง

หญิ ง สาววางสมุ ด ภาพในมื อ ลงแล้ ว ถามชื่ อ ที ล ะคน


จากนัน้ จึงเล่านิทานประกอบการวาดภาพให้เด็กๆ ฟังสองเรื่อง
ก็ส ามารถท าให้ เ ด็ก หญิ ง ตัว เล็ก สิ บ กว่ า คนคุ้น เคยได้ อ ย่ า ง
แนบเนี ยน เพื่ อ เป็ นการปู พื้ น ฐานการเรี ย นโดยการให้ ล อก
ภาพวาด

ตามปกติการลอกภาพวาดสาหรับเด็กอายุน้อยนัน้ เป็ น
สิ่งที่ น่าเบื่อ ทรมาน และไม่มีความน่ าสนใจเป็ นอย่างมาก แต่
วันนี้ ทงั ้ ขนมหวานของอาจารย์หญิงคนใหม่ ทัง้ แบบวาดชุดใหม่
กับนิทานประกอบภาพที่ ถกู นามาใช้ สอน กลับ ทาให้ อดี ตเด็ก
น้ อยงอแงขี้มูก โป่ งเหล่านี้ ไม่มีใครร้องไห้ สกั คนเดี ยว สองชัว่
6
่ ิ กเรียน เด็กรับใช้ แต่ ละ
ยามผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทังเล
บ้านมารับทว่าทุกคนไม่ยอมกลับ

หลังจากปลอบขวัญส่ งกลับบ้านกันหมดแล้ว ถานหวัน่


ชิงถึงกับหมดแรงนัง่ พิงเก้าอี้ ไม่นึกเลยว่าเด็กเล็กไม่กี่สิบคน ทา
ให้ตนต้องรับมือจนเหนื่ อยล้าปานนี้

เมื่ อ พัก ผ่ อ นได้ ส ัก ครู่ รอให้ เ รี่ ย วแรงฟื้ นคื น มาหน่ อย


หญิ ง สาวจึ ง เก็บ ภาพที่ เ ด็ก ๆ ลอกวาดมาส่ ง กับ ขนมหวานที่
เหลือน้ อยนิด เตรียมเอากลับไป ทว่าเพิ่งจะยันกายขึ้น จู่ๆ ก็มี
เด็กวิ่งเข้ามากอดขานาง

หญิงสาวตกใจรีบก้มหน้ าลงมอง ที่ แท้ เป็ นเด็กชายอายุ


ราวห้าหกขวบ มุมปากเปื้ อนรอยน้ า หมึก ดวงตาที่ ดเู ลื่อนลอย
จับจ้องของบางอย่างตลอดเวลา ปากก็อ้าแล้วอ้าอีกแต่กลับไม่
มี เ สี ย งเปล่ ง ออกมา ท าไมถึ ง เอาหมึ ก ด าเข้ า ปากอย่ า งนี้ เ ล่ า
นางก าลั ง มองปากของเด็ ก น้ อย ในปากที่ อ้ า มี น้ า หมึ ก
พอสมควร

ถานหวันช่ ิ ง ไม่อาจนิ่ งเฉยจึง หยิ บ ผ้าเช็ด หน้ าไปซับ ให้


แล้วบอกให้เด็กน้ อยคายหมึก ออกมา แต่ เด็กชายตัวเล็กกลับ
ปิดปากกลืนลงไปอย่างคาดไม่ถึง
7
ถ า น ห วั ่ น ชิ ง ช ะ งั ก กึ ก ไ ป ค รู่ ห นึ่ ง ก่ อ น จ ะ
เปลี่ ย นเป็ นเช็ดปากให้ แทน ตัง้ แต่ เ ริ่มต้ นจนเสร็จสิ้น เจ้ าถัว่
แดงน้ อยที่ วิ่งเข้ามาก็ยงั ไม่มีท่าที ต่อต้าน หนาซา้ สายตายังไม่
ขยับ เขยื้ อ นไปไหน ถานหวันช ่ ิ ง จึ ง มองตามสายตาของเขา
ไป จึงเห็นว่าเด็กน้ อยจับจ้องไปที่ ห่อขนมหวานสามไม้บนโต๊ะ
เขียนหนังสืออยู่ตลอด

ในที่ สุด นางก็อดที่ จะยิ้มไม่ได้ หญิง สาวลูบ หัว เด็กชาย


เบาๆ ยื่ น มื อ หยิ บ ขนมรูป หน้ าลิ ง มาหนึ่ ง ไม้ แต่ ไ ม่ ไ ด้ ใ ห้ เ ขา
ในทันที นางกล่าวด้วยน้ าเสี ยงอ่อนโยน “ลิงน้ อยตัวนี้ ข้ามอบ
ให้เจ้า แต่เจ้าต้องบอกก่อนว่าอายุเท่าไร ดีไหมเอ่ย”

เจ้าเม็ด ถัวแดงตรงหน้
่ าผอมแห้ ง มาก เขาสวมเสื้ อ กัน
หนาวแขนยาวทาให้ดเู หมือนห่านตัวเล็กขนปุย ตรงปลายแขน
เสื้อเปรอะเปื้ อนไปด้วยหมึกเช่นกัน ถึงแม้จะผอมแห้งแต่รปู ร่าง
ได้สดั ส่วน มีแต่ดวงตาที่เหม่อลอยไปบ้าง

เด็กวัยนี้ ปกติจะคึกคัก ท่าทางร่าเริงซุกซน แต่เจ้าถัวแดง



น้ อยนี่ ตัง้ แต่ กระโจนเข้ามาก็ยงั ไม่กระดุกกระดิกเลย มี เพี ยง
ดวงตาที่ เลื่อนมองตามขนมหวาน จดจ้องอยู่ที่ของสิ่งเดี ยวไม่
สนใจเรื่องอื่น จนกระทังถานหวั
่ ่ ิ งพูดทวนช้าๆ อี กรอบ เขา
นช
จึงอ้าปากพะงาบๆ แต่กย็ งั ไม่มีเสียงเปล่งออกมา
8
ถานหวั น่ ชิ งหยุ ด นิ่ งไปครู่ ห นึ่ งแล้ ว มองเขาอย่ า ง
ละเอียด จากนัน้ สีหน้ านางก็พลันหนักอึ้ง

นางวางขนมลง ก่อนจะอุ้มเจ้าเม็ดถัวแดงขึ
่ ้นมาวางบน
เก้าอี้ ขนาดเขาสวมเสื้อแขนยาวก็ยงั มองออกว่าผอมมาก พอ
อุ้มแล้วรู้สึกตัวว่าเบาหวิวจนหญิงสาวปวดร้าวหัวใจ น้ า หนั ก
เบาอย่างนี้ มีแต่กระดูกแน่ เลย

นางย่ อ ตัว ลงนั ง่ ยองๆ แล้ ว มองตาเขา ไม่ ว่ า อย่ า งไร


สายตาคู่นัน้ ก็ยงั คงจับจ้องเพียงโต๊ะเขียนหนังสือ นางหยิบขนม
บนโต๊ะขึ้นมาหนึ่ งไม้ถึงดึงดูด ความสนใจจากเขาได้สาเร็จ พอ
นางเลื่ อ นมื อ ไปทางซ้ า ย เจ้ า เม็ด ถัว่ แดงน้ อยก็ม องตามไป
ทางซ้ า ย พอเลื่ อ นมื อ ไปทางขวา สายตาของเขาก็เ บนไป
ทางขวาเช่นกัน

ถานหวันช่ ิ งสังเกตท่ าทางของเขา เด็กน้ อยจะมองตาม


ทุกครัง้ ไม่ว่านางจะเลื่อนขนมในมือไปทางไหน กระทังส ่ ิ บรอบ
นางถึงได้หยุด เมื่อเด็กชายที่เห็นขนมไม่เคลื่อนไหวแล้วก็เหม่อ
มองมาที่ มือของนาง สุดท้ ายหญิงสาวจึงวางลิงน้ อยตัวนั น้ ใส่
มือเขา นิ้วมือเล็กทัง้ ห้าก็คว้าจับไว้แต่ไม่ร้จู กั ส่งเข้าปาก ได้แต่
ถือนิ่งๆ แล้วเฝ้ ามองอยู่อย่างนัน้

9
“พูด ไม่ เ ป็ นหรือ ?” นางถามเสี ย งแผ่ว ยื่ น มื อ ไปลู บ หัว
จากนั ้น ก็ก ุม มื อ เล็ก ๆ ของเขา ช่ ว ยเอาขนมหวานจ่ อ ส่ ง ให้
ขนาดขนมแตะริมฝี ปากแล้วเขาก็ยงั ไม่ร้จู กั อ้าปาก ได้แต่เหม่อ
มองอยู่อย่างนัน้

ผ่านไปนานพอสมควร ปากเล็กจึงขยับ เด็กคนนี้ ไม่ใช่


พูดไม่เป็ น แต่เขาเป็ น...

ถานหวันช ่ ิ ง เพิ่ ง จะมันใจก็


่ ต อนนี้ นางก าลัง จะอ้ า ปาก
พูดคุยกับเขาต่อ ก็พลันเห็นซ่งฮูหยินและเด็กชายในเรือนสอน
รีบร้อนเข้ามา พอทัง้ สองเห็น ถานหวันช ่ ิ งกับเด็กน้ อยที่ นัง่ อยู่
บนเก้ าอี้ ซ่ งฮูหยินก็ถอนใจเฮื อกใหญ่พลางยกมือลูบอก แล้ว
เยือ้ งย่างเข้ามาหา

“ดีที่แม่นางเซิ่นยังอยู่ เมื่อครู่ตอนที่ เด็กรับใช้บอกว่าไม่


เห็นฝูอิน ข้าแทบจะขวัญหายวิญญาณล่องลอย ตอนนี้ ข้ายังใจ
่ ่เลย”
สันอยู

ซ่ งฮูหยินเอ่ยอย่างตื่ นตระหนก ท่ าทางไม่ได้หยอกเล่น


สักนิ ด จากนั น้ ก็ยื่ น มือไปหาเด็กน้ อยเตรี ย มจะอุ้มเขาขึ้น มา
“ไอ้หยา เจ้าทาให้ข้าตกใจแทบแย่ ทาไมถึงวิ่งมาถึงที่นี่ได้ล่ะ...”

10
พอเจ้าเม็ดถัวแดงน้
่ อยถูกอุ้มขึ้นมาก็มีปฏิกิริยาเล็กน้ อย
เขายื่นแขนเหยียดตรง ชูลิงน้ อยในมือให้สูงขึ้นราวกับไม่อยาก
ให้ใครแตะต้องมัน

ซ่งฮูหยินที่อ้มุ เขาขึน้ มา เพียงหันกลับไปเอ่ยกับถานหวัน่


ชิง “ปกติแล้วฝูอินเชื่อฟั งมาก เล่นคนเดี ยวได้อย่างสงบ วันนี้
เด็กรับใช้แอบตี เขาแปะหนึ่ ง พริบตาเดียวก็ไม่เห็นเสี ยแล้ว ข้า
พาคนพลิกหาทัวหอเรี
่ ยนก็ไม่พบ จะให้ เด็กคนนี้ หายไปไม่ได้
เลยเชียว ถ้าหายละก็...ไม่ดีเป็ นแน่ ”

ตอนแรกถานหวัน่ ชิ งเข้ า ใจว่ า เจ้ า เม็ ด ถัว่ แดงเป็ น


บุตรชายของซ่ งฮูหยิน แต่ พอได้ยินดังนี้ แล้วก็เหมือนกับว่าจะ
ไม่ใช่ ถึงแม้ใจกาลังครุน่ คิดแต่กลับไม่ได้เอ่ยปากซักถาม

“เขาชื่ อฝูอินหรือ? ร่มไม้วาสนา...ชื่ อดี มาก เขาอาจจะ


เห็น ว่ า มี เ ด็ก ๆ ที่ เ ลิ ก เรี ย นแล้ ว ถื อ ขนมหวานออกไปจึ ง เดิ น
ตามมากระมัง”

ซ่ งฮูหยินมองไปยังห่อกระดาษขนมหวานแล้วส่ ายหน้ า
“เด็กคนนี้ เป็ นเด็กด้อยปั ญญาตัง้ แต่กาเนิด ไม่น่าจะหาทางมา
ที่ นี่เจอ เรื่องนี้ นับว่าบังเอิญมาก เขาอยู่กบั ข้ามาสองเดือนกว่า
แล้ว แม้แต่อกั ษรตัวเดียวก็เขียนไม่ได้ ใต้เท้าเซี่ ยส่งมาที่ สานัก
11
ศึ กษาเพื่ อให้ ข้ าสอนเขา แต่ ข้ าไม่มีหนทางที่ จะสอนเขาแล้ ว
ยามว่ า งก็ส อนได้ นิ ดๆ หน่ อยๆ ถื อ ว่ า เขาเป็ นเด็ก ดี แ ต่ น่ า
เสียดายที่...”

ทัน ที ที่ ซ่ ง ฮูห ยิ น โพล่ ง ชื่ อ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ออกมา หัว ใจถาน
่ ิ งก็พลันกระตุก เกิดความรูส้ ึกที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
หวันช

“เขาเป็ น...”

ซ่ งฮูหยินพยักหน้ ารับ “เรื่องนี้ คนส่ วนใหญ่ล้วนรับรู้ ข้า


จึงไม่ขอปิดบังแม่นาง” นางพูดพลางลูบแผ่นหลังฝูอินที่ อยู่ใน
อ้อมกอดอย่างเอ็นดู

“เขาเป็ นน้ องชายร่วมมารดาเดียวกันกับแม่ทพั หัวเมือง


ของเรา อายุห่างจากใต้เท้าสักสิบสี่สิบห้าปี ได้”

ซ่ ง ฮู ห ยิ น ถอนใจด้ ว ยอาการสงสารจับ จิ ต “แม่ ท ัพ หัว


เมื อ งเป็ นวี ร บุ รุ ษ ที่ อ งอาจห้ า วหาญ แต่ น้ องชายกลับ ด้ อ ย
สติ ปั ญ ญา ได้ ยิ น ว่ า ตอนที่ ต ัง้ ครรภ์น้ อ งชาย มารดาเขาป่ วย
หนัก หาหมอมาไม่น้อยแต่กร็ กั ษาไม่หาย เมื่อก่อนฝูอินพอพูด
ได้บางคา ทว่าตัง้ แต่ มารดาจากไป ใต้ เท้ าเซี่ ยก็ไม่ค่อยได้ อยู่
จวน เขาฝากฝังให้สานักศึกษาทางใต้แห่งหนึ่ งช่วยดูแลฝูอิน ให้

12
คนไปส่ งที่ โรงเรียนทุกวัน ปรากฏว่าเด็กน้ อยถูกคนในสานั ก
ศึกษารังแกจึงกลายเป็ นคนไม่พูด ซ้าร้ายยังมีครัง้ หนึ่ งที่ ป่วย
หนั ก จนเกื อ บเอาชี วิ ต ไม่ ร อด ใต้ เ ท้ า จึ ง รู้ว่ า น้ อ งชายถูก กลัน่
แกล้ง หลังจากเด็กน้ อยหายป่ วยแล้ว ก็ไม่ยอมพูดอี กเลย คาที่
เคยพูดเป็ นก็ไม่เอ่ยออกมาอีก...”

พอพูดมาถึงตรงนี้ ซ่งฮูหยินก็ส่ายหน้ าไปมา “ใต้ เท้าเซี่ ย


ไร้ ห นทางรัก ษาจึ ง ส่ ง เขามาให้ ข้ า ฝากข้ า ให้ ช่ ว ยดูแ ล หากรู้
อักษรขึ้นมาสักเล็กน้ อยก็ยงั ดี แต่ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสามารถพูด
ได้”

่ ิ งได้ยินประโยคที่ พรังพรู
ถานหวันช ่ ออกมา ก็ไม่ร้วู ่าเป็ น
เพราะนางเหนื่ อยเกินไปหรือบรรยากาศในห้องเรียนไม่ดี ถึงทา
ให้ แน่ นหน้ าอกหายใจลาบาก นางคา้ มือกับโต๊ะเขี ยนหนั งสื อ
ตรงหน้ าแล้วหวนนึ กถึงคืนที่จะหนี ออกจากเมืองเว่ยอัน...

นางเคยได้ยินลุ่ยจูพดู ถึงเรื่องนี้ ว่าเขามีน้องชายที่ ปัญญา


อ่อนอยู่คนหนึ่ ง หากนับอายุกจ็ ะประจวบเหมาะกับที่มารดาเขา
ตัง้ ครรภ์ในปี นัน้ ไม่นึกเลยว่าเหตุการณ์ ในครัง้ นัน้ จะพัวพันยุ่ง
เหยิงถึงเพียงนี้

13
ซ่ งฮูหยินยังคงพูดต่ อ แต่ ตอนนี้ ในหูหญิงสาวไม่ ได้ ยิ น
อะไรอีกแล้ว นางได้แต่มองไปที่เจ้าเม็ดถัวแดงน้
่ อยที่เหม่อลอย
อยู่ตรงหน้ าตน หญิงสาวพยายามสงบใจลงแต่ ใบหน้ าก็ยงั ไม่
วายซีดเผือด

ซ่งฮูหยินเรียกถึงสองครัง้ นางถึงมีสติกลับมา “ซ่งฮูหยิน


เมื่อครูท่ ่านพูดอะไรนะเจ้าคะ?”

“ข้าเพิ่งบอกว่า เลิกชัน้ เรียนแล้วเด็กงอแงไม่ยอมกลับ


แสดงว่าเจ้าสอนได้ไม่เลวทีเดียว...แม่นางเซิ่น สีหน้ าเจ้าไม่ค่อย
ดีเลย” อีกฝ่ ายเอ่ยด้วยความห่วงใย “ตอนบ่ายไม่มีอะไรแล้วก็
พักผ่อนให้ มากๆ ตอนเที่ ยงอยู่กินข้าวด้ วยกันแล้ วค่ อยกลับ
นะ”

ไม่รู้ เพราะอะไร จู่ๆ ถานหวันช ่ ิ งก็รสู้ ึกหมดเรี่ยวแรง นาง


ปล่ อ ยมื อ ที่ ค ้า โต๊ ะ แล้ ว ปฏิ เสธอย่ า งนุ่ มนวล “ซ่ ง ฮู ห ยิ น ถ้ า
เช่นนัน้ ข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ”

ซ่ ง ฮู ห ยิ น ไม่ ไ ด้ ร ัง้ ไว้ ได้ แ ต่ บ อกเวลาเข้ า สอนพรุ่ ง นี้


จากนัน้ ก็เดินออกจากห้องพร้อมกัน

14
จัง หวะนั น้ เองเด็กชายคนหนึ่ ง ก็วิ่ ง เข้ ามาแล้ ว รายงาน
กับซ่งฮูหยิน

“อะไรนะ? ใต้เท้าเซี่ ยมาถึงหน้ าประตูแล้วหรือ ? รีบเชิญ


ให้มาดื่มชาเร็วเข้า เอาอย่างนี้ แล้วกัน ข้าจะออกไปรับเอง” พูด
จบซ่ งฮูหยินก็รีบโบกมือเป็ นพัลวันให้ เด็กชาย จากนั น้ หันมา
ทางถานหวันช ่ ิ ง “ใต้ เท้ าเซี่ ยรักน้ องชายมาก ยามว่างก็จะมา
รับมาส่ งด้ วยตนเองเพราะเป็ นทางผ่านพอดี ถ้าเช่ นนั น้ ข้าจะ
แวะส่งแม่นางหน้ าประตูด้วยเลย”

กล่าวจบก็อ้มุ ฝูอินเดินไป ทว่าเพิ่งเดินได้เพียงสองก้าวก็


พบว่าไม่มีคนตามมาจึงหันกลับไปมอง เห็นถานหวันช ่ ิ งยังยืน
นิ่งอยู่ที่เดิม

“แม่นางเซิ่น เป็ นอะไรหรือ?” นางโพล่งถาม

ถานหวันช ่ ิ งพลันได้สติกลับมา ก้าวไปหาแล้วเอ่ยขึ้นว่า


“ซ่งฮูหยิน จู่ๆ ข้าก็ร้สู ึกเวียนหัว ขอยืมสถานที่พกั ผ่อนสักครูไ่ ด้
หรือไม่?”

15
46 ต้นสายปลายเหตุ

“ฆ่า! ฆ่า!”

เสียงทหารกาลังฝึ กแทงหอกดังกึกก้อง ในยามที่ เซี่ ยเฉิง


จู่กลับเข้าค่ายทหารในตอนเช้าตรู่ ตอนนี้ มี เสบียงอาหารเต็ม
คลัง โรงครัวจึงทาอาหารอุดมสมบูรณ์ ทุกวัน โดยเฉพาะอาหาร
ประเภทเนื้ อ ที่ มี ม าให้ กิ น ไม่ ข าด ทัง้ ยัง มี ก ารแจกจ่ า ยชุ ด กัน
หนาวให้ เ หล่ า ทหาร พวกเขาจึ ง ไม่ ต้ อ งหนาวและหิ ว โหยอี ก
ต่ อ ไป ใบหน้ าทหารแต่ ล ะนายดู ส ดชื่ น ดวงตาไม่ แ ห้ ง ผาก
ดังเช่นเมื่อก่อน

ตอนที่ เซี่ ยเฉิงจู่เดินเข้าไปในโรงครัวก็เลยเวลาอาหาร


เช้ามามากแล้ว ทาให้มีคนอยู่ด้านในไม่มาก

พ่ อ ครัว อายุสี่ สิ บ กว่ า ได้ ยิ น เสี ย งฝี เท้ า ก็ห ัน มามอง พอ


เห็นว่าเป็ นใต้เท้าก็รีบเช็ดมือ ก่อนจะแหวกผ้าม่านเปื้ อนน้ ามัน
ออกมาต้ อนรับ แล้วเอ่ยพลางยิ้มแย้ม “ใต้ เท้ ามากินข้าวหรือ
ขอรับ? ท่านมาพอดี เมื่อคืนเพิ่งฆ่าหมูไปตัวหนึ่ งแล้วนาไปต้ม
ได้ ห ม้ อ ใหญ่ เ ลยเชี ย ว ทหารในค่ า ยทุ ก นายกิ นกั น อย่ า ง
เอร็ดอร่อยมากเลยขอรับ”

1
ครัน้ เห็นใต้เท้าพยักหน้ าจึงกล่าวต่ อ “ตอนนี้ หม้อตัง้ บน
เตา ยังอุ่นๆ อยู่เลย เดี๋ยวข้าตักให้ใต้เท้าชามใหญ่ กินกับขนม
แป้ งดาสามแผ่นและหมันโถวสั่ กห้าลูกดีไหมขอรับ? หรือท่ าน
ต้องการเพิ่มหนังหมูกรอบแตงกวา?”

ใต้เท้าเซี่ยทรุดตัวลงนัง่ พลางยกมือห้าม “ไม่ต้องยุ่งยาก


หรอก เอาของที่มีกพ็ อแล้ว”

“ขอรับๆ”

เสื้ อ ผ้ า ใต้ เ ท้ า ยัง ไม่ เ ปลี่ ย นตัง้ แต่ เ มื่ อ วาน ชุ ด นี้ มี ฝุ่ น
เขลอะและเปื้ อนเลือดเล็กน้ อย เหตุใดจึงยังไม่ผลัดเปลี่ยนอี ก
นะ พ่ อ ครัว ส่ า ยหน้ าก่ อ นจะหมุ น ตัว ผละไป...หรื อ ช่ ว งนี้ ใต้
เท้าเซี่ยจะยุ่งมาก

สองวันก่ อนใต้ เท้ านาทหารร้อยกว่ านายกลับเข้ าเมือง


ด้วยท่าทางเหน็ ดเหนื่ อยเมื่อยล้า ทัง้ ขนเครื่องมือ แร่เหล็กรวม
ไปถึงอาวุธที่ทงั ้ เก่าและใช้การไม่ได้มาเป็ นจานวนมาก ได้ยินว่า
ใต้เท้าจะสร้างโรงหลอมเหล็กที่ เนินเขาเล็กๆ นอกเมือง เอาไว้
ท าอาวุ ธ ยุ ท โธปกรณ์ แ ละอุ ป กรณ์ ก ารเกษตร รวมไปถึ ง
เครือ่ งมือช่างต่างๆ ด้วย

2
เมื่อเช้า ตอนที่พวกทหารมากินข้าว ทหารแต่ละนายต่าง
พูด คุย กัน เรื่ อ งการขนแร่ เ หล็ก ไปที่ แ ห่ ง นั ้น ต้ อ งน าเหล็ก ไป
หลอมเพื่อทาอาวุธจานวนมาก อย่างน้ อยที่ สุดแต่ ละคนต้องมี
กันคนละหนึ่ งเล่ม

คนละหนึ่ งเล่ม!

ถึงลูกน้ องใต้เท้าเซี่ ยอาจมีไม่ถึงสองพันนาย แต่ กร็ าวๆ


หนึ่ งพันหกนายเห็นจะได้ หากทุกคนต้ องมี อาวุธ นั น่ แสดงว่า
ต้ องทาอาวุธหนึ่ งพันกว่าเล่ม จานวนไม่ใช่ น้อยๆ ตอนนี้ เป็ น
ช่ วงวุ่นวายจากภัยสงคราม อาวุธจึงถูกใช้ งานจนเสี ยหายไป
มาก ต่อให้เมืองทัง้ หลายในแคว้นอี้มารวมกัน ยังไม่ร้เู ลยว่าใน
คลังจะมีอาวุธถึงสามพันห้าร้อยเล่มหรือไม่

ใ น ยุ ค ส มั ย นี้ น อ ก จ า ก เ ส บี ย ง อ า ห า ร แ ล้ ว อ า วุ ธ
ยุ ท โธปกรณ์ ต่ า งๆ ล้ ว นเป็ นสิ่ ง ที่ ข าดแคลนมากที่ สุ ด ยามนี้
ทหารทัง้ ค่ า ยมี ไ ม่ กี่ ค นที่ มี ด าบ ส่ ว นทหารที่ เ หลื อ น่ ะหรื อ ...
แม้แต่กระบองก็ไม่มีเหล็กที่หวั ด้วยซา้

ได้ ยิ น แต่ เ สี ย งไม้ ก ระบองกระทบกัน ดัง ปึ้ กๆ กับ เสี ย ง


ร้องฆ่าๆ ทัง้ วัน

3
ทว่าหากทหารไม่มีอาวุธประจากายแล้วจะเรียกว่าทหาร
ได้อย่างไรเล่า! พอถึงเวลาสู้รบกลับไม่มีอาวุธในมือ อย่าได้เอ่ย
ถึงเรือ่ งจะฆ่าฟันศัตรูเลย แม้แต่ไก่กฆ็ ่าไม่ตาย

ทว่าตัง้ แต่ได้ยินว่าจะก่อเตาเผาหลอมเหล็กขึน้ มา อีกทัง้


แร่เหล็กก็ถกู นามากองเป็ นภูเขา ความหวังที่ จะได้อาวุธคนละ
หนึ่ ง เล่ ม ก็ถ กู จุด ขึ้น การสร้า งเตาเผาหลอมเหล็ก ต้ อ งทุ่ ม เท
สุดกาลังความสามารถ ทหารนับร้อยล้วนช่วยกัน เฝ้ าคอยวันที่
จะคว้าความสาเร็จมาไว้ในกามือ

พ่อครัวกลับเข้ามาในห้องครัว เอ่ยกับทหารชัน้ ประทวน


ที่ กาลังจุดไฟ “ทาไมสี หน้ าใต้ เท้ าเซี่ ยไม่ค่อยดี เท่ าไร หรือว่ า
เหนื่ อยจนป่ วยเสียแล้ว”

“พูดจาเหลวไหล! ร่างกายใต้เท้าแข็งแรงปานนี้ จะป่ วยได้


อย่างไร”

พ่อครัวยื่นมือไปหยิบชามขนาดใหญ่ เหลือบเห็นทหารที่
กาลังจุดไฟเลียปากที่มนั เยิ้ม จึงถีบเท้าไปเต็มแรง “แอบกินเนื้ อ
ใช่ไหม ดีเท่าไรที่ข้าไม่ตีเจ้าให้ตาย”

4
ทหารนายนัน้ รู้ว่าตนปิดไม่ได้ จึงแกล้งตี หน้ าตาย เพราะ
ถึงพ่อครัวจะด่าอย่างไรเนื้ อที่ กินลงท้ องก็เอาคืนออกมาไม่ได้
หรอก

พ่อครัวด่างึมงาอี กหลายประโยค แล้วเดินมาหยุดหน้ า


หม้อต้ ม กระดูกหมูในหม้อกาลังเดือดพล่าน เขาช้ อนเนื้ อติด
กระดู ก ขึ้ น มาหนึ่ งชิ้ น เลาะเนื้ อ ออกแล้ ว สับ เป็ นชิ้ น ใส่ ช าม
จากนั น้ ก็หยิบแป้ งย่างมาสามแผ่น หมันโถวห้่ าลูก กับน้ าแกง
เนื้ อกวาง แล้ววางทัง้ หมดใส่ถาดก่อนจะเตรียมนาไปส่ง

“เมื่อวานมีกระดูกกวางกับน้าแกงเนื้ อกวาง ไม่ร้วู ่ามีใคร


ส่งไปให้ใต้เท้าหรือยัง เป็ นของบารุงที่ดีมากเลยเชียว”

ทหารผู้น้อยเตรียมจะแอบกินอี กสักคาสองคา เลยโดน


พ่ อครัว ตี มือไปฉาดใหญ่ เขาจึง รี บ ประจบเอาใจโดยอาสาจะ
ช่วยยก กลับโดนพ่อครัวดุใส่อีกรอบ

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า? ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” พ่อครัวสบถออกมา


มองทหารผู้นั ้น ตาขวางไปที ห นึ่ ง แล้ ว ประคองถาดอาหาร
ออกไปจากห้องครัว

อากาศด้านนอกหนาวสะท้าน แต่โรงครัวกลับอบอุ่น

5
ถึงแม้จะเลยเวลาอาหารเช้ามามากและมีคนน้ อยลงแล้ว
ก็ตาม แต่กย็ งั มีทหารรักษาการณ์ กลุ่มหนึ่ งเดินเข้ามาสี่ ห้านาย
พวกเขาเห็นใต้ เท้ านั ง่ อยู่แต่ กไ็ ม่ได้เข้าไปร่วมโต๊ะ ทัง้ หมดพา
กันไปนัง่ อีกโต๊ะ กินไปพลางก็เหลือบมองใต้เท้าเซี่ยแล้วกระซิบ
กระซาบคุยกันไปพลาง

“เมื่อวานมีการขนแร่เหล็กเข้ามาในเมืองด้วยเกวียนสิบ
กว่าเล่ม”

“ข้าได้ยินว่า ระหว่างทางปะทะกับพวกต๋า โจรพวกนัน้ ถูก


ใต้เท้ากับทหารม้าตีพ่ายเสียยับเยิน”

“พวกโจรเถื่ อ นนั น่ ช่ า งไม่ ลื ม หูลื ม ตา รอบนี้ ก ล้ า มาท้ า


ทายกับพญามัจจุราช เพียงมีใต้เท้าของพวกเรา ใครหน้ าไหนจะ
กล้าเหิมเกริมกับเขา”

“ฮ่าๆ ใช่แล้ว ได้ยินว่าครัง้ นี้ ใต้เท้านาผู้ประสบภัยมาอยู่


ที่นอกเมืองอีกแล้ว”

“ใต้เท้าคงกังวลว่าหากวันหนึ่ งถูกจู่โจม คนพวกนัน้ จะไม่


มีที่ให้หลบซ่อน ที่จริงหาใช่เรื่องของใต้เท้าที่ ต้องมารับผิดชอบ
ไม่ ใต้เท้าน่ ะเป็ นคนมีเมตตาและรักษาสัจจะเป็ นที่สดุ ”

6
“ไม่น่าจะใช่นะ ข้าได้ยินทหารรักษาประตูเมืองด้านนอก
บอกว่า หลายวันมานี้ ผ้ลู ี้ภยั ห้าร้อยกว่าคนล้วนวิ่งหน้ าตัง้ มาหา
ใต้ เ ท้ า หากรวมกับ พวกที่ อ ยู่ อ าศัย แต่ เ ดิ ม ก็ร่ ว มพัน กว่ า คน
กระมัง! กว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้ าอีกตัง้ สามเดือน และกว่าจะ
ถึงฤดูใบไม้รว่ งอีก ยามนี้ มีทงั ้ ทหาร ทัง้ ชาวเมือง ทัง้ ผูป้ ระสบภัย
ใต้ เ ท้ า คงต้ อ งปวดหัว เอาการ โดยเฉพาะเรื่ อ งข้ า วสารและ
เสบียงอาหาร...”

“นี่ เจ้าไม่รู้อะไรเลยหรือ?” ทหารนายหนึ่ งเอ่ ยเสี ยงต่า


กว่าเดิม “พวกเราไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารอีกแล้ว เสบียง
อาหารสิบกว่าเกวียนเพิ่งถูกลาเลียงมาไว้ในคลัง ตอนนี้ ผ้ลู ี้ภยั
นอกเมืองอิ่มท้องกันถ้วนหน้ า เจ้าดูอาหารในมือพวกเราสิ ก่อน
นี้ ล้ว นเป็ นอาหารตากแห้ ง สองวัน ก่ อนก็ย งั เห็น มี เ นื้ อแค่ มื้อ
เดียว ซา้ ยังเป็ นเนื้ อติดมันอี กต่ างหาก แต่ เดี๋ ยวนี้ มีเนื้ อกินทุก
มือ้ ไม่ต้องทนหิวแล้ว”

“ใช่ ๆ ใต้เท้าน่ าจะหาเงินได้แล้วเป็ นแน่ ไม่เช่นนัน้ คงซื้อ


แร่เหล็กพวกนั น้ มาไม่ได้หรอก ตอนนี้ เหล็กราคาแพงมาก ใต้
เท้าทาได้เพราะความสามารถล้วนๆ...”

“ถูกต้อง ข้าก็ร้สู ึกว่าเป็ นเพราะความสามารถของใต้เท้า


อยู่กบั เขามีเนื้ อให้กิน จึงมีคนมาสมัครเป็ นทหารเพิ่ม”
7
“ที่ เ จ้ า พูด น่ ะ สรุป แล้ ว ใต้ เ ท้ า เอาเงิ น มาจากไหน? แต่
ก่อนนาทัพพวกเราไปปล้นซ่องโจร แต่ตอนนี้ ซ่องโจรถูกตีแตก
หมดแล้ว พวกมันเห็นทหารม้าของใต้ เท้าก็ราวกับเห็นผี ตกใจ
จนขวัญดีฝ่อกันหมด ในระยะสามสิบลี้ไม่มีใครกล้าก่อกวนที่ตงั ้
ค่ายทหารของเราเลย” น้ าเสี ยงภาคภูมิใจแกมเสี ยดายที่ ไม่มี
โจรให้ปล้น

พอเอ่ยจบทหารเหล่านัน้ ก็พากันหัวเราะ พวกเขาเข้าใจ


ว่ากดน้ าเสี ยงให้ เบาแล้ว ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยที่ นัง่ อยู่กลางโรงครัว
กลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคา

แม่ทพั หัวเมืองหาได้มีสีหน้ าแห่งความภาคภูมิใจเหมือน


ทหารพวกนัน้ แม้แต่น้อย หากว่าเอ่ยถึงความยากแค้นแสนเข็ญ
เริ่มแรกที่ ได้รบั หน้ าที่ เป็ นผู้ปกครอง เมืองเว่ยอันยังเป็ นเมือง
เปล่าเปลี่ยวจวนจะร้าง มีเพียงทหารยากจนข้นแค้นกลุ่มหนึ่ ง
ไม่ต้องเอ่ยถึงเงินในคลังที่ แม้แต่หนูสกั ตัวก็ไม่มี เขาต้องสร้าง
ก าแพงนอกเมื อ งพร้ อ มทัง้ ต้ อ งเลี้ ย งคนนั บ พัน แล้ ว ยัง ต้ อ ง
เผชิญกับพวกโจรเถื่อน

การเป็ นแม่ทพั หัวเมืองแต่ต้องอาศัยเงินทองที่ แย่งชิงมา


จากพวกโจรใช้เลี้ยงชี วิต หากพูดกันตามจริงแล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่ มี
เกียรติแต่อย่างใด
8
พ่อครัวประคองถาดอาหารออกมา ได้กลิ่นหอมฟุ้งมาแต่
ไกล อี กทัง้ มี น้ า แกงร้อนๆ ด้ ว ย ในค่ ายทหารที่ อากาศหนาว
เหน็ บ การได้ กิน อาหารเหล่ านี้ จึง เป็ นการเสพสุขที่ เ ลิศลา้ ไม่
น้ อย

เซี่ ยเฉิงจู่ซดน้ าแกงไปครึ่งชาม “น้ าแกงอะไร? รสชาติ


แปลกๆ”

เขาถามพร้ อ มกิ นหมัน่ โถวอี ก หนึ่ งค า พ่ อ ครัว ลัง เล


เล็กน้ อยก่อนเข้าไปประชิดตัวแล้วตอบว่า “ใต้ เท้ า นี่ คือ...น้ า
แกงกระดูกกวางขอรับ”

เซี่ ยเฉิงจู่ได้ ยินไม่ชดั จึงเลิกคิ้วสูงอย่ างสงสัย กัด หมัน่


โถวอีกคาแล้วมองไปยังพ่อครัว “ส่วนไหนของกวางนะ?”

“ใต้เท้า คือเมื่อวาน กวางตัวนัน้ ...”

“กวางท าไม?” เซี่ ย เฉิ งจู่ข มวดคิ้ ว เป็ นปม เมื่ อ เอ่ ย ถึ ง
กวางตัวนัน้ เซี่ยเฉิงจู่พลันนึ กถึงการแย่งชิงเนื้ อของทหารหลาย
สิบนาย และการกินมูมมามจนไม่เหลือวินัยของทหารเลย

9
เมื่อวานระหว่างทางกลับ ได้เจอกับโจรผู้ร้ายท่าทางใหญ่
คับฟ้ ามาปล้นกองเกวียน โชคดีที่เซี่ยเฉิงจู่เตรียมการป้ องกันไว้
อ ยู่ แ ล้ ว ท ห า ร ที่ ติ ด ต า ม ม า ก็ ล้ ว น ฝี มื อ ดี แ ต่ ล ะ น า ย มี
ประสบการณ์ ร บนั บ ร้ อ ยครัง้ ความเสี ย หายจึ ง แทบจะไม่ มี
จังหวะนั น้ เองกวางป่ าก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเป็ นคนที่ พุ่งหอกไป
ปลิดชี พ เพราะรู้ดีว่ากวางจัดเป็ นของดี ทุกส่ วนทัง้ เนื้ อรวมถึง
เลือดและเครื่องในล้วนเป็ นของลา้ ค่า

แต่ไม่คิดว่าพอเอากวางโยนเข้ามาที่ โรงครัวแล้วออกไป
ข้างนอก เมื่อกลับเข้ามาอี กที กวางก็ถกู แบ่งตัง้ แต่ หวั จรดเท้ า
แม้แต่ชามเลือดก็ไม่มีหลงเหลือ โชคดีที่พ่อครัวเหลือกระดูกกับ
่ ิ งได้
เอ็นไว้ให้เล็กน้ อย เขาจึงนามันไปตุ๋นให้ถานหวันช

“ข้าแอบเก็บไตกวางตัวนั น้ ไว้ให้ ใต้ เท้ าเงี ยบๆ และยัง


เหลือกระดูกอยู่หลายชิ้น เป็ นของดียิ่งสาหรับผู้ชาย แต่ เจ้าสือ
หน้ าด้านไร้ยางอาย แม้แต่กระดูกเล็กๆ ก็ยงั อยากจะได้ ทว่าข้า
ไม่ยอมให้ เพราะตัง้ ใจจะเก็บไว้ให้ใต้เท้าโดยเฉพาะ น้าแกงที่ใต้
เท้าซดเมื่อครู่กค็ ือน้าแกงไตกวางกับกระดูกที่ต๋นุ มาทัง้ คืน เป็ น
ของดีมากขอรับ...”

10
เซี่ ยเฉิงจู่ซดน้ าแกงชามใหญ่ ที่เหลื อลงท้ อง เมื่อได้ ยิน
ประโยคนัน้ ก็ตะลึงงันไปครู่หนึ่ ง มองชามที่ ว่างเปล่า แม้เขาจะ
เคยล่ากวาง แต่กไ็ ม่เคยได้กินแบบนี้ มาก่อน

ชายหนุ่ ม รู้ดี ว่ า พ่ อ ครัว เต็ม ไปด้ ว ยเจตนาดี แต่ เ ขายัง


หนุ่ มแน่ นและยังไม่ได้แต่ งงาน กล้ามเนื้ อกายา พลังหยางไม่
เสียหาย จึงรูส้ ึกว่าน้าแกงไตกวางนัน่ บารุงไปก็เปล่าประโยชน์

พ่อครัวคิดว่าใต้เท้าอยากรู้ว่าไตกวางไปไหน จึงไม่รอให้
ใต้ เท้ าถาม รีบอธิบายด้วยตัวเอง “ไตกวางนี่ ข้าแบ่งออกเป็ น
สามส่วน ส่วนหนึ่ งตุ๋นกับกระดูกให้ใต้เท้าซดชามนี้ ยังเหลืออีก
สองส่วน เมื่อคืนข้าฆ่าไก่ไว้ตวั หนึ่ ง ตัง้ ใจว่าวันนี้ จะตุ๋นน้ าแกง
ไก่ ใ ส่ ไ ตกวางอี ก หนึ่ ง ส่ ว นให้ ใ ต้ เ ท้ า จะยิ่ ง บ ารุง ร่ า งกายดี นั ก
เชียว”

เขานิ่งเงียบมาตลอด ไม่ได้คิดมากแต่อย่างใด แต่พอฟั ง


ผู้หวังดี พล่ามมาสักพักก็เริ่มรู้สึกว่าน้ าแกงชามที่ กินลงท้ องไป
เมื่อครู่ทาให้ ร้อนผะผ่าวไปทัวร่
่ าง จึงรีบยื่นมือห้ ามอี กฝ่ ายไว้
“พอแล้วล่ะ ของที่ เหลือไม่ต้องทาให้ ข้า เอาไปให้ เจ้าสื อเถอะ
เขาเพิ่งจะแต่ งภรรยา ย่อมต้ องการมากกว่ าข้ า เอาไปให้ เขา
แล้วกัน”

11
“ใต้เท้า...”

เซี่ยเฉิงจู่โบกมือเป็ นพัลวัน “ไปทางานต่อเถอะ”

พอพ่อครัวไปแล้ว ชายหนุ่มก็รีบปิดจมูกเพื่อยับยัง้ ไม่ให้


เลือดกาเดาไหลทันที

“ไตกวางรึ?” เขามองชามเปล่าบนโต๊ะ นี่ จะไม่ยิ่งเป็ นการ


เติ มน้ า มัน เข้ า ในกองไฟหรอกหรื อ ? เขาเร่ ง กิ นอาหารให้
หมดแล้วลุกขึน้ เดินออกจากโรงครัวไป

ถึงแม้จะเป็ นหน้ าหนาว แต่ นอกเมืองกลับครึกครื้น ทัง้


เกวี ย นและรถม้าวิ่ ง เข้ าออกไม่ข าดสาย ทุ ก พื้น ที่ เ ต็มไปด้ ว ย
นายทหารและผู้ลี้ภยั นั บไม่ถ้วน บ้างเดินไปมา บ้างก็ขุดหลุม
บ้างก็สร้างห้องก่อหิน เพราะต้องเร่งสร้างที่ พกั ให้กบั ผู้ลี้ภยั ที่ มี
จานวนเพิ่มขึน้ มาก

นอกเมืองฝั ง่ ตะวันออกถูกหักร้างถางพงเป็ นลานกว้าง


โรงหลอมเหล็กถูกสร้างขึ้นมาก่อนเป็ นอันดับแรก พอก้าวเข้า
ไป ไอความร้อนก็ลอยเข้ามาปะทะหน้ าทันที

12
ทันที ที่เซี่ ยเฉิงจู่กบั จางเซี่ ยนและตู้เหอเดินเข้าไป ช่างตี
เหล็กกับบรรดาลูกศิษย์ที่มาฝึ กเป็ นช่ างต่ างก็หยุดมือแล้วหัน
มาทักทาย ก่อนจะหันกลับไปทางานต่อ

ทัง้ สามเดินมาจนถึงหน้ าเตาเผา ก็เห็นชายหนุ่มใบหน้ า


เหลี่ ยมร่างกายา กาลังออกแรงทุบเหล็กที่ เผาไฟครัง้ แล้วครัง้
่ ่อเปี ยกชุ่มร่างจนวาววับ
เล่า กระทังเหงื

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา เพียงเดินไปดูหอกที่ ทา


เสร็จแล้วเล่มหนึ่ ง เขาหยิบด้ามขึ้นมา ลองชังน ่ ้ าหนั กด้วยมือ
แล้ ว พิ จ ารณาความคมของใบมี ด อย่ า งละเอี ย ด ก่ อ นจะกวัด
แกว่งบนอากาศสองทีแล้วพยักหน้ า

“ไม่เลว!” สายตาชายหนุ่มจับจ้องอยู่ที่ปลายหอกคมอี ก
ครัง้ ดูคมกริบมากทีเดียว จากนัน้ ก็ลองแทงออกไป

“ใต้ เ ท้ า ขอรับ นั น่ คื อ สื อ ห้ า ว ข้ า ได้ ยิ น มาว่ า ช่ า งเหล็ก


สกุลสือเป็ นที่เลื่องชื่อในเมืองอี้โจว ฝี มือตี เหล็กตกทอดมาจาก
บรรพบุรษุ ทุกรุ่นล้วนตีอาวุธให้กบั ทหารฝี มือดี กระทังสื ่ บทอด
มาจนถึงรุ่นปั จจุบนั ซึ่งเหลือเขาแค่คนเดียว เดิมที เขาก็เป็ นคน
ปกติดี แต่ เพราะภรรยาคนงามหนี ไปกับบัณฑิตอ่ อนแอ เขาก็
เลยเสี ยสติแล้ วออกจากเมืองอี้ โจวมาโดยไม่ รู้ว่ าจะไปที่ ไหน
13
สุดท้ายซัดเซพเนจรมาที่เว่ยอันจนเกือบจะหิวตายอยู่ข้างถนน”
จางเชี่ยนรายงาน

“ผู้หญิง! หนี ไปแล้วก็แล้วไปสิ หาเอาใหม่กไ็ ด้นี่ เป็ นช่าง


ตี เหล็กก็ใช่ ว่าจะเลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้ จะเป็ นบ้าเลอะเลือน
เพื่อผู้หญิงคนเดี ยวทาไม เห็นแล้วไม่มีศกั ด์ ิ ศรีเอาเสี ยเลย” ตู้
เหอท าเสี ย งฮึ ใ นล าคอคราหนึ่ ง แล้ ว พู ด ต่ อ “ไม่ รู้จ ริ ง ๆ ว่ า
บัณฑิต พวกนั น้ นอกจากจะคัดบทกลอนเขี ย นอักษร แต่ งบท
ประพันธ์วาดภาพแล้ว มือยังจะยกอะไรได้ บ่าไหล่กห็ าบของ
หนักไม่ได้ พวกคงแก่เรียนไก่อ่อนมันมีดีอะไรนะ”

“ผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายที่ สุภาพมี มารยาท พวกที่ เรียน


หนังสือวาดภาพท่องโคลง” จางเซี่ยนกล่าว “อย่างพวกเราที่โผง
ผางไม่ได้รา่ เรียนหนังสือ วันๆ ราดาบแทงหอก กวัดแกว่งค้อน
ทุบเหล็ก หญิงสาวทัง้ หลายเห็นแล้วก็หวาดกลัวพากันเดินอ้อม
ไป เจ้า เห็นทหารในค่ ายได้ แต่ งเมี ยสักกี่ ค นล่ ะ? แล้วเจ้าเห็น
พวกบัณฑิตทาตัวเป็ นอันธพาลบ้างไหม?”

“นี่ มัน สัง คมยุ ค ไหนแล้ ว ! ผู้ห ญิ ง ถึ ง ได้ ต าบอดกัน ไป


หมด!” ตู้เหอโวยวาย

14
เซี่ ยเฉิงจู่วางหอกไว้ตามเดิม แล้วหมุนตัวเดินออกจาก
โรงหลอมเหล็กทันควัน ผู้ติดตามทัง้ สองต่ างมองหน้ ากัน ไม่รู้
ว่าพวกตนพูดอะไรผิดจึงพากันหุบปาก

เมื่อออกจากโรงหลอมเหล็ก ใบหน้ าเซี่ ยเฉิงจู่พลันเคร่ง


ขรึม เขาหันไปเอ่ยกับจางเซี่ยน

"มีดปลายหอกใช้เหล็กน้ อย ไม่สิ้นเปลืองเวลาดังนัน้ ให้


ทาอันนี้ ก่อน ทหารทุกนายจะได้มีหอกติดกาย หากจะให้ดีควร
ให้ผ้ลู ี้ภยั นอกเมืองมีติดตัวด้วย ถ้าวันหนึ่ งในเมืองเกิดสงคราม
ทุกคนจะได้ใช้ปกป้ องตัวเอง

อีกเรื่อง เครื่องไม้เครื่องมือสาหรับทาการเกษตรต้องรีบ
ทาให้ทนั ฤดูใบไม้ผลิปีหน้ า เมื่อได้จานวนเพียงพอแล้วก็ส่งไป
ให้หวังจี"้

เขาหันไปมองโรงหลอมเหล็ก “พวกเจ้าเรียกช่างตี เหล็ก


ที่ สนั ทัดในการทาอุปกรณ์ การเพาะปลูกมาให้ มากที่ สุดเท่าที่จะ
ทาได้ แล้วเพิ่มข้าวให้ผทู้ ี่ถกู เรียกเข้ามาคนละครึง่ ชัง”

“ขอรับ ใต้เท้า” จางเซี่ยนกับตู้เหอตอบรับพร้อมกัน

15
เซี่ยเฉิงจู่เอ่ยจบก็กลับขึน้ หลังม้า

จางเซี่ ยนแหงนหน้ ามองดวงอาทิตย์เหนื อศี รษะนี่ เป็ น


เวลาเที่ ยงแล้ว เขาจึงอดถามไม่ได้ “ใต้เท้า เจ้าสือกับภรรยาจัด
งานเลี้ยงที่บา้ นตอนเที่ยง ใต้เท้าจะไปหรือไม่ขอรับ?”

“ไม่ ข้าจะไปที่ หออักษรป่ าไผ่” ขณะที่ เซี่ ยเฉิงจู่พูด ม้าก็


ได้พ่งุ ทะยานออกไปแล้ว

จางเซี่ยนยกนิ้วถูจมูก “ใต้เท้าไปรับฝูอินแล้ว”

ตู้เหอมองเขาแวบหนึ่ ง “อย่าลืมสิว่ายังมีอีกคนหนึ่ ง ที่ใต้


เท้าโกรธฟึ ดฟั ดเมื่อครู่นี้เป็ นเพราะได้ยินที่ ข้าพูดหรือเปล่า? ใน
หออักษรมีแต่พวกคนหน้ าขาวเต็มไปหมด”

จางเซี่ยนวางมือบนไหล่สหาย “คนของใต้เท้าสอนแต่ลูก
ศิษย์หญิง”

ตู้ เ หอดึ ง มื อ ของเขาออก “อย่ า คิ ด ว่ า ข้ า ไม่ เ คยไปหอ


อักษรนะ ที่นัน่ ชายหญิงเรียนร่วมกัน!”

16
47 หลบไม่พ้น

ซ่ งฮูหยินให้เด็กชายคนหนึ่ งพาถานหวันช่ ิ งไปพักผ่อนที่


ห้องด้านข้างห้องโถงใหญ่ ซึ่งก็คือข้างๆ ห้องน้าชานัน่ เอง

หญิงสาวใช้นิ้วมือนวดที่ ขมับแล้ว เดินตามเด็กชายเข้า


ไป

“ท่ า นอาจารย์ ต้ อ งการนอนพัก ผ่ อ นหรื อ ไม่ ข อรับ ?”


เด็กชายถาม เตรียมจะไปหยิบผ้าห่มมาให้

ถานหวันช ่ ิ งหันมาห้ ามไว้ทนั ที “ไม่ต้องหรอก ข้าแค่ จะ


นัง่ พักสักครู่ เจ้าไม่ต้องห่วง ไปทางานต่อเถอะ”

เด็ก ชายเห็น สี ห น้ า อาจารย์ห ญิ ง ค่ อ นข้ า งซี ด เซี ย ว จึ ง


ลัง เลเล็ก น้ อ ย “ถ้ า เช่ น นั ้น ข้ า จะไปเอาชาร้ อ นมาให้ ท่ า นนะ
ขอรับ” พูดจบก็เดินไปที่ ป้านชา ถานหวันช ่ ิ งมองเด็กชายแล้ ว
ยิ้มให้น้อยๆ

“ขอบใจเจ้ามาก”

1
“ท่ า นอาจารย์ เ กรงใจเกิ นไปแล้ ว ” เด็ ก ชายชื่ น ชม
อาจารย์ผ้นู ี้ ที่ทงั ้ งดงามและพูดจานุ่มนวลเป็ นอย่างมาก เขาหิ้ว
ป้ านชาออกไป

พอคล้อยหลังเด็กชาย ถานหวันช ่ ิ งก็ลดมือลง นางคิดไป


ถึงเด็กชายอายุห้าขวบที่ ปากเลอะหมึก เมื่อครู่...ที่ แท้ เขาก็เกิด
จากหญิงตัง้ ครรภ์ที่นางลงแส้ ในปี นัน้ ถึงนางจะบอกตัวเองอีก
ครัง้ ว่ ามันเป็ นเรื่องสุดวิสยั นางฟาดแส้ ใส่ หญิงผู้นัน้ หนึ่ งครัง้
และฟาดใส่ เ ซี่ ย เฉิงจู่ส ามครัง้ เจตนาของนางก็เ พื่ อช่ ว ยชี วิ ต
ไม่ใช่เพื่อระบายความแค้น

แต่เมื่อได้เห็นเด็กด้อยสติปัญญาคนนี้ แล้ว ก็อาจเป็ นไป


ได้ว่าเขาได้รบั ความกระทบกระเทือนจากแส้ครานัน้ ในอกของ
นางอดไม่ได้ที่จะมีเกิดความรู้สึกกลัดกลุ้ม ละอายใจ และวิตก
กังวลอย่างแยกไม่ออก ยากที่จะอธิบายให้ชดั แจ้งได้

นอกจากนั น้ นางเพิ่งได้รบั รู้เรื่องราวเหล่ านี้ มาหมาดๆ


หากต้องเผชิญหน้ ากับเซี่ยเฉิงจู่และน้ องชายในตอนนี้ ถานหวัน่
ชิงรูส้ ึกว่าอย่างน้ อยที่สดุ นางคงต้องร้อนรนต่อหน้ าอีกฝ่ ายเป็ น
แน่ ดังนัน้ จิตใต้สานึ กของนางจึงเลือกที่จะหลีกหนี ชวคราว ั่

2
ตามจริ ง แล้ ว นางไม่ ไ ด้ ป วดหั ว แต่ ห ากต้ อ งพบกั น
ตรงหน้ าประตู สถานการณ์ ตอนนั น้ คงทาให้นางปวดหัวขึ้นมา
แน่ แล้วยังจะเรือ่ งมารดาของพวกเขาอีก ดังสานวนที่เคยได้ยิน
มาว่า ‘ไม่ได้ฆ่าป๋อเหริน แต่ป๋อเหรินกลับตายเพราะนาง’ ถึงจะ
ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่กย็ ากที่ จะผลักความรับผิดชอบ
ไปได้

โดยเฉพาะเด็กน้ อยคนนั hนที่ แสดงให้ เห็นอย่างเด่นชัด


ว่ า เขาเป็ นคนที่ ข าดทุ น นางสู ด ลมหายใจเข้ า ลึ ก ๆ ห้ อ งนี้
ค่อนข้างเล็ก อากาศย่อมน้ อย อาจทาให้ คนฟุ้งซ่ านจนเป็ นบ้า
ได้ หากนางรู้เ ร็ว กว่ า นี้ ว่ า น้ อ งชายของเซี่ ย เฉิ งจู่ก็เ รี ย นที่ ห อ
อักษรด้วย นางคงไม่ตกปากรับค้าตั งแต่แรกว่าจะมา

ครัน้ นึ กถึงประโยคที่ ซ่งฮูหยินเชิญชวนให้ใต้ เท้ าเซี่ ยเข้า


มาดื่ มชา นางก็รู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ ว พอคิดถึงตรงนี้
หญิงสาวก็เริ่มนัง่ ไม่ติด รีบเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกไป

่ ิ งเดินออกมาก็สงั เกตได้ว่าไม่มีคนอยู่ด้าน
เมื่อถานหวันช
นอก

สายลมพัดผ่านป่ าไผ่เล็กๆ จนได้ยินเสี ยงต้ นไผ่เสี ยดสี


กัน ระหว่างป่ าไผ่มีทางเดินเล็กสายหนึ่ ง เป็ นทางผ่านไปยังหอ
3
เรียนของบัณฑิตซ่ง ตอนที่เด็กชายพาเดินเข้ามาได้เล่าให้ฟังว่า
สานักศึกษานี แบ่งออกเป็ นสองฝัง่ และหอเรียนสองแห่งก็จะมี
ประตู ท างออกแยกกัน โดยที่ ทั ง้ สองประตู ส ามารถเดิ น ไป
จากทางเดินสายนี้ ได้

เมื่อคิ ดจะหลี กเลี่ ยงก็ต้องหลบให้ ถึงที่ สุด เนื่ องจากไม่


อยากพบเจอเขาในวันนี้ หญิ ง สาวจึ ง เดิ น ไปตามเส้ น ทางคด
เคี้ยวเข้าไปในป่ าไผ่ด้วยท่าทางลังเลใจ

ช่วงเที่ยงวันเป็ นเวลาเลิกเรียนลูกศิษย์จึงกลับกันไปมาก
แล้ว เหลือเพียงพวกที่ทบทวนบทเรียนในห้อง อากาศด้านนอก
หนาวเหน็ บเพี ยงนี้ คงไม่มีใครออกมาเดิ น เล่ น ชมธรรมชาติ
เป็ นแน่

่ ิ งสวมชุดคล้ายพวกบัณฑิต ถึงแม้รปู ร่าง


วันนี้ ถานหวันช
ของนางจะไม่ สูง มากแต่ ก็ไม่ได้ เ ตี้ ย เสื้ อผ้าพอดี กบั เรือนร่าง
นางยกชายแขนเสื้อขึ้นบังลมที่ พดั มาปะทะใบหน้ า เดินไปตาม
ทางเล็กๆ อย่างรีบร้อน หากมองเผินๆ จะคล้ายกับผู้ชายร่าง
เล็กผอมเพรียว

บนทางเดิ น มี ผู้ค นอยู่ ป ระปราย เมื่ อ มองไปทางหน้ า


ประตูกเ็ ห็นเด็กรับใช้กาลังกวาดพื้น ระหว่างทางหากเจอพวก
4
ลูกศิษย์นางก็จะตีสีหน้ าเคร่งขรึมเพื่อไม่ให้ใครสงสัย บางครัง้ ก็
เดินอ้อมเพื่อเลี่ยงผู้คน นางเดินๆ หยุดๆ อยู่เช่ นนี้ จนกระทัง่
ถึงประตูใหญ่ เมื่อออกจากประตูมาแล้ว ถานหวันช ่ ิ งจึงทิ้งชาย
แขนเสื้อลงแล้วเดินต่อโดยไม่คิดจะหยุดพัก

ความคิ ด เดี ย วในใจเวลานี้ คื อ อยากกลับ บ้า น กลับ ไป


พักผ่อนสักครู่ รอให้ จิตใจหายหวาดหวันมี ่ เรี่ ยวแรงเสี ยก่ อน
แล้วค่อยครุ่นคิดเรื่องนี้ อย่างถี่ถ้วนอีกครัง้ นางก้าวเท้ารวดเร็ว
ไม่มีแก่ ใจจะสัง เกตรถม้า ที่ วิ่ ง ออกมาตรงมุม จู่ๆ พลัน ได้ ยิน
เสียงแว่วมา

“คุณหนูเถาเอ๋อ...” ถานหวันช ่ ิ งชะงักเท้ าทันที ‘เถาเอ๋อ’


เป็ นชื่อที่ ไม่ได้ยินมานาน…นานมากจนนางแทบจะหลงลืมไป
แล้ว มันเป็ นชื่อเล่นที่ มารดาซึ่งถึงแก่กรรมไปเมื่อหลายปี ก่อน
เคยเรียก เพราะตอนที่นางเกิด เนื้ อตัวสีชมพูอ้วนจาามา่ เหมือน
ลูกท้อ

เมื่ อ มารดาผู้ใ ห้ กาเนิ ดไม่ อ ยู่ ชื่ อ เล่ น นี้ ก็ไ ม่ มี ผ้ใู ดเรี ย ก
ขานอีก บิดามักจะเรียกนางว่าชิงเอ๋อ ส่วนมารดาเลี้ยงเรียกนาง
่ ิ ง น้ องสาวก็เรียกแค่พี่ใหญ่ ดังนัน้ ชื่อเถาเอ๋อที่แสดงถึง
ว่าหวันช
ความรักใคร่ทะนุถนอมจึงได้ถกู ลืมเลือนไป

5
แต่ว่าชื่อเรียกนี้ ราวกับถูกซ่อนไว้ในความทรงจาส่วนลึก
ในใจ ถึงแม้จะผ่านมานานหลายปี แล้วก็ตาม เมื่อคาว่า ‘คุณหนู
เถาเอ๋อ’ ถูกเรียกขึน้ มาอีกครั งจึงแฝงไว้ด้วยความหมาย

ผู้ที่ยงั จดจาชื่ อนี้ ได้มีเพียงคนเฒ่ าคนแก่ ในจวนตระกูล


ถานไม่กี่คนเท่านัน้

ถานหวันช ่ ิ งหันหน้ ากลับมา มองไปยังรถม้าคันนัน้ ก็เห็น


ชายคนหนึ่ งที่ผอมแห้งจนหนังหุ้มกระดูก เขาก้มหน้ าตา่ ไม่กล้า
มองมายังตาแหน่ งที่นางยืนอยู่

หญิ ง สาวเพ่ ง มองตาไม่ ก ะพริ บ คนตรงหน้ า ...ที่ แ ท้ คื อ


พ่อบ้านหร่วนคนสนิทของบิดา แต่ ตอนนั น้ หร่วนอี ตนั เพิ่งจะ
อายุสี่สิบ เป็ นชายฉกรรจ์ที่ใบหน้ าอิ่มเอม แต่ ตอนนี้ กลับผอม
แห้งใบหน้ าซูบตอบ ไม่ต่างจากคนเลี้ยงม้า ยากที่ จะเชื่อว่าเป็ น
คนเดียวกัน

“ใช่ คุ ณ หนู จ ริ ง ๆ ด้ ว ย” พ่ อ บ้ า นหร่ ว นในชุ ด มอซอมี


ท่าทางตื่นเต้น รีบเดินมาหา

“ข้านึ กว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีกแล้ว นึ กไม่ถึงว่าจะได้เจอ


คุณหนู...” ดวงตาของเขาฉายแววตื่นเต้นดี ใจ รืน้ ไปด้วยน้าตา

6
“คุณ...คุณหนูเป็ นอย่างไรบ้าง? แล้วทาไมจึงแต่งตัวเช่นนี้ แล้ว
นายท่านล่ะขอรับ?”

่ ิ งนิ่งเงียบไปชัวครู
ถานหวันช ่ ่ หากให้ นางเล่าทัง้ หมดคง
จะยืดยาว และไม่เหมาะที่จะพูดออกมาในที่แบบนี้ จึงได้แต่มอง
ซ้ายแลขวาว่ามีคนอยู่แถวนี้ หรือไม่

นางเอ่ยเสี ยงเบา “ตระกูลถานถูกเนรเทศให้มาอยู่แถบ


ชายแดน ข้ากับบิดาแยกกันไปคนละทาง ข้าอาศัยอยู่เมืองนี้
ตอนนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่ อน ตระกูลถานต่ างก็มีสถานะเป็ น
นักโทษ พ่อบ้านหร่วนอย่าได้ไปพูดถึงที่ไหนอย่างเด็ดขาด”

“คุณหนู เ ถาเอ๋อไม่ต้ องกังวล บนรถไม่ มีค น มี เ พี ยงข้า


ไม่อย่างนัน้ ข้าคงไม่กล้าเรียกคุณหนู”

ถานหวันช ่ ิ งพยักหน้ า สังเกตคนตรงหน้ าอย่างละเอียดถี่


ถ้วนอี กครัง้ ก็ร้สู ึ กหนั กหน่ วงในใจ พ่อบ้านหร่วนคนนี้ ติดตาม
บิดานางตัง้ แต่ ยงั เล็ก จนอายุสี่สิบกว่าก็ยงั เป็ นคนที่ บิดาใช้ไป
ท างานต่ า งๆ บ่อ ยครัง้ เป็ นคนที่ ซื่ อ สัต ย์จ งรัก ภัก ดี ทว่ า พอ
ตระกูล ถานล่ ม จม ทาสที่ ต ายก็มี ถูก ขายไปก็ มี ส่ ว นอดี ต
พ่อบ้านคนนี้ กลับตกอยู่ในสภาพยา่ แย่ นางเห็นแล้วก็ยากจะทา
ใจให้ยอมรับได้
7
ความตกต่า เปลี่ ยนชายฉกรรจ์ให้ แก่ ชราได้ เกินจริงถึง
เพียงนี้ เชียวหรือ แต่เมื่อได้เห็นคนประสบกับความทุกข์ทรมาน
ก็พลันนึ กถึงชะตากรรมของตน

หญิงสาวเอ่ ยถามด้วยน้ าเสี ยงนุ่ มนวล “ตอนนี้ พ่อบ้าน


หร่วนเป็ นอย่ างไรบ้าง แล้วครอบครัวเล่ า ทาไมจึงได้ มาเป็ น
คนขับรถม้า”

พ่อบ้านหร่วนฟังจบก็หวั เราะเสียงขื่น “คุณหนูเถาเอ๋อยัง


จะเรียกข้าว่าพ่อบ้านหร่วนอยู่อีก” เขามองไปยังรถม้าแล้วหลุบ
ตาลง “ข้าเป็ นคนขับรถม้าเพราะไม่อาจทาอะไรได้มากกว่านี้
ต่ างกับตอนอยู่จวนตระกูลถาน...” พ่อบ้านหร่วนเงยหน้ ามอง
ถานหวันช ่ ิ ง แล้ ว พูด ต่ อ “นายท่ า นดูแ ลดุจ มิ ต ร แต่ ต อนนี้ ข้ า
เปลี่ยนนายเป็ นว่าเล่น คนส่วนใหญ่จะมองว่าข้าอายุมากแล้ว
คงใช้ ป ระโยชน์ อ ะไรไม่ ไ ด้ แ ละไม่ น่ าเชื่ อ ถื อ ก็เ ลยให้ ข้ า เป็ น
คนขับรถม้าและดูแลม้า พอได้มีกินมีใช้ บ้างก็ถือว่าดี ในระดับ
หนึ่ ง ไม่ได้มีเวลาคิดถึงเรือ่ งอื่น”

ครัน้ เมื่อนึ กถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาเขาพลัน แวว


วาว “โชคดี ที่ น ายท่ า นมี บุ ญ คุณ ช่ ว ยเหลื อ ครอบครัว ของข้ า
พวกเขายังอยู่ที่เมืองหลวง แต่น่าเสียดายที่ไม่รวู้ ่าจะมีโอกาสได้
พบนายท่านอีกครัง้ หรือไมj?”
8
ถานหวัน่ ชิ ง ฟั ง จบก็เ งี ย บไป พ่ อ บ้ า นหร่ ว นอยู่ ใ นจวน
ตระกูลถานมาหลายปี ถึงจะเป็ นข้าทาสบริวารแต่สถานะไม่ได้
เป็ นเหมือนข้าทาสทัวไป ่ เขามีบ้านมี ที่นา มีภรรยางดงามและ
อนุภรรยาน่ ารัก หากไม่เกิดเรื่องขึ้น ครอบครัวคงไม่นาเขามา
ขายเป็ นทาส แล้วเพราะอะไรถึงไม่มีใครมาไถ่ถอนตัวเขา?

คิ ด ถึ ง เรื่ อ งครอบครัว ของพ่ อ บ้า นหร่ ว นแล้ ว นางก็ไ ม่


อยากซักถามให้ มากความ ตอบอย่ างอ่ อนโยนว่ า “จะต้ องมี
โอกาสแน่ ”

“ใช่ แล้ ว มี ชีวิ ต อยู่จะต้ องมี โ อกาสได้ เ จอกัน แน่ แต่ น่ า


เสี ยดายข้าเป็ นแค่คนขับรถม้า ไม่สามารถไปเยี่ยมคุณหนูเถา
เอ๋อได้สะดวก”

“ข้าอยู่ใกล้แค่นี้เอง ท่านไปเยี่ยมข้าได้ตลอด”

พ่อบ้านหร่วนนิ่งเงียบไปครูห่ นึ่ ง ตอนอยู่จวนตระกูลถาน


ใครไหนเลยจะให้ คุณหนู ต้องเดินเท้ าออกมาข้างนอกอย่างนี้
“ตอนนี้ คุณหนู อยู่คนเดี ยวหรือขอรับ? พักอาศัยตรงไหนของ
เมือง ปลอดภัยดี ไหม? ชี วิตเป็ นอย่างไร เงินทองพอใช้ หรือไม่
ขอรับ?”

9
“ข้าอยู่กบั ลุ่ยจู เงินมีพอใช้สอย” เนื่ องจากเขาเป็ นคนที่
ไว้ ใ จได้ นางจึ ง เล่ า ต่ อ อย่ า งไม่ ปิ ดบัง แล้ ว ถามกลับ “ข้ า เป็ น
อาจารย์สอนในหออักษรป่ าไผ่ พวกเราจึงพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
ท่ านล่ะ ตอนนี้ เป็ นบ่าวรับใช้บ้านไหน รถม้าด้านหลังน่ าจะมา
รับลูกศิษย์ของหออักษรกระมัง?”

“เป็ นครอบครัว สกุ ล ไป๋ ขอรับ แต่ อ ย่ า พู ด ถึ ง เลย”


พ่อบ้านหร่วนทาท่ าไม่อยากเอ่ยต่ อ ก้มหน้ าหยิบถุงจากในอก
เสื้ อ เทเอาก้ อ นเงิ น บิ่ น สองก้ อ นและพวกเหรี ย ญกษาปณ์
ทองแดงออกมา “คุณหนูท่านรับนี่ ไปใช้ ข้าเป็ นบ่าวรับใช้ ของ
สกุลไป๋ ไม่มีค่าใช้ จ่ายอะไร มีพวกนี้ ติดตัวก็เกรงคนจะล้วงไป
คุณหนูรบั ไปเถอะ”

“ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก” ถานหวันช ่ ิ งเห็นท่าทางเขา จึงรีบ


ผลัก เงิ น นั น้ คื น ไป “ท่ า นเก็บ ไว้ ซื้ อ ของกิ น มากๆ เถอะ ผอม
ขนาดนี้ ต้องบารุงร่างกายให้มาก”

“คุณหนูท่านรับไว้เถอะ ถึงข้าเก็บก็รกั ษาไว้ไม่ได้”้้

“ไม่ได้หรอก”

10
ผลัก กัน ไปผลัก กัน มา พ่ อ บ้ า นหร่ ว นก็เ ริ่ ม จะร้ อ นรน
ปลายจมูกเหมือนมีเหงื่อซึม สุดท้ายจึงยัดเงินใส่ในมือถานหวัน่
ชิง “ข้าต้องรีบไป อีกสองวันข้าจะไปเยี่ยมคุณหนู ท่านรีบกลับ
เถอะ”

กล่าวจบก็เห็นเงาคนตรงหัวโค้ง เขาจึงรีบเดินกลับไปที่
รถม้า

ยามนี้ ถงุ เ งินอุ่นอยู่ในมือถานหวันช


่ ิ ง นางอยากจะคืน
เงินให้แก่เขา แต่เพิ่งไล่ตามไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นชายคนหนึ่ งใน
ชุดผ้าแพรต่ วนคลุมยาว สวมหมวกแบบมีพ่หู ้ อย กาลังเดินมา
พร้อมกับเด็กรับใช้

“เจ้าโง่เอ๊ย ทาไมไม่เอารถมารอคุณชายตรงปากตรอก”
เพิ่งจะเดินมาถึง เด็กรับใช้อายุเพียงสิบห้าสิบหกก็ชี้หน้ าด่าทอ
คนขับรถม้า จากนั น้ ก็หนั กลับไปเลิกผ้าม่าน เอ่ ยเสี ยงประจบ
เชิญคุณชายขึน้ รถ

คุณชายผูน้ ัน้ โบกพัดไปมาแล้วเดินขึน้ รถม้า

“มัวแต่นัง่ เซ่ออยู่ได้ รีบออกรถสิ” เด็กรับใช้สงั ่

11
ด้ ว ยท่ า ทางโอหัง อวดดี คนขับ รถม้ า ได้ แ ต่ ร บั ค าอย่ าง
เดียว จากนัน้ ก็สะบัดแส้ให้รถม้าเคลื่อนออกไป

แต่ ไ หนแต่ ไ รเด็ก รับ ใช้ ไ ม่ ช อบหน้ าคนขับ รถม้ า คนนี้


ุ ชายตบเงินรางวัลให้ชายผู้นี้ ได้เงิน
เสียเลย ยังจาเมื่อเช้าที่ คณ
พวกนั น้ มากพอจะใช้ ดื่มกิน แต่ มาให้ คนไร้ค่าเช่ นนี้ นับว่าน่ า
เสียดายอย่างมาก

คนขับรถม้าผู้นี้เป็ นคนแข็งกระด้าง ชอบแสร้งทาเป็ นใบ้


หูหนวก หากไม่ใช่ คุณชายเรีย กมาขับรถม้ า อี กฝ่ ายก็อาจจะ
เป็ นคนล้างส้วมไปแล้ว หน้ าที่ ติดตามคุณชายไปข้างนอกเป็ น
งานที่ บ่ า วต่ า งยื้ อ แย่ ง กัน ท า เมื่ อ วานยัง มี ค นยัด เงิ น ให้ เ ขา
ขอร้องว่าอยากจะทางานนี้ อยู่เลย

พอเห็ น หั ว โค้ ง ตรงหน้ า เด็ ก รับ ใช้ คุ ณ ชายไป๋ ก็ เ กิ ด


ความคิดบางอย่าง ดวงตาพลันวาววับ อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม
เขาจงใจใช้เท้าถีบสะโพกม้า เมื่อม้าวิ่งด้วยความตกใจ รถม้าจึง
โคลงเคลงไปมา เขาจึ ง ฉวยโอกาสนี้ ใ ช้ แ ขนชนคนข้ า งๆ ให้
คนขับรถม้าตกรถไป หากล้มช่วงหน้ าหนาวเดือนสิบสองอย่าง
นี้ กระดูกคงหักจนนอนราบไม่ได้ไปสามเดือนที เดี ยว ครัน้ พอ
แผลหายดีแล้ว ตาแหน่ งคนขับรถม้าให้คุณชายคงจะไม่รอมัน
หรอก? ยิ่งมีคนจองตาแหน่ งนี้ อยู่ด้วย
12
่ ิ งได้แต่มองตามหลังรถม้าที่วิ่งออกไปไกลแล้ว
ถานหวันช
พอนางจะเอี้ ยวตัวกลับก็เห็นเงาคนร่วงลงมาจากรถม้า น่ าจะ
เป็ นพ่อบ้านหร่วนที่ตนสนทนาด้วยเมื่อครูน่ ี้

เกิดอะไรขึ้น? นางรีบสาวเท้าไปหาอย่างว่องไว เมื่อเข้า


ไปใกล้กไ็ ด้ยินเสี ยงเด็กรับใช้ตะโกนด่าทอดังลัน่ ส่ วนคนที่ ขบั
รถม้ากลับหล่นลงมากองอยู่บนพื้น ถึงอย่างไรพ่อบ้านหร่วนก็
เคยอยู่ในจวนตระกูลถานมานาน และได้ เห็นถานหวันช ่ ิ งจน
เติบใหญ่ คนในจวนตระกูลถาน ใครจะกล้าตบตี ด่าทอเขาได้
ตามอ าเภอใจ แต่ ว ัน นี้ กลับ ถูก เด็ก รับ ใช้ ว ัย สิ บห้ า สิ บหกปี
ด่าแช่ง ถานหวันช่ ิ งจะนิ่งเฉยได้อย่างไร

“หยุด!”

เด็กรับใช้ผ้นู ัน้ หยิบแส้ขึ้นมา เตรียมจะฟาดใส่คนบนพื้น


จู่ๆ ก็ได้ ยินเสี ยงห้ าม จึงหันไปมองด้วยความตกใจ เห็นคนผู้
หนึ่ งกาลังเดินมา อีกฝ่ ายอยู่ในชุดที่ ดคู ล้ายกับชุดที่ คณ
ุ ชายใส่
ไปเรียน แต่เสียงที่ได้ยินน่ าจะเป็ นผู้หญิง เขาจึงเพ่งมองใบหน้ า
แล้วลดแส้ม้าลง ถามด้วยน้าเสียงข่มขวัญ

“เจ้าเป็ นใคร อาศัยอะไรมาสังให้


่ ข้าหยุด”

13
ถานหวันช่ ิ งกาลังยุ่งอยู่กบั การช่วยพยุงพ่อบ้านหร่วนขึน้
จากพื้น พ่อบ้านหร่วนไม่ได้ใส่ใจเด็กรับใช้นัน่ เพียงก้มหน้ าลง
แล้วกดเสียงตา่ “ข้าไม่เป็ นไร ท่านรีบไปเถอะ รีบไปเร็ว”

ในเมื่อเผยน้ า เสี ยงออกไปแล้ ว จะมาเสี ย ใจภายหลังก็


สายเกินไป ถานหวันช ่ ิ งขบกรามแน่ น ไม่อยากเอาเรื่องกับเด็ก
รับ ใช้ จึ ง เบนหน้ าไปทางคนในรถ เอ่ ย ถามด้ ว ยน้ า เสี ย ง
ราบเรียบ

“ท่านคือคุณชายไป๋สินะ?”

ตัhงแต่ ตอนที่ ถานหวันช่ ิ งตะโกนคาแรก คุณชายไป๋ก็ใช้


พัด เลิ ก ผ้ า ม่ า นเปิ ดออกและมองมาอยู่ ก่ อ นแล้ ว เมื่ อ ได้ ยิ น
คาถามจึงยอมลงจากรถม้าในมาดคุณชายผู้มีสติปัญญาและรัก
อิสระ จากนัน้ ก็ประสานมือคารวะ

“เป็ นข้าเอง ไม่ทราบว่าแม่นางเป็ นใคร มาจากตระกูล


ไหน? มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนในปกครองของข้า?”

ถานหวันช่ ิ ง มองประเมิ น คุณ ชายสกุล ไป๋ ก็เ ห็น ว่ า เขา


ไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร ครอบครัวเลี้ยงดูลูกหลานออกมาได้
สง่างามดี แต่ถือพัดในฤดูหนาวจึงดูแปลกอยู่บา้ ง

14
นางไม่ อ ยากเอ่ ย มากความ จึ ง พู ด เข้ า ประเด็น ทัน ที
“คุณชายไป๋ ท่านนี้ คือ...เพื่อนเก่าของบิดาข้า วันนี้ ได้พบกัน ข้า
จึง ต้ องการไถ่ ต ัว เขา ไม่ท ราบว่ า จวนของท่ านไถ่ ค นในราคา
เท่าไร?”

คุณชายสกุลไป๋ค่อนข้างใจลอย จิตใจไม่อยู่กบั เนื้ อกับตัว


ในห้วงความคิดไม่มีเรื่องการไถ่ถอนคนอยู่เลย มีแต่หญิงสาวที่
สวมชุดคล้ายบัณฑิตตรงหน้ า ไม่ว่าอีกฝ่ ายจะเป็ นชายหรือหญิง
ก็ทาให้ตนต้องตกตะลึงในความงาม

“ไถ่ ต ั ว ? พู ด ได้ ดี ” เขาก้ ม หน้ าใช้ พ ัด ยัน หน้ าผากไว้


เหมือนกาลังคิด “แต่ทะเบียนไถ่ตวั ไม่ได้อยู่ในมือข้านี่ สิ แล้วจะ
ทาเช่ นไรดี ล่ะ? ไม่เช่ นนั น้ แม่นางก็ตามข้าไปที่ จวนสกุลไป๋รับ
ทะเบียนไถ่ตวั เสียตอนนี้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

กล่ า วจบก็รี บ ร้ อ นเลิ ก ผ้ า ม่ า นรถม้ า ปากยัง พร ่า ด้ ว ย


ความสุภาพว่า “แม่นางขึ้นรถม้าเถอะ ท่านโปรดวางใจ เมื่อไป
จวนสกุลไป๋ก็คือแขกของสกุลไป๋ อย่าว่าแต่ ทะเบียนไถ่ตวั แค่
แผ่นเดี ยวเลย แปดแผ่นสิบแผ่นข้าก็จะนามามอบให้ด้วยสอง
มือนี้ และจะไม่รบั เงินจากแม่นางแม้สกั ครึง่ อีแปะ...”

15
เมื่อเห็นสายตาของชายตรงหน้ า นางก็รู้ทนั ที ว่านี่ เ ป็ น
กับดัก บนโลกใบนี้ ไม่มีใครที่ให้อะไรโดยไม่หวังผล ถานหวันช ่ ิง
ไม่ใช่คนโง่ นางไม่ขึ้นรถม้าแน่ นอน และไม่สนใจจะไปเป็ นแขก
สกุลไป๋ วิธีเชิญผู้หญิงไปเป็ นแขกในจวนค่อนข้างเป็ นวิธีแบบ
เด็กๆ ช่างน่ าขันสิ้นดี

แต่นางเอ่ยปากเรือ่ งไถ่ถอนตัวคนออกไปแล้ว เขาอาจจะ


หาเหตุโยกโย้จนนางไม่อาจไถ่ตวั ได้ หญิงสาวจึงคิดว่าตัวเอง
ควรจะกลับบ้านไปคิดวิธีดอู ีกทีจะดีกว่า

ขณะที่นางนิ่งเงียบอย่างครุ่นคิด หาช่องทางบอกปัดด้วย
คาพูดที่ น่ ุ มนวล ทันใดนั น้ เองก็ได้ยินเสี ยงฝี เท้ าม้าดังมาจาก
ด้านหลัง ตามด้วยน้ า เสี ยงหนาวเหน็ บราวกับน้ า แข็งที่ แฝงไว้
ด้วยอานาจ

“เจ้าจะไปไหน? ที่ไหนเจ้าก็ไปไม่ได้!”

16
48 หึง...หวง?

คนขี่ม้าไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

เขาควบม้ า เข้ า มาใกล้ จ นกระทัง่ ถึ ง คนทัง้ สี่ ท่ อ นแขน


แข็งแรงข้ างหนึ่ งพลันช้ อนอุ้มหญิงสาวเพี ยงหนึ่ งเดี ยวขึ้นบน
หลังม้าอย่างรวดเร็วแล้วทะยานจากไป

ตอนแรกคุณ ชายไป๋ คิ ด จะขัด ขวางหลัง จากเห็น ว่ า อี ก


ฝ่ ายชิ งหญิ งสาวไปต่ อ หน้ าต่ อ ตา แต่ ก ลับ ถูก ดวงตาดุ ด ัน
เพ่งมองมาอย่างแข็งกร้าวจนตัวเย็นเยียบ สองขาชะงักค้างราว
กพาตัวไปไกลลิบ สติที่
กับถูกแช่ แข็งอยู่กบั ที่ กระทังคนงามถู

หลุดลอยจึงค่อยกลับมา

นิ้วมือสันเทาด้
่ วยความกรุ่นโกรธชี้ ตามหลังชายชุดดา
บนหลังม้า “ดู! ดูสิ กลางวันแสกๆ ตะวันยังไม่ทนั ลับขอบฟ้ าก็
ทาตัวป่ าเถื่อนกับผู้หญิงอย่างไม่ไว้หน้ า เจ้าคนไม่มีมารยาทไร้
ยางอายนั น่ มัน เป็ นใครหา! ถึ ง อาจหาญท าตัว ใหญ่ ค ับ ฟ้ า
เช่นนี้ !” ในสมองยังฉายภาพหน้ าตาตื่นตกใจของหญิงสาวเมื่อ
ครู่

1
เด็กรับใช้ยงั มีท่าทางมึนงงเหมือนคนยังตัง้ สติไม่ได้ พอ
ได้ยินเสี ยงเจ้านายก็รีบขยี้ตาแล้ว เพ่งมองเงาด าที่ วูบผ่านไป
ถึง จะเห็น เพี ย งแวบเดี ย วแต่ เ ขาก็มนใจมาก
ั่ จึงรี บตอบเสี ย ง
ตะกุกตะกัก “นะ...นายท่าน หากข้าดูไม่ผิด ชายบนหลังม้าศึก
เมื่อครูน่ ี้ ....คนที่สวมชุดทหารขัน้ ห้านัน่ ดูเหมือนจะเป็ น...”

ระดับขัน้ ของนายทหารมีไม่มาก คนที่ สวมชุดระดับขัน้


ห้าในเมืองเว่ยอันเห็นจะมีเพียงผูเ้ ดียว นัน่ ก็คือ...

คุณชายไป๋กับเด็กรับใช้ มองหน้ ากันอย่างตื่ นตะลึง “ใต้


เท้า...ใต้เท้าเซี่ย!”

คนเมื่อครูค่ ือแม่ทพั หัวเมืองเซี่ยเฉิงจู่?

ยศของขุนนางในสมัยโบราณ หากจะบอกว่ าตาแหน่ ง


ฝ่ ายบุ๋ น และฝ่ ายบู๊เ ท่ า เที ย มกัน แต่ ต ามจริ ง แล้ ว ต าแหน่ ง
ข้าราชการที่ ดูแลพลเรือนจะสูงกว่าตาแหน่ งทหารฝ่ ายการรบ
ทว่าหากเป็ นเขตชายแดนที่ ทาสงครามต่ อเนื่ อง เช่ นนี้ ความ
ปลอดภัยของประชาชนจะมีเหล่าทหารในกองทัพที่ปฏิญาณตน
ว่ า จะปกปั ก รัก ษาเมื อ งคอยดู แ ล ภารกิ จ ส าคัญ เช่ น นี้ ท าให้
ตาแหน่ งแม่ทพั สูงขึ้นโดยปริยาย ดังคากล่าวที่ ว่า ‘น้ าขึ้นเรือก็
สูงขึน้ ตาม’ ทุกสิ่งอย่างล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของคนผูน้ ัน้
2
เซี่ ย เฉิ งจู่ เ ป็ นแม่ ท ั พ หัว เมื อ งที่ อ ายุ ย ัง น้ อย มี ค วาม
เด็ดขาดเหี้ยมโหด เพียงปี แรกที่ดารงตาแหน่ ง คนทัง้ เมืองก็อยู่
ใต้อานาจของเขาผูเ้ ดียว ไม่มีใครกล้าต่อกรซึ่งหน้ ากับความน่ า
เกรงขามนี้

ไม่ต้องพูดถึงครอบครัวเศรษฐี ในเมืองเลย ขนาดพวก


คหบดี ที่ เ ป็ นพ่ อค้ าใหญ่ จากต่ างถิ่ น ถ้า คิ ด จะมาทาการค้ าใน
เมืองนี้ หากไม่ได้รบั อนุญาตจากเขา ต่อให้รา่ รวยแค่ไหนก็ก้าว
เท้าเข้าเมืองไม่ได้

หากอยากจะมาตัง้ รกรากเปิ ดร้ า นท าการค้ า หรื อ แม้


่ นพ่อค้ารา่ รวยในถิ่นแต่เดิม ก็ยงั ต้องบากหน้ ามาสาน
กระทังเป็
สัม พัน ธ์ ป ระจบประแจงแม่ ท ัพ หัว เมื อ ง ไม่ มี ใ ครกล้ า ขัด ใจ
ล่วงเกินแม้แต่น้อย

เว่ยอันในปัจจุบนั ไม่เหมือนในอดีต ตอนนี้ มีกาแพงนอก


เมืองที่แข็งแกร่ง มีป้อมปราการรักษาการณ์ รวมถึงทุกสิ่งอย่าง
ที่ สามารถปกป้ องประชาชนให้ ปลอดภัย อี กทัง้ มี ผ้ปู ระสบภัย
จ านวนมหาศาลต่ า งเข้ า มาพึ่ ง พิ ง ขอพัก อาศัย เมื่ อ ถึ ง เวลา
บุกเบิกถางพง คนที่อยู่นอกเมืองจะได้โอกาสสร้างกาไรจากผืน
นา ถนนและร้านค้ากระทังกลุ ่ ่มคนก็จะหลังไหลมาอย่
่ างมืดฟ้ า
มัวดินในอนาคต
3
พ่ อ ค้ า นอกเมื อ งคาดการณ์ เ มื อ งเว่ ย อัน ไว้ เ ช่ น นี้ จึ ง
พยายามที่ จะแทรกตัวเข้ามาในเมือ งเพื่ อ ฉกฉวยโอกาสงาม
ส่ ว นพ่ อ ค้ า ในเมื อ งก็จ้ อ งที่ จ ะเขมื อ บเนื้ อชิ้ น นี้ อยู่ ก่ อ นแล้ ว
เช่ น กัน หากวัน ใดเกิ ด ผิ ด ใจกับ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ก็อ าจจะถูก ขับ ไล่
ออกไปก็เป็ นได้ การเข้าออกเมืองจะยิ่งเพิ่มความยากเข้าไปอีก
ขัน้

คุ ณ ชายไป๋ เป็ นลู ก ผู้ดี มี เ งิ น ซ้า เจ้ า ชู้ อ ยู่ ไ ม่ น้ อย แต่ ถึ ง


อย่างไรก็ไม่อาจหาญกล้าเล่นแง่กบั แม่ทพั หัวเมือง ตอนนี้ บน
หัว คุณชายเริ่มมี เ หงื่อไหลซึ มทัง้ ที่ อากาศหนาว พยายามคิด
ปลอบตัวเองในทางที่ ดีว่าเมื่อครู่นี้เขาคงไม่ได้ล่วงเกินอะไร...
กระมัง?

่ ิ บตาถัดมาพลันฉุกคิดได้ว่า ก่อนแม่ทพั หัวเมืองจะ


ชัวพร
จากไปได้ ส่งสายตาดุเดือดมองมายังเขา มือไม้พลันสันระร ่ ิก
อย่างตื่ นตระหนกจนเกือบจะทาพัดหลุดร่วง เรื่องนี้ หากบิดารู้
เข้า เขาคงออกจากบ้านไม่ได้แม้แต่ ก้าวเดี ยวเป็ นแน่ หรือแย่
กว่านัน้ คือเขาอาจจะถูกเชิญให้ออกจากบ้านไปปรนนิบัติพวก
หลวงจีน นี่ ...นี่ มนั ...ไม่ใช่เรือ่ งดีเอาเสียเลย!

4
ขณะที่คณ ุ ชายไป๋กลอกตาไปมาอย่างร้อนรนก็เหลือบไป
เห็นคนขับรถม้าที่ ยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ในใจจดจาได้ถึงสิ่งที่ หญิง
งามในชุดบุรษุ กล่าวว่าคนผูน้ ี้ คือเพื่อนเก่าของบิดานาง

ดวงตาร้อนรนเกิดแสงเปล่งประกายขึ้นมาทันที ราวกับ
คว้าฟางข้าวช่ วยชี วิตได้ แม้ตามปกติจะไม่เคยมีความห่ วงใย
หรือใส่ ใจใครมาก่อน แต่ กลับถามอาการคนขับรถม้าว่าได้รบั
บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่

พ่ อ บ้ า นหร่ ว นล้ ม กลิ้ ง ลงจากรถม้ า ท าให้ ป วดสะโพก


หลังจากถูกช่วยพยุงให้ยืนขึน้ เขาก็ตาเบิกค้างยืนอยู่ตรงนัน้ ใน
ใจสันไหวที
่ ่ คุณหนูถกู ชายบนหลังม้าเอาตัวไป เขาทางานเป็ น
พ่อบ้านคอยติดตามอัครมหาเสนาบดีมาหลายปี ชานาญเรื่อง
การวิเคราะห์คาพูดและสังเกตสีหน้ าพอสมควร...

ในมุมมองของเขา ตอนที่ ชายหนุ่มบนหลังม้าดึงคุณหนู


ขึ้นไป คุณหนู ไม่ได้ดิ้นรนและไม่ได้ร้องขอให้ ช่วยเหลือ แม้จะ
ตกใจอยู่บ้างแต่ กลับไม่มีสีหน้ าหวาดกลัวเลยสักนิด ส่ วนชาย
หนุ่ ม ผู้นั ้น ลัก ษณะการก้ ม ลงมาช้ อ นนางขึ้น ไปก็ร ะมัด ระวัง
ป้ องกัน ไม่ ใ ห้ ห ลุด มื อ อี ก ทัง้ คุณ หนู ย งั จับ แขนของบุ รุษ ผู้นั ้น
อย่างไม่สะเทิ้นอาย ทาเพียงอยู่นิ่งๆ เพื่อไม่ให้ตนเองหล่นลงมา
เท่านัน้ แสดงว่าสองคนนี้ รจู้ กั กันอยู่ก่อนแล้ว
5
อี กอย่างจากเครื่องแต่ งกายของชายผู้นัน้ ย่อมมีฐานะ
เป็ นนายทหารระดับ สูง แม้เ ขาจะเพิ่ ง มาอยู่ที่ เ มื องเว่ ย อัน ไม่
นานยัง รู้ดี ว่ า ในภาวะสงครามเมื อ งนี้ กลับ ปกครองได้ ส งบ
ปลอดภัย ยิ่ ง อาณาประชาราษฎร์อ ยู่ เ ย็น เป็ นสุ ข ไม่ มี ค วาม
หวาดระแวง ทัง้ หมดทัง้ มวลล้วนมาจากแม่ทพั หัวเมืองที่ทุกคน
ให้ความเคารพและยกย่องสรรเสริญ

และเมื่อเห็นหญิงสาวถูกนาตัวไป คุณชายไป๋ไม่เพียงไม่
โกรธเคืองอี กฝ่ ายเท่านัน้ ใบหน้ ายังเผยความตกใจจนร้อนรน
ออกมา ซ้า เด็ก รับ ใช้ ย งั เอ่ ย ค าว่ า ‘ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ’ ออกมาด้ ว ย
หร่วนอีตนั จึงคาดเดาสถานะบุรษุ ผูน้ ัน้ ได้โดยพลัน

เขามองสองนายบ่าวตรงหน้ า เห็นว่าคุณชายไป๋กับเด็ก
รับ ใช้ มี ส ภาพไม่ ป กติ นั ก อี ก ฝ่ ายฉี กยิ้ ม แบบการค้ า เดิ น มา
ประคองตนด้วยท่าทางห่วงใย ตัง้ ใจประจบสอพลอขึ้นมาอย่าง
เห็นได้ชดั

อดี ตพ่อบ้านแอบถอนใจ ตอนนี้ สถานะของตระกูลถาน


ตกตา่ และไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว คุณหนูเถาเอ๋อจะมีสภาพเช่น
ไรในเมื่ออีกฝ่ ายเป็ นถึงขุนนางในราชสานัก บุรษุ หนุ่มผูม้ ีสีหน้ า
โหดเหี้ยมอาจไม่ใช่ คนดี ไม่ร้วู ่าคนผู้นัน้ จะปฏิบตั ิ ต่อคุณหนู ดี
หรือไม่?
6
แม้ จ ะเห็น ใบหน้ างามของคุ ณ หนู นิ่ งเป็ นปกติ แต่ พ อ
ใคร่ครวญถึงสถานะที่เป็ นอยู่ในปัจจุบนั เกรงว่าน่ าจะหนักหนา
สาหัสกว่าตนเป็ นแน่

เซี่ ย เฉิ งจู่ช้ อ นคนขึ้น หลัง ม้า แล้ ว ก็แค่ น เสี ย งเย็น เยี ย บ
ออกมาคราหนึ่ ง

เขาสะบัดแส้ลงบนตัวม้าด้วยอาการดุดนั เสียงแส้แหวก
อากาศดังขวับสะเทือนเข้ามาถึงจิตใจ อาชาดาพุ่งทะยานไปยัง
ค่ายทหารทางประตูเหนื ออย่างรวดเร็วปานสายฟ้ าแลบ

เมื่อลมหนาวปะทะใบหน้ า ถานหวันช ่ ิ งที่ นัง่ อยู่บนหลัง


ม้ า หนาวจนต้ อ งขดตัว ยิ่ ง นางท าเช่ น นี้ อาชาด าก็ ยิ่ ง เพิ่ ม
ความเร็วกว่าเดิม ความโกรธของคนบนหลังม้าส่ งผ่านไปยัง
อาชาคู่ใจใต้รา่ ง เจ้าม้าดาควบตะบึงไปข้างหน้ าอย่างบ้าระหา่

ถานหวัน่ ชิ ง ปล่ อ ยมื อ จากแขนแข็ง แกร่ ง ของอี ก ฝ่ าย


เปลี่ยนมาจับขนแผงคอม้ าแทน เหตุการณ์ ที่ตนถูกช้อนเอาตัว
ขึ้นหลังม้ามาเมื่อครู่ทาให้นางอดจินตนาการไม่ได้ว่า ลูกน้ อง
คนสนิทของบิดาคงคิดว่าเป็ นเรื่องใหญ่ แน่ ไม่รู้ว่าอี กฝ่ ายจะ
ตกใจเพียงใดที่ อดีตคุณหนูซึ่งตนเฝ้ าดูความเจริญเติบโตมาแต่

7
เล็กแต่ น้อย กลับตกอับขนาดกลายเป็ นของเล่นให้ นายทหาร
ขัน้ ห้าในเมืองชายแดน

เมื่อมีคนเก่าแก่มารู้เห็นอยู่ตรงหน้ า ยังจะมีความอดสูใด
ที่สดุ จะทนรับได้มากไปกว่านี้ อีกไหม

หญิงสาวไม่เคยคิดมาก่อนว่า ความอดสูสุดจะทนรับได้
คือนับจากนี้ ต่างหาก

่ ิ บ ตาก็วิ่ ง ผ่า นจาก


ด้ ว ยความเร็วของม้าดา เพี ย งชัวพร
ถนนตงเหมินไปถนนเป่ ยเหมินแล้ว ตลอดทางที่ ผ่านอาชาดา
ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอ

ฝี เท้ าแม้ แต่ น้อย กลับ พุ่ง ทะยานไปยังค่ ายทหารประตู


เหนื อเต็มกาลัง ถานหวันช ่ ิ ง เริ่มหวาดกลัว จนตัว สัน่ นางหัน
มองซ้ายแลขวาและอดไม่ได้ที่จะหันมามองเขา

เซี่ ยเฉิงจู่มองตรงไปเบือ้ งหน้ า ทว่าตอนที่ นางหันมามอง


ชายหนุ่มก็ก้มหน้ าลง สบตานางด้วยประกายเย็นเยียบแล้วเบน
สายตาหนี ไปเสียดือ้ ๆ

่ ิ งเข้ามาในค่ายทหาร
นี่ เป็ นครัง้ แรกที่ถานหวันช

8
ค่ายทหารโบราณเป็ นเช่นนี้ เองหรือ ?

นางมองเกวียนที่กาลังลาเลียงของ มีเสียงโหวกเหวกดัง
มาเป็ นระยะ แล้วยังมีววั มีแพะที่ เลี้ยงไว้ในคอกหลายสิบตัว มี
ทหารกาลังป้ อนหญ้าให้ ทัง้ วัวและแพะต่างส่งเสียงร้องราวกับดี
ใจกับอาหารมื้อเที่ ยง ควันลอยตลบอบอวลหมุนเป็ นเกลียวมา
จาก

โรงครั ว กลิ่ นหอมของเนื้ อโชยมาตามลม ทหาร


ลาดตระเวนสิ บ กว่ า นายที่ เ ดิ น ผ่ า น พอเห็ น ใต้ เ ท้ า ของตน
กลับมาพร้อมอิสตรีบนหลังม้า ดวงตาแต่ ละคนพลันเบิกกว้าง
เป็ นประกายแวววาว ยิ่งเมื่อเห็นลักษณะหญิงสาวผู้นัน้ น้ าลาย
ก็แทบไหลออกมาโดยไม่รตู้ วั

“ใต้...ใต้เท้า เอาเทพธิดามาจากไหน...”

“เทพธิดาที่ไหนกัน! น่ าจะเป็ นภรรยาของใต้เท้าต่างหาก


เล่า!”

“ใต้เท้าแต่งภรรยาแล้วหรือ?”

“ดีจริง ข้าอยากมีเมียสวยแบบนี้ บา้ ง...”

9
อาชาดาวิ่งมาหยุดที่ หน้ าจวนผู้ปกครอง ทหารทุกนายที่
นัน่ ล้วนมีใบหน้ าตื่นตระหนก ดวงตาแทบถลน ใบหน้ านับร้อย
ช่างสามัคคีหนั มาทางเดียวกันหมด แม้แต่ทหารเลี้ยงม้าที่มารับ
อาชาดาตัวนี้ ไปก็อ้าปากค้างอยู่นานเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหญิงสาวลงจากหลังม้าแล้วหมุน
ตัว ท าท่ า จะเดิ น หนี ใต้ เ ท้ า ก็ใ ช้ มื อ เดี ย วกระชากนางกลับ มา
พร้อมกับลากหญิงสาวแบบถูลู่ถกู งั เข้าไปในจวน ทาเอาผูค้ นใน
ละแวกนัน้ ตกตะลึงพรึงเพริด

บรรดานายทหารรี บ รวมหัว ซุ บ ซิ บ วิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ ก ัน


เซ็งแซ่ ไม่นานก็พากันสลายตัวไปกระจายข่าว เพี ยงครู่เดี ยว
คนในค่ายทหารเกือบครึง่ ล้วนรูว้ ่าใต้เท้าพาผูห้ ญิงกลับมาด้วย

ไม่ร้วู ่าต้ องขึ้นกี่ขนั ้ บันได ผ่านอีกกี่ช่องทางเดินระเบียง


จนมาถึ ง ห้ องแห่ ง หนึ่ ง อ่ างไฟในห้ องดับ หมดแล้ ว ในห้ องจึ ง
หนาวเย็นมากพอควร

ทันที ที่เซี่ ยเฉิงจู่ลากหญิงสาวมาถึงห้อง สี หน้ าเย็นเยียบ


และแววตาโกรธขึ้งก็เริ่มคลายลง เขาเดินไปที่ โต๊ะ ยกหูการิน
น้ าชาใส่ในถ้วย น้ าชาในถ้วยนอกจากจะไม่มีความอุ่นแล้ว ยัง

10
เย็นเฉี ยบราวกับใส่ ก้อนน้ าแข็ง ทว่าเขากลับยกน้ าชาขึ้น ดื่ ม
อย่างไม่ยี่หระ

เมื่อครู่อารมณ์ โกรธพลุ่งพล่านบีบหัวใจอย่างหนักหน่ วง
่ ิ่ นเป็ นคนมารายงานเขาว่าถานหวันช
จัวเว ่ ิ งตัง้ ใจเดินอ้อมป่ าไผ่
ลอบหนี ไปอีกประตูทางออกหนึ่ ง เมื่อเขาควบม้าไล่ตามก็เห็น
นางเตรียมจะขึ้นรถม้าไปกับคนตระกูลไป๋ ลูกผู้ดีมีเงินที่ เอาแต่
เล่นกับกินดื่มนัน่ !

่ ิ งเรียกเสียงเบา รู้สึกว่าเขาโกรธ
“ใต้เท้าเซี่ ย” ถานหวันช
จัดจนไม่รจู้ ะระบายออกอย่างไร

เซี่ ย เฉิงจู่หมุนตัวฉั บพลัน สาวเท้ าก้ าวมาตรงหน้ านาง


สายตาจับจ้องไม่ลดละ “รถม้าของบ้านอื่นเจ้ากล้าขึ้นอย่างนัน้
หรือ ? เจ้าไม่รู้รึว่าคฤหาสน์ ตระกูลไป๋คื อสถานที่ อะไร? บิดา
ของไป๋ห้าวมีอนุภรรยาแปดคน หากวันนี้ เจ้าเข้าไปในคฤหาสน์
ตระกูลไป๋แล้วจะออกมาได้ รึ ? หรือว่าเจ้าอยากจะอาศัยพวก
สกุลไป๋หนี ไปจากเว่ยอัน? หรือว่าเจ้าอยากจะเป็ นอนุคนที่เก้า!”

ถานหวันช่ ิ งไม่ปริปาก เซี่ ยเฉิงจู่กจ็ บั จ้องนางไม่เลิก เอ่ย


เชิงบังคับ “พูดมา!”

11
นางชะงักเล็กน้ อย เรื่ องนี้ นางไม่สามารถอธิบายได้ ถึง
นางอยากจะช่วยพ่อบ้านหร่วน แต่กไ็ ม่อาจให้ใครมารับรู้ เพื่อ
ไม่ให้เซี่ ยเฉิงจู่สงั เกตเห็นเรื่องนี้ ถานหวันช
่ ิ งจึงนิ่งคิด สักพักก็
เชิดหน้ าหลังหยัดตรง ตอบแบบขอไปที

“ใต้ เท้ าต้ องการให้ข้าพูดอะไร รถม้าของตระกูลไป๋แล้ว


อย่างไร คฤหาสน์ ของตระกูลไป๋ไม่สามารถเข้าได้ แต่ใต้เท้าฉุด
ข้ า ขึ้น หลัง ม้ า เข้ า จวน...โดยไม่ ส มัค รใจ แล้ ว มัน แตกต่ า งกัน
ตรงไหนเจ้าคะ?”

เพี ย งจบประโยค ใบหน้ า ของเซี่ ย เฉิ งจู่ที่ ม องนางพลัน


ฉายแววตื่นตะลึง มือที่ กาแน่ นคลายออกฉับพลัน สายตาเต็ม
ไปด้วยความผิดหวังและโมโห เขาถอยเท้าไปหนึ่ งก้าว

“ที่แท้ไม่ว่าจะเป็ นอนุหรือภรรยาเอก ในสายตาเจ้าก็ไม่มี


ความแตกต่างกันเลย? แล้วที่บอกว่าไม่สมัครใจ! แสดงว่าถึงจะ
เป็ นใครก็ได้ทงั ้ นัน้ รึ?...ดี! ก็ดี!”

เซี่ ยเฉิงจู่โกรธสุดขีดแต่กลับหัวเราะออกมา เขาหมุนตัว


กลับ รี บ เดิ นไปยัง โต๊ ะ เขี ย นหนั ง สื อ หยิ บพู่ ก ัน ขึ้ น มาเขี ย น
บางอย่างลงบนกระดาษอย่างว่องไว พอเขียนเสร็จก็ทิ้งพู่กนั ใน
มือ
12
“ในเมื่อเจ้าไม่อยากแต่งเป็ นภรรยา และไม่อยากเป็ นอนุ
เช่นนัน้ ข้าก็ไม่จาเป็ นต้องสนใจอะไรแล้ว นี่ ไงที่เจ้าต้องการ!”

กล่าวจบก็โยนกระดาษแผ่นหนึ่ งไปร่วงลงแทบเท้ าของ


่ ิง
ถานหวันช

กระดาษแผ่ น นั ้น แต่ ก่ อ นนางเคยต่ อ รองกับ เขาด้ ว ย


ตัวเอง เป็ นสัญญาที่ เป็ นลายลักษณ์ อกั ษรเพื่อ ใช้ แลกกับอิสระ
ของตน ‘ไม่เข้าตระกูลเซี่ย ไม่ยอมเป็ นอนุภรรยาและไม่หนี จน
กว่าเซี่ยเฉิงจู่จะจัดงานมงคลสมรสจึงถือเป็ นที่สิ้นสุด’

่ ิ งอ่านตัวอักษรบนกระดาษนิ่งอยู่ชวขณะ
ถานหวันช ั่ นาง
เผยอริมฝี ปากเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่ สุดท้ ายก็ไม่เอ่ยอะไร
ออกมา หากอธิบายไปแล้วจะเป็ นอย่างไร เดิมที กว็ างแผนไว้
อย่ า งนี้ ในเมื่ อ ได้ หนั งสื อสั ญ ญามาแล้ วก็ ถื อว่ าบ ร รลุ
จุดมุ่งหมายเสียที

่ ิ ง ก็ค่ อ ยๆ พับ
หลัง จากอ่ า นจบไปหนึ่ ง รอบ ถานหวันช
กระดาษใส่เข้าไปในแขนเสื้อ

ฉากแสนธรรมดานี้ กลับยิ่งจุดไฟแผดเผาจิตใจของผู้ที่
ยืนมองด้วยความโกรธและอัดอัน้ ตันใจให้ วอดวาย ในใจราว

13
กับมีไฟประลัยกัลป์ โหมกระหน่ า แผดเผาสติสมั ปชัญญะของ
เขาจนแทบมอดม้วย

เซี่ยเฉิงจู่เม้มริมฝี ปากเดินตรงเข้ามากระชากมือของนาง
อย่างไร้ความปรานี ฉุดลากมาที่ เตี ยงนอน เขาแค่นเสี ยงลอด
ไรฟันออกมา ลึกเข้าไปในดวงตายังคงเดือดดาลเป็ นฟื นเป็ นไฟ
แต่คาพูดที่เปล่งออกมากลับหนาวเหน็บทิ่มแทงใจคนฟังยิ่ง

“ในเมื่อข้าให้ หนั งสื อสัญญายืนยันกับเจ้าแล้ว ถึงคราว


คุณหนูใหญ่ต้องปฏิบตั ิ ตามคามันเสี
่ ยที”

ถานหวันช ่ ิ งซึ่งถูกลากอย่างรีบร้อน ปลายเท้าก็โซเซล้ม


ลงบนเตี ยงอย่างจนมุม เพียงสิ้นคาพูดเย็นเยียบ มือบางที่ กมุ
ขอบเตี ยงอยู่กห็ ยัดกายขึ้นจนกระทังนั่ ง่ ตัวตรงได้ จากนั ้นจึง
ค่อยๆ ดึงสายรัดเอวออกอย่างช้าๆ

14
49 หนังสือสัญญา

่ ิ งใช้ชีวิตอยู่ ‘ที่นี่’ สิบกว่าปี แล้ว


ถานหวันช

นางถูกขัดเกลาด้ วยความเคยชินและคาสอนมากมาย
หากจะบอกว่าไม่มีผลกระทบต่ อจิตใจ แน่ นอนว่าย่อมเป็ นไป
ไม่ได้

การเข้ามาอยู่ในยุคสมัยนี้ นางถูกความพลิกผันมากมาย
พาให้ไหลไปตามกระแสคลื่นชีวิต สิ่งที่ เคยจินตนาการไว้อย่าง
สวยงาม และคิ ด ไปว่ า คนคนหนึ่ งจะสามารถเปลี่ ย นแปลง
เรื่องราวได้ มากมาย แต่ ในความเป็ นจริงแล้ว ความสามารถ
ของคนย่อมมีขีดจากัด

ไม่ ต้ อ งเอ่ ย ถึง การเปลี่ ย นแปลงรัช สมัย ใดรัชสมัย หนึ่ ง


เอาแค่ ก ารเปลี่ ย นแปลงในวงศ์ต ระกูล หรื อ การจะเปลี่ ย น
ความคิดของใครสักคน มันเป็ นเรื่องยากยิ่ง เรื่องที่ นางเข้าใจ
คนอื่ น ไม่ เ ข้ า ใจ นางเคยพยายามท าทุ ก อย่ า ง ท าทุ ก วิ ถี ท าง
เพื่อให้ อีกฝ่ ายเข้าใจ แต่ กลับไม่อาจหยุดความคิดที่ ยึดมันถื ่ อ
มันของใครได้
่ เลย คนโบราณฉลาด พวกเขามีความคิดเป็ นของ
ตัวเอง มีความเชื่อส่วนตัว เมื่อนางพูดออกไปก็มีหลายประโยค

1
ที่พวกเขารับไม่ได้ พวกเขาไม่ใช่ห่นุ ไม้ที่ใครจะจับวางตรงไหนก็
ได้

การที่ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตระกูลถาน
ที่จาต้องพบกับความหวาดผวาและการเนรเทศ กลับไม่ทาให้ใจ
ของถานหวันช ่ ิ งรูส้ ึกหนักหน่ วงนัก เพราะนางเข้าใจดีว่ามันเป็ น
เรือ่ งที่เกินความสามารถของตน

ส่ วนลึกในใจหญิงสาวจึงปล่อยวางได้นานแล้ว ตัง้ แต่ ที่


ตระกูลถานถูกยึดทรัพย์สินในครานัน้ ในเมื่อเรื่องราวทัง้ หลาย
ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

นางจึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง นางไม่ทาร้ายผู้อื่น แต่ ก็


ไม่ยอมให้ผอู้ ื่นมาทาร้ายโดยง่าย ใครเล่าจะยอมให้ตนถูกคุมขัง
ไปตลอดชีวิต ยอมให้อิสระหายไป รวมถึงยอมวางโชคชะตาไว้
ในมือคนอื่น

เมื่อคนเราถูกคุมขัง ในใจย่อมกระหายอยากจะหลุดพ้น
และโหยหาความเป็ นไทอย่างที่สดุ

่ ิ งจึงยอมแลกเปลี่ยนอิสรภาพ โดยสิ่งที่
ดังนัน้ ถานหวันช
ต้ อ งการคื อ อยากให้ ค วามสุ ข สดใสของชายหนุ่ มตรงหน้ า

2
กลับคืนมาอี กครัง้ ให้เขาไม่พยาบาทอาฆาตแค้นจนล้นทะลัก
ออกมาจากหัวใจเช่นนี้ ชีวิตเขาเหมือนถูกโชคชะตาเอาเปรียบ
มากพอแล้ว

อนาคตเป็ นสิ่งไม่แน่ นอน นางจึงไม่กล้าเดิมพันสิ่งที่ นาง


กล้าพนันก็คือปัจจุบนั เท่านัน้ ...

่ ิ งลุกขึ้นค่อยๆ ถอดอาภรณ์ ออก เสื้อผ้ายังคง


ถานหวันช
มีไออุ่นจากร่างของนางอยู่ พวกมันถูกพับวางไว้ตรงปลายเตียง
อย่างเรียบร้อย แล้วนางก็ถอดเสื้อชิ้นต่อไป

สีหน้ าของหญิงสาวยังคงเรียบนิ่ง นางเคยถอดเสื้อผ้าจน


เหลือแต่เรือนร่างเปลือยเปล่าต่อหน้ าสาวใช้หลายครัง้ ไม่ว่าจะ
ตอนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือลงอ่างน้า มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่
อย่างใด เพี ยงเปลี่ ยนจากสาวใช้ เป็ นผู้ชายก็แค่นัน้ ไม่มีอะไร
ต้องปกปิด และนางเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามันก็เท่านี้ แหละชี วิต
...ก็แค่ก้าวไปข้างหน้ าอีกหนึ่ งก้าว

ในห้ องนอนค่อนข้างหนาวอยู่แล้ว ครัน้ ถอดเสื้อผ้าต่ อ


หน้ าชายหนุ่มที่ท่าทางเย็นชาก็ยิ่งรูส้ ึกเย็น

3
ยะเยื อกมากขึ้น ไปอี ก นางจึง เบี่ย งตัว บัง ร่างบางส่ ว น
จากสายตาเขา แต่ นัน่ แหละในเมื่อนางตัดสินใจไปแล้ว แม้จะ
ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกจากเรือนร่างทีละชิ้นอย่างช้าๆ แต่กห็ า
ได้มีท่าทางลังเลหรือสองจิตสองใจแม้แต่น้อย

ถานหวันช ่ ิ งสวมชุดแบบผู้ชายทัง้ ข้างนอกและข้างใน...


จากเสื้อคลุมตัวนอก เสื้อแขนยาวตัวใน จนกระทังดึ ่ งสายผูก
เอี๊ ย มตัว จิ๋ว ที่ อยู่ด้ านหลัง แล้ วปล่ อยให้ หล่ น ลงมา แม้ ลุ่ย จูจะ
แก้ ไขขนาดแล้ ว แต่ เอวนางคอดบาง ทาให้ กางเกงตัว เล็กซึ่ ง
ค่อนข้างหลวมจึงอยู่ตา่ กว่าเอวลงไปเล็กน้ อย ตอนนี้ หญิงสาว
จึงเหมือนนางเงือกก็ไม่ปาน

สายตาคมแพรวพราวจดจ้ อ งคนตรงหน้ า รู้สึ ก ว่ า ร่ า ง


บอบบางนี้ ช่างขาวเหมือนเม็ดบัวและงดงามไร้ที่ติ

มือเรี ยววางเสื้อเอี๊ ยมไว้ อย่ างเรีย บร้อย เพิ่งจะนั ง่ ลงที่


ขอบเตี ยงก็ร้สู ึกได้ถึงสัมผัสที่ แนบชิดทางด้านหลัง เขากดนาง
ให้เอนกายลง ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ ารดพวงแก้ม

เรื่องราวบานปลายมาถึงจุดนี้ แล้ว นางจึงไม่ได้ดิ้นรนขัด


ขืน ร่างกายอ่อนนุ่มพยายามโอนอ่อนเข้ากับร่างแข็งแกร่งของ
ชายหนุ่ม รู้ดีแก่ใจว่าหากขัดขืนแรงที่ดรุ ้ายนี้ มันจะเป็ นการรน
4
หาความทุกข์ใส่ตวั เปล่าๆ การยินยอมและคล้อยตามก็ถือเป็ น
วิธีปกป้ องตนเองอย่างหนึ่ งเช่นกัน

หญิงสาวไม่มีคาเอ่ยที่ เจ็บแสบหรือท่ าที เมินเฉยเหมือน


ก่อนหน้ านี้ แล้ว มีแต่น้าเสียงอ่อนนุ่มเข้ามาแทนที่ “ใต้เท้า ปูผา้
ห่มก่อนได้หรือไม่?”

มือแข็งแกร่งวางลงบนเอวบางแล้วดึงกางเกงนางช้ าๆ
กางเกงแพรต่วนสีขาวค่อยๆ เคลื่อนลงไปยังข้อเท้า เผยให้เห็น
เรียวขาขาวนุ่มนวล งดงามจนทาให้สายตาที่ จ้องมองไม่อยาก
เบนไปทางอื่นสามวันสามคืนเลยทีเดียว

่ ิ งเพิ่งจะเอ่ยปาก ก็เห็นเขาโยนกางเกง
“ท่าน!” ถานหวันช
แพรตัวบางของนางไปไว้ที่ปลายเตี ยง แต่ กลับทาให้ เสื้อผ้าที่
พับเป็ นระเบียบไว้อย่างดีรว่ งหล่นลงมาในพริบตา

เพราะถานหวันช ่ ิ งเรี่ยวแรงน้ อย ตอนที่ เขาช้ อนตัวขึ้น


วางบนเตี ยงจึงต้ องคล้อยตามเขา แต่ เมื่อเห็นกระดาษซึ่ งเป็ น
หลักฐานสู่อิสรภาพของนางหล่นออกมาจากแขนเสื้อ สายตา
พลันตกตะลึง จากนัน้ ก็ฉุกคิดบางอย่างได้

5
นางมองมือร้อนระอุจนเกือบลวกผิวก่อนจะเงยขึ้นมอง
ชายหนุ่ม ทว่าเขาไม่ได้สบตาตอบ เพราะใจจดจ่ออยู่ที่เรือนร่าง
งดงามจนไม่อาจละสายตา

“ช้าก่อน!” เส้นผมดาขลับของนางแผ่สยายบนฟูกทหาร
ที่ ดามืด หญิงสาวยื่นมือไปผลักคนที่ แนบร่างลงมากับหน้ าอก
ของนาง “ใต้เท้าลืมอะไรไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”

นางเพิ่งนึ กขึ้นได้ ว่าในหนั งสื อสัญญาขาดอะไรไปทัง้ ที่


อ่านเนื้ อหาข้างในสองรอบแล้ว มันไม่มีส่วนสาคัญที่สุดซึ่งก็คือ
...การลงนามของเซี่ยเฉิงจู่

“หนังสือสัญญานี่ ยงั ไม่ได้ลงนามใต้เท้าเลย”

ถานหวันช ่ ิ งไม่สนใจเรื่องอื่น นางพลิกตัวลุกไปที่ ปลาย


เตี ยง หยิบหนั งสือสัญญาที่ พบั ไว้อย่างดีที่ตกพื้นขึ้นมาแล้วคลี่
อ่านอีกครัง้ อย่างรวดเร็ว

จริงด้วย!

นางกามือแน่ นเอี้ยวตัวกลับไปหาคนต้นเหตุ “ใต้เท้าคง


รีบร้อนเขียนจนลืมลงนาม ทว่าหมึกกับพู่กนั ยังวางอยู่บนโต๊ะ

6
หรือไม่ก็...” นางยังพูดไม่ทนั จบ เขาก็ดึงกระดาษแผ่นนั น้ ไป
จากนัน้ ก็ได้ยินเสียงคารามในลาคอ

เซี่ ย เฉิ งจู่ ย กมื อ ขึ้ น เหนื อศี ร ษะของหญิ งสาว โปรย
กระดาษที่ถกู ฉี กเป็ นชิ้นๆ ลงมา

“เจ้าแน่ ใจนะว่าของนี่ มนั ใช้ได้?”

หนังสือสัญญาแผ่นนัน้ กลายเป็ นเศษกระดาษชิ้นเล็กชิ้น


น้ อยด้วยน้ามือของเซี่ยเฉิงจู่ ปลิวว่อนเกลื่อนเตียงนอน

ถานหวันช ่ ิ ง มองเศษกระดาษที่ ก ระจัด กระจายบนพื้น


แล้ ว ตะลึ ง งัน ไปชัว่ ขณะ ตอนนี้ ความรู้สึ ก ในใจช่ า งยากจะ
บรรยาย นางเคยเข้ า ใจมาตลอดว่ า เซี่ ย เฉิ งจู่ เ ป็ นผู้ ที่ ให้
ความสาคัญกับสัจวาจา นางครุ่นคิดพิจารณาอย่ างถี่ ถ้วนอยู่
นาน แม้เขาจะเป็ นชายหนุ่ มที่ หนุ หันพลันแล่นและเจ้ายศเจ้า
อย่าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คือแม่ทพั คือผูป้ กครองที่ มีสจั วาจา
เท่าทองพันชัง่ พูดแล้วย่อมทาให้ได้อย่างที่พดู

นางเองก็เ ป็ นคนซื่ อ สัต ย์ หากว่ า ตกปากรับ ค าแล้ ว ก็


จะต้ องให้ ความสาคัญต่ อสิ่งที่ ได้เอ่ ยไป ดังนั น้ คนที่ รบั ปากไว้

7
แล้วไม่ทาตามก็คือคนที่ ไม่น่าเชื่ อถือ ใบหน้ าของหญิงสาวจึง
ฉายแววสับสนอยู่ไม่น้อย

เซี่ ยเฉิงจู่ย่างเท้าเข้ามาหาที ละก้าว ทาให้ถานหวันช


่ ิ งไร้
ทางออก รู้สึ กเหมือนกับถูกครอบงาและต้ อนให้ จนมุม หญิง
สาวถูกบังคับให้ถอยหลังจนกระทังไม่ ่ อาจถอยได้อีกแม้แต่ก้าว
เดี ย ว ลมหายใจพลัน สะดุ ด ค าพู ด ที่ เ หลื อ ก็ส ลายลงคอไป
ด้ ว ย หากเป็ นเช่ น นี้ แล้ ว ภายภาคหน้ านางจะเป็ นอิ สระได้
อย่างไร นางจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง...

หญิ ง สาวอดช าเลื อ งมองเศษกระดาษไม่ ไ ด้ ผิ ว เนื้ อ


เปลือยเปล่าไร้สิ่งปิดคลุมปรากฏอยู่ท่ามกลางอากาศที่ หนาว
เหน็ บ ทว่ า นางกลับ ไม่ ไ ด้ ใ ส่ ใ จ สายตาเอาแต่ จ ดจ้ อ งเศษ
กระดาษบนพืน้ ...

นี่ มนั ไม่ต่างจากทะเบียนขายเรือนร่าง ไม่ว่าจะแปดปี ...


สิบปี . . .แต่นางก็ยงั พอมีหวัง ยังหลงเหลือความปรารถนา แต่
ตอนนี้ กลับรูส้ ึกว่าทัง้ ความหวังและความปรารถนาถูกขยี้แหลก
ไม่มีชิ้นดีเหมือนเศษกระดาษพวกนี้

คุณหนูใหญ่ตระกูลถานเป็ นคนเจ้าระเบียบ แม้แต่เสื้อผ้า


ที่ ถอดก็ยงั พับไว้อย่างเรียบร้อยไม่ยอมให้ยบั น้ อยมากที่ จะได้
8
เห็นนางในลักษณะจนมุม เช่นนี้ เส้นผมที่ มดั ไว้หลุดลุ่ยไม่เป็ น
ระเบี ย บ ไม่ มี สิ่ ง ใดปิ ดบัง ผิ ว สี ข าวราวหิ ม ะ และไม่ ไ ด้ ค านึ ง
สายตาที่ วบั วาว ทาให้ ชายหนุ่ มได้มองภาพงดงามเป็ นบุญตา
จนอิ่มหนา

ถึงด้านหลังของนางจะมีคนอยู่ แต่ เวลานี้ ความคิดกลับ


อยู่ที่เศษกระดาษที่ถกู ฉี กทิ้ง

ใครเล่าจะมาเข้าใจ นางรู้สึกเหมือนได้รบั ของมีค่าแล้ว


กลับแตกสลายหายไปต่อหน้ าต่อตา หัวใจของนางไม่ใช่แค่เศษ
กระดาษนะ

เมื่อใช้ สายตามองหญิงสาวผู้งดงามไร้ที่ติจนพอใจแล้ว
เขาก็เริ่มจับจ้องการเคลื่อนไหวของนาง

ใบหน้ าพลันเยี ยบเย็น คิ้วขมวดเป็ นปม ขบกรามแน่ น


ด้วยความขุ่นเคือง

ก่อนหน้ านี้ นางต่ อรองเพื่อขอการรับรองว่าจะไม่มีการ


ผูก มัด จากเขา เพื่ อ ให้ น างมี อิ ส ระที่ จ ะจากไป ตอนนี้ ห นั ง สื อ
สัญญาประหนึ่ งเหลือแต่ ซากที่ ไร้จิตวิญญาณ แต่ นางก็เอาแต่
มองเศษขยะนัน่ เหมือนเป็ นของลา้ ค่าอย่างไรอย่างนัน้

9
การแต่ ง เข้ า ตระกูล เซี่ ย มัน ท าให้ น างต้ อ งทุ ก ข์ ร ะทม
ขนาดนี้ เชียวหรือ? ทาให้นางต้องกลา้ กลืนฝื นทนปานนัน้ จิตใจ
ถึงตัง้ มันอยากจะออกไปจากเมื
่ องนี้ ท่าเดียว

นี่ ยิ่งทาให้เขานึ กถึงว่าวันหนึ่ งนางอาจจะหนี จากไปโดยที่


ไม่รวู้ ่าไปแห่งหนใด ใบหน้ าเซี่ยเฉิงจู่กเ็ ปลี่ยนเป็ นมืดครึม้ ขึ้นมา
ทันที

แต่แรกเขาก็ไม่ได้ตงั ้ ใจที่จะเก็บมันไว้อยู่แล้ว เจตนาที่จะ


ฉี กมันให้ ขาด การที่ นางอยากจะหนี ออกไปจากเมื องเว่ ย อัน
อย่าได้ฝัน! ชายหนุ่มยื่นมือไปจับแขนบอบบางทัง้ สองข้าง ใน
หัวใจเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธที่ เอ่อล้น จึงยากที่ จะปรับลม
หายใจให้เป็ นปกติ

ตอนที่ ตดั สินใจโปรยหนังสือสัญญาใส่ นาง เขาอยากให้


นางซึ่ งอวดดีเข้าใจชัดแจ้งว่าผู้หญิงคนหนึ่ งที่ ไร้ชื่อไร้ฐานะนัน้
อย่ า งไรก็ต้ อ งถูก บัง คับ ฝื นใจให้ ร่ ว มเตี ย งกับ ผู้ช าย แม้ จ ะมี
ค่ าตอบแทนเช่ น เดี ย วกับ ในกรณี นี้ แต่ ก็ต้ องถูกคนมองด้ วย
สายตาหยามหยันดูถกู ดูแคลนอยู่ดี เขาอยากเห็นท่าทางสานึ ก
ผิดในภายหลังและอยากให้นางเผยความคับแค้นใจออกมา

10
่ ิ งยังคงมีจิตใจ
ถึงจะถูกเขาตรึงเอาไว้แน่ น แต่ถานหวันช
เข้มแข็ง สายตาจับจ้องเพียงแค่พื้น ขอบตาเริ่มแดงลามไปถึง
ใบหน้ า จนยากที่ เขาจะโหดเหี้ ยมดุร้ายต่ อนาง ไม่มีชายใดที่
อยากเห็นผู้หญิงร้องไห้ โดยเฉพาะผู้หญิงคนนัน้ ก็หาใช่ใครอื่น
แต่เป็ นคนที่ เขาปรารถนาอยากจะปกป้ องด้วยสองมือ เฝ้ าดูแล
ทะนุถนอมด้วยจิตใจที่คะนึ งหาตลอดเวลา

ความคิดในสมองตี กนั วุ่นวายหลายตลบ ไม่ว่าอย่างไร


เขาก็ไม่ อาจใจด าอ ามหิต กับ นางได้ ลง ไม่ ว่ าจะทาให้ น างถูก
หยามเหยียด หรือเพียงเฝ้ ามองนางอย่างเดิม ในใจเขาก็ยากที่
จะเบิกบานทัง้ นัน้ ในใจทัง้ เป็ นห่วงทัง้ กังวล อดไม่ได้ที่รงั ้ ร่างนุ่ม
นิ่มเข้ามาหาตนด้วยท่าทางบังคับกลายๆ

ถานหวันช่ ิ งค่อยๆ เบนสายตามายังเขา พยายามแกะมือ


หนานัน้ ออก แต่ถกู เขากอบกุมไว้แน่ นไม่ยอมปล่อย ทัง้ สองอยู่
ห่างกันแค่เอื้อม

เดิมเพื่อสัญญาแผ่นนี้ นางพยายามอดกลัน้ เก็บเรื่องราว


ไว้ ใ นใจ เพราะรู้ว่ า มัน ส าคัญ กว่ า สิ่ ง อื่ น ใดทัง้ หมด ทัง้ แสร้ ง
อ่อนหวานละมุนละไมก็แล้ว แสร้งตี หน้ าเฉยชาก็แล้ว สุดท้าย
ได้แต่ พยายามทาสี หน้ าให้ เป็ นปกติ ทว่านั บแต่ กระดาษที่ จะ
นามาซึ่ งอิสรภาพของนางถูกฉี กทิ้งไม่เหลือชิ้นดี ถึงหญิงสาว
11
ยัง ไม่ เ อ่ ย ค าใด ทว่ า สี ห น้ า อ่ อ นหวานที่ เ คยประดับ อยู่ต ลอด
เวลาพลันมลายหายไปสิ้น

ในเมื่ อ กระดาษกลายเป็ นชิ้ น เล็ก ชิ้ น น้ อ ยไปแล้ ว ไม่ มี


่ ิ ง ได้ แ ต่ ก ล ้า กลื น
หนั ง สื อ สัญ ญาแผ่น นั น้ อี ก ต่ อ ไป ถานหวันช
ความเจ็บชา้ สีหน้ ายามนี้ ดจุ น้าค้างแข็ง คิ้วเรียวที่บรรจงวาดยิ่ง
ดูแหลมคมประหนึ่ งดาบคู่ ทัง้ ที่ ร้ตู วั ดีว่าเวลานี้ ตนอยู่ในสภาพ
ไม่เรียบร้อยและล่อแหลมเพียงใด แต่มนั ก็ไม่ต่างกันนักหรอก
ในเมื่อเรื่องที่ วางแผนเอาไว้สุดท้ ายก็ล้มเหลวไม่เป็ นท่ า แล้ว
นางจะมีเรือ่ งใดให้ต้องกลัวอีกเล่า

ต่อให้เขาโกรธ นางก็ไม่กลัว!

่ ิ งจ้องเขาตอบอย่างไม่ลดละทว่ายังไม่ได้ พูด
ถานหวันช
อะไร ได้แต่พยายามใช้เรี่ยวแรงทัง้ หมดดึงมือของตนออกจาก
การกอบกุมของเขา ในเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย มีหรือที่หญิง
สาวจะดิ้นรนสลัดพ้นได้ เพียงครู่เดียวข้อมือก็แดงเถือกตัดกับ
ผิว ขาวราวหิมะอย่ างชัด เจน มือที่ กมุ ไว้ แน่ น เมื่ อครู่จึง คลาย
ออก

12
เมื่อหญิงสาวเป็ นอิสระจึงรีบผละออกมาแล้วยืดตัวตรง
ทาเป็ นไม่สนใจท่าทางโหดเหี้ยมของอีกฝ่ าย เพียงก้มลงเก็บเสื้อ
คลุมที่หล่นลงไปกองอยู่ที่พืน้ ก่อนหน้ าขึน้ มาคลุมไหล่เอาไว้

เพราะเอี๊ยมถูกดึงออกไปนานแล้ว เมื่อนางหยัดกายก็ทา
ให้คนเฝ้ ามองได้เห็นอย่างแจ่มชัดถึงความอวบอิ่มงดงามราว
ดอกเหมย รูปร่างเพรียวบางละมุนละไมดุจปุยเมฆ ช่ างขัดกัน
กับใบหน้ าที่ เย็น ยะเยือกราวกับน้ า ค้ างแข็ง ความอ่ อนหวาน
นุ่ มนวลก่อนหน้ ามลายหายไปสิ้น ทาให้ เขาไม่กล้ากระดิกตัว
แม้แต่นิดเดียว

เมื่อชายหนุ่มมองส่วนที่นูนขาวนุ่มนิ่มวับแวมภายใต้เสื้อ
คลุมก็รู้สึกร้อนระอุไปทัวสรรพางค์
่ กาย ทว่าหญิงสาวกลับไม่
เห็นสายตาเช่นนี้ ท่าที ของนางส่งผลให้ไฟร้อนระอุที่ไหลเวียน
อยู่ในใจปะทุ ออกมา ทัง้ ยัง แผดเผาอวัย วะส่ วนล่ างให้ แดดิ้น
อยากจะเข้าไปแนบชิดคลอเคลีย

ไวเท่ า ความรู้สึ ก เขาคว้ า ข้ อ มื อ ของถานหวันช ่ ิ ง อย่ าง


ยากที่ จ ะยับ ยัง้ นิ สัย มุ ท ะลุ ข องตนได้ ไม่ เ พี ย งรัง้ ร่ า งบางเข้ า
มาแล้วรวบเอวคอดกิ่วเอาไว้ หนาซา้ ยังบังคับให้นางนัง่ ลงบน
ตักแกร่งของตนอีกด้วย

13
หญิงงามเช่ นนี้ หากไม่กลัวว่านางจะบาดเจ็บ ใครหน้ า
ไหนจะอดทนไหว พูดด้วยยังไม่ถึงสองคาก็คงถูกลากมากระทา
ตามอาเภอใจไปแล้ว คงไม่นัง่ ทนเหมือนอยู่ในเตาหลอมเช่นนี้
ถึงแม้เขากับนางต่างทาหน้ านิ่งเฉย แต่ในส่วนลึกของหัวใจ เขา
กลับไม่ยินยอมให้นางออกห่างจากตนเด็ดขาด

ยิ่งกลิ่นหอมอุ่นบนร่างโชยมาต้ องใบหน้ า ริมฝี ปากอิ่ม


แดงระเรื่ อ อยู่ใ กล้ ก นั ความนุ่ ม นิ่ มหอมหวานท าให้ อ ยากจะ
กลืนกินคนในอ้อมแขนลงกระเพาะเสียเดี๋ยวนี้ ชายหนุ่มจับจ้อง
นางด้วยหัวใจที่ สนไหว
ั่ ลาคอกระเพื่อมแผ่วเบา สุดท้ ายก็ห้าม
ใจไม่ไหวจึงก้มหน้ าลง

ทัน ใดนั ้น ถานหวัน่ ชิ ง ก็ยื่ น มื อ มาผลัก เขาให้ อ อกห่ า ง


ดวงตาไม่ อ าจปกปิ ดความโกรธไว้ ไ ด้ อี ก ต่ อ ไป นางพูด โพล่ ง
ออกมาอย่างไม่ลงั เล

“ท่านกล้ารึ!”

ทว่าตอนนี้ เซี่ยเฉิงจู่กลับโกรธยิ่งกว่าจนหน้ าดาหน้ าแดง


“มีตรงไหนที่ข้าไม่กล้า?”

14
“หนั งสื อสัญญาแผ่นนั น้ คือข้อตกลงระหว่างเรา ในเมื่อ
ท่านฉี กมันไม่เหลือชิ้นดี...” น้ าเสียงของถานหวันช
่ ิ งไม่มีความ
หวาดกลัวเลยสักนิด นางรวบรวมเรี่ยวแรงผลักชายหนุ่ มแล้ว
ตัง้ ท่าจะลุกขึน้ “ข้าก็ไม่ยินยอม อย่าได้คิดมาแตะต้องตัวข้า!”

แต่ ไม่ทนั ที่ นางจะลุก ร่างบอบบางก็ถกู คนที่ ดวงตาลุก


เป็ นไฟดึงกลับเข้าสู่อ้อมกอดทันที เสื้อคลุมที่ พาดหมิ่นเหม่บน
ไหล่ถกู กระชากออก เขาเค้นเสียงในลาคอเอ่ยด้วยความโกรธ
สุดขีด

“หากข้าแตะต้องเจ้า แล้วอย่างไรเล่า?”

กล่าวจบมือก็สมั ผัสลงบนร่างบอบบาง ก้มหน้ าลงซุกไซ้


จูบเม้มโดยไม่สนใจว่านางจะยินยอมหรือไม่

15
50 เฝ้ าถนอม

หลัง จากหนั ง สื อ สัญ ญาถูก ฉี ก ขาดจนกระทัง่ ถึ ง ตอนนี้


ถานหวันช่ ิ งเหมือนถูกยัวยุ่ จนเริ่มทนไม่ไหว คนเราเมื่ออยู่ใน
อารมณ์ โ มโห แม้แต่ ค าที่ ต้ องการเอ่ ย ก็หายไปจากสมอง แต่
กลับพูดเรื่องอื่นที่คาดไม่ถึงแทน หญิงสาวทิ้งศีรษะลงกับ เตี ยง
ท่ามกลางความรู้สึกหวามไหว นางพยายามรวบรวมแรงที่มีอยู่
น้ อยนิดเอ่ยออกมา

“ข้าหรือจะกล้าต่อกรกับใต้เท้า ข้าเพียงแค่เอาตัวรอดไป
วันๆ และเหลือศักด์ ิ ศรีเพื่อไปพบกับมารดาก็เท่านัน้ ...”

ถึงแม้หญิงสาวไม่เคยคิดอยากจะตายมาก่อน แต่เมื่อตก
อยู่ในสถานการณ์ยา่ แย่อย่างคิดไม่ถึงเช่นนี้ กก็ ดั ฟั นเอ่ยออกมา
สิ่งที่พดู เมื่อครู่ส่วนหนึ่ งคือความจริงที่นางอยากจะตายเสียให้รู้
แล้วรู้รอด อี กส่ วนเป็ นความเท็จเพราะตนสู้อุตส่ าห์หลบหนี ก็
เพราะไม่อยากตาย ที่ เหลือเป็ นการหยังเช ่ ิ งเพราะคิดอย่างอื่น
ไม่ออก หวังเพียงเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ได้

ไม่ นึ กเลยว่ า อี ก ฝ่ ายกลับ ไม่ ย อมปล่ อ ยมื อ ร่ า งกาย


แข็งแกร่งกลับรัดนางแน่ นขึ้น ท่ อนขาที่ มีกล้ามเนื้ อกายาสัน่

1
สะท้านจนนางรู้สึกได้ ขณะที่ หญิงสาวกาลังลังเลสองจิตสองใจ
ว่าจะทาอย่ างไรต่ อดี กบั บรรยากาศที่ เงี ยบกริบ ในที่ สุดเสี ยง
หัวเราะเย็นเยียบปานน้าแข็งก็แว่วมา

“อยากตายรึ? เจ้าก็ลองดูแล้วกัน!”

แล้วริมฝี ปากที่เพิ่งทะเลาะกับเขาเมื่อครู่กถ็ กู ประกบด้วย


ความโกรธเคือง แฝงไว้ด้วยความรูส้ ึกที่ราวกับหัวใจจะแตกร้าว
เซี่ ย เฉิ งจู่ร ะบายความอัด อัน้ ในใจโดยใช้ มื อ ส ารวจร่ า งบอบ
บางอย่างไม่มีความสงสารและความนุ่มนวลเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเช้าสอนเด็กน้ อยตัวกลมซนๆ สิบกว่าคนที่หออักษร


ป่ าไผ่รว่ มสองยามยังไม่รสู้ ึกว่าเหน็ดเหนื่ อยทรมานเท่านี้ ยามนี้
ใบหน้ างามไร้สีเลือดเหลือไว้แต่ เพี ยงความขาวซี ด จู่ๆ หญิง
สาวก็นิ่งงันไป ไร้ปฏิกิริยาต่อต้าน

แผ่นหลังนวลเนี ยนเปลือยเปล่าแนบกับแผงอกแกร่งให้
เขาแทะเล็มตามใจชอบ เซี่ ยเฉิงจู่ยกศีรษะขึ้น ถอนหายใจยาว
เอื้อมมือไปดึงผ้าห่ มขึ้นมาหมายจะคลุมไหล่มน แต่ ไม่อาจละ
สายตาจากใบหน้ ายามหมดสติของหญิงสาวในอ้อมแขนได้เลย

2
เมื่อครู่ตนเอาความโกรธมาลงที่ นางจนหญิงสาวเหนื่ อย
ล้ า อ่ อ นแรง ริ ม ฝี ปากแดงนุ่ ม บวมเจ่ อ บนหน้ า ผากชื้ น เหงื่ อ
เล็กน้ อย

เส้ นผมดาขลับแผ่สยายลงบนหมอนที่ เขาใช้ หนุ นนอน


เป็ นประจา บางส่วนตกระไปกับเตี ยง มือหนาที่ กาลังดึงผ้าห่ ม
ชะงักค้างเมื่อเห็นรอยแดงบนแผ่นหลังหญิงสาว ชายหนุ่มจึงรีบ
วางผ้าห่มในมือลงบนร่างนาง

บนผิวนวลเนี ยนปรากฏรอยนิ้วแดง แม้ชายหนุ่ มจะไม่


เอ่ ยคาใด แต่ ในใจกลับเต็มไปด้ วยความรู้สึกผิด เขารู้ว่าร่าง
งดงามตรงหน้ าบอบบางและถูกเลี้ยงดูมาอย่างยากลาบาก แล้ว
เขายังกระทาหยาบคายกับนางได้ลงคอ ครัง้ นี้ ไม่ร้วู ่าถานหวัน่
ชิงจะโกรธเขาไปถึงเมื่อไร ท่อนแขนแกร่งวางนิ่งบนผ้าห่มเนิ่น
นานอย่างไม่ยอมชักกลับที่เดิม

ห้วงสติที่หลุดลอยพลันกลับมาแจ่มชัดเมื่อเห็นหญิงสาว
ขยับคล้ายกับไม่สบายตัว เปลือกตาของนางยังคงปิดสนิท เขา
เอื้อมมือไปแตะไรผมนางแล้ว ลูบเบาๆ แม้ ว่าผู้ปกครองเมือง
คนเก่าจะซ่อมแซมคฤหาสน์ หลังนี้ ได้อย่างสวยงาม แต่สาหรับ
ทหารเช่นเขา ที่นี่กเ็ ป็ นเพียงสถานที่นอนหลับเท่านัน้ เดิมทีเคย

3
มีผา้ แพรทอโปร่งบางอย่างดีแต่ทงั ้ หมดถูกเขาดึงทึ้งแล้วโยนทิ้ง
ไป จากนัน้ ก็เปลี่ยนมาเป็ นผ้าฝ้ ายของทหารสีเทาอ่อนแทน

เขาเป็ นผู้ช ายตัว คนเดี ย วจะไปรู้สึ ก รู้ส าอะไร แต่ ร่ า ง


เปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ดิ้นอยู่ใต้ผ้าห่มเนื้ อหยาบเสียดสีกบั
ผ้าจนแผ่นหลังเนี ยนเกิดเป็ นปื้ นแดง ยิ่งผิวขาวผ่องขนาดนี้ ยิ่ง
มองเห็นได้ชดั ...

คงต้องนาของที่ผิวหยาบไม่น่ ุมมือโยนทิ้งไปเสียแล้ว

ขณะกาลังจะละสายตาไปจากรอยแดงที่แสลงความรู้สึก
ในใจกลับฉุ กคิดถึงน้ าแกงไตกวางอันเป็ นบ่อเกิดแห่ งภัยพิบตั ิ
ชามนั ้น ขึ้ น มาได้ ตอนนี้ เขายัง ร้ อ นรุ่ ม ไปทัง้ ตัว ด้ ว ยความ
ปรารถนาที่ยงั ไม่ได้รบั การเติมเต็ม คงต้องรอจนความร้อนผ่าว
หมดไปจึงจะสงบลงได้

ทัน ใดนั น้ ก็ไ ด้ ยิ น เสี ย งฝี เท้ า แว่ ว มา ชายหนุ่ ม ปรายตา


มองไปนอกประตู คนที่ผ่านการรบมาจะมีความรู้สึกไวต่อเสียง
มากเป็ นพิเศษ เซี่ยเฉิงจู่กเ็ ป็ นอีกคนที่สามารถรับรู้ถึงฝี เท้าผูม้ า
ใหม่ได้ทนั ที อี กทัง้ เขาฝึ กกาลังภายในที่ ถ่ายทอดมาจากบรรพ
บุรษุ จึงช่วยส่งเสริมความสามารถนี้ ยิ่งขึน้ ไปอีก

4
น่ าเสียดายที่ คนรุ่นที่สามในตระกูลเซี่ยมีสติปัญญาเพียง
แค่ระดับธรรมดา ไม่มีสกั คนที่เรียนวิชานี้ ได้ จนกระทังมาถึ
่ งรุ่น
ของเขา เซี่ยเฉิงจู่อาศัยสติปัญญาลองผิดลองถูก ถึงแม้ตอนนัน้
ยังเด็กแต่กส็ ามารถเข้าถึงเคล็ดวิชาได้

เมื่อเข้ามาในค่ายทหาร เขาได้ใช้ ความสามารถที่ มีเป็ น


ทุนเดิมหลบคมหอกคมดาบ จนเอาชีวิตรอดมาจากสนามรบได้
หลายครัง้ หลายครา

คนด้ า นนอกหยุ ด อยู่ เ พี ย งหน้ าประตู แ ล้ ว ยื น รออย่ า ง


เงียบเชี ยบ ถึงกระนัน้ เซี่ ยเฉิงจู่กร็ ้วู ่าคนที่ มาคือใคร เขาหันไป
มองคนที่ ยงั หลับใหลอีกครัง้ ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเนิบช้า ขยับผ้า
ห่มคลุมให้อีกฝ่ ายอย่างดีแล้วก้าวลงจากเตี ยง เก็บเสื้อผ้าที่ พื้น
ขึน้ มาสวม

่ ิ่ น เขาสัง่ ให้ จ วเว


ผู้ที่ ม าก็คื อ จัวเว ั ่ ิ่ น ไปสื บ เรื่ อ งราวเมื่ อ
กลางวันให้ชดั เจน พอไปถึงสกุลไป๋ นายท่านสกุลไป๋ เห็นเครื่อง
แต่ ง กายจากจวนผู้ป กครองก็เ รี ย กคนขับ รถม้ า ออกมา คน
เก่ า แก่ ข องถานหวัน่ ชิ งจึ ง เล่ า เรื่ อ งให้ ฟั ง ว่ า ตนเป็ นหนึ่ งใน
พ่อบ้านของจวนตระกูลถาน และที่คณ ุ หนูถานจะขึ้นรถม้าสกุล
ไป๋ก็เพื่อจะซื้อตัวอดีตพ่อบ้านเท่านัน้

5
่ ิ่ นจะไม่ได้เข้าไปในห้อง หรือแม้แต่ตอนใต้เท้าปิด
ถึงจัวเว
ประตูกไ็ ม่มีช่องให้ มองสอดส่ องได้เลย แต่ จากการใช้ สายตา
ลอบสารวจ พบว่าใต้เท้ามีเพียงเสื้อกางเกงอย่างละตัว แสดงว่า
ต้องมีแผนในใจแน่

ไม่ สิ . ..ใต้ เ ท้ า ต้ อ งรัง แกคุณ หนู ถ านแล้ ว แน่ ๆ เกรงว่ า


ตอนนี้ ไ ม่ เ พี ย งแค่ แ กล้ ง นางเล่ น แต่ ดู ท่ า จะล่ ว งเกิ น นางไป
เรียบร้อยแล้ว

เขาเฝ้ า ประตูบ้า นอยู่เ ป็ นนานสองนานจึ ง พอจะรู้นิ สัย


คุณหนูถานมาบ้าง

่ ิ ง เห็นท่ าทางนุ่ มนวลอบอุ่นอ่ อนโยน


คุณหนู ถานหวันช
ปานนั น้ แต่ ความจริงได้ผกู พยาบาทไปเรียบร้อยแล้ว วิธีการ
ผูกพยาบาทนั น่ อาจจะไม่เหมือนการชาระหนี้ เลือดของผู้ชาย
แต่กไ็ ม่เหมือนคนทัวไปที
่ ่แค่ดื่มน้าชากาเดียวก็ให้อภัย

่ ิ่ นเห็นอารมณ์ ของใต้เท้า หลังรายงานจบจึงรีบ


เมื่อจัวเว
ถอยออกไป

เซี่ยเฉิงจู่ยืนนิ่งอยู่หน้ าประตูเป็ นนาน ก่อนจะกลับเข้าไป


ในห้อง

6
การฝึ กกาลังภายในทาให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งและ
ไม่ รู้สึ ก หนาว จนกระทัง่ สายตาเหลื อ บไปเห็น ถ่ า นไฟในอ่ า ง
มอดดับแล้ว จึงสังเกตว่าในห้ องค่อนข้างหนาวเย็น เขารีบไป
เอาถ่านมาเติมทัง้ หัวเตี ยงและท้ายเตี ยงอย่างละถาดจนไฟลุก
ไหม้อีกครัง้ เพียงไม่นานห้องทัง้ ห้องก็อบอุ่นขึน้ มา

หญิ ง สาวที่ น อนอยู่ บ นฟูก สี เ ทาอ่ อ นหลับ สนิ ทไร้ เ สี ย ง


ใดๆ เซี่ ยเฉิงจู่เดินไปที่ เตี ยง อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสารวจลม
หายใจของหญิงสาวที่ ปลายจมูก เมื่อรู้แน่ ชดั ว่านางเพียงหลับ
ไปเท่ านั น้ ก็ค่อยๆ นั ง่ ลงริมเตี ยง มองรอยจา้ ชา้ แดงเล็กๆ บน
ไหล่นางด้วยสายตาเป็ นกังวล ไม่ร้เู ป็ นเพราะโดนปลายคางของ
ตนหรือเปล่า เขาใช้หลังมือลูบเบาๆ แล้วเลยมาคลึงรอยคลา้ ที่
ขอบตาสักครู่ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบเสื้อคลุมแล้วผละไปเงียบๆ

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่อยากเผชิญหน้ ายามที่ ถานหวันช


่ ิ งตื่นขึ้นมา
ไม่ ใ ช่ เ พราะกลัว แต่ ไ ม่ อ ยากเห็น สายตาของนางที่ ม องเขา
แปลกไป นั น่ เป็ นความรู้สึกของเขา แต่ สาหรับนางแล้ว ไม่ว่า
เขาหรือใครก็คงไม่ต่างกัน

เมื่ อออกมาจากห้ อง ชายหนุ่ มก็ปิดประตูอย่ างเบามื อ


แล้วสังให้
่ จวเว ั ่ ิ่ นคอยเฝ้ าไว้อย่างเคย เขาสวมเสื้อคลุมสีดาทับ
ชุดที่สวมอยู่แล้วตรงดิ่งไปที่โรงครัว
7
ข่าวแม่ทพั หัวเมืองพาผูห้ ญิงมาค่ายทหารด้วยแพร่สะพัด
ไปทัวภายในเวลาไม่
่ นาน

โรงครัวในช่วงบ่าย นอกจากจะมีนายทหารที่ ดูแลหุงหา


อาหารไม่กี่นายแล้วก็ไม่ค่อยมีคนนั ก เมื่อใต้ เท้ าปรากฏตัวที่
โรงครัว พ่อครัวก็ออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ าเปื้ อนยิ้ม

“ใต้เท้าหิวแล้วหรือขอรับ? ข้าตุ๋นน้าแกงบารุงกาลังไว้ให้
พอดี ต้องการรับสักชามไหมขอรับ?”

น้าแกงบารุงกาลัง?

น้าแกงไตกวางอีกล่ะสิ

เพียงได้ยินชื่อ ใบหน้ าใต้เท้าเซี่ยก็มืดครึม้ ขึน้ มาทันที น้า


แกงไตกวางเป็ นยาบารุงประเภท ‘อย่างว่า’ มันเป็ นยาสาหรับ
คนขาดเรื่องนี้ กินเพื่อบารุง เขาออกตัวปฏิเสธไปแล้วอี กฝ่ ายก็
ยังจะหวังดีเหลือไว้ให้ หากตนบารุงอีก ยาบารุงนัน่ ไม่แคล้วจะ
กลายเป็ นยาพิษเสียกระมัง

ชายหนุ่มรีบปั ดมือปฏิเสธทันควัน “เจ้ามีโจ๊กย่อยง่ายๆ


ไหม?”

8
พ่ อ ครัว ยิ้ ม แฉ่ ง “ใต้ เ ท้ า ไม่ บ อกข้ า ก็ จ ัด เตรี ย มไว้ ใ ห้
เรียบร้อยแล้ว ข้ารู้ว่าฮูหยินจะต้องหิวเป็ นแน่ ข้าจะรีบไปเอามา
ให้เดี๋ยวนี้ ”

กล่ าวจบก็หมุนตัวเข้าไปในห้ องครัวทันที ไม่นานก็หิ้ว


ตะกร้าใส่อาหารออกมา

ตะกร้ า ถูก วางลงบนโต๊ ะ แล้ ว เปิ ดฝาออก ไอร้ อ นลอย


ขึ้นมาเป็ นเกลียว ในนัน้ มีเนื้ อหมูหนจานใหญ่
ั่ น้ าแกงเนื้ อหนึ่ ง
กระบอก และโจ๊กขาวชามหนึ่ ง

อาหารเหล่านี้ สาหรับผู้ชายในค่ายทหารแล้วถือว่าเป็ น
อาหารที่ดี แต่ว่า...

เซี่ยเฉิงจู่ลงั เลเล็กน้ อย เขารูด้ ีว่าหญิงสาวที่อยู่ในห้องนัน้


จะกิ น อะไรก็ต้ อ งพิ ถี พิ ถ นั โจ๊ก ขาวนี่ เป็ นของดี แต่ จื ด ชื ด ไป
หน่ อย แล้วในค่ายทหารก็ไม่มีของจาพวกพุทราขนมหวานเสีย
ด้วย เอาเถอะ...โจ๊กเหนี ยวข้นร้อนนี่ กถ็ ือว่าไม่เลว

“เพิ่มผักดองอีกนิดเถอะ”

9
“อ้อ ขอรับๆ” ผักดองในค่ายไม่ค่อยอร่อยนักเพราะเค็ม
เกินไป เขาจึงให้พ่อครัวล้างสักน้ าก่อนจะวางลงในตะกร้าแล้ว
หิ้วออกไป

เมื่อกลับถึงจวนผู้ปกครอง ห้องโถงใหญ่กลับเงียบเชี ยบ
ปกติพวกลูกน้ องคนสนิทมักจะมานัง่ กินดื่มกันที่ นี่ ทว่าวันนี้ สกั
คนก็ยงั ไม่เห็น เนื่ องจากทุกคนรู้ว่าไม่ควรมาเพราะวันนี้ ใต้เท้า
ของตนไม่สะดวก

เมื่อเห็นใต้เท้าเซี่ยหิ้วตะกร้าอาหารมาถึงประตู จัวเว
่ ิ่ นจึง
รีบรายงาน “ในห้องมีเสียง คาดว่าคงตื่นแล้วขอรับ”

่ ิ่ นลังเล
เขาพยักหน้ า โบกมือให้ลูกน้ องถอยออกไป จัวเว
สักครูจ่ ึงเอ่ย “คุณหนูถานไม่ได้กลับบ้าน สาวใช้ของนางคงร้อน
รนน่ าดูจึงออกมาตามถึงค่าย ตอนนี้ รออยู่หน้ าประตูค่ายแล้ว
ขอรับ”

“ปล่อยให้นางรอไป!”

่ ิ่ นไปแล้วจึงผลักประตูกลับเข้าห้อง
เขารอจนจัวเว

10
ไม่รู้ว่าคนในห้ องตื่ นตัง้ แต่ เมื่อไร เพราะตอนนี้ สวมชุด
คลุมชัน้ นอกเรียบร้อยแล้ว และกาลังก้มลงไปหยิบรองเท้าข้าง
เตียง

ทันทีที่เซี่ยเฉิงจู่ปิดประตูตามหลังเรียบร้อย ก็รีบสาวเท้า
เข้าไปวางตะกร้าอาหาร จากนัน้ นัง่ ยองๆ ช้อนเท้าเปลือยเปล่า
ของหญิงสาวมาไว้ในมือแล้วมองเท้ าคู่นัน้ นิ่งนาน ก่อนจะเงย
หน้ ามองนาง ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง

“ยังสวมรองเท้าไม่ได้ เพราะเจ้ายังไม่ได้ใส่ถงุ เท้า”

เสียงดังกึกกักจากหมอนไม้ปลุกหญิงสาวให้ตื่น

ถานหวันช ่ ิ งรู้สึกว่าตนหลับสนิทมากแต่ กลับไม่พอเสี ย


อย่างนัน้ แม้จะลุกนัง่ แล้วสายตาก็ยงั จับจ้องหมอนไม้นิ่งอยู่เป็ น
นาน ในใจรูส้ ึกเดือดดาลเป็ นที่สดุ ที่มารบกวนการนอน

ตอนนี้ หญิงสาวนัง่ อยู่ริมขอบเตี ยง สมองยังมึนงงเพราะ


นอนไม่เต็มอิ่ม สติยงั เลือนรางทาให้เสียงอะไรก็ไม่ได้เข้าหูเลย
สักนิด

11
เซี่ ย เฉิงจู่เ คยฟั ง รายงานจากจัวเว
่ ิ่ น ก่ อนหน้ านี้ แ ล้ ว ว่ า
ถานหวันช่ ิ งติดการนอน ตอนกลางวันของทุกวันนางมักนอน
พักร่างกายหนึ่ งชัวยาม ่ ตอนเช้าตื่นสาย ตอนคา่ ก็เข้านอนเร็ว
หากไม่ มีง านก็จะหลับ ตาพักผ่อน ไม่อย่ างนั น้ ก็จะไม่ มีส มาธิ
และผิวหนังใต้ตาจะคลา้

แต่ ก่ อ นตอนที่ น างอยู่ จ วนตระกูล ถาน คนมัก พากัน


เรียกว่าแม่นางตะกละนอน แม้มาอาศัยอยู่ใกล้ตลาดก็ยงั หลับ
ลง เพราะร่างกายของนางรักการนอนเป็ นที่สดุ

เรื่องเช่นนี้ คนปกติไม่เข้าใจ แต่สาหรับเขาซึ่งมารดาป่ วย


มาหลายปี เข้าใจดี เซี่ ยเฉิงจู่พยายามหาหมอมารักษามารดา
อย่ างยากลาบาก นางร่างกายอ่ อนแอมาแต่ กาเนิด โดยเป็ น
ตัง้ แต่ อยู่ในครรภ์ กอปรกับถูกประคบประหงมจนเปราะบาง
โชคดี ที่ โ ชคชะตาให้ เกิด มาในครอบครัว รา่ รวยจึ ง มี ชีวิ ตรอด
มาได้ น านหลายปี หากว่ า มารดาของเขาเกิ ด ในครอบครัว
สามัญชนทัวไป ่ คงไม่แคล้วต้องตายตัง้ แต่ยงั เยาว์วยั

ร่างกายที่ เปราะบางของมารดาก็เป็ นเช่ นเดี ยวกับถาน


่ ิ ง นางมีผิวดังหยกดู
หวันช ่ งดงามน่ าทะนุถนอม ทว่าหากไม่ดแู ล
ให้ ดี ย่ อ มไม่ ต่ า งจากหยกที่ ต กกระทบพื้ น แล้ ว แตกเสี ย หาย
ประดุจดอกไม้บนต้นที่ต้องลมแรงจนร่วงโรย
12
เซี่ ย เฉิงจู่จึง ต้ องคอยควบคุมตนเองอยู่ต ลอดเวลา ไม่
กล้าแตะต้องสัมผัสมารดา ได้แต่เฝ้ ามองอยู่ห่างๆ เขาพยายาม
ไม่ให้ มารดาโกรธเพราะรู้อาการป่ วยของนางดี ยิ่งประโยคที่
นางเอ่ยเพื่อปกป้ องคนที่ใช้แส้ฟาดตนด้วยน้าเสียงนุ่มนวลแผ่ว
เบา ก็ทาให้เขาโกรธจนควันออกหูทุกครัง้

เมื่ อ นึ ก ถึ ง เรื่ อ งของมารดาที่ ต ายจากไปแล้ ว เขาก็อ ด


แค้นเคืองไม่ได้ กอปรกับหนึ่ งในตัวต้นเหตุ...

่ ิ ง เมื่อคิดถึงนางทีไรเขาก็ร้อนระอุอยู่เป็ นนาน
ถานหวันช
แต่หากจะให้ปล่อยมือจนนางหนี หาย เขาก็ทาไม่ได้

มาถึงขัน้ นี้ แล้ว หนังสือสัญญาอะไรนั น่ เขาไม่มีวนั ยอม


ให้นางเด็ดขาด!

เซี่ ย เฉิงจู่เ ห็น หญิง สาวนั ง่ อยู่ข อบเตี ยง เท้ าขาวเกลี้ยง


เกลาห้อยลงมา ทว่าดวงตายังเหม่อลอยเคว้งคว้างราวกับนอน
ไม่เต็มอิ่มจึงถอนหายใจ เขาเอารองเท้ าวางไว้บนพื้น ก่อนจะ
ก้มลงรวบขาเรียวทัง้ สองข้างขึ้นวางบนเตียง จากนัน้ มองหาถุง
เท้าที่คงถูกถีบหล่นตอนที่นางดิ้นรน

13
ขณะที่ ชายหนุ่มสาละวนหาถุงเท้า นางก็ลูบตรงทรวงอก
ที่ไร้เสื้อเอี๊ยม เมือ่ ครูน่ างยั งสะลึมสะลือจึงหยิบแต่เสื้อตัวในกับ
เสื้อคลุมยาวตัวนอกมาสวม ยามนี้ เสื้อเอี๊ยมอยู่ในมือเซี่ ยเฉิงจู่
ชายหนุ่ มนั ง่ ลงข้ า งเตี ย ง ประคองคนตาปรื อ ที่ เ อนร่ า งพิ ง
หัวเตี ยงคล้ายอยากจะนอนต่ อขึ้นมาอย่างเบามือแล้วให้ นาง
ซบกับอกแกร่งของตน จากนัน้ ก็ค่อยๆ แกะเชือกและถอดชุดที่
นางสวมอยู่ออก

เกิดเป็ นชายชาติทหารอยู่แต่ในค่ายกับสนามรบมาเนิ่น
นาน จะสวมเสื้อเอี๊ยมให้ผ้หู ญิงเป็ นที่ ไหนกัน ชายหนุ่มร้อนรน
จนทาอะไรไม่ถกู ลุ้นและเหนื่ อยยิ่งกว่าตอนรบในสมรภูมิเสี ย
อี ก เขาลูบคลาผิดๆ ถูกๆ โดนอกนุ่มไปสามที เมื่อหญิงสาวที่
เกลี ย ดความหนาวเหน็ บ กอดแขนเข้ า ด้ ว ยกัน จนเนิ นอกล้ น
ทะลัก ช่างเป็ นทัศนี ยภาพดอกเหมยท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่
งดงามยิ่ ง ท าให้ เ สื้ อ เอี๊ ย มเกื อ บจะหลุ ด มื อ คนด้ า นหลัง เสี ย
หลายรอบ จนกระทังเหงื ่ ่อท่วมกาย...ในที่สดุ ก็ผกู ได้สาเร็จ!

หลัง จากนั ้น เซี่ ย เฉิ งจู่ ก็ใ ห้ น างขยับ มานั ง่ ที่ ข อบเตี ย ง
พร้ อ มกับ รวบผ้า ม่ า นที่ เ ป็ นอุป สรรคออกไปก่ อ น แล้ ว มานั ง่
ยองๆ ตัง้ ใจจะสวมรองเท้าให้

14
51 ไออุ่น

ถานหวันช ่ ิ งรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนยังนอนไม่เต็มอิ่มก็ถกู
เรียกให้ตื่นแล้ว นางมีท่าทางงัวเงียสมองไม่แจ่มใส เด็กรับใช้ใน
จวนตระกูลถานรู้ว่านางเป็ นเช่นนี้ เสมอ จึงไม่มีผใู้ ดกล้ารบกวน
เวลานอน ลุ่ยจูเองก็รเู้ รือ่ งนี้ เป็ นอย่างดี

เวลามี ใครส่ งเสี ยงดังคิ้วเรียวก็จะขมวดมุ่น ทว่ านางก็


ไม่ใช่ท่อนไม้ที่ไม่ร้สู ึกรู้สา ดังนัน้ ตอนที่ เซี่ ยเฉิงจู่สวมเสื้อผ้าให้
ได้ครึ่งทางนางก็เริ่มรู้สึกตัว สัมผัสจากมือเขาช่างแผ่วเบา ยาม
ที่มือแกร่งโอบเอวรูส้ ึกได้ถึงความร้อนผะผ่าว ราวกับว่าร่างกาย
ของชายหนุ่มมีเตาไฟอยู่ภายใน ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าขวางกัน้ แต่
ความอบอุ่นก็ยงั ไหลผ่านเข้ามาในร่างนางได้ ความรู้สึกยามนี้
ยากที่จะอธิบายออกมาเป็ นคาพูด

ถานหวัน่ ชิ ง รู้สึ ก อุ่ น สบาย คงเพราะหวาดกลัว ความ


หนาวเหน็บ ดังนัน้ แม้จะตื่นเต็มตาแล้วและนึ กถึงเรือ่ งก่อนหน้ า
นี้ ได้กย็ งั ไม่รีบผลักไสเขาในทันที ได้แต่ให้ความร่วมมือกับเขา
แต่งตัวให้ตนเอง อีกอย่างก็คือนางไม่ใช่หญิงสาวในยุคโบราณ
จึงไม่ได้ เคร่งครัดเรื่องขนบธรรมเนี ยมมาก นางไม่ได้ มองว่ า

1
การกระทาเช่ นนี้ จะทาให้ตนเองไร้ศกั ด์ ิ ศรีจนไม่อาจทนมีชีวิต
อยู่ได้

ยิ่งไปกว่านัน้ เหตุการณ์ที่เกิดขึน้ ก่อนหน้ านางรูส้ ึกตัวอยู่


ตลอด จึงมองเห็นบางอย่างได้ชดั เจนขึ้น เขาฉี กกระดาษด้วย
ความโกรธเคืองก็จริง ทัง้ น้ าเสี ยงและวาจารวมไปถึงท่ าทางที่
เกรี้ย วกราดทัง้ หมด ยิ่ ง ทาให้ ในใจนางแน่ ชดั ว่ า มัน เป็ นการ
แสดงความอ่อนแอของเขานัน่ เอง

โดยเฉพาะตอนนี้ เขามีท่าทางเก้ๆ กังๆ ราวกับกลัวว่าจะ


ทาให้นางเจ็บ แต่กย็ งั พยายามช่วยแต่งตัวให้ ดังนัน้ เมื่อเซี่ยเฉิง
จู่ดึงเท้ าของนางไป หญิงสาวก็เพียงชักเท้ ากลับ จากนัน้ ก็ขยับ
เข้าไปใกล้อ่างไฟ

่ ิ งมองอ่างไฟที่มีถ่านเติมเต็ม คาดว่าเขาน่ าจะ


ถานหวันช
เอาถ่ า นมาเติ ม ระหว่ า งที่ น างหลับ อยู่ ความทรงจ าก่ อ นที่ จะ
แสร้งหมดสติแล้วผล็อยหลับไปจริงๆ นัน้ นางไม่อยากจะรือ้ ฟื้ น
ขึน้ มาอีก หญิงสาวเหลือบมองชายหนุ่ม อีกฝ่ ายยังคงคุกเข่าอยู่
ที่เดิมด้วยสีหน้ าเป็ นปกติ เหมือนไม่ได้ร้สู ึกว่าการกระทาแบบนี้
จะทาให้ตนเสื่อมเกียรติแต่อย่างใด

2
หญิงสาวพยายามโยนทุกอย่างทิ้งไป แต่บางครังเรื ้ อ่ งราว
ก่อนหน้ าก็แวบเข้ามาในหัวอย่างยากที่ จะควบคุมได้ ตะกอน
ของความกรุ่น โกรธสัง่ ให้ น างปะทะกับ เขาอี ก สัก ตัง้ ทุ บ เขา
แรงๆ อีกสักครัง้ ทว่านางกลับไม่กล้า เกรงว่าหากนางทาจริงถึง
เวลานัน้ คงไม่มีใครช่วยเหลือตนได้

หญิงสาวรีบดึงความคิดเรื่อยเปื่ อยของตนกลับคืนมา ให้


ความสนใจกับอ่างไฟตรงหน้ าแทน เพราะนางนัง่ ใกล้กบั อ่างไฟ
ความร้อนที่ กาจายออกมาลามเลียขาเล็กจนรู้สึกอบอุ่น จึงอด
ไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ขนึ้

เซี่ ย เฉิงจู่มองหญิง สาวอยู่ต ลอด เห็น นางขยับ เข้าใกล้


อ่ างไฟเพื่ อผิงขาเรียวเล็กของตน ในที่ สุด ชายหนุ่ มก็ผ่อนลม
หายใจออกมาช้าๆ จากนัน้ ก็ลุกขึน้ ไปยกโต๊ะลายดอกหลีมาวาง
ข้างเตียงใกล้ๆ กับที่ นางนัง่ อยู่ แล้วนาอาหารในตะกร้าออกมา
วางให้

เซี่ ยเฉิงจู่ส่งตะเกี ยบและชามโจ๊กให้ หญิงสาว ทว่าถาน


่ ิ งไม่ได้รบั ตะเกียบมา ได้แต่มองนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “ข้า
หวันช
อยากกลับแล้ว”

3
เพี ยงได้ ยินว่านางอยากจะไป แววตาเซี่ ยเฉิงจู่กค็ ่อยๆ
มืดครึ้มอี กครัง้ มือพลันหยุดชะงักอยู่กลางอากาศ “กินโจ๊กให้
หมดก่อนแล้วจะไปส่ง”

การเข้าออกค่ายทหารจะต้องมีป้ายคาสัง่ ไม่ใช่ว่าใครก็
สามารถเข้าออกได้ตามอารมณ์ ถานหวันช ่ ิ งเข้าใจในข้อนี้ ดีจึง
ไม่ได้โต้แย้ง เพียงยื่นมือมารับชามกับตะเกียบไปโดยดี มือเรียว
นุ่ มนวลยื่นมาตรงหน้ าจนเขาอยากจะสัมผัสแต่ กลับไม่ได้ ทา
อย่างที่ใจคิด เพราะถึงจะเคยโอบกอดแนบชิดกันมาก่อนหน้ า

แต่ เ ขาก็ รู้ ว่ า ตอนนี้ ไม่ ใ ช่ ส ถานการณ์ ที่ จ ะมาบัง คับ


นางตามอาเภอใจได้ ดงั นัน้ ต่ อให้เขาปรารถนาอยากจะกุมมือ
นางแน่ นๆ สักเพียงใดก็ทาได้แค่คิดและอดทนรอให้ นางตอบ
รับ เพราะหากนางไม่ยินยอม เขาก็ไม่กล้าหักหาญ

ชายหนุ่มวางมือลงบนโต๊ะแล้วกาแน่ น คิดเพียงอยากให้
นางได้กินข้าวอย่างสงบ

แล้วก็เป็ นไปตามที่คาดไว้ นางไม่แตะน้าแกงเนื้ อกับเนื้ อ


หมูเลยสักคา เอาแต่คีบผักดองเค็มเข้าปาก ชามของโรงครัวมี
ขนาดใหญ่มาก นางคงกินโจ๊กไม่ได้มากขนาดนัน้ อีกทัง้ ยังมีคน

4
มานัง่ มองอยู่ สุดท้ายหญิงสาวก็กินได้เพียงครึ่งชามแล้ววางลง
จากนัน้ ก็ลุกขึน้ ยืนทันที

พอถึงตอนนี้ หากเขายังสรรหาเหตุผลมาเอ่ยอ้างเพื่อรัง้
ไม่ให้นางไป เขาก็คงกลายเป็ นคนที่ไม่มีความน่ าเชื่อถือและไม่
มีสจั จะ ดังนัน้ เมื่อเห็นนางหยัดกายยืนขึ้น ชายหนุ่มจึงต้ องลุก
ขึน้ ตามไปด้วย

ท้ องฟ้ าด้ านนอกเปลี่ ยนสี แล้ว อากาศหนาวเหน็ บกว่า


เมื่อตอนกลางวัน มาก ชายหนุ่ มจึง เอื้อมมื อไปหยิ บ เสื้ อ คลุ ม
ทหารที่ พาดอยู่บนเก้าอี้มาคลุมลงบนร่างบอบบาง เพราะเซี่ ย
เฉิงจู่มีรปู ร่างสูงใหญ่ ดังนัน้ พอเสื้อคลุมของเขาอยู่บนร่างนาง
ยิ่งเห็นได้ชดั ว่าหญิงสาวตัวเล็กนิดเดียว

่ ิ งยืนให้ ชายหนุ่มจัดเสื้อผ้าให้ อย่างเรียบร้อย


ถานหวันช
ด้วยความซาบซึ้งใจ

ด้ า นนอก ไม่ รู้ว่ า ลมเหนื อ พัด มาตัง้ แต่ เ มื่ อ ไร ปุย หิ ม ะ


โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้ า แล้วล่องลอยไปตามแรงลม

ทหารที่ ยื น รัก ษาการณ์ ต รงประตู ด้ า นหลัง ของจวน


ผู้ปกครองมือเย็นจนแทบแข็ง เขาถูฝ่ามือไปมาเพื่อสร้างความ

5
อบอุ่น ทัง้ ยังกระชับชายแขนเสื้อไม่ให้ลมแทรกซึมพลางแหงน
หน้ ามองท้องฟ้ า ในใจได้แต่กล่าวโทษอากาศที่เฮงซวย

ก่ อ นหน้ า นี้ ชุ ด ทหารของพวกเขาเก่ า มากแล้ ว ไม่ รู้ว่ า


ก่อนจะตกมาถึงเขาได้ผ่านการใช้ งานมาแล้วกี่ คน บริเวณหัว
เข่าก็ขาดเป็ นรู ยิ่งชุดขาดยิ่งหาความอบอุ่นไม่ได้ เขาได้แต่ทา
ใจว่าปี นี้ คงเป็ นอีกปี ที่ต้องทนกับความหนาวเหน็บ

แต่ใครเล่าจะนึ กฝัน เมื่อวันก่อนจู่ๆ ก็มีเกวียนขนเสื้อกัน


หนาวทหารที่เพิ่งทาเสร็จเข้ามา เสื้อเหล่านัน้ บุฝ้ายไว้หนาทัง้ ยัง
แข็ง แรงทนทานและสวยงาม พอหยิ บ ขึ้น มาก็มี น้ า หนั ก มาก
ทีเดียว ครัน้ ได้ลูบคลาก็ช่างอุ่นเหลือเกิน ทหารทุกนายที่ได้เสื้อ
กันหนาวตัวใหม่ไปครอบครองล้วนหน้ าบานด้วยความปี ติกนั
ถ้วนหน้ า

พลทหารผู้นัน้ สอดมือเข้าไปในเสื้อกันหนาว หยิบหมัน่


โถวที่ เก็บไว้เพราะกินไม่หมดจากมื้อเที่ ยงออกมา ตอนนี้ เขา
รู้สึกหิวแล้วแต่ยงั ไม่ถึงเวลามือ้ อาหารจึงคิดว่าจะกินรองท้องไว้
ก่อนสักครึ่งลูก แล้วรอกินเต็มที่ในมือ้ คา่ แต่เพิ่งจะกัดหมันโถว

ไปได้แค่ครึง่ คาพลันเห็นใต้เท้าเซี่ยเดินออกมาจากประตู

6
ทหารรักษาการณ์ ถึงกับตกตะลึง เผลอกลืน หมันโถวที ่ ่
เพิ่ ง กัด ลงคอโดยไม่ ท ัน ได้ เ คี้ ย ว กระทัง่ หมัน่ โถวติ ดคอจน
ตาเหลือกถลนหน้ าดาหน้ าแดง

ก่อนหน้ านี้ ได้ยินมาบ้างว่าใต้เท้าพาผู้หญิงเข้ามาในจวน


แต่เขาก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ าลายลงคอ...ที่ แท้
มันคือเรือ่ งจริง!

เขารี บ ยื ด ตัว ตรงทัน ควัน กระชับ หอกในมื อ มัน่ ด้ ว ย


ท่าทางเอาจริงเอาจัง แต่สายตากลับเหลือบมองไปทางผูท้ ี่กาลัง
เดินมาตลอด เสื้อทหารคลุมร่างหญิงสาวไว้เสียมิดจนมองเห็น
ไม่ชดั เขาขยับตัวไปหาตาแหน่ งที่ มองเห็นนางชัดๆ จึงเห็นว่า
ใต้ เท้ าเซี่ ย หยุด ยื น อยู่หน้ าประตู กาลัง จัด เสื้ อผ้าให้ หญิง สาว
ด้ ว ยท่ า ทางสุ ขุม แม่ น างผู้นั ้น ถอยหลัง ไปเล็ก น้ อย ก่ อ นจะ
ยินยอมให้ใต้เท้าจัดเสื้อคลุมให้อย่างดี แล้วยิ่งไปกว่านัน้ ...

พลทหารเบิกตาโพลงอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเห็นใต้เท้าของ
ตนนั ง่ ยองๆ จัดชายเสื้อคลุมรวมไปถึง รองเท้ าให้ นาง เขาไม่
กล้าเชื่อสายตาตัวเองเลย ใต้ เท้านัน้ เปรียบเสมือนสายลมที่พดั
เอื่ อ ยแต่ เ ย็น เยี ย บจนคนหนาวสะท้ า น เป็ นแม่ ท ัพ หัว เมื องที่
จัดการเรื่องทุกอย่างในเมืองเว่ยอัน เป็ นแม่ทพั ที่นากองทหารสู้

7
รบในสงครามและต่ อสู้กบั พวกโจรเถื่อน ทว่าเขากลับจัดเสื้อ
คลุมให้หญิงสาวแล้วยังสวมรองเท้าให้นางด้วย!

ทหารเช่นเขารู้ดีว่าชายชาตินักรบส่วนใหญ่กลัวเมียเป็ น
ที่สุด แต่นัน่ ไม่น่ารวมถึงใต้เท้าเซี่ย เพราะใต้เท้าเป็ นขุนนางขัน้
ห้าเชียวนะ

ทหารรักษาการณ์ที่ยืนท้าทายสายลมอยู่หน้ าประตูได้แต่
มองตามคนทัง้ สอง จนกระทังใต้ ่ เท้ าพาสตรีข้างกายเดินผ่าน
หน้ าแล้วออกนอกประตูไป เขาก็ถึงกับชะเง้อคอมองตามเพราะ
อยากจะเห็นใบหน้ านางให้ชดั ๆ แต่ เมื่อสบกับสายตาข่มขวัญ
ของใต้เท้าก็ต้องกลับมายืนนิ่งสารวมดังเดิม

เซี่ ย เฉิ งจู่ค งนึ กไม่ ถึ ง ว่ า ภายในใจของทหารที่ เ คารพ


เลื่อมใสและศรัทธาเขาอย่างมากคนหนึ่ งจะคิดไปไกลแล้วว่าใต้
เท้าเซี่ยนัน้ กลัวเมีย

เซี่ยเฉิงจู่พาถานหวันช
่ ิ งออกจากจวนมาแล้ว เขากาลังจูง
ม้าดาโดยมีรา่ งเล็กตามอยู่ข้างหลัง

ชายหนุ่ มเอี้ ย วตัว มาจับ มือนางเพื่ อพาเดิ นไปยังประตู


ค่าย

8
“ข้าจะไปส่งเจ้า”

่ ิ งชักมือกลับแล้วมองไป
“รบกวนใต้เท้าแล้ว” ถานหวันช
ยังประตูค่าย

ลุ่ยจูยืนรออยู่หน้ าประตูค่ายตลอดไม่ยอมไปไหน เมื่อ


เห็นคุณหนูเดินมาก็ตะโกนเรียก ถานหวันช ่ ิ งจึงรีบเดินไปหาอีก
ฝ่ ายทัน ที ทหารรัก ษาการณ์ ห น้ า ประตู ส องนายรู้ว่ า นางเป็ น
หญิงที่ ใต้ เท้ าพาไปที่ จวน อี กทัง้ ยังเดินออกมาพร้อมกัน พวก
เขาจึงมองไปที่ ใต้เท้า พอเห็นอีกฝ่ ายไม่พูดอะไรก็ได้แต่ หนั มา
มองหน้ ากัน จากนั น้ ก็ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปขวางกัน้ ให้ นาง
หยุด

พอถานหวันช ่ ิ งเดินออกไปจากประตูค่ายแล้วก็ตรงไปหา
ลุ่ยจู แต่เพียงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็นึกบางอย่างขึน้ ได้ จึงถอดเสื้อ
คลุมทหารออกแล้วส่งให้ทหารรักษาการณ์ หน้ าประตู ก่อนจะ
จากไปพร้อมสาวใช้ของตน

ทันทีที่ถอดเสื้อคลุมตัวหนาออก หญิงสาวก็ร้สู ึกหนาวยะ


่ ิ ง ก็รู้สึ กได้ ว่าคุณหนู ตวั สัน่
เยื อก ตอนที่ ลุ่ย จูจบั มือถานหวันช
เล็กน้ อย จึงรีบดึงมือคุณหนูตรงไปยังทางกลับบ้าน

9
ทว่าเพียงเดินไปไม่กี่ก้าว ถานหวันช
่ ิ งก็อดไม่ได้ที่จะหัน
กลับไปมองหน้ าประตูค่ายอี กครัง้ เห็นใต้ เท้ าเซี่ ยถือเสื้อคลุม
ทหารยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

ก่อนหน้ านี้ ลุ่ยจูเห็นว่าเลยเวลาเลิกเรียนแล้วแต่ คุณหนู


ยัง ไม่ ก ลับ บ้า น นางจึ ง ไปที่ ห ออัก ษรป่ าไผ่ เด็ก รับ ใช้ บ อกว่ า
คุณหนูออกมาตัง้ แต่เที่ ยงวันแล้ว ทาให้ลุ่ยจูร้อนรนเหมือนมด
บนกระทะร้อน นางพยายามใคร่ครวญอยู่หลายตลบ ก่ อนจะ
สรุปว่าอาจเป็ นไปได้ที่ใต้เท้าเซี่ยจะเป็ นคนพาคุณหนูไป

ตอนที่ ยืนรออยู่หน้ าประตูค่าย ในใจของลุ่ยจูเกิดความ


หวาดกลัวขึ้นมาเป็ นระลอก นางไม่รู้ว่าเพราะอะไรแม่ ทพั หัว
เมืองจึงต้ องพาตัวคุณหนู ไป หรือจะเป็ นเพราะเรื่องที่ เ ขาขอ
แต่ ง งานแล้ ว ถูก ปฏิ เ สธ พอคิ ด เช่ น นี้ ใ บหน้ า นางก็เ ปลี่ ย นไป
ทันที

คุณ หนู ถ กู เขาพาเข้ า จวน ชายหญิ ง อยู่ ด้ ว ยกัน สองต่ อ


สองจะสมควรหรือ ? หากเป็ นที่ บ้านอย่างน้ อยก็มีนางอยู่ด้วย
เขาคงทาอะไรไม่ได้มาก แต่นี่ถึงกับพาเข้าจวน ซา้ ร้ายที่ นัน่ ยัง
เป็ นพื้นที่ ในการควบคุมของเขา อีกทัง้ นางไม่ได้อยู่ใกล้คณ ุ หนู
ไม่รวู้ ่าเกิดเรือ่ งอะไรขึน้ หรือเปล่า

10
เด็กสาวอยากจะซักถาม แต่ พวกนางกาลังเดินบนถนน
จึงไม่เหมาะสม อีกทัง้ ตอนนี้ คณ ุ หนูกเ็ ดินจา้ อ้าวนาไปแล้ว นาง
จึงได้ แต่ เก็บคาพูดกลืนลงคอไปก่ อน พอมองจังหวะก้ าวเท้ า
ของคุณ หนู ก็เ ห็น ได้ ว่ า ไม่ มี อ ะไรผิ ด ปกติ นางจึ ง ค่ อ ยโล่ ง อก
ขึน้ มาหน่ อย...

น่ าจะไม่ มีอ ะไร ทว่ าสิ่ ง ที่ นึ กไม่ถึ ง ก็คื อตอนที่ พ วกนาง
กลับมาถึงบ้าน แล้วนางเทน้าร้อนลงอ่างอาบน้ าให้ เมื่อคุณหนู
ถอดเสื้อผ้า นางก็เห็นได้ว่าบนผิวพรรณที่ ขาวนวลเนี ยนกลับ
เต็มไปด้วยรอยแดง ยิ่งตอนที่ คุณหนูก้าวลงอ่างอาบน้ า นางก็
เห็นขาอ่อนด้านในของคุณหนูยงั มีรอยนิ้วมือประทับ แสดงว่า
ถูกคนบีบตรงนัน้ อย่างแรง

“ตุ้บ!” ของต่างๆ ในมือของลุ่ยจูหล่นลงพื้น รู้ได้ทนั ที ว่า


เกิดอะไรขึน้

ลุ่ยจูเป็ นเด็กรับใช้ที่ติดตามถานหวันช ่ ิ งมาตัง้ แต่เล็ก จึง


อดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะปิ ดปากแน่ นเมื่ อ เห็น รอยแดงโหดร้ า ยบริ เ วณ
หน้ าอกของคุณหนู จากนัน้ น้าตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

11
ในห้องนอนเล็ก ไฟใต้เตี ยงช่วยสร้างความอบอุ่น ทัง้ ยัง
มี อ่างไฟอี กสองใบวางอยู่ในห้ อง สักพักไออุ่นก็ลอยมาปะทะ
ร่างบอบบาง เพราะหญิงสาวขยาดความหนาว ดังนัน้ พอถึงฤดู
หนาวก็ไม่เคยคิดจะประหยัดถ่านและฟื นเลย

เมื่อลุ่ยจูเติมน้ าร้อนลงอ่างเพิ่ม ถานหวันช


่ ิ งก็ซบร่างกับ
ขอบอ่าง เผยแผ่นหลังขาวเนี ยนบางส่วนอยู่เหนื อน้า ไอร้อนอุ่น
สบายทาให้นางเริ่มง่วงงุนอีกครัง้

ตอนที่ สะลึมสะลืออยู่ นางได้ยินเสี ยงลุ่ยจูทงั ้ ก่นด่าและ


สาปแช่ง มีทงั ้ คาว่าเลว และไม่น่าตาบอดมองคนผิด...

หญิงสาวรู้ดีว่าคนเลวที่ ลุ่ยจูกาลังด่าอย่างดุเดือดคือเซี่ ย
เฉิงจู่ นั บวันลุ่ยจูจะยิ่งกล้าแกร่งขึ้น แม้แต่ แม่ทพั หัวเมือง เด็ก
สาวก็ยงั กล้าด่า

แต่ กต็ ้ องยอมรับว่าพอได้ยินอย่างนี้ แล้วนางกลับสบาย


ใจไม่น้อย ทาให้ ความกรุ่นโกรธที่ ยงั หลงเหลืออยู่ในใจมลาย
หายไปได้ หญิ ง สาวพลัน นึ กถึ ง ถ้ อ ยค าที่ ต นพูด ออกมาด้ ว ย
อารมณ์ โกรธว่าอยากตาย พอคิดมาถึงตรงนี้ กต็ ระหนักว่านาง
ทาตัวเป็ นคนไร้สมองและยังเด็กเหลือเกิน

12
นางไม่เคยพูดคาว่าอยากตายเลยสักครัง้ โดยเฉพาะการ
พูดว่าอยากตายตอนที่ตวั เองโกรธจัด เพราะคานี้ ต้องใช้กบั คน
ที่ สนใจตนเท่ านัน้ จึงจะเป็ นผล หากคนผู้นัน้ ไม่สนใจเจ้า แล้ว
เขาจะสนใจความเป็ นความตายของเจ้าทาไม...

เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ ใต้เท้าเซี่ยผู้ไม่เกรงกลัวเสียงฟ้ าร้อง


ฟ้ าผ่า ผู้ไม่เคยยอมลงให้ กบั ผู้ใดกลับกลัวว่านางจะอยากตาย
ขนาดนัน้ เชียว?

ครัน้ นึ กถึงตอนที่คืนเสื้อคลุมทหารให้เขาก็อดขาไม่ได้

่ ิ งซบหน้ ากับแขนที่ พาดขอบอ่ างแล้วหลับตา


ถานหวันช
ลง ห้วงความคิดสุดท้ายคาตอบที่ได้กค็ ือ...

ใช่ หรือบางทีอาจเป็ นนางที่คิดผิดไป...

13
52 พรสวรรค์?

ช่วงเวลาหนาวเหน็บที่สดุ เริ่มมาเยือน ทัวทั


่ ง้ แผ่นดินเต็ม
ไปด้วยน้ า้ แข็งและหิมะปกคลุม สาหรับคนที่ไร้ที่อยู่อาศัยมาคุ้ม
กันบังตนก็ไม่ต่างจากพบเจอเสือที่ดรุ า้ ย

ในฤดูเหมันต์เช่นนี้ ลมเหนื อพัดพาหิมะโปรยปรายไปทัว่


ทุ ก พื้ น ที่ ข าวโพลนราวกับ ขนห่ า น สายน้ า ล าธารกลายเป็ น
น้าแข็ง แม้แต่อากาศยังคล้ายกับถูกผนึ กไปด้วย

ปี ที่ แ ล้ ว ๆ มา ในช่ ว งเวลานี้ ย ามราตรี จ ะหนาวจับ ขัว้


หัวใจ ผู้ประสบภัยที่ ไร้บ้านให้หวนกลับจะทัง้ หิวโหยและหนาว
สะท้ านจนแข็งตายไปนับสิบ ทว่าปี นี้ ทัง้ ในและนอกเมืองไม่มี
ผู้ใดต้องผิงลมห่มฟ้ าอีกแล้ว ทุกคนต่างหลบอยู่ในบ้านดินที่ ทา
ไว้อย่างดี อาศัยเผาฟื นให้ความอบอุ่น เปลวไฟเผาหม้อก้นดา
จนได้ กลิ่นอาหารหอมฟุ้ง แล้วยังมีน้ าต้ มอุ่นไว้ดื่มกินให้ หลับ
สบายคลายหนาว ทุกคนพออกพอใจกันถ้วนทัว่

เหล่าผู้ประสบภัยไม่มีความหวาดกลัวอีกแล้ว พวกเขามี
ที่ พกั อาศัยและอาหารที่ จดั เตรียมไว้ให้ อย่างไม่ต้องเป็ นทุกข์
ทุกคนต่างพูดคุยกันถึงเรือ่ งการไถปลูกในฤดูใบไม้ผลิปีหน้ า ขอ

1
เพียงผ่านพ้นความหนาวเหน็ บในช่วงฤดูหนาวนี้ ไปได้ ก็มีที่นา
ผืนใหญ่รอให้พวกเขาบุกเบิกถางพงอยู่

แม่ทพั หัวเมืองพูดไว้แล้วว่าจะให้พวกเขาอยู่

นอกเมืองเช่ นเดี ยวกับครอบครัวทหารซึ่ งบุกเบิกถางที่


รกร้างมาก่อน ใครถางได้เท่าไรก็เอาไปเท่ านัน้ ไม่เพียงละเว้น
ภาษี ให้ หนึ่ ง ปี แม้แต่ ค วายและอุปกรณ์ การเกษตรก็ส ามารถ
หยิบยืมได้ ขอเพียงหลังเก็บเกี่ยวเสร็จให้ ส่งมอบคืนพร้อมกับ
ผลผลิตอีกเล็กน้ อย ส่วนปี ที่สองจะละเว้นภาษี ให้ครึ่งปี และปี ที่
สามหลัง จากเรือกสวนไร่น าสมบูรณ์ แล้ วจึ ง จะเริ่มมี การจ่าย
ภาษี ตามปกติ

ในบ้า นดิ น นั น้ ขุด ไว้ อ ย่ า งกว้ า งขวาง ครอบครัว หนึ่ งมี


สมาชิกสี่ คนกาลังเผาฟื นในปล่องหลุมจนสว่างไสว ผนั งที่ ก่อ
ด้วยดินโคลนถูกไอร้อนจากเปลวไฟรมจนค่อยๆ อบอุ่น เมื่อ
เอาร่างแนบผนั งจะรู้สึกอุ่นสบายมาก บุต รชายบุต รสาวของ
ครอบครัวกาลังหลับสนิทเพราะช่วงกลางวันเล่นกันจนเหนื่ อย

หญิงสาวลูบแก้มแดงปลังของลู
่ กๆ แล้วหันมาคุยกับสามี

2
“อาการป่ วยของจู้จึดีขึน้ มากแล้ว วันนี้ กย็ งั ชวนหนิวหนิว
ออกไปเล่น”

นางอดไม่ได้ที่จะยกมือปาดน้ า้ ตา “จู้จึเพิ่งจะหกขวบแต่
ผอมขนาดนี้ แต่ ละวัน กิน ไม่อิ่ มสวมเสื้ อ ผ้า ไม่ อุ่น ต้ องมารับ
ความทุกข์ยากล้าบากกับพวกเราด้วย ข้ากลัวที่สุดคือลูกจะทน
ความหนาวไม่ไหว เขาเป็ นผู้สืบสกุลเพียงคนเดียวของตระกูล
เรา โชคดีที่ใต้ เท้ารับพวกเราไว้แล้วยังให้ทหารมาช่วยขุดบ้าน
ดินให้อยู่อย่างปลอดภัย ทัง้ ยังมอบอาหารให้พวกเราอีกด้วย ไม่
รูว้ ่าบุญคุณนี้ จะตอบแทนใต้เท้าเซี่ยอย่างไรจึงจะหมด”

สามีหนุ่มที่นอนฟูกขาดวิ่นได้ฟังก็ขบคิดอยู่สกั พัก “รอปี


หน้ าตอนที่ น อกเมื อ งสร้ า งก าแพง การบุ ก เบิ ก ที่ ร้ า งย่ อ ม
ต้องการคน ข้าไม่มีความสามารถอื่นมีแต่ แรงกาลัง ปลูกพืชก็
นับว่าเป็ นมือดี พวกเราจะทุ่มเทหว่านไถอย่างสุดความสามารถ
ช่วยใต้เท้าถางพงปลูกพืชเป็ นเสบียงอาหารดีหรือไม่...”

ภรรยาคลุ ม ผ้ า ห่ ม ให้ บุ ต รสาวเรี ย บร้ อ ยแล้ ว ได้ ยิ น


ประโยคนี้ เข้าก็เดินไปหาสามี

“หน้ าใหญ่เสี ยจริง เจ้าจะช่ วยใต้ เท้ าบุกเบิกที่ อะไร? ใต้


เท้าบอกไม่ใช่หรือว่าปี หน้ าใครบุกเบิกถางที่ ได้เท่าไรก็จะยกให้
3
ผู้นัน้ ทัง้ หมด เจ้าน่ ะช่วยตัวเองบุกเบิกถางที่ เสี ยมากกว่า แล้ว
จะเป็ นการช่วยใต้เท้าที่ไหนกันเล่า”

ปกติผ้เู ป็ นภรรยามักจะผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้ าตามอมแมม


ช่วงสองสามวันมานี้ ได้อาบน้าชาระร่างกายจึงดูดีกว่าหลายวัน
ก่อนมาก สามีแซ่ หนิวยิ้มแหยแล้วหัวเราะฝื ดเฝื่ อน “เราก็ถาง
ให้มากปลูกให้มาก จะได้จ่ายภาษี มากหน่ อยอย่างไรเล่า” กล่าว
จบก็รวบเมียสาวเข้ามาในอ้อมแขน

ภรรยาค้อนขวับด้วยความหมันไส้ ่ แกะมือหนาของสามี
ออก มองไปยังเด็กๆ ที่นอนอยู่ข้างๆ “กว่าข้าจะกล่อมให้นอน
หลับได้ ไม่ใช่ ง่าย หากเจ้าทาเสี ยงดังจนลูกตื่ นขึ้นมาข้ าจะไม่
สนใจแล้วนะ!”

เอ่ ย จบก็มี ท่ า ที ข ดั เขิ น ปล่ อ ยผมที่ ม ดั รวบให้ ส ยายลง


ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วเข้าไปในผ้าห่ม

เมื่ อ นอนลงแล้ ว แววตาในความมื ด ก็ย งั สุก ใส ผู้ห ญิ ง


มักจะละเอียดอ่อนกว่าผูช้ ายและคิดได้ถี่ถ้วนกว่า

“หากพู ด ถึ ง เรื่ อ งนี้ ใต้ เ ท้ า บอกว่ า ปี แรกให้ พ วกเรา


เพาะปลูก พอถึงฤดูใบไม้ร่วง เก็บเกี่ยวข้าวแล้วยังต้องจ่ายภาษี

4
ที่ น าหนึ่ ง ไร่เก็บเกี่ ยวได้ หลายร้อยจิน เจ้ าก็ถ างปลูกสักห้ าไร่
หากเก็บเกี่ยวดีๆ เราก็จะได้ข้าวสารเป็ นจานวนมาก ถึงเงินจะ
ขาดมือแต่กย็ งั อิ่มท้อง ปี ที่สองเก็บเกี่ยวให้มากหน่ อย นอกจาก
จ่ายภาษี แค่ครึ่งหนึ่ งแล้ว พวกเราก็ยงั มีข้าวเหลือสะสม ถึงปี ที่
สามหากต้องจ่ายภาษี เต็มก็ไม่ต้องกลัวแล้ว”

พูดมาถึงตรงนี้ สายตาสามีหนุ่ มพลันสดใส “เจ้าจะไปรู้


อะไร เดิ มที ที่ ต รงนี้ เป็ นไร่นาที่ อุดมสมบูรณ์ พอเกิด สงคราม
หลายปี ติดต่ อกัน ผู้คนต่ างก็หนี เอาตัว รอด มันจึงรกร้าง แค่
กาจัดหญ้าออกให้หมด ขยันทางานสักหน่ อย อย่างน้ อยหนึ่ งไร่
ต้ องเก็บเกี่ ยวได้ หนึ่ งร้อยห้ าสิบจิน ข้าจะออกแรงมากหน่ อย
ถางให้ได้แปดถึงสิบไร่ อย่าว่าแต่กินอิ่มเลย เรายังมีรายได้อีก
ด้ ว ย ไม่ ต้ อ งรอถึ ง สามปี หรอก ปี ที่ ส องชี วิ ต เราจะต้ อ งดี ขึ้ น
แน่ นอน”

ชายหนุ่ ม แซ่ ห นิ วมี ค วามสามารถในการปลู ก พื ช เป็ น


อย่ า งดี ภรรยาจึ ง เชื่ อ ที่ เ ขาพูด อย่ า งไม่ คิ ด สงสัย นางได้ แ ต่
คาดการณ์ ในใจ หากเก็บเกี่ยวได้แปดถึง สิบไร่ นึ กถึงข้าวที่ กิน
ไม่ ห มด ยัง สามารถเก็บ ไว้ ไ ด้ ห ลายกระสอบ ในดวงตาเปล่ ง
ประกายดีอกดีใจ ก่อนจะนึ กบางอย่างขึน้ มาได้

5
“ครอบครัวอื่นมีพี่น้องมากมาย ครอบครัวมีแต่แรงกาย
เจ้ า เพี ย งคนเดี ย ว บุก เบิ ก ตัง้ หลายไร่เ จ้ า คงต้ อ งเหนื่ อ ยมาก
หนิ วหนิ วเพิ่ง จะแปดขวบ รอถึง ฤดูใบไม้ ผลิก็ให้ หนิ วหนิวอยู่
ดูแลบ้านดูแลน้ อง ข้าจะไปช่วยเจ้าปลูกเอง สองคนก็ยงั ดีกว่า
คนเดียว...”

คนตรงหน้ าคือเมียสาว ยิ่งดึกสงัดคนก็ยิ่งเงียบ บุตรชาย


หญิ ง ก็ห ลับ สนิ ทไปแล้ ว มี ห รือ สามี ห นุ่ ม จะอดรนทนไหว แต่
ก่อนเดินทางเร่รอ่ นไปทัวทุ ่ กสารทิศ แม้แต่ที่พกั กายก็ไม่มี วันนี้
ได้ ที่ พ กั บ้า นดิ น แล้ ว เขาจะอดทนได้ อ ย่ า งไร สัก พัก ก็ก ดร่าง
ภรรยาเข้าหาตน

“อ๊าย...อย่ าได้ ท้าให้ ลูกตกใจตื่ นเชี ยวนะ เจ้ า เบาเสี ยง


หน่ อย เบาหน่ อย...”

ชายหนุ่มได้แต่พยักหน้ าตอบ มือหนากลับสาละวนเคล้น


คลึงว่องไว ไม่นานในห้องก็ยากที่ จะกักเสี ยงลมหายใจหอบไว้
ได้

คา่ คืนนี้ สายลมพัดพาเกล็ดหิมะมาตกใส่ หน้ าต่ างด้ าน


นอก

6
แต่ ภายในห้ องนอนกลับมีถ่านไฟแดงฉาน ถึงอย่างนั น้
ไออุ่นก็ยงั ไม่แผ่กระจายไปทัวห้
่ อง โชคดีที่มีเตี ยงที่ อ่นุ มาก ทา
ให้หญิงสาวนอนหลับสนิทตลอดทัง้ คืนจนถึงเช้าวันใหม่ นางซุก
ตัวในรังผ้าห่มที่อบอุ่นนุ่มสบายจนแทบไม่อยากตื่น

รุ่ง อรุณ หลัง หิ ม ะโปรยปราย ความหนาวยัง คงอยู่ แ ต่


อากาศนั น้ บริสุทธ์ ิ สดใสมาก ลุ่ยจูประคองน้ าร้อนจากครัวเข้า
มาในห้องนอน พลันได้กลิ่นหอมประจากายมาจากร่างคุณหนู

่ ิ งตื่นสายกว่าปกติเล็กน้ อย นางลุกขึ้นมา
วันนี้ ถานหวันช
นัง่ แล้วแต่ยงั ไม่ได้รวบม่าน ลุ่ยจูค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องอย่าง
ระมัด ระวัง วางอ่ า งน้ า ร้ อ นไว้ บ นชัน้ แล้ ว ตรงไปหยุด ยื น ข้ า ง
เตียง

คุณหนูยงั นัง่ นิ่งไม่ขยับอยู่เป็ นนาน ใบหน้ างัวเงียตาปรือ


อย่างคนเพิ่งตื่น ลุ่ยจูเห็นแล้วปวดใจนัก “คุณหนูนอนพักอีกสัก
หน่ อยเถิ ด เจ้ าค่ ะ วัน นี้ หิมะตกหนั ก หออักษรนั น่ ก็ไม่ ต้ อ งไป
หรอกเจ้าค่ะ”

พอเด็กสาวเอ่ยจบประโยคก็เห็นถานหวันช ่ ิ งยกมือขยี้ตา
ผ่านไปสักพักสมองก็ตื่นตัวขึน้ มาบ้างจึงเอ่ยถาม “ตอนนี้ กี่ยาม
แล้ว?”
7
คุณหนูถามเช่นนี้ แสดงว่านางยังต้องการไปหออักษร ลุ่ย
จูจึงเดินไปเตรียมเสื้อผ้าให้ “ยังเช้าอยู่เลยเจ้าค่ะ ยังนอนได้อีก
สักงีบ ที่นี่ห่างจากหออักษรพอสมควร ไม่อย่างนัน้ คุณหนูคงได้
นอนพักอีกครูใ่ หญ่เลยเจ้าค่ะ”

ลุ่ ย จู ค ลี่ เ สื้ อ ออกให้ คุณ หนู ส อดมื อ เข้ า มาในแขนเสื้ อ


พลางปรายตามองคนที่ พยายามแข็งใจลื มตาทัง้ ที่ ใบหน้ ายัง
แฝงความง่วงงุนอย่างเห็นได้ชดั

ใบหน้ างามอ่ อนเพลี ยจนซี ดเผือด พอมองก็ทาให้ ลุ่ย จู


หวนนึ กถึงเมื่อคืนหลังจากคุณหนูตื่นขึน้ มาในอ่างอาบน้า

ตอนนั ้น ลุ่ ย จูช่ ว ยเช็ด ตัว สวมเสื้ อ ผ้ า ก็เ ห็น รอยฟั น บน


หน้ าอกของคุณหนู ถึงตอนนี้ ความคิดนางก็ยงั ขัดแย้งกันอย่าง
ดุเดื อด ได้ แต่ กดั ฟั นแน่ น ผิวกายคุณหนู ทงั ้ ขาวทัง้ นิ่ม แค่ จบั
เบาๆ ก็เป็ นรอยแล้ว นั บประสาอะไรกับโดนกัด แล้วร่างกาย
คุณ หนู จ ะรับ ไหวได้ อ ย่ า งไร จนถึ ง ตอนเช้ า ก็ย งั ไม่ ห ายบวม
่ าป่ าเถื่อนเหลือเกิน เดิมที พวกทหารใน
ผู้ชายคนนั น้ ช่ างชัวช้
ค่ายก็ไม่น่าพิสมัยอยู่แล้ว ยิ่งมาทาขนาดนี้ ถือว่าโหดเหี้ยมนัก

เมื่อออกจากกองผ้าห่ม ก็ถือว่าตื่ นขึ้นมาแล้ว หญิงสาว


รีบกินอาหารเช้ า ดื่มนมแพะม่วงอุ่นๆ ที่ เอร็ดอร่อยเป็ นที่ สุด
8
น่ าเสี ยดายที่ การผลิตน้ านมของแพะม่วงน้ อย ทุกวันบีบได้แค่
ชามสองชามนี่ ก็นับว่ามากแล้ว ยิ่งอากาศหนาวอย่างนี้ มนั ไม่
ชอบให้รีดนมเสียด้วย

แต่นมแพะขาวมีมาก เพียงพอสาหรับดื่มสองคน ลุ่ยจูยงั


เอาน้ า นมที่ เ หลื อ มาท าของว่ า งจ้ า พวกซาลาเปาไส้ ค รี ม ที่ มี
รสชาติอร่อยกลิ่นหอมหวานและขนมชนิดต่างๆ

ลุ่ยจูกลัวเจ้านายจะหิวจึงนากระดาษมาห่ อขนมให้ นาง


นาติดตัวไปด้วย ถานหวันช ่ ิ งรับห่อกระดาษมาใส่ไว้ในแขนเสื้อ
จากนัน้ ก็รีบออกจากบ้านไป

ถึงแม้ถานหวันช ่ ิ งจะไม่ชอบความหนาวเย็น แต่ เมื่อได้


ยินเสี ยงฝี เท้ ายา่ บนหิมะ ได้ เห็นควันหุงต้ มลอยบางเบา เห็น
หิ ม ะขาวเป็ นประกายราวกับ เงิ น และผู้ค นที่ ยิ้ ม แย้ ม อย่ า งมี
ความสุขตามท้องถนน ในใจนางก็รสู้ ึกชื่นชอบบรรยากาศเช่นนี้
เป็ นอย่างยิ่ง

ในยามนี้ ทวทั
ั ่ ง้ เมืองล้วนเป็ นสี ขาวสุดลูกหูลูกตา เกล็ด
หิมะโปรยปรายลงสู่กระเบือ้ งหลังคาและคูคลองร่องน้ าอย่างไร้
่ ิ งมาถึงหออักษรป่ าไผ่แล้ว ยามนี้ ผ้าคลุมไหล่
เสี ยง ถานหวันช
ของหญิงสาวเปี ยกชุ่มไปด้วยเกล็ดหิมะที่ ละลาย หลังจากเปิด
9
ประตูเข้าไปนางก็เห็นเด็กรับ ใช้ส่งยิ้มกว้างมาให้ หญิงสาวเดิน
เข้ า ไปในรัว้ ผ่ า นลานกว้ า งจนถึ ง ระเบี ย งของหอเรี ย น ตาม
เส้ น ทางมี อ่ า งไฟวางไว้ ต ลอดแนวเพื่ อ ให้ ค วามอบอุ่น และมี
กลิ่นหอมอบอวลโชยออกมา

หญิง สาวสอบถามเด็กรับ ใช้ จึง รู้ว่ าซ่ ง ฮูหยินยังสอนไม่


เสร็จ นางจึงปลดเสื้อคลุมพาดไว้บนฉากกัน้ คิดอยากจะดื่มชา
ร้อนสักหน่ อย แต่เพียงเอี้ยวตัวเท่านัน้ ก็เห็นเงาร่างหนึ่ งพุ่งเข้า
มาปะทะตัวจนนางตกใจจึงก้มลงมองตรงชายกระโปรง เห็นร่าง
เล็กในเสื้อกันหนาวกอดหนึ บอยู่ที่ขาของนาง

เซี่ยฝูอิน?

เด็กน้ อยยืนกอดขานางนิ่งไม่ยอมเปล่งวาจาเช่นเคย แต่


แววตาคู่นี้ดูดีกว่าเมื่อวานมาก ตอนนี้ ดวงตากลมใสแจ๋วเบิก
กว้าง กาลังเงยหน้ ามองถานหวันช ่ ิ ง อยู่ สายตาของเด็กเป็ น
สายตาที่ บริสุทธ์ ิ ไร้มลทินเปรอะเปื้ อน แววตาเปรียบดังเพชรที
่ ่
ใสสะอาดผ่านการชะล้างแล้ว แต่ใบหน้ ากลับมีหมึกแต้มทัง้ ซ้าย
ขวาดูแล้วน่ าอ่อนใจ ความมอมแมมปรากฏให้เห็นชัดเจน

่ ิ งมองใบหน้ าเลอะหมึกของฝูอิน แล้วมองตาม


ถานหวันช
สายตาของเขาที่ จ ดจ้ อ งอยู่ ก บั ห่ อ กระดาษที่ โ ผล่ ใ ห้ เ ห็น จาก
10
ชายเสื้ อ ของนาง หญิ ง สาวชะงัก เล็ก น้ อย ก่ อ นจะหยิ บ ห่ อ
กระดาษเหลืองนั น้ ออกมาท่ ามกลางสายตาที่ จบั จ้องอย่างรอ
คอย

ตอนออกจากบ้าน ลุ่ยจูส่งขนมห่ อนี้ มาให้ ตัวนางเองก็


ยัง ไม่ รู้เ ลยว่ าด้ านในเป็ นขนมอะไร ทัน ที ที่ เ ปิดกระดาษออก
กลิ่นหอมก็โชยมา จึงพบว่าเป็ นขนมอบนมแพะสี เหลืองที่ หนั ่
เป็ นชิ้นเล็กๆ

เพราะใต้เท้าเซี่ ยนาแพะนมมาให้ถึงสองตัว นางกับลุ่ยจู


สองคนย่อมดื่มไม่หมดอยู่แล้ว ขนมหวานต่ างๆ โดยมากหาก
ใช้ นมต้ มผสมจะทาให้ อร่อยยิ่งขึ้น ไม่เพี ยงนางกับลุ่ยจูที่ชอบ
สาหรับเด็กเล็กอย่างฝูอินก็ยิ่งเป็ นของที่ มีแรงดึ งดูดมากเป็ น
พิเศษ

เขาถึงได้ พุ่งเข้ามาเช่ นนี้ คาดว่าเด็กน้ อยคงจะได้ กลิ่น


หอมของนมตัง้ แต่ที่นางถอดเสื้อคลุมแล้วกระมัง

เป็ นไปอย่างที่ คิด พอถานหวันช


่ ิ งแกะห่อกระดาษแล้วมี
กลิ่นหอมโชยมาจากขนมอบสีเหลือง เด็กชายก็อ้าปากน้ าลาย
ไหลยื ด จนหยดแหมะลงบนเสื้ อ กัน หนาว มื อ เล็ก ยัง คงจับ ที่
กระโปรงของนางอยู่ หญิงสาวส่ายหน้ าอย่างเอ็นดู
11
“เมื่ อ เช้ า กิ น ไม่ อิ่ ม หรื อ ถึ ง ได้ หิ ว โซอย่ า งนี้ ?” พอเห็น
เด็กชายไม่ตอบ นางก็ลูบศีรษะที่ มีผมเส้นเล็ก นิ้วมือที่ เกาะกุม
กระโปรงของนางช่างผ่ายผอม ความละอายใจและความเวทนา
ปะทุขึน้ ในจิตใจหญิงสาวอีกครัง้

พี่ชายเป็ นนายทหารชัน้ ปกครอง ไม่ได้อยู่จวนตัง้ แต่เช้า


จรดเย็น อีกทัง้ ...ไม่มีมารดาเฝ้ าดูแลเอาใจใส่ นางพลันหวนนึ ก
ถึงเรื่องที่ ได้ยินมาว่าน้ องชายคนเล็กของสกุลเซี่ ยโดนรังแก ก็
ยิ่งรูส้ ึกเศร้าใจเป็ นอย่างมาก

เมื่อเด็กชายได้กลิ่นหอมของขนมในมือหญิงสาวชัดเจน
น้ าลายก็ยิ่งไหลจนเปี ยกเสื้อเป็ นดวงๆ ถานหวันช ่ ิ งจึงส่ งขนม
เข้ าปากเล็กของฝูอิน ชิ้น หนึ่ ง พลางกล่ าวเสี ย งแผ่ว เบาอย่ าง
อ่อนโยน

“กินสิ”

เมื่อป้ อนติดต่อกันสองสามชิ้นก็ เห็นแก้มเด็กชายนูนตุ่ย


ขึ้นมา ดวงตายังคงเหม่อลอยไม่ขยับ แต่ ปากเคี้ยวตุ้ยเหมือน
หนู ต ัว เล็ก ๆ ที่ ถูก ป้ อนอาหาร แววตาของถานหวัน่ ชิ งยิ่ ง
อ่อนโยนมากขึ้น จากนั น้ นางก็วางห่ อกระดาษลงบนโต๊ะ แล้ว
อุ้มเด็กน้ อยตัวกลมขึน้ มา
12
เด็กรับใช้คนหนึ่ งวิ่งเข้าประตูมาด้วยท่ าทางลุกลี้ลุกลน
ในมือมีกระดาษหลายแผ่น ครัน้ เห็นอาจารย์หญิงอยู่ในห้ องก็
ชะงัก กึ ก ก่ อ นจะเหลื อ บเห็ น เซี่ ย ฝู อิ น มื อ เด็ ก น้ อยยัง จับ
กระโปรงอาจารย์หญิงอยู่ ถึงแม้จะถูกอุ้ม กระโปรงสี เขียวอ่อน
ชัน้ นอกเปื้ อนไปด้วยคราบหมึก

เมื่อเอ่ยคาทักทายกับอาจารย์หญิงเรียบร้อยแล้ว เด็กรับ
ใช้ ก็รีบเดินมาอย่ างว่องไว วางแผ่นกระดาษในมือลงบนโต๊ะ
ด้านข้าง ก่อนจะค่อยๆ ดึงร่างเด็กชายออกจากอ้ อมแขนของ
อาจารย์หญิง

“ปกติ คุณ ชายน้ อ ยมัก จะเล่ น อยู่ใ นห้ อ งรับ แขก พอข้ า
เก็บโต๊ะเรียบร้อย หันกลับมามองอีกทีเขาก็ไม่อยู่แล้ว ไม่นึกว่า
จะวิ่งมาหาท่านอาจารย์ถึงที่นี่”

เรื่ อ งนี้ เป็ นเพราะเด็ ก รับ ใช้ อ ย่ า งเขาเองที่ ป ระมาท


เลินเล่อ เมื่อเห็นอาจารย์หญิงไม่ต่อว่า เขาก็รสู้ ึกโล่งใจไปเปลาะ
หนึ่ ง ไม่เช่นนัน้ คงเลี่ยงการโดนซ่งฮูหยินตาหนิเป็ นชุดไม่ได้แน่
จึงอดไม่ได้ที่จะยกย่องแกมประจบ

“คุณชายน้ อยมีท่าทางเก็บกด ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คน แต่


กลับวิ่งมาหาท่ านอาจารย์ แสดงว่าคงรับรู้ได้ว่าท่ านใจดี ทาให้
13
คุณชายน้ อยอยากเข้าใกล้ ท่ านอาจารย์ได้โปรดช่ วยข้าปิดบัง
เรือ่ งนี้ เพื่อเลี่ยงจากการถูกไม้ไผ่ตีมือด้วยนะขอรับ”

เด็กรับ ใช้ อายุราวสิ บ ขวบ เป็ นช่ ว งวัย ที่ กาลัง ชอบเล่ น
แล้ ว จะให้ อ ยู่ นิ่ งๆ อย่ า งเชื่ อ ฟั ง ทัง้ ยัง ต้ อ งดูแ ลเด็ก เล็ก ที่ ไ ม่ รู้
ความตลอดได้ อย่างไร งานดูแลเด็กน้ อยคงทาให้ เขาลาบาก
น่ าดู

ถานหวันช่ ิ งไม่ได้ใส่ใจกับรอยน้ าหมึกบนกระโปรง นาง


รับปากเด็กรับใช้โดยการพยักหน้ าให้ เล็กน้ อย แล้วนึ กถึงฝูอินที่
เดินเข้ามาในห้ องเรียนเมื่อวานโดยไม่มีคนดูแล จึงกาชับเด็ก
รับใช้อีกครัง้

“แต่เจ้าต้องระวังให้มากกว่านี้ อย่าให้เขาออกมาวิ่งเล่น
คนเดียวอีกแล้วกัน”

เด็กรับใช้รบั ค้าพร้อมกับยิ้มแฉ่ ง จากนัน้ ก็อ้มุ เด็กชายห้า


ขวบที่ตวั เล็กจนไม่ต่างจากเด็กอายุสามขวบออกไป

ขณะที่ ฝอู ิ นกาลังถูกอุ้มออกนอกห้อง สายตายังคงมอง


มายังถานหวันช่ ิ งราวจะบอกว่ายังกินขนมไม่อิ่ม เด็กน้ อยมอง
มาด้วยความอาลัยจนหายลับไปจากประตู

14
53 พี่น้องสกุลเซี่ย

่ ิ งส่ายหน้ าไปมา เมื่อหันกลับมาก็เห็นกระดาษ


ถานหวันช
ที่ เด็กรับใช้วางไว้บนโต๊ะ...คงจะลืมหยิบไปด้วย หญิงสาวหยิบ
กระดาษขึ้ น มาดู บนกระดาษเป็ นภาพวาดรู ป อี ก าด าแบบ
หยาบๆ พอลองคิดดูกร็ ไู้ ด้ทนั ทีว่าเป็ นการวาดของฝูอิน

ด้ านบนมีรอยพู่กนั และมี รอยนิ้วมือเล็ก เป็ นการใช้ นิ้ว


มือจุ่มหมึกดาเขียนเล่นเท่านัน้ หญิงสาวดูทีละภาพแล้ววางลงที่
เดิม จนกระทังเห็
่ นกระดาษแผ่นล่างสุดก็ชะงักไป

หากจะเอ่ ยถึงการวาดภาพ นั บว่าเป็ นอี กอาชี พที่ นางมี


พรสวรรค์สูง กว่ าคนทัว่ ไป นางมี ค วามรู้สึ ก ไวในด้ านสี ส นั มี
จินตนาการในการวาดภาพลายเส้น และมองเห็นความงามใน
รูปแบบนามธรรม ทัง้ หมดนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็ นสิ่งที่ติดตัวมา
โดยที่ไม่ต้องฝึ กฝน

ดังนั น้ ส าหรับ ภาพนี้ หากเป็ นคนอื่ น ย่ อมมองว่ า นี่ เ ป็ น


เพียงภาพอี กาดาที่ เด็กน้ อยวาดมัวๆ ่ เท่ านั น้ แต่ ทว่านางมอง
แล้ ว รู้ สึ ก ทึ่ ง แกมประหลาดใจ จึ ง ต้ อ งนั ง่ ลงพิ นิ จภาพวาด
เหล่านัน้ อย่างตัง้ ใจอีกครัง้

1
กระดาษแผ่ น ที่ ส ามน้ า หมึ ก ไม่ ผ สมปนเปเหมื อ นสอง
แผ่นก่อนหน้ า ทัง้ ยังมีจดุ ที่ไม่เหมือนกัน

ภาพในกระดาษแผ่นนัน้ มีลายเส้นที่ ขาดๆ หายๆ เดี๋ยว


หยุดเดี๋ ยวต่ อคล้ายกับลูกคลื่น บางแห่ งก็ยุ่งเหยิงเหมือนรอย
เลื้อยของงู โดยเฉพาะตรงกลางที่ว่างเว้น น่ าจะใช้นิ้วมือขีดต่อ
ทาให้ ไม่มีน้ าหมึกในส่ วนนี้ ลายเส้ นดูเหมือนสะเปะสะปะ แต่
กลับ ปะติ ด ปะต่ อ กัน ได้ นั น่ คื อ สิ่ ง ที่ ส ายตาของถานหวัน่ ชิ ง
มองเห็น

ช่างน่ าอัศจรรย์จริงๆ!

มัน เป็ นทัศนี ยภาพที่ น างเคยเห็น มาก่ อน เมื่ อ ลายเส้ น


ของภาพรวมกันเป็ นหนึ่ ง แล้วยังอีกาดาบนกระดาษก็ก่อให้เกิด
ภาพขึน้ มาในสมอง

พืน้ ดินผืนนัน้ ถูกสายลมพัดผ่าน ยังไม่มีคนมาบุกเบิกถาง


พง มี เ พี ย งเลนโคลนที่ ทิ้ ง ร้างว่ างเปล่ า บนดิ น รอยดิ น ไหลลง
ข้างล่างเป็ นทางยาว ภาพทิวทัศน์ เปล่าเปลี่ยวและแห้งเหี่ยวผืน
นัน้ เผยให้เห็นอย่างชัดเจน ภาพที่ นางเห็นไม่ใช่สถานที่ อื่นไกล
มันคือนอกเมืองเว่ยอันนัน่ เอง...ที่คนู ้าชลประทานแห่งนัน้

2
่ ิ งอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กบั จินตนาการที่ เกินจริง
ถานหวันช
ของตนเองพลางส่ายหน้ าไปมา หลังจากมองใหม่อีกรอบ มันก็
เป็ นเพียงลายเส้นแนวนอนแนวตัง้ เท่ านัน้ และนั น่ ก็ทาให้นาง
ชะงักงันไปอีกเช่นกัน ตอนที่ จะวางแผ่นกระดาษลงที่ เดิม ก็ยงั
อดไม่ได้ที่จะหยิบขึน้ มาพลิกดูอีกครัง้

จนกระทัง่ พลิกไปสองแผ่น ล่ างสุด ถานหวันช่ ิ ง เห็น น้ า


หมึกเข้มเป็ นรูปหน้ าลิง แต่อาจจะเป็ นจินตนาการของนางเองก็
เป็ นได้ คนอื่นอาจจะมองว่าเป็ นแค่การลากเส้นไปตามอารมณ์
เท่ านั น้ อาจจะเห็นเป็ นภาพภูตผีปีศาจก็ได้เช่ นกัน แต่ สาหรับ
นางมองว่ามันคือขนมน้าตาลปัน้ รูปหน้ าลิงที่ ให้เขาไปเมื่อวาน
ดูคล้ายมากเหลือเกิน ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นหมึกตรงกลางมีลกั ษณะ
ท่าทางคล้ายภาพลิงของจริงมากที เดียว ไม่ว่าจะเป็ นจมูกหรือ
ดวงตา

ถานหวันช่ ิ งพินิจพิเคราะห์กระดาษแผ่นนั น้ อยู่นาน คิ้ว


ขมวดเล็กน้ อยเมื่อนึ กบางอย่างได้

พอเห็น ซ่ ง ฮูห ยิ น ก าลัง เดิ น มาพลางใช้ ผ้า แพรบางเช็ด


เหงื่อข้างขมับ หญิงสาวก็รีบดึงสติกลับมา

3
เด็กๆ ในห้องเรียนทัง้ ดือ้ และซน แต่หากมองอีกมุมหนึ่ ง
พวกนางก็แ ค่ อ ยู่ ในวัย ชอบเรื่ อ งสนุ ก สนาน ขอเพี ย งเข้ า ใจ
ความคิดของพวกนางสักนิดแล้วค่อยๆ นาพา แต่ ละคนก็จะ
เชื่อฟั งอย่างดี ซา้ ปากช่างเจรจาเจื้อยแจ้วยังเรียกอาจารย์ด้วย
ถ้อยคาหวานหู

่ ิ ง แล้ ว งานเช่ น นี้ นั บ ว่ าเหมาะสมกับ


ส าหรับ ถานหวันช
นางมาก

่ ิ ง ก็น อนพัก กลางวัน จน


เมื่ อ กลับ มาถึ ง บ้า น ถานหวันช
เต็มอิ่ม

นางรู้สึ ก ประหนึ่ งได้ เ พิ่ ม พลัง จากที่ พู ด จนปากแห้ ง ก็


กลับ มาชุ่ ม ชื้ น มี ชี วิ ต ชี ว าอี ก ครัง้ นางลุ ก ขึ้น นั ง่ ที่ ห น้ า โต๊ะ ขี ด
เขี ย นอย่ างเกี ยจคร้าน วาดรูปสัต ว์ต ัวเล็กหลายภาพที่ เด็กๆ
สนใจ เพื่อให้เด็กตัวน้ อยหัดวาดตามในวันพรุง่ นี้

ลุ่ยจูปักเย็บเรียบร้อยแล้วเตรียมลุกขึน้ ไปทาอาหาร ถาน


่ ิ งนึ กบางอย่างได้จึงเรียกเด็กสาวไว้ทนั ที “ขนมแบบที่เจ้า
หวันช
ห่อให้เมื่อเช้าน่ ะ พรุง่ นี้ ข้าอยากได้อีก”

4
“คุณหนูชอบหรือเจ้าคะ” ลุ่ยจูเอ่ยด้วยความดีใจ “ได้เจ้า
ค่ะ ข้าจะทาอีก น่ าจะเป็ นเพราะนมแพะที่ นี่ดี ทัง้ หอมทัง้ ข้น ทา
ขนมได้น่ ุมละมุนลิ้น อร่อยกว่าตอนที่อยู่ในจวนอีกนะเจ้าคะ”

ประโยคนี้ กล่าวไม่ผิดเลยสักนิด นางเองก็ร้สู ึกได้เช่นกัน


ว่าอร่อยกว่ า หรือบางที อาจเป็ นเพราะเคยหิว โหยรุน แรง ใน
ยามนี้ ทงั ้ สองกินอะไรล้วนรูส้ ึกพอใจไปหมด

ดวงอาทิตย์ในฤดูหนาวลับขอบฟ้ าเร็วมาก ตอนแรกยัง


เห็นแสงอุ่นนวลราไร พริบตาเดียวท้องฟ้ าก็มืดมิดเสียแล้ว

เดี๋ ย วนี้ ลุ่ ย จู ค ล่ อ งแคล่ ว ฉั บ ไว อี ก ทัง้ เงิ น ทองไม่ ข าด


แคลน เด็กสาวจึงสามารถจัดเตรียมอาหารที่ ประณี ตได้อย่าง
รวดเร็วยิ่งขึน้

หญิงสาวทัง้ สองไปล้างมือก่อนจะมาจุดเที ยนไข จากนัน้


ก็นัง่ ลงหยิบตะเกียบเตรียมกินมือ้ คา่ ทว่าเพิ่งจะหย่อนก้นลงบน
เก้าอี้ เสียงประตูใหญ่กด็ งั ขึน้

ั ่ ิ ก อดไม่ได้ที่จะมองไปยังคุณหนู นางตกใจ
มือลุ่ยจูสนระร
เพราะเสียงเคาะประตู รู้โดยสัญชาตญาณว่าดาวแห่งความโชค
ร้ายมาเยือนอีกแล้ว

5
คราวนี้ จะเป็ นวาสนาหรือภัยพิบตั ิ กไ็ ม่อาจรู้ได้ แต่ต่อให้
เป็ นภัย พิ บ ตั ิ ก็ไ ม่ อ าจหลบซ่ อ นได้ อ ยู่ ดี ถานหวัน่ ชิ ง ครุ่น คิ ด
สักครูแ่ ล้วพยักหน้ าให้เด็กสาวไปเปิดประตู

ลุ่ยจูลงจากเตียงแล้วสวมรองเท้าผิดๆ ถูกๆ อยู่สองครัง้


จึงจะสาเร็จ ตอนที่อยู่จวนตระกูลถานนางเป็ นหนึ่ งในสี่ของสาว
ใช้ที่กล้าหาญที่สุด ทว่าหลังจากตกอับก็ไม่กล้าโอ้อวดตัวเองอีก
เลย

เสี ยงฝี เท้ ายา่ บนหิมะของเด็กสาวดังตามจังหวะที่ ก้ าว


เดิน เมื่อเปิดประตูแล้ว นางก็อาศัยแสงจันทร์มองผูม้ าเยือน จึง
สบเข้ า กับ ดวงตาปี ศาจร้า ยรูป ร่า งกาย าสู ง ใหญ่ แขนซ้ า ยยัง
หนี บเด็กชายคนหนึ่ งไว้ใต้ รกั แร้ เด็กคนนัน้ จับชุดเกราะบนร่าง
ของชายหนุ่ม ในปากก็ครางอือๆ อาๆ ราวกับว่ามีอะไรติดอยู่
ในคอแล้วพยายามพูดออกมา

“ขะ ขะ ขะ...” ในที่ สุดลุ่ยจูก็ได้ รู้ว่าเพราะเหตุใดพรุ่งนี้


คุณหนูถึงให้เตรียมขนม

ลุ่ยจูมองเด็กชายตัวเล็กอายุราวห้ าขวบตรงหน้ า กาลัง


ใช้ มือจับขนมอบใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ที่ แท้ ที่คุณชาย
น้ อยสกุลเซี่ ยเอ่ยว่า ‘ขะ ขะ ขะ...’ ก็คือขนมนัน่ เอง เมื่อช่วงเช้า
6
นางเตรียมขนมอบให้คุณหนู ขนมนั น่ จะต้ องเข้าไปอยู่ในท้ อง
เด็กน้ อยด้วยเป็ นแน่ ตอนคา่ ถึงมีอาการอยากกินเช่นนี้

สายตาลุ่ย จูที่ ก าลัง มองเผยให้ เ ห็น ถึ ง ความสงสาร ห้ า


ขวบแล้วแต่ ยงั ใช้ ตะเกี ยบไม่เป็ น ปากลิ้นพูดไม่ได้สกั คาเดียว
จะไม่ให้สงสารได้หรือ

‘ปั ญ ญาอ่ อ น’ สามพยางค์นี้ อ าจจะไม่ มี ผู้ใ ดกล้ า เปล่ ง


วาจา ทว่าในใจล้วนคิดกันทัง้ นัน้

ลุ่ยจูรินนมแพะใส่ชามกระเบือ้ งเคลือบด้วยกิริยานุ่มนวล
นางทาสองอย่างพร้อมกันคือใช้ช้อนป้ อนข้าวเซี่ยฝูอิน กับลอบ
มองสีหน้ าของคุณหนูที่อยู่ต่อหน้ าใต้เท้าเซี่ย เด็กสาวรู้สึกได้ถึง
หัวใจตนเองที่กาลังเต้นระรัว

แม่ทพั หัวเมืองมาเอาคา่ มืดป่ านนี้ หรืออยากจะนอนค้าง


ที่นี่อีกอย่างนัน้ หรือ?

เมื่อวานตัง้ แต่ กลับจากค่ายทหาร นางก็ร้เู ลยว่าคุณหนู


โกรธ ทัง้ สองคงขุ่นข้องหมองใจกัน ในเมื่อไม่อยากจะพบหน้ า
ใต้เท้าเซี่ ย แล้วเหตุใดคุณหนูถึงจะเอาขนมไปให้น้องชายของ
ใต้เท้าเซี่ยผูน้ ี้ ด้วย?

7
ลุ่ยจูได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจพร้อมทัง้ ดูแลเด็กชาย
ไปด้ วย แต่ ไม่ลืมที่ จะลอบสังเกตหนุ่ มสาวทัง้ คู่ ขนาดตัวเด็ก
สาวเองยังกระอักกระอ่วนใจ แล้วนางจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้
อารมณ์คณ ุ หนูของตนก็ย่งุ เหยิงซับซ้อนไม่แพ้กนั

่ ิ งกาลังจัดเสื้อผ้าให้อยู่ ในสภาพเรียบร้อยแล้ว
ถานหวันช
นัง่ อย่างสงบเสงี่ยม จากนัน้ นางก็เริ่มกินข้าวโดยใช้ตะเกียบคีบ
ผัดหน่ อไม้เข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเชื่องช้า หน่ อไม้สดใหม่หอม
หวานกลมกล่อมแต่ตอนนี้ ลิ้นนางกลับมีแต่รสขม

ถ้ า ไม่ มี แ ส้ นั น่ ตัง้ แต่ แ รก ครรภ์ฮูห ยิ น สกุล เซี่ ย ก็ค งไม่


กระทบกระเทื อน ร่างกายก็คงไม่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงจนคลอด
บุตรยาก และหากหญิงผูน้ ัน้ ไม่ต้องมาบาดเจ็บก็คงไม่ ได้คลอด
เซี่ ยฝูอินที่ ไม่สมประกอบก่ อนจะลาจากโลกไป ตอนนี้ สองพี่
น้ องไร้มารดา จึงดูประหนึ่ งว่าเป็ นเจ้าหนี้ ที่มานัง่ ตรงหน้ า รอให้
นางชดใช้อย่างไรอย่างนัน้

่ ิ งพยายามฝื นตัวเอง ไม่ให้ อีกฝ่ ายเห็นสี หน้ า


ถานหวันช
ละอายใจของตน เกรงว่าหากเผยออกมาแล้ว ฝ่ ายตรงข้ามก็จะ
มีโอกาสกดนางจนจมดิน แล้วยังจะมีทางไหนให้ถอยหนี ได้อีก

8
เป็ นเหมือนที่คนตรงหน้ าพูดไว้ทงั ้ หมด หากนางไม่ลงแส้
ฟาดคน ตระกูลถานของพวกนางก็อาจจะไม่เกิดเคราะห์ร้ายจน
เหมือนตายทัง้ บ้าน เกรงว่าต่ อไปชี วิตนางต้ องตกอยู่ในกามือ
ของเขาผูน้ ี้ แน่

่ ิ งไม่กล้าที่ จะเดาอนาคตตนเอง สาหรับบุรษุ ผู้


ถานหวันช
หนึ่ งที่เหยียบยา่ ลงบนศพมากมาย กับศัตรูค่อู าฆาตที่เหยียบยา่
มารดาและน้ องชายของเขา แล้วเขาจะใช้ วิธีใดมาแก้แค้นกัน
เล่า น่ าจะไม่ใช่นัง่ เฉยๆ เช่นนี้ แน่

เมื่อคิดได้ ดงั นี้ สี หน้ าถานหวันช


่ ิ งก็ซีดเผือด ในหัวเริ่ม
ปวดร้าว

การลงแส้ในปี นัน้ หากจะบอกว่าเป็ นการตี กไ็ ม่ใช่ จะว่า


ไม่ได้ ตีก็ไม่เชิง แต่ คาดไม่ถึงว่าตนจะต้ องมาประสบกับเรื่อง
แบบนี้ ความรู้สึกนางราวกับตกลงไปในหลุมพรางแล้วหาทาง
ปี นขึน้ มาไม่ได้ พอคิดมาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็ถอนใจยาว

ถานหวันช ่ ิ งกินอาหารอย่างใจลอยไม่อยู่กบั เนื้ อกับตัว


ตอนนี้ แม้แต่ ความอยากอาหารก็ลดลงไปด้วย แต่ ที่ยงั ไม่วาง
ตะเกียบก็เพราะอาจจะทาให้บรรยากาศพลอยไม่รื่นรมย์ แบบ
นัน้ จะยิ่งอึดอัดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไปใหญ่ นางจึงคีบผัด
9
หน่ อไม้ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด แล้วเผลอคี บอยู่แต่ จานนั น้ อย่างเดี ยว
โดยไม่รตู้ วั

อี ก ครัง้ ที่ ก าลัง ยื่ น ตะเกี ย บไปที่ จ านหน่ อไม้ แ ต่ ก ลับ มี


ตะเกียบอีกคู่มาชน เพื่อที่จะคีบหน่ อไม้ในจานนัน้ ด้วย

ไม่ จ าเป็ นต้ อ งเงยหน้ าขึ้ น มอง ถานหวัน่ ชิ งก็ รู้ ไ ด้ ว่ า


เจ้าของตะเกียบคือใคร มือบางชะงักค้าง แต่ ไม่ได้ท้วงติงใดๆ
ครัน้ เลื่อนตะเกียบไปคีบหน่ อไม้ชิ้นอื่น ตะเกียบคู่เดิมก็เปลี่ยน
มาคีบหน่ อไม้ชิ้นเดียวกัน

ถานหวันช ่ ิ งอดกลัน้ อารมณ์เงียบๆ แล้วย้ายไปคีบอีกชิ้น


ตะเกี ยบคู่นัน้ ก็ขยับแย่งเอาไปทาให้ หน่ อไม้ชิ้นนัน้ หล่นลงพื้น
โต๊ะ

แสงเที ย นบนโต๊ะวูบไหว ส่ องใบหน้ าหนึ่ ง ให้ เ ห็น อย่ าง


ชัดเจน ส่ วนอี กใบหน้ าอยู่ในเงาสลัวราง ใบหน้ างามของถาน
่ ิ งอยู่ในแสงที่ สลัว คิ้วนางขมวดแน่ นแล้วเงยหน้ าจ้องคน
หวันช
ตรงข้าม

10
ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยที่ เป็ นถึงผู้ดูแลเมือง เวลานี้ กลับมีสีหน้ า
เยี ย บเย็น สายตาคมก าลัง จับ จ้ อ งมาเช่ น กัน และดูไ ม่ พ อใจ
อากัปกิริยาของนางอย่างยิ่ง

เขาพาน้ องชายมาด้ วยเพื่อตอกยา้ ความผิดบาปที่ นาง


เคยกระทา แล้วยังยัวยุ
่ นางด้วยความโกรธที่ หลงเหลือจากเมื่อ
่ ิ งเริ่มล้น
วานอย่างนัน้ หรือ ความกลัดกลุ้มในใจของถานหวันช
เอ่อ

นางดึงตะเกียบกลับมา ถึงจะบอกว่าได้เตรียมใจไว้แล้ว
ล่วงหน้ า แต่ กย็ ากที่ จะปกปิดความวิตกกังวลบนใบหน้ าได้ สี
หน้ านางกาลังแสดงความรู้สึกประหนึ่ งตนกาลังประสบเคราะห์
กรรม ถูกผู้อื่นควบคุม แค่จะคีบหน่ อไม้กไ็ ม่อาจทาได้ตามที่ ใจ
ต้องการ

ถานหวันช ่ ิ งออกจากจวนตระกูลถานมานานจนหลงลืม
ไปแล้วว่าตนเคยเป็ นคนในจวนอัครเสนาบดี นางต้องกลา้ กลืน
ฝื นความเจ็บชา้ ไม่ต่างจากคนที่มีฐานะต้อยตา่ ไร้ค่า

ตะเกียบของคนตรงข้ามกลับคีบเนื้ อแห้งขึน้ มาหนึ่ งแผ่น


แล้ววางลงในชามโจ๊กของนาง แต่นางไม่ปรารถนาจะหยิบเนื้ อ
เข้าปาก จึงวางตะเกียบลงเบาๆ
11
ลุ่ยจูลอบมองคนทัง้ สองฟาดฟันกัน ตะเกียบสองคู่ชนกัน
สามครัง้ ติดเช่ นนั น้ หัวใจของนางก็พลันกระตุกตามสามครัง้
เช่นกัน เด็กสาวกังวลใจเหลือเกินว่าทัง้ สองจะเกิดการปะทะกัน
อย่างรุนแรงเหมือนอย่างวันนัน้

เด็กสาวอดที่ จะหวาดกลัวไม่ได้ ด้ วยกาลังอันป่ าเถื่อน


ของชายตรงหน้ า นางกับคุณหนูย่อมไม่ต่างอะไรจากลูกเจี๊ยบที่
เขาใช้เพียงนิ้วเดียวขยี้ให้ตายก็ยงั ได้

โชคดี ที่ คุ ณ หนู พ ยายามอดกลัน้ แล้ ว วางตะเกี ย บลง


พร้อมกับเก็บซ่ อนอารมณ์ ความรู้สึกไว้ในใจ ไม่ได้ทาท่ าโมโห
ขึน้ มา

อาหารมื้อนี้ กินกันอย่างอกสันขวั
่ ญหาย ลุ่ยจูปรารถนา
ให้จบโดยเร็ว ด้วยจิตใจที่ ร้อนรนกระวนกระวาย นางจึงรีบเอา
ขนมอบนมสีเหลืองชิ้นสุดท้ายใส่ในมือของฝูอิน

“ฝูอินก็กินอิ่มแล้ว ข้าขออนุญาตเก็บโต๊ะเลยนะเจ้าคะ...”

่ เด็กรับใช้ที่ไม่ได้ปริปากเลยก็โพล่งออกมาก่อนจะก้ม
จูๆ
หน้ าก้ มตาเก็บโต๊ะโดยไม่กล้ามองท่ านแม่ทพั หัวเมือง ความ
รู้สึกในยามนี้ ไม่ร้วู ่าตื่นเต้นหรือหวาดกลัว แต่ที่แน่ ๆ ลุ่ยจูเกรง

12
ว่าจะทาให้อีกฝ่ ายอารมณ์ไม่ดี แล้วพาลโกรธ จากนัน้ ก็จะกวาด
ถ้วยชามลงพืน้ จนแตกอีก

ความจริง แล้ ว เซี่ ย เฉิ งจู่ไ ม่เ คยใช้ อ าวุธ หรื อพูด จาด้ ว ย
ถ้อยคารุนแรงกับพวกนาง แต่ คงเป็ นอิทธิพลจากเหตุการณ์ ที่
นางได้ เ ห็น ตอนเข้ า เมื อ งมาครัง้ แรก หัว คนเป็ นร้ อ ยๆ และ
เลือดที่ นองพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเข้มข้นได้ สร้างความ
ประทับใจที่ ยากจะลืมเลือน คงจะซึมซาบเข้าไปในส่วนลึกของ
สมองนางเป็ นแน่

่ ิ งไม่ใช่หญิงสาวใสซื่อไร้เดียงสาที่ จะมาร้องไห้
ถานหวันช
ครา่ ครวญ ไม่ว่าจะทาเรื่องอะไร นางมักจะคานึ งถึงผลที่ตามมา
เสมอ หญิงสาวจะคิดว่าทาแล้วได้อะไร ตนสามารถรับผลของ
การกระทานัน้ ๆ ได้ไหมจากนัน้ ค่อยตัดสินใจลงไป

ภายใต้ สภาพการณ์ ตอนนี้ อี กฝ่ ายแสดงออกชัดเจนว่า


ต้องการยัวโทสะนาง
่ แต่ถึงจะทะเลาะกันไปก็ไร้ประโยชน์

ถานหวันช่ ิ งหวนคิดถึงเรื่องเมื่อวาน ตอนที่ นางถอดเสื้อ


คลุมทหารคืนให้ต่อหน้ าต่อตาเขา ใต้เท้ าเซี่ ยผู้หยิ่งยโสอาจจะ
ยับยัง้ ชังใจเอาไว้
่ ไม่เอาความ เขาคงอยากจะให้ นางได้มีเวลา
หายใจหายคอ และใคร่ครวญถึงเรือ่ งสัญญาที่ล้มเหลวอีกครัง้
13
แต่ดเู หมือนนางจะคาดคะเนผิดพลาดไป

เพราะถึงลุ่ยจูจะลุกขึ้นมาเก็บสารับบนโต๊ะแล้ว เซี่ยเฉิงจู่
ก็ยงั นัง่ ปั กหลักอยู่ที่เดิม คล้ายกับจะไม่ลุกไปไหนอี กแล้ว ดูท่า
ว่าคืนนี้ คงจะไม่กลับไปที่จวนเสียแล้วกระมัง

14
54 คิดได้กส็ ายไปแล้ว

“ใต้ เ ท้ า เซี่ ย คื น นี้ ท่ า นจะพัก ที่ ห้ อ งทางตะวัน ตกใช่


หรือไม่?” ถานหวันช ่ ิ งเอ่ยถามตรงๆ ทันทีที่เห็นเขาวางตะเกียบ
ลง ไม่เปิดโอกาสให้ อีกฝ่ ายได้ พูดคาใด และไม่ถามโยกโย้ ให้
เสียเวลา

ลุ่ยจูที่กาลังเก็บจานชามอยู่ถึงกับหูผงึ่ รอฟังคาตอบ

เซี่ ย เฉิ งจู่ม องหญิ ง สาวตรงหน้ า ที่ อ ยู่ ภ ายใต้ แ สงเที ย น


จิ ต ใจก็ไ พล่ ไ ปนึ กถึ ง เด็ก สาวที่ นั ง่ บนหลัง ม้ า ในปี นั ้น นางมี
ท่ าทางจองหองแข็งกร้าวไม่ยอมถอยให้ กบั สิ่งใด แต่ ในยามนี้
เมื่อไร้ซึ่งอานาจนางกลับเก็บกดอดกลัน้ ไว้ข้างใน แสดงให้เห็น
เพียงท่าทางอ่อนน้ อมถ่อมตน ทัง้ ยังสามารถทาหน้ านิ่งเหมือน
ไม่รสู้ ึกรูส้ าโดยไม่เผยพิรธุ ใดๆ ออกมาได้

‘รู้ห ลบรู้สู้ ’ สี่ ค านี้ บ่ง บอกถึ ง ความเป็ นตัว นางได้ อ ย่ า ง


ชัดเจน

แต่ไม่ร้เู พราะเหตุใด ยิ่งนางทาเช่นนี้ ความรุ่มร้อนในใจ


ของเขาก็ยิ่งแผดเผาลุกไหม้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเห็น

1
สายตาของนางยามมองฝูอินกินขนมหวานจนอิ่มแปล้แล้วเอน
ร่างล้มตัวนอนอยู่ด้านข้าง กับท่าทางที่ตดั สินใจให้อาศัยอยู่ที่นี่
ด้วย

เดิมที เขาวางแผนพาฝูอินมาเยี่ยมดูพี่สะใภ้เท่ านั น้ แต่


แล้วความคิดกลับเปลี่ยนไปในฉับพลัน จึง เค้นเสียงลอดไรฟั น
พูดออกมาประโยคหนึ่ ง “ก็ต้องพักที่นี่เป็ นธรรมดา”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ลุ่ยจูกถ็ อนใจโล่งอกไปเปลาะหนึ่ ง


รีบเก็บโต๊ะต่ ออย่างว่องไว ก่อนจะวิ่งไปที่ ห้องทางทิศตะวันตก
เก็บ ข้ า วของท าความสะอาด โชคดี ที่ ค วามกัง วลใจเรื่ อ งใต้
เท้าเซี่ยนอนค้างอ้างแรมที่นี่เมื่อสองสามวันก่อน ทาให้นางลืม
เก็บผ้าห่มเข้าตู้ ครานี้ จึงได้เวลาใช้สอยอี กครัง้ เด็กสาวอดคิด
ไม่ได้ว่า ใต้เท้าเซี่ยเอาน้ องชายมานอนด้วย หากเขาจะทาอะไร
ก็ต้องคิดมากสักหน่ อยล่ะ คงไม่ต้องกังวลว่าเขาจะกลันแกล้ ่ ง
คุณหนูอีก

จากนั น้ ลุ่ยจูกร็ ีบจัดเตรียมน้ าร้อนสาหรับล้างหน้ าบ้วน


ปากให้ อ ย่ า งรวดเร็ว เพราะอยากเชิ ญ สองพี่ น้ องตระกูลเซี่ ย
ออกจากห้องคุณหนูแล้ว

2
เสี ย งลมหายใจของเด็ก ชายออกห่ า งเมื่ อ เขาถูก อุ้ ม
ออกไป ใจของนางก็พลอยสงบลงไปด้วย ถานหวันช ่ ิ งนัง่ ล้างมือ
อยู่บนเตียง จากนัน้ ก็เดินลงมาด้วยเท้าที่เปลือยเปล่า หญิงสาว
ก้มตัวไปหยิบผ้าห่มหอมนุ่มออกจากตู้ เพิ่งจะปิดประตูตู้สนิทก็
ได้ยินเสี ยงแว่วมาจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงประตูห้องถูก
ปิดลง

นางไม่ได้หนั ไปมองเพราะเข้าใจว่าเป็ นลุ่ยจู ได้แต่เดินไป


นัง่ ลงที่ ริมเตี ยงแล้วคลี่ผ้าห่ มปูเตี ยงก่อนถามว่า “จัดเตรียมที่
พักให้ห้องนัน้ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมอาจู?”

เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝี เท้าหรือคาตอบใดๆ จากคนด้านหลัง


มือบางพลันชะงักกึก รับรู้ได้ถึงความผิดปกติของอีกฝ่ ายจึงหัน
มามอง คนที่อยู่ตรงหน้ ากลับไม่ใช่ล่ยุ จู แต่ว่าเป็ น...

หญิงสาวมองเลยไปยังประตู พอพบว่ามีเชื อกคล้องทับ


ดาลประตูอย่างเรียบร้อย สี หน้ าจึงเปลี่ ยนไป นางไม่สนใจจะ
สวมรองเท้า กลับรีบร้อนเดินไปที่ประตูในทันใด

ทัง้ ที่ หญิงสาวคิดว่าตัวเองเร็วแล้วแต่อีกคนกลับเร็วกว่า


หลายเท่า

3
“ท่านอย่ามาแตะต้องตัวข้า!”

ถานหวันช่ ิ งเข้าใจความคิดของเขาในทันที ในที่สดุ นางก็


คงใบหน้ าเรียบนิ่งต่อไปไม่ไหว หญิงสาวกัดฟั นแน่ น พยายาม
ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากมือเขาด้วยท่าทางกรุน่ โกรธ

เซี่ ยเฉิงจู่ยิ่งออกแรงจับหญิงสาวแน่ นขึ้น เมื่อเห็นท่ าที


ของนางก็ร้สู ึกโกรธขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เขารุกไล่จนแผ่นหลัง
นางแนบไปกับผนัง

“ข้าจะแตะต้อง!”

่ ิ งนิ่งงันด้วยความตกใจกับเสี ยงคารามข้างใบ
ถานหวันช
หู

“คิดได้กส็ ายไปแล้ว...” เขากระซิบเสี ยงแผ่วเบา ก้มลง


ไปจุมพิตที่ใบหูบางใส

เพราะเขาฝึ กวรยุทธ์มานาน กล้ามเนื้ อจึงไม่ต่างอะไรกับ


แท่งเหล็ก ร่างเล็กที่ถกู ความกายากดทับอยู่จึงแทบจะหายใจไม่
ออก

4
พรหมจรรย์ ข องหญิ งสาวในยุ ค โบราณถื อ เป็ นสิ่ ง
ลา้ ค่าต่ อชี วิต หากสูญเสี ยไปอย่างไร้ความชอบธรรมย่อมต้ อง
เสียใจและอับอาย

่ ิ ง ไม่ ไ ด้ เ กิ ด ในยุค สมัย นี้ จึ ง ไม่ ไ ด้ ซึ ม ซับ


ทว่ า ถานหวันช
ความคิดแบบคนรุน่ เก่ามาทัง้ หมด แม้นางจะใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้
มานาน นิสัยอาจเปลี่ ยนไปบ้างตามกระแสคลื่ น แต่ ในใจนั น้
กลับเป็ นนางคนเดิม

ยามที่ ตระกูลถานตกอับ หลังจากนางรอดพ้น จากความ


ตายก็เหมือนได้เกิดใหม่ ในใจได้วางแผนต่ างๆ ไว้มากมาย...
สิ่งที่ นางเตรียมไว้นัน้ มีไว้ใช้ในสถานการณ์ ที่จนตรอกและอับ
จนหนทาง

ทว่าสถานการณ์ ตรงหน้ ากลับไม่มีอยู่ในแผนการเอาตัว


รอดของนางเลยด้วยซา้

ตอนนี้ สมองหญิงสาวว่างเปล่าขาวโพลน ดวงตาพร่ามัว


มองไม่ชดั เจน ทาให้เห็นคนตรงหน้ าเพียงเลือนรางเท่านัน้ หญิง
สาวอดไม่ได้ที่จะปิดเปลือกตาลงก่อนจะลืมขึ้นอีกครัง้ พลันสบ
กับสายตาชายหนุ่มที่มองมาตาไม่กะพริบ

5
เซี่ ย เฉิ งจู่ ก้ ม มองคนใต้ ร่ า งไม่ ว างตา จับ จ้ อ งใบหน้ า
นางในระยะประชิดจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน มือ
ใหญ่กดข้อมือนุ่มนิ่มของนางไว้ทงั ้ สองข้าง

เขารับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวของนางขณะที่ ก้ม ลงไปหา


เพื่อครอบครองริมฝี ปากสีชมพูเนี ยนนุ่ม กลืนกินเสียงเจ็บปวด
ใจของนางเข้าไปในท้อง ก่อนจะปล่อยข้อมือนางข้างหนึ่ ง แล้ว
เปลี่ยนมาลูบไล้ช่วงท้องนวลเนี ยน ไอร้อนจากฝ่ ามือแกร่งลวก
ผิวนางจนหญิงสาวอ่อนแรงลง

ถานหวันช ่ ิ ง หวาดกลัว แต่ ไ ม่ ไ ด้ ห วาดกลัว เรื่ อ งความ


สัม พัน ธ์ ช ายหญิ ง แต่ ห วาดกลัว ด้ ว ยเพราะร่ า งกายนี้ จะยิ่ ง
บกพร่องและอ่อนแอลง

เมื่อก่ อนมารดาของถานหวันช ่ ิ งเองก็งดงามไร้ที่ติ คน


ภายนอกต่างคิดว่าความงามของนางราวสวรรค์สรรค์สร้าง แต่
ใครจะรู้ว่าแท้ จริงแล้วร่างกายนี้ อ่อนแอยากจะเยี ยวยา ทุกๆ
วันต้ องกินทัง้ น้ าแกงผสมยาและลูกกลอนไม่ว่างเว้น แม้จะได้
หมอหลวงจากในวังออกใบสังยาให้ ่ หลายร้อยใบ แต่ สุดท้ าย
ชีวิตนางก็ยงั ถึงแก่ความตายก่อนวัยอันควร

6
ความบกพร่องของชี วิตที่ แสนสัน้ นี้ เป็ นกรรมพันธุ์ที่ตก
่ ิง
ทอดมาสู่ถานหวันช

หากวันใดที่ ถานหวันช ่ ิ งตื่นเช้ามากก็จะพบว่าร่างกายนี้


ไม่ปกติ ดัง นั น้ นางจึง ติด นอนเหมือนมารดา ไม่ มีกาลังวังชา
ร่างกายอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง นางเคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้ เป็ นเรื่อง
ธรรมดา แต่ นับวันยิ่งรู้สึกว่ามันผิดปกติอย่ างยิ่ง จนเมื่อนาง
อายุได้สิบสองปี จึงได้ถามเรือ่ งสุขภาพของมารดาอย่างละเอียด
กับแม่นม

แม่ น มเล่ า ให้ ฟั ง ว่ า เมื่ อ หลายปี ก่ อ นตอนที่ ย ัง ไม่ ไ ด้


แต่งงานออกเรือนไป แม้ร่างกายนางจะอ่อนเพลียติดนอนและ
ป่ วยบ่ อ ยแต่ ก็ย ัง ถื อ ว่ า ปกติ จนกระทัง่ แต่ ง เข้ า ตระกูล ถาน
ร่างกายจึงยิ่งแย่ลงเรือ่ ยๆ

นางแต่ ง งานตอนอายุ สิ บ เจ็ด แต่ มี ลู ก ยาก พออายุ สิ บ


แปดถึงจะตัง้ ครรภ์ ยิ่งสองปี ต่อมาหลังคลอด ร่างกายของนาง
ยิ่ ง เปราะบางราวหยกที่ ต้ อ งคอยระมัด ระวัง ไม่ ใ ห้ ต กหล่ น
เหมือนดอกไม้ที่พร้อมจะโรยรา ต่ อให้ มีเงินทองมากมายก็ไม่
อาจช่วยได้

7
ยิ่งถานหวันช่ ิ งซักถามมากเท่ าไรก็ยิ่งตื่ นตระหนกและ
กังวลมากเท่านัน้ เพราะทัง้ นางและมารดาต่างก็ไม่ได้ป่วยเป็ น
อะไรทัง้ สิ้นแต่กลับมีอายุที่สนั ้ ลงเรื่อยๆ นางติดนอน เรี่ยวแรง
น้ อย และขาดกาลังวังชาเหมือนมารดาไม่มีผิด อาการที่ปรากฏ
ออกมาเหล่านี้ กเ็ พียงพอแล้วที่จะทาให้นางหวาดกลัว

ภายใต้ความหวาดกลัวนัน้ อีกใจนางกลับไม่เชื่อในชะตา
กรรม จึงพยายามดูแลและบารุงร่างกายเป็ นอย่างดี และด้วย
ความรักความเอ็นดูที่บิดามีต่อนาง เรือนที่ตนอยู่จึงเต็มไปด้วย
ทัศ นี ยภาพที่ ส วยงาม น้ า พุใ สไหลเย็น สภาพแวดล้ อ มดี ต่ อ
ร่างกาย

นอกจากจะบ ารุง ด้ ว ยอาหารการกิ น แล้ ว นางยัง วาง


กฎเกณฑ์การพักผ่อน อีกทัง้ ตัดสินใจฝึ กขี่ม้าเพื่อออกกาลังกาย
ทาให้ ตอนนี้ นางจึงยังมีชีวิตรอด ทว่าสาหรับถานหวันช ่ ิ งแล้ว
นางยังคงคิดว่าร่างกายนี้ หลุดจากเงามืดไม่พ้นอยู่ดี

นั น่ เพราะวัน ที่ มารดาเข้าหอ เกิด เรื่องที่ ทุ กคนในจวน


ต่ างรับรู้ ทว่าแม่นมยิ่งรู้รายละเอี ยดของเหตุการณ์ ในวันนัน้ ดี
ยิ่ งกว่ า หลัง คื น เข้ า หอ สาวใช้ ที่ ม าเก็ บ ที่ น อนเห็ น เลื อ ด
พรหมจรรย์อยู่บนฟูกนอน ส่ วนตัวฮูหยินเองแทบเอาชี วิต ไม่

8
รอด ต้ องบารุงรักษาร่างกายอย่างหนั ก ทัง้ ต้ องเลี่ ยงการร่วม
หลับนอนกับสามีถึงสิบวัน

ถานหวัน่ ชิ งจึ ง หวาดกลัว เรื่ อ งนี้ เป็ นอย่ า งมาก และ


ความรูส้ ึกนี้ กาลังแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชดั

ก็ล องนึ ก ภาพดูสิ ขนาดบิ ด านางเป็ นขุน นางฝ่ ายบุ๋น ที่


โดดเด่นกว่าใคร เขียนบทประพันธ์ที่ผ้คู นทัง้ เคารพศรัทธาและ
นับถือ มารดาของนางยังมีสภาพแบบนัน้

แต่ ค นตรงหน้ าเป็ นทหารที่ อ งอาจห้ า วหาญ ร่ า งกาย


กายาแข็งแกร่ง เปี่ ยมด้วยกาลังวังชา และเกรงว่าจะเกินกว่าคน
ธรรมดามากโข ดังนัน้ ชายที่ ใกล้ชิดนางยามนี้ คงไม่เข้าใจการ
ถนอมหญิงงามอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนเป็ นแน่

แล้วถ้านางจงใจแสร้ง ทาเป็ นหมดสติเหมือนคราวก่ อน


คาดว่าคงไม่สามารถขัดขวางเขาได้อีก เพราะมารยาแบบนั น้
ทาได้แค่ครัง้ เดียว ซา้ ร้ายหากเขาบันดาลโทสะ นางเองก็คงยาก
จะรับมือได้

9
แสงเที ยนบนโต๊ะราวกับว่าถูกสายลมพัดผ่านจนวูบไหว
ทาให้ห้องเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด สันไหวไปมาตามแรงสั
่ นสะเทื
่ อน
ไม่หยุดหย่อน

ลุ่ยจูที่ร้อนรนกาลังเดินวนไปมาอยู่หน้ าประตูห้อง นาง


ไม่รวู้ ่าควรจะทาอย่างไรดี ได้แต่ปิดปากไม่กล้าส่งเสียงออกไป

ก่ อนหน้ านี้ ปีศาจร้ายผู้นั น้ คุกคามนางอย่ างเหี้ ย มโหด


แล้ ว เข้ า ห้ อ งคุ ณ หนู เขาบอกนางว่ า หากอยากให้ คุ ณ หนู
ปลอดภัยจะต้องเชื่อฟัง และอยู่ให้ห่างๆ ไม่เช่นนัน้ ...

ปี ศาจร้ า ยผู้นั ้น กล้ า ฆ่ า คนตาไม่ ก ะพริ บ คิ ด ว่ า คงไม่ มี


เรื่องใดที่ เขาทาไม่ได้ นางกับคุณหนูสองชี วิตล้วนอยู่ในกามือ
ของเขา มันคือเรือ่ งจริงที่น่าตกใจจนขวัญกระเจิงยิ่งนัก

นางได้ยินคุณหนูที่อยู่ในห้องร้องไห้ตลอด ก่อนที่ จะทน


ไม่ไหวเปิดประตูเข้าไป ปี ศาจร้ายกลับทาให้ เสี ยงคุณหนูเงียบ
ลงได้ นางได้แต่ยืนงุนงง มือชะงักค้างอยู่หน้ าประตูอย่างคนทา
อะไรไม่ถกู

จากนัน้ เสี ยงที่ ได้ยินก็แปลกไป ทาให้นางยิ่งร้อนใจมาก


กว่าเดิม

10
นางรู้อยู่ก่อนแล้วว่า ทหารทัง้ เถื่อนและหยาบคาย ซา้ ยัง
มุทะลุดุดนั อย่างไม่ร้จู ะสรรหาคาไหนมาบรรยาย เขาสามารถ
่ บผู้หญิงเขา
ตัดหัวฆ่าคนได้เพียงแค่ขยับตัวเท่านัน้ แม้กระทังกั
ก็ทาเช่นเดียวกัน...

เมื่อเสี ยงในห้องเงียบลงในที่ สุด ลุ่ยจูกอ็ ดรนทนไม่ไหว


แล้วจริงๆ นางกัดฟั นคว้าเอาไม้กวาดด้านข้างมาจับไว้มนทั ั ่ ง้ ที่
ในใจยังคงหวาดกลัว เด็กสาวเดินไปที่ประตูแต่สายตากลับเห็น
ร่องประตูเสียก่อน จึงอดลอบมองเข้าไปไม่ได้

นางเห็น เตี ย งอุ่น อยู่ใ นสภาพยุ่ง เหยิ ง ...และปี ศาจร้ า ย


นัน่ !!!

แล้วยังมีของนัน่ !

ขะ...ของอะไรน่ ะ!!!

ภาพที่เห็นทาให้เด็กสาวถึงกับสะดุ้งด้วยความหวาดผวา
มือไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะจับด้ามไม้กวาดไว้ไม่อยู่ ใบหน้ าขาว
ซี ด เปลี่ ย นเป็ นแดงเถื อ ก ก่ อ นจะถอยหลัง กรูด หัว ใจราวจะ
กระเด็นกระดอนออกมาจากอก ก่ อนที่ นางจะเผลอหลุดร้อง
ตะโกนออกไป ก็ยกมือขึน้ มาปิดปากตัวเองไว้ได้ทนั

11
ทาอย่างไร? ทาอย่างไรดี?

ปะ...ปี ศาจร้ายนั น่ ทะ...ทาเช่ นนี้ หะ...หากรู้ก่อนว่ าจะ


เป็ นเช่ นนี้ ก่อนที่ เขาจะเข้าไปหาคุณหนู นางน่ าจะเอาด้ามไม้
กวาดตีเขาให้สลบ

ทาอย่างไรดี? ความบริสุทธ์ ิ ของคุณหนูถกู เขาทาลายไป


หมดแล้ว! จากนี้ ถึงอยากจะแต่งก็แต่งไม่ได้แล้ว...

ร่างกายที่ อ่อนแรงแบบนี้ จะหาญสู้แรงของแม่ทพั เซี่ ยได้


อย่างไร

่ ิ งปรารถนาอยากให้ ตวั เองสลบไสลไม่ได้ สติ


ถานหวันช
ไปเลยจริงๆ จะได้ไม่ต้องรับรู้ความทุกข์ยากลาบากที่ กาลังคืบ
คลานเข้าหา แต่ เรื่องมันไม่เป็ นอย่างที่ ใจหวัง เพื่อรักษาชี วิต
เปราะบางของตนจะแสร้งเวียนหัวเป็ นลมก็ทาไม่ได้

อากาศหลัง หิมะตกยิ่งเพิ่ มความหนาวเหน็ บ ลมเหนื อ


หอบเอาความเย็นและเกล็ดหิมะมาตกกระทบกับบานหน้ าต่าง
เกิดเสียงราวกับพายุหิมะกระหน่าลงมา แม้นางจะอยู่บนเตียงที่
อบอุ่ น แต่ ก ลั บ รู้ สึ ก เหมื อ นอยู่ ท่ า มกลางลมพายุ เ ช่ น กั น

12
สภาพการณ์ ไม่ได้ ดีไปกว่าโลกภายนอกหน้ าต่ าง หรืออาจจะ
เลวร้ายยิ่งกว่า

หญิงสาวไม่ร้วู ่าปี ศาจร้ายเริ่มลงมือกับนางตอนไหนและ


สิ้นสุดลงเมื่อใด แต่เมื่อเขาเห็นว่าไรหนวดที่ ปลายคางของตน
ทาให้พวงแก้มนวลแดงเป็ นปื้ น จึงค่อยหยุดแทะเล็มนาง

ชายหนุ่ มก้ มมองร่างบอบบางอย่างละเอี ยด ร่างกายนี้


ช่างลา้ ค่าราวกับทองพันชัง่ เซี่ ยเฉิงจู่หยัดกายชันตัวขึ้น เหงื่อ
ของเขาไหลท่ ว มโซมกาย หยดลงบนผมด าขลับ ที่ ร ะไปกับ
ใบหน้ าจนเปี ยกชื้น ทว่าหญิงสาวยังแน่ นิ่งไม่อาจขยับเขยื้อน
แม้แต่แรงจะพยุงตัวเองยังไม่มี

เซี่ ย เฉิ งจู่ ห ยิ บ กางเกงตัว ในมาสวมแล้ ว เปลี่ ย นเป็ น


คุกเข่าบนเตี ยงอุ่น ไม่ลืมเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่ มมาคลุมเรือน
กายขาวผ่อ งให้ เ รี ย บร้ อ ย จากนั น้ เขาก็ก ระโดดลงจากเตี ย ง
อย่างคล่องแคล่ว สาวเท้าไปยังตู้ไม้ที่มุมห้อง กระตุกผ้าสะอาด
ที่พาดอยู่มาจุ่มลงในอ่างน้า ถึงเพิ่งรูว้ ่าน้านัน้ เย็นเฉี ยบไปแล้ว

่ ิ งไม่ร้เู ลยว่าด้านนอกกาลังหนาวยะเยือก หรือ


ถานหวันช
ฟื นที่ เผาไหม้ในห้องไม่เพียงพอกันแน่ เพราะพอคล้อยหลังชาย
หนุ่มที่ เปิดประตูออกไป นางก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็ บ อย่างกับว่า
13
ความร้ อ นค่ อ ยๆ ไหลออกจากร่า ง แม้ แ ต่ เ ท้ า ก็ย งั เย็น เยี ย บ
ขึน้ มา เหงื่อร้อนที่ผดุ ออกมาบนร่างกายเมื่อครู่กลายเป็ นความ
หนาวเข้ามาแทน เหมือนอยู่บนชัน้ เมฆ ทัง้ หนาวและเหนี ยวตัว

ถานหวันช่ ิ งเริ่มสันระร
่ ิ ก สภาพร่างกายที่ ไม่ปกติทาให้
หัวใจของนางหนั กอึ้ง เมื่ออดรนทนไม่ไหว จึงลองขยับผ้าห่ ม
ออกแล้วเลิกขึ้นดู หญิงสาวอาศัยแสงเที ยนจากโต๊ะข้างเตี ยง
จ้องเขม็งไปยังจุดหนึ่ งบนฟูกใต้รา่ ง

ถานหวันช ่ ิ งมองข้ามความเจ็บปวด รวมไปถึงรอยนิ้วมือ


ที่ ประทับบนผิวเนี ยนขาวซึ่ งตอนนี้ กลายเป็ นเขี ยวช้า ไปแล้ ว
ฟูกใต้ร่างมีจดุ คล้ายดอกเหมยแดง หญิงสาวออกแรงยกตัวขึ้น
ดูอีกครัง้ จนแน่ ใจว่าไม่ใช่รอยเลือดที่ ใหญ่ และไม่มีส่วนใดที่ ยงั
มีเลือดไหลไม่หยุด ทันใดนัน้ หัวใจที่ เต้ นโครมครามอยู่กพ็ ลัน
สงบลง นางนึ กว่าตัวเองจะต้องตายแล้วเสียอีก

หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะกาผ้าห่มในมือแน่ น

14
55 ดูแล

ทัง้ ที่ อ ากาศหนาวเหน็ บ แต่ เ ซี่ ย เฉิ งจู่ก ลับ ไม่ ไ ด้ ใ ส่ เ สื้ อ
คลุมออกมา ชายหนุ่มเดินออกมานอกห้องโดยใส่กางเกงเพียง
ตัวเดี ยว แผงอกเปลือยเปล่า เขาถืออ่ างน้ าไปที่ ห้องครัวเล็ก
เพื่อเอาน้ า ร้อน จึง ได้ รู้ว่ าดึ กดื่ น ค่ อนคื น แล้ ว แต่ ส าวใช้ ย งั ไม่
นอน นางเตรียมอ่างน้าร้อนไว้ให้เรียบร้อย และกาลังวางลงบน
โต๊ะพอดี

เซี่ ยเฉิงจู่มองสาวใช้ที่อยู่ห่างไปประมาณแปดก้าว ก็เห็น


นางกาลังจับจ้องมาที่ เขาซึ่ งไม่ได้สวมเสื้ อ บนร่างชายหนุ่ มมี
รอยเล็บที่ ชดั เจนอยู่หลายแห่ง สีหน้ าเด็กสาวเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัว ทาท่าราวกับร่างจะทรุดลงไปได้ทุกเมื่อ แต่ยงั ทาใจ
กล้าเอ่ยเสียงสันออกมาว่
่ า

“นะ...น้ า ร้อนเตรี ย มไว้ ให้ เ รี ย บร้อยแล้ ว เจ้ าค่ ะ หรือ...


หรือจะให้ข้าเข้าไปปรนนิบตั ิ คณ
ุ หนู...”

น้าร้อนนี้ เตรียมไว้ได้เวลาอย่างพอเหมาะพอเจาะ แค่นี้ก็


รู้ว่ า เด็ก รับ ใช้ ต รงหน้ า รู้ว่ า เกิ ด อะไรขึ้น ในห้ อง สี ห น้ า ของใต้

1
เท้าเซี่ยยังคงเรียบเฉย เขาเดินไปยกอ่างน้า จากนัน้ ก็โบกมือไล่
นาง

“ข้าทาเอง เจ้ากลับไปดูแลฝูอินเถอะ หากไม่มีเรื่องอะไร


ก็ไ ม่ ต้ อ งมายื น อยู่ ห น้ าประตู ข้ า ไม่ ท าอะไรคุ ณ หนู ข องเจ้ า
หรอก”

กล่าวจบก็หมุนตัวสาวเท้าเดินกลับห้องพร้อมอ่างน้า

พอลุ่ยจูได้ยินคาว่า ‘หน้ าประตู’ ใบหน้ าก็พลันแดงกา่ ที่


ถูกอี กฝ่ ายจับ ได้ ทาให้ ฉุกคิ ด ถึง ภาพที่ เ ห็น ก่ อ นหน้ านี้ . ..ทว่ า
ประโยคหลัง ทาให้นางต้องเบิกตากว้าง ‘ไม่ทาอะไรคุณหนูของ
เจ้าหรอก?’ งัน้ ที่ เขารังแกคุณหนูไปเรียบร้อยแล้วเล่า เรียกว่า
อะไร!

เด็กสาวได้ แต่ บ่นพึมพาในใจ น่ าเสี ยดายที่ นางไม่ อาจ


หาญพอจะพู ด มัน ออกมา ส่ ว นอี ก ฝ่ ายก็เ ดิ น เข้ า ไปในห้ อ ง
เรียบร้อยแล้ว ทัง้ ยังปิดสลักลันดาลตรงประตู
่ แล้วยังนาเสื้อ
คลุมบนพืน้ มาแขวนเพื่อบังช่องประตูจนมิดชิดอีกด้วย

ถานหวันช ่ ิ งมีอาการสะลึมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่ น หญิง


สาวรู้สึกว่าผ้าห่มถูกเลิกขึน้ จิตใต้สานึ กสังให้
่ นางรีบงอตัวทันที

2
ทว่ า เรี่ ย วแรงกลับ หดหาย หัว สมองไม่ ป ลอดโปร่ ง อย่ างมาก
จนกระทังมี ่ บางอย่างหยดลงบนเท้า ความรู้สึกแสบร้อนดึงสติ
หญิงสาวให้ตื่นขึน้ มาทันที

ครัน้ เห็นว่ากาลังเกิดอะไรขึน้ ถานหวันช่ ิ งก็ไม่มีเรี่ยวแรง


แล้ว ทว่าความโกรธยังคงคุกรุ่น พอมือคลาไปเจอสายรัดเอว ก็
ไม่รู้ได้ เ รี่ ย วแรงคื น มาจากไหน นางใช้ ส ายรัด เอวฟาดลงบน
แผ่นหลังที่เปลือยเปล่าตรงหน้ า สวรรค์ย่อมรู้ดีว่าหลายปี แล้วที่
นางไม่เคยตีคน

คราวนี้ อย่าว่าแต่สายรัดเอวเลย ต่อให้โดนแส้ฟาดลงบน


ร่างอีกหน ปลายคิ้วของเซี่ยเฉิงจู่กไ็ ม่ขยับแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้อง
พูดถึงแรงฟาดในตอนนี้ ของนาง ซึ่ งไม่ต่างอะไรกับแมวสะกิด
เลยสักนิด

ยามนี้ เขาต้ องใช้ความระมัดระวังและถี่ถ้วนให้ มาก มือ


หนึ่ งขยับอย่างแผ่วเบา อีกมือยกเทียนขึน้ สูง แต่กลับถูกลูกแมว
ยุ่มย่ามรบกวนสมาธิ จึงเอ่ยว่า “ตีเบาๆ หน่ อย ข้าจะดูให้ว่าเจ้า
เป็ นแผลไหมหรือเพียงบวมแดง แค่ครู่เดี ยว เดี๋ ยวน้ าตาเที ยน
จะหยดใส่ขาอีก...”

3
เรือนร่างขาวนวลเนี ยน ไม่มีจดุ ไหนที่ไม่น่ ุมนิ่ม หากโดน
น้าตาเทียนหยดลงไปย่อมเจ็บปวดกว่าคนอื่นหลายเท่า

น้ า ตาเที ย นที่ หยดหลัง เท้ าเมื่ อครู่ถ กู เขาลูบ ออกอย่ า ง


รวดเร็ว แต่ความร้อนก็ทาให้นางตกใจตื่นจนได้ แย่จริง!

ชายหนุ่มไม่เคยทาอะไรที่ อายจนแทบจะเอาหน้ า แทรก


แผ่นดินหนี เช่ นนี้ มาก่อน ถานหวันช
่ ิ งคื อคนแรก เขากาลังใช้
เทียนส่องแล้วนางตื่นมาเห็น ดีที่ตอนนี้ เท้าของนางไร้เรี่ยวแรง
หากไม่แล้วเท้าเล็กนี่ คงจะเหยียบบนหน้ าของเขาเป็ นแน่

ถึงแม้เซี่ ยเฉิงจู่จะจับดาบมาหลายปี แต่ การเคลื่อนไหว


ของเขากลับ อ่ อ นโยนมาก เมื่ อ ท าความสะอาดให้ น างเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ ายจะต่อต้าน เพียงล้มตัว
ลงแล้วเข้าไปอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน โอบกอดคนที่ใบหน้ าแดง
กา่ ด้วยความโกรธ จากนัน้ ก็ต้องพึมพาในใจ...

ไม่ร้วู ่าคนในอ้อมกอดเกิดออกมาได้อย่างไร ทาไมถึงตัว


นิ่ มขนาดนี้ ราวกับ ว่ า ใช้ น้ า ปั ้น ร่ า งขึ้น มา เขาไม่ ก ล้ า ท าแรง
แม้แต่ นิดเดียว ต้องระมัดระวังให้ มาก เกรงว่าไม่แคล้วจะเพิ่ม
รอยชา้ ไปทัวร่ ่ างบอบบาง

4
่ ิ งด่าแต่กร็ ้สู ึกว่ายังไม่พอ นางจึงอ้า
“คนเลว!” ถานหวันช
ปากกัดลงบนข้อมือเขา พองับลงไปแล้ว กลับหยุดค้าง จะกัดก็
ไม่ใช่ ไม่กดั ก็ไม่เชิง

คนที่ โ อบกอดนางไว้ แ น่ นรู้ สึ ก ว่ า ข้ อ มื อ ตนอุ่ น ร้ อ น


ดวงตาพลัน สัน่ ไหวในความมื ด เนื้ อ ตัว แข็ง เกร็ง ไปทัว่ ร่ า ง
สุดท้ายแล้วก็อดกลัน้ เอาไว้ได้ เขาลูบเส้นผมสลวยอย่างเบามือ
“อย่ากัดเลย ตอนนี้ ยามจื่อแล้ว เวลาพักผ่อนของเจ้าเหลืออี ก
แค่สามชัวยามเท่
่ านัน้ นอนเถอะ ไม่หนาวแล้ว...”

ไม่หนาวแล้ว...

เป็ นเช่นนัน้ จริงๆ ก่อนหน้ านี้ นางยังตัวสันอยู


่ ่เลย ตอนนี้
ไม่มีความรู้สึกหนาวหลงเหลือเลยสักนิด เหมือนร่างกายแนบ
อยู่ข้างเตาอุ่น ส่วนฝ่ ามือแข็งแกร่งนัน้ ก็เป็ นเหมือนเงาติดตาม
ตั วอยู่ตลอดเวลา ถึงนางจะขยับออกอย่างไร มือนัน้ ก็ตามมา
วางบนหน้ าท้ องของนางอยู่ดีแล้วก็ราวกับมีไออุ่นแผ่ซ่านเข้า
มาในร่าง ช่างสบายเหลือเกิน นางต่อต้านได้ไม่นานก็หลับลึก

ในความฝัน หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองถูกห่อหุ้มด้วยขนนก
ที่ อบอุ่น ไม่เคยสบายอย่างนี้ มาก่ อน ทาให้ นางไม่อยากหลุด
ออกมา และไม่อยากตื่นจากความฝัน
5
คา่ คืนแห่ งลมพายุ โหมกระหน่ าผ่านพ้นไป เปลี่ยนเป็ น
แสงอาทิตย์สาดส่องให้ความอบอุ่น

ข้างลานฝึ กของทหารในฤดูหนาว ทหารหลายนายกาลัง


ยืนมุงดูใต้ เท้ าเซี่ ยฝึ กเพลงหอกตามปกติ ความยาวของหอก
ราวสี่ ศอก น้ าหนักของหอกหนักมาก ทว่าคนใช้ กลับมีท่วงท่ า
พลิ้ ว ไหวราวสายลมที่ พ ดั ผ่า นก้ อ นเมฆ ปลายหอกคมพุ่ง ไป
ข้างหน้ าปานจะแหวกลมฉี กอากาศ พู่สะบัดเห็นเงาสี แดงวูบ
ไหว

กล่ าวได้ ว่ าท่ าทางของคนตรงหน้ ามันคงดุ


่ จดัง ขุน เขา
การเคลื่อนไหวดุจดังอสนี บาตยามฟ้ าพิโรธ

ผูอ้ าวุโสที่ยืนอยู่ไม่ไกลเฝ้ ามองพลางส่ายหน้ า ปากก็พรา่


พรรณนา "กระบวนท่าของเพลงหอกน่ าอัศจรรย์เหลือเกิน ช่าง
เชี่ ย วชาญช านาญยิ่ ง ทัง้ หอกและคนหลอมรวมเป็ นหนึ่ ง ทัง้
หนักแน่ นและมันคง ่ พลิกพลิ้วไปมาอย่างไม่อาจคาดเดา...

สามารถฝึ กเพลงหอกได้ถึงขัน้ นี้ นับว่าอัจฉริยะโดยแท้


หากทหารสามารถเรียนรู้ได้สกั สามในห้าส่วนของใต้เท้า อย่าง
น้ อยที่สดุ เมื่ออยู่บนสนามรบก็สามารถรักษาชีวิตตนเองให้รอด
ได้แล้ว"
6
ผู้อาวุโสดี ท่านนี้ คือคนสกุลหม่าที่ ถกู เชิญมาที่ ค่ายเมื่อ
หลายวันก่อนเพื่อสอนศิลปะเพลงหอก เป็ นผู้ชานาญเพลงหอก
มือหนึ่ งของเมืองเว่ยอัน มีประสบการณ์ ยาวนานร่วมสามสิบปี
ผูน้ ้ าหลายคนก็ได้รบั การถ่ายทอดวิชาจากเขา

เซี่ ยเฉิงจู่ให้ ความสาคัญกับเรื่องการฝึ กฝนในเชิงยุท ธ์


และการใช้อาวุธได้อย่างชานาญคล่องแคล่ว เพราะใต้เท้าเซี่ ย
ต้องการให้ทหารเกิดการบาดเจ็บล้มตายให้น้อยที่ สุดเมื่อต้ อง
เดินเข้ าสู่สนามรบ ทหารทุกนายจะต้ องฝึ กเรื่องเหล่ านี้ อย่ าง
หนัก ต้ องรู้และเข้าใจการป้ องกันตัว ยิ่งหากไม่อยากตายก็ยิ่ง
ต้องฝึ กให้แกร่งกว่าคนอื่น

ตอนนี้ เงินในคลังมีมากพอที่จะหลอมเหล็กทาปลายหอก
ได้จานวนมาก ทหารในค่ายส่วนใหญ่จึงใช้ หอก ดังนัน้ การฝึ ก
ทหารเหล่านี้ จึงถือเป็ นเรื่องเร่งด่วนที่ ไม่ควรรัง้ รอ เซี่ ยเฉิงจู่จึง
เชื้ อ เชิ ญ ผู้เ ชี่ ย วชาญด้ า นศิ ล ปะเพลงหอกมาหลายท่ า น ให้ ผู้
ชานาญเหล่านี้ แนะน้ าศิลปะเพลงหอกให้กบั เหล่าทหาร

“ด้ามจับใหญ่ ปลายหอกแหลมคมทัง้ ยาวทัง้ หนัก สาหรับ


ทหารทัว่ ไปใช้ ส องมื อยกก็ย งั ถื อว่ ายาก หากไม่ เ คยฝึ กก าลัง
ภายในมาก่ อ น ก็จ ะใช้ ห อกใหญ่ ก ว่ า ปกติ เช่ น ใต้ เ ท้ า ไม่ ไ ด้
อาจจะทาให้เกิดความยุ่งยากตามมา คงได้แต่ ใช้หอกธรรมดา
7
ทัว่ ไป” ผู้อ าวุโ สหม่ า มองพลางกล่ า วต่ อ “หอกใหญ่ ห นั ก อึ้ ง
ต้องใช้แรงส่งจากเอวจึงสามารถใช้มนั ได้ เพลงหอกที่ ดีต้องได้
ยินแรงจากปลายหอกแหลมแหวกอากาศ การเปลี่ยนกระบวน
ท่ารวดเร็ว ย่อมไม่มีทางพ่ายแพ้แน่ นอน!”

น้ า เสี ย งของผู้อ าวุ โ สเพิ่ งแผ่ ว ลง ขณะเดี ย วกับ ที่ ใ ต้


เท้ าเซี่ ยเปลี่ ยนกระบวนท่ า ทันใดนั น้ เองหอกก็พลันหลุดออก
จากมือ พุ่งไปยังประตูใหญ่

ฟิ้ว!

ปึ้ ก!

หลังจากเสี ยงแหลมสูงเสี ยดแก้วหู ประตูเหล็กก็ถกู แทง


ทะลุจนเป็ นรู เห็นเพียงปลายหอกด้ามยาวที่ สนไหว
ั่

หลายคนตกตะลึ ง พรึ ง เพริ ด ผู้ ค นที่ ห้ อ มล้ อ มแตก


กระจาย ฝูงชนที่มามุงต่างก็แยกย้ายทันที

ส่วนนายทหารหน่ วยรักษาการณ์ ที่ยืนอยู่ข้างประตูกลับ


มีใบหน้ าขาวซีดเหมือนเห็นผี เขากระโดดหลบจนล้มลงไปกอง
อยู่กบั พื้น ลุกขึ้นมาไม่ไหว จะไม่ให้เขากลัวขนาดนี้ ได้อย่างไร

8
หากหอกนัน้ เบี่ยงมาอี กนิดเดียว เห็นที วนั นี้ ชีวิตน้ อยๆ คงไม่
รอดแล้ ว แค่ นึ กถึ ง ภาพหอกแหลมของใต้ เ ท้ า พุ่ ง ตรงมา
นายทหารชัน้ ประทวนที่ เพิ่งเข้ามาในค่ ายทหารไม่ถึงครึ่งปี ก็
ตกใจจนใบหน้ าไร้สีเลือด

พอเห็นหอกปั กอยู่ในประตู กับรูบนประตูใหญ่นัน่ ก็ไม่มี


ผูใ้ ดอาจหาญกล้าหัวเราะใต้เท้าเซี่ยสักคน

ผู้อาวุโสรู้เหตุผลเป็ นอย่างดี การฝึ กหอกจาต้องควบคุม


กาลังและใช้ แรงมาก ย่อมหลี กเลี่ ยงไม่ให้ หลุดจากมือได้ยาก
ซึ่งก็เป็ นเรือ่ งปกติ

ถึงหอกจะหลุดจากมือไปแล้ว แต่ใต้เท้าเซี่ ยกลับมีสีหน้ า


พอใจมาก วันนี้ เขากลับมาค่ายทหารตัง้ แต่เช้าด้วยจิตใจที่ ผ่อง
ใส ท่าทางกระปรี้กระเปร่า ริมฝี ปากมีรอยยิ้มน้ อยๆ ไม่เหมือน
ทุกๆ วันที่ผา่ นมา

ตอนนี้ เซี่ ยเฉิงจู่กาลังเดินไปโรงครัวกับบรรดานายทหาร


คนด้านหลังเหมือนกับนึ กบางอย่างได้จึงหัวเราะขึน้ มา

9
“ใต้ เท้ า สองวันมานี้ ร้สู ึกว่าเอวจะใช้ การไม่ได้นะขอรับ
ถ้าเช่ นนั น้ ก็ให้ พ่อครัวเตรียมเอวหมูบารุงกาลังดี หรือไมj?” ตู้
เหอที่สวมชุดเกราะเลียบเคียงถาม

เวลาปกติหากได้ยินว่าเอวใช้การไม่ได้กจ็ ะเป็ นเรื่องที่ น่า


อับอายของชายชาติทหารยิ่ง ส่วนใต้เท้าเซี่ยที่ยงั หนุ่มแน่ นและ
หน้ าบางเป็ นทุ น เดิ ม จะมี สี หน้ างุ น งงเหมื อ นไม่ เ ข้ า ใจ
ความหมาย แต่ มาวันนี้ พอชายหนุ่ มได้ ยินกลับกระตุกยิ้มมุม
ปาก กวาดตามองตู้ เหอแล้วปรายตามองเอวกลมดิกของอี ก
ฝ่ าย พร้อมกับเอ่ยด้วยใบหน้ าที่อ่อนโยนอย่างหาได้ยาก

“หากจะพูดเช่นนี้ เจ้าแน่ ใจนะว่าเป็ นข้าที่ ต้องการบารุง


กาลัง ข้าว่าหากหลังครัวมีเหลือ ข้าจะเตรียมไว้ให้ เมี ยเจ้าหิ้ว
กลับไปต้มหม้อเล็กๆ บารุงเจ้าสักหน่ อย”

“ฮ่าๆ มีแต่เอวของพี่ใหญ่ตู้เท่านัน้ แหละที่ ต้องใช้เอวหมู


บารุง” จางเซี่ ยนหัวเราะลัน่ “ใต้ เท้ าของพวกเราเปี่ ยมพลังทัง้
ฮึ ก เหิ มและห้ า วหาญ แม้ จ ะไม่ ไ ด้ ห ลับ มาหนึ่ งคื น แต่ ห าก
อยากจะบารุงก็ต้องบารุงด้วยกวางมากกว่า ยามยกหอกขึ้นมา
จะได้มีแรง...”

10
กล่าวจบเขาก็หมุนเอวสองรอบ เรียกเสี ยงหัวเราะจาก
ใครๆ ได้หลายคน เซี่ ยเฉิงจู่ทนมองไม่ได้ หมุนตัวกลับแล้วถีบ
ไปยังร่างจางเซี่ยนทีหนึ่ งอย่างไม่เกรงใจ

จางเซี่ ยนที่ ไม่ได้ตงั ้ ตัวเกือบจะล้มทัง้ ยืน บรรดาหนุ่ มๆ


ต่างพูดจาหยอกล้อพลางพากันเดินเข้าไปในห้องครัว

สองวันก่อนใต้เท้าพาหญิงสาวมาที่ จวน ทหารทัง้ ค่ายไม่


มีใครไม่รู้ ส่วนเมื่อวานก็ไม่ได้กลับค่ายทหารทัง้ คืน เด็กหนุ่มวัย
ใกล้ยี่สิบ...เกรงว่าร่างกายจะหักโหมเกินไป

ปกติใต้เท้าจะค่อนข้างไว้ตวั แต่เช้าวันนี้ กลับกันจนหมด


สิ้น เกรงว่าต่ อจากนี้ คงยากที่ จะกลับไปใช้ ชีวิตเหมือนนั กบวช
ดังแต่ก่อนได้อีกแล้ว เพราะผ่านไปเพียงสองวัน เขากลับมีกาลัง
วังชาใช้ การได้ ไม่ต่างจากเดิม ปากหลายคนอาจจะพูดว่า ใต้
เท้าเซี่ ยยังหนุ่มแน่ นแต่เอวใช้การไม่ได้แล้ว ทว่าในใจพวกเขา
อยากจะพูดว่า ถูกรีดน้าไปเท่าไรแล้วมากกว่า

ครัน้ นึ กถึงหญิงงามผู้นัน้ ทัง้ ใบหน้ ารูปไข่ เอวคอดกิ่ว ขา


เรียวยาว รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นถึงเพียงนัน้ ทุกคนก็เข้าใจและ
ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเขาเลย

11
ทัง้ ที่ ทุกคนพูดเล่นกัน แต่ นึกไม่ถึงว่าช่ วงบ่ายใต้ เท้ าจะ
พาทหารม้าสิบนายเสี่ยงภัยขึน้ บนภูเขาโดยไม่รอให้หิมะละลาย
จนกระทังตอนเย็
่ นถึงเพิ่งกลับมา ชายหนุ่ มล่ากวางตัวผู้มาได้
ตัว หนึ่ ง ทหารหลายนายเช็ ด ปากลู บ มื อ รอ เตรี ย มรับ การ
แบ่งสันปันส่วนกลับไปให้เมียให้ลูกบารุง

ผลปรากฏว่า ใต้ เท้ าเซี่ ยที่ เคยใจกว้างและเข้าอกเข้าใจ


ลูกน้ องเสมอมา ทว่าครัง้ นี้ กวางทัง้ ตัวหรือแม้แต่ขนเส้นเดียวก็
ไม่ ย อมแบ่ ง ให้ พ วกเขา กระทัง่ เลื อ ดสัก หยดพวกเขาก็ไ ม่ มี
โอกาสได้ เ ห็ น กวางที่ ถ ูก สับ กระดู ก อย่ า งดี แล่ ห นั ง อย่ า ง
เรี ย บร้ อ ย ถูก หิ้ ว ออกจากค่ า ยทหารไปยัง บ้า นหลัง น้ อยที่ อยู่
ใกล้ๆ

กวางเป็ นของดีสามารถบารุงร่างกายและเลือดได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และไม่ใช่จะล่าได้บ่อยๆ แต่ ก่อนในครอบครัวมี
แค่ เ ขากับ น้ องชายห้ า ขวบจึ ง ไม่ ไ ด้ เ ก็บ เนื้ อ ไว้ ม าก ของดี ๆ
มักจะให้คนอื่นไปทัง้ หมด แต่ตอนนี้ เขามีคนร่างกายบอบบางที่
ต้องเลี้ยงดูอย่างดี เขาจึงไม่อาจใจดีแบ่งปันให้ผอู้ ื่นได้อีกแล้ว

12
เมื่อหญิงสาวต้องตกอยู่ ในเงือ้ มมือของคนที่อาฆาตแค้น
ถานหวันช่ ิ งรู้ตวั เองดี ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วย่อมมีสกั วันที่ต้องพบ
เจอเช่นนี้ ที่ผา่ นมาการที่นางสามารถผัดผ่อนมาได้จนถึงวันนี้ ก็
นับว่าไว้หน้ าตัวเองในชาติก่อนมากแล้ว หากเป็ นถานหวันช ่ ิง
ตัวจริงที่เกิดในยุคสมัยนี้ การเป็ นผูห้ ญิงที่มีฐานะตระกูลสูงแล้ว
มาถูกปู้ยี่ป้ ูยาจนชื่อเสี ยงเหม็นเน่ าฉาวโฉ่ ซา้ ร้ายยังกลายเป็ น
นักโทษลี้ภยั ในชัวข้ ่ ามคืน ชะตาชีวิตจะยิ่งน่ าเวทนายิ่งกว่าร้อย
เท่าพันเท่า

่ ิ งเข้าใจได้อย่างชัดเจน เสียตัวแค่นี้เป็ น
เรื่องนี้ ถานหวันช
เรื่องเล็กน้ อยเมื่อเที ยบกับคนในตระกูลถานที่ ถกู พาตัวไปยัง
ดินแดนแถบตะวันตกเฉี ยงเหนื อ สถานที่แห่งนัน้ มีไว้สาหรับขุน
นางที่ ถกู เนรเทศไปเป็ นทาส เป็ นสถานที่ ที่มีความหนาวเย็น
อย่างร้ายกาจ ผู้ชายต้ องทางานแบกหามไม่หยุดหย่ อน ส่ วน
ผูห้ ญิงกลายเป็ นของเล่นของผูช้ าย สวมใส่เสื้อผ้าไม่อ่นุ กาย กิน
ไม่อิ่มท้อง เช่นนี้ แล้วไม่จาเป็ นต้องเอ่ยถึงความมีหน้ ามีตาหรือ
เกียรติภมู ิ แต่เก่าก่อนเลย

13
56 ไถ่ตวั

ท้องฟ้ าด้านนอกเปลี่ยนสีเรียบร้อยแล้ว

่ ิ งตื่นสายกว่าวันปกติเล็กน้ อย และฝื นสังขาร


ถานหวันช
ลุกขึ้นมาได้ในที่สุด หญิงสาวเอาเสื้อคลุมห่อร่างไว้ แล้วคุกเข่า
บนฟู ก อุ่ น สบายด้ ว ยท่ า ทางทุ ล ัก ทุ เ ล ความรู้สึ ก ปวดระบม
ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาจนนางเผลอลูบบัน้ เอว จากนัน้ ก็นัง่ นิ่ง
อยู่สกั พัก

ตอนที่ ลุ่ยจูประคองถาดอาหารเช้ าเข้ามา ก็เห็นคุณหนู


ขยับตัวอย่างเชื่องช้า คิ้วเรียวขมวดเล็กน้ อย เพราะหญิงสาวก้ม
หน้ า ผมดํายาวราวแพรต่ วนที่ สยายอยู่บนแผ่นหลังก็ราวกับ
ม่านนํ้าตกที่ไหลลงมา แม้ลาํ คอระหงจะเต็มไปด้วยรอยแดง แต่
ความงามของนางก็ทาํ ให้ผคู้ นต้องตกตะลึง

อาจเป็ นเพราะนํ้ า นมแพะกับ รังนกนางแอ่ น ที่ ทําให้ ผิว


นางดู เ นี ยนนุ่ มชุ่ ม ชื้ น สองอย่ า งนี้ เป็ นอาหารบํา รุ ง อย่ า งดี
เสริ ม สร้ า งให้ ร่ า งกายสมบู ร ณ์ แ ข็ง แรง รู ป ร่ า งของคุ ณ หนู
ในตอนนี้ ผิดกับแต่ ก่อนที่ ผอมบางเนื้ อน้ อย ช่ วงนี้ อีกฝ่ ายกิน
ของบํารุงเข้าไปจึงเห็นผลได้ชดั เจน

1
น่ าเสี ยดายที่ รอยแดงชํา้ ที่ ประทับอยู่บนผิวผ่องนั น้ ช่ าง
น่ าสยดสยองอย่างมาก ลุ่ยจูเห็นแล้วพลันตื่ นตระหนก ราวกับ
ว่าหยกสวยชัน้ เลิศมีคราบหมองที่ยากจะล้างออกติดอยู่ พลอย
ให้นางนึ กถึงเรือ่ งเมื่อคืน...

นางเพิ่ ง จะอายุสิ บ ห้ า ตัง้ แต่ เ ข้ าจวนตระกูลถานก็เ ป็ น


สาวใช้ อ ยู่ก บั คุณ หนู ม าโดยตลอด ไหนเลยจะเคยเห็น หรือมี
ประสบการณ์ ในด้ านนั น้ ลุ่ย จูใบหน้ าแดงปลังขึ ่ ้น โดยไม่รู้ตวั
คําพูดที่ อยากจะเอ่ยถูกกลืนกลับเข้าไปตามเดิม ไม่อาจพูดคํา
ใด ได้แต่ก้มหน้ าก้มตาช่วยคุณหนูเปลี่ยนชุด

หลังจากถานหวันช ่ ิ งล้างหน้ าแต่งตัวเรียบร้อย หญิงสาว


ก็จดั ชายแขนเสื้อกว้างด้วยท่ าทางเนื อยๆ ไม่กระฉั บกระเฉง
จากนัน้ ก็ยื่นมือมารับชามที่ล่ยุ จูยื่นให้ พอเห็นนมแพะม่วงอุ่นๆ
กลิ่นหอมกรุ่นแผ่ไอร้อนออกจากชามกระเบือ้ งเคลือบ ก็คิดถึง
สถานที่ที่จดั ไว้สาํ หรับขุนนางที่ถกู เนรเทศอีกครัง้ ว่าจะมีข้าวใน
ชามให้ กิ น สัก กี่ เ ม็ด นางถอนหายใจก่ อ นจะยกชามนมขึ้ น
ดื่ม

ลุ่ยจูดอู อกว่าคุณหนูไม่สบายใจ นางอยากจะเอ่ยออกมา


แต่ กไ็ ม่กล้า ทําเพี ยงตัง้ หน้ าตัง้ ตากินอาหาร เก็บความหวาด
กลัว จนลนลานไว้ เ ต็ม สมอง สองเท้ า เสี ย ดสี ก นั ไปมาบนพื้น
2
อย่างระงับความกังวลไม่อยู่ ตัง้ ท่ าจะพูดหลายครัง้ แต่ กพ็ ูดไม่
ออกสักที

สิ่ งที่ น างอัด อัน้ ตัน ใจก็ คื อ เมื่ อ หวนคิ ดถึ ง เรื่ อ งที่ ใ ต้
เท้ าเซี่ ยเคยเอ่ยปากเรื่องเตรียมของหมัน้ ให้คุณหนู คุณหนู ไม่
น่ าตอบปฏิเสธเร็วปานนัน้ แล้วสภาพการณ์ ตอนนี้ ดีที่ไหนกัน
ไร้แม่สื่อ ไร้ของหมัน้ จะเหมาะสมได้อย่างไร แล้วหากอี กฝ่ าย
ไม่ เ อ่ ย เรื่ อ งการมงคลสมรสขึ้น มาอี ก ครัง้ ความบริ สุ ท ธ์ ิ ของ
คุณหนูที่เสียหายไปแล้วนัน้ จะไปเรียกร้องกับใครได้เล่า

ถึงแม้ในตอนต้ นลุ่ยจูจะคิดว่าใต้ เท้ าเซี่ ยเป็ นเพี ยงชาย


หนุ่มที่มุทะลุดดุ นั มีจิตใจที่หลงใหลเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ไปวันๆ
หาได้เหมาะสมกับคุณหนูเลยสักนิด ส่วนฐานะยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เที ย บเท่ า อนุ ภ รรยาของจวนตระกูล ถานยัง ไม่ ไ ด้ เ ลย ส่ ว น
ความสามารถและสติ ปั ญ ญา หากเที ย บกับ บุ ต รชายของเจิ้ง
เอวี๋ยนอดีตคู่หมายของคุณหนูกย็ งั ไม่ค่คู วร หนํ าซํา้ ยังเป็ นแค่
ขุน นางขัน้ ห้ า พู ด ง่ า ยๆ ก็คื อ ไม่ มี ต รงไหนที่ เ หมาะสมกับ
คุณหนูเลยสักอย่าง

แต่ตอนนี้ ไม่เหมือนในกาลก่อนแล้ว สถานะคนในจวน...


ที่ ตายก็ตายไป ที่ ถกู ขายก็ขายไป ที่ ถกู เนรเทศก็ เนรเทศไป นี่
เป็ นเรือ่ งจริงที่เกินความคาดหมายอย่างที่สดุ นางกับคุณหนูอยู่
3
กัน เพี ย งลํ า พัง ในภาวะที่ บ้ า นเมื อ งเกิ ดสงคราม มี ค วาม
เดื อ ดร้ อ นวุ่น วายไปทัว่ ทุ ก หย่ อ มหญ้ า การที่ ส ามารถรัก ษา
ความบริสุทธ์ ิ และรักษาชี วิตมาจนถึงวันนี้ ได้ นั บว่าสวรรค์ให้
ความเมตตามากแล้ ว ยามนี้ คุณ หนู ข าดที่ พึ่ ง ไร้ ค นปกป้ อง
แม้แต่ทหารอย่างเซี่ยเฉิงจู่ ผูท้ ี่แต่ก่อนไม่เคยอยู่ในสายตา ก็ยงั
สามารถควบคุมความเป็ นความตายของพวกนางได้

สําหรับลุ่ยจูแล้ว ครึ่งปี มานี้ นางเหมือนคนที่ อยู่บนโลก


มนุษย์แต่ แล้วจู่ๆ ก็ร่วงหล่นไปอยู่ยมโลก ส่ วนคุณหนู นางไม่
เคยรู้เลยว่า จิตใจของอีกฝ่ ายเป็ นอย่างไร เพราะอย่างนี้ นางจึง
อยากจะถามนัก แต่กไ็ ม่มีความกล้าพอ ด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตนถาม
อาจไปกระทบกระเทือนจิตใจอีกฝ่ าย

ในความคิดของนาง เมื่อผู้หญิงสูญสิ้นความบริสุทธ์ ิ ไป
แล้วก็เท่ ากับชี วิตจบสิ้น หากใต้ เท้ าเซี่ ยไม่ยอมแต่ งให้ คุณหนู
นั น่ หมายถึ ง ความเสี ย หายอย่ า งใหญ่ ห ลวงของคุ ณ หนู เ ลย
ที เดียว ขนาดนางที่เป็ นบ่าวรับใช้ยงั รู้สึกเช่นนี้ แต่หากพูดตาม
ตรง ถึงจะแต่งงานไปแล้วก็ไม่แน่ ว่าจะโชคดีเสมอไป

นางยังจําได้ว่า แต่ก่อนใต้เท้าเซี่ยผู้นี้ไม่ต่างจากยมทูตที่
โหดร้ายทารุณ เขาใช้สายตาเหยียดหยามมองคุณหนูอย่างจาบ

4
จ้วง และเมื่อวานก็ได้คณุ หนูไว้ในกํามือตามความต้องการแล้ว
คุณหนูที่เป็ นเพียงสตรีอ่อนแอ ย่อมไม่อาจดิ้นหลุดไปได้

นึ กถึ งเรื่องที่ เขากระทํากับคุณหนู เ มื่อคื น ลุ่ย จูก็ส นยะ


ั่
เยือกไปทัง้ ร่าง

หลังจบมื้ออาหารเช้ าและบ้วนปากเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ถานหวัน่ ชิ ง ก็รี บ สวมเสื้ อ คลุ ม กัน ลม สะพายย่ า มใส่ ห นั ง สื อ
เตรียมจะออกจากบ้าน ลุ่ยจูที่เห็นอดไม่ได้ที่จะแย้งออกมา

“คุณหนูเจ้าคะ ในเมื่อท่านไม่ค่อยสบาย ก็ให้ข้าไปที่ หอ


อักษร บอกกับซ่งฮูหยินว่าวันนี้ ท่านไม่ไปสอนดีไหมเจ้าคะ...”

“ในเมื่ อ ตกปากรับ คํ า ไปแล้ ว จะไปๆ หยุ ด ๆ ตาม


อํา เภอใจได้ อ ย่ า งไร” ถานหวัน่ ชิ งเอ่ ย ขึ้ น แล้ ว เหมื อ นนึ ก
บางอย่างได้ “เจ้าไปเอาเงินมาแปดสิบตําลึง ข้าต้องการใช้”

เรื่องในบ้าน ทัง้ เสื้อผ้าอาหารและของใช้ สอยล้วนเป็ น


ลุ่ยจูที่คอยจัดการ รายได้ส่วนใหญ่มาจากการวาดภาพของถาน
หวันช่ ิ ง ซึ่ ง เด็ก สาวเก็บ ไว้ ใ นกล่ อ งแล้ ว ใส่ ก ุญ แจ ลุ่ ย จูไ ด้ ยิ น
คุณหนูบอกให้ไปเอาเงินออกมาแปดสิบตําลึงก็ร้สู ึกเจ็บปวดใจ
ยิ่งนัก คุณหนูอตุ ส่าห์หาเงินมาด้วยความยากลําบาก นอกจาก

5
จับจ่ายใช้สอยแต่ละวันแล้ว ตอนนี้ เอาเงินมากองรวมกันยังไม่
ถึงหนึ่ งร้อยตําลึงเลย เดิมตัง้ ใจว่าจะรวบรวมให้ ได้ ร้อยตําลึ ง
แล้วเปลี่ ยนเป็ นทองแท่ ง ไฉนเพี ยงเดี๋ ยวเดี ยวต้ องนํ า ออกมา
เกือบหมดเช่นนี้

ถึงแม้จะเจ็บปวดใจอย่างไร้ที่เปรียบ แต่ลุ่ยจูกไ็ ม่ได้ถาม


อะไร ทําเพี ยงหันไปเปิดกล่องที่ ซุกอยู่ในลิ้นชัก หยิบเอาแท่ ง
เงินออกมาแปดอันแล้วห่อด้วยผ้าเช็ดหน้ า ก่อนจะใส่ลงในย่าม
ของคุณหนูให้

่ ิ งพยักหน้ าแล้วผลักประตูเดินออกไป
ถานหวันช

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านไม่เป็ นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?” ลุ่ยจูเห็น


จังหวะก้าวเดินของถานหวันช่ ิ งสัน้ กว่าปกติแล้วต้องออกไปข้าง
นอกตามลําพังเช่นนัน้ นางก็อดเป็ นห่วงไม่ได้

“ไม่เป็ นไร เจ้ากลับไปเถอะ”

่ ิ งออกจากบ้านแล้วก็ร้สู ึ กแปลกใจ
หลังจากที่ ถานหวันช
ไม่น้อย ร่างกายตนเป็ นอย่างไรนางย่อมรู้ตวั เองดี ที่สุด ร่างนี้
บอบบางราวกระเบื้องเคลือบที่ พร้อมจะปริแตกได้ทุกเมื่อ แค่
กระทบอะไรหน่ อยก็พร้อมจะลายพร้อยไปทัง้ ตัว...

6
ทว่ายามนี้ เมื่อออกจากบ้านแล้วนางกลับพบว่าจิตใจของ
ตนปลอดโปร่ง ใบหน้ ามีเลือดฝาดเปล่งปลังชุ่ ่มชื้น หรือว่าการลี้
ภัยจนต้ องตกระกํา ลําบากจะทําให้ นางกินได้ มาก ร่างกายจึง
เปลี่ยนมาดีขนึ้ ขนาดนี้ ?

วันนี้ หญิงสาวถึงห้ องเรียนสายกว่าวันอื่ นเล็กน้ อย ซ่ งฮู


หยินและบัณฑิตซ่งได้เข้าสอนกันเรียบร้อยแล้ว แต่นางก็ไม่ได้
โอ้เอ้ถ่วงเวลา รีบสะพายย่ามหนังสือเดินเข้าห้องเรียนไป

ทุกๆ วันต้ องรับมือกับเหล่าซาลาเปาตัวน้ อยที่ มีกาํ ลัง


วังชา ทัง้ ยังคึกคักมีชีวิตชีวากันอย่างล้นเหลือ ดังนัน้ กว่าจะเลิก
ชัน้ เรียนจึงหนักหนาเอาการ สภาพร่างกายย่อมเหนื่ อยล้าอ่อน
แรง ทว่าวันนี้ แปลกนั ก นอกจาก คอแห้ งแล้ว จิตใจของถาน
หวันช่ ิ งยังอิ่มเอม ทัง้ ยังไม่รสู้ ึกอ่อนเพลียเมื่อยล้าแต่อย่างใด

่ ิ งอดคิดเรื่องสังขารของตัวเองไม่ได้ หรือเป็ น
ถานหวันช
เพราะนมแพะม่วงที่ดื่มทุกวัน...มันจะดีขนาดนัน้ เชียวหรือ?

ตอนเที่ยง

หญิง สาวหาเหตุผลมาปฏิเ สธการเชื้ อเชิญ กิน มื้อ เที่ ย ง


ร่วมกันของซ่ งฮูหยิน นางเดินตามทางที่ คดเคี้ยวในหออักษร

7
จนถึงทางออกประตูใหญ่ ทางขวามือของหน้ าประตูใหญ่มีคนผู้
หนึ่ งยืนรออยู่ พอเห็นถานหวันช่ ิ งเดินออกมา ดวงตาเขาก็เปล่ง
ประกาย อี กฝ่ ายรี บ เดิ น ไปหานาง แล้ ว เอ่ ย ด้ ว ยความเคารพ
“คุณหนูเถาเอ๋อ”

คนผู้นี้ ไ ม่ ใ ช่ ใ ครอื่ น เป็ นอดี ต พ่ อ บ้ า นของจวนตระกูล


ถานนัน่ เอง

ถานหวัน่ ชิ งหนั ก ใจเมื่ อ เห็ น เขา ทว่ า ใบหน้ ายัง เผย


รอยยิ้มออกมา “พ่อบ้านหร่วน”

หร่ ว นอี ต ัน ได้ ยิ น คํา เรี ย กขานตนว่ า ‘พ่ อ บ้า น’ อี ก ครัง้


ก็ไม่รู้ว่าหวนนึ กถึงอดี ตหรือขัดเขินกับความเป็ นจริงปั จจุบนั
ใบหน้ าที่ ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนจึงเผยรอยยิ้มขมขื่ นจางๆ
“คุณหนูเถาเอ๋อ แต่ก่อนข้าเป็ นพ่อบ้านในจวนตระกูลถานก็จริง
อยู่ แต่ มาบัดนี้ เป็ นเพียงแค่คนขับรถม้าของตระกูลไป๋เท่ านั น้
ตอนนี้ ไม่เหมาะกับคําว่า ‘พ่อบ้าน’ หรอกขอรับ”

แววตาหญิงสาวหม่นหมอง หนึ่ งนายหนึ่ งบ่าวยืนนิ่งอยู่


ตรงนัน้ โดยไม่มีผใู้ ดปริปาก ผ่านไปนานพอสมควร ถานหวันช่ ิง
จึงเอ่ยเสี ยงแผ่วเบา “ข้าเองก็ไม่ใช่คณ
ุ หนูของจวนตระกูลถาน
เหมือนดังอดีตอีกแล้ว ต่อไปท่านก็เรียกข้าเถาเอ๋อเถอะ”
8
“ไม่ได้ หรอกขอรับ คุณหนู ใหญ่กย็ งั คงเป็ นคุณหนู ใหญ่
ตลอดกาล...”

่ ิ งยกมือห้ามปรามคําพูดที่ไร้ความหมายนี้
ถานหวันช

ในมุ ม หนึ่ ง ที่ อ ยู่ไ ม่ ไ กล มี ค นผู้ห นึ่ ง กํา ลัง จับ ตามองคน
ทัง้ สองโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

ถานหวันช่ ิ งหยุด ‘การคุยเรื่องเก่าในอดี ต’ ด้วยยิ่งพูดก็


ยิ่งมากความ และหากยังโอ้ เอ้ กนั อี ก ในใจนางก็จะยิ่งไม่สงบ
เพราะมัว แต่ เ กรงว่ าการสนทนายาวนานครัง้ นี้ จะทําให้ ผู้คน
สงสัย

“สกุลไป๋ไม่ทาํ ให้ท่านลําบากใช่ไหม?”

“ตัง้ แต่ เ กิ ด เรื่ อ งคราวก่ อ น คนในจวนตระกูล ไป๋ ล้ ว น


เกรงใจข้ามากขอรับ ” ทัง้ สองต่ างเข้าใจดี นี่ หาใช่ เพราะฐานะ
คนขับรถม้าหรือเพราะคุณหนูที่ตกอับไม่แต่เป็ นเพราะชื่อเสี ยง
ของพญายมเซี่ยเฉิงจู่ผชู้ วร้ ั ่ ายต่างหาก

ั เรื่องที่ ถานหวันช
อี กทัง้ ต้งแต่ ่ ิ งถูกหลอกล่อไปตระกูลไป๋
ถูกเปิดโปง คุณชายไป๋ผู้เจ้าชู้กถ็ กู กระบองทหารไปหนึ่ งยก ช่วง

9
นี้ เขาจึงไม่กล้าทําตัวเหิมเกริมที่ ไหนอีกแล้ว แต่ทาํ ตัวเป็ นชาย
หนุ่มใสซื่อบริสทุ ธ์ ิ และยึดมันในความเป็
่ นธรรมแทน

“ตระกูลไป๋ดูแล้วไม่ใช่ สถานที่ ที่ควรอยู่ตลอดไป” ถาน


่ ิ งหยิบห่ อเงินแท่ งออกจากย่ามแล้วยัดใส่ ในมือพ่อบ้าน
หวันช
หร่วน ทุกถ้อยคําแสดงถึงความจริงจัง “ท่านไปเอาทะเบียนขาย
ตัวกลับมา สกุลไป๋ก็กลันแกล้
่ งท่ านไม่ได้อีก เงินที่ เหลือคงพอ
สําหรับเป็ นค่าเดินทางกลับไปหาครอบครัวที่เมืองหลวง”

หร่วนอีตนั ได้ฟังก็ตกใจอ้าปากค้าง เดิมที เขาคิดว่า ด้วย


นิสัยคุณหนูที่ไม่ลืมมิตรภาพเก่าๆ ก็คงอยากให้เขากลับมารับ
ใช้ ข้ า งกาย การออกจากจวนตระกูล ไป๋ แล้ ว มาอยู่ ข้ า งกาย
คุณหนูนัน้ ถือว่าเป็ นบุญคุณมหาศาลต่อเขามาก แค่นางให้เขา
มีอยู่มีกินทุกวันก็พอแล้ว ไม่คิดว่า คุณหนู จะให้ เขากลับเมือง
หลวง

หากบอกว่าไม่อยากกลับเมืองหลวงนัน่ ย่อมโกหก เพราะ


ที่ นั น่ เขายัง มี บ้ า น มี ภ รรยา อนุ ภ รรยา อี ก ทัง้ บุ ต รชายและ
บุตรสาว ครึ่งปี มานี้ ไม่มียามใดที่ เขาไม่กงั วลและร้อนใจ นอน
กลางดึกเขากระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาด้วยอยากจะกลับไป

10
ในที่ สุดก็ได้โอกาสแล้ว แต่กย็ งั อดงงงันไม่ได้ กระทังได้

สติกลับคืนมา ในใจก็สงให้
ั ่ ปฏิเสธ เขาอยู่ในจวนตระกูลถานมา
สามสิบกว่าปี ใครมีนิสัยอย่างไร มีจิตใจเช่ นไร เต็มใจหรือไม่
เต็มใจ เขาย่อมดูออก

ตอนนี้ ฐานะคุณหนูคงไม่ค่อยจะดีนัก เขาเห็นแววตาและ


พฤติกรรมของใต้เท้าเซี่ยในวันนัน้ แล้ว ไม่ว่าอย่างไรคนผู้นัน้ ก็
พึงพอใจและต้องการครอบครองคุณหนูเถาเอ๋ออย่างไม่ปิดบัง
คนที่ ผ่านเรื่องราวต่ างๆ มามากเช่ นเขามี หรือจะไม่เข้าใจว่ า
นางกําลังตกอยู่ในกํามือของชายหนุ่มผูน้ ี้

ความปรารถนาที่ อ ยากจะปกป้ องนายท่ า นและจวน


ตระกูลถานได้มลายหายไปแล้ว เวลานี้ ข้างกายคุณหนู มีเพียง
เด็กรับใช้ ลุ่ยจูคนเดี ยว ไร้คนหนุ นหลัง เกรงว่าความเสี ยหาย
ครานี้ คงได้แต่กลืนลงท้อง หากมีเขา คอยช่วยจัดการ แม้จะไม่
มีวิธีการหรือสถานการณ์ ไหนที่ ทาํ ให้ทุกอย่างหวนคืนกลับมา
ได้ แต่ อ ย่ า งน้ อ ยที่ สุ ด เขาก็อ ยู่ ใ ห้ คุณ หนู เ รี ย กใช้ ไ ด้ หรื อ ให้
ออกไปทําธุระข้างนอกแทนก็จะสะดวกกว่า คุณหนู เถาเอ๋อจะ
ได้เบาใจยิ่งขึน้

เขาต้ อ งการกลั บ ไปหาครอบครั ว ก็ จ ริ งอยู่ แต่ ค ง


เป็ นไปไม่ได้แน่ นอน หร่วนอีตนั กําห่อผ้าในมือ กําลังจะผลักคืน
11
กลับไป แต่ แล้วพลันรู้สึกได้ว่าในห่ อเงินที่ คุณหนู ส่งให้ เขานั น้
เหมือนมีกระดาษแข็งๆ ยัดใส่มาด้วย

ถานหวันช ่ ิ งกดห่อผ้าลงในมือของอดีตพ่อบ้าน จ้องมอง


เขาด้วยสายตาแน่ วแน่ “เรื่องนี้ ช้าไม่ได้ ถ้าช้ า สถานการณ์ จะ
เปลี่ยน ท่ านไปเอาใบทะเบียนขายตัวมาซะ แล้วรีบกลับเมือง
หลวงไปรวมกับญาติๆ เงินนี่ ถึงแม้จะไม่มาก แต่ หากประหยัด
หน่ อยก็คงพอ สําหรับค่าเดินทาง ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องข้า ข้า
อยู่ทางนี้ มีแผนการวางไว้แล้ว...”

สิ่งที่ ถานหวันช
่ ิ งอยากพูดก็พดู จบไปแล้ว นางไม่ได้โอ้เอ้
รอคําตอบ เพียงรีบร้อนเดินจากไป

หร่วนอีตนั เอาถุงเงินสอดเก็บเข้าไว้ในเอว กลับคฤหาสน์


ตระกูลไป๋ด้ วยอาการเหม่อลอย ช่ วงเที่ ยงเป็ นเวลาที่ เจ้านาย
มักจะเรียกใช้งานบ่าว บริเวณโดยรอบจึงไม่มีคน เขารีบตรงเข้า
ไปในห้ อ งที่ อ ยู่ ด้ า นข้ า งห้ อ งโถง หยิ บ กระดาษมาเปิ ดออก
ตัว อัก ษรสวยงามของคุณ หนู เ ถาเอ๋ อ ปรากฏอยู่ บ นนั ้น นาง
เขียนแผนการและสถานะ รวมไปถึง...

12
หร่วนอี ตนั ยิ่งอ่าน สี หน้ าก็ยิ่งเคร่งขรึม หลังจากจดจําที่
อยู่กบั ชื่อคนได้แล้วเขาก็ฉีกกระดาษเป็ นชิ้นๆ แล้วโยนเข้าไป
ในอ่างไฟ ไม่นานเศษกระดาษก็ลุกไหม้จนเหลือเพียงขี้เถ้า

วันต่ อมา ท้ องฟ้ าเพิ่งมีแสงรําไร เงามืดสลัวของใครคน


หนึ่ งก็ขบั รถม้ามุ่งหน้ าออกจากเมืองเว่ยอันอย่างเงียบเชียบ

13
57 แนบชิด

ห้ อ งนอนในบ้า นหลัง เล็ก ช่ ว งฤดูห นาว ถ่ า นในอ่ า งไฟ


กําลังแผ่ความร้อนกระจายไปทัวห้ ่ อง เมื่อรวมกับกํายานกลิ่น
กุหลาบในกระถางหยกขาวเนื้ อละเอี ยดข้ างเตี ย งนอน ส่ งให้
ห้ องอบอวลไปด้วยไออุ่น ทัง้ ยังขับไล่อากาศแห้ งและกลิ่นอับ
ชื้นให้จางหายไป

หญิงงามคนหนึ่ งอยู่ในชุดขาวตัวหลวมใส่สบาย กึ่งนัง่ กึ่ง


นอนอยู่กลางเตี ยงอุ่น ลําแขนเรียวสวยขาวเนี ยนปานหยกคํา้
ยันกับหน้ าผากนวลที่ ก้มอยู่เล็กน้ อย ท่ าทางคล้ายกําลังกลัด
กลุ้ม เนื้ อผ้าแพรหยาบบนเรือนกาย ยิ่งขับเน้ นผมสี ปีกกากับ
ผิวพรรณขาวผุดผ่องให้โดดเด่น นางไม่ได้เกล้าผมปั กปิ่นอย่าง
ผูห้ ญิงทัวไปในเมื
่ อง เพียงมัดรวบไว้อย่างลวกๆ ที่ยิ่งเผยให้เห็น
ถึงความงามพิสทุ ธ์ ิ

บนโต๊ะข้างเตียงวางจานขนมอบไส้สบั ปะรดชิ้นเล็กๆ ไว้


สามชิ้น ดูเหมือนว่าจะเพิ่งทําเสร็จใหม่ๆ เพราะยังร้อนจนได้
กลิ่ น หอมหวาน แต่ ม นั กลับ ถูก หญิ ง งามมองเมิ น มื อ บางใช้
ปลายปิ่นปักผมพลิกกํายานให้ความหอมกลางกระถางธูปไปมา
ควันหอมกรุ่นจึงยิ่งตลบอบอวลไปทัวห้ ่ อง ช่ วยกลบกลิ่นอาย
1
ของเขาที่ ยงั หลงเหลืออยู่ ซึ่งรบกวนอารมณ์ และความคิดของ
นางไม่น้อย

หลายปี ก่ อ นฐานะของถานเฉิ งจี้ อ ยู่ ใ นระดับ กลาง แต่


สามารถสอบและดํ า รงตํ า แหน่ งจอหงวนตั ง้ แต่ ย ั ง หนุ่ ม
นอกจากความปราดเปรื่องและความสามารถที่ โดดเด่ นเป็ น
ทุ น เดิ ม อยู่ แ ล้ ว ดวงชะตาของเขาก็โ ชคดี เ ป็ นพิ เ ศษอี ก ด้ ว ย
เพราะตัง้ แต่ เข้าเป็ นจอหงวนก็พ่งุ ทะยานขึ้นสู่ยศขุนนางขัน้ สูง
กระทัง่ ประสบความสําเร็จได้ เ ป็ นหัว หน้ าขุน นางชัน้ ผู้ใ หญ่ ที่
เรืองอํานาจสูงสุด กล่าวได้ว่า ครึ่งค่อนชี วิตของเขาได้เดินถึง
จุด สูง สุด ของชี วิ ต มี อํา นาจยิ่ ง ใหญ่ เ หนื อ ผู้ค น เป็ นรองเพี ย ง
ฮ่องเต้ ซึ่ งจริงๆ แล้วแม้แต่ ฮ่องเต้ ในเวลานั น้ ก็ยงั ไม่มีอาํ นาจ
เท่าเขา และต้องฟังการตักเตือนของเขาในฐานะอาจารย์ ดังนัน้
ก่อนจะลงมือทําอะไรเหล่าขุนนางข้าราชสํานั กก็ไม่มีผ้ใู ดที่ จะ
ไม่ศึกษาสีหน้ าของเขาอย่างละเอียดเสียก่อน

ทุกอย่างในชีวิตของเขาล้วนสวยงาม ใครเล่าจะคิดว่าวัน
หนึ่ งกลับพลิกผันกลายเป็ นความอัปยศอดสูอย่างโหดร้าย

ถานหวันช ่ ิ งเป็ นเพี ยงสตรี อิสตรีไม่อาจก้ าวก่ ายแทรก


แซงเรื่ อ งการเมื อ งและอํ า นาจของบุ รุ ษ ในราชสํ า นั ก ได้
นอกจากสดับรับฟั งในห้องหนังสือโดย ‘ไร้ข้อคิดเห็น’ หญิงสาว
2
ได้ ร บั ข่ า วสารจากปากฮู ห ยิ น มากที่ สุ ด แต่ ข้ อ มู ล ก็น้ อยนั ก
คําพูดที่ ได้ ฟังไม่กี่ประโยคล้วนต้ องใช้ ความสามารถจึงได้ มา
ทัง้ สิ้น

สองปี ก่อน ถานเฉิงจี้ถึงเพิ่งเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ


่ ิ งพยายามตักเตือนบิดามาก่อนหน้ า จากนัน้ นาง
ทัง้ ที่ถานหวันช
ก็พยายามหาทางเดินให้ตวั เอง

น่ าเสี ย ดายที่ ฮ่ อ งเต้ มี ร าชโองการให้ ยึ ด ทรัพ ย์ แ ละ


เนรเทศเร็วเกินไป จึงไม่มีใครได้ทนั ตัง้ ตัว

ยามนั น้ นอกจากลุ่ยจูแล้ว นางยังมี สาวใช้ ที่ซื่อสัตย์อยู่


ข้างกายอีกสี่คน สาวใช้ทงั ้ สี่ล้วนได้รบั การคัดเลือกมาจากถาน
หวันช่ ิ งด้วยตนเอง ก่อนเกิดเรือ่ ง นางได้มอบเงินจํานวนมากให้
เป็ นสินเดิมแก่สาวใช้เพื่อเอาไปตัง้ ตัว จะได้ไม่ต้องพลอยมารับ
เคราะห์ไปด้วย

พอมาถึ ง ตอนนี้ ระหว่ างคนที่ มีจิตอาฆาตพยาบาท กับ


หัวหน้ าเด็กรับใช้ที่จงรักภักดี นางขอเลือก...อย่างหลัง

3
ถานหวันช่ ิ งขอเพียงอดีตหัวหน้ าเด็กรับใช้ที่กลายเป็ นฮู
หยินของเจ้าของสํานั กคุ้มกันภัยยังคงซื่ อสัตย์จงรักภักดี และ
ห่วงใยนางซึ่งเป็ นอดีตเจ้านายด้วยความจริงใจเท่านัน้

เมื่อนึ กถึงสิ่งที่ ตนเขียนใส่ กระดาษให้ กบั พ่อบ้านหร่วน


แล้วต้องครุน่ คิดอยู่หลายตลบ กระทังมั ่ าไม่มีช่องโหว่ นาง
่ นใจว่
จึงถอนใจโล่งอก

หญิงสาวคิดว่าปลายปี แล้วงานของทหารคงยุ่งมาก อี ก
ทัง้ เมื่อวานเซี่ ยเฉิงจู่กอ็ ิ่ มหนํ าจนพอใจไปแล้ว ดังนัน้ เขาคงไม่
มายุ่งวุ่นวายกับนางอีกหลายวัน

นางจึงตัง้ ใจจะใช้ โอกาสนี้ คิดอย่างละเอี ยดถี่ถ้วน ตอน


แรกที่ นางต้ องการหนังสือสัญญา เพราะเชื่อว่าจะทําให้ทงั ้ สอง
ฝ่ ายได้ประโยชน์ และเป็ นวิธีที่ดีที่สดุ แล้ว แต่ในที่สดุ สัญญาฉบับ
นัน้ ก็ถกู ฉี กทิ้งไป แล้วนางควรจะทําอย่างไรต่อ...

ตอนนี้ เ ป็ นเวลาบ่า ยแล้ ว หญิ ง สาวจึ ง ตัด สิ น ใจจะเอน


หลังพักผ่อน รอให้ เรี่ยวแรงกลับคืนแล้วค่ อยว่ากัน ทว่าหญิง
สาวประเมินแม่ทพั หัวเมืองที่ ทงั ้ หนุ่มแน่ นและมีกาํ ลังมหาศาล
ตํา่ เกินไป...

4
ถานหวัน่ ชิ งอยู่ ใ นสภาพครึ่ ง หลับ ครึ่ ง ตื่ น นางยัง คง
ง่วงงุนไม่หาย

จังหวะนั น้ เองก็มีเสี ยงประตูใหญ่ เปิด ตามมาด้วยคนผู้


นัน้ ที่ แบกกวางตัวผู้ที่ยงั จัดการไม่เรียบร้อยเดินเข้ามาบริเวณ
ลานบ้าน

ท่ านแม่ทพั ใช้มีดได้คล่องแคล่วอย่างกับคนฆ่ าสัตว์ อี ก


ทัง้ ใช้ขวานแทนมีดได้อย่างเลือดเย็นและป่ าเถื่อน เขาทัง้ ตัดทัง้
หัน่ โดยใช้ เ วลาไม่ ถึ ง เค่ อ ก็จ ดั การส่ ว นหัว กระดูก เนื้ อ เอ็น
เลื อ ด และสุ ด ท้ า ยคื อ ของลํ้า ค่ า ...เขากวางอ่ อ นหนึ่ งคู่ จ น
เรียบร้อย ทัง้ หมดล้วนถูกจัดการอย่างหมดจดแล้วสังให้ ่ ลุ่ยจู
นํ า ไปจัด เก็บ ให้ ดี จากนั ้น เขาก็ตุ๋ น อาหารบํา รุง ร่ า งกายสอง
อย่างให้กบั คุณหนูของนาง

ลุ่ยจูที่ยืนมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ มาตลอดถึงกับขาสัน่


ระริก นางมองมือเขาแยกเนื้ อแยกเลือดได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่
รู้ทําไมจู่ๆ ก็นึกถึงวันที่ เข้ามาเมืองนี้ ภาพโลหิตไหลหลังเป็ ่ น
แม่ นํ้ า ที่ ป ระตู เ หนื อ อี ก ทัง้ ท่ า ทางและวิ ธี ห ัน่ เนื้ อ เหมื อ นหัน่
แตงกวาของใต้ เท้ า ดูไปแล้วน่ าจะฝึ กฝนมาจากการฆ่ าหันศพ ่
เสียมากกว่า

5
สาวใช้พยายามปลุกใจตัวเองให้กล้าจะได้เรียกร้องความ
เป็ นธรรมให้คุณหนู แต่เมื่อเห็นภาพ หยดเลือดที่ ไหลซึมลงไป
ในดิน อี กทัง้ ที่ ติดอยู่บนใบมีดตรงหน้ า ความกล้าก็หายวับไป
กับตา ได้แต่มองตามหลังใต้เท้าที่นําเนื้ อหายเข้าไปในครัวเพื่อ
ทํา นํ้ า แกงให้ คุ ณ หนู จนกระทัง่ ถึ ง อาหารมื้ อ คํ่า เขาก็ย ัง ไม่
ออกมาเลย

เซี่ ยเฉิงจู่รีบล้างมือ เดินจํา้ อ้าวออกมาจากห้องครัว แล้ว


เลิกม่านหนาขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้ อง กลิ่นหอมกรุ่นจาก
ด้านในลอยมาปะทะจมูก ภาพหญิงสาวกําลังนอนหลับพักผ่อน
อยู่บนเตียงอุ่นแต่ไม่วายยังขมวดคิ้วเล็กน้ อย ทําให้คนเฝ้ ามอง
รูส้ ึกเจ็บปวดใจไปด้วย

ตัง้ แต่ชายหนุ่มเดินเข้ามา สายตาก็จบั จ้องอยู่ที่ร่างนวล


เนี ยนบอบบางตลอดเวลา โดยไม่ละสายตาไปทางอื่นเลย

อัน ที่ จ ริ ง ถานหวัน่ ชิ งตื่ น แล้ ว ในใจนางกํา ลัง สับ สน


วุ่น วาย จึ ง ยัง ไม่ พ ร้อ มที่ จ ะเจอหน้ า คนผู้นี้ ใ นยามที่ ต นกํา ลัง
อ่อนแอ ซึ่งอาจทําให้นางคล้อยตามเขาได้ง่าย แล้วไม่นานเขาก็
คงเบื่ อ แต่ ห ากต่ อ ต้ า นเขาอย่ า งรุ น แรง ก็ อ าจทํ า ให้ เ ขา
เอือมระอานางได้เช่นกัน

6
ไม่ว่าจะเลือกทางใด นางก็ต้องพึ่งพาคนผูน้ ี้ อยู่ดี

ตั ง้ แต่ ต้ น จนถึ ง ตอนนี้ หญิ งสาวไม่ เ คยคิ ดไปถึ ง ขัน้


แต่ งงาน เพราะรู้ดีว่าตนกับชายหนุ่ มไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางล้วนเป็ นการกระทําที่ ไร้สติ
ต่ อให้ ทงั ้ สองมองข้ามโดยไม่เอ่ ยถึงเรื่องแส้ ที่ฟาดมารดาของ
เขาเมื่อปี นัน้ ด้วยฐานะของนาง...สําหรับ เขาก็ยงั เป็ นอันตราย
อยู่ดี เหมือนเป็ นลูกระเบิดที่ฝังลึก แค่รอเวลาที่จะระเบิดเท่านัน้

นางสามารถคาดคะเนเหตุการณ์ ล่วงหน้ าได้เลยว่าหาก


วันหนึ่ งเซี่ ย เฉิงจู่ได้เข้าไปอยู่เมืองหลวง ยามนั น้ เขาอาจต้ อง
เลือกระหว่างอนาคตที่ ก้าวหน้ ากับภรรยา ซึ่ งเขาอาจจะเลือก
อย่างแรก ส่วนการหย่าร้างแม้จะไม่ใช่เรื่องที่ทาํ กันง่ายๆ แต่ใช่
ว่าจะทําไม่ได้

่ วิตนี้
บนโลกใบนี้ อะไรล้วนไม่แน่ นอน นอกเสี ยจากชัวชี
เขาจะอยู่เป็ นผู้ปกครองเมืองเล็กๆ ในเขตชายแดนไกลโพ้น
แห่งนี้

แต่หนทางนี้ ช่างยากที่จะเป็ นไปได้จริงๆ

7
นางไม่ใช่สาวน้ อยไร้เดียงสาที่จะคิดว่าเขาอาจเลือกสละ
อนาคตของตัวเอง เพราะความคิดเช่นนัน้ ช่างเด็กเหลือเกิน แม้
นางจะเป็ นคนสองโลก แต่กอ็ ยู่ในโลกนี้ มานานพอควรแล้ว จึง
ย่อมเข้าใจความเป็ นไปอย่างถ่องแท้

ที่ สาํ คัญ ร่างกายนี้ มีช่วงอายุที่สนั ้ กว่าคนทัวไปมาก


่ การ
คบกับเขาจึงเป็ นเรื่องลําบากใจสําหรับนาง อี กทัง้ นางไม่อาจ
คลอดบุ ต รชายหญิ ง ซึ่ ง เป็ นผู้สื บ สกุล ให้ ก ับ ชายหนุ่ มได้ นั น่
เพราะร่างกายของนางบกพร่องมาแต่กาํ เนิด การตัง้ ครรภ์และ
คลอดบุตรอาจทําให้ นางต้ องตาย หรือไม่หลังคลอดบุตรก็จะ
สูญสิ้นกําลังวังชา มี ชีวิตอยู่ต่อไปได้ อีกไม่กี่ปี เช่ นเดี ยวกับที่
มารดาคลอดนางแล้วจากไป

คนในจวนตระกูลถานดูแลเอาใจใส่มารดาของนางเป็ น
อย่ า งดี มิ เ ช่ น นั ้น อี ก ฝ่ ายคงทนอยู่ ไ ม่ ไ ด้ ถึ ง สองปี แต่ สํา หรับ
ตัวเอง นางกลัวว่าตนจะอยู่ได้ไม่ถึงปี ด้วยซํา้ นี่ คือหนทางแห่ง
ความตาย ทว่ า นางอยากมี ชี วิ ต รอดอย่ า งน้ อยสัก ยี่ สิ บ หรื อ
สามสิบปี ดังนั น้ หากแต่ งงานไปแล้วอาจมีชีวิตยืนยาวที่ สุดไม่
ถึงสองปี นางย่อมไม่มีวนั ยอมให้มนั เกิดขึน้ อย่างแน่ นอน

่ ิ งมีร่างกายที่ คล้ายมารดาก็คือมีลูกยาก หาก


ถานหวันช
ไม่มีลูกอาจอยู่รอดปลอดภัยได้หลายปี แต่แล้วหลังแต่งงานสิบ
8
ปี มารดากลับมีนางโดยบังเอิญ ดังนัน้ การมีลูกยากก็ไม่ใช่จะไม่
ตัง้ ท้อง ไม่มีความปลอดภัยที่แน่ นอนเลย

‘ลูก’ สําหรับถานหวันช่ ิ งไม่ใช่ ทูตสวรรค์ตวั น้ อยที่ มีปีก


แต่เป็ นยมทูตตัวร้ายที่มาเร่งนางให้ตายเร็วขึ้น ทว่าเรื่องนี้ ยาก
จะหลี ก เลี่ ย ง เพราะยุ ค สมัย นี้ ยัง ไม่ มี ก ารคุ ม กํา เนิ ดที่ ไ ด้ ผ ล
สมบูรณ์

นอกจากนี้ นางยัง ต้ องคอยกินยาที่ ใช้ รกั ษาการหนาว


เหน็ บอันเป็ นโรคที่มีมาแต่กาํ เนิด แม้แต่หน้ าร้อนที่ร้อนอบอ้าว
ร่างกายของถานหว่นช ั ิ งก็ยงั เย็น ดังนัน้ หนทางที่ จะรักษาชี วิต
ให้ อยู่รอดปลอดภัยมีเพียงทางเดี ยว คือหนี ออกจากที่ นี่ไปให้
ไกล...ไกลกว่านี้ อีกหน่ อย

ขณะที่ ถานหวันช ่ ิ งกําลังครุ่นคิดด้ วยจิตใจว้าวุ่นอยู่นัน้


มื อ ที่ ว างอยู่ บ นฟู ก นุ่ มก็ถ ูก กอบกุม แน่ นด้ ว ยอุ้ ง มื อ แข็ง แรง
นิ้วหัวแม่มืออีกฝ่ ายนวดคลึงมือนางอย่างระมัดระวัง หญิงสาว
รูส้ ึกสบายจนไม่อยากเปิดเปลือกตา

ยามนี้ ใต้ เท้ าเซี่ ยกําลังก้มหน้ ามองนิ้วที่ เล็กกว่านิ้วของ


เขาหลายเท่ า เขาไม่เคยเจอคนที่ บาํ รุงรักษาตัวเองจนผิวขาว

9
ผ่องนวลเนี ยนราวกับหยกขาวเช่นนี้ มาก่อน นิ้วเรียวยาวสีชมพู
ช่างนุ่มนิ่ม

ชัวขณะนั
่ น้ ทําให้นึกไปถึงเมื่ อคืนที่ นางถูกเขาปรนเปรอ
เนื้ อ นวลเกลี้ ย งเกลาทัว่ ทัง้ ร่ า งโอนอ่ อ นราวกับ ลู่ ไ ปตามลม
พร้อมกับเสียงร้องคราง ดวงตาประหนึ่ งท้องฟ้ ายามราตรีค่นู ัน้
ของใต้ เท้ าปกติจะเย็นเยียบราวกับสระน้ํ าลึก ทว่าเวลานี้ กลับ
สุกสกาวราวกับสีท้องฟ้ าใกล้รงุ่

“รบกวนเจ้าหรือเปล่า? ร่างกายดี ขึ้นบ้างแล้วใช่ ไหม?”


เมื่อเห็นคนที่ นอนอยู่ตื่นแล้ว เซี่ ยเฉิงจู่ที่เฝ้ ามองมานาน ห่ าง
กันแค่เอื้อมแต่ บรรยากาศกลับ คลุมเครือไร้เหตุผลก็เอ่ ยถาม
นํ้าเสียงที่เปล่งออกมาแหบพร่าอยู่ในลําคอ

หากตอบออกไป เกรงว่าความหมายจะกํากวมเหมือน
บอกนั ย เชื้ อ เชิ ญ แต่ ห ากไม่ ต อบ นางก็ก ลัว เขาจะบุ่ ม บ่ า ม
ตรวจสอบ พอนึ กถึงเรื่องเมื่อคืนวานแล้ว...จําต้องปิดปากเงียบ
ไม่เปล่งวาจาใดๆ แต่รีบลุกขึน้ จากหมอนทันที

ตอนนี้ ท้ อ งฟ้ าเริ่ ม สลัว แสงสนธยาทํา ให้ ห้ องสว่ างพอ


ทว่าเซี่ ยเฉิงจู่โน้ มตัวลงมาจนนางรู้สึกว่ าศี รษะของเขาบดบัง
ความสว่างยามโพล้เพล้จนมืดครึม้ ทําให้เกิดบรรยากาศกดดัน
10
เป็ นที่ สุด หญิงสาวทรงตัวไม่ค่อยถนัดอยากดึงมือออกจากอุ้ง
มืออุ่น แต่ขยับไม่ได้เลย

ข้ อ มื อ นุ่ ม ลื่ น ทํา ให้ เ ขานึ กถึ ง ผิ ว นุ่ มนิ่ มที่ เ คยได้ ส ัม ผัส
จากที่ ห่ า งเป็ นฉื่ อ ก็ใ กล้ เ ข้ า ไปเรื่อ ยๆ จนเหลื อ เพี ย งชุ่น ชาย
ตรงหน้ าจ้องนางเขม็ง ไม่ร้เู ขาจะเอาอย่างไร เดี๋ยวทําเหมือนจะ
แก้แค้น เดี๋ ยวทําประหนึ่ งว่าสนใจ บางครัง้ ก็ทํา ราวกับว่านาง
เป็ นของเล่น

จู่ๆ มือหยาบกร้านก็ดึงรัง้ กลุ่มผมจนหนังศีรษะของนาง


ตึง หญิงสาวสันเท
่ ิ้ มด้วยความเจ็บปวด

“ใต้ เท้ าเซี่ ย ท่ านปล่อยข้าเดี๋ ยวนี้ ! ท่ านทําข้ าเจ็บ หมด


แล้ว” ถานหวันช ่ ิ งดึงดันขัดขวาง เซี่ยเฉิงจู่ไม่ยอมโอนอ่อนแต่ก็
ไม่ได้แข็งกร้าว

“ร่างกายดี ขึ้นแล้วหรือ?” เขายังคงยํา้ ถามประโยคเดิม


เมื่อครู่ ต้องการคําตอบจากนางไม่จบไม่สิ้น

ทําไมเขาต้องถามเจาะจงชัดเจนขนาดนี้ ?

่ ิ งซึ่งถูกโอบอยู่ เอ่ยปากหยังเช
“ไม่ค่อยดี” ถานหวันช ่ ิง

11
“ให้ข้าดูหน่ อย”

หญิงสาวจําต้องสะกดกลัน้ อารมณ์สดุ ฤทธ์ ิ “ดี ดีขนึ้ แล้ว”

มือใหญ่ ที่เตรียมจะแกะสายรัดเอวนางชะงักนิ่ง สักพัก


เขาจึงหัวเราะออกมา

นี่ คือท่าทีที่เห็นจนชินจากคนเผด็จการผูน้ ี้

เมื่อได้คาํ ตอบอันเป็ นที่ พอใจแล้ว เขาจึงเอ่ยต่ออย่างไม่


มีความลําบากใจเลยว่า “หิวหรือยัง? กินข้าวกันเถอะ อาหาร
เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”

อาหารมือ้ คํา่ อุดมสมบูรณ์ อีกทัง้ มีรสชาติจืดอย่างที่ถาน


่ ิ งชอบกิน บนโต๊ะเต็มไปด้วยเนื้ อ...ทัง้ ตุ๋นเนื้ อ นํ้าแกงเนื้ อ
หวันช
่ กก็เป็ นโจ๊กเลือดกวาง ก้อนเลือดสดใหม่อ่อนนิ่ม
แม้กระทังโจ๊
หอมฉุย นํ้าแกงก็หอมอร่อย

ทว่าลุ่ยจูแทบไม่ร้รู สชาติอาหารและออกจะกลืนยากอยู่
สักหน่ อย เพราะเห็นสายตาใต้เท้าเซี่ ยไม่ละไปจากคุณหนูเลย
แม้แต่ น้อย แต่ มือยังคีบเนื้ อไม่หยุด นางไม่แน่ ใจว่าแสงเที ยน
เป็ นเหตุหรือไม่ ทําไมจึงรู้สึกว่าใต้เท้าเซี่ ยไม่กะพริบตาบ้างเลย

12
จดจ้ อ งอยู่ แ ต่ ที่ ป ากของคุณ หนู ลุ่ ย จูเ ห็น แล้ ว ใจระทึ ก อย่ า ง
หวาดหวัน่

ทันที ที่กินเสร็จ ใต้เท้าเซี่ ยคล้ายมีเรื่องที่ ต้องการพูดกับ


คุณหนู จึงไล่ล่ยุ จูออกไป

ถานหวันช่ ิ งที่ กาํ ลังก้มลงสวมรองเท้ าที่ วางอยู่ข้างเตี ยง


อุ่น ถูกชายหนุ่มรวบร่างบอบบางจากข้างหลัง เขากระซิบเสี ยง
ตํ่าข้ างหูอย่ างแผ่วเบา จากที่ ยืนอยู่ข้างเตี ยงตอนนี้ แผ่น หลัง
บางกลับแนบไปกับแผงอกกว้าง

เซี่ยเฉิงจู่ซุกไซ้เรือนร่างนาง มือหนาประโลมลูบไล้คนใน
อ้อมกอด ท่ ามกลางแสงสลัว หญิงสาวสัมผัสได้ถึงร่างกายอุ่น
ร้อนที่ กาํ จายความอบอุ่นเข้าครอบคลุม ดังตนนั่ ง่ อยู่ในกองไฟ
ของชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่แข็งแรงและปราดเปรียว

ถานหวันช่ ิ ง ไม่รู้มาก่ อนว่ าร่างแกร่งจะมี ความอุ่นร้อน


มากขนาดนี้ ร้อนขนาดที่คนสติสมั ปชัญญะดีๆ อย่างนางยังถูก
ลมหายใจของเขากล่ อ มเกลาจนร่ า งกายสั น่ ไหว จิ ตใจ
กระเจิดกระเจิง

13
นางเผลอร้องครางเบาๆ ยามที่ ริมฝี ปากของอี กฝ่ ายปิด
สนิ ทแนบชิ ด แทรกลิ้ น ร้ อ นเข้ า มาในโพรงปาก แล้ ว ตัก ตวง
ความอร่อยหวานหอมอย่างเร่าร้อน

14
58 ลงโทษ

ในห้ องนอนที่ มืดสลัว ภายใต้ แสงเที ยนที่ วูบไหว ความ


ร้อนได้ แผ่กาจายไปทัวเตี ่ ยงนอน สองใบหน้ า แนบชิดแทบไร้
ช่องว่าง ไม่ร้วู ่าเขาต้องการแก้แค้นหรือต้องการทรมานนางกัน
แน่ ภายใต้ แสงเที ยนสลัว เมื่อเห็นใบหน้ าชายหนุ่ มผู้ชา่ ชองนี้
แล้ว ก็ยากที่จะจินตนาการได้ว่า เขาเป็ นเพียงชายหนุ่มอายุสิบ
เก้าปี เท่านัน้

คนโบราณมักจะโตก่อนวัย โดยทัวไปผู ่ ้ชายอายุสิบสี่ สิบ


ห้าก็สามารถสร้างครอบครัวเป็ นฝัง่ เป็ นฝาได้ อายุสิบหกสิบเจ็ด
ก็สามารถแต่งเมียมีลูก ผู้ชายช่วงอายุยี่สิบเป็ นวัยหนุ่มแน่ นที่ดี
ที่สดุ ผูช้ ายที่อายุเท่านี้ ส่วนใหญ่จะได้ลกู ชายหญิงที่ตวั โตเท่าหัว
เข่ากันแล้ว สามารถเป็ นเสาหลักให้ ครอบครัวและรับผิดชอบ
ครอบครัวได้แล้ว

ถึ ง แม้ ค วามคิ ด และอุป นิ สัย ของถานหวันช


่ ิ ง จะค่ อ ยๆ
เปลี่ยนแปลงเพราะถูกกล่อมเกลาด้วยสภาพแวดล้อมมาหลาย
ปี แต่สาหรับช่วงอายุสิบเก้าถึงยี่สิบปี ในความคิดของนางถือว่า
ยังเป็ นเด็กหนุ่มอยู่เลย ทว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ านี้ ได้หลุดพ้น

1
จากความไร้ เ ดี ย งสาต้ ังแต่ อ ายุ ย ัง น้ อย แถมยัง ช่ า ชองมี
ประสบการณ์มากกว่านางหลายเท่านัก

บุรษุ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวพรรณคลา้ เพราะกราแดด สันจมูก


โด่ง ลมหายใจร้อนผ่าวดุจไอของดวงอาทิตย์ เขากดจูบไปทัว่
กายนางอย่างดุดนั เนื้ อตัวหนาหนักที่ ทาบลงบนร่างทาให้ร้สู ึก
ราวกับ ถูกภูเขากดทับ ไว้ สิ่ ง เหล่ านี้ ล้วนเตื อนสติน างไม่หยุด
หย่ อ นว่ า ไม่ ส ามารถน าชายผู้นี้ ไปเที ย บเคี ย งกับ เด็ก หนุ่ ม
วัยละอ่อนไร้เดียงสาในยุคหลังได้เลย

หญิงสาวยอมรับว่าตัวเองเดาความคิดของเขาไม่ออก
ทั ง้ หมด ตั ว ตนของเขาน่ าจะถูก หล่ อ หลอมมาจากความ
ยากลาบากในการดาเนินชีวิต เหมือนงานปัน้ ที่ขรุขระไม่เข้ารูป
เข้ารอย ต้องใช้ความพยายามและความมุมานะอย่างมากกว่า
จะสาเร็จได้

การกระทาของเขาก็เช่นกัน...มีแต่จะมุ่งไปข้างหน้ าอย่าง
องอาจ ไม่มีความลังเล และไม่มีคาว่าถอย ตัวนางเองก็มีส่วนที่
ทาให้เขาเป็ นเช่นนี้ ถานหวันช ่ ิ งไม่รวู้ ่ามันเป็ นความผิดของนาง
เมื่ อ ครัง้ อดี ต ที่ ค วรต้ อ งส านึ กในภายหลัง หรื อ เป็ นความดี
ความชอบของนางกันแน่ ที่ทาให้เขากลายเป็ นเช่นนี้

2
ความเผด็จการของชายบนเตี ยง ทาให้ สติสมั ปชัญ ญะ
ของนางล่องลอย

ที่ เรียกว่า ‘เผด็จการ’ ไม่ใช่เพราะท่าทางพาลของเขา แต่


เป็ นจิตใจเขาที่ ควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ คนประเภทนี้ ยากจะ
รับมือ

ตัง้ แต่ต้นจนบัดนี้ ดวงตาคมดุจดวงตาเหยี่ยวของเขาจ้อง


เขม็งอยู่ที่นางตลอดเวลา ทาให้ใบหน้ าของหญิงสาวแดงกา่ ลาม
ไปถึงทรวงอก ในร่างรูส้ ึกร้อนระอุดงเอาไฟมาลวก
ั่

นางตัว แข็ง ทื่ อ รู้สึ ก ไม่ เ ป็ นตัว ของตัว เองจนต้ อ งหลบ


สายตาของเขา แต่ถกู อีกฝ่ ายดึงกลับมาทุกครัง้ ให้มองตากันไม่
จบไม่สิ้น ภายใต้ สายตาคู่คม ถานหวันช ่ ิ งไม่อาจซ่ อนเร้นหรือ
ปกปิดความคิดในแววตาของตนได้ หญิงสาวทาได้เพียงมองลึก
เข้าไปในแววตาดุจเปลวไฟของเขา นางตระหนกตกใจกับการ
ตอบสนองของตัวเอง จนเกิดความวุ่นวายผุดขึ้นในใจไม่หยุด
การที่ ต้องรับผิดชอบทัง้ หัวใจและร่างกายพร้อมกัน ทาให้นาง
ยากจะควบคุมอารมณ์ ได้ แม้นางจะเป็ นคนสองภพ แต่ ไม่เคย
ประสบกับพฤติกรรมที่เนื้ อตัวแนบชิดอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ มา
ก่อน ราวกับร่างกายจะพังทลาย ดวงตาพร่าพรายจนแทบจะ
สลบไสล แต่กลับมีสติรบั รูท้ ุกการกระทา
3
หญิงสาวได้แต่ มองดูเขาค่อยๆ ละเลี ยดชิมรสชาติจาก
เรือนร่างนาง ขาเล็กอ่ อนระทวย จิตใจเหมือนล่ องลอยไปยัง
สถานที่ไกลแสนไกล

รอจนกระทังหญ ่ ิ งสาวถลาลึกเข้าสู่ห้วงอารมณ์วาบหวาม
จิต ใต้ ส านึ กมัว เมาในที่ สุด และเริ่มที่ จะใกล้ แตะขอบสวรรค์
พลันได้ยินน้าเสียงแหบพร่าอบอุ่นแฝงความยัวยวนอยู ่ ่ในทีแว่ว
มาข้างหู

“ทาไมพ่อบ้านจวนตระกูลถานถึงกลับเมืองหลวงยามดึก
ดื่น ไม่ให้เขาอยู่ที่นี่แล้วหรือ?”

“เพราะ...เพราะว่าข้า...” ถานหวันช ่ ิ งกาลังเคลิบเคลิ้ม


จิตสานึ กยังกู่ไม่กลับ จึงโพล่งออกไปเช่นนัน้ ทว่าเศษเสี้ยวสติที่
ยังหลงเหลือดึงตัวเองกลับมาได้ในที่ สุด ทัง้ ที่ ดวงตายังปิดอยู่
แต่คาตอบกลับชัดเจนยิ่ง

“เพราะเขาอายุมากแล้ว อยากกลับบ้านคืนถิ่น เขาเรียก


ข้าว่ าคุณหนู ใหญ่ ข้าก็ต้องคานึ งถึงมิตรภาพแต่ เก่ าก่ อน เขา
ปรารถนารี บ กลับ ไปอยู่ พ ร้ อ มหน้ าพร้ อ มตากับ ครอบครัว ”
ขณะที่ คาพูดพรังพรู
่ ออกมาน้ าเสี ยงและลมหายใจก็ยงั ไม่คงที่

4
ขณะที่ ฟัง มือหยาบกร้านของชายหนุ่มก็ค่อยๆ ปั ดเรือนผมดา
ขลับชื้นเหงื่อบริเวณหน้ าผากไปด้านหลัง เผยให้เห็นหน้ าผาก
เกลี้ยงเกลา กิริยาของเขาแผ่วเบาอบอุ่นดังแพรต่
่ วน แต่ดวงตา
แหลมคมกลับจับจ้องนางตาไม่กะพริบ ราวกับอยากจะมองให้
ทะลุไปถึงความคิดในใจอย่างแท้จริง

่ ิ ง เป็ นปกติ ทว่ าหน้ าผากกลับ ชื้ น


สี หน้ าของถานหวันช
เหงื่อ เขาจึงหยิบผ้ามาซับให้

หญิ ง สาวคิ ดว่ า อาจเป็ นเพราะพ่ อ บ้ า นหร่ ว นเร่ ง รี บ


เกิ น ไปจึ ง ท าให้ ค นอื่ น สงสัย ความจริ ง นางก็ค าดการณ์ ไ ว้
แล้ ว แต่ น างรอไม่ ไ หวจริ ง ๆ สถานที่ ที่ อ วี้ ฉี อยู่ ห่ า งจากเมื อ ง
หลวงถึงสามร้อยลี้ แม้จะควบม้าไม่หยุด การไปกลับก็ยงั ต้องใช้
เวลานานถึงสองเดือน และกว่าอีกฝ่ ายจะเตรียมตัวแล้วมาได้ก็
อาจใช้เวลาสามถึงสี่เดือน

ส าหรับ นางแล้ ว ยิ่ ง ปล่ อ ยเวลาเนิ่ นนานออกไปเท่ าไร


ก็ยิ่งไม่เป็ นผลดีมากขึน้ เท่านัน้

่ ิ งอยู่ตลอดจนกระทังนางกล่
ชายหนุ่ มจ้องถานหวันช ่ าว
จบโดยไม่เอ่ยขัด สายตาจับสังเกตและประเมินใบหน้ านางไม่
หยุดหย่อน
5
หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันข้างให้ สี หน้ ายังคงเดิม
ไม่แปรเปลี่ยน ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงตลอดเวลาโดยที่ นางไม่
อาจควบคุมได้ ยิ่งตื่ นเต้ นหัวใจก็ยิ่งเต้ นระรัว ไม่ร้วู ่าเขาจะได้
ยินหรือไม่

ถานหวัน่ ชิ ง มันใจว่
่ า หลัง จากพ่ อ บ้ า นหร่ ว นอ่ า นเนื้ อ
ความในกระดาษแล้ว เขาจะต้องทาลายมันทันที อย่างแน่ นอน
ต่อให้เซี่ ยเฉิงจู่สงสัย ในเมื่อไม่มีหลักฐานเสียอย่าง แค่เดินทาง
หนึ่ งวันหนึ่ งคืนก็เพี ยงพอให้ พ่อบ้านหร่วนออกจากเขตเมือง
เว่ยอันแล้ว พอคิดได้เช่นนี้ ใจจึงสงบลงมาเล็กน้ อย

ในที่ สุดหัวใจของนางก็เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ จู่ๆ เขาก็ยื่น


มือดึงร่างบางเข้าไปแนบชิดยิ่งขึ้น แล้วซุกซบกับแผ่นหลังของ
นาง

“ถ้าเจ้าอยากจะพบกับถานเฉิงจี้กไ็ ม่ใช่ ว่าจะไม่ได้ เว่ย


อัน กับ เฟิ งหลี ใกล้ ก นั มาก ข้ ากับ รองแม่ ท ัพ เมื องเฟิ งหลี ส นิ ท
สนมกัน”

เมืองเฟิงหลีอยู่ทางตะวันตกเฉี ยงเหนื อห่างจากเมืองเว่ย


อันไม่ถึงร้อยลี้ เป็ นสถานที่ ทุรกันดารและล้าหลัง เพราะตัง้ อยู่
แถบชายแดนจึ ง มี พ วกคนเถื่ อ นมารบกวน ตลอดทั ้ง ปี
6
พอเขาพูดจบ นางก็ยงั เงียบกริบ ไม่มีถ้อยคาใดระหว่างคนทัง้ คู่

ั ิ งก็ถกู พลิกตัวให้ หนั กลับมา นิ้วมือ


ทันใดนั น้ ถานหว่นช
เรี ย วยาวผวาไปจับ ขอบเตี ยง นางมองเขาด้ ว ยดวงตาที่ เ บิ ก
กว้าง ชายหนุ่ มขยับมือไปกุมมือนางไว้แน่ น มือแกร่งกอบกุม
นิ้วทัง้ สิบของนาง พลางกดกายแกร่งเข้าหาร่างที่บอบบางโดยที่
ั ว
อีกฝ่ ายไม่ทนั ได้ต้งตั

่ ิ งไม่ได้เปล่งเสี ยงร้องแม้แต่ น้อย เส้ นผมบน


ถานหวันช
ศีรษะสยายออกเป็ นริ้วคลื่น เป็ นเพราะความเจ็บปวดเกิดขึ้น
อย่างฉับพลัน ทาให้นางสะดุ้งเฮือก

เมื่อได้ตวั คนมาไว้ในกามือ ก็ประหนึ่ งว่าเขามิได้ สนใจ


อะไรอีกแล้ว ชายหนุ่มไม่ได้ระมัดระวังเหมือนก่อนหน้ า นางจึง
ได้แต่อดทน สองมือจับขอบเตียงแน่ น เขาไม่ยอมปล่อยนางไป
โดยง่าย เพราะมีความโกรธปะปนอยู่ในห้วงอารมณ์ จึงอยากให้
นางเจ็บปวดเสียบ้าง

เล็บของถานหวันช ่ ิ งจิกอยู่กบั ขอบเตียง นางกัดริมฝี ปาก


แน่ น เบื อ นหน้ า ไปทางอื่ น แล้ ว บอกตัว เองว่ า ยัง เหลื อ อี ก สี่

7
เดือน...ร้อยกว่าวัน ทาไมถึงนานขนาดนี้ ...แต่ เขาอาจจะเบื่อ
นางก่อนก็เป็ นได้

ในเมื่ออีกฝ่ ายต้องการแก้แค้น เขาก็สามารถทาได้อย่าง


ไม่ลงั เลและไม่มีคาว่าเสี ยใจ นางทาได้แค่รอ...รอให้ถึงวันนั น้
เขาก็จะปลดปล่อยนาง ดังนัน้ นางต้องอดทน...ต้องอดทนให้ถึง
ที่สดุ

มื อ เล็ก ทัง้ สองข้ า งสัน่ ระริ ก ในอุ้ง มื อ ใหญ่ ที่ ก อบกุม อยู่
เซี่ ยเฉิงจู่มองใบหน้ าหญิงสาวที่ เริ่มเคลิบเคลิ้มและคล้อยตาม
เขากุมมือนางแน่ นขึ้นพลางจับจ้องลาคองามระหงด้วยสี หน้ า
มืดครึม้ ความโกรธล้นทะลักออกมาจากสายตา

เดิมที เขาอยากจะผ่อนแรง แต่ กลายเป็ นออกแรงหนั ก


ขึ้น เพื่อให้ นางได้ชิมรสชาติความทรมานที่ แท้ จริง ทว่าถึงจะ
เจ็บขนาดนี้ นางก็ยงั ไม่ยอมขอร้องให้เขายกโทษแม้แต่ประโยค
เดียว

ดึ กดื่ นค่ อนคืน ลุ่ยจูตื่นขึ้นพลันได้ ยินเสี ยงแว่วมา นาง


รีบลุกไปแง้มประตูห้องออก...

ไม่ผิดแน่ ...นัน่ คือเสียงของคุณหนู

8
ลุ่ย จูไ ด้ ยิ น เสี ย งร้อ งไห้ ส ะอึ ก สะอื้ น ราวกับ คนก าลังอด
กลัน้ แว่วมาเป็ นห้ วงๆ น้ าเสี ยงขาดๆ หายๆ แต่ ไหนแต่ ไรมา
คุ ณ หนู ไ ม่ เ คยร้ อ งไห้ ต่ อ หน้ านางสัก ครัง้ นอกจากวัน ที่ ห นี
ออกมาครานัน้ ...

คิ ด แล้ ว สาวใช้ ผู้ภ ัก ดี ก็แ ทบจะทนไม่ ไ หว ไม่ รู้ ว่ า ตน


สามารถทาอะไรได้ บ้าง ควรทาเช่ นไรถึงจะดี สุดท้ ายก็ได้ แต่
น้าตาไหลพรากหน้ าห้องตัวเอง

เช้ า วัน ใหม่ อากาศตอนนี้ ห นาวยะเยื อ กยิ่ ง กว่ า ทุ ก วัน


แต่ บ นฟู ก ในห้ อ งนอนเล็ก กลับ อบอุ่น หญิ ง สาวที่ ข ยาดกลัว
ความหนาวตัง้ แต่ เกิด ทุกฤดูเหมันต์จาต้ องทนรับ ความทุกข์
ทรมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามคา่ คืนที่อากาศหนาวเหน็บ นาง
ก็มกั จะนอนไม่หลับจนต้องพลิกตัวไปมา ทว่าสองสามวันมานี้
นางกลับนอนหลับลึกจนถึงเช้า

่ ิ งรู้สึกว่าร่างกายกาลังแนบกับกาแพงที่ อบอุ่น
ถานหวันช
ความอุ่นซ่านแผ่ไอร้อนเข้ามาในร่าง ไม่มากและไม่น้อยเกินไป
ความอบอุ่นแบบพอเหมาะพอดี และแสนสบายอย่างยิ่ง จิตใต้
ส านึ ก ของนางอยากจะเข้ า ไปแนบชิ ด อี ก หน่ อ ย หญิ ง สาวจึ ง
ค่อยๆ ขยับขยุกขยิกไปทางด้านหลัง รู้สึกยิ่งอุ่นสบายกว่าเดิม

9
แม้ แ ต่ เ ตาอุ่น มื อ ในถุง ผ้ า แพร หรื อ กระทัง่ เตาผิ ง ก็ย ัง เที ย บ
‘กาแพงอุ่น’ นี้ ไม่ติดเลยด้วยซา้

‘กาแพงอุ่น’ ด้านหลังเคลื่อนไหวคล้ายลุกขึ้นนัง่ เผยให้


เห็นแผ่นหลังตึงแน่ นด้วยกล้ามเนื้ อ มีรอยแผลเป็ นตื้นอยู่หลาย
ั ยงั เล็ก ร่างกายจึงมีกระแสความ
แห่ง เพราะเขาฝึ กวรยุทธต้งแต่
ร้อนไหลเวียนตลอดเวลา ถึง ร่างกายจะเปลือยเปล่าท่ ามกลาง
บรรยากาศเย็น เยี ย บจนแทบจะเป็ นน้ า แข็ง เจ้ า ตัว ก็ไ ม่ รู้สึ ก
หนาวแม้แต่น้อย

เซี่ ย เฉิงจู่ไม่รู้ว่ าตนนั ง่ มองนางหลับ ใหลอยู่น านเท่ าไร


ชายหนุ่ มใช้ ฝ่ามือลูบไล้ไหล่กลมมนแล้วค่อยๆ ก้มตัวลงด้วย
ความปรารถนาที่ยงั มากล้น สุดท้ายกลับชะงัก เขากลืนน้าลาย
ลงคอแล้วตัดใจลุกขึน้ อย่างแผ่วเบา

ตอนนี้ อากาศหนาวแผ่ น ดิ น ราวกับ ฉาบด้ ว ยน้ า แข็ง


เพียงแม่ทพั หัวเมืองเปิดประตูออกมา สายลมจากทางเหนื อก็
พัดพาความหนาวเย็นมาหา คล้ายกับมีดเล็กที่ กรีดลงบนแก้ม
แต่สาหรับเซี่ยเฉิงจู่ที่ฝึกกาลังภายในมาแรมปี เขาคุ้นชินกับมัน
เป็ นอย่างดี เพียงเสื้อผ้าชัน้ เดียวก็สามารถรับมือกับโจมตี แค่นี้
ได้อย่างสบาย

10
เพี ย งไม่ ถึ ง เค่ อ เซี่ ย เฉิ งจู่ก็เ ดิ น มาถึ ง ค่ า ยทหารที่ ป ระตู
เมืองทางเหนื อแล้ว

เขาเดินผ่านลานฝึ ก ได้ยินเสี ยงฝึ กซ้ อมจากเหล่าทหาร


ชายหนุ่มมุ่งหน้ ากลับจวนที่ พกั แล้วทาการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
ก่อนจะเดินออกมาด้วยสี หน้ าสดใส ท่ าทางสบายอกสบายใจ
ชายหนุ่ มเดินตรวจตราการฝึ กทหารนอกกาแพงทิศเหนื อไป
รอบหนึ่ ง

แรกเริ่ ม ตอนที่ ทุ ก คนเพิ่ ง เข้ า มาเป็ นทหาร แต่ ล ะนาย


สวมเสื้ อ ผ้ า เก่ า ขาดและเปื่ อยยุ่ ย แม้ แ ต่ ชุ ด เกราะใส่ ร บและ
รองเท้ าทหารก็มีไม่ครบ แต่ มาตอนนี้ ทหารทุกนายมีรองเท้ า
สวมใส่ชุดเกราะสีดา แผ่นหลังเหยียดตรง ใบหน้ าอิ่มเอมสดใส
ถึ ง แม้ จ ะยัง มี อ าวุ ธ ไม่ พ รัง่ พร้ อ ม แต่ ท หารวัน นี้ กับ วัน นั ้น ก็
แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ทหารทุกนายฝึ กซ้ อมอย่างมุ่งมันและตั


่ ง้ ใจ ท่ าทางห้ าว
หาญและฮึ กเหิม ท่ านแม่ท ัพ หัว เมืองจึง เอ่ ย ปากชมขณะเดิน
ตรวจการ

“ดีมาก!”

11
จังหวะนัน้ เองตู้เหอและนายทหารกลุ่มหนึ่ งที่ เพิ่งกินมื้อ
เช้าเสร็จก็เดินผ่านมา เมื่อพบใต้ เท้ าเซี่ ยต่ างก็ทาความเคารพ
แล้วเอ่ยทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน

“คารวะใต้เท้า!”

จากนัน้ คนทัง้ กลุ่มก็เดินพลางพูดคุยกันไปตลอดทาง

“ใกล้จะสิ้นปี แล้ว อาหารในค่ายนับวันจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ


มื้อเช้ าวัน นี้ มีแป้ งทอดแผ่น ใหญ่ จานวนมากเพี ย งพอส าหรับ
ทหารทุกนายในค่าย แล้วยังมีน้ าแกงเนื้ อที่ รสชาติอร่อยยิ่ง ถ้า
หากกินได้แบบไม่อนั ้ ข้าสามารถกินได้แปดอันเลยที เดียว น่ า
เสี ยดาย...ตาเฒ่ าเฉาตระหนี่ ขี้เหนี ยวเกินไป น้ าแกงมีเนื้ อบด
นิดเดียวคงไม่กล้าใส่เนื้ อชิ้นโตล่ะสิ...”

“แค่มีเนื้ อบดก็ไม่เลวแล้ว เจ้าดูสิว่าคนในค่ายมีตงั ้ เท่าไร


ประตูเหนื อแห่งเดียวก็ปาไปเกือบพันแล้ว หากหนึ่ งคนต่ อเนื้ อ
หนึ่ งชิ้น ฆ่าหมูที่เลี้ยงไว้ในค่ายทัง้ หมดมาประเคนก็ยงั ไม่พอ!”

“ข้าจะบอกอะไรให้ ที่ จริงงบอาหารของทหารใช้ จ่ายไป


หมดแล้ว ไม่รวู้ ่าเมื่อไรจะได้กินเนื้ อชิ้นใหญ่สกั มือ้ ”

12
“ใกล้แล้วล่ะ จวนจะถึงตรุษจีนแล้ว พอถึงวันนัน้ พวกเรา
จะได้ก่อเตาไฟเล็กๆ กับใต้เท้า...”

หลายคนมองไปทางแม่ทพั หัวเมืองพลางพูดไปด้วย พวก


เขาเห็นกับตาตัวเองว่าเมื่อวานใต้เท้าล่ากวางมาได้ตวั หนึ่ ง แต่
กลับเอากลับไปหมดเสียอย่างนัน้

แต่ ก่อนใต้ เท้ าเซี่ ยใจกว้าง แค่ใต้ เท้ าโบกมือ คนก็กรูไป


เอากวางมาแบ่งปั นกัน ไฉนวันนี้ กลับปิดปากเงียบกริบ ขนาด
พวกเขาพูดจนลิ้นแทบขาดแล้วก็ยงั ไม่สนใจเลยสักนิด ดังนัน้
พวกเขาก็ควรจะหยุดคิดเพ้อเจ้อ เลิกหวังว่าลาภปากจะลอยมา
ได้แล้ว

ตู้ เ หอกับ นายทหารสองสามนายที่ เ ดิ น มาด้ ว ยกัน ต่ า ง


หลุบตาลง

แน่ ล่ะสิ...ชายหนุ่ มผู้นี้มีเมี ยแล้วนี่ นา เขาจึงไม่เหมือน


เดิม หากมี ของดี ๆ ก็คงไม่ยอมแบ่งปั นให้ เหล่าพี่ น้องอี กแล้ว
ล้วนรีบนากลับไปโอ๋เอาใจเมียคนงาม

คนทัง้ กลุ่มเดินกลับเข้าจวนมาด้วยกันแล้วนั ง่ รอบโต๊ะ


ในห้องโถงใหญ่ “ใต้เท้า วันนัน้ ที่ ท่านเชิญอาจารย์สามสี่คนมา

13
ฝึ กสอนเหล่าทหาร ข้าเองก็เรียนกับอาจารย์มาหลายกระบวน
ท่า ที่ แท้การใช้หอกก็ต้องมีวิธีของมัน ทัง้ การออกแรงและการ
ประหยัดแรงกระทังความกล้ ่ าในการฆ่ าศัตรูในสนามรบอย่าง
ไม่ ก ลัว เกรง ข้ า ว่ า ช่ ว งนี้ ก ารฝึ กทหารของเรามี แ บบแผนขึ้น
หากฝึ กเช่ น นี้ ไ ปได้ ส ัก ครึ่ ง ปี พวกเรายัง จะต้ อ งกลัว พวกคน
เถื่อนนัน้ อีกรึ!”

“นั น่ เป็ นเพราะความสามารถของใต้ เ ท้ า จึ ง มี เ งิ น ซื้ อ


อาหาร แต่ ก่ อ นทหารทุ ก นาย ใบหน้ า ซู บ ตอบตาเหลื อ งโปน
ผอมอย่างกับท่อนฟื น ให้พวกเขาฝึ กเพลงหอกก็ไม่ร้วู ่าจะมีแรง
จับหรือไม่ ต้องบอกว่าใต้เท้าเก่งจริงๆ ตอนนี้ พวกเรามีอาหาร
กินเพียงพอ ทหารแต่ละนายร่างกายาเอวกลมทีเดียว ถึงขนาด
นี้ แล้วหากยังไม่เป็ นรูปเป็ นร่างนี่ สิแปลก”

14
59 หอบหิ้ว

“ช่ วงนี้ พวกโจรเถื่อนมี การเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม?”


เซี่ยเฉิงจู่เอ่ยถามขึน้ มา

นายทหารทัง้ หมดต่างมองไปยังตู้เหอ

“ช่ วงนี้ หิมะตกหนั กปกคลุมทัวทั


่ ง้ ภูเขา ถนนหนทางไม่
ค่อยดี ถึงพวกมันอยากจะขี่ม้าข้ามป่ าข้ามเขามาจู่โจมพวกเรา
ก็ย่อมไม่ใช่เรือ่ งง่าย โดยเฉพาะตอนนี้ พืชพรรณแห้งแล้ง เสบียง
อาหารก็ไม่เพียงพอ เกรงว่าน่ าจะไม่มาแล้วล่ะ...” ก็ตอนนี้ เว่ย
อันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ มีอดีตผู้ปกครองเมืองนัง่ หวาดกลัวจน
หัวหดหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในหลุม ประโยคสุดท้ายได้แต่คิดในใจ
ไม่ได้พดู ออกไป

...

กาแพงเมืองด้านนอกสร้างเสร็จไปแล้วสองในสามส่ วน
หากพวกมันอยากจะเข้ามาโจมตี ก็จะเหลือช่ องว่างให้ บุกได้
เพียงหนึ่ งในสาม และตาแหน่ งนัน้ ใต้เท้าเซี่ ยก็สงให้
ั ่ ทหารแปด
ร้อยนายคอยเฝ้ าระวังอยู่ตลอดเวลา

1
“รอปี หน้ าเข้าฤดูใบไม้ผลิ หลังจากสร้างกาแพงที่ เหลือ
แล้วเสร็จ พวกเราก็ทาระเบิดให้ มากหน่ อย ใครหน้ าไหนกล้า
เข้ามาก็ระเบิดพวกมันให้ ตายเป็ นจุณเสี ยเลย ดูสิว่าพวกโจร
เถื่อนยังจะกล้าเข้ามาเมืองเว่ยอันของเราอีกไหม!”

ตู้เหอพูดมาถึงตรงนี้ นายทหารทัง้ หลายก็ร้สู ึกฮึกเหิม ไม่


เพียงแค่พวกเขาเท่ านัน้ ประชาชนในเมืองเว่ยอันก็คงยินดีไม่
น้ อย เพราะผู้คนในแคว้นอี้ ทุกหัวระแหงต่ างก็เคยได้รบั ความ
ทุกข์ระทมจากพวกคนเถื่อนที่ล่วงลา้ เขตชายแดนเข้ามา หาไม่
แล้ว เมืองเว่ ยอันที่ ใกล้ปากแม่น้ าทัง้ สองฟากฝั ง่ ผืนดินอุดม
สมบูรณ์มีป๋ ยมาก
ุ อีกทัง้ ทดน้าเข้านาสะดวกคงไม่ได้มีสภาพผืน
ดินแห้งแล้งไร้คนหว่านไถ ที่นาที่เคยอุดมสมบูรณ์เปลี่ยนเป็ นที่
รกร้างว่างเปล่าเช่นนี้

“ถึ ง แม้ หิมะจะตกหนั กปกคลุมทัว่ ทัง้ ภูเ ขา แต่ พ วกโจร


เถื่ อ นมัน ใจกล้ า ทัง้ ยัง ขาดแคลนอาหาร พวกมัน อาจจะยอม
เสี่ ยงบุกเข้ามาก็ได้ พวกเราต้ องคอยเฝ้ าระวังและจับตามอง
เส้ นทางของพวกมันให้ ดี” เซี่ ยเฉิงจู่กล่าวอย่างรอบคอบ “อี ก
อย่าง นอกเมืองยังมีผ้ลู ี้ภยั ไม่น้อยที่ ไร้ที่อยู่ ถ้าวันหนึ่ งพวกคน
เถื่อนคิดจะจู่โจมเมืองแล้วผ่านมาพบเข้า ข้าไม่อยากคิดถึงผลที่
จะตามมาเลย”

2
“ใต้ เ ท้ า อย่ า ได้ ก ัง วล ตอนนี้ ข้ า ได้ ว างสายสื บ ไว้ ต าม
ตาแหน่ งดังกล่าวแล้วขอรับ และพยายามจัดหาที่ ให้ ผ้ลู ี้ภยั อยู่
แล้ว แม้อากาศจะหนาวจนดินแข็ง ยากจะขุดพื้นอย่างมากก็
ตาม...”

พวกมัน ก็น่ า จะรู้อ ยู่แ ล้ ว ใต้ เ ท้ า รับ พวกลี้ ภ ยั ไว้ จานวน


มากขนาดนี้ ก็เพื่อใช้ในการบุกเบิกถางพงในฤดูใบไม้ผลิปีหน้ า
ไม่ เ ช่ น นั ้น ผื น นาจ านวนมหาศาลก็ค งไร้ ค นท า อี ก ไม่ น านก็
สามารถแก้ไขปั ญหาพวกลี้ภยั ได้แล้ว และการที่ พวกเขามาอยู่
เขตชายแดนเช่นนี้ เสบียงอาหารย่อมเป็ นสิ่งสาคัญมากที่สดุ

“วันก่อนมีจดหมายส่งมาจากรองแม่ทพั ฮัว้ ว่าเขาได้ปืน


ไฟมาหลายกระบอก พวกเจ้าก็รีบเตรียมลูกน้ องกับม้าให้พร้อม
ไว้ พวกเราจะไปเอาปื น” พอใต้เท้ากล่าวจบ ใบหน้ าของบรรดา
นายทหารก็ดมู ีความสุขขึน้ มาทันที

ปื นไฟ...ของสิ่งนัน้ ดีมาก ได้ยินมาว่าสามารถยิงนกได้ใน


ระยะหนึ่ งร้อยก้าว เป็ นอาวุธร้ายแรงที่เคยได้ยินแต่คนเล่าขาน
ทว่าไม่เคยได้สมั ผัสลูบคลา

“รองแม่ทพั ฮัว้ รูท้ ี่ซ่อนของพวกคนเถื่อนแล้วงัน้ หรือ?”

3
“ฮ่าๆๆ สงสัยพวกโจรจะประเมินพวกเราตา่ เกินไป”

“คาดว่ า ทางเฟิ งหลี ค งอยากได้ เ สบี ย งอาหารแลกกับ


อาวุธ ไม่รวู้ ่าครัง้ นี้ จะต้องการเพิ่มอีกกี่เกวียน...”

ตอนนี้ เ งิ น ในมื อ ของพวกเขามี เ พี ย งพอส าหรับ ซื้ อ หา


เสบีย งอาหารมาตุนไว้ จึงสามารถน าไปแลกกับปื นไฟที่ เ ป็ น
ของหายากได้

นายทหารเหล่านี้ ล้วนเป็ นลูกน้ องคนสนิทของเซี่ ยเฉิงจู่


พวกเราต่ างรับคาสังและรู ่ ้ดีว่าเรื่องนี้ จะต้ องเก็บเป็ นความลับ
แต่ ล ะคนมี สี ห น้ า ชื่ น มื่ น แล้ ว พยัก พเยิ ด แบบรู้ก นั พอจบการ
ประชุมใต้เท้าเซี่ยจึงโบกมือไล่ให้พวกเขาไปเตรียมตัว

กระทังเหลื
่ อตู้เหอเป็ นคนสุดท้ าย เขารับป้ ายชื่อจากใต้
เท้าเพื่อไปเอาเสบียงอาหารในคลัง เวลานี้ ห้องคลังไม่อนุญาต
ให้เข้าออกโดยง่าย หากจะเข้าไปต้องอาศัยป้ ายชื่อใต้เท้า และ
ถ้าต้องการใช้สิ่งใดก็ให้นายทะเบียนจดบันทึกเอาไว้

ก่ อ นที่ ตู้ เ หอจะเดิ น ออกไปพลัน นึ ก บางอย่ า งขึ้น มาได้


“เมื่อวานเถ้าแก่ ชวี ให้ คนส่ งผ้าแพรต่ วนมาจานวนมาก สี สนั
สดใสใหม่เอี่ยมทีเดียว ใต้เท้าอยากเลือกไว้สกั กี่พบั ขอรับ”

4
หากกาแพงเมืองด้านนอกสร้างเสร็จ ทัวทั ่ ง้ เว่ยอันก็จะ
แข็ง แกร่ ง ไม่ ส ามารถตี ใ ห้ แ ตกได้ ง่ า ยๆ จากนั ้น ก็ จ ะมี ค น
หลังไหลเข้
่ ามาในเมืองจานวนมาก ชวีเซิ่งเฟิงวาดหวังอยากจะ
ให้ร้านค้าผ้าของเขาครอบคลุมไปถึงนอกเมือง ไม่ว่าจะเป็ นเงิน
หรื อ เป็ นพับ ผ้ า มัก ส่ ง มาก านั ล เสมอ เพราะใต้ เ ท้ า ไม่ ร บั เงิ น
เขาจึงมักจะส่งของมาให้ ครานี้ เขาได้ผ้าแพรต่วนหายากยิ่งมา
จากเมื อ งหลวง เป็ นผ้ า เนื้ อ ดี ที่ ไ ม่ ไ ด้ มี ว างขายทัว่ ไป แม้ แ ต่
บุตรสาวและภรรยาของตระกูลชวีกย็ งั ไม่มีสิทธ์ ิ ครอบครอง

“มีเท่าไร?” เซี่ยเฉิงจู่ถาม

“ราวๆ สิบกว่าพับ อยู่ในเกวียนเล่มเล็ก”

“ส่งมาให้หมดเลย”

“เอ่อ...ขอรับ” ตู้เหอได้แต่ตอบรับเพราะตอนนี้ พูดอะไร


ไม่ออกแล้ว

เมื่อก่อนหากชวีเซิ่งเฟิงส่งผ้าพับมาประจบ ใต้เท้าก็มกั จะ
เอามาแบ่งให้พวกเขาเสมอ ตระกูลชวีส่งของมาให้สองปี แต่ใต้
เท้าเซี่ ยไม่เคยเก็บไว้เลย เกือบทัง้ หมดจะแบ่งให้บรรดาฮูหยิน

5
ของหัวหน้ าทหาร แต่ดทู ่าครานี้ ใต้เท้าคงไม่เกรงใจพวกเขาอีก
แล้ว

เมื่อตู้เหอเดินพ้นประตูใหญ่ไปแล้วก็ตบปากตัวเอง...ไม่
สมควรบอกเลย ต่อไปนี้ แม้แต่เศษผ้าสักชิ้นก็คงไม่มีแล้ว

วัน นี้ ถานหวัน่ ชิ งรู้ สึ ก เจ็บ คอ กว่ า จะสอนเสร็จ สอง


ห้องเรียนก็แทบไม่มีเสียง

หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านด้วยรองเท้ าที่ เปี ยกชุ่มหิมะ


เห็นผ้าแพรต่วนหลากสีสนั หลายพับวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง

ขอบตาของลุ่ย จูย งั คงบวมเล็กน้ อย แต่ อารมณ์ ก ลับ ดี


เป็ นพิเศษ เมื่อเห็นถานหวันช่ ิ งเดินเข้ามา สาวน้ อยก็หน้ าบาน
เผยรอยยิ้มแฉ่ ง “คุณหนูเจ้าคะ เมื่อเช้าใต้ เท้ าเซี่ ยให้ คนส่ งผ้า
พับมาให้หนึ่ งเกวียน ข้าดึงเอาผ้าสี ขาวมาทาฟูก และทาชุดตัว
ในสองชุด ผ้าพวกนี้ เ นื้ อดี คงใส่ ส บายกว่ าผ้าฝ้ ายแน่ เ ลยเจ้ า
ค่ะ”

ลุ่ยจูกล่าวพลางคิดในใจ จะว่าไปแล้วในใจใต้เท้าเซี่ยก็มี
แต่คณ ุ หนู ดูสิ...แพรต่วนตัง้ หนึ่ งเกวียนแล้วยังเนื้ อกวางที่ หอบ
หิ้ ว มาท าให้ กิ น ด้ ว ยตัว เองอี ก สองสามวัน ก่ อ นก็ต ัง้ ใจดู แ ล

6
คุณหนูเป็ นพิเศษ ทัง้ แพะม่วงหายากที่จบั มาได้ แล้วยังให้คนนา
เครื่องประดับมาส่ งอี ก เขาจัดหาปั จจัยสี่ มาให้ อย่างครบครัน
ุ หนูนัง่ อยู่ในหัวใจแล้วจริงๆ
นัน่ เป็ นเพราะมีคณ

นางไม่ได้มองว่าของเหล่านี้ เป็ นสิ่งเล็กน้ อย ถึงแม้ของ


พวกนี้ จะไม่ได้มีราคาสูง แต่ทุกอย่างที่ สรรหามาให้ล้วนเป็ นสิ่ง
ที่ อานวยความสะดวกสบายให้ กบั คุณหนู ทงั ้ นั น้ ซ้า ยังแฝงไว้
ด้วยความเป็ นห่วงจนออกนอกหน้ า

และเพราะว่าชอบคุณหนู จึงไม่แปลกที่ แม่ทพั หัวเมืองจะ


เอ่ ย ปากสู่ ข อคุ ณ หนู ใ นครัง้ นั ้น แต่ ค าพูด ของคุ ณ หนู ที่ เอ่ ย
ปฏิ เ สธนี่ สิ . . .ช่ า งเด็ด ขาดและโหดร้ า ยเกิ น ไปหน่ อ ย จนใต้
เท้าเซี่ยถึงกับไปไม่เป็ นเลย เขาคงจะรูส้ ึกเสียหน้ าไม่น้อย

ลุ่ยจูคิดว่า ขอเพียงคุณหนูเห็นแก่หน้ าเขาสักนิด ทาตาม


ความต้องการของใต้เท้าผูน้ ัน้ ก็คงดี

สุดท้ ายแล้วลุ่ยจูกเ็ ป็ นแค่เด็กรับใช้อายุแค่สิบห้าเท่านัน้


น้าตายังไม่เหือดแห้งจากเมื่อวาน ตอนนี้ กลับเปลี่ยนเป็ นดีอกดี
ใจหยิ บ ผ้ า ทอขึ้ น มา ซ้า ยัง ช่ ว ยพู ด ถึ ง ความดี ข องใต้ เ ท้ า อี ก
ต่างหาก

7
ถานหวัน่ ชิ ง ฟั ง อย่ า งนิ่ งเฉย นางยัง รู้สึ ก เหน็ ด เหนื่ อ ย
ปลายจมูกมีเหงื่อเม็ดเล็กซึ มออกมา หญิงสาวยังไม่มีกะจิตกะ
ใจจะหัน ไปมองผ้าแพรสี ส นั สวยงามเหล่ านั น้ ได้ แต่ ว างย่ า ม
หนังสือลงแล้วเอ่ยถามลุ่ยจูเสียงแหบแห้ง “มีน้าร้อนไหม?”

“คุณหนูอยากอาบน้าหรือเจ้าคะ? ข้าเตรียมไว้ตลอดอยู่
แล้วเจ้าค่ะ” เพราะตอนที่อยู่ในจวนถูกเลี้ยงดูมาจนคุ้นชิน เกรง
ว่าหากเจ้านายต้ องการใช้ น้ าแล้วจะไม่มี ดังนัน้ ในห้ องครัวจึง
ต้องต้มน้าร้อนไว้ตลอด พร้อมให้ตกั มาใช้ได้เลย

เด็กสาวรีบจัดเตรียมน้าอาบให้อย่างรวดเร็ว น้าร้อนหนึ่ ง
ถังผสมกับน้าเย็นสองถัง เมื่อเรียบร้อยถานหวันช่ ิ งก็ลงไปแช่ใน
อ่างพลางผ่อนลมหายใจเบาๆ นางหันไปเห็นลุ่ยจูกาลังถือเสื้อ
เอี๊ ยมและกางเกงเอี๊ ยมจึงรีบยื่นมือไปห้าม “เดี๋ ยวก่อน อันนัน้
วางลง ข้าจะซักเอง...”

ลุ่ยจูตกใจจนดวงตาเบิกโพลง ตลอดชีวิตนี้ ของคุณหนูไม่


เคยซักเสื้อผ้ามาก่อน แล้วเหตุใดจู่ๆ ถึงอยากจะซักเอง “เสื้อผ้า
ของคุณหนู ข้าเอามือขยี้ไม่กี่ทีกส็ ะอาดแล้ว ไม่เปลืองแรงหรอก
เจ้าค่ะ”

8
กล่าวจบลุ่ยจูกเ็ ดินออกประตูไป ไม่ได้เห็นสายตาเคอะ
เขินที่ ถานหวันช
่ ิ งจ้องกางเกงเอี๊ยมนัน่ มือของนางได้แต่ ชะงัก
ค้างอย่างเก้อๆ

เฟิงหลีไม่ใช่เมืองที่มีผคู้ นหนาแน่ นเหมือนกับเมืองอื่นๆ

สถานที่ แ ห่ ง นั ้น ทัง้ เย็น ยะเยื อ กและเงี ย บเหงาเปล่ า


เปลี่ ยว อาจกล่ าวได้ ว่าเป็ นสถานที่ ที่เหน็ บหนาวและทรมาน
เป็ นเส้นทางที่อนั ตรายสาหรับคนเดินเท้า

บนรถม้า ถานหวันช ่ ิ งเลิกผ้าม่านหน้ าต่างออก หากว่าไป


ตามที่ เ ซี่ ย เฉิงจู่บ อก เฟิ งหลี ห่างจากเมื องเว่ ย อัน ไม่ ถึ ง ร้อ ยลี้
กาแพงก่อด้วยอิฐ แต่ตอนนี้ มองไปข้างหน้ าล้วนมีแต่ หิมะขาว
โพลนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา นอกเสี ยจากหิมะก็มีเพียงก้อน
หิน

พืน้ ที่บกุ เบิกถางพงทาไร่ไถนาอยู่ห่างจากกาแพงเมืองสิบ


กว่าลี้ ตอนนี้ เห็นแค่ กระท่ อมปลายนาผุพงั สามสี่ หลัง และไร้
ผูค้ นอยู่อาศัย มีรอ่ งรอยของผูค้ นน้ อยมาก เดินทางมานานแล้ว
ก็ยงั ไม่เห็นแม้แต่คนเดียว

9
เมื่ อ เที ย บกับ เว่ ย อัน แล้ ว เฟิ งหลี จ ะมี ค วามยากจนข้ น
แค้นมากกว่า เพราะถึงเว่ยอันจะเปล่าเปลี่ ยวแต่ กม็ ี ลุ่มแม่น้ า
ฉางเจียงตอนใต้และมี หมู่บ้านประปรายตามริมแม่น้ า เมื่อคิด
มาถึ ง ตรงนี้ ใบหน้ าถานหวัน่ ชิ ง ก็ฉ ายแววเจ็บ ปวดรวดร้ า ว
ออกมา หากไม่ใช่ เพราะตนหลบหนี มาได้ เวลานี้ ตวั นางเองก็
อาจจะต้องทาไร่ไถนา ลาบากยากเข็ญไปแล้ว

ผู้คนที่ มายังสถานที่ สาหรับผู้ถกู เนรเทศโดยมากชีวิตแต่


เดิ ม ไม่ เ คยต้ อ งทุ ก ข์ย ากล าบากมาก่ อ น กระทัง่ เข้ า ไปอยู่ ใ น
เมืองนี้ ความทุกข์ยากลาบากอย่างใหญ่หลวงจึงค่อยเริ่มต้นขึน้

มือบางเกาะกุมผ้าม่านแน่ น หญิงสาวทอดสายตามอง
ออกไปด้านนอก เมื่อรถม้าหยุดลงก็ได้ยินเสี ยงหินจุดไฟตาม
ด้วยเสียงไฟที่ลุกไหม้ฟืน

การออกเดินทางคราวนี้ มีทงั ้ กลุ่มคนที่ขี่ม้าและนัง่ บนรถ


ม้า พร้อมเสบียงอาหารอีกสามเกวียน เพื่อเป็ นการย่นระยะทาง
พวกเขาจึงใช้เส้นทางลัดโดยการข้ามผ่านธารน้าแข็ง กีบเท้าทัง้
สี่ ของม้าถูก ห่ อหุ้มไว้ ทาให้ เวลาเหยี ยบย า่ บนถนนไม่ มีเสี ยง
ยังสามารถป้ องกันความหนาวเย็นให้ม้าได้

10
ฤดู ห นาวปี นี้ ถื อ ว่ า หนาวมากที่ สุ ด แม้ ไ ม่ ถึ ง ขนาดถ่ ม
น้ าลายแล้วกลายเป็ นน้ าแข็ง แต่ลมหายใจก็ออกมาเป็ นไอ ชัว่
เวลาประเดี๋ ยวเดี ยวความหนาวเหน็ บก็ย้อมริมฝี ปาก หนวด
เคราไปจนถึงคิ้วให้ขาวโพลน

่ ิ งเป็ นคนเดียวที่ นัง่ รถม้าซึ่งไม่มีสินค้าบรรทุก


ถานหวันช
เป็ นรถม้าคันเล็กที่ ด้านนอกดูแล้วธรรมดาไม่มีความพิเศษแต่
อย่างใด ทว่าภายในดังสรวงสวรรค์
่ ห้องโดยสารห่อหุ้มด้วยขน
สัตว์หนานุ่มทัง้ หมด ไม่มีส่วนของเนื้ อไม้โผล่ให้เห็นเลยสักนิด
มีที่นอนพักผ่อนและหมอนก็ใช้ผา้ ที่สีสนั สวยงามทาขึน้ มาอย่าง
ดี มีโถใส่ น้ าร้อนห้ าใบวางให้ ความอบอุ่นนางจึงไม่ลาบากนั ก
ทัง้ ที่ เดินทางอยู่ท่ามกลางอากาศที่ หนาวเหน็ บ ทว่าความเย็น
ไม่สามารถกลา้ กรายเข้ามาด้านในได้เลย เหมือนกับถูกตัดขาด
จากโลกภายนอก ในเมืองจะมีรถม้า เช่นนี้ เป็ นจานวนมาก แต่
สาหรับเว่ยอันแล้วนับว่าหรูหรามากทีเดียว ไม่รวู้ ่าใต้เท้าเซี่ยไป
หามาจากไหน

หญิ ง สาวซึ่ ง กาลัง นอนอยู่บ นฟูก นุ่ ม นิ่ มถึ ง กับ ตะลึ งงัน
เมื่อประตูผ้าม่านหนาหนักถูกเปิดออก ลมหนาวพัดกรูเข้ามา
ทันที

11
เซี่ ยเฉิงจู่ยงั คงสวมชุดดาทัง้ ร่าง ในมือประคองชามโจ๊ก
ร้อนแล้วก้าวเท้าเข้ามาในรถ

ในป่ าเขาที่ เปล่าเปลี่ยวห่ างไกลชุมชนเช่ นนี้ น้ าร้อนหา


ได้ ไม่ง่ายนั ก และการกินของร้อนก็ไม่ง่ายเช่ นกัน หากไม่พา
‘สตรี’ ที่ ‘ลา้ ค่า’ คนนี้ มาด้วย เซี่ ยเฉิงจู่กบั ตู้เหอและคนอื่นๆ ก็
คงกินอาหารแห้งแข็งๆ พร้อมกับกระดกสุราเท่านัน้ ก็ไปได้แล้ว
ไม่ต้องยุ่งยากหยุดขบวนมาก่อไฟ แถบนี้ ต้นไม้น้อยดินแห้งกรัง
ใช่ว่าอยากจะตัดฟื นมาก่อไฟก็สามารถหยิบฉวยมาได้ทนั ที เลย
เสียที่ไหน

ถานหวั น่ ชิ งรู้ ต ั ว ดี ว่ า ตนท าให้ คนอื่ นยุ่ ง ยากและ


เดือดร้อนเพียงใด หญิงสาวจาเป็ นต้องมีคนดูแลก็จริง แต่ในใจ
หาได้ มี ค วามเห็น อกเห็น ใจสัก นิ ดไม่ นางนอนบนรถม้ า อุ่น
สบายอย่างไม่ละอายใจแม้แต่น้อย

จะโทษนางได้ ห รื อ ? นางไม่ ไ ด้ อ ยากจะมาเฟิ งหลี ส ัก


หน่ อย ชายผู้นี้ต่างหากที่ ต้องการลากนางมาด้วยให้ได้ โดยไม่
สนว่านางจะต่อต้านหรือคัดค้านแต่อย่างใด

12
เมื่อมาแล้วก็ใช่ว่านางจะไม่ร้สู ึกรู้สา เพราะในสายตาคน
อื่ น นางก็คื อ คุ ณ หนู ต ระกูล ถาน หญิ ง สาวที่ ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ นโลก
มนุษย์นี้มานานแล้ว ถือว่าตายแล้ว

หลัง จากที่ ถ กู เนรเทศออกจากเมื อ งหลวง ส าหรับ คน


ตระกูลถาน นางคงไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน ทาได้เพียงมองจากที่
ไกล แล้วอย่างไรเล่า ขอแค่พวกเขามีชีวิตที่ ดีกพ็ อแล้ว แต่ ถึง
พวกเขาจะลาบาก นางก็มีปัญญาทาได้แค่มองเท่านัน้ ไม่มีทาง
ช่วยใครได้เลย

นางคิดเช่นนี้ แล้วจะทาไม? ตอนนางอยากมาก็ไม่ให้มา


พอนางไม่อยากมาก็บงั คับให้มาเสียอย่างนัน้

นิสัยถานหวันช
่ ิ งแม้จะอ่อนโยน แต่ใบหน้ ายากจะปกปิด
ความไม่ยินดีอย่างชัดเจน

กลิ่ นหอมของโจ๊ ก ร้ อ นๆ ลอยมาแตะจมู ก นางไม่


สามารถทนหิวได้ต่อไป จากที่ นอนนิ่งอยู่ใต้ ผ้าห่ มพลันลุกขึ้น
ยื่นมือไปรับชามโจ๊กที่ส่งมาแล้วกินข้าวไม่พดู ไม่จา

ชามโจ๊ก ร้อ นพออยู่ ใ นฝ่ ามื อ ก็อุ่น อย่ า งเหมาะเจาะ ให้


ความรูส้ ึกสบายเป็ นอย่างยิ่ง

13
เซี่ยเฉิงจู่มองหญิงสาวรับชามแล้ว ทว่ายังไม่กลับออกไป
เขานัง่ อยู่ข้างๆ นาง หยิบเสื้อคลุมขนจิ้งจอกแต่งผ้าดิ้นสีเขียวที่
วางอยู่บนที่นอนมาคลุมไหล่ให้นาง

14
60 เฟิงหลี

ถานหวันช ่ ิ งหิวมาก นางไม่ใส่ใจว่าข้างๆ จะมีใครอยู่ด้วย


ท าเพี ย งหยิ บ ช้ อ นขึ้ น มาคนแล้ ว ตัก โจ๊ก เข้ า ปาก โจ๊ก ท าได้
เหนี ยวข้นแถมใส่หมูบดด้วย รสชาติอร่อยยิ่งนั ก แต่ ถานหวัน่
ชิงกลับตักเนื้ อหมูบดไปไว้ด้านข้างด้วยความเคยชิน ซึ่งอาจจะ
ดูป ระหลาดในสายตาคนอื่ น แต่ ส าหรับ นางแล้ ว ไม่ ไ ด้ รู้สึ ก
แปลกอะไรเลย

ทว่าคนข้างๆ ซึ่ งนั ง่ มองนางกินอาหารมานาน คิ้วหนา


ขมวดเป็ นปมแล้ว ชายหนุ่มเอ่ยตาหนิอย่างไม่เก็บงาความคิด
“เจ้าไม่เพียงมีโจ๊กให้กิน แล้วยังจะเลือกกินอีก เจ้าไม่ร้เู ลยหรือ
ว่าเนื้ อหมูในโจ๊กนี่ มีคนมากมายแค่ไหนต้องการแย่งมัน?”

เฟิงหลีมีแต่ ผืนดินรกร้างแห้งแล้ง ผู้คนยากจน แค่มีผกั


ผสมอยู่ในโจ๊กเล็กน้ อยก็ดีใจจนน้าตาแทบไหล ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เนื้ อ คนที่ไม่ได้กินเนื้ อมานานแรมปี มีอยู่มากมายนัก

ถานหวันช ่ ิ ง ได้ ยิ น ก็ถึ ง กับ ส าลัก สิ่ ง ที่ เ ขาพูด ไม่ ผิ ด เลย
นางเองถูกเลี้ยงมาแบบกินทิ้งกินขว้างตลอด ไม่เคยคานึ งถึง
การประหยัด พอหวนนึ กถึงวันที่ เคยอยู่ดี กิน ดี หญิง สาวก็ใช้

1
ช้อนคนโจ๊กด้วยท่าทางหดหู่ หลังจากนัน้ ก็กินได้อีกแค่สองคา
ไม่ร้วู ่าอิ่มหรือเพราะอารมณ์ เอร็ดอร่อยมลายหายไปถึงกลืนไม่
ลงอีกแล้ว โจ๊กจึงเหลืออีกครึง่ ค่อนชาม

เซี่ ย เฉิงจู่ที่ มองนางอยู่ต ลอด เห็น หญิง สาวไม่ ได้ โ กรธ


กระฟั ดกระเฟี ยดหรืออารมณ์ เสีย แต่กินไม่ลงจริงๆ จึงรับชาม
มา ก่อนจะใช้ช้อนคันเดียวกันตักโจ๊กที่เหลือเข้าปากตัวเองโดย
ไม่มีท่าที รงั เกียจ ในเมื่อเรือนกายทุกส่วนของนางเขาล้วนเคย
‘กิน’ มาหมดแล้ว นับประสาอะไรกับน้าลายเล็กๆ น้ อยๆ

เซี่ ยเฉิงจู่กินโจ๊กในชามจนเกลี้ยงจากนัน้ ก็ลุกขึ้นเตรียม


ผละไป เพราะความชานาญของใต้ เท้ าเซี่ ยจึงต้ มโจ๊กได้ดีและ
เร็วขนาดนี้ ทว่ายามนี้ อยู่ในสถานที่ ห่างไกลผู้คนจึงจาต้ องเร่ง
รีบออกเดินทาง เพื่อจะได้ถึงเมืองเฟิงหลีก่อนฟ้ ามืด เนื่ องจาก
ในขบวนมีเกวียนขนเสบียงอาหาร หากยิ่งเตะถ่วงเวลาก็จะยิ่ง
อันตราย

“เดี๋ ย ว...” ถานหวัน่ ชิ งยื่ น มื อ ไปรัง้ ชายหนุ่ มที่ ก าลัง


ออกไป ใบหน้ าแดงกา่ ในใจคิดถึงลุ่ยจูอย่างมาก เขาลากนาง
ขึ้นรถม้ามาอย่างไม่มีเหตุผล แต่กลับทิ้งลุ่ยจูไว้ที่บ้านคนเดียว
ทัง้ ยังชักสี หน้ าพูดกับ เด็กสาวว่าการเดินทางครัง้ นี้ ใช้ เวลาไป

2
กลับสี่ ห้าวัน แค่ชวระยะเวลาสั
ั่ น้ ๆ เท่ านั น้ เขาไม่มีเวลาดูแล
ผูห้ ญิงถึงสองคนหรอก ลุ่ยจูจึงถูกทิ้งไว้ที่บา้ นโดยปริยาย

คณะเดิ น ทางครัง้ นี้ ล้ ว นมี แ ต่ ผ้ชู าย นางเป็ นผู้ห ญิ ง คน


เดียวจึงไม่ค่อยสะดวก อีกทัง้ นางยังคุ้นเคยกับเขาคนเดียว จึง
พึ่งพาได้เพียงเขาเท่านัน้ แต่ว่า...

เซี่ ยเฉิงจู่เห็นสีหน้ าหญิงสาวแดงระเรื่อ แล้วยังยื่นมือรัง้


เขากะทัน หัน ด้ ว ยท่ า ทางกระอัก กระอ่ ว นใจจึ ง พอจะเดาได้
“อยากไปปลดทุกข์งนั ้ รึ?”

ขนาดนางกินน้ อยดื่มน้ อย ระหว่างทางจึงหวังว่าจะพบ


บ้านชาวนาสักหลัง แต่ ค วามจริง กลับ ไม่ เ คยได้ ล งจากรถม้ า
ใครจะไปคิดว่าโจ๊กที่ เพิ่งลงท้องไม่กี่คาเมื่อครู่จะก่อปั ญหาเสี ย
แล้ว ถึงนางจะปวดเบา แต่ไม่ได้กระบิดกระบวนอะไร รีบพยัก
หน้ าหงึกหงักทันที

กลุ่มผูช้ ายที่อยู่ด้านนอกรถม้ายี่สิบกว่าคนกาลังแทะแป้ ง
ทอดแข็งแห้ งและเย็นชื ด ทว่าใบหูกลับชี้ ตงั ้ อย่ างตัง้ อกตัง้ ใจ
พวกเขาต่ างผลัดกันมองไปยังรถม้าเป็ นระยะเพราะใต้ เท้ าเพิ่ง
เดินเข้าไป

3
เงียบกริบ...

ปกติแล้วใต้ เท้ าไม่ได้เป็ นเช่นนี้ นั บตัง้ แต่ พาคนมาด้วย


ทุ ก คนล้ ว นเห็น ไม่ ต่ า งกัน ว่ า ใต้ เ ท้ า ถื อ ชามโจ๊ก ร้ อ นๆ เข้ า ๆ
ออกๆ โดยไม่ปริปากบ่น นี่ ใต้เท้าของพวกเขาเป็ นถึงบุรษุ แนว
หน้ าที่แข็งแกร่งเชียวนะ!

ตอนที่ นายทหารทัง้ หลายนึ กถึงใต้ เท้ าอยู่ ก็เห็นใต้ เท้ า


กระโดดลงจากรถม้าแล้ ว เลิกผ้าม่านออก เพื่ อรับ หญิง สาวที่
ตัง้ แต่เข้าไปในรถม้าแล้วก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย

เสื้อขนจิ้งจอกชุดนั น้ ใต้ เท้ าลงแรงไม่น้อยกว่าจะได้มา


ตอนนี้ คลุมอยู่บนร่างงามที่ ขาวผุดผ่องราวหิมะ นางเพียงก้าว
มาถึ ง ข้ า งรถ เท้ า ยัง ไม่ ไ ด้ เ หยี ย บพื้ น ด้ ว ยก าลัง ลัง เลว่ า จะ
กระโดดลงไปดี หรือไม่ มือหนึ่ งก็ยื่นมาหาจากด้ านล่ างรถม้ า
เสียก่อนแล้ว

สี ห น้ าถานหวัน่ ชิ งพลัน มื ด ครึ้ ม หญิ งสาวรู้ สึ ก ได้ ว่ า


นายทหารที่ นัง่ ล้อมวงสี่ ห้ากลุ่มในบริเวณใกล้ ๆ กาลังซุ บซิบ
นินทาและชาเลืองมองมาเป็ นตาเดี ยว นางกวาดตามองพวก
เขาเล็กน้ อย บางนายยังกัดแป้ งทอดค้างอยู่ที่ปากทว่าสายตา
กลับมองมาทางนี้
4
จู่ๆ ขานางก็ไร้เรี่ยวแรงเสียนัน้

ช่างน่ าอาย...นางแค่อยากปลดทุกข์เท่านัน้ หญิงสาวจับ


เสื้อขนสัตว์แน่ น มองมือของเขาที่ยื่นมา สุดท้ายก็วางมือลงไป
อย่างไม่ตงั ้ ใจ

บรรดานายทหารเห็นท่าทางหญิงสาวบนรถม้าประหนึ่ ง
นกนางแอ่นกลับรัง นางพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของใต้เท้า โดยที่ อีก
ฝ่ ายโอบอุ้มหญิงงามไว้แนบอกแล้วหมุนกายพาขึ้นหลังม้าสีดา
เสื้อขนสัตว์ที่คลุมบนศีรษะพลันลื่นไหล เผยให้เห็นเส้นผมดา
ขลับ ที่ ม ดั รวบอย่ า งดี หญิ ง สาวหัน มาแวบหนึ่ งก่ อ นที่ ม้ า จะ
ทะยานจากไป ทุ ก คนได้ แ ต่ ต าเบิ ก ค้ า งจ้ อ งนางเขม็ ง เป็ น
ตาเดียว

ทัง้ ที่ แ ม่ ท ัพ หัว เมื อ งอุ้ ม คนขึ้ น หลัง ม้ า ลับ หายไปจาก


สายตานานแล้ว ทุกคนก็ยงั อึ้งกันอยู่ กระทังนายทหารคนหนึ ่ ่ง
เผลอกลืนแป้ งทอดลงปาก จึง สาลักออกมาคราหนึ่ ง เขารีบกิน
น้ าตาม ไม่ได้สนใจอาการไม่สบายนี้ เพี ยงเอ่ ยด้วยความรู้สึก
ปวดแสบในอก

5
“ใต้ เท้ าโอ๋นางเกินไปแล้ว” ใต้เท้าส่งน้ าส่งข้าวไม่บ่นสัก
คา หนาซ้ายังทนมองเท้ านางเหยียบพื้นไม่ได้ ขนาดอุ้มไปมา
เลยทีเดียว

ตู้เหอรีบใช้ช้อนตี หวั คนพูดทันที “ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าอยู่


แต่ในหลุมทุกวันเลยดีไหม อยากจะเจอแบบนัน้ รึ!”

นายทหารผูน้ ัน้ ยกมือลูบหัว หัวเราะจืดเจื่อน

่ ิ งยังไม่ค่อยเข้าใจ นางแค่ จะปลดทุกข์ทาไม


ถานหวันช
ต้องขึน้ บนหลังม้า

แล้วทาไมต้องวิ่งมาไกลขนาดนี้ ด้วย?

ยามนี้ สายตานางมองไม่เห็นคนด้านหลัง แต่ ในใจก็คิด


ว่าเซี่ยเฉิงจู่ต้องมีเหตุผลที่พามาไกลขนาดนี้ แน่

ที่ เขาพานางออกมาปลดทุกข์เสี ยไกล เพราะทหารพวก


นั น้ ต่ า งหูไ วตาไว ถึ ง พวกเขาจะมองไม่ เ ห็น แต่ อ าจจะได้ ยิ น
เสียงก็เป็ นได้

พืน้ ที่รกร้างแถวนี้ หาต้นไม้สกั ต้นนัน้ ไม่ง่ายเลย ในที่สดุ ก็


หาที่ กาบังได้แห่งหนึ่ ง ถานหวันช่ ิ งนัน้ ปวดเบาอย่างรุนแรง พอ
6
เซี่ ยเฉิงจู่ชี้สถานที่ ให้ นางก็ลงั เลเล็กน้ อย แต่ พอคิดได้ว่าการ
ออกมาข้างนอกควรมองข้ า มเรื่ องหยุม หยิ ม แถมทัง้ สองก็มี
สถานภาพพิเศษต่อกัน นางจึงตัดสินใจเลิกกระโปรงขึน้

แต่ ท่าทางนางกลับทุลกั ทุเลเพราะกระโปรงยาวมาก ทัง้


ยังมีเสื้อขนจิ้งจอกคลุมไหล่ที่เทอะทะหนักอึ้ง ท่ามกลางฟ้ าดิน
สายลมก็พดั ดวงหน้ าทาให้ยิ่งปวดจนยิ่งอยากปลดปล่อย นาง
รีบจนทาอะไรไม่ถกู

ใต้ เท้ าเซี่ ยที่ หนั หลังไปแล้วได้ยินบางอย่าง จึงคิดจะหัน


่ ิง
กลับ มาช่ ว ยนางเก็บ เสื้ อ คลุ ม แต่ ก ลับ รับ รู้ไ ด้ ว่ า ถานหวันช
กาลังทาธุระส่วนตัวอยู่ แม้จะไม่เห็นแต่หขู องเขาได้ยินทุกการ
เคลื่อนไหวอย่างชัดเจน จากนัน้ ภาพระหว่างทัง้ คู่กป็ รากฏขึ้น
ในหัว ท าให้ ด วงตานิ่ งเย็น แปรเปลี่ ย นเป็ นเร่ า ร้ อ นดัง่ กอง
ไฟขึน้ มาทันใด

ความทรมานเกิ ด ขึ้ น กับ ชายหนุ่ ม กล้ า มเนื้ อ ช่ ว งท้ อ ง


พลันแข็งเกร็งแล้วส่ วนล่างก็พองขึ้นมา เสี ยงน้ าไหลแผ่ว เบา
ผ่านไปแล้ว เมื่อหญิงสาวปลดทุกข์เรียบร้อยก็สะบัดมือหนี เขา
อย่างคนที่ หลอกใช้เสร็จแล้วถีบหัวส่ง นางเดินผ่านไป ทิ้งคนที่
เคยวางมาดขรึมยืนอยู่ด้านหลัง

7
ทว่าตอนนี้ เขาไม่อาจวางมาดได้อีกแล้ว ชายหนุ่มสูดลม
หายใจลึก อุ้มนางมาวางบนหน้ าขาบนหลังม้า มือ อีกข้างก็อด
ที่จะสารวจไปทัวร่
่ างบอบบางไม่ได้

ในที่ สุดคณะเดินทางจากเว่ยอันก็มาถึงเมืองเฟิงหลีก่อน
ตะวันตกดิน

หลังจากเข้ามาในเมืองแล้ว พวกเขาอาศัย แสงอาทิตย์


ราไรมองไปโดยรอบ เห็นกระท่ อมหญ้าคาที่ ผพุ งั เป็ นหย่อมๆ
และผู้ค นก าลัง ท างานกัน บางตา โดยมี น ายทหารที่ ดูแ ลการ
ซ่อมแซมคอยควบคุมอยู่ตรงกลาง

นี่ ไม่ใช่ครัง้ แรกที่กองทหารจากเว่ยอันมาเยือนเมืองเฟิง


หลี พวกเขาจึ ง คุ้น เคยเส้ น ทางเป็ นอย่างดี สามารถขี่ ม้าผ่าน
บ้านของชาวบ้านตรงไปยังเรือนที่ว่าการได้ทนั ที แต่ยงั ไม่ถึงก็มี
คนรีบออกมาต้อนรับด้วยความยินดีเสียก่อน

“ฮ่าๆ เกรงใจแม่ทพั หัวเมืองที่ ต้องเหน็ ดเหนื่ อยควบม้า


มาด้วยตัวเองเช่นนี้ การเดินทางคงลาบากแย่”

8
ฮัว้ เหวินเฟย รองแม่ทพั เฟิงหลียิ้มแย้มพลางก้าวอาดๆ
มาหา ที่ เอวเหน็ บดาบยาว เขาประสานมือคารวะใต้ เท้ าเซี่ ยที่
อยู่บนหลังม้าด้วยสีหน้ าหยอกเอิน

สมัยที่ ทงั ้ สองยังไม่ได้เลื่อนขัน้ เปลี่ยนตาแหน่ ง พวกเขา


เคยดื่ ม สุ ร ากาเดี ย วกัน มาก่ อ น ร่ ว มสู้ ร บเลื อ ดไหลอาบมา
ด้วยกัน ทัง้ ขึน้ เขาลงห้วย ฆ่าฟันศัตรูในสนามรบ ความสัมพันธ์
จึงแน่ นแฟ้ น แม้ต่อมาจะแยกย้ายไปตามเส้นทางของตน แต่ก็
ถูก ส่ ง มาอยู่ แ ถบชายแดนไม่ ห่ า งกัน จึ ง ส่ ง จดหมายหากัน
อยู่เสมอ

เฟิงหลีมีที่นารกร้าง ผืนดินไม่อดุ มสมบูรณ์ เสบียงอาหาร


ขาดแคลนได้ เว่ยอันเป็ นแหล่งลาเลียงขนเสบียงและไปมาหาสู่
กันตลอด บางครัง้ ก็หยิบยืมแลกเปลี่ ยนเสบียงอาหารและให้
เงินบ้างเล็กน้ อย เช่ นเดี ยวกับครัง้ นี้ ที่มีเสบียงมาแลกถึงสอง
เกวียน

คนเดิ น ตามหลัง ฮัว้ เหวิ น เฟยออกมาคื อ แม่ ท ัพ เฟิ งหลี


เขาส่งยิ้มแฉ่ งบานเต็มใบหน้ า

หนึ่ ง ในนายทหารที่ อ อกมายื น ต้ อ นรับ เอ่ ย อย่ า งนอบ


น้ อม “ทหารของพวกเราได้ตระเตรียมงานเลี้ยงรอต้ อนรับใต้
9
เท้ าโดยเฉพาะ อี กทัง้ ได้เตรียมน้ า ให้ ล้างคราบฝุ่ นชาระความ
สกปรกไว้แล้วขอรับ”

“ใต้ เ ท้ า โชคดี ยิ่ ง นั ก ครัง้ นี้ ไ ม่ เ พี ย งมี เ นื้ อ แกล้ ม สุร ากับ
ดนตรีบรรเลงไว้ต้อนรับท่าน ยังมีหยกงามหอม...อุ่น...”

ปากแม่ทพั เฟิงหลี จาระไนได้ แค่ ครึ่งเดี ยว ใต้ เท้ าเซี่ ยก็


หมุ น ตัว ไปอุ้ม คนลงมาจากรถม้ า เมื่ อ เห็น หญิ ง สาวนุ่ มนวล
อ่ อนโยนถูกอุ้มลงมายืนข้างกายใต้ เท้ าเซี่ ย ดวงตาของเขาก็
เบิกกว้าง ประโยคที่เหลือก็แทบสาลักกลืนหายลงคอไป

หลัง จากเซี่ ย เฉิ งจู่อุ้ม หญิ ง สาวลงมาก็โ บกมื อ ให้ ท หาร


ด้ านหลังที่ คุ้มกันเสบียงทัง้ ซ้ ายขวา ทุกคนจึง กระโดดลงจาก
หลังม้าตามกันมา ยามนี้ หน้ าที่ ลาเลียงเสบียงอาหารของพวก
เขาถือว่าสาเร็จเรียบร้อย ส่วนที่ เหลือไม่ใช่หน้ าที่ ของพวกเขา
แล้ว เป็ นคนของเฟิงหลีที่ต้องรับช่วงดูแลจัดการต่อ

เซี่ ย เฉิ งจู่ ห ัน ตัว กลับ มายัง ชายสองคนที่ ป ระสานมื อ


คารวะอย่างเกรงใจ “อย่าสิ้นเปลืองเลย หาห้องอุ่นๆ ให้สกั ห้อง
และเตรียมน้าร้อนกับอาหารอีกชุดโดยด่วนก็พอ”

10
ฮัว้ เหวินเฟยดวงตาเบิกโพลงอ้าปากค้างพูดไม่ออก เขา
หรี่ตาเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “ของที่ เจ้าอยากได้ ข้าจะเร่งจัดการ
ให้”

ถ้าหากของสิ่งนัน้ ไม่ยวยวนเป็
ั่ นที่สดุ ละก็...เขาคงไม่ตอบ
รับการแลกเปลี่ยนข้าวสารถึงสองเกวียนเป็ นแน่

เสบียงอาหารที่ ได้มาใหม่นี้ เพี ยงพอสาหรับทหารสาม


ร้อยนายและใช้ จ่ายในชี วิตประจาวันไปสามเดือน แต่ แรกนัน้
พวกเขาไม่มีเงินทองมาแลกกับเสบียงอาหารแล้ว อี กทัง้ กว่ า
เมืองหลวงจะส่งมาให้กน็ านนัก หาไม่แล้วปื นไฟที่ วางเรียงราย
อยู่ตรงหน้ า อาจต้องสละทิ้งและทนเสียดายต่อไป

ต้องการห้องอบอุ่น? เตรียมน้าร้อนกับอาหาร?

คนอื่ น อาจไม่รู้ไม่เ ข้ าใจ แต่ ฮวั ้ เหวิ น เฟยที่ เคยต้ องทน


ความหิวโหยกับความเย็นยะเยือกในค่ายที่แร้นแค้นร่วมกับเขา
มาก่ อ นจะไม่ รู้ เ ชี ย วหรื อ ? สหายหนุ่ มคนนี้ ฤดู เ หมัน ต์ ห รื อ
คิมหันต์ร่างกายเขาก็เหมือนกัน ตอนนี้ มาเอ่ยปากขอร้องเรื่อง
ที่ ไม่คาดคิด หากจะบอกว่าหญิงนางนัน้ เป็ นคนอื่น เขาไม่มีทาง
เชื่อเด็ดขาด

11
ฮัว้ เหวิ น เฟยเห็น เซี่ ย เฉิ งจู่ ห ัน กลับ มาจับ จู ง หญิ ง สาว
เพราะนางเดินอ้อยอิ่งอยู่ด้านหลัง จากนัน้ ทัง้ คู่กพ็ ากันเข้าไปใน
เรือนที่ ว่าการ เขาจึงหันมาหานายทหารที่ อยู่ข้างๆ แต่ เหมือน
เปรยกับตัวเองมากกว่า

“เจ้ าคิ ด ว่ า ข้ าไม่ได้ ดูผิด ไปใช่ หรือไม่ เขาพาผู้หญิง มา


ด้วย! ในที่ สุดเจ้าคนที่ เอาแต่ฝึกฝนวรยุทธ์ตงั ้ แต่ ยงั เด็กก็บอก
ลาไอ้ไก่อ่อนบริสทุ ธ์ ิ แล้วหรือ?”

นายทหารหนุ่มรูปร่างผอมเหมือนท่อนไม้ยิ้มเจื่อนๆ ไม่
รู้จะตอบอะไรดี เรื่องอย่างนี้ ทหารเช่นเขาไม่กล้าหัวเราะสนุ ก
ปากมากเกินไป เพราะเกรงว่าหากใต้เท้ าเซี่ ยระงับความโกรธ
ไว้ไม่อยู่ นอกจากสีหน้ าจะไม่ดีแล้ว อาจจะมีหมัดซัดใส่ใบหน้ า
เขาได้

้ ้ อีกฝ่ ายพาผูห้ ญิงมาด้วย นายทหารจึงได้แต่


พอเห็นครังนี
มองตาโต

ถึงแม้เฟิงหลีจะเป็ นสถานที่แร้นแค้น แต่การดาเนินชีวิต


ของบรรดานายทหารนัน้ ค่อนข้างฟู่ ฟ่ า เสพสุขสาราญ สบายอก
สบายใจไม่ น้ อ ย ทัง้ ยัง ทรมานคนดัง่ เป็ นเจ้ า ชี วิ ต ได้ ต ามแต่

12
อารมณ์ ฆ่าคนตายนับสิบก็ไม่มีใครใส่ใจ เพราะว่าคนตายล้วน
เป็ นพวกที่ทาผิดทัง้ นัน้

ทัง้ อาหารและสิ่งของอานวยความสะดวกพวกนี้ ถึงแม้จะ


มีน้อย แต่การจัดหาให้คนทัวเมื ่ องกับการแบ่งให้คนไม่กี่สิบคน
ที่นี่ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะอย่างน้ อยทหารของเฟิงหลีกย็ งั ถือ
ว่าสบายกว่าทหารรักษาการณ์ในเมืองเว่ยอันมาก

ที่ ว่ า การเก่ า ครึ คื อ ภายนอกที่ ค นอื่ น เห็ น แต่ ภ ายใน


ตกแต่งได้อย่างสวยงามต่างจากสิ่งที่เห็นด้านนอกลิบลับ

ครัน้ เดินผ่านลานกว้างใหญ่ เซี่ยเฉิงจู่ เห็นดวงตาของคน


ข้างกายจึงยื่นมือไปจับมือเล็กที่เย็นเยียบไว้

เมื่อสวมเสื้อขนจิ้งจอก ใบหน้ าของถานหวันช ่ ิ งยิ่งดูเล็ก


กว่าเดิม ทัง้ ต้ องลมจนใบหน้ าขาวซี ด ทว่าตอนนี้ กลับแดงปลัง่
ขึน้ มาอย่างห้ามไม่อยู่ ด้วยนางยังจดจาช่วงก่อนเข้ามาเมืองที่มี
แต่ป่าเปลี่ยวไร้ผ้คู นได้ดี คนผู้นี้ฉวยโอกาสใช้ฝ่ามือทาอะไรต่อ
มิอะไรบนร่างนาง

13
ถึ ง แม้ น างจะเคย ‘ประสบ’ มาแล้ ว แต่ นี่ มัน ห่ า งจาก
กฎเกณฑ์ที่ตนยอมรับได้ แม้แต่เสื้อขนจิ้งจอกก็ยงั เปรอะเปื้ อน
ไปหมด

พอนึ กถึงมือนี้ ที่ต่อให้ เช็ดแล้วก็ยงั มีคราบ...ติด นางจึง


สะบัดมือเขาออกอย่างโมโห เงยหน้ าตวัดสายตามองเขาด้วย
ท่าทางโกรธเคืองแวบหนึ่ ง ทว่านางก็ทาได้เท่านี้ แหละ

ใครจะไปรูว้ ่าไม่ใช่แค่แววตาของเขาเท่านัน้ ที่ยิ้ม มุมปาก


ยังยิ้มกริ่มอีกด้วย

ขณะนี้ ทงั ้ สองกาลังฟาดฟั นกันด้วยสายตา ถานหวันช ่ ิง


เงยศี รษะขึ้น ตามความสูงของอี กฝ่ าย หมวกบนเสื้ อคลุมขน
จิ้งจอกซึ่ งเดิ มที บ งั ไว้เ กื อบครึ่ง หน้ าก็ขยับเลื่ อนลงไป เผยให้
เห็นใบหน้ างดงามเนี ยนละเอียดเกลี้ยงเกลา คิ้วเรียวราวกับใบ
หลิ ว ดู ล ะมุ น ละไมและอ่ อ นโยน แต่ ด วงตาของนางนั ้น ท า
ให้คนที่กาลังจ้องอยู่ถึงกับตะลึงพูดไม่ออก ในนัน้ มีทงั ้ ความคับ
แค้นใจ ความโมโห และน่ ารักไร้เดียงสา กลีบปากที่ ปราศจาก
ชาดแต้ ม เม้ ม สนิ ทราวกับ ผลอิ ง เถาเดื อ นห้ า สดนุ่ มนิ่ มเป็ น
ธรรมชาติ แดงสุกปลังที ่ ่ ขนาดสีชาดก็เที ยบไม่ติด ทัง้ หมดนี้ ส่ง
ให้บรรยากาศราวกับทัวทั ่ ง้ ผืนดินและแผ่นฟ้ าอันเต็มไปด้วยสี
ขาวโพลนของหิมะจืด ชื ด จู่ๆ ก็มีด อกกุหลาบงดงามผลิบ าน
14
ฉับพลัน นางช่างมีชีวิตชี วาสี สนั สดใสประหนึ่ งเพิ่งเดินออกมา
จากภาพวาด สวยจนผูค้ นตกตะลึง

ทุกคนสังเกตเห็นใต้เท้าเซี่ยมีสายตากรุ้มกริ่มและอมยิ้ม
มุมปากอยู่ตลอด แล้วเขาก็ดึงหมวกขนจิ้งจอกขึ้นมาปิดดวง
หน้ างามดังเดิม นางจึงเงยหน้ าขึ้นอีกครัง้ จึงทันได้เห็นรอยยิ้ม
ราวกับภาพลวงตาครูห่ นึ่ งก่อนที่มนั จะสูญสลายหายไป

รอจนกระทังหนุ ่ ่ มสาวทัง้ คู่เดินไปแล้ว ชายวัยกลางคน


ร่างอวบอ้วนอายุราวสี่สิบ หนึ่ งในสองคนที่มาต้อนรับก็อดถาม
ไม่ได้ “นัน่ คือเซี่ ยเฉิงจู่แห่งเว่ยอันมิใช่หรือ? หรือสตรีข้างกาย
นัน้ คือฮูหยินของเขา?”

“ผูป้ กครองเมืองเว่ยอันแต่งงานแล้วหรือ ข้าไม่เคยได้ยิน


ข่าวเลยขอรับ น่ าจะเป็ นนางบาเรอในบ้านหรือเปล่า?”

“นางบ าเรอรึ ?” ใบหน้ า ชายวัย กลางคนผู้นั ้น พลัน สัน่


ระริก สิ่งที่ นึกคิดไว้ในใจ จุดประกายในดวงตาเล็กให้สุกสกาว
ขึน้ มา

15
61 รนหาที่

กลุ่มผูม้ าเยือนได้รบั การจัดการเรือ่ งที่พกั ให้อย่างว่องไว

ห้ อ งที่ ถ านหวัน่ ชิ งพัก ไม่ เ หมื อ นกับ ห้ อ งรับ รองแขก


ธรรมดาทัวไป่ เหมือนกับว่าข้าวของที่ มีอยู่เดิมถูกเคลื่อนย้าย
ออกไปชัวคราว
่ พอนางเดินเข้าไปก็มีกระแสความร้อนจัดลอย
มาปะทะใบหน้ า

ถานหวันช ่ ิ งเหมือนเดินเข้ามาในรังที่ อบอุ่นและหรูหรา


หญิงสาวกวาดตามองสักครู่กร็ ้วู ่าห้องนี้ ปานสวรรค์บนดิน ด้าน
ในคล้ ายกับ ห้ องที่ น างกับ ลุ่ย จูอยู่ แต่ ใหญ่ โ ตโอ่ อ่าถึ ง ขนาดมี
ถาดใส่ถ่านไฟกี่ใบก็ไม่พอ

ทว่าที่ ในห้องยังคงอบอุ่นอยู่ได้กเ็ พราะผนังถูกบุจนหนา


และมี ช่ อ งไฟใต้ ดิ น อี ก ช่ อ งคล้ า ยกับ พื้ น ดิ น ร้ อ น ใต้ ช ายคา
ระเบียงก็มีช่องให้เติมถ่านไฟ จึงสามารถกักเก็บอากาศร้อนไว้
ไม่ให้กระจาย

หลังจากเข้ามาในห้องพักเรียบร้อยแล้ว ใต้ เท้าเซี่ยก็ดแู ล


หญิงสาวด้วยการเลิกหมวกขนสัตว์บนศีรษะลงมาให้ ต่ อด้วย

1
แกะชุดคลุมขนจิ้งจอกออกไปพาดไว้ด้านข้าง ไม่ร้วู ่าก่อนหน้ า
นี้ เขายังไม่หนาใจกับการสัมผัสเนื้ อตัวนางหรืออย่างไร พอลง
มาจากรถม้าจึงเห็นนิสัยแปลกๆ ของเขาที่ ซุกซ่อนเอาไว้อย่าง
แนบเนี ยน หญิงสาวจ้องเขาเขม็งไม่พดู อะไร อีกฝ่ ายตอบกลับ
ด้วยการเลิกคิ้วสูง ทาท่ าทางไม่ร้ไู ม่ชี้เสี ยอย่างนั น้ ทว่าสี หน้ า
กลับมีความสุขเหลือเกิน

ยามอยู่ ต่ อ หน้ า คนอื่ น เขามัก จะมี ท่ า ที เ มิ น เฉยดัง เช่ น


ปกติไม่มีพิรธุ แต่เวลาที่ อยู่ด้วยกันสองต่ อสอง เขาก็ไม่เก็บงา
อาการเอาเสียเลย รีบก้าวเข้ามาหานางด้วยความรีบร้อน ถาน
่ ิ งถูกดันจนเซถอยหลังไปล้มลงบนเตี ยงที่ ปูผ้าคลุมหนา
หวันช
นุ่มเอาไว้อย่างดี

ชายหนุ่มรีบร้อนปลดชุดตัวนอกออกจากร่างนาง มือไม้
สองข้ า งพัว พัน อยู่ บ นตัว หญิ ง สาวไม่ ห ยุ ด แววตาที่ จ้ อ งมอง
เปิดเผยความปรารถนาที่เอ่อล้นจวนเจียนจะหยดลงมา

ร่ า งกายนางร้อ นผะผ่า วราวนั ง่ บนกองไฟ ประหนึ่ ง ว่ า


เปลวไฟจากตัว เขาท่ ว มท้ นมาปกคลุ มตัว นางไว้ เมื่ อ เจอกับ
ความต้ องการที่ รุนแรงของอี กฝ่ ายก็เหมือนตัวนางจะละลาย
กลายเป็ นฝนแล้วระเหยเป็ นไอหมอก ความปรารถนาของเขา
เข้าครอบงานางจนทาให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มตามไปด้วย
2
ถานหวันช่ ิ งไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงกาลังของตนเป็ นอะไร มัน
คล้ายมีความเร่าร้อนแฝงอยู่ นางไม่สามารถระงับอารมณ์ และ
ความต้องการไว้ได้ รู้สึกเพียงว่าทัวเรื
่ อนกายไหวสะท้าน สมอง
พลันพร่าเลือน รับรูไ้ ด้เพียงคนตรงหน้ า

เซี่ ยเฉิงจู่อดทนมาได้สองวันแล้ว ก่อนหน้ านี้ เขาไม่เพียง


ตะกละ แต่ยงั มีความกระหายอย่างมากอีกด้วย แม้เวลานี้ จะยัง
ไม่ได้แตะต้องนางจนถึงขัน้ ตอนสุดท้าย แต่น้าเสียงของเขาก็ยงั
แหบพร่า แววตาลุ่มลึกราวกับบ่อน้ าไร้ก้นจ้องมองบางสิ่งที่ นูน
อยู่ใต้ชุดตัวในบางเบา เขาโถมร่างหนาเข้าแนบชิด จุมพิตแก้ม
อิ่มกับริมฝี ปากนุ่ม แล้วเอ่ยถ้อยคาไร้ยางอายอย่างโจ่งครึม่

“เจ้าบอกว่าเจ็บ...เจ็บตรงไหน? แล้วทาไมถึงเจ็บ หรือ


มือของข้าจะมีไอเย็นจากหิมะ ?” เขาหายใจหอบระรัวพลางเอ่ย
ต่อ “ถอดผ้าออกให้ข้าดูอย่างละเอียดหน่ อยสิ...”

่ ิ งยากที่ จะต่ อต้ านและรับ มือได้ พลังของทัง้


ถานหวันช
สองแตกต่ างกันมาก และตอนนี้ นางกาลังถูกอี กฝ่ ายชักนาไป
ตามห้วงอารมณ์ ใบหน้ าหญิงสาวพลันแดงปลัง่ ในสมองเหมือน
เห็นคนกาลังกลายร่างเป็ นหมาป่ า...

3
่ ยินเสียงคนเอาน้ามาส่งแว่วมาจากประตู ใต้
จนกระทังได้
เท้าเซี่ ยจึงรีบตรวจสอบนางจนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เขาลุกขึน้
ด้วยลมหายใจที่ ยงั ไม่คงที่ นัก จากนัน้ ก็เอื้อมไปดึงผ้าแพรต่วน
มาคลุมเรือนกายของนางแล้วบอกว่า “ข้าจะออกไปคุยกับพวก
ข้ า งนอกสัก หน่ อยประเดี๋ ย วจะให้ ค นส่ ง อาหารมาให้ เจ้ า
พักผ่อนให้ดีล่ะ”

กล่าวจบก็จุมพิตที่ แก้มเนี ยนนุ่ม เพียงสบเข้ากับดวงตา


ขุ่นเคืองของหญิงสาว เขาก็หวั เราะเสียงเบาก่อนผละไป

เพียงไม่นานเด็กรับใช้กห็ ิ้ วน้ าร้อนเข้ามาในห้องให้ ถาน


หวันช่ ิ งรู้สึกว่าในท้องยังคงวูบไหวก็ไม่ร้วู ่าจะโกรธหรือจะอายดี
นางหายใจแรงขึ้ น ลงอยู่ ห ลายครัง้ ก่ อ นจะรี บ ลุ ก ขึ้ น จัด การ
เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยจนเรียบร้อย

ตอนที่ เ ด็ ก รับ ใช้ ส องคนเข้ า มาก็ เ จอกับ ชายหนุ่ มที่


สาวเท้าออกไปพอดี ทัง้ สองตกใจจนหัวใจเต้นระรัว เพราะก่อน
เข้ามาก็ถกู ทหารชุดเกราะหลายสิบนายที่ ยืนเฝ้ าระวังอยู่หน้ า
ประตูขวางไว้ ทาให้ พวกนางตกใจแทบขวัญหายไปคราหนึ่ ง
แล้ว ไม่ร้วู ่าพวกเขามาเฝ้ าระวังนักโทษอะไรที่ นี่หรือเปล่า อี ก
ทัง้ นอกเรือนยังมีเชือกเขียวกัน้ ไว้ด้วย บ่งบอกเป็ นนัยว่าอย่าได้
ปัน้ จิ้มปัน้ เจ๋อเดินลอยชายเข้ามาบริเวณนี้
4
แต่ ทนั ที ที่ได้เห็นผู้ที่อยู่ในห้ อง สาวใช้ สองนางจึงเข้าใจ
ในทันที ต่ างสบตาแล้วคิดตรงกันว่าคนข้างในต้องเป็ นนางใน
ดวงใจของใต้เท้าที่เดินออกไปเมื่อครู่นี้เป็ นแน่ คาดว่าเขาคงจะ
ออกไปนาน เพราะก่ อนไปยัง หัน มาสังให้ ่ พ วกนางน าอาหาร
และขนมหวานมาส่ งให้ คนข้างใน ถึงแม้ท่าทางใต้ เท้ าจะเย็น
ชาไปสักนิด แต่แท้จริงแล้วใจกว้าง ดังนัน้ เมื่อทัง้ สองเดินเข้ามา
ก็ตงั ้ ใจปรนนิบตั ิ หญิงสาวเป็ นอย่างดี

พื้นที่ แห้ งแล้งของเฟิงหลี ขดั กับบรรยากาศในที่ ว่าการ


ยามนี้ เป็ นอย่างมาก

ผู้คนในที่ ว่าการกาลังกินดื่มและร้องราทาเพลงกันอย่าง
สนุกสนาน มียกพื้นสูงที่ มีคณะดนตรีนัง่ เป่ าขลุ่ย และมีคนร้อง
เพลงพืน้ บ้านคลอไปด้วย

เซี่ ยเฉิงจู่กบั ลูกน้ องคนสนิทห้านายและเจ้าเมืองเฟิงหลี


นัง่ ร่วมโต๊ะเดียวกัน ส่วนฮัว้ เหวินเฟยนัง่ อยู่อีกโต๊ะทางด้านหลัง
เขามองซ้ า ยแลขวา เอ่ ย ถามแกมหยอกล้ อ สหายเก่ า แก่ ใ น
ขณะที่ในมือถือจอกสุรา

5
“ใต้ เท้ าเซี่ ย เจ้าเอาคนไปซ่ อนไว้ ที่ ไหนแล้ ว? ทาไมไม่
เห็น พาออกมา? เป็ นหญิง ก็นั ง่ ร่ว มโต๊ะด้ ว ยกัน ได้ ไม่ รบกวน
หรอกน่ า”

เซี่ ยเฉิงจู่กวาดตามองเจ้าเมืองเฟิงหลีกบั ลูกน้ องอีกฝ่ าย


ที่มีนางบาเรอขนาบทัง้ สองข้างก็ขมวดคิ้ว สีหน้ าเหมือนไม่ค่อย
ชอบใจสิ่งที่ เห็นนัก ก่อนเอ่ยตัดบทไปว่า “ผู้หญิงนัน้ ยุ่งยาก ลม
พัดนิดเดียวก็ไม่สบายแล้ว ทัง้ ยังอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง เห็นแล้วจะ
หมดอารมณ์เสียเปล่า”

กล่ าวจบก็ย กจอกสุราขึ้น มาชนกับ จอกในมื อฮัว้ เหวิ น


เฟย หลายคนต่ า งก็ช นจอกเข้ า ด้ ว ยกัน ทัง้ ที่ เ ริ่ ม รู้สึ ก กระอัก
กระอ่วนใจขึน้ มา

ด้ ว ยว่ า บัด นี้ บรรดาข้ า ราชการเมื อ งเฟิ งหลี ล้ ว นสุ ข


สาราญ มีนางบาเรอในชุดเสื้อผ้าโปร่งบางเดินนวยนาดมาหา
ในขณะที่ เคลื่อนไหวไหล่นวลกับขาเรียวเปลือยเปล่าก็เผยให้
เห็นวับๆ แวมๆ ราตรีหนาวในป่ าเขา หนาซา้ เมื่อมีสรุ าเข้าปาก
ยิ่งทาให้พวกนางดูสวยสดเป็ นพิเศษ

6
บนโต๊ะมีทงั ้ สุราชัน้ ดีและกับแกล้ม ส่วนข้างกายก็มีหญิง
งาม เมื่อพินิจเจ้าเมืองเฟิงหลีอีกที คนผู้นี้อ้วนจา้ มา่ ใบหน้ ามัน
ขลับ ยากที่จะโยงไปถึงภาพที่เห็นก่อนหน้ าได้

เพราะตอนที่ พวกเขาเข้ามาในเมือง เห็นศพคนหิวตาย


สองศพถูกยกออกไปอย่ างไม่แยแส การน าเสบีย งอาหารมา
แลกกับอาวุธรอบนี้ คงได้เห็นภาพ ‘บาดตา’ กลับไปไม่น้อย แต่
เพราะที่นี่ไม่ใช่เว่ยอัน ไม่ใช่ที่ของเขา ชายหนุ่มจึงไม่อาจล่วงลา้
ได้แต่ปัน้ หน้ ากลับไปเพื่อความสนิทสนมกลมเกลียวเท่านัน้

หลั ง จากสุ ร าฤทธ์ ิ แรงลงท้ องไปหลายจอก พวก


ข้าราชการเฟิงหลีกบั นางบาเรอที่ อยู่รายรอบก็ยิ่งสรวลเสเฮฮา
ท่าทางทุกคนยิ่งหลงระเริง คนเฟิงหลีทุกข์ยากเสบียงอาหารมี
น้ อยแต่มิขาดอิสตรี พวกนางถูกเนรเทศบ้านแตกสาแหรกขาด
เพราะครอบครัวกระทาความผิ ด ต่ อ ราชส านั ก เมื่ อ คิ ด ถึ ง ว่ า
พวกขุนนางคงไม่แต่งภรรยาหรืออนุภรรยาที่ หน้ าตาอัปลักษณ์
ดังนัน้ อิสตรีพวกนี้ จึงล้วนมีรปู โฉมงดงาม ผู้ลี้ภยั ที่ มาอยู่ที่นี่แม้
ภายหลังจะได้รบั การอภัยโทษ แต่ กไ็ ม่มีฐานะหรือตาแหน่ งมา
ต่ อ รองแล้ ว บุ ต รสาวในบ้า นหากงดงามสัก หน่ อ ยก็จ ะกลาย
มาเป็ นนางบาเรอให้ ข้าราชการ ดังนั น้ หญิงสาวทัง้ หลายที่ นัง่
ข้างกายขณะนี้ ล้วนแต่มีหน้ าตาไม่เลวกันทัง้ นัน้

7
เมื่ อ เซี่ ย เฉิ งจู่ ซึ่ ง นั ง่ อยู่ ต รงกลางถูก หยอกเย้ า เขาก็
พยายามฝื นยิ้ ม ให้ ครัน้ เห็ น สายตานางบ าเรอข้ า งกายก็
หยุดชะงักแล้วเบือนหน้ าหนี

พวกลูกน้ องของใต้เท้าเซี่ ยสีหน้ าแดงกา่ ด้วยฤทธ์ ิ สุรา มี


สองนายที่ จบั เอวคอดลูบไล้ขึ้นมาถึงใบหูและเส้นผมของหญิง
งาม แต่ นิสัยของใต้เท้าเซี่ ยพวกเขาต่างรู้ดี จึงต้ องเจียมตัวลด
ทะยานอยากลงบ้าง เพราะแต่ไหนแต่ไรใต้เท้าก็ไม่เปิดหูเปิดตา
ริ อ่ า นเรื่ อ งพวกนี้ หากว่ า รู้จ กั เปิ ดรับ ก็ค งจะดี ไ ม่ น้ อ ย ตอนนี้
แม้แต่ อาหารตาก็เ ลิกกิน แล้ ว ใต้ เ ท้ าซึ่ ง นั ง่ ตัว ตรงจิบ สุราอยู่
ตรงนั น้ หางตาไม่เหลือบแลนางบาเรองดงามข้างกายเลยสัก
นิด

แม่ทพั หัวเมืองดูไม่แตกต่างจากแต่ก่อนเลย ใช่ว่าใต้เท้า


จะทาไม่ได้ แต่ หากพูดว่าไม่แล้ วก็คือไม่อยู่ดี เขาค่ อนข้ างจะ
เมินเฉยเสี ยด้วยซ้าจนทาให้ นึกถึงหญิงที่ อยู่ในห้ องผู้นัน้ นาง
เปรียบได้กบั รสชาติอาหารที่ อร่อยถูกปาก ใต้ เท้ าจึงไม่เหลียว
แลจานเล็กจานน้ อย

ใต้ เ ท้ าเซี่ ย ที่ พ วกเขาเคยเห็นไม่เ ข้ าใกล้ ผ้หู ญิง แต่ การ


เดิ นทางครัง้ นี้ กลับ เปิ ดเผยและไม่ เ คร่ ง ครัด เขาท าลาย
กฎเกณฑ์โดยการพาผู้หญิงมาด้วย ผิดกับฮัว้ เหวินเฟย รายนัน้
8
นาหน้ าสหายไปไกล ยามนี้ เขาอายุยี่สิบกว่าปี มีนางบาเรอหก
คน และมีผ้หู ญิงเข้ามาเกาะแกะมากมาย กระทังตอนนี
่ ้ กย็ งั มี
ผู้หญิงขนาบกายทัง้ ซ้ายขวา ท่าทางเบิกบานสนุกสนานรื่นเริง
เพราะได้ยินเสียงหัวเราะดังมาไม่ขาดสาย

เซี่ ยเฉิงจู่หิวมาก เขากับเหล่าทหารกินแป้ งทอดแข็งเย็น


ชืดมาตลอดทาง พอได้กลิ่นเนื้ อท้องก็เลยร้องลัน่ ชายหนุ่ มจึง
นัง่ กินอาหารอย่างเต็มที่ สาหรับเขา การปล่อยอาหารไว้บนโต๊ะ
โดยไร้คนสนใจช่างเป็ นภาพที่สิ้นเปลืองและฟุ่ มเฟื อยสิ้นดี

เวลาผ่ า นไป ไม่ รู้ว่ า ใครในโต๊ะ เอ่ ย ถึ ง การแลกเปลี่ ย น


นางบาเรอกัน ทุกคนจึงยิ่งสนุกสนาน หลายๆ คนร่วมเล่นด้วย
สาหรับพวกเขาแล้วนางบาเรอก็เหมือนๆ กัน ไม่ว่าจะเป็ นของ
เล่นส่ วนตัว เป็ นเพื่อนคุยยามว่าง หรือจะแลกเปลี่ ยนซื้อขาย
่ งให้เป็ นของกานัลก็ล้วนเป็ นเรื่องปกติ เพียงแค่ไม่มี
แม้กระทังส่
ให้เห็นบ่อยเท่านัน้ เอง

ฮัว้ เหวิ น เฟยมี น างบ าเรอขนาบข้ า งสองคนก็อ ยากจะ


แลกเปลี่ ยนเช่ นกัน จึงตบโต๊ะขอเปลี่ยนทันที บรรยากาศการ
แลกเปลี่ยนเป็ นไปอย่างครึกครืน้

9
สตรีเหล่านี้ ช่างน่ าเวทนาอย่างมาก ตาแหน่ งก็ต่าต้ อย
วันนี้ ถกู เจ้าของซื้อมา พรุง่ นี้ กไ็ ม่รวู้ ่าร่างของตนจะอยู่ที่แห่งไหน

การแลกเปลี่ยนเป็ นไปอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ทหารจากเว่ย


อันห้านายได้แต่นัง่ กินเนื้ อพลางนึ กในใจ ข้าราชการน้ อยใหญ่
แห่งเมืองเฟิงหลีเหล่านี้ ใช้ ชีวิตสบายเสี ยจริง เมียตัวเองก็ดูแล
ไม่ ไ ด้ นางบ าเรอของพวกเขาก็เ ปลี่ ย นกัน ตามอารมณ์ ไร้
หลักธรรมของสวรรค์ แล้วอย่างนี้ จะไปพูดถึงหลักเหตุผลได้
อย่างไรกัน

นายทหารทัง้ ห้าเห็นภาพเหล่านี้ กไ็ ด้แต่ข่นุ เคืองอยู่ในใจ


สายตาพลันเลื่อนไปมองใต้ เท้ าของพวกตน ตอนที่ มองไปนั น้
เห็นใต้เท้านัง่ นิ่ง ฟังคนอื่นพูดเงียบๆ

สุดท้ ายดอกไม้แรกแย้มสองพี่น้องที่ หน้ าตาคล้ายกันคู่


หนึ่ งก็ดึงดูดสายตาของทุกคน แม้รปู ร่างหน้ าตาจะแค่พอใช้ แต่
ใบหน้ ารูปไข่ที่คล้ายกันทัง้ คู่เช่นนี้ หาได้ยากมาก

ฮัว้ เหวินเฟยเอ่ ยอย่างประหลาดใจ “แบบนี้ มีให้ เห็นไม่


บ่อยนั ก สองสาวพี่น้องนี้ จะแลกเปลี่ ยนอย่างไร?” เขามองไป
รอบๆ แล้วถามต่อ “ท่านอยากจะแลกกับใครล่ะ?”

10
หัว หน้ า เจี่ ย ยื น ขึ้ น แล้ ว เอ่ ย อย่ า งภาคภูมิ “ดอกไม้ แ รก
แย้มสองพี่น้องนี้ เป็ นที่ หนึ่ งในเฟิงหลี สุ้มเสี ยงการขับร้องเป็ น
เลิศ รู้จกั การวางตัว รู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร เชื่อว่าเมืองเว่ย
อัน น่ า จะมี ใ ห้ เ ห็น ไม่ มาก ใต้ เ ท้ า เซี่ ย หากว่ า ท่ า นต้ อ งการ ข้ า
ยอมให้ท่านสองต่อหนึ่ ง ยอมเสียเปรียบแลกกับใต้เท้าเซี่ย”

่ ออกมา คนที่เอาแต่กินเนื้ อกับดื่ม


ทันทีที่ถ้อยคานี้ พรังพรู
สุราก็หยุดชะงัก ทหารคนสนิทห้านายที่แอบลูบคลาหญิงงามใต้
โต๊ะล้ ว นหยุด การกระทา สายตาจ้องเขม็งไปยังคนที่ พูด เป็ น
ตาเดียว

เซี่ ยเฉิงจู่กาลังดื่มสุราอย่างเรื่อยเฉื่ อย พอถูกเอ่ ยชื่ อ สี


หน้ าพลันเคร่งขรึม ก่อนจะใช้สายตาเย็นเยียบมองไปยังคนที่
อยากแลกเปลี่ยนนางบาเรอผูน้ ัน้

นายทหารห้ านายก็มีท่าทางไม่ต่างจากใต้ เท้ าของพวก


ตน

ชายทัง้ ห้ าถลึงตาจ้องอี กฝ่ ายด้วยความกรุ่นโกรธ มือที่


กาลังถือน่ องไก่อยู่กว็ างน่ องไก่ลง ใบหน้ าที่ กาลังหัวเราะร่วน
ด้วยความสุขก็เปลี่ยนเป็ นเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง มือที่ ลูบคลา
นางบาเรอพลันหยุดชะงัก ต่ างเก็บไม้ เก็บมือกลับมา ทุกคน
11
ล้วนจ้องเขม็งไปยังผู้ที่อยากเปลี่ ยนนางบาเรอกับใต้ เท้ า แม้
หน้ าตาจะแตกต่ างกัน แต่ อารมณ์ ของพวกเขาเหมือนกันไม่มี
ผิ ด ผู้บ งั คับ บัญ ชาเป็ นอย่ า งไรทหารลู ก น้ องก็เ ป็ นอย่ า งนั ้น
ผู้บ งั คับ บัญ ชาเจ้ า ชู้ ลู ก น้ อ งก็เ ลี ย นแบบตาม ผู้บ งั คับ บัญ ชา
ตระหนี่ ลูกน้ องก็พลอยตระหนี่ ไม่ใจกว้างไปด้วย

และเซี่ ยเฉิงจู่ผนู้ ี้ เป็ นคนปกป้ องลูกน้ องของเขามากที่สุด


เพียรหาของและสรรพกาลังมาช่วยเหลือสนับสนุนลูกน้ อง ไม่
ว่าจะตี หรือฆ่า ทุกคนล้วนเชื่อฟั งเขาคนเดียวเท่านัน้ หากว่าใต้
เท้าต้องการ แม้แต่นิ้วพวกเขาก็ตดั ให้ได้

เขาคือผู้ก่อตัง้ กิจการฆ่าและปล้นพวกโจรมาเลี้ยงทหาร
ทุกคนรู้เพียงว่าเขาเห็นโจรเป็ นต้องยื้อแย่ง เหนื อโจรก็คือปล้น
โจรนี่ แหละ เริ่มแรกพวกเขาเป็ นเพียงทหารพิทกั ษ์รกั ษาป้ อม
ปราการ เห็น ชาวบ้า นเพาะปลูกพื ช ไร่ด้ ว ยตาของตัว เอง แต่
กลับถูกพวกคนเถื่อนปล้นฆ่าแย่งชิง

ตั ้ง แต่ นั ้ น มา พอพบกั บ โจรผู้ ร้ า ยเป็ นต้ องสั ง หาร


ปราบปรามซ่ อ งโจร โค่ น พวกมัน ให้ ห มด จนตอนนี้ บริ เ วณ
รอบๆ เมืองเว่ยอันในระยะสิบลี้ไร้ซึ่งโจรผู้ร้าย พวกเขาไม่ต้อง
ย้ายครอบครัวไปตัง้ รกรากถิ่นอื่นอีกแล้ว

12
นายทหารทัง้ ห้ารู้จกั เจ้าอ้วนหัวหน้ าของเฟิงหลีผ้นู ี้ ดี จึง
แอบสบถในใจว่า รนหาที่!

การเสนอแลกเปลี่ยนนางบาเรอของมันคงไม่ได้พูดกัน
เล่นๆ แสดงว่ามันขวัญกล้าตัง้ ใจอยากจะได้ผ้หู ญิงของใต้ เท้ า
ตัง้ แต่ แรก จึงเล็งเป้ ามาทางนี้ โดยไม่คิด อย่าได้เอ่ยถึงว่าคนผู้
นัน้ ใช่นางบาเรอหรือไม่ หรือต่อให้เป็ นนางบาเรอ นางก็เป็ นคน
ของใต้เท้า ไม่ใช่คนที่ใครอยากได้กม็ าขอแลกขอซื้อ!

หรือมันจะเอาคาพูดว่าอิสตรีนัน้ ยุ่งยากมาถือเป็ นเรื่อง


จริงจัง นัน่ เป็ นเพียงคาพูดเพื่อให้อีกฝ่ ายไม่เสียน้าใจเท่านัน้ ใต้
เท้าไม่ได้อยากนาคนออกมาด้วยตัง้ แต่แรกอยู่แล้ว

น่ าขาสิ้นดี! แม้แต่ ไปปลดทุกข์ใต้ เท้ ายังอุตส่ าห์พาขี่ ม้า


ไปเสี ยไกลโพ้น ปกป้ องนางจากสายตาพวกเขาขนาดนี้ แล้วจะ
เอาออกมาแลกกับคนอื่นทาไมกันเล่า?

“ปัง!”

จอกทองแดงในมือเซี่ ยเฉิงจู่ถกู กระแทกลงบนโต๊ะอย่าง


แรง สุราในจอกกระฉอกออกมาทันที นางบาเรอข้างกายกรีด

13
ร้ อ งด้ ว ยความตกใจ สี ห น้ าชายหนุ่ มเรี ย บเฉยเหมื อ นไม่ มี
ความรูส้ ึกใดๆ ทัง้ สิ้น

บรรยากาศสนิ ทสนมกลมเกลี ย วเมื่ อ ครู่ อ ัน ตรธาน


หายไปไม่ ห ลงเหลื อ ชัว่ พริ บ ตาใบหน้ า สงบใจดี ข องใต้ เ ท้ า ก็
แปรเปลี่ ยนเป็ นพยับเมฆหนาแน่ นตัง้ เค้าพายุร้าย ทุกคนที่ ได้
เห็ น ต่ า งเงี ย บกริ บ ลงทัน ใด ไม่ น านหู ข องพวกเขาก็ไ ด้ ยิ น
น้าเสียงเย็นเยียบถามขึน้ ว่า...

“ที่พดู น่ ะ คิดแล้วหรือ?”

14
62 เสียงนินทา

่ ิ งด้วยท่าทางดี
สาวรับใช้สองนางรับรางวัลจากถานหวันช
อกดีใจ

ยามนี้ อ่ า งอาบน้ า มี ก ลี บ ดอกไม้ ล อยอยู่ ด้ า นบนจนได้


กลิ่ น หอมรวยริ น ปะปนมากับ ไอน้ า พวกนางได้ ต ระเตรี ย ม
เสื้อผ้าตามที่ ใต้ เท้าท่านนัน้ สังก
่ าชับไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจาก
หญิงสาวอาบน้าชาระกายเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในห้องที่ อบอุ่น
เห็นหญิงรับใช้ทงั ้ สองกาลังจัดวางสารับอาหารลงบนโต๊ะ

่ ิ งย่างกรายออกมา หญิงทัง้ สองก็เบิก


เมื่อเห็นถานหวันช
ตาโตค้างอย่างตกตะลึงในความงาม ก่อนจะได้สติแล้วรีบจัด
โต๊ะตรงหนาต่อ

นางมองไปยังอาหารและขนมหวานที่วางเรียงรายอยู่บน
โต๊ะ ความอุดมสมบูรณ์ต่างไปจากที่จินตนาการไว้มาก

ั ่ นชิ้นเล็กๆ
อาหารบนโต๊ะมีหลากหลายทัง้ เนื้ อหมูหนเป็
เนื้ อแพะตุ๋น หนังหมู แล้วยังมีปลาเค็มแห้งกับ หมันโถวอี
่ กหนึ่ ง

1
่ ิง
จาน แถมในนั น้ ยังมี ขนมหวานอี ก สองอย่ าง พอถานหวันช
ลองชิมดู ก็พบว่ารสชาติอร่อยมากทีเดียว

“ฮูหยิน นี่ คือขนมน้าผึง้ หยกขาว ด้านข้างคือขนมน้าตาล


กุหลาบเจ้าค่ะ” สาวใช้สงั เกตสีหนาของหญิงสาวยามชิมอาหาร
เมื่อเห็นว่าถานหวันช ่ ิ งชื่นชอบขนมหวานจึงรีบแนะนาในทันใด

ถานหวันช ่ ิ งได้ยินดังนัน้ ก็ยิ่งชื่นชอบ ใช้ตะเกียบคีบขนม


ชิ้นเล็กๆ นุ่มนิ่มที่มีสีแดงราวกับกลีบดอกไม้

“น้าตาลกุหลาบ? ทาจากดอกกุหลาบงัน้ หรือ?”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะฮูหยิน ใช้กลีบดอกกุหลาบเคี่ยวกับน้ าผึง้


จึงกลายเป็ นน้ าตาลกุหลาบ มีรสชาติหอมหวาน อร่อยมากนะ
เจ้าคะ ฮูหยินลองชิมดูเจ้าค่ะ” หญิงรับใช้อีกนางพูดแทรกแล้ว
ยิ้มแป้ น

พวกนางทัง้ สองไม่รู้สถานะที่ ชดั เจนของหญิงตรงหน้ า


แต่ ในเมื่ อใต้ เ ท้ าท่ านนั น้ เป็ นคนพามาด้ ว ย หากจะเรี ย กว่ า ฮู
หยินก็คงไม่ใช่เรือ่ งผิด

2
ถานหวันช่ ิ งคีบน้ าตาลกุหลาบเข้าไปในปาก เพียงชัวครู
่ ่
ในปากก็อบอวลไปด้วยความหอมของดอกกุหลาบ มีรสหวาน
แต่ ไม่เลี่ยน อร่อยสมกับที่ ทงั ้ สองแนะนา จากนัน้ ก็ชิมขนมอี ก
อย่างทันที

เมื่อเห็นทัง้ ขนมน้ า ผึ้งหยกขาวและขนมน้ า ตาลกุหลาบ


ต่างก็มีน้าผึง้ เป็ นส่วนผสม นางจึงเอ่ยชม

“การใช้น้ าผึง้ แทนน้ าเชื่อมทาให้ขนมทัง้ หวานหอมและ


ไม่เลี่ยน นับว่าอร่อยมากเลย”

หญิงรับใช้ทงั ้ สองได้ยินก็ยิ้มกว้าง พวกนางดูออกว่าหญิง


สาวตรงหน้ า ไม่ ถื อ ตัว และไม่ ห ยิ่ ง ยโส นางมี ท่ า ทางนุ่ มนวล
อ่อนโยน ทาให้ความระวังตัวเมื่อแรกเริ่มจางหายไป พวกนาง
จึงอธิบายต่ อ “เรียนฮูหยิน พวกเราอยู่ที่นี่แห้งแล้งมาก พอฤดู
ใบไม้ ผ ลิ ม าถึ ง จึ ง จะมี ด อกไม้ ด อกหญ้ า เจริ ญ งอกงาม หลาย
ครอบครัวจึงเลี้ยงผึง้ ไว้เพื่อเก็บน้าผึง้ เจ้าค่ะ...”

“ทัง้ หมดนี้ เป็ นผู้ลี้ภยั มาจากเมืองหลวงที่สอนให้ เลี้ยงผึง้


เพื่อเก็บน้ า้ ผึ้งเจ้าค่ะ แล้วยังมีการใช้ ข้าวมาหมักเป็ นสุราด้วย
ทุกเทศกาลแต่ละบ้านจะเก็บดอกกุหลาบเพื่อทาน้าตาลกุหลาบ

3
กันทัง้ นัน้ จากนัน้ ก็จะเอาน้ าตาลกุหลาบมาทาเป็ นไส้ซาลาเปา
รสชาติอร่อยมากเจ้าค่ะ”

่ ิ งได้ยินแล้วยิ่งชอบใจไปใหญ่ นางตัง้ ใจฟังสาว


ถานหวันช
ใช้ทงั ้ สองผลัดกันเล่าเรื่องขนมหวานและอาหารในเฟิงหลี นาง
กินพลางฟั งเรื่องเล่าอย่างเงียบๆ สุดท้ายก็เทน้ าผึง้ ใสสี เหลือง
ลงถ้วยแล้วยกขึน้ ดื่ม เป็ นอันว่าจบการกินอาหารไปอีกหนึ่ งมือ้

สองสาวใช้มองอาหารคาวบนโต๊ะที่ ยงั ไม่ถกู แตะเลยสัก


คา ส่ วนขนมหวานนั น้ ก็พร่องไปเพี ยงเล็กน้ อย จึงรู้ว่าฮูหยิ น
ท่ า นนี้ ช อบกิ น รสจื ด ๆ และไม่ ช อบกิ น เนื้ อ สัต ว์ หากถื อ จาน
อาหารพวกนี้ กลับเข้าไปในครัว ก็ถือว่าเป็ นลาภปากของพวก
นางแล้ว ทัง้ สองรีบเก็บ โต๊ะอย่างว่องไว จากนั น้ ก็เตรียมขนม
หวานอีกสองจานเพื่อนาไปวางไว้ในห้องอีกครัง้

เมื่อสาวใช้ทงั ้ สองกลับเข้ามาก็เห็นผ้าม่านบางเบาถูกปิด
ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่ วนคนก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตี ยง พอเห็น
ดังนี้ ก็พากันวางจานขนมหวานลงอย่างเบามือแล้ วถอยกลับ
ออกไป

4
คราวนี้ หญิ ง สาวนอนเร็ว และหลับ สนิ ทเพราะเหน็ ด
เหนื่ อยจากการเดินทาง ทว่ากลับตื่ นขึ้นมาตอนดึกเนื่ องจาก
รูส้ ึกร้อนจนเหงื่อไหลโซมกาย และรูส้ ึกกระหายน้า

นางลุกขึ้นนัง่ เพราะในห้องมืดสลัวจึงมองเห็น เลือนราง


ไม่ชดั เจน หญิงสาวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ งเพื่อปรับสายตาและเรียกสติ
ให้ตื่นขึ้นมา ถานหวันช ่ ิ งไม่ได้เรียกเด็กรับใช้ ทาเพียงเลิกม่าน
ออกแล้วก้าวลงจากเตียงเพื่อเทน้าจากกาที่ อยู่บนโต๊ะมาดื่มแก้
กระหาย

ไม่ร้วู ่าตอนนี้ เป็ นเวลากี่ชวยาม


ั่ ในห้องเที ยนดับ ไปแล้ว
นางเทน้ าผสมน้ าผึ้งที่ ตอนนี้ ไม่ร้อนแล้วลงถ้วยก่ อนจะดื่ มจน
หมด ถานหวันช ่ ิ งกระหายน้ าเป็ นอย่างมาก นางจึงเทน้ าผสม
น้าผึง้ เพิ่มอีกถ้วย

น้ าผึ้งคือสิ่งที่ ให้ความชุ่มชื่นเป็ นอย่างมาก หลังจากดื่ม


เข้าไป ลาคอที่ แห้ งผากรวมไปถึ งกระเพาะล้วนสบายขึ้นบ้าง
แล้ว

ถานหวันช ่ ิ งถอนหายใจเฮือกใหญ่ วางถ้วยลงที่ เดิม แล้ว


เดินกลับไปที่ เตี ยงเพื่อจะนอนต่ อ ทว่าเพิ่งจะหย่อนก้ นลงบน

5
เตี ย ง พลัน ได้ ยิ น เสี ยงสาวใช้ กระซิบกระซาบกัน ระหว่ างเดิน
ผ่านหน้ าประตู

“ได้ ยิ น ลิ่ ว จื่ อ บอกว่ า หัว หน้ า เจี่ ย เกิ ด เรื่ อ งแล้ ว ใต้ เ ท้ า
ท่านนัน้ เดือดจัดจนปัดจอกสุราตกลงไปกลิ้งกับพืน้ ...”

“ใต้เท้าท่านไหน?”

“ยังจะมีท่านไหนอีกเล่า ก็ใต้เท้าที่มาวันนี้ น่ะสิ”

“ผูป้ กครองเมืองเว่ยอัน ใต้เท้าท่านนัน้ น่ ะหรือ?”

“ได้ยินว่าพวกข้าราชการกับบรรดานางบาเรอล้วนถูกไล่
ออกจากห้องมาหมดแล้ว”

“เกิดอะไรขึน้ ?”

คราวนี้ เสียงตอบกลับยิ่งเบาลงกว่าเดิมอีก ทาให้ฟังบาง


คาไม่ชดั เจน “...หัวหน้ าเจี่ยอยากแลกเปลี่ยนนางบาเรอกับใต้
เท้าท่านนัน้ ทว่าใต้เท้าไม่ยินยอม...”

“แลกนางบาเรอ! เจ้าจะบอกว่า...”

6
“ชู่...เบาๆ หน่ อย...ก็คือแม่นางที่อยู่ในห้องนัน่ แหละ”

“ข้าเข้าใจว่านางเป็ น...มองแล้วไม่เหมือนเลย...”

“ก็ใครบอกว่าไม่ใช่เล่า พวกเราล้วนดูออก...”

ที่ พวกบ่าวรับใช้ กล้าพูดก็เพราะเห็นว่าเที ยนในห้ องดับ


จึงคิดว่าคนนอนหลับแล้ว ไม่นานเสียงฝี เท้าของบ่าวหญิงก็ห่าง
ออกไป

ทว่าหญิงเหล่านัน้ ไม่ร้เู ลยว่า ในห้องยังมีคนผู้หนึ่ งนัง่ ฟั ง


อยู่เงียบๆ ก่อนที่นางจะยื่นมือไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม

รอจนพวกสาวใช้เดินห่างออกไปสักพักใหญ่ หญิงสาวจึง
ลุกขึน้ แล้วเดินไปยังหน้ าต่างที่มีแสงจันทร์เล็ดลอดเข้ามา...

วัน นี้ คื อวัน ขึ้น สิบ ห้ าคา่ ดวงจันทร์แห่ ง ฤดูเ หมันต์สาด


แสงสีเงินยวงไปทัวพื ่ น้ หิมะ ถานหวันช ่ ิ งที่ปกติมีจิตใจสุขมุ เยือก
เย็นยามนี้ กลับสับสนว้าวุ่น ประหนึ่ งมีความคับข้องใจที่ ยากจะ
ระบาย

7
นางยื่นมือไปผลักบานหน้ าต่างให้เปิดออก เป็ นไปอย่าง
ที่ คิด นอกหน้ าต่ างคือแสงจันทร์กระจ่าง แม่น้ าจับตัวเป็ นน้ า
แข็งสะท้อนแสงระยิบระยับ สว่างไสวดุจเวลากลางวัน

นางใส่ เ สื้ อ คลุ ม ขนจิ้ ง จอก เรื อ นผมปล่ อ ยสยายไว้


ด้านหลัง อากาศหนาวเย็นจนลมหายใจออกมาเป็ นไอ สายลม
พัดเส้นผมยาวสลวยจนพลิ้วไหว

พ อ ท ห า ร ร่ า ง กาา ยาา นั บ สิ บ น า ย ที่ ยื น เ ฝ้ า


รักษาการณ์ อยู่ด้านนอกได้ยินการเคลื่อนไหว ต่างก็หนั มามอง
ต้นเสียงกันเป็ นระนาว เมื่อเห็นหญิงสาวพวกเขาก็รีบเบนศีรษะ
กลับมา สีหน้ าเปลี่ยนเป็ นแดงกา่

ตู้เหอเองก็เดินผ่านมาทางนี้ พอดี เขาหยุดมองหญิงสาว


อย่างตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทาอย่างไร แน่ นอนว่าไม่มีผใู้ ดกล้าเข้า
ไปในห้ องอยู่แล้ว ต่ อให้ เป็ นเขาก็ไม่ได้ แต่ แค่ เดินไปปิดบาน
หน้ าต่างก็คงพอทาได้กระมัง

ตู้เหอเข้ าใจดี ว่าหญิง ผู้นี้ไม่เ หมือนกับเมี ยที่ อยู่ในบ้าน


ของเขา หญิงสาวถูกเลี้ยงมาจากตระกูลที่ สูงศักด์ ิ ร่างกายจึง
อ่ อนแอ หากว่าถูกลมหนาวพัดโกรกแล้วเกิดป่ วยขึ้นมา ถ้ามี
การซักถามสืบความ เขาก็คงไม่อาจต้านโทสะของใต้เท้าได้
8
ตู้เหอไม่กล้ามองอย่างละเอียด ได้แต่เอ่ยเสียงเบา “ด้าน
นอกลมแรง แม่นางรีบพักผ่อนเถิด” ผ่านไปครู่ใหญ่ คนที่ยืนอยู่
นอกหน้ าต่างก็เห็นว่าคนที่อยู่ด้านในยังคงไม่ขยับเขยือ้ น เขาก็
เลยต้องกัดฟันปิดบานหน้ าต่างตรงหน้ าองเสียเลย

ระหว่ า งเดิ นกลั บ ไปที่ พั ก เขาก็ ย ั ง คงครุ่ น คิ ดด้ ว ย


ความรู้สึกไม่สบายใจนั ก นางว่านอนสอนง่ายเสี ยจริง ไม่ร้วู ่า
เลี้ยงออกมาเป็ นแบบนี้ ได้อย่างไร สงสัยน้ าในเมืองหลวงคงจะ
ไม่เหมือนที่ อื่น ผิวพรรณนี่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม่นางยืนอยู่ตรง
นัน้ นิ่งไม่ขยับ ทว่าดวงตาที่ จบั จ้องมาที่ เขา...ช่างเป็ นเรื่องยาก
จะรับมือจริงๆ

ไม่ใช่ ว่าเขาจะกลัวผู้หญิงคนนี้ ทว่านางมักจะทาให้ เขา


รู้สึกว่ าตนเองกับผู้หญิงนั น้ แตกต่ างกัน ปกติ นางจะอ่ อนโยน
ละมุนละไมแบบคนที่ เกิดมาในตระกูลสูงศักด์ ิ เมื่อนางมาอยู่
ตรงหน้ า เขาก็รสู้ ึกว่าตัวเองตา่ ต้อยขึน้ มาทันที

ทหารสองนายเห็น เขาเดิ น มาด้ ว ยท่ า ทางหน้ านิ่ วคิ้ ว


ขมวดจึ ง สอบถามว่าเกิด อะไรขึ้น ตู้เ หอที่ กาลัง โกรธปนกลัด
กลุ้ม จึ ง จ้ อ งอี ก ฝ่ ายเขม็ง อย่ า งร าคาญ จะถามอะไรนั ก หนา?
จากนัน้ ไล่พวกนัน้ ไปเหมือนไล่นก ใครจะยืนเป็ นเสาปักหลักให้
พวกมันถามกันล่ะ...
9
ถานหวันช ่ ิ งเห็นบานหน้ าต่างถูกปิดต่อหน้ าต่อตาก็ไม่ได้
ขยับไปไหนเลย จนกระทังเร ่ ิ่ มปวดขาจึงกลับไปที่ เตี ยงดังเดิม
นางปลดเสื้ อ คลุ ม ขนสัต ว์อ อกแล้ ว ซุ ก ตัว เข้ า ไปในผ้า ห่ ม อุ่น
ทว่าความรูส้ ึกในใจกลับไม่อ่นุ ตามเลยแม้แต่น้อย

หญิ ง สาวรู้สึ ก ว่ า ในห้ อ งมื ด มิ ด นี้ ช่ า งหายใจอึ ด อัด นั ก


คล้ายกับว่าตัวเองเป็ นนกกระจอกในกรงที่ ถกู ปิดล้อมด้วยผ้า
ดา...ทาได้เพียงกระโดดไปมาในพืน้ ที่จากัดเท่านัน้

หลังผ้าม่านบางเบา ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่ าไร จู่ๆ


ถานหวันช ่ ิ งก็ร้สู ึกได้ถึงลมหายใจที่กรุ่นกลิ่นสุรา คิ้วเรียวขมวด
ยุ่งและพยายามหลบลมหายใจนั น้ แต่ มือและเท้ าทัง้ หมดเริ่ม
เย็นเฉี ยบ เพี ยงอึ ดใจร่างนางที่ อยู่ใต้ ผ้าห่ มก็เริ่มอบอุ่นขึ้นมา
แผ่น หลัง และเอวคอดกิ่ ว ร้อ นผ่า วราวกับ มี เ ปลวไฟโอบล้ อม
ความหนาวเหน็ บจางหายไป มือและเท้ าที่ เ ย็น ยะเยื อกพลัน
อบอุ่น

เช้าวันต่อมา

ถานหวันช ่ ิ งตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกปวดศีรษะและล้า
คอแห้งผาก จึงรู้ได้ว่าตนเป็ นหวัดเสียแล้ว แต่อาการไม่ได้หนัก
หนาถึงขัน้ ยืนตัวตรงไม่ได้
10
หัว สมองที่ ตี บ ตัน พร่า เลื อ นเริ่ ม ปลอดโปร่ ง ขึ้น เมื่ อ ตื่ น
เต็มตาและได้กินโจ๊กร้อนกับของหวาน จากนัน้ คนเผด็จการก็
นาผ้าคลุมขนจิ้งจอกมาห่อร่างนางแล้วอุ้มขึ้นรถม้า พร้อมกับ
ของบางอย่ า งที่ ไ ม่ ใ ช่ เ มล็ด ข้ า วสารบรรทุ ก เต็ม สองเกวี ย น
ด้านหลัง

กองทหารจากเว่ยอันเริ่มออกเดินทางจากเฟิงหลี อย่าง
เรือ่ ยเฉื่ อยแต่รวดเร็วกว่าตอนขามาที่ต้องคอยระมัดระวังรักษา
เสบียงอาหาร ยามนี้ รอบข้างมีแต่เสียงกีบเท้าม้า

ภายในรถม้ามีเตาอุ่นมือและอุ่นเท้ าใส่ เอาไว้ ถานหวัน่


ชิงนอนอยู่บนฟูกที่ อ่อนนุ่ มซึ่ ง ไม่รู้ว่าทาจากขนเตี ยวหรือขน
จิ้งจอก พวงแก้ มที่ อิงแอบอยู่กบั ขนอ่ อนนุ่ มท้ าให้ ใบหน้ าของ
นางยิ่งดูเล็กลงกว่าเดิม และยิ่งทาให้เห็นความซีดขาวไร้สีเลือด
เด่นชัดขึน้

ถ้าเทียบกับรถม้าขามา ตอนนี้ มีสิ่งของอีกหลายอย่างถูก


เพิ่มเข้ามาเป็ นจานวนมาก

บนตู้เ ล็กเตี้ ย ข้างๆ มี กล่ องไม้ใส่ อาหารที่ ด้านนอกห่ อ


คลุมด้วยหนังสัตว์เพื่อเก็บความร้อนเอาไว้ เมื่อยื่น มือไปแตะ

11
บนกล่ อ งก็รู้ไ ด้ ว่ า ยัง อุ่น อยู่ บ้า ง เซี่ ย เฉิ งจู่น่ า จะให้ ค นเตรี ย ม
อาหารกับขนมหวานไว้ให้ตงั ้ แต่เช้า

ด้านข้างของตู้เล็กมีถงั ไม้บรรจุน้ า ผึง้ สามถัง ไม่ต้องเปิด


ออกดูก็ไ ด้ ก ลิ่ น หอมเข้ ม ข้ น ของน้ า ผึ้ง อบอวลทัว่ รถ คาดว่ า
น่ าจะมีทงั ้ รังผึ้งและน้ าผึ้งบรรจุอยู่เต็มเลยที เดียว คงเป็ นผึ้งที่
สาวใช้ทงั ้ สองเล่าให้ฟังว่าคนในเฟิงหลีเลี้ยงไว้

นางรู้สึกเจ็บคอจึงอดไม่ได้ที่จะไอเบาๆ สองที ยิ่งอดทน


ไม่ดื่มน้ าเพราะไม่อยากยุ่งยากระหว่างเดินทาง ยิ่งทาให้ลาคอ
รู้สึกไม่สบาย หญิงสาวจึงยื่นมือไปที่ กาน้ าบนตู้เตี้ย ก็พบว่าใน
กามีน้ าผสมน้ าผึ้งที่ ยงั อุ่นอยู่ หากดื่มแล้วคงชุ่มคอดี จึงเทลง
ถ้วยแล้วดื่มไปหนึ่ งอึก

เสียงจากด้านนอกดังแว่วเข้ามาในรถม้าไม่ขาดสาย

ส าหรับ คนที่ คุ้ น เคยกัน เป็ นที่ สุ ด ต่ อ ให้ เ ขาปลอมตัว


เปลี่ ย นสถานะ ทว่ า เพี ย งเห็ น ภาพแผ่ น หลัง หรื อ ได้ ยิ น แค่
น้าเสียงก็ยงั รับรู้ได้ว่าเป็ นเขา ถึงห่างกันไปเป็ นสิบปี หรือยี่สิบปี
หรือแม้แต่ อยู่ท่ามกลางคลื่นมนุ ษย์ นางก็สามารถจดจาคนที่
คุ้นชินได้เสมอ

12
ถานหวันช ่ ิ งมันใจว่
่ าการเดินทางขากลับนี้ นางจะได้พบ
บิ ดา เพราะรู้ ว่ า เมื่ อ เซี่ ย เฉิ งจู่ พู ด ออกมาแล้ ว ต้ อ งท าได้
ไม่เช่นนัน้ เขาคงไม่พานางมาด้วย ถึงการเดินทางจะรีบร้อน แต่
เมื่อเขารู้ว่านางอยากพบ เขาก็เลยให้นางกับบิดาได้พบหน้ ากัน
สักครา

ระดับความเร็วของรถม้าช้ าลงเรื่อยๆ นางได้ ยินเสี ยง


ร้องไห้ จากด้ านนอกดังเข้ามาอย่างชัดเจน เมื่อรถม้าหยุดลง
ถานหวันช ่ ิ งก็ลกุ ขึน้ นัง่ อย่างเรียบร้อย แล้วเปิดผ้าม่านหนาออก
เพื่อมองไปด้านนอก

นอกจากลมหนาวที่ ลอยเข้ามาปะทะหน้ าจนพูดไม่ออก


ก็ยงั ได้กลิ่นเหม็นสาบที่ไม่ร้วู ่าเป็ นบ่อขี้ววั หรือขี้ม้าโชยมา ภาพ
ที่ปรากฏสู่สายตาเบือ้ งหน้ าช่างโกโรโกโสยิ่งกว่ากระท่อมที่ เห็น
เมื่อวานเสียอีก

เขตผู้ป ระสบภัย ของเว่ ย อัน อาจจะเที ย บกับ ที่ นี่ ไม่ ไ ด้


เพราะเป็ นหลุมดินที่ มุงด้วยหญ้า แต่ด้านสภาพแวดล้อมถือว่า
ดี ก ว่ า มาก อี ก ทัง้ บริ เ วณรอบๆ ยัง มี ท หารจ านวนมากดูแ ล
ช่ ว ยเหลื อ และคุ้ม กัน อย่ า งแน่ นหนา ท าให้ ส ภาพจิ ต ใจของ
ชาวบ้ า นดี ขึ้ น ทัง้ หน้ าตารวมไปถึ ง เสื้ อ ผ้ า ก็ส ะอาดสะอ้ า น
พอสมควร
13
แต่ ที่ นี่ . ..เป็ นบ้า นดิ น ที่ ก่ อ ด้ ว ยอิ ฐ ถูก สร้ า งในทรงเตี้ ย
แบบหยาบๆ แค่พอให้ซุกตัวได้ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยขยะ
กับมูลสัตว์ เมื่อทุกคนได้ยินเสี ยงรา่ ไห้ ดงั ขึ้นก็รีบยื่นหน้ าและ
เดิ น ออกมาดู หญิ ง สาวจึ ง เห็น ว่ า ทัง้ ผู้ช ายผู้ห ญิ ง คนแก่ แ ละ
เด็กๆ ล้วนผอมแห้งแบบหนังหุ้มกระดูก ท่ าทางแต่ ละคนดูซึม
กะทื อไม่ มี ค วามสดใส บ้างก็มีค วามกลัด กลุ้มอยู่เ ต็มใบหน้ า
แววตาเหมื อ นไร้ ก ะจิ ต กะใจจะท าอะไร มี เ ด็ก ๆ สี่ ห้ า คนวิ่ ง
ออกมา แม้แต่เสื้อกันหนาวก็ไม่มีสวมใส่ มีแต่เสื้อกางเกงเพียง
ชัน้ เดี ยว แข้ งขาเด็กน้ อยดูสนเท ั ่ ิ้ ม หนาซ้านิ้วเท้ ายังโผล่ ทะลุ
รองเท้าขาดออกมาอีกด้วย

สภาพแวดล้ อ มช่ า งเลวร้ า ย ประชาชนทุ ก ข์ย ากดู น่ า


เวทนานั ก หญิงสาวพยายามสอดส่ายสายตามองหาเสี ยงที่ ได้
ยินตัง้ แต่คราแรกที่มาถึงจนกระทังพบในที
่ ่สดุ

14
63 กรรมตามสนอง

ไม่ไกลกันนัน้ ที่ หน้ าประตูบ้านพักหลังหนึ่ ง เด็กสาวอายุ


ราวสิบหกสิบเจ็ดในชุดสีเทากาลังวิ่งออกมาจากบ้าน ถึงแม้จะ
เห็นใบหน้ าแค่ด้านข้างถานหวันช ่ ิ งก็จดจาได้ทนั ที สี หน้ าเด็ก
สาวค่อนข้างซีดขาว แต่กย็ งั งดงามโดดเด่นมากทีเดียว

ใบหน้ าที่ ข าวซี ด เพราะความหนาวเต็ม ไปด้ ว ยหยาด


น้ าตา แววตาที่ ไร้ซึ่งความหวังแฝงไว้ด้วยความโกรธเกลี ย ด
กิริยาท่ าทางคล้ายคนกาลังคลุ้มคลัง่ โดยมี ชายหญิงคู่หนึ่ งไล่
ตามหลังนางมา

“ข้ารับโทษมาพอแล้ว! ข้าอยากไปจากที่ นี่ แต่ พวกท่ าน


กลับอยากให้ ข้าแต่ งกับไอ้ แก่นัน่ เพื่อแลกเงิน เพ้อเจ้อ! ข้าไม่
ยอม! ต่อให้ข้าตายก็ไม่แต่ง!!!”

ฮูหยินที่ไล่ตามมามีผมสีดอกเลาที่ถกู คลุมไว้ด้วยผ้าสีน้า
เงิน นางยื่นมือไปจับเด็กสาว บนใบหน้ าเต็มไปด้วยคราบน้าตา
เช่นกัน พลางกระซิบอ้อนวอนอะไรสักอย่าง แต่ดเู หมือนไร้ผล

1
“พอแล้ว เจ้าไม่จาเป็ นต้องพยายามขอร้องนาง ปล่อยไป
ตามยถากรรมเถอะ...” ชายที่ตามมาด้านหลังเอ่ยขึน้

ถานหวัน่ ชิ งเตรี ย มอกเตรี ย มใจไว้ แ ล้ ว แม้ ย ากที่ จ ะ


จินตนาการได้ว่าจะเจอชายผู้นี้ในสภาพใบหน้ าซูบตอบ ศีรษะ
ขาวโพลน เขาคือชายที่ นางเรียกขานว่าบิดามาจนอายุยี่สิบปี
เป็ นบิดาบังเกิดเกล้าของถานหวันช ่ ิ ง เขายังไว้หนวดเคราอย่าง
ที่นางเคยเห็นเสมอ และยังคงเป็ นบิดาที่มีท่าทีสง่างาม เมื่อฝ่ าย
สามียอมรับชะตากรรม แล้วคนเป็ นฮู หยินจะคัดค้ านอะไรได้
ในเมื่อด้านหนึ่ งคือบุตรสาวที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย อีกด้าน
ก็คืออวี้เอ๋อบุตรชายที่นอนหายใจพะงาบๆ อยู่บนเตี ยง ทัง้ สอง
คนต่ างก็เป็ นชี วิตจิตใจของนาง แต่ จะให้ นางทนดูอวี้เอ๋อตาย
ไปต่อหน้ าต่อตาได้อย่างไร นี่ เป็ นความหวังเดียวของนางแล้ว

ฮูหยินกอดบุตรสาวไว้แน่ น ร้องไห้ พร้อมกับเอ่ยวิงวอน


“เอี๋ยนเอ๋อ แม่ขอร้องเจ้า แม่ขอร้อง อวี้เอ๋อคือพี่ชายแท้ๆ ของ
เจ้านะ หากว่ายังชักช้าต่อไปเขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดแล้วจริงๆ
แม่ขอโทษที่ ให้เจ้าช่วยชี วิตพี่ชายด้วยวิธีนี้ แต่ แม่ขอล่ะนะ แม่
จะคุกเข่าให้เจ้า...”

2
เด็ก สาวงดงามน้ า ตาไหลพรากลงมาเป็ นสาย สะบัด
มารดาออกพลางถอยหลัง เอ่ยอย่างหมดอาลัยตายอยาก “ข้า
ไม่ช่วยแล้วจะทาไม? พวกท่ านเคยสนใจความเป็ นความตาย
ของข้าหรือไม่? พี่สาวก็ถกู พวกข้าราชการเอาไปเป็ นนางบาเรอ
คนหนึ่ งแล้ว ตอนนี้ กย็ งั จะขายข้า ซา้ ยังให้ข้าแต่งกับพ่อหม้ายที่
ทัง้ แก่ทงั ้ อัปลักษณ์ มันก็เหมือนส่งข้าไปตายนัน่ แหละ” กล่าว
จบ เด็กสาวก็หมุนกายจะพุ่งไปชนกาแพง

หญิง สาวหลายคนที่ อยู่ใ กล้ บ ริเ วณนั น้ ตาไวมื อ ไว เข้า


ขวางนางไว้ ได้ ทนั เด็กสาวพยายามดิ้นขลุกขลักอย่ างอัดอัน้
สุดท้ายก็ถกู หญิงสาวทัง้ หลายลากนางกลับมา

บรรดาคนที่ มุงดูอยู่ไม่ได้มีใบหน้ าสลดหดหู่ตามไปด้วย


บางคนยังดูคึกคักเสี ยด้วยซา้ เห็นได้ชดั ว่าพวกเขาคุ้นเคยกับ
เหตุการณ์ เช่นนี้ การขายบุตรชายบุตรสาวสาหรับพวกเขาคงมี
ให้เห็นอยู่เสมอ เกรงว่าจะเป็ นความชินชาจนไม่เห็นเป็ นเรื่อง
สลักสาคัญอะไรอีกแล้ว

เสียงรา่ ไห้ระงมราวกับเจ็บปวดเจียนตายแว่วมาจากลาน
บ้าน

3
่ ิ งกาผ้าม่านหนาไว้แน่ นโดยไม่ร้ตู วั ลมหนาว
ถานหวันช
พัดมากระทบร่างจนเล็บมือขาวซีดเช่นเดียวกับสีหน้ าของนาง

เด็ก สาวคนนี้ ไ ม่ ใ ช่ ค นอื่ น เป็ นคุณ หนู ค นเล็ก ของจวน


ตระกูลถาน ถานจิ่งเอี๋ยน

่ ิง
น้ องสาวต่างมารดาของถานหวันช

เมื่อเห็นคนคุ้นเคยก็ทาให้ หวนคิดถึงเหตุการณ์ ในอดีต


เพียงฉับพลันภาพเหล่านัน้ ก็ไหลทะลักเข้ามาในหัวอย่างยากที่
จะควบคุม

หลังจากมารดาผู้ให้ กาเนิดของถานหวันช ่ ิ งป่ วยตายได้


สองปี ถานเฉิงจี้ได้ แต่ ง หญิง สาวสกุลต่ ง เข้ า จวนตระกูล ถาน
หญิ ง สาวสกุล ต่ ง ผู้นี้ ถึ ง แม้ จ ะเป็ นบุ ต รี ข องภรรยาเอก ทว่ า
ตระกูลตกอับ ตอนที่นางยังไม่ได้แต่งเข้ามา การดาเนินชีวิตจึง
แตกต่ า งจากลู ก หลานขุน นางร า่ รวยทัว่ ไป ท าให้ มี โ ลกทัศ น์
คับแคบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อได้แต่ งงานกับขุนนางชัน้ สูง
นางจึงกอบโกยและโลภมาก

แต่ อีกด้าน ถานฮูหยินคนนี้ กไ็ ม่ใช่ คนที่ มีประสบการณ์


ทางชี วิตโชกโชนและไม่ได้ดุร้ายเหี้ยมโหดมากนัก ตอนที่ นาง

4
อยากริบสินเดิมของมารดาถานหวันช ่ ิ งไว้ เป็ นสมบัติส่วนตัว
ทว่าหลังจากเจอกับอารมณ์ โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟของบิดา นางก็
ล้มเลิกไป

่ ิ งที่เป็ นบุตรสาวของฮูหยินคนเก่า นาง


สาหรับถานหวันช
ก็ย งั ให้ ค วามเกรงใจอยู่บ้า งในฐานะบุต รสาวคนโตของสามี
ถึงแม้นางจะให้กาเนิดบุตรสาวสองคนแต่ผู้ เป็ นสามีกไ็ ม่เอ็นดู
เท่ า กับ บุ ต รสาวของอดี ต ภรรยาที่ แ สนรัก นางได้ แ ต่ ก กั เก็บ
ความไม่พอใจไว้เงียบๆ

แน่ นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับลูกเลี้ยงนัน้ ไม่ดี


่ ิ งคนนี้ ไม่ใช่ ถานหวันช
เท่ าไร แต่ ถานหวันช ่ ิ งคนก่ อน จึงไม่มี
ความรู้สึกว่าขาดอะไรตัง้ แต่สิ้นมารดาไป แม้แต่กบั บิดา นางก็
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์หรือต้องการเรียกร้องความสนใจ

ในสายตาของนาง นางกับถานฮูหยินไม่มีความอาฆาต
พยาบาทต่ อ กัน สามารถอยู่ ร่ ว มกัน ได้ อ ย่ า งปรองดองเช่ น
ครอบครัวทัวไป่ และเพราะนางปฏิบตั ิ กบั ถานฮูหยินอย่างไม่มี
อคติ ไม่เคยมองว่าอีกฝ่ ายเป็ นศัตรู ตัง้ แต่ไหนแต่ไรนางไม่เคย
ใช้อารมณ์ กบั ถานฮูหยิน อีกฝ่ ายจึงดูเหมือนจะรับรู้ได้ จากเดิม
ที่ถานฮูหยินเคยมีความคิดเป็ นปฏิปักษ์กบั นางจึงลดน้ อยลงใน
ที่สดุ
5
แม้ ก ระทัง่ บุต รสาวสองคนและบุต รชายหนึ่ ง คนที่ เ กิด
่ ิ งยังถือว่าไม่เลวนัก
จากนาง ความสัมพันธ์ที่มีกบั ถานหวันช

ผ่านมาก็นับสิบปี แล้วที่นางมาอยู่ในร่างนี้ จึงพลอยซึมซับ


ความรู้สึกจากผู้คนที่ รายล้อม ถึงนางจะไม่ใช่ ถานหวันช ่ ิ งตัว
จริง แต่เมื่อเห็นคนก็พลันให้คิดถึงอดีต

นางค่ อ ยๆ ปล่ อ ยผ้ า ม่ า นที่ ก ุม อยู่ และนั ง่ อยู่ เ ช่ น นั ้น


สัก ครู่จ นกระทัง่ เห็น ว่ า ด้ า นนอกสงบลงแล้ ว จึ ง ลุ ก ขึ้ น ทว่ า
ก่อนที่ นางจะลงจากรถม้า ชายหนุ่มกลับเลิกผ้าม่านรถม้าแล้ว
ขวางทางลงของนาง เขาจับ มือเย็น เฉี ย บของถานหวันช ่ ิ ง ไว้
อารมณ์ ที่เผยให้ เห็นบนใบหน้ าไม่ค่อยดีนัก ก่อนจะประคองให้
นางนัง่ ลงบนฟูกขนสัตว์เช่นเดิม

“กลัวจะเจอคนรู้จกั ขนาดนัน้ เชี ยว? เจ้าน่ าจะรู้ถึงจะได้


พบกันแต่เจ้าก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว” เขาจ้องนางเขม็ง
ขณะที่พดู

่ ิ งรู้และเข้าใจข้อนี้ ดีกว่าเขา ไม่เช่นนัน้ ตอนที่


ถานหวันช
นางเห็นถานเฉิงจี้เดินมา นางก็คงเลิกผ้าเดินออกไปตัง้ แต่แรก
แล้ว

6
ใบหน้ าถานหวันช่ ิ งซีดเซียว แม้กระทังร
่ ิ มฝี ปากก็ขาวซีด
ไม่ร้วู ่าเป็ นเพราะร่างกายอ่อนแอเพราะถูกลมหนาวหรือเพราะ
อย่างอื่น นางตอบกลับว่า

“ข้ า อยากให้ ใ ต้ เ ท้ า ช่ ว ยเหลื อ ” จากนั ้น ก็ม องหน้ า เขา


ก่อนจะเอ่ยเตือน “ก่อนหน้ านี้ ที่ใต้เท้าได้เสบียงมาเป็ นจานวน
มากจนสามารถแก้ ไ ขปั ญ หาเร่ ง ด่ ว นได้ ก็ ค วรต้ อ งนึ กถึ ง
แหล่งที่ มาบ้าง และตอนนี้ กเ็ ป็ นจังหวะเหมาะสมที่ จะตอบแทน
บุญคุณ”

การที่จ่ๆ
ู เขาก็สามารถจัดหาเสบียงอาหารมาได้เต็มคลัง
เขานามาได้อย่างไร ทัง้ สองต่างรูไ้ ส้รพู้ งุ กันดี

เซี่ ยเฉิงจู่เนื้ อตัวแข็งเกร็งขึ้นมาทันที สี หน้ าเปลี่ยนเป็ น


เย็นเยียบ เขาแค่นลมออกจากจมูกก่อนจะเอ่ยเสี ยงเรียบ “ข้า
เพียงรับเงินที่ มาจากเลือดเนื้ อของราษฎร แล้วก็ใช้เพื่อราษฎร
เกี่ยวอะไรกับจวนตระกูลถาน?”

จากนั น้ ก็ชกั สี หน้ าบึ้งตึ ง เอ่ ยเสี ยงเย็นชาต่ อว่ า “ข้ายัง


ไม่ได้ซา้ เติมถานจิ่งเอี๋ยนเลย อันที่ จริงข้าควรจะทาในสิ่งที่ ควร
ทาต่างหาก”

7
นั บ ตัง้ แต่ ที่ สู ญ เสี ย มารดาไป เขาก็ยึ ด มัน่ กับ ค าว่ า มี
บุญคุณต้ องทดแทน มีความแค้นต้องชาระ ถึงตอนแรกเขาจะ
บอกว่าถานหวันช ่ ิ งคือคน ‘ผิด’ หลายครัง้ หลายคราที่บีบบังคับ
ใช้ประโยชน์ จากนางเพื่อให้อีกฝ่ ายสานึ กในความผิดบาปที่ ได้
กระท าต่ อ มารดา แต่ ย ามนี้ เ ขาเข้ า ใจอย่ า งชัด เจนดี แ ล้ ว ว่ า
คนตรงหน้ าพยายามช่วยเหลือมารดาไม่ให้ต้องตายใต้ฝีเท้าม้า
แต่ที่เขากลับ ‘ใช้ประโยชน์ ’ จากเรื่องนี้ กเ็ พียงหาเหตุผลมาอ้าง
อยากให้นางอยู่ข้างกายตนเองเท่านัน้

ส่ วนคนที่ ‘ทาร้าย’ มารดาของเขาจริงๆ ในวันนั น้ เป็ น


คนที่ เขาควรจะลงมือโดยไร้ความปรานี ดังนั น้ หากเขาจะไม่
ช่วยเหลือก็เป็ นสิ่งที่สมควรแล้ว

เขาก าลัง จะบอกถานหวัน่ ชิ ง ว่ า สิ่ ง ที่ ถ านจิ่ ง เอี๋ ย นได้


ประสบเวลานี้ มันคือการลงโทษที่เหมาะสมกับนางแล้ว

ทว่า ‘ตระกูลถาน’ ไม่ใช่มีเพียงถานจิ่งเอี๋ยนคนเดียว ใน


ที่สุดใจของถานหวันช ่ ิ งก็ยงั เอนเอียงเพราะว่านางแซ่ถาน ไม่ใช่
คนนอกที่ ไร้ความเกี่ ยวข้อง และสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
นางก็ไ ม่ ส ามารถเข้ า ไปช่ ว ยต่ อ หน้ า ได้ ขนาดเงิ น เล็ก น้ อ ยก็
ยังยากที่จะนาไปให้

8
หากเป็ นยามปกติ นางอาจคิดหาวิธีอื่น ไม่ยวให้
ั ่ เขาเกิด
ความโมโหแน่ นอน แต่ สถานะนางตอนนี้ ไม่เอื้ออานวย อี กทัง้
การได้เห็นคนคุ้นเคยจิตใจก็กลับไม่สงบ ในอกสันไหว
่ นางไม่
อยากจินตนาการถึงความทุกข์ยากที่พวกเขาได้รบั เพราะจะยิ่ง
ตอกยา้ บาดแผลในใจ

ใครจะรู้ว่าเรื่องที่ ถานจิ่งเอี๋ ยนประสบในวันนี้ จะไม่เกิด


กับตนเองในวันพรุง่ นี้

ด้วยฐานะที่ เป็ นอยู่ทาให้ นางสามารถควบคุม ตัวเองได้


เพราะหากควบคุมตนเองไม่ได้นางอาจจะร้องตะโกนเสียงดังไป
แล้ว แม้จะดูว่านางมองภาพเหตุการณ์ เ มื่อครู่ด้วยท่ าทางนิ่ ง
เฉย แต่ ตามจริงแล้วสติสมั ปชัญญะกลับค่อยๆ เลือนหายไปที
ละนิด ปากที่ พูดโพล่งออกมาจึงไม่ได้ผ่านการคัดกรอง เพี ยง
เลือกที่จะทาตามจิตใต้สานึ กและความรูส้ ึกในใจ

ถานหวันช่ ิ ง จ้ อ งมองเซี่ ย เฉิ งจู่พ ลางเอ่ ย ชัด ถ้ อ ยชัด ค า


“ความผิดของถานจิ่งเอี๋ยนในปี นัน้ ไม่ใช่ท่านได้ชาระแค้นเอา
คืนไปแล้วหรือ?”

ความหมายของประโยคนี้ คือสิ่งที่ เขาทากับนางทัง้ หมด


ส่วนหนึ่ งก็เพื่อแก้แค้นเรือ่ งในปี นัน้ แล้ว
9
หญิงสาวมองชายหนุ่ มตรงหน้ าที่ ปล่อยมือจากตนแล้ว
ลุกขึ้น เห็นแววตาที่เคืองโกรธและเย็นชาของอีกฝ่ ายทาให้นาง
ขาดความมันใจจนต้
่ องเบนสายตาไปทางอื่น กระทังเขาสะบั
่ ด
ม่านจากไปโดยไม่หนั กลับมา

พอพูดจบนางก็มารูส้ ึกเสียใจในภายหลัง

หลัง จากเขาออกไปแล้ ว นางยกก าปั ้น เคาะหน้ าผาก


ตัว เอง ก่ อ นจะขยับ ตัว เข้ า ไปซุ ก ซบลงบนฟู ก แง้ ม ผ้ า ม่ า น
ทอดสายตามองไปยังด้านนอก

ล้อรถม้าได้เวลาหมุนอีกครัง้ เซี่ ยเฉิงจู่มองตู้เหอรับของ


บางอย่างไปจากตน แล้วยัดเข้าไปในอกเสื้อก่อนจะหันหัวม้า
ออกจากกลุ่มมุ่งไปยังทิศทางตรงกันข้าม

ถานหวันช่ ิ งซึ่งนอนควา่ หน้ าอยู่บริเวณช่องประตูรถ เมื่อ


รถม้าถึงช่วงเลี้ยวโค้ง นางก็เลิกผ้าม่านมองออกไปให้ชดั เห็นตู้
เหอลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้าไปในบ้านตระกูลถาน

นางปล่อยมือจากผ้าม่าน ถอนใจโล่งอกเงียบๆ เมื่อผ่อน


คลายได้ แล้ วกลับไม่สามารถกลัน้ อาการไอได้ อีกต่ อไป ถาน
่ ิ งได้แต่ ครุ่นคิดในใจ เรื่องนี้ ตนไม่มีทางเลือก นางจะทา
หวันช

10
อย่างไรได้ในเมื่อตัวเองยังต้ องอาศัยบ้านคนอื่น จะไปมีกาลัง
ความสามารถช่ ว ยเหลื อ ใครได้ ที่ ไ หน ต่ อ ไป...ต่ อ ไปเกรงว่ า
อาจจะไม่มีโอกาสได้พบเจอกันอีกนานแสนนาน

ส่วนคนที่ โมโหเดือดดาลสะบัดผ้าม่านพุ่งออกไปเมื่อครู่
นางเชื่อว่าเขาไม่ทิ้งนางลงจากรถม้าแน่ นอน ทาไมถึงพูดเช่นนี้
เพราะถ้าเขาจะทาก็คงทาไปนานแล้ว ดังนัน้ นางจึงรู้สึกซาบซึ้ง
ใจ และตระหนักดีว่าหากนางให้ศตั รูค่แู ค้นช่วยแก้หน้ าให้กต็ ้อง
คอยระวังนิสยั ใจคอของเขาด้วย

ในเมื่ อ ก่ อ นหน้ าแม่ ท ัพ หัว เมื อ งได้ เ อ่ ย ปากเรื่ อ งนั ้น


ออกมา...

กลุ่มคนซึ่ งอยู่ท่ามกลางลมหนาว ออกมาตัง้ แต่ เช้ ามืด


นอกจากพัก กิ น อาหารแห้ ง แล้ ว เวลาที่ เ หลื อ อยู่ ล้ ว นต้ อ งรี บ
เดินทาง

จากเฟิงหลีถึงเว่ยอันในระยะทางร้อยกว่าลี้ สองข้างทาง
ส่ วนใหญ่อ้างว้างปราศจากผู้คน แม้แต่ นกสักตัวก็ไม่มีให้ เห็น
หากว่าได้เจอบ้านหรือคนสักคน นัน่ นับว่าโชคดีมากแล้ว

เห็นได้ชดั ว่าโชคของพวกเขาไม่ดี แต่กไ็ ม่ได้แย่นัก

11
ยามตะวันในยามสายัณห์ยงั ไม่ลบั เหลี่ยมเขา เซี่ยเฉิงจู่ที่
อยู่ บ นเนิ นเขาทอดตามองไปยัง เบื้อ งหน้ า พบว่ า มี แ ม่ น้ า ล า
คลองแห้ งขอด ข้างแม่น้ ามีบ้านที่ หลังคาผุพงั และมีต้นไม้แก่
แห้งตายอยู่ไม่กี่ต้น

ยามนี้ เ ป็ นช่ ว งที่ ห นาวที่ สุ ด ในฤดูห นาว อากาศหนาว


สะท้ านถึงกระดูก เย็นยะเยือกจนผิวแตก ในที่ ซึ่งไร้ผ้คู น หาก
สามารถมีผนังให้หลบความหนาวได้นัน่ ย่อมเป็ นสิ่งที่ วิเศษสุด
อย่างน้ อยตอนนี้ กม็ ีสถานที่ที่พอจะแก้ปัญหาความหนาวเหน็ บ
ให้ผา่ นพ้นไปได้

เมื่อใต้ เท้ าเซี่ ยพบสถานที่ ที่สามารถพักผ่อนได้ ก็สงให้


ั่
ทุกคนเร่งเดินทางเพื่อไปให้ทนั ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคน
จึงพากันควบม้าไปข้างหน้ า ตามกันเป็ นทิวแถว ทิ้งฝุ่ นสี เหลือง
ไว้ด้านหลังอย่างว่องไว

ห่างไปไม่ไกลนัก เมื่อมองเห็นหมู่บา้ นร้างเล็กๆ ตรงหน้ า


ทหารทุกนายก็ลงจากหลังม้ามายืนเรียงราย

ที่ แห่ งนี้ เปล่าเปลี่ยว ไม่เหมาะจะเป็ นที่ อยู่อาศัยเลยสัก


นิด ชาวบ้านอาจย้ายไปที่อื่น หรืออาจถูกพวกโจรพบและฆ่าทิ้ง
ไปเสียแล้ว ในช่วงกลียคุ หมู่บา้ นเล็กโดดเดี่ยวอย่างนี้ ย่อมไร้วิธี
12
ที่จะดารงชีวิตให้อยู่รอดได้ การเดินทางครัง้ นี้ เซี่ยเฉิงจู่เลือกแต่
ทหารกล้า

ติดตามมาด้วย แต่ ละนายหาใช่ ทหารธรรมดาไม่ พวก


เขาเคยผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน มีชีวิตที่ ปีนป่ ายออกมา
จากกองซากศพคนตาย พวกเขาจึ ง มี ป ระสบการณ์ แ ละ
เชี่ยวชาญการนอนอ้างแรมข้างนอกมาก ไม่ต้องรอให้ใต้เท้าอ้า
ปาก ทหารกลุ่มนี้ กไ็ ปที่แม่น้าแห้งขอดเพื่อหาเศษน้าแข็ง บ้างก็
เคาะน้ าแข็ง บ้างก็ผ่าไม้ แล้วยังมีบางนายที่ หาทาเลเหมาะๆ
เพื่อขุดบ้านดิน

ห่ า งจากบริ เ วณเปล่ า เปลี่ ย วสุ ด ลู ก หู ลู ก ตาเป็ นเขต


ทะเลทรายสีเหลืองกว้างใหญ่ ในช่วงฤดูหนาว

การขุ ด หลุ ม สร้ า งบ้ า นดิ น ไม่ เ พี ย งแต่ ป ระหยัด แรง


ประหยัดเวลา แต่ยงั อยู่อ่นุ สบายกว่าบ้านหญ้าคาที่ มีช่องให้ลม
เข้ามาตัง้ มากมาย

แต่ ค วามจริ ง แล้ ว ทหารช านาญศึ ก บางนาย ถึ ง จะเป็ น


ผนังผุพงั จนลมสามารถแทรกเข้ามาทัง้ สี่ด้านก็ยงั สามารถหลับ
สนิทได้ แค่มีกองไฟให้ผิงก็พอ

13
ดัง นั น้ เมื่ อ พวกเขาได้ ร บั ค าสัง่ จากใต้ เ ท้ า ทหารหลาย
นายจึงซ่ อมหลังคาบ้านร้างริมแม่น้ าอย่างง่ายๆ ปูหญ้าแค่พอ
อาศัยนอนพัก และเก็บของบางอย่างไว้ด้านใน

14
64 คืนดี

กว่าจะจัดเตรียมที่ พกั เสร็จท้ องฟ้ าก็มืดมิดพอดี กองไฟ


ถูกก่ อขึ้นใกล้ ๆ กาแพงที่ ผพุ งั พวกเขานาก้อนน้ าแข็งจากลา
ธารมาต้มพออุ่นเพื่อป้ อนม้า ส่วนในรถม้านัน้ ได้เตรียมน้าไว้ใช้
ดื่มเรียบร้อยแล้ว ด้วยระยะทางที่ ค่อนข้างไกล อะไรสามารถ
ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ส่ วนอาหารก็คือแป้ งทอดแห้ งแข็ง
ซึ่งหากได้อ่นุ กับไฟแล้วรสชาติกไ็ ม่ได้แย่สกั เท่าไร

ใต้ เท้ าเซี่ ยอยู่รวมกับกลุ่มทหารที่ นัง่ ล้อมรอบกองไฟ สี


หน้ าชายหนุ่มยังคงบึ้งตึ งเหมือนกับตอนเช้ า เขาไม่เหลือบแล
ไปทางรถม้าแม้แต่น้อย ทว่ามือกลับกาลังโรยเนื้ อแห้งลงไปใน
โจ๊กที่ต้มอยู่

ตู้เหอเหลียวมองอย่างรับรู้และเข้าใจแต่ไม่กล้าเอ่ยคาใด
ออกมา เขาพบพานคนมาไม่น้อย ไยจะมองท่ าที ของหนุ่มสาว
ทัง้ สองไม่ออก แม้จะไม่รวู้ ่ามีเรือ่ งอะไรกันก็ตาม ถึงใต้เท้าจะทา
เป็ นเย็นชากับคนในรถม้า แต่ ในใจก็ยงั ห่ วงอยู่ตลอด พอต้ ม
โจ๊กเสร็จแล้ วก็ไม่ไปส่ งด้ วยตัวเอง กลับกวักมือเรี ยกเขาเสี ย
อย่างนั น้ ตู้เหอจาต้ องไปรับคาสัง่ จากนัน้ ก็วิ่งไปยังรถม้า เขา

1
ไม่สามารถทาเหมือนใต้เท้าได้ ที่เลิกผ้าม่านส่งโจ๊กให้ถึงมือ จึง
ได้แต่ยืนอยู่ข้างรถ “คุณหนูถาน ออกมากินโจ๊กอุ่นเถิดขอรับ”

คนในรถตอบรับคาหนึ่ ง ไม่นานก็ได้ ยินเสี ยงสูดน้ า มูก


ตามด้วยเสียงไอค่อกแค่กสองครัง้

เดิมที ในรถม้าก็มืดมิดเงียบเชียบ ครัน้ เลิกผ้าม่านหนาก็


พบว่าในป่ าแห่งนี้ มืดสนิทและน่ ากลัวยิ่งกว่า ลมหนาวพัดผ่าน
มาเป็ นระลอก มีกองไฟสว่างที่ ให้ความอบอุ่นอยู่ไม่ไกลสองที่
แสงสว่างของเปลวไฟส่องใบหน้ าคนที่นัง่ รายล้อมหลายสิบคน
สายตาของนางเห็นคนหน้ าตาเย็นชาผู้นัน้ เขากาลังเขี่ยฟื นใน
กองไฟที่ลกุ ไหม้โดยไม่มองมาที่นางเลยสักนิด

ถานหวันช่ ิ งลงจากรถม้า ถูกลมหนาวพัดมากระทบร่าง


ทาให้เกิดอาการไอ นางเงยหน้ ามองตู้เหอ จังหวะที่จะก้าวไปยัง
ทิศทางที่มีกองไฟ ตู้เหอก็รีบขวางเสียก่อน ภาพนัน้ ดึงดูดคนอีก
ฟากให้สนใจ

“คุณหนู ถ าน สถานที่ พ กั ผ่อนอยู่ด้ านหลัง เดิ น ตามมา


ทางนี้ ขอรับ...”

2
่ ิ งได้เห็นบ้านดิน เขตชายแดน
ไม่ใช่ครัง้ แรกที่ ถานหวันช
นัน้ ลาบากแสนเข็ญ เมื่ออากาศหนาวมีศพแข็งตายไปทัว่ บ้าน
ดินสามารถใช้หลบลมเลี่ยงอากาศหนาวได้ เป็ นหลุมโพรงที่ขดุ
แบบง่ายๆ ธรรมดา มีให้ เห็นอยู่ทุกที่ วิธีนี้นามาจากพวกคน
เถื่อน สามารถช่วยชีวิตคนได้จานวนมาก

ในหลุมดินมี กระถางไฟวางอยู่ ไฟเผาไหม้มาได้ สกั พัก


แล้ว ไม้ที่ใช้ ทาฟื นไม่ร้วู ่านาออกมาจากหลังคาบ้านไหนเพราะ
ทัง้ หยาบและหนั ก เพียงเติมไม่กี่ท่อนก็สามารถอยู่ได้ข้ามคื น
สาหรับคนเดินทางรอนแรมในคืนหนาวแล้ว ถือว่าเป็ นสถานที่
พักผ่อนที่ไม่เลวเลยทีเดียว

่ ิ งแล้ ว ไม่ว่ าจะเป็ นด้ านนอกหรือ


แต่ ส าหรับถานหวันช
ด้านในล้วนมืดสนิท ป่ าเงียบสงัดประหนึ่ งสุสาน ขณะที่ ตู้เหอ
กลับไปเอาโจ๊ก จึงเหลือถานหวันช่ ิ งเพียงลาพัง

นางอาศัย แสงสว่ า งของกระถางไฟ พยายามรวบรวม


ความกล้ากวาดตามองไปรอบๆ กระถางไฟอยู่ใกล้มุมห้อง บน
ผนั งมีคราบดาเหมือนเป็ นรอยจากควันหรือไฟไหม้ที่ผ่านมา
นานหลายปี บนพื้น ดิ น ปูห ญ้ า แห้ ง ซึ่ ง มี ซ ากแมลงติ ด มาด้ ว ย
หลายตัวจนนางต้องขยับเท้าถอย เมื่อเงยหน้ าขึน้ ก็เห็นหลังคา
ด้ านบนที่ ไม่สูงมาก คานมี ฝุ่นหนาทึ บเกาะอยู่อย่างชัดเจน สี
3
แดงที่ ฉ าบอยู่ บ นคานไม่ รู้ว่ า ทาด้ ว ยสี น้ า มัน หรื อ รอยเลื อ ด
ขนาดหญิ ง สาวท าใจกล้ า ก็ย งั ไม่ ว ายตกใจถอยหลัง หนึ่ ง ก้ าว
พลันเหยี ยบเข้ากับไม้กลมสี่ ห้าท่ อนจนล้มลง เอวกระแทกถูก
มุมกระถางไฟ เจ็บจนน้าตาซึม

กระทัง่ ตู้ เ หอประคองโจ๊ก ร้ อ นเข้ า มา ถานหวั น่ ชิ ง จึ ง


ค่ อ ยๆ ลุ ก จากพื้ น ด้ ว ยท่ า ทางล าบาก ตู้ เ หอไม่ ไ ด้ ใ ห้ ค วาม
ช่วยเหลือเพราะนางอยู่ในเงามืดจึงเป็ นธรรมดาที่เขาจะมองไม่
เห็น สังเกตเห็นเพียงหลังมือมีรอยแดงที่ ยื่นมารับชามโจ๊กจึง
ถามไถ่

่ ิ งไม่ได้ค้นุ เคยกับอีกฝ่ ายนักจึงไม่ได้บอกเรื่อง


ถานหวันช
ที่ ตนตกใจก้ าวพลาดจนหกล้ ม ได้ แต่ บ อกปั ด ไปว่ าไม่ มี เ รื่ อ ง
อะไร

ถานหวันช ่ ิ งทนปวดอยู่ครู่หนึ่ งอาการก็ทุเลาลง ยัง ดี ที่


กระแทกไม่แรงมาก หญิงสาวไม่กล้าเดินเข้าไปในเงามืดอีก ทา
เพี ย งนั ง่ ข้ างกระถางไฟ ก่ อนจะมองชามโจ๊ก เนื้ อที่ มีต ะเกี ยบ
พาดกับปากชาม และขนมหวานน้าผึง้ อ่อนนิ่มร้อนสองชิ้น ยาม
นี้ อาหารร้อนหายาก ถึง อย่างไรก็ต้ องกิน ให้ ท้ องอิ่มเสี ย ก่ อน
เรือ่ งอื่นค่อยว่ากัน

4
ขนมน้ าผึ้ ง หอมหวาน โจ๊ ก ก็ มี ร ส ชาติ อร่ อ ย ทว่ า
บรรยากาศรอบด้านที่เห็นเพียงเงาตะคุ่มไม่ชวนให้เจริญอาหาร
เสี ยเลย ความรู้สึกจึงเหมือนกับเคี้ยวเที ยนไขแล้วกลืนลงไปก็
ไม่ปาน

ตู้เหอเอาหนังจากรถม้ามาส่งแล้วรับชามไป ถานหวันช ่ ิง
ยกศีรษะขึ้นมองซ้ายแลขวาข้ามไหล่ตู้เหอ แต่กไ็ ร้วี่แวว...คนที่
นึ กถึงกลับไม่มา

ทาไมในอกถึงว่างเปล่าและวูบโหวงเช่นนี้ มือบางค่อยๆ
คลี่หนังออกแล้วปูลงข้างๆ กระถางไฟ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมขน
จิ้งจอกพาดไว้บนท่อนขา นางนัง่ คลึงเอวอยู่อย่างนัน้ ราวกับรอ
บางอย่างซึ่ งตนเองก็บอกไม่ได้ว่ารอทาไม เวลาผ่านไปนานก็
ยังไม่มีเสียงฝี เท้าก้าวเข้ามา หญิงสาวจึงค่อยๆ นอนลง

‘ฮือ…ฮือ’ ป่ ารกร้างข้างนอกมีเสี ยงแว่วมาเสมือนเสี ยง


ผู้หญิงร้องไห้ ท่ามกลางลมหนาว ยิ่งดึกก็ยิ่งได้ยินชัดเจน สาย
ลมหอบเอาทรายมากระแทกกับหลังคาไม่หยุด กระทังท่ ่ อนไม้
ที่ใช้ทาหลังคาท่อนหนึ่ งก็ถกู ลมกระโชกแรงพัดจนหลุดแล้วกลิ้ง
หลุนๆ ออกไป

5
หัวใจถานหวันช ่ ิ งเต้ นระรัว สายตาจับจ้องข้ างบนด้ ว ย
ความกังวล มองไม้ ทาหลังคาผุพงั ที่ พะเยิบตามแรงลม ความ
หวาดกลัวพลันผุดขึน้ ในใจ

พายุ ก ระหน่ า เข้ า มาไม่ ห ยุ ด ความร้ อ นในกระถางไฟ


ลดลงเรื่อยๆ มาถึงตอนนี้ ถานหวัน่ ชิงก็ลุกขึ้นมาโยนท่ อนไม้
เข้าไปสองท่ อนแล้ว แต่ร่างกายก็ยงั รู้สึกหนาวยะเยือก นางได้
แต่ขดตัวนิ่งอยู่ในเสื้อขนจิ้งจอกเพื่อรักษาความอบอุ่น

ไม่ รู้ว่ า ผ่ า นไปนานเท่ า ไร นางแว่ ว ยิ น เสี ย งบางอย่ า ง


จากนัน้ ก็มีเสียงฝี เท้ากาลังลงมาตามบันได รอบกายที่ มืดมิดทา
ให้ มองไม่เ ห็น ใบหน้ าคน เห็นเพี ยงช่ วงเอวของคนที่ หยุด ยื น
เพื่อสังเกตนาง ก่อนจะเข้ามานอนตรงพืน้ ที่ว่างด้านข้าง

่ ิ งเนื้ อตัวสันเท
ถานหวันช ่ ิ้ ม หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก
เพียงเขานอนลงข้างๆ นางก็อดไม่ได้ที่จะหมุนกายเข้าหาอ้อม
กอดแล้วกอดเอวของเขาแน่ น

“เจ้ากล้านักไม่ใช่หรือ แค่นี้กต็ กใจเสียแล้ว?” ท่ามกลาง


ความมืดมิดมีเสียงไม่ไยดีของชายหนุ่มแว่วมา แต่ทว่ามือกลับ
ตระกองกอดร่างในอ้อมแขน จากนัน้ ก็แกะผ้ารัดเอวแล้วแหวก
เสื้อตัวเองออก เพื่อให้สะดวกกับการมอบไออุ่นให้นาง
6
กล้ามเนื้ อและผิวหนังคนจะอุ่นร้อนเหมือนนัง่ ในกองไฟ
ขนาดนี้ เชียวหรือ? ความรู้สึกนางเหมือนคนเพิ่งผ่านพ้นความ
หนาวเย็นมาพบกับความอบอุ่นของดวงอาทิตย์

ความรูส้ ึกนี้ ช่างชวนให้จิตใจมึนเมาเสียจริง...

หญิงสาวแนบแก้มเย็นชืดกับอกแกร่งกว้างหนาและร้อน
ผะผ่า ว ในหูไ ด้ ยิ น เสี ย งหัว ใจอี ก ฝ่ ายเต้ น อย่ า งคงที่ แ ละหนั ก
แน่ น หัวใจของตนที่ เต้ นโครมครามอย่างสับสนในตอนแรกก็
พลันสงบลง ถึงด้ านนอกจะยังมี ลมพายุกรรโชกอย่างบ้าคลัง่
ปานจะฉี กทึ้งหลังคา...แต่ หากว่ามีคนผู้นี้อยู่ข้างกาย ก็ไม่ต้อง
กังวลใจใดๆ อีกแล้ว

นัน่ เป็ นความรู้สึกที่อยู่ในใจ คนผู้หนึ่ งสามารถก่อให้เกิด


ความรู้สึ ก ปลอดภัย ได้ เ พี ยงนี้ เ ชี ยวหรื อ เขาหนั ก แน่ น มันคง

ประดุจต้นไม้ใหญ่ให้นางโอบกอดและอิงแอบเพื่อกาบังพายุฝน
ที่บ้าระหา่ ทัง้ หลาย นี่ คือความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นาง
ไม่ร้วู ่าตนเองเป็ นอะไร? หรืออาจเป็ นเพราะหัวใจของนางไม่ได้
เข้มแข็งอย่างที่คิดเอาไว้

เซี่ ยเฉิงจู่ผ้ทู ี่ นางเอ่ยอ้างว่าเป็ น ‘ต้นไม้’ ก็รบั รู้ถึงอีกฝ่ าย


ได้ชดั เจน คนในอ้อมกอดภายนอกดูอบอุ่นละมุนละไมแต่ ข้าง
7
ในกลับดื้อรัน้ แข็งกร้าว ยามนี้ นางไม่ผลักไสเขาหนาซา้ ยังแทบ
จะฝังตัวเองเข้ามาในอกแกร่ง ลมหายใจจากร่างบอบบางที่ ซุก
อยู่ ใ ต้ ค างกระทบกับ ผิ ว เนื้ อ หญิ ง สาวอิ ง แอบกับ ตัว เขาด้ ว ย
ท่าทางว่านอนสอนง่าย

ชายหนุ่มนิ่งฟั งเสียงหัวใจนางเต้นระรัวพลางวางคางลง
บนศี รษะนาง มุมปากค่ อยๆ ยกยิ้ มในความมื ด มิด ทว่ าชาย
หนุ่มกลับแค่นเสียงออกจมูกแล้วเอ่ยเสียงเบา “ศัตรูคงไม่สนใจ
ความเป็ นอยู่ของเจ้า และกอดเจ้าให้อ่นุ เช่นนี้ ”

เขายังจาได้แม่นตอนที่ นางต่อว่าในรถม้า นางหาว่าเขา


เจ้าคิดเจ้าแค้นเป็ นที่สดุ ชายหนุ่มจึงเอ่ยประชดต่อ

“หากข้าเอาความแค้นจากถานจิ่งเอี๋ ยนมาวางลงบนตัว
เจ้าแล้วไล่เจ้าไปอยู่นอกเมือง ให้กินอยู่อาศัยร่วมกับผู้ลี้ภยั ใน
ห้ องโกโรโกโส กินแต่ อาหารหยาบและแบกหินตัดฟื น” พอถึง
ตอนนี้ สองมือชายหนุ่ มก็เปลี่ยนมากาเอวคอด “เจ้าบอกมาสิ
ผิวหนังนุ่มนิ่มละเอียดลอออย่างนี้ จะรับได้ไหม?”

ถ้าเขาคิดแต่จะแก้แค้น คงไม่เปลืองสมองหาทางเข้าใกล้
นางอย่างเด็ดขาด ยิ่งตอนที่ ต้องอดทนเมื่อร่วมเตี ยงกัน ยาม
แนบชิ ด ร่ า งนุ่ ม นิ่ มไปทัง้ ตัว ก็ย งั กลัว ว่ า จะท าให้ น างบาดเจ็บ
8
อย่างนี้ แล้วนางเป็ นศัตรูค่อู าฆาตตรงไหน? วันๆ เขาได้แต่กลัว
ว่านางจะโบยบินหนี ไป แล้วเหตุใดถึงไม่เข้ าใจกันบ้าง? หรือ
เพราะคาพูดและการกระทาของเขาไม่ชดั เจนพอ?

ถานหวันช ่ ิ งนิ่งฟั งที่ เขาพูด แม้แต่ ละประโยคจะไม่รื่นหู


ทว่านางกลับรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ บรรยากาศรอบกายดูหวาน
ชื่ น ทัง้ ที่ เริ่มแรกไม่ร้วู ่าใครกันที่ คอยตอกยา้ เป็ นนัยๆ ถึงการ
ทาผิด ในปี นั น้ ของนางไม่หยุด มาวันนี้ แทนที่ จะยอมรับกลับ
ย้อนเล่นงานกันเสียนี่

หญิงสาวรู้สึกสบายจนเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น ปรารถนา
เพียงความอบอุ่นจากร่างเขา ความคิดโต้ แย้งใดๆ ไม่มีในหัว
อีกแล้ว ได้แต่ทาเป็ นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แล้วซุกศีรษะเข้าใน
วงแขนแกร่ง แนบร่างนุ่มนิ่มชิดกับตัวเขามากขึน้

พอหญิ ง สาวท าแบบนี้ น้ า เสี ย งที่ ก ล่ า วหานางจึ ง หยุ ด


ทันที ในใจชายหนุ่มรู้สึกปวดร้าวเพียงนึ กถึงว่าวันนี้ นางกินได้
น้ อย เขาลูบหน้ าผากนางอย่างเบามือ การกระทาทัง้ ระมัดระวัง
และอ่อนโยนเป็ นที่สดุ

สายรัด เอวของทัง้ คู่ ถ ูก ปลดออกไปอยู่ ด้ า นข้ า ง เสื้ อ


กางเกง และเอี๊ยมตัวในถูกเลิกออก เพราะฝึ กวรยุทธมาตลอด
9
ร่างกายของชายหนุ่มจึงแข็งแรงสุขภาพดี แผ่นหลังเหยียดตรง
มีบุคลิกสง่างาม ทัง้ กล้ามเนื้ อ ผิวหนั งและกระดูกต่ างก็เปี่ ยม
ด้ ว ยพละก าลัง จึ ง ขาดความอ่ อ นนุ่ ม แต่ ก ลับ ท าให้ น างรู้สึ ก
ปลอดภัย ราวกับมีกาแพงที่แข็งแกร่งคอยปกป้ อง ช่วยกาบังให้
นางยามที่ต้องออกไปเผชิญลมหนาวพายุแรงด้านนอก

ยามเช้า

เมื่ อ ถานหวัน่ ชิ ง ปรื อ ตาตื่ น ขึ้ น มาอย่ า งสะลึ ม สะลื อ ก็


พบว่าตนอยู่ในเสื้อขนสัตว์สีขาว ไหล่มนขาวราวหิมะกับเท้ า
เล็กโผล่ออกมาด้านนอก แต่ นางกลับไม่ร้สู ึ กหนาวเลยสักนิด
เพราะตัว หญิ ง สาวก าลัง แนบกับ ‘ก าแพงอุ่น ’ พอนางได้ ส ติ
เต็มที่ กาลังจะเงยหน้ าก็ได้รบั จูบหวานละมุนละไมวนเวี ยนที่
พวงแก้ม ใบหูจมูก หลังหูและลาคอครัง้ แล้วครัง้ เล่า ด้วยความ
อาลัยอาวรณ์ไม่ยอมผละห่าง

ถานหวันช ่ ิ งพยายามพลิกหน้ าหลบแต่ ก็ไม่พ้น อี กฝ่ าย


ยังคงตามมาซุ กไซ้ กบั ร่างนางกระทังหญ ่ ิ งสาวเกิด ความรู้สึก
แปลกประหลาดในช่องท้อง หัวใจพลันเต้นไม่เป็ นสา่ ชายหนุ่ม
พลิกร่างนางขึ้นแนบลาตัวของตน หญิงสาวก้ มลงมองความ
แข็ง แกร่ ง ที่ ก าลัง ผลัก ดัน เข้ า หา ริ ม ฝี ปากทัง้ สองประกบกัน
อย่างอ่อนนุ่มหอมหวาน
10
ท่ าที ที่นางครอบครองเขาอย่างเชื่ องช้ าแฝงด้ วยความ
เร่าร้อนกลับยิ่งกระตุ้นเร้าชายหนุ่ม

แม้เซี่ ยเฉิงจู่จะขาดทฤษฎี แต่ ในการปฏิบตั ิ มีเต็มพร้อม


เขายังไม่เคยเปิดหูเปิดตากับบทรักระหว่างชายหญิงมากนักจึง
่ ่ ก่อนจะหมดความอดทนไม่อาจรักษาจังหวะ
แข็งทื่ อไปชัวครู
เชื่ องช้ าไว้ได้ เขาผลักดัน และนาพานางด้วยความเร็วที่ สูงขึ้น
เรือ่ ยๆ เข้ายึดครองทุกๆ สัมผัสและทุกความรูส้ ึก

ฉั บ พลัน เขาก็พ ลิ ก ร่ า งนางลง ลาดไล่ แ กร่ ง ก าย าที่ อ ยู่


ด้านบนเคลื่อนไหวไปตามแรงผลักดันที่ ฮึก เหิม ก่ อนที่ ความ
รูส้ ึกทัง้ มวลจะระเบิดพร่างพราว...

เมื่อวานสองคนยังทา ‘สงครามเย็น’ กันอยู่ พอเช้าวันนี้


ทัง้ คู่ก็กลับเป็ นเหมือนเดิม ใต้ เท้ าเซี่ ยวิ่งไปมาคอยดูแลหญิง
สาว ซา้ ยังโอบอุ้มด้วยความระมัดระวังยิ่ง เพราะหากกระทบกับ
ช่วงเอวที่ ล้มเมื่อคืน หญิงสาวก็จะมีอาการเจ็บเล็กน้ อย ยามนี้
ถานหวันช ่ ิ งจึงหลี กเลี่ ยงการเดินหรือนอนตะแคงซึ่ งจะทาให้
เจ็บแปลบ

ดัง นั ้น เซี่ ย เฉิ งจู่ยิ่ ง ต้ อ งระวัง เวลาสัม ผัส เอวนาง ผู้ค น


ทัง้ หลายมองมาด้วยแววตาเป็ นประกาย หากพูด ถึงเอวได้รบั
11
บาดเจ็บก็ยากที่ ใครจะคิดเป็ นอื่นได้ ยิ่งเห็นสายตาใต้ เท้ าของ
ตนเปลี่ยนเป็ นลึกซึ้งออกปานนัน้ พวกเขาก็ยิ่งมันใจ

ตู้ เ หอตบไหล่ ใ ต้ เ ท้ า เซี่ ย แล้ ว เอ่ ย แนะน าด้ ว ยค าพูด ที่


จริ ง จัง “ถึ ง ใต้ เ ท้ า จะห้ า วหาญเปี่ ยมไปด้ ว ยพลัง แต่ อ ย่ า งไร
ผูห้ ญิงก็อ่อนแอ ท่านไม่ควรเอาแรงที่รบราฆ่าฟั นศัตรูมาปฏิบตั ิ
ต่ อ นางนะ เฮ้ อ ...หากวู่ ว ามมากเกิ น ไปแล้ ว ท าให้ ร่ า งกาย
บาดเจ็บก็ไม่ดีเลย...”

โดยเฉพาะสาวงามหยาดเยิ้ ม คนนั ้น พลัน ให้ นึ กถึ ง


เหตุ ก ารณ์ ก็ เ ข้ า ใจว่ า นางคล้ า ยดอกเจี ย วฮวาที่ ถ ูก บดจน
กลายเป็ นโคลน หญิงงามผูน้ ่ าสงสาร มิน่าเล่าถึงเดินไม่ไหว

ใครบอกว่ า ผู้ช ายไม่ มี จิ น ตนาการ แค่ ก ารเคลื่ อ นไหว


เล็กน้ อยก็ทาให้จินตนาการของพวกเขาก็กระเจิดกระเจิงข้าม
มหาสมุ ท รไปไกลแล้ ว เพี ย งแต่ ไ ม่ มี ค นกล้ า พู ด ออกมาเท่ า
นัน้ เอง

ทว่าเซี่ยเฉิงจู่เป็ นใคร แค่มองแวบเดียวเขาก็รไู้ ด้ว่าทหาร


พวกนี้ กาลังคิดเรื่องโสมม ใบหน้ าชายหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็ นมืด
ครึม้ ไม่อาจอธิบายเรื่องที่นางสะดุดล้ม เพราะยิ่งพูดไปกลุ่มคน
เล็กๆ เหล่านี้ กจ็ ะยิ่งสนุ ก อี กทัง้ มันไม่ใช่ เรื่องที่ ต้องเล่าให้ คน
12
นอกฟัง ชายหนุ่มจึงใช้ฝ่าเท้าถีบทหารที่เป็ นคนบังคับม้าให้กลิ้ง
ลงไป ส่วนตนเองก็หยิบเชือกบังเหี ยนมานัง่ ตาแหน่ งบังคับรถ
ม้าด้วยตัวเอง

คณะเดินทางเร่งบ้าง พักระหว่างทางบ้าง ในที่ สุดก็กลับ


มาถึงเมืองเว่ยอันก่อนจะได้ค้างแรมอีกคืน

13
65 เหมือนอยู่ฤดูวสันต์

หลังจากกลับมาถึงเมืองเว่ยอัน ถานหวันช ่ ิ งก็ป่วยหนั ก


เพราะเจอกับอากาศหนาวเหน็บมาสี่ ห้าวัน หน้ าซา้ การเดินทาง
บนถนนหนทางในฤดูหนาวก็ไม่ใคร่ดีนัก เส้นทางคดเคี้ยวยาว
ไกลท าให้ ก ระดูก ข้ อ ต่ อ เจ็บ ร้ า วไปหมด กอปรกับ ความรู้สึ ก
ภายในใจที่ มีต่อครอบครัวตระกูลถาน ชัวระยะเวลาสั
่ น้ ๆ ที่ มี
เรือ่ งทุกข์ใจประดังประเดเข้ามา ทาให้รา่ งกายนางอ่อนแอลง

แต่ ค รัง้ นี้ ลุ่ย จูไม่ได้ ลุกลี้ ลุกลนเหมื อนคราก่ อนที่ ต กใจ
แทบตาย เพราะมีคนร้อนรนยิ่งกว่านางเสี ยอี ก ใต้เท้าเซี่ ยเชิญ
หมอมาตรวจอาการคุณหนูอย่างละเอียด เทียบกับการป่ วยครัง้
ก่อนของคุณหนูแล้ว คราวนี้ ลุ่ยจูแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย
นอกจากต้มยา

แล้วยังมีเรื่องที่น่าประหลาดใจก็คือ คุณหนูหายป่ วยเร็ว


มาก ยาแค่ ห่อเดี ย วก็แทบจะหายเป็ นปลิด ทิ้ ง ทาให้ ลุ่ย จูเ กิด
ความกังขาขึน้ มาทันทีว่า ยาของเมืองเว่ยอันดีกว่ายาของเมือง
หลวงขนาดนัน้ เชียวหรือ?

1
ไม่ ใ ช่ ว่ า นางไม่ อ ยากเห็น คุ ณ หนู ห ายป่ วย แต่ เ พราะ
ร่า งกายของคุณ หนู ไ ม่ แ ข็ง แรงอย่ า งคนทัว่ ไป ถ้ า ป่ วยขึ้น มา
เมื่อไร...สิบวันหรือครึ่งเดือนเป็ นอย่างน้ อยก็ไม่หาย ตอนที่หนี
มาถึงเมืองเว่ยอันก็เป็ นไข้หวัด ต้องกินยาถึงห้าวันจึงจะลงจาก
เตียงนอนมาเดินได้ และกว่าจะเดินคล่องแคล่วเหมือนเก่าก็ใช้
เวลานานกว่านั น้ ต่ างจากอาการป่ วยครานี้ ที่ดูเหมือนจะหาย
เร็วเป็ นพิเศษ

อีกทัง้ หลังจากหายป่ วยแล้ว สีหน้ าคุณหน้ าไม่เพียงแต่ไม่


ซีดเซี ยวแต่กลับยิ่งแดงเปล่งปลังทั
่ ง้ สองข้างแก้ม หรือกล่าวอีก
นัยหนึ่ งว่า คุณหนูยิ่งงดงามน่ าพิสมัยเป็ นอย่างยิ่ง ซึ่งทัง้ หมดนี้
ทาให้นางอดสงสัยขึน้ มาไม่ได้

คนที่ นัง่ หลังพิงเตี ยงค่อยๆ พลิกดูแผ่นภาพในมือด้วยสี


หน้ างดงามอ่อนช้อย สองแก้มแดงระเรื่อไม่ใช่เพราะแป้ งสีชาด
ที่แต่งแต้มอย่างแน่ นอน แต่เป็ นเพราะมีสขุ ภาพดี ตัง้ แต่กลับมา
จากเฟิงหลี สภาพร่างกายและจิตใจของคุณหนู ล้วนดี ขึ้นมาก
ถึ ง คุณ หนู จ ะไม่ เ ล่ า ไม่ บ อก ลุ่ ย จูก็แ อบคาดเดาในใจว่ า ต้ อ ง
เกี่ยวพันกับใต้เท้าเซี่ยเป็ นแนj

เด็ก สาวอาศัย จัง หวะที่ คุณ หนู อ ารมณ์ ดี เข้ า มานั ง่ ลง


ใกล้ๆ แล้วเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ “คุณหนู”
2
“หืม?”

“ตอนที่ท่านไม่อยู่ เพื่อนบ้านที่อยู่ฝัง่ ตรงข้ามหลังนัน้ เกิด


เรือ่ งเจ้าค่ะ”

“เกิดเรื่องอะไรขึน้ ?” ในที่สุดถานหวันช
่ ิ งก็ละสายตาจาก
สมุดภาพที่สวยงามแล้วเงยหน้ ามองลุ่ยจู

“ทางบ้านใหญ่เอาลูกน้ องมา แล้วสังให้


่ คนตี อนุ ภรรยา
คนนั น้ แทบปางตายเลยเจ้ า ค่ ะ หากพ่ อ ค้ า ข้ า วมาช่ ว ยไม่ ท ัน
ใบหน้ า นางอาจจะเสี ย โฉมไปแล้ ว ก็ ไ ด้ โชคดี ที่ คุณ หนู ไ ม่ อ ยู่
สถานการณ์ ต อนนั ้น น่ าตกใจมาก หญิ งปากร้ า ยด่ า กราด
อาละวาดไปทัว่ ประพฤติตวั ไม่เรียบร้อยเลยสักนิด”

ลุ่ย จูพูด จบก็เ ห็น คุณหนู ย งั มี สี หน้ าเรี ย บนิ่ ง คิ้ ว ไม่ ข ยับ
เลยสักนิด นางก็ร้แู ล้วว่าอี กฝ่ ายไม่เข้าใจ ลุ่ยจูจึงเอ่ ยต่ อเสี ยง
ร้อนรน

“เพราะที่ พกั ข้างๆ เป็ นของอนุพ่อค้าข้าว อาจจะพลอย


ท าให้ คุ ณ หนู ต กต่า ไปด้ ว ยนะเจ้ า คะ ฐานะยิ่ ง ไม่ ต้ อ งพู ด ถึ ง
ชื่อเสี ยงก็ไม่ค่อยดี ฟั งนะเจ้าคะ พวกเราไม่ควรเช่ าบ้านหลังนี้
ตัง้ แต่แรกแล้ว...”

3
ถานหวันช ่ ิ งฟั งหูซ้ายทะลุหขู วา ถามเสี ยงเรียบว่า “แล้ว
เจ้าอยากพักที่ไหน?”

ลุ่ ย จู ตื่ น เต้ น ขึ้ น มาฉั บ พลัน “ยัง จะมี ที่ ไ หนอี ก เจ้ า คะ?
แน่ นอนว่ าต้ องเป็ นจวนผู้ปกครองเมือง! หลังจากคุ ณหนู ต บ
แต่ งกับใต้ เท้ าเซี่ ยแล้ว เป็ นธรรมดาที่ จะต้ องเข้าไปอยู่ในจวน
นัน้ ”

พอพูด มาถึ ง ตรงนี้ ลุ่ ย จูก็ข ยับ เข้ า มาใกล้ อี ก เอ่ ย ด้ ว ย


ความกระวนกระวายใจ “เมื่อวานใต้เท้ามาที่ บ้านก็เอาของมา
ส่งให้ ตอนนี้ ห้องทางตะวันตกเก็บของแทบไม่หมดแล้วเจ้าค่ะ
แม้แต่กระถางดอกไม้กย็ กมาด้วย...”

ยังมีประโยคที่ นางไม่ได้พูดต่อก็คือ บรรดาของพวกนัน้


แค่ ม องก็ รู้ ว่ า เป็ นของหมัน้ หมาย กระถางดอกไม้ นั ้น เป็ น
ความหมายแฝงแทนสิ่งลา้ ค่ า ของพวกนี้ ล้วนส่ งมาหมดแล้ว
บอกเป็ นนัยๆ อย่างชัดเจน นัน่ ก็คือรอหนึ่ งประโยคจากคุณหนู
ขนาดนางเป็ นแค่ เ ด็ก รับ ใช้ ย ัง มองออกทะลุ ป รุโ ปร่ ง ท าไม
คุณหนูถึงไม่รสู้ ึกรูส้ าเลยนะ

“อาจู น้าในกาหมดแล้ว”

4
ลุ่ ย จูซึ่ ง ก าลัง ร้ อ นรนอยู่ อ ดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะเบ้ ป าก “คุณ หนู
อย่าได้ คิดไล่ข้าออกไปเลยเจ้าค่ะ ทัง้ หมดนี้ ข้าทาเพื่อใคร ถ้า
ไม่ ใ ช่ เ พื่ อ คุณ หนู ถึ ง แม้ ต าแหน่ ง ของใต้ เ ท้ า จะไม่ สู ง มาก แต่
อย่างไรในเมืองเว่ยอันก็มีเขาดูแลอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลัง
แต่ งเข้ าไปแล้ ว คุณหนู ก็สามารถเดินอย่ างสง่าผ่าเผยโดยไม่
ต้องกังวล”

“ข้าคือปู แล้วยังจะเดินสง่าผ่าเผยได้อย่างไร...”

“คุณหนูไม่ใช่ปเู สียหน่ อย ไหนๆ ท่านกับใต้เท้าเซี่ยก็ต่าง


...ต่ างเป็ นสามีภรรยากัน อี กทัง้ ผู้หญิงอย่างเรารอไม่ได้นะเจ้า
คะ ไอ้หยา ข้าร้อนใจแทบตาย ไยคุณหนูฟังไม่เข้าไจบ้างเลยเจ้า
คะ?”

แต่ ก่อนคาพูดเหล่านี้ ลุ่ยจูมิกล้าเอ่ ยออกมาตามใจ แต่


หลัง จากที่ น างกับ คุณ หนู หนี อ อกมา ต่ างพึ่ ง พาอาศัย กัน เพื่ อ
ด ารงชี วิ ต มานานขนาดนี้ ความกล้ า นั บ วัน จึ ง ยิ่ ง แข็ง แกร่ ง
คุณ หนู ม กั ให้ อ ภัย และปฏิ บ ตั ิ ต่ อ นางด้ ว ยความโอบอ้ อ มอารี
เพราะพวกนางมีกนั แค่สองคนเท่านัน้

ความกังวลใจเรื่องอื่นนัน้ ลุ่ยจูไม่กล้าเอ่ยปาก แต่ตอนนี้


แม่ทพั หัวเมืองมีคุณหนูอยู่เต็มหัวใจแล้ว เขาปลีกตัวมาหาทุก
5
วัน ทัง้ เสื้ อ ผ้ า อาหาร ที่ พ ัก ต้ อ งการอะไรก็ส อบถามอย่ า ง
ละเอียด แต่ก่อนลุ่ยจูคิดว่าคนผูน้ ี้ ส้กู บั พวกคนเถื่อนมากเกินไป
ตัว เองก็เ ลยเหมื อ นคนเถื่ อ น หากคุณ หนู แ ต่ ง กับ คนเย็น ชา
เช่ นนี้ ต่ อไปจะใช้ ชีวิตที่ ดีได้อย่างไร...เพราะเมื่อก่ อนนางคิด
เช่นนี้ จึงหลบได้เป็ นหลบ หลีกได้เป็ นหลีก

แต่ช่วงหลังมานี้ จึงได้รวู้ ่าตนเองคิดผิด นางไม่อาจตัดสิน


คนดี คนเลวแค่เพียงภาพที่ ได้เห็น คนผู้นี้ภายนอกดูเคร่งขรึม
เอาจริงเอาจังตลอดเวลาจนดูเหมือนมี นิสัยเย็นชา แต่ ความ
จริงภายในรุ่มร้อน แม้ยงั ไม่ได้แต่งคุณหนูเข้าจวนก็ยงั สู้อตุ ส่าห์
มาจัดการเรือ่ งต่างๆ ในบ้านเล็กหลังนี้ ทุกอย่าง

วัน นี้ อาหารสามมื้อ จะกิน อะไร คุณหนู ดูส มุด ภาพเล่ ม


ไหน จะไปที่ แห่งใด ไม่ว่าเขาจะยุ่งมากมายขนาดไหนก็ยงั ใส่ใจ
สอบถามทุกรายละเอียด แม้แต่ผกั กับเนื้ อส้าหรับท้าอาหารสาม
มือ้ ก็ตระเตรียมไว้ สองวันก่อนก็ส่งรังนกนางแอ่นชัน้ ดีมาให้ ไม่
รู้ว่าเขานามาจากที่ ไหน เพราะการหาของสิ่งนี้ ในเว่ยอันย่อม
ไม่ใช่เรือ่ งง่ายเลย

เดี๋ ยวนี้ ในบ้านไม่มีอะไรขาดแคลน นางแทบไม่มีอะไร


ให้ต้องไปจับจ่ายอีกแล้ว ใต้เท้าเซี่ ยไม่เพียงแต่ ชอบพอคุณหนู
เท่ านั น้ ยังสนใจดูแลบ้านช่ องอี กด้วย นางจินตนาการว่าหาก
6
คุณหนูได้แต่ งเข้าไปก็แทบไม่ต้องกังวลใจอะไรเลย เพราะทุก
อย่างใต้ เท้ าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ยิ่งได้ยินมาว่าแม้แต่ หญิง
ปรนนิบัติข้างกายสักคนก็ไม่มี นางจึงอยากจะบอกว่าคุณหนู
โชคดีมาก

ใต้ เท้ าเซี่ ยยังหนุ่มแน่ น หญิงสาวในเมืองเว่ยอันตัเ้ ท่ าไร


คิดอยากจะได้เขาเป็ นสามี หากคุณหนูยงั ประวิงเวลาออกไปอีก
จะดีหรือ คุณหนูของนางจะต้องไม่เป็ นอนุภรรยาอย่างเด็ดขาด

ในเมื่อเป็ นเช่ นนี้ คุณหนู ยิ่งสมควรต้ องลงมือก่ อน อี ก


ฝ่ ายควรรี บ แต่ ง งานแล้ ว มี ลูก ทว่ า หลายวัน มานี้ น างพรา่ พูด
เกลี้ยกล่อมจนน้ าลายแทบแห้งทว่าคุณหนูกย็ งั ไม่ใส่ใจ ท่าทาง
ไม่ทุกข์รอ้ นจนคนพูดแทบจะแดดิ้นตายอยู่แล้ว

ถานหวันชิงเองก็ถกู ถ้อยคา้ ของลุ่ยจูพ่นใส่จนปวดศีรษะ


ถึงกับต้ องคลึงนวดขมับ พอทนไม่ไหวจึงปั ดมือไล่ แน่ นอนว่า
ลุ่ยจูลกุ ขึน้ หายใจฮึดฮัดแล้วเลิกผ้าม่านเดินออกไป

ถานหวัน่ ชิ ง ได้ แ ต่ นึ กในใจว่ า เด็ก คนนี้ นั บ วัน ยิ่ ง ไม่ มี


ความเป็ นเด็ก ตอนที่ เพิ่งรับเข้ามาในจวน อี กฝ่ ายยังเป็ นเด็ก
เล็ ก พอเห็ น นางก็ ต กใจจนตั ว สั น่ เทิ้ ม แต่ ต อนนี้ เก่ ง กาจ

7
เหลือเกิน กล้าสะบัดผ้าม่านต่ อหน้ าคุณหนู อย่างนางเสี ยด้วย

ทว่ าความหมายของประโยคเหล่ านั น้ ทาไมนางจะไม่


เข้าใจ

หญิงสาวที่ หนั กแน่ นจิตใจเริ่มสันไหว


่ นางเพี ยรนั บวัน
เวลาว่าป่ านนี้ หร่วนอี ตนั จะถึงเมืองหลวงหรือยัง...ปี หน้ าก่อน
เดือนห้าไม่รวู้ ่าอวี้ฉีจะสามารถมาเว่ยอันได้หรือไม่

พอคิดเช่ นนี้ ในใจก็ยิ่งหวาดหวัน่ กังวลและไม่สงบ ใจ


หนึ่ งอยากจะหนี ปลดการผูกมัดทัง้ ปวงออก ซึ่งจะเป็ นผลดีที่สดุ
ทัง้ ต่อนางและต่อเขา แต่อีกใจกลับต่อต้านความคิดแรก นับวัน
นางยิ่งพึ่งพาอาศัยเขา อีกทัง้ ยิ่งมีความสุขกับการได้พกั พิง กับ
การดูแลเอาใจใส่ไปหมดทุกอย่างของเขา

สาหรับนางแล้ว เรื่องนี้ ยากจะตัดสินใจ ถึงเขาจะยินยอม


ไม่มีบตุ ร แล้วนางจะอยู่รว่ มกับเขาได้สกั กี่ปีกัน

นางรู้ว่าตนเองแก่เร็วเพราะสุขภาพไม่ดี จึงไม่ควรหน่ วง
เหนี่ ยวผูอ้ ื่นไว้

8
เวลานี้ หญิงสาวได้แต่นัง่ มองสมุดภาพในมืออย่างเหม่อ
ลอย หัวใจยุ่งเหยิงสับสนจนชาหนึ บ...

ไม่รจู้ ริงๆ ว่าควรจะทาอย่างไรดี...

เวลาล่วงเข้าสู่เดือนสิบสอง ลมหนาวนอกหน้ าต่ างเย็น


ยะเยือก พายุหิมะถาโถม เกล็ดหิมะดุจขนห่ านบินปลิวละล่อง
ตกลงมาทับถมกันจนเป็ นแผ่นหนา

ทว่ าในห้ องกลับอบอวลด้วยถ่านไฟ ผู้ที่อยู่ในห้ องเป็ น


คนที่ เคยขยาดความหนาว เดิมเพียงเจอความเย็นเข้าหน่ อยก็
มักจะนอนไม่หลับ แต่ช่วงนี้ หญิงสาวกลับนอนหลับสนิทจนฟ้ า
สว่าง

เมื่อคื นพายุหิมะเพิ่งหยุด ยามรุ่งอรุณฟ้ าเริ่มสาง หญิง


สาวยัง นอนอยู่ ผมด าสยายลงบนหมอน ถานหวัน่ ชิง ที่ กาลัง
นอนอยู่ร้สู ึกว่าความอุ่นร้อนที่ ห้อมล้อมร่างตนกาลังจะหายไป
นางคุ้นชินเสี ยแล้วกับความร้อนผ่าวนั น่ จิตใต้ ส้านึ กทาให้รีบ
แนบชิด แก้ มกับ ร่างคนผู้นัน้ อย่างอาลัยอาวรณ์ รู้สึ กเพี ยงว่ า
ความอบอุ่นนี้ จะทาให้นางสุขสบาย ให้นางใกล้ชิดกันแบบนี้ ทุก
วันก็ยอม

9
ไหนเลยจะรู้ว่าท่าทีของนางทาให้หวั ใจดุจเหล็กของบุรษุ
หลอมละลายกลายเป็ นน้า

มือเรี ยวเล็กขาวผ่องเป็ นยองใย ไขว่ คว้ าหาร่างที่ นอน


แนบชิ ด ร่ า งแกร่ ง ก าย าไม่ ท ัน จะได้ ลุ ก ไปสวมเสื้ อ ผ้ า ก็เ ห็น
ท่ าทางนางเสี ยก่อน ชายหนุ่ มจึงได้แต่ รงั ้ รอ ไม่อยากผละหนี
จากการให้ความอบอุ่นแก่นาง

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่อาจละสายตาไปจากหญิงสาวที่ กึ่งหลับกึ่ ง


ตื่น ความลุ่มหลงรุมเร้าจนแทบครองสติไม่อยู่ ในที่ สุดก็ไม่อาจ
ตัดใจจากไป ผ้าห่มจึงถูกเลิกออกก่อนที่ ชายหนุ่มจะแทรกกาย
เข้าไปอีกครา แนบชิดร่างของตนกับร่างขาวผ่อง ‘ทัศนี ยภาพ’
บุปผางามในยามวสันต์ตรงหน้ าดึงดูดสายตา ลูกท้อสองผลเจือ
สีชมพูระเรื่อ นุ่มนิ่มเหมือนดอกท้อตูมยามแรกเข้าฤดูใบไม้ผลิ
เป็ นที่สดุ

“อื ม ไม่อยากให้ ไปเลย...” หญิงสาวที่ กาลังอยู่ในความ


ฝันเอ่ยพึมพาขึ้น เสียงแผ่วหวานคล้ายนกขมิ้นเหลืองอ่อนร้อง
เพลง

เดิมที ชายหนุ่มจะค่อยๆ ผละจากไปอย่างแผ่วเบา ทว่า


เมื่ อ ได้ ป ระคองร่ า งเนี ยนนุ่ มก็ยิ่ ง ยากจะหัก ใจ ความลัง เล
10
เล็กน้ อยที่ มีถกู อารมณ์ ปรารถนาที่ เริ่มพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด
เอาชนะได้ ใ นที่ สุ ด เขาดื่ ม ด่า กับ ‘ทัศ นี ยภาพ’ ตรงหน้ า ทัง้
อาการง่วงงุนกึ่งหลับกึ่งตื่น แก้มแดงระเรื่อบอบบางทัง้ สองข้าง
ริมฝี ปากประดุจลูกท้อที่แดงฉ่า ลิ้นและไรฟันขาวผ่อง

ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างเร่าร้อนบนใบหน้ าหญิงสาวครัง้
แล้วครัง้ เล่าอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่ร้วู ่าเขาเอาแต่ใจตัวเองนาน
เท่าไรจึงยอมลุกขึน้ สวมเสื้อผละจากแต่โดยดี

เมื่ อ ถานหวัน่ ชิ ง ตื่ น เต็ม ตา พระอาทิ ต ย์ก็ล อยเด่ น อยู่


เหนื อศีรษะบ่งบอกว่าสายแล้ว ช่วงนี้ หออักษรป่ าไผ่หยุดเรียน
เพราะอยู่ในช่ วงใกล้เฉลิมฉลองงานปี ใหม่ นางเองจึงอยากจะ
พักผ่อนให้มากที่สดุ

ตอนนี้ ในบ้านมีสาวใช้เพิ่มอีกหนึ่ งคนมาอยู่เป็ นเพื่อนลุ่ย


จู เด็กสาวเป็ นคนที่ เซี่ ยเฉิงจู่พามา ตอนนี้ นางพักอยู่นอกเมือง
กับ ครอบครัว กิ ริ ยาท่ า ทางปราดเปรี ย วว่ อ งไว อี ก ทั ง้ ยัง
ปากหวานมาก พอมาถึงก็เรียกถานหวันช ่ ิ งว่าฮูหยิน ถึงแม้นาง
จะอายุน้อยไปสักหน่ อย แต่ เพราะเป็ นเด็กที่ มาจากครอบครัว
ยากจนจึงทางานบ้านได้ดี ไม่ว่าจะซักผ้าล้างชามหรือตัดหญ้า
มาเลี้ยงแพะ

11
สาวใช้ ค นใหม่ ชื่ อ เจิ้ ง เอวี้ ย ที่ แ ปลว่ า เดื อ นหนึ่ ง บิ ด า
มารดาตัง้ ชื่อให้ตามเดือนที่เกิด ในเมื่อชื่อแฝงด้วยความหมาย
ของวันเกิด ถานหวันช ่ ิ งจึงไม่เปลี่ ยนแก้ นางกับลุ่ยจูจึงยังคง
เรียกขานอีกฝ่ ายด้วยชื่อเดิม

ตอนนี้ สภาพในบ้ า นไม่ เ หมื อ นตอนที่ ย้ า ยเข้ า มาครา


แรก ลุ่ยจูจึงจัดการคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะห้องครัวกับแพะ
ซึ่ งยามนี้ เพิ่มเป็ นสามตัวที่ ลานบ้าน เด็กสาวจึงต้ องทางานทัง้
วัน เมื่อมีผชู้ ่วยแล้วก็ทาให้พอมีเวลาได้พกั หายใจบ้าง

เมื่อครู่ลุ่ยจูได้ยินความเคลื่อนไหวจากห้ องคุณหนู จึงรู้


ว่านายของตนตื่ นแล้ว เมื่อนางกับเจิ้งเอวี้ยผลักประตูเข้ามาก็
เห็นผ้าม่านบนเตี ยงอุ่นถูกเปิดออกแล้ว ส่วนคุณหนูที่สวมเสื้อ
และเสื้ อ กัน หนาวแพรต่ ว น ผมยาวสยายคลุ ม ไหล่ บ างก าลัง
คุกเข่าอยู่บนเตียงเพื่อเปิดหน้ าต่างให้อากาศเข้า

“คุณหนู เจ้าคะ ข้างนอกหิมะเพิ่งหยุดตก อากาศหนาว


ชื้ นออกปานนั น้ ท่ านเพิ่งหายป่ วยได้ไม่กี่วนั เองนะเจ้าคะ ถ้า
อยากผึ่ง ลมในห้ อ งก็น่ า จะรอตอนเที่ ย งให้ แ ดดแรงเสี ย ก่ อ น
หากว่าโดนลมโกรกจนไข้กลับมาอีกจะทาอย่างไรล่ะเจ้าคะ?”

12
ถานหวันช่ ิ งอดรู้สึกเก้อเขินไม่ได้ ในใจคิดเพี ยงว่าหรือ
ลุ่ยจูจะรู้สาเหตุที่แท้จริง นางและเซี่ยเฉิงจู่นัน้ แนบชิดกันทุกวัน
ยามนี้ ในห้องจึงไม่ได้มีกลิ่นของนางแค่คนเดียว แต่กลับมีกลิ่น
ของชายหนุ่มผสมผสานอยู่ด้วย เมื่อเทียบกันแล้วกลิ่นนี้ แรงยิ่ง
กว่ากลิ่นกายของถานหวันช ่ ิ งเสี ยอี ก ขนาดนางตื่ นขึ้นมาแล้ว
ได้กลิ่น สองแก้มก็ยงั ร้อนผะผ่าว นางจึงเกรงว่าลุ่ยจูจะได้กลิ่น
นี้ เช่ นกัน หญิงสาวจึงรีบไปเปิดหน้ าต่ างให้ ลมระบายเข้ามา...
เดี๋ยวนี้ นางไม่เป็ นตัวของตัวเองเอาเสียเลย

โชคดีหน่ อยที่ห้องไม่ใหญ่มาก พอเปิดได้สกั พักกลิ่นนัน้ ก็


ค่ อ ยๆ จางหายไปก่ อ นที่ ลุ่ ย จู ที่ ไ ม่ พ อใจจะเดิ นเข้ า มาปิ ด
หน้ าต่าง หลังจากนัน้ ระหว่างที่คณ ุ หนูอาบน้าล้างหน้ าบ้วนปาก
นางก็ ดู แ ลปรนนิ บัติ แล้ ว ช่ ว ยผลัด เปลี่ ย นเสื้ อ ผ้ า ให้ ต าม
ความคุ้น เคย ส่ ว นเจิ้ง เอวี้ย ยามนี้ กาลังวางอาหารลงบนโต๊ะ
พลางลอบมองนายสาว

ครัง้ แรกที่เห็นฮูหยินของผูป้ กครองเมือง ดวงตาของนาง


ถึงกับเบิกกว้าง แต่ ไหนแต่ ไรนางไม่เคยเห็นผู้ใดที่ งดงามราว
กับเดินออกมาจากภาพวาดถึงเพียงนี้ หากจะพูดตามตรงก็คือ
...งดงามจนไม่เหมือนมนุษย์คนอื่น

13
เด็กสาวคิดว่าฮูหยินคงไม่ได้กินข้าวจนโตมาเหมือนพวก
นางแน่ นอน

่ ิ งถอดเสื้อกันหนาวออกแล้วสวมเสื้อตัวใหม่สี
ถานหวันช
เขี ย วอ่ อ นแบบผ่ า หน้ าเนื้ อ นุ่ ม กระโปรงมี ล ายดอกไม้ เมฆ
หมอกและหญ้าเขียวกระจายอยู่ทวตั ั ่ ว ชุดนี้ ขบั เน้ นให้เอวเรียว
ยิ่งคอดกิ่ว หญิงสาวกาลังนั ง่ บนเตี ยงหลังเล็ก ละเลี ยดดื่ มผึ้ง
ร้อนอุ่นด้ วยกิริยาท่ าทางที่ อ่อนโยน ในขณะที่ ลุ่ยจูกาลังเกล้า
ผมให้ด้วยใบหน้ าแย้มยิ้มอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

14
66 วางแผนอนาคต

หลัง จากแต่ ง ตัว เสร็จ เรี ย บร้ อ ย ถานหวัน่ ชิ งก็ม านั ง่


หน้ าโต๊ะ

นางกวาดตามองอาหารที่ วางเรียงรายรอบหนึ่ ง ก็เห็น


ว่าของกินบนโต๊ะอุดมสมบูรณ์อย่างมาก หญิงสาวหันไปถามลุ่ย
จูอย่างสงสัย

“วันนี้ วนั อะไร ทาไมอาหารถึงได้มากขนาดนี้ ?”

นับตัง้ แต่เจิ้งเอวี้ยมาอยู่ด้วย ลุ่ยจูกไ็ ม่ได้กินข้าวร่วมกับ


ถานหวันช่ ิ ง เพราะไม่อยากทาให้เจ้านายต้องเสียหายในสายตา
คนอื่น

“นี่ ใกล้จะถึงวันเฉลิมฉลองเทศกาลปี ใหม่แล้ว ใต้เท้าเซี่ย


จึงให้คนส่ งของมามากมายจนห้องครัวแน่ นไปหมด ใต้ เท้ ายัง
บอกอี กว่าต่ อไปอาหารทุกมื้อจะต้ องเพิ่มกับข้าวอี กสองอย่าง
ขนมหวานหนึ่ งอย่าง ทัง้ ยังเปรยว่าคุณหนูผอมไปต้องบารุงสัก
หน่ อย ข้ าคิ ด ว่ าใต้ เท้ าพูดถูกต้ อง ดังนั น้ ก็เ ลยทาอาหารเพิ่ ม
เล็กน้ อย คุณหนูกก็ ิ นมากๆ นะเจ้าคะ...”

1
ถานหวันช ่ ิ งมองอาหารบนโต๊ะ ทุกวันต้ องมีนมแพะม่วง
หนึ่ งชาม รังนกใส่พุทราเชื่อมหนึ่ งถ้วย โจ๊กใส่ เกาลัดหนึ่ งชาม
แล้วยังมี น้ า แกงหน่ อไม้ผสมเนื้ อปลารสชาติกลมกล่ อม ตาม
ด้วยเป็ ดตุ๋นโสมที่เคี่ยวด้วยไฟอ่อนทัง้ คืน และปลานึ่ งหนึ่ งจาน
พร้อมทัง้ มีขนมหวานอี กสองอย่าง เป็ นรวมมิตรหนึ่ งถ้วยและ
ขนมฟักทอง

อาหารมากมายเหล่านี้ ทาให้ นางคิดไปถึงวันเวลาที่ อยู่


ในจวนตระกูลถาน

พอถานหวัน่ ชิ ง เงยหน้ า ขึ้น อี ก ครา ก็เ ห็น ห้ อ งที่ เ คยไร้


ชีวิตชีวาไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกแล้ว

ตอนนี้ เ ครื่ อ งเรื อ นที่ ถกู เปลี่ ยนทาจากไม้พ ะยูง หอม มี


โต๊ะเตี้ ยสาหรับวางของ ผ้าม่านสี แดง แม้แต่ ผ้าห่ มก็ยงั เป็ นผ้า
แพร นางทอดสายตามองด้ านบน บนผนั งมี ภาพวาดที่ เขี ยน
ด้วยพู่กนั อย่างงดงาม พอมองด้านล่างก็มีเตาหยกขาววางอยู่
พวกถ้ ว ยและของที่ ใช้ บนโต๊ะก็ทาจากหยก แม้ แต่ โ ต๊ะเครื่อง
แป้ งก็ มี ก ล่ อ งเครื่ อ งประดับ ที่ ท าจากไข่ มุ ก ทอง และเงิ น
มากกว่าสองกล่อง ทัง้ หมดเปล่งประกายแวววาวระยิบระยับ...

บ้านโกโรโกโสหลังเดิมหายไปไหน?
2
นางคุ้นชินกับความเปลี่ยนแปลงนี้ จนไม่ทนั ได้สงั เกตมา
ก่อน พลันรูส้ ึกว่ามีบางอย่างไม่ถกู ต้อง สีหน้ านางจึงเปลี่ยนเป็ น
จริงจัง ก่อนจะถามว่า “ใต้เท้าของพวกเจ้าเอาเงินมาจากไหน?”

ทัง้ ที่ นอกเมืองมีผ้ปู ระสบภัยอดอยากอยู่มากมายเพี ยง


นั น้ นั บตัง้ แต่ กลับมาจากเฟิงหลี นางก็เพิ่งเห็นลุ่ยจูเอากล่ อง
พวกนี้ ออกมา หญิงสาวรู้ดีว่าของพวกนี้ เป็ นใต้ เท้าเซี่ ยที่ นามา
ให้ เงินเดือนขุนนางขัน้ ห้าอย่างเขา หนึ่ งปี ได้แค่หนึ่ งร้อยแปด
สิบตาลึง ไม่ต้องพูดถึงว่าทามาสามปี ต่ อให้ ทามาแปดปี สิบปี
แล้วกินอยู่แบบอดๆ อยากๆ เพื่อเก็บเงิน ก็ยงั ไม่สามารถซื้ อ
ของที่อยู่ในห้องนี้ ได้แน่ นอน

ถึ ง เขาอยากจะให้ ข องที่ ดี ที่ สุด กับ นาง แต่ ก็ไม่ ค วรเอา


เงิ น ในคลัง ซึ่ ง เป็ นทรัพ ย์สิ น ของประชาชนมาใช้ ดัง นั ้น ของ
เหล่านี้ มาจากไหน?

“คุณหนู!” ลุ่ยจูได้ยินอย่างนัน้ ก็หน้ าแดงปลัง่ สวนกลับ


ทัน ควัน “ใต้ เ ท้ า ของข้ า เมื่ อ ไรกัน นั น่ คื อ สามี ข องคุ ณ หนู
ต่างหาก คุณหนู...ท่านล้อข้าเล่นอีกแล้ว...”

ถานหวัน่ ชิ งได้ ยิ นประโยคนี้ ก็ รี บ ขัด ทั น ที “พอแล้ ว


พอแล้ว นั บวันเจ้ายิ่งน่ าราคาญ เขาไปเอาของมาจากไหน รีบ
3
บอกมาเร็ว ” ชายผู้นัน้ คงไม่ได้ เอาของที่ ขุดได้ ในจวนตระกูล
ถานมาส่งคืนให้นางใช่ไหม?

“คุณหนูไม่รู้ แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ? แต่ได้ยิน


พวกนายทหารโอดโอยมาว่ า ของพวกนี้ ได้ มาจากเงิ น ทองที่
ปล้นซ่องโจรเมื่อสองปี ที่แล้ว ตอนนัน้ ของพวกนี้ ตกเป็ นของใต้
เท้ าทัง้ หมดแต่ ใต้ เท้ าไม่ต้องการ ก็เลยแบ่งปั นให้ กบั ลูกน้ องสี่
ห้าคน แต่หลังจากนัน้ ...”

ลุ่ยจูนึกถึงใบหน้ าคนที่ขนของเหล่านี้ เข้ามาแล้วร้องทุกข์


ให้ฟัง เรือ่ งออกจะน่ าขบขันเป็ นอย่างมาก “พวกเขาบอกว่าหลัง
ใต้เท้ ากลับจากเฟิงหลีกไ็ ล่ทวงเอาของคืนมาจากคนสนิทที ละ
คน...”

เมื่ อ ถานหวัน่ ชิ ง ฟั ง จบก็ต กตะลึ ง พรึ ง เพริ ด อยู่ น าน ถึ ง


นางจะรู้ว่าบางครัง้ เซี่ ยเฉิงจู่กม็ ีความคิดแปลกๆ ดูได้จากการ
นาเหล่าทหารไปปล้นของจากโจร...

แต่ กระทังเอาส
่ ิ่ งของที่ ให้คนอื่นไปแล้วกลับคืนมานี่ มนั
...

หน้ าหนาเกินไปแล้ว!

4
ตอนแรกเซี่ ยเฉิงจู่ใช้วิธีการปราบโจรมาเลี้ยงทหาร การ
ที่นาเหล่าทหารไปเสี่ยงกับพวกโจร จะมีใครบ้างที่ ไม่เห็นแก่ตวั
เพราะแต่ละคนล้วนมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ถึงจะเป็ นคนที่ ไม่
มีครอบครัวก็ต้องตัง้ ตัวสร้างอนาคต ดังนัน้ การที่ พวกเขาต้อง
เอาชี วิตไปเสี่ ยงเพื่อปราบโจรนั น้ หากสุดท้ ายของที่ ได้มาเข้า
คลังทัง้ หมด แล้วต่อไปใครเล่าจะอยากทา

ดังนัน้ เขาจึงมีแนวคิดว่า ทุกครัง้ ที่ร่วมกันปราบโจร คนที่


มี ชีวิ ต รอดจะได้ ท รัพ ย์สิ น หนึ่ ง ในสิ บ ตามการลงแรง อี กส่ ว น
มอบให้ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ที่เหลือถึงจะเก็บเข้าคลัง

หากครัง้ ใดได้สมบัติจากซ่องโจรมามาก ส่วนแบ่งที่ ได้ก็


จะมากตามไปด้วย ถึงสุดท้ายหลังจากกระจายให้ทุกคนแล้วแต่
ละคนจะเหลื อ เพี ย งเล็ก น้ อ ย แต่ ก็นั บ ว่ า สามารถจูง ใจเหล่ า
ทหารได้เป็ นอย่างดี

สองปี มานี้ คนกล้ าเสี่ ย งตายมี มาก คนอยากหิว ตายมี


น้ อย พวกทหารจึงติดตามเซี่ยเฉิงจู่ด้วยจิตใจมุ่งมันไม่
่ หวันไหว

หลายคนอาศัยส่ วนแบ่งที่ ได้มาเก็บหอมรอมริบแต่ งเมี ยมี ลูก
กันระนาว

5
ส่วนใต้เท้าเซี่ยเอง เขาเป็ นคนนาทัพไปปราบโจรทุกครัง้
ดังนั น้ ส่ วนแบ่งก็มากตามเช่นกัน ทว่าแต่ ก่อนเขาไม่มีแผนจะ
ตัง้ ตัว ถึ ง ขัน้ ไม่ เ คยคิด จะแต่ งเมี ยเข้าจวน ในเมื่ อมี ค วามคิด
เช่นนี้ พอเห็นสมบัติที่ทุกคนต่างก็หมายจะครอบครอง เขาจึง
เมินเฉยไม่สนใจ ได้มาเท่าไรก็ส่งเข้าคลังทัง้ หมด อีกทัง้ ช่วงนัน้
เสบียงอาหารก็ขดั สน จึงพอได้ใช้ข้าวของเหล่านี้ ไปก่อให้ เกิด
ประโยชน์ ได้

หลายครัง้ ที่ น ายทหารคนสนิ ทมองของเหล่ า นั ้น ด้ ว ย


ความเสียดาย เพราะของที่ปล้นมาจากพวกโจรโดยมากจะเป็ น
ของดีทงั ้ นัน้ อี กทัง้ บางครัง้ เมื่ อปราบโจรเสร็จแล้วแบ่งเงินกัน
แต่เงินกลับมีไม่พอ ก็ต้องเปลี่ยนเป็ นแบ่งพวกหยกหรือของลา้
ค่ าอื่ นแทน ทว่ าสุดท้ ายใต้ เท้ าก็เอาของเหล่ านั น้ มอบให้ ค ลัง
ทหารทัง้ หมด ทาให้คนที่ เห็นจ้องมองด้วยความเจ็บปวดใจ ซึ่ง
พอใต้ เท้ าเห็นเข้าก็ใจป้ า โบกมือเป็ นสัญญาณให้ พวกเขาเอา
สมบัติเหล่านี้ ไปแบ่งกัน แต่มาตอนนี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน
ว่ า ใต้ เ ท้ า จะกล้ า แบกหน้ า ไปเยี่ ย มเยี ย นถึ ง บ้า นเพื่ อ ทวงเอา
‘ของที่เคยแบ่งให้’ กลับคืน เหตุผลก็คือจะเตรียมของหมัน้ ...

แล้วทุกคนจะพูดอะไรได้อีกเล่า ใต้เท้าทวงของหน้ าตาย


ขนาดนัน้ ไม่อยากให้กต็ ้องให้แล้ว!

6
ข้าวของที่ได้คืนมา ความจริงแล้วไม่ถึงหนึ่ งในสามที่เคย
ให้ไปด้วยซา้ ทว่าสีหน้ าท่าทางของทหารสี่ห้าคนที่ ยกของมาให้
นั ้น ช่ า งเจ็บ ปวดรวดร้ า วจนน้ า ตาเอ่ อ คลอจวนจะหยดอยู่
รอมร่อ

บนโลกใบนี้ เรือ่ งที่โหดเหี้ยมทารุณไร้มนุษยธรรมที่สดุ ก็


คือการที่ กินของเข้าไปแล้วแต่กลับต้องคายออกมา พวกเขาจึง
ได้ แต่ ปลอบใจตัวเองว่ายังไม่ถือว่าเสี ยเปรี ยบนั ก อย่ างน้ อย
ที่สดุ ก็เคยได้กินมาแล้วรอบหนึ่ ง

“คุณหนู ใต้ เท้ าทาเพื่อท่ านนะเจ้าคะ ล้วนยอมเสี ยหน้ า


เพื่อท่าน ท่านดู...”

“จะให้ข้าดูอะไร ดูว่าเจ้าทรยศงัน้ หรือ”

ลุ่ยจูได้ยินประโยคนี้ สีหน้ าก็ตื่นตระหนกราวกับถูกทุบตี


จนบาดเจ็บ “คะ...คุณหนู ทะ...ทาไมท่านถึงพูดอย่างนี้ เจ้าคะ ที่
ข้าทาก็เพราะ...”

“เพราะอะไร? ถ้าชอบเขาขนาดนัน้ เจ้าก็แต่งเองเสียสิ”

7
“คุณหนู ข้ าไม่ได้ ...ข้ าเพี ย งแต่ รู้สึ กว่ า...” ลุ่ย จูมีสี หน้ า
สลดลง แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว

โชคดี ที่ เ จิ้ ง เอวี้ ย เพิ่ งจะเอาของไปเก็ บ ในห้ อ งครัว


ไม่เช่นนัน้ นางคงได้เห็นสาวใช้อนั ดับหนึ่ งแห่งจวนตระกูลถาน
หน้ าเสีย

“เอาล่ ะ ๆ เรื่อ งนี้ ข อข้ า พัก ก่ อ นแล้ ว ค่ อ ยพูด กัน ต่ อ ไม่


ต้องพูดยา้ ข้างหูข้าทุกวันทุกเวลาก็ได้ ข้ามีเรื่องในใจให้ต้องคิด
มากมายอยู่ แ ล้ ว ” ถานหวัน่ ชิ ง พูด จบ แววตาก็อ่ อ นโยนขึ้ น
แสร้งทาเป็ นมองไม่เห็นดวงตากลมฉ่าน้าตา แล้วเปลี่ยนไปพูด
เรือ่ งอื่นแทน

“หิวจัง รีบคีบเป็ ดมาให้ข้าชิมฝี มือเจ้าสักชิ้นสิ”

ปี ที่ ผ่านมาเซี่ ยเฉิงจู่ทางานหนักมาก หลังผ่านช่วงฉลอง


ตรุษจีน หิมะที่ ปกคลุมภูเขารวมไปถึงแม่น้ าสายใหญ่ที่เกาะตัว
เป็ นน้าแข็งก็เริ่มละลาย จากนี้ ไม่เพียงแต่ต้องสร้างกาแพงเมือง
ยัง ต้ อ งสร้ า งป้ อมปราการ คู เ มื อ ง อี ก ทัง้ จัด การเรื่ อ งระบบ

8
ชลประทานให้ แ ล้ ว เสร็จ อี ก ทัง้ ต้ อ งแบ่ ง เขตนอกเมื อ งให้
เรียบร้อย

ยามนี้ บนโต๊ะหนั งสื อในห้ องโถงจวนผู้ปกครองมีแผนที่


ภูมิ ป ระเทศขนาดใหญ่ แ ผ่ น หนึ่ งวางอยู่ มี เ ส้ น โค้ ง ลากผ่ า น
ตะวันออกไปฝัง่ ตะวันตก เส้นนี้ คือตัวแทนกาแพงนอกเมืองที่
ต้ องก่อสร้างให้ เสร็จ และมีลายเส้ นแนวนอนจากทิศเหนื อมา
ทิศได้ แสดงถึงถนนใหญ่ทงั ้ ในและนอกเมือง

เจ้าหน้ าที่อาลักษณ์ฉงถิงเชี่ยนกาลังรายงานสถานการณ์
“ใต้เท้า นอกเมืองรับผู้ลี้ภยั เอาไว้ทงั ้ หมดห้าพันคน และมีหนึ่ ง
พันสองร้อยคนที่ ขอสมัครมาเป็ นทหาร เพี ย งแค่ รอให้ ถึ ง ฤดู
ใบไม้ผลิกจ็ ะได้ทานาบุกเบิกถางพงกันขอรับ”

ช่วงเวลานี้ ในปี ก่อนๆ พวกเขาจะยุ่งกับการจัดการเรื่อง


สามะโนครัวให้กบั คนเหล่านี้ จนหนวดเคราครึม้ กันทุกคน เรื่อง
ความเหนื่ อ ยล้ า นั น้ อย่ า ได้ เ อ่ ย ถึ ง เชี ย ว ฉงถิ ง เชี่ ย นชี้ นิ้ วไปที่
ตาแหน่ งหนึ่ งบนแผนที่ “หลังจากจัดหาที่พกั ให้คนเหล่านี้ แล้วก็
ต้องจัดการเรื่องการกินการอยู่ ช่วงนี้ มีพ่อค้าหลายรายต้องการ
ซื้ อที่ นอกเมืองเพื่อสร้างร้านค้ า ใต้ เท้ ามี ความคิดเห็นเช่ น ไร
ขอรับ?”

9
ปกติพื้นที่ แถบคูเมืองและกาแพงเมืองมักจะมีคนสนใจ
มาก หากขายที่ ออกไปก็สามารถสร้างรายได้ ให้ ไม่น้อย ทว่ า
เซี่ยเฉิงจู่เป็ นคนตงฉินและหนักแน่ น ส่วนคนของเขาก็ไม่เคยมี
เอี่ ย วหรื อ มี ส่ ว นแบ่ง กับ คนนอก หน าซ้า คูเ มื อ งและก าแพง
เมืองก็เป็ นเขาและเหล่าทหารสร้างมาด้วยตนเอง นอกจากคน
พืน้ ที่แล้ว หากคนนอกคิดจะมาจับจองที่ดินก็อย่าได้หวัง!

แต่ ก่อนเมืองเว่ ย อัน แห่ ง นี้ แ ทบไม่ มี อ ะไรเลย มี แต่ ผืน


ดินรกร้างว่างเปล่า กลับเป็ นเขาที่หาเงินด้วยน้าพักน้าแรงสร้าง
มันขึ้นมา เขาจึงมี สิทธ์ ิ จัดการกับแผ่นดินนี้ ได้ อย่างเบ็ดเสร็จ
เด็ดขาด ต่อให้เงินทุนไม่พอ เขาก็ไม่คิดจะขายออกไปโดยง่าย
แน่ ขนาดตระกูลชวี ที่ว่าสนิทสนมกันก็ได้ แค่ ร้านค้ าสองแห่ ง
เท่านัน้

ดังนัน้ พอฉงถิงเชี่ ยนเอ่ยขึ้น เขาจึงปฏิเสธทันควัน หาก


ให้เขาขายที่ ดินให้กบั พ่อค้าต่างถิ่นเหล่านัน้ ไม่สู้เขาจัดพื้นที่ให้
ทาการค้าขายเองไม่ดีกว่าหรือ จากนัน้ ก็เซ็นสัญญาให้เช่าที่ ทุก
ปี เก็บค่าเช่า แม้ในระยะสัน้ จะได้กาไรไม่มาก แต่หากมองระยะ
ยาว ตราบใดที่ เ มื อ งยัง อยู่ ก็จ ะได้ ผ ลประโยชน์ จ ากที่ ต รงนี้
ตลอดไป แบบนี้ จึงจะถือว่าคุ้ม! ได้ทงั ้ แม่ไก่ได้ทงั ้ ไข่ แม่ทพั หัว
เมืองคิดมองการณ์ไกล

10
ฉงถิ ง เชี่ ย นรู้ว่ าที่ ใต้ เท้ าพูดมานั น้ มี เหตุผล เพี ย งแต่ ว่า
...

“ถึงยามนี้ เงินในคลังจะมีเพียงพอ แต่กค็ งเบิกมาใช้ส่วน


นี้ ไม่ได้มาก...”

เซี่ยเฉิงจู่กลับโบกมือตัดบท “ในเมื่อจะปรับพืน้ ที่ ถนนจึง


ต้องซ่อม กาแพงก็ต้องสร้าง กับแค่เพิ่มร้านค้าไม่กี่แห่ง...ไม่น่า
เป็ นไร”

ฉงถิงเชี่ ยนทาได้เพียงยิ้มเจื่อน ยามนี้ แทบจะซ่ อมบารุง


ทัง้ เมื อ งอยู่ แ ล้ ว หากต้ อ งสร้ า งนอกเมื อ งด้ ว ย คาดว่ า คงไม่
ง่ายดายขนาดนัน้

ทว่าเขาอยู่กบั ใต้เท้ามานาน ถึงแม้อีกฝ่ ายจะเผด็จการไป


บ้าง ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยก็มีความสามารถในการแก้ไขปั ญหาอย่าง
แท้จริง ไม่เช่นนัน้ ห้องคลังคงว่างเปล่าจนไม่เห็นกระทังหนู ่ สกั
ตัว มาวิ่ ง เพ่ นพ่ าน บุรุษ หนึ่ ง คนกับทหารหนึ่ ง ร้อยกว่ านายได้
สร้างคูเ มืองและกาแพงเมืองอย่ างมันคงมาจนทุ่ กวัน นี้ ล้ ว น
เป็ นความสามารถของเขาทัง้ สิ้น

11
ถึงจะมีปัญหาทางด้านการเงินจนชะงักไปบ้าง ทว่าโชคดี
ที่ จานวนผู้ลี้ ภยั มี มากพอ ขอเพี ยงรอจนถึงฤดู ใบไม้ผลิปีหน้ า
่ ิ ดผืนนากว้างใหญ่ เก็บเกี่ยวธัญพืชได้อุดมสมบูรณ์ ก็
กระทังเป
จะคลายความกังวลไปได้ หลายส่วน ความรุ่งเรืองของเว่ยอัน
ย่อมจะมาถึงในไม่ช้า

เซี่ ยเฉิงจู่มองไปยังสัญลักษณ์ อื่นในแผนที่ บนนัน้ มีบอก


รายชื่อถนน เขตอยู่อาศัย ร้านค้า จนกระทังบ้ ่ านและที่นา

สุดท้ ายเขาชี้ ไปตรงจุดหนึ่ งเขตฝั ง่ ตะวันออกของเมือง


เว่ ย อัน เขาจ าได้ ว่ า พื้ น ที่ นี้ เ ป็ นที่ ร าบที่ มี ค วามอุด มสมบู ร ณ์
“พืน้ ที่ตรงนี้ ทาประโยชน์ อะไรได้?”

ฉงถิ ง เชี่ ย นมองตามนิ้ วของใต้ เ ท้ า “อื ม ...พื้ น ที่ ต รงนี้


ซับซ้อนเล็กน้ อยขอรับ เดิมทีเป็ นที่นาส่วนตัวของทหารเว่ยอัน
ราวสี่ ห้านาย ตอนเมืองแตกทหารพวกนี้ ตายบ้าง หนี หวั ซุกหัว
ซุนบ้าง พื้นที่ กเ็ ลยกลายเป็ นที่ ว่างไม่ได้ใช้ ประโยชน์ ตามที่ ข้า
ไปสารวจมา พื้นที่ ตรงนี้ ดีมาก ห่างจากตัวเมืองไม่ไกล มีคลอง
ให้ ใช้ น้ า ได้ อย่ างสะดวกสบาย มี ค นอยากซื้ อที่ ดิ น ผืน นี้ ส ร้ า ง
บ้าน ปลูกผักผลไม้ ใต้เท้าคิดว่า...”

12
พอได้ฟังคาว่า ‘ผักผลไม้’ ใจเซี่ยเฉิงจู่กว็ บู ไหวพลันให้นึก
ถึงคนที่ มีร่างกายบอบบางยิ่ง เนื้ อปลาอย่างดีนางกลับไม่ชอบ
แต่ไปชอบพวกผักผลไม้เหล่านัน้ ซา้ ยังชอบกินขนมหวานที่ ทา
จากผลไม้ ผ สมน้ า ผึ้ง อาหารมื้อ หลัก กิ น ได้ น้ อ ย แต่ ห ากเป็ น
ขนมกลับสามารถกินได้จนอิ่ม ใต้ เท้ าเซี่ ยที่ ไม่เลือกกินมาแต่
ไหนแต่ไรพอเห็นแล้วจึงได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความฉงน

แม้คนในเมืองเว่ยอันจะทานากันเป็ นส่วนมาก แต่ไร่นา


ที่ อุดมสมบูรณ์ กลับ มี ไม่มากจึงปลูกธัญพื ชไม่ค่ อยทัน ดังนั น้
การหาของที่นางชอบกินจึงไม่ง่ายดายสักเท่าไร

ใต้ เ ท้ าสังเกตที่ ตรงนั น้ อยู่น านพอสมควร ต าแหน่ งอยู่


ใกล้กบั เมือง รถม้าเข้าออกสะดวกอย่างยิ่ง หากสร้างบ้านอยู่ก็
สามารถปลูกต้ นผลหมากรากไม้ได้ ปลูกพวกแตงหรือ ผักใบ
เขียวก็ยงั ได้ แล้วยังมีอโุ มงค์สาหรับเก็บของในหน้ าหนาวที่ ขดุ
ไว้แล้วอี กด้วย เพียงหาคนไปดูแลสักหน่ อย ถึงเวลานั น้ ก็จะมี
ผักผลไม้ให้กินตลอดทัง้ ปี และคนร่างบอบบางผู้นัน้ น่ าจะพอใจ
กับสถานที่แห่งนี้

พอคิดมาถึงตรงนี้ หวั ใจแกร่งพลันสันไหวไม่


่ น้อย

13
67 มีใจ

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่ได้เร่งร้อนเอ่ยปาก เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ งก่อน


ถามว่า “พืน้ ที่ตรงนี้ มีอาณาบริเวณเท่าไร?”

“หากรวมกับบริเ วณรอบๆ ด้ วยน่ าจะประมาณร้ อยไร่


ขอรับ”

ใต้ เท้ าเซี่ ยพยักหน้ าเป็ นเชิงรับรู้ “ในเมื่อเคยเป็ นไร่นา


แต่ตอนนี้ ไร้ผ้คู นอาศัย ก็ให้นามาแบ่งสันกันใหม่เถอะ พวกเจ้า
ติดตามข้ามานานหลายปี ลงแรงกายใจเพื่อเว่ยอัน ผืนดินร้อย
ไร่นี้ให้แบ่งตามแรงกาลังของแต่ ละคน” ชายหนุ่มชี้ไปยังพื้นที่
รกร้ า ง “รี บ ถางพงหญ้ า แถบนี้ ใ ห้ เรี ยบร้ อ ย แล้ ว ใช้ ต กรางวัล
ความดีความชอบให้กบั ทหาร”

เพี ยงแค่ มีรากฐานมันคงในเมื


่ องเว่ยอัน ทุกคนจึงจะมี
ความรูส้ ึกว่าเป็ นเจ้าของอย่างแท้จริง เรือ่ งนี้ เซี่ยเฉิงจู่เข้าใจเป็ น
อย่างดี ไม่เช่ นนั น้ เขาคงไม่มีทหารแนวหน้ าติดสอยห้ อยตาม
จานวนมากขนาดนี้

1
อี กทัง้ หลายวัน ก่ อนเขาได้ ไปขอของคื น อย่ า งโหดร้ า ย
จากเหล่าคนสนิท หลายคนคงขุ่นเคืองกันไม่น้อย หากได้ รบั
พื้นที่ ที่ ถ กู แบ่ง สัน ปั น ส่ ว นกัน คนละแปดไร่สิ บ ไร่ ก็น่ าจะช่ ว ย
ปลอบขวัญพวกเขาได้ ไร่นาอุดมสมบูรณ์ และทาเลดีๆ นัน้ หา
ยาก แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยตระหนี่ กบั คนของตัวเองอยู่แล้ว
น่ าจะทาให้ทุกคนพออกพอใจ

ฉงถิงเชี่ ยนเองก็ดีใจเป็ นอย่างมาก พอได้ยินก็ลุกขึ้นทา


ความเคารพอย่างนอบน้ อม ใบหน้ าเผยรอยยิ้มกว้าง “มีใต้เท้า
เข้าใจและเห็นใจเช่ นนี้ เป็ นวาสนาของข้ าเหลือเกิน ภายภาค
หน้ าข้ายินยอมอุทิศตัวรับใช้เพื่อใต้เท้าขอรับ”

เซี่ ยเฉิงจู่โบกมือบ่งบอกว่าไม่ต้องมากพิธี จากนัน้ ก็ชี้นิ้ว


ไปยังที่ตรงกลาง “สิบกว่าไร่นี้แบ่งมาให้ข้า ข้าต้องการใช้”

ยามนี้ ฉงถิ งเชี่ ยนซาบซึ้ งใจในความเมตตาของใต้ เท้ า


เป็ นที่ สุด อย่าพูดถึงที่ นาสิบกว่าไร่นัน้ เลย หากใต้ เท้ าต้องการ
มากกว่านี้ กย็ ่อมได้ พื้นที่ว่างเปล่ากว้างใหญ่นัน้ เหมาะที่จะเป็ น
ของผู้ปกครองเมือง ดังนั น้ หากเป็ นของใต้ เท้ าก็ย่ อมถูกต้ อง
ตามหลักทานองคลองธรรมแล้ว

2
ทว่ าเซี่ ย เฉิงจู่ก ลับ ทอดถอนใจ เขาเพี ย งอยากแต่ ง กับ
ผู้ห ญิ ง ตัว เล็ก ๆ จะต้ อ งใช้ แ รงกายแรงใจถึ ง ปานนี้ เ ชี ย วหรื อ
เงินเดือนทุกเดือนก็มอบให้นางทัง้ หมดเพื่อให้ หญิงสาวดาเนิน
ชี วิตได้อย่างสะดวกสบายและไม่ต้องพะวักพะวนต่ อสิ่งใด ถึง
กระนัน้ เขาก็ยงั คิดว่าไม่พอ...

หากเป็ นครอบครัว ทัว่ ไป เงิ น เดื อ นของเขาก็เ พี ย งพอ


สาหรับสมาชิกสี่ห้าคนให้ได้กินอิ่ม มีเสื้อผ้าอบอุ่นสวมใส่ ถือว่า
รา่ รวยเหลือเฟื อแล้ว แต่ สาหรับนางนัน้ ยังไม่พอซื้อปิ่นปั กผม
ทองสักอันด้วยซา้ เมื่อมีนางข้างกาย เขาก็เกรงว่าเพียงแค่บ้าน
หลัง เดี ย วก็อาจจะไม่พ อ เขาจาต้ องคิ ด เรื่องเก็บ เงิ นเพื่ อเป็ น
ค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ในใจของเซี่ยเฉิงจู่ ในเมื่อนางเป็ นของเขา ก็เป็ นหน้ าที่ที่


เขาต้ องดูแลรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็ นเรื่องเสื้อผ้า อาหาร ที่ อยู่
อาศัย และในทุ กๆ ด้ าน ถึงเสื้ อผ้า อาหารจะไม่ ได้ ลา้ เลิศหรือ
หรูหรา แต่อย่างน้ อยก็ไม่ควรทาให้นางลาากหรือขาดแคลน

ยามสาย

ฉงถิงเชี่ยนเชื้อเชิญใต้เท้าให้กินอาหารคา่ ด้วยกัน ตอนนี้


พ่ อครัว กาลัง นึ่ ง ซาลาเปาอยู่ เพราะใกล้ จะถึ ง วัน เฉลิม ฉลอง
3
เทศกาลปี ใหม่ อาหารจึงมีมากกว่าทุกวัน แต่ ก่อนซาลาเปาที่
โรงครัวไม่ค่อยมีรสชาตินัก วันนี้ ตอนคา่ กลับมีซาลาเปาแป้ งหมี่
ขาวอย่างดี แบ่งให้ทุกคนสามถึงห้าก้อน

หากเป็ นเมื่อก่อน ใต้เท้ามักจะร่วมกินอยู่ด้วยกันกับพวก


เขา แต่เดี๋ยวนี้ น่ะหรือ?...

ทัง้ กรางานหนัก และที่ สาคัญคือพอเสร็จงานแต่ ละวันก็


อยากจะกลับบ้านทันทีทนั ใด เพราะในใจมีคนให้คิดถึงและเป็ น
ห่วงอยู่ตลอด ไม่ใช่ตวั คนเดียวเหมือนเมื่อก่อนอี กแล้ว แม้แต่
เตียงนอนในจวนผูป้ กครองยังมีฝนเกาะเป็
ุ่ นชัน้ ทีเดียว

แล้วก็เป็ นไปตามที่ทุกคนคาดไว้ ใต้เท้าทอดสายตามอง


ไปยัง สี ท้ อ งฟ้ าด้ า นนอก หลัง จากจิ บ น้ า ชาไปค าหนึ่ ง ก็รี บ
ออกไปอย่างรีบร้อนท่ามกลางความมืดยามราตรี

่ ิ ง มองสี ท้องฟ้ า แล้ ว ให้ ค นจัด วางอาหารบน


ถานหวันช
โต๊ะ

ลุ่ยจูที่ตอนนี้ อารมณ์กลับเป็ นปกติแล้ว มองคุณหนูอย่าง


ไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “ทาไมแป้ งหมี่ขาวอย่างดีถึงไม่

4
กิน แต่ จะกิน แป้ งทอดล่ ะเจ้าคะ รสปากของคุณหนู นั บ วัน ยิ่ง
ยากจะคาดเดา”

“เจ้าน่ ะจะไปเข้าใจอะไร ช่วงนี้ หน้ าหนาวเวลากลางคืน


ยาวนาน การกินอาหารเหล่านี้ จะช่วยให้รา่ งกายอบอุ่นได้”

“ไหนๆ คุณหนู กไ็ ม่ชอบกินเนื้ ออยู่แล้ว ทาไมถึงให้ ยดั


ไส้ เนื้ อในแป้ งทอดกรอบด้ วยเล่าเจ้าคะ?” ลุ่ยจูพูดเหมือนไม่
อยากจะเชื่อคาตอบเมื่อครู่

แป้ งทอดที่ คุณ หนู ใ ห้ น างทาไม่ ใ ช่ แ ป้ งทอดด า แต่ เ ป็ น


แป้ งทอดที่ เ คี้ ย วง่ า ย ผสมด้ ว ยน้ า ผึ้ง ท าให้ ห วานหอม อี ก ทัง้
คุณ หนู ใ ห้ น างยัด เนื้ อ บดเข้ า ไปในแป้ งทอดกรอบ ตอนที่ ย ก
ออกมาจากเตาคุณหนู กไ็ ม่ได้ชิมเอง กลับให้ เจิ้งเอวี้ยชิม หลัง
จากเจิ้งเอวี้ยกินก็รอ้ งว่าอร่อยมากอยู่ตลอด

“แป้ งทอดกรอบต้ องกินคู่กบั เนื้ อถึงจะอร่อย ไปต้ มน้ า


แกงร้อนมาสักชามสิ”

ถึงจะยังข้องใจ ทว่าลุ่ยจูกไ็ ด้แต่ออกไปทาตามคาสัง่ นาง


ปรนนิบัติคณ
ุ หนูเรื่องอาหารมาสิบกว่าปี เห็นชัดเจนว่าคุณหนู

5
ชอบกินอาหารจาพวกปลา พริกดอง มะเขือดอง แต่ไม่เคยเห็น
กินอาหารแบบนี้ มาก่อน

แต่ ดูกร็ ้วู ่าเจ้าแป้ งทอดนี่ เจิ้งเอวี้ยน่ าจะชอบมาก เพราะ


พออีกฝ่ ายชิมเสร็จแล้วยังทาตาปริบๆ จดจ้องอยู่ที่หม้อ

ใช่ แล้ ว คุณหนู ให้ ทาอี กหนึ่ ง หม้อ ขนาดเท่ ากาปั น้ เด็ก
ทารกสี่สิบกว่าลูก แน่ นอนว่ามือ้ นี้ พวกนางไม่มีทางกินหมดแน่
อีกทัง้ คุณหนูไม่ค่อยกินอาหารเหลือค้างคืน ตามปกติอาหารที่
เหลือไว้ทุกครัง้ ก็มีแต่ล่ยุ จูกบั เจิ้งเอวี้ยที่จดั การเรียบ

ขนาดเจิ้งเอวี้ยอยู่ที่นี่ได้เพียงสิบกว่าวันเท่านัน้ จากเดิม
ที่ มีแต่ หนั งหุ้มกระดูก ตอนนี้ กลับตัวกลมดิกเสี ยแล้ว เมื่อเห็น
ท่าทางประจบของนางก็ร้วู ่ากาลังคิดอะไรอยู่ นางคงอยากอ้อน
ลุ่ ย จู เผื่อ จะได้ ข องกิ น ที่ เ หลื อ ห่ อ กลับ บ้า น เพราะที่ บ้า นยัง มี
น้ องชายสองคนที่ต้องดูแล...

หลังจากทาแป้ งทอดเสร็จเรียบร้อย ลุ่ยจูกต็ ้มน้ าแกงอีก


หม้อ หยิบขนมดอกเหมยทอดที่ ทาไว้เมื่อบ่ายมาอุ่น ตามด้วย
ทอดปลาที่ คุณ หนู ช อบตัว หนึ่ ง แล้ ว ไปห่ อ แป้ งยัด ไส้ อี ก สี่ ชิ้ น
อาหารรายการสุดท้ายคือกุ้งที่กินคู่กบั ผัก ทัง้ หมดนามาจัดวาง
รวมกันอยู่บนโต๊ะ
6
กระทัง่ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ลงจากหลัง ม้ า เดิ นเข้ า มาในบ้ า น
เรียบร้อย บนโต๊ะก็เพิ่งวางอาหารเสร็จ ทันเวลาพอดิบพอดี

เมื่อใต้เท้าเซี่ ยเห็นแป้ งทอดในถาดก็ตะลึงอยู่สกั ครู่ เมื่อ


เขาล้ า งมื อ เสร็จ ก็คี บ อาหารให้ ถ านหวั น่ ชิ งสองสามอย่ า ง
จากนัน้ ก็หยิบแป้ งทอดขึ้นมากัดจึงรู้ว่าข้างในใส่เนื้ อที่ มีรสเผ็ด
เขาไม่ เ คยกินอาหารเช่ น นี้ มาก่ อน ชายหนุ่ มกิน อาหารอย่ าง
รวดเร็ว เพียงครู่เดียวแป้ งทอดในถาดก็พร่องไปกว่าครึ่ง ตาม
ด้ ว ยน้ า แกงเผ็ด เปรี้ย วหนึ่ ง ชามที่ พ อกิ น คู่ก นั รสชาติ ยิ่ ง กลม
กล่อม กว่าชายหนุ่มจะกินอิ่ม แป้ งทอดก็หมดถาดพอดี

เมื่อมองไปทางคุณหนู ก็พบว่ายังกินข้าวในชามไม่หมด
เลย จากนัน้ บ่าวทัง้ สองก็อมยิ้มแล้วหันกลับไปมองใต้เท้ากิน

มาตอนนี้ ลุ่ยจูถึงได้เข้าใจว่าที่แท้แล้วแป้ งทอดยัดไส้เนื้ อ


นี้ ทาให้ใคร มิน่าเล่า เพราะอยากให้คนกินเอร็ดอร่อย จึงให้เจิ้ง
เอวี้ยเป็ นคนชิม

หลังทัง้ สองกินข้าวเสร็จ ลุ่ยจูกบั เจิ้งเอวี้ยก็เก็บสารับแล้ว


ออกจากห้องไป

7
พอเซี่ ยเฉิงจู่เห็นว่าคนอื่นออกไปแล้ว ดวงตาดาขลับก็
มาตกอยู่บนใบหน้ าหญิงสาวตรงหน้ า เขามองนางนิ่งอยู่นาน
ก่อนจะเอ่ยถาม “เจ้าต้องพิจารณานานเท่าไร?”

ของหมัน้ ก็ส่งมาให้แล้ว บิดามารดาก็ไปพบแล้ว เงินก็ให้


แล้ว อายุกจ็ ะเลยแล้ว แล้วจะให้เขารอไปถึงเมื่อไร?

ถานหวันช่ ิ ง กลับ ดึ ง มือของเขามาโอบเอวของตน เอว


คอดกิ่วของนางถูกฝ่ ามือใหญ่กอบกุมไว้จนมิด ร่างหญิงสาวอิง
แอบความอุ่นร้อนที่ตนโหยหา ริมฝี ปากนุ่มแนบชิดริมฝี ปากอีก
ฝ่ ายจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ลิ้นสี ชมพูแทรก
เข้าไปในปากเขา ชายหนุ่ มดูดกลับราวกับจะกลืนกินนาง จน
ความโกรธของเขาทุเลาลง นางที่ ทงั ้ เจ็บปวดทัง้ วาบหวามก็
ตอบกลับ ค าหนึ่ ง “อื ม ...” แล้ ว เอ่ ย อย่ า งคลุ ม เครื อ “รออี ก
หน่ อย จูบข้าอีก...”

เสียงและลมหายใจของนางดังอยู่ข้างหู ทาให้ใจเซี่ยเฉิงจู่
ที่ เคยสุขมุ กลับพลุ่งพล่าน เลือดในกายร้อนฉ่ า สี แดงลามจาก
ใบหน้ าไปถึงลาคอ เมื่อหญิงสาวใช้มือลูบไล้ซอกขา เขาก็ยากที่
จะควบคุมตัวเอง จึงยิ่งดูดดื่มลิ้นเล็กในปากเป็ นการลงโทษ

8
ความเร่าร้อนพลันจู่โจมทัวร่่ างกาย ทว่าสติสมั ปชัญญะ
กลับบอกกับตนว่า วันนี้ จะต้องถามไถ่ให้ร้แู น่ ชดั ให้จงได้ จะไม่
่ แล้วก็รงั ้ ร่างหญิง
ยอมให้นางคลุมเครืออย่างนี้ อีก เมื่อตัง้ มันได้
สาวออกห่าง

เขาหลับ ตาลงหายใจหอบแรง พยายามระงับ อารมณ์


ปรารถนา ก่อนจะลืมตาขึน้ อีกครัง้ เตรียมจับนางถามให้ชดั เจน
แล้ ว ก็ต้ อ งตะลึ ง งัน เมื่ อ จู่ๆ ก็เ ห็น ภูเ ขาหิ ม ะขาวสูง ลู ก กลมๆ
เล็กๆ ตรงหน้ า ชายหนุ่มตกตะลึงพรึงเพริดกับความสว่างเจิด
จ้า สติสมั ปชัญญะเฮื อกสุดท้ ายพังทลายพ่ายแพ้ อย่างยับเยิน
สมองพลันว่างเปล่า นึ กสิ่งที่อยากจะถามไม่ออกแม้แต่คาเดียว

วันต่อมา

่ ิ งกาลังตระกองกอดผ้าห่มนวมนุ่มด้วยอาการ
ถานหวันช
มึ น งง นางซุ ก ตัว กับ ผ้ า ห่ ม เหมื อ นกับ แมวอย่ า งไรอย่ า งนั ้น
ท่าทางหญิงสาวดูเกียจคร้าน นางยังไม่ยอมลุกจากเตี ยง ทาให้
ลุ่ยจูผลักบานประตูเข้ามาดูเจ้านายด้วยความร้อนใจ

กลิ่นที่ค้นุ ชินในห้องลอยเข้ามาปะทะจมูก ขนาดเจิ้งเอวี้ย


ที่ ไม่มีประสบการณ์ ใบหน้ าก็ยงั แดงฉาน ไม่กล้ากวาดสายตา
มองไปรอบทิศ
9
ลุ่ยจูในฐานะบ่าวรับใช้ อนั ดับหนึ่ งหันไปรับอ่ างน้ าจาก
เจิ้งเอวี้ยที่ นามาให้ คุณหนู ทาความสะอาดล้างหน้ า ทว่ าใบหู
ของนางเองก็แดงกา่ เช่นกัน

ถานหวันช ่ ิ ง ลุกขึ้น มานั ง่ ยอมให้ ลุ่ย จูส วมเสื้ อเอี๊ ย มให้


ปกติหญิงสาวจะสวมด้วยตัวเอง พอมาวันนี้ ไม่รทู้ าไม ถึงขี้เกียจ
ขยับตัวเสียจริง ได้แต่นัง่ อยู่ตรงนัน้ ให้ล่ยุ จูช่วยจัดการ

เมื่อเจิ้งเอวี้ยออกไปแล้ว ลุ่ยจูจึงพยุงคุณหนู ของตนลุก


ขึ้น กว่าจะช่ วยคุณหนู แต่ งตัวและจัดเก็บเตี ยงเสร็จเรียบร้อย
ใบหน้ าเด็กสาวก็แดงปลังมากขึ
่ น้ ทุกที

คุณ หนู ข องนางผิ ว พรรณผุด ผ่อ งขาวประดุจ หิ ม ะ เอว


คอดกิ่วขาเรียวสวย ถึงจะสวมเสื้อผ้าแต่กม็ องเห็นได้ชดั ว่าร่าง
ภายใต้ อ าภรณ์ นั ้น เกลี้ ย งเกลา อ่ อ นนุ่ มและเต็ม ไม้ เ ต็ ม มื อ
เพียงใด จนอยากจะคิดว่าเนื้ อตัวอีกฝ่ ายไร้กระดูก นางรูว้ ่าปกติ
ใต้เท้าเซี่ยแข็งกร้าวอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ชอบคุณหนู

ลุ่ยจูได้แต่จบั จ้องร่องรอยเหล่านัน้ รู้ได้ทนั ที ว่าคืนวานนี้


ค่อนข้างจะ ‘รักมากจนไม่ยอมปล่อยจากมือ’ แม้ว่าลุ่ยจูจะเป็ น
กังวลเกี่ยวกับสถานะของคุณหนู ซึ่ง ตอนนี้ กย็ งั ไร้ฐานะอยู่เลย

10
แต่ เ มื่ อ เห็น รอยเหล่ า นี้ แล้ ว ความกัง วลก็ล ดลงเปลาะหนึ่ ง
เหมือนได้ยกหินออกจากบ่า

นางเคยสอบถามมาอย่างชัดเจนแล้วว่า เดิมทีใต้เท้าเซี่ย
ไม่มีผหู้ ญิงข้างกาย แม้แต่หอนางโลมก็ไม่เคยไป มีเพียงคุณหนู
คนเดี ยว ในสายตาของนาง ใต้ เท้ าเซี่ ยมี อาหารให้ คุณหนู กิน
อย่างพร้อมพรัก มีอาภรณ์ ให้สวมใส่ อี กทัง้ ที่ อยู่หลับนอนของ
คุณหนู ทงั ้ หมดล้วนแสดงถึง ‘ความรัก ’ ของใต้ เท้ าเซี่ ย ในใจ
ของลุ่ยจูจึงสงบลงไม่น้อย

ในเมื่อเขารักคุณหนูมากเพียงนี้ ไม่นานก็คงแต่งกับสาว
งามเช่นคุณหนูของนางแล้ว เมื่อคิดดังนี้ ล่ยุ จูกอ็ ารมณ์ดีขึน้ เป็ น
กอง

หลังจากที่ ถานหวันช ่ ิ งล้างหน้ าบ้วนปากแล้ว จึงนึ กอะไร


ได้ บ างอย่ าง “ข้ าให้ เ จ้าอุ่น แป้ งทอดไส้ เ นื้ อ ได้ มอบให้ ใต้ เ ท้ า
หรือไม่?”

“มอบให้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ อุ่นสองหม้อตามที่ คณ ุ หนู


่ ใต้เท้าตื่นแต่เช้ากลับค่ายทหารก็ถือติดตัวเอาไปด้วย แค่
สังไว้
ได้ ยิ น ว่ าคุณหนู เ ป็ นคนสังการเรื
่ ่องนี้ ให้ เ ขา ใต้ เ ท้ าเซี่ ย ก็ดีใจ
มากเลยเจ้าค่ะ อารมณ์ดีมากทีเดียว”
11
โชคดีที่ใต้เท้าเซี่ ยรักชอบพอคุณหนู มีอะไรก็ส่งมาให้ถึง
บ้ า น การแสดงออกซึ่ ง ความรัก ของเขาชัด เจนเหลื อ เกิ น มิ
เช่นนัน้ ลุ่ยจูคงวิตกกังวลเป็ นบ้าเป็ นหลังไปแล้ว ยามราตรีที่ร้าง
ไร้ผ้คู น นางอาจร้องไห้น้ า มูกน้ าตาไหลโศกเศร้าไม่หยุดหย่อน
เพราะคุณหนูแล้วก็ได้

หลังจากตื่นนอนวันนี้ นางไม่เห็นคุณหนูจะมีท่าทางเป็ น
กังวล จิตใจลุ่ยจูจึงค่อยสงบลง นอกจากพูดไม่หยุดวกไปวนมา
หลายตลบแล้ ว น้ า ตาที่ เ คยเอ่ อคลอนั บ ครัง้ ไม่ ถ้ วนก็น้ อยลง
เช่นกัน

“คนขี่ ม้าออกรบทาสงครามมาตลอดปี กาลังกายย่ อม


ถดถอยลงไปไม่น้อย น้ ามันในเนื้ อจะช่วยให้มีกาลังมีเรี่ยวแรง
ได้ มัน เป็ นอาหารที่ ส ะดวกและอิ่ มได้ น าน พวกเราชอบ
ท าอาหารจานเล็ก ๆ ที่ ล ะเอี ย ดอ่ อ นงดงาม เขากิ นไม่ อิ่ ม
ท้องเสียด้วยซา้ ”

ถานหวันช่ ิ งมองออกตัง้ นานแล้ว บางครัง้ เขาเห็นของ


บนโต๊ะน้ อยจึงคีบกินแค่ไม่กี่คา แต่ตามจริงแล้วก็คือยังไม่อิ่ม

“ต่อไปถ้าเขามาอีกเจ้าก็ทาอาหารมากสักหน่ อย”

12
ลุ่ยจูได้ ยินก็ยิ้มกว้าง มือก็ช่วยปรนนิบัติปากก็ขยับพูด
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ นับวันคุณหนูกย็ ิ่ งมีใจให้ใต้เท้านะเจ้าคะ”

ปากก็พดู ไปสายตาก็ชาเลืองมองสีหน้ าถานหวันช ่ ิ ง เห็น


สี หน้ าคุณหนูยิ่งแดงระเรื่อ ขนาดแป้ งสี ชาดก็ยงั ยอมแพ้ให้ ริม
ฝี ปากแดงสด ผิ ว ผ่ อ งใสจนเห็น เส้ น เลื อ ด ทัว่ เรื อ นกายดู มี
ชีวิตชีวา ไม่ขาวซีดหม่นหมอง ดังเช่นหน้ าหนาวปี ก่อนๆ เลย

เด็กสาวคิดในใจว่า ถึงแม้ว่าบ้านสี่ เหลี่ ยมเล็กๆ แห่ งนี้


จะเก่าไปสักหน่ อย แต่กอ็ าศัยได้อย่างสะดวกสบาย คุณหนูอยู่
ที่ นี่มาครึ่งค่อนปี แล้ว มีชีวิตดีกว่าตอนอยู่จวนตระกูลถานเสีย
อีก

ถานหวันช ่ ิ งที่กาลังอยู่ในอาการเกียจคร้านแย้มยิ้ม หยิบ


เอาลูกตุ้มหยกแข็งชิ้นหนึ่ งขึ้นมามอง ประหนึ่ งกาลังประเมิน
เส้นใยละเอียดอ่อนข้างใน สีหน้ านางเหมือนกาลังครุ่นคิดบาง
เรื่องอยู่ เมื่ อได้ ฟั งคาพูด ลุ่ยจูจึง ตอบว่ า “ทุ กๆ วัน ฟั งเจ้าพูด
กรอกหูข้าว่าเขาเป็ นสามี แล้วทาไมข้าจะไม่ชอบล่ะ?”

13
68 รำ่ สุรำ

วัน นี้ ใ ต้ เ ท้ ำ เซี่ ย กลับ ค่ ำ ยทหำรด้ ว ยท่ ำ ทำงผ่ อ นคลำย


ไม่ได้ตีสีหน้ ำเคร่งขรึมดังเช่นปกติ แม้แต่ทหำรรักษำกำรณ์หน้ ำ
ประตูยงั ดูออกว่ำใต้ เท้ ำอำรมณ์ ดีมำก ตอนลงจำกหลังม้ำ ใต้
เท้ำยังโยนแป้ งทอดในห่อผ้ำมำให้พวกเขำอีกต่ำงหำก

ไยพวกเขำจะไม่ รู้ว่ ำ นี่ คื อ แป้ งทอดที่ เ คยกิ น มำหลำย


เดือน ตอนเสบียงอำหำรไม่พอพวกเขำต้องกินแต่แป้ งทอดสีดำ
ทุกวัน รสชำติยำ่ แย่ไม่มีควำมอร่อยเลยสักนิด ยิ่งกินยิ่งแสบคอ
มีดีแค่ทำให้ อิ่มท้ องได้เท่ ำนัน้ แต่ ช่วงนี้ นับว่ำอำหำรดี ขึ้นมำก
เมื่อวำนพวกเขำยังได้กินซำลำเปำหนึ่ งมือ้ ถึงจะได้ส่วนแบ่งแค่
คนละสองลูก แต่เมื่อเทียบกันแล้วช่ำงต่ำงกันรำวฟ้ ำกับดิน

แล้วทำไมวันนี้ ใต้ เท้ ำถึงได้ ให้ แป้ งทอดสองลูก กับพวก


เขำอีก?

รอจนกระทัง่ เซี่ ย เฉิ งจู่จ ำกไป ทหำรรัก ษำกำรณ์ ห น้ ำ


ประตูทงั ้ สองก็เอำแป้ งทอดที่ ใต้เท้ำให้ออกมำพิจำรณำภำยใต้
แสงสลัวรำงในยำมเช้ำ แป้ งทอดนี้ มีสีเหลือง ขนำดเท่ ำกำปั น้
เด็กทำรก ยังคงอุ่นอยู่รำวกับเพิ่งออกจำกเตำมำไม่นำน แล้วยัง

1
มีกลิ่นเนื้ อหอมหวนโชยมำอี กด้วย ในเมื่อยังไม่ถึงเวลำที่ พวก
เขำต้องออกเวร อีกทัง้ ท้องกำลังหิวพอดี จึงอดไม่ได้ที่จะกัดสัก
คำ

ควำมรู้สึ ก แรกเมื่ อ อำหำรเข้ ำ ปำกก็คื อ ควำมอ่ อ นนุ่ ม


ตำมมำด้วยรสหวำนเล็กน้ อย ตรงกลำงยัด ไส้เนื้ อส่งกลิ่นหอม
ฟุ้งกระจำย แล้วยังมีรสเผ็ด หน่ อยๆ ดวงตำทหำรทัง้ สองเปล่ง
ประกำย แค่กดั ไม่กี่คำแป้ งทอดก็ลงไปในท้องจนหมด ถึงจะกิน
เสร็จนำนแล้วแต่ ริมฝี ปำกก็ยงั ขมุบขมิบเพรำะรสอร่อยยังติด
ลิ้นอยู่

เซี่ ยเฉิงจู่เอำแป้ งทอดไส้ เนื้ อมำแปดสิบลูก แบ่งกันพอ


เสี ย ที่ ไหน เพี ย งพริบ ตำก็หมดแล้ ว ทุกคนที่ ได้ กิน ล้ ว นชมว่ ำ
อร่ อ ย เขำนั ง่ อยู่ ใ นห้ อ งหนั ง สื อ ด้ ว ยสี ห น้ ำบ่ ง ชัด ถึ ง ควำม
ภำคภูมิใจไม่น้อย

จะไม่อร่อยได้อย่ำงไร? คนที่บ้ำนของเขำจะดื่มน้ ำแต่ ละ


ทีกย็ งั ต้องใส่กลีบดอกไม้ดพู ิ ถีพิถนั นัก ส่วนแป้ งทอดนี้ กเ็ ช่นกัน
ไม่ รู้ ว่ ำ ต้ อ งใช้ ค วำมใส่ ใ จมำกเพี ย งใด นำงคงค ำนวณไว้
หมดแล้ว ทัง้ ปริมำณเนื้ อ น้ ำมันที่ ใช้ทอด รวมไปถึงน้ ำผึง้ หำก
ว่ำของที่นำงทำไม่อร่อยก็คงไม่มีอำหำรใดอร่อยแล้วล่ะ

2
ทุกคนต่ ำงยื้อแย่งแป้ งทอดไส้ เนื้ อกันกระทังหมดอย่
่ ำง
รวดเร็ว คนที่แย่งไม่ทนั ก็ทำเสียงรำ่ ร้องอย่ำงเสียดำย

เซี่ ยเฉิงจู่นึกไม่ถึงว่ำ ไม่ถึงครึ่งวันแป้ งทอดแปดสิบลูกก็


หมดเกลี้ยง ตำมมำด้วยเสี ยงรำ่ ลือกับโวยวำยไปทัวค่ ่ ำยจนใต้
เท้ำเซี่ยงุนงง

แค่เรือ่ งแป้ งทอดก็เป็ นประเด็นได้งนั ้ หรือ?

ในที่ สุดใต้เท้ำก็โบกมือหนึ่ งครัง้ เป็ นสัญญำณอนุญำตให้


เหล่ำพ่อครัว ทำงโรงครัวจึงรีบเตรียมแป้ งและเนื้ อ ตัง้ ใจจะทำ
แป้ งทอดให้เหล่ำทหำรได้อิ่มหนำสำรำญกันสักหน่ อย

พวกเขำล้ มหมูอ้ ว นใหญ่ สองตัว ทำให้ ไม่ สิ้ นเปลื องเงิน


มำกนั ก ส่ ว นแป้ งหมี่ ข ำวก็ถ กู ร่อ นจนละเอี ย ดรำวเกล็ด หิมะ
วันนี้ โรงครัวจึงยุ่งกันไม่หยุดมือ

พอถึงตอนเที่ยงจึงมีขนมแป้ งทอดวำงลงบนโต๊ะ ส่งกลิ่น


หอมตลบอบอวลไปทัว่ ค่ ำ ย ครำนี้ พ วกทหำรนึ ก อยำกจะกิน
เท่ำไรก็กินได้เลย ไม่มีกำรจำกัดจำนวน ถึงเนื้ อด้ำนในจะน้ อย
กว่ำที่ ใต้ เท้ ำเซี่ ยเอำมำสักหน่ อยและรสชำติไม่หวำนเผ็ด แต่
ควำมหอมก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในกำรกินได้มำก

3
ช่ วงเที่ ยงเซี่ ยเฉิงจู่ไม่ได้อยู่กินอำหำรในโรงครัวร่วมกัน
กับลูกน้ องคนสนิท วันนี้ ในโรงครัวเต็มไปด้วยเสียงวุ่นวำย บน
โต๊ะมี แป้ ง ทอดไส้ เนื้ อหลำยถำดกินคู่กบั น้ ำแกงเนื้ อชำมใหญ่
ทุกคนกินกันจนอิ่มแปล้ หำกจะเอำคำหนึ่ งมำอธิบำยก็คงเป็ น
คำว่ำ...อร่อย!

อำหำรมื้อนี้ ทหำรทัง้ ในและนอกเมืองเว่ยอันต่ ำงกินกัน


อย่ำงสบำยใจ ถือเป็ นอี กปี หนึ่ งที่ อุดมสมบูรณ์ ที่สุดตัง้ แต่ พวก
เขำเป็ นทหำรมำ ดู เ หมื อ นจะเป็ นสัญ ญำณที่ แ สดงให้ เ ห็ น
ล่วงหน้ ำว่ำควำมทุกข์ยำกที่ผำ่ นมำก่ำลังจะสิ้นสุดแล้ว ขอเพียง
ทุกคนเดินตำมใต้ เท้ ำ วันเวลำแห่งควำมสุขสบำยคงอยู่อีกไม่
ไกล

เซี่ยเฉิงจู่สร้ำงควำมศรัทธำให้กบั ทุกคนอย่ำงหยังรำกฝั
่ ง
ลึก

บุ รุษ ผู้นี้ เป็ นผู้น่ ำที่ ท หำรทุ ก นำยพร้ อ มติ ด ตำมไปบุ ก


ตะลุยในทุกสนำมรบ เพรำะมีเขำ เมืองเว่ยอันจึงสำมำรถยืน
หยัดมำได้จนถึงทุกวันนี้

แต่ ก ว่ ำ ทหำรในค่ ำ ยจะมี ร่ ำ งกำยก ำย ำ แข็ง แรงและ


แข็ง แกร่ง ดัง เช่ น ทุกวัน นี้ ก็ไม่ใช่ เ รื่องง่ำย นอกจำกจะต้ องให้
4
พวกเขำได้กินอำหำรดีๆ อย่ำงเพียงพอ พวกเขำก็ยงั ต้ องผ่ำน
กำรฝึ กฝนอย่ำงหนัก ฝึ กทุกวันจนสภำพบำงคนรำวกับเพิ่งผ่ำน
ขุมนรก พอมี ใครจับอำวุธไม่ไหว ใต้ เท้ ำก็จะออกคำสังให้ ่ ยืน
เรียงแถวต่ อๆ กันเป็ นสี่ แถว โดยแถวที่ สี่คือกลุ่มคนที่ ช้ำที่ สุด
ซึ่งจะถูกหักเบีย้ เลี้ยงและส่วนแบ่งข้ำวในแต่ละเดือน

เนื่ องจำกส่วนใหญ่แล้วทหำรจะต้องนำข้ำวกลับไปเลี้ยง
ดูค รอบครัว ดัง นั น้ ผู้ที่ อ ยู่ใ นต ำแหน่ ง แถวที่ สี่ ก็ต้ อ งพยำยำม
ฝึ กซ้ อ มอย่ ำ งมุ่ ง มัน่ เพี ย งแค่ ส องเดื อ น ทหำรใหม่ ที่ เ คย
ผ่ ำ ยผอมและเหนื่ อยง่ ำ ย มำถึ ง ตอนนี้ ร่ ำ งกำยก็ จ ะก ำย ำ
แข็งแกร่ง เปี่ ยมด้วยพละกำลังกันเต็มที่ ไม่อำจเปรียบเทียบกับ
ทหำรขี้โรคเหมือนแต่ก่อนได้เลย

พอมองไปยัง กลุ่ ม เด็ก หนุ่ มกิ นมู ม มำมที่ ต นเป็ นคน


ฝึ กซ้ อมให้ ตู้เหอก็ทำเสี ยงระอำ “พวกเจ้ำแต่ ละคนเหมือนลูก
วัวไม่มีผิด ต้องใช้อำหำรเท่ำไรถึงจะเลี้ยงได้ไหว กินกันขนำดนี้
อีกไม่นำนห้องคลังก็คงโล่งแน่ ๆ...”

ปี ที่ ผ่ำนมำทหำรได้รบั ข้ำวกับถัว่ บ้ำงเป็ นแป้ งสำลี ซึ่งก็


ถือว่ำไม่เลวแล้ว

5
ปี นี้ พ วกเขำดี ใ จกัน เหลื อ เกิ น เพรำะไม่ เ พี ย งแต่ ไ ด้ ร บั
เงินเดือนและอำหำรให้ครอบครัวล่วงหน้ ำหนึ่ งเดือน ทุกนำยยัง
ได้ข้ำวสำรเพิ่มนอกเหนื อจำกปริมำณที่กำหนดไว้เป็ นพิเศษอีก
ด้วย เนื้ ออีกสำมจิน หลังจำกทหำรสำมพันกว่ำนำยได้ยินข่ำวนี้
ในค่ ำยทหำรก็มีแต่ เสี ยงกู่ร้องดี ใจ ทหำรทุกนำยล้วนเทิดทูน
และเคำรพใต้เท้ำเซี่ยอย่ำงสูงสุด

ถึ ง ของที่ ไ ด้ จ ะไม่ ม ำกมำย แต่ ส ำหรับ พวกเขำแล้ ว


ในขณะที่ ค นจำนวนมำกต้ องหิว ตำย แต่ พ วกตนกลับได้ ข้ำว
ของเหล่ำนี้ เป็ นเหมือนฝนที่ ตกลงมำทันกำลมอบควำมชุ่มชื่น
ให้ทุกชี วิต ประหนึ่ งกระถำงไฟในยำมหนำวเหน็ บ เป็ นน้ ำ แข็ง
ในหน้ ำร้อนที่ อบอ้ำว ทหำรใหม่ทุกนำยต่ำงซำบซึ้งใจเป็ นอย่ำง
มำก นับจำกนี้ ไปพวกเขำจะยืนหยัดเคียงข้ำงกับใต้ เท้ ำเซี่ ยไม่
เปลี่ยนแปลง...

นัน่ เพรำะอยู่กบั ใต้เท้ำแล้วมีเนื้ อให้กิน!

เนื่ องจำกเป็ นช่ วงก่ อนเทศกำลตรุษจี น ทำงโรงครัวจึง


ลงทุนทำหมันโถวลู ่ กใหญ่จำกแป้ งหมี่ขำว เป็ นหมันโถวที
่ ่ อร่อย
ที่ สุ ด เมื่ อ กัด เข้ ำ ไปในปำกเต็ม ๆ ค ำก็ไ ด้ ก ลิ่ น หอมของแป้ ง
นอกจำกหมันโถวขำวรำวห ่ ิ มะแล้ว ทุกคนก็ยิ่งพอใจกับเนื้ อหมู

6
ชำมยักษ์ แล้วยังมีน้ำแกงเนื้ อถ้วยใหญ่ซึ่งแตกต่ำงจำกที่เคยกิน
ก่อนหน้ ำนี้ มำก

เมื่อก่อนน้ ำแกงจะใส มีเนื้ อแค่พอให้ได้กลิ่นเท่ ำนัน้ แต่


ครำวนี้ เห็นได้ชดั ว่ำเป็ นน้ ำแกงเนื้ อที่ มีชิ้นเนื้ อ หนำซำ้ ด้ำนบน
ยังมีสีเขียวของต้นหอมโรยอยู่อีกด้วย ช่ำงหอมเหลือเกิน ! ทุก
คนกินกันอย่ำงเอร็ดอร่อย น้ ำแกงในหม้อใบใหญ่ ถกู พวกเขำ
จัดกำรจนเกลี้ยง แม้แต่เศษเนื้ อก็ไม่มีหลงเหลือ

ยำมกินไม่อิ่มทุกคนก็ได้แต่ หวั เรำะอย่ำงขมขื่ น พอมำ


ยำมนี้ มีเนื้ อให้กินอย่ำงอิ่มหนำ ก็ทำให้คนปกติดีแทบจะเป็ นบ้ำ
ได้เหมือนกัน

ช่วงบ่ำย

นำยทหำรคนสนิทสี่ คนก็คือหวังจี้ ตู้เหอ กัวซิ่ง และจำง


เซี่ ยนมำรวมตัวกันอยู่ในจวนผู้ปกครอง จวนนี้ อดีตผู้ปกครอง
เมืองสร้ำงไว้อย่ำงหรูหรำ ดูท่ำแล้วเขำคงเสพสุขมำไม่น้อย มี
แท่นยกสูงเหมือนในหอคณิกำเสียด้วย ได้ยินมำว่ำแต่ก่อนช่วง
จัดงำนเฉลิมฉลองเทศกำลตรุษจีนก็จะมีคณะละครมำร้องรำ
ทำเพลงให้ เจ้ำเมืองได้ชม ในจวนเต็มไปด้วยหญิงสำวงดงำม
เดินกันให้ว่อน
7
หลัง จำกสถำนที่ นี้ ได้ ต กมำอยู่ในกำมือ ของใต้ เ ท้ ำ เซี่ ย
แล้ว จวนผู้ปกครองที่ เคยครึกครื้นก็สงบเงียบเชี ยบ หน้ ำห้ อง
โถงยังถือว่ำดี พอจะมีคนเดินผ่ำนไปมำบ้ำง แต่ ลำนด้ำนหลัง
จวนเงี ย บสงัด กระทัง่ ยำมค่ำ คื น ที่ มืด สนิ ทก็ย งั ไม่ มีค นไปจุด
ตะเกียง บำงครัง้ พวกเขำเห็นแสงสว่ำงดวงเล็กๆ ก็ยงั ไม่ร้เู ลย
ว่ำเป็ นคนหรือผีกนั แน่

ด้ ำนข้ ำงจวนผู้ปกครองมี ตะเกี ยงแขวนอยู่ เป็ นพื้นที่ ที่


เอำไว้เลี้ยงแพะที่ ได้มำจำกกำรปรำบซ่องโจร โดยที่ แพะม่วงจะ
มีเพียงตัวเดียว ที่เหลือเป็ นแพะขำว

ส่ วนพวกสัตว์ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้ในค่ำยทหำร หมูจะมี
มำกที่สดุ แล้วยังมีแพะอีกหลำยสิบตัว

ใกล้ถึงช่ วงเฉลิมฉลองเทศกำลปี ใหม่ หวังจี้จึงอยำกจะ


กินเนื้ อแพะ เขำไปเอำเนื้ อแพะมำจำกโรงครัวประมำณแปดเก้ำ
ชังซึ
่ ่ งถือว่ำเพียงพอสำหรับคนสี่ ห้ำคน อีกทัง้ ยังมีอำหำรที่ ทำง
โรงครัวจัดมำให้ อีกหลำยอย่ำง ไม่เพียงมีแป้ งทอดไส้ เนื้ อถำด
ยักษ์เท่ำนัน้ ยังมีขนมแป้ งหมี่ขำวสิบกว่ำแผ่น หมันโถวแป้
่ งหมี่
ขำวสิบกว่ำลูก เนื้ อหนึ่ งถำด กี บเท้ ำหมูหนึ่ งถำด และผัด เผ็ด
เนื้ อแพะหนึ่ งถำด ซึ่งพ่อครัวลงมือท่ำด้วยตัวเองจึงรับรองได้ถึง
ควำมเอร็ดอร่อย
8
ไม่ร้วู ่ำกัวซิ่งไปขุดเอำสุรำอำยุรำวยี่สิบกว่ำปี จำกที่ ไหน
มำ โคลนที่ เปรอะเปื้ อนรอบไหยังไม่ได้ถกู เช็ดออกเลยด้วยซำ้
เมื่อมีเนื้ อให้กินเต็มคำอย่ำงอิ่มหนำ อีกทัง้ สุรำรสแรงเต็ม ปำก
ไม่นำนชำยทัง้ สี่กเ็ มำ แม้แต่ใต้เท้ำเซี่ยที่ดื่มไม่ค่อยเป็ น สำยตำ
ยังวูบไหว เห็นเงำมืดบ้ำงสว่ำงบ้ำงผิดแปลกไปจำกปกติ

ตู้เหอพูดขึ้นมำ “หวังจี้ กัวซิ่ง แล้วก็จำงเซี่ ยน กลุ่มพวก


เรำก็เหลือพวกเจ้ำสำมคน อำยุกค็ รบยี่ สิบกันแล้ว ควรจะหำ
เมียแล้วดำเนินชี วิตดี ๆ ได้แล้วนะ” หำกไม่นับฉงถิงเชี่ ยน ใน
บรรดำพวกเขำตู้เหอมี อำยุมำกที่ สุด และเป็ นฝั ง่ เป็ นฝำก่ อน
ใครเขำ

“จะรีบไปทำไมเล่ำ? ใต้เท้ำก็ยงั ไม่เป็ นฝัง่ เป็ นฝำเลย ข้ำ


จะรีบร้อนไปทำไมกัน?” หวังจี้กำลังเมำได้ที่ ลิ้นค่อนข้ำงแข็ง
หลังกินเนื้ อเสร็จ เขำก็เบือนหน้ ำไปมองเซี่ยเฉิงจู่ที่กำลังกระดก
ชำมสุรำ “ใช่หรือไม่ขอรับใต้เท้ำ?”

“เรื่องนี้ เจ้ำอย่ำได้มำเปรียบกับข้ำ” เซี่ ยเฉิงจู่เอ่ยพร้อม


ทัง้ วำงมำดขรึม ท่ ำทำงที่ แสดงออกดูจริง จัง ดัง เช่ นยำมปกติ
ทว่ำใครก็มองออกว่ำแววตำของใต้เท้ำนัน้ เปลี่ยนไป เขำน่ ำจะ
กำลังนึ กถึงอะไรบำงอย่ำง แววตำจึงอบอุ่นและอ่อนโยนเช่นนัน้

9
“ใช่ แ ล้ ว หำกใต้ เ ท้ ำ อยำกเป็ นฝั ง่ เป็ นฝำ พรุ่ง นี้ มะรื น
มะเรื่อง วันไหนก็ได้ทงั ้ นัน้ คนก็อยู่ที่นัน่ แล้ว เหลือเพียงพำเข้ำ
จวนเท่ำนัน้ เอง แล้วเจ้ำเล่ำ เจ้ำทำได้อย่ำงนี้ ได้หรือไม่ เมียของ
เจ้ำอยู่ที่ไหน? แม้แต่เงำก็ไม่มีเหมือนคนอื่นเขำ” ตู้เหอกล่ำว

หวังจีร้ ีบเอ่ยขึน้ ทันที คำพูดบ่งบอกว่ำไม่เชื่ออย่ำงชัดเจน


“พรุ่งนี้ ? มะรืน? มะเรื่องงัน้ รึ? ฮึ! รอจนวันฉลองปี ใหม่ผ่ำนไป
ใต้ เท้ ำก็ยงั ไม่ได้แต่ งหรอก ในเมื่อใต้ เท้ ำไม่รีบ ข้ำจะรีบไปทำ
มำย...”

เซี่ ยเฉิงจู่ได้ยินดังนั น้ มุมปำกก็ตึงเล็กน้ อย เขำกระดก


สุรำในชำมเข้ำปำกอีกคำหนึ่ ง ยำมนี้ กลับรู้สึกว่ำสุรำรสชำติช่ำง
ขมปร่ำเสียเหลือเกิน

“ต้นปี ใต้เท้ำค่อนข้ำงยุ่ง จะมีเวลำที่ ไหนกัน ข้ำไม่พดู กับ


เจ้ำแล้ว เจ้ำล่ะกัวซิ่ง? เมียข้ำบอกว่ำ นอกเมืองมีแม่นำงงำมๆ
ตัง้ มำกมำย มี ทัง้ ที่ ข ยัน และมุ ม ำนะ มี ท ัง้ ที่ มี ส ติ ปั ญ ญำและ
ควำมสำมำรถ หำกเจ้ำอยำกได้ ข้ำจะให้เมียข้ำดูๆ ไว้ให้...”

ทันที ที่กวั ซิ่งได้ยินดังนัน้ ใบหน้ ำที่ กำลังมีควำมสุขพลัน


เปลี่ยนเป็ นขมขื่น “พี่ใหญ่ตู้ เอ่อ...สมเป็ นพี่ ใหญ่ของข้ำจริ งๆ

10
ข้ ำฝำกขอบคุณในควำมหวัง ดี ของพี่ สะใภ้ ด้ วยนะ แต่ ไม่ ต้ อง
ดีกว่ำขอรับ”

เด็กสำวผูล้ ี้ภยั นอกเมืองเหล่ำนัน้ แต่ละคนผอมอย่ำงกับ


ลำไม้ไผ่ ใช่ว่ำเขำจะไม่เคยเล็งดู แต่ไม่มีใครเหมือนคนปกติสกั
คน ไม่ใช่แค่ขี้ริ้วขี้เหร่เท่ ำนัน้ พวกนำงยังแคระแกร็นและดูจืด
ชื ดอี กด้ วย ถึงจะมี ควำมขยันหมันเพี ่ ย รก็เ ถอะ...แต่ ข้ ำอยำก
แต่งเมีย ไม่ใช่ต้องกำรหำบ่ำวรับใช้นะ

กัวซิ่งเป็ นคนที่มีปณิธำนเด็ดเดี่ยว เขำอยำกได้หญิงงำม


เท่ำบ้ำนใต้เท้ำเซี่ ย...ลองคิดดูเถอะว่ำบนแผ่นดินยังมีหญิงงำม
ปำนนัน้ แล้วจะมองหญิงใบหน้ ำบิดเบีย้ วไปทำไมกัน แต่หำกหำ
ได้ ไ ม่ ส วยเท่ ำ บ้ ำ นใต้ เ ท้ ำ อย่ ำ งน้ อยที่ สุ ด ก็ ใ ห้ ค วำมสวย
ใกล้เคียงหรือคล้ำยๆ กันก็พอแล้ว

ตู้เหอรู้ควำมคิดของอีกฝ่ ำยในข้อนัน้ ทว่ำใต้เท้ำอยู่ตรง


นี้ ด้วยย่อมไม่สมควรจะเอ่ยออกมำ จึงหันไปทำงจำงเซี่ ยนที่ ดู
ว่ำนอนสอนง่ำยสุด “จำงเซี่ ยน ปี นี้ เจ้ำยี่สิบจะยี่สิบเอ็ดแล้วนะ
อย่ ำได้ เ พิ กเฉยมำกเกิน ไป ข้ ำจะให้ เ มี ย ข้ ำช่ ว ยเลื อกให้ เจ้ำดี
หรือไม่?”

11
ใบหน้ ำจำงเซี่ ยนซึ่ งแดงเพรำะฤทธ์ ิ สุรำอยู่แล้วก็ยิ่งแดง
กำ่ เหมือนผลผิงกัว่ เขำรีบโบกมือปฏิเสธเป็ นพัลวัน “ข้ำมี...มี
แล้ว”

“มี แ ล้ ว !” หวัง จี้ ม องไปยัง จำงเซี่ ย นอย่ ำ งข้ อ งใจ “เจ้ ำ


น้ องชำย วันๆ เจ้ำเดินตำมหลังพวกข้ำต้ อยๆ แต่ กลับบอกว่ำ
หำเมียได้แล้วรึ?”

กัวซิ่งเอ่ ยถำมด้วยควำมสงสัย “นั น่ สิ วันๆ เจ้ำก็อยู่แต่


กับพวกข้ำ ไปหำมำตอนไหนหรือ? ทำไมพวกเข้ำถึงไม่ร?ู้ ”

“มำรดำข้ำ...” จำงเซี่ยนซดน้่ ำแกงแพะร้อนเต็มปำก เพื่อ


ทำให้สร่ำงเมำ “มำรดำข้ำเป็ นคนจัดกำรให้”

“แม่นำงผูน้ ัน้ เป็ นอย่ำงไร? แล้วเมื่อไรเจ้ำจะแต่งงำน?”

“ไม่ร้เู หมือนกัน ข้ำยังไม่เคยพบเลย มำรดำข้ำบอกเพียง


ว่ำนำงรูปร่ำงหน้ ำตำงดงำมมำก กำรแต่ งงำนต้ องรอจนถึงปี
หน้ ำ เพรำะตอนที่ นำงยัง เด็กเคยหมัน้ หมำยไว้ ทว่ำก่อนครบ
กำหนดแต่งงำนผูช้ ำยดันมำป่ วยตำยไปเสียก่อน กฎเกณฑ์ของ
ครอบครัวข้ำ ต้องไว้ทุกข์ให้ฝ่ำยชำยสำมปี ปี หน้ ำ จึงจะได้แต่ ง

12
...” จำงเซี่ ย นเอ่ ย จนจบด้ ว ยท่ ำ ทำงซื่ อ ๆ เหมื อ นสติ ยัง ไม่
กลับคืนมำเต็มที่นัก

ฝ่ ำยเซี่ ยเฉิงจู่ที่นิ่งฟั งมำตลอด ตอนนี้ มือที่ ถือชำมสุรำ


่ ิ้ มจนสุรำข้ำงในกระฉอกออกมำแล้ว
พลันสันเท

13
69 ชื่นชอบ

ขณะเดี ยวกัน ชาวบ้านในเมืองเว่ยอันก็เริ่มมีการเฉลิม


ฉลองเทศกาลตรุษจีน เสียงประทัดดังขึ้นไม่ขาดสายตัง้ แต่เช้า
จรดคา่

ทัง้ เมืองเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่ งการเฉลิมฉลองปี ใหม่


ไม่ใช่เพียงชาวบ้านในเมืองเว่ยอันเท่านัน้ ที่ ดื่มดา่ กับเทศกาลนี้
กระทังผู ่ ล้ ี้ภยั ที่ตงั ้ ถิ่นฐานอยู่นอกเมืองซึ่งนับวันเพิ่มจานวนมาก
ขึน้ เรือ่ ยๆ ก็ดีใจที่อยู่รอดปลอดภัยไปอีกปี

ถึ ง ผู้ลี้ ภ ยั นอกเมื อ งจะสวมใส่ เ สื้ อ ผ้ า เก่ า ขาด แต่ อ ย่ า ง


น้ อ ยพวกเขาก็มี ที่ พ กั อาศัย มี อ าหารให้ กิ น อย่ า งอิ่ ม หน าทัง้
ครอบครัว ต่างกับบ้านเกิดเมืองนอนที่พวกเขาต้องลี้ภยั มาและ
ไม่อาจกลับไปได้อีกแล้ว ทุกคนมองผืนดินอันกว้างใหญ่ไพศาล
ด้ ว ยใจมุ่ ง หวัง ที่ จ ะท่ า การเพาะปลู ก และจับ จองพื้ น ที่ ท ากิ น
แต่ ละคนรู้สึกซาบซึ้งใจในตัวผู้ปกครองเมืองเป็ นอย่างมากที่
โอบอุ้มพวกเขาในยามยากล าบาก ทาให้ ชายฉกรรจ์จ านวน
มากตัดสินใจสมัครเข้ามาเป็ นทหารและตัง้ รกรากอยู่ที่นี่

1
นับว่าปี ที่ ผ่านมาเป็ นปี ที่ ดีสาหรับทุกคน แม้แต่บ้านหลัง
เล็ก ใกล้ ป ระตู ท างทิ ศ เหนื อที่ ถ ูก ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ซื้ อ ไว้ ยิ่ ง เปรี ย บ
เหมือนแดนสุขาวดีกไ็ ม่ปาน

บ้านหลังเล็กแห่ งนี้ ถกู เจิ้งเอวี้ยกับลุ่ยจูจดั การทาความ


สะอาดเป็ นอย่ างดี เซี่ ย เฉิงจู่ก่ออิฐ ล้ อมทาเป็ นคอกแพะด้ วย
ตัวเอง บนหลังคายังมุงด้วยกระเบื้อง เขาไม่ได้ท่าแบบลวกๆ
แต่ มนั เป็ นเหมือนบ้านหลังย่อมๆ ของครอบครัวแพะที่ ยามนี้
ได้รบั การดูแลอย่างสุขสบายจากเจิ้งเอวี้ย หนึ่ งในนัน้ มีแพะแม่
ลูกอ่อนซึ่งเมื่อสองวันก่อนออกลูกมาคู่หนึ่ งอยู่ด้วย ลูกแพะทัง้
สองมีขนสีขาวทัง้ ตัว ดูน่ารักน่ าชังมาก

ลูกแพะคู่นี้ เ ป็ นเจิ้ง เอวี้ย ที่ ช่ว ยท่ าคลอดให้ ด้ ว ยตนเอง


นางจึงดูแลลูกแพะอย่างประคบประหงม ฝูอินตัวน้ อยก็ชอบลูก
แพะเป็ นที่ สุ ด ทุ ก วัน ตอนเช้ า จะเห็น เด็ก สาวกับ เด็ก น้ อ ยนั ง่
ยองๆ จดจ้องลูกแพะในคอกด้วยกัน

เพราะหออักษรป่ าไผ่หยุดเรียน ฝูอินวัยห้าขวบจึงถูกพา


มาไว้ที่นี่ คล้ายกับว่าเป็ นเจตนาของเซี่ ยเฉิงจู่ที่เอาน้ องชายมา
ฝากให้ ถานหวันช ่ ิ งช่ วยอบรมเลี้ยงดู เพราะวางใจได้มากกว่า
ฝากกับคนอื่น และถึงนางจะไม่เชี่ ยวชาญด้านโคลงกลอน แต่

2
ฝี มือการวาดภาพนับว่าลา้ เลิศ อีกทัง้ นางยังมีหนังสือภาพที่วาด
เองซึ่งควรค่าแก่การชื่นชมและเหมาะสมกับการสอนเด็ก

ถานหวันช่ ิ งชอบเด็ก และไม่เบือ่ เมื่อเด็กร้องกระจองอแง


อี กทัง้ ส่ วนลึกในหัวใจนางรู้สึกผิดกับฝูอินอย่างแท้ จริง การที่
สติปัญญาของเด็กคนนี้ เติบโตเชื่องช้า ส่วนหนึ่ งอาจเป็ นเพราะ
แส้ ข องนางในครัง้ นั ้น ก็ เ ป็ นได้ เหตุ ก ารณ์ ใ นวัน นั ้น หาก
ผิดพลาดอีกนิดเดียว เด็กคนนี้ อาจจะไม่ได้เกิดตลอดกาล

ทว่าถึงอย่างไรการดูแลฝูอินก็ไม่เหมือนการดูแลเด็กอื่น
และต้องใช้ความอดทนสูง ทุกวันนางจะสอนหนังสือภาพให้เขา
สองชัวยาม
่ สาหรับตัวนางเองเรือ่ งอักษรนัน้ ไม่โดดเด่นเท่าวาด
ภาพ ต่ า งกับ ถานเฉิ งจี้ที่ ช านาญด้ า นอัก ษร ลายเส้ น ของเขา
ชัดเจนคมกริบประดุจดาบ

ตั ว อั ก ษรของนางนั ้ น รวมความโบราณและความ
สมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ลายเส้นคมกริบ แต่ค่อนข้างพลิกแพลง
และอ่อนช้อย ถือว่าเป็ นรูปแบบพิเศษเฉพาะตัว ทาให้มีบางคน
เก็บสะสมภาพวาดอักษรของนาง

่ ิ งเป็ นอาจารย์สอนศิลปะให้ ฝอู ิ นเพี ยง


ตอนนี้ ถานหวันช
คนเดียว ทาให้มีเวลาว่างอย่างเหลือเฟื อ
3
ในห้ อ งที่ ส วยงามและเงี ย บสงบ กลิ่ น หอมและความ
อบอุ่นแผ่กระจายไปทัวทั ่ ง้ ห้ อง ผ้าม่านประดับพู่ระย้าทัง้ สี่ มุม
ถูกรวบไว้

ด้ า นข้ า งมี เ ตาเล็ก ๆ ก าลัง ย่ า งขนมหอมกรุ่น ตอนนี้


นอกจากโต๊ะเตี้ ยตัวเดิม ยังมีโต๊ะไม้พยุงเล็กๆ เพิ่มมาอี กหนึ่ ง
ตัว ใต้ โ ต๊ะ หนั ง สื อ ปูห นั ง เสื อ หนึ่ ง ชัน้ บนโต๊ะ มี ส มุ ด ภาพและ
แผ่น กระดาษที่ เ ขี ยนอักษรวางทับ กันอยู่ส ามสี่ แผ่น มี หิน ฝน
หมึกสองอัน ที่ใส่พ่กู นั หลากสีอีกหนึ่ งอัน เพราะเวลาที่ถานหวัน่
ชิงวาดรูปต้ องใช้ สีหลายสี และต้ องใช้ พู่กนั หลากหลายขนาด
ทาให้มีพ่กู นั เสียบอยู่มากมายราวกับป่ าไม้อย่างไรอย่างนัน้

เดิมที ของเหล่านี้ เป็ นของรักของหวงของนาง แต่ตอนนี้


กลับให้เด็กชายวัยห้าขวบที่นัง่ หน้ าโต๊ะใช้สอยเสียแล้ว

บนโต๊ะเตี้ยของหญิงสาวมีกาน้่ าชากับถ้วยน้าชาสองสาม
ใบวางอยู่ ประดับด้วยแจกันกระเบื้องที่ มีกิ่งดอกเหมยที่ บาน
สวยเสี ยบไว้ ใต้ กิ่งดอกเหมยมี อาหารว่างสาหรับเด็กชายและ
ขนมอบที่ หญิงสาวชอบ อีกทัง้ ยังมีจานเมล็ดฟักทองที่ถานหวัน่
ชิงไม่ชอบเพราะต้องแกะเปลือก แต่สองสาวใช้เจิ้งเอวี้ยกับลุ่ยจู
นัน้ ชื่นชอบเป็ นที่สดุ

4
เจิ้งเอวี้ยประคองนมแพะร้อนที่เพิ่งยกลงจากเตาหมาดๆ
และดับ ความคาวแล้ ว มาให้ เมื่ อ ก่ อ นมี แ พะให้ น มสามตัว
่ ิ งก็ดื่มคน
ตอนนี้ เหลื อเพี ยงสองตัว แต่ ถึงอย่างนั น้ ถานหวันช
เดียวไม่หมด ลุ่ยจูและเจิ้งเอวี้ยจึงพลอยได้ดื่มด้วย

และเมื่ อฝูอิน มา นางก็ให้ ฝูอิน ดื่ มอี กคน แต่ ละวัน จึงมี
คราบนมติดที่ มุมปากเด็กชาย จนถึงวันนี้ ฝอู ิ นก็ยงั ไม่หย่านม
อีกทัง้ ร่างกายของเด็กน้ อยก็อ่อนแอนัก ที่ จวนจึงมีแม่นมคอย
เลี้ยงดูอยู่ด้วย

เจิ้งเอวี้ยมาอยู่กบั ถานหวันช
่ ิ งได้หนึ่ งเดือนแล้ว ครัน้ ได้
ดื่ ม นมแพะใบหน้ า ที่ เ คยซู บ ตอบก็ชุ่ม ชื่ น หายจากอาการซี ด
เหลือง กอปรกับได้กินอาหารดีๆ ทุกวัน ดังนัน้ นอกจากนางจะ
สูงขึน้ ผิวหนังยังนุ่มนิ่ม และเส้นผมที่เคยแห้งกรอบก็เป็ นมันดา
ขลับขึน้ มาด้วย

เมื่ อ เด็ก สาวเดิ น ถื อ ถ้ ว ยนมเข้ า มา ถานหวันช


่ ิ ง จึ ง เพิ่ ง
สังเกตเห็นว่า สาวใช้คนนี้ มีหน้ าตาสะสวยเกินความคาดหมาย
จริงๆ

เจิ้งเอวี้ยจะรู้ความในใจของเจ้านายได้อย่างไร เด็กสาว
จึงท่ าเพี ยงวางถ้วยนมลงบนโต๊ะฝูอินอย่างระมัดระวัง ยามนี้
5
เด็กชายกาลัง จดจ่ออยู่กบั การใช้ พู่กนั วาดรูป ถึ ง เจิ้ง เอวี้ ย จะ
มองไม่ออกว่าลายเส้นที่ ยุ่งเหยิงกลุ่มนี้ คืออะไร แต่คณุ หนูฝอู ิ น
ดูจริงจังมาก

นางก็เลยพยายามเพ่งมอง แต่น่าเสียดายที่นอกจากสีดา
กลมๆ แล้ว นางก็มองไม่ออกว่ามันเป็ นรูปอะไรกันแน่ หนาซา้
ลักษณะการจับพู่กนั ของฝูอินก็ไม่เห็นเหมือนกาลังวาดภาพแต่
อย่างใด เขาลากมือสะเปะสะปะไปทัวกระดาษ
่ บนโต๊ะก็ล้วน
เปรอะเปื้ อนไปด้วยหมึกดา

ในมุมมองของเจิ้งเอวี้ยแล้วนางคิดว่าการทาแบบนี้ ช่าง
สิ้นเปลืองมาก เพราะกระดาษและน้ าหมึกมีราคาแพง ตอนที่
นางอาศัย อยู่ บ้ า นหลัง เก่ า มี ห ลายครอบครัว ที่ ป ระหยัด ทัง้
เสื้อผ้าและอาหารการกินเพื่อส่งลูกไปเรียนที่ สานักศึกษา แต่ก็
สุดท้ายก็ไม่อาจสู้กบั ของสิ้นเปลืองอย่างหมึกและพู่กนั ได้

นางชาเลืองมองเจ้านายอย่างเงียบๆ เห็นฮูหยินไม่ใส่ใจ
เลยสักนิด ยังคงปล่อยให้ เด็กชายวัยห้ าขวบทาตามอาเภอใจ
ไม่เพียงไม่ห้ามปรามเท่านัน้ หนาซา้ ยังหยิบภาพที่ เด็กชายเพิ่ง
‘ทาให้เสีย’ เสร็จขึน้ มาดูอย่างละเอียดอีกต่างหาก

6
เจิ้งเอวี้ยไม่เข้าใจเรื่องภาพ ในดวงตาของเด็กสาวเห็น
เพี ยงถานหวันช ่ ิ งที่ นอนอยู่บนเตี ยง ขามี ผ้าห่ มแพรต่ วนคลุม
มื อ งดงามดุจ ดัง หยกแกะสลัก ก าลัง ถื อ ถ้ ว ยกระเบื้อ งที่ ใ ส่ ช า
ดอกไม้ ประหนึ่ งว่าร่างนี้ กาลังนอนอยู่ในภาพวาด หากอีกฝ่ าย
ไม่เคลื่อนไหวก็คงจะเป็ นภาพเลอค่าที่หายากและประเมินราคา
มิได้เป็ นแน่

ตอนที่ฮหู ยินค่อยๆ หรี่ตามองกระดาษที่ เด็กชายวาดไป


เรื่ อ ยเปื่ อยอย่ า งหาความสวยไม่ ไ ด้ อี ก ฝ่ ายช่ า งงดงามชวน
ตะลึงเสียจริง

จัง หวะนั ้น เองลุ่ ย จูที่ ก าลัง ชงชาอยู่ ข้ า งๆ ก็บ่ น พึ ม พ า


ขึ้นมา “น้ าหิมะนี่ ฝาดเกินไปแล้วนะเจ้าคะ ชงชาออกมาไม่ได้
เรื่องเลย ข้าเห็นคุณหนูบอกว่าช่วงนี้ ให้ทาอาหารจากเนื้ อมาก
หน่ อย ก็เลยจะชงชาแก้เลี่ยน แต่แบบนี้ จะดื่มได้ไหมนะ?”

ถานหวันช่ ิ งคิดว่าร่างกายนางคงรับรู้ถึงความรู้สึกของ
เจ้าของร่าง เพราะหากนางไม่อาจปล่อยวางได้บ้างแล้ว ก็คงไม่
สามารถจิบชาได้อย่างเอ้อระเหยเช่นนี้

เจิ้ ง เอวี้ ย รู้ว่ า ลุ่ ย จู ไ ปหาดอกเหมยมาท าเป็ นชาตัง้ แต่


เช้าตรู่ นางดมกลิ่นแล้วก็คิดว่าหอมมาก เพียงแต่แปลกใจว่าน้า
7
บ่อมีให้ตกั สบายๆ ทาไมไม่ใช้ ไยต้องยุ่งยากไปรองหิมะ ซา้ ยิ่ง
สงสัยหนั กว่าฝาดตรงไหน แล้วถ้าเป็ นแบบนัน้ มันจะดี กว่าน้ า
ใบบ่อได้อย่างไร จึงโพล่งออกมาทันที

“ให้ข้าไปเอาน้าในบ่อมาให้ดีหรือไม่?”

ลุ่ยจูท่าตาโตมองไปยังเจิ้งเอวี้ย “ไม่ได้หรอกน้าในบ่อมัน
กระด้ า ง ไม่ เ หมาะจะใช้ ช งชา อย่ า งไรน้ า จากหิ ม ะก็ย งั ดี ก ว่ า
มาก”

เจิ้งเอวี้ยเพิ่งอายุสิบสามปี จึงไม่เคยรู้ว่าแค่ เรื่องน้ ายัง


ต้ องพิถีพิถนั ปานนี้ ในมุมมองของนางขอเพียงมีอาหารให้ กิน
อิ่ม มีเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นก็ถือว่าดีที่สดุ แล้ว

ถานหวันช ่ ิ งสอนฝูอินโดยให้เขาขีดเขียนวาดภาพตามใจ
ปรารถนา ไม่ตาหนิดุว่าอย่างรุนแรงกับเด็กชาย หรือกาหนด
กฎเกณฑ์แบบตายตัว สาหรับนางแล้ว ฝูอินเป็ นเด็กพิเศษ ถึง
เขาจะปิดกัน้ ตนเองจากบางอย่าง แต่ชีวิตคนเราก็เป็ นเช่นนี้ . . .

แม้สวรรค์ให้ เจ้าปิดประตู แต่ กลับเปิดบานหน้ าต่ างให้


เจ้าแทน

8
ประสาทสัมผัสทัง้ ห้าของฝูอินเชื่องช้ ากว่าวัยซึ่ งทัง้ หมด
ได้รบั การชดเชยด้วยพรสวรรค์ในการวาดภาพอันแสนยุ่งเหยิง
จิตใจเด็กชายจะจดจ่ออยู่กบั ทุกภาพที่ วาด อย่างน้ อยเขาก็เริ่ม
ออกเสียงแบบไร้ความหมายออกมานับครังไม่ ้ ถ้วน

เมื่อใดก็ตามที่ฝอู ิ นหยิบพู่กนั ขึน้ มาก็เหมือนกับจมอยู่ใน


โลกส่ ว นตัว ทุ กครัง้ ที่ จรดพู่กนั ลง นั น่ ก็คื อ โลกทัง้ ใบของเขา
เด็กชายจะปลดปล่อยความรู้สึกลงไปในภาพวาด และนัน่ เป็ น
หนทางที่จะเข้าถึงโลกของเขาได้

ใช่แล้ว . . . เด็กน้ อยผู้นี้มีความรู้สึก . . . เป็ นความรู้สึกที่


บริ สุ ท ธ์ ิ และซื่ อ ตรง ถานหวันช ่ ิ ง หยิ บ กระดาษทุ ก แผ่ น ที่ เ ขา
ละเลงหมึกเสร็จแล้วมาพินิจอย่างจริงจัง ถึงลุ่ยจูกบั เจิ้งเอวี้ยจะ
ดูแล้วไม่เข้าใจ แต่นางกลับดูเข้าใจ

นางเองก็เคยถูกคนเรียกว่ามี ‘พรสวรรค์’ แต่เล็กแต่น้อย


ถานหวันช ่ ิ งมี ความรู้สึกไวต่ อสี สนั และลายเส้ นของภาพวาด
มัน เกิ ด ขึ้ น เองโดยธรรมชาติ นางสามารถเอาสี ส ัน รู ป ร่ า ง
ลักษณะที่ ไร้กฎเกณฑ์ใดๆ มาวาดในใจ...ดังนัน้ นางจึงรับรู้ได้
ทัง้ ความรูส้ ึกความรัก และลักษณะนิสยั ของเขา

9
ทว่ า พรสวรรค์ก็ย งั มี ขี ด จ่ า กัด นางรู้ต ัว เองดี ว่ า ตนนั น้
ขาดบางสิ่งที่ สาคัญอยู่เหมือนกัน จึงต้องให้เวลากับการฝึ กฝน
มากๆ

กระดาษที่ อยู่ในมือนาง หากดูจากลายเส้นของ ‘ภาพยุ่ง


เหยิง’ เหล่านัน้ ดูเหมือนว่าคนวาดจะหารูปแบบของตัวเองเจอ
แล้ ว ดัง นั ้น นางจึ ง ให้ ค วามรู้ ข ัน้ พื้ น ฐานแก่ ฝูอิ น เพื่ อ ให้ เ ขา
พัฒนาต่ออย่างใกล้ชิด ให้กาลังใจในการแก้ไข และให้ เด็กชาย
ได้ ปลดปล่ อยจิน ตนาการบนหน้ ากระดาษแผ่น แล้ ว แผ่น เล่ า
ตามแบบที่เขาชอบ

ความอดทนของถานหวัน่ ชิ งค่ อ นข้ า งดี เ ป็ นพิ เศษ


แม้กระทังท ่ าการจับพู่กนั แบบจับไม้พลองของเขา นางก็ปล่อย
ให้ ฝอู ิ นได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ทาตามความถนัดของตัวเอง ดัง
ประโยคที่ ว่า ‘การจับพู่กนั เขียนไร้กฎเกณฑ์ที่แน่ นอน มีเพี ยง
ความสบายใจ’

ถานหวัน่ ชิ งสอนโดยแบบไม่ ต้ อ งคิ ดมากจนเกิ นไป


เด็กชายก็ไม่ได้เรียนแบบต้องคิดมากเช่นกัน แต่กลับได้ผลลัพธ์
ที่ดี

10
แม้ เ ซี่ ย ฝู อิ นจะอายุ เ พี ย งห้ า ขวบ แต่ เ พราะเคยผ่ า น
ประสบการณ์ ไ ม่ ดี จ นปิ ดกัน้ ตัว เอง ความรู้สึ ก ของเขาจึ ง ไว
เหลื อล้ น ใครดี กบั เขา ใครคิ ด ร้ายกับ เขา เขาล้ ว นรู้หมด แต่
ก่อนเมื่อถึงห้ องนอนมักจะปี นราวเตี ยงไม่ยอมอยู่นิ่ง และทุก
ครัง้ เซี่ ยเฉิงจู่จะต้ องหนี บน้ องชายเอาไว้ใต้ แขน เพราะเรื่องนี้
เองที่ทาให้เขากับเซี่ยเฉิงจู่ไม่สนิทชิดใกล้กนั

่ ิ งทุกวัน
ในทางตรงกันข้าม เมื่อมาอยู่ที่นี่กบั ถานหวันช
ตอนเช้ าหลังจากสวมใส่ เสื้อผ้าเสร็จแล้ว หากเซี่ ยเฉิงจู่ช้าสัก
หน่ อย บางวันเด็กน้ อยแทบจะรีบวิ่งมาคอยที่ หน้ าประตูจวน
เลยทีเดียว...

เมื่อถึงสถานที่หอมๆ ที่ไม่มีคนบังคับให้เขาพูด ไม่มีคนดุ


และไม่มีคนพยายามเข้ามาช่วยเหลือ แต่ที่นัน่ มีของกินอร่อย มี
โต๊ ะ ปาฏิ หาริ ย์ ห นึ่ งตัว พู่ ก ัน เยอะแยะ สี ด ามากมาย เขาก็
สามารถนัง่ อยู่ตรงนัน้ ได้ทงั ้ วัน สามารถทาให้ทวทั ั ่ ง้ ร่างเป็ นสีดา
โดยไม่ ต้ อ งกัง วลสายตาของคนข้ า งๆ อี ก ทัง้ เขายัง สามารถ
ดูภ าพที่ ต นเองวาดได้ ต ลอดโดยไม่ ถ กู ท าให้ ห ายไปอยู่ เ รื่ อ ย
แล้ ว ยัง มี อ าหญิ ง คนสวยคอยจัด เก็บ ไว้ ใ ห้ อ ย่ า งดี ใ นกล่ อ ง
สี่เหลี่ยมซึ่งมีฝาปิดไว้ข้างบนอีกต่างหาก

11
ดังนัน้ ถึงแม้เขาจะไม่ร้วู ่าจิตใจของตนชอบสิ่งใด แต่เขา
ชอบที่ นัน่ ชอบของหอมๆ ที่ นั น่ ชอบสี ดาๆ ของที่ นัน่ และก็
ชอบอาหญิงที่นัน่ ด้วย

แสงตะวันในยามสายัณห์แทรกผ่านช่องหน้ าต่ างเข้ามา


ในห้ อง แสงสี เหลืองทองตกกระทบน้ า ในถ้วยชาเป็ นประกาย
ระยิบระยับ

เดิมที ในถ้วยนั น้ เป็ นเพียงชาดอกเบญจมาศธรรมดาๆ


เมื่อจิบดูคาหนึ่ งพร้อมกับสูดดมก็สมั ผัสได้ถึงกลิ่นหอมแปลกๆ
จากนัน้ พอเอาดอกเหมยมาแช่เพิ่มจึงมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
และมีกลิ่นหอมอบอวลในปาก และนัน่ ช่วยให้น้ าลายที่ กลืนลง
ไปมีกลิ่นหอมและรสชาติดี

พื้นฐานร่างกายของถานหวันช ่ ิ งไม่ดีนัก เพื่อร่างนี้ ...นาง


ต้ องสิ้นเปลื องความคิดไปไม่รู้เท่ าไรแล้ ว ตามปกติหนั งสื อที่
เอ่ยถึงการบ่ารุงร่างกายนัน้ มีน้อยมาก อีกทัง้ แต่ละเล่มก็เขียน
คล้ายๆ กัน แต่ เมื่อนางได้ อ่านบันทึ กของไต้ ซือท่ านหนึ่ งที่ มี
ชีวิตยืนยาวถึงหนึ่ งร้อยห้าสิบปี ด้วยการกินอยู่แบบพืน้ เมืองอัน
แปลกประหลาดและน่ ามหัศจรรย์

12
เขามี ตารายาผีบอกที่ ทาให้ อายุยืนด้ ว ยการกินน้ าลาย
ของตัวเอง หลักการของเขาอ่านแล้วเป็ นความรู้ที่ใหม่มาก เขา
รับเอาน้าชีวิตบนลิ้นอย่างสมา่ เสมอ ยิ่งตอนที่ เขาใกล้อายุหนึ่ ง
ร้อยปี ยิ่งกินบ่อยจึงสามารถมีชีวิตได้ยาวนาน ถานหวันช ่ ิ งอ่าน
แล้ว แม้จะยังไม่เข้าใจทัง้ หมด แต่เมื่อเห็นคาว่า ‘ชีวิต’ ก็ร้สู ึกว่า
พอจะมีหลักการขึน้ มาหน่ อย

่ ิ งไม่ใช่ผบู้ า่ เพ็ญตบะหรือฝึ กฌาน นางอ่านแล้ว


ถานหวันช
จึงแค่พอจะเข้าใจบ้าง แต่ในเมื่อไม่มีอะไรเสี ยหาย แค่ใช้ปลาย
ลิ้นแตะบนเพดานปาก แล้วก็เป็ นตามที่คิด...

น้ าลายในปากไหลออกมาเรื่อยๆ หญิงสาวสังเกตได้ว่า
ตอนที่ ร่างกายของนางแข็งแรงดี มักจะมี น้ า ลายไหลออกมา
อย่างต่อเนื่ องจนเต็มปาก ครัน้ กลืนลงไปก็ร้สู ึกหวานอร่อย แต่
หากวันไหนสภาพร่างกายไม่ค่อยดี จะเห็นได้ชดั ว่าลิ้นกับปาก
แห้งผากแทบไม่มีน้าหล่อเลี้ยงอยู่เลย

่ ิ งไม่เคยสนใจสิ่งเหล่านี้ ครันพอสนใจ
เมื่อก่อนถานหวันช ้
ก็ไม่มีสิ่งใดรับรองว่าจะได้ผล ทว่าในเมื่อยามปกติกต็ ้ องกลืน
น้ าลายอยู่แล้ว หญิงสาวจึงพบว่าการจิบน้ าชานั น้ ช่ วยได้ มาก
นางรู้สึกได้ถึง ความเย็นสบายสดชื่ นอย่างเป็ นธรรมชาติที่สุด
แล้วยังมีลมหายใจหอมแทรกปนอยู่ด้วย
13
ยิ่งคนเมื่อคืนนัน้ ยิ่งชอบนัก เขาเฝ้ าแต่จบู คลอเคลียโดย
ไม่พูดอะไร เมื่อสถานการณ์ เข้มข้นมากก็คว้ านิ้วมือของนาง
อย่างเผด็จการแล้วเอาเข้าไปในปากของเขา ไม่เพียงเท่านัน้ ยัง
กลื น กิ น น้ า ลายของนางปานดื่ ม น้ า พุ ที่ ห วานชุ่ ม คอโดยไม่
รังเกียจอีกด้วย

14
70 มากกว่าพี่สะใภ้

วันปี ใหม่

ลุ่ยจูกบั เจิ้งเอวี้ยอยู่ในครัวตัง้ แต่ ฟ้าสางช่ วยกันทาของ


อร่อยๆ ในวันพิเศษอย่างวันเฉลิมฉลองปี ใหม่นี้

ตามปกติแล้วทัง้ สองจะเตรียมอาหารจานวนมากเผื่อใต้
เท้าเซี่ยที่กลับมาจากทางานทุกวันตอนเย็น แต่ในช่วงเทศกาล
ใต้เท้าเซี่ ยมีงานเลี้ยงที่ ต้องพบปะสังสรรค์หลายงาน ถานหวัน่
ชิงจึงสังให้
่ ล่ยุ จูทาแค่พอกินเท่านัน้

ส่ ว นตัว ลุ่ ย จูเ องนางชอบท าอาหารหลายอย่ า ง แต่ ใ น


ปริ ม าณที่ ไ ม่ ม าก ท าให้ เ จิ้ ง เอวี้ ย พลอยได้ กิ น อาหารอร่ อ ยๆ
หลายชนิดตามไปด้วย เจิ้งเอวี้ยมองว่าการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้
ราวกับเป็ นความฝัน ก่อนจะไปพบความจริงที่ บ้านตนเองที่ อยู่
นอกเมือง

ลุ่ยจูยกจานขนมถัวกวนออกมาจากครั
่ ว เดิมนางเคยซื้อ
ขนมนี้ มาจากตลาด ไม่คิดว่าพอคุณหนู ได้ กินจะชอบมากจน
ถึงกับชมไม่ขาดปาก นางจึง พยายามเรียนรู้แล้วกลับมาทาที่

1
บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่ ดี อีกทัง้ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และความ
ประณี ตเข้ า ไป ท าให้ สี ส ัน และรสชาติ ออกมาดี ม าก ขนมมี
กลิ่นหอมหวน เนื้ อเนี ยนละเอียด เพียงเข้าปากก็แทบจะละลาย
ทันที ดังนั น้ ไม่เพี ยงถานหวันช ่ ิ งเท่ านั น้ ที่ ชื่นชอบ ขนาดฝูอิน
น้ อยก็ชอบกินขนมนี้ ด้วยเช่นกัน

วันนี้ ฝอู ิ นวาดภาพมานานกว่าหนึ่ งชัวยามแล้


่ ว เด็กน้ อย
เหมื อ นมี พ ละก าลัง ล้ น เหลื อ เพี ย งให้ ก ระดาษกับ พู่ก นั เขาก็
สามารถวาดภาพอยู่ตรงนัน้ ได้โดยไม่ขยับไปไหน ถานหวันช ่ ิง
ยื่นมือไปลูบศีรษะของเด็กน้ อยที่ สนใจแค่การวาดรูป กลับไม่
สนใจเรื่ อ งการกิ น สัก เท่ า ไร ปกติ แ ล้ ว เด็ก ๆ เป็ นวัย ที่ ก าลัง
เจริญเติ บ โตจึ ง มักจะหิว ง่าย แต่ เ ด็กคนนี้ กลับกินไม่ เพี ยงพอ
แล้วจะเติบโตได้อย่างไร

นางหยิบพู่กนั ในมือเด็กชายออก เจิ้งเอวี้ยเช็ดมือให้เขา


่ ิ ง ก็จูง มื อ เด็ก ชายมาที่ โ ต๊ะ แล้ ว นั ง่ กิ น ขนม
จากนั ้น ถานหวันช
หวานด้วยกัน

แม้ฝูอินจะพูดไม่เป็ น ทว่าในใจเขากลับรับรู้และเข้าใจ
ทุกอย่าง ซา้ ยังมีนิสัยดื้อรัน้ อย่างแปลกประหลาดอีกด้วย ถึงจะ
เป็ นบ่าวรับใช้ หรือกระทังแม่
่ นมที่ ดูแลเขามาตัง้ แต่ เด็ก แต่ ถ้า

2
เขาโกรธขึ้น มาแล้ ว ละก็ แม้เ อาของกิน มายัด ใส่ ปากเขาก็จะ
คายออกมา

ตอนที่ อยู่ส านั กศึ กษาแล้ วโดนกลันแกล้


่ งจากเด็กชาย
อายุมากกว่า เด็กเหล่านั น้ บังคับฝูอินให้ คลานเป็ นม้าให้ พวก
ตนขี่ แต่ฝอู ิ นไม่ยอมจึงถูกเยาะเย้ยและทุบตี ถึงกระนัน้ เขาก็ไม่
ร้องและไม่ยอมคลานเป็ นม้าเด็ดขาด นิสัยเช่ นนี้ คล้ายพี่ ใหญ่
ของเขามาก

เขาไม่ค่อยแยแสคนรอบกาย แต่กบั ถานหวันช ่ ิ งนัน้ ต่ าง


ออกไป ฝูอิ น เชื่ อ ฟั ง อาหญิ ง ท่ า นนี้ ม าก เวลาที่ ไ ด้ ใ กล้ ชิ ด กัน
เด็กชายมักจะกอดขาถานหวันช ่ ิ ง ไว้ แล้วแหงนหน้ ามองหน้ า
นาง ดวงตาเรียวเล็กเป็ นประกายคล้ายกับว่ามีเรื่องอยากจะพูด
ด้วย

คนตรงหน้ านี้ ไม่เหมือนคนอื่น นางไม่เกลี้ยกล่อมเขา ไม่


โอ๋ไม่ เ อาอกเอาใจ แต่ เ ขารู้ว่ านางช่ างแสนดี ดี กว่ าทุ กๆ คน
กระทัง่ ดี ก ว่ า พี่ ใ หญ่ ด้ ว ยซ้า ตอนนั ้น เขาไม่ รู้จ กั ความรู้สึ ก ที่
เรียกว่าพึ่งพาอาศัย ไม่ร้วู ่านางให้ความเคารพแก่เขา ให้ความรู้
ที่ ลา้ ค่าที่ สุด และเปิดทางสว่างบนเส้นทางการวาดภาพในภาย
ภาคหน้ าให้แก่เขา

3
ฝู อิ นไร้ ม ารดาตัง้ แต่ ย ัง เล็ก พี่ ใ หญ่ ก็ ยุ่ ง กับ งานด้ า น
การทหารทัง้ ปี เขาไม่มีค นคอยใกล้ ชิด และอยู่เ ป็ นเพื่ อน จน
เหมือนกับเด็กที่ขาดความรักและการเอาใจใส่ เป็ นถานหวันช ่ ิง
ที่ เข้ามาเติมเต็มส่ วนที่ ขาดหาย นางเป็ นเหมือนแสงสว่ างใน
ชีวิต ท่ามกลางความมืดสลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุดประหนึ่ งปรากฏแสง
สว่างรุ่งโรจน์ มาตกกระทบร่างแล้วแทรกซึ มเข้ าไปในกระดูก
ต่ อ ให้ ว นั ข้ า งหน้ า หมดแรงและพลัง แต่ พ อหวนนึ ก ถึ ง นาง ก็
เปรี ย บเสมื อนเห็น แสงสว่ างท่ า มกลางความสิ้ น หวัง เหมื อ น
ต้ นไม้ที่ผ่านพ้นช่วงหิมะตกแล้วกลับมามีชีวิตชี วาในฤดูใบไม้
ผลิ

สาหรับฝูอินแล้ว ถานหวันช ่ ิ งไม่ใช่แค่พี่สะใภ้ แต่นางคือ


อาจารย์ คือเพื่อน คือคนรูใ้ จ คือมารดา...

คือ...ผูห้ ญิงคนแรกที่เขาชอบ

นางคือครัง้ แรกของทุกสิ่งอย่างในชี วิต ถึงภายภาคหน้ า


ในวันที่ แก่ ตวั เขาก็ไม่มีวนั ลืมนาง คนที่ เข้ามาเปลี่ ยนทัง้ ชี วิต
ของเขา

4
่ ิ งกาลังกินขนมก็เห็นลุ่ยจูกบั เจิ้งเอวี้ย
ขณะที่ ถานหวันช
ช่วยกันยกหีบใบหนึ่ งเข้ามา “เมื่อเช้าตอนที่คณ
ุ หนูยงั ไม่ตื่น ใต้
เท้าเซี่ยให้คนส่งของมาสามหีบเจ้าค่ะ”

ร้านค้ าใหญ่ ข องตระกูลรา่ รวยสี่ ห้ารายในเมืองเว่ ย อัน


ล้วนพึ่งพาอาศัยใต้เท้ าเซี่ ยมาโดยตลอด ทว่าพวกเขารู้ดีว่าใต้
เท้ าไม่รบั เงินทองใดๆ ทัง้ สิ้น จึงพากันขบคิดจนหัวแทบแตก
สุดท้ ายก็มอบเสบียงอาหารรวมกันสิบกว่าเกวียนเพื่อเติมเข้า
คลังทหาร จากนัน้ ก็ถือโอกาสมอบของตอบแทนเล็กน้ อยให้

บ่าวทัง้ สองวางหีบลงกับพืน้ อย่างระมัดระวัง ลุ่ยจูเอ่ยต่อ


ว่า “อีกสองหีบที่เหลือเป็ นโสมดา บุกเหลือง เขากวางอ่อน และ
ของบารุงร่างกาย ส่ วนหี บนี้ เป็ นเครื่องประดับกับพวกเครื่อง
ประทินผิวเจ้าค่ะ คุณหนู ลองดูสิเจ้าคะว่ามี ของที่ ชื่นชอบบ้าง
หรือไม่?”

พอเปิดหีบออก เจิ้งเอวี้ยก็อดไม่ได้ที่จะทาตาโต ของด้าน


ในมากมายจนตาพร่า นางมันใจว่
่ าคงไม่มีผ้หู ญิงคนใดไม่ชอบ
ของเหล่านี้

5
ลุ่ยจูหยิบของด้านในออกมาทีละชิ้น มีทงั ้ ลิ้นชักสองชัน้ สี
ขาวที่ ด้ า นในใส่ ห วี ไ ม้ แ บบต่ า งๆ ฝี มื อ แกะสลัก ช่ า งประณี ต
งดงาม นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว

อีกอันเป็ นลิ้นชักห้าชัน้ ทาจากไม้หอมสีม่วง ด้านในบรรจุ


พวกเครื่ อ งส าอาง ลุ่ย จูเ ปิ ดที ล ะชัน้ ให้ คุณ หนู ดู มี ท ัง้ น้ า หอม
แป้ งเนื้ อละเอี ยด แป้ งสี ชาด อี กทัง้ ขวดที่ ใส่ กส็ วยมากที เดี ยว
โดยเฉพาะชาดทาปากยาวห้าชุ่น ถานหวันช ่ ิ งเห็นแล้วก็คิดว่า
ลักษณะรูปร่างคล้ายกับลิปสติกในโลกอนาคตเหลือเกิน

ลุ่ยจูเพ่งมองสินค้าแปลกใหม่ ไม่นึกเลยว่าเพียงไม่นาน
ท้องตลาดก็มีสินค้าแบบใหม่ให้ชมแล้ว แต่ก่อนตอนที่ อยู่เมือง
หลวง สี ชาดทาริมฝี ปากยังเป็ นแผ่นอยู่เลย หรือไม่กบ็ รรจุใน
ตลับ เนื้ อ หยาบ ทว่ า รูป ร่า งหน้ า ตาอย่ า งนี้ น างไม่ เ คยเห็น มา
ก่อน

ส่ ว นของอื่ น ๆ ก็มี ด อกไม้ ติ ดหน้ าผากส าหรับ หญิ ง ที่


แต่งงานแล้ว ต่ างหูรปู ดอกไม้ ซึ่งล้วนเป็ นแบบที่ ไม่เคยเห็นใน
เว่ยอัน แล้วยังผ้าต่วนสีแดง หมวกกันลมสาหรับฤดูหนาวที่ ทา
จากขนเตียว แล้วยังมีผ้าสาหรับผูช้ ายอีกสี่ห้าพับ ไม่ร้วู ่าใครส่ง
มามอบให้แก่ใต้เท้าเซี่ย

6
นอกจากลิ้นชักทัง้ สองแล้ว ของอื่ นถานหวันช
่ ิ งให้ ลุ่ยจู
กับเจิ้งเอวี้ยไปแบ่งกัน

ลุ่ยจูไม่ได้ตื่นเต้นมากนักเพราะคุณหนูมกั จะใจกว้างกับ
บ่าวรับใช้เสมอ ตอนอยู่ที่จวนตระกูลถาน มีแต่คณ ุ หนูที่ให้เงิน
รางวัลจนนางเก็บได้เป็ นกอบเป็ นกา แต่ เจิ้งเอวี้ยกลับดวงตา
เบิกกว้าง นิ่งอึ้งอยู่นานกว่าจะหลุดออกจากภวังค์ แล้วก็ยงั ไม่
กล้าหยิบของที่ล่ยุ จูแบ่งให้นางมากโข

นางอยู่ที่บ้านหลังนี้ มาเดือนกว่าแล้วจึงรับรู้ได้ถึงความ
ใจดี ข องฮูห ยิ น แต่ ข องเหล่ า นี้ ม ากเกิ น กว่ า ที่ น างคาดคิ ด ไว้
ขณะที่เด็กสาวกาลังดูแลฝูอินให้กินขนมและดื่มนมอยู่นัน้ ก็ได้
ยินฮูหยินเอ่ยว่า

“เจิ้งเอวี้ย เจ้าคงคิดถึงบ้านแล้วสินะ ตอนเย็นไม่ต้องอยู่


ปรนนิบตั ิ ข้าหรอก เดี๋ยวข้าจะให้ล่ยุ จูแบ่งเนื้ อและขนมหวานให้
แล้วเจ้าก็เอาข้าวสารไปด้วยหนึ่ งถุง กลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้ า
พร้อมตากับครอบครัวเถอะ ข้าอนุญาตให้หยุดพักผ่อนสองวัน
วันที่สามค่อยกลับมา”

พอถานหวันช ่ ิ งพูดจบ เจิ้งเอวี้ยก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง


ทันที เด็กสาวรีบคุกเข่าคานับ เอ่ยเสียงเครือ “เจิ้งเอวี้ยสานึ กใน
7
บุญคุณคุณหนู ขอขอบคุณ คุณหนูแทนบิดามารดา และพี่น้อง
ด้วยเจ้าค่ะ”

มาถึ ง ตอนนี้ เจิ้ ง เอวี้ ย ถึ ง คิ ดได้ ว่ า ที่ ผ่ า นมานางแค่


ปรนนิบัติรบั ใช้ ฮูหยินตามหน้ าที่ ไม่ค่อยรู้สึกถึงความสัมพันธ์
ระหว่ างนายบ่าวเท่ าไร เพราะถึงอี กฝ่ ายจะช่ วยให้ ชีวิตความ
เป็ นอยู่ของตนดีขึ้น แต่นางก็ยงั คิดว่าเสมอว่าอีกฝ่ ายไม่เคยได้
ลิ้มรสความทุกข์ยากลาบากเช่นพวกตนที่ กินและใช้แต่ ของไม่
ค่อยดี

ทว่าเวลานี้ น้ าตาค่อยๆ ไหลอาบสองแก้ม เพิ่งคิดได้ว่า


นางหลงลืมผูม้ ีพระคุณไปชัวขณะ

ลุ่ย จูหนั ่ เนื้ อให้ เ จิ้ ง เอวี้ย สี่ จิน พร้อมแป้ งหมี่ ข าวหนึ่ ง ถุง
ทว่ า เจิ้ ง เอวี้ ย ปฏิ เสธ ขอเพี ย งข้ า วแดงหนึ่ งถุง เท่ า นั ้น ทว่ า
ห้องครัวไม่มีข้าวแดงจึงให้ข้าวสารถุงเล็กกับนางแทน เพื่อที่เจิ้ง
เอวี้ยจะได้นากลับไปหุงกินกับครอบครัว นอกจากนี้ ยงั มีพวก
แป้ งทอดไส้เนื้ อหนึ่ งห่อกับปลาหนึ่ งตัวด้วย

ตอนแรกเจิ้งเอวี้ยไม่กล้ารับ ลุ่ยจูจาต้องยัดใส่มืออีกฝ่ าย
พลางบอกว่าคุณหนูไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้ อย หากคุณหนูมีของ
ดีๆ ก็มกั จะแบ่งให้คนรอบข้าง จะได้มีคนมีความสุขหลายๆ คน
8
ในเมื่ อของที่ ให้ มีมากมายขนาดนี้ เจิ้ง เอวี้ ยก็เ ลยหอบ
กลับบ้านคนเดียวไม่ไหว ลุ่ยจูจึงอาสาไปส่งนางถึงนอกเมือง

ครอบครัวเจิ้งเอวี้ยมีสมาชิกทัง้ หมดเจ็ดคน บิดามารดา


และบุตรห้าคน เป็ นผู้ชายสาม ผู้หญิงสอง เจิ้งเอวี้ยเป็ นบุตรคน
ที่ สาม นางมีพี่ชายสองคน น้ องสาวหกขวบที่ มีรปู ร่างผอมหนึ่ ง
คน กับน้ องชายคนสุดท้องที่ยงั ไม่หย่านม

ครอบครัว นี้ ย ากจนข้ น แค้ น การที่ ต้ อ งเลี้ ย งบุ ต รมาก


ขนาดนี้ ในสภาวะสงครามและฤดูหนาวเป็ นเรื่องยากเย็นแสน
เข็ญ พวกเขาจึงคิดจะขายเจิ้งเอวี้ยให้เป็ นเมียน้ อยเถ้าแก่วยั ห้า
สิบเศษซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง พอดีใต้เท้าเซี่ยผ่านมาเห็นจึงพามา
ช่วยทางาน

ขณะที่ ทุกคนในบ้า นกาลังเฉลิมฉลองปี ใหม่ ด้วยคิดว่า


เจิ้งเอวี้ยจะไม่กลับมา พวกเขาจึงกินอาหารเร็วกว่าปกติ ไหน
เลยจะคาดคิดว่าช่วงพลบคา่ นางกลับถือของกินทัง้ ห่ อเล็กห่ อ
ใหญ่กลับมาบ้าน อี กทัง้ มีบ่าวรับใช้ข้างกายฮูหยินช่ วยถือของ
มาส่งด้วย

บิ ด าและมารดาของเจิ้ ง เอวี้ ย ต้ อ นรับ ลุ่ ย จูด้ ว ยอาการ


ตื่นเต้ น น้ องสาวกับน้ องชายของเจิ้งเอวี้ยต่ างเข้ามาห้อมล้อม
9
พี่สาวด้วยท่าทางดีใจกันยกใจใหญ่ สายตาจับจ้องอยู่ที่ข้าวของ
ในมือนาง เจิ้งเอวี้ยยิ้มแล้วลูบศีรษะน้ องๆ แล้วให้ทงั ้ สองช่ วย
หิ้วของเข้าบ้าน

เพี ยงไม่นาน ในบ้านเก่าโกโรโกโสก็มีเสี ยงตื่ นเต้ นยินดี


แว่ ว มา ทัน ที ที่ บิ ด ามารดาของเจิ้ ง เอวี้ ย ส่ ง ลุ่ ย จู จ ากไปไกล
พอสมควรแล้ว เมื่อเดินกลับมาก็เห็นสายตาอิจฉาของผู้ลี้ภยั
หลายคน บางคนชมว่าพวกเขาได้บุตรสาวดี สามารถหาเลี้ยง
ครอบครัวได้ ส่ วนตัวบุตรสาวเองก็โชคดี ที่มีเจ้านายดี ต่ อไป
ชีวิตพวกเขาจะต้องดีขึน้ แน่ นอน

พอได้ยินดังนัน้ สองสามีภรรยาก็ร้สู ึกเหมือนได้หน้ า พา


กันเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางปลาบปลืม้

ปี นี้ ถือว่าเป็ นปี ที่ดีงามของครอบครัว

ตอนคา่

ด้ า นนอกมี เ สี ย งจุด ประทัด ดัง สนั น่ ตามมาด้ ว ยเสี ย ง


หัวเราะคิกคักของพวกเด็กๆ ถานหวันช ่ ิ งรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็น
ว่าเซี่ยเฉิงจู่จะกลับมาเสียที

10
ลุ่ยจูบ่นอุบอิบ “ใต้เท้าเซี่ ยนี่ จริงๆ เลย ในเมื่อไม่มาก็ไม่
บอกให้รสู้ กั หน่ อย” ทาให้คณ
ุ หนูต้องมาคอยเก้อ

ถานหวันช ่ ิ งกลับเอ่ยอย่างเข้าใจ “เขายุ่งมาทัง้ ปี แล้ว ไม่


ง่ายนักที่ จะมีเวลาผ่อนคลายเช่นนี้ บางที อาจจะดื่มกับลูกน้ อง
และบรรดาสหายจึงลืมบอกก็เป็ นได้ ปี ที่ ผ่านๆ มาการเฉลิม
ฉลองปี ใหม่มกั จะทาให้ข้าปวดหัว แต่ ปีนี้ กลับไม่มีอาการปวด
หัวเลย เพี ยงแต่ ต้องลาบากเจ้าหน่ อยนะอาจู มี เพี ยงแต่ เจ้าที่
ต้องดูแลข้าอยู่คนเดียว”

“คุณหนู พูดอะไรเจ้าคะ สามารถดูแลคุณหนู ได้ ลุ่ย จูก็


พอใจแล้ว คุณหนูวางใจเถิดเจ้าค่ะ ถึงจะมีข้าแค่คนเดียว ข้าก็
จะปรนนิบตั ิ คณ
ุ หนูให้สขุ สบายอย่างแน่ นอน”

ความจริงแล้วถานหวันช ่ ิ งเคยบอกลุ่ยจูไปแล้วว่า ใบซื้อ


ขายทาสของลุ่ยจูนัน้ ถูกนางไถ่ถอนตัง้ นานแล้ว นางไม่ต้องการ
ให้เด็กสาวแสดงตัวเป็ นบ่าวรับใช้อีก และยิ่งพวกนางร่วมเป็ น
ร่วมตายตกทุกข์ได้ยากด้วยกันมา ในความคิดหญิงสาว ลุ่ยจูก็
เปรียบเสมือนน้ องสาวมาตัง้ นานแล้ว

ถานหวันช ่ ิ งพยายามวางแผนอนาคตให้ลุ่ยจู อยากจะหา


ผู้ชายที่ เหมาะสมให้ อีกฝ่ ายแต่ งงานมีครอบครัว มีที่ให้ พกั พิง
11
ดีกว่าต้องมาคอยติดตามนางเป็ นไหนๆ ทว่าลุ่ยจูเป็ นเด็กสาวที่
ดื้อรัน้ อีกฝ่ ายติดตามนางมาตัง้ แต่อายุเจ็ดแปดขวบ ทัง้ ที่ สาว
ใช้ อีกสามคนของนางต่ างก็แต่ งงานออกเรือนกันไปหมดแล้ว
เหลือเพียงลุ่ยจูเท่านัน้ ที่ไม่ยินยอม

ลุ่ยจูนัน้ ยากที่ จะเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้เป็ นทาสอี กต่ อไป


ความรู้สึกลึกๆ ของเด็กสาว ถานหวันช ่ ิ งก็คือเจ้านายที่ ดีของ
นาง ดังนัน้ หากนางยังพูดถึงการแยกจากกันแล้วละก็...จะต้ อง
ทาร้ายหัวใจลุ่ยจูไม่น้อย ถานหวันช ่ ิ งจึงไม่อยากพูดถึงมันอีก

อาหารส าหรับ คื น เฉลิม ฉลองปี ใหม่ มีอยู่แ ล้ ว ก่ อนเจิ้ง


เอวี้ยจะกลับบ้านในตอนบ่ายก็ช่วยทาไว้อย่างเรียบร้อย เพียง
แค่ใช้ไฟอ่อนๆ อุ่นก็กินได้เลย ก่อนหน้ านี้ ฝอู ิ นวิ่งไปที่ ลานบ้าน
เพื่อไปดูลูกแพะอยู่ตงั ้ นาน เมื่อเห็นผูใ้ หญ่กาลังจุดประทัด เขาก็
ก้มหน้ าอุดหู ครัน้ จุดประทัดพอแล้วลุ่ยจูจึงอุ้มเด็กน้ อยกลับเข้า
ไปกินข้าวในบ้าน ก่อนจะพาเข้านอนที่ห้องทางทิศตะวันตก

จากนัน้ สองนายบ่าวก็มาแช่น้าในอ่างอาบน้าอย่างสบาย
อกสบายใจ ลุ่ยจูช่วยถานหวันช่ ิ งผึง่ ผมจนแห้ง ก่อนจะแยกย้าย
กันเข้านอน

12
ใครจะรู้ว่ าผ่านไปเพี ย งหนึ่ ง ชัวยาม
่ ด้ านนอกก็มีเ สี ย ง
เคาะประตูดงั ขึ้น ลุ่ยจูพลันตกใจตื่ น นางลุกจากเตี ยงไปหยิบ
ตะเกียง แล้วเดินไปที่ ประตูใหญ่ พอมองลอดช่องประตูออกไป
เห็นว่าเป็ นใต้ เท้ าเซี่ ย เด็กสาวก็รีบเปิดประตู ได้กลิ่นสุราลอย
มาปะทะจมูกทันที

ลุ่ยจูเอ่ยตามหลังแม่ทพั หัวเมืองเสียงเบา “ใต้เท้า คุณหนู


หลับแล้วเจ้าค่ะ”

เซี่ ยเฉิงจู่ไม่เพียงไม่ตอบ ใบหน้ ายังคงเคร่งขรึม เขาทาหู


ทวนลมคล้ายไม่ได้ยินก่อนเดินตรงไปยังห้องที่ค้นุ เคย

ลุ่ ย จู รี บ ปิ ดประตู ห น้ าบ้ า น ตอนที่ น างหมุ น ตั ว กลับ


มาแล้ ว มุ่ง หน้ าไปยัง ห้ องทางทิ ศตะวัน ตก ก็ได้ ยิ น เสี ย งเก้ า อี้
กระแทกพื้นดังโครมมาจากห้ องคุณหนู นางตกใจจนมือที่ ถือ
ตะเกี ยงสันระร
่ ิ ก หลังจากนั น้ ก็ได้ยินเสี ยงใต้ เท้ าโพล่งออกมา
ด้วยน้าเสียงกรุน่ โกรธ

่ ิ ง ! เจ้ า บอกข้ า มาให้ ช ัด เจนเดี๋ ย วนี้ เจ้ า กับ


“ถานหวันช
บุ ต รชายของเจิ้ ง เอวี๋ ย น พวกเจ้ า ...เจ้ า ยัง ไม่ ลื ม เขาใช่ ไ หม?
ต้องการรักษาพรหมจรรย์ให้ไอ้หมาเจิ้งชิงหมิงอย่างนัน้ หรือ!”

13
71 ใจอ่อน

หลังจากถานหวันช่ ิ งอาบน้าผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็ นชุดผ้า


เบาบางที่ใส่สบายแล้ว นางก็มานอนดูสมุดภาพอยู่บนเตียงโดย
อาศัยแสงสว่างจากตะเกียงจนกระทังรู่ ส้ ึกง่วง

ขณะที่ ห ญิ ง สาวก้ า ลัง จะวางสมุ ด ภาพลงเพื่ อ เข้ า นอน


พลันมีเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากหน้ าห้อง นางจึงหยัดกายจาก
หมอนแล้วลุกขึน้ นัง่

ทันใดนั น้ เองประตูห้องก็ถกู เปิดออกพร้อมกับมีกระแส


ลมพัด ตามเข้ า มา ท าให้ เ ปลวเที ย นโบกสะบัด ตามแรงลม
ผ้าม่านพลันพลิ้วไหว ก่อนจะมีเงาตะคุ่มของคนร่างสูงเดินมา
หา จังหวะก้ าวเท้ า ช่ างหนั ก หน่ ว ง จากนั น้ ก็เ หมื อนเขาจะไป
สะดุดบางอย่างเข้า เพราะมีเสี ยงเก้าอี้กระแทกกับพื้นดังสนั น่
พร้อมกับเสียงตะโกนอย่างกราดเกรีย้ ว

่ ิ ง ! เจ้ า บอกข้ า มาให้ ช ัด เจนเดี๋ ย วนี้ เจ้ า กับ


“ถานหวันช
บุ ต รชายของเจิ้ ง เอวี๋ ย น พวกเจ้ า ...เจ้ า ยัง ไม่ ลื ม เขาใช่ ไ หม?
ต้องการรักษาพรหมจรรย์ให้ไอ้หมาเจิ้งชิงหมิงอย่างนัน้ หรือ!”

1
ถานหวันช่ ิ งตกใจจนลมหายใจสะดุด พยายามนึ กว่า...
เจิ้งชิงหมิงคือใคร?

เพียงไม่นานก็นึกออก หากเซี่ยเฉิงจู่ไม่เอ่ยชื่อนี้ ขึน้ มาละ


ก็ นางก็คงลืมคนผู้นี้ไปแล้ว คนที่ อีกฝ่ ายเอ่ ยถึงเป็ นบุตรชาย
ของอดีตผูส้ าเร็จราชการเจิ้งเอวี๋ยน ชายผูน้ ี้ เคยเป็ นคู่หมัน้ ของ
นางเมื่อนานมาแล้ว หลังจากตระกูลเจิ้งถูกยึดทรัพย์กต็ ้องโทษ
ประหารชีวิตทัง้ ครอบครัว

เจิ้งชิงหมิงเป็ นชายหนุ่มที่ มีความสามารถโดดเด่นด้ าน


การเขียนโคลงกลอนมาตัง้ แต่ยงั เด็ก เป็ นอัจฉริยบุคคลคนหนึ่ ง
เขามี รูป ร่ า งสง่ า งาม มี ชื่ อ เสี ย งทางด้ า นการประพัน ธ์ แ ละมี
หน้ าตาหล่อเหลาที่ สุดในเมืองหลวง อีกทัง้ ยังขึ้นชื่อด้านความ
อ่อนโยนเห็นอกเห็นใจต่ อหญิงงาม จึงค่อนไปทางเจ้าชู้ เหล่า
ขุนนางและคหบดีล้วนมีใจอิจฉาริษยาถานเฉิงจี้ที่จะได้บตุ รเขย
ที่สมบูรณ์แบบเช่นนัน้

ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันจึงไม่แปลกหากผู้หญิงจานวน
มากในเมืองหลวงจะหมายปองเจิ้งชิงหมิง และอิจฉาถานหวัน่
ชิงซึ่ งเป็ นคู่หมัน้ คู่หมาย ตรงข้ามกับถานหวันช
่ ิ ง ด้ วยคู่หมัน้
และว่ า ที่ ส ามี ใ นอนาคตไม่ เ คยใส่ ใ จนางเท่ า ใดนั ก ความ

2
ประทับใจที่ นางมีต่อเขาจึงจืดจางลงตัง้ แต่ ยงั ไม่พ้นครึ่งปี และ
นางก็จารูปร่างหน้ าตาของเขาไม่ได้แล้ว

หญิงสาวเลิกผ้าม่านออก มองไปยังคนที่ เดินเข้ามาใน


ห้องพร้อมกับกลิ่นสุราคละคลุ้ง ภายใต้แสงเทียนที่วบู ไหว แวว
ตาดุจหมาป่ าดุร้ายจ้องเขม็ง มาที่ นาง แต่ อีกฝ่ ายกลับยืนห่ าง
จากผ้าม่านหนึ่ งก้าว ไม่ยอมเข้ามาใกล้

ในใจของถานหวันช ่ ิ งเข้าใจอย่างชัดเจน ที่ เซี่ ยเฉิงจู่ไม่


เดินมาหาแล้วเลิกผ้าม่านออก ก็เพราะกลัวว่าความเย็นบนร่าง
เขาจะท าให้ น างหนาว จึ ง ได้ แ ต่ ยื น ค ารามอยู่ ด้ า นนอกด้ ว ย
ความหวาดระแวงและความคับแค้นใจที่ฝังแน่ นเต็มอก ช่างน่ า
ขันนักที่เขาหึงหวงคนที่ตายไปแล้ว

นางไม่ ใช่ ด อกไม้ที่ อยู่บนกิ่ง สูง เกิน เอื้ อม ทว่ า นางเป็ น


ดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินตัง้ นานแล้ว อีกทัง้ เปรอะเปื้ อนไป
ด้วยโคลนตมสกปรก มีเพียงเขาที่ เก็บดอกไม้นี้ขึ้นมา แล้วยึด
เป็ นของลา้ ค่าที่ต้องดูแลปกป้ องและเก็บรักษาไว้อย่างดี

ความจริงแล้วที่ เขาถามไม่ใช่ต้องการต่ อว่านาง แต่เป็ น


เพราะเจ็บปวดใจก็เท่านัน้

3
หญิงสาวมองอี กฝ่ ายพลางยิ้มให้ จากนัน้ สี หน้ าก็ค่อยๆ
แปรเปลี่ยนเป็ นเสี ยใจ แล้วเอ่ยเสี ยงอ่อน “ข้าจะลืมได้อย่างไร
ข้ากับเขาหมัน้ หมายกันตัง้ แต่ยงั แบเบาะ ความรักในวัยเด็กไม่
มีผ้ใู ดคาดเดาได้ ตอนนี้ ค่หู มัน้ ของข้าก็ตายไปแล้ว หากว่ากัน
ตามประเพณี เดิมทีข้าก็ต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้เพื่อเขา”

ใบหน้ าของชายหนุ่ มที่ ขาวเพราะสภาพอากาศที่ หนาว


เหน็ บในคราแรกยิ่งซีดลงไปอีก ดวงตาจับจ้องคนตรงหน้ าปาน
จะกลืนกิน เอ่ยอย่างไม่เชื่อหูตวั เอง

“เจ้าพูดจริงรึ? ในใจเจ้ามีเขาอยู่จริงๆ ลืมเขาไม่ลงเลย


หรือ?”

เจ้าจึงตัง้ ใจจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ให้มนั งัน้ สิ!

ชายหนุ่ มกามือแน่ นอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เขา


อยากจะเอากาปั ้นทุบโต๊ะตรงหน้ าให้ พ งั จนใจจะขาด ตอนนี้
หัวใจของเขาดังถูกนางทิ่มแทงจนเจ็บปวดรวดร้าวไปหมดแล้ว

ถานหวันช ่ ิ งก้าวลงจากเตี ยงแล้วก้าวไปบนพรมขนสัตว์


เพราะเซี่ยเฉิงจู่ร้วู ่านางหวาดกลัวความหนาวจึงนาขนสัตว์มาปู
พื้นให้ ทงั ้ ห้ องโดยเลือกสี โทนเดี ยวกัน นางเข้ามายืนตรงหน้ า

4
เขา ก่อนจะยิ้มแบบขบขันแล้วจับกาปัน้ ของเขาไว้ นางเห็นอีก
ฝ่ ายหน้ าตาเครียดจัดจนเส้นเลือดปูดโปน ช่างน่ ากลัวนัก

เซี่ ย เฉิ งจู่ ส ะบัด มื อ นางออกด้ ว ยความโกรธสุ ด ขี ด


หน้ าอกกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรง วาจาที่ เอ่ยเต็มไปด้วยโทสะ “ที่
แท้เจ้าก็รกั ษาพรหมจรรย์ไว้ให้มนั ทาไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ”

ถึงจะบอกเร็วกว่านี้ ข้าก็ไม่มีวนั ยอมให้ เจ้าสมหวังเป็ น


อันขาด!

ถานหวันช่ ิ ง กลับ ขยับ เข้ ามาชิด มากขึ้น จากนั น้ ก็แนบ


ใบหน้ ากับอกแกร่ง “เป็ นตามที่ บอกเมื่อครู่ว่าข้ ากับเขาหมัน้
หมายกันตัง้ แต่ แบเบาะ ทว่าไม่เคยใกล้ชิดกัน หน้ าตาของเขา
เป็ นอย่างไรข้าก็จาไม่ได้แล้ว...”

นางเอ่ยมาถึงตรงนี้ กร็ ้สู ึ กได้ถึงอกแกร่งที่ สนสะท้


ั่ านอยู่
แล้วยิ่งโยกคลอนกว่ าเดิม ใบหน้ าเหนื อหัว ก้ มลงมามองนาง
“เจ้า...”

ถานหวันช่ ิ ง ยิ้มน้ อยๆ แล้ ว ดึ ง เขามาจนถึง ผ้าม่ านบาง


หน้ าเตี ยง “ถึ ง อย่ า งไรใต้ เท้ าก็ ไ ด้ เ ปลี่ ย นชื่ อข้ า มาเข้ า

5
สามะโนครัวเมืองเว่ยอันแล้ว ข้าไม่ได้แซ่ ถานตัง้ นานแล้ ว จึง
ไม่จาเป็ นต้องรักษาพรหมจรรย์อีก”

“ถ้าเช่ นนัน้ ทาไมเจ้าถึงไม่ยอมแต่ งเข้าตระกูลข้า? หรือ


จริงๆ แล้วเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า?”

“ใต้ เท้ า ท่ านก็รู้ว่าข้าไม่ชอบความหนาว รอให้ อากาศ


อบอุ่นกว่านี้ สกั หน่ อยไม่ได้หรือ...”

เซี่ยเฉิงจู่รา่ สุรามาไม่น้อย ความคิดจึงไม่ค่อยกระจ่างนัก


อีกทัง้ ถูกคาพูดของนางทาให้อารมณ์ ขึ้นๆ ลงๆ เมื่อได้ยินนาง
พูดออกมาจากปากว่าไม่มีความรู้สึกอะไรกับบุตรชายของเจิ้ง
เอวี๋ ย นแล้ ว อี ก ทัง้ การที่ น างเอ่ ย ปากว่ า ชอบอากาศอบอุ่ น
เกลี ยดความหนาวเย็น เป็ นนั ยคล้ายกับว่าเมื่ออากาศอุ่นขึ้น
แล้วจึงค่อยจัดงานมงคลสมรส ทาให้จิตใจเซี่ ยเฉิงจู่สงบลงและ
อดดีใจไม่ได้

ทว่ าชายหนุ่ มยัง คงเอ่ ยอย่างไม่ไว้ วางใจ “ครัง้ นี้ จริงๆ


นะ?” จากนัน้ ก็ถามย้า้ อีกครัง้ “เจ้าพูดจริงใช่ไหม?”

6
ถานหวันช ่ ิ งเพียงยิ้มให้แล้วโน้ มลาคอของเขาลงมาก่อน
จะประทับจูบบนริมฝี ปาก จุมพิตลึกซึ้ งดูดดื่ มยาวนานจนลม
หายใจของทัง้ สองหอบสะท้าน

ชายหนุ่ มลูบไล้ไปบนร่างงดงามจนชุดเบาบางหลุด ร่วง


เซี่ยเฉิงจู่อยากจะพูดบางอย่าง แต่เมื่อก้มมองนางชัดๆ สีหน้ าก็
พลันเปลี่ยนไป เพราะข้างในคือ...

ใบหน้ า ที่ เ พิ่ ง อบอุ่น ด้ ว ยค าพูด ของถานหวันช


่ ิ ง เมื่ อครู่
กลับมืดครึ้มขึ้นอี กคราทันที ที่เห็นชุดสี แดงสองชิ้นเล็กๆ บน
เรือนร่างนาง “นี่ เจ้า...เจ้าสวมใส่อะไรกัน?”

“ชุดรัดหน้ าอกนี้ กาลังเป็ นที่ นิยมของหญิงสาวในเมือง


หลวง ท่านว่าสวยไหม?”

เขาไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีอื่น แล้วจะเคยเห็นของแปลก
ประหลาดที่ หาได้ยากยิ่งเช่นนี้ ได้อย่างไร? ทว่าผ้าสองชิ้นนี้ ช่าง
เล็กจนน่ าเวทนานัก ห่อนางได้ไม่หมดด้วยซา้ ...

ถานหวันช ่ ิ ง กลับ หัน ไปหยิ บ สมุ ด ภาพที่ น างเพิ่ ง ดูก่ อ น


นอนขึ้นมาพร้อมกับยิ้มน้ อยๆ ขณะที่ มองเขา นางพลิกหน้ าที่
พอใจยิ่งแล้วชี้ให้เขาดู

7
เซี่ ย เฉิ งจู่ ดึ ง สายตาจากชุ ด รัด อกสี แ ดงชิ้ น น้ อยแล้ ว
เหลือบมองตามนิ้วของนาง ครัน้ เห็นภาพที่ นางยัดใส่ มือของ
เขาแล้ว ดวงตาก็ยิ่งเบิกกว้างกว่าเดิม

นี่ ...สิ่ ง ที่ อ ยู่ ใ นสมุ ด ภาพนี่ คื อ ...อะไร? ชายหนุ่ มดัง ถื อ


เผือกร้อน เขาปล่อยสมุดภาพหลุดจากมือด้วยท่าทางตกตะลึง
พรึงเพริด

ที่แท้สองคนในภาพก็กาลัง...

ขณะเดี ย วกัน สองเท้ า เล็ก ของร่ า งบอบบางตรงหน้ า ก็


แทรกเข้ามาระหว่างสองเท้าแกร่งของอีกฝ่ ายที่อ้าปากค้าง...

แม่ทพั หัวเมืองตื่ นตกใจ พอตัง้ สติได้ กเ็ ห็นคนตรงหน้ า


จับมือเขาไปลูบไล้เอวนาง บ่งบอกความประสงค์อย่างชัดเจน
ภายใต้แสงเทียนส่องสว่าง

ใบหูของชายหนุ่มแดงกา่ ขึ้นมาอย่างห้ ามไม่อยู่ สายตา


จับจ้องที่ อกขาวเนี ย นนุ่ ม ลาคอเรียวระหง ลมหายใจรับ รู้ได้
เพียงกลิ่นหอมเย้ายวน ภาพน่ าอัศจรรย์เมื่อครู่ทาให้สมองพร่า
มัวจนคิดอะไรไม่ออก

8
กอปรกับอาการเมา กรึม่ ๆ ทาให้สติสมั ปชัญญะตัง้ มันได้

่ ่ ชายหนุ่มกลืนน้าลายลงคอ จิตใจสันสะท้
เพียงชัวครู ่ านสุดท้าย
ก็แตกพ่ายไม่เป็ นขบวน เขาช้อนมือเข้าใต้ข้อพับเข่าดังในสมุ
่ ด
ภาพแล้วค่อยๆ อุ้มร่างบางขึน้ มา

ไท้สื่อปี ที่แปด หญิงสาวพลัดถิ่นมาได้หนึ่ งปี หลังมีการยึด


ทรัพย์จวนตระกูลถาน

ยามเหมา ด้ านนอกยัง มี เ สี ย งประทัด แว่ ว มาเป็ นระยะ


ตามขนบธรรมเนี ยมประเพณี เก่าแก่ ที่ เมื่อท้ องฟ้ าสว่างก็จะมี
การเปิดประตูบ้านแล้ ว จุด ประทัด ไล่ ภูต ผี ปีศาจและเพื่ อขจัด
โรคภัยไข้เจ็บ

ช่ ว งเวลานี้ บ างบ้านก็จุด ประทัด บางบ้านก็เ งี ย บเชี ย บ


ด้ วยกาลังจุดเตาไฟ บ้างก็มีเสี ยงกระทบกันของจานชาม ทุก
หลังคาเรือนจะได้กลิ่นหอมจากข้าวและเนื้ อโชยมา

หลายบ้ า นแถวถนนเป่ ยเหมิ น พากัน เปิ ดประตู ใ หญ่


ออกมาต้ อนรับ ปี ใหม่ ทัง้ ชายและหญิง สวมเสื้ อ ผ้า ใหม่ เ อี่ ย ม
รองเท้าสะอาด การแต่งกายล้วนดูดี

9
เ มื่ อ แ ต่ ล ะ ค น ไ ด้ พ บ ห น้ า กั น ก็ จ ะ มี ก า รแลก
เปลี่ยนของขวัญ ปากก็จะเอ่ยแต่ คาอวยพรที่ เป็ นมงคล อี กทัง้
ยังมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

ทว่ า บ้า นเล็ก หลัง หนึ่ ง ในละแวกนั น้ ที่ แขวนป้ าย ‘จวน


ตระกูลเซี่ย’ กลับปิดประตูเงียบ

บริ เ วณลานบ้ า นมี แ ผ่ น โคลงกลอนสี แ ดงติ ดอยู่ บ น


หน้ าต่างติดภาพตัดกระดาษลายผีเสื้อและห่านบิน มีต้นท้อสอง
สามต้นใกล้หน้ าต่างกับห้องครัวเล็ก

ด้านในห้องครัวมีควันขาวลอยออกมา บนเตาขนาดเล็ก
มีหม้อส้าหรับอุ่นนมสีม่วง ได้กลิ่นหอมของน้ านมโชยมาปะทะ
จมูก

ในถาดบนโต๊ะมีเนื้ อทอดรสเลิศกลิ่นหอมฟุ้ง กาและถ้วย


น้าชา บ๊ะจ่าง และขนมต่างๆ นานาวางรวมกันอยู่

ลุ่ย จูจดั เตรี ย มอาหารเช้ า ให้ เ จ้ านายอย่ างคล่ องแคล่ ว


ด้ ว ยสี ห น้ าเบิ ก บานใจ นางเรี ย งหอยใส่ จ านแล้ ว ราดน้ า
เปรีย้ วหวาน จากนัน้ ก็อ่นุ น้าแกง ก่อนจะเอาพวกมะเขือดองกับ
หน่ อไม้ดองที่คณ ุ หนูชอบมากในช่วงนี้ หนใส่ ั ่ จานเล็กๆ แล้ววาง

10
บนถาด ผักพวกนี้ จะช่วยให้คุณหนูเจริญอาหาร อี กทัง้ ไม่เพียง
แค่รสชาติอร่อย แต่ยงั แก้เลี่ยนได้ด้วย

ทว่าอาหารที่พิเศษจริงๆ บนถาดนัน้ ก็คือห่านฟ้ าย่าง ซึ่ง


ถือว่าเป็ นอาหารที่ หากินได้ยาก ใต้เท้าเซี่ ยให้คนเอามาส่งเมื่อ
วาน แต่ น างใช้ ท าอาหารไม่ ห มด เหลื อ บางส่ ว นไว้ ว นั นี้ โดย
ุ หนูกินคู่กบั โจ๊กในตอนเช้า
ตัง้ ใจจะย่างให้คณ

เนื้ อห่านฟ้ ามีเพียงสิบชิ้นเท่านัน้ ซึ่งนับว่าเพียงพอสาหรับ


คุณหนู เพราะอาหารจาพวกเนื้ อคุณหนูมกั จะกินได้น้อย อีกทัง้
ไม่ต้องแบ่งให้ใต้เท้าเซี่ย ดังนัน้ อาจจะเหลือด้วยซา้

ความจริงแล้ว ใต้ เท้ าเซี่ ยชอบเนื้ อมาก อี กทัง้ ยังกิน อยู่


ง่าย ทว่าหากอาหารใดที่ มีน้อยหรือหายาก เขาก็จะเก็บไว้ให้
คุณหนูกินคนเดียวโดยไม่แตะต้องมัน ดังเช่ ่ นเนื้ อห่านฟ้ าที่ เขา
เป็ นคนหามาให้กเ็ ป็ นของหายากเช่นกัน เขาจึงไม่แตะแม้สกั คา
เดียว รอจนคุณหนูกินเหลือ จึงจะจัดการต่อจนหมด

หากจะเอ่ยถึงความประทับใจที่ล่ยุ จูมีต่อใต้เท้าเซี่ย ตอน


แรกนางคิดเพียงเขาหมายปองของสูงค่า ทว่าตอนนี้ ความคิดที่
นางมีต่อใต้เท้าก็เปลี่ยนไปมาก

11
เมื่อคืนเขาทาให้นางตกใจกลัวจนหัวใจเต้ น โครมคราม
แทบจะหลุดออกมาจากอก แต่โชคดีที่ระยะหลังๆ ต่อให้เขาจะ
โกรธเกรี้ยวเพียงใด เพียงได้ยินคาพูดไม่กี่ประโยคของคุณหนู
จิตใจก็อ่อนยวบลงไปแล้ว นางยืนนิ่งฟั งอยู่สกั พัก พอเห็นว่า
สงบดี แ ล้ ว จึ ง วางใจ กลับ เข้ า ห้ อ งไปนอนได้ ถ้ า เป็ นเช่ น นี้ ไ ป
ตลอด ชีวิตนี้ ของคุณหนูกค็ งไม่ต้องหนี อีกแล้ว เด็กสาวครุน่ คิด
พลางยิ้มน้ อยๆ

ไม่ รู้ว่ าเมื่อก่ อนนางได้ ยิน ใครพูดว่ าเขานั น้ มุทะลุดุดนั


และหยาบกระด้างเป็ นที่ สุด พอมาตอนนี้ ความหยาบกระด้าง
กลายเป็ นเพี ย งภาพภายนอก ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ดู แ ลและเอาใจใส่
คุณหนูเป็ นอย่างดี เขาคอยเป็ นห่วงคุณหนูอยู่ตลอด คงไม่มีผู้
ใดดีกบั คุณหนูมากไปกว่านี้ อีกแล้ว

เซี่ ยเฉิงจู่ตื่นนอนตัง้ แต่ เช้าตรู่ เขาตื่ นตัง้ แต่ ตะวันยังไม่


โผล่พ้นขอบฟ้ า ด้านนอกมีไอหมอกและเกล็ดหิมะชวนให้หนาว
สะท้าน แม้แต่ ต้นไม้ยงั มีน้ าค้างเกาะพราวให้เห็นทุกวันจนคุ้น
ชิน ทว่ายังไม่มีพืชผลิใบดังเช่นฤดูใบไม้ผลิเลย

ชายหนุ่ มฝึ กเพลงหอกเพื่อออกกาลังอยู่กลางลานบ้าน


คงเพราะเกรงว่าเสียงตวัดหอกกลางอากาศจะดังจนรบกวนคน
กาลังหลับให้ตกใจตื่น การเคลื่อนไหวของเขาจึงช้าลงกว่าเดิม
12
ปกติเขาจะฝึ กเพลงหอกทุกวัน วันละอย่างน้ อยครึ่งชัวยาม
่ แต่
วันนี้ เขาฝึ กได้แค่สองเค่อก็หยุดแล้ว

ชายหนุ่ มตรงไปอาบน้ าทันที ที่ฝึกเสร็จแล้ว เปลี่ ยนมา


สวมชุ ด คลุ ม ยาวสี ข าวขอบเงิ น ตัว ใหม่ จากนั ้น ก็เ ดิ น ไปทาง
ห้องครัว ทุกวันหลังฝึ กซ้ อมเขาจะมากินอาหารที่ นี่ ลุ่ยจูร้เู ป็ น
อย่างดี จึงยกจานเนื้ อผัดซี อิ๊วราดข้าวไปให้ ก่ อนจะถามเสี ยง
เบาว่า ใต้เท้าต้องการให้นางไปปลุกคุณหนูขึน้ มากินด้วยไหม

เซี่ ย เฉิงจู่มองสี ท้องฟ้ าอยู่ครู่ใหญ่ ขอบฟ้ าเพิ่ ง มี แสงรุ่ง


อรุณส่องมาราไร เห็นได้ว่ายังไม่ใช่เวลาตื่นของถานหวันช ่ ิ ง เขา
ไม่อยากให้ใครไปรบกวนการนอนของหญิงสาว จึงโบกมือห้าม
ลุ่ยจูแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ให้นางนอนพักไปเถิด หากต้องตื่นแต่
เช้าเดี๋ ยวจะไม่สดชื่นเปล่าๆ” อี กทัง้ เมื่อคืนนางก็นอนดึกมาก
ด้วย

ลุ่ยจูคิดว่าคาพูดของใต้ เท้ าบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ ยิ่ง


กว่าอะไรทัง้ หมด ในน้าเสียงอีกฝ่ ายไม่มีคาตาหนิติเตียนแม้แต่
น้ อย นางจึงยิ้มกว้าง รีบตอบรับอย่างว่องไว

“เจ้าค่ะ”

13
จากนั ้น เด็ก สาวก็รี บ ไปยัง ห้ อ งฝั ง่ ตะวัน ตกเพื่ อ ดู เ ด็ก
น้ อยฝูอินที่ใกล้จะตื่นแล้ว

14
72 กล่องปริศนา

วันนี้ คือวันแรกหลังจากผ่านพ้นปี ใหม่ ถึงจะต้องออกไป


พบปะตามนัดหมาย แต่กไ็ ม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทางาน

หลังจากเซี่ ยเฉิงจู่กินอาหารเช้ าเสร็จแล้ว เขาก็จดั การ


เก็บกวาดทาความสะอาด ไม่ว่าจะเป็ นประทัดที่จดุ เมื่อวานหรือ
หิมะที่ พดั เข้ ามาเต็มลานบ้าน จากนั น้ ชายหนุ่ มก็ยงั ไปผ่าฟื น
สาหรับก่อไฟ แล้วเติมน้าในโอ่งจนเต็ม

ถึงเขาจะเป็ นผู้ปกครองเมืองที่ อยู่เหนื อทุกคนในเว่ยอัน


ทว่าตอนที่มารดาป่ วยและน้ องชายยังเป็ นทารก ทัง้ งานในบ้าน
และนอกบ้านล้วนเป็ นเขาทาคนเดี ยว ดังนั น้ งานบ้านเหล่ านี้
เซี่ยเฉิงจู่จึงทาได้อย่างคุ้นเคยและคล่องแคล่ว

เมื่อชายหนุ่มจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็อาบน้า
เปลี่ยนเสื้อผ้า มาถึงตอนนี้ ดวงอาทิตย์กเ็ คลื่อนสูงอยู่ในระยะ
สายตาพอดี

แสงอาทิ ต ย์ส าดส่ อ งผ่ า นบานหน้ าต่ า งเข้ า มากระทบ


ผ้าม่านแพรต่ วนทาให้ ในห้ องอบอุ่นมากยิ่งขึ้น กระทังเตี ่ ยงที่

1
ปกติจะอุ่นก็เริ่มร้อน ทาให้รา่ งบางที่อยู่ใต้ผา้ ห่มนวมนุ่มสีขาวที่
เดิมหลับสนิทเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวงัวเงียถีบผ้าห่มออก จึงเห็น
ขาเรียวขาวผ่องโผล่ออกมา

เซี่ ย เฉิ งจู่ที่ เ ปลี่ ย นเสื้ อ ผ้า เสร็จ แล้ ว เตรี ย มจะออกจาก
บ้าน ทว่าก่อนไปชายหนุ่มก็ตงั ้ ใจจะเข้าไปดูคนในห้องสักหน่ อย
ทันที ที่เปิดผ้าม่านคลุมเตี ยงออกก็ได้ กลิ่นหอมโชยมา อี กทัง้
ภาพที่ปรากฏตรงหน้ าก็ทาให้เลือดกาเดาแทบพุ่ง

ชายหนุ่มหวนนึ กถึงภาพการงอนง้อระหว่างสองคนเมื่อ
คืนนี้ ใบหน้ าใต้เท้าเซี่ยพลันแดงกา่ ขึน้ มา เขาค่อยๆ ทรุดตัวลง
นัง่ ข้างๆ ดวงตามองไล่จากไหล่ไปยังแผ่นหลังขาวนวลเนี ยนที่
มี ผ้า ห่ ม คลุ ม หมิ่ น เหม่ ใบหน้ า งามต้ อ งแสงแดดดูแ ดงระเรื่ อ
กลีบปากนุ่มเนี ยนเผยอออกเล็กน้ อย อวดฟั นขาวประดุจไข่มุก
ยิ่งมองยิ่งเกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ จนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไป
สัมผัสลูบไล้แก้มสีชมพูที่เนี ยนใสและลื่นดุจแพรไหม

มือของเซี่ ยเฉิงจู่หยาบกระด้างแบบมือของคนที่ ฝึกยุทธ์


มานาน จึงระคายผิวหน้ าเนี ยน เมื่อเขาลูบไล้ใบหน้ านางอีกครัง้
ก็ก่อกวนคนหลับสนิทให้ ร้สู ึ กตัว หญิงสาวขยับกายเสี ยดสี กบั
ผ้าห่มอยู่ครูห่ นึ่ งก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาแล้วหรี่มอง

2
“ฮึ หากว่ า เจ้ า ได้ แ ต่ ง เข้ า ตระกูล เจิ้ ง จริ ง ๆ ก็ค งเป็ น
แม่บ้านที่ ดีมาก ช่างทาตัวตามสบายแล้วนอนขี้เซาได้ขนาดนี้
เจ้ารู้บ้างไหมว่าตอนนี้ เป็ นเวลาใดแล้ว แม้แต่ฝอู ิ นก็ยงั ตื่นแล้ว
เลย...” น้ า เสี ย งชายหนุ่ มยัง คงแฝงความหึ ง หวงอยู่เ ล็ก น้ อ ย
เห็นได้ชดั ว่าเป็ นผลตกค้างมาจากเมื่อวาน

เซี่ ยเฉิงจู่รบั ราชการทหารมากว่าห้าปี จึงพูดอะไรดีๆ ไม่


ค่ อยเป็ น หญิง สาวเพิ่ง ตื่ นนอน ท่ าทางยังคงสะลึ มสะลื อและ
สายตายังคงพร่ามัวเหมือนมีหมอกกัน้ เขารีบดึงมือกลับ ปัน้ สี
หน้ าให้เคร่งขรึมจริงจัง

คนในผ้าห่มเพียงรู้สึกตัวแต่สมองยังว่างเปล่าขาวโพลน
คาพูดของเขาจึงเหมือนมีเส้ นใยเบาบางกางกัน้ ไว้ หาได้ทะลุ
ทะลวงไปถึงสมองของนางไม่ นางคิดได้ อย่ างเดี ยวคื ออยาก
นอนต่อ

เซี่ ยเฉิงจู่รู้และเข้าใจโรคของนางอยู่บ้างจึงถอนหายใจ
แล้วก็ประคองร่างบอบบางลุกขึ้นนัง่ ...เขาจาเป็ นต้องทาให้นาง
ตื่นนอน ไม่เช่นนัน้ เกรงว่าอาหารมือ้ เช้าจะรวมอาหารมื้อเที่ ยง
เข้าด้วยกันแน่ ๆ

3
เพราะอยู่บนเตียงอุ่นเป็ นเวลานานทาให้ผิวกายของนาง
ค่ อ นข้ า งแห้ ง นางสลัด ผ้ า ห่ ม ออก ใช้ ช ายหนุ่ มที่ ร่ า งกาย
ค่อนข้างเย็นในตอนนี้ มาแก้ปัญหาเรือ่ งผิว

่ ิ งครางเสี ยงเบา เปลื อกตายังคงปิด


“อื ม...” ถานหวันช
มือและแขนปี นป่ ายแนบชิดร่างเย็นอย่างแนบแน่ น...ช่างสบาย
เสียจริง

ถึงกระนัน้ เซี่ ยเฉิงจู่กย็ งั หัวโบราณพอสมควร ยามคา่ คืน


ทัง้ สองจะหลงระเริงเกาะกุมกันอย่างไรก็ย่อมได้ ทว่าเวลานี้ ถึง
จะปิดประตูห้ องแล้ ว ก็ต าม แต่ เ ป็ นตอนกลางวัน แสกๆ แสง
สว่างจ้า ทว่าเมื่อมองเห็นภาพที่ ชวน ‘ใจหายใจควา่ ’ ขนาดเขา
ซึ่งเป็ นคนเคร่งขรึม ดวงตาก็ยงั ทอประกายวิบวับอยู่ในที

ชายหนุ่มพยายามดึงนางออกอย่างเบามือ ทว่าถานหวัน่
ชิงกลับกอดเขาแนบชิดไม่ยอมปล่อย เขาทาอย่างไรก็ปลดร่าง
บางออกจากตัวไม่ได้เสียที ไม่ใช่ว่าเขาจะไร้เรี่ยวแรง เพียงแต่
กลัวว่าหากดึงแรงเกินไป ผิวนางอาจจะชา้ ได้

ใต้ เท้ าเซี่ ยจาต้ องปล่อยมือจากผิวเนี ยนนุ่ มแล้วเปลี่ยน


มากุม เอวบางของนางแทน พลางออกแรงอี ก เล็ก น้ อย ผล

4
ปรากฏว่านางกลับปี นป่ ายโดยใช้ขาหนี บเอวเขาไว้ เหมือนกับ
หมีเกาะต้นไม้อย่างไรอย่างนัน้

ร่ า งกายก าย าล ่า สัน ของเซี่ ย เฉิ งจู่ เกิ ด ความทรมาน


ในทันที ยิ่งอี กฝ่ ายเป็ นนางในดวงใจด้วยแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึง
อากัปกิริย าของนางในตอนนี้ ขนาดยามปกติ เ พี ย งแค่ ได้ ยิน
คาพูดอ่อนหวานไม่กี่ประโยค จิตใจของเขาก็แทบจะไม่เป็ นตัว
ของตัวเองอยากจะเข้าไปใกล้ชิดสนิทแนบ ยามนี้ ที่ยงั ยัง้ ใจอยู่
ได้กเ็ พราะฝึ กฝนจากการนั ง่ ตาแหน่ งผู้ปกครองเมืองมานาน
ตาแหน่ งนี้ ไม่เพียงต้องพึ่งเรี่ยวแรงกาลังอย่างเดียวเท่านัน้ แต่
เขายังต้องมีจิตใจที่แน่ วแน่ มนคงเก
ั่ ิ นวัยอีกด้วย

ดัง นั ้น เซี่ ย เฉิ งจู่จึ ง พยายามกัด ฟั น ทนจนกรามขึ้น สัน


สายตาเหลือบมองไปยังแสงตะวันด้านนอกแล้วก็พึมพาในใจ
ว่าไม่ได้ๆ จากนัน้ ก็รีบตัดใจหลับตาแล้วดึงนางออก

ทว่าเขาคงออกแรงมากไปหน่ อย ถานหวันช ่ ิ งจึงล้มลงไป


ในกองผ้าห่ มทว่าไม่มีส่วนใดบาดเจ็บ หญิงสาวทาเสี ยงฮึออก
จากจมูก นอนงอเข่ากอดขาทัง้ สองไว้แล้วขดตัวนิ่งอยู่เช่นนัน้

5
อาการทรมานในกายยัง ไม่ ดี ขึ้ น ก็ ถ ูก ภาพตรงหน้ า
กระหน่ าซา้ อีกรอบ ชายหนุ่มมองเส้นผมที่ ร่ยุ ร่ายปรกหลังไหล่
ก่อนจะมองไปยังด้านล่าง...

เซี่ ยเฉิงจู่พลันรู้สึกลนลาน สายตาราวกับถูก ดึงดูด เริ่ม


วิงเวียนศีรษะบ้างแล้ว

ตอนนี้ คือเวลาอะไร? ดวงอาทิตย์ขึน้ จนป่ านนี้ ...

เดิมที ความร้อนในร่างยังไม่จางหาย พอเผลอมองเพียง


แวบเดียว เลือดในกายก็พ่งุ กระฉูดอย่างบ้าคลังในฉั
่ บพลัน เขา
งอตัวหอบหายใจ มือทัง้ สองข้างจับขอบเตียงแน่ น

เขายื่ น มื อ มาลากผ้ า ห่ ม ออกอย่ า งยากที่ จ ะสกัด กัน้


ความรูส้ ึก ปากก็พรา่ เตือนตนเอง “ไม่ได้ ไม่ได้นี่มนั กลางวัน”

ทว่าลึกๆ ในใจก็มีความลังเลอยากจะฝ่ าฝื น...

ชายหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับละสายตาจากนาง เตรียม
ที่ จะหยัดกายลุกขึ้น ทว่าเท้าเพิ่งขยับ สายตาก็พลันมองเห็นว่า
ชุดคลุมยาวใหม่เอี่ยมที่ ตวั เองเพิ่งผลัดเปลี่ยนมาตรงตาแหน่ ง
เอวมีรอยเปื้ อน...

6
ทัน ที ที่ เ ห็น รอยนั น้ คนที่ จิ ต ใจมันคงแน่
่ ว แน่ ดวงตาก็
แดงกา่ ขึน้ มาทันควัน เมื่อนึ กถึงสาเหตุของรอยเปื้ อนที่ติดอยู่ ก็
ไม่ต่างจากเขื่อนกัน้ น้ าที่ พงั ทลายตลอดแนว เขามองไปยังร่าง
บอบบางกลางเตียงอย่างยากจะควบคุม สายตาไล้ผ่านเรียวขา
ขาวเจิดจ้าที่ เตะตา จนเห็นว่าหญิงสาวตื่นนอนเป็ นที่ เรียบร้อย
แล้ว นางกาลังมองมาทางเขาพลางหัวเราะอยู่ในใจ

เซี่ ยเฉิงจู่ร้สู ึกเหมือนบางอย่างในสมองขาดผึง อดทนไม่


ไหวอีกต่อไป มือใหญ่กระตุกเชือกผูกเอวออกอย่างว่องไวแล้ว
สะบัดเสื้อลงพื้น จากนั น้ ก็เลิกผ้าห่ มออกแล้วแทรกตัวเข้ าไป
ทันที

ผ้าห่มพลันสันไหวไปพร้
่ อมกับร่างบางที่ ขยับขึ้นลงตาม
แรงกระแทก

เจิ้งเอวี้ยไม่ได้รอให้ถึงวันที่สามแล้วค่อยมาทางาน

วันนี้ นางก็กลับมาทางานแล้ว เมื่อลุ่ยจูเห็นอี กฝ่ ายก็ตก


ตะลึง ในใจคิดว่าเด็กสาวคนนี้ เข้าใจสถานการณ์ มากที เดียว
ถึ ง คุ ณ หนู จ ะอนุ ญ าตให้ ห ยุ ด สามวัน แต่ ก ารที่ ต้ อ งดู แ ลทัง้

7
คุณหนูและฝูอิน เพราะแม่นมของฝูอินลากลับบ้านเกิดสองวัน
นางคนเดียวจัดการไม่ไหวจริงๆ

ช่ ว งเวลานี้ ใ ต้ เ ท้ า น่ า จะปลุก คุณ หนู แ ล้ ว ลุ่ ย จูจึ ง ให้ เ จิ้ ง


เอวี้ยถือกาน้ า ร้อนไปที่ ห้องคุณหนู ส่ วนตัวนางหลังจากผสม
น้าอุ่นเรียบร้อยแล้วจึงจะตามเข้าไป

เจิ้ง เอวี้ ยหิ้วกาน้ า ร้อนมาถึงหน้ าประตู ตอนที่ กาลังจะ


ผลักประตูให้เปิดออก ก็ได้ยินเสียงแว่วหวานดังมาจากในห้อง
เสี ยงราวกับคนร้องกาลังทรมานแต่ กลับแฝงไว้ด้วยความสุข
เสียส่วนใหญ่

ถึงเจิ้งเอวี้ยจะยังเด็กแต่กพ็ อเข้าใจอยู่บา้ ง พอได้ยินเสียง


นี้ ก็เข้ าใจชัดเจนว่ าเกิด อะไรขึ้นข้ างใน ใบหูแดงระเรื่อขึ้น มา
ทันที นางยื นทื่ ออยู่ครู่หนึ่ ง พอตัง้ สติได้ ก็หมุนกายวิ่งกลับไป
ทางเดิม

เด็กสาวอายุสิบกว่าๆ เพิ่งรู้จกั เรื่องความสัมพันธ์ช าย


หญิง ใบหน้ าจึงเต็มไปด้วยความเขินอาย นางอายจนแทบจะ
เอาหน้ าแทรกแผ่นดินหนี แต่ในใจคิดว่าเรือ่ งเช่นนี้ ไม่เหมาะสม
กลางวันแสกๆ เชี ยวนะ ด้านนอกคนเดินขวักไขว่ไปมา แล้ว

8
ท าไมจึ ง ...ท าไมจึ ง ท าเช่ น นี้ ได้ . ..ช่ า งขัด ต่ อ ประเพณี และ
ศีลธรรม หากคนอื่นรูเ้ ข้าไม่รวู้ ่าจะอับอายกันไปถึงไหน

ถานหวันช ่ ิ งตื่นนอนจริงๆ อีกครัง้ ตอนเที่ยงวัน หญิงสาว


กาลังนัง่ พิงหลังอยู่บนเตี ยงด้วยท่าทางขี้เกี ยจโดยที่ มีลุ่ยจูช่วย
จัดการแต่งตัวและทาผมให้ล่ยุ จูถกู คุณหนูทาให้ตกใจกับเรื่องนี้
บ่อยๆ จนเริ่มชินแล้ว ไม่เหมือนเจิ้งเอวี้ยที่สติไม่ค่อยอยู่กบั เนื้ อ
กับตัวนัก

คุณหนู ของนางมีความคิดเป็ นของตัวเอง คนส่ วนใหญ่


จะคิ ดว่ า ถานหวั น่ ชิ งอ่ อ นหวานละมุ น ละไม เป็ นสตรี ที่
เพี ย บพร้ อ ม มี เ พี ย งเด็ก รับ ใช้ ใ กล้ ชิ ด สามสี่ ค นเท่ า นั ้น ที่ รู้ว่ า
ความจริงแล้วคุณหนู ไม่ใช่ คนที่ จะปฏิบตั ิ ตามข้อกาหนดหรือ
เคร่งครัดเรือ่ งธรรมเนี ยมปานนัน้

“คุณหนูเจ้าคะ ข้ารู้สึกว่านับตัง้ แต่ที่ใต้เท้าเซี่ ยมาอยู่ที่นี่


สี หน้ าท่ านดีวนั ดีคืนเลยนะเจ้าคะ” ลุ่ยจูตงั ้ ข้อสังเกตขณะมอง
ภาพสะท้อนของเจ้านายบนคันฉ่ อง

คันฉ่ องนี้ จะเห็นภาพชัดเจนกว่าคันฉ่ องทัวไป ่ เป็ นหนึ่ ง


ในสิ่งของที่ ใต้ เท้าส่งมาเป็ นของหมัน้ ลุ่ยจูร้สู ึกว่าคุณหนู น่าจะ
ชอบ จึงนามันออกมาใช้สอย
9
่ ิ งเงยหน้ ามองตัวเองในคันฉ่ อง แต่
ถานหวันช

กลับนึ กถึงภาพที่เกิดขึน้ เมื่อคืนตรงหน้ าคันฉ่ องบานนี้ ...

ใบหน้ าของนางก็อดไม่ได้ที่จะแดงปลังขึ
่ น้ มา อย่าได้มอง
ว่าเซี่ ยเฉิงจู่จะวางมาดขรึมเลยเชียว เขาจัดการจนนางเหนื่ อย
หอบ เสร็จแล้วเขาก็เริ่มรังแกนางใหม่ ทัง้ ยัวเย้
่ าและหยอกล้อ
จนนางหน้ าแดง ดูอย่างตอนนี้ แค่คิดถึงใบหน้ านางก็แดงระเรื่อ
ขึน้ มาอีกแล้ว

“ดี ขึ้น จริ ง ๆ” ถานหวันช


่ ิ ง เอ่ ย ตามที่ คิ ด ในใจรู้ว่ า เป็ น
เพราะมีการปรับสมดุลของหยินหยางอย่างเหมาะสม สีหน้ าจึง
ดีขนึ้ เป็ นธรรมดา

เมื่อได้ ยินดังนั น้ ลุ่ยจูกร็ ีบพูดต่ อทันที “คุณหนู ก็รู้สึกใช่


ไหมเจ้าคะ? ที่ ข้าจะบอกคือ...ตอนที่ อยู่จวนตระกูลถาน หน้ า
หนาวทุกปี คุณหนู จะต้ องเป็ นไข้ สามถึงห้ าครัง้ ทว่าปี นี้ เป็ นไข้
แค่ครัง้ เดียว แต่นัน่ ก็เพราะคุณหนูเดินทางไกลและรับลมหนาว
ยาวนานจึงล้มป่ วย หากเป็ นเมื่อก่อนยามเข้าหน้ าหนาวคราใด
คุณหนูต้องนอนกลางวันนานสองถึงสามชัวยามเชี ่ ยวนะเจ้าคะ
แต่เดี๋ยวนี้ คณ
ุ หนูนอนกลางวันแค่สองเค่อก็พอแล้ว หนาซา้ ยัง

10
ไม่มีท่าที ง่วงเหงาหาวนอนหรืออ่อนเพลีย สี หน้ าก็ดีขึ้น อี กทัง้
กาลังวังชาของคุณหนูกม็ ีมากขึน้ ด้วยเจ้าค่ะ...”

ประโยคที่เหลือจากนี้ ล่ยุ จู ไม่หาญกล้าพูดออกมา...

แต่ก่อนถานหวันช ่ ิ งขี่ม้าบนเส้นทางคดเคี้ยวยาวเหยียด
หน่ อ ยก็ต้ อ งปวดร้าวระบมเอวไปทัง้ วัน ทว่ า ตอนนี้ . ..แรงใต้
เท้าเซี่ยผูน้ ัน้ ยิ่งกว่าม้า กระทังม้่ าศึกยังเทียบไม่ติด ตอนแรกลุ่ย
จูเข้าใจว่าใต้เท้าเซี่ยทรมานคุณหนู ทว่าหลายครังที ้ ่ได้ยิน ไม่ใช่
เสี ย งแห่ ง ความทรมาน ซึ่ ง นั น่ ก็ห มายความว่ า ร่ า งกายของ
คุณหนูดีกว่าปี ที่แล้วๆ มาก็เป็ นได้

ถานหวันช ่ ิ งกับลุ่ยจูมีความสัมพันธ์ดงั พี่สาวกับน้ องสาว


จึ ง ไม่ จ าเป็ นต้ อ งเลี่ ย งการใช้ ถ้ อ ยค า หลัง จากได้ ฟั ง นางก็
ครุน่ คิดสักพักจึงรูส้ ึกว่าที่ล่ยุ จูพดู มานัน้ มีเหตุผล หากอีกฝ่ ายไม่
เอ่ยถึงนางก็คงไม่ร้สู ึก ระยะหลังมานี้ นางรู้สึกว่าบางครัง้ ตนเอง
จะง่วงบ่อย แต่จิตใจกลับปลอดโปร่งขึน้ มาก

เมื่อใคร่ครวญอย่างละเอี ยดก็พบว่าเป็ นดังที่ ลุ่ยจูกล่าว


มาทัง้ หมด เมื อ งชายแดนเล็ก ๆ อย่ า งเว่ ย อัน เป็ นสถานที่ ที่
เหมาะแก่การดูแลรักษาสุขภาพได้ปานนี้ เชียวหรือ?

11
ลุ่ยจูกาลังปักปิ่นรูปนกยูงสีทองฉลุลายสามอันลงบนผม
ที่จดั แต่งอย่างดีของถานหวันช ่ ิ ง ที่ปากของนกยูงทุกตัวมีไข่มุก
สี ม่ ว งอมชมพู ห้ อ ยระย้ า ลงมา ตกแต่ ง ได้ อ ย่ า งเลอค่ า และ
สวยงามยิ่ง ถานหวันช ่ ิ งจ้องมองตัวเองในคันฉ่ อง พอใจกับฝี มือ
ของลุ่ยจูมากทีเดียว จึงเอ่ยชมอีกฝ่ ายไปหลายประโยค

ลุ่ยจูดีใจเป็ นที่สุด จากนัน้ ก็หยิบเครื่องประดับที่ น่าสนใจ


จัด แต่ ง ให้ ต่ อ โดยไม่ ไ ด้ คิ ด เลยว่ า ควรแต่ ง อย่ า งไรให้ ดูดี น่ า
พิสมัย

คนหนอคน พอได้รบั แรงกระตุ้นปลุกใจเข้า หน่ อยก็ยิ่ง


คึก ยิ่งเจ้าชมว่านางทาดี...นางก็ยิ่งหลงระเริง ทุกคนต่ างก็เป็ น
เช่ น นี้ กลายเป็ นเด็ก น้ อ ยห้ า ขวบขึ้น มาอย่ า งไม่ มี ข้ อ ยกเว้ น
พลันหญิงสาวก็นึกถึงฝูอิน “ทาไมไม่เห็นเจ้าลิงน้ อยมาเสียที?”

“อ้ อ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย อุ้ ม ฝูอิ น ไปด้ ว ยเจ้ า ค่ ะ ” การที่ คุณ หนู
เรี ย กฝูอิน ว่ าเจ้ าลิงน้ อยไม่ใช่ เ พราะเขาซุ กซน แต่ เ ป็ นเพราะ
เด็กชายผอมมาก ผอมเหมือนลูกลิงน้ อยอย่างไรอย่างนัน้ แล้ว
ลุ่ยจูกน็ ึ กบางอย่างได้ จึงหยิบกล่องขนาดย่อมออกมาจากชัน้
วางหวี “ก่ อ นที่ ใ ต้ เ ท้ า จะไป ได้ ส ัง่ ให้ ข้ า มอบของสิ่ ง นี้ ให้ แ ก่
คุณหนูเจ้าค่ะ”

12
่ ิ งฟังจบก็ยื่นมือไปรับ
“หืม?” ถานหวันช

ช่ วงนี้ เขาส่งสิ่งของมาที่ บ้านไม่น้อย ทรัพย์สินมากมาย


ในบ้านล้วนเป็ นของใต้เท้าเซี่ย นางกวาดตามองไปรอบๆ และ
รูว้ ่าบรรดาข้าวของในห้องนี้ เกินครึง่ มาจากเขา

กล่ อ งในมื อ มี ข นาดไม่ ใ หญ่ นั ก รู ป แบบเก่ า แก่ ม าก


แกะสลักลวดลายคล้ายกับกล่องเครื่องแต่งหน้ าของผู้หญิง แต่
ไม่ว่าจะดูอย่างไรทัง้ เนื้ อไม้และลักษณะของลวดลายแกะสลักก็
ยังดูเป็ นของราคาถูก ราคาไม่น่าเกินร้อยอีแปะ

“เขาได้บอกไหมว่ามันคืออะไร?” ถานหวันช ่ ิ งมองแล้ว


มองอี ก ไม่ได้ รีบร้อนเปิดกลับเอ่ ยถามลุ่ยจูแทน ทว่าเด็กสาว
กลับส่ายหน้ า

่ ิ งมองกล่องใบนัน้ อีกครัง้ ในเมื่อเป็ นของราคา


ถานหวันช
ถูกแต่ เขายังเก็บเอาไว้ หรือว่าจะมีความหมายที่ เก็บซ่ อนอยู่
นางนิ่งพักใหญ่ก่อนจะเปิดกล่องออก

ด้านในมีกาไลข้อมือหยกขาวหนึ่ งคู่ เครื่องประดับเงินที่


ประณี ตงดงามสองชิ้น รูปร่างลักษณะเป็ นรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้
ด้อยกว่าเครือ่ งประดับในยุคปัจจุบนั เลย

13
ถานหวันช ่ ิ งหยิบเครื่องประดับออกมา ก็เห็นว่าข้างล่าง
ยังมีโฉนดบ้านและตั ๋วเงินสองร้อยตาลึง โฉนดใบแรกคือบ้านที่
อยู่ปัจจุบนั ส่ วนอี กใบแม้ว่านางจะไม่รู้สถานที่ แต่ กร็ ู้ว่านี่ คือ
สถานที่ที่มารดาของเขาเกิด

่ ิ งจ้องมองอยู่ชวครู
ถานหวันช ั ่ ่ ก่อนจะเอาของวางกลับไว้
ที่เดิม แล้วโบกมือให้ล่ยุ จูออกไป

หญิง สาวเอนหลัง พิ ง เตี ย งแล้ ว มองไปที่ ก ล่ องนั น้ ด้ าน


นอกหน้ าต่ างแสงอาทิตย์หลังเที่ ยงยังนั บว่าแรงอยู่มาก เสี้ ยว
หน้ าหญิงงามเผยให้เห็นความงามแบบไร้ที่เปรียบ คอเสื้อกว้าง
และเป็ นเพราะการขยับตัวของนางที่ ทาให้ มนั ร่นลงไป เผยให้
เห็นลาคอระหงขาวเนี ยนเกลี้ยงเกลาดุจดังงาช้างแกะสลัก ยิ่ง
อยู่ ท่ า มกลางแสงแดดที่ ส่ อ งสว่ า งเช่ น นี้ ก็ เ ห็ น ได้ ช ั ด ถึ ง
ความรู้สึกในแววตาที่ มีแต่ความอ่อนหวานละมุนละไมชวนให้
หลงใหล

ไม่รู้ว่านานเท่ าไร หญิงสาวที่ อยู่ในความเงี ยบ จึงทอด


ถอนใจออกมาแผ่วเบา

14
73 ความเปลี่ยนแปลง

ถานหวันช่ ิ งรูว้ ่าของในกล่องใบนี้ เป็ นตัวแทนสิ่งใด แม้จะ


เทียบกับสิ่งของชิ้นอื่นที่เขาเคยให้มาแล้วจะไม่ใช่ของแพงอะไร
นัก แต่กลับมีค่ามากเมื่ออยู่ในมือของนาง

ในยุคสมัยนี้ สามีหนึ่ งคนมีภรรยาได้หลายคน หากได้ชื่อ


ว่าเป็ นภรรยาต้ องให้ ความเคารพต่ อสามี เมื่อก่ อนนางจึงไม่
เคยมอบความรักให้กบั ผู้ชายคนใด เพราะไม่ร้สู ึกว่าคุ้มค่าหาก
จะวางความรักไว้ในมือผู้ชายเหล่านัน้ ในเมื่อผู้ชายสามารถมี
ผูห้ ญิงได้มากหลายและมากรักได้ ตลอดชีวิตของเขาสามารถมี
ภรรยาคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ หรือ กระทังคนที
่ ่ห้า...จะกี่คน
ก็ได้เพราะล้วนชอบด้วยกฎหมาย

ความรักของผูห้ ญิงจึงเป็ นเรือ่ งที่โง่งมมาก หากวันใดนาง


มีรกั ย่อมหมายถึงการก้าวเข้าไปในเขตแดนอันตรายแล้ว

อี ก ทัง้ ตัว นางเองก็ย ัง ไม่ รู้ ว่ า จะสามารถมี ชี วิ ต อยู่ ใ น


ร่างกายนี้ ได้นานเท่าไร นางจึงหวังเพียงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่าง
สงบสุข

1
ตอนที่ หนี ออกมา เดิมถานหวันช ่ ิ งคิดเพียงจะหาสถานที่
สงบไร้การรบกวน และดาเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ต้องกลัด
กลุ้มกับเรื่องการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นและเรื่องไร้สาระของผู้คน
ในตระกูลสูงศักด์ ิ

ยามว่างชมดอกเหมยปลูกดอกเบญจมาศ ยามง่วงก็นอน
หลับ สนิ ทบนหมอนนุ่ ม และอบอุ่น หากพบเจอสิ่ ง ที่ ส วยงาม
น่ าสนใจก็หยิบพู่กนั ขึน้ มาวาดภาพเก็บไว้หรืออาจจะกระจายไป
ให้คนอื่นบ้าง ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างราบเรียบเท่านี้ กเ็ พียงพอ
แล้ว

แต่ คงเป็ นความคิดที่ ไร้เดี ยงสาเกินไป ความปรารถนา


เช่นนี้ ช่างยากเย็นยิ่งกว่าการปี นขึน้ สวรรค์เสียอีก หากจะทาได้
เกรงว่าต้องอยู่แต่ในแดนสุขาวดีเท่านัน้ เพราะสุดท้ายแล้วนาง
ก็ยงั ต้องพึ่งพาผูช้ ายอยู่ดี อยู่ใต้รม่ เงาของเขาเหมือนกับสถานที่
ที่นางหายใจในตอนนี้

ยิ่ ง เขามาท าให้ จิ ต ใจนางสัน่ คลอน ชี วิ ต ที่ เ รี ย บง่ า ยก็


เป็ นไปไม่ได้อีกแล้ว

การชอบใครสักคน มันคือความโชคร้ายจริงๆ!

2
พอคิ ด มาถึ ง ตรงนี้ ค วามหอมหวานก็เ ปลี่ ย นเป็ นทุ ก ข์
ตรมยากจะตัดสินใจ

ถานหวัน่ ชิ ง รู้สึ ก เหนื่ อ ยใจอย่ า งมาก โดยเฉพาะเรื่ อ ง


ตระกูลถานที่เปรียบเสมือนหอกที่แขวนไว้เหนื อศีรษะซึ่งไม่ร้จู ะ
หล่นลงมาใส่หวั เมื่อใด

แล้ ว ยัง ชี วิ ต ที่ ล่ อ งลอยไม่ มี ห ลัก แหล่ ง เป็ นของตัว เอง


โชคชะตาที่ ไม่ร้จู ะแปรผันไปทางใดดุจจอกแหนที่ ไร้ราก ดังนัน้
ความต้ องการที่ แท้ จริงของนางก็คือใครสักคนที่ อยู่ด้วยแล้ว
รู้สึกปลอดภัย เป็ นเหมือนรังไหมที่ อบอุ่น ชัวชี ่ วิตนี้ นางไม่เคย
ได้ ร ับ ความสงบสุ ข สิ่ งนี้ จึ ง กลายเป็ นสุ ด ยอดของความ
ปรารถนา

ความสัมพันธ์ในตอนนี้ อ่อนหวานอย่างมาก และนางก็


ชอบมากเช่นกัน แต่นัน่ ก็ยิ่งทาให้หวาดหวันต่
่ ออนาคตที่ไม่รจู้ ะ
เป็ นอย่างไรต่อไป

ด้ วยฐานะนั กโทษหลบหนี หากถูกจับได้ นอกจากนาง


อาจจะต้ องตายแล้ว อนาคตของเซี่ ยเฉิงจู่หรือแม้แต่ ชีวิตของ
เขาก็อาจต้องถูกทาลายด้วยเช่นกัน หากเป็ นเช่นนัน้ ฝูอินน้ อย
จะอยู่ อ ย่ า งไร หรื อ แม้ ฐ านะของนางจะไม่ ถ ูก เปิ ดเผย แต่
3
ร่างกายของนางจะอยู่ได้อีกนานเท่ าไร แล้วหากนางตัง้ ครรภ์
ลูกของนางก็จะต้องตกอยู่ในวังวนเดียวกันเพราะมีมารดาเป็ น
นักโทษ

ถานหวันช่ ิ งนึ กถึงพ่อบ้านหร่วนที่ ตนส่ งให้ ไปทาธุระใน


เมืองหลวงซึ่งห่างไกลจากที่นี่นับพันลี้

แล้วยังมีคนที่นางขอความช่วยเหลือผูน้ ัน้ ...

เรื่องสุขภาพของนาง เคยมีหมอมาตรวจให้ที่จวนตระกูล
ถานแล้ ว ดวงตาท่ านหมอซ่ อนความสงสารเอาไว้ไม่มิด นาง
เองคิดว่ามารดาเลี้ยงก็น่าจะรู้ อี กฝ่ ายจึงคิดว่าไม่จาเป็ นต้ อง
กาจัดนางให้ เสี ยเวลา หนาซา้ อาจจะขอบคุณนางที่ เป็ นสาเหตุ
ให้ชีวิตมารดาแท้ๆ ของตนสัน้ ลงด้วย

หญิ ง สาวเหลื อ บมองกล่ อ งของหมัน้ ล ้า ค่ า บนโต๊ะ แล้ ว


คิดถึงคนให้...

นางไม่อยากทาร้ายเขา...

ถานหวัน่ ชิ งรู้สึ ก ปวดศี ร ษะรุน แรง หัว ใจเต้ น ไม่ เ ป็ น


จัง หวะอย่ า งฉั บ พลัน เดื อ นสามต้ น ฤดู ใ บไม้ ผ ลิ อากาศเริ่ ม

4
อบอุ่น เมื่อทอดสายตามองทัง้ ในและนอกเมืองล้วนเห็นสีเขียว
อ่อนของต้นหยางกับต้นหลิวตามริมทาง

บ้านหลังเล็กแถบถนนเป่ ยเหมินใกล้ประตูทางเหนื อ...


ทันที ที่สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ต้ นท้ อที่ เคยเหี่ ยวก็ผลิ
ช่อดอกตูมสีชมพู ให้เห็นกิ่งก้านสาขาเอนไหวไปตามแรงลม

ข้างหน้ าต่ าง มีกิ่งท้ อกิ่งหนึ่ งยื่นเข้ ามาใกล้ บนกิ่งนั น้ มี


ดอกท้ อสองดอกกาลังบาน ช่ อดอกสันไหวเล็ ่ กน้ อยยามต้ อง
สายลม ราวกับจะอวดให้คนในห้องได้เห็นถึงความสวยงามของ
ตัวเอง

มือขาวเรียวยื่นมาลูบไล้ช่อดอกตูมสีชมพูเล็กๆ ตรงหน้ า
อย่างเบามือ กิ่งและก้านสันไหวน้
่ อยๆ ตามแรงจับ จากนัน้ ถาน
่ ิ งก็หนั กลับมาพูดกับเด็กชายวัยหกขวบที่กาลังจับจ้องอยู่
หวันช
ด้านข้าง “เจ้าชอบหรือ ลองวาดดูสิ”

พอได้ยินดังนี้ เด็กชายวัยหกขวบก็จ้องมองกิ่งท้อที่แกว่ง
ไกวไปมาด้ วยสายตาเหม่อลอยโดยไม่ขยับเขยื้อน ราวกับจะ
จ้องจนช่อดอกตูมคลี่กลีบแย้มบานออกมาได้อย่างไรอย่างนัน้
มือที่ถือพู่กนั ชุ่มน้าหมึกดานิ่งค้างอยู่นาน

5
ลุ่ยจูที่อยู่ข้างๆ กลัวว่าน้ าหมึกจะหยดลงบนเสื่อปูนอน
จนเลอะเทอะ ครัน้ พอจะเข้าไปทาความสะอาด ถานหวันช ่ ิง
กลับส่ายศีรษะห้าม

หลังจากผ่านพ้นเทศกาลปี ใหม่ ฝูอินก็มาเรียนกับนางทุก


วันทัง้ เช้าและเย็นจนตอนนี้ ร่วมเดือนแล้ว เขาคุ้นชินกับการวิ่ง
มาเรียนกับนางที่หออักษรช่วงเช้าแล้วรอจนเลิกเรียน

ความรู้สึกของเด็กชายค่อนข้างช้า เขามักจะวิ่งมายังมุม
ที่ ค นอื่ น มองไม่ เ ห็น แล้ ว นั ง่ อยู่ ค นเดี ย วจากนั ้น ก็เ ขี ย นวาด
ตามใจ กระทังวั ่ นเวลาผ่านไป ฝูอินได้เห็นเด็กหญิงเล็กๆ หลาย
คนกาลังสนใจกับการลอกภาพวาด ส่ วนอาหญิงก็ตงั ้ อกตัง้ ใจ
สอนวิธีวาดให้กบั พวกนาง ตลอดระยะเวลาหนึ่ งเดือน ในที่สดุ ฝู
อินก็มีถานหวันช ่ ิ งอยู่ในโลกของตัวเอง ดวงตาคู่นัน้ มักจะหัน
ไปมาตามการเคลื่อนไหวของนาง แต่ถานหวันช ่ ิ งกลับไม่สอน
เขา

นางได้ แ ต่ เ ฝ้ าดู แ ต่ ไ ม่ บ อกกล่ า วให้ แ ก้ ไ ขในสิ่ งที่ ผิ ด


เด็กชายเพี ย งมองลักษณะท่ า ทางของนางในยามที่ ช่ว ยพวก
เด็กผู้หญิงแต่ละคนแก้ไขภาพวาด จากนัน้ เขาจึงเริ่มลงมือวาด
ภาพของตัวเอง

6
ถานหวั น่ ชิ งเห็ น ลั ก ษณะที่ เคยจั บ พู่ ก ั น ด้ ว ยก าปั ้ น
เปลี่ ยนเป็ นการจับพู่กนั ด้ วยนิ้วทัง้ ห้ า เพราะตอนที่ สอน นาง
เคยเอ่ยปากให้เด็กคนอื่นแก้ไขท่าทางการวาดภาพ

แท้จริงแล้ว การจับพู่กนั เขียนหาได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวไม่


เพี ยงแต่ วิธีการจับพู่กนั ที่ ถกู ต้ องเป็ นประสบการณ์ ที่คนสมัย
โบราณหลายร้อยหลายพันปี สรุปเอาไว้ ถึงแม้นิ้วมือทัง้ ห้าจะไม่
มี สามนิ้วที่ปราดเปรียวก็สะดวกในการขีดเขียนและน่ าเลื่อมใส
กว่าการกามือมาก ประหนึ่ งเป็ นจุดเริ่มต้ นเล็กๆ ในเส้นทางที่
คดโค้งมากมาย

ฝูอินแตกต่ างจากเด็กธรรมดาทัวไป ่ หากเขาไม่ อยาก


เรียน ต่อให้พดู หลายร้อยรอบจนคอแห้ง เขาก็จะปิดกัน้ ตัวเอง
ไม่ยอมรับฟังทัง้ สิ้น และหากก่อกวนจนเขาโกรธ ผลก็จะออกมา
ในทางตรงข้ามเลยที เดียว จึงทาได้เพียงรอการยินยอมพร้อม
ใจที่ อยากจะเรียนรู้จากตัวเขาเองเท่านั ้ น เขาถึงจะสามารถรับ
ข้อมูลและรับรู้โลกภายนอกได้รวมไปถึงยอมแลกเปลี่ยนกับคน
อื่นด้วย

การเริ่มต้ นจึงไม่ควรบังคับเคี่ยวเข็ญให้ เขาทาตามเป็ น


อัน ขาด ดัง นั ้น หลัก ในการสอนของถานหวันช ่ ิ ง ก็คื อ ค่ อ ยๆ
ดึงดูดฝูอินให้สนใจ จนกระทังตอนนี
่ ้ ถึงจะสิ้นเปลืองกระดาษไป
7
หนึ่ งกล่องใหญ่ นางก็ยงั ไม่ได้สอนวิธีจบั พู่กนั ให้แก่เขาเลย ทุก
อย่างเกิดจากสติปัญญาของเขาเองทัง้ นัน้

โดยทัว่ ไปสิ่ ง ที่ ย ากที่ สุด ในการวาดภาพ ไม่ ใช่ ลีลาการ


วาดที่สลับซับซ้อน แต่เป็ นเรือ่ งการใช้มิติในภาพวาด

เพียงแค่มิติใกล้ไกล ระยะสูงตา่ ความสว่างและความมืด


ถึงจะสามารถบรรยายสิ่งเหล่านี้ ออกมาเป็ นทฤษฎี ได้ แต่ การ
ผสมผสานออกมานัน้ ไม่ง่ายเลย อีกทัง้ เพียงแค่คิดตามก็ไม่อาจ
เข้ า ใจ หรื อ ถึ ง จะเข้ า ใจก็ต้ อ งอาศัย ทัก ษะในการลงมื อ ท า
ไม่อย่างนัน้ ภาพที่ออกมาก็จะไร้ซึ่งพลังชีวิตและจิตวิญญาณ

ดังนัน้ ทักษะเช่นนี้ ต่างหากที่เป็ นเรื่องยากโดยแท้ และถึง


จะมี คนที่ มีความสามารถในระดับ ปรมาจารย์แต่ ก็ยงั หาผู้มา
ถ่ายทอดและสอนสังได้ ่ ยากเสียยิ่งกว่า

ในบ้านหลังเล็ก สายตาของฝูอินยังคงจับจ้องกิ่งดอกท้อ
ที่ยื่นเข้ามาใกล้หน้ าต่างข้างอาหญิงคนงามตลอดเวลา เขามอง
กิ่งก้ านที่ แกว่งไปมาตามแรงลมนิ่ง ฝูอินมี สมาธิมากกว่าเด็ก
ทัวไป
่ เด็กน้ อยรอจนกระทังก ่ ิ่ งก้านหยุดขยับก็ยื่นมือไปทาให้
แกว่งไกวอีกครัง้ จากนัน้ ก็มองต่อไปเรือ่ ยๆ

8
ลุ่ ย จู ม องอี ก ฝ่ ายด้ ว ยสายตาที่ ไ ม่ เ ข้ า ใจ เด็ก น้ อยช่ า ง
แตกต่างจากพี่ชายมากเหลือเกิน

ถึงฐานะเดิมของใต้เท้าเซี่ยจะไม่ดีนัก ทว่าชีวิตเขากลับดี
ยิ่ง ไม่เพียงมีร่างกายแข็งแรง รูปร่างสูงใหญ่และสง่างาม การรา
เพลงหอกยังองอาจห้าวหาญอย่างไร้ที่เปรียบ ในบรรดาทหาร
ไม่มีผ้ใู ดสามารถเที ยบเที ยมได้ หากเขาอยู่ในกองทัพใหญ่ของ
เมืองหลวงย่อมไม่แคล้วเป็ นผู้ที่โดดเด่นเป็ นแน่ แท้ น่ าเสียดาย
...น้ องชายของเขากลับด้อยสติปัญญา ได้แต่ เหม่อมองดอกไม้
ได้เป็ นครึง่ ชัวยาม
่ นับว่าห่างชัน้ กันหลายร้อยลี้...

่ ก น้ อย ลุ่ยจู
คุณหนู คงไว้หน้ าใต้ เท้ าเซี่ ยจึงได้สอนสังเด็
คิ ด พลางส่ า ยหน้ า จากนั น้ ก็ว างกาน้ า ชาลงแล้ ว ออกไปหยิ บ
อาหารว่างมาจากห้องครัว

ตอนนี้ คุณ หนู ลิ้ น เปลี่ ย นไปแล้ ว จากเดิ ม ที่ ชื่ น ชอบรส
หวานก็มาชอบรสเค็ม ทัง้ ยังกินเนื้ อได้มากขึ้น และไม่เลือกกิน
อย่างเมื่อก่อน ลุ่ยจูดีใจเป็ นอย่างมาก ครัน้ มองดูคุณหนูอย่าง
ละเอี ย ดอี ก ครา คุณ หนู ก็ย งั คงมี ค างเรี ย วใบหน้ า รูป ไข่ ห่ า น
เหมือนเมื่อก่อน ที่ เพิ่มมาคือดูมีน้ ามีนวลมากขึ้น สี หน้ าสดใส
เปล่งปลังชวนพ
่ ิศ

9
ในห้ องครัวเจิ้งเอวี้ยกาลังเก็บของอยู่ ลุ่ยจูเดินไปหยิบ
จานใส่เนื้ อกวางกับเนื้ อแพะอบสมุนไพร ซึ่งอาหารชนิดนี้ ไม่ใช่
แค่คุณหนู เท่ านั น้ ที่ ชอบกิน ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยก็ชอบด้ วยเช่ นกัน
นางทาไว้มากเพราะรายการนี้ กลายเป็ นอาหารว่างกินกับน้ าชา
ของคุณหนูไปแล้ว

เด็ก สาววัย สิ บ สามปี วิ่ ง เข้ า มาช่ ว ยลุ่ ย จูจ ดั ถาด ช่ ว งนี้
คุณหนู กินอาหารค่อนข้างมาก แปดชิ้นสิบชิ้นก็ไม่พอกิน ลุ่ยจู
มองเจิ้งเอวี้ยอย่างละเอียด เวลานี้ คนเจ้าเนื้ อมีน้ามีนวลไม่ได้มี
เพียงคุณหนูเท่านัน้ เพราะหากจะพูดถึงความเปลี่ยนแปลง ถือ
ว่าเจิ้งเอวี้ยเปลี่ยนไปมากที่สดุ ใครจะไปนึ กว่าเด็กสาวผอมแห้ง
ที่พาเข้ามาในบ้านคราแรก จะกลายเป็ นเด็กสาวอวบอั ๋นได้ปาน
นี้

ใบหน้ าเรียวรับกับดวงตากลมโต แก้มมีเนื้ อ อวบอิ่ม ริม


ฝี ปากแดงกา่ หากเจิ้งเอวี้ยได้ใส่เสื้อผ้าเนื้ อดีสกั หน่ อย นางก็จะ
กลายเป็ นเด็กสาวที่งดงามและโดดเด่นที่สดุ ในหมู่บา้ นได้เลย

ลุ่ยจูนึกเที ยบกับตัวเองแล้วลูบแก้มป่ องๆ ของตน ก็นึก


บ่น ในใจว่ าต่ อไปจะกินมากไม่ได้ แล้ว หาไม่ ต นคงกลายเป็ น
ดอกไม้ข้างทางที่ไม่โดดเด่นเท่าใบไม้สีเขียวมันขลับ

10
“พี่ล่ยุ จู เพิ่มสับปะรดสักหน่ อยดีไหม?”

“สับ ปะรดต้ อ งราดน้ า ผึ้ ง ถึ ง จะอร่ อ ย แต่ ม ัน ยุ่ ง ยาก


คุณหนูไม่ชอบความยุ่งยาก ถ้างัน้ ไม่ต้องดีกว่า”

กล่าวจบ ลุ่ยจูกว็ างเนื้ อแห้งลงบนของหมักดองที่ออกรส


ได้ที่แล้ว บ๊วยเปรี้ยวๆ หวานๆ สามารถแก้ เลี่ยนได้ จากนัน้ ก็
เลือกเอาขนมดอกบัวที่ สวยงามประณี ตอี กสี่ ห้าชิ้นมาวางบน
จานคู่กบั น้ าตาลกุหลาบ แล้วให้เจิ้งเอวี้ยเอาผลไม้ที่ฝอู ิ นชอบ
มาเพิ่มอีกหนึ่ งจาน

ตอนกลับเข้าไปในห้อง ฝูอินไม่ได้มองดอกท้ อกิ่งนัน้ อี ก


แล้ว แต่ กลับจดจ่ออยู่กบั การลงพู่กนั บนกระดาษ สาหรับลุ่ยจู
แล้ว ภาพเหล่านัน้ ของฝูอินไม่อาจเรียกว่างานเขียนพู่กนั ที่ ดีได้
เลย แต่ ไม่ร้วู ่าทาไมคุณหนู ถึงต้ องตัง้ ใจดูอย่างละเอี ยดถี่ถ้วน
ทุกครัง้ ปานนั น้ ด้วย ทุกครัง้ ที่ ลุ่ยจูเก็บกระดาษกับหมึก สี หน้ า
ของนางก็จะมีแต่ความเสียดายของ

ฝูอินใช้หมึกจนหมดอย่างรวดเร็ว เขา ‘ถลุงเงินเป็ นเบีย้ ’


ทัง้ เช้าและเย็น หมึกกล่องหนึ่ งใช้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็หมดแล้ว สิ่ง
ที่ ดี ขึ้ น กว่ า เดิ ม ก็คื อ ไม่ เ ลอะเสื้ อ ผ้ า ไม่ เ ปื้ อนหน้ าเปื้ อนมื อ
มากมายดังแต่ก่อน ถึงกระนัน้ พอเห็นพู่กนั ที่ช่มุ หมึกแล้ว ลุ่ยจูก็
11
ยังอดใจหายไม่ได้ เกรงว่าเขาจะสะบัดน้ าหมึกจนเลอะเทอะ
โชคดีที่เขาให้ความสนใจกับกระดาษ ไม่มองที่อื่นเลยสักนิด

ลุ่ยจูเอาขนมวางไว้บนโต๊ะเตี้ ยข้างถ้วยชา แล้วขยับมา


ใกล้ ถ านหวัน่ ชิ งอี ก เล็ก น้ อย นายสาวกึ่ ง นั ง่ กึ่ ง นอน ตรวจ
กระดาษที่ฝอู ิ น ‘ทาให้เสีย’ เสร็จแล้ว

“คุณหนู กินสักหน่ อยเถอะเจ้าค่ะ” พอเชิญชวนจบนางก็


ชะโงกหน้ าไปดูกระดาษบนมือคุณหนู

พอเห็นลายเส้นที่สบั สนอลหม่านบนกระดาษ ก็อดไม่ได้


ที่ จะแลบลิ้น นัน่ มันภาพอะไร? เหตุใดจึงมีแต่ สีดายุ่งเหยิงเต็ม
หน้ ากระดาษ เหมือนดอกท้อ ตรงไหนกัน คุณหนูดูอะไรกันแน่
หรือจะมองออกจริงๆ ว่าเป็ นกิ่งดอกท้อ?

ถานหวันช ่ ิ งเริ่มหิวเล็กน้ อยจึง เช็ด มื อก่ อนจะหยิ บ เนื้ อ


แห้งใส่ ปาก แต่ ก่อนทาไมถึงไม่ร้วู ่าเนื้ อแห้ งอร่อยขนาดนี้ นะ?
กินคู่กบั บ๊วยเพื่อแก้เลี่ ยนและชาดอกไม้ รสชาติกเ็ ข้ากันได้ ดี
ทีเดียว

“ข้าเอาผลไม้มาด้วย เรียกคุณหนู ฝูอินมากินสักหน่ อย


ไหมเจ้าคะ?” ลุ่ยจูถามพลางมองไปยังเซี่ ยฝูอินที่ ก้มหน้ าวาด

12
ภาพอย่างเงียบเชี ยบ ท่าทางเขาเคร่งขรึมอยู่กบั กระดาษกาลัง
ตัง้ ใจ ‘ทาให้เสีย’

ถานหวันช ่ ิ งโบกมือห้าม “วางไว้ก่อนเถอะ รอเขาหิวเดี๋ยว


ก็มากินเอง” กล่าวจบก็นึกบางอย่างได้ “ในครัวน่ าจะมีเนื้ อสด
ถ้ายังมี อยู่ มื้อคา่ นี้ เจ้าไปตุ๋น เนื้ อบารุงร่างกายฝูอินสักหน่ อย
เถอะ”

ลุ่ยจูเมียงมองผิวพรรณขาวบางใสดุจหิมะของคุณหนู ที่
เห็นเส้นเลือดใต้ผิวได้อย่างชัดเจน การเจริญอาหารของคุณหนู
ในสองสามวันมานี้ ทาให้ นางดีใจก็จริง แต่ พอเห็นคุณหนูหยิบ
เนื้ อแห้งใส่ปาก จู่ๆ ก็รสู้ ึกว่ามันออกจะแปลกประหลาดไม่น้อย

คุณหนู ไม่เคยเจริญอาหารขนาดนี้ แทบไม่เหลือเนื้ อทิ้ง


ไว้ในจานอี กแล้ว การที่ อีกฝ่ ายกินได้ มากทาให้ นางตื่ นตะลึ ง
คุณหนูที่อยากกินนัน่ อยากกินนี่ มากกว่าแต่ก่อน ทาให้ลุ่ยจูยิ่ง
รูส้ ึกถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน

แต่ พอคิดอี กที ปกติใต้ เท้ าเซี่ ยจะมากินอาหารที่ นี่ พวก


อาหารคาวโดยเฉพาะเนื้ อย่อมจะมากว่าปกติอยู่แล้ว ไม่แน่ ว่า
คุณหนูอาจจะเปลี่ยนใจมากินตามแบบใต้เท้าเซี่ยก็เป็ นได้ ถึงมี
คนพูดกันว่าหากอยู่ใกล้ใครก็จะเป็ นเหมือนคนนัน้
13
เมื่อคิดดังนี้ ลุ่ยจูกร็ ้สู ึกว่ามีความเป็ นไปได้อย่างมาก อีก
ุ หนูสามารถเปลี่ยนการกินอาหารจากการเลือกกิน
ทัง้ การที่ คณ
เฉพาะของที่ อยากจะกินมาเป็ นกินได้ หลากหลายมากขึ้นนั น้
นับว่าดีที่สดุ แล้ว

ลุ่ยจูออกจากภวังค์ความคิด ตอบยิ้มๆ “ยังมีอยู่เจ้าค่ ะ


สองวันก่ อนใต้ เท้ าให้ คนส่ งเนื้ อแพะมาครึ่งตัว ยังกินไม่หมด
เลย ก่อนหน้ าข้าเอาเนื้ อแพะมาตุ๋นให้คุณหนูแล้ว แต่ ในครัวก็
ยังมีกระดูกอ่อนเหลือ ข้าตัง้ ใจจะต้มโจ๊กกระดูกอ่อน ใต้เท้าสัง่
ให้ข้าทาโจ๊กกระดูกอ่อนให้คณ ุ หนูทุกวัน แล้วยังบอกด้วยว่าไข
กระดูกมีประโยชน์ ต่อร่างกายคุณหนูมาก...”

ถานหวัน่ ชิ ง ที่ จิ บ น้ า ชาเรี ย บร้ อ ยแล้ ว รี บ กล่ า วแทรก


ขึ้นมา “อ้อ...เจ้าไปทาเถอะ หากว่าทาได้ดีจะมีรางวัลให้ทงั ้ เจ้า
และเจิ้งเอวี้ยด้วย”

14
74 ดอกท้อกับผึง้ งาน

ช่ วงเดื อนสามเป็ นเวลาแห่ งดอกท้ อเบ่งบาน ถึงเวลาที่


ต้ องถอดเสื้อกันหนาวแล้ว เจิ้งเอวี้ยและลุ่ยจูกล็ ้วนอยู่ในวัยที่
ก าลัง บานสะพรังเช่ ่ น กัน ถึ ง ในห้ อ งนอนของถานหวันช ่ ิ ง จะ
ไม่ได้มีข้าวของหรูหราเท่าในจวนตระกูลถาน แต่ในตู้ของนางก็
เต็ ม ไปด้ ว ยผ้ า แพรต่ ว น อี ก ทัง้ ผ้ า ขนสัต ว์ แ ละผ้ า ทอเนื้ อดี
หลากหลายสีสนั

เจิ้งเอวี้ยมองลุ่ยจูเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยแววตาอิจฉา เด็กสาว
แรกรุ่น มี หรือจะไม่ ชื่น ชอบสิ่ ง สวยๆ งามๆเช่ น นี้ ถึ ง อย่ างไร
ถานหวันช่ ิ งก็ใช้ผ้าทอเหล่านี้ ไม่หมด นางจึงแบ่งให้เด็กสาวทัง้
สองเอาไปใช้

ลุ่ยจูนัน้ ได้รบั รางวัลบ่อยครัง้ จึงไม่ตื่นเต้ นมากนัก นาง


ชื่ นชอบเรื่องอาหารการกินมากกว่า พอได้ ยินเจ้านายเอ่ ยถึง
อาหารที่ตนก็ชื่นชอบเช่นกัน จึงรีบตอบรับด้วยท่าทางดีใจ

“ถ้าเช่นนัน้ ข้าจะทาน้ าแกงเต้าหู้ปลา เมื่อบ่ายข้าเพิ่งไป


ซื้อปลามาสดๆ ใหม่ๆ ต้มกับน้าแกงเต้าหู้คงจะอร่อยไม่น้อย”

1
่ ิ ง ได้ พูด ค าใด รี บ หัน หลัง
กล่ าวจบก็ไม่รอให้ ถ านหวันช
เดินออกจากห้องไป

ถานหวันช ่ ิ งส่ายหน้ ากับท่าทีลุกลนของอีกฝ่ าย จากนัน้ ก็


หันไปเพลิดเพลินกับเนื้ อแห้งต่ อ ไม่ร้วู ่าติดรสชาติมาจากเซี่ ย
เฉิ งจู่ห รื อ อย่ า งไร ช่ ว งหลัง มานี้ น างถึ ง กิ น อาหารตามเขา ดู
อย่ า งเนื้ อแห้ ง นี่ นางก็ รู้ สึ ก ว่ า อร่ อ ยมากที เ ดี ย ว จนตอนนี้
กลายเป็ นอาหารว่างที่นางชอบกินที่สดุ หลังกลับจากการสอน

นางมองภาพวาดในมื อ อี ก ครัง้ พร้ อ มทัง้ จิ บ น้ า ชากิ น


อาหารว่างไปด้วยจนไม่รวู้ ่าเนื้ อในถาดหมดตัง้ แต่เมื่อไร

หลังจากลุ่ยจูนาน้ าแกงตัง้ เตา ก็ยกหน้ าที่ ดูไฟในเตาให้


เจิ้งเอวี้ย จากนัน้ นางก็กลับเข้ามาในห้องเพื่อเก็บโต๊ะ

ในที่ สุดฝูอินก็วาดภาพ ‘ทาให้เสีย’ เสร็จอีกแผ่น เขาเดิน


มานั ง่ ข้ า งถานหวัน่ ชิ ง หยิ บ ถัว่ ทอดใส่ ป ากแล้ ว เคี้ ย วอย่ า ง
เอร็ดอร่อย

ส่วนคุณหนูที่นัง่ ใกล้ๆ กันก็กาลังพลิกแผ่นภาพที่เขาวาด


ทีละแผ่น

2
“คุณหนูฝอู ิ นวาดดอกท้อได้แล้วหรือเจ้าคะ?”

ลุ่ย จูเ ดิ น ไปเช็ด มื อ เช็ด หน้ าให้ ฝูอิ น ทว่ า เด็ก น้ อ ยกลับ
ไม่ได้มองลุ่ยจูสกั เท่าไร ทัง้ ที่ นางดูแลเขามาหลายวันแล้ว ตรง
ข้ามกับคุณหนู ที่ใกล้ชิดเขาน้ อยมาก แต่ ฝอู ิ นกลับมองคุณหนู
ตาไม่กะพริบ

ลุ่ ย จู ม องเด็ก น้ อยแล้ ว หัน ไปมองกระดาษในมื อ ของ


คุณหนู บนแผ่นกระดาษดูยุ่งเหยิงแน่ นขนัดไปด้วยสีดา ไม่ร้วู ่า
คุณหนูเห็นอะไรถึงดูใจจดใจจ่อเพียงนี้ ?

่ ิ งเลือกกระดาษแผ่นสุดท้ ายออกมา ก่ อนจะ


ถานหวันช
วางที่ เหลือลงถาด พลางเอ่ยปากชม “อืม รูปภาพของฝูอินแผ่น
นี้ ดีที่สดุ ”

ลุ่ยจูฟังคุณหนูแล้วก็ชะโงกหน้ าเข้าไปดู “คุณหนู นี่ ...ภาพ


นี่ คืออะไรเจ้าคะ? ทาไมไม่เห็นมีดอกท้อเลย”

นางอยู่กบั คุณหนูมาหลายปี เห็นภาพวาดของคุณหนูมา


ก็ม าก จึ ง คุ้น เคยกับลายเส้ นที่ งดงามของคุณ หนู ทว่ า ภาพนี้
นางเห็นเพียงเส้นแนวนอน แนวตัง้ กับหยดน้าหมึกเลอะๆ ตรง

3
มุมด้านล่างเหมือนไม่ได้ระมัดระวังก็เท่านัน้ หากจะบอกว่าเป็ น
รูปเป็ นร่างก็คงยาก เห็นเพียงรูปภาพที่ย่งุ เหยิงไร้ระเบียบ

ถานหวันช ่ ิ งรู้ความคิดของลุ่ยจูดีจึงหัวเราะเบาๆ “การ


วาดภาพก็คล้ายกับการดูกระดูกของคน ผิวหนั งที่ ไร้กระดูกก็
จะดูไม่เป็ นรูปเป็ นร่างเหมือนกัน”

พอพูดจบ นางก็กางกระดาษแผ่นนัน้ ลงบนโต๊ะ จากนัน้ ก็


นาก้ อนหินมาทับที่ มุม ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบพู่กนั มาจุ่มน้ า
หมึกแล้ วเริ่มซ่ อ มแซมส่ ว นที่ ข าดหายไป ตบท้ ายด้ วยการใช้
สีมาผสมให้ใกล้เคียงกับสีชมพูแล้วแต้มจุดก็เป็ นอันเสร็จสิ้น

่ ิ งไม่ได้แก้ไขอะไรมาก เพียงแค่เสริมเติมแต่ง
ถานหวันช
เล็กน้ อยก็ทาให้ภาพที่ดไู ม่สวยในคราแรกพลันมีชีวิตชีวาขึน้ มา
ทันที หยดหมึกนัน้ ถูกแก้เป็ นตราประทับ ลุ่ยจูที่มองอยู่ด้านข้าง
ถึงกับปากอ้าตาค้าง กระทังเจ้ ่ านายวาดเสร็จก็ยงั ไม่อาจพูดคา
ใดออกมาได้เลย

นางนึ กไม่ถึงว่าเด็กชายวัยหกขวบที่ เอาแต่เหม่อมองกิ่ง


ท้อจะวาดภาพที่ ซ่อนความละเอียดไว้ได้มากขนาดนี้ เพียงแค่
คุณหนูเสริมจุดที่ สาคัญด้วยสีชมพูกเ็ ห็นเป็ นดอกตูมเล็กๆ บน
ช่อ ลายเส้นที่ย่งุ เหยิงดังคา่ คืนในฤดูใบไม้ผลิที่มีสายลมพัดผ่าน
4
ในที่ สุ ด ลุ่ ย จู ก็รู้ สึ ก ว่ า ภาพนี้ ช่ า งคุ้ น ตา อื ม ...หากตัด
หน้ าต่างออกไป ภาพนี้ ...นี่ ...นี่ คือ ต้นท้อที่ อยู่นอกหน้ าต่างต้น
นัน้ ใช่หรือไม่?

ลุ่ยจูหนั ขวับกลับไปมองเด็กน้ อยที่ เลิกกินของว่างแล้ว


ไม่รวู้ ่าตอนไหนที่ฝอู ิ นปี นขึน้ มาแล้วมองนางด้วยแววตาวาววับ
เป็ นประกาย

“คนก็เหมือนกับหยก หากไม่ผา่ นการเจียระไนแล้วจะลา้


ค่าได้อย่างไร” ถานหวันช่ ิ งยื่นมือไปลูบผมของฝูอินน้ อยที่ ซบ
หน้ ากับแขนนิ่งอยู่บนโต๊ะ

หญิงสาวพอใจกับภาพวาดของฝูอินแผ่นนี้ มาก นางหัน


กลับมามองภาพในมืออี กครัง้ แล้วครุ่นคิดอย่างละเอี ยด เห็น
ดอกท้อเพียงแค่ดอกเดียวผลิบานก็เลยแต้มผึง้ น้ อยสองตัวให้มี
ชีวิตชีวาและสวยงามขึน้ หลังเป่ าน้าหมึกจนแห้งก็ส่งภาพให้ลุ่ย
จูอย่างระมัดระวัง

“พัดฤดูร้อนปี นี้ ใช้ภาพผึง้ งานนี้ นะ เอาชื่อของฝูอินปักไว้


ด้านบน เอาผ้าดิ้นหลากสีมาเย็บ ข้าจะเอาไปให้คนที่หออักษร”

5
เมื่อนึ กถึงซ่ งฮูหยินกับบรรดาฮูหยินสี่ ห้าคนที่ หออักษร
จึงเอ่ยกาชับลุ่ยจูอีกครัง้ “เวลาลอกภาพต้ องระมัดระวังหน่ อย
นะ อย่าให้กระดาษชา้ ภาพเดิมต้องเก็บไว้ให้ฝอู ิ นอย่างดี”

“วางใจเถิดเจ้าค่ะ คุณหนู” ลุ่ยจูยื่นมือไปรับภาพมาดูอีก


ครัง้ สมกับชื่อภาพผึง้ งานเหลือเกิน

ตอนแรกนางคิ ด ว่ า ลายเส้ นกับ หมึ ก สี ด าเหล่ า นั น้ ไม่ มี


ความสัมพันธ์กนั แม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อคุณหนูลงพู่กนั แค่ไม่กี่
จุดก็กลายเป็ นภาพบนหน้ าพัดได้แล้ว

ช่างน่ าอัศจรรย์จริง!

และเมื่อนางยิ่งพิศอย่างละเอี ยดก็เห็นว่าภาพนี้ ยิ่งสวย


ไม่ว่าจะทาพัดแบบกลมหรือพัดแบบเหลี่ยมก็ได้ทงั ้ นัน้ นางคง
ต้ องเลือกสี ชมพูมาปั กกลีบดอกท้ อให้สว่างสดใสหน่ อย คงจะ
เป็ นภาพที่งดงามยิ่งผูค้ นที่ได้เห็นย่อมตกตะลึงอย่างแน่ นอน

ถานหวันช ่ ิ งภูมิอกภูมิใจในความสามารถฝูอินขนาดนี้
ลุ่ ย จู เ องก็ ต ัง้ อกตัง้ ใจปั ก ตามอย่ า งดี ทว่ า สองนายบ่ า วไม่
คาดคิดเลยว่า หลังจากที่ ซ่งฮูหยินเอาพัดที่ ลอกแบบภาพนี้ ไป
มาหาสู่กบั บรรดาฮูหยินในเมืองก็ได้รบั การชื่นชมจากทุกคน

6
เพียงไม่นานหญิงทัง้ หลายในเมืองเว่ยอันก็เริ่มนิยมพัด
ลายดอกท้อ

จนกระทัง่ ล่วงเข้าสู่ฤดูร้อน เจ้านายกับสาวใช้ ก็เ พิ่ ง จะ


พบว่าภาพผึง้ งานนัน้ ได้รบั ความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะ
เป็ นผ้าเช็ดหน้ า ลายปั กกระเป๋า อี กทัง้ สายรัดเอวและรองเท้ า
หรื อ แม้ แ ต่ เ ครื่ อ งประดับ ก็ล้ ว นเป็ นลายดอกท้ อ และผึ้ง เป็ น
ส่วนมาก เป็ นรูปแบบที่ เรียบง่ายทว่างดงามจนผู้คนรา่ ลือต่อๆ
กันมาแบบปากต่อปาก

หลังจากนั น้ ที่ เมืองหลวงก็มีลายดอกท้ อและผึ้ง แบบนี้


เช่ นกัน ทัง้ หมดนี้ เป็ นสิ่งที่ ถานหวันช
่ ิ งกับลุ่ยจูไม่เคยนึ กถึงมา
ก่อน

ปี นี้ เ ป็ นอี กปี ที่ ร้านค้ าหาเงิ น ได้ เ ป็ นกอบเป็ นกา แม้ แต่
พ่อค้าต่างเมืองก็พลอยรับทรัพย์ตามไปด้วย

ถานหวัน่ ชิ ง หยิ บ ภาพคนหลายแผ่ น ที่ น างวาดเอาไว้


ออกมาพลิกดูหลายรอบ

ในภาพมีทงั ้ แบบคอเสื้อ ชายแขนเสื้อและแบบของสาย


รัดเอว ทัง้ หมดวาดด้วยลายเส้นหนาหนัก

7
“เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้วก็ควรเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าคิดว่าควร
เพิ่มเสื้อผ้าสักสองชุดให้ใต้เท้าเซี่ ย เอาเป็ นผ้าสี เทาเงินกับผ้าสี
ดา เจ้าทาคอเสื้อ ชายแขนเสื้อกับสายรัดเอวตามแบบนี้ รวมไป
ถึงการปั กและการใช้ สีผ้าตามนี้ ด้ วย ทาออกมาหนึ่ ง ชุด ก่ อ น
แล้วกัน”

ถานหวันช ่ ิ งรู้ว่าการเย็บปั กถักร้อยของตนอยู่ในระดับ


พอใช้ จึงสังงานกั
่ บลุ่ยจูแทน

ลุ่ยจูรบั แบบมาอย่างคุ้นเคย คุณหนูของนางไม่เพียงวาด


รูปได้ ดี ทว่ าการออกแบบเสื้ อผ้าและการวาดดอกไม้ก็ทาได้
อย่างแปลกใหม่ไม่ซา้ ใคร หลายปี ก่อนที่ จวนตระกูลถาน สอง
สาวทาชุดแต่ งกายสี่ ฤดูครัง้ นัน้ ถึงแบบจะไม่ตรงตามที่ คุณหนู
ต้ องการสัก เท่ าไร ทว่าหญิงในตระกูลสูงศักด์ ิ ของเมืองหลวง
กลับให้ความสนใจ

ตอนนัน้ เถ้าแก่จากร้านค้าหลายร้านมักจะเข้าหาคุณหนู
อยู่เสมอ หากมีเนื้ อผ้ามาใหม่ พวกเขาจะนามาให้คณ ุ หนูเลือก
ถึงที่จวน จากนัน้ ก็จะคิดราคาแค่ครึง่ เดียวหรือเท่าที่คณ ุ หนูเห็น
ว่าเหมาะสม นัน่ เพราะเมื่อไรที่ คุณหนูเลือกสี สนั และลวดลาย
ใดออกมา เพียงไม่นานแบบผ้าชิ้นนัน้ ก็จะขายดีไปทัวเมื ่ อง ทา
ให้บรรดาเถ้าแก่ทากาไรได้เป็ นกอบเป็ นกา
8
ลุ่ย จูพ ลิกกระดาษแผ่นแล้ วแผ่น เล่ า รูปแบบเสื้อตัวใน
เสื้ อ ตัว นอก เสื้ อ คลุ ม แม้ ก ระทัง่ รองเท้ า แบบยาวล้ ว นวาด
ออกมาได้อย่างสวยงาม มีทงั ้ ด้านหน้ า ด้านข้างและด้านหลัง
ทัง้ ยัง ระบุ สี ส ัน และลวดลายไว้ อ ย่ า งชัด เจน เพี ย งมองปราด
เดี ย วก็ เ ข้ า ใจ นางมัน่ ใจว่ า หากท าเสื้ อ ผ้ า ชุ ด นี้ ตามแบบ
เรียบร้อยแล้วจะต้องออกมาเรียบหรูดดู ีอย่างแน่ นอน

หลังจากดูแบบอย่างถี่ ถ้วนแล้ว ลุ่ยจูก็อดไม่ได้ ที่จะยิ้ ม


แล้ ว มองไปทางคุณ หนู คุณ หนู เ ขี ย นแบบชุ ด ให้ ใ ต้ เ ท้ า อย่ า ง
ละเอี ยดเพี ยงนี้ ไม่ใช่ เพราะให้ ความสนใจและเป็ นห่ วงใต้ เท้ า
อย่างนัน้ หรือ

แต่ก่อนใต้เท้าเซี่ ยมักสวมแต่เครื่องแบบของทางการมา
ตลอด ชุดลาลองล้วนเป็ นเสื้อสีดาสาเร็จรูปที่ซื้อมาจากร้านค้า
โชคดีที่เขาเลือกเสื้อผ้าที่พอดีตวั จึงไม่เคยต้องปรับแก้ ทว่าเมื่อ
ใส่ นานไปก็จะเก่ าและมอมแมมอยู่สกั หน่ อย คุณหนู จึงเลื อก
โทนสีที่เหมาะกับการใช้งานและดูดีให้

ทัง้ สี ดาและสี เทาเป็ นสี โทนมืด ไม่เพียงดึงกลิ่นอายของ


พลัง อ านาจให้ เ ด่ น ชัด ยิ่ ง กว่ า เดิ ม แต่ เ มื่ อ รวมเข้ า กับ รูป ร่ า ง
สมบูรณ์แบบของใต้เท้าเซี่ยแล้วยิ่งเพิ่มความโดดเด่นและความ
สง่างามมากขึน้ ไปอีก
9
ผู้คนภายนอกหากเห็นชุดนี้ แล้วย่อมเข้าใจได้ว่ากว่าจะ
ทาออกมาได้ต้องใช้ความคิดมากมายเพียงใด หากพูดไปแล้ว
ใช้สมองยิ่งกว่าออกแบบชุดสตรีด้วยซา้ อีกทัง้ รูปแบบการเย็บ
มีรายละเอี ยดที่ ซบั ซ้ อนทาให้ชุดนี้ ยิ่งดูแพง หนาซา้ ลวดลายที่
ปักยังเป็ นแบบที่ไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อน พูดได้เลยว่ามีเพียง
บ้ า นนี้ ที่ เ ดี ย วเท่ า นั ้น หากว่ า ใต้ เ ท้ า สวมใส่ อ อกไป จะต้ อ ง
กลายเป็ นแบบที่ ได้รบั ความนิยมสาหรับบุรษุ ทัง้ หลายในเมือง
อย่ า งแน่ น อน ลุ่ ย จูไ ด้ แ ต่ คิ ด ในใจว่ า ด้ ว ยความสามารถของ
คุณหนู ย่อมทาให้ชุดนี้ กลายเป็ นที่เลื่องลือได้เลย

่ ิ งรู้ความคิดของนางทัง้ หมด เกรงว่ า


หากว่ าถานหวันช
่ ิ้มแห้งๆ ให้เช่นเคย
คุณหนูคงขาดความมันใจย

สาหรับถานหวันช ่ ิ งแล้ว นางคิดว่าตนไม่ได้เก่งขนาดนัน้


นางอาศัย แค่ ต ัว เองเป็ นคนที่ ข้ า มมาจากยุ ค สมัย ใหม่ ผ่ า น
วัฒนธรรมหลากหลายมานั บพันปี มี โ อกาสได้ ศึกษาทัง้ แบบ
และลวดลายของเครื่องประดับ อี กทัง้ เคยเรียนรู้การแต่ งกาย
ของคนโบราณและคนสมัยปัจจุบนั มาอย่างละเอียด จึงสามารถ
นาทัง้ หมดมาประยุกต์ใช้ได้ ขณะเดียวกัน นางก็ร้ฝู ี มือของลุ่ยจู
เด็กคนนี้ เรื่องเย็บปั กถักร้อยถือว่าไม่เลวเลยที เดี ยว เพี ยงแค่
ตอนที่อยู่ในจวนตระกูลถานเป็ นเด็กที่ขี้เกียจฝึ กฝน

10
ครัง้ นี้ ต นจึ ง ถื อ โอกาสให้ อี ก ฝ่ ายเย็บ ตามแบบออกมา
แล้วส่งส่วนที่ ยากไปให้ช่างเย็บผ้าทาให้ ขนาดไม่พอดีตรงไหน
ค่อยแก้ไขอีกครัง้

ลุ่ยจูรบั แบบมาแล้วก็ตงั ้ ใจว่าจะเย็บตรงคอเสื้อให้ เสร็จ


ก่อนที่จะนอน

นางอยู่ที่จวนตระกูลถานมาหลายปี รู้ว่าบรรดาลูกหลาน
ในตระกูล สู ง ศัก ด์ ิ ล้ ว นพิ ถี พิ ถ ัน กับ เสื้ อ ผ้ า เพราะเสื้ อ ผ้ า คื อ
สัญลักษณ์อย่างหนึ่ งที่บง่ บอกถึงฐานะและชาติตระกูล

เพี ยงแต่ เขตชายแดนแห่ งนี้ อยู่ห่างไกลความเจริญ คน


ส่ ว นใหญ่ จึ ง ไม่ ไ ด้ พิ ถี พิ ถ ัน นั ก ไม่ เ ช่ น นั ้น คงไม่ ไ ด้ เ ห็ น เหล่ า
ข้าราชการจนถึงใต้เท้าขัน้ ห้าสวมเสื้อผ้าเก่าอย่างที่เห็นทุกวันนี้
เพราะถึงเสื้อผ้าพวกนี้ จะไม่ขาดวิ่น แต่ ถ้าอยู่เมืองหลวงก็คงดู
ไม่เหมาะสมกับสถานะ

ต าแหน่ งแม่ ท ัพ หัว เมื อ งเมื อ งนั บ ว่ า มี อ านาจไม่ น้ อย


รูปแบบชุดในปัจจุบนั จะทาให้ดดู ้อยลงหลายเท่า บางครัง้ การมี
หน้ ามีตาของคนก็สามารถอาศัย วัตถุภายนอกมาช่ วยได้ มาก
เหมือนกัน

11
ยามบ่าย

ลานบ้ า นที่ เ งี ย บสงัด อาบไปด้ ว ยแสงอบอุ่ น จากดวง


อาทิตย์ ถานหวันช ่ ิ งไม่ได้สวมเสื้อคลุมไหล่ นางเพียงสวมชุดอยู่
กับ บ้ า นแบบเรี ย บง่ า ย ก าลัง ก้ ม ๆ เงยๆ ตัด แต่ ง ต้ น ไม้ ใ น
กระถางบริเวณลานบ้านด้วยอารมณ์แจ่มใสเบิกบาน

ฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วงเป็ นช่วงเวลาที่ พืชเจริญงอก


งามที่สุด เพียงแค่ช่วงนี้ ที่ดอกไม้และต้นไม้จะเขียวชอุ่มเป็ นพุ่ม
พฤกษ์ อีกทัง้ ยังแผ่กิ่งก้านสดใหม่ออกมา ทัง้ กิ่งและใบอ่อนท้ า
ทายแสงอาทิตย์ ทาให้ใบไม้ที่เขียวชอุ่มเปล่งประกาย

ถานหวันช่ ิ งใช้บวั รดน้ าที่ ทาเองรดน้าต้นไม้ หยดน้าเม็ด


เล็กเกาะพราวอยู่บนดอกไม้และใบไม้ ยิ่ง ทาให้ กิ่ง ใบดูสดชื่ น
เหมือนได้รบั พลังชีวิต

ก่อนหน้ านี้ เจิ้งเอวี้ยเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนมาเมืองเว่ยอัน


ครัง้ แรก นอกเมืองไม่มีบ่อน้ า ทุกคนต้ องไปตักน้ า ที่ เ นิ นเขา
วัดเวินจ้วงที่ทิ้งร้างไปนานแล้ว ที่นัน่ มีน้าพุและมีคคู ลองรอบวัด
มีร่องน้ าระหว่างภูเขาไหลลงมายังเชิงเขา จนถึงทุกวันนี้ กย็ งั มี
ผู้คนจานวนมากไปหาบน้ ามาใช้ น้ าที่ นัน่ ดื่มแล้วหวานและสด
ชื่นมาก นางเองยังเคยเอาถังน้า ไปรองเพื่อนากลับมาต้มน้าชา
12
ซึ่ งรสชาติกเ็ ป็ นไปตามที่ เจิ้งเอวี้ยกล่าวไว้ทุกประการ น้ าช่ าง
สะอาดบริสุทธ์ ิ พอเข้าปากแล้วสดชื่นสบายท้ อง รสชาติคล้าย
น้าพุบนยอดเขาหนานฮวา

ถานหวันช ่ ิ งรู้ว่าสมาชิกในครอบครัวของเจิ้งเอวี้ยมีมาก
แต่ ห าเสบี ย งอาหารหาได้ น้ อ ยย่ อ มต้ อ งล าบาก จึ ง ให้ ค นใน
ครอบครัวเด็กสาวหาบน้ามาให้เพื่อแลกกับเงินสิบอีแปะทุกวัน

ปกติครอบครัวชาวนาหาบน้าแค่ไม่กี่ถงั แล้วได้เงินถึงสิบ
อีแปะเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อน เจิ้งเอวี้ยมาปรนนิบัติคณ ุ หนูอยู่ที่นี่
เกือบสามเดือนแล้ว รู้ว่าถานหวันช ่ ิ งเป็ นคนมีนิสัยเอื้อเฟื้ อ เผือ่
แผ่ มัก จะหยิ บ ยื่ น ข้ า วของให้ อ ย่ า งใจกว้ า ง ไม่ ป ฏิ บัติ ต่ อ ตน
อย่างร้ายกาจ ส่ วนเงินสิบอี แปะนี้ ก็คือข้ ออ้ างที่ อยากจะช่ ว ย
ครอบครัวของนาง เด็กสาวจึงรีบขอบคุณคุณหนูด้วยความดีใจ

13
75 แต่งงานกันไหม

หลังจากที่คนในครอบครัวเจิ้งเอวี้ยรูก้ ด็ ีใจกันมาก ทุกวัน


พวกเขาจะไปที่ วดั บนเนินเขาเพื่อหาบน้ าไปส่งถึงบ้านเซี่ ยสาม
เวลาทัง้ เช้ ากลางวันเย็น และทุกเดื อนเจิ้งเอวี้ยจะมี เบี้ยเลี้ยง
ส่งไปที่ บ้านทาให้ครอบครัวเริ่มมีรายได้ พอจะทาให้เงยหน้ าอ้า
ปากขึน้ มาได้บา้ ง

สองวันก่อนลูกชายคนโตก็แต่ งเมียเข้าบ้าน ถึงสะใภ้จะ


ผอมไปสักหน่ อยแต่กข็ ยันหมันเพี ่ ยร เย็บปักถักร้อยได้ แล้วยัง
เชื่ อฟั งอี กด้วย ฝี มือการเย็บปั กของนางก็ก่อให้ เกิดรายได้ จน
คนอื่นเกิดความอิจฉาตาร้อนตามๆ กัน เพื่อนบ้านต่ างพากัน
อิจฉาที่บุตรสาวของครอบครัวนี้ ได้ผกู สัมพันธ์กบั ครอบครัวที่มี
ฐานะดีและใจกว้าง ชีวิตความเป็ นอยู่ของคนในบ้านนับวันก็ดี
ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็ นที่ กล่าวขวัญ บางคนรู้ว่านางเป็ นบ่าวรับใช้
บางคนที่ ไ ม่ รู้ก็คิ ด ว่ า ลู ก สาวของครอบครัว นี้ ร บั ใช้ แ ม่ ท ัพ หัว
เมือง ดังนัน้ เมื่อลูกได้ดีพ่อแม่จึงพลอยมีหน้ ามีตาไปด้วย

ถึงอย่างไรเจิ้งเอวี้ยก็ยงั เป็ นเด็กสาวคนหนึ่ ง นั บว่าเป็ น


ครัง้ แรกที่ต้องห่างจากครอบครัว ในใจจึงยังคิดถึงอยู่มาก พอมี
คนในครอบครัวหาบน้ามาส่งก็อดไม่ได้ที่จะตัง้ ตารอทุกวัน
1
วัน นี้ พี่ รองของเจิ้ง เอวี้ย มาแต่ เ ช้ า หลังจากเคาะประตู
ใหญ่หน้ าบ้านแล้ว เขาก็ยืนรออยู่อย่างเข้าใจกฎเกณฑ์ดี ทุกวัน
จะเป็ นเจิ้ ง เอวี้ ย ที่ เป็ นคนยกน้ า จากหน้ า ประตูเ ข้ า มาในบ้าน
นางค่อนข้างสนิทกับพี่รอง บางครัง้ ก็จะเอาของรางวัลที่คณ ุ หนู
ให้ฝากพี่รองไปให้มารดา

พี่ ร องของเจิ้ ง เอวี้ย นั น้ คล่ อ งแคล่ ว ปราดเปรี ย ว และมี


รูปร่างใหญ่กายา เขาหาบน้าสองถังได้อย่างสบายมาก

พอเจิ้งเอวี้ยเปิดประตู เขาก็อดไม่ได้ที่จะฉวยโอกาสมอง
ลอดช่องประตูเข้าไปข้างใน พอดีกบั ที่ เห็นหญิงสาวอ่อนหวาน
แช่ มช้ อยกาลังลูบดอกไม้น่ารักตรงลานบ้าน นางอยู่ในชุดผ้า
ไหมสีแดง เสื้อตัวนอกคลุมลงมาถึงสะโพก เอวคาดเข็มขัด ทัง้
เนื้ อทัง้ ตัวไร้เครือ่ งประดับ

ชุดที่ นางสวมใส่ดูเบาสบายและเนี ยนนุ่ม ครัน้ หญิงสาว


เคลื่ อ นไหว เนื้ อผ้ า ก็แ นบเข้ า กับ ส่ ว นโค้ ง เว้ า บนเรื อ นร่ า ง
โดยเฉพาะเวลาที่ นางก้ มตัว เป็ นภาพที่ ยากจะบรรยายจริงๆ
เขาเป็ นชาวไร่ชาวนาจึงไม่เคยเห็นผู้หญิงเอวบางร่างน้ อยผิว
ขาวนวลเนี ยนเช่ น นี้ มาก่ อ น เขารู้สึ ก เพี ย งว่ า อยากจะเป็ น
กระถางต้นไม้ที่หญิงสาวลูบไล้เอาใจใส่เหลือเกิน ช่างเป็ นภาพ
ที่เจริญหูเจริญตาเสียจริง
2
เขายื นมองอย่างปากอ้ าตาค้ างอยู่หน้ าประตูใหญ่ ด้ ว ย
ท่าทางโง่งม น้าลายแทบจะไหลออกมาโดยไม่รตู้ วั

ทันที ที่ เจิ้งเอวี้ยหันกลับมาเห็นท่าทางของพี่ชายก็รีบปิด


ประตูด้านหลังของตนให้สนิททันที อี กฝ่ ายจึงไม่อาจมองลอด
เข้าไปได้อีก

นี่ เป็ นครัง้ แรกที่พี่ชายเห็นคนข้างใน เขาคงจะคิดว่าคนที่


อาศัยอยู่บา้ นหลังนี้ เป็ นเทพธิดา อย่าว่าแต่พี่รองที่เป็ นผูช้ ายจะ
คิดเช่นนัน้ เลย ผูห้ ญิงเช่นเจิ้งเอวี้ยเองยังอดรูส้ ึกอิจฉาไม่ได้

ขนาดปิดประตูแล้ว พี่ชายนางก็ยงั คงตกอยู่ในภวังค์ เป็ น


นานกว่าเขาจะดึงสติกลับมาได้ สุดท้ายก็โพล่งออกมาว่า

“แม่ทพั หัวเมืองช่างเป็ นคนมีวาสนาดีแท้”

“หากเที ยบกับใต้ เท้ าเซี่ ย คนข้างในย่อมมีวาสนาดี กว่า


ขนาดนางอยากกินน้ าพุบนภูเขานอกเมืองก็ยงั มีคนเอามาส่ ง
ให้ เลย...” เจิ้ง เอวี้ย บ่นพึมพาเสี ยงเบา เงิ น สิ บ อี แปะเพี ยงพอ
สาหรับกินอิ่มท้องได้หนึ่ งวัน แต่ในสายตาบางคนแล้วกลับเป็ น
เงินเพียงเล็กน้ อยเท่านัน้

3
การที่ ผ้ลู ี้ภยั จะเข้ามาในเมืองนัน้ ไม่ใช่ เรื่องง่าย การเข้า
เมืองจะต้ องถูกตรวจสอบทุกครัง้ แต่ ว่าทุกวันพี่ รองของนาง
หาบน้ าไปกลับสามเที่ยว เมื่อทหารรักษาการณ์ เห็นก็เพียงโบก
มือให้ เขาเข้าเมืองอย่างสะดวกโดยไม่ขดั ขวาง เป็ นเพราะใต้
เท้าได้บอกกล่าวไว้ก่อนแล้วนัน่ เอง

“หากข้าได้แต่งกับหญิงงามเช่นนี้ ถึ งนางต้องการน้าบน
เขา ข้าก็จะหามาให้...”

เจิ้งเอวี้ยได้ยินคาพูดของพี่ชายก็อดหมันไส้่ ไม่ได้ “ฮึ! พี่


รอง เจ้ารีบหาภรรยาที่เชื่อฟั งแล้วใช้ ชีวิตของเจ้าไปดีกว่าจะมา
พูดแบบนี้ ”

กล่าวจบเจิ้งเอวี้ยก็หยิบเงินเดือนห้ าร้อยอี แปะจากชาย


แขนเสื้อ แล้วยังมีปิ่นปั กผมที่ คุณหนูตกรางวัลให้ออกมา ตาม
จริ ง แล้ ว นางอยากจะเก็ บ ปิ่ นนี้ ไว้ เ อง แต่ เ มื่ อ นึ กถึ ง คนใน
ครอบครัว อี กทัง้ พี่ชายอี กคนที่ ยงั ไม่ได้แต่ งภรรยา หากใช้ ปิ่น
ปักผมนี้ เป็ นของหมัน้ ก็นับว่าไม่เลว เมื่อนึ กถึงวันข้างหน้ าที่ คง
มีของรางวัลให้อยู่เสมอ นางจึงหยิบออกมาส่งให้ด้วยความรู้สึก
เสี ยดายอยู่บ้าง แต่สาหรับผ้าแพรต่วนสองพับที่ คุณหนูให้นาง
กับลุ่ยจูเป็ นรางวัลนัน้ นางไม่ให้ใครแน่ นอน ด้วยอาลัยอาวรณ์
เกินกว่าจะทาใจได้
4
“พี่ รอง เงินกับของนี้ เจ้านาไปให้ ท่านแม่นะ อย่าให้ คน
อื่นเห็นเด็ดขาดเชียว”

หลังจากชายหนุ่มเห็นเงิน บนใบหน้ าเผยให้เห็นความดี


ใจ เงินนี้ มาทันเวลาพอดี เพราะพี่ใหญ่เพิ่งแต่งเมียจึงใช้เงินของ
ครอบครัวไปจนหมด ทัง้ บ้านจึงมีอาการเศร้าซึมกันเล็กน้ อย

พอเขาคิดถึงคาพูดก่อนหน้ าของน้ องสาว ในใจรูด้ ีว่าเป็ น


อย่างที่ อีกฝ่ ายกล่าวไว้ไม่มีผิด หากหญิงงามเช่ นนี้ มาอยู่ด้วย
เกรงว่าเขาคงไม่มีทางเลี้ยงไหวแน่ เมื่อรับของแล้วจึงเปรยขึ้น
ว่า “ไม่ร้วู ่าเมื่อไรใต้เท้าจะแต่งนางเข้าจวน ใต้ เท้ามีบุญคุณต่อ
ครอบครัวเรามาก เมื่อไรจะได้ดื่มสุรามงคลสักที”

พอเจิ้งเอวี้ยได้ยินคาพูดนี้ กเ็ บ้ปาก “ดื่มสุรามงคลงัน้ หรือ


...เอาแน่ นอนไม่ได้หรอก ข้าอยู่ที่นี่มาสามเดือนแล้ว ยังไม่เห็น
ใต้ เ ท้ า เอ่ ย ถึ ง เรื่อ งแต่ ง งานกับ นาง ได้ แ ต่ ป ระเคนอาหารดี ๆ
แล้วเลี้ยงดูให้อยู่แต่ในบ้าน”

“เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”

“ข้าไม่ได้โกหกเสี ยหน่ อย” เจิ้งเอวี้ยเถียง “พี่รอง เจ้าน่ ะ


ไม่ร้อู ะไร ใต้ เท้ าดี กบั นางปานนั น้ ส่ งของให้ นางไม่ร้ตู งั ้ เท่ าไร

5
แม้แต่ เสื้อสักชุด รองเท้ าสักคู่นางก็ไม่ทาให้ เขา แม้แต่ เข็มกับ
ด้ายนางก็ไม่แตะ ทัง้ หมดส่งให้เด็กรับใช้หรือไม่กใ็ ห้ช่างเย็บทา
ใต้เท้าคงผิดหวังน่ าดู! ข้าว่านะ นางน่ ะสูงส่งจนไม่เหลียวแลใต้
เท้า...”

พูดยังไม่ทนั จบก็ได้ยินเสี ยงฝี เท้าม้าเข้ามาใกล้เสี ยก่อน


พอเห็นคนมา สองพี่น้องที่ ยืนกระซิบกระซาบกันอยู่หน้ าประตู
ก็รี บ หลบไปด้ า นข้ า ง ม้ า ด้ า ขนมัน วาววับ หยุ ด อยู่ ห น้ า ประตู
จากนัน้ ชายหนุ่มก็พลิกตัวลงมาจากหลังม้า

ขณะที่ เขาเดินผ่าน ทัง้ สองก็ก้มหน้ าแล้วทาความเคารพ


“คารวะใต้เท้า!”

“อืม” คนที่ เพิ่งมาตอบรับเสี ยงเรียบ ไม่ได้มองพวกเขา


เลยสักนิด แต่ กลับหิ้วน้ าสองถังขึ้นมาอย่างสบายๆ ราวกับถือ
ผ้าไหมสองพับ เขาเดินเข้าบ้านแล้วใช้เท้าถีบประตูปิดตามหลัง

ปัง!

สองพี่ น้องสะดุ้งสุดตัว สี หน้ าเจิ้งเอวี้ยเริ่มซี ดเซี ยว เอ่ ย


อย่างไม่แน่ ใจ “พี่รอง คาพูดเมื่อครูพ่ ี่ว่าใต้เท้าจะได้ยินหรือไม่?”

6
ชายหนุ่ ม เองก็ย งั ไม่ เ ป็ นตัว ของตัว เองนั ก เอ่ ย ปลอบ
น้ องสาวเบาๆ “ไม่กระมัง เมื่อครู่ใต้เท้าขี่ม้า ห่างไกลขนาดนัน้
คงไม่ได้ยินหรอก”

แม้จะตอบเช่นนี้ แต่เขาก็ยงั มีสีหน้ าไม่ใคร่จะดี เพราะว่า


ใต้ เท้ าเซี่ ยมี หูตาดังเหยี่ ยว หากฟั งจากเสี ย งปิดประตูเมื่อครู่
เกรงว่าประโยคสุดท้ายที่น้องสาวเอ่ยอาจจะได้ยินสักสามถึงห้า
ส่ วน แต่ หากใต้ เท้ าใจกว้าง คงไม่คิดเล็กคิดน้ อยกับน้ องสาว
ของเขาหรอกกระมัง

ร่างบอบบางในชุดสี สดใสกาลังก้ มตัวตัดแต่ งกิ่งต้ น ไห่


ถางในกระถางสีขาว

ถานหวันช ่ ิ งได้ยินเสียงฝี เท้าจากด้านหลังก็ร้ทู นั ที ว่าเป็ น


ใคร นางตัดก้านสุดท้ ายเสร็จก็หนั กลับมา จึงได้เห็น คนเปื้ อน
ฝุ่ นไปทัง้ ตัวกาลังวางถังน้ าในมือลง อีกฝ่ ายยืนห่างไปสองสาม
ก้าวด้วยท่าทางผิดปกติ เขาไม่เอ่ยอะไรสักคา ได้แต่จบั จ้องนาง
นิ่งๆ อยู่ตรงนัน้

หลายวันมานี้ ใครก็ตามที่ ได้เห็นแม่ทพั หัวเมืองต่ างก็พา


กันพูดไม่ออก ไม่ร้วู ่าเขาพาร่างไปคลุกโคลนที่ ไหนมา ทัง้ แขน
เสื้อ ชายเสื้อ และรองเท้าล้วนเปรอะเปื้ อนไปด้วยดินโคลน ชาย
7
หนุ่มออกจากบ้านตัง้ แต่ เช้าจรดคา่ แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
ยามนี้ บ นใบหน้ าจึ ง มี ห นวดเคราเขี ย วครึ้ ม แต่ ก ลับ ขับ เน้ น
ใบหน้ าหล่อเหลาให้ยิ่งคมเข้มดุดนั

ดวงตาถานหวันช ่ ิ งเปล่งประกายวาบ เมื่อก่ อนใบหน้ า


ของชายหนุ่ ม อัจ ฉริ ย ะผู้นี้ ไ ม่ ท าให้ น างรู้สึ ก หวันไหว
่ ทว่ า ไร
หนวดคล้ายคนผ่านโลกมาอย่างโชกโชนเช่ นนี้ กลับทาให้ นาง
ชื่นชอบ

หญิงสาววางกรรไกรในมือลงแล้วเดินไปหา นางเพ่งพิศ
หนวดเคราของเขาแล้วจึงยิ้ม “วันนี้ ใต้เท้ากลับมาเร็วจริง ตอน
คา่ จะอยู่กินข้าวด้วยกันเลยหรือไม่?”

พูดมาถึงตรงนี้ กเ็ หลือบเห็นว่าบนไหล่ ของเขามี ฝุ่นติด


อยู่ นางจึงยื่นมือไปปัดให้จนสะอาดก่อนจะเงยหน้ ามองอีกฝ่ าย

ดวงตาเรี ย วคมกริ บ จับ จ้ อ งนางอย่ า งลึ ก ซึ้ ง ราวกับ


อยากจะให้หญิงสาวหลอมละลายแล้วกลายเป็ นไอ เขามองนาง
นิ่ งๆ อยู่ น านก่ อ นตอบกลับ “ไม่ . ..ที่ จ วนยัง มี ง าน ข้ า แค่ ม า
เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะออกไปเลย”

8
่ ิ งดูสีหน้ าเขาออกว่าอีกฝ่ ายมีเรื่องไม่สบายใจ
ถานหวันช
แต่กไ็ ม่กล้าถามมาก จึงได้แต่บอกว่า “ทางานมาหลายชัวยาม ่
แล้ว อาบน้าอุ่นสักหน่ อยเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้”

ก่ อ นหน้ า หญิ ง สาวเคยได้ ยิ น เจิ้ ง เอวี้ ย พูด ว่ า เริ่ ม มี ก าร


ก่อสร้างที่ นอกเมือง ผู้คนนับพันล้วนยุ่งอยู่กบั การขุดคูน้ า ทา
บ่อน้ า สร้างกาแพง ซ่ อมถนน โดยมี ใต้ เท้ าเซี่ ยเป็ นผู้ควบคุม
งานทัง้ หมด เขาคงจะเหนื่ อยกายเหนื่ อยใจมากที เดียว เพราะ
คงมีเรื่องให้ต้องแก้ไขไม่หยุดหย่อน ถึงเขาจะมีกาลังวังชาดี แต่
ก็อาจล้มป่ วยได้ นางจึงเข้าใจและเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ ายมาก

เซี่ ยเฉิงจู่ยืนอยู่เช่ นนัน้ โดยไม่พูดคาใดอี ก เมื่อเห็นนาง


ปั ดฝุ่ นบนตัวให้ คิ้วที่ ขมวดแน่ นก็ค่อยผ่อนคลายลง ยอมหมุน
กายไปชาระล้างร่างกายอย่างว่าง่าย

ใต้เท้าเซี่ยอาบน้าเร็วมาก เขาไม่ใช้น้ าร้อนด้วยซา้ เพียง


ใช้น้าเย็นรดจากศีรษะถึงเท้าก็พอแล้ว ตอนที่ชายหนุ่มสวมเสื้อ
คลุมออกมา ถานหวันช ่ ิ งกาลังเตรียมเสื้อผ้าให้อยู่ในห้อง

แต่ ไหนแต่ ไรเซี่ ยเฉิงจู่ไม่เคยพิถีพิถนั เรื่องการแต่ งกาย


ขอให้ปกปิดร่างกายได้เป็ นพอ เขาจึงสวมชุดทหารมาตลอด อีก

9
ทัง้ ไร้คนข้างกายคอยเอาใจใส่ และจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้ ชาย
หนุ่มจึงแต่งตัวแบบสะดวกเข้าว่า

ตอนที่ ชายหนุ่มเปิดผ้าม่านแล้วเดินเข้าไปในห้อง เขาก็


ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกท้อผสมผสานมากับเรือนกายหอม
ของคนตรงหน้ า เขาสูดดมเข้าเต็มปอด อารมณ์ ที่คุกรุ่นในใจ
เริ่มบรรเทาเบาบางลง

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย เข้ า มาหยุ ด ยื น กลางห้ อ ง ยอมให้ ห ญิ ง สาว


แต่ งตัวให้ นิ้วเรียวยาวของนางเคลื่อนไหวไปมาผ่านอกแกร่ง
ดวงตาคู่งามจดจ่ออยู่กบั ร่างของเขา

ชายหนุ่ มมองเสื้ อผ้าในมือนางเงี ย บๆ อดคิ ด ถึ ง สองปี


ก่อนที่ เข้าเฝ้ าฮ่องเต้เพื่อรับตาแหน่ งผู้ปกครองเมืองไม่ได้ ครัง้
นัน้ มีหลายคนที่มองการแต่งกายของเขาด้วยสีหน้ าดูถกู เหยียด
หยาม พยายามพูดให้เขาแต่ งกายหรูหรา ทว่าเขาไม่เคยใส่ ใจ
ทัง้ ยังรังเกียจเสียด้วยซา้

ทว่าวันนี้ ต่างออกไป เขาไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้ มาก่อน หาก


ดูจากเสื้อผ้าที่ นางหยิบมาให้ เห็นได้ชดั ว่าเป็ นสี ที่เขาชื่ นชอบ
ซึ่งไม่น่าจะเป็ นแค่ความบังเอิญอย่างแน่ นอน นัน่ หมายถึงนาง
คอยสังเกตเขาอยู่เช่นกัน
10
ถานหวันช ่ ิ งรับรู้ ได้ ถึงสายตาที่ จบั จ้องนางตลอดเวลา
หญิงสาวเริ่มคุ้นชินกับแววตาเช่นนี้ แล้วจึงช่วยเขาแต่งตัวต่อไป
ถึงบรรยากาศระหว่างทัง้ สองจะเงียบกริบแต่ กลับเจือไว้ด้วย
ความสุข

หญิ ง สาวถอยห่ า งไปสองก้ า วเพื่ อ ประเมิ น มองผลงาน


ตรงหน้ าว่าเป็ นไปอย่างที่ คาดไว้หรือไม่ ชุดที่ ชายหนุ่ มสวมใน
ยามนี้ มีเสื้อตัวในเป็ นสีขาว เสื้อตัว นอกสีเทา สาบเสื้อสีดายาว
ไปจนถึงเอว ชายแขนเสื้อปั กลวดลายด้ วยสี เขี ยวอ่ อนแซมสี
เงิน บริเวณคอเสื้อปักลายดอกไม้สีเทา จากนัน้ นางก็เดินเข้ามา
ดูรายละเอียดใกล้ๆ...

ส่วนอื่นใช้ได้แล้ว มีเฉพาะตรงคอเสื้อที่ ไม่เป็ นไปตามที่


คาดการเอาไว้ เพราะสีด้ายปักกับสี เสื้อกลมกลืนกันมากเกินไป
ทาให้ชุดดูเรียบ หากเปลี่ยนเป็ นด้ายสีเงินแทนสีเทา ลวดลายก็
จะโดดเด่นขึน้

หลังจากจดจารายละเอี ยดแล้ว นางก็หยิบสายรัดเอวสี


เทาขลิบด้ามาคาดให้ นอกจากลายปี กคอเสื้อที่ ไม่ถกู ใจ ส่ วน
อื่นที่เหลือล้วนดูดีเหนื อความคาดหมายของนาง

11
หรือจะพูดได้ ว่าคนตรงหน้ าเป็ นหุ่น ลองเสื้ อผ้าที่ เ ยี่ ย ม
ยอด เสื้อผ้าชุดนี้ ช่วยขับเน้ นเรือนร่างสูงสง่า ช่วงไหล่กว้าง เอว
หนาและขายาว ภาพที่ออกมาจึงสมบูรณ์แบบที่สุด หากชายผูน้ ี้
อยู่ในยุคปัจจุบนั ก็คงจะเป็ นนายแบบแถวหน้ าของวงการ

่ ิ งที่เป็ นผูห้ ญิง เมื่อได้เห็นรูปร่างที่โดดเด่นกว่า


ถานหวันช
คนอื่ น ยัง อดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะเกิ ด ความอิ จ ฉา เมื่ อ ช่ ว ยใส่ ชุ ด ให้ เ ขา
เรียบร้อยแล้ว นางก็ยื่นมือไปหยิบหยกสีเขียวเข้มที่คล้องอยู่กบั
พู่สีเหลืองมาผูกที่เอวแล้วปล่อยให้พ่หู ้อยลงมาตามแนวขาของ
ชายหนุ่ม

หลังจากนางแต่งตัวให้เขาเสร็จก็ร้สู ึกพอใจมาก รู้สึกอิ่ม


อกอิ่มใจกับผลงานของตนเอง แล้วก็คิดขึ้นมาว่านางไม่อยาก
ให้เขาออกไปไหนเสียแล้ว เพราะถึงถานหวันช ่ ิ งจะอยากเปลี่ยน
เสื้อผ้าใหม่ให้เขาก็จริง แต่นางก็อยากเก็บชายหนุ่มในเสื้อผ้าที่
สง่างามไว้ดแู ค่คนเดียว

ความรู้สึกเห็นแก่ตวั เช่ นนี้ ไม่เพียงแต่ บุรุษที่ มีสตรีเช่ น


นางก็มี เ หมื อ นกัน หญิ ง สาวซบใบหน้ า แนบกับ แผงอกแกร่ ง
แขนสองข้างโอบเอวสอบของชายหนุ่มร่างกายาเบาๆ ชัวเวลา ่
นี้ ความรูส้ ึกอ่อนหวานอบอวลระหว่างทัง้ สอง

12
ใบหน้ าคมของใต้เท้าเซี่ยพลันอ่อนโยนอย่างน่ าอัศจรรย์
เขาพยายามเจี ย ดเวลามาหานางแล้ ว ต้ อ งรี บ กลับ จวนเพื่ อ
ประชุ ม กับ พวกนายทหาร การที่ ไ ด้ อ าบน้ า แล้ ว มี น างจัด การ
เรือ่ งเสื้อผ้าให้...ช่างดีเหลือเกิน

เขาวางมื อ ลงบนบ่ า หญิ ง สาว ลู บ ไล้ ผิ ว เนี ยนละเอี ย ด


เกลี้ ย งเกลาผ่ า นผ้ า แพรที่ ข วางกัน้ อยู่ น าน ก่ อ นเอ่ ย ออกมา
ประโยคหนึ่ ง “ในเมื่ อ ดอกไม้ ก็เ บ่ง บาน อากาศก็อ บอุ่น แล้ ว
ด้วย...”

เขาเริ่มประเด็นสนทนาแบบไม่มีที่มาที่ ไป ถึง อย่างนั น้


่ ิ งก็ยงั ฟั งรู้เรื่อง นี่ คือคาพูดที่ นางเคยต่อรองไว้ว่า รอ
ถานหวันช
จนอากาศอบอุ่นแล้วค่อยปรึกษาเรือ่ งงานแต่งกันอีกครัง้

ความจริงแล้วตัง้ แต่ คราแรกที่ เขาเอ่ ยเรื่องนี้ ในใจนาง


อยากจะตอบกลับทันทีว่า ‘เจ้าค่ะ พวกเราจัดพิธีมงคลสมรสใน
เดื อ นสามเถอะนะเจ้ า คะ ’ เพราะเดื อ นสามที่ มี ด อกท้ อ บาน
สะพรังนั
่ น้ งดงามมาก

ทว่าประโยคนี้ กลับติดอยู่ที่ริมฝี ปาก นางนิ่งเงียบไปครู่


หนึ่ ง ฟั ง เสี ย งหัว ใจอี ก ฝ่ ายเต้ น อย่ า งมันคง
่ ไม่ น านน้ า เสี ย ง
นุ่มนวลก็เอ่ยอย่างเข้าใจและซาบซึ้งใจ
13
“หลายวันมานี้ ใต้ เท้ าลาบากกับข้อราชการ เมื่องานลง
ตัวแล้วค่อยพูดกันนะเจ้าคะ” เพียงจบประโยค ในห้องก็ตกอยู่
ในสภาพเงียบงัน ชายหนุ่มที่ ยืนอยู่พลันผลักไหล่ของนางออก
แล้วมองคนตรงหน้ าด้วยสายตาเย็นชา สุดท้ ายก็เอ่ ยทิ้งท้ าย
เพียงว่า “คืนนี้ ข้าไม่กลับ”

พูดจบก็หมุนตัวจากไปพร้อมกับความขุ่นเคือง

ถานหวันช ่ ิ ง นิ่ งงัน อยู่น าน รี บ ทบทวนโดยไวว่ า เมื่ อครู่


นางเอ่ยประโยคผิดพลาดตรงไหน ตอนนี้ เป็ นช่วงที่ เขาทางาน
หนักมากที่สดุ หากจัดงานมงคลสมรสแล้วอาจจะทาให้เขาปลีก
ตัวยาก อี กทัง้ ยังเหน็ ดเหนื่ อยจากการทางาน ไม่ใช่ ว่านางไม่
ตอบรับ สัก หน่ อย แค่ อ ยากให้ เ ขาจัด การงานให้ เ รี ย บร้ อ ย
เสี ย ก่ อ นก็แ ค่ นั น้ แต่ ไ ม่ รู้ว่ า ท าไมเขาจึ ง โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
ขนาดนี้

พอคิดไปคิดมา อาจเป็ นเพราะงานทหารยุ่งมากจริงๆ


เท้ าที่ จะรีบเดินตามออกไปจึงหยุดชะงัก นางเดินไปสังลุ ่ ่ยจูให้
เตรียมอาหารเพื่อใต้เท้ าจะได้ น้ากลับจวน ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยเดิน
เร็วมาก ไม่รอให้ห่ออาหารเสร็จเขาก็ออกจากบ้านไปเสียแล้ว

14
76 ข่าวลือ

ทันที ที่ประตูใหญ่เปิดออก เจิ้งเอวี้ยที่ ยืนกระวนกระวาย


ใจอยู่หน้ าประตูบา้ น เห็นใต้เท้าเซี่ยรีบร้อนขึน้ หลังม้า นางก็กดั
ฟันส่งรองเท้าผ้าที่กอดอยู่ให้เขา แล้วเอ่ยขึน้

“ใต้ เ ท้ า เจ้ า คะ ใต้ เ ท้ า มี บุ ญ คุณ ต่ อ ครอบครัว เจิ้ ง เอวี้ ย


บุญคุณนี้ ไม่ร้จู ะตอบแทนอย่างไร เจิ้งเอวี้ยยอมอยู่ปรนนิบัติใต้
่ วิต ขอใต้เท้าอย่าได้เมินเฉยเลยเจ้าค่ะ”
เท้าไปชัวชี

แม่ ท ัพ หัว เมื อ งเดิ น ออกมาด้ ว ยสี ห น้ า ตึ ง เครี ย ดอย่ า ง


ที่สุด ยิ่งเห็นว่าถานหวันช ่ ิ งไม่ได้ตามออกมาก็ถึงกับกัดฟันแน่ น
ครัน้ ได้ยินคาพูดเช่ นนี้ มือที่ กาเชื อกบังเหี ยนอยู่กบ็ งั คับม้าให้
หันกลับมา มองไปยัง คนที่ อยู่เ บื้องล่ างซึ่ ง ก าลัง ชู ร องเท้ า อยู่
เด็กสาวเงยหน้ าขึน้ สบสายตากับเขา

ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง ไม่เคยคิดเลยว่า เด็กสาวผู้นี้จะอาจ


หาญถึงเพียงนี้

เซี่ ยเฉิงจู่มองประเมินนางตัง้ แต่หวั จรดเท้า เด็กสาวสวม


ใส่ ชุ ด ที่ ท าจากผ้ า โปร่ ง บางอย่ า งดี เ หมื อ นกับ หญิ ง สาวที่ น าง

1
ปรนนิ บัติ ไ ม่ มี ผิ ด สายรัด เอวสี เ ขี ย วมรกต บนศี ร ษะปั ก ปิ่ น
ดอกไม้สีฟ้า ใบหูสองข้างมีลูกตุ้มเงิน หากเทียบเด็กสาวใบหน้ า
เหลืองซี ดร่างกายผอมแห้งที่เป็ นเพียงผู้ลี้ภยั อย่างเมื่อก่อน กับ
เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้ าตอนนี้ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ ากับดิน เห็น
ได้ชดั ว่าการที่ นางใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ เพียงสามเดือนก็ทา
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

เซี่ ยเฉิงจู่ ไม่ได้ลงจากหลังม้า และไม่ได้รบั รองเท้ าที่ ยื่น


มาให้ ใบหน้ าตึ ง เครี ย ดฉายแววเอื อ มระอา เขาชัก สายตา
กลับมาพร้อมเอ่ยเสียงเย็นชา

“หรือข้าจะมองคนผิดไปก็เลยคิดเพียงว่าอายุเจ้ายังน้ อย
ข้าให้ โอกาสแค่ ครัง้ นี้ ครัง้ เดี ยว หากเจ้ายังไม่เข้าใจฐานะของ
ตัวเอง ไม่ร้วู ่าคนที่เจ้าต้องปรนนิบัติคือผูใ้ ด ก็ไม่ต้องอยู่รบั ใช้ที่
บ้านหลังนี้ อีกต่อไป!”

พู ด จบก็ก ระตุ ก บัง เหี ย นม้ า ให้ ห ัน หัว กลับ พุ่ ง ทะยาน
ออกไปอย่างรวดเร็ว

เจิ้งเอวี้ยที่ กดั ฟั นปลุกความกล้าหาญมานาน ทว่าผลที่


ได้รบั คือสี หน้ าเย็นชาและน้ า เสี ยงที่ เคร่งขรึมเฉี ยบขาด นางก็
ตกใจอยู่น าน ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ผู้นี้ แ ยกบุญ คุณ กับ ความแค้ น อย่ า ง
2
ชัดเจน ขาวก็ว่าไปตามขาว ไม่มีตรงกลาง คนที่ เขาสนใจไม่
จาเป็ นต้องเอ่ยสิ่งใดให้มากความ แต่หากไม่สนใจแม้แต่สีหน้ า
หรือคาพูดก็ไม่มีความอ่อนโยนเจือให้ สาหรับคนที่เขาสะอิด สะ
เอียน เขาก็จะเย็นชาไร้ความปรานี

เจิ้งเอวี้ยที่อายุเพียงสิบสามปี เพิ่งพ้นวัยเด็กสู่สาวแรกรุ่น
จึงตกใจกับผลลัพธ์ไม่น้อย ใบหน้ านางขาวซีด กระทังตกดึ ่ กยัง
นอนฝันร้ายจนต้องสะดุ้งตื่น ดึกดื่นค่อนคืนถึงกับแอบร้องไห้

ตั ง้ แต่ นี้ ต่ อ ไปนางต้ อ งปรนนิ บัติ ถานหวัน่ ชิ งอย่ า ง


รอบคอบ ไม่ ก ล้ า ท าผิ ด พลาดสัก ข้ อ เพราะกลัว ว่ า จะถูก ไล่
ออกไปจริงๆ

ลุ่ยจูเห็นใต้เท้าจากไปอย่างเดือดดาลเหมือนกับคับแค้น
ใจเรื่องคุณหนู กเ็ ม้มปากแน่ น สุดท้ ายเด็กสาวก็เอ่ยออกมาว่า
“คณุหนู ขนาดหินก็ยงั มีวนั ละลายได้เลย”

กล่าวจบก็ไม่สนใจเจ้านาย ทาเพียงหันหลังให้ แล้วเดิน


จากไป

่ ิ งได้แต่ นวดขมับ บุรษุ ผู้นี้ทาให้คนใกล้ชิดพา


ถานหวันช
กันตีตวั ออกห่างจากนาง มันเกิดอะไรขึน้ กันนะ?

3
หญิ ง สาวหยิ บ กรรไกรตัด แต่ ง กิ่ ง ขึ้ น มาอี ก ครัง้ วัน นี้ มี
เรื่องให้ ต้องครุ่นคิดมากมาย บางเรื่องนางก็ยงั งุนงงไม่เข้าใจ
อี กทัง้ ช่ วงนี้ ความต้ องการจะจากไปของตนนั บวันก็ยิ่งจืดจาง
คงเพราะรู้สึกว่าการใช้ ชีวิตอยู่ที่นี่กเ็ หมาะสมดี ทุกอย่าง หาก
ต้องไปจริงๆ ย่อมมีความอาลัยอาวรณ์ เกิดขึ้น นางรู้และเข้าใจ
ดีเกรงว่าส่วนลึกในใจนางจะได้เลือกตัง้ นานแล้ว

หรือบางที นางควรทาตามความตัง้ ใจแต่เดิมมากกว่า...

สี หน้ าเซี่ ยเฉิงจู่มืดครึ้มตลอดทางจนกระทังกลั


่ บถึงจวน
ผูป้ กครอง

ยามนี้ บนโต๊ะเต็มไปด้วยกองหนังสือราชการ ทหารที่ รอ


ให้สะสาง เมื่อวานมีหน่ วยสอดแนมมาเคาะประตูเพื่อรายงาน
ความเคลื่ อ นไหวและเรื่ อ งราวต่ า งๆ ของคนในเมื อ งหลวง
จากนัน้ เขาก็ปรึกษาหารือกับนายทหารเพราะมีเรื่องที่ ต้องคิด
และทามากมายเหลือเกิน

พอเข้ า มาในห้ อ งชายหนุ่ มก็ส ะบัด ชายเสื้ อ แล้ ว นั ง่ ลง


หยิ บ กระดาษขึ้น มาแผ่น หนึ่ ง ตัง้ ใจอ่ า นเนื้ อ ความที่ ร ายงาน
เกี่ยวกับรายการเสบียงอาหารที่ เหลือทัง้ หมด จังหวะนัน้ เองจู่ๆ
่ ิ่ นก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
จัวเว
4
“รายงานใต้เท้า เมื่อวานมีขบวนรถม้าของสานักคุ้มกัน
จะเข้ามาในเมือง พอค้นรถม้าก็พบว่าใต้ ท้องรถมีช่องลับ ข้าง
ในซ่ อ นดาบไว้ นั บ สิ บ เล่ ม และซ่ อ นคนไว้ สี่ ค นขอรับ ตอนนี้
ขบวนรถม้าถูกทหารรักษาการณ์ ประตูทิศใต้สกัดกัน้ ไว้ ใต้เท้า
จะให้จดั การอย่างไรต่อขอรับ”

เซี่ ยเฉิงจู่ที่ใจเพิ่งสงบลง อารมณ์ โกรธพลันปะทุขึ้น อี ก


ครัง้ มือที่ ถือกระดาษอยู่นัน้ กาแน่ นโดยไม่รู้สึกตัว สายตาจด
จ้องกระดาษที่ รายงานเสบียงอาหารอยู่เช่นเดิม เป็ นนานจึงได้
เอ่ยขึ้น “ควบคุมตัวพวกมันไว้นอกเมืองชัวคราวก่ ่ อน ห้ามให้
เข้าเมืองแม้แต่ก้าวเดียว!”

่ ิ่ น เดิ น ออกไปพร้ อ มกับ ปิ ดประตู


“ขอรับ ใต้ เ ท้ า !” จัวเว
ตามหลังให้อย่างเรียบร้อย

ในห้อง เซี่ ยเฉิงจู่คอแห้งผากจึงยื่นมือไปหยิบถ้วยชาบน


โต๊ะขึ้นมา แต่พอยกขึ้นมาแล้วกลับเขวี้ยงลงพื้นอย่างแรง ถ้วย
ชาลายดอกไม้ตกกระทบพืน้ แล้วแตกออกเป็ นเสี่ยงๆ

ั ่ ิ่ นพูด แสดงว่าหร่วนอีตนั ต้องมา


“หากเป็ นไปตามที่จวเว
กับขบวนรถม้าที่ เตรียมจะเข้าเมืองแน่ เกรงว่าคราวนี้ คงอยาก

5
ไปมาอย่างไร้ร่องรอย...ไม่เหลือร่องรอยงัน้ รึ! นี่ สินะ เหตุผลที่
ไม่อยากเอ่ยถึงงานมงคลสมรส ข้าประเมินนางตา่ เกินไปแล้ว!”

มือใหญ่แข็งแกร่งที่วางอยู่บนโต๊ะกาหมัดแน่ น เส้นเลือด
บนหลังมือปูดโปนอย่างเห็นได้ชดั

ในที่สุดเขาก็ได้ร้.ู ..เพราะอะไรนางจึงหาข้ออ้างเลื่อนการ
แต่งงานออกไปทุกครัง้ ที่ แท้กม็ ีเบือ้ งลึกเบือ้ งหลังอย่างนี้ นี่เอง
นางคงทุ่มสุดตัวเตรียมพร้อมจะหลบหนี ด้วยเหตุนี้จึงยินยอม
กลา้ กลืนความอัปยศ ทอดกายเป็ นหญิงนอกสมรสที่ ไร้ชื่อไร้
ฐานะ แม้ต้องตกอับจนคนทัวไปสมเพชและหั
่ วเราะเยาะเหยียด
หยาม หรือทาให้ครอบครัวต้องอับอายขายหน้ าก็ยอม...

ครัง้ แล้วครัง้ เล่าที่นางวางแผนหนี จากที่นี่ ต้องการหนี ไป


เพราะไม่อยากแต่งงานกับเขา

ดวงตาใต้เท้าเซี่ ยแดงกา่ ด้วยความเจ็บปวดและสันไหว



เขากาหมัดแน่ นขึน้ อีก ภายในใจร้อนระอุดจุ มีไฟแผดเผา...แผด
เผาจนเขายากจะอดทน ถึงจะรัง้ ตัวคนให้อยู่ แต่กลับไม่อาจรัง้
ใจไว้ได้

6
ในเมื่ อ นางอยากจะไปจากที่ นี่ มากขนาดนี้ ถ้ า ให้ น าง
สมหวังแล้วจะเป็ นเช่นไร

หออักษรป่ าไผ่

เห็ น ได้ ช ัด ว่ า ซ่ ง ฮู ห ยิ น สัน ทัด ในการบริ ห ารและการ


วางแผนงานเป็ นอย่างดี เพราะทัง้ ๆ ที่ หออักษรเพิ่งเปิดได้ ไม่
นาน แต่กลับมีบุตรสาวของพวกพ่อค้าและครอบครัวที่รา่ รวยมี
ชื่ อ เสี ย งมาเรี ย นกัน มากที เ ดี ย ว หอทางตะวัน ตกที่ เ คยมี
เด็กหญิงไม่ถึงยี่สิบคน ตอนนี้ กลับเพิ่มเป็ นสามเท่ า ห้ องเรียน
ถูกแบ่งใหม่เป็ นชัน้ เรียนระยะสัน้ กับชัน้ เรียนระยะยาว โดยมาก
ชัน้ เรี ย นระยะสัน้ จะเป็ นบุตรของพ่อค้ า ใช้ เ วลาเรี ย นหนึ่ งถึง
สามเดือน เพราะความต้ องการในการส่ งบุตรสาวเล่าเรียนไม่
สู ง นั ก ขอเพี ย งวัน ข้ า งหน้ าสามารถเย็บ ปั ก ถัก ร้ อ ยได้ แ ละรู้
หนังสือบ้างเท่านัน้ เป็ นพอ

ส่วนชัน้ เรียนระยะยาวมีตงั ้ แต่ชนั ้ ความรู้ทวไปั ่ รวมไปถึง


ค ว า ม รู้ ด้ า น ด น ต รี ห ม า ก รุ ก เ ขี ย น อั ก ษ ร ว า ด ภ า พ
ขนบธรรมเนี ยมและกิริยามารยาทด้านต่ างๆ ซึ่ งใช้ระยะเวลา
เรียนสามถึงห้าปี

7
เมื่อมีเด็กเข้ามาเรียนเพิ่มมากขึ้น อาจารย์ที่สอนย่อมไม่
เพียงพอตามไปด้วย ดังนัน้ ซ่ งฮูหยินจึงรับอาจารย์หญิงเข้ามา
เพิ่มอีกจานวนหนึ่ ง

ตอนนี้ บรรยากาศของหออักษรเปลี่ยนไปมาก ชัน้ เรียน


เด็กชายต่ างรา่ เรียนกัน อย่ างครา่ เคร่ง ขณะเดี ยวกันก็ได้ ยิ น
เสียงท่องบทเรียนแว่วเข้ามาให้ได้ยิน

“เบิกฟ้ าเบิกดิน ก่อกาเนิดจักรวาล ดวงดาวโคจร...”

“คุณธรรมบัณฑิต สว่างในธรรม...”

และเมื่ อ เดิ น เข้ า มาในลานกว้ า ง ก็ไ ด้ ยิ น เสี ย งบรรดา


เด็กหญิงจับกลุ่มพูดคุยพลางหัวเราะเฮฮาดังแว่วมา

ถานหวันช ่ ิ งนัน้ ชอบความไร้เดียงสาแบบซื่ อๆ ของเด็ก


เล็กเป็ นที่ สุด นางพอใจในสภาพแวดล้อมที่ เรียบง่ายเช่นนี้ เป็ น
อย่างยิ่ง อาจารย์หญิงที่เพิ่งรับมาใหม่ทงั ้ อาจารย์หญิงแซ่ซิ่งและ
อาจารย์หญิงแซ่มู่กเ็ ข้ากันกับนางได้ดี หลังเลิกเรียนวันนี้ นาง
ตัดสินใจเดินไปนัง่ พักในห้องน้าชาสักครูก่ ่อนที่จะกลับ

8
ในห้ อ งน้ า ชามี อ าจารย์ห ญิ ง นั ง่ อยู่ ห ลายคน แต่ ล ะคน
ล้วนมีกิริยาแช่มช้อยและนุ่มนวลอย่างเช่นอาจารย์หญิงแซ่ ซิ่ง
ที่ อยู่ตรงหน้ าถานหวันช ่ ิ งคนนี้ หลายปี ก่ อนสามี นางเสี ย ชี วิต
อีกทัง้ ไร้บุตร ตอนนี้ จึงมาอาศัยอยู่ด้วยกันกับญาติ นางมีกิริยา
นุ่ ม นวล น่ า เสี ย ดายที่ ใ นใจเหมื อ นมี บ างอย่ า งปิ ดบัง อยู่ แต่
จะมี อ ะไรข้ า งในนั ้น มี เ พี ย งตัว นางที่ เ ข้ า ใจที่ สุ ด ถึ ง กระนั ้น
ท่าทางของนางก็ยงั ละมุนละไม แม้แต่น้าเสียงก็ยงั อ่อนหวาน

่ ิ งเดินเข้ามา อาจารย์หญิงเหล่านี้ กาลัง


ตอนที่ ถานหวันช
เอ่ยถึงแขกที่ มาจวนใต้ เท้ าเซี่ ยเมื่อวาน คนผู้นัน้ เป็ นหญิงสาว
งดงามหยาดเยิ้ม ได้ ยิ น คนในจวนพูด กันว่ าเป็ นลูกพี่ ลูกน้ อง
ทางสายมารดา มีภมู ิ หลังที่ไม่ธรรมดา

อาจารย์หญิงแซ่ซิ่งเอ่ยขึ้น “เมื่อวานช่วงบ่ายข้าเดินผ่าน
จวนใต้เท้าเซี่ ย เห็นทหารนับสิบนายยืนรอต้อนรับคนจากบ้าน
ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าเห็นหญิงสาวแรกแย้มเดินลงมาจากรถม้า นาง
ช่ างมีรูปร่างงามสง่า ใบหน้ างดงามดูออดอ้ อน ดูแล้วมี เสน่ ห์
เหลือเกิน”

อาจารย์หญิงแซ่ มู่ได้ยินจึงเอ่ ยอย่างประหลาดใจ “ไม่รู้


จริงๆ ว่าเป็ นคนประเภทไหนกัน ผูค้ นในจวนผูป้ กครองเมืองถึง
รา่ ลือกันเพียงนี้ ”
9
จังหวะนั น้ เองก็มีฮูหยินวัยสามสิบปี คนหนึ่ งเดินเข้ามา
พร้อมกาน้าชาสีม่วงในมือ นางไม่ใช่ใครอื่น เป็ นน้ องสะใภ้ของ
ซ่ ง ฮูห ยิ น เจ้ า ของหออัก ษรนั น่ เอง วัน นี้ น างมาช่ ว ยซ่ ง ฮูหยิ น
จัด การงานในส านั ก ศึ ก ษา ครัน้ ได้ ยิ น เข้ า จึ ง เอ่ ย เสี ย งกลัว้
หัวเราะ “เรื่องนี้ ข้าได้ยินมาเหมือนกัน รถม้าของแขกผู้นัน้ มา
จากจวนข้าหลวงใหญ่เมืองอี้โจว”

อาจารย์หญิงแซ่ มู่ ได้ยินก็สนใจขึ้นมาทันที “สะใภ้ชิวรู้


ข่าวรวดเร็วจริง ที่ แท้ หญิงงามก็เป็ นแขกคนสาคัญของแม่ทพั
หัวเมืองนี่ เอง เพียงแต่ไม่รวู้ ่าอยู่ในฐานะอะไร?”

อาจารย์หญิงแซ่ ซิ่งจึงคาดเดาด้วยน้ าเสี ยงนุ่ มนวล “ได้


ยิ น ว่ า ใต้ เ ท้ า เมื อ งอี้ โ จวมี บุต รสาวคนเดี ย วและเป็ นที่ ร กั มาก
ทีเดียว หรือว่าเป็ น...”

“ใช่แล้ว” น้ องสะใภ้ของซ่งฮูหยินหัวเราะพลางวางกาน้ า
ชาลงบนโต๊ะ

ซ่ ง ฮูห ยิ น รู้ดี ว่ า น้ อ งสะใภ้ ข องตนหูต าว่ อ งไว เรื่ อ งราว


มากมายในเมืองนี้ ล้วนสามารถสืบรู้ได้หมด หากน้ องสะใภ้ของ
นางพูดเช่นนี้ แสดงว่ามีแนวโน้ มว่าจะเป็ นจริง

10
อาจารย์หญิงที่ มาใหม่ทงั ้ สองพลันตกใจจนอ้ าปากค้าง
เมื่อรู้สถานะของหญิงงามคนนั น้ อาจารย์หญิงแซ่ ซิ่งเงี ยบไป
นานกว่าจะเอ่ย “นี่ เป็ นภาวะสงคราม เหตุใดใต้ เท้ าเมืองอี้โจว
กับฮูหยินจึงยอมปล่อยบุตรสาวให้เดินทางมาไกลถึงเพียงนี้ นะ”

ระยะทางจากตัวเมืองอี้โ จวมาเมืองเว่ยอันก็ไม่ใช่ ใกล้ๆ


ผูห้ ญิงคนนัน้ ก็ช่างกล้าหาญเสียจริง

“ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องใดเหมือนกัน ทว่ าช่ วงนี้ ในจวนเจ้า


เมืองอี้โจวก็ไม่มีงานมงคลหรืองานศพ นางไม่น่าจะแค่มาเยี่ยม
เยี ยนกันธรรมดาหรอกกระมัง ” อาจารย์หญิงคนหนึ่ งเอ่ ยขึ้น
พลางจิบชาไปด้วย

หญิงสาวที่ใช้เวลาเดินทางหนึ่ งวันสองคืน หากจะบอกว่า


เป็ นการมาเยี่ ย มเยี ย นเท่ า นั ้น ก็ดู จ ะแปลกประหลาดไปสัก
หน่ อย

สะใภ้ชิวเอ่ยขึ้น “ได้ยินมาว่าปี หน้ าบุตรสาวของใต้ เท้ า


เมื อ งอี้ โ จวก็อ ายุ เ ต็ ม สิ บแปดแล้ ว ” หรื อ ว่ า มี บ างเรื่ อ งที่ ไ ม่
สามารถรอได้ “หรื อ ว่ า เกิ ด เรื่ อ งใหญ่ ขึ้ น นางจึ ง ดัน้ ด้ น มาถึ ง
เมืองเว่ยอัน?”

11
สะใภ้ชิวครุ่นคิดพลางกล่าวต่อ “อาจเป็ นเพราะในเมืองอี้
โจวไม่มีชายหนุ่มอายุเหมาะสมที่จะแต่งงานด้วย...แต่กไ็ ม่น่าจะ
ใช่...”

หากจะบอกว่าบุตรสาวใต้เท้าเมืองอี้โจวยังไม่ได้แต่งงาน
แต่เว่ยอันก็ไม่มีคนที่มีฐานะเหมาะสมกับนางมิใช่รึ หรือว่า...

สะใภ้ชิวมองไปยังด้านนอก ดึงสายตากลับมาแล้วเอ่ ย
อย่างมี ลบั ลมคมใน “ข้าก็ได้ ยินมาว่า เมื่อวานหญิงสาวผู้นัน้
มาถึงก็เข้าจวนผู้ปกครองทันที จนกระทังพลบค
่ า่ ถึงได้ลาจาก
...”

เอ่ยจบนางก็ปรายตามองคนที่ นัง่ เงียบอยู่อีกฟากโดยที่


ไม่พดู คาใดเลยมาตลอด

ถานหวันช ่ ิ งได้ ยินคาพูดของพวกนางทุกคา แววตาสัน่


ไหวอย่างน่ าสงสาร

คนที่ เหมาะสมกับบุตรสาวของใต้ เท้ าเมืองอี้โจวในเว่ย


อันนี้ คงไม่ต้องคิดให้ย่งุ ยาก เพราะมีเพียงเขาผูเ้ ดียว...แม่ทพั หัว
เมืองแห่งเว่ยอัน ยิ่งกว่านัน้ ใต้เท้าเมืองอี้โจวกับแม่ทพั หัวเมือง
ยังมีบญ ุ คุณกันมาตัง้ แต่ตอนที่ใต้เท้าเซี่ยอายุยงั น้ อย ทว่าดูแล้ว

12
เรื่องคราวนี้ บุตรสาวใต้เท้าเมืองอี้โจวน่ าจะเป็ นฝ่ ายรุกเองเสี ย
มากกว่า

ถานหวันช ่ ิ งมาอยู่เมืองนี้ ไม่นาน เคยแต่ฟังคนพูดคุยเล่น


กันเท่ านั น้ ไม่เคยคิดอะไรมาก ทว่าตอนนี้ มนั เกี่ยวข้องกับตัว
นางด้ วย ทาให้ อารมณ์ ของนางจากปกติพลันเปลี่ ยนเป็ นมื ด
ครึม้ ทันที

ด้ า นข้ า งมี เ สี ยงนุ่ มนวลเอ่ ยเห็ น ด้ ว ยกั บ สะใภ้ ชิ ว


“บุ ต รสาวของใต้ เ ท้ า เมื อ งอี้ โ จวที่ ข้ า เห็น เมื่ อ วานมี ห น้ าตา
สะสวยเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่านางมีความสามารถรอบด้าน
หญิงรูปสวยย่อมเหมาะสมกับใต้เท้าเซี่ยที่มีรปู ร่างสง่างาม”

่ ิ งกาลังหยิบถ้วยชาขึน้ มา พอได้ยินคาพูดนี้ มือ


ถานหวันช
ที่ถือถ้วยน้าชาก็ชะงักค้าง

ชายสง่างามกับหญิงรูปสวย? เป็ นหมาในกับจิ้งจอกเสี ย


มากกว่า!

อารมณ์ ไม่สบายใจพลันทะลักล้น เหมือนกล้ามเนื้ อยึด


จนร่างกายแข็งทื่อ ขนาดจะใช้ฝาปิดถ้วยน้ าชายังต้องใช้ความ
พยายามอย่างมาก

13
คงเพราะน้ าชาร้อนเกินไป นางบอกตัวเองเช่นนัน้ จึงกด
อารมณ์โมโหลงไปได้

14
77 ฟ้ าฝนอึมครึม

หลังจากถานหวันช ่ ิ งกลับมาถึงบ้าน เจิ้งเอวี้ยก็ยกชาม


โจ๊กจากห้ องครัวมาให้ ขณะเดี ยวกันลุ่ยจูกเ็ ข้ามาช่ วยคุณหนู
ของตนถอดเสื้อคลุมแล้วเปลี่ยนเป็ นชุดผ้าแพรเนื้ อนุ่มแทน

ถึงโจ๊กจะหอมกรุ่นมากเพียงไร แต่ ใจคนกินกลับสับสน


วุ่นวาย อาหารที่ อร่อยยามนี้ กลับไร้รสชาติ ถานหวันช
่ ิ งกินได้
ไม่กี่คาก็วางช้อน แล้วเดินไปเอนกายลงบนเตียงแล้วหลับตา

สาวใช้ข้างกายอย่างลุ่ยจูกบั เจิ้งเอวี้ยที่ คอยปรนนิบัติทุก


เช้าคา่ รับรูไ้ ด้ว่าวันนี้ เจ้านายดูไม่ปกติ ถึงนางจะไม่ได้แสดงออก
ทางสี หน้ า ทว่าตัง้ แต่ถานหวันช ่ ิ งกลับมาก็ไม่ได้พดู อะไรสักคา
ต่างกับเมื่อก่อนที่ พอกลับมาจากสานักศึกษาก็มีเรื่องน่ าขบขัน
มาเล่ าให้ ฟังเสมอ หรือบางที ก็เป็ นเจิ้งเอวี้ยที่ เล่ าเรื่องสนุ กๆ
ของคนในครอบครัว ส่วนคุณหนูกจ็ ะนัง่ ฟังยิ้มๆ

เมื่อเห็นว่าจิตใจของเจ้านายไม่ใคร่ดีนัก ทัง้ สองจึงระมัด


ระวัง เป็ นพิ เ ศษ ลุ่ย จูบ อกให้ เ จิ้ง เอวี้ย จัด การทาความสะอาด
ห้องครัวแล้วไปตัดหญ้ามาป้ อนแพะ ส่วนนางเองก็ไปนัง่ เย็บผ้า
เงียบๆ ในห้ องคุณหนู บางครัง้ ก็เดินไปที่ เตาเพื่อเติมกายาน

1
อาศัยกลิ่นหอมช่วยให้จิตใจสงบ ดังนัน้ ในห้องเวลานี้ นอกจาก
เสียงปักผ้าเบาๆ ของลุ่ยจูแล้วก็แทบไม่มีเสียงอื่นใดอีก

ถานหวัน่ ชิ ง ปิ ดเปลื อ กตาลงคล้ า ยกับ ก าลัง นอนหลับ


นางได้ ก ลิ่ น ก ายานหอมเลื อ นรางแต่ ใ นใจกลับ ไม่ ส งบดัง่
ภายนอก ทาอย่างไรก็ไม่อาจข่มใจให้หลับได้ ความคิดวุ่นวาย
สับสนวนเวียนอยู่ในหัว

ในความคิ ด หนึ่ ง บุ ต รสาวของขุน นางขัน้ สองเกิ ด มา


อย่างสุขสบาย ไม่เคยต้องลาบาก จะมาแต่งงานกับทหารขัน้ ห้า
จริงหรือ ครอบครัวน่ าจะรักทะนุถนอมบุตรสาว ควรหวังจะให้
อยู่อย่างสุขสบาย น่ าจะเลือกพวกบัณฑิตหรือจอหงวนขัน้ สาม
เสี ยมากกว่า มีหรือที่ จะหันมาหาทหารขัน้ ห้าที่ ไม่สนั ทัดคัมภีร์
ต าราใดเลย หากจะเอ่ ย ถึ ง ความหนุ่ มแน่ น ความกล้ า หาญ
องอาจในการออกรบจับศึก...

คนผูน้ ัน้ ก็เป็ นเพียงหัวหน้ าทหารที่หยาบคายซา้ ยังมุทะลุ


ดุดนั !

พอคิดแบบนี้ ความเยือกเย็นสุขุมในใจนางก็สนคลอน
ั่
เดิมที นางยกย่องชมเชยกองทหารเมืองเว่ยอัน แล้วไยกลับมี
ความคิดชัวร้
่ ายถึงเพียงนี้ ได้
2
อีกความคิดหนึ่ ง...เป็ นเช่นนี้ กด็ ีแล้ว หากเขามีพ่อตาเป็ น
ถึ ง ขุ น นางขัน้ สอง อนาคตข้ า งหน้ าจะต้ อ งราบรื่ น เป็ นแน่
บุตรสาวของขุนนางคงไม่ยอมให้สามีไปมีบา้ นเล็กบ้านน้ อย ถึง
เวลานัน้ นางก็แค่เก็บห่อผ้าจากไป ซึ่งนับว่าเป็ นสิ่งที่ถกู ต้อง

นางไม่ควรหน่ วงเหนี่ ยวอนาคตที่ร่งุ โรจน์ ของเขา ตัวเอง


ยัง มี ส ถานะเป็ นนั ก โทษหญิ ง อยู่เ ลย เป็ นตัว หายนะ ซ้า ยัง ไร้
ประโยชน์ ต่อเขา อีกทัง้ เขาก็ไม่ควรแต่ งกับคนอายุสนั ้ ที่ มีชีวิต
อยู่ได้เพียงไม่กี่ปี เรือ่ งนี้ จึงถือว่าดีสาหรับทัง้ สองฝ่ าย

พอความคิดเริ่มเห็นดี ด้วย ถึงกระนั น้ อารมณ์ ก็ยงั ไม่ดี


ตาม เพี ยงระยะเวลาสัน้ ๆ แต่ นางกลับคิดว่าตนมาอยู่เว่ยอัน
นานมากแล้ว ตัง้ แต่โบราณมาไม่มีใครที่ ไม่อยากมีความรัก แต่
มีรกั ก็ย่อมมีทุกข์ เรื่องนี้ เป็ นสัจธรรม นี่ แค่ได้ยินข่าวลือก็ยงั ทา
ให้นางคิดมากจนไม่อยากดื่มกินอะไร...ช่างแย่จริงๆ

่ ิ งไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้ กระทัง่
ก่อนหน้ าถานหวันช
เมื่อมองความคิดของเจิ้งเอวี้ยออก นางก็ยงั ไม่สนใจด้ วยซ้า
เพราะมันใจว่
่ ามาตรฐานการเลือกคู่ของเซี่ ยเฉิงจู่สูงมาก แต่
สถานะของนางกลับ...สูงก็ไม่ใช่ ต่าก็ไม่เชิง ทว่ าหากตัดเรื่อง
ความเหมาะสมออกไป จากนิสัยของเซี่ยเฉิงจู่แล้วเขาก็หาคนที่

3
ตนพอใจได้ยาก แต่ถึงอย่างนัน้ ก็ดูเหมือนเขาจะพบแล้ว นัน่ ก็
คือนาง

หรือบางทีนางคงหลงตัวเองมากเกินไป...

เพราะแม้ถานหวันช ่ ิ งจะยอมรับความสามารถของคนยุค
โบราณ แต่กอ็ ดทะนงตัวแบบคนยุคใหม่ไม่ได้ เพราะถึงนางจะ
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขยุคนี้ ทว่าก็เคยอยู่ในโลกที่ ผ่าน
ประวัติศาสตร์เหล่านี้ มาแล้ว

่ ิ ง จะเคยอยู่ ใ นตระกูล สู ง
ดัง นั ้น ที่ ผ่ า นมาถึ ง ถานหวันช
ศัก ด์ ิ มัง่ คัง่ แต่ พ อต้ อ งตกอยู่ ใ นฐานะต่ า ต้ อ ยได้ ร ับ ความ
ยากล าบาก นางก็ไ ม่ เ คยดูถ กู ตัว เองหรื อ รู้สึ ก น้ อ ยเนื้ อ ต่า ใจ
เพราะนางก็คือนางอยู่วนั ยังคา่ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็ นหนึ่ งไม่
เป็ นสอง ถึงภายนอกจะถ่อมตัวนอบน้ อมเพียงใด แต่ภายในนัน้
มัน่ ใจในตัว เองเป็ นที่ สุ ด จึ ง เป็ นเรื่ อ งยากที่ นางจะเชื่ อ ว่ า
บุตรสาวของขุนนางยอมเดินทางนับร้อยลี้เพียงเพื่อมาหาทหาร
คนเดียว ฟังแล้วราวกับเป็ นเรือ่ งตลก

มาถึงตอนนี้ ในที่ สุดถานหวันช ่ ิ งก็ตระหนักถึงความรู้สึก


ของตัวเอง นี่ สินะที่เรียกว่าความอิจฉาริษยา...

4
หญิงสาวเกิดความตกใจ และความคิดสับสนเหล่านี้ ทา
ให้นางนอนกลางวันอย่างไม่เป็ นสุข เพียงครึ่งชัวยามถานหวั
่ น่
ชิงก็ลกุ ขึน้

ลุ่ยจูจดั การชงชาเขียวที่ คุณหนูชอบมาให้ ทว่าถานหวัน่


ชิงจะมีกะจิตกะใจละเลียดชิมเสี ยที่ ไหน ถึงจิบไปหลายคาก็ยงั
ไม่รรู้ สชาติ นางเอ่ยถามลุ่ยจู “สองสามวันมานี้ ใต้เท้าได้กลับมา
บ้างไหม?”

ลุ่ยจูวางป้ านชาลง แล้วหยิบเอาเสื้อที่วางอยู่ข้างๆ ขึน้ มา


“หกวันแล้วที่ ใต้เท้าไม่กลับบ้านเจ้าค่ะ ไม่ร้วู ่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แม้แต่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่มา”

เด็กสาวตอบพลางจับจ้องสีหน้ าคุณหนูที่ไม่ส้ดู ีนัก นึ กใน


ใจว่าคุณหนูคิดถึงใต้เท้ าเซี่ ยขนาดนี้ เชี ยวหรือ? ขนาดสี่ ห้าวัน
ก่อนเขาไม่มา คุณหนูกไ็ ม่เคยถามสักคา

่ ิ งไม่รบั รู้รสชาติชาสักนิดจึงวางถ้วยลง จู่ๆ ก็


ถานหวันช
รู้สึกว่าตัวเองมีอาการพะวักพะวนราวกับคนเป็ นโรคจิต ทัง้ ที่
ตัวเองคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่ปี จะถึงสิบปี หรือเปล่าก็ยงั ไม่รู้ ดังนัน้
เวลาที่เหลืออยู่ย่อมลา้ ค่ามาก ควรจะทาให้ตนเองมีความสุขถึง
จะถูกต้อง
5
นางมองไปยัง น้ า ชาสี เ ขี ย วมรกตที่ มี ไ อน้ า ลอยอยู่
ตรงหน้ า ความคิดเริ่มตกผลึกในใจจนสามารถเดินออกจาก
ปัญหาที่แก้ไม่ได้สกั ที...สิ่งที่นางอยากได้ไม่ใช่การมีชีวิตยืนยาว
หรือ ทรัพ ย์ส มบัติ หรือ กระทัง่ อ านาจ ขอเพี ย งเวลาหิ ว แล้ ว มี
ซาลาเปาในมือ ยามหนาวมีเสื้อผ้าสวมใส่ และมีคนที่ รกั ด้ วย
ความจริงใจ...ซึ่งคงหาได้ยาก

ลุ่ยจูที่ถือเข็มกับด้ายอยู่ในมือมักจะเงยหน้ ามองคุณหนู
บ่อยๆ ด้วยความกังวล ตัง้ แต่คุณหนูกลับจากหออักษร นางก็
รู้สึกว่าคุณหนูไม่ค่อยปกติ ตอนแรกคิดว่าคงจะเหนื่ อยจากการ
เดิน แต่ เมื่อเห็นอี กฝ่ ายถือถ้วยชานิ่งอยู่นานแล้วก็ยงั ไม่พร่อง
จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็ นเหตุผลนัน้ นางไม่รวู้ ่าคุณหนูกาลังครุ่นคิด
อะไรอยู่

เกิดเรือ่ งอะไรขึน้ ที่หออักษรอย่างนัน้ หรือ?

นางอยากจะเอ่ ย ปากถาม แต่ พ อคุณ หนู ไ ม่ พูด สาวใช้


อย่างนางจึงต้องอดทนอดกลัน้ และเพราะใจมัวแต่กงั วลจึงถูก
เข็มแทงนิ้ว คุณหนูได้ยินเสียงนางร้องจึงมองมา เด็กสาวกาลัง
จะอ้ า ปากถาม แต่ ก ลับ เห็น คุณ หนู มี สี ห น้ า เปลี่ ย นไปอี ก ครัง้
เหมือนกับคนคิดได้แล้วซึ่ งต่ างไปจากเมื่อครู่ที่อารมณ์ ตกต่า
หมดกาลังใจและท้อแท้
6
คุณหนูหยิบกาน้ าชาขึ้นมารินชาจนเต็มถ้วย แล้วดื่มจน
หมด แต่ไม่ทนั ไรก็หยิบผ้าเช็ดหน้ าแล้วพ่นน้าออกมา

ลุ่ยจูตกใจเหลือกาลัง น้ าชานัน่ วางไว้นานแล้ว ไม่น่าจะ


ร้อนมากกระมัง ไม่รวู้ ่าคุณหนูคิดอะไรอยู่ ทาไมใจไม่อยู่กบั เนื้ อ
กับตัว นางรีบลุกขึน้ ไปจัดเก็บป้ านชากับถ้วยชา แล้วไปหยิบคัน
ฉ่ องบนโต๊ ะ เครื่ อ งแป้ งมาให้ คุ ณ หนู ดู ว่ า มี แ ผลพองในปาก
หรือไม่ จากนัน้ หยิบน้ าผึง้ ถ้วยเล็กมาให้อีกฝ่ ายทาริมฝี ปากแก้
บวม เรียกว่าวุ่นวายกันอยู่พกั หนึ่ งเลยทีเดียว

สามวันต่อมา

ฝนตกต้ อนรับต้ นฤดูใบไม้ผลิ สายฝนโปรยปรายไปทัว่


เมือง

จิตใจของถานหวันช ่ ิ งก็เป็ นเช่นเดียวกันกับสภาพอากาศ


ด้านนอก นางไม่ร้วู ่าประจาเดือนเลื่อนออกไปกี่ วนั แล้ว ยิ่งได้
ยิ น เรื่ อ งบุ ต รสาวของขุน นางเมื อ งอี้ โ จวพัก ที่ จ วนเจ้ า เมื อ ง
ชัวคราว
่ จิตใจก็ยิ่งกลัดกลุ้มและกังวล

7
“ได้ ยิ น เจิ้ ง เอวี้ ย บอกว่ า ก าแพงนอกเมื อ งสร้ า งใกล้ จ ะ
เสร็จแล้วเจ้าค่ะ” ลุ่ยจูที่กาลังพับเสื้อผ้าเอ่ยด้วยเสียงผ่อนคลาย
“งานน่ าจะยุ่งอี กสักสองสามวัน จากนั น้ ใต้ เท้ าก็คงจะกลับมา
ผลัดเปลี่ยนชุดแล้วนะเจ้าคะ”

หากเป็ นเมื่อก่อน คุณหนูจะต้ องเอ่ยปากหยอกล้อ ทว่า


วันนี้ กลับทาเสียง “หึ!” แล้วพูดต่อว่า “ใครจะไปรูเ้ ล่า”

ได้ยินข่าวลือว่าบุตรสาวของขุนนางท่ านนัน้ ช่ างงดงาม


มีสาวงามคอยเอาอกเอาใจอยู่ตลอด คงจะนึ กถึงคนอื่นหรอก ผู้
ชายหนุ่ มแน่ นย่ อ มซ่ อ นสัญ ชาตญาณยามที่ เ ห็น ผู้ห ญิ ง สวย
ไม่ได้

ความคิดเช่นนี้ คล้ายกับนางกาลังหึงหวง...

หญิงสาวปิดสมุดภาพสวยงามและประณี ตในมือลง แต่


ก่อนนางเคยคิดว่าสมุดภาพเล่มนี้ มีฝีพู่กนั ที่ ยอดเยี่ยมและลึก
ลา้ แต่ก่อนนี้ กลับรูส้ ึกว่าไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่เสียอย่างนัน้

ลุ่ยจูพบั เสื้อผ้าและจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว เห็นคุณหนูยงั


ถือสมุดภาพในมือด้วยอาการกลัดกลุ้ม เมื่อเห็นสายตาเจ้านาย
เด็กสาวก็เดินออกจากห้อง สักพักก็ถือจานขนมสี ทองที่ เพิ่งทา

8
เสร็จใหม่ๆ ออกมา เด็กสาวเดินมาหยุดข้างกายนายสาวแล้ว
เอ่ยว่า “คุณหนู ข้างนอกฝนตกปรอยๆ นะเจ้าคะ”

“อืม”

“ในห้ อ งครัว มี ข นมที่ ใ ต้ เ ท้ าชอบกิน มากมายจนกิน ไม่


หมดแล้วเจ้าค่ะ”

“หืม?”

“ถ้าคุณหนูไม่มีเรื่องใดต้องทา...” ลุ่ยจูยื่นจานขนมในมือ
ให้ “นาขนมนี้ ไปให้ใต้เท้าด้วยตัวเองจะดีกว่านะเจ้าคะ...”

“...”

สานั กคุ้มกันภัยหย่งเต๋อมีจางเม่าซิ่งผู้ซึ่งรูปร่างสูงใหญ่
เป็ นหัวหน้ า เขาเป็ นผู้ที่มีสติปัญญาเฉี ยบแหลมและมากด้ วย
ความสามารถ เดิมสานักคุ้มกันนี้ เป็ นของท่านปู่ ...จางหย่งเต๋อ
ที่ เป็ นผู้ริ่เริ่ม พวกชาวยุทธ์ตงั ้ ฉายาจางหย่งเต๋อว่า ‘จักรพรรดิ
มีดสองคม’ ด้วยว่าเขาชานาญการใช้มีดสองมือเป็ นที่ สุด และ
อาศัยเพลงมีดอันยอดเยี่ยมสร้างชื่อไปทัวตั ่ ง้ แต่เหนื อจรดใต้
9
เมื่อสื บทอดมาจนถึงรุ่นของจางเม่าซิ่ง เขาก็เป็ นคนที่ มี
ความตัง้ ใจสื บทอดวิชาจากท่ านปู่ หกขวบก็เริ่มฝึ กมีดสองมือ
ทัง้ เช้ าและเย็นด้ วยความยากลาบาก หลังจากฝึ กได้ สิ บ หกปี
ระดับฝี มือก็ถึงขัน้ สุดยอด ทว่าท่ านปู่ กลับถึงแก่กรรม บิดาวัย
กลางคนของเขาก็เ จ็บ ไข้ ไ ด้ ป่ วยเสมอ สภาพของส านั ก คุ้ม
กันภัยเสื่อมโทรมลงทุกวัน มีเพียงแค่เขาที่ คอยประคับประคอง
มันไว้อย่างยากลาบาก

จนกระทังอายุ
่ ยี่สิบสามเขาก็ได้พบกับหญิงสูงศักด์ ิ ท่ าน
หนึ่ ง ตอนนัน้ เขาได้รบั เงินจากนางมากมายจนสามารถปกป้ อง
สานั กคุ้มกันภัยของตนไว้ได้อย่างคาดไม่ถึง ทาให้ สานั กที่ แต่
เดิ ม ย ่า แย่ ก ลับ ฟื้ นตัว ขึ้น มาได้ อี ก ครัง้ นอกจากนี้ เ ขาก็ย งั ได้
สมหวังกับภรรยาคนงาม

ผ่ า นมาสามปี แล้ ว กิ จ การส านั ก คุ้ม กัน ภัย นั บ วัน ก็ ยิ่ ง


เจริญรุ่งเรือง มี ลูกน้ องสามสิบกว่าชี วิต และมี ลูกทัง้ ชายและ
หญิง ในแต่ละวันนอกจากจะออกไปสังการอยู ่ ่ที่สานักคุ้มกันภัย
แล้ว เขาแทบจะไม่มีโอกาสได้แสดงเพลงมีดที่เชี่ยวชาญอีกเลย

แต่ว่าการเดินทางครัง้ นี้ เป็ นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน


นับเป็ นครัง้ แรกที่ภรรยาออกปากขอร้อง ทาให้เขาได้ร้วู ่า คนที่
ให้เงินจานวนมากในปี นัน้ ผู้มีพระคุณที่ ประคับประคองสานัก
10
คุ้มกันภัยของเขาไว้ ที่แท้คือคุณหนูใหญ่ บุตรีของอัครเสนาบดี
ถานที่ถกู เนรเทศมาชายแดน

และที่ สาคัญผู้มีพระคุณของเขายังเป็ นอดีต เจ้านายของ


ภรรยาอี กด้ วย ครัง้ นี้ จางเม่าซิ่งจึงต้ องเสี่ ยงภัยมาด้วยตัวเอง
แต่ รอบนี้ เขาเอาภรรยามาด้วย จึงเท่ ากับเป็ นการเดิมพันด้วย
ชีวิตของทัง้ ตนและภรรยา เพราะพวกเขารู้ดีว่าโทษของการให้
ที่หลบภัยกับนักโทษหนักหนาเพียงใด

ถึงคุณหนู ตระกูลถานได้วางแผนหาทางหนี ทีไล่ไว้แล้ว


โดยการซื้อบ้านพักบนภูเขาสองสามหลังในชื่ อคนอื่น แต่หากมี
คนสืบหานาง ก็ย่อมเกี่ยวพันมาถึงพวกเขาสองสามีภรรยาอยู่ดี

ทว่าบุญคุณต้องตอบแทน เขามีนิสัยที่ รกั ความยุติธรรม


อีกทัง้ ไม่อาจทนการรบเร้าของภรรยาได้ ดังนัน้ ทัง้ ที่ ร้อู ยู่แก่ใจ
ว่ามี อนั ตรายรออยู่มากเพี ยงใด เพราะยามนี้ อยู่ในช่ วงภาวะ
สงคราม ทุ ก หนแห่ ง มี แ ต่ ค วามวุ่น วาย แต่ เ ขาก็ย งั ตัด สิ น ใจ
มาเว่ยอัน โชคดีที่สานักหย่งเต๋อเคยคุ้มกันสินค้าในเส้ นทางนี้
มาก่ อ น จึ ง คุ้น เคยกับ ถนนหนทาง เขาและผู้ติ ด ตามใช้ เ วลา
เดือนกว่าก็มาถึง

11
ทว่าเรื่องที่ พวกเขาไม่ได้คิดมาก่อนก็คือ ขบวนเดินทาง
ยัง ไม่ ท ัน ได้ ผ่า นเข้ า ประตูใ หญ่ ข องเมือ งเว่ ย อัน ด้ ว ยซ้า ก็ถ กู
ทหารสกัดกัน้ ไว้แล้ว ทหารรักษาการณ์ ไม่เพียงค้นเจออาวุธที่
พวกเขานามา แต่ ยงั พบคนที่ แอบซ่ อนไว้ในช่ องลับของรถม้า
ด้วย ทัง้ ขบวนจึงถูกทหารควบคุมตัวไว้

จางเม่าซิ่งเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมา หากรู้ว่าเป็ นเช่นนี้ ไม่ว่า


ภรรยาจะอ้ อ นวอนเพี ย งไร เขาก็ จ ะไม่ ย อมตอบรับ อย่ า ง
เด็ดขาด การซุกซ่อนคนและอาวุธเข้าเมือง จะสามารถเอ่ยอ้าง
ว่าเตรียมมาเพื่อใช้ป้องกันตัวได้อีกหรือ?

ยิ่ ง ครัง้ นี้ พวกเขามาเพื่ อ น าตั ว นั ก โทษหญิ งคนหนึ่ ง


กลับไป นัน่ คือการให้ที่พกั พิงแก่นักโทษ อาจจะจบลงด้วยการ
ถูกส่งเข้าคุกและอาจลงเอยด้วยโทษตายในที่สดุ

เขารู้สึ ก ถึ ง หายนะที่ คื บ คลานมาหา คิ ด ว่ า พวกตนไม่


แคล้วต้ องถูกจับขังคุกแน่ แล้ว แต่ กลับพบว่าที่ คุมขังพวกเขา
นัน้ หาใช่คกุ ตะรางอย่างที่คิดไม่ แต่เป็ นบ้านที่ เพิ่งสร้างเสร็จไม่
นาน มี ผ้ า ห่ ม ฟู ก หมอนครบครัน เพี ย งแต่ ถ ูก กัก บริ เ วณไม่
สามารถเข้ า ออกได้ ต ามอ าเภอใจเท่ า นั ้ น อี ก ทั ง้ อาหาร
แม้กระทังน่ ้าชาก็ล้วนเตรียมไว้อย่างดี

12
หนาซ้าผู้ที่ได้รบั หน้ าที่ คุมตัวพวกเขายังคุยเล่นหัวเราะ
กับผู้คุ้มกันภัยเจ็ดแปดคนราวกับรู้จกั กันมานาน นายทหารผู้
นัน้ ดูแลพวกเขาและให้ความเป็ นกันเองอย่างมาก หากรู้สึกว่า
สุร าแรงไม่ พ อก็ย งั อุต ส่ า ห์ใ ห้ ค นเอามาเปลี่ ย นให้ พ ร้ อ มด้ ว ย
กับแกล้ม

พอคิ ด มาถึ ง ตรงนี้ จ างเม่ า ซิ่ ง ก็ถ อนหายใจอย่ า งหนั ก


หน่ วง โชคดี ที่เขาทาหน้ าที่ ค้มุ กันภัยสินค้ามาหลายปี หัวใจจึง
ค่อนข้างกล้าแกร่ง ไม่อย่างนัน้ ความกังวลระคนหวาดระแวงใน
ความเป็ นอยู่ที่ดีผิดปกตินี้ เขาก็คงรับไม่ไหวแน่ ๆ จากนี้ เขายัง
ไม่รวู้ ่าจะเป็ นอย่างไรต่อไป เพราะสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลง
ได้ทุกเมื่อ

13
78 ปล่อยให้ไป

หวัง จี้ ร ับ หน้ าที่ ดู แ ลการขุ ด คลองสร้ า งก าแพงเมื อ ง


ขณะเดี ยวกันก็เป็ นหัวหน้ าเฝ้ าคนในสานั กคุ้มกันภัยหย่งเต๋อ
กลุ่มนี้ ที่ต้องบอกว่าเฝ้ านัน้ เพราะไม่เพียงแค่ส่งทหารเดินตรวจ
ตราไปมา แต่ทุกวันต้องส่งข้าวส่งน้าให้ด้วย อาหารสามมือ้ ตรง
เวลา ทัง้ สุรา เนื้ อและข้าวมีครบครัน หากช่วงไหนที่ ปลีกตัวได้
เขาก็จะไปแวะดูว่าผูค้ ้มุ กันภัยกลุ่มนี้ มีสิ่งใดขาดเหลือหรือไม่

การกระทานี้ ทาให้ทหารและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง
คิดว่าในบ้านหลังนี้ มีบุคคลสาคัญมาพัก เวลาเดินผ่านพวกเขา
ก็จะหลบ ด้วยเกรงว่าจะไปชนกับผูส้ งู ศักด์ ิ เข้า

ไม่เพียงแต่หวังจี้ ทัง้ ตู้เหอและจางเซี่ ยนก็เคยไปทักทาย


คนในสานักคุ้มกันภัยด้วยท่าทางยินดีกนั มาแล้ว

ตอนที่ ออกมาตู้เหอยัง เอ่ ยด้ วยว่ า “นี่ คื อญาติ ฝ่ายเมี ย


ของแม่ ท ัพ หัว เมื อ งงัน้ หรือ ? ลัก ษณะดูดี นี่ !...ผิ ว แต่ ล ะคนทัง้
หนาและหยาบกระด้าง ดูกร็ วู้ ่าฝึ กยุทธ์เป็ นประจา”

1
จางเซี่ ย นเอ่ ย ขึ้ น มาบ้ า ง “เป็ นผู้ คุ้ ม กั น ภัย ก็ ต้ อ งมี
ความสามารถสิ ว่าแต่...ฮูหยินของหัวหน้ าสานักคุ้มกันภัยเป็ น
อดี ต หัว หน้ าสาวใช้ ข้ า งกายคุ ณ หนู ถ าน...เมี ย ใต้ เ ท้ า งัน้ รึ ?
เหลื อเชื่ อจริง ! บ่าวรับ ใช้ ที่ จงรักภักดี ตอนนี้ หาได้ ยากมาก นี่
ขนาดนางแต่ งงานออกเรือนไปหลายปี แล้วก็ยงั ไม่ลืมเจ้านาย
อีกหรือ นางเดินทางมาไกลนับพันลี้เพื่อช่วยคน นัน่ ไม่ง่ายเลย
นะ”

ตู้ เ หอตบหัว จางเซี่ ย นไปหนึ่ งที “ช่ ว ยคนอะไร? นั น่


เรียกว่าการมาเยี่ยมเยียน เป็ นการสานสัมพันธ์ระหว่างเจ้านาย
กับลูกน้ อง ช่วงนี้ ใต้เท้ายิ่งอารมณ์ไม่ใคร่ดี เจ้าจะพูดอะไรก็ต้อง
ระวังหน่ อย อย่าให้ภยั ออกมาจากปาก ระวังจะถูกใต้ เท้ าส่งไป
เฝ้ าท่าเรือ”

หวังจี้ยิ้มจนตาหยี “พูดแล้วก็นึกถึงผู้ค้มุ กันภัยที่ พวกเรา


เคยจ้างขนเสบียงมาจากในเมือง มีสองคนที่ ข้ารู้จกั อยู่ในผู้ค้มุ
กัน ภัย กลุ่ ม นั ้น ด้ ว ย พูด ตามตรงการขนเสบี ย งครัง้ นั ้น ระยะ
ทางไกลพอสมควร จานวนเกวียนก็มาก ทว่าคนของพวกเรามี
น้ อยจึงกลัวว่าเสบียงจะถูกปล้น ทว่าผู้ค้มุ กันภัยพวกนัน้ นับว่า
ไม่เลว ทาให้ข้าสบายขึน้ มาก”

2
“มิน่าล่ะเจ้ากับพวกเขาถึงเข้ากันได้ดี หากจะพูด ไปคน
เหล่ า นี้ ก็อ ยู่ ที่ นี่ มาสี่ ห้ า วัน แล้ ว ไม่ รู้ว่ า ใต้ เ ท้ า จะเอาอย่ า งไร
สรุปว่าจะให้คมุ อยู่อย่างนี้ ต่อไปหรือ?”

“ก็คงต้องรอคาสังจากใต้
่ เท้าจึงจะปล่อยได้”

“อื ม ...หากให้ ร อค าสัง่ จากใต้ เ ท้ า คงยากหน่ อ ย แต่ ถ้ า


หญิงงามผูน้ ัน้ มาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้ า รับรองว่าใต้เท้าคงได้ใจ
อ่อนตาม”

“ไม่จริง ใต้เท้าไม่ใจอ่อนหรอก เขาจะต้องใจแข็งแน่ ๆ”

“ดูไปแล้วประสบการณ์พวกเจ้าทัง้ สองยังอ่อนนัก!”

“ระวัง ค าพู ด หน่ อย หากใต้ เ ท้ า ได้ ยิ น เข้ า เขาอาจจะ


ประเคนหมัด ให้ พวกเจ้ า จนต้ องนอนซมกับ เตี ย งลุ กไม่ ได้ ไป
สามวันเชียวนะ”

“แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองจะรอดงัน้ หรือ...” พูดจบ

ทัง้ สามก็อ อกหมัด ใส่ ก ัน พลางหัว เราะเฮฮาในขณะที่


เดินไปยังค่ายทหาร

3
ถึงแม้อวี้ฉีจะออกเรือนแล้ว ทว่าก่อนที่ จะออกเรือนนัน้
นางอยู่จวนตระกูลถานกับคุณ หนู ใหญ่ เสื้อผ้าอาภรณ์ อาหาร
การกินไม่ขาดตกบกพร่อง ทัง้ สินเดิมก็ได้มามากถือเป็ นวาสนา
ที่น้อยคนนักจะมี หลังออกเรือนสามีกร็ กั ใคร่ ไม่มีบา้ นเล็กบ้าน
น้ อยให้ต้องกลัดกลุ้มใจ แล้วยังมี บุตรชายหญิงที่ น่ารักสองคน
ชีวิตความเป็ นอยู่ราบรื่นสมหวัง ดังนัน้ แม้จะออกเรือนมาสาม
ปี แล้วก็ยงั คงเป็ นสาวงามอายุน้อย

การเดินทางครัง้ นี้ นางรู้ว่ามันอันตราย แต่นางมีชีวิตได้


ดี จ นถึ ง บัด นี้ ล้ ว นเป็ นบุ ญ คุณ ของคุณ หนู ท ัง้ สิ้ น อี ก ทัง้ นางก็
ไม่ใช่บา่ วที่เกิดในบ้าน และไม่ได้เป็ นเด็กกตัญญูขายตัวเอาเงิน
มาฝังศพบิดามารดา แต่เป็ นแค่เด็กขอทานที่ วนั หนึ่ งมาขอทาน
ต่อหน้ าเกี้ยวคุณหนู คุณหนูเห็นนางหน้ าตาน่ าเอ็นดู จึงพาเข้า
จวนมาเป็ นเด็กรับใช้ ข้างกาย จากนั น้ ก็เลื่อนขัน้ ให้ นางขึ้นมา
เรือ่ ยๆ

ชีวิตของนาง ไม่ว่าจะอยู่ในจวนตระกูลถานที่ รา่ รวยหรือ


หลังจากออกเรือนเป็ นอิสระแล้ว ต่างก็อยู่ภายใต้การวางแผน
ของคุณหนู ทงั ้ สิ้น วันนี้ คุณหนูตกทุกข์ได้ยาก นางจะไม่แยแส
ได้อย่างไร ในเมื่อนางได้รบั ความเมตตาจากคุณหนูกค็ วรต้อง
ตอบแทน ความจริ ง แล้ ว ยัง มี อี ก หลายเรื่อ งที่ เ อ่ ย ไม่ ห มด ถึ ง

4
จะต้องมอบชี วิตนี้ ให้คณ
ุ หนูกถ็ ือว่าคุ้มค่า สงสารก็แต่บุตรชาย
บุตรสาวสองคน และสามีที่แสนดีของนางเท่านัน้

ยิ่งช่วงนี้ สามีไม่ได้โกรธนางแล้ว กลับกันคือเขาคอยเอ่ย


ปลอบใจเมื่อเห็นว่านางมีท่าทีกลัดกลุ้ม

“ข้ าสื บข่ าวที่ สานั กศึกษามาแล้ว เป็ นไปตามที่ ห ร่วนอี


ตันพูดไว้ทงั ้ หมด ใต้เท้าเซี่ ยกลัวว่าพวกเราจะแอบลักลอบเข้า
เมืองไปรับคนออกมาจึงสังให้ ่ หยุด การเรียนการสอนมาหลาย
วันแล้ว ตอนนี้ เรายังไม่ได้รบั คน และท่านก็ไม่ได้โกรธพวกเรา
จนไประบายกับนางด้วย”

อวี้ฉีถอนหายใจ “ข้าเพียงแต่คิดถึงห้าวเอ๋อกับหลิงเอ๋อ”

จางเม่าซิ่งวางมือลงบนไหล่ของภรรยา ทาไมเขาจะไม่
คิ ด ถึ ง เล่ า ห้ า วเอ๋ อ สามขวบ ส่ ว นหลิ ง เอ๋ อ เพิ่ ง ขวบครึ่ ง เป็ น
ช่วงเวลาที่น่ารักมากทีเดียว

“ครัง้ นี้ หากได้ กลับ ไป ข้ าก็จะไม่ ออกไปคุ้มกัน ภัย ด้ ว ย


ตัวเองสักระยะ” ตอนนี้ เขากับภรรยามีลูกยัง เยาว์ หากเขาเป็ น
อะไรไปก็ยากจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรกับภรรยาและลูกๆ
บ้าง

5
“ไม่ร้วู ่าแม่ทพั หัวเมืองท่านนัน้ ดีต่อคุณหนูหรือไม่” อวี้ฉี
ค่ อ นข้ า งกัง วล เนื่ องจากยากนั ก ที่ ส ามัญ ชนจะหาญสู้ ก ับ
ข้ า ราชการ ถึ ง นางจะไม่ เ ป็ นทุ ก ข์เ รื่ อ งอาหารและเสื้ อ ผ้ า ที่
คุณหนูสวมใส่กเ็ ถอะ

นางรู้ว่าการมารับตัวคุณหนูครานี้ ล้มเหลว ไม่ว่าอย่างไร


ก็คงรับคุณหนูไปไม่ได้ เพราะแม่ทพั หัวเมืองคงไม่ยอมเป็ นแน่
อี ก ทัง้ สามี ข องนางเป็ นเพี ย งหัว หน้ าส านั ก คุ้ ม กัน ภัย เล็ก ๆ
เท่ านั น้ เคยต่ อสู้กบั ทหารเสี ยที่ ไหน บุญคุณนี้ ทงั ้ ชี วิตคงไม่ได้
ตอบแทน นางจึงค่อนข้างลาบากใจยิ่งนัก

ปี นัน้ เมื่อนางออกเรือน คุณหนูได้ให้สินเดิมมามากมาย


แล้วไหนจะเงินอี กหลายพับ มีวนั หนึ่ งคุณหนูเคยพูดตอนที่ อยู่
จวนตระกูลถานว่านางกับคุณหนู มีมิต รภาพต่ อกัน ฉั น พี่ น้ อง
หากเกิ ด เหตุ สุ ด วิ ส ัย คุณ หนู อ าจต้ อ งขอความช่ ว ยเหลื อ แต่
ไม่ได้ต้องการจะรบกวนชีวิตความเป็ นอยู่ของนาง

ทว่าเมื่อวันนี้ มาถึงจริงๆ นางกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ได้


แต่ หวังว่ าผู้ชายคนนั น้ จะดี กบั คุณหนู จางเม่าซิ่งลูบหลัง ของ
ภรรยา เอ่ยด้วยน้ าเสียงจริงจัง “ไม่มีใครไม่ร้วู ่าคุณหนูของเจ้า
งดงามหยาดเยิ้ม ใต้เท้าเซี่ยท่านนัน้ น่ าจะพอใจเป็ นที่สดุ ”

6
ตามสายตาของผู้ชายด้วยกัน...แม่ทพั หัวเมืองเมืองเว่ย
อันจะต้องมีใจให้คณ ุ หนูใหญ่ตระกูลถานเป็ นแน่ อีกทัง้ ต้องเป็ น
ห่ วงกังวลอยู่ทุกวัน ไม่อย่างนั น้ ก็คงไม่ร้วู ่าอี กฝ่ ายต้ องการจะ
หลบหนี ทัง้ ยังต้อนรับพวกเขาด้วยอาหารการกินอย่างดี เขารู้ดี
ว่ าผู้ชายคนหนึ่ ง หากไร้ร กั ก็ค งไม่จ ดั การและเอาใจใส่ แ ม้ แ ต่
เรือ่ งเล็กน้ อยเช่นนี้ เป็ นแน่

จางเม่าซิ่งพอที่จะมองออกถึงความห่วงใยของอีกฝ่ าย

“เพราะฉะนั น้ เจ้าไม่ต้องกังวลว่าคุณหนู ของเจ้าจะเป็ น


อันตราย ใต้ เท้ าท่ านนัน้ จะต้ องดูแลนางอย่างดี ที่สุด ข้าว่าเขา
ต้ องแอบรักนาง เกรงแต่ ว่าคุณหนูของเจ้าจะสายตาสูงเกินไป
จึงมองไม่เห็นข้าราชการต๊อกต๋อยก็เท่านัน้ ”

“ถึ ง คุณหนู จะเอื่ อยเฉื่ อยเหมือนเบื่อง่ ายแต่ ไม่ ใช่ คนดู


แคลนใคร จะต้องเกิดเรือ่ งบางอย่างเป็ นแน่ ”

จางเม่าซิ่งไม่ค่อยพอใจในความจงรักภักดี ต่อเจ้านาย
ของภรรยาสักเท่าไร ไม่ว่าเขาจะบอกกล่าวอะไรไปก็ดเู หมือนไร้
ประโยชน์ คงเป็ นเพราะหญิงคนนัน้ เป็ นผูม้ ีพระคุณของภรรยา

7
ช่วงเที่ยงวัน

หลั ง จากหวั ง จี้ ก ั บ ทหารอี กสองนายกิ นข้ า วอย่ า ง


เอร็ดอร่อยจนท้องอิ่มและกาลังจะเดินออกจากโรงครัว ก็ถกู จัว่
เวิ่นร้องเรียกให้หยุดเสียก่อน

“ใต้ เท้ าบอกให้ เจ้าปล่อยตัวคนจากสานั กคุ้มกันภัยนั น่


ได้แล้ว อีกทัง้ ให้คืนรถม้าตามจานวนเดิมด้วย”

“ข้าคิดเหมือนกันว่าพวกเขากินดี อยู่ดีมากเกินไป ควร


จะปล่อยตัง้ นานแล้ว” ตอนนี้ อาหารแพงมาก เพราะยังห่างจาก
ฤดูใบไม้รว่ งช่วงเก็บเกี่ยวอยู่นาน “ใต้เท้ายังสังอะไรอี
่ กหรือไม่?
ปล่อยคนแล้วก็ให้ส่งออกนอกเมืองเลยใช่ไหม?”

“ให้ พ วกเขาเข้ า เมื อ ง หลัง รับ คนแล้ ว ก็ใ ห้ รี บ ออกจาก


เมืองไป ไม่ต้องห้ามปรามหรือหน่ วงเหนี่ ยวไว้”

“อะไรนะ!” ดวงตาหวังจี้เบิกกว้าง ทาสี หน้ าไม่อยากจะ


เชื่อ

ลุ่ ย จู เ อาชุ ด ฤดู ใ บไม้ ผ ลิ ที่ เ พิ่ ง เย็บ เสร็จ ไม่ กี่ ว ัน มาให้
คุณหนูผลัดเปลี่ยน

8
แบบชุดเหล่านี้ มาจากฝี มือของคุณหนู พูดให้ ถกู ต้ องก็
คือเป็ นผลิตผลที่คณ
ุ หนูทาฆ่าเวลายามเบือ่ หน่ ายนัน่ เอง

เมื่ อ ครัง้ อยู่ ที่ จ วนตระกูล ถาน ทัง้ เครื่ อ งประดับ และ
เสื้อผ้าของสาวใช้ ที่ติดตามคุณหนู ล้วนดึ งดูดให้ สาวน้ อยสาว
ใหญ่ในเมืองอยากจะลอกเลียนแบบ น่ าเสี ยดายที่ คุณหนู ใหญ่
อยู่ในตระกูลถานที่มงคั ั ่ งร
่ า่ รวยจึงไม่ได้หาเลี้ยงตัวเองด้วยงาน
เหล่านี้ หาไม่แล้วแต่ละลวดลายปักทอก็คงมีร้านค้าแย่งกันจน
หัวร้างข้างแตกแน่ ๆ

ตามปกติ แล้ ว จึ ง ไม่ มีใ ครเอ่ ย ถึง เรื่ องนี้ กบั คุณ หนู เป็ น
เพี ย งเรื่ อ งที่ พูด คุย กัน ลับ ๆ หลายคนอยากจะสะสมเสื้ อ ผ้ า
เครื่ อ งประดับ และแบบปั ก ลวดลายต่ า งๆ เหล่ า นี้ เพราะ
แม้กระทังช่ ่ างเย็บน้ อยใหญ่ของเมืองหลวงก็ยงั ไม่สามารถท า
แบบที่ลา้ ค่าเช่นนี้ ออกมาได้

ทุ ก คนในเมื อ งจึ ง เข้ า ใจว่ า สิ่ งใดก็ต ามที่ ม าจากฝี มื อ


คุณหนูย่อมลา้ เลิศ พ่อค้าผ้าได้ยินหรือมีใครเอ่ยถึงชื่อเสียงของ
คุณหนู ดวงตาก็จะเป็ นประกายระยิบระยับทันที

ลุ่ยจูเย็บเสื้อตัวในสี ขาวเป็ นลวดลายดอกกุหลาบมีลาย


ฉลุสีเงิน เสื้อคลุมตัวนอกชายแขนเสื้อกว้าง ตรงช่ วงหน้ าอก
9
และชายแขนเสื้อเย็บเป็ นลายดอกไม้สีอ่อน ส่วนตัวเสื้อปักด้วย
ด้ า ยสี แ ดงเป็ นดอกตูม ช่ ว งเอวรัด ด้ ว ยสายรัด เอวสี เ ขี ย วสด
พร้อมกับห้อยหยกเอวไว้

เฉดสี เขี ยวแดงและขาวที่ ดูธรรมดาไม่ฉูดฉาด แต่ กลับ


ขับเน้ นให้รสู้ ึกถึงความงดงามตระการตายามแรกเข้าสู่ฤดูใบไม้
ผลิ

ทางด้ า นลุ่ ย จูจ ดั การเครื่ อ งประดับ และเสื้ อ ผ้ า คุณ หนู


เรียบร้อยแล้ว ส่วนทางห้องครัวเจิ้งเอวี้ยก็ใส่ เมล็ดเหอเถากับ
ขนมทอดกรอบสี เหลืองที่ เสร็จใหม่ลงในตะกร้าเรียบร้อยแล้ว
เช่นกัน

พอเห็นท้ องฟ้ าด้านนอกยังไม่ครึ้มสักเท่าไร แต่ กไ็ ม่ร้วู ่า


หยาดฝนจะพรังพรู
่ ลงมาอีกหรือไม่ ถานหวันช ่ ิ งจึงใจร้อนเร่งลุ่ย
จูอยู่หลายรอบ นางรีบหยิบปิ่นหยกมาเสียบผมอย่างเร่งรีบแล้ว
เดินออกไปข้างนอกด้วยท่าทางร้อนรน

“คุณหนู ท่านยังไม่ได้ผลัดหน้ าเลยเจ้าค่ะ”

10
ฝนตกยังจะแต่งหน้ าไปเพื่ออะไร? เครื่องสาอางของคน
ในสมัยโบราณไม่มีประสิทธิภาพในการกันน้ าได้ หากวาดคิ้วสี
ดาเมื่อโดนฝนจนเปี ยกก็คงจะเลอะเทอะกลายเป็ นหน้ าผีแน่ ๆ

ลุ่ยจูเห็นคุณหนูหยิบร่มแล้วผลักประตูออกไป นางก็ได้
แต่ ลนลานหยิบเสื้อคลุมฝนแล้วคว้าตะกร้าจากเจิ้งเอวี้ยที่ อยู่
ด้านหลังวิ่งตาม

เจิ้งเอวี้ยรีบวิ่งนาไปเปิดประตูใหญ่ หน้ าบ้านรอ ตอนที่


เดินออกไป ถานหวันช ่ ิ งก็เหลือบมองตะกร้าแล้วไล่ถามว่าใส่
เนื้ อแห้งมาด้วยไหม? หมันโถวไส้่ เนื้ อได้ใส่ มาด้วยหรือเปล่า?
เพราะถึงใต้ เท้ าจะไม่อยู่ แต่ อาหารเหล่านี้ กจ็ ดั เตรียมไว้ให้ทุก
วัน ด้วยไม่รแู้ น่ นอนว่าเมื่อไรใต้เท้าจะมา

ฝนตกครึ่ง ค่ อนคื น พอฟ้ าสางก็หยุดตกแล้ ว ทว่ า มาถึ ง


ตอนนี้ ท้ องฟ้ าก็ ย ั ง ไม่ ป ลอดโปร่ ง มี ก้ อนเมฆมาบดบั ง
แสงอาทิตย์ อี กทัง้ มีสายลมเย็นพัดมาเป็ นระยะ ทาให้จิตใจไม่
ใคร่เบิกบานนัก

่ ิ งรับเสื้อคลุมกันลมจากมือลุ่ยจูมาผูกไว้ที่ไหล่
ถานหวันช
แล้ ว หัน ถามเจิ้ ง เอวี้ ย “เนื้ อแห้ ง กับ หมัน่ โถวใส่ ม ามากพอ

11
หรือไม่ ? ตามปกติ แล้ ว ของที่ เ อาไปก็มกั จะถูกคนอื่ น แย่ ง กิ น
หมด ไม่ค่อยมีเหลือมาถึงใต้เท้านัก”

ใต้ เ ท้ า ไม่ ใ ช่ ค นหวงของกิ น อาหารและขนมที่ ใ ห้ ไ ปก็


แบ่งปันให้ลกู น้ อง ตัวเองได้กินไม่กี่คา

“คุณหนูวางใจเถอะเจ้าค่ะ เนื้ อแห้งกับหมันโถวไส้


่ เนื้ อจัด
ไปให้ อ ย่ า งเพี ย งพอแน่ นอน ขนมหวานก็ห่ อ ให้ ไ ปไม่ น้ อย
เหมือนกันเจ้าค่ะ” เจิ้งเอวี้ยตอบ ลุ่ยจูเม้มปากแอบยิ้ม คุณหนู
ปากแข็งใจอ่อน จริงๆ แล้วก็คงเป็ นห่วงใต้เท้ามากนัน่ เอง

ถานหวันช ่ ิ งเห็นว่าฝนจะลงเม็ดอี กแล้วจึงรีบเดินอย่าง


รวดเร็ว ระหว่ า งทางไปค่ า ยทหารมี ฝ นตกพร าท าให้ เ ดิ น ไม่
สะดวกนั ก นางรีบกางร่ม ปรากฏว่าใบร่มไม่ดี จึง กางยากสัก
หน่ อย หญิ ง สาวมัว แต่ วุ่ น วายอยู่ ก ับ ร่ ม จนไม่ ไ ด้ ส นใจเท้ า
กระทัง่ เท้ า ข้ า งหนึ่ งเหยี ย บลงไปในแอ่ ง น้ า ขัง เล็ก ๆ ท าให้
รองเท้าไหมถักลายโปร่งเปี ยก หนาซา้ หยาดฝนในฤดูใบไม้ผลิ
ยังพาความหนาวเหน็บของฤดูหนาวมาด้วย ความเย็นผ่านเท้า
เสี ยดแทงเข้ามาในกายทาให้ หนาวจนตัวสัน่ ทัวร่ ่ างตัง้ แต่ หวั
จรดเท้าเฉอะแฉะไม่ค่อยจะสบายนัก

12
ช่ ว งเวลาที่ เลวร้ายที่ สุด แต่ ด นั วู่วามอยากจะออกจาก
บ้านก็เลยเป็ นเช่ นนี้ นางยืนอยู่ตรงนั น้ ในใจก็ลงั เลว่าจะกลับ
บ้านไปเปลี่ยนรองเท้าก่อนดีไหม รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยว่ากัน
พลันได้ยินเสียงรถม้าแล่นมาทางด้านหน้ า

ถนนสายนี้ ป กติ ผ้คู นค่ อ นข้ า งน้ อ ย ถานหวันช


่ ิ ง จึ ง เงย
หน้ ามองไปตามต้ น เสี ย งด้ ว ยความสงสัย รถม้ า ที่ วิ่ ง มาไม่
เหมื อ นรถม้ า ของค่ า ยทหารแม้ แ ต่ น้ อย จู่ๆ คนบัง คับ รถม้ า
รูปร่างสูงใหญ่กก็ ระตุกเชื อก ทาให้ รถม้าหยุดลงตรงหน้ าถาน
่ ิ งพอดี
หวันช

จากนัน้ ก็มีเสียงร้องตะโกนด้วยความดีใจดัง ขึ้นมา เสียง


่ ิ งตกตะลึงไปชัวครู
นี้ ช่างคุ้นเคยนัก ลุ่ยจูกบั ถานหวันช ่ ่ ก่อนจะ
เห็นคนผูห้ นึ่ งเดินลงมาจากรถม้า

“อวี้ฉี?”

“พี่อวี้?”

่ ิ งกับลุ่ยจูแล้ว
เที ยบกับความประหลาดใจของถานหวันช
ผู้คุ้มกันภัยบนรถที่ ตามลงมา พอเห็นหญิงสาวตรงหน้ ายิ่งตก
ตะลึงไม่แพ้กนั

13
จางเม่ าซิ่ง ซึ่ ง เดิ น ตามอวี้ฉีลงมาจากรถม้ า เพิ่ ง ได้ เห็น
เพชรเม็ดงามที่ถกู เก็บไว้ในจวนอดีตอัครมหาเสนาบดีถานเป็ น
ครัง้ แรก ก่อนหน้ าแม้จะไม่เคยพบหน้ ากัน แต่ กไ็ ด้ยินคารา่ ลือ
ที่ ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถานงดงามเพริศพริ้งที่ สุด เขานึ กไม่ถึง
ว่ า เมื่ อ ได้ เ จอเข้ า จริ ง ๆ ภาพที่ ต นเคยจิ น ตนาการไว้ นั ้น ยัง
งดงามไม่ถึงครึง่ ของตัวจริงตรงหน้ า

ถึงจะมองในระยะห่างเพียงนี้ กย็ งั เห็นชัดถึงคิ้วขมวดมุ่น


บนใบหน้ าที่ ไร้สีวาดทา รูปร่างและอวัยวะทัง้ ห้ าช่ างงดงามจน
ไม่อาจละสายตา ทาให้คนที่เห็นยากจะลืมเลือน

มิ น่ า เล่ า แม่ ท ัพ หัว เมื อ งที่ รู้อ ยู่แ ก่ ใจว่ า นางเป็ นนั กโทษ
ของราชสานักถึงพึงใจอยากจะเก็บนางไว้ข้างกาย

14
79 มารับตัว

ท่ามกลางบรรยากาศที่มืดครึม้ ด้วยสายฝนจนได้กลิ่นไอ
ดิน

บนท้ องถนนมีคนสองคนเดินมาตามทาง หนึ่ งในนัน้ ถือ


ร่มสี เขี ยว บรรดาผู้คุ้มกันภัยทยอยกระโดดลงมาจากหลัง ม้า
และรถม้า ระหว่างคนทัง้ สองกลุ่มมีหยาดฝนกางกัน้ อยู่ กลุ่มผู้
คุ้มกันมองไปยังคนที่ ถือร่ม เป็ นหญิงสาวผู้หนึ่ งที่ กาลังทาหน้ า
นิ่ว อี กมือยกชายกระโปรงให้สูงพ้นพื้นที่ เปี ยกแฉะ ทันที ที่นาง
เงยหน้ าแล้วมองมา ชายทัง้ กลุ่มก็ถึงกับตะลึงงัน

เมื่อความงดงามรวมเข้ากับความเคร่งขรึม นางก็ประดุจ
เดินออกมาจากภาพวาด รูปร่างหน้ าตาพิลาสลา้ ราวกับไม่ใช่
คนบนโลกมนุษย์ ริมฝี ปากแดงชุ่มฉ่า ดวงตาเรียวแฝงแววแห่ง
อานาจที่ ทาให้คนถึงกับยอมคุกเข่าให้ บุคลิกนางคล้ายกับเป็ น
เปลวไฟผสมผสานกับน้ า แข็ง ทัง้ อบอุ่น และเยื อกเย็นแฝงไว้
ด้วยความดือ้ ดึงจนคนที่พบเห็นยากจะลืมเลือน

เมื่อรู้ว่าคนที่ ส่งเสียงเรียกเป็ นใคร คิ้วขมวดมุ่นของสาว


งามก็คลายลงแล้วเผยรอยยิ้มออกมา เหล่าบุรษุ ตรงหน้ าพลัน

1
เงี ยบงัน รู้สึกเพี ยงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ ทาให้ พวกตนดูต่า
ต้อยด้อยค่าได้อย่างง่ายดาย

ถานหวันช ่ ิ งเองก็รตู้ วั ว่าเป็ นโฉมงาม ทว่าหญิงงามในโลก


มีนับพันนับหมื่น แถมนางยังเคยเห็น หญิงงามในทัง้ ยุคโบราณ
และยุคปัจจุบนั มามากมาย นามาเป็ นแบบวาดภาพก็ไม่น้อย จึง
คิ ด เพี ย งว่ า ถึ ง หน้ าตาตนจะสวยแต่ ก็ไ ม่ ไ ด้ ง ดงามเป็ นหนึ่ ง
ดัง นั ้น การที่ ผู้ค นชื่ น ชมความงามของนางน่ าจะเป็ นเพราะ
อุปนิสัยส่วนตัวได้หลอมรวมกับตัวตนในยุคนี้ ทาให้นางดูโดด
เด่นและแตกต่างเสียมากกว่า

การที่ นางกลายเป็ นจุดสนใจเช่นในตอนนี้ จึงทาให้ หญิง


สาวคุ้นชินเสียแล้ว

พอถานหวันช ่ ิ งเห็นอดีตหัวหน้ าบ่าวคนสนิทก็ถึงกับลืม


ความเฉอะแฉะและหนาวเหน็บ นางรีบก้าวเข้าไปหาแล้วจับมือ
อีกฝ่ ายไว้ จากนัน้ ก็ยิ้มให้อย่างอบอุ่น

ถึ ง อวี้ ฉี จะออกเรื อ นไปแล้ ว ทว่ าหน้ าตาก็ ไ ม่ ไ ด้


เปลี่ ย นแปลงไปเลย อี ก ทัง้ หากมองรูป ร่ า งก็ดูไ ม่ อ อกเลยว่ า
แต่ งงานแล้ว มาถึงตอนนี้ ถานหวันช ่ ิ งก็ร้สู ึกว่าคนที่ ตนได้ช่วย
ไว้ในปี นัน้ ไม่ทาให้ผิดหวังจริงๆ นางเป็ นหัวหน้ าสาวใช้ที่ดีที่สดุ
2
่ ิ ง แล้ ว เมื่ อ อวี้ ฉี เห็น อดี ต เจ้ า นายก็
เที ย บกับ ถานหวันช
ร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่อาจพูดอะไรได้เลยสักคา

นางเป็ นคนที่ คุณหนูเคยให้การอบรมและสอนสัง่ ไม่ว่า


จะเรื่ อ งการเขี ย นหนั ง สื อ หรื อ ความเป็ นระเบี ย บเรี ย บร้ อ ย
ประหนึ่ งกระดาษว่างเปล่าที่บงั เอิญมีผมู้ ีฝีมือลา้ เลิศมาขีดเขียน
สามารถพูดได้ว่าหากไม่มีคณ ุ หนูพาเข้าจวนตระกูลถานในตอน
นั น้ ก็คงไม่มีนางตอนนี้ และคงไม่มีชีวิตที่ เป็ นอิสระเหมือนที่
เป็ นอยู่นี้ได้เลย

ทุ ก วัน นี้ ชี วิ ต นางมังมี


่ เ ต็ม เปี่ ยมไปด้ ว ยความสุ ข ทว่ า
คุณหนูกลับบ้านแตกสาแหรกขาด ซัดเซพเนจรไปต่างถิ่นอย่าง
โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง ถึงนางจะไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นรู้ความ
ในใจได้ แต่ เ มื่ อ จวนตระกูล ถานเกิ ด เรื่ อ งก็ท าให้ น างนอน
กระสับกระส่ายด้วยความกังวล หลังจากได้ข่าวว่าตระกูลถาน
ได้รบั ราชโองการเนรเทศแบบสายฟ้ า แลบ เมื่อนางเร่งรีบไปถึง
ก็ผ่านไปสามวันแล้ว กระทังสามี ่ กย็ งั ไม่เข้าใจว่าทาไมนางจึง
จงรักภักดีต่อเจ้านายเก่าถึงเพียงนี้

นั น่ เพราะเขาไม่ เ ข้ า ใจว่ า คุ ณ หนู อ ยู่ ใ นใจนางเสมอ


คุณหนู ไม่ได้ เป็ นแค่ เ จ้านาย แต่ เป็ นทัง้ อาจารย์ ทัง้ เพื่อน ทัง้

3
พี่ ส าวและเป็ นทัง้ มารดาก็ว่ า ได้ ความรู้สึ ก ของนางยากที่ จ ะ
อธิบายให้คนอื่นรับรู้

“ออกจากจวนมานาน ในที่สดุ ข้าก็ได้พบคุณหนูแล้ว” อวี้


ฉี เ อ่ ย ด้ ว ยน้ า เสี ยงเจื อ สะอื้ น นางดึ ง มื อ คุณ หนู ม ากุม ไว้ แน่ น
น้ าตาไหลพรากอาบสองแก้มจนลาคอตี บตันไม่อาจเอื้อนเอ่ย
วาจาได้อีก

บรรดาผู้ค้มุ กันภัยไม่ได้เข้าไปในเรือนหลังเล็ก พวกเขา


ต่ า งนั ง่ พัก กัน อยู่แ ถวลานหน้ า ตัว เรือ นและบริ เ วณใกล้ เ คี ย ง
บ้างก็เอาหญ้าที่ มีไว้ป้อนแพะมาป้ อนให้ม้า บางคนก็รบั น้ าแกง
จากในห้องครัวมากิน บ้างก็นัง่ อยู่บนตังตั ่ วยาวใต้ชายคาหน้ า
ประตูห้อง กินไปด้วยหลบฝนไปด้วย

“โอ๊ะ! เนื้ อนี่ กินแล้วมีกาลังจริงๆ รสชาติเผ็ดถึงอกถึงใจ


ยิ่ง”

“ลองชิมหมันโถวมี
่ ไส้ ดีกว่า” พูดจบ ชายหนุ่ มไว้เคราก็
ยื่นมือไปหยิบหมันโถวอุ
่ ่ นๆ ในถาดแล้วบิออก เผยให้ เห็นไส้
เนื้ อด้านใน ปากก็งบั คาโต ก่อนจะอุทาน “ไอ้หยา...”

4
เมื่ อคนอื่ น ๆ เห็น ท่ าทางชายผู้นี้ ก็พ ากัน หยิ บ หมันโถว

ขึ้นมาบ้าง “หมันโถวนี
่ ้ หอมมาก แค่ดมก็ร้วู ่าใช้ เนื้ อทาไส้” พอ
พวกเขาได้ กินก็เอ่ ยชมเป็ นเสี ยงเดี ยว “อร่อยมาก อร่อยกว่ า
ซาลาเปาไส้เนื้ อในท้องตลาดเสียอีก”

บรรดาผู้คุ้ม กัน ภัย ที่ เ หลื อ เมื่ อ ได้ ยิ น ค ารับ รองจากคน


อื่นๆ แล้ว ก็ทยอยกันหยิบหมันโถวไส้ ่ เนื้ อขึน้ มา ทัง้ กินทัง้ ชมว่า
อร่อยไม่ขาดปาก “ยังไม่เคยกินหมันโถวไส้ ่ เนื้ ออร่อยเช่นนี้ มา
ก่อนเลย”

ทันที ที่เจิ้งเอวี้ยเอาขนมหวานออกมาให้ ก็ถกู พวกเขา


แย่งไปจากมือและกินกันหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน

“หากได้กินแกล้มกับสุราคงจะรสชาติดีไม่น้อยทีเดียว”

“เอาเถอะๆ มีของร้อนๆ ให้กินก็นับว่าไม่เลวแล้ว”

จังหวะนัน้ เองก็มีชายคนหนึ่ งกวักมือเรียกเจิ้งเอวี้ย “แม่


นาง ของพวกนี้ เป็ นขนมหวานของเว่ยอันหรือ? มี ขายที่ ไหน
บ้าง? พวกข้าอยากซื้อไว้เป็ นเสบียงตอนเดินทางสักหน่ อย”

5
เจิ้งเอวี้ยไม่มีท่าที หวาดกลัวผู้ชายกลุ่มใหญ่แต่ อย่างใด
นางช่วยตักน้ าแกงให้แต่ละคน พอได้ยินประโยคนี้ กต็ อบเสียง
ใส “วิธีทาไส้ เนื้ อแล้วก็เนื้ อ แห้ งพวกนี้ ล้วนเป็ นวิธีเฉพาะของ
คุณหนูของข้า โดยที่ มีพี่ลุ่ยจูลงมือทาด้วยตนเอง ข้างนอกไม่มี
ขายหรอกเจ้าค่ะ”

เหล่าผูค้ ้มุ ภัยต่างหันมามองตากัน

“คุณหนูของพวกเจ้าทาอาหารเหล่านี้ เป็ นด้วยหรือ?”

“คุณหนูของข้างัน้ หรือ ?...นางทาอะไรได้มากมายหลาย


อย่าง” เจิ้งเอวี้ยเอ่ยอย่างโอ้อวด

“นึ กไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูที่ดอู ่อนแอบอบบางผูน้ ัน้ ที่แท้


ชอบกินของเผ็ดร้อน” แต่กน็ ับว่าอร่อย ถึงปกติแล้วเนื้ อรสชาติ
เผ็ดเช่นนี้ ผูห้ ญิงไม่น่าจะชอบกินก็เถอะ

“คุณหนู ข องข้ า ของกิน ต้ องละเอี ย ดอ่ อ นและประณี ต


ตามจริงแล้วของพวกนี้ เตรียมไว้ให้ใต้เท้าของพวกข้า หากพวก
เจ้ามาช้ากว่านี้ สกั หน่ อยก็คงไม่ได้กินแล้ว” เจิ้งเอวี้ยกล่าวจบก็
หมุนตัวกลับไปเก็บห้องครัวต่อ

6
บรรดาผู้คุ้มภัยก็ไม่ได้พูดอะไรอี ก หลังจากความเร็วใน
การกินอาหารของพวกเขาเริ่มช้าลง หนึ่ งในนัน้ ก็หวั เราะ “ตอน
พวกเราจากสานักคุ้มกันภัยมา หัวหน้ าไม่ได้บอกเลยว่ามารับ
หญิงงาม? สรุปแล้วหญิงงามผู้นี้คือสินค้าที่ ต้องคุ้มกันขนส่งใน
ครัง้ นี้ หรือ? หากมีหญิงงามร่วมเดินทางเป็ นเพื่อน คงคุ้มกันได้
อย่างเบิกบานใจมากที่สดุ ในชีวิตแล้ว”

“ทาอาหารใดก็ถกู ปาก อา...น่ าเสี ยดายที่ ดอกไม้งามมี


เจ้าของแล้ว...” หนึ่ งในนัน้ กัดหมันโถวอย่
่ างหักห้ามใจ

คนด้ า นข้ า งที่ ก าลัง ซดน้ า แกงร้ อ นเอ่ ย อย่ า งฉุ น เฉี ยว
ออกมา “เจ้าคิดอะไรอยู่ รีบๆ กินเข้าไปเถอะ เจ้าเป็ นพ่ อลูก
สามแล้วนะ”

พ่อลูกสามซดน้ าแกงเสียงดัง ก่อนจะเอ่ยต่อ “เหตุใดใต้


เท้ าท่ านนั น้ ถึ ง ยอมให้ หญิง งามไปอย่ างง่ ายดายเช่ น นี้ ? หาก
เป็ นข้า ข้าคงทิ้งไม่ลงแน่ ” พอพูดมาถึงตรงนี้ เขาก็หนั ไปถาม
คนข้างหลัง “นี่ ! หากเป็ นเจ้า เจ้าจะยอมทิ้งไหม?”

“ไม่ยอมอย่างเด็ดขาด”

7
“แล้วเจ้าเล่า” เขาเรียกคนที่ กาลังโยนลูกเหอเถาเข้าไป
ในปาก

“ทิ้งไม่ลงหรอก ทัง้ ชี วิตไม่เคยเห็นหญิงใดสวยหยาดฟ้ า


มาดินเช่นนี้ มาก่อนเลย”

พ่อลูกสามจึงซดน้ าแกงต่ อแล้วสรุป “ทิ้งไม่ลงแน่ นอน


หากว่านางมองข้า ข้าก็เอา”

หลายคนหยุดชะงักหันไปถ่มน้ าลายใส่ชายผู้นี้พร้อมกัน
โดยไม่ได้นัดหมาย...เจ้าฝันกลางวันอยู่หรือไง

“พวกเจ้ า คิ ด ดู ถึ ง ไม่ ไ ด้ เ ป็ นเมี ย เอกก็เ ป็ นเมี ย น้ อ ยได้


ถึงกับปล่อยให้คนไป ไม่รวู้ ่าใต้เท้าท่านนัน้ คิดอะไรอยู่”

คนที่ นัง่ เงียบอยู่หน้ าประตูโดยไม่พูดจามาตลอด เปรย


ขึน้ มาเบาๆ “เพราะว่าทิ้งไม่ลงน่ ะสิ”

“อะไรนะ?”

“เพราะไม่ยอมให้นางเป็ นน้ อยน่ ะสิ”

“เพราะอะไร?”
8
คนผู้นัน้ กวาดตามองของกินของใช้ในครัวไปกระทังถึ ่ ง
ลานหน้ าบ้านที่ มีแพะม่วงหายากลา้ ค่าผูกอยู่ ก่อนจะเงี ยบไป
สักพักแล้ว จากนัน้ ก็เอ่ยออกมาเบาๆ “น่ าจะ.. . เป็ นเพราะว่า
รักมากเกินไปก็เท่านัน้ ?”

คนอื่นๆ มองหน้ ากันเลิ่กลัก่ ทาเพียงยัดอาหารเข้าไปใน


ปากคาใหญ่ สีหน้ าบ่งบอกว่าไม่เข้าใจเลยสักนิด

่ ิ งทุ่มเทมากเพื่อการใหญ่ เพื่อชีวิตของ
ในปี นัน้ ถานหวันช
อวี้ฉี นางจึงเลือกครอบครัวที่ไกลจากเมืองหลวงสักหน่ อย เผื่อ
ภายภาคหน้ าจวนตระกู ล ถานเกิ ดเรื่ อ งจะได้ ไ ม่ ต้ องให้
ครอบครัวใหม่ของอวี้ฉีต้องลาบากด้วย

หลังจากพลิกหนังสือภาพเลือกอยู่จนดึกดื่นหลายคืน จึง
เลือกได้บตุ รชายของหัวหน้ าคุ้มกันภัยคนนี้

ไม่ใช่ว่านางจะไม่คิดถึงพวกบัณฑิต เพียงแต่สุดท้ายแล้ว
ก็ขีดชื่ อออก ในยุคสมัยนี้ ถึงพวกปั ญญาชนจะมี จิตใจงดงาม
และมีคณ ุ ธรรมสูง แต่การพูดและการทางานยังเก่าครา่ ครึ เป็ น
เพียงบัณฑิตยากจน พอแต่งเมียแต่ละครัง้ กลับเน้ นเรื่องฐานะ
และชาติกาเนิด อี กทัง้ ต้ องมีลาภยศพอสมควร ซา้ ยังมีข้ออ้าง
มากมายในการแต่งเมียสามเมียสี่อีก ขืนนางให้อวี้ฉีแต่งเข้าไป
9
ผลคงไม่ จ บอยู่ ที่ ข อเพี ย งต่ า งฝ่ ายต่ า งเข้ า ใจซึ่ ง กัน และกัน
เท่านัน้ เป็ นแน่

สตรี ใ นยุ ค สมัย นี้ ค วรต้ อ งรู้สึ ก ว่ า มี ที่ พ กั พิ ง ย่ อ มดี ที่ สุ ด


สุด ท้ า ยถานหวันช ่ ิ ง จึ ง เลื อ กบุต รชายของหัว หน้ า ผู้คุ้มกัน ภัย
เล็กๆ ให้บา่ วคนสนิท

่ ิ งเห็นบุรุษผู้นี้ ก่ อนหน้ า
วันนี้ ไม่ใช่ ครัง้ แรกที่ ถานหวันช
นัน้ นางเคยมองเขาไกลๆ จากบนเกี้ยว นางเห็นบุรษุ รูปร่างสูง
ใหญ่ ร่างกายกายาแข็งแรง ไม่ได้เจ็บป่ วยออดแอดทางานไม่ได้
แล้วต้ องให้ ภรรยาคอยปรนนิบัติดูแลไปจนตาย อี กทัง้ ท่ าทาง
ของเขาแล้ ว หาใช่ ค นขี้ข ลาดโง่เ ขลาไม่ ต้ องสามารถปกป้ อง
ภรรยาในช่วงที่เกิดกลียคุ ได้แน่ นอน...คนผูน้ ี้ จึงเข้าตานาง

อายุยี่สิบสาม ยังไม่แต่ งงาน และไร้นางบาเรอ ทางาน


หนั กเอาเบาสู้ ภายภาคหน้ าจะไม่ ทาให้ เ รื่องเหยี ยบยา่ ให้ คน
ของนางต้องชา้ ใจ

่ ิ งให้ความสาคัญกับแววตาใสซื่ อ การทางาน
ถานหวันช
ตรงไปตรงมาและซื่ อสัตย์จนดูเคร่งขรึม เขาไม่ใช่ ลกั ษณะคน
ชอบคิ ด คด ไม่ ใ ช่ ผู้ช ายที่ ดี แ ต่ ห ยอกสาวไปวัน ๆ อี ก ทัง้ ใน

10
อนาคตจะเป็ นผู้สื บ ทอดส านั ก คุ้ม กัน ภัย มี กิ น มี ใ ช้ อ ย่ า งไม่
ลาบากขัดสน และไม่มีคนมากล้าก่อกวนให้เดือดร้อน

ถานหวันช ่ ิ งจึงวางใจและมอบเงินให้เขาจานวนมากเพื่อ
พยุง ส านั ก ไว้ ท าให้ อี ก ฝ่ ายผ่า นช่ ว งเวลาที่ ย ากล าบากมาได้
หลังจากนัน้ กิจการก็ดีขึ้นจนเขาสามารถปกป้ องภรรยาและลูก
ให้อยู่ อย่ างมีความสุขและสะดวกสบาย

ตอนนี้ พอได้ ห วนคิ ดถึ ง สิ่ งที่ ต นท าครัง้ นั ้น นางก็ ไ ม่


ผิดหวังเลยจริงๆ

จางเม่าซิ่งรู้ว่าถานหวันช
่ ิ งเป็ นเจ้านายเก่าของภรรยา จึง
ประสานมื อ ท าความเคารพ “ข้ า น้ อยจางเม่ า ซิ่ ง ขอบคุ ณ ที่
คุณหนูช่วยให้รอดพ้นจากวิกฤติในปี นัน้ ”

เมื่อมีคนนอกอยู่ ถานหวันช ่ ิ งจึงยังสงวนท่ าที นางพยัก


หน้ าแล้วตอบกลับน้ าเสี ยงนุ่มนวล “เรื่องเล็กน้ อยหัวหน้ าจาง
อย่าได้คิดว่าเป็ นบุญคุณ เพราะครานี้ พวกเจ้าสองสามีภรรยา
ทาเพื่อข้า จึงต้องเดือดร้อนบุกป่ าฝ่ าดงเดินทางมาแสนไกล ข้า
ซาบซึ้งใจยิ่ง”

11
“คุณหนูกล่าวหนักเกินไปแล้ว คุณหนูเป็ นผูม้ ีพระคุณกับ
เราทัง้ สอง ถึงจะให้พวกข้าบุกน้าลุยไฟ ข้าก็ยินยอมเจ้าค่ะ”

่ ิ งเรียกให้เจิ้งเอวี้ยพาจางเม่าซิ่งไปพักห้องฝัง่
ถานหวันช
ตะวันตกแล้วให้นาน้าแกงกับขนมไปให้ ส่วนนาง ลุ่ยจู และอวี้ฉี
ก็เข้าไปในห้อง

่ ิ งดึงมืออดีตหัวหน้ าบ่าวคนสนิทให้นัง่ ลงด้วย


ถานหวันช
ท่าทางดีใจ

“คุณหนู ท่ านเป็ นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ? ดูเหมือนว่าท่ าน


จะผอมลงนะ...” อวี้ฉีเอ่ยพร้อมขอบตาร้อนผ่าว

ถานหวันช่ ิ ง หัว เราะเบาๆ “เอวข้ า ขยายไปตัง้ สองชุ่ น


ผอมอะไรกัน เจ้าลองดูสิ”

“จริงหรือเจ้าคะ?” อวี้ฉีปาดน้าตาตรงหัวตาออกเพื่อมอง
หญิ ง สาวให้ ช ัด เจน ร่ า งกายของคุ ณ หนู ดู อิ่ ม เอิ บ ท่ า ทางดู
อ่อนหวานชดช้ อย อี กฝ่ ายคาดสายรัดเอวสี เขี ยวทับเสื้อโปร่ง
บาง ไม่ร้เู พราะเหตุใดนางจึงรู้สึกว่าใบหน้ าคุณหนูดมู ีน้ ามีนวล
ทัง้ ที่ไม่ได้แต่งหน้ า

12
จากนั น้ อวี้ฉีกก็ วาดตามองไปรอบด้าน ในห้ องเล็กๆ นี้
ไม่มีฉากกัน้ จึงมองเห็นทุกอย่างแบบทะลุปรุโปร่ง สี ของบาน
หน้ าต่างค่อนข้างซีดจาง ดูแล้วบ้านนี้ น่าจะสร้างมานานหลายปี

“เจ้าดูแลคุณหนูอย่างไร ทาไมถึงให้คณ ุ หนูอยู่ในสถานที่


เช่นนี้ ?” อวี้ฉีจ้องลุ่ยจูที่อยู่ด้านหลังของถานหวันช ่ ิ งตาเขม็ง อวี้
ฉี เคยเป็ นหัวหน้ าสาวใช้ข้างกายถานหวันช ่ ิ ง ในบรรดาสาวใช้
คนสนิททัง้ สี่ล่ยุ จูนัน้ เด็กที่สดุ และเป็ นคนที่นางเคยดูแล

ลุ่ยจูรู้สึกว่าตนไม่ได้ รบั ความเป็ นธรรม จึงเอ่ ย ทักท้ ว ง


“ข้ าก็ไม่ อยากให้ เ ป็ นเช่ น นี้ ทว่ าตอนที่ ข้ า กับ คุณหนู เ ดิ น ทาง
มาถึงที่นี่กเ็ หลือเงินติดตัวไม่มาก โชคดีที่คณ ุ หนูซ่อนทองเอาไว้
ไม่อย่างนัน้ พวกเราก็คงใช้ชีวิตยากเย็นยิ่งกว่านี้ ...”

“เจ้ายังจะเถียงอีก ลืมระเบียบที่ข้าสอนแล้วหรือ? ตอนที่


อยู่ในจวนก็ดีแต่กิน ให้เจ้าเรียนเย็บปักก็ไม่ยอม พอถึงเวลาจะ
ได้ใช้จริงก็เป็ นแบบนี้ ... ”

แน่ นอนว่าฝี มือปั กเย็บของอวี้ฉีนัน้ ดี ที่สุด ภาพลายปั ก


นกกางเขนเหยียบกิ่งไม้ของนาง มีเงินร้อยตาลึงก็ไม่อาจซื้อหา
มาได้ นางอาศัย ฝี มื อ ที่ ย อดเยี่ ย มช่ ว ยให้ ชี วิ ต ความเป็ นอยู่ดี
ยิ่งขึน้
13
“ข้า...ข้า...” ลุ่ยจูกดั ริมฝี ปากแน่ น พูดไม่ออกเลยสักคา
ช่วงเวลานี้ นางลืมระเบียบของจวนตระกูลถานไปแล้วจริงๆ มา
บัดนี้ ถกู อวี้ฉีเตือนจึงเพิ่งตระหนักในหน้ าที่ เหมือนกลับไปเป็ น
เด็กที่อยู่ในจวนตระกูลถานอีกครัง้ สักพักจิตใจก็เซื่องซึมลง

“เอาล่ ะ ...เอาล่ ะ ...” ถานหวัน่ ชิ งยกมื อ ขึ้ น ห้ า มอวี้ ฉี


“ตอนนี้ ไม่ มี จ วนตระกูล ถานอี ก แล้ ว ด้ ว ยฐานะเช่ น นี้ ข้ า
สามารถหาที่พกั ที่ปลอดภัย ซ้ ายังใช้ ชีวิตอิสระได้กน็ ับว่าโชคดี
ที่ สุดแล้ว เจ้าอย่าได้กล่าวโทษอาจูเลย ระหว่างทางนางกับข้า
ลาบากมาด้วยกันไม่น้อย โชคดีที่ข้ามีนาง จึงยังอยู่ดีกินดีได้”

“คุณหนู หากข้าได้อยู่ข้างกายคุณหนู กด็ ี หรอก...” ดวง


ตาอวี้ฉีกลับมาแดงกา่ อีกครัง้ เอ่ยอย่างสัตย์ซื่อ “ข้าจะได้ดูแล
คุณหนูอย่างดี”

พวกนางทั ง้ เจ้ า นายและบ่ า วต่ า งเติ บโตมาด้ ว ยกัน


ความรู้สึกจึงแน่ นแฟ้ นเป็ นธรรมดา ถึงจะแยกกันอยู่มาสามปี
แล้ ว แต่ เ มื่ อ ได้ เ จอกัน อี ก ครัง้ ก็ย งั มองหน้ ากัน ได้ ส นิ ท ไม่ มี
ความห่างเหินแม้แต่น้อย จึงอดที่จะพูดคุยกันถึงเรือ่ งราวแต่หน
หลังอย่างไม่หวาดไม่ไหว

14
80 คงไม่ได้พบกันอีก

ตอนนี้ บรรดาผูค้ ้มุ กันต่างกินดื่มอย่างอิ่มหนาแล้ว

พวกเขากวาดตามองไปรอบๆ เห็นคอกแพะสร้างจากอิฐ
ด าเก็บ กวาดอย่ า งสะอาด ข้ า งในมี แ พะสี ข าวและแพะสี ม่ ว ง
กาลังนอนบนกองหญ้าอย่างสบาย ปากก็เคี้ยวอาหารไม่หยุด

บางคนเห็นอาหารของแพะเหล่านี้ กต็ ้องส่ายหน้ า อาหาร


แพะมีมากมาย ทัง้ ข้าวโพดสีเหลืองทอง ถัวด
่ า ธัญพืชแห้ง ทัง้ ยัง
ั ่ นเตาและหญ้าสาหรับเลี้ยงสัตว์ โดยรวมกินอยู่ดีกว่าคน
มีถวลั
เสียอีก

“เจ้าขนสี ม่วงตัวนัน้ ก็คือแพะนมที่ ผลิตนมสี ม่วงหายาก


เชียวนะ?”

พอได้ ยินหลายคนก็หนั ไปมองแพะม่วงตัวนั น้ มันมีขา


เล็กๆ สี่ ขา ขนเป็ นสีม่วงหนากว่าแพะทัวไป่ ยิ่งได้รบั การดูและ
เอาใจใส่จากเจิ้งเอวี้ยสีขนจึงยิ่งสว่างสดใสเป็ นอย่างมาก มีกลิ่น
อายของความหายาก

1
ผู้คุ้ม กัน ภัย แต่ ล ะคนถึ ง กับ มองตาโต “น้ า นมแพะม่ ว ง
เป็ นของที่พบได้ในราชสานักเฉพาะฮ่องเต้เท่านัน้ ที่ได้ดื่มเพราะ
มีจานวนน้ อยและหายากอย่างที่สดุ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีตวั หนึ่ ง”

จางเม่าซิ่งเดินออกมา เห็นแพะม่วงตัวนัน้ ก็ตกตะลึงไป


ชัว่ ขณะ คนของส านั ก คุ้ม กัน ภัย มัก เดิ น ทางขึ้ น เหนื อ ล่ อ งใต้
บ่อยครัง้ จึงรูจ้ กั ของแปลกพิสดารอยู่บา้ ง

“ถ้าพวกเราพาแพะตัวนี้ กลับเมืองหลวงด้ วยจะไม่รวย


กันใหญ่เลยหรือ?”

จางเม่าซิ่งส่ายหน้ า “แพะม่วงเป็ นของลา้ ค่าหายาก เลี้ยง


ดูกย็ าก สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมก็ตายได้ง่ายๆ ตอนแรกมี
แคว้นอื่นนาแพะม่วงสองตัวมาบรรณาการแด่ฮ่องเต้ ตอนที่ ส่ง
มาถึงก็ตายไปหนึ่ งตัว อีกตัวหายใจแผ่ว ฮ่องเต้รบั สังระดมท่
่ าน
หมอทัง้ เมืองมาจึงสามารถรักษามันได้ หากพวกเราเอาไปด้วย
เกรงว่าคงเดินได้เพียงครึ่งทาง มันก็คงกลายเป็ นเนื้ อย่างไปน่ ะ
สิ”

ยังมีอีกประโยคที่เขาไม่ได้เอ่ย...แพะขนสี ม่วงหายากแต่
กลับถูกเลี้ยงไว้ในบ้านหลังนี้ เห็นที จะเกี่ยวพันกับใต้ เท้ า กลัว

2
แต่ ว่ า การพาคนไปครัง้ นี้ จะเป็ นเรื่ อ งร้ า ยมากกว่ า เรื่ อ งดี มี
ความสุข

“เมื่ อ ครู่เ จ้ าบอกว่ า พวกเจ้ า ถูก คนกัก บริ เ วณไว้ ห้าวัน


หรือ?” ถานหวันช ่ ิ งถามด้วยสีหน้ าฉงน

“เจ้ า ค่ ะ คุ ณ หนู พอข้ า กับ สามี พ ร้ อ มด้ ว ยขบวนรถม้ า


เดินทางมาถึงนอกเมืองก็ถกู ทหารรักษาการณ์ กกั ตัวไว้ วันนี้
เพิ่งยอมอนุญาตให้พวกเราเข้าเมืองมา” อวี้ฉีตอบ

“คนที่กมุ ตัวพวกเจ้าเป็ นใคร?”

“ดูเหมือนจะเป็ นคนของแม่ทพั หัวเมืองเจ้าค่ะชื่อว่าหวัง


จี”้

ถานหวันช่ ิ งยังคงมีสีหน้ าสงสัย นางเท้าแขนกับโต๊ะเขียน


หนังสือ แล้วถามต่อ “ที่เจ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าการมารับข้าครัง้ นี้
คนที่จวนเจ้าเมืองรู้ เรื่องทัง้ หมดแล้วหรือ?”

“ได้ยินสามีข้าบอกว่าแม่ทพั หัวเมืองฝากคาพูดมา...” อวี้


ฉี เล่าตามความจริงพลางลอบสังเกตสีหน้ าของถานหวันช ่ ิ ง “ให้
ข้าพาคุณหนูออกจากเมืองโดยเร็วเจ้าค่ะ”

3
“เป็ นไปไม่ ไ ด้ ! ใต้ เ ท้ า เซี่ ย จะปล่ อ ยให้ คุ ณ หนู ไ ปได้
อย่างไร? ใต้เท้าเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากจะ
สู่ขอคุณหนูแล้ว เขากับคุณหนูยงั มี...” มีความสัมพันธ์ฉันสามี
ภรรยากันแล้ว ลุ่ยจูเกือบจะหลุดปากพูดออกไป จึงรีบปิดปาก
เป็ นพัลวัน

“เป็ นเรือ่ งจริงหรือ?”

ลุ่ย จูคิ ด ว่ าอวี้ฉี มองไม่ อ อกเลยหรื อ ? ถึ ง อย่ างไรนางก็


เคยแต่งงานมาก่อน เรื่องบางเรื่องแค่เอ่ยเพียงเล็กน้ อยก็เข้าใจ
หมดแล้ว

“ปี ก่ อนใต้ เท้ าเซี่ ยส่ งของหมัน้ มามากมาย กองรวมกัน


อยู่ เ ต็ ม ห้ อ งทางตะวัน ตกนู่ น รอแค่ แ ต่ ง เข้ า จวนเจ้ า เมื อ ง
เท่านัน้ ”

่ ิ ง กลับ ถามย า้
ลุ่ย จูรี บ มองไปยัง คุณ หนู ทว่ า ถานหวันช
กับอวี้ฉีอีกครัง้

“เขายอมให้เจ้ามารับข้าไปจริงๆ หรือ?”

4
อวี้ฉีไม่ได้ตอบ บรรยากาศจึงเงียบงันไปครู่หนึ่ งสุดท้ าย
่ ิ งที่หน้ านิ่วคิ้วขมวดก็เผยรอยยิ้มออกมา
ถานหวันช

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าวันนี้ ต้องมาถึงสักวัน แค่ไม่คิดว่ามันจะ


เร็วปานนี้ ”

่ ิ งก็หนั ไปหาลุ่ยจูทนั ที
พูดมาถึงตรงนี้ ถานหวันช

“อาจู เจ้าไปเก็บของในห้อง เอาแต่เสื้อผ้าไว้ผลัดเปลี่ยน


กับเงินตาลึงที่ข้าขายภาพได้ อย่างอื่นไม่ต้องโลภเอาไป”

“คุณหนู!” พอเห็นทีท่าว่าจะต้องไป ลุ่ยจูกแ็ ทบจะร้องไห้

เดิมที อวี้ฉีดีใจที่ จะได้มารับคุณหนูไป ทว่าพอเห็นสภาพ


คุณหนูแล้วก็คล้ายกับมีความในใจบางอย่างอยู่ ยิ่งเห็นสี หน้ า
เจ็บปวดรวดร้าวของนายสาว นางก็อดไม่ได้ที่จะแนะนา “อาจ
เป็ นเรื่องผิดพลาดหรือเปล่าเจ้าคะ? ถ้าอย่างนัน้ คุณหนูกร็ อให้
แม่ทพั หัวเมืองมาก่อน ถามเขาให้เข้าใจแล้วค่อยไปก็ได้เจ้าค่ะ”

ถานหวันช ่ ิ งนิ่งงันชัวอึ
่ ดใจ นิ้วมือที่ วางบนโต๊ะค่อยๆ กุม
เป็ นกาปัน้ “ข้าไม่ได้หน้ าหนาที่จะรอให้คนมาไล่”

5
“คุณหนู!” ลุ่ยจูยงั อยากจะพูดบางอย่าง แต่ กลับถูกถาน
่ ิ งตวัดสายตามองมาเขม็ง จึงกลืนคาพูดที่เหลือลงคอ
หวันช

หญิงสาวปรับสี หน้ าให้ กลับเป็ นปกติ ใช้ มือยันโต๊ะแล้ว


หยัดกายลุกขึ้น เอ่ยกับลุ่ยจูด้วยน้ าเสี ยงไม่สะทกสะท้าน “เอา
ล่ะ รีบไปเก็บของ ถ้ารอจนเย็นยา่ กว่านี้ เดี๋ยวดวงอาทิตย์จะตก
เขาจนมืดคา่ ไปเสียก่อน”

เห็นคุณหนูตดั สินใจเช่นนี้ ในที่ สุดลุ่ยจูกก็ กั เก็บน้ าตาไว้


ไม่อยู่ เด็กสาวเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ร้องไห้ พลางเก็บของพลาง
ด้วยความปวดใจ

สายฝนด้านนอกหยุดลงแล้ว

ทันทีที่ฝนหยุดตก คณะเดินทางก็เตรียมตัวออกจากบ้าน
เซี่ย

หัวหน้ าสานักคุ้มกันภัยหย่งเต๋อกับลูกน้ องโจนตัวขึ้นบน


หลังม้า บางคนกระโดดขึ้นรถม้าด้วยความกระฉับกระเฉง ดึง
เชือกบังเหียนแล้วหมุนกลับทางเดิมอย่างว่องไว

6
ลุ่ยจูยืนรอเจ้านายด้วยดวงตาแดงกา่ นางเหม่อมองไป
ด้านนอก เพราะไม่ร้วู ่าหนทางข้างหน้ าจะเป็ นอย่างไร เด็กสาว
จึงมีสีหน้ าห่อเหี่ยว พอได้ยินเสียงฝี เท้านางจึงหันหน้ ามา

ถานหวันช่ ิ งกาลังเดินมา ใบหน้ าไร้รอยยิ้มดังก่อนหน้ า


กลับมาเป็ นคนเงียบขรึมไม่พดู ไม่จาเช่นในอดีต ก่อนจะขึ้นรถ
ม้า นางกลับหยุดชะงักแล้ว หันกลับมา เห็นเจิ้งเอวี้ยวิ่งมาหา
นางจึงพูดคุยด้วยไม่กี่ประโยคจากนัน้ ก็ยดั ถุงเงินใส่มือเด็กสาว
ข้างในใส่เงินไว้ไม่น้อย บอกเพียงว่าอีกฝ่ ายจะได้มีสินเดิมมาก
หน่ อยตอนแต่งงาน

เจิ้งเอวี้ยกาเงินพร้อมนิ่งตะลึงไปสักพัก กระทังคนให้
่ หนั
กลับไปแล้วจึงได้ร้องเรียกถานหวันช ่ ิ งก่อนจะร้องไห้ โฮ มาถึง
ตอนนี้ สายฝนก็กระหน่ า ลงมาอี ก เสี ยงร้องไห้ จึงถูกกลบด้วย
เสียงฝนและเสียงร้องของม้า

หลั ง จากที่ ถ านหวั น่ ชิ งกั บ เจิ้ งเอวี้ ย กล่ า วอ าลากั น


เรียบร้อย หญิงสาวก็เดินไปหาลุ่ยจูและอวี้ฉีที่รออยู่ อวี้ฉีเอาตัง่
จากบนรถม้าวางคอยไว้ที่พื้นแล้ว ถานหวันช ่ ิ งเพิ่งจะก้ าวเท้ า
เหยียบบนตัง่ พลันได้ยินเสียงวิ่งมาจากด้านหลัง

“แม่นาง โปรดรอสักครู!่ ”
7
ผูท้ ี่มาหาไม่ใช่คนแปลกหน้ า ด้วยนางเข้าออกบ้านหลังนี้
มากว่าครึ่งปี ก็มกั จะเห็นเงาของเขาตลอด บางครัง้ นางไปหอ
อักษรก็ยงั เห็นด้านหลังของเขาไกลๆ ถานหวันช ่ ิ งรูว้ ่าบางทีนาง
ก็สร้างความลาบากให้ผ้คู ้มุ กันคนนี้ เกรงว่าน่ าจะทาให้เขากิน
อาหารไม่อร่อยอยู่หลายมื้อ ดังนัน้ วันไหนทาอะไรอร่อย นางก็
จะให้ล่ยุ จูแบ่งไปให้เขาบ้าง ถือเป็ นการชดเชย

คราวนี้ หลังจากที่นางไปแล้ว เขาก็คงจบงานลาบากและ


เลิกอัดอัน้ ตันใจเสียที

่ ิ่ นร้อนรน ท่ าทางกระสับกระส่ าย ไม่รู้ว่าบน


สี หน้ าจัวเว
หน้ าผากนัน้ คือน้ าฝนหรือเหงื่อกันแน่ สภาพเช่นนี้ น่าจะรีบมา
พอควร รองเท้าที่สวมมีดินโคลนติดเต็มไปหมด เขาเหลือบมอง
ไปทางรถม้าที่ตงั ้ ท่าจะจากไปตลอดเวลาแล้วรีบเอ่ยแนะนา

“ทาไมแม่นางถึงได้รีบไปเช่นนี้ ฝนยังตกหนักอยู่เลย พัก


ต่ อ อี ก สัก คื น ไม่ ดี ก ว่ า หรื อ รอให้ ฝ นหยุ ด ก่ อ นแล้ ว ค่ อ ยออก
เดินทางก็ยงั ไม่สาย”

่ ิ งได้ยินดังนัน้ ก็มองไปยังอีกฝ่ าย ที่เขากล้าเอ่ย


ถานหวันช
เช่นนี้ คงเพราะใต้เท้าของเขาบอกมานัน่ เอง

8
เพียงแต่ว่าตอนนี้ นางอารมณ์ไม่ดีจึงไม่มีแก่ใจจะตอบรับ
ทาเพียงพยักหน้ าให้น้อยๆ แล้วเอ่ยด้วยความเกรงใจ “เม็ดฝน
นี้ ไม่ได้เป็ นปัญหาสาหรับการเดินทางหรอก ขอบคุณผูค้ ้มุ กันจัว่
เวิ่นมากที่ช่วยดูแลมาตลอด”

กล่าวจบก็หมุนกายเหยียบตังแล้
่ วขึน้ รถม้า

“เดี๋ยวก่อนขอรับ...”

่ ิ งนัน้ ขึน้ รถม้าไปเรียบร้อยแล้ว ลุ่ยจูกบั อวี้ฉี


แต่ถานหวันช
ซึ่ งขึ้นรถม้าไปก่อนได้ปูฟูกสะอาดไว้ให้ เรียบร้อยแล้วเช่ นกัน
เด็กสาวยื่นมือไปเลิกผ้าม่านรอให้คณ ุ หนูเข้ามา

่ ิ งจะไปแน่ แล้ว จัวเว


เมื่อเห็นว่าถานหวันช ่ ิ่ นก็รีบสาวเท้า
ไปข้างหน้ า “แม่นาง...แม่นางไม่มีอะไรจะบอกกับใต้ เท้ าจริงๆ
หรือขอรับ?”

ถานหวันช ่ ิ ง ก าลัง จะก้ ม หัว เข้ า ไปในตัว รถ พอได้ ยิ น ก็


ถึงกับหยุดกึก เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายหนักขึ้น ทาให้เสื้อคลุมตัว
นอกแทบจะเปี ยกไปถึงข้างใน ลุ่ยจูและอวี้ฉีจึงยิ่งเร่งนาง หญิง
สาวครุ่นคิดอยู่สกั ครู่ ก่อนหันกลับไปมองจัวเว ่ ิ่ นที่ อยู่ด้านล่าง
รถ

9
ยามนี้ ฟ้าฝนทาให้รอบด้านมืดครึ้ม แม้แต่ ใบหน้ าก็มอง
่ ิ่ น รับ รู้ไ ด้ ว่ า สตรี ที่ อ ยู่ ต รงหน้ า ยิ้ ม ให้ เ ขา
ไม่ ช ัด แล้ ว ทว่ า จัวเว
จากนัน้ ก็ได้ยินเสียงอ่อนตอบกลับ

่ ิ่ น
“ในเมื่อเป็ นแบบนี้ แล้ว เช่นนัน้ ก็รบกวนผู้ค้มุ กันจัวเว
บอกกับใต้เท้าว่า ข้าขอบคุณใต้เท้ามาก หวังว่าใต้เท้าจะรักษา
สุข ภาพให้ ดี ขอให้ ต่ า งคนต่ า งดูแ ลตัว เอง จากกัน คราวนี้ ค ง
่ วิต”
ไม่ได้พบกันอีกชัวชี

กล่าวจบก็ไม่รอให้จวเวั ่ ิ่ นตอบ นางหมุนตัวก้าวเข้าไปใน


รถม้า จากนัน้ ประตูรถก็ถกู ปิดทันที ตามมาด้วยเสียงแส้และล้อ
รถบดพื้นถนนที่ เปี ยกแฉะแว่วมา ไม่นานรถม้าสามคันก็หาย
ลับไปท่ามกลางสายฝน ไม่เห็นแม้แต่เงา

สายน้าไหลผ่านลาธาร เมฆหมอกลอยละล่องบนท้องฟ้ า
สายลมพัดผ่านใยฝ้ ายให้ปลิวไปในอากาศ

นั น่ คื อ สัญ ลัก ษณ์ ว่ า อากาศหนาวก าลัง ถูก แทนที่ ด้ ว ย


อากาศอบอุ่น

ยามฟ้ าสางมีเม็ดฝนโปรยปราย ยามใกล้เที่ ยงฝนก็เริ่ม


ตัง้ เค้าตกหนั ก หยาดฝนที่ โปรยปรายได้ หอบเอาความหนาว

10
จากเหมันต์ฤดูมาด้วย จึงหนาวสะท้านเกินกว่าความเย็นในฤดู
ใบไม้รว่ ง

่ ิ่ นเดินต้ านความหนาวของหยาดฝนเข้ามาในจวน
จัวเว
เจ้าเมือง บนร่างเปี ยกชุ่มจนเนื้ อตัวสันเทา ่ เขาเงยหน้ ามองก็
เห็น แม่ ท ัพ หัว เมื อ งก าลัง ยื น อยู่ ใ นห้ อ งโถงเพื่ อ ปรึ ก ษางาน
ราชการ สายตาอีกฝ่ ายเหลือบมองมาทางเขาแวบหนึ่ ง แต่เมื่อ
ทอดมองเลยไปด้านหลังแล้วไม่เห็นผู้ใดตามหลังเขามา จึงหัน
มาสบตากันอีกครา

จัว่ เวิ่ น ไม่ ไ ด้ เ ช็ด น้ า ฝนบนตัว ให้ แ ห้ ง ก่ อ น รี บ ก้ า วไป


ด้ า นหน้ าแล้ ว รายงานใต้ เ ท้ า ด้ ว ยอาการประหม่ า “ใต้ เ ท้ า
คุณหนู ถานไปพร้อมกับขบวนรถม้าของส านั กคุ้มกันภัยหย่ง
เต๋อแล้วขอรับ”

พอสิ้นเสี ยงรายงาน สี หน้ าแม่ทพั หัวเมืองก็เปลี่ยนเป็ น


เครียดขรึม สายตาตกอยู่บนร่างจัวเว ่ ิ่ น เซี่ ยเฉิงจู่ขบฟั นแน่ น
มองมาโดยไม่เปล่งวาจาใด

ภายในห้ อ งเงี ย บสงัด การที่ ไ ม่ มี เ สี ย งนั น้ ยิ่ ง ท าให้ เ กิ ด


ความกดดันอย่างหนักหน่ วง

11
่ ิ่ น จะเป็ นชายสู ง แปดฉื่ อ แต่ เ มื่ อ ใต้ เ ท้ า มองมา
ถึ ง จัวเว
ด้วยสายตาเย็นเยียบปานเหมันต์เช่นนี้ ขาจึงยืนไม่ค่อยนิ่งนัก
จึงรีบเอ่ยต่อ “ก่อนที่แม่นางจะเดินทาง ได้ฝากคามาบอกใต้เท้า
ด้วยขอรับ”

“พูดมา!” เซี่ยเฉิงจู่เอ่ยด้วยน้าเสียงเย็นเยียบ

“คุ ณ หนู ถ านบอกว่ า ...” จัว่ เวิ่ นรี บ เอาข้ อ ความนั ้น


รายงานใต้เท้าโดยไม่ตกหล่นแม้สกั คา

่ วิต?
ต่างคนต่างดูแลตัวเอง? คงไม่ได้พบกันอีกชัวชี

ทันที ที่เขารายงานจบก็เห็นใต้ เท้ าคล้ายจะหัวเราะ แล้ว


เอ่ยสัน้ ๆ “ดี! ดีมาก!”

ไม่ร้วู ่าในใจใต้เท้าข่มกลัน้ ความโกรธไว้มากเพียงใด เขา


ได้ยินใต้เท้าแค่นเสียงออกจากจมูก จากนัน้ ก็ก้าวเดินมาหาเขา
สองก้าวแล้วกวาดตามองรอบหนึ่ ง ก่อนจะสะบัดชายแขนเสื้อ
หันหลังเดินเข้าไปในห้องหนังสือ

่ ิ่ นถอนหายใจยาว เห็นใต้เท้าจากไปเขาก็ค่อยโล่งใจ
จัวเว
ตอนแรกพอเห็นสายตาของใต้เท้าที่ มองมา เขาก็คิดว่าตนเอง

12
แย่แน่ แล้ว แต่ยามนี้ ใต้เท้าเดินเข้าไปในห้อง ก็แสดงว่าเขารอด
พ้นวิกฤตอย่างฉิวเฉี ยด

เขาติ ด ตามใต้ เ ท้ า มาหลายปี ถึ ง จะมี อ ายุ พ อกัน ทว่ า


ความอดทนนัน้ ต่างกันมาก ใต้เท้าเป็ นบุรษุ ผู้หนึ่ งที่ เชื่อว่าสิบปี
แก้แค้นก็ยงั ไม่สาย ถึงเจ้าจะเคยกลันแกล้
่ งหรือเหยียดหยามดู
หมิ่นเขา ใต้เท้าก็ยงั อดทนอดกลัน้ จนผ่านไปได้ ทว่าเมื่อโอกาส
มาถึง ใต้ เท้ าก็จะลงมือโดยไม่มีความปรานี ให้ สกั นิด คนผู้นัน้
ยังไม่รเู้ ลยด้วยซ้ าว่าตัวเองตายอย่างไร

่ ิ่ น เฝ้ า อยู่ห น้ า ประตูห้ อ งหนั ง สื อ พร้ อ มทัง้ เงี่ ย หูฟัง


จัวเว
เสียงด้านใน เสียงที่เล็ดลอดมานัน้ ไม่ใช่เสียงพลิกแผ่นกระดาษ
แต่เป็ นเสียงจังหวะการก้าวเท้าในห้อง เสียงนัน่ ไม่ได้สงบเยือก
เย็น ทว่าการเดินกลับหุนหันพลันแล่น แสดงให้ เห็นว่าใจของ
คนด้านในนัน้ ...ไม่ว่าอย่างไรก็ยากที่จะสงบ

เขาพลันนึ กถึงสภาพใต้เท้าในช่วงสี่ห้าวันก่อนที่ถือว่าแย่
มากๆ ทว่าบัดนี้ ยิ่งแย่กว่าเดิม เกรงว่าต่ อไปก็คงไม่ดีขึ้น เพื่อ
หลีกเลี่ยงการถูกลูกหลง จัวเว่ ิ่ นจึงคิดว่าตัวเองควรก้าวไปยืน
ให้ห่างจากประตูสกั หน่ อยจะดีกว่า

13
่ ิ่ นได้แต่ บ่นกับตัวเองในใจ เรื่องนี้ ใต้ เท้ าควรโกรธ
จัวเว
ตัว เอง เดิ มที ค นก็ถ กู สกัด ไว้ น อกเมืองอยู่แล้ ว คิ ด จะขจัด ทิ้ ง
ย่อมทาได้ ง่ายดายและไม่มีใครล่วงรู้แน่ แต่ จู่ๆ ใต้ เท้ าก็ออก
คาสังให้
่ ปล่อยตัวเสียอย่างนัน้ บัดนี้ นางถูกรับตัวไปแล้ว ใต้เท้า
ก็ม ากลัด กลุ้ม จนโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟอยู่ ค นเดี ย ว จัวเว ่ ิ่ น คิ ด
แล้วเจ็บปวดใจตามไปด้วย นี่ ไม่ใช่สร้างเรื่องให้ตวั เองไม่อยาก
มีชีวิตอยู่ต่อหรอกหรือ...

แล้วคุณหนู ตระกูลถานผู้นัน้ เล่า ดินแดนไม่ว่าจะเหนื อ


ใต้หรือห่างไกลกันสุดหล้า ที่ไหนจะปลอดภัยและมีอิสระเท่าอยู่
กับใต้เท้าที่ นี่ หากนางไม่อยากไปก็อยู่ต่อได้ แค่เพียงเอ่ยวาจา
ออดอ้อนไม่กี่ประโยค ใต้เท้าก็ตามใจนางแล้ว ไม่ใช่มีคนบอก
หรือว่าลมปากของสตรีนัน้ ยิ่งใหญ่กว่าทหารม้านับหมื่น?

แต่ ก่ อ นนางท าให้ ใ ต้ เ ท้ า หลงมัว เมา ของอะไรดี ๆ ก็


ประเคนให้ เมื่ อ ผ่ า นการเฉลิ ม ฉลองช่ ว งตรุ ษ จี น มาแล้ ว ก็
อยากจะแต่งงานแล้วพานางเข้าจวน แม้กระทังของใช้ ่ ในจวนก็
เปลี่ยนใหม่ทงั ้ หมด

ทว่าวันนี้ แค่มีคนมารับแล้วใต้เท้าบอกให้ไป นางก็ไปเสีย


อย่างนั น้ ช่ างทาให้ คนเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน มิน่าเล่าใต้
เท้าถึงได้โกรธมากปานนัน้
14
ในขณะที่กาลังกอดอกครุ่นคิดอยู่ พลันได้ยินเสียงไม่รวู้ ่า
เป็ นแจกันดอกไม้หรือถ้วยชาตกกระแทกพื้นดังมาจากในห้อง
่ ิ่ นยังยืนอยู่ที่เดิมแล้วถอนหายใจอีกครัง้
หนังสือ จัวเว

เฮ้อ...วันนี้ มนั วันบ้าอะไรวะ!

15
81 วัดใจ

ส ำหรับ ถานหวันช่ ิ ง แล้ ว วัน นี้ ไ ม่ ใ ช่ ว นั ฤกษ์ ง ามยามดี


แน่ นอน เกรงว่ำจะเป็ นวันยุ่งวุ่นวำยเสียมำกกว่ำ

ในใจนำงไม่ ต่ ำ งจำกสำยฝนที่ ก ระหน่ ำ ลงมำจำกที่ ต ก


เปำะแปะจนกระทัง่ หนั ก หนำแทบบ้ ำ คลัง่ ถำนหวันช ่ ิ ง ก ำลัง
ไตร่ ต รองว่ ำ คนผู้นั ้น เจตนำไล่ น ำงไปในช่ ว งเวลำเช่ น นี้ จ ริ ง
หรือ? เขำคงต้องกำรให้นำงได้รบั ควำมทุกข์ทรมำนกระมัง นำง
เองก็ร้นู ิ สัยข้อนี้ ของเขำตัง้ นำนแล้ว หำกชำยผู้นี้ตดั สินใจเรื่อง
ใดแล้วก็จะไม่สนใจใครหน้ ำไหนทัง้ สิ้น

ฝนยิ่งตกก็ยิ่งหนัก คณะคุ้มกันภัยเพิ่งออกจำกเมืองเว่ย
อันได้ไม่นำน รถม้ำก็เริ่มเดินทำงในสภำพทุลกั ทุเลต่อไปไม่ไหว
กำรเดินทำงในสภำพอำกำศแบบนี้ สำหรับคนเดินทำงแล้วถือ
ว่ำเป็ นภัยพิบตั ิ ดีๆ นี่ เอง

เสื้อสี น้ ำตำลบนร่ำงจำงเม่ำซิ่งเปี ยกลู่แนบเนื้ อ เขำสวม


งอบนัง่ อยู่หน้ ำรถม้ำ พอเห็นว่ำฝนตกหนักขึน้ เรื่อยๆ ก็กงั วลว่ำ
น้ ำ ฝนจะเข้ ำไปในรถ พวกเขำชำนำญกำรเดิ น ทำงคุ้ม กัน ภัย
ทำงำนตำกแดดตำกฝนอยู่หลำยปี พำยุฝนแค่ นี้ไม่ได้ ระคำย

1
ผิวหนั ง ทว่ำหญิงสำวทัง้ สำมในรถล้วนบอบบำงอ่ อนแอ หำก
ทนควำมลำบำกในกำรเดินทำงไม่ไหวแล้วเกิดเจ็บป่ วยขึ้นมำ
จะยุ่งยำกยิ่งกว่ำฝนที่กำลังตกกระหน่ำนี้ เสียอีก

ดังนัน้ เขำจึงหันไปทำงประตูรถม้ำแล้วเลิกม่ำนขึ้น ตัง้ ใจ


จะปรึกษำกับหญิงสำวที่นัง่ อยู่ตรงกลำงว่ำอยำกจะย้อนกลับไป
เมืองเว่ยอันก่อนไหม รอให้ฝนหยุดตกแล้วค่อยเดินทำงใหม่

ถำนหวันช ่ ิ งนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ ง “ข้ำงหน้ ำประมำณสิบลี้มี


หมู่บำ้ นอยู่แห่งหนึ่ ง พวกเรำสำมำรถหลบฝนที่นัน่ ได้”

นี่ นำงไม่คิดจะกลับเว่ยอันแล้วจริงๆ หรือ?

ยังดีที่กำรเดินทำงสิบลี้ไม่ถึงชัวยำมก็
่ ถึงแล้ว จำงเม่ำซิ่ง
เหลือบมองภรรยำแวบหนึ่ งก่อนจะปล่อยม่ำนลงโดยไม่ได้พูด
อะไร จำกนัน้ ก็สะบัดเชือกบังเหียนแล้วออกเดินทำงต่อ

่ ิ งรู้อยู่แก่ใจว่ำไม่ควรหันม้ำกลับไปเพื่อหลบ
ถำนหวันช
ฝน เพรำะในใจของผู้คุ้มกันภัยคงอยำกออกเดิ น ทำงต่ อเสี ย
มำกกว่ำ สภำวะแบบนี้ สำหรับถำนหวันช ่ ิ งแล้วไม่ใช่เพียงฝนตก
แต่มนั คือกำรลองใจตัวเอง

2
หำกจะทิ้ ง แล้ ว ก็ค วรตัด ใจให้ เด็ด ขำดแล้ ว เริ่ มต้ น ใหม่
เมื่อใดที่ หนั กลับ ไปก็เ ท่ ำ กับ ว่ ำ ไม่อ ำจละทิ้ ง ได้ จะเหมื อนกับ
ตัวเองมีควำมหวังอยู่ลึกๆ ว่ำอี กฝ่ ำยจะมีเยื่อใยอำลัยอำวรณ์
ถ้ำเป็ นแบบนี้ แล้วจะเริ่มต้นใหม่ได้หรือ

หลำยปี มำนี้ ถำนหวัน่ ชิ งใช้ ชี วิ ตกลมกลื น กับ คนยุ ค


โบรำณได้สำเร็จโดยไม่เกิดควำมหวันไหวแบบชำยหญ
่ ิ ง ทว่ำ
เมื่ อ เกิ ด ควำมหวัน่ ไหวขึ้ น มำ นำงก็ไ ม่ อ ำจโกหกตัว เองได้
เพรำะหำกนำงไม่มีเยื่อใยให้เขำนำงก็คงไม่ร้สู ึกอบอุ่นเวลำอยู่
ใกล้ ตำมจริงแล้วนำงไม่ควรเอำควำมรู้สึกตนเองไปฝำกไว้กบั
คนอื่น เพรำะสุดท้ ำยนำงก็อำจเจ็บปวดรำวกับมีมีดมำกรีดลง
กลำงใจอย่ำงเช่นตอนนี้

บนถนนมีเพียงเสียงฝนตกกระทบหลังคำรถกับเสียงกีบ
เท้ำม้ำ แทบไม่ได้ยินเสียงอื่นสอดแทรกมำ

อวี้ฉีร้วู ่ำจิตใจของคุณหนูเวลำนี้ ไม่ใคร่ดีนักจึงไม่ควรพูด


ให้ มำกควำม ส่ วนลุ่ยจูอยู่อำศัยบ้ำนเล็ก หลังนั น้ มานำน กำร
ต้ องจำกไปทำให้จิตใจยำ่ แย่เช่นกันจึงไม่พูดอะไรสักคำตลอด
ทำง

3
ระยะทำงสิบลี้ หำกจะบอกว่ำไกลก็ไม่ไกล แต่ กไ็ ม่ใกล้
ดังที่ คิด ผู้ค้มุ กันภัยที่ ควบคุมรถม้ำลูบน้ ำฝนบนใบหน้ ำนับครัง้
ไม่ถ้วน เขำหวดม้ำพร้อมกับบ่นพึมพำเมื่อมันไม่เชื่อฟัง

“เส้นทำงนี้ ไม่น่ำเดินทำงเอำเสียเลย หำกข้ำช้ำกว่ำนี้ ละ


ก็ล้อขวำต้องจมโคลนจนยกไม่ขึน้ แน่ ”

เมื่อเที ยบกับรถม้ำ เขำชอบเดินทำงทำงเรือมำกกว่ำ ถึง


จะไกลนับร้อยลี้กไ็ ม่มีปัญหำ เพรำะไม่ต้องเร่งเดินทำงทุกวัน ไม่
ต้องลำบำกกับฝนที่ เปี ยกชื้นและเลนตม หำกเจอหนทำงไม่ดีก็
ยิ่งทำให้ใจไม่ดีไปด้วยดังเช่นตอนนี้ อีกต่ำงหำก

มีคนหนึ่ งเลิกผ้ำมำ่ นจำกในรถแล้วชะโงกหัวออกมำเอ่ย


กับผู้คมุ รถม้ำ “ข้ำงในรถเปี ยกหมดแล้ว จะนัง่ ไม่ได้แล้ว ต่อให้
ฝนหยุดก็ยงั เดินทำงไม่ได้อยู่ดี พวกเรำรีบหำที่พกั เถอะ”

แถวนี้ ก็เ ป็ นเขตชำยแดน อำจจะมี โ จรป่ ำโผล่ อ อกมำ


เมื่อไรก็ได้ กำรหำที่พกั ค้ำงแรมจึงเป็ นสิ่งที่ ถกู ต้องที่สุดในเวลำ
นี้

“หัวหน้ ำจำงบอกแล้วว่ำข้ำงหน้ ำมีหมู่บำ้ นอยู่ พวกเรำจะ


ไปหลบฝนที่นัน่ ประมำณสิบลี้กถ็ ึงแล้ว”

4
คณะเดินทำงมุ่งไปทำงทิศเหนื ออย่ำงเร่งรีบ ใช้เวลำไม่
เห็นกำแพงที่โอบล้อมหมู่บำ้ นชำวนำ
ถึงชัวยำมก็

หมู่บ้ำนแห่งนี้ อยู่ใกล้กบั เว่ยอัน ตำแหน่ งที่ ตงั ้ ถือว่ำดีไม่


น้ อย เพรำะเป็ นทำงผ่ำนของรถม้ำและบรรดำทหำร อีกทัง้ เป็ น
สถำนที่ที่พ่อค้ำพักเหนื่ อยกัน

เมื่ อ ผ่ ำ นก ำแพงเข้ ำ มำ จำกบ้ ำ นชำวนำหลัง เล็ ก ก็


เปลี่ยนเป็ นร้ำนอำหำร ร้ำนสุรำ และโรงเตี๊ ยมที่ มีอำหำรง่ำยๆ
มี น้ ำ ร้ อ นและที่ พ ัก ให้ ค นเดิ น ทำงได้ พ ัก ผ่ อ น เป็ นสถำนที่ ที่
เหมำะสมกับกำรดำเนินกิจกำร

ทันที ที่ม ำถึงพวกเขำก็นำรถม้ ำเข้ ำไปจอดในลำนหน้ ำ


โรงเตี๊ ยมแห่ งหนึ่ งที่ ดูใหญ่ ที่สุด ยำมนี้ ทำงเข้ำประตูโรงเตี๊ ยม
เต็มไปด้วยรอยเท้ ำเปื้ อนโคลนเฉอะแฉะ มีลูกค้ ำถือร่มเดินไป
มำหลำยคน เพรำะว่ำฝนเทลงมำอย่ำงหนักปำนฟ้ ำรัว่ ที่ นัง่ ใน
โรงเตี๊ยมจึงเต็มหมด

เสี่ ยวเอ้อในโรงเตี๊ ยมเห็นว่ำมีคนกลุ่มหนึ่ งมำ จึงรีบเดิน


เข้ำมำทักทำยด้วยใบหน้ ำยิ้มแย้ม “นำยท่ ำน ชัน้ สองมีคนพัก
เต็มแล้ว ชัน้ สำมเป็ นห้องชัน้ เยี่ยมยังเหลืออยู่หกห้องน่ ำจะพอดี
คนขอรับ”
5
ห้องชัน้ เยี่ยม? แค่ได้ยินก็ร้แู ล้วว่ำแพง พวกเขำบุกตะลุย
จำกเหนื อจรดใต้มำนำน ตื้นลึกหนำบำงล้วนรู้ดี ถึงจะเป็ นห้อง
ชัน้ เยี่ยมทว่ำเงินที่จ่ำยไปก็ถึงกับทำให้มือไม้อ่อนทีเดียว

เสี่ยวเอ้อเห็นสำยตำก็ร้วู ่ำพวกเขำคิดอะไรอยู่ จึงรีบเอ่ย


เสริม “นำยท่ำน วันนี้ ข้ำงนอกฝนตกหนัก มีคนเข้ำมำพักก่อน
หน้ ำนี้ ไม่น้อย โรงเตี๊ ยมของเรำมีจำนวนห้องพักมำกที่ สุด ส่วน
ที่ อื่นๆ ก็มีคนเข้ำพักเต็มหมดแล้ว ข้ำคิดว่ำวันนี้ ท้องฟ้ ำคงมืด
ครึ้มอี กนำน ไม่แน่ ว่ำสักพักอำจจะมีคนมำเพิ่ม หมู่บ้ำนนี้ ไม่มี
โรงเตี๊ยมอื่นอีกแล้วนะขอรับ”

“ข้ ำเอำห้ องทัง้ หมดนั น่ แหละ ให้ คนเอำอำหำรและน้ ำ


ร้อนไปส่งด้วย รีบๆ หน่ อย” จำงเม่ำซิ่งโบกมือ จองห้องทัง้ หมด
หลังจำกรับป้ ำยห้องก็เดินขึ้นชัน้ บน หญิงสำวทัง้ สำมที่ สวมผ้ำ
คลุมศีรษะ เดินตำมหัวหน้ ำผูค้ ้มุ กันภัยขึน้ ไปบนชัน้ สำม

พวกเขำได้ ท ำกำรแบ่ ง ห้ อ งพัก โดยจำงเม่ ำ ซิ่ งพัก กับ


่ ิ งกับลุ่ยจู และห้องที่เหลือสี่ห้องก็แบ่งให้ผ้คู ้มุ
ภรรยำ ถำนหวันช
กันอีกแปดคน

เสี่ ยวเอ้อทำงำนรวดเร็ว ไม่นำนน้ ำร้อนในห้ องก็พร้อม


สรรพ ทุกคนไม่เพียงได้แช่ น้ ำร้อนสบำยตัว ยังมีกำน้ ำชำและ
6
อำหำรมำวำงบนโต๊ะด้วย ช่วงนี้ อำหำรขำดแคลนอำหำรร้อนจึง
เป็ นเพียงเกี๊ยวน้ ำ ฤดูหนำวเพิ่งผ่ำนพ้นไป ต้ นไม้กเ็ พิ่งผลิดอก
ยำมที่อยู่นอกบ้ำนหำกมีน้ำแกงร้อนๆ ให้ซดก็ถือว่ำไม่เลวแล้ว

ถำนหวันช่ ิ งเปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็เช็ดผมจนแห้งแล้วรวบ
เป็ นมวยผม จำกนัน้ ก็ขยับกำยมำนัง่ หน้ ำโต๊ะ ก่อนจะหยิบช้อน
ไม้ ขึ้น มำเตรี ย มจะกิ น น้ ำ แกง ทัน ใดนั ้น จิ ต ใจที่ อึ ม ครึ ม พลัน
เปลี่ยนเป็ นสดใส มุมปำกเผยรอยยิ้มน้ อยๆ ก่อนจะเรียกลุ่ยจู
ให้มำกินอำหำร

หลังจำกลุ่ยจูปูเตี ยงเรียบร้อยก็วำงห่ อผ้ำลงแล้วเดินมำ


หำ นำงเห็นคุณหนู นั ง่ หลังตรงท่ ำทำงอยำกจะลองซดน้ ำ แกง
เต็มทีกเ็ ดินเข้ำมำนัง่ ใกล้ๆ แล้วจ้องคุณหนูของตนเงียบๆ

ถำนหวันช ่ ิ งเพิ่งซดได้สองคำ กระเพำะก็เริ่มอุ่น นำงเงย


หน้ ำมองคนข้ำงๆ เห็นลุ่ยจูทำปำกยื่นซึ่ งเป็ นท่ ำทำงยำมที่ ไม่
พอใจ ช้อนในมือนำงพลันชะงักแล้วจึงวำงมันลง หญิงสำวรู้ว่ำ
ลุ่ยจูโกรธเรือ่ งใด เพียงแต่ไม่อยำกอธิบำยก็เท่ำนัน้

ลุ่ ย จูนั ้น ไม่ ใ ช่ ค นที่ จ ะเก็บ เรื่ อ งรำวไว้ ใ นใจได้ พอเห็น


คุณหนูไม่เอ่ย นำงจึงพูดขึ้นมำก่อน “คุณหนูเจ้ำคะ ท่ำนส่งสำร
บอกพี่อวี้ฉีให้มำรับตัง้ แต่เมื่อไร? ทำไมข้ำถึงไม่รเู้ ลย?”
7
่ ิ งนิ่งอยู่นำนจึงค่อยตอบ “ข้ำเห็นท่ำทำงเจ้ำก็รู้
ถำนหวันช
แล้วว่ำหำกบอกเจ้ำก็เท่ำกับบอกคนอื่นๆ”

ลุ่ยจูหน้ ำแดงกำ่ “แล้วไยคุณหนู ถึงต้ องไปเล่ำเจ้ำคะ ผู้


คุ้มกันภัยกลุ่มนี้ ดูไม่น่ำพึ่งพำได้สกั เท่ำไร สำมีของพี่อวี้กเ็ พียง
เห็นแก่หน้ ำภรรยำ พูดตำมตรงก็คือไม่มีสกั คนที่ ใส่ ใจคุณหนู
ไม่เหมือนอยู่ที่เว่ยอัน อย่ำงน้ อย...อย่ำงน้ อย...” อย่ำงน้ อยก็ยงั
มีคนตัง้ ใจดูแลและปกป้ องคุณหนู

ถำนหวันช่ ิ งถอนหำยใจ “ข้ำถูกไล่ออกมำ ลุ่ยจู หรือเจ้ำ


แสร้งทำเป็ นไม่ร?ู้ ”

“แต่ ว่ ำ เรื่ อ งนี้ คุณ หนู ก็รู้อ ยู่ แ ก่ ใ จว่ ำ ตนเองผิ ด คุณ หนู
ตอบรับแต่ งงำนกับใต้ เท้ ำแต่ กลับวำงแผนจะหนี ใต้ เท้ ำย่อม
โกรธเป็ นธรรมดำ ขอแค่คุณหนู ยอมรับผิดกับใต้ เท้ ำก็จบแล้ว
ุ หนูไม่พดู สักคำก็จำกมำอย่ำงนี้ ทิ้งใต้เท้ำโดยไม่อำลำ
แต่นี่คณ
...”

ถำนหวันช ่ ิ งได้ยินดังนัน้ ก็ถอนหำยใจ “ข้ำเป็ นคนผิดใช่


หรือไม่ ตอนนี้ แม้แต่คนใกล้ชิดก็ไม่เข้ำข้ำงข้ำแล้ว?”

ุ หนูมีชีวิตที่ดีนะเจ้ำคะ...”
“คุณหนู ข้ำ...ข้ำอยำกให้คณ

8
่ ิ งเอ่ยแทรกคำพูดของนำง หยิบ
“อี กอย่ำง...” ถำนหวันช
ช้ อนมำตักน้ ำแกงเข้ำปำกอี กครัง้ จำกนั น้ ก็เอ่ ยเสี ยงเนิบ “ข้ำ
พูดเมื่อไรว่ำข้ำทิ้งเขำ?”

“แต่ ว่ำพวกเรำออกมำจำกเมืองเว่ยอันแล้ วนะเจ้ำคะ”


ลุ่ยจูมองเกี๊ยวน้ำบนโต๊ะ ครึง่ ค่อนวันไม่ได้แตะของกินจึงเริ่มหิว
บ้ำงแล้ว นำงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปหยิบช้อนขึน้ มำ

ควำมจริง แล้ ว นำงก็ไม่อยำกตัง้ ตัว เป็ นศัต รูกบั คุณหนู


หรอก นำงคิ ด เสมอว่ ำ ในที่ สุ ด คุณ หนู จ ะต้ อ งแต่ ง กับ ใต้ เ ท้ ำ
แน่ นอน บัดนี้ ควำมรู้สึกนำงไม่เหมือนเมื่อก่อน อำจเพรำะพัก
อยู่ที่เว่ยอันนำนจึงเริ่มรู้สึกดี จู่ ๆ ต้องมำจำกไปกะทันหันก็ทำ
ใจลำบำก ควำมรู้สึกนำงเหมือนกับเมื่อครัง้ ที่ ต้องจำกบ้ำนเกิด
เมืองนอน นำงกับคุณหนูอำศัยอยู่ที่นี่กเ็ งียบสงบและสุขสบำยดี
ยำกมำกที่จะให้กลับไปมีชีวิตที่ลำบำกยำกแค้นดังแต่ก่อน

ลุ่ยจูกดั เกี๊ ยวเข้ำไปในปำก พอเคี้ยวได้สองคำก็แทบจะ


คำยออกมำ เกี๊ยวนี้ ทงั ้ เค็มทัง้ เปรี้ยวทัง้ แข็ง นี่ มนั ของอะไรกัน
ทำไมถึงไม่อร่อยเอำเสียเลย!

ถำนหวันช ่ ิ งมองอี กฝ่ ำยปรำดเดี ยวก็เข้ ำใจ อำหำรที่ นี่


เทียบไม่ได้กบั บ้ำนเล็กที่เว่ยอัน ทุกสองสำมวันจะมีแต่คนส่งผัก
9
และเนื้ อสดใหม่มำให้ นั น่ เพรำะบำงคนหำผักผลไม้มำให้ โดย
หักจำกเบีย้ เลี้ยงของตัวเอง

หมู่บ้ำ นชำวนำที่ เ ป็ นจุด หยุด พัก เช่ น นี้ หำกไม่ ส ะดวก


สบำยก็ย่อมเป็ นเรื่องธรรมดำ อีกทัง้ ตอนนี้ ข้ำวของขำดแคลน
ถำนหวันช่ ิ งมองเกี๊ ยวที่ กินไปแล้วครึ่งอัน ไส้ เกี๊ ยวขำ้ งในสี ดำ
น่ ำจะทำจำกผักแห้งและผักดองผสมกัน

มิน่ำล่ะลุ่ยจูถึงไม่อยำกไป นี่ ยงั ไม่ทนั พ้นเขตเว่ยอันด้วย


ซำ้ เด็กสำวก็เริ่มไม่ค้นุ ชินกับสิ่งเหล่ำนี้ เสียแล้ว

่ ิ งพยำยำมกินเกี๊ยวที่เหลือในชำมของตน ก่อน
ถำนหวันช
ถอนหำยใจ “กินแก้ขดั ไปก่อนเถอะ”

“คุ ณ หนู ท่ ำ นไม่ ต้ อ งกิ น แล้ ว เจ้ ำ ค่ ะ ไม่ รู้ ว่ ำ ของนี่ ท ำ


สะอำดหรือเปล่ำ กินแล้วถ้ำท้ องเสี ยจะทำอย่ำงไร?” ลุ่ยจูนึก
บำงอย่ำงได้ดวงตำพลันเปล่งประกำย รีบวำงตะเกียบ “คุณหนู
เจ้ำคะ ที่ ท่ำนพูดเมื่อครู่หมำยถึงเรำจะหันรถม้ำกลับเว่ยอันไป
หำใต้เท้ำใช่ไหมเจ้ำคะ?”

อยู่มำตัง้ นำนเพิ่งจะรู้ว่ำเว่ยอันน่ ำอยู่ ที่นัน่ คุณหนูไม่ต้อง


กังวลเรื่องฐำนะ พร้อมทัง้ มีใต้ เท้ ำคอยปกป้ องดูแล เที ยบกับ

10
ตอนที่อยู่เมืองหลวงนัน้ มีอิสระกว่ำกันมำก พอจำกมำครำนี้ ยัง
ไม่ ต้ อ งพูด ถึ ง กำรเดิ น ทำงไกล แค่ เ รื่อ งส ำมะโนครัว ก็ไ ม่ รู้จ ะ
จัด กำรอย่ ำ งไร อี ก ทัง้ หลัง จำกนี้ ก็ไ ม่ รู้ว่ ำ ต้ อ งหลบซ่ อ นด้ ว ย
ควำมอกสันขวั ่ ญแขวนอีกนำนแค่ไหน

่ ิ งเพิ่งกินไปได้สองชิ้นก็ตดั สินใจหยุดกิน มอง


ถำนหวันช
ลุ่ยจูที่กำลังรอคำตอบอย่ำงตัง้ อกตัง้ ใจ ก่อนตอบเสี ยงแผ่วเบำ
“จะเป็ นไปได้อย่ำงไรเล่ำ”

“คุณหนู!”

ถำนหวั น่ ชิ งโบกมื อ “อย่ ำ เอะอะเสี ยงดั ง ไป หู ข้ ำ


สันสะเทื
่ อนจนเจ็บไปหมดแล้ว” เอ่ยถึงตรงนี้ นำงก็หวั เรำะ “เจ้ำ
วำงใจเถอะ อย่ ำ งไรเสี ย ใต้ เ ท้ ำ ของเจ้ ำ จะต้ อ งมำรับ ตัว เจ้ ำ
แน่ นอน”

ใบหน้ ำฟึ ดฟั ดเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็ นตื่ นเต้ นดีใจขึ้นมำ


ทัน ที เพรำะนั ย ส ำคัญ ของประโยคนี้ ก็คื อ หำกมำรับ นำงก็
เท่ ำกับมำรับคุณหนู แสดงว่ำพวกตนไม่ต้องไปจำกที่ นี่แล้วใช่
ไหม? นำงรีบเอ่ยว่ำ“คุณหนูให้คนไปแจ้งข่ำวแก่ใต้เท้ำแล้วหรือ
เจ้ำคะ?”

11
“เปล่ำ”

“แล้วรูไ้ ด้อย่ำงไรเจ้ำคะว่ำใต้เท้ำจะมำรับแน่ ”

“เขำมำแน่ นอน”

“เพรำะอะไรเจ้ำคะ?”

่ ิ งยิ้มกว้ำง แล้วเอ่ยว่ำ “เพรำะว่ำเขำเป็ นคนที่


ถำนหวันช
ยึดมันถื
่ อมันอย่
่ ำงที่สดุ ”

“...” ลุ่ยจูมีสีหน้ ำงุนงง ไม่เข้ำใจ

่ ิ งกินไม่ลงอีกแล้ว นำงรู้สึกว่ำเพลียมำกจึงเดิน
ถำนหวันช
ไปนอนลงบนเตียง ทิ้งลุ่ยจูที่มีท่ำทำงฮึดฮัดนัง่ อยู่คนเดียว นำง
หลงคิดว่ำหำกบอกไปอีกฝ่ ำยจะสบำยใจเสียอีก

ทว่ ำสิ่งที่ นำงพูดนั น้ เป็ นควำมจริง ตอนที่ น ำงตัดสินใจ


จำกมำ นำงคิดว่ำเขำเป็ นคนใจแคบ ถึงแม้จะเป็ นควำมจริงอยู่
บ้ำงก็ตำม เรือ่ งครังนี
้ ้ เป็ นหมำกที่นำงแอบวำงไว้นำนแล้ว

เป็ นเพรำะนำงไม่อยำกฉุ ดรัง้ อนำคตของเขำ ทว่ ำช่ วง


หลำยวันมำนี้ นำงคิดได้แล้วแต่เรื่องรำวกลับพลิกผันโดยไม่ทนั
12
ตัง้ ตัว ตอนที่นำงอยำกไปคนเหล่ำนี้ กลับไม่มำ ตอนไม่อยำกไป
คนเหล่ ำ นี้ กลับ มำเสี ย อย่ ำ งนั ้น แถมช่ ว งนี้ ในใจนำงรู้ สึ ก
หวำดระแวงจึงโกรธเขำอยู่

แต่ พอสงบใจได้ แล้วถึงเพิ่งคิด ได้ ว่ ำตัวเองหุน หัน พลัน


แล่นไปหน่ อย ประหนึ่ งไอคิวตำ่ ลงฉับพลันเสียอย่ำงนัน้

ถำนหวัน่ ชิ ง พยำยำมใช้ เ หตุ ผ ลนี้ ให้ อ ภัย ตัว เอง หำก


อยำกเข้ำใจใครสักคน จะต้องเข้ำใจนิสัยของเขำให้ถึงแก่นแท้
จึ ง จะรู้ จุ ด มุ่ ง หมำยและควำมหมำยที่ แ ฝงในเรื่ อ งที่ เ ขำท ำ
ทัง้ หมด

นำงไม่ได้เอ่ยผิดแต่ ประกำรใด เซี่ ยเฉิงจู่คนนี้ เป็ นคนที่


ยึดมันถื
่ อมันอย่
่ ำงที่ สุด หำกจะทำเรื่องใดแล้วย่อมต้ องทำจน
สำเร็จ ไม่มีคำว่ำล้มเลิกกลำงคัน

เขำท ำทุ ก อย่ ำ งด้ ว ยควำมทุ่ ม เทและด้ ว ยใจที่ ห ลงใหล


แบบฝั ง รำกลึ ก ถึ ง ควำมรู้สึ ก ของเขำจะดู อ อกง่ ำ ยแต่ ไ ม่ ไ ด้
รำบเรียบดังที่ เห็น ถำนหวันช ่ ิ งมองออกแต่ ไม่อำจพูดเปิดเผย
ควำมจริงได้กเ็ ท่ำนัน้

13
ถำนหวัน่ ชิ งคิ ดว่ ำ หำกปี นั ้น ตอนที่ อ ำยุ สิ บสำม เขำ
เกลียดนำงมำกจริงๆ เมื่อดูจำกที่ เขำทำตอนนี้ แล้ว คนเกลียด
ชังกันคงไม่ทำเช่นนี้ แน่

เขำให้ ท หำรปลอมตัว เป็ นโจรมำปล้ น กลำงทำงเพื่ อ


หลอกนำง ตอนนัน้ นำงยังคิดไม่ออก แต่หลังจำกที่ ปะติดปะต่อ
เรื่องก็สำมำรถเข้ำใจ นำงสำมำรถพำลุ่ยจูหนี ออกมำได้ อย่ำง
ง่ำยดำยแบบไม่คำดคิดก็เป็ นเพรำะ ‘โจรภูเขำ’ พวกนัน้ ฆ่ ำฟั น
แต่ชำย ทว่ำไม่ทำร้ำยสตรี

เกรงว่ำทัง้ หมดนัน้ ได้ถกู ‘วำงแผน’ ไว้นำนแล้ว

่ ิ งปิดตำข้ำงเดียวแสร้งทำเป็ นไม่รู้ ส่วน


อุบำยนี้ ถำนหวันช
เรื่องวันนี้ เขำโกรธจัดจนอำรมณ์เดือดพล่ำนท่วมท้นใจจนต้อง
ให้คนรีบพำนำงไปเสีย แต่ยงั ตัง้ ใจเลือกวันที่ฝนตก คงอยำกจะ
ให้นำงได้รบั ควำมทุกข์ยำกลำบำกแล้วกลับไปอ้อนวอนขอร้อง
เขำ

ลุ่ยจูให้ตนกลับไปคืนดีกบั เขำ...จะเป็ นไปได้อย่ำงไร หำก


กลับไปนำงก็แพ้ให้เขำน่ ะสิ!

14
นำงอยำกจะบอกกับลุ่ยจูว่ำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงชำย
หญิ งนั ้ น ต้ อ งมี ใ จให้ ก ัน ทั ง้ สองฝ่ ำย แต่ ก็ มี บ ำงอย่ ำ งที่ ไ ม่
ยุติธรรมเหมือนกัน นัน่ คือหำกใครเป็ นคนที่รกั ก่อน คนนัน้ ก็จะ
เป็ นผูแ้ พ้...

อำจกลำยเป็ นคนที่ต้องยอม...

หำกนำงยอมลงให้วนั นี้ อำจจะกลำยเป็ นสัญลักษณ์ว่ำวัน


ข้ำงหน้ ำจะต้องยอมให้ตลอดไป

ผู้หญิงนั น้ สำมำรถอ่อนหวำนและคล้อยตำมได้ แต่ บำง


เรื่องก็ต้องมีเกียรติและศักด์ ิ ศรี อย่ำงไรก็ตำมในควำมคิดของ
ลุ่ยจูกค็ งไม่เข้ำใจว่ำเพรำะอะไรคุณหนูจึงทำกับใต้เท้ำเช่นนี้ ถึง
พูดออกไปเด็กสำวก็ไม่เข้ำใจอยู่ดี

ใต้เท้ ำนัน้ เป็ นผู้ที่มีควำมปรำรถนำอย่ำงแรงกล้ำในกำร


ควบคุมผู้คน ทุกวันทุกเรื่องในบ้ ำนเขำรู้หมด ไม่ว่ำนำงจะไปที่
ไหน พูดอะไร ของกินของใช้ในบ้ำนต่ำงรู้ชดั แจ้ง แม้กระทังส ่ ิ่ ง
ใดนำงออกควำมคิด เรื่องไหนที่ลงแรงทำ เขำล้วนถำมไถ่อย่ำง
ชัดเจนจนรูเ้ รือ่ งรำวแจ่มแจ้งเหมือนตำเห็น

15
อุ ป นิ สั ย เช่ น นี้ หำกรัก ใครมำกและถนอมมำกแถม
ต้ อ งกำรแต่ ง เข้ ำ ตระกูล จะต้ อ งวำงแผนทุ ก อย่ ำ งไว้ อ ย่ ำ ง
เรียบร้อยโดยไม่มีควำมผิดพลำดแม้แต่น้อย และคงไม่ยอมไล่
คนออกมำอย่ำงรีบร้อนเช่นนี้ แน่ แม้กระทังส ่ ำมะโนครัวก็ไม่ให้

สิ่งที่ เขำกระทำต่ อนำงชัดเจนมำกพอแล้ว เขำแค่อยำก


ให้นำงได้รบั ทุกข์ทรมำนแล้วกลับไปหำ

น่ ำเสียดำยสิ่งที่เขำคิดไว้ผิดคำด...

ถำนหวัน่ ชิ ง นั ง่ รถม้ ำ มำครึ่ ง ค่ อ นวัน ก็รู้สึ ก อ่ อ นเปลี้ ย


เพลียแรง นำงนอนตะแคงหนุนหมอน ปิดเปลือกตำแล้วหลับ
สนิทไปอย่ำงรวดเร็ว ขนำดลุ่ยจูมำคลุมผ้ำห่มให้กย็ งั ไม่รสู้ ึกตัว

16
82 ไม่เกี่ยงราคา

จวนเจ้าเมือง

่ ิ่ นยังอยู่ในห้องโถง เขาเหลือบตามองนาฬิกาทราย
จัวเว
เป็ นระยะ ในหูแว่วยินเสียงใต้เท้าเดินไปเดินมาภายในห้องแข่ง
กับเสียงฝนที่ยงั ตกไม่หยุด จนกระทังฝนซาลงเสี
่ ยงฝี เท้าก็เงียบ
ไป คาดว่าใต้ เท้ าคงนั ง่ ตรวจเอกสารราชการแล้ว เขาจึงสังให้่
บ่าวรับใช้เข้าไปเก็บกวาดข้าวของที่แตกหักเสียหายด้านใน

จังหวะนัน้ เองก็มีทหารวิ่งเข้ามาในจวนด้วยท่าที ลนลาน


่ ิ่ นก็รีบถามขึน้ ว่า
พออีกฝ่ ายเห็นจัวเว

“ใต้เท้าอยู่ที่ไหน?”

่ ิ่ น ชี้ นิ้ วไปทางห้ องหนั ง สื อ คนที่ มาท่ าทางร้อ นรน


จัวเว
มาก เพราะไม่ได้เคาะประตูแต่กลับผลักเข้าไปเลย แล้วรายงาน
เสียงดัง

“ใต้ เท้ า แย่แล้วขอรับ บนถนนที่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านหลี่


เถียนราวยี่สิบลี้ จู่ๆ ก็มีพวกโจรต๋าออกอาละวาด ชาวบ้านตาย
ไปไม่น้อยเลยขอรับ...”
1
เดิมทีใต้เท้ายังนัง่ อยู่ ทว่าพอได้ยินก็ผดุ ลุกขึน้ ทันที

“เจ้าบอกว่าที่ไหนนะ!”

วันที่ ฝนตกตลอดวันเช่นนี้ ทาให้บรรยากาศครึม้ ไปด้วย


เมฆฝนจนมองเห็ น รอบด้ า นไม่ ช ั ด เจน คราแรกทหาร
รักษาการณ์ บนกาแพงจึงไม่รบั รู้ถึงความผิดปกติ กว่าจะรู้ตวั ก็
สายเกินไปเพราะพวกต๋าได้บกุ เข้ามาประชิดแล้ว

หมู่บา้ นหลี่เถียนเป็ นจุดพักของบรรดาพ่อค้า รายได้หลัก


มาจากแขกที่ เดินทางผ่านมาแล้วแวะค้างแรม นับว่ามีรายได้ดี
มากที เดียว ส่วนกาแพงเมืองก็ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อ
เที ยบกับกาแพงเมืองเว่ยอัน ก็ควรเรียกกาแพงเมืองที่ นี่ว่ารัว้
เสียมากกว่า

ช่ วงที่ เกิดเหตุใครๆ ก็คิดไม่ถึงว่าพวกต๋าจะกล้าบุกเข้า


มา พ่ อ ค้ า และนั ก เดิ น ทางทัง้ หลายต่ างวิ่ ง หนี กัน อย่ างสับ สน
อลหม่าน เดิมที ผ้คู นในเมืองยังเดินไปมาอย่างคึกคัก พอได้ยิน
เสียงร้องอันน่ าเวทนาดังขึ้นเท่านัน้ ชาวบ้านต่างก็รีบปิดประตู
หน้ าต่าง ซ่อนตัวพลางกอดกันอยู่ในบ้านด้วยอาการหวาดผวา
รอคอยว่ า เมื่ อ ไรพวกต๋ า ที่ ส มควรตายเหล่ า นั ้น จะปล้ น เสร็จ
จะได้รีบจากไปเสียที
2
ตอนที่ เสี ยงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากชัน้ ล่างโรงเตี๊ ยม
่ ิ งยังคงหลับใหล ทันใดนั น้ ก็มีเสี ยงเคาะประตูอย่าง
ถานหวันช
แรง หญิ ง สาวจึ ง พยายามเปิ ดเปลื อ กตาที่ ห นั ก อึ้ ง ขึ้ น ก็เ ห็น
ด้านหลังของลุ่ยจูที่กาลังวิ่งไปเปิดประตู

ค น ที่ เ ข้ า ม า คื อ อ วี้ ฉี แ ล้ ว ยั ง มี ผู้ คุ้ ม กั น ภั ย สี ห น้ า


เคร่งเครียดอีกหลายคนยืนอยู่หน้ าประตู อวี้ฉีวิ่งเข้ามาหาด้วย
สีหน้ าซีดเผือด

“คุ ณ หนู พวกต๋ า บุ ก มาที่ นี่ เจ้ า ค่ ะ ไม่ รู้ว่ า เมื่ อ ไรจะขึ้ น
มาถึงชัน้ บน สามีข้าบอกให้พวกเรารีบไปหลบที่ ห้องใต้ ดินเจ้า
ค่ะ”

พวกต๋านัน้ ดุร้ายและโหดเหี้ยม พบคนก็เข่นฆ่า เห็นของ


ก็จะปล้น วิธีหลบภัยที่ ดีที่สุดคือหาที่ ซ่อน หากยังรัง้ อยู่ที่นี่ ไม่
ช้าก็เร็วพวกมันต้ องบุกขึ้นมาแน่ นอน ถ้าเป็ นอย่างนัน้ คงไม่ดี
แน่

่ ิ งที่ยงั อยู่ในอาการสะลึมสะลือถูกลุ่ยจูกบั อวี้ฉี


ถานหวันช
พยุงขึ้นมา คนหนึ่ งช่วยสวมรองเท้าอีกคนใส่เสื้อคลุมกันลมให้
ตอนลุกขึ้นยืนนัน้ ถานหวันช ่ ิ งรู้สึกปวดแปลบที่ท้องทาให้ได้สติ

3
ทัน ที นางก้ า วเท้ า ได้ แ ค่ ไ ม่ กี่ ก้ า ว เหงื่ อ เย็น ก็ผ ุด ออกมาจาก
หน้ าผากไม่ขาดสาย มือนางเลื่อนลงกุมท้องแล้วหยุดนิ่ง

อวี้ฉีเห็นความผิดปกตินี้ก่อนใคร นางประคองตัวคุณหนู
ไว้แล้วเอ่ยอย่างตกใจ

“คุณหนู คุณหนู เจ้าคะ! ทาไมเหงื่อถึงไหลมากขนาดนี้


ไม่สบายตรงไหนหรือเจ้าคะ?”

ด้านนอกมีเสี ยงกีบเท้าม้าดังกึกก้องผสมผสานกับเสี ยง
วิ่ ง เสี ย งตะโกนและเสี ย งร้องไห้ กลุ่มผู้คุ้ม กัน ภัย หย่ ง เต๋ อปั ก
หลักอยู่หน้ าประตู แต่ละคนกระชับอาวุธมันอย่ ่ างพร้อมสู้ จ้อง
เขม็งไปที่บนั ไดด้วยสีหน้ าระแวดระวัง

จางเม่าซิ่งตะโกนเร่งหญิงสาวทัง้ สามในห้อง พวกต๋านัน้


ไม่ เ หมื อ นพวกโจรภู เ ขา พวกมัน แต่ ล ะคนรู ป ร่ า งสู ง ใหญ่
ร่างกายกายา หากสู้กนั หนึ่ งต่ อหนึ่ งกับผู้คุ้มกันภัยก็ยงั ไม่ร้วู ่า
ใครจะเป็ นฝ่ ายเพลี่ ยงพลา้ ไม่ต้องพูดถึงว่ าพวกมันมี จานวน
มากกว่าอีกด้วย

ถานหวันช่ ิ งรู้สึกปวดหน่ วงที่ ท้องราวกับกระดูกถูกดึงทึ้ง


ทว่ า นางไม่ อ าจปล่ อ ยให้ ต ัว เองท าให้ ค นอื่ น ต้ อ งตกอยู่ ใ น

4
อันตราย หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจลึก กัดฟั นอดทนต่ อ
ความเจ็บ ปวดแล้ ว ให้ อวี้ฉีกบั ลุ่ยจูช่วยประคองเดินไปที่ หน้ า
ประตู

ขณะที่ ค นทัง้ กลุ่ ม ก าลัง จะก้ า วลงบัน ได หนึ่ งในผู้ คุ้ ม


กันภัยที่ถกู ส่งไปดูสถานการณ์กก็ ลับมาพอดี

“หัว หน้ า ข้ างนอกมี ม้า กับ คนอี ก กลุ่ม เพิ่ ง มาถึ ง ดูแล้ ว
น่ าจะเป็ นทหารรัก ษาการณ์ ที่ อ ยู่ ใ กล้ ๆ หมู่ บ้ า นหลี่ เ ถี ย น
พวกต๋านัน่ กลัวจนหัวหดทีเดียว ตอนนี้ มนั ถอยไปแล้วขอรับ”

พอได้ ยินรายงานผู้คุ้มกันภัยทัง้ หลายก็รีบมองไปนอก


หน้ าต่ างเพื่ อให้ แน่ ใจพวกคนเถื่อนไปจากหมู่บ้านแล้ วจริงๆ
จากนัน้ พวกเขาก็ถอนใจเฮือกใหญ่

โชคดีที่ทหารมาทันเวลา ไม่อย่างนัน้ คงมีคนบาดเจ็บล้ม


ตายมากกว่ านี้ เพราะแค่ ชวเวลาสั
ั่ น้ ๆ ไม่ถึงเค่ อ ชัน้ ล่ างของ
โรงเตี๊ยมก็มีคนตายนับสิบแล้ว

ถานหวันช ่ ิ งเห็นท่ าทางของชายกลุ่มนี้ กร็ ้ทู นั ที ว่าวิกฤต


ผ่านพ้นไปแล้ว หญิงสาวจึงไม่อาจฝื นยืนต่อได้ไหว นางบอกให้
ลุ่ยจูกบั อวี้ฉีช่วยประคองไปนัง่ บนตัง่

5
ตอนแรกลุ่ยจูคิดว่าคุณหนูแค่งวั เงียเพราะเพิ่งตื่น มาถึง
ตอนนี้ จึงรู้ว่าคุณหนูมีท่าทีผิดปกติ หน้ าผากอีกฝ่ ายมีเหงื่อท่วม
ใบหน้ าก็ซีดขาวราวกระดาษ

่ ิ งนั ง่ กุมท้ อง ไม่แน่ ใจว่ าเจ็บปวดบริเวณเอว


ถานหวันช
หรือช่องท้ องกันแน่ นางรู้ว่าร่างกายนี้ ไม่ใคร่ดีมาตัง้ แต่ เกิดจึง
ดูแลร่างกายมาตลอด ทาไมอยู่ดีๆ ก็เจ็บปวดอย่างนี้ นะ? หรือ
ว่า...

ประจาเดือนของนาง!

จู่ๆ ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว ประจาเดือนของนางดู


เหมือนจะเลื่อนออกไปนานแล้ว น่ าจะสักครึ่งเดือนได้ อี กทัง้
ลักษณะการปวดท้ องก็แปลกๆ ทันใดนัน้ เองนางก็กมุ มือลุ่ยจู
กับอวี้ฉีแน่ น

“ประคองข้าไปที่เตียง...”

ลุ่ยจูกบั อวี้ฉีได้ยินคาสังก็ ่ ิ งไปที่


่ แปลกใจ รีบพาถานหวันช
เตียงอย่างระมัดระวัง จากนัน้ ก็ประคองให้นอนลง

6
เมื่อห่มผ้าห่มสีเข้มยิ่งขับให้ใบหน้ าของถานหวันช่ ิ งยิ่งซีด
เผือดจนแทบไร้สีเลือด อวี้ฉีเห็นแล้วใจไม่ดี รีบหันไปบอกลุ่ยจู
“เจ้าอยู่ดูแลคุณหนู ที่ นี่ ข้ าจะออกไปข้ างนอกแล้ ว ถามดูว่ามี
ท่านหมอหรือไม่”

ตอนนี้ ข้างนอกวุ่นวายมาก ไม่ร้วู ่าจะหาท่านหมอได้ไหม


หากว่าหาเจอแล้ว ในหมู่บา้ นเล็กๆ นอกเมืองเช่นนี้ เกรงว่าจะมี
แต่หมอชาวบ้านน่ ะสิ ทว่าท่าทางของคุณหนูทรมานเหลือเกิน
ยิ่งคุณหนูไม่ส่งเสียงร้องยิ่งแสดงว่าเจ็บปวดรุนแรง เรือ่ งนี้ นางรู้
ดี

อวี้ฉีเพิ่งจะลงบันไดก็พบเสี่ยวเอ้อยืนออกันอยู่ที่ชนั ้ หนึ่ ง
นางจึงใช้ โอกาสนี้ สอบถาม โชคดี ที่มีท่านหมอหนึ่ งคนเข้ามา
หลบฝนในโรงเตี๊ ยมนี้ เสี่ ยวเอ้ อช่วยนางหาจนเจอ ท่ านหมอที่
อายุราวห้าสิบจึงสะพายล่วมยาเดินตามอวี้ฉีไปที่ชนั ้ สาม

ในเวลาเดียวกัน

ทหารม้ า เมื อ งเว่ ย อัน สามร้อ ยนายพุ่ง ทะยานมาอย่ า ง


รวดเร็ว หนึ่ งในนัน้ เป็ นนายทหารผูห้ นึ่ งที่มีลกั ษณะเป็ นหัวหน้ า
นัง่ อยู่บนอาชาสี ดาขนวาววับ เขาสะบัดแส้ลงบนสี ข้างม้าเพื่อ

7
เร่งความเร็ว จุดหมายคือหมู่บ้านหลี่เถียนที่ พกั กลางทางของ
พ่อค้าและนักเดินทาง

เมื่อมาถึงหมู่บ้านกลุ่มพวกต๋าก็ได้ ถอยร่นออกไปก่ อน
แล้ว หัวหน้ าทหารผู้นัน้ ให้สญ
ั ญาณว่าให้เหลือทหารม้าไว้เพียง
ห้าสิบนาย ส่วนที่เหลือให้ติดตามพวกต๋าที่ หนี ไป ทหารม้าสาม
ร้อยนายนี้ ล้วนเป็ นทหารที่ มีฝีมือยอดเยี่ยม เคยรบกับพวกต๋า
และร่วมต่ อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่แม่ทพั หัวเมืองมาไม่ร้ตู งั ้ เท่ าไร
เรียกได้ว่าเป็ นมือฉมังและมีประสบการณ์เต็มเปี่ ยมทีเดียว

เพี ย งใต้ เ ท้ า โบกมื อ ทหารทุ ก นายก็รู้ค วามหมายทัน ที


ทหารสองร้อยห้ าสิบนายรีบหันหัวม้าแล้ววิ่งไล่ตามพวกต๋ าที่
หนี ตาย

เซี่ ย เฉิ งจู่เ ห็น ศพที่ ย กออกมาจากหมู่ บ้ า น จึ ง ให้ ท หาร


ส่ ว นหนึ่ ง จัด การเผาศพรวมกัน กลางลานหมู่ บ้ า นด้ ว ยความ
เคียดแค้นชิงชัง

เหล่าทหารหาญมองป้ อมปราการและกาแพงเมืองที่ ใต้


เท้ ายุ่งกับการก่ อสร้างมานาน คาดไม่ถึงว่ าพวกต๋ ายังจะอาจ
หาญมาปล้น ราวกับฉวยโอกาสยัวยุ ่ กนั ซึ่งหน้ า!

8
คนที่ นัง่ อยู่บนม้าดากวาดตามองโดยรอบ เห็น บ้านใน
หมู่บา้ นหลี่เถียนถูกเผาไปกว่าครึ่ง บนพืน้ ดินมีรอยเลือด สีหน้ า
ของเขาก็ดหู นักหน่ วงขึ้นมาทันที ราวกับว่าพายุฝนกาลังจะมา
อย่างไรอย่างนัน้

ชายหนุ่มลงจากหลังม้าแล้วเดินไปรอบๆ กาแพงโดยไม่
เอ่ยคาใด กาแพงบางส่วนแตกหัก บางส่วนก็ยงั ซ่อมไม่เสร็จ

พอชาวนาในหมู่ บ้า นหลี่ เ ถี ย นเห็น ใต้ เ ท้ า เมื อ งเว่ ย อัน


มายังหมู่บ้านตัวเอง แต่ ละคนก็มีสีหน้ าดี อกดี ใจ ถึงเมื่อครู่จะ
หวาดผวากับการจู่โจมอย่างฉั บพลันของพวกต๋ าไปบ้าง ทว่ า
การที่ แม่ทพั หัวเมืองพาลูกน้ องมาแทบจะทันทีที่เกิดเรื่องก็ช่วย
เยียวยาจิตใจพวกเขาให้สงบลงได้ ชาวบ้านและบรรดาพ่อค้าที่
เป็ นแขกคล้ า ยเพิ่ ง ตื่ น จากฝั น ร้ า ย แต่ ล ะคนค่ อ ยๆ ทยอย
ออกมาเก็บกวาดพืน้ ดินและช่วยกันซ่อมแซมบ้าน

แม่ทพั หัวเมืองเดินรอบศพชาวบ้านที่ ตายจากเหตุครัง้ นี้


แล้วสังให้
่ จวเว ั ่ ิ่ นเอาเงินให้ ญาติที่ร้องไห้ ครา่ ครวญคนละสอง
ตาลึง จากนัน้ ก็เดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม

9
ถึ ง โรงเตี๊ ยมแห่ งนี้ จะใหญ่ มาก แต่ การจะหาใครสักคน
กลับไม่ยาก แม่ทพั หัวเมืองพาร่างที่เปี ยกปอน ใบหน้ าเขียวครึม้
ด้วยไรหนวด เดินขึน้ ไปชัน้ บน

่ ิ่ นนัน้ มองตามหลังใต้เท้าด้วยท่าทางค่อนข้างกังวล
จัวเว
วันนี้ อารมณ์ ใต้ เท้าหนักหน่ วงเหลือทน ตอนที่ รีบมานัน้ ขนาด
อาชาดาคู่ใจที่รกั นักหนาก็ยงั ลงแส้ไม่ยงั ้ อีกสักพักเมื่อเจอคนก็
ไม่ร้วู ่าอารมณ์ โกรธจะเป็ นอย่างไร ทว่านัน่ เป็ นสิ่งที่คณ
ุ หนูถาน
สมควรได้รบั แล้ว

ผลก็คือพอเท้ าเซี่ ยเฉิงจู่ก้าวไปถึงชัน้ สาม เขาก็เห็นจาง


เม่าซิ่งกับผู้ค้มุ กันภัยสองคนยืนเฝ้ าหน้ าบันได ทุกคนคารวะใต้
เท้า ทว่าเขากลับไม่เอ่ยคาใด เดินผ่านไปด้วยสีหน้ านิ่งเฉยแล้ว
ผลักประตูเปิดเงียบๆ

ชายหนุ่มเพิ่งจะก้าวพ้นธรณี ประตู ก็เห็นชายแปลกหน้ า


คนหนึ่ งเอ่ยแสดงความยินดี

“ยินดีกบั ฮูหยินด้วย ท่านกาลังตัง้ ครรภ์ขอรับ...”

ตอนที่ ท่านหมอมาถึง ถานหวันช่ ิ งกาลังนัง่ พิงพนักเตี ยง


ด้วยอาการอ่อนเพลีย คิ้วขมวดมุ่นเล็กน้ อย

10
่ ิ งอย่างเรียบร้อย
อวี้ฉีจดั ผ้าห่ มมาคลุมตัวให้ ถานหวันช
เพราะอวี้ฉีอยู่ในจวนตระกูลถานมาตัง้ แต่ เด็ก ทัง้ ยังเคยเป็ น
หัวหน้ าสาวใช้ข้างกายคุณหนู กิริยาท่าทางที่ ปฏิบตั ิ ต่ออี กฝ่ าย
จึงเป็ นไปตามความคุ้นชิน ถึงท่ านหมอผู้นี้จะแก่ชรา นางก็ยงั
ไม่วายหาของมากางกัน้

ตอนที่ อ ยู่จ วนตระกูล ถาน นางเป็ นคนดูแ ลคุณ หนู ทุ ก


ครัง้ ที่ ห มอหลวงในวัง มาตรวจที่ จ วน ถ้ า ไม่ ใ ช้ ผ้ า ม่ า นกัน้ ใน
ขณะที่ ต รวจโรค อย่ า งน้ อยก็ต้ อ งมี ผ้ า โปร่ ง บางกัน้ ผิ ว เนื้ อ
บริเวณที่ จะตรวจชี พจร เพราะชายหญิงนัน้ แบ่งแยกกันชัดเจน
ทุกอย่างจึงต้องระมัดระวังและรอบคอบ

แต่ ว่ า ‘ห้ องชัน้ เยี่ ยม’ ในโรงเตี๊ ย มแห่ ง นี้ ออกจะเก่ า ไป


หน่ อย นอกจากเตียงหลังหนึ่ ง ผ้าห่มหนึ่ ง โต๊ะและเก้าอี้อย่างละ
ตัวแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใด แม้แต่ผา้ ม่านโปร่งบางก็ไม่มี

อวี้ฉีนัน้ ถึงกับตกใจเมื่อเห็น ว่าท่ านหมอไม่ได้นาผ้าบาง


มาด้วย ในเมื่อเป็ นหมออย่างน้ อยก็ต้องเตรียมผ้าไว้สิ เพราะถึง
อย่างไรท่านหมอผูน้ ี้ กเ็ ป็ นผูช้ ายไม่ใช่ผหู้ ญิง

11
่ ิ งเห็นอวี้ฉีอ้าปากจะพูดบางอย่างก็ส่ายหน้ าให้
ถานหวันช
นางวางมือลงบนหมอน สาหรับนางแล้ว อาการปวดตรงหน้ า
สาคัญกว่าการรักษาเกียรติ

ท่านหมอเดินทางผ่านมาหลายเมืองแล้ว นับว่าเคยเห็น
คนสูงศักด์ ิ อยู่ไม่น้อย พอเห็นสตรีผ้นู ี้ มีคนเฝ้ าอยู่หน้ าประตู อีก
ทัง้ กิริยาท่ าทางที่ ไม่เหมือนหญิงธรรมดาทัวไป ่ ก็เข้าใจว่าแม่
นางท่านนี้ ต้องเป็ นผูส้ งู ศักด์ ิ แน่ ๆ

ถึงเขาจะเคยจับชี พจรมานั บไม่ถ้วน แต่ ไม่เคยมีโอกาส


ตรวจโรคให้ กบั คนสูงศักด์ ิ เลยสักครัง้ ดังนัน้ เขาจึงระมัดระวัง
ในการตรวจเป็ นอย่างมาก เขาวางนิ้วลงบนจุดชีพจร จดจ่อกับ
การเต้นของชีพจรอย่างตัง้ ใจ

เพื่ อ ไม่ ใ ห้ มี ข้ อ ผิ ด พลาด เขาจึ ง ตรวจซ้า แล้ ว ซ้า เล่ า อยู่


สามคราจึงกล้าสรุป จากนัน้ ก็ลุกขึ้นแจ้งผลการตรวจ

“ยินดีกบั ฮูหยินด้วย ท่านกาลังตัง้ ครรภ์ขอรับ...”

ขณะที่พดู เขาก็ได้ยินเสียงคนผลักประตูเข้ามา ท่านหมอ


เหลือบมองไปหน้ าประตู เห็นบุรษุ ในชุดเกราะเหล็กสี ดากาลัง
เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ าเคร่งขรึม คล้ายกับคนอารมณ์ไม่ดี ทว่า

12
พอได้ ยิ น ประโยคหลัง ของเขา ไม่ รู้ว่ า เพราะรี บ เดิ น หรื อ เป็ น
เพราะธรณี ประตูสูงเกินไป ชายผู้นัน้ ถึงได้เดินสะดุดจนเกื อบ
หน้ าคะมา

ท่านหมอจาชุดเกราะทหารม้าของเว่ยอันได้ เมื่อเห็นคน
ตรงหน้ าชัดๆ...ไม่ใช่ใครที่ ไหน ชายหนุ่มผู้นี้คือแม่ทพั หัวเมือง
แห่งเมืองเว่ยอัน

ตามปกติ ใต้ เ ท้ าเซี่ ย จะทางานในจวน สลับกับที่ นาทัพ


ทหารออกรบในพื้น ที่ ร อบๆ เว่ ย อัน ทัง้ ทางเหนื อ และทางใต้
ปราบปรามพวกต๋าและโจรผูร้ ้าย ไม่รวู้ ่ากี่ครัวเรือนแล้วที่ใต้เท้า
ช่ วยชี วิตไว้จากความตาย ทุกคนจึงจดจาและซาบซึ้งใจในตัว
ชายหนุ่มผูน้ ี้

สาหรับแม่ทพั หัวเมืองผู้นี้ทงั ้ ทหารและประชาชนเว่ยอัน


ไม่มีใครไม่เคารพนับถือเขา

ท่านหมอเห็นแม่ทพั หัวเมืองก็ตกตะลึง จากนัน้ ก็รีบก้าว


ไปหาอย่างว่องไว ก่อนจะคารวะด้วยความนอบน้ อม “ข้า--สวี
เก๋อคารวะใต้เท้าเซี่ย”

13
เซี่ ยเฉิงจู่ปรายตามองคนบนเตี ยงนอน แล้วหันมาถาม
ท่ านหมอด้ วยความสนใจและเป็ นกันเองอี กครัง้ “เมื่อครู่เจ้า
บอกว่าอะไรหรือ?”

“ข้าบอกว่า ข้า--สวีเก๋อคารวะใต้เท้าเซี่ย...”

“ไม่ใช่ประโยคนี้ ประโยคก่อนหน้ า!”

“ประโยคก่ อ นหน้ า ? อ๋ อ ...ข้ า ก าลัง ตรวจโรคให้ ฮู ห ยิ น


ท่ านนี้ จึงพบว่าฮูหยินกาลังตัง้ ครรภ์ขอรับ เพียงแต่ ไม่ระวังจึง
กระทบกระเทื อนครรภ์เล็กน้ อย เดี๋ยวข้าจะออกใบสังยาบ ่ ารุง
ครรภ์ให้ แล้วให้นางพักผ่อนให้มากก็จะดีขึน้ ...”

ท่ า นหมอผู้นี้ ใ ช้ ชี วิ ต มาเกิ น ครึ่ ง เห็น แววตาชายหนุ่ ม


ตรงหน้ าก็พอเข้าใจ จึงรายงานแม่ทพั หัวเมืองตามตรง

“ถ้ า เช่ น นั ้น ก็ร บกวนท่ า นแล้ ว ช่ ว ยต้ ม ยาบ ารุง ครรภ์


อย่างดีสกั หลายๆ ชุด ไม่ว่าจะราคาเท่าไร ขอเพียงหายไวข้าไม่
เกี่ยง!” เอ่ยจบใต้ เท้ าก็ก้มหน้ าหาของตามตัวด้วยท่ าทางร้อน
รน สุดท้ายก็เจอถุงเงินจึงยัดใส่ในมือท่านหมอ

“ขอรับ ข้าจะเขียนใบสังยาให้
่ เดี๋ยวนี้ ”

14
ยาบ ารุง ครรภ์นั ้น จัด ให้ ไ ม่ ย าก ท่ า นหมอสวี เ ก๋ อ จึ ง รี บ
สะพายล่วมยาแล้วลงไปต้มยาข้างล่างทันที

15
83 เปิดใจ

หลัง จากที่ ท่ านหมอออกไปแล้ ว เซี่ ย เฉิงจู่ก็ย งั ยื น อยู่ที่


เดิมครู่ใหญ่ จากนั น้ เขาก็ก้าวเท้ าไปที่ เตี ยง มองใบหน้ าอ่ อน
ละมุนนัน้ อีกที

ก่อนหน้ านี้ สีหน้ าใต้เท้ามืดครึม้ คิ้วขมวดแน่ น ทว่ายาม


นี้ เหมือนพายุฝนได้ผา่ นพ้นเผยให้เห็นท้องฟ้ ากระจ่างใส

อวี้ฉีที่ยืนอยู่ข้างเตี ยงรู้สถานการณ์ จึงหยัดกายลุกขึ้น


แล้วเดินไปขวางหน้ าใต้เท้าไว้

“เมื่อครู่คุณหนู ตกใจมากจนเจ็บท้ อง หากก่อนหน้ านี้ มี


เรื่องใดผิดพลาดไป ขอให้ใต้เท้าโปรดอภัย ด้วย และอย่าได้ทา
ให้คณุ หนูลาบากใจเลยนะเจ้าคะ”

กล่ าวจบนางก็หนั ไปส่ งสายตาให้ ลุ่ยจู ก่ อนหันไปบอก


่ ิง
ถานหวันช

“ฝนเพิ่งหยุดตก ในห้องจึงค่อนข้างเย็น ข้ากับอาจูจะลง


ุ หนูเพิ่มนะเจ้าคะ”
ไปด้านล่างเอาผ้าห่มมาให้คณ

1
ลุ่ยจูไม่กลัวคุณหนูแต่กลับกลัวอวี้ฉีเสียอย่างนัน้ นางจึง
ได้แต่เหลือบมองคุณหนู แล้วเดินตามอวี้ฉีไปอย่างว่าง่าย

เมื่อใต้เท้าเซี่ ยเห็นพวกนางออกไปแล้วก็ฉวยโอกาสปิด
ประตู ก่อนจะถอดชุดเกราะสีดาวางลงด้านข้างแล้วเดินตรงมา
ที่เตียง ด้วยท่าทางเหมือนกับพยายามหักห้ามใจอย่างหนักเพื่อ
ไม่ให้ตนเองพุ่งเข้าหานาง

ชายหนุ่มนัง่ ลงด้านข้างหญิงสาว ใบหน้ ายังคงเคร่งขรึม


แต่ ย งั เที ย บไม่ ไ ด้ กบั ตอนแรกที่ เ ข้ า มาในห้ อ งแบบไร้รอยยิ้ ม
เซี่ยเฉิงจู่กระแอมให้คอโล่งหนึ่ งครัง้ แล้วถามเสียงตา่

“ตอนนี้ เจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง? ยังเจ็บตรงไหนหรือไม่?”

เซี่ ย เฉิงจู่มองไปยัง ร่างบอบบางที่ เ อนกายอยู่บ นเตี ย ง


ใบหน้ านางซี ดเผือดไร้สีเลือด ถึงกระนั น้ ก็ไม่อาจทาให้ ความ
งามที่มีแต่เดิมลดลง

หญิงสาวเพียงขมวดคิ้วน้ อยๆ เมื่อเห็นชายหนุ่ ม พอได้


ยินน้าเสียงเป็ นห่วง นางก็ไม่ได้พดู คาใด บรรยากาศระหว่างทัง้
คู่จึงกลายเป็ นเงียบงัน ทันที ที่อีกฝ่ ายทรุดตัวลงนัง่ ข้างๆ นางก็
ค่อยๆ เบนสายตาไปมองเขา

2
ท่าทางอ่อนเพลียของนาง ทาให้เซี่ยเฉิงจู่ซึ่งนัง่ นิ่งอยู่ข้าง
เตี ยงรู้สึกปวดใจ ในหัวได้ยินแต่คาพูดของท่านหมอ ชายหนุ่ม
ยื่นมือร้อนระอุไปกอบกุมมือเย็นเฉี ยบของนาง พอเห็นหญิง
สาวตัง้ ท่าจะชักมือออก เขาก็ยิ่งกุมมือนางแน่ นกว่าเดิม

เพราะสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปทาให้นางหยุดดิ้นรน ได้
แต่เอ่ยเสียงเบา

“ข้ า คงคิ ดผิ ดมาตลอด เพราะนิ สั ย ของใต้ เท้ าไม่


เปลี่ยนไปเลยสักนิด” หญิงสาวหลุบตาลง “เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า
ใต้เท้าจะชอบทรมานคนอื่นด้วยวิธีเช่นนี้ หนาซา้ ไม่เพียงแค่ยึด
ครองร่างกาย แม้แต่หวั ใจท่านก็ยงั ยือ้ แย่งไปจากข้า”

น้าเสียงอ่อนนุ่มแฝงความขมขื่น คล้ายกับนางกาลังเยาะ
หยันตนเอง “ถึงอย่างนัน้ ข้าก็ยงั ซาบซึ้งใจในตัวท่าน และครังนี
้ ้
ท่านก็ช่วยชีวิตข้าเอาไว้อีกครา”

หญิงสาวชะงักเล็กน้ อย จาใจต้ องถามให้ ร้แู น่ ทงั ้ ที่ หวั ใจ


ปวดร้าว “หลายปี มานี้ ไม่ร้วู ่าความเคียดแค้นชิงชังที่ ใต้ เท้ ามี
ต่อข้ายังคงเหลือมากน้ อยเท่าไร?”

3
เดิมที แววตาใต้เท้าฉายแววห่วงกังวล ครัน้ ได้ยินคาถาม
ที่ ออกมาจากใจของนาง มันก็ค่ อยๆ แปรเปลี่ยนเป็ นกลัดกลุ้ม
สายตาคมจ้องมองนางไม่กะพริบ เขากระชับมือบางแน่ นขึ้น
แสดงให้เห็นว่าภายในใจของเขาตอนนี้ ยากที่ จะปกปิดอารมณ์
ความรูส้ ึกที่มีต่อนางได้

ไม่ รู้ว่ านานเท่ าไร มือใหญ่ ที่ กมุ แน่ น จึ ง คลายออก เขา
เลื่อนมือกลับไปวางไว้บนเข่าของตนด้วยใบหน้ านิ่งประหนึ่ งไร้
ความรูส้ ึก ก่อนจะเอ่ยขึน้

“ตอนที่ ข้ าได้ ยิ น ว่ าจวนตระกูลถานถูกยึ ดทรัพ ย์จนไม่


เหลือสมบัติใดๆ ซา้ ยังถูกขังคุกและเนรเทศไปอยู่ชายแดน ข้า
นอนไม่หลับอยู่หลายคืน โดยเฉพาะได้เห็นตระกูลถานที่ ยืนอยู่
เหนื อผู้คนกลับร่วงลงดิน หมดสิ้นความสูงศักด์ ิ ข้ายอมรับว่า
ตนพอใจ...”

เขามองไปยังคนที่เงียบงันอยู่บนเตี ยง มือบนเข่ากาเป็ น
หมัดแน่ น

"ถึงความคิดนี้ จะตา่ ทราม แต่มนั เป็ นเพราะความผิดของ


พี่น้องสกุลถานของพวกเจ้ามิใช่ หรือ? ภาพที่ เจ้าฟาดแส้ ใส่ ข้า
กับมารดา มันฝั งลึกอยู่ในหัวของข้า ตอนนั น้ ทัง้ สายตาและสี
4
หน้ าของเจ้า. . .โดยเฉพาะคาพูดที่ขบั ไล่คนเยี่ยงสัตว์ ข้าไม่เคย
ลืมเลยสักนิด นับตัง้ แต่นัน้ เป็ นต้นมา ข้าก็สาบานกับตนเองว่า
ต้องมีสกั วันที่ให้เจ้าชดใช้

ตลอดระยะเวลาหลายปี ในหัวข้าเต็มไปด้วยเจ้า ...มี แต่


่ บความเคียดแค้นจึงทาให้ข้ามีชีวิต
เจ้า และเพราะในใจยึดมันกั
รอดมาจากสนามรบ และช่วยให้ข้ายืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้
...ก็เพื่อรอ"

คาพูดของเขาทาให้ ภายในห้ องเงียบกริบ หากมีเข็มสัก


เล่มร่วงลงพืน้ แน่ นอนว่าต้องได้ยินชัดเจนทีเดียว

เอ่ยถึงตรงนี้ เขาก็นิ่งงันอยู่นาน จากนัน้ เซี่ยเฉิงจู่กก็ ดั ฟัน


แน่ นแล้วถอนหายใจออกมา

"เจ้า...คงจะจาไม่ได้ ก่อนที่ข้ากับมารดาจะออกจากเมือง
หลวงหนึ่ งวัน ข้าไปหาเจ้าที่ จวนตระกูลถาน มารดาข้าไม่ให้ข้า
ผูกพยาบาทกับตระกูลถาน นางบอกว่าตอนนัน้ ตนหลบหลีกไม่
ทัน โชคดีที่แส้นัน่ ฟาดมา ไม่เช่นนัน้ นางคงนอนตายอยู่ใต้ กีบ
เท้ าม้าแล้ว วันนั น้ ครรภ์ของแม่ข้ากระทบกระเทื อนมาก นาง
เจ็บปวดทัง้ คืน ทาให้ ข้าโมโหเป็ นที่ สุด จึ งแอบวิ่งไปหน้ าประตู
จวนตระกูลถาน"
5
จู่ๆ เขาก็ยิ้มเยาะ ไม่รวู้ ่าคิดอะไรอยู่

"คฤหาสน์ ของท่ านอัครเสนาบดี ถานช่ างกว้างใหญ่ น่า


เกรงขาม พวกเจ้ า มี ชี วิ ต แสนสุข สบาย มี ท องค าและหยกใช้
ประหนึ่ งเป็ นเพียงก้อนหิน รา่ รวยโอ่อ่าอย่างที่สุด เทียบเท่าราช
สานั กได้เลยด้วยซ้า เมื่อเที ยบกับที่ อยู่อาศัยซึ่ งมุงหญ้ าคาก่อ
ด้วยดินของข้ากับมารดา ช่างห่างกันลิบลับราวฟ้ ากับดิน

ข้ า เห็น เจ้ า ออกมาจากข้ า งในจวน ข้ า จ าได้ ดี ว่ า วัน นั น้


เป็ นวันที่ หิมะตก อากาศหนาวเหน็ บ ข้ ายื นสันอยู่ ่ ใกล้กบั มุม
กาแพง แต่เจ้ากลับใส่ผ้าคลุมขนจิ้งจอก ขี่ม้าคู่กายขนสีขาวดุจ
หิมะ..."

ใต้เท้าเซี่ยเอ่ยถึงฉากที่เห็นทัง้ หมดอย่างเนิบช้า หลังจาก


วันนัน้ นางก็อยู่ในความทรงจามาเนิ่นนาน เขาไม่มีวนั ลืมเลือน
ตลอดกาล

นางขี่ ม้ า สี ข าวที่ ฝี เท้ า ดี ไ ร้ ที่ ติ ผิ ว พรรณผุด ผ่ อ งขาว


สะอาดดูสูงส่ง เส้นผมดาขลับราวขนอีกาถูกมัดรวบสูง ผ้าคลุม
ที่พาดอยู่บนไหล่ดจุ ปุยเมฆ ผิวพรรณขาวดุจหิมะรับกับเสื้อผ้าสี
ขาวทัง้ ชุด สายตานางกวาดผ่านเขาไป แม้แต่ จะหยุดมองสัก
นิดก็ไม่มี
6
่ อม กิน
"พอเห็นเจ้าอยู่เหนื อผู้คน มีเสื้อผ้าสวมใส่พรังพร้
อาหารเลิศหรู ข้าก็ยิ่งเพิ่มความจงเกลียดจงชัง เพราะเหตุใดคน
ที่ทาให้ข้าต้องประสบกับความทุกข์ทรมานกลับใช้ชีวิตได้อย่าง
ไร้ความละอาย อีกทัง้ อยู่อย่างสบายใจได้ปานนัน้

ต่ อมามารดาข้ าล้ มป่ วย เพราะไม่ มีเ งิ น จ่ ายค่ า หมอจึ ง


ต้ องระเห็จออกจากเมืองหลวง ต้ องเจอเคราะห์กรรมซ้า ซ้ อน
นับตัง้ แต่นัน้ ข้าก็รอที่จะคิดบัญชีกบั เจ้า เคยลืมเจ้าแม้สกั เสี้ ยว
เวลา และความแค้นนี้ เองที่ เป็ นกาลังใจให้ ข้ามีชีวิตอยู่ตลอด
มา"

มือที่วางลงบนเข่าทัง้ สองข้างกาแน่ นขึน้

“จนกระทังต่
่ อมาได้เจอกับเจ้า ข้าจึงรู้ตวั ว่า ข้านัน้ ไม่ได้
อาฆาตพยาบาทเจ้าเลย...เพียงแค่ใจของข้ามีแต่เจ้าเท่านัน้ ”

นิสัยของใต้เท้าเซี่ ยเป็ นคนที่ เก็บงาความรู้สึกเก่ง นับว่า


เป็ นครัง้ แรกที่ เ ขาเอ่ ย ความในใจต่ อ คนตรงหน้ า ทว่ า ค าพูด
สุดท้ายก็ยงั ไม่ได้เอ่ยออกมา

7
เซี่ ย เฉิ งจู่เ ป็ นคนที่ ห ยิ่ ง ในศัก ด์ ิ ศรี เ ป็ นที่ สุด เขาไม่ เ คย
ต้องมาเฝ้ าหรือว่าแสดงความปรารถนาที่ ตนมีต่อหน้ าใคร การ
ที่เขาเอ่ยถ้อยคาเหล่านี้ ออกมาแสดงว่าถึงขีดสุดแล้ว

ในห้ องยังคงเงียบสนิท เขาไม่ได้รอให้ คนที่ อยู่บนเตี ยง


ตอบกลับแต่อย่างใด กลับลุกพรวดพราดขึ้นยืน ทว่าจู่ๆ ก็มีมือ
ข้างหนึ่ งยื่นมาจับมือของเขาไว้แน่ น

"หลังจากที่ข้ารับรู้เรื่องราวของมารดาท่านกับฝูอิน ข้าก็
ละอายใจมาก คิ ด เพี ย งว่ า หากท่ า นอยากจะเอาชี วิ ต ข้ า ก็
ยิ นยอม การที่ ข้ า อยากไปจากที่ นี่ เป็ นเพราะไม่ อ ยากรัง้
ตาแหน่ งหน้ าที่ การงานของท่าน ถึงตัง้ แต่ต้นท่านจะใช้คาพูดที่
แข็งกระด้าง แต่ข้าก็ไม่เคยรู้สึกเกลียดชังท่าน นัน่ เป็ นเพราะข้า
รูว้ ่าจริงๆ แล้วท่านเป็ นคนที่เอาใจใส่และดูแลข้าอย่างดีที่สดุ "

่ ิ ง เบาหวิ ว แรงที่ จบั เขาไว้ ก็น้ อ ยนิ ด


น้ า เสี ย งถานหวันช
เพียงชายหนุ่มขยับนิดเดี ยวก็ดิ้นหลุดแล้ว แต่ เขายังคงยืนอยู่
ตรงนั น้ ให้ นางได้กมุ มือของเขาเอาไว้ นางค่ อยๆ ใช้ นิ้วเรียว
บางนวดเบาๆ ที่ มือหยาบกระด้างของเขา คาพูดที่ เอ่ยออกมา
นุ่มนวลทัง้ อบอุ่น มันคงและแน่
่ วแน่

8
“หากท่านไม่สนใจว่าข้านัน้ เป็ นเพียงนักโทษหญิงแล้ว...
ข้าก็ยินยอมอยู่ข้างกายท่าน จะไม่จากไปไหนอีก”

ชาตินี้นางไม่ร้วู ่าตนจะอยู่ได้นานเท่ าไร เกรงว่าจะไม่มี


่ ิ งใดๆ ได้อีกแล้ว
เวลาเหลือให้หยังเช

เมื่อใต้เท้าเซี่ ยได้ฟังประโยคนี้ มือที่ กาแน่ นก็คลายออก


ทันที เขารีบหมุนกายกลับมา

่ ิ งก็ร้สู ึกว่าตรงหน้ านัน้ มืดมิด เพราะถูกคน


จู่ๆ ถานหวันช
โอบกอด

ชายหนุ่มตรงหน้ ามีเรี่ยวแรงมากพอที่ จะทาให้ถานหวัน่


ชิงหายใจไม่ออก ทุกครัง้ ที่ เขากอดจะลงน้ าหนักมาไม่น้อยเลย
ทว่าครัง้ นี้ เพราะเขาคานึ งถึงว่านางกาลังตัง้ ครรภ์ ดังนัน้ แม้ชาย
หนุ่มจะกอดนางไว้ในอ้อมแขน แต่กไ็ ม่ได้ลงแรงมาทัง้ หมด ทัง้
สองเงี ยบงันอยู่นาน ก่ อนที่ ชายหนุ่ มจะเป็ นคนเปิดปากก่ อน
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้าเสียงหนักแน่ น

“ข้าจะไม่มีอนุ ขอเพียงเจ้าอยู่ข้างกายข้า อะไรข้าก็ยอม


ทัง้ นัน้ ...”

9
่ ิ งได้ยินประโยคนี้ กเ็ ป็ นครัง้ แรกที่ อารมณ์
เมื่อถานหวันช
อ่ อ นหวานนุ่ ม นวลอบอวลอยู่ใ นใจ นางแนบกายอยู่ ใ นอ้ อ ม
กอดที่อบอุ่นของเขา วางปลายคางไว้บนไหล่กว้าง

หลังจากนัน้ อี กครู่ใหญ่ ตอนที่ ลุ่ยจูยกถ้วยใส่ ยาต้ มของ


ท่ านหมอเข้ามาในห้ อง ก็ได้เห็นใต้ เท้ ากาลังจุมพิตคนที่ นอน
หลับไปแล้วพอดี...

ลุ่ย จูต กใจจนถ้ ว ยยาในมื อ เกื อ บพลิ ก คว ่า เด็ก สาวยื น


เก้ๆ กังๆ อยู่หน้ าประตู จะเข้าไปตอนนี้ กไ็ ม่เหมาะ แต่ กถ็ อย
กลับไม่ได้เช่นกัน พอคิดว่าใต้เท้าเซี่ยประเดี๋ยวก็เป็ นปี ศาจร้าย
ประเดี๋ยวก็อบอุ่นกับคุณหนู

นางก็ร้สู ึ กร้อนใจ สุดท้ ายจึงรวบรวมความกล้าเดินเข้า


ไปในห้องแล้วเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก

“ใต้ . ..ใต้ เ ท้ า ในท้ อ งคุ ณ หนู มี . ..ไม่ ส ามารถท าตาม


อาเภอใจได้นะเจ้าคะ...เอ่อ...”

พอเห็นว่ามีคนเข้ามา สีหน้ าและท่าทางของใต้เท้าเซี่ยก็


กลับเป็ นปกติดงั เดิม เขาจัดแจงห่มผ้าห่มให้กบั คนที่ นอนหลับ
อยู่บนไหล่ตนเมื่อสักครู่ก่อนจะลุกขึ้น พอได้ยินคาพูดของลุ่ยจู

10
เขาก็รบั คาสัน้ ๆ โดยที่ไม่ได้หนั ไปมอง สีหน้ าชายหนุ่มราบเรียบ
ไร้ความรู้สึกอย่างที่ เคยเป็ นมาตลอด ทาให้ ลุ่ยจูหวาดหวันจน่
หัวใจเต้นกระหน่าราวกับจะหลุดออกมาจากอก

“ป้ อนยาแล้วให้นางนอนสักพัก”

เด็ก สาวรี บ ลนลานรับ ค า ใต้ เ ท้ า เซี่ ย จึ ง ก้ า วข้ า มธรณี


ประตูเดินออกไป นางลูบอกก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ เมื่อดูจาก
สถานการณ์ เด็กสาวก็คิดว่าใต้เท้ากับคุณหนูคงจะคืนดีกนั แล้ว
วันเวลาแห่งความทรมานของนางจบสิ้นลงได้ในที่สดุ

ณ หมู่บา้ นหลี่เถียน

หลังผ่านวิกฤตปล้นชิงของพวกต๋า เหล่าทหารก็มาช่ วย
ชาวบ้านในพืน้ ที่ซ่อมแซมบ้านเรือนที่พงั และเสียหาย การจู่โจม
เพื่อปล้นชิงของพวกต๋าครานี้ ค่อนข้างกะทันหันแต่กไ็ ม่ได้ส่งผล
ที่ เลวร้ายเพี ยงอย่างเดี ยว การบุกเข้ามาในหมู่บ้านที่ แทบจะ
เรียกได้ ว่าอยู่ใต้ จมูกของเว่ยอัน ไม่เพี ยงเป็ นการกระทาที่ ไม่
ไว้หน้ าท่านแม่ทพั หัวเมือง แต่กลับทาให้ใต้เท้าเซี่ยรู้ว่าสถานที่
ที่ ดูเหมือนปลอดภัยที่ สุดก็ยงั เกิดเหตุร้ายได้ วันนี้ พวกมันบุก
โจมตี หมู่บ้านเล็กๆ ไม่แน่ ว่าพรุ่งนี้ กอ็ าจโจมตี และยึดเมืองเว่ย
อันเป็ นลาดับต่อไป...
11
เรือ่ งนี้ ทาให้แม่ทพั หัวเมืองเดือดเป็ นฟื นเป็ นไฟ วันต่อมา
เขาจึ ง น าทหารสองร้ อ ยนายที่ ม ากด้ ว ยความสามารถมาที่
หมู่บ้านหลี่ เถียน จากนั น้ ก็จดั การซ่ อมแซมและบูรณะกาแพง
เมื อ ง ไม่ เ พี ย งแค่ ห มู่ บ้ า นที่ เ ป็ นจุ ด พัก นี้ เท่ า นั ้น แม้ แ ต่ ป้ อม
ปราการรอบๆ เมืองเว่ยอันก็ได้รบั การตรวจสอบและซ่อมแซม
ทัง้ หมดเช่ น กัน เขายกระดับ ความส าคัญ ในเรื่อ งนี้ ใ ห้ สู ง กว่ า
การบุกเบิกหน้ าดินสาหรับหว่านไถในต้ นฤดูใบไม้ผลิ เพราะ
กาแพงและป้ อมปราการเป็ นพืน้ ฐานที่สาคัญอันดับแรก

่ ง้ เมืองก็ได้ยินเสียงย้ายหินย้ายดิน ระคน
จากวันนัน้ ทัวทั
กับเสี ยงคนที่ กาลังทางานอย่างหนัก ยิ่งทาให้ กิจการโรงเตี๊ ยม
เจริญรุง่ เรืองยิ่งกว่าวันวานเสียอีก

บางครัง้ จึงมักได้ยินเสี ยงเสี่ ยวเอ้ อร้องเรี ยกลูกค้ าด้ วย


ท่าทางกระตือรือร้นและสบายใจ ราวกับว่าเสียงร้องด้วยความ
หวาดกลัวของเมื่อวานได้ห่างไกลออกไปแล้ว มีแต่ เสี ยงที่ เต็ม
ไปด้วยความสุขและคึกคักในทุกๆ วัน

่ ิ งยังคงพักอยู่ใน ‘ห้องชัน้ เยี่ยม’ บนชัน้ สาม


ถานหวันช

ทว่าการบริการผิดจากเมื่อวานลิบลับ ด้วยวันนี้ มีทงั ้ ผ้าปู


ที่นอนผืนใหม่ที่น่ ุมสบาย มีผา้ ม่านบางพลิ้วสีเขียวแขวนกับราว
12
เตียงเพื่อบังลม เครือ่ งเรือนล้วนมีผา้ ฝ้ ายปูรอง พรมขนแกะขาว
สะอาดนุ่มนิ่มปูอยู่บนพื้นตัง้ แต่ หน้ าเตี ยงทอดยาวไปถึงประตู
เพื่อป้ องกันความหนาวเย็นเมื่อหญิงสาวก้าวลงมาจากเตียง

ริมหน้ าต่างมีกายานไม้ไผ่เขียวที่กาลังลุกไหม้ เมื่อมีสาย


ลมอ่ อนๆ พัดเข้ามาทางหน้ าต่ าง ก็พากลิ่นหอมกาจายไปทัว่
ห้องที่ สวยงามและเงียบสงบ ไม่เพียงทาให้ อากาศบริสุทธ์ ิ แต่
ยัง ท าให้ ผู้ที่ พ กั อยู่ ใ นห้ อ งรู้สึ ก ราวกับ ว่ า ได้ ส ัม ผัส ธรรมชาติ
ท่ า มกลางป่ าไผ่ ที่ เ ขี ย วขจี ไม่ ว่ า จะเป็ นใจหรื อ กายก็ล้ ว นสุ ข
สบายเป็ นอย่างมาก

ด้ า นข้ า งหัว นอนมี ก ระถางต้ น จัน ทน์ เ ล็ก ๆ บนโต๊ ะ มี


ผลไม้สดใหม่กบั ขนมอบที่ทาอย่างงดงามวางอยู่สามจาน และมี
เหยือกลายครามใส่น้าดื่มที่ใสสะอาดวางอยู่ด้วย

่ ิ งกาลังนัง่ พิงหัวเตียงเพื่ออ่านหนังสือ
ยามนี้ ถานหวันช

นางอยู่ในชุดเสื้อคอกว้างเนื้ อผ้านุ่มนิ่มเบาสบาย ตัวเสื้อ


ด้านบนเป็ นสี ชมพูอ่อน บนผ้าโปร่งที่ บางเบาปั กด้วยดิ้นสี ทอง
เป็ นรูปดอกท้อ บริเวณเกสรดอกไม้ใช้สีชมพูที่เป็ นสีเดียวกับตัว
เสื้ อ เย็บ ตกแต่ ง ถึ ง ชุ ด นี้ เมื่ อ มองเผิ น ๆ จะดู เ รี ย บง่ า ย แต่

13
แสงแดดตกลงมากระทบก็เผยให้เห็นความงดงามอย่างเด่นชัด
ในทันที

14
84 ตรวจร่างกาย

อวี้ฉีผลักประตูเข้ามา ในมือถือถาดที่ วางรังนกและน้ า


แกงไข่เป็ ดมาอย่างละถ้วย นางเห็นคุณหนูของตนกาลังนอนพิง
หัวเตี ยงโดยใช้หมอนรองหลัง สีชมพูของเสื้อผ้าที่ สวมใส่ยิ่งขับ
ผิวกายให้ขาวผ่องราวหิมะ คุณหนูพลิกสมุดภาพในมือหน้ าแล้ว
หน้ าเล่าโดยไม่ได้จดจ่อกับเนื้ อหาด้านในเท่าที่ ควร อวี้ฉีจึงส่าย
หน้ า หันไปปิดประตูแล้วเดินมาหา

“ใต้ เท้ าให้คนส่งเป็ ดป่ ามาให้ หลายตัวเลยเจ้าค่ะ แต่ ละ


ตัวอวบอ้วนทัง้ นั น้ ข้าขอใช้ ห้องครัวเล็กของโรงเตี๊ ยมแล้วต้ ม
น้าแกงทาเป็ นรังนกถ้วยนี้ คุณหนู ลองชิมดูสิเจ้าคะ...” อวี้ฉีวาง
ถาดลงบนโต๊ะแล้วส่งถ้วยรังนกให้

“อืม” ถานหวันช่ ิ งวางหนังสือลงแล้วยื่นมือไปรับ พอเปิด


ฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก นางตักมาหนึ่ งช้ อนแล้ว
เอาเข้ า ปาก จากนั ้น หญิ ง สาวก็ม องถ้ ว ยรัง นกแล้ ว แอบถอน
หายใจ แต่ ไหนแต่ ไรฝี มือของอวี้ฉีนัน้ อร่อยที่ สุด แต่ ไม่คิดว่า
กว่าจะได้ลิ้มรสอีกครัง้ สถานการณ์กเ็ ปลี่ยนไปมากมายเพียงนี้

1
ตอนที่ อยู่จวนตระกูลถาน สาวใช้ ข้ างกายทัง้ สี่ ล้ว นทา
ตามความต้องการของนาง พอจวนตระกูลถานตกอับ หญิงสาว
ก็ไม่ได้บากหน้ าไปพึ่งพาผู้ใด เพราะในใจลึกๆ แล้วถานหวันช ่ ิง
ไม่ต้องการให้พวกนางต้องมาพลอยลาบากไปด้วย

อวี้ฉีนัง่ ลงริมเตี ยงแล้วโพล่งขึ้นมา “ใต้ เท้ าดี กบั คุณหนู


มากนะเจ้าคะ”

่ ิ งหลุดจากภวังค์ มองไปที่ อวี้ฉี พลางเอ่ยถาม


ถานหวันช
“หืม? ทาไมจึงพูดเช่นนี้ เล่า?”

“เป็ ดพวกนี้ ใต้ เ ท้ า ตื่ น ไปจับ ตัง้ แต่ เ ช้ า แล้ ว เอามาส่ ง


ห้ องครัวด้วยตัวเองเลยนะเจ้าคะ” นางหยุดสักพัก แล้วมองสี
หน้ าคุ ณ หนู พอไม่ เ ห็น สิ่ ง ผิ ด สัง เกตใดๆ จึ ง เล่ า ให้ ฟั ง อย่ า ง
ละเอี ยด “ใต้ เท้ าท่ านนั น้ ห่ วงใยคุณหนู แม้ แต่ ในรายละเอี ย ด
เล็กๆ น้ อยๆ เพราะอวี้ฉีแต่ งงานแล้วจึงดูเรื่องนี้ ออกชัดเจน
หากวันข้างหน้ ามีใต้ เท้ าเซี่ ยดูแลคุณหนู อวี้ฉีกจ็ ะได้สบายใจ
อย่างแท้จริงเสียทีเจ้าค่ะ...”

ถานหวันช่ ิ งที่กาลังถือช้อนอยู่หยุดชะงักเล็กน้ อย นางนิ่ง


ไตร่ตรองอยู่เป็ นนานจึงพยักหน้ า “ข้าเข้าใจแล้ว”

2
รสชาติ ข องรัง นกอร่ อ ยมาก ถานหวัน่ ชิ ง จึ ง กิ น ไปได้
หลายคา หญิงสาววางช้อนลงแล้วเอ่ยขึน้

“ครัง้ นี้ ให้เจ้ากับสามีเดินทางมา แท้จริงข้าหาได้สบายใจ


ไม่ เจ้าแต่ งงานมีลูกแล้วยังต้ องมาดูแลข้าเรื่องเสื้อผ้า อาหาร
การกินทัง้ ที่อยู่หลับนอนอีก...”

อวี้ฉีรีบลุกขึ้น กะพริบตาแดงปริบๆ “อวี้ฉีไร้พ่อขาดแม่


อยู่ ข้ า งกายคุ ณ หนู ต ัง้ แต่ เ ล็ก จนเติ บใหญ่ ส าหรับ อวี้ ฉี แล้ ว
คุณหนู เป็ นญาติเพียงคนเดียว ไม่ว่าคุณหนู อยู่ที่ไหนก็เป็ นคน
ในครอบครัวข้า วันนี้ คุณหนู กลับพูดเช่นนี้ หรือว่าราคาญอวี้ฉี
แล้ว ต้องการตัดอวี้ฉีออกไปหรือเจ้าคะ?”

่ ิ งตกใจรีบดึงอี กฝ่ ายเข้ามาหาแล้วเอ่ยปลอบ


ถานหวันช
ขวัญ

“ไม่ ใช่ เช่ น นั น้ ถึ ง อย่ า งไรเจ้ า ก็ เป็ นคนที่ ข้ า ไว้ ว างใจ


ตลอดไป”

คาพูดของนางเมื่อกี้แฝงความหมายผลักไสอวี้ฉี ให้ออก
ห่างจริงๆ ถึงหัวหน้ าสานักคุ้มกันภัยจางจะแสดงออกว่าเกรงใจ
นาง แต่ ถานหวันช่ ิ งดูออกว่าเขาไม่ค่อยพอใจที่ ภรรยาใกล้ชิด

3
กับเจ้านายเก่ามากเกินไป เป็ นใครก็ไม่ยอมหรอกที่จะให้ภรรยา
ของตนมาคอยเป็ นบ่ า วรับ ใช้ ผู้อื่ น ดูแ ลปรนนิ บัติ ท ัง้ เสื้ อ ผ้ า
อาหารและที่อยู่หลับนอนให้คนอื่นถึงเพียงนี้

ยิ่งไปกว่านัน้ ตัวนางเองไม่ได้อยู่ข้างกายอวี้ฉีตลอด ชีวิต


ของอวี้ฉียงั ต้ องอยู่กบั สามีต่อไป อวี้ฉีนัน้ ซื่อสัตย์ต่อนางเสมอ
มา แล้วไยนางจะไม่ไตร่ตรองเพื่ออีกฝ่ ายเล่า

่ ิ ง รู้สึ กเสี ยใจใน


การเรียกอวี้ฉีมาครัง้ นี้ ทาให้ ถานหวันช
ภายหลัง เดิ มที การวางหมากครานี้ ก็เพื่ อให้ ตวั เองได้ ใช้ ชีวิต
ต่อไปอีกสักสิบปี เท่านัน้ เอง

ถานหวันช ่ ิ งปลอบขวัญอวี้ฉีอยู่เป็ นนาน อีกฝ่ ายจึงได้เช็ด


น้ าตาที่ เอ่อคลอ นาถ้วยรังนกไปวางลงบนถาดก่อนจะหยิบอี ก
ถ้วยมาส่งให้

“ดื่มน้าแกงแก้เลี่ยนสักหน่ อยนะเจ้าคะ เมื่อเช้าตอนที่ใต้


เท้ าเอาเป็ ดป่ ามา ตอนที่ ทาข้าเจอไข่เป็ ดสองสามใบก็เลยทา
เป็ นน้าแกงไข่มาให้”

พอหญิงสาวกินน้าแกงเสร็จ อวี้ฉีกน็ าถาดไปเก็บ ขณะที่


ออกจากห้องก็สวนกับลุ่ยจูที่ถือถ้วยยาบารุงครรภ์มา หลังจาก

4
่ ิ งดื่มยาเสร็จ นางก็กินผลไม้เชื่อมตามเพื่อไล่รสชาติ
ถานหวันช
ขมของยาในปาก

ลุ่ ย จู เ ห็ น คุ ณ หนู ดื่ ม ยาหมดแล้ ว ก็ เ อาถ้ ว ยไปวางไว้


ด้านข้าง จากนัน้ ก็ยื่นมือไปหยิบผลไม้เชื่ อมมาหนึ่ งผลแล้วยัด
เข้าปากตัวเอง

่ ิ งไม่ใช่คนหวงของกิน แต่ ก่อนตอนที่ อยู่จวน


ถานหวันช
ตระกูลถานแล้วมีอาหารรสเลิศ นางก็มกั จะแบ่งปั นให้ กบั บ่าว
รับใช้ คนสนิทของตนอยู่เป็ นประจา ต่ อมาเมื่อมาอาศัยอยู่ใน
บ้านกับลุ่ยจูก็ได้กินใช้ ด้วยกันโดยไม่มีการแบ่งแยกนายบ่าว
เด็กสาวจึงทาตัวตามสบาย กฎเกณฑ์ต่างๆ ในจวนตระกูลถาน
ก็เจือจางลงไป

“คุณหนู เมื่อเช้าข้าไปเดินด้านนอกมา ที่ นี่ไม่มีอะไรน่ า


อร่อยเลยเจ้าค่ ะ ยิ่งอาหารของแขกที่ ชนั ้ ล่างก็มีแต่ เส้ นกับน้ า
แกงเกี๊ ย ว เที ย บกับ ตอนที่ เ ราอยู่เ ว่ ย อัน ที่ กิน ใช้ อุด มสมบูรณ์
ไม่ ไ ด้ เ ลยเจ้ า ค่ ะ ” พอลุ่ ย จู พู ด มาถึ ง ตรงนี้ ก็ เ หมื อ นกับ นึ ก
บางอย่ างขึ้นมาได้ “ใช่ แล้ว ! คุณหนู เจ้าคะ เมื่อเช้ าใต้ เท้ ารี บ
กลับเว่ยอันไปแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม”
5
“เมื่อครูก่ ม็ ีรถม้านาของกินจากเมืองเว่ยอันมาให้บอกว่า
เตรียมมาให้คณ ุ หนูเจ้าค่ะ แล้วในรถม้าก็มีท่านหมอนัง่ มาด้วย
สองคน ได้ยินว่าเป็ นท่านหมอที่เชี่ยวชาญโรคของสตรี โดดเด่น
เรือ่ งการดูแลครรภ์เป็ นที่สดุ ”

“อืม...แล้วเขาฝากบอกอะไรอีกไหม?”

“ใต้เท้าฝากบอกว่าตอนเย็นจะมาเจ้าค่ะ ให้คณ
ุ หนูบารุง
ตัวเองให้ดี ขาดอะไรก็ให้บอก”

“อืม”

่ ิ งที่ยก
“คุณหนูเจ้าคะ” ลุ่ยจูนัง่ ลงบนเตียง ถามถานหวันช
สมุดภาพขึน้ มาพลิกดูด้วยอาการอยากรูอ้ ยากเห็น

“เมื่อวานคุณหนูพดู อะไรหรือเปล่าเจ้าคะ? ข้ารู้สึกว่าใต้


เท้ากลับมาเป็ นใต้เท้าคนก่อนแล้ว...”

เรือ่ งราวทุกอย่างในบ้านรวมถึงเรือ่ งของคุณหนูล้วนเป็ น


ใต้เท้าเซี่ยที่เป็ นผู้ดแู ลและจัดการให้ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหนก็
ต้ องรายงานเขา ถึงใต้ เท้ าจะไม่ได้จดั การด้วยตัวเองแต่ เขาก็
ต้ องรับรู้ ประหนึ่ งว่าแม้จะไม่ได้ท้าก็ขอแค่ได้ร้เู ท่ านัน้ กระทัง่

6
ข้าวของต่างๆ ในรถม้าก็เป็ นใต้เท้าที่ตรวจนับด้วยตัวเอง และ
มีแต่ของใช้ของคุณหนูทงั ้ สิ้น ของบางอย่างแม้แต่สาวใช้ใกล้ชิด
อย่างนางเองก็ยงั นึ กไม่ถึงด้วยซา้

วันนั น้ ใต้ เท้ ายังมีท่าทางดุดนั อยู่ แต่ พอได้ยินว่าคุณหนู


ตัง้ ครรภ์ ความแข็งกร้าวก็สลายหายไปในทันที ตอนออกจาก
ห้องมาสี หน้ าก็ดผู ่อนคลายลงมาก ถ้าหากคุณหนูบอกว่าไม่ได้
พูดอะไร ลุ่ยจูย่อมไม่เชื่อแน่ นอน

่ ิ งกาลังดูสมุดภาพ หลังฟั งลุ่ยจูพดู จบก็หวั เราะ


ถานหวันช
“เรื่องเก่าหลายปี ถึงเวลาจบสิ้นสักที ใต้เท้าของเจ้าน่ ะปากแข็ง
อย่าทาให้เขาต้องลาบากใจ”

หากไม่ใช่เพราะตนไตร่ตรองซา้ แล้วซา้ เล่า เกรงว่าเรื่อง


เหล่านัน้ คงไม่มีโอกาสได้ฟังไปตลอดกาล

วันต่อมาก็มีท่านหมอวัยชราอายุย่างหกสิบเข้ามาตรวจ
่ ิ งอีกครัง้
ถานหวันช

หญิงสาวนัง่ อยู่บนเตียง มีผ้าห่มหนาสี เขียวผืนหนึ่ งคลุม


กาย ผ้าห่มนี้ ช่วงบนปักลายห่านขาวบนผืนน้ าสีเขียว อีกทัง้ ยัง
ปั กดอกโบตั ๋นและดอกเหมยแซมจึงเต็มไปด้ วยกลิ่นอายของ

7
ฤดูใบไม้ผลิอย่างชัดเจน ดูแล้วมีชีวิตชีวา เย็นสบายและสดชื่น
สิ่ งเหล่านี้ เป็ นฝี มือการออกแบบของถานหวันช
่ ิง

อวี้ฉีเห็นรูปแบบการปั กแล้วชื่นชอบมากจึงขอแบบจาก
ลุ่ยจูมาแผ่นหนึ่ ง นางอยากจะนาไปเย็บเป็ นผ้าห่ มให้ ลูกชาย
และลูกสาว ห่านขาวตัวใหญ่ดูน่ารัก เด็กน้ อยทัง้ สองต้องชอบ
เป็ นแน่

่ ิ งที่ ยามนี้ ว่างงานอย่างมากได้ ออกแบบห่ าน


ถานหวันช
ตัว เล็กลักษณะอ้ ว นป้ อมที่ เ ด็กๆ น่ าจะชื่ น ชอบให้ แม้จะเป็ น
ของที่ไม่ได้มีราคาค่างวดแต่อย่างใด เป็ นเพียงภาพวาดน่ ารักๆ
เท่ านั น้ แต่ ปรากฏว่าอวี้ฉีชอบมาก รีบรับแบบไปโดยตัง้ ใจจะ
นาไปทาให้ลูกรัก

ท่ านหมอชราผู้มีประสบการณ์ มากมายวางผ้าแพรเบา
บางลงบนข้ อมื อของหญิง สาว แล้ ว แตะปลายนิ้ วตรวจชี พจร
ของนางอย่างสุขมุ เปลือกตาเหี่ยวย่นหลับลงครู่หนึ่ งก่อนจะลืม
ตาขึน้ เขาดึงมือกลับมาลูบหนวดเครายาวที่ปลายคาง

่ ิ งนัง่ อยู่ตรงนัน้ ด้วยท่าทางนิ่งเฉย ลอบสังเกต


ถานหวันช
ท่ านหมอวัย ชราที่ กาลัง จับ ชี พ จรให้ เขาน่ าจะอายุราวหกสิบ
เกือบเจ็ดสิบกระมัง ทว่าใบหน้ าขาวเกลี้ยงเกลา เส้นผมหนวด
8
เคราก็ไม่ค่อยขาวหงอก หากบอกว่าท่านหมออายุห้าสิบก็คงมี
คนเชื่ อ นางพอได้ ยิ น มาบ้ า งว่ า หมอจี น โบราณมัก จะบ ารุง
ร่างกายให้อายุยืน เห็นทีว่าคาพูดนี้ คงไม่ผิดเลย

หลังจากที่ท่านหมอชราดึงมือกลับไปแล้ว ลุ่ยจูซึ่งอยู่ข้าง
กายก็เอาผ้าเช็ดหน้ าแพรบางผืนนัน้ ออก

ส่ ว นท่ านหมอหัน ไปหยิ บ กระดาษกับ พู่กนั มา ตัง้ ใจจะ


เขียนใบสังยาให้

่ ิ งค่อนข้างกังวล นี่ เป็ นครัง้ แรกที่ นางตัง้ ครรภ์


ถานหวันช
ในยุคโบราณ ร่างกายนี้ เป็ นดังประตู
่ สาหรับอีกหนึ่ งชีวิตที่ กาลัง
จะมา ในสมัยโบราณถือว่าการคลอดบุตรนัน้ ไม่ต่างอะไรจาก
การข้ามประตูสวรรค์ แต่สาหรับนางแล้ว การที่กาลังมีครรภ์นัน่
ก็คือ...นางกาลังก้าวขาย่างเข้าประตูนรกแล้ว การคลอดบุตร
ของนางก็เหมือนกับถึงเวลานับถอยหลังนาทีแห่งความตาย

รอจนกระทังท่ ่ านหมอชราเขียนใบสังยาเสร็
่ จ นางก็อด
ไม่ ไ ด้ ที่ จ ะเอ่ ย ถาม “ท่ า นหมอหลู ชี พ จรของข้ า มี ต รงไหนที่
ผิดปกติบา้ งหรือไม่?”

9
ท่านหมอชราได้ยินก็เอามือประสานก่อนก้มตัวแล้วเอ่ย
“เพียงแค่สติปัญญาเชื่องช้า และเรี่ยวแรงลดน้ อยไปบ้าง อีกทัง้
จิตใจขาดการบารุง ต้องระวังเรื่องสภาวะจิตใจให้ดี การครุน่ คิด
สิ่งใดควรเพลาๆ ลง หลังกินยาสองชุดนี้ แล้ว ร่างกายของแม่
นางก็ดีขนึ้ ขอรับ”

สติปัญญาเชื่องช้า เรี่ยวแรงน้ อย จิตใจขาดการบารุง มี


เท่ านี้ เองหรือ? ถานหวันช่ ิ งยังคงฉงนไม่หาย สภาพร่างกายนี้
นางย่อมเข้าใจดีกว่าใคร จะเพียงแค่เจ็บป่ วยเล็กน้ อยเท่านี้ หรือ
หญิ ง สาวนึ กถึ ง ลู ก ในครรภ์จึ ง อดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะถามย ้า เสี ย งเบา
“ท่านหมอหลูไม่ต้องปิดบังข้า ร่างกายข้าเป็ นโรคอ่อนแอมาแต่
กาเนิดเช่นเดียวกับมารดา พอจะมีทางรักษาหรือไม่?”

ปกติแล้วสภาพร่างกายเสื่อมโทรมตัง้ แต่กาเนิดของถาน
หวันช่ ิ งได้รบั การถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากมารดา การจะ
ตัง้ ครรภ์แ ละเลี้ ย งดูค รรภ์จึ ง ยิ่ ง ยากเป็ นทบทวี แม้ แ ต่ เ ด็ก ใน
ครรภ์ ก็ เ กรงว่ า ยากจะรอด สภาวะที่ เ ป็ นอยู่ นี้ นางไม่ อ าจ
คาดการณ์อะไรได้เลย

คนเรานั ้น หากพื้ น ฐานร่ า งกายดี ม าตั ง้ แต่ เ กิ ด เมื่ อ


เจ็บป่ วยไม่สบายก็ยงั สามารถบารุงรักษาให้หายดังเดิมได้ แต่
หากร่างกายทรุดโทรมมาตัง้ แต่เกิด พื้นฐานร่างกายย่อมยากที่
10
จะบารุงรักษา ดังนัน้ การตัง้ ครรภ์สืบทอดทายาทจึงเป็ นเรื่องที่
ต้องสูญเสียพละกาลังและทาให้รา่ งกายถดถอยเป็ นอย่างยิ่ง

่ ิ งได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทาอย่างไรดี
สองวันมานี้ ถานหวันช
หากคลอดออกมาแล้วร่างกายของลูกเป็ นเช่นเดียวกับตน ต้อง
ทนรับความทุกข์ทรมานเหมือนตน นางคงจะร้องไห้ และโทษ
ตัวเองไปจนตาย

“แม่ น างคิ ด มากเกิน ไปแล้ ว ถึง เลื อดจะไม่ ดี ต งั ้ แต่ เ กิด


ทว่าไม่ได้ร้ายแรงแต่อย่างใด เวลาตัง้ ครรภ์เพียงบารุงรักษาให้
มากก็สามารถเสริมสร้างร่างกายให้ สมบูรณ์ แข็งแรงได้ ไม่ใช่
โรคอ่อนแอตัง้ แต่เกิดแน่ นอนขอรับ”

่ ิ งฟั งจบก็หยุดชะงักเล็กน้ อย นางอยาก


“นี่ ...” ถานหวันช
ให้ท่านหมอตรวจชีพจรให้ดีอีกครัง้ แต่ถ้าทาเช่นนัน้ ก็เท่ากับว่า
ไม่เชื่อเขา ขณะที่ นางยังลังเลทาให้นิ่งเงียบไป หมอชราผู้นัน้ จึง
ขอตัวไปจัดยาตามใบสัง่

ถานหวัน่ ชิ งที่ พิ ง ข้ า งเตี ย งอยู่ ยื ด ตัว นั ง่ หลัง ตรงแล้ ว


ครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะเรียกลุ่ยจูที่ส่งท่านหมอเรียบร้อยแล้วให้
ไปตามท่านหมอที่จบั ชีพจรให้นางเมื่อคราแรกมาหา

11
ท่านหมอผูน้ ัน้ พักอยู่ชนั ้ ล่างจึงมาถึงว่องไว ถึงเขาจะเป็ น
หมอที่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ แต่กเ็ คยมีประสบการณ์ตรวจโรค
มาไม่น้อย และถานหวันช ่ ิ งเองก็รอ้ นรนอยากให้แน่ ใจอีกครัง้

ท่ า นหมอตรวจชี พ จรทัง้ มื อ ซ้ า ยและขวาด้ ว ยความ


ระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เขาทาซา้ ไปซา้ มาเป็ นเวลานานจึงลุก
ขึ้นแล้วรายงานอาการว่า ถึงภาพร่างกายของนางจะทรุดโทรม
ไปบ้าง แต่ไม่ได้ป่วยเป็ นโรคอ่อนแอแต่อย่างใด ขอเพียงต่อไป
บารุงรักษาร่างกายให้ดีกน็ ่ าจะไม่มีสิ่งใดร้ายแรงดังที่กงั วล

เมื่อท่านหมอออกไปแล้ว ถานหวันช ่ ิ งก็ยากที่ จะปกปิดสี


หน้ าปี ติยินดี ถึงกระนัน้ ก็ยงั ไม่กล้าเชื่อหูตวั เองนัก

ตอนอยู่ ที่ จ วนตระกูล ถาน ส่ ว นใหญ่ น างต้ อ งอยู่ ใ น


สายตาของมารดาเลี้ ย ง จะมี ห มอหลวงและท่ า นหมอที่ มี
ชื่อเสี ยงเมาตรวจจับชีพจรให้ถึงจวนอยู่เป็ นประจา ถึงพวกเขา
จะพูดครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้เอ่ยออกมาตามตรง อีกทัง้ ตอนที่จบั
ชี พ จรนั ้น พวกเขาก็ ไ ม่ ไ ด้ เ ผยสี ห น้ าตกใจ แต่ ก ลับ มี ส ายตา
สงสารเวทนาส่งมาให้ แม้จะมีผ้าม่านบางกัน้ หลายชัน้ นางก็ยงั
รูส้ ึกได้

“ลุ่ยจู ที่นี่ยงั มีท่านหมออีกหรือไม่?”


12
“ยังมี ท่านหมอแซ่ เหออี กท่ านเจ้าค่ ะ ตอนที่ มาถึงก็ก้ม
หน้ าก้มตาต้มยาที่ชนั ้ ล่างให้คณ
ุ หนูตลอด คุณหนูเป็ นอะไรหรือ
เจ้าคะ? เมื่อครู่ท่านหมอก็บอกคุณหนู แล้วไม่ใช่ หรือเจ้าคะว่า
ไม่มีอะไร?”

ลุ่ ย จู เ ห็น ใบหน้ าคุณ หนู แ ดงก่า ก็คิ ด ว่ า เป็ นเลื อ ดฝาด
มากกว่าจะรู้สึกว่าผิดปกติ นางไม่ร้เู ลยสักนิดว่าเจ้านายกาลัง
ตื่นเต้นดีใจ

“เจ้าไปพาเขามาที ให้มาจับชีพจรข้าดู”

“แต่ว่า...”

ถานหวันช ่ ิ ง โบกมือ “ข้ าให้ เ จ้าไปเจ้ า ก็ไ ป ไม่ ต้ องมี แ ต่


อะไรทัง้ นัน้ ”

“เจ้าค่ะ...” ในเมื่อคุณหนูกล่าวเช่นนี้ แล้ว นางจะพูดอะไร


ได้อีกเล่า

ถานหวันช ่ ิ ง ไม่ ไ ด้ ส นใจมารยาทดัง เช่ น ก่ อ นหน้ า นี้ อี ก


แล้ว รีบให้ล่ยุ จูไปตามคนขึน้ มา

13
85 มือ้ ดึก

ท่ า นหมอเหอผู้นี้ อายุ อ่ อ นกว่ า ท่ า นหมอหลู เ ล็ก น้ อย


หลังจากมาถึงที่ นี่เขาก็เป็ นลูกมือให้ท่านหมอหลูตลอด เพราะ
ท่ านหมอหลูเ ป็ นผู้มีชื่ อเสี ย งไม่น้ อย เขาจึ ง ไม่ อยากเด่ น เกิ น
หน้ า อี ก ทัง้ ยัง มันใจว่
่ า ท่ า นหมอหลู ต้ อ งไม่ วิ นิ จฉั ย ผิ ด พลาด
แน่ นอน

ท่ านหมอเหอเป็ นคนที่ ระมัดระวังและรอบคอบ เขาใช้


เวลาจับชีพจรอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เก็บผ้าเช็ดหน้ า แล้วบอกข้อ
วินิจฉัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน “ข้าวิเคราะห์ชีพจรของแม่นางแล้ว
ท่านเป็ นโรคอ่อนแอตัง้ แต่เกิด แต่ไม่ได้ร้ายแรงมาก หากว่ากิน
โสมคนพันปี หรือเห็ดหลินจือหรือพวกสมุนไพรหายากซึ่ งเป็ น
ตัวยาชัน้ เลิศ ก็จะสามารถบารุงกาลังและต้านทานโรคอ่อนแอ
ที่มีมาแต่กาเนิดได้ดีขอรับ”

่ ิ งหวนนึ กตามที่ท่านหมอเหอกล่าวมา...
ถานหวันช

โสมคนกับเห็ดหลินจือนางก็กินมาไม่น้อย กินมาเกินสิบ
ปี แล้วก็ว่าได้ แต่ยงั ไม่เห็นว่าจะดีขึ้นสักเท่ าไร ทัง้ นี้ นางไม่ได้ดู
ถูกสมุนไพรร้อยปี ยิ่งเป็ นของที่เติบโตในป่ ามานับร้อยปี ก็ยงั ไม่

1
ตายกลายเป็ นปุ๋ย แต่กลับอยู่รอดผ่านฤดูใบไม้ผลิครัง้ แล้วครัง้
เล่ามาได้ ย่ อมเป็ นของวิเศษมาก ดังนั น้ คนที่ พอจะมี สิทธ์ ิ ถือ
ครองย่ อมเป็ นคนที่ มีฐ านะรา่ รวยและมี ชื่อ เสี ย ง ของเหล่ า นี้
ไม่ใช่ของดาษดื่นตามท้ องถนน ในแต่ละปี อาจจะขึ้นมาสักต้ น
สองต้น ย่อมต้องมีการเก็บรักษาไว้อย่างทะนุถนอมมาก

เดิมนางเคยมีสามกิ่งจากสินไหมที่มารดาให้ไว้

ส่วนสมุนไพรหลายพันปี นัน้ เกรงว่าหากมันมีอยู่จริงก็คง


ตกอยู่ใ นมื อ คนอื่ น ไปนานแล้ ว ใช่ ว่ า คนธรรมดาเช่ น นางจะ
สามารถหาของแบบนัน้ มาได้อย่างง่ายดาย

ท่ า นหมอเหอเป็ นคนมี ม นุ ษ ยสัม พัน ธ์ดี ม าก ครัน้ เห็น


ถานหวันช ่ ิ ง เอาแต่ ส่ า ยหน้ าพลางครุ่น คิ ด เขาจึ ง เอ่ ย แนะน า
ขึ้น มา “อย่ า งไรก็ต าม ของเหล่ า นั ้น เป็ นเพี ย งของที่ ใ ช้ บ ารุง
ภายนอกเท่านัน้ แม่นางน่ าจะลองฝึ กจิตดูบา้ งนะขอรับ”

ท่ ามกลางกลี ยุค คนที่ มีจิตใจนิ่งสงบและมี เคล็ด ลับใน


การประคองพลังหยางนัน้ ท่านหมอเหอเคยเห็นมาแล้วสองคน
่ ิ งไม่เคยเห็นคนเช่นนี้
แต่ถานหวันช

2
เมื่อเห็นหญิงสาวมีหน้ างุนงง ท่านหมอเหอจึงรีบอธิบาย
ต่อ "การบารุงพลังนัน้ จะทาให้เกิดความอบอุ่นซึ่งเป็ นรากฐาน
ของร่างกาย ดังคาที่ ว่า ‘คนเรานัน้ ดินให้ กาเนิด ตัวเองเลี้ยงดู
ฟูมฟั ก และฟ้ าเป็ นผู้หล่อเลี้ยง’ เพราะฉะนัน้ การหล่อเลี้ยงของ
ฟ้ าเป็ นสิ่ ง ที่ ม องไม่ เห็น และไม่ ส ามารถสัม ผัส ได้ ไม่ มี ใ คร
สามารถควบคุมฟ้ าได้ ก็ดงั นัน้ เราต้องมองไปที่ ผ้ใู ห้ กาเนิด แต่
นอกจากสมุนไพรเห็ดหลินจือของดินที่ พอจะบารุงและเพิ่มพูน
พลังให้แล้ว ก็เหลือเพียงคนหรือก็คือตัวเราเอง...หนทางเดียว
เท่านัน้

หนังสือความรูท้ างด้านวิชาหมอได้บอกวิธีฝึก ‘บาเพ็ญคู่’


ของลัทธิเต๋าไว้ทงั ้ หมด ความจริงแล้วเป็ นการเพิ่มสิ่งที่ ดีให้กบั
ร่างกายตัง้ แต่ เกิดจนเติบ โต ทัง้ ยังสามารถทาให้ กระแสพลัง
ภายในร่างกายอบอุ่นเป็ นที่สดุ เพียงแต่ว่า ตองเป็ นคนมีวรยุทธ
ที่แข็งแกร่งเท่านัน้ จึงจะสามารถทาให้เกิดผล..."

ท่านหมอเหอกล่าวเพียงเท่านี้ กล็ กุ ขึน้ แล้วกล่าวลาทันที

ฝึ กคู่งนั ้ รึ?

่ ิ งพยายามคิดหาคาตอบ คาพูดของท่ านหมอ


ถานหวันช
เหอนัน้ เกินจินตนาการของนางไปมาก ในโลกใบนี้ ยงั มีวิธีทาให้
3
อ่อนเยาว์ไม่แก่เชียวหรือ? หรือว่าโลกใบนี้ จะเหมาะสมกับผู้ฝึก
ยุทธ์?

เมื่ อ นึ กมาถึ ง ตรงนี้ หญิ งสาวก็ จ าได้ ว่ า มี ค นเคยพู ด


บางอย่ า งคล้ า ยๆ แบบนี้ ก บั นางเหมื อ นกัน นางเห็น เขาตื่ น
ขึน้ มาฝึ กวรยุทธทุกวัน เดิมเคยเข้าใจมาตลอดว่าเป็ นเพลงหอก
สาหรับทหาร ที่แท้ในการฝึ กยังมีอะไรซ่อนเร้นอยู่อีก...

หลายวันมานี้ งานราชการในเมืองเว่ยอันมีมากมาย

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย จึ ง ท างานหนั ก มาก พอว่ า งก็จ ะรี บ ควบม้ า


ออกไป เพียงหนึ่ งชัวยามก็่ ถึงหมู่บา้ นหลี่เถียน

ตอนที่ เขามาถึงฟ้ าก็มืดหนาซ้ าประตูเมืองก็ปิดไปแล้ว


ชายหนุ่มเข้าไปในโรงเตี๊ ยม ในเวลาที่ คนส่ วนใหญ่พกั ผ่อนกัน
หมดแล้ว มีเพี ยงห้ องบนชัน้ สามห้ องเดี ยวที่ เหลือแสงไฟจาก
ตะเกี ยงดวงเล็กๆ เอาไว้ ทาให้ เขาไม่ต้องคลาทางท่ ามกลาง
ความมืดเข้าไปในห้อง

เซี่ ยเฉิงจู่ค่อยๆ ผลักประตูเข้าไปอย่ างเงี ยบกริบ กลิ่น


หอมอบอุ่นเฉพาะตัวก็สมั ผัสใบหน้ าทันที ชายหนุ่มรีบถอดเสื้อ
4
และกางเกงชัน้ นอกที่ ฝนเกาะเต็
ุ่ ม ออกอย่างเบามือ บนกายจึง
เหลือเพียงเสื้อขาวตัว เดี ยวที่ สาบเสื้อแบะกว้างจนเผยให้ เห็น
อกแกร่ง

ที่ มุมห้องมีน้ ากับผ้าฝ้ ายนุ่มตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว


เขายื่นมือไปหยิบมาเช็ดตัวและใบหน้ า จากนัน้ ก็เดินไปที่ เตี ยง
นอน

ยามดึก

ดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้ าสาดแสงลงมา สาย


ลมโชยเอื่อยจากนอกหน้ าต่ างบานหนึ่ งพัดเข้ามาลูบไล้ผิวนิ่ม
เนี ยนจนเย็น

แผ่นกระดาษบนหน้ าต่างที่ มีลวดลายฉลุสะท้อนแสงกับ


ตะเกียงสีเหลืองนวล ตะเกียงดวงน้ อยนี้ ทาให้คนที่ เพิ่งกลับมา
รู้สึกสบายและอบอุ่นเหมือนนกที่ กลับรัง ใต้ เท้ าเซี่ ยเดินเบาๆ
ไปที่ หน้ าต่ าง แล้วปิดเข้ามาจนเหลือเพียงช่องเล็กๆ พอให้ลม
เข้าได้ จากนัน้ ก็หมุนกายกลับมาที่เตียง

ในจมูกเต็มไปด้ วยกลิ่นหอมอบอุ่นอันคุ้นเคยทว่ าเมื่อ


เข้าใกล้กลิ่นนัน้ ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น ฝัง่ ขวาของห้องมีเตี ยงนอนหก

5
เสาทาด้ วยช่ างฝี มือ ถึงงานจะดูหยาบสักหน่ อยแต่ เมื่อแขวน
ผ้าม่านโปร่งบางสี เขี ยวมรกต ก็ทาให้ เตี ยงโกโรโกโสดูงดงาม
ขึ้นมาได้มากที เดี ยว เมื่อเที ยบกับสี อึมครึมก่อนหน้ า ห้ องนี้ ก็
กลายเป็ นห้องสดใสกว่าเดิมมากนัก

ชายหนุ่ มเบนสายตาไปยังโต๊ะทางฝั ง่ ขวาของเตี ยง บน


นั น้ มี สมุดภาพเกี่ ยวกับตลาดในเมืองเว่ ยอันที่ วาดออกมาได้
อย่างสวยงามและประณี ตวางอยู่ ตัวเล่มเย็บได้อย่างคงทน อีก
ทัง้ ภาพที่ วาดก็ดูมีชีวิตชี วาเหมือนกับของจริง ไม่ร้วู ่าเป็ นฝี มือ
ของบัณฑิตท่านใด

เขาก้ า วช้ า ๆ ไปหยิ บ สมุ ด ภาพขึ้ น มาพลิ ก ดูพ ลางส่ า ย


หน้ าไปมา ตอนนี้ ประชาชนไม่อาจอยู่เป็ นสุขเพราะบ้านเมือง
ลุกเป็ นไฟ อี กทัง้ อาหารของแต่ละบ้านก็ไม่ค่อยจะมี แต่ กลับมี
คนจับจ่ายซื้อของไร้ประโยชน์ อย่างนี้ มากมาย

เมื่ อ ก่ อ นเขาไม่ ส นใจจะจ่ า ยเงิ น จ านวนมากเพื่ อ ซื้ อ


ภาพอัก ษรกับ กาพย์ก ลอนตามอย่ า งพวกคนที่ มี ฐ านะและ
บรรดาศักด์ ิ มี แต่ พวกลูกหลานตระกูลสูงศักด์ ิ ที่ มีเสื้ อผ้าและ
อาหารมากพอเท่ านั น้ ที่ จะสรรหาสิ่งของเหล่ านี้ มาดูเล่ น เขา
เป็ นเพียงประชาชนคนธรรมดาคงเสพสุขกับมันไม่ได้ และยิ่งไม่
ตบแต่งผูห้ ญิงที่รกั ของแบบนี้ มาเป็ นเมียแน่ นอน
6
ุ หนูสามนางในจวนตระกูล หลิ่วที่ รา่
หลายปี ที่ แล้วก็มีคณ
เรี ย นดนตรี ห มากรุก อัก ษรและภาพศิ ล ปะจนช านาญกระทัง่
ได้ รบั การกล่ าวขวัญถึง แต่ ส าหรับเขาแล้ ว กลับ ไม่ เ คยอยู่ ใ น
สายตา

แต่พอมาถึงตอนนี้ กร็ าวกับชายหนุ่มนึ กบางอย่างขึ้นมา


ได้ เขาจึงวางสมุดภาพลงแล้วแอบถอนหายใจเงียบๆ

ตอนแรกเขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมี วนั นี้ วันที่ หาซื้อ


ของไร้สาระพวกนี้ พอเปลี่ยนเป็ นเพื่อ ‘นาง’ ก็ทาให้ ความคิด
หลายอย่างเปลี่ยนไป

แม้แต่ ...ประวัติและบันทึกที่ น่าสนใจก็ยงั ให้คนหาส่งมา


ตลอด

เซี่ยเฉิงจู่กวาดตามองในห้อง เห็นตลับหมึกรูปดอกเหมย
กับ กล่ อ งใส่ พู่ก นั ที่ ว างอยู่บ นโต๊ะ ก็ค งเป็ นเขาเอาที่ ห าซื้ อมา
หลายวันก่อนตอนไปเมืองอี้โจว

พอเห็นของสวยๆ งามๆ ก็อดคิดถึงนางไม่ได้ ชายหนุ่ม


ที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครัง้

7
หลัง จากนั ้น เขาก็เ ห็น ว่ า บนโต๊ ะ ยัง มี ก็ถ าดไม้ ฉ ลุ ล าย
ดอกไม้ที่มีของกินหน้ าตาประหลาดวางอยู่

เพราะใต้ เท้ าเซี่ ยเร่งควบม้ามาตลอดทาง ตอนนี้ จึงเพิ่ง


รู้สึกว่าตัวเองหิวมาก เมื่อเห็นของกินก็ร้วู ่าเก็บไว้ให้ เขาอย่าง
แน่ นอนจึงยื่นมือหยิบขึ้นมา ทว่ายังไม่ได้เอาเข้าปาก แต่ หยิบ
มาประเมินดูก่อน

นับเป็ นของกินอีกอย่างที่ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน พอเอา


เข้ามาใกล้ หน่ อยก็ได้ กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูก ทาให้ คนอด
ไม่ได้ ที่จะน้ าลายสอ ชัน้ นอกห่ อหุ้มด้ วยอะไรบางอย่ างสี ม่วง
จางๆ ดูเหมือนข้างในจะมีเนื้ อหนาประมาณหนึ่ งชุ่น เมื่อสัมผัส
แล้วยังอาหารนี้ ยงั อุ่นๆ อยู่เลย แสดงว่าเพิ่งทาเสร็จได้ไม่นาน

แม้ว่าใต้เท้าเซี่ ยจะเป็ นผู้ชาย การดารงชี วิตในยามปกติ


จะไม่ รู้จ กั ของหยุ ม หยิ ม แต่ เ ขาก็ย งั รู้ว่ า อาหารและข้ า วของ
เครื่ อ งใช้ ข องนางมัก จะเป็ นของที่ ไ ม่ เ หมื อ นกับ คนอื่ น ทัว่ ไป
ดังนั น้ เสื้อผ้าอาหารการกินของเขาจึงไม่เหมือนกับคนอื่ น ไป
ด้ ว ย และทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า งมัก จะท าให้ ค นที่ พ บเห็น รู้สึ ก แปลก
ประหลาด แต่ สาหรับเขากลับสะดวกกินสะดวกใช้ เป็ นอย่ าง
มาก

8
อย่างเช่นอาหารหน้ าตาแปลกที่ ตดั เป็ นท่อนๆ ในจานที่
อยู่ตรงหน้ านี้ ถกู วางเรียงเป็ นกลี บดอกไม้ เผยให้ เห็นสี เขี ย ว
มรกตและสี ขาวอมชมพูอ่อนๆ ด้านใน เขาไม่เคยเห็นของกิน
แบบนี้ ที่ไหนเลย

ใต้เท้าเซี่ ยลังเลเล็กน้ อยก่อนจะส่งอาหารในมือเข้าไปใน


ปาก หลังจากเคี้ยวไม่นานก็รบั รู้ได้ถึงรสชาติแปลกใหม่ที่ปลาย
ลิ้น

ดูเหมือนจะเป็ นอาหารทะเล แต่ มีความหวานของข้าว


ส่วนไส้ข้างในออกเปรี้ยวเล็กน้ อยน่ าจะเป็ นเนื้ อสัตว์ผสมกับไข่
ไก่ เป็ นของอร่อยที่เคี้ยวไม่ทนั ไรก็กลืนหายไปแล้ว

เพี ยงครู่เดียวอาหารในจานทัง้ หมดก็ไปอยู่ในกระเพาะ


ของเขาเรียบร้อย จากนั น้ ชายหนุ่ มก็ยงั กินขนมอบหวานสอง
ชิ้นกับน้ าแกงอี กหนึ่ งชาม มาถึง ตอนนี้ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองอิ่ม
มากทีเดียว บนโต๊ะยังมีป้านชาซึ่งมีน้าชาดอกไม้อ่นุ ๆ ไว้ให้เขา
ใช้ ก ลัว้ ปาก ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ดื่ ม ได้ ส ามถ้ ว ยใหญ่ จึ ง วางถ้ ว ยชาลง
สายตามองทะลุเข้าไปหลังผ้าม่านบางพลิ้ว

ถึงจะกลัว้ ปากไปแล้ว แต่เขาเพิ่งกินอาหารเข้าไปทาให้มี


กลิ่นติดอยู่ คิดว่าต้องทาให้คนบนเตียงขมวดคิ้วยุ่งเป็ นแน่ เซี่ย
9
เฉิงจู่จึงหยุดชะงักเล็กน้ อยแล้วยกป้ านชาที่มีน้าชาดอกไม้หอม
อ่ อนๆ ไปยังมุมห้ องที่ มี ไว้สาหรับล้ างหน้ าบ้ว นปาก จากนั น้
มองหาตลับกระเบือ้ งลายครามเท่าฝ่ ามือกับแปรงด้ามไม้ไผ่

ประชาชนในเมืองเว่ ย อัน ยัง คงใช้ ก้ านต้ น หยางกับ ต้ น


หลิวแตะเกลือแล้วสีฟัน บางคนก็ใช้มือทาความสะอาดช่องปาก
โดยตรง คนบนเตี ยงใช้ อุปกรณ์ การแปรงฟั นไปแล้ว ในตลับ
กระเบือ้ งคือสมุนไพรฝูหลิงต้มเพื่อใช้ในการสีฟัน หากใช้นานๆ
ฟั น ก็จ ะขาวปานเม็ด หยก อุป กรณ์ แ ปรงฟั น คื อ แปรงไม้ ไ ผ่ที่
ปลายด้ า มจับ แกะสลัก เป็ นเมฆมงคลไว้ ส่ ว นหัว มี รูข นสอง
แถวแล้ ว ใส่ ข นม้ า ขัด เงาเกลี้ ย งเกลาจนเป็ นมัน ขลับ เข้ า ไป
จากนัน้ ก็ตดั ให้เรียบเสมอกัน ตอนที่ใช้ครัง้ แรกเซี่ยเฉิงจู่กย็ งั ไม่
ชิน ทว่าตอนนี้ หากให้กลับไปใช้ก้านต้นหลิวหรือต้นหยางก็ไม่
คุ้นชินเสียแล้ว

ชายหนุ่มทาความสะอาดฟั นจนเสร็จเรียบร้อยก็เดินไป
เลิกผ้าม่านโปร่งบางหน้ าเตี ยงขึ้น เขาอาศัย แสงจากตะเกี ยง
ข้างโต๊ะจึงเห็นฟูกปูสีขาวสลับสี เขียวมรกต บนฟูกมี หญิงสาว
ผิวพรรณขาวนวลสว่างผุดผ่อง ถานหวันช ่ ิ งนอนตะแคงหลับตา
อยู่บนหมอนกลม สวมเสื้อผ้าแพรต่วนบางเบาสีชมพูอ่อน

10
ใต้เท้าเซี่ ยซึ่งไม่เชี่ยวชาญการประดิดประดอย อีกทัง้ ไม่
ค่อยละเอียดอ่อน เมื่อเห็นลวดลายดอกท้อก้านเขียวกอปรกับ
กลิ่นกายหอมที่ อบอวลยวนใจ จิตใจของเขาก็ไพล่นึกถึงบางสิ่ง
บางอย่างขึน้ มาแล้วเกิดลาคอแห้งผากอย่างช่วยไม่ได้

หลัง จากอดทนอยู่ เ ป็ นนานก็ค่ อ ยๆ ปล่ อ ยผ้ า ม่ า นลง


แล้วนัง่ นิ่งอยู่ที่ริมเตียง

เซี่ยเฉิงจู่เป็ นคนที่ระงับอารมณ์ตวั เองได้ดีมาก กระนัน้ ก็


ยัง ปั ก หลัก อยู่ ที่ ริ ม เตี ย งเพื่ อ บัง คับ ตั ว เองอยู่ เ ป็ นนาน จึ ง
สามารถกดความคิ ด ที่ ไ หลทะลักออกมาได้ ขณะที่ ช ายหนุ่ ม
กาลังจะยกมือขึ้นปั ดไฟตะเกี ยงให้ ดบั เตี ยงคุณภาพต่า ก็โยก
คลอนเล็กน้ อยเกิดเสี ยงดังเอี๊ ยดอ๊าด ทาให้ คนที่ เพิ่งจะเคลิ้ม
หลับรูส้ ึกตัว

นางเห็นเงาหลังข้างเตียงก็พยุงตัวลุกขึน้ มานัง่ ดวงตายัง


หรี่ปรือ สีหน้ าดูอ่อนโยน นางเอ่ยถามอีกฝ่ ายด้วยน้าเสียงเกียจ
คร้าน “กลับมาแล้วหรือ ของกินกลางดึกบนโต๊ะกินหรือยังเจ้า
คะ?”

เซี่ ยเฉิงจู่เอี้ยวตัวกลับมาหา เห็นหญิงสาวที่ นอนอยู่เมื่อ


ครู่กาลังลุกจึงช่วยประคอง เสื้อชิ้นเล็กบนกายและมีตวั บางอีก
11
ตัว ทับ อยู่ซึ่ง เขาไม่เ คยเห็น มาก่ อน ช่ ว งเอวรัด ด้ ว ยเชื อก แต่
เวลานี้ เชื อกรัดเอวคลายปมออกหลวมๆ ทาให้ เสื้ อที่ สวมอยู่
เปิดออกเล็กน้ อยจนเห็นเสื้อเอี๊ยมวับแวม เผยผิวขาวราวหิมะ
ด้านใน...

เดิมทีใต้เท้าเซี่ยที่กดอารมณ์ลงได้แล้ว ตอนนี้ คล้ายกับมี


น้ า มัน สาดรดกองไฟให้ ลุ ก โชนขึ้นมา ความอดทนที่ ข่ มกลัน้
เอาไว้ เริ่ ม หมดลง บัง เกิ ด สี ห น้ า เจ็บ ปวดเขี ย วคล ้า ขึ้น มาใน
ความมืดสลัวทันที

ร่างกายสตรีอ่อนหวานละมุนละไม น้าเสียงไพเราะระรื่น
หู ดวงตาสดใส กลิ่นหอมหวนยวนจมูก คงมีเพียงมนุษย์เหล็กที่
จิตใจจะไม่เต้นไหวคลอนตาม

่ ิ งที่
น่ าจะเป็ นเพราะว่าร่างกายดีขึ้นมากแล้ว ถานหวันช
เพิ่งตื่นขึ้นมาแม้จะยังงุนงงสะลึมสะลือ แต่อาการป่ วยคล้ายว่า
จะดีขึ้นมาก หลังจากที่ชายหนุ่มใช้สายตาจับจ้องมองมา นางก็
รูส้ ึกตัวตื่น คืนสติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

พอเงยหน้ า นางก็เห็นใต้เท้าเซี่ยใส่กางเกงตัวในเพียงตัว
เดียว อีกทัง้ เสื้อด้านบนก็ไม่ได้จดั การให้เรียบร้อยนักจึงเผยให้
เห็นอกกว้างหนัน่ แน่ น และสายตาที่กาลังมองมาที่นาง...
12
่ ิ งค่อยๆ เบิกกว้างอย่างตกตะลึง
ดวงตาของถานหวันช
นางไม่เคยเห็นท่าทางดุร้ายคุกคามของอีกฝ่ ายมานานแล้ว คน
ตรงหน้ ามีท่าทางองอาจ ผึ่งผายและทรงพลัง...เป็ นพลังอานาจ
ที่ แ รงกล้ า จนนางตกใจ ภายใต้ ส ายตาที่ จ ับ จ้ อ งของนาง
เหมือนว่าจะทาให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างมากขึ้นและมาก
ขึน้ ...

ถึงตอนนี้ สีหน้ าใต้เท้าเซี่ ยจะยังน่ าเกรงขาม แต่ เมื่อเห็น


สายตาของหญิงสาวแล้ว สี หน้ าชายหนุ่มก็เริ่มร้อนผะผ่าว คิด
อยากจะหาเสื้อมาปิดบังนางไว้เสียอย่างนัน้

13
86 รูค้ วามจริง

ดวงจันทร์ค่อยๆ ฉายแสงทรงกลด

เดิ มที ถานหวั น่ ชิ งยั ง มี อ ารมณ์ สนุ ก สนาน แต่ พอ


พระจันทร์เคลื่อนสูงเหนื อฟากฟ้ า ในใจของนางก็เริ่มสานึ กผิด
กับความขี้เล่นชัววู ่ บของตัวเอง หญิงสาวเงยหน้ ามองคนที่ ยืน
จัง ก้ าอยู่หน้ าเตี ย งซ้า แล้ ว ซ้าเล่ า และยิ่ ง จ้ องความแข็ง แกร่ ง
ทรหดในมือ คิ้วของนางก็เริ่มขมวดเป็ นปม

ความอดทนของคนมีขีดจากัดนะ ยังไม่ถึงอีกหรือ ใต้เท้า


เซี่ย...

นิ้ วมื อ เรี ย วนุ่ มนิ่ มทัง้ สองข้ า งกอบกุม ส่ ว นที่ ร้ อ นผ่ า ว
ถานหวันช่ ิ งจับจ้องไปที่ อีกฝ่ าย ชายหนุ่ มภายใต้ สายตานางมี
ดวงตาสดใสแฝงประกายร้อนแผดเผา หนาซา้ ยังทาตัวได้คืบจะ
เอาศอก น้าเสียงแหบพร่าเอ่ยขึน้

“แรงอีกหน่ อย...”

1
หลังจากผ่านไปครึ่งชัวยาม
่ ถานหวันช่ ิ งเห็นเขายังไม่สม
ความปรารถนาเสี ย ที ในที่ สุด หญิ ง สาวที่ อ ยู่ บ นเตี ย งก็ช ัก จะ
โกรธขึน้ มาแล้ว นางจึงผละจากเขาลงจากเตียงไปล้างมือ

ใครจะไปรู้ว่ าใต้ เ ท้ าเซี่ ย ที่ สุขุมเยื อ กเย็น ตอนนี้ กลับ มี


อาการเหมือนเด็กที่ ไม่ได้ขนมหวาน เขาตามตื๊อนางอย่างหน้ า
ด้านๆ โดยดักหน้ าดักหลังก่อกวนไม่หยุด นางก้าวไปหนึ่ งก้าว
เขาก็ก้าวตามไปติดๆ แล้วดึงมือนางไว้ ถานหวันช ่ ิ งเริ่มรับมือ
ไม่ไหวแล้วจริงๆ

ถึ ง หน้ าที่ การงานของเขาจะนั บ ว่ าประสบความส าเร็จ


อย่างมาก ขณะทางานก็เพียบพร้อมไปด้วยความสุขมุ แต่จิตใจ
กลับซุกซ่ อนความเป็ นเด็กหนุ่ มสมอายุไว้ เพราะกับนางแล้ว
เขาไม่ได้มีความเยือกเย็นอย่างที่แสดงให้คนอื่นเห็นเลยสักนิด

เฮ้อ... หญิงสาวแทบจะกลอกตา นางอยากจะหันไปผลัก


เขาให้ยืนห่างอีกหน่ อย แต่พอคิดว่าแต่ไรมาก็ไม่เคยเขย่าคนผู้
นี้ ให้สะเทือนได้เลย นางจึงล้างมือโดยไม่สนใจเขา อีกฝ่ ายก็ยิ่ง
ขยับมาแนบชิดมากกว่าเดิมอีก ชัวอึ ่ ดใจเดียวตัวก็เบียดติดนาง
แล้ว ทาให้ถานหวันช ่ ิ งต้องยันมือทัง้ สองข้างกับอ่างน้ า โชคดีที่
เขารูจ้ กั เรี่ยวแรงตัวเองดี รูว้ ่าตนไม่อาจก่อกวนนางมากเหมือน
เมื่อก่อน จึงได้แต่คลอเคลียซุกไซ้แต่ไม่ได้ทาอะไรมากกว่านัน้
2
ถานหวันช ่ ิ งถอนหายใจเงียบๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ า
สะอาดบนชัน้ มาเช็ดมือแล้วหมุนกายกลับมา พอเห็นแววตา
ขอร้ อ งอ่ อ นๆ โดยไม่ ปิ ดบัง อี ก ทัง้ เขายัง ขยับ ตัว เสี ย ดสี น าง
ตลอด ก็รไู้ ด้ว่าอีกฝ่ ายต้องการอะไร

หญิงสาวหลุบตามองตา่ หนังศีรษะพลันชาวาบ แต่ก่อน


นางก็คิดอยู่แล้วว่าร่างกายผู้ชายในยุคโบราณนัน้ แข็งแรงมาก
ยิ่ ง ไม่ ต้ องพูด ถึ ง ทหารที่ มีส มรรถภาพทางกายที่ ดี ใช้ เ วลาไม่
นานก็จะกลับสู่สภาวะปกติ

สาหรับชายผู้นี้ ยามที่เขาอยู่ในอารมณ์ เร่าร้อนก็ใช้เวลา


ราวหนึ่ งถึงสองชัวยามก่
่ อนที่นางจะผล็อยหลับไป คิดว่าเขาคง
ยังไม่ถึงอกถึงใจแน่ นอน คาดว่าหนึ่ งครัง้ ของเขาคงยาวนาน
มากกว่าคนอื่นเจ็ดครัง้ เสียอีก เรื่องนี้ นางไม่ได้เที ยบกับตนเอง
แต่เที ยบจากคาอธิบายในสมุดภาพกามกิจของคนยุคโบราณที่
เคยหยิ บ มาเปิ ดดู ระดับ ความสามารถเช่ น นี้ เกรงว่ า ในยุ ค
โบราณน่ าจะเป็ นพวกที่ผิดปกติสินะ

เมื่ อ วิ เคราะห์ จ ากสภาพร่ า งกายที่ แ ตกต่ า งจากคน


ธรรมดาของเขา กอปรกับร่างกายของนางตามคาพูดของหมอ
ท่านนัน้ จริงๆ แล้วการฝึ กคู่ที่แปลกพิสดารอะไรนัน่ ก็คือ...

3
หญิงสาวพยายามดึงสติกลับมาแล้วเม้มกลีบปากสี ชมพู
อย่างค่อนข้างลาบากใจ แต่ใครเล่าที่ทาให้นางเกิดความอยาก
รู้อ ยากเห็น แบบนี้ ในเมื่ อ เขาอยู่ ใ นแรงอารมณ์ เ ช่ น นี้ นางก็
จ าต้ อ งแก้ ปั ญ หา อี ก ทัง้ วัน นี้ ตัว นางเองก็ค วรนอนได้ แ ล้ ว ...
ดังนัน้ อย่าได้คิดมาก

ในที่สดุ ก็จดั การใต้เท้าเซี่ยได้อยู่หมัด

แม้โฉมภายนอกของถานหวันช ่ ิ งจะไม่ได้ แตกต่ างจาก


คนโบราณเท่าไร แต่จิตวิญญาณข้างในค่อนข้างเป็ นอิสระและ
อาจหาญ เพี ย งแค่ ท งั ้ หมดนั น้ ยัง ค่ อ ยๆ เปิ ดเผยออกมาที ละ
น้ อย แต่ กเ็ พี ยงพอที่ จะทาให้ ใต้ เท้ าตกตะลึงพรึงเพริด ยืนตัว
แข็งทื่ออยู่ที่เดิม

ถึงไม่เคยกินเนื้ อหมูแต่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นหมูวิ่ง บวกกับ


ปฏิ ภาณไหวพริ บ ที่ มี ม าแต่ เ ดิ ม ของนาง แค่ เ ห็ น ตัว อย่ า งก็
สามารถเลียนแบบได้อย่างดี

มีคนเคยบอกว่าหัวสมองของพวกทหารมักจะผูกกับบัน้
เอว นัน่ เพราะพวกเขาดารงชีวิตอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ไม่ร้วู ่าจะ
ตายวัน ตายพรุ่ ง หลายคนเลื อ กที่ จ ะไปหาหญิ ง คณิ กาเพื่ อ

4
จัดการกับความกดดันนัน้ จึงเป็ นเรื่องธรรมดาที่ ใต้เท้ าเซี่ ยจะ
ได้ยินเหล่าทหารพูดคุยเรือ่ งบนเตียงกัน

ถึงใต้เท้าเซี่ ยจะไม่ข้องแวะกับเรื่องเหล่านี้ แต่การอยู่ใน


ค่ ายทหารก็ทาให้ รู้เรื่องที่ ‘ควรรู้’ หลายเรื่อง ทว่ าเรื่องควรรู้
เหล่ านั น้ อาจเป็ นเรื่องที่ ท าให้ ร่างกายที่ ฝึกลมปราณเสี ย หาย
เสื่อมสภาพ

แต่ หลังจากที่ มีผ้หู ญิงของตนเองแล้ว เขาก็พบว่าคาพูด


ทะลึ่งตึงตังของทหารพวกนัน้ ไม่ใช่การคุยโวโอ้อวดเสียทัง้ หมด
อีกทัง้ คืนนี้ เขายิ่งไม่นึกถึงว่าหญิงสาวที่ สง่างามและดูสูงศักด์ ิ ผู้
นี้ จะ...

ยังไม่ทนั ได้นึกถึงหญิงงามบนเตี ยงต่ อ สมองของเขาก็


ว่างเปล่าโดยพลัน

่ ิ ง ก็ย งั หายใจ
หลัง จากที่ บ้ว นปากเสร็จ แล้ ว ถานหวันช
หอบเล็กน้ อย

ความใกล้ชิดกันเมื่อครูท่ าให้นางปัน่ ป่ วนจึงอยากจะออก


ห่างเขาชัวคราว
่ ทว่าใต้ เท้าเซี่ ยกลับไม่ยอมปล่อยให้นางนอน
อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ลาแขนแข็งแกร่งยังคงกอดหญิงสาว

5
แน่ นไม่ยอมปล่อย ริมฝี ปากแนบสนิทกับหน้ าผากนวล และถูไถ
เบาๆ ในบางครัง้

ตอนนี้ คนในอ้อมกอดถอดถุงเท้ าออกเรียบร้อยแล้วจึง


เผยให้เห็นเท้าที่ ขาวสว่าง ไหล่ทงั ้ สองข้างโค้งมนเหมือนจันทร์
เสี้ยว หน้ าอกขาวอวบอิ่ม เมื่อนางนอนหนุนหมอน เส้นผมดา
ขลับก็ยาวสยาย ที่ สาคัญในท้ องยังมีอีกหนึ่ งชี วิต ยิ่งทาให้ เขา
รู้สึกว่าหญิงสาวยิ่งงดงาม ตัวเขาเองจะตระกองกอดก็ยงั ต้ อง
ระมัดระวังอย่างยิ่ง

เมื่ อสมองปลอดโปร่ง เขาก็เ ริ่มสัง เกตคนในอ้ อมกอด


อย่างละเอียด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสตรีผนู้ ี้ คือคนที่เกิดในตระกูล
ที่ มีฐานะและชื่ อเสี ยง ตัง้ แต่ เกิดก็มีคนจัดหาเสื้อผ้าอาหารให้
เรียบร้อย กิริยาท่ าทางล้วนเป็ นแบบคุณหนู ผ้มู ี ชาติตระกูลดี
หากไม่ เ กิด เรื่องขึ้น กับ ตระกูลถาน อนาคตของนางก็ค งเป็ น
ภรรยาในตระกูลสูงศักด์ ิ เหมือนมารดาของนาง

สตรีเลอค่าที่ ภาพลักษณ์ เพียบพร้อมไปด้วยศีลธรรมอัน


ดีงาม กิริยาท่ าทางสง่าผ่าเผย อีกทัง้ ยังไม่ได้แต่ งงาน ไม่มีทาง
จะเคยเห็นหรือเคยได้ยินวิธีแบบเมื่อครูน่ ี้

6
ถ้าเช่นนี้ นางเรียนมาจากที่ ไหน? โดยเฉพาะมารดาผู้ให้
กาเนิดก็ไม่อยู่ด้วยแล้ว ส่ วนมารดาเลี้ยงก็ไม่ได้ ใส่ ใจลูกเลี้ยง
มากนัก อีกทัง้ บ่าวรับใช้กไ็ ม่น่าเอาเรื่องสกปรกเหล่านี้ ไปเล่าให้
เจ้านายฟัง

พอชายหนุ่ มคิดถึงช่ วงที่ นางถูกเนรเทศ ก็นึกถึงสี หน้ า


ของเจ้าหน้ าที่คมุ ตัวนักโทษได้ แววตาใต้เท้าเซี่ยจึงเปลี่ยนเป็ น
เย็นยะเยือก... จะใช่หรือ?...

แต่ว่าวันนัน้ พอเจ้าหน้ าที่พวกนัน้ ถูกลงโทษก็สารภาพทัง้


น้าหูน้ าตากับเขาว่าไม่ได้แตะตัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถานแม้แต่
ปลายนิ้ ว เพราะกลัว ว่ า หากเกิ ด อะไรขึ้ น พวกนั ก โทษที่ ถ ูก
เนรเทศจะก่ อกบฏจนท าให้ พวกเขาต้ องเดื อดร้อน กอปรกับ
คุณหนูใหญ่ตระกูลถานนัน้ มีสาวใช้คนสนิทอยู่ด้วยตลอด พวก
เขาจึงไม่มีโอกาสได้ลงมือ...

พอคิดมาถึงตรงนี้ สี หน้ าใต้ เท้ าเซี่ ยก็ดีขึ้นมาหน่ อย ใน


เมื่อไม่ใช่เรื่องโสมมที่เกิดขึ้นระหว่างการเนรเทศ แล้วคุณหนูผู้
เลอค่ า จะเรี ย นเรื่ อ งพรรค์นี้ ไ ด้ อ ย่ า งไร? เห็น ๆ อยู่ ว่ า ตัง้ แต่
มาถึงเว่ยอันก็อยู่แต่ในบ้านกับหออักษรตลอด แม้แต่หอคณิกา
ก็อยู่ห่างจากที่พกั หลายช่วงถนน...

7
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะปรายตามองไปที่ โต๊ะ ภายใต้ แสง
ตะเกี ยงที่ ส่องสว่างก็เห็นสมุดภาพของบัณฑิตที่ แสนประเสริฐ
พวกนั น้ เป็ นภาพในเชิงกามารมณ์ เขาพลันนึ กบางอย่างได้ สี
หน้ าจึงเคร่งขรึมขึน้ มาเล็กน้ อย ในใจก็คิดว่า ของเหล่านี้ อาจจะ
สอนเรือ่ งชัวให้
่ กบั คนดีๆ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะโพล่งสอนไปว่า

“ต่อไป...”

ทว่าหลังจากที่หลุดปากออกไป คาพูดก็ชะงักทันควัน

หากต่ อ ไปไม่ ใ ห้ น างดู ภ าพพวกนี้ เรื่ อ ง ‘อย่ า งนั ้น ’ ก็


อาจจะไม่มีอีกแล้ว ดูจากทุกอย่างที่ นางทาวันนี้ เขาก็ชื่นชอบ
อย่างมาก ดังนัน้ ถ้าห้ามไม่ได้นางดูอีกจะดีหรือ หรือจะยอมให้
นางดูได้เพียงบางครัง้ บางคราว? พอคิดมาถึงตรงนี้ ลมหายใจ
ชายหนุ่มก็เริ่มถี่กระชัน้ เลือกลาบากเหลือเกิน

ในขณะที่ใต้เท้าเซี่ยกาลังครุน่ คิดอย่างตัดสินใจไม่ได้ ลม
หายใจของถานหวันช่ ิ งกลับสงบลงแล้ว

ใบหน้ างามอิงแอบอยู่บนแผงอกกว้าง นางนิ่งฟั งเสียงหัว


ใจเต้ นและเสี ยงลมหายใจของชายหนุ่ ม ในใจนางยามนี้ รู้สึก
สงบอย่างยิ่ง ก่อนจะฉุกคิดถึงเรื่องก่อนหน้ า ทัง้ คุณสมบัติของ

8
ร่างกายใต้ เท้ าประกอบกับความสามารถเฉพาะด้ านของเขา
พอได้ยินเขาพูดขึน้ มาสองคาแล้วก็เงียบไปเฉยๆ นางจึงชิงเอ่ย
แทนเป็ นเชิงตาหนิ

“ต่ อไปจะไม่ท าแบบนี้ ให้ แล้ ว ไม่ รู้ว่ าท่ านฝึ กวิ ชาอะไร
ทาไมถึงทาให้คนอื่นทรมานเสียจริง”

พูดจบก็เงยหน้ ามองอีกฝ่ าย

ถึงใต้เท้าเซี่ ยจะหน้ าหนา แต่ตอนนี้ ใบหน้ ากลับแดงเรื่อ


เขาไม่ได้ ตอบนางว่าต่ อไปไม่ต้องทาอย่างนี้ อีกแล้ว กลับเอ่ ย
อย่างคลุมเครือแทน

“ข้าฝึ กวิชาค่อนข้างพิเศษ”

่ ิ งถามต่ อ “มันคือวิชาอะไรหรือ? มีสิ่งใดเป็ น


ถานหวันช
พิเศษ? สามารถบอกให้คนอื่นรูไ้ ด้ไหม?”

ใต้เท้าเซี่ ยก้มหน้ ามองคนที่ น้อยนักจะรู้สึกสนใจเรื่องใด


แล้วลูบเบาๆ ที่ ไหล่ของนาง เขาไม่มีอะไรที่ ต้องซุกซ่ อนหรือ
ปิดบัง แต่กย็ งั มีท่าทีลงั เลเล็กน้ อย

9
“เป็ นเพียงการฝึ กลมปราณที่ สืบต่ อกันมาในครอบครัว
เท่ านั น้ ข้ านั บ ว่ ามี พ รสวรรค์อยู่บ้า ง บรรพบุรุษ ไม่ ได้ บ อกว่ า
ห้ า มแพร่ ง พราย เพี ย งแต่ เ งื่ อ นไขในการฝึ กค่ อ นข้ า งพิ เ ศษ
ดังนัน้ ถึงแพร่งพรายออกไปก็เกรงว่าคงไม่มีคนฝึ กฝน”

เห็น ถานหวัน่ ชิ ง มองเขาแบบตาไม่ ก ะพริ บ แล้ ว ยัง มี


ท่าทางไม่ค่อยเข้าใจนัก ใบหน้ าชายหนุ่มก็ออกอาการเก้อเขิน
“ข้ า ฝึ กก าลัง ภายในเรี ย กว่ า กุญ แจชี พ จรหยาง” เขาเงี ย บไป
เล็กน้ อยก่อนเอ่ยต่อ “ก็คือวิชาถงจื่อ”

ถานหวันช ่ ิ งค่อนข้างฉงนสนเท่ห์ นางรูเ้ กี่ยวกับวิชาถงจื่อ


ในสมัยโบราณน้ อยมาก ความประทับใจเดียวที่มีกค็ ือเรื่องราว
ที่ ถ กู สร้ า งเป็ นภาพยนตร์ข องจางซัน เฟิ ง กล่ า วกัน ว่ า เขาฝึ ก
วิชาถงจื่อมาแปดสิบปี และครองตัวเป็ นโสดตลอดชี วิต ดังนัน้
ในความคิดของนางวิชาพวกนี้ ไม่สามารถเข้าใกล้สตรีได้ ตลอด
ชีวิตต้องรักษาร่างกายให้บริสทุ ธ์ ิ เหมือนเด็กชายมิใช่หรือ?

แล้ววิชานี้ กบั โรคที่ป่วยมาตัง้ แต่เกิดของตนมันเกี่ยวข้อง


กันอย่างไร?

10
่ ิ งครุ่นคิดสารพัดคาถาม ทว่าใต้ เท้ าเซี่ ยกลับ
ถานหวันช
ก้มศีรษะลงจุมพิตนาง ริมฝี ปากทัง้ สองบดเบียดแนบชิดกันไป
มา เขาทาแบบนี้ เพราะไม่อยากให้นางถามอีกแล้วใช่ไหม?

ใต้เท้าเซี่ยเพียงนิ่งเงียบ ไม่ได้แสดงเอ่ยถึงเรือ่ งนี้ ต่อ

ถึงร้านหนังสือตามหมู่บ้านเล็กๆ แถวชายแดน จะไม่มี


ตาราที่ เขี ยนเกี่ ยวกับคัมภีรโ์ บราณพวกนี้ แต่ ว่าพวกชาวยุทธ์
พ่อค้า นักพรต และบัณฑิตต่างๆ ไม่เคยขาดแคลน ดังนัน้ การ
สืบข่าวไม่ว่าเรื่องใดก็มกั จะง่ายดายนัก โดยเฉพาะที่ โรงเตี๊ ยม
แห่งนี้

่ ิ งไม่ได้เสี ยค่าใช้ จ่ายหรือความสามารถมาก


ถานหวันช
เท่าไร

นางเพียงเชิญท่านหมอพเนจรคนนัน้ มา เมื่อท่านหมอได้
ยิ น ถานหวัน่ ชิ ง ถามหาหนั ง สื อ เกี่ ย วกับ เคล็ด วิ ช าถงจื่ อ ใน
สายตาก็แฝงนัยรับรู้

ท่านหมอเห็นว่านางมีลกั ษณะของคุณหนูตระกูลสูงศักด์ ิ
อี กทัง้ เป็ นคนในครอบครัวของท่ านแม่ทพั หัวเมือง ดังนั น้ เมื่อ
ได้ ร บั การไหว้ ว านจึ ง พยายามและระมัด ระวัง จนถึ ง ที่ สุด พอ

11
ได้รบั ของที่ ต้องการหญิงสาวก็ยงั ใจกว้ างหยิบเงินออกมาตก
รางวัลให้มากโข

หนั ง สื อ ที่ ไ ด้ ม า รายละเอี ย ดด้ า นในพูด ถึ ง เรื่ อ งแปลก


มหัศจรรย์เกี่ยวกับวิชาถงจื่อ บัณฑิตที่ เป็ นผู้บนั ทึกมีการเขียน
คาชื่ นชมเกี่ ยวกับวิ ชานี้ แทรกเอาไว้ จานวนมาก ส่ วนเนื้ อหา
หลัก มี เ ล็ก น้ อย บางช่ ว งก็มี ไ ม่ ค รบ เหมื อ นมี บ างส่ ว นขาด
หายไป ประหนึ่ งเป็ นการรวบรวมและเขียนขึน้ แบบยังไม่ร้อู ย่าง
ลึ ก ซึ้ ง ถึ ง กระนั ้น ถานหวัน่ ชิ งก็ย ัง ตัง้ ใจอ่ า นอย่ า งละเอี ย ด
พยายามทาความเข้าใจว่าวิชานี้ มีความพิเศษตรงไหน

ปรากฏว่ า อ่ า นมาถึ ง ช่ ว งย่ อ หน้ า ตรงกลาง หญิ ง สาวก็


ถึ ง กับ ตะลึ ง งัน สี ห น้ าประเดี๋ ย วแดงปลัง่ ประเดี๋ ย วขาวซี ด
สลับกันไปมา

ด้านบนมีการวาดระบบชีพจรตามวิชาถงจื่อ ตรงกลางมี
วิชากุญแจมังกรขัน้ สูงสุดและกุญแจมังกรขัน้ เริ่มต้ น อี กทัง้ มี
การอธิ บ ายอย่ า งมี ห ลัก การว่ า หากผู้ช ายฝึ กวิ ช าขัน้ เริ่ ม ต้ น
ส าเร็จ จะสามารถควบคุ ม เวลาหลัง่ ได้ ส่ ว นผู้ฝึ กขัน้ สู ง จะ
สามารถท าให้ น้ า ที่ ห ลัง่ ออกมาหวนกลับ คื น ทัง้ ยัง สามารถ
ควบคุมการหมุนเวียนพลังหยางได้ด้วยตนเอง และยังสามารถ
รักษาขนาดและความแข็ง ได้ยาวนาน หนาซา้ ยังไม่อ่อนเพลีย
12
สรุปว่าสามารถทาได้ยาวนานอย่างเต็มที่ โดยไม่ส่งผลเสี ยต่ อ
ร่างกาย...

คากล่าวชมเชย ทัง้ คายกย่องสรรเสริญและโอ้อวด คาด


ว่าจะมีถ้อยคาคุยโวของผู้เขียนเองผสมโรงด้วยกึ่งหนึ่ ง อย่าง
ค าพูด ที่ บ อกว่ า เขาสามารถมี ค วามสัม พัน ธ์ก บั สตรี ไ ด้ ห ลาย
ราตรี ทาให้หญิงสาวพินอบพิเทาเหมือนสุนัขหูตบู แล้วยังรูส้ ึกมี
ความสุขจนเหมือนกับตายแล้วขึน้ สวรรค์...

่ ิ งอ่านแล้วทัง้ ขาทัง้ โมโห ถ้าหากว่าเก่งจริงๆ


ถานหวันช
แล้วเหตุใดเขาต้องทายาปลุกกาหนัดด้วยเล่า? ไม่ใช่ว่าผู้ชายก็
สามารถควงแขนขึ้นสวรรค์ได้พร้อมกันหรือ ? อยากจะลากตัว
คนเขียนหนังสือมาหวดสักที เพียงแต่ถานหวันช ่ ิ งไม่เคยฝึ กมา
ก่อน ทัง้ บทความก็ไม่ชดั เจน นางจึงแยกไม่ออกว่าประโยคไหน
โอ้อวดประโยคไหนเรื่องจริง แต่แบบของเซี่ ยเฉิงจู่นัน้ นางรู้สึก
ว่ามันน่ าทรมานมาก หากเขาไม่หยุดเอง แน่ นอนว่าสามารถทา
อย่างนัน้ ได้ต่อเนื่ องและยาวนาน พอนึ กได้แบบนี้ แล้ว สาหรับ
เรือ่ งนี้ ในหนังสือก็น่าจะเป็ นเรือ่ งจริง

คนเขียนหนังสือเล่มนี้ คล้ายจะสนใจวิชาถงจื่อมาก เขา


เขียนชมเชยในส่วนที่ ดีเกือบหนึ่ งหน้ ากระดาษ นางอ่านอย่าง
รวดเร็วจนถึงท่อนสุดท้ายซึ่งเป็ น ‘ข้อห้าม’ ในการฝึ กวิชาถงจื่อ
13
ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนมีสองด้าน วิชานี้ กเ็ ช่นกัน คน
เขียนอธิบายเหมือนไม่ใส่ใจนัก แต่ บรรทัดสุดท้ ายก็ยงั บันทึ ก
ข้อเสียของวิชานี้ ไว้ว่า...

แม้ วิ ช านี้ จะดี แต่ ก ลับ ห้ า มใกล้ ชิ ด สตรี เ ด็ด ขาด หาก
รักษาข้ อห้ ามนี้ ได้ จนกระทัง่ ฝึ กวิ ชากุญแจมังกรจนส าเร็จขัน้
สูงสุดก็จะสามารถควบคุมพลังหยางทัวร่ ่ างกายได้ พลังจะแผ่
กระจายไปทัวเลื ่ อดเนื้ อและผิวหนังจนลึกถึงไขกระดูก จากนัน้
เพียงแค่หนึ่ งปี หรือช้าสุดสามปี ก็จะสามารถไปถึงขัน้ เชี่ยวชาญ
แม้แต่ ผ้เู ฒ่ าก็จะมีผมดกดาเหมือนเด็ก ต่ อให้ อายุหนึ่ งร้อยปี ก็
ยังดูไม่ออก ความชานาญและพลังที่ลึกซึ้งนี้ ยากที่จะหาคู่ต่อสู้ที่
มีฝีมือมาทัดเทียมกัน

แต่ ว นั หนึ่ ง เมื่ อ เข้ า ใกล้ ส ตรี แ ล้ ว พลัง หยิ น ของสตรี จ ะ


ทาลายชี พจรหยาง นัน่ เท่ากับว่าทาลายร่างบริสุทธ์ ิ ดุจเด็กชาย
ไปแล้ว เหมือนเอาพลังในร่างกายให้คนอื่น! คล้ายกับเป็ นการ
ถักทอเสื้ อผ้าให้ ผ้อู ื่ นใส่ ถือว่าความขยันฝึ กฝนและการสร้าง
เสริ ม พลัง มายาวนานนั บ สิ บปี ต้ อ งล้ ม เหลว สุ ด ท้ า ยก็ต้ อ ง
สูญเสี ยพลังไปหลายส่วน หากพลังคงเหลือได้สกั ห้าสิบในร้อย
ส่วนก็ถือว่าเคราะห์ดีมาก หนาซา้ ตลอดชีวิตของคนผู้นัน้ ยังไม่
สามารถฝึ กตนให้กลับมาถึงจุดสูงสุดได้อีกด้วย

14
วิชาถงจื่อนับว่าถูกทาลายลงอย่างสิ้นเชิง

ข้อห้ามนี้ ถกู เขียนยา้ ถึงสามครัง้

เดิ มที ถ านหวัน่ ชิ งมี สี ห น้ าแดงปลัง่ ทว่ า ยามนี้ พลัน


เปลี่ยนเป็ นขาวซีดไปแล้ว

15
87 กลับบ้าน

มือทัง้ สองถือหนังสือเล่มบางอยู่นานครึ่งค่อนวันโดยไม่
ขยับเขยือ้ น

ลุ่ยจูซึ่งถือถาดใส่ น้ าหวานกับขนมหวานเข้ามา เห็นถึง


ความผิดปกติของเจ้านาย หลังจากวางถาดในมือลงบนโต๊ะจึง
รีบเดินมาหา

“คุณหนู ทาไมสี หน้ าดูไม่ดีเลย ไม่สบายอี กแล้วหรือเจ้า


คะ? เช่นนัน้ ข้าจะให้ท่านหมอมาดูนะ”

ถานหวันช่ ิ งตื่นจากภวังค์ นางปิดหน้ าหนังสือลงแล้วส่าย


หน้ า จากนัน้ ก็ยกมือขึ้นคลึงขมับตัวเองแล้วเอ่ยว่า “ไม่เป็ นไร
นอนสักงีบก็น่าจะดีขึน้ ”

ลุ่ยจูฟังจบก็รบั หนั งสื อมาวางไว้ด้านข้ าง จากนั น้ ก็เอา


หมอนกลมมาวางอย่างคล่องแคล่ว ตามด้ วยดึ งผ้าห่ มขึ้นมา
คลุมให้ “คุณหนูนอนลงเถอะเจ้าค่ะ”

่ ิ งให้นอนพักผ่อน
พูดจบก็ประคองถานหวันช

1
ก่อนที่ หญิงสาวจะปิดเปลือกตาก็เห็นลุ่ยจูยงั ยืนอยู่หน้ า
เตียง นางจึงทาเพียงโบกมือเบาๆ เป็ นเชิงไล่ “เจ้าไม่ต้องเฝ้ าอยู่
ที่นี่หรอก ไปคุยเล่นกับอวี้ฉีเถอะ”

เดิ ม ที ลุ่ ย จูอ ยากจะนั ง่ เย็บ ปั ก ถัก ร้ อ ยเฝ้ าอยู่ ข้ า งเตี ย ง


คุณหนู แต่ว่าร่างกายคุณหนูไม่ส้ดู ีนักทาให้นอนหลับยาก เกรง
ว่าหากตนอยู่ตรงนี้ แล้วอาจจะทาให้คณ ุ หนูนอนไม่หลับ นางจึง
ช่วยคุณหนูห่มผ้าห่มจนเรียบร้อยแล้วจึงออกไปเงียบๆ

ถึ ง ถานหวัน่ ชิ ง จะปิ ดเปลื อ กตาลง แต่ ใ นใจยัง สับ สน


วุ่นวายไม่หยุด

วิชาถงจื่อ...เซี่ยเฉิงจู่ฝึกมาราวสิบหกสิบเจ็ดปี แล้วกระมัง
มิน่าเล่าทหารเหล่านัน้ จึงเลื่อมใสศรัทธาในตัวเขามาก นางเคย
ได้ยินคนพูดกันว่าพวกต๋านัน้ มีร่างกายแข็งแรง ทว่าแต่ไรมาใน
ค่ า ยทหารก็เ ป็ นเซี่ ย เฉิ งจู่ที่ ฆ่ า ศัต รูไ ด้ ม ากสุ ด เรื่ อ งนี้ แม้ แ ต่
ประชาชนในเว่ยอันก็รดู้ ี

แล้ว ‘เหลือพลังสักห้ าสิบส่วนก็ถือว่าเคราะห์ดีมากนัน้ ’


หมายถึงอะไร?

พลังอีกครึง่ หนึ่ งหายไปไหน?

2
หรือว่าการที่โรคป่ วยตัง้ แต่เกิดของนางหายไปอย่างไม่มี
สาเหตุเป็ นเพราะได้รบั พลังมาจากเขางัน้ หรือ?

ในใจถานหวันช ่ ิ งเริ่มหนักอึ้ง มิน่าล่ะเมื่อวานที่ เขาบอก


ว่าเป็ นวิชาที่ สืบทอดมาจากบรรพบุรษุ ถึงถ่ายทอดออกไปก็มี
คนเรียนได้น้อยมาก ที่แท้กเ็ ป็ นเช่นนี้

เพราะหากถามชายหนุ่มที่ ฝึกวิชานี้ ว่าสามารถอดทนไม่


แต่งภรรยา ไม่มีลกู ไม่เข้าใกล้สตรีไปตลอดชีวิตจะทาได้หรือไม่
หากฝึ กฝนจนส าเร็จ แล้ ว ท าได้ เ พี ย งแค่ ม องแต่ ไ ม่ ส ามารถ
นาไปใช้ สาหรับผูช้ ายแล้วนี่ คือการเยาะเย้ยโดยตรงเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ค่อยมีใครอยากจะฝึ ก เพราะสุดท้ายหาก
ห้ามใจไม่อยู่กเ็ ท่ ากับเอาพลังที่ ตวั เองสู้ฝึกฝนอย่างหนั กส่ งให้
คนอื่น ถือว่าเป็ นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง พอคิดว่าคนที่ ดดู
เอาพลังของคนอื่นมาต่ อชี วิตตนนัน้ เป็ นตัวนางเอง ถานหวัน่
ชิงก็ถึงกับหัวเราะไม่ออก

พอสรุปเรือ่ งราวทัง้ หมดได้หญิงสาวก็ถอนใจยาว

เป็ นเช่นนี้ จริงๆ ใช่ไหม? แล้วนางจะทาอย่างไรดี?

3
นางติดค้างเขามากพออยู่แล้ว และดูเหมือนนั บวันก็ยิ่ง
ติดค้างเขามากขึน้ และมากขึน้ ...

เซี่ยเฉิงจู่ค้นุ ชินกับการดูแลถานหวันช
่ ิง

ถึงเขาจะไม่ได้แทรกแซงว่านางจะทาอะไร แต่อย่างน้ อย
ก็ต้องรูว้ ่านางทาอะไรอยู่

เพี ย งไม่ น านเรื่ อ งที่ นางแอบไปสอบถามเกี่ ย วกั บ


วิชาถงจื่อกับท่านหมอก็ล่วงรูถ้ ึงหูของเขาแล้ว เมื่อใต้เท้าเซี่ยได้
ฟั ง รายงานจากลู ก น้ องก็ นิ่ งงัน ไป เมื่ อ วานเห็ น นางสนใจ
สอบถาม ตนเองก็ตอบส่งๆ ไปเพราะไม่คิดว่านางจะสนใจมาก
เพียงนี้ วันนี้ ถึงกับทนไม่ไหวต้องไปสืบค้นด้วยตัวเองเลยหรือ?
แล้วยังเจ้าหมอผู้นัน้ ถึงอี กฝ่ ายจะอายุเลยสี่ สิบปี ไปแล้วก็ตาม
แต่ผหู้ ญิงสามารถสอบถามเรือ่ งนี้ ได้ตามอาเภอใจเชียวหรือ?

ยิ่ ง ได้ ใ กล้ ชิ ด กัน เขายิ่ ง พบว่ า หญิ ง งามสกุล ถานผู้นี้ . ..


ภายนอกเป็ นเพชรที่ แวววาวเห็ น แล้ ว อบอุ่ น อ่ อ นหวาน
ละมุนละไม แต่บางคราก็กล้าหาญบ้าบิ่นมากจนเขาเองยังตกใจ
ยังดี ที่ตนจ้องมองอยู่ตลอด ถ้าไม่เช่นนัน้ ก็คงไม่ร้วู ่านางจะทา
เรือ่ งใดที่เลยเถิดไปแล้วบ้าง

4
ใต้เท้าเซี่ ยไม่ร้วู ่าเพราะอะไรนางจึงสนใจวิชาที่ ถ่ายทอด
มาจากบรรพบุรษุ ของเขา แต่เมื่อเห็นนางกาลังอ่านหนังสือเล่ม
นัน้ ด้วยท่าทางครุน่ คิดอย่างหนัก ใบหน้ าเหมือนคนที่เหนื่ อยล้า
และกลัดกลุ้ม พอคิดทบทวนคร่าวๆ ในที่สดุ เขาก็เข้าใจ

เขารู้ว่านางเป็ นคนฉลาด เพียงไม่กี่ประโยคก็พอคาดเดา


ได้แล้ว วันก่อนที่ นางถามถึงโรคตัง้ แต่กาเนิดของตัวเอง มาถึง
วันนี้ นางก็คงรูท้ งั ้ หมดแล้ว

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย ถึ ง กับ ต้ อ งนวดขมับ การชอบผู้ห ญิ ง เฉลี ย ว


ฉลาดช่างเป็ นเรื่องลาบากจริงๆ แต่หากโง่เง่าทื่อทึ่ม เขาก็ยิ่งไม่
ชื่นชอบแน่ นอน

กว่าจะคิดมาถึงตรงนี้ ไม่รวู้ ่าเขาถอนใจไปกี่ครังแล้


้ ว

สิ่งที่ เขากังวลคือกลัวว่านางจะคิดมาก อย่างเช่ นที่ นาง


เป็ นอยู่ตอนนี้ หากเขาไม่ยอมอธิบาย เกรงว่านางจะเก็บไว้ใน
ใจ จากนี้ หากมีอะไรก็คงจะไม่ถามเขาอีก แต่อาจจะเลือกเก็บไว้
เงียบๆ คนเดียว ซึ่งเป็ นเรือ่ งที่เขาทนไม่ได้

ชีวิตนี้ เขาพ่ายแพ้ให้นางแล้ว ไม่ว่าจะเป็ นลักษณะท่าทาง


หรือ อากัป กิ ริ ย าแม้ ก ระทัง่ สี ห น้ า ของนางก็ล้ ว นเป็ นสิ่ ง ที่ เ ขา

5
อยากจะเก็บไว้ทงั ้ หมด นางเป็ นคนที่ใจเขาคิดถึงและห่วงใยทุก
เวลา

ดังนัน้ เมื่อได้พบกันในตอนกลางคืน พอเขาเห็นนางเผย


รอยยิ้ ม กับ สี ห น้ า ซี ด เผือ ดแบบคนที่ ไ ม่ ไ ด้ พ กั ผ่อ นมาให้ ชาย
หนุ่มก็ร้สู ึกเจ็บปวดใจนัก เขารีบเดินไปดึงนางเข้ามากอดไว้ใน
อ้อมแขน แล้วอธิบายแก่นางอีกครัง้

่ ิ งจับจ้องสี หน้ าของเขา


“ที่ หนังสือนัน่ บอก...” ถานหวันช
แล้วถาม “ล้วนเป็ นเรือ่ งจริงหรือ?”

ใต้ เท้ าเซี่ ยนั ง่ ลงที่ ริมขอบเตี ยงแล้วอุ้มนางมานั ง่ บนตัก


มือก็ลบู ผมดาขลับดุจแพรต่วนนัน้ เบาๆ ชายหนุ่มมีอาการลังเล
อยู่ชวครู
ั ่ ่ ก่อนจะมองนางแล้วตอบว่า

“จริงเพี ยงครึ่งเดี ยว พละกาลังถึงจะสูญหายไปบ้าง แต่


หากขยันหมันฝึ ่ กฝนก็สามารถกลับมาสาเร็จได้เจ็ดถึงแปดส่วน
ส่วนที่ เหลือเพลงหอกก็สามารถชดเชยได้ สาหรับข้าแล้วถือว่า
ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด”

6
พอเห็นนางยังคงหน้ านิ่วคิ้วขมวด เขาก็ยกมือลูบแก้ ม
นวลเพื่อให้นางมองมาที่ตน “นอกจากนี้ ข้ายังสามารถแต่งงาน
มีเมียมีลูกได้”

ถานหวัน่ ชิ ง ยกมื อ ขึ้ น จับ แก้ ม เขา เดิ ม ที น างก็รู้สึ ก ไม่


สบายใจอยู่แล้ ว เมื่อได้ ฟังคาอธิบาย ยิ่งรู้สึกว่ าบุญคุณเช่ นนี้
ไม่ใช่ ของธรรมดาที่ สามารถทดแทนกันได้ ง่ายๆ สาหรับนาง
แล้วสิ่งที่ เขามอบให้มนั ลา้ ค่ามากเกินไป ไม่ร้วู ่าตัวเองจะตอบ
แทนเขาได้อย่างไร

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย เห็น ท่ า ทางของนางก็ยิ่ ง กอดหญิ ง สาวแนบ


แน่ น ถานหวันช ่ ิ งก็ซุกตัวเข้าในอ้อมกอดเขาอย่างว่าง่าย ทว่า
ในใจใต้ เท้ าเซี่ ยกลับร้อนรน เขาอยากพูดบางอย่าง แต่ ไม่ร้วู ่า
ต้องพูดต้องแสดงออกอย่างไรจึงจะเหมาะ “หากไม่มีเจ้า ตลอด
ชีวิตข้าคงไม่แต่งงาน แต่ว่าเมื่อเข้าเจอเจ้าแล้ว...” พูดถึงตรงนี้
เขาก็ลงั เลเล็กน้ อย แล้วจึงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู

“ที่ จริงแล้วในปี นัน้ ก่อนที่เจ้าจะตีข้าจากบนหลังม้า ข้าก็


ชอบเจ้ามานานแล้ว ถึงตอนที่ถกู เจ้าตี ข้าจะโกรธเจ้านัก แต่ข้า
ก็ไม่เคยถือสาเลยสักนิด ข้า...”

7
ลุ่ยจูและอวี้ฉีที่ประคองถาดอาหารเย็นเข้ามาหยุดชะงัก
ทันทีเมื่อเห็นคุณหนูของตนอยู่กบั ใต้เท้า สองหนุ่มสาวก็ใบหน้ า
แดงกา่ เช่นกันเมื่อเห็นพวกนาง เซี่ยเฉิงจู่อดไม่ได้ที่จะกระแอม
อย่างเก้อเขิน ดูไม่เป็ นตัวของตัวเองนัก

ช่ ว งดึ กเมื่ออวี้ฉีลุกขึ้น มาเพราะได้ เ วลาจัด น้ าชาไปให้


คุณหนูซึ่งโดยปกติจะวางไว้ข้างประตูห้อง นางก็ได้ยินเสียงแว่ว
มาจากด้านใน อวี้ฉีที่ออกเรือนมาหลายปี อดไม่ได้ที่จะหน้ าแดง
ปลัง่ ตามจริงแล้วใต้ เท้ าเซี่ ยผู้สุขมุ เงียบขรึมและเยือกเย็น ไม่
ควรกวนคุณหนูมากเกินไป แต่ว่าในเมื่อพวกเขาดีกนั แล้ว นาง
เองก็รสู้ ึกสบายใจจึงได้แต่เดินกลับห้อง

่ ิ งตื่นนอน นางก็หนั ไปมองด้านข้างด้วย


ตอนที่ถานหวันช
ท่ าทางสะลึมสะลือ เห็นใต้ เท้ ากาลังก้มเย็บรองเท้ าให้ ตนอยู่ก็
เกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาทันที นางรู้สึกว่าการได้เจอกับ
คนผูน้ ี้ เป็ นความโชคดีของนางในชาติหนึ่ งแล้ว ไม่สิ... เป็ นเรือ่ ง
ที่ โชคดีสุดๆ ในสองชาติ หากนางทิ้งเขาไป เกรงว่าตนต้ องอยู่
อย่างเสียใจไปตลอดชีวิต

นางก้มหน้ านวดที่หวั ตา จากนัน้ ก็หยัดกายลุกขึน้ เดินไป


หาแล้วค่อยๆ โอบเอวชายหนุ่มจากด้านหลัง

8
เซี่ ยเฉิงจู่ชะงัก เลื่อนมือมากุมมือหญิงสาวที่ บริเวณเอว
สักพักก็หมุนกายกลับมา เห็นคนด้ านหลังที่ โอบกอดเขาไว้มี
ดวงตาแดงระเรือ่ นางเอ่ยด้วยน้าเสียงออดอ้อน

“เรากลับบ้านกันเถอะ”

บ้าน?

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย อึ้ ง ไปเล็ก น้ อย ดวงตาพลัน เปล่ ง ประกาย


วาววับ เขากอดร่างบอบบางแน่ นจนแนบกับอก มุมปากเผย
รอยยิ้มน้ อยๆ ในที่ สุดก้ อนน้ าแข็งก็ละลายเสี ยที เขาไม่ต้อง
สิ้นเปลืองความคิดนานก็ตอบทันควัน

“อืม... เรากลับบ้านกัน”

พูดจบก็ก้มลงหาริมฝี ปากนุ่มนิ่มแล้วบรรจงจูบเบาๆ

กาแพงนอกเมืองส่วนใหญ่ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ เหล่าทหารกาลังสร้างป้ อมปราการ

หลังจากที่ อากาศเปลี่ ยนเป็ นอบอุ่น ผู้ลี้ภยั นอกเมืองก็


เตรี ย มตัว เข้ า มาอยู่ ใ นพื้ น ที่ ที่ จ ัด ไว้ ใ ห้ เมื่ อ ถึ ง เวลาท าการ
9
เพาะปลูก ที่นาผืนใหญ่จึงมีคนเดินขวักไขว่อย่างคึกคัก อุปกรณ์
การเกษตรที่จดั เตรียมในช่วงหน้ าหนาวในที่สดุ ก็ได้ส่งไปใช้ แม้
จานวนควายไถนาจะมีน้อย แต่ละครัวเรือนต้ องใช้เวลาสามสี่
วันถึงจะสามารถยืมได้หนึ่ งครัง้ ทว่าโชคดี ที่กาลังคนเพียงพอ
การทาการเพาะปลูกจึงไม่ได้ล่าช้า

ช่ ว งที่ ท าการเพาะปลูก ชาวบ้า นจะเริ่ ม อ่ อ นล้ า ดัง นั น้


เรื่องเร่ง ด่ ว นก็คื อการจัด เตรี ย มเสบีย งอาหารอย่ า งเพี ย งพอ
ยามนี้ ท รัพ ย์สิ น เงิ น ทองที่ เ อามาจากเมื อ งหลวงก่ อ นหน้ าก็
นาไปใช้สร้างกาแพงนอกเมืองเกือบหมด มาถึงตอนนี้ จึงเหลือ
เงินไม่เท่าไร

ก่อนหน้ านี้ ใต้ เท้ าเซี่ ยทะเลาะกับหญิงงาม ช่ วงสองสาม


วันมานี้ จึงวิ่งวุ่นไปมาอย่างห่วงหน้ าพะวงหลัง โชคดี ที่สุดท้ าย
นางก็กลับมา นับว่าใต้เท้าไม่ได้ย่งุ อย่างเสียเปล่า

ส่วนพวกโจรที่ มาก่อกวนชาวบ้านรอบเมืองเว่ยอันก็ถกู
จัดการเรียบร้อยแล้ว พวกต๋าต้องขี่ม้าเร่ร่อนไร้ที่พกั พิง เพราะ
ถูก แม่ ท ัพ หัว เมื อ งและกองทหารม้ า ท าลายฐานที่ ม นจนต้
ั่ อง
อพยพถอยร่นออกไปไกล จากนี้ กเ็ หลือเพียงแค่คิดหาวิธีเขียน
จดหมายให้ลูกน้ องนาไปยังเมืองต่างๆ ในแคว้นอี้ รวมถึงเมือง

10
น้ อ ยใหญ่ ใ กล้ เ คี ย งเรื่ อ งขอยื ม เสบี ย งอาหารเพื่ อ ให้ ผ่ า นพ้ น
ช่วงเวลาที่ยากลาบาก

ในที่สดุ กาแพงนอกเมืองเว่ยอันก็สร้างเสร็จ

ที่ ดินที่ เคยรกร้างคาดว่าจะเก็บเกี่ ยวได้ ในเร็ววัน ส่ วน


การหยิ บ ยื ม จากเมื อ งใกล้ เ คี ย งครัง้ นี้ ก็ส่ ง ผลมากกว่ า ที่ เ ขา
จินตนาการไว้ นัน่ คือทาให้เกิดความสัมพันธ์อนั ดีต่อกันยิ่งขึน้

สาหรับท่านแม่ทพั หัวเมืองเซี่ยเฉิงจู่นัน้ นอกจากเขาต้อง


ดูแลเรื่องอาหารการกินของเหล่าทหารแล้ว ยังต้ องดูแลปาก
ท้องของผู้ลี้ภยั พันกว่าชีวิต ดังนัน้ การหยิบยืมเสบียงอาหารจึง
เป็ นเรื่องใหญ่ที่ยากจะหาไปคืน ถึงหลังจากฤดูใบไม้ร่วงข้าวจะ
เต็มยุ้งฉาง แต่กม็ ีเรือ่ งอีกมากมายที่ต้องทา

หลังจากที่ใต้เท้าเซี่ยเรียกนายทหารมาปรึกษาหารือแล้ว
จึงตัดสินใจเอาพื้นที่ ที่จะทาโรงเตี๊ ยมและร้านค้าใหญ่ครึ่งหนึ่ ง
ออกขาย ผลตอบรับถือว่าสามารถบรรเทาความกดดันของการ
คลังได้มาก

11
ตอนแรกพวกพ่อค้ารายย่อยไม่ค่อยเห็นด้วยกับแม่ทพั
หัวเมือง แต่เมื่อกาแพงนอกเมืองสร้างเสร็จ พวกเขาจึงเล็งเห็น
ความอุดมสมบูรณ์

เนื่ องจากพ่อค้ารายย่อยในเมืองเว่ยอันมีอยู่มากมาย ถึง


สินค้าในมือจะมีไม่มาก แต่เงินที่ สะสมไว้กลับมีไม่น้อย ดังนัน้
การซื้อที่ เพื่อสร้างร้านจึงไม่ใช่เรื่องยากลาบากแต่ อย่างใด ถึง
ราคาที่ ดินจะสูงไปสักหน่ อย แต่ด้วยชื่อเสียงของท่านแม่ทพั หัว
เมืองและกองทัพที่ เกรี ยงไกร กอปรกับทาเลที่ ตงั ้ หนาซ้า สิ่ ง
สาคัญก็คือการทาการค้าที่ นี่ปลอดภัยมาก เพี ยงไม่นานพวก
พ่อค้าจึงแห่กนั ไปซื้อที่นอกเมืองกันหมด

ถึงร้านค้าจะมากมายก็ยงั ไม่เพียงพอกับความต้ องการ


แต่ ข อเพี ย งสามารถผ่า นพ้ น ช่ ว งสามเดื อ นแรกที่ เ ริ่ ม ท าการ
เพาะปลูกไปได้กจ็ ะเข้าหน้ าร้อนที่ ผกั และผลไม้ป่าเต็มทุ่งกว้าง
และภูเขา ทัง้ ในดินยังปลูกผักสด ต่อให้ไม่มีเสบียงผู้คนก็ไม่หิว
ตาย พอวิเคราะห์ได้ดงั นี้ ใต้เท้าเซี่ยก็โล่งกายสบายใจขึน้ มาบ้าง
ขอเพี ยงประคองให้ รอดถึงช่ วงเก็บเกี่ ยว ก็เท่ ากับช่ วงเวลาที่
ลาบากที่สดุ ได้ผา่ นพ้นไปแล้ว

ครานี้ กถ็ ึงเวลากลับมาคิดถึงเรือ่ งอนาคตของตัวเองบ้าง

12
จวนใต้เท้าเซี่ยที่เคยเงียบสงบยามนี้ กลับวุ่นวาย

พวกบ่าวพากันปั ดกวาดและทาความสะอาดจวน บ่าว


บางส่วนไปจัดการกับสระน้าและแขวนผ้าม่าน เดิมทีใต้เท้าเซี่ย
นัน้ มีสีหน้ าเฉยชา ยิ่งแต่ ก่อนเขาเดินเข้าออกประตูจวนด้วยสี
หน้ าไร้อารมณ์ ด้วยซา้ แต่ขณะนี้ แค่ดูสีหน้ าใต้เท้ าก็ร้ไู ด้เลยว่า
เขาปลืม้ ปี ติที่ได้เตรียมงานแต่งรับหญิงสาวเข้าจวน

ทหารหลายนายต่ างตัง้ ตารอที่ จะได้ ดื่มสุรามงคล รู้ได้


เลยว่างานแต่ งของใต้ เท้ าเซี่ ยจะต้ องคึกคักอย่างแน่ นอน ต่ าง
วาดหวัง ว่ า จะได้ กิ น มื้ อ ใหญ่ ที่ มี ท ัง้ สุ ร าชัน้ ดี แ ละเนื้ อ เลิ ศ รส
สวรรค์ ย่ อ มรู้ ว่ า นานแล้ ว ที่ พวกเขาไม่ ไ ด้ กิ นเนื้ อค าโต
นอกจากนัน้ ยังจะได้เห็นเจ้าสาวของใต้เท้าเซี่ ยที่ ผ้คู นรา่ ลือกัน
ว่างดงามอย่างที่ สุด ในเว่ยอันนั น้ มีหญิงงามน้ อยมาก ใต้ เท้ า
ดูแลให้ นางอยู่แต่ ในบ้านมานานนั บปี ไม่ยอมให้ คนอื่ นได้ ชื่น
ชมในความงาม จนถึงตอนนี้ กย็ งั ไม่มีใครเคยเห็นกับตาตัวเอง
สักที

ทว่าใต้เท้าเซี่ ยกลับไม่พดู คาใดเลย นัน่ เป็ นเพราะเขาไม่


สนใจและไม่คิดจะแบ่งปัน

13
อยากก่อกวนห้ องนอนคู่บ่าวสาวหรือ?... แม้แต่ โอกาส
เขาก็ไม่ให้!

ยิ่งไปกว่านัน้ คนที่เขาปกป้ องกว่าจะตัง้ ครรภ์ได้ช่างแสน


ยาก จาเป็ นต้องให้นางพักผ่อนอย่างสงบ การที่เขาเก็บนางไว้ก็
ถูกต้องแล้ว ทาไมต้องให้คนอื่นมามุงดูนางด้วย?

ถึงกระนัน้ ทุกคนก็มีความสุขและดีใจมากกับงานมงคล
สมรสของใต้ เท้ า เป็ นเพราะใต้ เท้ าแจกเงินและสุราหนึ่ งไหที่ มี
อักษรมงคลติดอยู่ให้กบั ทุกคน ตัง้ แต่นายทหารระดับสูงจนถึง
พลทหารชัน้ ผู้น้อย ในส่วนผู้ลี้ภยั ทุกครัวเรือนได้สุราไหเล็ก อีก
ทัง้ ใต้เท้ายังให้เนื้ อ ข้าวครึ่งถัง แป้ งครึ่งถัง ขนมหวานสามสี่ชิ้น
และขนมอบอี กเล็กน้ อย แล้วยังกาชับว่าไม่ต้องการให้ ใครส่ ง
ของขวัญอวยพรมาให้ ด้วยเหตุนี้ใต้เท้าเซี่ยจึงเอาเงินสะสมของ
ตนที่ได้จากการปราบโจรมาใช้จ่ายจนหมดเกลี้ยง

ทว่ าทุกคนล้วนดี ใจกันถ้วนหน้ า โดยเฉพาะครอบครัว


ทหารที่ เข้ามาตัง้ มันในเว่
่ ยอันก็รู้สึกซาบซึ้ งในบุญคุณของใต้
เท้าอย่างยิ่ง เพราะทุกสิ่งที่ ใต้เท้ามอบให้แสดงถึงความมีน้ าใจ
อย่างแท้จริง

14
88 ห้องหอ

ฮูหยิ น ของราชบัณฑิต หยวนเจิ้ ง ก าลัง ช่ ว ยสามี จ ดั การ


สมุดผูกดวงสมรส

ในปี นั ้ น ราชบัณ ฑิ ตหยวนเจิ้ งได้ ส อบคั ด เลื อ กทู ต


บรรณาการ แต่น่าเสียดายที่ตาแหน่ งในราชสานักมีการแข่งขัน
กันมาก คนว่างงานก็มาก กอปรกับเขาไม่สามารถก้าวหน้ าได้
อี ก เมื่อผ่านวัยกลางคนเขาจึงลาออกแล้วมาพานั กอยู่ที่บ้าน
เกิดฮูหยินของตนที่เมืองเว่ยอัน

หยวนเจิ้ง ไม่เ พี ย งสอบได้ ต าแหน่ ง ราชบัณฑิ ต ความรู้


ทางด้านหมอกับศิลปะทัง้ ห้าแขนง เขาก็ล้วนเชี่ยวชาญ จึงมีลูก
ศิ ษ ย์ไ ม่ น้ อย วัน ธรรมดานอกจากไปสอนลู ก ศิ ษ ย์ใ นส านั ก
ศึกษาแล้ว ก็รบั ผูกดวงงานมงคลสมรสอีกด้วย

สองวันก่อนแม่ทพั หัวเมืองเมืองเว่ยอันส่งใบสมรสมาให้
สองใบ ในนัน้ มี แต่ ชื่อและวันเดือนปี เกิด ส่ วนภูมิลาเนาบรรพ
บุรษุ ไม่มี ทว่าหยวนเจิ้งก็ไม่ลงั เลที่จะผูกดวงให้คนทัง้ สอง... ใน
เมื่อสวรรค์มีประสงค์ให้พวกเขาเป็ นสามีภรรยากัน

1
วันนี้ หยวนฮูหยินหยิบเอาใบวันเดือนปี เกิดสองแผ่นนัน้
ขึ้น มาดู นางอยู่ข้ างกายสามี มานาน อี กทัง้ สติ ปัญญาก็เฉี ยบ
แหลม ถึงจะไม่ได้เรียนลึกซึ้ง แต่กส็ ามารถเข้าใจได้บา้ ง

หยวนฮูหยินดูวนั เดือนปี เกิดของเซิ่นเจินจูกอ็ ุทานเสี ยง


ดัง “เอ๊ะ!” จากนัน้ ก็เอ่ยถามสามีที่นัง่ อยู่หน้ าโต๊ะเขียนหนังสือ
“ท่ า นพี่ ใบนี้ น่ าจะเป็ นวัน เกิ ด ของท่ า นแม่ ท ัพ หัว เมื อ งหรื อ
เปล่า? ดวงชะตานี้ น่าจะเขียนผิดหรือไม่?”

หยวนเจิ้ง หยุด พู่กนั ในมือ แล้ ว เสี ย บมัน ลงไปในกล่ อง


เก็บพู่กนั “ฮูหยิน เจ้าเห็นอะไรอย่างนัน้ หรือ?”

“ท่ านพี่ เซิ่นเจินจูเกิดในครอบครัวชาวนา แต่ ดวงชะตา


นี้ น่าจะไม่ใช่นะเจ้าคะ หากไม่ได้เขียนผิด ดวงชะตานี้ ต้องเป็ น
ของบุตรสาวเศรษฐี หรือไม่กบ็ ุตรสาวของขุนนางชัน้ ผู้ใหญ่ ที่ มี
ทัง้ เงิน อานาจ และชาติตระกูลดี บิดามารดาต้องเป็ นผู้สูงศักด์ ิ
นางก็ต้องสูงส่ ง แล้วเหตุใดคนมีดวงชะตาแบบนี้ ถึงมาเกิดใน
ครอบครัว ชาวนาได้ เ ล่ า ? หรื อ ว่ า คลอดออกมาแล้ ว ป้ อนแต่
อาหารดี ๆ ให้ ดุจดังคนมี พรสวรรค์ที่ดีและได้ รบั ความรักมา
ตลอดงัน้ หรือ”

2
หยวนเจิ้งเป็ นคนใจเย็นและสุขุม เมื่อได้ ยินคาพูดของ
ภรรยาเขาก็เ พี ย งส่ ง ยิ้ ม ให้ แล้ ว ถามต่ อ ว่ า “ฮูห ยิ น ดูอ ย่ า งไร
หรือ?”

หยวนฮูหยินคุ้นชินกับนิสัยของสามีดี นางจึงนัง่ ลงบนตัง่


กลมข้างๆ แล้วหยิบกระดาษมาขีดเขียน จากนัน้ ก็สดู ลมหายใจ
ลึก “ดวงชะตาของแม่นางท่านนี้ ดแู ล้ว... ตกฟากโฉ่ วพื้นดวงมี
เคราะห์กรรมที่ ยากจะหลุดพ้น น่ าจะเป็ นหญิงงามที่ ตายตัง้ แต่
อายุยงั น้ อย แต่ว่าช่วงเวลาโฉ่ วนัน้ ผ่านมาแล้ว...”

นางมองกระดาษที่ตนเขียนด้วยสีหน้ าฉงนสนเท่หอ์ ยู่ไม่


น้ อย ไม่รวู้ ่าครัง้ นี้ ตนคาดคะเนได้ถกู ต้องแม่นยาหรือไม่

“ถ้าเช่นนัน้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าหญิงผู้นี้มีเคราะห์อะไร?” สามี


ยังถามต่อ

หยวนฮูหยินขมวดคิ้วมุ่น นางไม่มีความเชี่ ยวชาญเท่ า


สามี แค่คาดคะเนก็ยากลาบากแล้ว จึงไตร่ตรองอยู่ครูห่ นึ่ งก่อน
เอ่ยต่ อ “ปี ตกฟากโฉ่ ว ดาวบิดามืดสลัว หญิงสาวอยู่บ้านบิดา
เกรงว่ าบิดานั น้ คงเดื อดร้อน ฐานะครอบครัวตกต่าอย่ างนั น้
หรือ?”

3
“มารดาของหญิงผูน้ ี้ เป็ นอย่างไร?”

“บุพเพสันนิวาสระหว่างมารดากับบุตรสาวช่ างตื้นเขิน
มารดาน่ าจะลาโลกไปตัง้ แต่นางยังแบเบาะ”

หยวนเจิ้ ง พยัก หน้ า นั บ ว่ า ภรรยาของเขาคิ ดอย่ า ง


ละเอี ยดใช้ ได้ เขาจึงพูดขึ้นทันที “หญิงผู้นี้ผ่านเคราะห์กรรม
มาแล้ว” พูดจบก็เริ่มหยิบพู่กนั ขึน้ มาใหม่

หยวนฮูหยินมองใบวันเดือนปี เกิดอี กครัง้ “ความหมาย


ของท่านพี่กค็ ือ ดวงชะตานี้ ไม่ได้เขียนผิดหรือเจ้าคะ?”

หยวนเจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ

ฮูหยินตกใจจนเอามือปิดปาก “มิน่าล่ะใต้ เท้ าเซี่ ยถึงไม่


ส่ ง ภูมิ ล าเนาบรรพบุรุษ สามรุ่น มา พิ ธี ม งคลสมรสก็ไ ม่ ไ ด้ จ ดั
ใหญ่ โ ต ตอนแรกเข้ าใจว่าใต้ เท้ าไม่พ อใจที่ จะแต่ งฮูหยินเสี ย
อี ก” นางหยิบเอาดวงชะตาวันเกิดของใต้ เท้ าเซี่ ยขึ้นมาดูบ้าง
“โอ้โฮ... นี่ รกั เมียหลงเมียมากเลยเชียว...”

นางเอาใบวัน เกิ ด ทัง้ สองแผ่น มาวางไว้ ด้ ว ยกัน แล้ ว ดู


ซ้ายทีดขู วาที

4
“ใต้เท้าเซี่ยนี่ นับว่าคลาทางอยู่ท่ามกลางความมืด เลือก
ของลา้ ค่าที่ ทาให้ตนต้องยุ่งยากใจ เขาปิดบังมาได้ตงั ้ นานโดย
ไม่มีคนรู้ ตอนที่เขาบอกว่าจะจัดงานมงคลข้าก็ยงั ตกตะลึงและ
แปลกใจ หากดูตามดวงชะตาของผู้หญิงคนนี้ แล้ว หากฐานะ
ครอบครัวไม่ตกตา่ แล้วละก็ เกรงว่าใต้เท้าเซี่ยคงเข้าไปถึงธรณี
ประตูไม่ ได้ แน่ นี่ คื อบุพ เพสันนิวาสจริง ๆ!” หยวนฮูหยินเอ่ ย
อย่างทอดถอนใจ

พลัน นางนึ กบางอย่ า งขึ้ น มาได้ สี ห น้ าบ่ ง บอกความ


ประหลาดใจอย่างยิ่ง จนอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามสามี “ท่ านพี่
ท่านคานวณฐานะของหญิงสูงศักด์ ิ ผนู้ ี้ ว่าอย่างไร?”

หยวนเจิ้งกาลังลอกภาพวาดตัวหนั งสื ออยู่ พอได้ยินจึง


ตอบว่ า “จะยากตรงไหน? หญิ ง ผู้นี้ ม ารดาจากไปตัง้ แต่ เ ด็ก
บิดาเป็ นห่วงนักหนา ดวงชะตาอยู่เหนื อผู้คนทัง้ ปวง หากไม่ใช่
สกุลท่านอ๋องก็ต้องเป็ นขุนนางขัน้ หนึ่ ง ช่วงที่เกิดเรื่อง นางต้อง
ร่อนเร่พเนจรมาอยู่เว่ยอัน ขอเพียงรู้ว่าปี ก่อนเมืองหลวงมีขนุ
นางใหญ่โตท่านใดถูกลงโทษโดยการเนรเทศก็ร้แู ล้ว” เขาหยุด
พักหนึ่ งก่อนกล่าวต่อ...

“ข้าจาได้ว่าปี ก่อนมีราชโองการประหารชีวิตขุนนางใหญ่
สองท่าน และเนรเทศครอบครัวอัครเสนาบดีถานเฉิงจี้ ถานเฉิง
5
จี้มีบุตรสาวสามคนบุตรชายหนึ่ งคน หนึ่ งในนัน้ เป็ นบุตรสาวที่
เกิดจากอดี ตภรรยา ตอนที่ เด็กหญิงอายุได้สามขวบมารดาก็
ป่ วยหนั กจนถึงแก่กรรม นับแล้วอายุราวยี่สิบปี สอดคล้องกับ
ดวงชะตานี้ พอดี...”

หยวนฮูหยินมองสามีตนเอง ใบหน้ าเผยความตื่ นตกใจ


“ใช่แล้ว ทาไมข้านึ กไม่ถึง ปี ที่ แล้วตระกูลถานถูกเนรเทศผ่าน
ทางเว่ยอัน ไอ้หยา! ฮูหยินใต้เท้าเซี่ยเป็ นถึงบุตรสาวของใต้เท้า
ถานเชียวหรือ? นัน่ คือบุตรสาวของอัครเสนาบดีเชียวนะ”

ไม่ร้วู ่าใต้เท้าเซี่ ยคิดอย่างไร เมื่อก่อนไม่คบผู้มีฐานะสูง


กว่า แต่พอจะคบ...ผู้มีฐานะสูงกลับเป็ นเชลย บอกไม่ได้ว่าครัง้
นี้ เ ขาจะขาดทุ น หรือได้ กาไร ทว่ าพอคิ ด อี กที หากนางงดงาม
เพริศพริ้งก็พอจะเข้าใจได้

“เรื่ อ งนี้ มี แ ค่ เ จ้ า กั บ ข้ า ที่ รู้ อย่ า ได้ ไ ปพู ด กั บ คนอื่ น


ไม่เช่นนัน้ จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา” หยวนเจิ้งเอ่ยโดยไม่ได้หนั
มองผู้เป็ นภรรยา ยังคงจดจ่อกับการเขียนอักษร “อี กสักพักก็
เอาวันเดือนปี เกิดไปเผาทิ้งซะ”

“เห็นข้าเป็ นคนไม่ร้หู นักเบาหรือไร?” ฮูหยินมองค้อนใส่


สามี ก่ อนจะพึมพาราวกับอิจฉาเล็กน้ อย “ลูกสาวใต้ เท้ าถาน
6
ช่ างมีชะตาชี วิตที่ ดีเหลือเกิน ตอนอยู่บ้านบิดาก็ทงั ้ รักทัง้ หลง
พอออกเรือนไปสามีกร็ กั ก็หลง เมื่อบุตรธิดาเติบโตก็กตัญญูรู้
คน ครอบครัวทัง้ คนแก่ทงั ้ เด็กล้วนห้อมล้อมนาง ชัวชี ่ วิตนี้ ช่าง
มีคนรักนางมากจริงๆ...”

แต่ ว่าต้ องผ่านความเป็ นความตายเสี ยก่อนถึงจะได้รบั


สิ่ ง เหล่ า นี้ ถ้ า ไม่ อ ย่ า งนั ้น วาสนาและโชคชะตาของนางก็น่ า
รันทดอย่างยิ่ง

ภายใต้ ก ารก ากับ ของหยวนเจิ้ ง หยวนฮู ห ยิ น จึ ง โยน


กระดาษวันเดือนปี เกิดเข้าไปในเตาไฟ เพียงไม่นานกระดาษก็
มอดไหม้กลายเป็ นเถ้าถ่าน

ปี ไท่สื่อที่สิบสอง เดือนสาม วันที่หก เป็ นวันแต่งงานของ


แม่ทพั หัวเมืองเซี่ยเฉิงจู่

เพราะพิธีมงคลสมรสจัดอย่างรีบร้อน หลายคนจึงเตรียม
ของขวัญกันไม่ทนั โชคดีที่ใต้เท้าเซี่ ยกาชับไว้ว่าไม่ต้องการให้
ใครส่งของขวัญมาให้ ปัญหานี้ กจ็ บไป

ตอนนี้ เ สบี ย งอาหารขาดแคลนอย่ า งหนั ก ผู้ลี้ ภ ยั นอก


เมืองกินอยู่อย่างอดๆ อยากๆ มื้อหนึ่ งได้กินหมันโถวแป้
่ งดา

7
หรื อ แป้ งปิ้ งก็ นั บ ว่ า ไม่ เ ลวแล้ ว กอปรกับ เป็ นช่ ว งท าการ
เพาะปลูกจึงจาเป็ นต้องใช้กาลังกายมาก เดิมที เสบียงอาหารก็
ไม่พอแจกจ่ายอยู่แล้ว หลายครอบครัวที่ ผ้ใู หญ่ ทางาน เด็กๆ
ในบ้านจึงมักจะขึน้ เขาไปหาของป่ า

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ งานมงคลสมรสของใต้เท้าเซี่ ย
ยิ่งไม่สามารถจัดใหญ่โตได้ โชคดีที่ฮหู ยินของใต้เท้ารู้และเข้าใจ
สถานการณ์ เ ป็ นอย่ างดี ยิ่ ง ถานหวันช
่ ิ ง เห็น คนนอกเมื องกิน
หมันโถวแข็
่ งๆ กับพืชผักที่ หามาได้อย่างยากลาบาก นางก็อด
ไม่ได้ที่จะสงสาร

ใต้ เ ท้ า เซี่ ย นั ง่ พูด คุย ถึ ง สถานการณ์ น อกเมื อ งกับ ถาน


่ ิ ง ซึ่ งหญิงสาวก็เข้าใจเป็ นอย่ างดี นางมอบทุกอย่ างให้
หวันช
ขึ้นอยู่กบั การตัดสินใจของเขา นางเข้าใจง่ายจนใต้เท้ าเซี่ ยทึ่ ง
ไม่น้อย ทัง้ ที่ เขาเตรียมพร้อมมาอย่างดีที่จะรองรับอารมณ์ ของ
นาง แค่นึกถึงงานแต่งที่ สะดวกและเรียบง่ายจนแทบไม่มีอะไร
เลย เขาก็คิ ด ว่ า น่ าจะท าให้ น างโกรธและมองตนอย่ า งดูถ กู
หรือไม่กแ็ อบร้องไห้เงียบๆ ยิ่งเวลานี้ นางกาลังตัง้ ครรภ์ด้วย

ทว่ า นางกลับ เข้ า ใจดี ทัง้ ยัง พูด จามี เ หตุ มี ผ ล ท าให้ ใ ต้
เท้าเซี่ยรูส้ ึกว่าตนติดค้างนางมาก เขาจึงกอดจูบว่าที่เจ้าสาวอยู่
เป็ นนานจึงได้ลุกขึน้ แล้วผละไป
8
ถึงพิธีแต่ งงานจะเรียบง่าย แต่ประเพณี ที่ควรมีกไ็ ม่ขาด
ตกบกพร่อง วันจัดงานมงคลสมรส จวนเจ้าเมืองล้วนประดับ
ประดาไปด้วยผ้าและกระดาษหลากสี ส ัน บรรดาพ่อค้ าได้ ยิน
ต่างก็รีบพากันมาอวยพร แต่กลับถูกสกัดกัน้ ไว้ที่หน้ าประตูค่าย

หากไม่นับลูกน้ องใต้เท้าเซี่ยที่ติดตามกันมาหลายปี งาน


เลี้ยงก็มีเพียงอวี้ฉีกบั สามีของนางซึ่ งถือว่าเป็ นญาติ และผู้คุ้ม
กันภัยสานั กหย่งเต๋อที่ ร่วมทางมาด้วยเท่ านัน้ พอรวมกันแล้ว
จัดได้สองโต๊ะ อาหารรสดีกบั สุราชัน้ เลิศล้วนวางไว้บนโต๊ะอย่าง
เพียบพร้อม ทุกคนต่างกินกันอย่างอิ่มหนาสาราญ บรรยากาศ
เต็มไปด้วยความสุขและความปลืม้ ปี ติยินดี

ยามปกติใต้เท้ าเซี่ ยมักจะไม่แสดงอารมณ์ ใดๆ ต่ อหน้ า


คนนอก แต่วนั นี้ กลับมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้ าตลอดเวลา
ยิ่งเมื่อได้ยินคาอวยพรให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง เขาก็ยิ่ง
ยิ้มกว้าง

เมื่อดื่มมาจนถึงช่วงสุดท้ าย ทุกคนค่อนข้างเมากันแล้ว
หวังจี้กห็ วั เราะเสี ยงดังกังวานพร้อมกับกล่าวว่า “ใต้ เท้ า วันนี้
เป็ นวัน มงคลของท่ า น ข้ า วก็ กิ นแล้ ว สุ ร ามงคลก็ ดื่ ม แล้ ว
สมควรแก่เวลาให้พวกเราได้ยลโฉมเจ้าสาวแล้วนะขอรับ? พิธี
แต่งงานต้องซ่อนคนไว้มิดชิดขนาดนี้ เลยหรือ?”
9
คนอื่นๆ พลอยหัวเราะตาม เห็นได้ว่าคนเหล่านี้ วางแผน
อยากก่อกวนห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่

ใต้ เท้ าเซี่ ยกระแอมคราหนึ่ ง ทว่าไม่ได้หกั หน้ าหวังจี้แต่


อย่างใด เขาเพียงหยุดครุ่นคิดเล็กน้ อย ก่อนหันไปสังบ่ ่ าวรับใช้
ข้างๆ

“ไปเรียกฮูหยินออกมาเถอะ”

่ ิ งเดินออกมา ห้ องโถงที่ มีเสี ยงดังอึ กทึ ก


เมื่อถานหวันช
ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นเสียงสูดลมหายใจ ทุกสายตาต่างจับจ้องมา
ที่ นาง มาถึงตอนนี้ แม้แต่เสียงของตะเกียบและจานชามก็ล้วน
เงียบลง

ฮูหยินของใต้ เท้ าเกล้าผมอย่างสบายๆ ตามแบบหญิง


สาวที่ แต่ งงานแล้ว บนร่างสวมใส่เสื้อตัวนอกที่ ทาจากผ้าอ่อน
นุ่มสีแดง ไม่ได้ปักเย็บลวดลายหรือเดินเส้นทอง แค่คาดสายรัด
เอวไว้เพียงหลวมๆ เท่านัน้ นอกจากนี้ กไ็ ม่มีเครื่องประดับอื่น
ใดอี ก ไม่มีปิ่นปั กผมที่ ทาจากเงินหรือทองประดับศี รษะ ไม่มี
กระทังมงกุ
่ ฎหงส์ครอบผ้าที่งดงามตระการตา

ช่างเรียบง่ายอย่างยิ่ง

10
แต่ว่าความเรียบง่ายนี้ เมื่อรวมกับดวงตาที่ เป็ นประกาย
และใบหน้ าแดงระเรือ่ ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงต่างรูส้ ึกว่า ชาตินี้
ของพวกเขาได้เห็นเจ้าสาวที่ไม่อาจลืมเลือนแล้ว ไม่จาเป็ นต้อง
มี สิ่ ง ของหรื อ เครื่ อ งประดับ มาช่ ว ยขับ เน้ น ให้ โ ดดเด่ น เพี ย ง
ท่ ว งท่ า การเคลื่ อ นไหวก็ง ดงามพิ สุ ท ธ์ ิ เหมื อ นนางก าลัง เดิ น
ออกมาจากภาพวาดแล้ว

ท้ ายที่ สุด ห้ องหอของบ่าวสาวก็ไม่ ได้ ถ กู ก่ อกวน ไม่ ใ ช่


เพราะสายตาเตือนอย่างรู้ทนั ของแม่ทพั หัวเมือง แต่เป็ นเพราะ
หญิงงามจนแทบใจหายใจควา่ ตรงหน้ าทาให้พวกเขาไม่อาจละ
สายตาได้ ไหนเลยจะมีจิตใจหยอกเย้าและเล่นสนุกอะไรอีก

ใต้ เท้ าเซี่ ยไม่ได้ตงั ้ ใจจะเชิญฮูหยินของตนออกมา ถาน


หวัน่ ชิ ง เองก็ไ ม่ ไ ด้ ว างแผนจะออกไปทัก ทายแขก ดัง นั ้น ถึ ง
มงกุฎหงส์ครอบผ้าจะงดงาม แต่กห็ นักมาก สาหรับคนตัง้ ครรภ์
แล้ ว ช่ า งน่ า อึ ด อัด ไม่ น้ อ ย ดัง นั น้ เมื่ อ ได้ ร บั ค าเชิ ญ ให้ อ อกมา
หญิงสาวจึงไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน จาต้ องสวมชุดตามสบาย
ออกมารับแขกเช่นนี้

ใครจะรูว้ ่าตอนที่นางกาลังนัง่ เอนกายอยู่บนเตียง

11
พลางกิ น เกาลัด หอมหวานซึ่ ง เพิ่ ง น าออกมาจากเตา
ร้อนๆ กับขนมหวานด้วยท่าทางเอ้อระเหย ก็มีเด็กรับใช้เข้ามา
บอกว่าใต้เท้าเชิญไปที่ห้องโถง

ถานหวันช ่ ิ งจึงต้องให้ลุ่ยจูหยิบเสื้อคลุมสีแดงเนื้ อเบามา


ให้สวม แม้แต่บนศีรษะก็ไม่ได้สวมมงกุฎหงส์ครอบผ้า หญิงสาว
รู้ดีว่าคนที่ ใต้เท้าเรียกนางไปพบ ต้องเป็ นคนที่ เขาพิจารณามา
อย่างละเอี ยดถี่ถ้วนแล้ว นางจึงไม่ได้มีท่าทางตื่ นเต้ น ขนมยัง
ไม่ทนั หมดปาก หญิงสาวก็มาถึงห้องโถงแล้ว

เมื่อช่วงเวลาแห่งความครืน้ เครงจบลง บ่าวก็เดินนาแขก


ที่ พกั ในจวนไปส่ งจนถึงห้ อง ส่ วนแขกที่ พกั ภายนอกก็จดั การ
ส่งกลับจนเรียบร้อย

ถานหวัน่ ชิ งรู้ สึ ก ร้ อ นจนเหงื่ อ ชุ่ ม ยัง ดี ที่ อ วี้ ฉี ให้ ลุ่ ย จู


เตรียมน้ าไว้ให้ นานแล้ว อดี ตเจ้าเมืองรักความสะดวกสบาย
ขนาดน้ ายังเป็ นน้ าพุที่ไหลลงมาจากบนภูเขา เพี ยงชิมแค่ อึก
เดียวก็รบั รูไ้ ด้ถึงรสหวานเต็มปาก หากว่าใช้น้านี้ ชาระร่างกายก็
ยิ่งผ่อนคลายสบายอารมณ์ หลังอาบน้าเสร็จจะรูส้ ึกว่าผิวพรรณ
เนี ยนละเอียดและนุ่มลื่น เป็ นน้าที่บารุงร่างกายได้ดียิ่ง

12
พอคิดถึงเรื่องนี้ ลุ่ยจูเองก็ยงั ทอดถอนใจ “คุณหนู ชาย
แดนเว่ ยอันนี้ ถึง จะยังไม่สมบูรณ์ พ ร้อม แต่ ว่ าน้ านี่ ดีมากเลย
ทีเดียว”

่ ิ งเอาผมยาวพาดไว้กบั ขอบอ่าง เพราะพืน้ ฐาน


ถานหวันช
่ ่ก็ต้องลุก
ร่างกายไม่ดีนางจึงไม่อาจแช่ ตวั ได้ นาน เพี ยงชัวครู
แล้ว หลังหญิงสาวส่งเสียงเรียกลุ่ยจูไปสองครังแต่
้ กย็ งั ไม่มีเสียง
ตอบรับ นางจึงได้แต่บน่ พึมพา

“เด็กคนนี้ ไม่ร้วู ่าวิ่งไปไหนอีกแล้ว ขนาดเสื้อเอี๊ ยมก็ไม่


เอามาส่งให้”

หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้ อยพลางลุกขึ้นจากอ่ างน้ า มือ


หนึ่ ง รวบผมยาวที่ เ ปี ยกชื้ น อี กมือพยายามใส่ ชุด ด้ ว ยตนเอง
เพราะเสื้ อเอี๊ ยมตัวเก่ าถูกสวมมาทัง้ วันจึงเปื้ อนเหงื่อ ไม่อาจ
สวมซ้า ถานหวันช ่ ิ งจึงตัดสินใจสวมเสื้อคลุมยาวสี แดงตัวนัน้
ออกมา

เสื้อคลุมนี้ เนื้ อผ้าอาจโปร่งบางไปบ้าง แต่ปกปิดร่างกาย


ได้ดี ถานหวันช่ ิ งแค่นเสี ยงเล็กน้ อยอย่างเคืองๆ คิดว่าให้ ตน
ออกไปก่อนแล้วค่อยคิดบัญชีกบั ลุ่ยจู

13
มื อ หนึ่ งรวบผมยาว อี ก มื อ ก็ส วมเสื้ อ มัน ช่ า งวุ่ น วาย
ยุ่งยากเสียจริง...

และนี่ เป็ นภาพที่ใต้เท้าเซี่ยได้เห็นตอนที่เดินเข้ามา

14
89 คุณหนูน้อย

ตอนที่เซี่ยเฉิงจู่เดินเข้ามานัน้ ลุ่ยจูไม่ได้อยู่ในห้อง

พอเขาช้อนตามองก็เห็นฉากที่ทาให้ลิ้นแห้งผากไปทันที

ผ้าแพรต่ วนสี แดงมันวาวคล้ายเรืองแสงเล็กน้ อยดูอ่อน


นุ่ มแนบไปกับผิวเนื้ อนวลเนี ยน เส้ นผมเปี ยกลู่ยาวสยายราว
น้าตกถูกรวบไว้ข้างไหล่ขาวผ่อง

เจ้าของเรือนร่างบอบบางที่ ยืนอยู่ตรงหน้ ากาลังใช้ มือ


เพียงข้างเดียวสวมเสื้อคลุ ม แต่ เพราะผ้าแพรต่ วนนัน้ ลื่นมาก
พอดึงด้านซ้ายขึ้นได้ ทางด้านขวาก็เลื่อนลง แต่พอดึงด้านขวา
ทางด้านซ้ายก็ลื่นหลุดจากบ่าเสียอย่างนัน้

เพราะนางยัง สวมใส่ เ สื้ อ ผ้า ไม่ เ รี ย บร้ อ ยจึ ง เผยให้ เ ห็น


ความขาวบาดตา เสื้อผ้าโปร่งบางสี แดงชวนให้ คนมึนเมายิ่ง
กว่าสุรารสแรงเสี ยอี ก เนื้ อตัวชายหนุ่ มเริ่มร้อนผะผ่าว สติไม่
ค่อยอยู่กบั เนื้ อกับตัวนัก

1
่ ิ ง พอนางได้ยินเสียงฝี เท้าก็รีบเงยหน้ าขึน้
ส่วนถานหวันช
เมื่อสบเข้ากับดวงตาที่ เต็มไปด้วยความปรารถนา สี หน้ าหญิง
สาวก็ค่อยๆ แดงระเรือ่ ขึน้ มา

เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เซี่ ยเฉิงจู่ก็


อดไม่ไหวที่ จะเดินไปหาพลางดึงเชือกรัดเอวและเสื้อผ้าช่วงบน
ของตนออก แล้วห่อร่างงดงามเอาไว้อย่างพยายามหักห้ามใจ

ลุ่ยจูเพิ่งคิดได้ว่าไม่ได้นาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปให้คณ ุ หนู นาง


จึงเอามือตี หน้ าผากตัวเองไปหนึ่ งที หลังจากย้ายที่ อยู่กร็ ้สู ึกยัง
ไม่ค่อยคุ้นชินกับที่ใหม่นัก ทาสิ่งใดยังดูติดขัดอยู่ พอนึ กได้ เด็ก
สาวก็รี บ หยิ บ เสื้ อ ผ้ า ของเจ้ า นายก่ อ นจะมุ่ ง ตรงไปยัง ห้ อ ง
อาบน้ า ทว่ายิ่งก้าวเท้าเข้าไปใกล้ห้องอาบน้ ามากเท่ าไร เสี ยง
สนทนาจากด้านในก็ยิ่งชัดเจน

“ท่ านมาห่อข้าไว้ทาไม? ตัวท่ านร้อนมาก อย่ามาทาให้


ข้าร้อนตามไปด้วยนะ” น้าเสียงนัน้ ช่างนุ่มนวลเป็ นที่สดุ

“อย่าขยับ ข้ากลัวว่าเจ้าจะล้ม” น้าเสียงใต้เท้ายังคงสุขมุ


ดังเช่นปกติ

“...ไม่เอา ข้าอาบน้าเสร็จแล้ว”

2
“เด็กดี ฟังนะ อาบอีกรอบเถอะ...”

“ท่านอย่าอุ้มอย่างนี้ สิ ประเดี๋ยวข้าตก”

“ถ้าเช่นนัน้ เจ้าก็กอดคอข้าแน่ นๆ...”

เสี ยงที่ แว่วมาทาให้หวั ใจของคนที่ ได้ยินเต้นโครมคราม


ใบหน้ าแดงกา่ ลามไปถึงใบหู

จากนั น้ ก็ได้ยินเสี ยงคุณหนูร้อง “อื้อ” คราหนึ่ ง ตามมา


ด้วยเสี ยงหายใจหอบถี่ จากนัน้ เสียงก็ดงั อย่างต่อเนื่ อง “อย่า...
ข้า... ข้าตัง้ ครรภ์อยู่นะ...”

น้ าเสี ยงแหบพร่าของใต้ เท้ าเซี่ ยเงี ยบไป ก่ อนจะได้ ยิน


เสียงคารามอย่างพยายามอดกลัน้ “ได้... ข้ายังไม่ขยับ ข้าขอจูบ
นิดเดี ยว เด็กดี ... ผ่อนคลายนะ ให้ข้าจูบหน่ อย... แค่นิดเดี ยว
...”

ลุ่ยจูกอดเสื้อผ้าวิ่งหนี เตลิดไปพร้อมใบหน้ าแดงฉาน

หลังจากแต่งงานแม่ทพั หัวเมืองก็ยิ่งทางานหนักเพิ่มขึน้

3
พอกาแพงเมืองเว่ยอันก่อสร้างเสร็จ ก็ยงั ต้ องขุดคูเมือง
ตัง้ ป้ อมปราการและโยกย้ายกาลังพลเพื่ อไปรักษาการณ์ ใน
ระยะเวลาอันสัน้ เมืองเว่ยอันราวกับเป็ นเมืองที่ ห้มุ ด้วยเกราะ
เหล็ก ไม่อาจโจมตีได้ง่ายๆ อีกแล้ว

ในที่ สุ ด การหัก ร้ า งถางพงนอกเมื อ ง กับ สร้ า งถนนใน


เมืองก็ดาเนินการมาถึงช่วงสุดท้าย ทว่าใต้เท้าเซี่ ยที่ เพิ่งจะเริ่ม
หายใจได้คล่องกลับได้รบั จดหมายเร่งด่วน

ด่ า นชายแดนหลูอ ัน กับ เมื อ งเปาเฟิ งของแคว้ น อี้ ถ กู ตี


แตก ตอนนี้ กองทัพของพวกต๋าปั กหลักมันอยู ่ ่ในพื้นที่ หากไม่
สามารถแย่ ง สองเมื อ งนี้ กลับ มาได้ โ ดยเร็ว และไล่ พ วกต๋ า
ออกไป เกรงว่าอีกไม่นานพอกาลังเสริมของพวกมันมาทัน การ
จะชิง เมื อ งคื น ก็ย ากแล้ ว ซ้าร้ายก้ าวต่ อไปพวกมัน อาจจะพา
กองทัพบุกเข้าเมืองหลวงก็เป็ นได้

เนื่ องจากกองทัพหลวงอยู่ไกล คงไม่อาจเคลื่อนทัพมา


ช่วยได้ทนั อี กทัง้ หากยังรัง้ รอต่ อไปก็เกรงว่าพวกต๋าจะทาการ
โจมตีเมืองอื่นๆ เพิ่ม ทางราชสานักจึงส่งหนังสือเร่งด่วนมาเพื่อ
ระดมกาลังทหารม้าจากเมืองต่างๆ ในเวลากระชัน้ ชิด ทว่าการ
ศึ ก ครัง้ นี้ ก ลับ ไร้ ผู้น า หากไม่ มี แ ม่ ท ัพ น าก าลัง พลทัง้ หมด ก็
เท่ากับการรบไร้ประสิทธิภาพแล้ว
4
่ เ ซี่ ย เฉิงจู่แม่ ทพั หัวเมื องเมือง
ในจดหมายจึง มี คาสังให้
เว่ยอันเป็ นผู้บญ ั ชาการโดยตรง รัง้ ตาแหน่ งแม่ทพั ใหญ่ ในศึก
ครัง้ นี้ เนื้ อความในจดหมายยังรับปากด้วยว่า หากชนะศึกครา
นี้ แล้วเขาจะได้รบั การปูนบาเหน็จรางวัลมากมาย

หลังจากที่ ใต้ เท้ าอ่ านจดหมายจบ หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหา


กัน อยู่ พ ัก ใหญ่ อี ก สองเดื อ นภรรยาของเขาก็จ ะคลอดแล้ ว
ผลตอบแทนคุณงามความดีที่ระบุไว้ในจดหมายนัน้ ไม่เลว แต่ก็
ต้ อ งเอาชี วิ ต เข้ า แลก ซึ่ ง เขารู้ว่ า มัน เป็ นเรื่ อ งล่ อ แหลมและ
อันตรายยิ่ง ไม่ร้วู ่าจะรอดชี วิตกลับมาเห็นหน้ าภรรยาและลูก
น้ อยของตนหรือไม่ แต่ ถึงอย่างไรคาสังทางทหารก็ ่ ไม่อาจฝ่ า
ฝื นได้

แม่ ท ัพ หัว เมื อ งเซี่ ย เฉิ งจู่ส ัง่ ระดมพลจัด ทัพ ด้ ว ยสี ห น้ า
หนั ก อึ้ ง ในใจวิ ต กกัง วลไม่ ค ลาย เมื่ อ กองทัพ เตรี ย มพร้ อ ม
อาวุธยุทโธปกรณ์ ล้วนครบครันทัง้ เสื้อเกราะและหมวกเหล็ก
ชายหนุ่ มยังไม่ทนั ได้ ส งลาภรรยาตนเองก็
ั่ ต้องรี บนาทัพ ออก
จากเมืองเว่ยอัน

่ ิ งรู้ข่าวก็คา่ มืด แล้ ว เป็ นครัง้ แรกหลัง


ตอนที่ ถานหวันช
แต่งงานที่ ต้องนอนเดียวดายอยู่บนเตี ยงเพียงลาพัง นางจึงอด

5
ร้องไห้ออกมาไม่ได้ ทว่าหญิงสาวก็รีบปลุกเร้าให้กาลังใจตัวเอง
อย่างรวดเร็ว

นางรู้ตวั ว่าการจะคลอดครรภ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คนในจวน


จึงหาของลา้ ค่ามาให้บารุงร่างกายไม่เคยขาด แม้ใต้ เท้ าจะนา
ก าลัง พลไปออกรบแต่ ก็ย งั สัง่ ลู ก น้ องว่ า ต้ อ งดูแ ลครรภ์ข อง
ภรรยาของเขาให้ปลอดภัย ใต้เท้าให้ความสาคัญกับฮูหยินมาก
ทุกๆ วันแต่ ละคนจะปรนนิบัติกบั ฮูหยินด้วยความระมัดระวัง
และใส่ ใจอย่ างยิ่ง ทัง้ แม่นม หมอตาแยและหมอหญิงก็ถกู ใต้
เท้ า เชิ ญ มาที่ จ วนอย่ า งเสร็จ สรรพ ทุ ก อย่ า งเตรี ย มพร้ อ มไว้
เรียบร้อยทัง้ หมดแล้ว

การมี เ ด็กคนหนึ่ ง ในท้ อง ท าให้ ถ านหวันช ่ ิ ง กิน อาหาร


ได้มากขึน้ พอเห็นของบารุงแต่ละอย่างก็น้าลายสอแล้ว แต่นาง
รู้ว่าหากบารุงร่างกายมากจนเกินไปก็อาจจะคลอดลูกยาก จึง
พยายามควบคุม ปริ ม าณอาหารของตัว เอง น้ า แกงบ ารุง ซด
เพี ย งถ้ ว ยเล็ก ๆ ของบ ารุง ก็ไ ม่ ก ล้ า กิ น มาก ทุ ก ครัง้ เพี ย งกิ น
อย่ า งละนิ ดอย่ า งละหน่ อยเพื่ อ ให้ ม ั น่ ใจว่ า ตนเองได้ ร ั บ
สารอาหารเพียงพอ โชคดีที่ลูกน้ อยในท้ องถึงจะดื้อไปบ้าง ทัง้
กาปั น้ ทัง้ เท้ าชอบถีบไปมา แต่ยงั ดีที่เจ้าตัวเล็กไม่เลือกกิน คน
เป็ นแม่จึงกินอาหารได้อย่างสบายใจ ไร้การก่อกวนจากลูกน้ อย

6
ช่วงใกล้จะคลอด ทุกวันถานหวันช ่ ิ งได้แต่ชะเง้อมองไปที่
หน้ าประตูและเฝ้ ารอ ทว่าข่าวแห่งชัยชนะก็ยงั ไม่มาสักที ส่วน
คนก็ย งั ไม่ ก ลับ หญิ ง สาวมัก จะฝั น ร้ า ยจนตกใจตื่ น กลางดึ ก
เสมอ การฝั นว่าได้ข่าวเซี่ ยเฉิงจู่ตายในสนามรบ ยิ่งทาให้ นาง
นอนไม่หลับ ในสมองก็คิดเพียงว่า หากเขาไม่สูญเสียพลังมาให้
นางครึ่งหนึ่ งก็คงจะรบจบไปนานแล้ว บางที อาจจะกลับมาได้
เร็วกว่านี้ บางที...

แม้ ว่ า นางจะพยายามควบคุม ความคิ ด เหลวไหล แต่


เพราะภาวะตัง้ ครรภ์ทาให้อดฟุ้งซ่านไม่ได้ ดังนัน้ ถึงจะระวังมาก
เพียงใด สุดท้ายนางก็ยงั คลอดก่อนกาหนด

ใต้เท้าเซี่ยเร่งเดินทางกลับจนแทบไม่ได้หยุดพัก

เขาพากองทัพโผนทะยานเข้ามาในเมือง แม้กระทังชุ ่ ด
เกราะกับหมวกเหล็กที่ มีฝนเกาะเต็
ุ่ มมาตลอดทางก็ยงั ไม่ถอด
ออก ผมชื้นเหงื่อจนเปี ยกเหนี ยว ยังไม่ถึงสองเดือน ทว่าหนวด
เคราใต้ คางกลับเขียวครึ้ม ใบหน้ าซี ดเผือดเหมือนคนร้อนรน
กระวนกระวาย

เซี่ ย เฉิ งจู่ม าถึ ง ก็ต รงไปที่ จ วนทัน ที พอหมอต าแยรู้ว่ า


ท่ านแม่ ท ัพ หัว เมืองกลับมาแล้ ว ก็รีบ วิ่ ง ออกมาแจ้ ง ว่ าฮูหยิน
7
และเด็กในครรภ์ท่าจะไม่ไหวแล้ว หากเลือกเก็บเด็กไว้ อีกหนึ่ ง
ชีวิตอาจจะ... พอใต้เท้าเซี่ยได้ยินดังนัน้ ขอบตาพลันแดงกา่ เขา
กาหมัดแน่ นแล้วหันไปชกกาแพงอย่างแรงจนเลือดไหลย้อยดู
น่ าสยดสยอง

หมอตาแยรีบวิ่งแจ้นกลับไปในห้องคลอดโดยพลัน

“ช่องคลอดเพิ่งเปิดได้สองชุ่น จะทาอย่างไรดีเล่า”

ลุ่ยจูได้ฟังหมอตาแยพูดก็แทบสลบ

“เร็ว! ให้ฮหู ยินของเจ้ากินน้าแกงโสมเข้าไป...”

ถึงหมอตาแยทัง้ สองจะมีประสบการณ์ การทาคลอดมา


มาก แต่เวลานี้ กย็ ุ่งจนทาอะไรไม่ถกู เหงื่อเย็นไหลจนชุ่มหัว ยิ่ง
นานไปฮูหยินก็จะยิ่งคลอดยากเพราะเสี ยเลือดมาก หากเป็ น
เช่ นนั น้ จริงๆ...กลัวแต่ ใต้ เท้ าพญายมเซี่ ยเฉิงจู่จะเด็ดหัวพวก
นางให้ตายตามฮูหยินไปด้วยแน่ พวกนางพักอาศัยอยู่ในจวนนี้
มาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ละเดือนจะได้รบั เงินมากกว่าปกติถึง
สองเท่า หากว่าเกิดความผิดพลาดแล้วละก็...

8
สองหมอต าแยมองหน้ า กัน แวบหนึ่ ง ต่ า งเห็น แววตา
หวาดกลัวของอี กฝ่ าย พวกนางสันผวาพร้
่ อมกันโดยมิได้ นั ด
หมาย

ลุ่ยจูเองก็ตกใจจนมือไม้อ่อน นางเดินพล่านไปทัวห้ ่ อง
พอได้ยินหมอตาแยบอกก็รีบไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างคุณหนู แค่
เห็นสีหน้ าคุณหนูขาวซีด เหงื่อเปี ยกชุ่มศีรษะ แม้แต่เสียงร้องก็
ยังไม่มี ดูท่าทางเหมือนจะไม่ไหวแล้ว เด็กสาวก็น้าตาไหลพราก
ตอนนี้ อ วี้ ฉี ก บั สามี ก ลับ เมื อ งหลวงไปแล้ ว บุค คลส าคั ญ ของ
คุณหนูอย่างใต้เท้าเซี่ยก็ยงั ไม่ได้พบกัน

ลุ่ย จูร้ อ งไห้ พ ลางส่ ง มื อ สัน่ ๆ ป้ อนน้ า แกงโสมเข้ า ปาก


คุณหนู ของตน จากนั น้ ก็วางแผ่นโสมบางๆ ไว้ในปากของอี ก
ฝ่ ายด้วย

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ท่านต้องยืนหยัดให้ได้นะ คนข้าง


นอกบอกว่าใต้เท้า...ใต้เท้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ พอใต้เท้ากลับมา
ก็รี บ มาดูคุณ หนู ทัน ที แล้ ว ยัง สัง่ ให้ ป กป้ องคุณ หนู ก บั คุณ หนู
น้ อ ยด้ ว ย คุณ หนู เ จ้ า คะ คุณ หนู ต้ อ งสู้ พอใต้ เ ท้ า กลับ มา ทุ ก
อย่างก็จะดีแล้ว หากว่าท่านไม่สู้ ต่อไปลุ่ยจูกต็ ้องเรียกผูอ้ ื่นเป็ น
เจ้านายนะเจ้าคะ ต่ อไปใต้ เท้ าก็จะแต่ งคนอื่นเป็ นภรรยา และ

9
ต่ อ ไปคุณ หนู น้ อ ยก็จ ะไม่ มี ม ารดาผู้ใ ห้ ก าเนิ ดเหมื อ นคุณ หนู
จาต้องเรียกคนอื่นว่ามารดาตัง้ แต่เด็กนะเจ้าคะ...”

ไม่ รู้ว่ า น้ า แกงโสมเสริ ม พลัง หรือ แผ่น โสมบางที่ ท าให้


สมองปลอดโปร่ง หรือเพราะถูกคาพูดของลุ่ยจูดึงสติกลับมา ใน
ที่สดุ ถานหวันช ่ ิ งก็ฟื้นจากเมื่อครูท่ ี่เจ็บปวดจนทนไม่ไหวจึงสลบ
ไป

่ ิ งค่อนข้างโกรธ นางเกิด
คาพูดของลุ่ยจูทาให้ถานหวันช
แรงฮึด พยายามรวบรวมแรงกาลังทัง้ หมด

“ช่องคลอดเปิดแล้ว ไอ้หยา เปิดแล้ว ในที่ สุดก็เปิดแล้ว”


หมอตาแยทัง้ สองร้องเสียงดังด้วยความดีใจ หนึ่ งในนัน้ รีบบอก
ว่า “ฮูหยินออกแรงอีกนิด ออกแรงอีกครัง้ ช่องคลอดเปิดแล้ว
คุณหนูน้อยอยากออกมาแล้ว ขอเพียงฮูหยินออกแรงหน่ อยก็
จะเห็นคุณหนูน้อยแล้วเจ้าค่ะ...” อีกคนก็รีบยกมือขึน้ เตรียมรอ
ท่า

ถานหวัน่ ชิ ง ไม่ รู้ว่ า ท าไมตนเองถึ ง ได้ ฮึ ด สู้ ขึ้ น มา นาง


ไม่ได้ยินเสี ยงอะไรเลย ในหูอื้ออึงไปหมด ได้ยินแต่ เพียง ออก
แรง! ออกแรงหน่ อย! ยามนี้ ร่างกายนางเจ็บปวดเหมือนตาย
แล้วเกิดใหม่ แต่ นางก็ร้เู ช่ นกันว่าเวลานี้ ไม่มีใครที่ ช่วยตนได้
10
ทาได้ เพี ยงออกแรงทัวทั
่ ง้ ร่างไปพร้อมกับเสี ยงออกแรง! แรง
อี ก! ถึงนางจะปวดแทบตาย ถึงสุดท้ ายเรี่ยวแรงจะเหลือเพียง
เศษเสี้ยว ทว่าในที่สุดก็ร้สู ึกได้ถึงเสียงตื่นเต้นยินดีจากคนรอบ
ข้างดังแว่วเข้ามา หลังจากนัน้ หญิงสาวก็หมดแรงสลบไป

“ยินดีกบั ใต้เท้าด้วยเจ้าค่ะ ทัง้ มารดาและบุตรปลอดภัย


ฮูหยินคลอดคุณชายน้ อยเจ้าค่ะ”

ใต้ เท้ าเซี่ ยที่ อยู่นอกประตูได้ยินเสี ยงหมอตาแย ก็จ้อง


มองอีกฝ่ ายตาไม่กะพริบ

“นางไม่ เ ป็ นไรจริ ง ๆ ใช่ ไ หม?” เมื่ อ ครู่เ ขาเห็น อ่ า งน้ า


ผสมเลื อ ดที่ บ่ า วถื อ ออกมาจากห้ อ งคลอด จึ ง เอ่ ย ถามด้ ว ย
น้าเสียงสันเทา

“ฮูหยินไม่เป็ นอะไรจริงๆ เจ้าค่ะ นางเพียงแค่หมดแรงจึง


หลับไป เกรงว่าคงยังไม่ตื่นตอนนี้ ใต้ เท้ าเจ้าคะ นี่ คือคุณชาย
น้ อย หน้ าตาหล่อเหลามากเลยเจ้าค่ะ” กล่าวจบ หมอตาแยก็ส่ง
เด็กทารกที่อ้มุ อยู่ในอ้อมแขนให้ผเู้ ป็ นบิดา

11
เซี่ ยเฉิงจู่ยื่นมือที่ ยงั มีเลือดไหลอยู่ไปรับเจ้าหนูตวั เล็กๆ
มาโอบอุ้มไว้ในอ้อมแขน สายตาทอดมองเด็กทารกร่างเล็กจ้อย
ที่มีผิวแดงทัง้ ตัว

่ ิ่ น ซึ่ งยืน สงบนิ่งอยู่ข้างใต้ เท้ ามาตลอด เห็น มื อใต้


จัวเว
่ ิ้ มเป็ นครัง้ แรก มือทัง้ สองกาลังประคองเด็กน้ อยที่ มี
เท้ าสันเท
ปากเล็กกระจิริด เปลือกตายังปิดสนิท ทันใดนั น้ ในดวงตาใต้
เท้าก็มีหยดน้าพราวพร่างเป็ นประกาย

นัน่ คือน้าตาลูกผูช้ าย...

สามปี ผ่านไป

ยามฟ้ าสางในฤดูรอ้ น แสงอรุโณทัยเริ่มมาเยือน ดวงดาว


ยัง คงสว่ า งเต็ม ท้ อ งฟ้ า เพี ย งเลิ ก ม่ า นหน้ า ต่ า งออกก็จ ะเห็น
หมอกขาวแผ่คลุมบางเบาอยู่ด้านนอก สายหมอกลอยอ้อยอิ่ง
อยู่เหนื อลานบ้าน ต้นไม้ ภูเขาจาลอง และทางเดินหินที่เห็นเป็ น
เงาตะคุ่ม

ผ้ า ม่ า นทัง้ สี่ ด้ า นคลุ ม ปิ ดรอบเตี ย ง ชายหนุ่ มรู ป ร่ า ง


แข็งแกร่งใช้แขนของตัวเองโอบหญิงสาวบอบบางที่ กาลังนอน
หลับไว้ในอ้อมกอด ผมดาขลับถูกรวบไว้ด้านหนึ่ ง ผ้าไหมเย็น

12
ลื่ น คลุ ม มาถึ ง หน้ าอก เผยให้ เ ห็น ผิ ว ของหญิ ง สาวที่ ข าวดุ จ
น้ านม และยิ่งขับผิวสี เข้มของคนด้านหลังให้ เด่นชัดเมื่อแนบ
ชิดกัน

ไม่ร้วู ่านานเท่าไร เมื่อคนข้างหลังตื่นขึ้นมาก็ก้มหน้ าลง


แนบแก้มกับแก้มหญิงสาวด้วยความเคยชิน ทัง้ สองแลกจุมพิต
แผ่วเบาอย่างลึกซึ้ง

ผิวพรรณของคนในอ้อมแขนนัน้ ขาวราวหิมะจึงมักจะมี
รอยได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเขาควบคุมแรงปรารถนาไม่ไหว ซึ่ง
เกิด ขึ้น อยู่บ่อยครัง้ เปลื อกตาของนางยังปิดสนิท ทว่ า จิต ใต้
สานึ กรับรู้ได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาราวปี กผีเสื้อสลับกับการขบกัด
เบาๆ ที่ ริมฝี ปากจึงตอบรับกลับไป นางค่อยๆ เปิดเปลือกตา
อย่างสะลึมสะลือแล้วหลับต่อ จาได้ว่ามีคนคลุมผ้าห่มให้ ได้ยิน
เสี ยงเสี ยดสี จากการสวมใส่ เสื้อผ้าตามมาด้วยเสี ยงฝี เท้ าก้ าว
เดินแว่วมา จวบจนดวงอาทิตย์ขึ้นสูง หญิงสาวก็ถกู ความร้อน
อบอ้าวในห้องปลุกให้ตื่นขึน้ มาอีกครัง้

13
90 ครอบครัว

ลุ่ยจูจากเด็กสาววัยสิบห้าก็เติบโตเป็ นสาวเต็มตัว

นางมี ค วามสุขุมเยื อกเย็น มากขึ้น ปั จจุบ นั ยัง รับ ใช้ อยู่


ข้างกายท่านแม่ทพั กับฮูหยิน มีเด็กรับใช้ในความดูแลราวสาม
สี่คน

ทันทีที่เห็นแสงอาทิตย์สาดส่อง ลุ่ยจูกบั เด็กรับใช้กร็ ีบเร่ง


มือทางาน นางสังห้ ่ องครัวให้เตรียมผักชิ้นเล็กเย็นชุ่มคอกับนม
แพะแช่ น้ าแข็ง จากนั น้ จึงให้ สาวใช้ หยิบตะกร้า เดินเข้าไปใน
อุโมงค์น้ าแข็งข้างจวน ด้านในมีก้อนน้าแข็งที่ เตรียมไว้จากฤดู
หนาวปี ที่ แล้ว แต่ ละก้อนมีขนาดใหญ่เล็กไม่เท่ ากัน มี ทงั ้ เป็ น
ก้อนน้าแข็งและเส้นน้าแข็งเพื่อให้สะดวกต่อการใช้สอย

พอเข้าไปลุ่ยจูกถ็ ึงกับตัวสันด้
่ วยความหนาว นางรีบให้
คนหยิบก้อนน้าแข็งใส่ให้เต็มตะกร้า จากนัน้ ก็ปิดประตูอโุ มงค์

ฤดูคิมหันต์ปีนี้ อากาศร้อนมาก ถานหวันช


่ ิ งจึงไม่ค่อยสบ
อารมณ์ นัก เพราะร่างกายของนางไม่ทนทานทัง้ ต่อความหนาว
เย็นและความร้อน หากหนาวเกินนางก็นอนไม่หลับ หากร้อน

1
มากไปร่างกายก็ไม่มีแรง นอนไม่หลับเช่นกัน ช่างทรมานเสี ย
จริง

เช้าวันนี้ นางตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อท่วมกายจนเหนี ยวตัว


กระทังได้
่ แช่ตวั อาบน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าจึงรูส้ ึกสดชื่นสบายขึน้
มาก

ตอนที่ ลุ่ยจูให้ คนเอาถาดน้ าแข็งมาวางไว้ในห้ องสี่ ที่ ก็


เห็นถานหวันช ่ ิ งกาลังนอนตะแคงเท้าศอกอยู่บนเตียง เนื้ อผ้าที่
ฮูหยินสวมใส่นัน้ บางเบาเป็ นที่สุด กระโปรงอ่อนนุ่มสีไข่มุก ขับ
เน้ นเส้นผมยาวสลวยดาขลับกับผิวนุ่มขาวราวหิมะให้โดดเด่น
ยิ่งขึ้น แขนเสื้อนางร่นลงมา เผยให้เห็นลาแขนวับๆ แวมๆ ที่
ปรากฏรอยนิ้วของใต้เท้าประทับไว้อย่างเด่นชัด

ใต้เท้ามักจะเหลือทิ้งรอยไว้ตามตัวคุณหนูเสมอ...วันนี้ ที่
ลาคอก็มี ลุ่ยจูเริ่มหน้ าแดง ทัง้ ที่เห็นมามากจนน่ าจะคุ้นชินนาน
แล้ว

ใต้ เท้ าเซี่ ยทัง้ รักทัง้ หลงคุณหนู หลังจากที่ แต่ งงานแล้ว


นับวันคุณหนูกย็ ิ่ งงดงามนัก

2
“ฮูหยิน ข้าให้ห้องครัวเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว
เจ้าค่ะ มีโจ๊กกับผักเคียง กินแล้วสดชื่นมากนะเจ้าคะ ฮูหยินกิน
สักหน่ อยเถอะ”

่ ิ งส่ ายหน้ า “กินไม่ลง ตอนเที่ ยงค่อยกินแล้ว


ถานหวันช
กัน”

ลุ่ยจูร้วู ่าคุณหนูร้อนจนราคาญ แต่ ยงั อดไม่ได้ที่จะเซ้ าซี้


ต่ อ “ถึงจะไม่หิวแต่ กินสักนิดก็ยงั ดี นะเจ้าคะ ไม่อย่างนั น้ ท่ าน
แม่ทพั กลับมาต้ องชักสี หน้ าทาตาขวางใส่ ข้าแน่ ” นางรีบโน้ ม
น้ าวต่ อ “มี น้ า นมแช่ น้ า แข็ง ด้ ว ยนะเจ้ า คะ มี เ นื้ อผลไม้ ส ด
ลอยหน้ า รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยสดชื่ นมากเลย ข้าจะ
ไปยกมาให้ฮหู ยินนะเจ้าคะ...”

แต่ก่อนตอนที่ล่ยุ จูเรียกนางว่าคุณหนูนัน้ ช่างเชื่อฟั งเป็ น


ที่ สุด ทว่าตัง้ แต่ เรียกนางว่าฮูหยินก็เปลี่ ยนไป การพูดการจา
เหมื อ นกับ ใต้ เ ท้ า เซี่ ย เรี ย กได้ ว่ า เลี ย นแบบกัน ออกมาเลย
ทีเดียว อ้อไม่สิ...ตอนนี้ เป็ นแม่ทพั ใหญ่เซี่ยแล้ว

เมื่ อ สามปี ก่ อ นเซี่ ย เฉิ งจู่ ร บชนะข้ า ศึ ก จึ ง ได้ เ ลื่ อ น


ตาแหน่ งจากแม่ทพั หัวเมืองเป็ นรองแม่ทพั ใหญ่ ตลอดสองปี มา
นี้ เ ขามี ค วามดี ค วามชอบในการสู้ ร บติ ด ต่ อ กัน อี ก หลายครัง้
3
มาถึงตอนนี้ จึงดารงตาแหน่ งแม่ทพั ใหญ่ แล้วย้ายบ้านมาอยู่ที่
จวนแม่ทพั ในเมืองอี้โจว

ในเมืองนี้ มีจวนแม่ทพั อยู่หลายแห่ง แต่ละจวนล้วนสร้าง


ใกล้ ๆ กัน จวนที่ แม่ทพั ใหญ่ เซี่ ยอยู่นัน้ ขนาบข้ างทัง้ ซ้ ายและ
ขวาด้วยจวนของแม่ทพั ท่านอื่น ทาให้บรรดาแม่ทพั สะดวกต่ อ
การแลกเปลี่ยนความรูซ้ ึ่งกันและกัน

โชคดี ที่ทุกคนล้วนเป็ นผู้ที่ได้รบั การเลื่อนตาแหน่ งของ


เมืองอี้ โจว ไม่มีผ้ใู ดมาจากเมืองหลวง จึงไม่มีใครรู้ฐานะและ
อดีตของนาง ไม่เช่นนัน้ แล้วถานหวันช ่ ิ งก็ไม่ร้วู ่าจะต้ องรับมือ
กับสถานการณ์อย่างไร

เพราะถานหวันช่ ิ งกาลังจิตใจล่องลอย จึงได้แต่พยักหน้ า


่ ิ บตาน้ านมแพะแช่ เย็นก็ถกู ส่ งมาตรงหน้ า นาง
ให้ เพี ยงชัวพร
รับมาดื่มได้คาหนึ่ งแล้วนึ กบางอย่างได้

“เชียนเอ๋อล่ะ?”

ปกติเจ้าตัวเล็กจะวิ่งปรูด๊ เข้ามาแล้วนี่ นา และมักจะถูก


ลุ่ยจูขวางเอาไว้หลายต่อหลายครัง้ ทว่าวันนี้ กลับไม่เห็นแม้เงา

4
“คุณชายน้ อยถูกท่ านแม่ทพั พาไปค่ ายทหารตัง้ แต่ เช้ า
แล้วเจ้าค่ะ ตอนไปยังร้องไห้ขี้มกู โป่ งอยู่เลยเจ้าค่ะ”

่ ิ งฟั งแล้วก็ไม่ได้ เจ็บปวดใจแต่ อย่ างใด กลับ


ถานหวันช
หัวเราะออกมา

เมื่ อ คื น คุ ณ หนู น้ อยของบ้ า นไม่ เ ชื่ อ ฟั ง อยากนอนกับ


มารดา ผลสุดท้ ายถูกบิดาของเขายกขึ้นแล้วตี จนก้นสองข้ าง
แดงอย่างกับก้ นลิง นางเห็นแล้วเจ็บปวดใจ แต่ เจ้าตัวเล็กทัง้
ร้องไห้ทงั ้ ยืนหยัดด้วยขาเล็กป้ อม ปากน้ อยๆ ตะโกนลัน่ ‘ท่าน
พ่อแย่...ท่านพ่อแย่...’ เหตุการณ์นัน้ นึ กขึน้ มาคราใดก็ขาทุกที

นี่ เจ้าตัวเล็กเจ็บแค้นเป็ นแล้วสินะ ทุกครังที


้ ่ถกู บิดาตี เขา
ก็จดจาอย่างน้ อยคือครึ่งเดือน ตามปกติเขาจะชอบตามบิดาไป
ค่ายทหาร ครัง้ นี้ ร้องไห้ ขี้มูกโป่ งไม่อยากไปคงเพราะเจ็บแค้น
แน่ ๆ เลย

ลุ่ยจูนึกขึน้ มาก็ยงั อดหัวเราะไม่ได้ “ตอนไปคุณชายน้ อย


ยังตะโกนเสียงลันว่ ่ าท่านพ่อแย่อยู่เลยเจ้าค่ะ”

ตัว เท่ า นี้ ย งั ด่ า คนไม่ เ ป็ น อย่ า งมากที่ สุ ด ก็คื อ แย่ และ


สงวนไว้ใช้กบั บิดาของตัวเองเสียด้วย

5
“คุณชายน้ อยเกิดมาผิวขาวน่ ารักน่ าใคร่ ใครเห็นก็ชอบ
ใจ ใต้เท้ายังลงมือได้ลงคอ”

คุ ณ ชายน้ อยนั ้น เหมื อ นคุ ณ หนู ม าก ผิ ว ขาวอย่ า งยิ่ ง


ดวงตาสดใสเหมือนดวงดาวเล็กๆ บนท้องฟ้ ายามคา่ คืน เวลา
มองก็อยากจะเก็บดวงดาวมาส่งให้เขา ทุกคนล้วนดูแลคุณชาย
น้ อยเป็ นอย่างดี หากจะออกไปข้างนอกจวนก็ต้องมีคนติดตาม
ถึงสามคน เพราะกลัวว่าจะถูกพ่อค้าเร่ลกั พาตัวไป

ทุ ก ครัง้ ที่ ไ ด้ ยิ น คุณ ชายน้ อ ยร้อ งไห้ เ พราะถูก ใต้ เ ท้ าสัง่


สอน คนในจวนต่ างก็เ จ็บ ปวดหัว ใจอย่ างมาก แต่ เ มื่ อวานนี้
คุณหนูเห็นแล้วกลับหัวเราะออกมาเสียอย่างนัน้ ลุ่ยจูจึงไม่ค่อย
พอใจ มารดาที่ ไ หนท าอย่ า งนี้ ไม่ ใ ช่ ว่ า ควรปกป้ องลู ก หรอก
หรือ?

ถานหวันช่ ิ งหัวเราะร่า “เจ้าน่ ะ เพลาๆ ลงบ้าง” ความจริง


แล้วผู้เป็ นบิดานัน้ รักลูกมาก เพียงแต่รปู แบบการแสดงออกไม่
เหมือนกันก็เท่านัน้ พ่อลูกตีกนั ทะเลาะกันอย่างนี้ ไม่มีอะไรไม่ดี
หรอก

6
โชคดีมากที่ภายนอกนัน้ เชียนเอ๋อเหมือนตน แต่ร่างกาย
กลับ แข็ง แรงเหมื อนคนเป็ นพ่ อ เด็กน้ อยทัง้ คล่ องแคล่ ว และ
ปราดเปรียวมาก

“แล้วฝูอินล่ะ?”

“ไปหาอาจารย์ตงั ้ แต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ ยังเอาภาพอักษรมา


ให้ฮูหยินด้วย” ฝูอินคุ้นชินกับการให้พี่สะใภ้วิจารณ์ ภาพอักษร
ของเขาแล้ว หาดมีจดุ ไหนที่ดไู ม่สมบูรณ์หรือขาดๆ หายๆ ก็ให้
ถานหวันช ่ ิ ง พิ นิ จพิ เ คราะห์แ ล้ ว เขี ย นบอก ผลงานที่ ส่ ง มาจึ ง
สวยงามมากขึน้ เรือ่ ยๆ

ดังนัน้ พอมาถึงเมืองอี้โจว ถานหวันช ่ ิ งจึงหาอาจารย์ที่มี


ความชานาญมาสังสอนพื ่ ้นฐานและทักษะการวาดภาพให้ แก่
เขา เพราะถึงนางจะชานาญ แต่กไ็ ม่ได้เกิดมาเป็ นคนโบราณ วิธี
ที่ ใช้จึงค่อนข้างซับซ้อนและผสมผสานหลากหลาย ไม่เหมาะที่
จะให้ ค วามรู้ข นั ้ พื้นฐานแก่ ผ้ทู ี่ เริ่มศึ กษา พื้น ฐานของเด็กนั น้
สาคัญมาก ต้องปูทางให้ดี ส่วนนางก็คอยให้คาแนะนาอยู่ข้างๆ
การสอนอย่างนี้ จึงจะดีต่อฝูอิน

หลังเที่ยง

7
ฮูหยินของอดีตแม่ทพั ท่านหนึ่ งที่ เพิ่งย้ายถิ่นฐานมาจาก
ต่างเมืองเข้ามาขอเยี่ยมเยียน

ทัง้ สองนั ง่ สนทนากัน ฮูห ยิ น ท่ า นนั น้ พูด ถึ ง แต่ อ นาคต


ของสามีตนเองว่ามีเคล็ดลับอะไร เวลาไหนถึงจะสามารถย้าย
ไปเมืองหลวงได้ ท้ายที่ สุดอีกฝ่ ายก็มองถานหวันช ่ ิ งด้วยความ
อิจฉา

“เซี่ ยฮูหยินช่างเป็ นคนมีวาสนาจริงๆ ถึงท่านแม่ทพั เซี่ ย


จะอายุยงั น้ อยแต่กม็ ีความโดดเด่นและมีความดีความชอบใน
การสู้รบมากมาย ภายในระยะเวลาแค่สามปี ก็เลื่อนจากขัน้ ห้า
มาเป็ นขัน้ สามได้ แล้ว อี กทัง้ ยังเป็ นบุคคลที่ มีชื่อเสี ยง แม้แต่
ฮ่องเต้กร็ ้วู ่าเขตชายแดนมียมทูตเซี่ยคอยปราบพวกต๋า หากว่า
ได้คุณงามความดี จากการสู้รบอี กครัง้ ไม่แน่ ว่าฮ่ องเต้ อาจจะ
เรียกตัวเข้าเมืองหลวงเพื่อพระราชทานรางวัลด้วยพระองค์เอง
ก็เป็ นได้”

แขกที่ มาสังเกตเจ้าของบ้าน เห็นแววตาหญิงสาวไม่ได้


สะทกสะท้ านกับเรื่องที่ ได้ยินจึงกวาดตามองภาพเขียนงดงาม
ในห้องโถงรับแขก เห็นแล้วก็ร้ไู ด้ว่ารสนิยมของเจ้านายจวนนี้
ไม่ธรรมดา

8
เมืองอี้ โจวนี้ แตกต่ างจากเมืองหลวง แม่ทพั ก็แตกต่ าง
จากเหล่ าบัณฑิต แต่ ละนายผ่านการเดิ น ทัพ ท าสงครามจึงดู
หยาบกระด้าง อี กทัง้ แม่ทพั เซี่ ยก็เกิดมาในตระกูลธรรมดาไม่
สูงส่ ง ไหนเลยจะมี ความละเอี ยดอ่ อนได้ มิน่าล่ ะบรรดาฮูหยิ
นจึงมักจะรวมตัวกันพูดถึงฮูหยินของแม่ทพั เซี่ยท่านนี้ เสมอ ทัง้
กิริยามารยาท กระทังการขมวดค
่ ิ้ ว การยิ้ม ก็ดุจดังคนสูงศักด์ ิ
ต่ างคาดเดากันว่านางน่ าจะไม่ใช่ บุตรสาวที่ มาจากครอบครัว
ธรรมดา แต่ตามที่พดู ๆ กันมาว่าบ้านนางไม่มีใครเหลือแล้วจึง
ไม่มีทางพิสจู น์ ได้ ประวัติชีวิตนางช่างเป็ นปริศนาจริงๆ

“หากแม่ทพั บ้านข้าอดทนได้สกั ครึ่งหนึ่ งของแม่ทพั เซี่ ย


ข้าก็คงไม่ต้องออกหน้ าไปขอความช่วยเหลือจากญาติทางฝ่ าย
แม่ไกลถึงเมืองหลวงหรอก...”

คาพูดนี้ ฟังดูเหมือนประเมินค่ าตัวเองให้ ต่าลง แท้ จริง


กลับซ่อนไว้ด้วยการสืบข่าวว่าถานหวันช ่ ิ งนัน้ มีญาติอยู่ที่เมือง
หลวงบ้างหรือไม่ บางที อีกฝ่ ายอาจจะอยากหาเบาะแสว่าถาน
่ ิ ง นั ้น มาจากเมื อ งหลวงหรื อ เปล่ า เวลานิ นทาจะได้ ไ ม่
หวันช
ประเมินหญิงสาวตา่ เกินไป

่ ิ งรูส้ ึกว่าจิตใจ
ในที่สดุ ก็ได้ส่งแขกกลับไปเสียที ถานหวันช
ของตนยา่ แย่อย่างรุนแรง
9
ตอนที่ ลุ่ยจูถามนางว่าอยากไปขี่ม้าหรือไม่พระอาทิตย์ก็
ใกล้ตกดินแล้ว อากาศร้อนด้านนอกก็ลดลงมาก มีสายลมพัด
เย็นสบายพอควร

เพราะว่าร่างกายอ่อนแอ นางจึงรู้อย่างลึกซึ้งว่าการออก
กาลังกายเป็ นสิ่งสาคัญ ทุกวันจึงต้ องออกไปเดินเล่นข้างนอก
หากขี้ เ กี ย จก็จ ะเว้ น สองสามวัน แล้ ว ไปขี่ ม้ า ออกก าลัง กาย
เพราะกีฬาในสมัยโบราณมีน้อยมาก อีกทัง้ กิจกรรมที่ ผ้หู ญิงทา
ได้กจ็ ากัด มีเพียงขี่ม้าที่ พอทาได้ ซา้ ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
และจิตใจโล่งสบาย

หญิง สาวจึง ผ่อนคลายอารมณ์ ด้ ว ยการขี่ ม้ารับอากาศ


ปลอดโปร่ง...

แล้วก็เป็ นดังที่ล่ยุ จูกล่าวไว้

อากาศตอนพลบคา่ เย็นสบายมาก สายลมพัดโชยเอื่อย


เวลาควบม้าลมก็พดั เส้นผมพลิ้วไหวเบาๆ หญิงสาวควบม้าจาก
จวนแม่ทพั ไปยังทะเลสาบที่ไม่ไกลกันนัก

10
เวลานี้ ต ะวัน ในยามสายัณห์ค ล้ อยลงทางทิ ศตะวันตก
แสงยามสนธยาแผ่ค ลุม ไปทุกหัว ระแหง ส่ องสะท้ อนหมู่เ มฆ
ขาวบริสทุ ธ์ ิ บนขอบฟ้ าให้กลายเป็ นสีแดงส้มปานก้อนไฟ

สายตานางทอดมองไปที่ ทะเลสาบ นึ กถึงประโยคหนึ่ ง


ที่ ว่ า ...พระอาทิ ต ย์ใ กล้ ล บั ขอบฟ้ า สายลมและแสงแดดที่ ต ก
กระทบผิวน้ามอบความรูส้ ึกอาจหาญ

ถานหวันช่ ิ งนัง่ อยู่บนหลังม้าแล้วมองฉากนี้ พลันรู้สึกว่า


ตนค่อนข้างโง่เขลา เพียงไม่นานความขุ่นข้องหมองใจเพราะฮู
หยินที่มาเยี่ยมเยือนก็ค่อยๆ สงบลง

ใช่ แ ล้ ว ... ต าแหน่ ง ของใต้ เ ท้ า เซี่ ย เลื่ อ นไวมาก เขาได้


ความดีความชอบในการสู้รบทุกครัง้ จนชื่อเสียงเลื่องลือมาถึงอี้
โจว และวันนี้ กล็ ่วงรูไ้ ปถึงหูฮ่องเต้แล้ว

เรื่ อ งเขาจะได้ เ ข้ า เมื อ งหลวง อยู่ ที่ ว่ า จะช้ า หรื อ เร็ว ก็


เท่านัน้ ...

แล้วจะทาอย่างไรกับฐานะตัวเองดี ? แกล้งป่ วยงัน้ หรือ


แล้ ว จะแกล้ ง ได้ ถึ ง เมื่ อ ไร? หากวัน หนึ่ งต้ อ งย้ า ยไปอยู่ เ มื อ ง

11
หลวงจริ ง ๆ ฐานะของเขาต้ อ งถูก ตรวจสอบอย่ า งละเอี ย ด
่ หยินก็ต้องถูกถามถึงไปด้วย
แน่ นอน กระทังฮู

แล้วควรทาอย่างไรดี?

เมื่อถึงเวลานัน้ จริงๆ นางยังจะสามารถแกล้งตายได้อีก


หรือ? ถานหวันช ่ ิ งคิดจนปวดหัว

นักโทษหญิง! นักโทษหญิง!

นางรู้ ต ั ง้ แต่ แ รกแล้ ว ว่ า นี่ อาจจะเป็ นอุ ป สรรคใหญ่


ระหว่างทัง้ สอง เริ่มแรกนัน้ นางอาจจะตัดใจได้ แต่ตอนนี้ เมื่อได้
ลิ้มรสความหวานนุ่ มลิ้นแล้วไยจะต้ องชิมรสขมฝาดเฝื่ อนอี ก
เล่า นางไม่สามารถคิดหนี ไปได้อีกแล้ว นอกจากเซี่ ยเฉิงจู่ นาง
ก็ยงั มีเจ้าตัวเล็กป้ อมด้วย

เชียนเอ๋อ...

สีหน้ าหญิงสาวภายใต้แสงตะวันยามโพล้เพล้ดเู คร่งขรึม


อย่างชัดเจน นางยังครุ่นคิดเรื่องซับซ้อนนี้ ไม่ออก จู่ๆ ก็ได้ยิน
เสียงเล็กอ่อนเยาว์ดงั ขึน้ ไม่ไกล

“ท่านแม่... ท่านแม่...”
12
พอหันไปมอง ก็เห็นร่างกลมเล็กกับร่างสูงใหญ่วิ่งมาทาง
นาง ร่างใหญ่นัน้ เต็มไปด้วยฝุ่ น ไม่ร้วู ่าไปกลิ้งกับกองดินที่ ไหน
มา และร่างเล็กก็เต็มไปด้วยดิน ใบหน้ าเล็กดูสกปรกมอมแมม
ทว่าตอนนี้ เจ้าตัวเล็กกาลังถูกบิดาของเขายกขึน้

หลังจากที่ เห็นถานหวันช ่ ิ ง คนเป็ นพ่อก็เหมือนกับขาด


ความมันใจ
่ จึงรีบปั ดฝุ่ นบนร่างลูกชายออกแล้วยกขึ้นมาวาง
บนไหล่ เด็กชายวัยสามขวบถูกบิดาของเขายกบ้าง จับแกว่ง
บ้าง บางครัง้ ก็หนี บลูกไว้ บางครัง้ ก็หาม หนาซา้ เวลาเล่นก็ยงั
โยนกันเหมือนกับตุก๊ ตาผ้าจนถานหวันช ่ ิ งรูส้ ึกหวันใจก็
่ มี

แต่เชียนเอ๋อนัน้ ชอบให้บิดาเล่นด้วยแบบนี้ เป็ นที่สุด เด็ก


น้ อยจะร้องลันด้่ วยความสนุกสนานแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนเห็น
ฟั นซี่ เล็กๆ ตอนนี้ เขาใช้มือหนึ่ งจับผมบิดาไว้ อีกมือก็ยื่นมาหา
นาง

ถานหวันช ่ ิ งถึงกับอึ้งไป เพราะนางยังไม่ทนั ลงจากหลัง


ม้า เซี่ยเฉิงจู่กก็ ้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวมาประชิดตัวนางแล้ว

่ ิ งนัง่ อยู่บนหลังม้า ก้มมองพวกเขาด้วย


ตอนนี้ ถานหวันช
อาการฉงน สองพ่ อ ลู ก ก็แ หงนหน้ ามองนางเช่ น กัน ภายใต้

13
แสงแดดอ่ อ น สองพ่ อ ลู ก ยิ้ ม ชวนตะลึ ง มาให้ ช่ า งดู ล ะม้ า ย
คล้ายกัน แววตาประจบเอาใจมองมายังนาง

“ลิง น้ อยของเรา กอดแน่ น ๆ!” พอเห็น ถานหวันช ่ ิ ง ไม่


ตาหนิว่าทาลูกชายกลายเป็ นลิงคลุกโคลนเหมือนเมื่อวันก่อน
เซี่ยเฉิงจู่กส็ ่งยิ้มเจิดจ้าให้ จากนัน้ ก็ยื่นแขนยาวๆ ยกเชียนเอ๋อ
ที่ดิ้นยุกยิกบนบ่าไปวางไว้ในอ้อมกอดภรรยา แล้วก็พลิกตัวขึ้น
หลังม้าซ้ อนอยู่ด้านหลังนางอย่างว่องไว มือใหญ่ เอื้อมไปจับ
เชือกบังเหียน โอบสองแม่ลูกไว้ในอ้อมกอด จากนัน้ ก็หนี บท้อง
ม้ากระตุ้นให้ออกเดิน

ม้าวิ่งรอบทะเลสาบยาวเหยียดอย่างรวดเร็วราวกับลูก
ธนูที่ถกู ปล่อยจากสาย แผ่นหลังนางแนบสนิทชิดกับสามี ได้ยิน
เสี ยงลมหายใจร้อนอุ่นข้างแก้ม ในอ้อมกอดก็มีเสี ยงอ่ อนนุ่ ม
เจือ้ ยแจ้วของลูกชายดังไม่ขาดสาย

“ม้าม้า ลิง ท่านแม่ ท่านพ่อแย่...”

ทัศนี ยภาพช่ างงดงามเหลือเกิน ลมอ่ อนๆ นั น้ ก็อบอุ่น


และจุมพิตข้างแก้มนี้ กอ็ ่อนโยนเป็ นที่ สุด ไม่ร้วู ่าใต้ เท้ าเซี่ ยพูด
อะไรข้างหูนาง แต่ถานหวันช ่ ิ งใบหน้ าแดงกา่ ดวงตาที่ สนไหว ั่
อ่อนโยนดุจน้าในฤดูใบไม้ผลิ ก่อนที่หญิงสาวจะหัวเราะเบาๆ
14
ณ เวลานั ้น ไม่ ว่ า จะเป็ นอดี ต ฐานะ อะไรผิ ด อะไรถูก
อะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ ทุกอย่างที่ ทาให้กลัดกลุ้มใจล้วนถูก
นางทิ้งไว้เบื้องหลัง ชี วิตคนเราจะอยู่ได้ กี่สิบฤดู... ใบไม้ผลิ...
ใบไม้รว่ ง...

ในเมื่อไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถึงจะมีชีวิตอยู่อย่าง
อกสัน่ ขวัญ หายก็ต้ อ งทะนุ ถ นอมชี วิ ต รัก และทะนุ ถ นอมคน
ตรงหน้ าเอาไว้ให้นานที่สดุ และดีที่สดุ สาหรับเรือ่ งข้างหน้ า...ถึง
วันนั น้ แล้ วค่ อยว่ากัน อย่างมากก็แค่ ให้ ใต้ เท้ าเซี่ ยแกล้งป่ วย
แล้วลาออกจากราชการไปปลูกข้าว ถึงอย่างไรเขาก็ไม่หย่าเมีย
แล้วแต่งงานใหม่แน่ นอน

ถานหวันช ่ ิ งคิดได้ ดงั นั น้ ก็อดที่ จะหัวเราะออกมาไม่ได้


นางหันกลับไปจุมพิตคนข้างหลังคราหนึ่ ง ภายใต้ตะวันในยาม
สายันต์ ม้าที่ ถกู ปล่อยให้ วิ่งริมทะเลสาบอย่างอิสระ คนรักจูบ
กัน และกัน บนหลัง ม้า ลูกชายตัว น้ อยด้ านหน้ ากาลัง ก่ อ กวน
ด้วยการกระดกก้นขึน้ ก็ถกู มือของพ่อแม่กอดยึดไว้แน่ น

ภาพความอบอุ่นและความหวานชื่ นใจตรงหน้ านี้ ถูกฝู


อิ น ที่ เ ลิ ก เรี ย นแล้ ว กลับ มาหาหลานตัว น้ อ ยทอดสายตามอง
และบันทึ กลงบนแผ่นภาพที่ งดงามเงียบๆ เก็บไว้ในตู้ลึกที่ สุด
ตลอดไป...
15
ตอนพิเศษ

นางเป็ นคนที่ หยิ่ง ผยองและเที่ ยวใช้ อานาจบาตรใหญ่


อย่างหลงระเริงมาตัง้ แต่เด็ก

ถานจิ่งเอี๋ ยนเป็ นสตรียโสโอหัง มองไม่เ ห็นหัวผู้อื่น แม้


นางจะไม่ถึงขัน้ ทาเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่กท็ าให้บิดามารดาปวด
เศียรเวียนเกล้ามาก

แล้วอย่างไรเล่า?

ใครใช้ให้ฮ่องเต้น้อยไร้ประสบการณ์ ปล่อยให้ขนุ นางคุม


อานาจการเมือง และบิดาของนางก็เ ป็ นหัว หน้ าของกลุ่มขุน
นางที่มีอานาจเสียด้วย

นอกจากบิดาจะเป็ นปราชญ์ในราชสานัก ยังเป็ นอาจารย์


ของฮ่องเต้ เป็ นอัครเสนาบดี พูดได้ว่ามีทงั ้ ตาแหน่ งใหญ่และมี
อ านาจอยู่ ใ นมื อ การปกครองในราชส านั ก ก็เ ป็ นเขาที่ ดู แ ล
ทัง้ หมด ไม่ ว่ า จะเป็ นการรับ ขุน นางเข้ า ใหม่ ห รื อ การแต่ ง ตัง้
ต าแหน่ งขุ น นาง ท าให้ ฮ่ อ งเต้ ไ ม่ มี ค วามหมายใดๆ เลย

1
แม้กระทังหากเขาต้
่ องการล้มราชบัลลังก์เพื่อเปลี่ยนเป็ นฮ่องเต้
องค์อื่นก็ล้วนเป็ นเรือ่ งง่ายสบายๆ ทัง้ นัน้

แล้วฮ่องเต้เด็กจะไม่รหู้ รือว่าต้องทาอย่างไรกับเขา?

ด้วยอานาจล้นเหลือของบิดา นางและพี่สาวจึงหยิ่งผยอง
เที่ ย ววางอ านาจบาตรใหญ่ ต ัง้ แต่ ย ัง เด็ก ไม่ มี ใ ครสามารถ
หยุดยัง้ ได้ แม้จะเป็ นพี่ใหญ่ที่เกิดจากอดีตภรรยาของบิดาผู้นัน้
ก็ไม่มีข้อยกเว้น

ตัง้ แต่ เ ด็ก นางก็ร บั รู้จ ากปากมารดาว่ า พี่ ใ หญ่ ที่ อ ายุ
มากกว่านั น้ ไม่ได้มีมารดาคนเดี ยวกันกับนาง ดังนั น้ นางและ
พี่สาวจึงไม่เข้าใกล้อีกฝ่ าย ทว่าพี่ ใหญ่กลับไม่สนใจราวกับไม่
เห็นพวกตนอยู่ในสายตา

นางเคยใช้ วิธีแย่ๆ เพื่อช่ วงชิงความรักมาจากบิดา แต่


อีกฝ่ ายกลับอดทนต่อการยัวยุ่ มาได้ตลอด คล้ายกับไม่เคยเก็บ
เอามาใส่ใจ ท่าทางราวกับท้องทะเลที่สงบไร้ระลอกคลื่น

พี่ใหญ่นัน้ ประพฤติตวั เรียบร้อยเป็ นที่สดุ ต่างกับนางและ


พี่ น้ องที่ เ ที่ ยววางอานาจทัง้ ในจวนและนอกจวน บิ ด านางจึง
โปรดปรานพี่ ใหญ่เป็ นอย่างมาก ส่ วนมารดานาง หากมองผิว

2
เผินก็ดเู หมือนจะเข้ากันได้ดีกบั ลูกเลี้ยง แต่ความจริงแล้วกลับ
ไม่ได้ใส่ใจพี่ใหญ่เท่าที่ควร ทว่าพี่ใหญ่กไ็ ม่เคยนาเรื่องนี้ ไปฟ้ อง
บิดาแต่อย่างใด

พี่ ใหญ่ มีหน้ าตางดงามมาตัง้ แต่ เกิด ทว่ามี นิสัยไม่ยินดี


ยินร้ายในลาภยศ และไม่เคยคิดร้ายใคร จึงไม่เคยดุด่าและฝื น
ใจพวกนาง หากนางมีนิสัยได้สกั ครึ่งของพี่ใหญ่ สิ่งศักด์ ิ สิทธ์ ิ ก็
คงคุ้มครองนางแล้ว

ในเวลานั น้ ถึงพวกนางพี่ น้องจะไม่ได้ สนิทกัน แต่ ก็ไม่


เคยถึงกับโกรธกันหน้ าดาหน้ าแดง เป็ นช่วงเวลาที่ถานจิ่งเอี๋ยน
รู้สึกสบายที่ สุด ทาทุกอย่างได้ตามอาเภอใจ วันๆ ไม่ต้องกังวล
เรื่องใด ทัง้ อาหารการกินล้วนอุดมสมบูรณ์ ที่ อยู่อาศัยใหญ่โต
โอ่อ่า เสื้อผ้าอาภรณ์มีให้เลือกสรรมากมาย

แค่ อาหารจาพวกเนื้ อก็มีให้ กินทุกวัน ยามที่ ในจวนจัด


งานเลี้ยง เฉพาะตะเกียงก็มีหลายร้อยรูปแบบ ทัง้ ตะเกียบทอง
ตะเกียบงาช้าง ตะเกียบกระดองเต่า ตะเกียบต้นไม้ดา ตะเกียบ
ไผ่ลาย และอีกมากมาย ทุกวันเสพสุขแต่อาหารชัน้ เลิศ ในวันที่
นางตกระกาลาบากที่สดุ พอนึ กถึงทีไรก็น้าตาไหลทุกครัง้

3
บางที อาจเป็ นสวรรค์ทนดูนางมีความสุขไม่ได้ เมื่อนาง
เข้าสู่วยั พร้อมจะออกเรือน ครอบครัวก็ประสบชะตากรรมครัง้
ร้ายแรง เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้ าควา่ แผ่นดิน

การตายของพี่ ใหญ่ระหว่างทางที่ ถกู เนรเทศทาให้ บิดา


ป่ วยหนั ก เกื อ บจะไม่ มี ชี วิ ต รอดไปถึ ง สถานที่ ที่ ถ ูก เนรเทศ
เหตุการณ์ ที่ตามมาราวกับฝันร้ายจนบางครัง้ นางอยากจะตาย
ไปให้พ้นๆ

จากคนที่ เ คยอยู่สูง เหนื อ มวลชนมาก่ อ น คนที่ เ คยกิน


อาหารเลิศรสมานับไม่ถ้วน จะสามารถทนความหิวโหยและทน
ความหนาวเย็นได้อย่างไร เพียงไม่นานคนตระกูลถานเกือบทัง้
ตระกูลก็พากันเจ็บป่ วยอย่างรวดเร็ว มารดาก็เอาแต่ ประคบ
ประหงมพี่ชาย หากมีอาหารอร่อยก็ป้อนให้แต่ พี่ชาย ส่วนนาง
และพี่สาวไม่ได้รบั การเหลียวแลแม้แต่น้อย

ทว่าไม่ใช่เรือ่ งที่ยากจะอดทนที่สดุ

ความหนาวเหน็ บในฤดูหนาวทาให้ มีคนตายทุกวัน ไม่


นานครอบครัวตระกูลถานทัง้ ห้าชีวิตก็เผชิญกับการขาดแคลน
อาหาร ครอบครัวนางถูกเจ้าเมืองใช้ให้ไปทางานหนัก ทุกสอง
สามวันจะมีเจ้าหน้ าที่มาตรวจตราถึงบ้าน
4
เพี ย งไม่ น านแววตาของพวกมัน ก็ม าตกอยู่ ที่ น างกับ
พี่สาว

เมื่อในบ้านแทบจะไม่มีข้าวหลงเหลืออยู่ เพื่อพี่ชายแล้ว
บิ ด ามารดาของนางจึ ง ตัด สิ น ใจขายพวกนางคนหนึ่ งให้ ก ับ
ข้าราชการ ตอนนัน้ นางกลัวมากว่าคนที่ ถกู ขายจะเป็ นตัวเอง
ถานจิ่ ง เอี๋ ย นตกใจจนเนื้ อ ตัว สัน่ เทิ้ ม นางรู้สึ ก ว่ า ทุ ก อย่ า งที่
เกิดขึ้นเป็ นฝันร้ายที่ ไม่มีวนั สิ้นสุด ใบหน้ าบิดามารดาเริ่มพร่า
เลือนเพราะหยดน้าตา

นางเคยคิดว่า หากพี่ ใหญ่ที่เกิดจากภรรยาคนแรกของ


บิดายังมีชีวิตอยู่ บิดาจะยอมขายบุตรสาวคนโตที่ รกั มากที่ สุด
ให้ กบั ข้าราชการพวกนี้ หรือไม่ แต่ พอคิดอี กที ...บุตรสาวที่ รกั
มากจะสาคัญกว่าบุตรชายที่ เป็ นผู้สืบสกุลได้อย่างไร พอคิดได้
แบบนี้ นางก็ร้สู ึกว่าพี่ใหญ่ช่างโชคดีที่ตายไปเสียก่อน ทาให้ใน
ใจจดจาได้เพียงความรักของบิดามารดา ไม่ต้องมาเห็นการขาย
ลูกสาวเพื่อช่วยลูกชายอย่างน่ ารังเกียจเช่นนี้

นางร้องไห้ จนน้ าตาแทบเป็ นสายเลือด แต่ ไรมานางไม่


เคยถูกฝื นใจในเรื่องใดมาก่อน ตอนที่ข้าราชการผู้นัน้ มารับคน
นางอยู่ในห้องส้วม ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมออกมา ทาให้แม่สื่อ
ที่มารับคนทนกลิ่นไม่ไหว สุดท้ายจึงคว้าเอาตัวพี่สาวไป
5
ตอนนี้ ถกู เอาตัวไป นางได้ยินเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจ
ของอี กฝ่ ายดังแว่วมา นางเห็นใบหน้ าของมารดามีน้ าตาไหล
ทว่าตัง้ แต่ต้นจนจบมารดากลับไม่ปริปากแม้แต่คาเดียว

ตัง้ แต่ นั ้น เป็ นต้ น มา ท่ า ที ข องบิ ด ามารดาของนางก็


เปลี่ ย นไป และนางก็รู้ว่ า ความสัม พัน ธ์ ข องพวกนางคงไม่
สามารถกลับไปเป็ นเหมือนเดิมได้อีก

นางไม่ เ คยนึ กเสี ย ใจภายหลัง กับ สิ่ ง ที่ ต ัว เองท า เพราะ


หากไม่เป็ นพี่สาวก็ต้องเป็ นตัวนางเอง สุดท้ายพี่สาวก็กลายเป็ น
นางคณิกาให้กบั ข้าราชการ หากนางต้องเข้าตาจนแบบนี้ นาง
คิดว่าไม่สู้ให้ ตวั เองตายไปให้ พ้นๆ ครอบครัวจะได้นานางไป
แลกเป็ นเงินไม่ได้

นางรูด้ ีว่า สักวันหนึ่ งเงินที่ได้จากการขายพี่สาวต้องหมด


ไม่ร้วู ่าจะประคับประคองไปได้นานเท่ าไร ดังนัน้ ต่ อไปก็คงถึง
คราวนาง ส่วนบิดาและมารดาก็คงไม่ใจอ่อนแน่ เพราะพวกเขา
ทาทัง้ หมดเพื่อลูกชาย...เพื่อลูกชายเพียงคนเดียว

ในเวลากลางคืนถานจิ่งเอี๋ยนจึงมักจะนอนไม่หลับ

6
อยู่มาวันหนึ่ ง บิดานางพูดว่า หากใช้เงินหมดแล้วอาจจะ
ให้ นางแต่ งกับคนอื่น เขาบอกว่าดี กว่าขายนางออกไป พอได้
ยินนางก็ทะเลาะกับพวกเขาอย่างหนัก เข้าใจว่าตนเองคงยากที่
จะหนี โชคชะตาเช่นนี้ พ้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะเก็บห่อเงินได้อย่าง
ไม่คาดคิด

ในสภาพแวดล้อมที่ เลวร้ายจนคนแข็งตายไปทัวทุ ่ กหน


แห่ง กลับมีคนทาห่อเงินตกที่ประตูบา้ นพวกนาง ครึง่ เดือนผ่าน
ไปก็ไม่มีคนมาหาห่อเงินที่ทาหาย

ห่ อเงินนี้ ช่วยครอบครัวพวกนางให้ ผ่านพ้นความหนาว


เหน็บของฤดูหนาวไปได้

และนับตัง้ แต่เก็บเงินได้ ชีวิตของคนในครอบครัวก็เริ่มดี


ขึ้น พวกนางได้รบั การแจกจ่ายข้าวและแป้ งอย่างเต็มเม็ดเต็ม
หน่ วย ไม่มีการอมเม้มเหมือนเดิมอี ก ความเป็ นอยู่นับวันก็ดี
ยิ่งขึ้น ปี ศาจร้ายที่ส่งครอบครัวนางไปทางานก็เปลี่ยนที ท่าเป็ น
เกรงใจรวมถึงมีใบหน้ าที่อ่อนโยนขึน้ มา

เมื่อเหตุการณ์ กลับตาลปั ต รแบบนี้ คนที่ เ ฉลี ย วฉลาด


อย่างบิดาของนางจึงเดาได้ว่ามีผ้สู ูงศักด์ ิ แอบช่วยพวกตนลับๆ
ทว่าถึงแม้จะพยายามสอบถามเท่ าไรก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ว่าผู้สูง
7
ศักด์ ิ ที่ ให้ ความช่ วยเหลือในขณะที่ พวกตนตกทุกข์ได้ยากนั น้
เป็ นใคร รูเ้ พียงว่าเป็ นคนที่บิดามารดาเคยอุ้มชู

เป็ นเพราะผู้สูงศักด์ ิ ท่ านนี้ ครอบครัวของพวกนางจึงมี


บ้านให้ อาศัยอย่างอบอุ่น ในที่ สุดท้ องก็กินอิ่ม ถึงพี่ ชายจะยัง
อ่ อ นแอแต่ ก็ไ ม่ ต้ อ งทนหนาวทนหิ ว อี ก ต่ อ ไป ส่ ว นเรื่ อ งการ
แต่งงานของนางนับแต่นัน้ พวกเขาก็ไม่พดู ถึงอีกเลย

ก่ อ นบิ ด านางจะได้ ร บั โทษ เขาเป็ นถึ ง ขุน นางในราช


สานัก ดังนัน้ เรื่องในวงราชการจึงชานาญเป็ นที่ สุด ถึงวันนี้ จะ
ผิดหวังและท้ อใจแต่กม็ องได้ทะลุปรุโปร่ง เมื่อมีเงินในมือ เขา
จึงไม่ตระหนี่ ถี่เหนี ยวสักนิด พยายามติดต่อสร้างความสัมพันธ์
กับคนในพืน้ ที่รกร้างแห่งนี้

เมื่ อ ครอบครัว มี ทุ ก อย่ า งพร้ อ มแล้ ว จึ ง คิ ด อยากจะไถ่


ถอนตัวพี่สาวกลับมา ทว่าพี่สาวนางกลับไม่อาจยอมรับความ
อัปยศอดสู จึงได้ผกู คอชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน

มารดานางเสี ยใจเป็ นอย่างมาก มีท่าทางราวกับคนสิ้น


หวัง

8
เวลานั ้น นางเหมื อ นจะรับ รู้ถึ ง ความรู้สึ ก เจ็บ ปวดของ
บิดามารดา บางทีอาจไม่ใช่พวกเขาไม่รกั บุตรสาว เพียงแต่เมื่อ
เทียบกับบุตรสาวแล้ว บุตรชายสาคัญกว่าก็แค่นัน้

่ ิ บตาก็ถึงฤดูใบไม้ผลิ ครอบครัวนางอยู่ชายแดน
ชัวพร
อย่ า งอุ ด มสมบู ร ณ์ ที่ สุ ด เสื้ อ ผ้ า ที่ ส วมใส่ นั ้น ใหม่ ก ว่ า คนอื่ น
ในขณะที่ คนอื่นทนความลาบากหิวโหยจนหน้ าเหลืองผอมโซ
ตลอดฤดูหนาว ในบ้านนางกลับยังมีเสบียงอาหารเหลือมาก
จนกระทังสามารถเอาไปเปลี
่ ่ยนเป็ นเงินได้

ราวกับประสบการณ์ ก่อนหน้ านี้ หนึ่ งปี เหมือนเป็ นความ


ฝัน ชี วิตตอนนี้ ถึงเพิ่งจะเป็ นจริง บิดานางจากที่ สิ้นหวังท้อใจก็
เริ่มฟื้ นขึน้ มาเพื่อวางแผนเริ่มต้นชีวิตใหม่

เวลาสามปี ผ่านไปชัวแวบเดี่ ยว พวกนางค่อยๆ ปรับตัว


กับความยากลาบากในชายแดนได้ หากพูดถึงเมืองหลวงก็ไม่มี
ความรู้สึกแสลงใจอีกแล้ว เมื่อวางแผนไว้ว่านับแต่นี้เป็ นต้นไป
จะอยู่ อ ย่ า งสงบ จู่ๆ ก็ไ ด้ ร บั ราชโองการจากฮ่ อ งเต้ อ ย่ า งไม่
คาดคิด ในนัน้ บอกว่า...

ให้บิดาคืนสู่ตาแหน่ งเดิม และกลับเข้าเมืองหลวงทันที!

9
เวลานัน้ นางรูด้ ีว่า สายตาที่ทุกคนมองมายังพวกนางเต็ม
ไปด้วยความอิจฉาริษยา

เป็ นอี กวันหนึ่ งที่ ชะตาชี วิตพลิกผันอี กครัง้ จากนั กโทษ


ชายแดนให้ คื น สู่ต าแหน่ ง เดิ ม นั น้ ถื อ ว่ า เกิ น คาด ยิ่ ง กว่ า การ
ได้รบั การอภัยโทษเสียอีก

มารดานางกอดพี่ ช ายน้ า ตาไหลพราก แต่ ด วงตาของ


ถานจิ่งเอี๋ ยนกลับนิ่งสงบดุจสายน้ า ระยะเวลาสามปี ทาให้ นาง
เปลี่ ย นไป นั บ วัน นางยิ่ ง นึ กถึ ง ถานหวัน่ ชิ ง พี่ ส าวที่ เ กิ ด จาก
ภรรยาคนแรกของบิดามากขึน้

จู่ ๆ นางก็ รู้ สึ ก ว่ า ตนคุ้ น เคยกับ พี่ ใ หญ่ แต่ คิ ดอี ก ที ก็


เหมือนไม่เคยรู้จกั ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ ายมาก่อน ความจริง
แล้ ว พี่ ใ หญ่ ท าตัว ลึ ก ลับ มาตลอด สิ่ ง ที่ น างได้ เ ห็น อาจไม่ ใ ช่
ตัวตนที่ แท้ จริงของอีกฝ่ ายก็ได้ พอคิดแบบนี้ กร็ ้สู ึกราวกับว่าที่
ผ่านมามีผา้ บางๆ กางกัน้ เอาไว้ เหมือนกับแต่ไรมาไม่เคยมีใคร
ล่วงรูไ้ ด้ว่าในใจอีกฝ่ ายนัน้ คิดอะไร

และไม่ รู้ ว่ า ตั ง้ แต่ เ มื่ อ ไรที่ จิ ตใต้ ส านึ กของนางเริ่ ม


เลียนแบบพี่ใหญ่--ถานหวันช ่ ิ ง ทัง้ ท่าทีไม่ร้สู ึกรู้สา ไม่รีบไม่ร้อน
คล้ายกับคนที่ไม่มีเรือ่ งใดให้กงั วลใจ เป็ นอิสระท่ามกลางฝูงชน
10
วันนี้ ฮ่องเต้หนุ่มไม่มีลกั ษณะและท่าทางเหมือนเด็กน้ อย
ดังแต่ก่อนอีกแล้ว

หลัง จากที่ เ ขาจัด การลงโทษขุน นางที่ ถื อ ครองอ านาจ


แล้ว บัลลังก์ของเขาก็ยิ่งมันคง
่ สายตาก็ยิ่งคมกริบ นับวันกิริยา
ท่าทางยิ่งเป็ นแบบฮ่องเต้ที่สงู ส่งอยู่เหนื อผูค้ นทัง้ แคว้น

แต่ ถึงอย่างไรฮ่องเต้ กค็ ือฮ่องเต้ อยู่วนั ยังคา่ แม้ท่าที จะ


เปลี่ยนเป็ นสุขมุ เยือกเย็นมากกว่าเดิม แต่ ใครเล่าจะรู้ว่าในใจ
นัน้ คิดอะไร

สามปี ที่แล้วเขาจัดการลงโทษสามขุนนางที่มีอานาจและ
ผู้คนที่ มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากนัน้ ทุกครัง้ ที่ เข้ามาในห้ องทรง
อักษรที่ เคยใช้เมื่อตอนเด็ก ก็จะเห็นลังใบใหญ่สองลังที่ เขาเก็บ
ไว้ใต้ เตี ยง ในลังนั น้ เต็มไปด้วยของเล่นที่ ทาขึ้นอย่างประณี ต
และงดงาม

ของเล่นเหล่านัน้ มีทงั ้ ที่ทาจากไม้และจากเหล็ก มีจานวน


มากมายจนแทบล้ น ลัง ของเหล่ านี้ เ คยอยู่เป็ นมี เ พื่ อนเขาใน
ตอนเด็ก ทุ ก วัน ทุ ก คื น พอเห็น พวกมัน ที ไ ร ฮ่ อ งเต้ ห นุ่ มก็จ ะ
คิดถึงอาจารย์ขึน้ มา ถึงถานเฉิงจี้จะถูกตัง้ ข้อหาหลายข้อหา แต่
ตอนที่ เขายังเป็ นเด็ก คนผู้นี้กเ็ คยคุ้มครองเขาจากราชนิกุลคน
11
อื่ น ไม่ ใ ห้ ใ ครมากดขี่ แ ละประทุ ษ ร้ า ยเขาได้ ถึ ง อี ก ฝ่ ายจะ
เข้มงวดกวดขันกับเขามาก ทว่าทุกครัง้ ที่ การเล่าเรียนของเขา
สาเร็จลุล่วงก็จะส่งของเล่นเป็ นรางวัลให้

เขามักจะดีใจเมื่อได้รบั ของเล่นชิ้นเล็กอย่างนี้ ถึงแต่ ไร


มาเขาจะไม่ แ สดงออก ทว่ า ทุ ก ครัง้ ก่ อ นเข้ า นอนก็จ ะหยิ บ
ออกมาเล่นสักครูเ่ สมอ

ในเวลานั น้ ของเล่นเหล่านี้ ล้วนไม่มีในเมืองหลวง เป็ น


ของเล่ น ที่ ค นอื่ น ไม่เ คยเล่ น และเป็ นแรงผลักดัน ให้ เ ขาขยัน
เรียนครัง้ ต่อไปให้สาเร็จ

แม้ อ ายุ จ ะเพิ่ ม ขึ้น ทว่ า ของเหล่ า นี้ ก็ย งั ติ ด ตรึ ง อยู่ในใจ
คล้ายกับว่าจิตใจตอนวัยเยาว์ยงั คงอยู่ ทุกครัง้ ที่ เห็นก็จะนึ กถึง
อาจารย์ท่านนั น้ และเพราะอี กฝ่ ายเคยปรารถนาดี กบั เขามา
ก่อน จึงเป็ นเหตุผลแรกที่เขาไว้ชีวิตตระกูลถานในครังนั ้ น้

เมื่อเขามีราชโองการคืนตาแหน่ งเดิมให้ถานเฉิงจี้ ทัวทั


่ ง้
ราชสานักก็เกิดเสียงฮือฮา

พอบุตรสาวที่ เหลือเพียงคนเดียวของถานเฉิงจี้เข้าเมือง
หลวงได้ ไ ม่ น านก็ถ ูก เรี ย กตัว เข้ า วัง นี่ คื อ ความกรุ ณ าครัง้

12
ยิ่งใหญ่ ของฮ่ องเต้ และเป็ นครัง้ แรกที่ ถานเฉิงจี้เข้ าใจว่ าการ
ใกล้ชิดฮ่องเต้ กเ็ หมือนใกล้ชิดกับเสือ สามารถเกิดภัยพิบตั ิ ได้
ตลอดเวลา เขาจึงไม่กล้าก้าวผิดพลาดอีกครัง้

เมื่ อ ถานจิ่ ง เอี๋ ย นได้ ข่ า วว่ า พี่ ใ หญ่ ที่ เ กิ ด จากภรรยาคน


แรกของบิดายังมีชีวิตอยู่

นางก็ก้าวจากสนมเจี๋ยอวี๋ขนั ้ สามขึน้ มาเป็ นสนมซิวอี๋ขนั ้


สองแล้ว อีกทัง้ กาลังตัง้ ครรภ์

ในข่ า วบอกว่ า พี่ ใ หญ่ นั ้น ถูก ดัก ปล้ น และรอดมาได้


จากนัน้ ก็แต่งงานกับแม่ทพั หัวเมืองที่ปกครองเมืองเล็กๆ อย่าง
เมืองเว่ยอัน แม่ทพั หัวเมืองผูน้ ี้ เป็ นคนมีความสามารถ ช่วงสอง
สามปี มานี้ ชนะศึ กสงครามมากมายจนฮ่ อ งเต้ พ อพระทัย จึ ง
เรียกตัวเข้าเมืองหลวงเพื่อรับรางวัล

ในจดหมายของมารดาบอกว่าเมื่อบิดาเห็นพี่ใหญ่กด็ ีใจ
มาก ทัง้ ยังรู้แล้วด้วยว่าผู้สูงศักด์ ิ ที่ ช่วยเหลือพวกนางในปี นั น้
อย่างเงียบๆ ก็คือพี่ใหญ่นัน่ เอง หลังจากพี่ใหญ่รอดชีวิตจากโจร
ปล้นมาได้กต็ กใจกลัวจนป่ วยหนัก จากนัน้ ก็ได้แม่ทพั หัวเมือง
ช่ ว ยเหลื อ พี่ ใ หญ่ เ อาไว้ กระทัง่ ตัง้ ตัว ได้ ท ว่ า สถานะก็ไ ม่ อ าจ
เปิดเผย จึงได้แต่แอบให้เงินพวกนางไว้ใช้
13
มารดานางยัง บอกอี กว่าหากไม่มีพี่ใหญ่ พวกนางก็คง
ประคองตัวอยู่ได้ไม่ถึงสามปี และคงไม่สามารถอยู่รอดจนได้รบั
ราชโองการจากฮ่องเต้ เช่นนี้ ในจดหมายบอกว่าหากมีโอกาส
ให้นางกลับบ้านมาพบกับพี่ใหญ่

กลับบ้านงัน้ รึ?

หึ ! มันไม่ง่ายอย่างนัน้ หรอก กฎของวังหลวงมีมากมาย


แม้กระทังฮ่ ่ องเต้เองก็ยงั ไม่มีสิทธิพิเศษ แล้วนางเล่า? หนาซา้
ตอนนี้ น างยัง ตัง้ ครรภ์อี ก ด้ ว ย ย่ อ มไม่ ส ามารถเอ่ ย ปากกับ
ฮ่องเต้ในเรื่องเล็กน้ อยเช่นนี้ ได้ ถึงในจดหมายจะบอกว่าฮ่องเต้
หนุ่ มนั น้ ชอบใจสามีของพี่ใหญ่ ทว่านางไม่ได้มีเจตนาจะดูถกู
เหยียดหยาม แม่ทพั กระจอกคนหนึ่ ง ถึงจะอยู่ในสายตาฮ่องเต้
แล้วอย่างไร แต่ว่า...

ถานจิ่งเอี๋ ยนลูบปลอกนิ้วแล้วหัวเราะเล็กน้ อย นางรู้ตงั ้


นานแล้วว่าพี่สาวคนนี้ ไม่ธรรมดา ในขณะที่ เป็ นนักโทษหญิงก็
ยัง มี ชายหนุ่ มที่ ไม่กลัวจะถูกปลดออกจากตาแหน่ ง ยอมแต่ ง
ด้วยอีก

14
และเสบียงอาหาร อี กทัง้ เงินที่ ให้ คนส่ งมา นั น่ คงเพราะ
ผู้ช ายคนนั น้ รัก และหลงพี่ ใ หญ่ ม ากสิ น ะ แสดงว่ า ที่ ผ่า นมาพี่
ใหญ่ไม่เคยได้รบั โทษเลย

“โอ้... ชะตาชีวิตช่างดีแท้!”

ถานจิ่งเอี๋ ยนไม่เคยคิดมาก่อนว่าฮ่ องเต้ หนุ่ มจะชอบใจ


แม่ทพั ผูน้ ัน้ ถึงเพียงนี้

บางที อาจเป็ นเพราะทัง้ สองอายุพอๆ กัน คนหนึ่ งเป็ น


ฮ่องเต้หนุ่ม อีกคนเป็ นวีรบุรษุ หนุ่ม ทัง้ ยังมีน้องชายร่วมอุทรที่
สมองไม่ค่อยดี เหมือนกัน เพียงแต่ ว่าน้ องของฮ่ องเต้ หนุ่ มนัน้
เกิดจากคนทา แต่อีกคนนัน้ เป็ นมาตัง้ แต่ในครรภ์

ทัง้ สองโตก่อนวัยเหมือนกัน คนหนึ่ งมีอานาจแข็งแกร่ง


อี ก คนเป็ นทหารที่ สุขุม เยื อ กเย็น และก็แ ต่ ง งานกับ บุต รสาว
ตระกูลถานเหมือนกัน ครัง้ แรกที่ พบหน้ าสองหนุ่ มก็ถกู คอกัน
มาก ไม่กี่ปีมานี้ มิตรภาพของฮ่องเต้และขุนนางนัน้ ไม่ธรรมดา
การจะทาให้ ฮ่องเต้ หนุ่ มเชื่ อถือและไว้วางใจได้ นัน้ ไม่ใช่ เ รื่อง
ง่ายเลย

นางไม่เคยนึ กมาก่อนว่าแม่ทพั กระจอกผูน้ ี้ จะทาได้

15
หลัง จากที่ มี ค วามดี ค วามชอบในการสู้ ร บได้ ไ ม่ กี่ ปี
ฮ่ องเต้ หนุ่ มก็พระราชทานตาแหน่ งให้ อีกฝ่ ายเป็ นแม่ทพั ใหญ่
ขัน้ หนึ่ ง ฉายานามแม่ทพั เสวียนเวย และเป็ นขุนนางชัน้ ผู้ใหญ่ที่
สนิทสนมกับฮ่องเต้ เป็ นหนึ่ งในผูท้ ี่รว่ มกันปกครองสามกองทัพ
ใหญ่ ข องเมื อ งหลวงที่ ป ระกอบด้ ว ยค่ า ยทหารอู่ จ วิ น ค่ า ย
ทหารซัน เชี ย น และค่ า ยเสิ น จี ซึ่ ง เป็ นศูน ย์ก ลางที่ เ ป็ นก าลัง
สาคัญของฮ่องเต้

แม่ทพั กระจอกที่ นางเคยปรามาสในปี นัน้ สุดท้ ายก็ก้าว


กระโดดเป็ นคนสนิทของฮ่องเต้ที่หยิ่งยโสและโอหัง เต็มเปี่ ยม
ไปด้วยอานาจอันยิ่งใหญ่

ถานจิ่งเอี๋ยนได้แต่หวั เราะฝื ดเฝื่ อน เพราะไม่เคยคาดคิด


มาก่อน “พี่สาวข้าคนนี้ ชะตาชีวิตช่างดีนัก!”

ครรภ์แ รกของนางเป็ นองค์ห ญิ ง จากนั ้น ก็ล าบากมา


หลายปี ในที่ สุดก็ตงั ้ ครรภ์คนที่ สอง ความหวังทัง้ หมดของนาง
ล้วนมีเพียงเท่านี้

ในวังหลวงไร้ซึ่งเยื่อใยและความรัก หากมีความรักก็ยิ่ง
ตายเร็ว

16
นางนั น้ มองอย่างทะลุปรุโปร่งมาตัง้ นานแล้ว ความรัก
ของฮ่องเต้นัน้ ยากที่จะยาวนาน ไม่เท่ากับการมีทายาทสืบสกุล
เพื่อให้นางมีความรูส้ ึกปลอดภัย

สองปี ก่อน อายุบิดาเริ่มมาก ร่างกายจึงไม่ค่อยแข็งแรง


ไม่นานก็ถอนตัวออกจากราชสานั กไปใช้ ชีวิตอยู่ในจวนอย่าง
สงบ ประสบการณ์ ในปี เหล่านัน้ ทาให้เขาแก่อย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่ง
ปณิธานอันยิ่งใหญ่และความมุ่งมาดปรารถนา ในใจคิดเพี ยง
อยากจะอยู่ อ ย่ า งสงบในบัน้ ปลายชี วิ ต ทว่ า นางยัง คงอยู่ ใ น
กระแสน้าวนของอานาจ หากหยุดก็อาจจะตายแล้วไร้ที่ฝัง หาก
ว่าครรภ์นี้เป็ นลูกชาย นางต้องได้ช่วงชิงกับคนอื่นอีกเป็ นแน่

ฮ่องเต้หนุ่มอารมณ์ดี ตอนที่มาถึงตาหนักก็พดู กับนางว่า


“แม่ทพั เสวียนเวยทางานให้ข้าครัง้ นี้ มีความดีความชอบอย่าง
มาก พระสนมคิดว่าข้าควรจะให้อะไรเป็ นรางวัลแก่เขาดี? ครัง้
ก่อนข้าได้ให้ฉายานามกับฮูหยินของเขาแล้ว”

นางได้ แ ต่ ห ัว เราะแล้ ว เอ่ ย ว่ า “ได้ ยิ น ว่ า ในจวนแม่ ท ัพ


เสวี ย นเวยแม้ แ ต่ ห้ อ งอนุ หรื อ ห้ อ งเมี ย บ่ า วล้ ว นไม่ มี นั น่ คง
เพราะพี่ ใหญ่ ง ดงามมาก ท่ านแม่ท ัพ จึง ไม่ มองคนอื่ น เลย ฝ่ า
บาทน่ าจะพระราชทานหญิงสาวงามเลิศลา้ สักสองคนให้นะเพ
คะ”
17
พอพูดจบ ฮ่องเต้ หนุ่มทาเพียงมองนางโดยไม่เอ่ยสิ่งใด
ในใจหญิ ง สาวเริ่ ม ลนลาน นางพยายามยิ้ มให้ อ ย่ า งจื ด เจื่อน
บรรยากาศเริ่ ม อึ ด อัด เป็ นนานกว่ า ฮ่ อ งเต้ ห นุ่ มจะหัว เราะ
ออกมา

“พระสนมกล่ า วถูก ต้ อ งที่ สุ ด ก่ อ นหน้ านี้ สองสามวัน


แคว้นอื่นส่งสาวงามมาหลายคน แต่ละนางสวยเพริศพริ้งที่ สุด
พอจะเทียบกับพี่สาวเจ้าได้ ข้าจะให้คนเอาไปส่งให้เขาสองคน”

ถานจิ่งเอี๋ ยนจึงได้ยิ้มอบอุ่นออกมา ตอนที่ นางแอบอิง


คลอเคลี ย กับ อกฮ่ อ งเต้ ก็ได้ ยิ น เขากล่ าวอี กครัง้ ว่ า “เจ้าและ
พี่สาวของเจ้าไม่ค่อยเหมือนกันเลย”

รอยยิ้ มนางแข็ ง ค้ า งบนใบหน้ า ปากกลั บ พู ด เสี ย ง


อ่ อ นหวาน “ข้ า และพี่ ส าวไม่ ไ ด้ เ กิ ด จากมารดาเดี ย วกัน ไม่
เหมือนกันแน่ นอนเพคะ... ...”

ฮ่องเต้หนุ่มจากไปอย่างว่องไว เหลือเพียงนางที่ นัง่ อยู่ที่


เดิม ได้แต่กาผ้าเช็ดหน้ าในมือแน่ น

เดิมทีนางนัน้ มีนิสัยชอบวางโต ใช้อานาจบาตรใหญ่ ทว่า


หลังจากเข้าวังมานิสัยของนางก็เหมือนพี่ใหญ่ไปเสี ยทุกอย่าง

18
เพราะในจิตใต้สานึ กของนางคิดว่าต้องเป็ นเหมือนพี่ใหญ่จึงจะ
มีคนชื่ นชอบ ตัง้ แต่ เด็กแล้วที่ พี่ใหญ่มีผ้ชู ายมาสนใจมากกว่า
นาง

นางฝึ กจนเหมือนอีกฝ่ ายเพียงนี้ แล้ว เหตุใดฝ่ าบาทจึงยัง


บอกว่าไม่เหมือน หมายความว่าอย่างไร?

หรือต้องหน้ าตาเหมือนกัน?

นางนึ ก ถึ ง หญิ ง งามต่ า งแคว้ น สองคนนั น้ ที่ ช่ า งงดงาม


เป็ นที่ สุด กิริยาท่ าทางก็ดึงดูดใจอย่างมาก เป็ นความงามใน
แบบที่ แ ตกต่ า งจากพี่ ใ หญ่ นางได้ ยิ น ค าร ่า ลื อ มาว่ า แม่ ท ัพ
เสวียนเวยนัน้ หลงรักภรรยาเป็ นอย่างมาก สองสามีภรรยารัก
ใคร่กนั มาใกล้จะสิบปี เขาไม่เคยมีอนุภรรยา นางกานัลเล่าให้
ฟังด้วยใบหน้ าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ทุกคนล้วนพูดกันว่าแม่
ทัพเสวียนเวยนัน้ เป็ นสามีที่ดีอย่างที่พบเห็นได้ยากแต่นางกลับ
ไม่เชื่อ

บนโลกใบนี้ ไม่มีแมวที่ ไม่แอบขโมยปลา หากว่ามีนัน่ คง


เพราะปลาตัวนัน้ ยังยัวยวนใจไม่
่ พอ

19
ไม่นานข่าวเรือ่ งหญิงงามสองคนถูกส่งไปให้ท่านแม่ทพั ที่
จวนตระกูลถานก็แว่วมา ทว่าหลังจากนัน้ ไม่นานก็ได้ยินข่าวว่า
ใต้ เท้ านั น้ ไม่ชายตาแลพวกนางเลย หญิงทัง้ สองถูกส่ งไปดูแล
น้ องชายร่วมอุทรที่ ห้องหนั งสื อ คอยประคองน้ าร้อนน้ าชาให้
น้ องชายของเขา

ในเมื อ งหลวงไม่ มี ใ ครที่ ไ ม่ รู้ว่ า น้ องชายแท้ ๆ ของแม่


ทัพเซี่ ยเป็ นคนปั ญญาอ่อน ได้ยินมาว่าเขามีพรสวรรค์ในการ
วาดภาพมาก ทว่าอย่างอื่นก็เหมือนคนโง่เขลา มอบหญิงงามให้
เขาก็เหมือนให้คนตาบอด

ถานจิ่ง เอี๋ ย นกาหมัด แน่ น หัว เราะเสี ย งน่ าเกลี ย ด เอ่ ย


เสียงลอดไรฟัน

“นางช่างมีโชคชะตาดีจริง!”

่ ิ บตานางก็เข้าวังมายี่สิบปี แล้ว
ชัวพร

ถานจิ่งเอี๋ยนคลอดลูกมาสองคนต่างก็เป็ นองค์หญิงทัง้ คู่


เพราะไม่มีองค์ชาย หลายปี มานี้ นางจึงรักใคร่กลมเกลี ยวกับ
ฮองเฮามากขึน้ ถึงจะเป็ นแค่การเสแสร้งภายนอกก็ตาม

20
แต่ นางก็รู้ดีว่าตนนั น้ อายุมากแล้ว องค์รชั ทายาทก็สิบ
สามชันษา ถึงนางจะตัง้ ครรภ์อีกครัง้ องค์รชั ทายาทก็เติบใหญ่
จนนัง่ บัลลังก์ได้อย่างมันคงแล้
่ ว

ฝ่ าบาทไม่ใช่ ว่ า ไม่ ใ ห้ โ อกาสนาง เพี ย งแต่ ว่ าโชคชะตา


ของนางต่างหากที่ไม่ดี

วัน นี้ เป็ นวัน คล้ า ยวัน พระราชสมภพ ทัว่ ท้ อ งพระโรง


ข้าราชการทัง้ บุน๋ และบูล๊ ้วนพาครอบครัวมาร่วมเฉลิมฉลอง

ในงานเลี้ ย ง ตอนนี้ น างด ารงต าแหน่ ง กุ้ย เฟยจึ ง ได้ นั ง่


ด้ า นข้ า งฮองเฮา ถึ ง อายุ จ ะใกล้ สี่ สิ บ แต่ เ พราะดู แ ลรัก ษา
ร่ า งกายเป็ นอย่ า งดี ผิ ว พรรณจึ ง ยัง ละเอี ย ดและเนี ยนนุ่ ม
ใบหน้ ายังนับว่างดงาม หากเทียบกับฮองเฮาแล้ว รูปร่างหน้ าตา
ของนางยังเยาว์กว่ามาก

ถึงนางจะนั ง่ ด้ วยท่ าที ที่สงบทว่าในใจกลับ หนาวเหน็ บ


วันคล้ ายวันพระราชสมภพครัง้ นี้ คล้ายกับเป็ นการบ่งบอกว่า
นางคงจะได้เลื่อนตาแหน่ งเป็ นกุ้ยเฟยเป็ นตาแหน่ งสุดท้าย และ
จากจุดที่นางนัง่ อยู่กส็ ามารถมองเห็นคนกลุ่มหนึ่ งได้ชดั เจน

แววตาของนางมองไปยังกลุ่มคนที่นัง่ เบือ้ งล่าง

21
นางได้ข่าวมาตัง้ แต่แรกแล้วว่าพี่ใหญ่จะเข้าวัง เวลาผ่าน
ไปเกือบยี่สิบปี ถึงจะได้พบหน้ ากันครัง้ แรก พวกนางสองพี่น้อง
ห่างกันมานานมากแล้ว ทัง้ ที่แต่เดิมก็ห่างเหินกันอยู่แล้ว บางที
อาจเป็ นเพราะอยู่กนั คนละที่ บางที อาจจะตัง้ แต่ วนั ที่ ตระกูล
ถานถูกยึดทรัพย์และเนรเทศ หรือบางที... อาจจะนานกว่านัน้

บุตรชายทัง้ สองของแม่ทพั เสวียนเวยล้วนเป็ นผูท้ ี่ประสบ


ความส าเร็จ ทัง้ สองเป็ นแขนซ้ ายและแขนขวาให้ กบั องค์ร ชั
ทายาท คนหนึ่ งเป็ นแม่ทพั ข้างกายองค์รชั ทายาท อี กคนเป็ น
สหายร่ว มเรี ย นด้ ว ยกันตัง้ แต่ เด็กมี ความสัมพัน ธ์ลึกซึ้ ง และ
คาดว่ าหลังจากที่ องค์รชั ทายาทขึ้นครองบัลลังก์ ทัง้ สองต้ อง
เป็ นทัง้ ผูช้ ่วยและทหารที่ห้าวหาญอย่างแน่ นอน

สถานะของพี่ สาวนางในตอนนี้ เสมือนปลาได้ น้ า ผู้คน


รอบข้างไม่มีใครไม่ประจบประแจง

นางมองอี ก ฝ่ ายอย่ า งละเอี ย ด กาลเวลาที่ ผ่ า นไปไม่


สามารถทาอะไรพี่ใหญ่ได้เลย อี กฝ่ ายยังคงงดงามเหมือนเมื่อ
วัน วาน รูป ร่ า งหน้ าตาไม่ ไ ด้ เ ปลี่ ย นแปลงมากมายทัง้ ที่ เ ป็ น
มารดาของบุตรชายถึงสองคน รอยยิ้มอีกฝ่ ายเจิดจ้าราวกับเด็ก
สาว บุคลิกลักษณะเหมือนคนที่ ยงั ไม่ได้ ออกเรือน ในแววตา

22
เต็มเปี่ ยมด้วยความมันใจและเปล่
่ งประกายอย่างที่นางไม่เคยมี
มาก่อน

พี่ ใหญ่ ยงั คงเป็ นเหมือนเมื่อยี่ สิบปี ก่ อน ต่ างกับตัวนาง


เองที่เปลี่ยนไปตัง้ นานแล้ว

ผู้หญิงคนหนึ่ งหลังจากยี่สิบปี ผ่านไปต้ องทาอย่างไรถึง


ยังคงรักษารูปร่างหน้ าตาไม่ให้แก่ได้ ทาอย่างไรถึงรักษาสภาพ
จิ ต ใจให้ เ หมื อ นเด็ก สาวและรัก ษาความมันใจได้
่ อ ย่ า งเป็ น
ธรรมชาติ

ดวงตาที่ ส ดใสเป็ นประกาย ช่ า งต่ า งกัน เหลื อ เกิ น กับ


ดวงตาดุจน้านิ่งของนาง

ทัง้ ที่จวนตระกูลถานอยู่ในสายตานางตลอด

อ้อ... นางรู้แล้ว สายตาเปล่งประกายนัน่ เป็ นเพราะความ


รักลึกซึ้งของสามี ชี วิตของพี่ใหญ่สมความปรารถนาทุกอย่าง
ตอนเด็ ก บิ ด าก็ ท ัง้ รัก ทัง้ หลง ทุ ก วัน ล้ ว นอุ้ ม และหยอกล้ อ
บุตรสาวที่ ผิวพรรณขาวผ่องราวกับหิมะ ความรักความห่วงใย
เช่นนี้ ทาให้พี่ใหญ่อยู่ในจวนมายี่สิบปี โดยที่มารดานางไม่เคยมี
โอกาสได้ทาเรือ่ งโหดร้ายทารุณกับอีกฝ่ ายแม้แต่นิดเดียว

23
เมื่ อ ครอบครัว ตกอับ พี่ ใ หญ่ ก็ส ามารถหนี อุ้ ง มื อ ของ
่ วิต
เจ้าหน้ าที่ที่กมุ ขังได้ และได้พบเจอกับผูช้ ายที่รกั นางจนชัวชี

หลังจากที่แต่งงานแล้วพี่ใหญ่กไ็ ด้สามีที่ไม่มีห้องเมียบ่าว
ไม่มีห้องอนุ ภรรยา ไม่เคยมี ชีวิตสามะเลเทเมา ทัง้ รักภรรยา
และเป็ นห่ วงเป็ นใยบุตร มีความรับผิดชอบต่ อครอบครัว เมื่อ
ภรรยาต้ องการอะไรก็เตรียมให้ อย่างพรักพร้อม บุตรชายทัง้
สองก็สมัครเป็ นทหารตัง้ แต่ เด็กเพราะได้ รบั อิทธิพลจากบิดา
ทัง้ บิดาและบุตรล้วนรักและดูแลพี่ใหญ่เป็ นอย่างดี...ดีมากด้วย
รา่ ลือกันว่าขนาดอาหนุ่ มที่ โง่เง่านั น่ ก็เช่ นกัน คนผู้นัน้ รักและ
เคารพพี่ใหญ่ปานมารดา

่ วิตของผู้หญิงคนหนึ่ งล้วนได้รบั ความรักจากผู้ชาย


ชัวชี
ไยชีวิตจะไม่มีความสุข...

ไยจะไม่อ่อนเยาว์?

ไยจะไม่รกั ษาบุคลิกเด็กสาวได้?

แล้วไยจะไม่มีท่วงท่าที่ งดงามมันใจดวงตาเป็
่ นประกาย
กันเล่า?

24
เมื่อกลับเข้ามาในตาหนัก นางนัง่ บนเก้าอี้เป็ นนานโดย
ไม่ขยับเขยื้อน สีหน้ าค่อนข้างฉงนสนเท่ ห์ ไม่ร้วู ่าสิ่งที่ แสวงหา
มาทัง้ ชี วิตนี้ จริงๆ แล้วมันถูกหรือว่าผิด นางเคยเหยียดหยาม
คนอื่นและสิ่งที่ คนเหล่านัน้ มีในครอบครอง สุดท้ายสิ่งเหล่านัน้
กลับกลายเป็ นสิ่งที่นางไม่มีวนั ได้รบั ตลอดชีวิต

นางเลียนแบบพี่ใหญ่อยู่ในวังมาครึ่งชี วิตจึงสามารถปี น
ป่ ายมาถึ ง ต าแหน่ งนี้ สุ ด ท้ า ยเมื่ อ นางคิ ด ว่ า ตนนั ้น ประสบ
ความสาเร็จ แต่เมื่อได้เจอพี่ใหญ่แล้วจึงพบว่า ความโชคดีของ
พี่ใหญ่เป็ นสิ่งที่ตนเองไม่สามารถเลียนแบบได้ตลอดกาล

ถานจิ่ ง เอี๋ ย นคิ ด ว่ า ตนเลี ย นแบบพี่ ส าวมาตลอด ทว่ า


หลังจากเห็นอีกฝ่ ายแล้วจึงรู้สึกว่าตนนัน้ เปลี่ยนเป็ นอีกคนที่ใส่
หน้ ากาก กลายเป็ นคนแปลกหน้ าไปแล้ว

ในเวลานี้ คงต้องยอมรับแล้วว่า นางแพ้แล้ว

เริ่ ม แรกที่ เ คยใช้ อ านาจบาตรใหญ่ นั ้น เพี ย งแค่ อ ยาก


ดึงดูดความสนใจของบิดา ให้ เขาเอาสายตาที่ มีแต่ พี่ใหญ่ นัน้
ย้ายมามองตนบ้าง แท้จริงแล้วทัง้ หมดก็เริ่มจากตรงนี้ นางเก็บ
งาความรู้สึกอิจฉาริษยาและความต้องการชิงดีชิงเด่นอยากจะ

25
เอาชนะอี กฝ่ ายให้ ได้ มานาน หลายปี ผ่านไป ในที่ สุดนางเพิ่ง
สานึ กได้ว่า การประลองครังนี
้ ้ นางไม่เคยชนะ

นางคลอดองค์หญิงสองคน แต่พี่ใหญ่คลอดบุตรชายสอง
คน อนาคตนางนั ง่ ต าแหน่ งกุ้ย เฟย ทว่ า พี่ ใ หญ่ มี ส ามี แ ละ
บุ ต รชายสองคน ขอเพี ย งอี ก ฝ่ ายยึ ด มัน่ ต่ อ องค์ ร ัช ทายาท
ตาแหน่ งกุ้ยเฟยของนางก็ไม่มีวนั สันคลอนตลอดกาล
่ เพราะใน
สายตาของคนนอกพวกนางเกิดจากตระกูลถานเหมือนกัน มี
บิดาคนเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน เป็ นพี่น้องแซ่เดียวกัน

ตัง้ แต่ เริ่มต้ นจนถึงตอนนี้ นางเคยคิดว่าตัวเองชนะแล้ว


เข้ า ใจว่ า ตนนั น้ อยู่ต าแหน่ ง ที่ สูง ส่ ง แล้ ว ทว่ า สุ ด ท้ า ยทัง้ หมด
กลับว่างเปล่า นางเป็ นหนี้ บุญคุณของพี่ใหญ่ แล้วยังมีชีวิตอยู่
ใต้เงาปี กของอีกฝ่ าย

ความจริงแล้วในใจของนางนั น้ ไม่ยอมรับมาตลอด ว่า


ทุกอย่างก็เหมือนกับความรักของบิดาในปี นัน้

นางกาผ้าบางในมือแน่ น

แล้วนางมีอะไรไม่ทดั เที ยมพี่ใหญ่? รูปร่างหน้ าตางัน้ รึ?


หรือความสามารถและสติปัญญา? หรือว่านิสยั ใจคอ?

26
ไม่ใช่... บางทีความแตกต่างของพวกนางอาจจะไม่ใช่สิ่ง
เหล่านี้ แต่มนั คือโชคชะตาและพรหมลิขิตที่ต่างกัน

หากเปลี่ยนเป็ นตนเองที่ คลอดบุตรชายสองคน และอี ก


ฝ่ ายคลอดบุ ต รสาวสองคน เกรงว่ า นั น่ จะท าให้ น างมี ส ภาพ
ความเป็ นอยู่อีกอย่าง

สายตาของนางทอดมองออกไปยังลานด้านนอก มีขนั ที
หลายคนกาลัง กวาดถนน หลัง จากผ่านความอิ จ ฉาริ ษ ยาไป
แล้ว สี หน้ าของนางก็เปลี่ยนเป็ นเข้าใจ ใบหน้ าเผยรอยยิ้มทัง้
ขมและฝาด นางกดเสียงตา่ เหมือนพึมพากับตนเอง

“พี่ ใ หญ่ โชคชะตาชี วิ ต ของเจ้ า ช่ า งดี นั ก ข้ า ...ยอมแพ้


แล้ว!”

27

You might also like